ตอนที่ 12
ในที่สุดการรายงานผลและการตรวจสอบงบประจำไตรมาสก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น เขาที่ตงิดๆ กับเรื่องตัวเลขเมื่อวันก่อน แต่พอเสี่ยบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเขาก็ปิดปากเงียบ แอบทำตัวเป็นสายลับสืบโน่นสืบนี่จากเอกสารที่อยู่ในบริษัทไปเรื่อย แต่เพราะสืบยังไงเขาก็สืบไม่ได้เสียทีสุดท้ายก็ต้องเลิก แถมเรื่องนี้ไอ้รุตก็ปิดปากเงียบกริบ จากที่เป็นคนช่างจ้อก็ทำตัวเป็นหอยนางรม เขาทั้งแกะทั้งแคะทั้งเคาะ เอาอาหารมาล่อ มันก็ไม่ยอมเปิดปากพูด จะให้ไปเซ้าซี้จากเสี่ยอีกรอบก็ไม่กล้า เพราะเสี่ยบอกแล้วว่าไม่มีปัญหาเขาเลยไม่อยากจะตื้อ สุดท้ายเขาที่จนตรอกก็ได้แต่ปล่อยเรื่องนี้ไปแบบเลยตามเลย ไม่ขุดคุ้ยอะไรมาก
ส่วนชีวิตเขากับเสี่ย ตอนนี้เราสองคนก็ปรับตัวเข้าหากันได้มากขึ้น จากที่โดนเสี่ยจัดหนักจัดเต็มมาเกือบทุกคืน ตอนนี้ก็เหลือแค่คืนวันศุกร์ กับคืนก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันธรรมดาจันทร์ถึงพฤหัสฯ นี่เสี่ยต้องเลือกมาหนึ่งวัน ไม่เกินกว่านั้น ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากเรื่องมากหรือเล่นตัวหรอกนะ แต่เสี่ยน่ะไม่รู้ไปตายอดตายอยากหรือเก็บกดมาจากไหน พอผลเลือดออกปุ๊บ ก็จัดเขาหนักปั๊บ ทำเอาเขาที่ห่างหายร้างลาไปนานต้องนอนแปบอยู่บนเตียง แถมเสี่ยก็ใจดีลางานให้ตั้งหนึ่งวัน (ประชด)
เขาที่ถูกจัดหนักมาเลยหยุดงานประท้วง ขอลางานเพิ่ม เขาไม่ยอมเดินขาถ่างไปทำงานหรอกนะ ถึงคืนวันรำลึกความหลังเขาจะไม่ได้เลือด แต่เสี่ยก็จัดหนักอยู่พอควร ขนาดเขาที่(ค่อนข้างจะ)อึดถึกถึงกับไข้ขึ้นนิดๆ เดือดร้อนให้เสี่ยนั่นแหละที่ต้องดูแล หาซื้อหยูกยามาให้ พอซื้อให้เสร็จก็หายต๋อมไปทำงานทิ้งเขาไว้กับแม่บ้าน ไอ้เขาเองก็ไม่ได้หวังหรอกนะว่าเสี่ยจะมาประคบประหงมเพิ่ม แต่อย่างน้อยๆ ก็ช่วยสะกิดให้มันน้อยลงหน่อยได้ไหม เขาป่วยอยู่ยังจะมาสะกิดอยู่ได้ ถึงจะบอกว่าแค่ใช้มือ แต่เสี่ยลองมาเป็นเขาบ้างไหมล่ะ แค่ใช้มือแต่สำหรับคนป่วยมันก็เหนื่อยนะ!
เฮ้อ สุดท้ายเพราะเรื่องที่เขาไม่ยอมให้เสี่ยสะกิดนี่แหละ จากที่ควรจะเป็นเรื่องเล็กๆ เสี่ยก็ทำเป็นใหญ่โตจะปลุกปล้ำเขาให้ได้ นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าวนะ เอะอะจูบๆ แล้วนึกเหรอว่าเขาจะสมยอม เขาเจ็บก้นโว้ย!
เพราะงั้นก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดถึงขั้นเขาชกกับเสี่ย เสี่ยเลยยอมประณีประนอมให้เรากลับไปทำแบบช่วงที่สมัยเป็นเด็กเลี้ยงได้ วันศุกร์จัดเต็มได้ไม่มีปัญหาแต่วันเสาร์ห้าม วันหยุดนักขัตฤกษ์ได้ แต่วันธรรมดาต้องเลือกมาหนึ่งวัน เพราะงั้นเรื่องผัวสะกิดแต่เมียห้ามจึงได้จบลงแต่โดยดีเพียงเท่านี้
อันที่จริง... ตอนที่ทะเลาะกันน่ะ เขาก็อยากจะสวนเรื่องเสี่ยกับคุณปุยฝ้ายอยู่หรอก แต่เพราะไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิด เขาเลยทำได้แต่ปิดปากเงียบ คือมันไม่ใช่ว่าเขาจะหึงหวงหรืออะไรเสี่ยหรอกนะ เขาก็แค่อยากบอกเสี่ยว่า เสี่ยกลับบ้านใหญ่บ้างเถอะ เมียก็รอท่านอยู่ที่นั่น ถ้ายังไงก็ไปจัดเต็มกับเมียบ้างก็ได้ สงสารเด็กเลี้ยงกึ่งชู้แบบเขาบ้าง ถึงจะถึก แต่บ่อยๆ เข้าก็ไม่ไหวนะ เขาไม่อยากให้หูรูดเสียก่อนกำหนด แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่พูด ถึงจะคันปากยุบยิบอยากด่ากราดทุกครั้งเวลาที่เสี่ยจัดหนักก็เถอะ
แล้วเหตุผลหลักอีกอย่างที่เขายอมให้เสี่ยจัดหนักโดยการไม่พูดถึงเรื่องคุณปุยฝ้ายน่ะก็คือ ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่า เวลาที่คุณปุยฝ้ายมาหาเสี่ยน่ะ เสี่ยจะดูเครียดๆ จากที่จัดหนักอยู่แล้ว ก็จะหงุดหงิด รุนแรงยิ่งกว่าเดิม เขาที่ปกติก็เหนื่อยอยู่แล้วก็เกือบจะทนไม่ได้ สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกใช้ปากไม่ก็ออนท็อปแทนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก แล้วเสี่ยในเวลาแบบนี้น่ะนะ พอเริ่มอารมณ์ดีก็ยิ่งลามก จากที่เครียดๆ อยู่ก็สั่งให้เขาทำนั่นทำนี่ แล้วคิดว่าเขาจะยอมเรอะ...
ไม่มีทาง! ถึงเวลาปกติเขาจะเชื่อฟังเสี่ย แต่ในเวลาแบบนี้น่ะฝันไปเถอะ จะให้เขาเล่นกับตัวเองเหรอ ฝันไปเถอะ ชาติหน้าโน่น สุดท้ายเสี่ยที่เห็นว่าเขาไม่ยอมทำแน่ๆ แต่ตาแดงๆ ก็ต้องยอมกลับลำมาเป็นฝ่ายปลอบใจเขาบ้าง ทั้งจูบทั้งไซร้จนเขาเกือบร้องไห้ คือเขาเสียวนะ แต่เสี่ยไม่ยอมให้เสร็จ แถมไม่ยอมให้เขาใช้มือด้วย สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าเขากับเสี่ยต้องเล่นกันแบบเอสเอ็มกลายๆ รอจนเขาน้ำตกนั่นแหละเสี่ยถึงจะยอมปล่อยให้เขาไปได้
เฮ้อ~ คิดแล้วก็อยากถอนหายใจอีกรอบ ไม่รู้ว่าเสี่ยจะอะไรกับเลขสามนักหนา จัดหนักกันทีไรต้องเล่นให้ครบสามรอบ ถ้าเล่นไม่ครบเหมือนองค์จะลงอาละวาดใส่เขาซะงั้น สงสัยที่เขาว่าผู้ชายก็มีช่วงวัยหมดฮอร์โมนหมือนกันนี่ท่าจะจริง ถึงเสี่ยจะยังไม่แก่แต่ใครจะรู้ เล่นหงุดหงิดอย่างกับคนเป็นวัยทอง ทำเอาเขาที่ยังหนุ่มๆ เกือบปรับตัวตามแทบไม่ทัน
ส่วนเรื่องของคุณปุยฝ้าย เขาเองก็พอทำใจได้หน่อยๆ แล้วว่าต้องอยู่เป็นชู้จนกว่าเสี่ยจะเบื่อแน่ๆ เพราะเสี่ยดูไม่มีท่าทีว่าจะเลิกกับคุณปุยฝ้ายเลย ถึงจะมีข่าวออกมาว่าเสี่ยไม่ได้รัก... ถูกจับคลุมถุงชน แต่เสี่ยก็ยังไปไหนมาไหนกับคุณปุยฝ้ายอยู่เรื่อยๆ แถมช่วงหลังก็มีข่าวสังคมออกด้วยกันบ่อยๆ เสี่ยที่ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปก็มีรูปออกสื่อให้เห็นมากขึ้น
แต่ถ้าให้เขาออกความเห็นแบบไม่ลำเอียงนะ เขาว่าเสี่ยไม่เหมาะกับคุณปุยฝ้ายหรอก เหมาะกับเขานี่ เอิ่ม ไม่ใช่หมายถึงเสี่ยเหมาะกับเขาหรอกนะ หมายถึงเขาเหมาะกับคุณปุยฝ้ายต่างหาก เพราะเสี่ยตัวสูงกว่าเขาอยู่ไม่มาก แต่ถ้าเทียบกับคุณปุยฝ้ายถือว่าเสี่ยสูงกว่าเยอะ ถ้าเล่นท่าลิงอุ้มแตง.... แค่กๆ เอาเป็นว่าด้วยขนาดตัว เขากับคุณปุยฝ้ายเหมาะจะเล่นท่านี้ด้วยกันมากกว่าแน่นอน
อะไรเล่า เขาก็แค่คิด เขาไม่ได้อยากแทงข้างหลังหรืออยากเล่นสามหน่อซักหน่อย ของแบบนี้มันก็ได้แต่คิด ช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้ชีวิตคู่สนุกขึ้น ไม่เชื่อคุณไปถามสามีหรือคุณแฟนได้เลย เวลามีอะไรกัน บางทีมันก็ต้องอาศัยจินตนาการด้วย ลียงเฮ(มันมีชื่อนี้ไหม) ลีมึนโฮ (หรือเปล่า) ผู้หญิงที่มีแฟนแล้วเวลาซั่มกับแฟนก็อาจจะคิดถึงคนอื่นเหมือนกัน เพราะงั้นนี่ไม่ใช่เรียกว่านอกกายหรือนอกใจ เขาเรียกว่าเสริมสร้างความจิ้น นางแบบ FHM เหรอ เสี่ยไม่มีนมตู้มๆ แบบที่เขาชอบขย้ำเล่น เขาก็อาศัยแค่จินตนาการไปก่อนก็ได้ ถึงส่วนใหญ่จะ... เอิ่ม คิดไม่ออกเพราะเขาเป็นฝ่ายรับไม่ใช่ฝ่ายรุก แต่พอว่างๆ เขาก็นั่งจินตนาการนะเออ ไม่งั้นลูกชายเขาได้แห้งเหี่ยวหัวโตหมดเพราะโดนใช้งานไม่ถูกด้าน
เฮ้อๆๆ คิดไปคิดมาก็อยากถอนหายใจอีกรอบ ชีวิตในวัยหนุ่มอย่างเขามันช่างน่าเศร้า แฟนซักคนก็ยังไม่มี ถึงเสี่ยจะหล่อ... รวย และอึดมาก แต่เขาก็อยากจะลองกอดผู้หญิงจริงๆ ดูซักครั้ง แต่ไอ้ครั้นขออนุญาตเสี่ยไปใช้สาวบริการเขาก็ไม่ชอบ สงสัยจะติดเชื้อรักสะอาดจากเสี่ยมา เลยไม่อยากเที่ยวมั่วซั่ว
เออ พูดถึงเสี่ยกับสาวให้บริการ ตั้งแต่มีอะไรกันมาเสี่ยไม่เคยให้เงินเขาซักครั้งเลยนะ เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เสี่ยจะให้เงินเขาตอนที่อยู่บนโต๊ะกินข้าว เขาที่กำลังหั่นแฮมกับเบคอนเข้าปากเลยนั่งนิ่ง กำส้อมกับมีดที่อยู่ในมือแน่น กะว่าถ้าเสี่ยวางเงินเมื่อไหร่เขาจะเอามีดกับส้อมนี่แหละปักมือเสี่ยให้ทะลุ ยังดีที่เสี่ยรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง พอเห็นว่าบรรยากาศเริ่มมาคุทั้งที่เขาไม่ยอมเงยหน้า เสี่ยเลยยอมเก็บกระเป๋าตังค์แล้วเดินหนีออกไปดื้อๆ
เพราะอย่างนั้นช่วงนั้นเขาเลยนอยด์เสี่ยไปอยู่สามสี่วัน จนเสี่ยต้องมาง้อพาเขาไปกินนั่นดูนี่ นั่นเป็นครั้งแรกที่เสี่ยพาเขาออกไปหาอะไรกินนอกห้อง กินอาหารในห้องของโรงแรมห้าดาว กินสเต๊กรสชาติสุดอร่อย ดื่มไวน์หอมๆ ไปอีกหลายแก้ว เขาที่อารมณ์ดีมากๆ บวกกับเริ่มเมาๆ เลยยอมยกโทษให้ ออดอ้อนไถหัวไถหางกับตัวเสี่ยว่า เขาไม่อยากได้อะไรจริงๆ แค่อยากทำเพื่อเสี่ยบ้าง
และพอเขาบอกไปเท่านั้นแหละ เสี่ยดันเกิดอารมณ์หื่นเพิ่ม จากที่ฟัดกันแบบพอเหมาะเพราะอยู่ในห้องพักของโรงแรม คราวนี้เสี่ยก็จัดหนักจัดเต็มแถมหื่นออกนอกหน้า เสี่ยจับเขาที่เมาไวน์ให้เอาตัวแปะกับกระจกแล้วสั่งให้เขามองออกไปข้างนอก เขาคงมองได้หรอก... เห็นแต่ตาเสี่ยที่สะท้อนอยู่บนกระจกโน่น! ยังดีที่วันนั้นเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เขาเลยได้นอนพักแบบให้หายเหนื่อย แถมยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่แบบนิวเอ็กซ์พลอร์ (New explore) ทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงอยู่ในโรงแรมของจริง มีอาหารมาเสิร์ฟให้ถึงห้อง บ่ายๆ ก็ลงไปว่ายน้ำเล่น ได้นวดตัวกับทำสปาด้วย
ออกมาจากห้องสปาอีกทีก็ตัวเบาหวิว ขี้ไคลหลุดออกมาหลายก้อน เสี่ยที่ลูบๆคลำๆ ตัวก็เขาก็สั่งว่า ต่อไปให้ขัดผิวด้วย ฮ่วย เงินก็ไม่ได้ยังจะมาสั่งให้ทำนั่นทำนี่ แต่พอเสี่ยโยนบัตรสปามาให้ เขาก็เปลี่ยนใจขอขัดในห้องน้ำแทน คือนานๆ ทีมันก็โอล่ะนะ แต่ทำบ่อยๆ มันก็เหมือนเด็กเสี่ยไปหน่อยไหม แถมเขาก็ไม่ได้รักสวยรักงามถึงขนาดที่ตัวต้องผิวใสกิ๊ก เขาชอบแบบผิวสีแทนๆ มากกว่า ดูสุขภาพดีแถมอินเทรนด์ทางตลาดยุโรป เวลาเดินเปลือยอกในโรงแรมที สาวๆ ฝรั่งนี่หันมามองกันให้พรึ่บ เขาที่ยืดแล้วยืดอีกก็ตัดสินใจจะฟิตหุ่นจนมีซิกแพคให้ได้
แต่เสี่ยนี่สิดันทำตัวเป็นมารคอหอย ตัดบทเขาที่กำลังจะของบไปฟิตเนสว่า หุ่นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อย่าให้มีหกห่อเพิ่ม โธ่เอ๊ย ตัวเองแก่แล้วไม่มีปัญญาทำล่ะสิ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้พูดออกไป แต่อยู่กันมานาน เสี่ยมีเหรอจะไม่รู้ เสี่ยเลยจัดมะเหงกมาให้เขาหนึ่งโป๊ก ตามมาด้วยอาหารแช่แข็งหนึ่งมื้อ เขาที่ช่วงหลังๆ อยู่ดีกินดี มีทำคนทำอาหารให้ก็ต้องรีบคุกเข่ากลับลำ อ้อนวอนขอร้องเสี่ยว่า ไม่เอาอาหารแช่งแข็งแล้ว จะไปวิ่งออกกำลังกายเอง จะยกเวทอยู่ที่ห้อง เพราะงั้นขออาหารให้หนูเถอะนะ ปิ๊งๆๆ
แล้วเสี่ยเรอะจะรอดไม้ตายของเขา ไม่มีทาง ฮ่าๆๆ อยู่กันมานานเขาก็รู้เหมือนกันว่าเสี่ยชอบให้อ้อน เขาเลยไถหัวไถตัวจนเสี่ยยอมใจอ่อนเปิดบัตรสมาชิกฟิตเนสให้ แต่ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามมีกล้าม เขาที่ได้บัตรฟิตเนสมาก็อารมณ์ดี๊ดี บอกว่าจะผ่อนจ่ายค่าบัตรทีหลังให้ แต่เสี่ยก็บอกว่าไม่ต้อง เขาที่เห็นเสี่ยตามใจก็ไม่อยากเรื่องมาก นิดๆ หน่อยๆ แค่นี้อย่าทำเรื่องเยอะ คืนนั้นเขาเลยบริการเสี่ยไปแบบสุดพิเศษ ยอมเล่นในอ่างอาบน้ำด้วย แต่เล่นท่าไหนไปคิดกันเอาเองเถอะ เรท 18+ 30+ ก็จัดไป อย่าให้หัวสมองว่าง
และเพราะเขากับเสี่ยปรับตัวเข้าหากันได้แบบไม่มีปัญหามาก เพราะงั้นแปบๆ ก็ผ่านไปแล้วสามเดือน ซึ่งก็ถึงช่วงที่จะมีวันหยุดยาวอยู่พอดี เขาที่ไม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมลุงกับป้ามานานก็เตรียมว่างแผนลางานไว้ล่วงหน้า กะจะหยุดซัก 7-8 วัน แต่บริษัทดันมีกฎว่าห้ามลาเกิน 7 รวมหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย เขาที่แผนล่มก็ได้แต่ยื่นใบลากับเสี่ยทั้งน้ำตา พยายามอ้อนแต่เสี่ยก็ไม่ยอมใจอ่อนให้หยุดเพิ่ม ใช่ซี้ สิทธิเด็กพิเศษมันหมดไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี่ เขาที่ถูกเสี่ยตามใจจนใกล้จะเสียคนเลยถูกเสี่ยเอามือมาขยี้หัวเล่น ก่อนบอกว่า
" กุญแจบ้าน"
เหออออ กุญแจบ้าน? สองคำสั้นๆ แต่ไม่ได้ใจความ เสี่ยเอากุญแจบ้านไปทำไมอ่ะ แถมไม่ใช่กุญแจบ้านหรือกุญแจคอนโดของเสี่ยด้วย แต่เป็นกุญแจบ้านเขา
เขาที่ยังงงๆ ก็ได้แต่ส่งกุญแจบ้านของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังย้ำกับเสี่ยว่า บ้านเขาไม่พวกเครื่องลายครามหรือพวกถ้วยสังคโลกหรอกนะ และถึงบ้านจะเก่าแต่ก็ไม่ได้ซ่อนสมบัติไว้ แน่นอนว่าพอพูดออกไปก็ได้หมัดมาอีกหนึ่งโป๊ก ก่อนเสี่ยจะดึงไปกอดปลอบ บอกว่าจะหาของขวัญวันเกิดมาให้ เขาที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าใกล้วันเกิดตัวเองก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก บอกเสี่ยว่าไม่ต้องซื้อของแพงมาก
ไอ้ตอนแรกเขาก็นึกอยู่หรอกนะว่าเสี่ยคงซื้อพวงกุญแจสวยๆ ให้ เอาแบบให้เข้ากับสร้อยคออะไรแบบนี้ แต่ที่ไหนได้ ตอนที่เห็นของขวัญเขาได้แต่อึ้ง อึ้งและตะลึงตึ่งตึ๊ง ก่อนตะโกนออกมาว่า
" เสี่ยทำอะไรกับบ้านโผ้มมมมมมมมมมม!!!!!?"
>>>เสี่ยสายเปย์ =.,=
>>>>> ตอนหน้า Club Friday อุฮิ