:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 804468 ครั้ง)

ออฟไลน์ 2pmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.30 55%}:04.03.59:
«ตอบ #1050 เมื่อ13-03-2016 23:23:42 »

ยักษ์ใจร้ายยยย

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1051 เมื่อ15-03-2016 15:10:39 »




Only You EP.30 [100%]



ผมปล่อยให้เขานอนกอด โดยที่ผมยังลืมตา ในหัวคิดอะไรเยอะแยะมากมาย ความรู้สึกแทบจะปรับจูนไม่ทัน มันเหมือนรวนแล้วเริ่มรันใหม่ซ้ำๆ เหมือนย้ำคิดย้ำทำ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรหรือทำยังไง วิคเตอร์นอนกอดผมไม่ยอมปล่อย พอผมขยับเขาจะกระชับอ้อมกอดทันที สายตาผมเลื่อนไปเห็นมือถือของเขาที่นูนออกมาจากกระเป๋าข้างกางเกงยีน ผมพยายามแงะแขนเขาออก แต่เขารัดแน่นมาก
   

“What?” เสียงงัวเงียและอ้อแบบคนเมาดังขึ้น ผมหันใบหน้าน้ำตานองไปมองเขา
   

“Give me your phone. I want to play game.” เขายิ้มเมา ก้มลงหอมหน้าผากผมแล้วยกแขนขวาออกจากร่างผม ล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์มาให้ผมถือไว้ แล้วเขาก็กอดผมตามเดิม ก่อนจะทิ้งหัวลงบนหมอน
   

ผมเปิดมือถือเขาขึ้นมา ใส่รหัสผ่านวันเกิดกับเดือนผมเข้าไปมันก็เข้าสู่หน้าจอหลัก ภาพหน้าจอของเขาคือรูปคู่ของเราที่มาจากกล้องบาส รูปที่เขาชอบ รูปที่เขาหอมหัวผมอยู่ตลอดเวลา แล้วผมนั่งเล่นมือถือ ผมเม้มปาก กดเข้าไปดูรายการโทรเข้าโทรออก มีเบอร์ออสติน คุณเอมิลี่ มีอันเดรียนาด้วย และเซล่าที่ผมยังไม่เคยได้เจอหน้าสักที คนที่เขาโทรหาบ่อยที่สุดคือออสติน ส่วนคนที่โทรหาเขาบ่อยที่สุดก็คือออสตินอีกเช่นกัน มีเบอร์แปลกๆ ที่ไม่ได้เมมชื่อโทรเข้าหาเขามากมาย ผมเห็นชื่อตัวเองโทรออกครั้งล่าสุดคืออาทิตย์ก่อน เขาเมมชื่อผมไว้ว่า My Mattle ซึ่งแปลว่าอะไรไม่รู้
   

ผมกดออกไปที่โปรแกรมแชทวอทสแอพ วิคเตอร์ไม่ค่อยใช้ไลน์ เขาไม่มีด้วยซ้ำ ฝรั่งส่วนมากจะนิยมเล่นวอทสแอพซะมากกว่า เล่นมากขนาดไหนถึงขั้นมาร์ค เจ้าพ่อเฟซบุ๊คยังอยากซื้อกิจการเลย หรือบางทีอาจซื้อไปแล้วก็ได้ ผมกดเข้าไปดูรายการแชท มีคุณเอมิลี่ คุณเบน อันเดร ชาร์ลี และเพื่อนเขาอีกสองคนที่ตั้งเป็นกรุ๊ปแชทในกลุ่มเพื่อน แยกออกมาก็มีเซล่าและมีอันเดรียนา
   

ผมคลิกเข้าไปดู เขาคุยกันล่าสุดคือหนึ่งอาทิตย์ก่อน ใจผมเต้นรัว กลัวจะเจอของดีอะไรในนี้ แต่ก็ไม่เจอ มีข้อความบอกคิดถึงหนึ่งครั้ง วันที่และเวลาคือตอนที่เขาอยู่ไทยกับผมหลังจากที่เรากลับมาคบกัน ข้อความล่าสุดที่คุยกันทำเอาผมขมวดคิ้ว เพราะอันเดรียนาขอโทษวิคเตอร์และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ วิคเตอร์ดูจะอารมณ์เสียมาก แต่เขาไม่ได้พิมพ์อะไรเยอะ คิดว่าเขาคงโทรคุยกันหรือไม่ก็นัดคุยกันไปแล้วก็เป็นได้ ผมกดเข้าไปดูข้อความกรุ๊ปแชทของพวกเพื่อนๆ วิคเตอร์ เหมือนทอปปิคของผมจะเป็นประเด็นล่าสุดในกรุ๊ปเขานั่นแหละ คุณเอมิลี่พิมพ์มาว่าผมต้องเข้าใจ มีอะไรให้คุยกันดีๆ และให้เข้าใจผมด้วยว่าผมเป็นคนแบบไหนแล้วเคยเจออะไรมาบ้าง ข้อความจากคุณเบนบอกให้เขาอย่าปล่อยผมไป คุณอันเดรบอกว่าแสดงความจริงใจให้ผมเห็นว่าตัวเขาไม่ได้มีอะไรกับอันเดรียนาจริงๆ ส่วนของชาร์ลีบอกว่า
   

I think you fit with vagina as the same. XD
   

ผมกลอกตาแล้วยิ้มเยาะหน่อยๆ วิคเตอร์ตอบกลับไปเป็นคำด่าว่าไอ้เพื่อนหัวอวัยวะเพศชาย ส่วนคุณเอมิลี่ก็พิมพ์ไปเหมือนจะขู่ว่าอย่าให้เธอแฉเรื่องอะไรสักอย่างที่ดูท่าชาร์ลีจะไม่อยากพูดถึงเลยส่งแต่อีโมชั่นเบื่อหน่ายกลับมา ผมเข้าไปดูข้อความจากอันเดรียนาอีกครั้ง ไล่ๆ ดูก็ไม่มีอะไรผิดปกติ อันที่จริงมันดูได้ล่าสุดคือตอนที่เธอส่งมาบอกว่าคิดถึงนั่นแหละ ผมกดออกแล้วดูข้อความจากคนอื่น ผมกดเข้าไปดูของเซล่า เป็นวิคเตอร์ซะมากกว่าที่พิมพ์ไป แล้วข้อความก็หยาบคายมากๆ ด้วย เป็นการด่าเซล่าว่าอย่าเสือกเรื่องของเขาให้มาก แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งสงบ ผมว่าคงจุดอารมณ์วิคเตอร์ได้มากเลยละ ไม่รู้ป่านนี้เจ๊เซล่าสภาพเป็นยังไงบ้าง
   

ไม่มีข้อความจากชารอน ไม่มีแม้กระทั่งการโทรออก มีเบอร์พ่อเขา มีข้อความจากพ่อเขาที่ส่งมาบอกว่า เรามีเรื่องต้องคุยกัน ที่ส่งมาก่อนที่เขาจะมาไทยรอบก่อน แต่วิคเตอร์ไม่ตอบกลับ แต่ที่ทำเอาผมสะดุดใจคือข้อความในวอทสแอพจากคนที่ไม่ได้เมมชื่อหนึ่งคนและคนที่เมมชื่อว่า V. ตัวเดียว ผมกดเข้าไปดูของคนหลังก่อน เป็นข้อความปกติ แต่ดูแล้วมีความสนิทสนมมากกันเป็นพิเศษ ดูวิคเตอร์จะสุภาพกับคนๆ นี้มาก ด้วยความที่มันเป็นภาษาอังกฤษ ผมจึงไม่รู้ว่าหางเสียงของคนนั้นคือผู้หญิงหรือผู้ชาย ข้อความล่าสุดของคนนั้นคือ
   

“Do you wanna see me?” แล้ววิคเตอร์ก็ตอบไปว่า “Very much.”
   

ผมเม้มปาก นึกสงสัยขึ้นมาว่าคนๆ นี้เป็นใคร ลองอ่านข้อความของพวกเขาอีกครั้ง ก็รับรู้ถึงความอบอุ่น ความคิดถึง ความห่วงใย กำลังใจที่มีให้กัน ใครกัน อันนี้ใครอีก ผมถอนหายใจเพราะผมไม่รู้จริงๆ ผมกดเข้าไปในข้อความของเบอร์ที่ไม่ได้เมม แล้วหัวใจก็กระตุกวูบเมื่อรูปที่ปรากฏนั้นเป็นรูปหน้าอกอวบอิ่มของใครสักคนที่ถ่ายไม่เห็นหน้า แต่เห็นตั้งแต่หน้าอกลงมาจนถึงกลีบเนื้อบริเวณนั้น เบื้องหลังของร่างนั้นเป็นห้องโทนสีขาวดำ และมีข้อความส่งมาว่า
   

‘I know you want me, and you know you love me.’
   

ข้อความถูกส่งมาให้นานแล้ว รู้สึกจะหลังจากที่เขาบินกลับไปนิวยอร์กรอบแรกหลังจากคบกัน ไม่มีข้อความอื่นใดๆ เพิ่มเติมด้านบนของวอทสแอพ ซึ่งเขาอาจจะลบข้อความต่างๆ ไปแล้วก็ได้ วิคเตอร์ส่งอีโมชั่นหน้าเบื่อไปให้ แล้วอีกฝ่ายก็ส่งอีโมชั่นจูบกลับมา
   

น้ำตาผมคลออีกรอบ ผมแทบจะหมดแรง ผมรู้สึกเหนื่อย มันไม่ใช่แค่อันเดรียนา แต่มันยังมีใครอีกที่ผมไม่รู้หรือเปล่า ใช่ ผมไม่รู้ ไม่รู้ว่าใครคนอื่นของเขานั้นคือใครอีก เขาอยากจะเจอใคร แล้วเขาต้องการใคร เขารักใครงั้นเหรอ ผู้หญิงที่ส่งภาพเปลือยมาให้เขานั้นเป็นใคร ดีแล้วละที่เขาเก็บรูปไว้ ไม่งั้นผมคงไม่เห็น เขาอาจจะยุ่งจนลืมลบ
   

ผมหลับตาลง น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ผมลืมตาขึ้นแล้วมองตรงที่หน้าต่างห้อนอนอย่างเหม่อลอย ในอกรู้สึกวูบโหวง ผมถามตัวเองว่าอยากเลิกกับวิคเตอร์มั้ย ผมไม่อยากเลิกหรอก เขาบอกเขาต้องการผม ผมคือการบำบัดอาการทางจิตของเขาได้ดีที่สุด แต่ก็ช่างน่าสมเพชตัวเองเหลือเกินที่อาจจะเป็นแค่หนึ่งในคนที่เขาต้องการ ผมยิ้มขื่นกับตัวเอง จะสุขหรือทุกข์ดีนะ วิคเตอร์ทำท่าอย่างกับจะขาดใจตอนที่ผมทำท่าจะไปจากเขาครั้งก่อน เขาร้องไห้ พร่ำบอกว่าขอโทษ ผมยกโทษให้เขาไปแล้ว ที่จริงผมไม่ได้โกรธเขาด้วยซ้ำ
   

แล้วครั้งนี้ล่ะ ผมจะยังไงดี ผมจะทำยังไงดี เอาแค่ตอนนี้ ผมจะรู้สึกอะไรก่อนดีกว่า เขานอนกับอันเดรียนาจริงมั้ย V. คนนั้นเป็นใคร ภาพนังนมโตนั่นใครอีกล่ะ โอ๊ย แฟนผมนี่ฮ็อตจริงๆ
   

ผมร้องไห้ออกมาเพราะรู้สึกอึดอัด และมันก็เจ็บปวดมากด้วย ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่น ปิดเปลือกตาลงแน่นจนน้ำตาทะลักออกมา พยายามกัดปากล่างไว้เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นมันดังมาก แต่ผมก็ยังสะอื้นตัวสั่นอยู่ดี
   

“อือ…” เสียงครางเบาๆ จากคนตัวโตที่นอนกอดผมอยู่ ทำให้ผมกลั้นใจไม่ให้ตัวเองสะอื้น เขากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น จมูกกดลงบนกลุ่มผมสีดำของผม แล้วสูดลมหายใจเข้าแผ่วเบา ก่อนจะนอนนิ่งตามเดิม
   

ตอนนี้ผมอยากคุยกับคุณเอมิลี่มากเลย ผมรู้ว่าตัวเองแย่ที่ไม่ฟังแฟนตัวเอง แต่กลับอยากฟังคนอื่นมากกว่า แต่ตอนนี้ไอ้แฟนตัวดีของผมมันทำให้ผมไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า ที่สำคัญผมยังรู้สึกกลัวเขาอยู่เลย

   


คล้อยบ่าย วิคเตอร์ตื่นขึ้นมาเพราะปวดฉี่ เขาเดินเข้าไปฉี่ในห้องน้ำด้วยอาการโงนเงน ระหว่างที่เขาอยู่ในห้องน้ำ ผมก็ออกไปเอาน้ำเปล่ากับยาแก้ปวดมาให้เขา ตอนที่เขาออกมาจากห้องน้ำ เขาเหลือบมองผมนิดหนึ่ง แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง ผมถอนหายใจ เดินเอาน้ำเอายาไปให้เขา
   

“ยาครับ” ผมยื่นยากับน้ำไปให้เขา วิคเตอร์กระดกน้ำเข้าปากแล้วตามด้วยยา แล้วก็ดื่มน้ำจนหมดแก้ว เขานอนครางอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ลืมตามองผม
   

“มานอนนี่เร็ว”
   

“คุณนอนไปเถอะ ผมจะไปทำอาหาร” ผมพูดเสียงเรียบ ใบหน้าเรียบเฉย วิคเตอร์ขมวดคิ้วกลับมา
   

“เป็นอะไรอีก” เขาถามเสียงห้วน หน้าตาไม่พอใจ ดูท่าทางยังมีอาการเมาค้างอยู่อีกพอสมควร ผมบิดปากเบื่อๆ ก่อนจะตอบ
   

“เปล่า หิวข้าว ยังไม่ได้กินอะไรเลย” ผมหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง แต่ก็โดนเขาฉุดมือกลับไป ผมชักสีหน้า ปล่อยให้เขาดึงขึ้นไปนั่งบนตักแต่โดยดี ขี้เกียจจะดิ้น จะขัดขืนแล้ว
   

“ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง ไม่พอใจอะไร” เขาใช้มือซ้ายดันหน้าผมให้หันกลับไปมองหน้าเขาที่กำลังทำหน้าไม่พอใจอยู่เหมือนกัน
   

“ผมแค่หิวข้าว” ผมว่าเสียงสะบัดหน่อย และปัดมือเขาออกจากแก้ม แต่คราวนี้วิคเตอร์บีบคางผมไว้แน่นและบังคับให้ผมมองหน้าเขาที่เริ่มจะกราดเกรี้ยว
   

“อย่าต่อต้านฉัน” เขาพูดเสียงข่มต่ำ ผมมองหน้าเขาแล้วพยายามผ่อนอารมณ์ตัวเอง เพราะคิดว่าถ้ายิ่งวีนเหวี่ยงจะยิ่งเป็นภัย
   

“ผมแค่หิวข้าวจริงๆ ผมจะออกไปทำเผื่อคุณด้วย” เขายังคงจ้องหน้าผมไม่ลดละ ผมค่อยๆ ดึงมือเขาออกจากคาง แล้วกลั้นใจ ถึงขั้นฝืนใจยื่นหน้าไปหอมแก้มเขา
   

“นอนพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมกลับมา” ใบหน้าวิคเตอร์คลายอาการนิ่วคิ้วขมวดลงเล็กน้อย ผมกระตุกยิ้มมุมปากให้เขา วิคเตอร์ค่อยๆ เอนตัวลงไปนอนบนหมอน สายตายังจับจ้องมองผมด้วยอาการขุ่นเคืองอยู่ ผมเลื่อนตัวลงจากตักเขาไปยืนบนพื้นห้อง ฝืนใจอีกครั้งด้วยการก้มลงหอมหน้าผากเขาแล้วเดินออกจากห้องไปโดยมีสายตาของอีกคนจ้องมองตาม
   

ผมเดินเข้ามาในห้องครัว หลับตาลงด้วยความเหนื่อยใจ ถอนหายใจออกมาเพื่อระบายความรู้สึกอึดอัดทั้งหลายออกไปบ้าง ผมหยิบมือถือของวิคเตอร์ขึ้นมาดูเวลา ที่นู่นคงเกือบจะตีสี่แล้ว ผมกดเข้าไปดูว้อทสแอพคุณเอมิลี่ก็พอดีกับที่เห็นว่าเธอขึ้นออนไลน์อยู่ ผมเลยพิมพ์ไปถามหยั่งเชิงเธอว่านอนหรือยัง คุณเอมิลี่ตอบกลับมาว่ายังไม่นอน ผมเลยโทรหาเธอโดยใช้ฟรีคอลของวอทสแอพนั่นแหละ
   

[ว่าไง]


“คุณเอมิลี่ ผมเองนะครับ แมท”
   
[เฮ้ แมท ดีใจมากนะที่ได้ยินเสียงของเธอ เราไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว] ผมยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยก็ยังมีใครที่นอกจากวิคเตอร์ให้ผมได้พูดคุยด้วยบ้าง แล้วในเวลานี้คุณเอมิลี่คือคนที่ผมอยากคุยด้วยมากที่สุด เธอพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีว่าโชคดีมากที่ยังไม่นอน เนื่องจากเธอยังเคลียร์งานไม่เสร็จ แต่พรุ่งนี้บอกว่า เธอคงสลบไปถึงเย็น
   

