:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 808837 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1110 เมื่อ22-03-2016 19:02:37 »

ความคิดเป็นอะไรที่ห้ามไม่ได้ถึงจะอยากเลิกคิดเลิกฝังใจยังไงก็ไม่มีทาง
ยิ่งถ้าวิคกับอันจะต้องมาถ่ายแบบด้วยกันแมทยังไงก็ต้องคิดไปเองอีกอยู่ดี :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1111 เมื่อ22-03-2016 21:25:49 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1112 เมื่อ22-03-2016 22:16:13 »

 :mew1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1113 เมื่อ22-03-2016 22:27:09 »

ปรึกษาหมอเลยคะทั้งคู่เลย...แมทก็มีภาพจำแต่เรื่องไม่มี วิกเตอร์ก็โหยหาความรัก คือแบบตอนนี้ต่างคนต่างมีภาพในหัวต่างกันจูนกันไม่ติดสักที

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1114 เมื่อ22-03-2016 22:58:41 »

แมทใจเย็น ผ่านมันไปให้ได้ วิคพูดถูกไม่มีใครรู้ว่าจะรักกันไปถึงเมื่อไร ฝรั่งหล่อมากค่ะตอนนี้

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1115 เมื่อ22-03-2016 23:09:45 »

อันเดรียนาพักอยู่โรงแรมไหน จะไปตบ อุ่ย 555555555

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1116 เมื่อ23-03-2016 13:12:02 »

 :mew2:เราเข้าใจแมทน่ะว่าต้องสับสนและขาดความเชื่อมั่นในตัววิคเตอร์ หลายๆอย่างประกอบกันน่ะ อยู่ก้อทุกข์เลิกก้อเจ็บปวด แล้วตัววิคยังเป็นดาราอีก ไหนจะข่าวสารพัดโถมเข้ามา ยังไงคงต้องสู้ อดทนและเรียนรู้กันไปน่ะ อย่าท้อเสียก่อน ได้เจอคนที่รักเราและเราก้อรักเขาต้องพยายามต่อสู้กันก่อนน่ะ ส่วนวิคคงต้องลดดีกรีความใจร้อนและเอาแต่ใจตัวเองลงน่ะ การขอโทษและยอมรับผิดเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าไม่เรียนรู้หรือทำบ่อยๆมันก้อคงไม่ใช่น่ะ :mew2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1117 เมื่อ23-03-2016 13:32:34 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1118 เมื่อ23-03-2016 17:15:55 »

หลังจากนี้เรืรองคงจะดีขึ้นให้สมกับปาร์ตี้ที่กำลังจะเกิดใช่ไหม

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1119 เมื่อ23-03-2016 20:02:28 »

ไม่มีใครหน้าไหนที่คิดจะมาทำร้ายจิตใจเรา
ได้แย่ที่สุดไปกว่าที่เราคิดทำร้ายตัวเอง

อยากเห็นว่าแมทเลิกคิดดูถูกตัวเองซักที
ไม่ยังงั้น..ชีวิตทั้งชีวิตก็จะจมปลักอยู่ยังงั้น
จมติดอยู่กับที่..หลุมกับดัก
ตัวเองขุดฝังกลบ ไม่ยอมออกมาจากมัน

+1 ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
« ตอบ #1119 เมื่อ: 23-03-2016 20:02:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1120 เมื่อ23-03-2016 21:57:04 »

ยังเชียร์ให้ทั้งคู่เดินหน้า แต่ที่มีต้องการมากเลย คือต้องเข้าใจและให้เกียรติกันและกันเยอะๆเน้อ

ออฟไลน์ frainnee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1121 เมื่อ23-03-2016 23:40:52 »

มีความลูป ความสัมพันธ์มีแต่ย่ำอยู่กับที่และถอยหลังลงคลอง คนที่จิตก็จิตไป คนปกติก็จิตตามไปอีก  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1122 เมื่อ23-03-2016 23:55:33 »

จริงๆแล้วนางต้องไปหาหมอทั้งคู่อ่ะ
อารมณ์ไม่คงที่ทั้งคู่เลยย

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1123 เมื่อ24-03-2016 01:13:54 »

กลายเป็นว่าตอนนี้แมทอาการหนักกว่าวิคอีก :katai1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.32 100%}:22.03.59:
«ตอบ #1124 เมื่อ25-03-2016 02:15:47 »

หนักทั้งคู่

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1125 เมื่อ25-03-2016 22:17:21 »




Only You EP.33 :: Happily Festival. [50%]



Happy Christmas-Birth Day To Little Alien-New Year!

   

ผมมองตัวอักษรหลากสี ที่มีทุกสียกเว้นสีขาวกับสีดำ ห้อยเรียงกันด้วยเชือกป่านเส้นเล็กๆ และถูกนำไปติดอยู่บนผนังหินอ่อนฝั่งขวามือเวลานั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นของอพาร์ทเม้นต์ ป้ายเดียวแต่สามงาน สุดจะคุ้ม วิคเตอร์เคลียร์พื้นที่ตรงนั้นสำหรับวางต้นคริสมาสต์สูงเท่าตัวผมที่มีของประดับประดาอยู่บนนั้นจนแทบจะล้น ที่โดดเด่นสุดบนต้นก็คือดวงดาวสีทองบนยอดต้นนั่นเอง บนพื้นด้านล่างปูพรมขนเฟลอร์สีขาวเอาไว้ แล้วก็มีอุปกรณ์ตกแต่งจำพวกดาวเล็กดาวน้อย ลูกบอลสีหลายๆ สี ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ ตุ๊กตากวางเรนเดียร์ที่กำลังลากตุ๊กตาซานตาครอสที่นั่งอยู่บนเกวียน วางอยู่บนพรมอีกที


ยังมีกล่องของขวัญหลากสีที่ไม่ได้มีแค่กล่องอย่างเดียว มันมีของขวัญจากวิคเตอร์อยู่ในนั้นจริงๆ แล้วคือมีอยู่เป็นสิบกล่อง ไม่รู้ว่าซื้ออะไรมานักหนา เขาให้ออสตินไปหาซื้อมาให้ก่อนหน้านั้นแล้ว พอถึงวันคริสมาสต์ พวกบอดี้การ์ดก็หอบเอามาวางตกแต่งคู่กับของตกแต่งอื่นๆ ที่ผมวางๆ ไว้ แต่ในนั้นมีของขวัญวันเกิดของผมจากเพื่อนๆ วิคเตอร์ด้วย มันก็เลยดูล้น ดูเยอะเข้าไปอีก เขาเอามาวางๆ กันไว้ก่อน ผมจะมีสิทธิ์แกะคือวันพรุ่งนี้ จะว่าไปพอกล่องมันสะท้อนกับแสงไฟกระพริบบนต้น (สน) คริสมาสต์ มันก็ดูสวยดีนะ


 ผมนั่งตกแต่งกับบาสที่ตามมาดึกๆ เมื่อวานนี้ ส่วนพวกวิคเตอร์ช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว พูดคุยกันเสียงดังด้วยความสนุกสนาน ส่วนผมก็ครีเอทตกแต่งต้นสนที่พวกพี่การ์ดดั้นด้นหามาให้จากสวนสักที่หนึ่ง ใส่กระถางมาให้เลย ผมลองถามเจ้าของสวนที่ขับเอาต้นไม้มาส่งให้ว่าเก็บไว้ปลูกต่อไปได้มั้ย เขาบอกว่าถ้าปลูกในสวนที่บ้านน่ะพอได้ แต่ถ้าปลูกบนห้องพักแบบนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะ ผมเลยกะว่าพ้นปีใหม่ไป จะเอาต้นสนต้นนี้ไปปลูกที่หลังบ้านตัวเอง


“เออ แมท ไอ้เอิร์ทมันฝากมาแฮปปี้เบิร์ทเดย์ มันอยากเจอแมทนะ” บาสกระซิบกับผมสองคนตรงมุมต้นคริสมาสต์ (ในมโน) สายตาก็เหลือบไปมองวิคเตอร์ที่กำลังยืนดื่มไวน์แดงกับพวกเพื่อนๆ ตรงบาร์ของครัวไปด้วยและทำอาหารเพิ่มเติมจากเมื่อวานไปด้วย จริงๆ ไม่ต้องกระซิบก็ได้ เพราะในห้องเปิดเพลงคลอไปด้วยเบาๆ แต่คงเพราะเรากำลังพูดเรื่องชายอื่นใต้จมูกวิคเตอร์ เลยต้องทำท่ากระซิบกระซาบกัน


 ผมแยกตัวออกมานั่งตรงนี้ก็เพราะว่าอยากชื่นชมผลงานการจัดแต่งต้นคริสมาสต์ของตัวเองกับบาส และผมรู้สึกชอบมุมนี้เพราะมันมีแสงสีวิบวับดี นั่งอยู่สักพักบาสก็ตามมานั่งลงข้างๆ นี่แหละ


“แล้วเอิร์ทเป็นไงบ้าง” ผมกระซิบถามกลับพลางยกโค้กขึ้นมาดื่มเนียนๆ แอบเห็นวิคเตอร์เหลือบมามองทางนี้แวบๆ แต่ก็ทำเป็นไม่เห็นไปก่อน 


“เห็นมันทำงานเยอะนะ ใกล้จบก็แบบนี้แหละ” ผมพยักหน้าเบาๆ นึกๆ ไปก็ไม่ได้นานอะไรมากที่เพิ่งเจอกับเอิร์ทไปที่หน้าผับคราวนั้น แต่คือเราไม่ได้ติดต่อกันเลย มันเลยทำให้ดูห่างหายกันไปนาน คงเพราะงานเขาเยอะและตัวผมก็ถูกคุมอยู่แบบนี้ไง


“เอิร์ทว่างวันไหนล่ะ เดี๋ยวจะได้นัดเจอกัน” บาสเบิกตามองผมด้วยสายตาทึ่งและอมยิ้มน้อยๆ สายตาที่มองมานั้นผมตีความได้ว่าเขากำลังคิดว่าที่ผมพูดนั้นคือผมพูดจริงๆ ใช่มั้ย


“จะดีเร้อ รู้อยู่ว่าแฟนตัวเองเป็นคนยังไง”


“ก็แค่นัดเจอปกติ บาสก็…” ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ ก็พอดีกับที่วิคเตอร์เดินเข้ามาหา เขายกยิ้มมุมปากขวาน้อยๆ ให้บาส อีกฝ่ายยิ้มกลับไปก็พอดีกับที่คุณเบนเรียกให้บาสไปหาที่บาร์ ผมแหงนหน้าส่งยิ้มให้วิคเตอร์ เขานั่งลงบนพื้นกระเบื้องใกล้ๆ ผม ยกตัวผมขึ้นไปนั่งตัก แล้วก็หอมแก้มขวาผมไปที ผมยิ้มตอบกลับไป


“พรุ่งนี้ที่บอกว่าจะไปด้วย ฉันไม่ไปแล้วนะ” ผมมองเขาด้วยความประหลาดใจ พ่อยักษ์หน้าหนวดที่ยังมีผ้าก็อตสีขาวพันอยู่ที่แขนยิ้มอ่อนๆ กลับมาให้


“ทำไมล่ะ” ผมอดถามไม่ได้ ก็ตอนแรกทั้งดื้อ ทั้งยืนยันมั่นเหมาะว่าจะไปกับผมให้ได้ หัวเบี้ยวตีนขาดยังไงก็จะไปไม่ใช่เรอะ


“มีธุระต้องไปทำน่ะ” ผมย่นคิ้วนิดหน่อย วิคเตอร์มีธุระอะไรในประเทศไทยที่ต้องไปทำ ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขานัดกับอันเดรียนาไว้หรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากพูดให้บรรยากาศหมดสนุกเลยทำได้แต่พยักหน้ารับหงึกๆ เขาอาจจะไปทำธุระกับเพื่อนๆ เขาก็ได้ เพราะเพื่อนเขาก็อยู่นี่กันเยอะแยะนี่นะ


“ไม่ได้ไปหาอันเดรียนา” เขาพูดด้วยเสียงทุ้ม มองด้วยสายตาเหมือนรู้ทัน ผมยิ้มเพลียกับการจับผิดของเขา ซึ่งก็ดันจับถูกอีกต่างหาก


“ไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย” ผมตอบอ้อมแอ้ม ยกโค้กขึ้นดื่มหนึ่งอึก


“ฉันรู้ทันน่าเด็กน้อย” ผมแกล้งมองค้อน แล้วโน้มหน้าลงไปกัดไหล่เขาเบาๆ หนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ วิคเตอร์หัวเราะเสียงทุ้ม ก้มลงจูบกลางกระหม่อมผมกลับมา ก่อนที่เขาจะยื่นแขนไปหยิบกล่องของขวัญกล่องแบนๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ที่ห่อด้วยกระดาษแก้วสีน้ำเงินเข้มวาววับมาให้ผม


“แกะกล่องนี้ก่อนสิ” ผมเลิกคิ้วขึ้น เขาพยักหน้ายืนยันว่าให้ผมแกะ ผมวางแก้วน้ำลงบนพื้น หันมาจัดการแกะกระดาษห่อของขวัญวาววับที่สะท้อนกับแสงไฟกระพริบจากต้นสนอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ โดยมีสายตาวิคเตอร์คอยมองตามอิริยาบถผมอยู่ตลอดเวลา ผมหันไปยิ้ม เขายิ้มตอบกลับมา นั่งมองผมแกะของขวัญเหมือนเขากำลังเพลิน


ผมวางกระดาษลงบนพื้น ดึงฝากล่องสีขาวสะอาดตาออก พอเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผมก็ยิ้มกว้างเหมือนเด็ก หันไปมองหน้าพ่อยักษ์รูปหล่อที่ยิ้มกว้างตอบกลับมา


“You like it?”


“Very much!” ผมตอบเสียงกระตือรือร้น แล้วหยิบเจ้าสติชท์สีฟ้าขนฟูนุ่มนิ่มขึ้นมาจากกล่อง มันไม่ใช่แค่ตุ๊กตาธรรมดา แต่มันเป็นหมวกสามารถสวมลงบนหัวได้ รูปร่างมันก็เป็นเจ้าสติชท์ที่ผมชอบนั่นแหละ แต่มันใส่แทนหมวกได้ด้วย แต่ผมก็คิดว่ามันคงกันแดดไม่ได้นะ ถ้าใส่เอาความน่ารักน่ะได้อยู่


“Put it on your head.” ผมยิ้มแก้มอิ่ม ยกเจ้าสติชท์ปากกว้างที่กางมือกางเล็บออกราวกับทำท่าข่มแต่มันกลับน่ารักมากต่างหากขึ้นมาสวมหัวไว้เหมือนหมวก วิคเตอร์ช่วยผมจัดระเบียบหมวกให้ดี พอช่วยผมใส่เสร็จเขาก็มองผมแล้วคลี่ยิ้มหล่อ


“Lovely.” ผมยิ้มเขินๆ วิคเตอร์ยื่นหน้ามาจุ๊บหน้าผากผม


“กล่องอื่นๆ แกะตอนนี้เลยได้มั้ย” ผมถามพลางหันไปเมียงมองกล่องของขวัญที่กองอยู่ใต้ต้นคริสมาสต์อีกมากมาย


“ใจเย็น ไปกินอาหารเย็นก่อนเถอะตอนนี้น่ะ เดี๋ยวนายก็ต้องกลับไปนอนบ้านนี่” ผมหันกลับมามองเขา แล้วพยักหน้าเอ๋อๆ เกือบลืมไปแล้วว่าต้องกลับไปนอนบ้านคืนนี้ เพราะพรุ่งนี้เช้าผมต้องไปทำบุญกับพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมทำทุกปีในวันเกิด


เราสองคนลุกขึ้นเดินไปที่ครัวที่คุณเอมิลี่กับคนอื่นๆ กำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร บนนั้นมีอาหารหลายอย่างมาก มีพิซซ่าทำมือ โดยฝีมือของเอริคที่เคยไปเรียนมาตอนเขาไปเที่ยวอิตาลีเมื่อสองเดือนก่อน กลิ่นหอมมาก ผมไม่รู้ว่าหอมอะไร เพราะนอกจากพิซซ่าแล้วยังมีไก่งวงอบซึ่งเป็นไฮไลท์ของวันคริสมาสต์ สปาเก็ตตี้ซอสเห็ด ปูนึ่งสีส้มน่ากิน แล้วยังกุ้งเผาที่เหลือจากวันก่อน มีของหวานจำพวกเค้กช็อคโกแล็ต บราวนี่ ลูกอมเม็ดเอ็มแอนด์เอ็มที่เทใส่โหลแก้วเอาไว้เพิ่มความเก๋ไก๋ มีต้นคริสมาสต์สตรอว์เบอร์รี่ด้วย น่ารักและน่าทานมาก


“อาหารมื้อนี้ก็คือมื้อนี้นะ พรุ่งนี้วันพิเศษของแมท เราจะทำใหม่” คุณเอมิลี่บอกด้วยรอยยิ้มพลางเทไวน์แดงใส่แก้วให้กับทุกคน เธอมองหมวกสติชท์บนหัวผมแล้วอมยิ้ม คนอื่นๆ ก็เช่นกัน มองมาที่ผมใส่หมวกแล้วยิ้มกันใหญ่จนผมยิ้มเขินทำตัวไม่ถูก


“ใครก็ได้ไปตามออสตินมาทานอาหารด้วยกันหน่อยสิ อ้อ แล้วพวกบอดี้การ์ดคนไทยล่ะวิคเตอร์” คุณเอมิลี่หันมาถามวิคเตอร์ก็พอดีกับที่อันเดรเดินออกไปตามออสตินด้วยตัวเอง วิคเตอร์จิ้มสเต็กพอร์คช็อปใส่จานตัวเองแล้วตอบ


