7
NURSERY BLUE
เขาว่ากันว่า ‘ความรักจะทำให้โลกทั้งใบเป็นสีชมพู’ เพราะแบบนี้เองสินะเช้านี้ผมถึงได้เห็นอะไรเป็นสีชมพูไปหมด อากาศวันนี้ก็ดีไม่แดดไม่ร้อนเย็นสบาย
“ อะไรกันน้องปามยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยน้า มีเรื่องอะไรดีๆใช่ไหมเนีย”
“ พี่เจนสวัสดีครับ ”
“ อะๆ ไม่ยอมตอบละสิ ช่วงนี้ยิ้มหวานเชียวน้ามีแฟนแล้วละสิ”
“ พี่เจน! บ้าแล้วผมไม่ได้มีสักหน่อย” ก็อยากมีนะแต่ได้แค่แอบชอบไง
“ จริงไหมน้อ แก้มแดงขนาดนี้อย่าลืมพามาแนะนำน้า”
“ โธ่ พี่เจน”
ก็พอจะรู้ตัวนะแต่ผมไม่ได้ยิ้มหวานขนานนั้นสักหน่อยพี่เจนก็พูดเกินไป ช่วงหลังๆมานี้รู้สึกว่าจะยิ้มบ่อยขึ้นจริงๆนั้นแหละถามว่าเรื่องดีๆหรอ ก็ดีนะหลังจากวันนั้นที่ไปซื้อของกัน คุณธามให้ตุ๊กตาปลาโลมาผมด้วยบอกตรงๆนะไม่คิดว่าคุณธามจะมีมุมแบบนี้เหมือนกันแบบซื้อตุ๊กตาให้ ซื้อให้ทีผมเข้าใจแต่มีเผื่อแผ่มาถึงผมด้วยบอกเลยเพ้อไปไกลมาก
ช่วงนี้คุณธามดูงานเยอะกว่าทุกทีเพราะงั้นตั้งแต่วันนี้ไปน้องทีจะมาค้างกับผมส่วนคุณธามก็ไปๆกลับๆ ที่ทำงาน บ้านตัวเอง แล้วก็บ้านของผม เห็นคุณธามบอกว่ายิ่งใกล้สิ้นปีงานจะยิ่งเยอะก็อยากจะถามต่ออยู่หรอกนะแต่ดูแล้วไม่ถามดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าก้าวก่ายเรื่องงาน
“ พี่ปามฮะ”
“ ว่าไงครับจิว”
“ แม่บอกว่าปีหน้าจิวจะได้ไปโรงเรียนด้วยละฮะ”
“ ว้าว ดีจังน้า”
“แก้มด้วยๆ แก้มก็จะได้ไปโรงเรียน”
“ แล้วทีละฮะ ทีจะไปโรงเรียนไหม”
“ ไปสิครับแต่ว่านะต้องรอให้ทีโตกว่านี้ก่อนตอนนี้น้องยังเด็กอยู่”
“ อ๋อ~ น้องยังไม่โต”
เข้าโรงเรียน?