[หมอนั่นอยู่ไหนล่ะ]
   

“นอนอยู่ครับ พอดีเขาเมา”
   

[อะไรนะ ไปถึงก็เมาเลยเหรอ] ผมหัวเราะเบาๆ ได้ยินเสียงเธอบ่นออกมาอีกสองสามประโยค แต่สติผมไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ช่วงนี้ เลยแปลไม่ออกว่าเธอพูดว่าอะไรบ้าง
   

[แล้วนายเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย ฉันหมายถึงสุขภาพร่างกายน่ะ]
   

“ก็ดีครับ แต่ผมคิดว่าคุณคงรู้แล้วว่าจิตใจผมไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่” ผมได้ยินเสียงคุณเอมิลี่ถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนที่เธอจะพูดต่อ
   

[ถ้าถามฉันเรื่องอันเดรียนา เขาไม่ได้มีอะไรกัน… จริงๆ] ผมเม้มปาก นึกถึงคำพูดของคุณเบนที่โทรมาบอกผมหลังจากมีภาพหลุดเซ็ทที่สองของวิคเตอร์กับอันเดรียนาออกมาอีก
   

[ภาพที่หลุดออกมาจากในห้องนอน ฉันไม่รู้ว่ามันหลุดออกมาได้ยังไง แต่อันเดรียนาบอกว่าถ่ายไว้จริง เพราะตอนนั้นเธอเมา อ่าฮะ ฉันรู้ว่ามันคือคำที่เห่ยสิ้นดี แต่เธอบอกว่าตอนนั้นเธอรู้สึกคลั่งเขามาก ที่จริงเธอก็คลั่งวิคเตอร์ตลอดเวลานั่นแหละ เธอบอกว่ารูปนั้นวิคเตอร์ถอดเสื้อเพราะเธออ้วกใส่เขา เขาเลยต้องเอาเสื้อไปล้างในห้องน้ำ รูปที่มาส่งกันหน้าห้องอันนั้นก็หลังจากที่เธอรู้สึกดีขึ้นแล้ว] คุณเอมิลี่ร่ายยาวด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง น้ำเสียงเธอน่าฟังเสมอ อาจเพราะเธอทำธุรกิจกับคนมากมายจึงมีน้ำเสียงที่ชวนฟังตลอดเวลา
   

“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ เหรอครับ ไม่มีอะไรกันจริงๆ ทั้งที่เขาเคยควงกันมาก่อนเนี่ยนะครับ”
   

[แมท อย่างนึงที่เธอควรรู้ไว้ วิคเตอร์ไม่กลับไปหาคนเก่าๆ เขาชอบหาคนใหม่ไปเรื่อยๆ มีคนเก่าไม่กี่คนที่เขากลับไปหาแต่เชื่อฉันเถอะ เขาหาคนใหม่มากกว่าคนเก่า]
   

“แล้วเขาก็คงจะหาคนใหม่แทนที่ผมเร็วๆ นี้” ผมยิ้มขำอย่างขื่นขม
   

[ไม่ๆ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น คือ ฉันหมายความว่า วิคเตอร์เหมือนพวกนักสำรวจ เหมือนเขาค้นหาบางสิ่งบางอย่างไปเรื่อยๆ หาสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต จนเขามาเจอนาย แล้วฉันคิดว่าเขาคงเจอสิ่งที่เขาตามหาแล้วละ] ผมขมวดคิ้วงงๆ นิดหน่อย เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจซะทีเดียว
   

“เอ่อ พอจะนึกออกอยู่ละมั้งครับ”
   

[คือฉันคิดว่า คนอย่างวิคเตอร์ไม่เหมาะที่จะมีใครสองคนขึ้นไปนะ เธอน่าจะรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์ค่อนข้างแย่ เขาคงไม่ถนัดที่จะมีใครหลายคนในเวลาเดียวกันเท่าไหร่หรอก] คุณเอมิลี่คงไม่รู้สินะว่าเขามีอะไรกับผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกันและบนเตียงเดียวกันมาแล้ว แถมตอนนั้นเขาก็เริ่มเดตกับนาตาชาแล้วด้วย ถึงจะยังไม่คบก็เถอะ แต่พาผู้หญิงอื่นมานอนบ้านมันถูกต้องแล้วเหรอ นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่ทำให้ผมระแวงระวังเขานี่ไง 
   

[พ่อเขาเจ้าชู้มาก แล้วก็นอกใจแม่เขาไปมีคนอื่น เธอคงรู้นะว่าเขารักแม่เขามากขนาดไหน]
   

“รู้ครับ ผม… ผมก็เชื่อเขาในระดับหนึ่ง ที่เขาจูบกับอันเดรียนา เขาก็ยอมรับว่ามันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ”
   

[ใช่ อันเดรียนาก็บอกนะว่าไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ วันนั้นเธอเมามาก อันเดรียนาน่ะ ถึงจะชอบวิคเตอร์มาก แต่ใช่ว่าเธอจะเลือกคนอื่นไม่ได้ แค่เธอยังทำใจที่จะตัดวิคเตอร์ออกไปไม่ได้ต่างหาก เรื่องอันเดรียนาเธอสบายใจเถอะ] ผมเชื่อว่าคุณเอมิลี่ไม่โกหก เธอไม่จำเป็นต้องโกหก เพราะเธอเป็นคนมาบอกกับผมว่าวิคเตอร์ไม่คิดจะจริงจังกับผมในคราวก่อน
   

“แล้วกับชารอนล่ะครับ” ทำไมผมถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กติ่งที่เริ่มมีความรัก แล้วจับได้ว่าแฟนคุยกับผู้หญิงหลายคน พอมีแหล่งข้อมูลให้ถามก็ไล่ถามยกใหญ่ ซึ่งอันที่จริงผมไม่ใช่เด็กติ่ง แต่วิคเตอร์เป็นแฟนคนแรกของผม ถึงจะไม่ใช่รักแรกแต่ก็เป็นคนแรกที่ผมคบ คนที่เขาคบกันรักกันแล้วเกิดประเด็นนอกใจ เขามีฟีลนี้แบบผมบ้างมั้ยนะ
   

[อันนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ชารอนมีแฟนแล้ว และวิคเตอร์ก็มีเธอแล้ว] ผมขมวดคิ้วงง
   

“แต่ข่าวบอกว่าเธอเลิกกับแฟนแล้วนี่ครับ” คุณเอมิลี่หัวเราะกลับมาเบาๆ ก่อนตอบ
   

[ไม่ได้เลิกหรอก แต่เหมือนชารอนจะเป็นผู้หญิงอารมณ์ดีมากไปหน่อยเลยโกหกสื่อว่าเลิกกันแล้ว] ผมหน้าเหวอไปนิด แล้วก็ยิ้มขำออกมา รู้สึกดีมากที่ตัวเองยิ้มได้ในรอบหนึ่งเดือน แต่ผมก็ยิ้มได้แค่แปบเดียวนั่นแหละ เพราะยังมีอะไรคาใจอยู่
   

“คือ… มีผู้หญิงสองคนในวอทสแอพเขา เอ่อ จริงๆ ผมก็ยังไม่รู้ว่าคนแรกนี่เป็นผู้หญิงรึเปล่า เขาคุยกันปกติครับ แต่ก็ดูสนิทกัน ดูให้กำลังใจกันอยู่เสมอ แต่ก็ไม่บ่อยมาก ส่วนอีกคนส่งรูปนมมาให้เขาดู” คุณเอมิลี่ทำน้ำเสียงงงๆ
   

[มีชื่อบอกมั้ย]
   

“คนแรกเขาเมมชื่อไว้ว่า V. อีกคนไม่ปรากฏชื่อครับ”
   

[อืม… ฉันคิดว่าฉันไม่รู้จักทั้งสองคนนะ และฉันจะไม่บอกว่าคนแรกเป็นผู้ชายด้วย แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอคิดไปไกล ตราบใดที่ยังไม่มีรูปนมอีกเต้าส่งมาจากคนแรก ส่วนคนที่สอง นายลองส่งรูปมาให้ฉันแล้วกัน ฉันพอจะจำหุ่นนางแบบในสังกัดได้ ถ้าเป็นนางแบบฉัน เดี๋ยวฉันจัดการให้] จากที่ผมสบายใจไปแล้วเรื่องอันเดรียนากับชารอน แต่ตอนนี้ผมกำลังไม่สบายใจกับผู้หญิงปริศนาอีกสองคน
   

“ถึงเขาจะไม่ได้นอนกับอันเดรียนา ชารอนไม่ได้เลิกกับแฟน แต่เขาก็มีคนอื่นอยู่ดี” ผมหัวเราะทั้งน้ำตา เสียงที่พูดออกมานั้นแหบพร่า
   

[แมท มันเป็นช่วงเวลาที่ยากและลำบากในการทำใจ ฉันไม่ว่านายหรอกถ้านายจะอ่อนแอแบบนี้] ผมยิ่งร้องไห้ออกมามากกว่าเดิม คุณเอมิลี่ไม่ได้ซ้ำเติม ไม่ได้พยายามห้ามผมไม่ให้คิดมาก ไม่ให้อ่อนแอ เธอเข้าใจความรู้สึกผมดี
   

“ผมควรจะทำยังไงดี เขาบอกเขารักผม แต่ตอนนี้ผมไม่มั่นใจในคำนั้นเลย” การกระทำของเขาทำให้ผมสั่นไหว ทำให้ความมั่นใจในตัวเขาของผมมันสั่นคลอน
   

[ฉันว่าเธอมั่นใจกับความรักของเขาได้นะ] ผมยืนหน้าเศร้าอยู่ตรงเคาน์เตอร์ครัวที่เพิ่งผมเพิ่งโดนวิคเตอร์ทำร้ายไป
   

[อืม… ฉันเป็นเพื่อนเขาก็จริง แต่ก็ยังรู้จักตัวตนเขาไม่หมดหรอก แต่คนอย่างวิคเตอร์ ถ้าเขาไม่มั่นใจ เขาคงไม่ตามเธอไปที่ไทย ไม่รู้สิ ฉันว่าอย่างนึงที่วิคเตอร์เป็นคือ ถ้าอะไรที่เขาไม่เอา ไม่ชอบ ไม่อยากทำ เขาก็จะหัวแข็งไม่ทำ แต่อะไรที่ทำเพื่อคนที่เขารัก เขาจะทำนะ อย่างซีรีส์ เขาก็ไม่ได้อยากไปทำหรอก แต่พอเขานึกได้ว่าย่าเขาอยากเห็นเขาเป็นพระเอกในทีวี เขาก็เลยไปน่ะ] ที่คุณเอมิลี่พูดมานั่นก็จริง ไอ้ยักษ์โข่งน่ะดื้อที่สุดแล้ว ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเงียบๆ คุณเอมิลี่ถอนหายใจเสียงแผ่ว
   

“ขอบคุณมากนะครับคุณเอมิลี่ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันที่นิวยอร์ก”
   

[ต้องได้เจอสิ วิคเตอร์บอกว่าพอเธอเรียนจบจะไปรับเธอมาอยู่ด้วยนี่] ผมยิ้มขื่น นั่นมันตอนที่ผมยังไม่มีความคิดที่อยากจะพักความสัมพันธ์ไง
   

“ครับ ได้เจอ” คุณเอมิลี่แค่ย้ำว่าให้ส่งรูปผู้หญิงเปลือยคนนั้นมา แต่ผมไม่คิดจะส่งหรอก ผมว่ามันไร้ประโยชน์ แล้วก็ผมเหนื่อยจะไขว่คว้าหาคำตอบแล้ว ผมสบายใจเรื่องอันเดรียนาแล้ว ผมไม่อยากไม่สบายใจอีก V. จะเป็นใคร ผู้หญิงนมโตคนนั้นจะเป็นใครก็ช่างเถอะ เพราะผมจะขอหยุดกับวิคเตอร์แล้ว




อ่านตอนที่ 31 ต่อด้านล่างเลยจ้าาา

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1052 เมื่อ15-03-2016 15:14:35 »


Only You EP.31 :: Under you. [100%]




“อา…” เสียงครางดังขึ้นท่ามกลางแสงสลัวจากแสงโคมไฟสีส้มที่อยู่บนหัวเตียงอีกฝั่ง ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องนอน ปล่อยให้คนตัวโตปรับสภาพร่างกายไปก่อน ผมเดินเข้าไปในครัวแล้วเปิดตู้เย็น หยิบเหยือกน้ำส้มคั้นที่คั้นเอาไว้ออกมา หยิบกล้วยออกมาหนึ่งลูก แล้วก็แก้วหนึ่งใบ เดินออกจากครัวเพื่อกลับไปยังห้องนอน วิคเตอร์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เปลือกตายังคงปิดแน่น ผมวางเหยือกน้ำส้มลงบนโต๊ะสีขาวฝั่งหัวเตียงที่วิคเตอร์นอนอยู่ เขาลืมตาขึ้นมามองผม แวบแรกเหมือนเขาจะงงๆ อยู่ แต่เห็นว่าเป็นผมก็หลับตาลงตามเดิม
   

“กินกล้วยก่อนครับจะได้กินน้ำส้มตามเข้าไป” ผมปอกกล้วยให้เขาเสร็จสรรพ ยื่นไปให้เขา วิคเตอร์รับไปแล้วกัดเข้าปากจนหมดในสองครั้ง เขาหย่อนเปลือกกล้วยลงบนโต๊ะหัวเตียง ผมเทน้ำส้มให้เขาหนึ่งแก้วแล้วยื่นให้ อีกฝ่ายรับไปดื่มจนหมดรวดเดียว
   

“เอาอีกมั้ยครับ” เขาพยักหน้าหนึ่งที ผมเลยเทให้อีกแก้ว เขาดื่มแก้วที่สองหมดก็ยกมือบอกเป็นเชิงว่าพอแล้ว ผมวางแก้วลงข้างเหยือกแก้ว เปิดไฟตรงหัวเตียงอีกฝั่ง วิคเตอร์หลับตาแน่น คิ้วขมวดเข้าหากัน เขาค่อยๆ ลืมตาปรับสายตาให้รับกับแสงอยู่สักพัก แล้วจึงหันมามองหน้าผมที่ยืนมองเขานิ่ง เขาทำหน้านึกสักพักก่อนจะยกมือขวาขึ้นลูบแก้มทั้งสองฝั่งตรงบริเวณที่โดนผมตบ
   

“มือนายหนักชะมัด” เขาขยับคางไปมา รอยแดงเป็นรูปมือปรากฏอยู่บนแก้มด้านขวาของเขา
   

“สู้คุณไม่ได้หรอกครับ คุณหยาบคายกว่าผมเยอะ” มือที่กำลังลูบแก้มสากเขาไปมาหยุดชะงัก เขามองผมกลับมาเหมือนกำลังหาร่องรอยอะไรสักอย่างบนใบหน้าผม หรืออาจจะกำลังมองอย่างชั่งใจว่าผมจะแสดงอาการอะไรนอกจากนิ่งสงบหรือเปล่า
   

“มานั่งนี่มา” เขาขยับตัวให้หลังพิงผนังบุนวมหัวเตียง แหวกขาออกเพื่อให้ผมลงไปนั่งตรงระหว่างกลาง ผมพ่นลมหายใจเบาๆ แล้วเลือกจะนั่งตรงปลายเท้าของเขา วิคเตอร์มองผมตาไม่กระพริบ คล้ายว่าจะมีแววดุในดวงตา
   

“แมท…” น้ำเสียงของเขากดต่ำ แต่ผมไม่สนใจ
   

“ผมไม่อยากอยู่ใกล้คุณ นั่งคุยอย่างนี้ก็ได้” แล้วแววตาเขาก็เปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ทันที
   

“มานั่งนี่ อย่าให้ฉันไปลากนายมาเอง…” ผมเชิดคางขึ้นนิดหนึ่ง เลื่อนสายตาตัวเองไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่หน้าเขา
   

“…แมท นายมีความผิดอยู่นะ อย่าดื้อให้มาก” เขาพูดเสียงข่ม ผมเลื่อนสายตากลับไปมองเขาอย่างว่างเปล่า
   

“คุณไม่ทำผิดเลยงั้นสิ” เขาขบกรามแน่น สีหน้ามีทั้งความเบื่อหน่ายและความไม่พอใจ เขาโน้มตัวมาข้างหน้า กระชากแขนผมให้เข้าไปหาเขา ผมล้มลงนอนทับตัวเขา ก่อนที่เขาจะดึงให้ผมขึ้นให้นั่งลงตรงหว่างขาเขาดีๆ เขาจับผมเอนพิงหน้าอกเขาไว้ ยกสองขามาล็อกขาผมไว้แน่น สองแขนก็กอดช่วงเอวผมแน่นเช่นกัน
   

“ฉันทั้งโกรธ ทั้งห่วงนาย ทำไมนายถึงไม่ฟังฉัน ทำไมถึงต้องดื้อกับฉันด้วย” เขากดจูบลงบนขมับซ้ายของผม ผมรู้สึกว่ามีอาการใจสั่นแปลกๆ มันเหมือนยังมีความกลัวหลงเหลืออยู่ ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าผมก็ยิ่งตัวสั่น จนต้องหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองสงบ วิคเตอร์เหมือนจะรับรู้อาการสั่นของผมได้ เขายกสองมือลูบแขนผมไปมา ก้มลงจูบกลางกระหม่อมกับตรงหน้าผากของผม
   

“ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้ อย่าต่อต้านฉันอีก” เขากระซิบบอกที่ข้างหูขวา ผมเลื่อนสายตาตัวเองไปสบตาของเขา แววตาที่มองกลับมานั้นดูไม่ดุอะไร แต่เป็นแววตาที่ทำเอาผมลำคอแห้งผากไปหมด
   

“ผมแค่ไปเที่ยว ผมอึดอัด ผมเครียด ผมอยากไปสนุกกับเพื่อนๆ บ้าง” ผมบอกเขาเสียงสั่น วิคเตอร์ยกมือซ้ายเสยผมที่ปรกหน้าผากผมอยู่อย่างเบามือ กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นบุหรี่จางๆ จากตัวเขาทำเอาผมมึนหัวเล็กๆ
   

“มีอะไรที่ทำให้นายอึดอัดและต้องเครียดกัน ฮึ” เขาก้มลงมาหอมแก้มขวาผม สูดดมเสียงฟืดฟาด ผมกลืนน้ำลายลงคอ สองมือผมกำไว้เบาๆ
   

“สถานการณ์ระหว่างคุณกับผม มันทำให้ผมรู้สึกแย่”
   

“กับอันเดรียนาฉันก็ยังพูดคำเดิม…” เขาหอมแก้มผมอีกทีแล้วผละออก จับหัวผมให้ซบลงบนไหล่ซ้ายของเขาไว้ สองแขนของเขากอดผมไว้หลวมๆ
   

“…ฉันยอมรับว่าฉันโกหกว่าฉันไม่ได้ออกมาตอนเธอหลับ แต่รอจนเธอตื่นขึ้นมาแล้วถึงออกมา เพราะฉันไม่อยากให้นายจินตนาการไปไกลอีก” ผมนอนฟังนิ่งๆ น้ำตาเอ่ออยู่ตรงขอบตา บรรยากาศรอบตัวเงียบ เสียงเครื่องปรับอากาศก็เบาหวิว ยังดีที่มีไฟสีส้มสองฝั่งเตียงให้แสงสว่างในห้อง อย่างน้อยก็ทำให้รู้สึกไม่มืดมนจนเกินไป
   

“รูปที่ฉันถอดเสื้อ เธออ้วกใส่ฉัน ฉันเลยถอดเสื้อไปล้าง แล้วตอนนั้นเธอเมา เลยอาจจะทำอะไรไปโดยไม่ทันคิด” ตรงกับที่คุณเอมิลี่บอก ผมคิดว่าเขาสองคนคงไม่นัดกันพูดกับผมแบบนี้หรอกนะ
   

“แต่จะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง ฉันก็ยังพูดเหมือนเดิมว่าฉันไม่ได้เอากับเธอ” เขาพูดเสียงราบเรียบ ผมไม่คิดให้เขาขอโทษ เพราะเขาขอโทษผมเรื่องอันเดรียนามากพอแล้ว ตอนนี้ผมไม่ติดใจเรื่องอันเดรียนาอีกแล้ว ผมยอมรับว่าเชื่อคำพูดคุณเอมิลี่กับคุณเบนมากกว่าวิคเตอร์ซะอีก แต่จะทำยังไงได้ เขาเคยคั่วกันมาก่อน แล้ววิคเตอร์ก็จูบเธอแบบนั้น จะให้ผมทำใจเชื่อว่าเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด
   

“แล้ว… แล้วรูปพวกนั้นหลุดออกมาได้ยังไง” คราวนี้วิคเตอร์ถอนหายใจ ผมเหลือบตาขึ้นไปมองหน้าเขา ใบหน้าเขาเกร็งเครียด แววตาขุ่นเคืองชัดเจน
   

“เซล่าเป็นคนปล่อยภาพพวกนั้น”
   

“เซล่า? โฆษกของคุณ” ผมรู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันที่ได้ยินว่าเธอคนนี้เป็นคนทำ ผมไม่เคยเจอเธอสักที แต่การที่เธอเป็นโฆษกของเขา เธอไม่ควรทำแบบนี้หรือเปล่า
   

“เธออยากให้กระแสของฉันกับอันเดรียนากลบเรื่องนาย เพราะฉันกับชารอนไม่ยอมเล่นเกมคู่จิ้นของเธอด้วย เธอไม่อยากให้ภาพลักษณ์ฉันเสียหายก่อนหนังจะเข้าฉาย” ความเสียหายที่ว่านั่นก็คงเป็นการที่วิคเตอร์มาคบกับผมนั่นแหละ บทหนังของวิคเตอร์เล่นเป็นผู้ชายแมนๆ เธอคงกังวลว่าคนดูจะเอาชีวิตจริงมาตัดสินวิคเตอร์ละมั้ง
   

“ฉันโมโหมาก โมโหไปหมด ทั้งเซล่า ทั้งนาย ทั้งออสตินที่ปล่อยให้นายโดนทำร้ายร่างกายในผับนั่น” ผมตัวกระตุกหันไปมองหน้าเขาที่มีแววโกรธทั้งใบหน้าและแววตา ภาพเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายในห้องน้ำผับคืนนั้นแล่นเข้ามาในหัวผม
   

“พวกมันเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายนาย” ผมเม้มปาก นึกถึงหน้าไอ้พวกผอมดำระยำบอนที่เคยด่าผมในร้านส้มตำ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ผมไม่คาดคิดที่จะเจอพวกนั้นในผับ ผมไปเข้าห้องน้ำกับเก้าและแคท แต่แน่ละว่าแยกกันเข้าคนละโซน ตอนที่ผมออกมาจากห้องน้ำ พวกนั้นมันกำลังยืนล้างมือกันอยู่ พอมันจำผมได้ มันก็เข้ามากระแนะกระแหนหาเรื่อง
   

“พวกเขาเคยว่าผมเรื่องที่ผมเป็นแฟนกับคุณ เขาใช้คำพูดค่อนข้างหยาบคาย แล้ววันนั้นเพื่อนผมก็ไม่ยอม เลยมีเรื่องกัน พอเขาเจอผมในผับเขาคงยังโกรธอยู่” สีหน้าวิคเตอร์ตึงเครียดกว่าเดิม
   

“แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผมมาก แค่ผลักผมล้มลง เพื่อนผมมาช่วยไว้ก่อน” แคทมันวิ่งเข้ามาเพราะเด็กนวดในห้องน้ำพยายามส่งเสียงห้ามเสียงดัง ได้รอยถลอกที่มือกับเข่าซ้ายมานิดหน่อย แต่ที่เจ็บคือตอนหลังผมไถลไปโดนประตูห้องน้ำเต็มแรงมากกว่า
   

“แล้วถ้าเกิดมันทำมากกว่านั้น เกิดมันทำให้นายเป็นอันตราย นายคิดบ้างมั้ยว่าฉันจะเป็นยังไง” เขาถามเสียงเครียด ใบหน้าถมึงทึง ผมหลุบตาลงหลบตาเขา
   

“ฉันห้ามแล้วใช่มั้ยว่าอย่าออกไปไหน ใจฉันจะขาดให้ได้ตอนที่ออสตินโทรมาบอกว่านายหายไป แล้วพอรู้ว่านายหนีเที่ยวแถมยังโดนทำร้ายร่างกาย ทำเอาฉันว้าวุ่นไปหมด” ผมแหงนหน้าไปสบตาเขาอีกครั้ง ความกลัวฉายชัดในดวงตาสีน้ำตาล อ้อมแขนเขากระชับกอดร่างผมแน่นขึ้นราวกับกลัวผมจะหายไปอีก
   

“ถ้านายคิดมากเรื่องอันเดรียนา ฉันก็คิดมากเรื่องนาย” เขาขบกราม หลับตาลงเหมือนกำลังพยายามข่มตัวเองใจเย็น ผมรู้สึกสลดไปนิดหนึ่ง ก็ไม่ถึงขั้นรู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้เขาไม่มีสมาธิในการทำงาน
   

“ฉันโกรธนายมาก โกรธมากจริงๆ ฉันอยากจะจับนายมัดไว้ในห้อง อยากลงโทษให้นายจำขึ้นใจว่าอย่าขัดคำสั่งฉัน”
   

“คุณก็เลยต้องทำแบบที่ทำเมื่อเช้านั่นน่ะเหรอ” น้ำตาผมไหลออกมา ภาพนั้นยังติดอยู่ในหัว ความกลัวในตอนนั้นมันอัดแน่นอยู่ในอก เขาทำผมอกสั่นขวัญหนี เขาทำให้ผมไม่อยากอยู่ใกล้เขาแม้กระทั่งตอนนี้ แต่ผมไปไหนไม่ได้ เพราะผมกลัวเขาจะทำอะไรแบบนั้นอีก
   

“เชื่อฉันเถอะว่าฉันอยากจะทำมากกว่านั้นอีก” เขายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้มันไหลออกมา เพราะกลัวเขาจะหงุดหงิดที่ต้องมาเช็ดน้ำตาให้ผม
   

 ผมรู้สึกเหนื่อยๆ ใจ ความรู้สึกขวางกั้นแปลกๆ ในใจทำให้ผมเหนื่อยที่จะพูดอะไรต่อ แล้วไหนจะเหนื่อยเรื่องผู้หญิงในชีวิตเขาอีก ตอนนี้ระหว่างผมกับเขามีประเด็นให้ตีกันมั่วไปหมด มั่วเหมือนตอนที่ผมกับเขาตบตีกันในห้องนั่งเล่นกับห้องครัวนั่นแหละ ขนาดความคิดของผมตอนนี้ยังตีกันมั่วเลย ผมอยากพักเรื่องของเรา แต่ผมก็รักเขา
   

“มือถือของคุณ” ผมเลื่อนมือไปหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ยื่นคืนให้วิคเตอร์ แต่เขาส่ายหัวกลับมา ผมเลยถือไว้ในมือ ผมเหม่อมองไปเรื่อย ไม่ได้โฟกัสที่จุดใดจุดหนึ่ง เรานั่งกันเงียบๆ วิคเตอร์เอาคางเกยศีรษะผมไว้ หัวใจผมเริ่มเต้นในจังหวะผิดเพี้ยน มันเต้นวูบวาบเมื่อคิดถึงสิ่งที่ผมกำลังจะพูดออกไป ไม่รู้ว่านี่คือความคิดที่ดีหรือยัง แต่ผมไม่อยากระแวงอีกแล้ว
   

“วิคเตอร์…” เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เหมือนเขารอฟังว่าผมจะพูดอะไร ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วให้กำลังใจตัวเองในการพูดออกไป
   

“…เราลองพักความสัมพันธ์ของเรามั้ยครับ เผื่อคุณ…”
   

“…จะเลิกกับฉันงั้นเหรอ?!” ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็แทรกขึ้นมาเสียงห้วน เขาดันตัวผมออก แล้วจับให้ผมหมุนไปเผชิญหน้ากับเขา ผมมองแววตาขุ่นเคืองของเขา แล้วพยายามรวบรวมความกล้าพูดออกมา
   

“บางทีคุณอาจจะยังไม่พร้อมคบกับใคร ถ้าคุณไม่มีผม คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่คุณจะไปนอนกับใคร…” เขากำลังจะอ้าปากพูด แต่ผมรีบชิงพูดก่อน
   

“…ผมไม่ได้หมายถึงอันเดรียนา เรื่องอันเดรียนา ผมเชื่อคุณแล้ว คุณเบนกับคุณเอมิลี่ก็ยืนยันแล้วว่าไม่มีอะไรจริงๆ” แววตาวิคเตอร์เปลี่ยนเป็นผิดหวัง จนเกือบจะเป็นน้อยใจ แล้วเขาก็พูดออกมาเสียงเบาหวิว
   

“นายเชื่อสองคนนั้นมากกว่าฉันอีกงั้นเหรอ” ผมร้องไห้ น้ำตาไหลออกมาอย่างฉับพลัน
   

“คุณก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเชื่อว่าผู้ชายอย่างคุณจะหยุดอยู่ที่ผมคนเดียว ผม คนๆ นี้ซึ่งเป็นผู้ชาย ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรคู่ควรคุณสักนิด ผู้หญิงในชีวิตของคุณมีแต่ทอปฟอร์มทั้งนั้น พวกเธอให้อะไรกับคุณได้มากกว่าที่ผมให้…” ผมสะอื้นออกมา ผมเจ็บ วันนี้ผมเจ็บปวดเหลือเกิน แล้วผมก็อ่อนแอมากด้วย แต่ผมก็ไม่สามารถเสแสร้งเข้มแข็งได้อีก
   

“…มีผู้หญิงอีกมากมายที่พร้อมจะเข้าหาคุณ และผมไม่รู้ว่าคุณจะอ้าแขนรับพวกเธอเมื่อไหร่ คุณบอกว่าคุณรักผม แต่คุณยังไปจูบกับคนอื่นได้ ผมไม่รู้ว่าอารมณ์ชั่ววูบของคุณจะเกิดขึ้นวันไหนอีก ผมกลัว ผมกลัวว่าคุณจะมีอารมณ์ชั่ววูบบ่อยๆ จนวูบหนึ่งคุณคงทิ้งผมไป” ผมสะอึกสะอื้น มันเป็นความกลัวที่ฝังอยู่ในหัวผมมาตลอด แต่ผมก็เก็บซ่อนมันเอาไว้ให้ลึก เพราะวิคเตอร์อยู่กับผม แต่ตั้งแต่วันที่ผมเห็นภาพเขาจูบกับอันเดรียนา ไอ้ความกลัวพวกนั้นก็พวยพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ
   

“แมท ตั้งสติหน่อย” วิคเตอร์บอกเสียงดุเมื่อเห็นผมร้องไห้จนอกกระเพื่อมแรง ผมห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้ พยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาแต่ก็ไม่แห้งสักที วิคเตอร์เขยิบเข้ามานั่งใกล้ผมแล้วดึงผมเข้าไปกอดลูบหัว ลูบหลัง
   

“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันไม่เลิก ช่วงหนึ่งของชีวิตฉันมันขาดแหว่ง แล้วพอมีนายเข้ามาไอ้ที่มันขาดหายไปก็กลับมาเต็มเหมือนเดิม…” เขาอุ้มผมให้ขึ้นไปนั่งคร่อมตักเขาไว้ ผมซบลงบนไหล่เขา สะอื้นไห้เป็นพักๆ โดยมีวิคเตอร์คอยลูบหลังปลอบใจ ช่างแตกต่างจากเมื่อเช้านี้เหลือเกิน


“นายไม่เข้าใจรึไงว่านายเติมเต็มชีวิตฉัน” เขาลูบหัวผมเบามือ แรงสะอื้นตีตื้นขึ้นมาในอกอีกครั้ง มือซ้ายวิคเตอร์ตบหลังผมเบาๆ


“ฉันใช้เซ็กส์ตามหาความรักเหมือนที่นายเคยบอกไว้ จนฉันมาเจอนาย ฉันถึงรู้ว่าที่ฉันเคยรู้สึกแบบนั้นมันไม่ใช่” ผมนอนซบไหล่เขานิ่งๆ ผมสะอื้นจนพูดอะไรไม่ออก หัวสมองก็ตื้อไปหมด


“ฉันรักนายไม่ใช่เพราะเซ็กส์ แต่ให้ฉันไม่ทำเลยก็ยากอีก ฉันรู้ว่านายกังวลว่าตัวเองไม่เหมือนผู้หญิง แต่แค่นี้ฉันก็ติดของนายจะตายห่าแล้ว” มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นประเด็นเล็กๆ ที่ไม่ควรเอามาคิด แต่ผมก็คิด อย่างที่ผมเคยบอกเขา ผมมีรูให้เขาปลดปล่อย แต่ผู้หญิงเองก็มีเช่นกัน แถมยังมีถึงสอง ยังไงผู้หญิงก็ได้เปรียบ หากตรงไหนตรงหนึ่งเสื่อมไป เขาก็เหมือนมีอะไหล่สำรองไว้ ผมคิดถึงขนาดนั้น คิดเยอะ คิดแยะไปหมด แต่เป็นเพราะผมรักเขา


“คุณไม่คิดถึง ฮึก… ของผู้หญิง… ฮึก… เหรอ” วิคเตอร์ดันตัวผมออกให้มานั่งมองหน้ากัน สองแขนเขาลดลงมาคล้องบั้นท้ายผมไว้


“เวลาที่ฉันเห็นรูปร่างผู้หญิง ฉันยอมรับนะว่าก็ชอบมอง แต่ฉันไม่ได้ชอบเขา ไม่ได้คิดจะไปมีอะไรกับเขา” ผมมองเขาอย่างค้นหาคำตอบ วิคเตอร์ยกสองมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่เลอะแก้มให้ผม


“สักวันคุณคงเบื่อเซ็กส์กับผม และก็คงเบื่อผมด้วย” ผมพูดเสียงอู้อี้ ยกมือมาเช็ดน้ำตาตัวเองอย่างกับเด็ก วิคเตอร์ถอนหายใจ เขายิ้มเพลียเล็กน้อย


“ทำไมนายถึงอ่อนแอแบบนี้แมท ทำไมถึงอยากผลักฉันให้ออกห่างนายอยู่เรื่อย นายทำเหมือนไม่รักฉันเลย” ผมรีบส่ายหัวอย่างเร็ว แล้วรีบพูดออกไปเร็วปรื๋อ


“เปล่านะ ผมรักคุณ และเพราะผมรักคุณ ผมถึงกลัวว่าคุณจะทิ้งผม แล้วผมก็แคร์คุณมากด้วย หน้าที่การงานของคุณก็สำคัญ ถ้ายังมีผมอยู่ด้วย มันคงจะไม่ดี ไหนจะพ่อคุณอีก เขาคงไม่ยอมรับผมแน่ๆ” วิคเตอร์ทำหน้าเบื่อหน่ายทันทีที่ผมพูดถึงพ่อเขา


“เรื่องพ่อฉันตัดออกไปได้เลย สิ่งที่พอจะบอกได้ว่าฉันเป็นลูกเขาก็คือนามสกุลนั่นแหละ นอกนั้นเราไม่เกี่ยวข้องกัน เรื่องงานก็มีแต่เซล่าที่บ้าอยู่คนเดียว เรื่องสายตาคนดู ถ้าเขาแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวฉันไม่ได้ นั่นมันก็คือความคิดอันล้าหลังของพวกเขาเอง” ผมมองหน้าเขา เขามองกลับมาด้วยสายตาคล้ายจะมีแววเหนื่อยล้า ผมเลยสวมกอดเขาอีกที เขายกแขนขึ้นมากอดตอบผม


“พ่อฉัน นอกใจแม่ไปมีคนอื่น แม่ฉันร้องไห้เสียใจเพราะเขา แต่เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของแม่ ฉันไม่ชอบการนอกใจ…” ผมนึกถึงคำพูดของคุณเอมิลี่เรื่องที่บอกว่าพ่อเขานอกใจแม่วิคเตอร์ มันก็เป็นไปได้ที่จะทำให้เขาไม่ชอบการนอกใจ เพราะเขารักแม่มาก แต่ว่า…


“…ไลฟ์สไตล์ของฉันดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ที่ฉันจะคิดแบบนี้ แต่ฉันคิดแบบนี้จริงๆ” เหมือนเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่เลยพูดต่อขึ้นมาทันที


“ใช่ครับ ขนาดนอนกับผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกันคุณยังทำมาแล้ว” ผมรู้สึกได้ว่าเขายิ้มขำอยู่


“มันไม่เหมือนกันนะ อันนั้นฉันไม่ได้คบเขา แล้วตอนนั้นฉันก็ยังไม่ได้คบนาตาชา แค่คุยๆ กันอยู่ คบใครพร้อมกันเหนื่อยจะตายแมท ฉันมีนายคนเดียว ดูแลนายคนเดียว รักนายให้เต็มที่ไม่ดีกว่าเหรอ เลี้ยงนายคนเดียวก็ยากพอแล้ว ฉันไม่อยากหาภาระเพิ่ม” ผมยิ้มเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ไม่ได้ร้องออกมา มันเป็นยิ้มขำขันซะมากกว่า ผมดันตัวออกมามองหน้าเขาอีกที


“แต่ผู้หญิงชอบคุณเต็มเลย” เขายิ้มกริ่ม แล้วตอบเสียงทะเล้น


“ก็แฟนนายหล่อนี่นา ก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนชอบสิ” ผมทำหน้างอหน่อยๆ ไม่ได้งอนอะไรเขาหรอก แค่เริ่มรู้สึกว่า หน้าหล่อๆ ของเขาบางทีก็เป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์ของเราเหมือนกัน ไหนจะฐานะเขาอีก นี่ถ้าเจอพวกผู้หญิงหิวเงินที่จ้องจะแย่งเพราะอยากสบายล่ะก็ ผมคงโดนน็อคเอ้าท์


แต่อีกแง่หนึ่งผมก็คิดว่าถ้ามีผู้หญิงประเภทนั้นเข้ามาหาเขาจริงๆ วิคเตอร์นั่นแหละที่จะสลัดผู้หญิงแบบนั้นออกไปเอง เขาเหมือนใครซะที่ไหนล่ะ


“เหมือนผู้หญิงที่ชื่อ V. ในวอทสแอพนั่นใช่มั้ย” ผมได้ทีเลยเสียบโอกาสนี้ในการถามซะเลย ตอนแรกไม่อยากรู้ เพราะผมอยากเลิก แต่สุดท้ายผมก็ไม่เลิก ลึกๆ ผมก็รู้ตัวนะว่าไม่อยากเลิกกับเขา แค่ต้องการให้เขาแสดงความรัก ความมั่นคงที่มีต่อผมให้ชัดเจนมากขึ้น แล้วสิ่งที่เขาพูดมันก็ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นจนความเหนื่อยที่มีค่อยๆ ลดลง ฉะนั้นถ้าจะไม่เลิกกัน ผมก็อยากรู้ว่าผู้หญิงที่ผมเห็นในวอทสแอพนั้นคือใคร


“ไวโอล่าน่ะเหรอ” ผมส่ายหน้าว่าไม่รู้ ก็จะไปรู้ได้ยังไง ไม่งั้นจะถามเหรอ


“คุณเมมชื่อไว้ว่า V.”


“ไวโอล่า น้องสาวฉันเอง” ผมเลิกคิ้วขึ้น หน้าตาเอ๋อไปหมด เพราะไม่เคยคิดว่าเขาจะมีน้องสาวเลย คือเขาดูโดดเดี่ยว ดูเป็นลูกคนเดียวที่ถูกเลี้ยงอย่างตามใจโดยแม่กับย่า และมีพ่อคอยขัดคอยขวางอยู่


“คุณมีน้องสาวด้วยเหรอ ไม่เห็นบอกกันเลย”


“ก็นายไม่เคยถาม แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกทำไม” ผมขมวดคิ้วนิดๆ รู้สึกยังงงๆ อยู่ วิคเตอร์มองกลับมาด้วยสายตาเรื่อยเปื่อย เหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่


“น้องสาวแท้ๆ เหรอครับ” เขาส่ายหน้านิดหน่อย ก่อนจะตอบน้ำเสียงปกติ โดยไม่มีพิรุธใดๆ


“น้องสาวคนละแม่ แต่พ่อเดียวกัน แม่ไวโอล่าเป็นโสเภณีที่พ่อชอบไปใช้บริการ แต่ดันท้อง แม่ฉันสงสาร ไม่อยากให้เธออยู่ในสภาพย่ำแย่กับแม่แท้ๆ ของเธอ เลยรับเลี้ยงดู เราโตมาด้วยกัน นายเคยเห็นเธอแล้ว รูปที่เธอขี่หลังฉันในห้องนอน” อ้อ ผู้หญิงคนที่ผมคิดว่าเป็นแฟนเก่า เป็นรักแรกของเขานั่นเอง ที่แท้ก็คือน้องสาวเขาหรอกเหรอเนี่ย


“ใช่คนที่พ่อคุณเคยบอกว่าให้บินไปหาบ้างหรือเปล่า” เขาพยักหน้ารับ ผมจำได้ว่าพ่อวิคเตอร์เอ่ยถึงผู้หญิงสักคน แล้วผมก็คันยิบๆ อยากรู้ว่าชีวัดไหนอีก ตอนนั้นผมแอบคิดว่าเขาซุกเมียหรือลูกไว้ด้วยซ้ำ


“ไวโอล่าสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เธอป่วยง่าย เลยไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ฉันเลยต้องบินไปหาเธอบ่อยๆ แต่ช่วงที่แม่กับย่าจากไป ฉันก็ไม่สนิทกับไวโอล่าอีกเลย เราเพิ่งเริ่มกลับมาคุยกันหลังจากฉันคบกับนาย เธออยากรู้จักนายนะ” เขายิ้มละมุน ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยได้แต่ยิ้มเงอะงะไปเรื่อย


“แล้วเธออยู่กับใครล่ะครับตอนนี้”


“อยู่กับพ่อแล้วก็ลิซ่า เมื่อก่อนพ่อก็ไม่ค่อยดูแลเธอหรอก แต่เหมือนพ่อจะนิสัยดีขึ้นบ้างเลยมองว่ามีไวโอล่าเป็นลูก ไวโอล่าเป็นเด็กเข้มแข็งแม้ร่างกายจะไม่แข็งแรง แต่เธอไม่เคยมองชีวิตตัวเองในแง่ร้ายเลย” เขายิ้มตาเป็นประกายเมื่อเอ่ยถึงน้องสาวตัวเอง ท่าทางคงจะรักน้องมากน่าดู ผมไม่คิดว่าเขาจะมีมุมพี่ชายด้วย เพราะผมมองว่าเขาเหมือนพ่อผมมาตลอด


“And what about a naked girl? (แล้วผู้หญิงที่ส่งรูปเปลือยมาให้คุณนั่นล่ะ)” รอยยิ้มวิคเตอร์ค่อยๆ หายไปจากใบหน้า ผมสัมผัสได้ว่าตัวเขาแข็งทื่อแปลกๆ แววตาเขาก็ดูตื่นๆ แวบแรกผมคิดว่าเขาคงตกใจที่ผมจับชู้อีกคนของเขาได้ แต่สักพักเขาก็ถอนหายใจปลงๆ


“My ex. She wants to come back. (แฟนเก่าฉันเอง เธออยากกลับมา)” ผมกระพริบตาปริบๆ วิคเตอร์ขบกรามเบาๆ


“Which one of your ex? (แฟนเก่าสมัยไหนครับ)” เพราะผมเชื่อว่าเขาคงไม่ได้มีแฟนเก่าแค่คนเดียวหรอก


“Very old one. We were—. (เก่ามาก เราเคย…)” เขาเม้มปาก เลื่อนสายตาไปมองทางอื่นอย่างอึดอัด เหมือนเขาไม่อยากจะพูดถึงเธอคนนั้นเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าไม่อยากพูดถึงในแง่ไหนเหมือนกัน เขาหันกลับมามองผมอีกที


“We used to be a lover, but our relationship was not good. We broke up, and we end. (…เราเคยคบกัน แต่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ราบรื่นนักหรอก พอเลิกกันแล้วก็จบ)” เขาบอกเสียงเรียบ ใบหน้าไร้อารมณ์ แววตาดูไร้เยื่อไยจริงๆ อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าการมีแฟนเป็นนักแสดงนั้นบางทีเราก็จะชอบคิดว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมากับเราอยู่นั้นมันจริงหรือมันแอคติ้ง ฝีมือทางการแสดงของเขาน้อยหน้าใครซะที่ไหน


“Why she wants to return to you? (แล้วเธอนึกยังไงถึงอยากจะกลับมาหาคุณอีกครั้งล่ะ)” เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเริ่มโฟกัสที่ยัยนมโตนั่นแล้วว่าหล่อนเป็นใคร ทำไมจู่ๆ ถึงอยากจะมาทวงคืน ถ้าเขาบอกว่าเก่ามากแสดงว่าก็นานมากแล้ว แล้วทำไมแม่นางนั้นถึงอยากจะวกกลับมาหาเขา อาจเพราะเขามีชื่อเสียงมากขึ้นหรือเปล่านะ


“It's probably her games. (คงอยากเอาชนะฉันมั้ง…)” ผมขมวดคิ้วงง ทำไมนังนมโตนั่นถึงจะต้องอยากเอาชนะวิคเตอร์ด้วย เขาแข่งอะไรกันอยู่งั้นเหรอ


“Don’t care about her because I’m not. I did not delete a picture because I want to show you, but you found it before I tell you. (…นายไม่ต้องไปสนใจ เพราะฉันไม่ได้สนใจ แล้วที่ฉันไม่ได้ลบรูป เพราะฉันตั้งใจจะบอกนาย แต่นายดันเจอก่อน)” ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ


“Why do you want to tell me? (บอกผมทำไมครับ)”


“I want you to know. I don’t want to hide anything. I don’t want you to think too much. Wanna tell you that—let her go, but also watch out her. We can’t underestimate her. (เพราะฉันอยากให้นายรู้ จะได้ไม่มีอะไรปิดบังกัน ฉันอยากให้นายสบายใจ อยากให้รู้ว่า อย่าไปสนใจผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ให้ระวังไว้ เพราะฉันรู้ว่าเธอเองก็บ้าอยู่ไม่น้อย)” ผมเริ่มรู้สึกหวั่นใจแปลกๆ คือผมคิดว่าพวกแฟนเก่าพวกนี้ มักจะคิดว่าตนเองผูกพันกันมาก่อน ต้องมีเยื่อไยใดๆ เหลืออยู่บ้าง แล้วพาวเวอร์เวลาที่พวกเธออยากจะกลับมาหาคนรักเก่าก็จะแรงมาก เนื่องจากเธอจะมีความมั่นว่าเธอเคยมีอดีตร่วมกันกับเขา เคยผ่านสิ่งต่างๆ มาด้วยกันก่อนคนปัจจุบัน


 “But I’m not let her to be around you ever. (แต่ฉันจะไม่ให้เธอเข้าใกล้นายได้เด็ดขาด)” ผมเองก็ไม่อยากเข้าใกล้เธอเหมือนกัน นมโตซะขนาดนั้น เกิดเอานมหนีบหน้าผมคงหายใจไม่ออก


“Well, She kind of a girl of bitch, right? (เอ่อ เธอเป็นผู้หญิงประเภทนังตัวแสบเหรอครับ)” วิคเตอร์ถอนใจนิดหนึ่ง


“You can say that. (จะว่างั้นก็ได้)” เออ ผู้หญิงแบบนี้น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะ แล้วดูจากการที่เธอส่งรูปมาให้วิคเตอร์ ผมว่าเธอคงเป็นผู้หญิงที่มั่นใจมากคนหนึ่งเลยแหละ


“How long you are in a relationship with her? (คุณคบกับเธอนานแค่ไหนเหรอครับ)” เขาดูเหมือนจะเกร็งเครียดมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยอมตอบคำถามของผม


“Almost 4 years. (ราวๆ สี่ปีได้)” ผมอ้าปากค้าง ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่น้อยเลยนะ สี่ปีเนี่ย โห ความรัก ความผูกพันก็คงมีไม่น้อย


“คนนี้ใช่แฟนคนแรกของคุณมั้ย” วิคเตอร์ส่ายหัว


“ไม่ใช่ แฟนคนแรกเราจบแล้วจบจริงๆ ฉันไม่ได้คุยกับเธออีกเลย…” วิคเตอร์ยกมือขวาขึ้นลูบหัวผมเบาๆ


“…ไม่ต้องไปสนใจอดีตของฉัน มันคืออดีตที่ฉันไม่คิดจะกลับไป อดีตเพียงอย่างเดียวที่ฉันไม่เคยลืมและไม่อยากลืมคือแม่กับย่า ส่วนนายอยู่กับฉันในตอนนี้และอยู่กับฉันต่อไปในอนาคต” ผมมองเขาอย่างครุ่นคิด มองเหมือนเด็กมองพ่อว่ากำลังหลอกเรารึเปล่า


“อย่าตีผมอีกได้มั้ย ผมเจ็บ” วิคเตอร์กระตุกยิ้มมุมปากหน่อยๆ


“ฉันบอกอะไรก็ให้ฟัง อย่าขัดฉันสิ” ผมทำหน้างอ


“ผมแค่อยากมีอิสระบ้าง” ผมว่าเสียงเหงาหงอย วิคเตอร์ยื่นหน้ามาหอมหน้าผากหนึ่งที
   

“ฉันก็ไม่ได้ห้าม แค่ต้องดูความเหมาะสม” ผมยังไม่เห็นว่าจะมีอันไหนเหมาะสมกับคุณสักอย่าง ทุกอย่างที่เหมาะสมต้องมีคุณอยู่ด้วยเสมอน่ะสิ ผมได้แต่จำใจรับสภาพนี้ด้วยอาการเซ็งๆ นอยด์ๆ
   

“คุณอย่าทำแบบเมื่อเช้าอีกได้มั้ย ผมกลัว” ผมบอกเขาเสียงเบาหวิว รู้สึกใจสั่นโดยไม่ทันห้าม นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นแล้วมันใจหวิวๆ ทุกที
   

“บางทีฉันก็โกรธจนลืมตัว” เขายกมือขวาลูบแก้มผม วินาทีที่มือเขาสัมผัสลงบนแก้ม ผมก็สะดุ้งนิดๆ แต่วิคเตอร์คงจับสังเกตได้ เขาเลยดึงผมเข้าไปกอดไว้อีกที ยกมือลูบหลังปลอบใจผมยกใหญ่
   

“ตอนที่คุณทำแบบนั้น คุณรู้ตัวมั้ย หรือเพราะเหล้า” ผมถามเสียงสั่นน้อยๆ วิคเตอร์เงียบไม่ยอมตอบ ผมว่าเขาได้ยินชัดเจนว่าผมถามอะไร แต่เขาเลือกจะไม่ตอบมากกว่า ผมก็ไม่อยากเซ้าซี้หรือจี้ถามเขา ช่วงเวลานี้อารมณ์กำลังลดลงทั้งคู่ ผมไม่อยากกระตุ้นจุดเดือดใดๆ เลยนั่งซบไหล่เขาให้เขาลูบหลังปลอบใจ แต่ถึงอย่างนั้นตัวผมก็ยังสั่นอยู่ดี
   