“ฉันชวนแล้ว แต่เขาขอกลับไปฉลองกับที่บ้าน ฉันเลยให้หยุดยาวไปถึงปีหน้าเลย” คุณเอมิลี่ทำหน้าว่าอ้อ แล้วหั่นไก่งวงตรงช่วงน่องไปใส่จานตัวเอง คนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยตักนั่นตักนี่ไปทานกัน มีเสียงพูดคุยแผ่วๆ ดังคลอร่วมไปกับบรรยากาศทานอาหาร


“ออสติน มากินด้วยกันเร็ว” พ่อหัวเกรียนยกยิ้มเพียงนิด แล้วนั่งลงตรงหัวโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับคุณเอมิลี่อีกฝั่ง โต๊ะอาหารที่ห้องก็ไม่ได้ว่าเล็กมากอะไร แต่พอเจออาหารมื้อนี้เข้าไป ผมว่ามันก็ดูแคบๆ ไปเหมือนกัน


“เอาไก่มั้ย” วิคเตอร์หันมาถาม ทำท่าจะเอื้อมแขนไปหั่นไก่มาให้ผม


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมดูแลตัวเองได้” เขาทำท่าคิดนิดหนึ่ง แล้วก็พยักหน้า ก่อนจะหันไปตักอาหารใส่จานตัวเองต่อไป


“เฮ้ แล้วเราไม่ต้องขอบคุณพระเจ้าก่อนเหรอ” อันเดรขมวดคิ้วนิดๆ สอดสายตามองไปรอบโต๊ะ ทุกคนมองกันอย่างเลิ่กลั่ก ก็ในปากแต่ละคนกำลังเคี้ยวอาหารกันคนละอย่างสองอย่าง แม้กระทั่งตัวคนพูดเองก็เถอะ ปีกไก่คาอยู่ที่ปากอยู่เลย ที่ตลกสุดคงเป็นบาสที่กำลังสูดสปาร์เก็ตตี้เข้าปากแล้วดันต้องชะงักค้างเอาไว้


“ขอบคุณในใจแล้วกัน” คุณเบนตัดบท แล้วนั่นก็เลยทำให้ทุกคนหัวเราะขำ แล้วก็จัดการยัดอาหารเข้าปากกันต่อ คิดว่าพระเจ้าคงไม่เคืองหรอกนะ คุณเอมิลี่จิบไวน์หนึ่งอึกแล้วลุกไปหยิบหมวกวันคริสมาสต์ที่วางอยู่บนเค้าน์เตอร์ครัวด้านในมาแจกทุกคนยกเว้นผม


“เธอมีแล้ว” เธอบอกยิ้มๆ และชี้ไปที่บนหัวผม ทุกคนสวมหมวกคริสมาสต์ ผมมองทุกคนแล้วก็ยิ้มออกมา โดยเฉพาะออสตินที่หน้านิ่งๆ ดุๆ ของเขานั้นไม่เข้ากับหมวกน่ารักๆ แบบนี้เลย แต่มันก็ทำให้หน้าเขาซอฟต์ขึ้นนะ ส่วนคนข้างๆ ผม เอ่อ ไม่ใช่เอริคนะ อีกข้างต่างหาก พ่อหน้ายักษ์ใส่หมวกซานต้าแล้วน่ารักมากเลย เห็นแฟนตัวเองรู้สึกมันเขี้ยวแฮะ อยากขย้ำหนวดเขาจัง แต่ที่ทำได้คือยิ้มให้กันเท่านั้น แล้วหันกลับไปบนโต๊ะต่อ อันเดรชูแก้วไวน์ขึ้นมาตรงหน้า แล้วพูดเสียงดังแข่งกับเสียงเพลงฮิปฮอป


“Happy Christmas!” ทุกคนชูแก้วแล้วตอบรับประโยคเดียวกันพร้อมกันด้วยเสียงใสๆ ที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม


เป็นอีกหนึ่งวัน อีกหนึ่งเทศกาลที่ผมชอบมาก และปีนี้มันก็สนุกมากขึ้น เพราะผมมีผู้ชายหน้ายักษ์อยู่ข้างๆ แม้ระหว่างเราจะยังคงขาดแหว่งทางความรู้สึกต่อกันอยู่บ้างก็ตาม





เช้าวันต่อมา ผมตื่นแต่เช้ามืด เพื่อมาช่วยแม่ทำอาหารสำหรับไปทำบุญ ปกติผมก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นเยอะนักหรอก คอยช่วยแม่ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตามที่แม่สั่ง แต่หลังจากไปฝึกงานกับวิคเตอร์มา สกิลการทำอาหารของผมก็มากขึ้น แต่ก็ยังไม่เก่งเท่าแม่อยู่ดี บางอย่างที่เครื่องปรุงมันซับซ้อนไป ผมก็ไม่กล้าแตะ กลัวพระอาจารย์ฉันท์แล้วท่านจะเบือนหน้าหนี



“แค่นี้ก็อิ่มท้องเวลาพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านแล้วละ” แม่บอกเหมือนจะชม แต่ก็ไม่ถึงขั้นชมโต้งๆ ผมยิ้มนิดหน่อย ยืนมองต้มไก่น้ำดำที่ผมทำเองโดยมีแม่คอยกำกับอยู่ข้างๆ พอชิมรสชาติแล้วก็ต้องบอกว่าพระอาจารย์ท่านไม่น่าจะเบือนหน้าหนีแต่อย่างใด


เราช่วยกันทำอาหารเสร็จตอนหกโมงเช้า พ่อกลับเข้ามาในบ้านหลังจากออกไปหาซื้อขนมหวาน พวงมาลัย ดอกไม้ ผลไม้ที่ตลาดสดตอนเช้ามาให้ ผมขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปสะอาดตากับกางเกงขาสั้นสีครีม ไปวัดก็ต้องทำตัวให้พาสเทลๆ เข้าไว้เพราะจะได้ดูซอฟต์ ผมตรวจเช็กสภาพร่างกายตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ซึ่งสามารถนำไปเข้าฉากในเรื่องสโนว์ไวท์ที่แม่มดใจร้ายเอาไว้ถามว่าใครงามเลิศในปฐพี แต่ในห้องผม ถ้าเกิดลองถาม มันคงตอบว่าไม่ใช่มึงหรอก


ผมหยิบนาฬิกาข้อมือที่วิคเตอร์ซื้อให้ขึ้นมาใส่ไว้ที่ข้อมือซ้าย แรกๆ ไม่ค่อยชินหรอก แต่พอถูกบังคับให้ใส่บ่อยๆ ผมเลยรู้สึกชินไปเอง เป็นต้องหยิบขึ้นมาใส่ทุกครั้งหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู มีข้อความจากวิคเตอร์ส่งมาสุขสันต์วันเกิดแค่นั้นสั้นๆ อดจะเฟลนิดหน่อยไม่ได้ ข้อความมานิดเดียวเอง พิมพ์ยาวกว่านี้ไม่ได้รึไงล่ะ แถมไม่ได้ส่งมาเป็นคนแรกด้วย คนแรกที่ส่งมากลายเป็นข้อความจากธนาคารซะนี่


เมื่อคืนวิคเตอร์ดื่มกับเพื่อนๆ จนหน้าแดง เขาไม่ได้เมามาก อย่างน้อยก็ไม่เมาเท่าวันที่บังคับผมมีอะไรด้วยหรอก เขายังมีสติ สติแบบที่สตรองไม่โดนน้ำเมากลบจนมิด ยังกอดผมได้ และยังคงรับน้ำหนักผมไหวตอนที่อุ้มผมขึ้นไปนั่งบนตัก ประมาณสามทุ่มเขาก็ขับรถมาส่งผมที่บ้านโดยมีบาสนั่งมาเป็นเพื่อน เนื่องจากเดี๋ยวเขากลับไม่ถูก จะให้ออสตินมาด้วยเขาก็กำลังคุยสนุกอยู่กับพวกคุณเบน วิคเตอร์เลยไม่อยากขัด พอมาส่งผมหน้าบ้านแล้วก็ยังไม่ยอมพูดแฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้อีก เขาก็บอกผมแล้วแหละว่ามันยังไม่เที่ยงคืน ไว้เขาจะส่งข้อความมาบอกอีกที แต่สงสัยจะเมาหนัก เลยโดนข้อความธนาคารแซงซะได้ โถ่ ไอ้ยักษ์


ผมเดินลงมาข้างล่างบ้าน ช่วยพ่อกับแม่ขนของไปขึ้นรถ พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย พ่อก็ขับรถออกจากบ้าน ตรงไปตามทางไปวัดอย่างคุ้นเคย ผมนั่งอยู่ด้านหลังคนเดียว กดเช็กโซเชียลไปเรื่อย เมื่อก่อน เอางี้ดีกว่า ปีก่อน คนก็มาแฮปปี้เบิร์ทเดย์ผมกันตามปกตินั่นแหละ เพียงแค่ว่าหน้าวอลผมจะฮ็อตมาก ซึ่งผมเชื่อว่าหน้าวอลเฟซบุ๊คของทุกคนที่ไม่เคยฮ็อตคุณจะเป็นสาวฮ็อตหนุ่มฮ็อตขึ้นมาทันทีเมื่อถึงวันเกิด เพราะทุกคนจะแห่มาอวยพรกันอย่างล้นหลาม และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ปีนี้ผมรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าปีก่อนๆ


