Only You EP.32 [100%]“ใคร” วิคเตอร์ถามระหว่างที่เราเดินออกไปขึ้นรถ เขาใช้แขนขวาโอบเอวผมไว้ เพราะผมต้องใช้มือตักไอติมกิน ผมเกือบชะงักแต่รีบทำเนียนตักไอติมกินต่อ งงๆ ในหัวว่าควรบอกเขาดีหรือไม่ว่าผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรในชีวิตผมมาบ้าง
“รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยน่ะครับ” ตอบแค่นี้ก็พอ เพราะผมกับพี่เอกไม่ได้มีอะไรต่อกันแล้ว ไม่สิ พี่เอกน่ะไม่มีอะไร ไม่คิดอะไรกับผมมานานแล้ว มีเพียงผมที่คิดไปเองฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้ผมปลดปล่อยพี่เอกออกจากใจไปแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เอกหายไปจากใจตอนไหน แต่ตั้งแต่มีวิคเตอร์เข้ามาในชีวิต พี่เอกก็หลุดออกจากใจผมไป ผมว่าจิตใจคนเราก็แปลก ตอนตั้งใจพยายามลืม กลับลืมไม่ได้ แต่พอปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ไปยุ่งกับมันมาก ดันหายไปตอนไหนก็ยังไม่รู้ตัวเลย
“อืม” วิคเตอร์ว่าเสียงแผ่ว ผมยิ้มเครียด แต่ก็โล่งใจที่เขาไม่ได้เซ้าซี้งี่เง่าถามต่อแบบที่ชอบทำ อาจเพราะผมไม่ได้มีท่าทีอะไรกับพี่เอกไปมากกว่ายิ้มและทักทายกันตามปกติ และคงเป็นเพราะวิคเตอร์เห็นพี่เอกนั่งอยู่กับแฟนเขานั่นแหละ ไอ้ยักษ์เลยไม่จู้จี้กับผมมาก ลองถ้าพี่เอกมาคนเดียว แล้วเข้ามาทักทายผมแบบก่อนที่ผมจะบอกรักเขานะ ออสตินกับพี่การ์ดคนไทยคงเปลี่ยนจากถือของเป็นถือศพผมกลับอพาร์ทเม้นต์แทน
ระหว่างทางนั่งรถกลับอพาร์ทเม้นต์ ผมก็หยิบของที่ซื้อมาขึ้นมาดูไปพลางๆ อย่างที่ผมพูดกับพี่เอกไปว่าจะจัดปาร์ตี้ พรุ่งนี้จะเป็นวันคริสมาสต์และถัดจากนั้นก็เป็นวันเกิดผม แล้วอีกห้าวันก็จะสิ้นปีเก่าต้อนรับปีใหม่ วิคเตอร์เป็นพวกชอบจัดปาร์ตี้อยู่แล้ว ปีนี้พิเศษขึ้นมาตรงที่วันเกิดผมดันอยู่ในช่วงเทศกาลรื่นเริงพอดี เขาเลยจะจัดงานต่อเนื่อง เรียกได้ว่ายิ่งกว่าเจ็ดวันเจ็ดคืนเสียอีก ซึ่งก่อนจะคบกับเขา ผมก็ชอบช่วงเวลาวันเกิดของตัวเองอยู่แล้ว เพราะมันเป็นช่วงที่ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม มันเป็นช่วงต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง มองไปทางไหนส่วนมากก็เห็นแต่แสงสีเสียง
“พวกคุณเบนถึงแล้วครับ รออยู่ตรงฟร้อนท์ด้านล่าง” ออสตินหันมาบอก ผมกับวิคเตอร์พยักหน้ารับ ผมหยิบไฟสีๆ สำปรับประดับประดาในงานปาร์ตี้ขึ้นมาดู ผมมองของที่ซื้อมาจัดปาร์ตี้แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ไอ้ของที่ซื้อๆ มานี่ เอาจริงๆ พอจัดแต่งใดๆ แล้วมันจะแตกต่างกันยังไงบ้าง พร็อพคงเดิมๆ แต่บรรยากาศคงแตกต่างละมั้ง
รถจอดเข้าที่ด้านหน้าตึกอพาร์ทเม้นต์ ผมกับวิคเตอร์เดินลงไปก่อน ส่วนออสตินกับพี่การ์ดคนไทยเอารถไปเก็บแล้วจะถือของตามมาด้วย ผมเดินเคียงไปกับวิคเตอร์ จังหวะที่กำลังจะเดินเข้าไปด้านใน สายตาผมเหลือบไปเห็นคนกำลังเล็งกล้องถ่ายรูปมาทางผมกับวิคเตอร์ ผมรีบหันหน้ากลับเนียนๆ แล้วเดินเข้าไปด้านในตามปกติ เพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดปกติใดๆ หากมีรูปหลุดออกไป ผมก็อ้างได้ว่าผู้ชายใส่หมวกข้างๆ ผมคือพี่ชายหรือใครสักคนที่ไม่ใช่วิคเตอร์
“Hey!!” เสียงครื้นเครงของคุณเบนกับอันเดรดังมาก่อนที่ผมจะเห็นตัวพวกเขาซะอีก แต่ที่ทำเอาผมยิ้มกว้างดีใจคือการที่คุณเอมิลี่มาด้วย
“คุณเอมิลี่!” ผมวิ่งเข้าไปสวมกอดเธอด้วยความดีใจ เธอกอดผมตอบกลับพร้อมกับหัวเราะดีใจ ผมบลอนด์ของเธอยาวประบ่าแล้ว ดูแปลกตาไปพอสมควรแต่ก็ยังดูสวยอยู่ดี
“ดีใจนะครับที่คุณมา” ผมบอกด้วยความตื่นเต้น สบดวงตาสีฟ้าสดใสคู่เดิมของเธอ คุณเอมิลี่ยิ้มใจดีกลับมาให้เช่นเคย
“บอกตามตรงอย่าโกรธนะ พอดีมีงานที่ไทยน่ะ ฉันเลยต้องมา แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของฉันมากที่มีงานตรงกับช่วงวันเกิดเธอพอดี” ผมยิ้มขำกับข้อแก้ตัวของเธอ ผมไม่ได้นึกเคืองอะไรเธอ ถึงจะมาเรื่องงานแต่อย่างน้อยเธอก็มาแหละนะ
“คุณกลับเมื่อไหร่ครับเนี่ย”
“คงพร้อมๆ พวกวิคเตอร์นั่นแหละ…” ผมพยักหน้ารับรู้ วิคเตอร์จะกลับไปอเมริกาหลังปีใหม่ คุณเอมิลี่เม้มปากเป็นเส้นตรง เหมือนเธออยากพูดอะไรสักอย่าง เธอมองผมอย่างลำบากใจ แต่สุดท้ายก็พูด
“อีกเรื่องที่เธอต้องไม่โกรธฉัน เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นความตั้งใจของลูกค้า คือว่า…” ยังไม่ทันที่คุณเอมิลี่พูดจบ เสียงของวิคเตอร์ที่เรียกชื่อใครคนหนึ่งก็ทำให้ผมหันไปมอง
“อันเดรียนา” ผมยืนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินชื่อนั้น ก่อนที่จะหันควับไปมองหญิงสาวที่ทำให้ผมรู้สึกด้อยอยู่บ่อยครั้ง ตัวจริงเธอสวยมาก สวยจริงๆ ผมนึกถึงแม่ของวิคเตอร์ขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง เธอมาสไตล์เดียวกัน แล้วเธอยังอยู่กับเขาในช่วงเวลาที่เราสองคนห่างกัน และเธอเพิ่งมีภาพหลุดกับแฟนผมไป
“อันเดรียนามาทำงานน่ะ” คุณเอมิลีมองผมสลับกับวิคเตอร์ คุณเบน คุณอันเดร และถ้าผมจำไม่ผิด อีกคนรู้สึกจะเป็นหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่นที่ชื่อว่าเอริค กำลังยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาตื่นน้อยๆ
“ที่จริงมีนายแบบกับนางแบบอีกสามคน แต่จะเดินทางมาถึงพรุ่งนี้ อันเดรียนามาพร้อมฉันก่อน เพราะเธออยากมาคุยกับแมท” ผมหันกลับไปมองคุณเอมิลี่ด้วยใบหน้าที่ยังอึ้งค้างไม่หาย พอหันกลับไปมองอันเดรียนา เธอก็มองมาทางผมอย่างมีความหวัง ส่วนวิคเตอร์ยืนเงียบ ไม่พูดหรือแสดงท่าทีแปลกประหลาดใดๆ เขาหันมามองผม ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างผมกับอันเดรียนา
“จะคุยอะไร” แต่ในที่สุดเขาก็หันไปเอ่ยถามอันเดรียนาที่ยังคงยืนอยู่ในท่วงท่าที่สง่างาม เธอยกยิ้มนิดหน่อยก่อนจะว่า
“ก็แค่คุย” วิคเตอร์หันมามองผมด้วยสายตาเป็นคำถาม เหมือนเขากำลังถามว่าผมจะคุยกับอันเดรียนาหรือเปล่า ผมชั่งใจอยู่สักแปบก่อนจะตัดสินใจ
“ผมเคยมีเรื่องอยากคุย อยากถามคุณมากมาย แต่ตอนนี้ผมไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว…” เธอไม่ได้มีท่าทีเสียดายหรือมองหยิ่งกลับมา เธอมองเหมือนจะเข้าใจ เพราะพยักหน้าให้ผมนิดหนึ่ง หัวใจผมเต้นวูบวาบ แม้ว่าวิคเตอร์กับเธอจะไม่ได้ยืนใกล้ชิดติดกัน แต่แค่ยืนคู่กันแค่นั้น ความเหมาะสมของทั้งสองคนก็ชัดเจนมาก ผมเดินก้มหน้าขึ้นบันไดวนของอพาร์ทเม้นต์ขึ้นไปยังชั้นที่พักของตัวเอง จัดการไขประตูใหญ่ เปิดออกเพียงนิดเพื่อแทรกตัวเข้าไปด้านในแล้วปิดตามหลัง เดินตรงไปยังห้องนอน ผมแค่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียวเพื่อสยบความฟุ้งซ่านของตัวเอง
แกร๊ก~
เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้นแล้วตามด้วยเสียงประตูปิดลง ผมหันกลับไปก็เจอกับวิคเตอร์ที่ถอดหมวกออกแล้วเขายืนมองหน้าผมอยู่เหมือนกำลังพิจารณาว่าผมมีท่าทียังไง ผมยืนมองเขากลับไปอย่างว้าวุ่นหน่อยๆ ไม่รู้ว่าต้องจัดการความรู้สึกตัวเองแบบไหน ยังไง รู้สึกริมฝีปากสั่นๆ ด้วย
“เธอสวยมากเลย” นั่นคือประโยคแรกที่ผมเอ่ยกับเขาหลังจากยืนนิ่งกันอยู่สักพัก วิคเตอร์มองผมด้วยสายตาไม่แน่ใจ เขาไม่ได้แสดงท่าทีเพิ่มเติมอะไรกลับมา
“แมท…”
“…ตอนที่เธออยู่กับคุณ ตอนที่พวกคุณอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเราสองคนห่างกัน…” ผมเม้มปาก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะสติแตก เลยหลับตาลงเพื่อระงับความบ้าบอทั้งหลายในหัวที่กำลังตีกันวุ่นไปหมด พอเริ่มจะประคองสติได้ ผมก็พูดต่อ
“…คุณรักเธอรึเปล่า อืม คุณรู้สึกยังไงกับเธอเหรอในตอนนั้น” วิคเตอร์จ้องมองผมอย่างเคลือบแคลงระแวงสงสัย แต่ผมทำนิ่งจ้องมองเขากลับไปเป็นการยืนยันว่าอยากรู้จริงๆ
“ถ้าฉันตอบ นายห้ามเงียบ ห้ามซึมใส่ฉันนะ” พูดมาแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเขาคิดยังไง แต่ผมก็เลือกจะพยักหน้า วิคเตอร์มองด้วยสายเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อ แต่เขาก็ยอมตอบ
“ฉันสบายใจที่ได้อยู่กับเธอ ยิ้มได้ หัวเราะได้ เธอดูแลฉันดี มีความหวังดีให้กับฉัน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงหนึ่งที่ฉันมี เธอก็คล้ายๆ แม่ฉันบางมุม” ผมไม่ได้อยากจะรู้สึกขมขื่นหรอกนะ แต่พอได้ยินจริงๆ แล้วก็เล่นเอาใจปวดแปลบเหมือนกัน ยิ่งตอนบอกว่าเหมือนแม่เขา ก็ยิ่งเศร้าแปลกๆ ในใจ ถึงแม้ตอนที่วิคเตอร์พูดเขาจะไม่ได้แสดงท่าทีพิเศษอะไรก็เถอะ
“แล้วมันต่างจากผมตรงไหน ในเมื่อถ้าเธอเป็นแบบนั้นจริง คุณก็คบกับเธอได้” ผมไม่เห็นว่าความรู้สึกที่ว่ามานั้นจะต่างจากการที่มีผมอยู่ยังไง ผมคิด ผมสงสัยอยู่บ่อยครั้งว่าคนอย่างผม คงมีอยู่ในตัวผู้หญิงสักคน
“เพราะฉันรักนายไง” วิคเตอร์ตอบเสียงหนัก แววตาเขาเริ่มมีความหวาดกลัวฉายออกมา เขาเขยิบจะเข้ามาหาผม แต่ผมดันถอยหลังหนีเขาอัตโนมัติ นั่นทำให้เขาเบิกตากว้างขึ้นทันที
“แล้วถ้าเกิดคุณเจอเธอก่อนผมล่ะ คุณก็รักเธอใช่มั้ย ตอนที่เราห่างกันแล้วคุณอยู่กับเธอ ถ้าคุณตัดสินใจอยู่นานกว่านั้น คุณก็จะรักเธอ เพราะคุณยอมให้เธอ…” ผมหยุดพูดกะทันหัน เพราะคิดว่าจะต้องไม่ขุดอะไรเก่าๆ ขึ้นมาเล่า มารีรันใหม่อีก ถ้าเป็นละครก็คือได้ดูฉากซ้ำๆ อีกแล้ว ผมเม้มปากเป็นเส้นตรง ภาพความเหมาะสมของเขาทั้งสองคนทำให้ผมกลัว
“แมท ฉันอยู่นี่ ฉันอยู่กับนายที่นี่” ผมมองหน้าเขาแล้วน้ำตาก็เอ่อคลอ ก่อนจะพยักหน้ารัวๆ แล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเขาแน่น กอดเขาไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป เขากอดผมตอบกลับมาด้วยวงแขนทั้งสองข้าง ผมซุกหน้ากับอกของเขา ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ
“Fuck me.” ผมเอ่ยเสียงเบาหวิว วิคเตอร์เหมือนจะชะงักไป ผมผละออกจากอกเขา เงยหน้าสบตาดวงตาคู่คมที่กำลังมองผมอย่างไม่เข้าใจ
“ผมอยากมีอะไรกับคุณ ขึ้นเตียงสิครับ” วิคเตอร์มองผมด้วยสายตาอึ้งๆ ผมไม่รอช้า ดึงเขาไปที่เตียง ดันร่างเขาล้มลงไปบนเตียงแล้วตามขึ้นไปนั่งคร่อมเขาไว้ สองแขนโอบคอเขาแน่นแล้วเริ่มจูบเขาด้วยตัวเอง
วิคเตอร์จูบตอบกลับมา แต่ก็ไม่ใช่การตอบรับที่ดีนัก เหมือนเขาจะยังงงๆ อยู่ ผมเองก็งง ในหัวมันตื้อ มันเบลอไปหมด รู้แค่ว่าต้องทำ รู้แค่ว่าอยากทำ อยากทำแบบนั้นกับเขา
“แมท… แมท… อือ… อย่า…” วิคเตอร์เบี่ยงหน้าหลบจูบของผมและพยายามใช้สองมือดึงแขนผมออกจากรอบคอตัวเอง แต่ผมก็ไม่ยอม ตามจูบไปทั่วใบหน้าเขาและคล้องคอแน่น
“แมท นายไม่ได้อยากทำจริงๆ หรอก”
“ไม่ ผมอยากทำจริงๆ เอาผมสิ เอาผม” ผมซุกไซ้คอเขา วิคเตอร์คำรามเสียงแหบในลำคอ ไม่ใช่เพราะความเสียวสยิว แต่เพราะเขากำลังโมโห
“หยุด!” เขาสั่งเสียงกระชาก ออกแรงผลักผมออกจากตัวเขาอย่างแรง ก่อนจะเหวี่ยงร่างผมไปบนเตียง แล้วตัวเขาก็ลุกขึ้นยืน หันมาจ้องมองผมด้วยสายตาโกรธจัด
“เงี่ยxไม่จริงอย่าเสแสร้ง!” เขาพูดเสียงกระแทกแทบจะเป็นตะคอก เขาขบกรามแน่นจนสันกรามขึ้นชัด แววตาแข็งกร้าวจ้องผมด้วยความไม่พอใจและมีความผิดหวังปนอยู่ ผมรู้สึกกลัวขึ้นมา ไม่ใช่เพราะกลัวอารมณ์เขา แต่ผมกลัวเสียเขาไป เพราะผมไม่เหมาะสมกับเขาเลยจริงๆ ยิ่งได้เห็นอันเดรียนาตัวจริงวันนี้ ผมยิ่งรู้สึก
“ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าคุณเป็นของผม ต่อให้คุณจะเหมาะสมกับผู้หญิงคนไหนก็ตาม” ผมร้องไห้ออกมา มันห้ามไม่อยู่ ตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ มันมีสิ่งกระทบจิตใจผมซ้อนๆ กัน ไหนจะที่สะสมมาหลายวันก่อนหน้านี้อีก ไม่รู้ว่าตอนนี้ผมระเบิดออกมามากพอหรือยัง แต่มันก็พรั่งพรูออกมาจากปากผมไม่หยุด
“คุณดูผมสิ แล้วคุณดูอันเดรียนา ชารอน นาตาชา หรือผู้หญิงอีกกี่คนในชีวิตคุณ แต่ละคนเขาคู่ควรกับคุณมากจริงๆ เธอเป็นผู้หญิง เธอท้องได้ เธอเอากี่รอบก็ได้ เธอมีนมให้คุณบีบเวลาคุณเกิดอารมณ์ เธอมีกลีบเนื้อให้คุณเลีย เธอถึงจุดสุดยอดได้ดี พวกเธอ… ฮึก พวกเธอมีในสิ่งที่ผมไม่มีเลย” ผมมองหน้าวิคเตอร์ทั้งน้ำตานองหน้า ริมฝีปากสั่นไหวระริก ดวงตาพร่ามัวด้วยม่านน้ำตาที่ก่อตัวไม่หยุด ไหลออกไปหนึ่งครั้ง มันก็จะก่อตัวขึ้นมาใหม่ หายใจทางจมูกไม่ทัน ร้องไห้จนคัดจมูก เลยต้องอ้าปากหายใจแทน ผมนั่งมองวิคเตอร์ด้วยสายตาหมดหวัง หมดหวังในตัวเอง ส่วนเขายืนมองผมกลับมาด้วยสายตาว่างเปล่า
“ผมจะอยู่ข้างคุณได้อีกนานเท่าไหร่วิคเตอร์…” ผมพูดเสียงเบาหวิว รู้สึกว่าตัวเองเลื่อนลอยไปเรื่อย วิคเตอร์เดินเข้ามาหาผม นั่งลงบนเตียง กระเถิบเข้ามาใกล้ผม แล้วอุ้มผมขึ้นไปไว้บนตัก ผมก้มหน้าลงซุกตรงช่วงซอกคอเขาอย่างคุ้นเคย
“ฉันก็ตอบไม่ได้ ไม่มีใครตอบได้ แต่ที่ฉันรู้ตอนนี้ ฉันรักนาย นายรักฉัน เรารักกัน เราไม่ได้รักคนอื่น…” เขาใช้มือขวาลูบหลังผมเบาๆ
“…ฉันเป็นของนาย นายเป็นของฉัน เราเป็นของกันและกัน มันจะอีกนานรึเปล่าไม่รู้ แต่สำหรับฉัน มันต้องนาน วันที่เราไม่ได้อยู่ข้างกัน คือวันที่ฉันตายจากนายไปแล้ว” ผมหลับตาลง นึกถึงภาพที่เขาเอามีดกรีดแขนตัวเองหน้าตาเฉยโดยไม่ได้ประชดแต่อย่างใดแล้วก็ใจสั่นกลัว คราวนี้ผมกลัวว่าเขาจะตายอย่างที่ปากเขาพูด
“No. Stay alive. Don’t leave me. (ไม่ อย่าตายนะ อย่าทิ้งผม)” ผมยกมือซ้ายขึ้นลูบใบหน้าหนวดๆ ของเขาเบาๆ
“But, if I can choose. I want to die before you—because If you die. I will live with suffering. (แต่ถ้าฉันเลือกได้ ฉันอยากตายก่อนนาย เพราะถ้านายตาย ฉันคงตายทั้งเป็น)”
“No one die. We are still here. You do not give me an engagement ring yet. (ไม่มีใครตายทั้งนั้นแหละ เรายังอยู่นี่อยู่เลย คุณยังไม่ได้ให้แหวนหมั้นผมเลยนะ)” วิคเตอร์หัวเราะในลำคอเบาๆ
“Which size diamond do you want on the ring? (อยากได้เพชรขนาดไหนล่ะ)”
“Big like your cock. (เท่าไอ้จ้อนของคุณเลย)” วิคเตอร์หัวเราะชอบใจเสียงดัง แล้วผมก็หัวเราะตาม แทบจะเป็นเสียงหัวเราะระหว่างเราสองคนที่ชัดเจน ที่ออกมาจากใจมากที่สุดในช่วงระยะสิบกว่าวันที่อยู่ด้วยกันมา ผมถือว่าเป็นการเดินต่อที่ดีในความสัมพันธ์ของเราสองคนก็แล้วกัน
ค่อยๆ ดีกันไปทีละนิดทีละหน่อยเนาะ หนทางในความสัมพันธ์นัน้ยังอีกยาวไกล ใจต้องแกร่งไว้นะ เฮ้!
ความสัมพันธ์มันซับซ้อน เราจึงต้องเรียนรู้กันและกัน แม้จะเรียนรู้กันและกันมากแค่ไหน แต่ยังไงก็ต่างคนต่างนิสัย ที่ต้องค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากัน แต่ตอนนี้ทั้งสองเริ่มจะพากันเดินต่อ ไม่เดินวนวงเวียนกันเท่าไหร่ละ
อ้อ เผื่อมีคนสนใจ ตอนนี้หนังสือพาร์ท You and I รอบรีปริ้นครั้งที่สองเหลืออยู่หกชุดจาก 14 ชุดที่แจ้งไปคราวก่อนค่ะ หากใครสนใจอยากได้ ก็ติดต่อได้ที่เพจหรือทวิตนะค้าาา ส่วนคนที่รอซื้อพาร์ทสองอยู่ อีกนิดค่ะอีกนิ้ดดด ต้นฉบับกำลังคลานถึงเส้นชัยแล้ววว ใครกำตังค์ไว้อยู่ อย่าเพิ่งปล่อย 555555
ใครเจอคำผิดแจ้งได้เลยนะค้าาา (ตอนที่แล้วยังไม่ได้แก้เลย 55555) เดี๋ยวตามแก้ให้ถูกต้องจ้าาา