คาถาที่ 23 [ครึ่งหลัง]ป๊อก!
เสียงเหมือนจุกไวน์โดนดึงออกจากขวดดังขึ้นตอนที่คมเขี้ยวดึงคาวบอยน้อยออกจากช่องทางคับแน่นของเรียวจันทร์ที่ตอนนี้กลวงโบ๋แดงฉ่ำจากการโดนเขาทะลวงสามรอบ หยาดน้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากรูสีแดงที่กลีบเนื้อขมิบช้าๆ เพื่อปรับสภาพให้กลับสู่สภาวะเดิม
ร่างเล็กครางหงิง สองขาสั่นราวกับเจออากาศหนาวเหน็บ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเชื่องช้า พยายามปรับสภาพการหายใจตัวเองให้เข้าที่ สายตามองเตาผิงอย่างเหม่อลอย คมเขี้ยวลุกขึ้นนั่งชันเข่า ดึงผ้าขนหนูที่รองอยู่ใต้ตัวเรียวจันทร์ขึ้นมา พลิกด้านที่ไม่เปรอะน้ำรักของคุณนายที่เสร็จไปสองรอบด้วยมือของเขาเอง แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดภายนอกให้เรียวจันทร์จนเกลี้ยง แต่ภายในยังคงฉ่ำเยิ้ม เขาเลยใช้นิ้วแหย่เข้าไปในรูแดงฉ่ำน้ำ เกลี่ยน้ำข้นๆ ให้ไหลออกมาเท่าที่จะทำได้ และใช้ผ้าขนหนูเช็ดเก็บกวาดให้สะอาด
“หิวข้าวยัง” เขาถามในขณะที่เช็ดก้นกับต้นขาให้เรียวจันทร์ จากตอนแรกว่าจะทำอาหารกินกันตั้งแต่เสร็จครั้งแรก ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วทั้งสองก็ยังไม่ได้กินข้าวหรือน้ำ (เปล่า) แม้แต่คำเดียว
เรียวจันทร์ค่อยๆ ทรุดตัวลงนอนราบกับพื้น ใบหน้าแนบไปกับหมอนที่เอามาจากเตียง สองแขนทิ้งแนบลำตัว พลิกหน้าไปทางคมเขี้ยวที่กำลังเอนตัวลงนอนข้างกัน เอาหัวหนุนหมอนใบเดียวกับนาง แล้วช่วยยกหัวนางขึ้นมานอนเกยหน้าอกตัวเอง เรียวจันทร์เขยิบตัวเองด้วยแรงอันน้อยนิดขึ้นไปนอนทับร่างสูงใหญ่ของสามี
“เดี๋ยวค่อยกิน พักแปบ…” คมเขี้ยวพยักหน้า สองมือเลื่อนไปลูบช่วงสะโพกของเรียวจันทร์เบาๆ
“…การที่นายไม่ได้มีอะไรกับใครนานเป็นปีๆ มันเลยส่งผลแบบนี้ใช่มั้ย” คนอะไร ดูเหมือนจะติ๋มๆ กับเรื่องแบบนี้ แต่พอขึ้นสังเวียน พ่อเขี้ยวกุดไม่ติ๋มแต่มาเต็ม ไม่ได้โหมกระหน่ำแต่ก็ไม่ลดราวาศอกเช่นกัน คมเขี้ยวไม่ใช่คนมีเซ็กส์หลายรอบ แต่คือมีได้นานในแต่ละรอบ เป็นชั่วโมงก็ทำได้ คือพอจะถึงจุดสุดยอดก็จะหยุดแทะเล็มโลมเลียร่างกายเรียวจันทร์ ชวนคุยไปเรื่อย มีเบรกไปดื่มไวน์อีกต่างหาก เหมือนคมเขี้ยวไม่ได้รีบร้อน ตอนที่พักเบรกรอบสอง เขาบอกว่าอยากมีนานๆ ไม่อยากจบเร็ว ไม่อยากตัดความสุขและความเสียวไวๆ ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักสักแปบ แต่ประเด็นคือแรงดีไม่มีหล่น จนเรียวจันทร์เอ่ยปากขอให้พอก่อนหลายครั้งเหมือนกัน
“เกี่ยวด้วยละมั้ง อีกอย่างหมั่นไส้คุณด้วย ชอบยั่วนักไม่ใช่เหรอ” เรียวจันทร์ย่นจมูกหน้างอง้ำ คมเขี้ยวขย้ำก้นขาวเนียนเต็มสองมือแรงๆ
“ก็อยากนี่ แต่ใครจะไปคิดว่านายจะมาแรงเบอร์นี้ล่ะ เลี้ยงม้าแล้วจำเป็นต้องแรงม้าด้วยเหรอ” เรียวจันทร์คิดว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาก็น่าจะช่วยให้ตัวเองสตรองพอตัวแล้วนะ แต่เจอคมเขี้ยวฝังเขี้ยวเข้าไปในตัวแล้วอ่อนแรงจนตัวเปื่อยเนื้อเหลวไปหมด
“แล้วชอบรึเปล่า” เรียวจันทร์ยิ้มอ้อมแอ้ม เม้มปากเบาๆ ก่อนตอบเสียงง๊องแง๊งนิดหน่อย
“ชอบ ถึงใจดี แต่แบบว่า ก็หมดแรงอะ” คมเขี้ยวยิ้มกว้างแล้วหัวเราะเสียงดังตามหลัง ยกสองมือขึ้นแล้วฟาดลงบนก้นงอนๆ แสนเด้งของแม่ตัวดี
“นี่ดีนะ ที่ฉันออกกำลังกายมาเพื่อสิ่งนี้ แล้วก็เคยเจอของนอกมาบ้าง อุ๊ยนั่น…” คุณนายนางรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดต่อหน้าสามี นางเลยยกมือปิดปากฉับ คมเขี้ยวหรี่ตามองน้อยๆ
“…หมายถึงในอดีต ปัจจุบันหนูมีพี่เขี้ยวคนเดียวเลยนะคะ” ว่าแล้วก็ถูแก้มอ้อนบนอกอุ่น
“คนเดียวแน่เหรอ ผู้ชายทักมาเต็มโทรศัพท์ขนาดนั้น” เรียวจันทร์เบิกตากว้างงงๆ ก่อนจะเข้าใจได้อย่างเร็วปรื๋อว่าคมเขี้ยวหมายถึงอะไร
“อู๊ยยย เพื่อน จริงๆ นะ”
“คนชื่อแจเร็ดล่ะใคร คนที่ไม่ได้เมมชื่ออีก” เรียวจันทร์ทำหน้านึก อยากจะไปหยิบโทรศัพท์มากดดูแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าคมเขี้ยวไม่ให้เอาติดตัวมา เพราะกฎหนึ่งของการอยู่ที่นี่คืออย่าเอาเครื่องมือสื่อสารติดตัวมาด้วย มารับพลังธรรมชาติเน้นๆ เท่านั้น (แต่จริงๆ นางคิดว่ามันคือข้ออ้าง)
“แจเร็ดเคยคุยด้วย ปัจจุบันเป็นเพื่อนกัน”
“แล้วมันรู้แล้วใช่มั้ยว่าคุณกับมันคือเพื่อนกัน” เรียวจันทร์ย่นคิ้วนิดหน่อยแล้วทำหน้างง ก่อนจะพยักหน้าแบบขอไปที
“รู้สิ ก็คุยกันแบบเพื่อนอะ เพื่อนจริงๆ ไม่มีล่อแหลมอะไรเลยนะ”
“ก่อนหน้านี้ล่ะ” คุณนายยิ้มแห้งกับใบหน้าขรึมเบาๆ ของพ่อเครางาม
“ก็… เคยลึกซึ้งกัน แบบเนี้ย แบบที่นายทำ แต่ฉันชอบของนายมากกว่านะ” นางรีบอ้อนออเซาะทันที แต่ก็ไม่ได้เฟค ก็พูดจริงๆ อย่างที่รู้สึกว่าชอบคมเขี้ยวมากกว่า
“คุณนี่มันแรดจริงๆ” เรียวจันทร์ตาโต มองหน้าคนพูดที่นิ่งไม่มีล้อเล่น นางเลยทำหน้าบูดไม่พอใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้โกรธจริงจัง
“แหม ทำอย่างกับก่อนมาเจอฉัน นายเวอร์จิ้นงั้นแหละ”
“แต่ผมก็มีทีละคน เชื่อผมสิ ถ้านับแล้ว ผมน้อยจนน่าใจหาย ส่วนคุณมากจนใจหายวาบเลยละ”
“อะ นายมีกี่คนล่ะ แล้วคนสุดท้ายที่นายมีอะไรด้วยอะใคร” จริงๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เรียวจันทร์ไม่เก็บมาคิดอะไรก็ได้ แต่ข้อสงสัยนี้นางอยากรู้จริงๆ ว่าคนที่พรากบริสุทธิ์คมเขี้ยวไปก่อนจะปล่อยให้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้งนานเป็นปีๆ คือนีนางไหน ซึ่งก่อนหน้านี้นางไม่ใช่คนจุกจิกกับเรื่องอดีตของแฟนหรือคนคุยด้วย แต่กับคมเขี้ยวนางอยากรู้จริงๆ
“งั้นวันนี้อยากรู้อะไรให้ถาม…” เรียวจันทร์พยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย คมเขี้ยวชี้ขวดไวน์กับแก้วที่วางอยู่ใกล้ๆ กับเตาผิง เรียวจันทร์ดันตัวเองขึ้นแล้วเอื้อมตัวไปหยิบมาเทใส่แก้ว พอเทเสร็จก็ยื่นให้คนที่นอนอยู่ คมเขี้ยวยื่นมือไปรับ แต่สักพักเรียวจันทร์ก็ดึงกลับแล้วกระดกเข้าปากจนเกือบหมดแก้ว อมไวน์แดงไว้จนแก้มอูมก่อนที่จะก้มลงประกบปากคมเขี้ยว ร่างสูงงงแค่แปบเดียวก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายทำอะไร เลยเปิดปากรับแอลกอฮอล์ที่ไหลจากปากเล็กๆ ของเรียวจันทร์ คนด้านบนค่อยๆ ปล่อยไวน์ให้คนด้านล่างอย่างไม่รีบร้อนจนกระทั่งหมดปากก็ใช้ลิ้นเกลี่ยกันไปมาสักพัก ดูดดึงรสชาติไวน์ที่ติดค้างตรงปลายลิ้นกันไปมา
“เอาอีกมั้ย” คมเขี้ยวพยักหน้า ยกมือขึ้นเช็ดไวน์ที่ไหลออกมาตรงมุมปาก เรียวจันทร์เทไวน์ไปครึ่งแก้วแล้วกระดกเข้าปากในปริมาณเท่าเดิม โน้มหน้าหาคมเขี้ยวแล้วปล่อยไวน์ให้ค่อยๆ ไหลเข้าไปในปาก หนุ่มเครางามกลืนไวน์จากปากหนุ่มหน้าสวยอย่างเชื่องช้า ลูกกระเดือกของร่างสูงขยับยามที่กลืนแอลกอฮอล์ลงไปในลำคอ
“ฮ่า…”
“เอาอีก” เพี๊ย!
คมเขี้ยวบอกและตีมือลงบนก้นเรียวจันทร์แล้วก็เลื่อนขึ้นมาลูบไล้ตรงช่วงเอวคอดไปยังซี่โครง หุ่นเรียวจันทร์บอบบางแต่ก็มีกล้ามเนื้อ เอวคอดกิ่วและมีสะโพกผายเล็กๆ แบบที่ผู้ชายไม่ค่อยมีกัน คงเป็นผลมาจากที่เจ้าตัวกินยาคุมอย่างที่บอก หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันแต่ก็มีกล้ามท้องจางๆ ให้ดูแข็งแรง หน้าอกสองข้างผายเต่งตึงเป็นเต้าเล็กๆ ให้ขยำเล่นได้เพลินๆ ส่วนกลางลำตัวของเรียวจันทร์อยู่ในขนาดพอดี กำลังน่ารัก
“อึก… เอาอีกมั้ย” คนตัวบางถามหลังจากป้อนแก้วที่สามให้คนตัวหนาหมดปากแล้ว คมเขี้ยวกดหน้าลงหนึ่งที
“พอก่อนก็ได้” เรียวจันทร์วางขวดไวน์กับแก้วไว้ข้างพรมฝั่งขวามือตนเอง คมเขี้ยวปล่อยสองมือออกจากใต้ราวนมของเรียวจันทร์ แล้วเอามารองไว้ใต้ท้ายทอย เรียวจันทร์เขยิบท่านั่งบนตัวคมเขี้ยวให้ดีกว่าเดิมเลยทำให้ง่ามก้นถอยไปชนกลางลำตัวคมเขี้ยว
“อุ๊ย จะแข็งอีกแล้วเหรอ เต่งตึงเชียว” คมเขี้ยวยิ้มขำแล้วยักคิ้วให้แม่ตัวดี
“เอา อยากรู้อะไรครับคุณนาย ถามมา”
“ผู้หญิงที่นายมีอะไรด้วยครั้งสุดท้าย คือใคร” ร่างสูงถอนหายใจแผ่วเบาก่อนตอบ
“รุ่นน้องที่มหา’ลัย พอดีได้เจอกันตอนงานเลี้ยงรุ่น เลยคุยกัน มีวันนึงไปดูหนังกันสองคน น้องเขาชวนขึ้นห้องไปกินน้ำ แล้วก็เป็นไปตามนั้นแหละ” เรียวจันทร์เบ้ปากตาโต
“แหม ใช่ย่อยนะยัยคนนั้นน่ะ ชวนขึ้นห้องไปกินน้ำ กินกันไปกี่แก้วล่ะ” คมเขี้ยวยิ้มขำ ทั้งขำจริงและเริ่มกรึ่มนิดๆ เลยขำง่ายขึ้นกว่าเดิม เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบ
“แก้วเดียว หลังจากนั้นก็คุยกันปกติ แต่ผมงานยุ่ง ไม่มีเวลาไปเจอน้องเขา และน้องเขาก็ไม่ชอบมาที่นี่ ก็เลยเลิกติดต่อกันไป”
“ป้องกันรึเปล่าเนี่ย” ที่ถามเพราะว่าตานี่มีอะไรกับนางสดๆ เพรียวๆ น่ะสิ
“ป้องกันสิ ผมพกถุงยางติดตัวไปด้วย”
“แล้วทำไมกับฉันนายไม่ใช้ล่ะ ถ้าฉันเป็นผู้หญิง ฉันท้องไปแล้วนะ” คมเขี้ยวเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วก็พูดต่อ
“ตอนนั้นไม่ได้เตรียมไป ใครจะไปคิดว่าจะไปได้กันกลางป่า แล้วยาคุณก็ออกฤทธิ์ดีเหลือเกิน และผมก็มั่นใจว่าก่อนหน้านี้คุณต้องรักสะอาดมากพอ…” เรียวจันทร์ยิ้มกริ่มแล้วพยักหน้าด้วยความภูมิใจ แม้จะผ่านมามากมายยังไงแต่คมเขี้ยวเป็นคนแรกของนางที่โนคอนด้อมจริงๆ
“…อีกอย่าง คุณจะไปมีอะไรกับใครที่ไหนไม่ได้อีก ต้องมีแค่ผมคนเดียว” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มเขิน มือขวาจิ้มลงบนอกซ้ายร่างสูงจึ้กๆ
“แผนสูงพอๆ กับตัวเลยนะเนี่ย” คมเขี้ยวยกยิ้มมุมปาก หน้ากรึ่มได้ที่
“ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตเป็นไง แต่… ผมไม่ใช่คนคบใครง่ายๆ ชีวิตนี้ผมมีแฟนมาแค่คนเดียว คบกันตั้งแต่มอปลายแล้วก็เลิกกันก่อนเรียนจบมหา’ลัย แล้วก็ไม่เคยคุยกับใครอีกจนมาเจอน้องเขาแล้วก็เอื้องนี่แหละ”
“พูดจริงอ๊ะเปล่า” คมเขี้ยวยิ้ม
“ถามพ่อกับแม่ผมหรือไอ้ดินก็ได้ สามคนนั้นไม่โกหกคุณหรอก” เรียวจันทร์เชื่อว่าแหล่งข้อมูลที่คมเขี้ยวบอกมาน่ะไม่โกหกจริงๆ นั่นแหละ และก็เชื่อด้วยว่าตัวคมเขี้ยวเองก็ไม่โกหกหรอก ตั้งแต่รู้จักกันมาผู้ชายคนนี้ไม่ชอบพูดโกหก มีอะไรก็พูดตรงๆ แต่ไม่ใช่ขวานผ่าซากไร้มารยาท
ไม่งั้นแต่ก่อนนางจะโดนด่า โดนกัดวันเว้นวันขนาดนั้นเหรอ
“ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นไง แต่ฉันอยู่กับนายแล้วแฮปปี้ม๊ากมาก ฉันไม่เคยจีบใครแบบนี้มาก่อนเลยนะ มีแต่คนมาจีบฉัน คิๆ” คมเขี้ยวยิ้มละมุน ทำปากยื่นเป็นสัญญาณขอจูบ เรียวจันทร์เลยก้มหน้าลงมาจุ๊บปากเขาหนึ่งที
“ของคุณล่ะ” เรียวจันทร์ยกไหล่สองข้างขึ้นแว้บหนึ่งแล้วถอนหายใจสั้นๆ
“มีแฟนคนแรกตอนมหาวิทยาลัย ช่วงมัธยมสังคมไม่ได้เปิดกว้าง เลยมีพวกอีแอบขอคบกับฉัน ขอมีอะไรกันแต่ไม่ขอเปิดเผย ฉันเลยยอมโสด เสียตัวครั้งแรกก็ตอนปีหนึ่งอะ เป็นรุ่นพี่ คบกันได้ปีเดียวก็เลิกเพราะพี่แกเริ่มออกสาวมากกว่าฉัน…” เรียวจันทร์ยิ้มแห้งพร้อมกับย่นหน้า คมเขี้ยวขำน้อยๆ
“…ปีสองฉันเริ่มทำงานหาเงิน เวลาก็น้อยลง เพราะตอนนั้นพ่อฉันป่วยแล้ว บ้านเราก็มีตังค์ แต่ฉันกลัวไม่พอ เพราะฉันเหลือพ่อแค่คนเดียว ฉันกลัวจะเสียพ่อไปเลยพยายามหาเงินไว้เยอะๆ ฉันเลยโสดยาว จนก่อนไปทำงานเมืองนอกก็คบกับแฟนเก่าคนที่ฉันเคยอาละวาดใส่นั่นแหละ คบได้ไม่นานก็เลิกเพราะมันนอกใจไปมีคนอื่น แต่ฉันก็ไม่แคร์ เพราะฉันมีอนาคตรออยู่ที่นิวยอร์ก”
“จริงเหรอ โสดไม่มีใครเลยเนี่ยนะ” คมเขี้ยวย่นคิ้วด้วยความสงสัย เรียวจันทร์เม้มปากก่อนยิ้มแหะๆ แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“โสด… แต่ว่า ก็มีจ้ำจี้กันบ้าง” คมเขี้ยวยิ้มหึ
“กี่คน”
“อย่าได้คิดว่าเยอะเชียว นับจำนวนได้ค่ะ ก็มีตากล้องสองคน ทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว บอดี้การ์ดในงานเดินแบบที่ตอนนี้แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้ว มีพระเอกดาวรุ่งในตอนนั้นแต่ตอนนี้ดังม๊าก ถ้าเอ่ยชื่อไปร้องอ๋อ นายแบบรุ่นน้องสองคน เป็นเพื่อนซี้กัน แต่กินกันคนละเดือน แล้วก็มีรุ่นพี่สมัยมหา’ลัยที่วนมาเจอกันที่ผับ มีเอิ่ม…” นางทำหน้าคล้ายว่าไม่อยากจะพูด แต่คมเขี้ยวมองอย่างกดดันเลยยอมพูดออกมาเสี่ยงอ้อมแอ้ม
“…พ่อของเพื่อนคนนึงที่ไม่ได้สนิทกันมากอะ เขาเป็น แต่ว่าแอบ” คมเขี้ยวทำตาโตด้วยความตกใจ
“คุณเป็นชู้เหรอ” เรียวจันทร์ทำตาโตยิ่งกว่าแล้วสั่นหัวรัวๆ
“โนโน! เปล่านะ คือยังไงล่ะ เขาเลิกกันแล้ว แต่เขายังอยู่ด้วยกันเพราะหน้าตาทางสังคม ฉันเช็กมาแล้วอย่างถี่ถ้วน ไม่งั้นฉันไม่ยอมหรอก” คมเขี้ยวย่นคิ้วหน้าเครียดพักหนึ่งก่อนจะคลายคิ้วออกแล้วพ่นลมหายใจยาว
“คุณนี่มัน…” เหมือนคำว่าแรดจะซ้ำซากไป และไม่รู้จะหาคำไหนมาจำกัดความดี เขาเลยทิ้งไว้แค่นั้น
“อย่าโกรธนะ มันเป็นอดี๊ดอดีตจริงๆ คือหลังจากพ่อเพื่อนก็มาเจอ แฟนเก่า เพื่อนนายแบบที่นิวยอร์ก พอกลับมาไทยก็มีแฟนอีกคนแต่คบกันได้สั้นมากๆ แค่เดือนเดียว แล้วก็มาแจเร็ดนี่แหละ” คมเขี้ยวได้แต่อื้อหือในใจกับความโชกโชนของแม่คุณนาย ไอ้ที่บอกว่านับได้ นับได้เป็นสิบคนแล้วเนี่ย
“ไอ้จอมทัพล่ะ” เรียวจันทร์ยิ้มลำบากใจ ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับอ่อยๆ คมเขี้ยวพ่นลมหายใจแผ่วๆ ยกสองมือออกจากท้ายทอยแล้วยื่นไปจับเอวคนข้างบนไว้
“โดนเยอะขนาดนี้ แต่รูยังฟิตอีกนะ” เรียวจันทร์ทั้งโล่งใจและขำที่ได้ยินแบบนั้น นางหัวเราะแหะๆ แล้วก้มลงจูบริมฝีปากคมเขี้ยวหนึ่งที
“หน้าฉันสวยเป๊ะ เรื่องอย่างว่าก็ต้องเป๊ะด้วย ฉันมีสูตรขมิบของฉันเองเลยนะ เพื่อความเฟิร์ม” คุณนายยิ้มตาหยีหัวเราะฮิๆ จนไหล่สั่นน้อยๆ คมเขี้ยวยิ้มเผล่ สองมือลูบขึ้นลูบลงตรงซี่โครงใต้ราวนมเรียวจันทร์
“แล้วคนที่ไม่ได้เมมชื่อล่ะ” ร่างเล็กย่นคิ้ว สีหน้าพยายามเค้นว่าไม่ได้เมมชื่อใครไว้บ้าง ซึ่งนั่นไม่ได้ผลเลยเพราะนางไม่ได้เมมชื่อตั้งหลายคน
“เขาบอกว่ารอบก่อนเจอกันแปบเดียว อยากเจอคุณอีก” ตอนนั้นเองที่นางทำหน้าว่าอ๋อแล้วพยักหน้าเบาๆ
“ก็อีตาแฟนเก่าคนนั้นแหละ มันอยากรีเทิร์น แต่ไม่ใช่ว่ารักฉันจริงหรอก มันคิดว่าฉันมีตังค์เลยจะกลับมา ฉันจนจะตาย” คมเขี้ยวหัวเราะน้อยๆ ใบหน้าคร้ามแดดสีเข้มเริ่มแดงเข้มแข่งกับสีผิว
“ว่าแต่ ยัยรุ่นน้องคนนั้น ไม่เคยหวนกลับมาหานายใช่มั้ย” ร่างสูงยักไหล่หนึ่งที
“ก็มีบ้าง แต่ผมงานยุ่งจริงๆ เลยไม่ค่อยได้คุย น้องเขาเลยหายไป ป่านนี้มีแฟนใหม่ไปแล้วแหละ” เรียวจันทร์หรี่ตามองหน้าหล่อๆ ของสามีตัวเอง
“ลองกลับมาอีกสิ แม่จะไล่ตะเพิดไปให้หมด ทั้งเก่าทั้งใหม่นี่แหละ ฉันมีพี่ปาน ธนพรเป็นไอดอล ตบได้ตบ ประกาศได้ประกาศว่านี่ผัวกู!” ท่อนท้ายนางอินมากไปหน่อยเลยเผลอขึ้นเสียงเข้มอย่างกับหญิงสาวในหมู่บ้านบางระจันที่พร้อมออกไปรบ
“โอ๊ย…” คมเขี้ยวหัวเราะดังลั่นจนอกกับหน้าท้องกระเพื่อมแรง เขาหัวเราะอ้าปากกว้าง เรียวจันทร์เห็นแบบนั้นก็เลยร่วมหัวเราะไปด้วย คุณนายเห็นลักยิ้มบนแก้มคมเขี้ยวทีไรก็มันเขี้ยว ต้องก้มลงไปฟัดแรงๆ บนแก้มสากที่ตอนนี้แดงก่ำ หน้าแดงกับเคราดำช่างตัดกันได้อย่างลงตัว สามีนางคนนี้หล่อละลายดวงใจน้อยๆ เหลือเกิน
คมเขี้ยวพยายามหยุดหัวเราะ ก่อนจะพลิกร่างเรียวจันทร์ให้ลงไปอยู่ข้างล่างแล้วจัดการดันลูกชายตัวเองเข้าไปในตัวคุณนาย อาศัยน้ำรักกับกลีบเนื้อที่ยังอ่อนนุ่มหุบไม่เต็มที่ดันตัวเองเข้าไปได้อย่างสะดวก
“อะ… อ้า…” เรียวจันทร์แอ่นอกขึ้นแล้วหายใจหอบเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัดและสุขสม สองมือยกขึ้นจิกหมอนแน่น
“แล้วคุณล่ะ ไม่มีรีเทิร์นหรือหาใหม่แล้วใช่มั้ย” เรียวจันทร์กัดปากล่างแน่นแล้วส่ายหน้ารัวๆ รู้สึกอึดอัดตรงช่องทางด้านหลัง มันหน่วงจนหงุดหงิดเล็กๆ
“หนูเป็นเมียพี่เขี้ยวคนเดียวแล้ว อ๊ะ…” ร่างเล็กบิดตัวน้อยๆ เพื่อให้เกิดการขยับดีกว่าให้ค้างคาอยู่แบบนี้เฉยๆ เพราะมันหน่วงจนอัดอั้น
“พี่เขี้ยวก็เป็นผัวหนูคนเดียวนะครับ ฮึ” คมเขี้ยวยกมือขวาขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ แล้วก้มลงจูบหน้าผากมนไปหนึ่งที
“พี่ขยับให้หนูหน่อย” เรียวจันทร์บอกเสียงอ้อน คมเขี้ยวกรีดยิ้ม แล้วก้มลงอุ้มร่างเล็กขึ้นจากพื้น ค่อยๆ ยืนขึ้นช้าๆ จนกระทั่งยื่นขึ้นเต็มความสูง
“อ้า!!!” เรียวจันทร์โดนส่วนปลายของอาวุธคมเขี้ยวกระแทกเข้าจุดเสียววาบจนต้องแหงนหน้าแล้วกรีดร้องดังลั่น ร่างสูงค่อยๆ เดินถอยหลังไปที่โซฟา ก่อนจะกระแทกก้นลงบนเบาะนุ่มเต็มแรง ส่งแรงกระแทกกระเทือนไปถึงคนข้างบนที่โดนส่วนปลายกระแทกข้างในอีกครั้งจนร้องเสียงหลง
“อ๊ะ… อ๊ะ…” ร่างกายขาวโพลนบิดเร่า หน้าท้องเนียนราบหดเกร็งเพราะความวูบวาบยามที่ส่วนหัวของคาวบอยน้อยคาอยู่ที่จุดกระตุ้นด้านใน
“หนูขยับเองเลย” คมเขี้ยวนั่งเอนหลังใช้สองแขนค้ำตัวเอง ร่างเล็กยกสองมือจับไหล่เขาไว้และแยกขาให้กว้างขึ้นแล้วเริ่มออกแรงขย่มตัวเองบนลูกชายคมเขี้ยวอย่างช้าๆ แต่เน้นจังหวะจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกันอย่างหนักแน่น
ตับ! ตับ! ตับ! ตับ!
“ชอบมั้ย” คมเขี้ยวกระซิบถาม เรียวจันทร์ปรือตามองหน้าหล่อๆ แล้วพยักหน้ารัวๆ ร่างสูงยิ้มกริ่มแล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มนวลหนึ่งที นั่งมองแม่ตัวดีของเขายกก้นขึ้นลงไปตามความยาวที่กลางลำตัวของตัวเขาเอง ช่องทางของเรียวจันทร์ตอดรัดเขาเป็นจังหวะ ยามยกก้นขึ้นก็ขมิบรัด ยามกดก้นลงก็ผ่อนคลาย เสียวสบายๆ แต่ความรู้สึกวูบวาบก็แล่นไปทั่วร่างอย่างเอื่อยๆ
“หนู พี่เขี้ยวอยากดื่มไวน์” เรียวจันทร์หยุดขย่มตอคมเขี้ยว นั่งแช่ค้างไว้อย่างนั้นอยู่พักหนึ่ง สองมือลูบไหล่กว้างทั้งสองข้างไปมา ก่อนจะค่อยๆ ยกก้นขึ้น ทำให้สิ่งที่เชื่อมกันอยู่หลุดออกจากกัน เรียวจันทร์พยายามประคองขาอันอ่อนล้าของตัวเองให้เดินไปหยิบขวดไวน์กับแก้วมาให้ได้ ตอนที่ก้มลงหยิบของขึ้นมา ขาสองข้างสั่นเกือบประคองร่างตัวเองไม่อยู่ แต่ก็ฝืนยืนหยัดได้ไม่ล้ม พอหันกลับไปมองคนตัวสูงที่นั่งใช้มือรูดตรงส่วนนั้นขึ้นลงพร้อมกับยิ้มทะเล้นก็ค้อนสายตาใส่ไปที
“มาอยากดื่มไวน์อะไรตอนนี้เนี่ย” คมเขี้ยวยื่นมือไปรับของมาไว้ในมือ เขยิบตัวไปพิงพนักโซฟา นั่งอ้าขารอให้เรียวจันทร์กลับประจำที่เดิม
“ดื่มไปด้วยดูโชว์จากเมียไปด้วย เพลินตาจะตาย” คุณนายทำปากยื่นใส่และค่อยๆ นั่งคร่อมลงบนลูกชายคมเขี้ยวตามเดิม ก่อนจะยกก้นขึ้นลงในจังหวะเดิมไม่ต่างจากเมื่อกี้ คมเขี้ยวเทไวน์ใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มด้วยความสุนทรียะกับวิวตรงหน้าที่เป็นสีหน้าอึดอัดและทรมานของเรียวจันทร์ แต่กระนั้นก็ยังไม่หยุดแรงขย่ม มีการส่งไวน์ให้เรียวจันทร์ดื่มด้วย ร่างเล็กนั่งนิ่งคาความใหญ่ยาวและดื่มไวน์ลงคอดังอึกๆ พอคมเขี้ยวดึงแก้วออกจากปากก็ขย่มต่อ ทำได้สามสี่ทีคมเขี้ยวก็ส่งไวน์ให้ดื่มอีก
ผ่านไปได้ราวครึ่งชั่วโมงจนไวน์หมดไปหนึ่งขวด เรียวจันทร์ก็ยังนั่งอยู่บนตัวคมเขี้ยว ทำๆ หยุดๆ ตามความเมื่อย คนตัวสูงตอนนี้หน้าแดงก่ำกว่าเดิม ดวงตาเยิ้มและแดงจางๆ ส่วนเรียวจันทร์แดงระเรื่อไปทั้งตัว คมเขี้ยวขอเบรกสักแปบแล้วเดินไปเอาไวน์จากตู้เย็นมาอีกขวด แถมหยิบถั่วลันเตาสีเขียวใส่จานมาด้วย พอกลับมานั่งที่เดิมเขาก็ยกตัวเรียวจันทร์ให้ขึ้นประจำที่ คุณนายตาจะปิดเพราะความง่วงและความมึนของแอลกอฮอล์ ไหนจะเสียพลังงานไปแล้วสามรอบ พอมารอบนี้ต้องเป็นคนคุมเกมให้พ่อเขี้ยวกุดนั่งชมราวกับชมภาพยนตร์อีก
“ใกล้แตกรึยังเนี่ย” เรียวจันทร์ถามพลางกดตัวเองทับไอ้คาวบอยน้อยจนมิด ก่อนที่หน้าจะบิดเบี้ยวเพราะความเสียว คมเขี้ยวยิ้มทะเล้นพลางเทไวน์ใส่แก้วจนเกือบเต็ม
“ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เดี๋ยวก็แตกเองแหละ” ว่าจบก็ส่งไวน์ให้เรียวจันทร์ดื่มไปอีกครึ่งแก้ว ที่เหลือก็เอาเข้าปากตัวเอง เรียวจันทร์เปลี่ยนเป็นโยกหน้าโยกหลังแทนเพราะแรงเริ่มน้อยลงที่จะยกก้นขึ้นๆ ลงๆ แล้ว
“อ้า… อ้า… อ้า…” เสียงใสดังขึ้นยามที่เด้งตัวมาด้านหน้าแล้วส่วนปลายของสามีรูปหล่อสวนทิ่มเข้าตรงจุด คมเขี้ยวที่ตอนนี้มึนๆ เมาๆ แล้วกัดริมฝีปากล่างแน่นด้วยความเสียว สูดปากเป็นระยะยามที่เรียวจันทร์ขมิบตอดรัด มือซ้ายหยิบถั่วลันเตาเข้าปากแล้วเคี้ยวช้าๆ อย่างเพลินๆ สายตาจ้องมองดวงตาฉ่ำปรือของเรียวจันทร์อย่างมัวเมา ทั้งเมาเหล้าและเมากาม มือขวายังคงกระดกไวน์เข้าปากไม่หยุดและก็แบ่งเรียวจันทร์ดื่มด้วยเหมือนเดิม
“อือ… พี่เขี้ยว… หนูเหนื่อย” ร่างเล็กบ่นหน้างอแต่ก็ไม่ยอมหยุดโยก แม้แรงจะลดลงไปบ้างแล้วก็ตาม ตอนนี้เรียวจันทร์มึนหัวเพราะไวน์ ดื่มตอนท้องว่างนี่เมาง่ายและเมาไวดีเหลือเกิน
“งั้นพอก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าหนูทำให้พี่เขี้ยวต่อนะครับ” คมเขี้ยวที่กินแอลกอฮอล์ตอนท้องว่าก็กรึ่มได้ที่ รู้สึกหนักหัวจนตัวเอียงนิดหน่อย น้ำเสียงและแววตาที่ใช้ก็อ้อนมากกว่าเวลาปกติ แถมยังดูน่ารักน่าหยิกขึ้นด้วย เรียวจันทร์ยิ้มหน้าง่วง พยักหน้ารับคำขอนั้น
“ป่ะ งั้นไปนอนกัน”
“หนูลุกไม่ไหว” เรียวจันทร์อ้อนกลับบ้าง คมเขี้ยวยิ้มเยิ้ม หอมแก้มนวลผ่องสองข้างไปแก้มละฟอด เขายกตัวเรียวจันทร์ออกจากตัวเอง พาล้มลงนอนบนโซฟา ก่อนที่ตัวเขาจะกระเถิบก้นลงจากโซฟาไปยืนบนพื้น ก้มตัวลงช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน และพาเดินไปล้างก้นในห้องน้ำก่อนนอน เรียวจันทร์บิดตัวไปมายามที่นิ้วเรียวยาวแทรกเข้าไปด้านในเพื่อช่วยล้างน้ำข้นขาว พอล้างของเรียวจันทร์เสร็จ คมเขี้ยวก็ล้างลูกชายตัวเองให้สะอาดบ้าง หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดให้ตัวเองและเรียวจันทร์ ก่อนจะอุ้มร่างปวกเปียกของอีกฝ่ายออกมาที่เตียง ถลกผ้านวมได้ก็วางร่างขาวเนียนลงบนเตียงนุ่มๆ
“โห ตีหนึ่งแล้ว” เรียวจันทร์ว่าเปลือกตาปรือ หน้าตาพร้อมหลับ คมเขี้ยวเดินไปปิดสวิตช์ไฟตรงประตู มีเพียงแสงไฟจากด้านนอกที่ส่องสว่างรำไรๆ เข้ามา ร่างสูงเดินหน้าเมาอ้อมเตียงไปขึ้นอีกฝั่ง กระเถิบเข้ามานอนซ้อนหลังเรียวจันทร์ ดึงร่างเล็กเข้ามากอดไว้แน่น ก้มลงหอมแก้มขวาดังฟอดแล้วดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมร่างของตัวเองกับคุณนาย
“ถ้าหนูตื่นก่อนพี่ ขึ้นขย่มได้เลยนะ” ชายหนุ่มว่าเสียงอ้อแอ้เล็กๆ เรียวจันทร์ยิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้าเอื่อยๆ เพราะง่วงนอน คมเขี้ยวหอมแก้มนวลอีกทีแล้วล้มตัวลงนอนบนหมอนเดียวกับเรียวจันทร์ จับตัวเรียวจันทร์ให้หันมานอนซบอกตัวเอง วาดแขนซ้ายโอบร่างบางไว้ เปลือกตาปรือ ทั้งเมาทั้งง่วง สักพักก็เรอออกมาเป็นลมขนาดใหญ่ กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งไปทั่ว แต่เรียวจันทร์เองก็มึนจนแยกไม่ออกว่ากลิ่นนั้นมาจากตัวเองหรือจากคนตัวโตที่เมาหนักกว่านาง เนื่องจากดื่มไปเยอะกว่ามาก
“อือ…” คมเขี้ยวครางแล้วก้มลงจุ๊บหัวเรียวจันทร์หนึ่งที มือซ้ายลูบแขนเนียนขาวของอีกฝ่ายไปเรื่อย มือขวาสอดเข้าไปใต้ผ้านวม ลูบลูกชายตัวเองที่ยังแข็งตัวอ่อนๆ ราวกับปลอบให้มันสงบลง ก่อนที่จะพาตัวเองสงบไปพร้อมกับอาการมึนเมาและอาการเสียวค้าง
ส่วนคุณนายแม่ โดนสูบพลังไปจนแทบหมดตัว หลับหนีผัวไปก่อนหน้านี้นานแล้ว
เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้
กลับมาอัพต่อแล้วววว ยังคงอยู่นะคะ ไม่ได้หายไปไหน แต่ติดงานจริงๆ นอนน้อยแล้วน้อยอีก บางทีไปหลับที่ทำงานก็มี มันเพลียยย พอมีเวลาว่างก็รีบตักตวงเวลานอน
พอดีวันนี้มีเบรกยาววว ก่อนจะกลับไปเริ่มงาน เลยรีบมาอัพขุ่นแม่กับขุ่นพ่อเขี้ยวต่อ
พี่เขี้ยวเล่นซะขุ่นแม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่มีแรงแม้กระทั่งจะเดินเหิน ทั้งวันทั้งคืนเลยนะพ่อเขี้ยววว แถมยังมีการอยากจะต่อตอนเช้าอีก กรี๊สๆๆ สมใจมั้ยคะแม่ม่ม่ม่
ประสบการณ์การเสียตัวของขุ่นแม่นี่โชกโชนที่แท้จริงค่ะ คาระวะนะคะแม่ ดีนะคะที่แม่ยังฟาดไม่หมดทุกวงการ แต่แม่ก็สตรองแม้จะผ่านมามากแต่ยังฟิตพิชิตใจพี่เขี้ยวได้!
ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้ และรอคอยกันตลอดๆ ขอบคุณมากนะคะ เม้นมากบ้าง น้อยบ้างในแต่ละตอน แต่มันก็เป็นเม้นจากคนอ่านที่ตามกันอยู่ ก็ขอบคุณคนที่ติดตามทั้งแบบแสดงตนและไม่แสดงตนเลยค่ะ
เจอกันตอนหน้าค่า
แท็ก #WorksTheMagic หรือ #คมเขี้ยวเรียวจันทร์