Dear, My customer.
ตอนที่34 คนรักลับๆ
ปรากฏว่าข่าวเรื่องสาวปริศนาที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์ควงคู่ไปที่พาเรลตันถูกร่ำลือออกไปอย่างรวดเร็ว เขาถูกเลดี้บาธตั้งคำถามระหว่างเดินเล่นในสวนช่วงเย็น
“จอห์น เมื่อวานนี้ลูกไปที่พาเรลตันหรือจ๊ะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์เลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะพยักหน้า “ใครมาเล่าให้ฟังหรือครับ?”
“แอนเจลิก้า ลูกสาวขอเซอร์วิลเลียม ฟอร์ดจ้ะ”
“อ้อ...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “จำได้ล่ะครับ ผมพบเธอที่พาเรลตันเมื่อวานนี้”
“เธอว่าลูกควงสาวสวยไปด้วย”
“....” ลอร์ดโทรว์บริดจ์นิ่งไปอึดใจ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “เธอเล่าให้แม่ฟังว่าไงหรือครับ?”
เลดี้บาธมองหน้าลูกชาย แล้วยิ้ม “แสดงว่าลูกจะไม่เล่าเรื่องก่อนสินะ”
“ผมอยากฟังว่าแม่ได้ยินอะไรมาครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า เลดี้บาธพูดต่ออย่างรู้ทัน
“ลูกจะได้แก้ตัวถูกใช่ไหมล่ะจ๊ะ”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์หัวเราะอีก ขณะที่แม่ของเขาพูดต่อ “เธอว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมาก ท่าทางเธอดูผิดหวังทีเดียวที่ลูกประกาศว่าผู้หญิงคนนั้นกับลูกเป็นคนรักกัน”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ชะงักรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนหัวเราะอย่างเก้อเขิน
“คือจริงๆ แล้วผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอเข้าใจผิดแบบนั้น”
“งั้น... เรื่องมันเป็นอย่างไรล่ะจ๊ะ”
“คือ... เรื่องมันยาวอยู่ครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า เขาพยายามคิดหาคำอธิบายที่ฟังดูเข้าท่าพอสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ผมว่าเราไปคุยกันที่ศาลาดีกว่าครับ”
“ก็ได้จ้ะ”
สองแม่ลูกเดินคล้องแขนกันไปตามทางเดินที่ปูด้วยหิน ผ่านสวนที่ถูกตัดแต่งเป็นอย่างดี เลดี้บาธสั่งสาวใช้ประจำตัวให้ไปยกน้ำชามา ระหว่างที่เธอกับลูกชายนั่งลงในศาลา
“ว่าไงจ๊ะ พร้อมจะเล่าเรื่องสาวสวยที่ได้หัวใจของลูกไปคนนั้นแล้วหรือยัง?” เลดี้บาธพูดยิ้มๆ ลอร์ดโทรว์บริดจ์เกาศีรษะ เขาพยายามคิดหาคำพูดที่ฟังดูเข้าท่าเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“จริงๆ แล้วมันก็เรื่องไม่เป็นเรื่องนั่นล่ะครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “เมื่อวานนี้จอร์จเกิดอยากเล่นแผลงๆ ขึ้นมา...”
“โอ้ เรื่องนี้เกี่ยวกับจอร์จจี้หรือจ๊ะ?” เลดี้บาธมีสีหน้าแปลกใจ ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า
“ครับ แต่เรื่องนี้เป็นความลับมากนะครับ แม่ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใคร ไม่อย่างนั้นจอร์จต้องฆ่าผมตายแน่ๆ”
เลดี้บาธหัวเราะออกมา “จ้ะ แม่สัญญา ไหนเล่ามาซิ ว่าจอร์จจี้กับลูกเล่นอะไรกัน”
“จอร์จวางแผนแกล้งผม ด้วยการปลอมตัวเป็นผู้หญิงครับ”
“โอ๊ย ตายแล้ว” เลดี้บาธยกมือขึ้นทาบอก “จอร์จจี้ทำไมนึกพิเรณทร์ขนาดนั้นได้ล่ะเนี่ย”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์หัวเราะ “ใช่ไหมล่ะครับ ผมเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะเล่นพิเรณทร์ขนาดนั้น”
“แม่ว่าจอร์จจี้คงไม่ได้ปลอมตัวเป็นหญิงชราแบบมิสเตอร์โฮล์มหรอก ใช่ไหมจ๊ะ? ไม่อย่างนั้นแอนเจลิก้าคงไม่ทำหน้าผิดหวังแบบนั้น”
“อ้อครับ เขาปลอมตัวเป็นเลดี้สาว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจนนี่ที่ทำให้เขาดูสวยขึ้นมาได้ครับ”
“โอ้ แม่ได้ยินว่าเจนนี่แวะมาธุระที่ลอนดอน นี่ลูกได้พบเธอแล้วหรือจ๊ะ?”
“ครับ เมื่อวานเธอไปกับพวกเราด้วย”
“โอ... งั้นก็แสดงว่า ผู้หญิงที่ลูกควงไปด้วยเมื่อวาน ก็คือ...”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “แม่ห้ามบอกจอร์จเรื่องนี้นะครับ ห้ามบอกเลดี้แอนโดเวอร์ด้วย”
เลดี้บาธสั่นศีรษะ “แม่ว่าเนตตี้คงไม่อยากรู้เรื่องนี้หรอกจ้ะ ว่าแต่ทำไมต้องไปถึงพาเรลตันกันด้วย แม่ว่ามันเสี่ยงมากเลยนะจ๊ะ ถ้าจอร์จถูกจับได้ ต้องขายหน้ามากแน่ๆ”
“เป็นความคิดของเจนนี่ครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “เธอคิดว่าจอร์จต้องทำบางอย่างให้คุ้มกับการที่เธอเสียเวลาแปลงโฉมให้เขา”
“อ้อ...” เลดี้บาธพยักหน้า “ว่าแต่เรื่องที่ลูกประกาศตัวว่าเป็นคนรักกับจอร์จจี้... เป็นแผนของเธอด้วยหรือจ๊ะ? แม่ว่ามันออกจะแรงไปหน่อยนะ”
“โอ้ ไม่หรอกครับ เป็นผมพูดเอง” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ตอบ “เพราะจอร์จสวยมากครับ ผมไม่อยากให้ความแตกเวลามีผู้ชายมาเกาะแกะ เลยแกล้งประกาศไปว่าเราเป็นคู่รักกัน”
“โถ...” เลดี้บาธคราง “พวกลูกนี่พิเรณทร์กันจริงๆ เลยเชียว”
“แม่โกรธรึเปล่าครับ?”
เลดี้บาธถอนหายใจ “แม่ไม่รู้จะโกรธตรงไหนจ้ะ แต่แม่อยากให้ลูกบอกเรื่องนี้กับแคทเธอรีน แม่ไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดไปด้วย”
“ครับ”
“แล้ววันหลัง ถ้าจะเล่นพิเรณทร์แบบนี้อีก ลูกไม่ควรจะแสดงฐานะที่แท้จริงนะจ๊ะ”
“ครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “แม่จะเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟังรึเปล่าครับ?”
เลดี้บาธนิ่งไปอึดใจ “ถ้าเขาถาม แม่จะอธิบายแทนลูกก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์คลี่ยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด “ผมคิดว่าจะปลูกต้นเชอรี่ตรงใกล้ๆ ศาลาน้ำชา พอถึงฤดูใบไม้ผลิ มันต้องออกดอกสวยมากแน่ๆ แม่คิดว่าอย่างไรครับ?”
“โอ้... นั่นสินะ มันต้องสวยมากแน่ๆ” เลดี้บาธพยักหน้าเห็นด้วย “ทำไมแม่ถึงไม่เคยคิดมาก่อน ต้นเชอรี่ที่คฤหาสน์ท่านดยุกน่ะสวยมากจริงๆ เดี๋ยวแม่บอกสโตนสันให้ไปหาพันธุ์มาปลูกบ้างดีกว่า”
-----------------------------------
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันต้องประหลาดใจ เมื่อลอร์ดโทรว์บริดจ์ห้อรถม้ามาที่คฤหาสน์ของเขาหลังเวลามื้อเย็นไม่นาน เขารีบไปพบเพื่อนรักในห้องรับแขกส่วนตัวทันที
“เกิดอะไรขึ้นจอห์นนี่ ไม่ใช่ว่านายทะเลาะกับพ่อตอนมื้อเย็นแล้วหนีออกมาหรอกนะ”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยกมือเป็นเชิงปฏิเสธ “นั่งก่อนสิจอร์จ ฉันไม่ได้ทะเลาะกับพ่อหรอก”
“แล้วลมอะไรหอบนายมาถึงนี่ล่ะ?” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันนั่งลงแล้วพูดต่อ “นายคงไม่โผล่มาโดยไม่มีเรื่องอะไรหรอก จริงไหม? ท่าทางนายรีบร้อนน่าดูนี่ มีอะไรเกิดขึ้นหรือไง?”
“คืออย่างนี้” ลอร์ดโทรว์บริดจ์เริ่มเล่าเรื่องที่เขาพูดคุยกับเลดี้บาธ เมื่อฟังจบ ลอร์ดจอร์จ เฟลตันก็ถอนหายใจ
“ข่าวของผู้หญิงนี่ไวจริงๆ ฉันน่าจะเตือนนายก่อนว่าเรื่องนี้จะต้องไม่จบง่ายๆ”
“ฉันไม่คิดว่าแม่จะถาม” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องเหลวไหลมาก”
“นั่นมันมุมมองของนาย” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันว่า “สำหรับผู้หญิงที่หมายปองนายมันเป็นเรื่องสำคัญมาก โอ้ ให้ตาย ถ้าเจนนี่รู้เธอจะต้องรู้สึกสนุกมากแน่ๆ แต่ฉันว่าสำหรับนายมันต้องไม่สนุกแน่นอน”
“จริงๆ มันก็ไม่ได้แย่นักหรอก ถ้าแม่ไม่ถามเรื่องนี้กับฉันน่ะ”
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันนิ่งไปอึดใจหนึ่ง “จอห์นนี่ เราต้องไปบอกเรื่องนี้กับเจนนี่ด้วย”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “ทำไมล่ะ? ตะกี้นายเพิ่งพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าถ้าเจนนี่รู้เรื่อง เธอจะต้องรู้สึกสนุกมากแน่ๆ”
“ก็ใช่” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันยอมรับ “แต่ฉันเพิ่งนึกได้อีกว่า แม่นายอาจจะมาหาเจนนี่ พวกเธอต้องคุยเรื่องนี้กันแน่ และถ้าเราไม่บอกเจนนี่ก่อน แม่นายก็จะรู้ทันทีว่านายโกหก”
“โอ...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์คราง อีกฝ่ายพูดต่อ
“ฉันรู้ว่านายไม่อยากให้แม่ของนายรู้ว่าเรื่องนี้มีกอร์ดอนมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะมันจะยิ่งทำให้เธอสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายมากกว่าเดิม”
“อืม ฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ แต่เราจะบอกเจนนี่ว่าไงดี?”
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันนิ่งไปอีกอึดใจก็โพล่งออกมา “เราก็บอกเธอว่า กอร์ดอนเป็นช่างตัดเสื้อให้กับบรรดาสุภาพบุรุษผู้ทรงเกียรติ ถ้าหากลูกค้าของเขารู้เรื่องที่เขาเล่นพิเรณทร์กับฉัน มันอาจจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเขาได้ ฉันว่าเจนนี่จะต้องยอมโกหกตามน้ำกับเราแน่ๆ”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “จริงของนาย งั้นเรารีบบอกเรื่องนี้กับเจนนี่กันเถอะ”
--------------------------------------
เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตเพิ่งส่งลูกๆ ของเธอเข้านอน ตอนที่คนรับใช้ขึ้นไปแจ้งว่าลอร์ดจอร์จ เฟลตันเชิญเธอไปพบที่ห้องนั่งเล่นของเขา เธอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้ม เมื่อเห็นว่าลอร์ดโทรว์บริดจ์นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย
“สายัณห์สวัสดิ์จอห์นนี่ เป็นไงบ้าง?”
“ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า ขณะมองเลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตนั่งลงบนโซฟา ลอร์ดจอร์จ เฟลตันมองพี่สาวของเขา
“เจนนี่ กอร์ดอนกำลังลำบากเพราะเรื่องเล่นสนุกของเธอนะ”
เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตเลิกคิ้วขึ้นสูง “กอร์ดอน? เธอหมายถึงพ่อหนุ่มหน้าสวยเมื่อวานที่ไปด้วยกันกับพวกเราน่ะหรือ? ฉันคิดว่าจอห์นนี่เสียอีก ที่กำลังเดือดร้อน”
“ผมน่ะไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ว่า “แต่กอร์ดอนอาจจะเดือดร้อนแน่”
“ทำไมล่ะ? มีคนรู้แล้วหรือว่าเขาปลอมตัวเป็นผู้หญิง?”
“ยังไม่มีใครรู้หรอก” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันตอบให้ “แต่ต้องมีคนมาถามพี่แน่ๆ”
“แหม... เธอเห็นพี่เป็นคนยังไงกันแน่จอร์จจี้ พี่ไม่ทำให้มิสเตอร์โอเดนเบิร์กเสื่อมเสีย ด้วยการเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังหรอกน่า”
“จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นคนแบบนั้นหรอก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดขึ้นมาบ้าง “แต่แม่ฉันถามฉันตอนเย็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันไม่อยากให้แม่รู้ว่ากอร์ดอนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย... เขาเป็นช่างตัดเสื้อให้กับพ่อฉัน เป็นช่างตัดเสื้อให้กับท่านดยุกอ็อกฟอร์ดด้วย ฉันไม่อยากให้เขาดูไม่ดีในสายตาผู้ใหญ่ มันเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเขา”
“โอ้... ฉันเข้าใจล่ะ” เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตพยักหน้า “เธอกลัวว่าแม่ของเธอจะมาคุยกับฉันเรื่องนี้ แล้วฉันจะเล่าไม่ตรงกับที่เธอเล่าสินะ”
ทั้งสองหนุ่มพยักหน้า เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตมองพวกเขาครู่หนึ่ง แล้วคลี่ยิ้ม “งั้นเธอต้องเล่ามา ว่าเธอเล่าให้แม่ของเธอฟังว่าอย่างไร ฉันจะได้สวมบทได้ถูก”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์จึงเล่าเรื่องที่เขาเล่าให้เลดี้บาธฟังอีกหน เมื่อฟังจบ เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตก็พยักหน้า “มันฟังดูเข้าท่าทีเดียว ที่เธอเปลี่ยนตัวละครเป็นจอร์จจี้ ฉันแน่ใจว่าฉันกับแม่ของเธอต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างสนุกสนานตอนดื่มชาแน่ๆ” เธอพูดด้วยความร่าเริง “แทบจะรอเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังไม่ไหวแล้ว”
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันหรี่ตามองพี่สาวของเขา “พี่คงไม่ได้นึกสนุกกับเรื่องนี้จริงๆ ใช่ไหม? ผมหมายถึง พี่คงไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟังอีก นอกจากแม่ของจอห์นนี่”
“โอ... ถ้าไม่มีใครถามพี่ก็ไม่เล่าหรอก” เลดี้เจนนิเฟอร์ เฟลตัน – แอ็บบ็อตว่า “แม้พี่จะรู้สึกว่าเรื่องที่จอห์นนี่เล่ามันเป็นเรื่องที่สนุกมากก็ตาม”
“เจนนี่” ลอร์ดจอร์จ เฟลตันเรียกพี่สาว “ผมขอร้องพี่ เห็นแก่พระเจ้า นอกจากเลดี้บาธจะถามพี่แล้ว พี่ห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด แม้แต่เพื่อนๆ ของพี่ก็ตาม”
“แหม... อย่าทำหน้าดุแบบนั้นสิจอร์จจี้ พี่ไม่ใจร้ายกับน้องชายที่รักหรอกน่า”
ลอร์ดจอร์จ เฟลตันถอนหายใจ ทั้งสามคนคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะที่ลอร์ดโทรว์บริดจ์จะขอตัวกลับคฤหาสน์
------------------------------------------
“จอห์นคะ ฉันได้ยินเรื่องที่พาเรลตันแล้วค่ะ” เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนพูดด้วยความตื่นเต้น “ได้ยินว่าเธอสวยมาก ฉันอยากพบเธอมากเลยค่ะ เธอคือผู้หญิงที่คุณพูดถึงวันก่อนใช่ไหมคะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยิ้มอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ เขาเพิ่งค้นพบว่าข่าวลือในหมู่ผู้หญิงไวเสียยิ่งกว่าปรอทเสียอีก
“คือ...” ลอร์ดหนุ่มอ้ำอึ้ง เขาสามารถแก้ตัวกับเลดี้บาธได้ว่ามันเป็นการเล่นสนุกของจอร์จก็จริง แต่สำหรับเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอน หากเขาบอกไปแบบนั้น ก็เท่ากับเอาเพื่อนรักของตัวเองไปแฉ ตอนแรกเขาคิดจะแก้ตัวว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ แต่ดูเหมือนว่าเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนกลับให้ความสนใจกับเรื่องนี้เอามากๆ
“เรื่องนี้มัน... ค่อนข้างลำบากสำหรับผม” ลอร์ดหนุ่มพยายามคิดหาคำพูดดีๆ แต่ก็คิดไม่ออกเอาเสียเลย ใจหนึ่งเขาอยากยอมรับกับเลดี้แคทเธอรีนไปเลยว่านั่นคือคนรักของเขา แต่ถ้าหากเธอถามต่อล่ะ? เขาคงตอบไปไม่ได้แน่ว่าคนรักของเขาคนนั้นคือช่างตัดเสื้อ
เลดี้แคทเธอรีนมองเขาด้วยความแปลกใจ “ทำไมล่ะคะ? คุณอุตส่าห์พาเธอไปที่พาเรลตันเชียวนะคะ ฉันคิดว่าคุณพร้อมที่จะประกาศเรื่องนี้แล้วเสียอีก”
เธอมีสีหน้าผิดหวังเล็กๆ ลอร์ดโทรว์บริดจ์พลันรู้สึกว่าตัวเขาช่างไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย เขาเพิ่งพาคนรักไปอวดโฉมที่พาเรลตัน แต่พอมีคนถามเขากลับทำได้แค่อ้ำๆ อึ้งๆ แต่... จะให้เขาตอบไปว่าอย่างไรเล่า...
“แคท ผมรู้ว่าคุณกำลังรู้สึกผิดหวังมากกับพฤติกรรมของผม ผมทำให้คุณรู้สึกว่าผมช่างไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนมาก ผมบอกคุณได้เพียงว่าคนที่ผมพาไปที่พาเรลตันเมื่อวันอาทิตย์เป็นคนรักของผมจริงๆ แต่ผมไม่สามารถเปิดเผยที่มาที่ไปของผู้หญิงคนนั้นได้”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนมองหน้าลอร์ดโทรว์บริดจ์แล้วยิ้ม “ฉันไม่ได้อยากละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณหรอกนะคะ แต่คุณให้ความกรุณาต่อดิฉันและเบนมาก ดิฉันจึงอยากจะช่วยเหลือคุณเป็นการตอบแทน ถ้าการซักถามของฉันทำให้คุณลำบากใจ ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น” ลอร์ดโทรว์บริดจ์รีบพูด “คุณเป็นคนเดียวที่ผมบอกเรื่องนี้...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “บอกเรื่องที่ว่าคนคนนั้นเป็นคนรักของผมจริงๆ”
“อ้าว แล้วคุณไม่ได้พูดแบบนี้กับคนอื่นหรือคะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ขบริมฝีปาก “สำหรับคนอื่น... หมายถึงพ่อแม่ผม ผมทำให้พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงการเล่นสนุกของผมและเพื่อนครับ”
“ตายจริง” หญิงสาวอุทาน ก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นคุณพาเธอไปที่พาเรลตันทำไมกันคะ? ถ้าคุณไม่ต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะชน คุณก็ไม่ควรจะพาเธอไปด้วย สำหรับผู้หญิงนี่เป็นเรื่องแย่มากเลยนะคะ คุณรักเธอจริงๆ รึเปล่า?”
“รักสิครับ ผมรักเขาสุดหัวใจ” ลอร์ดโทรว์บริดจ์โพล่งออกไป เขารู้สึกปวดร้าวหัวใจที่ไม่อาจบอกเรื่องนี้กับใครได้ และยิ่งรู้สึกอับอายเมื่อถูกมองว่ากำลังเล่นสนุกกับหัวใจของคนอื่นอยู่ เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจ
“พระเจ้าช่วย! จอห์น ตะกี้คุณพูดว่า ‘เขา’ หรือคะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์อ้าปากค้าง เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากไปเสียแล้ว ขณะที่กำลังจะพูดแก้ตัว อีกฝ่ายก็รีบยกมือห้าม
“ขอเวลาฉันสักประเดี๋ยวนะคะ” พูดจบเธอก็ลุกออกจากเก้าอี้ หันหลังเดินออกไปตามระเบียง ลอร์ดโทรว์บริดจ์มองตามเธอไป พลางกำหมัดแน่น
เขาทำพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ตกลงกับตัวเองว่า ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องพยายามโน้มน้าวให้เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนเชื่อว่าฟังผิด แม้จะต้องแลกด้วยเกียรติของสุภาพบุรุษก็ตาม
เหมือนเวลาผ่านไปแรมปี ในที่สุดเลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ใบหน้าของเธอซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เธอมองลอร์ดโทรว์บริดจ์ด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนจะถอนหายใจ
“จอห์นคะ...”
“แคท” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ชิงพูดตัดหน้า “ผมคิดว่าคุณคงฟังผิดไป”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนจ้องเขา “ฉันฟังอะไรผิดหรือคะ?”
“ที่ผมพูดไปเมื่อครู่...” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยายามแก้ตัว “ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดว่า ‘เขา’ ”
อีกฝ่ายพยักหน้า “ฉันทราบล่ะค่ะ”
ลอร์ดหนุ่มมองหน้าเธอ แล้วพยายามยิ้มให้เป็นธรรมชาติที่สุด “อย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องตกใจอะไรหรอกครับ ผมแค่พูดผิด”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนมองเขาด้วยสายตาที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ แล้ววางมือลงบนมือของเขาเบาๆ แล้วพยักหน้า
ลอร์ดโทรว์บริดจ์มองเธอนิ่งงัน เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนซ่อนดวงตาคู่สวยของเธอเอาไว้ใต้หมวก ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นมา
“ไม่เป็นไรค่ะจอห์น ฉันจะไม่บอกใครเรื่องนี้”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่คอ เขาก้มหน้าลงขณะที่เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนเงยหน้าขึ้นมา
“แคท... ผม...”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนมองลอร์ดหนุ่มด้วยสายตาปวดร้าว เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาจึงไม่อยากเอ่ยปากพูดถึงคนรักของเขาเลยสักครั้ง
“ฉันเสียใจค่ะจอห์น ฉันไม่น่าพูดกดดันคุณเรื่องนี้ ฉันไม่รู้เลย...”
“ไม่เป็นไรหรอก” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดขึ้นมาในที่สุด เขาเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา ดวงตาสีเขียวคู่นั้นทั้งปวดร้าวและสงบอย่างบอกไม่ถูก “ที่จริงแล้วผมก็อึดอัดเรื่องนี้มาก”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะ ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ฉันทราบว่านี่เป็นเรื่องใหญ่มาก”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์พยักหน้า “คุณคงผิดหวังมาก และคงรู้สึกรังเกียจผมด้วย”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนสั่นศีรษะ “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ตรงกันข้าม ฉันรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก”
เธอเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดต่ออย่างระมัดระวัง “มีอะไรที่ฉันสามารถช่วยคุณเรื่องนี้ได้รึเปล่าคะ?”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ขยับมือมาบีบมือของเธอเบาๆ “ที่คุณทำอยู่ตอนนี้ก็ช่วยผมได้เยอะแล้วล่ะ”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนบีบมือตอบเขา รู้สึกอับจนคำพูดไปชั่วขณะ ลอร์ดโทรว์บริดจ์กุมมือเธอไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง จึงคลายออก
“ผมขอโทษนะที่ทำให้เราเสียบรรยากาศดีๆ”
“ไม่หรอกค่ะ ไม่ผิดที่คุณเลย ฉันต่างหาก” เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนรีบพูด จากนั้นทั้งสองคนก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“เราอย่ามาแข่งกันโทษตัวเองเลย” ลอร์ดโทรว์บริดจ์พูดขึ้น “วันนี้อากาศดีมาก ผมว่าเราน่าจะออกไปนั่งรถเล่นกัน”
เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนทำตาโต “พูดจริงหรือคะ? รถยนต์น่ะหรือคะ?”
“ใช่” ลอร์ดโทรว์บริดจ์ยิ้ม “ถ้าคุณไม่มีปัญหาเรื่องกระโปรงน่ะนะ”
“ฉันไม่เคยนั่งรถยนต์มาก่อนเลยค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้น “ฉันแน่ใจว่าเรื่องกระโปรงไม่น่าจะใช่ปัญหาค่ะ”
“งั้นเราไปกันเลย ถ้าคุณนั่งได้ ผมจะไปส่งคุณที่คฤหาสน์เอง”
“ว้าว อย่างนั้นฉันคงต้องให้แมคครอตขับรถม้ากลับไปก่อน”
ลอร์ดโทรว์บริดจ์ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เลดี้แคทเธอรีน แบรนดอนยื่นมือไปจับมือเขาไว้ จากนั้นทั้งคู่ก็ออกเดินไปด้วยกัน
---------------------------------