My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147490 ครั้ง)

ออฟไลน์ Naesuka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออ่านอยู่นะค่ะ. อยากให้ลงตอนต่อไป ชอบเรื่องนี้อ่านสนุกค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆค่ะ ใครไม่ชอบก็ปล่อยเขาไป คนที่ชอบและติดตามยังมีอยู่นะค่ะ
 :3123: :กอด1:

ออฟไลน์ มะลิมะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันอึดอัดนะ พี่กิจก็บื้อน้องกันต์ก็ไม่ฟังห่าอะไรเลย สำคัญสุดอิน้องฮานะเนี่ย ...ไม่มีอะไรจะพูดแดกจุดไป
กิจน่าจะทำอะไรให้เด็ดขากเหมือนตอนจัดการคนที่ม่ซ้อมน้องนะ แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง แต่สันดารเลวแบบนี้ อย่าเอาไว้นะพี่กิจ
ส่วนน้องกันหัดฟังพี่เขาบ้างจะดีกว่านี้ ฟังคิดแล้ววิเคราะห์แยกแยะด้วย
ส่วนคนเขียนอ่ะ.  รีบๆมาต่อคนอ่สนจะขาดใจตายแล้ว :z3:

ออฟไลน์ pim14

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ เราเป็นคนนึงที่ติดตามอ่านมาตลอดค่ะ แต่ละเรื่องก็มีเสน่ห์ต่างกัน ยังรอติดตามตอนต่อไปค่ะ อยากเห็นพี่กิจกระอักเลือด หุหุ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า

มาต่อเถอะนะ อย่าเทเลย

อยากอ่านจนถึงตอนจบเลย ทำไงดี  :mew6:

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
การที่เข้ามาแต่งนิยายแล้วให้มีแต่คนชื่นชมอย่างเดียวผมว่าคุณคิดถูกแล้วที่จะแต่ไว้อ่านเพียงผู้เดียว และขอนะอย่าไปแต่งนิยายลงที่ไหนอีกถ้าคุณไม่มีจิตสำนึกในการเปนนักเขียนกับเค้า :katai2-1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew2: อย่าเพิืงเทกันจิ่ เราชอบพล็อตเรื่อง การเดินเรื่อง
เราว่าเป็นนิยายที่สนุกนะคะ เเนื้อหาก็ไม่ยืด เราค่อยๆซึมซับว่าทำไมำพี่กิจ
ถึงได้รักน้องกันต์์ มีมาตอนหลังนี่เเหละที่พระเอกดูว่าโง่ ไม่ชัดเจน
แต่มันก็เป็นดราม่าใหญ่เพียง ััเดียวของเรื่อง สู้ๆนะคะ  :3123:

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
อย่างแรกเลย...  ต้องบอกว่าผมนี่งี่เง่ามาก

พอได้กลับมาอ่านคอมเม้นต์แล้ว  ผมถึงคิดได้ว่า..

ผมลืมให้ความสำคัญกับคนที่เขาแคร์เรา  และมัวไปให้ความสำคัญกับอะไรก็ไม่รู้...

จริงอยู่ที่ผมอาจจะไม่เหมาะที่จะเขียนนิยาย  แต่ถ้ายังมีคนที่อยากอ่านอยู่  ผมก็จะหน้าด้านลงมันต่อไป

ถึงจะมีคนเกลียดเป็นพัน  แต่ถ้ามีคนชอบสักคน  มันก็พอแล้วเนอะ...

จากนี้ไป  ผมจะลงต่อจนจบซีซั่นเพื่อคนที่เขาอยากอ่าน  ส่วนใครไม่อยากอ่านก็...  ไม่ต้องอ่าน  ซึ่งเขาก็คงไม่เข้ามาอ่านอยู่แล้วล่ะ  ใครอยากว่าอะไร  อยากโหวตลบแค่ไหน  ตามสบายเลยครับ  ผมไม่ได้สนยอดคนอ่านอยู่แล้วเพราะไม่ได้ทำธุรกิจ  ตอนนี้ผมสนใจแค่คนที่เขาอยากอ่านแค่นั้น  เพราะผมควรจะแคร์คนที่เขาแคร์เรามากกว่า

ฟังดูแรงนะครับ55+  สงสัยผมคงเป็นสายDark ไปซะแล้ว ( เหมือนช่อง Gladiuz KB เลย (ช่องนี้ผมชอบ))

แต่ทุกกำลังใจและการสนับสนุน  ผมให้ความสำคัญมาก  ผมถึงได้กลับมาลงต่อ

ทุกกำลังใจและการเข้าใจที่ทุกคนให้มา  มันมีความหมายจริงๆ นะครับ  ผมถึงกล้าลุกขึ้นแล้วเดินต่อ(แบบ Lv up) Defence สูงขึ้น  ทนขึ้นละครับ55+

OK พร้อมละ  ต่อกันเลยนะครับ !!!

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 46




ที่ภาควิชาอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์

ทั้งๆ ที่มันเป็นวันธรรมดาและท้องฟ้าสดใสแท้ๆ  ทว่าชายหนุ่มที่เดินโดดเด่นมาแต่ไกลกลับมีสีหน้าที่หงอยเหงาและไม่มีชีวิตชีวาอย่างเป็นที่สุด

กิจกำลังเดินเข้าห้องเรียนมาในสภาพที่ต่างไปจากทุกที  ทุกอย่างมันไม่ได้ดูเนียบเหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง  ไม่ว่าจะทรงผม  หน้าตา  หรือแม้กระทั่งเสื้อช็อปยับๆ ที่ม้วนถือเอาไว้อยู่ในมือ

“ เห้ย!  ตื่นสายรึไหงวะ...  ถึงได้มาเรียนในสภาพนี้เนี่ย “

พีถามขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นถึงสภาพความผิดปกตินี้  ทว่าเจ้าตัวกลับได้เพียงแค่ฟังมันผ่านๆ ไปเท่านั้นเอง  ก่อนจะแทรกตัวเข้ามานั่งยังเก้าอี้เรียนตัวข้างๆ  ซึ่งอันที่จริงแล้ว..  วันนี้เขาแทบไม่อยากจะมาเรียนเสียด้วยซ้ำไป  เพราะสภาวะจิตใจที่ห่อเหี่ยวราวกับว่าทุกอย่างบนโลกนี้มันช่างปราศจากซึ่งความสุขไปเสียหมด

บิวหันหน้ามามองยังพีเป็นเชิงถามถึงสาเหตุของความผิดปกตินี้  ทว่าพีเองก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบให้ไปเพียงเท่านั้น  และไม่นานเพื่อนคนสุดท้ายของกลุ่มก็เดินเข้ามายังห้องเรียนด้วยท่าทางที่อารมณ์ดี  ซึ่งต่างไปจากคนก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว....

“ ไอ้กิจ...  ขอบใจมึงมากนะเว้ย  แค่นี้กูก็หลุดพ้นจากยัยฮานะไปได้สักที  ผู้หญิงอะไรวะ  ร้ายกาจเป็นบ้าเลย “

เมื่อคิมเดินเข้ามาถึงกลุ่มก็พูดขึ้นพร้อมกับตบไหล่กิจทันที  โดยไม่ได้สังเกตถึงอาการผิดปกติของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย

“ แล้วนี่ตกลงมึงจ่ายไปเท่าไหร่วะ “

บิวถามขึ้นขณะที่คิมกำลังแทรกตัวลงมานั่งข้างๆ

“ 5 หมื่นว่ะ...  แม่งไม่คุ้มเลย  แต่ถ้าเทียบกับการที่เขี่ยยัยนี่ออกไปได้  กูก็ยอมว่ะ...  ยังไงกูก็ขอขอบใจมึงจริงๆ นะเว้ยไอ้กิจ  ที่เข้าไปเคลียร์ให้....  อ่าว... “

เมื่อคิมสังเกตเห็นสายตาเหม่อลอยที่ผิดปกติของเพื่อนได้  เขาก็หยุดพูดต่อทันที  ก่อนจะหันไปพยักพเยิดถามบิวที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน  แต่ก็ได้รับเพียงแค่การส่ายหน้ามาให้เป็นคำตอบเพียงแค่นั้น  และไม่ทันที่จะได้ถามไถ่อะไรไปมากกว่านี้  อาจารย์ผู้สอนก็เดินเข้าห้องเรียนมาเสียก่อน  จากนั้นทุกคำถามก็เลยถูกกลืนลงคอไป  จะเหลือก็เพียงแค่ความห่วงใยผ่านทางสายตาส่งไปให้เพื่อนคนสนิทเพียงแค่นั้น  เพื่อนผู้ซึ่งปกติจะเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทุกคนในกลุ่มอยู่เสมอ  ทว่าคราวนี้สถานการณ์เหมือนดูจะต่างออกไป.....


.............................................


พอหมดคาบเรียนในช่วงเช้า  ทุกคนในกลุ่มต่างก็หันหน้ามาหากิจแทบจะในทันทีที่อาจารย์ผู้สอนได้เดินพ้นออกไปจากประตูห้อง  ก่อนจะยิงคำถามมากมายขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง  ทว่าคำพูดประโยคเดียวที่ออกมาจากปากของกิจและทำให้ทุกคนนิ่งเงียบกันไปตามๆ กัน  โดยไม่มีใครคิดที่จะถามอะไรต่อก็คือ.... 

“ กันต์....  ย้ายออกไปจากห้องแล้วว่ะ “

จากน้ำเสียงที่พูดออกมา  พวกเพื่อนๆ ต่างก็รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยังไงก็ไม่ควรจะไปเซ้าซี้อะไรให้มากกว่านี้...  ไม่มีใครเคยเห็นท่าทีและแววตาเศร้าสร้อยเช่นนี้ของกิจมาก่อนเลยตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา  ที่สำคัญ...  ทุกคนต่างก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถทำให้ผู้ชายอย่างกิจเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงเพียงนี้...

และแน่นอนว่า...  ตอนนี้พวกเขาทุกคนต่างก็รู้ดีว่า... กันต์คือคนที่มีอิทธิพลต่อสภาพจิตใจของกิจมากแค่ไหน


..................................................


ที่โรงอาหารคณะ

กิจที่กำลังเดินเหม่อๆ นำพวกเพื่อนๆ ที่กำลังเดินตามหลังเขาอยู่ด้วยสายตาที่เป็นห่วงเข้ามายังภายในโรงอาหารของคณะ  เขาไม่ได้รู้สึกหิวเลยแม้แต่น้อย  ไม่อยากจะกินหรือทำอะไรเลยทั้งนั้นในตอนนี้  แต่ทันทีที่สายตาที่เลื่อนลอยของเขาไปสะดุดยังใครบางคน  หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงขึ้น  ราวกับว่าเลือดมันกำลังสูบฉีดกลับเข้ามายังร่างอันไร้วิญญาณเพื่อให้มีชีวิตใหม่ขึ้นมาได้อีกครั้ง

เขายืนนิ่งมองดูกันต์อยู่ไกลๆ  ในขณะที่กันต์กำลังนั่งหงอยเขี่ยข้าวในจานไปมาเรื่อยๆ  และเท่าที่ดู... พวกทั้งสองต่างก็มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ไม่แพ้กันสักเท่าไหร่

เพื่อนทั้ง 3 คนของกิจมองหน้ากันไปมาอย่างเข้าใจเมื่อเห็นท่าทีของคนตรงหน้า  ก่อนที่พีจะเป็นตัวแทนเดินเข้ามาจับไหล่ของกิจแล้วพูดขึ้น

“ เอาไงมึง..  จะเข้าไปหาน้องมันมั้ย  เผื่อจะได้.. “

“ อย่าดีกว่า... “

กิจพูดสวนขึ้นมาเสียงเรียบ  ซึ่งขัดกับความรู้สึกของตัวเอง  ก่อนจะผลุบตาลงต่ำไป  ประจวบกับที่กันต์เงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาเห็นพอดี  ก่อนจะชะงักมือที่เขี่ยข้าวอยู่อย่างตกใจและประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย  จนเพื่อนที่นั่งข้างๆ อย่างเรย์จับสังเกตได้และมองตามสายตาเพื่อนสนิทของเขาไป

“ โอเคมั้ยวะมึง... “

น้ำเสียงที่ดูจะเป็นห่วงของเรย์ถามขึ้นมาอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะพบว่าคนข้างๆ ได้แสร้งยิ้มขึ้นมาพร้อมกับขานรับในลำคอส่งมาให้เล็กๆ เพียงแค่นั้น

ตอนนี้เรย์รู้เพียงแค่ว่าสองคนนี้กำลังมีปัญหากัน  และกันต์ก็เลือกที่จะไม่ทนต่อสิ่งเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว  และได้หอบกระเป๋ามาหาเขาในเช้าวันนี้ 

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกันต์กับกิจเมื่อคืนนี้  กันต์ยังคงเลือกที่จะไม่เล่าให้เพื่อนสนิทของเขาได้รับรู้  เขาอยากจะปล่อยผ่านและให้เรื่องพวกนั้นมันได้หายไปกับกาลเวลาเลยทั้งอย่างนั้น

และก่อนที่กลุ่มของกิจกำลังจะเดินผ่านมาถึงโต๊ะ  กันต์ก็เลือกที่จะลุกออกไปโดนอ้างว่าจะไปซื้อน้ำแทบจะในทันที

กิจที่มีสีหน้านิ่งเฉยแต่แววตาแสดงถึงความรู้สึกผิดอยู่ในทุกขณะ  เขามองตามคนที่เขาสนใจอยู่ในทุกกิริยาบท  และสังเกตได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  เขาเห็นท่าทางที่ขยับตัวไม่ค่อยสะดวกและสีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยในบางจังหวะ  ซึ่งเขาก็พอจะรู้ว่ามันคงจะเป็นผลมาจากการที่เขาใช้ความรุนแรงในช่วงคืนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน  กระนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปถามไถ่และดูแลอยู่ดี  เพียงเพราะความรู้สึกผิดและสัญญาที่เขาไม่ยินยอมเลยแม้แต่น้อย  ที่ทำได้ก็เพียงแค่การมองตามไปอย่างเป็นห่วงก็เท่านั้น

ทันทีที่เขาได้โต๊ะนั่งห่างออกไปจากโต๊ะของกลุ่มรุ่นน้องคนสนิท  กิจก็หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไลน์ถามไปยังเรย์ทันทีถึงเรื่องของกันต์  เพราะเขาเองก็พอจะรู้ว่าคนเดียวที่กันต์คงจะนึกถึงเป็นคนแรกในสถานการณ์แบบนี้ก็คือเพื่อนสนิทอย่างเรย์แน่นอน  ซึ่งก็ทำให้เขาได้ข้อมูลมาว่า  ตอนนี้กันต์ได้หอบเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปไว้ยังห้องของเรย์  และคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะหาหอพักใหม่แถวๆ นั้นอย่างแน่นอน 

“ เฮ้ยพวกมึง...  เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแปบนะ  ปวดขี้ว่ะ “

เรย์พูดขึ้นพร้อมกับลุกออกจากโต๊ะไป  หลังจากที่เขาได้รับข้อความไลน์จากกิจ  ซึ่งเรียกเขาให้ออกมาหาที่ข้างโรงอาหาร


.........


“ ครับพี่ ”

เรย์ทักกิจที่กำลังยืนพิงกำแพงขึ้นทันทีที่เดินมาถึง  ก่อนจะมองสภาพรุ่นพี่ที่เป็นเหมือนไอดอลของเขาที่มีสีหน้าอมทุกข์ไม่ต่างอะไรไปจากเพื่อนของเขาเลยสักนิด

“ กันต์เป็นไงบ้าง... “

“ ก็แย่อะพี่  แล้วนี่ตกลงพี่กับมันมีเรื่องอะไรกันอะ  เพราะมันเองก็ไม่ยอมเล่าให้ผมฟังสักเท่าไหร่ “

“ เอาจริง...กูเองก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ เท่าไหร่หรอก   รู้แค่ว่าต้นเรื่องมันมีฮานะเข้ามาสร้างเรื่องเอาไว้ให้กันต์มันเข้าใจผิด “

“ แล้วทำไมพี่ไม่เคลียร์กับมันให้รู้เรื่องล่ะ  ทำไมมันถึงต้องย้ายออกมาด้วย “

“ กูก็อยากเคลียร์  แต่...  ตอนนี้ก็คงสายไปแล้วล่ะ...  ว่าแต่..  กันต์มันดูป่วยด้วยใช่มั้ย... “

“ ใช่พี่... ท่าทางมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่  เมื่อเช้าก็ดูจะมีไข้ด้วยนะ “

พอได้ยินมาอย่างนี้  กิจเองก็ดูจะยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก  เพราะความบ้าคลั่งของตัวเขาเองแท้ๆ  เขาล้วงเอากระเป๋าตังออกมา  ก่อนจะหยิบแบงค์พันออกมา 3 ใบส่งให้เรย์ไป

“ เอานี่ไป  แล้วพามันไปหายากิน  แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็พาไปโรงพยาบาลเลยนะ  ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ก็ให้มาบอกที่กู  มึงต้องดูแลมันให้ดีที่สุดนะ  แล้วอย่าลืมหาของกินที่มีประโยชน์ให้มันด้วย  หรือถ้ามันอยากกินอะไรมึงก็ไปซื้อให้มันเลย...  เอานี่..  เผื่อว่าจะไม่พอ “

กิจทำท่าจะควักเงินออกมาเพิ่มให้อีก  แต่ก็ถูกเรย์ห้ามเอาไว้ก่อน

“ พอแล้วพี่...  เยอะไปแล้ว...  อีกอย่าง...  มันก็เพื่อนผมนะ  ผมดูแลมันได้อยู่แล้ว  พี่ไม่ต้องเป็นห่วงมันมากไปหรอก “

แม้จะได้ยินมาอย่างนี้  แต่กิจเองก็ยังไม่สามารถจะวางใจได้  ถ้าไม่ใช่เขา  ไม่ว่าใคร...เขาก็ไม่วางใจทั้งนั้นแหละ  และเหมือนว่าเรย์เองก็พอจะจับสัญญาณนี้ได้เช่นกัน  เขาเลยย้ำอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนตรงหน้า

“ ไม่ต้องห่วงพี่  ไว้ใจผมได้...  ผมจะทำตามที่พี่บอกทุกอย่าง...  แต่ว่า...  พี่อย่าปล่อยเรื่องเอาไว้นานนะ  ถ้ามีอะไรกันก็รีบๆ ไปเคลียร์กันให้จบ  คือ...ผมสงสารเพื่อนผมอะ “

กิจไม่ได้ตอบอะไรออกมา  แต่ก็ยอมพยักหน้าตอบรับไปเล็กๆ  ก่อนจะทิ้งท้ายให้เรย์คอยรายงานสถานการณ์ทุกอย่างให้เขารู้โดยตลอด  รวมถึงเรื่องที่ว่ากันต์จะไปหาหอพักที่ไหนด้วย



.....................................



ช่วงเย็นที่หอพักของเรย์

“ โชคดีนะมึง...  ที่มีห้องว่างพอดี  เพราะปกติหอนี้แม่งเต็มตลอด  นี่ถ้าแฟนพี่นิกไม่เลิกกับแกไป  ก็คงไม่มีห้องว่างหรอก “

“ ยังไงวะ “

กันต์ทำหน้าสงสัยถามมา  ขณะที่กำลังหอบกระเป๋าขึ้นไปยังชั้น 5 ของหอพัก  ซึ่งอยู่สูงกว่าห้องของเรย์ไปหนึ่งชั้น  และเป็นชั้นบนสุดของหอพักนี้ด้วย

“ เอ้า!  ก็พี่นิกพี่ปี 2 คณะเราไง  แกพึ่งเลิกกับแฟนแก  แล้วแฟนแกที่พักอยู่ห้องข้างๆ กัน  พอเลิกปุ๊บก็แยกกันปั๊บเลย  ถึงได้มีห้องว่างแบบนี้ไง “

กันต์พยักหน้าเข้าใจตามเล็กๆ

“ แล้วนี่จะให้กูไปขนของที่เหลือให้ใช่มั้ย “

เรย์หมายถึงข้าวของที่ยังเหลืออยู่ที่คอนโดของกิจ  เพราะสิ่งที่กันต์ขนออกมาเมื่อเช้านี้ก็มีเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเพียงเท่านั้น
 
“ ฝากทีนะ  กู..  ยังไม่พร้อมจะกลับไปว่ะ “

“ เออ...  เดี๋ยวกูจัดการให้  กูบอกไอ้ธันไว้แล้วด้วย “

“ แล้ว..  มึงอย่าลืมขอพี่กิจเขาก่อนนะ  ปกติพี่เขาไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้าห้องน่ะ  แล้วนี่... คีย์การ์ด  ถ้าเสร็จแล้วก็ฝากเอาไปคืนพี่เขาด้วย “

“ เออน่า  กูรู้แล้ว...  เมื่อเย็นกูโทรไปบอกพี่เขาแล้ว  พี่เขาก็บอกว่าให้เข้าไปได้เลย  เพราะวันนี้คงจะกลับห้องดึก “

“ พี่เขา...ไปไหนวะ “

สิ้นเสียงของกันต์  เรย์ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ

“ เอาจริงๆ นะมึงไอ้กันต์..  ถ้ามึงยังตัดใจจากพี่เขาไม่ได้  ยังห่วงเขาอยู่แบบนี้ล่ะก็นะ  กูว่ามึงไปเคลียร์กับพี่เขาให้รู้เรื่องเหอะ  ทำแบบนี้มีแต่จะยิ่งเจ็บไปซะเปล่าๆ “

“ แต่ถ้ายังอยู่อย่างนั้น  กูก็เจ็บเหมือนกัน...  แถมเจ็บแบบไม่มีที่สิ้นสุดอีกต่างหาก...  กูไม่อยากทรมานแบบนั้นอีกแล้วว่ะ “

น้ำเสียงที่เศร้าพร้อมกับสายตาผลุบต่ำลง  มันทำให้เรย์ไม่คิดจะพูดโน้มน้าวอะไรต่อและอดสงสารเพื่อนขึ้นมาไม่ได้  เขาตบไหล่กันต์เบาๆอย่างให้กำลังใจแล้วพูดขึ้น

“ เอาน่า...  เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง  ยังไงมึงก็ยังมีกูอยู่นะ “

เขายิ้มบอกไป  ก่อนที่กันต์จะฝืนยิ้มเจื่อนๆ ตอบมาให้ด้วยเช่นกัน

“ อืม.. ขอบใจนะมึง “


........................................................


ยามเย็นก่อนที่แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์จะหายไป  กันต์เดินออกมายังระเบียงห้องหลังจากที่เรย์พึ่งจะออกไป 

สายตาเขาเหม่อมองออกไปไกลๆ อย่างไร้จุดหมาย  และก็เป็นอีกครั้งที่ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันหวนกลับมาทำร้ายจิตใจของเขาอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วของวัน  แต่ไม่นานเขาก็ดึงสติกลับมาก่อนจะสะบัดหน้าไปมาเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดวูบนั้นให้ออกไป

เขาไม่ควรจะปล่อยใจให้มันล่องลอยไปแบบนี้อยู่บ่อยๆ  เขาควรจะทำตัวเองให้ไม่ว่างพอที่จะมาคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้อีก  เมื่อคิดได้อย่างนั้น  เขาก็เดินกลับเข้ามายังภายในห้องอีกครั้ง  เพื่อเอาเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าและจัดเรียงมันเข้าไว้ในตู้เสื้อผ้าต่อทันที

ต้องไม่ให้ตัวเองว่าง...  ใช่...  จะได้ไม่มีเวลามาคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนั้นอีก...

เขาทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ เท่าที่พอจะทำได้  เพื่อรอให้เรย์ที่ไปขนของกับธันกลับมา  ก่อนจะลงไปหาซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดแล้วกลับขึ้นห้องมาอีกครั้งในช่วงหัวค่ำ

ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดยังชั้น 5  ปลายสายตาของเขาก็เห็นเข้ากับรุ่นพี่ที่อยู่ห้องข้างๆ  ซึ่งกำลังเปิดประตูออกและเข้าไปยังภายในด้วยสีหน้าเศร้าๆ   ซึ่งกันต์เองก็ดูจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ในท่าทีนี้  เมื่อคิดถึงสิ่งที่เรย์เล่าให้ฟังว่าพี่เขาพึ่งจะเลิกกับแฟนมาได้ไม่นาน  เพราะจากสภาพจิตใจแล้ว... มันก็คงจะไม่ต่างอะไรกับเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่หรอก

กันต์กลับเข้าห้องมาอีกครั้งก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาดห้องอย่างตระกุกตระกักไม่ค่อยสบายตัวสักเท่าไหร่ จากสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยดีในวันนี้  เพราะจากสิ่งที่ได้รับเมื่อคืน... มันได้ส่งผลกับเขาในตอนเช้าทันที  เขาปวดเนื้อปวดตัว  รู้สึกขัดและเจ็บบริเวณช่องทางด้านหลังอยู่บ้างเล็กน้อย  แถมยังมีไข้อ่อนๆ ตลอดทั้งวัน  ดีหน่อยที่เรย์พาเขาไปหาซื้อยามาทานในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

สักพักใหญ่เรย์ก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับธัน  ทั้งสองช่วยกันขนข้าวของใส่รถมากันคนละคัน  และแม้ว่ากันต์จะพยายามดื้อดึงจะไปช่วยขน  แต่ก็ถูกห้ามเอาไว้ก่อน  เพราะพวกเขารู้ดีว่าสภาพร่างกายในวันนี้ของกันต์ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่


………..


เวลาตี 2 ที่คอนโดของกิจ

ภายในห้องดูจะเงียบสงัดจนเจ้าของห้องที่พึ่งจะเปิดประตูเข้ามาถึงกับใจหายทันที  ทั้งๆ ที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้  บรรยากาศแบบนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติหรับเขาแท้ๆ 

ทันทีที่กิจปิดประตูห้องลง  เขาก็เดินเข้ามาเปิดยังประตูห้องนอนของกันต์  โดยหวังว่าทุกอย่างมันจะยังคงอยู่ในสภาพเดิมเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา  แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย  เมื่อทุกอย่างภายในห้องดูโล่งเกินกว่าที่ควรจะเป็น  แม้เขาจะรู้อยู่เต็มอกแล้วก็ตามว่าตอนนี้เจ้าของห้องไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว  แต่ภายในใจก็ยังแอบหวังไม่ได้ว่าบางทีกันต์อาจจะเปลี่ยนใจขึ้นมาบ้างแล้วก็ได้

เขาเดินสะโหลสะเหลมึนๆ จากการดื่มเหล้าที่ร้านประจำข้างมหาลัยฯ มายังห้องรับแขก  ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งอย่างหมดสภาพ  พลางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา 

น่าละอายในความคิด... ที่แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่แย่มาก  แต่มันกลับตราตรึงในความรู้สึกของเขาอย่างไม่จางหาย  แม้ว่าจะเกิดกับผู้ชายด้วยกัน...  แต่เพราะว่าคือกันต์  ไม่ว่าจะเรือนร่าง  ความน่ารัก และความเดียงสา  มันทำให้เขามองข้ามเรื่องของเพศสภาพและดูดดื่มไปกับความรู้สึกนั้นได้ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา

ทว่า...  จากนี้ไปเขาคงไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นอีกต่อไปแล้ว



.............................



เช้าวันต่อมา

กิจไม่รู้ว่าเขาเผลอหลับไปตอนไหน  แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าไปเสียแล้ว  เขายันตัวลุกขึ้นมานั่งพลางนึกทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้ในสภาพแฮงค์ๆ ของตัวเอง  ก่อนจะมองไปยังรอบๆ บริเวณที่ยังคงเงียบสงัดอยู่เช่นเดิม  เขารู้สึกได้ถึงการขาดหายไปของความมีชีวิตชีวา  ที่เหลือไว้ก็แค่เพียงความทรงจำตามมุมต่างๆ ที่สายตาเขากวาดไปเห็น...

กันต์ที่อิดออดทุกทีที่เขาปลุกให้มาออกกำลังกายในตอนเช้า...
 
เสียงอ้อนน่าฟังเวลาที่จะขออะไร….

หรือแม้แต่อาการฟึดฟัดพ่นลมออกจมูกเวลาที่ถูกขัดใจ...

ทุกภาพจำมันได้ปรากฏอยู่ในทุกๆ มุมของห้องนี้ตลอดเวลา....


กิจเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อทำธุระส่วนตัวพร้อมกับแต่งตัวเพื่อไปเรียน  และปิดท้ายด้วยการดึงเอากระเป๋าใบใหญ่ออกมา  ก่อนจะทยอยขนเสื้อผ้าบางส่วนภายในตู้เสื้อผ้าใส่ลงไปในนั้น  ด้วยความคิดที่จะออกไปจากห้องนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อไม่มีใครบางคนแล้ว...  ห้องนี้ก็ไร้ซึ่งความน่าอยู่อีกต่อไป  หากแต่เต็มไปด้วยภาพจำที่คอยแต่จะทำร้ายจิตใจของเขาอยู่ตลอดเวลาเพียงเท่านั้น....



…………………..


ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ตลอดทั้งสัปดาห์หลังจากที่กันต์ย้ายออกไป  ทุกคืนกิจก็ใช้ชีวิตอยู่แต่กับร้านเหล้า  ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปกับเพื่อนฝูงก็ตาม  เขาไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลย  แม้กระทั่งจะดูแลตัวเองเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา  ความรู้สึกผิดที่ขืนใจและการสูญเสียคนที่เขารักมันยังคงฝังลึกอยู่ในความคิดของเขาตลอดเวลา  จะมีก็พียงแค่เวลาที่เมาและไม่ค่อยมีสตินั่นแหละที่พอจะทำให้เขาลืมเรื่องพวกนี้ลงได้บ้าง


...................................


ในคืนวันศุกร์สุดสัปดาห์

ที่คอนโดของคิม

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาให้เจ้าของเครื่องที่นั่งทำรายงานอยู่หยิบขึ้นมาดูอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก  ก่อนจะวางปากกาลงพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ


<< พี่คิม  นี่ลูกพีชนะ >>

เสียงปลายสายดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงอึกทึกที่ดังมาจากทางด้านหลัง  ให้เขาพอประมาณการณ์สถานที่ที่ปลายสายกำลังโทรเข้ามาได้ว่าไม่น่าจะพ้นจากร้านเหล้าเป็นแน่

“ ว่าไง... “

<< คือลูกพีชไม่ได้จะมาเซ้าซี้อะไรพี่อีกนะ  แต่..  ลูกพีชมีเรื่องสำคัญจะมาบอก... >>


……………………………..


ที่ร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ

วันนี้กิจมานั่งกินเหล้าเพียงลำพัง  เพราะเพื่อนในกลุ่มต่างก็ติดงานและธุระกันหมด  ซึ่งการมานั่งเพียงลำพังและมีสมาธิจดจ่ออยู่แต่กับแก้วเหล้าเพียงอย่างเดียวนั้น  มันเลยทำให้ไม่ถึงเที่ยงคืนเขาก็เริ่มที่จะมึนหัวขึ้นมาบ้างแล้ว  และแม้ว่าจะมีสาวๆ มากมายแวะเวียนเข้ามาพูดคุยทักทายอยู่บ่อยครั้ง  แต่เขาก็หาได้สนใจไม่  แถมยังมองตอบกลับไปด้วยสายตาแสนรำคาญส่งไปให้พวกเธออีกต่างหาก  จนหลายคนไม่กล้าที่จะพูดคุยหรือนั่งอยู่ด้วยได้นาน

ทว่าท่ามกลางผู้คนมากมายที่ต่างเข้ามาหาความสนุกสนานยามค่ำคืน ณ ที่แห่งนี้  ก็ยังคงมีสายตาคู่หนึ่งที่คอยจับจ้องกิจอยู่ไกลๆ มาโดยตลอด  ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแล้วในช่วงหัวค่ำ  และที่สำคัญ... มันไม่ใช่ความบังเอิญ...  แต่กลับเป็นการเตรียมการมาเป็นอย่างดีก่อนหน้านั้น

เธอเป็นหญิงสาวที่สวยและมีเสน่ห์สำหรับใครหลายต่อหลายคน  แต่กับกิจแล้ว...เธอกลับไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย  ยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้ด้วยแล้ว  เมื่อบวกกับสิ่งที่เธอได้ทำเอาไว้  มันก็ยิ่งทำให้เธอดูไร้คุณค่ามากขึ้นอย่างถึงที่สุด

ทว่ายิ่งยากเท่าไหร่...  มันกลับยิ่งสร้างความท้าทายและอยากจะเอาชนะของเธอมากขึ้นตามไปด้วย.....

ฮานะคิดไว้แล้วว่า  ไม่ว่าเธอจะทำยังไง  หว่านเสน่ห์แค่ไหน  กิจก็คงจะไม่หลวมตัวเข้ามาหาเธอง่ายๆ อยู่แล้ว  ซึ่งต่างจากผู้ชายทั่วๆ ไปที่ผ่านมา 

หากแต่ว่า...  ถ้าเกิดกิจกำลังอยู่ในสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่แล้วล่ะ...  บางที...  มันก็อาจจะไม่แน่ก็เป็นได้...

ทุกอย่างมันได้ถูกวางไว้ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจเริ่มคบกับคิมแล้ว  ซึ่งเธอเองก็รู้ว่าคนเจ้าชู้อย่างคิมไม่มีทางหยุดอยู่ที่เธออย่างแน่นอน  และก่อนที่เธอจะถูกเขี่ยทิ้ง  เธอก็เลือกที่จะใช้เขาเป็นบันไดเพื่อสร้างโอกาสขึ้นไปหายังเป้าหมายหลักจริงๆ ของเธอจะดีกว่า

ฮานะรู้ถึงความรู้สึกหวั่นไหวและไม่แน่ใจของกิจที่มีต่อกันต์  จากการที่เขาแอบได้ยินกิจกับพีคุยกันที่ทะเล  ดังนั้นเธอจึงคิดว่าทางเดียวที่อาจจะทำให้จิตใจของกิจอ่อนแอลงได้  ก็คือการพุ่งเป้าไปที่กันต์  ซึ่งมันก็ดูจะได้ผลเกินคาดกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก
ตลอดทั้งสัปดาห์เธอตามติดชีวิตยามราตรีของกิจอยู่ห่างๆ มาโดยตลอด  และรอเวลาที่เหมาะสมอย่างใจเย็น  จนกระทั่งวันนี้มาถึง...

ฮานะย่างกายด้วยรอยยิ้มกริ่มราวกับผู้มีชัยเดินเข้าไปยังโต๊ะตรงมุมสุดของร้าน  ที่ซึ่งมีเป้าหมายของเธอนั่งอยู่เพียงลำพังในสภาพที่มีสติสัมปชัญญะไม่เต็มร้อย  ก่อนที่จะถือวิสาสะเข้าไปนั่งข้างๆ เขาทันทีที่ไปถึง


“ พี่กิจมาคนเดียวเหรอคะ “

กิจไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่มองเธอด้วยหางตาเพียงแค่นั้น  ทว่าธอกลับไม่แคร์ในท่าทีรังเกียจของเขาเลยแม้แต่น้อย  กับเลือกที่จะรุกเข้าไปสัมผัสยังร่างของคนข้างๆ ต่อทันที  กิจขยับตัวออกห่างและจับมือเธอที่วางอยู่บนตักของเขาออกอย่างรู้สึกหน่าย  เขาเริ่มจะทนไม่ไหวกับการกระทำแย่ๆ ของผู้หญิงคนนี้มากขึ้นไปทุกทีแล้ว  เพราะแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับกันต์มันจะมาจากอารมณ์ชั่ววูบของเขา  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็รู้ว่าต้นสายปลายเหตุจริงๆ มันมาจากใคร... 

นี่ถ้าเธอเป็นผู้ชาย....  เขาก็คงจะชกคว่ำไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง...

“ ออกไปไกลๆ.. “

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยและสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน  ทว่าคนข้างๆ กลับยิ้มและหัวเราะร่าขึ้นมาเล็กๆ แทนที่จะรู้สึกตัวและถอยห่างเหมือนอย่างกับคนอื่นๆ

“ แหมพี่กิจก็...  พูดจาไม่รักษาน้ำใจกันเลยนะคะ...  คนเคยรู้จักกันอยู่แท้ๆ  ดูท่าพี่คงจะเมามากแล้ว  ยังไงให้ฮานะ... “

เธอทำท่าจะใช้ปลายนิ้วเรียวมาสัมผัสที่ต้นแขนของกิจต่อ  ทว่าเจ้าตัวกลับเบี่ยงตัวออกอย่างรู้สึกรังเกียจและพูดย้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มกว่าเดิม

“ บอก..ให้..ออกไป...! “

“ ก็ได้ค่ะ  ฮานะอยู่ห่างๆ พี่ก็ได้   แต่...  ฮานะขอนั่งอยู่เป็นเพื่อนพี่สักครู่นะคะ  ดูท่าพี่จะเหงา... “

ความกร้านโลกอย่างน่าไม่อายของฮานะดูจะทำให้กิจเหลืออด  แต่กระนั้นเขาก็ไม่เคยคิดจะใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้หญิงเลยสักครั้ง 

กิจที่ยังไม่รู้สึกอยากจะกลับห้องเลยตัดสินใจเลือกที่จะนั่งต่อไปโดยไม่สนใจเธออีกต่อไป  เมื่อเห็นแล้วว่าการพูดเตือนดูท่าจะไม่เป็นผลอะไรกับความด้านทนของเธอ  แต่ถ้าเขาไม่เล่นด้วยเสียอย่าง  มันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว....


ทว่าผ่านเที่ยงคืนมาได้ไม่นาน  กิจก็ดูจะซึมและเริ่มไม่มีสติ  เขารู้สึกง่วงจนแทบจะนอนได้เลยแม้กระทั่งตรงนี้  มันเป็นความผิดปกติเมื่อเทียบกับปริมาณเหล้าที่ดื่มเข้าไป  ซึ่งปกติเขาจะไม่ดื่มจนถึงขั้นขาดสติสัมปชัญญะหากไม่ได้มากับเพื่อนฝูง  เพราะมันจะมีผลต่อการขับรถกลับที่พักของเขา  ทว่าคราวนี้มันกลับต่างกันออกไป... 

เขาตัดสินใจลุกออกจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับทันทีก่อนที่จะไร้ซึ่งสติไปมากกว่านี้  ทว่าทันทีที่ลุกขึ้น  เขาก็ถึงกับเซถลาจนเกือบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่  หากไม่มีฮานะเข้ามาช่วยประคองเอาไว้ได้ทัน  กิจสะบัดตัวเธอออกไปก่อนจะเดินโซซัดโซเซออกมานอกร้าน  โดยมีฮานะที่กำลังยิ้มกริ่มเดินตามหลังมาติดๆ

สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถเอาชนะสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้ได้  ก่อนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นและเอาหลังพิงกับรถหรูเมื่อเดินมาถึง

“ แหมพี่กิจ...  มานอนหลับตรงนี้.... มันไม่ดีนะคะ “

ฮานะที่เดินตามหลังมาห่างๆ  เข้ามานั่งลงตรงหน้า  ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเรียวไล้ตามหน้าคมที่ไร้สติ  ซึ่งจากที่เธอสังเกตท่าทีของคนตรงหน้าแล้ว  ทุกอย่างดูจะเป็นไปตามแผนการของเธอทั้งหมด  ยานอนหลับอย่างแรงที่เธอซื้อมาจากเพื่อนชายต่างคณะดูจะได้ผลดีเกินคาด  หลังจากที่เธอแอบใส่ลงไปในแก้วเหล้าในช่วงที่กิจเดินไปเข้าห้องน้ำ

เธอจัดการประคองร่างสูงอย่างทุลักทุเลไปยังที่นั่งข้างคนขับ  ก่อนจะใช้กุญแจรถของเขาขับรถหรูนี้ออกไปจากาลนจอดรถ  เพื่อตรงไปยังห้องพักของเธอทันที



ที่คอนโดของฮานะ

การประคองร่างอันไร้สติของคนที่ตัวใหญ่กว่าดูจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะพาขึ้นไปบนห้อง  แต่เพราะเวลาที่ดึกมากขนาดนี้  มันเลยค่อนข้างจะสะดวกและปลอดจากสายตาของผู้คนทั่วทั้งบริเวณ

เมื่อเข้ามาถึงห้องได้  เธอก็ไม่รอช้าที่จะรีบพากิจเข้ามานอนบนเตียงภายในห้องนอนของเธอ  ฮานะมองร่างสูงใหญ่ที่มีใบหน้าหล่อเหลาจนเป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายต่อหลายคน  ซึ่งตอนนี้กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงของเธออย่างไร้สติ  รอยยิ้มราวกับผู้มีชัยปรากฏขึ้นบนใบหน้า  แต่กระนั้นเธอก็รอบคอบพอที่จะเดินไปยังโต๊ะข้างเตียงเพื่อที่จะตั้งกล้องมือถือของเธอเอาไว้  เพราะเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางกายแค่นี้  มันคงจะไม่สามารถมัดตัวชายคนนี้เอาไว้ได้  ดังนั้นการมีหลักฐานแบบนี้มันดูจะรัดกุมมากขึ้นในความคิดของเธอ  เพราะขอแค่ให้ได้มีคลิปวีดีโอเก็บเอาไว้  การตัดต่อเลือกเฉพาะช่วงที่สำคัญเพื่อให้คนเข้าใจผิดมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับเธอ 

เมื่อทุกอย่างจัดเตรียมจนเสร็จเรียบร้อย  เธอก็เดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง  ก่อนจะใช้นิ้วเรียวไล้จากใบหน้าคม  ไล่ลงมายังแผ่นอกกว้าง  เรื่อยไปจนถึงขอบกางเกงยีนต์อย่างเบามือ  เธอใจเย็นและไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย  เมื่อรู้ว่าตลอดทั้งคืนนี้  ชายผู้เป็นที่ต้องการของผู้คนมากมาย  ยังไงก็ต้องตกเป็นของเธออย่างแน่นอน  ซึ่งมันก็คงจะเป็นจริงตามนั้น.... หากว่าจะไม่มีใครเข้ามาก่อกวนแผนการของเธอเอาไว้เสียก่อน...




“ แก๊ก!!! “


เสียงลูกบิดประตูห้องเธอดังขึ้น  ทำให้เธอหันกลับไปมองด้วยความตกใจ  ก่อนจะหน้าถอดสีเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้องของเธอคือใคร...

 “ แหมน้องฮานะ.. น้องนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ เลยนะ  เพราะตั้งแต่ที่พี่รู้จักไอ้กิจมันมา  พี่ไม่เคยเห็นมันพลาดท่าได้ขนาดนี้มาก่อนเลย  อย่างนี้พี่ต้องขอปรบมือให้น้องซะแล้วล่ะ “

“ พี่คิม!!! “

สิ้นเสียงของเธอ  คิมก็ปรบมือส่งให้เบาๆ ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และแววตาดูถูก  ในขณะที่พีและบิวต่างก็พากันเดินเข้ามาหากิจที่เตียงทันที  โดยได้ไม่สนใจฮานะที่กำลังนั่งอึ้งอยู่ข้างๆ เลยแม้แต่น้อย

“ นี่มันห้องของฮานะนะ  พวกพี่บุกรุกเข้ามาได้ยังไงกัน !! “

“ ก็ง่ายๆ..  พี่ก็แค่ไปเอาคีย์การ์ดสำรองที่นิติฯ ไง “

คิมเลิกคิ้วพร้อมกับยักไหล่ให้ราวกับว่าสิ่งที่พูดนั้นมันดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ  หากแต่มันไม่ใช่ในความคิดของฮานะเลยแม้แต่น้อย

“ นิติบุคคลไม่มีทางให้มาได้แน่  นี่มันคือการบุกรุกนะ  ฮานะจะแจ้งความ “

“ มันก็ใช่นะ...  เพราะถ้าเป็นปกติ  นิติฯ ก็คงไม่มีทางให้มาอย่างแน่นอน  แต่ว่า...  ฮานะไม่รู้เหรอว่าพวกพี่เป็นใคร...  เรื่องพวกนี้มันไม่ได้ยากอะไรเลย “

คิมยิ้มกริ่มบอกไป  ซึ่งฮานะเองก็พอจะเข้าใจได้ว่าระดับคนกลุ่มนี้คอลเน็กชั่นและอิทธิพลสูงมากแค่ไหน  มันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยที่จะทำได้

“ ส่วนเรื่องที่ว่าจะแจ้งความ...  พี่ว่าน้องคิดใหม่จะดีกว่านะ  เพราะบางทีน้องอาจจะเจอฟ้องกลับขึ้นมาก็ได้  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว  พี่ว่าน้องจะแย่เอานะ  เพราะระดับน้องไม่มีทางเอาชนะได้แน่ๆ  ที่สำคัญ.. ยิ่งถ้าพวกพี่มีหลักฐานสำคัญแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็.... “

บิวพูดขึ้นพลางลุกออกจากเตียงตรงไปยังชั้นวางทีวีที่อยู่ปลายเตียง  ก่อนจะหยิบเอากล้องที่เขาซ่อนเอาไว้ในระหว่างที่เธอไม่อยู่ห้องออกมา  พร้อมทั้งโชว์มันขึ้นมาให้เธอดู  เพื่อจะได้รู้ถึงการเตรียมการไว้เป็นอย่างดีของพวกเขา  หลักฐานที่จะมัดตัวเธอให้จนมุมถึงความผิดที่เธอได้กระทำลงไป

“ โอะ!...  ใช่เล่นนะเนี่ยฮานะ...  แต่วางกล้องไว้ตรงมุมเดิมที่เคยแอบถ่ายพี่เอาไว้  มันดูจะเดิมๆ ไปหน่อยนะกับแผนแบบนี้อะ “

คิมเดินมาที่โต๊ะตัวที่เธอตั้งโทรศัพท์ไว้เพื่อถ่ายคลิปสำหรับการแบล็คเมล  ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ที่กำลังบันทึกภาพต่างๆ ไว้ขึ้นมาดู

“ แล้วไงคะ  ฮานะกับพี่กิจก็แค่มาต่อกันที่ห้องตามประสาผู้ชายผู้หญิงทั่วไป “

เธอยังคงปฏิเสธเสียงแข็งต่อ  พร้อมทั้งพยายามฝืนยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเองก็ไม่กลัวคำขู่เหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

“ ต่อกันในสภาพที่ไอ้กิจไม่ได้สติแบบนี้เนี่ยนะ... “

พีพูดขึ้นพลางประคองเพื่อนของเขาที่ไร้สติขึ้นมาจากเตียง  โดยที่มีบิวเดินเข้ามาช่วยหิ้วปีกอีกข้างหนึ่งเอาไว้

“ ก็ใช่นะสิ  พี่กิจก็แค่เมามาก  แล้ว.. แล้ว... เอ่อ  ฮานะก็เลยพากลับมาที่ห้อง “

“ แต่สภาพนี้พี่ว่าไอ้กิจมันน่าจะถูกวางยาซะมากกว่านะคร้าบ...น้อง... “

คิมแย้งขึ้น

“ วางยาอะไร  อย่ามาใส่ความกันนะคะพี่คิม “

ไม่มีการโต้แย้งใดๆ ออกมาจากใบหน้าทะเล้นของคิม  จะมีก็เพียงแค่เสียงขำเล็กๆในลำคอส่งให้ไปเท่านั้น

จากนั้นแขกผู้ไม่ได้รับเชิญอีกสองคนก็เดินเข้ามาสมทบอีกในห้อง


“ ลูกพีช...  เจน !  นี่พวกแก “

ฮานะดูจะตกใจมากเมื่อเห็นอดีตเพื่อนเก่าทั้งสองคนของเธอ  ซึ่งถูกเธอหักหลังมาหลายต่อหลายครั้งแล้วเดินเข้ามายังภายในห้อง

“ คิดไม่ถึงละสิฮานะ...  แต่ที่แกคิดไม่ถึงมากกว่าก็คือยาที่แกไปซื้อมาจากกอล์ฟนั่นไง  พวกฉันมีทั้งภาพและคลิปเสียงในโทรศัพท์เลยล่ะ “

ลูกพีชพูดขึ้นพลางชูโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นให้รู้ว่าหลักฐานทั้งหมดได้อยู่ในนี้

“ ไอ้กอล์ฟมัน... “

ฮานะพูดอะไรต่อไม่ออก  เพราะไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้อีกต่อไป

“ แกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่ากอล์ฟมันคบกับเจนอยู่ในตอนนั้น  แล้วแกยังจะแอบไปหว่านเสน่ห์ใส่มันอีก  แถมยังไปมีอะไรกับมันลับหลังเจนที่เป็นเพื่อนสนิทของแกได้  จนสองคนนี้ต้องมาเลิกกันเพราะการเปลี่ยนไปของกอล์ฟ  ทั้งๆ ที่แกเองก็รู้ว่าเจนมันรักกอล์ฟมากแค่ไหน  แกก็ยังกล้าทำเรื่องน่าอายขนาดนั้นได้  ฉันเลยไม่แปลกใจเลยในเรื่องของพี่คิม  แกนี่มัน....!  “

“ ช่างเถอะลูกพีช  ผู้หญิงคนนี้เราพูดอะไรไป  มันก็ไม่เข้าใจหรอก “

เจนพูดห้ามลูกพีชขึ้นมาอย่างใจเย็น  ทว่าแววตากลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถให้อภัยกับคนตรงหน้านี้ได้  จากนั้นลูกพีชก็เริ่มพูดต่อโดยพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด

“ เธอคงคิดไม่ถึงล่ะสิ..  ว่ากอล์ฟมันจะกลับมาคบกับเจนอีกครั้ง  มันขอโทษและสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทั้งหมด  ซึ่งพวกฉันรู้มาตลอดนะว่าแกมันคือนางงูพิษ  แต่เพราะพวกฉันเห็นว่าแกเป็นเพื่อน... เลยไม่คิดจะรื้อฟื้นอะไรขึ้นมาอีก  แต่ก็ไม่คิดเลยว่าแกยังจะกล้าหันกลับมาทำร้ายพวกฉันได้ใหม่อย่างหน้าตาเฉย!! “

ลูกพีชดูจะมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง  ซึ่งต่างจากฮานะที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย  แต่แววตากลับดูร้ายกาจขึ้นมาอย่างน่ารังเกียจ

“ และเรื่องในครั้งนี้  กอล์ฟมันเล่าให้เจนฟังหมดแล้วตั้งแต่วันที่แกไปขอให้มันช่วยหายาให้  ดังนั้นเรื่องชั่วๆ ของแกน่ะ  อย่าคิดว่าจะไม่มีใครรู้นะ “

“ หึๆ...  ถึงขนาดต้องวางแผนมาเล่นงานฉันกันเลยเหรอ  พวกแกนี่มันน่าสมเพสจริงๆ....  ก็แล้วไง...  ก็พวกนั้นมันเลือกที่จะเข้ามาหาฉันเองนี่  ต่อให้ฉันทำอะไร.... ถ้าพวกนั้นไม่เล่นด้วย  มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว  ถ้ามันจะผิด  ก็ผิดที่ไอ้พวกนั้น..และก็พวกแกเองที่ไม่สามารถมัดใจใครเอาไว้ได้ “



“ เผี๊ยะ!! “


เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังลั่นขึ้นมา  ทำให้ทุกอย่างภายในห้องเงียบลงแทบจะในทันที  ฮานะเอามือจับแก้มของเธอไว้ก่อนจะหันกลับมามองยังลูกพีชด้วยแววตาที่เกี้ยวกราด  แต่ก็เลือกที่จะไม่โต้ตอบอะไร

“ คนอย่างแกนี่มัน....  สำนึกไม่ได้เลยจริงๆ  ถึงพวกฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร  แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำเรื่องเลวๆ ได้ขนาดแกหรอกนะ “

ลูกพีชพูดเสียงเข้มด้วยแววตาที่โกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุดต่อคนตรงหน้า  ก่อนที่เจนจะเดินเข้ามากอดไหล่เธอเอาไว้


“ พอเถอะลูกพีช...  เจน...  พี่ว่าพาลูกพีชกลับไปก่อนดีกว่า  เดี๋ยวที่เหลือพวกพี่จัดการต่อเอง “

คิมพูดขึ้น  ก่อนที่เจนจะพยักหน้ารับ แล้วประคองเพื่อนของเธอให้เดินออกไปจากห้อง  แต่ก่อนที่พวกเธอทั้งสองจะก้าวพ้นประตูออกไป  ลูกพีชก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ โดยไม่หันหน้ามามองยังคนในห้องเลยแม้แต่น้อย

“ ฮานะ.. คนอย่างแกนะ...  แม้แต่คำว่าเพื่อน...  ทั้งชีวิตแกก็ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนหรอก... “



........



หลังจากที่ลูกพีชกับเจนออกไปจากห้องแล้ว  พีกับบิวก็ช่วยกันประคองกิจไปนอนยังโซฟาด้านนอก  ก่อนจะเดินเข้ามาสมทบกับคิมที่กำลังทำศึกกับเจ้าของห้องผ่านทางสายตา

“ พี่ขอสรุปง่ายๆ เลยนะน้อง  เรื่องนี้พวกพี่จะไม่เอาเรื่องอะไรก็ได้  แต่..  น้องต้องเลิกเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกพี่ในทุกๆ เรื่อง  โดยไม่มีข้อแม้ “

คิมเริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาทันที  แต่ฮานะเองกลับไม่ดูจะหวั่นไหวเลยกับข้อเสนอดังกล่าว  ก่อนจะตอบเขากลับมาแบบยิ้มๆ

“ แล้วทำไมฮานะต้องทำตามที่พี่บอกด้วยล่ะค่ะ  ฮึ... “

“ ก็ง่ายๆ  ถ้าน้องไม่อยากให้เรื่องไปถึงตำรวจเพราะคลิปนี้ล่ะก็  มันก็เป็นเหตุผลที่มากพอที่น้องจะยอมได้ไม่ใช่เหรอ... “ 

คิมพูดขึ้นต่อ  ถึงจุดนี้ก็ดูเหมือนว่าเธอเองก็เริ่มจะขมวดคิ้วเข้าหากันบ้างเล็กน้อย  เพราะหลักฐานที่มัดตัวจนดิ้นไม่หลุดขนาดนี้  ซึ่งถ้าเป็นใครดู  ก็คงจะรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้มันไม่ได้เกิดจากความสมยอมของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ อ้อ...  แล้วอีกอย่าง...  น้องอาจจะไม่รู้นะ  ว่าพี่มันเลวกว่าไอ้กิจที่ไม่คิดจะทำร้ายผู้หญิงมาก  ดังนั้นถ้าพี่จะลงมือแล้วล่ะก็...  คลิปนี้มันก็คงจะไม่ได้แค่ถูกส่งไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้นหรอกนะ  เพราะบางทีพี่อาจจะเผลอเซฟไว้ในโทรศัพท์แล้วเกิดดันทำโทรศัพท์หายขึ้นมา...  พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าใครจะเป็นคนเอาคลิปนี้ไปปล่อยในเน็ต  แต่แน่นอนว่าถ้ามันเข้าไปในโลกโซเชี่ยลแล้วล่ะก็...  จากนี้ไปน้องเองก็คงจะอยู่ยาก  ที่สำคัญ....คนเดียวที่จะเสียหายก็คือน้อง  ส่วนไอ้กิจมันก็แค่.. ผู้เคราะห์ร้ายที่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน...   ก็แค่นั้น... “

“ พี่คิม !!!  นี่จะขู่กันใช่มั้ย... “

“ พี่ไม่ได้ขู่นะ...  ก็บอกแล้วไงว่าพี่มันสายเลว  แต่ว่านะน้อง...  พี่ขอเตือนเอาไว้ก่อนเลย  ถ้าน้องยังคิดจะมาวุ่นวายกับไอ้กิจมันมากๆ จนมันเหลืออดและคิดจะทำอะไรขึ้นมาแล้วล่ะก็...  น้องหายนะแน่...  เพราะอิทธิพลมันสูงมาก  กับอีแค่ธุรกิจปั้มน้ำมันที่มีสถานะง่อนแง่นอยู่ทุกวันนี้ของที่บ้านน้อง  มันก็อาจจะไม่เหลือเลยก็ได้.... “

ฮานะที่ได้ยินคำขู่ดังกล่าวถึงกับชะงักพูดอะไรไม่ออก  เพราะบางทีมันอาจจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่คำขู่  คือถ้าถึงขนาดรู้เรื่องความระส่ำระส่ายของสถานะทางการเงินของที่บ้านเธอได้อย่างนี้แล้วล่ะก็....

“ ไม่ต้องแปลกใจนะครับน้อง  ข้อมูลของน้องน่ะ  พวกพี่สืบกันได้ไม่ยากเลย  และก็ละเอียดมากด้วย “

บิวพูดขึ้นพลางยิ้มกริ่มโดยที่เธอเถียงอะไรไม่ได้  ก่อนที่คิมจะพูดปิดท้ายกับภารกิจในคืนนี้

“ ถ้าน้องเข้าใจแล้วว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร  น้องก็คงจะรู้นะ...  ว่าไม่ควรทำอะไรอีก...  ถ้าเข้าใจแล้ว...  พวกพี่ไปกันก่อนนะคร้าบ “


เสียงประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับเจ้าของห้องที่นั่งอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง  ว่าทุกอย่างที่พยายามทำมามันจะพังทลายลงไปจนหมดเพียงแค่ชั่วเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น

ความรู้สึกอัดอั้นและโกรธทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาภายในใจ  ทว่าเธอกลับไม่สามารถจะทำอะไรไปได้มากกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ และยอมรับชะตากรรมไปเพียงเท่านั้น  ไม่มีทางเลยที่เธอจะสามารถเอาชนะคนพวกนี้ไปได้...  ไม่มีทางเลยจริงๆ...


................................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
เช้าวันต่อมา...

ที่คอนโดของคิม

พวกเพื่อนๆ พากิจที่ยังคงไม่ได้สติกลับมายังคอนโดของคิมในคืนที่ผ่านมา  เนื่องจากคอนโดที่เขาพักอยู่ในช่วงนี้ค่อนข้างอยู่ไกลจากมหาลัยมาก( คอนโดใหม่ )  จึงไม่ค่อยสะดวกกับสถานการณ์ในตอนนั้น 

กิจค่อยๆปรือตาขึ้นมาด้วยอาการมึนและปวดหัวอยู่เล็กน้อย  ก่อนจะรู้ตัวว่าเขาไม่ได้กลับไปนอนยังคอนโดของเขาในคืนที่ผ่านมา  เขาออกจะสับสนเล็กน้อยและพยายามคิดถึงสิ่งสุดท้ายที่พอจะนึกได้  แต่มันก็ดูจะเลือนรางเอามากๆ  ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขารู้ในตอนนี้ก็คือ  เขารู้ว่าห้องนี้มันคือที่ไหนและเป็นห้องของใคร...

เขาเอื้อมมือไปเขย่าตัวคนข้างๆ ด้วยแรงที่น้อยกว่าปกติกับสภาพในตอนนี้  แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เจ้าของห้องงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างหัวเสีย

“ อะไรมึงเนี่ย  ปลุกกูแต่เช้าเลย !! “

“ ไอ้คิม...  กูมานอนห้องมึงได้ยังไงวะ “

“ เอ๊า.. สรุปนี่มึงจำอะไรได้บ้างเนี่ย  หรือหลับไปตั้งแต่ร้านเหล้า “

กิจทำท่าพยายามนึกอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนที่จะจำได้ว่าเขาพยายามจะพาตัวเองไปยังรถ  แต่ทว่าหลังจากนั้น..  เขากลับจำเรื่องราวอะไรไม่ได้อีกเลย

“ ดูท่ามึงจะโดนหนักนะเนี่ย...  นี่ถ้าพวกกูไม่ไปช่วย  ป่านนี้มึงคงจะตกเป็นเหยื่อของฮานะไปแล้วล่ะ...  แต่เอ....  มาคิดอีกที...  ถึงมึงจะพลาดมึงก็คงไม่สนใจและแก้ปัญหาเองได้อยู่แล้วนี่หว่า...  จะว่าไป..  นี่กูไม่น่าเสียเวลาทำรายงานไปเลยนะเนี่ย  โอ้ย!!! “

คิมเวิ่นเว้อกับตัวเองอยู่นาน  จนคนข้างๆ เริ่มทนไม่ไหวก่อนจะตบหัวเพื่อนเขาไปทีนึง

“ สัด!!  มึงทำร้ายผู้มีพระคุณอย่างนี้เหรอวะ “

“ พูดมาก..  ตกลงยังไงมึง “

จากนั้นคิมก็เริ่มเล่าทุกอย่างตั้งแต่ที่ลูกพีชโทรมาบอกถึงแผนการของฮานะจากกอล์ฟเพื่อนต่างคณะให้เขาฟัง  จนกระทั่งแผนการและเรื่องราวที่เข้าไปช่วยเหลือกิจที่คอนโดของฮานะจนออกมาได้


เมื่อฟังจบ  กิจก็เหมือนจะอึ้งไปเล็กน้อย  เพราะไม่คิดว่าฮานะจะสามารถทำเรื่องร้ายกาจได้ถึงขนาดนั้น  จากนั้นไม่นานพีกับบิวที่นอนอยู่ที่โซฟานอกห้องก็เปิดประตูห้องนอนเข้ามา  เมื่อรู้ว่าคนข้างในนี้ได้ตื่นกันหมดแล้ว

“ ไอ้กิจ...  นี่กูถามมึงจริงๆ นะ...  ตกลงมึงจะเอายังไงต่อวะ  จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน “

พีถามขึ้นเสียงเข้มพร้อมกับจ้องหน้ากิจที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงรับฟังเรื่องราวไปด้วยท่าทีที่เฉยเมย

“ ใจมึงรู้สึกยังไง  อยากทำอะไร  ทำไมมึงไม่ทำไปตรงๆ วะ  นี่มึงใช่ไอ้กิจเพื่อนกูจริงๆ รึป่าววะเนี่ย “

พีดูจะหัวร้อนขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนสนิทในตอนนี้  จนบิวต้องเอามือมาตบไหล่เขาเบาๆ เพื่อให้ใจเย็นลง

“ พวกมึงไม่เข้าใจอะ  กูมัน...  เลว..  กูทำเรื่องแย่ๆ กับน้องมันไปเยอะ  แล้วตอนที่น้องมันจะไป  มันก็ขอให้กูสัญญากับมันไว้ข้อหนึ่ง  ว่าให้กูปล่อยมันไป  และอย่าได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมันอีก “

กิจเล่ามาขณะที่ได้แต่ก้มหน้ามองลงไปยังเตียงที่ว่างเปล่า

“ แล้วมึงก็เลือกที่จะปล่อยน้องมันไปอย่างนั้นจริงๆ เหรอวะ “

“ แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ  บางที..  ถ้าน้องมันไม่ได้อยู่กับกู...  น้องมันก็อาจจะ... มีความสุขมากกว่านี้ก็ได้นะเว้ย...”

ทันทีที่กิจพูดจบ  พีก็เข้ามากระชากคอเสื้อของกิจขึ้นทันที  ท่ามกลางการห้ามปรามของเพื่อนอีกสองคนที่อยู่ใกล้

“ เชี่ย...!!  มึงรู้มั้ยว่าตอนนี้มึงมันอะแม่ง....เหมือนหมาขี้แพ้ !!  มึงอะเก่งมาตลอด  แต่เสือกมาโง่กับเรื่องความรักแบบนี้เนี่ยนะ !!  แม่งเอ้ย!!  กูล่ะผิดหวังกับมึงจริงๆ... “

สิ่งที่พีพูดมา  มันก็จริงทั้งหมดในความคิดของกิจ  ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกรธอะไรพีเลยสักนิด  เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนทุกคนต่างก็เป็นห่วงเขามากถึงได้พูดแรงขนาดนี้ 

“ ถ้ามึงยังเป็นแบบนี้อยู่นะ  กูบอกเลยนะว่า.... กูจะจีบน้องมันเอง “

สิ้นเสียงของพี  กิจก็ถึงกับหันไปมองตาขวาง  ก่อนจะเอามือจับข้อมือของพีที่กระชากคอเสื้อของเขาออกไปทันที

“ มึงว่าไงนะ.. “

“ มึงฟังไว้นะ  กันต์มันไม่เหมาะกับไอ้พวกขี้แพ้แบบนี้หรอก  และถ้ากูเป็นมึงนะ  กูจะไม่ยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้แน่นอน  ต่อให้กูต้องผิดสัญญาหรืออะไรก็ตาม  กูคงไม่ยอมปล่อยให้ทุกอย่างมันจบลงไปทั้งอย่างนี้แน่ “

กิจคลายมือออกทันทีที่พีพูดจบ  มันไม่ผิดแม้แต่น้อยเลยกับสิ่งที่พีได้บอกมา  ถึงจุดนี้มันก็ทำให้เขาคิดขึ้นมาได้ว่า  เขามัวทำอะไรกันอยู่ในตอนนี้  คนหัวแข็งอย่างเขากับมาหัวอ่อนให้กับเรื่องของความรักได้แบบนี้  มีชีวิตที่หนีปัญหามากกว่าที่จะกล้าเผชิญหน้ากับมัน  ช่างไม่ต่างอะไรเลยกับหมาขี้แพ้จริงๆ นั่นแหละ...

ใช่แล้ว...  แทนที่จะมานั่งทำเรื่องไร้ค่าอยู่แบบนี้  ทำไมไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและหาทางแก้ไขมัน....

ดังคำกล่าวที่ว่า...  การไม่แก้ไขข้อผิดพลาด  คือความผิดพลาดที่แท้จริง....

“ ว่าไงมึง...  จะเอายังไง “

พีถามย้ำมาเสียงเข้ม  ก่อนที่ผู้ถูกถามจะหลับตาลงเล็กน้อย  แล้วเผยยิ้มเล็กๆ ขึ้นมาที่มุมปาก  ราวกับว่ากำลังเจอเรื่องน่าขำเป็นที่สุด 

ใช่...  เพราะเขากำลังหัวเราะให้กับความงี่เง่าของตัวเองที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น  แต่นั่นก็แสดงให้ตัวเขาได้รู้แล้วว่า  ใครบางคนนั้นสำคัญกับเขามากขนาดไหน  ถึงได้มีผลต่อสภาพจิตใจของเขาได้ถึงเพียงนี้

“ กูกลับห้องละ “

กิจว่ามาด้วยน้ำเสียงที่ปกติ  ไร้ซึ่งความหมดอะไรตายอยากเหมือนอย่างที่เป็นมาตลอดทั้งสัปดาห์  ในขณะที่เพื่อนๆ ทั้งสามต่างก็มองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของเขาในตอนนี้

“ ยังไงมึง...  จะไปไหนวะไอ้กิจ “

คิมร้องทักขึ้นเมื่อกิจกำลังจะเดินพ้นประตูห้องออกไป

“ ก็ไปทำในสิ่งที่กูควรจะทำมาตั้งนานแล้วไง “

เขาหันมายิ้มบอกไป

“ เชร็ด!!!  ไอ้กิจเพื่อนกูมันกลับมาแล้วเว้ย !! “

คิมตะโกนว่ามา  ก่อนที่พีจะพูดต่อ

“ ให้มันได้อย่างนี้สิวะ  ต้องให้ถึงมือกูตลอด “

“ แล้วจะให้พวกกูช่วยอะไรมั้ย “

บิวถามขึ้นมาปิดท้าย  ก่อนที่กิจจะยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แล้วตอบไป

“ สำหรับเรื่องนี้...  มันต้องเป็นกูคนเดียวเท่านั้นที่จะจัดการได้  แต่ยังไง...  กูก็ต้องขอบใจพวกมึงมากนะ  กับทุกๆ เรื่องเลย  ส่วนเรื่องที่เหลือต่อจากนี้  พวกมึงคอยดูฝีมือของกูก็ละกัน “

สิ้นเสียง...  พวกเพื่อนๆ ของเขาก็โห่ร้องให้กับการกลับมาของเพื่อนคนสำคัญของพวกเขาจนลั่นห้อง   ก่อนที่กิจจะปิดประตูห้องลงแล้วเดินจากไป  พร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ามากดหา เรย์ รุ่นน้องในชมรมทันที



<< ครับพี่....  มีไรให้ผมรับใช้แต่เช้าคร้าบ >>




TBC.


-----------------------------------------

เนื้อหาที่เหลือหลังจากนี้ไม่เครียดแล้วล่ะครับ  ส่วนฮานะจะเป็นไงต่อไปต้องรอดูนะครับ  เพราะกิจจะทำให้มันชัดเจนใน CHหน้า  ส่วนผลหลังจากนั้นต้องรอดูกันต่อไปนะครับ  ส่วนวิธีการง้อก็ต้องรอติดตามด้วยนะครับผม (โมเม้นต์หลังๆจะน่ารักๆส่งท้ายซีซั่นหน่อย)
เหลืออีกแค่สิบกว่าตอนก็จะจบซีซั่นแล้วละครับ  หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีเนาะว่าจะลงต่อที่ไหนอะไรยังไง
วันหยุดยาวว่าจะนั่งเขียน CH48ให้จบครับ  แล้วจะมาลงCH47ให้ท้ายๆ วันหยุดยาวนี้นะครับ
ขอบคุณเสมอมาครับ

หมีขาว...

^_________________________________________^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณและดีใจ  ที่ยังนึกถึงคนอ่านที่ชื่นชอบผลงานเขียน และกลับมาแบ่งปันงานเขียนให้กับพวกเขา

ป.ล.  จะคอยดูว่า  อีนังฮานะ จะโดนอะไรบ้าง ให้สาสมกับความเลวระยำของนางที่ทำลงไป

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ
ติดตามต่อไปค่ะ
ซีซั่นหน้าขอความอนุเคราะห์ลงให้อ่านที่เล้าป็ดด้วยนะคะ

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
เย้ๆ มาต่อแล้ว  ขอบคุณที่กลับมาค่ะ  รอติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

 :hao7:   :hao7:   :3123:   :3123:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3:  ดีใจที่กลับมานะคะ

มานั่งรอดูอีพี่กิจตามง้อน้องงงง

ออฟไลน์ Kirana9165

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราเชื่อว่าคุณแต่งได้ดีนะคะ ทำให้ผู้อ่านอินได้ เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่คอมเม้นท์ต่อว่าไปเพราะไม่ได้ดั่งใจ ก็กลับมาอ่านต่อค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ kakilover

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ดีใจและขอบคุณคนแต่ง ที่ยังไม่ทิ้งกันไปไหนและกลับมาลงนิยายที่สนุก ๆ ให้ได้อ่านกันอีก สัญญาว่าจะคิดตามต่อไป สู้ สู้ นะคับ :pig4: :mew1: o13

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :angry2: ขอหนักๆ โหดๆ แหกๆ จัดให้ชะนีในตอนหน้า จะรอดู  :fire:

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮานะเธอร้ายนะ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ 555

ออฟไลน์ jpjiraporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
นังฮานะไปตายซะ :fire: :fire: :m31: :m31:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เป็นกำลังใจให้จ้า  :L2:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เย้.. เย้.. เย้.. ในที่สุด ก้อ ได้ อ่าน ต่อ.... สู้ สู้ ทั้ง ไรท์ แล้ว ก้อ กิจ...

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สะใจกับผลกรรมของฮานะมากก  กด+รัวๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ฮานะนี่มันย้ายจริงๆ
ปล. พี่กิจสู้ๆ

ออฟไลน์ Naesuka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอน้องตลอดนะครับเป็นกำลังใจนะคร้าบ รออ่านตลอดๆๆๆ :hao7: :mew2:อย่าลืมพวกเราน้าาาา

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ครบทุกรสเลยครับ


            :o12:

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 47



กิจ’s  Part



ที่คอนโดย่านใจกลางเมืองของกิจ

เย็นนี้ผมกลับเข้ามาเก็บของยังคอนโดที่ผมใช้เงินเก็บส่วนตัวซื้อไว้จากโครงการของพ่อครับ  ที่ซึ่งผมย้ายเข้ามาพักอยู่ในช่วงที่ผมดูจะไม่เป็นผู้เป็นคนและงี่เง่าอยู่อย่างนั้น

แต่จากนี้ไป...  ผมจะต้องมีสติและไม่คิดที่จะทำอะไรเป็นบ้าเป็นหลังอย่างนั้นอีกแล้ว  เพราะผมยังไม่ได้พยายามทำอะไรสักอย่างเลยเพื่อแก้ไขในเรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้น  ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้วล่ะก็  ผมก็ไม่เคยพยายามเพื่อใครในเรื่องของความรักมาก่อนเลย  อาจจะเพราะที่ผ่านมา....ผมยังไม่เคยเจอคนที่ใช่ล่ะมั้งครับ  ทว่าตอนนี้ผมเจอแล้ว  และจากนี้ไป  ผมจะพยายามเพื่อเอาความรักของผมกลับคืนมาให้ได้อีกครั้ง

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา  ผมมัวแต่วุ่นอยู่กับการหาข้อมูลเกี่ยวกับกันต์ว่าน้องมันพักที่ไหน  อยู่กับใคร  หรือเป็นยังไงบ้างจากไอ้เรย์  และเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก นิก รุ่นน้องปี 2 ในคณะ  สำหรับที่อยู่ใหม่ของผมนับจากวันนี้เป็นต้นไป


ที่คอนโดของเรย์

ผมหอบเอากระเป๋าเสื้อผ้า  หนังสือ  และของใช้จำเป็นเพียงบางส่วนเข้ามาพักยังห้องของนิกรุ่นน้องในคณะ  โดยที่ระหว่างนี้  ผมก็ยกคอนโดแถวหน้ามหาลัยที่ซึ่งผมเคยใช้ชีวิตร่วมกับกันต์มาเกือบตลอดทั้งเทอมให้น้องเขาพักไปก่อน

แน่นอนครับว่าการแลกห้องกันแบบนี้  ความสะดวกสบายสำหรับผมแล้วมันดูจะลดน้อยลงไปมาก  แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับผมเลย  เพราะเอาเข้าจริงผมก็ไม่ใช่คนที่ติดหรูอะไรเหมือนภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเข้ามาเลยแม้แต่น้อย  มิเช่นนั้นผมคงไม่ไปนอนกลางดินกินกลางทรายเพื่อเข้าไปอยู่ชมรมจิตอาสาเวลาที่ต้องออกค่ายแบบนั้นหรอกครับ  ที่สำคัญตอนนี้...  ผมก็แค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับคนที่ผมรักและได้คอยดูแลอยู่ข้างๆ แบบนี้ก็พอแล้ว  ในช่วงภารกิจการง้อและขอความรักของผม

หลังจากจัดแจงเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นให้เข้าที่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ผมก็เดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียงห้อง  ก่อนจะได้ยินเสียงประตูบานเลื่อนจากห้องข้างๆ เปิดออกตามมาด้วยเช่นกัน

บอกตามตรงนะครับว่า...  ผมอดที่จะรู้สึกประหม่าขึ้นมาเสียไม่ได้  เพราะผมรู้ดีครับว่าคนที่อยู่ห้องข้างๆ ของผมตอนนี้คือใคร....  ที่สำคัญ  ผมคงจะให้กันต์รู้ไม่ได้หรอกครับว่าตอนนี้คนที่อยู่ข้างห้องมันไม่ใช่รุ่นพี่ปี 2 อย่างที่มันเข้าใจ  ไม่เช่นนั้น...  บางทีมันอาจจะย้ายหนีผมไปอีกรอบก็เป็นได้

แม้จะมีผนังกว้างกว่า 1 เมตรกั้นเอาไว้ระหว่างระเบียงห้องของเรา  แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะไปยืนเกาะตรงราวระเบียงหรอกนะครับ  เพราะกลัวว่ามันจะหันมาเจอเข้า  ทั้งๆ ที่อยากจะเห็นหน้ามันแทบใจจะขาดเลยแท้ๆ  แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้  และที่ทำได้ก็เพียงแค่ยืนพิงกำแพงหนาที่กั้นเราเอาไว้อยู่เพียงแค่นั้น 

ตอนนี้ผมรู้สึกราวกับว่าเป็นเด็กน้อยที่กำลังเริ่มหัดจีบใครสักคนอยู่เลยครับ  คิดได้อย่างนี้ก็อดยิ้มขำให้กับตัวเองขึ้นมาเสียไม่ได้  นายกรกิจที่ไม่เคยประหม่ากับใครเลยแท้ๆ  กลับต้องมาแพ้ให้กับคนตัวเล็กกว่าคนนี้ไปได้เสียอย่างนั้น


“ เห้ย! ไม้แขวนเสื้อไม่พอ...  ก็ว่าซื้อมาเยอะแล้วน้า... “

เสียงกันต์มันดังมาจากอีกฝากหนึ่งของกำแพงครับ  นึกแล้วก็ขำนะครับ  ถึงยังไงมันก็ยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะมีความรอบครอบอยู่เหมือนเดิม  เพราะแบบนี้ไง  ถึงต้องมีผมคอยกำกับอยู่ด้วยตลอดเวลา  หึๆ

“ น้องครับ  เอาของพี่ไปใช้ก่อนมั้ย “

ผมหยิบเอาไม้แขวนเสื้อที่ยังว่างอยู่  ยื่นผ่านกำแพงหนาส่งให้ไป  โดยไม่ได้ยื่นหน้าออกไปจนพ้นขอบระเบียงเลยแม้แต่น้อย  ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยเอาไว้ก่อนครับ....

กันต์มันเหมือนจะเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะถามผมกลับมา

“ พี่....  นิกรึเปล่าครับ “

ได้ยินมันถามมาอย่างนี้  ผมก็อดกลัวไม่ได้ครับว่าความจะแตก  เพราะมันเองก็คงจะผิดสังเกตกับน้ำเสียงของผมแน่ๆ  แต่ทำไงได้ล่ะ  พูดออกไปแล้วนี่  ก็คงต้องเลยตามเลยแล้วล่ะครับ

“ อา...ใช่  น้องกันต์เอาของพี่ไปใช้ก่อนก็ได้นะ  พี่มีเยอะ “

ผมว่าไปครับ  และไม่นานมันก็ยื่นมือมารับไปจากมือผม

“ พึ่งจะได้คุยกับพี่ก็วันนี้แหละ  รู้สึกแปลกใจเลยตอนที่ได้ยินเสียงพี่...  ผมก็นึกว่าเป็น... “

“ พี่กิจ... “

“ ใช่ครับ  เสียงพี่เหมือนเสียงพี่เขามากเลยอะ “

“ ใครๆ เขาก็ชอบว่ากันอย่างนั้นแหละ  ว่าแต่เราย้ายมานานแล้วเหรอ “

“ ก็ประมาณอาทิตย์นึงแล้วล่ะครับพี่  เห็นไอ้เรย์มันบอกว่าพี่เป็นรุ่นพี่ที่คณะด้วยเหรอครับ “

“ อ๋อใช่...  ก็ถ้ามีอะไรที่พี่พอช่วยได้ก็บอกมานะ “

“ ขอบคุณครับพี่นิก “

ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีครับ  เพราะนี่ถือเป็นการคุยกันครั้งแรกในรอบอาทิตย์เลยก็ว่าได้  ตั้งแต่ที่กันต์มันย้ายออกไป  แม้มันจะเข้าใจว่าผมคือคนอื่นก็ตาม  แต่การได้คุยกับมันอีกครั้ง  ผมก็โครตที่จะรู้สึกดีเลยล่ะครับ

จากนั้นผมก็ยืนพิงกำแพงอยู่อย่างนั้น  รอจนกระทั่งมันตากผ้าเสร็จแล้วเดินกลับเข้าห้องไป  ตอนนี้ผมรู้สึกราวกับว่าผมกำลังเป็นฝ่ายที่เริ่มจีบมันใหม่อย่างไงอย่างนั้นเลยละครับ  ทั้งๆ ที่ในแง่ของความรู้สึกแล้ว  เราทั้งคู่ต่างก็เลยจุดนั้นมากันมากแล้วแท้ๆ.....


เช้าวันต่อมา

ผมตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาหาซื้ออะไรกิน  แม้จะไม่ได้ตื่นมาเพื่อออกกำลังกายเหมือนเช่นทุกที  แต่การตื่นเช้ามันก็ได้กลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปเสียแล้ว

ผมซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งและปลาท่องโก๋แถวหน้าปากซอยกลับเข้ามา 2 ชุด  โดยชุดหนึ่งสำหรับผม  และอีกชุดซึ่งมีน้ำเต้าหู้เพิ่มเข้ามาด้วยอีก 1 ถุงสำหรับกันต์  ผมห้อยมันไว้ที่หน้าประตูห้อง  พร้อมกับโพสต์อิทแปะไว้  โดยทิ้งข้อความเอาไว้ว่า….



แวะซื้อมาฝาก...
                         พี่ข้างห้อง



เที่ยงนี้ผมมีธุระที่คณะบัญชีครับ  หลังจากที่ถามหาคนอยู่ไม่นาน  ผมก็ตรงมายังโรงอาหารของคณะเพื่อพบกับใครบางคน  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  ฮานะนั่นเอง...

คือที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรมากนักหรอกครับ  ผมก็แค่อยากจะมาพูดกับเธอให้ชัดเจนไปเลย  เพื่อที่ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างและยุ่งเกี่ยวกันอีก

“ คุณครับ...  ผมขอคุยอะไรด้วยสักหน่อยสิ “

ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงและสรรพนามที่ดูห่างเหินเป็นที่สุด  นี่ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่สนิทกับเธอหรอกนะ  แต่เป็นเพราะความรังเกียจ  ที่แม้แต่การเป็นแค่คนรู้จักผมก็ไม่ต้องการ  จากทุกอย่างที่เธอได้ทำเอาไว้

ฮานะที่นั่งทานข้าวอยู่เพียงลำพังมองขึ้นทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อเห็นผม  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำหน้านิ่งมองตอบกลับไปให้เพียงเท่านั้น  ก่อนจะเริ่มพูดถึงสิ่งที่ต้องการให้เธอได้รับรู้

“ เรื่องแย่ๆ ที่คุณทำไว้เมื่อคืนก่อน....  ผมจะไม่เอาเรื่องคุณและถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน  แต่ว่า....  จากนี้ต่อไป  ห้ามคุณเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตของผมอีก  ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม  โดยเฉพาะ... “

เธอมองผมด้วยสายตาประหม่าในท่าทีที่ผมแสดงออก  ในขณะที่ผู้คนในโรงอาหารต่างก็เริ่มพากันจับจ้องมายังโต๊ะที่เธอนั่งอยู่ทันทีเมื่อสิ้นเสียงเย็นๆ หากแต่หนักแน่นของผมลง  แถมบางคนยังหยิบเอามือถือมาถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย  แต่ผมไม่แคร์หรอกครับ  ไม่เคยสนใจภาพลักษณ์ของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วด้วย 

“ กันต์...  ห้ามคุณเข้าไปยุ่งกับเขาอีกเป็นอันขาด  ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ... “

“ แล้วพี่กิจจะทำอะไรคะ..  คนๆ นั้นสำคัญกับพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ “

เธอถามกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นๆ  หากแต่แฝงไว้ด้วยความเกรี้ยวกราดในแววตา  ซึ่งมันได้แสดงให้เห็นถึงท่าแท้และนิสัยของเธอได้อย่างชัดเจน

ความรุ่มร้อนภายในใจ....ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูสุขุมเยือกเย็น…

ผมหลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจออกเบาๆ  ก่อนจะเปรยตาขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

“ ที่ผ่านมา...  เพราะผมเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิง  ผมถึงมองข้ามเรื่องแย่ๆ ของคุณ  และไม่คิดจะทำอะไรมาโดยตลอด  แต่ถ้าคุณยังมาสร้างความเดือดร้อนให้กับผมและกันต์มากไปกว่านี้อีกล่ะก็...  ผมบอกได้เลยนะว่า...  ผมจะไม่อยู่เฉยอีกต่อไปแล้ว...ซึ่งผมทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิดไว้เยอะ  เชื่อเถอะว่า...  คุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน “

ผมเตือนไปด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่นและเยือกเย็นจนผมสังเกตได้ถึงแววตาสั่นระริกด้วยความประหม่าของคนตรงหน้าอย่างชัดเจน  สิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น  ผมไม่ได้ขู่นะครับ  เพราะว่านี่ถือเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายโดยตรงจากผม

เธอดูไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรกลับมาอีก  ผมเลยหันหลังกลับและทำท่าว่าจะเดินจากไปเมื่อหมดธุระของผมแล้ว  ก่อนที่จะได้ยินเธอตะแบงเสียงออกมาด้วยความกล้าสุดท้ายที่เธอมี

“ แต่ฮานะชอบพี่นะ !!  ฮานะไม่ดีตรงไหน  สู้เขาไม่ได้ตรงไหน !! “

ผมหันกลับมามองเธอที่ตอนนี้ลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะอย่างไม่สนใจภาพพจน์ของตัวเองอีกต่อไป  ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่ต่างจับจ้องมาทางพวกเราอย่างให้ความสนใจ

“ คุณเป็นคนที่หน้าตาดีนะ...  แต่ว่า...  จิตใจคุณมันอัปลักษณ์มาก....  มันต่ำและน่าขยะแขยงจนผมไม่เคยคิดจะชายตามองเลยสักครั้ง  และไม่ว่าคุณจะทำยังไงก็ตาม...ผมขอย้ำไว้ตรงนี้เลยนะว่า  คุณจะไม่มีทางได้อยู่ในสายตาของผมอย่างแน่นอน...  ดังนั้น...  เลิกพยายามซะ  และเอาเวลาไปปรับปรุงตัวเองจะดีกว่า  บางทีคุณอาจจะได้เจอกับอะไรที่ดีสำหรับคุณก็ได้... “

เมื่อไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว  ผมก็ตัดสินใจเดินออกไปจากตรงนี้แทบจะในทันที  พร้อมกับเสียงหวีดร้องอย่างขัดใจของเธอดังขึ้นมาจนลั่นโรงอาหาร  ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของผู้คนทั่วทั้งบริเวณ  ทว่าสิ่งที่ผมทำก็เพียงแค่การเดินชิลๆ ออกไปจากบริเวณนี้ก็เท่านั้น


สนใจที่ไหนกันล่ะครับ....

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :เฮ้อ: ต้องตัดให้เด็ดขาด ระวังฮานะไปทำร้ายน้องด้วยนะกิจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด