คาถาที่ 19 :: Waiting for tonight, Oh.. oh.. (เฝ้ารอคอยคืนนี้... น้อยนอยน่อย) [35%]หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสองวัน คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลก ไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่ รูปแบบการดำเนินชีวิตไม่ได้มีอะไรผิดเพี้ยนหวานเลี่ยนใดๆ ชีวิตของทั้งคู่ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีใครถามอะไรให้มันมากความ แม้ความคิดของทั้งคู่จะเพิ่มขึ้นในหัว แต่ความรู้สึกที่มันกำลังสบายตัวสบายใจแบบนี้ เลยยังไม่อยากไปแตะมัน ขอปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้สักพักก่อน
ที่บอกว่าไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่าเดิมสักเท่าไหร่นั้น ก็แสดงว่ามันมีอะไรเพิ่มเติมระหว่างทั้งสองคนกว่าแต่ก่อน ถึงจะไม่ได้เพิ่มมากมายมหาศาล แต่ทั้งคู่ก็รู้สึกได้ว่ามันเพิ่ม อย่างที่คมเขี้ยวกำลังจูบแม่คุณนายอยู่นี่ไง
“อืม… อือ…” เรียวจันทร์ครางเสียงแผ่ว ตอบรับลิ้นอุ่นๆ ของคมเขี้ยวอย่างเชื่องช้าแต่ว่าหนักแน่นและวาบหวิว จากครั้งแรกที่จูบกันคมเขี้ยวอาจจะยังดูไม่คล่อง แต่พอจูบกันบ่อยขึ้นก็ต้องบอกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยประสบการณ์เรื่องนี้เลย
ร่างของเรียวจันทร์นั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน มีร่างสูงใหญ่ไหล่หนาของคมเขี้ยวยืนคร่อมอยู่ ที่ปากก็บดจูบไม่ยอมปล่อย ตาเขี้ยวกุดจูบไม่รุนแรง จูบเบาๆ แต่จูบได้นานมากกก จูบเหมือนไม่เบื่อ ระบบหายใจพ่อคุณเขาดีเหลือเกิน แทบไม่ต้องถอนจูบเพื่อแวะหายใจ มีแต่คุณนายแกที่จูบไปได้หลายๆ นาทีเข้า ต้องผลักอกอีกฝ่ายออกแล้วถึงกลับไปจูบต่อได้ นี่ถ้ามีแข่งจูบมาราทอนเชื่อเถอะว่าคมเขี้ยวชนะใสๆ
“อ๊ะ…” เป็นอีกครั้งที่เรียวจันทร์ขอยอมแพ้ นางว่านางก็ช่ำชองเรื่องนี้แล้วนะ แต่พอเจอพ่อเขี้ยวกุดเข้าไป นางเริ่มสงสัยในประสบการณ์ตัวเอง
“หืม ปากบวมยังอะ จูบเน้นจูบแน่นเหลือเกินนะ” นางยกมือขวาขึ้นจับปากตัวเอง ใช้ลิ้นดุนผนังปากล่างปากบนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตรงปาก คมเขี้ยวกระตุกยิ้มนิดหน่อยแล้วตอบเสียงนุ่ม
“ยังไม่บวม” พูดจบก็ก้มลงจูบปากสีชมพูสดเล็กๆ นั่นต่อ โดยที่เจ้าของปากยังไม่ทันตั้งตัว แต่แม่คุณนายนางเก่งอยู่แล้ว เหวอไปแปบนึงก็กลับมาตอบรับได้ ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของคมเขี้ยวอย่างคุ้นเคย
ก็แน่ล่ะสิ ถึงจะใช้ชีวิตตามปกติ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือนางกับคมเขี้ยวจูบกันบ่อยขึ้นนี่แหละ บางทีอยู่ใกล้กัน มองๆ ตากันปุ๊บแล้วก็อมยิ้ม ก่อนจะพากันไปหามุมลับตาคนจูบกันสองคน แล้วจูบทีก็น้านนาน จนบาทีแข้งขานางอ่อน ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามากกว่านี้ นางจะต้องถึงขั้นคลานมั้ย
ลิ้นของคมเขี้ยวยังคงกวาดกินความนุ่ม ความหวานในปากเรียวจันทร์อย่างแรงดีไม่มีตก จนแม่คุณนายเริ่มจะมึนๆ เบลอๆ คมเขี้ยวกดริมฝีปากหนักขึ้น เรียวจันทร์ยกแขนซ้ายมาดันตัวเองไว้กับโต๊ะ มือขวาเอื้อมลงไปจับเป้าคมเขี้ยวที่พอจับแล้วนางก็ดีใจเหลือเกินที่พ่อเขี้ยวกุดเป้าตุงเต็มมือ
“อื้ม… อย่าจับสิ” คมเขี้ยวหยุดจูบแล้วบอกเสียงทุ้ม เรียวจันทร์มองหน้าหล่อๆ ตาเป็นประกายวิบวับ มือขวาจับตามความยาวที่แออัดอยู่ในกางเกงยีนขาเดฟ
“แข็งแรงนะ นิสัยดีเชียว” เรียวจันทร์กัดปากล่างแล้วยิ้มเขินอายเบาๆ คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ล่อกแล่กเล็กน้อย แก้มคร้ามแดดสีแทนแดงระเรื่ออย่างน่ามอง
“ปล่อยได้ยัง” คมเขี้ยวยกมือขึ้นเกาปลายจมูก หลบสายตากรุ้มกริ่มของแม่คุณนายตัวแสบ
“ขอจับก่อนสิ ใช่ว่ามีโอกาสได้จับบ่อยๆ เมื่อไหร่” เรียวจันทร์บีบไปตามความยาวที่พาดตุงไปกับเป้ากางเกง เจ้าของความแข็งแกร่งยืนเท้าเอวนิ่งให้อีกคนจับ แต่ก็ต้องคอยขบกรามตัวเองไว้แน่นเพื่อระงับอารมณ์
เรียวจันทร์ลงจากโต๊ะ มือจับเป้าคมเขี้ยวไม่ปล่อยและพาคมเขี้ยวเดินไปตรงโซฟาหนังสีน้ำตาลแก่ ดันให้คมเขี้ยวนั่งลงบนนั้นแล้วตัวนางก็ขึ้นคร่อม ก้มลงจูบคมเขี้ยวต่อโดยที่ร่างสูงก็ตอบรับกลับอย่างไหลลื่น
“อือ…” คมเขี้ยวครางเสียงพร่า ปากก็จูบไป เป้าก็ถูกลูบไปด้วยจนไอ้คาวบอยน้อยตามที่คุณนายเรียกยิ่งเต่งตึงจากที่แข็งอยู่แล้ว คมเขี้ยวยกมือขวาขึ้นลูบก้นของเรียวจันทร์ ขยำเต็มไม้เต็มมือ สักพักเรียวจันทร์ก็ถอนจูบออกและเปลี่ยนเป็นก้มซุกไซ้คอคมเขี้ยว คนตัวโตแหงนคอให้อีกฝ่ายไซ้ได้เต็มที่ เขาครางเสียงทุ้ม ริมฝีปากสีชมพูสดของเรียวจันทร์ประทับจูบแผ่วเบาไปตามลำคอ
“อึดอัดมั้ย” ร่างเล็กกระซิบถามที่ข้างหู แทนคำตอบนั้น คมเขี้ยวยื่นหน้าไปซุกซอกคอเรียวจันทร์ สูดดมกลิ่นหอมเย็นจมูกเข้าไปเต็มปอด เรียวจันทร์แหงนหน้าขึ้น ปล่อยมือออกจากเป้าคมเขี้ยว สองมือยกขึ้นมาจับไหล่ทั้งสองข้างของคนตัวโต ค่อยๆ นั่งลงคร่อมตักของคนข้างล่าง ครางเสียงเบาหวิวยามที่ริมฝีปากหนาของคมเขี้ยวกดลงบนต้นคอ
“ฮ่ะ…” เรียวจันทร์หลับตาพริ้ม ยกสองมือขึ้นขยุ้มเส้นผมของคมเขี้ยวแน่น สองมือหนาใหญ่ของคมเขี้ยวยกขึ้นมาจับเอวเล็กแต่มีกล้ามเนื้อของเรียวจันทร์
“เขี้ยว…” คมเขี้ยวขนลุกซู่กับเสียงเรียกผะแผ่ว เขาใช้จมูกสูดดมไปตามซอกคอหอมๆ สองมือบีบจับเอวเรียวจันทร์ไว้เต็มมือ ก่อนที่คนด้านบนจะเริ่มขยับเอว ขยับหน้าขยับหลังบนเป้าเขาไปเรื่อยๆ ทำให้เป้าที่เต่งนูนของคมเขี้ยวสัมผัสกับก้นแน่นของเรียวจันทร์
“อะ… อ่า…” คมเขี้ยวครางเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอ เขาถอนหน้าตัวเองออกจากซอกคอเรียวจันทร์ แหงนหน้าขึ้น เอาหัววางบนพนักพิงโซฟา สายตาจ้องมองใบหน้าแดงเรื่อของแม่คุณนาย ริมฝีปากสีชมพูสดเผยอขึ้น แววตาเร่าร้อนไปกับแรงอารมณ์ และก่อนที่เขาจะคุมตัวไม่ได้มากไปกว่านี้ คมเขี้ยวก็จับเรียวจันทร์นอนลงบนโซฟาโดยมีตัวเขาทาบทับอยู่ด้านบน สายตาทั้งคู่จ้องมองกันด้วยความวาบหวิว ก่อนที่คมเขี้ยวจะก้มลงจูบริมฝีปากเรียวจันทร์เบาๆ หนึ่งที
“แน่ใจนะว่าไม่อยากปลดปล่อย” เรียวจันทร์ถามพลางยกมือขวาสางผมของคมเขี้ยวให้เข้าที่เข้าทาง
“เราหายมานานแล้ว เดี๋ยวต้องไปตัดหญ้าให้ม้าอีก” คมเขี้ยวว่าเสียงแห้ง นิ้วโป้งทั้งสองข้างเกลี่ยแก้มเรียวจันทร์เบาๆ เคยได้แต่มอง พอมาสัมผัสจริง ก็นุ่มนิ่มอย่างที่คิด
“คืนนี้ล่ะ นายจะได้ไม่ต้องไปช่วยตัวเองให้เมื่อยมือไง” คุณนายไม่ว่าเปล่าแต่ยื่นมือซ้ายไปสะกิดหัวนมคนรูปหล่อที่คร่อมนางอยู่ด้วย เล่นเอาคมเขี้ยวกัดฟันหน้าย่นไปวูบหนึ่งเพราะความเสียว
“ผมไม่เคยกับผู้ชาย ขอละลายพฤติกรรมก่อนได้มั้ย” เรียวจันทร์ยิ้มขำ แต่ก็แอบดีใจ
“แสดงว่านายก็ไม่รังเกียจฉันใช่มั้ย” คนข้างล่างยกสองแขนคล้องคอของคนข้างบน คมเขี้ยวเลื่อนมือขวาขึ้นไปลูบหัวเรียวจันทร์
“เคยบอกเหรอว่ารังเกียจ”
“ไม่ แต่นายบอกไม่เอาตูด” คมเขี้ยวระบายลมหายใจแผ่วเบา
“อืม ก็ไม่แหละ แต่ถ้าเป็นตูดคุณก็…” คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ที่ยิ้มบางรอคำพูดต่อท้ายอยู่ “…ก็เอาได้”
เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ ผงกหัวขึ้นไปจุ๊บริมฝีปากของคมเขี้ยวเบาๆ “ขอเวลาทำใจจากข้างหน้ามาเป็นข้างหลังว่างั้นเถอะ”
คมเขี้ยวหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็กดหน้าลงเป็นการยอมรับ ก็เคยเอาแต่ข้างหน้า และก็ใช่ว่าคมเขี้ยวจะมีอารมณ์ทางเพศพุ่งพล่านจัดจนขอแค่ว่ามีรูให้เสียบก็เสียบได้หมด
“อย่านานมากได้มั้ย ของนายดีมากเลยอะ อยาก” เรียวจันทร์กัดริฝีปากล่างเป็นการย้ำว่าอยากจริงๆ นางไม่ได้พูดเอาตลกด้วย นางพูดจริงๆ ตามที่อยาก ก็ทั้งแน่น ทั้งอวบและยาว ราวกับไส้กรอกเยอรมันที่ควรลิ้มลอง
“อืม” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปากทั้งสองข้างเป็นรอยยิ้มจนเห็นลักยิ้มบนแก้มจางๆ เรียวจันทร์เลยเอานิ้วจิ้มลักยิ้มบนแก้มซ้ายไปหนึ่งที
“อาทิตย์หน้าไปเดินป่าแล้ว เตรียมตัวรึยัง” เรียวจันทร์ทำตาโตแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
“อะไร?” คมเขี้ยวหรี่ตามองคุณนายด้วยความสงสัย
“เปล่า เตรียมตัวแล้ว เคลียร์งานเรียบร้อยแล้วด้วย” คนตัวสูงคลี่ยิ้มน้อยๆ
“ดี” เขาก้มลงหอมหน้าผากเรียวจันทร์ไปหนึ่งฟอดแล้วค่อยๆ พาร่างเล็กลุกขึ้นนั่ง เรียวจันทร์ปล่อยแขนออกจากคอเขา
“เดี๋ยวผมไปตัดหญ้าให้ม้าก่อน คุณไม่ต้องไป เดี๋ยวผื่นขึ้น” เรียวจันทร์ยิ้มและพยักหน้าเข้าใจ
“ฉันอยู่นี่แหละ ไม่ก็อาจจะออกไปเดินเล่น” คมเขี้ยวพยักหน้า ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงร้อยเก้าสิบกว่า เรียวจันทร์มองตรงเป้ากางเกงก็เห็นว่ามันยังตุงอยู่
“รอให้มันสงบก่อนมั้ยค่อยเดินออกไป” เจ้าของเป้าตุงก้มลงมองอย่างเขินๆ
“อยู่นี่มันจะยิ่งตุง” เรียวจันทร์หัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นยืนบ้าง ก่อนจะยกแขนโอบรอบคอคมเขี้ยว
“เดี๋ยวเจอกันนะ” คนโดนแขนคล้องคอยิ้มนิดหน่อยและพยักหน้าขึ้นหนึ่งที เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจูบคมเขี้ยวอีกที ร่างสูงตอบรับกลับอย่างง่ายดาย ลิ้นทั้งสองคนเกี่ยวรัดกันอย่างไหลลื่นอยู่หลายนาทีก่อนที่คมเขี้ยวจะเป็นฝ่ายถอนจูบออกไป
“พอแล้ว เดี๋ยวไม่ได้ไปทำงานกันพอดี” นี่ก็แอบหนีคนงานมาหาแม่ตัวป่วนที่ออฟฟิศเกินชั่วโมงแล้วมั้ง
“ป่ะๆ ทำงานๆ” คนตัวเตี้ยกว่าเอาแขนออกจากคอคนตัวสูง สองมือตบลงบนอกแกร่งเบาๆ คมเขี้ยวยิ้มอีกทีแล้วก็หมุนตัวเดินออกไปทางประตูออฟฟิศ
