บทที่ 24
แตก...ในหลายๆ ความหมาย
เราก็แค่อยากเจาะหู ทำไมพี่พระพายไม่เข้าใจ!?
“ไม่เย็นแล้ว เราจะทำ!” ผมเริ่มโวยวายเมื่อถูกพี่พระพายห้าม
“เฟน อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้เลย นอนก่อนพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาคุยกันใหม่นะครับคนดี”
“พี่ไม่อยากให้เราทำใช่มั้ย ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นแฟนกันเหรอ!?” ผมกระโจนขึ้นนั่งคร่อมตัวพี่พระพาย คว้าคอเสื้อเขาได้ก็จับเขย่าแรงๆ ปากก็ตะโกนว่าจะทำๆ ไม่หยุด พี่พระพายหัวสั่นหัวคลอน เขายกสองมือขึ้น พยายามห้ามผม
“เฮ้ยเฟนใจเย็นๆ”
“เราจะทำ! ทำอะไรก็ได้เราไม่ได้ขอตังค์ใคร!”
“หามาด้วยตัวเองพี่ทำให้แม่ภูมิใจ”
“อย่ามาต่อเพลงกับเรา!”
“เอ้า ก็หนูเริ่มก่อนนะ”
“สรุปพี่จะให้เราทำมั้ย” ผมจ้องหน้าพี่พระพายตาเขม็ง อยากให้เขาเห็นว่าจริงจังนะ พูดออกมาเนี่ยกลั่นกรองดีแล้วไม่ใช่เพราะเมา ตอนนี้ผมพอจะรู้ตัวอยู่ ไม่ได้ขาดสติเหมือนตอนแรกสักหน่อย “เราอยากทำจริงๆ นะ พี่ให้เราทำนะๆๆ เราทนเจ็บตอนเสียบได้ เราเก่ง พี่เชื่อเราเถอะ”
“...”
“หนูอยากลองทำ พี่ให้หนูลองสักครั้งนะ”
ผมลองเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อน แทนตัวด้วยสรรพนามที่พี่พระพายได้ยินทีไรเป็นต้องยอมใจอ่อนให้ แต่ครั้งนี้มันต่างไป พี่พระพายหรี่ตาลง แววตาของเขาเปลี่ยนจนผมสะดุ้ง รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับพลิกลงไปนอนใต้ร่างของพี่พระพายซะแล้ว ผมหุบปากฉับ เบิกตาโตมองพี่พระพายที่คร่อมอยู่ด้านบน เขาจ้องหน้าผมนิ่ง น้ำเสียงและแววตาที่ไม่เหมือนเดิมทำให้ผมรู้สึกสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ทำก็ทำ หลังจากนี้พี่ไม่หยุดให้แล้วนะครับ”
แล้วพี่พระพายก็ก้มหน้าจูบผม เป็นรสจูบที่ต่างไปจากทุกครั้ง มันร้อนแรงขึ้น เรียกร้องขึ้น ผมถูกพี่พระพายบดจูบจนหัวสมองเบลอไปหมด ได้แต่หลับตาปี๋ขยับริมฝีปากและลิ้นตอบรับสัมผัสของเขาตามที่อีกฝ่ายชักนำ
ฝ่ามือใหญ่บีบเค้นหัวไหล่ผมก่อนเลื่อนลงต่ำ ลากผ่านหน้าอก ปลายนิ้วปัดผ่านจุดเล็กๆ ที่ไวต่อความรู้สึกจนผมหลุดเสียงครางในลำคอ แต่ยิ่งผมมีปฏิกิริยาตอบรับมากเท่าไหร่ พี่พระพายก็ยิ่งบดปลายนิ้วนวดคลึงยอดอกผมผ่านผิวผ้าแรงขึ้นเท่านั้นจนความรู้สึกแปลกๆ เริ่มก่อตัวในช่องท้อง ลมหายใจผมถี่กระชั้น ร่างกายบิดเร้าตอบรับสัมผัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เสียงร้องของผมยังคงถูกกักไว้ในลำคอเพราะพี่พระพายไม่ถอนจูบสักที ผมได้แต่ยกแขนโอบรอบลำคอเขาไว้ จิกปลายนิ้วลงกับกล้ามเนื้อแน่นตึงจนนิ้วขึ้นข้อขาว
ในที่สุดพี่พระพายก็ถอนริมฝีปากออก ผมหายใจเฮือก ปรือตามองหน้าพี่เขา สายตาพี่พระพายตอนนี้ทำใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ มันวาวโรจน์และร้ายกาจ พี่พระพายกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบหรี่ลงในขณะที่ฝ่ามือเขาเคลื่อนลงต่ำ ขยับนวดเฟ้นผิวเนื้อบริเวณเอวผมช้าๆ ก่อนตวัดนิ้วเกี่ยวชายเสื้อผมขึ้นมากองเหนือหน้าอก ทุกการกระทำนั้นพี่พระพายไม่ละสายตาไปจากตาผมสักแวบเดียว ผมเหมือนถูกสะกดเอาไว้ ไม่ขัดขืนหรือปัดป้องใดๆ
สะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวยื่นสะกิดหน้าอกผมอีกครั้ง ผมยกสองมือปิดปากกลั้นเสียงร้องที่น่าอาย ร้อนวาบทุกวินาทีที่เขากดคลึงปลายนิ้วกับความอ่อนนุ่ม ลูบวนไปมาโดยไม่ได้สัมผัสผ่านเนื้อผ้าอีกต่อไป อีกมือวางทาบหน้าอกผมอีกข้าง เขาออกแรงบีบเบาๆ เหมือนกำลังนวดก้อนแป้ง
“อ๊ะ อื้อ…” ผมเม้มปากแน่นเมื่อเผลอหลุดเสียงร้อง พี่พระพายหัวเราะในลำคอ เขาก้มหน้าลงมากระซิบชิดหูผม ลมหายใจร้อนเป่ารดซอกคอ น้ำเสียงแหบพร่าทำให้ผมใจสั่นและมึนงง
“ตรงนี้ของหนู…” ปลายเล็บจิกเบาๆ ที่ยอดอก ผมสะดุ้งแอ่นตัวและครางอืออย่างห้ามไม่ได้ “ทั้งนุ่มทั้งน่ารัก”
“พี่ พี่...อ๊ะ!”
“หนูชอบมั้ย”
“เรา อะ อึก…” ผมพูดไม่เป็นภาษา “เรารู้สึก อื้อ! แปลกๆ”
“เขาเรียกเสียว” พี่พระพายขบเม้มใบหูผม ปลายจมูกโด่งเคลื่อนต่ำลงมาที่ซอกคอ ริมฝีปากร้อนกดจูบประทับ ขบเม้มดูดดึงจนแสบจี๊ด “ต่อไปถ้ารู้สึกแบบนี้อีก ให้บอกพี่ว่าหนูเสียวนะคะคนดี”
คนบ้า ใครจะไปพูดแบบนั้น!
ผมได้แต่ประท้วงในใจ ก่อนสะดุ้งโหยงเมื่อพี่พระพายซุกหน้าลงกับอกผม เรียวลิ้นร้ายตวัดเลียหัวนมที่ตั้งชัน เขาเลียไปทั่วจนผมร้อนวูบวาบก่อนจะครอบริมฝีปากลงและดูดดึงจนผมสะท้าน หน้าอกแอ่นรับสัมผัสร้อนจากโพรงปาก ผมหลับตาปี๋ เชิดหน้าไปด้านหลัง ใบหน้าเหยเก สองมือจิกทึ้งเส้นผมพี่พระพายแน่น ระบายความรู้สึกที่กำลังโดนปลุกปั่น เขาเล็มเลียเหมือนหน้าอกผมเป็นขนมหวานที่ยิ่งเสพก็ยิ่งติด
“อ๊ะ พี่...ระ เรา ฮึก...หนู…” ลิ้นผมพันกันไปหมด ร่างกายร้อนยิ่งกว่าเดิม เหงื่อผุดซึมตามแผ่นหลัง ผมบิดตัวไปมา สองขาหนีบเข้าหากันแน่นเมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายช่วงล่างกำลังเกิดปฏิกิริยา นิ้วเท้าผมหงิกเกร็ง ได้แต่เสียดสีฝ่าเท้าระบายความเสียวซ่านกับผ้าปูที่นอนบนเตียงจนยับย่น
“หนูทำไมหืม?”
“ฮึก…”
“บอกพี่เร็วคนดี” น้ำเสียงแหบพร่าล่อลวงผม เขายกหน้าขึ้นจูบผมอีกครั้ง มอมเมาผมด้วยสัมผัสที่ลึกซึ้งร้อนแรงจนหัวผมขาวโพลน ได้แต่ตอบรับไปตามการชักนำ
“หนู…” ผมสะอื้นในลำคอ ช้อนดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำใสมองพี่พระพาย ความรู้สึกมันรุนแรงเกินกว่าที่เคยได้รับ “หนู...ส...เสียว ฮึก!”
พี่พระพายยิ้มรับตาพราว เขากดจมูกหอมแก้มผมหนักๆ
“เดี๋ยวต่อไปจะเสียวกว่านี้นะเด็กดี”
“อื้อ! พี่เดี๋ยว เรา...อ๊ะ!”
เสื้อนอนถูกถอดออกจากตัวผม พี่พระพายโยนมันทิ้งอย่างไม่ไยดี ผมได้แต่อ้าปากหวอมองตามเสื้อตัวเองที่หายวับไปกับตา ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็สะดุ้งวาบเมื่อริมฝีปากร้อนๆ ไล่จูบไปทั่วทุกตารางนิ้วบนตัวผม ในขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเค้นอย่างหนักหน่วง
“หนูแดงไปทั้งตัวแล้วนะเฟน”
“ระ เราไม่ได้อยากรู้” ผมหอบหนัก เบนหน้าหนีไปทางอื่น อายเกินกว่าจะสบตากับเขา
“แต่พี่อยากบอกหนู”
“ไม่เอา เราไม่อยากฟัง…”
“หนูจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองน่าเอามากแค่ไหน”
ผมยกสองมือปิดหน้าทันทีที่พี่พระพายพูดจาลามกออกมาได้หน้าตาเฉย เสียงหัวเราะดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงหึ่งๆ ของเครื่องปรับอากาศ ได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมเหตุการณ์ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมไม่รู้ว่าตัวเองไปจุดเชื้อไฟพี่พระพายติดตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมครั้งนี้เขาไม่สวดมนต์สักบทหรือวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ ผมไม่รู้เลยจริงๆ ผมก็แค่อยากเจาะหู...
“พี่พยายามห้ามตัวเองตลอดนะเฟน แต่หนูไม่ให้ความร่วมมือกับพี่เลยค่ะ”
เขากดจูบบนหน้าผาก สองมือผมถูกจับรวบยกไว้เหนือหัว เราสองคนสบตากัน ผมหายใจหอบ มองใบหน้าพี่พระพายที่เหงื่อเริ่มผุดซึมบริเวณหน้าผาก แสงสลัวจากโคมไฟส่องกระทบใบหน้าเขา แววตาพี่พระพายส่องประกายวาววับ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าเขาเหมือนนักล่า และผมเป็นเหยื่อที่ตกอยู่ใต้กรงเล็บ
“เรา...เราไปทำอะไรพี่ตอนไหน”
“หนูบอกพี่เองไม่ใช่หรือไงว่าอยากทำ”
“ฮะ?”
“พี่พยายามอดทน อดกลั้น พี่สวดมนต์ในใจจนครบทุกบทแล้วเฟน” พี่พระพายคลี่ยิ้มหวานจนตาหยีโค้ง “แต่หนูก็ยังยืนยันว่าจะทำ พี่ก็เลย...ไม่ทนแล้ว : )”
เดี๋ยว เราว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาด
“พี่ เราว่า…อื้อ!”
พี่พระพายปล่อยมือผม เขาแทรกตัวเข้ากลางหว่างขา จับเข่าผมแยกออกจากกัน ผมรีบยื่นมือปิดบังส่วนนั้นของตัวเองจนมิด หน้าร้อนวาบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแก้มแดงแจ๋ พี่พระพายหัวเราะหึๆ เขาดึงมือผมออก มันง่ายดายขนาดนั้นเชียวล่ะ สายตาคมกริบหลุบลงจ้องส่วนนั้นด้วยสายตาโลมเลีย ผมอายจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
“ขนาดนี้แล้ว หยุดไม่ได้แล้วนะครับ”
“ฮือ พี่…”
“พี่เองก็หยุดไม่ได้แล้วเหมือนกันเฟน” พี่พระพายสบตาผม เขาหลุบตาลงอีกครั้ง คราวนี้ผมเผลอมองตามก่อนเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงนอนของพี่พระพาย “มันโตเต็มวัยแล้วหนู…”
“พี่ เราอธิบายได้นะ ที่เราบอกว่าอยากทำอะ เราแค่...ฮะ!”
ผมผวาเฮือกเมื่อพี่พระพายวางมือลงบนเป้ากางเกงผมแล้วกอบกุมส่วนที่ตื่นตัวไว้เต็มมือ เขาสบตาผมในขณะขยับมือรูดรั้งมันผ่านกางเกงนอน ผมพยายามบิดสะโพกหนี แต่สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายดันสะโพกเข้ารับสัมผัสจากมือพี่พระพายเองซะอย่างนั้น เมื่ออารมณ์ถูกกระตุ้นจนพุ่งสูง ผมหลงลืมทุกสิ่ง มีเพียงสัมผัสจากพี่พระพายที่ชัดเจนในความรู้สึก
ผมหอบหายใจหนัก ฝ่ามือใหญ่ยังคงรูดรั้งให้ด้วยจังหวะและเทคนิคที่ทำผมตาลาย อากาศรอบตัวร้อนระอุ เหงื่อผมแตกพลั่กทั้งที่แอร์เย็นเฉียบ ได้แต่จิกมือขยุ้มผ้าปูเตียงสะบัดใบหน้าส่งเสียงครางอืออย่างทนไม่ไหว
อีกนิด อีกนิดเดียวเท่านั้น…
แต่จู่ๆ พี่พระพายก็หยุด
ผมค้างเติ่งกลางอากาศ ปรือตามองหน้าพี่เขาอย่างไม่เข้าใจ รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปาก พี่พระพายถอดเสื้อออกจากตัว แผงอกแน่นกับซิกส์แพ็คปรากฏตรงหน้า ผมเบนตาหนี ไม่กล้าจ้องเขาตรงๆ
“ไม่มองกันหน่อยเหรอครับ”
“มะ ไม่เอา”
“ไม่งั้นพี่ไม่ให้เสร็จนะ” เขาขู่แกมหัวเราะ ผมเม้มปากแน่น หุบขาหนีบหากัน ขยับเสียดสีไปมาด้วยความอึดอัด พี่พระพายจับขาผมแยกออกจากกันอีกครั้ง เขาโน้มตัวทาบทับผมเอาไว้ กดจูบหนักๆ จนผมถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากนั้นก็ถอดกางเกงผมออก ความเย็นปะทะส่วนล่าง ผมสะดุ้งจะหุบขาตัวเองตามสัญชาตญาณแต่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่พระพายจับรั้งเอาไว้
“พี่อย่ามองเรา! เราอาย”
“ของหนูสีน่ารักจะตาย อายทำไม”
“ฮือออ ไม่เอาพี่” ผมเอามือปิดส่วนที่ชูชันของตัวเองไว้ อายจนหน้าจะไหม้อยู่แล้ว พี่พระพายคนบ้า!
“เอาค่ะ” เขายิ้ม สบตาผมนิ่ง ฝ่ามือคว้าหมับเข้าจุดกึ่งกลางตัวจนผมอ่อนระทวย อุณหภูมิจากฝ่ามือเขาทำลังหลอมละลายผม เหมือนโดนสูบแรงไปซะดื้อๆ “พี่จะเอาหนู เอาตรงนี้ และเอาเดี๋ยวนี้”
แล้วเขาก็ขยับมืออีกครั้ง
“อะ อ๊ะ พะ พี่พระพาย...ฮึก!”
“มองหน้าพี่” เขาสั่ง แต่ผมหลับตาปี๋ ส่ายหัวจนผมเผ้ากระเซิง “หนูคะ มองหน้าพี่หน่อยค่ะคนดี”
“พะ พี่พระพาย บะ บ้า!”
“ยอมรับว่าพี่บ้า เพราะพี่อยากเห็นหน้าหนูตอนเสร็จ”
“ฮึก…!”
“...นะคะ : )”
คล้ายกับโดนคำหวานล่อลวง ผมปรือตาขึ้นมองหน้าเขา เราสบตากันในระยะใกล้กว่าที่เคย ผมเผยอริมฝีปาก หอบหายใจกระเส่า สะโพกเสียดสีขยับรับตามจังหวะการชักนำ แววตาของพี่พระพายดูพออกพอใจ เขาขยับมือเร่งความเร็วจนกระทั่งตัวผมกระตุกเกร็งปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดออกมาเลอะมืออีกฝ่าย
“ปล่อยออกมาเยอะเลย ไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองเหรอเรา”
“เรา เราไม่พูดกับพี่แล้ว!”
“เนอะ แค่ครางอย่างเดียวก็พอ”
“อ๊ะ พี่จะทำอะไร พี่พระพาย อื้ม!” เสียงผมโดนพี่พระพายดูดกลืนไปอีกครั้ง ปลายลิ้นชื้นตวัดไล้เลียและสอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก กวาดต้อนผมจนจนมุม ปลายนิ้วอุ่นที่ชโลมด้วยน้ำหล่อลื่นแตะลงบริเวณช่องทางด้านหลัง ผมสะดุ้งวาบ ดิ้นแรงกว่าเดิมเพราะไม่คุ้นชินจนพี่พระพายต้องจูบแก้มแล้วกระซิบปลอบ
“พี่จะทำเบาๆ ครับ หนูไม่ต้องกลัวนะ”
“เราไม่เคย” เสียงผมสั่นหวิว พี่พระพายจูบหน้าผากผมอีกครั้ง
“งั้นพี่จะค่อยๆ สอนโอเคมั้ย?”
“...”
“ถ้ารู้สึกไม่ดี พี่ให้หนูเสียบคืนเลยครับ”
“ดะ เดี๋ยว...อ๊ะ พี่ อย่านะ ตรงนั้น…!”
พี่พระพายไม่ฟังกันสักนิด ปลายนิ้วเขาแตะลงบนช่องทางด้านหลัง ขยับไล้ขึ้นลงตามร่องเนื้อจนผมขนลุกซู่ ตัวสั่นระริก ก่อนค่อยๆ กดแทรกปลายนิ้วเข้าไปข้างในช้าๆ ผมอ้าปากค้าง ตาหรี่ปรือ คล้ายเสียงหายไปดื้อๆ ความรู้สึกวูบวาบต้อนรับสัมผัสแปลกปลอมที่สอดแทรก
“อย่าเกร็ง”
“ฮึก…”
“ของหนูรัดนิ้วพี่แน่นแบบนี้ก็เข้าไม่ได้สิครับเฟน”
พี่พระพายขมวดคิ้วแน่น มือข้างหนึ่งจับขาผมแยกออกกว้างกว่าเดิม ในขณะที่มืออีกข้างสาละวนกับการขยับแทรกเข้าไปในตัวผม เสียงทุ้มแหบพร่าพร่ำปลอบผมสลับกับก้มลงจูบ
สัมผัสอ่อนหวานนุ่มนวลที่คุ้นเคยทำให้ผมคลายความกังวลลง พี่พระพายอาศัยจังหวะนี้ขยับนิ้วเข้ามาทีเดียวจนสุด ผมสะดุ้ง เสียงร้องอู้อี้ดังอยู่ในลำคอเพราะเขายังคงครอบครองริมฝีปากผมไว้
มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาด ผมพยายามผ่อนลมหายใจเผื่อความเสียดแน่นจากข้างล่างจะบรรเทาลง เขาเริ่มขยับนิ้วช้าๆ โดยที่เรายังจูบกันอยู่ ฝ่ามืออีกข้างลูบไล้สะกิดหน้าอกผม
แรงครูดจากด้านในทำผมผวาเฮือกโอบแขนคว้าคอพี่พระพายกอดไว้แน่น พี่พระพายผละจูบออก เขาสบตาผม กัดฟันกรอดจนกรามขึ้นเป็นสัน ดวงตาฉายประกายความต้องการชัดเจน ผมเผยอปาก หอบหายใจกระเส่า ปรือตามองหน้าเขา
“อื้ม พี่ เรา…”
“เจ็บมั้ยเฟน”
“มะ ไม่” ผมส่ายหัว ซุกหน้ากับไหล่กว้างชื้นเหงื่อ “ไม่เจ็บ แต่เรา อ๊ะ ตรงนั้น พี่อย่าสะกิด อ๊า! พี่พระพายเราบอกว่ายะ อย่า ฮึก!”
ผมครางไม่เป็นภาษาเมื่อพี่พระพายกดปลายนิ้วสะกิดจุดหนึ่งข้างใน มันทำให้ผมเสียววาบ ตัวสั่นระริกอย่างควบคุมไม่อยู่ มือไม้อ่อนแรง แข้งขาสั่นไปหมด
“สองนิ้วแล้วนะคนเก่ง”
“พี่ เราอึดอัด” ผมบิดตัวเร่า จิกปลายเล็บลงบนผิวเนื้อสีแทน “ฮึก หนูไม่ไหวแล้วพี่พระพาย หนูสะ เสียว อ๊ะๆๆ”
กรอด!
ผมได้ยินเหมือนเสียงขบฟันกรอด ก่อนที่ต่อมาพี่พระพายจะสบถไม่เป็นภาษา เขาอุ้มผมขึ้นนั่งคร่อมตักตัวเองไว้ ปลายนิ้วยังคงค้างอยู่ข้างใน เพิ่มเติมคือเขาแทรกนิ้วที่สามเข้าไปติดๆ
มันทั้งอึดอัด คับแน่นไปหมดจนอยากให้เขาเอาออกไป แต่พอพี่พระพายขยับงอนิ้วครูดเสียดสะกิดจุดอ่อนไหวมันก็รู้สึกดีจนแทบจะตายให้ได้
สมองผมเบลอและสับสนไปหมด ได้แต่ปล่อยร่างกายให้เลยตามเลย เพราะถ้าจะหยุดตอนนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว ทั้งผมทั้งเขานั่นแหละ
“ฮึ่ม เฟน หนูรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรอยู่”
“น...หนูไม่รู้” ผมส่ายหน้ากับไหล่ หอบหายใจกระเส่า ร้อนวาบไปทั้งตัว
“หนูกำลังบดสะโพกกับของพี่ รู้ตัวมั้ยคะ” พี่พระพายฟาดก้นผมไปทีนึง เสียงเผียะดังก้อง มันเจ็บแปล๊บจนผมน้ำตาคลอ พี่พระพายไม่หยุดแค่นั้น เขาขย้ำบั้นท้ายผมอย่างแรง ทั้งบีบทั้งเค้นสลับกับฟาด เหมือนเขาเก็บกด เหมือนรอเวลาที่จะได้ลงโทษเด็กดื้ออย่างผมมานาน
ปลายนิ้วข้างในยังคงกดย้ำจนผมเสียววาบยันปลายนิ้วเท้า ได้แต่เกร็งจิกมันกับผ้าปูที่นอนจนไม่มีพื้นที่เหลือให้ยับแล้ว ส่วนอ่อนไหวของผมแนบสนิทกับลอนหน้าท้องแข็งแรง อารมณ์ที่ถูกกะรตุ้นจนหน้ามืดตามัวทำให้ผมขยับมันเสียดสีกับหน้าท้องเขา
“เฟน อา! หนูจะโดนหนักนะแบบนี้” พี่พระพายกัดฟันกรอด
“อะ อึก อย่างกับพี่…” ผมพยายามเถียงแม้การออกเสียงจะยากลำบาก “จ...จะไม่ทำเราหนักๆ อ้ะ!”
“หนูท้าพี่เองนะเฟน!”
พี่พระพายคำรามลั่นในลำคอ เขากระชากนิ้วออกจากตัวผม ความวูบโหวงทำให้ผมรู้สึกแปลกประหลาด ช่องทางด้านหลังขมิบรัดราวกับต้องการบางสิ่งมาเติมเต็ม ร่างกายผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ผมถูกจับนอนราบกับเตียงอีกครั้ง สองขาแยกออกกว้างด้วยฝีมือพี่พระพาย เขาจับขาผมข้างหนึ่งพาดไหล่ ส่วนอีกข้างดึงมาแนบชิดเอวตัวเอง
ผมสบตาเขา รอยยิ้มพี่พระพายร้ายกว่าทุกที เขาเหยียดยิ้มมุมปาก จับข้อเท้าผมที่พาดบ่าไว้แน่น ดวงตาคมหรี่ลง เรายังคงสบตากันแม้กระทั่งตอนที่พี่พระพายเอียงหน้ากดจูบลงบนข้อเท้าผม
“พี่!”
ผมร้องอย่างตกใจกับการกระทำของเขา
“ครับ พี่ฟังอยู่” เขาขานรับอย่างไม่ใส่ใจเพราะมัวแต่พรมจูบข้อเท้าผมก่อนอ้าปากงับฝังรอยกัดลงมา ผมสะดุ้ง เจ็บนิดหน่อยแต่ไม่มาก ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียรอยกัดนั้น แล้วพี่พระพายก็ไล่กดจูบตามเรียวขาผม
ที่น่อง
ขาอ่อน
กระทั่งตรงขาหนีบ
เขาจูบ กัด ไล้เลียและขบเม้มสร้างร่องรอยความเป็นเจ้าของ ในขณะที่ผมได้แต่ยกมือปิดปากกลั้นเสียงตัวเองเอาไว้
“อึก พี่อย่ากัด”
“หนูเป็นของพี่เฟน” เขาพึมพำ ก้มหน้าชิดผิวเนื้ออ่อนใกล้ขาหนีบ ลมหายใจร้อนรินรดจนขนลุกวาบ เขาขบเม้มดูดดึงตรงนั้นทิ้งรอยแดงเอาไว้ก่อนตวัดสายตาขึ้นสบ “ของพี่คนเดียวเข้าใจมั้ยครับ?”
“ฮึก! หนูช้ำไปทั้งตัวแล้ว” ผมประท้วง ร่างกายบิดเร้าอย่างน่าอาย
“แต่ตรงนี้หนูยังไม่ช้ำเลยนะ” ปลายนิ้วแตะลงที่ปากทางเข้า ถูไถบดคลึงไปมาแต่กลับไม่ทำอะไรมากกว่านั้น พี่พระพายกำลังปั่นหัวผม และผมคิดว่าเขาทำสำเร็จทีเดียว
“ฮึก” ผมมองหน้าเขา น้ำตาคลอจากความเสียวและความต้องการที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้งจากการเล้าโล้ม
“ตาแดงหมดแล้วค่ะคนเก่ง”
“พี่นิสัยไม่ดี!”
“หนูอยากให้พี่ทำอะไรล่ะเฟน” เขาถามเสียงทุ้มต่ำเจือแหบพร่า แววตาฉายประกายเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ “บอกพี่สิคนดี พี่อยากได้ยินจากปากหนู”
ผมเม้มปากแน่น เขม็งตาจ้องพี่พระพาย อยากจับคนขี้แกล้งมาฟาดให้เขียวทั้งตัว เขาคิดว่าตัวเองปั่นหัวผมได้คนเดียวหรือไง คิดว่าผมไม่กล้าเอาคืนเขาเหรอ
ผมอาย แต่ตอนนี้มันอายจนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว!
“พี่พระพาย” ผมเรียกชื่อเขา ริมฝีปากเผยอหายใจหอบ ดวงตาที่คลอด้วยหยาดน้ำใสช้อนขึ้นสบกับดวงตาคมกริบ ผมยกปลายนิ้วชี้ขึ้นกัด สะอื้นฮักในลำคอ “หนูอึดอัด พะ พี่ ฮึก...ไม่แกล้งหนูนะ”
“เฟน!”
V
V
V