Chapter 45
กันต์ ‘s Partที่คอนโด
ผมกลับมาถึงห้องในช่วงหัวค่ำ ซึ่งภายในห้องมืดและเงียบมาก ไม่ต่างอะไรกับใจที่ว่างเปล่าของผมในตอนนี้เลยละครับ และจนถึงตอนนี้.. ผมก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรมาจากพี่เขาเลยสักครั้ง
น้ำตาผมแห้งไปนานแล้วละครับ ร้องไห้จนคิดว่าร่างกายจะผลิตน้ำตาออกมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น... แม้น้ำตาจะหยุดลงไปแล้วก็ตาม แต่จิตใจมันก็ยังคงบอบช้ำอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...
ผมทยอยขนเสื้อผ้าอออกมาจากตู้เรื่อยๆ โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหน แต่ก็คงจะไม่พ้นห้องของไอ้เรย์เป็นแน่ เอาไว้ให้พ้นคืนนี้ไปก่อน แล้วค่อยหาหอพักแถวๆ นั้นอยู่ก็แล้วกัน
ผมรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินกลับมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอย่างไงอย่างงั้นเลย ซึ่งจริงๆแล้ว... นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ที่ผิดก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียมากกว่า... มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละครับ คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตื่นขึ้นมาได้แล้วล่ะ ตื่นมาพบกับความเป็นจริง และการอยู่เพียงลำพังเหมือนที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก...
สำหรับในคืนนี้ ผมก็คงจะขนออกไปได้เพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเท่านั้นแหละครับ ไว้ค่อยมาทยอยขนต่ออีกทีในวันหลังก็แล้วกัน ทว่าทันทีที่ผมถือกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเดินออกมาจากห้อง พี่กิจก็กลับเข้าห้องมาพอดี
“ กันต์.. อะไรอะ... กำลังจะไปไหน “
ผมมองพี่กิจนิ่งด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ระคนกันไป ทั้งหวั่นใจกับคำตอบที่จะให้ไป น้อยใจกับการถูกหลอกลวง เสียใจกับความจริงที่พบเจอ แต่ก็แน่วแน่กับการตัดสินใจในตอนนี้...
“ ผม... “
ผมหลับตาลงเล็กน้อย รวบรวมความกล้าที่ยังพอมีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วตอบพี่เขาออกไป
“ ผมว่า... ผมจะย้ายออกจากที่นี่แล้วล่ะครับ “
“ อะไรนะ...!! พี่ไม่เข้าใจ.. เราหมายความว่าไง “
พี่กิจทำหน้าตาตื่นทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มถามผมมาอย่างร้อนรน
“ ผมก็หมายความอย่างที่บอกนั่นแหละครับ... ผมว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่ผมจะต้องย้ายออกไปจากที่นี่จริงๆ สักที “
“ เดี๋ยวนะกันต์... นี่มันเรื่องอะไร... มีอะไรเราก็บอกพี่สิ ! คุยกันก่อน พี่ไม่ยอมให้เราทำอย่างนี้หรอกนะ “
พูดจบพี่กิจก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากผม แม้ผมจะพยายามยื้อไว้ แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่สำเร็จ
“ เอามาพี่กิจ ! “
ผมพยายามจะแย้งคืน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ก่อนจะถูกพี่เขาคว้าแขนเอาไว้ด้วยมืออีกข้าง แล้วลากผมไปยังโซฟาของห้องรับแขก
“ ปล่อยผมนะพี่กิจ !! “
“ พี่ปล่อยแน่ ! แต่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องซะก่อน !! “
พี่กิจดันผมลงไปนั่งยังโซฟายาว ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาประจันหน้าผมด้วยใบหน้าเข้มๆ เจือความดุดันและปราศจากความอ่อนโยน
“ ไหนว่ามาซิ มีเรื่องอะไร “
“ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ! ผมก็แค่อยากออกไปจากที่นี่ อยากจะมีอิสระกับเขาบ้าง ! “
“ กันต์ !! “
เสียงพี่กิจดังคำรามจนน่ากลัว จากนั้นเราทั้งคู่ก็หยุดลงทุกการเคลื่อนไหว ได้แต่จ้องตากันเขม็งอย่างไม่ยอมลดละ แต่ไม่นาน... ภายใต้ความอ่อนแอภายในจิตใจและความอัดอั้นที่มีมานาน นัยน์ตาของผมก็เริ่มสั่นระริกด้วยน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมา ถึงจุดนี้.. ผมจึงโพล่งออกมาอย่างหมดความอดทน
“ ก็ได้ !! อยากรู้ผมจะบอกให้ก็ได้ !! ผมเบื่อ !! ผมเบื่อกับคำโกหกของพี่ เบื่อความโง่ของตัวเอง และถ้ายังอยู่ที่นี่ ผมก็ต้องเจ็บไปมากกว่านี้ ผมไม่อยากจะรู้สึกแบบนี้อีกต่อไปแล้ว พี่เข้าใจมั้ย !! “
สิ้นเสียงผม พี่กิจก็ดูจะอึ้งๆ ไปอยู่เหมือนกัน ส่วนผมเองก็หายใจหอบถี่ขึ้นมาเล็กน้อย จากการออกแรงตะเบ็งเสียงใส่พี่เขาไปอย่างนั้น ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงและพูดออกไปเสียงเรียบ
“ ดังนั้น... ปล่อยผมไปเถอะนะ.. “
ตอนนี้พี่กิจหน้านิ่งมาก นิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์อะไรไม่ถูกเลย แต่ไม่นานพี่เขาก็เริ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“ กันต์... พี่ไปโกหกอะไรเรา... “
ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันอีก ถ้าอย่างนั้นแล้ว...ก็พูดให้มันหมดเปลือกไปเลยดีกว่า
“ ก็เรื่องพี่ฮานะไง... พี่คบกับเขาอยู่ พี่ไปมีอะไรกับเขา ทำไมพี่ต้องมาโกหกผมด้วย บอกความจริงกับผมก็ได้นี่... แล้วการที่พี่มาทำดีกับผม... บอกว่ารักผม.. พี่ทำเพื่ออะไรวะ ! “
“ อะไรนะ... ฮานะทำไม.. รึว่าเขามาพูดอะไรกับเราอีก “
“ เปล่าเลยพี่... ถ้าแค่ฟังมา.. ผมก็ยังพอจะเชื่อคำพูดที่พี่เคยพูดไว้ได้อยู่หรอก... แต่นี่ผมเห็นมากับตา..! “
“ แล้วเห็นอะไร.. “
“ ก็สิ่งที่พี่ทำวันนี้ไง พี่ไปไหนมา... พี่ไปทำอะไรมาเมื่อตอนเย็น “
“ กันต์.. นี่เรา.. “
“ ใช่.. ผมเห็นมากับตาของตัวเอง ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้อะ.. พี่เห็นผมกับพี่ฮานะเป็นอะไร ถึงได้มาล้อเล่นกับความรู้สึกของเราแบบนี้ “
“ เดี๋ยวนะ.. พี่ไม่เข้าใจ... พี่กับฮานะเราไม่ได้มีอะไรกัน จะต้องให้พี่ย้ำอีกสักกี่รอบว่าพี่ไม่ได้ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้คนที่พี่ชอบก็มีแต่เราคนเดียวเท่านั้น... “
“ ไม่ได้ชอบอย่างนั้นเหรอ... มีผมแค่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ... แล้วที่พี่ไปให้ความหวังเขา... ไปมีอะไรกับเขา... มันคืออะไร...!! “
พอยิ่งเถียงกัน อารมณ์มันก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำเสียงที่เริ่มดังของพวกเรา
“ แล้วพี่ไปมีอะไรกับฮานะตอนไหน..! “
“ ก็วันนี้ไง.. หรืออาจจะ... “
“ จะอะไร ! พูดให้มันจบสิ “
“ ............. “
ทำไมต้องให้ผมพูดเรื่องที่รู้สึกเจ็บแบบนี้ด้วย แค่นี้น้ำตาที่ไหลอยู่ของผมมันยังไม่สาแก่ใจของพี่อีกเหรอ
“ กันต์...! ฟังพี่นะ... ใช่...วันนี้พี่ไปพบฮานะมาก็จริง.. แต่ก็เพราะว่ามันมีสาเหตุ... และพี่ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย ทั้งวันนี้และก็ก่อนหน้านี้ ! “
ไม่มีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ... คิดว่าผมจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ จะให้ผมเชื่อว่าพี่ไปนั่งคุยเล่นกันเฉยๆ ท่ามกลางเศษซากของอุปกรณ์ร่วมรักกันอย่างนั้นเหรอ
“ จะให้ผมเชื่อพี่อย่างนั้นเหรอ... “
“ ก็ใช่ไง... เราต้องเชื่อพี่นะ ไม่ใช่ไปเชื่อคนอื่นแบบนี้... “
“ นั้นบอกผมหน่อยซิว่าวันนี้พี่ไปทำไม... “
พี่กิจเหมือนจะหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเปิดปากพูดออกมา
“ เรื่องไอ้คิม... “
“ เห๊อะ... เรื่องพี่คิม... แต่ให้พี่เข้าไปคุยเนี่ยนะ มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ... “
“ ก็ใช่ไง... ฮานะเขาบังคับให้พี่ไปเคลียร์แทน เพราะเขาไม่อยากจะคุยกับไอ้คิม “
“ แล้วเรื่องอะไรล่ะ ถึงต้องทำอะไรขนาดนั้น เพราะปกติพี่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบจะยุ่งเรืองของชาวบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ “
“ ก็ไอ้คิมมันจะเลิกกับฮานะ แต่ถูกแบล็คเมลขู่ว่าถ้าไม่ยอมชดใช้ให้กับสิ่งที่ทำไว้ เขาก็จะเอาคลิปที่แอบถ่ายไว้ไปปล่อยในเน็ต พี่ก็เลยต้องเข้าไปเคลียร์ให้ไง “
น่าตลกจังครับ จนถึงป่านนี้พี่เขาก็ยังสร้างเรื่องขึ้นมาโกหกผมได้อยู่อีก
“ แล้วคุยกันอีท่าไหน.. ถุงยางถึงได้เกลื่อนห้องแบบนั้น !! “
ผมตระคอกใส่ไปสุดกำลังก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง
“ ถุงยางอะไร.. นี่เราเข้าห้องของฮานะมาเหรอ “
“ ก็ใช่ไง.. หลังจากที่พี่ออกไป ผมก็ขึ้นไปเอาของที่ห้องของพี่ฮานะ แล้วก็เห็น... “
ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของผมอีก มีเพียงน้ำตาใสๆ ที่แสดงถึงความเจ็บปวดต่อสิ่งที่อยู่ในความทรงจำไหลออกมาจากสายตาที่แข็งก้าวเพียงเท่านั้น
“ พี่ว่าเราสองคนต้องถูกปั่นหัวแล้วล่ะ.. กันต์ฟังพี่นะ.. “
“ พอเถอะครับพี่... อย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่กับพี่ไปมากกว่านี้เลย “
“ ไม่..! เรากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ.. “
“ ปล่อยผม... “
“ ไม่..กันต์ “
“ ผมบอกให้ปล่อยผม... “
“ ไม่! “
“ ผมบอกให้ปล่อยผม!! “
เมื่อคำขู่ไม่เป็นผล ผมก็ตระคอกเสียงดังใส่ก่อนจะออกแรงมากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของคนตรงหน้า แต่ทว่ายิ่งดิ้นรนกลับยิ่งแน่นหนามากขึ้นไปอีก ผมทั้งสบถด่าพร้อมทั้งขัดขืน ท่ามกลางการเหนี่ยวรั้งจากมือของพี่กิจและการปฏิเสธคำขอทุกอย่างของผม... จนในที่สุด....
“ พี่อย่าดึงผมเข้าไปในวงจรอุบาทว์ของพี่จะได้มั้ย !! ผมต้องการความรัก !! ไม่ใช่เซ็กส์ !! อย่าคิดว่าผมจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของพี่นะ !!! “
สิ้นเสียงของผม เราทั้งคู่ก็ชะงักตัวกันไปเล็กน้อย ในขณะที่มือของพี่กิจก็เริ่มบีบแรงขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บไปกว่าทุกๆ ครั้ง ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนไปฉายแววแห่งความดุร้ายป่าเถื่อนอย่างที่ผมไม่เคยจะพบเห็นมาก่อน
“ ได้ !! ถ้าคำพูดพี่มันจะทำให้เราเชื่อไม่ได้... ถ้าพี่มันจะเลวขนาดนั้นแล้วละก็... “
“ จะ... จะทำอะไรอะพี่กิจ “
ผมที่กำลังถูกพี่กิจดันไปติดพนักพิงหนังของโซฟายาว โดยที่มือทั้งสองข้างถูกรั้งไว้ด้วยแขนแข็งแรงของคนตรงหน้า ที่ตอนนี้แววตาฉายแววดุร้ายราวกับสัตว์ป่าออกมาให้เห็น และไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ พี่กิจก็ดันผมลงไปนอนหงายลงบนโซฟายาวทันที ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามเข้ามาคร่อมร่างของผมเอาไว้ แล้วซุกหน้าเข้ามาไล้ริมฝีปากที่ซอกคอของผมทันทีอย่างดุดัน มันไม่ใช่ความอ่อนโยนเหมือนอย่างที่เคยได้สัมผัสมาเมื่อครั้งก่อน อย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว ผมพยายามจะขัดขืน แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ถ้าพี่กิจจะเอาจริงแล้ว คนอย่างผมไม่มีทางเลยที่จะขัดขืนพี่เขาไปได้
“ ยะ...อย่า... ปล่อยผม!! “
ผมตระโกนร้องขอออกมาท่ามกลางน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นผลเหมือนอย่างครั้งก่อน เพราะพี่กิจดูจะไม่มีทีท่าว่าจะชะงักลงไปเลยแม้แต่น้อย กลับยังคงเร้าโรมอย่างดุดันต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้เสียงหอบหายใจถี่กระชับ
ตอนนี้ริมฝีปากรูปกระจับของพี่เขาไล้โลมจากซอกคอเลื่อนเข้ามายังริมฝีปากบางของผม ขบเม้มก่อนจะพยายามดึงดันสอดลิ้นอุ่นหนาเข้ามายังภายใน ผมพยายามต่อต้าน แต่สุดท้ายมือหนาที่ลูบไล้ไปมาก็มาหยุดกระตุ้นยังยอดอกผมผ่านเสื้อนักศึกษาตัวบางจนทำให้ผมเผลอเผยอปากอ้าออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว ลิ้นอุ่นหนาใช้จังหวะนี้สอดเข้ามายังภายในโพรงปากของผมทันที ก่อนจะเคล้าคลอชี้นำหยอกล้อให้ผมเล่นด้วย และแม้ว่าเริ่มแรกผมจะพยายามขัดขืน แต่สัมผัสอุ่นสากที่เคล้าคลอไปมามันก็ทำให้ผมอดเคลิ้มและว่าตามการชี้นำนี้ไปด้วยไม่ได้
เมื่อพยายามจะควบคุมสติไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้ มือที่ยังว่างอยู่อีกข้างของผมก็พยายามจะดันตัวพี่เขาออกไป แต่ก็ทำได้ไม่นาน ก่อนจะถูกมือพี่กิจจับออกไปไว้ยังเหนือหัว แล้วใช้มือแข็งแรงเพียงมือเดียวจับรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้ จากนั้นมือข้างที่เหลือของพี่เขาก็ไม่รอช้าที่จะออกแรงเพียงครั้งเดียวกระชากจนกระดุมชุดนักศึกษาของผมหลุดออกมาจนหมด และเผยร่างขาวนวลของผมออกมาให้เห็น
พี่กิจยังคงหยอกเย้าเคล้าคลอลิ้นอุ่นภายในโพรงปากของผมอยู่อย่างต่อเนื่อง จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความอึดอัดของร่างกายที่พร้อมจะตอบสอนงต่อการปลุกเร้านี้มากขึ้นไปอีก จากแก่นกายของผมที่มันแข็งตัวจนคับกางเกงชั้นในอยู่ในตอนนี้ ทว่าร่างกายกลับไม่อาจจะตอบสนองอะไรไปได้มากสักเท่าไหร่ เพราะการถูกพันธนาการไว้ด้วยมือแข็งแรงที่อยู่เหนือหัว สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ตอนนี้ ก็มีเพียงการบิดส่ายเอวไปมาเพียงเท่านั้น และเหมือนกับว่าคนตรงหน้าจะพอสังเกตได้ถึงการตอบสนองนี้ของผม พี่กิจจึงละริมฝีปากออกมา ก่อนจะได้ยินเสียง ” หึ “ ในลำคอเบาๆ และรอยยิ้มกริ่มชอบใจให้ผมได้เห็น
อายเป็นบ้าเลยครับ... ที่เผลอทำตัวน่าอายแบบนี้ออกมา และถึงจะรู้สึกตัว... แต่ผมก็คงจะทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้หรอกครับ ภายใต้สภาวะจำยอมที่เป็นอยู่
จากนั้นไม่นาน ริมฝีปากรูปกระจับก็เข้ามาจู่โจมยังยอดอกสีชมพูของผมที่แข็งขึ้นเป็นไตจากอารมณ์ที่ประทุออกมา ลิ้นอุ่นสากไล้วนไปมาหนักบ้างเบาบ้าง ผสมกับการขบเม้มเบาๆ ให้รู้สึกเสียวซ่านและสะดุ้งขึ้นมาเป็นจังหวะ ถึงจุดนี้... ร่างกายของผมก็เริ่มอ่อนระทวยจนแทบจะไม่มีแรงอีกต่อไปแล้ว ราวกับเป็นลูกไก่ที่อยู่ในกำมือของพี่เขาไปแล้วเสียอย่างนั้น
พี่กิจใช้มืออีกข้างไล้ลงมายังขอบกางเกงสแลค ก่อนจะลูบเบาๆไปมาที่เป้านูน และไม่นานก็ปลดตะขอและรูดซิปออก จากนั้นก็ล้วงเข้าไปเคล้าคลึงยังแก่นกายแข็งเกร็งขนาดพอดีมือที่ถูกปิดบังไว้ด้วยชั้นในสีขาวนุ่ม
“ อะ...อาห์... หยะ..อย่า... “
เสียงอันแผ่วเบาของผมดูจะไม่สามารถห้ามปรามการดึงเอาชั้นในที่เป็นปราการด่านสุดท้ายของผมออกไปได้ และเมื่อแก่นกายขนาดพอดีมือดีดเด้งออกมาจากอาภรชิ้นสุดท้าย ผมก็ถึงกับอายจนต้องเบนหน้าหนีออกไปด้านข้าง ก่อนจะได้ยินเสียงขำเล็กๆ อย่างชอบใจในลำคอของพี่กิจ
มาถึงจุดนี้... ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของผมมันได้ถูกใจและตอบสนองต่อการปลุกเร้าของพี่กิจอย่างถึงที่สุด แต่กระนั้นก็ใช่ว่ามันจะไม่มีความย้อนแย้งในความรู้สึกของตัวเองเกิดขึ้น เมื่อผมรู้สึกว่าตัวเองมันช่างไร้ค่าและถูกทำราวกับเป็นของเล่นที่ไม่มีราคาของพี่กิจเพียงแค่นั้นเอง
หลังจากที่พอใจกับการหยอกเย้าบนยอดอกทั้งสองข้างของผมแล้ว พี่กิจก็ยันตัวขึ้นพร้อมกับละมือที่พันธนาการผมเอาไว้ออก แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้ผมก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะไปขัดขืนพี่เขาเสียแล้วล่ะ
ที่น่าอายที่สุดก็คือ... ลึกๆ ในใจแล้ว ผมกลับพอใจต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างมาก
จากนั้นพี่กิจก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาอะไรไปมากกว่านี้ พี่เขารีบถอดเสื้อยืดพอดีตัวสีดำออก ก่อนจะโยนมันหายไปหลังโซฟา แล้วเข้ามาจู่โจมยังบริเวณหน้าท้องของผมอย่างหื่นกระหาย ผมพยายามเอามือดันหัวพี่เขาออกไป เพราะความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย แต่เมื่อไม่เป็นผล สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่จิกหัวพี่เขาแล้วบิดเอวไปมาก็เท่านั้นเอง ในขณะที่มือพี่เขาข้างหนึ่งกำลังลูบไล้อยู่ที่หน้าอกของผม และอีกข้างก็เลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมที่พร้อมใช้งานอย่างถึงที่สุด ก่อนจะขยับมันขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับผมมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว จนตอนนี้ผมไม่อาจจะอดกลั้นเสียงแห่งความพึงพอใจได้อีกต่อไป...
” อะ..อาห์!!! “
“ หึ... “
พี่กิจเหลือบตาขึ้นมามองผมเล็กน้อยอย่างถูกใจ จนผมที่รู้ตัวว่ากำลังหน้าแดงจากความอายถึงกับต้องเบือนหน้าหนี และในตอนนี้... ไม่ว่าจะเพราะความใจง่ายของผมที่มีต่อพี่กิจ หรือเพราะอารมณ์ที่มันพาไป ผมก็ไม่อาจจะควบคุมตัวเองให้ขัดขืนพี่เขาได้อีกต่อไปแล้ว...
พี่กิจยันตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเร่งถอดกางเกงและบ๊อกเซอร์สีดำออกไปอย่างไว เผยให้เห็นแก่นกายขนาดใหญ่ที่แข็งตัวในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันใหญ่โตจนทำให้ผมถึงกับหวั่นใจในความรู้สึกหากจะต้องรับมันไว้โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาก่อนแบบนี้
พี่กิจละมือออกจากแก่นกายผม ก่อนจะก้มลงมาใช้ปลายลิ้นเรียวไล้ไปตามความยาวของแก่นกายร้อนของผม สัมผัสที่ไม่เคยถูกกระทำมาก่อนแบบนี้ มันทำให้ผมถึงกับร่นตัวขึ้นจนหัวไปชิดเข้ากับขอบโซฟา ทว่าปลายลิ้นเรียวนั้นกลับยังคงหยอกล้อตวัดไปมาที่ปลายสุดของแก่นกายผมอย่างไม่สนใจในท่าทีของผู้ถูกกระทำเลยแม้แต่น้อย
“ ยะ..อย่า... มัน...เสียว.... “
แม้จะร้องบอกไปอย่างนั้น แต่ลึกๆ ในใจกลับปรารถนาให้ส่วนอ่อนไหวนั้นถูกกอบกุมเข้าด้วยโพรงปากอุ่นของพี่กิจ ทว่าพี่เขากลับยังคงไม่มีท่าทีที่จะทำแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย กลับยังคงหยอกเย้าอยู่เช่นเดิมอย่างให้รู้สึกขัดใจและทรมานกับผู้ถูกกระทำอย่างถึงที่สุด
“ อ๊ะ!!! “
ระหว่างที่กำลังลืมตัวจากอารมณ์ที่กำลังกระเจิงอยู่ จู่ๆ ช่องทางด้านหลังก็รับรู้ได้ถึงปลายนิ้วเปียกลื่นที่กำลังพยายามกดดันเข้ามายังภายใน
ผมเกร็งตัวและพยายามฝืน แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่ไหว เมื่อปลายนิ้วนั้นได้ถูกดันเข้ามาแล้ว มันให้ความรู้สึกแปลกๆ แม้จะไม่ได้เจ็บมาก แต่ก็รู้สึกคับและอึดอัดอยู่เหมือนกัน พี่กิจค่อยๆ ขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ และเบามืออย่างที่สุด ในขณะที่ผมยังคงร้องครางออกมาอย่างไม่หยุด จนในที่สุดก็รู้สึกเหมือนว่ามันดูจะเริ่มคล่องตัวมากขึ้น พี่เขาจึงเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นมาอีกหน่อย จนผมถึงกับต้องจิกต้นแขนของพี่เขาข้างที่กำลังลูบไล้ยอดอกผมอยู่จนแน่น
“ พะ..พอแล้ว.. มะ..มันเสียว..อะ อาห์... “
ราวกับว่าเสียงกระเส่าของผมนั้นดูจะไม่มีความหมายอะไรต่อหน้าความหื่นกระหายของพี่เขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย แถมกลับยิ่งดูเหมือนจะไปกระตุ้นให้มันเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีกเสียด้วยซ้ำ เมื่อจังหวะเข้าออกมันเริ่มถี่ขึ้น จนผมถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นภาษาเลยในตอนนี้
“ อ๊ะ!! จะ..เจ็บ.. เอาออกไป... “
ผมร้องห้ามขึ้นมาทันที เพราะจากที่ตอนแรกมันมีเพียงแค่นิ้วเดียว แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่เขากำลังจะพยายามเพิ่มเข้ามาอีกนิ้วจนผมรู้สึกเจ็บมากขึ้น ทว่าการยิ่งฝืนต่อต้านมันเอาไว้นั้น มันกลับยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ... การยอมให้มันเข้ามาได้แต่โดยดีเพียงเท่านั้น
“ โอ้ย!! “
เมื่อสองนิ้วลื่นเข้ามายังภายในได้ ผมก็ร้องออกมาเสียงหลงพร้อมกับน้ำตาที่เล็ดออกมาจากความเจ็บปวดและอึดอัดอย่างถึงที่สุด เมื่อพี่เขาเห็นท่าทางที่ไม่ไหวของผม พี่กิจก็เลื่อนตัวขึ้นมาดูดดุนที่ยอดอกผมทันทีเพื่อสร้างความผ่อนคลายและเบี่ยงเบนความสนใจ ในขณะที่นิ้วเรียวยาวยังคงทำหน้าที่ของมันโดยการขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าและเบามืออย่างถึงที่สุด ผมขยับมือมาจิกยังแผ่นหลังของพี่กิจจนแน่น ซึ่งเชื่อว่ามันคงจะเจ็บมาก แต่กระนั้นพี่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะร้องหรือสะดุ้งเลยแม้แต่น้อย
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ก็ดูเหมือนว่าช่องทางด้านหลังของผมมันจะเริ่มปรับสภาพได้ และไม่เจ็บมากเหมือนเมื่อสักครู่ จากนั้นพี่กิจก็เริ่มเร่งจังหวะเข้าออกให้ถี่มากขึ้นไปอีก แล้วใช้มือข้างที่เหลือเลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมเอาไว้ พร้อมกับขยับมันขึ้นลงไปมาตามจังหวะ... เกิดเป็นความอึดอัดที่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกมากๆ เลยล่ะครับในตอนนี้