หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30  (อ่าน 239944 ครั้ง)

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่พระพายจากแอคเค่อนี่จ้อจี้ป่ะเนี่ย จิตใจไม่แข็งแกร่งเลย :laugh: :laugh: :laugh:
ถ้าน้องเฟนแทนตัวเองว่า “หนู” เพื่อนๆแกคงได้ปั๊มหัวใจให้แน่ๆ :laugh:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เขินกับคำว่า ตัวก็แค่นี้ ของพพ. ต้องเอ็นดูน้องมากแค่นั้นกันอะ แงงงง ทีมพระพายคนกากเสมอนะ ถึงพี่จะกากเราก็จะเชียร์ เพราะความกากของพี่จะทำให้ลูกเฟนเป็นใหญ่เหนือพี่55555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เข้าวัดก็ยังไม่เว้นนะพพ.

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ทันแล้วๆ เข้ามาอ่านๆ หยุดๆ เพราะความฮาต้องอ่านในห้อง โอ๊ยแต่ละคน  :m20:
ขอชื่นชมว่ามุกนิทันมากกับพี่เทพท้อเนี้ย ถึงมันจะเสี่ยงอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ
สนุกทุกคนขำความกาก ความหื่น ความไม่ปกติของ พพ. ส่วนน้องเฟนก็น่ารักใสๆ ไป
รอชมความป่วนในตอนต่อไป จะฮาน้ำตาเล็ดขนาดไหน
   :L1:   :pig4:   :L2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อย่ากดออกจากกรุ๊ปนะคะลูก สิ่งนั้นจะช่วยปกป้องหนูน้องเฟน 55555555555555555555

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นั่งขำก๊ากเลย5555 พอจะหวานก็ทำเอากัดหมอนขาดไปหลายใบแย้ววววว :jul1:

ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถถถถ พพ คนกาก 5555555

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พพ คนกาก  :laugh:

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 19

ปลาปั๊กกะปวยเป็นสัตว์มีพิษ





เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

นาย ก.สร้างโลกขึ้นมาสองใบ ใบหนึ่งคือเจ้าหน้าที่รัฐ ใบสองคือบุคคลสาธารณะ เพราะฉะนั้นเราสามารถวิจารณ์บุคคลสาธารณะได้มั้ยครับ? โอ๊ะ แต่บุคคลสาธารณะคนนี้มี #พรบไซเบอร์ คุ้มครองอยู่นี่นา ห่าราก!

Notice me senpai! @fcpeetepthor

กำลังตอบกลับถึง @LostDemocracy44

พี่ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น เทพท้อ [rest] แล้วนะ ไม่งั้นโดนปลดกลางอากาศแน่ๆ

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

กำลังตอบกลับถึง @fcpeetepthor

กูว่าสั่งปิดทวิตเตอร์ไปเลยง่ายกว่าปลดกูคนเดียว


เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

เอาอีกแล้วครับ นาย ก. คัมแบคครั้งนี้กับซิงเกิลใหม่ #วันใหม่ ที่ไม่ใช่น้องสาวเฮียบอยปกรณ์ แหม่...เห็นแบบนี้แล้วก็นึกอยากแต่งเพลงไปสู้สักหน่อย...

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

เฝ้าใฝ่ฝัน วันใหม่มาถึง ให้ตราตรึง ประวัติศาสตร์ชาติไทย สู่เส้นทางเผด็จกา...เอ๊ย ประชาธิปไตย แหม ร้องผิดไปนิดนึงอย่าถือสากันนะครับลุง #วันใหม่ #วันใหม่ที่ไร้เผด็จการByพี่เทพท้อ

Notice me senpai! @fcpeetepthor

กำลังตอบกลับถึง @LostDemocracy44

โดนปลดแน่ เชื่อผม


Notice me senpai! @fcpeetepthor

“เฟน”

“เรากำลังขึ้นเครื่องนะครับ ซื้อขนมไปฝากเยอะเลย”


“ทำไมใช้แอคนี้ทักมาอะฟรองซ์”

“นึกว่าเลิกเล่นไปแล้ว”

“ก็เล่นอยู่พอดี 5555”

“เจอกันนะ คิดถึงเฟนมากเลย”


“โอเค เรารอนะ ตอนบ่ายๆ เจอกัน”

“เจอกันครับ”


วันนี้วันเกิดผม ถึงเมื่อวานพี่พระพายจะพาไปทำบุญที่วัดแล้วแต่ผมก็ยังตื่นเช้ามาใส่บาตรหน้าหอพักอยู่ดี ตอนแรกกะมาคนเดียวเงียบๆ เพราะพี่พระพายเหมือนจะเหนื่อย แต่แค่ผมขยับตัวนิดเดียวพี่เขาก็รู้สึกตัวแล้ว สุดท้ายเลยกลายเป็นพวกเราลงมาใส่บาตรพร้อมกันทั้งคู่

แม่โทรมาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ผมตอนช่วงแปดโมงกว่าๆ พร้อมคุยเรื่องของฟรองซ์ไปด้วย วันนี้ไฟลท์บินฟรองซ์ลงช่วงบ่าย ผมเลยไม่ต้องรีบไปรอรับเขา แต่หลังจากนั้นพวกเราจะไปเยี่ยมแม่ด้วยกัน พี่พระพายได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์พอดีเขาเลยเสนอจะไปส่งผมที่สนามบิน แถมตอนแรกจะรอรับฟรองซ์กับผมแล้วพาไปส่งที่บ้านแม่ด้วยซ้ำ แต่ผมห้ามไว้เพราะรู้ว่าพี่พระพายกำลังถ่วงเวลาไปตามนัดกับที่บ้าน เราเลยเจอกันครึ่งทางที่เขาจะไปส่งผมที่สนามบินเท่านั้น

“หนูอะ”

“ไม่งอแงสิพี่”

“พี่ไม่ได้รีบกลับบ้านขนาดนั้น” เขายังบ่นอย่างต่อเนื่องในขณะสาวเท้าเดินข้างผม ตอนนี้เราอยู่ข้างนอกครับ พี่พระพายบอกจะพาผมไปนั่งกินเค้กที่ร้านคาเฟ่ต์ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย “พี่ไปส่งหนูได้จริงๆ นะเฟน ให้เรากับฟรองซ์กลับเองจากสนามบินลำบากจะตาย เดี๋ยวก็โดนแท็กซี่โกงมิเตอร์หรอก เอะอะให้เหมาๆ อยู่นั่น ถ้าแบบนั้นก็โยนมิเตอร์ทิ้งเถอะ”

“ไม่เป็นไรจริงๆ มีฟรองซ์อยู่ด้วย ฟรองซ์จัดการได้”

“หนูพูดเหมือนฟรองซ์จะกินหัวแท็กซี่”

“อื้อ” ผมพยักหน้ารับ มองพี่พระพายตาใส “ปีที่แล้วฟรองซ์เคยฟาดกับแท็กซี่ไปทีนึง แท็กซี่คิดว่าฟรองซ์กับเราเป็นนักท่องเที่ยวเพราะได้ยินเราพูดญี่ปุ่นกันเลยจะโกงมิเตอร์…”

“...”

“เพราะงั้นพี่หายห่วงได้เลย”

“แต่พี่ก็ยังไม่วางใจอยู่ดีอะหนู”

“พี่ดื้อกับเราจังเลยวันนี้” ผมตั้งข้อสังเกต พี่พระพายเลยทำเสียงกระซิกๆ ใส่

“ก็นี่มันวันเกิดหนูไงเฟน พี่อยากอยู่กับหนูทั้งวันเลย”

“พี่ก็รู้ว่าไม่ได้” ผมเตือนความจำเขา ก่อนปลอบอีกฝ่ายเมื่อพี่พระพายทำหน้าเศร้าใส่ “แต่ช่วงเช้าเราก็ยกเวลาให้พี่แล้วนี่ไง ไม่งั้นจะออกมากับพี่เหรอ”

“กะพริบตาทีเดียวก็หมดแล้วปะ”

“งั้นพี่ก็ไม่ต้องกะพริบตาสิ”

ผมแกล้งเขา พี่พระพายหน้าบูดไปหมด จากนั้นก็บ่นงุ้งงิ้งอะไรไม่รู้อยู่คนเดียว จับใจความได้คร่าวๆ ว่าพี่สายฟ้ากับพี่ดารัญยัดอะไรไม่รู้ใส่หัวผมจนปากคอเราะร้าย ฮึ...ผมไม่ได้ปากคอเราะร้ายสักหน่อย พี่พระพายอะมั่ว

ผมคิดอะไรเพลินๆ รู้ตัวอีกทีพวกเราก็ก้าวลงจากสะพานลอยแล้ว พอเดินต่อไปอีกนิดก็เจอกับร้านคาเฟ่ต์ ผมเงยหน้ามองป้ายชื่อร้าน Over The Moon จะว่าไปร้านนี้คนค่อนข้างเยอะมากเหมือนกัน ไม่รู้จะมีที่นั่งมั้ย

กรุ้งกริ๊ง

เสียงกระดิ่งเหนือประตูดังเมื่อพี่พระพายผลักมันเข้าไปในร้าน แอร์เย็นปะทะใบหน้าพร้อมกลิ่นหอมหวานของขนมและเครื่องดื่ม ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเย็นสบายตาและจัดร้านได้น่านั่งมากๆ พนักงานหญิงคนหนึ่งผายมือให้ผมกับพี่พระพายไปนั่งที่โต๊ะใกล้กับเคาน์เตอร์บาร์ที่มีพี่ผู้ชายคนหนึ่งง่วนกับการชงเครื่องดื่มอยู่

“ไงพี่มายด์ สรุปลาออกจากงานมาทำร้านเต็มตัวแล้วเหรอ”

พี่พระพายยกมือทักพี่คนนั้น พอเขาเงยหน้าขึ้นมาผมก็เผลอมองตาค้างเพราะพี่เขาดูดีมาก มากๆ แบบกอไก่ล้านตัว เป็นคนที่ดูดีในลุคคุณชายสะอาด ดวงตาเรียวสีน้ำตาลอ่อนฉายประกายอ่อนโยน จมูกโด่งสวย ริมฝีปากกระจับคลี่รอยยิ้มใจดี ลุคต่างกับพี่พระพายที่เซอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า

“พระพายครับ...” แถมเขายังสุภาพมากๆ ด้วย

“ว่าไงพี่?”

“ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นได้มั้ยครับ”

“...”

“คนที่จู่ๆ ก็พักงานแล้วหายหัวไปเป็นเดือนๆ อย่างมึ...อย่างเรามีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของพี่หรือเปล่าเอ่ย : )”

“กับน้องกับนุ่งพี่มึงไม่ต้องแอ๊บสุภาพก็ได้นะ” พี่พระพายกลอกตา ดูไม่สะทกสะท้านสักเท่าไหร่ ผมมองสองคนสลับไปมา ก่อนสบตาเข้ากับพี่ผู้ชายที่น่าจะเป็นเจ้าของร้าน เขาส่งยิ้มให้ผม ออร่าใจดีแผ่ออกจากตัวจนผมแสบตาไปหมด

“สวัสดีครับ พี่ชื่อมายด์นะ”

“สวัสดีครับ เราชื่อเฟน”

“แทนตัวเองน่ารักนะเรา” เขาหัวเราะ “แล้วนี่กับพระพาย เป็นอะไรกันเหรอ พี่แนะนำว่ารีบหนีตอนนี้ยังทันนะ”

“พี่มายด์หยุด พี่มึงเงียบไปเลย” พี่พระพายตบโต๊ะโวยวาย “ไม่งั้นผมยุเจซจริงๆ นะว่าพี่แอบมีบ้านเล็กบ้านน้อย”

“ขี้ใส่ใจเรื่องชาวบ้านจังนะพระพายนะ”

“ผมล่ะเกลียดเวลาพี่อยากด่าผมแต่ต้องแอ๊บทำเป็นคนดียิ้มไปด่าแบบแฝงความนัยไปแบบนี้จริงๆ” พี่พระพายส่ายหน้า เขาหันมาหาผม “หนู นี่พี่มายด์ เป็นรุ่นพี่ที่คณะพี่แต่เขาอยู่โลจิสฯ เพิ่งจบไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นที่พี่เคยบอกหนูว่าพี่ทำพาร์ทไทม์ร้านขายน้ำก็ร้านไอ้พี่มายด์นี่แหละ”

“อ๋อ” ผมพยักหน้ารับ แต่อดดุพี่พระพายไม่ได้ “พี่มายด์เป็นรุ่นพี่นะ พี่พระพายอย่าพูดคำหยาบกับพี่เขาสิ ไม่น่ารักเลย เราไม่ชอบ”

“แต่หนู ไอ้พี่มายด์มันร้าย”

“พี่พระพาย…” ผมกดเสียง

“หนูอย่าโดนออร่าคนดีของพี่มันหลอกสิ!”

“เราจะไม่พูดซ้ำนะพี่”

“หนู!”

“ที่น้องเฟนพูดก็ถูกนะ พี่รู้สึกใจสลายทุกครั้งที่พระพายหยาบคายกับพี่” พี่มายด์หน้าเศร้า เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนกลับมาคลี่ยิ้มบางอีกครั้ง “แต่ไม่เป็นไรครับ พี่คงไม่น่านับถือในสายตาพระพาย ถึงพี่จะให้โอกาสเราทำงานหาเงินใช้ตอนมีปัญหากับที่บ้านจนถูกตัดเงินก็เถอะ”

“พี่มึง…”

“พี่ก็ไม่ค่อยมีบุญคุณกับเราเท่าไหร่หรอกพระพาย แค่เราทำงานกับพี่จนถอยเวสป้ามาได้คันนึงน่ะนะ”

“เออๆๆ โอเค ขอโทษครับคุณพี่ชายที่แสนประเสริฐ ผมมันผิดเองที่อกตัญญู แต่รบกวนพี่ช่วยเลิกค่อนแคะผมทั้งที่ยิ้มแอ๊บหน้าเป็นคนดีแล้วเอาเมนูมาเสิร์ฟลูกค้าอย่างผมจะเป็นพระคุณมาก”

ผมเห็นพี่มายด์หัวเราะจนตาหยี ขนาดหัวเราะเขาก็ยังดูดี หลังจากนั้นใบเมนูก็ถูกนำมาให้ถึงโต๊ะ พี่พระพายเลื่อนมาตรงหน้าผม

“หนูเลือกเลย ถือซะว่าเป็นเค้กวันเกิดเรา”

“พี่เลือกให้เราสิ” ผมสบตาเขา “ถ้าเราเลือกเองก็เหมือนเราซื้อให้ตัวเอง...เราอยากให้พี่เลือกให้ ความรู้สึกมันต่างกันนะ”

“พี่กลัวหนูไม่ถูกใจไงครับ”

“เราถูกใจหมดนั่นแหละ”

“แล้วถูกใจพี่ด้วยหรือเปล่า : )” พี่พระพายยื่นหน้ามาใกล้ รอยยิ้มของคนขี้แกล้งน่าตีที่สุด ผมย่นจมูก ข่มแรงเต้นตุบๆ ในใจแล้วสู้กลับ

“ถ้าพี่ถูกใจเรา เราก็ถูกใจพี่เหมือนกัน”

หลังจากนั้นพี่พระพายก็ฟุบหน้ากับโต๊ะแล้วตบโต๊ะป้าบๆ จนพี่มายด์ชะโงกหน้าดู เขาหันมาทางผม เลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงถาม ผมเลยส่ายหัวตอบ

“เหนื่อยหน่อยนะครับน้อง” พี่มายด์แสดงสีหน้าเห็นใจ ผมเลยยิ้มแหยๆ ในขณะเดียวกันก็สะกิดพี่พระพายให้เงยหน้าก่อนจะเป็นเป้าสายตาคนในร้านไปมากกว่านี้

“หนูอะ ไม่อ่อนโยนกับใจพี่เลย”

“เราไม่ได้ทำอะไรพี่สักหน่อย”

“หนูทำ” พี่พระพายสีหน้าขึงขังขึ้นกว่าเดิม “หนูน่ะ...มาเล่นให้ใจพี่เต้นแบบนี้ พี่ว่าหนูก็มีอาการใช่มั้ย ใจมันเต้นมันเต้นเป็นจังหวะรัก แล้วหนูละอะเป็นจังหวะยังไง”

“เลิกร้องเพลงแล้วเลือกเค้กให้เราเถอะพี่” ผมตัดบท พี่พระพายเลยหัวเราะ เขายื่นมือข้ามโต๊ะมาขยี้หัวผมเบาๆ ก่อนก้มหน้าก้มตาเลือกเค้กให้ผม

หลังสั่งเค้กกับเครื่องดื่มเรียบร้อยเราก็คุยนู่นนี่กันฆ่าเวลา ช่วงขณะนั้นในหัวผมมีคำถามขึ้นมา วันนี้วันเกิดผม วันที่ผมบอกพี่พระพายให้เขาขอผมเป็นแฟนวันนี้ แต่เขาก็ไม่เห็นมีท่าทีจะพูดเรื่องนี้เลย ผมเองก็ไม่กล้าถามเหมือนกันได้แต่เหลือบๆ ตามองพี่เขาจนอีกฝ่ายสังเกตเห็นเข้าให้นั่นแหละ

“มีอะไรหรือเปล่าหนู”

“เอ่อ เปล่าสักหน่อย” ผมส่ายหัว ก้มหน้าหลบตาพี่พระพาย

“แน่ใจนะ”

“อื้อ”

ผมขานรับในลำคอ ทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นแต่สัมผัสได้ว่าพี่พระพายจ้องผมอยู่ ในขณะที่ผมกลัวว่าจะถูกเค้นความลับ เค้กกับเครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟซะก่อน พี่พระพายเลยหันความสนใจจากผมไปที่เค้กแทน ผมเห็นเขาก้มหน้าล้วงอะไรสักอย่างจากกระเป๋า พอชะโงกมองก็พบว่ามันเป็นเทียนวันเกิดรูปตัวเลขสองตัวคือ 1 กับ 8 พี่พระพายปักมันลงบนเค้กก่อนหยิบไฟแช็กจุดเทียน

เขาเงยหน้าขึ้นมา พอเราสบตากันพี่พระพายก็ยิ้มใส่ผม

“สุขสันต์วันเกิดครับ ครบสิบแปดปีแล้วนะหนู”

“เมื่อวานพี่ก็บอกเราแล้วไง” ผมอุบอิบ หลุบตาจ้องเปลวไฟบนไส้เทียนที่ไหวระริก

“ก็อยากบอกอีก” ดวงตาคมกริบจ้องผมไม่ละไปไหน แววตาพี่พระพายทำให้ผมรู้สึกวูบวาบที่ใบหน้า โดยเฉพาะประโยคต่อมา “พี่อยากบอกสุขสันต์วันเกิดหนูทุกปีเลยครับเฟน”

“เราก็ไม่ได้ห้ามพี่สักหน่อย”

“แต่จะบอกสุขสันต์วันเกิดได้ทุกปีก็ต้องมีฐานะพิเศษหน่อยเนอะ” พี่พระพายหัวเราะเมื่อเห็นผมหน้าตาตื่น เขาชี้เค้กตรงหน้า “อธิษฐานแล้วเป่าเทียนเร็วหนู”

“อื้ม”

ผมจ้องเทียนวันเกิด หลับตาอธิษฐานอยู่แป๊บนึงก็ลืมตาแล้วเป่าลมใส่มันจนดับในรวดเดียว พี่พระพายดึงเทียนออกวางไว้ข้างจาน

“เชิญเจ้าของวันเกิดตัดเค้กก่อนเลยครับ”

“พี่ก็เว่อร์อะ” ผมบ่น แต่ก็หลุดหัวเราะจนได้

“พี่เว่อร์ได้กว่านี้อีกถ้าเป็นเรื่องของหนูน่ะเฟน”

“เหมือนที่พี่จะกระโดดบ่อปลาสวายอะนะ” ผมแกล้งว่า พี่พระพายถึงกับสำลักกลางอากาศ เขาหน้าแดงแจ๋แถมคิ้วยังขมวดมุ่น

“พี่ก็เป็นแค่กับเรานั่นแหละ”

“อย่าให้เราจับได้ว่าเป็นกับคนอื่นด้วย”

“ไม่มีแล้วคนอื่น มีแค่หนูคนเดียวนี่แหละครับ”

“บ้า”

ผมพึมพำเสียงเบา ก้มหน้าตักเค้กเข้าปาก ทำเมินแววตาแพรวพราวกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนขี้แกล้ง แต่พี่พระพายก็พยายามเรียกร้องความสนใจเหลือเกิน พอผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับแววตาหวานๆ ของเขา อีกฝ่ายก็แกล้งจะเอาส้อมจิ้มแย่งสตรอเบอร์รี่ไปจากผม

“พี่!”

“ป้อนครับ อ้าปากเร็ว” เขาทำเสียงอ้า ยื่นส้อมที่จิ้มสตรอเบอร์รี่ครึ่งลูกมาทางผม ผมส่ายหน้าดิ๊ก

“ไม่เอา เราอาย”

“พี่ไม่เห็นอาย”

“แน่สิ ก็พี่สายฟ้าบอกเราว่าพี่ด้านอะ”

“หนูอย่าไปฟังอะไรมันมากเลย เดี๋ยวเป็นเด็กก้าวร้าวกันพอดี” เขาเบะปาก “อ้าปากเร็ว ไม่งั้นพี่กินเองนะ”

“พี่พระพายไม่แกล้งเรานะ”

“ไม่ต้องมาทำตัวน่ารักอ้อน รู้ทัน โดนมาหลายรอบล่ะ”

ผมส่งเสียงฮึในลำคออย่างขัดใจ สุดท้ายก็ได้แต่หลับหูหลับตาอ้าปากงับสตรอเบอร์รี่ที่พี่พระพายป้อน รสชาติหวานอมเปรี้ยวกระจายในปาก ผมเผลออมยิ้มกับความอร่อยนี้

กรุ้งกริ๊ง

เสียงกระดิ่งเหนือประตูร้านดังขึ้นอีกครั้ง ผมมองตามสัญชาตญาณและพบว่าคนที่เข้ามาใหม่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาน่าตาน่ารักแบบตี๋ๆ ตาเรียวหางตาตกนิดหน่อย แต่แก้มป่องมากๆ เขาเดินตรงมาทางเคาน์เตอร์และเกือบจะเดินเข้าหลังร้านไปแล้วถ้าไม่ใช่ว่าหันมาทางโต๊ะพวกเราก่อน

“อ้าวพระพาย มึงกลับมาทำงานแล้ว?”

“ไงเจซ” พี่พระพายยกมือทักทาย “พี่มายด์หนีไปอู้หลังร้านว่ะ”

“เจซ” คราวนี้เป็นเสียงพี่มายด์ที่เดินออกมาจากหลังร้านพอดี เขายิ้มให้คนที่ชื่อเจซ “น้องอย่าไปฟังพระพายมัน พี่ไม่ได้อู้นะ พี่ตั้งใจทำงานหาเลี้ยงน้องอยู่ต่างหาก”

“พระพายมันเชื่อถืออะไรไม่ได้อยู่แล้ว ผมไม่หูเบาขนาดนั้น”

“เฮ้ นี่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ นินทาเสียงดังไม่เกรงใจกันเล้ย”

“กูเคยเกรงใจมึงเหรอพระพาย” พี่เจซพูดขึ้น (ผมเดาว่าเป็นรุ่นพี่เพราะเขาพูดคำหยาบกับพี่พระพาย)

“หนูจ๋า พี่โดนบุลลี่” คราวนี้พี่พระพายหันมาออดอ้อนผมแทน “เนี่ย เวลาคู่นี้อยู่ด้วยกันทีไรชอบรวมทีมแกล้งพี่ตลอดเลย พี่มันหัวเดียวกระเทียมลีบไร้ทางตอบโต้”

“แต่เราเห็นพี่กวนเขาก่อนนะ”

“หนูต้องเข้าข้างพี่สิ”

“เชื่อกูเถอะ ถ้าจะมีใครเข้าข้างมึงก็คงเหลือแค่ตัวมึงคนเดียว”

“อ้าว สวยดิเจซ ซ่านักเหรอนิเทศฯ ตรงนี้มีบริหารฯ สองคนนะ ถิ่นใครให้มันรู้”

“แต่บังเอิญว่าหนึ่งในบริหารฯ นั่นเป็นแฟนกูอะ” พี่เจซยักคิ้วใส่ก่อนหันมาทางผม “แล้วนี่…?”

“น้องชื่อเฟน อยู่สินกำปีหนึ่ง” พี่พระพายเป็นคนแนะนำตัวผม

“สวัสดีครับพี่เจซ”

“สวัสดีๆ เป็นอะไรกับพระพายมันอะ รีบหนีไปดีกว่านะเชื่อพี่ มันเป็นมนุษย์จัญไร เราดูเป็นคนดีอะเฟน พี่ว่าเราไม่ควรเข้ามาอยู่ในวงโคจรที่เสี่ยงโดนราหูอมแบบนี้”

“เจซ มึงแค้นอะไรกูปะ”

“เปล่าจ้า ไปดีกว่า” พี่เจซหัวเราะแล้วเดินหนีเข้าหลังร้าน ส่วนพี่มายด์เดินตามไปติดๆ ผมได้ยินเขาเรียกพี่เจซว่าน้องอย่างนู่น เจ้าเด็กอย่างนี้ เป็นสรรพนามที่ฟังแล้วน่ารักจนหลุดยิ้ม

“เขาดูรักกันจังพี่”

“ครับ รักกันจนพี่เหม็นความรัก”

“น่ารักเนอะ”

“อยากมีบ้างมั้ยล่ะ?”

“หือ?”

“แฟนน่ารักๆ แบบนี้อะ” พี่พระพายสบตาผม มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ผมหลบสายตาเขา พึมพำตอบเสียงเบา

“ก็...รอบางคนขออยู่เนี่ย”

“คืนนี้นะครับ พี่ขอไปจัดการคุณพ่อสุดที่รักก่อน” พี่พระพายยิ้ม แววตาเขาวิบวับตอนสบตาผม “เตรียมใจไว้ให้ดีเลย คืนนี้พี่ไม่ปล่อยให้หนูโสดแน่ๆ”

“พี่พระพายบ้า ไม่คุยด้วยแล้ว”

ผมเปลี่ยนเรื่องหนี เบี่ยงเบนความสนใจตัวเองไปที่เค้ก แต่เสียงหัวเราะของพี่พระพายก็ยังไม่หายไปสักที แก้มผมร้อนไปหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดี

ขี้โกงจังเลยพี่คนนี้ ทำใจผมฟูอีกแล้ว : (


[พระพาย]

บ้านที่ผมกลับมาไม่ค่อยให้ความรู้สึกผูกพันเท่าไหร่ มันกว้าง ใหญ่ แต่ผมกลับอึดอัดแปลกๆ คงเพราะรู้ดีว่าที่นี่ตัวตนของผมไม่ได้รับการยอมรับ อาจไม่ทุกคน แต่แค่พ่อคนเดียวก็ทำให้บรรยากาศไม่น่าเหยียบเท้ากลับมาแล้ว

“พาย!”

“โอ๊ย พี่จะตะโกนทำไม” ผมรีบยกมือห้ามพี่พะพริ้งที่ทำท่าจะโผกระโดดกอดจนเธอหน้างอ “ไม่ต้องมาเบะใส่ผมนะ แสดงละคร รู้ทันเหอะ”

“ชิ” พี่พะพริ้งจิปาก เธอค้อนผมทีนึง “พายนะพาย พี่ก็บอกแล้วไงว่าให้มาเร็วๆ แต่นี่เล่นหายไปเลย โผล่มาอีกทีตอนเย็นใกล้เวลานัดแบบนี้พี่นึกว่านายจะชิ่งแล้ว”

“พี่เพลิงล่ะ” ผมชะโงกหน้ามองหาพี่ชายคนโตเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

ความจริงแล้วผมไปส่งเฟนที่สนามบินเสร็จตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งแล้วอยู่ต่อเป็นเพื่อนเขาถึงบ่ายสองถึงได้ออกจากสนามบิน แต่ผมไม่ได้ตรงมาที่บ้านแต่แวะไปเดินห้างดูหนังฆ่าเวลาก่อนขับรถ(ที่ยืมมาจากสายฟ้าเพื่อนยาก)กลับบ้านนี่แหละ

ยอมรับว่าจงใจยื้อเวลา ผมไม่อยากอยู่ในบ้านนี้นานเท่าไหร่ นัดกินข้าวเย็นก็มาตอนเย็นไปเลย พ่อจะได้มีเวลาด่าผมน้อยกว่าเดิม

“เปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนะ”

“ก็คิดถึงพี่เพลิง”

“แน่ใจเหรอ” คราวนี้ไม่ใช่เสียงพี่พะพริ้ง แต่เป็นเสียงทุ้มต่ำของพี่พระเพลิงที่เดินเข้ามาสมทบ ผมเลิกคิ้ว ปรายตามองชุดที่เขาสวม คือถ้าเอาสูทมาใส่ทับก็ชุดไปทำงานดีๆ นี่เอง ให้เดาคือเพิ่งกลับจากบริษัทแน่ๆ

“ไม่ให้ผมคิดถึงพี่ชายคนโตกับพี่สาวคนสวยแล้วจะให้ผมไปคิดถึงใครที่ไหนครับ”

พี่พระเพลิงกลอกตาเมื่อได้ยินผมตอบแบบนั้น แต่ก็ยังเดินมากอดแล้วตบหลังผมป้าบๆ ผมผละตัวออกมาสบตาพี่เขาอีกครั้ง พี่พระเพลิงกับผมหน้าตาคล้ายกันเกือบ 90% แต่นิสัยเราต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว ในขณะที่พี่พระเพลิงสุขุมมาดเนี้ยบ ผมกลับฉีกกรอบทุกอย่างออกมา เพราะแบบนี้พ่อเลยไม่ชอบใจเท่าไหร่และมักเปรียบเทียบผมกับพี่พระเพลิงทุกครั้ง

เป็นความรู้สึกที่น่าหงุดหงิดดี

ออกตัวก่อนว่าไม่ได้เกลียดพี่ชายตัวเอง มีบ้างที่นึกอิจฉา ไม่อยากอยู่ใกล้ แต่ก็เพราะผมไม่ชอบที่โดนเอาไปเปรียบเทียบ และถึงพ่อจะพยายามให้ผมเอาการเอางานเหมือนพี่พระเพลิงขนาดไหนผมก็ยังทำหูทวนลมอยู่ดี ทำไมต้องทำตัวเหมือนใครในเมื่อการเป็นตัวของตัวเองไม่ได้ผิดตรงไหน

“เข้าข้างในกันเถอะ” พี่พะพริ้งควงแขนผม เธอออกแรงกระตุกเบาๆ

“ไม่อยากเจอหน้าพ่อเลย”

“อย่าพูดแบบนั้นน่า” พี่พระเพลิงปราม ผมกลอกตา

“แหงสิ พี่ลูกรักผมลูกชังนี่หว่า”

“เปิดใจมั่งพาย” เขาตบไหล่ผมเบาๆ

“พี่บอกให้พ่อเปิดใจรับรสนิยมทางเพศของผมก่อนดีกว่า”

ผมแค่นหัวเราะ ก่อนเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปข้างใน


บรรยากาศบนโต๊ะอาหารโคตรอึดอัดเลยเว้ย แล้วถามหน่อยใครจัดให้ผมนั่งตรงข้ามกับพ่อ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ถ้าพ่อโมโหที่ผมพูดไม่ถูกหูขึ้นมาไม่ลุกขึ้นเอาส้อมทิ่มปากผมเหรอวะ แม่ง แล้วคือชามต้มยำกุ้งอยู่ตรงหน้าพ่อ อยากกินแต่ก็ไม่อยากยื่นมือไปใกล้แก บ้าบอปะ?

“ลูกไม่ค่อยกลับบ้านเลยนะพาย”

“ปีสามแล้วครับแม่ งานก็ยุ่งแบบนี้แหละ รายงาน วิจัยยิบย่อย”

“ยุ่งหรือไม่อยากกลับกันแน่” เสียงแหบห้าวดังขึ้น ผมเหลือบตามองพ่อ ยักไหล่กวนแกไปทีนึง

“ว้าว พ่อเดาเก่งจัง”

“พาย” พี่พะพริ้งกระซิบปรามผมจากด้านซ้าย

“พูดจาดีๆ นายโตแล้วนะ” ส่วนพี่พระเพลิงร่างโคลนนิ่งของพ่อก็เตือนผมจากด้านขวา ผมกลอกตา อาศัยจังหวะนั้นจิ้มกุ้งตัวโตจากชามมายัดปากเป็นสัญญาณว่าจะกิน ไม่ขอพูดหรือออกความเห็นอะไรทั้งนั้น

“คิดไว้หรือยังว่าจะฝึกงานที่ไหน” แต่เหมือนพ่อจะไม่ละความพยายาม ผมมองเขา ยกน้ำขึ้นดื่ม

“ยังไม่ได้คิดครับ กำลังมองหาอยู่”

“มาฝึกที่บริษัทเรา”

“อันนี้พ่อเสนอความเห็นหรือสั่งครับ?” ผมย้อนถาม

“จบมาแกก็ต้องช่วยเพลิงบริหารงาน ถือเป็นการเรียนรู้ระบบบริษัทก่อนเข้ามาทำงานจริงๆ”

“โอเค สรุปคือสั่ง” ผมพยักหน้ารับกับตัวเอง

“พาย พ่อหวังดีนะลูก” แม่ผมพยายามช่วยพูด “ลูกจะได้ไม่ต้องลำบากหาที่ฝึกงานเหมือนคนอื่น ประหยัดเวลาตรงนี้ไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ”

“แล้วก็ถูกพ่อควบคุมพฤติกรรมตลอดไป” ทั้งโต๊ะเงียบ ผมเลยหันไปทางพี่พระเพลิง “ไม่ได้ว่าพี่นะ อย่าเข้าใจผมผิด”

“พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนาย”

“เอ่อ นี่ๆ พาย” พี่พะพริ้งพยายามเปลี่ยนเรื่อง “พี่มีเรื่องอยากให้พายช่วยหน่อย”

“อะไรครับ?”

“คือพี่มีงานถ่ายแบบกับนายแบบสองคน รู้จักพัชมั้ย? ที่เป็นนายแบบอิสระลูกชายเจ้าของนิตยสาร Real Men กับแดนนายแบบจากค่าย A-Plus น่ะ”

“แล้ว?” ผมเลิกคิ้ว คุ้นๆ ชื่อแดนอะไรนี่นิดหน่อย จำได้ว่าเฟนเคยชมหุ่นหมอนั่น ถ้าคนเดียวกันนี่คิ้วกระตุกแล้วนะ หมั่นไส้ ขาวๆ ตี๋ๆ แบบนั้นหล่อตรงไหน คมเข้มแบบผมสิหล่อ

“ทีนี้แดนเขาลื่นตกบันไดจนกระดูกแขนร้าว…”

“พี่กำลังจะบอกอะไรผมกันแน่ ขอแบบเนื้อๆ”

“พี่เปเป้เลยเสนอให้มาลองติดต่อพายไปถ่ายแบบแทนส่วนของแดน คือก็รู้ใช่มั้ยว่าผู้จัดการพี่เล็งพายมานานแล้ว พี่เห็นว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่าง…” พี่พะพริ้งหัวเราะอายๆ “คือพี่เป็นแฟนคลับพัชน่ะ พี่เขินเขา ให้พี่ถ่ายกับเขาแค่สองคนงานล่มแน่พาย นะ ช่วยพี่หน่อย อย่างน้อยมีเราอยู่ด้วยพี่จะได้ไม่เขินมาก”

“จะเอาผมไปเป็นก้างทำไม สองต่อสองสิดี พี่จะได้จีบเขาไปเลย”

“เขามีแฟนแล้วเหอะ อีกอย่างพี่ชอบแบบปลื้มๆ เฉยๆ ไม่ได้ชอบอยากได้เป็นแฟน”

“พี่เพลิงไง”

“พี่อยู่ในบอร์ดบริหาร ให้ไปถ่ายแบบนั้นไม่เหมาะ” พี่ชายผมรีบปฏิเสธทันที ผมกลอกตาอีกครั้ง ส่วนพี่พะพริ้งก็กะพริบตาปริบๆ ส่งเสียงอ้อนไม่หยุด

“แม่ว่าก็น่าสนใจดีนะพาย ลองดูก็ไม่เสียหายนะลูก”

“แล้วพ่อล่ะครับ คิดว่าไง” ผมแกล้งหันไปถามพ่อ อยากรู้ว่าเขามีความคิดเห็นแบบไหน พ่อเหลือบตามองผม เขาถอนใจเบาๆ

“อยากทำก็ทำ ไม่ทำก็ไม่ต้อง ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่”

V
V
V

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
-ต่อ-

“รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในชีวิตผมด้วยหรือเปล่า” ผมสบตาเขา บรรยากาศที่พี่พะพริ้งพยายามทำให้ผ่อนคลายกลับมาเคร่งเครียดอีกครั้ง “เรื่องเรียน เรื่องงาน รสนิยมทางเพศ”

“พ่อไม่ได้นัดแกมาเพื่อชวนทะเลาะ”

“ผมก็ไม่ได้ชวนทะเลาะแต่ถามจริงๆ”

“พายลูก แม่ว่า…” แม่พยายามจะห้าม แต่ผมส่ายหน้าให้แม่

“ผมไม่รู้นะว่าพ่อเปลี่ยนไปแค่ไหนในช่วงที่ผมทำตัวห่างออกไป แต่ถ้าพ่อแค่เรียกผมมาเพื่อคุยเรื่องที่ฝึกงานแล้วจะบังคับให้ผมฝึกงานที่บริษัทโดยไม่มีสิทธิ์เลือกเองผมต้องปฏิเสธ ก็อย่างที่เคยบอกว่าผมจะเรียนบริหารเพื่อพ่อเป็นอย่างสุดท้าย นอกนั้นผมขอทำตามสิ่งที่ผมต้องการ”

“แล้วถ้าไม่ได้เรียกมาแค่นั้นล่ะ” พ่อเลิกคิ้ว “ถ้าบอกว่าแค่อยากเห็นหน้าลูกชายคนเล็กที่ไม่ได้เจอมานานจะคิดว่าพ่อโกหกรึเปล่า”

ผมเงียบไป ยอมรับว่าไปต่อไม่ถูก ผมไม่ได้เตรียมใจรับมือกับพ่อเวอร์ชั่นนี้ พ่อในความทรงจำหัวแข็ง อีโก้สูง เขายึดความคิดตัวเองเป็นที่หนึ่งและไม่ยอมอ่อนให้ใครก่อน การที่พ่อพูดออกมาแบบนี้ผมเลยรู้สึกเหมือนบางอย่างผิดไป เมื่อพ่อเห็นผมเงียบเขาก็พูดต่อ

“เวลาผ่านไปนานพระพาย นานพอที่อะไรๆ สามารถเปลี่ยนแปลง”

“รวมถึงตัวพ่อด้วยมั้ย”

“อาจจะ” เขาโคลงศีรษะ ดวงตาปรากฏแววเหนื่อยล้า

“พ่อ” ผมตัดสินใจเรียกเขา พ่อสบตาผม เขาพยักหน้าเป็นเชิงให้พูดต่อ ผมสูดหายใจ รวบรวมความกล้าพูดออกไป ภายนอกผมเหมือนแข็งข้อ แต่ภายในยังไงก็ยังกลัวคำตอบอยู่ลึกๆ ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับอย่างที่เคยเป็นมา “แต่ผมยังเป็นเหมือนเดิม เป็นในแบบที่พ่อไม่ชอบ”

“พ่อรู้”

“แล้วรู้ด้วยหรือเปล่าว่าผมมีคนที่ชอบใหม่แล้ว” ผมสบตาเขานิ่ง “น้องเป็นผู้ชาย พ่อบอกพ่ออาจจะเปลี่ยนไป งั้นคราวนี้พ่อไม่ต้องเข้ามาขัดความความสัมพันธ์ของผมกับน้องเหมือนครั้งที่ผมคบกับแฟนเก่าได้มั้ย?”

ทั้งโต๊ะเงียบลงอีกครั้ง แม่กับพี่พะพริ้งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่วนพี่พระเพลิงวางมือบนบ่าผมแล้วตบเบาๆ ให้กำลังใจ พ่อสบตาผมอยู่นาน สีหน้าเขาแสดงความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ผสมปนเป ก่อนเขาจะวางช้อนกับส้อมลงบนจาน เกิดเสียงกระทบดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ พ่อประสานมือ เขาพูดขึ้นเรียบๆ

“ถ้าว่างก็พามาให้ที่บ้านทำความรู้จักบ้าง”

“เดี๋ยว? พ่อหมายความว่า…”

“กินข้าวต่อเถอะ”

พ่อตัดบท เขากลับไปกินข้าวต่ออย่างที่บอก ผมเบนหน้าไปสบตาแม่ อีกฝ่ายยิ้มให้แล้วพยักหน้ารับ

“ลูกไม่ค่อยกลับมาหาพวกเราเท่าไหร่ พ่อเลยไม่มีโอกาสบอกลูกสักทีว่าเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมากแค่ไหน” แม่ตักกุ้งตัวใหญ่วางลงบนจานผม “แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือเขาจำได้ว่าลูกชอบต้มยำกุ้ง” ผมเหลือบมองพ่อ อยากรู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกับคำพูดของแม่ แต่พ่อก็ทำแค่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารเงียบๆ “แล้วก็รถของลูกนะ เอากลับไปขับเถอะ ไม่ต้องห่วงว่าจอดทิ้งไว้นานเครื่องจะรวน พ่อเขาเอาไปตรวจสภาพให้ทุกรอบตรวจเลยนะลูก”

“พี่เคยบอกนายแล้วไง” พี่พระเพลิงพูดเสริม “สักวันพ่อจะเข้าใจ”

“ว่าแต่…” พี่พะพริ้งสะกิดแขนผม พอหันไปมอง เธอก็กะพริบตาปริบๆ “สรุปจะไปถ่ายแบบกับพี่มั้ยพาย”

“ไว้ผมคิดดูอีกทีแล้วกัน”

“รีบบอกภายในวันจันทร์นะ”

“ครับๆ”

“พระพาย” เสียงพ่อดังขึ้นอีกครั้ง ผมมองเขา “เล่าเรื่องเรียนให้ฟังหน่อย เป็นไงบ้าง แม่เขาอยากรู้”

“แหมคุณคะ” แม่ปิดปากหัวเราะ “คุณเองก็อยากรู้อย่ามาอ้างฉันหน่อยเลย”

“เฉยๆ น่าคุณ” พ่อเอ็ดเสียงเข้ม เขาพยักพเยิดมาทางผมอีกครั้ง “เล่าสิ”

“ก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่…”

ผมเริ่มต้นบทสนทนาด้วยประโยคคลาสสิค มันเป็นบทสนทนาที่ผมไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ผมกับพ่อไม่ได้คุยกันอย่างนี้นานมากแล้ว ก็ตั้งแต่ที่ผมคิดแข็งข้อ ถ้าไม่ประชดใส่กันก็ถามคำตอบคำ แต่ผมหวังว่าครั้งนี้มันจะผ่านไปด้วยดี อย่างน้อยก็ดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา

ผมมีพี่ชายเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่โคตรเก่งและเป็นที่จับตามอง

มีพี่สาวเป็นนางเอกนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย

ส่วนผมที่เป็นน้องชายคนสุดท้องไม่มีอะไรที่น่าอวดเหมือนพี่ๆ เท่าไหร่ ถ้ามีอะไรสักอย่างที่รู้สึกภูมิใจ…

...ก็คงเป็นยอดฟอลเฉียดหลักหมื่นในแอคเค่อของตัวเองนี่แหละ


มื้อเย็นกับครอบครัวผ่านไปอย่างราบรื่นกว่าที่ผมคิดไว้ พอกลับถึงหอก็ตรงดิ่งขึ้นชั้นเจ็ดเพื่อเอาเค้กที่สั่งดารัญทำและมันฝากแช่ไว้ในห้องของสายฟ้า ไอ้เพื่อนตัวดีพอเห็นผมก็บ่นว่าผมใช้ห้องมันเหมือนห้องส่วนรวม ผมคว้าถุงใส่กล่องเค้กวันเกิดให้เฟนได้ก็ปิดหูเดินหนีออกจากห้อง ไม่สนใจเสียงด่าไล่หลัง

ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง สูดหายใจเข้าลึกๆ เรียกความกล้า มันไม่ใช่แค่ผมจะเซอร์ไพรส์วันเกิดน้อง แต่ผมจะขอเขาเป็นแฟนด้วย และเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ผมได้ทำการเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่เป็นเสื้อสีมงคลสำหรับวันเสาร์เรียบร้อยตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว(เสื้อก็ซื้อใหม่ตอนไปเดินห้างฆ่าเวลานั่นแหละ)

วันเสาร์ สีชมพูเขาว่าเสริมดวงให้สำเร็จสมปรารถนา หวานแหววไปนิดแต่คิดว่าน้องน่าจะชอบผู้ชายหวานๆ มันก็พอถูไถได้อยู่ ผมเปิดประตูเข้าไปข้างใน เห็นเฟนนั่งหันหลังจิ้มโทรศัพท์อยู่ยิกๆ บนหัวสวมเฮดโฟนเอาไว้ ผมปิดประตู วางกล่องเค้กไว้บนเตียงแล้วย่องเข้าหาเขา น้องคงเปิดเพลงเสียงดังจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู ผมกางแขนแล้วกอดหมับเข้าให้

“หนูจ๋าาาา อ่อก!”

ความจุกแล่นไปทั่วท้องน้อยตอนน้องแทงศอกเข้าใส่ ผมตัวงอ เซไปข้างหลังสามก้าว เฟนหันหน้ากลับมา ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรน้องก็เงื้อหมัดเสยปลายคางผมจนหน้าหัน เฟนมองผมตาขวาง เขาปัดเฮดโฟนลงคล้องคอ ถกแขนเสื้อขึ้น ท่าทางเหมือนนักเลงหน้าปากซอย

“หนู หนูเป็นอะไร พี่ขอโทษไม่ได้จะทำให้ตกใจ”

อีกฝ่ายไม่ตอบรับ ก้าวอาดๆ เข้ามากระทืบเท้าผมแล้วขยี้จนเจ็บจี๊ด ผมยื่นมือจะห้ามเขา ไม่รู้ว่าเฟนโดนอะไรเข้าสิง แต่น้องกลับจับมือผมไว้แล้วพลิกหักไขว้ด้านหลัง ผมได้ยินเสียงกระดูกตัวเองลั่นกร๊อบ ก่อนที่หลังจะถูกเข่า(ผมคิดว่าน่าจะเป็นเข่านะ)แทงอัดเข้ามาจนผมหน้าทิ่มลงกับเตียง เฟนคร่อมตัวผมเอาไว้โดยยังไม่ปล่อยแขนผมที่จับไขว้หลังและแรงกดจากเข่าที่ยันผมไว้ไม่ให้ลุก

“ลุงนี่มันภัยสังคมจริงๆ” เสียงเฟนทุ้มกว่าปกติ แถมคำพูดคำจายังแปลกไปจากเดิม

“หนู…”

“หนูผีหนูบ้านอะไรของลุง!”

ในขณะที่ผมกำลังสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเฟน ประตูห้องน้ำก็เปิดพร้อมกับเฟนที่ก้าวออกมา ผมอ้าปากหวอทั้งที่หน้ายังบี้แนบกับเตียง เฟนมองผมที่โดนเฟนอีกคนซ้อม น้องเอียงคอมอง

“เราก็ว่าเสียงดังอะไรกัน”

“หนู…”

“แล้วพี่พระพายทำอะไรฟรองซ์เนี่ย?”

พี่จะทำอะไร้! หนูเห็นโพสิชั่นที่พี่โดนกดมั้ยเฟน หนูเห็นมั้ยว่าพี่กำลังจะเสียเอกราชและดินแดน!?


[เฟน]

พี่พระพายกับฟรองซ์ยังแง่งๆ ใส่กันไม่เลิก ผมต้องคอยห้ามไม่ให้ทั้งคู่ตีกัน หรือบางทีอาจเป็นฟรองซ์ที่ตีพี่พระพายฝ่ายเดียว ยิ่งมองริมฝีปากพี่เขาที่แตกและเริ่มช้ำผมก็ยิ่งรู้สึกผิด

“ฟรองซ์อะ คุยกันดีๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันเลย”

“เฟนครับ ฟรองซ์มีเหตุผล” ฟรองซ์เสียงอ่อนลง เขาลูบหัวผมเบาๆ “ก็ลุง เอ๊ย! พี่คนนี้อยู่ๆ เขาก็มาจู่โจมฟรองซ์จากด้านหลัง ฟรองซ์ตกใจ มือมันไปเอง ก็แค่ป้องกันตัวเองขั้นพื้นฐานครับเฟน”

“ทั้งหมัด ศอก เข่าเนี่ยนะ?!” พี่พระพายโวยวายขึ้นมา เขากำลังประคบน้ำแข็งกับมุมปาก “อีกนิดก็ก้านคอพี่แล้วหรือเปล่าวะน้อง?”

“ช่วยไม่ได้ ก็การกระทำพี่มันไม่น่าไว้ใจนี่ครับ” ฟรองซ์หันไปเถียง เขาแค่นเสียงเหอะ “อีกอย่างผมเดาไว้ไม่ผิดว่าพี่มันภัยสังคม ถ้าตรงนั้นไม่ใช่ผมแต่เป็นเฟนที่สู้ใครไม่เป็นจะเกิดอะไรขึ้น พี่ไม่จับแฝดผมแดกเข้าไปทั้งตัวเลยเหรอวะ!”

“เฮ้ อย่าใช้หน้าตาน่ารักๆ ของเฟนพูดคำหยาบนะ!”

“ทำไมครับ พี่จะอกแตกตายเหรอถ้าผมพูดคำว่าเหี้ย สัส คว…”

“หยุ้ด!”

“ยังพูดไม่จบเลยนะครับ” ฟรองซ์แสยะยิ้ม ส่วนพี่พระพายยกมือปิดหูแน่น สีหน้าเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย อีกนิดน่าจะร้องไห้ ผมเห็นท่าไม่ดีเลยลุกไปนั่งข้างเขา ลูบไหล่อีกฝ่ายไปมาเบาๆ

“นั่นฟรองซ์ นี่เรา เราไม่ได้พูดคำหยาบกับพี่สักหน่อย ไม่ร้องสิ”

“แต่หนู ใจพี่มันปวดร้าวไปหมด”

“โอ๋ๆ ไงพี่ ตัวก็โตอย่างอแงสิ”

“เสแสร้ง เรียกร้องความสนใจปะครับพี่ ผมต้องหัวเราะมั้ย คิกค้ากกก”

“ฟรองซ์” ผมหันไปดุเขาเบาๆ ฟรองซ์เลยหน้างอใส่ผมแทน

“เฟนดุฟรองซ์แล้วไปโอ๋พี่มันแบบนี้ฟรองซ์น้อยใจนะ” ผมเริ่มเหงื่อตกเมื่อแฝดตัวเองตัดพ้อ “ทั้งที่ฟรองซ์กับเฟนต่างกันขนาดนี้ ฟรองซ์สูงกว่าเฟนตั้งสิบเซ็นฯ แต่ทำไมพี่มันไม่สังเกต แยกเราสองคนไม่ออกแบบนี้แสดงว่าไม่มีความใส่ใจ แล้วเฟนจะไปใส่ใจพี่มันทำไมครับ”

“ขอโทษนะ แต่นายน่ะนั่งหันหลังให้พี่ จะให้พี่แยกส่วนสูงออกได้ไงวะ ยังไม่ทันได้คุยกันสักคำก็แทงศอกซัดหมัดใส่หน้า ล็อกแขนแทงเข่ายันพี่ไว้กับเตียง ถามจริง พี่ถามจริง?!”

“พี่พระพายไม่สติแตกนะ ฮึบก่อน ฮึบ”

“หนูก็ดูสิ”

“เราดูอยู่ๆ” ผมรีบรับคำเขา พยักหน้าหงึกๆ “ดูอยู่เต็มสองตาเลยเนี่ย”

“ไม่หนู พี่หมายถึงดูที่ฟรองซ์ทำกับพี่ พี่เป็นผู้เสียหาย พี่โดนกระทำ หนูต้องจัดการให้พี่!”

“ก็คือพี่จะมีเรื่องให้ได้ใช่ปะ” ฟรองซ์ผุดลุก เขาถกแขนเสื้อยกมือตั้งการ์ดเตรียมพร้อม “ก็มาดิค้าบบบ ตัวๆ เลยได้นะครับ”

“อย่าคิดว่าไม่กล้านะ ตัวเท่าลูกหมา”

“ลูกหมาที่หน้าพี่อะ”

“เออ ที่หน้าพี่นี่แหละ!”

“พอแล้ววววว” ผมเข้าไปแทรกกลางขวางทั้งคู่ “เห็นแก่เราเถอะ อย่าทะเลาะกันนะ เสียงดัง ข้างห้องจะตกใจเอา”

“แต่ว่า!”

“หนู!”

“ถ้าพี่พระพายไม่หยุดเราจะขึ้นไปตามพี่สายฟ้าลงมาบ่นใส่หูพี่นะ” ผมหันไปขู่พี่พระพายก่อนแล้วหันกลับมาหาฟรองซ์ที่ยักคิ้วเย้ยพี่พระพาย “ฟรองซ์ก็ด้วย ถ้ายังไม่หยุดพรุ่งนี้เราไม่ไปกับฟรองซ์นะ”

“ไม่เอาสิเฟน นานๆ ทีเราจะได้อยู่ด้วยกันนะครับ”

“พรุ่งนี้หนูก็จะทิ้งพี่เหรอเฟน”

แม่ เฟนปวดหัว…

ผมแทบกุมขมับ ไม่รู้จะตอบใครก่อนดี แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของฟรองซ์ดังขึ้น เขาละความสนใจจากผมไปรับโทรศัพท์

“ครับแม่? อ้าว...โอเคๆ เดี๋ยวฟรองซ์รีบกลับ ครับ แล้วเจอกันครับ”

“มีอะไรเหรอฟรองซ์”

“ห้องครัวหลอดไฟขาดอะ แม่ฝากซื้อหลอดไฟไปเปลี่ยนขากลับ” ฟรองซ์มีสีหน้าลำบากใจ เขามองผมสลับกับพี่พระพายที่เริ่มยิ้มออก “เฟนไปกับฟรองซ์นะ คืนนี้กลับไปนอนบ้านกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดไม่ต้องรีบตื่นไปเรียนสักหน่อย”

“คือ…”

“ไม่ได้” พี่พระพายขัดขึ้นก่อนผมจะได้พูด “พี่ไม่ให้เฟนไป”

“กักขังหน่วงเหนี่ยวพรากผู้เยาว์!”

“พี่ยังไม่ได้พราก ยังไม่ได้ทำอะไรเลย!”

“แล้วจะขึ้นเสียงใส่ผมทำไม พี่ร้อนตัวเหรอ!”

“โอ๊ยพอ!” ผมตะโกนขึ้นมาอีกครั้งแล้วหันไปหาฟรองซ์ “ฟรองซ์กลับไปก่อนนะ เราอยู่ได้ พี่พระพายไม่กล้าทำอะไรเราหรอก จริงๆ เชื่อสิ”

“แน่ใจเหรอเฟน” ฟรองซ์มีสีหน้าไม่สบายใจ ผมเลยพยักหน้ารับ

“อื้ม” ไม่งั้นครั้งนั้นพี่พระพายคงไม่ขังตัวเองไว้ในห้องน้ำหรอก

“งั้นฟรองซ์กลับนะ” น้ำเสียงฟรองซ์คล้ายไม่วางใจจะให้ผมอยู่กับพี่พระพาย ก่อนขึงตาจ้องพี่พระพายเขม็งพร้อมหักนิ้วดังกร๊อบ “ถ้ามีอะไรเฟนโทรหาฟรองซ์นะ เลือดวิชามวยไทยมันร้อนน่ะครับ”

“อื้อๆ ถ้ามีอะไรเราโทรหาฟรองซ์คนแรกเลย” ผมดันหลังเขาไปทางประตู โบกมือบ๊ายบายสองสามที “เจอกันพรุ่งนี้นะฟรองซ์”

“โอเคครับเฟน”

ผมปิดประตู หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แต่ยังไม่ทันได้หายใจหายคอ เสียงโอดโอยของพี่พระพายก็ดังขึ้นซะก่อน

“โอ๊ยหนู ซี้ด...พี่เจ็บปากมากเลย”

“เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย?”

“ก็พี่ตะโกนเถียงกับฟรองซ์ไงครับ” พี่พระพายมีสีหน้าเจ็บปวด เขาแตะปากตัวเอง “เนี่ย ตอนนั้นโมโหไงเลยไม่รู้สึกเจ็บ พอหายโมโหแล้วถึงรู้ตัวว่าเจ๊บเจ็บเลยหนู ไม่เชื่อมาดูใกล้ๆ”

“ไหน เราดูให้”

ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเตียงข้างพี่พระพาย ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขาเพื่อตรวจดูบาดแผลบนริมฝีปากอีกฝ่ายว่ามันแตกกว่าเดิมหรือเปล่า แต่มองยังไงก็ไม่ได้ดูแย่กว่าเดิมนี่นา

“หนู”

“หือ?”

“น่ารักจังเลย”

“พี่พระพาย!” ผมฟาดไหล่เขาไปทีนึงเมื่ออีกฝ่ายเอียงหน้ากดจมูกหอมแก้มผมฟอดใหญ่ แต่คนเจ็บกลับไม่สะทกสะท้านสักนิด เขาหัวเราะชอบใจ แม้จะสลับไปซี้ดปากเป็นบางครั้งเพราะมันกระเทือนแผลก็เถอะ “แกล้งเราอะ!”

“ยอมรับความผิดครับ” พี่พระพายยิ้มร่าตาวาว เขาเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงมาวางไว้ตรงกลางระหว่างเรา ผมก้มหน้ามองอย่างสงสัย พอพี่พระพายเปิดกล่องผมก็ไม่รู้จะทำสีหน้ายังไง มันก่ำกึ่งระหว่างขำกับเหนื่อยใจแปลกๆ “สุขสันต์วันเกิดอีกครั้ง พี่บอกหนูไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ แต่รอบนี้พิเศษตรงเค้กก้อนใหญ่กว่าเมื่อเช้านะ”

“แล้วก็สกรีนหน้าพี่เก็กหล่อด้วยเนี่ยนะ?”

ผมกะพริบตามองใบหน้าพี่พระพายที่อยู่บนเค้กตาปริบๆ

“เค้กธรรมดาพี่กลัวหนูไม่ประทับใจ”

“คือ เอ่อ…” ผมคิดหาคำพูดไม่ออกจริงๆ “เราประทับใจมาก ยังไงก็ขอบคุณนะพี่ วันเกิดเราพี่ให้เราหลายอย่างมากเลย เราไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีแล้วเนี่ย”

“หนูอยากตอบแทนพี่เหรอครับ”

“ก็...เกรงใจนี่นา”

“งั้น…” พี่พระพายลากเสียง เขาเก็บกล่องเค้กวางไว้ข้างๆ เหมือนเดิม ดวงตาคมกริบหยีโค้งรับกับรอยยิ้มของเขา แววตาพี่พระพายแวววาววิบวับจนผมแสบตา “ถ้าหนูอยากตอบแทนพี่ พี่ขอคำตอบของคำถามเมื่อหลายวันก่อนได้มั้ยครับ”

“...”

ผมกลืนน้ำลายลงคอ เสียงหัวใจเต้นดังลั่นจนหูอื้อ ขบวนพาเหรดมดกลับมาตบเท้าเดินเล่นในใจผมอีกครั้ง ผมคิดว่าตัวเองรู้ว่าพี่พระพายจะพูดอะไร เขาจับมือผมไว้ ความอบอุ่นจากฝ่ามืออีกฝ่ายส่งผ่านมาที่ผม ลามขึ้นบนใบหน้าจนแก้มร้อนไปหมด

“พี่ชอบหนู เป็นแฟนพี่นะครับเฟน”

ผมเม้มริมฝีปาก ไม่กล้าสบตาพี่พระพายต่อ อะไรจะมองกันตาหวานขนาดนั้นอะ ขี้โกงที่สุดเลย

“เฟนครับ”

“อื้อ…”

“อะไรนะ พี่ไม่ได้ยินเลย เมื่อกี้หนูพูดอะไรครับ” เขาแกล้งว่า ผมรู้สึกเหมือนมีใครเอาไฟมาสุมหน้าตัวเอง ก็คืออีกนิดควันจะขึ้นแล้วอะ!

“เราบอกว่าอื้อ” ผมขมุบขมิบปากพูด

“อื้ออะไรครับ หูอื้อ?”

“พี่อย่าแกล้ง!”

“ก็พี่ไม่รู้ หนูก็พูดมาให้ชัดๆ สิ” พี่พระพายหัวเราะร่วน เขาดูชอบใจ เจ้าตัวเขี่ยปลายนิ้วกับคางผมแล้วพูดเสียงเล็กเสียงน้อยให้ผมเงยหน้าสบตาเขา พอผมไม่ยอม นิ้วซนๆ นั่นก็จิ้มแก้มปัดจมูกผมยุกยิกไปทั่วหน้าจนต้องไล่จับนิ้วพี่พระพายเอาไว้ “เขินใหญ่ๆ เขินแล้วมาหลอกจับมือเค้าเหรอเตง”

“พี่อะ!”

“สรุปยังไง ขยายความคำว่าอื้อให้พี่เร็ว”

“ก็อื้ออะ” ผมเริ่มเบะปากเมื่อโดนแกล้งไม่เลิก “อื้อที่แปลว่าตกลงไงพี่พระพาย”

“ตกลงอะไรครับ”

“แล้วพี่ถามอะไรเราล่ะ”

“ก็อยากได้ยินจากปากหนูไงเฟน พูดให้พี่ชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอคนดี คนน่ารักของพี่” พี่พระพายเสียงอ่อนเสียงหวาน อ่อนโยนจนผมแทบไปไม่เป็น ผมสบตาเขา สูดหายใจเข้าลึกๆ

“ก็ตกลงเป็นแฟนพี่พระพาย”

“ใครตกลงเอ่ย”

“...”

“ใครตกลงเป็นแฟนพี่น้า ไม่ระบุชื่อแบบนี้พี่งงแย่เลย”

พี่พระพายขี้แกล้ง ยอมให้ขนาดนี้แล้วก็ยังจะแกล้งกันให้เขินจนตัวระเบิดเลยใช่มั้ย ยอมรับว่าตอนนี้เขินพี่เขามากๆ แต่ผมจะไม่ยอมเขินคนเดียวแน่!

“หนู…” ผมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเอง ช้อนตามองหน้าพี่เขา “หนูเป็นแฟนพี่พระพาย”

โครม!

“พี่?!”

“มะ ไม่เป็นไร พี่ไม่เจ็บ…” ผมชะโงกหน้ามองคนที่หงายหลังตกเตียงไปซะดื้อๆ พี่พระพายรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงเหมือนเดิม เขาลูบบั้นเอวตัวเองสีหน้าเหยเก “ใครสอนหนูให้แทนตัวเองแบบนี้”

“พี่รัญ…”

“พี่ชอบนะ แต่...เบาหน่อย ให้พี่ตั้งตัวก่อน ใจบางไปหมดแล้ว”

“พี่เขินเรา” ผมหัวเราะจนตาหยี ดีใจที่เอาคืนพี่พระพายได้ “เขินเราล่ะสิ พี่เขินหนู”

“เฟนนนนน” พี่พระพายเหมือนจะบ้าไปแล้ว

“พี่เรียกหนูทำไม”

“นี่เจ้าตัวดีมันจะมาก…”

“หนูๆๆๆ” ผมยังแกล้งเขาไม่หยุด เรียกว่าได้ใจจนไม่ทันสังเกตแววตาของพี่พระพายว่ามันฉายประกายอันตราย รู้ตัวอีกทีก็ถูกดึงเข้าไปใกล้ มือใหญ่เชยปลายคางผมให้เงยหน้าขึ้น ผมชะงัก หยุดพูดไปซะเฉยๆ

“เดี๋ยวนี้เก่งนะ แกล้งพี่ได้”

“อะ เอ่อ…”

“แต่ตอนนี้พี่เป็นแฟนหนูแล้ว พี่ไม่ปล่อยหนูเหมือนครั้งก่อนๆ นะครับ เด็กดื้อต้องถูกลงโทษ”

“...”

“พี่ขออนุญาตนะ”

โทนเสียงพี่พระพายทุ้มนุ่มกว่าที่ผมเคยได้ยิน และเมื่อใบหน้าอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้มากกว่าที่เคยเป็นผมก็หลับตาลง ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดังกว่าครั้งไหนๆ และสัมผัสนุ่มที่ประทับลงบนริมฝีปากก็ชัดเจนยิ่งกว่าอะไร

“เดี๋ยว!” ผมผลักอกพี่พระพายออกในเสี้ยวนาทีนั้น เขาเหวอไปเลย “แป๊บนะพี่”

“หนู?”

ผมไม่ตอบ แต่รีบวิ่งไปกดล็อกประตูห้องน้ำจากด้านในแล้วปิดมันไว้ หมุนเช็กอีกสองสามทีว่าไม่มีทางเปิดเข้าจากข้างนอกได้แน่ๆ ถึงกลับไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงหน้าพี่พระพายเหมือนเดิม เขามองผม สีหน้างงงวย

“ทำอะไรของเราเนี่ย?”

“เราล็อกประตูห้องน้ำ”

“ล็อกไว้ทำไมครับ?”

“ก็…” ผมกลอกตา “เดี๋ยวพี่พระพายเขินแล้ววิ่งหนีเข้าห้องน้ำอีกอะ”

พี่พระพายมองผมอย่างอึ้งๆ เขาหลุดหัวเราะออกมา ก่อนทุกอย่างจะดำเนินต่อจากเมื่อกี้

จูบของพี่พระพายไม่ต่างจากตัวตนของเขา ช่างแกล้ง ช่างเย้าแหย่และเรียกร้อง ปลายนิ้วอุ่นเกลี่ยผิวแก้มผมในขณะที่เบียดริมฝีปากคลอเคลียกัน ผมหลุดเสียงร้องออกมาเบาๆ เมื่อโดนฟันคมขบริมฝีปากล่าง ส่วนคนขี้แกล้งก็หัวเราะหึๆ ในลำคอ ผมยกมือยันอกกว้างเอาไว้เมื่อลมหายใจใกล้จะหมดเต็มที พี่พระพายเลยผละออกเล็กน้อยให้ผมได้ตักตวงอากาศเข้าปอด แต่ก็ไม่วายยื่นหน้ามากดจุ๊บบนปากผมรัวๆ

“พี่ พอ…”

“ยังไม่พอเลย”

“แต่...อื๊อ!”

เสียงประท้วงของผมถูกริมฝีปากของพี่พระพายดูดกลืนไปอีกครั้ง รสจูบครั้งนี้เร่งเร้ากว่าครั้งที่แล้ว จังหวะหายใจของเราทั้งคู่กระชั้นหนักกว่าเดิม ผมคิดว่าปากตัวเองต้องบวมแน่ถ้าพี่พระพายไม่เลิกบดเบียดดูดดึงเหมือนมันเป็นเยลลี่แบบนี้

“อ๊ะ…” ผมเผลอเผยอริมฝีปากเมื่อเรียวลิ้นชื้นแตะสัมผัสกับรอยแยก ยังไม่ทันได้คิดอะไรเขาก็แทรกปลายลิ้นเข้ามา ผมหลับตาปี๋ หัวหมุนกับจูบที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ผมถูกไล่ต้อน ได้แต่ขยับไปตามที่พี่พระพายชักนำอย่างเก้ๆ กังๆ

เขามอมเมาผมด้วยรสจูบ

รู้ตัวอีกทีหลังตัวเองก็นอนราบลงกับเตียงแล้ว ส่วนมือพี่พระพายสอดเข้ามาใต้กางเกงนอนขาสั้นของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมรู้แค่ผิวเนื้อบริเวณขาอ่อนตัวเองกำลังถูกบีบเฟ้นอย่างหนักหน่วง คนตัวใหญ่กว่าแทรกตัวเข้ากลางหว่างขาผม ปลายนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในผมไว้ ในจังหวะที่กำลังจะดึงลงผมก็เรียกสติตัวเองกลับมาทัน

ผลัก!

“อ่อก!”

นั่นเป็นเสียงพี่พระพายที่โดนผมแทงเข่าเข้าเต็มท้อง เขาเซออกจากตัวผม ส่วนผมรีบลุกขึ้นนั่งถลึงตาจ้องเขา พี่พระพายสบตาผมเขายิ้มแหย ก่อนรอยยิ้มนั้นจะบิดเบี้ยว

“หนู…”

“...”

“หนูรู้จักปลาปักเป้ามั้ย” ผมค่อนข้างงงๆ กับบทสนทนาที่ไม่มีต้นมีปลาย แต่ก็พยักหน้ารับ

“รู้จักสิ”

“คือพี่น่ะ…” พี่พระพายก้มมองต่ำ ผมเลยมองตามสายตาเขา “ปลาปักเป้าของพี่มันพองตัว”

“...”

“พี่คิดว่าพี่ต้องไปรีดพิษ หนู เอ่อ...รอแป๊บนึงนะ” พูดจบเขาก็รีบกุมเป้าตัวเองวิ่งไปทางห้องน้ำ แต่เหมือนพี่พระพายจะลืมอะไรบางอย่างไป “หนู! ประตูมันล็อก!”

เขาว่าหน้าตาตื่น

“เอ่อ ใช่ เราล็อกเอง”

“กุญแจ! หนูเอากุญแจมาให้พี่!” พี่พระพายดูใกล้สติแตกไปทุกที ผมมองซ้ายมองขวาแล้วหันไปตอบเขาแบบจนใจจะช่วยจริงๆ

“พี่...เราไม่มีกุญแจห้องน้ำกันนะ”

“แล้วพี่จะรีดพิษได้ที่ไหน หนู! พี่ไม่ไหวแล้ว มันต้องรีดออก!”

“พี่ฮึบก่อนนะ ฮึบ!”

“แต่พี่ปวด!”

“ปวดอะไร?!” พอพี่พระพายเริ่มลนลาน ผมเลยชักจะลนตามจนถามอะไรที่ไม่น่าถามออกไป พี่พระพายจ้องผม เขากุมเป้าตัวเองไว้แน่น

“ปวดปวย!”

“ฮะ!?”

“พี่หมายถึงปลาปั๊กกะปวย!”

“...” เราจ้องตากันอยู่สักพัก ทั้งห้องเงียบสนิทจนเข็มตกพื้นก็น่าจะได้ยิน พี่พระพายลูบเป้าตัวเองไปมา สีหน้ามุ่งมั่นจริงจังแปลกๆ จนผมผวา

“หนูทำปลาปั๊กกะปวยพี่พอง หนูต้องให้พี่รีดพิษใส่แล้วล่ะ!”

แล้วพี่พระพายก็ย่างสามขุมเข้ามา…


เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

ส้วมห้องกูไม่ใช่ส้วมสาธารณะให้ใครมาช่วยตัวเองนะเว้ย!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

แม่งเอ๊ย ครางไม่เกรงใจกูเลยอีเวรรรร!

เทพท้อกับประชาธิปไตยที่หายไป @LostDemocracy44

ทำไมต้องเป็นกูตลอดวะ หรือนี่เป็นผลกรรมที่กูด่านาย ก. บ่อยๆ อีเหี้ย!


บิ๊กไซซ์ปลงสังขาร @fdhjgjdll24hag

แค่ขอรีดพิษใส่ ทำไมต้องปารีโมตกระแทกปากพี่ซ้ำรอยชกด้วย นอกจากพิษจะแตกแล้วปากกูก็แตกหนูเอ๊ย!


หลุมของเรา @MysecretworldFF

นี่เราเป็นแฟนกับคนแบบนี้จริงๆ เหรอ...



--------------------------------

ตอนนี้ยาวมากกก 17-18 หน้าได้ ก็ถือซะว่าชดเชยที่หายไปนานนะคะ ตอนแรกว่าจะตัดเป็นสองตอน แต่หาจุดตัดไม่ได้ก็เลยอัปเต็มๆ ตอนไปซะเลย หวังว่าจะไม่ยาวไปจนตาลายกันนะคะ เป็นกำลังใจให้พี่พระพายกันค่ะ ส่วนพี่สายฟ้า...รับกรรมไปนะคะมีเพื่อนแบบนี้ ในส่วนของเฟนลูกรักของทุกคน ต่อจากนี้ไประวังตัวดีๆ นะหนู เพราะถ้าเผลอล่ะก็น่าจะโดนรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว...

#เพื่อนกล่อมนอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
โอ๊ยพระพายเอ๊ยย ~ ~

 :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่พพ.เป็นคนจานรายยย5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องงงง  เป็นแฟนพี่มันแล้วต้องระวังตัวมากๆเลยนะคะลูก 55555555 เอ็นดูตอนแทนตัวเองว่าหนู แงงงง

Sent from my GT-I8262 using Tapatalk


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เขาเป็นแฟนกันแล้ว..ววววว    :L2:

ออฟไลน์ JoobbieChu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เกลียดปลาปั๊กกะปวยของพี่พพ ขำลั่นอะ ในที่สุดพ่อก็เข้าใจพพแล้ว แถมยังแฮปปี้น้องเฟนตอบรับและยอมเป็นแฟนแล้ว แม้จะแลกมากับหมัดและเท้าของฟรองส์ก็ตาม เจ็บแค่นี้สบ๊ายยยย แอคที่ชอบมาคุบกับพี่พพคือน้องฟรองส์ใช่มั้ย จะเป็นอีกคู่ได้มั้ยน้อ อยากให้พี่สายฟ้ามีคู่

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยย ระวังตัวดีๆนะเฟน 55555555555555555555555555
แต่ฟรองซ์เป็นเอฟซีเทพท้ออ่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ความกาก


ความนก


ยังอยู่คู่พี่พระพายเสมอ


ทำไมเราชอบพี่พระเพลิง


ทั้งๆที่เขาออกมาฉากเดียว


บอกเขาทีฉันรักเขา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เฟนยอมให้จูบยังขนาดนี้ อิพพหื่น!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คำว่า หนู ของเฟนพลังทำลายล้างสูงมาก นว้องงงงงงงงงงงงง ฮือ พพ ต้องสู้ๆนะ พ่อก็เข้าใจแล้ว ฟร้องชอบสายฟ้า? ติดตามค่าาาาา

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เนี่ยอิพี่เป็นคนแบบนี้ ทำดีมากลูกหนูเฟน555555
แล้วนี่ฟรองซ์กะพี่สายฟ้า?  :z3:

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :m20: :laugh: พี่พระพายนี่จะทำตัวกากยันจบเลยใช่ไหม ตลกอ่ะ 55555555555555
 น้องเฟนลูกหนูยังจะปลอดภัยอยู่ใช่ไหมเนี่ย 555555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พพ กากเช่นเดิม แต่ไม่รุ้ทำใจชอบใจจริงๆ เฟนอย่ายอมง่ายๆนะเป้นแบบนี้แหล่ะดี๊ดี  :laugh:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
555 ตลกปลาปั๊กเป้าอ่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พระพายว้อยยยยยยยย

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สายฟ้า ฟรองซ์ ก็มาาาาา คิดถึงน้องมากๆเลยค่า

ออฟไลน์ Trystan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ย พึ่งเห็นว่ามาต่อแล้ว น่ารักกกกกกกกกก  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด