Chapter 43
กิจ’s Partผมนั่งซึมซับบรรยากาศสบายๆ ริมหาดได้ไม่นาน ไอ้พีมันก็เดินเข้ามานั่งที่เตียงผ้าใบข้างๆ ผมครับ
“ ไงมึง วันนี้ดูอารมณ์ดีจังนะ “
มันหันหน้ามาถามทันทีที่นั่งลงครับ
“ อารมณ์ดีเหี้ยไร เซ็งอยู่เนี่ย... ตามเกาะกูอยู่ได้... ไม่ยอมปล่อยสักที “
“ ฮ่าๆๆ เรื่องนั้นกูรู้ แต่กูหมายถึงว่า... ตั้งแต่เช้าจนมาถึงที่นี่อะ... “
“ ก็.... เปล่า... “
“ เหรอ... อืมๆ.... “
มันขานรับมาในลำคอเบาๆ อย่างไม่คาดคั้น ก่อนจะมองไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าเช่นเดียวกันกับผม
คือ... บางเรื่องมันก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายยังไงดีอะครับ
แต่มาคิดดูอีกที...
บางที... ถ้าเป็นไอ้พีที่ดูจะชอบกันต์มันอยู่บ้าง อาจจะพอมีคำแนะนำดีๆ ให้กับผมบ้างก็ได้..
“ เออมึง... สมมุติว่า... ถ้ามีรุ่นน้องคนนึงมาชอบมึง... แต่ตอนนั้นมึงยังไม่แน่ใจเลยว่ามึงชอบน้องเขารึเปล่า... แล้วมึงก็ปฏิเสธน้องเขาไป... แล้ว.... เอ่อ... จู่ๆ วันนึงมึงดันมารู้ตัวทีหลังว่ามึงเองก็ชอบน้องเขาเหมือนกัน.... มึงคิดว่า... มึงจะทำไงวะ “
พอผมถามจบ มันก็หันหน้ามามองผม พร้อมกับแววตาแฝงความสงสัยอยู่กลายๆ
“ มันจะยากตรงไหนวะ ถ้าเป็นกูนะ กูก็จะจีบน้องเขาไปเลย ยิ่งถ้าน้องเขาชอบมึงอยู่แล้ว.. เอ้ย..!ไม่ใช่.. กูหมายถึงว่า... ถ้าน้องเขาชอบกูอยู่แล้ว มันก็ยิ่งไม่มีอะไรต้องให้คิดเลยไม่ใช่รึไงวะ “
ใช่ครับ.. ถ้ามันแค่นั้น... ก็คงไม่ต้องคิดอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่...
“ แล้วถ้าแบบ.. มันเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่มึงไม่เคยมาก่อนล่ะ “
“ ยังไง.. “
“ ก็.. แบบ.. เอ่อ... “
จะพูดยังไงดีล่ะครับ...
“ ผู้ชายกับผู้ชาย... “
เชี่ย!! นี่มึงเข้ามานั่งในหัวกูรึไงวะไอ้พี !!!
“ ก็.. อืม... “
“ แล้วมึงรับได้มั้ยล่ะ ถ้ามึงรับได้มันก็โอเคนี่ “
“ กูไม่รู้ว่ะ... ก็มันไม่เคยนี่ “
มาถึงจุดนี้... ผมถึงได้มารู้ว่า ได้ถูกมันหลอกให้ยอมรับไปแล้ว.... ไอ้เชี่ยพี !
นั่นไง ดูมันยิ้มส่งมาให้สิครับ กวนตีนอย่างถึงที่สุด พลาดแล้วไงผม....
“ เออ !!! ไม่ต้องมามองกูอย่างนี้เลย เดี๋ยวมึงจะโดนตีนอะ “
“ ฮ่าๆๆๆ กูว่าละ... ให้กูเดาต่อมั้ยว่าใคร “
สัด !! มึงจะเก่งเกินไปละ แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะรู้จริงอย่างที่คุยไว้มั้ย
“ นั้นใคร “
“ ก็จะมีใครละที่ทำเอาหนุ่มๆ วิศวะเราครึกครื้นได้ถึงขนาดนั้นในวันประกวดดาเดือนคณะ เพราะขนาดกูเองก็ยังชอบน้องเขาเลย... “
อ้าว... ยังไงมึง..
คือถึงผมจะรู้ว่ามันชอบก็เถอะนะ แต่พอมาได้ยินจากปากของมันตรงๆ อย่างนี้ มันก็อดหวงขึ้นมาไม่ได้อยู่เหมือนกันอะครับ
“ สัดนี่! ไม่ต้องมามองหน้ากูอย่างนี้เลยนะ กูไม่ได้จะจีบน้องมันแข่งกับมึงหรอก “
มันว่ามาเมื่อเห็นสีหน้าและคิ้วที่ร่นเข้าหากันของผมครับ ว่าแต่...ผิดคลาดแฮะที่ว่ามันจะไม่จีบกันต์อย่างที่ผมเข้าใจ
“ อ้าว... ทำไมไม่จีบวะ ก็กูเห็นมึง.. เข้าหาน้องมันซะขนาดนั้น กูก็นึกว่ามึงจะจีบน้องมันซะอีก “
“ ก็น้องมันน่ารัก... กูก็แค่เอ็นดูน้องมันก็เท่านั้น เพราะถ้ากูจะจีบจริงๆ กูก็คงจะไม่ทำแค่นี้หรอก มึงเองก็น่าจะรู้ “
ก็จริงของมันนะครับ
“ ส่วนที่กูไม่จีบน้องมันก็เพราะกูเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันจะยืดยาวได้แค่ไหน กูไม่อยากทำให้น้องมันต้องมาเสียใจเพราะกู กูก็เลยไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น “
“ ถ้างั้น... มึงว่ากูควรทำไงดีวะ เอาจริงๆ นะ คือกูก็ไม่ได้ชอบผู้ชายไง กูเลยไม่รู้ว่ากูจะเดินไปยังไงบนความสัมพันธ์แบบนี้ “
“ ไอ้กิจ.... มึงอะรู้จักน้องมันดีกว่ากูซะอีก ใจมึงเองต่างหากที่จะตอบตัวเองได้ดีที่สุด “
“ คือกูไม่แน่ใจไง... ว่ากูจะหนักแน่นพอที่จะเดินไปบนความสัมพันธ์แบบนี้ได้ตลอดรึเปล่า แต่อย่างหนึ่งที่กูมั่นใจเลยนะ คือกูว่า... กูรักมันว่ะ... “
“ เชร็ดดดด!!! ตั้งแต่รู้จักกับมึงมา นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเว้ย ที่มึงบอกว่ารักใครอะ... มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ “
ไอ้พีทำตาโตและน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ส่วนผมก็ได้แต่ขานรับตอบมันไปในลำคอเบาๆ ให้เท่านั้น
“ อืม... กูคิดทบทวนดีแล้วล่ะ “
“ อย่างนั้นแล้วมึงยังจะรออะไรอีกล่ะวะ เพราะคนอย่างมึงเรื่องสังคมก็ไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้วนี่.. “
“ มันก็ใช่... แต่กูไม่เคยไง มึงเข้าใจปะ... คือกูกลัวว่ามันจะไปกันไม่รอด แล้วถ้าเกิดมันไปไม่รอดกันขึ้นมาจริงๆ ล่ะ กูกับน้องมันจะมองหน้ากันได้ยังไงวะ ที่สำคัญ... กูไม่อยากจะเสียมันไปนะเว้ย “
“ ฮ่าๆๆๆๆ “
“ ขำเชี่ยไรมึงเนี่ย กูซีเรียสอยู่นะเว้ย “
“ ก็กูพึ่งเคยเจอคนที่ทำให้มึงไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ขนาดนี้อะ กูเชื่อละว่ามึงตกหลุมรักน้องมันแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นคนอย่างมึงคงไม่มีทางเป็นถึงขนาดนี้ได้หรอก “
“ สัดนี่ !!! มึงยังจะขำอีกนะ “
ผมขยับตัวยกขาทำท่าว่าจะเอาเท้าไปถีบมันครับ ก่อนที่มันจะยกมือกันท่าเอาไว้ก่อน แล้วพยายามกั้นขำตัวเอง
“ แต่เอาจริงๆ นะ เรื่องพวกนี้มึงเองเท่านั้นแหละที่รู้ดีที่สุดว่าควรจะทำยังไง มันก็อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ... ถ้ามึงรักน้องมันจริงๆ แล้วอะ และมึงยังไม่คิดจะทำอะไรอีกนะ รับรองได้เลยว่า... มึงได้เสียน้องมันไปจริงๆ แน่ เพราะอย่างกันต์เนี่ยมีแต่คนจ้องจะเข้าหา โดยเฉพาะไอ้ธันเพื่อนมันเนี่ยแหละที่น่ากลัวที่สุด มึงเองก็น่าจะดูออก ว่ามันเอาจริงแน่ๆ “
พูดอีกก็ถูกอีกครับ เรื่องนี้ไม่ใช่ผมจะไม่รู้ ไม่อย่างนั้นที่ผ่านมาคงจะไม่กันท่ามันซะขนาดนั้นหรอก
“ ที่เหลือมึงก็คิดเอาเองละกันนะว่าจะเอายังไงต่อ... แต่ว่า.. มาลองคิดๆ ดูแล้ว ถ้ากูเป็นมึงนะ แล้วน้องมันก็ชอบกูแบบนั้นด้วยแล้ว เป็นกู.. กูก็อาจจะเดินหน้าต่อว่ะ ลองดูสักครั้งมันก็คงจะไม่เสียหายอะไรมั้ง ถือว่าหาประสบการณ์ใหม่ก็แล้วกัน... แถมน้องมันก็น่ารักออกซะขนาดนั้นด้วย คิดแล้วก็น่า..... เชี่ย!!! “
ไม่รอให้มันฝันหวานไปมากกว่านี้ ผมก็ตบหัวมันไปแรงๆ ทีนึงครับ จะได้หยุดฝันลมๆ แล้งๆ ไปสักที
“ สัดนี่ก็หึงไม่เข้าเรื่องนะ !! กูไม่แย่งมึงหรอก กูแค่คิด !! “
“ คิดก็ไม่ได้ ! “
“ เชี่ย...! ถ้ามึงจะเป็นเอามากซะขนาดนี้นะ กูว่ามึงจีบน้องเขาเหอะเชื่อกู สัด!! “
“ ฮานะ!! ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น... ไปซื้อของกัน “
เสียงเจนดังขึ้นมาจากทางด้านหลังไกลๆ ผมกับไอ้พีเลยเหลียวหลังหันกลับไปมองทันที ก่อนจะเห็นฮานะยืนอยู่ด้านหลังพวกเราไปไม่ไกลมาก น้องเขาเหมือนจะมีสีหน้าปะหลับปะเหลือกอยู่เล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาแล้วพูดขึ้น
“ เอ่อ.. พี่ๆ อยากกินอะไรกันคะเย็นนี้ นอกเหนือจากอาหารของรีสอร์ท พอดีฮานะกับเพื่อนๆ กำลังจะออกไปซื้อของสดมากันค่ะ “
น้องเขาถามมาอย่างนี้ครับ ซึ่งผมกับไอ้พีก็ไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มไปอีก
ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าน้องเขาจะแอบฟังหรือว่าได้ยินเรื่องที่ผมคุยกับไอ้พีมากน้อยแค่ไหน แต่เพราะผมไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง ที่ผมเป็นกังวลในหัวก็แค่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับกันต์ที่จะไปกันรอดรึเปล่ามากกว่า กับการที่ผมจะเลือกตัดสินใจทำอะไรออกไป
......................................................
ช่วงค่ำ....
ปาร์ตี้ปิ้งย่างเล็กๆ แต่กลับคึกคักเกินกว่าที่พวกเราตั้งใจกันเอาไว้มาก ด้วยเสียงเจี๊ยวจ๊าวของของบรรดาสาวๆ ทั้งหลาย ซึ่งจริงๆ มันก็ควรจะสนุกอยู่หรอกนะครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่เราอยากจะให้มาด้วย แต่กับน้องๆ กลุ่มนี้ บอกตามตรง เลยครับว่า พวกผมไม่ค่อยจะสนิทใจด้วยสักเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเทียบกับน้องๆ กลุ่มของกันต์มันแล้ว พวกผมคงจะไม่ดูหงอยกันไปซะอย่างนี้หรอก
ตอนนี้ที่โต๊ะไม้ยาวริมหาด มีพวกผม 4 คนกับเหล้า 2 ขวด ( ซึ่งน้อยกว่าที่เตรียมเอามา ) และของทะเลปิ้งย่างหลายอย่างที่พวกน้องๆ เขาจัดมาให้ มันก็ควรจะน่าสนุกอยู่นะครับ แต่ทว่าพวกเราก็ยังคงเงียบและพูดคุยกันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าเบื่ออย่างนี้ เชื่อว่าพวกเราคงกินกันไม่ต้องถึงกับเมาหรอกครับ อย่างมากก็แค่มึนๆ จากนั้นก็คงกลับเข้าห้องแล้วนอนกันเลย...
ผมหยิบเอาโทรศัพท์ออกไปเดินโทรหากันต์มันที่ชายหาดแก้เซ็งครับ คุยกับมันค่อยได้หัวเราะขึ้นมาหน่อย ตอนนี้มันกินข้าวเรียบร้อยไปแล้ว และกำลังนั่งปั่นงานต่อ มันถามผมว่าพรุ่งนี้อยากกินอะไร ซึ่งผมก็แล้วแต่มันครับ เพราะจะเป็นอะไรก็ได้ ถ้าเป็นฝีมือมันแล้ว รับรองเลยว่าอร่อยทุกอย่าง
ผมเลือกที่จะไม่เล่าเรื่องของพวกน้องฮานะ เลยโกหกมันไปว่าตอนนี้พวกเราอยู่กันแค่ 4 คนเท่านั้น คือไม่อยากให้มันคิดมากอะครับ.... สู้ปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปโดยที่มันไม่รู้อะไรเลยจะดีกว่า....
สักพักหนึ่งผมก็วางสายไปและปล่อยให้มันทำงานต่อ ส่วนผมก็เดินกลับเข้ามาหาพวกเพื่อนๆ ที่โต๊ะ ซึ่งตอนนี้พวกน้องๆ ก็มานั่งรวมกันที่โต๊ะจนเต็มแล้ว หลังจากที่เมื่อกี้กำลังสุมหัวกันอยู่ที่เตาปิ้งย่าง
“ เดี๋ยวฮานะชงเหล้าเพิ่มให้นะคะพี่กิจ “
ฮานะพูดขึ้น และไม่รอให้ผมอนุญาตอะไร เธอก็หยิบเอาแก้วเหล้าที่เหลืออยู่แค่ก้นแก้วของผมไปชงเพิ่มให้ทันที และมันก็เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง จนผมเริ่มจะรู้เจตนาของเธอแล้ว และยิ่งไอ้พีมันเข้ามากระซิบบอกผมที่ข้างหู มันก็ยิ่งชัดเจนเลยว่าน้องเขาต้องการจะมอมเหล้าผม แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ เพราะเหล้าแค่นี้ทำอะไรพวกผม 4 คนไม่ได้หรอก
“ พี่กิจนี่หุ่นดีจังเลยนะคะ ดูแลตัวเองดีจังเลย “
ทันทีที่ผมถอดเสื้อตัวนอกออกมาวางไว้บนที่นั่งข้างๆ ตัว เหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวตัวเดียวเท่านั้นที่ใส่อยู่ ฮานะก็พูดขึ้นมาพร้อมกับเอามือมาจับที่ต้นแขนผมพร้อมบีบมันอย่างเบามือเพื่อปลุกเร้าอารมณ์
ผมเหลือบมองด้วยสายตาเนือยๆ จนไอ้บิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดขำออกมา ไม่นานผมก็เบี่ยงแขนให้หลุดออกจากมือของเธออย่างรู้สึกรำคาญ
สำหรับผมนะครับ ผู้หญิงคนไหนยิ่งง่ายก็ยิ่งไม่มีคุณค่า มันน่าเบื่อและไม่ท้าทายอะไรเลย เท่าที่ผ่านมาคนประเภทนี้ อย่างมากก็เป็นได้แค่ของเล่นระยะสั้นของผมก็เท่านั้นเอง
อย่างนึงที่ผมกับไอ้คิมต่างกันในเรื่องของความเจ้าชู้ก็คือ ผมจะไม่คบซ้อน... ซึ่งตอนนี้ในใจของผมก็มีอยู่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือ กันต์... คนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกได้มากกว่าทุกคนที่ผมเคยเจอ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนที่เข้ามา ผมก็จะไม่สนใจทั้งนั้น
ระหว่างการสังสรรค์ ฮานะเองก็ดูจะเปลี่ยนลูกเล่นไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าการมอมเหล้าผมนั้นดูท่าจะยาก ในขณะที่ปริมาณเหล้าที่เหลืออยู่ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ เธอเริ่มเข้ามาเนียนสัมผัสตัวผมมากขึ้น ไม่ว่าจะลูบต้นแขนหรือเอามาวางไว้ที่หน้าขาด้วยท่าทีพลั้งเผลอหรือไม่ได้ตั้งใจ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผล เพราะผมไม่ได้เกิดอารมณ์อะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย
เมื่อถึงที่สุดแล้ว เธอจึงเอนหัวลงมาซบที่ไหล่ผม ทำราวกับว่าเมามากและไม่ค่อยจะไหวแล้วในตอนนี้ ก่อนจะใช้ลูกเล่นเดิมๆ ที่แท็คทีมกับเพื่อนของเธอเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ ฮานะ... ฉันว่าแกดูจะไม่ไหวแล้วนะ “
เจนว่ามาในขณะที่ฮานะเองก็ทำทีคอพับคออ่อนอยู่บนไหล่ผม ทั้งๆ ที่ดื่มไปยังไม่ถึง 2 แก้วเสียด้วยซ้ำ ส่วนน้องลูกพีชที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองก็กำลังนัวเนียไอ้คิมอยู่ในตอนนี้...
ใครจะไปคิดกันละครับ ว่าจากตอนแรกที่เห็นหน้าตาสวยๆ ทำราวกับว่าอ่อนต่อโลก ตอนนี้จะมาพากันทำตัวเหมือนเด็กนั่งดริ้งไปซะอย่างนั้น
ฮานะทำท่าว่าจะลุกขึ้นแต่ก็แกล้งทำเป็นยืนไม่ไหว แล้วจึงล้มลงมากอดผมเอาไว้เสียอย่างนั้น จนทั้งไอ้พีและก็ไอ้บิวต่างพากันขำออกมาราวกับดูละครลิง.... ส่วนผมน่ะเหรอ.. ทั้งหน้าและสายตา... เซ็งโครตๆ เลยครับ
นี่น้องเขาคงจะประเมินพวกเราต่ำไปนะครับ ว่าจะดูละครเด็กๆ ที่พวกเธอกำลังแสดงอยู่ในตอนนี้ไม่ออก แต่เพราะมันก็เป็นแค่เรื่องเด็กๆ นั่นแหละ พวกเราถึงไม่ได้พูดอะไร อย่างมากก็แค่ขำให้กับการแสดงตรงหน้านี้เท่านั้น ( ยกเว้นผม )
“ ท่าทางฮานะจะกลับห้องไม่ไหวนะคะพี่กิจ “
นั่นไง.. ลูกพีชว่ามาด้วยมุขเดิมๆ ซึ่งก็คงตามมาด้วย...
“ รบกวนพี่กิจช่วยพามันกลับไปนอนที่ห้องทีได้มั้ยคะ “
“ ได้สิ... พี่ว่าพี่ก็จะกลับไปนอนแล้วเหมือนกัน “
ผมตอบรับไป ก่อนจะหยิบเสื้อข้างๆ ตัวขึ้นมา พร้อมกับประคองน้องเขาลุกขึ้นตาม
“ อ้าวจะนอนแล้วเหรอวะ... ไวสาด!! “
ไอ้คิมมันทักขึ้นมาครับ ซึ่งผมก็ได้แต่ขานรับในลำคอส่งให้ไปเท่านั้น คือมันไม่สนุกเลยครับ ออกจะน่าเบื่อเสียด้วยซ้ำไป ไม่สุดอย่างที่คิดเอาไว้เลย แบบนี้สู้กลับไปนอนที่ห้องยังจะดีซะกว่า
..........................................
ผมพาฮานะมาส่งถึงหน้าห้อง ทว่าเธอกลับยังคงรั้งให้ผมพาเธอเข้าไปส่งให้ถึงข้างใน ซึ่งผมก็เล่นตามน้ำให้ด้วยเช่นกัน มันก็น่าสนุกดีนะครับว่าน้องเขาจะทำอะไรต่อไป
ผมค่อยๆ ประคองโน้มตัวเธอลงไปนอนบนเตียง ในขณะที่มือเรียวที่คล้องคอผมอยู่นั้น ก็เริ่มไล้ผ่านต้นแขนเปลือยเปล่าของผมไล่ยาวลงมาถึงมือที่ผมถือเสื้อนอกของผมเอาไว้ เธอพยายามคลายมันออกและจับมือผมให้เลื่อนเข้ามาสัมผัสที่เอวของเธอ ซึ่งผมก็ว่าตามไปอย่างง่ายดาย ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเธอก็ยกสูงขึ้นมาสัมผัสแผ่นอกหนาภายใต้เสื้อกล้ามบางของผม ก่อนจะไล้สัมผัสแผ่วเบาไล่ลงมายังขอบกางเกงเพื่อปลุกเร้าในอารมณ์
ผมมองเธอตาเคลิ้มพร้อมกับยิ้มกริ่มอยู่ที่มุมปาก ก่อนที่จะ...
“ หลับให้สบายนะครับน้อง... “
ผมยันตัวลุกขึ้นมายืนอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอนอนหน้าเหวอและค้างในอารมณ์ไปอย่างนั้น....
น่าเบื่อ.. ไร้อารมณ์ และไม่มีคุณค่าอย่างถึงที่สุด...
ผมที่ไม่สนใจอะไรอีก ก็เดินหน้าเฉยออกจากห้องของเธอไปในทันที...
...................
โทษฐานที่ทำผมหมดสนุกกับทริปในครั้งนี้ ก็เชิญผิดหวังนอนอารมณ์ค้างต่อไปเถอะน้อง....
ส่วนผม.... คงต้องรีบนอนแล้วล่ะครับ จะได้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ อยากกลับไปหาคนที่อยากจะเจอแล้วล่ะครับ....
................
เช้าวันต่อมา
ผมที่ไม่ได้เมาอะไรเลยเมื่อคืนนี้ ออกจากห้องแต่เช้าเพื่อมาวิ่งออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกทีที่มาทะเล ในขณะที่ไอ้บิวกับไอ้พีที่ไม่รู้ว่ากลับห้องมากันกี่โมง ยังคงหลับสนิทไม่ยอมตื่นอีกตามเคย
หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ผมก็มานั่งทานอาหารเช้าพร้อมกับจิบกาแฟมองละครดราม่าระหว่างไอ้คิมกับน้องลูกพีชอยู่ไกลๆ ก็คงเป็นการบอกเลิกกันในแบบเดิมๆ ของมันนั่นแหละ แต่คราวนี้ไอ้คิมเจ็บตัวหน่อยครับ เพราะโดนน้องเขาตบหน้าไปหนึ่งที จากนั้นพวกสาวๆ ก็พากันกลับไปเลย โดยไม่ได้เข้ามาลาอะไรกับพวกผมเลยสักคน
จบแบบนี้ก็ดีแล้วครับ หวังว่าเราคงจะไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้วนะ...
...........................................................