นั้นสินะ ถ้าโตขึ้นยังไงเด็กๆก็ต้องเข้าโรงเรียนอีกหน่อยทีก็ต้องไปเหมือนกันถ้าถึงตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ได้ ไม่ใช่แค่ทีที่ไม่ได้เจอรวมไปถึงคุณธามด้วย พอคิดแบบนี้แล้วโลกสีชมพูของผมก็หม่อนลงทันที เฮ้อ… นั้นสินะเรามันก็แค่พี่เลี้ยงเด็กชอบเขาใช่ว่าเขาจะชอบเราสักหน่อยนิ สักวันหนึ่งคุณธามก็ต้องเจอใครสักคนที่มาอยู่ข้างๆเป็นแม่ที่ดีให้น้องทีเป็นภรรยาที่ดีของสามี เฮ้อ~ เอาน้าที่แน่ๆคงยังไม่ใช่เร็วๆนี้หรอกคุณธามงานยุ่งจะตาย ส่วนน้องทีก็คงอีกเป็นปีกว่าจะเข้าโรงเรียนเรายังอยู่ด้วยกันอีกนาน เนอะทีเนอะ ฟอด~ ผมหอมแก้มทีไปฟอดใหญ่แล้วปล่อยให้เด็กๆเล่นกันตัวเองก็เดินไปปิดประตูหน้าบ้าน
เด็กมาครบทุกคนแล้ว วันนี้ก็ยังสดใสเหมือนเคยถ้าปีหน้าเด็กๆเข้าโรงเรียนบ้านก็คงจะเงียบลงไปเยอะเลย แต่ก็อย่างว่าแหละส่วนใหญ่เด็กๆที่อยู่ที่นี้ก็เป็นเด็กละแวกนี้ทั้งนั้น ถึงจะไปโรงเรียนพอเลิกเรียนก็มาอยู่นี้กันอยู่ดีเวลาเดินเร็วจะตายไม่ทันได้นั่งเหงาหรอก
ช่วงสายๆผมพาเด็กออกมาเล่นของเล่นข้างนอก วันนี้แดดไม่แรงมากและไม่มีท่าทีว่าฝนจะตกทั้งๆที่สองสามวันก่อนตกได้ทั้งวีทั้งวัน เห็นเขาประกาศออกมาว่าปีนี้จะหนาวเร็วแล้วก็หนาวกว่าทุกปีด้วยนี้อาจจะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูละมั้งถึงได้เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก
“ มามา คิกๆ”
“ ว้าวเก่งจังเลย ทีตักทรายได้เต็มถ้วยตบมือหน่อยยย”
“ คิกคิก จายยย”
“ ใช่ครับทรายเต็มเลย”
ผมพาทีมานั่งเล่นทีกระบะทรายส่วนคนอื่นก็เล่นสไลเดอร์บ้างวิ่งไรจับกันบ้าง ให้เด็กๆได้วิ่งเล่นก็เท่ากับเขาได้ออกกำลังกายไป ด้วยเดียวช่วงบ่ายค่อยเข้าไปนอนเล่นกันข้างใน
“ ~&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&~ ”
หืม? คุณธาม
“ ฮัลโหลครับ”
“ อืม ทำอะไรกันอยู่” นี้คำทักทายหรอครับ
“ ผมพาทีออกมาเล่นทรายนะครับ”
“ อืม”
“ คุณธามทำงานเสร็จแล้วหรอครับ”
“ เปล่า กำลังรอเอกสารประชุม”
“ เอ๋ ประชุมอีกแล้วหรอครับช่วงนี้ประชุมบ่อยจัง วันนี้คุณธามจะแวะมาไหมครับหรือจะค้างทีบริษัท”
“ คงไม่ได้กลับ จะโทรไปใหม่”
“ ครับ โชคดีนะครับ”
วางซะละคุณธามจะโทรมาทุกวันที่พาน้องมาฝากนั้นแหละครับไม่ได้อะไรมากกว่านั้น ส่วนใหญ่ก็ถามเรื่องน้องนั้นแหละอยากให้พ่อลูกเขามีเวลาอยู่ด้วยกันนะ แต่ดูจากสภาพแล้วลาพักร้องสักเดือนไหมครับก็ว่าไปฮ่าๆๆ วันนี้คงจะมีประชุมจนถึงเย็นแน่ๆ ถ้าได้เห็นน้องทีคุณธามคงจะหายเหนื่อยคิดว่านะ
“ ทีคร้าบบบบ หันมาทางนี้หน่อยยยยย ยิ้มหวานหน่อยเร็วยิ้มมม”
ผมเอากล้องมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอกับทีที่ยังนั่งเล่นทรายอยู่ พอบอกยิ้มหวานน้องก็ยิ้มตามบอกให้โบกมือก็โบกแถมยังมีโชว์ตักทรายใส่ถ้วยอีก เอาจริงๆในโทรศัพท์ผมมีรูปทีเยอะเหมือนกันนะถ้าเปิดๆดู
“ ไหนๆรองเรียก ปะป๊า สิครับ ปะป๊า ปะป๊า”
“ ปะปะ ปะปา”
“ เก่งจังเลยไหนๆตบมือหน่อย”
เราก็เล่นกันไปถ่ายกันไปสนุกดีครับ พอถ่ายเสร็จผมก็จัดการส่งเข้ามือถือคุณธามทันทีหวังว่าพอประชุมเสร็จคงจะเห็นนะ นั่งเล่นกันแป๊บๆก็จะเที่ยงแล้วผมเลยพาเด็กๆไปล้างไม้ล้างมือ อาบน้ำล้างตัวกันมานั่งดูการ์ตูน ส่วนตัวเองก็เดินเข้าครัวทำมื้อเที่ยงให้เด็กๆ วันนี้ก็ง่ายๆครับข้าวผัดทะเลกับแกงจืดหมูสับเต้าหู้ ส่วนของทีเป็นข้าวต้มปลา ผมเตรียมของออกมาทำกับข้าวได้สักพัก จิวก็วิ่งเข้ามาหา
“ พี่ปามฮะ ต้นอยากกินน้ำแต่น้ำมันหมดแล้ว”
จิวว่าพร้อมกับชูขวดน้ำในมือให้ดู
“ โอเค นี้ครับน้ำ เล่นกันดีๆนะพี่ปามฝากดูน้องทีด้วยนะครับ”
“ฮะ”
พอได้ขวดน้ำจิวก็เดินกลับไปหาคนอื่นๆ พอมองตามไปก็เห็นทีนั่งเล่นตุ๊กตากันอยู่ก็สบายใจ ทีเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่ค่อย
งอแง แต่อาจจะมีบางถ้าปล่อยให้เล่นคนเดียวนานๆแต่ก็ไม่ถือว่างอแงมาก อย่างตอนกลางคืนเวลาน้องตื่นมากินนมพอกินเสร็จก็นอนเล่นกันสักพักก็หลับ เดียวนี้น้องนั่งเองได้แล้วจะครบขวบแล้วด้วยอีกหน่อยก็คงจะเดินได้มีบางครั้งเหมือนกันนะที่พอจับยืนแล้วน้องก็จะพยายามก้าวขาเดิน ตอนคุณธามเห็นนะถึงขั้นทิ้งงานมาเฝ้าลูกหัดเดินแถมมีถ่ายคลิปเอาไว้อีกจริงๆก็เห่อลูกสินะ
หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้วเด็กๆก็เล่นกันไปสักพักบางคนก็เริ่มง่วงเริ่มหาว พอคนหนึ่งหาวอีกคนก็หาวตามผมเคยได้ยินว่าการหาวเป็นโรคติดต่อแบบหนึ่งพอคนอื่นหาวแล้วเราจะหาวตาม ฮ้าวว~ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเปล่าแต่ตอนนี้เริ่มหาวกันทั้งบ้าน
“ เด็กๆง่วงกันแล้วใช่ไหมงั้นเราไปเอาที่นอนมาปูกันเถอะ”
“ คร้าบบบ/ค่า”