คนติดตามผมในเฟซบุ๊คเยอะมาก จริงๆ มีคนแอดมาหาผมเป็นพันๆ คน แต่ผมรับทั้งหมดไม่ได้ หลายๆ คนเลยเลือกกดติดตามผมไว้แทน แต่ไม่ใช่ว่า โห พันนึงแอดมาพร้อมกันวันสองวัน ไม่ใช่แบบนั้น มันสะสมเรื่อยๆ จนกระทั่งเยอะขนาดนี้ นี่ถ้าแปลงเป็นเงินได้ผมคงรวยพอสมควร ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ปวดสมอง เป็นเพราะวิคเตอร์นั่นแหละ ตั้งแต่มีข่าวระแคะระคายว่าผมกับเขาคบกัน ผมก็เริ่มกลายเป็นที่สนใจมากขึ้น เฟซบุ๊คผมฮ็อตมาก อัพสถานะอะไร อัพรูปไหน เช็กอินอะไร มีคนกดไลค์ให้เป็นร้อยๆ คนตล๊อด ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนห้าสิบคนนี่ยังยากเล้ย ถ้าไม่ใช่สถานะเก๋ไก๋อย่างเช่นอัพว่าอยู่นิวยอร์กอะไรแบบนั้น อินสตาแกรมผมก็มีคนติดตามเพิ่มเติมขึ้นเยอะมากจนน่าตกใจ ที่สำคัญคือผมโดนแท็กจากแฟนคลับวิคเตอร์เยอะมาก แท็กแซะบ้าง แท็กชมบ้าง สลับๆ กันไป


นี่ขนาดยังไม่มีการยืนยันว่าผมกับเขาคบกันจริงๆ นะ ถ้าเกิดวิคเตอร์ยืนยันขึ้นมา ผมว่ากระแสคงแรงกว่านี้ ซึ่งจริงๆ ทุกวันนี้มันก็ไม่ได้กระแสรุนแรงอะไรหรอก เป็นเพราะว่าผมเงียบ วิคเตอร์เงียบ ค่ายหนังเงียบ โฆษกส่วนตัววิคเตอร์เงียบ นักข่าวเลยเล่นอะไรมากไม่ได้ แล้วเวลาวิคเตอร์มาหาผม ก็ปิดข่าวโคตรจะดี ฉะนั้นคนฝั่งจะวันตกจะรับรู้เรื่องผมกับเขาน้อยมาก แต่น้องๆ แฟนคลับที่ไทยจะรู้มากกว่าใครหน่อย และน้องๆ ก็น่ารักมากที่ไม่ได้ป่าวประกาศเรื่องผมโจ่งแจ้ง เพราะผมขอไว้ มีสื่อไทยพยายามขุดคุ้ยเรื่องผมกับวิคเตอร์ แถมยังเล่นข่าวแรงๆ มากมาย ลิงก์ข่าวเรื่องผมกับวิคเตอร์จะมีให้เห็นเรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยมาก เพราะมันยังหาเนื้อหาหลักๆ ไม่เจอ แต่ที่เจอคือบางสำนักใช้คำแรงมาก และคนเสพข่าวหลายคนก็ใช้คำแรงมากอีกเช่นกัน ผมเลยตัดปัญหาด้วยการไม่ตามข่าว และพยายามไม่ยุ่งกับโซเชียลมากนัก อัพอะไรของตัวเองเสร็จคือปล่อยเลย กดตั้งค่าไว้ไม่ให้มีการแจ้งเตือน


“เสร็จแล้วเดี๋ยวแม่พาไปไถ่ชีวิตควาย แม่ไปคุยกับเจ้าของคอกเขาไว้แล้ว” แม่บอกผมในขณะที่เราถือของก้าวเท้าไปยังกุฏิพระอาจารย์ที่ผมเคยพาวิคเตอร์มาทำบุญครั้งก่อน


“กี่ตัวเหรอ”


“ห้า เขากำลังจะเอาไปฆ่า แม่ไปเจอพอดี แม่เลยบอกว่าวันนี้จะเอาเงินไปให้เขา”


“แล้วจะเอาน้องควายไปเก็บไว้ที่ไหน” ผมถามแม่พลางถอดรองเท้าไว้หน้ากุฏิ


“ลูกชายเพื่อนแม่เขาทำไร่ทำนา แล้วเขาก็เลี้ยงควายด้วย เลยว่าจะเอาไปฝากไว้กับเขา” ผมพยักหน้านิ่ง วางของลงบนพื้นแล้วช่วยพ่อกับแม่เทอาหารจากปิ่นโตใส่จานที่พระอาจารย์ท่านนำมาให้


“อ้าว วันนี้ไม่พาพี่ชายที่เป็นฝรั่งมาด้วยเหรอ” ผมเบิกตากว้างเล็กน้อย เม้มปากแน่น แทบจะหยุดหายใจ แล้วเงยหน้าขึ้นไปยิ้มละห้อยแห้งเหี่ยวให้พระอาจารย์ที่ยิ้มสดใสกลับมา หางตาเหลือบเห็นปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ที่หยุดชะงักแล้วมองสลับผมกับพระอาจารย์ด้วยสายตางงๆ


“เอ่อ ไม่ได้มาครับ แล้วก็ เขาเป็นเจ้านายแมทครับพระอาจารย์” จะโกหก จะแถอะไรต่อหน้าพระก็คงไม่เหมาะ ที่ทำได้คือพูดความจริงให้เบาที่สุด ให้เลี่ยงที่สุดก็แล้วกัน


“แมทเคยพาใครมา” พ่อถามเสียงห้วนหน่อยๆ แต่ไม่ได้ฟังแล้วระคายหูหรือเสียมารยาทอะไร คือนี่เป็นสไตล์ของพ่อผมอยู่แล้วน่ะ


“เจ้านายแมทไง” ผมทำเป็นหน้านิ่งแล้วจัดแจงอาหารใส่จานอย่างดีมีระเบียบ ทั้งที่จริงไม่ต้องจัดอะไรเยอะแยะนักหรอก อาหารมันไม่ได้แกะสลักมาสักหน่อย


“มาตอนไหน ทำไมไม่เห็นรู้เรื่อง” พ่อยังคงถามจี้ต่อ ผมกระตุกยิ้มแกนๆ เริ่มสติขาดๆ หายๆ แต่ก็ยังพยายามพูดต่อ


“เขาแวะมาเปลี่ยนเครื่องวันนึง แล้วเขาว่าง เขาเลยโทรตามให้แมทพาไปเที่ยว แมทไม่รู้จะพาไปไหนเลยพาเขามาทำบุญ” ยิ่งพูดยิ่งอยากร้องไห้ เพราะมันเป็นการแถที่แย่มาก เหมือนยิ่งพูดยิ่งหลุดออกจากความเป็นจริงไปเรื่อยๆ และถ้าพ่อยังขี้ถามอยู่ ผมว่าผมต้องโดนเขาจับได้แน่เลย


“ที่บอกว่าหายไปทำงาน ก็คือพาเขาไปเที่ยวด้วยน่ะเหรอ” แม่เริ่มขบวนการจี้ถามตามพ่อ ผมทำได้แค่ยิ้มเกร็งแล้วพยักหน้ารับเกร็งๆ ไม่แพ้รอยยิ้ม


“ก็ด้วย เอ่อ ใส่ซองเท่าไหร่แม่” ผมชวนเปลี่ยนเรื่องเนียนๆ ซึ่งบอกเลยว่าผมพลาดแล้วที่เปลี่ยนเรื่องเองแบบนี้ เพราะพ่อจ้องผมด้วยสายตาคาดคั้นมาก ผมทำได้เพียงทำตัวให้นิ่งเข้าไว้ แต่สุดท้ายแม่ก็ทะลายสถานการณ์ตรงหน้าลงด้วยการบอกจำนวนเงินที่จะใส่ซองกับผมเบาๆ แล้วเร่งให้พวกเราจัดการถวายอาหาร ข้าวของต่างๆ ให้แก่พระอาจารย์ จะได้รับศีลรับพร พระอาจารย์ท่านจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อ


ผมถวายอาหาร สังฆทาน ของใช้สำหรับพระบางอย่าง ดอกไม้และเงินใส่ซองให้กับพระอาจารย์เสร็จ ท่านก็ให้สวดมนต์ตาม ให้ผมกรวดน้ำ แล้วก็รับพร ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยการอวยพรวันเกิดให้ผม พอได้รับพรจากพระอาจารย์เสร็จ ผมก็หันไปกราบตักพ่อกับแม่เหมือนเดิมทุกปี


“เรื่องเรียนแม่ไม่ห่วง เพราะแมทจะจบแล้ว เรื่องงานก็คิดว่าไม่น่าห่วงเหมือนกัน งั้นแม่ขอให้แมทประสบความสำเร็จกับหน้าที่การงาน ตั้งใจทำอะไรแม่ก็ขอให้สำเร็จ มีสติเสมอ กับทุกๆ เรื่อง มีความสุขในชีวิตเยอะๆ นะลูกนะ แม่กับพ่อเป็นกำลังใจให้” แม่ลูบหัวผมเบาๆ ผมยกหัวตัวเองขึ้นจากตักแม่แล้วพูดสาธุดังๆ ก่อนจะหันไปก้มกราบตักพ่อ


“มีความสุขกับอายุที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีแล้วกัน จะทำอะไรก็คิดเยอะๆ ตัดสินใจดีๆ บางทีอะไรที่คิดว่าดี อาจไม่ดีก็ได้ มีสติเยอะๆ เข้าไว้ไม่ว่าจะทำอะไร” ผมแอบย่นคิ้ว รู้สึกตงิดใจกับคำอวยพรของพ่อ พ่อลูบหัวผมอีกสามทีแล้วพอ ผมเลยยกหัวขึ้นมาพูดสาธุ ตอนเอามือลงจากหน้าผา เราสองพ่อลูกสบตากัน พ่อมองด้วยสายตาเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็แค่จะ ไม่คิดพูดจริงๆ สุดท้ายผมเลยหันหน้าไปกราบพระอาจารย์แทน


เสร็จจากกุฏิพระอาจารย์ แม่ก็ให้พ่อพาขับรถไปคอกควายที่แม่บอกไว้ ตอนแรกผมคิดว่าอยู่ใกล้ๆ แต่เปล่าเลย อยู่ถึงสุพรรณบุรี เลยกลายเป็นว่าเราต้องนั่งรถต่อไปอีกสองเกือบสามชั่วโมง ผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรหรอก เพราะยังไงช่วงเช้าถึงหกโมงเย็น ผมกะอยู่กับพ่อกับแม่อยู่แล้ว หลังจากนั้นก็จะขออนุญาตไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ (และผัวที่ยังตึงๆ ใส่กันอยู่) ผมหยิบมือถือขึ้นมากดไลค์ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอวยพรวันเกิดผมในเฟซบุ๊ค ปีก่อนผมยังสามารถนั่งตอบกลับได้อยู่เลยเพราะข้อความไม่เยอะมาก แต่ปีนี้แค่กดไลค์อย่างเดียวก็ขออย่าว่ากันเลย เพราะเยอะมากจริงๆ ผมเลือกตอบเฉพาะคนที่รู้จักมักคุ้นกันเท่านั้น


แต่จะว่าไป พวกเพื่อนๆ ผมมันหายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่ได้จะทวงคำอวยพรจากพวกมันหรอก แค่ปกติพวกมันจะทยอยกันออกมาป่วนหน้าวอลเฟซบุ๊คของผมแล้ว โดยจะมีไอ้แชมป์กับไอวอร์มเป็นแกนนำ อาจเพราะยังเช้าอยู่มั้ง คงยังไม่ตื่นกัน ส่วนไอ้ยักษ์น่ะเหรอ หึ สงสัยหลับต่อแล้ว เงียบหายไปเลย หรือว่าหนีแอบไปหาชู้รักอันเดรียนาแล้วมั้ง ก็เธอยังอยู่ที่ไทยอยู่ ไม่ได้ไปไหน ผมไม่รู้หรอกว่าเธอพักที่ไหน หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้ถามถึงเธออีก ไม่ถาม แต่ผมก็คิดนะ แต่ไม่คิดเป็นวรรคเป็นเวรหรอก บางทีภาพที่เธอจูบกับวิคเตอร์ก็ชอบพุ่งเข้ามาในหัวตลอด มันไม่ง่ายเลยที่สลัดทิ้ง มันไม่ง่ายเลยที่จะทำใจให้ลืมๆ เรื่องนั้นไปซะ แต่ผมก็ต้องลืม หรือเรียกง่ายๆ ว่าต้องทำ เพราะผมไม่อยากให้วิคเตอร์แย่ลง


แล้วผมก็กลายเป็นคนที่ต้องรู้สึกแย่แทนไปซะอย่างนั้น ฮื่อ… แต่ตอนนี้ความรู้สึกผมดีขึ้นมาบ้างแล้วละ พยายามที่จะปัดไอ้ส่วนแย่ๆ ที่ยังเหลืออยู่ออกไปให้หมด


“ถึงแล้วแมท” ผมนั่งเล่นโทรศัพท์เพลินบวกกับคิดอะไรไหลไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจรอบข้างมากนัก วิวสองข้างทางก็มองผ่านๆ ตา แต่ไม่ได้จดจ่อกับมันมากเลยไม่รู้ว่าถึงไหนแล้วบ้าง รู้ตัวอีกทีว่าถึงแล้วก็ตอนแม่บอกนั่นแหละ ผมลงจากรถ สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำเอาผมรู้สึกตื้นตันใจแปลกๆ น้องควายห้าตัวตามที่แม่บอกยืนกินหญ้าเรียงกันอยู่ แล้วไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า ทั้งห้าตัวนั้นตอบรับการมาของพวกเราสามคนพ่อแม่ลูกด้วยการส่งเสียงฟึดฟัด แต่ไม่ใช่เสียงฟึดฟัดไล่ เหมือนพวกเขาดีใจ ดีใจจนน้ำใสๆ เอ่อคลอในดวงตาของพวกเขา


“สวัสดีครับ” ลุงแก่ๆ คนหนึ่ง ร่างสูงผอมคล้ำยกมือสวัสดีแม่ผมที่ยกมือตอบรับ ก่อนที่ลุงเขาจะหันไปยกมือไหว้พ่อผมอีกคน ผมเลยรีบยกมือไหว้ค้างไว้เพื่อรอสวัสดีเขา ลุงหันมาไหว้ผมอีกคนแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมแอบขมวดคิ้วนิดหน่อย รู้สึกไม่ค่อยชอบโหงวเฮ้งของลุงสักเท่าไหร่


“ค่ะ ฉันมาตามที่คุยกันไว้” แม่พูดแล้วมือก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าหนังสีดำทรงสี่เหลี่ยมที่คล้องแขนแม่เอาไว้ หยิบซองสีน้ำตาลบวมๆ สองซอกออกมา เดาว่าในนั้นคงเป็นเงิน แม่หันมายื่นให้ผม


“อะแมท ตั้งจิตอธิษฐานดีๆ” ผมพยักหน้าน้อยๆ รับซองเงินมาจากแม่ แล้วยกขึ้นเหนือหัว ตั้งจิตว่าขอปลดปล่อยชีวิตห้าชีวิตนี้ให้เป็นอิสระ แล้วขอให้สิ่งดีๆ ที่ผมทำในวันนี้ บันดาลเรื่องดีๆ เข้ามาในชีวิตครอบครัวผม ซึ่งรวมถึงวิคเตอร์ด้วย ให้สิ่งร้ายๆ ทุกอย่างจงอย่าทำอะไรเราได้ ให้ชีวิตพวกเรามีแต่ความสุข ถ้าทุกข์ก็ขอให้ทุกข์แปบเดียวแล้วผ่านไปด้วยความสุขที่มีมากกว่า


“นี่เท่าไหร่อะแม่” ผมถามแม่เสียงเบาหลังจากอธิษฐานเรียบร้อยแล้ว แม่ส่ายหัวเป็นทำนองว่าไม่ต้องไปใส่ใจกับจำนวนตัวเลข ถ้าให้ผมเดา ผมว่าหกหลักแน่ๆ เพราะมันแน่นมาก แล้วมีตั้งสองซองแบบนี้ด้วย


“นี่ค่ะ” แม่ยื่นซองไปให้คุณลุงผอมกะหร่องคนนั้น เขาคลี่ยิ้มน้อยๆ เป็นรอยยิ้มอิ่มใจ ตอนนั้นเองที่ผมปัดความไม่ชอบโหงวเฮ้งบนหน้าเขาออกไป เพราะเขาไม่ได้มีทีท่าว่าอยากจะขายน้องควายพวกนี้เพื่อหากินเท่าไหร่เลย


“ขอบคุณมากนะครับคุณ ผมเลี้ยงพวกมันมา ไม่ได้คิดอยากขายพวกมัน แต่ชีวิตผมก็เลือกมากไม่ได้หรอก” ลุงแกยิ้มเศร้าสร้อย เอื้อมมือขวาไปลูบหัวน้องควายมีเขายาวตัวหนึ่ง ผมเดินเข้าไปลูบหัวน้องควายเขาสั้นๆ ตัวหนึ่งที่อยู่ริมขวาสุด มันยื่นหน้าเขามาคลอเคลียกับมือผมเหมือนเป็นการอ้อน ผมยิ้มออกมา แล้วพลันน้ำตาก็ร่วงหล่นอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งเห็นแววตาที่ดีใจของพวกเขาทั้งห้าตัว ผมยิ่งรู้เลยว่าพวกเขาก็รักชีวิตของเขาพอๆ กับที่เรารักชีวิตของเรานั่นแหละ เขาคงดีใจที่มีคนมาช่วยเขาไว้ได้


“น้าดาสวัสดีครับ” เสียงทุ้มหนักๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังผม แต่ผมก็ยังคงลูบหัวน้องควายต่อไป ยื่นมือไปเกาคางน้องเบาๆ ด้วย


“อ้าว มาแล้ว น้าเพิ่งเคลียร์เสร็จพอดี แมท สวัสดีพี่เขาก่อน” ผมรีบเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วหันไปมองบุคคลมาใหม่ทั้งที่ยังมีหยาดน้ำตาติดอยู่ตรงขนตาเล็กๆ น้อยๆ


V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1126 เมื่อ25-03-2016 22:19:29 »

V
v
V

“นี่พี่แผ่นดิน หรือเรียกพี่กล้าก็ได้” ผมยกมือสวัสดีชายหนุ่มตัวสูง ตัวใหญ่ ผิวเข้มแต่เนียนไปทั้งหน้าและตัว หน้าตาหล่อมาก หล่อแบบหนุ่มไทยแท้ ผมว่าเขามาสไตล์เดียวกับเอิร์ทที่หล่อแบบไทย แต่พี่คนนี้เข้มกว่า คล้ำกว่า ล่ำกว่า แน่นกว่าเยอะ หนวดเคราที่หน้าก็ทำให้เขาดูโตมากด้วย ไม่ได้แก่นะ แต่เขาแลเป็นผู้ใหญ่ หน้าเข้มมาก แต่ตาพี่เขาหวานเป็นประกายเลยทำให้หน้าเบาลง


“สวัสดีครับพี่กล้า” พี่เขายกมือรับไหว้ผมแล้วยิ้มน้อยๆ ยิ่งทำให้ตาดูหวานมากขึ้น ผมยิ้มเก้อหน่อยๆ รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาซะงั้น ไอ้อาการโดนคนหล่อสตั๊นท์นี่จะทำยังไงให้หายไปนะ แต่ก็ไม่ได้ค้างเติ่งอะไรขนาดนั้น เพราะพี่เขาไม่มีรอยสัก ฮ่าๆๆ


“น้องแมทใช่มั้ย” เสียงเจนเทิลแมนมากเลยอะ เขามีหนวดแบบไอ้ยักษ์ แต่ผมว่าของไอ้ยักษ์ครึ้มกว่า เพราะหนวดของพี่กล้าไม่ได้กินพื้นที่แก้มมากมาย มีเคราที่ต่อจากจอนผมจางๆ จะมาเข้มตรงใต้จมูกที่เดียวมากกว่า


“ครับ” ผมยิ้มแหะไปให้พี่เขา อีกฝ่ายยิ้มคล้ายว่าจะเอ็นดูกลับมาให้ แวบหนึ่งผมเห็นสายตาของพ่อมองสลับผมกับพี่กล้า


“พอดีวันนี้วันเกิดน้อง น้าเลยพาเขามาทำบุญ แต่บ้านน้าไม่มีที่เก็บควาย ก็เลยโทรหาแม่เรา เขาเลยติดต่อกล้ามานั่นแหละ”


“ครับ ไม่มีปัญหา เดี่ยวผมพาไปอยู่บ้านผมเอง…” พี่กล้าเหลียวหลังไปมองตรงรถกระบะสีดำคันใหญ่ซึ่งจอดอยู่ข้างๆ กับรถบรรทุกขนาดใหญ่หนึ่งคัน


“…พวกมึง ลงมาพาควายไปขึ้นรถดิ๊!” ผมแอบสะดุ้งกับน้ำเสียงนั้นนิดหนึ่ง คือก็ไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดจ๊ะพูดจ๋าหรอก แต่พอเขาพูดฮาร์ดคอร์ขึ้นมาบอกเลยว่าเข้ากับหน้าพี่เขามาก


“น้าดาจะไปบ้านผมด้วยรึเปล่าครับ” แม่ทำหน้าครุ่นคิด พอหันไปมองพ่อ อีกฝ่ายก็ผายมือมาทางแม่เป็นการบอกว่าแล้วแต่ แม่เลยหันมาผม


“ว่าไงแมท ไปบ้านพี่กล้าเขาก่อนมั้ย” ผมอ้าปากหวอ ทำหน้าเหลอหลาจนพี่กล้าอมยิ้มขำ ผมยิ้มงงๆ หันไปมองลูกน้องของคุณพี่แผ่นดินที่กำลังช่วยกันจูงควายไปขึ้นรถ


“ไปเปล่าน้องแมท บ้านพี่มีคอกหมูด้วยนะ” ผมหันกลับไปมองเจ้าของเสียงกวนๆ คือเขาไม่ได้กวนผมหรอก แต่น้ำเสียงที่พี่แกชวนมันฟังดูกวนๆ อะ อาจเป็นสไตล์น้ำเสียงพี่แกละมั้ง แล้วไอ้คอกหมูที่บ้านพี่นี่มันมีดีอะไร


“ไป… ไปก็ได้ อยากเห็นที่อยู่ใหม่น้องควาย” ผมตอบรับแบบงงๆ แต่จริงๆ ก็อยากไปเห็นบ้านใหม่น้องควายเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่ว่าไถ่ชีวิตเขาเสร็จแล้วก็ไม่รับรู้อะไรต่อ


“เดี๋ยวน้าขับรถตามไปนะ”


“กล้า เอาน้องไปนั่งด้วยได้มั้ย” ผมที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถึงกับหุบยิ้มวืด คิ้วขมวดฉับทันที ส่งสายตาไม่เข้าใจมองไปที่พ่ออย่างแรงกล้า


“ได้ครับ ข้างหน้ายังว่าง ให้น้องไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ผมก็ได้” พี่กล้าว่าอย่างอารมณ์ดี พ่อกับแม่ยิ้ม นั่นยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจ โดยเฉพาะพ่อ


“เดี๋ยว รถเราก็มี ทำไมแมทจะต้องไปนั่งรถคนอื่น เอ่อ รถพี่เขาด้วย” ผมรีบแก้คำพูดตัวเอง เพราะอาจจะทำให้เกิดความห่างเหินขึ้นได้ ซึ่งถึงแม้ว่าผมไม่ได้คิดจะเขยิบความใกล้ชิดใดๆ แต่ผมก็ไม่อยากทำลายความรู้สึกคนฟัง ซึ่งก็อีกว่าเขาอาจไม่คิดอะไรเลย มีแต่ตูเนี่ยคิดมากไปเองอีกตามเคย


“ไปนั่งเถอะน่ะ นั่งชมวิวทิวทัศน์ไป อยู่กับพ่อกับแม่แล้วชอบเล่นแต่มือถือ ไปอยู่กับพี่เขาจะได้นั่งคุย นั่งมองวิวนอกทางบ้าง” ผมเบิกตากว้างมองพ่อด้วยความรู้สึกทึ่งหน่อยๆ นั่นคือเหตุผลของพ่อที่ให้ผมไปนั่งกับพี่เขาเนี่ยนะ


และสุดท้ายผมก็ต้องมานั่งรถกระบะคันใหญ่มหึมาของพี่กล้า รถพี่แกใหญ่กว่าของบ้านผมอีก ยกสี่ล้อสูงกว่าเดิมด้วย กระบะข้างหลังนั่นมีลูกน้องเขานั่งอยู่ห้าหกคน ส่วนด้านหน้านั้นโล่ง มีแค่ผมกับเขา


“พวกมึงคนไหนมีใครจะลงกลางทาง บอกกูดังๆ นะมึง”


“ครับเพ่!” ผมปั้นหน้ายิ้มอ่อนขึ้นมา เมื่อพี่ๆ เหล่านั้นส่งยิ้มจริงใจมาให้ ผมโค้งหัวลงเล็กน้อย แล้วเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ขึ้นไปนั่งตามพี่กล้า


“โทษที ทำรถสูงไปหน่อย” เขาแซวยิ้มๆ ผมยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป ก็ไม่ได้สูงมากป้ะวะพี่ เห็นผมพยายามปีนขึ้นหน่อยเลยคิดว่าผมนี่เตี้ยมากขนาดนั้นเลยรึ


“เรียนอยู่ปีไรละ” ผมว่าพี่กล้าแกอาจจะติดนิสัยคุยห้วน คุยห่ามนิดๆ มาจากลูกน้องละมั้ง เพราะคุยกับผมแกก็ไม่ได้ว่าอ่อนโยนเป็นพี่ชายที่แสนดี นี่คงเป็นสไตล์แกจริงๆ


“หลังปีใหม่ส่งโปรเจ็คต์ก็จบแล้วครับ”


“เฮ้ย พูดเพราะจัง”


“หือ ก็ปกตินะพี่” ผมหัวเราะน้อยๆ พี่กล้ายิ้มขำ คือผมว่าเป็นเพราะพี่แกพูดจาห่ามอย่างนั้นมากกว่า พอมาเจอคนสุภาพ (จ้า แม่คนสุภาพ) แบบผมเขาเลยไม่คุ้นหูอะสิ


“จบไปกะทำงานอะไรล่ะ” ผัวจะเลี้ยงครับ ถ้าตอบแบบนี้ไปพี่แกจะหันมาถีบผมรึเปล่า เพราะดูท่าทางแล้วแกแมนเต็มร้อยมาก แมนแบบ แมนมากๆ (พูดเสียงเน้นตรงคำว่ามาก) อาจจะเกลียดตุ๊ด เกลียดเกย์ก็เป็นได้


“ไปทำงานที่นิวยอร์กอะครับ…”


“…เฮ้ย จริง?! แม่งเจ๋งดีว่ะ ไปทำงานไร” เอ่อ พี่ ผมยังไม่ทันพูดจบเลย พูดแทรก แล้วยังพูดแบบห้วนห่ามอีก สไตล์พี่นี่ฮาร์ดคอร์กว่าผัวผมอีก


“เอ่อ ไปทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลังอะ พวกกองถ่ายอะไรแบบเนี้ย” ตอบอาชีพกลางๆ แบบนี้แหละดีที่สุด


“เอ้อ! ดีนะ แจ๋วๆ เอาพี่ไปเป็นดาราได้ป้ะ” ผมหัวเราะน้อยๆ แต่พี่กล้านี่สิหัวเราะดังมาก แต่ไม่ได้ดังน่าเกลียดนะ แต่ก็ทำเอาผมอ้าปากหวอกระพริบตาปริบๆ มองพี่แก แล้วนึกว่ามันต้องอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ ขำไป๊


“เอาจริง ผมว่าพี่เป็นได้นะ แต่ถ้าเข้าวงการที่ไทยคงรุ่งกว่าอะ เพราะพี่หน้าไทยมากเลย หล่อแบบผู้ชายไทยแท้ๆ อะพี่”


“เฮ้ย พี่หล่อเหรอ”


“อื้อ หล่อ” ผมพูดแบบไม่คิดอะไร พูดเหมือนตอนชมวิคเตอร์ครั้งแรกในห้องแต่งตัวตอนถ่ายแบบนั่นแหละ ก็คนเขาหล่อจริงๆ นี่หว่า จะให้พูดว่าไงอะ


“แม่งน้องตาถึงว่ะ!” เอ่อพี่ ไม่ต้องทุบพวงมาลัยแรงขนาดนั้นก็ได้ครับ


พี่กล้าชวนผมคุยไปตลอดทาง พี่แกคุยเก่งมาก ถ้าพ่ออยากให้ผมเลิกสนใจมือถือเพื่อมาคุยกับพี่กล้า ผมว่าได้ผล เพราะเราคุยกันไปตลอดทาง ไม่ได้คุยจับฉ่ายนะ คือเราจะมีประเด็นให้คุยระหว่างกัน อย่างเมื่อกี้คุยค้างไว้เรื่องวงการบันเทิง พี่แกก็ถามผมใหญ่ว่ามันเป็นยังไง ดีมั้ย ผมก็เล่าประสบการณ์ตอนไปฝึกงานในกองถ่ายหนังของไทยให้เขาฟัง แล้วก็เล่าประสบการณ์ในกองถ่ายซีรีส์ของเมืองนอกให้เขาฟัง พี่กล้าสนใจมาก แต่คุยไปคุยมาพี่แกไม่ใช่คอละครเลยแม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นดาราบางคนแกยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ


“วันๆ พี่ทำแต่งาน กลับจากงานก็เมื่อยแล้ว เมียไม่มีบางทียังต้องเหนื่อยชักว่าวอีก” ถ้ากำลังดื่มน้ำอยู่ ผมกล้าการันตีเลยว่าผมสำลักน้ำตายแน่ๆ แต่ในเมื่อไม่มีน้ำผมเลยอ้าปากกว้าง แต่ไม่ได้อึ้ง คือผมขำ พี่แกพูดตลกมาก ผมเลยหัวเราะออกมา


“เฮ้ย พี่พูดจริง ไม่ตลกนะ พี่แม่งเป็นผู้ชาย ความอยากก็มี แต่เมียไม่มีนี่สิ” แกทำหน้าว่าเสียดาย


“แล้วทำไมพี่ไม่หาอะ อายุพี่ก็สมควรแล้วป้ะ หน้าตาอย่างพี่ไม่น่าหายากนะ” พี่กล้ายิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มไม่ถึงกับเศร้าแต่ก็ไม่แฮปปี้เท่าไหร่


“ยังไม่เจอคนถูกใจ”


“หือ ไม่เจอคนถูกใจ หรือมีใครอยู่ในใจรึเปล่า” ผมแกล้งแซว พี่กล้าหันมายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผม


“แมทสนใจมาเป็นคนในใจพี่เปล่า มาช่วยพี่ชักหน่อยดิ” ผมอ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้ม แต่คิ้วขมวด พี่กล้าแกตลกดีแฮะ เป็นคนตรงๆ แต่ไม่ได้ขวานผ่าซากหรือหยาบคายอะไร อารมณ์ตรงแบบบ้านๆ ซื่อๆ เลย


“โวะ ทำเองมาตั้งนาน ก็ทำเองต่อไปสิพี่”


“เมื่อยแล้วอะ อยากหาคนมาช่วย เนี่ย เจอแมทแล้ว มาช่วยพี่ดิ” ผมส่ายหัวพลางหัวเราะออกมาเสียงดัง ขำมากจริง พี่กล้ายิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่หล่อมาก นี่ถ้าไม่อยู่ท้องไร่ท้องนานะ แฟนคลับเพียบ


ขับรถมาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ถึงบ้านของพี่กล้า เห็นครั้งแรกผมชอบมาก เป็นชนบทเหมือนในตำราเรียน เหมือนในคำสอนของในหลวงอะไรแบบนั้นเลย บ้านพี่กล้าเป็นบ้านไม้หลังใหญ่แบบคนรวยบ้านนอก ยกใต้ถุนสูง ด้านล่างไว้สำหรับนั่งเล่น นอนเล่น มีสวนกล้วยอยู่ข้างบ้าน มีสวนมะม่วงขนาดย่อมอยู่ใกล้ๆ กัน มีทุ่งนาอยู่ใกล้ๆ บ้าน มีต้นมะพร้าวอยู่ในเขตรั้วบ้าน มีบ่อปลาด้วย มีคอกควาย แล้วก็มีคอกหมูแบบที่แกบอก แต่ทุกอย่างไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กัน ติดกันนะ แบ่งเป็นสัดส่วน เป็นระเบียบมาก


โอ้โห กลิ่นอายท้องทุ่งเต็มเปี่ยมมาก อากาศก็บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ไม่หลอกลวงแบบโฆษณาของกรุงเทพฯ


“ชอบอะดิ๊ เนี่ย ถ้ามาเป็นเมียพี่ ได้อยู่อย่างนี้ทุกวันเลยนะ” พี่กล้าก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันสองคน ผมหันไปหัวเราะอารมณ์ดีใส่พี่เขา เพียงแค่เวลาจากคอกเก่าน้องควายมาบ้านเขา ก็ดูเหมือนเราจะสนิทกันไปแล้ว


“พ่อไปหาเพื่อน แม่ไม่อยู่ไม่แปลก ตอนนี้บ้านเลยโล่งครับ” พี่กล้าแจ้งกับแม่ผมที่ถามว่าทำไมบ้านเงียบๆ


พวกลูกน้องพี่กล้าที่ไม่มีใครลงกลางทางสักคนช่วยกันลากน้องควายไปไว้ในคอกที่ล้อมรั้วด้วยไม้ไผ่ ในบริเวณคอกนั้นมีพื้นดินแห้ง กับพื้นโคลนตมสำหรับให้น้องควายนอนอาบแดดด้วย เก๋ไก๋ซะไม่มี


“สบายใจเลยนะ อยู่เนี่ยปลอดภัย พี่ไม่เคยขายควายกิน พี่รอให้เขาจากไปเอง” ผมหันไปยิ้มบางๆ กับพี่กล้า แล้วหันกลับมามองเหล่าน้องควายในคอก มีประมาณสิบกว่าตัวได้ แต่คอกกว้างมากเลย ไม่เบียดเสียดกัน มีหญ้าให้กินเยอะมากด้วย


“แล้วพี่เอาควายพวกนี้ไปไถนาป้ะ”


“เอาไปดิ มาอยู่เฉยๆ ได้ไง ต้องทำงานแลกหญ้า” ผมหัวเราะอีกทีกับมุกที่แกเล่น พี่แกหันไปตะโกนสั่งลูกน้องว่าให้หาน้ำมาให้พ่อกับแม่ผม ส่วนผมพี่แกจะพาทัวร์ส่วนอื่นๆ ในพื้นที่ของบ้านแก ผมที่กำลังสนใจชีวิตแบบนี้ก็เลยเดินตามพี่แกไปทั่วเลย


RRRrrr!
   

“แปบนึงนะพี่กล้า” ผมยกมือเบรกพี่กล้าที่กำลังพูดบรรยายถึงทุ่งข้าวที่รอเก็บเกี่ยว ผมล้วงมือถือออกมาจากกางเกง เห็นเป็นเบอร์ของวิคเตอร์เลยรีบกดรับ
   

“Yes… I’m with them… no, no I’m now at the provincial… Yes, I know… It’s fine… Yeah, They said YES… And what about you? Your THING that you have to do… Huh? What is it?... Okay…. See you there.”
   

“โห แม่งรัวภาษาปะกิดไฟแลบเลยเว้ย” พี่กล้าแซวทันทีที่ผมวางสายจากวิคเตอร์เสร็จ
   

“ก็ไม่ได้ถูกต้องทุกคำหรอก เอาแค่สื่อสารรู้เรื่องอะ” ผมเก็บมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตามเดิม
   

“โอ้ย แค่นี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว พี่ดิ พูดได้ที่ไหน”
   

“เปลี่ยนจากชักให้พี่ มาสอนภาษาอังกฤษให้พี่ดีกว่าป้ะถ้างั้น”
   

“เออ เอาดิๆ เผื่อพี่จะเอาไปจีบแหม่มสักคน” แล้วพี่แกก็หัวเราะชอบใจ ทำเอาผมหัวเราะไปด้วย อยู่กับพี่แผ่นดินนี่ก็แฮปปี้ดีนะ ถ้าผมมีพี่ชายแบบนี้ติดแจแต่เด็กแน่เลย



  :hao3:

บรรยากาศต้มมาม่ากำลังเลือนหายไป บรรยากาศสนุกสนานกับเทศกาลรื่นเริงกำลังเข้ามาแทนที่ ใครที่กำพระแน่นมากตอนอ่านให้ความหม่นหมองผ่านไป ตอนนี้มันกำลังจะจากไปแล้วนะคะ ฮ่าๆๆๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว

และขอต้อนรับคู่แข่งคนสำคัญของไอ้ยักษ์ค่ะ พี่แผ่นดินรูปหล่อออ แต่ถามว่าคู่แข่งแบบไหนยังไง ต้องคอยติดตามไว้นะ คริๆ แต่พี่กล้าไปโผล่ในตอนพิเศษในเล่มพาร์ท Only You เลยอะนะคะ ใครที่ไม่ได้ซื้อหนังสือก็ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวกล่าวถึงให้พาร์ทสาม เพื่อไม่ให้งงค่า

และแอบกระซิบ พี่กล้านี่เพื่อนพี่คมเขี้ยวว่าที่สามีขุ่นแม่เรียวจันทร์ในเรื่อง Works the magic ด้วยนะ ฮิๆ

สำหรับพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน ตอนนี้ก็ก้าวเดินกันต่อแล้วค่ะ อาจจะยังไปไม่ได้ไกล แต่เขาเลิกวนลูปกับปัญหาแล้ว มีติดอยู่ในใจ แต่คงไม่ยกเอามาเป็นปัญหาใหญ่โตอีก ช่วงนี้มันเป็นช่วงฟ้าหลังฝนใหม่ๆ เมฆสีเทายังคงไม่จาง แต่เดี๋ยวก็จะค่อยๆ จางไปจนเหลือแต่ท้องฟ้าสว่างสไวประหนึ่งอังกอร์ปรากฏตัว อ้าว!

วันนี้วันเกิดน้องแมท ยังไงก็ร่วมอวยพรให้น้องมีความสุขมากๆ นะคะ ให้น้องก้าวผ่านปมในใจตัวเองไปให้ได้ แก้ปมให้ได้แล้วจะไ้ดรักกับพี่ยักษ์แบบสุขีๆ สักที :)

ใครเจอคำผิดบอกกันได้เลยค่า ช่วยๆ กันเช็ก ตอนก่อนนี่แก้หมดยังไม่รู้ แต่คิดว่าแก้ตามที่บอกแล้วอะนะคะ หรือบางทีไม่ได้แก้ในนี้ ตอมก็จะไปแก้ในต้นฉบับเอาาา

อ้อ หนังสือ You and I รอบรีปริ้น ตอนนี้เหลือห้าชุด ใครสนใจก็ติดต่อสอบถามที่เพจหรือทวิตได้ค่า หมดแล้วก็หมดเลย อย่างที่เคยบอกว่าคงไม่รีปริ้นภาคแรกแล้วววว

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1127 เมื่อ25-03-2016 22:51:03 »

อีพี่กล้ามาแรงงงง อิอิ จะจีบแมทเหรออออ

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1128 เมื่อ25-03-2016 22:54:35 »

รอวันฟ้าสว่างไสว 5555

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1129 เมื่อ25-03-2016 22:57:08 »

แค่ชื่อก็ชอบแล้ว แผ่นดินนน
เป็นคนตรงมากจนน่ากลัว 55555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
« ตอบ #1129 เมื่อ: 25-03-2016 22:57:08 »





ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1130 เมื่อ25-03-2016 23:29:17 »

เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้ออิยักษ์มากอะพี่กล้า555

ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ ment12835

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1131 เมื่อ25-03-2016 23:36:21 »

อยากให้เขียนเรื่องพี่กล้าด้วยจุงงง ชอบผู้ชายแบบนี้งิงิ ฮ่าๆ  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1132 เมื่อ25-03-2016 23:38:12 »

พี่กล้าดูน่าสนใจ อิอิ สามวันจากนารีเป็นอื่นค่ะยักษ์ อิคนอ่านใจง่ายมาก แอบเทใจให้หนุ่มหน้าไทยอี๊ก
หมวกสติ๊ชน่ารักเนอะ เข้ากับแมทน้อยมากแน่ๆ ผัวก็ยิ้มชมเมียว่าน่ารักไปอีก หูยยยย น่ารัก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1133 เมื่อ25-03-2016 23:49:06 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1134 เมื่อ26-03-2016 00:24:00 »

สุขสันต์วันเกิดนะหนูแมท มีความสุขมากๆนะลูก
อนุโมทนาบุญกับการทำบุญปล่อยของหนูด้วย ปลื้มใจแทน  :hao5:

ว่าแต่พี่กล้ามาแรง แอบฟิน นอกใจพี่ยักษ์แปบ :laugh:
ว่าแต่คุณพ่อนิจะจับคู่ลูกเหรอเปล่าเนี่ยะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1135 เมื่อ26-03-2016 00:28:12 »

ถ้าไม่ติดอิยักษ์เชียร์คนนนี้แล้ว

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1136 เมื่อ26-03-2016 00:36:31 »

 :กอด1: ต้องรีบไปอ่านพาร์ท You and I แหละ ไม่งั้นตกข่าว 555 ยังไงต้องอ่านแน่นอน เลยต้องรอคิวน่ะ เพราะ หนังสือดองเต็มบ้านเลย 555 พี่แผ่นดิน น่าสนใจมาก ดูจะตรงข้ามกับพี่ยักษ์เลยน่ะ  :hao3: อยู่ด้วยแล้วคงอารมณ์ดีแฮะ เป็นเพื่อนพี่คมเขี้ยวด้วยน่ะ แต่ดูท่าจะง่าย ๆ เนอะ คือถูกใจคนไหนไม่สนใจเพศว่างั้นเหอะ  :mew4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1137 เมื่อ26-03-2016 01:44:19 »

ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1138 เมื่อ26-03-2016 03:39:30 »

พาพี่แผ่นดิน มาคู่กับ เอิร์ธ จะเข้าท่ามั้ยนี้

ออฟไลน์ wonwon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.33 50%}:25.03.59:
«ตอบ #1139 เมื่อ26-03-2016 04:51:34 »

เราเข้าใจน้องแมทนะ เรื่องที่ยังติดใจเรื่องผู้หญิงของอิยักษ์เนี้ย  เพราะแต่ก่อนอิยักษ์มันเจ้าชู้เงียบอ่ะ น้องแมทเห็นมาเยอะเลยวางใจไม่ลง  (อันนี้เข้าใจ เพราะเราก็เคยมีแฟนเป็นแบบเจ้าชู้เงียบ  แต่นิสัยไม่เท่ากับอิยักษ์หรอกนะ55) 

ส่วนพี่กล้า มาแรงงงงงงง อ่านแล้วชอบอ่ะ พี่กล้ามาแข่งกับอิยักษ์นี่ชอบมาก เพิ่มสีสัน(ของชีวิต555)  /// แล้วสรุปเอิร์ทจะมีบทอีกไหมคะ? เพราะเห็นยังไม่ตัดใจ อิอิ

---------------------

เจอคำผิดนะคะ  ตรงที่เป็นตัวหนาขีดเส้นใต้จ้ะ ^^

“พวกคุณเบนถึงแล้วครับ รออยู่ตรงฟร้อนท์ด้านล่าง” ออสตินหันมาบอก ผมกับวิคเตอร์พยักหน้ารับ ผมหยิบไฟสีๆ สำปรับประดับประดาในงานปาร์ตี้




 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด