Sugar daddy เด็กเลี้ยง :: ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sugar daddy เด็กเลี้ยง :: ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม  (อ่าน 201224 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ค่าตัวเสี่ยแพงกว่าเพชรที่ซื้อให้น้องอีกค่ะ กว่าจะได้พูดดดด  :hao7:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คือที่พระแพงกระพริบปริบๆ ขอความเห็นใจ เสี่ยอาจจะมองว่า เป็นการออดอ้อนก็ได้นะคะ  :laugh:
ชอบคาแร็คเตอร์พระแพง ชอบความแมน ผิวสีแทนและมีกล้าม(เนืื้อ) ช่างเป็นนายเอกหายาก และแพงไม่แพ้เสี่ย ฟันธงค่ะ!!

เราก็เดาว่าไม่ได้กินตับกับเสี่ยอะค่ะ กับพ่อเสี่ยนั่นแหละ

ยังไงเรื่องนี้ก็ไม่อยากรู้เท่าเรื่องเมื่อไรเสี่ยจะลากเด็กไปกินซักที สงสารความมโนของพระแพงมาก
เสี่ยคะ ทำให้เด็กเสี่ยหยุดมโนทีค่ะ แล้วในมโนเราว่าครึ่งนึงก็นึกถึงเสี่ยนะ แต่แพงยังไม่ค่อยรู้ตัว :hao7:

อ่านไปอ่านมา เริ่มคิด ถ้าจบแบบไม่ happy ending เราคงเสียใจที่สุด  :hao5:
ขอให้เสี่ยได้ลงเอยกัพระแพง และขอให้พระแพงทำให้เสี่ยพูดเยอะๆซะที  :katai4:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เสี่ยแอบเช็คโทรศัพท์ของพระแพงใช่มั้ย :hao3:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
พระแพงฮามาก
เสี่ยก็ค่าตัวแพงเหลือเกิน กว่าจะพูดได้แต่ละที

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ค่าตัวเสี่ยแพงมากกกก ได้พูดตั้งหนึ่งคำแหนะ

แล้วนะ น้องพะแพง สื่อสารทางจิตกับเสี่ยรู้เรื่องด้วยอะ เสี่ยเลยยิ่งไม่ต้องพูดสินะ ฮาาาาา

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
ตอนที่  10






หลังจากกลับเข้าห้อง  เขาก็โยนข้าวของ  โยนมือถือเครื่องใหม่ลงกับเตียง  ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ความแพงของไอ้ผลไม้แหว่งนี่หรอกนะ  แต่เครื่องละ  20,000  น่ะมันแพงไปหน่อยไหม  ถึงจะบอกว่าเป็นค่าแพคเกตอีก  12  เดือน  แต่เดือนๆ หนึ่งเขาโทรเข้าโทรออกรวมกันไม่ถึง  60  นาที  แต่วงเงินที่ให้มาเนี่ย...  ได้มาแต่ไม่ได้ใช้แล้วมันจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือเปล่า 

แล้วความจริงเขาก็ไม่อยากได้หรอกนะไอ้ผลไม้แหว่งเนี่ย  แต่ไอ้ขิมนี่สิ  เซ้าซี้บอกให้เขาซื้ออยู่ได้  พอเขาจะซื้อมือสองแบบมีประกันมันก็ตบหัวดังโป๊ก  ด่าว่าเขาโง่  ก่อนลากเขาเข้าศูนย์ ตื๊ด  ตื๊ด  เลือกเครื่องเลือกโปรโมชั่นให้เสร็จสรรพก่อนเรียกเขาไปจ่ายเงิน  ไม่มีถามซักคำว่ารุ่นนี้ดีไหม  สีนี้ดีไหม  เขาเลยได้ iPhone 6 plus สีชมพูหวานแต๋วมาให้ถือหนักๆ หนึ่งเครื่อง  ก่อนจะโดนลากไปติดฟิล์มกันรอยกับเลือกเคสอีกหนึ่งรอบ  โดยที่เขาไม่มีสิทธิเลือกลายซักนิด

สรุปวันนี้เขาหมดเงินไปสามหมื่นเพื่อมือถือหนึ่งเครื่อง  คิดแล้วก็อยากจะฉีกอกไอ้ขิมซักหนึ่งรอบ  ชีวิตนี้เขาไม่เคยใช้เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้  ขนาดตอนที่ติดหนี้  พี่ธนิตก็เป็นคนจัดการโอนเงินให้  เขานี่มีหน้าที่รับสลิปกับใบเสร็จอย่างเดียว  นี่ถ้าไม่ติดว่ามีสร้อยเพชรของเสี่ยแขวนติดอยู่ที่คอนะ  เขาเอาใบเสร็จไปเรียกเก็บกับเสี่ยจริงๆ ด้วย  มือถือบ้าอะไรวะ  รวมๆ ราคากันแล้วราคาตั้ง 30,000  คืนนี้แดกมาม่าแก้จนดีกว่า  เบื่อ!  หิว!  จน!  เครียด!  กิน!  กองทัพต้องเดินด้วยท้อง  เพราะงั้นไอ้พระแพงจะกินมาม่า!

หลังจากตั้งกาน้ำร้อน  เขาก็เข้าไปอาบน้ำพร้อมกับเอาน้ำออกหนึ่งรอบ  นั่งรอจนมาม่าลวกสุด  ก็นั่งกินมาม่าอย่างสบายใจ  มาม่าสองไข่หนึ่งลวกแบบสุกไม่มาก  ราคารวมกันไม่ถึง  30  บาท  ไอ้แพงอิ่มจนอารมณ์ดี๊ดี  ดี๊ด๊าล้างจานก่อนเห่อมือถือเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อ  โถ  ลูกพ่อ  เมื่อกี้พ่อโมโหหิวไปหน่อย  ขอโทษนะ  ไหนมาให้พ่อยลโฉมหน่อยสิ  


ว่าแล้วก็เอามือถือใหม่มาจิ้มแบบลื่นปื้ดๆ  เล่นมันทั้งที่ชาร์จแบต  ตัวเครื่อง 6 plus ใหญ่พอดีกับเขามาก  เขาที่เคยเล่น iPhone ของเจ้าแม่มาก่อนก็สมัคร Apple  ID  ใหม่ เตรียมโหลดแอพเท่าที่จะพอโหลดได้  รอจนโหลดทุกอย่างเรียบร้อยก็ล็อกอินเข้าเฟสบุ๊ค  ประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า  ข้าถอยมือถือใหม่แล้วนะ  ซึ่งเพื่อนๆ เขาก็อู้หู อู้หากันไปตามระเบียบ  เขาถ่ายรูปมือถือแบบไม่โชว์หนังหน้าตัวเองก่อนตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ในเฟสบุ๊ค  รอจนเห่อเสร็จก็โหลดเกมส์ที่มีอยู่ในความทรงจำมาเล่น 

นั่งเล่นแปบๆ ก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม  เล่นเอาปวดคอปวดไหล่ไปหมด   มิน่าล่ะคนสมัยนี้ถึงเป็นออฟฟิส  ซินโดรม  ตอนที่เขามีซัมซุงฮีโร่  ปกติก็จะดูหนังบ้างทำงานบ้าง  ไม่เคยนั่งเล่นมือถือนานติดต่อกันนานขนาดนี้  แถมนี่ก็ยังชาร์จแบตอยู่ด้วย  ดีนะมันไม่ระเบิดคามือไม่งั้นเขาต้องทำเรื่องส่งเคลมอีก

เขาที่นั่งเล่นมือถือจนเมื่อยก็ถือโอกาสพักเครื่องบ้าง  เอี้ยวซ้ายเอี้ยวขวาจนมีเสียงดังกรอบแกรบ  ก่อนขยับตัวเพื่อเตรียมออกไป  7-11  คนวัยกำลังโตก็แบบนี้แหละ  หิวง่าย  อิ่มยาก  ดีนะที่เขาซิตอัพกับยกเวทบ่อยๆ เลยไม่ลงพุง  เหมือนพนักงานบริษัทสมัยนี้

เขาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพลางเก็บมือถือเครื่องเก่าใส่ลิ้นชัก  หมุนตัวทำหล่อหนึ่งรอบ  ก่อนคว้ากุญแจ  กระเป๋าสตางค์  กับคีย์การ์ดแล้วเดินออกจากห้อง  ในตอนที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นหลังจากที่เต๊าะรองเท้า  เขาก็เงาดำผ่านทางสายตาแวบๆ  ไอ้ตอนแรกน่ะเขาก็นึกว่าเป็นคนร่วมหอพัก  เลยไม่ได้คิดอะไรมาก  แต่พอเห็นเต็มๆ ตาเท่านั้นแหละ  ชัดเลย... 


เสี่ย...

เสี่ย...

เสี่ย...

เสี่ยอธิปอีกแล้วเรอะ!  วันนี้เขากับเสี่ยจะเจอกันบ่อยไปแล้วนะ!


คนเรานี่น้า  บทจะเจอก็เจอ  บทจะไม่เจอก็ไม่เคยเจอเลย  เขาที่ไม่เคยเจอเสี่ยมาเลยตลอดหนึ่งปี  มาตอนนี้ก็มาเจอกันแบบติดๆ กันซะงั้น 

เขาที่ตะลึงตึ่งตึ๊งเป็นรอบที่สองของวันก็ทำได้แต่เบิกตากว้าง  มองเสี่ยที่ยังอยู่ในชุดสูทเต็มยศแบบอึ้งๆ  ก่อนจะยกมือไหว้เสี่ยทั้งที่ยังตั้งสติไม่ได้   

มาลองดูแล  มาแลดูกัน   เขากับเสี่ยมองหน้ากัน  จนคิดได้ว่าเขาต้องเชิญเสี่ยเข้าห้อง 

แต่เขาไม่เชิญเสี่ยเข้าห้องได้ไหมอ่ะ  ถึงจะมีสุภาษิตที่ว่า  แขกมาถึงเรือนชาน  เราต้องต้อนรับ  แต่ถ้าเขารับเสี่ยเข้าห้อง  เสี่ยจะหาว่าเขาอ่อยเสี่ยไหม  แต่ถ้าเขาไม่เปิดประตูห้องรับเสี่ย  เสี่ยจะมาที่นี่ทำด๋อยอะไร  เสี่ยมายืนถึงหน้าห้องขนาดนี้  แสดงว่าเสี่ยต้องมีธุระอยู่แล้ว  แต่เขาก็ไม่ค่อยอยากเชิญเสี่ยเข้าห้อง

เขาคิดๆๆๆๆๆ  คิดจนบรรยากาศรอบตัวเสี่ยเริ่มมาคุ  เขาที่สบตาเสี่ยอยู่ก็ได้แต่จ้องลูกกะตาสีดำที่ฉายแววหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ  ก่อนจะตัดสินใจหมุนหัวกลับแล้วเชื้อเชิญเสี่ยเข้าห้อง  พร้อมกับเสิร์ฟน้ำให้เสี่ยอีกหนึ่งแก้วที่เลือกนั่งตรงโซฟาเบด


ใครกล้าบังอาจหาว่าเขาอ้อยเสี่ยนี่มีชก

Flight  or  Fight  น่ะรู้จักไหม  วิทยาศาสตร์น่ะเคยเรียนบ้างหรือเปล่า  จะหนี หรือ จะสู้

แล้วคนอย่างเขาเหรอ  จะมีปัญญาสู้เสี่ยได้  เขาก็ต้องเลือกที่จะถอยสิวะ!  จะปล่อยให้เสี่ยอยู่ข้างนอกจนอารมณ์เสียแล้วเตะประตูพังเข้ามาหรือไง  เขาไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อมหรอกนะ  เงินเดือนๆ นี้เอาไปซื้อมือถือหมดแล้ว!

