ตัวร้าย
19
“มาละเว้ยยยยยยยยยยยยยยยย”
เชนตะโกนตั้งแต่ผมกับบีสท์เดินมาจากโรงรถ พวกเพื่อนที่เหลือกรูกันวิ่งมาส่งเสียงโห่ร้อง บีสท์เดินกอดคอผมเข้ามาตรงบ่อปลา
“หมั่นไส้ หวานกันไม่เกรงใจเพื่อนฝูง”
แจมเบะปากแล้วสะบัดผมใส่โดยมีแตงกวาพยักหน้าแล้วสะบัดผมตามเป็นลูกคู่
“ไปด่าไอ้เปาโน่นมันถ่ายเค้าเอง”
บีสท์โยนขี้ให้เพื่อน เปากลอกตาแล้วตะโกนกลับมา
“ถ้าพวกมึงไม่ทำตัวโลกทั้งใบให้นายคนเดียวมองไม่เห็นกูที่ยืนหัวโด่แล้วดื้อไม่ดื้อกันอยู่นะ กูก็ไม่ถ่ายมาหรอกไอ้ห่าหมั่นไส้!”
เปาสะบัดบ๊อบเลียนแบบสาว ๆ บีสท์หัวเราะขำ
“แต่แบบเปิดตัวว่ะ คนอกหักกันทั้งบางนี่ไอ้มิวมันโหยหวนกับกูใหญ่ว่าสวยแทบตายสุดท้ายก็แพ้ผู้ชาย”
แพรวบอกกลั้วหัวเราะ บีสท์เองก็หัวเราะผมหมั่นไส้เลยถองท้องเขาเบา ๆ เขาหันมาเลิกคิ้วถาม
“หมั่นไส้”
“อ่าวกูไปทำอะไรให้”
ผมเบะปากใส่คนที่ใบหน้ายังเจือรอยยิ้มอยู่กำลังจะอ้าปากตอบเสียงเชนก็ลอยมาเสียก่อน
“สงสัยแพ้ท้อง เหม็นหน้าผัวใช่มะ”
“ฮิ้ววววววววว”
“มึงนี่มันยังไม่ทันบวชเบียดซะละ”
เชนว่า
“แหมไอ้เชนนนนนนน พ่อมหาจำเริญมึงน่ะเบียดตั้งแต่หมออ้อยยังไม่ขึ้นเลยมั้ย”
นั่นล่ะครับไม่ได้ตอบอะไรแล้วลามกันไปถึงหมออ้อย พวกเรานั่งกินหมูกระทะกันไปคุยกันไปส่วนมากก็ประเด็นในเฟสบุ๊คของบีสท์นั่นแหละขนาดเพื่อนในเฟสเขามีอยู่สามร้อยกว่าคนแต่ดูเหมือนข่าวที่เขามีแฟนจะดังไปทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว
“กูว่านะต่อไปทุกคนจะต้องเผือกเรื่องของมึงมากขึ้นแน่นอน”
แพรวบอกแล้วอ้าปากรับหมูที่เจนป้อนให้ หลายคนพยักหน้าเห็นด้วยและหลายคนก็กลอกตาด้วยความเบื่อหน่ายหนึ่งในนั้นคือเปา
“น่ารำคาญนะคนพวกนี้”
“โถ่พี่เปา มึงไม่เข้าใจความเผือกนี้เพราะมึงเป็นคนในที่รู้เห็นทุกอย่างไง”
เชนว่าโดยที่สาว ๆ พยักหน้าเห็นด้วย เปายักไหล่แล้วโซ้ยหมูกระทะต่อ
“ไม่มีใครสนใจหรอก ถ้าเป็นคนนี้ก็ไม่แน่”
บีสท์บอกเพื่อนเขาแล้วเหล่ตามาทางผม ผมเลิกคิ้วทำหน้าเหรอหรา
“อะไรอ่ะ กูยิ่งไม่มีคนสนใจไหม”
บีสท์จิ้มหน้าผากผมจนหงายหลังด้วยความหมั่นไส้ แต่แพรวกลอกตาเบะปากใส่เราทั้งคู่
“ทำเป็นพูดดี แกทั้งสองคนนั่นแหละถ้ามีคนรู้นะรับรองเป็นข่าวดังของมหาลัยแน่ คนนึงก็คนดังฝั่งวิศวะฯ อีกคนก็พ่อหนุ่มน่าค้นหาจากสถาปัตย์ฯ”
“หมั่นไส้!!!!”
เสียงสาว ๆ ประสานกันพูดแล้วสะบัดบ๊อบใส่ผมสองคน ผมหัวเราะขำวันนี้เราพูดคำว่าหมั่นไส้กันครบร้อยครั้งแล้วหรือยังนะ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่นิ่งจนทุกคนสังเกตเห็นได้
“มาร์คเป็นอะไรหรือเปล่า”
เมเปิ้ลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ทุกคนหยุดสิ่งที่แต่ละคนกำลังทำอยู่เพื่อหันไปมองมาร์ค
“กูทดลองนิ่งแบบมันสองคนดูเผื่อจะมีคนอยากเผือกเรื่องกูบ้าง”
“ไอ้สัด!!!!!!!”
โดยความพร้อมเพรียงทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย มาร์คหลุดยิ้มกว้างแล้วหัวเราะออกมา
“คึคึ ก็ทำไมอ่ะเค้าก็อยากเป็นที่สนใจบ้าง”
“มึงดังแล้วมึงจะแรดกว่านี้อีกนะซึ่งกูคิดว่าความแรดของมึงไม่น่าจะมีมากกว่านี้ได้อีกแล้ว”
“ฟวยสกาย”
มาร์คใช้ตะเกียบคีบหมูขึ้นมาแล้วขว้างไปทางเพื่อนสนิทแต่สกายหลบทันแถมมันยังทำท่าล้อเลียนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อีกทำเอาคนตัวเล็กแทบถลาไปกระชากหัวดีที่เชนที่นั่งอยู่ข้างมาร์คเอาขาเกี่ยวเอวมันไว้ได้
“ไม่เอา ๆ ไม่เอาของกินมาเล่นมันสกปรก”
แจมกดเสียงต่ำแล้วใช้สายตาอาฆาตมองไปที่มาร์ค
“และมึงไอ้ห่ามาร์ค วันนี้มึงเก็บล้างไปคนเดียวข้อหาทำพวกกูห่วงโดยไร้สาระและทำเลอะเทอะ!”
มาร์คเบิกตาโพลง
“เฮ้ย!! ไม่เอาเด้! เค้าล้อเล่นเฉย ๆ นะ”
“แต่พวกกูห่วงจริง ทำไปห้ามใครช่วยด้วย!”
แจมบอกเสียงเฉียบขาด มาร์คเบะปากแล้วใช้สายตาอ้อนวอนส่งให้ทุกคนแต่ทุกคนดูจะไม่มีใครเห็นใจเขาเลย ทุกคนก้มหน้าก้มตาที่จานตัวเอง บีสท์เองก็กดหัวผมจนหน้าแทบจุ่มจานอยู่แล้ว
“เบาหน่อย ๆ”
ผมร้องเตือนเขาเบา ๆ เห็นนะว่าเขาอมยิ้มแกล้งผมนี่หว่า ผมเลยหยิกขาเขา บีสท์สะดุ้งเล็กน้อยแล้วคว้ามือที่ผมหยิกเขาไปกุมไว้โดยที่หน้าเราสองคนยังมองจานของตัวเองอยู่ จนกระทั่งเสียงหงอย ๆ ของมาร์คเอ่ยขึ้น
“กูแค่อยากเป็นคนคูล ๆ กับเขาบ้าง”
“คูลฟีเวอร์ไปเถอะมึงน่ะ”
สกายเท้าเอวส่ายหัวมองเหยียดเพื่อนตัวเล็กแต่มุมปากอมยิ้ม มาร์คเงยหน้าหันไปถลึงตาใส่ สกายถลึงตากลับคนตัวเล็กเลยได้แต่บ่นอุบอิบเบา ๆ
“เออพวกมึง หยุดยาวสามวันปลายเดือนหน้าว่างกันป่ะ”
นาฟโพล่งถามทุกคนทำหน้าคิดก่อนแต่ละคนจะตอบ
“ว่างนะ//ว่าง”
เสียงส่วนมากตอบว่าว่าง นาฟหันไปหาคนที่ดูเหมือนตารางชีวิตจะยุ่งที่สุดตอนนี้พอ ๆ กับตัวเอง สกายยักไหล่
“ว่างแหละ เค้าขี้เกียจอ่านหนังสือพอดีทำไมจะชวนไปไหน”
“ไปเชียงใหม่กัน”
“เออก็ดีอยากไปเก็บสตอเบอร์รี่”
“สรุปไปนะจะได้จองตั๋วเครื่องบินซันไปด้วยกันไหม”
นาฟสรุปแล้วหันมาถามผม
“เคยไปเที่ยวเชียงใหม่กันมาก่อนไหม”
ผมถาม พวกเขาพยักหน้าตอบรับ
“เคยไปครั้งหรือสองครั้งนี่แหละ”
บีสท์เป็นคนตอบผมจึงถามต่อ
“แล้วปกติพักกันที่ไหน”
“ก็โรงแรมทั่วไปน่ะมีอะไรหรือเปล่า”
ผมเม้มปากมองพวกเขาแล้วค่อย ๆ เอ่ยคำพูดตัวเองออกไป
“คือถ้าไม่รังเกียจ...จะไปพักกันที่บ้านตายายกูก็ได้นะ แต่เฮ้ยไม่ซีเรียสนะไปพักกันที่โรงแรมก็ได้”
“แล้วจะไม่รบกวนคุณตาคุณยายซันหรือ พวกเราคนเยอะนะ”
ผมโบกมือส่ายหน้าปฏิเสธให้แพรว คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วยกับเธอ
“คือกูมีบ้านเล็กแยกออกมาจากบ้านใหญ่ของตายายอ่ะ ถ้าไปก็จะให้พวกผู้หญิงนอนบ้านใหญ่ของตายายเพราะมีห้องนอนแขกอยู่ส่วนพวกผู้ชายถ้าไม่คิดอะไรมากก็นอนกอง ๆ กันที่บ้านเล็กของกูก็ได้หรือไม่ก็นอนรีสอร์ตที่ไร่ก็ได้”
ผมรีบพูดเสียยืดยาวรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย บีสท์หัวเราะขำแล้วยีหัวผมเบา ๆ หลายคนอมยิ้มกลั้นขำอีกส่วนก็มองผมอึ้ง ๆ แล้วหัวเราะกวน สกายไงแกนนำเลย
“ถ้าไม่รบกวนเกินไปขอพวกเราไปพักบ้านคุณตากับคุณยายด้วยนะ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ยุ่งยากเรื่องที่นอนคนเยอะเวลาทำอะไรก็ต้องทำตั้งแต่เนิ่น ๆ”
นาฟบอกมือก็สไลด์ไอแพดไปด้วยเห็นลาง ๆ ว่าอยู่ในเว็บของสายการบิน
“นั่งอีโคนะพวกมึง”
เธอบอกโดยที่ไม่เงยหน้า พวกที่เหลือส่งเสียงตอบรับนาฟจิ้มอยู่สักครู่ก็เงยหน้ามายิ้มหวานใส่ผม
“สะกดชื่อภาษาอังกฤษซันให้เราหน่อย”
ผมพยักหน้าแล้วสะกดให้เธอฟังทีละตัว
“นามสกุลนะ D-E-J-C-H-A-M-E-T-H-A-D-O-L ชื่อก็ D-A-R-I-N”
“ชื่อน่ารักจังเลยอ่านว่าดารินทร์ใช่ไหม”
ผมยิ้มพยักหน้าให้กับคำถามของแตงกวา
“แปลว่าอะไรหรือซัน”
เจนถาม
“ยอดดารา,ดวงดาวอันยิ่งใหญ่”
“ชื่อเล่นเลยชื่อซันใช่ไหม”
คราวนี้เป็นมาร์ค ผมพยักหน้าอีกครั้ง
“
ยอดดาราของทศกัณฑ์หรือเปล่าหน๊อ”
ไม่บอกก็น่าจะคาดเดาได้ว่าใคร สกายไงจะใครล่ะผมขว้างเฟรนซ์ฟรายใส่หน้ามันทันที สกายหัวเราะชอบใจโดยมีเปา เชน มาร์คและผู้หญิงทุกคนยักคิ้วหลิ่วตาใส่มีแค่ยูเท่านั้นที่ยิ้มอย่างเดียว บีสท์หันมายิ้มแล้วลูบหัวผมเล่นก่อนจะหันไปตอบเพื่อนของเขา
“ไม่ใช่ว่ะ”
“อ้าว!!!!!!”
ทุกคนร้องอ้าวออกมากันเป็นทิวแถวขนาดผมเองยังหันไปเลิกคิ้วใส่เลย ที่หันไปไม่ใช่อะไรนะรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อต่างหาก
“ใช้
ยอดดวงใจน่าจะถูกกว่า”
“อ้วกกกกกกกก”
“โอ๊ยยยยยยกูปวดตับ”
“เสียดายหมู”
“ไม่น่าอ้าวเลยกู”
“มึงเล่นของใส่เพื่อนกูแน่ ๆ”
และต่าง ๆ อีกมากมายที่เพื่อนเขารุมด่าแฟนผมลามมาถึงผมด้วยและก็นั่นอีกล่ะที่ทำให้ผมยิ้มจนแก้มแทบฉีกกระแทกแขนเขาเบา ๆ บีสท์หัวเราะขำแล้วโอบเอวผมไว้หลวม ๆ
นี่ถ้าผมขี้อวดกว่านี้อีกสักหน่อยจะโพสมันลงทุกโซเชียลเลยแต่บังเอิญว่าเล่นไม่เป็นเลยทำได้แค่ยิ้มอยู่แบบนี้
คงเป็นอย่างที่คริษฐ์ว่า
ผมนี่มันคนอวดผะ...แฟนจริง ๆ เสียด้วยสิ
เรียนกันไปแปบ ๆ ก็จะมิดเทอม ตลอดเกือบสองเดือนที่ผ่านมาชีวิตผมดีขึ้นจนใครหลายคนแปลกใจแปลกใจที่สุดคงจะเป็นตากับยายที่ท่านดูจะตกใจมากที่ผมบอกว่าอาทิตย์หน้าผมจะพาพวกเพื่อน ๆ ไปเที่ยวเชียงใหม่และขออนุญาตพาเพื่อนไปนอนที่บ้าน
และที่ท่านตกใจยิ่งกว่าคือพวกที่พาไปไม่ใช่พวกคริษฐ์ ตากับยายตกใจและดีใจกันยกใหญ่ที่ผมมีเพื่อนคนอื่นบ้าง ผมล่ะกลัวพวกท่านจะหัวใจวายกันน่ะสิ
เพราะว่าผมคิดว่าจะบอกความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบีสท์ในการไปเที่ยวบ้านครั้งนี้ด้วย
กับบีสท์ก็เรื่อย ๆ คือมันดีทุกวันผมมีความสุขดีแต่ช่วงใกล้มิดเทอมแบบนี้งานของเขาเยอะจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนตาโหลสภาพน่าสงสารจนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ อย่างเช่นวันนี้ที่เขาต้องหอบงานเอาไปทำที่สตูมหาลัยอีกแล้ว
“ไหวไหม”
ผมเดินมาหาบีสท์ที่นอนพักสายตาอยู่บนโซฟาในห้องนอนนั่งลงข้าง ๆ เขา คนตัวโตไถลตัวนอนตักผมทันทีที่ก้นผมแตะโซฟา ผมอมยิ้มมองแฟนตัวใหญ่ของตัวเองนวดขมับให้เขาผ่อนคลาย
“เหลืออีกเยอะไหม”
“อีก 40%”
กระทั่งเสียงของเขายังฟังดูเหนื่อยล้า บีสท์รวบมือของผมไปจับแนบแก้มของเขาไว้
“นอนพักหน่อยไหมเดี๋ยวกูปลุก”
เขาส่ายหัว
“ขออยู่แบบนี้อีกสิบนาที”
“ดื้อจริง”
เขาหัวเราะเบา ๆ ที่ผมบ่นเขาช่วงนี้บีสท์ดื้อกว่าผมเสียอีกดีอยู่อย่างที่เขากินอาหารครบทุกมื้อจนติดเป็นนิสัย
“พรุ่งนี้ก็อาจจะต้องนอนที่มอนะ”
“อื้อ ถ้าอย่างนั้นวันนี้กูกลับไปนอนห้องนะ”
บีสท์พยักหน้าเข้าใจ ใกล้สอบแล้วบ้านนี้ค่อนข้างเงียบเหงาแต่ละคนมักจะนอนที่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกันมากกว่าแต่สุดสัปดาห์พวกเขาทุกคนก็กลับมาอยู่บ้านกันนะ
“กินข้าวด้วย”
“ครับแฟน”
ผมตอบรับ ใบหน้าหล่อยกยิ้มทั้งที่หลับตา ผมยิ้มมองเกลี่ยแก้มเขาไปเพลิน ๆ เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยเขินเวลาที่เราทำอะไรแบบนี้กันแล้ว ก็เวลาบีสท์พูดอะไรหวาน ๆ ถึงผมจะเขินแต่ก็รู้สึกดีมากเพราะฉะนั้นผมเลยพูดอะไรแบบนี้กับเขาบ้างและผลตอบรับก็คือรอยยิ้มสวย ๆ แบบนี้กับหูแดง ๆ ของเขา
น่ารักจริง ๆ
“จูบหน่อยสิ”
อ่า...ถ้าจะมีสักอย่างที่ไม่ชินก็คงจะเป็นอันนี้ล่ะนะ
จุ๊บ~
“ลุกไปอาบน้ำสิครบสิบนาทีแล้ว”
ผมยืดตัวตรงผละออกมาจากริมฝีปากอุ่นร้อน ใจเต้นตุบตับแรงจนต้องยกมือมากุมหน้าอกตัวเองเอาไว้ บีสท์หัวเราะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจก่อนจะโน้มตัวมาจูบหน้าผาก จมูกและจบที่ริมฝีปากผมแผ่วเบา ไม่มีการรุกล้ำบีสท์จูบแช่ไว้สักครู่แล้วถอดจูบออกมา
“มีกำลังใจแล้ว”
“ตลอด”
ผมตีไหล่เขาแก้เขินแล้วปล่อยให้บีสท์ไปอาบน้ำ สักครู่ใหญ่รถของบีสท์ก็ขับมาส่งผมถึงคอนโดเราร่ำลากันเรียบร้อยเดินลงมาผมรอจนรถบีสท์แล่นออกไปจนสุดสายตาถึงเดินเข้ามาด้านใน
“คุณคนเล็ก”
ผมชะงักเท้าที่กำลังจะเดินเข้าลิฟท์หันไปเลิกคิ้วมองทางต้นเสียง อินเดินยิ้มเข้ามาหา จะว่าไปช่วงนี้ไม่ค่อยเจอเขาเลย
“ครับ? มีอะไรสำคัญหรือเปล่าครับถึงมาหาผมถึงที่นี่”
ผมถามตามความจริง เพราะถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ อินจะไม่มาที่นี่ เขารู้ว่าผมจะไม่ชอบใจมาก แต่นั่นมันเมื่อก่อน ก่อนที่ผมจะเจอบีสท์
“เอ่อ..นิดหน่อยครับ”
เขามีท่าทีลังเล
“ถ้าอย่างนั้นเชิญนั่งก่อนแล้วกันครับ”
ผมผายมือไปทางโซฟามุมหนึ่งด้านล่างคอนโด เขาหน้าเสียไปเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปนั่งแต่โดยดี สายตาอินมองไปหยุดที่เป้ใบใหญ่ของผมสายตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม
“มีเรื่องอะไรจะพูดครับ”
“อ้อพอดีว่าพี่โทรหาคุณยายของน้อง เห็นคุณยายบอกว่าน้องจะพาเพื่อนไปเที่ยวที่บ้านหรือครับแถมยังไม่ใช่พวกคริษฐ์ด้วย น้องจะพาใครไปครับ”
ผมเลิกคิ้วงง มองอินด้วยความสงสัย
“ผมต้องบอกอินด้วย? ทำไมผมไม่เคยทราบเลยล่ะครับว่าเวลาผมจะทำอะไรแล้วต้องบอก”
“...”
ผมถอนหายใจ ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือไม่พอใจอะไรหรอก เพียงแค่สงสัยว่าทำไมผมต้องบอกเรื่องส่วนตัวของผมให้เขาฟังด้วย
“ผมจะพาใครไปที่ไหนมันก็คือเรื่องส่วนตัวของผมนะครับ แล้วก็...ผมว่าผมไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่จะต้องมารายงานเรื่องของผมให้
ผู้หวังดีอย่างอินฟังทุกอย่างนะครับ”
“คุณคนเล็ก...”
ผมโคลงหัวถอนหายใจ เฮ้อ...วันนี้พูดยาวอีกแล้วสงสัยติดเชนกับสกายมาแน่ ๆ
“กรุณาอย่าก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของผมนะครับ”
ผมยิ้มบางแต่แววตาเฉยชาส่งไปให้อินผมอยากให้เขารับรู้ว่าระหว่างเรามันไม่มีอะไรให้กันอีกแล้ว
“น้องรู้ไหมว่าน้องเปลี่ยนไป”
ก่อนที่ผมจะหันหลังก้าวเดินขึ้นห้องเสียงของอินก็รั้งผมไว้อีกครั้ง ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่สองของวัน
“ใช่ครับผมมีความสุขมากขึ้น”
อินเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง
“เพราะผู้ชายชื่อยูคนนั้นใช่ไหม”
“ผมไม่จำเป็นต้องตอบคำถามครับ”
“แต่พี่ว่าเขาดูไม่ปลอดภัยนะครับ”
ผมหลุดหัวเราะ ยูเนี่ยนะดูไม่ปลอดภัย บ้าไปแล้ว
“ทำไมครับ เขามีอะไรหรือ”
“เขา...”
“ถ้าแค่เพราะคนของอินสืบประวัติเขาไม่ได้นี่ผมว่าจะเป็นการกล่าวหาเขาเกินไปนะครับ”
อินดูตกใจที่ผมรู้เรื่องที่เขาส่งคนไปตามยูอยู่รวมถึงบีสท์ด้วย ผมรู้เพราะว่ากับคนก่อน ๆ ที่เข้ามายุ่งกับผมเขาก็ทำแบบนี้และผมก็รู้อีกว่าเป็นเขานั่นแหละที่เป็นคนเอาทุกคนออกไปจากชีวิตผม
อ้อแล้วที่รู้ว่าเขาสืบประวัติพวกบีสท์ไม่ได้นี่ผมไปถามพี่ฉายมาครับ ตอนแรกพี่เขาดูลังเลแต่สุดท้ายก็ยอมบอกเพราะผมบอกว่าผมเป็นห่วงบีสท์จริง ๆ
“ขอตัวนะครับ”
ผมกล่าวลาแล้วเดินออกมาเหนื่อยที่จะต้องพูดกับเขาแล้ว ง่วงด้วย อยากเจอบีสท์จัง
ฉันจำไม่ได้จริงจริง ฉันจำไม่ได้ เพราะไม่อยากจำ
สิ่งที่ร้ายร้ายผ่านมา ที่เธอได้ทำ ฉันไม่ต้องการ ให้มันค้างคาให้รกหัวใจ...
เมื่อใจของฉันไม่ได้มีไว้สำหรับเธอ ไม่มีทางที่จะมารักกันได้
อยากให้รู้ และอยากให้เธอเข้าใจ อยากให้เธอลืมฉันเสียที
ออกจากชีวิตของฉันไป ใจฉันไม่ได้มีไว้รักเธอ
ใจฉันไม่ใช่ของเธอ – น้ำชา ชีรณัฐ
tbc
talk. ความหลงซันของบีสท์นั้นไม่มีอำนาจใดมาลบล้างได้ เช่นเดียวกับความอวดหลัวของซันและความดื้อดึงของพี่อิน ฮ่าาาา เชิญเบาหวานขึ้นกันตามอัธยาศัยถึงแม้จะเก็บลำไยกันในตอนท้าย จบเรื่องนี้ไปทุกคนน่าจะเกลียดกับคำว่า"คุณคนเล็ก" เพราะมาทีไรได้เรื่องทุกที ก๊ากกกก และพี่อินคะเพลงในตอนนี้ซันฝากมาให้ค่ะ! ไปฟังซะนะคะ!!!
ขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ เลยน้าที่เข้ามาอ่านแล้วก็มีความสุขกับเรื่องนี้ เราดีใจมาก ๆ จริง ๆ ที่มีคนชอบในสิ่งที่เราเขียน โคตร ๆ มีกำลังใจในการปั่นเลย ฮึบ ๆ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่า กราบบบ แล้วถ้าใครไม่สะดวกในนี้จะติดแท็ก #นิยายตัวร้าย ในทวิตเตอร์ก็ได้นะจ๊ะ หรือจะคอมเม้นคุยเล่นกันในเพจก็ได้ ยินดีรับฟังทุกคำติชมค่า แล้วเจอกันตอนหน้าน้า
**วันนี้อารมณ์ดีม๊ากมากจึงมาขอตอบคอมเม้นนะคะ**
♥►MAGNOLIA◄♥ - ความอ้อยของสองคนนั้นต้องรอดูกันต่อไปจ้า ส่วนพี่โฟล์คมันขี้เสือก ฮ่าๆ พี่อินฝากบอกว่าคิดการณ์ใหญ่ใจต้องนิ่ง
3eauKm137 -ซันฝากบอกว่าเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผะ...บีสท์ให้ใคร ฮี่ๆ อยากเห็นเขาไฝว้กันใช่มั้ยยยรออีกไม่นานนนนเร็ว ๆ นี้แหละจ้า
bulldog17 -ความเขินจะมีมาเรื่อย ๆ ค่าาา
Zetnezz -อีกไม่นานจ้า
maemix -หมั่นนางเนอะะะ
่patsaporn -ซานฝากบอกว่าเผียดไปเลี้ยวววว
saruwatari_guy -ใจพังก็ยอมใช่ม๊าย
Mura_saki -นั่นสิทำไมพี่บีสท์ต้องหล่อทั้งกายและใจขนาดนี้ ส่วนชายยูนั้นมาเป็นของเลาเถอะ
111223 -อนุญาตให้กรี๊ดได้ดัง ๆ ค่า อิอิ
Yysll -มาต่อแว้วว มาอ่านเร็วว อิอิ
MayA@TK -อิจฉาด้วย ไปทำบุญกันเผื่อจะได้บีสท์ ก๊าก
sirin_chadada -อีกไม่นานเกินรอค่ะ หึหึหึหึหึหึหึ
andaseen -ดักตบนางกันมั้ย เดี๋ยวเราช่วยเธอเอง ฮ่าๆ
dilokrittisak -ตอนนี้พญาไท 2 มีโปรรักษาเบาหวานนะ คริคริ
cheezett -เดี๋ยวปั่นจักรยานไปส่งนะตัว นั่นสิทำไมต้องอวดหลัวแรง หมั่นไส้! ระเบิดแล้ว ๆ มากกว่านี้เดี๋ยวหายใจไม่ทัน ฮ่า ๆ
indy❣zaka -เดี๋ยวก็กลายเป็นอดีตแล้ว ปัจจุบันบีสท์รักเรา ฮ่าาาาาาา ปล. ดิสน่ารักมาก ฮืออ นายน้อยของบ่าวววกับน้องครก ช่างคู่ควรเหลือเกิน
mystery Y -ไปค่ะ *จูงมือ 55555