นี่ถ้าเขาสองคนลงลึก ลึกซึ้งกันกว่านี้ เขาล่ะกลัวว่าตัวเองจะขลุกอยู่กับเรียวจันทร์ทั้งวัน
เรียวจันทร์มองแผ่นหลังของคมเขี้ยวที่เดินหายลับไปทางประตูด้วยสายครุ่นคิดปนกังวลเล็กๆ ก่อนที่เสียงของเพื่อนสนิทจะดังขึ้นในหัว
อยากได้เพราะเสี่ยสั่ง หรืออยากได้เพราะใจแกอยากได้เอง เรียวจันทร์เดินไปที่โต๊ะทำงาน หยิบมือถือขึ้นมากดหาชื่อเสี่ยจอมทัพแล้วกดโทรออก แต่ก็โทรไม่ติด มีเสียงอัตโนมัติบอกว่าติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าแบตหมดหรือยังไง และจะติดต่อไม่ได้ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เรียวจันทร์พ่นลมหายใจ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าไปถามลูกน้องตาเสี่ยที่มาเนียนแฝงตัวอยู่ในนี้ดีกว่า นางยัดมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากออฟฟิศ พอออกมาข้างนอกก็เดินดุ่มๆ ไปทางหมู่บ้านคาวบอย ไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นั่นหรือเปล่า แต่ลองไปดูก่อน เผื่อจะแอบไปงีบหลับอยู่ในห้องพักคนงาน
เรียวจันทร์เดินเข้าไปในหมู่บ้าน กำลังเดินๆ อยู่ก็เจอกับนายเทิงและนายจีน คนงานสองคนที่ดูแลคอกวัวกำลังเดินมาทางนี้ เรื่องที่จะไปตามหาลูกน้องเสี่ยจอมทัพกระเด็นหายไปจากหัวอย่างเร็ว นางกำลังจะอ้าปากยิ้ม ในขณะที่เท้าก็รีบก้าวเดินเข้าไปหาสองคนนั้น แต่พอไอ้สองซี้เห็นแม่คุณนายก็ร้องเสียงหลง หน้าตาหวาดผวา และพยายามถอยหลังหนี คุณนายแกเลยหุบยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นถลึงตามองกับอาการเหมือนคนเห็นผีของสองคนนั้น
จะบ้าเหรอ?! เอาที่ไหนมาผี หน้านางฟ้าขนาดนี้!
“หยุด!” เรียวจันทร์ถลึงตาใส่สองคนนั้นอีกที เจ้าสองซี้เบรกเท้าตัวเองกะทันหันใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับประตูทางเข้าหมู่บ้านคาวบอย สีหน้าหวาดกลัวกับการมาของคุณเรียว
“จะวิ่งหนีฉันทำไม คนอื่นเห็นเขาจะคิดว่าฉันน่ากลัวหรือเป็นโรคร้ายแรงนะรู้รึเปล่า!” นั่นต่างหากที่นางกังวล เกิดคนที่กำลังเดินๆ อยู่ในหมู่บ้านคาวบอยมองมาแล้วเข้าใจผิด คิดว่านางเป็นโรคติดต่อหรือเป็นร่างทรงของผีที่ไหน นางจะทำยังไง เสียภาพลักษณ์สวยๆ ของนางหมด
“พะ… พวกผม ตะ… ตกใจครับ” ไอ้เทิงว่าพลางยิ้มเจื่อน ไอ้จีนพยายามยิ้มตามเพื่อนแต่ก็ยิ้มไม่ค่อยจะออก
“ตกใจ? มีอะไรให้ตกใจยะ ดูหน้าฉันด้วย หน้าฉันไม่สวยเหรอ?!”
“สวย สะ… สวยครับ! คุณเรียวสวย!” ไอ้จีนรีบโพล่งอย่างตื่นตระหนก กลัวว่าตัวเองจะตอบไม่ถูกใจคุณเรียวจันทร์ แต่พอเห็นรอยยิ้มพึงใจของอีกฝ่ายก็พอจะโล่งใจได้บ้าง
“ฉันจะมาขอบใจ อ๊ะ ไม่สิ ถามก่อน ได้พูดอย่างที่ฉันสอนไปมั้ย” ไอ้สองซี้พยักหน้ารัวๆ
“พูดครับ พวกผมพูดอย่างที่คุณเรียวสอน” ไอ้เทิงตอบด้วยความสัจจริง เรียวจันทร์ยิ้มพอใจมากกว่าเดิม นางเชื่อว่าสองคนนี้ไม่โกหก เพราะไม่งั้นนางคงไม่โดนจูบจนปากเปื่อยแบบนี้หรอก พ่อสองคนนี้คงทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
“ดีมาก แล้วก็ขอบใจนายสองคนมากด้วย ฉันจะลบรูปกับคลิปนั้นทิ้งเพื่อเป็นการขอบคุณนายทั้งสองคน…” เรียวจันทร์หยิบมือถือขึ้นมา เปิดไฟล์เก็บภาพและคลิปวีดีโอ หันหน้าจอไปให้สองคนนั้นดูว่าเปิดไฟล์ภาพแล้วจริงๆ ก่อนจะหันเข้าหาตัวเอง กดเลือกไฟล์แล้วกดลบ หันหน้าจอไปให้สองคนนั้นดูอีกครั้ง
“…เรียบร้อย” ไอ้เทิงกับไอ้จีนหันมองหน้ากัน จะว่าโล่งอกก็ยังไม่กล้าโล่งเต็มที่ แต่ก็ยิ้มใจชื้นขึ้นมาหน่อย
“ขอบคุณครับ” ไอ้จีนนำไอ้เทิงยกมือไหวคุณเรียว แม่คุณนายมองสองคนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“แล้วคบกันรึเปล่า หรือว่าแค่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น”
“เอ่อ เปล่าครับ คืนนั้นเราแค่เมาแล้วเปิดหนังโป๊ดู พอมีอารมณ์ก็เลยใช้มือช่วยกัน”
“ดีแล้วละ ดีกว่ามีอารมณ์แล้วไปข่มขืนคนอื่น…” เรียวจันทร์ชื่นชมสองคนนั้นจริงๆ ที่มีอารมณ์ก็ปลดปล่อยกันเอง ไม่ใช่ไปทำร้ายคนอื่นอย่างที่เมืองไทยมักจะมีข่าวบ่อยๆ ใครจะมองว่าวิปริตยังไง แต่นางมองว่าดีกว่าพวกหงี่แล้วฆ่าข่มขืนก็แล้วกัน
“…แต่ว่านะ ขอแนะนำ จะทำอะไรก็ดูประตูหน้าต่างให้ดีว่าปิดสนิทเรียบร้อยรึยัง ไม่งั้นฉันอาจได้คลิปใหม่ของนายสองคนมาแทนคลิปเก่า”
“ขะ… ขอบคุณครับคุณเรียว” ไอ้เทิงยกมือไหว้เรียวจันทร์อีกทีโดยมีไอ้จีนยกมือไหว้ตาม
“ว่าแต่ นายเห็นคนงานที่ชื่อแม็คมะ”
“น่าจะอยู่ที่บ้านพักรวมครับ” ที่นี่จะมีบ้านพักคนงาน แบ่งเป็นห้องๆ ให้คนงานจับคู่หรือจับคี่นอนด้วยกันก็แล้วแต่ไซส์ห้อง แต่จะมีบ้านหลังหนึ่งที่เอาไว้ให้สำหรับคนงานกินข้าว แฮงเอ้าท์ ดูหนัง ฟังเพลงด้วยกันที่นั่น และมีที่นอนไว้ให้เผื่อใครเพลียๆ ก็มานอนที่นี่โดยไม่ต้องกลับไปที่ห้องตัวเอง
“ขอบใจมาก” เรียวจันทร์ยิ้มให้สองคนนั้นที่รีบยิ้มตอบกลับอย่างว่องไวจนเป็นยิ้มปากเบี้ยว
ร่างเพรียวบางเดินมาตรงบ้านพักรวมที่เป็นอาคารไม้สไตล์คาวบอยสีฟ้าซีดชั้นเดียวที่อยู่ด้านในสุด เพราะจะได้แยกเป็นสัดส่วนไม่ไปปนกับบ้านพักของนักท่องเที่ยว ขาเรียวยาวก้าวขึ้นบันไดไม้เข้าไปในตัวบ้าน ห้องนั่งเล่นที่มีโซฟา ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี พัดลมขนาดใหญ่นั้นโล่งไม่มีใครอยู่ นางเลยก้าวเดินต่อเข้าไปยังส่วนที่เป็นเค้าน์เตอร์เครื่องดื่มและโต๊ะกินข้าว ด้านหลังสุดเป็นห้องครัวกับห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
“ไม่อยากทำแล้วอะพี่ หนูกลัว”
“กลัวอะไร ใช่ว่าเพิ่งเคยทำ”
“ก็เพราะเคยทำไงถึงได้กลัว ถ้าเขามีหลักฐานมาถึงหนูล่ะ”
“เอาน่า อีกครั้งนึงละกัน”
“แต่รอบนี้โรงงานนมเลยนะ มัน… มันใหญ่ไป หนูไม่กล้า”
“ล้มวัวมาตัวแล้วยังจะกลัวอะไร” เรียวจันทร์นิ่งฟังตาค้าง แต่ไม่ใช่ค้างเพราะตกใจ นางกำลังค้างงงว่าสองเสียงที่กำลังคุยกัน คุยเรื่องที่นางกำลังคิดมั้ย เสียงผู้ชายน่ะลูกน้องจอมทัพแน่นอน แต่เสียงผู้หญิงคนนั้นน่ะใคร
“แต่ว่า…”
“ฮัลโหล! มีใครอยู่มั้ย” เรียวจันทร์แกล้งวิ่งกลับไปตรงเค้าน์เตอร์เครื่องดื่มด้านนอก ส่งเสียงตะโกนเรียกเพื่อให้บุคคลทั้งสองนั้นรู้ตัวว่ามีคนมาเยือน นางยืนรอแบบตีเนียนสักพัก ลูกน้องเสี่ยจอมทัพก็เดินมาจากด้านหลังบ้านที่เป็นชานยื่นออกไป
“คุณเรียวจันทร์”
“อ้าว นายอยู่นี่เอง ฉันตามหาอยู่” นางตีเนียนว่าเพิ่งเจออีกฝ่าย สายตาของนางแกล้งเหลือบไปมองทางด้านหลังของลูกน้องเสี่ยจอมทัพว่ามีคนเดินตามมาหรือไม่ แต่ก็ไม่มี
“มีอะไรรึเปล่าครับ” เรียวจันทร์ที่แกล้งทำเป็นมองไปรอบบ้านพักรวมของคนงานเลื่อนสายตากลับมามองเจ้าของร่างใหญ่ใบหน้าเหมือนตัวโกงในละคร
“ฉันโทรหาเสี่ยไม่ติด รู้รึเปล่าว่าเขาไปไหน”
“เสี่ยไปต่างประเทศครับ” ร่างเล็กขมวดคิ้วนิดหน่อย
“ตอนเจอกันไม่เห็นบอกว่าจะไปไหน”
“ไปแบบปุบปับครับ อีกอย่างเสี่ยพาผู้หญิงไปด้วยครับ เลยไม่อยากบอกคุณ” เรียวจันทร์อ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้มด้วยความดีใจ
“เสี่ยมีคนใหม่แล้วเหรอ เขาถูกใจแม่คนนั้นมากมั้ย ไม่สิ ฉันว่าต้องมาก เพราะเสี่ยไม่ค่อยควงผู้หญิง เกรดเอเลยสินะ” นางว่าด้วยหัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนนกที่กำลังจะหลุดออกจากกรงแล้วได้โผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
“หลานเสี่ยครับ อายุหนึ่งขวบ” วืดดด! รอยยิ้มที่ฉีกกว้างเมื่อครู่หดลงเป็นหน้าเรียบสนิทอย่างรวดเร็วจนลูกน้องจอมทัพหัวเราะด้วยความตลก
“อยากจะไปจากเสี่ยขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเรียว” เรียวจันทร์ไม่ตอบ ได้แต่ยกมือเกาต้นคอ สีหน้าระอาใจ ลูกน้องเสี่ยทัพขยับคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยแดงบนต้นคอของร่างเพรียว
“เสี่ยเขาจะกลับเมื่อไหร่ จะเปิดมือถือมั้ย” นางไม่สนใจว่าหลานจอมทัพจะมาจากไหน เป็นลูกใครมาก่อน นางสนแต่ว่าเมื่อไหร่จะได้คุยกับทางนั้น
“คงกลับอาทิตย์หน้าครับ เรื่องเปิดมือถือไม่แน่ใจ ลองฝากเรื่องไว้กับเลขาเสี่ยมั้ยครับ” เรียวจันทร์สั่นหัวเบาๆ
“ไม่อะ ฉันจะรอคุยกับเสี่ยเอง ถ้าเขาติดต่อนายมา บอกฉันด้วยนะ”
“ผมคงไม่ได้อยู่บอกแล้วละครับ ผมลาออกจากที่นี่แล้ว ทำงานอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้าย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วมองคนตรงหน้าตนเองด้วยสายตาเคลือบแคลง แต่ก็รีบปัดทิ้งไปก่อนที่จะทำให้อีกฝ่ายนึกไหวตัว
“อ้าวเหรอ เสี่ยเรียกตัวกลับแล้วสินะ”
“ก็ครับ ผมอยู่มาจะครึ่งปีแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เสี่ยเลยเรียกกลับไปตั้งหลัก” เรียวจันทร์ตวัดตามองอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้
“ค่ะๆ เชิญกลับไปเถอะ โชคดีก็แล้วกัน” เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน กำลังจะก้าวเท้าเดินออกไป ก็หยุดเท้าเพราะเสียงทักของอีกฝ่าย
“รู้มั้ยครับ เสี่ยไม่ชอบใช้คนร่วมกับใคร” เรียวจันทร์เลิกคิ้วขึ้นทำหน้าประมาณว่าแล้วไง?
“ทีฉันยังใช้เสี่ยร่วมกับอื่นเลย คิดว่าเจ้านายตัวเองมีฉันคนเดียวเหรอ”
“ตอนนี้เขามีแค่คุณคนเดียวจริงๆ” เรียวจันทร์เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่ก็ไม่เชื่อว่าเสี่ยจอมทัพจะหยุดอยู่ที่ตัวเองจริงๆ นางไม่เคยเชื่ออะไรแบบนั้นเลย
“ถ้าเขากลับมา บอกให้เขาติดต่อฉันหน่อย” ว่าแค่นั้นก็หมุนตัวเดินออกไปจากบ้านพักรวมของคนงานทันที โดยมีสายตาเรียบนิ่งของแม็คมองตาม
พอได้จูบก็จูบกันใหญ่เลยนะคะ หืมมม มีมองตากันและพาไปในมุมลับตาคนด้วย พี่เขี้ยวอู้งานมาหาคุณนาย เอาใหญ่แล้วนะคะพี่เขี้ยว เสียผู้เสียคนเนาะ
แต่ขุ่นแม่เรียวถึงกับหายใจหายคอไม่ทัน ว่าที่สามีคุณแม่ไม่ธรรมดานะคะ จูบจนทำเอาคุณแม่รู้สึกเหมือนเด็กไปเลย อดคิดแบบคุณแม่ไม่ได้ค่ะว่าถ้ามากกว่านี้ คุณแม่ต้องคลานเข่ามั้ยหรือยังไง แอร๊ย
ขอบคุณทุกเม้นทุกโหวตเลยนะคะ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันทุกครั้งที่อัพค่า