#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 15
ฟ้าหลังฝน
เท็นตื่นเพราะน้องสาวไอ้แจ็คปลุกไปกินข้าว ตอนนั้นเขาได้แต่นั่งกุมขมับจากอาการปวดศีรษะซึ่งคงเป็นเพราะหลับจนถึงช่วงเย็น บ้านนี้ยังคงแสดงความเป็นกันเอง และเขาก็อิ่มท้องไปได้อีกวัน
jjack: เสาร์นี้วันเกิดไอ้แหม่ม แม่ให้มาชวนมึงไปกินปิ้งย่างด้วยกัน
เอะอะก็อ้างแม่ เคยมีไหมที่คิดจะงัดปากชวนเขาเอง?
TEN10: เออ
ที่ไปเพราะอยากเจอแม่มันหรอกนะ
jjack: เล่นเกมกัน
...
...ไอ้เวรเอ๊ย
*
“แม่ว่าเท็นกับไอ้แจ็คใครขับรถนิ่มกว่ากัน?”
เขาหันไปถามคุณนายร้านซักรีดที่วันนี้แต่งตัวสวยกว่าทุกวันเมื่อได้มาเดินห้าง และหลังจากสิ้นสุดคำถาม ไอ้คนที่ถูกกล่าวถึงก็แอบชำเลืองมองด้วยหางตา
“ยังต้องถามแม่อีกเหรอ ยังไงก็ต้องเท็นอยู่แล้ว”
“ใช่ พี่แจ็คขับทีหนูโคตรเวียนหัวเลย” แหม่มเสริม พลางเกาะแกะแขนเพื่อนพี่ชายที่ทุกวันนี้เธอสนิทใจจนแทบไม่หลงเหลือความอึดอัดใจแล้ว
พี่เท็นทั้งเอาใจเก่ง ไม่แซะเวลาเธอเขียนฟิควายเหมือนพวกพี่เชร์ทำ แถมยังชอบซื้อขนมมาฝากอีก เนี่ย พี่ชายดีเด่นแห่งปีต้องมาแล้วไหม
“ก็มันไม่ชิน นาน ๆ ทีถึงได้ขับรถยนต์”
“แม่บอกให้เลิกขับมอเตอร์ไซค์แจ็คก็ไม่ฟัง เรื่องนี้ล่ะดื้อเก่งนัก” เธอหยิกสีข้างจนลูกชายคนโตนิ่วหน้าอ้าปากหวอ บิดจนตัวเป็นกุ้งเรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มผมเทาและลูกอีกสองคนที่มาด้วยกัน
“สองเสียงจากแม่กับแหม่ม ชัดเจนเลยว่ากูขับนุ่มกว่าเห็น ๆ”
“เออ พ่อคนปุยนุ่น พ่อสำลีมาเกิด”
“อุ๊ยแม่ พี่แจ็คประชดด้วยอะ...” แหม่มหลบหลังแม่ขณะมองพี่ชายคนโตที่วันนี้ทำตัวประหลาดไปกว่าทุกที
“ถ้าจะกระซิบกระซาบก็อย่าให้ได้ยินสิ”
“โอ๊ะ!” เด็กสาวถูกจับศีรษะโคลง ก่อนสองพี่น้องจะกอดคอกันเดินนำหน้าจนตรงนี้เหลือเพียงเขา แม่ไอ้แจ็คและน้องชายคนเล็กของมัน
มองด้านหลังของพี่ชายคนโตที่ไม่ค่อยได้แสดงความรักต่อคนในครอบครัวนัก แต่เท็นก็รู้สึกได้ถึงความใส่ใจอยู่เสมอ
ไอ้แจ็คเมื่อตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจครอบครัวมากถึงขนาดนี้ ช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กมัธยม ทั้งคู่คิดแค่ว่าจะทำอะไรเพื่อให้ชีวิตสนุกขึ้นดี ซึ่งการโตขึ้นและความรับผิดชอบจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวจำเป็นคงทำให้มันเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น ทั้งมุมมองความคิดและอะไรหลายอย่างที่ทำให้เท็นมองย้อนตัวเองและพบว่าเขานั้นยังมีความคิดเด็ก ๆ อยู่มากโข
“อ้าว นั่นไงพวกพี่ธีร์”
ว่าไงนะ?
“พี่เชร์ก็มาด้วย พี่เชร์!!!” น้องชายคนเล็กตะโกนเรียกหาชายกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่อีกฟาก วินาทีนั้นเท็นรู้สึกเหมือนโลกค่อย ๆ ถูกกลืนกินจนเป็นสีดำ หลังจากรอบข้างรายล้อมไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่นาน
“อย่าเสียงดังสิลูกรบกวนคนอื่นเขา”
“คิงไปหาพวกพี่ธีร์ก่อนนะแม่”
ให้ตายสิวะ
ขณะที่ใช้เวลาวัน ๆ ไปกับครอบครัวนี้จนเกิดความสนิทใจ เท็นก็แทบลืมไปเลยว่าแม่กับน้อง ๆ ไอ้แจ็คก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกแก๊งขี้ซุยฯ เหมือนกัน ซึ่งเผลอ ๆ อาจจะมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ และเท็นรู้สึกได้ถึงลางที่ไม่ดี
และวินาทีที่หัวหน้าทีมหันมาเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มที่เคยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วิก็เลือนหายไป
ใช่ ไอ้ธีร์คงไม่ชื่นอกชื่นใจที่ได้เห็นหน้าเขาเหมือนกัน
*
เด็กหนุ่มผมสกินเฮดมองขนมและน้ำอัดลมในถุงเซเว่นที่เพิ่งแวะซื้อก่อนเข้าคอนโด แจ็คยืนโง่ ๆ อยู่หน้าประตูมาสักห้านาทีแล้ว ซึ่งเอาเข้าจริงมันน่าจะเป็นห้านาทีที่นับรอบสาม เขาไม่กล้าเสียบกุญแจแล้วไขกลอนเข้าไปเพียงเพราะไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะยินดีหรือไม่หากว่าการมาของเขามันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่ฝ่ายเดียว แต่กลับเป็นการรบกวนของไอ้เท็น
ความกังวลและไม่แน่ใจเกิดจากความห่างเหินที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน แจ็คถอนหายใจอีกครั้งพร้อมจัดฉากในความคิดว่าหากเปิดประตูเข้าไปแล้วจะพูดอะไรเป็นอันดับแรก ถ้าเพื่อนทำหน้าเหวอหรือไม่โอเคควรทำอย่างไร พุ่งเข้าไปกระโดดใส่เหมือนท่าไม้ตายนักมวยปล้ำ WWE ที่ทั้งคู่ชอบดูด้วยกันดีไหม หรือว่าจะยืนยิ้มโง่ ๆ แล้วด้นสดไปตามสถานการณ์
เวรเอ๊ย... กับบลูยังไม่เคยเครียดกับการง้อขนาดนี้
“เซอร์ไพรส์...”
เด็กหนุ่มผมสกินเฮดค้างอยู่ในท่าอ้าแขนออกหน้าประตูที่ปิดสนิท ก่อนจะรู้ตัวว่าการซ้อมพูดกับท่าทางแบบนี้มันโคตรงี่เง่าเลย
“กูแวะซื้อขนมมาให้ แค่นี้แหละ”
ขมวดคิ้วทำเสียงห้วนเต๊ะท่าแบดบอยเลียนแบบไอ้ธีร์ ก่อนจะทำมือปัด ๆ เพราะเหม็นกลิ่นความขี้เก๊กที่ใช่ว่าตนเองจะถนัด
“...”
เอาไงดีวะ อย่างนั้นก็ไม่ดีอย่างนี้ก็ไม่ใช่ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเครียดเลยว่าไอ้เท็นจะรู้สึกอย่างไรกับการมาของเขา ทำตัวให้เป็นธรรมชาติหน่อยสิ ถ้ามันยังเคืองก็นั่งหน้าด้านอยู่ตรงนั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะใจอ่อนนั่นแหละ ก็ให้รู้ไปสิวะว่าการสำนึกผิดของคน ๆ หนึ่งจะไม่ส่งผลอะไรเลย
เอากุญแจขึ้นมาเสียบแล้วไขกลอนทันที ไม่มีอีกแล้วเรื่องตั้งหลกตั้งหลัก แจ็คหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน บอกตัวเองว่าตายเป็นตายจะเสียหน้าอย่างไรก็ได้แต่วันนี้ห้ามเสียเพื่อน
ไฟห้องยังเปิดอยู่แสดงว่าไอ้เท็นไม่ได้หายหัวไปไหน โชคดีที่วันนี้มาไม่เสียเที่ยวเพราะถ้าให้กลับไปตั้งหลักใหม่ก็ไม่รู้ว่าความกล้าที่มีอยู่จะหายไปด้วยหรือไม่
แต่พอเดินเข้ามาหยุดกลางห้องก็พบเพียงความว่างเปล่า ‘เข้าห้องน้ำอยู่หรือว่านอน?’ เด็กหนุ่มถามตนเองในใจก่อนทุกอย่างรอบด้วยจะถูกกลืนด้วยความมืด
ไฟดับเหรอ?
แจ็คเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงหวังจะใช้แสงสว่างจากหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นั่น มันคงไม่ดีแน่ถ้าหากว่าเขาเดินมั่วซั่วชนข้าวของตกแตกจนโดนเพื่อนโกรธซ้ำสอง แต่แสงสว่างยังไม่ทันได้ทำงานเขาก็รู้สึกถึงวงแขนที่สวมกอดมาจากด้านหลังพร้อมศีรษะที่ซบลง
ซึ่งจากส่วนสูงแล้วมันไม่ใช่ไอ้เท็น
เวรแล้วไง... อย่าบอกนะว่าคนที่กอดเขาอยู่ตอนนี้คือเด็กมัน?
“ไปนานแบบนี้คิดว่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวทั้งคืนซะแล้ว”
“...”
แม้ว่าพักหลังจะไม่ค่อยได้คุยกันแต่แจ็คก็คิดว่าคงไม่ได้หูฝาดไป เด็กหนุ่มแกะวงแขนเล็กออกพร้อมหันหลังกลับ กดปุ่มโทรศัพท์กระทั่งจอส่องแสงสว่างเพื่อยืนยันกับตนเองว่าคิดไปเองหรือไม่ ก่อนหัวใจของเขาก็ตกลงไปอยู่บนพื้นหลังจากได้เห็นใบหน้าเด็กผู้หญิงที่ไม่ควรอยู่ในห้องนี้มากที่สุด
“แจ็ค...”
“...”
*
เนื่องจากมาเป็นครอบครัวใหญ่ทางร้านจึงต่อโต๊ะให้ ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าของวันเกิดที่ได้กล่องของขวัญมากมายจากเพื่อนพี่ชาย ยังมีคนนั่งกระอักกระอ่วนแทบตายอยู่ตรงนี้ ขอบคุณที่ฝั่งตรงข้ามเป็นโซ่ ไม่ใช่สามพี่น้องชวนปวดหัวที่คงทำให้เขาเก็บสีหน้าไว้ไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้นคนที่นั่งถัดจากโซ่ไปก็ยังเป็นไอ้ธีร์อยู่ดี
เสียงไอ้เด็กลูกครึ่งพูดเสียงดังจนพี่ตั้บต้องปรามให้เบาลง และพอเป็นอย่างนั้นไอ้ธีร์กับไอ้แจ็คก็หันไปรุมกลั่นแกล้งเหยื่อทางอารมณ์ที่ไม่เคยเจ็บปวดกับสิ่งที่พี่ ๆ มอบให้ แม้ว่าทุกคนจะยิ้มกับภาพตรงหน้า แต่เท็นก็ไม่ได้รู้สึกเฮฮาไปด้วยเลยแม้แต่นิดเพราะเขารู้ดีแก่ใจว่าเป็นส่วนเกิน ต่อให้เก้าอี้จะมีพอสำหรับเก้าคนก็ตาม
“โคนผมพี่เท็นเริ่มดำแล้วล่ะครับ” เขาไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มนั่นจริงใจแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ เด็กอย่างโซ่คงไม่ได้อยากจะร้ายกับเขาด้วยการพูดหักหน้าหรืออะไรก็ตามที่คนอื่น ๆ ทำ
“อ้อ อืม”
“พี่เท็นเคยทำสีทองไหมครับ โซ่ว่าถ้าพี่เท็นทำคงเหมือนหลุดมาจากอนิเมะแน่ ๆ เลย” เด็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังคงมองมาราวกับคาดหวังว่าจะได้รอยยิ้มกลับไป
เท็นไม่อยากขยับริมฝีปากพูดอะไรทั้งนั้นเพราะเขาให้เกียรติแม่ไอ้แจ็คและเด็กสาวผู้เป็นเจ้าของวันเกิด แต่สายตาไอ้ธีร์ที่มองมาก็วอนตีนจนการห้ามปากเป็นเรื่องยากเหลือเกิน
“วันก่อนโซ่เข้ายูทูป เห็นชาวต่างชาติเอาคลิปพี่เท็นไปตัดต่อมีแต่ช็อตเท่ ๆ ทั้งนั้นเลยครับ คลิปนั้นคนดูตั้งหกแสนวิวแน่ะ”
“จะเอาอะไรกับพวกชอบดูดคลิปคนอื่นไปลงเพื่อเรียกยอดวิว มันก็หวังเงินอย่างเดียว ไม่ได้อยากเยินยออะไรหรอก”
จนได้...
พอเจอสถานการณ์กดดันแบบนี้ทีไรปากมันก็เอาแต่จะพูดพล่อย ๆ ออกไปทุกที
ทำแบบนี้กับเด็กที่เลือกคุยกับเขาทั้งที่จะให้ความสนใจบทสนทนาบนโต๊ะก็ได้ อันที่จริงโซ่ไม่ควรพูดอะไร เพราะการอดทนนั่งเงียบสักชั่วโมงจนกว่าทุกคนจะอิ่มนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายนักถ้าแลกกับความสบายใจของแม่ไอ้แจ็ค
“คุยอะไรกับมัน?” คนที่สึกจากการบวชได้สักพักผมเริ่มงอกออกมาจากกะโหลกกลวง ๆ นั่นแล้ว และเท็นก็เห็นด้วยกับคำถามของไอ้ธีร์
“ก็เรื่องทั่วไปครับ พี่ธีร์อยากรู้เหรอ?”
“พี่ไม่ได้ถามเพราะอยากรู้ แต่พี่ถามเพราะจะให้เลิกคุย”
“ธีร์” โชคร้ายหน่อยที่ไอ้แจ็คนั่งอยู่ตรงนี้ ก็เลยต้องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะปัจจุบันระดับความเกลียดที่มันมีต่อเขามันก็ดันลดลงไปบ้างแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเกลียดเท่าเดิมแต่ต้องห้ามทัพเพราะเกรงใจแม่ ซึ่งนั่นก็เพื่อนรักปากเรียกตีนหมายเลขหนึ่งจะห้ามก็คงยากหน่อย
ลึก ๆ ก็อยากให้มันโชว์ความดักดานออกมาเยอะ ๆ ให้แม่ไอ้แจ็คเห็นว่าเพื่อนสนิทลูกชายถ่อยอย่างไร แต่พอคิดอีกทีแม่ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว คนทั้งโลกคงไม่มีใครผิดหวังหรือประหลาดใจกับสิ่งที่ไอ้ธีร์เป็น
“ทำไมโซ่ต้องเลิกคุยกับพี่เท็นด้วยล่ะครับ?”
“โซ่ จะเอางี้ใช่ปะ?”
“พี่ธีร์ จะเอางี้ใช่ปะ?”
“อย่ามายอกย้อน เดี๋ยวปั๊ด”
“เป็นอะไรล่ะน่ะ วีนน้องไม่พอแถมยังกัดเพื่อนอีก”
เสียใจนะธีร์ แต่ยกนี้เขาได้ภาษีแม่ไอ้แจ็คว่ะ
“ใครกัด? ใครเพื่อนใคร? แม่ถูกไอ้เชี่ยนี่ซื้อเพราะแค่มันไปที่บ้านบ่อย ๆ เหรอ ไหนตอบให้ลูกชายคนนี้ชื่นใจหน่อยซิ?” คนหัวเกรียนถลึงตาคาดโทษแม่เพื่อนที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้างลูกสาว
“ก็ก่อนหน้านี้ทิดบวชอยู่”
“ก็สึกแล้วไงเนี่ย เอาตำแหน่งลูกชายคืนมาเลย ธีร์ไม่แบ่งให้ใครนะบอกก่อน” ออดอ้อนเก่งที่หนึ่ง คลื่นไส้จะอ้วก เท็นกลอกตาไปทางอื่นพลางยกน้ำขึ้นดื่มเพราะไม่อยากเป็นอย่างที่คิด
“แม่มีลูกหลายคน ทิดมีปัญหาอะไร?”
“เซ็งไง ธีร์ต้องเป็นลูกรักดิ”
“อย่าเลย เพราะที่บวชไปก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่มึงจะได้เกาะผ้าเหลืองด้วยไหม อย่างมึงน่าจะเกาะด้วยได้แค่ผ้าเดียว”
“ผ้าไรวะพี่ตั้บ?” ไอ้เด็กฝรั่งเสริม
“ผ้าขาวเปื้อนขี้”
“5555555555555555555555555”
“ตุ้บตั้บ เดี๋ยวจะกินกันแล้วอย่าพูดเรื่องแบบนั้นสิลูก”
“โทษแม่โทษ”
“5555555555555555555555555”
มองจากหางตาก็รู้สึกได้ว่าไอ้แจ็คกำลังมองอยู่ ถ้าไม่คิดไปเองคาดว่ามันคงเป็นห่วง แต่ถ้าไม่ใช่มันก็คงอยากด่าเขาเรื่องพูดไม่ดีกับโซ่เมื่อครู่นี้ อึดอัดจริง ๆ กับการทำได้แค่นั่งเฉย ๆ เพราะรู้ว่าถ้าหากตอบโต้เมื่อไหร่คนผิดจะกลายเป็นเขาทันที
“เดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำก่อน กินกันเลยนะไม่ต้องรอ”
“พวกผมต้องรออยู่แล้วปะโธ่ แม่ทั้งคนน้อ” ไอ้เด็กลูกครึ่งขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังมองตามหญิงผู้เป็นที่รักของเด็ก ๆ ซึ่งกำลังเดินออกจากที่นั่ง และไอ้เด็กพูดมากก็ถูกแม่เขย่าศีรษะอย่างมันเขี้ยว
“แกน่ะกินหนีแม่คนแรกตลอดเลย ทำมาเป็นพูดดี”
“ร๊ากกกกกกกกกกก”
เท็นคงไม่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าบรรยากาศมันตึงเครียดทันทีที่แม่ไอ้แจ็คไปเข้าห้องน้ำ พี่ตั้บก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เด็กอีกสองคนนั่งนิ่งมองสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่วนไอ้เด็กลูกครึ่งกระแซะแขนพี่คนสนิทของมันซึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง
“รีบกินรีบกลับ เดี๋ยวกูไปส่งทุกคนเอง”
“เจ้าของวันเกิดเหรอ อ้าปากทีก็สั่ง?”
“แล้วมึงเป็นใครถึงมาอยู่ที่นี่?”
“ธีร์ อย่าทำแบบนี้”
“แล้วกูต้องทำยังไงเพื่อน คีบหมูให้มันเหรอ?”
“พี่ธีร์สลับที่กับคิงดีกว่านะครับ นี่คิง มา --” ยังพูดไม่ทันจบโซ่ก็ถูกคว้าข้อมือไว้เสียก่อน เด็กหนุ่มมองดวงตาอีกฝ่ายซึ่งยังไม่ละห่างไปไหนและพี่เท็นก็เช่นกัน
โซ่เข้าใจทั้งสามฝ่ายว่ารู้สึกอย่างไร พี่แจ็คคงลำบากใจที่เพื่อนทั้งสองคนไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่แจ็คจะทักส่วนตัวมาปรึกษาเขาว่าควรทำอย่างไรดีพี่ธีร์กับพี่เท็นถึงจะยอมเผชิญหน้ากัน ซึ่งการพามาเจอหน้านั้นก็ไม่ได้ยากเท่ากับจะใช้วิธีไหนเพื่อให้ทั้งคู่ยอมคุยกันได้โดยไม่ต้องจบด้วยการทะเลาะ
ส่วนพี่เท็นก็อาจจะอยากเริ่มต้นใหม่ โซ่คิดว่าถ้าคน ๆ หนึ่งจะคิดร้ายกับเพื่อนเก่าก็คงหาทางเอาคืนในแบบที่ตนเองถนัดซึ่งทุกคนก็เคยเห็นกันมาแล้ว และโซ่ก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของพี่เท็น
ถ้าพี่เท็นนิสัยไม่ไหวจริง ๆ คนอย่างพี่แจ็คคงไม่คิดพากลับเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตอีกแน่ พี่แจ็คเป็นคนรอบรอบแค่ไหนโซ่รู้ดี เขาไม่เคยเห็นรุ่นพี่แสดงออกแบบนี้ โดยเฉพาะการยอมออกตัวห้ามพี่ธีร์เพื่อปกป้องพี่เท็น
พี่แจ็คคงอยากลืมเรื่องผิดใจเมื่อตอนนั้นและโซ่คิดว่ามันดีมาก ๆ แต่พี่ธีร์นี่สิ... ถึงเจ้าตัวจะเคยพูดว่า ‘เดี๋ยวลองพยายาม’ แต่อีกฝ่ายก็ห้ามตัวเองไม่ให้ใส่อารมณ์เรื่องพี่เท็นแค่ตอนคุยกับพี่แจ็คเท่านั้น พี่ธีร์ตอบเออออไปเพื่อให้เพื่อนสบายใจ แต่เบื้องหลังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทุกครั้งที่เห็นว่าพี่แจ็คยอมใจอ่อนจนปล่อยให้คนเดิม ๆ เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง พี่ธีร์ยังจดจำช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอีกฝ่ายคงนึกไปถึงความเสี่ยงมากกว่าจะให้คิดแง่บวกว่าพี่เท็นจะดีขึ้นได้
‘มันไม่ใช่แค่เรื่องหักหลังทีม แต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ไอ้เท็นทำคือการทำลายไอ้แจ็คในทุก ๆ ทาง’
พอเป็นอย่างนั้นคนที่รักเพื่อนยิ่งกว่าอะไรจึงโมโหจนทนนั่งโต๊ะเดียวกันนาน ๆ ไม่ไหว
“ที่กูกับมันมาที่นี่ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ มึงคงอยากให้กูกับมันได้คุยกันบ้างสักคำสองคำใช่ไหมวะเพื่อน?”
“พี่มึงใจเย็น...” แหลมก็หมั่นตีนพี่เท็นเพราะความรักพี่มันเข้าตา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากให้พี่ธีร์กับพี่แจ็คต้องเผชิญหน้ากันแบบนี้ ซึ่งเซนส์ที่โคตรแม่นมันบอกว่าอีกไม่กี่วิข้างหน้า เพื่อนรักอาจจะต้องฉะกันเพราะพี่เท็น
“อืม”
“ได้ งั้นกูพูดก่อน”
พี่ตั้บเห็นท่าไม่ดีจึงสะกิดแหม่มให้พาคิงออกไปข้างนอกพร้อมบอกน้องให้หาทางหลอกล่อแม่ไว้เพื่อไม่ให้เข้ามาเจอสงครามบนโต๊ะ
“มันควรจบตั้งแต่แข่งการกุศลรอบนั้นแล้วไม่ใช่เหรอวะเท็น?”
“...”
“ทำไมถึงยังอยู่ กูขอถามแบบคนกำลังของขึ้นว่าเพราะไม่มีที่ไปแล้วหรืออะไรยังไง?”
น่าแปลก...
ที่ตอนนี้เท็นได้แต่นิ่งเฉย สบตากับอีกฝ่ายเหมือนไก่ที่กำลังถูกเชือดอย่างช้า ๆ ขณะที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถตอกกลับไปได้ทุกคำและยิ้มเหมือนไม่รู้สึกรู้สา เพื่อให้ทุกคนในโลกเข้าใจว่า TEN1O ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด
เพราะกลัวว่าไอ้แจ็คจะรู้สึกแย่ถ้าหากว่าเขางัดปากพูดน่ะเหรอ มันขนาดนั้นแล้วใช่ไหมความรู้สึกที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และมันทำให้เขากล้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบงั้นหรือ?
แค่เพราะเห็นว่าคนข้าง ๆ กำลังมองมา และวางมือลงบนหน้าขาเขาราวกับอยากบอกให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
“งั้นพูดมาว่าทำไมกูถึงอยู่ตรงนี้ไม่ได้”
‘มึงเป็นใครถึงมาเที่ยวตัดสินว่ากูควรอยู่ส่วนไหนของโลก?’ นี่คือสิ่งที่เขาคิดแต่ไม่ได้พูด
“กูเป็นเพื่อนมัน กูอยู่กับมันทุกช่วงเวลาที่มึงหักหลังทุกคนไง” ธีร์ชี้หน้าเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “หรือว่าสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีใครอ้าแขนรับมึงแล้ว หรือว่าใช้เวลาสำนึกผิดได้ภายในปีเดียว โอ้โหไวจริงนะ?”
เรื่องสำนึกมันเกิดขึ้นนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยเปิดใจยอมรับเพราะคำว่าทิฐิค้ำคอ แม้กระทั่งตอนที่ตัดสินใจขอลงแข่งทีมอื่นเพราะอยากแสดงให้คนเหล่านี้เห็นว่าเขาเก่งกว่าที่เคยมากแค่ไหน มันเป็นความคิดของเด็กที่ไม่รู้จักโต
หลายอย่างที่รู้ว่ามันผิด แต่ก็ทำลงไปเพียงเพราะไม่อยากกลายเป็นคนน่าสมเพช TEN1O เดินมาไกลเกินกว่าจะพูดคำว่าขอโทษกับคนระหว่างทางแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะละอายใจ อีกส่วนเป็นเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการให้อภัย ซึ่งที่ยังอยู่ตรงนี้กับไอ้แจ็คก็เพราะคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมเข้าใจบ้างสักนิด และให้โอกาสเขาได้กลับไปซ่อมแซมแก้ไขเรื่องราวที่ทำผิดพลาดไป
รู้ว่าให้ลืมไปเฉย ๆ คงไม่ได้ แต่จากนี้ไปเขาจะพยายามทำตัวให้ดีกว่าตอนนั้น
“ทำไมไม่เถียงล่ะ พูดอะไรหน่อยสิ นิ่งแบบนี้เดี๋ยวได้เสียศักดิ์ศรีกันพอดี มึงคือ TEN1O เลยนะ”
“พอได้แล้ว”
“ยากหน่อยว่ะ พอได้พูดแม่งก็ยาวแบบนี้แหละ แต่กูจะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ส่วนหลังจากนี้มึงจะยังไงกับมันก็แล้วแต่เลย”
“วันนี้วันเกิดแหม่มนะครับ ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ?” ไอ้ธีร์ดูจะอ่อนลงหลังจากได้ยินเสียงน้องเล็กของทีม แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น
“มึงกลับไปคุยกัน โอเค กูคงแย้งอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือให้ทำอะไรที่เรียกว่าเริ่มต้นใหม่น่ะกูขอบาย”
“...”
“กูขอโทษว่ะแจ็ค ใจกูมันไม่กว้างพอขนาดนั้น แล้วกูขอพูดกับมึงประโยคสุดท้ายนะเท็น ว่าถ้ามึงทำใครสักคนเสียใจโดยเฉพาะไอ้แจ็ค กูตามไปกระทืบมึงถึงบ้านแน่”
ชายหนุ่มผมสกินเฮดเริ่มหายใจติดขัดเพราะโทสะ และพอรู้ตัวว่าทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวแล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากร้านโดยไม่พูดอะไรอีกแล้วแจ็คก็เดินตามออกไปทันที
“กูไปด้วยดีไหมวะ...?” แหลมมองรุ่นพี่ทั้งที่คิ้วตก ซึ่งพี่ตั้บก็ส่ายศีรษะปฏิเสธ ตอนนี้ทั้งไอ้โซ่ พี่เท็น ต่างก็ทำหน้าเหมือนจะคายโรคร้ายออกมาอย่างไรอย่างนั้น
“อ้าว แจ็คกับธีร์ไปไหนแล้วล่ะ?”
“ไปขี้จ้ะแม่” แหลมยิ้มแห้ง ก่อนจะส่งสายตาบอกให้แหม่มรู้ว่าสถานการณ์มันแย่ลง ซึ่งงานนี้ไม่รู้จะขอโทษน้องมันยังไงที่ทำให้วันเกิดกร่อย
“พี่เท็นจะไปไหนเหรอครับ?”
เจ้าของชื่อมองหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันแต่ก็ยังเป็นห่วงเขาอีกงั้นเหรอ เด็กคนนี้นี่มันจริง ๆ เลย
“ดูดหรี่ ไปด้วยกันไหม?”
โซ่ลังเลจึงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า เท็นยิ้มบาง ๆ แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะวางมือลงบนศีรษะเด็กน้อย
“สูบบุหรี่ไม่ดีหรอก อยู่ตรงนี้แหละ จะได้ย่างหมูให้ทุกคนกิน”
“พี่เท็นจะกลับมาใช่ไหมครับ?” เหมือนได้ถามตัวเองไปด้วย เท็นคว้าซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงพลางลดระดับสายตาครุ่นคิด ก่อนจะสบตากับโซ่แล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ
*
ความคิดในหัวตีกัน ฝั่งหนึ่งคิดว่าที่ไอ้ธีร์แสดงออกอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว เพราะไม่ว่าใครก็คงหัวเสียถ้าหากว่าไอ้เชี่ยตัวหนึ่งที่เคยสร้างเรื่องไม่ดีมากมายมันกลับเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตเพื่อนสนิทอีกครั้ง
แต่อีกฝั่งหนึ่งก็คิดว่า ‘งั้นต้องถูกลงโทษให้อยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเลยเหรอทุกคนในโลกถึงจะพอใจ คนเลว ๆ อย่างเขายังมีโอกาสกลับตัวได้ไหม ตอนนี้บ้านหลังนั้นเป็นจุดปลอดภัยหนึ่งเดียวในชีวิต TEN1O และเขาไม่อยากเสียมันไปอีกแล้ว’
แต่ใครจะสนใจเสียงตะโกนในความคิดของคนนิสัยไม่ดีกันล่ะ ตามกฎสังคมแล้วคนเลวต้องถูกลงโทษให้เจ็บปวดอย่างสาสมและห้ามมีความสุขไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ
ชายหนุ่มเดินไปทางห้องน้ำพลางหยุดยืนพิงหลังกับผนังระหว่างทางเดินแล้วเงยหน้าขึ้นถอนหายใจ ระหว่างนั้นก็คิดไปว่าถ้าหากเขานิสัยดีเหมือนไอ้แจ็คตั้งแต่แรกเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นคนนิสัยดี บางทีทั้งคู่อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันตั้งแต่แรกก็ได้
เด็กคนนั้นจะไม่ถูกเพื่อนรังแก จะกลายเป็นที่รัก จะมีเพื่อนมากมาย ไม่ต้องหงอยเหงาตามลำพังในโรงเรียนสอนดนตรี และสุดท้ายก็คงไม่ได้รู้จักไอ้เด็กหน้าหมาที่ชื่อแจ็ค
“มาทำอะไรตรงนี้?”
ไม่รู้จะตอบอย่างไร อันที่จริงเท็นไม่ได้คาดหวังไว้ว่าว่าไอ้แจ็คจะโผล่มาหลังจากเดินตามไอ้ธีร์ไป
“ถ้ากูบอกว่าไม่รู้จะนั่งทำหน้ายังไงมันจะแปลกไหม?” ไอ้แจ็คไม่ได้ตอบ มันถูปลายจมูกและเหมือนจะถอนหายใจ ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ไม่แปลกหรอก กูเข้าใจ” ไม่รู้ทำไม แต่พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแค่นี้หัวใจมันก็พองโตขึ้นมา เหมือนว่าคำพูดทั้งหมดของไอ้ธีร์ทำอะไรเขาไม่ได้เลย “มันขอกลับไปตั้งสติก่อนเพราะไม่อยากทำหน้าอึมครึมบนโต๊ะตอนแหม่มเป่าเค้ก กูอยากพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วงมัน แต่พอนึกอีกทีมึงคงไม่ได้คิดอย่างนั้น”
“ก็เออสิ แทนที่จะอดทนนั่งกินให้เสร็จ หลังจากนั้นจะเรียกกูไปด่าก็ยังไม่สาย”
“ที่บอกว่ามันเปลี่ยนไปแล้วน่ะไม่นับอันนี้นะ” เท็นยิ้มขำกับคำพูดอีกคนที่มาพร้อมหน้านิ่ง ๆ แบบนั้น
ไอ้แจ็คขยับมายืนพิงผนังข้าง ๆ กัน ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำประปราย ก่อนจะแบมือออกมาข้างหน้า
“อะไร?”
“ซองบุหรี่”
“จะสูบเหรอ?” เท็นล้วงเอาซองสี่เหลี่ยมออกมาพร้อมไฟแช็ค
“เปล่า จะยึด” ไอ้แจ็คว่าพลางแย่งไปใส่กระเป๋ากางเกงตนเอง “เดี๋ยวมึงหายยาวแล้วอ้างว่าดูดหรี่เพลินอีก”
“ซองแค่นี้ดูดเดี๋ยวเดียวก็หมดแล้ว กลัวกูเศร้าเพราะคำพูดไอ้ธีร์จนหนีกลับบ้านหรือไง?”
“ก็นิดนึง แล้วใครบอกให้มึงนั่งเงียบให้มันด่าฝ่ายเดียวล่ะ?”
“ถ้ากูตอบกลับเดี๋ยวทุกคนก็จะรู้สึกแย่อีก ที่พูดไปเพราะวันนี้วันเกิดแหม่มหรอกนะ กูถึงอยากได้เป็นคนดี”
“แหม่ ประทับใจแทนน้องกูจริง ๆ ขอปรบมือสักสองที” เท็นชำเลืองมองไอ้คนข้าง ๆ ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แถมทำท่าปรบมือพอใจ จึงชนไหล่มันแรง ๆ จนเสียการทรงตัว
“กูไม่ขอโทษนะที่เรียกให้มึงกับมันมาเจอกัน”
“เก็บคำนั้นไว้ให้ไอ้ธีร์ก็พอแล้ว งอแงเป็นสาวน้อย” เขาส่ายศีรษะหน่าย ๆ
“มันไม่ได้มาคลุกคลีกับมึงทุกวันเหมือนกู -- หมายถึงมันไม่ได้หุงข้าวให้มึงแดกฟรีทุกวันก็เลยไม่รู้ว่ามึงก็ไม่ได้เหี้ยอะไรมาก”
“นั่นปลอบใจเหรอ ขอเตะปากทีดิ”
“กูเรียกไอ้ธีร์มากระทืบมึงอะเอาดิ เดี๋ยวนี้มันเฮี้ยนนะบอกก่อน ยิ่งเพิ่งละจากศีลจากธรรมมาอย่างงั้นว่าได้ที่ไหน”
“เออ กลับไปก่อนไป ถ้าแม่ถามหาก็บอกว่ากูขี้อยู่”
“หาเรื่องหนีทหาร คงไม่ได้ซ่อนบุหรี่ไว้อีกใช่ไหม?” ไอ้แจ็คจับ ๆ คลำ ๆ ตามตัวเขาก่อนจะหยุดที่เป้ากางเกง คนโดนจับจุดตายจึงงอตัวเป็นกุ้งแล้วถลึงตามองเอาเรื่อง
“เล่นเชี่ยอะไรของมึง?” เท็นกวาดสายตามองอย่างหวาดระแวง พอเห็นมนุษย์ป้ามองเหยียดเขากับไอ้แจ็คพร้อมเอามือปิดตาหลานตัวน้อยก็ยิ่งอับอายเข้าไปใหญ่
“ถ้ามาช้าต้องย่างแดกเองนะ”
“พูดเหมือนถ้ากลับไปตอนนี้มึงจะย่างให้กูแดก”
“อ้าว ก็ไม่ได้โง่นี่?”
ไอ้แจ็คยิ้มแล้วยีผมเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับไป เท็นมองแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายจนลับสายตา พร้อมความรู้สึกหน่วง ๆ ว่าแม้จะรู้สึกดีที่ไอ้เวรนั่นมาปลอบ แต่เรื่องไม่ลงรอยกับไอ้ธีร์ก็ยังต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆ ถ้าหากว่ามีเหตุให้ต้องเผชิญหน้ากัน
แค่คิดก็ถอนหายใจอีกครั้ง เท็นเสยผมสีอ่อนขึ้นแล้วคิดจะเข้าไปนั่งหายใจทิ้งในห้องน้ำสักห้านาที การปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไม่หลงเหลือความกังวลไว้มันคงดีกว่า อย่างน้อยก็ซื้อความสบายใจให้แม่ไอ้แจ็คกับแหม่มที่เป็นเจ้าของวันเกิดได้ วันนี้เขาทำดีแล้วที่ไม่ได้สวนกลับไปด้วยคำพูดร้าย ๆ แบบที่ไม่มีใครอยากได้ยิน
แต่ยังไม่ทันถึงห้องน้ำชายหนุ่มก็หยุดชะงักเมื่อพอเลี้ยวตรงหัวมุมก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้พร้อมเด็กอ่อนในรถเข็นสีฟ้า ดวงตาคู่สวยนั้นมองมาราวกับว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วและคง...
“ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ก็เป็นเท็นจริง ๆ สินะ?”
“...”
*
(ต่อด้านล่างจ้า)