จริงจะมีตอนก่อนหน้านี้อ่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้แต่ง งงมั้ย ฮ่าๆ
เป็นตอนหวานๆ หลังพี่พาร์ทกินน้องไปแล้วน่าจะเป็นตอนสั้นๆ ย้อนหลังอ่ะค่ะ
ไว้แต่งเสร็จค่อยเอามาลงให้นะคะ เพราะดันแต่งตอนนี้เสร็จก่อน คิริ
UNIT 25
“ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ.... ติ๊ด” เสียงมือถือที่ตั้งปลุกเอาไว้ดังถี่ๆ น่าเบื่อพอๆ กับเมื่อควานมือไปยังพื้นที่ข้างๆ ตัวแล้วพบว่ามัน...ว่างเปล่า
ไร้เงาของปัต ผมดึงหมอนข้างมากอดหวังว่ามันจะคลายความคิดถึงที่มีให้น้องได้.....แต่ก็เปล่า ได้แต่คิดถึงรอยยิ้มพิมพ์ใจนั่นที่ทำให้ผมหลงไหล
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เป็นแบบนั้น จำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรกก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรก็แค่.....เด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ขนาดตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุ
จนริมฝีปากเราแตะกันเบาๆ ก็ไม่ทำให้ผมหวั่นไหวสักนิด น่าแปลกที่ยิ่งอยู่ใกล้ก็กลับรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ มีใครถามหารตีรึเปล่า อืมน่ะ...จะเล่าก็ได้
รตีย้ายตามนายอาทิตย์ไปที่เกาหลี แน่นอนเธอทำงานเป็นนางแบบที่นั่นจากชื่อเสียงในไทยและการประพฤติตัวของรตี ทำให้รตีเริ่มจะเป็นที่รู้จักใน
แวดวงนางแบบเกาหลีอยู่พอสมควร ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามน่ะ ไม่ได้เกลียด....... แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอยากขอบคุณ ขอบคุณที่ทิ้งไปนะ...รตี
แน่นอนนายอาทิตย์ หลังจากเข้าต้นสังกัดได้ไม่นานก็ออกเทป.....รู้สึกเค้าจะรวมนักร้องทั่วเอเชียไปร่วมอัลบั้มนี้เห็นหนังสือพิมพ์ในไทยตีข่าว
ซะครึกโครมแต่ผมเลือกจะเปิดข้ามไป น่ะ....จะว่าไปเห็นหน้าแล้วก็อดรู้สึกนิดๆ ไม่ได้ ที่รู้ก็แค่...ทั้งคู่ยังรักกันดี ออกจะหวานจนเลี่ยนซะด้วยซ้ำ
เห้อ~......เผลอถอนหายใจซะยืดยาว ได้แต่วางมือลูบไล้พื้นที่ว่างข้างตัว ก่อนจะกระตุกยิ้มนิดๆ เพลินไปคิดถึงเรื่องก่อนหน้านั้น
คนอะไรไม่รู้ หวาน........จนอยากจะกลืนกินซ้ำๆให้หนำใจ อยากสัมผัสทุกตารางนิ้ว อยากกอดไอ้ตัวเล็กให้จมหายไปกับอก เสียงครางที่อยู่ใต้ตัว
อืม....จะยั่วกันไปถึงไหนนะ ยิ่งประโยคที่ปากบางๆ นั่นเอื้อนเอ่ย “ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ” อ๊ากกกกกกกกกกกกกก ....ไม่ไหวแล้วเว้ย
จะทำให้พี่หลงไปไหนคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ น้องปัต ผมดันตัวลุกขึ้นจากเตียงถอดชุดนอนทิ้งอย่างไม่ไยดีลงตะกร้า แล้วตรงไปที่ห้องน้ำ
ยังจำได้ไหม.....ว่าที่นี่คือมุมสงบของผม เมื่อไอ้ตัวดีตื่น แต่สุดที่รักของผมไม่อยู่ สิ่งที่ช่วยบรรเทาได้ก็คงมีแต่มือหยาบๆ ของตัวเองเท่านั้น
ก้าวลงอ่างอาบน้ำอย่างคุ้นเคย เทครีมอาบน้ำราดทั้งตัวแล้วค่อยเปิดน้ำให้ไหลมากระแทกจนเกิดฟองน้อยๆ บนตัวผม มือก็รั้งรูดเบาๆ ไปยัง
ที่ส่วนแข็งขืนกลางลำตัว ขณะที่กระแสน้ำอุ่นลอยกระทบเป็นระยะ เกิดความรู้สึกวาบหวิว ขณะท่อนลำด้านล่างกระทบกับกระแสน้ำอุ่น
แต่ท่อนด้านบนที่เปลือยเปล่ากับเย็นจากแอร์ห้องนอนที่หมุนเวียนเข้ามาเป็นระยะให้ความอุ่นกับเย็นสะท้านมาเจอกัน กลายเป็นผมเสียวซ่าน
เพราะดันไปจินตานาการว่าส่วนที่อุ่นซ่านนั้นเป็นเพราะมีใครบางคนนั่งทาบทับอยู่บนนั้น น้องกำลังขยับตัวอยู่บนนั้นด้วยใบหน้าแดงจัด
ริมฝีปากอิ่มเผยอน้อย มือจิกแน่นที่ไหลผม ขณะที่ผมรั้งสะโพกด้านหลังไว้แน่นพอที่จะให้อีกฝ่ายเอนหงายไปด้านหลัง
“อ่า~” เกิดเสียงครางต่ำๆ จากริมฝีปากที่เม้มแน่นของผม แน่นแทบบ้า
“พ...พี่พาร์ท ปัตรักพี่พาร์ทนะฮะ อ๊ะ....อ๊ะ...” เสียงครางกระเส่า ทำผมแทบคลั่ง รัวกระหน่ำรูดรั้งรัวจนตัวเองหายใจหอบถี่
“ระ....แรง...อี..ก ฮะ” เสียงกระเส่าผะแผ่ว ทำผมเด้งสะโพกสวนไปในอากาศด้วยความลืมตัว ไล้มือที่ส่วนยอดสุดที่ปิ่มน้ำจนเยิ้มเหนียว
ละเลงมือกับไอ้ตัวดีที่ตั้งตะหง่านสู้มือสุดแรง รูดรั้งขึ้นลงจนถึงฝั่งฝัน ร่างกายเกร็งกระตุก....
“อืมมมมมม....ปัต ปัต............. อ่าาาาาา~..” ครางสุดเสียง แล้วปลดปล่อย ทิ้งตัวด้วยความเหนื่อยหอบ กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยกรุ่น
นอนหอบหายใจมองดูฟองครีมที่เริ่มมากขึ้นกว่าเดิม ถูๆ ไถ ๆ ตามเนื้อตัวทำความสะอาดเอื้อมมือเปิดก๊อกน้ำอุ่นที่ไหลจนเกือบเต็มอ่าง
หลับตาแล้วนอนแช่อยู่อย่างนั้น....รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถึง อย่างน้อยก็ทำให้คลายเหงา และคลายกังวลเรื่องปัตได้อีกนิดหล่ะน่า
.
.
.
จะว่ายังไงดี นี่ก็เป็นวันที่ 5 แล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน น้องจะคิดถึงผมบ้างไหม ทำไมมันเหงาได้ขนาดนี้นะ แต่ตัวเสร็จเพื่อจะออกไปทำงาน
เดินมาถึงห้องทานอาหาร สายตาเลยเหลือบมองไปยังห้องครัว....ที่ไม่กี่วันก่อน ยังมีคนน่ารักน่ากินมายืนทำอาหารให้ผมอยู่เลย แต่...ตอนนี้
ไม่มีซะแล้ว เห้อ~ พอไม่มีปัตสักคน.....ห้องที่เคยสงบสุข มันก็เงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ไม่เข้าใจนะครับคือน้องต้องเรียน และผมก็ต้อง
ทำงาน แน่นอนอยู่แล้วว่ามันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเราทั้งสองคน ซึ่งต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผมอมยิ้มนิดๆ เมื่อมองเห็นปฏิทินตั้งโต๊ะ
วันที่บนปฏิทินถูกสติกเกอร์รูปกระต่ายสีฟ้าแปะอยู่ วันนี้ก็เลยเป็นวัน Rabbit day มีสำคัญยังไงนะเหรอ ก็.......หึหึ ไม่บอกหรอก
อยากรู้รึเปล่าหล่ะครับ? อ๊ะๆ จะยอมเฉลยให้หน่อยก็ได้ ก็วันนี้ผมจะไปรับกระต่ายน้อยของผมมาอยู่ด้วยนะสิ ...... แค่นั้นก็ยิ้มกว้าง
อารมณ์ดีขึ้นมาทันตา ....และที่สำคัญนี่ก็ได้เวลาต้องไปทำงานแล้ว ตรงไปที่ลานจอดรถขับมุ่งตรงไปยังที่ทำงาน
“สวัสดีค่ะบอส .... อาหารเช้าที่สั่งได้แล้วนะคะอยู่ในห้องทำงานค่ะ” เลขาสุดสวย ผมเพียวของผมรายงาน ผมยิ้มรับ พยักหน้าน้อยๆ รับทราบ
“ครับ ขอบคุณมากครับมดสุดสวย” ยิ้มกว้างๆ ไปให้ทีหนึ่งเห็นมดยกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะทำท่าหัวเราะ โฮะๆๆๆ เลียนแบบท่าทางของกระเทย
ผมรีบจัดการอาหารตรงหน้า แล้วเคลียร์งานที่กองสุมมาจากอาทิตย์ที่แล้วให้เสร็จสิ้น หลังจากสั่งแก้ไขปรับปรุง คัดเลือก จนในที่สุดก็เป็นที่พอใจ
ของผมแล้ว เลือกชิ้นงานที่จะเสนอพี่ภีมเพื่อขออนุมัติอีกขั้นตอนหนึ่งเร่งปิดงานซะให้เรียบร้อย..เพราะมีโปรเจคโรงแรมของทางเจกรุ๊ปรออยู่
แน่นอนว่าเสาร์-อาทิตย์นี้ ผมกับปัตจะต้องไปสำรวจโรงแรมที่ระยองกัน เพื่อให้น้องวาดสตอรี่บอร์ด ส่วนผมนอกจากจะคอยอธิบาย
เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับคอนเซ็ปของโรงแรมแล้ว ก็จะถือโอกาสไปวัดแสง มุม ฉาก รวมถึงเก็บภาพ องค์ประกอบคร่าวๆ ของโรงแรม
เพื่อจะลงในโบว์ชัวร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ของโรงแรมด้วยเลยซะทีเดียว กำลังทำงานเพลิน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น จนต้องเงยหน้าขึ้น
มอง
“ก็อกๆ ... ก็อกๆ.....”
“เชิญครับ” ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างเลขาสาวสุดเซ็กซี่ของผมยืนยิ้มหวานส่งมาให้
“บอสค่ะ นี่มันจะบ่ายโมงครึ่งแล้วนะคะ รบกวนไปทานข้าวได้แล้วค่ะเดี๋ยวจะไม่สบายไปซะป่าว” ผมก้มมองดูนาฬิกาขึ้นมือ เฮ้ยจริงๆ ด้วย
ทำงานซะเพลินเลย ลืมดูเวลาไปทานข้าวซะอย่างนั้นต้องให้มดมาคอยเตือนบ่อยๆ ผมหันไปยิ้มให้มด
“ขอบคุณมากครับมด อ้อมด ผมอยากได้สรุปตารางงานที่ต้องพบลูกค้านะครับ แล้วขอสรุปรายงานการประชุมเมื่อวานนี้ด้วยนะ มดช่วย
สรุปประเด็นสำคัญมาเลยแล้วกัน ภายในวันนี้ทันมั้ย พอดีเสาร์-อาทิตย์นี้ผมต้องไปดูงานต่างจังหวัดน่ะ ยังไงก็ว่าจะเอาไปแพลนงานด้วย”
“ได้เลยค่ะบอส มดทำไว้แล้วบางส่วนค่ะ ไม่น่าจะเกินบ่ายสามค่ะ น่าจะเรียบร้อยค่ะ บอสไปทานข้าวเถอะค่ะ เลยเวลามามากแล้ว”
ผมพยักหน้าน้อย ๆ ยกยิ้มให้มดที่เตือนผมอย่างห่วงใย ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยเดินไปยังลานจอดรถ
.
.
ขับไปร้านอาหารร้านเดิมใกล้ๆ ออฟฟิศ ตอนนี้นี้ถนนโล่งจนแทบจะกลายเป็นถนนส่วนตัวผู้คนไม่ขวักไขว่อย่างตอนเช้าและตอนกลาง
หรือตอนหลังเลิกงาน จอดรถที่เดิมหน้าร้านเสร็จ ตรงดิ่งเข้าไปในร้าน แอร์เย็นเฉียบก็ลอยมากระทบหน้า นั่งตรงมุมเดิมๆ อย่างนี้ทุกวัน
สักพักเจ้าของร้านก็ยิ้มหวานอย่างยินดีต้อนรับมาให้ หยิบยื่นเมนูที่ถืออยู่ในมือมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบอีกแก้ว โค้งน้อยๆ
“วันนี้คุณพาร์ทจะทานอะไรดีคะ?” เอื้อนเอ่ยสอบถามกันอย่างคุ้นเคย เพราะผมก็มาทานที่นี่แทบทุกวันอยู่แล้ว เปิดเมนูสักพักเห็นข้าวผัดอเมริกัน
พลอยนึกไปถึงเจ้าของหัวใจที่เคยทำให้ทาน ก็ได้แต่อมยิ้มยกใหญ่หันไปเห็นเจ้าของร้านทำหน้างง เลยได้แต่ยกมือเขี่ยแก้มตัวเองเบาๆ แก้เขิน
“เอาข้าวผัดอเมริกันแล้วกันครับ” ปิดเมนูแล้วส่งกลับคืนไปให้เจ้าของร้าน เธอยิ้มรับก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังหน้าเคาร์เตอร์หันไปสั่งห้องครัวเบาๆ
ไม่นานเกินรอ ........ ข้าวผัดอเมริกันก็วางอยู่ตรงหน้า ค่อยๆ ละเอียดทานอาหาร พร้อมๆกันนึกถึงปากแดงๆ ที่ตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่าง
เอร็ดอร่อย......แต่ตอนนี้ไม่อยู่ เลยพลอยทำให้รสอาหารตรงหน้าจืดลงไปอีกโข ทั้งๆ ที่รสฝีมือร้านนี้ขึ้นชื่อรือชา ถือว่าถูกปากผมที่สุดในย่านนี้
แต่ก็นะ..ทำยังไงได้ก็คนมันไม่มีคนนั่งทานด้วยนี่นา ต่อให้อาหารตรงหน้าอร่อยแค่ไหนก็เทียบไม่ได้เลยกับอาหารรสชาดธรรมดาที่มีน้องนั่งอยู่ด้วย
คิดแล้วก็ขำนี่ผมบ้ารึเปล่ามานั่งวิเคราะห์อะไรไร้สาระหาประโยชน์ไม่ได้ทางวิชาการ แต่ว่ามันมีคุณค่าทางใจนะสิ...ถึงได้ย้ำคิดย้ำทำ
นั่งพร่ำรำพันเป็นบ้าเป็นหลังถึงคนที่ไม่อยู่อยู่ได้ ก็หัวใจมันเรียกมันร้องง....ใครจะกล้าขัด หึหึ ทานจนเสร็จจ่ายค่าอาหาร ก็เดินเอื่อยไปที่รถ
ขับมาสักพักมองเห็นร้านเค้กที่ซื้อไปคราวนั้น ผมดันเผลอจอดรถหน้าร้านเค้าซะเฉยๆ บ้ารึเปล่า.....ไม่ได้อยากทานเค้กซะหน่อย แต่ก็นะ ...
มันคิดถึงอีกแล้ว เดินเข้าไปเลือกเค้กอยู่สองสามชิ้น แน่นอน.....หนึ่งในนั้นเป็นของที่ปัตชอบทานคราวที่แล้วด้วย จ่ายเงิน แล้วตรงกลับบริษัท
เหมือนเถลไถลแต่ก็ยังอยู่ในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหล่ะน่า ถ้าผมจะขอให้สิทธิ์เวลาพักเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นบ้างจะเป็นไรไป
แม้จะผิดเวลาจากชาวบ้านไปหน่อยก็ตามที ... จอดรถในลานจอดที่เดิม ไม่ลืมเอื้อมมือไปหยิบเค้ก แล้วเดินตามทางเดินไปยังห้องทำงาน
ของตัวเอง มองเห็นมดที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขมักเขม้นทั้งที่ยังมองไม่เห็นผม ผมเดินไปหยุดที่โต๊ะมด ยื่นถุงขนมเค้กคั่นกลาง
ระหว่างจอคอมกับหน้ามด มดเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ ยิ้มหวานส่งมาให้เพราะเห็นของโปรดลอยเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้า
“ของฝากครับมด” ผมบอก ยื่นถุงเค้กที่ว่าเข้าไปใกล้อีก
“ขอบคุณค่ะบอส แหม!! รู้ใจมดจังเลยนะคะ ยังงี้มดรักตายเลยค่ะ อิอิ” พูดจบมืออวบอูมของมดก็รับถุงเค้กของผมไปทันที
“ฮะๆ ไม่เป็นไรครับ รางวัลสำหรับเลขาสุดสวยคนขยันของผม” ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องไปทันที
.
.
ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่นาน ไม่รู้ว่าเวลาเดินเร็วขนาดนี้ ได้ยินเสียงเคาะประตู ที่หน้าห้องพอเอ่ยเสียงว่าอนุญาติเลขาสุดสวยเจ้าเก่า ก็มา
ยืนยิ้มหวานอย่างเคย หลังจากก่อนหน้านี้มาส่งงานให้ผมตามที่สั่งไว้อย่างเรียบร้อยแล้วรอบหนึ่ง
“บอสค่ะ จะห้าโมงแล้วค่ะ ถ้าไม่รีบออกตอนนี้ รถจะติดนะคะ เดี๋ยวไปรับน้องปัตไม่ทันกันพอดี” ผมเหลือบมองนาฬิกานิดนึงอย่างเคยชิน
“ขอบคุณครับมด” ก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารสำคัญ พับหน้าจอโน๊ตบุคเก็บเข้ากระเป๋าเสร็จ ก็เดินออกจากห้องทันที มดที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ผมกลับแล้วนะครับมด”
“สวัสดีค่ะบอส”
.
.
บนถนนสายเดิมเส้นทางเดิมที่เมื่อ 4 ปีก่อนผมยังเรียนที่นี่อยู่เลย ....จะว่าไปแล้วผมก็แกเหมือนกันนะ ห่างจากปัตตั้ง 7-8 ปีแนะ
ผมจะแก่เกินไปสำหรับน้องรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่า.....ทำยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือหรอก เล่นมาทำให้ผมรักขนาดนี้.....ถึงตายก็ไม่ยอมแล้ว
ขับมาเรื่อยๆ หกโมงผมจอดรถหน้าตึกสถาปัตอย่างคุ้นเคย ไม่ได้มานานเลย....ก็ตั้งแต่จบน่ะแหล่ะ แต่ยังมีสังสรรค์เรื่อยๆ กับน้องๆ
เจอกันแถวร้านเหล้าซะมากกว่า ไอ้หลานเหลนโหลนรหัสผม ก็ยังสนิทกันดียกสาย หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาคนที่คิดถึง
“สวัสดีครับพี่ วันนี้ปัตคงไปด้วยไม่ได้นะครับ” น้องว่าเสียงอ่อย ทำผมคิ้วขมวดเป็นปมกำลังจะบอกว่าเซอร์ไพร์พี่มารอหน้าคณะแล้วนะครับ
“ทำไมหล่ะครับ” ผมกรอกเสียงถามไป ยังไม่ได้บอกสิ่งที่ตั้งใจว่าจะบอกตั้งแต่แรกว่ามาถึงแล้ว
“พอดีปัตติดรับน้องน่ะครับ คงดึกเหมือนกัน นี่ว่าจะโทรไปบอกพี่พาร์ทอยู่เหมือนกันครับ แบทหมดพึ่งไปแอบชาร์ตได้เมื่อกี้”
“อืมไม่เป็นไรครับพี่รอได้ ...พี่มาถึงแล้ว เดี๋ยวรอหน้าตึกสถาปัตนะ”
“อ้าว...เหรอครับ ได้ครับ ” คุยได้แค่นั้นก็กดวาง ผมก็กดเบอร์โทรหาไอ้แม็ก รุ่นเหลนหลานโหลนอะไรก็ช่างแม่ง ....อย่านับมากเดี๋ยวรู้ว่าผมแก่
“หวัดดีครับเฮีย มีไรให้แม็กรับใช้มิทราบถึงได้โทรมาถูก ฮ่าๆ” ไอ้เหลนรหัสตัวดีรับสาย
“ค-ยเหอะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาแดกเหล้ากับกุใช่มั้ย?”
“โห~เฮียทำงอน .... แหมๆ แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยนะเนี่ย ว่าแต่เฮียมีไรอ่ะ เดี๋ยวผมต้องรีบไปรับน้องอ่ะ ไปสายเสียบารมีหมด หึหึ”
“เออกุไม่รบกวนเวลามึงมากหรอก....ก็เรื่องรับน้องนี่แหล่ะ มึงเป็นพี่ว้ากป่ะว่ะ”
“โห~ เฮียยยยยยยยยยยยย ถามมาได๋จั่งดั๋ย ผมก็ต้องเป็นพี่ว้ากตั๊วะเฮียนิ” เดี๊ยะๆ เหนี่ยวแม่งซะดีมั้ยกวนกูได้ทุกที
“เดี๋ยวโดนตบกระโหลกมาลากเสียงเฮียซะยาวนะมึง เออๆ ดีหล่ะ กุจะให้มึงช่วยอะไรหน่อย พอดีกุจะพาเด็กที่เรียนปี1 คณะมึงเนี่ยไปทำงานด้วย
แล้วน้องมันบอกว่ามาไม่ได้เพราะติดรับน้อง มึงช่วยแกล้งเป็นทำโทษมันหน่อยได้มั้ยว่ะ แล้วพาออกมาจากกลุ่มรับน้อง งานกุด่วนต้องไป
ต่างจังหวัดด้วยว่ะ อย่าให้ช้านะเว่ยกุนัดลูกค้าไว้แล้ว” ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย
“อ้าวมันไปทำงานกับเฮียได้ยังไงอ่ะ แล้วน้องมันชื่อไร” ไอ้นี่นิ มึงจะซักทำด๋อยอะไรหนักหนาว่ะ
“เจอกันที่สนามบินว่ะ เห็นฝีมือวาดภาพดี กุเลยชวนมาเป็นฟรีแลนที่บริษัท แล้วน้องเค้าชื่อปัต ชื่อจริงปฐพี ว่าแต่มึงจะมาถามกุทำเผือกไร
รีบๆ ไปได้แหล่ะ กุรีบ ” ผมก็ด่ามันไป
“เดี๋ยวเฮีย.....ว่าแต่ผมจะได้อะไรตอบแทนหล่ะครับ”
“ร้านเดิมโอเคป่าว ...... เอาไว้งานกุเสร็จก่อนแล้วกัน ตัวนี้โปรเจคใหญ่ว่ะยุ่งจนสิ้นเดือน แล้วมึงก็เตรียมกันน้องปัตให้กุด้วย ศุกร์เสาร์อาทติย์
กุจะมารับไปช่วยทำงานด้วย เคป่าว”
“โหยเฮีย แม็กยอมตั้งแต่คำว่า-ร้านเดิม- แล้วเหอะ รับแซ่บคร๊าบบบบบบบ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะเฮียเพื่อจะได้ไม่ดูผิดสังเกตุ ว่าแต่เฮียอยู่ไหน
ผมจะได้ลากน้องมันไปถวายเฮียถูกอ่ะ”
“หน้าตึกสถาปัต แค่นี้นะบาย”
“คร๊าบบบบ กราบคารวะคร๊าบบบบบเฮีย” ผมยิ้มขำกับคำสารพัดที่แม่งสรรหามาทูลถวายผมเหลือเกิน ไอ้รหัสสายผมเนี่ยปากดีๆ กันทุกคนแหล่ะ
รอได้สักพัก น่าจะผ่านไปสัก 10 นาทีได้ จะให้รออยู่เฉยๆ ก็ใช่ที่ แอบไปส่องดูหน่อยดิ๊ พอไปถึงก็เห็นเด็กสถาปัตนั่งกันเป็นกองทัพ แต่ก็นะ
คนมันน่ารักเลยเด่น.....ไม่ต้องมองหาให้เสียเวลา เหมือนจะพึ่งแนะนำชื่อกันเสร็จ ปัตนั่งตัวตรงจ้องมองมายังรุ่นพี่ที่เก็กหน้าเหี้ยมมมมมมม จริงๆ
น้องๆ แต่ละคนนั่งตัวเกร็งอดนึกถึงตอนตัวเองเป็นพี่ว้ากไม่ได้ ได้แต่นั่งขำทำท่าเหมือนไอ้พวกนี้เดี๊ยะ ๆ ตีหน้าโหด ตะโกนเสียงดังเข้าไว้ แล้วแอบ
ไปหัวเราะด้านหลัง ยืนมองอยู่สักพัก ไอ้แม็กเหลนรหัสผมก็ทำหน้าที่ที่ผมได้มอบหมายให้มันทันที
“น้องคนนั้นน่ะครับยืนขึ้น....เออเราน่ะแหล่ะ ชื่อปัตใช่ป่ะ มึงมานี่” มันทำท่าอย่างโหดกวักมือเรียกสุดที่รักผมออกมายืนหน้าแถว
“เมื่อกี้น้องทำอะไรครับ ?” ไอ้แม็กอ้าปากถามหาเรื่องสุด ๆ นี่ถ้ากุไม่ได้มอบหมายให้มึงทำน่ะ กุเดินไปถีบหลังแม่งแล้วตวาดเมียกุ
“ป่าวครับ” ปัตหันไปตอบหน้าเหวอ
“แต่พี่หันน้องยุกยิกนะครับ แถมยังคุยกับเพื่อนด้วย จะรับรึเปล่า? ถ้าไม่ยอมรับพี่จะให้เพื่อนน้องที่คณะนี่ช่วยกันรับผิดชอบแล้วกันนะ”
มันหันไปทำหน้าโหดใส่ .....แต่แววตาแม่งมีแอบหลุดโลมเลียเมียกุ เดี๊ยะ ๆ ต้องให้มันรู้มั่งว่าของใครเป็นของใคร แต่ก็แอบอมยิ้มมองอยู่อย่างนั้น
“รับครับ” ปัตรับเสียงดังฟังชัด หน้าซีดหน่อยๆ หึหึ ไม่แปลกหรอกครับที่จะตะโกนตอบแบบนี้ เพราะนี้เป็นแบบฉบับที่เราสั่งสอนกันมา
“ดี!! งั้นตามพี่มาพี่จะทำโทษเราเองไปหยิบของมาด้วย” ว่าแล้วไอ้แม็กก็หันไปกระซิบกับเพื่อนมันหน้าแถว เห็นพยักหน้ากันงึกงัก ก่อนจะพา
เดินมาทางตึกสถาปัต ผมก็รีบชิ่งตีเนียนไปนั่งรอทำเหมือนไม่ได้ไปแอบดู นั่งรออยู่แป๊บ ก็ได้ยินเสียงแหลๆ ของไอ้แม็ก
“เฮียยยยยย~” มึงจะลากเสียงยาวเพื่อ? ผมหันไปมองมัน มันดันหลังปัตให้รีบเดินมาหาผม เห็นปัตหน้าแดงระเรื่อ คงเข้าใจเรื่องราวแล้วหึหึ
“อ่ะ....ผมเอาเด็กมาส่ง แล้วเฮียอย่าลืมรางวัลผมอ่ะ ” มันว่าทำหน้าทะเล้น ตีมือปุ๊ๆ บนหัวน้อง
“อืม.....ไม่ลืมหรอกขอบใจเว่ย ไอ้จิ้งเหลนรหัส” ผมด่ามันขำ ๆ มันก็หัวเราะ
“โว๊ะ......เฮียนี่ เดี๋ยวคราวหลังไม่ช่วยเลยนิ ....ว่าแต่น้องเฮียน่ารักว่ะ ” ไอ้แม็กหันมามองหน้าปัตนิดนึง ผมเลยดึงปัตเข้ามาโอบ ชี้หน้าไอ้แม็ก
“อย่าเสือกเล่นของสูง ของกูดูให้ด้วย ใครแตะ.....เตรียมตัวตาย” ผมว่าเสียงเข้ม ไอ้แม็กเกาหัว แล้วหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ล้อเล่นน่า ว่าแล้วเชียวไม่น่าจะแค่น้อง หึหึ ไม่ต้องห่วงหรอกน่าผมยังไม่อยากโดนเฮียกระทืบตายหรอก ที่สำคัญจะดูแลให้อย่างดี
แต่เฮียยยย~ จ่ายหนักๆ หน่อยนะคร๊าบบบบบบบบบ” ไอ้เหลนรหัสหันมายักคิ้วกวนๆ ใส่ ผมเลยเตะมันไปสักป้าบ มันหุบก้นหนีแทบไม่ทัน
“โอ๊ยยยยยยย เฮียอ่ะ ซาดิสตลอด....หึหึ ผมไปก่อนนะครับถือโอกาสชิ่งซะเลยฮ่า ๆ หวัดดีครับเฮีย พี่ไปก่อนนะปัต” ไอ้แม็กร่ำลาเป็นที่เรียบร้อย
“ป่ะ ไปกัน” ผมหันไปดึงแขนน้อง แต่เจ้าตัวกลับขืนตัว ผมหันไปมองปัตที่ยืนหน้าแดงอาจจะทั้งโกรธทั้งอายที่ผมพูดไปอย่างนั้นรึเปล่า
“พี่ขอโทษปัตนะครับพี่พูดไปแบบนั้นแต่พี่หวงของพี่อ่ะ กลัวมีคนมาแย่งไปนะๆ อย่าโกรธพี่นะครับคนดี” ผมรั้งน้องมากอดเบาๆ น้องก็ดันตัวออก
“อย่าฮะ ที่นี่มหาลัยนะฮะคนเยอะแยะ” ปัตว่าก้มหน้างุดเดินขึ้นรถ ผมก็เลยต้องรีบวิ่งตามไป นั่งด้านคนขับ สตาร์ทรถแต่ยังไม่ยอมขับออกไป
ได้แต่จ้องมองปัตที่ยังไม่ยอมหันหน้ามามองผมจน ณ บัดนี้
“โกรธพี่มากเหรอครับ ถ้าปัตอายต่อไปพี่จะไม่พูดแล้วครับ อย่าโกรธนะ ต่อหน้า....พี่จะพยายามทำตัวให้เป็นแค่....พี่น้องธรรมดา” บ้าจริงผมพูด
ไปแค่นั้น... รู้สึกเจ็บร้าวเล็กๆ ในอกอย่างบอกไม่ถูก ทำไมไม่คิดน่ะว่าน้องจะอาย .... แต่ก็เสียใจที่น้องอายเหมือนกัน มันเหมือนผมไม่ดีพอ
จ้องมองเส้นทางแล้วก็ขับต่อไป ปล่อยให้เราทั้งคู่ได้ใช้ความคิดของตัวเองไปก่อนแล้วกัน ผมขับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงหอปัต .....
ระหว่างนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้น เงียบ.....ยิ่งกว่าเราเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ จอดรถเสร็จไอ้ตัวเล็กก็เปิดประตู ผมหันไปมองเห็นน้องลงรถ
เรียบร้อยแล้ว ..... ปัตยืนอยู่นิ่งๆ พักหนึ่งก่อนจะกลับมานั่งในรถอีกครั้ง ใบหน้ายังแดงจัดถึงใบหู ผมก็ได้แต่สงสัยทำได้เพียงเมียงมองไม่กล้า
แม้แต่จะเอ่ยปากถาม ...ว่าทำไมไม่ขึ้นไปเก็บของ น้องหันสบตากับผมแล้วหลุบเปลือกตาลงต่ำ ทอดถอนใจยาวเหยียด ปากเม้ม มือบีบกันแน่น
ยื่นมือมากอบกุมมือผมไว้ ผมได้แต่มองตามมือเรียวด้วยความสงสัย ก่อนจะเงยหน้าไปสบตาอีกฝ่ายที่รออยู่แล้ว ดูเหมือนหน้าจะแดงขึ้นอีก
“เอ่อ....” น้องอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วก็เงียบไป
“..................” ผมนั่งมองด้วยสายตาที่เป็นคำถามมากมาย
“...... เอ่อ....คือ....” น้องเสตามองไปด้านนอก ขณะที่มือกอบกุมมือผมไว้ กลับบีบแน่นๆ จนผมต้องก้มลงไปมองที่มือเรียวนิดๆ
“...................” เงียบบ
“คือปัต ...ไม่ได้อายนะฮะที่คนอื่นจะรู้ว่าเรา....เอ่อ....เป็นอะไรกัน.....” ไอ้ตัวเล็กบิดตัวไปมา เหงื่อซึมนิดๆ ตามไรผม
“.................” ผมยังนั่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดีต่อไป
“ปัต...เอ่อ....ปัตแค่เขิน แล้ว...แล้วมันก็ทำตัวไม่ถูกด้วยฮะ นั่นก็รุ่นพี่ แล้วพี่พาร์ทก็เป็นเหมือนๆ ทวดรหัสปัต แล้วเราก็........” เสียงกลืนน้ำลาย
ลงคออึกใหญ่ของปัต แต่คำอธิบายสั้นๆ แม้จะไม่กระชับสักเท่าไหร่ ก็ทำผมยิ้มกว้าง ....... หึหึ ลำดับญาติไม่ถูก ดึงมือคนที่กอบกุมอยู่ขึ้นมาจูบ
ส่งสายตาไปจ้องมองปัต ที่ใบหน้าแดงซ่านด้วยความขวยเขิน เมินหน้าหลบผม ผมปล่อยมือน้องลง......น่ารักขนาดนี้ ใครจะทนไหว
“ป่ะ.....ขึ้นข้างบนกันเดี๋ยวพี่ไปช่วยเก็บของ” ผมหันไปบอก น้องหันมายิ้มกว้างให้ผม ผมยกยิ้มตอบ ซ่อน....รอยยิ้มที่กว้างกว่าไว้ข้างใน
แต่คาดว่าน้องคงไม่เห็น หึหึ....... ก่อนจะเดินตามน้องขึ้นคอนโดไป