คาถาที่ 22 :: The fear of Devil. (ความกลัวของนางมาร) [35%] คมเขี้ยวสะดุ้งตื่นในตอนที่ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันแว่วๆ เขามองเรียวจันทร์ที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดตั้งแต่เมื่อคืน พอได้สติขึ้นมาบ้างเลยหันไปมองน้องชายบุญธรรมตัวเองที่นอนแผ่หลาเหยียดขาตรง สองแขนนอนกางออกข้างลำตัว เนื้อตัวเปลือยเปล่ามีผ้าห่มคลุมช่วงกลางลำตัวไว้
เมื่อคืนเขากับเรียวจันทร์เฝ้าไอ้ดินจนเกือบตีห้า อาการความอยากของไอ้ดินรุนแรงกว่าของเขามาก เพราะมันกินเข้าไปจนเกลี้ยงกระบอกน้ำ มันทั้งฉี่ทั้งชักไปหลายรอบก็ดีขึ้นมานิดหน่อย แต่ก็ยังไม่หายดี ยังคงตัวร้อนรุมๆ เรียวจันทร์ลงความเห็นว่า ถ้าให้ร้อนกับเย็นเจอกันนานไปมันไม่น่าจะดี เขาเช็ดตัวไอ้ดินและพาไอ้ตัวใหญ่ที่เดินแทบไม่ตรงเดินกลับมาที่เต็นท์ ก่อนที่จะหลับไปมันบอกว่ายังร้อน มึนหัวและตัวก็ยังแดง ทั้งที่ผิวมันเข้มซะขนาดนั้นแต่ยังมองออกว่าตัวแดง และมันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่โดนตัวเรียวจันทร์ขวัญใจของมัน
‘อย่าให้คุณเรียวโดนตัวดิน ไม่งั้นดินจับเมียพี่กินนะ’ ตอนประคองมาที่เต็นท์เขาเลยต้องทำคนเดียว มีเรียวจันทร์คอยส่องไฟฉายนำทางให้ พอเข้าเต็นท์ได้เขาก็ไล่เรียวจันทร์กลับไปนอนที่ แต่แม่ตัวดีก็ไม่ยอมไป
‘ไม่เอา ฉันเป็นห่วงดิน เป็นห่วงนายด้วย เกิดหน้ามืดตาบอดขึ้นมา กินกันเอง ฉันนี่แหละจะช็อคที่สุด’ สุดท้ายเขาเลยต้องนอนคั่นกลางและกอดแม่คุณนายไว้ ไอ้ดินนอนครางฟืดฟาดๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะค่อยๆ สงบลง
คมเขี้ยวหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาบนหน้าจอ ตอนนี้หกโมงเช้าแล้ว พวกเขาเพิ่งหลับไปได้ชั่วโมงเดียว เขาหันไปมองร่างไอ้ดิน เพ่งมองสำรวจเท่าที่จะฝืนความง่วงไหวว่าตัวมันยังแดงอยู่มั้ย
“อือ… ดินเป็นไงบ้าง” เสียงใสแหบๆ ดังขึ้นด้านหลังพร้อมกับร่างของเรียวจันทร์ที่ลุกขึ้นนั่งหน้าตางัวเงีย
“หลับอยู่ แต่วันนี้มันคงขึ้นไปบนเขาไม่ไหวหรอก” เรียวจันทร์หน้าเจื่อน ชะโงกหน้ามองดินที่นอนหายใจดังฟี่ หน้าตาของดินดูเหนื่อยล้า เห็นแล้วความรู้สึกผิดก็วกกลับเข้ามาหาอีกอีกครั้ง
“หรือเราจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันมั้ย ให้ดินหายดีแล้วค่อยขึ้นเขา ดินอยากมาทริปนี้มากไม่ใช่เหรอ”
“งั้นเดี๋ยวปรึกษาพ่อกับแม่ก่อน” เรียวจันทร์พยักหน้างัวเงีย
“แล้วตอนนี้เราควรทำไง นอนต่อหรือว่าออกไปเตรียมตัว”
“เดี๋ยวผมออกไปถามพ่อกับแม่ก่อน…” คมเขี้ยวทำท่าจะลุกออกไปจากเต็นท์ แต่สักพักก็หันไปมองหน้าเมียใหม่หมาดๆ ด้วยสายตาดุนิดๆ
“…คุณก็ออกไปรอข้างนอกด้วย” เรียวจันทร์ย่นคิ้วทั้งที่หน้ายังง่วงอยู่แล้วพูดเสียงงึมงำๆ
“ทำไมอะ ฉันว่าจะนอนอะ”
“อยู่สองคนได้ไงล่ะ” เรียวจันทร์กลอกตาเอื่อยๆ ชันเข่าขึ้นเชื่องช้า รอคมเขี้ยวรูดซิบเต็นท์ออกแล้วให้เรียวจันทร์คลานออกไปด้านนอกก่อนแล้วค่อยตามออกมา ร่างเล็กนั่งหน้าสลึมสลืออยู่ตรงพื้นด้านหน้าเต็นท์ที่มีหลังคายื่นออกมาด้านหน้าคล้ายมุกหน้าบ้าน คมเขี้ยวเดินไปดูที่เต็นท์พ่อกับแม่ พอเห็นว่าทั้งคู่ไม่อยู่เลยจะเดินไปทางท่าน้ำ เขาเดินเข้าไปดึงเรียวจันทร์ให้เดินไปด้วยกัน คุณนายงอแงนิดหน่อยเพราะกำลังนั่งสัปปะหงกเพลินๆ
คมเขี้ยวลากเรียวจันทร์ให้เดินตามมาเรื่อยๆ เรียวจันทร์เพิ่งรู้สึกถึงอากาศตอนเช้าตรู่ ครึ้มแบบนี้คือเย็นจัดมาก ยิ่งเข้าใกล้น้ำก็ยิ่งเย็น จากที่กำลังงัวเงียๆ ถึงกับตื่นเกือบเต็มตา เมื่อกี้ก็ไม่ได้หยิบเสื้อกันหนาวหรือผ้าห่มมาด้วยเลยต้องเดินตัวสั่นเบาๆ
“ป๋า แม่ ไอ้ดินมันท้องเสีย วันนี้มันไม่น่าจะเดินไหว ผมเลยจะถามว่าเราจะอยู่ต่ออีกสักวันมั้ย รอให้ไอ้ดินหายดีแล้วค่อยขึ้นไปข้างบน” คมเขี้ยวถามพ่อกับแม่ตัวเองที่กำลังยืนถ่ายรูปตรงท่าน้ำที่ยื่นเข้าไปถึงกลางน้ำ ฉากหลังคือหมอกสีขาวลอยเหนือน้ำเย็นๆ มีแสงตะวันสีส้มอมทองแทรกอยู่ในหมู่เมฆสีครึ้มเหนือยอดไม้ฝั่งตรงข้ามที่กางเต็นท์
“อ้าว มันไปกินอะไรมา ก็กินเหมือนกันหมดนี่หว่า” เมฆาถามอย่างประหลาดใจ พลางมองเรียวจันทร์ที่ยืนหน้าง่วง สองมือลูบตามแขนขาวเพื่อเพิ่มไออุ่นให้ตัวเอง
“มือมันสกปรกแล้วหยิบของกินเข้าปาก” คมเขี้ยวตอบอย่างปกติธรรมดา ราวกับว่ามันเป็นไปอย่างนั้นแหละ
“เอาไงล่ะคุณบัว” เมฆาหันไปถามภรรยาที่ยืนอยู่ข้างกัน
“ช่วงนี้เราก็ปิดฟาร์มแล้ว อยู่ต่ออีกวันก็ได้ค่ะ แต่ก็รอดูอาการดินด้วย ถ้าไม่ดีขึ้น ยังไงก็ต้องกลับแล้วพาไปหาหมอ” คมเขี้ยวรับคำของมารดา หันไปมองเรียวจันทร์ที่เดินไปนั่งบนราวไม้ท่าน้ำอย่างง่วงๆ แล้วหันกลับไปหาพ่อกับแม่ตัวเองอีกที
“งั้นเดี๋ยวผมกลับไปนอนต่อก่อนนะ เมื่อคืนเฝ้าไอ้ดินจนเกือบเช้าเลย” ผู้ใหญ่ทั้งสองคนพยักหน้า มองลูกชายตัวเองเดินเข้าไปจูงมือเรียวจันทร์ให้ลุกขึ้นและพาเดินกลับไปทางเต็นท์
“ดีกันแล้วแหละน่ะ” เมฆายักคิ้วหนึ่งที บัวบูชายิ้มกริ่มและหันกลับไปถ่ายรูปต่อ
ก่อนเข้าเต็นท์คมเขี้ยว เรียวจันทร์แวะบอกเป็ดที่ตื่นแล้วว่าจะขอนอนต่อที่เต็นท์คมเขี้ยว และแจ้งเป็ดเรื่องจะอยู่ต่ออีกวัน
“อ้าว อยู่ต่อเหรอ ฉันติดงานอะแก” เรียวจันทร์ชะงักนิ่งคิดไปแปบหนึ่งก่อนจะหันไปมองคมเขี้ยว
“ผมลืมถามความเห็นคุณเป็ดเลย ขอโทษด้วยนะครับ” เป็ดยกมือโบกรัวๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ เป็ดไม่คิดมาก แค่กังวลว่าตัวเองจะกลับยังไง” เป็ดหัวเราะแห้งๆ
“แกแคนเซิลได้มั้ย หาคนอื่นมาทำแทนได้หรือเปล่า ในบริษัทไม่ได้มีแกคนเดียวซะหน่อย”
“มันก็ใช่ แต่พี่หัวหน้าฉันเขาก็แบบ ไว้ใจฉันอะ” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วหน้าง่วง
“ในบริษัทออแกไนซ์แกนี่ไม่มีใครน่าไว้ใจเลยเหรอ” เป็ดจิ๊ปากใส่เพื่อนตัวเอง และแอบเบ้ปากด้วยความหมั่นน้อยๆ เมื่อเรียวจันทร์ดึงให้คมเขี้ยวเข้ามากอดตัวเองจากทางด้านหลัง คิดไปคิดมาหมั่นไส้คมเขี้ยวด้วยดีกว่า เพราะรายนั้นก็สวมกอดนังเรียวอย่างเต็มใจเหลือเกิน
“ไม่ใช่ไว้ใจแบบนั้น หมายถึงว่า งานนี้ฉันเป็นคนเริ่มไง” เรียวจันทร์ที่กำลังลูบแขนคมเขี้ยว นิ่งคิดสักแปบเพราะสมองยังไม่ตื่นเต็มที่
“เอ่อ โอเค งั้นแกถามพี่หัวหน้าแกก่อน ถ้าเขาหาคนแทนได้ อยู่ต่อเหอะ” เป็ดพยักหน้า ก่อนจะขอตัวไปดูวิวยามเช้าบ้าง คมเขี้ยวกับเรียวจันทร์พากันเดินกลับไปเข้าเต็นท์ ดินยังคงนอนหลับสนิท ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนั่นทำให้คมเขี้ยวนึกสบายใจว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีอาการทรมานให้เห็น
“ดินไม่มีแฟนหรือคนคุยบ้างเลยเหรอ” เรียวจันทร์ถามตอนที่คมเขี้ยวคลี่ผ้าห่มให้คลุมตัวเองกับคนข้างๆ
“ถามทำไม”
“บางทีเห็นแล้วก็น่าเห็นใจ เกิดอยากปลดปล่อยก็ต้องใช้แต่นารีทั้งห้า”
“ก็ไอ้ดินมันไม่จีบใคร มีผู้หญิงแถวบ้านมาชอบ มันก็ไม่เอา มันจะเอาแต่คุณเนี่ย” เรียวจันทร์บิดปากเป็นยิ้มเขิน แล้วพูดด้วยเสียงสอง พูดอ้อแอ้ๆ คล้ายคนไม่เต็มบาท
“ก็ฉันสวยอะ”
คมเขี้ยวยิ้มเหี้ยม ถลึงตามองแม่ตัวดี “เดี๋ยวจะศพไม่สวย”
“อู๊ย พี่เขี้ยวหึงน้องเรียวเหรอ น่ารักจังเลยค่า” เรียวจันทร์ยื่นหน้าไปจุ๊บมุมปากคนตัวโตหนึ่งที แล้วคลี่ยิ้มง่วงให้ คมเขี้ยวยกมือซ้ายตีหน้าผากเรียวจันทร์เบาๆ แล้วพาคุณนายล้มตัวลงนอน เรียวจันทร์ซุกหน้าเข้ากับซอกคอคมเขี้ยวแล้วไม่นานก็หลับ ไม่มีใครพูดอะไรต่อ เพราะง่วงกันทั้งคู่
เสียงโทรศัพท์มือถือของคมเขี้ยวดังแผ่วอยู่ตรงปลายเท้า เจ้าของโทรศัพท์ดันร่างเรียวจันทร์ออกจากอกตัวเองเบาๆ หันไปมองร่างไอ้ดินก็พบเพียงความว่างเปล่า แขนยาวๆ เอื้อมไปหยิบมือถือขึ้นมากดรับ
“ว่าไง”
[ขอโทษทีพี่เขี้ยวที่โทรมา แต่เมื่อคืนมีคนเข้าไปพังเครื่องผลิตนม] คมเขี้ยวไม่ได้มีท่าทีตกใจ เขาไม่แปลกใจด้วยซ้ำที่เกิดเหตุการณ์นี้ แต่เขาต้องการอีกคำตอบมากกว่า
[แต่ผมจับคนทำได้นะพี่เขี้ยว]
“เออ ดี เอาไปฝากขังกับตำรวจไว้ก่อน” คมเขี้ยวไม่ได้ตื่นเต้นที่จับคนร้ายได้แล้ว เพราะเขาคิดไว้แต่เพียงว่าต้องจับให้ได้เท่านั้น
[แต่พี่ ไอ้คนทำอะ คือ…]
“คือไรวะ”
[ไอ้น้อยหน่า] คมเขี้ยวนิ่งค้าง หัวใจกระตุกไปหนึ่งที ชื่อที่ได้ยินทำเอาเขารู้สึกมึนไปชั่วขณะ
“มึงว่าไงนะ” เขาลองถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้คิดผิดหรือได้ยินผิดไป จากที่ไม่ตื่นเต้น เขาก็เริ่มจะตื่นเต้นขึ้นบ้าง
[ไอ้น้อยอะพี่ แม่งเป็นคนทำ แต่ตอนนี้มันไม่พูดอะไรเลย] คมเขี้ยวหน้าเครียดไปนิด เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ
“งั้นอย่าเพิ่งส่งให้ตำรวจ รอกูกลับไปคุยก่อน” ไอ้เทิงรับคำแล้ววางสายไป คมเขี้ยววางมือถือไว้ตรงที่นอนฝั่งไอ้ดิน หันไปมองเรียวจันทร์ก็เห็นว่ากำลังหลับอยู่ เขาเลยคลานออกไปนอกเต็นท์ก่อน พอออกมาด้านนอกก็เจอกับคนอื่นๆ นั่งล้อมกองไฟกันอยู่ ไอ้ดินกำลังนั่งจิบน้ำ ดูท่าจะเป็นน้ำอุ่นเพราะมีควันสีขาวลอยจางๆ ท่าทางของมันดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนเยอะ
“หนูเป็ด หนูเรียวยังไม่ตื่นเหรอลูก” คมเขี้ยวหันไปมองแม่ตัวเองแบบมึนๆ สักแปบก็ได้สติว่ามารดาเขาถามหาแม่คุณนายที่หลับอยู่ในเต็นท์เขา
“เอ่อ ใช่ค่ะ หลับอยู่ สงสัยจะเพลียจริง” คมเขี้ยวเหลือบมองเป็ด อีกฝ่ายยิ้มกลับมาเนียนๆ เขาเลยทำเนียนไม่พูดอะไรบ้าง
“ป๋ากับแม่ ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย” คมเขี้ยวเดินไปนั่งใกล้ทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมสีฟ้าที่พกมาจากบ้าน เขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง พ่อเขาเงียบหน้านิ่ง ส่วนแม่เขามีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยินว่าคนที่ทำคือใคร
“งั้นกลับบ้านดีกว่า จะได้รีบเคลียร์” เมฆาสรุปแทนทุกคน และเป็นอันว่าจากที่จะอยู่ต่ออีกวันเป็นอันต้องกลับก่อนกำหนดหนึ่งวันแทน
พอตกลงกันได้ ทุกคนก็เตรียมตัวไปอาบน้ำ คมเขี้ยวมุดกลับเข้าเต็นท์ไปปลุกเรียวจันทร์และบอกให้อีกฝ่ายไปเตรียมตัวกลับบ้าน เรียวจันทร์ตกใจแบบงงๆ ที่แพลนเปลี่ยนกะทันหัน
“ที่ฟาร์มมีปัญหาน่ะ” เรียวจันทร์อ้าปากหวอ เปลือกตากะพริบเอื่อยๆ ก่อนจะพยักหน้างึมงำ
“เดี๋ยวผมรอ ไปเตรียมของอาบน้ำเร็ว” เรียวจันทร์พยักหน้าอีกที คมเขี้ยวแหวกเต็นท์ดู เห็นพ่อกับแม่ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วเลยปล่อยให้เรียวจันทร์มุดออกจากเต็นท์ไปอย่างเชื่องช้า พอเรียวจันทร์เดินกลับไปที่เต็นท์ตัวเอง เขาก็หันไปคุยกับดิน
“เป็นไงมั่งมึง”
“โอเคแล้วพี่ ไม่มีอารมณ์แล้ว เอ่อ ดินไม่ได้ตายด้านนะ หมายถึงว่า ไม่อยากเอาคุณเรียวแล้ว” คมเขี้ยวขมวดคิ้ว
“เอ๊ ไอ้นี่ พูดไรเกรงใจกูมั่ง”
“โห่ ไม่ต้องพูดเลยพี่เขี้ยว ทีแรกทำเป็นปากแข็ง ตัวเองมาทีหลังยังมาแย่งเขาอีก” คมเขี้ยวยิ้มระอาและส่ายหน้าน้อยๆ กับใบหน้างอนของไอ้ตัวใหญ่
“ยังไงกูก็ขอบใจมึงมากนะที่ช่วยกูลองกินไอ้ยานั่นอะ”
“ยาคุณเรียวสุดยอดของดี แต่ถ้าจะให้กินอีก ไม่เอาละนะ ถึงมันจะอยาก รู้สึกดี แต่ดินร้อนเหมือนจะตายเลย พี่เป็นมั้ยอะ” คมเขี้ยวถอนหายใจแผ่วเบา
“กูว่ากูโชคดีที่กินไปนิดเดียว แล้วถ้าเรียวไม่มาโดนตัวกู คิดว่าคงไม่เป็นอย่างที่มึงเห็นในน้ำตกหรอก”
“แล้ว… ตอนที่พี่ฟัดคุณเรียว ตอนนั้นเพราะยาหรือเพราะอยากอะ” คนถูกถามย่นคิ้วน้อยๆ พยายามนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น
“ก็สองอย่าง เหมือนยามันแค่กระตุ้นให้กูอยากกับเขามากกว่าปกติ” ไอ้ดินจ้องหน้าคมเขี้ยว กะพริบตาปริบ ก่อนจะถามหน้าตาใสซื่อ
“เงี่ยxมากกว่าเดิมเงี้ยอะเหรอพี่” คมเขี้ยวไม่รู้จะวางสีหน้ายังไง เลยได้แต่พยักหน้าขึ้นเป็นคำตอบหนึ่งทีพร้อมกับทำเสียงอือๆ ออๆ ในลำคอนิดหน่อย
“แล้วถ้าเกิดเป็นคนอื่นมาโดนตัวพี่ แบบนั้นพี่ก็อยากกับคนนั้นด้วยอะดิ”
“ยามันไม่ได้ทำให้กูขาดสตินะ ถ้ากูไม่อยากกับคุณเรียวมึงซะอย่าง กูต่อยปากแตกคาน้ำตกไปแล้ว” ดินทำหน้าครุ่นคิด แววตากลอกไปซ้ายทีขวาทีก่อนพูดต่อ
“ก็น่าจะจริง ไม่งั้นดินคงเอาพี่เขี้ยวเป็นเมียแล้ว”
“ไอ้เหี้ยดิน” คนโดนด่าทำหน้างงว่าทำไมจู่ๆ ถึงโดนด่า ก็แค่เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ
“เอ๊า ไรวะ ด่ากันเฉยเลย” คมเขี้ยวที่เตรียมอุปกรณ์อาบน้ำและเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ลุกชันเข่า
“ไปๆ ไปอาบน้ำ” ไอ้ดินส่ายหน้าสั่น
“หึ ไม่อะ เมื่อคืนแช่น้ำจนตัวจะเปื่อยแล้ว” คมเขี้ยวพยักหน้าขึ้นไปเรื่อย เหมือนเป็นการบอกว่าตามใจมึง
ร่างสูงออกมายืนด้านนอกเต็มความสูงของตัวเอง เรียวจันทร์เดินหอบของเตาะแตะมาหาเขา คมเขี้ยวยื่นมือไปจับมือเรียวจันทร์แล้วพากันเดินออกไปทางห้องอาบน้ำ ตอนนี้สิบโมงกว่าแล้ว มีคนมาอาบน้ำบ้างประปราย ฝั่งผู้ชายมีคนไม่เยอะมาก ห้องอาบน้ำมีสิบห้อง ตอนนี้เหลือห้องว่างอยู่สองห้อง แต่สองสามีภรรยาหมาดๆ เลือกที่จะเข้าไปอาบน้ำห้องเดียวกัน
คมเขี้ยวถอดเสื้อและกางเกงแขวนไว้ตรงราวพลาสติกในห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนูสีขาวพาดไว้ใกล้กัน หันไปหยิบเสื้อ กางเกงและผ้าขนหนูของเรียวจันทร์มาพาดไว้ด้วยกัน พอจัดการเสร็จก็หันไปมองเรียวจันทร์ที่หัวยุ่งเหยิงหน้าตาง่วงซึมยืนเปลือยเปล่า ร่องรอยสีแดงบนตัวเรียวจันทร์ยังเด่นชัดบนผิวขาวราวกับน้ำนม มันก็ไม่ได้เหมือนนมราวกับเป็นแฝด แต่ผิวเรียวจันทร์ขาวมาก ขาวเนียนละเอียด เหมือนน้ำนมอ่อนๆ ราดอยู่บนตัว
“อยากเหรอ” เรียวจันทร์เดินเข้ามาคล้องคอเขาแล้วกระซิบถาม ก่อนจะจูบปลายคางเขาหนึ่งที
“ในนี้คงไม่สะดวก ถึงบ้านก่อนแล้วกัน” คมเขี้ยวก้มลงจูบปากเรียวจันทร์เบาๆ ร่างเล็กยิ้มแล้วพยักหน้า
คมเขี้ยวเปิดฝักบัวและพาเรียวจันทร์เข้าไปยืนใต้ละอองน้ำ เรียวจันทร์สั่นไหล่เบาๆ เมื่อโดนความเย็นจัดของน้ำกระทบผิว คมเขี้ยวหันตัวเรียวจันทร์เข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะก้มลงไซ้คอขาวเนียนด้วยความกระสัน เรียวจันทร์ยกสองมือขึ้นจิกหัวคมเขี้ยวและแหงนหน้าให้คนตัวสูงไซ้ได้อย่างสะดวก
“ไหนว่ารอกลับบ้านไง” เรียวจันทร์กระซิบถามแผ่วเบา พยายามไม่ให้เสียงดังมากไป เพราะมีคนอื่นๆ อาบน้ำอยู่ ยังดีที่ห้องอาบน้ำของที่นี่เป็นแบบมีฝ้าปิดด้านบน ใครจะสอดกล้องเข้ามาก็ยากหน่อย
คมเขี้ยวไม่ตอบ เอาแต่มัวเมากับลำคอขาวของเรียวจันทร์ทั้งสองข้าง สองมือลูบผิวลื่นเนียนของเมียหมาดๆ ไปทั่ว เรียวจันทร์ปล่อยสองมือออกจากผมคมเขี้ยว เลื่อนลงมาที่หน้าอกกับหัวนมแทน พอสองมือสัมผัสเข้าที่ยอดอกของคมเขี้ยว เจ้าตัวก็ครางเสียงสั่น หน้าท้องหดเกร็ง ความเป็นชายที่ค่อยๆ แข็งทีละนิดกระดกตัวขึ้นราวกับมังกรลุกผงาด คมเขี้ยวเลื่อนมือลงไปแหวขาของเรียวจันทร์ให้อ้ากว้างขึ้น เอื้อมไปหยิบครีมอาบน้ำของเรียวจันทร์ที่วางอยู่บนแท่นปูนวางของมาบีบใส่มือแล้วสอดมือเข้าไปใต้หว่างขาเรียวจันทร์แล้วยัดนิ้วที่เยิ้มไปด้วยครีมอาบน้ำเข้าไปในรูคับแคบ
เรียวจันทร์แหงนหน้าตาปรือ สองมือจับไหล่คมเขี้ยวไว้ ปล่อยให้คมเขี้ยวทาครีมอาบน้ำตรงบริเวณนั้นจนลื่นมือ แล้วสักพักคมเขี้ยวก็เขยิบร่างตัวเองกับร่างเรียวจันทร์ออกห่างจากฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลกระทบพื้นเพื่อช่วยกลบเสียง
“ต้องเร็วหน่อย อย่าเสียงดังนะ” คมเขี้ยวกระซิบบอก เรียวจันทร์พยักหน้า ยกขาซ้ายขึ้นตามแรงแขนที่คมเขี้ยวดึงขึ้นไปคล้องไว้ตรงข้อแขน คมเขี้ยวย่อตัวแล้วใช้มือขวาจับลูกชายตัวเอง ค่อยๆ เสียบเข้าไปด้านใน
“อุ… อู้ว… อู้ว… อือ…” เรียวจันทร์สีหน้าจุก พยายามกลั้นเสียงร้องไว้ด้วยการยื่นหน้าไปกัดไหล่คมเขี้ยว ร่างสูงครางอืออาเบาๆ ยืนย่อเข่าแช่ตัวเองไว้ในตัวเรียวจันทร์สักพัก ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูง ทำให้เรียวจันทร์หายใจเข้าปอดดังเฮือกยาว ปลายเท้าด้านซ้ายเขย่งขึ้นเพื่อให้คมเขี้ยวถนัด แต่เนื่องจากอีกฝ่ายสูงร้อยเก้าสิบกว่าเลยทำให้เหลื่อมล้ำกันอยู่ดี คมเขี้ยวเลยย่อตัวลงอีกนิด พอเข้าที่เข้าทางก็สวนสะโพกเข้าหาเรียวจันทร์
“อ๊ะ…อ๊า…” เนื่องจากยังมีความเจ็บบวมตุ่ยจากเมื่อวานเลยทำให้เรียวจันทร์รู้สึกระบบตรงทางเข้าของตัวเอง ร่างเล็กถึงกับยกมือขึ้นมาดันไหล่ร่างสูงให้ออกห่าง คมเขี้ยวหยุดขยับสะโพก เรียวจันทร์ออกแรงดันเขาออกให้ห่างจากตัวแล้วยืนพิงกำแพงหายใจหอบน้อยๆ หน้าตาบ่งบอกถึงความเจ็บ
“เจ็บเหรอ” คมเขี้ยวถามย้ำจากสีหน้า เรียวจันทร์หน้าเหยเก พยักหน้าอย่างยอมรับ นึกในใจกับตัวเองว่าเหมือนเพิ่งเสียบริสุทธิให้คมเขี้ยวคนแรกอย่างไรอย่างนั้น
“สงสัยจะเจ็บค้างจากเมื่อวาน พักวันนึงได้มั้ย” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มแล้วพยักหน้า เรียวจันทร์สูดปากด้วยความเจ็บ มองไอ้ไส้กรอกเขาใหญ่ที่พุ่งตรงมาทางนี้ เอื้อมมือไปจับแล้วรูดเข้ารูดออก
“คาวบอยน้อยสะพรึงมาก แต่ขอพักสักวันนะลูกนะ” เรียวจันทร์ก้มลงจูบที่ส่วนปลายของแท่งสีเข้ม และหยอกล้อพ่อคนตัวสูงด้วยการดูดสูดปลายราวกับดูดอมยิ้มไปหนึ่งที ใบหน้าคมเขี้ยวกระตุกนิดหนึ่งด้วยความเสียว
“ฉันใช้มือให้มั้ย” เรียวจันทร์ว่าพลางชักขึ้นชักลงให้คมเขี้ยวช้าๆ ร่างสูงดึงมือเรียวจันทร์ออกจากของตัวเอง
“ไม่ต้องหรอก เก็บไว้ปล่อยทีเดียวตอนคุณหายแล้ว”
“ทนได้เหรอ” คมเขี้ยวยิ้ม ก้มลงจุ๊บหน้าผากเรียวจันทร์หนึ่งที
“ผมไม่มีอะไรกับใครมาเป็นปีๆ ยังอยู่ได้เลย” เรียวจันทร์ทำหน้านึกขึ้นได้ ก่อนจะพยักหน้า แว้บหนึ่งนึกสงสัยว่าผู้หญิงคนสุดท้ายที่คมเขี้ยวนอนด้วยคือใครกัน
ทั้งสองคนช่วยกันอาบน้ำ ถูสบู่ให้กัน แต่ล้างหน้าใครหน้ามันและแปรงฟันในปากใครปากมัน ผมไม่ได้สระเพราะเมื่อวานตอนเย็นก็สระไปแล้ว อาบน้ำเสร็จคมเขี้ยวก็ช่วยเรียวจันทร์เช็ดตัวก่อน ตามด้วยเรียวจันทร์เช็ดตัวให้คมเขี้ยวบ้าง พอตัวแห้งก็ใส่ชุดนอนชุดเดิมก่อนแล้วค่อยกลับไปเปลี่ยนที่เต็นท์ ทั้งคู่รอฟังเสียงจากด้านนอกสักพัก พอแน่ใจว่าไม่น่าจะมีใครอยู่แล้วก็ค่อยๆ แง้มประตูออกไปมองซ้ายมองขวา เห็นว่าทางสะดวกก็รีบพากันออกจากห้องอาบน้ำ และพากันกลับไปที่เต็นท์เพื่อเก็บของเตรียมตัวกลับ
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้
แหม พี่เขี้ยว อดใจไม่ไหวล่ะซี้ อุอิๆ แต่คุณนายยอมแพ้จริง 55555 สู้ไม่ไหว ราวกับเป็นสาวบริสุทธิมาก่อน พี่เขี้ยวนี่ไม่ธรรมดานะคะ ทำให้คุณนายพ่ายได้
น้องดินก็น่ารักน่าเอ็นดู๊ 55555 หวงน้องดิน เก็บไว้กินคนเดียวดีกว่า คริๆ
มีเรื่องแล้วค่ะหมวดดด แพลนทุกอย่างต้องล่มเพราะมีเรื่องงง สำหรับสาวปริศนาที่ทิ้งไว้เป็นประเด็นในสักตอนหนึ่ง จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นปริศนามาก ไม่ได้กะปิดให้มันซับซ้อนเป็นคดีฆาตกรรม 5555 หลายคนก็เดาถูกกันไปละเนาะ อุๆ
ยังไงกลับไปทำต่อ เอ้ย กลับไปเคลียร์ปัญหาที่ฟาร์มกันก่อนดีกว่าเนอะ หุๆ
ตอมลงตอนพิเศษต้อนรับปี 60 ให้อ่านกันในเพจ มาบอกย้ำอีกทีค่ะ เผื่อบางคนไม่ทราบเนอะ ตามไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้า >
ตอนพิเศษต้อนรับปี 60ที่ไม่ได้ลงในหน้านิยายเลยเพราะไม่ได้มีแค่พี่เขี้ยวกับแม่เรียวค่ะ มีตัวละครจากเรื่องอื่นยั้วเยี้ยไปหมด เลยเอาไปลงที่เพจดีกว่าาา ตามไปอ่านได้น้อออ
สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