ผมกับเด็กๆเดินไปเอาฟูกนอนมาปูที่หน้าทีวีที่เดิมเนียแหละ เด็กๆช่วยกันเก็บของเล่นใส่กล่องแล้วเอาฟูกปูลงที่พื้น แล้วหยิบหมอนคนละใบมาจับจองทีนอนมีบางคนก็ยังไม่ง่วงแต่เห็นเพื่อนก็นอนตามเพื่อน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอนสักพักก็หลับ แต่ดูเหมือนว่าทีจะยังไม่ง่วงเหมือนเพื่อนเลย
“ ปา ปา”
ทียังนั่งเล่นตุ๊กตาในมืออยู่ อ๋อผมบอกหรือยังวันนี้ทีใส่ชุดน้องหมีที่ไปซื้อกันมาวันนั้นด้วยน่ะ อยากจะบอกว่าน่ารักไปอีกน่ารักจนโดนแกล้งเลยฮ่าๆ ไม่ว่าใครจะเดินผ่านต้องมีการดึงหูน้องหมีกันเล็กน้อย ( ชุดที่ทีใส่เป็นชุดหมีมีฮู้ดเป็นรูปหูหมีนะ)
“ ปา ปา คิกๆ”
“ ครับปลา ทียังง่วงหรอจอนนี้พี่ๆนอนแล้ว”
“ปี้ ปี้”
“ ช่ายยยยพี่ๆนอนกันแล้ว เราจะเล่นกันเสียงดังไม่ได้นะไปเล่นตรงนั้นกันปะ”
ผมอุ้มทีออกมาจากตรงนั้นหลังจากเด็กคนอื่นๆนอนหลับกันหมดแล้ว ไม่อยากให้เสียงทีไปทำให้ตื่นกันนอนไม่พอตื่นมาอารมณ์บูดกันพอดี แต่ดูเหมือนทีจะอารมณ์ดีมากไปหน่อยวันนี้เล่นกันจนเลยเวลานอนไปนิดนึงกว่าจะหลับ
“ บ๊ายคะแก้มใส”
“บะบายคะพี่ปาม”
“ เจอกันพรุ้งนี้จ๊ะปาม ไปแก้มกลับบ้านกัน”
วันนี้แก้มใสกลับบ้านคนแรกหลังจากตื่นนอนได้ไม่นาน สงสัยวันนี้จะพากันเล่นเหนื่อยไปหน่อยแต่ละคนนอนนานกว่าปกติก็นะวิ่งกันซะเหงื่อเปียกขนาดนั้น เด็กๆตื่นกันแล้วพวกแม่ๆก็ทยอยมารับกันบางคนก็มาเร็วบางคนก็มาช้า
“จิวครับคุณแม่มารับแล้วน้า”
“ฮะ~”
ผมยืนส่งเด็กๆกลับบ้านจนหมดทุกคนก็เดินกลับเข้าไปหาทีที่นอนกินนมอยู่ เดินไปเดินแค่ในบ้านนี้ก็เหนื่อยนะพอส่งเด็กเสร็จหนึ่งคนก็เดินเข้ามาหาทีแล้วก็เดินออกไปส่งอีกคนแล้วก็กลับเข้ามาอีก
“ว่าไงครับคนเก่งอิ่มยังหืม”
“ อือ อือ”
นมยังอยู่ในปากก็ยังจะตอบอีกเดียวได้สำลักกันพอดี นั่งสักพักทีก็กินนมเสร็จผมเอาน้ำให้น้องดูดเพื่อล้างปากแล้วค่อยอุ้มขึ้นมาพาดบ่าแล้วตบก้นเบาๆ อิ่มแล้วพาเดินสักหน่อยก็แล้วกันจะได้เดินเอาขยะไปทิ้งหน้าบ้านด้วย
“ ไปเดินเล่นกันเนอะ เดินเล่นกัน”
ตอนนี้อากาศกำลังดีเลยครับนี้ก็5โมงแล้ว วันนี้เด็กๆกลับกันเร็วไหนก็ไหนๆละออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวนี้ดีกว่าไม่ค่อยได้พาทีออกไปไหนเลยอีกอย่างนี้ก็ไม่ได้ไกลมาก
ก่อนออกไปนอกจากจะหยิบถุงขยะแล้วยังหยิบเอาหมวกไหมพรมของทีติดมือมาด้วยใส่ไว้กันน้ำค้างลง ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วครับ ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้วถึงจะยังไม่หนาวมากเท่าไรก็เถอะ ใส่ร้องเท้าใส่หมวกพร้อมแล้วไปกันเลย!
ผมเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านแล้วจัดการปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยแล้เดินไปที่สวนฯ ระหว่างทางก็เจอคนนู้นคนนี้ก็ทักทายกันไปเรื่อยดูเหมือนว่าทีจะไม่ค่อยกลัวคนเท่าไรน้องดูร่าเริงตลอดทางที่เราเดินมาแล้วมีคนเข้ามาคุยเล่นด้วย อาจจะเป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาหรือเปล่า ( ก็พ่อๆแม่ๆของเด็กๆที่มาเนอสเซอรี่นั้นแหละ)
ที่สวนสาธารณะที่นี่คนค่อยข้างเยอะกว่าที่ผมคิดเอาไว้ ส่วนใหญ่ก็มาวิ่งกัน มาคนเดียว มาเป็นคู่บางคนมาวิ่งกับสนุกตัวโตๆ ตัวเล็กก็มี แถมยังมีร้านบะหมี่กับก๋วยจั๊บอีกด้วยดูน่ากินเหมือนกันนะครับไหนๆก็มาละซื้อกับไปกินบ้านเลยละกันดีนะพกกระเป๋าตังมาด้วยแต่ตอนนี้ไปเดินเล่นก่อนละกัน เราเดินกันไปรอบๆสวนฯแล้วก็มาหยุดนั่งตรงม้านั่งข้างทาง
“ เหนื่อยจังเลยยพี่ปามขอนั่งพักก่อนน้า”
“ น้าา~”
น้องมองแล้วพูดตามผมก่อนจะยิ้มหวานมาให้ โอ๊ยเด็กอะไรน่ารักได้อีกผมปล่อยทีลงกับพื้นให้น้องยืนเองโดยที่จับตัวน้องเอาไว้
“ ไหนๆคนเก่งลองเดินสิครับ ก้าวขาหน่อย”
น้องก้าวขาไปข้างหน้าขาหนึ่งแล้วก็ถอยกลับแล้วก็ทำท่าจะเดินก็ไม่เดินอยู่อย่างนั้น เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ผมเข้าใจแล้วก็ไม่ได้คิดจะบังคับน้องให้หัดเดินตลอดเวลา แค่ค่อยช่วยเหลือเขาเวลาที่เขาต้องการเท่านั้นน้องเดินไปก้าวสองก้าวแล้วก็หยุดเล่นกับดอกไม้ข้างทาง แล้วอยู่ๆก็มีตัวอะไรวิ่งมาทางเรา
“ ฮัคกี้หยุดนะ!”
เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับมีบางอย่างมาชนเข้าหลังผมอย่างจัง
“ หยุดนะ! มานี้เลยไอ้ตัวแสบ”
หืม?
ลูกหมาหรอกหรอนึกว่าอะไร ดีที่ตอนโดนชนผมจับทีไว้แน่นพอไม่งั้นน้องคงล้มแต่อาจเป็นเพราะเสียงดุที่ดังอยู่ใกล้ๆนี้ละมั้งที่ทำให้ทีที่เล่นอยู่เลิกเล่นแล้วหันมากอดผมแทน
“ ขอโทษด้วยนะครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ มะ ไม่เจ็บอะไรมากหรอกครับ”
ผมอุ้มทีขึ้นมาแล้วหันไปหาคู่กรณีที่ยืนดุลูกหมาอยู่
“ ผมขอโทษจริงๆนะครับพอดีเพิ่งได้น้องมาเลยว่าจะพามาวิ่งเล่นสงสัยคงคึกไปหน่อย ตัวเล็กขอโทษทีนะที่ทำให้ตกใจ”
พอขอโทษผมเสร็จผู้ชายตรงหน้าผมก็ยื่นมือมาลูบหัวทีแล้วบอกขอโทษแต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับการให้อภัยจากทีซะแล้วละก็พอพูดจบทีก็ร้องไห้ขึ้น
“ แง้!! แง่!”
...............................................
ปล. รีบเอามาลงให้ก่อนผิดถูกยังไงเดียวเรามาแก้นะ (ไปอ่นหังสือต่อแหละ)