บทที่ 184 Dark Wind
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงวัตถุขนาดยักษ์พุ่งเข้ากระแทกกำแพงล่องหนอีกครั้งอย่างแทบไม่เว้นจังหวะให้ใครต่อใครในที่นั้นหายใจ จากเสียงนั้นบอกได้อย่างชัดเจนว่าอาวุธชิ้นนั้นคงจะหนักหน่วงอยู่เอาการ แต่ก็ไม่มีเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดใดๆ เกิดขึ้นหลังจากนั้น
“You think it can hurt me again really?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความมืดอันหน้าสะพรึงกลัวนั้น มันคือหนังม้วนเดิมไม่มีผิด ต่างออกไปเพียงผู้แสดงเท่านั้น จากโจแอนนาที่เคยเป็นผู้ล่า บัดนี้ เธอกลับกลายมาเป็นผู้ถูกล่าเสียแล้ว
เด็กสาวตัดสินใจหลับตาลงในที่สุด เธอปิดจักษุประสาทให้ดับสนิท ก่อนจะเปิดโสตประสาทให้กว้างขึ้นอย่างเต็มที่ เธอจะใช้หูเป็นตาให้ท่ามกลางความมืดสนิทนี้
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
เสียงการจู่โจมจากอาวุธยักษ์ที่ประกอบขึ้นด้วยสายลมนั้นดังขึ้นอีกเป็นระลอกใหญ่ ราวกับว่าเด็กสาวสามารถค้นหาคู่ต่อสู้ในความมืดนั่นได้อย่างชัดเจนแล้ว เธอแปลงสภาพอากาศบริเวณนั้นให้กลายเป็นคันธนู ก่อนจะหยิบเอาสายลมที่จับต้องได้มาเป็นลูกธนูเพื่อจู่โจมเด็กหนุ่มแห่งความมืดคนนั้น ทันทีที่ลูกธนูหลุดออกจากคันศร มันจะกลายสภาพให้ใหญ่ทบเท่าทวีคูณ พร้อมกับพุ่งเข้าชนปราการของฝ่ายตรงข้ามราวกับว่าเป็นลูกปืนใหญ่ก็ไม่ปาน เสียงของเด็กหนุ่มเงียบหายไปท่ามกลางคลื่นการโจมตีที่ต่อเนื่องและรุนแรงนั่น
“Why are you quiet! Scared? HAHA”
หญิงสาวแผดเสียงขึ้นอีกครั้งอย่างจงใจ สภาพการณ์ตอนนี้เธอต้องรับรู้ที่อยู่ของคู่ต่อสู้จากเสียงเท่านั้น เธอจำเป็นต้องยั่วคู่ต่อสู้ให้สำแดงกายออกมา แม้จะเป็นเพียงลักษณะทางอ้อมก็ตาม
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“Face me COWARD!”
โจแอนนาแผดเสียงร้องขึ้นในความมืดสนิทนั่น อาวุธของเธอยังคงรัวโจมตีไปที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายที่ครั้งล่าสุดเธอสันนิษฐานว่าอยู่ ณ ตำแหน่งนั้น
“Do you mention me?”
เสียงกระซิบยั่วเย้าดังขึ้นที่ข้างใบหูของเด็กสาวอย่างที่เธอไม่คาดคิดที่สุด เสียงแหบปร่านั่นปนเสียงหัวเราะอยู่ในเชิง ราวกับว่าเธอเป็นแค่เด็กน้อยโง่เง่าคนหนึ่งที่กำลังท้าสู้กำลังท้าสู้กับผู้ใหญ่ร่างโตฉะนั้น
ฉึกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ยังไม่ทันที่จะสิ้นประโยคท้าทายนั่นดี ดาบที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยสายลมในบังคับบัญชาของโจแอนนาก็แทงเข้ากลางแผ่นอกของธันอย่างวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว โซดิแอคไม่ยอมปล่อยให้โอกาสในชั่วพริบตานั้นหายไป เธอตอบแทนคำยุเย้านั้นอย่างเต็มรักที่สุด
เด็กสาวสะบัดตัวกลับไปประจันหน้ากับเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบว่าความมืดเหล่านั้นได้สลายตัวหายไปเสียแล้ว แสงสว่างและทัศนียภาพกลับมาสู่ดวงตาของเธออีกครั้ง เธอมองเห็นธันที่มีดาบอากาศปักอยู่กลางหน้าอกอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหนุ่มคนนั้นจะรอดไปได้ คมอาวุธของเธอน่าจะคว้านปอดของเด็กหนุ่มจนพังทลายไม่มีชิ้นดี ไม่มีลมหายใจต่อไปสำหรับธันและเพื่อนของเขาอีกแล้ว
ร่างกายของธันค่อยๆ สลายตัวหายไปอย่างช้าๆ ราวกับเขาจะหลุดออกไปจากเกมนี้อย่างใดอย่างนั้น เด็กสาวถอนหายใจน้อยๆ ครั้งหนึ่งโดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาทั้งสิ้น
หากแต่ยังที่เธอจะได้ละความสนใจจากภาพตรงหน้าสนิทดี ร่างกายของธันที่ค่อยๆ ละลายหายไปนั้นก็กลายสภาพเป็นควันสีดำสนิทล่องลอยไปในอากาศอย่างช้าๆ ราวกับว่าเป็นควันไฟที่ไหม้ดำคละคลุ้งไปอย่างนั้น และไม่ทันที่โจแอนนาจะไหวตัวทันกับภาพความผิดปรกติตรงหน้า ควันสีดำมืดเหล่านั้นก็พุ่งวนไปอย่างรุนแรง ก่อนจะขมวดตัวกันเป็นกลุ่มก้อนกลายสภาพร่างกับมาอีกครั้ง!
ฉึกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มือที่ประกอบขึ้นด้วยวัตถุธาตุที่ดำสนิทนั้นทะลวงเข้าไปในช่องท้องเด็กสาวราวกับว่ามันเป็นมีดที่แหลมคมที่สุด ชายคนนั้นกลับคืนสภาพและย้อนกลับมาโจมตีภายในช่วงเวลาเสี้ยววินาทีเท่านั้น เด็กสาวที่ไม่ทันได้เตรียมตัวตั้งรับใดๆ ไม่มีแม้แต่เสียงแสดงความเจ็บปวดใดๆ ออกมา มันเกิดขึ้นในชั่วลมหายใจเดียวอย่างแท้จริง
ซู่ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
ร่างกายของโจแอนนาแยกออกจากกันราวกับว่ามันเป็นภาพวาดที่โดนน้ำเข้าทำละลายอย่างนั้น ร่างกายของเธอกลายไปเป็นสายลมหมุนวนไปในอากาศ เธอแปลงสภาพตัวเองอย่างรวดเร็วที่สุด ดูเหมือนว่าโซดิแอคคนนั้นก็จะมีไม้ตายในการป้องกันการจู่โจมที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แต่ในช่วงที่ร่างกายของโจแอนนากลายสภาพไปเป็นสายลมหมุนพัดไปนั้น ร่างกายของธันก็แตกสลายกลายเป็นควันสีมืดสนิทอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน อากาศมืดสนิทเหล่านั้นลอยปะปนไปในเกลียวลมที่โจแอนนาสร้างขึ้นอย่างแนบเนียนที่สุด ไม่ทันทีเด็กสาวจะรู้ตัว ร่างกายใหม่เหล่านั้นก็ประกอบขึ้นด้วยกระแสอากาศที่ปะปนกันไปหมดเสียแล้ว
“There’s no way to get away from me HAHA”
เสียงเด็กหนุ่มดังขึ้นอย่างคุกคามที่สุดทันทีที่เด็กสาวหนึ่งในผู้ก่อตั้งเกมนั้นขึ้นประกอบร่างขึ้นใหม่ได้สำเร็จ เสียงนั้นดังก้องไปมาราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นในหัวของเธออย่างนั้น
“Where are you!” เด็กหญิงแผดเสียงร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
“I’m inside of you HAHA”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงแผดร้องของเด็กสาวดังขึ้นหลังจากจบประโยคนั้น ความเจ็บปวดอันหาสาเหตุไม่ได้แล่นจู่โจมเธอมาจากในช่องท้อง เธอทิ้งตัวลงบนพื้นก่อนจะดิ้นทุรนทุรายไปมาอย่างสุดหนทางจะเยียวยารักษา เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นคอยบีบขยี้อวัยวะภายในเธอให้แหลกสลายไปอย่างนั้น น้ำตาของเด็กหญิงไหลพรากออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงร้องดังไปทั่วบริเวณนั้นอย่างเวทนาที่สุด
โจแอนนาพยายามจะสลายร่างออกจากกันอีกครั้ง แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว เหมือนมีวัตถุธาตุอะไรบางอย่างแฝงอยู่ในร่างกายเธออย่างนั้น เด็กหญิงไม่อาจควบคุมร่างกายเธอให้แปรสภาพได้อย่างเป็นอิสระอีกต่อไป และเธอก็ไม่ได้เตรียมการ์ดสำหรับเยียวยาบาดแผลหรือความเจ็บปวดมาไว้ในเกมนี้ด้วย ผลสุดท้ายเธอจึงทำได้แค่เพียงร้องไห้ทุรนทุรายไปมาด้วยความเจ็บปวดที่หาทางออกไม่ได้อยู่อย่างนั้น
“หทยัง ปิด!”
“เขโฬ ปิด!”
“อัสสาสะปัสสาสะวาตา ปิด!”
“สันตัปปัคคี ปิด!”
เสียงคำสั่งเหล่านั้นดังมาจากเบื้องหลังเธอ พร้อมกับมือแกร่งหนึ่งที่สัมผัสเข้าที่กลางหลังของเด็กหญิงในช่วงจังหวะที่เธอกำลังทุกข์ทรมานอยู่นั้น
ทันทีที่คำสั่งเหล่านั้นสิ้นสุดลง อาการเจ็บปวดของเธอก็หยุดลงอย่างน่าอัศจรรย์ใจที่สุด ราวกับว่ามันเป็นยาวิเศษชั้นเลิศอย่างใดอย่างนั้น!
“กลับไปรักษาตัวก่อน เดี๋ยวทางนี้ข้าจะจัดการเอง”
เสียงชายวัยกลางคนที่ปรากฏกายขึ้นช่วยชีวิตเธอในจังหวะนั้นดังขึ้นเป็นคำสั่ง เด็กสาวพลิกกายหันหน้าไปอย่างต้องการจะทราบถึงผู้ที่มาช่วยเธอได้อย่างถูกเวลาที่สุด
“หัสดิน!” เสียงเล็กนั้นดังขึ้นอย่างไม่มั่นใจปนดีใจ
“ใช่ ข้าเอง”
ชายวัยกลางคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างนักรบคนนั้นพูดขึ้นอย่างฉะฉานชัดเจน มือของเขาหลุดออกจากหลังของโจแอนนาไปแล้ว แต่กลับมีสสารสีดำสักอย่างหนึ่งที่ยืดตัวออกมาจากร่างกายเธอและยังคงติดแน่นอยู่บนมือของหัสดินอย่างนั้น
“แต่...” เด็กสาวเอ่ยขัดขึ้นอย่างลังเล
“เจ้าไม่อยู่ในฐานะที่จะเอาชนะชายที่กำลังคลุ้มคลั่งและตกอยู่ในความมืดผู้นี้ได้ จงกลับไปรักษาตัวให้ปลอดภัยเสียก่อน ข้าจะจัดการทางนี้เอง” ชายวัยกลางคนผู้นั้นย้ำมาอีกครั้ง
“แต่เพื่อนของเขากำลังจะตายเพราะกลายเป็นหิน เราเดิมพันกับธันไว้ และควรจะรักษาเพื่อนของเขาให้ได้ดังคำสัญญาที่ให้ไว้” โจแอนนาพูดขึ้น
“นั่นเป็นหนึ่งในเรื่องที่ข้าจะจัดการให้เจ้าด้วย ไปเถอะ ทางนี้มีเรื่องต้องสะสางอีกมาก ชายทั้งสองคนนั้นตกอยู่ในวิกฤตการณ์เสียแล้ว หากช้าไปเพียงชั่ววินาทีเดียว ข้าอาจจะไม่สามารถเหนี่ยวรั้งชีวิตของพวกเขาไว้ได้” หัสดินสำทับมาอย่างสุขุม
โจแอนนาพยักหน้าหนึ่งครั้งอย่างยอมรับ ก่อนที่ร่างเธอจะสลายหายไปเป็นสายลมพัดไปในอากาศกว้างในเวลานั้น ทันทีที่ร่างกายของเด็กสาวหายไปจนหมดสิ้น บริเวณที่โจแอนนาที่ทอดกายอยู่นั้นก็ปรากฏร่างของธันนอนทับซ้อนอยู่ หัสดินลุกขึ้นยืนพร้อมกับใช้มือข้างซ้ายดึงตัวของธันที่กำลังหมดสติอยู่นั้นมาพาดบนบ่าราวกับว่าเด็กหนุ่มเป็นเพียงเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ เท่านั้น ก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหยิบร่างของเฟี๊ยตที่กลายสภาพเป็นหินไปนั้นไว้บนไหล่ข้างขวาอีกข้างอย่างสบายๆ
“ตามมา!”
เสียงเข้มเอ่ยกับกันต์ ผู้เป็นคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นเป็นคนสุดท้ายอย่างเรียบๆ ก่อนที่ชายที่กำลังแบกร่างเฟี๊ยตและธันนั้นจะหันไปทางบ่อน้ำต้องคำสาปนั่น พร้อมกับใช้ปลายเท้าตวัดก้อนหินบริเวณนั้นขึ้นมา แล้วจึงเตะมันลงไปยังบ่อน้ำอันใสสะอาดนั้น หินก้อนนั้นพุ่งตัวลงไปยังบริเวณใจกลางของบ่อที่เคยเป็นที่ที่เต่าหินตัวนั้นอาศัยอยู่นั่นเอง
“เปิด!”
เสียงคำสั่งดังขึ้นจากปากของชายผู้มีชื่อว่าหัสดิน พร้อมกันกับที่ก้อนหินที่เขาเตะลงไปนั้นสั่นอย่างรุนแรงและส่งคลื่นการเคลื่อนไหวไปยังมวลน้ำล้อมรอบ บ่อน้ำที่เคยนิ่งสงบนั้นสะเทือนไปมาในชั่วพริบตา ก่อนที่พื้นดินด้านล่างของมันจะถล่มไป เผยให้เห็นโถงทางใต้ดินขนาดใหญ่ที่แฝงตัวอยู่เบื้องล่าง น้ำจากบ่อน้ำนั้นไหลเทไปตามแรงโน้มถ่วงหายไปในทางเดินใต้ดินลึกลับนั้น หัสดินพยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณ แล้วจึงเดินล่วงหน้าลงไปในทางใต้ดินอันแสนจะลึกลับนั่นพร้อมกับร่างของชายที่ไร้สติสองคนที่อยู่บนบ่า
กันต์เดิมตามชายผู้นั้นไปอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก ดูเหมือนว่าใต้พื้นดินที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่นี่จะมีความลับซ่อนอยู่อย่างที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทางใต้ดินเหล่านั้นนำพาเขาไปยังความลี้ลับที่เขาไม่อาจจะคาดการณ์ล่วงหน้าได้แม้แต่น้อยเลย!