ชานนท์ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนิดหน่อยที่ยังวนเวียนฝันซ้ำซากอยู่กับเหตุการณ์ช่วงค่ำที่ผ่าน เหตุการณ์ที่เขาถูก ‘เพื่อนใหม่’ ลวนลามจนเผลอเคลิ้บเคลิ้มไปโดยไม่รู้ตัว แม่จะเขาจะไม่ได้เต็มใจ และไม่สามารถสามารถขัดขืนได้ แต่เขาก็ไม่เชิงว่าจะรู้สึกไม่ดีขนาดนั้น แบบนี้เขาเรียกว่า ‘คนใจแตก’ หรือเปล่า? เขาทบทวนกับตัวเองในใจซ้ำไปมา
‘ความรู้สึกแปลกๆแบบนี้ คนอื่นจะเป็นเหมือนเขาหรือไม่นะ?’ ชานนท์ถามตัวเอง เขายังไม่ทำแบบนี้กับใคร แม้แต่เพศตรงข้าม มันจะเป็นความรู้สึกแปลกๆ แบบนี้หรือไม่นั้น เขาก็ยังแอบสงสัย เขารู้แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไร หรือว่าความจริงเขาจะมีรสนิยมแบบนี้ไปแล้ว เขาคิดขณะฝันถึงสัมผัสเมื่อช่วงค่ำซ้ำไปซ้ำมา จนในเมื่อความฝันล่าสุดของชานนท์ รสสัมผัสมันแตกต่างออกไป ทั้งความอบอุ่นจากริมฝีปาก ช่วงลิ้นที่โรมรันรุกเข้าไปซุกไซ้จนรู้ไปทุกซอกจนถึงปลายลิ้น
ชานนท์ยังสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่ไล่เรียงลูบไล้ไปมาเหนือเนินอกที่เกลี้ยงเกลาของเขา ลมเย็นที่ตกกระทบท่อนบนของร่างกายมันทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความรู้สึกดีที่ได้ถูกสัมผัสอย่างทะนุถนอนบวกกับลมเย็นที่พัดกระทบผิวกายทำให้เขาสะดุ้งตื่นจากฝันที่เตลิดไปไกล
ครั้งแรกที่ลืมตาเขารู้สึกแปลกใจกับภาพที่เห็นครั้งแรก บางส่วนของใบหน้าในระยะประชิด สัมผัสที่เปียกชื้นที่ริมฝีปาก และลิ้นของอีกฝ่ายกำลังล่วงละเมิดเข้าไปจนเขาอ่อนแรง ชานนท์ถึงกับส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่คืออะไร กับใคร?
วรุฒยกหน้าตัวเองให้อีกฝ่ายเห็นทั้งใบหน้า ใบหน้าที่มีอารมณ์หลากหลายจนชานนท์อธิบายไม่ถูก มันเป็นใบหน้ายิ้มกึ่งพึงพอใจอะไรถึงขีดสุด (แต่ก็มีเสน่ห์จนเขาแอบกลืนน้ำลาย วรุฒเป็นคนหล่อที่แม้แต่ผู้ชายยังใจสั่น)
“ นี่!!.....” ขานนท์พยายามจะร้องทักเพื่อโวยถามถึงสภาพที่เขาเผชิญอยู่กับคนทางด้านบน เขาก็ถูกวรุฒใช้นิ้วชี้ขึ้นมาทาบปากและทำเสียง “จุ๊ จุ๊ จุ๊” เท่านั้น ในขณะที่ชานนท์กำลังงุนงงกับท่าทางของวรุฒ เขาก็ถูกอีกฝ่ายกดริมฝีปากลงไปแนบชิด และละเลงบทรักอันร้อนแรง จากตอนแรกที่ชานนท์พยายามดิ้นรนที่ดิ้นให้หลุดพ้นจากการพันธนาการของอีกฝ่าย กลับค่อยๆ เคลิ้มคล้อยไปตามจังหวะรักของวรุฒ ทั้งริมฝีปากและปลายนิ้วที่ลูบไล้ไปแต่ละจุดที่ล้วนเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทุกคน ตั้งแต่ต้นคอ ใบหู ยอดอก จนไปถึงส่วนท้องน้อย นะหว่างประทับฝีปากลงไป วรุฒพยายามเลื้อยมือลงต่ำไปเรื่อยตามความโอนอ่อนของชานนท์ ตอนนี้ชานนท์มีสภาพไม่ต่างจากต้นอ่อนของข้าวที่ไหลลู่ไปตามลมสวาทของอีกฝ่าย เขายอมแม้กระทั่งถูกปลดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ความปรารถนาอันแปลกแยกและแรงกล้าสะกดความละอายของเขาจนหมดสิ้น ในที่สุดเขาก็อยู่ในสะภาพเปลือยเปล่าที่ลมหนาวของเครื่องปรับอากาศสัมผัสกับผิวเขาได้ทุกส่วน
วรุฒค่อยๆ ใช้ริมฝีปากไล่เลียไปตามจุดสำคัญต่างๆ ตามที่มือเขาเคยเล้าโลมมาแล้ว สัมผัสที่ได้มันช่างดีกว่าการใช้มือมาก แม้มันจะดูเปียกแฉะก็ตาม วรุฒไล่เลียลงไปจนถึงยอดอกที่มีตุ่มนูนสีชมพูอ่อน วรุฒใช้เวลาอยู่กับตรงนั้นจนชานนท์บิดตัวและเผลอครางออกมาจากปากที่เผยอออกเล็กน้อย ชานนท์หลับตาไปพร้อมกับความสุขกระสันต์ที่วรุฒมอบให้ หลังจากวรุฒพอใจกับการกระทำของตนที่ตรงยอดอกจนผิวชานนท์แดงเป็นจ้ำ เขาก็ละเลงลิ้นต่อยาวลงไปจนถึงจุดต่ำกว่าท้องน้อยที่น้องชายของชานนท์ตื่นตัวเต็มที่
“ไม่เลวนี่” วรุฒเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและแปลกไป
“นายยังไม่เคยล่ะสิ” วรุฒพูดต่อ จนชานนท์พยักหน้าเล็กน้อยอย่างอายๆ ชานนท์รู้สึกว่าหน้าเขามีอุณหภูมิไม่ต่างจากเตาปิ้ง คือรู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่ออกมา การเว้นช่วงเพื่อถามทำให้ชานนท์มีสติพอจะอายจากการถูกกระทำขึ้น เขาพยายามใช้มือเพื่อปกปิดส่วนสำคัญของเขาแต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะโดนวรุฒปัดมือออกไปแล้กดไว้ที่เตียง หลังจากนั้นชานนท์ก็ร้องเสียงหลงออกมาด้วยความแปลกใหม่ที่วรุฒมอบให้ เขาใช้ปากมอบความสุขให้กับชานนท์จนเขาบิดตัวด้วยความสุขซ่านที่ไม่เคยเจอมาก่อน
เวลาผ่านไปเท่าใดไม่ทราบที่ ลิ้นที่เปียกชื้นนั้นไล่เก็บความอบอุ่นจากอยู่ที่จุดตื่นตัวของชานนท์จนหลายครั้งที่เขาทนกับความสุขที่อีกฝ่ายมอบให้ไม่หมดจนถึงขั้นพยายามขยับสะโพกเพื่อหนีอีกฝ่ายไว้แต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ วรุฒกระทำกับชานนท์ด้วยความโหยกระหายจนชานนท์รู้สึกอยากต่อต้านเหมือนโดนบังคับให้กระทำแต่สิ่งที่ไม่พึงใจ แต่สุดท้ายร่างกายมันกลับอ่อนระทวยจนไร้แรงต่อต้านจากทำนองรักที่วรุฒมอบให้อย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้วรุฒผู้ช่ำชองได้ขยับศรีษะลงต่ำไปเรื่อยจนเกือบคล้อยไปทางด้านหลัง แล้วทันใดนั้นเขาก็พลิกตัวอีกฝ่ายให้คว่ำลงอย่างง่ายดายเหมือนหงายกระดาษ หน้าของชานนท์ไหลลู่ไปกับความอ่อนนุ่มของหมอน เพียงครู่เดียวเขาก็ถูกจู่โจมด้วยการโลมเลียบริเวณรอบจุดยุทธศาสตร์
“อย่า... นั่นมัน..... @&@£&&” ชานนท์พยายามห้ามการกระทำของอีกฝ่ายแต่ก็จบด้วยการร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษากับรสสัมผัสที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันอ่อนโยนและร้อนแรงในเวลาเดียวกัน ชานนท์ต้องทนอยู่ในความรู้สึกแบบนี้พักใหญ่จนในที่สุดทุกอย่างก็หยุดลง ชานนท์หอบหายใจออกจากปากและจมูกถี่รัวจนแทบขาดใจ
ไม่นานต่อจากนั้น ของแข็งแท่งกลมมนก็ถูกอัดเข้าสู่ช่องยุทธศาสตร์ของเขา ชานนท์รู้ทันทีว่ามันคืออะไร เพราะตั้งแต่เขามาคบกับยัยเมย์ เขาก็รู้จักเรื่องอะไรใหม่ๆ พวกนี้มากขึ้น และเขาก็ไม่เคยรู้อะไรกับเรื่องพวกนี้เลย ยัยเมย์ว่ามันไม่แปลกอะไรแล้วในยุคสมัยนี้ แต่ชานนท์ก็ยังไม่เคยนึกภาพออกเลยจนกระทั้งมาเจอด้วยตนเอง สิ่งนั้นของชายร่างสูงใหญ่กำลังบดเบียดแทรกช่องแคบของเขาเข้าเรื่อยๆ จนความรู้สึกเจ็บจนแทบทนไม่ไหว ชานนท์ร้องเสียงหลงออกมาอย่างลืมตัว เขาตีหมอนที่อยู่แถวนั้นพลางพยายามดิ้นรนหนีจากอีกฝ่ายจนสำเร็จ แม้ชานนท์จะมีความรู้สึกมึนเมาอยู่บ้างแต่ความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามามันมากกว่าจะรับไหวจริงๆ วรุฒโน้มตัวลงจูบที่หลังหูของชานนท?เบาๆ พร้อมเอื้อมไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักใต้เตียง
“โทษนะ แต่เดี๋ยวก็สบายแล้ว” วรุฒเอ่ยขึ้นเบาจนเหมือนพูดกับตัวเอง
หลังจากจบประโยคชานนท์ก็รู้สึกถึงของเหลวเหนียวเย็นชโลมลงบนจุดยุทธศาสตร์ของเขาจนถึงกับสะดุ้งสั่น แต่ก็รู้สึกความเจ็บปวดบรรเทาลงมาก ชานนท์คิดว่าคงเป็นยาอะไรที่ช่วยให้เขาบรรเทาความเจ็บลง อีกอย่างเขายังไม่พร้อมกับเรื่องแบบนี้
“นนท์.... เราขอ.....นะ” วรุฒพูดลอยๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
“อะไรนะ....อ้ากกกก” ชานนท์ร้องเสียงหลงอีกครั้ง สิ่งแปลกปลอมกำลังสอดแทรกตัวเข้าไปที่ช่องแคบของเขาอย่างฝืนๆ เขากำลังถูกจู่โจมด้วยความใหญ่ที่อัดแน่นไปทั่วอณูร่างกายของชานนท์ แม้เขาจะเคยเห็นมันมาบ้างแต่ก็ไม่เคยคิดว่าเวลาโตเต็มตัวมันจะสร้างความอึดอัดให้เขาขนาดนี้ ตอนนี้เขาเหมือนโรงจอดรถยนต์ที่ถูกเครื่องบินโดยสารพยายามเข้ามาจอด ชานนท์ดิ้นด้วยความจ็บปวด ส่วนวรุฒทำได้เพียงกอดชานนท์ไว้แนบแน่น จนกระทั้งความเจ็บปวดทุเลาลง ชานนท์ได้แต่คิดว่า พวกผู้หญิงที่มาหลงเสน่ห์ไอ้หมอนี่ พวกนั้นทนกันได้ยังไง? และเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมวรุฒถึงได้พกของเหลวลื่นๆนี่ไว้กับเตียง เพราะขนาดมันเกินมาตรฐานไปมากนี่เอง
หลังจากชานนท์สงบลงวรุฒจึงเริ่มขยับตัวอย่างช้าๆเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ความเจ็บปวดแล่นเข้าเล่นงานขานนท์อีกครั้ง ถึงแม้จะไม่มากเท่าช่วงแรก แต่ก็เกินที่เขาจะรับไหว ชานนท์พยายามขยับตัวเพื่อหนีจากความเจ็บที่วรุฒมอบให้อย่างเนิบนาบ แม้ความเจ็บปวดนี้จะมาพร้อมกับความรู้สึกดีที่แปลกประหลาด แต่ชานนท์ก็ขยับตัวหนีทุกครั้งที่วรุฒขยับตัวเข้าหาเขา ในที่สุดวรุฒก็เหมือนคิดอะไรได้ เขาจับเอวชานนท์ยึดไว้แน่น และขยับเอวถี่ขึ้นจนชานนท์ไร้ทางดิ้นรนหลีกหนี
ความเจ็บปวดค่อยๆกลายเป็นด้านชา จนกลายเป็นความรู้สุขแปลบเข้ามาแทนที่ ชานนท์รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาปล่อยให้วรุฒจัดการกับเขาตามใจชอบเหมือนการเตรียมอาหารมื้อใหญ่ เขาขยับตามมือของอีกฝ่ายที่จัดท่าทางเขาไปต่างๆ นานาเหมือนกำลังเล่นโยคะในท่าที่เขาคิดไม่ถึง เขาตกเป็นเหยื่อทางอารมณ์ของอีกฝ่ายจนกระทั้งวรุฒที่กำลังกระทำกิจกรรมเข้าจังหวะหอบหายใจถี่และร้องเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคย และวรุฒก็ล้มตัวลงมานอนทับเขาด้วยอาการหมดแรง ทั้งๆที่ส่วนลำที่ใหญ่โตนั้นยังอยู่ในตัวของชานนท์ ส่วนชานนท์นั้นเขาเองก็เสร็จกิจของเขาไม่นานก่อนอีกฝ่ายล้มตัวลง เขารู้สึกเหนอะและสกปรกกับอาการเหนอะหนะตามลำตัวและส่วนอื่นโดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์ของเขา แต่วรุฒกลับไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปไหน วรุฒกอดเขาแน่นกว่าเดิมเสียอีก เขาหลับตาพริ้มยิ้มอย่างสมหวังในท่าทางสวมกอดชานนท์แน่นหนา ชานนท์หมดแรงที่จะดิ้นรนอีกต่อไปเพราะหมดแรงจากกิจกรรมก่อนหน้านี้ไปเรียบร้อย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรมากมายแต่กลับเหนื่อยแทบหมดแรง จนในที่สุดชานนท์ก็ล้าจนหลับไป
.................