ว่าแล้วเขาที่ทำอะไรเสี่ยไม่ได้ก็ได้แต่ปล่อยให้เสี่ยนั่งสำรวจรอบห้อง  ซึ่งเขาบอกได้ว่าห้องเขาไม่มีอะไรมาก  มีแค่เตียง  โต๊ะทำงาน  โต๊ะเครื่องแป้ง  ตู้เสื้อผ้า  โซฟาเบด กับ โต๊ะญี่ปุ่นอีกหนึ่งโต๊ะ  ทีวีก็เป็นทีวีขนาดจอเล็กๆ  ที่ซื้อมาตอนมันลดราคา  อ่อ  แล้วก็มีตู้เย็นกับกาน้ำจิ๋วๆ อีกหนึ่งอันไว้ต้มมาม่า  นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว  เรียกได้ว่าทรัพย์สินรวมๆ ในห้องเขาน่ะยังราคาไม่เท่ามือถือหนึ่งเครื่อง  เพราะงั้นเขาต้องรักษามือถือยิ่งชีพ 

ไม่ใช่ล่ะ!  เรียกได้ว่าห้องเขาทั้งห้องยังมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนของเสี่ยในคอนโดเลี้ยงเด็กห้องเดียว  เขาที่เสิร์ฟน้ำเสร็จแล้ว  ก็ได้แต่นั่งแปะตูดติดพื้น  มองเสี่ยที่เป็นแขกนั่งอยู่บนโซฟาเบด  

   
อะไร  แล้วจะให้เขานั่งบนโซฟาเสมอเสี่ยหรือไง  ไม่เห็นเหรอว่าโซฟามันมีแค่หนึ่งอัน  แล้วเสี่ยก็จับจองไปก่อนแล้ว  จะให้เขาที่เด็กกว่านั่งเทียบเสมอผู้ใหญ่  แถมยังเป็นหัวหน้าเขาอีกเรอะ  ถึงสมัยนี้จะไม่มีระบบทาส  แต่กาลเทศะนะรู้จักไหม  กาลเทศะน่ะ  เพราะงั้นถ้าเสี่ยไม่เรียกเขาจะนั่งแหมะอยู่กับพื้นทั้งที่อยู่ในห้องตัวเองนี่แหละ

   
เสี่ยเองก็คงจะรำคาญท่าทางแบบนี้ของเขาเหมือนกัน  เสี่ยเลยจัดการหลับตาแล้วปิดปากไม่ยอมพูด  เขาที่ถูกแขกไม่ได้รับเชิญลอยแพ  ก็ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ  มองเสี่ยไปเรื่อยๆ  แอบสำรวจช่วงที่เสี่ยหลับตาตรวจจับกลิ่นกับท่าทางเสี่ยไปด้วย

   
ฟุดฟิดๆๆ

   
อืมมม  เท่าที่ดมกลิ่น  เสี่ยก็ยังสะอาดดี  ไม่มีกลิ่นคุณปุยฝ้ายติดมาให้หงุดหงิดเล่น  แต่เขาไม่แน่ใจว่าเสื้อที่เสี่ยใส่ตอนนี้เป็นตัวเดิมกับที่ใส่เมื่อตอนกลางวันหรือเปล่า  เพราะสูทที่เสี่ยใส่ตอนนี้ดูเรียบกริ๊บ  ถึงจะไม่มีกลิ่นสบู่เหมือนคนเพิ่งอาบน้ำ  แต่เสื้อก็หอมเหมือนกลิ่นที่เพิ่งออกจากตู้  ตัวเสี่ยเองก็มีกลิ่นแบบที่เพิ่งทำงานเสร็จมาหมาดๆ  ซึ่งก็ไม่ใช่กลิ่นที่เหม็นมาก  เอาเป็นว่าเป็นกลิ่นแบบสะอาดๆ  แบบที่เขาเคยได้กลิ่นมาตั้งแต่สมัยที่เป็นเด็กเลี้ยงนั่นแหละ

จะว่าไป  ทั้งๆ ที่เขาก็ดูจะไม่ได้ใส่ใจเสี่ยมาก  แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องกลิ่นเหงื่อ  หรืออย่างภาษากาย  เขากลับจำได้แม่น  และทั้งๆ ที่มันก็ผ่านมาแล้วหนึ่งปี  จากที่คิดว่าจะจำหน้าเสี่ยไม่ได้  แต่พอเห็นหน้าเขาก็จำเสี่ยได้ติดตา  แค่เสี่ยมองมาเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้     

เสี่ยในวันนี้ดูเหนื่อยและอ่อนล้ากว่าในวันวานเล็กน้อย  ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ถึงจะเหนื่อยขนาดไหน  เสี่ยก็ยังจะตาพราวใสพร้อมจะทำศึกกับเด็กเลี้ยงแบบเขาอยู่ทุกเมื่อ  แต่ในตอนนี้เสี่ยดูอ่อนล้ามาก  แถมยังดูเหมือนมีร่องรอยตามหางตา  ถึงเสี่ยจะอายุสามสิบ  แต่ก็ไม่ใช่วัยที่จะมีรอยแบบนี้  ถึงรอยจะไม่เยอะมากก็เถอะ


เขานั่งมองเสี่ยหลับตาไปเรื่อยๆ  รอจนมั่นใจว่าเสี่ยน่าจะหลับ  ก็ขยับตัวเตรียมลุกไปเซเว่น  อะไร  เขายังไม่ลืมจุดประสงค์เดิมของตัวเองหรอกนะ  ถึงเสี่ยจะมาแล้วไง  เสี่ยหลับไปแล้วเขาก็ต้องออกไปหาอะไรกินสิ  จะให้หิ้วท้องนั่งรอเสี่ยตื่นหรือไง  แล้วอีกอย่างถ้าเสี่ยตื่นมาแล้วโมโหหิวเขาไม่จะไม่โดนงับหัวเรอะ  เพราะงั้นเพื่อความปลอดภัย(และความสบายท้องของตัวเอง)  เขาเลยว่าจะออกไปเซเว่นซื้อน้ำซื้อนม  กับอิซี่โกมาเตรียมไว้ให้  เพื่อเสี่ยหิวจะได้มีอะไรรองท้องไม่ต้องแทะหัวเขาฆ่าเวลาเล่น  แล้วก็นะ  ที่นี่มันถิ่นเขา  เพราะฉะนั้นเขาให้เสี่ยกินอะไรเสี่ยก็ต้องกิน  นี่ไม่ใช่ห้องในคอนโดเสี่ยซักหน่อยที่เขาจะเตรียมอาหารหรูๆ มาเสิร์ฟให้  แถมเงินค่าข้าวนี่เขาก็ออก  ไว้ถ้าเสี่ยอยากกินอาหารเจ็ดดาวก็รอไปก่อนแล้วกัน  เขาจะได้สั่งล่วงหน้าพร้อมเรียกบิลเพื่อเบิกให้

   
แต่ในตอนที่เขากำลังขยับก้นเพื่อที่จะลุกขึ้นจากพื้น  เสี่ยที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาพรึบ  เขาที่ตกใจก็หย่อนก้นต่อดังตุบ! 

เกิดความเงียบขึ้นในอากาศขึ้นสามวิ  เขาที่กำลังจะขยับปากพูด  ก็โดนเสี่ยพูดตัดหน้าอีกรอบว่า

" ไปเก็บของ  คืนนี้ไปค้างกับฉันที่ห้อง"


.
.
.
.
.


ตึ่ง ตึง ตึ่ง ตึ๊ง 

ลองทายดูสิว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน  ฮั่นแน่  คิดว่าเขาอยู่คอนโดเสี่ยแล้วละสิ

ผิด!

เขาอยู่ในรถตู้ที่กำลังจะไปคอนโดเสี่ยต่างหากเล่า!

โฮๆๆๆๆ   ใครก็ได้ช่วยเขาที!  เขากำลังถูกเสี่ยลักพาตัวไปเชือด  นี่มันขบวนการรถตู้ลักพาตัวเด็กชัดๆ!  ถึงเด็กคนนี้จะเดินตามขึ้นรถมาเอง  แต่ความจริงมันถูกบังคับ  มันขัดขืนไม่ได้!   เพราะถ้าขัดขืนเสี่ยต้องกระทืบเขาตายคาห้องแน่นอน  แล้วก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่พยายามขัดขืนนะ  เขาพยายามแล้ว  แต่พอเขาจะอ้าปาก  เสี่ยก็พูดตัดบทขึ้นมาอีกรอบว่า 
 
" อย่าให้ต้องพูดซ้ำ" 


เท่านั้นล่ะเจ้าประคุณเอ๊ย   เสี่ยพูดมาประโยคเดียวสั้นๆ  แต่สยองขวัญสั่นประสาทเขามาก  เสี่ยปรายตามามองนิ่งๆ  แต่ให้อารมณ์แบบซอมบี้เตรียมขย้ำหัวเหยื่อสุดๆ  เขาที่กลัวตายเลยได้แต่เก็บข้าวเก็บของแล้วรีบเดินตามเสี่ยออกจากห้อง  เก็บมาได้แค่ชุดนอนสองชุด  ชุดทำงานหนึ่งชุดกับมือถือเครื่องใหม่ใส่ในเป้  คว้ากุญแจกับกระเป๋าตังค์รีบเดินออกจาก  ขนาดคีย์การ์ดที่วางอยู่ใกล้กันยังลืม  เห็นหรือยังว่าเขากลัวขนาดไหน!
   
ตอนที่เขาเดินลงมาจากห้อง  เขาก็แอบด่ายามไปด้วยว่าทำไมให้คนแปลกหน้าเข้ามาได้  สรุปคือประตูหอถูกเปิดค้างไว้  เพราะมีคนกำลังย้ายของออกจากหอพัก   ปัดโธ่!   แล้วมันจะมีระบบคีย์การ์ดไว้ทำด๋อยอะไรวะ!   มีก็เหมือนไม่มี!  ปล่อยให้เขาโดนลักพาตัวแบบกึ่งสมยอมจนอยู่ในรถอยู่นี่!

แล้วไอ้ที่ว่ากึ่งสมยอมน่ะ  ไม่ใช่ว่าเขาเตรียมเสียตัวให้เสี่ยหรืออะไรหรอกนะ  เขาไม่ใช่คนลามก  (ใครคิดเขาจะตามไปชก!)   แต่เพราะท่าทางของเสี่ยดูเหมือนคนมีปัญหามาก  เขาก็เลยอยากช่วย  ถึงจะรู้ผิดกับคุณปุยฝ้ายนิดๆ  แต่ถ้าให้เลือกเขาเลือกเสี่ยมากกว่า  อีกอย่าง  ถ้าเสี่ยมีคุณปุยฝ้ายแล้วมีความสุขดี  เสี่ยจะมาหาเขาเรอะ  เขามันแค่เด็กเคยถูกเลี้ยงนะ  แล้วเขาก็ไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดที่ว่า  เสี่ยมาตามเขาถึงห้องเพื่อพาเขาไปนั่งเล่นตบแปะหรือปรับทุกข์หรอกนะ  ไปถึงคอนโดกันขนาดนี้มันก็ต้องมีเรื่องอย่างว่าอยู่แล้ว

   
แต่ก็นั่นแหละ  ถึงจะรู้สึกผิดกับคุณปุยฝ้ายที่สามีทำท่าจะมีชู้  แต่เสี่ยก็ไม่ได้ทำท่าหื่นกามแบบเสี่ยที่อยากหาเด็กมาเลี้ยง  มันก็แค่เหมือนกับ...   เหมือนกับเสี่ยเหนื่อยมากๆ เลยอยากหาคนมาอยู่ด้วย  แล้วก็ด้วยความบังเอิญที่เสี่ยมาเจอเขาพอดี  เสี่ยเลยคิดว่าเอาเขานี่แหละง่ายดี  คนเคยค้าขายกันมาก่อน  ไม่ต้องพูดมากเขาก็ฟังรู้เรื่อง  และเขาก็ว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเด็กดีพอควร  ไม่เคยก่อปัญหาให้  ดังนั้นถ้าเสี่ยอยากมีชู้   เสี่ยก็มามีกับเขานี่แหละ  เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ใช่คนพูดมาก  แถมปากหนักด้วย

ส่วนเรื่องเงิน  ถ้าเสี่ยออกปากให้  เขาจะเอามือถือเครื่องใหม่เขวี้ยงใส่หัวเสี่ยนี่แหละ  เอาให้รู้กันไปเลยว่าเขามีเงินเฟร๊ย  ที่มาอยู่น่ะ  มาด้วยความสมัครใจล้วนๆ ไม่มีเสแสร้ง  ถึงจะ  เอ่อ...  เป็นการช่วยกันในทางที่ผิดไปหน่อย  แต่ผู้ชายน่ะ  แยกเซ็กซ์ออกจากความรักอยู่แล้ว  เขาก็แค่ช่วยเสี่ยระบายอารมณ์นิดๆ หน่อยๆ  ไม่ได้จะเกาะเสี่ยกินหรืออยากเป็นชู้  ถึงรวมๆ แล้วมันจะดูเป็นอย่างนั้นก็เถอะ


รอจนรถตู้มาส่งถึงคอนโดที่แสนคุ้นตา  เขาที่นั่งอยู่ด้านนอกสุดก็เปิดประตูรถออกแล้วยืนรอเสี่ยอยู่ข้างนอก  ฟังเสี่ยสั่งงานกับคนขับรถที่เป็นลุงแก่ๆ อยู่สองสามคำ  แล้วก็เดินตามเสี่ยเข้าห้อง  พอแว่วว่าไม่มีเรื่องเกี่ยวกับเขา  เขาก็ทำตัวเฉยๆ  ใครบอกว่าเขาเย็นชา...  เขาเรียกว่ารู้จักกาละและเทศะเฟร๊ย  เสี่ยคุยโทรศัพท์ใช่เรื่องที่เขาจะต้องไปสอดเรอะ  เกิดเสี่ยคุยธุระที่สำคัญมากอย่างการปล่อยเงินกู้  เขาที่ไปขัดจนลูกหนี้หนีได้โดนด่าพอดี  เพราะงั้นหุบปากเงียบแล้วแอบฟังต่อไปดีสุด
 
แต่เท่าที่จับใจความได้ (สงสัยติดนิสัยสอดรู้มาจากไอ้รุต)  เสี่ยกำลังตกลงเจรจาธุรกิจเป็นภาษาฝรั่ง  ภาษาอะไรก็ไม่รู้  อังกฤษคำ  ภาษาอื่นคำ  ทำเอาภาษาวิบัติหมด  เขาที่แอบฟังแต่ไม่รู้เรื่องก็ได้แต่นิ่ง  จับใจความได้สั้นๆ ว่าเสี่ยทิ้งบริษัทอะไรมาไม่รู้  ตอนนี้ต้องให้เพื่อนอยู่ดูแลแทน  ดูท่าทางคนปลายสายจะเป็นคนที่เสี่ยสนิทพอควร  เพราะเสี่ยดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะ  ถึงจะยังหน้านิ่วอยู่ก็เถอะ

   
พอขึ้นลิฟต์มาถึงห้องได้เขาก็ปล่อยให้เสี่ยนั่งพัก  ส่วนตัวเองก็อ้อมแอ้มบอกเสี่ยขอเอาของเข้าไปเก็บในห้อง  ในตอนที่เดินผ่านครัว...  คอนโดที่เขาเคยอยู่ไม่เปลี่ยนไปเลยซักนิด  เพราะงั้นเขาเลยแวะหยิบผ้าเย็นมาหนึ่งผืน  เทเหล้าทำออน  เดอะ  ร็อค มาหนึ่งแก้ว  แล้วส่งให้เสี่ยที่นั่งอยู่ตรงโซฟา  กะว่าถ้าเสี่ยดื่มก็ให้เสี่ยน็อคไปตั้งแต่เนิ่นๆ  เขาจะไม่ได้รับศึกมาก...  ใช่ที่ไหนกันเล่า!  เขาแค่เห็นว่าเสี่ยเหนื่อยๆ  เช็ดหน้าเช็ดตาซักหน่อยอารมณ์จะได้ดีขึ้น  ส่วนเหล้าน่ะ  เขาเรียกว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย  ถ้าไม่ทำให้เสี่ยอารมณ์ดี  ก็ทำให้เสี่ยอารมณ์เสีย  หรือไม่ก็หลับไปเลย

เขาที่ไม่ยอมอยู่ดูผลงานตัวเองก็ได้แต่รีบเดินเข้าห้อง  กะว่าถ้าเสี่ยอาละวาดเขาจะปิดประตูล๊อกใส่เลย  แต่เพื่อความปลอดภัย...  เขาควรล๊อกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ  ก่อนระเห็จพาตัวเองไปอาบน้ำ  ล้างนอกล้างในแล้วแปรงฟันให้สะอาดอีกรอบ  ซึ่งของในห้องน้ำก็มีอยู่ครบแบบที่เขาไม่ต้องแบกมาเองยกเว้นแปรงสีฟันที่เขาเอามาเพื่อไว้  ไม่อยากใช้ของร่วมกับของคนอื่น  ถึงจะมีแปรงสีฟันใหม่เตรียมไว้อยู่แล้วก็เถอะ 

เขาไม่มั่นใจว่าหลังจากที่เขาไปแล้ว  เสี่ยเอาเด็กคนอื่นมาอยู่ต่อหรือเปล่า   แต่จากสภาพห้อง  คงนานแล้วมั้งที่ไม่มีคนอื่นมาค้าง  คือมันเป็นเรื่องของความรู้สึกน่ะ  ห้องเปล่ากับคนที่มีคนอยู่  อารมณ์มันต่างกันลิบลับ  แต่เขาก็ไม่ใช่ริวจิตสัมผัสน่ะนะ  เพราะงั้นเขาอาจเดาพลาดก็ได้   

รอจนอาบน้ำขัดตัวเสร็จออกมาก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว  เขาที่ล๊อกประตูไว้ก็แง้มๆ ประตูชะโงกหัวไปดูเสี่ย  แบบว่า...  เมื่อกี้ลืมนึกไปว่าเสี่ยอาจจะเข้ามาในห้องเพื่อจัดการกินตับเขา  เขาที่มัวแต่กลัวเสี่ยเมากระทืบเลยลืมนึกไปว่า  เวลาเสี่ยอยากกินแต่ไม่ได้กินจะหงุดหงิดมาก  เขาเลยได้แต่แง้มๆ  ประตูห้องเพื่อสอดส่องสถานการณ์  พอเห็นเสี่ยไม่อยู่ก็ใจชื้น  เดาว่าเสี่ยคงไปอาบน้ำบ้าง 

เขาที่ตัวอยู่ในห้องโผล่ออกไปแต่หัวก็เลยหดหัวกลับมา  เอาเสื้อผ้าที่ใส่เป้มาสะบัดๆ  แล้วแขวนใส่ตู้  เสื้อทำงานดูยับนิดๆ  เพราะเขาใส่เป้มาแบบรีบๆ  แต่ช่างเถอะ  เขาไม่ใช่คนเนี๊ยบมากใส่เสื้อยับไปทำงานก็ไม่เป็นไร

เขานั่งรอเสี่ยอยู่ในห้องจนเกือบตีหนึ่งพอมั่นใจว่าเสี่ยไม่เข้ามาแน่ๆก็ล้มตัวนอนบ้าง  ไอ้เขารึก็อุตส่าห์สร้างบรรยากาศเปิดไฟสีส้ม  แทนที่จะเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง  คนอย่างเขาจะสร้างบรรยากาศทั้งทีก็ได้แค่นี้แหละ  แถมเสี่ยก็ไม่ยอมบอกให้เขาเตรียมตัวล่วงหน้า  ไม่งั้นเขาจัดการเตรียมนวดน้ำมันหอมระเหยให้แล้ว  เห็นเขาแบบนี้แต่สมัยก่อนก็เป็นนักบอลนะเออ  เรื่องนวดคลายเส้นนี่เรื่องจิ๊บๆ  เพราะงั้นเสี่ยที่ไม่ยอมบอกเขาล่วงหน้านั่นแหละที่ผิด  ครั้งนี้เอาแค่ไฟส้มไปก่อนแล้วกัน  ไว้คราวหน้าถ้าเสี่ยมากเขาจะช่วยนวดให้  ส่วนเรื่องนาบก็เอาไว้ให้เสี่ยจัดการ  เขายอมนอนอยู่นิ่งๆ ให้เสี่ยหันเล่นอยู่แล้ว  ขอแค่ว่าเสี่ยอย่าเล่นหนักเกินจนเขาไปทำงานไม่รอดก็พอ 

แต่พอมาคิดอีกที  นั่นก็บริษัทเสี่ยอ่ะนะ  เสี่ยอยากใช้งานพนักงานหนักจนไปทำงานไม่ไหวก็เรื่องของเสี่ย  แต่เสี่ยต้องเซนต์ใบลาให้เขาด้วย  เขาไม่ยอมเดินขาถ่างไปทำงานเด็ดขาด  ไม่ยอมหยุดงานฟรีด้วย

รอจนเขาเคลิ้มๆ เหมือนใกล้จะหลับ  เสี่ยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินมาในห้องทั้งชุดคลุมอาบน้ำ  เขาที่ตาใกล้จะปิดเต็มทีเลยได้แต่นอนรอเสี่ยอยู่นิ่งๆ  อยากมาช้านักก็จัดการเองแล้วกัน  เขาพร้อมนอนรออยู่เฉยๆอยู่แล้ว  รอจนเสี่ยสอดตัวเข้ามาในผ้าห่มภายในห้องที่เย็นจัด  เขาที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มจนตัวอุ่นเลยยอมขยับตัวเขาไปใกล้  กะว่าจะเอาตัวไปแปะตัวเสี่ยที่เย็นๆ หลังจากอาบน้ำ  แต่ดันกลายเป็นว่าเสี่ยกลับตัวอุ่นพอๆ กับเขาซะงั้น  เขาละเซ็งเลย  กะว่าไปซุกตัวเอาความเย็นซะหน่อย  จะให้เอาตัวออกจากผ้าห่มก็หนาวเพราะเขาเปิดแอร์เย็นเจี๊ยบ  กะว่าถ้าต้องทำศึกจะได้ไม่ร้อนมาก

พอเสี่ยล้มตัวนอนจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว  เสี่ยก็ก้มลงมาจูบเขา  สอดลิ้นเข้ามาแตะจนเขาได้กลิ่นมินต์  รอจนเสี่ยพันลิ้นอย่างพอใจ  เขาก็ไต่มือไปข้างล่าง  บอกแล้ว  คนเคยค้า  ม้าเคยขี่  เพราะงั้นเขากับเสี่ยเลยไม่ต้องมีอารัมภบทแสดงความคิดถึงกันเยอะ  ใช้มือช่วยกันจนปลดปล่อยไปคนละหนึ่งรอบ  เขากับเสี่ยก็ผลัดกันไปล้างมือ   

ฮั่นแน่  แอบคาดหวังอะไรหื่นๆ  กันอยู่ล่ะสิ

ไม่มีทางหรอก  เพราะเขายังไม่ได้ผ่านการตรวจเชื้อ  แถมเสี่ยก็ยังเป็นพวกรักสะอาดแถมเซฟเซ็กซ์  เพราะงั้นเขากับเสี่ยเลยนอนกอดกันตัวกลมดิ๊กแทน  จะให้ไปเบาแอร์ก็ขี้เกียจเพราะวันนี้เขาเอาออกไปสองรอบแล้ว   เมื่อกี้หนึ่งรอบกับในห้องน้ำที่หอพักตอนอาบน้ำอีกหนึ่งรอบ  เพราะงั้นเขาที่เพลียจัดเลยอยากหลับเต็มที  แต่เสี่ยก็ยังย้ำให้รำคาญหูว่าพรุ่งนี้ไปตรวจเลือดด้วย  เขาเลยได้แต่งึมงึมขอใบลาจากเสี่ยซะเลย  กะว่าพรุ่งนี้จะตื่นสายๆ  แล้วค่อยไปตรวจเลือด   ซึ่งเสี่ยก็เป็นเจ้านายที่ดีมากกกก  บอกจะออกใบลาให้ครึ่งวัน  เขาที่นอนกอดเสี่ยอยู่ดีๆ  เลยสะบัดตัวออกหันก้นให้   

ใช่ซี้  เขามันแค่พนักงานบริษัทนี่  ไม่ใช่สุดรักสุดสวาทที่เสียเลือดนิดหน่อยก็ต้องไปทำงานต่อให้ได้  ลองเป็นคุณปุยฝ้ายสิ


จะว่าไป...  เขาก็รู้สึกผิดกับคุณปุยฝ้ายจริงๆ นะ  แต่ทำไงได้ล่ะ  ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว  และต่อให้ย้อนอดีตกลับไปได้เขาก็คงเลือกแบบเดิม  กับผู้หญิงที่แอบรัก...  กับคนที่เคยคุยกันไม่กี่คำ  เมื่อเทียบกับเสี่ย  เสี่ยต้องมีค่ามากกว่าอยู่แล้ว  แถมเสี่ยก็มีบุญคุณกับเขาด้วย  เพราะอย่างนั้น  ถึงทางที่เขาเลือกมันจะผิด  แต่เขาก็ตัดสินใจแล้ว  รอจนเสี่ยสบายใจเมื่อไหร่เขาก็จะกลับไปอยู่ที่เก่าเอง  ไม่ต้องอยู่รอจนเสี่ยไล่  เขารู้ว่าตัวเองสามารถเดินไปถึงจุดไหนได้บ้าง  และจะไม่เสียใจในสิ่งที่ทำลงไปเด็ดขาด







>>>> เริ่มมาม่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2017 13:14:55 โดย teatimes »

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
จะมาม่าจริงเหรอ
ดูเหมือนเสี่ยต้องการแค่เซ็ก
พะแพงก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไปได้เท่าไหร
ก็ขอให้แพงฮาๆแบบนี้ทั้งเรื่อง

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กลัวแพงหาทกลับไม่เจอนี่สิ
 :katai1:

อิเสี่ยยย ห้ามทำแพงเสียใจนะเว้ยย
แพงเสียสละตัวเองเพื่อเสี่ยขนาดไหน
หายไปเป็นปี กลับมาพูดสองคำ แพงก็ยอมหมดแล้ว
คือแพงดีมาก มองโลกในแง่ดีมาก พูดมาเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆไปหมด ทั้งๆที่มันไม่ใช่เลย

นังเสี่ยยย ปกติชั้นอวยแกมากนะ มาเจอตอนนี้ทำเอากลัวใจ ว่าแพงต้องอกเดาะ ช้ำรักไปนาน
ถ้ามีวันนั้นนะ ชั้นเอาแกตายยยย  :fire:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
" ซึ่งเสี่ยก็เป็นเสี่ยที่ดีมาก  บอกจะออกใบลาให้ครึ่งวัน  เขาที่นอนกอดเสี่ยอยู่ดีๆ  ก็สะบัดตัวออกหันก้นให้ "

5555555555555555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ขำพระแพงจัง
รอตอนต่อไปค่า :katai4: o13

ออฟไลน์ บันนีม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เหมือนจะดราม่าแต่พระแพงก็ไม่ดราม่ากับอะไรในชีวิตเล้ยยย นางดูคิดบวกกับทุกเรื่อง เป็นนายเอกที่ดูเป็นผู้ชายแมนๆทั่วไปแต่โคตรจะน่ารักตรงนี้แหละ  อีกอย่างเราว่าเสี่ยอาจจะรู้สึกชอบพระแพงนะ ใช่มั้ยเสี่ย สารภาพมาซะดีๆ เราสัมผัสได้

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อีเสี่ย  อย่าให้เปลี่ยนชื่อเป็น   อีเสี่ยว   :katai1:

ห้ามทำพะแพงร้องไห้นะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
หงุดหงิดใจกับอิเสี่ย พระแพงน่ารัก อย่าให้นางเสียใจ ไม่เอามาม่าได้มั้ย #กราบ  :mew6:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ฮา เพราะพระแพงเป็นคนคิดแง่บวก คิดอะไรที่ดูแล้วตลก วอนคนเขียนถ้าพาเข้าดราม่าแล้วขอให้จบสวย ๆ อย่าให้พระแพงขวัญใจพ่อยกแม่ยกแถวนี้ต้องเสียใจเป็นอันขาด ไม่งั้นไม่รับประกันว่าบ้านคนเขียนจะไม่บึ้ม ฮา

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เสี่ยมาแรงแซงโค้งจริงๆ :call: :mc4:

ออฟไลน์ joyey6217

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไปตรวจเลือด 55555. เวลคัมแบคสู่การเป็นเด็กเสี่ยจ้าพะแพง วงการวัวเคยค้า ม้าเคยขี่ ที่ไม่ต้องพูดเยอะ เน้นปฏิบัติิย่างเดียว เค้ารู้ใจกันเช่นเดิม. เพิ่มเติมคือ ยอมทุกอย่างด้วยความเต็มใจ กลับมาครานี้ก็ยังเจียมเนื้อเจียมตัวมักน้อยใฝ่สันโดษเหมือนเดิม คิดแต่จะตอบแทนบุญคุณเท่านั้นหรอ
 เสี่ยแกก็บทพูดน้อยเหมือนเดิมเลย เพิ่มเติมคือ เราว่าเสี่ยไม่ได้จัดคุณปุยฝ้าย วาง10 บาทตรงนี้เลย
 เรารอเสี่ยกลับมานานแสนนานแล้วค่ะ  ขำควาทคิดพะเเพงนางคิดมาก. คิดไม่หยุด คิดไปคนเดียว. แต่เน้นคิดบวก.มีแอบพิสูจน์กลิ่นด้วยนะ ตลก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เหมือนจะดราม่าแต่พระแพงก็ไม่ดราม่ากับอะไรในชีวิตเล้ยยย นางดูคิดบวกกับทุกเรื่อง เป็นนายเอกที่ดูเป็นผู้ชายแมนๆทั่วไปแต่โคตรจะน่ารักตรงนี้แหละ  อีกอย่างเราว่าเสี่ยอาจจะรู้สึกชอบพระแพงนะ ใช่มั้ยเสี่ย สารภาพมาซะดีๆ เราสัมผัสได้
เหมือนที่คิด
ว่าแต่พระแพงไม่ถามซักหน่อยเหรอ
เรื่องคุณปุยฝาย เรื่องแต่งงาน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านถึงตอนที่ไล่ไปตรวจเลือด เฮ้ย...เราชอบอ่ะ ความปลอดภัยต้องมาก่อน

เสี่ยขาาาาาา จะพูดแต่ละคำ ดอกพิกุลจะร่วง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ขอให้เจ๊ปุยแกได้กับพ่อเสี่ยด้วยเถอะ ปล่อยเสี่ยให้พระแพงไปดีกว่านะ

ออฟไลน์ engmtv

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถึงขนาดว่าสมัครยูสเซอร์เพื่อเข้ามาคอมเมนต์เลยทีเดียว นี่เป็นครั้งแรกของเราที่เข้ามาอ่านบอร์ดนี้ มาอ่านเรื่องของคุณนี่แหละ อ่านแล้วก็ติดถึงขนาดเสียการเสียงาน (ล้อเล่น) ขอรวบยอดคอมเมนต์ 10 ตอนเลยนะคะ บอกไว้ก่อนว่า คุณไม่ต้องเฉลยหรือตอบอะไรทั้งสิ้น เราแค่อยากเมนต์ให้กำลังใจคนเขียน เราสนุกที่คนเขียนไม่ฟันธงนะจ๊ะ


|POV|

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากบุรุษที่หนึ่งมองบุรุษที่สาม (งงไหม) ถือว่าทำได้ดีเลย เท่าที่สังเกตจากบล็อกของคุณแล้ว การเล่าแนวนี้เป็นแนวถนัดของคุณอ่ะเปล่า คุณเขียนมุมมองของนายพระแพงได้ไหลลื่น มีความเป็นผู้ชายไม่มากไปไม่น้อยไป เรารู้จักเสียงของเขา รู้จักโลกผ่านสายตาของเขา แต่ขณะเดียวกันเราก็รู้จักตัวละครคนอื่นได้อย่างชัดเจนผ่านสายตาของเขา ตรงนี้แหละเสน่ห์ เพราะว่าพระแพงไม่ได้ตัดสินตัวละครทุกตัว เขาไม่ได้ตัดสินใครเลยแม้แต่ตัวเอง เราเห็นความพยายามของคนเขียนที่จะถ่ายทอดเรื่องออกมาโดยไม่ตัดสินเรื่องศีลธรรม แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เน้นฉากเอาสนุก เราว่าแบบนี้ดีมากเลย ฉากเอ็นซีระหว่างคุณอธิปและนายพระแพงเหมือนเค้กหวานปะแล่มๆ ติดปลายลิ้น กินได้บ่อยๆ ไม่เลี่ยน และยังไร้เดียงสา เราคิดว่าแบบนี้อีโรติกอย่างมีศิลปะ เพราะคนอ่านได้ใช้จินตนาการส่วนบุคคล (ให้คนอ่านช่วยกันทำมาหากินบ้าง) คนอ่านจะเก่งเชื่อสิ

โดยส่วนตัว ถ้าเราจะไม่ได้อ่านมุมมองของคุณอธิป เราก็ไม่เดือดร้อนนะ เพราะเสียงของพระแพงมีเสน่ห์และความเข้มข้นของเรื่องมันอยู่ที่เราได้เดาความคิดของตัวละครอื่นๆ ผ่านเสียงที่ "ไม่ตัดสิน" ใครเลยของพระแพง แต่ก็นั่นละฮะท่านผู้ชม เราไม่ได้บอกว่าเสียงของพระแพงเชื่อถือได้ เดี๋ยวจะพูดต่อในหัวข้อตัวละครนะ


|ภาษา|

ภาษาเรียบง่าย เราชอบอ่านง่ายดี สะท้อนตัวตนของคนเล่าได้ดีนะ เขาเป็นคนง่ายๆ นี่แหละ สังเกตดูดีๆ ใจความที่เล่าจะถูกตัดทอนเป็นประโยคความเดียวสั้นๆ เหมือนค่อยๆ เปิดมุมไพ่ทีละนิดๆ แล้วค่อยรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนสมองปะติดปะต่อ มีสะกดผิดบ้างไม่ว่ากัน เราไม่ได้ยกมาเป็นคำๆ ถ้าคุณว่างๆ ค่อยมาแก้ก็ได้ ไม่ได้ร้ายแรง จากสำบัดสำนวนและมุมมอง เราว่าคุณน่าจะโตประมาณวัยมหาวิทยาลัยตอนปลายหรือไม่ก็ผ่านจุดนั้นมาแล้ว เพราะภาพชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยยังสดใหม่ (แต่ไม่ต้องตอบเราหรอก เราก็วิเคราะห์ไปตามเรื่อง เราสนุกที่ได้จินตนาการ)

|ตัวละคร|

ตัวละครหลักในเรื่องนี้มีอยู่ 2 ตัว ได้แก่ นายพระแพงและคุณอธิป แค่สองคนนี้เราก็พอใจละ เราจากมุมมองบุรุษที่หนึ่งก็จริง แต่ตัวละครไม่ได้แบนเลย กลับลึกและสมจริงในหลายแง่มุม เราแยกเป็นรายตัวนะ

คุณอธิป - ผู้ชายวัยปลายสามสิบถึงสี่สิบปริศนา เขารักสะอาด ปากหนัก มือหนัก กระเป๋าหนัก เขามีระเบียบและมีวินัยในตัวเอง เห็นได้จากรูปร่างและความอึด ต้องดูแลและออกกำลังกายนะคะ วัยขนาดนี้แล้วซื้อหาไม่ได้ค่ะต้องทำเอง เราวิเคราะห์จากการเล่าของนายพระแพง เขาคนนี้ไม่เชื่อในความรักแต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดกับตัวเองได้ ถ้าเขาเทิดทูนและไขว่คว้าความรักอย่างเต็มกำลัง เขาคงไม่ได้มามีเด็กเลี้ยงหรอก ดูเหมือนจะมีเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่สามารถคบหาผู้ชายได้อย่างออกหน้าออกตาหรือไม่ก็เหนื่อยหน่ายที่จะหาตัวจริง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะได้โรคจากเพศสัมพันธ์หรือกอดซ้ำรอยใคร นี่เป็นข้อหนึ่งที่เรารู้แน่ว่า คุณอธิปเป็นคนสุขุมรอบคอบและนับถือความซื่อสัตย์เอามากๆ บทลงโทษนั้นรึก็เด็ดขาด ถ้าคุณอธิปใจร้อนมักมากในกาม ป่านนี้คงไม่เลี้ยงเด็กซื้อมั่วไปเรื่อยๆ และไม่รอให้นายพระแพงไปตรวจเลือดหรอก

เราหัวใจสลายเลยอ่ะตอนที่เห็นว่าคุณอธิปไปซื้อสร้อยเพชรให้นายพระแพงเป็น "ของสั่งลา" ถ้าเป็นเสี่ยเป็นป๋าทั่วไป จะเลือกซื้อสร้อยทองให้เด็กเลี้ยงกี่เส้นก็ได้ เอากี่สิบบาทละ ขายอย่างไรก็ไม่ขาดทุน แต่เด็กเลี้ยงที่หวังเงินเขาไม่ใส่กันหรอกนะ เขาเอาไปขายสิจ๊ะ แต่นี่คุณอธิปเลือกสร้อยเพชร นักธุรกิจที่โชกโชนขนาดนั้น เลือกสร้อยเพชรที่เอาไปขายราคาก็ตก แถมไม่มีใบรับรองก็ตกอีก เขาจ่ายเงินเพื่อความหมายของเพชรโดยแท้ และที่สำคัญ เขาอยากให้เด็กเลี้ยงของเขาใส่ แล้วสร้อยนั้นนายพระแพงไม่ได้ขอ มันถึงมีค่ามากในแง่สัญลักษณ์

ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้คุณอธิปต้องตาต้องใจนายพระแพง เราเดาว่าจะซ่อนอยู่ในจุดบอดของการเล่าเรื่องแบบบุรุษที่หนึ่งนี่แหละ เราไม่รู้ว่านายพระแพงทำหน้าตาแบบไหนหรือมีกิริยาอย่างไร เราเห็นเท่าที่นายพระแพงเห็น ซึ่งคุณอธิปจะไปเห็นหรือรู้อะไรมามากกว่านั้น เราไม่รู้ไง (555) แต่นี่แหละเสน่ห์

นายพระแพง - เด็กหนุ่มเรียนดีที่ทำงานนอกลู่นอกทางเพื่อช่วยเหลือที่บ้าน ถือว่านายเขามีพื้นฐานความคิดและความอบอุ่นในครอบครัวมากอยู่ และไม่ยึดติด การที่ตัวเองบริสุทธิ์แต่กล้าไปเป็นเด็กเลี้ยงของคนแปลกหน้าได้ ต้องมีความกล้าแปลกๆ หรือลูกบ้าอยู่สมควร แม้ว่าพระแพงจะเรียนดีเรียนเก่ง แต่กลับไม่ได้ยึดอยู่กับศีลธรรมที่สังคมกำหนด แต่เขาเลือกสถาบันพื้นฐานของตัวเองนั่นคือครอบครัว เรารู้สึกว่าเขาฉลาดด้วยซ้ำนะที่เลือกเป็นเด็กเลี้ยง คือเสียตัวให้เพียงคนเดียวและปลอดภัยไว้ใจได้จากคนที่เขาไว้ใจ ถ้าพระแพงเลือกจะทำไซด์ไลน์เองก็เสี่ยงกับโรคเสี่ยงกับความประหลาดของแขกไง แล้วกว่าจะได้เงินขนาดนั้นคงช้ำในตายก่อน เราไม่ได้เชียร์ว่าการเป็นเด็กเลี้ยงคือทางออกที่ดีที่สุด แต่เป็นทางที่พระแพงจะเสี่ยงน้อยที่สุดถ้าต้องออกนอกกรอบศีลธรรม เรื่องนี้สมจริงก็ตรงนี้ละ ในสังคมเรามันก็มีอยู่จริงๆ ต่อให้ปิดตากี่ข้างก็เห็นว่ามี เหตุผลที่เขาทำงานตรงนี้ก็แตกต่างกันไป พอละๆ เขียนเดี๋ยวกลายเป็นเรื่องเครียด (555) เบรกตัวเองก่อน

พระแพงเลือกจะหยุดทำงานนี้และสวมสร้อยของคุณอธิปไว้ ถึงจะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่เราว่านี่แหละการตกหลุมรักของพระแพง คือการยอมรับในระดับหนึ่งนะ ไม่อย่างนั้นจะเอาไปขายทิ้งก็ได้ จะเอาไปจีบสาวหรือหาความสุขอะไรก็ได้ หรือยังไม่สบโอกาสเหมาะจะได้ใช้ก็ยังไม่รู้นะ (555) นั่นครั้งแรกของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเลยนะ มันคือรอยประทับแรกฝังใจไม่รู้ลืม ต่อไปไม่ว่านายพระแพงจะมีเซ็กซ์กับใคร ผู้ชายหรือผู้หญิง ด้วยรักหรือไม่รัก เขาจะไม่มีวันลืมลีลาของคนแรก และมันจะกลายเป็นบรรทัดฐานของความสุขสมไปตลอดชีวิต ไม่ว่านายพระแพงจะรู้ตัวหรือไม่ อิอิ

กลับมาที่การเล่าเรื่องของพระแพง เราอาจมองเห็นเขามองโลกในแง่ดี แต่เราว่านั่นมาจากการที่เขาเลือกจะไม่ใส่ใจ หรือเอาเรื่องผ่านมาแล้วมาใส่ใจให้เป็นทุกข์ ซึ่งบางครั้ง เราจะพลาดรายละเอียดบางอย่างไป หรือการเล่าเรื่องของพระแพงอาจไม่น่าเชื่อถือ ทุกอย่างจะดูดีกว่าความเป็นจริง ทุกอย่างจะร่าเริงกว่าความเป็นจริง ขึ้นอยู่กับว่าพระแพงจะเลือกมองอะไร ตัวอย่างเช่น ตอนก่อนที่พระแพงชอบคุณปุยฝ้าย เขารู้ตัวว่าตอนที่เป็นเด็กเลี้ยงเป็นเรื่องผิด บอกใครที่บ้านไม่ได้ บอกเพื่อนไม่ได้ พอเลิกทำคือโล่งอก แต่ตอนนี้ พระแพงกลับไปที่คอนโดของคุณอธิปโดยไม่ได้ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า (อิทธิฤทธิ์สร้อยเพชรสินะ)  แม้พระแพงจะให้เหตุผลว่า "ของเคยๆ" แต่เชื่อเราเถอะ ถ้าไม่ได้มีความสิเน่หาอยู่เป็นเชื้อไฟ พระแพงไม่ต้องไปก็ได้ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง แต่แค่พระแพงเลือกจะไม่เล่าความรู้สึกภายใต้ฉากหน้าของอารมณ์ขัน หรือพระแพงเลือกจะไม่ยอมรับความรู้สึกนี้ก็ไม่รู้สินะ

เราจะไม่เดาเรื่องต่อจากนี้ รออ่านอย่างสงบเสงี่ยมนะเจ้าคะ แต่อยากให้รู้ไว้ว่ามีคนอ่านคนหนึ่งอ่านงานคุณอย่างตั้งใจและลุ้นด้วย ที่คุณตั้งใจเขียนมา เราเห็นนะ ขอบคุณค่ะ

ปล. ตามไปอ่านเว็บของคุณมาด้วยล่ะ อุอิ =)

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เสี่ยมีบทพูดแล้ว 2 ประโยค 5555

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
พ่อคุณ กลัวดอกพิกุลร่วงหรือไร
ทำไมพูดน้อยขนาดนี้
พะแพงนี่ก็เป็นเด็กคิดอะไรในหัวเยอะมาก เลยรู้สึกว่าเสี่ยไม่พูดก็ไม่เป็ฯไร
ยังไงหัวก็คิดไปได้เรื่อยๆสินะ

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
ตอนที่  11




ถึงจะบอกว่าอยากตื่นสาย  แต่เอาเข้าจริงพอเสี่ยขยับตัวเขาตื่นอยู่ดี  เขาเหลือบดูนาฬิกาในมือถือ  พอเห็นว่าเจ็ดโมงก็คิดว่าเป็นเวลาที่พอรับได้  ถ้าเสี่ยเล่นตื่นตั้งแต่หกโมงนะ  เขาจะนอนต่อปล่อยเสี่ยไปตามยถากรรมนั่นแหละ  ดีที่เสี่ยตื่นเจ็ดโมงเช้า  เขาที่ตื่นราวๆ นี้พอดีก็ถือว่าพอรับได้  พอเปิดตามาก็นั่งหาว  บิดซ้ายบิดขวาพลางปลอบน้องชายที่ตื่นตัวตอนเช้า 
   
แหม  ก็เขายังเป็นวัยรุ่น  ตื่นมาเคารพธงชาติทั้งที่เพิ่งเอาออกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก  แต่ของเสี่ยนี่สิ...  เขาเหลือบตามองเสี่ยที่ยังดูงัวเงียเล็กน้อยก่อนเหล่ไปที่ส่วนล่าง  แต่ไม่รู้เพราะผ้าห่มมันหนาหรือยังไง  เขาเลยเดาไม่ออกว่ามันหดหรือว่าถูกผ้าห่มกดไว้  ไอ้ครั้นจะเอื้อมไปจับก็ไม่อยากเหนื่อยตั้งแต่เช้า  ถึงเอาออกมันจะสบายกว่าแต่เขาเพิ่งเอาออกไปเมื่อวาน  ขืนเอาออกอีกรอบน้องชายเขาได้เหี่ยวตายพอดี  
   
ยังดีที่เสี่ยนั่งนิ่ง(สงสัยเพิ่งตื่นเลยยังไม่มีมาด)  เขาเลยค่อยๆ หย่อนตัวเอาเท้าแตะพื้น  ค่อยๆ เดินทางห้องน้ำทั้งที่ไม่เอ่ยคำว่าอรุณสวัสดิ์   จะให้เปิดปากทำด๋อยอะไรล่ะ  เขาไม่ใช่นายแบบโฆษณายาสีฟันนะที่ตื่นมาจะได้มีลมหายใจหอมสดชื่น  ส่วนของเสี่ย...  ช่างเถอะ  เขาไม่อยากจูบปากเสี่ยตอนเช้าให้เสี่ยหมดอารมณ์  เพราะงั้นเขาไปอาบน้ำแปรงฟันเตรียมตัวกินข้าวเช้าดีกว่า  เมื่อคืนสุดท้ายก็ไม่ได้ออกไปเซเว่น  หิวจะตายอยู่แล้ว

   
หลังจากอาบน้ำแต่งตัว  เขาที่แต่งหล่อจนเสร็จก็ออกมานอกห้อง  เสี่ยที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอเขาอยู่ที่โต๊ะ  เขาเคยผ่านมื้อเช้ากับเสี่ยมาบ้างเลยไม่เกร็งมาก  ปล่อยเสี่ยชงกาแฟไป  ส่วนเขาก็เอาแยมมาทาขนมปังพร้อมกับดื่มนมหนึ่งแก้ว  พอเขาจัดการขนมปังกับนมเสร็จ  ก็หันมาฟาดอาหารเช้าต่อ
   
 มื้อนี้เป็นอาหารอเมริกัน  เบรคฟาสท์  แบบฟูลเซต  ซึ่งการจัดจานก็สมกับที่เสี่ยเป็นเสี่ยเลี้ยงเกรด A +  อาหารทุกอย่างมีครบเพียงพอกับคนกระเพาะครากอย่างเขา  พอกินเสร็จเขากับเสี่ยก็พูดคุยกันบ้าง  ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงาน  อาจเป็นเพราะตอนนี้เขาทำงานแล้ว  แถมยังทำงานในบริษัทเสี่ย  เราเลยมีเรื่องคุยกันมากขึ้น  เขาเองก็บ่นๆ เรื่องตัวเลขที่กรอกไปกรอกมาแต่ก็ไม่ยอมตรง  เสี่ยก็ฟังเขาบ่นไปก่อนแนะนำออกมาบ้าง  

   
เอาจริงๆนะ  ชีวิตเขากับเสี่ยตอนนี้เหมือนคู่แต่งงานที่ผ่านการแต่งงานมานานแล้ว  ความหวานจับจิตไม่มี  มีแต่ความเข้าใจกันบ้าง  ถึงจะไม่มากแต่ก็พอรับรู้ได้  คือมันให้อารมณ์เหมือนคนมีชีวิตคู่ที่ลงตัวแล้วแต่ไม่จืดชืด  พอมีปัญหาก็มีคนรับฟังและช่วยกันแก้   ไม่มีหรอกความหวานช่ำแบบช่วงโปรโมชั่น  คงเพราะมันผ่านมาหนึ่งปีแล้ว  และช่วงสี่เดือนที่เขาเป็นเด็กเลี้ยงนั่นจะเรียกว่าช่วงโปรโมชั่นก็ไม่ผิด  เพราะเสี่ยจัดหนักจัดเต็มตลอด

   
หลังจากกินข้าวเสร็จ  เขาก็ไปแปรงฟันอีกหนึ่งรอบ  ก่อนจะออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเป้เพื่อออกไปทำงาน  เสี่ยที่รออยู่แล้วก็กวักมือเรียกเขาเข้าไปใกล้  ยื่นกุญแจกับคีย์การ์ดอันสำรองไว้ให้เขาถือติดตัว  เขาที่กำลังจะรับของก็เตรียมยกมือไหว้ตามธรรมเนียม  แต่เสี่ยนี่สิ  ตวัดตามองมือเขาฉับ  เขาเลยได้แต่วางมือลง  แล้วเปลี่ยนเป็นแบมือขอแทน  

   
โถ  พ่อคนสูงอายุ  ไหว้นิดไหว้หน่อยทำเป็นใจน้อย  เขาไม่ได้ตั้งใจด่าเสี่ยว่าแก่ซักหน่อย  แค่ไหว้ตามมารยาท  แต่ในเมื่อเสี่ยไม่ชอบ  เขาก็จะจำใส่สมอง  กาดอกจันตัวใหญ่ๆ ไว้ในใจว่าเสี่ยเกลียดความแก่

   
พอนาฬิกาตีถึงเลขแปดปุ๊บ  เขากับเสี่ยที่พร้อมแล้วก็เตรียมตัวเดินออกจากห้อง  ตอนแรกเขาก็นึกว่าเสี่ยจะนั่งรถตู้ไปทำงานแบบตอนขามา  แต่พอเห็นเสี่ยเดิน  เขาก็ตามเสี่ยต้อยๆ  คิดว่าเสี่ยคงอยากเดินย่อยหลังกินอาหารเช้า   แต่พอเดินไปเดินมาซักพัก  เขาก็เริ่มสังเกตว่าตามข้างทางมันดูคุ้นๆ  หันซ้าย  หันขวาอยู่ไม่นาน  พอเห็นตึกบริษัทอยู่ตรงหน้า  เขาก็ถึงบางอ้อ  เสี่ยแ_ร่ง  เล่นง่ายมาก  เล่นซื้อคอนโดไว้ใกล้ตึกทำงาน  มิน่าล่ะ  บางทีเสี่ยก็ค้าง  บางที่ก็ไม่ค้าง  บางทีก็มาดึกๆ  ทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนเสื้อ  ที่แท้ก็เดินมาจากตึกนี่เอง  เล่นง่ายดีเนอะ

แต่ก็ดี   เพราะการเดินก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปด้วย  แถมตอนนี้แปดโมงก็ยังไม่ใช่ช่วงที่ร้อนมาก  เขาเลยพอเดินได้  แถมระหว่างทางก็มีเงาตึกบังแดดมาตลอด  ส่วนเรื่องที่เขาเดินมากับท่านประธานก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะผิดสังเกต  เพราะแต่ละคนจ้องแต่สวัสดีเสี่ยกันทั้งนั้น  เขาที่เดินตามหลังต้อยๆ   เป็นลูกเป็ดเลยไม่มีใครสนใจ  พอถึงบริเวณที่ตอกบัตร  เสี่ยก็กำชับว่าให้ไปตรวจเลือดด้วย 
   
ฮ่วย  ย้ำจริง  กลัวไม่ได้กินตับเด็กหรือไงวะ  แต่มีหรือที่เขาจะปฏิเสธได้  เขาเลยหน้าด้านขอหยุดงานครึ่งวันบ่ายเสียเลย  ซึ่งเสี่ยก็ดีมากกกกก  นิ่งคิดอยู่สิบวิก่อนบอกว่าให้กลับมาตอกบัตรตอนห้าโมงด้วย  โอเค  อันนี้เขาจะคิดว่าเสี่ยรักษาผลประโยชน์ให้ก็เขาแล้วกัน  ออกงานบ่ายโมงกลับมาตอกบัตรอีกครั้งตอนห้าโมงถือว่าทำงานครบ  ดังนั้นเขาเลยตั้งใจทำงานแบบอารมณ์ดี๊ดี  เตรียมหาข้ออ้างเหมาะๆ เอาไว้แล้ว ว่าลุงจะมาเยี่ยม

หัวหน้าที่รู้เรื่องเล่าสุดรันทน(?) ของเขากับลุงก็ปล่อยให้เขากลับไปง่ายๆ  แต่ก็ยังไม่ลืมย้ำเหมือนเสี่ยว่าให้กลับมาตอกบัตรด้วย  เขาที่มีคนเข้าข้างเลยยิ่งอารมณ์ดี  นั่งทำงานถึงเที่ยงก่อนไปกินข้าวกับไอ้ขิมแล้วก็ไอ้รุตแล้วหาทางชิ่ง

อ่อ  พูดถึงหัวหน้า  เขาคงยังไม่ได้แนะนำหัวหน้าแบบจริงๆ  จังๆ  เลยสินะ  หัวหน้าแผนกของเขาชื่อพี่ศุภณัฐ   เป็นคนตัวเล็กแต่ผิวขาวมาก  บางทีก็ใส่แว่นสายตา  บางทีก็ไม่ใส่แว่น คุ้นๆ เหมือนกับว่าเป็นญาติที่ห่างมากกับท่านประธาน...  กับเสี่ยนั่นแหละ  แต่ออกแนวความสัมพันธ์แบบลูกพี่ลูกน้อง  ประมาณว่าเป็นลูกของพี่หรือน้องสาวฝั่งแม่  แต่หัวหน้าแผนกก็ออกจะเกรงๆ ท่านประธานหรือเสี่ยอยู่นิดๆ  เพราะเห็นพูดถึงเสี่ยทีไรเหงื่อตกทุกที

แน่นอนว่าคนที่คาบข่าวมาบอกจะเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้รุต  ฝรั่งตาน้ำข้าวที่ช่างจ้อยิ่งกว่าคนไทย  แถมตอนนี้มันก็สนิทกับหัวหน้าแผนกมาก  เวลาเดินด้วยกันทียิ่งเหมือนพี่กับน้อง  เพราะหัวหน้าแผนกตัวค่อนข้างเล็ก  ส่วนไอ้รุตนี่ตัวควายพอๆ กับเขาแต่ขาวกว่าเยอะ  เพราะงั้นเวลาสองคนนี้เดินคู่กันเลยกลายเป็นขาวโอโม่  พอมีเขาเข้าไปเดินแทรกก็กลายเป็นทางม้าลาย  นี่ถ้ามีไอ้ขิมอีกคน  มันก็กลายเป็นหลักกิโลพอดี...  แค่กๆๆ  อย่าไปบอกไอ้ขิมนะ  เดี๋ยวเขาโดนมันกระทืบบวกกับโดนล้มทับ

รอจนถึงบ่ายโมงเขาก็ลั้นลาออกไปตรวจเลือด  ก่อนจะโฉบไปที่สยามในวันธรรมดาอย่างที่ไม่ได้ไปมานานแล้ว  เดินดูนั่นดูนี่ซื้อข้าวของบ้าง  เดินเสร็จก็นั่งดื่มกาแฟรอฟังผลเลือด  คลินิกที่เขาไปตรวจเป็นคลินิกที่ไม่ใหญ่มากแต่ก็มีมาตรฐานพอใช้ได้  ตอนแรกเขาก็กะไปตรวจที่โรงพยาบาลแต่กลัวคนเยอะ  เลยตัดสินใจเลือกไปตรวจกับคลินิกเอกชนแทน  ระหว่างรอผลเลือดที่ทางคลินิกจะโทรมาบอกผลทางโทรศัพท์  กับส่งเมลและจดหมายตามมาให้ 

เขาที่นั่งหล่ออยู่ในร้านกาแฟก็ส่องสาวบ้าง  เล่นเฟสบุ๊คบ้าง  อัพเดทข่าวสารจนได้ความว่าเจ้าแม่ท้องแล้ว  ท้องก่อนแต่งซะด้วย  แต่ก็ไม่มีใครมีดราม่าท้องก่อนแต่งอย่างที่คิด  มีแต่คนยินดีและอิจฉาจนออกนอกหน้าเพราะพี่ฝรั่งแกหล่อมาก  ตาเขียวใสมาเชียว  ไอ้ตอนที่เขาฝึกงานอยู่ก็ไม่ทันได้สังเกตว่าพี่แกหล่อขนาดนี้  มิน่าล่ะเจ้าแม่ถึงตกหลุมพรางได้ง่ายๆ  แถมพี่แกก็ดูเป็นคนซื่อ  ดูได้จากรูปถ่ายของทั้งคู่ที่กำลังอวดผลการตั้งครรภ์  พี่ฝรั่งแกก็ดูมีความสุขมากเพราะพี่แกยิ้มไม่หุบอยู่หลายรูป  ส่วนเรื่องการแต่งงานก็มีแพลนแบบคร่าวๆ ว่าคงจัดงานไม่ใหญ่มาก  ชวนแต่คนสนิทกับทำตามธรรมเนียมยกขันหมากกับทำพิธีช่วงเช้า  ส่วนงานเลี้ยงเห็นว่าค่อยจัดอีกที  เพราะต้องขึ้นเครื่องไปจัดงานแต่งต่อที่เมืองนอก

อ่านมาถึงตรงนี้เขาก็อิจฉาอยู่นิดๆ  เขาเองก็อยากแต่งงานบ้าง  มีเจ้าสาว  มีลูกตัวเล็กๆ  เป็นความฝันสูงสุดของเขาเลย  อาจเป็นเพราะเขาค่อนข้างติดแม่  เขาเลยอยากมีลูกอยากแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก   
   
แม่เลี้ยงเขามาตั้งแต่จำความได้  ส่วนพ่อนี่แต่งงานมีลูกกับเมียใหม่ไปนานแล้ว  ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ตอนงานวันเผาของแม่มั้ง  เขาที่ไม่สนิทกับพ่อมากก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์  ส่วนเมียใหม่พ่อ  พ่อก็ไม่ได้พาด้วย  ซึ่งก็ดีแล้ว  เพราะคงไม่มีใครอยากเห็นเมียใหม่พ่อหรอก  คนที่มางานศพก็แต่ญาติฝั่งแม่กันทั้งนั้น  อีกอย่างถ้าเอามาเดี๋ยวก็เกิดเรื่องให้นินทาจนลำบากคนตายเปล่าๆ  เขาไม่อยากให้แม่ที่หลับอยู่ในโลงต้องคิดมาก  เพราะงั้นพ่อไม่พาแม่ใหม่มาแหละดีแล้ว  เขาไม่ซีเรียส

อืมม  อาจเป็นเพราะเขานิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เด็กล่ะมั้ง  เป็นพวกคิดมากแต่ก็มองโลกในแง่ดี  มีอะไรก็ไม่ค่อยใส่ใจมาก  ได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไป  แล้วก็ลืมตามกาลเวลา


เขานั่งตะแล็ดแต๊ดแต๋รอจนถึงเวลาที่ห้องแล็บโทรมาบอกผลว่า  ผลเลือดของเขาออกมาเป็นเลือดบวก...  B RH+  กลุ่มเลือดตามมาตรฐานส่วนใหญ่ของคนไทย  ก็บอกมาให้หมดตั้งแต่แรกสิวะ  พูดอมพะนำจนเขาคิดมากไปได้ 
   
สรุปคือเลือดเขาแข็งแรงดี  สีสันสดใส  รูปร่างใช้ได้  ถุย  สรุปคือร่างกายเขาแข็งแรงมาก  ไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  ส่วนเชื้อ  HIV  ยังต้องรอผลอีกนิด  แต่ในเบื้องต้นถือว่าเขาสะอาดมาก  เพราะงั้นเขาที่ได้ผลแล็บทางเมลล์แล้วก็แคปรูปทางหน้าจอ  ส่งไลน์บอกผลโดยตรงไปถึงเสี่ย  ซึ่งเสี่ยเองก็มีไลน์ด้วย  เขานึกว่าแก่ๆ  แค่กๆ  หมายถึงคนอย่างเสี่ยจะไม่เล่นไลน์ซะอีก  แต่เสี่ยจะเล่นไลน์ก็ไม่แปลกหรอก  เพราะขนาดลุงเขาที่อายุมากกว่าเสี่ยยังมีไลน์เลย  ไลน์มาบอกวันพระทุกสัปดาห์  วันไหนที่เขาไม่ขี้เกียจก็ตื่นมาตักบาตรบ้าง  วันไหนขี้เกียจก็ทำลืมๆ ไป

รอจนถึงสี่โมงกว่าๆ เขาก็กลับไปตอกบัตร  แบกข้าว  แบกน้ำไปแบ่งในคนที่ยังทำงานอยู่ในออฟฟิศ  ซึ่งก็ไม่พ้นไอ้ขิม  รุต  กับหัวหน้า  และรุ่นพี่ในแผนกอีกสองสามคนที่ชอบเลิกงานช้า  เขาตั้งไก่  KFC  พร้อมกับน้ำไว้ให้แบบครบเซต  กะเอามาเป็นค่าปิดปากที่เขาแอบหนีไปเที่ยว  ซึ่งก็ได้ผลดีมาก  เพราะไอ้ขิมคว้าเรียบเกือบหมดไปครึ่งกล่อง  หัวหน้าแผนกนั่งแทะไก่ไม่มีกระดูกเล่น  ส่วนไอ้รุตก็วิพากษ์วิจารณ์รสชาติ  KFC  ของไทย  บอกว่าไก่ที่ไทยนี่แซบมากๆ  ที่เมืองนอกหากินไม่ได้   ดีที่มันฉลาดพูด  ไม่งั้นเขาจะเอากระดูก  KFC  ไก่ไทยฟาดปากมัน 

ส่วนรุ่นพี่อีกสองสามคนเขาไม่สนิทมาก  พี่แกเลยมาคุยเล่นด้วยแค่สองสามคำ  ก่อนจะขอน้ำไปคนละแก้ว  พี่สองคนนี้เขาจำชื่อได้  ชื่อพี่เดือน  กับพี่นาฎ  เป็นเลขาส่วนตัวของหัวหน้าแผนกกับผู้ช่วยงานจิปาถะอีกที  อย่างที่บอก  บริษัทที่เขาทำงานถือว่าเป็นบริษัทใหญ่มาก  เพราะงั้นพี่ณัฐที่เป็นหัวหน้าแผนกเลยต้องมีผู้ช่วยกับเลขาด้วย  ส่วนพี่อีกคนเป็นพี่ผู้ชายที่เขาไม่สนิทมาก  แต่ก็พอคุยกันได้เพราะพี่แกอยู่มานานและอยู่ในแผนกเดียวกัน

รอจนถึงห้าโมงครึ่ง  เขาก็ออกไปตอกบัตรพร้อมกับคนอื่นๆ ในห้อง  หอบเอกสารที่ต้องทำต่อกลับมาด้วย  เอกสารชุดนี้เป็นตัวเลขทางการเงินที่เขาคำนวณยังไงก็ไม่ลงตัวซักทีเลยกะจะเอาไปให้เสี่ยช่วย   อะไร  คนเป็นเจ้าของบริษัทก็ต้องช่วยเหลือลูกน้องสิ  จะให้เขาส่งงานชุ่ยๆ  ไปหรือไง  เสียหมา...  เอ๊ย  เสียชื่อเสียงคณะหมด  นี่บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งนะครับ  ดูดีๆ  ถึงหนังหน้าจะไม่ให้  แต่ก็มีสมองนะ 

ดังนั้นพอเลิกงานเขาก็กลับห้องที่หอพัก  หอบโน้ตบุ๊คกับข้าวของเครื่องใช้ที่เมื่อวานไม่ได้ขนกลับไปคอนโดเสี่ยด้วย  ตอนที่เขาไปถึงหอน่ะนะ  ประตูหน้าหอก็ยังเปิดอ้าอยู่แบบเดิม  ช่างเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ห่วยแตกมาก  นี่ถ้าเขามีน้องสาวเขาไม่ยอมให้น้องมาอยู่แบบเด็ดๆ  โชคดีนะที่เขาเป็นลูกโทน  เขาเลยไม่ต้องห่วงมาก  แต่ถ้าพี่ต้นอ้อมาค้างเขาคงต้องคิดดูดีๆ อีกที

เขาเดินผ่านประตูมาได้ก็ขึ้นบันไดเดินไปจนถึงห้องพัก  ไขกุญแจ  เก็บข้าวของกับเอาคีย์การ์ดที่ลืมไว้ใส่กระเป๋าเดินทางออกมาด้วย  สองจิตสองใจอยู่ว่าจะเอามือถือเก่ากับกล่องเพชรที่เสี่ยให้ออกมาด้วยดีไหม  เขาเป็นพวกผูกพันง่าย  แต่ตัดใจให้ขาดยาก  มือถือ...ถึงจะไม่ได้ใช้  แต่เขาก็ใช้งานมานาน  จะให้มันนอนแกร่วอยู่ในลิ้นชักก็น่าสงสารแย่  สรุปคือเขาต้องขนพวกมันกลับมาด้วย
 
พอถึงคอนโดเสี่ย  เขาก็จัดของแล้วอาบน้ำ  ขัดนอกขัดในจนสะอาด  ก่อนจะออกมากินข้าวที่มีตั้งไว้อยู่บนโต๊ะ  นี่ถ้าเสี่ยคิดเลี้ยงเขาด้วยของกินนะ  เสี่ยคิดถูกมาก  เพราะเขาฟาดเรียบ  ชนิดที่ว่าแทะก้างปลาได้เขาแทะไปแล้ว  พอกินอิ่มจนตัวจะเป็นหมีก็มีคนมาเก็บจานให้  ชีวิตเด็กเลี้ยงนี่สบ๊ายสบาย  ไม่ต้องปัดกวาดเช็ดถูหรือล้างจานเอง


หลังจากกินข้าวเสร็จ  เขานั่งทำงานต่อกับโน้ตบุ๊คที่ซิงค์ข้อมูลกับคอมบริษัทไว้  แต่ใส่ตัวเลขลงไปยังไงก็คำนวณไม่ลงตัวซักที  ถามว่าผิดตรงไหนเขาก็ไม่รู้  เพราะข้อมูลที่เขาได้มันเป็นข้อมูลดิบที่ได้มาอีกทอด   เขาคิดไปคิดมา  เขาก็ถ่ายรูปส่วนที่สงสัยส่งไปให้เสี่ยผ่านทางไลน์  แต่รูปมันไม่ค่อยชัด  เสี่ยเลยสั่งให้เขาถ่ายรูปจากตัวเอกสารไปให้  เขาเลยส่งไปให้หมดตามที่เสี่ยสั่ง  ส่งเสร็จก็นอนตีพุงเล่น 

โยนปัญหาไปให้เจ้านายเสร็จแล้ว  เขาก็เล่นมือถือต่อทันที  เห็นเสี่ยส่งไลน์มาแวบๆ  ว่าวันนี้จะไม่เข้ามา  เขาเลยดูหนังสลับกับนอนเล่นฆ่าเวลา  พอสี่ห้าทุ่มก็เตรียมตัวเข้านอน  ลองเสี่ยส่งไลน์มาแบบนี้แสดงว่าเขาฟรีแล้ว  เพราะงั้นเขาก็เลยหลับตั้งแต่หัววัน  ไม่รู้หรอกว่าใครมาทำอะไรกับคอมตัวเองบ้าง 

ตื่นมาอีกทีก็เห็นจอมันสว่างรออยู่แล้ว  มองดูตัวเลขที่กรอกไว้แล้วก็เห็นตัวเลขเปลี่ยนไปนิดๆ  จะเอาเอกสารมาเทียบเอกสารก็ไม่อยู่  พอโทรไปถามเสี่ยๆ  ก็บอกว่าเป็นคนเอาเอกสารออกไปตอนนี้กลับออกมาทำงานแล้ว 

เขาที่เพิ่งตื่นเลยไม่คิดมาก  ถามสองสามคำว่าเลขมีปัญหาไหม  เสี่ยก็บอกไม่มีปัญหาอะไรมาก  เสี่ยแก้ให้หมดแล้ว  แหม  ท่านประธานช่างเป็นคนดี๊คนดี  มาช่วยงานพนักงานอย่างนี้  เขารักตายเลย




>>>  ได้อ่านทุกคอมเมนท์แล้วนะคะ  ดีใจมากเลยที่ทุกคนชอบเด็กเลี้ยง  ขอบคุณทุกคนที่มาเมนท์นะคะ  >///<
>>>> เรื่องท่านประธานกับคุณปุยฝ้าย...  ขออุบอิ๊บไว้  เขากินตับกันจริงไหมน๊าาา  << แลดูนิสัยเสีย  5555

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2017 13:19:10 โดย teatimes »

ออฟไลน์ joyey6217

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ชอบความเรื่อยๆของเนื้อหา เหมือนเรากำลังตามติดชีวิตพระแพง มันเลยคล้ายๆว่าจะรู้จักกัน. และเริ่มผูกพันธ์ เอ็นดูนายพระแพงคนนี้ขึ้นมา
แหม่ะ ชีวิตดีนะยะ นายเด็กเลี้ยง
เสี่ยแกชอบใจพระแพงนะเนี่ย ขนาดพูดน้อยแต่แกก็ใส่ใจพระแพงนะ. ให้คำแนะนำและคอยย้ำให้ไปตรวจเลือด 5555 กลัวไม่ได้กินตับเด็ก
เสี่ยกับพระแพงก็ดูใช้ชีวิตร่วมกันแบบลงตัวดีนะ เหมือนที่บอกนั่นแหล่ะว่าเหมือนคู่แต่งงานที่แต่งกันมานาน เข้าใจกัน มีที่ว่างระหว่างกัน มีอิสระพอดี ตัวพระแพงเองก็ให้เกียรติและเคารพเสี่ย (เเต่เสี่ยกลัวแก่ไม่ให้ไหว้... ฮา)
 เสี่ยก็ให้อาหาร (?) และคำแนะนำที่ดี  ช่วยงานอีกตั้งหาก  รวมทั้งโอกาสที่ช่วยเหลือตั้งแต่กระโน้น ทั้งเงิน ทั้งหาที่ฝึกงานก็ด้วยมันเป็นฐานที่ดีให้พระแพงได้ทำงานบริษัทชั้นนำ ของเสี่ยเอง โลกมันกลมเนอะ  ออกแนวผู้มีพระคุณจริงๆน่ะแหล่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เสี่ยดูน่ารักอะ จะเลวได้ยังไง

ออฟไลน์ W2P5

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบ มากกกกก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พระแพง ให้เสี่ยช่วยทำงาน
เสี่ยอาจจับไต๋การทุจริตได้อีก
พระแพง ดูชิลๆ เรื่องกลับไปเป็นเด็กเลี้ยง
เรื่องคุณปุยฝ้าย ก็เฉยเลยหลังจากพิสูจน์กลิ่นน้ำกาม
ถ้าไม่ได้กลิ่น อาจยังหลงใหลใฝ่เพ้ออยู่
ถ้าพระแพง สามารถจำกลิ่นน้ำกามเสี่ยได้
ยกย่องให้เลยว่าเก่งยิ่งกว่าน้องหมา อะจ๊ากกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด