4
เมื่อมาถึงบ้านพี่ไฮด์ก็ลงมาด้วยอาจจะเพราะบรรยากาศและรอยช้ำใต้ตาที่เกิดจากการร้องไห้ตลอดทางที่กลับมาบ้านผมนั่งลงที่โซฟาพี่ไฮด์ก็เดินมานั่งลงข้างๆ
“เป็นหมอนั่นเหรอ” ผมพยักหน้ารับ สีหน้าพี่ไฮด์เคร่งเครียดขึ้นทันทีสายตากวาดไปมองโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางบนโต๊ะมีการโทรเข้าตลอดเพียงแต่พี่ไฮด์กดปิดเสียงไว้เพียงแค่เห็นชื่อน้ำตาผมก็จะไหลอีกแล้ว เกลียดตัวเองที่มีความอ่อนไหวมากมายขนาดนี้ แถมความรู้สึกหงุดหงิด ความโกรธที่เขารู้สึกได้จากสายสัมพันธ์ของคู่นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกเกลียดสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา
“มันว่ายังไงบ้าง”
“เขาต้องการแค่ลูก ...อึก..แต่ผมไม่ยอมลูกเป็นของผมนะ” พอพูดถึงน้ำตาก็ไหลพรากทันทีพี่ไฮด์ดึงผมเข้าไปกอดปลอบ
“นี่ก็หลานพี่เพราะอย่างนั้นพี่ไม่ยอมให้หมอนั่นทำร้ายน้องและหลานพี่แน่ๆ เลิกร้องได้แล้วครับ” ผมกอดพี่ไฮด์แน่นร้องไห้จนพอแล้วผมก็ค่อยผละออก โทรศัพท์ของพี่ไฮด์นั้นเงียบไปแล้ว
“ขึ้นไปพักเถอะพี่จะกลับแล้ว”
“ขอบคุณนะครับ” เพราะวันนี้รู้สึกเหนื่อยแถมพี่ไฮด์ก็ห้ามให้ผมออกไปส่งเลยนั่งเอนอยู่บนโซฟาและโชคดีที่เสื้อผ้าที่เขาใส่เป็นของคนนั้นคงเป็นเรื่องดีเรื่องเดียวของการได้เจอหน้ากัน ผมขึ้นไปบนห้องมุมหนึ่งของห้องที่มีกองเสื้อผ้าและผ้านวมที่พี่ไฮด์เอามาให้เพื่อการสร้างรัง ผมค่อยๆ มุดลงกับกองผ้านุ่มขดตัวเองเป็นก้อนกลม แม้จะอยู่ท่ามกลางกลิ่นของพี่ไฮด์แต่กลิ่นที่ช่วยให้เขาผ่อนคลายกลับมาจากเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่ กลิ่นของคู่ ไม่นานผมก็หลับสนิท
.
ไฮด์ที่ขับรถกลับเข้ามาเมืองด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่อัดแน่นในอก เขาไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวจะเป็นคนทำร้ายไคล์แถมหลานที่เคยคิดเอ็นดูก็เป็นหลานแท้ๆ ของเขาเมื่อรถมาจอดหน้าคอนโด ขายาวๆ ก้าวเข้าลิฟต์ที่ดูจะช้าไม่ทันใจเขาเลย
“ไง” พอมาถึงหน้าห้องไอ้น้องชายตัวดีของเขามันก็ยืนอยู่หน้าห้องอยู่แล้วแถมยังทักเขาด้วยน้ำเสียงยียวน
ผลั้วะ
“นี่สำหรับที่แกรังแกน้องเมื่อวาน”
“ซีด หมัดหนักชะมัด”
“เข้าไปคุยข้างใน” พอได้ชกมันไปหมัดหนึ่งก็ใจเย็นพอที่จะคุยกันได้ เบียดตัวเข้าของห้องเข้าไปนั่งรอมันที่โซฟา มองใบหน้าหล่อของน้องชายที่มุมปากมีรอยเลือดอยู่ เห็นแล้วรู้สึกอารมณ์ดีเลยจริงๆ
“หึ โอเมก้านั้นไปฟ้องอะไรเข้าล่ะ” มันน่าโดนอีกสักหมัดไหม
“ไคล์ไม่ใช่พวกที่นายเคยเจอ และฉันก็ไม่อยากให้นายแย่งลูกมา”
“นั่นมันลูกฉัน!!” โนเอลทุบโต๊ะแรงๆ เขาไม่คิดที่จะยอมให้โอเมก้ามาเลี้ยงลูกของเขาหรอกนะ
“นั่นก็หลานฉันและไคล์ก็มีสิทธิ์เลี้ยงดูแก และฉันจะบอกให้ว่าฉันจะให้ไคล์เลี้ยงดูหลาน แกคงไม่อยากให้ลูกเหมือนแก” โนเอลชะงักเมื่อไฮด์พูดประโยคสุดท้ายออกมาดวงตาคมหลุบต่ำเมื่อคำพูดของพี่ชายสะกิดแผลตัวเอง ไฮด์มองน้องชายที่แม้บางเรื่องจะชวนน่าโมโหแต่ก็ไม่ใช่คนไม่ดีถึงจะต้องสะกิดแผลของมันให้เปิดออกเพื่อที่จะให้มันคิดได้เขาก็ยอม แต่พอเห็นท่าหมาโดนยาเบือของมันก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร
“ไคล์เป็นเด็กดี ฉันรู้จักหมอนั่นก่อนนาย ความจริงน้องจะเอาเด็กออกก็ได้นายก็รู้ว่าโอเมก้ามีสิทธิ์ที่จะเอาเด็กออกเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เขาไม่เต็มใจ” ไฮด์เหลือบมองน้องชายที่ยังก้มหน้ามองมือที่ประสานอยู่บนตัก “แกอย่ามองในมุมของตัวเองสิ คุณอาก็เคยบอกนายไม่ใช่เหรอ อีกอย่างน้องเป็นคนตั้งท้องนายรู้ตั้งแต่น้องรู้ครั้งแรกว่าตัวเองท้องน้องร้องไห้หนักแค่ไหนทั้งๆ ที่หมอแนะนำให้เอาเด็กออกแต่น้องก็ยืนยันว่าจะเก็บหลานฉันไว้” ผมเว้นวรรคสักนิดเพื่อดูปฏิกิริยาของเจ้าน้องชายตัวดีที่ตอนนี้นั่งกุมหัวตัวเอง
“ลูกฉันเป็นยังไงบ้าง”
“หึ เป็นลูกชายแถมยังแสบมากเลยด้วย ช่วงก่อนหน้านี้น้องแพ้ท้องหนักมากเลยนะแทบไม่ได้นอนแถมตอนนี้ยังสร้างรังอีก” โนเอลยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าตัวเองผิด แต่มันก็เป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบก่อนที่สายตาคมจะกลับมาเรียบสงบเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่แค่แวปเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับไฮด์
“งั้นเหรอ”
“ฉันอยากให้แกคิดดีๆ แกก็คงไม่อยากเป็นเหมือนพ่อแก” ไฮด์ทิ้งคำลงท้ายไว้ก่อนที่จะวางรูปอัลตร้าซาวด์ที่โต๊ะแล้วก็เดินออกจากห้องไปปล่อยให้ไอ้น้องชายอยู่กับแผลที่เขาพึ่งสะกิดไปแล้วมันจะรู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
คล้อยหลังพี่ชายออกไปภายในห้องมีเพียงความเงียบโนเอลขยับไปหยิบภาพอัลตร้าซาวด์ที่ไฮด์ทิ้งไว้ ภาพที่มันซีดลงไปนิดหน่อยเพราะไฮด์พกไปไหนมาไหนตลอด เสียงหัวใจเต้นรัวทันทีที่ได้เห็น
“ลูกงั้นเหรอ” ความรู้สึกตื้นตันนี่คืออะไรกัน และไม่รู้อะไรเขาก็เก็บรูปใส่กระเป๋าสตางค์เรียบร้อย ร่างสูงลุกเดินเข้าห้องนอน ที่เมื่อเช้ายังมีร่างเล็กของโอเมก้าที่ขดตัวสร้างรังอยู่กระเป๋าใบน้อยที่มีเอกสารของเจ้าตัวมือถือและใบนัดของเจ้าตัวเล็ก เขาหยิบกระเป๋าเงินเพราะอยากรู้เกี่ยวกับโอเมก้าคนนั้นเพิ่มขึ้น ในกระเป๋าไม่ได้มีเงินมากมายบัตรประจำตัวของเจ้าตัว แต่สิ่งที่เขาสะดุดตาคงเป็นรูปเล็กๆ ที่สอดอยู่ในช่องเล็กๆ รูปของเด็กน้อยตัวขาวแก้มป่องตัวเล็กที่ถ่ายคู่กับผู้หญิงที่มองเพียงแวบแรกก็รู้เลยว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน นัยน์ตากวางกลมโตเหมือนกัน กับอีกรูปที่มีเพียงร่างเล็กในชุดรับปริญญายืนอยู่คนเดียวรอยยิ้มกว้างแต่แววตากลมนั้นมีแววเศร้า
“เศร้าอะไรกันนะ” ไม่ได้พูดถึงแววตาแต่เป็นความรู้สึกที่อยู่ในอกตอนนี้ ความรู้สึกของโอเมก้าของไคล์ ผมควรจะเข้าหาในมุมใหม่สินะ
.
ก๊อกๆ
“น้องไคล์ ลูกตื่นหรือยังลูก” เสียงเคาะประตูด้านนอกไม่สามารถทำให้คนที่ฝังตัวอยู่ในรังตื่นขึ้นมาได้ เคาะอยู่ราวๆ สองสามรอบแอนนาก็ต้องยอมแพ้ การที่จะเข้าไปในรังของไคล์อาจจะทำให้เจ้าตัวเครียดกว่าเดิม
“พี่ไฮด์น้องไคล์ไม่ยอมออกจากห้องเลยค่ะ ป้าเป็นห่วงเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกันคะ” เพราะเป็นห่วงแม่และลูกเธอถึงโทรไปสอบถามคนที่น่าจะรู้ดีที่สุด
ไฮด์ที่รับโทรศัพท์ขณะประชุมอยู่ต้องหน้าตาตื่น เขาเป็นห่วงน้องจนแทบจะทิ้งการประชุมนี้ไป อาการร้อนรนอยู่ในสายตาโนเอลที่นั่งอยู่ข้างประธานซึ่งก็คือคุณย่าของโนเอลพอเห็นท่าทางแปลกๆ ของพี่ชายเขาก็เอนตัวไปกระซิบกับคุณย่า
“ไปสิ” ทันทีที่ได้รับอนุญาตเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับไฮด์เดินออกจากห้องท่ามกลางสายตางุนงงของผู้ร่วมประชุม
“เกิดอะไรขึ้น” เมื่ออยู่ในลิฟท์กันสองคนโนเอลก็เปิดปากถามทันที
“ไคล์ไม่ยอมออกจากห้องตั้งแต่เมื่อวาน” ถ้าหากเป็นการสร้างรังแบบปกติเขาคงไม่เครียดแบบนี้อาจจะเพราะเรื่องเมื่อวาน
“โทรตามลุงหมอ ผมจะไปกับพี่” แม้ในใจไฮด์อยากจะแย้งแต่ก็ไม่ทันคนที่ตัดสินใจไปแล้ว กดโทรศัพท์บอกลุงหมอแถมยังบังคับให้เขาบอกที่อยู่ของไคล์อีก รถสปอร์ตราคาแพงเล่นเร็วสมกับสมรรถนะไม่ถึงชั่วโมงก็มาจอดที่บ้านสีขาวหลังเล็กยังไม่ทันที่ไฮด์จะเปิดประตูรถ คนขับก็เข้าประตูรั้วไปแล้ว เร็วไปไหมเฮ้ย
“ไคล์อยู่ไหน....ครับ” เมื่อคนที่มายืนขวางเป็นป้าแอน
“อยู่ในห้องค่ะ คุณคือคู่ของน้องไคล์”
“ครับ” แม้คนตรงหน้าจะไม่น่าไว้ใจแต่แอนนาก็เดินนำขึ้นไปบนห้องของไคล์
ก๊อกๆ
“ไคล์” ทันทีที่เขาเรียกก็มีเสียงมาจากในห้อง ความรู้สึกของไคล์เขารู้ดี ทั้งหวาดกลัวทั้งรู้สึกไม่ปลอดภัย “ผมขอกุญแจ”
“แต่น้องสร้างรังอยู่นะคะ”
“เชื่อผม” ถ้าขืนยังให้ไคล์อยู่ในสภาวะเครียดแบบนี้มันอาจจะส่งผลเลวร้ายกว่าที่จะคาดเดา เขารับกุญแจขณะที่กำลังจะเปิดประตูมือใหญ่ของอีกคนจับที่ข้อมือเขาไว้
“มั่นใจแล้วนะ”
“เออ ปล่อยได้แล้วน่าไฮด์” พอไฮด์ปล่อยเขาก็ก้าวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลง สายตาคมกวาดมองรอบห้องก็เห็นกองผ้าที่มุมห้องเห็นเพียงกลุ่มผมสีดำนุ่มโผ่พ้นเสื้อเชิ้ตขนาดใหญ่ที่เดาได้ว่าเป็นของเขา ยิ่งก้าวเข้าไปใกล้คนในกองผ้ายิ่งขดตัวลงจนกระทั่งเขานั่งลงข้างๆ รัง
“ไคล์” ร่างบางนิ่งเมื่อเขาเรียกชื่อ ก่อนที่จะค่อยๆ เปิดเสื้อเชิ้ตเห็นเพียงแววตากลมที่แดงช้ำท่าทางเหมือนลูกกวางน่าสงสาร เขาถอนหายใจเบาแล้วรั้งโอเมก้าตัวน้อยออกจากรัง
“อ๊ะ”
“ชู่วไม่เป็นไรแล้วไม่ทำอะไรแล้ว” เขากอดร่างเล็กพร้อมกับลูบหลังเบาๆ พร้อมกับโยกตัวเบาๆ
“อึกฮือออ” พอร่างกายผ่อนคลายอาการเกร็งลงเจ้าตัวก็ร้องไห้โฮ เขาก้มหน้าลงมองร่างบางมือขาวที่กำแน่นอยู่บนเสื้อสูทดวงตากลมที่เคยเปล่งประกายที่เคยเห็นกลับแดงก่ำมีเพียงความเศร้าแก้มขาวเต็มไปหยาดน้ำตา
“พอแล้วไม่ร้องแล้ว” น้ำเสียงแข็งๆ พูดออกไป
“อึก..อย่ามาสั่งกันนะ” เออ ดูท่าจะไม่เป็นไรแล้วมั้งถึงได้ตอบโต้แบบนี้ นั่งกอดปลอบไม่นานร่างบางก็เงียบพอก้มลงไปมองก็เห็นว่าหลับไปแล้วคงจะไม่ได้นอนทั้งคืนสินะ
ก๊อกๆ
“เข้ามา”
“ลุงหมอมาแล้วนะ น้องเป็นไงบ้าง” เพราะคนในอ้อมกอดหลับสนิทเขาถึงบอกให้ไฮด์เข้ามา ผมพยักหน้าแล้วอุ้มคนท้องขึ้นแนบอกแล้วค่อยๆ วางลงที่เตียง
“ให้เข้ามาเลยก็ได้ตอนนี้กำลังหลับสนิท”
“สั่งฉันจังนะ” ถึงจะบ่นไฮด์ก็ออกไปตามลุงหมอ พอเข้ามาลุงหมอก็ตรวจแววตาของลุงหมอเต็มไปด้วยคำถามแต่ก็ตรวจร่างบาง รอยน้ำตาที่เปื้อนแก้มอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเช็ดที่แก้มนิ่มเบาๆ ท่ามกลางสายตาแปลกใจของญาติทั้งสอง เมื่อตรวจเสร็จใบหน้าเหี่ยวย่นเคร่งเครียด
“โนเอลออกไปคุยกับลุง ทุกคนให้น้องนอนพักก่อน” เขาที่จะลุกตามลุงหมอไปต้องหยุดชะงักเมื่อคนที่คิดว่าหลับสนิทดึงชายเสื้อเขาไว้ เลยต้องถอดเสื้อสูทคลุมให้ถึงได้หลับสนิท เมื่อลงมาข้างล่างทุกคนก็นั่งรออยู่แล้ว
“นั่นคู่เราใช่ไหมโนเอล” ผมพยักหน้ารับ “น้องเครียดมากถึงสร้างรังก็ไม่ช่วยอะไรแล้วตอนนี้กลิ่นของเราอาจจะช่วยน้องได้แต่ก็ไม่ทั้งหมดร่างกายน้องตอนนี้กำลังต่อต้านกันเองถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก” พอลุงหมอพูดจบเขาก็รู้สึกเยียบเย็นไปทั้งตัว ทั้งไฮด์และป้าแอนต่างหน้าซีด
“แล้วต้องทำยังไงครับ” นานกว้าที่จะหาเสียงตัวเองเจอ สิ่งที่อยู่ในหัวเขาตอนนี่คือเพราะสิ่งที่เขาทำเมื่อวันก่อนทำให้เกิดผลแบบนี้
“ยังดีที่น้องยังติดกลิ่นเรา ถ้ามีเราอยู่ด้วยคงช่วยน้องได้”
“ที่น้องเป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้โนเอลนะครับลุง” ไฮด์พูดแย้งขึ้น
“งั้นเราจะเอายังไงโนเอล ถ้าห่างกันต่อไปน้องจะไม่ติดกลิ่นเราแล้วนะ” คำว่าไม่ติดกลิ่นนี่ทำให้ผมไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว
“ผมจะดูแลเอง” ทุกคนดูเหมือนจะแปลกใจที่ผมตอบตกลง ลุงหมอบอกวิธีดูแลกับผมหลายอย่างแล้วก็กลับผมเลยบอกให้ลากไฮด์กลับไปด้วยส่วนป้าแอนก็บอกว่าจะไปเตรียมอาหารให้ ผมเลยขึ้นไปข้างบนพอเปิดประตูเข้าไปก็นึกขำเมื่อร่างบางสร้างรังอีกแล้วกอดสูทของเขาแน่น เขาเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างๆ รังเล็กๆ นั่นหวังว่ากลิ่นของเขาจะช่วยได้
“อือ” เพราะรู้สึกดีขึ้นร่างกายก็เริ่มที่จะประท้วง ผมครางเบาๆ เพราะรู้สึกหิวผมลืมตาขึ้นมาก็ต้องตกใจจนแทบตกเตียงหากไม่มีมือใหญ่ที่คว้าข้อมือเขาไว้ทัน
“ตกไปจะทำยังไง” เสียงทุ้มนั่นดูเปลี่ยนไปจากเมื่อวานแต่ผมก็ไม่ใจหรอกนะ ผมพยายามที่จะขัดขืนแต่ก็ไม่มีประโยชน์ ได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่ร่างของเขาจะลอยลิ่วไปอยู่ในอ้อมแขนพอจะดิ้นวงแขนก็รัดแน่นจนผมกลัว
“ดีขึ้นรึยัง” คิ้วเรียวขมวดแน่นแต่ก็ต้องยอมรับว่าการได้อยู่ใกล้ๆ ทำให้อาการเกร็งของผมดีขึ้น
“อือ หิวแล้ว” เพราะอีกคนไม่ได้มีท่าทีคุกคามผมเลยตอบไปตามตรง ถึงจะไม่เชื่อใจเต็มร้อยก็เถอะนะ
“ป้าแอนคงทำอะไรไว้รอแล้ว”
“อย่ามาเรียกป้าแอนนะ” ป้าแอนเป็นป้าแอนของผม ผมไม่ให้เรียก โนเอลมองคนทำปากยืนๆ ที่ดูท่าจะหวงป้าตัวเอง
“โอเคๆ ลงไปกินข้าวกัน” พอปล่อยผมก็รีบลงจากตักลงมายืนรอข้างเตียงพอคนตัวสูงเดินนำผมก็ค่อยขยับเดินตามในมือยังถือสูทตัวใหญ่ที่ไม่รู้ว่าอีกคนถอดไว้ให้ตั้งแต่ตอนไหนลงไปด้วย
“ป้าแอนครับ”
“หิวแล้วสินะป้าทำไว้ให้เยอะแยะเลย คุณก็มากินด้วยสิ”
“ทำไมต้องชวนด้วยล่ะครับ” ผมกระซิบถามป้าแอน
“คุณเขาอุตส่าห์มาให้เขาทานด้วยเถอะค่ะ” ได้แต่ฮึดฮัดแต่ก็ยอมให้อีกคนร่วมโต๊ะทานข้าวอาหารมื้อใหญ่ถูกจัดเต็มโต๊ะ เพราะไม่ได้ทานอาหารมาสองมื้อใหญ่ทำให้ผมก้มหน้าก้มตาทานทันทีถึงแม้จะมีอาหารอยู่มากมายแต่ส่วนใหญ่ก็ทำมาจากเนื้อปลาที่ผมทานได้เพราะหากเป็นเนื้อถ้าทานเยอะๆ แล้วผมท้องอืด
“อร่อยนะครับ”
“ขอบคุณจ๊ะ” สองคนคุยกันถูกคอจนผมหน้ามุ่ย ทานจนอิ่มผมก็ช่วยป้าแอนยกจานไปเก็บแต่สายตาก็คอยแต่มองคนที่นั่งโซฟาบ่อยๆ ไม่รู้จะยังอยู่ทำไมจนกระทั่งล้างจานเสร็จผมค่อยเดินไปนั่งที่โซฟาที่ห่างออกไป
“ฉันมีเรื่องจะตกลงกับนาย”
“ผมไม่ยกลูกให้คุณหรอกนะ” ผมยกมือขึ้นลูบท้องนูนเบาๆ
“ไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ ลุงหมอบอกว่านายเครียดเกินไปฉันจะมาอยู่กับนาย”
“ผมจะเครียดก็เพราะคุณ” ผมพูดแย้งทันที
“ถ้านายยังสร้างรังอยู่แบบนี้เพราะความเครียดมันจะไม่ปลอดภัยทั้งนายและลูก” เมื่อพูดถึงลูกผมก็ก้มหน้าลงต่ำมือลูบขึ้นลูบลงเบาๆ
“อ๊ะ”
“เป็นอะไร”
“ลูกดิ้น อึก” พอสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นน้อยๆ บนหน้าท้องน้ำตาผมก็ไหลพรากลงมาอีกครั้งเพียงแต่มันเป็นน้ำตาแห่งความสุขคุณหมอบอกแล้วว่าอีกไม่นานเจ้าตัวแสบจะดิ้นแต่พอจะดิ้นก็มาดิ้นวันนี้ ผมแตะที่หน้าท้องแรงกระทุ้งเบาๆ ใต้ฝ่ามือ แต่แล้วก็มีมือใหญ่ของอีกคนวางข้างๆ
“เจ็บรึเปล่า” เพราะแรงดิ้นที่ฝ่ามือทำให้โนเอลกลัวว่าร่างเล็กๆ ที่ตั้งท้องจะเจ็บ
“ไม่ครับ ลูกดิ้นแปลว่าแข็งแรงก็ดีแล้วครับ”
“หึๆ ดูท่าจะแสบเหมือนที่ไฮด์ว่าจริง” ผมหลุดขำดูท่าพี่ไฮด์จะไปเล่าวีรกรรมเจ้าตัวแสบให้ฟังสินะ
“คุณจะอยู่ที่นี่ถึงเมื่อไหร่”
“ก็อยู่ไปเรื่อยๆ” พอจะพูดค้านเจ้าตัวแสบในท้องก็ดิ้นเหมือนประท้วง นี่เข้าข้างคนนั้นเหรอเจ้าตัวแสบเพราะดิ้นแรงผมเลยขมวดคิ้ว
“อย่าดิ้นแรงเจ้าตัวแสบ” หมอนั่นกดเสียงเข้มแล้วเจ้าตัวแสบก็ดันเชื่อฟังอีก อะไรอ่ะ ทำไมทำกับแม่อย่างนี้ล่ะเจ้าตัวแสบ
.
โนเอลอยากจะขำกับท่าทางขัดใจเรียวปากบางขยับขมุบขมิบเหมือนจะบ่นเบาๆ ดวงตากลมนั่นฉายแววดื้อดึงแต่เขารู้สึกแปลกใจที่เจ้าตัวแสบฟังเขา เมื่อคิดถึงตรงนี้ใบหน้าหล่อก็ปรากฏรอยยิ้มมุมปากที่พอไคล์เงยหน้าขึ้นเห็นก็รู้สึกแปลกๆ
********************************************************
ดราม่าอะรั๊ยยยยย ไม่มี สงสารพระเอกเราด้วยค่ะ นางมีปม
แต่ทำร้ายได้นะคะฮ่าๆๆ เราให้โนเอลมารองรับทุกคนเอง
น้องไคล์เราก็จะเป็นคุณแม่ที่น่ารักต่อไป
อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมบอกเราด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
******************************
PrimYJ : ฮ่าๆๆ พระเอกเราก็น่าโดนรองเท้าหน่อยๆ
Billie : เกิบทุกคนหมดรึยังคะ 555
Chompoo reangkarn :
miikii : คนแบบนี้ต้องตบจูบค่ะ
papapoope : ปามาเป็นคู่นะคะ
nonlapan : เค้าก็ใจบาง อยากฟัดน้องง
oilzaza001 : ใจเย็นๆนะคะ