“กูควรจะทำยังไงกับมึงดี..”
น้ำเสียงที่ดูช่างแผ่วเบา..มาพร้อมกับสัมผัสอุ่นๆ ที่หลังคอ มันกอดรัดผมแน่นขึ้น..กอดแล้วจูบย้ำที่หลังคอผมซ้ำๆ ไม่หยุด ก่อนมือที่กอดผมจะค่อยๆ คลายออกเมื่อมันถอนหายใจออกมา ผมนอนหลับตานิ่ง..ตอนที่มันลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วพาตัวเองกลับไปที่ห้องทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดสนิท..
ผมไม่เข้าใจ..ไม่เข้าใจในสิ่งที่มันทำเลยจริงๆ
.
.
ผมไม่เห็นหน้ามันอีกหลังจากเช้าวันนั้น..มันหายไปโดยไม่ทิ้งข้อความหรืออะไรไว้เหมือนเมื่อคราวก่อน ผมสงสัย..แต่ก็รู้สึกสบายใจดี ไม่ได้คิดอยากจะตามหา..หรือแม้แต่จะเป็นเป็นห่วงมันสักนิด
มันไม่อยู่..ก็ไม่มีใครมาทรมานผม มีแต่ข้อดีทั้งนั้น
.
.
“ทิว..”
ผมหันไปยิ้มให้วี..ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา วีมาหาผมทุกเช้า..มาพร้อมกับมื้อเช้าง่ายๆ อย่างแซนวิชหรือโกโก้อุ่นๆ และจากแรกๆ ที่ผมมักจะหลบหน้า หรือเดินหนีเขา..ตอนนี้ก็กลายเป็นนั่งคุย กินมื้อเช้ากับเขาไปทุกวันแทน
ผมไม่รู้จะวิ่งหนีเขาไปทำไม..ไม่มีเหตุผลเพราะมันเองก็หายหัวไปหลายวันแล้ว
“วันนี้มีแซนวิชกับนมสดที่แวะซื้อเมื่อเช้า”
ผมอมยิ้ม..ก่อนจะลงมือกินแซนวิชฝีมือเขา “ขอบคุณนะวี”
“อืม..”
เหมือนเดิม..เหมือนทุกๆ วันที่เขาเอาแต่จ้องหน้าผมโดยไม่คิดจะหยิบอะไรกิน จากที่เคยรู้สึกเขินๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นเริ่มชิน..บ่อยครั้งที่ผมเองก็เคี้ยวไปสบตาเขาตอบกลับไป
วีน่ารัก..เขาเป็นคนแบบที่ผมไม่เคยเจอ
“เที่ยงนี้ผมมากินข้าวด้วยได้ไหม..” เขาถามยิ้มๆ “อยากกินข้าวกับทิวจัง..”
“มื้อเช้ายังไม่เคยกินด้วยกันเลย” ผมยกแก้วพลาสติกที่มีนมสดขึ้นมาดื่ม “เอาแต่นั่งจ้องหน้ากันอยู่ได้”
“ก็ผมอิ่มแล้วนี่นา..”
“หืม ?”
“ทำไปชิมไป..กลัวมันไม่อร่อยน่ะ”
เราหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน..ก่อนที่วีจะทำให้ผมต้องอายด้วยการยื่นมือมาเช็ดคราบนมที่เปื้อนบนปากผม ผมเหลือบตาไปมองโต๊ะข้างๆ เห็นผู้หญิงสองสามคนกำลังมองมาที่พวกเราแล้วหันไปซุบซิบกัน
“อย่าใส่ใจเลย..” เขายื่นมือมาจับมือผม “แกล้งทำไม่เห็น..ไม่ได้ยินไปซะ”
“อืม..”
ไม่รู้ว่าคำพูดของวีมียาดีอะไร..ทำไมถึงทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมา หลายวันมานี้ผมเริ่มคิดเรื่องที่ถูกใครต่อใครนินทาน้อยลง..ไม่คิดและแทบจะไม่เก็บใส่ใจด้วยซ้ำ
ผมตั้งหน้าตั้งตากินแซนวิชที่วีอุตส่าห์ตั้งใจทำต่อโดยไม่สนใจใครอีก..วีเองก็ดูภูมิใจที่ผมกินมันจนหมดทุกวัน ทั้งจริงๆ การกินแซนวิชติดต่อกันหลายๆ วันแบบนี้ก็ทำให้ผมเบื่อ..แต่พอเห็นท่าทางดีใจของเขาแล้วก็รู้สึกอยากกินมันเรื่อยๆ เสียอย่างนั้น
.
.
“งั้นเที่ยงผมมากินข้าวด้วยนะ..”
ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้วี..ก่อนจะหันหลังเดินขึ้นตึกเรียนมา เที่ยงนี้ผมคงไม่ต้องกินข้าวคนเดียวแล้วสินะ..เพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อนมันดีแบบนี้ เพราะมันให้ความรู้สึกว่า..ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก
.
.
[เลิกเรียนแล้วก็รีบกลับมาที่ห้อง..กูหิว]
ผมก้มหน้าอ่านข้อความนั้นด้วยความแปลกใจ..นี่มันกลับมาแล้วเหรอ หายไปตั้งเกือบสองอาทิตย์..ไม่มาเรียนด้วยซ้ำ แล้วจู่ๆ ก็ส่งข้อความมาบอกให้ผมรีบกลับแบบนี้น่ะเหรอ ?
ผมถอนหายใจแบบเซ็งๆ ก่อนจะกดพิมพ์ข้อความส่งไปให้วีว่าขอโทษที่ไปกินมื้อเที่ยงกับเขาไม่ได้แล้ว..ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่คอนโดตามคำสั่งมัน เกือบจะเที่ยงแล้ว..มันคงหิวเลยส่งข้อความมาแบบนี้ ผมยกแขนขึ้นปาดเหงื่อตัวเอง..บ่นด่ามันในใจที่ทำตัวให้ผมต้องมาลำบากแบบนี้ ทั้งที่จริงๆ แล้วมันจะหาอะไรกินก่อนที่จะกลับมาห้องก็ได้..แต่มันกลับหิ้วท้องกลับมาเพื่อหาเรื่องใช้งานผมแบบนี้ นิสัยแย่จริงๆ
แต่พอกลับมาถึงจริงๆ ผมกลับเจอมันนั่งรออยู่..พร้อมกับอาหารหลายอย่างบนโต๊ะ มันจัดจาน..รินน้ำลงในแก้วเสร็จแล้วด้วยซ้ำ ผมมองจานข้าวที่วางอยู่อีกด้านของโต๊ะอย่างงงๆ ก่อนจะรีบเดินไปวางกระเป๋าไว้ที่โซฟา แล้วเดินไปหามันที่กำลังส่งสายตาดุๆ มาให้
“นั่งลงสิ..กูหิวจนจะแดกช้างได้แล้ว” มันว่าแล้วเริ่มลงมือตักข้าวเข้าปาก “ชักช้าอืดอาดจริงนะ..เห็นกูไม่อยู่หลายวันแล้วมึงเลยเริ่มดื้องั้นเหรอ”
“กลับมาถึงนานแล้วเหรอครับ..”
“ถามทำไม..หรือวันนี้มึงไปแรดที่ไหนมา”
ผมถอนหายใจแบบเซ็งๆ เบื่อหน่ายกับนิสัยเสียๆ พวกนี้ของมันจริงๆ ไอ้การที่ผมถามไถ่..หรือพยายามจะพูดดีๆ ด้วย มันไม่ได้ทำให้มันรู้สึกอยากจะตอบแทนกลับมาด้วยการพูดจาแบบเดียวกันกับผมบ้างหรือไง ทำไมมันถึงไม่เคยคิดที่จะพูดกับผมดีๆ บ้างเลย..
“เงียบ..เงียบทำไม”
“เปล่าครับ..ผมไม่ได้ไปไหนมา” ผมตอบกลับไปเพื่อตัดปัญหา..ขี้เกียจจะเถียงกับมันจริงๆ ตอนนี้
“กูไปญี่ปุ่นกับพ่อมา..” มันบอกแล้วตักปีกไก่มาใส่จานผม “แม่บังคับให้ไป..”
“...”
“จ้องหน้ากูทำไม !”
ผมก้มหน้าหลุบสายตาลง..ก่อนจะใช้ส้อมเขี่ยปีกไก่ในจานไปมาเหมือนคนไม่มีอะไรทำ แปลกใจ..ผมแปลกใจที่มันบอกผมว่ามันหายไปไหนมา ทั้งที่ถ้าเป็นเมื่อก่อน..มันคงจะโมโห เผลอๆ อาจลงไม้ลงมือกับผมเลยด้วยซ้ำ
“รีบๆ กินข้าวซะ..แล้วไปจัดที่นอนให้กูด้วย” มันตักชิ้นปลากรายในแกงเขียวหวานมาให้อีก “มีแต่ฝุ่นจะให้กูนอนเข้าไปได้ยังไง..”
“ครับ..”
“เดี๋ยวกูจะไปนอนห้องมึงก่อน..เสร็จแล้วก็มาเรียกละกัน”
“ครับ..”
มันไม่พูดอะไรออกมาอีกหลังจากนั้น..ผมทยอยกินกับข้าวในจานที่มันตักมาให้จนแทบล้น ก่อนจะแอบเงยหน้าไปมองมันหลายครั้ง มันไม่ได้มีท่าทีผิดปกติอะไรไปมากกว่าที่เห็น..แต่เท่านี้ก็ถือว่าผิดปกติมากแล้วสำหรับผม เวลาเกือบสองอาทิตย์ที่มันหายไป..ทำให้มันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ?
หลังจากกินข้าวเสร็จ..ผมก็รีบเข้าไปทำความสะอาดห้องให้มัน อันที่จริงผมก็ทำความสะอาดห้องให้มันทุกวัน..ฝุ่นเฝิ่นอะไรก็ไม่มีอย่างที่มันว่าหรอก นี่มันก็คงแค่กำลังหาเรื่องใช้ผมเหมือนปกตินั่นแหละ..
.
.
“คุณนัท..ผมทำความสะ..”
ผมหยุดพูด..เมื่อเห็นมันกำลังหลับสบายอยู่บนเตียง ท่าทางเหนื่อยๆ ที่ผมเห็นตอนกลับมาที่ห้อง..เทียบไม่ได้กับภาพที่เห็นมันกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงของผมตอนนี้ มันคงเหนื่อยมากจริงๆ เหนื่อยที่ต้องเรียนรู้งานทั้งหมดของพ่อมันแบบนี้..แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อมันเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว กิจการทุกอย่างก็ต้องเป็นหน้าที่มันที่จะต้องสืบทอดดูแลอยู่แล้ว..
“ปล่อยให้หลับสักพักแล้วกัน..”
คิดได้แบบนั้น..ผมก็เดินออกมาจัดการกับจานชามที่แช่ทิ้งเอาไว้ ให้มันได้พักไปก่อนก็แล้วกัน..ตอบแทนที่วันนี้มันอุตส่าห์ใจดีกับผมตั้งหลายอย่าง ถึงมันจะแค่ครึ่งๆ กลางๆ ก็เหอะ..
Ma-NuD_LaW
นัทกับวีกำลังแข่งกันทำคะแนนสินะ !
เอ้า..แม่ยกเชียร์กันตามสบาย