“โอ๋ๆ จุ๊ๆ ตัวสั่นหมดแล้ว ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” พอเขารู้ว่าผมตัวสั่น คราวนี้ผมเลยออกอาการมากกว่าเดิม เหมือนมันไม่ต้องกลั้นต้องเกร็งแล้ว วิคเตอร์นั่งกอดปลอบใจผมอย่างนั้นอยู่นาน จนผมค่อยๆ กลับมารู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่ใกล้เขา
   

แต่ก็ไม่รู้สึกเท่าเดิมสักเท่าไหร่ มันยังมีกำแพงที่ค่อยๆ ก่อตัวหนาขึ้นในใจผมทั้งที่ผมไม่ได้อยากให้มี

   
V
v
v


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2016 16:32:47 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1053 เมื่อ15-03-2016 15:19:08 »



V
v
v


วิคเตอร์นั่งปลอบโยนผม นั่งจูบขมับผมอยู่นาน จนกระทั่งทุกอย่างดูนิ่งสงบเข้าที่เข้าทาง เขาเลยพาผมเข้ามาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอน เขาลงไปนอนในอ่างอาบน้ำทรงรีกว้างและยาวสีขาว เขานั่งลงไปคุกเข่ารอผมข้างในนั้น ผมก้าวตามเขาเข้าไป ตอนที่กำลังจะนั่งลง วิคเตอร์จับเอวผมไว้ แล้วยื่นหน้ามาจูบไปทั่วแก้มก้นทั้งสองข้างที่แดงจนเกือบม่วงอย่างแผ่วเบา ผมพยายามห้ามอาการตัวสั่นของตัวเอง แล้วค่อยๆ หย่อนตัวลงตามแรงดึงของคนตัวโต
   

เขาจับผมนั่งซ้อนด้านหน้าของเขา ร่างกายเปลือยเปล่าของเราสัมผัสกันเนื้อแนบเนื้อ สองขาของเขาเกี่ยวพันสองขาของผมไว้ เขาเอื้อมมือขวาไปหยิบฝักบัวหัวทรงกระบอกสีเงินมาจากด้านข้างอ่าง กดเปิดน้ำเบาๆ แล้วเอาราดตัวผมไปทั่ว มือซ้ายก็ลูบไล้ไปตามตัวผมเรื่อยๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอ พยายามตั้งสติอยู่กับปัจจุบัน แม้มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผมก็หลับตาลงและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับวิคเตอร์ในตอนนี้ ไม่เอาเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเจ็บปวดมาทำให้ตัวเองสติหลุดอีก
   

“ตัวสั่นอีกแล้ว ผ่อนคลายหน่อย…” เขาจูบขมับซ้ายผมหนึ่งที ผมหลับตาลงแล้วคุมลมหายใจของตัวเองให้อยู่ในระดับปกติ เพื่อให้อาการตัวสั่นสงบลง วิคเตอร์กดปิดน้ำ เอาฝักบัวเสียบไว้บนแท่นสีเงิน เอื้อมมือไปหยิบน้ำมันนวดหน้าและตัวที่สกัดจากต้นโจโจ้บา วิคเตอร์ซื้อมาหลายกลิ่น ผมชอบกลิ่นรวงข้าวมาก เพราะมันหอมอ่อนๆ แต่ทำให้รู้สึกเฟรชเวลาที่ได้ใช้
   

“นวดตัวหน่อยนะ เผื่อจะดีขึ้น” เขากดหัวปั๊มหยดน้ำมันลงบนตัวผมไปตามจุดต่างๆ ตรงอก หน้าท้อง แขน หัวไหล่ แล้วก็บีบใส่มือเขาด้วย เขาถูสองมือไปมาสักพัก แล้วก็เริ่มละเลงมือเขาไปทั่วตัวผมเบาๆ กลิ่นหอมของโจโจ้บาทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น มันค่อยๆ ผ่อนคลายไปทีละนิด
   

“ดีมั้ย” ผมพยักหน้ารับเบาๆ ปล่อยให้เขาลูบวนตรงหน้าอกช้าๆ แล้วไล่ลงไปถึงช่วงท้องที่ตอนนี้มีกล้ามท้องขึ้นมาบ้างแล้ว วิคเตอร์ลูบไล้แผ่วเบา เคลื่อนไหวมือไปตามจุดต่างๆ ไม่รีบร้อน ผมหลับตาลง เริ่มรู้สึกผ่อนลายมากขึ้น
   

“อือ…” ผมครางเสียงแผ่วตอนที่มือเขาไปสัมผัสตรงจุดอ่อนไหวในร่างกาย เขาเลื่อนสองมือไปตามแขนสองข้างของผม ไล่ลงไปที่หน้าขา ลูบวนไปมา จนผมต้องผ่อนลมหายใจเบาๆ เพราะมันทั้งรู้สึกหวิวและจั๊กจี๋ ยิ่งพอมือเขาเลื่อนลงไปตรงง่ามขาทั้งสองด้าน ผมก็ยิ่งผ่อนลมหายใจดังขึ้นอีกนิด แล้วในที่สุดสองมือเขาก็กอบกุมความเป็นชายน้อยของผมไว้ ในขณะที่เบื้องหลังยักษ์น้อยของเขาก็ค่อยๆ ขยายขึ้นมาดุนหลังผม
   

“ปลดปล่อยหน่อยนะ อาจจะดีขึ้น” เขากระซิบเบาหวิวที่ข้างหูซ้าย ผมพยักหน้าไปเรื่อย วิคเตอร์ก้มลงกดจูบลงบนต้นคอซ้ายของผมย้ำๆ หลายครั้ง สองมือก็บีบๆ กำๆ จนของผมขยายเต็มมือเขา
   

วิคเตอร์ใช้สองมือสลับกันรูดขึ้นจนมันตั้งตรงแหน่ว เขาทำอย่างช้าๆ ไม่ได้เร่งรีบ เขารูดรั้งขึ้น สลับกับใช้สองมือปลุกปั่นไปมาเบาๆ
   

“เอาแขนคล้องคอฉันไว้” เขากระซิบบอก ผมทำตามอย่างว่าง่าย ยกสอนแขนขึ้นไปคล้องคอเขาไว้ จมูกผมไกล่เกลี่ยตรงช่วงสันกรามของเขา กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ลอยมาปะทะจมูกแต่ก็ถูกกลิ่นน้ำมันนวดกลบไป วิคเตอร์ก้มลงมาประกบปากกับผม แล้วเล็มเลียแผ่วเบา เบื้องล่างก็ยังคงชักขึ้นลงเชื่องช้า ลิ้นอุ่นร้อนของเขาก็ค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปด้านใน เราเกลี่ยลิ้นกันไปมา สักพักผมก็กระตุกแอ่นตัวเพราะความเสียววาบที่เขาใช้อุ้งมือไล้วนส่วนปลาย
   

“ฮ้า… อ้า… อ๊ะ…”  หน้าท้องหดเกร็งขึ้นลงอย่างเร็วและแรง วิคเตอร์วนอุ้งมือของเขาตรงส่วนปลายที่แสนจะอ่อนไหวของผมเบาๆ แต่ไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สองแขนที่คล้องเขาไว้แทบร่วงหล่นแต่ก็ยังพอมีแรงที่จะยึดลำคอหนาของเขาไว้ สองมือผมเลื่อนขึ้นไปขยุ้มเรือนผมของเขาเต็มมือ ผมเผยอปากขึ้น ปรือตามองสายตาเคลิ้มของอีกฝ่าย
   

“โอ้ว… อู้…” ผมครางเสียงหลง วิคเตอร์ยังคงวนอยู่แบบนั้นในจังหวะเดิม เขาจ้องมองผมแทบไม่กระพริบตา ก้มลงมาจูบริมฝีปากผมแผ่วเบาหนึ่งที เรามองตากัน ผมมองด้วยแรงอารมณ์ที่ใกล้จะแตกสลายเต็มที มือขวาเขาขยับไปเรื่อยๆ มือซ้ายก็จับส่วนล่างไว้ให้มั่นคง
   

“วิคเตอร์…” ผมครางเรียกชื่อเขาเสียงสั่น แหงนหน้าเชิดขึ้นกว่าเดิมเมื่อความเสียวซ่านตรงกลางลำตัวกับท้องน้อยมันวิ่งพล่านไปหมด ผมแอ่นตัวขึ้นเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อย วิคเตอร์เร่งจังหวะหมุนอุ้งมือเร็วขึ้น จนผมทนไม่ไหวต้องเลื่อนมือจากคอเขาลงมาเพื่อพยายามหยุดมือของเขา ผมจับแขนเขาไว้แต่เขาก็ไม่ยอมหยุด จนผมเด้งตัวออกจากอกของเขา
   

“Please, please.” ผมอ้อนวอนเขาให้หยุด แต่เขาใช้คางดึงผมให้กลับไปซบอกเขาไว้ต่อ มือขวาก็ทรมานผมไปเรื่อยๆ ผมบิดตัวไปมาเริ่มรู้สึกจะทนไม่ไหวแล้ว สองมือจิกลงบนต้นแขนล่ำทั้งสองข้างของเขาแน่น แล้วในที่สุดผมก็กรีดร้องลั่นห้องน้ำ ขาทั้งสองข้างกระตุกสั่นอย่างรุนแรง น้ำอุ่นร้อนพวยพุ่งออกมาเต็มอุ้งมือวิคเตอร์แต่เขาก็ไม่ยอมหยุดหมุนวนจนผมตัวสั่นไปทั้งตัว ผมอ้าปากส่งเสียงร้องใจจะขาดออกมา
   

“วิคเตอร์… พอแล้ว พอแล้ว อะ อ๊ะ!” ผมพยายามขยับขาที่มันเกร็งกระตุก แต่ก็โดนขาใหญ่ๆ ของเขาทาบทับเอาไว้จนผมรู้สึกหงุดหงิดที่ใจ
   

“พูดว่ายอมฉันสิ” เขากระซิบแผ่วเบา มือซ้ายจับแก่นกายผมให้ตั้งไว้ ทั้งที่มันเริ่มอ่อนตัวลง มือขวาเขาก็หมุนวนไม่หยุดจนมันเริ่มปวดหนึบไปหมด
   

“อ้า อ๊ะ อ๊า!” ผมร้องผิดคีย์ ร้องเสียงเพี้ยน แววตาเริ่มเหลือกขึ้นเพราะมันเสียวที่สุดแล้วจริงๆ หน้าท้องผมเกร็งจนปวดไปหมด
   

“พูดสิว่ายอม” เขากระซิบบอกที่ข้างหูอีกที
   

“ยอม ผมยอมแล้ว ผมยอมคุณแล้ว!” ผมบอกซ้ำๆ บอกรัวๆ บอกเสียงสั่น สองมือเลื่อนไปจับมือเขาเอาไว้เพื่อให้เขาหยุด วิคเตอร์ยอมหยุดแต่โดยดี ผมทิ้งตัวลงบนอกเปลือยเปล่าของเขา นอนหายใจหอบหนักหน่วง เปลือกตาปิดลงเพราะรู้สึกเหนื่อยล้า ริมฝีปากแห้งปาก ลำคอก็ฝาดเฝื่อนจนต้องกลืนน้ำลายหลายๆ ที ผมนอนเอาหน้าซุกซอกคอเขาไว้ หายใจสูดดมกลิ่นเนื้ออุ่นๆ ของเขา 
   

“Good boy.” เขาก้มลงจูบหน้าผากผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ผมนอนหลับตา ค่อยๆ หายใจช้าๆ ปรับสภาพลมหายใจให้อยู่ในระดับปกติ วิคเตอร์เปิดน้ำล้างมือ ปล่อยน้ำที่ขังอยู่หน่อยๆ ให้ออกไปนอกอ่าง ก่อนจะเปิดน้ำใหม่ใส่อ่างอีกครั้งจนถึงอกของผม พอได้น้ำเย็นๆ ชโลมผิว ก็ทำให้ผมรู้สึกมีแรงขึ้นมาบ้าง ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองสันกรามของเขาที่มีหนวดเคราสีดำ
   

วิคเตอร์ถูตัวให้ผมอย่างอ่อนโยน สองมือเขาลูบไปทั่วตัวผม ความเป็นชายของเขายังดุนดันหลังผมอยู่ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้เรียกร้องปลดปล่อย ผมนอนพิงอกของเขา ลมหายใจกลับสู่สภาวะปกติ วิคเตอร์วักน้ำมาลูบหน้าผมเบาๆ เรานอนแช่น้ำอยู่อย่างนั้นแบบเอื่อยๆ สักพัก เขาก็จัดการอาบน้ำให้ผม แล้วก็จัดการอาบน้ำให้ตัวเขาเองด้วย
   

พอลุกออกจากอ่าง เราก็ไปยืนเช็ดตัว เช็ดผมให้แห้งหน้ากระจกบานใหญ่ตรงอ่างล้างหน้าสีดำ เขาจัดการพันผ้าขนหนูให้ผมและตัวเอง พาผมเดินออกมาข้างนอก ผมใส่แค่เสื้อยืดสีขาว ส่วนวิคเตอร์ไม่ใส่อะไรเลย เขาก็ชอบนอนเปลือยแบบนี้นี่แหละ เราขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกัน เขาจับผมนอนหันหลังแล้วเขาเข้ามานอนซ้อนท้าย ลูกชายเขานอนตั้งตรงไปกับบั้นท้ายของผม
   

“ฉันจะลองให้มันสงบไปเองบ้าง” เขากระซิบบอก ผมยิ้มอ่อนๆ นอนนิ่งให้เขากอดก่ายตามปกติ
   

“สรุปเราไม่เลิกกันแล้วใช่มั้ย” เขาถามตอนที่ปิดไฟไปแล้ว มีเพียงแสงไฟสีขาวจากด้านนอกลอดผ่านผ้าม่านเข้ามารำไร
   

“ไม่ครับ” วิคเตอร์กระชับวงแขนขวาของเขา แขนซ้ายที่พาดอยู่บนหัวผมขยับเอามือมาลูบเรือนผมของผมเบาๆ
   

“อย่าบอกเลิกฉันอีก แล้วอย่าคิดว่าฉันจะบอกเลิกนาย เชื่อในความรักของเราหน่อย” เขาหอมแก้มผมหนึ่งที ผมได้แต่ยิ้มน้อยๆ สายตามองไปทางหน้าต่างที่ปิดไว้แล้วมีผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มบางๆ บังอยู่
   

“รักฉันมั้ย” เขาถามในความมืดมิด มีเพียงเสียงลมหายใจของเราสองคน
   

“รักครับ” ใช่ ไม่ว่าจะยังไงผมก็รักเขา แล้วผมก็เชื่อนะว่าเขาก็รักผมอย่างที่เขาบอก การกระทำของเขาก็ไม่ได้สวนกับคำพูดแต่อย่างใด
   

เพียงแต่ตอนนี้ผมยังทำลายกำแพงที่มันกั้นวิคเตอร์ไว้ไม่ได้สักที



 :hao5:


มาแล้วววว หลังจากหายไปนาน เลยขอมาชดเชยด้วยการลดอีกครึ่งของตอนที่แล้ว และลงเนื้อาหตอนใหม่แบบรวดเดียวจบให้ค่าาา

เนื้อหาตอนก่อนมีหลายคนที่เข้าใจ ไม่เข้าใจและถึงขั้นไม่พอใจ อู้ววว โดนเยอะพอสมควรค่ะ แต่ก็คงต้องขอสตรองตั้งมั่นดำเนินเรื่องราวในแบบที่ตั้งใจเขียนต่อไป เฮ้! แต่ส่วนใหญ่คนอ่านที่นี่เข้าใจไปกะตอมง่ะ แอบปลื้มมม แต่มีคนเก้ทไปกบัตอมมัย้ว่า วิคเตอร์ไม่ใช่แค่เมา แต่เขาโกรธด้วย - - ตอมอาจจะสื่อสารได้ไม่ดีมั้งหนิ


สำหรับการพรีออเดอร์ Only You จะเปิดให้ลงชื่อจองอีกสองสามวันนี้ค่ะ เดี่ยวจะแจ้งรายละเอียดอีกทีน้อออ ติดตามได้ที่เพจหรือทวิตค่าาา

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยนะคะ  :mew1:



ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1054 เมื่อ15-03-2016 15:27:19 »

 :ling3:


ปรับความเข้าใจกันแล้ว ฮิ้วววว  :katai2-1:


ต้องใช้เวลาให้แมทน้อยวางใจมากกว่านี้แล้วล่ะ

ปอลอ เมื่อไหร่แมทจะไปนิวยอร์คคคค???



ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1055 เมื่อ15-03-2016 16:00:41 »

ใจหายเลยนะตอนที่แมทจะขอเลิกอะ...แต่ดีนะที่ลงต่อเนื่องจนเราได้เห็นความจริงใจของอิยักษ์จนสามารถทลายกำแพงของแมทจนคืนดีกันได้แบบนี้...งื้อออิ..เริ่ดๆๆๆ

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1056 เมื่อ15-03-2016 16:20:02 »

ดีใจสักที แม่ยกใจจะขาด

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1057 เมื่อ15-03-2016 16:28:22 »

 :pig4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1058 เมื่อ15-03-2016 16:55:50 »

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1059 เมื่อ15-03-2016 16:57:24 »

ปริ่มม เยอะมากกกกก o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
« ตอบ #1059 เมื่อ: 15-03-2016 16:57:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1060 เมื่อ15-03-2016 17:15:53 »

เออ  คุยกันก็ดีนะ  มีอะไรข้องใจก็เคลียร์ๆกันซะ ความรักจะได้แข็งแรงขึ้นนะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1061 เมื่อ15-03-2016 17:32:07 »

ดีกันแล้ววว แต่เหมือนยังดีกันไม่สุดเลยง่ะ
เอาใจช่วยนะะวิคเตอร์กับแมทน้อย   :กอด1:

ออฟไลน์ paraprove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1062 เมื่อ15-03-2016 18:11:32 »

แต่ก่อนแอบหมั่นไส้แมทว่าทำไมคิดมาก แต่พออ่านทวนอีก มันก็สมควรให้แมทคิดมาก ทั้งการกระทำ นิสัยก่อนๆของวิคเตอร์

แต่นะยิ่งตอนเห็นภาพจูบแล้วเหมือนความเชื่อใจมันโดนทำร้าย แบบนี้แค่รักไม่พอที่จะทำให้หันมาเชื่อใจง่ายๆ

ตอนนี้ได้คุยกันแล้ว หวังว่าในตอนหน้าๆ จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นกว่าเก่า

ขอบคุณคนเขียนค่ะ มาลงให้เยอะจุใจเลย  ปูเสื่อรอตอนใหม่ต่อไป เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1063 เมื่อ15-03-2016 18:13:09 »

 :pig4 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1064 เมื่อ15-03-2016 18:26:24 »

บอกตรงว่าตอนแมทจะเลิกเราดีใจมาก คือเราคิดว่าควรเลิกกันก่อนเพื่อจะได้รู้ว่าการไม่มีกันและกันมันทรมานยังไง
การฝืนทนและปล่อยผ่านแบบนี้ดูมีแต่จะทำให้แย่ จนสุดท้ายอาจถึงขั้นเกินเยียวยา
แต่แมทก็รักวิคเตอร์มากเกินกว่าจะตัดได้จริง ๆ รับรู้ได้เลยว่ามาม่าล็อตใหญ่ยังกินไม่หมด
รอดูว่าเศษซากของบาดแผลนี่จะทำอะไรได้บ้าง

ปล. ที่เขียนนี่ไม่ได้อยากให้เลิกหรือไม่เอาวิคเตอร์เป็นพระเอกนะคะ แค่แสดงความคิดเห็นเฉย ๆ อยากให้แมทพ้นทุกข์จริง ๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1065 เมื่อ15-03-2016 19:16:45 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1066 เมื่อ15-03-2016 20:32:47 »

แมทจะทะลายกำแพงนั้นได้เมื่อไหร่นะ

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1067 เมื่อ15-03-2016 21:16:56 »

เฮ้ออออ มันจะผ่านไปแล้วใช่ม้ายยย เตรียมรับมาม่าล็อตใหม่ต่อไป ฮืออออ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1068 เมื่อ15-03-2016 21:21:26 »

เป็นอีกคนที่แอบดีใจตอนที่แมทบอกว่าจะเลิกทั้งๆที่ก็รู้แหละว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น
แต่อย่างน้อยวิคเตอร์ก็จะได้รู้ว่าถ้าทำแบบนี้ แมทก็จะไม่อยู่ด้วยตลอดไปหรอกนะ  :เฮ้อ:

เขาไม่เลิกกันก็ดีแล้วล่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1069 เมื่อ15-03-2016 21:24:25 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
« ตอบ #1069 เมื่อ: 15-03-2016 21:24:25 »





ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1070 เมื่อ15-03-2016 21:40:11 »

ถึงจะไม่ชอบบางอย่างที่วิคเตอร์ทำ
แต่ก็ดีใจที่ทั้งคู่คืนดีกันได้
ก็หวังว่า วิคเตอร์จะทำให้แมทวางใจ จนไม่ระแวงอีกนะคะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1071 เมื่อ15-03-2016 22:33:53 »

 :impress3: ในที่สุดก้อมาแล้ว เช้ากับเย็นอารมณ์ช่างแตกต่างกันคนละขั้ว ในที่สุดก้อมีคนกลางเข้ามาช่วยให้แมทได้สติสักนิดนึง แต่บางครั้งบาดแผลที่ได้รับก้อต้องการการเยียวยา กำแพงในใจของแมทคงได้แต่ให้เวลาและการกระทำของวิคเตอร์ช่วยน่ะแหละ แล้วแมทก้อต้องเข้มแข็งด้วยตัวเองด้วยน่ะ เพราะปมในใจแมทที่มีมาเนิ่นนานมันยากน่ะที่จะหายไป ความรักระหว่างเพศเดียวกันบางครั้งมันก้อยากที่จะเข้มแข็งมันไม่ใช่แค่อุปสรรคภายนอกแต่ยังมีอุปสรรคภายในใจตัวเราเองด้วยน่ะ แมทสู้ ๆ น่ะจ้ะ ส่วนวิคเตอร์นายต้องพยายามรักษาอารมณ์ด้วยน่ะ ไม่งั้นมีแบบนี้บ่อย ๆ ก้อไม่ไหวหรอก และแมทก้อไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ที่จะอยู่ในโอวาทนายเสมอน่ะ   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1072 เมื่อ15-03-2016 23:43:42 »

โล่งอก เกือบเลิกกัน แต่เชื่อว่าไงวิคก็ไม่ปล่อย ถ้าดื้อจะไปอาจมีถึงขั้นล่ามโซ่ ฝรั่งทำได้ นี่มั่นใจ
เชื่อในความรักของเราหน่อยนะแมท ฝรั่งมาใจดีทีหลังตอนดุนี่ยิ่งกว่าปีศาจ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1073 เมื่อ16-03-2016 02:19:39 »

ทำใจตั้งนานกว่าจะมาอ่านได้ กลัวใจของคนทั้งคู่มากๆ จิตตกไปก่อนแล้ว

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1074 เมื่อ16-03-2016 23:27:38 »

แมทสู้ๆนะ
ให้สร้างความเขื่อมั่นให้ตัวได้
สู้ๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1075 เมื่อ17-03-2016 03:16:16 »

ปวดตับ 55555

ออฟไลน์ imfckwn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.31 100%}:15.03.59:
«ตอบ #1076 เมื่อ18-03-2016 15:37:28 »

อ่านเรื่องนี้ สองวันพอดี ตามทัน

ติดใจเรื่องความคิดมากของแมท จนบางครั้งรู้สึกน่าเบื่อไปบ้าง หรือเพราะตัวเองเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรซับซ้อนไม่รู้ แต่เอาเถอะ ถ้าเจอสถานะการณ์จริงๆตรงนั้น อาจจะเป็นเหมือนแมทก็ได้ แต่ถ้าลดลงได้ก็จะโอเคกว่านี้ แต่อย่างว่า มันคือคาแรคเตอร์ของแมท ถ้าไม่คิดมากก็ไม่ใช่แมท

ต่อด้วยวิคเตอร์ บางที วิคเตอร์ก็เหมือนเป็นโรคประสาท ตามหึงก็ไม่หึงแต่พอดี หวงก็ไม่หวงแต่พอดี เหมือนเป็นโรคทางจิตใจเหมือนที่หมอว่า น่าจับไปรักษา ยิ่งเวลาโมโหแล้วเหมือนหน้ามืด ปิดรับการรับรู้ทุกอย่าง เลยทำให้มันแย่กว่าเดิม ส่วนตัวไม่ชอบการหึงหวงประเภทนี้เท่าไหร่ จำกัดสิทธิ์ จำกัดทุกอย่าง ทั้งๆที่ใกล้จะจบ แทนที่จะได้อยู่กับเพื่อนกับครอบครัวเต็มที่ เฮ้อ แต่ถ้าไม่ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ก็ไม่ใช่วิคเตอร์อีกแหละ

คนคิดมากกับคนที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์มาเจอกัน

ระวังมันจะไม่ยืดนะ เอาใจช่วยทั้งคู่ครับ สู้ๆ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 65%}:18.03.59:
«ตอบ #1077 เมื่อ18-03-2016 23:22:41 »


Only You EP.32 :: Unstable. [65%]



   “แมท  นายจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ย?!” วิคเตอร์ถามเสียงห้วนสะบัด ดวงตาสีน้ำผึ้งข้นจ้องมองหน้าผมเขม็ง ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย
   

“อะไรอีกล่ะ ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ ก็แค่ถามว่าคุณจะต้องไปจูบ ไปจับ ไปลูบ ไปคลำผู้หญิงอีกกี่คนคุณถึงจะพอใจ”
   

“แล้วถามอย่างนั้นทำไม?!” เขาถามเสียงกระชาก เอื้อมมือมาจะดึงผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ แต่ผมดึงมือตัวเองหนี แล้วหันไปนั่งแกะกุ้งเผาที่เขาสั่งให้พวกพี่บอดี้การ์ดคนไทยไปซื้อมาให้เพราะผมบอกว่าอยากกิน
   

“ก็สงสัย เลยถาม” ผมว่าเสียงห้วนกลับไป เอากุ้งจิ้มน้ำจิ้มแล้วยัดเข้าปาก แม้รสชาติมันจะอร่อยมาก แต่ผมก็ต้องกินไปด้วยและพยายามห้ามน้ำตาไปด้วย
   

เบื่อตัวเองเว้ย! ร้องไห้ได้ ร้องไห้ดีนะช่วงนี้
   

“ฉันคิดว่าเรื่องมันจบไปแล้วซะอีก ต้องบอกยังไงวะนายถึงจะเชื่อว่าฉันไม่ได้เอากับผู้หญิงคนนั้น” ผมหันหน้าไปสบตาแข็งกร้าวของเขา พยายามไม่กระพริบตาเพราะกลัวน้ำตาจะร่วง
   

“ไม่ต้องบอกอะไรหรอก เพราะผมเบื่อแล้ว แต่ที่คุณควรรู้เอาไว้คือ ผมนอนอยู่บนห้อง แต่คุณเดินตามผู้หญิงคนอื่นไป แล้วก็ปล่อยให้เธอจูบแถมยังจับนมเธออีก ทำไมไม่มีอะไรกันไปเลยล่ะ?!”
   

“ก็มันไม่มีอะไรไงวะ! ไม่ได้มี!” เขาเสียงดังใส่ผม หน้าตาถมึงทึงนั้นแดงจัดด้วยความโกรธ
   

“แค่คิดคุณก็ผิดแล้ว!...” ผมหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา รีบหยิบทิชชูมาเช็ดลวกๆ ผมแม่งไม่ได้อยากร้องไห้เลย แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
   

“…คุณทำได้ยังไง คำว่ารักของคุณนี่มันยังจริงอยู่มั้ย” ผมบอกเสียงหมดแรง รู้สึกอ่อนล้ากับผู้ชายอย่างวิคเตอร์เหลือเกิน
   

“อย่ามาดูถูกความรักของฉัน ฉันบอกว่ารักก็คือรัก” ผมเบือนหน้าหนีเขา ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากยุ่งด้วย แต่ผมไปไหนไม่ได้ ผมโดนเขาตามติดแจตลอดสิบกว่าวันที่เขามาอยู่ไทย ผมพยายามทลายกำแพงในใจที่มี มันเหมือนจะดีขึ้นบ้าง เราคุยกันปกติ ทานข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวเล่นบางสถานที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัดตามที่อยากจะไป ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก แค่ใกล้ๆ แล้วก็ไปง่ายๆ มันก็พอจะทำให้ผมรู้สึกดีกับเขาขึ้นมาบ้าง แม้จะยังรู้สึกว่าตัวเองต้องปั้นยิ้ม แสร้งทำหน้าสดใสอยู่บ่อยๆ ก็เถอะ เพราะถ้าผมทำหน้าทำตาไม่ดีเมื่อไหร่ ก็จะโดนเขาขึ้นเสียงใส่อยู่เรื่อย
   

“ต้องให้ฉันพิสูจน์ยังไง ถึงจะหยุดจินตนาการทั้งหลายแหล่ที่มีอยู่ในหัวนาย!”
   

“แล้วมันเกิดขึ้นเพราะการกระทำของคุณไม่ใช่รึไง?!” เคยจะรู้ตัวบ้างมั้ยเนี่ยว่าจุดเริ่มต้นมันเกิดมาจากตัวเองทั้งนั้น ถ้าทำก่อนคบกัน ผมจะไม่เป็นแบบนี้เลย
   

ที่พยายามทำๆ มาหลายวัน มันไม่ถึงกับหายวับ แค่ชะงักไปเท่านั้น เมื่อสองวันก่อนมีนางแบบคนหนึ่งขึ้นสถานะเฟซบุ๊คว่าเธอเคยเกือบมีอะไรกับวิคเตอร์ตอนทั้งคู่เจอกันที่โรงแรมในไทย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เพราะวิคเตอร์บอกว่าตัวเขามีแฟนเป็นผู้ชาย แต่สถานะนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว และผมได้ข่าวว่าเธอโดนโฆษกวิคเตอร์ฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทเรื่องบอกว่าเขาเป็นเกย์ ไม่รู้ว่าป่านนี้เละไปรึยัง ออสตินบอกว่าเซล่าโกรธมาก แถมคุณเอมิลี่ก็ไม่พอใจอีกต่างหาก โดนพลังของสองคนนั้นเข้าไปผมว่าป่านนี้ยัยนั่นคงร้องไห้น้ำตาหมดตัวแล้วมั้ง
   

แต่อย่าว่าแต่ยัยนั่นเลย ผมก็ร้องไห้นี่ไง เขาคงไม่ได้มีอะไรกันจริงนั่นแหละ แต่ที่ผมรู้สึกเหมือนโดนบีบหัวใจก็คือตอนวิคเตอร์ยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนเดียวกับที่เราเคยเจอในลิฟต์ของโรงแรม แล้วคืนก่อนนั้นเขาไปหาเธอที่ห้องจริงหลังจากดื่มด้วยกันที่บาร์ เขาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้น และมันทำให้ผมรู้สึกแย่กับเขามาก
   

“ผมนอนอยู่บนห้องหลังจากที่เพิ่งเอากับคุณไป แล้วคุณยังมีอารมณ์อยากไปนอนกับคนอื่นอีก” วิคเตอร์ขบกรามแน่น เขาไม่พูดอะไรได้แต่จ้องหน้าผมเขม็ง คงพูดอะไรไม่ออกหรอก เพราะที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริง
   

“ผมบอกแล้วว่าให้เราเลิกกัน หลังจากนั้นคุณจะไปนอนกับใครก็ได้ตามใจคุณเลย” ไอ้น้ำตาบ้านี่ก็ไหลจริง!
   

“ไม่เลิก! ฉันไม่เลิก ฉันเคยทำ ฉันเคยพลาด ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำอีกนะแมท” เขาพูดยาวเหยียด พูดด้วยเสียงปนหอบเหมือนกับกำลังโมโห
   

“คุณไม่เข้าใจรึไงว่าผมไว้ใจคุณยากแล้ว แล้วคุณเคยคิดว่าตัวเองผิดบ้างมั้ย?!”
   

“ฉันก็ขอโทษจนฉันแทบจะจ้างนักแต่งเพลงมาเขียนเพลงขอโทษให้นายแล้วนี่ไง! นายจะให้ฉันทำยังไงแมท เอาชีวิตฉันไปเลยมั้ย…” ผมนิ่งเงียบ ไม่ยอมมองหน้าเขา เลือกที่จะมองไปทางอื่น


“…เอางั้นสินะ” ว่าจบเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปในครัวอย่างเร็ว ผมมองตามไปแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเขาหยิบมีดปอกผลไม้ออกมา มันเร็วมากจนผมวิ่งเข้าไปห้ามไม่ทัน เขาใช้มีดกรีดตรงแขนใกล้ๆ กับข้อมือ เลือดไหลออกมาจนผมหน้าซีด สติแทบสิ้นไปจากสมอง
   

“วิคเตอร์!” ผมรีบวิ่งเข้าไปหาเขา น้ำตาเหือดแห้งไปหมด เขายืนนิ่งทิ้งแขนลงข้างตัว ปล่อยให้เลือดไหลออกมาเฉยๆ เขาไม่มีท่าทีเจ็บปวดหรือทุกข์ร้อนอะไร เหมือนรอเวลาให้เลือดไหลหมดตัว แววตาและสีหน้าของเขาไม่มีความกลัว ไม่มีความรู้สึกใดๆ เลยสักนิด เขามีแต่เพียงความว่างเปล่ากลับมาให้ผม รู้เลยว่าเขาไม่ได้ทำประชด แต่เขาทำจริงๆ
   

“ออสติน! ออสติน!” ผมตะโกนเรียกออสตินเสียงสั่น ปากสั่น มือสั่นไปหมด เลือดไหลเยิ้มเต็มมือซ้ายเขา ผมทำตัวไม่ถูก แต่ก็พยายามจับมือเขาขึ้นมาห้ามเลือดจนมือเปื้อนเลือดไปหมด
   

“มีอะไรครับคุณแมท”
   

“พาวิคเตอร์ไปโรงพยาบาล ไป ไปสิ!” ออสตินเบิกตากว้างมองเลือดที่เลอะมือผมกับวิคเตอร์ แต่เขาสติดีกว่าผมมาก เขารีบวิ่งเข้ามาพาวิคเตอร์ออกไปจากห้องครัว ผมรีบกลับเข้าไปในห้องนอน เอากระเป๋าตังค์กับเอกสารพาสปอร์ตของวิคเตอร์ติดตัวมาด้วย ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากอพาร์ทเม้นต์
   
   
   


เราพาวิคเตอร์มาโรงพยาบาลเดิมที่เขาเคยมานอนรักษาตัว เขาถูกส่งตัวไปทำแผลในห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว ตลอดทางที่นั่งมาเขานั่งนิ่ง ส่วนผมพยายามใช้เสื้อตัวเองห้ามเลือดเขาไว้ กดๆ ปล่อยๆ สลับกันครั้งละไม่เกินสิบนาทีเพื่อห้ามเลือด มันก็พอจะห้ามได้อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีไหลซึมออกมา แถมปากแผลก็ไม่ใช่น้อยๆ ออสตินกับพี่บอดี้การ์ดคนไทยหนึ่งคนก็เร่งหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด พอมาถึงโรงพยาบาล เลือดก็เลอะเสื้อ เลอะมือผมไปหมด คงมีคนคิดว่าผมไปฆ่าใครตายมาบ้างแหละ
   


“คุณแมทคะ คุณหมอเชิญพบค่ะ” ผมพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืนเดินตามพยาบาลสาวคนหนึ่งเข้าไปในห้องคุณหมอ เป็นคุณหมอคนเดิมที่เคยรักษาเขาเมื่อคราวก่อน ผมยกมือไหว้คุณหมอ เขายิ้มอบอุ่นกลับมาให้ผมแล้วยกมือรับไหว้
   

“เจอกันอีกแล้วนะครับ” ผมยิ้มอ่อนแรง เอาจริงๆ ผมไม่ได้อยากมาเจอหมอเลยครับ
   

“เขาเป็นไงบ้างครับ” คุณหมอเลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ
   

“ไม่รู้ว่าโชคดี หรือเขากรีดมั่วๆ นะครับ แต่มันไม่โดนเส้นเลือดใหญ่เลยรอดไป” ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่จริงๆ เขาคงมาไม่ถึงโรงพยาบาลหรอก ต่อให้ตัวใหญ่แค่ไหน แต่โดนของมีคมเฉือนเข้าตรงนั้นก็อันตรายอยู่ดี
   

“หมอว่าพาคุณวิคเตอร์เขาไปลองพบจิตแพทย์บ้างก็ดีนะครับ อารมณ์เขาเหวี่ยงสุดลงสุดแบบนี้ หมอกลัวจะเป็นอย่างที่คุณแมทเคยกลัว”
   

“โรคซึมเศร้าน่ะเหรอครับ” คุณหมอพยักหน้า ผมรู้สึกค่อยๆ ตึงที่หัวคิ้วทั้งสองข้าง
   

“ถ้าให้หมอบอกก็คงเป็นอาการเบื้องต้นอย่างครั้งที่แล้ว แต่จะให้ดีที่สุดคือไปพบกับหมอทางด้านนี้โดยตรงจะดีกว่า”
   

“ผมจะลองพูดกับเขาดูครับ” หาเรื่องยากให้กับชีวิตอีกแล้ว ถ้าข้อสอบโฟเนติค (Phonetic) ตอนปีสองยากยังไง การพาวิคเตอร์เข้าพบจิตแพทย์ก็คงทำให้ผมได้เกรดดีด๊อกมาครองแน่ๆ


“แต่ถ้าเขาไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะ หมอยังจำคำพูดเขาได้ว่าคุณแมทเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาเขาได้ ก็แค่ประคับประคองความรู้สึกระหว่างกันไปให้ดีเรื่อยๆ หมอว่าก็น่าจะโอเคแล้ว” แต่ประเด็นคือตอนนี้ระหว่างผมกับเขามันไม่โอเคน่ะสิครับคุณหมอ และก็ไม่รู้ว่ามันจะโอเคตอนไหน หรือถ้าโอเคแล้ว มันจะโอเคต่อไปหรือเปล่า แล้วผมก็เหนื่อยที่จะต้องคอยปั้นยิ้ม ปั้นหน้าว่าผมปกติดี ทั้งๆ ที่ใจผมพยายามกันเขาออกห่างจากตัวเอง
   

ผมพูดคุยกับคุณหมออีกนิดหน่อยแล้วก็ขอตัวออกมารับวิคเตอร์ที่นั่งอยู่หน้าห้องโดยมีออสตินกับพี่การ์ดคนไทยนั่งอยู่เป็นเพื่อน ผมมองใบหน้าของวิคเตอร์ที่ยังดูซีดอยู่หน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ซีดเป็นศพถึงชั้นเตรียมชันสูตร เขาหันมามองผมด้วยสายตานิ่งชา สีหน้าไร้อารมณ์ ท่าทางเงียบเชียบ
   

“เป็นไงบ้างครับ” พอผมนั่งลงข้างเขา ออสตินกับพี่การ์ดคนไทยก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปยืนอยู่ไกลๆ จากบริเวณที่เรานั่ง วิคเตอร์ไม่ยอมตอบคำถามผม เขาหันหน้าหนีไปทางอื่น
   

“วิคเตอร์” ผมเรียกเขาเสียงอ่อน ยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของเขาไว้ เขาไม่ได้ดึงมือหนี ปล่อยให้ผมจับไว้อย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้จับมือตอบกลับมาแต่อย่างใด ผมถอนหายใจแล้วยื่นหน้าไปจูบแก้มสากของเขาเบาๆ
   

“ถ้าคุยกันดีๆ วันนี้ผมจะตามใจคุณนะ” ผมกระซิบบอกที่ข้างหูเขา วิคเตอร์หันมามองผมด้วยสายตาสำรวจ เหมือนเขาไม่อยากเชื่อ
   

“หลังจากบ่ายเบี่ยงฉันมาเป็นสิบวันน่ะเหรอ…” เขายิ้มเยาะมุมปาก ผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่ตรงๆ แล้วโดนเขาผลักหัวจนตัวเอียง
   

“…หมอพูดว่าอะไรล่ะ นายถึงจะมายอมให้ฉัน” ผมเหมือนน้ำท่วมปาก พูดไม่ออก ถ้าเมื่อกี้โดนเขาผลักหัว ตอนนี้ก็คงโดนเขาเอาไม้ตีแสกหน้า
   

“ไม่ใช่อย่างนั้น…”
   

“ไม่ต้องหรอกแมท มือขวาฉันยังไม่พิการ ฉันชักเองได้” เขาพูดแทรกเสียงห้วน หน้าตาไม่สบอารมณ์ ผมไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือขำออกมาดี แต่ก็ทำหน้าไม่ถูกอยู่ดีนั่นแหละ แต่มันคงดีกว่าการที่เขาจะไปหาเศษหาเลยที่ไหน
   

“Giant.” แล้วเขาก็หันมาสบตากับผมด้วยดวงตาแดงก่ำเหมือนคนจะร้องไห้ แต่พยายามห้ามตัวเองเอาไว้
   

“นายจะเย็นชา นายจะแกล้งว่ารักฉันยังไงก็ทำไป แต่ฉันไม่เลิกกับนาย” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเท้ายาวๆ เดินออกไปทันทีโดยมีออสตินรีบเดินตามไปประกบ ผมถอนหายใจ คิดกับตัวเองในใจว่าควรปลดปล่อยความรู้สึกหนักอึ้งทั้งหลายในหัวและในใจตัวเองไปได้หรือยัง
   

ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนต่ออายุปัญหาพวกนี้ด้วยตัวเอง วิคเตอร์ก่อขึ้นมา แล้วเขาอาจจบมันไปแล้ว แต่ผมก็ยังดึงดันเอามันมาเป็นประเด็นระหว่างเราสองคนไม่จบไม่สิ้น ผมกำลังถามตัวเองว่ายื้อปัญหาพวกนี้ไว้ทำไม ผมต้องการอะไรงั้นเหรอ
   

นั่นสิ ผมต้องการอะไร ความมั่นใจ ความเชื่อมั่นงั้นเหรอ แล้วต้องขนาดไหนผมถึงจะพอใจกันนะ
   

ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามวิคเตอร์ไป โดยมีพี่บอดี้การ์ดคนไทยเดินไปเป็นเพื่อน เราสองคนเดินไปลานจอดรถของโรงพยาบาล ออสตินยืนรออยู่ด้านนอก วิคเตอร์คงเข้าไปนั่งรอด้านในรถแล้ว ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งฝั่งเดิมที่นั่งมา วิคเตอร์นั่งนิ่งๆ ก้มหน้าลงนิดหนึ่ง ออสตินสตาร์ทรถแล้วขับออกไป ผมทำใจกล้าเขยิบขึ้นไปนั่งบนตักของวิคเตอร์ สองแขนคล้องคอเขาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงก้มหน้าไม่ยอมสบตากับผมอยู่ดี แล้วก็ไม่ยอมยกแขนมาโอบตอบผมอย่างเคยด้วย
   

“ไปซื้อของกันเลยมั้ย เดี๋ยวพวกคุณเบนคงใกล้ถึงแล้ว” เขายังคงเงียบ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาพูดคุยกัน ผมเลยยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากเขาหนึ่งที เขาถึงยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาเหมือนเด็กกำลังน้อยใจ
   

“วิคเตอร์ ไม่อยากจัดงานวันเกิดให้ผมแล้วเหรอ” เขามองหน้าผมนิ่ง ดวงตาสีน้ำผึ้งข้นคู่นั้นสั่นไหวอย่างชัดเจน เขามองผมตาไม่กระพริบ ราวกับกลัวผมจะหายไป
   

“นายอยากให้ฉันจัดรึเปล่าล่ะ” ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วพยักหน้ารับลง
   

“อยากครับ และไม่ใช่เพราะหมอสั่งหรือใครสั่ง แต่เป็นเพราะผมรู้ว่าคุณต้องทุ่มงบให้ผมไม่อั้นแน่ๆ” ผมมองหน้าเขาแล้วคลี่ยิ้มออกมา วิคเตอร์เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มซะทีเดียว เขาเอนหลังพิงเบาะ ผมเลยตามไปนอนซุกอกเขา วิคเตอร์กระชับแขนขวากอดเอวผม
   

“ออสติน ไปซื้อของก่อนนะ” วิคเตอร์บอกเสียงเรียบ ผมยิ้มอยู่ใต้คางเขา ออสตินรับคำแล้วขับรถไปตามทางที่จะตรงไปห้างสรรพสินค้า
   

ผมเผลองีบไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็คือตอนโดนวิคเตอร์สะกิดให้ตื่น ผมหันหน้างัวเงียไปมองรอบๆ ตัวก็เห็นว่าเราอยู่ในลานจอดรถของห้างหรู หรูในที่นี้คือหรูจริงๆ ไม่ใช่สรรพนามสั้นๆ แล้วจำกัดความเพียงเท่านั้น ห้างนี้เพิ่งจะเปิดได้ไม่นาน ผมได้ยินคำล่ำลือมานานแล้วว่าค่าเช่าที่ในร้านแพงวายป่วงมาก
   

“ออสตินไปซื้อเสื้อผ้ามาให้ เปลี่ยนก่อนสิ” สงสัยผมคงไม่ได้แค่งีบแล้วมั้ง คงหลับจริงจังแน่เลย ก็ออสตินไปซื้อเสื้อผ้าใหม่มาให้ตอนไหนผมยังไม่รู้เรื่อง แต่พอสายตามองได้ชัดเจนขึ้นผมก็เห็นถุงเสื้อผ้าจาก H&M กองอยู่บนเบาะฝั่งผมสองถุง
   

“รีบเปลี่ยน จะได้รีบไปซื้อของ พวกไอ้เบนถึงไทยแล้ว” ผมพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปหยิบถุงเสื้อผ้าขึ้นมาถือไว้ก่อนจะเลื่อนตัวเองลงไปนั่งบนเบาะสีดำมันเลื่อม เอาถุงเสื้อผ้าวางไว้คั่นกลางระหว่างเราสองคน ผมเปิดถุงคุ้ยๆ ดูหาเสื้อผ้าของวิคเตอร์แล้วยื่นให้เขาแล้วก็ก้มลงหยิบชุดของตัวเองออกมา กำลังจะเปลี่ยนชุด ผมก็หยุดชะงักเพราะวิคเตอร์อยู่ในสภาพทุลักทุเลมากเนื่องจากเขาคงจะตึงแผลที่แขน
   

“เดี๋ยวผมเปลี่ยนให้ครับ” ผมเดินค่อมตัวไปนั่งคร่อมตักเขา ดึงเสื้อยืดเทาเนื้อผ้านุ่มมือตัวใหม่มาถือไว้ จัดการถอดเสื้อยืดสีส้มคาดดำเป็นแนวนอนตรงอกตัวเก่าที่เปื้อนเลือดของเขาออกไปอย่างช้าๆ เพราะต้องระวังไม่ให้กระทบกับที่แผลของเขา ผมกำลังจะใส่เสื้อให้เขาแต่ก็เห็นป้ายราคาก่อนเลยนั่งก้มหน้าก้มตาแกะป้ายราคาออก แต่ก็รับรู้ได้ว่าวิคเตอร์กำลังมองหน้าผมอยู่เลยเงยหน้าขึ้นสบตาสีน้ำผึ้งข้นของเขาที่มองไม่กระพริบ
   

ผมนึกถึงวันที่ผมปั่นจิ้งหรีดเพื่อให้เขายิ้ม แล้วผมก็เวียนหัวจนล้มลงไปนั่งบนตักเขา ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เกิดแรงดึงดูดระหว่างเราสองคนอย่างชัดเจน และครั้งนี้ก็เหมือนกัน มันมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เราเลื่อนหน้าเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากแตะกัน
   

ผมยกมือคล้องคอวิคเตอร์ไว้ แขนขวาที่หนาใหญ่ของเขาโอบรัดบั้นท้ายผมไว้แน่น แรกๆ ก็ค่อยๆ จูบ สักพักเขาก็เริ่มจูบผมอย่างตะกละตะกลามตามนิสัยเขา เขาดูดดึงริมฝีปากบนล่างของผมอย่างแรง ลมหายใจของเขาเริ่มหอบกระเส่าและดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วสักพักลิ้นของเราสองคนก็เริ่มไล้ไกล่เกลี่ยกันทีละนิด ทีละนิด จนเริ่มพัวพันกันอย่างนัวเนีย
   

“แอะ…อะ… ฮ่ะ… อา…” วิคเตอร์ครางเสียงแหบยามที่ตวัดลิ้นไปซ้ายขวาอย่างเร็วในปากผม มือขวาของเขาเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อยืดของผม จัดการถอดออกด้วยมือเดียวอย่างรวดเร็ว ผมยกมือไปตามแรงดึงเสื้อออกจากตัว ก่อนที่จะกลับไปคล้องคอเขาตามเดิมและประกบจูบต่ออีกรอบ วิคเตอร์เอนตัวพิงกับเบาะ  มือขวากดท้ายทอยผมให้รับจูบหื่นกระหายของเขาจนผมแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
   

“อือ… แฮ่ก…” ผมหันหน้าหนีเพื่อพักหายใจ วิคเตอร์ใช้มือขวาบีบคางผมไว้ให้หันกลับไปรับจูบมูมมามของเขา แรงบีบที่คางทำให้ผมหลับตาแน่น ภาพเหตุการณ์ในห้องครัวพุ่งวาบเข้ามาในหัว ความกลัวทำให้ผมตัวสั่น ผมรีบออกแรงดึงหน้าตัวเองออกมาทันที ทิ้งให้วิคเตอร์มองผมด้วยสายตาแผดเผาเร่าร้อน เขากลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าเข้มขรึมดูเหมือนนายผู้มีอำนาจกำลังจ้องมองทาสตัวเอง
   

“เดี๋ยวพวกคุณเบนจะรอนาน เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะครับ” ผมกระชากป้ายราคาออก แล้วค่อยๆ ใส่เสื้อให้วิคเตอร์ช้าๆ โดยยังคงมีสายตาแผดเผาของเขาจ้องมองไม่วางตา เขาจ้องหน้าผม เปลือกตากระพริบเพียงนิดเดียวเท่านั้น ผมพยายามทำตัวให้นิ่ง สลัดภาพในหัวทิ้งไป พยายามคุมอาการสั่นตัวเองให้อยู่แล้วหยิบเสื้อสีเทาเหมือนกับวิคเตอร์แต่ไซส์เล็กกว่าขึ้นมาดึงป้ายราคาทิ้งแล้วสวมใส่เข้าไป ผมก้มลงมองสำรวจกางเกงของเราสองคน กางเกงยีนวิคเตอร์เปื้อนเลือดเป็นหย่อมๆ แต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไร ยังคงพอใส่ออกไปดินห้างได้ ส่วนกางเกงขาสั้นสีดำของผมนั้นมองไม่ออกเท่าไหร่ว่ามีเลือดตกใส่เป็นหย่อมๆ
   

“Let’s go. (ไปเถอะครับ)”
   

“When? (เมื่อไหร่)” เขาถามเสียงห้วน หน้าตาผิดหวังปนขุ่นเคือง ผมหันไปสบตากระด้างของเขาแล้วก็เลื่อนสายตาตัวเองหนี เข้าใจอย่างดีว่าที่เขาถามนั้นหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องเซ็กส์ด้วย
   

“Go. (ไปครับ)” ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเขา เพราะไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร จะพูดแบบไหน มันไม่ใช่เรื่องมากำหนดกันได้ง่ายๆ
   

วิคเตอร์เบือนหน้าไปทางอื่นแล้วหลับตาลง พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนหันกลับมามองผม เขายื่นคางไปทางประตูเป็นสัญญาณว่าให้เปิดออก ผมเปิดประตูฝั่งวิคเตอร์ออกอย่างยากลำบากเพราะผมนั่งคร่อมเขาอยู่ แต่สักพักออสตินก็เดินมาเปิดให้เลยทำให้ง่ายขึ้น ผมค่อยๆ ลุกออกจากตักวิคเตอร์ ก้าวเท้าออกไปยืนบนพื้นลานจอดรถ วิคเตอร์เดินตามลงมา ออสตินปิดประตูให้ พ่อยักษ์หน้าหนวดเดินมาอยู่ฝั่งซ้ายของผม ใช้มือขวายกหมวกสีดำประจำตัวของเขาใส่ลงบันหัวเพื่ออำพรางตัวก่อนที่จะยื่นมือขวามาจับมือซ้ายผมไว้ เดินจูงพาผมไปเข้าไปในห้าง
   

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 65%}:18.03.59:
«ตอบ #1078 เมื่อ18-03-2016 23:23:55 »



V
v
v


ช่วงเวลาที่เราเดินซื้อของด้วยกัน เราลืมสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราไปชั่วขณะ เราช่วยกันเลือกของ หยิบนั่นจับนี่มาโชว์ให้ดูว่าใครชอบไม่ชอบอะไร คงจะมีช่วงเวลาแบบนี้ ช่วงเวลาลักษณะนี้นั่นแหละที่เขาจะตามใจผมบ้าง ไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นงานวันเกิดของผม หรือเขาไม่ถนัดการจัดงานอะไรอย่างนี้สักเท่าไหร่
   

“Actually, I want a real pine tree. I mean that we can find in Thailand. But it’s not easy to find, though. (จริงๆ ผมอยากได้ต้นสนของจริงนะ หมายถึงต้นสนที่มีในประเทศไทยน่ะ แต่ก็คงหายากอยู่ดี)” ผมพูดไปด้วยพลางจับๆ ต้นสนวันคริสมาสต์ของปลอมไปด้วย
   

“Austin. (ออสติน)” ผมได้ยินเสียงวิคเตอร์เรียกบอดี้การ์ดคู่ใจ แต่ก็ไม่ได้หันไปสนใจอะไร ยังคงมองหาของประดับต้นคริสมาสต์ต่อไป
   

“Tell the Thai man to find pine three for him. (ลองให้การ์ดคนไทยไปหาให้หน่อยว่าต้นสนหาได้ที่ไหนบ้าง)” ผมหันกลับไปมองวิคเตอร์ที่กำลังยืนคุยกับออสตินแล้วก็พี่บอดี้การ์ดคนไทยร่างสูงผิวคล้ำที่ติดตามเรามาด้วยอยู่
   

“Get it with a flowerpot. It may not die before his birthday. (เอาใส่กระถางมาแล้วกัน มันคงไม่ตายก่อนวันเกิดแมทหรอก)” พี่บอดี้การ์ดคนไทยตอบรับกลับมา เห็นแบบนั้นพี่ๆ ทั้งสามคนพูดภาษาอังกฤษเก่งมากเลยนะ แต่ไม่ใช่เพราะเรียนมา เป็นเพราะพวกพี่เขามีประสบการณ์เยอะมากกว่า
   

“I will call them. (เดี๋ยวผมโทรบอกสองคนนั้นแล้วกันครับ)” พี่การ์ดคนไทยบอกแล้วล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาโทร คาดว่าคงโทรหาพี่การ์ดอีกสองคนที่ไม่ได้มาด้วย
   

“How many do you want? (เอากี่ต้นแมท)” วิคเตอร์หันมาถาม ผมยิ้มเก้อหน่อยๆ แล้วก็บอกเขาไปว่าขอแค่ต้นเดียว แต่ต้นตัวสูงประมาณไหล่ผมก็ได้
   

“You don’t need to do that. (จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะครับ)” ผมพูดกับเขาสองคนหลังจากที่เดินแยกออกมาดูของสำหรับในงานปาร์ตี้
   

“You said you want it. (ก็นายอยากได้)” เขาว่าหน้าเฉย น้ำเสียงทื่อๆ ง่ายๆ ผมยกยิ้มมุมปากทั้งสองข้าง แล้วก็รับน้ำใจของเขาเอาไว้ เพราะผมก็อยากได้จริงๆ นั่นแหละ แต่อย่าดั้นด้นไปหาไกลนักเลยนะ
   

“Thanks. (ขอบคุณครับ)”
   

“And you sure about not invite your parents? (แล้วแน่ใจนะว่าจะไม่ชวนพ่อกับแม่นายมาด้วย)” ผมทำหน้าหนักใจ แต่ก็ส่ายหัวกลับไป
   

“I want, but I know what are going to happen. So, I think I should not. I will stay with them in the morning until evening like every year. After that I will come to you. (ใช่ว่าผมอยากกีดกันพวกเขานะ แต่ผมรู้สถานการณ์ระหว่างผมกับพ่อและแม่ดี เลยคิดว่าอย่าจะดีกว่า ตอนเช้าผมจะอยู่กับพวกท่านเหมือนทุกปี ตกเย็นผมค่อยมาอยู่กับคุณ)”
   

“I will go with you. (ฉันจะไปด้วย)” ผมมองวิคเตอร์ที่ทำหน้ามึนด้วยความลำบากใจ
   

“Victor. You can’t. They wondering about you and me. You know that. (วิคเตอร์คุณไปไม่ได้ คุณก็รู้ว่าพ่อกับแม่ผมยิ่งสงสัยคุณอยู่ด้วย)”
   

“Yes. I’ll go. (ไม่ ฉันจะไป)” เขายืนกรานหน้าตาย แล้วหันไปหยิบลูกบอลสีๆ มาใส่ในตะกร้าที่ผมเอาคล้องข้อมือขวาอยู่ ผมเม้มปากอย่างหนักใจ ครั้นจะเถียงกันตรงนี้ก็คิดว่าเขาต้องอารมณ์ขึ้นมากแน่ๆ เลยเลือกที่จะเงียบเอาไว้ก่อน ค่อยกลับไปคุยกันที่อพาร์ทเม้นต์
   

“The quite can’t change my mind. (เงียบกดดันฉันยังไง ฉันก็จะไป)” เขาพูดเสริมขึ้นมาอีก ผมมองเขาด้วยความเอือมระอา แต่ไม่ได้นึกระอาจริงจังหรอก เห็นหน้าดื้อดึงแบบเด็กๆ แล้วก็แอบมันเขี้ยวไม่ได้ เลยยื่นมือซ้ายไปดึงแก้มเขา วิคเตอร์ยังคงหน้าบูด เขายกมือขวามาจับมือผมแล้วดึงไปหอมหลังมือ ก่อนจะจูงมือผมไม่ยอมปล่อยจนซื้อของเสร็จ
   

เราเดินอยู่ในห้างประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ต้องถามเลยว่าคนไม่มองวิคเตอร์เหรอ จะเหลือเหรอครับ เขาใส่หมวกก็จริง แต่งตัวชุดธรรมดามากก็จริง แต่ยังไงเขาก็ดูเด่นอยู่ดี ยิ่งเดินจูงมือผมด้วยแล้ว คนก็ยิ่งมองกันใหญ่ แถมยังมีผู้ชายตัวสูงร่างใหญ่สองคนเดินถือของตามอีก คือถึงไม่เห็นหน้า แต่มันก็โดดเด่นด้วยบุคลิกภาพของผู้ชายตัวสูงๆ พวกนี้ไง
   

“ซื้อขนมอะไรหรือเปล่า” วิคเตอร์ถามตอนเดินมาถึงโซนของกิน ตอนแรกผมจะปฏิเสธ แต่พอเห็นร้านไอติมก็เลยขอแวบเข้าไปต่อแถวซื้อก่อนกลับสักถ้วย
   

ตอนยืนรออยู่ วิคเตอร์ก็เอาแต่ก้มหน้ามองผมไม่ยอมเงยหน้ามองไปทางอื่น ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากสบสายตากับใครหรือว่ายังไง ผมที่เป็นฝ่ายโดนจ้องเลยต้องแก้เขินด้วยการไปยืนซ้อนด้านหน้ากับเขาไว้ เพื่อจะได้ไม่เขินต่อสายตาคู่นั้น เขายกแขนขวาโอบเอวผมไว้หลวมๆ
   

“แมท!” เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นมาจากจุดใดจุดหนึ่ง ผมมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่เห็น จนกระทั่งสายตาไปหยุดตรงบริเวณโต๊ะกลมๆ สำหรับนั่งทานไอติม วินาทีที่ผมเห็นว่าใครเรียก ใจผมก็กระตุกไปวูบใหญ่ ริมฝีปากอ้าค้างขึ้นน้อยๆ
   

“พี่เอก…” ผมเรียกชื่อผู้ชายคนนั้นเสียงแผ่ว เขาส่งยิ้มกว้างมาให้ ข้างกายเขามีผู้หญิงคนเดิมที่ผมเคยเจอก่อนไปอเมริกา ผมเหมือนโดนกระชากสติออกไปจากหัวพักใหญ่ แต่เสียงพนักงานร้านไอติมเรียกให้ผมออเดอร์ ผมเลยละสายตาจากพี่เอกกับผู้หญิงคนนั้นไปที่หน้าเค้าน์เตอร์
   

“ขอช็อกโกแล็ตชิพครับ” ผมสั่งเสร็จก็หันไปมองพี่เอกอีกรอบแล้วรีบปั้นยิ้มให้ ผมพยายามสำรวจอาการของหัวใจ มันกลับมาเต้นตามปกติดี ไม่ได้มีจังหวะไหนแปลกไป
   

“พี่เอกมาทำอะไร” ผมถามตามปกติ ดีใจมากที่เสียงไม่ได้สั่นหรือออกอาการไหวหวั่นใดๆ
   

“มาดูหนัง รอเข้าโรงหนังอยู่” พี่เอกยิ้มตอบกลับมา ยังคงเป็นรอยยิ้มที่ดูดีเช่นเคย ผมคลี่ยิ้ม แล้วพยักหน้าตอบรับ หันกลับไปมองแฟนพี่เอกอีกครั้งแล้วก็ยกมือไหว้ เพราะคิดว่าเธอน่าจะเป็นรุ่นพี่ เธอยกมือรับไหว้พร้อมกับยิ้มอ่อนๆ มาให้
   

“แล้วแมทมาทำอะไรเหรอ” พี่เอกถาม ผมแหงนหน้าขึ้นไปมองวิคเตอร์ที่มองพี่เอกกลับไปนิ่งๆ แต่ไม่ได้มองจ้องกดดันน่ากลัวอะไร
   

“มาซื้อของไปฉลองวันคริสมาสต์ วันเกิด แล้วก็ลากยาวไปถึงปีใหม่เลยอ่ะ”
   

“โห คิวยาวนะ” ผมยิ้มกริ่ม พี่เอกยิ้มตอบกลับมาก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาขึ้นไปมองวิคเตอร์ที่ทำหน้าไร้อารมณ์
   

“ใครอะแมท” อีกครั้งที่ผมไม่แปลกใจ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่รู้จักวิคเตอร์ และอีกครั้งที่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเมื่อภาพยนตร์ของเขาออกฉายเมื่อไหร่ จะต้องมีคนเก็ทหน้าวิคเตอร์เร็วมากขึ้น
   

“เอ่อ แฟนแมทเอง” พี่เอกอ้าปากค้าง สีหน้ามีแววอึ้งนิดๆ ผมยิ้มแหะๆ แล้วหันไปรับไอติมจากพนักงาน สะกิดวิคเตอร์แล้วแบมือขอเงิน
   

“How much?” ผมชูนิ้วห้านิ้วเป็นสัญญาณบอกว่าห้าสิบบาท แต่ไอ้ยักษ์กลับยื่นแบงค์สีม่วงที่มีราคาห้าร้อยบาทมาให้ผมแทน
   

“No. Fifty baht.” เขาขมวดคิ้วงง คงไม่เข้าใจว่าแบงค์ห้าสิบคืออันไหน วิคเตอร์ยังไม่คุ้นกับเงินบาทไทยทุกแบงค์ ทุกเหรียญ เขาจำแค่แบงค์ร้อยขึ้นไปเท่านั้น ผมเลยต้องล้วงหยิบกระเป๋าตังค์ตัวเองที่เขาเก็บเอาไว้ให้ออกมา หาแบงค์ห้าสิบหรือไม่ก็แบงค์ยี่สิบกับเหรียญสิบเอง แต่ท้ายที่สุดผมเจอเหรียญสิบห้าเหรียญเลยใช้อันนั้นจ่ายพนักงานไป แล้วรับถ้วยไอติมมาถือไว้ในมือ
   

“กลับก่อนนะพี่เอก” ผมหันไปยิ้มให้กับพี่เอกที่หายอึ้งทึ่งแล้ว เมื่อกี้คงทึ่งสินะที่ผมหาแฟนหล่อได้เกินหนังหน้าตัวเอง เขายิ้มกลับมาให้แล้วผงกหัวมาให้ทั้งผมและวิคเตอร์ แต่ไอ้ยักษ์กลับทำเฉย จนผมต้องรีบผงกหัวรับแทน ส่วนพี่ผู้หญิงมองวิคเตอร์แล้วขมวดคิ้วนิดหน่อย
   

“หน้าแฟนน้องเขาเหมือนดาราที่เขาชอบเลยอ่ะเอก” ผมได้ยินเสียงพูดของพี่ผู้หญิงแว่วๆ ตอนที่เรากำลังเดินผ่านเขาทั้งสองคนไป
   

ถ้าพี่ชอบซีรีส์ The Secret Of Darkness ที่มีพระเอกชื่อวิคเตอร์ เรย์มอนด์แสดงนำ ก็นั่นแหละพี่ คนเดียวกับที่พี่ชอบ


 :katai1:


ไอ้ยักษ์เตรียมพบหมอเร็วๆ นี้แล้วละค่าาา อารมณ์ลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งผัวทั้งเมียเลยช่วงนี้ เป็นช่วงเวลายุ่งเหยิงในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน แต่แน่นอนว่ามันต้องค่อยๆ คลี่คลายกันไป มันไม่อยู่ในสภาพนี้ยาวนานหรอกแน้คะ แมทเองก็ยังสับสนว่าตัวเองทนอยู่หรืออยู่ทน คือทั้งสองคนเพิ่งเริ่มต้นความสัมพันธ์มันเลยอาจจะยังงึกๆ งักๆ เดินๆ อยู่ก็สะดุดเกือบหน้าทิ่ม ใช่ว่าคบกันแล้วมันจะราบรื่นไปหมดเนาะ -.,- สุขทุกข์สลับกันไป เพียงแต่ตอนนี้ทุกข์มันยังลอยอบอวลรอบๆ ตัวเขาสองคนอยู่ รอแสงอาทิตย์มาสาดส่องให้หมอกควันสีเทาของพวกเขาสองคนหายไปปปป

อ้อ แจ้งไว้ เผื่อมีใครสนใจ หนังสือ พี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน รอบรีปริ้นครั้งที่ 2 รอบเก็บตกตอนนี้เหลือ 12 ชุดค่ะ 12 ชุดนี่คือใครโอนเงินมาก่อน ตอมก็จัดส่งให้เลยค่ะ ไม่ได้มีการจองใดๆ ก่อน หากใครสนใจก็ติดต่อตอมได้ที่ข้อความเพจหรือทวิตเตอร์ สำหรับรอบโอนเงินตอมจัดส่งให้ไปหมดแล้วนะคะ มีอยู่สองชุดที่ยังไม่ได้ส่ง เพราะยังไม่ได้แจ้งชื่อกับที่อยู่และยังโอนเงินค่าจัดส่งมาค่า สำหรับหนังสือพาร์ท Only You ตอนแรกจะให้ลงชื่อสองสามวันนี้ แต่ตอมคิดว่ารอให้รายละเอียดหนังสือมันนิ่งก่อนดีกว่าค่ะ จะได้แจ้งชัดเจนว่ามีจำนวนกี่หน้า ตอนพิเศษไม่ลงเว็บกี่ตอนชัวร์ๆ ตอนหลักจบตอนที่เท่าไหร่ อะไรแบบนี้ค่ะ ขอเวลาอีกสักแปบบบ สำหรับใครที่บอกตอมว่ากำเงินไว้เพื่อรอซื้อหนังสือพาร์ทสองของพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน กำไว้ก่อนๆ อย่าเพิ่งปล่อย แต่ตอนพิเศษที่จะมีในเล่มแบบคร่าวๆ นะคะ ก็จะมีตอนที่ เขยฝรั่งปะทะกับพ่อตา, มีหนุ่มใหม่มาเป็นคู่แข่งไอ้ยักษ์, ไอ้ยักษ์อ้อนเมียตอนเมา มีอีกนะคะ มีราวๆ แปดตอน เดี๋ยวพอต้นฉบับปิดจริงๆ แล้ว จะแจ้งให้ทราบจ้า

ใครเจอคำผิดแจ้งได้เลยนะค้าาา (ตอนที่แล้วยังไม่ได้แก้เลย 55555) เดี๋ยวตามแก้ให้ถูกต้องจ้าาา

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 65%}:18.03.59:
«ตอบ #1079 เมื่อ18-03-2016 23:34:08 »

 :pig4: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด