*~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *~.Works The Magic! ร่ายมนตร์รักกับดักนาง(ย)มาร.~*คาถาที่ ๓๓ [END]:15.07.60:  (อ่าน 279089 ครั้ง)

ออฟไลน์ peeranatyaikaew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คิดถึงคุณนายยยย :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เย้ๆๆๆๆ ฮูเร่ พี่เขียวใจอ่อนนิดๆแล้วว จูบจากขุ่นแม่ ละมุนๆชิมิ อิอิ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
ขุ่นพี่คมเขี้ยว. คิดถึงขุ่นแม่สินะะะะะะะะะะ. หุหุหุหุ :katai3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
คุณนายน่ารักกว่ายัยเคี้ยวเอื้องเยอะ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ขาดเขาไม่ได้แล้วก็บอกมาเหอะ คุณเขี้ยว แหม เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นเยอะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
พี่เขี้ยว เป็นขนาดนี้ถ้ายังไม่รู้ตัวว่า รู้สึกยังไงกับคุณนายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะ 

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ในที่สุดเสน่ห์แม่เรียวก้อเริ่มซึมลึกเข้าสู่เขี้ยวได้สำเร็จ  :mew1: ยายเอื้องเธอรุกช้าไปไหม ถ้าทำก่อนหน้านี้อาจจะมีผลตอบรับอะไรที่คืบหน้าขึ้นน่ะ แต่นี่เขามีคนที่สนใจเข้ามาแล้ว ใจเขาเริ่มไม่ว่างแล้วน่ะ มีตัวเปรียบเทียบแล้วน้า เสียใจด้วยน่ะจ้ะสาวเอื้อง อย่างที่เขี้ยวคิด ถ้าจะเป็นมากกว่าเพื่อนคงเป็นไปนานแล้วล่ะ คงไม่เอื่อยขนาดนี้หรอก  :mew6:
กำลังอ่านตอนพิเศษ ของแมทน้อยกับไอ้ยักษ์อยู่ เจอคมเขี้ยวกับแม่เรียวด้วย ฟินไปเลย แล้วเรื่องเต้กับแผ่นดินล่ะ จะมีเรื่องเปิดใหม่ด้วยไหม รอเลยน่ะเนี่ย ค่อย ๆ โผล่มาทีละคู่ให้ฟินตามกันไปเลย  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :katai4: ชอบคุณนาย 55555 ยัยเอื้องนี่แอ๊บได้ตลอดเว

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

คาถาที่ 18 :: Kiss of Devil. [จุมพิตนางมาร] (ครึ่งแรก)




คมเขี้ยวตื่นเช้าเหมือนทุกวัน เมื่อช่วงเช้าตรู่เขาเดินเข้าไปในบ้านต้นสนเพื่อทำความสะอาด เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ได้แวะเข้าไปนอน พอจัดการมุมพื้นที่ส่วนตัวเสร็จเขาก็ออกมาดูแลงานส่วนต่างๆ ในฟาร์มตามปกติอย่างเรียบง่าย วันนี้เป็นวันเปิดให้เข้าชมฟาร์ม เลยมีนักท่องเที่ยวให้เห็นประปราย ตอนนี้เขากำลังมองหาไอ้ดินว่ามันอยู่ไหน เพราะจะใช้ให้มันไปซ่อมรถไถที่เสียอยู่ เขายืนคุมคนงานให้ถอนหญ้าในแปลงดอกไม้หน้าร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของฝากในฟาร์ม พ่อค้าแม่ค้ากำลังบริการนักท่องเที่ยวที่แวะกินอาหาร

           

 

สำหรับอาหาร แต่ละร้านจะแตกต่างกันออกไป ตรงตึกสำหรับเช่าร้าน จะมีร้านอาหารแค่สี่ร้าน ก็จะมีอาหารสี่อย่าง เป็นสูตรเด็ดของแต่ละร้าน มีสองร้านที่แม่เขาสนิทด้วย ก็ไปขอให้มาเปิดสาขาที่นี่ ส่วนอีกสองร้านก็ขอมาเช่าพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งพ่อกับแม่เขาก็เก็บแค่เดือนละครึ่งพัน ค่าน้ำ ค่าไฟก็คิดไปตามจริงที่ใช้ ร้านขนมก็จะเป็นร้านจากด้านนอกที่มาเช่าพื้นที่ ร้านของฝากจะเป็นของฝากที่เป็นสินค้าจากฟาร์มเขาเท่านั้น ด้านบนก็จะเป็นอาหารของทางฟาร์มเอง แบ่งเป็นบาร์เครื่องดื่มมุมหนึ่ง และมุมทำอาหาร โดยอาหารจะเป็นประเภทเดียวกับร้านอาหารด้านนอกฟาร์มที่อยู่ใกล้กับอาคารผลิตนมวัวและไวน์ แต่บรรยากาศจะต่างกัน

           

 

“พี่เขี้ยวๆ!”

           

 

“อ้าว ไอ้ดิน มึงมาก็ดี ไปซ่อม…”

           

 

“ไว้ก่อนพี่ ตอนนี้ไวน์ที่หมักไว้ในขวดระเบิดหมดเลย ที่อยู่ในถังหมักก็แตกจนไวน์ท่วมแล้วพี่” คมเขี้ยวไม่ได้ตกใจใหญ่โต เขาคุมสติให้นิ่ง และก้าวเท้าเดินเร็วๆ ออกไปทางประตูหน้าของฟาร์มเพื่อตรงไปยังอาคารผลิตไวน์

           

 

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” คมเขี้ยวถามในระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปในโซนเก็บไวน์ที่หมักเอาไว้ทั้งแบบขวดและแบบถังไม้

           

 

“ไม่รู้พี่ คนงานมาบอกผมก่อนจะไปบอกพี่อะแหละ” คมเขี้ยวขบกรามแน่น พ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ข่มความโมโห หงุดหงิดกับเรื่องยิบย่อยที่เกิดขึ้นติดๆ กัน

           

 

ไอ้คนทำองุ่นตายกับทำวัวเจ็บยังหาตัวไม่ได้ ดันเกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนอีก 

           

 

พอเดินเข้ามาในห้องหมักไวน์ เก็บไวน์ เขาก็ได้ยินเสียงจ๋อมของรองเท้าตัวเองที่จมไปกับน้ำสีเข้มของไวน์ที่ไหลออกมาจากขวดที่ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เศษแก้วกระจัดกระจายเต็มพื้น และยังมีไหลออกมาจากถังไม้โอ๊คที่ใช้หมักไวน์ ที่ดูก็รู้ว่ามันถูกทำลายด้วยฝีมือคน ไม่ใช่การปิดฝาขวดแน่นจนระเบิดแบบขวดแก้ว

           

 

“กล้องวงจรปิด เช็กรึยัง” ดินทำหน้าเครียดก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

           

 

“มันตัดสายกล้องวงจรปิดของโรงงานหมดเลย” คมเขี้ยวขบกรามแน่น พอๆ กับหมัดที่กำไว้ เขามองสภาพห้องเก็บไวน์ที่เจิ่งนอง กลิ่นแอลกอฮอล์ส่งกลิ่นคลุ้งทั่วห้อง เศษขวดแก้ว เศษไม้กระจายเต็มพื้น เละไม่มีเหลือ

           

 

“เรียกตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ และเรียกคนงานทุกคนมาให้พร้อมกัน” ดินพยักหน้า หมุนตัวเดินออกไปจากห้องเก็บไวน์ คมเขี้ยวมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าเครียดขึง

           

 

ไม่ต้องเดา แต่รู้ได้เลยว่าไอ้คนทำมันต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวาดแระแวง และจงใจตัดช่องทางทำมาหากินของฟาร์ม

           

 

เขาค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ ระบายความเครียดออกไปทางลมนั้น สายตามองไวน์ที่ท่วมเต็มพื้นนิ่ง ทั้งโกรธ ทั้งเสียดาย ทั้งรู้สึกเหนื่อยล่วงหน้าที่จะต้องมาทำกันใหม่ทั้งหมด วิธีการทำมันไม่ยุ่งยากมากก็จริง แต่แรงงานที่เสียไปก็ไม่สมควรได้รับสิ่งๆ นี้ตอบแทน สิ่งที่ได้ควรเป็นเงินตราจากการนำไวน์ที่หมักด้วยสูตรของทางฟาร์มจนเป็นที่เลื่องชื่อไปวางจำหน่ายต่างหาก

           

 

บึ้ม!!!

           

 

คมเขี้ยวเบิกตากว้าง ไหล่และใจกระตุกไปพร้อมกัน เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้คนด้านในฟาร์ม เขารีบวิ่งกลับออกไปจากอาคารโรงงานผลิต ไม่แน่ใจว่าเสียงระเบิดดังมาจากทางไหน พอออกมานอกอาคารโรงงาน เขาก็เห็นความโกลาหลขนาดย่อมตรงบริเวณประตูหน้าฟาร์ม ผู้คนวิ่งหนีแตกตื่นออกมายังลานจอดรถ เขาเพ่งมองเข้าไปในฟาร์ม เห็นควันสีเทาพวยพุ่งขึ้นจากโรงนาใกล้กับคอกม้า อันเดียวกับที่เรียวจันทร์เคยขับรถเอทีวีพังเข้าไป คมเขี้ยวได้ยินเสียงม้าร้องแตกตื่นเลยออกวิ่งอีกครั้ง แหวกคลื่นผู้คนที่หนีตายกันออกมาจากฟาร์มไปทางคอกม้า

           

 

ผู้คนในฟาร์มวิ่งสวนทางกับคมเขี้ยวไปทางประตูหน้า บ้างก็ไปยืนออกันตรงตึกร้านอาหารและตรงอาคารกระจกรอเข้าชมฟาร์ม มีหลายคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพควันสีขาวที่กำลังจางหายไป ดูจากกลุ่มควัน ระเบิดที่เกิดขึ้นน่าจะใหญ่และรุนแรงพอสมควร และเมื่อคมเขี้ยวยิ่งได้เห็นความเสียหายตรงฝาผนังของโรงนา ก็บอกได้เลยว่าแรงระเบิดเมื่อกี้รุนแรงแค่ไหน เพราะผนังโหว่เป็นรูขนาดใหญ่ยิ่งกว่าอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ หลังคาด้านบนหายไปหนึ่งแถบ

           

 

“เฮ้ย! มีใครเป็นอะไรมั้ย?!” เสียงตะโกนโวยวายของไอ้ดินดังขึ้นตรงบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุทำให้ร่างสูงละสายตาจากความเสียหาย มองไปยังความวุ่นวายที่คนงานกำลังเดินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ

           

 

ฮี้ๆๆๆๆ

           

 

เสียงร้องของม้าที่ตกใจจนคุมตัวเองไม่อยู่ดังลั่น เจ้าของฟาร์มขมวดคิ้วเมื่อความโกลาหลเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่เขาเห็นว่าม้ามันแค่ตกใจ ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และมีคนงานกำลังพยายามช่วยคุมพวกมัน เขาเลยก้าวเท้าเร็วๆ ไปตรงที่ดินยืนอยู่

           

 

“มีคนเจ็บมั้ยไอ้ดิน” เขาถามโดยที่สายตาก็มองเหตุการณ์ตรงหน้าไปด้วย

           

 

“เท่าที่ดูตอนนี้ไม่มีนะพี่ ตอนที่มันมีระเบิด ไม่มีคนของเราอยู่ใกล้กับโรงนา”

           

 

“แล้วนักท่องเที่ยวล่ะ” ดินส่ายหัว คมเขี้ยวพยักหน้า และคิดว่าถ้าคนงานไม่ได้รับบาดเจ็บ นักท่องเที่ยวก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

           

 

“มึงโทรหาตำรวจยัง”

           

 

“โทรแล้วครับ”

           

 

“โทรไปอีกที แจ้งเขาเพิ่มว่ามีเหตุระเบิดเกิดขึ้น แล้วตอนนี้มึงให้คนงานไปต้อนพวกนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาข้างในก่อน กูจะไปดูกล้องวงจรปิด” ดินพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เดินไปคุยกับพวกคนงานว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง คมเขี้ยวก้าวเท้าเดินไปทางออฟฟิศ ระหว่างทางเขาเจอพ่อกับแม่ที่เดินเร็วๆ มาจากทางบ้านพอดี

           

 

“ระเบิดเหรอเขี้ยว?!”

           

 

“ครับป๋า น่าจะเป็นระเบิดขู่ ไม่ได้กะให้มีใครตาย” บัวบูชาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่สีหน้าก็ยังมีความผวาอยู่

           

 

“แค่ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว” หล่อนพูดเสียงสั่นน้อยๆ ผู้เป็นสามียกมือขวาโอบไหล่หล่อนไว้และลูบเบาๆ เป็นการปลอบ

           

 

“เดี๋ยวผมจะไปดูกล้องวงจรปิด ฝากทางนี้ไว้กับป๋าและแม่ด้วยนะ แต่อย่าเข้าไปใกล้มากนะครับ รอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก่อน อีกอย่างเราไม่รู้ว่ายังมีระเบิดอยู่อีกมั้ย” พ่อกับแม่เขารับปาก คมเขี้ยวก้าวเท้าเดินต่อไปทางออฟฟิศ พอเข้ามาด้านใน เขาก็เดินไปเปิดประตูที่อยู่ตรงข้ามกับประตูห้องนอนเรียวจันทร์ ด้านในคือจอที่ฉายภาพจากกล้องวงจรปิด เขาไม่ได้มีกล้องทุกจุดของฟาร์ม ติดเอาไว้แค่จุดสำคัญๆ หรือจุดเสี่ยง และเขาจำได้ว่ากล้องวงจรปิดตรงอาคารโรงงานถูกตัด เขาเลยไม่ได้สนใจตรงนั้น สิ่งที่เขาต้องการเห็นคือภาพตรงประตูทางเข้าต่างหาก

           

 

คมเขี้ยวย้อนเทป เปิดดูตั้งแต่เริ่มแรกของวันนี้ มองผู้คนเดินเข้ามาด้านในฟาร์ม มีเลื่อนไปให้เร็วขึ้นบ้างในบางช่วง เพราะหากจะนั่งมองทั้งหมด คงใช้เวลาหลายชั่วโมง เขากดข้าม กดหยุด และกดให้เทปมันเล่นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดช่วงเวลาตอนบ่ายแก่ๆ เขาเห็นผู้หญิงผมยาวคนหนึ่ง ใส่หมวกปิดหน้า ผมของเธอดูรกๆ จัดไม่เป็นทรง ใส่กางเกงยีนเดฟสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตสีดำ มีกระเป๋าผ้าสีขาวคล้องอยู่บนไหล่ซ้าย

 

 

 คมเขี้ยวขมวดคิ้วกับลักษณะการแต่งตัวของผู้หญิงคนนี้  มันดูไม่เข้ากันยังไงพิกล รูปร่างของหญิงสาวตัวหนาร่างใหญ่ ท่าทางดูปกติดี เธอเดินเข้ามาพร้อมผู้ชายตัวเล็กอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่แน่ใจว่ามาด้วยกันหรือเปล่า คมเขี้ยวกดเลื่อนเทปให้เดินเร็วขึ้น แล้วก็เจอเธอเดินผ่านหน้าออฟฟิศไปคนเดียว เขาตัดภาพไปตรงมุมกว้างคอกม้า เห็นคนเดินอย่างบางตา แล้วสักพักก็ต้องจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบเพราะเขาเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในโรงนา

 

 

ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้มากเมื่อเธอลุกขึ้นเดินก้มหน้าออกมาจากประตูโรงนา คมเขี้ยวนั่งมองหน้าจออีกยี่สิบนาที จากนั้นกล้องก็สั่นสะเทือนเพราะแรงระเบิด เขาขบกรามแน่นกับภาพที่เห็น ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ออกไปตรงทางออก เขาคิดว่าเธอน่าจะอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งปะปนออกไปกับคนอื่นๆ คมเขี้ยวกดภาพไปที่ลานจอดรถ นั่งรอดูสักพักก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเดินขึ้นรถกระบะสีดำคันหนึ่งไปอย่างเร็วๆ เขากดหยุดตรงนั้นไว้ และพยายามซูมเลขทะเบียนรถ พอได้ภาพที่ชัดมากพอเขาก็พิมพ์ไว้ในโน้ตโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองหน้าจออีกครั้งแล้วก็ถอนหายใจ ติดจะหงุดหงิดในใจเล็กๆ ด้วยซ้ำที่เขาช้าไปในการปิดประตูตีแมว

 

 

“ว่าไงไอ้ดิน” คมเขี้ยวยกโทรศัพท์ที่ถืออยู่ขึ้นแนบหูแล้วกรอกเสียงเหนื่อยๆ ลงไป

 

 

“ตำรวจมาแล้วพี่เขี้ยว”

 

 

“เออ ให้เขาตรวจสอบที่เกิดเหตุเลย เดี๋ยวกูออกไป” เขาวางสายจากดิน ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องกล้องวงจรปิด เดินไปที่โต๊ะทำงาน หยิบกระดาษกับปากกาออกมาเขียนสิ่งที่พิมพ์ไว้ในมือถือลงไป ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากออฟฟิศ ด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะมั่นใจว่าคนวางระเบิดข่มขู่ ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่กำลังพยายามตัดทางทำมาหากินฟาร์มเขาอยู่

V
v
v
v

 

           

           



         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2016 18:19:17 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8

V
v
v
v


 “พี่ๆ สวัสดีค่า เจอกันคิวหน้านะคะ” เรียวจันทร์ยกมือไหว้ทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์รอบทิศ ไม่รู้ไหว้ไปตกตรงไหน ตรงถึงใครบ้าง แต่นางก็ไหว้ไว้ก่อน ร่างเพรียวบางเดินออกจากกองถ่ายที่เป็นโลเคชั่นบ้านจัดสรรในหมู่บ้านหรูหราแห่งหนึ่ง กำลังจะเดินขึ้นรถก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของใครคนหนึ่งที่ทำให้นางกลอกตาจนลูกตาเกือบไม่กลับเข้ากระบอกตาตามเดิม

           

 

“เรียวครับ”

           

 

“อะไร?!” นางถามเสียงห้วน หน้าตาเหวี่ยงสะบัดเบาๆ พอให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่านางรำคาญตั้งแต่อยู่ในกองถ่ายแล้ว

           

 

“ไปกินข้าวกันนะ” เรียวจันทร์ทำหน้าเอือมกับความหน้าด้านหน้าทนของแฟนเก่าที่นางก็ไม่คิดว่าจะด้านจะทนได้ขนาดนี้ กะอีแค่อยากจะกลับมาเกาะนางเพราะคิดว่านังเรียวจันทร์คนนี้ต้องมีเงินมากมายก็ทำให้อึดและทนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

           

 

“ไม่ไป ฉันจะกลับบ้าน ข้าวบ้านฉันก็มี ทำไมจะต้องไปเสียเงินกินข้างนอกด้วย” หนุ่มตี๋ล่ำสันยังคงยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างบุ๋มลงไป เมื่อก่อนคุณนายนางหลงลักยิ้มอันนี้มาก แต่ตอนนี้นางมีลักยิ้มอันใหม่ให้หลงแล้ว

           

 

“เสียเงินทำไมล่ะเรียว เดี๋ยวยอร์ชเลี้ยงเอง”

           

 

“แหม น้ำใจงาม…” นางชะงัก อ้าปากค้างไว้เท่านั้น คำพูดที่จะพ่นออกมาถูกกลืนเข้าไปในลำคอ เรียวจันทร์มองหน้ายอร์ชแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน

           

 

“…กินข้าวฟรีนอกบ้านซักมื้อก็ดีเหมือนกันนะ ไปสิ” ยอร์ชยิ้มดีใจที่เรียวจันทร์ตอบตกลงไปกินข้าวกับตัวเอง

           

 

“จริงเหรอเรียว”

           

 

“เอ๊า จริงสิ ก็บอกอยู่นี่ไง แต่นังโบจะไม่ตามมาตบฉันแน่นะ”

           

 

“ไม่ครับ ยอร์ชเลิกกับเขาแล้ว เลิกอย่างเด็ดขาดจริงๆ” เรียวจันทร์ยิ้มอื้ม จะเลิกจริงหรือหลอกว่าเลิก นางก็ไม่ได้สนใจในจุดนั้นหรอก และไม่ว่าจะจุดไหน นางก็ไม่สนใจด้วย

           

 

ทั้งคู่ตกลงกันว่าจะขับรถตามๆ กันไปที่ห้างแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงฯ เรียวจันทร์ขอเลือกร้านเอง ซึ่งหนุ่มตี๋ก็ไม่ขัด ตามใจนางหมด ระหว่างทางที่ขับรถมา คุณนายแม่ก็ยิ้มกริ่มอารมณ์ดีที่จะได้หาเรื่องแกล้งคน จู่ๆ ก็มาหาเรื่องให้คลายเครียดจากการทำงานถึงที่

           

 

ทั้งสองคนจอดรถไว้ใกล้ๆ กัน พากันเดินเข้าไปด้านในตัวห้างโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร เรียวจันทร์เดินนำนิดหน่อย ฝ่ายเสนอตัวเลี้ยงอาหารเย็นมื้อนี้ก็เดินตามราวกับเป็นคนว่านอนสอนง่าย

           

 

“เอาร้านนี้แหละ” เรียวจันทร์หยุดอยู่ตรงหน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง เป็นร้านอาหารที่มาจากภัตตาคารโดยตรง อาหารแต่ละชนิดเลิศรสสมกับราคา วัตถุดิบคัดสรรมาอย่างดีไม่มีเอาเปรียบลูกค้า

           

 

“ได้เลยครับ” ยอร์ชยิ้ม เรียวจันทร์ก็ยิ้ม คุณนายหันตัวเดินเข้าไปในร้านที่มีพนักงานยกมือไหว้ต้อนรับ พนักงานสาวถามจำนวนลูกค้า และเมื่อทราบว่ามาสองคนก็พาไปนั่งในมุมหนึ่ง แต่เรียวจันทร์ส่ายหัว

           

 

“ขอนั่งกลางๆ แล้วก็โต๊ะใหญ่ได้มั้ยคะ ไม่ค่อยชอบมุมอับหรือพื้นที่คับแคบน่ะค่ะ” นางยิ้มอย่างขอความเห็นใจ พนักงานยิ้มรับและพาไปนั่งตรงใหญ่ตรงกลางทางเดิน  ยื่นเมนูให้ทั้งสองคนในขณะกำลังหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน

           

 

“เดี๋ยวอีกสักครู่มารับเมนูนะคะ”

           

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ รับไปได้เลย” เรียวจันทร์เปิดเมนูหน้าแรก กวาดสายตาอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้าบอกพนักงาน

           

 

“สปาร์เก็ตตี้หมู ไก่ ทะเล ขี้เมา เอาหมดอย่างละสิบ สเต็กหมู ไก่ เนื้อ ปลา เอาหมดอย่างละสิบเช่นกัน…” พนักงานมองเรียวจันทร์ด้วยความตะลึงนิดหนึ่ง แต่ก็รีบใช้ปากกดหน้าจอเครื่องสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว

           

 

“…ที่นี่มีเนื้อวัวจากญี่ปุ่นมั้ยคะ”

           

 

“เอ่อ… มีค่ะ” นายแบบหนุ่มยิ้มรับ หันหน้าไปสบตาเจ้ามื้อในวันนี้ที่ยังคงทำหน้าสบายๆ อยู่

           

 

“งั้นขอเนื้อโอมิ ที่เป็นเนื้อวัวดั้งเดิมของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ อายุมากกว่า 120 ปี ถามเชฟด้วยว่า เนื้อที่ถูกนำมาปรุงให้กิน วัวตัวนั้นแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหารของเมืองโอมิรึเปล่า แล้วน้ำที่กินไป ใช่น้ำบริสุทธิ์ที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากทะเลสาบบิวะมั้ย ถ้าใช่ ฉันเอาอันนั้นจ้ะ” พนักงานสาวกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงง พยายามที่จะพยักหน้าลง แต่ก็เป็นการกดหน้าลงแบบฝืนๆ

           

 

“ดะ… เดี๋ยวจะถามให้นะคะ แล้วคุณลูกค้าเอากี่กิโลดีคะ” เรียวจันทร์เลิกคิ้วเรียวสวยขึ้น หันไปมองเจ้ามือแล้วยิ้มหวาน หนุ่มตี๋ยิ้มตอบกลับมา

           

 

“เอาสิบกิโลจ้ะ แยกเป็นจานๆ มานะ” นางว่าเสียงเรียบ พนักงานเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ พอหันไปมองพ่อบุญทุ่มในวันนี้ เรียวจันทร์ก็ยิ้มโชว์ฟันสวย ยอร์ชนั่งหน้าอึ้งตะลึงเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่

           

 

“อะ… เอ่อ สิบกิโลเลยเหรอคะ” เรียวจันทร์หันไปปั้นยิ้มงง ทำหน้าเป็นคำถามใส่พนักงานประมาณว่า ไม่เข้าใจอะไรงั้นเหรอ

           

 

“ใช่จ้ะหนู พี่เอาตามที่บอกเลยค่ะ”

           

 

“แต่ว่า… กิโลละสี่พันห้าเลยนะคะ” เรียวจันทร์ทำตาโต แสร้งประดิษฐ์ท่าทางว่าตกใจจังเลย เป็นความรู้ใหม่มากๆ 

           

 

“โห แพงเนอะ ยอร์ชว่าไงอะ แต่เรียวอยากกินนะ วัวที่ถูกเลี้ยงมาโดยมีธรรมชาติของญี่ปุ่นโอบล้อมขนาดนั้น มันต้องอร่อยเหาะมากแน่ๆ” เรียวจันทร์ทำหน้าคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงดี ส่วนโยธินก็ สีบนหน้าตกลงเยอะเลย

           

 

“เอ่อ… เรียวจะกินหมดเหรอ มันเยอะมากนะ”

           

 

“ไม่รู้สิ แต่อยากสั่งมาอะ เห็นในซีรีส์เกาลีพวกพระราชา พระราชินี มีอาหารจากซังกุงห้องเครื่องเยอะมาก เรียวเลยอยากมีฟีลนั้นบ้าง ไหนๆ วันนี้ก็มีคนเลี้ยงแล้ว” โยธินรู้สึกเหมือนมีอ้วกมากระจุกอยู่ตรงลำคอ เขารู้สึกอยากจะอาเจียนหรือจะกลืนอาเจียนก็ยังไม่แน่ใจ มันอึกๆ อักๆ ทำอะไรไม่ถูก

           

 

“งั้นตามนี้นะคะน้อง เครื่องดื่มก็ เอาที่มีในร้านมาจนหมดนั่นแหละค่ะ เดี๋ยวพี่ชิมอีกทีว่าชอบอันไหน ส่วนของหวานนะคะ ก็เอามาอย่างละอันจากทั้งหมดที่ร้านมี พี่จะชิมอีกทีว่าชอบอันไหนที่สุด” และเมื่อเจ้ามือยังอ้าปากพะงาบๆ ไม่ตอบอะไร เรียวจันทร์ที่มีสีหน้าลำบากใจจะสั่งก็จัดการปิดเมนูแต่เพียงเท่านั้น

           

 

“เอิ่ม… โอเคค่ะ” พนักงานรับคำอย่างเอ๋อๆ เธอรับเมนูคืนจากลูกค้าชายหน้าสวยที่มีนิสัยแปลกประหลาด กับลูกค้าชายหน้าหล่อที่ตอนนี้มีสีหน้าประหลาด

           

 

“เรียว กินไหวเหรอครับ” ยอร์ชถามแบบที่พยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น ใบหน้าของเขาเหมือนกำลังจะหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ดวงตาหลุดเหม่อลอยเป็นช่วงๆ

           

 

“ถ้าไม่หมดก็ห่อกลับบ้านได้นี่ ใช่มะ ยอร์ชไม่ได้บอกว่าต้องกินที่ร้านให้หมดไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ยิ้มหวาน แอ๊บทำตาใส มองใบหน้าขาวซีดของยอร์ชแล้วก็คลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด

           

 

“ทำไมอะ ยอร์ชไม่พอใจเรียวเหรอ” นางแกล้งถาม แกล้งทำสีหน้ารู้สึกไม่ดีที่เห็นว่าคนตรงข้ามนั่งนิ่ง สีหน้ามึนงงเหมือนโดนใครเอาไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ขมับอย่างแรง

           

 

“มะ… ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับเรียว ยอร์ชไม่ได้ไม่พอใจอะไรเลย ยอร์ชแค่…” โยธินกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ

           

 

“…แค่ตกใจที่เห็นเรียวตัวแค่นี้ แต่กินเยอะ… มาก” คุณนายแม่ยกมือป้องปาก หัวเราะเสียงใสอย่างมีจริต ชม้อยชายตาทำท่าทีว่าเขินอายเหลือเกิน

           

 

“นี่ก็อ้วนแล้วเพราะตามใจปากแบบนี้อะแหละ แต่ทำไงได้ล่ะ ของกินมันล่อใจเนอะ” ยอร์ชยิ้ม แต่เป็นยิ้มแห้งๆ แห้งเหมือนร่างกายขาดน้ำมาแล้วสามวัน

           

 

“พี่คะ เชฟบอกว่าเนื้อวัวเป็นอย่างที่พี่ต้องการค่ะ” เรียวจันทร์ยกมือขวาทาบอกอย่างมีลีลา อ้าปากหวอเล็กน้อย ทำสีหน้าตกอกตกใจแบบพอประมาณ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มด้วยความปลื้มปติ นางยิ้มด้วยความปลื้มปิติ ไม่ใช่ด้วยความดีใจ

           

 

“ร้านนี้ดีจัง วัตถุดิบชั้นยอดทั้งนั้น ขอบคุณยอร์ชมากนะที่พามากินของดีขนาดนี้…” นางเอื้อมมือขวาไปแตะมือซ้ายของอีกฝ่าย ตบหลังมือใหญ่เบาๆ แล้วหันไปมองพนักงานสาว

           

 

“…จัดมาเลยค่ะคุณน้อง มื้อเนี้ย เจ้ามือพี่เขาอัดฉีดยิ่งกว่าสปอนเซอร์บอลไทยอีกค่ะ” เรียวจันทร์ทำสีหน้าว่า เชื่อเจ๊เถอะค่ะ โดยที่ไม่สนใจสีหน้าถอดสีของเจ้ามือที่ว่าเลยสักนิด

           

 

ระหว่างนั่งรออาหาร เรียวจันทร์ก็ไม่ได้พูดอะไรกับยอร์ชอีก ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งกลุ้มอกกลุ้มใจไปพลางๆ ส่วนนางนั่งเล่นมือถือ เปิดโซเชียลไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งไปเจอโพสๆ หนึ่งที่เป็ดแชร์มาให้หน้าไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊ค มีคนกดไลค์โพสต้นฉบับนั้นพอประมาณ ก็ไม่เยอะเท่ากับกดไลค์รูปพญานาคแล้วจะโชคดีอะไรแบบนั้นหรอก นางกดอ่านโพสนั้นเพราะเห็นว่าสถานที่ในรูปช่างคุ้นตา และเมื่อได้อ่านเนื้อหาของเจ้าของโพส นางก็ต้องตกใจ เมื่อเป็นข่าวที่ฟาร์มของคมเขี้ยวโดนวางระเบิด

           

 

ระเบิด??!! วางระเบิดในไร่ ในฟาร์มที่อยู่กลางหุบเขาลำเนาไพรเนี่ยนะ?!

           

 

 

“ขอทยอยเสิร์ฟนะคะ” เรียวจันทร์เงยหน้าขึ้นมองพนักงานสามคนที่ช่วยกันถือจานมาคนละสองใบ วางอาหารลงตรงหน้าของนาง และแน่นอนว่า จำนวนอาหารที่สั่งมานั้นล้นหลาม ทำให้พนักงานต้องช่วยกันยกโต๊ะมาต่อเตรียมการเอาไว้ก่อน

           

 

“จัดมาเลยจ้า!” นางว่าเสียงใสพร้อมรอยยิ้มสดใส ที่ตรงข้ามกับเจ้ามือของวันนี้ที่รอยยิ้มเหือดหายไปจากใบหน้า มีแต่ริมฝีปากเบี้ยวๆ จนนึกว่าเส้นเลือดในสมองแตกกะทันหันหรือเปล่า

           

 

แต่เรียวจันทร์ไม่ได้สนใจ นางรีบก้มลงไปอ่านโพสนั้นในมือถือต่อ เหตุการณ์เล่าแต่เพียงว่ามีการวางระเบิดในฟาร์มอรุณพยัคฆ์ เป็นระเบิดเวลาที่ทำขึ้นเอง ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากคนร้ายหนีไปได้ก่อนที่เจ้าของจะสั่งให้ปิดฟาร์ม คุณคมเขี้ยวเจ้าของฟาร์มยินดีคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน มีข้อมูลหลักๆ แค่นี้ คนที่เขียนโพสนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมไปจากที่บอกแล้ว

           

 

“เรียวครับ ไม่ทานเหรอ” ยอร์ชถามทั้งที่สีหน้าของตัวเองยังไม่ดีขึ้น ในขณะนั้นพนักงานก็เดินนำอาหารมาเสิร์ฟให้เรื่อยๆ จนโต๊ะรอบข้างเริ่มมองด้วยความสนใจ

           

 

“ทานค่ะ ทาน” เรียวจันทร์หยิบส้อมขึ้นมาจิ้มเนื้อกุ้งในจานสปาร์เก็ตตี้เข้าปาก ในใจกำลังนึกเป็นห่วงที่ฟาร์มว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง แต่นางเชื่อว่าพ่อเขี้ยวกุดคงจะคุมสถานการณ์ได้แล้ว

           

 

และความคิดหนึ่งก็แว้บเข้ามาในหัว หรือว่านี่จะคือแผนการของเสี่ยจอมทัพ เรียวจันทร์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อคิดแบบนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จอมทัพจะใจร้ายไส้ระกำเกินไปแล้ว เมื่อวานที่นางเข้าไปพบเสี่ยมาก็เค้นถามเรื่องวัวกับไร่องุ่น เขาก็ตอบแต่เพียงว่าไม่ได้ทำ เรียวจันทร์ไม่คิดถามเซ้าซี้ เพราะถามไปยังไงก็ไม่ได้คำตอบ สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น เรียวจันทร์กำลังคิดหนักว่าจะเป็นเสี่ยจอมทัพหรือไม่

           

 

“เรียว” คนถูกเรียกหลุดจากวังวนความคิด เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าตี๋หล่อของโยธินแล้วก็กระตุกยิ้มนิดหน่อย นางหันไปมองอาหารที่วางจนล้นอีกสองโต๊ะที่ถูกนำมาเสริมให้จากโต๊ะหลักของนาง

           

 

“แหม น่ากินทั้งนั้นเลยเนอะ” นายแบบหนุ่มว่าเสียงตื่นเต้น หั่นสเต็กหมูเข้าปากเป็นชิ้นพอดีคำ และเปลี่ยนไปหั่นสเต็กวัวจากญี่ปุ่นเป็นชิ้นพอดีคำอีกชิ้น จับยัดเข้าปากแล้วซึมซับความนุ่มลิ้นที่ราวกับว่ามันละลายได้เองโดยไม่ต้องขยับปากเลยสักนิด

           

 

“อื้มมม สุดยอดจริงๆ อร่อยอย่างกับจะเหาะเลย” นางอมยิ้มเพราะกำลังเคี้ยวเนื้ออยู่ในปาก โยธินนั่งยิ้มเหงือกแห้ง เขาแทบไม่กล้าหยิบจับอะไรเข้าปาก ได้แต่มองอาหารด้วยสายตาสิ้นหวัง

           

 

“ยอร์ช กินสิ อร่อยนะ เนี่ย ที่สั่งมา เลิศทุกอย่างเลย” นางทำตาโต พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงชวน มือขวาจิ้มสเต็กเนื้อเข้าปากอีกคำ เขี้ยวกรุบๆ อย่างนุ่มลิ้น พ่อตี๋ล่ำบึ้กนั่งหน้าหดไม่รู้ว่าตดหายด้วยหรือเปล่า

           

 

เรียวจันทร์นั่งจิ้มจานละคำสองคำ ดูดน้ำปั่น น้ำอัดลม น้ำสมุนไพรอย่างละจิบสองจิบ ของหวานอย่างละนิดละหน่อย จนกระทั่งมั่นใจว่าทุกจาน ทุกแก้ว และทุกอย่างได้รับการกินอย่างเท่าเทียม นางจึงวางมือ ดูดน้ำมะพร้าวปั่นเป็นการส่งท้าย หยิบผ้าสีขาวขึ้นเช็ดมุมปาก ยอร์ชมองด้วยสีหน้างง

           

 

“อิ่มแล้วเหรอเรียว” เรียวจันทร์พยักหน้า ยิ้มตาโตและวางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะ

           

 

“อิ่มซะแล้วล่ะ แต่อร่อยมากเลยนะ เชฟนี่เกงเนอะ อาหารเหมือนกัน แต่รสชาติไม่ต่างกันเลย” ยอร์ชเบิกตากว้าง กวาดตามองจานอาหารที่วางละลานตาเต็มสี่โต๊ะ ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมองเรียวจันทร์อย่างเคืองๆ

           

 

“สั่งมาแล้วสุดท้ายก็กินไม่หมด เรียวจะสั่งมาทำไมนักหนา” หนุ่มตี๋ว่าเสียงเข้ม พยายามข่มความโกรธเอาไว้ไม่ให้ปะทุออกมา

           

 

เรียวจันทร์แสร้งทำหน้าตกใจ “อุ๊ย โกรธเหรอยอร์ช เรียวขอโทษนะ”

           

 

โยธินขบกรามแน่นจนสันกรามแทบปูด มองหน้าคนตัวเล็กเกือบจะเป็นตาขวาง เรียวจันทร์ยังคงคลี่ยิ้มโชว์ฟันที่เรียงตัวสวยงามของตนเอง หยิบกระเป๋าถุงผ้าคล้องไหล่ และเตรียมลุกขึ้น

           

 

“ขอบคุณจริงๆ นะ ยอร์ช ใจดีมากเลยอะ ยังไงก็ฝากจ่ายด้วยนะจ๊ะ ส่วนอาหารที่เหลือ ก็แล้วแต่ยอร์ชพิจารณาเลยว่าจะทำยังไงต่อไปดี” ร่างเพรียวขยิบตาซ้ายให้คนตรงข้ามแล้วลุกขึ้นยืน หมุนตัวเดินออกไปจากโต๊ะทันที ทิ้งให้ยอร์ชนั่งกำหมัดแน่น มองตามร่างระหงส์อย่างแค้นเคือง

           

 

เรียวจันทร์ยิ้มกว้าง แล้วหัวเราะเบาๆ ด้วยความสนุกและสะใจในระหว่างที่เท้าก็ก้าวเดินไปอย่างสง่างาม

           

 

ก่อนจะมาเกาะฉันกิน ขอฉันเกาะแกก่อนแล้วกัน

 










เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao3:



โธ่ ยอร์ช เจอขุ่นแม่ผลาญเงินไปครึ่งแสน จิ๊บๆ เนาะ จะมาเกาะคุณแม่ หนูไม่รู้จริงๆ เหรอลูกว่านางจน 555555 เอาตัวเข้าแลกใช้หนี้อยู่เนี่ยทุกวันเนี้ย

เนื้อวัวบ้าอะไร แพงแต้ๆ ตอนหาข้อมูลจากคนที่เคยกินจริงๆ ตอมยังตกใจ ป๊าด กินน้ำทิพย์จากสวรรค์กันเหรอนังวัวพวกนี้ ตอมไม่เคยกินนะคะ เป็นคนไม่กินเนื้อ เลยไม่รู้รสชาติจริงๆ ถามเพื่อนที่เคยกินมานางบอกว่านุ่มลิ้น ละลายราวกับสายไหม

เสี่ยจอมทัพวางระเบิดเลยเหรอคะคุณแม่ขา แต่ถามไปเขาก็ไม่ตอบเนาะ ชีวิตคุณแม่ยังจะปลอดภัยมั้ยถ้าอยู่ใกล้ตาเสี่ยนี่ต่อไป แต่เชื่อว่าขุ่นแม่สตรองมากพอ







ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้กันอยู่นะคะ ขบคุณมากๆ ค่ะที่รักตัวละครในแบบที่เขาเป็น ขอบคุณทุกคอมเม้นที่คอยเม้นให้ทุกครั้งที่อัพ ดีใจที่เห็นคอมเม้นค่ะ เพราะมันเป็นแรงใจของคนเขียน ^___^






สำหรับแท็กในทวิตสำหรับเรื่องนี้ใช้                                                                 
#WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์ ก็ได้ค่ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
วัวอะไรกินดีอยู่ดีกว่าเราอีกกกก โอ้ยย กินน้ำแร่..... 55555
ขุ่นแม่รียกลับไปดูพี่เขี้ยวเร้ววววว

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
แกล้งนายยอร์ชเสร็จก็รีบกลับไปดูพี่เขี้ยวเลยนะคุณนาย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: สงสารคมเขี้ยวจังเลย เจอแต่ปัญหาทั้งนั้นเลย สู้ ๆ น่ะจ้ะ ยังไงจะได้ความเห็นใจจากแม่เรียวขึ้นไง และแม่เรียวก้อจะได้รักฟาร์มและผูกพันมากขึ้น เพราะต้องมาช่วยคมเขี้ยวปรับปรุงซ่อมแซมด้วย  :mew4: สวนนายยอร์ชรู้สึกสะใจมาก ๆ เลยอ่ะ แต่แอบเสียดายของน่ะ ตอนแรกนึกว่าแม่เรียวจะเล่นมุกพาเพื่อนมากินเยอะ ๆ แต่นางก้อคงไม่มีเพื่อนสนิทเยอะขนาดนั้นเนอะ เล่นสั่งแบบนี้น่ะสะใจดี  :katai3: แต่แอบสงสารเหมือนกันน่ะ แต่พอรู้ว่าเคยเกาะแม่เรียว ดังนั้นก้อสมน้ำหน้าแหละ  :hao3:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขุ่นแม่รีบกลับไร่เถอะค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8


คาถาที่ 18 [ครึ่งหลัง, ครบ]



คมเขี้ยวยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในออฟฟิศตั้งแต่หลังจากคุยกับตำรวจเสร็จเมื่อช่วงบ่ายเกือบเย็น สำหรับเหตุการณ์วางระเบิด เจ้าหน้าที่ได้เก็บเศษซากระเบิดไว้ สอบปากคำคนงานในฟาร์ม ตรวจกล้องวงจรปิดอีกครั้งและขอภาพจากกล้องวงจรปิดไป ส่วนเหตุการณ์มีคนบุกรุกเข้าไปทำลายไวน์ เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาลายนิ้วมือของคนร้าย ทางตำรวจรับปากว่าจะตามตัวคนร้ายให้เจอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะเจออย่างที่บอกจริงๆ

           

 

“อ้าว นายเขี้ยวกุด” เขี้ยวกุดเงยหน้าอึนๆ ของตัวเองขึ้นมองร่างเพรียวที่ยืนฉีกยิ้มตาเป็นประกายอยู่ตรงหน้าเขา คมเขี้ยวมองเรียวจันทร์ตาค้าง ไม่ใช่เพราะคุณนายนางสวยขึ้นหรืออะไร แต่มันเป็นอาการใจเต้นหวิวไหวที่ได้เจออย่างไม่คาดคิด เขาคิดว่าเรียวจันทร์จะกลับวันพรุ่งนี้ เลยไม่ทันตั้งตัวเมื่อเจออีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้า

           

 

“แหม มองฉันตาค้างเลย ใจเย็น ฉันยังไม่ได้แต่งหญิง สวยได้มากกว่านี้อีก” เรียวจันทร์เดินเอาถุงขนมที่ซื้อมาจากกรุงเทพฯ ไปวางไว้มุมติดผนังของโต๊ะทำงาน คมเขี้ยวยังคงมองตามร่างเล็กแบบงงๆ

           

 

และกำลังงงว่าจังหวะหัวใจตัวเองมันเต้นหนักเป็นปกติอยู่แล้วหรือมันเพิ่งเป็นตอนเห็นหน้าอีกคน

           

 

“นี่ หวังว่าไอ้สายตาที่มองฉันตาค้างอยู่เนี่ย จะเป็นในแง่ดีมากกว่าเห็นผีนะ” เรียวจันทร์ทำหน้าดุแบบไม่จริงจัง กระเถิบก้นขวาขึ้นไปนั่งบนขอบโต๊ะ เลยทำให้ตัวนางอยู่สูงกว่าคมเขี้ยว

           

 

“ไม่ได้กลับพรุ่งนี้เหรอ” คมเขี้ยวถามเสียงลอยๆ เรียวจันทร์ยิ้มแบบไม่เห็นฟันแล้วตอบเสียงนุ่ม

           

 

“ฉันเห็นมีคนแชร์เรื่องที่ฟาร์มโดนวางระเบิด ฉันเลยรีบกลับมา มีใครเป็นอะไรมั้ย” สติของคมเขี้ยวเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาขยับตัวให้ตรงขึ้นอีกนิดก่อนจะตอบคำถามนั้น

           

 

“ไม่มี มันแค่ทำขู่ ไม่ได้กะเอาชีวิตใครหรอก” คมเขี้ยวเห็นสีหน้าของเรียวจันทร์เคร่งเครียดขึ้นนิดหนึ่ง แต่ไม่นานแม่คุณนายก็ปัดสีหน้านั้นทิ้ง

           

 

“แล้วไอ้คนที่ทำล่ะ จับได้มั้ย” คมเขี้ยวส่ายหัวและพูดย้ำอีกที

           

 

“ยัง ผมช้าไป มัวแต่รีบวิ่งมาดูที่เกิดเหตุ กว่าจะนึกได้มันก็หนีไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เอาเลขทะเบียนที่เห็นจากกล้องวงจรปิดไปเช็กแล้วละ”

           

 

“รูปพรรณสัณฐานของอีโจรนั่นล่ะ ต่ำตมขนาดไหน รู้รึยัง”

           

 

“ก็พอเห็นได้ มันใส่หมวก ยังดีเพื่อนมันที่มาด้วย เห็นหน้าในกล้องชัด” สรุปว่าไอ้คนที่เขานึกสงสัยว่าเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่านั้น มันคือพวกเดียวกันจริงๆ

           

 

“ไม่น่าเชื่อเลยอะ ขนาดอยู่กลางหุบเขาสงบๆ แบบนี้ ยังมีระเบิดมาเสิร์ฟถึงที่ได้” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วพอประมาณ ไม่กล้าขมวดเยอะเพราะกลัวจะหน้าย่น

           

 

“ผมก็ไม่คิดเหมือนกัน เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ” เรียวจันทร์ทำตาโต จ้องมองคมเขี้ยวด้วยสายตาตระหนกเล็กๆ จนคมเขี้ยวรู้สึกตระหนกตามไปด้วยว่าแม่คุณนายเฮี้ยนอะไรขึ้นมาอีกรึเปล่า

           

 

“พูดแบบนี้เหมือนฉันเป็นคนนำความซวยเข้ามาในฟาร์มนายเลยอะ” คมเขี้ยวยิ้มขำน้อยๆ กับหน้าตาไม่สู้ดีของแม่คุณนายสุดมั่นที่ดูจะนึกกลัวว่าตัวเองเป็นตัวซวยจริงๆ

           

 

“แต่ไม่ใช่หรอก คนอย่างฉันมีแต่นำสิ่งดีๆ มาให้” คิดเอง พูดเอง ตอบเอง ให้กำลังใจตัวเองเสร็จสรรพ ไม่ต้องพึ่งพาใคร

           

 

“แล้วทำไมไม่รอกลับตอนเช้า ขับรถมืดๆ ค่ำๆ ทำไม” จากกรุงเทพฯ มาเขาใหญ่ มันไม่ใช่แค่หนึ่งกิโลถึง แล้วถนนที่ใช้เป็นเส้นทางผ่านมาที่นี่ ตรงนั้นน่ะรถติดบรรลัยมาก แถมหนทางที่เข้ามาฟาร์มก็ใช่ว่าจะดีนัก

           

 

“ฉันเป็นห่วงนายแล้วก็ทุกคนที่นี่ ไม่สบายใจหรอกถ้าจะอยู่นู่นต่อ ฉันอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าไม่มีใครเป็นอะไร” คมเขี้ยวมองสีหน้าคนพูดที่ดูจะพูดจริงๆ ไม่ใช่การเรียกร้องคะแนนให้กับตัวเอง เพราะเขาเห็นแววตากับสีหน้าของแม่คุณนายมีความกังวลแสดงออกมา

           

 

“โรงนาที่คุณเคยพัง มีคนทำลายสถิติคุณแล้วละ” เรียวจันทร์ที่กำลังนั่งหน้านิ่วน้อยๆ หันมามองเขางงๆ สักพักก็เปลี่ยนเป็นทำตาโตขึ้นอีกนิด ก่อนจะยิ้มเล็กๆ

           

 

“แสดงว่าฉันไม่ใช่ความวินาศสันตะโรของนายอีกแล้วล่ะสิน้า” คุณนายนางลากเสียงยาน ยิ้มแพรวพราว เอื้อมตัวไปหยิบถุงขนมหนึ่งถุงมาวางไว้ที่ตัก

           

 

“แต่เป็นความจัญไร” เรียวจันทร์หุบยิ้มฉับ จิกตาใส่พ่อคาวบอยที่ยิ้มขำอารมณ์ดีกับสีหน้าเปลี่ยนสีอันว่องไว แต่แม่คุณนายไม่เถียง ไม่แว้ดกลับ ทำเพียงนั่งหน้างอง้ำหยิบกล่องขนมขึ้นมาจากถุง

           

 

“ฉันซื้อขนมมาฝาก มาการอง ฉันไม่ได้ฮิตตามเทรนหรอกนะ แต่มันอร่อยจริงๆ” คมเขี้ยวมองร่างเพรียวบางเปิดกล่องขนมช้าๆ แล้วหยิบขนมสีชมพูขึ้นมาถือไว้

           

 

“คุณกินเถอะ”

           

 

“กินแล้ว กินไปด้วยขับรถไปด้วย” เรียวจันทร์ยื่นขนมไปตรงหน้าคมเขี้ยว แต่อีกฝ่ายส่ายหัว นางทำหน้าเซ็งพร้อมจิ๊ปาก ลุกขึ้นเดินไปยืนชิดกับหน้าแข้งของคมเขี้ยว

           

 

“กินคำนึง นะ มันเสียน้ำใจคนให้รู้รึเปล่า” คุณนายแกไม่ได้พูดจาตัดพ้อต่อว่าเชิงดราม่า พูดแบบทีเล่นทีจริง คมเขี้ยวยังทำนิ่ง และเมื่อเห็นร่างสูงนิ่ง คนเตี้ยกว่าเลยทรุดตัวนั่งลงบนตักพ่อเครางาม

           

 

“แน่ะๆ ลวนลามผมอีกแล้วนะ” คมเขี้ยวแกล้งว่าหน้าดุ แต่ก็ปล่อยให้แม่ตัวดีนั่งตักต่อไปโดยไม่ได้ผลักออก

 

           

“เปล่าสักหน่อย แค่อยากจะป้อนขนมให้ถึงปากนาย กลัวขนมหล่นกลางทาง” นางว่าหน้าตาย แถแท่ดๆ อย่างตีมึน นั่งเอาไหล่พิงอกกว้างเอาไว้ มองคมเขี้ยวตาระยิบระยับ คมเขี้ยวขมวดคิ้วนิดๆ หันไปมองขนมสีหวานที่เรียวจันทร์ถือไว้ตรงระดับปากเขา

           

 

“ไม่เอาสีนี้ได้มั้ย มีสีอื่นหรือเปล่า”

           

 

“ได้สิคะ ตามบัญชาของพี่คาวบอยเลย” มีชื่อเรียกใหม่ๆ มาให้เขาได้ทุกอาทิตย์

           

 

“อะ ช็อคโกแล็ต กินแล้วจะช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้น เจอเรื่องเครียดๆ มา กินอันนี้จะดีรู้ม้าย” เรียวจันทร์บรรยายเสียงยานคางแล้วยิ้มกริ่มอย่างน่ารักน่ามอง นางกลับมานั่งพิงอกคมเขี้ยวตามเดิม ยื่นขนมไปให้คนตัวสูง คมเขี้ยวอ้าปากเตรียมรับขนม แต่เรียวจันทร์แกล้งดึงขนมหนีทำให้เขาเผลอยื่นหน้าตามขนมไปด้วย แล้วแม่คุณนายก็เอียงแก้มตัวเองเข้าหาปากเขา เลยทำให้กลายเป็นว่าคมเขี้ยวหอมแก้มนวลๆ นั่นไปที

           

 

“อั๊ยยะ! หอมแก้มฉันด้วยอ้ะ เขินนะเนี่ย คิๆ” แม่คุณนายตัวดียิ้มตาหยี หัวเราะคิกๆ เจ้าของฟาร์มเอนตัวกลับไปนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วมองหน้าสวยๆ ด้วยสายตาเรียบนิ่ง จนอีกฝ่ายหยุดหัวเราะไปเอง

           

 

“โถ่ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ อะๆ ก็ด้ะๆ เดี๋ยวฉันหอมแก้มนายคืน จะได้เท่าเทียม” พูดจบก็ไม่ต้องรอให้เขาอนุญาต แม่ตัวป่วนยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มขวาคมเขี้ยวไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ แล้วก็ฉีกยิ้มหวานพร้อมกับกะพริบตาปิ๊งๆ คมเขี้ยวทำหน้าเอือมเล็กๆ แต่เอาเข้าจริงในใจเขาไม่ได้เอือมไปตามสีหน้าหรอก

           

 

“สรุปผมจะได้กินขนมมั้ย ถ้าไม่ก็ลุก จะได้ขึ้นไปกินข้าว อาบน้ำ นอน” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าคนที่นั่งตักตัวเองเป็นคำถามว่าจะเอาไง?

           

 

“กินๆ อะ อ้าปาก อ้ามมม” คมเขี้ยวงับขนมเข้าไปเต็มปาก มีเรียวจันทร์นั่งส่งยิ้มให้ในขณะที่เคี้ยว

           

 

“เลอะปาก” เรียวจันทร์ยกมือขึ้นไปเช็ดเศษขนมตรงริมฝีปากล่างของคมเขี้ยว นิ้วโป้งเกลี่ยตรงริมฝีปากหนาช้าๆ จนกระทั่งเศษขนมที่ติดอยู่หลุดไป แต่เรียวจันทร์ก็ยังไม่เอานิ้วออกจากริมฝีปากนั้น

           

 

คมเขี้ยวมองสบตาเรียวจันทร์ที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาอย่างกับกวางน้อย ตาสีน้ำตาลใสๆ นั่นมองเขานิ่ง มีขยับสำรวจใบหน้าเขาบ้างเล็กๆ เขาเองก็มองนิ่ง มองอย่างลืมตัว แล้วสักพักเขาก็ปล่อยให้เรียวจันทร์ก้มลงประทับริมฝีปาก

           

 

ชายหนุ่มปล่อยให้คนตัวเล็กดูดดุนริมฝีปากตัวเองเบาๆ โดยที่เขายังไม่ได้ตอบโต้ ทำเพียงหลับตาพริ้ม ปล่อยอารมณ์ไปกับความอ่อนนุ่มของริมฝีปากเรียวจันทร์ ก่อนที่ลิ้นเล็กๆ จะออกมาเกลี่ยริมฝีปากเขาช้าๆ จนกระทั่งเขายอมเปิดปากขึ้น ปล่อยให้ลิ้นของเรียวจันทร์เข้ามาสัมผัสลิ้นของตัวเอง

           

 

“จุ๊บ…” เรียวจันทร์เริ่มกดริมฝีปากหนักขึ้น ลิ้นเริ่มรุกรานเข้าหาคนตัวโตมากขึ้น และคนตัวโตเองก็ปล่อยให้รุกรานได้เต็มที่ โดยที่คนตัวโตก็เริ่มตอบรับ ตอบโต้ลิ้นเล็กสีแดงสดนั้นเช่นกัน

           

 

เมื่อปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบแสนวาบหวามที่ทำให้ตัวชาวาบแล้ว คมเขี้ยวก็จูบตอบเรียวจันทร์ รสช็อคโกแล็ตที่ยังค้างในปากถูกเรียวจันทร์ใช้ลิ้นกวาดช้าๆ

           

 

“จ๊อก…” เรียวจันทร์ตวัดลิ้นกับลิ้นของคมเขี้ยวจนเกิดเสียง คมเขี้ยวเริ่มตอบรับมากขึ้น และเป็นฝ่ายรุกกลับด้วยการกวาดลิ้นตัวเองในโพรงปากหวานๆ ของเรียวจันทร์ ที่เขาไม่รู้ว่ามันหวานเพราะช็อคโกแล็ตจากปากเขาหรือเพราะปากของเรียวจันทร์นั้นหวานอยู่แล้ว

           

 

คมเขี้ยวครางในลำคอยามที่เริ่มรู้สึกหัวตื้อ หัวสมองคล้ายจะขาวโพลน และเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้กับรสจูบที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเรียวจันทร์ ต้องยอมรับว่าแม่คุณนายจูบเก่งเหลือเกิน ในขณะที่เขาร้างการจูบ การสัมผัสอะไรแบบนี้มานานมาก จนแรกๆ ยังแอบรู้สึกว่าตนเองเป็นเหมือนเด็กเพิ่งหัดจูบ ทั้งที่ก็เคยผ่านมาแล้ว เพียงแค่เว้นช่วงนานไปหน่อยเท่านั้นเอง หัวใจของเขาเต้นกระแทกกับผนังอก มันไม่ได้เต้นรัวๆ แต่เต้นซะจนพาเขาตัวสั่นอย่างกับไปเจออากาศหนาวมา

           

 

“แฮ่ก…” แล้วก็เป็นเรียวจันทร์เองที่ผละออกจากปากเขาก่อน คุณนายหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากสีชมพูดูจะสีสดขึ้น ส่วนเขานั่งแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากบนล่าง ความรู้สึกหวานๆ และวาบหวิวยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ท้องน้อยหดเกร็งตามความสยิวที่เกิดขึ้น คมเขี้ยวมองหน้าเรียวจันทร์ที่กำลังผ่อนลมออกจากปากด้วยสายตาคมวาว เขากลืนน้ำลายลงคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปากล่างอีกที แม่คุณนายหันมามองเขาอย่างเลิ่กลั่กสักพัก ก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนอกแกร่ง ใบหน้าซุกอยู่ตรงซอกคอ เกิดความเงียบขึ้นระหว่างทั้งสองคน มีเพียงเสียงลมหายใจของสองคนที่สลับกันดัง โดยที่คมเขี้ยวปล่อยให้เรียวจันทร์นั่งอยู่แบบนั้น เขายกแขนขวาขึ้นโอบรอบเอวคนตัวเล็ก

           

 

“มาการองไส้ช็อคโกแล็ตอร่อยจัง” เรียวจันทร์ว่าเสียงเบาหวิว ลมหายใจรดสันกรามคมเขี้ยวเบาๆ และลมหายใจของคมเขี้ยวก็รดผ่านแก้มเรียวจันทร์แบบแผ่วๆ

           

 

 

ร่างสูงไม่ตอบ ทำเพียงใช้มือขวาลูบเอวเรียวจันทร์ขึ้นลงช้าๆ ดวงตาเหม่อมองตรงไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด หัวใจยังคงเต้นตึกๆ แต่ก็ไม่เท่าช่วงที่จูบ ความรู้สึกชาวาบค่อยๆ จางลงจนร่างกายเริ่มรู้สึกถึงความอุ่นร้อนในตัวเอง

           

 

ด้วยการสยบความว้าวุ่นที่เกิดขึ้นในหัวตัวเอง คมเขี้ยวเอียงแก้มกดลงบนศีรษะของเรียวจันทร์ แค่เหมือนซบแก้มลงบนหัวร่างเล็กเฉยๆ ไม่ได้กดลงไปแรงมาก เขาหลับตาลงชั่วครู่แล้วลืมตาขึ้น สายคายังคงครุ่นคิด แต่ก็ไม่ใช่คิดวิตกกังวล

 

 

แค่คิดว่ากำแพงที่เคยมีต่อเรียวจันทร์มันหายไปแล้วละ ไม่งั้นคงไม่พากันมาถึงขั้นนี้หรอก

 

 

“กินข้าวมารึยัง” คมเขี้ยวถามเสียงเบาในขณะที่มือขวาก็ยังลูบเอวคนตัวเล็กไปเรื่อยๆ แก้มของเขายังคงสัมผัสกับเส้นผมสีโค้กแสนนุ่มของเรียวจันทร์

 

 

“กินมาแล้ว แต่จะกินอีกถ้านายชวน” คมเขี้ยวกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ปล่อยให้เรียวจันทร์ยื่นมือขวามาจับมือซ้ายตัวเอง ก่อนที่เขาจะบีบมือบางนุ่มนิ่มเบาๆ เรียวจันทร์กดจูบตรงคอของเขาหนึ่งทีแล้วก็ซุกหน้าไว้กับซอกคอเขาต่อเงียบๆ

 

 

“พี่เขี้ยวๆ” เสียงเรียกของไอ้ดินมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เดินเข้ามายืนจังก้าตรงหน้าคนสองคนที่กำลังใกล้ชิดกันอยู่ ไอ้หนุ่มซื่อเบิกตากว้างมองทั้งสองคน ก่อนที่ใบหน้าสีเข้มจะเปลี่ยนเป็นใบหน้าตูม

 

 

“โห พี่เขี้ยว ทำไมทำงี้อะ” เรียวจันทร์ยิ้มขำ มองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของดินที่มองมาที่ตัวเองกับคมเขี้ยว

 

 

“กูทำอะไร” คมเขี้ยวถามสีหน้าแกล้งไม่รู้เรื่อง มือขวายังคงไม่ปล่อยออกจากเอวเรียวจันทร์ มือซ้ายก็กำรอบมือบางไว้ดังเดิม ไอ้ดินผู้ที่มักจะยิ้มซื่อๆ ไม่มีพิษภัยกับใคร แต่ตอนนี้มันกำลังจิกตาใส่เขา

 

 

“คุณเรียวของดินนะพี่ ทำแบบนี้ขออนุญาตดินยัง” คนที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีเจ้าของแล้วนั่งยิ้มขำ ศีรษะยังคงซุกตรงซอกคอร่างสูง

 

 

“อ้าวเหรอ เออๆ กูขอโทษ แต่เผอิญคุณเรียวของมึงอะเขามานั่งตักกูเอง” เรียวจันทร์เบ้ปากกับดินแล้วกลอกตาไปหนึ่งที

 

 

“แหม คุณเรียวนั่งเอง แต่พี่ก็ต้อนรับดีจังเนอะ” ไอ้ดินยังคงจิกตาใส่พี่ชายตัวเองด้วยความหมั่นไส้ ปากว่าเขานั่งตักตัวเอง แต่สองมือน่ะไม่ปล่อยเลยนะ

 

 

คมเขี้ยวยักคิ้วพร้อมกับยักไหล่น้อยๆ ก่อนที่จะปล่อยให้เรียวจันทร์ลุกขึ้นยืน หยิบกล่องขนมเดินเอาไปให้ไอ้ดินที่ทำหน้าหมั่นไส้ตัวเองอยู่ เขายิ้มขำกับไอ้น้องชายตัวใหญ่ นานทีปีหนมันจะแสดงสีหน้าอื่นให้ได้เห็นบ้าง เห็นแล้วก็ขำดี

 

 

“กินขนมแก้หน้าบูดก่อน ยังไงดินก็น่ารักสำหรับฉันเสมอแหละ” เรียวจันทร์ยื่นมือไปหยิกแก้มของดินเบาๆ เจ้าของแก้มจากหน้าตูมเปลี่ยนเป็นเขินแทบจะทันที มือซ้ายยกขึ้นหยิบขนมในกล่องเข้าปากหนึ่งชิ้น

 

 

“อร่อยมั้ย” ร่างเล็กถามพร้อมรอยยิ้ม

 

 

“คุณเรียวให้มันเลยอร่อยครับ” เรียวจันทร์ขยับยิ้มให้กว้างกว่าเดิมจากที่ยิ้มอยู่ คมเขี้ยวลุกขึ้นยืน ทำเสียงกระแอมในลำคอสองสามครั้ง ไอ้ดินเลื่อนสายตาไปมองพี่ชายแล้วมองด้วยความเยาะเย้ยเล็กๆ

 

 

“คุณเรียวเขาเคยชมดินว่าน่ารักด้วยนะพี่เขี้ยว” ดินยิ้มเหนือกว่านิดๆ คมเขี้ยวเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างหมั่นไส้

 

 

“เออ กูดีใจด้วย” ไอ้ดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยกมือขึ้นหยิบขนมจากกล่องเข้าปากอีกชิ้น เรียวจันทร์หันไปหาคมเขี้ยวแล้วชี้ไปทางถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะ พยักพเยิดเป็นเชิงบอกว่าให้หยิบให้หน่อย คนตัวสูงเอื้อมแขนยาวๆ ไปหยิบแล้วส่งให้

 

 

“ฉันซื้อมาฝากพวกงานด้วย แล้วก็มีของบ้านใหญ่” ไอ้ดินพยักหน้าหงึกๆ

 

 

“แล้วมึงมานี่มีไรรึเปล่า”

 

 

“แม่บัวให้มาตามไปกินข้าว” เรียวจันทร์ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าขึ้นมากดดูเวลา

 

 

“วันนี้กินข้าวดึกจัง”

 

 

“ก็มีเรื่องยุ่งๆ นั่นแหละ” เรียวจันทร์ขยับปากว่าอ๋อพร้อมพยักหน้าไปเรื่อย

 

 

“คุณจะไปกินด้วยมั้ย หรืออิ่มแล้ว” ร่างเพรียวส่ายหัว จริงๆ ไม่กินอีกนางก็ไม่ตายหรอก แต่นางอยากไปกับคมเขี้ยวเท่านั้นแหละ

 

 

“ถ้างั้นก็ไป” คมเขี้ยวเดินนำออกไปจากออฟฟิศ มีดินกับเรียวจันทร์เดินตาม

 

 

“เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป อาขนมไปให้พวกคนงานก่อน” เรียวจันทร์บอกตอนที่เดินออกมาถึงหน้าอาคารไม้ คมเขี้ยวก้มหน้าลงมองถุงขนมในมือร่างเล็ก เอื้อมไปหยิบมาถือไว้แล้วส่งไปให้ทางดิน

 

 

“ไอ้ดิน มึงเอาไปให้หน่อย”

 

 

“อ้าว ทำไมอะ ดินกะจะไปกับคุณเรียวเนี่ย”

 

 

“คุณเรียวมึงเขาหิวข้าว ให้เขาไปกินข้าวก่อน” ไอ้ดินขมวดคิ้ว

 

 

“อ้าว แล้วดินไม่หิวเหรอพี่เขี้ยว”

 

 

“มึงตัวใหญ่กว่าเขา มึงกินช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” คมเขี้ยวดันถุงขนมไปให้ไอ้ดินที่ยืนหน้ามุ่ย แต่มันก็ยื่นมารับถุงขนมห้าถุงจากเขา แต่เรียวจันทร์ยื่นมือไปดึงมาถือไว้ในมือตัวเองสองถุง

 

 

“อันนี้ของคุณป๋า คุณแม่ นายแล้วก็ดิน” คมเขี้ยวพยักหน้า หันไปมองไอ้ดินแล้วพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกว่าให้มันเอาขนมไปให้พวกคนงานก่อน

 

 

“โห่ จะไม่ให้ดินเป็นก้างขวางคออะดิ ดินไม่ได้โง่นะ” คมเขี้ยวย่นคิ้ว ทำหน้าว่าอะไรของมึ้ง

 

 

“ก้างห่าไร เดี๋ยวก็ขึ้นไปเจอกัน แค่กูใช้ให้มึงเอาของไปให้คนงานหน่อยแค่เนี้ย เดี๋ยวนี้มึงบ่นเหรอ” เรียวจันทร์ยืนอมยิ้มกับการเถียงของผู้ชายสองคนตรงหน้า

 

 

สวยอีกละ ผู้ชายแย่งอยากอยู่ใกล้ นางอยากจะหัวเราะด้วยแอคติ้งตุ๊กกี้ในชิงร้อยชิงล้านยามที่ชมตัวเองว่าสวยแล้วหัวเราะคนเดียวมาก แต่ต้องคีพลุคสตรีที่เป็นศึกของชายทั้งสองคนในเวลานี้ไว้ก่อน

 

 

“ก็ได้ๆ เห็นว่าเป็นพี่หรอกนะ”

 

 

“แล้วถ้าไม่เป็นพี่มึง มึงจะทำไง”

 

 

“ก็ทำให้” เรียวจันทร์หัวเราะกับหน้าตางอนบูดๆ ของดิน เห็นแล้วก็น่าเอ็นดู พ่อตัวโตหมุนตัวเดินไปทางหมู่บ้านคาวบอย

 

 

คมเขี้ยวหันไปหาเรียวจันทร์ พยักหน้าให้เดินไปด้วยกัน ในใจเขานึกอยากจะทำอะไรสักอย่างกับร่างเล็ก ไม่ใช่ในทางอนาจาร แต่มันมีความรู้สึกอยากจับมือ อยากเดินจูงมือ คล้ายกับอยากต่อความรู้สึกที่ถูกไอ้ดินขัดไปเมื่อกี้นี้อีก

 

 

“อยากซบแขนนี้ทุกคืนก่อนนอนจัง” แต่กับแม่คุณนาย บางทีก็ไม่ต้องบุกเองหรอก เพราะแม่ตัวดีเขาบุกของเขาเองได้ ตอนนี้ก็เกาะแขนเขาไว้ เอาหัวซบไหล่และก้าวเท้าเดินไปด้วย

 

 

“หมอนก็มีให้นอน จะมานอนทับแขนผมทำไม” ถึงจะว่าแบบนั้น แต่ไอ้คาวบอยตัวโย่งก็เลื่อนมือซ้ายไปจับมือนุ่มนิ่มนั่นอีกครั้งและเป็นฝ่ายจูงคนตัวเล็กให้เดินไปด้วยกัน

 

 

“นี่ อยากจูบฉันก่อนกินข้าวมะ” คมเขี้ยวก้มลงมองใบหน้าขาวผ่องที่ยิ้มเต็มหน้า เขาย่นคิ้วทำหน้าระอาเล็กน้อย แต่พอเดินถึงตรงโรงอาหารของฟาร์ม คมเขี้ยวก็พาคนตัวเล็กแวะเข้าไปด้านในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องให้ความสว่างก่อนที่จะดันร่างเรียวจันทร์ให้ติดผนังและก้มลงจูบปากสีชมพูสดอีกรอบ

 

 

เรียวจันทร์หัวใจพองโต อารมณ์พุ่งพล่านยิ่งกว่าจูบกับชายคนไหนมาทั้งหมดในชีวิตที่นางเคยเจอมา

 

 

แบบนี้ยาที่ตาเสี่ยให้มา อาจไม่จำเป็นแล้วมั้ง

 

.

.

.

 

“อ้าวไอ้ดิน ไปตามไอ้เขี้ยวไม่ใช่เหรอ แล้วมันไปไหน” หนุ่มจอมซื่อทำหน้างงหลังจากเดินขึ้นบ้านมาก็ถูกพ่อ (บุญธรรม) เอ่ยทัก

 

 

“อ้าว ดินไปตามแล้วนะพ่อ ก่อนขึ้นมายังใช้ให้ดินเอาของไปให้ไอ้พวกคนงานอยู่เลย”

 

 

“หืม แล้วหายไปไหน่ล่ะน่ะ” บัวบูชาถามพลางยกอาหารมาวางไว้บนโต๊ะ ดินเองก็ทำหน้างงไม่เข้าใจว่าสองคนนั้นหายไปไหน ก็เดินมาก่อนเขาอีก

 

 

“ดินก็นึกว่าขึ้นมาพร้อมกับคุณเรียวแล้ว”

 

 

“อ้าว หนูเรียวกลับมาแล้วเหรอ”

 

 

“ครับพ่อ ซื้อขนมมาฝากพ่อกับแม่บัวด้วย” เมฆาขมวดคิ้วหันไปมองภรรยาที่ทำหน้างงเช่นกัน

 

 

“แล้วหายไปไหนกัน ไม่ใช่ไปทะเลาะตบตีกันอีกเหรอ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความกังวล แม้พักหลังมานี้ทั้งคู่จะลดดีกรีต่อปากต่อคำต่อกันลงมากแล้ว แต่ก็กลัวว่าจะมีเหตุอะไรไปสะกิดให้มีเรื่องกันอีก

 

 

ไอ้ดินยิ้มเยาะด้วยความหมั่นไส้พี่ชายตนเองอย่างไม่จริงจัง “โอ้ย ไม่หรอกแม่บัว เดี๋ยวนี้สองคนนั้นเขาไม่ทะเลาะกันแล้ว เขาเปลี่ยนไปเดินเส้นทางปรองดองแล้วมั้ง”

 

 

ปรองดองกันถึงขั้นนั่งกอด จับมือ นั่งซบกันอย่างสนิทสนม

 

 

“หือ เขาดีกันแล้วเรอะสองคนนั้นน่ะ” เมฆาถามตาโตนิดๆ

 

 

“ดี๊ดีเลยละพ่อ” ไอ้ดินเดินเอาถุงขนมไปวางไว้ในครัวและช่วยยกอาหารที่เหลือไปวางไว้บนโต๊ะไม้

 

 

“ลงไปตามอีกรอบดีมั้ยดิน” บัวบูชาถามสีหน้าเป็นห่วง

 

 

“ไม่เอาหรอกแม่บัว เดี๋ยวดินจะกลายร่างเป็นก้างปลา” ตอนแรกผู้ใหญ่ทั้งสองคนมองหน้ากันงงๆ แต่สักพักก็ทำหน้าเหมือนเริ่มจะเข้าใจว่าดินกำลังสื่ออะไร บัวบูชาอมยิ้มน้อยๆ ส่วนเมฆายังทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่น่ะใช่รึเปล่า

 




เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้  :hao7:



ต๊ายยยย ขุ่นแม่ได้ประทับจุมพิตแห่งนางมารกับพี่เขี้ยวแล้ววว เอาแล้ววว

แต่ที่สำคัญคือพี่เขี้ยวตอบสนองค่าคุณแม่ขาาา ว้ายยย อ้อยและเกี้ยวเขามานาน ในที่สุดก็มีวันนี้ แบบนี้ต้องปิดเขาใหญ่ฉลองนะคะ

ใครที่ตามเรื่องนี้กันมาแต่ต้น น่าจะชื่นใจแทนแม่เรียวบ้างแล้วเนอะ 55555 หลายคนลุ้นให้เขาทั้งสองปรองดองกันถึงขั้นเลิฟซีนกันสักที ตอนนี้เขาเขยิบกันมาไหลแล้วนะ พี่เขี้ยวไม่มีกำแพงอะไรในใจแล้ว ฮี่ๆ

น้องดินของขุ่นเจ้ อกหักแล้วเหรอลูก โธ่ จงรักภักดิ์ดีกับคุณเรียวมาตั้งนานเนาะ ไม่เป็นไรนะคะ มาหาเจ้มา / โชว์บัตรกดเงินสิบใบ

แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่เขี้ยวจูบเองแล้วจร้าาาา ว้ายๆๆ

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยยยยย เขินพี่เขี้ยววววว นางจูบดูดดื่มมข่า แม่เรียวใกล้จะได้ตัวเค้าแล้วว ไม่ต้องใช้ยาเสี่ยมันหรอก เดี๋ยวพี่เขี้ยวรู้จะพาลโกรธป่าวๆ   :o8: เค้าใกล้จะหวานกันแล้วชิมิ รีบๆได้กันเลยยย :m20:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ปกติพี่เขี้ยวไม่ค่อยตอบโต้นะ แต่คราวนี้พี่เขี้ยวรุกคุณนายจ้า อิอิ เราจะรอลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: พูดเลยว่าจิกหมอนแรง  :m3: ถ้าไม่ติดกลัวพ่อแม่ตื่นนี้กรี๊ดไปแระ555
 มาต่ออีกเร็วๆน้าส์คิดถึงคุณนายม๊ากมาก

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :z1: ดีจังเลยในที่สุดแม่เรียวก้อมีวันนี้จนได้  :mew1: สงสัยต้องขอบคุณเหตุการณ์เลวร้ายที่มาเร่งปฏิกิริยาเคมี หรือจะเป็นหนูเอื้องดีแฮะ มีตัวเปรียบเทียบจะได้กระจ่างใจเร็ว ๆ ต้องรออ่านตอนแม่เรียวไปเดินป่ากับพี่เขี้ยวซะแล้ว คงมีซัมทิงให้เห็นแน่ ๆ ท่ามกลางป่าเขาใครก้อหล่อใครก้อสวยขึ้นได้เป็นกอง  :katai3:

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด