ถ้าให้รักก็อย่าร้าย ตอนที่ 25 “พี่ชินๆ รอผมด้วย” ผมตะโกนเรียกพี่ชินที่กำลังเดินเข้าอาคารเรียนสุดเสียงก่อนที่ร่างหนาจะหยุดชะงักแล้วหันมามองผมที่เดินเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ
“มีอะไรรึเปล่าพี่กำลังรีบ”
เสียงถามที่แสดงถึงความห่างเหินทำให้ผมเกือบถอดใจ แต่ยังไงผมก็ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะคุยกับพี่ชินให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากันแน่ ทำไมพี่ชินถึงได้เปลี่ยนไป
ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอกตอนนี้พี่ชินคนเดิมของผมได้เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่สิ้นสุดเทอมที่แล้วโดยที่ผมไม่ทราบสาเหตุอะไรเลย เท่าที่จำได้หลังสอบเสร็จพี่ชินไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆในภาคแล้วเมาไม่ได้สติกลับมา ตอนนั้นผมดันเผลอสารภาพรักออกไปแต่มาคิดอีกทีพี่ชินคงจะจำอะไรไม่ได้แน่ๆก็เมาซะขนาดนั้น ผมคิดไว้ว่าเช้ามาจะคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ที่ไหนได้ตื่นมาผมกลับพบว่าตัวเองนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้านวมหนาคนเดียว พี่ชินไม่รู้หายไปไหนแล้วครับ
ผมพยายามโทรหาเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ จนต้องโทรหาพี่โยเหมือนเดิม แต่ความหวังสุดท้ายของผมก็อันต้องดับลงเมื่อพี่โยบอกไม่ได้ติดต่อกับพี่ชินตั้งแต่หิ้วปีกมาส่งที่ห้อง ขนาดพี่โยยังไม่รู้ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะไปติดต่อพี่ชินได้ที่ไหนแต่ในระหว่างที่ผมกำลังวุ่นวายใจอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น จำได้เลยว่าตัวเองดีใจและมือสั่นแค่ไหนกว่าจะกดรับโทรศัพท์ที่แสดงเบอร์โทรที่ผมจำได้ขึ้นใจ
พี่ชินโทรมาบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการให้พ่อที่ต่างประเทศ กำลังจะขึ้นเครื่องไม่ต้องเป็นห่วงแล้วให้ผมดูแลตัวเองดีๆ แถมยังบอกว่าจะติดต่อมาหาผมด้วย ผมรีบรับปากด้วยความดีใจที่พี่ชินติดต่อมาจนไม่ทันสังเกตทั้งน้ำเสียงและคำพูดว่านั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้คุยกับพี่ชินของผม เพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 1 เดือนเต็มที่พี่ชินหายไปจากชีวิตผมโดยไร้การติดต่อใดๆอีก
ผมรอพี่ชินอยู่ที่คอนโดหลายวันก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดในช่วงปิดเทอม เพราะรู้ว่าถึงอยู่ไปยังไงพี่ชินคงไม่ติดต่อมาแล้ว ผมเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนบางอย่างตลอดระยะเวลา 1 เดือนผมจมอยู่กับความสับสน ความเคลือบแคลงใจว่าพี่ชินต้องการหลบหน้าผมใช่ไหม ทำไมพี่ชินออกไปถึงไม่ยอมบอกผมทั้งๆที่นอนอยู่ด้วยกัน ทำไมโทรไปถึงไม่ยอมรับ แล้วนอกจากโทรศัพท์สายนั้นสายเดียวพี่ชินก็ไม่เคยติดต่อผมอีกเลย
พี่ชินพี่จะรู้บ้างไหมว่าได้เอาใจของผมหายไปกับข่าวคราวของพี่แล้ว ผมเฝ้ารอการติดต่ออย่างมีความหวังแต่มันก็ไม่มีเลยซักครั้งที่ผมจะสมดังใจ
การรอของผมเหมือนจะทรมานมากแต่มันก็ยังไม่ทรมานมากเท่ากับการที่เปิดเทอมมาเห็นพี่ชินอยู่กับกลุ่มเพื่อนเหมือนไม่เคยรู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังรอพี่อยู่ แล้วพอผมเข้าไปหาพี่กลับหลบหน้าโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนเบอร์ ไปเคาะห้องก็ไม่มีคนเปิดรับรหัสก็เปลี่ยน
อย่างนี้จะให้ผมเข้าในว่ายังไงตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมทิ้งพี่เหมือนที่พี่เคยว่าหรือพี่กันแน่ที่กำลังจะทิ้งผม ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ชินตอนนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรเลยครับ จะบอกว่าเลิกกันแต่เราก็ไม่เคยตกลงคบกันซักครั้ง จะบอกว่าผมโดนทิ้งก็ยังไม่เต็มปากนักยังไงผมก็จะรอถามพี่ชินให้มันชัดเจนก่อน
“ผมขอคุยกับพี่ซักครู่ได้ไหมครับ” ผมรีบถาม
“มีอะไร” น้ำเสียงติดห้วนที่ได้รับทำให้เหมือนมีก่อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้แม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มีให้ผมแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่
“พี่ชินกลับมานานแล้วเหรอครับ” คำถามเหมือนคนสิ้นคิดถูกส่งออกไปโดยไม่รู้ตัว
“หลายวันแล้ว”
“แล้วพี่ทำไมไม่ติดต่อมาหาผมบ้าง พี่รู้ไหมผมรอพี่ตลอดเลย” ผมถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ระคนน้อยใจผู้ชายตรงหน้า
“มีเรื่องแค่นี้ใช่ไหม พี่ต้องไปเรียนแล้ว” พี่ชินไม่ตอบแต่ถามกลับเสียงติดรำคาญที่ผมมายื่นเสนอหน้าตั้งคำถามให้รำคาญใจอยู่ตรงนี้
“พี่ชินผมอยากถามพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนไปพี่ชินคนเดิมของผมไปไหนแล้วครับ” ผมถามเสียงแผ่วก่อนเดินเข้าไปใกล้หมายจะจับข้อมือคนตรงหน้า พี่ชินเหมือนรู้แล้วเบี่ยงตัวหลบทำให้มือที่กำลังจะยื่นออกไปถึงกับชะงักค้าง
“พี่ชินของผมเหรอ........มันไม่เคยมีหรอก ถึงเคยมีต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้วเพราะพี่ไม่เคยเป็นของน้อง”
“พี่ชิน…..” ผมครางชื่อพี่ชินเสียงเบา ถึงกับปากสั่น หน้าชา พูดอะไรไม่ออกเลยครับ
“........” พี่ชินเงียบก่อนเบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตากับผมแม้แต่น้อย
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรผิดไปใช่ไหมหรือพี่ไปได้ยินอะไรมา ถ้าผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจผมขอโทษ ขอโอกาสให้ผมอธิบายได้ไหมครับ” ผมรีบพูดทันทีก่อนที่พี่ชินจะเดินหนี
ตอนนี้ผมเหมือนคนหัวใจสลายที่อยู่ดีๆพี่ชินก็มาเปลี่ยนไป ถ้าผมปล่อยพี่ชินไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ผมคงทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้เวลา 1 เดือนที่ผ่านมาผมถือว่ามันเป็นความทรมานที่ยาวนานเกินพอแล้ว
“ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกสิ่งที่พี่เห็น สิ่งที่พี่รับรู้มาตลอดมันมากเกินพอแล้ว พี่เคยคิดว่าซักวันจะสามารถเปลี่ยนใจวีได้ แต่ตอนนี้พี่รู้แล้วว่าต่อให้พี่พยายามแค่ไหนมันก็ไม่มีวันเป็นจริง พี่ขอยอมแพ้”
“..................................”
“หลังจากนี้พี่จะไม่เหนี่ยวรั้งอะไรวีอีก ยินดีด้วยกับความรักที่ได้รับดูแลมันให้ดีนะพี่เอาใจช่วย” พี่ชินพูดพร้อมรอยยิ้มที่ผมสัมผัสได้ว่ามันเศร้าจนผมเองยังใจหาย แต่ผมว่าเรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ผิด
“เดี๋ยวนะพี่ชินพี่กำลังพูดเรื่องอะไร ผมไปรักกับใครผมว่าพี่กำลังเข้าใจผิดแล้วล่ะ”
“พี่เห็นกับตาตัวเองไม่ต้องปิดบัง ไม่ต้องกลัวพี่เสียใจ ทำตามใจตัวเองเถอะ พี่ตินณ์เป็นคนดีพี่เชื่อว่าพี่ตินณ์จะดูแลวีได้ดีอย่างที่พี่อยากให้เป็น”
“พี่ตินณ์มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ครับผมกับพี่ตินณ์ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย” ตอนนี้ผมงงไปหมดแล้วครับ ทำไมพี่ชินถึงได้คิดว่าผมกับพี่ตินณ์เป็นอะไรกัน
“ถ้าไม่ได้เป็นจะกล้ากอดกันขนาดนั้นเหรอ” เหตุการณ์วันที่ผมกับพี่ตินณ์ปรับความเข้าใจกันลอยเข้ามาให้หัวผมทันที ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“พี่กำลังเข้าใจผิดจริงๆด้วย ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ตินณ์แล้วนะครับ วันนั้นพี่เปิดประตูเข้ามาผมกับพี่ตินณ์กำลัง.....”
“กูไม่อยากรู้”
“แต่พี่ต้องฟัง ตอนนี้ผมมีคนอื่นที่ผมรักแล้ว ถึงพี่ไม่อยากรู้แต่ผมอยากบอก ตอนนี้ผมรักพี่นะครับ ผมรักพี่พี่ได้ยินไหม” ในที่สุดผมก็ได้พูดออกมันไปซักที ความอึดอัดที่สะสมมานานเหมือนถูกยกออกไป
“อย่าหลอกตัวเองเลย วีไม่ได้รักพี่หรอก” เหมือนแส้พาดลงกลางใจ เมื่อคนที่เรารักไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูด ทำไมล่ะทำไมพี่ชินถึงไม่เชื่อ ทั้งที่กว่าผมจะพูดมันออกมาได้ผมต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนพี่ชินจะรู้บ้างไหม
“ทำไมพี่ถึงพูดแบบนี้ พี่ไม่เชื่อว่าผมรักพี่จริงๆเหรอครับ” ผมถามกลับเสียงสั่น
“วีรักพี่ตินณ์ถึงขนาดตายแทนกันได้จะให้พี่เชื่อเหรอว่าตอนนี้วีรักพี่ ทั้งๆที่พี่พยายามทำดีกับวีมาตลอดแต่มันก็ไม่เคยทำให้วีใจอ่อนได้แล้วอะไรล่ะที่สามารถเปลี่ยนใจวีได้”
“พี่ชินคือ....”
“ชินทำอะไรอยู่คะอาจารย์เริ่มเช็คชื่อแล้วนะ” จังหวะที่ผมกำลังนึกหาคำมาอธิบายอยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงดังแทรกขึ้น หันไปมองเป็นเพื่อนในห้องพี่ชินครับ
“ไปเดี๋ยวนี้แหละ ดูแลความรักของน้องให้ดี อย่าเอาเรื่องของพี่ไปคิดจนความสุขมันหายไปพี่ต้องไปแล้ว” พี่ชินตอบเพื่อนก่อนหันมาพูดกับผมแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังหนาจนลับตา
“เป็นไงวะได้คุยกับพี่ชินหรือยัง” ไอ้แบตถามทันทีที่ผมเดินเข้าห้องเรียน
“คุยแล้ว”
“แล้วเป็นไงเกิดอะไรขึ้นวะ”
“พี่ชินเข้าใจผิดว่ากูกับพี่ตินณ์คบกัน” ผมตอบเหมือนคนไร้วิญญาณตอนนี้ในหัวมีแต่เรื่องของพี่ชินเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ได้ไงทำไมพี่ชินถึงคิดแบบนั้นวะ ในเมื่อพี่ชินก็รู้ว่าพี่ตินณ์มีแฟนแล้ว”
“เรื่องนั้นกูไม่รู้ แต่พี่ชินไม่เชื่อว่ากูรักพี่ชิน พี่ชินคิดว่ากูรักพี่ตินณ์จนสามารถตายแทนกันได้ถึงเข้าไปช่วยพี่ตินณ์ไว้ แล้วยังมาเห็นกูกอดกับพี่ตินณ์อีก” ผมตอบก่อนนั่งที่ว่างข้างๆไอ้แบต ตอนนี้ไม่อยากคิดอะไรแล้วครับ เหนื่อยเหลือเกินกับความรัก ถ้ามันจะวุ่นวายขนาดนี้ผมขอไม่มีซะยังดีกว่า
“ซวยชิบหายไอ้วีเอ้ย อย่างนี้มึงก็ต้องหาทางอธิบายให้พี่ชินเข้าใจนะ มึงกับพี่ชินใจตรงกันแต่จะให้ความเข้าใจผิดมาทำให้ความรักต้องจบลงแบบนี้ไม่ได้”
“กูก็อยากทำแบบนั้น แต่ตอนนี้พี่ชินแทบไม่เปิดโอกาสให้กูอธิบายเลยวะ”
“มันต้องมีซักทางดิวะ เดี๋ยวกูกับลูกแพรหาทางช่วย มึงใจเย็นๆก่อน” ไอ้แบตว่าพร้อมตบบ่าผม 2 ทีเพื่อให้กำลังใจ
“ขอบใจว่ะ กูจะพยายามหาทางคุยกับพี่ชินให้ได้” ผมหันไปตอบยิ้มๆ มีกำลังใจขึ้นมานิดนึงอย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่พี่ชินเปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร
“ไม่เป็นไรมึงเป็นเพื่อนกู เวลามีปัญหากูก็ต้องช่วยอยู่แล้ว” เสียงมันว่าก่อนที่อาจารย์จะเดินเข้ามา หลังอาจารย์สอนได้ยังไม่ถึง 5 นาทีลูกแพรก็วิ่งเข้าห้องด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ ไอ้แบตกระซิบถามถึงได้รู้ว่าวันนี้มาสายเพราะรถติด
“วีพี่ชินกำลังเดินมา” ผมเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวที่กำลังกินอยู่เพื่อหันไปมองตามลูกแพรทันที ใช่พี่ชินจริงๆด้วยครับ ผมเห็นพี่ชินกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารพร้อมกลุ่มเพื่อน
“พี่ชิน” ผมเรียกเมื่อพี่ชินมองเลยผมไปเพื่อหาที่นั่ง
“อ้าวน้องวี วันนี้มีเรียนเหมือนกันเหรอครับ” เสียงพี่โยทักเมื่อหันมาเจอผม แต่คนที่ผมเรียกกลับไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง
“ครับพี่ วันนี้ผมมีเรียนทั้งเช้าทั้งบ่ายเลย พี่โยกับพี่ชินนั่งโต๊ะเดียวกับผมไหมครับ” ผมถามก่อนขยับที่ว่างให้
“เอ่อ...ดีเหมือนกันครับ พี่จะได้คุยกับวีด้วยไม่ได้คุยกันมาตั้งนานแล้ว”
“ชินเราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ ตรงนั้นมีที่ว่างพอดีเลย” ผมหันไปมองทันทีเมื่อมีเสียงผู้หญิงแทรกขึ้น แล้วก็เป็นคนเดียวกับที่ผมเจอเมื่อเช้าเลยครับ
ตั้งแต่เปิดเทอมมาผมเห็นพี่คนนี้อยู่กับพี่ชินบ่อยๆ ตอนแรกคิดว่าคงทำงานกลุ่มเดียวกันแต่ตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่น่าจะใช่แล้วครับ ในเมื่อมือของพี่เขากำลังเกาะแขนพี่ชินของผมอยู่
“อ้าวเฮ้ยไอ้ชินมึงจะไปไหนไม่นั่งนี่เหรอ” ระหว่างที่ผมกำลังมองมือของพี่ผู้หญิงที่เกาะแขนพี่ชินอยู่เสียงพี่โยก็เรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง
“มึงจะนั่งนี่ก็นั่งเรื่องของมึง แต่กูจะไปนั่งกับน้ำ” พี่ชินพูดเสียงนิ่งไม่มองหน้าผมซักนิดก่อนจะเดินนำพี่คนที่ชื่อน้ำและเพื่อนผู้หญิงอีกคนจากไปเงียบ
“งั้นเอาไว้วันหลังพี่...”
“พี่โยครับนั่งนี่เถอะ ผมขอร้องผมมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมว่าพรางเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าออกห่าง ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรแล้วครับ
“ก็ดีพี่ก็มีเรื่องอยากถามวีเหมือนกัน อึดอัดมานานแล้ว”
“พี่โยกินข้าวก่อนไหมครับ” ผมถามก่อนเพราะตอนนี้พี่โยยังไม่ได้กินอะไร ไอ้แบตกับลูกแพรได้แต่นั่งคอยดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ
“ไม่เป็นไร พี่อยากคุยกับเรามากกว่า มีอะไรว่ามาเลย”
“เอ่อ.....คือผู้หญิงคนนั้น” ผมหันไปมองพี่ชินกับผู้หญิงคนนั้นที่นั่งข้างกันก่อนถามพี่โยเสียงเบาเหมือนไม่แน่ใจว่าจะถามดีรึเปล่า ผมยอมรับครับว่าผมกลัว กลัวคำตอบที่จะได้รับว่ามันเป็นอย่างที่ผมคิด
“เธอชื่อน้ำเป็นเพื่อนในภาคของพี่กับไอ้ชิน”
“เอ่อครับ”
“แล้วก็เป็นแฟนไอ้ชินด้วย”
“...............................” ประโยคแรกทำให้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกพี่น้ำเป็นแค่เพื่อนกับพี่ชินสงสัยผมจะคิดมากไปเองเพราะความเครียด แต่ความโล่งใจเกิดขึ้นได้ยังไม่ทันถึงนาทีก่อนจะมีมือจากเงามัจจุราชมากระชากผมให้จมลงไปสู่ก้นบึ้งแห่งความเวิ้งว้างอีกครั้ง
พี่น้ำเป็นแฟนพี่ชิน เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมผมไม่รู้แล้ว แล้วทำไมทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ผมยังทำใจไม่ทันเลยจริงๆครับ
“แฟนพี่ชินเหรอครับ” เสียงไอ้แบตถามเหมือนไม่แน่ใจ
“ใช่ไอ้ชินกับน้ำเพิ่งคบกันก่อนเปิดเทอมได้ไม่นาน พี่ถึงอยากถามวีไงว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ทำไมอยู่ๆไอ้ชินถึงได้เป็นแฟนกับน้ำ ทั้งที่มันเป็นแฟนกับวีอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“พี่โยผม....ผมต้องทำยังไงดี.....ตอนนี้พี่ชินเข้าใจผิดว่าผมรักคนอื่น พี่ชินไม่รักผมแล้วพี่ชินเป็นของคนอื่นแล้ว ผมจะทำยังไงดี” ผมถามพี่โยเสียงกระท่อนกระแท่นเพื่อพยายามควบคุมไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ตอนนี้ผมจะอ่อนแอไม่ได้ แต่ภาพที่ผมกำลังเห็นมันบากลึกเข้าไปในใจเหลือเกินครับ ที่ตรงนั้นเคยเป็นของผม มือคู่นั่นที่กำลังจับกันมันก็เคยทาบอยู่บนฝ่ามือผมมาก่อน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมจะทำยังไงดีตอนนี้พี่ชินเป็นของคนอื่นแล้ว
“ใจเย็นๆวี พี่ว่าไอ้ชินมันยังไม่ลืมวีหรอก แต่ที่มันคบกับน้ำอาจจะเพราะต้องการหาใครซักคนมาทำให้ลืมวีก็ได้นะ”
“ทำไมต้องลืมในเมื่อผมรักพี่ชิน ผมไม่ได้รักคนอื่นทำไมพี่ชินต้องลืมผมด้วย ทำไม? ผมไม่เข้าใจ” ผมถามเสียงสั่นกว่าเดิม ลูกแพรที่นั่งข้างต้องเอื้อมมือมากุมมือผมไว้
“แล้ววีเคยบอกมันบ้างรึเปล่าว่าวีรักมัน”
“..............................”
“ถ้าไม่ได้บอกมันก็ไม่รู้หรอกนะ เรื่องอื่นมันอาจจะฉลาดแต่เรื่องความรักบางครั้งมันก็ชอบทำอะไรโง่ๆจนพี่เองยังคิดไม่ถึง”
“ผมบอก บอกแล้วแต่พี่ชินไม่เชื่อ”
“ถ้าอย่างนั้นวีก็ต้องพิสูจน์ให้มันเห็นว่าวีรักมันจริงๆ ก่อนที่จะเสียมันไป”
“แล้วผมต้องทำยังไงเหรอครับ” ผมถามเหมือนคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้ใครบอกให้ผมทำอะไรผมก็จะทำ ผมยอมทำทุกอย่างเพียงแค่ขอให้ได้พี่ชินกลับมาเป็นของผม พี่ชินคนเก่าที่ผมรัก
“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ในเมื่อไอ้ชินเป็นคนที่วีรักวีต้องคิดเองนะ แล้วพี่จะคอยช่วยอยู่ข้างๆ” พี่โยว่าพร้อมกับน้ำเสียงอบอุ่น ความห่วงใยและกำลังใจที่ส่งมาทำให้ผมสัมผัสได้ว่าพี่โยก็อยู่ข้างผม แล้วเต็มใจที่จะช่วยผมในครั้งนี้
“ครับพี่โยผมจะพิสูจน์ให้พี่ชินรู้ให้ได้ว่าผมรักพี่ชินมากแค่ไหน” ผมตอบด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะมองไปยังพี่ชินอีกครั้ง แม้ภาพที่เห็นจะทำให้ผมอยากถอดใจแต่เพื่อความรักครั้งนี้ ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงผมก็ขอลองสู้ดูซักตั้งก่อนครับ
“พี่ชินให้ผมกลับด้วยนะครับ ผมจะไปทำความสะอาดห้องพี่ให้” ผมมาดักรอพี่ชินที่รถตั้งแต่เลิกเรียนตอนบ่าย 3 จนตอนนี้ 6 โมงเย็นพี่ชินเพิ่งจะเดินลงมา
“พี่บอกแล้วไงว่าน้องไม่ต้องทำงานให้พี่แล้ว”
“แต่ผมยังเป็นหนี้พี่อยู่นะครับ ผมยังใช้ไม่หมดเลย” ผมเอาเรื่องหนี้มาอ้างเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องเดียวที่มันยังเชื่อมโยงระหว่างผมกับพี่ชินไว้ด้วยกัน
“พี่ยกหนี้ให้น้องไปตั้งนานแล้ว ระหว่างน้องกับพี่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วครับ” พี่ชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนผมถึงกับใจหาย พี่ชินไม่เคยเป็นแบบนี้กับผมมาก่อนเลยจริงๆครับ
“แต่ผมไม่รับไง ผมจะทำงานใช้หนี้พี่จนกว่าจะครบตามสัญญา” ผมยังคงตื้อต่อไป
“ถ้าน้องจะไม่รับมันก็เป็นเรื่องของน้อง แต่สำหรับพี่เรื่องทุกอย่างมันจบแล้ว”
“แต่ผมไม่จบแล้วผมก็จะไปด้วย” ผมพูดเสร็จเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทันที
“ลงมา นั่นไม่ใช่ที่ของน้อง” ฟังแล้วเจ็บจี๊ดเลยครับ แต่ทำไมได้ในเมื่อผมเป็นคนผิดก็ต้องอดทนไปก่อน ตอนนี้ขอแค่ได้ใกล้ชิดพี่ชินเพื่อหาโอกาสอธิบายทุกอย่างก็พอ
“ผมไม่ลง พี่นั่นแหละขึ้นมาได้แล้ว” ผมว่ากลับ ก่อนจะเห็นพี่ชินทำท่าหัวเสียแล้วเดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ
“รอนานไหมคะชิน ขอโทษทีพอดีคุยกับยัยสานานไปหน่อย อ๊ะ!” อยู่ๆประตูฝั่งที่ผมนั่งก็ถูกเปิดออกพร้อมเสียงพูดเจื่อนแจ้วก่อนจะหยุดชะงักเพราะเจอผมนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ไม่นานหรอกครับ ถ้าจะไปก็ไปนั่งข้างหลัง” พี่ชินตอบพี่น้ำยิ้มๆก่อนสั่งให้ผมเปลี่ยนที่นั่งด้วยน้ำเสียงที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ผมกัดริมฝีปากเพื่อระงับอารมณ์น้อยใจที่กำลังแล่นขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูขึ้นนั่งเบาะหลังแทน
“เอ่อ…..ใครเหรอคะชิน” เสียงพี่น้ำถามดังมาจากด้านหน้าทำให้ผมที่กำลังข่มน้ำตาต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชินผ่านกระจกส่องหลัง
“รุ่นน้องน่ะ” พี่ชินตอบเรียบๆพร้อมขับรถไปเรื่อยๆ
“รุ่นน้องแล้วทำไม...”
“ผมชื่อวีครับเป็นคนทำความสะอาดห้องพี่ชิน วันนี้เลิกเรียนตรงกันเลยขออาศัยรถไปคอนโดพี่ชินด้วยครับ” ผมชิงตอบเองเพราะกลัวว่าจะรับคำตอบของพี่ชินไม่ได้ ยอมรับครับว่าตอนนี้ผมอ่อนแอแค่คำพูดไม่กี่คำของพี่ชินมันมีผลกับความรู้สึกของผมเหลือเกิน ถ้าต้องทนฟังอะไรที่ทำร้ายจิตใจผมอีกผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถกลั้นน้ำตาเพื่อไม่ให้มันไหลลงมากลางรถคันนี้ได้
“อ๋อ คนนี้เองเหรอที่ชื่อวี” พี่น้ำทำเสียงเหมือนรู้จักผมมาก่อนอย่างนั้นแหละครับ
“พี่รู้จักผมเหรอครับ” ผมถามอย่างแปลกใจ
“รู้จักสิ รู้ดีซะด้วยว่าน้องเคยทำให้แฟนพี่เสียใจขนาดไหน”
“....................”
“น้องคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ชินกับพี่เป็นแฟนกันแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้น้องไม่ต้องมาทำอะไรที่น้องเคยทำ พี่ไม่ชอบให้แฟนพี่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกับน้องอีก” คำพูดของพี่น้ำยังไม่เจ็บเท่าท่าทางไม่ยินดียินร้ายของพี่ชินที่ผมได้รับเลยครับ
“แต่................”
“หวังว่าน้องจะเข้าใจนะคะ พี่ไม่ได้พูดอะไรที่เข้าใจยากเลย”
“ครับ” ถ้ายังพอมีความหวังผมคงดื้อที่จะรั้งไว้แต่ตอนนี้ผมมองไม่เห็นเลยว่าสิ่งที่กำลังทำจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อพี่ชินก็ดูเหมือนอยากให้เป็นอย่างนั้น
“ดีค่ะ เข้าใจอะไรง่ายดีแล้วก็ช่วยเลิกยุ่งกับแฟนพี่ด้วยนะคะ” เสียงพี่น้ำดังขึ้นอีกครั้ง
“งั้นถ้าผมไม่ต้องทำความสะอาดแล้วพี่ชินช่วยจอดให้ผมลงตรงนี้ด้วยครับ” ผมกลืนก้อนเหนียวๆลงคอก่อนตัดสินใจบอกพี่ชิน
“เดี๋ยวพี่วนกลับไปส่งที่หอ”
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับผมกลับเองได้” เมื่อพูดจบความเร็วรถค่อยๆชะลอลงก่อนจอดสนิท ผมมองสบตาพี่ชินอีกครั้งผ่านกระจก ตอนนี้ในดวงตาคู่นั้นไม่มีผมอีกต่อไปแล้วครับ มันเป็นสายตาที่ว่างเปล่าจนผมใจหาย
ผมยืนมองรถที่ค่อยๆเคลื่อนตัวจากไปจนลับสายตา ตรงหน้าผมเต็มไปด้วยการจราจรที่แสนวุ่นวาย แต่ใจผมกลับวุ่นวายยิ่งกว่า พี่ชินตอนนี้ไม่เหมือนพี่ชินที่ผมเคยรู้จักเลยซักนิด แต่ก็ไม่รู้จะโทษใครนอกจากตัวผมเอง
ผมเป็นคนทำให้พี่ชินเปลี่ยนไปด้วยความลังเลความไม่แน่นอนผม ถ้าเพียงแค่ผมรู้ใจตัวเองให้เร็วกว่านี้ ให้คำตอบพี่ชิน บอกรักพี่ชินให้เร็วกว่านี้เรื่องทุกอย่างก็คงไม่จบลงแบบนี้
ผมถือว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเวรกรรมที่ผมเคยทำไว้กับพี่ชิน ผมปล่อยให้พี่ชินต้องรอ ให้พี่ชินต้องทรมานกับความรักที่ไม่แน่ ไม่นอน จนตอนนี้พี่ชินทนต่อไปไม่ไหว ถึงจะเคยรักมากขนาดไหนแต่ถ้าทำดีทุกอย่างแล้วยังไม่ได้รับรักตอบมันก็คงจะหมดรักได้ซักวัน แล้วตอนนี้ล่ะพี่ชินหมดรักผมแล้วรึยังผมอยากรู้ หลังจากนี้ไปผมควรทำยังไงดีครับ ปล่อยให้พี่ชินได้มีความสุขในทางที่ควรกับพี่น้ำหรือทำทุกอย่างเพื่อแย่งชิงกลับมาเป็นของผม
----- โปรดติดตามตอนต่อไป -----
ขอบคุณที่ติดตามมาจนใกล้จบแล้วค่าาา