ขอโทษเค้าผิดไปแล้วบทที่ 22
เดียร์ชะงัก เขาเงยหน้าจากยอดอกที่กำลังเคล้าคลึงอยู่ แล้วมองตาผม แววตาของเด็กหนุ่มมีความอวดดื้อถือดี เหมือนเด็กที่ต้องการเอาชนะผู้ใหญ่ที่ห้ามไม่ให้ตนเองทำโน่นทำนี่ โดยเอาเงื่อนไขของสัมพันธภาพมาขู่
“พูดอะไรน่ะครับ เรียวเองก็เริ่มพอใจแล้วไม่ใช่เหรอ ดูสิ ร่างกายของคุณตื่นตัวเปิดรับผมออกขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ยอมเชื่อความรู้สึกของตัวเองบ้าง ของแบบนี้ ถ้าถูกสัมผัสลูบไล้บ่อยๆ แล้วก็มีใจด้วย มันก็ต้องรู้สึกบ้างอยู่แล้วล่ะ ถ้าปล่อยให้ผมทำต่อไป เรียวก็จะมีโอกาสถึงจุดสุดยอดได้เหมือนกันนั่นแหละ”
เด็กหนุ่มกอบกุมของหวงของผมไว้ในมือข้างหนึ่ง และปลุกเร้าจนมันพองตัวยิ่งขึ้น เขาเลื่อนตัวลงต่ำ แล้วจัดการน้องชายที่เริงร่าของผมด้วยมือและปาก ผมแอ่นตัวด้วยความสุขแบบเสียวซ่าน สักพักเดียร์ก็ถอนริมฝีปากออก แล้วก็มองหน้าผมด้วยดวงตาที่หยาดเยิ้ม พลางลุกขึ้นนั่ง โดยที่ยังคร่อมตัวผมอยู่
“เรื่องนี้น่ะ ไม่ใช่การสมยอม รู้แล้วใช่ไหม นายกำลังใช้กำลังบังคับฉันอยู่นะ”
ผมพยายามขู่เขา รู้สึกได้ว่าเสียงตัวเองกำลังสั่น ความรู้สึกปรารถนาที่จะได้รับการโลมไล้จากเดียร์ทวีความรุนแรงขึ้น แทบจะบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่มีอยู่ จิตใจของผมกำลังต่อสู้กัน ทั้งต้องการเดียร์ให้ช่วยปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่ให้ผม ทั้งอยากผลักไสเขาให้ไปไกลจากตัว ด้วยอายเหลือเกินที่จะยอมรับว่า ผมเองก็ต้องการเขาเหมือนกัน
เดียร์ทำเป็นเฉย ไม่ฟังสิ่งที่ผมพูด เขาค่อยๆปลดกางเกงชั้นในที่ใส่ไว้ออกจากตัว ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อเห็น บางส่วนร่างกายของเขาที่ผงาดง้ำ เขามีเรือนร่างที่ใหญ่โตสมกับที่มีเลือดต่างชาติอยู่ครึ่งหนึ่ง
“นี่นายไม่ยอมฟังที่ฉันพูดใช่ไหม ไม่สนใจการตัดสินใจของฉัน เท่ากับนายทำผิดเงื่อนไขนะ ฉันมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาได้นะ แล้วเราก็จะไม่ต้องมาเจอกันอีกต่อไป
ผมขู่เขาอีกด้วยเสียงที่ดังลั่นกว่าเดิม ไม่อาจจะทำใจเย็นปล่อยให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เดียร์ชะงัก เขาทาบร่างของเขาลงมาบนตัวผม แล้วก็สวมกอดผมไว้ ร่างกายของเขาสั่นเทา ผมรู้ว่าเด็กหนุ่มกำลังพยายามระงับทั้งอารมณ์โกรธที่มีต่อผม และความปรารถนาที่ก่อตัวอยู่ภายใน
“ไม่นะครับเรียว.......อย่าเลิกกับผมนะครับ ผมขอโทษ ผมหึงมากไปหน่อย”
“ปล่อยมือฉันสิ”
เดียร์ลุกขึ้น แล้วแก้มัดออกจากมือผมอย่างว่าง่าย เขาจูบที่ข้อมือที่เป็นรอยแดงของผมเบาๆ อย่างทะนุถนอม เอาหน้าของตัวเองแนบกับฝ่ามือของผมไปมา
“ขอโทษครับ ที่ทำให้เรียวเจ็บตัวอีก ทั้งๆที่สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำร้ายคุณ”
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่านายไม่ได้อยากทำแบบนั้น นายแค่เข้าใจผิดไปเอง ช่างมันเถอะใครๆก็พลาดได้ทั้งนั้น
ตอนนี้ทั้งผมและเรียวอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า อยู่บนเตียงด้วยกันทั้งคู่ อยู่ดีๆสายตาของผมก็ไปจับจ้องเข้าที่ร่างกายท่อนล่างของเขาโดยบังเอิญ มันยังไม่ได้สงบลงทั้งหมด ผมสะดุ้งเมื่อรู้ว่ามองน้องชายของเขานานมาก
รีบเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเดียร์กำลังมองที่ซอกคอของผมอยู่ เขาเอื้อมมือมาสัมผัสเบาๆ
“แดงหมดเลย ขอโทษทีนะครับ”
“ก็นายนั่นแหละ กัดเข้ามาซะเต็มแรง”
อยู่ๆเดียร์ก็ก้มหน้าลงไปที่ซอกคอผม แล้วก็จูบเบาๆ จากนั้นก็ใช้ลิ้นเลียบริเวณนั้นจนผมขนลุก ความรู้สึกวูบวาบซู่ซ่ากลับมาอีกครั้ง เดียร์พูดเสียงกระเซ่าขึ้นมาว่า
“ผมอยากทำครับเรียว ขอผมเถอะนะ อย่าห้ามผมเลย ใจจะขาดแล้ว ช่วยผมหน่อยนะครับ แล้วผมก็จะช่วยเรียวด้วย เราจะมีความสุขด้วยกันนะ”
ผมนอนนิ่ง ได้แต่มองสบตาของเด็กหนุ่มที่มองมาอย่างเว้าวอน จนถ้อยคำที่จะพูด อยากจะปฏิเสธก็พูดไม่ออก ไอ้เจ้าความรู้สึกวูบวาบที่ทำให้ผมปวดหนึบแถวท้องน้อยมันบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าผมเองก็กระหายในรสสัมผัสของเดียร์ไม่น้อยไปกว่ากัน
“ถ้าไม่พูดอะไรเลย ผมจะถือว่าคุณอนุญาตให้ผมทำนะครับ”
เขายิ้มให้กับผม ก่อนที่จะโน้มตัวลงมากอด แล้วจูบซุกไซร้ผมใหม่
“เป็นของผมนะครับ ยอดรัก”
เขากระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหู
“ทำอย่างนี้ไม่ได้นะเดียร์”
ผมพยายามปฏิเสธ แต่เสียงนั้นเบาเหลือเกิน เริ่มรู้สึกได้ว่าพลังในการต่อต้านดูจะอ่อนด้อยให้กับความ
ปรารถนาในรสสัมผัสที่ดูจะทวีขึ้นทุกขณะที่นิ้วมือของเดียร์แตะต้องร่างกายของผม
“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ อย่ากังวลใจนะครับ ปลดปล่อยตัวเองออกไปนะ”
เขากระซิบอยู่ข้างแก้ม มือไม้ของเขาเปะปะไปทั่วตัว จากนั้นก็เลื่อนมาที่น้องชายของผมใหม่ เขาลูบไล้ขึ้นลงด้วยความอ่อนโยน พอเริ่มจะตื่นตัวอีกครั้ง เขาก็เคลื่อนไหวมืออย่างรวดเร็ว จนอารมณ์ของผมพลุ่งพล่านอย่างที่สุด ความรู้สึกวาบหวามกับความรู้สึกอยากรู้อยากลองทำให้ผมไม่ได้เอ่ยถ้อยคำประท้วงใดๆออกไป เมื่อเดียร์แยกขาผมออกจากกัน เขายิ้มหวานให้ผม ดวงตาของเขาที่มองมาเหมือนเป็นคำมั่นสัญญาของเขาที่บอกว่าเขาจะปฏิบัติต่อผมอย่างอ่อนโยน เขาพูดเหมือนเสียงกระซิบว่า
“ไว้ใจผมนะครับยอดรัก”
เดียร์ลูบไล้น้องชายผมไปมาจนพองตัวขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเลื่อนนิ้วต่ำลงแล้วแทรกนิ้วของเขาลงไปในซอกหลืบที่เร้นลับ ผมสะดุ้งสุดตัว ครางอือ ตัวแอ่นขึ้นตามจังหวะการเคลื่อนไหวนิ้วของเดียร์ เด็กหนุ่มจูบซุกไซร้ผมอย่างรักใคร่ เขาพยายามประคับประคองอารมณ์ของผมให้ดำดิ่งสู่ห้วงหฤหรรษ์พร้อมกันกับเขา ท่วงทีของเดียร์ทั้งอ่อนโยนและเรียกร้องจนผมสั่นไปทั้งตัว
และแล้วช่วงวินาทีที่ผมจะไม่ลืมเลือนเลยก็มาถึง ในอึดใจหลังจากที่เดียร์ถอนนิ้วออก เด็กหนุ่มก็ช้อนก้นผมขึ้น แล้วค่อยๆแทรกเรือนกายอันใหญ่โตของเขาเข้ามาในฝังแน่นในบั้นท้ายของผม ผมผวาเฮือกด้วยความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนร่างกายจะฉีกออกจากกัน หลับตาแน่น นิ่วหน้า อยากให้ช่วงเวลานี้มันสิ้นสุดลงโดยเร็ว เดียร์ดันน้องชายของเขาเข้ามาจนหมด ผมรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก ความปวดร้าวแล่นผ่านจากตรงจุดที่ผมกับเดียร์เป็นหนึ่งเดียวกันมาสู่ช่องท้องและหน้าอก จนทำให้ผมหายใจแทบไม่ออก ผมกัดฟันแน่นเพื่อให้ช่วยระงับความเจ็บปวดนั้น มือทั้งสองข้างขยำผ้าปูที่นอนแน่น บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ผู้หญิงที่ผมเปิดบริสุทธิ์ทุกคน จะรู้สึกแบบเดียวกับผมไหมนะ
เด็กหนุ่มหยุดนิ่ง แล้วโน้มตัวลงมากอดผมไว้ แล้วจูบซุกไซร้ผมอีกครั้ง สัมผัสของเขาสร้างความรัญจวนใจให้กับผมอย่างมาก ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย เขาช่างรู้จุด รู้ใจผมไปทุกอย่าง ว่าทำตรงไหน ผมถึงจะประทับใจ สัมผัสตรงไหนที่ทำให้ผมรู้สึกสุขสุดๆ
เดียร์ใช้ท่อนแขนของเขายกขาผมขึ้น แล้วเคลื่อนไหวสะโพกจากช้าๆ และเร่งให้เร็วขึ้น ผมแอ่นสะโพกสูงขึ้นรองรับแรงกระแทกของเดียร์ที่ส่งลงมาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ความซาบซ่านที่บังเกิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมผวากอดเขาไว้แน่น อยู่ๆเด็กหนุ่มก็ถอนตัวเองออกมาจนร่างกายของเขาเกือบจะหลุดออกจากตัวผม แต่แล้วเขาก็ลงน้ำหนักร่างกายกลับเข้าไปใหม่เต็มๆแรง จนผมรู้สึกจุกมาก เดียร์ยิ้มหวานให้ผม แล้วก้มลงดูดเน้นที่ติ่งเนื้อบนยอดอกผมอีกครั้ง ลิ้นของเด็กหนุ่มแลบเลียไปทั่ว มือทั้งสองก็เคล้าคลึงอยู่บนเรือนกายของผม สร้างความป่วนปั่นรัญจวนไม่หยุดยั้ง
“ไม่ไหวแล้ว เดียร์ ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว”
ผมร้องบอกเขาเสียงกระเส่า รู้สึกเจ็บปวดที่บั้นท้ายปนกับความหฤหรรษ์ อารมณ์ของผมถูกเดียร์ปลุกเร้าจนเตลิดถึงขีดสุด รู้สึกตาพร่าพราย เนื้อตัวร้อนผ่าวด้วยเลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่างด้วยความตื่นเต้น เด็กหนุ่มไม่ตอบ ยังคงเร่งเครื่องต่อไป ได้ยินแต่เสียงลมหายใจ ของเขาที่พ่นออกมา กับร่างที่เต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากนั้นเขาก็ถอนสะโพกตนเองออกไป ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกคิดว่า ทุกอย่างมันได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เขากลับพลิกตัวผมให้คว่ำหน้าลงอยู่ในท่าคลาน แล้วใช้สองมือรั้งสะโพกผมให้โด่งขึ้น ก่อนที่จะแทรกเรือนกายอันใหญ่โตเข้ามาอีกครั้ง เขาเริ่มจากจังหวะเนิบช้า พร้อมกับเร่งความเร็วและแรงขึ้น
เด็กหนุ่มจับเอวผมไว้ด้วยมือทั้งสอง แล้วเคลื่อนไหวด้วยการกระแทกร่างกายของเขาเข้ามาในบั้นท้ายของผมแรงมาก และถี่ยิบ ผมจุกมากจนทนแทบไม่ไหวแล้ว พยายามที่จะถอยหนี แต่เดียร์ก็รั้งเอวผมไว้แน่น แล้วก็เคลื่อนไหวสะโพกของเขาเเรงกว่าเดิม ร่างกายของเขาใหญ่โตเหลือเกิน เวลาที่เขาเคลื่อนไหวเข้าออกในตัวของผมแต่ละครั้งผมเจ็บปวดแทบขาดใจ แต่กระนั้นมันก็ยังมีความรู้สึกดีอย่างอื่นๆแฝงอยู่ด้วย เป็นความดื่มด่ำกำซาบซ่าน ร่างกายของผมเกร็งเขม็งร่อนผ่าวด้วยความปรารถนา เหงื่อกาฬไหลชุ่มเนื้อตัว
ผมอ้าปาก หายใจหอบถี่ มือขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นจนแทบจะแหลกเละคามือผม พยายามให้สิ่งเหล่านั้นช่วยแบ่งเบาความรู้สึกเจ็บปวดปนความหฤหรรษ์ที่ผมมีอยู่ ณ ตอนนี้ ผมรู้สึกสับสน ใจหนึ่งก็อยากหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง อีกใจหนึ่งก็อยากจะให้เขาดำเนินต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุด แล้วในที่สุดอำนาจแห่งความพิศวาสก็เข้าครอบงำ ทำให้ผมยินยอมให้เดียร์ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา
เดียร์เองก็มีสภาพไม่ต่างจากผม เขาเต็มไปด้วยอารมณ์พิศวาสที่ท่วมท้น ขณะที่เคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างของตนเอง เขาก็กอดจูบเล้าโลมผมปลุกเร้าให้เคลิบเคลิ้มอยู่ตลอดเวลา ปากก็ครวญครางพร่ำเรียกชื่อผมนับร้อยครั้ง ดวงตาที่จ้องมองผมมีความปรารถนามากมายอยู่ในนั้น เขาโหมจังหวะมากยิ่งขึ้น ดันจนผมหัวสั่นหัวคลอน
ผมรู้สึกอึดอัดคับแน่นบริเวณบั้นท้ายของตัวเองจึงเอื้อมมือไปข้างหลังพยายามที่จะผลักเขาออกไปให้พ้นตัว เพราะผมไม่อาจจะทนรับความเจ็บปวดได้อีกต่อไป แต่เดียร์จับมือผมไขว้ไว้ แล้วกระแทกตัวเขาเข้ามาในกายผมถี่มาก จนผมต้องสะบัดหัว ร้องครางเสียงดังลั่น
“ โอยย เดียร์ ฉันเจ็บ หะหะ”
เด็กหนุ่มผ่อนการเคลื่อนไหวร่างกายให้เนิบช้าลง และนุ่มนวลขึ้น ดวงตาที่จับจ้องผมดูเย้ายวนหวานฉ่ำ ผมบอกเขาเสียงสั่น
“เบาๆหน่อยได้ไหมเดียร์ ฉันเป็นไข้อยู่นะ จะทนไม่ไหวแล้ว”
เดียร์แนบตัวมาที่หลังผม เอาลิ้นเลียหู กระซิบเสียงพร่า
“นุ่มนวลแบบนี้ชอบมั้ยครับ รู้สึกเป็นสุขไหม”
ผมพยักหน้า ไม่อยากโกหกเด็กหนุ่มให้เขาเสียกำลังใจ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆที่เป็นฝ่ายถูกกระทำ เจ็บปวดเพราะเป็นครั้งแรก แถมซ้ำยังมีอะไรกับเขาตอนที่ตัวเองเป็นไข้หนักด้วย แต่เดียร์ก็สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผม เขาทำให้ผมมีความสุขอย่างมากจนไม่กล้าที่จะปฏิเสธความจริงที่ว่า ผมเองก็ปรารถนาในตัวเขามากเช่นกัน
“ผมรักคุณมากเหลือเกิน ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณมีความสุขมากๆเลยครับ”
เด็กหนุ่มยิ้มหวานให้ผมเมื่อเห็นว่าผมพึงพอใจในสิ่งที่เขาทำให้ เขาเลยกระแทกตัวเข้ามาเต็มเหนี่ยว เล่นเอาผมสะดุ้ง เหงื่อบนใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มหยดต้องลงบนหลังของผม เขาจูบผมเบาๆที่ข้างแก้มแล้วกระซิบบอกว่าเขาจะขอเปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง ผมพยักหน้ายอมให้เขาทำ
หนุ่มหน้าหล่อยกขาผมขึ้นข้างหนึ่ง ผมเสียววาบก้มหน้าหลับตาปี๋ตลอด มือขยำผ้าปูที่นอนไว้แน่น เดียร์เปลี่ยนมาเป็นท่าเดิมคือจับผมนอนหงายขึ้น จากนั้นเขาสอดมือไว้ใต้ขา เคลี่อนไหวร่างกายถี่ยิบ เด็กหนุ่มก้มลงมาจูบผมที่ปาก เราแลกลิ้นกันนัวเนีย โดยที่ผมโอบกอดเขาไว้แน่น มือข้างหนึ่งซุกไซร้ที่เรือนผมหยิกสลวยของเขา แล้วเดียร์ก็พูดกับผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาดุจกระซิบว่า
“เป็นเมียของผมนะ ยอดรัก”
ผมมองเขาตาปรือ หูได้ยินคำนั้นเต็มๆ รู้สึกทะแม่งๆแล้วก็คิดว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาพูดแน่นอน แต่ไม่ได้คัดค้านอะไร ในตอนนี้อารมณ์ผมเตลิดจนถึงขีดสุดแล้ว ความต้องการเพียงสิ่งเดียวคืออยากให้เดียร์ปลดเปลื้องผมจากอารมณ์ปรารถนาให้หมด
เด็กหนุ่มรูปหล่อยืดตัวขึ้น แล้วเคลื่อนไหวเร็วมากขึ้นอีก ผมได้แต่หลับตา ร้อง อัก อัก ตามแรงกระแทกของเขา ไม่กล้ามองหน้า รู้สึกร้อนผ่าววูบวาบไปทั่วทั้งตัว รู้สึกเดียร์จูบไซร้ที่ข้างคอผมแล้วก็พึมพำขออนุญาตผมเสียงกระเส่า
“ผมจะออกแล้วนะครับ ขอออกในตัวของเรียวนะ”
ผมปรือตามองเขาแล้วก็พยักหน้า ในใจก็รอคอยวินาทีที่สำคัญที่เขาและผมจะเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ เดียร์ยิ้มหวานให้ผม แล้วดูดปากผมอีกครั้งเนิ่นนานทีเดียวกว่าจะถอนริมฝีปากออก จากนั้นเขาก็โหย่งตัวขึ้น ถอยออกไปจากตัวผมเกือบสุดแล้วก็กดตัวลงมาแบบเน้นๆจนเจ้ามังกรตัวเขื่องของเขาหายลับเข้าไปในถ้ำของผมจนหมด ผมรู้สึกจุกมาก อ้าปากร้องคราง หน้าเงยหงายขึ้น สะโพกลอยจากพื้น หลังแอ่น ผมมองหน้าเด็กหนุ่ม ก็เห็นเขามองมาอยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มยวนยั่วให้ผมส่ายสะโพกเบียดบดไปมากับสะโพกของผม ใบหน้าหล่อเหลาของเขากับผมหยิกสลวยชื้นไปด้วยเหงื่อ มันหยดลงมาโดนหน้าผม เขายิ้ม แล้วก็ใช้นิ้วปาดมันออกจากใบหน้าให้
เดียร์หายใจหอบถี่ ท่าทางเหมือนคนที่ทำงานใช้แรงมาอย่างหนัก ตรงกันข้ามกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มอย่างสุขสมหวังฉาบฉายอยู่เต็ม เขายิ้มหวานให้ผม ก่อนจะก้มลงมาจูบผมที่ปากอีกครั้ง เรานัวเนียจูบกันอีกโดยที่ไม่มีใครยอมใคร เนิ่นนานทีเดียวกว่าที่สงครามจูบจะสงบลง เดียร์ไล้นิ้วมือไปตามปากผมที่เขาเพิ่งบดขยี้มาเมื่อครู่ หัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ฟุบลงบนตัวผม
ผมพยายามผลักไสให้เด็กหนุ่มเอาน้องหนูของเขาออกไป แต่เดียร์กลับยึดมือผมเอาไว้ แล้วจับมาโอบรอบเอวเขา เด็กหนุ่ม แช่นิ่งอยู่ในตัวผมอย่างนั้น จนกระทั่งน้องชายของเขาอ่อนแรงลง แต่เขายังตระกองกอดผมอยู่ โดยที่จ้องมองผมไม่วางตาด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม และหน้าที่มีเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เลื่อนตัวลงมานอนข้างๆ
“เจ็บไหมครับ คนดีของผม”
เดียร์กระซิบถามหลังจากทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปแล้ว ผมยังคงมึนงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่เลยได้แต่นอนนิ่งเฉย ไม่ตอบอะไรไป
“ตอนนี้คุณเป็นของผมแล้วนะ”
เขาจูบที่ซอกคอผม จนผมขนลุกกรูเกรียว และแล้วเดียร์ก็หลั่งน้ำตาออกมา เขากอดผมไว้แนบอกของตนเองแล้วร้องไห้ ในขณะที่ผมกำลังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ นึกงงว่า เจ้าเด็กนี่จะมาร้องไห้หาพระแสงอะไร เขาเป็นคนล่วงเกินผม มาปล้นเอาความเป็นชายของผมไป เขาน่าจะดีใจที่ได้ผมอย่างที่เขาต้องการ คนที่สมควรจะต้องร้องไห้ น่าจะเป็นผมมากกว่า
ตลอดชีวิตของผมในระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยแม้แต่สักครั้งที่เลยที่จะคิดว่าจะต้องมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน หนำซ้ำเป็นฝ่ายถูกกระทำย่ำยีด้วย บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ใจนึงก็อยากจะร้องไห้คร่ำครวญที่ตนเองถูกบังคับขืนใจ แต่ความรู้สึกบางอย่างก็บอกให้รู้ว่า ผมเองก็ยินดีที่จะให้มันเกิดแบบนั้น ทำไมผมจึงไม่ขัดขืน ทั้งๆที่ผมน่าจะสามารถทำได้ ผมแค่เป็นไข้ ตัวร้อนอ่อนเพลีย แต่ผมก็คิดว่าตัวเองมีแรงพอที่จะขัดขืนเขา ปากของผมก็ร้องตะโกนหยุดยั้งเขาได้ ถ้าจะทำ แต่ผมกลับปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้น ที่น่าแปลกและน่าอับอายคือ ผมกลับพึงพอใจเสียอีกที่ถูกกระทำ รู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“อื้อ อย่าพูดเลยดีกว่า รู้สึกอย่างไรไม่รู้ งง และสับสนตัวเองอยู่นี่ว่าฉันยอมนายไปได้ไง”
ผมบอกเขาไปตามตรงว่ารู้สึกอย่างไร เด็กหนุ่มน้ำตายังไม่ยอมหยุดไหล
“ร้องไห้ทำไม เป็นสาวพรหมจรรย์งั้นเหรอ ประสาทหรือเปล่า ฉันน่าจะเป็นฝ่ายร้องไห้มากกว่า ฉันไม่ได้เป็นคน
ทำนายซะหน่อย มีแต่นายน่ะมาทำฉัน”
พอเห็นเดียร์ทำตัวเป็นดาราเจ้าน้ำตา ผมเลยอดพูดแขวะไม่ได้
“มันเป็นความรู้สึกปลาบปลื้มนะครับ ดึใจมากๆเลยที่ผมกับเรียวเป็นของกันและกันแล้วคิดมาตลอดว่ามันต้องดี ซึ่งมันก็ดีอย่างที่ผมคิดไว้จริงๆด้วย”
เขาพึมพำเสียงสะอื้น เวลาที่มีเด็กตัวใหญ่ๆมาร้องไห้ แนบอกแบบนี้ก็ดูตลกดีเหมือนกัน
“พูดอะไรของนาย แล้วสิ่งไหนเหรอที่เรียกว่าดี”
ผมถามอย่างงงๆ
“การมีอะไรกับคุณไงครับ มันดีจริงๆนะ ผมเคยฝันไว้ว่ามันจะต้องเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษทีเดียว ถ้าหากได้มีอะไรกับคนที่ผมหลงรักมาโดยตลอด แต่เมื่อได้มีโอกาสจริงๆ มันกลับเป็นความรู้สึกที่แสนมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ไม่นึกเลยว่ามีการอะไรกันกับคนรักมันจะให้ความรู้สึกที่ดีอย่างนี้ คิดแล้วก็อยากทำอีกครั้งจังเลยอ่ะครับ เรียวเห็นด้วยกับผมไหม ”
เด็กหนุ่มพรั่งพรูความรู้สึกในใจออกมา ฟังแล้วเหมือนคำพร่ำเพ้อของสาวบริสุทธิ์มาก
“ตลกน่า ตีความข้างตัวเองอีกแล้ว ชอบคิดหรือทำอะไรที่ตัวเองได้ประโยชน์ทุกทีเลยนะ”
“จริงๆนะครับ ผมรู้สึกดีจริงๆนะ ที่ได้มีอะไรกับเรียวนะ อยากทำอีกบ่อยๆจัง เรียวเองก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอครับ แล้วไม่คิดว่าเราสองคนจะมีอะไรกันอีกในครั้งต่อๆไปหรือไง”
“บ้าเหรอ”
ผมว่าเขาด้วยความหมั่นไส้ ใครจะอยากมีอะไรด้วย ตัวใหญ่ยังกับยักษ์ มีอะไรด้วยแค่ครั้งเดียวก็เจ็บมากแล้ว ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเดินไปทำงานได้หรือเปล่าด้วยซ้ำ
“ไม่บ้าหรอก ผมน่ะได้ทำกับเรียวครั้งแรกแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่พอ อยากทำครั้งต่อๆไป รู้สึกดีจริงๆที่ได้เป็นเจ้าของคุณ ดีจริงๆ ที่ตัดสินใจว่าจะมีอะไรกับคุณคนเดียว”
เขาจูบผมที่ข้างแก้ม มือก็ลูบไล้แผ่วเบาตรงสะโพกของผม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ จนผมชักงง และเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง
“อย่าบอกฉันนะ ว่านายไม่เคยทำเรื่องอย่างนี้มาก่อน”
เดียร์นิ่งเงียบไม่ยอมตอบ เอาแต่กอดผมไว้ จนผมต้องถามซ้ำอีกครั้ง เขาจึงยอมรับกับผมอายๆว่าเขาไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อนเลย นอกจากกับผมคนแรก หน้าของเด็กหนุ่มแดงก่ำมากเมื่อตอบคำถามผม
“จริงๆอ่ะ ทั้งกับผู้หญิง ผู้ชายก็ไม่เคยมีอะไรด้วยมาก่อนเหรอ”
ผมทวนคำตอบของเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาพยักหน้า แล้วยิ้มอายๆ
“ฉันเป็นคนแรกที่นายมีอะไรด้วยเนี่ยนะ”
อยากที่จะทำใจยอมรับจริงๆว่าผมเสียตัวให้กับเกย์ที่ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน
“ใช่แล้วครับ”
เวร นอกจากว่าเดียร์จะกลายเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตของผม เขากลับเลือกที่จะมีอะไรครั้งแรกกับผมด้วยเช่นกัน ผมอยากจะหัวเราะให้กับเรื่องตลกอย่างนี้นัก แต่ก็หัวเราะไม่ออก
“มิน่าล่ะ ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย”
ในที่สุดผมก็พยายามแค่นหัวเราะออกมาจนได้ แถมด้วยการพูดจาดูถูกเขา เหมือนกับเป็นอุปาทาน ผมรู้สึกระบมก้นขึ้นมาทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ หนอยไอ้เด็กบ้า ไม่มีประสบการณ์นี่เอง มิน่าเล่นเอาบั้นท้ายผมเกือบพัง เด็กหนุ่มหน้าจืดจ๋อย ถามผมเกือบจะในทันทีที่พูดจบ
“จริงเหรอ ผมทำได้ห่วยขนาดนั้นเชียวเหรอ ไม่ประทับใจบ้างเลยหรือไง”
“ช่าย”
ความจริงสิ่งที่เดียร์ทำไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมดหรอก เขาทำให้ผมมีความสุข เสียอย่างเดียวที่การไม่มีประสบการณ์ของเขา ทำให้ครั้งแรกผมเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้
“อ๊า แต่จากที่ผมทำกับเรียวอ่ะ เหมือนเรียวเคยมีอะไรกับผู้ชายครั้งแรกเลยนี่ครับ ของๆเรียวยังคงฟิตปั๋งอยู่เลย ไม่น่าเชื่อเลยว่าเรียวจะมีประสบการณ์มาก่อน กับใครหรือครับ ศักดิ์ชายเหรอ แล้วเขาทำดีมากกว่าผมอีกหรือไง”
เขารัวคำถามใส่ผม ท่าทางหึงหวง
“เอ้า เอาเข้าไปจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว จะบ้าหรือไง เพื่อนกันฉันจะไปมีอะไรกับมันได้ไงเล่า ฉันไม่เคยมีอะไรกับใครทั้งนั้น นายเองก็น่าจะรู้ดีนี่ ฉันชอบที่ไหนเวลาที่นายมาแตะต้อง มีแต่นายเองแหละที่ลวนลามฉันตลอด ที่ฉันบอกว่านายห่วยอ่ะ มันเป็นการเปรียบเทียบกับตัวฉันเองเวลาที่ฉันมีอะไรกับผู้หญิงด้วยกันอ่ะ ขอบอกว่านายน่ะ ไร้ฝีมือมาก”
ไม่อยากจะบอกเขาไปแบบนั้นเลย มันให้ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงสาวบริสุทธิ์ที่หวงเนื้อหวงตัว ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน นอกจากเด็กหนุ่มเป็นคนแรก แต่ไอ้ครั้นจะไม่พูดอะไรเลย ก็กลัวว่าเจ้าเด็กหนุ่มนี่จะหาว่าผมเจนจัด เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน
“มันเป็นยังไงอ่ะครับ ต่างกันหรือเปล่า ระหว่างตอนที่ผมใช้ปาก กับตอนที่ผมใส่เข้าไปในตัวเรียวอ่ะครับ บอกผมหน่อยได้ไหม ผมอยากรู้อ่ะ”
เดียร์เซ้าซี้ให้ผมพูด ทำท่าอยากรู้อยากเห็น ผมส่ายหัวไม่อยากพูด พลิกตัวตะแคงข้าง ไม่อยากหันไปเผชิญหน้าเขา แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมให้ผมหลบเลี่ยงการสนทนา เขาเอื้อมมือมาจับไหล่ผมไว้ แล้วเหนี่ยวให้เข้ามาหา ลุกขึ้นมาคร่อมผมไว้ แล้วใช้ขาก่าย ล็อคไว้ไม่ให้หนี พยายามให้ผมพูด
“ตอบผมหน่อยสิครับ กังวลใจนะเนี่ย”
เขาทำหน้าวิงวอนให้ผมช่วยไขข้อข้องใจ ผมอดขำไม่ได้ ที่เด็กนี่จริงจังกับเรื่องที่ผมพูดอย่างมาก เขาคงไม่อยากดูเป็นคนไร้น้ำยาต่อหน้าผม มันเป็นความรู้สึกของผู้ชายทุกคน ที่อยากให้คนรักของตัวพึงพอใจในเซ็กส์ที่มอบให้ หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คนที่เรามีอะไรด้วย ไม่พอใจในฝีไม้ลายมือของเรา มันทำให้รู้สึกย่ำแย่มากๆ ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนจึงเข้าใจเขาดี
“ก็มันเจ็บมากน่ะสิ นายไม่มีศิลปะเลย ใส่ไม่ยั้งอย่างเดียว ฉันน่ะ ไม่เคยมาก่อนเลยนะ นายทำไมไม่ทำเบาๆหน่อยล่ะ เผื่อที่คู่ของนายจะได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น ถามจริงๆเถอะ ที่นายทำกับฉันนี่ เอาฉันเป็นตัวลองผิดลองถูกหรือไง”
ผมบอกด็กหนุ่มไปตรงๆ ตบท้ายด้วยการตั้งคำถามเอากับเขา เดียร์ทำตาโตรีบปฏิเสธพัลวัน
“เปล่าน๊า ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมแค่อยากจะมีอะไรกับเรียวเพื่อผูกพันเราสองคนไว้ด้วยกันแต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ทำสักที เพิ่งจะมีคราวนี้แหละที่เหตุการณ์มันเป็นใจ แล้วเรียวก็ยินยอมผม ไม่ขัดขืนอ่ะครับ”
เด็กหนุ่มพลิกตัวผมมากอดไว้ในวงแขน จับศีรษะของผมซุกซบไว้ที่ไหล่ของเขา
“ผมยอมรับครับว่าผมเองก็มีเรียวเป็นผู้ชายคนแรกในชีวิตผม เท่าๆที่เรียวก็คงจะมีผมเป็นผู้ชายคนแรกเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยมีประสบการณ์มาซะทีเดียวนะครับ ผมเคยลองทำมาแล้วบ้างกับเรียวจังอ่ะครับ”
“เรียวจัง .......... ใครเหรอ”
รู้สึกสงสัยครามครัน ไหนบอกว่ามีผมคนแรกไง แล้วเรียวจังนี่เป็นใครกัน หนอยแน่ะ ชื่อเหมือนผมด้วย ท่าทางจะเป็นคนญี่ปุ่น เจ้าหมอนี่ร้ายไม่เบา แถมริอ่านโกหกอีกด้วย เดียร์มองหน้าผม ท่าทางเขินจัด หน้าแดงก่ำ ทำเป็นพูดอุบอิบอธิบายให้ผมฟัง เสียงเบา แทบไม่ได้ยิน
“ตุ๊กตายางครับ เจ้าน้อยเพื่อนผมมันฝากแฟนซื้อมาให้ ตอนแฟนมันกลับมาจากเมืองนอก พอมันล่วงรู้แผนการของผม ว่าผมคิดจะทำอะไรกับเรียว มันเลยร่วมมือกับผมครับ แต่มันกลัวว่าผมจะทำอะไรกับเรียวไม่เป็น เพราะผมไม่ยอมมีอะไรกับใครเลยสักคน มันเลยเอาไว้ให้ผมเอาไว้ใช้เป็นคู่ซ้อม ผมเห็นว่าหน้าตาเขาเหมือนเรียวมาก เลยตั้งชื่อว่าเรียวจังอ่ะครับ”
ผมหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ขำเจ้าเด็กนี่ที่สุดเลย ดูทีรึไม่มีประสบการณ์แต่ก็ยังพยายามที่จะทำตัวเป็นผู้ช่ำชองในเรื่องเซ็กส์เพื่อให้ผมประทับใจ เขา รู้สึกเอ็นดูเจ้าเดียร์มาก แต่ไม่กล้าภาคภูมิใจตัวเองที่เด็กนี่ไม่ยอมมีอะไรกับคนอื่นนอกจากผม
“ใจร้ายจังอ่ะ เรียวหัวเราะเยาะผมหรือครับ”