พิมพ์หน้านี้ - รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Tassanee ที่ 12-07-2012 23:49:29

หัวข้อ: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-07-2012 23:49:29
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
..................................


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน 1 P.1 DT.12/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-07-2012 23:50:38

~บทที่ 1 คนนอก~

ผมนอนเหลือบมองเพดานภายในห้อง แต่สมองกลับยังวนเวียนกับคำถามเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ผมใช่ลูกพ่อรึเปล่า?”

18 ปีที่ผ่านมา  ไม่ว่าผมจะทำอะไรกับชีวิต.....ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด  พ่อไม่แม้แต่จะมองมาด้วยซ้ำ ......

 ไม่ใช่แค่ไม่ใส่ใจ แต่ผมกลายเป็นอากาศธาตุทุกครั้งในสายตาของพ่อ  ไม่เคยสัมผัส ส่วนมากมักจะแค่เดินผ่าน

ราวกับมองไม่เห็น       คนที่อยู่ในสายแต่ก็มีแค่น้องอีกสองคน    “ปุ้ม” “แป้ง”   นอกจากนั้นคงไม่ได้อยู่ในสายตาพ่อ

ผมไม่เคยอิจฉาน้อง เพราะน้องๆ เองก็รักผมมากเช่นกัน  น้องสองคนจะมีห้องพักส่วนตัวอยู่บนชั้นสองของบ้าน ติดกับห้องของพ่อกับแม่

อาจจะมีแค่ผมที่พักอยู่ชั้นหนึ่งเพียงคนเดียว  โดยแม่มักจะให้เหตุผลว่าเพราะน้องยังเด็กต้องการการดูแลที่มากกว่า

แต่ตอนที่ผมยังเด็กผมก็อยู่ห้องนี้มาตั้งแต่เกิด  แต่ผมแค่ไม่เข้าใจเหตุผล   

ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนคิดมาก ......แต่จะไม่ให้ผมคิดมากได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หรือแม้แต่ผิวพรรณ นอกจากแม่แล้ว

ไม่มีส่วนไหนของผมที่จะคล้ายกับพ่อเลยสักนิด  ผิวที่ขาวจัดๆ ของผม  รูปร่างที่สูงชะรูด แต่กลับผอมบางจนน่าใจหาย

แต่ผมก็มีกล้ามเนื้อนิดๆ นะ  ไม่ได้บางน่าเกลียดอะไร  นัยตาสีน้ำตาลเข้ม  บวกผมเส้นเล็กตรงสีน้ำตาลอ่อน ที่ถอดแบบแม่มาไม่มีผิด 

ผมพยายามคิดทบทวนว่าส่วนไหนของผมที่เหมือนพ่อบ้าง  ทั้งที่น้องสองคนเรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบพ่อมาเป๊ะ ๆ

 พ่อเป็นคนตัวไม่สูงมากห่างจากแม่ไม่เกินห้าเซ็น (แม่ผมสูง 170 cms) ตัวล่ำไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวที่คล้ำแดดเป็นเพราะ

ชอบกีฬากลางแจ้งเป็นอย่างมาก  ผมสีดำหยิกหยองแต่มักจะถูกเซ็ทมาเป็นอย่างดีเสมอ

นัยตาสีดำเข้มมีเสน่ห์ทุกครั้งมองเหมือนจะจมหายเข้าไปซะอย่างนั้น  ผมถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านในของชีวิต  เมื่อมองไม่เห็นจุดร่วมระหว่างผมกับพ่อ 

เท่าที่รู้มา.......แม่ผมเคยเป็นนางแบบ  และตกลงแต่งงานกับพ่อที่เป็นนักกีฬาชื่อดังในขณะนั้น  ก่อนทั้งคู่จะอำลาวงการ

ผันตัวเองมาทำธุรกิจเกี่ยวกับความงาม และทางด้านอุปกรณ์กีฬาไปพร้อมกัน    แล้วแม่ก็คลอดผมออกมา  พ่อไม่เคยแม้

แม้แต่จะกอดผมด้วยซ้ำ ....  ถ้าไม่จำเป็น   แล้วผมผิดหรือไงที่ต้องการอ้อมกอด  สัมผัสอบอุ่น หรือแม้กระทั่งความรักจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น พ่อ ของผม

ทั้งๆ ที่คิดอย่างนั้น  แต่คำถามเหล่านี้ก็ไม่เคยหลุดออกมาจากปากผม  .... มันยังคงเป็นปริศนาและวนเวียนอยู่ในห้วงความรู้สึกอันสับสน

ถึงจะพูดหรือเรียกร้องอะไรไป  .....ก็คงไม่ได้อะไรกลับมา  ผมก็แค่ต้องการสัมผัสที่อบอุ่น ต้องการแค่ความรักอันน้อยนิด

จากคนที่ผมรัก.   ไม่ได้ต้องการอะไรที่มากกว่านั้น   สุดท้าย...ก็ทำได้แค่สะบัดหัวไปมาอีกรอบ มองนาฬิกาบนผนังบอกเวลา ห้าทุ่ม

 หลังจากพักผ่อนมาสักพัก ก็ได้เวลาอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้ามหาลัย   ผมเลือกมหาลัยในกรุงเทพฯ เพียงเพื่อจะอ้างออกจากบ้านหลังนี้

แม้ว่าแม่จะพยายามมากมายขอให้ผมสอบเข้ามหาลัยแถวบ้าน  แต่ผมก็อ้างเหตุผลต่างๆ นา ๆ เพื่อที่จะไป  เพราะอะไรนะเหรอ?

ถึงผมจะไม่รู้อะไรมากมาย  แต่ดูผมจะเป็นสาเหตุหลักของการขุ่นข้องหมองใจของพ่อกับแม่อยู่เสมอ ฉะนั้นเพื่อให้แม่ยังยิ้มออกได้บ้าง

เพื่อให้พ่อได้สบายใจ  เพื่อให้น้องๆ ไม่ต้องมานั่งตั้งคำถาม กับอาการไม่พูดไม่จากันหลายต่อครั้งโดยหาสาเหตุไม่ได้ 

ดังนั้นผมก็ควรจะไป ใช่รึเปล่า?








หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน 1 P.1 DT.12/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 12-07-2012 23:55:48
ตอนแรกก็ดราม่าเล็กๆแล้ว

ติดตามๆ  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน 1 P.1 DT.12/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-07-2012 00:49:44
เริ่มมาก็ดราม่าเลย เอาหน่ะชีวิตเราต้องสู้ต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน 1 P.1 DT.12/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-07-2012 01:22:34
เปิดมาก็ดราม่า แต่ก็รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-07-2012 01:22:59
ขอบคุณค่ะสำหรับคอมเม้น
อ่านต่อกัีนเลยดีกว่า  คิคิ


บทที่ 2 คำตอบ....ที่ไม่ได้ถาม

ผมบิดตัวอยู่สองสามครั้ง คิดว่าตอนนี้คงต้องหาอะไรดื่มกระตุ้นดวงตาที่ยังง่วงงุนสักที  ผมเปิดประตูห้องเดินฝ่าความมืดไป

เพื่อตรงไปยังห้องครัวที่ถูกออกแบบให้ยื่นออกไปนอกตัวบ้าน  โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ อาจจะเป็นเพราะความเคยชิน

เรียกได้ว่าแทบจะหลับตาเดินไปเลยก็ว่าได้แล้ว  ขณะที่ก้าวเดินอย่างชำนาญจนจะถึงห้องครัวอยู่แล้ว....กับกาแฟสักแก้วที่ผมต้องการ

สองเท้าก็หยุดชะงักเพียงเท้านั้น   เพราะเสียงคนทะเลาะกันเล็ดล็อดเข้ามาจากด้านนอกตัวบ้านให้ผมได้ยิน   

แม้จะเบาแสนเบาจนต้องเงี่ยหูฟัง แต่น้ำเสียงกลับดุดันเหลือเกิน   จนแม้แต่ผมก็เผลอแอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ไปด้วย

เพราะกลัวเจ้าของเสียงจะได้ยิน    ผมแนบตัวให้ใกล้กับหน้าต่าง บริเวณนั้นมากที่สุดเพื่อจะแอบฟัง พ่อกับแม่ ทะเลาะกัน

.....  ไม่ใช่ว่าผมสอดรู้สอดเห็น............ แต่ผมแค่ต้องการจะรู้สาเหตุที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน   แน่นอน...เรื่องผม

“ทำยังงี้ได้ไงคะ? คุณสัญญาแล้ว แค่แสดงความรักเล็กๆ น้อย ๆ จะกอดแกบ้าง สัมผัสแกบ้างไม่ได้หรือไงกัน?” แม่ว่าเสียงกร้าว

ก่อนจะหันหลังให้พ่อ แล้วยกแขนมากอดอกแน่น   พ่อสวมกอดแม่จากด้านหลังอย่างเอาใจ

“โถถถถ คุณยาเห็นใจผมเถอะ  เรื่องอย่างนี้มันทำใจง่ายได้ที่ไหน  เรื่องจะให้ผมจับ ผมกอดมะ..เอ่อ..เจ้าปัต”

“ก็คุณน่ะ  .....เห้ออออ....ยาขอเถอะค่ะ  ช่วยเอ็นดูแกเหมือนลูกคุณอีกคนไม่ได้เหรอ  แค่สัมผัสแกนิดๆ หน่อยๆ

อย่าให้แกรู้สึกถึงความแตกต่าง   และน้อยใจมากไปกว่านี้เลยนะคะ ฉันไม่อยากให้แกรู้ว่าแกไม่ใช่ลูกคุณ”  ประโยคสุดท้ายจากปากแม่

และเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน  ผมไม่รับรู้บทสนทนาหลังจากนั้น  ไม่รับรู้อะไร  รู้แต่ว่าสมองมันกลวง หู้ทั้งสองข้างอื้ออึง

 เอามือตะบบปากตัวเองไว้แน่น  น้ำตาที่ไหลเป็นสาย......ไม่รู้เลยว่ามาจากไหน

ทั้งตัวสั่นอย่างระงับไม่ได้  แทบหยุดหายใจ ทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นโดยไม่รู้ตัว   สะอื้นจนตัวโยน  ....ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

เจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว  หัวใจมันแทบแตกสลายลงตรงหน้า
.

.ในที่สุด.....คำถามที่ผมอยากรู้    ผมก็ได้คำตอบโดยที่ไม่ต้องถาม  หากแต่........ถ้าย้อนเวลากลับไปได้   ผมคงจะเลือกที่จะไม่รู้ซะดีกว่า
.

.

.

นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมพาตัวเองกลับเข้ามาในห้อง  ปล่อยให้น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย  ซุกหน้าลงกับหมอนปิดกลั้นเสียงสะอื้น

ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม  เหน็บหนาวเข้าไปถึงกระดูก  เจ็บ................เหมือนใครเอาเข็มนับร้อยนับพันมาทิ่ม 

เสียงของแม่ยังดังก้องทั่วโสตประสาท วกไปวนมา   ความตั้งใจที่จะอ่านหนังสือมลายไปสิ้น  ............

ปล่อยให้ความเงียบเกาะกินใจ   ......  ให้มันด้านชา   ......ให้มันพอที่จะไม่เจ็บปวด    ....


.

พอเสียที......... กับความเสียใจ

.

.
ให้มันหยุด......และจบแค่วันนี้





แล้วพรุ่งนี้  .....  ผมจะลุกขึ้นยืนใหม่  แล้วจะก้าวไปด้วยขา.....ของตัวเอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 14-07-2012 16:53:35
โหหหหหหห สั้นจังเลย

มาต่อไวๆนะ เค้าชอบดราม่า  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-07-2012 17:24:27
สั้นจังเลย มาต่ออีกนะคะ กำลังลุ้นเลยว่าปัตจะออกมาจากบ้านนั้นใช่ไหม :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-07-2012 20:01:40
เป็นคนที่อ่อนไหวกับเรื่องครอบครัว
อ่านแล้ว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-07-2012 20:11:20
เศร้าค่ะ แต่สั้นจัง ^^"
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 14-07-2012 20:12:02
 :m15: :m15: :m15:  น่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-07-2012 20:19:03
 :o12:ทำไมเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 14-07-2012 20:19:36
 :z3: :z3: :z3: :z3:

ไม่ใช่โหววว ดราม่ามากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-07-2012 20:42:35
ดราม่าดีจริงๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 14-07-2012 21:19:19
 :m15:อยากอ่านต่ออะค่ะ.   รีบมานะค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-07-2012 21:37:29
สั้นไปรึเปล่าคะ

แต่สนุกดี
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน2 P.1 DT.14/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-07-2012 00:38:12
แค่ตอนแรกก็มาสะเทือนใจขนาดนี้ จะมีอะไรที่สะเทือนใจกว่านี้อีกไหมคะเนี่ย

ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-07-2012 09:51:00
ขออภัยนะคะ  ที่แต่งสั้นไปหน่อย  ตอนอยู่ใน เวิร์ด ก็ดูยาวดี
พอก็อปมาลงแล้วทำไมสั้นอย่างนี้นะ  ฮ่าๆ  (จริงๆ แ้ล้วข้ออ้าง  แก่แล้วเวลาคีย์มือสั่น ฮ่าๆ)
ยังไงจะพยายามเขียนให้เยอะๆ นะคะ

-ขอบคุณทุกคอมเม้นต์  และขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ-


มาซาบซึ้ง(เสียน้ำตา)   ต่อ กันเถอะ

 :o12: :o12: :o12: :o12:




บทที่ 3  กำลังใจ 

ไม่รู้ว่าผมผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร  .....   กับความจริงที่แสนสาหัสนั่น  แม้จะเจ็บ ปวดร้าว จนจิตใจเหนื่อยอ่อน 

แต่ผมก็มีหน้าที่ต้องก้าวต่อไป   เมื่อเช้าผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตูของแม่ที่เห็นว่าผมตื่นสายกว่าปกติจนผิดสังเกตุ

“.ก็อก  ก็อก  ก็อก”

“.ก็อก  ก็อก  ก็อก”

“ปัต...ปัต   ...ตื่นรึยังลูก  ไม่สบายรึเปล่าจ๊ะ.”  น้ำเสียงของแม่ที่แสนจะอ่อนโยน  ผมขยับตัวเล็กน้อยรู้สึกตัวว่ามีไข้ 

ปวดหัว  และร้าวไปทั้งตัว  อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนผม ร้องไห้เยอะเกินไป   ขดตัวจนลีบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา 

แม้ว่าจะไม่อยากยอมรับความจริงที่ได้ยินสักเท่าไหร่  แต่ปฏิเสธไม่ได้..ว่ายังไงซะมันก็คือความจริงที่ผมไม่อาจจะหลีกหนีได้

“ครับ  แม่ ”  ผมเอ่ยตอบแม่ ไปด้วยน้ำเสียงที่ติดจะงัวเงีย  และแหบพร่า

“ไม่สบายรึเปล่าปัต  ให้แม่เข้าไปได้รึเปล่าลูก?”  ประหนึ่งหยาดน้ำทิพย์ที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจผม  อย่างน้อย.....ผมก็ยังมีแม่

แม่.......ที่ยังรักและห่วงใยผมเสมอ  แค่นั้นน้ำตาผมก็เอ่อล้นขอบตา ..ได้แต่พยายามสะกดกลั้นมันไว้ 

ผมไม่ได้ตอบกลับแม่...แต่พยายามดันร่างกายที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง  ค่อยๆ ตรงไปที่ประตู แล้วเปิดมันออก 

แม่ยื่นมือมาแตะที่หน้าผากผมแผ่วเบา ..... 

“โหห ...ตายแล้วตาปัต.ตัวร้อนด้วยนี่ลูก  ไปทำอะไรมาถึงเป็นไข้หล่ะเนี่ย  ปวดหัวมั้ย?”   แม่ลูบหน้าลูบตาผมไปทั่ว

เพื่อสำรวจอุณภูมิในร่างกายผม  มือเย็นของแม่ทำให้ผมรู้สึกดีได้อย่างประหลาด  ผมพยักหน้าตอบ

“ปัตปวดหัวจังเลยครับแม่”   ว่าแล้วก็โถมตัวเข้ากอดแม่แน่นๆ   ทำไมไม่รู้.....   ผม.......ไม่อยากปล่อยอ้อมกอดนี้เลย

แม่กอดตอบแล้วลูบหลังผมเบาๆ      ก่อนจะดันตัวผมเข้ามาในห้อง  แล้วจูงมือมาที่เตียงนอน

“อ้อนเป็นเด็กๆ เชียว   ปัตนอนก่อนนะลูก  เดี๋ยวแม่เช็ดตัวให้   ”    ผมทิ้งตัวลงนอนอย่างว่าง่าย  แม่เดินออกไปเพื่อหยิบอุปกรณ์

ไม่นานนักก็กลับเข้ามาใหม่   แม่บิดผ้าชุบน้ำจนหมาด ...  เช็ดตามตัวผม  ผมจ้องมองแม่ตาไม่กระพริบ  แล้วประโยคเมื่อคืนนี้

มันก็ดังก้องขึ้นมาซ้ำๆ ในหัวของผม   “ฉันไม่อยากให้แกรู้ว่าแกไม่ใช่ลูกคุณ”    เผลอเม้มปากตัวเองแน่น 

“แม่ครับ.....แม่รักปัตรึเปล่าครับ ......ปัต.....ปัตทำให้แม่เหนื่อยรึเปล่าครับ?”  อดไม่ได้ที่จะถาม แม่ที่ต้องต่อกับพ่อสู้เพื่อผม

แม่ชะงักมือที่กำลังเช็ดตัวให้ผม  แล้วหันมาสบตาผมตรง มืออีกข้างที่ยังว่างเลื่อนมาลูบหัวผมอย่างใส่ใจ  แววตาแม่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“รักสิลูก.....แม่รักปัตมาก ปัตเป็นเด็กดี  ปัตรู้มั้ยตอนที่แม่รู้ว่ามีปัตอยู่ในท้องแม่ดีใจแค่ไหน? ทุกๆวัน แม่เฝ้านับคืนนับวันที่จะได้เจอปัตนะลูก

 แม่ยอมทำทุกอย่าง....เพื่อจะให้ปัตเกิดมา   ต่อให้ต้องเจอปัญหาสักเพียงไหน แต่แม่ก็สัญญากับตัวเองจะต้องดูแลปัตให้ดีให้ได้

แล้วทำไมถึงถามแบบนั้นหืม?  ”    ผมอยากจะด่าตัวเอง.....ที่ตั้งคำถามโง่ๆ แบบนั้น  แต่คำตอบนี้.... มันอิ่มเหลือเกิน  ผมดันตัวลุกขึ้น

กอดแม่แน่น ซุกหน้าเข้าหาอกแม่  ปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร   มันเหมือน.......อะไรที่มาทดแทนความเจ็บปวดของผม

“ปั.....ปัต ....ฮึก  ......ก็...ร...รัก....แม่ครับ ” ผมสะอึกสะอื้นบอกแม่ 

“รู้แล้วครับเด็กดีของแม่   เลิกขี้แยได้แล้วแม่จะได้เช็ดตัว  แล้วจะได้ทานข้าวทานยานะครับ”  แม่ว่า  ผมถูหน้าไปมากับอกแม่สักพัก

น้ำตาก็หยุดไหล    ยอมทิ้งตัวลงนอนอย่างว่าง่าย  ให้แม่เช็ดตัวให้อีกครั้ง  มืออีกข้างดึงชายเสื้อแม่ไว้แน่น   เห็นแม่อมยิ้มนิด ๆ

“มีอะไรที่ปัตจะทำให้แม่มีความสุขได้บ้างครับ?”     แม่มองมาที่ผม....สายตาแห่งความซาบซึ้งใจ 

“ปัตทำให้แม่เยอะแล้วลูก   แม่อยากให้ปัตมีความสุข  ช่วยมีความสุขมากๆ ทีนะปัต   เพราะถ้าปัตมีความสุข แม่ก็มีความสุขแล้ว”

“ครับ  ปัตจะเป็นเด็กดี  และจะมีความสุขมากๆ ด้วยครับ”    ผมยิ้มรับกระแสความอบอุ่นที่แม่มอบให้ 

“ดีจ๊ะ  แต่ตอนนี้คนป่วยต้องไปแปรงหันก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่จะไปทำข้าวต้ม แล้วก็เอายามาให้”  แม่ลูบหัวผมเบา ๆ

ก่อนจะเดินออกจากห้องไป  ผมพยุงตัวขึ้นเรี่ยวแรงยังน้อยเช่นเดิม  ตรงไปยังห้องน้ำ  จัดการล้างหน้าแปรงฟันให้สะอาด

เดินกลับมาที่เตียงทำไมรู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูกเลยต้องทิ้งตัวลงบนเตียงเบาๆ  แค่เผลอหลับตาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเคลิ้มหลับไปตอนไหน

รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แม่แปะแผ่นเจลให้ที่หน้าผาก  ทั้งที่อยากจะหลับต่อแต่กลิ่นข้าวต้มของแม่มันช่างหอมยวนใจ  จนต้องตื่นขึ้นมาอีกจนได้

พอดันตัวลุกขึ้นได้ท้องเจ้ากรรมก็ร้องดังลั่น  เลยทำให้แม่ยิ้มขำๆ รู้เลยว่าพยายามตื่นมาเพื่ออะไร  .....  ก็คนมันหิวนี่นา

ผมยิ้มให้แม่จนตาปิด  เพราะมันแทบลืมตาไม่ขึ้นอยู่แล้วแม่เลื่อน ถ้วยข้าวต้มมาให้  ผมก็รีบจัดการด้วยความหิว 

เห็นแม่นั่งมองผมทานด้วยรอยยิ้ม  ลูบหัวผมเบา  จนผมทานเสร็จ ท่านก็หยิบยาพร้อมกับน้ำเปล่ามาให้

“ทานยาแล้วก็พักผ่อนเยอะนะลูกจะได้หายไวๆ ”    ผมพยักหน้าตอบ    แม่ก้มหน้าลงมาจูบเบาๆ ที่หน้าผาก  ก่อนจะเก็บ

จานชามข้าวต้มเมื่อสักครู่  แล้วเดินออกจากห้องไป   ส่วนผมที่ง่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว   แค่หลับตา ..... ก็เหมือนมีใคร

เอาหินก้อนโตมาถ่วงเปลือกตาไว้ให้ปิดสนิท  ไม่มีแรงกระพริบขึ้นมาอีก   สงสัยพระอินทร์ท่านต้องการจะเรียกผมไปรับใช้

สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยให้ตัวเองหลับไป   









ผมรู้สึกแน่นหน้าอก  .....  อึดอัด   เคยเป็นมั้ยครับ?   อารมณ์ความรู้สึกประมาณผีอำ   ผมพยายามลืมเปลือกตาอันหนักอึ้ง

เพราะฤทธิ์ยา  ค่อยๆ กระพริบตาถี่ ๆ ภาพรอบๆ ตัวยังพร่าเลือน   แต่ความหนักอึ้งบนอกยังคงเดิม  .....ไม่ใช่ความฝัน

ผมพยายามลืมตาอีกครั้ง......เพื่อจะพบว่า    มีสะสารมวลดำสองก้อน วางอยู่บนอกผม  ขนทั่วตัวผมลุกซู่ๆ ทั้งตัว

ไล่พระพริบตาถี่กว่าเดิม  หัวใจเต้นรัว ....แต่กลับขยับไม่ได้    ร่างทั้งร่างเกร็งอย่างไม่ทราบสาเหตุ   เมื่อสักเกตุอีกที

ไอ้ก้อนมวลดำที่ว่า......มันเป็นผมมนุษย์  (ที่ยังเป็นมนุษย์?)    เมื่อความกลัวเข้าครอบงำ ผมตัดสินใจ ค่อยๆ เอื้อมมือข้างที่เป็นอิสระ

จากการเกาะกุม  และดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวได้  นอกจากตาแล้ว    ผมยื่นมือสัมผัสเรือนผมนิ่มนั่น

เมื่อสังเกตุอีกที  จริงๆ  แล้ว มันเป็นสีน้ำตาลอ่อน   มันส่งกลิ่นประหลาดๆ ที่ผมคุ้นเคย  แต่นึกไม่ออก   ผมดันหัวทุยนั่นหงายอย่างเบามือ   

หัวใจเต้นระรัวขึ้นอีก     เพื่อจะพบว่า......

.

.

“เฮ้ย”  ผมตะโกนลั่นห้อง

.

.

.

“ปุ้ม .....แป้ง   โอย~  ทำพี่หัวใจเกือบวาย”  ผมทำใจเตรียมตัวจะเจอผีเต็มที่ แต่สิ่งที่เจอกลับเป็นน้องสาวสองคนแทน 

“เฮ้อ~   ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะโดนผีหลอกซะแล้ว”  ผมว่า  ขยี้หัวน้องสาวสองคนแก้แค้นอย่างมันมือที่ทำให้ผมตกใจ  ว่าแต่...ผมไมเปลี่ยนสี?

สองคนนั่นค่อยๆ งัวเงีย  ลุกจากตัวผม  ขยี้ดวงตาอันพร่าเบลอก่อนจะหันมามองผมงง  ๆ กระพริบตาถี่ๆ แล้วหันไปมองหน้ากันเองอีก 

ฮ่าๆ  ประมาณว่า “เรามาอยู่ที่นี่กันได้ไง”   เพราะมัวแต่งง  ผมเลยเอ่ยถามอีกที

“เราสองคนมาอยู่ในห้องพี่ได้ไงหึ?”   

“ก็ปุ้มกับแป้ง  เป็นห่วงพี่ปัตอ่ะ  แม่บอกพี่ปัตตัวร้อนมาก พวกเราก็เลยมาเฝ้ากลัวพี่ปัตชักไง  คนที่ไข้สูงๆ อ่ะ เ

ดี๋ยวชักไม่มีใครรู้.....  แล้วไปส่ง โรงพยาบาลไม่ทันก็แย่ดิ ”  ปุ้มว่าเสร็จ  น้องแป้งก็ยื่นหน้าผากตัวเองมาแปะหน้าผากผม

“เฮ้ย... แป้งอย่าทำครับ  เดี๋ยวติดไข้อ่ะแย่เลย  แล้วจะมีใครมาเฝ้าพี่หล่ะเนี่ย  ฮ่าๆ”   ตัวนี้ผมหายตัวร้อนและหายปวดหัวแล้ว

“ก็ทีตอนแป้งป่วยพี่ปัตก็ทำอย่างนี้นิ   ดีจังหายตัวร้อนแล้ว  ยังปวดหัวมั้ยคะ?”  น้องแป้งยิ้มกว้าง

“ไม่เชื่อๆ ขอวัดด้วยคน”  น้องปุ้มว่า  สองคนนี้น่ะ  เรื่องอ้อนนี่ไม่มีใครยอมใครหรอก  ผมเลยปล่อยให้น้องวัดไข้ 

“อืมๆ  ไข้ลดแล้วจริง ๆ ด้วย”  น้องปุ้มยิ้มกว้าง  แต่ส่ายหน้าขำ ๆ

“บอกไม่ฟังสักคนสิน่า  เราสองคนเนี่ย”  ผมขยี้หัวน้องทั้งคู่เบาๆ  ไอ้สองตัวนี่ก็ยิ้มรับอย่างดี

“อืม...ไปทำอะไรมาน่ะ  ผมถึงเป็นสีนั้น?  มีกลิ่นแปลกๆ ด้วยอ่ะ พี่ตกใจเลย  นึกว่าไม่ใช่เราสองคน”  ผมลูบเบาๆ ที่ผมน้อง

สองสาวมองหน้ากันแล้วยิ้มแป้น  ไม่ตอบคำถาม   .....แต่กลับเลือกจะถามผมกลับ

“แล้วสวยมั้ย?”  น้องผิวขาวเหมือนแม่  ความสูงได้พ่อ  ผมหยักโศกดำขลับ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน  ผมพยักหน้าน้อย ๆ แทนคำตอบ

สีน้ำตาลอ่อนเข้ากลับผิวขาวอมชมพูเป็นอย่างดี  ปุ้มกับแป้งซุกหัวทุยเข้ากับอกผม ผมลูบหัวทุยๆ นั่น อย่างทนุถนอม

“จะได้เหมือนพี่ปัตไง  ปุ้มอย่างเป็นเหมือนพี่ปัต  พี่ปัตเก่ง  หล่อ ใจดี”  น้องปุ้มบอกผมอย่างเอาใจ

“แป้งก็เหมือนกัน”   แป้งเอ่ยเสียงเบา  แล้วน้องก็กอดผมแน่นๆ 

“.............”    ความรู้สึกที่อิ่มเอมนี่   คือ อะไรกันนะ?   ครอบครัวที่น่ารักขนาดนี้ ......จะได้ผมทิ้งไปได้ยังไง   

อยากจะรักษา.....คนที่รักผม  ให้มีรอยยิ้ม  และความสุขตลอดไป   ทำให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ 

จนกว่าจะถึงวันที่ผม.........  จะออกไปยืนด้วยขาของ “ตัวเอง”     
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-07-2012 12:15:38
ยังมีคนที่รักเธอนะปัต :L2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-07-2012 13:59:54
“แม่ครับ.....แม่รักปัตรึเปล่าครับ ......ปัต.....ปัตทำให้แม่เหนื่อยรึเปล่าครับ?”
“มีอะไรที่ปัตจะทำให้แม่มีความสุขได้บ้างครับ?”     
คำถามที่ปัตถามแม่ ทำเอาสะท้อนใจ เพราะบ่งบอกว่าเด็กคนนี้กำลังเสียขวัญ สับสน ไม่มั่นใจ
ปัตเอ๊ยย..มีแค่แม่กับน้องที่รักปัตจริงๆก็พอแล้ว หยุดน้อยใจ หยุดเป็นทุกข์กับทีท่าอากัปกิริยาของผู้ชายคนที่ปัตเรียกพ่อได้แล้ว
ในเมื่อเขาใจแคบขนาดนั้น แค่แสดงความรักความเอาใจใส่กับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เด็กชายที่เข้าใจว่าเขาเป็นพ่อ เขายังทำไม่ได้
(ขนาดแมวหมาจรจัด เรายังสงสาร เอ็นดู หรือรักได้ ทำไมให้ความรู้สึกนี้กับปัดไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ แปลกคนจริง)
ดังนั้นปัตก็ควรที่จะเลิกใส่ใจ เลิกให้ความสำคัญกับเขา โดยการเลิกน้อยใจ เลิกเสียใจกับการกระทำของเขา
ให้เหลือแค่ความนับถือเขาในฐานะ สามีของแม่และพ่อของน้องสาวอันเป็นที่รักของปัตก็พอ ลุกขึ้นมาเข้มแข็งได้แล้วจ้ะปัต

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 15-07-2012 14:04:33
ปัต นู๋ยังโชคดี


อย่างน้อย แม่กับน้อง ก็รักนู๋จริงๆฉะนั้น อย่าได้น้อยใจหรือเสียใจไป ทำดีแล้วรับความรักจากคนที่รักเราดีกว่านะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-07-2012 14:12:18
แอบน้ำตาร่วงตอนปัดถามแม่
ยังไงก็สู้ๆนะปัด ยังมีแม่ และน้องๆที่ยังรักปัดอยู่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 15-07-2012 14:37:26
+เป็ด

อย่างน้อยแม่กับน้องก็ยังรักปัตหน่า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน3 P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-07-2012 14:43:57
ดีน๊าที่น้องสาวเป็นเด็กดี น่ารัก
พี่น้องรักกันดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-07-2012 16:09:03
ขอบคุณค่า   o18 o18 o18 o18
ขอบคุณทุกคอมเม้นน้า  เป็นกำลังใจสุด 

มาอ่านกันต่อเร็วๆ

 :impress3: :impress3: :impress3:



บทที่ 4  ความทรงจำ




หลังจากตั้งอกตั้งใจอ่าน....อ่าน.....อ่าน....อ่านหนังสือ จนแทบซึมเข้ากระแสเลือด   และผ่านพ้นการสอบที่ทำให้แทบบ้านั่นไปแล้ว

จากวันนั้น...................  .นานแค่ไหนแล้วนะ             แม้จะผ่านไปอย่างอยากลำบาก กับความจริงที่เหลืออยู่

จากวันเป็นคืน  จากคืนเป็นอาทิตย์ จากอาทิตย์เป็นเดือน  ใช่ครับ.....ผมผ่านแต่ละวันไปเรื่อย   ๆ

เลิกตั้งคำถามทุกอย่างไปแล้ว  เลิกน้อยใจเสียใจ   เวลาดูข่าวเด็กกำพร้าทีไร ก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ยังมีแม่อยู่

ถึงพ่อจะไม่ได้แยแสอะไรกับผมมากนัก  แต่ก็ไม่เคยดุด่า  ไม่เคยทำร้าย  ผมอย่างพ่อเลี้ยงคนอื่นทำ  ให้ในสิ่งที่ลูกนอกไส้อย่างผมไม่ควรจะได้

ผมได้ทุกอย่างเกือบๆ จะทัดเทียมน้องๆ  แม้จะขาดความรักไปบ้าง  แต่นี่ก็ดีตั้งเท่าไหร่แล้ว  จะหาพ่อเลี้ยงที่ให้ทุกอย่างกับผมได้

ขนาดพ่อของผมคงยาก  พอมาถึงตอนนี้ผมกลับรู้สึกรักพ่อขึ้นจับใจ    อยากขอบคุณที่ช่วยดูแลผมกับแม่มาตลอด 

นึกถึงตอนนั้นแม่คงลำบากมาก  แต่พ่อเป็นคนที่น่าศรัทธายิ่งกว่า  ในเวลาที่แม่มืดมน ยังมีแสงสว่างจากพ่อยื่นไปให้  รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ใช่ลูก

เชื่อมั้ย  18 ปีที่ผ่านมา  ไม่เคยมีสักครั้งที่พ่อจะพูดว่าผมไม่ใช่ลูก  ไม่เคยสักครั้งที่จะทวงบุญคุณ ที่เลี้ยงผมมาจนเติบใหญ่

ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง  ผมเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง  จากที่เคยช่วยงานบ้านบางอย่าง

ตอนนี้...กลายผมแทบทุ่มเวลาที่เหลือจากการอ่านหนังสือทั้งหมด  มาดูแลน้องและช่วยทุกอย่างที่ช่วยได้ ดูแลพ่อมากขึ้น

เอาใจแม่ยิ่งกว่าเดิม  เพื่อ.........ให้ครอบครัวผม   เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ขึ้นไปอีก 

อยากชดเชยเวลาที่ผ่านมา   เวลา....ที่ผมไม่รู้ตัว  ช่วงเวลา....ที่ไม่ได้ทดแทนคุณข้าวคุณน้ำของพ่อกับแม่

เชื่อมั้ย?.....    ตอนนี้มันผ่านช่วงเวลานั้นมาหกเดือนแล้ว  ครอบครัวเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  พ่อ.....มองเห็นผมมีตัวตนมากขึ้น

ยิ้มให้ผมมากขึ้น   ลูบหัวผมในบางครั้ง  .....  แม้แต่บางครั้งที่ไปไดร์กอล์ฟพ่อก็ยังชวนผมไป  เราพูดคุยกันมากขึ้น

ผมเองก็ยิ้มมากขึ้นไปด้วย  ความสุขพรั่งพรูไม่ขาดสาย  ที่สำคัญ....ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมรักมากที่สุด มีใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

มากกว่าเดิมเป็นไหน ๆ  เมื่อผมกับพ่อลงเอยกันด้วยดี   แม่กับน้อง   ก็พลอยมีความสุขเยอะตามไปทันที

ผมยิ้มกว้าง.........  เพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าตัวเองก็  ........  “เป็นคนสำคัญ”   .......เช่นกัน

แต่ว่าเวลาแห่งความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน  เมื่อทางที่ผมเลือกเดิน.....กำลังบีบให้ผมเดินออกไปจากครอบครัวที่น่ารักของผม

กลัว.....  กลัวว่าทุกคนจะลืมผม    กลัวว่า....พ่อ   จะยังรู้สึกเช่นเดิมแบบตอนนี้รึเปล่า?     ถ้าผมต้องห่างไปอีก 

เสียดาย.....ความสัมพันธ์ที่ตอนนี้กำลังงอกงาม    น่าแปลก....ที่จนถึงตอนนี้ ผมไม่อยากรู้สักนิดว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของผม

ผู้ชายที่ละทิ้งได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่กำลังท้องลูกของเค้า   ผู้ชายที่ยินดีที่จะปล่อยมือแม่ไป  .....

แม้แม่จะเป็นผู้หญิงที่ดูสูงส่ง   แต่แม่กลับใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ  ....เพราะอย่างนี้พ่อคนนี้ของผมถึงได้หลงรักสินะ 

ผมถอนหายใจยาวๆๆ    ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง  มองดูสายฝนที่กระหน่ำตก มาตั้งแต่เช้าแล้ว 

สามทุ่ม  .......  เวลาเช่นนี้  กับสายฝนที่ตกลงมาอย่างกะฟ้ารั่ว  ทั้งเย็นสบาย  ก็พลอยทำให้คนทั้งบ้านเลือกที่จะพักผ่อนนอนหลับกันไปหมดแล้ว

เหลือเพียงผม  .....  ที่นั่งจมจ่อมอยู่กับความหวั่นไหวของตัวเอง   นึกเสียดายที่ไม่ฟังคำแม่ที่ให้เลือกเรียนมหาลัยใกล้ๆ บ้าน

ใช่ครับ.....ผมสอบติดมหาลัยในกรุงเทพ  และแน่นอนอีกไม่กี่เดือนผมต้องย้ายตัวเองไปอยู่ที่นั่น   ผมกวาดตามองรอบบ้าน

อย่างอาลัยอาวรณ์  อยากเก็บทุกความทรงจำ  .....ตอนนี้ทำได้แค่ .....ทำใจ นับเวลาถอยหลัง

 ผมเดินไปที่ห้องนั่งเล่น  ...  ค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง  ด้านหน้าเป็นทีวี LCD TV BRAVIA
ขนาด 55 นิ้ววางตั้งอยู่

ผมหลับตาลง ภาพของน้องสองคนที่มันจะซบหัวทุยๆ นั่นอยู่ที่ไหล่ผม  แย่งกันอ้อนผมแบบไม่มีเหตุผล แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีใครยอมใคร

ต่างฝ่ายก็คอยเย้าแหย่กัน  ไม่ให้อีกฝ่ายเอาหัวซุกไหล่ผมได้  เป็นสงครามขนาดย่อย  ที่แม้กระทั่งพ่อกับแม่ยังระอา 

ห้าม....กันจนเลิกห้ามไปแล้ว  เหลือแต่ผม..ที่ต้องคอยห้ามทัพอยู่เสมอ สุดท้ายก็ต้องคอยโอบกอดทั้งคู่  ลูบหัวเบาๆ เพื่อให้หันมาเพลิดเพลินกับการดูทีวี

พ่อกับแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน  หันมามองด้วยความเอ็นดู  แม้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นแทบทุกวัน  แต่ที่แปลก.....ก็คือรอยยิ้มของพ่อ

ที่บังเอิญ...เริ่มเผื่อแผ่มาให้ผมด้วย  ผมเผลออึ้งเล็กน้อย  .... ก่อนจะเผยยิ้มกว้างสุดๆ  เหตุการณ์พึ่งจะเกิดขึ้นวันนี้ 

แค่คิด......ริมฝีปากของผมก็ฉีกยิ้มกว้างโดยอัตโนมัติ  ผมไล้มือกับโซฟาทุกตัวที่มีสมาชิกของเรานั่งอยู่  รอยยิ้มกว้าง

จากปากเล็กๆ สีชมพู ของน้องทั้งสอง  ปากที่ช่างเจื้อยแจ้วเจรจา  ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นหมั่นเขี้ยว หมั่นไส้

แต่ท้ายที่สุด.....คงจะเป็นความเอ็นดู    ผมช่วยแม่เลี้ยงน้องมาเองกับมือ  ตั้งแต่น้องยังตัวแดง ๆ แรกคลอด  จนโตมาขนาดนี้

อดภูมิใจในตัวเองไม่น้อย  ไม่แปลกที่น้องจะติดผมมากเป็นพิเศษ   เพราะพ่อกับแม่มีเวลาอยู่กับน้องน้อยกว่าผมตั้งครึ่งหนึ่ง

ผมลุกขึ้น  ...... เดินตรงไปที่ห้องครัว   ผมมักจะเห็นแม่ยืนหันหลังทำกับข้าวอย่างมีความสุข  กระนั้นก็ยังเหตุแม่วุ่นวายใจ

ว่าจะทำอะไรให้พวกเราทานดี  ผมเส้นเล็กตรงสลวย สีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับผม ถูกรวบไว้เป็นอย่างดี  มีที่คาดผมที่ทำจากผ้า

คาดอยู่ด้านบน ทำให้ใบหน้าของแม่ดูดีขึ้นอีก   ผ้ากันเปื้อนสีสดถูกสวมทับตัวไว้ ตัดกับผิวขาวๆ ของแม่  รอยยิ้มที่สดใสนั่น

แม่มักจะเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว  เพราะมัวแต่ตั้งใจทำของโปรดของใครต่อใครในบ้าน  ผมมักเดินเข้าไปโอบกอดแม่จากด้านหลัง

แม่ก็หันมาเคาะหัวได้ทุกทีสิน่า   ....โทษฐานที่ทำให้แม่ตกใจ   ครับๆ ทุกวันผมจะเป็นลูกมือช่วยแม่ทำอาหารในห้องครัวนี้

และแน่นอน  ถ้าวันไหนพ่อกับแม่มีธุระ  กลับดึก  หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ ผมก็จะรับหน้าที่เข้าครัวไปโดยปริยาย

ผมสอดสายตามองห้องครัวอยู่ครู่หนึ่ง   จดจำทุกอริยาบทของแม่....ท่าทีที่ใส่ใจกับทุกอย่างนั่นแหละ ที่ทำให้ผมหลงรักแม่มากๆ

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่  ก่อนจะเดินออกมานั่งตรงโต๊ะทานข้าว  ผมกับแม่ช่วยกันยกอาหารมาวางที่โต๊ะนี้  โดยมีสายตาของ

สมาชิกที่เหลือมองตามอาหารที่เราช่วยกันทำอย่างน่าสงสาร  สายตาที่บ่งบอกความหิว~  แม้กระทั่งพ่อก็ไม่เว้น  ฮ่าๆ

ผมเห็นพ่อแอบกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความหอมของอาหารที่ยั่วลิ้น พร้อมทั้งรสมือแม่ที่อร่อยการันตีได้จาก

เศษซากอาหารที่ไม่มีให้เหลือหลังจากทานเสร็จ  ยิ่งน้องทั้งสองคน ยิ่งไปกันใหญ่อาการหิวแบบเก็บไม่อยู่  เรียกว่าน้ำลายสอ

ตั้งแต่อาหารยังเสิร์ฟไม่ถึงโต๊ะ    แต่ทุกคนก็ต้องอดทนรอจนกว่าจะจัดอาหารเสร็จ  และรอให้ทุกคนมาพร้อมหน้ากันบนโต๊ะอาหาร

ก่อนที่จะเริ่มทานไปพร้อมกัน  แต่ละคนต่างตักอาหารยื่นให้กันจนวุ่นวาย  อบอุ่น.....  คำนี้ไม่เกินไปหรอกครับ

ใบหน้าแต่ละคนเปื้อนยิ้ม  ทานอาหารอย่างมีความสุข  มีเรื่องราวมากมายผ่านออกมาจากปากสองสาว  ที่ชอบเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้

เรียกรอยยิ้มให้คนที่นั่งฟังได้เป็นอย่างดี  ผมลูบเก้าอี้น้องทั้งสองคนเบาๆ แน่นอน  น้องมักจะนั่งข้างๆ ผม ฝั่งละคน

นึกเอ็นดูใบหน้าจิ้มลิ้มที่ดูสดใสตลอดเวลาไม่ได้   ออเซาะผมจนออกนอกหน้า   ถ้าอีกคนทำล่ะก้อ  ไม่นานจะต้องมีหัวทุยๆ อีกหัว

มาซุกไหล่ผมตามแน่ๆ  ผมนั่งอมยิ้มอยู่นาน  สุดท้ายก็ยืนขึ้น     เดินมาหยุดที่หลังเก้าอี้ตัวที่แม่นั่งประจำ ผมซุกหัวซบลง

โอบแขนกอดรอบเก้าอี้ตัวนั้น ราวกับว่าแม่นั่งอยู่ตรงนั้น   จะเว่อร์ไปมั้ยถ้าผมจะบอกว่าที่บ้านเรามีรอยยิ้ม และมีความสุขขนาดนี้

เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้   แม่.....เป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ทำให้คนในบ้านกลับมาผูกพันธ์กันได้ขนาดนี้  ไม่ว่าจะผมกับน้อง

ที่รักกัน  และสนิทกันจนแทบจะไม่ต่างกับ.......พี่น้องที่คลานตามกันมาก็ไม่ปาน

หรือแม้แต่ทุกวันนี้  ผมกับพ่อ เราก็เลือกที่จะพยายามปรับตัวเข้าหากันก็เพราะผู้หญิงคนนี้...... แม่

 ผมถอนคลายอ้อมกอดนั้นออก  ถอนหายใจวาบใหญ่  ......  เรื่องนี้ผมยังไม่ได้บอกใครทั้งนั้น   แม้แต่แม่

ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่น่ายินดี   ......   แต่ผมกลับรู้สึกเสียดายความสัมพันธ์ดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นมากกว่า   

พรุ่งนี้........ ข่าวที่น่ายินดีนี้ ผมคงต้องบอกทุกคนสักที 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 15-07-2012 16:18:29
+เป็ดเช่นเคย

ปัตจะไปเรียนแล้วสินะ

ใครจะเป็นพระเอกเนี่ย ??
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-07-2012 16:36:33
เอาน่าหนูปัต ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
ไม่แน่ ในเมืองใหญ่ปัตอาจจะได้รักมาเติมส่วนที่หายไปก็ได้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-07-2012 17:24:13
ดีใจที่ปัดมีความสุขกับคำว่า "ครอบครัว"
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-07-2012 23:12:10
ปัตสู้ๆ

ขอให้เจอคนดีๆนะปัต ดีใจกับปัตด้วย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-07-2012 23:27:03
ครอบครัวอบอุ่น

ดีจังที่ปัตคิดได้ o15
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-07-2012 19:44:17
ขออภัยนะคะ  วันนี้อาจจะไม่ได้โพสค่ะ
ทำงานดึก  หรือถ้าโพสก็อาจจะดึกเลย ประมาณตีหนึ่ง

อิอิ 

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน4 ความทรงจำ P.1 DT.15/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 16-07-2012 19:58:04
เป็นกำลังใจให้ปัตสู้ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-07-2012 22:37:05
โฮ่ะๆๆๆ  เนื่องจากว่าที่ทำงานเค้ามีการตรวจสอบระบบสัญญาณดับเพลิง นั่งทำงานไป ทำงานมา เริ่มหายใจไม่ออก
เลยชิ่งกลับบ้านดีกว่า  ฮ่าๆ



บทที่ 5 ครอบครัว


กว่าที่ผมจะทำใจบอกข่าวให้ทุกคนทราบได้ก็ล่วงเลยมาเกือบ สองอาทิตย์  และแล้วในเย็นวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังทานข้าวเย็นกัน

ทุกอย่างผ่านไปอย่างมีความสุขเช่นเคย   พอทานข้าวเสร็จแม่ก็ลุกขึ้นเตรียมจะเก็บสำรับของวันนี้ แล้วผมก็เอ่ยทักขึ้น

“เดี๋ยวครับแม่  ทุกคนครับ  ...เอ่อ  พอดีปัตมีเรื่องจะบอกครับ”  ผมพูดเสร็จ ทุกคนก็หันมาสนใจผมทันที  แม่ละมือจากจานอาหาร

แล้วนั่นลงที่เก้าอี้หันมามองผมอย่างสนใจทันที   ทุกอย่างรอบตัวเงียบจนผมเผลอกลั้นหายใจ  มองหน้าทุกคน  ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ทีหนึ่ง

“เอ่อคือ ปัต....   ปัต  เอ่อ   ....ปัตสอบเข้ามหาลัยXXX ได้แล้วครับ” ผมพูดอย่างรวดเร็ว    ผมก้มหน้าลงต่ำ บีบมือตัวเองแน่น

รอฟังปฏิกิริยาคนรอบข้าง  ...  ขณะที่กำลังเป็นกังวล  สาวน้องสองคนข้างๆ ก็กระโดดตัวลอย มากอดผมแล้วหอมแก้มผมใหญ่

“ยะฮู้~  พี่ปัตเก่งที่สุดเลย  ปุ้มว่าแล้วพี่ปัตต้องทำได้ เท่ห์ๆ  เท่ห์ที่ซู๊ดดดดดดดดดด”  ปุ้มว่าแล้วกอดผมใหญ่

“เย้ๆ  ๆ  พี่ปัตๆ  ยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลย  ฉลองๆ งานนี้ต้องฉลองนะคะคุณพ่อคุณแม่  มาม๊ะแป้งให้รางวัลก่อน  ฟอดดด~”

ว่าแล้วแป้งก็กดจมูก จมหายไปกับแก้มผมอีกข้าง  แค่การนี้ ก็ทำเอาผมเขิน ทำตัวไม่ถูกเลย   แล้วแม่ก็เดินเข้ามาสวมกอดผม

ผมกอดแม่ตอบแน่น ๆ แม่ยิ้มให้ผม มือทั้งสองข้างบีบแก้มผมเบาๆ  สายตาที่ภาคภูมิใจของแม่ทำผมยิ้มแก้มแทบปริ

แม่หอมแก้มผม น้ำตาแห่งความปลื้มปิติค่อยๆไหลอาบแก้มแม่ แล้วหันมาลูบหัวผมแบบให้กำลังใจ

“เก่งมากปัต  ...เก่งมา..ก เลยลูกแม่”  น้ำเสียงแม่ขาดห้วงไป  ผมไล้มือเช็ดน้ำตาให้แม่ ดีใจที่แม่มีความสุข

“อืม.....เก่งมากเจ้าปัต ....เก่งจริง  ๆ  ลูกพ่อ”   พ่อว่า  เดินมาลูบหัวผมเบาๆ ขณะที่ผมยังกอดกับแม่แน่น

ผมจ้องมองที่พ่อนิ่งงัน ....  ยกมือขึ้นปิดปาก พูดไม่ออก  แต่น้ำตามันไหลออกมา.....กลั้นไม่ไหวแล้ว  แม่ผละจากตัวผม

หันหลังกลับไปกอดพ่อแน่น  เสียงแม่ปล่อยโฮเสียงดัง  สะอึกสะอื้นอยู่กับอกพ่อ  เมื่อกี้พ่อเรียกผมว่า “ลูกพ่อ”

“คุณ...ค...คุณคะ  ฮือๆ  ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ  ฮือ~”  พ่อกอดแม่ไว้แน่น  น้องสองคนโผเข้ากอดพ่อกับแม่จากด้านข้าง

จนตอนนี้กลายเป็นก้อนกลมๆ ก้อนหนึ่ง    พ่อยืนยิ้มกว้างกางมือกว้างขึ้นไปอีก  ..........พร้อมกับคำที่ทำให้ผมดีใจที่สุดในชีวิต

“มาสิลูก   .......ปัตมาให้พ่อกอดที” 

“ค...ครับ    ครับพ่อ  ฮึกๆๆๆๆ”  ผมโถมตัวเข้ากอดพ่อ จากด้านหลังของแม่ที่กอดแม่อยู่แล้ว  มือของพ่อโอบกอดมาแล้ว

โอบกอดมาถึงตัวผม   พ่อ.....ในที่สุดก็ยอมรับในตัวผมแล้ว   น้ำตาแห่งความยินดีมันไหลจนเกินจะกลั้น

“พ่อครับ...พ่อ    พ่อ   พ่อ”  ผมเอ่ยเรียกพ่อไม่ขาดสาย ตอนนี้เราห้าคนกอดกันกลม ร้องไห้เป็นเผาเต่า  เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข 

มีความสุขเหลือเกิน

.

.


.

.

และแล้วก็ถึงเวลา  ...  ผมกำลังตรวจสอบการเก็บข้าวของลงกระเป๋าอีกรอบ  ทั้งที่เก็บเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน

รู้สึกใจหายอย่างช่วยไม่ได้  เห้ออออออ ~ได้แต่ถอนหายใจ  กวาดสายตามองรอบๆ ห้องอีกครั้งก่อนจะสะพายกระเป๋า 

เดินออกมารอบห้อง  เห็นทุกคนนั่งรอจะไปส่งผมอยู่ก่อนแล้ว

“พี่ปัต  ฮึกๆ  ....แป้งไม่อยากให้พี่ปัตไปเลย  พี่ปัตไม่อยู่แล้ว ค..ใคร  ฮึกๆ  จะทำกับข้าว จะไปโรง.. ฮึกๆ  เรียน

จะดูแลตอนแป้งไม่สบายอ่ะ .....ฮึกๆ”   น้องสาวตัวน้อยโถมตัวเข้ากอดผม จนผมต้องปล่อยกระเป๋าที่ถืออยู่ให้ล่วงหล่นไป

แล้วหันมาโอบกอดคนตรงหน้าแทน ริมฝีปากแดงๆ ของแป้งเม้มแน่น  น้ำตาร่วงเป็นเผาเต่า ซุกหน้าเข้ากับอกผม ส่ายหน้าไปมา

งอแงไม่ยอมให้ผมไป   

“ฮึกๆ ฮึกๆ ฮึกๆ  พี่ปัต   ฮึกๆ พี่ปัต  พี่ปัต  ฮึกๆๆๆ”  ปุ้มวิ่งเข้ามาโถมตัวกอดผมอีกคน  ผมอ้าแขนข้างหนึ่งเพื่อโอบกอดน้องสาวอีกคน

ที่สะอื้นจนตัวโยนไม่แพ้กัน  ไม่มีคำพูดใดๆ   มีแต่เสียงพร่ำเรียกชื่อผมจากปุ้ม  น้องถ่ายทอดความห่วงใยมาที่ผม  แม้จะไม่ต้อง

มีคำพูดใดๆ  แต่ผมก็รู้สึก  น้ำตาคลอหน่วยรอบดวงตา  อดใจหายไม่ได้เหมือนกันที่ต้องห่างน้องสาวสุดที่รักไป ใจหนึ่งก็อดหวั่นไหวไม่ได้

ไม่รู้ว่าจะมีใครดูแลน้องรึเปล่า   แต่อีกใจหนึ่งผมก็อยากให้น้องโตเป็นผู้ใหญ่ดูแลตัวเองได้เช่นกัน  เพราะยังไงสักวันหนึ่งผม

ก็ต้องจากไปอยู่ดี  อยากให้น้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง  ผมกดจูบเบาๆ ที่หัวทุยๆ ของปุ้มและแป้ง  ทั้งคู่ค่อยๆ เงยหน้ามาสบตาผม

“ปุ้ม แป้ง  ฟังพี่ปัตนะ  พี่ต้องไปเรียนนะครับ....พี่เองก็ไม่อยากจะจากเราทั้งคู่ไปหรอกนะคนดี  ”

“แล้ว...  แล้วทำไมต้องไปเรียนไกลๆ ด้วย ฮึกๆ  แป้งไม่อยากให้พี่ปัต ฮึกๆ ไปนะคะ  ”  แป้งว่าน้ำตาไหลพราก  ผมค่อยๆไล้มือ

เช็ดคราบน้ำตาให้แป้ง  ก่อนจะหันไปเช็ดให้ปุ้มอีกคน

“ฟังพี่นะคะ  น้องปุ้ม น้องแป้ง  พี่ปัตต้องไปเรียนไกลๆ ก็เพราะพี่อยากเรียนที่ดีๆ ทำงานดี ๆ  เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ไงคะ

ปุ้มกับแป้งรักพ่อกับแม่ของเรามั้ย?”  น้องพยักหน้าตอบช้า  พลางกลั้นสะอื้น แขนทั้งสองข้างโอบกอดผมแน่น

“ปุ้มกับแป้งเข้าใจพี่นะคะ  พี่อยากให้น้องพี่ทั้งสองคนเข้มแข็ง  ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะคะ  ช่วยเหลือตัวเองพยายามอย่าเป็น

ภาระให้พ่อกับแม่นะคะ รู้มั้ย?  อย่าบ่น  อย่างอน  อย่าน้อยใจนะคะ  รู้ใช่มั้ยว่าพ่อกับแม่ทำงานหนักก็เพื่อใคร?”

“ค่ะ  ปุ้มรู้ค่ะ ฮือๆ”   “แป้ง  ฮึกๆ ก็เข้าใจค่ะ ” 

“ปุ้ม  ปุ้มจะเป็นเด็กดีค่ะ ไม่ดื้อ  ฮึกๆ  ไม่ซน  ไม่เอาแต่ใจ และปุ้มจะช่วยแม่ทำงานบ้านค่ะ  ปุ้ม ฮึก    สัญญา”

“แป้ง แป้งก็จะช่วยงานแม่ทุกอย่างเลยค่ะ  ฮึกๆ  จะเป็นเด็กดี  จะขยันอ่านหนังสือด้วย  ไม่เอาแต่ใจค่ะ แป้งสัญญา ”

ผมดึงน้องมากอดแน่นๆ   กดจูบที่หัวทุยๆ นั่น แผ่วเบา  ก่อนจะเอ่ยบอกน้องสาวที่น่ารักของตัวเอง

“ดีมากครับเด็กดีของพี่ปัต  พี่ก็สัญญาจะเรียนจบไวๆ นะครับ   แล้วเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันนะ”

พ่อกับแม่เดินเข้ามา  ดึงน้องให้ผละจากตัวผม  แป้งซุกหน้ากับอกแม่แน่น พยายามกลั้นสะอื้นอย่างเต็มที่  ส่วนปุ้มที่ไม่ต่างกัน

ยังซุกหน้ากับอกพ่อ  พยายามกลั้นเสียงสะอื้นให้หมดไป  ผมสงสารน้องจับใจ ....แต่ก็ต้องไป   แม่หันมามองผม ลูบที่หัวผมเบาๆ

“ป่ะ  ไปกันได้แล้วปัตจวนจะได้เวลาแล้ว  เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องซะเปล่าๆ”  ผมพยักหน้ารับก้มลงหยิบกระเป๋าเดินตามพ่อกับแม่

ที่ดันกึ่งลากน้องสาวจอมงอแงของผมทั้งคู่ไปที่รถ   


ตลอดทางผมไม่ได้มองเส้นทางแม้แต่นิดเดียว  แต่สายตายังคงจับจ้องที่น้องสาวทั้งสอง  พ่อและแม่ บรรกาศที่มีทุกคน

ที่ผมเรียกว่า  “ครอบครัว”  อยู่รอบๆ กาย  จากนี้คงอีกนาน กว่าจะได้เจอกันแต่ละครั้ง  น้องสองคนหลับไปแล้ว

กำลังหลับสบายหัวทุยๆ พิงมาที่ผมทั้งตัว  จนในที่สุดเราก็มาถึงสนามบินที่เชียงใหม่  ผมขยี้หัวน้องเบาๆ ปลุกให้ตื่น

ปุ้มกับแป้งเกาะแขนผมแน่น จนพ่อต้องเป็นคนแบกกระเป๋าแทนผม   พอมาถึงบริเวณที่ผมต้องเช็คอิน  น้องถึงได้ยอม

ปล่อยแขนผมมองตามตาละห้อย  แต่ไม่มีน้ำแล้ว  ผมกอดน้องทั้งคู่อีกครั้ง  นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะห่างกันไปไกล และนาน

กดหอมที่หัวทุย ๆ แล้วน้องก็พร้อมใจหอมแก้มผมพร้อมกัน   ผมผละตัวออก เดินไปกอดแม่แน่น

“ปัตไปแล้วนะครับแม่”  กราบลงบนอกแม่  แม่กอดตอบก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ  น้ำตาคลอหน่วยที่ดวงตา

“ตั้งใจเรียนนะปัต  แล้วกลับมาบ้านบ่อยนะลูก”  แม่ให้พรผม  กดจูบผมที่หน้าผาก

“ครับแม่”    ผมหันไปหาพ่อ  เดินเข้าไปใกล้  พ่อมองแล้วยิ้มให้   พร้อมอ้าแขน  ผมเดินเข้าไปกอดพ่อ ไหว้ลงที่อก

“ตั้งใจเรียนนะปัต  ไม่ต้องห่วงแม่กับน้อง  พ่อจะดูแลเอง”  พ่อบอก  ผมยิ้มรับ

“ครับพ่อ”    ในที่สุดก็ลากกระเป๋าเข้าสู่ส่วนของท่าอากาศยานสำหรับผู้โดยสาร ผมหันมาโบกมือให้ครอบครัวผมอีกครั้ง

“บ๊าย  บ๊าย ครับ”    แล้วผมก็เดินมุ่งสู่ภายใน

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 16-07-2012 23:11:53
ติดตามตอนต่อไป  :m18:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-07-2012 23:58:29
เรียนมหาลัยแล้ว
คุณพ่อก็ยอมรับแล้วด้วย

เยเยเย่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 17-07-2012 00:22:54
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอนที่ 6 คนแปลกหน้า P.2 DT.17/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 18-07-2012 01:44:29
ตอนที่ 6   คนแปลกหน้า

หลังจากที่เข้ามาภายในท่าอากาศยาน  ผมก็มุ่งไปที่เกทของสายการบินไทย  พอมาถึงก็ทำให้ทราบว่าผู้ใช้บริการมีมากพอควร

จนจำนวนที่นั่งที่เหลือให้ผมนั่งนั้นบางตาเสียเหลือเกิน  ผมสะพายกระเป๋าเป้ใบย่อม เดินตรงไปเก้าอี้ว่างด้านหลังสุด  กำลังจะนั่ง

กระเป๋าของใครบางคนก็ถูกวางอย่างเบามือไว้บนเก้าอี้ตัวที่ว่าเสียแล้ว เจ้าของกระเป๋าหันมามองผมเล็กน้อย

“ไม่ว่าง”  เสียงผู้ชายคนนั้นเอื้อนเอ่ย แล้วหันมาเผชิญหน้ากับผมแบบก่อกวน  ผมได้แต่กัดฟันกรอด  รู้สึกได้ถึงความไม่เป็นมิตรของผู้ชายตรงหน้า

ผมไม่ได้หนีไปไหนแต่ยังยืนมองผู้ชายคนที่ว่านิ่งๆ  ส่งสายตาแสดงความไม่พอใจเต็มที่  เผลอกวาดตาสำรวจตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า

ผู้ชายคนนี้น่าจะสูงกว่าผมสัก 10-15 ซม. (ตอนนี้ผมสูง 180 ซม.) ผิวขาว  แต่ออกจะกร้านแดดนิด ๆ สวมแว่นสีดำ

หน้าตาค่อนไปทางนายแบบเกาหลี  ผมหยักศกสีดำขลับยาวแค่พอให้ละบ่าเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้าเป็นอย่างดี 

รูปร่างผอมสูง แต่กลับมีกล้ามเนื้อน่ามองทุกสัดส่วน คงเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ได้สบาย    เสื้อยืนสีดำดูเบาสบาย

ด้านนอกมีเสื้อคลุมสีครีมตัวยาวบางเบาแค่พอกันแดดกันลม  หรือจริงๆ คงแค่เป็น พร๊อบ เสริมหล่อเท่านั้นแหล่ะผมว่า

กับยีนส์ขาเดปสีดำ   คือผมว่าทุกอย่างกำลังจะลงตัวได้อย่างเหมาะเจาะแล้ว   ถ้าไม่มีไอ้รองเท้าผ้าใบสีเหลืองสด

ที่เด่นเป็นสง่า กระแทกตาชาวบ้านให้เผลอมองจนเหลียวหลังไปหลายคน  ผมถอนหายใจยาวๆ อย่างระอาเมื่อพิจารณาจบสิ้น

คิ้วเข้มๆ ขมวดจนเป็นปม  ไม่พอใจที่เห็นผมยังไม่ยอมขยับไปไหน  และแถมยังจ้องอีกฝ่ายตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้านั่นอีก

เหมือนความอดทนได้สิ้นสุด  ปากหยักได้รูป ....ถึงกับเอื้อนเอ่ยเตือนความทรงจำให้ผมได้เข้าใจอีกครั้ง

“ไม่เข้าใจรึไงว่าไม่ว่าง  ทำไมไม่ไปอีก”  น้ำเสียงที่ติดจะหยิ่ง  ทำผมเม้มปากแน่น  ปกติก็ค่อยอยากมีเรื่องกับใคร  แต่ทำยังงี้มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ

ก็เห็นๆ อยู่ว่ามาคนเดียว  แล้วคนที่เข้ามาใช้สนามบินก็เยอะจนจะล้นออกไปด้านนอกอยู่แล้ว ยังจะมานั่งสองที่อีกนี่...

ไม่คิดว่าตัวเองนั่นแหล่ะ.....ที่เป็นฝ่ายเสียมารยาทบ้างรึไงน่ะ   ผมขมวดคิ้วมุ่น..... ตั้งใจจะสู้ไม่ยอมถอย

“ทำไมไม่ว่างหล่ะครับ”   ผมถามกลับ น้ำเสียงติดจะเครียด ไม่รู้ทำไมวันนี้ชักอยากมีเรื่องขึ้นมาตะหงิดๆ น่ะ

“กระเป๋าวางอยู่ไม่เห็นรึไง”  ผู้ชายคนนั้นว่ากลับ   อย่างรำคาญ

“ก็เห็น  แต่เมื่อกี้ไม่มีนี่” ผมสวนกลับทันที  ครับเคิบอ่ะไม่ต้องใช้แล้ว  ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับคนพรรค์นี้

“ก็ตอนนี้มีแล้ว” 

“แล้วไง?”

“ก็.ไม่ว่างแล้วไปหาที่อื่นเองสิ”

“ไม่!!  ผมจะนั่งตรงนี้แหล่ะ ไม่ทราบว่าพี่เป็นเจ้าของสายการบินรึไงมาคนเดียวถึงจะนั่งตั้งสองที่”

“.....  ก็ช่างดิ จะมากี่คนก็ช่างจะนั่งสองที่มีไรเปล่า?”

“มี”

“มีไร?”

“ผมจะนั่ง”

“ไม่ให้นั่ง ไม่เห็นรึไงว่ากระเป๋ามันว่างอยู่”

“ช่างมันดิ ใครแคร์กัน ”  พูดจบผมก็ทำท่าจะกระแทกก้นนั่งทันที

“เห้ย!!!  เดี๋ยวๆ  ใจเย็นดิว่ะ  เออๆ  ให้เก็บกระเป๋าออกก่อน กล้องนะเว่ย เป็นแสนพังมาซวยชิบ”  ผู้ชายคนนั้นสบถหัวเสีย 

รีบเก็บกล้องเป็นการใหญ่  แต่ผมไม่แยแส  พอเค้าเก็บกระเป๋า ผมก็นั่งลงทันที  หยิบเครื่องเล่น MP 3 มาเสียบหู โดยไม่สนใจ

สายตาไม่พอใจของคนข้างๆ  ที่ส่งมาเป็นระยะ  ระหว่างรอที่นอกจากฟังเพลงแล้ว  ผมเลยหยุดสมุดสเก็ตภาพมาร่างภาพ

ท่าอากาศยานคร่าวๆ  ถือเป็นงานอดิเรกของผม  เพราะผมชอบวาดภาพจากสิ่งที่เห็น  นอกจากจะทำให้มีสมาธิแล้ว 

ยังได้ฝึกฝีมือการวาดภาพของผมให้ดีขึ้นอีก  ขณะที่วาดเพลิน ๆ จนเกือบจะเสร็จอยู่แล้วผมก็ต้องชะงักไป  เพราะรู้สึกถึง

หน้าใครบางคนที่ยื่นเข้ามาใกล้หน้าผมซะจนรู้สึกถึงกลิ่นเหงือจางๆ ของคนๆ นั้น  ผมหยุดวาดทันทีหันหน้าเพื่อจะไปมอง

คนที่ไร้มารยามขนาดแอบมองคนอื่นวาดภาพ   อยากจะถามเหลือเกินว่า.....หนังสือมารยาทอ่ะ  เคยซื้ออ่านบ้างรึเปล่า

ผมสะบัดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความไม่พอใจ   แต่....ฟ้าแกล้งผมแรงไปป่าวครับ 

จมูกดันแตะกับจมูกพี่คนนั้นเบาๆ  ผมชะงักกึก เผลอยื่นมือไปผลักหน้าจนพี่เค้าหงายหลังร่วงไปนอนบนพื้น

โชคดีที่พี่เค้าเอาได้กล้องที่ว่าวางที่พื้นไว้เรียบร้อยแล้ว  .....  ไม่งั้นผมอาจเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว


“เห้ย!!” พี่เค้าร้องเสียงหลงไม่คิดว่าจะโดนผมผลักจนไปกลิ้งเกลือกที่พื้น   มาดหล่อๆ ที่เก๊กไว้เมื่อครู่หายไปหมดเลย ฮ่าๆ ขำดี

ผมเผลออมยิ้มที่มุมปากนิด ๆ ไม่อยากเสียมารยาทมากนัก ได้แต่กลั้นขำเต็มที่

“โหห  เขินแรงนะเราอ่ะ  พี่แค่ดูเราวาดรูปเฉยๆ แค่เนี้ยะถึงขั้นต้องถีบกันจนหงายหลังด้วย  หึหึ” พี่คนนั้นว่าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

“ผลักพี่  ผลัก  ผมใช้มือไม่ได้ใช้เท้า ”  แอบเคืองในใจที่ถูกใครบางคนหลอกด่า

“อ้าวเหรอ  โทษที ๆ  เห็นหนัก ๆนึกว่าไม่ใช่ “มือ” ฮ่าๆๆๆ”   แล้วพี่เค้าก็หัวเราะเสียงดัง  ผมได้แต่โกรธจนหน้าขึ้สี

คนอะไรไร้มารยาทมากๆ อ่ะ

“แต่หน้าน้องนี่ตลกชะมัด  แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยทำหน้าซีเรียสไปได้  ”  พี่เค้าขำท้องขดท้องแข็ง  ผมได้แต่ถอนหายใจเบื่อๆ

“เลิกขำได้รึยังพี่  ว่าแต่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนั้นทำไมอ่ะ”   

“เออ  ...อ้อ  ใช่ๆ  เห็นนายวาดรูปสวยดี เลยเผลอมองซะเพลินเลย  เรียนอะไรอ่ะเรา”

“สถาปัตครับ”

“อ้าวเหรอ  นึกว่าเด็กศิลป์ซะอีก เห็นเก็บรายละเอียดซะครบเลยนี่หว่า  ว่าแต่มหาลัยอะไรอ่ะ”

“มหาลัย XXX ครับ ปี 1”

“อ้าวจริงดิ  ฮ่าๆ  โลกกลมเว้ย มหาลัยนี่เค้าคัดแต่เด็กหน้าตาดีๆ เลยนะ  พี่ก็จบที่นั่นแหล่ะ  ฮ่าๆ เออว่าแต่เราอ่ะวาดรูปสวยดีนิ สนใจจะรับจ็อบพิเศษป่าวหล่ะ ”

ผมนิ่งเงียบไปเล็กน้อยแอบสงสัยว่าไอ้หมอนี่จะมาไม้ไหน  แต่....ถ้าได้งานจริงๆ ก็ดีสิครับ เพราะผมตั้งใจจะทำงานส่งตัวเองเรียน

เพื่อที่จะได้ลดภาระของพ่อกับแม่อีกทางหนึ่งด้วย  ยิ่งเป็นงานที่ผมพอมีฝีมือ   มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเช่นกัน

“ทำอะไรอ่ะครับ”

“ก็ทำพวก สตอรี่บอร์ดโฆษณาอ่ะ  พอดีพี่เป็นตากล้อง บริษัทฯที่พี่ทำงานอยู่อ่ะ เค้ากำลังต้องการคนทำงานด้านนี้ด่วน

พอพี่เห็นน้องวาดรูปน่ะ ลายเส้นน่ะใช้ได้เลยว่ะ ตอนดูเราวาดอ่ะพี่เลยเผลอมองซะเพลิน เรื่ององค์ประกอบกับรายละเอียด

ภาพรวมน่าสนใจดี    สนใจไปทำป่าว  รายได้ดีนะ เป็นฟรีแล้นก็ได้เอางานกลับไปทำที่บ้านอ่ะ แล้วค่อยมาส่งถ้าจะแก้ตรงไหน

ก็ว่ากันตอนส่ง  แล้วถ้างานโอเค  พี่จ่ายเป็นจ็อบๆ เลย สนใจป๊ะ?”  พี่เค้าว่าด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้ม กระตือรือร้นมากๆอ่ะ

เหมือนเป็นคนละคนกับตอนแรกที่เจอ  รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรนี่อะไรน่ะ  ผู้ใหญ่นี่......เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวจริงๆ

หลังจากฟังพี่เค้าโน้มน้าวจิตใจอยู่นาน.....ผมก็เริ่มหวั่นไหว   (เอิ่ม......ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะครับ   แค่เรื่องงาน)

ทั้งเรื่องที่พยายามจะหางานทำเพื่อใช้ในการเรียนต่อ  เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระของใครต่อใคร  เพื่อให้ผมมีความภาคภูมิใจเหลืออยู่บ้าง

และเพื่อ........  ให้ผมสามารถยืนด้วย “ขาของตัวเอง” 

ให้ผมสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงมากขึ้น....อีกสักนิด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอนที่ 6 คนแปลกหน้า P.2 DT.17/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 18-07-2012 13:04:30
+เป็ด

รอตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอนที่ 6 คนแปลกหน้า P.2 DT.17/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-07-2012 13:36:11
พระเอก นายเอกสูงมากอะ T T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-07-2012 04:17:13

บทที่ 7  บังเอิญ




“เลิกกัดได้แล้ว”  หืม! ผมได้ยินเสียงใครแว่วเข้ามาในหู หลังจากที่มัวแต่คิดอะไรเพลินๆ

“เอ้า!  จะเลิกกัด  แล้วหันมาตอบพี่ได้รึยัง”   เอ้! ใครกัดอะไรกัน  ผมหันไปมองซ้ายทีขวาที  อ้อ!! พี่คนที่ชวนทำงานด้วยนี่นา

“จะกัดปากตัวเองไปถึงไหนฮึ  รู้มั้ยว่าปากแดงหมดแล้ว... ”  เสียงพี่เค้าว่า เอานิ้วจิ้มมาเบาๆ ที่ปากผม หน้าตาพี่นี่ดูหมั่นเขี้ยวมากๆ

 ผมสะดุ้งนิดๆ อ้าวผมเหรอ พึ่งรู้สึกตัวว่ากัดปากตัวเองอยู่  เผลอทุกครั้งที่คิดอะไรเพลิน

“ฮ่าๆ ตลกน่ะเราเนี่ย  สรุปว่าจะตอบพี่ได้รึยังหล่ะ?”   พี่เค้ายิ้มที่มุมปากนิด ๆ ดูมีเสน่ห์ไม่หยอก  เพียงแต่ผมไม่เห็นแววตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตานั่นก็เท่านั้น

“อ่า...เอ่อ   ยังไงดีหล่ะฮะผมเคยแต่วาดเล่นๆ แต่ไม่เคยทำจริงๆ จังๆสักทีอ่ะ  แล้วจะไม่มีปัญหาเหรอฮะ” 

“เห้ยไม่เป็นไร  พี่เชื่อ.....สายตาของตัวเองว่ะ  หึหึ  ไม่ต้องกังวลคุยคอนเซ็ปแล้วก็ลองวาดแบบที่เราคิดน่ะแหล่ะ  ได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที

เข้าใจคำว่า “ลองดู”รึเปล่า   ยังไงซะก็ยังดีกว่าปล่อยโอกาสไปเปล่านะพี่ว่า   เออ คุยกันตั้งนานว่าแต่เราชื่ออะไรเนี่ย”

“ปัตครับ  ปฐพี แล้วพี่อ่ะ”

“พี่ชื่อพาร์ท  แล้วตกลงเราจะช่วยงานพี่ใช่ป่ะเนี่ย?” ผมพยักหน้าตอบรับ ... จริงอย่างที่พี่เค้าว่ามีโอกาสทั้งทีไม่ลองไม่รู้นี่นา

 “อ่ะนี่นามบัตรพี่  ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ” พี่พาร์ทยื่นนามบัตรมาให้ผม   ผมรับไว้แล้วอ่านชื่อที่ปรากฎบนนามบัตรเบาๆ

“กนต์ธร  ภูมรินทร์ ชื่อแปลกจัง แปลว่าอะไรเหรอฮะ”  ผมหันไปถามพี่พาร์ท   พี่เค้ายื่นมือมายีหัวผมเบา ๆ ราวกับรู้จักกันมานาน

“กนต์ธร แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งสิ่งอันเป็นที่รักน่ะ   อือ....เอานามบัตรมาสิ พี่เขียนเบอร์มือถือให้  เบอร์ส่วนตัวให้เฉพาะเรานะห้ามเอาไปบอกใครหล่ะ” พี่พาร์ท เขียนยิ๊กๆ แป๊บเดียว

ก็ส่งนามบัตรกลับคืนมาให้ผมก็เก็บเข้ากระเป๋าตังค์  หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันสัพเพเหระ  พอคุยกันจริงๆ แล้ว

ถึงได้รู้ว่าพี่เค้าเป็นคนอัธยาศัยดีมากๆ คุยเก่ง สนุกสนาน  ร่าเริง  ที่สำคัญมีเสน่ห์มาก ๆ  โดยเฉพาะรอยยิ้มนิดๆ ที่มุมปากนั่น

ดึงสายตาใครต่อใครให้หันมามองค้างได้เลยทีเดียว  ผมแอบเห็นคนรอบข้างแอบหันมามองพี่เค้ายิ้มหลายต่อหลายครั้ง  แล้ว

ก็หันกลับไปยิ้มเขิน ก่อนจะหันกลับมาใหม่   ผมว่าพี่เค้าก็คงรู้ตัว  แต่ว่า.....คงจะชินแล้วสินะ  กับสายตาคนรอบข้าง




เวลาผ่านไปนานมาก  เนื่องจากเครื่องดีเลย์  ผมได้ยินประกาศจากสายการบินเป็นรอบที่สามแล้ว   เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี

แต่ในที่สุดก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง  ผมกับพี่พาร์ทนั่งรอผู้โดยสารคนอื่นตรวจตั๋วจากทางสายการบิน จนคนเริ่มน้อยลง ผมกับพี่พาร์ท

ถึงไปต่อคิว   เราก็คุยกันไปเรื่อย จนมาถึงเจ้าหน้าที่สายการบิน  ผมยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่  ผมได้ที่นั่ง  18A  พอถึงคิวพี่พาร์ท

ผมถึงกลับขำว่า  โอ้.....เรื่องบังเอิญนี่มันเกิดขึ้นได้จริงๆนะ ก็พี่พาร์ทน่ะสิได้ที่นั่ง 18C  อ่าน่ะ พี่พาร์ทยักคิ้วให้ผมสองที

พร้อม ๆ กับยิ้มนิดๆที่มุมปาก ทำเอาผมเผลอยิ้มตอบ  ขำกับท่าทางของพี่แก แล้วเราทั้งคู่ก็เดินต่อไปยังที่นั่งภายในเครื่องบิน 

ปรากฎว่าที่นั่งระหว่างผมกับพี่พาร์ทไม่มีผู้โดยสาร พี่แกเลยมานั่งติดกับผมแทน   หลังเครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้าได้ไม่นาน

ผมก็รู้สึกง่วงจนแทบทนไม่ไหว อาจจะเพราะเมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับแอบจะกังวลหลายอย่าง  ผมไม่เคยใช้ชีวิตตัวคนเดียว

โดยเฉพาะกรุงเทพ  แน่นอน.....มันเลยส่งผลให้ผมทำได้แค่ลืมตาจ้องมองเพดานห้องในที่มืด แม้จะพยายามข่มตาเท่าไหร่

ก็ดูจะเปล่าประโยชน์เลยทำได้แค่ปล่อยนัยตาจ้องมองต่อไป  ส่วนสมองวิ่งวุ่นกับเรื่องราวมากมาย จนไม่มีภาพเพดานห้องอยู่ในสายตาด้วยซ้ำไป

ผมมองหน้าพี่พาร์ทที่ดูห่างไกล และพร่าเบลอไปเรื่อยๆ  ริมฝีปากหนาที่ขยับไปมาเล่าเรื่องต่างๆ ค่อยขยับช้าลงราวกับภาพสโลโมชั่น

จนกระทั่งทุกอย่างถูกความมืดปกคลุมเป็นสีดำสนิท  รู้สึกว่าตัวเองกำลังตัวเอนศรีษะไถลไปกระแทกไหล่แข็งแรงของใครบางคน แล้วสติพร่าเลือนก็จางหายไป 

.

.

.

ผมกระพริบตาอย่างเชื่องช้า หลังจากรู้สึกถึงสัมผัสบางเบาที่ลูบหัวผม มันสบายจนผมยังไม่อยากจะตื่น   ถ้าไม่ได้ยินเสียงประกาศ

หวานๆ จากเจ้าหน้าที่การบินไทยอ่ะนะ รับรองว่าผมจะซุกหัวทุยของผมกับไหล่แข็งแรงนี่แหล่ะ ......สาบานเลย

ในที่สุดผมก็สามารถชนะเปลือกตาอันหนักอึ้งของตัวเองได้  พึ่งรู้สึกตัวว่าพิงไหล่พี่พาร์ทอยู่  แต่ถ้าลองคิดดีๆ นี่ผมพิงพี่เค้าตั้งแต่ที่เชียงใหม่เลยนะ

ผมค่อยๆ ดันตัวเองให้นั่งตรง ๆ สะบัดหน้าสองสามที  ก็ได้ยินเสียงขำของใครบางคนข้างๆ

“ตื่นแล้วเหรอไอ้ขี้เซา  หลับสนิทขนาดนี้ เมื่อคืนไม่ได้นอนรึไง?” พี่พาร์ท เอามือยีหัวผมเบาๆ   ผมก็มองตอบพี่แกงง

ประมาณว่า นี่ใครว่ะ?หน้าคุ้นๆ  แต่ก็พยักหน้าตอบประมาณว่า “วิญญาณ” ยังไม่กลับเข้าร่างอ่ะ  ผมเห็นพี่แกหัวเราะใหญ่เลย 

“เห้ย!  นี่พี่พาร์ทเอง จำได้ป่ะ  อะไรวะ....นอนแค่แป๊บเดียวลืมกันซะแล้ว ฮ่าๆ ”   พี่เค้าลุกขึ้นหยิบกระเป๋าในช่องเก็บสัมภาระด้านบน

ทั้งของพี่เค้าและของผม  แล้วยื่นส่งมาให้  หลังจากทำหน้ามึนงง ต่อสรรพสิ่งทั้งหลายอยู่นานประมาณ 5 นาทีได้ 

ผมรับกระเป๋าตัวเอง  จากพี่พาร์ท มาก่อนจะยิ้มให้ พี่เค้า  เมื่อวิญญาณได้กลับมาอย่างสมบูรณ์  ...พูนสุข(เกี่ยว?)

“พี่พาร์ท”  ผมเรียกชื่อเค้าเบาๆ  ประมาณว่า  จำได้แล้วนะครับ  พี่แกก็ยิ้ม คราวนี้ยิ้มกว้างเลย ....หล่อชะมัด  ผมก็อยากหล่อแบบนี้มั่ง

“เออ ...  จำได้ซะที   ป่ะลงเครื่องได้แล้ว  คนอื่นเค้าลงกันเกือบจะหมดอยู่แล้ว  ป่ะ”  ว่าแล้วพี่แกก็เดินนำเลยครับ  ผมเลยเดินตาม

กวาดตามองรอบๆ ที่นั่งผู้โดย  เห็นคนอื่นก็ทยอยลงกันเกือบหมดจริงๆ ฮ่าๆ นอนเพลิน  ดีพี่แกไม่ปล่อยผมนอนต่อบนเครื่องนะเนี่ย

แอบคิดขำๆ  ถ้าแอร์เค้าเผลอปล่อยให้ผมหลับ   .....  จนนั่งกลับไปที่เชียงใหม่อีกที แล้วผมจะทำยังไง   เลยหลุดยิ้มออกมา

“ยิ้มอะไรหึ”  พี่พาร์ทหันมาถาม หลังจากที่เราลงมาถึงตัวอาคารผู้โดยสาร

“เปล่าครับ”  ผมหันไปตอบแต่ปากยังยิ้มขำกับความคิดเมื่อครู่

“ปัตกลับหอยังไง  อยู่ที่หอพักมหาลัยใช่มั้ยปีหนึ่งอ่ะ ” 

“ฮะ  เดี๋ยวปัตโทรให้เพื่อนมารับ  ปัตยังไม่เคยไปที่หอเลย พอดีวันมอบตัวพ่อกับแม่ปัตต้องไปธุรต่อเลยยังไม่ได้แวะไปดู

ว่าอยู่หอไหนอ่ะ”   

“อืม   4 ทุ่มแล้วนะ  รีบๆ โทรดิเดี๋ยวพี่รอเป็นเพื่อนก่อน”

“ครับ”  ผมหยิบมือถือโทรหาเพื่อนทันที   

“ตื๊ดดดดดดดดดด~”     

“ตื๊ดดดดดดดด~”     

“ตื๊ดดดดดดดด~”     

“ตื๊ดดดดดดดด~”     

“ตื๊ดดดดดดดด~”   ผมเงียบไปพักนึง  หลังจากที่พยายามต่ออยู่นาน หันไปมองคนข้าง ๆ นั่งหาวเป็นการใหญ่

“ตื๊ดดดดดดดด~”

“ว่าไง”                    ไม่ใช่เสียงในสาย.............เสียงคนข้างๆ ผมนี่แหล่ะ  หลังจากนั่งรออยู่นานจนผมเกรงใจ

“เพื่อนไม่รับเหรอ?”

“ครับ  ไม่รับเลย  เห้อ~”  ผมก้มหน้ามองโทรศัพท์อย่างจนหนทาง  จะบอกว่าเคยมา กรุงเทพฯแค่ครั้งเดียวตอนมามอบตัว

จะให้ผมจำเส้นทางไปมหาลัยนะเหรอ จำไม่ได้หรอก ที่สำคัญพักห้องไหนหอไหนก็ยังไม่รู้เลย เป้ 1 ใบ กับกระเป๋าเดินทางใบเขื่องอีก 1 ใบ 

จะไปแท็กซี่ตอนกลางคืนก็กลัวโดนหลอก โดนปล้น   ได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียด  อย่างเซ็งในอารมณ์ 

พี่พาร์ทลุกขึ้นทันที  บิดขี้เกียจเล็กน้อย คิดว่าพี่เค้าคงไม่อยู่รอเป็นเพื่อนผมแล้วหล่ะ  ก็นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนี่นา  ผมเงยหน้ามองพี่เค้านิดนึง

พร้อมคำถามที่ไม่ได้พูดทางปาก  แต่ออกจากสายตาของผม  “พี่จะกลับแล้วเหรอ?”  เหมือนมันเสียงดังพอที่พี่เค้าจะได้ยิน

 แต่เค้าไม่ตอบ  กลับมองมาที่ผมนิ่งๆ เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบเขื่องของผม แล้วลากไปทันที ผมอึ้งวิ่งตามพี่เค้าไป

เห้ย! พี่พาร์ทแม่งจะขโมยกระเป๋าเหรอว่ะ    ที่แท้ก็เป็นพวก.........................  (กำลังจะด่าในใจ)

“ไปนอนคอนโดพี่ก่อน  พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน  เอ๋พี่ไปส่งดีกว่า มหาลัยนั้นพี่รู้จักดี  ไปตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ให้ถามหรอก” พี่พาร์ทหันมา

ยิ้มให้ผมเล็ก ๆ ผมยิ้มตอบ  กำลังจะอ้าปากปฏิเสธ  เพราะเกรงใจ  พี่แกก็โพล่งขึ้นมาก่อนอย่างรู้ทัด

“ไม่ต้องเกรงใจ   ยังไงเราก็จะร่วมงานกันแล้ว  แค่ทำงานให้เต็มที่ก็พอ”  ผมหุบปากฉับ  ยิ้มแหยๆ แบบคนโดนจับไต๋ 

“ครับ  ขอบคุณมากครับพี่”  ผมยกมือไหว้พี่เค้า

“เออ ๆ ไป ๆ  พี่ง่วงจะแย่อยู่แล้ว  แล้วก็ไม่ต้องไหว้พี่บ่อยนะ พี่ยังไม่แก่ขนาดนั้นสักหน่อย”

เราเดินมาด้านล่างของตัวอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เมื่อได้แท็กซี่ ผมกับพี่ก็ขึ้นไปนั่งทันที

“ไปทองหล่อครับ ซอย XXX” พี่พาร์ทพูดจบ  พี่แท็กซี่(ไม่ใช่ชื่อพี่เค้านะครับ ผมไม่รู้จักพี่แกเลยเรียกชื่อไม่ถูก  XD  )
 ก็ออกรถเลยครับ   

สักพักพี่พาร์ทที่หนังตาปิดเรียบร้อยแล้วก็เซมาพิงไหล่ผม  หลับอย่างสบายสุดๆ อ่ะ  ผมก็ปล่อยให้พี่เค้านอนต่อครับ

ส่วนตัวเองก็มองวิว ทิวทัศน์ กรุงเทพราตรี  ฮ่าๆ   รถแล่นออกไปเรื่อย ๆ ผ่านไปประมาณ ชั่วโมง รถติดบ้าง วิ่งได้บ้าง

ทั้งที่จะเที่ยงคืนแล้วแท้ๆ แต่ผมกลับยังเห็นรถที่ยังสังจรไปมาอย่างขวักไขว่อยู่ในซอยทองหล่อ ผู้คนมากมายยังใช้ชีวิตใน

ตอนกลางคืนอย่างเป็นปกติ  มีแต่ผมที่รู้สึกแปลก เพราะว่าเป็นเวลานี้ครอบครัวผมคงจะนอนหลับกันไปหมดแล้ว

ผมเอื้อมมือไปปลุกพี่พาร์ท  เขย่าตัวอยู่หลายทีกว่าพี่แกจะรู้สึกตัว

“พี่ๆ ทองหล่อแล้ว”  พี่พาร์ทพยักหน้ารับ  มองไปรอบๆ คนขับเลี้ยวเข้าซอยหนึ่ง ตลอดทางมีร้านอาหาร ผลับ มากมาย

จนรถเคลื่อนมาถึงคอนโดที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ไม่ห่างจากปากซอยมากนัก   

“จอดด้านหน้านี่เลยพี่”  แท็กซี่ก็จอด  พี่พาร์ทยื่นค่าโดยสารให้  แล้วพวกเราก็ระเห็ดตัวเองลงมาจากรถ  พี่พาร์ทลากกระเป๋า

เดินทางผม เดินนำหน้าเข้าคอนโด ที่ต้องแตะการ์ดตั้งแต่ประตูทางเข้าตึกยันลิฟท์ด้านในตัวอาคาร  พี่พาร์ทกดชั้น 29

“ติ๊ง!”  ประตูลิฟท์เปิดออก  พี่แกก็เดินลิ่วๆ ไปยังห้อง 2929 ท่าจะง่วงมากจริงๆ เปิดประตูเข้าไปได้  พี่แกก็วางสัมภาระทุกอย่างทันทีเดินเข้าห้องนอนเฉยเลย

นี่พี่เค้าลืมผมป่ะนะ  แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรพี่พาร์ทก็กลับออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวกับชุดนอน ยื่นมาให้ผม

“นี่ปัตอาบน้ำก่อนเลยน่ะ ในห้องนอนอ่ะ  คืนนี้นอนห้องเดียวกับพี่นี่แหล่ะ นอนได้ป่ะ  ถ้าไม่ได้เดี๋ยวพี่นอนโซฟา

ส่วนไอ้ห้องเล็กนั่นน่ะ ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเดือนแล้ว เดี๋ยวจะตายซะก่อน” 

“เห้ยไม่เป็นไรพี่ ปัตนอนโซฟาก็ได้ พี่จะได้นอนสบาย”  รู้สึกเกรงใจพี่เค้าอย่างบอกไม่ถูก มาขอนอนแล้วจะให้พี่เค้านอนโซฟาได้ไง

“โซฟาแข็งจะตายใครจะอยากนอน  ไม่ต้องพูดมาก นอนกับพี่นี่แหล่ะ  โอ้เอ้อยู่ได้ ไปอาบน้ำได้แล้ว  พี่ง่วง”  พี่พาร์ทว่าดันหลังผม

ให้รีบไปอาบน้ำส่วนตัวเองนั่งรอที่ห้องรับแขก  ผมรีบอาบอย่างเร่งด่วนเพราะรู้ว่าพี่เค้าง่วง พอออกมาก็เห็นพี่พาร์ทนั่งดื่มเบียร์อยู่

“เห้ย!  ตกใจหมด  อาบเร็วยังกะวิ่งผ่านแน่ะเราอ่ะ  กินเบียร์ปล่ะ?”

“ไม่เอาอ่ะพี่ ขอบคุณครับ”  พี่พาร์ทพยักหน้ารับรู้ แล้วยกเบียร์รวดเดียวหมดกระป๋องเลย  จากนั้นก็เดินไปอาบน้ำ  ส่วนผมก็เช็ดผมตัวเองรอที่เตียง

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-07-2012 09:07:01
ตอนแรกก็เริ่มมาแบบดราม่า ตอนหลังก็มาแบบน่ารัก
จะรออ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 20-07-2012 09:41:30
จะเสร็จไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-07-2012 09:55:23
เจอส่วนที่ขาดยัง :o8:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-07-2012 16:17:35
หึหึ.....  ไม่ได้กันง่ายๆ หรอกค่ะ  ก๊ากกกกกกกกกกกก

คนแต่งโรคจิต  แต่ไม่นานเกินรอ  ฮ่าๆๆๆๆ  คิคิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 20-07-2012 18:34:28
จารอตอนได้กัน อิอิ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-07-2012 18:46:21
พี่พาร์ทเป็นพระเอกเหรอ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-07-2012 19:32:07
พี่พาร์ทเท่ห์
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 21-07-2012 12:31:27
พาร์ทเป็นพระเอกค่ะ  ยังแต่งไม่เสร็จรอก่อนนะคะ
จริงๆ แล้วพี่พาร์ทเท่ห์มากๆ หละ่  (ในอิมเมจของนายแบบ -- จะบอกว่าพาร์ทเคยเป็นนายแบบมาก่อน คิคิ)
ส่วนใครที่บอกว่า  นายเอกเราสูงมาก  อาจจะเป็นเพราะ  แม่ของปัตเป็นนางแบบ  และพ่อตัวจริงซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครนั้น (คนแต่งก็ไม่รู้)
ก็เป็นคนในวงการเช่นกัน  ฉะนั้นนายเอกเราถึงสูงยาว  ขาวดี  ได้ใจมั๊ก ๆ ปากแดง ๆ คึคึคึ  มาพูดยั่วน้ำลาย  ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 21-07-2012 13:17:37
พึงเจอกัน
ก็ไปนอนกับเขาแล้ว
นายเอกของเราใจง่ายจังเลยนะคับ  555

จะติดตามตอนต่อไปนะคับ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-07-2012 15:17:28
ชีวิตน้องปัตกำลังจะหวานใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 21-07-2012 21:04:56
+เป็ด

รอตอนต่อไป  :m4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 7 บังเอิญ P.2 DT.20/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 22-07-2012 00:38:44
น้องปัตเช็ดผมรอที่เตียงเลยหรอจ๊ะ 5555
 :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 22-07-2012 01:51:31
มาต่อ  แล้วค่ะ   


 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:


บทที่ 8  คืนแรก

สายน้ำเย็นฉ่ำ ที่ไหลมากระทบตัวชะล้าง  คราบเหงื่อไคลที่หมักหมมมาทั้งวัน  แถมยังช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานให้สดชื่นขึ้น

ผมขัดสีฉวีวรรณร่างกายจนเกิดฟองฟู่กระจายเกลื่อนเต็มห้อง  ช่วงเวลานี้ช่างมีความสุขจริง  .... ชอบ จริงๆ เวลาที่อาบน้ำ

เพราะมันทำให้ผมผ่อนคลาย สบาย  กลิ่นหอมของแชมพู  ครีมอาบน้ำ เป็นเหมือนกลิ่นบำบัดสำหรับผม ดังนั้น ผมจึงใช้

เวลาในการอาบน้ำนานกว่าผู้ชายปกติ  อาบน้ำเสร็จ คว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดลวกๆ ก่อนจะพันเอวไว้เดินออกมาแต่งตัวในห้องนอน

เห็นแขกที่ผมบังคับเชิญมาหลับปุ๋ยอยู่ปลายเตียง  ดูก็รู้ว่าคงไม่กล้านอนเลยมานั่งรอ  หึหึ......เห็นแล้วก็ขำ  ก็ผมอาบน้ำนานเกินไป

แขกที่ไหนก็รอไม่ไหว เลยหลับอุตุอยู่ปลายเตียงอย่างที่เห็น  ผมรีบแต่งตัวตั้งใจจะปลุกน้องให้ไปนอนดีๆ  แต่ลองมาเห็นหน้าที่หลับสนิท

อย่างมีความสุขของน้องเค้าสิ  ใครกล้าปลุกแล้วไม่รู้สึกผิดผมให้เตะ   สุดท้ายก็สอดมือเข้ากับเอวของคนที่นอนงอตัวเป็นกุ้งอยู่ปลายเตียง

ลากให้มานานในทิศในทางที่คนปกติเค้านอนกัน  น้องตัวเบาเก่าที่คิด  แถมยังตัวบางกว่าที่คิดมาก ออกแรงลากเบาๆ นี่ แทบจะปลิวติดมือมา

จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าน้องตัวเบา  หรือผมมันติดจะมือหนักกันแน่ จริงๆ แล้วก็แยกไม่ค่อยออก  ส่วนคนที่ถูกลากเมื่อกี้เห็นขยับตัวยุ๊กยิ๊กนิดหน่อยก็หลับไปเช่นเดิม

ไม่ได้รู้สึกรู้สากับการถูกลากแต่ประการใด  ผมเดินไปปิดไฟหัวห้องเหลือแต่เพียงไฟหัวเตียง  พอสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มได้ก็เอื้อมมือ

ไปปิดไฟทั้งสองดวงบนหัวเตียง  ทั้งที่ง่วงแทบแย่กลับนอนไม่หลับเหลือบมองคนข้างๆ แล้วอิจฉาคนที่หลับง่ายเหลือเกิน 

น่าแปลกที่ผมรู้สึกถูกชะตาไอ้ตัวเล็กนี่....ที่จริงก็ไม่เล็กแต่ถ้าเตี้ยกว่าผม ผมจะถือว่าเป็นตัวเล็กก็แล้วกัน   ยิ่งได้พูด ยิ่งได้คุย

ยิ่งรู้สึกทึ่ง  3 ชั่วโมงที่คุยกันเป็นเรื่องครอบผมกับไอ้เด็กโข่งนี่ทั้งนั้น   ไม่น่าเชื่อว่าเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลรับผิดชอบอะไร

ได้มากขนาดนั้น  ผมได้แต่อมยิ้มลองนึกภาพไอ้เด็กนี่ใส่ผ้ากันเปื้อนทำกับข้าวก็ดูเข้ากันไม่หยอก  ผิวขาวๆ ตัวบางๆ แถมปากยังแดงจัด 

ยืนถือตะหลิวทำตัววุ่นวายอยู่หน้ากะทะ  แต่ที่นึกไม่ออกคือมันใช้วิธีอะไรเลี้ยงน้องอีกสองคนกัน  แถมยังเป็นผู้หญิงทั้งคู่อีก

ที่มันบอกว่าติดมันทั้งคู่น่ะ  โม้รึเปล่านะ?   บางทีก็มีไปเห็นผู้ปกครองของสองสาวในงานวันสำคัญต่างๆ  พาไปลงทะเบียนเรียน

พาไปมอบตัว  พาไปเรียนพิเศษ ต้องสอนการบ้านให้  พาน้องเข้านอน  พาน้องหาหมอ แถมยังรับส่งน้องไปโรงเรียน 

เด็กตัวแค่เนี๊ยะจะทำอะไรได้มากมายขนาดนั้นเลยเหรอ?  แม้ผมจะแอบตั้งคำถามในใจ แต่เรื่องที่น้องมันเล่า

แต่จากสีหน้า....แววตาที่ทั้งภาคภูมิใจ   และมีความสุขอย่างล้นเอ่อที่ฟ้องจากแววตากลมใสคู่นั้น  มันเลยทำให้ผม

ปราศจากข้อกังขาทั้งปวง  ดวงตานั่น.....ทั้งซื่อสัตย์ และอ่อนโยน  จนผมแอบอิจฉาน้องๆ ของปัตไม่ได้  พอคิดได้อย่างนั้น

แล้วก็พลอยนึกขำตัวเองที่คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ  แล้วก็เหลือบมองคนข้างๆ ที่ยังหลับสนิท เผลอเกลี่ยมือที่ผมเบาๆ อย่างเอ็นดู

ถ้ามีน้องชายแบบนี้สักคนก็คงจะดีนะ   อย่างน้อย.....ก็คงไม่เหงาอย่างนี้  คงไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวตั้งแต่เล็กยันโต  เวลาที่พ่อกับแม่ไปทำงาน

ทั้งที่ผมก็เข้าใจดีว่าทุกอย่างท่านทำเพื่อผม  แต่บางครั้ง....ท่านจะรู้มั้ยเงินมันสำคัญก็จริง   แต่.....มันไม่เคยอบอุ่นเหมือนอ้อมกอดพ่อกับแม่

ผมลูบผมไอ้ตัวเล็กอยู่นาน  จนน้องขยับตัวไปมากลิ้งมาอยู่ในอ้อมกอดผมแบบงง ๆ แถมยังกอดผมแน่น  เขี่ยหน้าลงบนอกเบาๆ

ก่อนจะพึมพรำไม่ค่อยจะเป็นภาษาเท่าใดนัก  ได้ยินก็แต่คำว่า  “แม่”  ที่ดูจะชัดกว่าทุกคำในประโยค  เพราะผมลูบหัวเหรอ?

ผมยิ้มขำ  เด็กหนอเด็ก?  ยังคงลูบผมนุ่มของอีกฝ่ายใบหน้าสวยยิ้มนิด  ๆ  ดูน่ารักไปอีกแบบ  ครับผมไม่ได้พูดอะไรผิด ใบหน้าสวยก็คือสวย

หลังจากคิดเรื่องแขกตัวน้อยผู้ที่ผมบังคับเชิญมาอยู่นาน   สุดท้ายก็กลับมายังเรื่องเดิม..... เรื่องที่ทำให้ผมนอนไม่หลับมาหลายคืน

รวมถึงคืนนี้ แค่นึกถึงสมองก็ตีรวน    ภาพเมื่อสองวันที่แล้วยังเด่นหราในความคิดผม ภาพความจริงยังตอกย้ำจนเจ็บปวด 

ภาพคนรักของผมกับคนรักเก่าของเธอ  แน่นอนที่เชียงใหม่  กำลังเดินจูงมือกันไปที่ร้านอาหารหรูแถวถนนนิมมานเหมินทร์  ก่อนจะกลับไปยังโรงแรม  ในระแวกเดิม

หัวใจกระตุกแรงๆ  เจ็บแปลบอย่างไม่น่าเชื่อ  ความโกรธแล่นริ้วทั่วตัวอยากจะเดินเข้าไปกระชากคนทั้งคู่ให้ห่างจากกัน

แต่ผม......กลับทำได้แค่เพียงยืนกำมือแน่นมองอยู่ห่างๆ  ทำไมผมถึงมาเจอน่ะเหรอ?  อยากบอกว่าแน่นอน...มันไม่ใช่ความบับเอิญหรอก

แต่ผมแอบตามคนรักผมมา  เมื่อสามวันที่แล้วเธอบอกผมว่าจะไปพบเพื่อนเก่าที่เชียงใหม่ และนัดสังสรรค์กันเฉพาะหมู่เพื่อนฝูง

“พาร์ทค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ระตีจะไปเชียงใหม่นะคะ”  ระตีเอ่ยขณะกำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก ใบหน้างามได้รูปแค่แต่เติมนิดๆ

 ระตีก็สวยจนใครๆ ก็ต้องมองเหลียวหลัง  ดีกรีนางแบบแถวหน้าเป็นประกัน  แต่ให้ล้างเครื่องสำอางจนหมดหน้า เหลือแต่หน้าเปลือย

ผมก็ว่าระตียังหน้ามองกว่าสาวๆ ทั้งหลายที่แต่งองค์ลงเมคอัพซะอีก  ผิวขาว ๆ แก้มที่แดงระเรื่ออย่างคนสุขภาพดี  รูปร่างที่ได้สัดส่วน

ทั้งส่วนเว้าและส่วนโค้ง  เสน่ห์ที่หาตัวจับอยาก

ผมเดินเข้าไปโอบด้านหลัง  กดจมูกสูดดมความหอมหวานจากแก้มนวล  ก่อนจะไล้มาที่ซอกคอขาวนวลเนียนนั่น  ระตีอมยิ้ม  แต่แขนผมเบาๆ

“ไปทำไมครับ?  ให้พาร์ทไปด้วยได้รึเปล่า ผมไม่อยากห่างจากระตีเลย.....คิดถึง   ฟอดดดดดดดด”  ผมกระซิบอย่างเอาใจ

ผมหลงเธอเหลือเกิน  ไม่ว่าจะกิริยาท่าทาง  ระตีช่างวางตัวได้อย่างเหมาะสมงดงาม  แม้แต่เรื่องบนเตียงระตียังไร้ที่ติ

ระตีหันหน้ามามองผมยิ้มๆ  ในความช่างออดอ้อนเอาใจของผม   ก่อนจะหอมแก้มผมตอบเบาๆ

“ไม่ได้ค่ะ  ไม่ไว้ใจระตีเหรอคะ  ระตีรักคุณคนเดียวนะ  ถ้าพาร์ทไปด้วยระตีก็อายเพื่อนๆ แย่สิคะ เดี๋ยวเค้าก็หาว่ามีคนมาคุม”

“ไม่ได้คุมซะหน่อย   ผมก็แค่....ไม่อยากห่างระตีต่างหาก”   ผมดึงระตีขึ้นมากอด  ระตีจับแก้มผมสองข้างไล้นิ้วบนแก้มเบาๆ

“ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะค่ะ  น๊ะ  น๊ะ  พาร์ทไม่เชื่อระตีเหรอคะ   สัญญาเลยจะไม่มองคนอื่นเด็ดขาด  นะคะ  น๊ะ น๊ะ”  ระตีออดอ้อน

เบียดร่างระหงส์เสียดสีกับร่างกายผม ไฟในตัวค่อยๆ คุกรุ่น มือเรียวไล้เบาๆ บนแผงอกผม ก่อนจะทำปูไต่   ที่ไต่จนมาถึงริมฝีปากผม

นิ้วเรียวเขี่ยเล่นอย่างเบามือ 

“ให้ระตีไปนะคะ   ไม่กี่วันก็กลับแล้ว  นะ  นะ นะ   นะคะคนดี”  ระตีว่า  แล้วแตะจูบ รอบๆ ริมฝีปากผมอย่างเย้ายวน  แต่กลับไม่ยอมแตะมันที่ปากผม

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างเผลอไผล มองริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีสดมันวาว  เผยอเล็กๆ  เอื้อมมือนวดเฟ้นสะโพกผายของอีกฝ่าย

“นะคะพาร์ท”  ได้ยินแค่นั้น  ผมก็เผลอฉกริมฝีปากบนปากสวยได้รูป  และก็ทำอะไร ๆ  เพื่อดับความรุ่มร้อนที่คุกรุ่นจนเกือบทำผมหมอดไหม้

และสุดท้ายก็ตัดสินใจไปที่เชียงใหม่  กลุ่มเพื่อนที่ว่าน่าจะมีแค่คนเดียว คือ  “นายอาทิตย์”  อดีตคนรักเก่าของระตี   ที่สองวันมานี่

ดูทั้งคู่จะมีความสุขจนน่าใจหาย  ราวกับเป็นคู่รักกัน  ลืม~ผมไปแล้วรึไง    สุดท้ายก็ต้องกลับมากรุงเทพฯ  เพราะทำใจไม่ได้

ไม่อยากคิดให้ร้ายแฟนตัวเอง  แต่นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้  เพราะได้ข่าวว่านายอาทิตย์กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ

เพื่อเปิดตลาดนักร้องต่างประเทศ  ....คนเราทำผิดได้   .......ผมให้อภัยได้  และยอมได้.......แค่ครั้งเดียว 

หลังจบการทบทวนเรื่องราวต่างๆ มากมาย  ผมตัดสินใจจะแกล้งทำเป็นไม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น  ผมจะให้อภัยระตี  ผมรักเธอ

และอยากใช้ชีวิตกับระตี  อยากให้เราเดินไปด้วยกัน  อยากเห็นระตีสวมผ้ากันเปื้อนทำกับข้าวให้ลูกๆ ผม 

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่  เมื่อตัดสินใจตามนั้น   แต่ทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกเหงาได้ขนาดนี้นะ   ความมืด กับ ความเหงา

ทำให้ผมเศร้าขนาดนี้เลยเหรอ   รู้สึกเหมือนตัวผม......ไม่มีใครมารัก   อยากได้ใครสักคน ที่ทำให้ผมอบอุ่นบ้าง




ผมทิ้งตัวนอนในที่สุด   กระชับแขนที่ไอ้ตัวเล็กทับอยู่ให้แน่นขึ้นอีก   เพื่อให้ผมได้สัมผัสอบอุ่นจากน้องบ้าง  ก่อนจะกระซิบเสียงเบา

“.ขอกอดหน่อยนะ .............”   ผมว่า  กดจมูกลงแก้มเนียนนวลนั่น    แล้วก็ตกใจที่เผลอหอม  อาจจะแค่เพราะเอ็นดูเหมือนน้องผมคิดอย่างนั้น

“ถ้าไม่พอใจ......ผลักพี่ได้เลยนะ”  ผมกระซิบด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม   แอบหัวเราะในความเจ้าเล่ห์ของตัว

ก่อนจะหันไปดึงไอ้ตัวเล็กมากอดไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง      ..............   จนสุดท้ายผมก็หลับไป

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 22-07-2012 05:35:39
ปัตกับพาร์ท อืม น่าสนใจ

ขาดความรักทั้งคู่ น่าจะเติมกันได้ดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-07-2012 08:09:48
อ่านสองตอนแรกทัน มาวันนี้เห็นไปแปดตอนแล้ว ตกใจเลย :a5:
น้องปัตกับครอบครัวก็แฮปปี้แล้ว ต่อมาคงเป็นเรื่องพี่พาร์ทนี่แหละเนอะ
ต่างคนต่างเหงา ถ้าได้อยู่ด้วยกัน ช่วยกันเติมเต็มก็น่าจะดีไม่น้อย :o8:
กดบวกพร้อมรอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-07-2012 09:09:58
กินเด็กแน่แท้แล้ว 555555555555


น้องเป็นเด็กน่ารักมากเลย
ส่วนตาแก่จะทำอะไรก็ไปเคลียร์กับคนของตัวก่อนล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-07-2012 10:04:12
ลุงไปเคลียร์คนของลุงด้วยนะ o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 22-07-2012 10:21:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 22-07-2012 11:08:39
ขอบคุณค่าที่ิติดตาม  ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นนะคะ

ปกติ...ไม่ค่อยมีใครเม้นเท่าไหร่

แต่อยากแต่ง  (ฮาาาาาาา)

อยากบอกว่า  คอมเม้นอ่ะ เป็นกำลังใจดี ๆ ของ ป้า(แทนตัวเอง) เลยแหล่ะ คิคิ

ว่าแต่ทำไม.....พระเอกเรากลายเป็นลุงไปแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 22-07-2012 11:24:57
ระตีเค้าจะยังเหลียวแลพี่พาร์ทมั้ยเนี่ย ?

ติดตามตอนต่อไปครับ

 :bye2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-07-2012 12:32:47
พี่พาร์ทยังมีระตีอยู่ ถ้าเกิดมาทำให้น้องปัตรู้สึกผูกพันมันจะไม่ดีนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-07-2012 13:12:33
ดีใจกับปัดจริงๆ ที่ปัดมีครอบครัวที่เต็มบริบูรณ์แล้ว ปัดมี(ได้)พ่อที่รักปัดมาแล้ว
ปัดเป็นเด็กจิตใจดี แทนที่จะแปรความน้อยใจเป็นความโกรธ หรือเรียกร้องความสนใจในทางลบ
แต่ปัดใช้ใจ ใช้รักเข้าต่อตั้ง ปัดเปิดใจให้พ่อก่อน เปิดใจรับ เปิดใจรักพ่อก่อน
"...ให้ท่านท่านจักให้     ตอบสนอง
นบท่านท่านจักปอง       นอบไหว้
รักท่านท่านควรครอง      ความรัก เรานา
.............ฯ.........................................."
และปัดทำหน้าที่ของลูกที่ดีให้เป็นที่ประจักษ์ ปัดจึงได้รับสิ่งดีๆเข้ามาในตอนนี้
คนเรานี่พอจังหวะจะโชคดี ก็มีแต่สิ่งดีๆวิ่งมาหาเนาะ
ปัด ได้พ่อที่รักปัด ปัดสอบติดมหาวิทยาลัยที่หวัง และ
กำลังจะได้ เนื้อคู่" ด้วย (รึเปล่า)



 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 22-07-2012 14:48:09
พาร์ทน่ารักอ่ะ มีแอบหอมแก้มกันด้วย  :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-07-2012 15:18:58

เบื่อชะนีเจ้าชู้ -_- แต่ก็ขอบใจในความเจ้าชู้ของหล่อนนะย่ะ
ที่ทำให้น้องปัตและพี่พาร์ทเจอกัน ฮิ้ววว
ตอนแรกเปิดเรื่องมา นึกว่าชีวตน้องปัตจะดราม่ากว่านี้
แต่ก็ดีแล้วละค่ะ ที่มันไม่แย่
อ่านแล้วรู้สึกได้ถึง พรมหมลิตบันดาลชักพา..55555
สาทู๊!! ขอให้พี่พาร์ทหลงเสน่ห์น้องปัตไวไวเถ๊อออะ

 รออ่านต่อจ้า 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: อ้ายหมี :) ที่ 22-07-2012 17:24:54
น้องปัตน่ารักมาก > <;
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 22-07-2012 21:50:20
ลุงจะทำอะไรก็คิดถึงใจเด็กมันด้วยนะ เอาตัวเองให้เคลียร์ๆก่อน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-07-2012 22:04:10
พี่พาร์ทไวเกินนะ อยู่ดีๆมาหอมแก้มน้อง
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-07-2012 23:51:12
คนขาดมาเจอกัน แบบนี้ก็เติมเต็มกันได้สินะ

คนเรานะถ้าได้ลองนอกใจไปแล้วครั้งนึง มันก็จะมีครั้งต่อ ๆ ไปตามมา ถามตัวเองว่าต่อไปนี้จะไว้ใจแฟนตัวเองได้ทุกครั้งเลยหรือ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 8 คืนแรก P.2 DT.22/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 23-07-2012 00:14:07
เลิกกับรตีเหอะๆปล่อยให้ไปกับแฟนเก่าของเธอ
แล้วมาคบกับปัตดีกว่าๆสองที่ขาดจะเติมเต็มกันได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 DT.25/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-07-2012 12:34:15
บทที่ 9


ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่เพราะเสียงท้องประท้วงดังโครกคราก  ก็ไอ้กลิ่นหอมที่ลอยมากระทบจมูกผมนี่สิมันอะไรกัน

 

ผมจำต้องลืมตาตื่นทั้งที่ความจริงยังอยากจะนอนใจแทบขาด  เสียแต่ขัดไอ้กระเพาะที่ร้องโครกครากเสียงดังนี่ไม่ไหว

 

กลิ่นหอมกลุ่นของอาหาร  หอม~ จนต้องเผลอกลืนน้ำลาย ไปหลายเอื๊อก   ข้างกายไอ้ตัวดีไม่อยู่แล้ว ....  น่าจะแอบกลับไป

 

แต่อีกใจก็นึกแปลกใจ  ก็ผมบอกว่าจะไปส่งนี่นา   ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านั้นขาทั้งสองข้างก็พาผมเดินมาหยุดที่ห้องครัว

 

ภาพที่เห็นทำให้ความอยากอาหารเมื่อสักครู่ละลายหายไปเลย   เหลือแต่เพียงรอยยิ้มที่ไม่รู้ว่าริมฝีปากที่กำลังฉีกยิ้มกว้างสักเพียงไหน

 

ภาพที่เคยจินตนาการไว้นั่นกับตอนนี้ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า   ผ้ากันเปื้อนที่แขวนไว้เป็นแรมเดือนไม่เคยได้ใช้งานสักที 

 

ส่วนใหญ่คงเอาไว้แค่แขวประดับห้อง  เครื่องครัวต่างๆ ที่เคยวางอยู่กับที่นิ่งไม่ขยับ  แต่ตอนนี่กำลังถูกใช้งานอย่างคล่องมือของคนตรงหน้า

 

นิ้วเรียวหยิบจับหยิบจับวัตถุดิบใส่กระทะ ตามด้วยเครื่องปรุง  หยิบตะหลิวกวัดแกว่งไม่กี่ครั้งกับข้าวหน้าตาน่ากินก็ถูกเสิร์ฟอยุ่ในจาน

 

“ติ๊ง..”   เสียงหม้อหุงข้างไฟฟ้าที่ผมแทบไม่เคยแตะ พออีกฝ่ายหันมาเปิดฝาหม้อเช็คดูอีกรอบว่าข้าวสุกได้ที่หรือไม่  ก่อนสายตาที่ว่าจะเบนมองมาผม

 

“อ้าวพี่พาร์ทตื่นแล้วเหรอครับ  ...หิวรึเปล่า?  ปัตทำกับข้าวไว้ให้ไม่รู้ว่าถูกใจรึเปล่า”  ไอ้ตัวป่วนหันมายิ้มร่า   ผมสะดุ้งนิด ๆ

 

พยักหน้าเหรอหรา   เพราะเผลอยืนจ้องนานไปหน่อย ที่สำคัญไอ้รอยยิ้มที่มุมปากของตัวเองนี่มันอะไรกัน  เผลอยิ้มตั้งแต่เมื่อไหร่

 

“เอ่อ  ...อืม ตื่นแล้ว  แล้วปัตตื่นนานรึยังหล่ะ” 

 

“สักพักแล้วฮะ  ว่าแต่จะทานข้าวเลยรึเปล่า”

 

“พี่ยังไม่แปรงฟันเลย  ว่าแต่เราไปเอาข้าวของที่ไหนมาทำกับข้าวกัน   พี่ไม่ได้ซื้อของสดติดห้องไว้เลยนี่”

 

 “พอดีเมื่อเช้าผมตื่นเร็วเลยลองๆ ไปเดินหาของกินข้างล่างมาฮะ  แถวๆนี้มีตลาดเช้าด้วยนะฮะ มีพวกผัก ของสดขาย ปัตเลยแวะซื้อมา

 

อ้อปัตซื้อน้ำเต้าหู้มาเผื่อด้วย  ไม่รู้พี่พาร์ทชอบกินรึเปล่า?”  ไอ้ตัวเล็กว่า  ผมอมยิ้มเล็ก ๆ  เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมน้องสาวของปัต

 

ถึงรักปัตมาก   ก็เพราะไอ้ความใส่ใจคนอื่นอย่างนี้สินะ  .....ถึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้าง

 

“อืม.. กินได้หมดแหล่ะ  เดี๋ยวพี่แปรงฟันก่อนจะมากิน”

 

“ครับ เดี๋ยวปัตตั้งโต๊ะรอฮะ”       ผมพยักหน้าลวกๆ  ก่อนจะรีบเดินเข้าล้างหน้าแปรงฟัน เลยอาบน้ำด้วยเลยทีเดียว   

 

ไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ คงตั้งแต่แม่ไม่อยู่  เมื่อก่อนทุกวันผมจะเห็นแผ่นหลังบางๆ ของใครบางคน

 

ที่ก้มหน้าก้มตาทำกับข้าวให้ผมกับพ่ออย่างมีความสุข   ผมแอบเห็นรอยยิ้มที่ใบหน้าสวยๆ ของแม่ทุกวัน   รอยยิ้นนั่นยิ่งกว้างมากขึ้นไปอีก

 

เมื่อได้เห็นผลงานของผมกับพ่อที่ทานจนเกลี้ยง  ไม่เหลือแม้แต่เศษซากให้เขี่ยทิ้ง     ...ตั้งแต่แม่เสียไปบ้านทั้งหลังก็เงียบเหงาเหลือเกิน

 

มีเพียงแค่ผมกับพ่ออยู่กันสองคน ตอนนั้นผมแค่ 10 ขวบ  เบื้องหลังที่ปราศจากแม่........ทุกอย่างดูไร้ตัวตน  แม้แต่พ่อก็เปลี่ยนไป

 

พ่อเสียใจมาก    เสียใจ.....จนมันเลยคำว่า “สูญเสีย”    พ่อเหมือนคนที่ตายไปแล้วด้วยซ้ำ พ่อไม่ได้ดื่มเหล้า  ไม่ได้เสเพล  และไม่ได้มีผู้หญิงเข้ามาเกลือกกลั้ว

 

พ่อเอาแต่นั่งเหม่อ  ....  น้ำใสๆ ที่รินอาบสองแก้ม ทำให้ใจผมรู้สึกเศร้าไปด้วย ทั้งๆ ที่ต่อหน้าผมพ่อจะยิ้ม จะหัวเราะ พยายาม

 

ทำตัวให้ปกติ  พ่อยังไปทำงาน  ยังใช้ชีวิตตามเดิม  แต่เวลาที่อยู่คนเดียว  ดวงตาของพ่อ....ปราศจากความสุขที่เคยมี 

 

เหม่อมองไปยังปลายขอบฟ้า ปากก็พร่ำรำพันถึงแต่แม่ที่จากไปแล้ว  จากวัน....เป็นคืน     จากคืน.....เป็นเดือน 

 

จากเดือน......เป็นหลายเดือน     ผมรู้สึกว่า..........เวลา...............ที่ผ่านไปมันช่างเชื่องช้า

 

แม้แต่ผมเอง.....ก็ทำได้แค่นอนกอดหมอนร้องไห้เงียบๆ  ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปเรื่อย    จนสุดท้ายก็ไม่ไหว

 

วันหนึ่งขณะที่พ่อกำลังปล่อยตัวเองให้จมจ่อมกับความรู้สึกเจ็บช้ำ ดังเดิมทุกวัน  น้ำใสๆ ที่ยังริมอาบแก้ม  เสียงพร่ำชื่อของแม่

 

น่าสงสารเหลือเกิน  .....พ่อเจ็บ จนเหมือนจะทนไม่ไหว  ผมก็อยากให้พ่อรู้ว่าผมก็เจ็บ......ไม่แตกต่าง  แต่ผมไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง

 

ถ้าวันพรุ่งนี้.....ผมต้องเสียพ่อไปอีกคน  ผมค่อยสาวเท้าก้าวไปเรื่อย  ๆ  จนมาหยุดด้านหลังพ่อ   เท่าที่สมองเล็กๆของผมจะคิดได้

 

ผมยื่นแขนเล็กๆ ของตัวเอง โอบกอดพ่อจากด้านหลัง ปล่อยน้ำตาที่เกินจะกั้นให้มันรินไหล  เลือกที่จะซุกหน้ากับแผ่นหลังของพ่อ

 

พ่อสะดุ้งเล็กน้อย  ราวกับคาดไม่ถึง ว่าผมจะมาเจอพ่อในสภาพแบบนี้  ผมอยากบอกพ่อว่าผมเห็นทุกวัน.....เห็นพ่อร้องไห้

 

“พ..พ่อฮะ....พ่อรักพาร์ทมั้ยฮะ?”  พ่อยื่นมือมาด้านหลัง  ลูบลงที่หัวทุยๆ ของผม  ที่ตอนนี้กำลังสะอึกสะอื้นเต็มที่

 

พ่อเบี่ยงตัวหันมาหาผมแล้วดึงผมไปกอดแน่น ๆ ผมโอบกอดตอบด้วยแรงทั้งหมดที่มี  ก่อนที่พ่อจะกระซิบบอกผมเสียงสั่น 

 

“รักสิลูก พ่อรักพาร์ทที่สุดในโลกเลยนะลูก  ตอนนี้เรามีกันแค่สองคนแล้วนะ  แม่เค้า.....แม่เค้า...”   พ่อพูดได้แค่นั้น 

 

มันเหมือนมีอะไรมากระจุกที่หลอดลมของพ่อ  พ่อกลืนน้ำลายหนักๆ  ค่อยๆ ดันตัวผมออกเราทั้งคู่สบตากันนิ่ง ผมกัดปากตัวเองแน่น ๆ

 

รอฟังพ่อ  ขณะที่พ่อก็เม้มปากตัวเองแน่นๆ  แน่นเสียจนผมกลัวว่าริมฝีปากหนาๆ นั่น จะมีแผล  พ่อหลับตาลงครั้งหนึ่ง  คิ้วขมวดมุ่น

 

ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วผ่อนออกมา  ผมมองทุกอากัปกิริยาของพ่อ  ยื่นมือเล็ก ๆ ไปเช็คหยาดน้ำตาที่พร่างพราวเต็มใบหน้าของพ่อ

 

พ่อยิ้มนิดนึง  ลูบหัวผมกลับเบาๆ 

 

“แม่เค้าไปอยู่บนสวรรค์แล้วนะลูก  เราจะไม่ได้เจอแม่อีกแล้วนะ”  พ่อว่าเสียงเศร้า 

 

“พาร์ทรู้ฮะ พ่อบอกแล้วนี่ฮะว่าแม่อยู่บนโน่น” ผมชี้นิ้วอวบๆ ของตัวเองขึ้นไปบนท้องฟ้า   พ่อเหลือบมองตามมือผม

 

“ ถ้าพาร์ทคิดถึงแม่พาร์ทจะมองไปที่ท้องฟ้าทุกวันเลยฮะ  แค่นี้เราสามคนก็ได้อยู่ด้วยกันทุกวันแล้ว ” ผมหันมากอดพ่อแน่น

 

“ใช่สินะ  ทำไมพ่อลืมไปได้ยังไงกัน แม่เค้าก็อยู่กับเราทุกวัน  อยู่ตรงนี้ไงที่หัวใจ....พ่อจะเก็บแม่ไว้ในความทรงจำ

 

ขอโทษนะพาร์ทที่พ่อคนนี้อ่อนแอ ต่อไปนี้พ่อสัญญาน่ะ  ว่าพ่อจะกลับมาเป็นพ่อคนเดิมของน้องพาร์ท” 

 

“ฮะ  พาร์ทเชื่อว่าพ่อทำได้  พ่ออย่าร้องไห้นะฮะ  พาร์ทรักพ่อ พ่อของพาร์ทเก่งที่สุดเลยฮะ”   

 

 

.

.

 

 

ภาพเก่าๆ ค่อยลางเลือนไป    ก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าที่ยังขวักไขว่วุ่นวายกับการทำอาหารเช้า

 

อาหารเช้าของผมที่ปกติอย่างมากก็เป็นแค่กาแฟกับแซนวิช  แต่วันนี้จะกลายเป็นข้าวหอมกรุ่น

 

ยั่วน้ำลายมากกว่าเป็นไหนๆ  ผมตักชิมคำแรกหลังจากที่นั่งลงบนโต๊ะอาหาร  มีคนทำกับข้าวนั่งจ้องตาเป็นมัน ราวกับคอยลุ้นว่า

 

อาหารจะอร่อยถูกใจผมรึเปล่า   ผมได้แต่นั่งอมยิ้มกับท่าทางลุ้น ๆ นั่น    ค่อยๆ เคี้ยวอาหารในปากต่อก่อนจะกลืนมันลงคอในที่สุด

 

คนทำยังนั่งเม้มปากแน่น ริมฝีปากที่แดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงขึ้นไปอีก  เห็นท่าทางอย่างนั้นแล้วทำให้นึกอยากจะแกล้งขึ้นมาซะอย่างงั้น

 

“อืม....”     ผมว่าแค่นั้น   หยิบแก้วน้ำขึ้นจิบบางๆ  คนตรงหน้าทำท่าอยากรู้ใจจะขาดกับผลลัพธ์ที่จะออกมา แต่ผมยังคงยื้อเวลาไม่ยอมบอก 

 

“ว่าไงฮะ  อร่อยมั้ย?” ดูเหมือนจะทนรอคำตอบของผมไม่ไหว  ถึงกับต้องเอ่ยปากถามออกมาเอง  ผมกระตุกยิ้มที่มุมปาก

 

 

ก่อนจะทำหน้าทำตาครุ่นคิดอยู่นิดหน่อย   ไอ้ตัวเล็กกระสับกระส่ายมากไปอีก  จนผมกลั้นยิ้มไม่ไหว

 

“อืม...อร่อย”   ผมตอบ  แล้วยักคิ้วกวนๆ ให้ไอ้ตัวเล็กไปสองที   เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกก้อนจะยิ้มหน้าแป้นมาให้ผม

 

“ผมว่าแล้ว....ต้องอร่อย”  ไอ้ตัวเล็กยักคิ้วตอบ  ผมถึงกับฮาแตก โบกหัวทุยๆ นั่นไปทีหนึ่งเบาๆ  มันก็หัวเราะขำ ๆ

 

“ทำเป็นพูดดี  ทีเมื่อกี้หล่ะก็น่ะ    ทำหน้าซะ  ....หึหึ  ที่แท้ก็ไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันหล่ะสิ”  ผมตักอาหารทานต่อ

 

“ก็น่ะ....ดูพี่พาร์ทำหน้าสิ   เสียself หมดเลยอ่ะ   แต่ผมก็มั่นใจอยู่แล้วหล่ะ ว่าอร่อย  ”  ไอ้ตัวเล็กยกหางตัวเองเป็นการใหญ่

 

จากนั้นเราพูดคุยเรื่อยเปื่อยหลังทานข้าว ...

 

“เปิดเรียนวันไหนหล่ะ?”  ผมเปิดประเด็น

 

“จันทร์หน้าครับ”  ปัตตอบ

 

“อืมดี   แสดงว่ายังมีเวลาว่างเกือบอาทิตย์สิเรา   แล้วทำไมรีบขึ้นมานักหล่ะ”

 

“ก็ผมยังไม่เคยอยู่กรุงเทพมาก่อนอ่ะพี่  เลยไม่คุ้นที่คุ้นทางเท่าไหร่  นี่ก็กะว่าจะมาสำรวจเส้นทางด้วย”

 

“พี่ว่าไม่ต้องสำรวจมากหรอก  อยู่ไปไม่นานมันก็ชินเองแหล่ะ  แถมปี 1อ่ะตัวเนี่ยแทบจะติดกับเพื่อนเลยเหอะ   ไม่มีทางหลงหรอก เชื่อพี่

 

แต่พี่ว่าไอ้อาทิตย์ที่ว่างเนี่ยเราอยู่กับพี่ไปก่อนดีกว่า  ห้องเล็กยังว่างเดี๋ยวพี่บอกแม่บ้านให้ทำความสะอาดให้  ไปทดลองงานกันก่อนดีกว่า

 

พอดีอันนี้มันโปรเจคด่วนพี่อยากให้เรามาลองทำก่อน  ถ้าให้เราไปกลับทุกวัน ท่าจะเหนื่อย รถติดเอาเรื่องเลย  เราว่าไง? โอเคเปล่า?”

 

“อ้าว ...ไหนว่าเป็นฟรีแลน ได้ไงพี่?”

 

“เห้ยได้ดิ  ได้อยู่แล้ว  แต่ก่อนเอ็งจะฟรีแลนนี่ไม่คิดจะไปศึกษางานก่อนรึไงว่ะ ”

 

“อ้อ  ฮ่าๆ  ครับๆ   แต่ผมอยากไปอยู่หออ่ะ  ยังไงผมไปกลับเองก็ได้นะพี่”  ไอ้ตัวเล็กเกาหัวตัวเองแก้เก้อ  แล้วหันมายิ้มเขินๆให้ผม

 

“อืม  ก็ตามใจนะ อยากลองไปกลับก่อนก็ได้ ถ้าเปลี่ยนใจจะมาพักกับพี่ก็ได้เออวันนี้พี่หยุดเราจะกลับหอตอนไหนหล่ะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

 

“เอ่อ ”  น้องมันว่า  สีหน้าท่าทางเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด

 

“เห้ย!  ถึงขนาดมานอนบ้านพี่แล้วเนี่ย เลิกเกรงใจได้แล้วโว้ย  เอ็งนี่น้า  ว่าแต่จะกลับกี่โมง”

 

“แล้วแต่พี่เลยฮะ”  ผมก้มมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบ ๆ จะเก้าโมงแล้ว

 

“อืม งั้นกลับซักบ่ายๆ แล้วกันนะ  พี่ขอไปนอนต่ออีกหน่อยอ่ะ  ยังง่วงอยู่เลย”

 

“ปัตจะทำอะไรก่อนก็ได้  นั่นคอมพี่ถ้าเบื่อๆ ก็เล่นเน็ตก้อได้   พี่ขอตัวก่อนหล่ะ”

 

“ฮะ   ขอบคุณครับ”   แล้วก็ตรงดิ่งเข้าห้องนอนไปเลย   ง่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแถมทานข้าวอิ่มๆ อย่างนี้ หนังตาปิดลงโดยไม่มีการบอกล่วงหน้า

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 25-07-2012 12:58:03
พี่พาร์ทก็เอาปัตทำเมียซ่ะสิ
เป็นแม่ศรีเรื่องสักขาดนี้ ปล่อยไว้มีหมาแย่งไป
จะมาเสียดายที่หลังไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-07-2012 17:08:52
แม่ศรีเรือนจริงๆ :o8:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 25-07-2012 17:11:32
จัดการรวบหัวรวบหน้า เย้ยชะนีไปเลย ห้าๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 25-07-2012 18:36:56

แหม พี่พาร์ท เห็นม่ะ ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนมันผิดกัน
555 เพราะงั้นนะ เลิกเศร้าเสียใจเพราะชะนี
แล้วมาจับน้องมาเป็นแฟนเลยเหอะ
รับรองคุ้มเสยยิ่งกว่าคุ้ม

ชอบจ้า  รออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-07-2012 18:57:56
เพียบพร้อม ปล่อยไปไม่ได้นะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-07-2012 19:06:55
อย่าให้หลุดมือนะพี่พาร์ท

 :m26:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 25-07-2012 20:17:01
รอตอนต่อไป

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-07-2012 20:27:21
พี่พาร์ทน่าจะเริ่มหลงเสน่ห์น้องปัดแล้วล่ะ
ก็น้องปัดน่ะเจ้าเสน่ห์ออก ทั้งเสน่ห์ปลายจวัก ทั้งใส่ใจคนรอบข้าง
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-07-2012 16:22:49
น้องปัตมีเสน่ห์ครบอย่างนี้ พี่พาร์ทคงจะหลงสักวันล่ะ

+1 +เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 9 P.3 25/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-07-2012 23:16:00
พี่พาร์ทอยากกินข้าวเช้าทุกวันป่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-07-2012 10:37:38
บทที่ 10

“เฮ้อออออ~” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  นึกว่าจะทำอะไรตอบแทนพี่พาร์ทไม่ได้ซะแล้ว  จริงๆ ก็แอบเกรงใจพี่แกเหมือน  ไม่รู้ทำไมถึงไว้ใจคนแปลกหน้าอย่างผมได้
ไม่กลัวผมจะยกเค้าบ้างรึไงนะ   ....  ผมมองตามพี่พาร์ทที่เดินตรงดิ่งไปยังห้องนอน  แล้วทิ้งตัวลงกับเตียงก่อนจะผลอยหลับไป  แอร์เย็นเฉียบค่อย ๆ แผ่กระจายความเย็นออกมาจากห้องนอน
ผมเดินไปปิดประตูที่เจ้าของห้องยังไม่ได้ปิด  ก่อนจะเดินออกมาที่ระเบียงต่อสายหารูมเมทตัวเองทันที 
“ตื๊ด~  ตื๊ด~  ”  ผมต่อสายไม่นาน เสียรอสายเพลงพี่บี้ก็ร้องวนไปวนมา 3 รอบแล้ว   (นี่ไม่คิดจะรับโทรศัพท์กุเลยใช่มั้ยเนี่ย ==)
“ฮัลโหล  ฮาววววววววว~ ใครอ่าาาาา”  ในที่สุดก็รับซะที   แต่มันมาพร้อมเสียงหาวที่ยาวเหยียด   เออน่ะพึ่งเก้าโมงก็ลืมไปว่ามันน่าจะยังไม่ตื่น แต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ปลุกมันแล้วก็ถามเลยแล้วกัน
“กุเอง..ปัต” 
“มีไร...ปลุกกุแต่เช้าเลยมึง ฮาววววววววว~”  มันหาวเสียงยาวเหยียดอีกรอบ
“อยู่หอมั้ย  กุว่าจะไปวันนี้”
“อือ  อยู่นี่แหล่ะมาถึงโทรบอกกุแล้วกัน  ตึก 4 ห้อง441  ฮาววววววววววววว~  แค่นี้แหล่ะ ง่วง  ” 
“ด...เดี๋ยว  เบียร์   ...เบียร์  ....ไอ้เบียร์” 
“ตืด~  ตืด~”    และแล้วก็โดนมันกดวางสายดื้อ ๆ  เห้อ~  เอากับมันสิ  กะจะด่าเรื่องเมื่อวานสักหน่อย  แต่แม่งชิ่งวางสายหลับไปแล้วครับ

หลังจากโทรหาเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ผมก็กลับมานั่งจุ้มปุกอยู่ที่โซฟา  เปิดทีวีเสียงเบา เพื่อไม่ให้รบกวนคนที่นอนหลับ
ดูไปสักพักก็รู้สึกเบื่อ  เดินไปเดินมาทั่วห้องล้างจานก็แล้ว ถูบ้านก็แล้ว  ก็ง่วงขึ้นมาตะหงิด ๆ  เลยเดินไปนอนที่โซฟา 
แต่ด้วยอากาศที่ร้อนจนรู้สึกหงุดหงิด จะเปิดแอร์รึก็เกรงใจ    แค่มานอนค้างบ้านพี่เค้าก็เกรงใจแทบแย่แล้ว 
สุดท้ายก็เลยหาทางออกแบบง่ายๆ ธรรมชาติๆ  ด้วยการถอดเสื้อออกเพื่อผ่อนคลายความร้อน   ในเมื่อเป็นผู้ชายเหมือนกัน
คงไม่มีอะไรทำให้ผมเสียหาย หรือน่าเกลียดหรอกใช่มั้ย  เมื่อคิดได้อย่างนั้น  ผมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวทันที 
แค่ปิดเปลือกตา  ทุกๆอย่าง ดูจะค่อย ๆ เลือนหายไปทันที   อาจจะเพราะความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางเมื่อวานนี้

.
.
 
.
หลังจากหลับไปเต็มตื่นแล้ว  ยังพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงอีกสองสามรอบกว่าจะหยัดกายลุกขึ้นนั่ง แอร์เย็นฉ่ำกระทบผิวเย็นชื่นใจ
ผมกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง เพื่อปรับสภาพสายตาให้มองเห็นชัดขึ้น  บิดขี้เกียจอีกทีสุดท้ายก็ดันตัวลุกขึ้น
ตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าให้สดชื่นขึ้นอีกหน่อย เดินกลับมาในห้องพอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่เหนือประตูก็เห็นว่า
ตัวเองหลับไปนานแค่ไหน   บ่าย 3 เข็มสั้นของนาฬิกายังทำหน้าที่ของมันคือค่อย ๆขยับ  ผิดกับเข็มยาวที่เดินวุ่นวายไม่รู้จักหยุดหย่อน  เห้อ~หลับไปนานเลยแฮะ  ผมสะบัดหัวไล่ความมึนงงอีกเล็กน้อย  ก่อนจะไปหาไอ้ตัวเล็กเตรียมตัวจะไปส่ง
“เห้ย!!”  ผมอุทานเบาๆ  จริงๆ แอบตกใจ เลยกระโดดถอยหลังกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะดันหลังตัวเองชิดผนัง ยกมือขึ้นแนบอก
รู้สึกได้ถึงความเร็วและถี่ของการเต้นของหัวใจ  ส่วนมืออีกข้างยังแปะไว้ที่ผนัง  เริ่มสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผ่อนออกมายาว
“หนึ่ง สอง สาม...หนึ่ง สอง สาม   ใจเย็นๆ กุตกใจทำไมว่ะเนี่ย?”    ผมถามตัวเองอย่างสงสัย  แล้วยกมือทั้งสองข้างตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติอยู่สองสามที

“น้องมันก็ผู้ชาย  กุก็ผู้ชาย  ผู้ชายนอนถอดเสื้อในห้องผู้ชาย มึงจะให้เกิดอะไรขึ้นว่ะ?   โว๊ะ-กุบ้าป่ะเนี่ยอยู่ดีๆ ก็ตกใจ”
หลังจากคิดทบทวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะตกใจ  ที่สำคัญทำไมกุต้องซ่อนตัวในห้องของตัวเองด้วยหล่ะเนี่ย
เลยตัดสินใจเดินออกมาค่อยๆ เดิน  พลางสูดหายใจเข้าปอดช้าๆ เมื่อรู้สึกว่า หัวใจมันยังเต้นถี่ใจหน้าใจหาย  ผมมาหยุดยืนตรงหน้า

ไอ้ตัวเล็กที่ตอนนี้ ถอดเสื้อนอนหงายอยู่บนโซฟา  โชว์ความขาววิ๊งงงงง   ที่ผมไม่ค่อยเจอในผู้ชายสักเท่าไหร่ เลยอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตาสำรวจจนทั่วไป
คิ้วบางรับกับผมสีน้ำตาลอ่อนที่ดูนุ่มนิ่มจนน่าสัมผัส  จมูกโด่งรั้นได้รูปเข้ากันได้ดีกับริมฝีปากบางแดงจัด  มีเหงื่อซึมน้อยๆตามไรผม 
 พึ่งสังเกตุ ...ตัวบางๆ ที่เห็นตอนยังใส่เสื้อ...พอถอดแล้วก็มีเนื้อมีหนังกว่าที่คิดแฮะ  ผมมองหน้าอกที่กระเพื่อมน้อยๆ ตามแรง
หายใจที่สม่ำเสมอ แต่เพราะเม็ดสีชมพูที่ประดับอยู่นั่น  ทำเอาผมหัวใจเต้นแรงกว่าเดิม  ......เป็นอะไรว่ะ   จึงรีบเบนสายตาหนี
เอวบางคอดนั่นอีก.....  จนเผลอกลืนน้ำลายลงคอ.....  เท่านั้นแหล่ะตกใจกว่าเดิมอีก  ดวงตาเบิกกว้าง ....เชี่ยแล้ว
“กุจะกลืนน้ำลายทำไมว่ะ?”  ผมยืนแข็งเป็นหินอยู่กับที่  เมื่อหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้  ไม่ได้ๆ......กลับๆ   กลับเข้าห้องดีกว่า
สุดท้ายก็ถอยหลังกลับเข้าไปในห้องปิดประตูลงกลอน  (อ้าว!!  ไม่มีกลอน งั้นล็อคลูกบิดแทนแล้วกัน ==’)  ทิ้งตัวนั่งบนเตียง
ทาบมือไว้ที่อกตัวเองอีกครั้ง แรงเต้นของหัวใจไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย  ผมเดินพล่านทั่วทั้งห้อง  เป็นห่าอะไรไม่รู้....รู้แต่ว่า “หงุดหงิด”  ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะไปปลุกไอ้ตัวเล็กให้ตื่นเพื่อไปส่งมันแท้ๆ  ตอนนี้แค่ให้ยื่นมือไปแตะน้องมันในสภาพนั้น
......แค่คิด......มือมันก็สั่นอย่างห้ามไม่ได้   (ว่าแต่......กุคิดอะไรอยู่หล่ะเนี่ย   ก็แค่ยื่นมือไปปลุกมันจะอะไรหนักหนา)
หลังจากคิดไปคิดมา  หาสาเหตุไม่ได้ เลยอาบน้ำดับร้อน (ในจิตใจ)   ซึ่งก็ช่วยได้มากครับ  ผมอาบน้ำนานมาก  คงๆ เกือบชั่วโมง
รู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด  ด้านล่างตื่นตัวอย่างน่าประหลาด ...ผมจินตนาการถึงรตีตอนที่เรามีเซ็กกัน นึกถึงสะโพกผาย หน้าอกกลมกลึง
เอวคอด ผิวขาวๆ ร่างระหงส์ที่อยู่ใต้ตัวผม ผมค่อยสอดความแข็งขืนด้านล่างเข้าไปในทางรักของรตี สมองคิด มือก็ทำหน้าที่ของมัน
ลูบไล้ส่วนที่แข็งขืนให้ได้รับการปลดปล่อย 
“อ่า....รตีครับ ... รตี”  มือกับความคิดช่างสอดประสานกัน  ผมกระแทกความแข็งขืนมุ่งเข้าสู่ช่องหวาน  เสียงครางที่ดังกระหึ่ม
“อ๊าาาาาา   พาร์ท  ....พาร์ทค่ะ”
“อืม มมม  .....อ่า~”
“อ๊ะ....อ๊ะ...”
“อื๊ออออออออ  โอววววว  อ๊ะ  อ่า....อืออออออ”
“แรงอีกครับ  พี่”
“แรงอีกฮะ~ พี่พาร์ท  อือออออออ”  ผมสาวมือสุดแรง  พลั๊วะ.......น้ำสีขุ่นทะลักทลาย
“อ่าาาาา ~”  ผมครางเสียงต่ำ กัดปากตัวเองแน่น เพื่อปลดปล่อย

 ก่อนจะหนาซีดเผือด........
.
.
.
.
เมื่อกี้








เสียงที่จินตนาการสุดท้าย...................






ไม่ใช่รตี
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-07-2012 11:28:43
พี่พาร์ทแกหื่นขนาดนี้เลยเหรอ ปัตสงสัยต้องระวังแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 28-07-2012 11:32:43

กรี๊ดดด  พี่พาร์ทขา
แค่เห็นน้องถอดเสื้อถึงกับทนไม่ไหวเลยหรอเนี่ยะ
ต้องไปปลดปล่อยยย 55555
ตอนแรกก็นึกถึงยัยรตีอยู่หรอก แต่ไหงตอนท้ายนึกถึงน้องปัตซะได้ล่ะ
ฮ่าๆ ปัญหาเกิดแล้วละพี่พาร์ทสองขา หุหุ

รออ่านตอนต่อไปจ้าาา
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-07-2012 12:03:21
โอ๊ะโอ..พี่พาร์ท :haun4:
ตายล่ะน้องปัด พี่เขาจิ้นเป็นน้องด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-07-2012 12:21:28
แค่ถอดเสื้อเองนะพี่

เป็นเอามาก :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-07-2012 12:39:43
5555   พระเอกต้อง หื่น  นิสสสสสสสสสสส นึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-07-2012 12:42:38
แค่เห็นต้วยตายังหื่นแตกขนาดนี้  :jul1:

แล้วถ้าได้สัมผัสลูบคลำมีหวัง... :m25:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-07-2012 13:27:40
พี่พาร์ทท่าจะอยู่ไม่เป็นสุขอีกต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 ++แนะนำ++ P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-07-2012 14:20:27
-+++++ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านะคะ++++++
แนะนำให้ลองอ่านดู


มรดกทาส  -----  ดราม่า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32551.60

(เรื่องไม่สั้น)  ยอม....มึงคนเดียวอ่ะ  ---- แอบรักเพื่อน
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.360

มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ-------ภาคต่อจาก ยอม....มึงคนเดียวอ่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31213.120
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-07-2012 14:40:17
กดเลยพี่พาร์ท

 :oo1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 28-07-2012 14:56:08
ไม่รอดๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 28-07-2012 15:30:13
ฮึ๊ยยยย~

เสียงใครอ่ะ

 :pighaun:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 28-07-2012 16:06:51
 :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-07-2012 17:08:07
พี่พาร์ทคะ พี่หื่นมากค่ะ น้องปัตน่าเป็นห่วง โดนพี่พร์ทเอามาจินตนาการปู้ยี่ปู้ยำหมดแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 10 P.3 28/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-07-2012 18:09:43
กร๊ากกกก พี่พาร์ท ท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part I P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-07-2012 00:27:11
บทที่ 11  จิตหลุด

“ปัต!!  ปัต!!  ปัต!! ”    ผมได้ยินเสียงใครบางคนกำลังเรียกชื่อผม เสียงมันช่างเหมือนอยู่ห่างไกลแล้วค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ปัต”  เสียงดังฟังชัด  ที่เหมือนมาตะโกนใกล้ๆ หู   ผมกระพริบตาถี่ ๆ อย่างงัวเงีย....  รู้สึกมึนหัวจนต้องหลับตาลงไปใหม่
“คราบบบบ~”   ผมขานรับเสียงแหบพร่า  พยายามเปิดเปลือกตาสุดความสามารถ ในที่สุดก็ลืมตาสำเร็จ   
ผมเหลือบตามองพี่พาร์ทที่ตอนนี้ยืนอยู่ห่างจากผมสักสองเมตรได้  ด้วยอาการมึนงงได้ที
“ฮะพี่”   
“ใส่เสื้อก่อน แล้วไปล้างหน้าได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง”   ไม่รู้สายตาพี่แกมองไปตรงไหน รู้แต่ไม่ได้มองที่ผม
“ครับ”   ผมส่ายหน้าไปมามองหาเสื้อของตัวเอง  ที่ตอนนี้จำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหน   และเหมือนพี่เค้าจะรำคาญ
เพราะผมหาเสื้อไม่เจอสักทีแกเลยเดินมาที่ผมยื่นมือข้ามหัวผมไป  ผมเงยหน้ามองตามแขนยาวๆ นั่น
ที่เหมือนหยิบอะไรสักอย่าง  ก่อนจะชูมือสูงขึ้นกว่าเดิม  เผยให้เห็นเสื้อยืดสีฟ้าตัวที่ผมใส่ก่อนนอนลอยเด่นเป็นสง่า
อยู่ในมือพี่พาร์ท ผมแหงนหน้ามองตามเสื้อตัวเองจนหน้าขนาดกับเพดาน  เลยพิงหัวลงกับโซฟา  ยังคงมองนิ่ง
ไม่ได้เอื้อมมือไขว่คว้าแต่อย่างใด  ในแต่หัวกับรู้สึกสงสัยว่าพี่พาร์ทกำลังเล่นอะไรอยู่ 
สักพักเสื้อที่ว่าก็ร่วงปุ๊ มาปกคลุมหน้าผม ตามด้วยมือพี่พาร์ทขยี้เบาๆ บนหน้าให้ผมหายใจไม่ออกเล่นๆ
“หึหึ”  ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของคนที่แกล้งผมอยู่  ผมดิ้นขัดขืนเอื้อมมือจะไปดึงแขนพี่พาร์ทให้ปล่อย 
พอแตะโดนมือเท่านั้นแหล่ะ  พี่พาร์ทก็กระชากแขนกลับทันที  ตามมาด้วยเสียงร้องเหมือนคนตกใจ
“เห้ย!! อย่าแตะ”  เหมือนอีกฝ่ายจะหนีไปซะแล้ว  ผมดึงเสื้อที่ปกหน้าตัวเองออก เห็นพี่พาร์ทยืนหน้าหน้าขึ้นสี
อยู่ไกลๆ  ผมมองตามด้วยความงงงวย  ก็พี่พาร์ทเป็นคนมาแกล้ผมเองแท้  ผมหยิบเสื้อขึ้นสวม 
“เป็นไรอ่ะพี่”  เมื่อเห็นว่าพี่พาร์ทยังยืนอยู่ไกลเว่อร์  แถมไม่ยอมมองหน้าผมอีก 
“เปล่า  เอ่อ....”
“ครับ?”
“พี่เป็นโรคแบบว่า....เอ่อ....ถ้าใครแตะตัวตอนไม่รู้ตัวจะตกใจอ่ะ  เมื่อกี้อ่ะพอดี  เอ่อ...พี่ไม่รู้ตัวเลยตกใจ”
“อ่อ  เหรอครับ   ...ว่าแต่..ไอ้โรคแบบนี้มันมีด้วยเหรอพี่?”  ผมนึกสงสัย ก็ตอนขามาจากสนามบิน
ผมก็แตะตัวพี่แกออกบ่อย  โดยที่แกยังไม่ทันรู้ตัวนะ ไม่เห็นแกเป็นไรนี่นา
“แล้วตอนอยู่ที่สนามบิน....พี่”  พูดยังไม่จบประโยคพี่พาร์ทแกก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เออน่า...อย่าถามมาก มันเป็นๆ หายๆ ไม่ค่อยแน่นอน ไปเก็บของได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง ”
“ครับพี่”  ผมเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เก็บข้าวเก็บของเรียบร้อยแล้วออกมาจากห้อง 
เห็นเจ้าของห้องนั่งเอามือลูบอกตัวเองเป็นว่าเล่น  ผมเดินเข้าไปใกล้กำลังจะเอามือแตะตัวพี่พาร์ท
ก็ชะงักกึกนึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวพี่แกตกใจอีก  ไอ้มือที่ลูบๆ อกอยู่นั่นคงเป็นเพราะตกใจยังไม่หาย  กำลังจะอ้าปากเรียก
ก็ต้องชะงักไปอีก เพราะกลัวพี่แกจะตกใจ ผมเลยก้มหน้า ไปกระซิบเรียกแกเสียงเบาๆ ข้างๆ หู
“พี่พาร์ท” 
“เห้ย!!” พี่พาร์ทสะดุ้งเฮือกหันขวับอย่างรวดเร็วมาที่ผม  จมูกและปากเราแตะกันเบาๆ แค่เสี้ยววินาที
“เห้ยยยยยยยยยยยยยยย”  พี่พาร์ทตะโกนเสียงดัง  กระโดดถอยห่างไปอยู่ปลายอีกฟากของโซฟา 
หน้าแดงแปร๊ดดดดดดดดด   ก่อนจะเอามือแตะที่หน้าอกตัวเองทันที   ผม...ที่ตอนแรกก็ตกใจกับอุบัติเหตุเมื่อครู่
แต่พอเห็นอาการพี่พาร์ทแล้ว   ท่าจะเป็นเอามาก เลยลืมเรื่องตัวเองไปทันที
“ขอโทษๆ พี่  ผมกลัวพี่จะตกใจอีกอ่ะ  เลยไม่กล้าเรียกเสียงดัง  ว่าแต่เป็นไรรึเปล่าไปหาหมอมั้ยพี่”  ผมเดินเข้าไปหา
“เห้ย  หยุดๆๆ ก่อน เอ็งไม่ต้องเข้ามา พี่ไม่เป็นไร แค่.....แค่ตกใจนิดหน่อย อย่าเข้ามา ๆ เพื่อความปลอดภัยๆ นะ”
“ฮะ ๆ  ผมจะไม่เข้าไป  พี่ใจเย็นก่อนนะ”   ทำไมผมรู้สึกเหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมคนเมายาบ้าไม่ให้ทำร้ายตัวเองก็ไม่รู้นะ
“เออ ๆ ดีๆ ” พี่พาร์ทว่า ก่อนจะสูดหายใจเข้าออกอยู่นานทีเดียว   ผมได้แต่นั่งมองด้วยความงง ระคนตกใจกับท่าทีที่ว่า
.
.
.
.
ผมเป็นโรคบ้าอะไรเนี่ย...รู้สึกใจเต้นแรงมากๆ ยิ่งตอนที่ริมฝีปากเราสัมผัสกัน  โอ้ก็อดดดดดดดดดดดดดด 
บอกได้คำเดียวนิ่มมากกกกกกกกกกก กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มาจากตัวปัต  ไม่ใช่กลิ่นแป้ง น้ำหอม หรือเป็นอะไร
ที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้น แต่กลิ่นที่ว่าเนี่ยน่าจะเป็นกลิ่นที่เรียกว่าฟิโลโมน   ที่มันเป็นกลิ่นเฉพาะของแต่ละตัวบุคคล
ซึ่งปกติมันน่าจะได้กลิ่นเฉพาะเพศตรงข้ามสิ แล้วทำไมผมถึงได้กลิ่นนั่นจากตัวปัต    แล้วก็พาลให้นึกถึงกลิ่น
ของรตีที่ผมไม่ค่อยได้กลิ่นแบบที่ว่านี้นัก อาจจะเนื่องมากจาก กลิ่นของเครื่องหอมที่รตีใส่ประทินผิวมันเยอะจน
กลบกลิ่นที่เป็นลักษณะประจำตัวให้หายไปก็เป็นได้
ผมมองหน้าปัต ใบหน้าปัตหวานจนแทบจะเรียกว่าสวย ผิวขาวเนียนละเอียดทั่วทั้งตัว  เอวบางร่างกระจ่อยร่อย
แถมริมฝีปากยังแดงแจ๋ คงเป็นเพราะปัตได้ยีนส์ทางแม่มามากจนเกินไป  ถึงไม่เคยเจอก็พอเดาได้ว่าแม่ปัตต้องสวย
เรียกได้ว่าสวยมากๆ ไม่อย่างนั้นคนตรงหน้าผมจะดูหวานจับใจได้ขนาดนี้เหรอ ผมว่าน้องมันไม่รู้ตัวว่าตัวเอง
กำลังแพร่ฟีโลโมนใส่ผู้ชายด้วยกัน  เรียกปฏิกิริยาทางร่างกายผมให้ตอบสนองมันทันที  ครับ....มันตื่นแล้ว ไอ้ลูกชายผม
ผมว่าถ้าน้องมันรู้มันคงไม่กล้านอนถอดเสื้อที่ห้องผม  โอยยยยยย~  นี่ยังจะเดินเข้ามาหาอีก
บ้ารึเปล่าฟ่ะ  เดี๋ยวจับกดซะนี่  บ้าเอ้ย.....ผมกำลังคิดเรื่องอะไรเนี่ย   ไม่ได้ๆ  ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย  แค่ตอนนี้ผมถูก
ฟีโลโมนของน้องเข้าครอบงำ  มันเป็นแค่สัญชาตญาณ ๆ  ผมตะโกนบอกตัวเอง  ผมไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันหรอก
หัวใจผมเต้นแรงรัว  หรือบังเอิญที่เคมีเราตรงกัน ถึงได้เกิดเรื่องที่ว่ากับผมได้  ผมสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ ก่อน
ที่จะผ่อนออกมายาวเหยียด  เรียกสติกลับมาๆ  หลังจากผ่อนลมหายใจเข้าออกอยู่นานผมก็เริ่มควบคุมสติ
ที่กระเจิดกระเจิงก่อนหน้านี้เป็นที่เรียบร้อย  (คิดว่าได้แล้วนะ  ถ้าน้องมันไม่มาสัมผัสผมอีก ==’)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-07-2012 08:52:49
Part =II
หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย  แถมยังน่าตกใจสุด ๆ กับเรื่องการตกใจของพี่พาร์ท  งงๆ มั้ยฮะ ไม่รู้ตกใจอะไรหนักหนา
แต่ที่แน่ๆ พี่แกของไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ ดูท่าพี่แกจะใช้ห้องน้ำเป็นที่ดับจิต....ที่ร้อนรุ่ม  ฮ่าๆ
“เก็บของเสร็จแล้วใช่มะ  ป่ะไปขึ้นรถกัน”   พี่พาร์ทหยิบพวกกุญแจรถยนต์เดินนำผมออกไป  ผมได้แต่เดินตามห่างๆ – เน้นนะครับว่าห่างๆ  หลังจากที่พี่พาร์ทเริ่มเข้าสู่โหมดสงบ ผมคาดว่ายาบ้าที่พี่แกทานคงจะหมดฤทธิ์แต่ไม่ค่อยน่าวางใจนัก  เพราะนอกจะสูดลมหายใจเข้าปอดหนัก ๆ จนใจเย็นขึ้นแล้ว  เหมือนๆ พี่แกจะไม่ยอมมองหน้าผมอีกเลยอ่ะ  ถึงมองก็เลี่ยงจะไม่สบตา  เล่นเอาผมเอ๋อไปเลยแต่ก็ตลกดี ทุกก้าวที่เดินเหมือนแกพยายามทำสมาธิให้บังเกิด สายตาจดจ้องมองปลายเท้าของตัวเองนับทุกย่างก้าวที่ออกเดิน  ประมาณกำลังท่องคำว่า  ยุบหนอ พองหนอ  อยู่อย่างนั้น ทำผมอดกลั้นยิ้มไม่ได้  เมื่อกี้เมายาบ้าอยู่แท้ๆ ตอนนี้บำเพ็ญเพียรซะแล้ว
“ปึ๊ก......โอ๊ย!”  เสียงพี่พาร์ทชนป้ายที่ห้องลงมาครับ  เพราะมัวแต่นับก้าวยุบหนอพองหนอ  แต่คงลืมไปว่าตัวเองนั้นตัวสูง มองล่างอย่างเดียวมันไม่พอพี่  มันต้องมองบนด้วย   ผมกลั้นหัวเราะจนตัวงอเดินต่อไม่ไหว
เลยทิ้งตัวพิงฝาแอบหัวเราะอย่างจริงจัง  ได้ยินเสียงฝีเท้าคนตัวสูงก้าวต่อไปเรื่อย ๆ แต่ผมตามไม่ไหว
หัวเราะจนตาปิดอยู่เบื้องหลัง  สักพักก็ได้ยินเสียงรองเท้าที่เดินมาหยุดตรงหน้าผม  ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง
“ตลกมากมั้ยครับ?”   พี่พาร์ทยืน เอาแขนทั้งสองข้างดันที่ผนังที่ผมยืนอยู่ กางกลั้นไม่ให้ผมหนีจากบริเวณที่กักขัง
ผมยิ้มเจื่อน ๆ ให้พี่แก ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ จริงๆ แล้วจำนนต่อหลักฐาน  ผมเห็นพี่แกยกยิ้มที่มุมปาก มันอะไรกันเนี่ย
เลือดจะไปลมจะมาหรือไง  ถึงได้เดี๋ยวก็เข้ามาใกล้ เดี๋ยวก็หนีไปซะไกลอย่างนี้  งงๆ ปนสงสัยหน่อยๆ
“หัวเราะกันขนาดนี้ต้องโดนทำโทษนะ ฟอด~”
“หอม”  พี่พาร์ทว่าแค่นั้นผละตัวออกแล้วเดินหันหลังไปต่อ
ผมที่ยืนนิ่งแข็งเป็นซากปฏิมากรรม ยังคงอยู่กับที่ไม่ไปไหน จนอีกฝ่ายชะงักหันกลับมาลากผมให้เดินตามเร็ว ๆ
ผมถึงได้มีสติหลุดจากอาการค้างชั่วขณะ  ยกมือขึ้นกอบกุมแก้มที่โดนจมูกคมๆ หอมเมื่อครู่ มองตามแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่าย
ด้วยคำถาม 108  ทำไมต้องหอมแก้ม?  แล้วไอ้อาการตกใจ เข้าใกล้ไม่ได้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนั้นหายแล้วใช่ไหม?
ก่อนที่ประโยคคำตอบของใครบางคนจะดังข้างหูเหมือนกระซิบ  ราวกับจะทบทวนความจำให้ก็ไม่ปาน
  “เออน่า...อย่าถามมาก มันเป็นๆ หายๆ ไม่ค่อยแน่นอน ไปเก็บของได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง ”
ผมไม่รุ้ว่าเดินตามหลังพี่พาร์ทมาถึงรถตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกว่าตัวเองจิตหลุดตั้งแต่โดนทำโทษ ทั้งที่อีกฝ่ายมุดตัว
เข้าไปนั่งในรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
“ปัต  ปัต  ปัตครับ”
“ฮ...ฮะ พี่”  ผมหน้าเหรอหรา  เมื่อได้ยินเสียงพี่พาร์ทเรียก
“ทำอะไรอยู่ขึ้นรถได้แล้ว”  พี่พาร์ทกวักมือหยอยๆ ให้ผมรีบเปิดประตูออก แล้วขึ้นไปนั่งแต่โดยดี
พี่พาร์ทค่อยๆ ขับเคลื่อนรถยนต์ออกไป แถมผิวปากอย่างอารมณ์ดี  ไม่มีบทสนทนาร่างผมกับพี่พาร์ท
เพราะผมยังรู้สึกงงๆ และสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  มึนจนพูดไม่ออก มีแต่คำถาม แต่ไม่ยักก็มีความกล้าแฮะ
เลยทำได้แค่มองออกไปนอกรถ  เพื่อหลบเลี่ยงสายตาที่มองมาที่ผม เป็นระยะๆ   
“ปัต”
“ฮะ”  ผมขานรับโดยที่สายตายังจับจ้องบรรยากาศนอกรถ  ทั้งที่ไม่มีอะไรน่าดูสักนิด
“เรื่องเมื่อกี้คิดมากรึเปล่า”
“เอ่อ....”   ผมไม่ได้มีคำตอบ  แต่ตอนนี้หันมาสบตาพี่พาร์ทแทน  เพื่อรอฟังคำอธิบายต่อ
“หึหึ...”  พี่แกหัวเราะ ยื่นมืออีกข้างมาขยี้หัวผมเบาๆ
“อย่าคิดมาก   พี่แค่เป็นลูกคนเดียว แล้วก็อยากมีน้องแค่นั้นแหล่ะ  เห็นเราน่ารักดีก็เลยเผลอคิดว่าเป็นน้องตัวเอง”
“แล้วทำไม....  เอ่อ  ต้องหอมแก้มด้วยฮะ?” 
“เออนั่นดิ  ... ฮ่าๆ  โทษทีนะ  พอดีว่าปัตหน้าตาเหมือนน้องสาว  มากกว่าน้องชายน่ะ  พี่เลยเผลอหอมแก้มไป
ไอ้เพี้ยนอย่าคิดมากดิ”   ก่อนที่บทสนทนาจะดำเนินต่อ เสียงมือถือพี่พาร์ทก็ดังขึ้น
“รับให้หน่อย บอกว่าพี่ขับรถอยู่เดี๋ยวโทรกลับ”  ผมเอื้อมมือไปหยิบมือถือที่วางอยู่หน้าคอนโซลรถ 
ภาพหน้าจอโชว์หราเป็นภาพนางแบบชื่อดังขณะนี้ “รตี  กิติวีระสกุล” ที่กำลังหอมแก้มพี่พาร์ท  ทำเอาผมโล่งอก
อย่างบอกไม่ถูก  เห็นทีจะจริงเรื่องที่คิดว่าผม  ......เป็นน้องสาว  อาจจะเป็นเพราะใบหน้าหวานของตัวเอง
ที่เป็นพิมพ์เดียวกับแม่ไม่มีผิด  แถมจะผิวขาวๆ นี่อีก   ตัวบางเอาโล่   แล้วปากที่แดงจัด จนไม่เหลือเค้าความเป็นผู้ชาย
ให้เห็นสักเท่าไหร่  ใช่สินะผมเองก็ชอบที่จะหอมแก้มน้องสาวทั้งสองคน  เพราะมันน่ารักจนอดใจไม่ไหวน่ะสิ
คิดได้อย่างนั้น  ก็เผลอถอนหายใจเฮือกใหญ่  จนคนข้างต้องเหล่มอง  แต่ผมยิ้มกว้างกลับไปให้  แล้วกดรับสาย
“พาร์ทรับช้า”  เสียงต่อว่างอนๆ แต่กลับมีเสน่ห์อย่างประหลาด ไม่ต้องแปลกใจที่ใครจะหลงเสน่ห์เธอคนนี้
ภาพในทีวี หรือสื่อต่างๆ แสดงให้เห็นชัดว่า “คุณรตี” คนนี้ อัธยาศัยดี  และมิตรกับทุกคนขนาดไหน
แต่ที่น่าแปลกใจทำไมถึงมาหลวมตัวคบกับคนแปลกๆ แบบพี่พาร์ทได้หล่ะเนี่ย
“เอ่อ  พอดีพี่พาร์ทขับรถอยู่ครับ ไม่สะดวกรับสาย” ผมกรอกเสียงผ่าน ไอโพนสี ของพี่แกไป
“อ้าว ... เหรอจ๊ะ โทษทีนะพี่ไม่ทันฟัง  ว่าแต่เราเป็นใครเนี่ย  เสียงไม่คุ้นเลย”  ปลายสายพูดอย่างอารมณ์ดี
“ปัตเป็นน้องที่ทำงานพี่พาร์ทฮะ  พอดีติดรถพี่พาร์ทมาครับ”
“จ๊ะ ๆ งั้น ถ้าพาร์ทว่างแล้ว บอกให้โทรหาพี่รตีด้วยนะคะ”
“ครับๆ  เดี๋ยวปัตบอกให้นะครับ”
“ขอบใจจ๊ะ”
“สวัสดีครับ”    สุดท้ายก็กดวางสาย  ผมแอบใจเต้นไม่ได้  เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกับคนดัง  แถมสวยสะบัด
เผลอไปนึกถึงภาพที่โชว์หราบนปกแม็กซีนแต่ละฉบับ  ทั้งสวย  ทั้งเซ็กซี่  ผมเผลอยิ้มเขินอยู่นาน เสียงพี่พาร์ทก็ดังขึ้น
“ยิ้มอยู่ได้คนเดียวนะเรา  แล้วรตีเค้าว่ายังไงบ้าง?  นี่คงไม่ได้แอบปลื้มแฟนพี่หรอกใช่มั้ยเนี่ย” 
“พี่รตี ฝากบอกว่าว่างแล้วให้โทรกลับฮะ  ว่าแต่พี่พาร์ทเป็นแฟนพี่รตีจริงๆ เหรอ?”  ก็มันอดถามไม่ได้นี่นา
“อืม  ทำไม?”
“แล้วพี่รตี มาหาพี่บ่อยรึเปล่า?"
"ก็บ่อยนะ  แล้ว?”
“เอ่อ....   งั้นผมเปลี่ยนใจแล้ว  เอ่อพี่จะว่าอะไรมั้ยถ้าอาทิตย์นี้พักกับพี่ต่อ?”  พี่พาร์ท หัวเราะกระจายในความ
บ้าคนดังของผม 
“พักน่ะพักได้นะเว้ย   แต่ห้ามมาแย่งแฟนพี่เข้าใจ๋?”   พี่พาร์ทหันมาขู่   ผมหันไปยิ้มกว้างพยักหน้ารัวๆๆๆๆๆ
แทนคำตอบ แล้วรถก็เลี้ยวกลับ     กลับไปยังทางเดิมที่มันมา
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-07-2012 09:16:51
พาร์ตไม่เลิกกับรตีรึเนี่ย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-07-2012 09:28:41
อ้าว!  พาร์ทช่างใจดีจริงๆนะ
ยังอภัยให้รตีได้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 29-07-2012 09:38:45
ห้ามยุ่งกับแฟนพี่ เพราะพี่พาร์ทหวงน้องปัต ใช่ม้า อิอิ  :m12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 29-07-2012 10:26:08

อะ.อ่าว น้องปัตจ๋า ไปปลื้มรตีอีกเง้อ
แหม พี่พาร์ทคิดกับปัตแค่น้องจริงอ้ะ ?  :m12:
แค่น้องแล้วทำไมหวั่นไหวแค่จุ๊บกัน
แถมยังหอมแก้มอีก โฮกกก
ไม่ใช่พี่น้องแล้วละมั้งงง งงง
555555555

รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-07-2012 12:44:36
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ  ต่อไปนี้อาจจะต้อง โพสช้าหน่อย งานเข้าอ่ะ
แต่ถ้ามีเวลาจะทำการ แต่แล้วรีบอัพนะคะ

ขอบคุณทุกกำลังใจ --------  ^___________^
:)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 11 จิตหลุด Part II P.4 29/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-07-2012 15:24:01
ระวังจะไปเผลอนอกใจแฟนตัวเองดีกว่าพี่พาร์ท  :m12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 31-07-2012 04:10:34
บทที่ 12


สองทุ่ม.....ในที่สุดก็กลับมาถึงห้อง  ผมกับไอ้ตัวเล็กแวะทานอาหารข้างล่างตึก  เพราะมันเหนื่อยกับการฝ่ารถติดอย่างแสนสาหัส  ผมเหลือบมองไอ้ตัวเล็กนิดนึงก่อนจะลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วมองเมินไปทางอื่น  ทำไงได้
ไม่ว่าไอ้ตัวเล็กทำอะไร  แค่เคลื่อนไหวหรือแม้แต่นั่งอยู่เฉยๆ ผมก็กลับรู้สึกว่ามันกระตุ้นอารมณ์ตัวเองอย่างน่าประหลาด  สุดท้ายก็หลับตาลง   บ้า......กุคิดไปได้ไงว่ะ  แอบหลี่ตามองอีกคนที่ยังสาละวนกับการค้นหาข้าวของเพื่ออาบน้ำ   ผมสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะผ่อนออกมาเบาๆ  แล้วในสมองก็ตะโกนก้อง บอกสามัญสำนึกอีกรอบ
“น้องมันเป็นผู้ชายเหมือนมึงนะเว้ย  มันมีเดือยกลางตัวเหมือนมึง น้องมันไม่มีนมตู้ม ๆ  ไม่มีสะโพกนุ่มๆ แถมตัวไม่นิ่มนะโว้ย”
ผมประกาศก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ซึ่งก็ได้ผลจิตใจมันสงบมากขึ้นที่สำคัญไอ้ตัวเล็กในสภาพที่มีเสื้อผ้า ก็ไม่ได้ทำให้
จิตใจผมกระเจิดกระเจิงมากเท่าที่ควร  ผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะผมคิดถึงรตีมากไป เพราะผมไม่ได้สัมผัสเธอ
และที่สำคัญเพราะน้องมันแผ่ฟิโรโมนแน่นอน  คงไม่ได้มีจิตพิศวาศจริงๆ หรอก คงเป็นแค่ช่วงอารมณ์เหงาๆ
พยายามมโนภาพใหม่ว่าไอ้น้องปัตนี่เป็นน้องชายแท้ๆ ของผม 
“ผมอาบน้ำก่อนนะพี่”  เสียงแจ้วๆ ของไอ้ตัวเล็ก  ผมพยักหน้าตอบทำไมใจต้องเต้นแรงไปด้วยนะ  ไม่นานนัก ไอ้ตัวดีก็ออกจากห้องน้ำ  มายืนเช็ดหัวอยู่ที่ตรงโซฟาที่ผมดูทีวีอยู่
“นอนก่อนได้เลยนะ พี่อาบน้ำนานว่ะ   นอนในห้องน่ะแหล่ะ พรุ่งนี้แม่บ้านก็มาทำห้องเล็กให้แล้วเดี๋ยวเราค่อยย้ายไปนอนห้องนั้นแล้วกัน”
“ครับ”   สิ้นบทสนทนาผมก็ฝังตัวในห้องน้ำอย่างเคยสงบจิตสงบใจ  แว่บหนึ่งภาพที่เข้ามารบกวนกลับเป็นภาพของรตี กับผู้ชายคนนั้น  เผลอกัดฟันกรอด  ถึงผมตั้งใจจะให้อภัยรตีแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่รู้สึกเจ็บปวด กับภาพของคนรักที่เดินเคียงคู่กับอตีตคนรัก ผมผ่อนหายใจยาวๆ  ระบายความรู้สึกที่วุ่นวายในสมอง รวมถึงเรื่องของปัต  ถ้าเป็นเพราะแค่ช่วงเวลาที่ผมเหงาแล้วดึงน้องเข้ามาเกี่ยวแล้วล่ะก็  ผมก็รู้สึกเสียใจ....น้องไม่ควรจะมาเจอเรื่องแบบนี้  ผมคิดเรื่องต่างๆ มากมายและแน่นอนว่าผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะจำกัด  “ปัต” ให้เป็นแค่น้อง  จะเลิกสนใจไอ้ฟีโรโมนบ้าๆ ที่ทำให้ผมสติแตกมาแล้วหลายรอบ “ปัต” น่าสงสารมากพอแล้ว  อย่าให้ผม เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องต้องรู้สึกแย่จะดีกว่า   แววตาที่ซื่อตรงนั่น  ..... อีกทั้ง ความจริงใจที่แลจะมีค่ามากกว่าสิ่งที่ร่างกายผมต้องการเป็นไหนๆ   หลับตาลงอีกครั้ง  ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ
.
.
อาบน้ำนานเป็นชั่วโมงออกมาอีกทีไอ้ตัวเล็กก็หลับแล้ว ผมหยิบบ็อกเซอร์กับเสื้อกล้ามมาสวม สอดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันภายใต้แอร์เย็นฉ่ำ    ทำให้บางคนขนตัวงอเป็นกุ้งอยู่ใต้ผ้าห่มอดยิ้มให้กับท่าทางไร้เดียงสานั่นไม่ได้  ผมยื่นมือไปเกลี่ยผมปัตเบาๆ ไอ้ตัวดีขยับตามมือผมมาราวกับว่ากำลังตามหาความอบอุ่น .... หึหึ 
ผมได้แต่อมยิ้ม เมื่อไอ้ตัวดีกลิ้งจนมาซุกตัวเข้ากลับอกผม ผมมองน้องอยู่สักพักก่อนจะเอื้อมมือปิดไฟที่หัวเตียง อดไม่ได้ที่จะสูดดมความหอมที่หัวทุยๆ นั่น  แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรมากกว่านั้น แค่คิดว่าจะทำไอ้ตัวเล็กร้องไห้ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้าย  ผมโอบกอดน้องเบาๆ   แล้วปิดเปลือกตาลง 

เช้าอีกวัน.....แสงแดดที่ทอประกายอ่อนๆ แต่กลับสอดส่องเข้ามาในห้องนอน   ผมบิดตัวอย่างเกียจคร้าน  ก่อนจะอ้าปากหาวสุดติ่ง สะบัดหัวเบาๆ อีกสองที  ก็ดันตัวลุกขึ้นเข้าห้องน้ำอาบน้ำด้วยความเคยชิน   ก่อนจะออกมาแต่งตัวในห้องนอน  ผมมองรอบๆ ห้อง   รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปรึเปล่า  สักพักกลิ่นของอาหารก็เข้ามาเยือน
อ้อ.....รู้แล้วว่าลืมอะไร  “ไอ้ตัวเล็ก”   ผมยกยิ้มที่มุมปากรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ที่มีคนมาทำอาหารเช้าให้ทานแบบนี้ อยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันจริงๆ  ผมเดินตรงไปที่ห้องครัว  ภาพวันนี้ฉายทับซ้อนกับภาพเมื่อวาน  ไอ้ตัวเล็ก  สาละวนกับการจัดอาหาร ผมเดินเข้าไปใกล้กะจะไปช่วยแต่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย  ไอ้ตัวเล็กหันมายิ้มหวาน
“ตื่นแล้วเหรอฮะ?”
“ยัง”
“ยังไม่ตื่นแล้วเดินมาถึงนี่ได้ไงอ่ะพี่”
“ละเมออ่ะ”
“โห ...เดี๋ยวนี้เค้าละเมอแบบ Advance เน๊าะ ต่อปากต่อคำได้ด้วย  หึหึ”  ไอ้ตัวเล็กยกยิ้มเล็กที่มุมปาก
“อยู่แล้ว  พี่พาร์ทซะอย่างให้ละเมอธรรมดาก็ไม่ใช่พี่ดิ ฮ่า  ๆ  ...  หิวอ่ะทำไรกิน หอม”  ผมกลืนน้ำลายแล้วชะโงกหน้าไปดูอาหารในจาน
“ไข่เจียวชะอม กับผัดผักรวม แล้วก็แกงจืดฮะ พี่พาร์ทรอแป๊บนึงน่ะพี่ ข้าวยังไม่สุกอ่ะ”
“อืม ... ว่าแต่มีไรให้พี่ช่วยป่ะ”
“โห  ...จะมาช่วยตอนทำเสร็จแล้วเนี่ยนะพี่  ไม่มีหรอกครับปัตทำเสร็จแล้ว”
“ดีๆ  หึหึ  พี่จะได้สบาย  โอยเมื่อไหร่ข้าวจะสุกเนี่ย  ปวดท้องจะแย่แล้ว”  ไอ้ตัวเล็กทำหน้าตาตกใจ รีบเดินไปตู้เย็นหยิบน้ำมาให้
“พี่กินน้ำรองท้องก่อนนะเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ”
“เห้ยไม่เป็นไร   พี่ทนได้”
“ไม่เกี่ยวหรอกพี่ว่าทนได้ทนไม่ได้   เป็นโรคกระเพาะแล้วจะยุ่งต้องกินอาหารให้ตรงเวลา  ไม่งั้นปวดท้องแย่เลย”
“พี่ก็กินอาหารให้ตรงเวลาก็จบแล้วใช่มั้ยหล่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“แล้วตอนเช้าพี่จะกินยังไงอ่า”
“ก็เราไง.....ทำให้พี่กิน”
“ถ้าผมอยู่อ่ะนะก็ได้อ่ะพี่  แต่ผมอยู่ที่นี่อาทิตย์เดียวนะครับพี่พาร์ท...อย่าลืมน่ะพี่”
“เออว่ะ  ...พูดถึงเรื่องลืม  พี่รู้สึกว่าลืมอะไรไปก็ไม่รู้เมื่อวานนี้  เหมือนมีเรื่องที่ต้องทำแต่ไม่ได้ทำอ่ะ”  ผมว่ายกน้ำขึ้นดื่มครึ่งแก้ว
“ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดดดดดดดด”  เสียงหม้อหุงข้าว แจ้งให้ทราบว่าข้าวที่หุงอยู่สุกแล้วคร๊าบบบบบบบ  ผมยิ้มกว้าง  ไอ้ตัวเล็กเดินไปเปิดหม้อหุงข้าวก่อนจะเปิดฝาทิ้งไว้สักครู่ ก่อนจะหยิบจานเปล่าสองจานมาตักข้าวใส่ แล้วยกมาที่โต๊ะ
ควันร้อนๆ ลอยกรุ่นจากจานข้าวเรียกน้ำย่อยผมเข้าไปอีก  ข้าวร้อนๆ กับอาหารหอมๆ มันเข้ากันดีจริงๆ 
ผมตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ  อย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็คุยกับไอ้ตัวเล็กเรื่อยเปลื่อย  ... จนทั้งข้าวทั้งกับหมดเกลี้ยง
ผมลูบท้องตัวเองป้อยๆ อิ่มมากจริงๆ  ยื่นมือไปขยี้หัวไอ้ตัวเล็กที่นั่งยิ้มแป้นแล้นอย่างภาคภูมิใจ
“อร่อยใช่ม้า ...บอกแล้วฝีมือปัต การันตี”  ไอ้ตัวเล็กยักคิ้ว สองขยักโชว์  ผมเลยส่ายหน้าเบาๆ หลงตัวเอง....แต่ก็น่ารัก    ผมคิดในใจ  อย่าน่ารักให้มากนัก  ..เดี๋ยวจะมีคนไปหลงรักหัวปักหัวปรำ
“อืม...ก็ดี”  ผมยักคิ้วกวนๆ ตอบ
“แค่ดีเหรอ  งั้นวันหลังปัตไม่ทำแล้ว”  ไอ้ตัวดีว่างอนๆ ยกจานเดินเข้าไปล้างในครัว  ผมยกจานที่เหลือเดินตาม
“ขี้งอนว่ะ คนอะไร” ผมวางจาน  แล้วถอยหลังไปยืนพิงผนัง  มองดูไอ้ตัวเล็กทำหน้ามุ่ยก้มหน้าก้มตาล้างจาน
“ก็ถ้าทำแล้วกินไม่อร่อย  ใครจะไปอยากทำ” ไอ้ตัวเล็กว่า สะบัดหางตามามองผมนิด  แต่ก็ยังล้างจานต่อไป
“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่อร่อยซะหน่อย” ผมพูดเอาใจไอ้ตัวเล็กนิด ๆ
“แต่ก็ไม่ได้บอกว่า  อร่อย ซะหน่อย”  ไอ้ตัวดียู่หน้า หันไปล้างจานต่อ  ผมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ขำคนช่างงอน  .....  น่ารักจริงๆ  ปากแดงๆ...ที่ยื่นจนจะเหมือนปากเป็ด แก้มขาวๆ ที่ตอนนี้ป่องทั้งสองข้าง  ตากลมแป๋วๆ ที่สะบัดขนตางอนใส่ผม

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมก้าวเข้าไปด้านหลังไอ้ตัวป่วน    สอดมือโอบกอดรอบเอวคนตรงหน้า  ดูปัตจะสะดุ้งนิดๆ
หันมามองผม  ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ.....  สวย....ยิ่งกว่าเดิมอีก   

“อร่อยมากครับ  หายงอนซะทีนะเด็กดี”  ผมกระซิบเบาๆ ข้างหู  ก่อนจะกอดจมูกคมๆ ของตัว ที่แก้มนิ่มๆ ของอีกฝ่าย   ผมรู้สึกว่าหน้าของปัตดูร้อนผ่าว  สีแดงแต่งแต้มทั่วใบหน้าและใบหู  น้องยืนนิ่งๆ  ไม่ได้ตอบอะไร
รู้สึกตัวจะแข็งเป็นเทวรูปไปแล้ว  ก้มหน้ามองพื้นนิ่ง 
“เอ่อ....  พี่พาร์ท ปล่อยก่อนฮะ”  น้องว่าเสียงอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ  ไม่ได้หันมาสบตาผม  และนั่นแหล่ะที่ผมพึ่งจะรู้สึกตัว รีบปล่อยมือ ถอยหลังกรูดดดดด   จนหลังตัวเองกระแทกผนังห้องด้านหลัง รู้สึกมึนงง  อย่างบอกไม่ถูก  “กุทำบ้าอะไรไปว่ะ”  หัวใจผมเต้นรัว
“เอ่อ~    พี่ไปเก็บของเตรียมไปทำงานก่อนนะ  ปัต  ...เอ่อ. อยู่ที่ห้องไปก่อนนะ ตอนเที่ยงเดี๋ยวพี่มารับไปที่บริษัท”   
“ฮะ”     ผมเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องไปทันที   
แปลกที่หัวใจเต้นรัวไม่หยุด   เผลออีกแล้ว   ......ต่อไปผมจะต้องทำยังไงดี   

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 31-07-2012 05:14:39
ต่อไปก็...กดเลย

 :m26:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 31-07-2012 08:06:00
คืบหน้านะ หลงน้องแล้วดิ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-07-2012 21:23:18
พี่พาร์ทเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 31-07-2012 21:37:00
พี่พาร์ทเผลอได้น่ารักมากอ่ะ เหมือนคู่ใหม่ปลามันเลยอ่ะ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-07-2012 21:39:30
ระงับอาการไม่อยู่ :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-07-2012 22:33:53
หึหึหึ พี่พาร์ท ท่าทางจะเผลอตัวเผลอใจไปแล้วนะนี่ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 31-07-2012 22:36:24
ดูท่าจะอาการหนัก  o3
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 31-07-2012 23:34:34
ไม่รอดๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-08-2012 00:05:21
ไม่นานได้กดน้องแบบไม่รู้ตัวแน่พี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 01-08-2012 00:21:21
โฮ่ๆๆ  ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ  ทุกๆ คอมเม้น
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-08-2012 17:00:06
อย่างนี้ต้องให้พี่พาร์ทเผลอตัวบ่อย ๆ จะได้หันมาชอบน้องปัตเร็ว ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 02-08-2012 16:42:45
ระวังห้ามตัวเองไม่ไหวนะพาร์ท

ปล.ถ้าไม่ไหวจริงๆก็จับกดก็สิ้นเรื่อง

 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 02-08-2012 20:26:39
วันนี้มาไหมเอ่ยยย ?  >______________<
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 12 P.4 31/7/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 03-08-2012 01:17:34
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆ
ตอนแรกๆมาแบบเศร้าเลยอะอ่านไปน้ำตาจะไหล
พอมาตอนหลังๆชอบมากๆชอบพาร์ทมาก
ขอเสนอให้พาร์ทฐับน้องปัตกดเลย....5555
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย แ้ก้คิดถึง รูปพี่พาร์ท น้องปัต
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-08-2012 02:49:21
แก้คิดถึงค่ะ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-08-2012 12:54:23
บทที่ 13  สับสน

“ปัง......คลิ๊ก”


................ชิ๊ง...................



ใครอีกคนคงออกจะไปทำงานแล้ว  คงเหลือ..........แค่ผม ที่จมจ่อมอยู่กับเรื่องราวเมื่อสักครู่ ยกมือขึ้นจับแก้มข้างที่ยังร้อนผ่าว
ไม่ได้หันไปมอง .... ตอนพี่เค้าเดินออกจากห้องไป  เรียกว่า “ไม่กล้า” ที่จะหันไปมองยังจะถูกซะกว่า
 ได้แต่รอจนแน่ใจ......ว่าเค้าออกไปแล้วจริงๆ  ถึงได้หันไปมองตามหลังใครคนนั้น
จากนั้นก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ชันเข่า....แล้วซุกหน้าลงไป โดยแขนทั้งสองข้างโอบกอดขาไว้หลวมๆ
ทิ้งตัวพิงเข้ากับผนังหน้าอ่างล้างจาน    พยายามปิดซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าว~ ทำตัวแทบไม่ถูก
 ตอนนี้ได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้น    “ตึกตัก  ...ตึกตัก.....ตึกตัก”   ดังสนั่นหวั่นไหวไม่หยุดหย่อน
อาจเพราะดันเผลอกลั้นหายใจอยู่นาน ตอนพี่เค้ากดจมูกคมๆ ลงมาที่แก้ม   พอปล่อย...ก็ถึงกับหอบหายใจ
เลยต้องมานั่งหมดแรงที่พื้นแบบนี้  ครั้งที่สองแล้ว......ที่พี่พาร์ทหอมแก้มโดยไม่สมเหตุสมผล ดูๆไปคล้ายเหมือนพี่เค้าไม่รู้ตัว  เพราะแค่เรียกเบาๆ พี่เค้าก็สะดุ้งเฮือก  รีบผละออกไปทันที 
แต่ที่ผมไม่เข้าใจ    ทำไม........ตัวเองถึงไม่รู้สึกรังเกียจ  ทำไมถึง......รู้สึกอบอุ่น ทุกครั้งที่พี่เค้าสัมผัส
ทุกคืนที่ตื่นมากลางดึก   แล้วพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของพี่พาร์ท  ผมไม่ได้ขยับหนี....
แต่กลับซุกตัวเข้าหามากขึ้นไปอีก  กลิ่นเหงื่ออ่อนๆ ทำให้รู้สึกดีชะมัด  ที่สำคัญ......ผมรู้สึกปลอดภัย 
ที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของพี่พาร์ท  ทำไม?......ทำไมกัน?   สับสนเหลือเกิน
ทั้งที่ก็รู้สึกแปลกที่ตัวเองรู้สึกอย่างนั้น  แต่เพราะมันรู้สึกดีถึงยังทำต่อ  .... ไม่ได้คิดจะหยุดแต่ประการใด
แต่นั่นมันหมายถึงว่าผมรู้สึกตัวอยู่คนเดียวนี่  ....พี่เค้าไม่ได้รู้สึกตัวด้วยสักหน่อย 
แล้วเมื่อกี้มันอะไร?....... ถ้าจะบอกว่าพี่เค้าชอบผม ในขณะที่ผมเป็นผู้ชายนี่นะ  ก็คงเป็นไปไม่ได้ แล้วที่สำคัญ
พี่เค้าก็มีแฟนที่สวยระดับนางแบบขวัญใจผมเอง  แถมยังแสนดีจนเป็นที่รู้กัน  แล้วผมหล่ะ? มันเกิดอะไร
สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมา... จ้องมองที่อ่างล้างจาน  จู่ๆภาพเมื่อสักครู่ ก็ลอยเข้ามาในหัว  จมูกคมๆ ที่กดลงมาที่แก้ม
อ่า~......................   ทำยังไงดี  เขินจนจะมุดดีหนีอยู่แล้ว
.
.
.
.
ผมเดินออกจากห้องด้วยหัวใจที่เต้นรัวไม่หยุด   แค่ปิดประตูห้องลงสองขาก็นิ่งสนิทไม่ยอมก้าวต่อ 
เผลอหันหลังไปมองประตูห้อง  หวัง......มันก็แค่หวังว่าจะได้เห็นหน้าคนข้างใน  ผมไม่รู้ว่าตอนนี้น้องรู้สึกยังไง
สุดท้ายก็ได้แต่ยืนมองประตูห้องตัวเองอยู่นาน  เพราะไม่กล้าเปิดเข้าไป    น้อง.....จะโกรธรึเปล่า
แล้วหัวใจที่เต้นรัวจนจะกระแทกออกมานอกอกนี่อะไร  กลิ่นอายของน้องยังหอมลอยอบอวนอยู่แถวปลายจมูกผม
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร  .....แต่อยากจะทำอีก  ทั้งกอด  ทั้งหอม  หรืออะไรมากกว่านั้น  อยากสัมผัสทั่วทั้งตัวของน้อง
ตัวที่สั่นสะท้านราวกลับเป็นลูกนก ... ทำผมอยากจะบดกอดมอบความอบอุ่นที่มีมากมายส่งไปให้       
ดวงตากลมโตสีน้ำตาล  ผมนุ่มสลวยสีเดียวกัน  แก้มสีระเรื่อยามผมแตะต้อง  บ้าเอ้ย......นี่ผมต้องการมากขนาดนั้นเลยรึไง
ริมฝีปากบางแดงจนน่าบดจูบให้บวมเจ่อ  ผิวขาวเนียนละเอียดทั่วทั้งตัวจนผมอยากจะสำรวจแทบทุกอนุผิว
อยากเป็นเจ้าของ  ไม่อยากให้ใครมอง  นี่ผมบ้าไปแล้วใช่มั้ย? ใครก็ได้ช่วยบอกที 
หลังจากจ้องประตูห้องตัวเองอยู่นาน...  ซึ่งผมเองคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์  คงไม่มีหวยสามตัวปรากฎขึ้นมา
แต่ถึงจะมีจริงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี  ...   เพราะผมไม่ซื้อหวย  ที่อยากถูกไม่ใช่รางวัลที่หนึ่ง 
หากแต่......  อยากถูกใจคนข้างในมากกว่า  ไม่รู้น้องจะรู้สึกแปลกรึเปล่า  ... ที่โดนผู้ชายด้วยกันทั้งกอด ทั้งหอม
แม้จะอ้างเหตุผลมากมาย  แต่ว่า....ดูไม่เข้าท่าสักนิด  ถ้าผมไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป 
ผมว่า....น้องก็ดูไม่ได้รังเกียจ   ใช่รึเปล่า?   ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นลูบหน้าปิดบังความเขินอายที่คาดว่าจะปรากฎขึ้นบนใบหน้า  ถึงได้รู้ว่า........มีรอยยิ้ม (เจ้าเล่ห์)  ปรากฎขึ้นมุมปาก  เฮ้ย!! กุยิ้มตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ
แค่นั้นแหล่ะที่แอบยิ้มอยู่ เลยเปลี่ยนมาเป็นยิ้มกว้างแทน  หึหึหึ! เสียงหัวเราะที่ดูเจ้าเล่ห์นี่มันอะไรนะ  ผมไม่ค่อยเข้าใจ  ฮ่าๆ  อยู่ดีๆ ก็อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก   ก้มลงมองนาฬิกาเรือนหรูที่แขวนอยู่บนข้อมือตัวเอง
“อ๊ะ....สายแล้ว  หึหึ”  ผมพูดลอยๆ ไม่ได้เร่งรีบหรืออารมณ์เสียแต่อย่างใด  แต่กลับเดินผิวปาก ค่อยๆ เดินอย่างใจเย็น มืออีกข้างหมุนเหวี่ยงกุญแจรถยนต์ไปมา  ราวกับเป็นของเล่นที่สนุกเหลือแสน 
สุดท้ายก็ก้าวขึ้นรถยนต์ที่จอดรอเจ้าของมาขับตั้งแต่ไก่โห่  ปกติผมจะออกไปทำงานตั้งแต่หกโมงครึ่ง...ไม่เคยสาย
แต่วันนี้เหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่สองของวัน  เจ็ดโมงครึ่งแล้ว...  ผมยกยิ้ม เมื่อคิดถึงสาเหตุที่ออกมาช้า
“สายแน่ๆ  หึหึ”  ผมบ่นเบาๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนเช่นเดิม ค่อยๆ ขับเคลื่อนรถออกไปช้า ๆ ไม่จำเป็นต้องรีบ
ทำงานมาหลายปีจะสายสักวันคงไม่มีใครว่าผมหรอก..จริงมั้ย? (ใครจะกล้าว่าลูกเจ้าของบริษัทฟ่ะ ==’//คนแต่ง)
รถติด....หึหึ  ก็ช่างปะไรใครสนหล่ะครับ  อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงบริษัท แต่ในหัวกลับคิดถึงเด็กปากแดงที่อยู่ที่บ้าน
ก็ถ้า.....หยุดไม่ไหว   ผมก็จะตามใจตัวเองแล้วกัน  เอาไว้....น้องไม่ยอมเมื่อไหร่ หึหึ
ก็ค่อยเล้าโลม...ชักนำให้น้องเคลิบเคลิ้ม  ตามผมแล้วกัน    สุดท้ายก็ยิ้มกว้างกับความคิดเหลวไหลของตัวเอง

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 03-08-2012 14:27:58
อ้าว หงัยงั้นล่ะพี่พาร์ท สรุปว่าจะตามใจตัวเองซะงั้น เหอๆๆๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 03-08-2012 14:34:51
อ้าววววพี่พาร์ทไหงงั้นหล่ะ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 03-08-2012 15:23:44
อ่านฉากนี้ผมอมยิ้มบ่อยจัง
แอบเขินนิดๆๆแฮะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-08-2012 15:34:58
ไปจบกับเขาก่อนนะจ๊ะ

 o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-08-2012 16:05:04
ให้ไวเลยพี่พาร์ท เดี๋ยวเหยื่อไหวตัวทัน  :m26:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 03-08-2012 16:24:08
อ้าวว คุณพี่ ทำงี้เลยหรอ
ถึงจะดีสำหรับคนอ่านที่อยากให้อิ๊อ๊ะกัน
แต่ไม่ไหวนา
สงสารน้อง ไปเก็บผู้หญิงก่อนเหอะ!
..แล้วค่อยมาคุยกันนะคุณพี่ (เชิ่ดใส่)  :a14:

ปล.ทำไมสั้นจัง 5555
มาอีกน้าคนแต่งจ๋าาา อีกซักตอน >,<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Picture น้องปัต
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-08-2012 18:30:48
ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ ที่สั้นมาก  ตอนนี้งานยุ่งมากกกกกกกกกกกกก
สองวันที่แล้วทำงานถึงตี 4 แล้ววันถัดไปก็ทำงานต่อ 8โมง ถึง 2 ทุ่มอ่ะ
กว่าจะมีสติมาแต่ง  ทั้งที่อยากแต่งใจจะขาด.....  เมื่อวานก็สลบเพราะพิษไข้อีก
รันทด ยิ่งกว่านางเอกละคร  หุหุหุ  ดูภาพน้องไปเพลิน ๆ ก่อนแล้วกันนะจ๊ะ

ในที่สุดก็ลงภาพเซ็ทนี้สำเร็จซักที  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ  หลังจากพยายามแล้ว  5 รอบด้วยกัน ล้มเหลวหมด
จริงๆ เป็นภาพในเรื่องอื่นๆ ที่แต่งด้วย ไม่ว่ากันนะตัวเอง  เพราะนางเอกอิมเมจมาจากคนนี้จริงๆ
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 03-08-2012 18:47:09
พี่พาร์ท จิตหลุด ติ๊งต๊องไปแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 03-08-2012 19:13:27
อ่นไปแล้วยิ้มด้วยความเขิน :o8:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 03-08-2012 20:09:26
หุๆ อยากให้เปิดใจกันไวๆจังเลยอะ เขินแทน  :o8:

ปล. คนเขียนดูแลตัวเองด้วยนะครับ ^ ^
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 03-08-2012 20:23:54
พี่พาร์ทต่อไปจับน้องปัตกดเลย
เขาเชียร์พี่พาร์ทสุดใจขาดดิ้น
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 13 P.4 3/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-08-2012 20:24:46
แอบยิ้มพร้อมกับพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-08-2012 00:48:13
ขอสารภาพเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่แต่งมาถึง 14 ตอนแล้ว พระเอก กับ นายเอกยังไม่ได้กัน  ที่สำคัญ
ยังลังเลอยู่ด้วยซ้ำว่า รักกันรึเปล่า  ทั้งที่เป็นเรื่องสั้นๆ แต่ก็ยาวมากแล้ว ฮ่าๆ
และิคิดว่ามันคงยาวเกินไปแล้วหล่ะ  หึหึึหึ  คิดว่าคงไม่นาน (ไม่รู้เหมือนกัน) แต่ไม่อยากให้เรื่องมันสะดุด
แล้วตัดจบ   ก็คงจะจบในไม่ช้า  คิคิคิ

ขอบคุณคอมเม้น + ความห่วงใยค่ะ  ที่มีกำลังใจยืนได้เพราะบอร์ดนี้แหล่ะ  อิอิ
ขอบคุณนะคะ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บทที่ 14  บางสิ่งที่หลงลืม


“สวัสดีครับ ขอโทษที่มาช้านะครับ”  ผมโค้งหัวลงเล็กน้อยเป็นการขออภัย   แล้วยิ้มกว้างให้กับผู้จัดการฝ่ายต่างๆ
ที่เข้ามารอคุยสรุปเรื่องงานที่พึ่งได้รับสดๆ ร้อนๆ จากลูกค้าเมื่อปลายอาทิตย์ที่แล้ว จนผมต้องแจ้นไปเชียงใหม่
แน่หล่ะ...ผมจะทุ่มเทสุดชีวิตให้กับงานนี้เลย  เพราะงานนี้แท้ๆ เชียว ผมถึงได้ไอ้ตัวเล็กมาไว้ในครอบครอบ (เหรอว่ะ ==)
หลังจากประชุมกันอยู่สองสามชั่วโมง  ได้พอร์ทเรื่องที่ทางผู้ว่าจ้างต้องการแล้วงานก็ถูกแจกจ่ายไปยังฝ่ายต่างๆ
ตามหน้าที่และความรับผิดชอบ  ผมแอบเห็นหลายคนมองมาที่ผมอย่างนึกสงสัยที่เห็นผมอารมณ์ดี
อ่าน่ะ...ปกติผมก็เป็นคนอารมณ์ดี  อัธยาศัยดี แต่ถ้าเป็นเรื่องงานมักจะจริงจังเสมอ  มันเลยน้อยครั้งที่จะมีใครได้เห็นรอยยิ้มผมในที่ประชุมแบบนี้
“งั้นสรุปตามนี้นะครับ สำหรับฝ่ายที่ได้รับหมอบหมายหน้าที่ไปก็ขอให้ทำงานเต็มที่ด้วยนะครับ  นี่เป็นโอกาส
เพราะลูกค้ารายนี้เป็นรายใหญ่ที่พึ่งก้าวมาเปิดตลาดในไทย ถ้าเราทำโปรเจคนี้สำเร็จแน่นอน  โปรเจคต่อๆ ไป
ผมก็คาดว่าลูกค้าคงจะเล็งเห็นบริษัทเป็นรายชื่อต้นๆ ในการรับงานแน่นอน ทำให้เต็มที่นะครับ และช่วยรายงานความคืบหน้าเป็นระยะด้วยนะครับ งั้นก็ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ครับ”   พี่ภีมว่า (ผู้จัดการที่รับหน้าที่โปรเจคนี้)  หลังจากนั้นทุกคนที่ประชุมอยู่ก็ทยอยออกจากห้องประชุม  พี่ภีมเป็นลูกพี่ลูกน้องทางพ่อเองครับ  ทำหน้าที่ช่วยจัดการทุกเรื่อง เพื่อจะมาสานต่อเป็นผู้ช่วยผมในอนาคต แต่ตอนนี้....มาเป็นพี่เลี้ยงให้ผมก่อน
“เดี๋ยวพาร์ท”
“ครับ?”
“เดี๋ยวตามไปพบพี่ที่ห้องน่ะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
“ครับ”   ผมตอบรับ เพราะตอนที่พี่ภีมบอกมีสายเข้ามาพอดี  ผมเดินออกมานอกระเบียงห้องประชุม 
พึ่งมานึกได้ว่าลืมโทรกลับหารตีตั้งแต่เมื่อวาน  นี่สินะ....สิ่งที่ลืมจริงๆ
“ว่าไงครับรตี?”  ผมกรอกเสียงไปตามสาย 
“แหม! ลืมรตีไปแล้วใช่ไหมคะพาร์ท รตีไม่อยู่แป๊บเดียวลืมกันซะแล้ว  น่าน้อยใจจัง”  รตีว่าเสียงกระเง้ากระงอด งอนๆ ผม  แต่ไม่ได้จริงจังมากนัก
“หึหึ...ใครจะลืมแฟนคนสวยได้ลงคอหล่ะครับ  อย่างอนนะคนดี   ผมงานยุ่งๆน่ะ วันนี้มีประชุมตั้งแต่เช้าเลย
พึ่งเสร็จเมื่อกี้ เดี๋ยวต้องไปพบพี่ภีมต่อด้วยครับ มีโปรเจคใหญ่อ่ะ  ขอโทษนะครับไม่ได้โทรกลับเลย ”
“อ้อ... คริคริ  เชื่อแล้วค่าว่างานหนักจริงๆ หายงอนก็ได้  แต่ต้องหอมแก้มรตีก่อนนะคะ”   ฟอด~
“คริ คริ  พาร์ทนี่น่ารักตลอดเลยค่ะ” รตีว่าด้วยน้ำเสียงออดอ้อน 
“ว่าแต่รตีมีอะไรรึเปล่าครับ หืม? เห็นโทรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”  ผมถามเข้าประเด็นเพราะเกรงใจพี่ภีมที่รออยู่
“เอ่อ...คือรตีจะโทรมาบอกว่าจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักอาทิตย์น่ะค่ะ พอดีเพื่อนรตีจะอยู่ต่ออีกอาทิตย์เดียวค่ะแล้วก็จะกลับยุโรปเลยอีกนานกว่าจะกลับมาไทยอีกที  รตีอยากอยู่ต่อพาร์ทไม่ว่าอะไรใช่มั้ยคะ?”  หญิงสาวตอบกลับมาเสียงใส  ผมเม้มปากแน่น ยุโรปหรือเกาหลีกันแน่? บังเอิญจังนะที่ไอ้แฟนเก่าของเธอก็มีกำหนดเดินทางอาทิตย์หน้าเช่นกัน  เมื่อแกล้งไม่รู้ขนาดนี้แล้วจะมาดีแตกตอนนี้ก็ใช่ที่ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอหนัก ๆ  เงียบไปนาน.....  จนอีกฝ่ายเร่งเร้า
“พาร์ท ....พาร์ทคะ  ว่าไงคะ?  นะนะ  รตีอยากอยู่กับเพื่อนนะ  อีกแค่อาทิตย์เดียวเองค่ะคนเดียว อย่างอนรตีนะ”
“ครับ  ตามใจรตีแล้วกันนะ   ว่าแต่เดี๋ยวผมเสร็จงานแล้วผมตามขึ้นไปดีกว่าอยากทำความรู้จักเพื่อนรตีด้วย เผื่อต้องไปยุโรปจะได้แวะไปเยี่ยม” ผมแกล้งพูด รู้คำตอบดีอยู่แล้วว่ารตีคงไม่ได้อยากให้ผมไปร่วมฉลองอำลา
อดีตคนรักเธอสักเท่าไหร่  แล้วทำไม.....ภาพวันนั้นถึงย้อนมาทำร้ายผมได้ขนาดนี้  เจ็บจนจุกเลยทีเดียวที่แกล้ง
ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก  ไม่ใช่....มันไม่ใช่ผมเลย  แต่ผมรักรตีมากเกินกว่าจะยอมปล่อยเธอไปจากผม
“อุ๊ย...ไม่เอาหรอก เพื่อนรตีสวย  เดี๋ยวพาร์ทหลงรักเพื่อนรตีขึ้นมา รตีก็แย่สิคะ  ไม่ให้มาเด็ดขาดห้ามมานะ”
“หึหึ  ครับ  งั้น....ผมจะรอรตีกลับมานะครับ -ที่รัก-”
“ค่ะ  รตีรักพาร์ทนะคะ จุ๊บๆ”  แล้วปลายสายก็กดวาง  ทิ้งให้ผมยืนผ่อนลมหายใจทิ้ง ด้วยอารมณ์ตอนนี้มันคุกรุ่น รุ่นแรงขึ้นมาอีกแล้ว  ผมทุบราวเหล็กเบาๆ กวาดตามองไปทั่ว อากาศไม่ได้ดีอย่างที่คิด  แล้วภาพใครอีกคนก็ซ้อนทับเข้ามาในความคิด  “น้องปัต” ผมหลับตาแน่น  ความเครียดกำลังทวีความรุนแรง  ผมกำลังทำร้ายน้อง  กำลังดึงน้องเข้ามาเกี่ยว.....ทั้งที่ผมรักรตี แล้วปัตหล่ะ?  ผมกำลังจะทำให้น้องแปดเปื้อน ผมตอบตัวเองไม่ได้  ระหว่างผมกับปัต  ผมรู้สึกยังไง  รัก หรือ ชอบ หรือแค่  พอใจ  ถ้าให้ผมเลือกตอนนี้ 100% ผมเลือกรตี เพราะผมรู้ว่าผมรักเค้า  รักรตีมากเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นภาพที่เชียงใหม่มันคงไม่ได้จบลงแค่การแอบมองห่างๆ
ของผมเป็นแน่  รับรองว่าไอ้ผู้ชายที่เข้ามายุ่งกับรตี ไม่มีทางไปยืนทำหน้าหล่ออยู่ข้างๆ แฟนผม แต่เพราะผมยังอยากยื้อ  ให้รตีเป็นคนของผม  อยู่กับผม และใช้ชีวิตไปคู่กับผม   เพราะฉะนั้นเรื่องปัต  ....มันเป็นไปไม่ได้เลย
ผมยกมือขึ้นทุบหัวตัวเองแรงๆ เรียกสติที่ให้กลับมา   บ้าจริง....ทำไมผมรู้สึกแย่ขนาดนี้น่ะ   สุดท้ายก็ปล่อยเรื่องที่วุ่นวายไว้แค่นี้  เพราะผมเองก็ต้องรับผิดชอบเรื่องงานของตัวเองด้วย 
“ก็อกๆ  ก็อกๆ ” ผมยืนอยู่หน้าห้องพี่ภีม  เคาะประตูได้สักพักเสียงด้านในก็ตอบกลับมา
“เชิญ”
“พี่ภีมมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”
“อืม...นั่งก่อนสิพาร์ท  พอดีอยากได้คนที่มีไอเดียใหม่ๆ อ่ะนะ  แล้วพี่ก็นึกขึ้นได้ว่าพาร์ทไปเจอน้องคนนึงที่วาดแบบได้เก่งมากๆ อ่ะ พี่อยากให้เค้ามาลองร่างแบบงานนี้เพื่อจะไปพรีเซ็นต์ลูกค้า พาร์ทพอจะติดต่อเค้าได้มั้ย”
“ก็ได้อ่ะพี่  แต่น้องมันยังไม่เคยจับงานพวกนี้มาก่อนนะ  ....ผมไม่แน่ใจว่าน้องมันจะทำได้ดีแค่ไหน”  ผมบอกออกตัวแทนน้องก่อน  เพราะงานที่ผมชอบไม่จำเป็นที่คนอื่นจะต้องชอบตามไปด้วย แต่ผมคิดว่าถ้าผมชอบ มากกว่า 90% ก็มักจะเห็นไม่ต่างกัน 
“ไม่เป็นไรลองดูก่อนก็ได้ พี่เบื่อความซ้ำซากจำเจ  บางทีไอ้พวกครีเอทีพเก่าๆ มันก็ติดภาพเดิมๆ เกินไป พี่บอกตรงๆ มันก็สวยดีน่ะแหล่ะ  แต่ว่ามันเบื่อว่ะ มองไปมุมไหนมันก็เนี๊ยบ  แต่เนี๊ยบแบบเดิมๆ มันมีอะไรที่ซ้ำซากจำเจอยู่  นี่มันเป็นการเปิดตัวโรงแรมใหม่ของทาง เจกรุ๊ป พี่ต้องการไอเดียที่หลากหลายมาผสมผสาน แต่ไม่คิดว่าจะใช้ของใครคนใดคนหนึ่งหรอก  ว่าแต่....พามาหาพี่ได้เมื่อไหร่หล่ะ?”
“แล้วพี่อยากเจอเมื่อไหร่หล่ะฮะ”
“อืม...เร็วที่สุดน่ะแหล่ะ”  พี่ภีมว่า  พรางทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้ผู้บริหาร หลับตานิ่งใช้ปากกายี่ห้อหรูเคาะเบาๆ ที่แว่นตา ราวกับกำลังใช้ความคิด  หรือวางแผนการทำงานอะไรสักอย่าง
“ถ้าอย่างนั้นบ่ายนี้ เดี๋ยวผมพาตัวมาครับ  แล้วเจอกันตอนบ่ายนะครับ”  ผมตัดบทลุกขึ้นเตรียมจะออกไป
“หือ?  เร็วขนาดนั้น”  พี่ภีมลืมตาขึ้นมายกคิ้วถาม   ผมยกยิ้มที่มุมปาก 
“แล้วผมเป็นใครหล่ะครับพี่  น้องพี่ภีมเชียวนะ”  ผมว่าแซว  ๆ พี่ภีมส่ายหน้าขำๆ
“เออ...รู้แล้วว่าเก่งครับไอ้คุณน้อง  ไปเลยรีบๆ ไปเอาตัวมา เดี๋ยวพี่จะเตรียมพอร์ทงานไว้คุยรายละเอียด”
“รับทราบครับบอส”  ผมโค้งคำนับราวกับเป็นพ่อบ้าน ซึ่งพี่ภีมขำได้อีกเพราะคนที่อยู่ตำแหน่งนี้คงต้องสลับกัน
“ไอ้เสี่ยว...เลิกแซวพี่ได้แล้ว กรุณาช่วยเหลือผมด้วยนะครับคุณชาย” พี่ภีมว่าพร้อมลุกมาทำท่าพ่อบ้านอีกคน เล่นเอาผมฮาแตก ปกติไม่เห็นยอมเล่นด้วยสักที  ผมเลยสวมบทคุณชายต่อ
“อืม  ผมจะพยายามแล้วกัน” ผมว่า พร้อมเดินออกมาในมาดคุณชาย  ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพี่ภีม ดังมาเป็นระยะ  ผมก็แค่ไม่อยากให้พี่ภีมเครียด  ผมรู้ว่าพี่ภีมเหนื่อย เราสองคนแม้จะอยู่คนละครอบครัวก็จริงแต่สนิทกันราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา  ความจริงใจ.....ที่ผมอาจไม่ได้หาได้ง่ายๆ จากใคร  แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนนี้  ผมเชื่อได้ 100% กำลังจะเปิดประตูออกไปแล้วแท้ๆ แต่ก็มีเสียงเรียกจนผมต้องหันกลับไป
“พาร์ท” ใบหน้าพี่ภีมดูอึดอัด  และเป็นกังวลไม่น้อย พยายามจะพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ มาถอนหายใจยาวๆ แทน  จ้องมองมาที่ผม.....สายตาแห่งความห่วงใยนั่น  ผมรับรู้มันได้ดี
“มีเรื่องอะไร  ก็บอกพี่ได้นะ  อย่าลืมว่าเราเป็นพี่น้องกัน  ...อย่าลืมว่ามีพี่อยู่ตรงนี้   ไม่ว่าอะไร..”  เสียงพี่ภีมเงียบไป  ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ ราวมาก้อนแข็งๆ มาจุกที่ลูกกระเดือก 
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...เรายังมีครอบครัวที่คอยเราอยู่น่ะพาร์ท เข้าใจรึเปล่า?”  พี่ภีมรู้..........เรื่องรตีแล้วสินะ
“ครับ  ผมจะเข้มแข็งครับพี่  และแน่นอนไม่มีทางที่ผมจะลืมว่ามีพี่ยืนอยู่ข้างหลังผมเสมอ”  ผมหันไปยิ้ม เพื่อบอกว่าผมไม่เป็นไร   ผมรู้ว่ามีใครสักคนติดตามผมอยุ่ตลอดเวลา ...แน่นอนพี่ภีมสั่ง  เพราะผมไม่อยู่ในฐานะ
ที่จะมีใครมาจริงๆ ใจง่าย ๆ อยู่แล้ว  ถ้าไม่เพื่อเงิน ก็คงเพื่อความโด่งดัง  หรือหวังที่จะปีนไปสู่ความสำเร็จ
จนถึงตอนนี้ผมถึงไม่ยอมเปิดตัวเป็นลูกชายของพ่อ มีแต่พี่ภีมที่ออกหน้า  ... รับหน้าแทนตลอด  จนกว่า....ที่ผมจะโตจนสามารถไปนั่งแท่นผู้บริหารได้อย่างเต็มตัว  ผมพยักหน้าน้อยๆ แล้วเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง
.
“ฮัลโหล  ปัตเหรอ แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องเล็กรึยังหึ?” ผมกรอกเสียงไปตามสาย
“อ่า...ฮะ ๆ มาทำเรียบร้อยแล้วฮะ พี่พาร์ทจะมารับผมกี่โมงฮะ”
“พี่กำลังจะไป ..ปัตเตรียมตัวไว้เลยนะ”
“แล้วพี่พาร์ททานข้าวมารึยังครับ?”
“ยังเลย  แล้วเราหล่ะ?”
“ยังเลยฮะรอพี่พาร์ทก่อน  ปัตทำกับข้าวไว้แล้ว  หุงเข้าเสร็จแล้วด้วย คิดว่าพี่พาร์ทคงมาทานด้วยกัน”
“หึหึ  น้องชายพี่น่ารักตลอดเลยนะ โอเคครับเดี๋ยวพี่กลับนะไป จะได้ทานข้าวพร้อมกันนะ” ผมอมยิ้ม
“ฮ..ฮะ”   พอน้องวางสาย ผมก็ถอนหายใจยกใหญ่ ไม่ได้ๆ ผมจะไม่ทำให้น้องหวั่นไหว  รวมถึงตัวเองด้วย
มันจะต้องหยุด  ความสัมพันธ์  แค่คำว่า  “พี่น้อง”  เส้นที่ผมไม่อาจก้าวข้ามไปได้อีกแล้ว  แม้จะมีหลายต่อหลายครั้ง  ที่ใจมันห้ามไม่อยู่ แต่น้อง......ไม่ควรมาเจ็บเพราะผมใช่ไหม    จะทำได้ดีแค่ไหนกัน 
แต่ผม......จะทำให้ดีที่สุด   
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 04-08-2012 01:21:06
ทำเป็นคิดได้นะ จะคอยดูว่าสติจะหลุดเวลาเจอฤทธิ์ฟีโรโมนอีกหรือเปล่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-08-2012 02:54:07
ไปเคลียร์กับรตีที่รักให้มันจบๆก่อนดีมั้ยคะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-08-2012 03:06:36
เอาให้แน่?

 o12
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-08-2012 03:25:04
กลับมาเจอตัวนิ่ม ๆ กลิ่นหอม ๆ อย่าหลุดหล่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 04-08-2012 07:09:29
บอกเลิกกับรตีไปเลย
แล้วหันมาคบกับน้องปัตดีกว่า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-08-2012 07:41:41
ข้าวมื้อนี้ น้องปัตต้องเสียไปอีกกี่จูบ :angry2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-08-2012 09:20:00
ถ้ามีเพชรอยู่ในมือแล้วไม่เอา ก็ตามใจละกัน

เชิญไปเก็บก้อนหินไร้ค่าเถอะ ชิส์ อารมณ์เสีย  :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-08-2012 10:26:55
ปล่อยรตีให้ไปหาแฟนเก่าเหอะๆ

น้องปัตดีกว่าเป็นไหนๆ ทั้งสดทั้งซิง

ทั้งใสซื่อและบริสุทธิ์ หายากนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 04-08-2012 10:52:28

หว๋า ไม่ต้องตัดจบเร็วนักก็ได้ค่ะ เรายังอยากอ่านไปเรื่อยๆอยู่เลย
ยาวๆหน่อยก็ดีน้า แฮ่ๆๆ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
เห็นว่าไม่สบาย

เข้าเรื่อง เพิ่งมานึกนะคุณพี่พาร์ท - -*
แต่จะทนไหวร้ออ น้องน่ารักนะตัวเอง กั่กๆ
ปล่อยไปเถอะ ผู้หญิงแบบนั้น
จริงๆนะเออ 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-08-2012 11:11:17
ทำหยั่งกะน้องเป็นของตาย
มาทำอ่อยน้อง มาให้ความหวัง
ยังจะจับปลาสองมือไปทำไม
ในเมื่อชะนีรตีเค้าก็แสนดีซะขนาดนั้น

 :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 04-08-2012 11:25:22
ทิ้งๆไปเหอะยัยรตีน่ะน้องปัตดีกว่าเยอะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 14บางสิ่งที่หลงลืม P.5 4/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 04-08-2012 16:40:41
อย่าโกหกและฝืนความรู้สึกตัวเองสิพี่พาร์ท

จะรักกันได้ยังไงคนอ่านคนนี้จะติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-08-2012 02:41:37
บทที่ 15 

 “ก็อกๆ ก็อกๆ” ผมยืนเคาะประตูหน้าห้องตัวเอง  แล้วลอบถอนใจพยายามตั้งสติเพื่อจะเจอคนตรงหน้าได้อย่างปกติที่สุด 
“คลิ๊ก...แอ๊ด”  ใบหน้าหวานลอยเด่นเป็นสง่า ฉาบด้วยรอยยิ้มรอผมอยู่แล้ว ทำเอาใจกระตุกเลยทีเดียว ผมเสตาหลบสายตาน้องนิด ๆ พอตั้งสติได้ ก็หันมายิ้มกับคนตรงหน้า ยีหัวน้องเบาๆ  เห็นไอ้ตัวเล็กหลบเขินนิดๆ
บ้าเอ้ย!..... แค่นี้ก็ทำเอาใจผมเต้นผิดจังหวะ  ผมแทรกตัวเข้าไปในห้องไอ้ตัวเล็กก็เดินตามมา
“ทำอะไรกินหึตัวเล็ก พี่หิวแล้วอ่ะ” ผมว่าพลางเบนความสนใจไปที่อาหารให้มากเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นเผลอจับไอ้ตัวเล็กกดนี่จะทำไง  ผมเลยเลี่ยงจะไม่มองหน้า  ทำตัววุ่นวายกับการชิมอาหาร 
“อร่อย”  ผมว่าเบาๆ ดันเผลอไปสบตาไอ้ตัวดี ที่ยืนยิ้มตาหยีอย่างดีใจ    อ่า.....น่ารัก  ผมจิกนิ้วที่ขาตัวเองแรงๆ
อยากจะก่นด่าหัวใจ ที่แม่ง...จะเต้นแรงไปไหนครับ  เกรงใจกุบ้าง 
“ปัตทำแกงส้มดอกแค ไข่เจียวหมูสับ แล้วก็ผัดผักรวมฮะ  พี่พาร์ทชอบรึเปล่า?”  ไอ้ตัวดีว่า เดินเข้ามาตักข้าวให้ผม  และตัวเองก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ชอบ” ผมตอบเสียงแผ่ว   แต่หมายถึงชอบปัตน่ะ.... มันก็ดังได้แค่ในความคิดเท่านั้นแหล่ะ แล้วสายตาไม่รักดีดันไปจดจ่อที่ปากแดงๆ ของคนตรงข้าม  ก่อนจะสะดุ้งเฮือก อ้าว...เชี่ยแล้ว  เผลออีกแล้ว ผมก้มหน้าลงต่ำเพ่งจนจานข้าวจะทะลุอยู่แล้ว ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างกับว่าชาตินี้ไม่เคยกินข้าวมาก่อน  ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้ตัวเล็กกำลังยิ้มตาหยีเช่นเดิม ดึงดูดชะมัด  น่ามองเกินไป.....จนผมไม่กล้ามอง เพราะถ้าผมกล้ามองเมื่อไหร่...สัญญาได้ว่าผมไม่รับรองความปลอดภัย
“งั้นก็ทานเยอะๆ นะฮะ ”  น้องว่า  ผมเงยหน้าไปสบตาน้องนิดหน่อย ยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ  พอให้เป็นกำลังใจ
ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาทานต่อ   ไม่นานนักอาหารตรงหน้าก็หายเลียบ เกลี้ยง เนียน ราวกับไม่เคยมีอาหารมาก่อน หึหึ ....ไม่ใช่ผมไปตายอดตายอยากมาจากไหนหรอกนะครับ  ลองคุณมาชิมฝีมือน้องดูสิ ไม่เลียจานก็บุญแล้ว อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกอ่ะ  อ๊ะๆ...ไม่เชื่อ งั้นมาลองดูเหลือข้าวเม็ดนึงบนจานผมคุณลองมาชิมดู
ทานเสร็จน้องปัตก็ทำหน้าที่แขกที่ดี เก็บจานไปล้างเรียบร้อยโดยมีผมเป็นลูกมือ  เก็บไปวางให้ ฮ่าๆ    ผมเห็นน้องก้มหน้างุดๆ ล้างจาน มันเลยพานให้คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าขึ้นมาซะงั้น เลยตั้งใจจะเลี่ยงกลับไปนั่งรอที่โซฟาแทน แค่เดินผ่านด้านหลังน้อง  กลิ่นหอมจากตัวน้องลอยอบอวนมากระทบที่จมูกผม กลิ่น...เมื่อเช้าที่ผมได้สัมผัสชิดใกล้ยิ่งกว่าตอนนี้เป็นไหนๆ หอม.....จนทำให้จังหวะการก้าวเท้าชะงัดงัน  ได้แต่ยืนนิ่งหันข้างให้น้องอยู่อย่างนั้น  เพราะขาเจ้ากรรมมันไม่ยอมให้ผมก้าวต่อ  ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แอบสูดกลิ่นจางๆ ที่ดูล่อหลอกให้ผมเข้าไปหา    แอบชำเลืองมองไปที่ด้านหลังของใครคนนั้น  เผลอยื่นหน้าไปใกล้ๆ เพื่อสูดกลิ่นหอมให้มากขึ้นไปอีก  เบาราวกับกลัวว่าเจ้าตัวจะรู้ตัว   หัวใจ...........เต้นรัวขึ้นอีกครั้ง อยากสัมผัส...
สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปเกือบจะถึงตัวคนที่ว่า....... แล้วอยู่ๆ หัวใจผมก็กระตุกวาบ  รีบชักมือกลับแทบจะทันที กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ในหัวตะโกนก้อง  “ตัดใจซะ”.   ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลก็ถูกสะกัดกั้นเพียงเท่านั้น ผมผ่อนลมหายใจลึกๆ   นี่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผม  เพราะไม่เคยห้ามใจตัวเองได้สักที   รู้สึกเกลียดตัวเอง......ที่ไม่สามารถบังคับให้มันเป็นอย่างที่ผมคาดหวังไว้  ผมไม่อยากทำผิด  .....  ไม่อยากเห็นปัตเสียใจ   ถึงตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับน้อง   แต่สิ่งที่ผมรู้  “ปัตเป็นคนสำคัญสำหรับผมไปแล้ว”  และเป็นสิ่งที่ผมอยากจะถนอมรักษาไว้    ผมเลือกที่จะมองตรงไปด้านหน้า  แล้วก็ตรงดิ่งไปที่โซฟาดังที่ตั้งใจครั้งแรก  มาถึงก็ทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง จนคนที่ล้างจานอยู่ถึงกลับหันมามองด้วยความสงสัย  เกลียดตัวเอง......รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  ร่างกายผมกำลังเรียกร้องโหยหาคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น  อยากกอด....อยากสัมผัสจนแทบทนไม่ไหว  แต่..........ก็ต้องทน  ทั้งๆที่เป็นคนต้องห้ามสำหรับผม แต่ทำไมทั้งร่างกาย และจิตใจดูจะไม่ยอมเชื่อฟังกันเลยสักครั้ง  ทำไมต้องเป็นปัตด้วย ผมไม่เข้าใจ     เมื่อไม่เห็นเหตุผล และจนหนทาง ผมก็ทำได้แต่ทอดถอนใจเฮือกๆ ๆ  เพื่อระบายความอัดอั้นเพียงเท่านั้น   สองมือจิกแน่นๆ ที่ต้นขาตัวเอง ให้ความเจ็บมาช่วยกลบความต้องการบ้าๆ  กัดฟันตัวเองกรอดๆ อย่างเหลืออด  ทำไม.....น้องทำผมแทบคลั่งได้หล่ะเนี่ย  ผมโอดครวญถึงรตีอยากวิงวอนให้เธอกลับมาเร็วๆ ถ้ารตีอยู่ตรงนี้ผมอาจจะไม่คิดฟุ้งซ่านกับน้องก็เป็นได้  เป็นเพราะผมต้องการเธอมากเกินไปสินะ  ผมแค่เหงา ใช่แค่เหงา..เท่านั้น  ถึงได้โหยหา  ถึงได้ต้องการ และอยากสัมผัสปัตมากขนาดดนี้       “รตี”.......ได้โปรดกลับมาเถอะ........ก่อนที่ผมจะทำอะไรชั่วช้าเลวทรามอย่างไม่น่าให้อภัย  หลับตาแน่นทิ้งหัวพิงโซฟา แล้วกระแทกเบาๆ   เพื่อระบายอารมณ์ฟุ่งซ่านที่ว่า   คงเพราะมัวแต่จมจ่อมกับความคิดไม่เข้าท่า เลยต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงไอ้ตัวเล็กเอ่ยปากเรียก
“เสร็จแล้วครับ”  ผมหันไป เห็นไอ้ตัวดีสะพายเป้ในเล็กใบหนึ่ง ในมือถือสมุดสเก็ตภาพเล่มหนึ่ง ซึ่งผมจำได้ดีว่ามันเป็นเล่มเดียวกันกับที่น้องใช้สเก็ตภาพตอนที่อยู่ในสนามบิน  ตอนนี้ยืนรออยู่ไม่ห่างจากตัวผมเท่าไหร่นัก  ผมพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะเดินนำไอ้ตัวเล็ก
“ป่ะ...งั้นก็ไปกัน”  รู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองช่างไร้พลังเหลือเกิน  กับการอดทนที่เหมือนจะเกินขีดจำกัดของตัวเอง ผมเอื้อมมือกำลังจะบิดลูกบิดประตู แต่แล้วก็ต้องชะงัก  เพราะมีมือดีมาดึงรั้งเสื้อผมไว้  ผมหันหน้าไปมองเจ้าของมือด้านหลัง  ที่ตอนนี้กำลังจ้องหน้าผมราวกำลังอย่างค้นหาอะไรบางอย่าง  จนผมต้องเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“มีอะไรเหรอปัต?”   ผมเอ่ยถาม  ไม่เข้าใจจริงๆ กับสายตาที่ราวกับมีคำถามมากมายนั่น
“คือ...เอ่อ....”  น้องก้มหน้าลงไปที่พื้น  ราวกับกำลังชั่งใจว่าจะพูดหรือไม่พูดดี  ผมได้แต่เฝ้าสังเกตุอาการนั่น
“ครับ?”  ผมหันหลังไปเผชิญหน้ากับไอ้ตัวเล็ก  รู้สึกเป็นห่วงเหลือเกิน ...กลัวว่าตัวผมจะทำอะไรให้น้องลำบากใจ  ไอ้ตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม  ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อนั่น   มีเสน่ห์จนน่าใจหายผมเสตามองไปด้านข้างนิดๆ ก่อนจะหันมาสบตาไอ้ตัวดีของผมอีกครั้ง
“ว่าไงไอ้ตัวเล็ก?”  ผมเอ่ยซ้ำ พยายามเลือกคำที่ดูเป็นกันเอง  เพียงเพื่อต้องการให้บรรยากาศมันผ่อนคลาย
“พี่พาร์ท โกรธอะไรปัตหรือเปล่าฮะ?”   น้องว่าจ้องมาที่ผมนิ่ง  รอคำตอบ  ยิ่งผมทำตัวห่างเหินน้องก็ยิ่งรู้สึกถึงความแตกต่างสินะ  ผมยิ้มกว้าง.....ยีหัวไอ้ตัวเล็กเบาๆ อย่างปลอบใจ
“ทำไมเราคิดอย่างนั้นหล่ะ?” ผมไม่ได้ตอบแต่เลือกที่จะถามกลับ   จ้องมองตอบดวงตากลมโตนั่น
“ก็...ก็พี่พาร์ทเปลี่ยนไป ถ้าเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้า......”  น้องก้มหน้างุดลงไปมองพื้น ขณะที่ผมมองตอบด้วยหัวใจที่เต้นรัว   รอ.......รอฟังน้องว่าจะพูดอะไรต่อไป   ทำไมใจมั่นสั่นอย่างนี้หล่ะ  น้องจะต่อว่าผมรึเปล่า
หรือว่าน้องต้องการจะไปจากผม  หรือว่าน้องจะเสียใจ  น้องจะรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่า??  หรือว่า??? 
ความคิดมากมายวิ่งวุ่นอยู่ในหัวผม ลำคอแห้งผาก.....ถ้ามันทำให้น้องจะจากไป  ผม.....ผมย้อนเวลากลับไปทันไหม? สัญญาเลย......จะไม่แตะน้องแม้แต่ปลายก้อย   ผมเม้มปากแน่น   รอคำพิพากษา...จากปากน้อง
“ผม...  เอ่อ..ผม”  น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดนึง  คาดว่าใบหน้าผมตอนนี้คิ้วคงขมวดเป็นปมไปเรียบร้อยแล้ว
“ผม....”
“..............”    เงียบ
“..............”   ฉี่









“ผม....ไม่ได้โกรธฮะ”  น้องว่าเสียงแผ่ว ก่อนจะก้มหน้างุดตามเดิม สีแดงแล่นริ้วไปทั่วใบหน้าและใบหู   
แต่ทำไมผมได้ยินเสียงดังราวกับมีคนเอาโทรโข่งมาประกาศซ้ำๆ หลายรอบ  พุหลากหลายขนาดถูกจุดเสียงดังเปรี้ยงปร้าง อยู่รอบใบหู ราวกับมีสแตนด์เชียร์อยู่ใกล้ ผมได้ยินเสียงกรีดร้องแสดงความยินดีไปทั่ว ริมฝีปากที่แทบจะหุบยิ้มไม่อยู่.... แต่ก็ทำแค่กระตุกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ แบบคนฟอร์มจัด เฮ้อ~ แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก  ที่น้องไม่ได้ว่าอะไร.....ที่สำคัญคือ....น้องไม่ได้คิดจะทิ้งผมไป  ผมเก็บอาการแบบสุดฤทธิ์ถ้าตอนนี้มีหางนะ มีหวังโบกสะบัดพัดวีไปมาอย่างดีใจไปแล้ว  ผมยื่นมือไปยีหัวไอ้ตัวเล็ก  อย่างอารมณ์ดีสุดท้ายก็ยิ้มตาหยีตอบน้องไป  ฮ่าๆ  ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  น้องไม่ว่าเว้ยเห้ย
“ขอโทษนะปัต ...ที่พี่ทำอะไรแปลก  ๆ  พี่คิดถึงแม่น่ะตอนแม่พี่ยังอยู่แม่ทำกับข้าวให้ทานทุกวันเลย  แล้วพี่ก็เข้าไปกอดไปหอมแม่ทุกวัน  พอเห็นปัต.....มันเหมือนความทรงจำที่หลุดหายไปนาน ....กลับมาอีกครั้ง  พี่มีความสุขมากน่ะ  เลยเผลอทำอะไรตามใจตัวเองเกินไป  จะบอกปัตก็ไม่กล้า....เลยทำให้คิดมากอยู่อย่างนี้
พี่กลัว...ว่าเราจะเกลียดพี่  เห้ยปัตเป็นอะไรครับ?”  ผมรีบดึงไอ้ตัวเล็กมากอดแน่น ๆ  ลูบหัวไอ้ตัวเล็กเป็นการใหญ่ เพราะอยู่ดีๆ น้องก็น้ำตาคลอหน่วย ทำผมใจเสียได้อีก เมื่อกี้ผมพูดอะไรผิดเหรอ?  เพราะภายใต้จิตสำนึกของผม ก็อดคิดไม่ได้ ว่าแม่....อาจจะต้องการสื่อสารผ่านปัตเพื่อมาให้ความอบอุ่นผม  ความอบอุ่น~ ที่ดูมันเจือจางไปแสนนาน  แต่ทว่า.....ไม่มีสักวันที่ผมจะลืม  รอยยิ้มที่แสนใจดีของแม่  แม่....ผู้หญิงที่สวยที่สุดในความทรงจำผม  ผมลูบหัวปัตเบาๆ น้องยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนอกผม 
“พ ...พี่พาร์ท... ฮึกๆ ...จะทำอีกก็..ฮึกๆ ...ได้ฮะ  ปัตรู้.....คน....ไม่มี...ฮึกๆ พ่อแม่....รู้สึกยังไง  ปัต... ปัตก็ ฮึกๆ
ไม่มีพ่อ  ..ปัตรู้มันเจ็บ ทำเลย  ฮึกๆ เท่าไหร่ก็ได้ที่...พี่ต้ .องก.า ร”  น้องกอดผมไว้แน่น  ซุกหน้ากับอกผม   ผมกอดน้องตอบแน่นๆ  เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา  ความอ่อนแอทั้งหลายที่เคยซ่อนไว้  ทำไมถึงโดนน้องจับได้ง่ายดายขนาดนี้......ราวกับตอนนี้แทบจะทนไม่ไหว ความเจ็บปวดมากมายที่ผ่านมา ต้องพยายามเก่ง  ต้องพยายามเข้มแข็ง ต้องพยายามยืนให้อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่เสียใจ ผมได้แต่มองฟากฟ้า มองหาใครคนนั้น ผมไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทอง  หากแต่สิ่งที่ผมต้องการคือ- คนเข้าใจ-  ....
คนที่....จะโอบกอดผมไว้ในยามที่อ้างว้าง คนที่...จะเคยปลอบใจในยามที่เจ็บปวด คนที่จะยิ้มหรือแม้แต่ร้องไห้ไปด้วยกัน  ยืนอยู่ข้างๆ ไม่จากกันไปไหน  ใครสักคนที่ผมโหยหา  .... เหมือนฟากฟ้าส่งมาเติมเต็มกันและกัน
ขาผมทรุดยวบลงกับพื้นซุกหน้าเข้ากับตัวน้อง  กอดน้องไว้แน่นราวกับจะซ่อนน้ำตาไว้ได้หมด กับ20ปีแล้วที่พยายามทำตัวให้เข้มแข็ง ไม่มีน้ำตาสักหยด แม้จะเจ็บ จะเหงา จะเศร้า  หรือแม้แต่เสียใจ ทุกอย่างถูกเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้... นั่นเพราะผมอ่อนแอไม่ได้  ทั้งๆ ที่ผมก็เป็นแค่ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง 
แต่ตอนนี้...มันเกินจะทนไหว  ขอผมอ่อนแอสักวันได้ไหม?  ผมปล่อยน้ำตาให้รินไหล  ปากก็พร่ำเรียกชื่อน้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  ราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปอีกคน  ผมกลัวการสูญเสีย เหมือนแม่...ที่จากไป
“ปัต.....ปัต.....”  มือเล็กลูบเบาๆ ที่หัวผม  ช่างเป็นการปลอบโยนที่อบอุ่นเหลือเกินสำหรับผมตอนนี้  ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด แค่โอบกอด  แค่อยู่ข้างๆ กัน  ก็เพียงพอ
“ร้องเถอะฮะ ร้องไห้พอ  การร้องไห้ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ    มันก็แค่..ช่วยละลายความเจ็บปวดให้หายไปจากใจของเรา” ปัตว่าเสียงแผ่ว  ก่อนทรุดตัวลงมา  ....  ค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ไหลอย่างพร่างพรูโดยปราศจากเสียงสะอื้นให้กับผม 
“เข้มแข็งนะครับคนดี  ปัตจะอยู่ข้างๆ พี่เอง ปัตสัญญา” เสียงที่แสนแผ่วเบา แต่กลับอบอุ่นเหลือเกิน  ปัตแตะจูบเบาที่หน้าผากผม  ผมดึงน้องเข้ามากอดซุกหน้ากับไหล่เล็กๆ นั่น ตัวสั่นสะท้านได้อีก  แต่ผมไม่ได้กลัวอีกต่อไปแล้ว   เพราะผมมีคนที่พร้อมจะอยู่ข้างผมไม่ว่าเมื่อไหร่.... ขอบคุณเหลือเกิน  ปัต....ขอบคุณที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกัน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 05-08-2012 03:28:47
กว่าจะรู้นะว่าอะไรที่ไม่ควรเสียไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-08-2012 04:51:38
เอาแม่มาอ้างนะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 05-08-2012 07:49:16
ทีนี้รู้ตัวรึยังว่าควรจะทำอะไรต่อ พี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-08-2012 09:03:57
ถ้าเรารักใครพร้อมกัน จงเลือกคนที่สอง
เพราะถ้ารักคนแรก คงไม่รักอีกคน
>>> วาทะ จอห์นนี่ เดปป์

เข้ากับเรื่องนี้ และเวลาได้ยินมันเจ็บจุกๆ ไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-08-2012 09:05:51
คุ้มนะพี่พาร์ท ได้กำไรสองต่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 05-08-2012 09:44:57
นิสัยนะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-08-2012 10:56:04
ถึงนายจะเลือกปัตฉันก็ไม่สงสารรตีหรอกนะ

อาการออกซะขนาดนี้ :m12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 05-08-2012 10:57:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 05-08-2012 14:01:32
อาการออกขนาดนี้ ทิ้งรตีเลยเหอะ  :m1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-08-2012 15:21:38
พาร์ทฉันหวังว่านายคงไม่ฉลาดน้อยพอที่จะรอรตี และหวังจะให้รตีมาเดินคู่กับนายอีกนะ
ก็ลองคนมันไม่ซื่อต่อกันมันกล้าหลอกกันแบบนี้ นายคิดเหรอว่ามันจะไม่มีครั้งต่อๆไปอีก
ตอนนี้นายมีสิ่งที่ดีและมีค่าอยู่ในมือแล้วจะโยนทิ้งก็สุดแท้แต่นายล่ะกัน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 15 P.5 5/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 05-08-2012 19:40:24
พาร์ทคงรู้แล้วว่าจะเลือกใครที่จะคอยอยู่เคียงข้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-08-2012 22:48:45
อาทิตย์เป็นการโพสน์ที่มาราธอนทีเดียว เพราะแต่งทุกวันอ่ะค่ะ
ฉะนั้น .....จันทร์-ศุกร์นี้ เค้าจะไม่ได้โพสนะคะ  รอเสาร์อาทิตย์เลยแล้วกันนะ
 :-[ :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:


บทที่ 16

ผมกับปัตกอดกันอยู่อย่างนั้น  เนิ่นนาน~ จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเลยไปนานแค่ไหน  รู้แค่ว่าผมยังมีน้อง และน้องยังมีผม  กลิ่นของความอบอุ่นกรุ่นกระจายอยู่ทั่วทุกสัมผัส  เราโอบกอดด้วยความรู้สึกที่ทั้งห่วงหา อาทร
แต่กลับผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ความอัดอั้นทั้งหลายที่สุมราวกับกองเพลิงที่รอเวลาปะทุของผม 
ค่อยๆ ดับมอดไปทีละเล็ก ทีละน้อย  ด้วยมือน้อยๆที่ลูบหัวผมตอบอยู่ตอนนี้ กลิ่นจากตัวน้องที่ทำให้ผมอยากจะซบหน้าอยู่บนบ่าเล็กๆ นั่น ไม่อยากจะผละจากไป  ผมได้ยินเสียงหัวใจของเราสองคนที่เต้นรัว ราวกับเป็นจังหวะเดียวกัน  ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวจะเผลอ  ปล่อยให้หลุดมือไป  น้ำตาค่อยๆ จางหาย
ปลดปล่อยผมจากพันธนาการที่เจ็บปวดมาอย่างยาวนาน  ผมซุกจมูกสูดดมกลิ่นหอมของจากซอกคอขาวของคนตรงหน้า 
พร้อมกันกับที่หัวทุยของอีกฝ่ายซบลงบนไหล่ผม  มือที่คอยลูบหัวปลอบประโลมร่วงผลอยไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก  ส่วนมืออีกข้างก็ค่อยๆ คลายแรงกอดลง จนร่วงตามลงไปในที่สุด ทิ้งน้ำหนักมาที่ผมทั้งตัว
ผมเหลือบมองหัวทุยๆ ของอีกฝ่ายที่ยังซบนิ่งบนไหล่ผมไม่เคลื่อนไหว ลมหายใจสม่ำเสมอของคนในอ้อมกอดบอกให้รู้ว่าน้องหลับไปแล้ว  ผมอมยิ้มอย่างมีความสุข  นึกเอ็นดูความน่ารัก  ความใส่ใจของเด็กคนนี้   ทำให้ผมที่ไม่เคยร้องไห้เลยมาตลอด 20 ปีต้องเสียน้ำตาเข้าจนได้ 
“ร้ายนักนะ...ตัวแค่นี้”  ผมว่าเบาๆ  ลูบผมสีน้ำตาลนุ่มสลวยของอีกฝ่ายให้นอนหลับฝันดี  ค่อยๆ ขยับตัวนั่งลงพื้นให้ถนัด  แล้วพิงหลังกับบานประตูห้อง จัดการท่าน้องให้นั่งบนตักหันหน้าเข้ามาซุกอกผม น่าจะเป็นท่าที่สบายที่สุด ได้ตัวเล็กขยับตัวนิด เขี่ยจมูกได้รูปนั่นที่คอผมเบาๆ  ราวจะสูดดมกลิ่น ก่อนจะซุกตัวเข้าหาด้วยควมคุ้นเคย   ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก  จ้องมองคนในอ้อมกอดที่ยังหายใจสม่ำเสมอหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข ริมฝีปากแดงถูกเม้นนิด ๆ ก่อนจะกลับไปอยู่ในท่าเดิมของมัน  น่ามองจริงๆ  จนต้องเผลอไปมองทุกครั้ง   ไม่มีครั้งไหนที่ผมจะเลี่ยงสายตาให้หายจากไอ้ตัวเล็กได้เลย
อ่า....... ปากแดงจัดนั่น  น่าจูบจริงๆ  ก่อนจะรู้สึกตัว   ผมก็เอียงตัวลงให้หน้าอีกฝ่ายหงายได้องศา  มืออีกข้าง
จับหน้าน้องให้หงายขึ้น แล้วประทับจูบลงไปบางเลา  ริมฝีปากบางแดงช่างหอมหวาน  จนเผลอแทรกลิ้นไปกวาดชิมความหอมหวานภายในซึ่งหวานยิ่งกว่าเป็นไหน  ทำให้ผมอยากจะดื่มด่ำรสชาดความหวานให้ชุ่มปอด
“อือ~”  เสียงอีกฝ่ายครางประท้วงเบาๆ ขณะที่ดวงตายังปิดสนิท  คาดว่าคงจะรำคาญที่ถูกรบกวนจากการนอน
ผมค่อยๆ ถอนริมฝีปาก ดึงน้องมากอดตามเดิม ก่อนจะกดจมูกสูดดมกลิ่มหอมจากเรือนผมสีน้ำตาลสลวยนั่น
สะโพกหวานที่ทาบทับบนส่วนที่แข็งขืนบนร่างกายผม  อ่า~.........ทำยังไงดี  เมื่อไอ้พาร์ทน้อยมันตื่นขึ้นมาแล้ว
พึ่งรู้ตัวว่าคิดผิดมหันต์ที่ให้น้องนอนท่านี้  อืมม~  ส่วนที่อ่อนไหวมันเสียดสีกันแน่นเข้าไปอีก  ผมกัดปากตัวเองแน่น  เมื่อไอ้ตัวเล็กช่วงล่างนิดๆ เพราะนอนไม่สบายนัก  โอย~  ผมอยากจะตายซะตอนนี้ จะลุกก็กลัวไอ้ตัวเล็กตื่น แต่ถ้าไม่ลุก ...ไอ้ตัวที่ตื่นอยู่ด้านล่างก็ทำท่าจะทนไม่ไหว  ผมเลยตัดสินใจกระทำการบางอย่าง ..ถึงจะไม่ถูก  แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว  ผมกดมือลงจับสะโพกหวานของอีกฝ่าย ให้เสียดสีกับส่วนแข็งขืนด้านล่าง
“อ่า~” ผมเผลอครางเสียงต่ำ  แล้วต้องรีบหุบปากฉับ เก็บซ่อนเสียงแห่งความสุขสมไว้ภายใน  ขยับสะโพกตัวเองเบียดบดกับสะโพกหวาน   เบาๆ แต่เน้นหนักแน่น โดยที่เจ้าตัวยังหลับตาพริ้มอยู่บนตัก ผมกดจูบเบาๆ ที่กระหม่อมน้อง  กลิ่มแห่งความหวานยิ่งพาผมกระเจิดกระเจิงเข้าไปอีก  ผมหอบหายใจถี่ๆ ความต้องการพุ่งพร่าน  สบถเสียงดังอยู่ในใจ     บ้าเอ้ย !!  ความเร็วมันไม่พอ  ผมต้องการจะขยับเร็วขึ้น  เร็วขึ้นอีก  กัดปากตัวเองแน่น  ด้วยหัวใจที่เต้นรัวราวกับกลองชุด ที่บรรเลงจังหวะร็อคอย่างเมามัน  แต่มันไม่พอ ...ผมคิด ยังไม่พอ
ผมเลื่อนสะโพกหวานให้ห่างจากส่วนที่แข็งขืน   ลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่ายทำให้ผมรับรู้ว่าน้องยังหลับสนิท ผมรูดซิปลงต่ำ ควักส่วนที่แข็งขืนให้โผ่พ้นพันธนาการใดๆ  รั้งมือข้างที่โอบน้องให้สูงขึ้นเพื่อปิดปากตัวเอง
ส่วนอีกข้างลูดขึ้นลูดลงตามแรงปรารถนา  อ่า~........  เสียงครางเบาๆ ที่เล็ดลอดลำคอผม  จึงเปลี่ยนจากมือที่ใช้ปิดปาก เอามาให้ปากกัดแทน  ผมกัดแน่นซะจนเจ็บเพียงเพื่อจะกลั้นเสียงครางที่จะหลุดออกมาจากลำคอ
มือด้านล่างชักเร็วตามแรงปรารถนา  หัวใจเต้นรัวราวกับตีกลอง ใช้นิ้วบี้ส่วนยอดเล็กน้อย ก่อนจะชักส่วนที่แข็งขืนต่อจนสุดแรง   ในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็ได้ออกมาดูโลกกว้าง  ไหลเยื้อมเสียจนน่าตกใจ  โชคดีที่ดึงกางเกงในตัวเก่ง ขึ้นปิดทัน  ถึงได้เปรอะเปื้อนเปียกชุ่มที่กางเกงในเท่านั้น  ผมรีบรูดซิปกางเกงด้วยมือข้างเดียวอย่างอยากลำบาก  (ทำไมตอนถอดมันง่ายนักว่ะ)  แต่ในที่สุดก็สำเร็จ ผมหอบหายใจจนตัวโยนราวกับไปแข่งวิ่งมาราธอนมา
ผมโอบกอดได้ตัวเล็กที่ยังซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดผม จนสุดท้ายก็ผลอยหลับไปในที่สุด

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 05-08-2012 22:54:59
อ๊ายยยยพี่พาร์ททำไรอ่ะ

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-08-2012 22:59:48
ถ้าปัตรู้สึกตัวนะ....บรื๋ย!!ไม่อยากจะคิด 55555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-08-2012 23:07:30
ว้าย,,พี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 06-08-2012 00:08:42
อาการหนักขึ้นทุกวันแล้วนะพี่พาร์ท   :z3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-08-2012 00:32:25
พาร์ทเห็นทีอาการแกจะหนักเอามากๆ
ขนาดน้องมันหลับนะเนี่ย
ดีที่แกยังไม่ลักหลับน้องมันอะ

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-08-2012 00:37:03
พี่พาร์ท ทำไปได้  แอบหื่นนะเนี่ย
ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกันยังขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 06-08-2012 01:01:34
พี่พาร์ทหื่นจัด  :m25:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-08-2012 01:25:36
 :a5:

แอบข่มขืนน้องทางสายตานะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 06-08-2012 01:52:21
เห้ยยยย  ไหนบอกไม่คิดอะไร เป็นน้องชายไง
กับแค่น้องชายยังเป็นถึงขนาดนี้หรอพี่พาท  :m12:

เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกก   รอลุ้นว่าพาทจะกำจัดยัยรตีออกไปยังไง 
เอาน้องปัตดีกว่าเนอะน่ารักสดใสทำกับข้าวเก่ง  :impress2:

วันเสาร์อาทิตย์หน้าเลยหรอค่ะ   :sad4: โหยยย ตั้งห้าวัน  ลงแดงกันพอดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 06-08-2012 02:25:25
ไม่ไปที่บริษัทกันแล้วหรอ เอะ :m28:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 06-08-2012 09:48:18
ไม่ไปที่บริษัทกันแล้วหรอ เอะ :m28:


คิดเหมือนกันเลยอะ ว่าไม่ไปทำงานกันแล้วเหรอ  :really2:

ยี้ พี่พาร์ท ทำไรอะ ทำเสร็จก็ไม่ไปล้าง เหนอะหนะตาย  o22
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 06-08-2012 11:32:06
ลักหลับ เหอะๆๆๆ หลับจริงๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-08-2012 12:08:35
ตอบปัญหาที่ค้างคาใจนะคะ
แบบว่าร้องไห้หนักขนาดนี้แล้วอ่ะคะ่  เลยไม่มีอารมณ์ไปบริษัท  คิึคิ

ส่วนตอนใหม่ ถ้ามีเวลาแต่งก็จะโพสเร็วกว่านั้นนะคะ    ต้องขออภัยจริงๆ
งานหนัก เงินเดือนน้อย  ----ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 06-08-2012 14:39:58
อ่อก...
 :m25: :m25:
เลือดกระฉูดไปเลยทีเดียว
พี่พาร์ท พี่ได้ใจผมมากครับ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 06-08-2012 14:47:08
พระเอกของเราแรงได้อีก 555
ชอบน้องปัตมากเลยค่ะ ดูใสๆแต่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำให้เข้มแข็งและมองโลกในแง่ดี

ตามอ่านทุกเรื่องเลยนะคะ สนุกทุกเรื่อง พระเอกหื่นทุกเรื่อง 555
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-08-2012 16:16:30
เป็นแฟนเมื่อไหร่ น้องคางเหลืองแน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 06-08-2012 19:38:43
พี่พาร์ทเริ่มคิดอกุศลแล้วววววว อ๊ากกกกกกกก >//<
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 16 P.6 5/8/2012 time: 22.48
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 06-08-2012 21:46:40
เราอยากให้รักกันนะ แต่กลัวดราม่า  :sad4:

ทั้งเรื่องระตี เรื่องพ่อแม่ของแต่ฝ่าย เฮ้อ..

แต่ตอนนี้สุดๆ  :m25: 

ถ้าได้ปัตมาจริง พี่ท่านคงทำเช้า กลาง เย็น และก่อนนอนเป็นแน่แท้  :oo1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-08-2012 00:52:42
และแล้วก็หวั่นไหว ไปตามคำขอ ง่ะ  อ่านให้สนุกนะคะ
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:


บทที่ 17

“ครืดดดด  ครืดดดดดด  ครืดดดดดดด”   ผมกระพริบตาถี่ๆ ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่น มือก็คลำหาไปทั่วตามแรง
สั่นครืดคราดที่ปรากฎ  แล้วก็เจออยู่ในกระเป๋าเสื้อตัวนอกที่ผมสวมทับเชิ้ตอีกที กดรับขณะที่หลับตาลงอีกครั้ง
ไอ้ตัวเล็กขยับยุ๊กยิ๊กขณะที่ผมกรอกเสียงไปตามสาย
“ฮัลโหลครับ” เสียงแหบพร่าเพราะพึ่งตื่นนอน ทำเอาปลายสายดูจะคลายกังวลขึ้นเล็กน้อย  ไอ้ตัวเล็กชันตัวขึ้น
ขยี้ตาเบาๆ ขณะที่ยังนั่งบนตักผม  ด้วยอาการสลึมสลืออย่างถึงที่สุด  แล้วก็เอาแต่จ้องผมที่กำลังคุยโทรศัพท์
“พาร์ทเหรอ พี่เองนะ  เป็นอะไรรึเปล่าทำไมไม่เข้ามาทำงานหล่ะ  แล้วไอ้น้องคนที่พี่ให้ไปรับหล่ะเจอมั้ย” พี่ภีมซัก
“ขอโทษครับ พอดีพาร์ทรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย  เลยนอนกะว่าพักแป๊บๆ แล้วจะออกไปทำงานต่อ  ตอนนี้กี่โมงแล้วพี่ภีม?”
“จะบ่ายสี่โมงเย็นแล้ว แกไม่ต้องเข้ามาหรอก .....ไม่สบายก็พักผ่อนเถอะพาร์ท พี่แค่เป็นห่วง  แล้วถ้าพรุ่งนี้ไม่ไหวก็หยุดอีกสักวันนะ  อย่าลืมไปหาหมอหล่ะ”
“ครับพี่  ขอบคุณมากครับพี่ภีม ผมว่าแค่ทานยาก็คงค่อยยังชั่วขึ้นหล่ะมั้ง  ถ้ายังไงพรุ่งนี้คงไปทำงานได้ฮะ  เดี๋ยวพาน้องไปเจอด้วยเลย  อาจจะสายหน่อยนะพี่”
“อืมๆ  ยังไงก็ได้  อย่าลืมดูแลตัวเองหล่ะ แค่นี้แหล่ะพี่ขี้เกียจคุยแล้ว”
“ครับ  ขอบคุณอีกทีพี่”  แล้วพี่ภีมก็วางสายไป 
ผมมองไอ้ตัวเล็กที่ยังนั่งนิ่งๆไม่ขยับตัวไปไหน ทำเพียงแค่จ้องมองมาที่ผมด้วยตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่
ทำเอาผมยิ้มขำ จิ้มนิ้วไปที่แก้มของอีกฝ่ายเล่นๆ น้องกระพริบตางงๆ ฮ่าๆ น่ารักชะมัด  สุดท้ายก็อดยิ้มกว้างไม่ได้
"ปัต" 
"ฮะ"  น้องตอบดีเลย์ไป 3วินาที  นี่แสดงว่าสติยังไม่มา   ผมก้มหน้าลงนิดหนึ่ง ยกยิ้มที่มุมปาก กำลังคิดว่าจะแกล้งอะไรน้องดี  และแล้วก็คิดได้
"ขยับเข้ามาใกล้ๆ พี่ดิ๊ มีไรจะบอก"  ผมว่าพร้อมกวักมือเรียกหยอย ๆ (ที่บนตักนี่ยังไม่ใกล้พออีกเหรอ ==') ไอ้ตัวเล็กทำหน้างงๆ เหมือนกำลังครุ่นคิด
หึหึ....  แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกหล่ะมั้ง เลยได้แต่เอียงหน้าน้อยๆ กับเลิกคิ้วขึ้นสูง  แล้วขยับเข้าหาผมแต่โดยดี
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ กระซิบเสียงแผ่วเบา ก่อนจะแอบกดจมูกลงบนแก้มหอมของอีกฝ่าย อย่างเนียนๆ
"หิวแล้ว ทำกับข้าวให้พี่กินหน่อยครับ" น้องกระพริบตาปริบ รู้สึกงุนงง แต่ก็ยังยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง หน้าตาคล้าย ๆ กับว่าไม่แน่ใจว่าโดนหอมรึเปล่า
"เร็วๆ สิ พี่หิวแล้วนะครับ"  ผมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบหูอีกข้างที่ไม่มีมือปิด และแน่นอนแอบยื่นจมูกไปถูไถเบาๆ ที่แก้มหอมอีกข้าง   ไอ้ตัวเล็กยกมือขึ้นจับแก้มข้างที่เหลือ  กระพริบตาปริบๆ อย่างน่ารักน่าชัง
ผมที่เอาแต่ยิ้มขำกับท่าทางเอ๋อๆ ของน้อง  มันน่าแกล้งชะมัด  แก้มนุ่มมาก บอกได้คำเดียวว่า........  หอม   
ก่อนจะผละตัวออกมาพิงประตู  คอยสังเกตุสีหน้าของปัตที่ตอนนี้เหมือนๆ จะขึ้นสีระเรื่อ แม้จะไม่แน่ใจ
แต่......ใกล้กันขนาดนั้น    ผมว่า.....น้องก็ต้องหวั่นไหวบ้างหล่ะน่า  ยกมือลูบผมนิ่ม ของไอ้ตัวเล็กเบาๆ
น้องเอียงหัวมาซบ ก่อนมือเล็กๆนั่น จะวางทาบทับบนมือผมเหนี่ยวรั้งมาไว้ที่แก้มนิ่มๆ ของตัวเอง  แล้วถูไถหน้าลงกับฝ่ามือผมเบาๆ ราวกับลูกแมวขี้อ้อน ผมปล่อยให้ปัตทำอยู่อย่างนั้นสักพัก  แทบอยากจะดึงน้องเข้ามากอด  ทำไมถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ  ....  ปัต......
ผมยกมือข้างที่ว่างยีหัวไอ้ตัวดี ที่ดูจะเล่นเพลินไปหน่อย  ก็ตอนนี้นะสิ  ผมหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว  เพราะร้องไห้มากเลยทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงาน   ส่วนเรื่องอื่น......หึหึ  ..........ถือเป็นการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดหล่ะกัน    ฮ่าๆๆ     
“ฮ่าๆ ”  ดูท่าน้องจะถูกใจที่ผมแกล้ง  ผมเลยเลื่อนมือมาจับที่ไหล่ทั้งสองข้างก่อนจะเขย่าสุดแรง ให้อีกฝ่ายหัวโยกคอน
“ฮ่าๆๆๆๆ”  และดูเหมือนจะกลายเป็นผมเองที่สนุกสุดๆ กับการแกล้งในครั้งนี้  เพราะอีกฝ่ายเริ่มร้องครวญครางขอให้หยุดการกระทำนี่เสียที
“โอยยย~  ตื่นแล้วฮะปัตต่านแล้ว  โอ๊ย...มึนเลย”  น้องบ่นเบาๆ
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า  ขี้เซานักนะเรา  ไปๆ ไปล้างหน้าเลย  จะได้ทำกับข้าวให้พี่กิน ”  โครกกกก~   แล้วเสียงท้องก็ร้องประจานอย่างหน้าอับอาย  ผมยกมือขึ้นเกาหัวยิมเขินๆ แก้เก้อ ส่วนไอ้ตัวเล็กน่ะเหรอ เหอะ~  ฟังเสียงเอาแล้วกันครับ  ..........  ไม่มี๊  ไม่มีจะไว้หน้ากันหรอก
“หึ...หึหึ  ฮ่าๆๆ  ก๊ากกกกกกกกกก  ตลกว่ะพี่”   ตอนนี้ไอ้ตัวดีหัวเราะจนตัวงอ นอนกลิ้งที่พื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้วยความหมั่นไส้ ผมเลยกะใช้ปลายเท้าเขี่ยเบาๆ ไอ้ตัวดีกลิ้งหลุนๆหลบปลายเท้าผม ไปชนโซฟาแทน ฮ่าๆ
“อูย~ ”  ไอ้ตัวเล็กครางเบาๆ ก่อนจะหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ผม
“ฮ่าๆ เตะไม่โดน”  ไอ้ป่วนว่า  ค่อยๆ ยันตัวลุก โดยมีมือผมยื่นไปดึงไอ้ตัวดีให้ลุกตามมา  แล้วเคาะหัวน้องเบาๆ โทษฐานปีนเกลียว น้องลูบหัวตัวเองเบาๆ แต่ก็ยิ้มจนตาปิดมาให้ผม
“เดี๋ยวปัตทำกับข้าวให้กิน  ขอไปล้างหน้าก่อนนะพี่” 
“เร็วๆ นะ พี่หิวจะแย่แล้ว”
“รับทราบ  ครับผม” น้องหันมาตะเบ๊ทีหนึ่ง แล้ววิ่งเหมือนทหารเข้าห้องน้ำไป  ผมส่ายหน้าอย่างระอา แต่จริงๆ ก็ฮามากๆ หึหึ  ไม่นานนักไม่ตัวดีก็ออกมาตรงดิ่งเข้าครัว หยิบๆ จับๆ แป๊บเดียว ก็ได้ผัดผักรวม กับไข่เจียวหมูสับ มาวางตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อย ส่วนข้าวนั้นยังเหลือตั้งแต่เที่ยงแค่กดอุ่น
(ก็ยังกระทำโดยน้อง  ...ส่วนไอ้เฮียนั่นรอกินอย่างเดียวค่ะ  โน่นรอที่โต๊ะอาหารโน่น ////  ฟ้องค่ะฟ้อง)
“ติ๊ง  ติ๊ง  ติ๊งงงงงงงงงงง”  เสียงหม้อหุงเข้าแจ้งเตือน ว่าขั้นตอนการอุ่นเรียบร้อยแล้ว  ปัตตักใส่จานสองใบ
ก่อนจะมาเสิร์ฟบนโต๊ะ  ผมที่มองกับข้าวรอจนน้ำลายเยิ้ม  แทบจะไหลออกนอกปากคล้ายคลึงกับหมาบ้า
เพราะความหอมละลายใจ  และความหิวที่ละลายลำไส้ไปเรียบร้อยแล้ว  เลยต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่
หันไปมองไอ้ตัวเล็ก รอน้องอนุญาต   จนหางกระดิก ดิ๊กๆ (ว่าแต่ผมไปมีหางตั้งแต่เมื่อไหร่ ==’)   ราวกับสวรรค์กลั่นแกล้ง น้องรู้อยู่แล้วว่าผมรออยู่ กลับยกยิ้มที่มุมปากหวานๆ นั่น  (เอ๋ ว่าแต่ผมจะเลิกกินข้าวไปกินน้องแทนซะดีมั้ย?)
“เชิญฮะ ” ปัตว่าพลางกลั้นขำไปด้วย  ผมแอบเคืองนิด ๆ เดี๋ยวจะไปเขียนไว้ใน memo เวลาเอาคืนจะได้เอาคืนอย่างสาสม  หึหึหึ  ....  มีใครเคยบอกมั้ยครับ ว่า......     หัวเราะทีหลัง.......มันดังกว่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนนี้ลืมไปก่อนแล้วกัน  ว่าแล้วผมก็ก้มหน้าก้มตาจ้วงอาหารตรง  ทั้งๆ ที่เป็นเมนูธรรมดาไม่ได้มีอะไรเลิศเลอ
แต่ทำไมอร่อย  .....  จนผมต้องหลับตา   ทำท่าเคลิ้มฝัน   ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ....เหตุผลก็ยิ้มตาหยีอยู่ตรงหน้า
คิดได้แค่นั้นก็เผลอยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่   อาหารอร่อย .....ก็ไม่สู้อยู่กับคนที่ถูกใจสินะ
“ยิ้มอะไรฮะ”   ไอ้ตัวเล็กถามขึ้นอย่างสงสัย
“ก็แค่....”   จ้องหน้าน้องนิดๆ ก่อนจะหันไปสนใจกับจานอาหารด้านล่าง
“พี่มีความสุข”  ผมรวบช้อนกับส้อมเข้าด้วยกัน เพราะจานผมได้ว่างเปล่าไร้ซึ่งอาหารแล้ว ยกจานไปวางไว้ริมโต๊ะด้านที่ว่าง  ไอ้ตัวดียังคงเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัย
“ฮะ....แล้ว?”   ผมยื่นมือไปรวบมือของอีกฝ่าย จับมือนุ่มแล้วบีบเบาๆ  สายตายังจับจ้องที่หน้าหวานไม่ไปไหน 
“เพราะมีปัตอยู่ใกล้ ๆ ขอบใจนะ  แต่ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปก็คงดี”   ผมรู้ว่าสายตาผมที่ส่งไปมันหวานเชื่อมขนาดไหน
รู้ได้ไงน่ะเหรอ  ก็ดูจาก......ใบหน้าสีระเรื่อที่ตอนนี้สีแดงรามไปถึงหูแล้ว  ริมฝีปากแดงเม้มแน่น  สายตาที่เสไปมองอย่างอื่นเนื่องจากความเขินอาย  แต่ก็ยังปล่อยให้ผมจับมือไว้แน่น   ไม่ได้ดึงออก.......  เพราะอะไรกันน๊า...หึหึหึ  ผมค่อยๆ ละมือ  น้องหันมาสบตาผมแทบจะทันที  ราวกับตกใจที่ผมปล่อยมือ ไม่นานก็เสตาไปทางอื่นตามเดิม  ผมว่าน้องกลัวผมเข้าใจผิด  ที่ไม่ยอมมีคำพูดใดๆ นอกจากความเงียบ 
“..........”  ไม่ตอบรับ........แต่ก็ไม่ปฏิเสธ   แล้วยืนหน้าแดงอย่างนี้   ผม.....จะตีความว่าไงดีหล่ะ?
“เอ่อ....คือ” ไอ้ตัวเล็กว่า 
“ครับ....ว่าไง?”
“เอ่อ  ...ปัต......ปัต”  ก้มหน้าลงมองนิ้วเท้าตัวเองอีกหล่ะ  ฮ่าๆ ช่างน่ารักจริงๆ 
“...............”  เงยหน้ามามองผมนิดนึง  ก่อนจะก้มลงต่อ 
“ปัต................ไปล้างจานก่อนนะฮะ”    ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เล่นผมขำก๊ากก กำลังลุ้นอยู่ดี  เนียนเปลี่ยนเรื่องซะแล้ว ว๊า.............แย่จัง  แต่ไม่เป็นไรหรอก  วันหลัง......ก็ยังมี   หึหึ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 07-08-2012 01:23:17
 :z13:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 07-08-2012 02:17:03
หวานเกิ๊นนะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-08-2012 02:29:22
ไม่ใช่มาทำให้น้องหลงรักแล้วก็จากไปนะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 07-08-2012 02:35:01
เริ่มโมโหไอ้พี่พาร์ทแล้วนะ ตกลงแกจะเอายังไงกันแน่ เดี๋ยวปั๊ดโบก  :z6:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 07-08-2012 05:54:43
หวานกับน้องอีกแล้วนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 07-08-2012 07:01:35
พี่พาร์ทหวาน  :-[

ถ้ารตีกลับมาต้องยุ่งแน่ๆเลย  :m29:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-08-2012 09:28:51
พี่พาร์ทไม่ว่าหรอกนะ ที่จะทำแบบนี้ เพราะคิดว่าพี่พาร์ทคงรู้ใจตัวเองดี

แต่ที่ไม่โอเคคือการที่พี่พาร์ทไม่เคลียร์อะไรเลย  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 07-08-2012 10:37:31
นะ...มาให้อยากแล้วก็จากน้องไป

โดนตบตายนะพี่พาร์ท....
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 07-08-2012 11:39:24
รตีอย่าเพิ่งกลับมาสร้างปัญหานะ สองคนนี้เค้ากำลังหวานกันเลย คริคริ

อ่านตอนนี้เสร็จก็เม้นต์อ้อนให้คนเขียนมาต่อตอนต่อไปเร็วๆ ^ ^
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 07-08-2012 11:57:12
เพิ่งเห็นว่ามาเปิดเรื่องใหม่ ตามมาจิ้มค่าาาา  :z13:

อ่านตามทันแล้วค่ะ เรื่องนี้เริ่มต้นมาเหมือนจะอารมณ์ดาร์กแต่กลับกลายเป็นน่ารักอบอุ่นในที่สุด ชอบมากเลยค่ะ
แล้วพอปัตเข้ากรุงเทพฯ ก็มีเรื่องตื่นเต้นให้ลุ้นอีก อ่านไปใจก็เต้นตูมตาม ตามเรื่องนี้ไปด้วย

พี่พาร์ทนี่อาการเข้าขั้นหนักแล้วนะเนี่ย ยับยั้งใจหน่อยนะคะพี่ น้องเค้าเสน่ห์แรง ฟีโรโมนฟุ้งแถมยังแสนดีขนาดนี้
ยังไงก็ จัดการเรื่องยัยรตีให้จบไปก่อนนะ สงสารน้อง ก็ต้องเลือกแค่คนเดียวนะคะ

เรื่องนี้ สนุกมากเลยค่ะ รอติดตามด้วยคน
แล้วก็...ยังคิดถึงและรอ เรื่อง "กอด" อยู่เสมอนะคะ

+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่าาา

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-08-2012 20:25:09
อ่า~ :-[ :-[ :-[ สารภาพดีมั้ยนะ....
ขอโทษนะคะ เค้าลืมไปว่าเค้าแต่งเรื่อง   "กอด"   ค้างไว้อ่ะ
ปกติจะไม่แต่ง สอง เรื่องพร้อมกัน  น่ะคะ
ฉะนั้น เรื่องนี้จบ  เดี๋ยวไปต่อเรื่อง  กอด  ให้นะคะ  ฟิวกำลังมาทางนี้อ่ะค่ะ

 :m15: :m15: :m15: :m15:
ขออภัยจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 17 P.6 7/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 07-08-2012 23:25:17
พี่พาร์ททททททททททททททททททททท

แกล้งน้องปัตไปได้ ชิ !

น่ารักอ๊าาาาา  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-08-2012 02:00:56
บทที่ 18 

“จะนอนแล้วเหรอฮะ”  ไอ้ตัวเล็กถามขึ้น  หลังจากที่ล้างจานเสร็จก็มานั่งจุ้มปุกดูโอลิมปิคกันไปพลางๆ
แต่อย่างว่าหล่ะครับ ผู้ชายพอเจอกีฬา.....ก็ตั้งใจดูจนลืม   ลืม........ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น 
เข้าโหมดนั่งเชียร์ทีมชาติไทยซะ....สะบัดช่อ  เผลอสบถเสียงลั่นเพราะมัวแต่ลุ้นในแต่ละแมทจนตัวโก่ง
หรือบางครั้งก็หันมาปรบมือเปาะแปะกันหลายที   ฮ่าๆ  คิดแล้วก็ขำจนการแข่งขันจบไป  ผมก็ลุกขึ้นจากโซฟา
บิดขี้เกียจอยู่หลายที ก็หันมาพยักหน้าน้อยๆ ตอบไอ้ตัวเล็ก  พร้อมอ้าปากหาว~  ด้วยความง่วง
“อือ...อาบน้ำแล้ว พี่ว่าจะนอนเลย  ปัตหล่ะจะนอนเลยรึเปล่าหึเรา?” 
“ฮะ  อาบน้ำแล้วปัตก็ว่าจะนอนเลยเหมือนกัน”
“อือ ดีแล้วๆ นอนเร็วๆดีกว่านะ พรุ่งนี้จะได้ไปทำงานพร้อมพี่นะ   เจ้านายพี่เค้าอยากเจอน่ะ”
“ครับพี่”   น้องพยักหน้ารับแต่โดยดี  ไม่มีขัดขืน
“เดี๋ยวปัตไปอาบน้ำห้องพี่น่ะแหล่ะ  ของใช้เราอยู่ในนั้นหมดไม่ใช่เหรอ ? ”
“ไม่เป็นไรพี่ผมย้ายออกแป๊บเดียวก็เสร็จ”  น้องยืนกระต่ายขาเดียว  แต่.....ผมไม่ยอมอ่ะ
“แป๊บเดียวอะไร ดึกแล้วอาบๆ ไปเถอะเสียเวลาว่ะ  อย่าเรื่องมากดิไปๆ”  ว่าจบก็โบกเกรียนไอ้ตัวเล็กไปเบาๆ
ผมผลักหลังไอ้ตัวดี  ไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ  แล้วก็เดินเข้าห้องนอนผมไป   ....
.
ผมเดินกลับไปที่โซฟา....ทิ้งตัวลงพิงหลังเข้ากับโซฟาหลับตาลง  พลางครุ่นคิดถึงความรู้สึกมากมาย
ทบทวน....ถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้น ....ระหว่าง.....ผมกับปัต .......   ความรู้สึก..ที่ดูจะมากขึ้นทุกที
สิ่งเหล่านี้จะเรียกว่า... “รัก”   ได้รึเปล่านะ?   ทำไมผมถึงต้องหลงรักปัต?   มีเหตุผลอะไรกัน?
ได้แต่ร้องถามใจตัวเอง  ปัต....ก็แค่เด็กผู้ชายหน้าสวยที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงต้องเผลอมองเหลียวหลัง
เพราะคงเผลอคิดไปว่าน้องเป็นผู้หญิง  ผิวขาวเนียนละเอียดลื่นมือ  ตัวบอบบางหากแต่ยามสัมหัสกับนุ่มนิ่ม
รอยยิ้มพิมพ์ใจนั่น  ความใส่ใจคนอื่นอีกเป็นเสน่ห์ที่ใครอยู่ใกล้ก็ต้องหลงไหล  กลิ่นหอมๆ ที่อบอวนอยู่ทั่วตัว 
ที่สำคัญน้องมายืนในหัวใจผม..ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ.......มันไม่ทันรู้ตัว   แล้วเรื่องผมกับรตีหล่ะ .....ผมเผลอลืมเธอ
ไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ใช่...ในใจผมก็ยังมีเธอ   รตียังยืนอยู่ตรงนั้น   แต่มันช่างแตกต่าง....  คนหนึ่งยืนอยู่ด้วยความ
เข้าใจและพร้อมจะใส่ใจผม  แต่อีกคนกำลังรอให้ผมรัก.  ....และกำลังรอให้เธอกลับมา ......แค่คิดมันก็เจ็บ
สามปีที่เราคบกัน มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมาย  มากจนกระทั่งผมคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอคนนี้  ........
แต่ตั้งแต่วันนั้น วันที่รตีเลือกจะใช้เวลากับอดีตคนรัก  แล้วผม.....กำลังเป็นตัวอะไรกัน   แต่ผมก็ยังรักเธอ 
หากแต่......มันไม่เท่าเดิม  มันน้อยลง....ผมรู้ดี  และกำลังมีใครอีกคนมาแทนที่  ใช่ตอนนี้ผมกำลัง....ลังเล 
ผมกำลังสองใจ  ....ถ้าถามตอนนี้ ผมอยากอยู่กับใคร  ผมมั่นใจผมอยากอยู่กับน้อง   อยากอยู่ข้างๆ คนนี้   
คนที่อยากยืนข้างๆ ผมเพราะห่วงใย  เข้าใจกัน   ผมไม่แน่ใจว่า....มันผิดหรือเปล่าที่ดึงน้องเข้ามาเกี่ยว
น้องอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด  ไม่ได้รู้สึกอย่างเดียวกันกับที่ผมรู้สึกก็เป็นได้  อ่า~  ทำไมทรมานยังงี้ว่ะ
รู้สึกหัวหมุนไปหมด  ภาพของน้องกับรตีวิ่งวนสลับกันไปมาในสมอง  เรื่องราวที่ผ่านมา เราก็ทำได้แค่
ค่อยๆ ปล่อยให้มันผ่านเลยไป  ผมไม่รู้เรื่องของเรา สาม สี่ คน จะลงเอยกันยังไง .....  ไม่รู้จริงๆ
“ก็อก ๆ ก็อกๆ ” ผมสะดุ้งเฮือก  เพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปลื่อยถึงได้ตกใจอย่างนี้  ผมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู
ในหัวก็คิดสงสัยว่าใครที่มาดึกขนาดนี้ 
“รตี”  หญิงสาวยิ้มหน้าหวานให้ผม  โถมเข้ากอดผมเต็มตัว และผมก็กอดตอบรตีโดยอัตโนมัติ
“พาร์ท”  เสียงเรียกทั้งหวาน ทั้งแผ่วจากปากรตี  ทำไม....ผมรู้สึกราวกับน้ำเสียงของเธอปนสะเอื้อน
รตีผละตัวออก แล้วยืนมองผมเต็มๆ ตา  ผมเห็นรอยคราบน้ำตาจางๆ บนใบหน้าสวยนั่น ก็รู้สึก
หวั่นใจอย่างประหลาด   ผมไล้นิ้วบนแก้มรตีบางเบา 
“รตี เป็นอะไรครับ  บอกพาร์ทสิ บอกพาร์ท”  ผมดึงรตีเข้ามาในอ้อมกอด  รตีปล่อยโฮที่อกผม ทำผมเงอะงะ
ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ลูบหัวปลอบใจเธอเท่านั้น 
“ข  อ..โทษ” รตีว่าน้ำเสียงสั่นเครือใบหน้าเปลื้อนน้ำตาจนชุ่มเสื้อผม  หญิงสาวผละตัวออกมาอีกครั้ง 
ริมฝีปากถูกเม้มแน่น จนบางครั้งง..ผมเห็นรตีกัดริมฝีปากตัวเองแน่น  จนน่ากลัวว่าจะมีเลือดออก
“ขอโทษทำไม  อย่าร้องนะครับคนดี ” ผมว่า ไล้นิ้วเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า  รตีส่ายหน้ามุ่น
“พาร์ทค่ะ”  รตีจ้องหน้าผมนิ่ง  ดวงตาไหวระริกนั่นเป็นคำตอบสำหรับผมได้อย่างดี
“...ผมรอฟังอยู่”  ผมตอบกลับนิ่งๆ  ทั้งๆ ที่ใจผมตอนนี้ ....แน่ใจแล้วในสิ่งที่รตีกำลังจะบอก
“รตีจะไปเกาหลีค่ะ    ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา............   พาร์ท   ไม่ต้องรอรตีแล้ว  เข้าใจไหมค่ะ ”
“...............”   ผมได้แต่เงียบไม่ได้ตอบอะไร  กระพริบตาช้าๆ รู้สึกสมองมันตื้อไปหมด  ถึงได้ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองในสิ่งที่รตีกำลังอ้าปากถาม 
“วันนี้ รตีมาลาค่ะ  มาลาคุณ ขอบคุณช่วงเวลาที่ผ่านมานะคะพาร์ทคุณดีกับรตีมากจริงๆ  แต่...ฮึก
รตีรักเค้าทำยังไงก็ไม่ลืม  ยังรักเค้าเสมอมา   .....  รตีขอโทษค่ะ รตีผิดเอง”  ผมจ้องมองรตี ฟังทุกคำพร่ำรำพัน
แล้วสิ่งให้ที่ความกระจ่างมากกว่าสิ่งไหน  ก็คือ......ผู้ชายด้านหลังที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ กำลังยื่น
มือมาประครองไหล่ทั้งสองด้านของรตีแสดงความเป็นเจ้าของ....นายอาทิตย์   ค่อยๆ รั้งรตีให้ห่างจากตัวผม
“ไม่มีเวลาแล้วรตี   ต้องไปแล้ว ”  อาทิตย์บอกรตีเบาๆ  ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับผม
“ขอโทษนะครับ....แต่เรา-รักกัน-  ผมกับรตีรักกัน  ขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ  แต่ได้โปรดอภัยให้เราเถอะนะครับ
ผมขาดรตีไม่ได้ พอๆ กับเธอเองก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจากผม  แม้จะเลิกกันไปนาน....แต่ไม่มีวันไหน
ที่เราทั้งสองจะไม่คิดถึงกัน  ผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องเสียใจ แต่เรื่องหัวใจมันห้ามไม่ได้หรอกครับ”
นายอาทิตย์กล่าว หันไปจับมือรตี แล้วเดินจากไป  คงเหลือแต่ผมที่ยังนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น  จ้องมอง “อดีต” คนรัก ค่อยๆเดินจากไปจนลับตา  ผมได้แต่มอง.....แค่มองจริงๆ
.
.
“พี่พาร์ท” จู่ก็ได้ยินเสียงไอ้ตัวเล็ก  ถึงได้หันไปมอง.....น้องพึ่งอาบน้ำเสร็จมาดๆ ไรผมยังเปียกชุ่มน้ำ
ปัตเดินตรงมาหาผม  ปิดประตูที่อ้าค้างไว้ตั้งแต่รตีเดินจากไป  มือนิ่มๆของอีกฝ่ายแตะลงที่แก้มผม 
ไล่เช็คน้ำตาที่ผมไม่รู้ว่ามันไหลออกมาตอนไหน  น้องโอบกอดผมแน่นๆ  ก่อนจะบอกเสียงแผ่ว
“ถ้าอยากร้อง.....ก็ร้องเถอะฮะ”   ได้ยินแค่นั้น  ...ผมกอดตอบน้องแน่น ๆ ซุกหน้าเข้าหาไหล่บาง
ปล่อยน้ำตาให้รินไหลอย่างเชื่องช้า  และเนิ่นนาน  แม้จะเสียใจ...แต่ผมก็ยังอุ่นใจที่มือเล็กนี่ คอยกระชับกอด
คอยลูบหัว  คอยเช็ดน้ำตา  และเข้าใจในทุกๆ อย่างที่ผมเป็น   
อีกนานแค่ไหน.......  อีกนานรึเปล่า  .....  ที่ผมคนนี้  จะเข้มแข้งได้แบบน้อง  จะสามารถยืนอยู่ตรงหน้า
แล้วโอบกอด ปลอบโยนยามที่น้องเสียใจได้บ้าง  สักวัน......ผมจะเป็นคนแบบนั้นสำหรับน้อง
ให้ได้.....อย่างแน่นอน

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-08-2012 02:08:38
เ้ห้อ,,,น้องช่างเป็นที่พักพิงที่ดีให้ก้ับพี่พาร์ทซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 08-08-2012 10:08:40
รตีไปดีเถอะนะ  :bye2:

พาร์ทจากนี้ก็ไม่มีบ่วงที่ชื่อ "รตี" แล้ว ขอให้ทำตามใจตัวเองได้แล้วนะ สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-08-2012 10:34:15
น้องแม้จะตัวเล็กบอบบาง แต่ไหล่เล็กๆนี้ก็ยังแข็งแกร่ง และให้พี่ซบซับหยาดน้ำตาได้
เมื่อปล่อยให้น้ำตาชะล้างความอ่อนแอออกไปแล้ว
คงถึงเวลาที่พาร์ทจะต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเอง และเพื่อน้อง(ในอนาคต)แล้วล่ะพาร์ท

ป.ล. "น้องพึ่งอาบน้ำเสร็จมาดๆ ไรผมยังเปียกชุ่มน้ำ..."
        "หมาดๆ"
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 08-08-2012 11:14:43
บ๊ายบาย รตี  :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 08-08-2012 11:19:21
เย้ๆดีใจ รตี ไปแล้วอย่ากลับมาอีกล่ะ

 :mc4: :mc4: :mc4:



หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 08-08-2012 11:42:08
ทีนี้ก็รักกับน้องได้แล้วละซิ
ไปดีนะรตีอย่ากลับมานะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 08-08-2012 11:51:23
ลาก่อนรตี บ๊าย บาย  :bye2:

พระเอกนายเอกเราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข (?)   :m11:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-08-2012 12:05:59
มันก็ดีอ่ะนะ ที่มาบอกเลิกจะได้ไม่ยืดเยื้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-08-2012 17:09:49
ไปแล้วไปลับอย่างกลับมา :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-08-2012 18:29:34
รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-08-2012 19:29:54
เสียใจซะให้พอนะพี่พาร์ท จากนั้นก็เริ่มต้นกับน้องใหม่โดยไม่ต้องไม่ลังเลแล้ว
รุกจีบน้องเลยทีนี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 08-08-2012 21:19:48
บ๊าย บาย รตี ไปดีมีสุข อย่ากลับมานะ  :m14:

ปัตจะปลอบพี่พาร์ทเอง  :mc3: :m1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 18 P.7 8/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 09-08-2012 08:10:37
พี่พาร์ทไม่ต้องจัดการอะไรเลย รตีจัดการจากไปให้เสร็จเรียบร้อย
น้องปัตกำลังปลอบพี่พาร์ทอยู่ พี่พาร์ทก็อย่าเพิ่งหื่นนะ
ท่องไว้ๆๆๆ กำลังอกหัก กำลังเศร้า ของอย่าเพิ่งขึ้น ฮาาาา...........

+1 ขอบคุณค่ะ
ดีจัง มาม่ารตีมาแบบถ้วยน้อยๆ พอกรุบกริบ
หลังจากนี้พี่พาร์ทน้องปัตเค้าจะหวานไม่แคร์สื่อกันแล้วใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 10-08-2012 00:28:47
ขอโทษนะคะ ไม่ค่อยมีเวลาเลย  แต่งยังไม่เสร็จเลยเอามาลงให้อ่านก่อนครึ่งหนึ่งค่ะ
แต่งเสร็จเดี๋ยวเอามาโพสต่อค่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:


บทที่ 19  Part I

“ข  อ..โทษ”  เสียงของผู้หญิงที่ผมได้ยินกำลังสั่นเครือเหมือนคนกำลังร้องไห้อย่างหนัก  พลอยทำให้ขาที่กำลังจะก้าวออก
จากห้องเป็นอันชะงักงันนิ่งอยู่กับที่   คงไม่ใช่สิ่งยินดีแน่....ถ้าผมจะเดินออกไปตอนนี้ ควรจะทำยังไงดีนะ  ปิดประตูห้องนอนซะ
แล้วอย่ายุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองมันคงจะดีกว่ารึเปล่า  แต่หากผมปิดเสียงลูกบิดประตูคงเรียกความสนใจของใครต่อใครเป็นแน่
ผมค่อยถอยหลังกลับไปทิ้งให้ประตูเปิดอ้าไว้เช่นเดิม   คนเราคนมีสเปชส่วนตัวบ้าง  ... และผมว่าตอนนี้พี่พาร์ทต้องการมัน
ผมนั่งลงที่บนเตียงมือก็พลางไล่เช็ดผมที่เปียกมะล่อกมะแลกจากการสระผมเสร็จใหม่ ๆ บทสนทนาดังเข้ามาเป็นระยะ
ทำเอาผมใจหาย  ผมว่า..... จริงๆ แล้วผมไม่ควรอยู่ที่นี่เวลานี้ใช่มั้ย  ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนทุกอย่างจะเงียบไป
“ขอโทษนะครับ....แต่เรา-รักกัน-  ผมกับรตีรักกัน  ขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ  แต่ได้โปรดอภัยให้เราเถอะนะครับ
ผมขาดรตีไม่ได้ พอๆ กับเธอเองก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจากผม  แม้จะเลิกกันไปนาน....แต่ไม่มีวันไหน
ที่เราทั้งสองจะไม่คิดถึงกัน  ผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องเสียใจ แต่เรื่องหัวใจมันห้ามไม่ได้หรอกครับ”
.
.
.
“..........”   เวลาผ่านไปนานเกินกว่าที่ผมจะอดใจไหวเพราะทุกอย่างเงียบงันไร้เสียงที่เป็นปฏิกิริยาตอบสนอง
จนต้องเผลอแนบตัวชิดประตูที่เปิดอ้าอยู่เพื่อให้เข้าใกล้ที่สุด  แนบหูกับประตูที่กางกั้น...........
......................เงียบ.....................   หรืออาจเป็นเพราะพี่พาร์ทกำลังไปตามล่าหัวใจเค้าคืนมา.....เป็นได้ 
.....เพราะนั่น..........”คือหัวใจ”..................ของพี่เค้านี่นา  แอบแปลกใจไม่ได้ ที่ความรู้สึกมันแกว่งๆ
โดยไม่ทราบสาเหตุ .....เผลอเอามือจับอกที่กระเพื่อมแรงตามอารมณ์นั่นอยากจะให้มันหยุดเต้น จังหวะ แปลกๆนี่ซะที
ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกเบาๆ ก็ทำให้ไอ้อาการใจเต้นรัวๆ แบบไร้จังหวะจะโคน ค่อยๆ ผ่อนมาเป็นปกติ
ก้าวขาออกจากที่ซ่อนก็ต้องแปลกใจ ...ที่เห็นใครอีกคนยังอยู่กับที่  ประตูห้องยังเปิดอ้าซ่าท้าให้ยุงลองเข้ามาเยี่ยมซักที
ที่น่าแปลก.....คือนิ่งไม่ขยับ   และยังคงนิ่งงันอยู่แบบนั้นทั้งที่ผมยืนมองอยู่ตรงนี้เกิน 5 นาทีแล้ว  เพราะอะไรนะ ...
เพราะนึกถึงประโยคสุดท้ายก็ยิ่งแปลกใจ...... ทั้งๆที่พึ่งเสียคนรักไป  ทำไมถึงได้นิ่งเฉยขนาดนั้น  แต่ไอ้การนิ่งนี่
ก็ไม่ธรรมดา  แต่กลับเป็นการนิ่งที่สร้างความกังวลใจให้ผมอย่างบอกไม่ถูก   เมื่อทนไม่ไหวถึงได้เดินเข้าไปหา ....
ภาพที่เห็นแทบช็อค ...  เรียกว่า “ช็อค”  ได้มั้ยนะ  พี่พาร์ทที่เอาแต่จ้องมองอากาศอันว่างเปล่าตรงหน้า ราวกับว่ามีใคร
สักคนยืนอยู่ตรงนั้น  ด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ  หยาดหยดน้ำตาค่อยๆ ไหลทีละหยดๆ จนมันกลายเป็นสาย เปรอะเปื้อน
ใบหน้าหล่อเหลาให้หม่นหมองลงไปอีกเป็นกอง  ขนาดผมมายืนข้างๆ แล้วแท้ๆ คนตรงนี้กับไม่รู้สึกถึงการมีตัวตนของ
ผมสักนิด  ทำไม....ถึงน่าสงสารขนาดนี้   พี่เค้า....ทำอะไรผิดหรือไง?  ถึงต้องมาโดนทิ้งแบบนี้ .
“พี่พาร์ท”  ผมเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว  คนตรงหน้าหันมามองนิดๆ ราวกับว่าพึ่งรู้สึกตัวกระนั้น ดวงตาที่มองมาเศร้าสลด
เหมือนกำลังบอกผมกลายๆ ว่าตอนนี้แทบทนไม่ไหว  ...ดวงตาที่บอกความร้าวรานของจิตใจได้เป็นอย่างดี
สายตาพี่พาร์ทกวาดมองไปทั่ว แววตาเจ็บร้าวที่มองไปยังทางเดินนั่น เสียงล้อลอกของกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ คงจะ
ตอกย้ำความรู้สึกให้เจ็บลึกเข้าไปอีก อีกคนถึงได้หลับตาแน่น กลืนน้ำลายลงคอยอึกใหญ่  จนผมต้องเอื้อมมือไป
ปิดประตู ไล้มือค่อยๆ เช็ดน้ำตาอย่างแผ่วเบา  พี่พาร์ทสะดุ้งนิดๆ...เหมือนพึ่งรู้ว่าตัวเองร้องไห้ ใบหน้าที่อ่อนล้าเต็มที
น่าสงสาร..น่าสงสารเหลือเกิน   ผมกอดพี่พาร์ทแน่นๆ อยากโอบอุ้มความเจ็บปวดให้มันหายใจ  แต่ก็ทำได้แค่ปลอบใจ
“ถ้าอยากร้อง.....ก็ร้องเถอะฮะ”   ผมกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก  พี่พาร์ทกอดผมตอบ  ซุกหน้าลงที่ไหล่ปล่อยให้ความเสียใจ 
ไหลรินบนบ่าอย่างเชื่องช้า ...................และเนิ่นนาน
.
.
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 10-08-2012 09:19:47
^ ^ รอได้ครับ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-08-2012 13:04:16
ฟ้าหลังฝน ย่อมสวยสดใสเสมอนะพาร์ท
ครานี้ คงเป็นอะไรที่น้องจะได้เป็นผู้ปลอบ-ผู้ให้กำลังใจพี่ล่ะ
และพี่คงจะได้เข้าใจความรู้สึก-ความต้องการจริงๆของตนซะที

ป.ล.  "...ด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ  หยาดหยดน้ำตาค่อยๆ  (แดงก่ำ)
 
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-08-2012 14:15:10
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 10-08-2012 14:42:26
รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 10-08-2012 17:24:12
รอตอนต่อไป

ปล.เว้นบรรทัดให้หน่อยนะครับคนเขียน

อ่านนานๆแล้วมันหลงบรรทัด นอกนั้นก็ดีแล้วครับ มีแค่ตรงนี้ที่อยากให้ปรับปรุง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 10-08-2012 19:35:04
 :z13:  อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 11-08-2012 01:22:09
พี่พาร์ทคงจะตัดสินใจได้ซะทีนะฮะ
รตีจ๋าไปแล้วไปลับอย่ากลับมาน้า :bye2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 11-08-2012 06:00:17
รอตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-08-2012 07:38:27
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part I P.7 10/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 11-08-2012 18:03:18
พี่พาร์ทสู้ๆ น้องปัตยังอยู่ข้างๆนะพี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-08-2012 00:55:45
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ  ขออภัยที่ให้รอนาน  ขอบคุณสำหรับการแก้คำผิดค่ะเป็นประโยชน์มั๊กๆๆๆ
คราวนี้รวบสองตอนมาในตอนเดี๋ยวเลย  ค่ะ  อิอิ
อ่านให้สนุกนะคะ

 :-[ :-[ :-[ :-[ :กอด1: :กอด1: :กอด1:



บทที่ 19 II , บทที่ 20

ผมตื่นมากลางดึก ผมเริ่มหายใจไม่ออกกับการกอดแน่นๆ ของใครบางคน  ที่ซุกตัวเข้าหาผมราวกับเด็กที่กำลังร้องหาความอบอุ่น

พอผมขยับตัวห่าง อีกฝ่ายก็ควานมือหา ราวกับของสำคัญได้หายไปกระนั้น   จนสัมผัสโดนตัวผมถึงได้หยุด  ผมลูบผมพี่พาร์ทเบาๆ

“พาร์....ท  ..ผิดอะไร.....ทำไม ?....  ไป   อย่......า .......ทิ้.....   ไป” ใครบางคนกำลังดิ้นทุรนทุราย ภาพในฝันคงทำร้ายพี่มากใช่ไหม   

อยากบอกให้รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้..  ผมอยู่ตรงนี้แล้ว...อย่ากลัว  รีบดึงแขนอีกฝ่ายมาโอบรอบตัวผมตามเดิม  อาการดิ้นรน  ค่อยๆ จางหาย 

ผมจ้องมองใบหน้าคมที่หลับตาพริ้มแต่คิ้วกับขมวดมุ่น  หยดน้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา  ผมไล้มือเช็ดคราบน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้ม

 ผ่านจมูกคมหยดลงมาที่เตียง แขนแข็งแรงค่อยๆ กระชับกอดให้แน่นขึ้น  ลมหายใจสม่ำเสมอ พร้อมกับคราบน้ำตาหยดใหม่

ทีละน้อยๆ จนหลอมรวมเป็นหนึ่งหยด  แล้วไหลออกมาตามแก้มดังเดิม  .......
ผมมองเห็นหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลไปเรื่อย ๆ  เศร้า.....ขนาดนี้เลยเหรอ อดไม่ได้ที่จะปลอบใจ ยื่นหน้าใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

เสียงหัวใจเริ่มสั่นไม่เป็นจังหวะ ..จนต้องรีบยกมือขึ้นมาจับอกกลัวมันจะกระดอนออกมานอกอกซะก่อน  จ้องมองคนตรงหน้าอีกครั้ง

ที่ยังหลับตานิ่งสนิท ไม่ไหวติง เลยเลือกจะจุมพิศบางเบาที่หน้าผาก กลิ่นเหงื่อจางๆ ทำให้รู้สึกดีไปอีกแบบ ก่อนจะประทับรอยจูบอีกทีที่เปลือกตา

และไล่ลงมายังสันจมูกโด่งได้รูป  กลิ่นหอมลอยอบอวน.....ล่อลวงให้ต้องกดจมูกลงบนแก้มนิ่มๆ ของอีกฝ่าย  แล้วผละออก

แต่ราวกับต้องมนต์สะกด....  สายตาถึงได้หยุดนิ่งกับริมฝีปากได้รูปของอีกฝ่ายอยู่เนิ่นนาน  ไม่อาจจะละสายตาได้

อยากสัมผัสจนแทบทนไม่ไหว  เผลอยื่นหน้ากระชั้นเข้าไปอีก  ในหัวมันคิดแค่ว่าใกล้อีกสักนิดคงดีสินะ 

แต่สุดท้ายก็ชะงักกึก......ทำได้แค่จ้องมองใบหน้าหล่อคมเข้มอยู่อย่างนั้น  ด้วยหัวใจที่สั่นระทึก  อา~ ทำไมทรมานอย่างนี้ก็ไม่รู้ 

ริมฝีปากที่ดูอบอุ่นนั่น  กับเค้าโครงใบหน้าที่น่าหลงไหล....จนต้องเบือนหน้าหนีไปข้าง ๆ ก่อนจะหันกลับมามองอีกที

หลังจากไตร่ตรองอยู่นาน~ ถึงคิดได้ว่าไม่ควร ที่ทำๆอยู่นี่ก็มากเกินไปแล้ว  ถ้าพี่พาร์ทรู้คงจะโกรธจนไม่อยากมองหน้าผมอีกแน่ๆ

แค่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำท่ารังเกียจขนาดไหนนะ? ถ้ารู้เรื่องนี้  มันก็เจ็บจนเกินจะทนไหว ใจมันก็ฝ่ออย่างช่วยไม่ได้

ได้แต่เม้มปากแน่น ๆ ขอบตาร้อนผ่าว เหมือนๆมีก้อนอะไรมาจุกแน่นที่ลำคอ เป็นคนที่ไม่ต้องการนี่....เจ็บจริงๆ นะ

ใจมันสั่นขึ้นมาเสียเฉยๆ ตั้งใจจะผละหน้าหนี  แต่อีกฝ่ายกลับพลิกตัวโดยบังเอิญ

“อ๊ะ”  ผมอุทานเสียงเบา แทบกลั้นหายใจ  เพราะตกใจที่ใบหน้าอีกฝ่ายมันใกล้  .... ใกล้ชนิดที่เรียกว่าแค่ฝ่ามือกั้น  จมูกโด่งรั้นของพี่พาร์ท

กำลังเสียดสีเบาๆ อยู่กับจมูกผม   เผลอเกินน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่กล้าขยับ....  หัวใจเต้นรัวถี่ ๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด

กลัวพี่พาร์ทจะลืมตาตื่นขึ้นมาตอนนี้  รู้ดีว่าตัวเองคงหน้าขึ้นสีไปแล้ว พอจะขยับตัวให้ห่างแขนอีกข้างก็กลายเป็นหมอนให้พี่ชายตัวดีซะแล้ว

แล้วผมจะทำไงดีหล่ะเนี่ย   หนีก็ไม่ได้....   หันกลับมามองพี่ชายตัวดีที่บังเอิญพลิกตัวได้เหมาะเจาะเหลือเกิน ยังนอนนิ่ง หายใจสม่ำเสมอดังเดิม

ไอ้หัวใจไม่รักดี  ......เลยลืมความตั้งใจที่จะผละออกไปในครั้งแรกไปเสียสนิท ...โอกาส....ไม่ใช่จะเกิดได้บ่อยๆ 

เอาว่ะ......แค่แตะนิดๆหน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้งนะ     พอคิดได้แบบนั้น...... ก็ยื่นหน้าเข้าใกล้ไปอีก

.......  ใกล้.....เข้าไปอีก     ได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นรัว  .....ดังไม่เป็นจังหวะ     ตื่นเต้นแทบบ้า

“ตึกตัก  ตึกตัก  ตึกตัก”...........    อ่า~  เขินสุดๆ ไปเลยทำไงดีเนี่ย   ไม่เป็นไรๆ  พี่เค้าไม่รู้ตัวหรอก  ตะโกนบอกตัวเองดังๆ 

ค่อยทาบริมฝีปากบนปากได้รูปของอีกฝ่าย  จูบ.......เป็นแบบนี้เองเหรอ?  สัมผัสที่บางเบาราวกับกำลังล่องลอย   

แต่กลับ......บีบคั้นหัวใจให้ทำงานอย่างหนักหน่วง  เต้นแรงซะจน...แทบทนไม่ไหว  เหมือนๆจะหมดลมหายใจ

จนต้องจิกมือบนไหล่กว้าง  ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว  แต่หาก.......กลับรู้สึกสุขล้นบนความทรมานเหล่านั้น   ผละออก.....

แล้วกดจูบลงไปใหม่ ไล้ลินเลียกลีบปากหนาได้รูป  รู้สึกถึงความหวานฉ่ำ......จนแทบห้ามตัวไม่ไหว   หัวใจเต้นแรงขึ้น
อีก

ร่างกายค่อยๆ บดเบียดเข้าหากัน ผมกอดพี่พาร์ทแน่นๆ  ทำไมก็ไม่รู้ ..หากแต่...ความรู้สึกมันบอกว่าต้องการเพิ่มอีกสักนิด  ได้อีกสักนิดก็คงดี
.....   

ไม่รู้ว่าเนินนานเท่าไหร่ ..........  สุดท้ายก็ตัดใจ   ถอนริมฝีปากได้สำเร็จ   นอนหอบหายใจ.....ความรู้สึกแปลกๆ กำลังเบ่งบานในหัวใจ

หวังว่า....มันคงจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดนะ  หวังว่า....อาจจะเป็นแค่หลงไหลในกลิ่น  อย่าให้ถึงขั้นหลงรักคนตรงหน้าเลย

เพราะเปอร์เซ็นต์ความสมหวังมันคงจะเป็น “ศูนย์”  ถ้าไม่อยาก “เจ็บ”......ก็ควรเลือกที่จะ “จบ”  ตอนที่มันยังไม่เกิดจะดีกว่า

ผมหันไปมองพี่พาร์ทที่ยังสงบนิ่งเช่นเดิม  เอามือที่ว่างค่อยๆ ยกหัวพี่พาร์ทให้ลอยขึ้นเพื่อจะดึงแขนอีกข้างที่พี่แกนอนทับออก

จนเหมือนกับผมกับอุ้มหัวพี่แกเข้ามาซบอกตัวเอง ..  กำลังจะดึงมือออก  พี่ชายตัวป่วนก็ดันกระชับกอดผมแน่น ๆ

เลยเสียหลักทับพี่แกไปทั้งตัวนั่นแหล่ะ  ดิ้นอยู่สักพัก ...เล็งเห็นแล้วว่าไม่มีประโยชน์ เลยปรับท่านอนให้เป็นนอนตะแคง

เผื่อที่ว่าพี่แกจะได้หายใจออก...แล้วก็หลับไปทั้งอย่างนั้น  จะว่าไปก็อบอุ่นดีนะ.....ขอแค่คืนนี้ก็แล้วกันนะครับ.พี่พาร์ท
.
.

ตื่นขึ้นมาตอนเช้า...... ผมกระพริบตาอยู่สองสามครั้งเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสง   ขยี้ตาเบาๆ ปลุกตัวเองให้ตื่น 

เหลือบมองนาฬิกาบนผนังบอกเวลา 5.45 น.  ผมกำลังจะดันตัวลุกขึ้นนั่ง ก็รู้สึกถึงแรงดึงที่เอวจนตัวเองไถล

ไปตามแรง แล้วกระแทกเข้ากับอกของเจ้าของแขน   พร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู....ที่ทำเอาขนลุกเกรียว

“ตื่นแล้วเหรอครับ? คนดี”  ผมนิ่งแข็งไม่ได้หันไปตอบ   กลัวว่าตอนนี้พี่พาร์ทจะคิดว่าผมคือพี่รตีรึเปล่า? 

อีกฝ่ายเมื่อไม่ได้คำตอบ..  ก็จับตัวผมพลิกเข้าไปหา.... ผมดิ้นขลุกขลิกพยายามจะหนี  แต่พี่พาร์ทที่ยังหลับตานิ่ง 

กดจูบหนักๆ มาที่หน้าฝากผม  ทำเอา.....เขินอย่างบอกไม่ถูก  รู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนผ่าว  ยิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อคืน

โอย~ ผมว่าหน้ามันคงแดงยันหูไปแล้วแน่ๆ เลย   อยากกระซิบบอกพี่พาร์ทว่าเนี่ยปัตครับ  ไม่ใช่พี่รตี

ผมค่อยๆ ดันตัวเองให้ออกห่าง แล้วพี่พาร์ทก็ลืมตาขึ้นมาในที่สุดสายตาจับจ้องมาที่ผม......สายตาเซ็งจัด 

ว่าแล้ว....คงคิดว่าที่กอดเมื่อกี้เป็นพี่รตีสินะ   ผมหลบสายตามองต่ำ....รู้สึกเจ็บแปลบๆขึ้นมาในอก  พร้อมกับรู้สึกผิด

“ขี้หวง  ขอกอดหน่อยก็ไม่ได้”  พี่พาร์ทว่างอนๆ    แต่เอ๊ะ!...อะไรนะ  เมื่อกี้...กับผม  พี่พูดกับผมเหรอ? 

เผลอตวัดสายตาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างอึ้งๆ   งุนงงว่านี่มันเรื่องจริง หรือผมหูฝาดกันนะ  .. ใครก็ได้ช่วยบอกที?

“พูดกับผมเหรอฮะ?  ผมปัตนะฮะ”  หันไปถามในที่สุด  เผื่อพี่แกเบลอมองเห็นผมเป็นพี่รตี  พี่พาร์ทอมยิ้มพยักหน้าช้าๆ

“รู้แล้วว่าชื่อปัต  ก็อยู่ด้วยกันสองคนจะให้พี่พูดกับใครหล่ะ?”  ผมขมวดคิ้วนิดๆ  งุนงงกับอาการพี่พาร์ท

หรือจะไม่สบายกันนะ เมื่อวานยังพร่ำเพ้อหาพี่รตี  ทำไมวันนี้ถึงไม่มีร่องรอยแห่งความเสียใจหลงเหลืออยู่เลยหล่ะ

ยื่นมือไปแตะหน้าผากของอีกฝ่าย  ....อุณหภูมิก็ปกติไม่ได้มีไข้แต่อย่างใด   พอยื่นมือเข้าใกล้ตาอีกฝ่ายก็กระพริบตาปริบๆ

ไม่ได้มีอาการเหม่อแต่อย่างใด  แถมเมื่อกี้ก็ยังดูเหมือนจะพูดกับผมอีกต่างหากแน่ะ  ผมจ้องมองอีกฝ่ายที่ยังยกยิ้มที่มุมปากมองมาที่ผม

“พี่พาร์ทไม่สบายรึเปล่าฮะ?”   อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้าง พยักหน้าน้อยๆ

“ไม่สบายใจน่ะ  มีคนบางคนไม่หวงตัวไม่ยอมให้กอด....”  ผมหลุบตาลงต่ำ หลบสายตาคมที่จ้องมา มือจิกผ้าห่มแน่น

“ใครหล่ะฮะ?”

“ปัต”

“ฮะ”

“พี่ไม่ได้ถาม  พี่กำลังตอบ” ผมจ้องอีกฝ่ายตาโต  อึ้งๆ พูดไม่ออก  พี่พาร์ทลูบผมผมเบาๆ แล้วดึงผมเข้าไปกอด 

“ขอกอดหน่อยนะครับคนดี”  ว่าแล้วพี่ชายจอมป่วนก็กดหอมเบาๆ ที่หัวผม  จนผมต้องเงยหน้าไปมอง 

อยากรู้เหลือเกิน  ....ว่าพี่พาร์ททำไปเพื่ออะไร   ต้องการอะไรกันแน่นะ    แต่ยังไม่ทันได้ถาม..พี่พาร์ทก็กดจมูกคมๆ

มาที่หน้าผาก เรียกเลือดในตัวผมให้วิ่งพล่าน  ไล่ลงมาที่จมูก  เปลือกตา  และแก้มหอมๆ ของผม จนริมฝีปากบางส่วน

ทาบทับลงบนปากผม  ......  ใจเต้นแรงได้อีก  รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดใจ  เพราะstep ต่อไปเหมือนมันจะเป็นที่.......

พี่พาร์ทผละออก...ในระยะที่ปลายจมูกเรายังแตะกันอยู่  พี่พาร์ทจ้องดวงตาคมมองมายังในตาผม  ผมเห็น.....ตัวเอง

ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคมนั่น  เขิน~จนต้องหลบตากันวุ่นวาน พึ่งนึกได้ว่าต้องออกแรงดันหน้าอกอีกฝ่ายให้ห่างไป

ไม่ใช่แค่ขยุ้มเสื้อให้คนตรงหน้าให้ยับเยิน   พอออกแรงดันอีกฝ่าย....ก็เหมือนถูกแกล้ง   พี่พาร์ทกดตัวลงมาอีก

เหลือพื้นที่มีอยู่น้อยนิดอยู่แล้ว  ทำให้มันเหลือน้อยลงไปอีก  สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมา จนผมต้องเบี่ยงสายตาหลบ

เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ซะแล้วสิ  พี่พาร์ทกดจมูกคมลงบนแก้มผมอีกครั้ง ค่อยๆ ไล่ระดับให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนริมฝีปาก

แทบจะทาบทับบนริมฝีปากผม แม้ตอนนี้มันจะหมิ่นเหม่ ทาบทับมาแล้วบางส่วน  ทำหัวใจผมเต้นไม่ปกติ 

อีกฝ่ายผละออก แล้วคราวนี้...ผมว่าปากพี่พาร์ทคงวางทาบทับลงบนปากผม คิดแค่นั้นดวงตาก็เบิกโพลง  หันหน้าหลับทันที

“อย่าฮะ”  ผมเอ่ยเสียงเบา  รู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่กล้าสบสายตาคนตรงหน้าเลย

“ทำไมครับ?  เมื่อคืนนี้ยัง..........  หึหึ”   ผมสะดุ้งเฮือก~ เมื่อคืนนี้...  เมื่อคืนนี้...  หรือว่า  พี่พาร์ท จะ...จะ... 

หันหน้ามามองอีกฝ่ายอย่างว่องไว  อ้าปากค้าง  หรือว่า.......พี่พาร์ทจะรู้   ผมกวาดตาจ้องมองอีกฝ่าย

รู้สึกอากาศในห้องมันร้อนขึ้นมาถนัดตา เพราะมีเหงื่อซึม...ตามไรผม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาที ยังรู้สึกหนาวสะท้าน

แต่ตอนนี้กลับร้อนวูบวาบ ไปทั่วทั้งตัว  แถมเหงื่อ...ยังผุดพรายมากกว่าเดิมหลายเท่า อ่า~ เรียกว่าเหงื่อตกได้รึเปล่า

“มะ....เมื่อคืน.ทำไมครับ?”    ผมเอ่ยถามปากสั่น เสียงสั่น  ใจสั่น ตัวสั่น  โอยยยยยยยยย ...สั่นทั้งตัวแล้วครับพี่

พี่พาร์ทยังคงยกยิ้มที่มุมปาก  ......ใช้มือเกลี่ยผม พร้อมกับเช็คเหงื่อเบาๆ ที่ไรผมของผม 

“ทำไม ...ปัตอยากรู้เหรอครับ  หืม? ”    พี่พาร์ท  ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ ที่แก้มผม ก่อนจะไล่ลงมาเรื่อยๆ ถึงริมฝีปาก

“พี่พูดไม่เก่งน่ะครับ   ...  เอาเป็นว่าทำให้ดูดีกว่านะ ถือเป็นการเอาคืน.....ที่มาทำให้หลง”  มือที่ไล้แก้มผมเมื่อครู่

ตรึงหน้าผมให้อยู่นิ่ง ก่อนจะทาบริมฝีปากร้อนๆ แต่แสนหวานทาบมาบนปากผม ความรู้สึกนุ่มหยุ่นปรากฎขึ้นอีกครั้ง

ตัวเบาโหว่งราวกับร่องลอยอยู่ในอากาศ หากแต่...กับถูกกระชากด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน ที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้

พี่พาร์ทค่อยแทรกลิ้นเข้ามาในปาก ควานหาลิ้นผมที่กำลังหนีเป็นพัลวัน แต่สุดท้าย...ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายดูดดุนจนสมใจ

“อืออออ~”   ได้แต่ครางเสียงหวาน  ปล่อยให้อีกฝ่ายเชยชิม  มือสองข้างขยุ้มแน่นที่เสื้อนอนของอีกฝ่าย ราวกับเป็นที่

ยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่เหลืออยู่  พี่พาร์ทผละออก แล้วกดจูบลงมาใหม่ราวกับรู้จังหวะ ...เพื่อให้ผมได้ทันหายใจ 

เนิ่นนาน~  จนผมแทบละลายอยู่ตรงหน้า หัวใจเต้นรัวราวกับกลอง   ในที่สุดพี่พาร์ทก็ผละออก  ดึงผมเข้าสู่อ้อมกอด

ได้เสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นแรงไม่แพ้กัน   พี่พาร์ทค่อยๆ ดันผมออก หันมายิ้มหล่อๆให้ผม  ที่ยังหอบหายใจไม่หยุด

“หวานจนแทบไม่อยากปล่อยเลย”  ผมจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งๆ  ความรู้สึกค้างคามันเต็มไปหมด   ... เกินจะเก็บไหว

“แค่เหงา...ใช่มั้ยฮะ?” ผมถามเสียงแผ่ว  อีกฝ่ายจ้องกลับไม่ได้มีคำตอบ  แต่นั่น....คงเป็นคำตอบสำหรับผม  ผมดันตัวขึ้น

ลุกขึ้นนั่ง  เดินไปเก็บกระเป๋าสัมภาระ  น้ำตาไหลน้อยๆ อาบหน้า  เม้มปากแน่น .... เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว 

จ้องหน้าตัวเองหน้ากระจก  ด้วยดวงตาแดงก่ำตบหน้าตัวเองเบาๆ  แล้วพูดกับตัวเองในกระจก

“บอกแล้วว่าไม่อยากเจ็บ ก็ต้องจบ   .....แต่ทำไมต้องนี้มันทั้งจบ  และเจ็บหล่ะ? ”  ผมทรุดตัวพิงประตูห้องน้ำ ชันเข่า

แล้วซุกหน้าลงไป อดเสียใจไม่ได้ที่เป็นแค่ “เงา”  ของใครบางคน  ก็แน่หล่ะใครจะลืมคนรักที่ดีขนาดนั้นไปง่ายๆ หล่ะ

ร้องไห้ได้สักพัก...ก็บอกตัวเองได้แค่ไม่ใช่เวลาเสียใจ  แต่ควรต้องไปให้เร็วที่สุดต่างหาก  ไปซะ....ให้ไกลๆ จากตรงนี้

ผมลุกขึ้นยืนมองหน้าตัวเองในกระจกเล็กน้อย  อดเสียดายสัมผัสอบอุ่นที่ได้รับไม่ได้.....แต่ยังไงก็เป็นไปไม่ได้สินะ

ก้มหน้าล้างหน้าล้างตา  แปรงฟันลวกๆ แค่พอสะอาด  แล้วตรงไปอาบน้ำใต้ฝักบัวอย่างรวดเร็ว    พออาบเสร็จพึ่งนึกขึ้นได้

ว่าลืม.....หยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดที่จะใส่เข้ามาด้วย  สะบัดตัวไปมาจนน้ำกระจุยกระจาย ถึงได้ย่องไปแอบเปิดประตู

เมื่อสำรวจจนเสร็จสิ้นเล็งเห็นว่าไม่มีใคร  ก็วิ่งอย่างเร็วไปที่ผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ตรงประตูตู้เสื้อผ้า กำลังจะถึงผ้าเช็ดตัวมาใส่ขณะเดียวกัน

“แกร็ก.    อ๊ะ....ขอโทษ”  พี่พาร์ทหันไปมองผนังทันที  ส่วนผมที่ไม่แน่ใจว่าเสี้ยววินาทีนั้นผมใส่เสร็จก่อน

หรือพี่พาร์ทเห็นก่อนกันแน่  ดูจากหลักฐานที่หน้าพี่พาร์ทแดงจัดนั่น.....พอจะเดาได้ลาง  ๆ  ผมเลยหน้าแดงจัดเป็นลูกตำลึงตาม

ผมรีบหันหลังหยิบเสื้อที่เตรียมไว้มาสวมทางหัว ไม่สนใจอีกคนที่แต่งตัวเรียบร้อยก่อนเข้ามาแล้ว พอดึงเสื้อให้เข้าที่เข้าทางเสร็จ

แขนของพี่พาร์ทก็สอดเข้ามาโอบรอบเอวผม  แล้วดึงผมให้ไปชิดอกแกร่งของอีกฝ่าย ทุกอย่างดูหยุดนิ่ง ณ วินาทีนั้น

พี่พาร์ทบรรจงวางคางไว้ที่ไหล่ผม แล้วกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก  ผมทาบมือบนมือของพี่พาร์ท ...เพื่อจะแกะมันออก

“ฟังพี่ก่อนนะครับ  .....”

“...................”

“ถ้าพี่บอกว่าไม่เหงา....ก็คงโกหก  แต่พี่ขอบอกว่าพี่ไม่ได้แบบนี้กับปัต  เพื่อให้ปัตมาแทนใคร ไม่ใช่เพื่อแทน รตี  แต่เป็นเพราะ....”
.
.

“เพราะว่าพี่ชอบปัต  ...  ชอบ...ชอบมากๆ ก่อนที่จะเลิกกับรตีด้วยซ้ำ  ถ้าปัตจะลองสังเกตุพี่ว่าปัตก็คงจะดูออก

พี่เองก็ไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้  ไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่ง...พี่จะมาชอบผู้ชายด้วยกัน   พี่ไม่รู้ว่า.......

ปัตรู้สึกแบบเดียวกันรึเปล่า แต่เรื่องเมื่อคืนนี้ ....พี่ดีใจมาก  และเผลอคิดไปว่า...เราสองคนคงจะใจตรงกันก็ได้

แต่ถ้าไม่ใช่...... พี่ก็ขอโทษ  จะไม่รบกวนเราอีกเลย ”   พี่พาร์ทค่อยๆ ผละออกจากตัวผม ถอยห่างไปเรื่อยๆ

จนผมใจหาย.....รู้สึกหน่วงในอก ระคนอุ่นใจเมื่อได้ฟังจากปากคนตรงหน้า  หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว  ยื่นมือไป

คว้าแขนอีกฝ่ายไว้ทัน  พี่พาร์ทที่ทำท่าหันหลังกำลังจะเดินออกจากห้อง...ชะงัก แล้วหันมามองผม 

“ผ..ผมไม่รู้ฮะ ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า”  พี่พาร์ทยิ้มบางดูฝืนเต็มที แล้วลูบหัวผมเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ...  เรื่องความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้  พี่เข้าใจ  งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งเราที่หอนะ คงอึดอัดที่ต้องอยู่กับพี่”

พี่พาร์ทว่า หันเตรียมจะออกไปรอข้างนอก  ...ทำไมผมใจกระตุกนะ  ...เข้าเคลื่อนตัวเข้ากอดพี่พาร์ทจากด้านหลัง

“เดี๋ยวฮะ....ฟ..ฟังปัตก่อน ”  น้ำเสียงผมเหมือนจะร้องไห้  ก้อนอะไรไม่รู้จุกแน่นที่ลำคอ  อึดอัดไปหมด

“ปัต หมายถึงไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า แต่ปัตรู้สึกดีที่อยู่กับพี่ และก็ไม่ได้รังเกียจที่พี่.....  เอ่อ.....  อ่า... ยังไงดีหล่ะ?”

พี่พาร์ทแกะมือผมออก แล้วหันมาดึงผมเข้าไปกอดแน่น  รอยยิ้มกว้างของอีกฝ่ายทำให้โลกดูสว่างไหวไปหมด ผมซบหน้าลงกับอกกว้าง

“ไม่เป็นไรครับคนดีไม่ต้องพูดแล้ว  พี่เข้าใจเราแล้ว  ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่นะ  แล้วพี่...จะทำให้เรารักเองสัญญาเลย”

พี่พาร์ท กดจมูกคมๆ ที่แก้มผมอีกครั้ง  ก่อนจะทาบริมฝีปากบนปากผมบางเบา  หากแต่.....อบอุ่น  แล้วผละออก

“งั้นเปลี่ยนชุดไปทำงานกัน  เมื่อวานก็โดดไปที  ขืนวันนี้ไม่ไปอีกพี่โดนฆ่าแน่ๆ ฮ่าๆ”   พี่พาร์ทจับผมหมุนซ้ายทีขวาที

“อืมชุดนี่ก็ใช้ได้  ว่าแต่เราต้องเอาอะไรไปอีกรึเปล่าหึ”

“ก็แค่ผลงานภาพสเก็ตสองเล่มน่ะฮะ กับอุปกร์การเขียนอีกนิดหน่อย”

“ในกระเป๋าเป้เมื่อวานใช่มั้ย ป่ะงั้นไปกันได้แล้วสายแล้ว”  ผมพยักหน้าเดินตามพี่พาร์ท  ที่เดินผิวปากตลอดทางแถมยัง
จูงมือผมไม่ยอมปล่อยจนผมแทบจะอายม้วนอยู่แล้ว  พอขึ้นรถก็หันมาดึงสายเบลไปคาดให้ ทำให้หน้าเราอยู่ใกล้กันเข้าไปอีก

พี่พาร์ทแอบกดจมูกคมๆ ลงที่แก้มผมที่เอาแต่ร้อนผ่าว  แถมกระซิบที่หูบอกว่าค่าคาดเบลให้  ผมเลยได้แต่หลุบตามองพื้นรองเท้าตัวเองเล่น

“หิวหน่อยนะครับ เดี๋ยวไปทานที่ทำงานพี่แล้วกัน”

“ฮะ”  พี่พาร์ทอมยิ้ม  ลูบหัวผมเบาๆ

“ดีมากครับ  เด็กดีของพี่”  พี่พาร์ทว่าแล้วค่อยๆ ขับรถออกไป  .........  ผมมองตลอดสองข้างทาง  ในหัวกำลังมึนงงกับ

เรื่องราวที่เกิดขึ้น  ผมไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันถูกหรือผิด  ไม่รู้ว่าจะเดินไปด้วยกันได้นานแค่ไหน

ที่พี่พาร์ทบอกวันนี้เป็นจะเป็นเรื่องจริง....  หรือแค่เรื่องโกหก   มีแต่อนาคตเท่านั้นหล่ะที่บอกผมได้ แล้วผมจะคอยดู


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-08-2012 02:44:24
หวานเวอร์ที่สุด

ปัตแอบลักหลับพี่พาร์ทหรอ  :m12:

ไม่เสียแรงลุ้นมาตั้งนาน  :a2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 12-08-2012 02:46:10
คนอ่านก็จะคอยดูเหมือนกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-08-2012 07:43:21
คอยดู  :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 12-08-2012 08:56:24
อกอีแม่จะแป้น


อ๊ายยยเขิน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 12-08-2012 09:46:02
พี่พาร์ทบอกชอบนักปัตแล้ว
เขินแทนอะหวานซะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-08-2012 10:07:40
โอ้วววว...น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-08-2012 11:56:51
 :o8: พี่พาร์ทอย่าทำให้น้องปัตเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-08-2012 12:10:49
พอรู่ใจกันแล้วก็หวานมากกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 12-08-2012 12:44:12
อร๊ายยยยยยยย เขิน  :-[

ใจตรงกันจนได้ หวานนนนนนนนน

รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-08-2012 23:26:33
คริ คริ  งานนี้พี่พาร์ทหน้าบานเป็นจานเชิง
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-08-2012 01:02:38
อื้ออออเขินง่ะ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 13-08-2012 14:01:18
อ่านตอนนี้แล้วเขินจังเลย  :o8:

หว๊าน หวานนนนนนนนน  :m3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 13-08-2012 15:40:12
ไปแล้วไปลับแล้วอย่ากลับมานะรตี  o18

เป็นเวลาอันดีค่ะน้องปัตที่จะได้ดามหัวใจพี่พาท  :impress2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 19 Part II, บทที่ 20 P.8 12/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-08-2012 23:05:27
ขอบคุณค่า  สำหรับทุกกำลังใจ   ดีใจมากๆ
รอนิดนึง....นะคะไม่น่าเกินพรุ่งนี้ค่ะ  หรือ อาจจะคืนนี้
ตอนใหม่ อัพแน่นอน ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-08-2012 00:45:59
UNIT 21

“หิวมั้ยหืม?  เดี๋ยวพี่สั่งข้าวให้ เอาอะไรดีครับ”    ผมเอื้อมมือไปลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่น้องจ้องเท้าตัวเองบนรถมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว 

“อะไรก็ได้ฮะ”  ปัตตอบ  แอบมองมาที่ผมแว๊บนึงแล้วหลบตาอย่างเดิม ทำผมอมยิ้มที่มุมปาก.....น่ารัก

“เอ... พี่จำได้ว่าไอ้เมนูนี้มันไม่มีขายอ่ะนะ  ถ้าโทรไปสั่งสงสัยแม่ค้าจะด่าเอา  หึหึ ”    ไอ้ตัวเล็กหันมาค้อนวงใหญ่ ผมเลยยิ้มทะเล้นตอบให้

“หึ๊...... ก็พี่พาร์ททานอะไรปัตก็ทานอันนั้นก็ได้นี่ฮะ ไม่เห็นจะต้องกวนซะหน่อย”  ไอ้ตัวเล็กยู่ปาก โต้ตอบทันควันคงลืมที่จะเขิน ฮ่าๆ

“คร๊าบบบบ  ตามนั้น”  ผมลากเสียงยาวแกล้งน้องอีกน้องอีกหน่อย หึหึ  ตามประสาคนอารมณ์ดี  ผมหยิบโทรศัพท์เลือกเบอร์คุ้นเคย

แล้วกดโทรออก  เสียงรอสายดังขึ้นไม่นานปลายสายก็กระวีกระวาดรับสายผม

“สวัสดีค่ะคุณพาร์ท มีอะไรให้มดรับใช้ค่ะ  ว่าแต่...เมื่อถึงแล้วเหรอคะเนี่ยรอสายตามดไปได้ไงคะ?”  มดร่ายยาว ผมได้แต่ขำในความactive

ของเลขาสาว....สวย(?) ตัวเพรียว (กว่าช้าง) ผิวขาวจัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำงานได้คล่องที่สุดในบรรดาเลขาคนก่อนๆ ที่สวยแต่ไม่เอาอ่าวของผม

“สวัสดีครับ ก็ยังไปไม่ถึงนะสิมดถึงยังไม่เห็น เรื่องในออฟฟิศน่ะจะรอดสายตามดไปได้ยังไง จริงมั้ยครับ?  หึหึ”

“แหมๆ ได้ทีประชดมดใหญ่เลยนะคะ  มดก็ไม่ได้รู้ไปทุกเรื่องซะหน่อยก็เฉพาะที่อยากรู้เท่านั้นแหล่ะค่ะ คิคิ ว่าแต่จะให้มดทำอะไรคะ?”

“ช่วยสั่งกระเพราไก่ไข่ดาวพิเศษสองกล่องนะครับ  ยังไม่ได้ทานข้าวเลยหิวจะแย่  คุณมดขอเป็นไก่ตัวเมียที่ยัง virgin ด้วยนะครับ”

“โหห  ....ได้ค่ะงั้นขอเวลาสักสามเดือนเดี๋ยวมดจะไปเพาะพันธุ์เองเลยเอามั้ยคะ? รับรองvirginชัวร์  คริ คริ”

“ไม่ไหวครับ งั้นเอาไก่อะไรก็ได้เดี๋ยวไส้ผมขาดซะก่อน ประมาณ 15 นาทีผมจะถึงออฟฟิศนะครับ”

“รับทราบค่ะบอส รับรองมาถึงรอไม่เกิน 5 นาที ได้หม่ำข้าวรสแซ่บแน่นอนค่ะ”

“ขอบคุณครับมด  มดเนี่ยน่ารักที่สุดเลยนะครับ ฮ่าๆ ”

“ค่าๆๆๆ  แหมๆ  พอใช้งานมดเนี่ย  บอกมดน่ารักทุกที เบื่อจริงๆ ผู้ชายที่ปากตรงกับใจเนี่ย อิอิ”

“โห~ ไม่มีปฏิเสธเลยนะครับมด  แค่นี้ก่อนนะ ผมกำลังขับรถแล้วเจอกันครับ”

“บายค่ะบอส”   ผมกดวางสายจากบลูทูท  เหลือบมองปัตที่ดูจะเหล่มองผมตั้งแต่คุยสายกับมด  จนวางสาย  แล้วตอนนี้ก็เบือนหน้าไปสนใจ

กระจกหน้าต่างรถ  เงาสะท้อนให้เห็นปากเล็กๆนั่นเม้มแน่น  ....  หึงแน่ ๆ  ผมยิ้มกริ่มอยากดึงปากหวาน ๆ นั่นมาจูบซะให้เข็ดนัก  ติดแต่ว่า

สภาพจราจรตอนนี้ที่คับคั่งไปด้วยรถราเบียดเสียด  แถมกระจกรถผมมันใสซะ....ใครต่อใครมองเข้ามาข้างในได้ง่ายดาย  เอ....ต่อไปติดกระจกทึบ

น่าจะดีกว่าสินะเนี่ย .....    ขณะที่คิดอะไรเพลิน  แม้จะมองเห็นที่ทำงานแล้วก็ตามแต่รถผมก็ยังทำได้แค่ค่อยๆ เคลื่อนไปเรื่อยเท่านั้นเอง 

ไอ้ตัวเล็กเหล่หางตามามองผมนิดนึงก่อนจะหันกลับไปตามเดิม  จนผมต้องเอื้อมไปกุมมืออีกฝ่าย น้องถึงได้หันมาสบตาผม ....ทำท่า

จะดึงมือออก  ...  แล้วคุณคิดว่าผม....จะปล่อยมั้ยหล่ะ  ผมกุมมืออีกฝ่ายแน่นขึ้น  ๆ  น้องเม้มปากแน่น มองดูที่มือผมพยายามแกะมันออก

“เป็นอะไรไปครับคนดี?  หน้าบึ้งเชียว”   ผมหันไปยิ้มหล่อแบบละลายใจสาว  ไม่รู้จะได้ผลกับน้องรึเปล่านะ  แนะๆ...มีเมินกันด้วย ฮ่าๆ 

“เปล่านี่ฮะ พี่พาร์ทปล่อยมือปัตก่อนได้รึเปล่า”

“ไม่ได้หรอก ...  แฟนพี่ขี้น้อยใจ เอะอะงอนพี่ตลอดนี่ถ้าพี่ปล่อยมือแล้วหนีพี่ไป  จะให้ตามหาที่ไหนได้หล่ะครับ”  ผมหันมาตอบน้องอ้อนๆ

“ใครเหรอฮะ แฟนพี่พาร์ท”  ไอ้ตัวเล็กหันมาถาม  ทั้งที่หน้าตัวเองแดงจนจะเป็นลูกตำลึงซะขนาดนั้น  ยังจะให้ผมตอบอีก

“พี่จูบกับใครก็คนนั้นแหล่ะ -แฟนพี่-  ว่าแต่ปัตไม่รู้จริงๆ เหรอครับหืม?”  ผมแกล้งย้อนถามน้อง พลางเลี้ยวรถเข้าบริษัท ก่อนจะขับตรงไปยัง

โซนจนรถผู้บริหาร  ขณะที่ไอ้ตัวเล็กยังทำหน้างอเป็นปลาทูชั้นดีที่ถือคติ หน้างอคอหัก 

“งั้นแฟนพี่พาร์ทคงมีนับไม่ถ้วนแล้วละมั้งฮะ?”  ไอ้ตัวดีตอบ  ผมที่จอดรถเข้าซองพอดีถึงกับชะงักกึก  นี่ผมดูเป็นคนเจ้าชู้ขนาดนั้นเลยเหรอ

หันเลิกคิ้วสูงมองสุดที่รักที่พึ่งยัดเยียดข้อหา “นอกใจ”  ให้ผมสดๆร้อนๆ กันเลยทีเดียว ผมถอนหายใจยาวๆ ปลดเบลตัวเองออก 

“ปัต”  ผมเรียกน้องเสียงเข้ม  ไอ้ตัวดีรู้สึกจะหน้าซีดลงเล็กน้อย   อาจเป็นเพราะผม.....ไม่ชัดเจนพอ ไม่เคยพูดเคลียร์อะไรให้น้องเข้าใจสักอย่าง

ผมค่อมน้องไว้ทั้งตัวเท่าที่สภาพพื้นที่จะเอื้ออำนวย กดปรับเบาะน้องให้เอนลงเพิ่มไปอีก  น้องมองผมนิ่ง ....จริง ๆ ปัตตัวเกร็งมาก

แต่...... ตอนนี้คงปล่อยให้คิดไปเองไม่ได้ เรื่องรตีเองก็ต้องเคลียร์ให้จบ และเรื่องน้องผมอยากให้น้องเข้าใจ....  ถ้าผมรักใคร  “รักจริง”

“ฟังนะ....ในชีวิตพี่ มีคนที่พี่เรียกว่าแฟนแค่สองคน คนแรกคือรตี ซึ่งบอกได้เลยว่าตอนนี้พี่ไม่ได้ต้องการให้รตีกลับมา ไม่ได้ต้องการจะสานต่อ

ไม่ต้องการจะรักเธออีกต่อไปแล้ว  เพราะพี่เจอแล้วคนที่พี่ต้องการ คนที่เข้าใจพี่ เข้าใจไปถึงส่วนลึก เติมเต็มในส่วนที่พี่ขาด คนๆนั้นก็ คือ ปัต

พี่ต้องการแค่ปัต  ไม่รู้ทำไมแต่พี่รู้ว่าต่อไปสองตาของพี่มันจะไม่มองใคร จะมีแค่เรา เชื่อพี่นะ...ถ้าพี่จะรักใคร  พี่รักจริง  ต่อให้มีปัญหาก็ไม่กลัว”


 ผมไล้มือที่แก้มนิ่มๆ ของน้อง  รู้สึกกลิ่นหอมจากตัวน้องเริ่มโจมตีจิตใจผมอีกครั้ง กดจูบที่เรียกร้องและดูดดื่ม  อยากให้น้องรู้ถึงความปรารถนา

ความรัก  ที่ผมมีต่อน้องผ่านสัมผัส  ผ่านการกระทำ  หัวใจผม.......ยอมให้น้องหมดแล้วทั้งใจ   น้องจิกมือแน่นที่ไหล่ผม  หวาน......จนอยาก

จะกลืนกินทั้งตัว  ผมสอดมือเข้าใต้เสื้อปัต  ไอ้ตัวเล็กดิ้นยุ๊กยิ๊กต่อต้าน   ครางเสียงแผ่ว  ....แล้วอ่อนหวานในที่สุด กำลังจะดูดชิมเม็ดสีทับทิม

บนยอดอก ไอ้ตัวเล็กก็ผลักหน้าผมออก

“อย่าฮะ  เดี๋ยวมีคนเห็น”  น้องหายใจหอบเหนื่อย  หน้าสีแดงซ่านจนผมอดแวะชิมปากหวานๆ นั่น ไม่ได้  น้องดันอกผมออก

“พี่รักปัตนะครับ  ... เชื่อพี่นะคนดี” ผมกระซิบเสียงแผ่วข้างใบหู อดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่นหอมชวนดม ทำให้ไอ้ตัวดีหดคอหนีจ้าละหวั่น   

“ครับ   เชื่อแล้วครับ”  ผมยิ้มกว้าง  ลงไปเปิดประตูรถ  แอบเห็นเงาสะท้อนจากกระจกเงารอยยิ้มที่ฉีกกว้างกว่าทุกครั้งของไอ้ตัวเล็ก

พอน้องหันหน้ามาหาผมก็ทำเป็นตีหน้าเฉย  เดินไปจูงมือเด็กขี้งอน ที่ตอนนี้งอแงจะให้ปล่อยมือเสียให้ได้  แต่ว่า....เรื่องอะไรหล่ะ

ผมลากแขนได้ตัวเล็กจนมาถึงห้องทำงานตัวเอง  ก็เจอมดนั่งหน้าแป้นยิ้มหวานอยู่หน้าห้องทำงานผม

“สวัสดีค่ะบอส”  มดกล่าวทักทาย  ผมโค้งหัวลงยกยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี 

“สวัสดีครับ...... มด”  ผมกล่าวตอบ หันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ทำตาโตอึ้ง  ๆ  คงอายที่หึง~ แบบไม่มีเหตุผลจนเกินไป 

“มดครับ....นี่น้องปัตนะครับจะมาทำงานที่นี่  น้องเค้าเป็น...”  ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ  ไอ้ตัวดีก็โพร่งขึ้นตอบแทนผมซะงั้น

“เป็นน้องพี่พาร์ทฮะ   สวัสดีครับพี่มด”  ปัตยกมือไหว้มด  ในขณะที่ผมต้องเบือนหน้าหนีเพื่อไปแอบขำใบหน้าตื่นๆ ของน้อง  มันน่าแกล้งนัก

“สวัสดีค่ะน้องปัต  เรียกพี่มดสุดสวยก็ได้นะจ๊ะ  มีอะไรต้องการความช่วยเหลือบอกพี่ไดเลยนะจ๊ะสุดหล่อ” มดว่า พลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ปัต

“ขอบคุณมากครับพี่มดสุดสวย”  ไอ้ตัวดีก็ทำปากหวานประจบมดทันที  เล่นเอาเลขาผมยิ้มแกล้มปริ แทบจะถลามากอดเลยก็ว่าได้ 

ว่าแต่..ใครจะยอมกันหล่ะคร๊าบบ  ฮ่าๆๆ   ยังไงก็หวงไว้ก่อน......พ่อสอนไว้ หึหึ

“มดพี่ภีมเข้ามารึยังครับ?”

“ยังค่ะ เห็นว่าไปพบลูกค้าค่ะ จะเข้ามาอีกทีประมาณ 11 โมงค่ะ ว่าแต่คุณพาร์ทมีอะไรรึเปล่าคะ?”

“เปล่าครับ ยังไงพี่ภีมมามดแจ้งผมด้วยนะครับ  อ้อ! ผมขอกาแฟ แล้วก็น้ำส้ม กับนมด้วยนะครับ เอาเป็นขวดใหญ่เลย ไว้เลี้ยงเด็ก”

พูดเสร็จ  ไอ้ตัวดีก็หันมาค้อนวงใหญ่ใส่ผมอีกรอบ

“ได้ค่ะบอส ”  มดก็ยิ้มหวานไปตามเรื่องน่ะแหล่ะ ฮ่าๆ

“ป่ะปัต  ...ไปทานข้าวซะให้เรียบร้อยก่อน”  ผมเดินนำเข้าไปในห้องโดยมีปัตเดินตาม

.
.

หลังทานข้าวเสร็จผมก็เคลียร์งานไปเรื่อยๆ ส่วนปัตผมเอาผลงานเก่าๆ มาให้น้องนั่งดูเป็นไกด์ไลน์สำหรับวาดแบบ  เป็นไอเดีย 

“ก็อกๆ ...ขออนุญาตค่ะ” 

“เชิญครับ”

“บอสค่ะ คุณภีมกลับมาแล้วนะคะ”

“ขอบคุณครับมด”  มดยิ้มรับ แล้วออกไปประจำที่ดังเดิม ผมหันไปหาไอ้ตัวเล็ก

“พร้อมยังคนเก่ง?”  ผมลูบหัวน้องเบาๆ  น้องมองมาที่ผมแต่ไม่ได้ตอบ  ผมว่าน้องคงกลัวๆ เพราะไม่เคยทำงานนี้มาก่อน ผมเลยเดินเข้ามากอด

“ใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องกลัวเรื่องผิดหรือถูก  พี่ต้องการอะไรที่มันเป็นไอเดียของเรา โชว์ให้พี่เค้าดูก็แค่นั้น ไม่ต้องกังวลนะครับ มาเดี๋ยวพี่ให้กำลังใจ”

ว่าแล้วก็กดหอม.....แก้มไอ้ตัวเล็กแรง ๆ  ไอ้ป่วนอมยิ้มแก้มแทบปริ  ฮ่าๆ แม้จะพยายามซ้อนใบหน้าที่ดีใจเท่าไหร่แต่ผมว่ามันยิ่งโผล่

“โหย~  ขาดทุนเลยอ่ะ”  ไอ้ตัวเล็กว่า ยกมือขึ้นเช็ดแก้ม  แถมยังยู่หน้าใส่ผมอีกแน่ะ  ฮ่าๆ .......น่ารักจริงๆ

“หมายถึงพี่เหรอ?”  ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง แล้วยิ้มกวนๆ ให้ไอ้ตัวเล็กไป

“ผมตะหาก  โหยยย~  พี่อ่ะ”  ผมกอดไอ้ตัวเล็กอีกทีโยกซ้ายทีขวาทีเหมือนปลอยเด็ก

“พร้อมแล้วนะ  ป่ะงั้นไปกัน”   น้องพยักหน้า  แล้วผมก็พาน้องไปลุยงานชิ้นแรก 

มาถึงพี่ภีมก็ร่ายคอนเซ็ปยาวเหยียดให้น้องจินตนาการ  ณ ตอนนี้ไอเดียใหม่จำเป็นเหลือเกินกับงานชิ้นนี้ เพื่อจะได้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

และที่สำคัญเราต้องการเอกลักษณ์ของแต่ละงาน เพื่อให้ลูกค้ามีจุดยืนที่แขกที่มาพักแล้วจดจำได้

“เข้าใจแล้วใช่มั้ยปัต พี่อยากให้เราโชว์ไอเดียเราออกมา อยากได้ไกด์ไลน์อะไรเพิ่มรึเปล่า พี่อยากได้ไอเดียแบบใหม่ๆ” พี่ภีมว่า ผมนั่งฟัง

การสนทนาของคนทั้งคู่ต่อไปเรื่อยๆ

“อืม...ถ้าปัตจะขอไปดูสถานที่จริงจะได้มั้ยฮะ   ถ้าจะให้จินตนาการอย่างเดียวปัตว่ามันไม่ได้ฟิวฮะ  อยากสัมผัสสถานที่จริงก่อน  จะได้ร่างภาพ

ออกมาในมุมมองที่ใกล้เคียงความจริงด้วย  ปัตอยากใส่อารมณ์ของบรรกาศเข้าไปด้วย พอเห็นชิ้นงานแล้วจะได้คิดถึงโรมแรมของทางเจกรุ๊ปไงฮะ” 

“อืม....ก็จริงนะ  จะมัวมานั่งเทียนเขียนงานก็กระไรอยู่ เดี๋ยวพี่จะขออนุญาตกับทางเจกรุ๊ปอีกที   เพราะทุกอย่างของโรงแรมยังเป็นความลับ

ถึงทางโรงแรมจะสร้างเสร็จแล้วก็เถอะ  แต่ทางเจกรุ๊ปยังไม่อยากให้มีภาพหลุดออกมาจะกว่าจะถึงวันเปิดตัว  เรามีเวลา 1 เดือน  และในขณะที่

ทางโรงแรมกำลังเซ็ทระบบกันอยู่ คนอื่นๆ ก็เข้าไปช่วงก่อนหน้านี้หมดแล้วสิ  ถ้าจะให้ปัตไปคนเดียวพี่ว่าทางเจกรุ๊ปอาจจะไม่ไว้ใจ  เอายังงี้

เดี๋ยวพี่ส่งพาร์ทไปด้วยดีกว่า  เพราะพาร์ทรู้รายละเอียดเกี่ยวกับทางโรงแรมเป็นอย่างดี   แต่เมื่อไหร่พี่จะแจ้งอีกทีแล้วกันนะ”

“ได้ครับ  แต่เอ่อ.....ถ้าเป็นไปได้ปัตอยากให้เป็นวันหยุดจะได้มั้ยครับ  คือปัตพึ่งเข้ามหาลัยฮะอาจจะไม่สะดวกที่จะมาวันธรรมดา” 

“อืม...ได้สิ  ส่วนเมื่อไหร่เดี๋ยวพี่แจ้งพาร์ทอีกทีแล้วกันนะ”

“ครับ” 

“ยังไงลองสเก็ตแบบคร่าวๆ ก่อนก็ได้  พาร์ทช่วยดูให้ด้วยหล่ะ  พี่ต้องไปงานข้างนอกต่อ  ...ครับ...อืมได้ผมกำลังจะออกไป...พี่ไปหล่ะ”  พี่ภีม

รับสายจากเลขาสุดสวย  อันนี้เค้าสวยจริงนะครับ....แต่เก่งถึงขั้นต้องยอมยกนิ้วให้เลยทั้งสวย ทั้งฉลาด   เดินเข้าหยิบเอกสารต่างๆ สำหรับ

การประชุมแล้วเดินออกไป   

“เป็นไงบ้างเรา?  พอไหวมั้ย”  ผมลูบหัวไอ้ตัวเล็กเบา ๆ  ปัตยิ้มแป้น อย่างยินดี  แต่แอบมีอาการเกร็งเล็กๆ ปรากฎให้เห็น

“ไม่รู้ฮะของอย่างนี้ต้องลองก่อน  เฮ้อ~ตื่นเต้นชะมัดเลยพี่พาร์ท ปัตไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน  แต่ปัตรับรองฮะว่าจะทำเต็มที่เลย ว่าแต่โรงแรม

อยู่ทีไหนเหรอฮะ  อยากเห็นเร็วๆ จัง”  ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นไปอีกที่ทั้งคู่คุยงานกันได้ดี  ปกติพี่ภีมค่อนข้างจริงจัง แต่ทำไมคราวนี้ดูผ่อนคลายลง

อาจเป็นเพราะไอ้ตัวเล็กของผมมันน่าทะนุถนอมก็เป็นได้ ฮ่าๆ 

“ระยองกับเชียงใหม่  ถ้าอยากดูก็ดูรูปไปก่อนพี่ไปเก็บภาพมาแล้วทั้งสองที่น่ะแหล่ะ  ถึงได้ไปเจอเราไง  อ้อ ...โปรเจคแรกเป็นที่ระยองก่อน

ทางลูกค้าอยากให้ดูอบอุ่น  สบายๆ เป็นส่วนตัว  และที่สำคัญดูมีระดับ  แต่พี่ไม่อยากให้ปัตไปใส่ใจจุดนั้นมากเกินไปจนทำให้ไอเดียเราเขว

อยากได้ไอเดียดิบๆ ที่ปัตเห็นแล้วอยากจะสื่อ แล้ววาดสตอรี่บอร์ดออกมาก่อน  จากนั้นแต่ละฝ่ายก็จะเอาสตอรี่บอร์ดมารวมกัน พี่อยากได้

ความเพอร์เฟคแต่แฝงด้วยกลิ่นอายแปลกใหม่ที่ซุกซ่อนผสมผสานกันแบบกลมกลืน  งานนี้ไม่ได้รับผิดชอบโดยใครคนใดคนหนึ่งแต่พวกเรา

ต้องช่วยกันทำ  และพี่อยากให้ปัตเข้าใจไว้ก่อน....จะได้ไม่เสียใจถ้าเค้าเลือกแค่จุดใดจุดหนึ่งของชิ้นงานเราไป พี่อยากให้ภูมิใจว่าผลงานที่

มันออกมาได้  ..... เพราะมันเป็นผลงานของเราทุกๆ คน  ทุกๆ ฝ่ายช่วยกันทำ  โอเคมั้ย?”  น้องฟังผมอย่างตั้งอกตั้งใจ พยักหน้าน้อยๆ รับทราบ

มองผมซะตาแป๋ว  ....หึหึ   น่ารัก.....ซะจนไม่รู้จะพูดยังไง   ดีนะ....ที่ที่ตรงนี้คือออฟฟิศ   คือที่ทำงานของผม และผมมีความศรัทธาสถานที่ศักสิทธิ์

แห่งนี้ที่สร้างครอบครัวผมให้มั่นคงมาได้จนทุกวันนี้  ถึงได้ตั้งใจว่าผมจะตั้งใจทำงาน และจะไม่ทำมันหม่นหมองไปด้วยราคีทั้งหลาย 

ทำได้ก็แค่ลูบหัวไอ้ตัวเล็กอย่างเอ็นดู  จูงแขนให้น้องเดินตามกลับไปยังห้องทำงานตัวเอง   

ผมหยิบอัลบัมภาพโรงแรมของเจกรุ๊ปมาให้ปัต  น้องตั้งหน้าตั้งตาเปิดอย่างสนอกสนใจ ผมกลับไปทำงานของตัวเองที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะ

หยิบเหล่าผลงานทั้งสตอรี่บอร์ด กับงานที่ถูกถ่ายด้วยภาพเทียบเคียงกันแต่ละงาน ตรวจดูแสงเงาก่อนจะเริ่มถ่ายภาพสปอร์ตงานจริงๆ  งาน

แต่ละตัวมีเอกลักษณ์ของมันแตกต่างกัน ดังนั้นภาพที่โฆษณาที่จะสื่อออกมาด้วยระยะเวลาที่จำกัด...ทุกอย่างจึงต้องเข้าถึงกลุ่มคนดู ดึงดูด
เข้าใจง่าย และต้องเป็นที่จดจำ  ผมดูงานชิ้นแล้วชิ้นเล่า...เพื่อคัดกรองงาน .......เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ  น้องที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง

มุมที่มีโซฟากับโต๊ะรับแขก เพราะเผลอก้มทำงานนานเกินไป  รู้ตัวอีกทีก็บ่ายสองเข้าไปแล้ว ลืม....กระทั่งเข้าเที่ยง เผลอลืมว่าน้องจะหิว

เวลาทำงานผมมักจะเผลอลืมอะไรหลายๆ อย่างสมองจดจ่อที่งานตรงหน้าเท่านั้น  อยากให้งานไร้ที่ติถ้ามันจะเป็นไปได้ ...

ซึ่งไอ้งานอย่างนี้คงไม่มีในโลก  ดังนั้นที่ทำได้ก็คือทำมันให้สมบูรณ์มากที่สุด...มีรอยตำหนิน้อยที่สุด  ฉะนั้นงานแต่ละงานที่ผ่านมือมา

ถึงได้ดูแล้วดูอีก เทสแล้วเทสดี เพื่อหาจุดที่ลงตัวที่สุด  เลยไม่อยากให้ใครมาขัดเวลาสมองกำลังวิ่ง  แต่ก็ลืมไปว่าควรจะใส่ใจคนข้างๆ ด้วย

พอหันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการเริ่มร่างไอเดียแบบคร่าวๆ มาหลากหลายแบบไม่ได้ละเอียด  แค่เป็นไกด์ไลน์ที่ตอนนี้ตัวเองคิดอะไรออก

ด้วยการที่โซฟากับโต๊ะอยู่ในระดับเดียวกัน ไอ้ตัวเล็กเลยลงทุนไปนั่งจุ้มปุกอยู่กับพื้น  ใบหน้าขาวแทบจะแนบลงกับสมุดสเก็ตภาพ

“ปัตครับ...หยุดก่อน ป่ะไปทานข้าวกันนี่บ่ายสองแล้วเดี๋ยวจะปวดท้อง” ผมว่าหลังเดินไปหยุดหน้าปัต น้องเงยหน้ามามองผมนิดนึงก่อนจะสมุดต่อ

“ปัตยังไม่หิวเลยฮะ  นี่ยังร่างไม่เสร็จเลยอ่ะ  พี่พาร์ททานก่อนเลยฮะ เดี๋ยวปัตค่อยทานทีหลัง”  ไอ้ตัวเล็กต่อลอง  ผมยื่นมือไปแย่งเดินสอในมือ

ไอ้ตัวเล็ก ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ  แล้วคว้าแขนไอ้ตัวเล็กให้ยืนขึ้น  ปัตทำท่าอิดออดอยากจะทำงานต่อเสียเต็มประดา  หึหึ ...ถ้ารู้ว่าบ้างานขนาดนี้

เอาซ่อนไว้ที่บ้านไม่ให้มาทำงานดีกว่า  สุดท้ายไอ้ตัวป่วนก็จำยอมลุกในที่สุด อาจจะเพราะผมดึงแรงเกินไปน้องเลยเซมาซบอก.... ผมกอดน้อง

ไว้ทัน  กระชับกอดแน่นขึ้นอีกหน่อย....รู้สึกอบอุ่นดี  ปัตหันหน้ามามองผมเมื่อเห็นว่าผมกอดอยู่นานโดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย  แก้มสีระเรื่อนั่น

ยั่วผมได้ทุกทีสิน่า  ผมส่งยกยิ้มที่มุมปาก ยักคิ้วกวนๆอีกสองที ประมาณว่าไม่ปล่อยมีไรเปล่า  น้องดิ้นยุ๊กยิ๊กแต่เปล่าประโยชน์..เมื่อผมกอดแน่น

ขึ้นอีก  ไอ้ตัวดีเม้มปากแน่นอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี  บ้าเอ้ย....นี่ผมแพ้ปากสีแดงจัดๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมจ้องไปที่ปากสีแดงจัดนั่นเผลอกลืน

น้ำลายลงคออึกใหญ่  ร่างกายทำท่าจะแพ้พ่ายต่อจิตใจอย่างง่ายดาย....  จนต้องเฉตาไปอย่างอื่นแทน

“พี่พาร์ทปล่อยซะทีสิฮะ  ปัตหิวแล้ว”  ไอ้ตัวเล็กว่า  ผมยิ้มกว้างทั้งที่ยังไม่หันมา เรื่องเฉไฉนี่ยกให้คนนี้เลย เมื่อกี้ยังไม่ยอมไปกินอยู่แท้ๆ

“เร็วสิฮะ ปัตหิวจะแย่” ผมหันมามองไอ้ตัวเล็ก ที่ตอนนี้เอาแต่จ้องแผ่นอกผม

“คราบบบ  ปล่อยก็ปล่อยแต่ขอกำลังใจหน่อยนะ  ฟอดดด~”   ผมกดจมูกลงบนแก้มหอมของอีกฝ่าย สูดดมกลิ่นหอมอันน่าหลงไหล  กลิ่น~..

ที่ทำผมแทบครั่งได้ทุกครั้งที่เข้าใกล้ เนิ่นนานพอจะทำให้อีกฝ่ายจิกมือแน่นที่เสื้อผม  ถึงได้ยอมผละออกแม้ออกจะเสียดายนิด ๆ  แต่ก็กลัวว่า

ถ้าเผลอทำนานกว่านี้......   คงไม่ใช่แค่หอม   ปัตหน้าแดงซ่าน.....สีสวยลามปามถึงใบหู  เล่นทำผมแทบอดใจไม่ไหวอยากจะทำต่อ  จนต้องดึง

น้องมากอดแน่น ๆ หายใจเข้าออกลึกๆ ลึกสุดใจ  เพื่อต้องการจะดับอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านอยู่ตอนนี้  น้องก็เหมือนจะเข้าใจดีถึงได้ยอมให้กอดนิ่งๆ


อยู่อย่างนี้   ผมก้มลงไปกระซิบที่ใบหูที่แดงก่ำ อยากจะเม้มเบาๆ แล้วฟังเสียงครางของคนในอ้อมกอด  ผม.....มันบ้าไปแล้ว

“รู้ตัวไหม  ....  ว่าเราทำพี่แทบครั่งขนาดไหน  ทั้งอยากกอด อยากเป็นเจ้าของ อยากกลืนกินปัตทั้งตัวเลยคนดี” ผมว่าเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ

ที่หัวทุยๆ ของอีกฝ่าย   น้องทุบอกผม หนักๆ ด้วยความเขินอาย  ดิ้นหลุดจากอ้อมกอดของผม  ผมมองใบหน้าที่ทำหน้ายุ่งยากของใครบางคน

พยายามทำหน้าเฉย ทั้งที่มุมปากกำลังยกยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ ดวงตาหวานแพรวพราวไปด้วยความสดใส เบือนหน้าหนี...

“หิวแล้ว”   ยังยืนยันเรื่องที่ต้องการจะเฉไฉจนถึงที่สุด  ผมยิ้มกว้าง ส่ายหัวเบาๆ  เดินไปโอบไหล่เด็กดื้อที่ไม่ยอมรับความจริง

“ป่ะ งั้นไป ....”กินกัน”........หึหึ.”  ผมหันไปมองหน้าน้อง ที่กำลังทำหน้าเหวอ

“ห๊ะ ...ปล่อยปัตเลยพี่พาร์ท” ได้ตัวเล็กโวยวาย แกะมือผมออกจากไหล่เป็นพัลวัน  แต่ผมบีบมือแน่นขึ้นไปอีก กระชับกอดจนไอ้ตัวเล็กเซ

มากระแทกไหล่ผม  แล้วลากน้องออกจากห้องทั้งอย่างนั้น  ไม่รู้....ต่อไปจะเป็นไง  แต่ยังไงผมก็ไม่ปล่อยมือแน่นอน 

 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 15-08-2012 01:24:34
น่ารักมากๆเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-08-2012 02:07:41
อินเลิฟกันซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-08-2012 06:37:37
พี่พาร์ทหากำไรตลอดนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 15-08-2012 07:11:05
ไปกินกัน  :m25:

หวานกว่าเดิมอีก  :m1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 15-08-2012 07:16:28
ปัตคงรอดยากแน่ๆดูพี่พาร์ทหื่นๆนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 15-08-2012 07:55:19
จะรอดวันนี้ไหมเนี้ยปัต พี่พาร์ทหื่นแตกมากมาย  :haun4:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-08-2012 11:26:00
555+  มาลุ้นกันดู ......  ว่าจะรอดคืนนี้รึเปล่า คึคึคึ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 15-08-2012 12:39:02
น่ารักอ่ะ~~~~

" ไปกินกัน" กรี๊ด!!!!! ประโยคละลายใจ 555++

ตอนนี้กำลังเพ้ออย่างมากมาย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 15-08-2012 13:23:28
น้องปัตน่ารักไปแล้ว หึหึ พี่พาร์ทจะอดทนได้ซักแค่ไหนเนี๊ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-08-2012 13:24:53
หวานกันเวอร์ๆ :man1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-08-2012 13:40:47
พี่พาร์ทนี่ได้กำไรตลอดเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 21 P.8 15/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 15-08-2012 15:32:19
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-08-2012 01:42:54
มาต่อแล้วค่ะ  .... ตอนหน้าน่าจะ  ..... :t3: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

อ่านตอนนี้ไปก่อนแล้วกัน


UNIT 22


 “เห้อ~”   ผมนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของบ่ายวันนี้หลับจากเหลือบมองนาฬิกาที่ยังเดินต๊อกแต๊กอย่างเชื่องช้า  ราวกับว่ากำลัง

พยายามจะทำให้ผมขาดใจซะให้ได้  เป็นครั้งแรกที่การทำงานดูเป็นเรื่องน่าเบื่อ  และการอยู่ที่นี่กลายเป็นเรื่องทรมานสำหรับผมไปเสียแล้ว   

เมื่อสายตาจดจ้องงานที่วางตรงหน้า  ไม่ทราบว่าอะไรมาดลจิต.....ถึงให้จ้องยังไงกลับไม่เห็นความศิวิไลของมันสักนิดแทบกวาดงานที่วางอยู่

โยนลงถังขยะเพราะว่ามันแลดูขัดหูขัดตาไปซะหมด   ยิ่งไล่สายตาไกลออกไปอีกนิด ทำไมแจกันที่วางมุมนั้นถึงได้ดูดีอย่างเหลือเชื่อนะ

ทำไมอยู่ดีๆ ห้องทำงานของผมก็เหมือนถูกแบ่งเป็นสองโซน  โซนนึงข้าวของถูกวางระเกะระกะ กองงานวางสุมท่วมหัวภาพแต่ละภาพ ช่างน่า

เอือมระอา ไม่ว่าจะหยิบมาดูสักกี่ครั้งก็อยากจะทิ้งมันไว้อย่างเดิม  ชั้นหนังสือด้านข้างที่เต็มไปด้วยอัลบั้มและหนังสือต่างๆ ถูกวาง

อย่างเป็นระเบียบสีสันถูกจัดวางให้อยู่ในโทนเดียวกัน แต่ดันมีอยู่เล่มสันสีแดงจัด....วางแทรกอยู่ในหมู่หนังสือปกสีดำ  ทำให้มันเด่นพอที่จะรู้สึกว่า

ทุกอย่างดูมักง่ายไปหมด  โต๊ะเก้าอี้ ทุกอย่างดูเกะกะ ติดขัดมีปัญหาเหลือที่  ผมหล่ะอยากจะโล๊ะ ทำใหม่เสียให้หมด   

ไม่เหมือนกับโซนนั้น......ตรงมุมอีกฟากฝั่งของห้อง ช่างดูสดใส สวยงามราวกับมีสวนดอกไม้มาปลูกล้อมรอบ  โซฟาที่ถูกดันจนเลื่อน

จากตำแหน่งเดิมทะแยงไปมาไม่เข้าพวกก็ดูดีมีศิลปะ แจกันใบใหญ่ที่เหลือดอกไม้ปักเพียงดอกเดียวก็ยังหมุนดูได้องศา  โต๊ะกระจกตรงหน้าโซฟา

ที่มีหนังสือวางซ้อนกันหลากสี ก็ดูดีมีไสตน์ไปอีกแบบ  อืม..... ยิ่งมือเรียวขาวๆ เนียนๆ ที่กำลังจับดินสอ ขีดๆ เขียนๆ นั่นอีก ยิ่งดูดีเข้าใหญ่

ริมฝีปากแดงได้รูปสวยราวกับสวรรค์ได้ปั้นแต่ง  ..  เห้ย! ไม่ใช่แหล่ะ  อืมแต่ดูๆ ไป.....ชักรู้สึกอยากไปนั่งฝั่งโน้นมั่งจัง  เสียดายแต่.....

เจ้าของที่เค้าหวงไล่ตะเพิดผมห้ามเข้าใกล้ตั้งแต่บ่ายหลังจากไปกินข้าวด้วยกัน  ผมแวะร้านเค็กเจ้าอร่อยตรงปากซอย.....หยิบชิ้นที่ไอ้ตัวเล็ก

แอบจ้องไม่วางตาม  แต่พอถามว่าเอาอะไรมั้ย?   ก็ดีแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ ผมสั่งเค้กมาสองสามชิ้น เผื่อให้มดที่ชอบมากเป็นชีวิตจิตใจ

ขับออกจากร้านได้ไม่นาน ก็เห็นไอ้ตัวเล็กที่แอบจ้องเค้กชิ้นที่อยากทานจนแทบละลาย ผมได้แต่แอบอมยิ้ม  ... หันไปบอกไอ้ตัวเล็ก

“อยากทานก็ทานสิครับ”   สายตาก็จับจ้องไปที่ถนนต่อไป   ไอ้ตัวเล็กหันมามองผมนิดนึง แล้วก็หันไปจ้องเค้กต่อ ....นี่มันมองมาราธอนเร๊อะ

“ปัตไม่หิวครับ”  ไอ้ตัวเล็กว่า แต่ผมว่า.....อยากแต่ไม่กล้าทานรึเปล่า รึจะอายที่ให้เลือกแล้วไม่ยอมสั่ง   ทำไงไอ้ตัวเล็กถึงจะยอมกินนะ

“แต่พี่หิวอ่ะ... ปัตป้อนพี่หน่อยนะ  พี่ขับรถอยู่”  ไอ้ตัวเล็กจัดแจงหยิบเค้กอย่างระมัดระวัง กำลังหยิบช้อนจากถุงพลาสติก ขอบช้อนที่เป็นเสี้ยน

เกี่ยวกับถุงพลาสติกล่วงไปนอนกับพื้นรถเป็นที่เรียบร้อย   “เห้ย” ปัตร้องเบาๆ   ดวงตาจ้องมองช้อนอย่างแสนเสียดาย

“กัดเลยแล้วกันนะฮะ  ไม่มีช้อนแล้ว”

“อืม   ไม่เป็นไรถ้าเลอะปัตก็ค่อยเช็ดให้พี่แล้วกัน ”  รถจอดติดไฟแดงพอดี  ปัตก็รีบยื่นเค้กมาให้ผมหม่ำ ผมเลือกกัดเค้กตรงปลายแหลมของรูป

สามเหลี่ยม  แกล้งหลับตาพริ้มราวกับเอร็ดอร่อยหนักหนา  ค่อยเคี้ยวแล้วกลืนลงคอ

“อร่อยมากอ่ะ   ปัตลองชิมดูสิ  ถ้าไม่ชอบไม่ต้องกินต่อก็ได้เดี๋ยวพี่รับผิดชอบต่อเอง”  ผมพยักหน้าเร่งเร้าให้ไอ้ตัวเล็กรีบตัดสินใจ  น้องลังเลนิดๆ


แต่สุดท้ายริมฝีปากแดงก็อ้ากว้างงับเบาๆ ลงบนเนื้อเค้ก  ไอ้ตัวเล็กหลับตาพริ้มค่อยละเลียดเค้กในปากอย่างเอร็ดอร่อยราวกับจะร่องลอยไปใน
อากาศ 

“อร่อยมากฮะ”  ลิ้นเล็กแลบออกมาเลียรอบริมฝีปาก ๆ เพื่อเก็บกวาดเค้กที่ติดอยู่รอบๆ  ผมมองลิ้นเล็กๆ นั่น  จำได้ว่ามันหวานาขนาดไหน เผลอ...

กลืนน้ำลายอึกใหญ่ จนเจ้าของลิ้นหันมามอง

“อยากทานเค้กเหรอฮะ?”  ปัตหันมาเลิกคิ้วถาม  ผมยกยิ้ม  ...  แล้วพยักหน้า  ไม่นานเค้กก็ถูกยื่นมาตรงหน้า ผมกัดลงเบาๆ เค้กน่ะไม่เท่าไหร่

แต่คนตรงหน้าเมื่อไหร่น๊าจะได้ทาน   เคี้ยวเค้กต่อเรื่อยๆ แล้วกลืนลงคอ เห็นไอ้ตัวเล็กนั่งมองแล้วน่าสงสาร คงเกรงใจผมจนไม่กล้าทาน พึ่งรู้...

ว่าชอบเค้กขนาดนี้   

“ปัตชอบเค้กมั้ย?”  น้องพยักหน้าน้อยๆ

“ชอบก็ทานสิ  พี่ทานบ่อยๆ เบื่อแล้ว” ไอ้ตัวเล็กมองผมอย่างชั่งใจ สุดท้ายก็ต่อกรต่อน้ำลายตัวเองไม่ไหว เลยอ้าปากหม่ำเค้กตรงหน้า

อย่างเอร็ดอร่อย คำแล้วคำเล่า...  ใบหน้าเคลิ้มสุขนั่น  อะไรจะมีความสุขขนาดนั้นนะ  ..... ผมชักสงสัย  รถจอดสนิทที่ลานจอดรถ   

ในขณะที่.....พอดีกับคำสุดท้ายที่ปัตพึ่งจะเอาเข้าปากไป น้องค่อยเคี้ยวอย่างเชื่องช้าแล้วกลืนลงคอไป  ผมไอ้แต่จับจ้องปฏิกิริยาเหล่านั้น

บรรญัติศัพท์ได้คำเดียวเลยว่า  “น่ารัก”    ไอ้ตัวดี...หันซ้ายหันขวาจะหาทิชชู่มาเช็ดมือที่เปื้อน  แต่น่าเสียดายแผ่นสุดท้ายผมหยิบมาใช้

เช็ดปากเมื่อสักครู่นี้  ปัตดึงมือที่เปื้อนเค้กเตรียมจะยื่นเข้าปาก ผมรั้งมือเรียวของน้องไว้ .....  ไอ้ตัวดีหันมาเลิกคิ้วถามทางสายตา

“สกปรกเหรอฮะ?”  ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

“อ้าว...แล้ว?”  น้องพูดได้แค่นั้นก็เงียบไป  เมื่อนิ้วเรียวกำลังถูกดูดดุนเบาๆ จากปากผม ไล้วนลิ้นไปทั่วนิ้วกำจัดของหวานที่ค้างอยู่จนสิ้นซาก

น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่ามันหวาน........  ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันไม่ได้มีขนมหวานเหลืออยู่ เหลือบหันไปมองเจ้าของนิ้วที่หน้าแดงซ่านเสตาหันไปทางอื่น

เรียบร้อยแล้ว  ถึงค่อยดึงนิ้วเรียวออกจากปากช้าๆ จนหลุดออก  ไอ้ตัวเล็กเสตาหันมามองผมช้าๆ ก่อนจะหลุบมองต่ำ  มือจิกกันแน่....

อืม.... เป็นที่น่าพอใจ  ผมหลุดยิ้มออกมา  แต่สายตาเจ้ากรรมดันไพล่ไปเห็นเค้กที่ยังเปื้อนอยู่ริมฝีปากของอีกฝ่าย  ชักอยากจะชิมเค้กดูอีกที

โน้มหน้าลงไป อีกฝ่ายกลั้นหายใจ ....  ผมยกยิ้มอยากจะแกล้ง  ค้างหน้าในระยะประชิดอยู่อย่างนั้น  ตาสบตา  ผมมองลึกลงไปในดวงตา

สีน้ำตาลอ่อน  ตอนนี้ไหวระริกด้วยความหวั่นไหว  มือจิกเบาๆ ที่ไหล่ผม  ตวัดลิ้นลงเบาๆ รอบริมฝีปากของอีกฝ่าย 

“อืออ~”  อีกฝ่ายครางเบาๆ หลังจากลุ้นจนตัวเกร็ง  เล็บจิกลงบนไหล่ ผมค่อยๆ ผละออกไม่ได้ทาบทับริมฝีปากลงบนปากอีกฝ่ายแต่อย่างใด

“อร่อยกว่าชิ้นเมื่อกี้อีก”    กระซิบเสียงแผ่ว ไอ้ตัวเล็กหอบหายใจหนักๆ สองมือเร่งดันอกผมให้ออกห่าง  เปิดประตูรถเดินจ้ำพรวดๆ หนีไป

ทั้งหมดนี่เลยเป็นที่มา....ของการถูกเนรเทศให้อยู่ในมุมที่ปราศจากความงดงามใดๆ หลังจากไอ้ตัวเล็กประกาศกร้าว ถ้ามายุ่งอีกจะไม่ทำอาหาร
เย็น

ผมเลยกลายเป็นไอ้หมางั่งที่ทำได้แค่นั่งจ้อง...ปากสีแดงสดอย่างหลงไหล  กลืนน้ำลายอึกใหญ่ๆ อยู่หลายอึก  จนอีกฝ่ายที่ถูกจ้องถึงกลับเงยหน้า

ขึ้นมามอง  ส่งสายตาเย็นยะเยือกที่ทำเอาหื่นดับ  หลับไม่ตื่น    ทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่กับที่ เหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง 

บอกเวลา.. 17.00 น.  ผมรวบเอกสารกองโตที่วางอยู่บนโต๊ะให้กองสุมๆ เป็นกองเดียว  ดูท่าการทำงานช่วงบ่ายไม่ค่อยได้อะไรสักเท่าไหร่

ก็เพราะใครหล่ะ.?......  มาทำให้ผมเพ้อแล้วก็ไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้ซะงั้น  อารมณ์ขุ่นมัวยังไม่จางลง ผมเอื้อมมือหยิบกระเป๋า เดินตรงเข้าไป

ล่วงละเมิดเข้าสู่สถานที่ต้องห้าม  หยุดยืนตรงหน้าเจ้าของปากแดงที่ผมแอบมองเมื่อครู่  ปัตละมือจากสมุดสเก็ตภาพเงยหน้ามองมาที่ผม

ทำหน้ายุ่งได้อีก  ผมเบือนหน้าหนีแอบอมยิ้มกับท่าทางน่ารักๆ ในมุมที่คิดว่าคนข้างล่างมองไม่เห็น ก่อนจะหันกลับมาตามเดิม

“กลับบ้านได้แล้ว.....เลิกงานแล้วครับ”  ผมบอกน้องด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน  ไม่ได้แกล้งทำนะ  แต่ไม่รู้ทำไม..เพราะหัวใจมันสั่งมา..มั้ง?

ไอ้ตัวเล็กทำหน้าเหวอไปหน่อย  หันไปมองนาฬิกาที่แขนอยู่บนข้อมือเรียว รีบเก็บข้าวเก็บของลงกระเป๋าเป้ แล้วหยัดยืนเต็มความสูง

“ฮะ.......  ว่าแต่วันนี้พี่พาร์ทอยากทานอะไรรึเปล่าครับ?”  ผมหันไปมองตอบนิ่งคิดอยู่พักนึง  ถ้าตอบว่า”น้องปัต”...เห็นทีว่าเย็นนี้คงจะต้อง

อดทั้งข้าว และอดกอดคนตรงหน้าเป็นแน่แท้   หันไปยิ้มให้น้องเพราะแลดูจะหาคำตอบอื่นไม่ได้

“อะไรก็ได้ครับ...ว่าแต่เราไม่เหนื่อยรึไง หืม?  ทำงานมาทั้งวันแล้ว”  ผมเอ่ยถามขณะที่มือก็ลูบเบาๆ ที่หัวทุยของอีกฝ่าย 

ไอ้ตัวเล็กยิ้มแป้น ส่ายหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ  ท่าทางจะลืมสงครามเมื่อครู่เสียสนิท

“ไม่หรอกฮะ  ปกติอยู่ที่บ้านก็ทำอย่างนี้ทุกวันอยู่แล้ว  งั้นวันนี้ทำไข่ยัดไส้กับแกงจืดได้มั้ยฮะ  ปัตยังไม่ได้ไปซื้อของมาเพิ่มเลย”

“อืม...  อะไรก็ได้  ปัตทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้นแหล่ะ” พูดจบก็หันไปคว้ามือนิ่มๆ ของอีกฝ่ายมากุมไว้ แล้วเดินนำน้องมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถ

ไอ้ตัวเล็กขัดขืนอยู่สักพัก   คงเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อย......  ถึงยอมให้ผมกุมมืออยู่แบบนั้น  ผ่านหน้าห้องที่มีมดนั่งอยู่

“จะกลับแล้วเหรอคะบอส?”  มดหันมายิ้มทักทาย ผมพยักหน้ารับ

“ครับจะกลับแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะครับมด” 

“สวัสดีครับพี่มด เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”  ไอ้ตัวเล็กหันมาร่ำลายกมือไหว้พี่มดสุดสวย 

“สวัสดีค่ะบอส เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ  เจอกันพรุ่งนี้นะคะน้องปัต”  หลังจากร่ำลาเป็นที่เรียบร้อย ผมก็หันมาโอบไหล่ไอ้ตัวเล็ก หลังจากน้องทำเนียน

ดึงมือออกตอนไหว้มด  ออกแรงนิดๆ เพื่อให้เดินต่อไปยังลานจอดรถ 

.
.
มาถึงห้องผมก็อ้อนน้องทันที  ก็เพราะตอนนี้พยาธิในท้องแทบจะรวมตัวประท้วงด้วยความที่ทนอดอาหารไม่ไหว

“ปัตครับทำกับข้าวให้พี่ทานหน่อยนะ  พี่หิววววว~”  น้ำเสียงอ่อนละโหยรอยแรง  ปัตหันมายิ้ม...มองผมขำๆ  ว่าแต่เอ๋...ผมกลายเป็นตัวตลก

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  ผมกับน้องวางกระเป๋าไว้ด้านข้างโซฟา ก่อนที่น้องจะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดเบาสบายเข้ารูปนิดๆ

“รอแป๊บนะฮะ  พี่พาร์ททานอะไรรองท้องก่อนเลยนะฮะ ปัตยังไม่ได้หุงข้าวเลยเดี๋ยวจะปวดท้องซะก่อน” 

“คร๊าบบบบบบบบบ ที่รัก”  ผมตอบ ขณะที่เดินไปอยู่ข้างหลังเจ้าตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สอดมือโอบกอดเอวจากด้านหลัง หอมแก้มน้องเบาๆ

ไอ้ตัวเล็กสะดุ้งจะหันมาโวย  แต่ผมชิ่งหนีเดินต่อไปยังตู้เย็นหยิบน้ำเย็นมาดื่ม ไม่ลืมจะเทใส่แก้วเอาไปให้ไอ้ตัวเล็กอีกแก้ว

“ดื่มน้ำก่อน เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”  ผมย้อนคำที่ไอ้ตัวดีสั่งเมื่อครู่  น้องหันมามองผมยิ้ม ๆ แล้วรับแก้วน้ำไปดื่มอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย ?จะได้เสร็จเร็วๆ”  ผมขยับไปยืนข้างๆน้อง ยกมือขึ้นมาในอากาศ ขยับปลายนิ้วคล่องแคล่วบอกให้ทราบว่าพร้อมแล้วที่จะช่วย

 “แล้วพี่พาร์ททำอะไรเป็นบ้างฮะ?”  ไอ้ตัวเล็กหันมาถาม  ผมนิ่งคิดสาม...วินาที เร็วมากๆ  ก่อนจะส่ายหน้าหวือ 

“ไม่เป็นครับ”  น้องยกยิ้มที่มุมปาก  หันมามองผมขำๆ แน่ะ.....อีกแหล่ะทำไมชอบหัวเราะผมนะ  หึหึ.....เดี๋ยวพี่เอาคืนนะครับน้องปัต

“งั้นก็อยู่เฉยๆ ครับ  วันนี้หิวอ่ะ วันหลังพี่พาร์ทค่อยมาช่วยแล้วกันครับ เดี๋ยวปัตสอนให้”  แล้วไอ้ตัวก็หันไปหั่นหอม มะเขือเทศ ผัก ....บลา...บลา...

ผมที่ทำหน้าเงือกง่อย เดินคอตก...เพราะเป็นคนไร้ประโยชน์  เดินตรงไปที่โซฟาสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นหม้อหุงข้าว  โอ้ก็อดดดดดดดดดดดด

ผมตะโกนลั่นในใจ ด้วยความปลื้มปิติ  ใช่สินะ.....ผมน่ะเกิดมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว  ใช่ครับผมหุงข้าวเป็น  .....สิ่งเดียวที่ทำได้ในครัว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

“ปัตครับพี่รู้แล้วจะช่วยเราได้ไง..... ”  น้องเงยหน้ามองมาตามเสียงผมด้วยสีหน้าสงสัย  ตะกี้พึ่งตอบว่าทำอะไรไม่เป็นอยู่แท้ๆ

“เดี๋ยวพี่จะหุงข้าวเอง  รับรอง...หอมอร่อย  เชื่อมือได้เลย” ผมหันไปสาธยายกับปัตอย่างภาคภูมิใจ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้างในความกระตือรือล้นของผม

แต่......  น้องยิ้มดีใจในความกระตือรือล้นของผมจริงเหรอ?

“ฮ่าๆๆๆๆ   คร๊าบบบ ๆ  ยังไงปัตฝากด้วยนะครับ  ช่วยหุงข้าวให้หอมอร่อยที่สุดให้ทีนะครับพี่พาร์ท”  ไอ้ตัวเล็กว่า  น่ารัก...จนน่าหมั่นไส้

ผมยื่นมือไปยีหัวไอ้ตัวเล็ก  อย่างเอ็นดู  ก่อนจะหันไปปฏิบัติภาระกิจระดับชาติ  (เหรอได้ข่าวว่าแค่หุงข้าว :P ///  ว่าแต่คนแต่งหุงเป็นป่ะเนี่ย)

เวลาผ่านไปไม่นาน  อาหารทุกอย่างก็วางอยู่ตรงหน้า  พร้อมข้าวสวยร้อนๆ หอมกรุ่น  และแน่นอนต้องอร่อยระดับชาติชนิดที่ใครได้กินต้องมาขอ

สูตร กลเม็ดเด็ดพราย หึหึ.. (จริงๆ นะครับ)  ไม่ต้องรออะไรทั้งนั้นเราทั้งคู่ก็จ้วงอาหารตรงหน้าที่แสนอร่อยเข้าปากอย่างไม่หายใจหายคอ

กันเลยทีเดียว ทานเสร็จก็ไปจานชามไปล้างโดยไอ้ตัวเล็กเช่นเดิม ผมเดินเข้าไปซ้อนด้านหลังดันตัวให้ชิดติดกันแนบแน่นเพื่อไม่เปิดโอกกาศให้

อีกฝ่ายขยับหนี   ก่อนจะสอดมือเข้าไปวางทาบทับมือของอีกฝ่ายที่กำลังขัดๆ ถูๆ ฟองน้ำบนจานกระเบื้องใบสวย ถือโอกาสเกยคางบนไหล่เล็กๆ
นั่น   

“พี่ช่วยล้างนะครับ” ผมพูดเสียงแผ่วเบา  ได้กลิ่นหอมแป้งเด็กจากแก้มนิ่มที่ตอนนี้ถูกจมูกผมถูไถไปเรียบร้อยแล้ว หอม....เหลือเกิน  ไอ้ตัวเล็ก

หันหน้าหลบไปอีกด้านเผยให้เห็นใบที่ขึ้นสีแดงระเรื่อฉาบทั่วใบหน้าไปถึงใบหู แต่จมูกผมก็ช่าง....ไม่เคยลดละความพยายาม ตามติดไปทุกที

ยิ่งเห็นปากสีแดงสด ยิ่งอยากจะบดเบียด .....ดูดกลืนปากแดงๆ ให้บวมเป่ง 

“พี่พาร์ทอย่าฮะ  ปัตล้างจานอยู่”  ไอ้ตัวดีหาข้ออ้างที่จะหลีกเลี่ยง

“ก็พี่ช่วยล้างอยู่นี่ไงหล่ะ”  ผมเถียงข้าง ๆ คูๆ  ซุกจมูกสูดดมซอกคอหอมๆ ของอีกฝ่าย  น่ากลัว.....ว่าจะเริ่มหยุดไม่ไหว

“อ...เอ่อ..ปล่อยก่อนฮะ เดี๋ยวล้างจานไม่เสร็จกันพอดี ”  น้องขยับตัวหนี แต่ผมกอดเอวไว้แน่น

“พี่ไม่กวนก็ได้  ...แต่ขอกอดแบบบี้นะ”  ผมบอก ยื่นไปเปิดก๊อกน้ำล้างฟองน้ำยาล้างจานออก  แล้วกอดไอ้ตัวเล็กไว้แน่น ปล่อยให้ไอ้ตัวเล็ก

ล้างจานต่อจนเสร็จ  ....................  อ๊ะเสร็จแล้ว  ผมยิ้มกริ่มจูงมือน้องมานั่งที่โซฟาซึ่งไอ้ตัวดีก็ขัดขืนตลอดทาง  ผมดันตัวน้องให้นั่งลง

หยิบรีโมทยัดใส่มือ  ส่วนตัวเองก็ล้มตัวลงหนุนตักนิ่มๆ ของอีกฝ่าย  เหมือนปัตจะเข้าใจ....น้องกดเปิดช่องกีฬา  แล้วเราก็จ้องมองการแข่งขัน

ที่ดำเนินผ่านไปอย่างเชื่องช้า  แต่สำหรับผมไอ้กีฬานั่นไม่ได้น่าสนใจเท่าคนที่ผมหนุนตัวอยู่  ...เลยสักนิดเดียว




หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-08-2012 02:06:14
หวานที่สุดอ่ะ

 :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-08-2012 05:24:09
โอ๊ย หวานมดกัด คันยิบๆเลยอะ :o8:
อย่างกับคู่แต่งงานใหม่ น่ารักมากกกกก โลกนี้มีเพียงสองเรา(กับคนอ่าน)เนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 17-08-2012 10:37:10
หวานมากๆๆๆ ข้าวกับกับข้าวคงจะหวานมากนะพี่พาร์ท  :-[
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-08-2012 11:18:57
โหย,,,พี่พาร์ท รู้สึกช่วงนี้โลกเป็นสีชมพูนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 17-08-2012 12:42:48
หวานมากกกกกกกกกกกก :110011:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-08-2012 13:17:16
อ่านแล้วผิดมั้ยที่เพลิงริษยาจะพลุ่งพล่านนนนนน


หวานไม่อายใครเลยแฮะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-08-2012 13:56:24
คนเขียนกะจะให้คนอ่านน้ำตาลในเลือดสูงจนเป็นเบาหวานใช่ปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-08-2012 16:09:00
หวานจนมดมันจะไต่ขาแล้วมั้งพี่พาร์ท น้องปัตก็เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว
แต่อ่านแล้วยิ้มกับความน่ารักของทั้งคู่ หวานกันจนน่าอิจฉา
ถ้าเป็นแบบนี้ให้พี่พาร์ทาจับน้องปัตกินไปเลยดีกว่า 5555

+1 ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-08-2012 17:29:32
พี่พาร์ทกู่ไม่กลับแล้ว ทั้งรักทั้งหลงน้องปัต
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-08-2012 21:29:43
คนอ่านจะเป็นเบาหวานหรือเปล่าเนี่ย.... :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Pippin_Fujoshi ที่ 17-08-2012 22:41:41
ตามอ่านทันแล้วววว!!!  :-[

ตอนแรกดร่าม่าเรื่องครอบครัว แต่ตอนหลังมา ...น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก  :m3:
น้องปัตน่าซั่มมาก พี่พาร์ทก็หื่นมากด้วยเหมือนกัน
ตีเนียน แทะๆเล็มๆน้องตลอดเลยนะพี่พาร์ท  :z1:

เขียนได้น่ารักมากเลย แต่คำผิดยังเยอะอยู่นะคะ

และน่านับถือความสามารถในการอัพของคนเขียนค่ะ ตอนพุ่งพรวดๆตามอ่านแทบไม่ทันเลยทีเดียว
นานๆทีเจอนิยายอัพถี่แบบนี้ เป็นปลื้มมมม  :กอด1:

จะรอตอนต่อไปนะคะ  :L1:



หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-08-2012 23:19:17
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะคะ 
ทุกๆ คอมเม้นถือเป็นแรงบันดาลใจให้คนเขียนมากๆ ค่ะ  :)

ส่วนเรื่องคำผิด ต้องขออภัยจริงๆค่ะ  แต่แนะนำกันได้นะคะ 
อาจจะเพราะรีบพิมพ์ตอนกลางคืนนะคะ
แต่งเสร็จไม่ค่อยได้ตรวจทานสักเท่าไหร่  อยากอัพเร็ว  อิอิ
ถ้าคืนนี้แต่งเสร็จทันก็จะอัพตอนใหม่ให้นะคะ  แต่ถ้าไม่ทันคืนนี้
ก็อาจจะวันพฤหัสหรือศุกร์เลย  พอดีมีภาระกิจ  .... ขึ้นเสาเอกบ้าน  โฮ่ะๆๆ
อาจจะต้องหายตัวไปตจว.สักหน่อย หุหุ  ยังไงก็จะพยายามอัพให้เร็วที่สุดค่ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-08-2012 23:28:07
โดนของป่ะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: MildRiYa ที่ 18-08-2012 00:40:16
อ๊ากกก หวานกันเกินไปแล้วววววววววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-08-2012 12:36:17
 :z1: :z1: :z1: พี่รุกน้องหนักไปแล้ววว.
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-08-2012 13:32:54
แกจะสิงร่างน้องรึไงพี่พาร์ท 555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 20-08-2012 17:34:02
พี่พาร์ทรุกเร็วจริงอะไรจริง
ตอดนิดตอดหน่อยตลอดๆๆๆ
น้องปัตไม่ได้หายใจหายคอเลย
 :o8: :-[ :impress2:

ตอนหน้ามีรวมร่างแน่ๆ คึคึ คึคึ  :kikkik: :kikkik:

รอน้องปัต พี่พาร์ท นะคะ
+1 ขอบคุณคนแต่งค่ะ




หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 22 P.9 17/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 20-08-2012 23:46:44
ดูท่าทางจากไอ้พี่หื่นพาร์ทแล้ว หนูปัตไม่รอดพ้นคืนนี้แน่  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 22-08-2012 03:00:31
UNIT 23  รัก
 
 
 
หลังนอนมองดูทีวีจนเบื่อผมก็พลิกตัวหันหน้าเข้าหาตัวน้อง ซุกหน้าลงกับหน้าท้องนิ่มๆ ของอีกฝ่าย...หอม จนต้องสอดแขนโอบรอบเอวของอีกฝ่าย

แล้วดึงเข้ามาหาตัวให้มากขึ้น ไอ้ตัวเล็กลูบผมผมเบาๆ  มีความสุขอย่าบอกใคร ท่ามกลางเสียงกีฬาดังกระหึ่ม ....หากแต่ผมกลับได้ยินแต่เสียงเพลง

บรรเลงกล่อมหู...เสียงเสนาะเพราะพริ้ง   เคยมั้ย?......  ที่มีความสุขแบบไม่มีเหตุผล   คุณเคยมั้ย?.....ทีไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ยิ้มได้มากขนาดนี้

ไม่ว่าหันไปทางไหน  ราวกับโลกใบนี้......ถูกสีชมพูทาฉาบเอาไว้  .....
 
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่จมจ่อมกับความรู้สึกมีความสุขแบบไร้เหตุผล หันมามองรอบตัวถึงได้รู้ว่าทีวีได้ถูกเปลี่ยนช่องจากรายการกีฬาเป็นรายการอาหารเรียบร้อยแล้ว

ผมพลิกตัวนอนหงาย ไอ้ตัวเล็กไม่ได้หันมาสนใจแต่อย่างใด  เหลือบมองทีวีอีกหนเห็นพิธีกรสาวสวยกำลังยืนยิ้มหวานอยู่ข้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านขนม

เค้ก............ อีกแล้ว  ผมอมยิ้มแค่เห็นก็อดนึกถึงเรื่องเมื่อกลางวันไม่ได้  หวาน......ยิ่งกว่าน้ำตาลไอซิ่ง  เสตามองไอ้ตัวเล็กนิดนึง  เห็นใบหน้าเคลิ้มฝัน

จ้องมองที่เค้กในมือพิธีกรแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่  .....ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ  ดวงตาสีน้ำตาลเพ่งมองไปที่ทีวี ตาไม่กระพริบ  ริมฝีปากเผยอเล็กๆ

 แลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากแดงจัด ก่อนจะเม้มกลับแล้วกลืนน้ำลายอีกหน  อ่า~....ผมเผลอมองตามอย่างเพลิดเพลิน   ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไอ้ตัวเล็ก

ทำซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น จนผมเริ่มรู้สึกว่าริมฝีปากแดงๆนั่น ก็น่าชิมมิใช่น้อย     

“ฮะ?”  ไอ้ตัวเล็กเลิกคิ้วสงสัย ผมไม่ได้ตอบ  เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เผลอยื่นมือไปลูบไล้แก้มนิ่มๆ นั่นอย่างหลงไผล  พอลากมือลงต่ำอีกนิด

ก็สัมผัสริมฝีปากแดงได้รูปของอีกฝ่าย  ค่อยๆ แตะบางเบาไล้นิ้ววนไปมารอบริมฝีปากแดงจัดนั่น  ก่อนจะสอดนิ้วดันเข้าปากอีกฝ่ายไป 

สัมผัสชื้นแฉะกับลิ้นนุ่มหยุ่น ผมเห็นสีแดงจางๆ เริ่มแต่งแต้มที่แก้มของอีกฝ่าย  ......  น่ามอง ........         น้องน่าจะรู้ว่าผมต้องการอะไร 

ถึงได้เพียรหลบสายตาผมจนวุ่นวายแบบนี้   ริมฝีปากบางอ้าเล็กๆ ให้นิ้วของผมดึงเข้าออกได้อย่างสะดวก  แต่หาก.....ไม่ดูดเม้มดังที่ผมปรารถนา

“ถ้าไม่ดูด พี่จะจูบแทนน่ะ”  ผมหันไปขู่  ไอ้ตัวเล็กหันมาค้อนเบาๆ ใส่ผม   ก่อนจะหันไปดูดดุนนิ้วผมที่กำลังดึงเข้าดึงออกปากไม่ขาดสาย

 ลิ้นเล็กๆ ไล้เลียรอบนิ้ว ริมฝีปากที่ห่อเข้าเม้มเบาๆ  มันทั้งนิ่มทั้งแน่น จนผมอยากจะเอาอย่างอื่นสอดแทนเข้าไปในปาก


 อ่า~  ผมครางเบาๆ ในลำคอ บังคับไม่ให้เสียงมันเล็ดลอดออกมา กลัวอีกฝ่ายจะผละหนี  ปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กทำหน้าที่ต่อไป ผมหลับตาลง

จินตนาการถึงสัมผัสนุ่มหยุ่น  ในหัวร้องถามตัวเองไปมา   แล้ว.....ถ้าไม่ใช่ปากหล่ะ??        ..ถ้าเป็นด้านล่างกับสิ่งที่แข็งขืนจนปวดหนึบอยู่นี่

จะรู้สึกดีสักแค่ไหน       อืมม~    ไม่ไหวๆ ยิ่งปากที่นุ่มนิ่ม กับลิ้นหยุ่นชื้นแฉะ  สัมผัสดูดดุนมากเท่าไหร่ ความต้องการของผมก็พุ่งพรวด

จนแทบทนไม่ไหว........  ร้อนรุ่มจนเลือดร้อนๆ ฉีดพล่านทั่วทั้งตัว หัวใจเต้นรัวจนจับจังหวะไม่ได้  รู้แต่ว่า.อยากสัมผัส....... อยากสัมผัสให้มากกว่านี้ 

ส่งสายตาหวานเชื่อมจ้องมองปากเล็กนั่น  ยามขยับ..ราวกับมีแม่เหล็กมาเหนี่ยวนำสายตาผมไม่ให้มองไปทางไหน...ได้แต่ต้องจับจ้องที่ปากสีสดที่ว่านั่น

ว่าแล้ว.....ก็ค่อยๆ ดึงนิ้วออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วแทนที่ด้วยปากของตัวเอง แตะจูบเบาๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไอ้ตัวเล็กสั่นสะท้าน ร่างบางโยกคอนไหวโอน

เคลิบเคลิ้มไปตามแรงกดริมฝีปากที่เริ่มเน้นหนักขึ้นเรื่อย มือเรียวกำแน่นที่เสื้อผมราวกับไม่รู้จะยึดเหนี่ยวอะไรได้ไปมากกว่านี้ หลับตาพริ้มเพรา


ผมเผลอสำรวจเครื่องหน้าที่สวยได้รูปราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง  ฝีมือช่างปราณีต ปากบางสีสด จมูกโด่งรั้น คิ้วสีน้ำตาลอ่อนได้รูปโค้งรับกับรูปหน้า

ขนตายาวหนาเป็นแพ โอบรอบนัยตาคู่สวยสีเดียวกับคิ้ว ผิวเนียนละเอียดลื่นมือ  เล่นเอาหลงทุกครั้งที่สัมผัส  ผมมองทุกอย่างอย่างหลงไหล ทั้งที่ปาก

ยังทำหน้าที่ของมัน   ค่อยๆ ดันหลังอีกฝ่ายให้ชิดโซฟานุ่ม สอดมือเข้าท้ายทอยใช้หัวแม่มือดันคางไอ้ตัวเล็กให้แหงนหงายศรีษะพิงแนบไปบนขอบโซฟา

ตัวสวย  แทรกลิ้นเพื่อชิมความหวานของอีกฝ่าย ดูดดุนหยอกเย้า เรียกร้องและอ่อนโยน ไอ้ตัวเล็กครางกระเส่าราวจะขาดใจ  ผมละปากให้โอกาสหายใจ

“อืออออ~”   ก่อนจะกดจูบลงใหม่ จนอีกฝ่ายอ่อนยวบอยู่ใต้ร่าง  สูดดมแก้มหอมของอีกฝ่าย พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวาน หน้าผาก เปลือกตา หรือแม้แต่

แก้มหอมๆ ของคนตรงหน้า ก่อนจะขบเบาๆที่ติ่งหู  สอดลิ้นไล้เล็มทั่วใบหู แยงลิ้นร้อนๆ เข้ารูหูอีกฝ่าย ไอ้ตัวเล็กขนลุกชันทั้งตัว หดคอหนี

“พ...พี่.....พาร์ท   อ๊ะ....อืออ~”   ครางเสียงหวาน   ผมซุกจมูกที่ซอกคอขาว ทั้งสูดดมซอกซอน ดูดกลืนลำคอขาว เมื่อความรู้สึกมันมากจนเกินห้ามไหว

สอดมือลูบไล้ผิวเนื้อเนียนนุ่มภายใต้เสื้อยืดตัวบาง   น้องสะดุ้งนิดๆ ดึงรั้งมือผมเอาไว้  ไม่ให้ผมกล้ำกลายไปมากกว่านี้

“อ๊ะ”   ผมสอดมืออีกข้างเข้าใต้เสื้อน้องอย่างรวดเร็ว เหนี่ยวรั้งจนเสื้อยืดตัวเดิมให้ล่นขึ้นมาเหนือเม็ดทับทิมสีสวย  ได้ยินเสียงหอบหายใจถี่รัวของคนใต้
ร่าง

ใบหน้าแดงซ่าน ริมฝีปากเม้มแน่นหลับตาพริ้ม ราวกับกลัวกับภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า  ร่างของปัตเกร็งแน่น ผมค่อยๆ ละเลงลิ้นกับยอดอกสีสวย

ไล้ลิ้นวนไปมา ดูดกลืน ... มืออีกข้าง บดขยี้ยอดอกข้างที่เหลือให้ชูชันตามกันมาติดๆ ไอ้ตัวเล็กเผลอครางหวาน แอ่นอกสะท้านให้ผมสัมผัสได้มากขึ้น

มืออีกข้างที่จับมือผมไว้ก่อนหน้านี้ถูกปล่อย  แล้วเลื่อนไปปิดปากตัวเองแน่น ....ปิดกลั้นเสียงครางหวานที่จะเล็ดลอดออกมา   ผมไล้ลิ้นไปทั่วทั้งแผ่นอก

ดูดกลืนทำรอยทุกตารางนิ้วที่ผมลากลิ้นผ่าน  อยากแสดงความเป็นเจ้าของบนร่างกายที่หอมหวานของปัต  อยากให้ทุกคนรู้ว่ามีผมเป็นเจ้าของ...คนๆ นี

อยากสัมผัสดูดกลืนให้ทั่วตัว   สอดมือลูบไล้จุดอ่อนไหวของอีกฝ่ายผ่านกางเกงในตัวบาง  อีกฝ่ายเลื่อนมือมาดึงมือผมไว้แน่น...ทั้งที่อ่อนแรงเต็มที

“ยะ....อย่า..ครับ  อ่ะ  อ่าาาาาา~ ” น้องกัดฟันพยายามพูดให้ได้ศัพท์   ผมยกยิ้มอย่างเป็นต่อ รวบมือทั้งสองข้างของน้องไพล่ไปด้านหลัง  แล้วรวบตรึงไว้

ด้วยมือข้างเดียว  ก่อนจะสอดมือเข้าหาปัตน้อย  รูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะ ช้าบ้างเร็วบ้างจนอีกฝ่ายสั่นสะท้านกลั้นเสียงครางไม่ไหว  น้องไร้เดียงสาซะจน

ทำให้หลงไปอย่างง่ายได้กับการชักนำของผม ร่างทั้งร่างบิดเร่า สั่นระริก  แดงซ่านทั่วทั้งตัว

“อ๊ะ  ....อือออ~  พี่พาร์ท~”  ผมทิ้งตัวลงนั่งที่พื้น  ไล้ลิ้นสากเลียรอบๆ ฐาน ลากผ่านขนอ่อนๆ ที่ขึ้นมาพลอมแพลม กระตุ้นอารมณ์ได้อีก

“อ๊ะ....อ๊า~”  แล้วครอบปากครอบคลุมทั่วทั้งแก่นกายร้อนของอีกฝ่าย  ไอ้ตัวเล็กบิดเร่าๆ ทุรนทรายปิ่มจะขาด  สองมือจิกแน่นที่ไหล่ผม

หลังจากที่ผมปล่อยมันให้เป็นอิสระ    ค่อยๆ ไล้ลิ้นเลียตั้งแต่โคนถึงปลาย  ลงลิ้นหนักกับยอดสวยที่ปริ่มน้ำฉ่ำหวานให้ผมลองชิม น้องหนีบขาเข้าหากันแน่น

 เผลอดูดแรงๆ ทำอีกฝ่ายเสียวซ่านก่อนจะแกล้งอมไว้แต่ไม่ขยับ  จนอีกฝ่ายเร่งกระแทกเข้าใส่ปากผมไม่ยั้ง....ตามอารมณ์ปรารถนา 

“อึ อึ๊  อื๊ออออออออออออออออออออออ~ ”   น้ำสีขาวขุ่นถูกพ่นมาเต็มปาก ผมกลืนลงคอไปหลายอึกใหญ่  จ้องมองคนหมดแรง ทิ้งตัวพิงโซฟา

นอนหอบหายใจ ทำตาเยิ้มหวาน หน้าแดงซ่าน  จนผมจากทานซะทั้งตัว     ผมอุ้มน้องที่นอนหมดแรงเข้าไปในห้องนอน  ไอ้ตัวเล็กไม่มีแรงขัดขืน

ได้แต่หายใจหอบถี่  โอบกอดรอบคอผมแน่นเพราะกลัวจะล่วงลงพื้น  ผมค่อยๆ วางน้องลงพื้นเตียงช้าๆ กดจูบดูดดื่มและเรียกร้อง   ค่อยๆ ถอดปราการ

ที่ขัดขวางกิจกรรม “รัก”  ทีละชิ้นอย่างรีบร้อน  ไล้มือลูบไล้ไปทั่วตัว  กดจูบหวานปานน้ำผึ้ง ให้ปัตละลายเพราะรสจูบ  ทั่วทั้งอกและตัว  แวะชิมสะดือหวาน

ก่อนจะลากลิ้นร้อนๆ ไล้วนที่หน้าท้อง อีกฝ่ายชันขาขึ้นหนีบเข้าหากัน พยายามปกปิดส่วนสงวนติดอยู่ตรงที่ผม แทรกกลางอยู่ก่อนหน้าแล้ว  ลงลิ้นกับ

ปัตน้อยอีกนิดกระตุ้นให้มันตื่นจนคับเต็มปาก  ก่อนจะบีบเจลเย็น ๆ ทีหยิบจากหัวเตียงตอนจูบน้องเมื่อครู่ใส่มือ และแก่นกายที่แข็งขืนจนปวดหนึบ

ถูไถส่วนหัวกับช่องทางหวาน  ตัวไอ้เล็กกระถดก้นหนี แต่ผมกดตรึงสะโพกหวานของอีกฝ่ายไว้แน่น  ถูไถแท่งร้อนหยอกเย้ากับปากทางอยู่นาน

จนไอ้ตัวดีเสียวสะท้าน เริ่มแอ่นสะโพกหวานดันเข้าหา  ผมละแท่งร้อนให้ออกห่าง เห็นไอ้ตัวเล็กเม้มปาก ขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจ  ทำผมยิ้มกริ่ม

ค่อยสอดนิ้วที่ชุ่มไปด้วยเจลเย็น เข้าไปด้านในชักเข้าออกช้าๆ  ไอ้ตัวเล็กทำสีหน้าอึดอัด  แต่ไม่ได้เจ็บปวดอะไร 

“อ๊ะ......อึก ”  น้องเม้มริมฝีปากแน่น  ผมค่อยเพิ่มนิ้ว ๆ อีกนิ้ว  ชักเข้าออก อย่างเชื่องช้าตามเดิมก่อนจะค่อย ๆ เร่งจังหวะ 

“อ่า~    อือ~”  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน  เมื่อผมสะกิดเข้าถึงจุดกระสันผมเร่งมือเร็วขึ้นอีก  ก่อนจะสอดนิ้วเพิ่มอีกนิ้ว หมุนควง จนช่องทางดูขยายจนได้ที่

ขณะที่ขยับเข้าออกอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับที่สะโพกที่ขยับตอบนิ้วมือผมเป็นอย่างดี  ขณะที่น้องกำลังเพลิดเพลินความหรรษาที่ผมได้มอบให้

ผมดึงนิ้วออก แล้วแทนที่ด้วยของร้อนที่ใหญ่ยิ่งกว่า สอดแทรกเข้าไป  ผมกดหัวจนมุดผ่านความเสียวซ่านแล่นไปทั่ว ผมหลับตาแน่นครางต่ำ

ช่องทางหวานบีบรัดแน่นเข้าไปอีก  ไอ้ตัวเล็กหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด  ปัตน้อยค่อยๆ อ่อนยวบลงไปกับพื้น  ผมกัดฟันแน่นอยากจะกดต่อเต็มที่

แต่พอเห็นสีหน้าเจ็บปวดของน้อง  ก็เลยต้องอดทนให้ไหว   ถ้าผมมีความสุข  ...แต่น้องไม่มี  มันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีค่าสำหรับผม

“อื้ออออ เจ็บบ  อ่ะ”    ปัตเม้มปากแน่น น้ำตาลอยหน่วยรอบดวงตา ผมกดจูบปลอบ สอดลิ้นดูดกลืนเรียกความหวาน กำลังใจ ให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลาย

ด้านล่างก็ขยับขึ้นลงเรียกปัตน้อยให้ตื่นจากนิทรา ขณะที่ด้านหลังยังคงนิ่งไม่ขยับ  ไม่นานน้องน้อยก็ตื่นมาเต็มตัว ริมฝีปากบางเริ่มจูบตอบผม

จนทุกอย่างผ่อนคลายเต็มที่ ริมฝีปากหวานที่ผมอ้อยอิงเมื่อครู่ ขบกัดริมฝีปากล่างผมเบาๆ น้องละปากออก ผมลูบหัวไอ้ตัวดี  เบาๆ จ้องเข้าไปในตาคู่สวย

เราสบตากันนิ่งแค่ชั่ววินาที  ค่อยๆ ไล้นิ้วเกลี่ยใบหน้าหวาน น้องมองตอบปฏิกิริยาของผม  ทั้งๆที่ใบหน้าแดงซ่าน 

“พี่รักปัตนะครับ” ผมเอ่ยเบาๆ หากแต่หนักแน่น  มากที่สุดที่ผมคิดว่าจะทำให้มันส่งไปถึงจิตใจข้างในน้องได้  กดจูบที่เปลือกตาเบาๆ

“รัก...จนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว  รัก....จนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้  รัก...จนอยากจะเป็นเจ้าของ  อยากจะครอบครอง  อยากให้ปัตมองพี่คนเดียว  ” ผมว่าเสียงเบา

หากแต่ยังคงหนักแน่นเช่นเดิม   แล้วกดจูบลงบนหน้าผาก  เปลือกตา จมูก แก้ม  และริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนจะผละออก จ้องลึกเข้าไปในตาคู่สวย

ปัตเม้มปากแน่น .....ตาคู่สวยมีน้ำตาคลอหน่วย  จ้องมองกลับมาที่ผม  พยายามจ้องลึกมาที่ดวงตาผม ราวกับพยายามถามว่าจริงเหรอ? ผมยิ้มบางเบาส่งกลับไปให้

“เชื่อใจพี่นะ”   ผมลูบไรผมน้อง  จ้องมองใบหน้าหวาน ....  กำลังรอคำตอบ   ...จากคำถามที่พึ่งถามไปเมื่อคู่  น้องจ้องผมนิ่งๆ 

“ฮะ”   คำตอบที่ทำผมยิ้มกว้าง กดหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู  ก่อนจะส่งสายตาเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่มไปให้ ทำเอาไอ้ตัวเล็กถึงกับส่ายหน้า

“ถ้างั้น....เป็นของพี่นะครับปัต”  ไอ้ตัวดียิ้มขำ  ......  หลุบเปลือกลงต่ำอย่างเขินอาย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมกดจูบเล้าโลมน้องอีกครั้ง  ชักด้านล่างที่ตื่น

ขึ้นมาเรียบร้อย  ให้อารมณ์กระเจิงเพิ่มไปอีก  มื่อเริ่มได้ยินเสียงครางของอีกฝ่าย ผมก็กดแท่งร้อนที่อดทนรอจนปวดหนึบก่อนหน้านั้นเข้าไปในช่องหวาน

ครั้งเดียวมิดด้าม  ได้ยินเสียง ร้องด้วยความเจ็บของอีกฝ่าย  ผมรอ....รอให้ช่องหวานขยายพร้อม  เล้าโลมอีกฝ่ายให้หรรษาเพลิดเพลิน ก่อนจะเริ่มขยับช้าๆ

แล้วค่อยๆ เร็วขึ้นๆ ๆ จากสีหน้าเจ็บปวด กลายเป็นเสียวซ่าน  หวานจนผมอยากจะตะกละตะกามทานซะให้สำลัก  เสียงครางที่ทำอารมณ์ปรารถนาให้

ลุกโชน  เสียงเนื้อเน้นๆ กระแทกกระทั้น ดังเป็นจังหวะ  เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดจากกิจกรรมแสนเร่าร้อนแทบหลอมละลายให้เราหมอดไหม้

“อ๊ะ...อ๊ะ...พี่พาร์ท”

“อืมมมมมมม ปัต เยี่ยม อืม เด็กดี”

“พ...พี่พาร์ท  อ๊าาาา~   ระ...แรงอีกฮะ  อือออออออ~”

“โอว  ปัต...ปัต  แน่นซิสสสสสสส  อ่า”


“อ๊ะ ....อ๊ะ..........อ๊าาาาาาาาาาาา~”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก  แล้วพ่นน้ำรักทั่วหน้าท้องผม  น้ำรักค่อยๆไหลจากหน้าท้องผม ไปเรื่อยๆ จนถึงจุด

ที่เราเชื่อมต่อกัน  ผมกระแทกแรงๆ ไม่ยั้ง  จนไอ้ตัวเล็กตัวโยกคอน  เกร็งกระตุก แล้วพ่อน้ำรักเข้าด้านหลังน้อง  ......  ทิ้งตัวลงกอดคนตรงหน้า

รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมที่หน้าอกของเราทั้งคู่ ที่ต่างหอบเหนื่อยราวกับผ่านศึกสงครามมาหนักหนา  ต่างกันก็ตรงที่ว่า ทำแล้ว  กลับมีแต่ความสุขอย่างล้นเอ่ย

เปื้อนใบหน้าทั้งผมและน้อง  น้อง.....ที่หวานหอมยิ่งกว่าเครื่องหอมชิ้นไหน ๆ หวานจนอยากชิมแล้วชิมอีก  อยากจะกลืนกินซะทั้งตัว  เหมือนความรู้สึก

ที่ได้ถูกเติมเต็มซึ่งกันและกัน  เราและปัตเราต่างก็มีช่องโหว่ของพื้นที่บนหัวใจ  ต่างคนก็ต่างเติมเต็มให้กัน  ผมโหยหาใครสักคนที่จริงใจ......เข้าใจกัน

น้องเองก็อยากมีใครสักคน.....ที่รักและดูแล   ใครสักคนที่จะเดินไปด้วยกัน   ความรักก็แบบนี้ ไม่ได้มีทฤษฎีตายตัว  แต่มันอยู่ที่ความลงตัว

ผมบอกไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้จะยาวนานแค่ไหน.....  ที่ผมจะทำให้น้องรักและอยากยืนอยู่ข้างๆ คนๆ นี้  ถ้าเป็นไปได้ตลอดชีวิตคงจะดี อยากอยู่อย่างนี้

ตลอดไปจัง  ผมหันไปมองไอ้ตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดผม  เขี่ยผมน้องเล่นเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือทั้งสองข้างมาโอบแก้มนิ่มๆ ของอีกฝ่าย

“รักนะครับ”   กดจูบน้องเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มอายๆ ก้มลงมองที่อกผม ก่อนจะหันมาสบตากันต่อ  ผมยิ้มกว้างตอบ  ...น่ารัก

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”  น้องยื่นหน้ามาจูบเบาๆ ที่ปากผม  ทำผมยิ้มไม่หุบดึงน้องมากอดแน่นๆ  เรากอดกันอยู่อย่างนั้น 

.

.

ทั้งอบอุ่น  ทั้งสุขใจ  ความรู้สึกที่หลากหลาย  .....ทั้งหมดรวมกันเป็นความสุข    จนกระทั่งหลับไป
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 22-08-2012 07:45:06
อ๊ายยย ปัตบอกรักพี่พาร์ทแล้ว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-08-2012 09:12:11
 :oo1: :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 22-08-2012 09:45:38
 :jul1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-08-2012 10:37:29
จะตายกับการแสดงความรักปัตของพี่พาร์ท  :z1:

บวกหนึ่งกับแจกเป็ดจ้า
ขอหวานๆ แบบนี้ล่ะ ดราม่าไม่ต้องเอามา  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 22-08-2012 11:14:31
 :z1: :z1: :z1:

แสดงความรักกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-08-2012 11:23:12
หวานละลายยยยย อย่ามาม่านะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-08-2012 11:23:38
อ๊ากกกกกกกกกกกก พี่พาร์ทกินน้องปัตแล้วอ่ะ >////<
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-08-2012 20:46:48
น้องยังไม่ทันได้เปิดเรียนเลย
พี่พาร์ทก็พาลัดชั้นเรียนอย่างอื่นแทนแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: naisojill ที่ 22-08-2012 21:34:59
อร๊ายยยยยยยยย เขิลอ่า >///<


ชอบๆ อิอิ รอตอนต่อไปอยู่น๊า


หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-08-2012 21:52:08
 :o8: :oo1:  :jul1:  :man1:
และหวานๆๆๆๆกันจัง
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 23-08-2012 07:18:22
รักกันหวานซึ้ง ไร้คำบรรยาย

 :m25: :m25: :m2: :m2:

พี่พาร์ทอ่ัะ จับน้องกินซะแล้ว

:myeye: :myeye: :myeye:
ขอบคุณค่ะ 



หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 23-08-2012 23:20:11
ว่าจะแอบมาม่าสักหน่อย....มีคนมาดักทางซะแล้ว  หุหุหุ
ขอกำลังใจเยอะๆ หน่อยนะคะ จะได้มีแรงแต่งต่อ

ขอบคุณมากนะคะ.....ทุกๆ คอมเม้นต์เช่นเคย 
รักคนอ่าน...........มากมายเช่นกันค่ะ

:)  :)  :0  :P
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 26-08-2012 01:06:47
โอ๊ยยยย  ฟินนาเล่ฮะ !!!!!  :jul1:

ในที่สุดพี่พาร์ทก็งาบน้องไปจนได้  :impress2:  อย่าทิ้งน้องนะ ไม่งั้น  หึหึ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-08-2012 02:04:31
 :m2:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 26-08-2012 14:04:52
เข้าใจว่าต้องมีมาม่าแน่ๆ ชีวิตจะได้มีรสชาด....เน๊อะๆๆๆ
แต่ขอหวานๆอีกซักตอนได้มั้ยคะ อยากอ่านหวานๆให้ใจกระชุ่มกระชวยอีกซักหน่อย
หลังจากนั้นก็จัดมาได้เลยค่ะ จะเตรียมตะเกียบกับชามไว้ซดมาม่ากัน

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 23-รัก P.9 22/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 27-08-2012 00:36:07
 :z13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-08-2012 01:30:03
จริงจะมีตอนก่อนหน้านี้อ่ะค่ะ  แต่ยังไม่ได้แต่ง  งงมั้ย ฮ่าๆ 
เป็นตอนหวานๆ หลังพี่พาร์ทกินน้องไปแล้วน่าจะเป็นตอนสั้นๆ ย้อนหลังอ่ะค่ะ
ไว้แต่งเสร็จค่อยเอามาลงให้นะคะ  เพราะดันแต่งตอนนี้เสร็จก่อน คิริ
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[



UNIT 25


“ติ๊ดๆๆๆ    ติ๊ดๆๆๆ  ติ๊ดๆๆๆ.... ติ๊ด”   เสียงมือถือที่ตั้งปลุกเอาไว้ดังถี่ๆ  น่าเบื่อพอๆ กับเมื่อควานมือไปยังพื้นที่ข้างๆ ตัวแล้วพบว่ามัน...ว่างเปล่า

ไร้เงาของปัต  ผมดึงหมอนข้างมากอดหวังว่ามันจะคลายความคิดถึงที่มีให้น้องได้.....แต่ก็เปล่า  ได้แต่คิดถึงรอยยิ้มพิมพ์ใจนั่นที่ทำให้ผมหลงไหล

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เป็นแบบนั้น  จำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรกก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรก็แค่.....เด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง  ขนาดตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุ

จนริมฝีปากเราแตะกันเบาๆ  ก็ไม่ทำให้ผมหวั่นไหวสักนิด น่าแปลกที่ยิ่งอยู่ใกล้ก็กลับรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ  มีใครถามหารตีรึเปล่า  อืมน่ะ...จะเล่าก็ได้

รตีย้ายตามนายอาทิตย์ไปที่เกาหลี แน่นอนเธอทำงานเป็นนางแบบที่นั่นจากชื่อเสียงในไทยและการประพฤติตัวของรตี ทำให้รตีเริ่มจะเป็นที่รู้จักใน

แวดวงนางแบบเกาหลีอยู่พอสมควร  ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามน่ะ ไม่ได้เกลียด....... แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอยากขอบคุณ  ขอบคุณที่ทิ้งไปนะ...รตี

แน่นอนนายอาทิตย์ หลังจากเข้าต้นสังกัดได้ไม่นานก็ออกเทป.....รู้สึกเค้าจะรวมนักร้องทั่วเอเชียไปร่วมอัลบั้มนี้เห็นหนังสือพิมพ์ในไทยตีข่าว

ซะครึกโครมแต่ผมเลือกจะเปิดข้ามไป น่ะ....จะว่าไปเห็นหน้าแล้วก็อดรู้สึกนิดๆ ไม่ได้  ที่รู้ก็แค่...ทั้งคู่ยังรักกันดี ออกจะหวานจนเลี่ยนซะด้วยซ้ำ

เห้อ~......เผลอถอนหายใจซะยืดยาว ได้แต่วางมือลูบไล้พื้นที่ว่างข้างตัว ก่อนจะกระตุกยิ้มนิดๆ เพลินไปคิดถึงเรื่องก่อนหน้านั้น

คนอะไรไม่รู้  หวาน........จนอยากจะกลืนกินซ้ำๆให้หนำใจ  อยากสัมผัสทุกตารางนิ้ว อยากกอดไอ้ตัวเล็กให้จมหายไปกับอก  เสียงครางที่อยู่ใต้ตัว

อืม....จะยั่วกันไปถึงไหนนะ  ยิ่งประโยคที่ปากบางๆ นั่นเอื้อนเอ่ย “ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   อ๊ากกกกกกกกกกกกกก  ....ไม่ไหวแล้วเว้ย

จะทำให้พี่หลงไปไหนคร๊าบบบบบบบบบบบบบบ  น้องปัต   ผมดันตัวลุกขึ้นจากเตียงถอดชุดนอนทิ้งอย่างไม่ไยดีลงตะกร้า  แล้วตรงไปที่ห้องน้ำ

ยังจำได้ไหม.....ว่าที่นี่คือมุมสงบของผม  เมื่อไอ้ตัวดีตื่น แต่สุดที่รักของผมไม่อยู่  สิ่งที่ช่วยบรรเทาได้ก็คงมีแต่มือหยาบๆ ของตัวเองเท่านั้น

ก้าวลงอ่างอาบน้ำอย่างคุ้นเคย เทครีมอาบน้ำราดทั้งตัวแล้วค่อยเปิดน้ำให้ไหลมากระแทกจนเกิดฟองน้อยๆ บนตัวผม  มือก็รั้งรูดเบาๆ  ไปยัง

ที่ส่วนแข็งขืนกลางลำตัว  ขณะที่กระแสน้ำอุ่นลอยกระทบเป็นระยะ เกิดความรู้สึกวาบหวิว ขณะท่อนลำด้านล่างกระทบกับกระแสน้ำอุ่น

แต่ท่อนด้านบนที่เปลือยเปล่ากับเย็นจากแอร์ห้องนอนที่หมุนเวียนเข้ามาเป็นระยะให้ความอุ่นกับเย็นสะท้านมาเจอกัน  กลายเป็นผมเสียวซ่าน

เพราะดันไปจินตานาการว่าส่วนที่อุ่นซ่านนั้นเป็นเพราะมีใครบางคนนั่งทาบทับอยู่บนนั้น  น้องกำลังขยับตัวอยู่บนนั้นด้วยใบหน้าแดงจัด 

ริมฝีปากอิ่มเผยอน้อย มือจิกแน่นที่ไหลผม  ขณะที่ผมรั้งสะโพกด้านหลังไว้แน่นพอที่จะให้อีกฝ่ายเอนหงายไปด้านหลัง

“อ่า~” เกิดเสียงครางต่ำๆ จากริมฝีปากที่เม้มแน่นของผม   แน่นแทบบ้า

“พ...พี่พาร์ท ปัตรักพี่พาร์ทนะฮะ  อ๊ะ....อ๊ะ...”   เสียงครางกระเส่า   ทำผมแทบคลั่ง รัวกระหน่ำรูดรั้งรัวจนตัวเองหายใจหอบถี่

“ระ....แรง...อี..ก ฮะ”  เสียงกระเส่าผะแผ่ว  ทำผมเด้งสะโพกสวนไปในอากาศด้วยความลืมตัว   ไล้มือที่ส่วนยอดสุดที่ปิ่มน้ำจนเยิ้มเหนียว

ละเลงมือกับไอ้ตัวดีที่ตั้งตะหง่านสู้มือสุดแรง  รูดรั้งขึ้นลงจนถึงฝั่งฝัน  ร่างกายเกร็งกระตุก....

“อืมมมมมม....ปัต  ปัต.............  อ่าาาาาา~..”    ครางสุดเสียง แล้วปลดปล่อย  ทิ้งตัวด้วยความเหนื่อยหอบ  กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำลอยกรุ่น

นอนหอบหายใจมองดูฟองครีมที่เริ่มมากขึ้นกว่าเดิม  ถูๆ ไถ ๆ ตามเนื้อตัวทำความสะอาดเอื้อมมือเปิดก๊อกน้ำอุ่นที่ไหลจนเกือบเต็มอ่าง

หลับตาแล้วนอนแช่อยู่อย่างนั้น....รู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถึง อย่างน้อยก็ทำให้คลายเหงา และคลายกังวลเรื่องปัตได้อีกนิดหล่ะน่า

.

.

.

จะว่ายังไงดี นี่ก็เป็นวันที่ 5 แล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากัน น้องจะคิดถึงผมบ้างไหม  ทำไมมันเหงาได้ขนาดนี้นะ แต่ตัวเสร็จเพื่อจะออกไปทำงาน

เดินมาถึงห้องทานอาหาร  สายตาเลยเหลือบมองไปยังห้องครัว....ที่ไม่กี่วันก่อน ยังมีคนน่ารักน่ากินมายืนทำอาหารให้ผมอยู่เลย  แต่...ตอนนี้

ไม่มีซะแล้ว  เห้อ~  พอไม่มีปัตสักคน.....ห้องที่เคยสงบสุข  มันก็เงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก  ไม่ใช่ไม่เข้าใจนะครับคือน้องต้องเรียน  และผมก็ต้อง

ทำงาน แน่นอนอยู่แล้วว่ามันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเราทั้งสองคน  ซึ่งต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด  ผมอมยิ้มนิดๆ เมื่อมองเห็นปฏิทินตั้งโต๊ะ

วันที่บนปฏิทินถูกสติกเกอร์รูปกระต่ายสีฟ้าแปะอยู่  วันนี้ก็เลยเป็นวัน Rabbit day มีสำคัญยังไงนะเหรอ  ก็.......หึหึ     ไม่บอกหรอก

อยากรู้รึเปล่าหล่ะครับ?  อ๊ะๆ  จะยอมเฉลยให้หน่อยก็ได้  ก็วันนี้ผมจะไปรับกระต่ายน้อยของผมมาอยู่ด้วยนะสิ  ......  แค่นั้นก็ยิ้มกว้าง

อารมณ์ดีขึ้นมาทันตา ....และที่สำคัญนี่ก็ได้เวลาต้องไปทำงานแล้ว   ตรงไปที่ลานจอดรถขับมุ่งตรงไปยังที่ทำงาน

“สวัสดีค่ะบอส .... อาหารเช้าที่สั่งได้แล้วนะคะอยู่ในห้องทำงานค่ะ”  เลขาสุดสวย ผมเพียวของผมรายงาน ผมยิ้มรับ พยักหน้าน้อยๆ รับทราบ

“ครับ  ขอบคุณมากครับมดสุดสวย”   ยิ้มกว้างๆ ไปให้ทีหนึ่งเห็นมดยกมือขึ้นปิดปาก ก่อนจะทำท่าหัวเราะ  โฮะๆๆๆ  เลียนแบบท่าทางของกระเทย

ผมรีบจัดการอาหารตรงหน้า  แล้วเคลียร์งานที่กองสุมมาจากอาทิตย์ที่แล้วให้เสร็จสิ้น หลังจากสั่งแก้ไขปรับปรุง คัดเลือก จนในที่สุดก็เป็นที่พอใจ

ของผมแล้ว เลือกชิ้นงานที่จะเสนอพี่ภีมเพื่อขออนุมัติอีกขั้นตอนหนึ่งเร่งปิดงานซะให้เรียบร้อย..เพราะมีโปรเจคโรงแรมของทางเจกรุ๊ปรออยู่

  แน่นอนว่าเสาร์-อาทิตย์นี้ ผมกับปัตจะต้องไปสำรวจโรงแรมที่ระยองกัน  เพื่อให้น้องวาดสตอรี่บอร์ด   ส่วนผมนอกจากจะคอยอธิบาย

เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับคอนเซ็ปของโรงแรมแล้ว  ก็จะถือโอกาสไปวัดแสง มุม ฉาก รวมถึงเก็บภาพ องค์ประกอบคร่าวๆ ของโรงแรม

เพื่อจะลงในโบว์ชัวร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ของโรงแรมด้วยเลยซะทีเดียว  กำลังทำงานเพลิน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น จนต้องเงยหน้าขึ้น
มอง

“ก็อกๆ  ... ก็อกๆ.....”

“เชิญครับ”   ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างเลขาสาวสุดเซ็กซี่ของผมยืนยิ้มหวานส่งมาให้ 

“บอสค่ะ นี่มันจะบ่ายโมงครึ่งแล้วนะคะ  รบกวนไปทานข้าวได้แล้วค่ะเดี๋ยวจะไม่สบายไปซะป่าว”  ผมก้มมองดูนาฬิกาขึ้นมือ เฮ้ยจริงๆ ด้วย 

ทำงานซะเพลินเลย  ลืมดูเวลาไปทานข้าวซะอย่างนั้นต้องให้มดมาคอยเตือนบ่อยๆ   ผมหันไปยิ้มให้มด

“ขอบคุณมากครับมด   อ้อมด ผมอยากได้สรุปตารางงานที่ต้องพบลูกค้านะครับ  แล้วขอสรุปรายงานการประชุมเมื่อวานนี้ด้วยนะ มดช่วย

สรุปประเด็นสำคัญมาเลยแล้วกัน  ภายในวันนี้ทันมั้ย  พอดีเสาร์-อาทิตย์นี้ผมต้องไปดูงานต่างจังหวัดน่ะ  ยังไงก็ว่าจะเอาไปแพลนงานด้วย”

“ได้เลยค่ะบอส มดทำไว้แล้วบางส่วนค่ะ  ไม่น่าจะเกินบ่ายสามค่ะ น่าจะเรียบร้อยค่ะ บอสไปทานข้าวเถอะค่ะ เลยเวลามามากแล้ว”

ผมพยักหน้าน้อย ๆ ยกยิ้มให้มดที่เตือนผมอย่างห่วงใย ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยเดินไปยังลานจอดรถ 

.

.

ขับไปร้านอาหารร้านเดิมใกล้ๆ ออฟฟิศ     ตอนนี้นี้ถนนโล่งจนแทบจะกลายเป็นถนนส่วนตัวผู้คนไม่ขวักไขว่อย่างตอนเช้าและตอนกลาง

หรือตอนหลังเลิกงาน จอดรถที่เดิมหน้าร้านเสร็จ ตรงดิ่งเข้าไปในร้าน แอร์เย็นเฉียบก็ลอยมากระทบหน้า นั่งตรงมุมเดิมๆ อย่างนี้ทุกวัน

สักพักเจ้าของร้านก็ยิ้มหวานอย่างยินดีต้อนรับมาให้  หยิบยื่นเมนูที่ถืออยู่ในมือมาวางบนโต๊ะ  พร้อมกับน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบอีกแก้ว  โค้งน้อยๆ

“วันนี้คุณพาร์ทจะทานอะไรดีคะ?”  เอื้อนเอ่ยสอบถามกันอย่างคุ้นเคย เพราะผมก็มาทานที่นี่แทบทุกวันอยู่แล้ว  เปิดเมนูสักพักเห็นข้าวผัดอเมริกัน

พลอยนึกไปถึงเจ้าของหัวใจที่เคยทำให้ทาน  ก็ได้แต่อมยิ้มยกใหญ่หันไปเห็นเจ้าของร้านทำหน้างง เลยได้แต่ยกมือเขี่ยแก้มตัวเองเบาๆ แก้เขิน

“เอาข้าวผัดอเมริกันแล้วกันครับ”  ปิดเมนูแล้วส่งกลับคืนไปให้เจ้าของร้าน  เธอยิ้มรับก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังหน้าเคาร์เตอร์หันไปสั่งห้องครัวเบาๆ

ไม่นานเกินรอ ........  ข้าวผัดอเมริกันก็วางอยู่ตรงหน้า ค่อยๆ ละเอียดทานอาหาร พร้อมๆกันนึกถึงปากแดงๆ ที่ตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่าง

เอร็ดอร่อย......แต่ตอนนี้ไม่อยู่  เลยพลอยทำให้รสอาหารตรงหน้าจืดลงไปอีกโข ทั้งๆ ที่รสฝีมือร้านนี้ขึ้นชื่อรือชา ถือว่าถูกปากผมที่สุดในย่านนี้

แต่ก็นะ..ทำยังไงได้ก็คนมันไม่มีคนนั่งทานด้วยนี่นา  ต่อให้อาหารตรงหน้าอร่อยแค่ไหนก็เทียบไม่ได้เลยกับอาหารรสชาดธรรมดาที่มีน้องนั่งอยู่ด้วย

คิดแล้วก็ขำนี่ผมบ้ารึเปล่ามานั่งวิเคราะห์อะไรไร้สาระหาประโยชน์ไม่ได้ทางวิชาการ  แต่ว่ามันมีคุณค่าทางใจนะสิ...ถึงได้ย้ำคิดย้ำทำ 

นั่งพร่ำรำพันเป็นบ้าเป็นหลังถึงคนที่ไม่อยู่อยู่ได้   ก็หัวใจมันเรียกมันร้องง....ใครจะกล้าขัด  หึหึ  ทานจนเสร็จจ่ายค่าอาหาร  ก็เดินเอื่อยไปที่รถ

ขับมาสักพักมองเห็นร้านเค้กที่ซื้อไปคราวนั้น  ผมดันเผลอจอดรถหน้าร้านเค้าซะเฉยๆ บ้ารึเปล่า.....ไม่ได้อยากทานเค้กซะหน่อย แต่ก็นะ ...

มันคิดถึงอีกแล้ว  เดินเข้าไปเลือกเค้กอยู่สองสามชิ้น แน่นอน.....หนึ่งในนั้นเป็นของที่ปัตชอบทานคราวที่แล้วด้วย  จ่ายเงิน แล้วตรงกลับบริษัท

เหมือนเถลไถลแต่ก็ยังอยู่ในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหล่ะน่า  ถ้าผมจะขอให้สิทธิ์เวลาพักเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นบ้างจะเป็นไรไป 

แม้จะผิดเวลาจากชาวบ้านไปหน่อยก็ตามที  ...      จอดรถในลานจอดที่เดิม ไม่ลืมเอื้อมมือไปหยิบเค้ก แล้วเดินตามทางเดินไปยังห้องทำงาน

ของตัวเอง  มองเห็นมดที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างขมักเขม้นทั้งที่ยังมองไม่เห็นผม   ผมเดินไปหยุดที่โต๊ะมด  ยื่นถุงขนมเค้กคั่นกลาง

ระหว่างจอคอมกับหน้ามด   มดเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ  ยิ้มหวานส่งมาให้เพราะเห็นของโปรดลอยเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้า

“ของฝากครับมด”  ผมบอก  ยื่นถุงเค้กที่ว่าเข้าไปใกล้อีก

“ขอบคุณค่ะบอส  แหม!!  รู้ใจมดจังเลยนะคะ  ยังงี้มดรักตายเลยค่ะ  อิอิ”   พูดจบมืออวบอูมของมดก็รับถุงเค้กของผมไปทันที

“ฮะๆ  ไม่เป็นไรครับ รางวัลสำหรับเลขาสุดสวยคนขยันของผม”  ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องไปทันที      

.
.

ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่นาน  ไม่รู้ว่าเวลาเดินเร็วขนาดนี้  ได้ยินเสียงเคาะประตู ที่หน้าห้องพอเอ่ยเสียงว่าอนุญาติเลขาสุดสวยเจ้าเก่า ก็มา

ยืนยิ้มหวานอย่างเคย  หลังจากก่อนหน้านี้มาส่งงานให้ผมตามที่สั่งไว้อย่างเรียบร้อยแล้วรอบหนึ่ง 

“บอสค่ะ จะห้าโมงแล้วค่ะ ถ้าไม่รีบออกตอนนี้ รถจะติดนะคะ เดี๋ยวไปรับน้องปัตไม่ทันกันพอดี”  ผมเหลือบมองนาฬิกานิดนึงอย่างเคยชิน

“ขอบคุณครับมด”  ก้มหน้าก้มตาเก็บเอกสารสำคัญ พับหน้าจอโน๊ตบุคเก็บเข้ากระเป๋าเสร็จ  ก็เดินออกจากห้องทันที มดที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ผมกลับแล้วนะครับมด” 

“สวัสดีค่ะบอส” 

.

.

บนถนนสายเดิมเส้นทางเดิมที่เมื่อ 4 ปีก่อนผมยังเรียนที่นี่อยู่เลย ....จะว่าไปแล้วผมก็แกเหมือนกันนะ ห่างจากปัตตั้ง 7-8  ปีแนะ

 ผมจะแก่เกินไปสำหรับน้องรึเปล่าไม่รู้  รู้แต่ว่า.....ทำยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือหรอก  เล่นมาทำให้ผมรักขนาดนี้.....ถึงตายก็ไม่ยอมแล้ว

ขับมาเรื่อยๆ หกโมงผมจอดรถหน้าตึกสถาปัตอย่างคุ้นเคย   ไม่ได้มานานเลย....ก็ตั้งแต่จบน่ะแหล่ะ  แต่ยังมีสังสรรค์เรื่อยๆ กับน้องๆ

เจอกันแถวร้านเหล้าซะมากกว่า ไอ้หลานเหลนโหลนรหัสผม ก็ยังสนิทกันดียกสาย   หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาคนที่คิดถึง

“สวัสดีครับพี่  วันนี้ปัตคงไปด้วยไม่ได้นะครับ”  น้องว่าเสียงอ่อย  ทำผมคิ้วขมวดเป็นปมกำลังจะบอกว่าเซอร์ไพร์พี่มารอหน้าคณะแล้วนะครับ

“ทำไมหล่ะครับ”  ผมกรอกเสียงถามไป  ยังไม่ได้บอกสิ่งที่ตั้งใจว่าจะบอกตั้งแต่แรกว่ามาถึงแล้ว

“พอดีปัตติดรับน้องน่ะครับ  คงดึกเหมือนกัน  นี่ว่าจะโทรไปบอกพี่พาร์ทอยู่เหมือนกันครับ  แบทหมดพึ่งไปแอบชาร์ตได้เมื่อกี้”

“อืมไม่เป็นไรครับพี่รอได้  ...พี่มาถึงแล้ว เดี๋ยวรอหน้าตึกสถาปัตนะ”

“อ้าว...เหรอครับ  ได้ครับ ”   คุยได้แค่นั้นก็กดวาง  ผมก็กดเบอร์โทรหาไอ้แม็ก รุ่นเหลนหลานโหลนอะไรก็ช่างแม่ง  ....อย่านับมากเดี๋ยวรู้ว่าผมแก่

“หวัดดีครับเฮีย มีไรให้แม็กรับใช้มิทราบถึงได้โทรมาถูก ฮ่าๆ” ไอ้เหลนรหัสตัวดีรับสาย

“ค-ยเหอะ  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ได้มาแดกเหล้ากับกุใช่มั้ย?”

“โห~เฮียทำงอน .... แหมๆ แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยนะเนี่ย  ว่าแต่เฮียมีไรอ่ะ  เดี๋ยวผมต้องรีบไปรับน้องอ่ะ  ไปสายเสียบารมีหมด หึหึ”

“เออกุไม่รบกวนเวลามึงมากหรอก....ก็เรื่องรับน้องนี่แหล่ะ  มึงเป็นพี่ว้ากป่ะว่ะ”

“โห~  เฮียยยยยยยยยยยยย  ถามมาได๋จั่งดั๋ย  ผมก็ต้องเป็นพี่ว้ากตั๊วะเฮียนิ”  เดี๊ยะๆ  เหนี่ยวแม่งซะดีมั้ยกวนกูได้ทุกที 

“เดี๋ยวโดนตบกระโหลกมาลากเสียงเฮียซะยาวนะมึง เออๆ ดีหล่ะ กุจะให้มึงช่วยอะไรหน่อย พอดีกุจะพาเด็กที่เรียนปี1 คณะมึงเนี่ยไปทำงานด้วย

แล้วน้องมันบอกว่ามาไม่ได้เพราะติดรับน้อง  มึงช่วยแกล้งเป็นทำโทษมันหน่อยได้มั้ยว่ะ แล้วพาออกมาจากกลุ่มรับน้อง งานกุด่วนต้องไป

ต่างจังหวัดด้วยว่ะ อย่าให้ช้านะเว่ยกุนัดลูกค้าไว้แล้ว”  ผมกรอกเสียงลงไปตามสาย

“อ้าวมันไปทำงานกับเฮียได้ยังไงอ่ะ   แล้วน้องมันชื่อไร”  ไอ้นี่นิ  มึงจะซักทำด๋อยอะไรหนักหนาว่ะ

“เจอกันที่สนามบินว่ะ  เห็นฝีมือวาดภาพดี กุเลยชวนมาเป็นฟรีแลนที่บริษัท  แล้วน้องเค้าชื่อปัต  ชื่อจริงปฐพี  ว่าแต่มึงจะมาถามกุทำเผือกไร

รีบๆ ไปได้แหล่ะ กุรีบ  ”   ผมก็ด่ามันไป

“เดี๋ยวเฮีย.....ว่าแต่ผมจะได้อะไรตอบแทนหล่ะครับ”

“ร้านเดิมโอเคป่าว ...... เอาไว้งานกุเสร็จก่อนแล้วกัน ตัวนี้โปรเจคใหญ่ว่ะยุ่งจนสิ้นเดือน แล้วมึงก็เตรียมกันน้องปัตให้กุด้วย ศุกร์เสาร์อาทติย์

กุจะมารับไปช่วยทำงานด้วย  เคป่าว”

“โหยเฮีย  แม็กยอมตั้งแต่คำว่า-ร้านเดิม- แล้วเหอะ  รับแซ่บคร๊าบบบบบบบ  ไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะเฮียเพื่อจะได้ไม่ดูผิดสังเกตุ  ว่าแต่เฮียอยู่ไหน

ผมจะได้ลากน้องมันไปถวายเฮียถูกอ่ะ”

“หน้าตึกสถาปัต  แค่นี้นะบาย”

“คร๊าบบบบ กราบคารวะคร๊าบบบบบเฮีย”  ผมยิ้มขำกับคำสารพัดที่แม่งสรรหามาทูลถวายผมเหลือเกิน ไอ้รหัสสายผมเนี่ยปากดีๆ กันทุกคนแหล่ะ

รอได้สักพัก น่าจะผ่านไปสัก 10 นาทีได้  จะให้รออยู่เฉยๆ ก็ใช่ที่ แอบไปส่องดูหน่อยดิ๊  พอไปถึงก็เห็นเด็กสถาปัตนั่งกันเป็นกองทัพ แต่ก็นะ

คนมันน่ารักเลยเด่น.....ไม่ต้องมองหาให้เสียเวลา  เหมือนจะพึ่งแนะนำชื่อกันเสร็จ ปัตนั่งตัวตรงจ้องมองมายังรุ่นพี่ที่เก็กหน้าเหี้ยมมมมมมม จริงๆ

น้องๆ แต่ละคนนั่งตัวเกร็งอดนึกถึงตอนตัวเองเป็นพี่ว้ากไม่ได้  ได้แต่นั่งขำทำท่าเหมือนไอ้พวกนี้เดี๊ยะ ๆ ตีหน้าโหด ตะโกนเสียงดังเข้าไว้ แล้วแอบ

ไปหัวเราะด้านหลัง  ยืนมองอยู่สักพัก ไอ้แม็กเหลนรหัสผมก็ทำหน้าที่ที่ผมได้มอบหมายให้มันทันที

“น้องคนนั้นน่ะครับยืนขึ้น....เออเราน่ะแหล่ะ ชื่อปัตใช่ป่ะ  มึงมานี่”  มันทำท่าอย่างโหดกวักมือเรียกสุดที่รักผมออกมายืนหน้าแถว 

“เมื่อกี้น้องทำอะไรครับ ?”  ไอ้แม็กอ้าปากถามหาเรื่องสุด ๆ นี่ถ้ากุไม่ได้มอบหมายให้มึงทำน่ะ กุเดินไปถีบหลังแม่งแล้วตวาดเมียกุ 

“ป่าวครับ”   ปัตหันไปตอบหน้าเหวอ 

“แต่พี่หันน้องยุกยิกนะครับ  แถมยังคุยกับเพื่อนด้วย จะรับรึเปล่า?  ถ้าไม่ยอมรับพี่จะให้เพื่อนน้องที่คณะนี่ช่วยกันรับผิดชอบแล้วกันนะ”

มันหันไปทำหน้าโหดใส่  .....แต่แววตาแม่งมีแอบหลุดโลมเลียเมียกุ  เดี๊ยะ ๆ ต้องให้มันรู้มั่งว่าของใครเป็นของใคร  แต่ก็แอบอมยิ้มมองอยู่อย่างนั้น

“รับครับ”   ปัตรับเสียงดังฟังชัด หน้าซีดหน่อยๆ หึหึ ไม่แปลกหรอกครับที่จะตะโกนตอบแบบนี้  เพราะนี้เป็นแบบฉบับที่เราสั่งสอนกันมา

“ดี!!  งั้นตามพี่มาพี่จะทำโทษเราเองไปหยิบของมาด้วย”   ว่าแล้วไอ้แม็กก็หันไปกระซิบกับเพื่อนมันหน้าแถว เห็นพยักหน้ากันงึกงัก  ก่อนจะพา

เดินมาทางตึกสถาปัต ผมก็รีบชิ่งตีเนียนไปนั่งรอทำเหมือนไม่ได้ไปแอบดู นั่งรออยู่แป๊บ  ก็ได้ยินเสียงแหลๆ ของไอ้แม็ก

“เฮียยยยยย~”   มึงจะลากเสียงยาวเพื่อ?    ผมหันไปมองมัน   มันดันหลังปัตให้รีบเดินมาหาผม  เห็นปัตหน้าแดงระเรื่อ คงเข้าใจเรื่องราวแล้วหึหึ

“อ่ะ....ผมเอาเด็กมาส่ง  แล้วเฮียอย่าลืมรางวัลผมอ่ะ ”  มันว่าทำหน้าทะเล้น  ตีมือปุ๊ๆ บนหัวน้อง

“อืม.....ไม่ลืมหรอกขอบใจเว่ย ไอ้จิ้งเหลนรหัส”  ผมด่ามันขำ ๆ มันก็หัวเราะ

“โว๊ะ......เฮียนี่   เดี๋ยวคราวหลังไม่ช่วยเลยนิ ....ว่าแต่น้องเฮียน่ารักว่ะ ” ไอ้แม็กหันมามองหน้าปัตนิดนึง  ผมเลยดึงปัตเข้ามาโอบ ชี้หน้าไอ้แม็ก

“อย่าเสือกเล่นของสูง  ของกูดูให้ด้วย ใครแตะ.....เตรียมตัวตาย”  ผมว่าเสียงเข้ม  ไอ้แม็กเกาหัว  แล้วหัวเราะลั่น

“ฮ่าๆๆๆๆๆ  ล้อเล่นน่า  ว่าแล้วเชียวไม่น่าจะแค่น้อง  หึหึ  ไม่ต้องห่วงหรอกน่าผมยังไม่อยากโดนเฮียกระทืบตายหรอก  ที่สำคัญจะดูแลให้อย่างดี

แต่เฮียยยย~  จ่ายหนักๆ หน่อยนะคร๊าบบบบบบบบบ”   ไอ้เหลนรหัสหันมายักคิ้วกวนๆ ใส่ ผมเลยเตะมันไปสักป้าบ  มันหุบก้นหนีแทบไม่ทัน

“โอ๊ยยยยยยย  เฮียอ่ะ ซาดิสตลอด....หึหึ  ผมไปก่อนนะครับถือโอกาสชิ่งซะเลยฮ่า ๆ หวัดดีครับเฮีย  พี่ไปก่อนนะปัต”  ไอ้แม็กร่ำลาเป็นที่เรียบร้อย

“ป่ะ  ไปกัน”  ผมหันไปดึงแขนน้อง  แต่เจ้าตัวกลับขืนตัว  ผมหันไปมองปัตที่ยืนหน้าแดงอาจจะทั้งโกรธทั้งอายที่ผมพูดไปอย่างนั้นรึเปล่า


“พี่ขอโทษปัตนะครับพี่พูดไปแบบนั้นแต่พี่หวงของพี่อ่ะ กลัวมีคนมาแย่งไปนะๆ อย่าโกรธพี่นะครับคนดี”  ผมรั้งน้องมากอดเบาๆ  น้องก็ดันตัวออก

“อย่าฮะ  ที่นี่มหาลัยนะฮะคนเยอะแยะ”  ปัตว่าก้มหน้างุดเดินขึ้นรถ   ผมก็เลยต้องรีบวิ่งตามไป นั่งด้านคนขับ สตาร์ทรถแต่ยังไม่ยอมขับออกไป

ได้แต่จ้องมองปัตที่ยังไม่ยอมหันหน้ามามองผมจน ณ บัดนี้ 

“โกรธพี่มากเหรอครับ  ถ้าปัตอายต่อไปพี่จะไม่พูดแล้วครับ อย่าโกรธนะ  ต่อหน้า....พี่จะพยายามทำตัวให้เป็นแค่....พี่น้องธรรมดา”  บ้าจริงผมพูด

ไปแค่นั้น...  รู้สึกเจ็บร้าวเล็กๆ ในอกอย่างบอกไม่ถูก ทำไมไม่คิดน่ะว่าน้องจะอาย  ....  แต่ก็เสียใจที่น้องอายเหมือนกัน  มันเหมือนผมไม่ดีพอ

จ้องมองเส้นทางแล้วก็ขับต่อไป  ปล่อยให้เราทั้งคู่ได้ใช้ความคิดของตัวเองไปก่อนแล้วกัน   ผมขับต่อไปเรื่อยๆ จนถึงหอปัต  .....


ระหว่างนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆ เกิดขึ้น  เงียบ.....ยิ่งกว่าเราเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ  จอดรถเสร็จไอ้ตัวเล็กก็เปิดประตู ผมหันไปมองเห็นน้องลงรถ

เรียบร้อยแล้ว  .....  ปัตยืนอยู่นิ่งๆ พักหนึ่งก่อนจะกลับมานั่งในรถอีกครั้ง ใบหน้ายังแดงจัดถึงใบหู   ผมก็ได้แต่สงสัยทำได้เพียงเมียงมองไม่กล้า

แม้แต่จะเอ่ยปากถาม ...ว่าทำไมไม่ขึ้นไปเก็บของ   น้องหันสบตากับผมแล้วหลุบเปลือกตาลงต่ำ  ทอดถอนใจยาวเหยียด ปากเม้ม มือบีบกันแน่น

ยื่นมือมากอบกุมมือผมไว้   ผมได้แต่มองตามมือเรียวด้วยความสงสัย  ก่อนจะเงยหน้าไปสบตาอีกฝ่ายที่รออยู่แล้ว ดูเหมือนหน้าจะแดงขึ้นอีก

“เอ่อ....”  น้องอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่แล้วก็เงียบไป

“..................”  ผมนั่งมองด้วยสายตาที่เป็นคำถามมากมาย

“...... เอ่อ....คือ....”  น้องเสตามองไปด้านนอก ขณะที่มือกอบกุมมือผมไว้  กลับบีบแน่นๆ จนผมต้องก้มลงไปมองที่มือเรียวนิดๆ

“...................”  เงียบบ

“คือปัต ...ไม่ได้อายนะฮะที่คนอื่นจะรู้ว่าเรา....เอ่อ....เป็นอะไรกัน.....”  ไอ้ตัวเล็กบิดตัวไปมา เหงื่อซึมนิดๆ ตามไรผม

“.................”  ผมยังนั่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดีต่อไป

“ปัต...เอ่อ....ปัตแค่เขิน แล้ว...แล้วมันก็ทำตัวไม่ถูกด้วยฮะ นั่นก็รุ่นพี่  แล้วพี่พาร์ทก็เป็นเหมือนๆ ทวดรหัสปัต  แล้วเราก็........” เสียงกลืนน้ำลาย

ลงคออึกใหญ่ของปัต   แต่คำอธิบายสั้นๆ แม้จะไม่กระชับสักเท่าไหร่ ก็ทำผมยิ้มกว้าง .......  หึหึ  ลำดับญาติไม่ถูก  ดึงมือคนที่กอบกุมอยู่ขึ้นมาจูบ

ส่งสายตาไปจ้องมองปัต ที่ใบหน้าแดงซ่านด้วยความขวยเขิน  เมินหน้าหลบผม ผมปล่อยมือน้องลง......น่ารักขนาดนี้ ใครจะทนไหว

“ป่ะ.....ขึ้นข้างบนกันเดี๋ยวพี่ไปช่วยเก็บของ” ผมหันไปบอก   น้องหันมายิ้มกว้างให้ผม  ผมยกยิ้มตอบ  ซ่อน....รอยยิ้มที่กว้างกว่าไว้ข้างใน

แต่คาดว่าน้องคงไม่เห็น     หึหึ....... ก่อนจะเดินตามน้องขึ้นคอนโดไป
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-08-2012 01:44:26
อืม พี่พา์ร์ทท่าทางจะหลงน้องปัตเต็มสตรีมแล้วนะนั่น ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-08-2012 02:13:39
ถ้าพี่พาร์ทกินปัตได้ คงกลืนลงท้องไปแล้ว  :laugh3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 27-08-2012 09:29:00
หลงสุดๆ ดีนะที่ไม่ไปนั่งเฝ้าอะพี่พาร์ท
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-08-2012 09:37:40
เดี๋ยวเอาหวานๆ มาฝากอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 27-08-2012 10:04:24
พี่พาร์ทหวงน้องมากๆเลย สินะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย บทที่ 24 รับน้อง P.10 27/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 27-08-2012 20:57:47
หวงจั๊งงงงงงง  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Ninght P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-08-2012 01:58:15
ไม่รู้หวานรึเปล่า  ....หึหึ  ยังไงก็ลองอ่านดูนะคะ
 :t3: :t3: :t3: :t3:   นอนก่อนน๊า
อย่าลืมแวะมาให้กำลังใจ




Special After Love Night…..




ผมตื่นขึ้นมามองไอ้ตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมแขน .... ลมหายใจสม่ำเสมอ ท่าทางจะยังเหนื่อยจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้

คิดแล้วก็ต้องอมยิ้ม  รสชาดหวานหอมยังลอยกรุ่นอยู่ทั่วบริเวณ ผมกดจูบที่หน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ  วันนี้ดูท่าไอ้ตัวเล็กจะลุกมาทำกับข้าวไม่ไหว

คงจะต้องเป็นหน้าที่.............สามีที่ดีบ้างแล้ว   คิดได้แค่นั้นก็ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก  แม้ใจหนึ่งอยากจะกลืนกินคนตรงหน้าสักเพียงใด

แต่ว่า..........อีกใจก็กลับอยากจะถนอมเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ยอมผ่านศึกหนักเมื่อคืนมาอย่างทรหด  ขยับตัวเบาๆ เพื่อเลื่อนศรีษะน้อง

ให้นอนลงบนหมอน เพราะว่าก่อนหน้านี้มันอยู่ในอ้อมแขนของผม   ไอ้ตัวเล็กขยับพลิกตัว......หันหน้าไปอีกทาง หันหลังมาให้ผม

ร่างกายเปลือยเปล่าที่มีเพียงผ้านวมผืนหนาห่อหุ้ม ทั้งน้องและผม....เรายังอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แต่ตอนนี้มันดันเลื่อนหลุด

ปกคลุมแค่เอวของอีกฝ่าย  เพราะว่าผมชันตัวลุกขึ้นนั่ง   เผยให้เห็นผิวขาว เนียนละเอียดใต้ผืนผ้า ไหล่น้อย ๆ ห่อเข้าหากันด้วยความหนาว

จากเครื่องปรับอากาศภายในห้อง  ผมเผลอไล้มือตามแนวไหล่ลาดไล่ลงมาถึงสะโพกหวาน  ......   สังเกตุเห็นหยดสีแดงที่เปรอะเปื้อน

ผ้าคลุมเตียงอยู่หลายหยด.... ผมไล้นิ้วเขี่ยเบาๆ  ก่อนจะฉีกปากยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ  ปิดปากแล้ววิ่งสุดแรงเกิดไปที่ห้องน้ำ

“อ่า~ แม่เจ้า กุคนแรกโว้ยยยยยยยยยยยยยยย”  หลังจากวิ่งไปตะโกนที่ห้องน้ำเสร็จก็กลับมากระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว 

กดจูบระรัวทั่วทั้งหน้าที่พริ้มหลับ ก่อนจะกดจูบริมฝีปากบางได้รูป ดันลิ้นร้อน   ซอกซอนหารสหวาน  ซ่านซ่ายิ่งกว่าเมื่อคืนอีก  หัวใจที่โพงโต

จนคับอก ส่งความปลื้มปริ่มผ่านอ้อมกอดอบอุ่น รวมถึงริมฝีปากหวานละมุน ลิ้นที่ร้อนยิ่งกว่าไป   บวกนัยที่ตาหวานฉ่ำจิตไปให้คนตรงหน้า

ไอ้ตัวเล็กส่งเสียงคราง อือ อา~  อย่างคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำได้แค่ปรือตามองมาเพียงนิด ก่อนจะหลับตาลงรับสัมผัสหวาน ไร้แรงต่อกรใดๆ

“อึก  อืออออ~   อืมมมมม  ป่ะ....ปล่อย   อ่าาาาา~”  ไอ้ตัวเล็กพูดไม่เป็นประโยค  ลมหายใจหอบถี่  ทุบกำปั้นกับอกผมเบาๆ  ได้แค่ชั่วครู่

ก่อนจะอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟอยู่ใต้ร่างเมื่อผมไม่ยอมผละริมฝีปากออก  ดื่มด่ำ  และดูดดื่มความหวานฉ่ำจนพอใจจึงละออก น้องหายใจหอบเหนื่อย

ใบหน้าแดงซ่าน  ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยความหวาน  จ้องมองมายังผม  ท่าทางน่ารักนั่น....ทำผมแทบคลั่งอยากจะรั้งไอ้ตัวดีมาจูบให้ปากเจ่อ 

แต่...ก็หยุดความคิดไว้แค่นั้น   กลัวคนตรงหน้าจะแตกสลายไปเสียก่อน หากยังโถมบทรักร้อนแรงไม่ขาดสาย  ไล้นิ้วเกลี่ยไปทั่วใบหน้าสวย

“พี่รักปัตนะครับ  ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง  ทั้งเรื่องเมื่อคืน และก่อนหน้านั้น  ขอบคุณที่รักพี่เหมือนกัน ขอบคุณที่มอบสิ่งวิเศษให้พี่เป็นคนแรก ”

 ผมสบตาน้องหวานเยิ้ม แอบเสียดายที่ไม่อาจชิมหวานได้ดังใจ  แต่นิ้วมือก็อ้อยอิ่งกับปากแดงได้รูปไม่ห่าง   ปัตหลบตาวุ่นไม่ได้ตอบ

ผมเลยแกล้งไปกระซิบที่ใบหู  พร้อมกับขบเบาๆ 

“ครั้งแรกเหรอครับ? ”   ไอ้ตัวเล็กหันมามองผมตาโต   จะมุดหนีเข้าใต้ผ้าห่ม แต่ผมรั้งแขนไว้ทัน  จนต้องหันมาประจันหน้า

“ละ...แล้วพี่รู้ได้ไงอ่ะ...”   พูดจบก็ดึงผ้าห่มผืนโตมาปิดได้ครึ่งหน้า   โดยมีผมพยายามยื้อแข่ง

“เดี๋ยว...ออกมาคุยกันก่อน   ก็หลักฐานมันฟ้องอ่ะ”

“หลักฐานอะไรอ่ะ  ไม่มีสักหน่อย”  ไอ้ตัวเล็กเถียงข้างๆ คูๆ  ผมเลยยักคิ้ว เสตาเหลือบไปมองรอยสีแดงหลายหยดที่เปื้อนอยู่บนผ้าปูเตียง

ได้ตัวเล็กมองตาม....  แต่ก็มองไม่เห็นเพราะว่าผ้าห่มปิดอยู่ หันมามาเลิกคิ้วเป็นคำถาม

“ไม่เห็นมีนี่ฮะ”

“หึหึ....ดูดีๆ สิครับ”  ไอ้ตัวเล็กพลิกตัวหันมามองสถานที่เกิดเหตุ   ก่อนจะร้องลั่น

“โอ๊ย..........  เจ็บ”    ผมจูบปลอบเบาๆ 

“หึหึ.....นี่ก็อีกหลักฐานหนึ่ง......  แต่อันนี้อีกหลักฐานหนึ่งครับ....ที่รัก”  ผมว่ากดจูบอบอุ่นที่กลีบปากหวานๆ นั่น  แล้วก็ค่อยๆ ดึงผ้าห่ม 

เผยให้เห็น รอยสีแดงที่เป็นด่างดวงบนผ้าปูเตียง  น้องกระชากผ้าห่มมาปิด...แล้วว่าเสียงดังฟังชัด

“ไม่ใช่ของปัตฮะ”  พูดจบก็หนีไปเอาหน้าซุกหมอน  ซอนใบหน้าตัวเองซะงั้น  ผมได้แต่ยิ้มขำ

“แล้วของใครกันหล่ะครับ หืมมม?”  ตามไปกระซิบข้างหู

“ของมด เมื่อวานปัตทับมดตาย ตรงนั้นแหล่ะ”  ได้ตัวเล็กว่าแก้มป่อง

“แต่มดมันไม่มีเลือดนะครับ  หึหึ”  ไอ้ตัวเล็กเม้มปากแน่น

“ไม่รู้แหล่ะฮะ  ตัวนี้มีนี่” ว่าแล้วก็ซุกหน้าลงกับหมอนอีกที  ทำผมยิ้มกว้าง กดจูบที่หัวแล้วดึงไอ้ตัวเล็กมากอด

“ครับ...มดก็มด   ป่ะไปอาบน้ำกันได้แล้วจะได้ทานข้าว”    ไอ้ตัวเล็กพยักหน้าตอบน้อย ๆ หน้าแดงหูแดงไปตามระเบียบ  ผมเลยถือโอกาส

อุ้มน้องจนตัวลอย  ได้ตัวเล็กทำหน้าเหวอกอดผมไว้ซะแน่น  เพราะกลัวตก

“เหวอออออ~  พี่พาร์ท เดี๋ยวปัตเดินเองฮะ”   ไอ้ตัวดีว่า  ผมหันไปจ้องมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ห่างกันแค่คืบ 

“ให้พี่ทำให้นะ  พี่ทำให้ปัตเจ็บ”  พูดจบก็ไม่ได้รอคำตอบอุ้มน้องเข้าไปในห้องน้ำ  ได้ยินเสียงงุงงิ๊ง  แว่วๆ จากคนเก่งว่า

“ไม่เจ็บซะหน่อย”   แล้วก็เอาแต่ก้มหน้างุด เพราะตอนนี้ ไม่ได้มีเสื้อผ้าติดตัวมาซักชิ้น    จัดการถูสบู่อาบน้ำให้เสร็จสรรพ เปิดน้ำอุ่นให้แช่

เพื่อให้น้องผ่อนคลาย  ผมพิงกับอ่างโดยที่ด้านหน้าเป็นสุดที่รักของผมที่พิงหลังเข้ากับอกผมอีกรอบ  โอบกอดเบาๆ  บางครั้งก็นวดตัวเบาๆ

ให้ไอ้ตัวเล็กได้ผ่อนคลาย  แช่อยู่นานจนคิดว่าถ้านานกว่านี้คงเป็นปอดบวมตายซะก่อน  พอจะลุกขึ้นก็เห็นอีกฝ่ายหายใจอย่างสม่ำเสมอไปแล้ว

หลับตาพริ้ม ทิ้งตัวลง  ตัดสินใจปลุกก่อนที่จะหลับไปมากกว่านี้

“ปัตครับ”

“หืมมม  ครับ  ปัตเพลียฮะ  ขอนอนก่อนนะครับ” 

“เดี๋ยวเกาะขอบอ่างแป๊บนะ”  ผมดันตัวน้องพิงขอบอ่าง แล้วพาตัวเองออกมา  นั่งลงตรงหน้าน้องจับแขนทั้งสองข้างรวมทั้งหน้าปัตให้พาดมา

บนไหล่ตัวเอง  สอดมือไปด้านหลังช้อนเข้าที่สะโพกสวย ออกแรงดึงรั้งพร้อมกับชันตัวขึ้น หัวเข่าก็ดันกับอ่างอาบน้ำ  ดีที่น้องตัวเบา 

ถึงได้อุ้มได้ตัวดีในท่าลิงอุ้มแตงกลับมาที่เตียงทั้งเปียกอย่างนั้น ค่อยๆ วางน้องลงบนผ้าห่มหนา ดูเหมือนปัตจะตัวร้อน ถึงได้ง่วง

และเพลียจนไม่รู้สึกตัวขนาดนี้  เมื่อกี้มัวแต่ดีใจจนไม่ทันได้สังเกตุ ผมผ่อนแอร์ไม่ให้เย็นจัด หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวให้  เปลี่ยนชุดใหม่ให้ด้วย

ไอ้ตัวเล็กได้แต่คราง อือๆ  อย่างลำคาญ   ย่นผ้าห่มไปกองรวมกันด้านหนึ่ง แล้วอุ้มปัตนอนลงบนพื้นที่ว่าง ไอ้ตัวเล็กขดตัวด้วยความหนาว

ผมหยิบผ้าห่มผืนเก่าออก แล้วหยิบผืนใหม่ห่มให้แทน  น้องดูหลับสบายขึ้น ไม่ขยับ ผมรีบใส่เสื้อผ้าลงไปด้านล่าง ซื้อโจ๊กจากร้านรถเข็นที่น้อง

เคยซื้อไปให้ทานบ่อยๆ เพราะไม่มีเวลาทำ  เลือกของกินอีกหลายอย่าง แวะร้านขายยาใต้ตึกซื้อยาแก้อักเสบ แก้ไข้ และพารา  รีบกลับขึ้นห้อง

เทโจ๊กร้อน ๆ ใส่ชาม เจ็ดโมงเช้า  ...  ถือเดินเข้าห้องนอนแตะหน้าผากเบาๆ ไอ้ตัวเล็กก็ลืมตากระพริบตาปริบๆ มอง

“ยังไม่ไปทำงานเหรอฮะ”  น้องเอ่ยถามเสียงปร่า หันมามองหน้าผมงงๆ

“ไม่ไปหรอก เมียพี่ไม่สบายทั้งคน”  ผมยิ้ม  เห็นไอ้ตัวเล็กแอบจิกมือลงผ้านวมหนาๆ

“ไม่เอาฮะ ไปนะฮะ ปัตไม่เป็นไรสักหน่อย อยู่คนเดียวได้ พี่พาร์ทไปนะฮะ  อย่าเสียงานเพราะปัต”  น้องว่า

“ไม่เสียหรอกครับแค่วันเดียว นะนะ  พี่อยากอยู่ดูแลเมียอ่ะ”  ผมว่ากดจูบซับเหงื่อที่หน้าผากน้อง

“ไม่เอาๆ  พี่พาร์ทไปทำงานนะฮะ ไม่งั้นปัตโกรธจริงๆ ด้วย  นะฮะ   นะฮะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  ไอ้ตัวเล็กอ้อนสุดฤทธิ์ ผมไม่อยากไปเลยจริงๆ

“งั้นทานข้าวทานยาก่อนแล้วพี่ค่อยไป  แล้วตอนเที่ยงพี่จะแวะมาหานะครับ  มีไรโทรหาพี่ตลอดนะ แล้วถ้าตื่นแล้วก็โทรเลยนะ เดี๋ยวพี่แวะซื้อเค้ก

อร่อยๆ มากฝาก”  ไอ้ตัวเล็กทำตาวาว  เลยหัวเราะเบาๆ  เด็กจริงๆ เน๊าะ เมียเรา  ฮ่าๆ    แค่นั้นแหล่ะ ผมก็ป้อนโจ๊กคำแล้วคำเล่าจนหมดถ้วย

ยื่นแก้วน้ำพร้อมกับยาให้  ไอ้ตัวเล็กรับไปทานแต่โดยดี  ผมลูบหัวน้องเบาๆ จูบปากสวยๆ นั่นอีกที

“ขอโทษนะครับ เจ็บมั้ย?”  ไอ้ตัวเล็กซุกหน้ากับอกผมอ้อนๆ ฮะ

“ไม่เป็นไรฮะ  ก็ปัต.........”  น้องว่าแล้วเงียบไป

“....................”  ผมที่รอฟังอย่างตั้งใจ

.

.

.



.


.

.
.”รักพี่พาร์ทนี่ฮะ” 


คิดดูเองก็แล้วกันไม่ให้ผมหลงยังไงไหว   โอวววววววววววววววววววววววววว~  น้องปัตที่รักคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-08-2012 02:01:23
ขออภัยรีบไปหน่อย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-08-2012 04:43:32
พี่พาร์ทหวานเว่ออ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-08-2012 09:19:36
หวานมากพี่พาร์ทนี่ น้องปัตนี่จะน่ารักไปไหน
พี่พาร์ทหลงหน้ามืดตามัวแล้ว

บวกหนึ่งจ้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-08-2012 09:47:12
ยังมี ฮันนีมูลสวีท รออยู่จ้า  --------------------------
เอาให้น้ำตาลขึ้นตาเลย
คึคึคึ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 28-08-2012 09:55:13
อ๊ายยยหวานอ่ะ ปัตก็ขี้อ้อน

ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 28-08-2012 10:45:25
เรียก "เมีย" ได้ไม่อายปากเลยนะพี่พาร์ท ห้าๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 28-08-2012 12:03:54
พี่พาร์ท น้องปัต สวีททททททททททททททท

หวานเชื่อม..................ได้อีก

 :o8: :-[ :o8: :-[

ขอบคุณสำหรับตอนหวานๆค่ะ
อร๊ายยยย...... ชอบๆๆๆ
 :กอด1: :กอด1:



หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 28-08-2012 12:22:45
จะหวานอะไรขนาดนี้  :m1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 28-08-2012 16:20:33
แค่นี้พี่พาร์ทก็หลงแล้วน้องปัตยังมาอ้อนอีก
พี่พาร์ทไม่ปล่อยไปให้ใครแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-08-2012 17:04:26
นับวันยิ่งรักยิ่งหลงและยิ่งหื่นนะพี่พาร์ท 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 28-08-2012 18:45:39
พี่พาร์ทกินเด็กอะ น้องปัตน่ารัก แล้วก้อหวานซะจนอิจฉาเลยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Olivia23 ที่ 29-08-2012 03:58:08
เดี๋ยวเฮียพาร์ทก็ใกล้จะได้เข้าลัทธิบูชาเมียแล้วหละ หิหิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special After Love Night P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 30-08-2012 21:11:07
ดูแลกันดีจังเนาะ  :-[
พี่พาร์ทน้องปัตน่ารักโครตๆอ่ะ :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ขออภัยในความไม่สะดวก P.10 28/8/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-08-2012 22:11:18
พอดีเค้าเจ็บเล็บอ่ะ  โดนประตูรถหนีบเข้าให้ จริงๆ ก็นานแล้วค่ะ
แต่พอดี เราเอากรรไกรตัดเล็บไปตัด  เล็บมันเลยแยกจากกัน แต่ไม่สมบูณร์อ่ะ
มีบางส่วนติดอยู่กับเล็บอ่า พอคีย์มาก ๆ แรงมันก้อเจ็บเน้ 
ไม่ได้สำออยนะ  อาจจะโพสช้านะคะ 
ขออภัยเลยแล้วกันค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-09-2012 23:09:58
Special Question?
 
 
ขณะที่.......ไอ้ตัวเล็กที่นั่งบนตักผมกอดกันแน่นอยู่บนโซฟา แต่กลับมีผมเท่านั้นที่มองเห็นทีวี ส่วนอีกคนที่หันหน้าเข้าหาตัวผมก็ทำได้แค่

เอาคางวางบนไหล่แล้วมองไกลออกไปทางด้านระเบียงอยู่เนิ่นนาน ~  จนไอ้ตัวเล็กชักหมั่นไส้ที่ผมไม่ยอมปล่อยออกจากอ้อมกอดเสียที

จะหนีไปไหนจะทำอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้น  จึงทำได้แค่ประท้วงด้วยการอ้าปากเล็กๆ นั่นงับลงมาบนคอ ไหล่ เส้นผมอยู่เป็นระยะ  ทำเอาผมยกยิ้ม   

เมื่อเห็นว่าผมไม่สนใจ  ไอ้ตัวเล็กก็งับแรงขึ้นเรื่อยๆ จนต้องทำให้รู้ว่า.......ถ้าขืนยังเล่นอยู่อาจจะต้องเจออะไรต่อ   ว่าแล้วก็เลื่อนฝ่ามือหนาๆ

ของตัวเองจบที่สะโพกกระชับของอีกฝ่ายออกแรงกด  ขณะที่ด้านล่างกลับดันขึ้นมาขืนแรงโน้มถ่วง  ถูไถ ...จนอีกฝ่ายได้แต่ตกใจ

"อ๊ะ......พอแล้วฮะ"   ไอ้ตัวเล็กว่า  ก่อนจะทุบลงเบาๆ ที่ไหล่ผม  ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข

"ก็เรากวนพี่ก่อนนี่นา....หึหึ"  ผมตอบขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ทีวีตรงหน้าไม่วางตา   ไอ้ตัวเล็กนิ่งไป..........  นิ่งไปซะนาน

จนผมคิดว่าน้องหลับไปซะแล้ว  แต่ที่รู้ว่าอีกฝ่ายยังตื่นอยู่นั่นก็เป็นเพราะ หัวทุยๆ ยังเคลื่อนย้ายอยู่เป็นระยะ

.

.

"พี่พาร์ท....ปัตขอถามอะไรหน่อยได้ไหมฮะ"  ไอ้ตัวเล็กดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดผมเล็กน้อย  แล้วหันมาจ้องหน้าผมคิ้วเรียวขมวดมุ่น

ผมไล้มือบนหน้าสวยของอีกฝ่าย แล้วกดจูบที่ริมฝีปากบางได้รูป  ก่อนจะแทรกลิ้นชิมความหวาน อีกฝ่ายคราง อือ~ อา~ อยู่พักกว่าจะยอมปล่อย

"ค่าถาม....ว่าแต่มีอะไรหล่ะหืม?"   ผมละปาก ปล่อยให้น้องหายใจให้เต็มปอด  รอสักพักไอ้ตัวเล็กที่หน้าขึ้นสีก็ทุบเบาๆ ที่อกอีกครั้ง

"ขี้งก"  ปัตว่างอนๆ ผมได้แต่หัวเราะขำ

"ใครกันแน่....ขอแค่นี้เอง ขี้หวงไปได้ ว่าแต่จะถามอะไรพี่หล่ะครับ"  พูดเสร็จก็กดจมูกหอมแก้มนุ่มอีกที  ถึงแม้เจ้าตัวจะโวยวาย


แต่ยังไงซะ.....ก็ยอมทุกทีสิน่า หึหึ   ไอ้ตัวเล็กทำหน้าครุ่นคิด

"ถ้าถามแล้วต้องตอบความจริงนะครับ ห้ามโกหก"  ไอ้ตัวเล็กนิ่วหน้า ชี้มาจิ้มแก้มผม จึก ..จึก  ผมรีบพยักหน้าเป็นการด่วยไม่เคยเห็นน้องโหมดโหด

ขณะที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำถามจนตัวเกร็งไอ้ตัวเล็กก็ยังไม่ยอมเอื้อนเอ่ยวลีใดๆ ออกมา มีเพียงนัยตาคู่โตที่จ้องสบตาผมไปมา

.

.
.

.

.

.

 

"พี่พาร์ทเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนรึเปล่าฮะ?"

“แคกๆๆๆๆ  ทำไมปัตถามแบบนั้นครับ?”  ผมสำลักน้ำลายทันทีที่ได้ยินคำถาม .......มาเหนือเมฆจริงๆ น้อง
“ก็...ถ้าไม่เคย ทำไมพี่พาร์ทรู้ว่าต้องเปิดทางก่อนอ่ะ”    ไอ้ตัวเล็กว่า พร้อมชูนิ้วชี้ขึ้นประกอบข้อสมมุติฐานของตัวเอง  คิ้วเรียวขมวดมุ่น

“ทำไมรู้ว่าต้องใช้เจล   ทำไมรู้ว่าต้องสอดทีละนิ้ว  ทำไมรู้ว่ามันไอ้จุดที่มันทำให้รู้สึกดีอยู่ตรงไหน  ทำไมลงลิ้นกับอกผมทั้งที่ผมไม่มีหน้าอก

ทำไม ๆ  อือออออ~”   ผมปิดปากไอ้ตัวเล็กด้วยปากตัวเอง  ก่อนที่เจ้าหนูจำไม จะตั้งคำถามได้มากขึ้นกว่าเดิม  โดยที่ไม่ทันฟังคำผมอธิบาย

แม้แต่เล็กน้อย  ไอ้ตัวเล็กทุบอกผมเบาให้ละปาก  แต่ผมยังคงดูดดื่มซึมซับความหวานในทั้งโพรงปากของอีกฝ่าย  ไล่ลิ้นไปตามกระพุ้งแก้ม

ซอกฟัน หรือแม้แต่เพดานปาก ก่อนจะไล่ต้อนลิ้นหวาน ๆ ของอีกฝ่ายให้จำยอมหยุดคำถามกับสถานการณ์เบื้องหน้านี้

.

สุดท้ายก็จำใจละปากออก...เพราะอีกฝ่ายท่าจะหมดลมหายใจไปซะก่อนถ้าผมยังยืนยันจะฟอนเฟ้นหาความหวานจากร่างของคนตรงหน้า

น้องทิ้งตัวพิงผมทั้งตัว หายใจหอบเหนื่อยพยายามสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด เท่าที่ปากและจมูกรั้นได้รูปจะสามารถทำได้
“หึหึ.....จะได้ตอบซะที  เล่นถามซะไม่เว้นระยะหายใจขนาดนี้แสดงว่าสงสัยมากสินะครับ?” ผมกระซิบเสียงแผ่ว กับซอกคอของอีกฝ่าย

ก่อนจะกดจูบบางเบา ไล่ตั้งแต่ตั้งต้นคอจนถึงติ่งหู 

“อืออ~” ไอ้ตัวเล็กส่งเสียงครางรำคาญด้วยความขัดใจ  เพราะนอกจากจะยังไม่ได้ตอบแล้วยังทำท่าว่าจะทำไปในเรื่องๆ ซะมากกว่า

แลเห็นว่าถ้ายังเฉยผมจะรุกไปมากกว่านี้ ไอ้ตัวดีเลยตัดตอนขั้นเด็ดขาด กดเขี้ยวคมบนไหล่ลาด แล้วออกแรงกัดหนักๆ

“โอ๊ยยยย.......เจ็บแล้วคร๊าบบบบบบบบบ”    ผมร้องเสียงหลง หดคอไปด้านที่ถูกกัด  ไม่นานไอ้ตัวดีก็ยอมปล่อย ผมจ้องหน้าน้องงอนๆ

“ไม่รักพี่แล้วรึไงครับ”  ผมต่อว่าแบบคนน้อยใจ ก่อนจะหันไปมองไหล่ที่โชว์รอยแดงหราเพราะคมเขี้ยวของคนตรงหน้า

“ก็พี่พาร์ทแหล่ะทะลึ่งทำไมอ่ะ”   ไอ้ตัวเล็กหันมาส่งสายตาไม่สบอารมณ์
“เอ๊า........ก็เค้ารักเมียเค้านิ  ตัวเองมาเกี่ยวไรด้วยอ่ะ เค้าอยากกอดอยากจูบเมียเค้ามาห้ามทำไม”  ไอ้ตัวเล็กที่อ้าปากจะเถียงได้แต่นั่ง

หน้าแดงก่ำ ยู่หน้ามาให้ก่อนจะทำเสียงฟึดฟัดไปมา

“ไม่ต้องเฉไฉเลยฮะ  ว่าแต่จะตอบหรือไม่ตอบปัตเนี่ย”

“ตอบครับ...ตอบ” ผมดึงไอ้ตัวเล็กมากอดให้ศรีษะวางตำแหน่งเดิมตรงที่น้องกัดนั่นแหล่ะ ลูบหัวไอ้ตัวเล็กไปมา แล้วยกยิ้มอย่างเอ็นดู

“ปัต..........เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่พี่จะรัก ”  กดจูบเบาที่หัวไอ้ตัวเล็ก น้องดันตัวออกมา  แล้วสบตากันผมจ้องลึกเข้าไปในตา

ของอีกฝ่าย  น้องก็มองกลับมาราวกับกำลังค้นหาบางสิ่ง

“แล้วทำไมถึง.......ทำเป็นหล่ะครับวันแรกที่เรา...เอ่อ.....มีอะไรกัน”   ไอ้ตัวเล็กถามตะกุกตะกัก  จนผมต้องกระชับกอดแน่นๆ
“พี่ก็แค่แอบฟัง... ตอนที่ต้องไปบริษัทลูกค้า นั่งรถตู้กันไป พอพี่หลับตาเสียบหูฟังนั่งรถไปเรื่อยๆ จนแบตหมดแต่พี่ขี้เกียจถอด  เลยนอน

ต่อไปยังงั้นแหล่ะ   สามสามแอ๊บ (สาวประเภทสอง) เค้าก็คุยกันเรื่องพึ่งเคยมีแฟน ยังไม่เคยมีอะไรกัน  แล้วก็กลัวอะไรงี้ ครั้งแรกเจ็บมั้ย

อะไรยังไง ทำยังไงถึงไม่เจ็บ พี่ก็ฟัง ๆ ไป ไม่ได้สนใจอะไรมากอ่ะนะ  แต่ก็.......ไม่คิดว่าจะได้มาใช้จริงๆ  รู้งี้ไปศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนปฏิบัติจริง

น่าจะดีกว่า หึหึหึ”   ผมว่าขำๆ  ไอ้ตัวเล็กซุกหน้าลงกับผมแรงขึ้นอีก

“อ่อ...”  ไอ้ตัวเล็กว่า ไม่ยอมเงยหน้ามามองผมหรอก   

“พี่ตอบคำถามเสร็จแล้ว  งั้น......ขอรางวัลสำหรับการตอบคำถามด้วยนะครับคนดี”  ผมกระซิบเสียงพร่า  ลูบไล้สะโพกกลมน ก่อนจะบีบแน่นๆ

“ระ...รางวัลอะไรอ่าครับ  ปะ...ปัต ...เห้ยยยยยย”   ผมหมุนเอียงตัว แล้วกดไอ้ตัวเล็กก็ลงไปนอนกองกับโซฟา  จนไอ้ตัวเล็กทำหน้าเหวอ

“อย่าเฉไฉ......พี่ตอบแล้วขอรางวัลด้วย” กดจูบดูดดื่มหาความหวานของอีกฝ่าย  ไล่ต้อนลิ้นเล็กจนจนมุมหันมาเกี่ยวกระหวัดรัดกันแทนการหนี
“อืออออออออออออ~ พะ...พี่พาร์ท  อ๊ะ อ่าาาาาา~”    ไอ้ตัวเล็กครางหวาน  ขาสองข้างถูกพาดผมไหล่ผม กางเกงขาสั้นเลื่อนหลุดโชว์

สะโพกหวาน  ขณะที่ผมดันแค่ลูดบ็อกเซอร์จนล่นลงต่ำดึงความแข็งขืนที่ตั้งตระหง่านพร้อมจะชิมความหวานอยู่ก่อนหน้า ให้ออกมาชมโลก

ถูไถส่วนปลายกับร่องสวย  ไอ้ตัวเล็กบิดตัวเร่าๆ ปากเม้มแน่นขบกัดบนมือเรียวด้วยความเสียวซ่าน  ผมละเลงลิ้นกับยอดอกสีสด ไล้ลิ้นวน

แล้วดูดดุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ขณะที่ด้านล่างส่วนปลายยังถูไถกับร่องหวาน   กดส่วนหัวเข้าไปเล็กน้อยก่อนจะถอนออกมาใหม่ ซ้ำๆ ๆ ๆ ๆ

.
.

.
“อ่าาาาา~  พ....พี่พาร์ท  ฮึก...อ๊ะ...  เข้ามา......เข้ามาข้างในที  อืออออออออ~” 

“อือออออ~”   เผลอครางเสียงต่ำ เมื่อกดส่วนที่แข็งขืนเข้าไปจนมิดด้าม  ภายในรัดแน่นจนผมขยับไม่ไหว  ไอ้ตัวเล็กหน้าเหยเก

“อย่าเกร็งนะครับคนดี  หายใจยาวๆ นั่นดี ครับคนเก่ง  จุ๊บ”  ผมกดจูบทั่วใบหน้าและริมฝีปาก  จูบซับเหงื่อตามไรผมได้ตัวเล็ก

มือก็ลูบไล้ไม่ขาดสาย หยอกเอินเนินอกสวย  ก่อนจะส่งลิ้นร้อนๆ ดูดดุนให้ขึ้นรอย  ไอ้ตัวเล็กครางหวือแอ่นอกให้ผมได้ชิม   มือไล่ลงต่ำ

สัมผัสไรขนอ่อนนุ่มน่าขยุมขยำ ก่อนจะเลื่อนไปสัมผัสในสิ่งที่ร้อนกว่า   รูดรั้งจนมันตั้งตระหง่านสู้มือ พร้อมเสียงเจ้าของแท่งร้อน  ที่ส่งเสียง

หวีดหวิวราวจะขาดใจ  ช่องหวานคลายการบีบรัดลง  ด้านล่างปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว ค่อยๆ ขยับ .................

“อือออออออออออ~”

“อ่ะ... อ่ะ......อ๊าาาาา”

“เยี่ยม ...เยี่ยม...โอวววว รักปัตนะครับ”

. “อือออออออ   พ...พี่พาร์ท”


“ที่รัก...ที่รัก...ฟิตโคตรๆ  อ่าาาาาาาา”

“อ๊ะ....อ๊ะ...ร...แรงอีกฮะ......อืออออออออออออ”  ไอ้ตัวเล็กฉีดพ่นน้ำรักทั่วหน้าท้องผม

“อ่าาาาา”    ผมกระแทกแรงอีกไม่กี่ครั้ง น้ำรักสีข่าวขุ่นก็ปลดปล่อยในช่องหวาน  ผมทิ้งตัวลงกอดสุดที่รัก  เป็นรางวัลที่ช่างหอมหวาน

ผมจูบซับเหงื่อตามไรผมของน้อง  ก่อนจะแตะปากลงเบาๆ กับปากสวย ต่างคนต่างหอบอย่างหมดแรง แต่ร่างกายยังเกี่ยวกันแน่น

ราวกับหลอมรวมเป็นคนๆ เดียวๆ กัน  ผมเขี่ยนิ้วเบาๆ กับใบหน้าหวานที่แดงซ่านร้อนฉ่า  ไม่ว่าจะเพราะเป็นคนน่ารักแล้วมักอาย

หรือว่าเป็นคนน่ารักแล้วถูกทำรักจนหน้าขึ้นสีอยู่แบบนี้  ไม่ว่าแบบไหนผมก็รักทั้งนั้น


“เมียพี่เก่งที่สุดเลยครับ ... จุ๊บ”

“เพี๊ยะ.. บ้าพี่พาร์ทอ่ะ”

“หึหึ....น่ารักอ่ะ”

“น่ารัก....แล้วรักมั้ยฮะ?”  ไอ้ตัวเล็กว่า  ถามผมกลับกวน ๆ จนต้องขำ 

“รักครับ......แต่ถ้าจะให้รักมากกว่านี้.....ขออีกทีได้ป่ะ.  ” 


“มะ....อ๊ะ...ไม่....อือออ.....เอา...อ๊า.......พ....พี่...อ่าาา.....พาร์ท”

.

.

.********************************


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 02-09-2012 23:25:11
พี่พาร์ทนี่หวานและหื่นตลอด
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-09-2012 23:26:03
สงสัยคืนนี้ตอบคำถามกันเพลิน ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 02-09-2012 23:31:27
พี่พาร์ท หื่นว่ะ น้องช้ำหมดแล้วววววววววววววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 02-09-2012 23:34:42
หวานจัง

แต่เรื่องนี้จะจบยังไงเนี่ย

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-09-2012 00:14:35
พี่พาร์ทหื่นโคตรๆ อ่ะ  :m25:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-09-2012 00:20:24
นั่นดิ  จะจบยังไงเนี่ย  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 03-09-2012 03:53:36
พี่พาร์ทหื่นนนน
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special Question? P.10 2/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 03-09-2012 06:14:11
หื่นมากๆๆๆๆๆ  :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-09-2012 00:11:48
UNIT 26  แต่งงานกันนะ

ตอนนี้......ผมนั่งอยู่หน้าตึกสถาปัต จนคนแถวๆ นี้คุ้นเคยเป็นอย่างดี ก็มันตั้ง  4 ปีแล้ว  4 ปีที่ความสัมพันธุ์ของผมกับปัตยังมั่นคง และแน่นแฟ้น

มีอย่างหนึ่งที่ผมแอบรู้มาแม้ปัตจะไม่เคยสังเกตุเลยคือไอ้เบียร์  ยังจำเบียร์กันได้รึเปล่า   ใช่ครับเพื่อนสนิทปัตมันแอบรักแฟนผม รักมานาน

นานเกินกว่าที่ผมจะไปล่วงรู้ความจริงได้ ปัตกับเบียร์อยู่หอเดียวกันตั้งแต่ปี 1 จนถึงปี4  แม้ผมจะแอบหวั่นใจที่ต้องฝากปลาย่างไว้กับแมว

แต่ที่แน่ๆ ผมรู้ว่ามันไม่กล้าทำให้ปัตเสียใจ อย่างมากก็แค่ดมกลิ่นไม่กล้าล่วงล้ำมากกว่าคำว่าเพื่อนเท่านั้น  สายตาที่มันมองมาทุกครั้งผมรู้ดี

ในเมื่อปัตเป็นคนที่ผมรักก็คงไม่มีวันปล่อยน้องไป  เว้นเสียแต่น้อง...จะไม่รักผมแล้ว  ส่วนเรื่องที่ผมกับปัตเป็นคบหากันมันก็รู้ พวกเราไม่ได้ป่าว

ประกาศ แต่ว่าก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ทุกๆ อย่างมันก็เป็นปกติของมันแล้วแต่ว่าใครจะสังเกตุมากกว่า  ผมนั่งทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา

คิดๆ แล้วมันก็น่าขำนะ ผมพาปัตเข้าบ้านเข้าไปรู้จักกับพ่อ กับพี่ภีม แรกๆ ก็ไม่มีใครทันสังเกตุ แต่เห็นตัวติดกันบ่อย  ....   มีอยู่วันหนึ่งที่น้องไป

พักที่บ้าน แต่ผมมันหื่นอยู่บ้านมาตั้งอาทิตย์ใครมันจะไปอดใจไหว  จับน้องกด ...  กำลังจูบปากกันดูดดื่ม  โดยมีไอ้ตัวเล็กดิ้นขัดขืน พ่อ....ก็ดัน

เปิดประตูห้องนอนเข้ามา ผม...เลยจำนนท์ด้วยหลักฐาน  ยอมรับไปโดยดี ซึ่งผมก็ไม่ได้เครียดอะไร  คนที่เครียดเห็นจะเป็นไอ้ตัวเล็กที่หน้าหด

เหลือแค่สองนิ้ว  แต่พ่อกลับยิ้ม ...ถอยหลังไปสองสามก้าว เคาะประตูห้อง ก่อนจะเข้ามาใหม่ แซวผมกับปัตอย่างอารมณ์ดี

“โทษทีๆ พ่อลืมเคาะ”  จากนั้นผมก็เปิดเผยมากขึ้นกับครอบครัว ผมกับปัตไปทานข้างกับพ่อบ่อยๆ โดยเฉพาะลูกสะใภ้ทำกับข้าวเก่งจนพ่อชมเปาะ

ส่วนเรื่องทางบ้านปัต แม่ปัตรับรู้แล้วส่วนคนอื่นๆ ผมไม่ได้เปิดเผย เพราะปัตขอปัตรักน้องมากเราไปเยี่ยมทุกครั้ง ที่มีโอกาส พ่อเลี้ยงปัตใจดี

กว่าที่ผมคิดไว้มาก  เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้ง 4 ปี แล้วนะ  และผมก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราควรจะอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผย  ผมก้มหยิบแหวนเงิน

ที่สั่งทำพิเศษสองวง ด้านในมีรูปหัวใจดวงใหญ่แต่ตรงกลางมีดวงเล็กอีกดวง.... ด้านข้างมีชื่อผมกับปัตอยู่คนละด้าน  แหวนแทนใจ

อยากจะใช้ชีวิตด้วยกันสักที  ......   วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายสำหรับปี 4 ของปัต ฉะนั้นก็จะเป็นวันเริ่มต้นชีวิตคู่ของเราด้วยเช่นกัน

รอยยิ้มที่ฉีกกว้างจนเกินปิดกลั้นผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง  ....มันถึงจะโรแมนติกแบบที่ผมวาดฝัน  รู้แต่คำว่า “รัก”  มันแน่นจนจุกอก

.

.


มองไปยังตึกคณะไอ้ตัวเล็กกำลังเดินลงมากับเพื่อนตรงมาที่ผม สีหน้าเหนื่อยอ่อน แต่ก็ยังฝืนยิ้มจางๆ มาให้ อาจจะเพราะสอบมาอย่างหนัก

หน่วงตลอดอาทิตย์นี้  ผมยิ้มรับพยายามไม่แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นใจหัวใจจะกระดอนออกมานอกอก

“เหนื่อยเหรอเราโทรมหมด แล้ว”  ผมขยี้หัวไอ้ตัวเล็กเบาๆ  น้องทำได้เพียงฝืนยิ้ม กลับมาให้ ใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดยิ่งใกล้ก็ยิ่งชัดเจน

ผมขับรถตรงไปยังคอนโด  ขณะที่ไอ้ตัวเล็กหลับสนิทไปแล้ว ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้ผมรู้ว่าไอ้ตัวเล็กเหนื่อยอ่อนมาสักเท่าไหร่ 

ขับรถจนมาถึงคอนโดไอ้ตัวเล็กก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นจนต้องแบกขึ้นหลังแล้วเดินขึ้นลิฟท์แทน มีความสุขเหลือเกิน  นี่คือเจ้าสาวของผม  ......

.

.

.

ค่อยๆ วางน้องบนเตียง ให้หลับต่อไป ส่วนตัวเองก็ลงไปข้างล่างหากับข้าวกับปลาตามประสาสามีที่ดี  หึหึ ...รอยยิ้มกว้างแผ่หลา 

ผมแวะซื้อดอกไม้ช่อหนึ่งไม่ใหญ่มาก หากแต่เพียงเป็นดอกไม้ที่สุดที่รักผมชอบ ไม่ใช่กุหลาบ.....แต่เป็นลิลลี่ สีขาวกระจ่าง แซมด้วย

ดอกไม้อื่นๆ เล็กน้อย  ตัวช่อห่อด้วยสีทองเก๋ไก๋ ทับด้วยลิบบิ้นสีแดง เน้นช่อให้เด่นเข้าไปอีก    แชมเปญขวดหรูราคาเกือบหมื่นถูกจัดเตรียมไว้

อยากให้คำขอแต่งงาน...มันดูโรแมนติก และมีค่าสำหรับเราสองคน 

.

.

.

“ก็อก ๆ ก็อกๆ”  เสียงเคาะประตูดังขึ้นผมเดินไปเปิดประตูพบว่า อาหารที่สั่งจากร้านชื่อดังใกล้คอนโดมาส่งแล้ว พร้อมกับโต๊ะอาหารได้จัดไว้


เป็นที่เรียบร้อย ผมเปิดประตูอ้ากว้างขึ้นเพื่อให้พนักงานเดินเข้าด้านใน  พนักงานโค้งน้อยๆ ก่อนจะเดินตามเข้ามา...  อย่างคุ้นเคย  ไม่น่าแปลกใจ

หรอกครับนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมสั่งร้านเจ้าประจำเจ้านี้ หลายต่อหลายครั้งที่ไอ้ตัวเล็กหมดแรง ทั้งเรื่องเรียน ทั้งเรื่องทำงาน จนผมอยากจะขุนสุดที่รัก

ให้มีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้าง  รอยยิ้มกว้างปรากฎทุกครั้งที่อาหารจานโตวางตรงหน้า  น่าแปลกมั้ยแม้จะชอบขนาดนั้น  แต่...ไม่เคยมีสักครั้ง

ที่ไอ้ตัวเล็กจะเรียกร้องอะไรจากผม  หลายต่อหลายครั้งผมเองต่างหากที่ผมเป็นคนยัดเยียดไปให้น้องก็หน้างอทุกครั้ง แต่ผมรู้พอผมหันหลัง

รอยยิ้มดีใจจะปรากฎขึ้นทุกครั้ง  ผมเองก็อยากให้น้องเรียกร้องบ้าง....  อยากให้น้องเอาแต่ใจบ้าง....  เพราะผมเองก็อยากจะเอาใจไอ้ตัวเล็กจะแย่


อาหารถูกจัดอยู่จานอย่างสวยงามพนักหันมาแจ้งผม ว่าเรียบร้อยแล้ว ผมยิ้มกว้างยื่นเงินค่าอาหาร+ ทิปเล็กๆเป็นค่าเหนื่อย  น้องเค้ายกมือไหว้

แล้วขอตัวออกไป  ผมหลี่ไฟลงให้บรรยากาศมันดูโรแมนติคมากขึ้น ทุกอย่างเรียบร้อย .....  มีเพียงไอ้ตัวเล็กที่ยังหลับอยู่   ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง

แตะจูบแผ่วเบาที่หน้าฝากอีกฝ่าย  พร้อมกระซิบเสียงเบาข้างหูไอ้ตัวเล็ก

“ตื่นได้แล้วครับไอ้ขี้เซา  อาหารเรียบร้อยแล้วนะ  ถ้าไม่รีบไปทานเดี๋ยวจะหมดอร่อยนะคนดี”   ไอ้ตัวเล็กกระพริบตาถี่ๆ  ผมลูบผมน้องอย่างเอ็นดู

ไอ้ตัวเล็กส่งยิ้มตาหยีมาให้  ยื่นแขนโอบรอบคอผม  ได้แต่หัวเราะขำๆ  อ้อนก็เป็นด้วยนะคนเรา  ผมใช้มือข้างหนึ่งดันที่เตียง ส่วนอีกมือโอบกอด

ไอ้ตัวเล็กไว้แน่น ค่อยๆ พยุงตัวเราทั้งคู่ให้ลุกขึ้น   น้องซุกจมูกบนซอกคอผม เหมือนจะเพียงแค่สูดดมกลิ่นหอม  โอบกอดผมแน่นเป็นลูกลิง

“รักพี่พาร์ทจัง” เสียงอันแผ่วเบา หากแต่....ก้องกังวานสะท้อนอยู่ในหัวใจผม รอยยิ้มแห่งความยินดีเผยให้เห็นฟันสวยครบทั้ง 32 ซี่

หัวใจพองโต ล่องลอยราวกับปุยเมฆ บางเบาหากแต่อบอุ่น ความรู้สึกที่ราวกับถูกโอบกอด

“พี่ก็....”   มือเรียวรั้งขึ้นมาปิดปากผมไว้   คำพูดถึงได้หยุดอยู่แค่นั้น

“อย่าพูดฮะ....วันนี้ปัตจะบอกเองฮะ  จะบอกรักพี่พาร์ทเอง”   ผมยื่นจมูกเข้าใกล้หน้าหัวทุย อยากจะจูบขอบคุณ....ที่ทำทุกอย่างให้

ไอ้เล็กดันมือมากั้น ก่อนจะแตะจูบเบาๆ ที่ริมฝีบากผมแทน  มาแปลก.................  น่ารักจนแทบทนไม่ไหว  เหมือนกับได้ยินเสียงในใจผม

ไอ้ตัวเล็กดันผมแนบลงกับเตียง ก้าวขาค่อมผมไว้ทั้งตัว มือเรียวไล่ปลดกระดุมทีละเม็ดๆ  หวานซะจนต้องจับสะโพกอีกฝ่ายมาบดเบียด

บนเนินนูน  ได้ยินเสียงครางกระเส่า น้องดึงมือผมออก....บดเบียดสะโพกหวานเคล้นคลึงอยู่กลางลำตัวผม  ริมฝีปากบางเม้มแน่น

ด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้าสีระเรื่อที่ผมรักหนักรักหนาดูเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก  นี่น้องกำลังยั่วผมรึเปล่า ?  ยื่นมือแกะเข็มขัดตัวเองรวดเร็ว

แกะกระดุมหัวกางเกงออก รูดซิบเปิดได้แค่นิดเดียวเพราะอีกฝ่ายยังนั่งทับส่วนนั้นอยู่ ผมไล้ลูบส่วนที่แข็งขืนของน้องที่นูนจนขึ้นรูปน่าหลงไหล

“ย...อย่าฮะ....ปัตทำ...ทำเอง”  น้องจับมือผมออก ถอดเน็คไทที่คอผม แล้วมัดแขนทั้งสองข้างของผมรวบเข้าด้วยกัน  ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาๆ

“ซนนัก....บอกว่าปัตจะทำเอง”  น้องหันมายิ้มน้อย ๆ ลงมือถอดกางเกงแล้งรูดออกจากขาผม  ก่อนจะหันไปถอดเสื้อผ้าตัวเองทิ้งมันอย่างไม่ไยดี

คลานท่าเซ็กซี่มาบนเตียงทำของของผมตั้งโด่ แบบฉุดไม่อยู่ ปากหวานๆ ครอบมันลงทั้งอัน ลิ้นหวานๆ ดูดดุนซุกไซร้จนผมครางกระเส่า

“อ่าาาาาาาาา  ปัตครับ ...อืมมมมมมม..  ปัต”  ปากนุ่มๆ ของอีกฝ่ายรูดขึ้นลงอยู่ไม่นาน ไอ้ตัวเล็กก็ละปากจนผมหันไปมองอย่างขัดใจ 

แต่ภาพที่เห็น.........ทำผมกระสันอยากมากขึ้นไปอีก  สะโพกหวานของอีกฝ่ายถูกยื่นมาจ่อตรงหน้าทำผมอยากจะให้ไอ้ลูกชายชิมจะขาดใจ

 ใบหน้าหวานหันมามอง ....  ดวงตาที่ฉ่ำเยื้อมอ่อนหวาน  เสียงแหบพร่า...บ่งบอกอารมณ์ของผู้พูดเป็นอย่างดี แววตาออดอ้อนเย้ายวน

“ช่วยปัตด้วยนะครับ”   น้องหันไปทำหน้าทีของตัวเองก่อนนั้น ดูดดุนจนผมเสียศูนย์  ผมอ้าปากครอบท่อนลำของอีกฝ่าย ละเลงลิ้นไปดูดดุน

ทั้งดุดัน และอ่อนหวาน หยอกเย้าส่วนหัวที่ฉ่ำน้ำเยื้อมหวาน ไล่ไปถึงพวงชมพูด้านข้างไม่ให้หงอยเหงา แต่ยินแต่เสียงครางเบาๆ ในลำคอ

อย่างพึงใจทั้งผมทั้งน้อง  ต่างทำรักจนเสร็จคาปากของอีกฝ่าย เสียวสะท้านจนไอ้ตัวเล็กต้องแอ่นสะโพกหวานกดลึกลงในปากให้ผมได้ดูด

กลืนน้ำที่ยังคงเหลือ  อีกฝ่ายก็ทำตามในแบบเดียวกัน  น้องละปากออกในที่สุด และผมก็ต้องละปากตามไป ไอ้ตัวเล็กคลานต้วมเตี้ยมหมุน

กลับมาหาผม กดจูบดูดดื่มที่ทั้งหวานทั้งฝาดในคราเดียว  ทั้งซาบซ่านสุขสมจนเกินบรรยาย แลกเปลี่ยนน้ำรักที่ยังค้างในปากของกันและกัน
ลิ้นร้อนๆ ไล่ต้อนดูดกลืน ฟอนเฟ้นหาความหวานภายใน ความต้องการที่แทบระเบิดผมต้องการ   ต้องมากขึ้นไปอีก   ไอ้ตัวเล็กยื่นมือไปจับ

เจลในลิ้นชักตรงหัวเตียง  บีบใส่มือป้ายลงบนช่องหวาน แล้วแปะลงอีกครั้งบนน้องชาย  จับส่วนหัวจ่อกับช่องหวาน ค่อยๆ กดตัวอย่างลงมา

อย่างเชื่องช้า ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จนในที่สุดก็มิดด้าม  เหงื่อเริ่มซึมตามไรผมของอีกฝ่าย  ใบหน้าหวานเหยเกเล็กน้อย ๆ ค่อย ๆ ขยับเบาๆ

จนในที่สุด.

.
.
.

 “อ๊ะ อ่าาาาาาาา โอววว  แรงอีกคนเก่ง อืมมมม”

“อ๊ะ...อ๊ะ  อ๊าาาาาา  อืออออออ”

“เยี่ยมๆ  เร็วอีก  ๆ  โอ๊ะ...... อืมมมมมมมมมมมม”

“อ๊ะ....อ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  พี่พาร์ท  พี่พาร์ท  พี่พาร์ททททททท”

.

.

หลังจากพันธนาการออก ผมก็อุ้มน้องมาที่อ่าง อาบน้ำกันทั้งสองคน  ก่อนจะกลับมาที่โต๊ะทานข้าวที่อาหารเย็นไปหมดแล้ว  ผมยกยิ้มให้น้อง

ช่วยกันเอาอาหารไปเวฟอีกรอบ ก่อนจะมานั่งทาน กันอย่างเอร็ดอร่อย  ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มแสนหวาน  เรากุมมือกันแน่น  ไอ้ตัวเล็กตักข้าว

ป้อนมาที่ปากผม  ผมอ้าปากรับ ความสุขนี้....จะมีสิ่งไหนเกินกว่า   หลังจากมื้ออาหารเก็บล้างเรียบร้อย โดยมีเราที่คลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง 

น่าแปลกจริงๆ  ปกติปัตไม่ได้ขี้อ้อนขนาดนี้  น้องขี้อายมาก...แต่วันนี้น่ารักเป็นพิเศษ เมื่อเรียบร้อยก็ต่อด้วยแชมเปญขวดหรู ริมระเบียง 
ปิดไฟในห้องให้มืดสนิท  บรรยากาศด้านนอกเต็มไปด้วยความมืดด้วยนี่เป็นเวลา เกือบๆ ตีสามแล้ว  น่าแปลกที่ไม่ง่วงเลยสักนิด  รถราด้านล่าง

ยังวิ่งเป็นระยะ ฟ้าปกคลุมไปด้วยความมืด มีเพียงดวงจันทร์กลมโตที่ยังปรากฎกายฉายรัศมีในค่ำคืนนี้ ผมนั่งขันเข่า หลังพิงผนัง โดยมีได้ตัวเล็ก

นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขา  พูดคุยในเรื่องเก่า....ช่วงเวลาที่เราคบกัน  4 ปีที่ผ่านมา  ผมเห็นไอ้ตัวเล็กแอบอัดเทปทำผมยิ้มขำ  ต่อไปต้องเจอหน้ากัน

แท้ๆ อยากอัดก็อัดไป  สักหน่อยก็เบื่อเอง  เราดื่มแชมเปญ มองดูพระจันทร์  และกอดกัน  ต่างคนต่างเล่าเรื่องราวที่ไม่พอใจกัน  และเรื่องที่ต้อง

ขอบคุณซึ่งกันและกัน เรื่องที่ทำให้เขิน  เรื่องที่ทำให้มีความสุข  เรื่อง...ทุกเรื่องที่เราผ่านมันไปด้วยกัน
.

.

“ปัต... พี่อยากอยู่กับปัตตลอดไป  อยากอยุ่อย่างนี้ทุกๆ วัน ” ผมก้มมองหัวทุย ๆ ของอีกฝ่าย เพราะไม่รุ้น้องทำหน้ายังไง  ไอ้ตัวเล็กไม่ได้พูด
หากแต่ ดึงแขนผมที่โอบรอบเอวตัวเอง ให้กระชับกอดมากขึ้นไปอีก  ขอเดาได้มั้ยว่าน้องกำลังยิ้งอยู่




“ปัตครับ”
.

“ครับ”
.
.

.

“แต่งงานกันนะ?”  ไอ้ตัวเล็กพลิกตัวหันมา กอดผมไว้แน่น น้ำตาไหลราวกับก็อกแตกนั่น สะอื้นแรงๆ บนอกผมจนตัวโยน

“พี่พาร์ท...พี่พาร์ท...ฮึก..ๆๆ   พี่พาร์ท”  เสียงขาดกระท่อนกระแท่นจากไอ้ตัวเล็ก  สะอื้นแรงจนผมต้องจูบปลอบ

.

.


“ขอบคุณที่รักปัต  ....ขอบคุณพี่พาร์ท ขอบคุณ ฮึกๆๆ  ขอบคุณฮะ”

.

.

.

“ปัตข...อโ...ทษ”  เสียง แผ่วเบาจากไอ้ตัวเล็ก เบาซะจนผมต้องถามซ้ำ

.

.

.

“ปัตว่าอะไรนะ”  ผมถามเสียงเบาหวิว  ดันอีกฝ่ายที่ยังสะอึกสะอื้นอยู่กับอก  ให้หันมาจ้องหน้ากัน  ผมหูฝาดไปใช่มั้ย?

.

.

.

“เลิกกันนะครับ”




********************************************************   
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-09-2012 00:25:31
 :a5:

เข้ามาช็อค !!


ถึงว่าทำไมปัตดูแปลกๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-09-2012 00:30:51
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 04-09-2012 01:00:50
 :a5: เฮ้ยยย อะไรเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 04-09-2012 01:19:14
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-09-2012 07:29:50
ประโยคสุดท้าย ช๊อค  :a5:  :a5:

ปัตเอาให้เคลียร์มันเกิดอะไรขึ้น  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 04-09-2012 08:04:05
มันเกิดอะไรขึ้นนน :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-09-2012 08:43:19
เรื่องนี้มันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้เบียร์ใช่ไหม  :m31:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 04-09-2012 09:25:22
ค้างมากเลยมาต่อด่วนๆๆๆ :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ถามมาตอบไป -เบียร์ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-09-2012 09:26:56
ช่วง  ถามมา-ตอบไป

สวัสดีครับ..... ผมเบียร์เองครับ
อาจจะไม่มีใครรู้จักผมในเรื่องสักเท่าไหร่ เพราะคนเขียนไม่เคยให้บท  ----แต่จะตัดออกก็ไม่ได้ เพราะติดอยู่ที่ผมหล่อ
ครับ .... พอดีผมได้ยินข่าวลือ  ว่าผมเป็นสาเหตุให้ปัตกับพี่พาร์ทเลิกกัน  นี่มันผ่านมาสองอาทิตย์แล้วนะเว้ย
ไอ้เพื่อนตัวดียังนั่งซึมกระทือจมอยู่กับน้ำตาเป็นว่าเล่น  ....จริงๆ ก็ไม่ได้้ร้องไห้บ่อยโชว์ผมหรอก  แค่ผมแอบสังเกตุเอาเองก็เท่านั้น
ใช่ครับ ....ปัตมาอยู่กับผม ตั้งแต่เลิกกันแล้ว  ถามเท่าไหร่ก็ไ่ม่ยอมบอก แต่ผมไม่ใช่สาเหตุนะ คอนเฟิร์ม 
เพราะไม่เคยมีทีท่าจะเลิกกันมาก่อน แถมรักกันหวานหยุด จนผมแอบปวดใจด้วยหล่ะ  ก็คนมันรักนี่เน๊าะ ทำไงได้
ทำที่จำได้ ปัตซึมเศร้าตั้งแต่วันนั้น  วันที่พ่อ(ไอ้)พี่พาร์ท มารอปัตที่คณะ วันนั้นผมจำได้แหล่ะ ว่าขาไปทั้งคู่ก็ดูสุขีเป็นปกติดี
แต่ตอนกลับมา.....ดูเหมือนเพื่อนผมจะเศร้านิดๆ  ทุกอย่างค่อยๆ ดูเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น  2 เดือนที่แล้ว  ผมไม่แน่ใจว่านี่
เป็นสาเหตุรึเปล่า 
แต่ที่แน่ๆ  ไม่ใช่ผมนะครับ .......    คุณหมอตัวเปียก
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-09-2012 09:28:26
ทำไมปัตบอกว่า เลิกกัน ไม่เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ถามมาตอบไป -เบียร์ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 04-09-2012 10:08:28
มาม่าาาาาา :a5:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ถามมาตอบไป -เบียร์ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-09-2012 10:35:04
กราบขอโทษเบียร์ด้วยครับ :m5: ผมเข้าใจผิด  :m17:

แหะๆ คนมันอินไปหน่อย  :m23:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 26 แต่งงานกันนะ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 04-09-2012 11:11:26
 :a5:ช๊อค...คดีพลิก?
ทำไมเป็นแบบนี้ละ
เคลีย์ด่วนเลยคนเขียน...คนอ่านใจไม่ดีเลย
ถึงว่าทำไมปัตต้องอัดเสียง..ทำไมปัตถึงกล้าเริ่มก่อน...

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ถามมาตอบไป -เบียร์ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-09-2012 11:18:32
สาเหตุคือพ่อของพาร์ทแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ถามมาตอบไป -เบียร์ P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 04-09-2012 11:44:28
พ่อพี่พาร์ท ทำไมถึงไม่เข้าใจความรักของลูกเลย :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-09-2012 12:42:45
Unit 27  ฝันร้าย

ผมตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อที่ผุดพรายตามไรผม และใบหน้า ดึงเสื้อขึ้นเช็ดแล้วไล้มือปาดลวกๆ อีกที  เอื้อมมือควานไปในความมืด

บนพื้นที่บนเตียงด้านข้างตัว.................................. เย็นเฉียบ  ไร้รอยคนที่เคยนอนพักข้างๆ  กัน  ฝันถึงอีกแล้วเรื่องคืนนั้น  ....

สองอาทิตย์แล้ว.............. หลังจากประโยคบอกว่าที่ทำผมอึ้งไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอเรื่องราวเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  .....จากคนรัก

ตอนนั้นทำได้เพียงนั่งมองน้องอยู่อย่างนั้น  ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ถาโถมเข้ามา น้ำตาไหลอีกแล้วกัดปากตัวเองแน่นๆ แต่กลับไม่เจ็บ

ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ในหัวมีแต่คำถาม......เต็มไปหมดทุกอย่างที่ผ่านมามันดี .....ดีซะจนไม่เคยมีสักวันที่ผมคิดว่าจะต้องเดินมาเจอเรื่องเหล่านี้

“ทำไม?”  คำถามที่แทบไม่มีเสียงเปล่งออกมา  มือที่จับแขนน้องมันสั่นอย่างช่วยไม่ได้  ไอ้ตัวเล็กส่ายหน้าไปมาช้าๆ น้ำตารินไหลอาบแก้มนวล

อย่างน่าสงสาร   ดวงตาแดงก่ำ  กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ๆ ซะจะผมคิดว่าน้องคงจะเจ็บ

“อย่าถามเลยฮะ....ปัตไม่มีคำตอบให้พี่  พี่รู้แค่ว่านี่คือการตัดสินใจของปัตไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น  ขอโทษนะฮะ”    ไอ้ตัวเล็กว่าเสียงแผ่วเบา

 แทบจะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาพอกัน   มือเล็กค่อยๆ ดึงมือผมออกจากแขน ผมได้แต่มองตามแม้จะพยายามยึดมันไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ก็เปล่าประโยชนย์ เมื่อตอนนี้มันหลุดไปแล้ว  น้องก้มหยิบมือถือค่อยๆ ลุกขึ้นเดินจากไป  ผมนั่งแช่อยู่อย่างนั้น  ในสมองมันวกวนสับสน

ก้มหน้าซุกลงกับเข่าตัวเอง ...........................  ความรู้สึกตอนนี้เหมือนใจจะขาด    ทั้งที่เมื่อกี้ผมยังมีความสุขที่สุดอยู่เลยแท้ๆ แต่ตอนนี้ ทำไม

หัวใจมันแตกสลายได้รวดเร็วปานนั้น  ไม่!!  ....เสียงหัวใจตะโกนก้อง ผมจะไม่ยอมปล่อยน้องไป .....   

ตะเกียกตะกายลุกขึ้น.....ทนฝืนทั้งที่แรงที่จะยืนยังแทบไม่ไหวหัวใจมันบาดเจ็บเกินกว่าที่ผมจะทานทนได้   เดินกลับเข้าไปในห้อง สอดส่อง

สายตาไปทั่ว......ก็พบแต่ความว่างเปล่า   มันยิ่งทำให้ผมแทบทรุดลงไปอีก เดินเข้าไปดูในห้องนอน......ก็ไร้ซึ่งวี่แวว แม้แต่การมีตัวตนของน้อง

ผมตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า  เปิดประตูออก เพื่อจะพบว่า.......................................................................มันว่างเปล่า

ทรุดตัวลงกับพื้น  ..............................  มองบนเตียง ภาพเมื่อครู่ยังฉายชัด  ...เสียงครางอย่างสุขสม.....มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกเหรอ

“ป...ปัต...”  พร่ำรำพันเสียงแผ่ว  รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย วิ่งตรงไปที่ลิฟท์ ไม่สนใจจะล็อคประตูห้อง ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันจะเปิดอ้าซ่า ท้าโจร

อยู่หรือเปล่า  .......   เพราะหัวใจของผมมันกำลังจะแหลกสลายอยู่แล้ว ณ นาทีนี้   วิ่งสุดแรงกดลิฟท์เลือกชั้น จี 

“ติ๊ง....”  เสียงลิฟท์ ดัง  เมื่อพามาถึงชั้นล่างสุด  สองขาวิ่งออกไปยังทางออก  มองเห็นใครที่คุ้นเคย  ทำได้แค่วิ่ง

.

.

วิ่งอย่างสุดกำลัง  .......   ใกล้จะถึงเต็มที  อีกนิดเดียวเท่านั้น  ผม.....ก็จะคว้าตัวน้องไว้ทัน    อีกแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น



.

.

รถเก๋งยี่ห้อ Audi R8 GT สีเงินคันที่ผมเคยเห็นประจำจอดอยู่ตรงหน้า  ปัตก้าวขึ้นรถช้าๆ   ไม่น่านรถคันที่ว่าก็เคลื่อนตัวออกไป

.

.

.

.

 นี่ใช่ไหม....คำตอบ ที่ผมสงสัย  ........น้องอาจจะเลือกแล้ว ว่าควรจะเป็น...

.

.
.
.

ไอ้เบียร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 04-09-2012 12:50:25
ค้าง

 :z3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-09-2012 13:18:38
หรือว่าปัตไม่สบาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 04-09-2012 13:21:00
 :m15: :m15: เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-09-2012 13:36:58
รถของ ไอ้เบียร์

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-09-2012 14:14:15
พ่อพี่พาร์ทต้องมาพูดอะไรแน่ๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-09-2012 17:26:09
สงสารพาร์ทรักปัตมากด้วย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 04-09-2012 18:19:51
หายไปหลายวัน

โหวว อ่านอีกที มีเบียร์????? โผล่มาพร้อมหม้อมาม่า ใบหญ่ายยยยยย...
ปัตเลือกเบียร์จริงหรอออออ.....????
พี่พาร์ทสู้ๆ

แง่มๆๆๆๆๆ ซู๊ดดดดดดดดดดดด.......
(// เสียงซดมาม่า)

ขอบคุณค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ

ปล. รถเบียร์เจิดมากกก...


หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 04-09-2012 18:37:37
เรื่องที่ปัตขอพาร์ทเลิกมันต้องเกี่ยวกับพ่อของ
พาร์ทแน่ๆเลย
สงสารทั้งสองคนเลย
มันค้างมากๆเลยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 04-09-2012 18:48:51
มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย น้องปัตต้องมีเหตุผลอะไรแน่เลยช่ายป่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 04-09-2012 20:27:33
ป๊ะป๋า แอบทำให้น้องกับพี่พาร์ทตายใจก่อนเรอะ ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 27 ฝันร้าย P.11 4/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 04-09-2012 21:30:34
OMG!!!!คดีพลิกซะงั้น

คุณพ่ออยู่เบื้องหลังชัวร์เลย ถ้าไม่ชอบจะปล่อยให้เค้าคบกันมาถึงวันนี้ทำไมนะ

สงสารทั้งคู่เลยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-09-2012 01:36:10
อ่าเกิ่นก่อนเรื่องนี้อาจจะดราม่าหนัก...มากอ่ะ
ไม่รู้รับได้รึเปล่า  แต่วาง พอร์ทเรื่องไว้แบบนี้ค่ะ  ยังไงซะ  ไม่อยากอ่่านก็ไม่ว่ากันค่ะ




Unit 28  เจ็บ.....ที่แตกต่าง 

“แกร๊กๆ .....แอ๊ด” เสียงประตูห้องเปิดออก ผมไม่แม้แต่จะหันไปมอง ยังคงนั่งเหม่อมองไปไกลแสนไกล คำถามเดิม ๆ ผุดอยู่ใน
หัว “ทำไม”

อาจจะเป็นเพราะ.....ผมแก่เกินไป  อาจจะเป็นเพราะ.....น้องอาจจะพึ่งรู้ใจตัวเอง  ว่าจริงๆ แล้วคนที่ใช่เป็นเบียร์  อาจจะ
เพราะ...ผมไม่ดีพอ

หรืออาจจะเป็นเพราะ................

.

.

.

ปัตหมดรักผมแล้ว

.


.

“พาร์ท”  เสียงเรียกจากด้านหลัง เสียงที่คุ้นเคย  ก่อนที่มือแข็งแรงจะแตะลงเบาๆ บนไหล่ ผมกลืนน้ำลายลงคอหนัก แต่....ยังไม่
พร้อมจะสู้หน้าใคร

ก้มหน้าลงต่ำมองดูพื้นผิวกระเบื้องซึ่งตอนนี้ผมไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามันเป็นลายอะไร เพราะน้ำตาที่คลอหน่วยอยู่รอบนัยตา  พี่ภีมนั่ง
ลงข้างๆ

ตบหลังผมเบาๆ เป็นการปลอบใจ  เหมือนๆ ทุกครั้งที่ผ่านมา  เพียงแต่....ครั้งนี้มันเจ็บกว่าครั้งก่อน เพราะผมไม่มีเวลาจะเตรียม
ใจ


“เป็นไงบ้าง..พี่พึ่งรู้”  พี่ภีมว่า ยื่นกระป๋องเบียร์มาให้  ส่วนมืออีกข้างกำลังยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่  ผมเปิดกระป๋องเบียร์แล้วดื่ม
ตามทันที 

รสขมๆสาดลงคอ  แต่ว่าคอมันแทบไม่รับรส  ......  เมื่อใจป่วยดูเหมือนทุกอย่างในร่างกายจะป่วยตามไปด้วย


“อือ...ยังไม่ดีเลยพี่  ผมขอเวลาหน่อย..”  ยกเบียร์ขึ้นดื่มรวดเดียวก็หมดกระป๋อง  ก่อนจะวางกระป๋องเปล่าข้างๆ ตัว

“อือ  พี่อยากให้เราคิดถึงอนาคตบ้าง  อย่างน้อยก็คิดถึงคุณลุงบ้างท่านแก่แล้ว อย่าให้ท่านมากลุ้มใจเรื่องเราอีก เข้าใจนะ”  พี่
ภีมลูบหัวผมเบาๆ

สำหรับพี่ภีม  แค่นี้.....ก็เป็นการปลอบที่ดีที่สุดแล้วนั่งข้างๆ  ไม่มีคำหวานๆ คอยให้กำลังใจ แต่กำลังชี้ประเด็นที่เราหลงลืมไป 
กำลังบอกผม

ว่าจริงๆ ผมสำคัญสักแค่ไหนสำหรับคนอื่น  อย่าทิ้งชีวิตเพื่อคนใครสักคนหนึ่ง....ที่เค้าหมดรักเราแล้ว

“ครับ ...ผมเข้าใจ  ขอบคุณครับพี่”  ผมหันไปมองพี่ภีม....  แล้วยิ้มตอบ  ตอนนี้มันก็ได้แค่นี้แหล่ะ

.

.

หลังเงียบอยู่นาน  ....ไร้ซึ่งการสนทนาระหว่างผมกับพี่ภีม มีเพียงเบียร์เย็น ที่พี่ภีมลงทุนไปหยิบกระติกใบย่อมใส่เบียร์แช่น้ำแข็ง
มาประเคนถึงที่

ตามคนต่างจิบ  ...คิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย   ไม่มีการวิพากวิจารณ์ถึงสาเหตุ ไม่มีการพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใดๆ ทั้งนั้น 

น่าแปลก.....ที่ผมสบายใจขึ้น แม้จะยังเสียใจกับเรื่องราวที่ผ่านมา  แต่ผม...ก็มีจุดมุ่งหมายในการดำรงชีวิตเพิ่มมากขึ้น  รู้ว่า
ต้องอยู่เพื่ออะไร

ชีวิตนี้อาจจะไม่ได้มีไว้ให้เฉพาะเพื่อ “คนที่เรารัก”  จนทิ้งขว้างอีกคน  “ที่รักเรา”    แต่ก็นะ...ถึงจะไม่ได้อยู่กับคนที่เรารัก 

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลืมความรักที่เคยมีไปใช่ไหม?  เพราะถ้าลืมแล้วมันเจ็บ...ก็จะจำมันอยู่อย่างนี้  จำในสิ่งที่ดี วันคืนดีๆ ที่มีร่วม
กัน .... 

อาจจะเจ็บบ้าง  เศร้าบ้าง  เสียใจบ้าง  แต่อย่างน้อย ช่วงเวลาหนึ่งมันก็มีสุขอย่างล้นเอ่อ  และมันก็เป็น “ความรัก”  ในแบบผม 
.

.

“สบายใจขึ้นแล้วเหรอ?”  พี่ภีมถาม โดยที่ไม่ได้หันมามองผมสักนิด  สายตากลับมองไปยังฟากฟ้าที่ว่างเปล่า พี่ภีมก็เคยเจ็บ

เหมือนกัน 

แต่ต่างกันตรงที่ผมไม่เคยทำหน้าที่ปลอบใจอะไรทั้งนั้น  ความเจ็บมันคงฝังใจ  .....ตอนนี้พี่ภีมถึงได้ “กลัวที่จะรัก”   ถึงจะมีใคร
ผ่านเข้ามา

พี่ชายผมก็ตั้งท่าสร้างกำแพงรอ  จนถึงทุกวันนี้ ถึงไม่มีคนอยู่ข้างๆ สักที   ผมหันพยักหน้าตอบ

“ครับ ”  หันไปมองหน้าที่ภีม  รอให้อีกฝ่ายบอกสาเหตุจูงใจอีกอย่างที่มาหาผมถึงที่นี่

“ดีแล้ว ”  พี่ภีมหันมายิ้มให้ผม  เป็นรอยยิ้มเดิมที่อบอุ่น รอยยิ้มธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ....เพราะพี่ภีมทำให้ผมเชื่อว่าจะไม่มีวันหัก

หลังผม

“พรุ่งนี้ถ้าว่างก็ไปพบคุณลุงหน่อยสิ  ..  ท่านอยากจะพบเราน่ะ”   ว่าแล้วก็กวาดกระป๋องเบียร์เปล่านับโหลใส่ถุงขยะที่ถือติดมือ
มาด้วย

“ครับ พรุ่งนี้ผมจะไปพบท่าน” อีกฝ่ายมัดปากถุงขยะจนเรียบร้อย หันมามองผมนิด ๆ พยักหน้ารับรู้

“อืม...งั้นพี่กลับหล่ะ พรุ่งนี้ธุระแต่เช้าว่ะ  ไปนะ ดูแลตัวเองด้วย ตอนนี้หน้าตาดูไม่ได้หว่ะ  เดี๋ยวสาวๆ หันมาสนพี่แล้วจะเสียใจ” 
พี่ภีมกระเซ้า


หันมาบอกเสร็จ   ผมก็ยิ้มตอบ  แล้วพี่แกก็เดินออกไป  แต่ผมยังนั่งตรงที่เก่า.........มองดูดาวที่แทบไม่มีประดับประดาบนฟากฟ้า

 จะมีก็แต่พระจันทร์ที่ส่องสว่างไสวในคืนเงียบเหงาอีกวัน  เหมือนๆ กับ......................คืนนั้น

.

.

.

“สวัสดีครับพ่อ”  ผมเดินไปเข้าไปหาท่าน บริเวณสวนหลังบ้านที่พ่อขยันหาต้นไม้ยืนต้นชนิดนั้น ชนิดนี้มาปลูก   จนเขียวชะอุ่ม

ไปทั่วอาณาบริเวณ

“อืม ดีๆ  เป็นไงบ้างหล่ะเรา”  พ่อหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำอยู่  วางถังน้ำลง  พร้อมกับหยิบจอบที่วางราบกับพื้นเอามาพิงกับ
ต้นไม้จะได้ไม่เผลอ
ไปสะดุดเข้า วักน้ำในถังมาล้างมือเล็กน้อยก่อนจะเดินตัวปลิวตรงมาที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ที่ผมภูมิใจเป็นหนักเป็นหนา เพราะซื้อด้วย
เงินเดือนก้อนแรก

ของตัวเอง เรียกว่าทุ่มสุดตัวแคะกระปุกร่วมด้วย  หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามหันมาสบตาผมนิ่ง ๆ ก่อนจะเสไปมองแมกไม้อย่าง
เช่นทุกที

“เลิกกับปัตแล้วเหรอ”  น้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์อะไร  เป็นเสียงที่เรียบนิ่ง  ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่มองไปที่แมกไม้ป่าเขา
ของพ่ออีกด้าน

แย่ตรงที่......ไม่ได้เตรียมใจมา ที่จะถูกถามตรงๆ แบบนี้ เลยขอตั้งสติแป๊บหนึ่ง  ก่อนจะตอบพ่อกลับ

“ครับ...เลิกแล้ว”  ผมว่าเสียงแผ่ว  มันตอกย้ำจนเจ็บไปหมดแม้ที่ผ่านมาจะพยายามทำใจอย่างเต็มที่แล้ว  แต่....มันก็ได้แค่นี้
จริงๆ

“อืมม...”  พ่อว่าแค่นั้น พยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปสนแมกไม้  ชมนกชมไม้  เพียงเพื่อจะรอให้บรรยากาศคุกรุ่นเมื่อครู่มันจางลง

“..........”



.

.

.”พาร์ท.. ยังจำน้องปิ่นได้มั้ย?”  ผมหันมามองพร้อมๆ กับพยายามนึกถึงภาพเด็กผู้หญิงข้างบ้าน  ตัวเล็กๆ ถักเปียยาวจนถึงกลาง
หลัง 

ใบหน้าขาวสะอาด  แก้มสีแดงระเรื่อเต็มไปด้วยเลือดฝาด  แถมยังยุ้ยเสียจนเป็นที่ถูกใจของเหล่าบรรดาเพื่อนผู้หญิงในห้อง แต่ก็
มักจะเดิน

ตามผมต้อยๆ ยามกลับบ้าน  เพราะว่าน่ารัก แต่กลับไม่ค่อยแข็งแรง จริงๆ เป็นที่หมายปองของเด็กผู้ชายหลายคน  แต่มักจะเข้า
มาจีบ

ในรูปแบบที่เรียกว่าแกล้งซะมากกว่า เพื่อจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมขึ้นไปอีกนิด แต่น้องดันกลัว ผมเลยต้องกลายเป็นฮีโร่ผู้พิทักษ์
เจ้าหญิง 

ด้วยความจำเป็น    แต่ก็สนุกดี  ปิ่นอยู่ที่จนถึง ม.ต้น ส่วน ตอน ม.ปลาย ปิ่นย้ายไปเรียนที่เชียงใหม่ตามที่พ่อกับแม่ที่ย้ายงาน

ไปตั้งบริษัทท่องเที่ยวที่นั่น

“ครับจำได้...ทำไมเหรอครับ?”  ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย ว่าเพราะเหตุใดพ่อถึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมา

“ปิ่นน่ะ พอขึ้น ม.ปลายไม่นานก็ป่วย เลยต้องส่งไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ เรียนที่นั่นเลย เพราะการรักษาต้องใช้เวลาที่นาน ตอน
นี้น้องจบ

ปริญญาตรีแล้วนะ เห็นว่าอยากกลับมาอยู่เมืองไทย  แต่พอกลับมาได้ไม่เท่าไหร่ อาการยิ่งกำเริบหนักมากขึ้นกว่าเดิมอีก

เลยต้องนอนประจำที่โรงพยาบาลนั่นแหล่ะ   เห็นหมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะไม่มีแรงบันดาลใจให้ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นได้ พ่อ
กับแม่ของปิ่น

เสียแล้วทั้งคู่ ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่น้องปิ่นกับป้ากันแค่สองคน ขาดทั้งคนดูแล แถมยังต้อง
ดูแลธุรกิจตัวเองอีก

เห็นแล้วก็น่าเวทนานัก  พ่อ...อยากจะไปเยี่ยมน้องสักหน่อยอยากให้พาร์ทไปด้วย อยากให้ไปเป็นกำลังใจให้น้อง เผื่อได้เจอ
เพื่อนเล่นสมัยเด็กๆ

ก็อาจจะนึกถึงวันเก่าๆ น้องเค้าอาจจะมีแรงบันดาลใจให้อยู่ต่อก็เป็นได้  พาร์ทหล่ะว่ายังไงลูก ?  ”

พอพ่อเล่าเรื่องปิ่น  มันก็ทำให้น้องสงสารน้องจับใจ  เพราะปิ่นเป็นคนนิสัยดีมาก น่ารัก มองโลกในแง่ดี มีน้ำใจมากๆ คนหนึ่ง ปิ่น

นั้นก็เหมือน

น้องสาวผมคนหนึ่ง  แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความทรงจำดีๆ ก็ยังไม่เคยจางหาย   

“ได้อยู่แล้วครับ   อยากเจอน้องเหมือนกันไม่ได้เจอกันเป็นสิบปี ป่านนี้โตเป็นสาวแล้ว” ผมว่าขำ  ๆ นึกภาพไม่ออกว่าโตมาจะน่า
รักสักแค่ไหน

ตาโต ๆ ผิวขาวๆ ถึงจะมีร่างกายอ่อนแอ  แต่หากว่ากันอารมณ์ดีอย่างผิดคาด  คงจะเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งกาย และใจ  ได้อย่างไม่
ยากนัก


.
.

ถึงโรงพยาบาลผมกับพ่อเดินไปเรื่อยๆ ตามทางเดินจนถึงเคาร์เตอร์ประชาสัมพันธุ์พ่อหยุดยืนยังไม่ทันเอ่ยถามอะไร พยาบาล
หน้าหวาน


ก็ส่งยิ้มมาให้ พร้อมทั้งแจ้งสถานที่ที่น้องปิ่นอยู่ทันที  ราวกับพ่อผมมาที่นี่เป็นประจำอย่างงั้นแหล่ะ

“มาเยี่ยนคุณปิ่นอนงค์เหรอคะคุณลุง เห็นเธอพึ่งไปที่สวนหย่อมเมื่อสักครู่น่ะคะ ”  พ่อผมยิ้มพยักหน้าน้อยๆ รับทราบ 

“ขอบใจนะหนู ”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง”  ผมหันโค้งพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ เป็นการขอบคุณ ก่อนจะหอบตะกร้าผลไม้เดินตามพ่อไปที่สวนหย่อมตามที่
พยาบาลบอก

ที่สวนมีต้นไม้ใหญ่ไม่มากนัก  ส่วนมากมักจะเป็นต้นไม้เตี้ยๆ ไม้พุ่ม  พื้นปูด้วยสนามหญ้าที่เขียวขจีบ่งบอกถึงความใส่ใจของเจ้า
ของสถานที่


ผมมองสำรวจไปยังลานกว้างแม้จะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็ถือว่ามากพอสมควรในเขตปริมณฑล กำลังมองเพลินๆ สายตาก็ไป
หยุดอยู่ที่

เด็กสาวคนหนึ่ง เธอนั่งอยู่บนรถเข็นใต้ต้นไทร  ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมโรงพยาบาลชอบปลูกกันนัก ...ทั้งที่ในเวลากลางคืน
มันดูวิเวกวังเวง

เสียมากกว่า  ร่างกายที่ดูผอมบางกว่าผู้คนทั่วไปยิ่งเวลาที่ลมพัดผ่านชุดตัวบางของโรงพยาบาลยิ่งลู่เข้าหาตัวเข้าไปอีก ทำผมใจ

หาย

อย่างบอกไม่ถูก  นึกถึงผิวพรรณที่เคยชมพูเปล่งปลั่ง หากตอนนี้ผิวสีซีดๆ นั่น ทำให้รู้ว่าเจ้าของร่างไม่ได้แข็งแรงอย่างที่พ่อเล่า
ผมยาวสลวย

ถูกมัดรวบตึงไว้บนศรีษะ   สายตาเหม่อมองไปยังกิ่งบนสุดของต้นไทร ที่มีนกส่งเสียง จิ๊บๆ อยู่ด้านบน  ไม่ห่างนักมีผู้หญิงวัย

กลางคน

ตัวค่อนไปทางอวบ นั่งอยู่มานั่งใกล้ๆ เมียงมองที่หญิงสาวด้วยรอยยิ้ม    อีกไม่กี่เมตรผมกับพ่อก็จะเดินไปถึงน้อง หากแต่ผู้หญิง
วัยกลางคน


ที่นั่งอยู่ใกล้ กับหันมาเจอก่อน เธอหันมายิ้มให้พ่ออย่างคุ้นเคย  ถ้าผมจำไม่ผิดผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นน้าสาวญาติห่างๆ ของน้าภา
แม่ของปิ่น



“คุณกำพลสวัสดีค่ะ มาตั้งแตเมื่อไหร่คะ?”  น้าสาวหันมาทัก  พร้อมยกมือไหว้พ่อ  พอยกมือรับไหว้ แล้วส่งยิ้มไปให้

“สวัสดีครับ พึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เองพอดีพยาบาลบอกว่าน้องปิ่นมานั่งเล่นในสวนเลยตามมาครับ อ้อนี่ยังจำได้รึเปล่าตาพาร์ทลูกชาย
ผม” พ่อแนะนำ

ผมยกมือไหว้น้าสาวทันที  น้าสาวยิ้มรับ พร้อมกับรับไหว้ 

“สวัสดีครับน้าสาว”

“หวัดดีจ้า โอ้โหเหมือนไม่เจอกันแป๊บเดียวโตเป็นหนุ่มหล่อเชียวนะตาพาร์ท”

“ขอบคุณครับ จริงๆ ก็ไม่ได้หล่ออะไร แค่พอดูได้เท่านั้นหล่ะครับ” 


“ยายปิ่นจำพี่พาร์ทได้รึเปล่าลูกที่หนูวิ่งตามตอนเด็กไง  แถมยังให้พี่เค้ามาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวอีก”  น้าสาวไปหยอกน้องปิ่นที่
ยิ้มกว้างอยู่แล้ว

“จำได้สิคะน้าสาวก็ สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะพี่พาร์ท”

“อืม  ไหว้พระเถอะลูก”

“สวัสดีครับ”

“วันนี้ลุงพาตาพาร์ทมาให้บริการหนูปิ่นเต็มที่เลย อยากใช้อะไรตามสบายเลยนะ  ถ้าตาพาร์ทขัดใจหล่ะก็บอกลุง เดี๋ยวลุงจัดการ
ให้”


“โหคุณลุงก็ ”

“ดูน้องด้วยนะพาร์ท เดี๋ยวพ่อกับน้าสาวจะไปคุยธุระกันเรื่องโรงงานที่สระบุรีหน่อย”

“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวพาร์ทดูแลเอง”  แล้วผู้ใหญ่ทั้งสองก็ผละตัวออกไป  เหลือเพียงผมกับน้องปิ่นแม้จะใจหาย แต่ก็ยังดีใจที่
รอยยิ้มสดใจ

ยังแตะแต้มบนใบหน้าของคนตรงหน้า  ผมลูบหัวน้องเบา ๆ

“เป็นไงไอ้ตัวเล็ก....ให้พี่เข็นรถไปรอบๆ ให้มั้ย?”   

“ก็ดีค่ะ  พี่พาร์ท?”

“ครับ”

“ขอบคุณนะคะ”    ผมเข็นรถเข็นน้องเบาๆ ให้มันเคลื่อนไปเรื่อยๆ ตามทิวแถวร่มไม้ที่พอจะมีให้เห็นอยู่บ้าง  พลางคุยกับน้องไป

เรื่อยๆ

“ทำไมถึงต้องนั่งรถเข็นหล่ะครับ เมื่อก่อนพี่ก็เห็นเราแข็งแรงดีนี่นา ยังวิ่งไล่งับแขนพี่อยู่เลย”

“โหยยยย พี่พาร์ทอ่ะ เรื่องสมัยกระนู้นยังขุดมาแซวปิ่นอีกนะคะ  แต่จะว่าไปเพราะใครมาแกล้งปิ่นหล่ะ”

“ฮ่าๆ  ยังได้เหรอเรา  แค้นพี่ฝังหุ่นป่ะเนี่ย”

“ไม่ใช่ซะหน่อย”


“ยังไม่บอกพี่เลยว่าทำไมถึงต้องมานั่งรถเข็นหือ?”

“ปิ่นไม่ค่อยมีแรงค่ะ เลยเดินไม่ค่อยไหว ปิ่น...เอ่อเป็นโรคลูคีเมียน่ะค่ะหน้าเลยมืดบ่อย”

“ไม่เป็นไรนะไอ้ตัวเล็ก ยังจำตอนที่เราเป็นเด็กได้มั้ย? ตอนนั้นปิ่นยังวิ่งเล่นกับพี่อยู่เลย แถมยังตอนวิ่งหนีไอ้ดุ (หมา)ที่บ้านตา
แช่ม ยังวิ่งเร็ว

กว่าพี่ซะอีก เชื่อพี่นะปิ่นจะต้องหาย จะต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม” 


“ต...แต่ปิ่...ไม่อยากห..าย  คร..อบครัว...ปิ่น.. ฮึกๆ ...ไม่เหลือแล้ว”  เด็กสาวว่าเสียงกลั้นสะอื้น  นัยตาแดงก่ำมีน้ำตาคลอปิ่มอยู่
รอบดวงตา

ผมคุกเข่าลงกับพื้นนั่งลงด้านหน้าหญิงสาว  กอบกุมมือเล็กที่ซูบซีดเหลือเกิน  นั่นอาจจะเป็นเพราะการตรอมใจของอีกฝ่าย ตอน

นี้ความรู้สึกที่

เจ็บจากการถูกทิ้งมันดูช่างเล็กน้อย เมื่อเทียบกับน้อง  .....ตอนที่ไม่เหลือใคร  แม้แต่ชีวิตที่เหลือยังพร้อมจะทิ้งมันเพื่อหนีความ
เจ็บปวดนี้

“มีสิ  ปิ่นยังมีพี่ไงครับ ลืมผู้พิทักษ์คนนี้แล้วเหรอ พี่จะดูแลปิ่นเอง...จนกว่าปิ่นจะหาย อย่าลืมนะครับว่าปิ่นยังมีพี่ มีน้าสาว แล้วก็

ไหนจะ

พ่อของพี่อีก  เยอะพอรึยัง  พี่อยากเห็นปิ่นมีความสุข อยากเห็นน้องสาวคนนี้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม พี่เชื่อว่าพ่อกับแม่น้อง

ปิ่นก็หวังเช่นนั้น”

“พี่พาร์ท  ฮึกๆ   พี่....พ..าร์..ท”   ปิ่นโถมตัวเข้าหาผม ซุกหน้าที่มีแต่คาบน้ำตา ผมโอบกอดน้องไว้แน่น ร่างกายและจิตใจที่
เหมือนจะแตกสลายได้

ทุกเมื่อ ร้องไห้จนสุดเสียง  ใต้ร่มไทรที่ยังมีนกตัวเดิมเกาะอยู่   ภาพเก่าฉายขึ้นมาราวกับดูหนัง ภาพตอนเด็กที่เด็กหญิงตัวเล็ก
เกี่ยวนิ้วมือผม


นิ้วอวบอูมเล็กๆ นั่น ไม่ยอมปล่อยมือไปไหน  ดวงตากลมโตของเด็ก 5 เดือน ที่เอาแต่จับจ้องมาที่ผม  ซ้อนทับกับภาพ สมัย
ประถม เด็กหญิง

ผมเปียยาวไปถึงกลางหลังวิ่งหน้าตูมเข้าเกาะแขนผมแน่น  แถมยังร้องไห้โฮใหญ่ เพราะถูกผู้ชายในห้องแกล้งจนผมต้องตามไป

ขู่

ภาพสมัยมัธยมต้น...ทุกๆ เช้าจะได้ยินเสียงดังผู้หญิงดังเจื้อยแจ้วร้องเรียกอยู่หน้าบ้านเพราะกลัวจะไปโรงเรียนสาย ผมวิ่งกระหืด
กระหอบ

ลงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพาน้องสาวแก้มยุ้ยซ้อนท้ายจักรยานปั่นไปโรงเรียน มันเป็นแบบนั้นทุกๆ วัน จนกระน้องย้ายไปตอน
ช่วงม.ปลาย


การติดต่อก็ขาดหายไป  จนผมได้มาพบกับเธอในวันนี้

.

.

“สัญญานะว่าจะสู้”   ผมยื่นนิ้วก้อยทำท่าสัญญา  ปิ่นที่เช็ดน้ำตาอยู่เมื่อครู่ถึงกับยิ้มกว้างออกมา

“สัญญาค่ะ”





หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 06-09-2012 02:57:05
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-09-2012 03:29:17
 :เฮ้อ:


พูดได้คำเดียว สงสารปัต

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 06-09-2012 04:24:10
คงไม่ใช่พ่อพี่พาร์ทขอให้ปัตเลิกกับพี่พาร์ท เพื่อให้พี่พาร์ทมาดูแลและแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้นะ   o22 o22

แบบรับไม่ได้กับความคิดนี้ ( โดยส่วนตัว) :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-09-2012 06:38:38
สงสารปัตอะตอนนี้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 06-09-2012 06:47:16
สงสารปัต ทำไมเหรออยากเพื่อคนๆหนึ่ง ถึงกับต้องทำลายความรักของคนสองคนเลย

เป็นพ่อประสาอะไร
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-09-2012 08:02:48
ไม่ชอบพ่อพาร์ทเลยที่ทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 06-09-2012 13:47:17
ถ้าพ่อพี่พาร์ทยุให้ปัตเลิกกับพี่พาร์ทนะ จะตามไปตบเลย หึ๊ย (ทำได้หรอ)  :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 06-09-2012 15:34:43
เกิดหยังขึ้นหว่า ปัตเลิกทำไม   o22 :a5:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 06-09-2012 22:01:43
พึ่งตามอ่านคะอยากบอกว่าตอนแรกหวานปานมดขึ้น..แต่ไหงตอนนี้กลับดราม่าซะ
อย่าบอกนะว่าที่ปัตขอเลิกเพราะคุณพ่ออะ !!
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-09-2012 00:55:45
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ   ....  อยากบอกว่า   เจ็บแต่จบ  ค่ะ  ฮ่าๆ
ยังมาม่าได้อีกนะ  แต่ก็นะ......หนักเอาการแหล่ะค่ะ

ยังไงก็จะพยายามไม่ให้ดราม่ามาก (รึเปล่า)   ทำที่ทำได้ แต่เรื่องมันต้องดู
มีเรื่องราวนิดนึงน่ะคะ  หวังว่าคงเข้าใจ  อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 28 เจ็บ.....ที่แตกต่าง P.12 6/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 07-09-2012 12:09:57
ถ้าพี่พาร์ทรู้เรื่องทั้งหมดล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-09-2012 17:28:42
UNIT   29   ทางเลือก

สองเดือนที่แล้ว
.
.
“สวัสดีครับพ่อ ครับเลิกเรียนแล้วครับ ไม่ยากครับ  ฮ่าๆ  อ๋อ..วันนี้พี่พาร์ทไม่ได้มารับครับ  เอ๋...พ่อจะมารับปัตเหรอครับไม่เป็นครับเดี๋ยวปัตนั่ง

แท็กซี่กลับดีกว่าฮะ พ่อจะได้ไม่ลำบาก ตอนนี้ก็พึ่งบ่ายโมงเอง  พ่อมาถึงแล้วเหรอครับ ได้ครับเดี๋ยวปัตไปหา ครับสวัสดีครับ” 

วางสายเสร็จก็รีบเก็บข้าวของลงกระเป๋าเพราะเกรงใจจะให้ผู้ใหญ่รอนานคงไม่ดี กำลังง่วนอยู่กับข้าวของที่ดันทำตกกระจายทั่วพื้นซะนี่

แทนที่จะเร็วคงจะได้ช้าแทน  ก้มหน้าเก็บงุดๆก็มีมือดียื่นหนังสือเล่มหนาที่ผมพึ่งทำตกเมื่อกี้มาให้  เงยหน้าขึ้นก็เจอรอยยิ้มกวนๆ ที่เจอกันอยู่

ทุกวี่ทุกวันน่ะแหล่ะ  ผมยิ้มตอบ

“อ้าวเบียร์” ผมทักขึ้น ปกติผมจะกลับพร้อมเบียร์แวะกินข้าวกันเสร็จก็จะกลับหอพักเลย  ลืมบอกมันว่าวันนี้จะกลับไปคอนโดพี่พาร์ทไอ้คุณเพื่อน

ตัวดีเลยมาโผ่อยู่ที่นี่เก้อซะงั้น

“รีบอะไรว่ะ ปกติไม่เห็นเคยซุมซ่ามเดินผ่านคนอื่นยังไม่รู้สึกตัวแท้ๆ”  ปากมันก็กวนมือก็ช่วยผมเก็บเป็นระวิง

“มะเหงกนิ  กุไม่ใช่ผีนะจะได้เบาล่องลอยขนาดนั้น  แต่วันนี้รีบจริงๆ ว่ะ”  ผมตอบมือก็ขยับเป้ให้เข้ารูปเข้ารอยหลังจากของที่หยิบใส่ทิ่มไป

ทางโน้นทีทางนี้ทีจะกลายเป็นทุเรียนอยู่รอมร่อ  ไอ้เบียร์เงยหน้าขึ้นมาผมด้วยความสงสัยคิ้วขมวดนิด ๆ
“จะไปไหน?”  มันถามผมเรียบๆ แต่ผมกลับอดอมยิ้มไม่ได้เหงาหล่ะสิ  ปกติมันเป็นเก็บตัวมากคนหนึ่งไม่ค่อยมีใครเข้าถึงสักเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไมถึง

มาสนิทกันได้ มากขนาดนี้ เรียกว่าสนิทจนตัวติดกันก็ว่าได้มีมันที่ไหนมีผมที่นั่น ยกเว้นเวลาเรียนอ่ะนะ

“โทษทีว่ะเมื่อวานลืมบอก  วันนี้พ่อพี่พาร์ทมารับกุ พรุ่งนี้ไม่มีเรียน  มึงอ่ะวันนี้จะไปไหนเปล่า”  ไอ้เบียร์ทำหน้าหงอย ผมเลยตบไหล่มันเบาๆ

ปลอบใจ แล้วหันไปตะโกนเรียกเพื่อนในห้องอีกคนที่แอบเล็งมันมานานแล้ว แต่มันไม่ค่อยรู้ตัว

“นก...นกคร๊าบบบบบ  มานี่หน่อย ปัตรบกวนอะไรหน่อยครับ”  ผมตะโกนพอให้ได้ยิน นกค่อยๆ เดินมาหา

“อืม....มีอะไรให้นกช่วยเหรอปัต?”   ผมยื่นมือไปจับแขนไอ้เบียร์ข้างหนึ่ง แล้วอีกมือจับมือนกให้มาวางแหมะ บนแขนไอ้เบียร์อีกที


เห็นนกออกอาการหน้าแดงยกใหญ่ ปกติทำเนียนเก่ง แต่จริงนกขี้อายมาก น่าตาน่ารัก แถมนิสัยดีอ่ะ  ถ้าผมไม่มีแฟนผมจะจีบนกนี่แหล่ะ

“พาเพื่อนปัตไปกินข้าวหน่อยนะครับ  วันนี้ปัตรีบต้องไปธุระไม่ได้บอกมันไว้ก่อน  รบกวนด้วยนะครับ ปัตไปหล่ะรีบ  ฮ่าๆๆๆ”

เป็นพ่อสื่อเสร็จก็วิ่งหูตั้งลงไปหน้าตึกที่พ่อพี่พาร์ทรออยู่  ผมกวาดตามองอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นผู้ชายรูปร่างสมส่วนสวมเชิ้ตสีฟ้า

กางเกงสแล็คสีดำ ในมือหิ้วสูท ไม่ค่อยเห็นพ่อในลักษณะแบบนี้เท่าไหร่รู้แค่ว่าพ่อชอบทำสวน และปล่อยให้พี่ภีมกับพี่พาร์ททำงานแทน

ส่วนพ่อที่นานๆ จะเข้าบริษัท ก็ยังดูดีไม่เปลี่ยน  ผมเดินไปถึงขณะที่พ่อยังหันหลังอยู่

“สวัสดีครับพ่อ  รอนานไหมฮะ?”  ผมยกมือไหว้ตอนพ่อหันหลังมา  พ่อยกมือรับไหว้ส่งยิ้มมาให้ พร้อมกับส่ายหน้าน้อย ๆ

“ไม่นานเลยลูก  ปัตหิวมั้ยไปหาอะไรทานก่อนรึเปล่า พอดีพ่อว่าจะแวะไปเยี่ยมคนรู้จักน่ะ อยู่ชานเมืองไกลหน่อย ปัตไม่รีบใช่มั้ยลูก?”

“ไม่รีบครับ   แล้วแต่พ่อดีกว่าฮะปัตยังไงก็ได้”

“อืม...  งั้นแวะทานกันร้านแถวนี้แล้วกันนะ  ไม่ได้ทานนานแล้วตั้งแต่เจ้าพาร์ทจบ  ...คิดถึงแม่ครัวจริงๆ  หึหึ” พ่อว่าขำ แล้วเดินนำไปที่รถ

.

.

หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็ทำหน้าที่สารถีขับรถไปตามเส้นทางที่พ่อบอกจนถึงโรงพยาบางแห่งหนึ่งที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว

ถ้าเทียบกับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ  ผมขับไปจอดตรงหน้าตึกให้พ่อลงไปก่อนส่วนตัวเองขับไปจอดในส่วนที่ทาง รพ. จัดไว้ให้
แล้วเดินย้อนกลับมาหน้าตึกอีกที  กวาดสายตารอบๆ มองหาพ่อ สักพักก็เห็นพ่อยืนยิ้มกวักมือเรียกผมอยู่  ผมเดินตรงเข้าไปหา


“ป่ะไปกัน พ่อถามเบอร์ห้องเรียบร้อยแล้ว” 

“ห้องอะไรเหรอครับ?”

“ห้อง 808 น่ะ”   ผมพยักหน้ารับทราบ

“พ่อพึ่งเคยมาเหรอครับ”  ผมหันไปถาม  พ่อพยักหน้าน้อย ๆ

“อืม  ....พึ่งรู้เมื่อวานนี้เอง  ปิ่นเค้าเข้าโรงพยาบาลมาหลายเดือนแล้วแท้ๆ”

“ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วเหรอครับ”

“ก็ยังงั้นแหล่ะ.....ปิ่นเค้าย้ายไปอยู่อเมริกาตั้งแต่ ม.ปลาย พึ่งกลับมาเมื่อสองปีก่อน ก็อยู่ที่เชียงใหม่แต่ป่วยหนัก เลยต้องย้ายเข้ามารักษา

ที่นี่แทน   ปิ่นน่าจะอายุมากกว่าปัตสัก 2-3 ปีเห็นจะได้นะ” พ่อหันมามองผมแล้วพิจารณาว่าอายุอานามผมประมาณเท่าไหร่
“อ้าวเหรอครับ  ผมนึกว่าจะเด็กว่าผมซะอีก”  ผมว่า  พ่อยกมือตีหัวผมปุ๊ ๆ  อย่างเอ็นดู


“ติ๊ง”   เสียงลิฟท์เปิดออกบอกให้ทราบว่าถึงชั้น 8  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  พวกเราเดินกันต่อไปยังห้อง 808  ผมมองประตูห้อง

ที่บอกเบอร์ห้อง 805 แสดงว่าอีกแค่ 3 ห้องเราก็จะเดินไปถึงห้อง 808    กำลังจะก้าวเดินต่อก็เห็นบุรุษพยาบาล และพยาบาล หลายคน

วิ่งกรูกันเข้าห้องไป  ประตูเปิดอ้าค้างไว้  ได้ยินเสียงหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมาว่า  “ไม่หายใจ”   พยาบาลทำการปั๊มจนได้ยินเสียงพูดดัง

ขึ้นมาว่า  “หายใจแล้ว” จากนั้นรถเข็นผู้ป่วยที่มีหญิงสาวผิวซีด ผมยาวสลวย แต่รูปร่างกลับผอมจนน่าตกใจ  ก็ถูกเข็นอย่างเร่งด่วนไปยัง

-ห้องฉุกเฉิน-    โดยมีผู้หญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากห้องเร่งรีบเพื่อจะตามให้ทันรถเข็นคันนั้น  ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลเป็นสาย

สะอื้นไห้อย่างไม่อายสายตาใคร ร้องออกมาอย่างเปิดเผย  แม้แต่ผมที่มองดูภาพนั้นยังทั้งอึ้งทั้งตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า อดรู้สึกเจ็บ

ตามไปด้วยไม่ได้  พ่อสาวเท้าก้าวอย่างรวดเร็วเอื้อมมือไปแตะไหล่ะผู้หญิงวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้า   ใบหน้าที่แสดงสีหน้ากังวลของ
และเจ็บปวดของทั้งสองฝ่าย ทำให้รู้ว่าทั้งคู่น่าจะรู้จักเป็นอย่างดี ทำได้แค่ปลอบใจกัน



“สาว...ไม่เป็นไรนะ  เดี๋ยวหมอเค้าต้องช่วยปิ่นได้แน่”  พ่อว่าปลอบใจผู้หญิงตรงหน้า

“ฮือๆๆๆ  ”  เธอพยักหน้าตอบ เพราะคงพูดออกมาไม่ไหว  ยังทำได้แค่ร้องไห้มองตามร่างที่พึ่งห่างออกไป ก่อนจะสาวท้าวก้าวตามไปต่อ

.

.

หน้าห้องฉุกเฉิน.....  มีแต่เพียงสายตาอาทรร้อนใจที่ถูกส่งมองเข้าไปในห้องนั้นไม่ขาดสายไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างกัน  นั่งกันอยู่เงียบ ๆ แต่ผม

กลับรู้สึกว่า เสียงหัวใจของแต่ละคนกำลังเต้นระทึกด้วยความคาดหวัง   หวัง..........ที่จะทำให้อีกคนยังมีลมหายใจต่อไป  น้าสาวหยุดร้องไห้

ไปแล้ว  เสียงแว่วๆ ภายในห้องฉุกเฉินที่เจ้าหน้าที่หมอพยาบาลกำลังทำงานอย่างขวักไขว่ดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ  แม้จะแทบไม่ได้ยินเสียง

หากแต่กลับทำให้หัวใจกระตุกเป็นระยะ  นานนับชั่วโมงที่เรานั่งรอกันอยู่อย่างนั้น สังเกตุเห็นสีหน้าอิดโรยของแต่ละคนก็ลุกขึ้นยืน

ลงไปด้านล่างหาของอุ่นทั้งกาแฟ ทั้งชา และโอวัลติน เพราะหน้าห้องฉุกเฉินแต่ละคนดูหนาวสะท้านอย่างบอกไม่ถูก กลับมาถึงชั้นบน

ผมตรงเข้าไปหาน้าสาวก่อน ยื่นของอุ่นๆ ทั้งสามถุงตรงหน้า

“ดื่มอะไรร้อนๆ ก่อนนะฮะ จะได้สดชื่นขึ้น”  น้าสาวเงยหน้ามามองผมเล็กน้อย ยิ้มจางๆ มาให้ แล้วเลือกหยิบถุงโอวัลตินร้อน ที่ด้านในใส่

แก้วกระดาษแบบกันความร้อนบรรจุโอวัลตินหอมกรุ่นอยู่ภายใน

“ขอบใจนะหนู” 

“ไม่เป็นไรครับ”  ผมยิ้มรับ  ก่อนจะเดินไปหาพ่อ  แล้วยื่นถุงชาไปให้  พ่อตบไหล่ผมเบาๆ ยิ้มมาให้

“ขอบใจลูก”  ผมยิ้มรับ  แล้วนั่งลงข้างๆ พ่อ  ทุกคนดื่มกันไปเงียบๆ จนหมดไม่นานนัก  ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก  พร้อมด้วยแพทย์

ผู้ทำการรักษา ออกมายืนด้านหน้า สีหน้าเคร่งเครียดมองตรงมาที่เราทั้งสามคน แม้จะมีเหงื่อพุดพรายเต็มตัว 

“ใครเป็นญาติผู้ป่วยครับ?” น้าสาวถลาเข้าไปหา

“ดิฉันค่ะ  ดิฉันเอง”

“ครับ.....ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ   แต่คงต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินอีกสัก 2วัน เพื่อตรวจเช็คอาการอื่นๆ”

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ  ขอบคุณมากค่ะ ทำไมแกถึงเป็นแบบนั้นหล่ะคะ  ทำไมอยู่ดี ๆ ถึง...กำเริบได้ขนาดนี้”  น้ำเสียงขาดห้วงไป

“เป็นเพราะเซลล์มะเร็ง ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นเร็วมากกว่าปกติ แล้วไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ซึ่งสร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว

และเกร็ดเลือด จนเกิดอาการหน้ามืด เป็นลมร่วมด้วย  ส่วนเรื่องการหยุดหายใจกระทันหันอาจจะเป็นอาการช็อคซึ่งต้องตรวจหาสาเหตุ

อีกที   เอ่อ...อยากให้ทางญาติทำใจไว้หน่อยก็ดีครับ เนื่องจากการขยายตัวของมะเร็งที่รวดเร็วมากกว่าปกติ คนไข้พร้อมจะไปทุกเมื่อ
อยากให้ทางญาติดูแลอย่างใกล้ชิด อยากให้ลองถามความต้องการของคนไข้หากได้ทำสิ่งที่ชอบอาจจะช่วยยืดระยะเวลาให้นานเพิ่มขึ้น

ก็เป็นได้”  คุณหมอกล่าวจบน้าสาวก็แทบทรุด ดีที่ผมประครองน้าสาวไว้ทัน เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นทันที

“คุณหมอหมายความว่ายายปิ่น ...จะต้องตายเหรอคะ?  ...ฮือๆ ...   แกมีเวลาเหลือสักเท่าไหร่เหรอคะ?”   น้าสาวว่า เสียงสะอื้นไห้

“เท่าที่ดูอาการไม่น่าเกิน 2 ปีครับ  หมอต้องขอตัวไปดูคนไข้รายอื่นก่อนนะครับ” คุณหมอกล่าวเรียบๆ ก่อนจะเดินตามพยาบาลที่มาเชิญคุณหมอ

น้าสาวถึงกับลมจับทรุดตัวลงกับพื้นดีที่มีผมประครองไว้ก่อนไม่อย่างนั้น... คงได้หัวกระแทกพื้นจนบาดเจ็บเป็นแน่  ผมกับพ่อพาน้าสาว

กลับไปยังห้องผู้ป่วย ให้น้าสาวนอนพัก  .....     
“ขอโทษนะปัต พ่อพามาเจอแต่เรื่องยุ่ง  ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้”  พ่อเอ่ยเสียงเบา เพราะเกรงว่าจะทำให้น้าสาวตื่น

“ไม่เป็นไรครับ  ดีแล้วครับที่พาปัตมาด้วย มีอะไรจะช่วยกันได้  ผมว่าถ้าผมไม่มาด้วยผมว่าพี่พาร์ทมารู้ทีหลังจะเป็นห่วงเอานะครับ” 

“ขอบใจนะลูก...เดี๋ยวพ่อขอตัวลงข้างล่างสักพักนะ อยากไปสูดอากาศ ยืดเส้นยืดสาย สักหน่อยน่ะ คนแก่ก็แบบนี้ พ่อฝากดูสาวด้วยนะลูก” 

“ไม่ต้องห่วงครับพ่อ ..... เดี๋ยวปัตจะดูแลให้”   ผมหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านได้สักพัก....  ได้ยินเสียงขยับตัวของน้าสาว ที่ชันตัวลุกขึ้นบนเตียง

มือข้างหนึ่งยกขึ้นบีบขยับตัวเองเบาๆ  ผมลุกขึ้นไปหาหยิบพิมพ์เสนแบบน้ำที่มักจะพกติดตัวเสมอยื่นให้  น้าสาวรับไปแล้วสูดดมแก้วิงเวียน

น้ำตาสองข้างเริ่มหยดลงข้างๆ แก้ม  สองมือยื่นมากอบกุมมือผมแน่น  ผมได้แต่มองการกระทำทุกอย่างอยู่อย่างนั้นไม่ได้ว่าอะไร

“พาร์ทช่วยป้าหน่อยนะลูก  ช่วยป้าหน่อย...ฮือๆ  ป้าขอร้องช่วยแต่งงานกับน้องได้ไหมลูก  น้องรักพาร์ทมาก รักมานานแล้ว 

ตอนนี้..น้องจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว  ป้าขอร้อง....ฮือๆ ช่วยให้ยายปิ่นมีความสุขในนาทีสุดท้ายของชีวิตด้วยเถอะนะ  ....ฮือๆ..

จะให้ป้ากราบก็ได้นะลูก   ช่วยแกทีสงเคราะห์แกทีเถอะลูก .....ไม่รู้จะทำยังไงที่จะให้ยายปิ่นมีความสุขนอกจากวิธีนี้  นอกจากพาร์ทแล้ว

ป้าไม่เห็นหนทางอื่นแล้ว  ....ช่วยน้องทีนะลูก  ..ฮือๆ  ....ช่วยน้องทีให้น้องได้มีความสุขจนวาระสุดท้าย”  น้าสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นจนโยน

ผมดึงน้าสาวมากอดไว้แน่นๆ  เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ น้าสาวคงรักพี่ปิ่นเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง  ถึงได้เจ็บราวจะขาดใจขนาดนี้   

ความรัก.....ที่บริสุทธิ์ขนาดนี้   แล้วผมจะเห็นแก่ตัวดึงพี่พาร์ทเก็บไว้เป็นของตัวเองได้ไง  .....  เพื่อเห็นแก่  “ความรักของแม่”  ที่พร้อมจะทำทุก

อย่างเพื่อ “ลูกรัก”  ผมเองรู้จักดี......แม่ผมก็เสียสละมาแล้ว  แม่ยอมอุ้มท้องผม และยอมจบชีวิตที่เลิศหรูแห่งวงการมายา เพียงเพื่อจะให้

“ลูก”  อย่างผมมีสิทธิ์ลืมตาดูโลก  แม่ทิ้งทุกอย่าง...ก็เพียงเพราะความรัก ที่ประเมินค่าไม่ได้  ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าความรักทั้งมวล

ยอมทุกอย่าง....แม้กระทั่งศักดิ์ศรี   ขอให้พ่อแต่งงานด้วยแม้ว่าพ่ออ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว.....ก็เพราะอยากให้ผมมีครอบครัวที่สมบูรณ์ 

ถึงตอนนั้นจะไม่ได้รักพ่อ แต่ตอนนี้ผมรู้ว่าแม่รักพ่อหมดใจเลย  เพราะพ่อดี.......ดีเกินกว่าจะปฏิเสธความรักที่พ่อมอบให้ได้ 

แล้วตอนนี้หล่ะ .....  ผมจะต้องตอบยังไง   รู้สึกสับสนอย่างบอกไม่ถูก

 “น้าสาวครับ ผมไม่ได้ชื่อพาร์ทครับ” น้าสาวผละตัวออกงงๆ  หลุบตามองต่ำ  เหมือนๆ จะอายที่ขอร้องผมทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันสักนิด

“น้าขอโทษ.....ขอโทษทีนะลูก”  เช็ดคราบน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้เหือดแห้ง  ผมเหลือบไปเห็นประตูห้องเปิดอ้าอยู่เล็กน้อย ค่อยๆ ปิดลง

จนสนิท  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร......พ่อคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้ว      ไม่นานนักพ่อกลับเขามาอีกครั้งพูดคุยกับน้าสาวจนสบายใจขึ้น

ถึงได้ขอตัวกลับ ผมขับรถกลับตรงไปที่คอนโดพี่พาร์ท ระหว่างไม่มีบทสนาใดๆ  มีแต่ความเงียบงันจมจ่อมอยู่กับความคิดของตัวเอง 

.

.

.

“พี่พาร์ท...ถ้าบังเอิญว่ามีเรื่องให้เราต้องห่างกันไปสองปี พี่จะลืมผมมั้ย?”  ผมถามเสียงอู้อี้กับอกพี่พาร์ท ขณะที่เรานอนกอดกันอยู่บนเตียง

เรื่องวันนี้ทำผมสับสน ผม.....ควรจะเลือกทางไหน  ทั้งสองทางมันเจ็บ  ทางหนึ่งมันต้องเจ็บหากผมต้องจากหัวใจผมไป แต่อีกทางถ้าผมอยู่

มันก็รู้สึกเจ็บที่ผมเหมือนกำลังเมินเฉยต่อความรักที่บริสุทธิ์นั่น  ทั้งเจ็บทั้งรู้สึกผิด ...   ทำยังไงดี

“ทำไมถามยังงั้นหืม?  พี่ไม่ยอมปล่อยปัตให้หนีไปหรอก”  พี่พาร์ทว่ากดจูบแผ่วเบาที่หน้าผากผมแล้วละออก ผมหันไปสบตา นัยตาคู่คมของ

พี่พาร์ท ความรักที่มันเอ่อล้น....มันส่งออกมาจากดวงตาคู่นั้น ผมเลื่อนมือไปลูบแก้มพี่พาร์ทเบาๆ

“ตอบก่อนได้มั้ยครับ....ปัตอยากรู้นะนะ ตอบหน่อย  ถ้าวันหนึ่ง....” ผมกลืนน้ำลายลงคอ  เหมือนมีก้อนแข็งที่มันจุกแน่นจนพูดไม่ออก
“ถ้าวันหนึ่งเราต้องห่างกันไป  ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร  จะลืมปัตมั้ย?”   ผมถามเสียงแผ่วในใจลุ้นระทึก  ทั้งเจ็บปวด ทั้งเสียใจ  แต่จะให้ทำยังไง

อีกคน......กำลังจะตาย  จะทำยังไงได้ 

“ไม่ลืมครับ...ทำยังไงก็ไม่ลืม  ทั้งชีวิตนี้พี่จะไม่รักใครอีกแล้ว  อย่าทิ้งพี่นะปัต”  พี่พาร์ทว่าเสียงสั่น  จ้องลึกเข้าไปในดวงตาผม จนต้องซุกหน้า

ลงกับอกกว้างเพื่อหลบสายตาคมที่จ้องมองมา  กอดกันแน่น...แน่นกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านมา

“ปัตรักพี่พาร์ทนะฮะ”  อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอ พยายามฝืนไม่ให้น้ำตาไหล  ค่อยๆ ยื่นริมฝีปากไปสัมผัสริมฝีปากหนาของอีกฝ่าย

อย่างเอาใจ พี่พาร์ทสอดมือจับท้ายทอยผมมั่น ก่อนจะส่งริมฝีปากเร่าร้อนมาชิมความหวาน สัมผัสอบอุ่นค่อยๆ ลามเลียไปทั่วทั้งตัว

บทรัก...ที่ร้อนแรงและหวาบหวาน  ผมเองก็เลือกจะจดจำมัน   ตั้งแต่วันนี้.......ขอเวลาแค่สองเดือนรอผมจบให้ผมได้มีกำลังใจบ้างสักหน่อย

.

เพราะรู้แล้วว่าผมเลือกที่จะตอบน้าสาวยังไง  ....  คนตรงหน้าช่างแสนดี ความอบอุ่นที่มีผมอยากแบ่งปันให้พี่ปิ่นบ้าง  อยากให้พี่ปิ่น

ได้มีรอยยิ้ม....มีความสุขเหมือนผมตอนนี้  จนวาระสุดท้ายของชีวิต  อย่างน้อย...หัวใจพี่พาร์ทที่อยู่กับผมมันก็จะอยู่ตลอดไป  ผมยังมีชีวิต

ผมมียังมีโอกาสได้มอง  ได้รับรองการมีตัวตนของคนตรงหน้า.......  แม้ว่าจะต้องปล่อยมือ  แต่ผมเชื่อนี่มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

เท่าที่ผมจะทำได้  อย่าโกรธปัตนะครับที่ปัตเอาแต่ใจตัวเอง  .....  แต่นี่อาจจะเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งของชีวิตของเราก็ได้ 

ถ้าพี่....แต่งงานได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ....  อาจจะดีกว่าอยู่กับปัต  ขอโทษ....ที่ผมเลือกที่จะจากไป  เกิดมาได้รับความรักจากพี่

....มันก็ดีเท่าไหร่..........



ขอบคุณครับ........ที่รักกัน



หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-09-2012 17:39:11
มันเป็นเช่นนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 08-09-2012 17:59:21
เศร้าอะ ปัตเป็นคนดีเกินไปแล้ว

ยังไงน่าจะถามพี่พาร์ทก่อนนะ รอตอนต่อไปค้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Singleman ที่ 08-09-2012 18:08:33
อ๊ากกกก มันกลืนไม่เข้า คายไม่ออกเลย

สงสารทั้งคู่ และห็ปิ่นด้วย

เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 08-09-2012 18:11:34
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-09-2012 18:48:38
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 08-09-2012 19:31:43
พวกผู้ใหญ่เห็นแก่ตัว ไม่นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลัง คิดจะทำให้คนที่มีเวลา2 ปีมีความสุข แล้วคนที่รักกันต้องแยกกัน2ปีจะอยู่ยังไง ไม่คิดถึงใจเขาใจเราเลย ในเมื่อคนที่เป็นทุกข์หนึ่งในนั้นเป็นลูกของตัว คิดถึงแต่คนที่จะจากไป แต่ไม่คิดถึงคนที่อยู่ คนที่อยู่เขายังจะอยู่กับเราอีกนานไม่คิดถึงความรู้สึกของเขาบ้าง

ปล รออ่านตอนจบที่เดียวตอนที่เหลือคงรับไม่ได้ ( ส่วนตัวไม่ชอบแบบนี้)
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 08-09-2012 21:14:53
สงสาร น้องปัต :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-09-2012 21:38:07
คนดี ก็ควรจะมีอะไรดีๆ รออยู่จริงมั้ย?

^_________^
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-09-2012 22:41:13
ทำไมปัตตัดสินใจแบบนี้ ทำไมไม่ลองปรึกษาพี่พาร์ทก่อน มันอาจจะมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ก็ได้ เฮ้อออออออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 08-09-2012 23:12:17
ง่า  :sad4:

ปัตทำไมทำอย่างงี้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 09-09-2012 07:25:53
ปัตคิดเองเออเอง ปัตคิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วพี่พาร์ทมีความสุข

ปัตเห็นใจคนอื่น แต่ปัตลืมที่จะเห็นใจคนที่รักปัตอย่างพี่พาร์ทนะ

แล้วถ้าพี่พาร์ทรู้ความจริงขึ้นมาก เรื่องมันอาจจะแย่กว่าที่คิดก็ได้

ปล.ไม่ชอบที่ปัตทำแบบนี้ พี่พาร์ทไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้ใครต่อใคร พี่พาร์ทก็เป็นคนที่มีหัวใจนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 09-09-2012 10:22:53
อืม.... อย่าว่าไรเลยนะ
เราว่ามุกนี้นี่.... ปัตโหดร้ายเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 29 ทางเลือก P.12 8/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: thejaoil ที่ 09-09-2012 22:01:25
ไม่ค่อยเห็นด้วยกะปัตเหมือนกันแฮะ มันทำให้เจ็บทุกคน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 11-09-2012 01:46:18
UNIT 30 เวลา...

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าของวันหยุด .............ดันตัวลุกขึ้นบนเตียง มองทุกอย่างรอบๆ ตัว  น่าแปลก....ทุกอย่างมันเหมือนเดิมจนน่าใจหาย

กลิ่นจางๆ และความรู้สึกอบอุ่นลอยกลุ่นอยู่ทั่วห้อง  ไม่ว่าผมจะเดินไปมุมไหน  สิ่งของทุกอย่างถูกจัดไว้เป็นระเบียบเช่นเดิม 

แบบเดิมที่น้องเคยทำ  ร่องรอยที่เหลืออยู่ทำให้ผมรู้สึกราวกับถูกโอบกอด ถูกจ้องมอง สนใจ และใส่ใจจากใครคนหนึ่งทั้งที่ผ่านมาสองเดือนครึ่ง

แล้ว  แต่ผมกลับไม่เคยพบหน้าน้องอีกเลย มีเพียงผลงานที่น้องยังทำฟรีแลนให้กับทางบริษัทอยู่  ผมสัมผัสได้แค่ตัวอักษร แม้กระทั่งภาพวาด

จนแอบคิดถึง คิดไปเองรึเปล่าว่าภาพมันให้อารมณ์แปลกดูมันขุ่นมัวในจิตใจอย่างบอกไม่ถูก  ภาพนั้นองค์ประกอบหลักที่ต้องการจะสื่อ

ก็มีแค่ตึกของร้านขนมชื่อดัง พร้อมแบนด์เก๋ไก๋ ติดอยู่บนป้ายร้าน มีผู้คนมายืนต่อแถวกันขวักไขว่ กลิ่นอาหารหอมยวนใจจนแต่ละต้องสูด

ลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อจะดอมดมความหอมของขนม แต่........กลับมีอยู่มุมหนึ่งที่ผมคิดว่าอาจจะไม่มีใครมองเห็นม้านั่งตัวยาว

มีชายคนหนึ่งสวมหมวกนั่งชนเข่าอยู่บนนั้น  ภาพเล็กๆ ที่ไม่ได้เป็นจุดสนใจ แต่ผมกลับเห็นมันอย่างชัดเจน นี่น้องกำลังบอกใบ้


อะไรรึเปล่าว่าน้องก็เหงาไม่ต่างจากผม  หากคิดย้อนกลับไปก็ยังมีอีกเรื่องที่มันเป็นเรื่องน่าบังเอิญอย่างน่าประหลาด อยู่ดีๆ พี่ภีมก็โทรมา

บอกว่าจะส่งแม่บ้านมาดูแลห้องให้  เพราะทนความรกรุงรังไม่ไหว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เห็น เคยจะใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี่สักนิด

สามารถนอนบนโซฟา ทั้งดีหัวก็หนุนทั้งแขนตัวเองและกระป๋องเบียร์ไปด้วยแท้ๆ  แถมอาหารที่ทำเตรียมไว้ให้รสมือมันแทบจะเหมือนน้องไม่มีผิด

เหมือนจนเกินไป จนทำให้ผมเจ็บร้าวเล็กๆ แต่น้องจะทำสิ่งเหล่านั้นเพื่ออะไรหล่ะ  ในเมื่อตอนนี้ก็คงมีคนที่น้องอยากเอาใจอยู่แล้ว

ทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง ไล้มือเบาๆ บนพื้นที่ว่างข้างๆ ตัว ที่เคยมีใครบางคนอยู่ตรงนั้น..........คิดถึงเหลือเกิน


.

.



“ติ๊ด ๆๆ   ติ๊ด ๆๆ   ติ๊ด ๆๆ  ”  ผมสะดุ้งนิด  ๆ เอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในมือถือ ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปอีกรอบเมื่อไหร่  นึกขึ้นได้ว่าต้อง


ไปเยี่ยมปิ่น  เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว วันนี้พ่อไม่ว่างผมต้องไปคนเดียว อีกสิบนาที จะหกโมงแล้วถ้าขืนออกช้ากว่าเจ็ดโมงนี้

น้าสาวคงไปทำธุระไม่ทันแน่  ทั้งๆ ที่ผมอุตส่าห์รับปากแล้วแท้ๆ ดันเผลอหลับไปซะนี่  วิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำลวกๆ เป็นครั้งแรกในรอบสิบปี

หยิบเสื้อกับกางเกงเข้าชุด  แล้วออกจากห้องไป.

.

.

“ว่าไงน้องสาวพี่  วันนี้เป็นไงบ้างคะ?”  ผมเดินตรงไปที่สวนหย่อมหน้าของ รพ. ตามที่เค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่ 

“หวัดดีค่ะพี่พาร์ท  วันนี้ก็ดีค่ะ”  ปิ่นหันมายิ้มให้ผม ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวเช่นเดิม ผมขยี้หัวน้องเบาๆ  แล้วนั่งลงบนม้านั่งใกล้ปิ่น

“น้าสาวไปแล้วเหรอครับ?”

“ไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”  ปิ่นยิ้ม เป็นรอยยิ้มแบบเด็กๆ ทั้งสีหน้าและแววตา  น่าเสียดาย....ที่เวลาปิ่นเหลือน้อยเต็มที 

“วันนี้น้าสาวบอกว่าต้องไปเซ็นต์เอกสารของบริษัทที่สระบุรีหน่ะค่ะ  วันนี้คงกลับค่ำๆ”  แววตาน้องหม่นลงนิด แต่ก็ยังพยายามยิ้มเจื่อนให้ผม


“เหงาเหรอครับ....ไม่เป็นไรนะวันนี้พี่ว่างจะอยู่เป็นเพื่อนเราทั้งวันเลย”  พูดเสร็จก็เกือบหลุดขำ กับท่าทีตื่นเต้นดีใจจนเกินเหตุนั่น
“จริงเหรอคะ  โหพี่พาร์ทใจดีที่สุดเลย”  ปิ่นยิ้มแป้น  ดึงมือผมไปจับแน่น

“ทานอะไรรึยังหืม?”   ปิ่นส่ายหน้าเบาๆ  แทนคำตอบ

“หิวมั้ยคะ?  เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรมาให้ทาน” 

“ยังไม่หิวเลยค่ะ  อีกสักพักนะคะขอเวลาสักครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทานไม่ลงจริงๆ”  ปิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด  ผมพยักหน้ารับ 

นับวันอาการของปิ่นดูจะทรุดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการไม่อยากอาหาร อาจเป็นเพราะจิตใจของน้องที่เริ่มหดหู่ ผมว่าน้องรู้ดีว่าตอนนี้

สภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างไร  ผมถอนหายใจบางๆ ด้วยความเป็นห่วง  แต่อย่างน้อย....รอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้านี่ก็ยังแสดงให้เห็นว่า

ปิ่นยังมีความสุขอยู่บ้าง  ผมเข็นรถปิ่นเดินใต้ร่มเงาของต้นไทรไปเรื่อย ๆ เราผลัดกันเล่าเรื่องราวต่างๆ ของหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาสู่กันฟัง

คำถามที่ช่างสงสัย  เสียงหัวเราะที่เล็ดรอดจากปากเล็กๆ ของน้อง หรือแม้แต่รอยยิ้มจางๆ จากริมฝีปากคนตรงหน้า 

“พี่พาร์ทคะ?”

“ว่า?”

“หิวอ่ะ”  ปิ่นหันมาพูดอ้อน ๆ เหมือนเด็กๆ ใบหน้าย่นยู่เข้าหากัน แก้มพองลม  มือลูบท้องตัวเองป้อยๆ ผมหลุดขำเบาๆ

“ครับ  ป่ะไปทานข้าวกัน”  ผมเข็นรถปิ่นกลับมาที่ตึกแวะอาหารที่เคาร์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แล้วค่อยพาปิ่นกลับมายังห้องพัก

ผมค่อยๆ อุ้มปิ่นให้นอนลงบนเตียง แม้อีกฝ่ายจะร้องห้ามเสียงหลง ผมก็ไม่ใส่ใจ  ร่างกายของปิ่นเบาโหวงจนน่าใจหาย ไม่ว่าแขน ขา

หรือลำตัว ไม่รู้สึกถึงความนุ่นหยุ่นแบบคนที่มีเนื้อหนัง น้องผอมบางจนแทบเป็นหนังหุ้มกระดูก  ผลจากการไม่ยอมทานอาหารเป็น

เวลานาน  หลายเดือนมานี่ น้าสาวเล่าให้ฟังว่า ปิ่นทานเข้ามื้อละสามถึงสี่ช้อนเท่านั้น แล้วร่างกายจะเอาสารอาหารที่ไหนมาบำรุงให้ร่างกาย

มันแข็งแรงได้  ถ้าถามว่าทำไมปิ่นยังมีชีวิตอยู่จนป่านนี้ คงต้องขอบคุณไอ้กระปุกสีใสๆ ที่แขวนอยู่บนราวเหล็กข้างเตียง ไม่ว่ายาหรืออาหาร


ปิ่นก็รับมันผ่านทางนี้เท่านั้น 

“ขอบคุณค่ะพี่”  ปิ่นยกมือไหว้  ผมยิ้ม   วางน้องแล้วน้ำตาแทบไหล หัวใจวาบโหวงอย่างบอกไม่ถูก ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ  เห็นปิ่นทำตาแดง

เหมือนจะร้องไห้  จ้องมองมาที่ผม แต่คลายกับว่าดวงตากลับเหม่อลอยไปถึงใครอีกคน

“ไม่เป็นไรๆ  พี่เต็มใจครับ  คิดถึงพ่อเหรอ?”   น้องพยักหน้าเบาๆ  จำได้ตอนเด็กก็มีปิ่นป่วนจนต้องเข้า ร.พ. ทีไร น้าเพิกก็จะเป็นคนอุ้มน้อง


ขึ้นลงเตียงทุกครั้ง  ผมปรับเตียงให้สูงขึ้นเพื่อให้น้องนั่งได้ถนัด  แล้วเปิดทีวี ปิ่นหันไปมองทันที ท่าทางสนอกสนใจ  ไม่ได้ออกไปข้างนอก

นานแค่ไหนแล้ว.....ไม่อยากจะคิด  ถ้าเป็นผมจะทนไหวไหม ....จะสู้ไหวรึเปล่าที่ต้องเจอกับโรคที่รุมเร้า ต้องเจอกับการสูญเสียคนอันเป็นที่รัก

ทั้งสองคนในคราวเดียว ต้องรับภาระเป็นผู้บริหารทันทีหลังจากพ่อแม่เสีย  อยู่อย่างไร้สิ่งยึดเหนี่ยวในการดำดงชีวิต  และสุดท้ายก็ถูกจำกัด

อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียกว่าโรงพยาบาลมานานหลายเดือน จนต้องมอบอำนาจให้น้าสาวเป็นผู้มีอำนาจในการกระทำการแทนทุกอย่าง

หยดน้ำตาน้อยๆ ไหลคลอนัยตาสวย  ปิ่นยกมือขึ้นเช็ดแผ่วเบา ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม  เพื่อที่จะบอกว่าไม่เป็นไร


“อย่ากังวลค่ะ   ปิ่นไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น  ที่มันกลั้นไม่ไหวเพราะบางส่วนของพี่พาร์ทมันคล้ายพ่อจนเกินไป มันเหมือนเมื่อกี้ไม่ใช่พี่พาร์ท

เหมือนกับว่า.....ฮึก.................................................................ยืนอยู่กับปิ่นตรงนี้” เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ปิ่นหลุดสะอื้น ริมฝีปากบางเม้มแน่น

หายใจลึกๆ อยู่ครู่ใหญ่ นัยตาไหวระริก ผมลูบผมน้องเบาๆ เพื่อปลอบใจ ก่อนที่ปิ่นจะค่อยๆ กลืนก้อนสะอื้นลงคอ  กระพริบตาปริบๆ ไล่

น้ำตาให้หายกลับไปด้านใน   ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอย่างเดิม   โชคดีที่ปิ่นเข็มแข็ง........มากกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก

.

.


“ก็อกๆ ก็อก อาหารมาส่งแล้วค่ะ” เสียงเคาะเชิงขออนุญาติหน้าห้อง ก่อนประตูจะถูกเปิดเข้ามา ถาดรถเข็นอาหารของพยาบาล

“โจ๊กหมู กับผัดกระเพราไก่+ไข่ดาวค่ะ เรียบร้อยนะคะ”  พยาบาลหยิบอาหารทั้งสองอย่างวางบนโต๊ะ ข้างๆ หัวเตียง

“ขอบคุณมากครับ”  ผมโค้งหัวน้อยๆ คุณพยาบาลถึงกับยิ้มหวาน ก่อนจะออกไป   

“ทานเลยมั้ยครับปิ่น” 

“ค่ะ”  ปิ่นยิ้มน้อย

“พี่ป้อนนะ” ผมยื่นมือไปจับผมที่ละใบหน้าน้องขึ้นทัดหู  ปิ่นเอียงอายเล็กน้อย  ผมตักโจ๊กร้อนๆ ขึ้นมาเป่า ยื่นไปตรงหน้าปิ่น


“อ้ามม”   ผมลากเสียงยาวแซว  ๆเหมือนป้อนเด็กตัวเล็ก  น้องยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก ส่ายหน้าขำ ๆ   แต่ก็ยอมอ้าปากทานข้าวแต่โดยดี

.
.

“ไม่ไหวแล้วค่ะ  ปิ่นอิ่มแล้ว”  น้องส่ายหน้าน้อยๆ  ผมหยิบชามโจ๊กไปวาง น่าดีใจที่น้องทานได้มากกว่าทุกวัน  ผมได้แต่นึกในใจอยากให้

รางวัลเด็กดี 

“ครับ งั้นพอแค่นี้นะ”   เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ พร้อมยาหลากหลายขนาดส่งให้ปิ่น  น้องยื่นมือมารับ

“ไม่เป็นไรคะ ปิ่นจัดการเอง พี่พาร์ททานเถอะค่ะ  เดี๋ยวจะเย็นชืดไม่อร่อย”  ผมพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะหันไปจัดการอาหารตรงหน้า


แค่ตักเข้าปากคำแรก...ทำไมถึงคิดถึงใครอีกคน  รสชาดอาหารที่อร่อย    และถ้าจะอร่อยกว่านี้ก็คงจะดีถ้ามีปัตอยู่ข้างผม

ค่อยๆ กลืน ทีละคำๆ ดูมันช่างยากลำบาก  ความคิดถึงมันบั่นทอนหัวใจผมเหลือเกิน  เงยหน้าหันไปสบตาปิ่น น้องยิ้มมาให้  ผมก็ยิ้ม

ตอบกลับไปบางๆ   ....พึ่งเข้าใจ   ว่ามันหนักหนาแค่ไหน.....กับการแค่กลืนอาหาร  สำหรับหัวใจ....ที่ยังรอคอยใครบางคน

“ไม่อร่อยเหรอคะ?”  ผมส่ายหน้าเบาๆ   หันไปก้มหน้าก้มตาทานต่อไป  พยายามจะลืม...ความรู้สึกเมื่อครู่ไป ปิ่นมีเรื่องให้เศร้ามากอยู่แล้ว

อย่าให้ผมเป็นอีกเหตุผลหนึ่งให้น้องรู้สึกหม่นหมองในจิตใจอีกเลย  ....             ในที่สุดก็หมดจนได้.... 

“ปิ่นอยากอาบน้ำ รบกวนพี่พาร์ทพยุงปิ่นลงได้มั้ยคะ?”   ปิ่นว่าเสียงเบา  ผมลุกขึ้นจะอุ้มน้องลง  แต่เจ้าตัวขัดขืน 


“แค่ช่วยพยุงก็พอค่ะ  ปิ่นไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย  แค่แรงน้อยไปนิดเดียวเอง”  น้องหันมาว่าค้อนๆ ผมทำตามโดยดี  ยิ้มกว้างไปให้

“ก็มันเร็วกว่านี่นา” 

“ไม่เป็นไรค่ะ  ช่วยปิ่นบ่อยๆ ก็เป็นง่อยพอดี”


“คร๊าบครับ  รับทราบๆ   ต่อไปจะปฏิบัติตามคำสั่งแต่โดยดีครับผ๊ม”  ผมยกมือขึ้นตะเบ๊ะ แซวๆ น้อง  ปิ่นตีเบาๆ ที่ไหล่ผม  น้องเคลื่อนตัว

ผมกำลังจะเอื้อมมือไปพยุง  ไอ้ตัวดีหยุดกึก หันมาชี้นิ้วชี้ที่หน้าผม

“อย่านะคะ  เมื่อกี้ปิ่นพึ่งบอกว่าไม่ได้เป็นง่อย  หึหึ”  ผมหน้าเหวอชะงักมือที่ยื่นไปค้างไว้  ก่อนจะหัวเราะฮากันยกใหญ่

“ปิ่นอาบน้ำไปก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปหากาแฟดื่มสักแก้วก่อน” 

“เชิญค่ะ”  น้องผายมือออก เหมือนบริกรที่กำลังเชิญแขกให้เข้าไปในร้านอาหาร  ผมโค้งตอบเล็กน้อย ก่อนตีเบาๆ ที่หน้าผากอีกฝ่าย


แล้วเดินออกมา  ...... จริงๆ ก็ไม่ค่อยจะอยากดื่มเท่าไหร่ ก็แค่ข้อแก้ตัวเท่านั้น  ผมว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่จะอยู่กับน้องสองคนตอนน้องอาบน้ำ

คาดว่าอีกฝ่ายคงจะต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง  ปิดประตูเสร็จ ก็เดินมาที่เค้าเตอร์พยาบาลของชั้นนั้น  ฝากพยาบาลช่วยดูน้องให้  แล้วผมก็

ลงมาด้านล่าง  เมื่อไม่รู้จะทำอะไรเลยไปนั่งดื่มกาแฟสดในร้านภายในบริเวณใกล้ๆ กับโรงอาหาร  ไม่ถึงสิบห้านาที ผมก็กลับมาใต้ตึกที่ปิ่นพัก

อีกครั้ง สวนทางกับหมอที่รับผิดชอบน้องเลยทักทายสอบถามอาการของปิ่น

“สวัสดีครับคุณหมอ”


“อ้าว คุณพาร์ทสวัสดีครับ มาบ่อยเหมือนกันนะครับเนี่ย”

“ครับ ว่างๆ ก็มาเลย อาการน้องปิ่นเป็นอย่างไรบ้างครับ”

“พอจะมีเวลามั้ยครับ ผมว่าเชิญที่ห้องผมดีกว่า”  ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามคุณหมอไปติดๆ

“เชิญนั่งครับ”

“ขอบคุณครับ”  คุณหมอก้มลงค้นแฟ้มเอกสารอะไรบางอย่างก่อนจะบางมันลงบนโต๊ะ  ด้านหน้าระบุชื่อ นางสาวปิ่นอนงค์ เทพลักษณ์

“ขอบอกตรงๆ เลยนะครับ ตอนนี้มะเร็งลุกลามเร็วมาก มันเร็วเป็นสองเท่าจากช่วงที่แล้วผมได้เปลี่ยนยา แต่ร่างกายเธอไม่ตอบสนองกับยา

ทางเราได้ให้เคมีบำบัดไปแล้ว แต่ก็เสี่ยงมาก  คุณปิ่นเธอร่างกายอ่อนแอมาก แถมร่างกายเธอรับอาหารไม่ได้เลย”

“เดี๋ยวนะครับ....คุณหมอบอกว่าเธอไม่ทานอาหารเลย หมายความว่ายังไงครับเมื่อสักครู่ผมพึ่งทานข้าวพร้อมน้องไป”

“นั่นก็จริงครับ ...แต่หลังจากนั้นพยาบาลรายงานมาว่าเธอก็จะอาเจียรออกมา  เพราะร่างกายเริ่มไม่ยอมรับอาหารแล้ว ที่ยังทานข้าวคงเพื่อ

ให้ญาติๆ สบายใจ”  คุณหมอกล่าวด้วยน้ำเสียงติดจะกังวล

“แล้วเธอจะมีชีวิต.......เหลืออีกนานเท่าไหร่ครับ?”  ผมถามเสียงแผ่วเบา  น้ำเสียงขาดห้วง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอหนักๆ รู้สึกหัวใจทำงานหนัก

อย่างไม่รู้ตัว นั่งจ้องมองไปที่หมอ   

“ถ้ามะเร็งยังขยายตัวผิดปกติอย่างนี้   อย่างเร็วผมไม่ทราบ แต่ถ้าโชคดี อาจจะอยู่ได้ถึงปลายปีนี้ครับ”   ผมนิ่งอึ้งไป แค่หกเดือนเป็นอย่างมาก

มันช็อคซะจนผมทำหน้าไม่ถูก  เผลอขบกรามตัวเองแน่น  ก้มหน้าลงมองพื้นรู้หยาดน้ำตามันคลอหน่วยรอบดวงตา


“พ..พ่อผม...กับน้าสาวรู้เรื่องนี้รึเปล่าครับ”  ความรู้สึกจุกแน่นทั่วทั้งอก  เจ็บจนแทบทนไม่ไหว  น้อง...กำลังจะตายงั้นเหรอ

“ทราบแล้วครับ คุณพ่อคุณท่านให้ผมรายงานเป็นระยะ และรับเป็นเจ้าของไข้ ส่วนคุณสาวผมแจ้งคนแรกแล้วครับ  เวลาที่เหลืออยู่ผมอยากให้

ญาติหรือคนรู้จักช่วยทำให้เธอมีความสุข ที่สุดในตอนนี้”

“ผมพาเธอออกไปเที่ยวได้มั้ยครับ?”


“ได้ครับ แต่อย่าให้เธอออกกำลังมากจนเกินไป อย่าให้อยู่ในที่แออัด หนาวหรือร้อนจัด เพราะเธอเลือดน้อยอาจจะเป็นลมเอาง่ายๆ

ใช้ผ้าปิดปากด้วยก็จะดีมากครับ ผมไม่อยากให้เธอติดเชื้อเพิ่ม ”   เสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นพยาบาลมาตามคุณหมอให้ไปรักษาคนไข้

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” หมอค้อมศรีษะน้อยๆ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ 

“ครับ”  เรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน  อดใจหายไม่ได้.....  เดินออกจากห้องคุณหมอแล้วนั่งจุ้มปุกที่นั่งสำหรับรอเรียกตามคิว  ไม่อาจเผชิญหน้า

กับน้องด้วยความรู้สึกแบบนี้  ทำยังไง.....ปิ่นถึงจะมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-09-2012 02:02:09
 :เฮ้อ:


ไม่เข้าใจปัตเหมือนกัน ว่าทำไมต้องทำแบบนี้


หวังว่าพี่พาร์ทคงไม่คิดจะแต่งงานนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 11-09-2012 02:08:28
แต่งก็ดีนะ สะใจะกะอะไรหลายอย่างดี
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: mulli ที่ 11-09-2012 02:15:31
 :pig4: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด. P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 11-09-2012 02:46:47
Special เก็บสบู่ ~แก้เครียด~



ขณะที่เรากำลังดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน  ผมหันไปมองว่าที่ผู้บริหารกำลังโยนสบู่ก้อน ฮะ...สบู่ก้อนที่ยังไม่แกกระทั่งกล่อง

พี่พาร์ทโยนสไลด์เลียดไปกับพื้น ก้อนแล้วก้อนเล่าโดยไม่มีทีท่าว่าจะเก็บ  ผมมองด้วยอาการมึนงง เมื่อสามวันที่แล้ว

ไปเหมาซื้อสบู่ก้อนเป็นโหลๆ เพื่อจะเอามาโอนเล่นแบบนี้เหรอ?

"พี่พาร์ททำอะไรฮะ"  พี่พาร์ทหันมายิ้มกว้างแล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ขอเน้นนะฮะว่าเรียบเฉย ก่อนจะหันไป

ปฏิบัติการโยนสบู่ต่อ  เป็นวันที่สาม

"โยนสบู่ไง  เห้ย...ชนก้อนนั้นด้วย เจ๋งว่ะ"   พี่พาร์ทตบมือชื่นชมตัวเอง  โดยมีผมมองตามอย่างไม่เข้าใจ  จนก้อนสุดท้าย

โยนเสร็จหมดไปสองโหล พี่แกก็นั่งนิ่ง เปลี่ยนหันมาดูทีวีซะงั้น

"........"  ผมนั่งมองต่อไปว่าจะเก็บมั้ย

"จะไม่เก็บเหรอฮะ?"  ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม  เมื่อเห็นว่าพี่แกไม่ขยับผมเลยหันไปมองหน้า

"เก็บให้หน่อยสิ นะครับ"  พี่พาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกไปเำก็บ

.
.
.
ดูทีวีเสร็จผมกำลังจะไปอาบน้ำ ....  พี่พาร์ทเดินตามเข้ามา

"วันนี้อาบด้วยกันนะ"  พี่พาร์ทว่า

"ไม่เอาอ่ะครับพี่พาร์ทอาบช้า ปัตง่วงแล้ว" 

"นะครับๆ นะๆ วันนี้รับรองอาบไม่นานชัวร์"

"ก็ได้ฮะ"

การอาบน้ำดำเนินไปด้วยดี ....อาบน้ำเสร็จผมมายืนหน้ากระจกบานใหญ๋ในห้องน้ำ  พี่พาร์ทยืนซ้อนด้านหลัง

กำลังเช็ดผมให้กับผม   พลันสายตาก็เหลือไปเห็นสบู่อีกก้อนที่ยังไม่ได้แม้แต่แกะห่อพลาสติกออก  ผมส่ายหัวน้อยๆ

ด้วยสัญชาตญาณที่ถูกฝึกมาตลอดสามวัน  ผมก้มลงเก็บสบู่   หยิบมันขึ้นมา   แต่.....ผมเงยหน้าขึ้นไม่ได้

รู้สึกมีมือกดอยู่  ก่อนแท่งร้อนๆ ของอีกฝ่ายจะถูไถ กับร่องหวานของผม

"อ๊ะ"  พี่พาร์ทกดทีเดียวมิดด้าม ค่อยๆ ขยับสะโพกช้าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-09-2012 03:30:32
 :a5:

พี่พาร์ท !!!!!!!!!



 :jul1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 11-09-2012 06:58:27
รู้เหตุผลแล้วว่าปัตทำแบบนั้นทำไม
แต่ปัตไม่สงสารพี่พาร์ทหรือตัวเองบ้างเหรอ
เราก็ดันไปโทษพ่อของพาร์ทซะได้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 11-09-2012 10:43:19
เฮ้อ จะสงสารปื่นหรืออะไรดีเนี่ย แง้ ปัต ทำไมทำแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พี่พาร์ทจะรู้ความจริงแง้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 11-09-2012 11:47:37
อืมมมมมมม เก็บสบู่ อิพี่พาร์ทซื้อสบู่มายกโหลเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะซินะ

โดนอีกจนได้ลูกชั้น 555555555555555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 11-09-2012 12:30:03
จริงๆ ตอนพิเศษยังไม่จบนะคะ  พอดีง่วงมาก เบลอๆ เลยกดลงไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็น จะมาลงต่อให้ครบ 100% ค่ะ

ขออภัยค่ะ  รับรอง แซ่บ----เว่อร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 11-09-2012 14:08:45
หวังว่าพี่พาร์ทคงจะไม่แต่งงานหรอกนะ  :sad4:

ตอนพิเศษช่างน่ารักซะเหลือเกิน  :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-09-2012 02:07:10
ขออภัยนะคะ มาช้าไปหน่อย   o18 o18 o18

ขอให้เพลิดเพลินกับตอนต่อของการเก็บสบู่นะคะ

 :impress2: :impress2: :impress2:



ต่อ~


"อึก......อ่าาาาา"   ไอ้ตัวเล็กเกร็งเครียดไปทั่วทั้งตัวเมื่อผมสอดใส่  สีหน้าเหยเกมองช้อนขึ้นมาจ้องผมตาเป็นมันจากด้านล่าง

ภายในบีบรัดแน่น  ...  จนน้ำผมแทบแตกเลยต้องหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวผ่านช่องหวานด้านหลังเพื่อให้น้องได้ปรับตัว 

แล้วเปลี่ยนมาโอ้โลมไอ้ตัวเล็กให้คล้อยตามกิจกรรมรักสุดหรรษาไปด้วยกัน  ปล่อยมือที่กดตัวน้องไว้

เปลี่ยนมาเป็นรั้งไอ้ตัวเล็กให้มาเกาะพื้นที่ว่างข้างอ่างล้างหน้า  ซุกจมูกคมสูดดมซอกคอหอม ไล่ขบไปทั่วลำคอขาว

ดูดดุนแรงๆ จนรอยแดงเป็นจ้ำๆ โชว์หรา ขบเบาๆ ที่ไหปลาร้าแล้วดูดดุนไปอีกที  แล้วเปลี่ยนเป็นลากลิ้นไล้เลีย

ตั้งแต่ไหปลาร้ายันใบหู  สอดลิ้นแยงจนทั่วทิ้งท้ายด้วยการดูดติ่งหู  ไอ้ตัวเล็กครางหวีดหวิวขาอ่อนยวบจนผมต้องรั้งเอวเอาไว้

“อื๊อออออออ  พ...พี่พาร์ท  อ่าาาาา~”     

มืออีกข้างนวดเฟ้นอยู่บนเม็ดสีชมพูหวาน ที่ตอนนี้แข็งเป็นไตสู้มือ ละมือออกแล้วเลื่อนสอดเข้าใต้คางดันให้หันมารับจูบจากผม

แทรกลิ้นร้อน ๆ ควานหาความหวาน ไล่ต้อนลิ้นเรียว ..ที่ตอนนี้หันมาตวัดเกี่ยวลิ้นผมตอบ จนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

รู้แต่ว่าหวาน...จนซาบซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน   เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ........ 

ผมผละริมฝีปากออก ต่างฝ่ายต่างหายใจหอบถี่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

ดวงตาเยิ้มหวานชวนให้ทำรัก    ผมกระตุกยิ้มนิดๆ ......   ชื่นชมกับผลงานตรงหน้า   ปล่อยมือที่จับปลายคางมน

ค่อยลากมือลงต่ำ ไล้สัมผัสแผ่วเบาผ่าน ลำคอ หน้าอก ท้องน้อง จนกระทั่งถึง..........แก่นกายร้อนๆ กึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย

บดขยี้ส่วนหัวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น  ขณะที่ริมฝีปากก็จูบซับที่ไหล่ลาด ขบกัด ดูดดุน ให้หวั่นไหว  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน

ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่าน  ทิ้งตัวพิงมาด้านหลัง ผมกระชับมือที่โอบรอบเอวไว้ตอนแรกให้แน่นขึ้น  ส่วนมืออีกข้าง

ขยับรูดรั้งรวดเร็ว จนไอ้ตัวเล็กเผลอจิกมือแรงๆ ที่ต้นขาผม  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สะโพกหวานขยับเคลื่อนไปตามแรงมือ

“อ๊ะ  อ่าาาาาา  พ...พี่พาร์ททททททททท”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก พ่นน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักออกมาเต็มมือ  ทิ้งตัวหมดแรงอยู่ใน

อ้อมกอดผม  หายใจหอบกระเส่า  ผมจับน้องให้พิงตัวไปด้านหน้า  กดจูบซับเหงื่อทั้งลำคำและใบหน้า สอดมือจับปลายคางอีกฝ่าย

ให้หันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก

“ปัต...ดูสิว่าปัตเซ็กซี่ขนาดไหน ”  ผมกระซิบเสียงพร่าเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา  ใบหน้าน้องแดงซ่านที่ลามเลียไปถึงใบหู

นัยตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความหวาน จากกิจกรรมรักเมื่อครู่   ริมฝีปากแดงจัดบวมเจ่อ อกบางกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ

สะโพกกลมกลึงเหมาะมือ  ขาเรียวขาว  ปัตน้อยก็มีขนบางนุ่มมือ บอกผมทีได้ไหม.....จะมีส่วนไหนที่ไม่เซ็กซี่เร้าใจผมบ้าง 
 
“แล้วยังงี้...จะห้ามไม่ให้พี่ทำบ่อยๆ ได้ยังไง   ดูนะครับ ปัตดูนะ  ว่าเวลาพี่รักปัตแล้วปัตน่า  -ทำรัก-  ขนาดไหน”  ผมกระซิบ

ข้างหู สายตาโลมเลียทั่วทั้งตัวน้องผ่านกระจกเงาด้านหน้า   ดันไหล่น้องให้แนบกับพื้นมากขึ้น จากนั้นจับสะโพกหวานไว้มั่น

สาวลำออกจนเกือบสุดอย่างเชื่องช้า แล้วกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรง จนน้องตัวโยกคอน เรียกความเสียวซ่าน

จนสะโพกหวานแอ่นเข้าหาเพื่อรับสัมผัส ซ้ำๆ ก่อนกระหน่ำแทง ทั้งเร็วทั้งรัว  เร่งจังรักให้ร้อนดั่งเปลวไฟ ที่ทั้งเร่าร้อน และหวาบหวาม

“อ๊ะ  ...อ๊ะ.....อ๊าาาาาาาาาา”   ไอ้ตัวเล็กกรีดเสียงหลับตาปี๋   

“อืมมม  ปัต....อย่าห..ลั.บ....ตา...ครับที่รัก   ดูเร..า  รักกันสิครับ  อ่าาาาาา”    น้ำเสียงขาดห้วง

“อื๊อออออออ  พ...พี่...พี่พาร์ททททท”

“เยี่ยม  ...ที่รัก มองพี่นะครับ  อือออออออ” 

“อ๊ะ อ๊า  ระ..เร็ว...  ไม่.....ไหวแล้ว . อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.”  ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยลาวาร้อนอีกครั้ง

ใบหน้าขาวร้อนผ่าว  ริมฝีปากแดงซ่านน่ากดจูบกำลังเผยอน้อย ๆ เพราะหอบเหนื่อย  อ่า~  ไม่ไหวแล้ว

แถมช่องด้านหลังที่บีบรัด...............   ทำผมอดใจไม่ไหว กระแทกต่อเน้นๆ  เสียงดัง ป๊าบๆๆ ดังต่อเนื่อง 

ร่างกายผมเกร็งกระตุก ........ค่อยๆ ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าตัวน้อง  สองแขนโอบรัดน้องจนแน่นตรึง

ทิ้งตัวพิงทาบทับตัวน้องไม่ได้ถอมแก่นกายออก มา  .......  ตาสบตากัน.ผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า

........แล้วส่งยิ้มให้กันและกัน.............................. อบอุ่นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่ไม่มีวันแยกจาก

“รักปัตนะครับ.....ที่รัก”   ผมกดจูบแก้มหอมเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  หัวเราะคิกคัก .....แล้วเบนสายตาหนีผมแล้วหันกลับมาใหม่

สบตาผมในกระจก  ก่อนจะหลบเปลือกตาลงต่ำ  อมยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแทบปริ  แล้วเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง

ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัด~  ใกล้เคียงกับลูกตำลึง  ทำผมอมยิ้มไปด้วยจ้องมองกิริยาอาการของคนตรงหน้า

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาสบตาผมตรง  เอียงหน้าแล้วกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม  ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

โน้มตัวไปกระซิบประโยคสุดท้ายที่ข้างหู.......ที่ทำเอาอีกฝ่ายตะลึงจนน่าขำ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ขออีกทีนะ”
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-09-2012 07:23:25



 :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-09-2012 09:27:35
ตอนปัจจุบันหดหู่  :z3: :z3:

ตอนพิเศษเลือดท่วม  :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: lollipopz ที่ 12-09-2012 16:43:25
อ่านรวดเดียวจบแล้ววววววว เย่ๆ
ตอนแรกหวานเว่อร์ ทำไมตอนนี้ดราม่าน้ำตาท่วมจอ  :o8:
รออ่านตอนต่อไปงับ ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 12-09-2012 16:47:26
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย UNIT 30 เวลา... P.13 11/9/2012
เริ่มหัวข้อโดย: :E-pro P-at: ที่ 12-09-2012 19:37:53
~เก็บสบู่...ถูหลัง!!!เฮื้อกกก!!o_O!!
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-09-2012 22:17:35
ขออภัยนะคะ  ยังไม่อยากเขียนต่อ ง่ะ

...  แบบว่าเขียนเองก็เครียดเองอ่ะค่ะ  ตอนนี้เลยเครียดๆ

ขออภัยที่ำทำค้าง  ขอทำใจ  อาจจะแบบส่งตอนพิเศษมาเรื่อยๆ ก่อนนะคะ

แต่จะแต่งต่อไวๆ   หรือใครอยากถามตัวละครตัวไหนของเรื่องลองถามมานะคะ

จะตามเค้ามาตอบให้ 

-------------------------------------------------  ขอโทษฮับ  (กราบงามๆ )
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-09-2012 22:35:10
สบู่  ยี่ห้ออะไรคะ
เก็บแล้วเลือดท่วมห้องน้ำ :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 22-09-2012 22:32:37
ขออภัยนะคะ หายหน้าไปนานไปหน่อย  แต่งไม่ออกจริงๆ  :sad4: :sad4: :sad4:
 คือแก้หลายรอบมาก   :serius2: :serius2:
เพราะอ่านแล้วมันไม่ใช่อย่างที่ต้องการจะสื่อ    ผ่านตอนนี้ไปน่าจะไม่หายไปนาน ค่ะ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:   อย่าลืมให้กำลังใจกันบ้างนะคะ  เค้าขอร้อง   o22 :laugh: :3123:




Unit...31 
 
 
 
"คุณพาร์ทออกไปแล้วครับ"

"ขอบคุณครับลุง"  ผมวางสายจากลุงยามลง   คราวนั้นหลังจากให้ค่าจ้างเล็กน้อย เป็นสินน้ำใจตอบแทน ไม่ใช่ว่าแกเรียกร้องหรอกครับ

แต่ผมเกรงใจ  ที่จะให้แกโทรแจ้งว่าพี่พาร์ทออกจากห้อง หรือกลับมาแล้ว  ก็เฉพาะวันที่ผมจะเข้าไปเท่านั้น

.

.

 


"มีปัญหากันเหรอครับ?"  ลุงยามถามผม เมื่อครั้งที่กลับมาแล้วขอให้โทรบอกเวลาที่พาร์ทไม่อยู่

"นิดหน่อยครับ ไม่ได้มากอะไร คือผมต้องย้ายไปอยู่ข้างนอก แต่ก็อยากเข้ามาทำความสะอาด ดูแลความเรียบร้อยให้บ้างนะครับ

พี่พาร์ททำงานยุ่งไม่ค่อยมีเวลา"


"แล้วทำไมคุณปัตไม่อยู่ที่นี่เหมือนเดิมหล่ะครับ?" ผมเงียบไปพักหนึ่ง .... รู้สึกหัวใจหล่นวูบทำตัวไม่ค่อยถูกทุกทีที่เจอคำถามนี้

“...................”    คิดอยู่ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไง  สุดท้ายก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ

"ไม่สะดวกฮะ ....ปัตได้งานที่ไกลจากที่นี่มาก  ให้ไปกลับทุกวันไม่ไหว พอออกไปแล้วก็เป็นห่วงพี่พาร์ทน่ะครับ เลยต้องกลับมาบ้าง

ถ้าปัตบอกว่าจะมาพี่พาร์ทคงไม่ได้ไปทำธุระอีก ผมเลยไม่อยากบอก เดี๋ยวจัดห้องนิดๆ หน่อย ๆ ก็จะกลับแล้วฮะ"  ผมตอบ

พยายามให้น้ำเสียงราบเรียบที่สุด ซ่อนสายตาที่มันพาใจสั่นไหวตั้งแต่แรกไม่ใครใครสังเกตเห็น

"ก็ได้ครับลุงจะช่วย เห็นแก่ว่าคุณปัตเป็นเด็กดีมาตลอดนะครับ" ลุงยามว่า   


"ขอบคุณมากนะครับลุง"  ผมยกมือไหว้ พร้อมกับแบงก์สีเทาใส่มือให้ลุงยาม แม้ลุงจะปฏิเสธว่ามากเกินไป แต่ผมก็คะยั้นคะยอจนสำเร็จ

.

.

 

แผนการนี้พ่อกับพี่ภีมรู้ดี .... ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาพ่อ  เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังพร้อมการตัดสินใจ ไม่จำเป็นต้องปิดบังในเมื่อพ่อเองก็รู้ดีอยู่แล้ว

“ปัตแน่ใจแล้วเหรอลูกที่เราจะทำอย่างนี้?  ถึงพ่อเองจะเห็นด้วย  แต่ปัตรู้ใช่ไหมว่าเราเองจะเจ็บ? จะไม่เสียใจทีหลังแน่ใช่ใหม?”


“ครับ...ปัตตัดสินใจแล้ว  อย่างน้อยผมก็อยากให้พี่ปิ่นมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลืออยู่” ผมมองตอบพ่อ ด้วยแววตาที่ขมขื่น

แม้มันจะต้องเศร้าสักเพียงไหน  อย่างน้อย..... ก็ยังพอมีที่เหลือให้ผมยืนอยู่บ้าง  ที่สำคัญ .....มันพอที่จะเหลือให้พี่ปิ่นยืน

“ข..ขอบใจมากลูก ...พ่อ....ขอ..บใจแทนปิ่นด้วย”  พ่อว่าเสียงเคลือดึงผมไปกอดแน่น ๆ  ผมกอดตอบซุกหน้าเข้าหาอกกว้าง

ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอบ้างจะเป็นไรไหม  เพราะมันเกินที่ผมจะกลั้นไหว  น้ำตาค่อยไหลซึมออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำ  ห้ามไม่อยู่

พ่อลูบหัวผมเบาๆ เพื่อปลอบใจ  เรากอดกันนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นเนิ่นนานก่อนจะผละออก

.

.

“ปัตขออะไรอย่างได้มั้ยครับ...แค่อย่างเดียวก็เกินพอ” ผมเอ่ยเสียงแผ่ว  มันมองหน้าใครไม่ไหว รู้สึกเจ็บร้าวไปถึงลิ้นปี่ ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น

กับคำขอสุดท้าย  ....  เพียงเท่านี้ที่จะเป็นความสุขของผม   สิ่งเดียวที่พอจะทำให้เดินก้าวต่อไปข้างหน้าไหว ในฐานะ “ไม่ใช่คนรัก”

.

.

.

“ขอให้ปัตได้ดูแลพี่พาร์ทนะฮะ ยังไงก็ได้ไม่ต้องเจอก็ได้ แต่ขอ...ให้ปัตเป็นส่วนหนึ่งที่จะดูแลพี่พาร์ท  แค่นั้นได้มั้ยฮะ?” เหมือนเสียงคำอ้อนวอน

ผมเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาอบอุ่นของพ่อที่ยังมองมาที่ผมด้วยท่าทีที่ห่วงใย มือหนาๆ ลูบมาเบาที่หัวผม

“ได้สิปัต ....ได้อยู่แล้วลูก   ขอบใจปัตมากนะลูก”   พ่อยิ้มน้ำตาคลอหน่วย    ....  ผมยิ้มตอบทั้งที่น้ำตามันล้นอาบแก้ม 

.

.

กลับมาถึงหอเมื่อไหร่ไม่รู้.... สองขาที่พาก้าวเดินมาเรื่อยๆ ไม่รู้จะไปไหนสุดท้ายก็มาหาไอ้เบียร์  เคาะประตูอยู่สี่ห้าครั้ง ประตูตรงหน้า

ก็เปิดออก พร้อมใบหน้าที่ดูแปลกใจจนน่าใจหาย  เบียร์เอื้อมมือมาดึงผมเข้าไปกอดแน่น.....พร้อมกับเสียงเรียกชื่อให้สติผมกลับมา

“ปัต.......”    ไอ้เบียร์ดึงประตูปิด  แล้วทิ้งตัวให้ด้านหลังพิงผนัง ส่วนด้านหน้าปล่อยให้ผมได้พึ่งพิงต่อไป ไม่มีคำพูดใด มันปล่อยให้ผม

ร้องไห้เงียบๆ อยู่อย่างนั้น  ทำแค่กระชับกอด และลูบมือหนาๆ ที่หัวผมอย่างปลอบโยน

“มึงไหวไหม  ถ้าไม่ไหว.....ก็พอเถอะวะ  ถ้าพี่เค้าจะตายมันก็ไม่ใช่ความผิดมึง  ไม่จำเป็นที่มึงจะต้องรับผิดชอบชีวิตใคร  กุไม่อยากเห็น

มึงเจ็บแบบนี้”  น้ำเสียงอบอุ่นที่ลอยอยู่ใกล้ๆ หูไม่ห่าง  หากแต่สิ่งที่มันพูดเมื่อกี้มันได้ผ่านการตัดสินใจผมมาแล้ว  ผมส่ายหน้าช้าๆ

“คนจะตายทั้งคนนะเว่ย   ... มึงจะให้กุมองเฉยๆ อย่างนั้นเหรอวะ  ความสุขในช่วงเวลาที่เหลือไม่เท่าไหร่... มึงจะมองเฉยๆ จริงๆน่ะ เหรอ”

ผมเอ่ยถามเสียงแผ่ว  ไม่รู้ว่าเสียงตัวเองหายไปไหน ถึงแทบไม่ได้ยินเสียงที่เปล่งออกมา

“แต่มึงเจ็บนะปัต  มึงเจ็บ”  ไอ้เบียร์พูดปลอบ  ผมพยักหน้ายอมรับกับอกมัน  ปล่อยให้ความอ่อนแอที่แปลเปลี่ยนเป็นน้ำตา ค่อยๆ ไหลผ่านม่านตาออกมาเงียบๆ

“อือ.....กุเจ็บ  เบียร์...กุเจ็บ  แต่กุ...................ยังไม่ตาย”

.

.

.

ผมก้าวมายืนหน้าห้องหลังจากเจ้าของห้องออกไปไม่นาน   ไขกุญแจก้าวเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่ไม่ได้มา  ......ราวกับผมห่างหาย

ไปแสนนาน คิดถึง....จนอยากจะเดินเข้าไปกอดทุกอย่าง กลิ่นอายของพี่พาร์ทยังลอยกรุ่นอยู่ทุกอณุของห้อง  ภาพเก่าๆ ทับซ้อนไปมา

ภาพผมกับพี่พาร์ทนั่งทานข้าว นั่งดูทีวี  เล่นเกมส์ ทำงาน  หยอกล้อ  หรือแม้แต่ .......ภาพที่เราทำรักกัน ได้แต่เม้มปากแน่น   

เพราะผมตัดสินใจแล้ว.......ถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้น  ความอบอุ่นในดวงตาพี่พาร์ททุกครั้งที่มองกลับมา  มีความสุขแทบล้นเอ่อ

คิดถึง.....แทบจะทนไม่ไหว    แต่......ก็ต้องทนให้ไหว  .สภาพห้องตอนนี้แม้จะแตกต่างจากเดิมมากเพียงใด ข้าวของกระจัดกระจายระเกะระกะ

แฟ้มเอกสารหลายแฟ้มยังเปิดอ้าค้างไว้บนโต๊ะทำงาน ณ มุมหนึ่งของห้อง เสื้อผ้าที่ถูกใช้แล้ววางพาดบนโซฟา 3-4 ชุด  เครื่องใช้ทุกอย่าง

ถูกวางอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ที่ของมัน   ยกเว้น......เครื่องครัว  ที่ดูเหมือนไม่มีใครแตะต้องสัมผัสมันตั้งแต่ผมจากไป พี่พาร์ทไม่ใช่คนแบบนี้ 

แบบที่จะทิ้งทุกอย่างในห้องให้รกรุงรัง  ออกจะเจ้าระเบียบนิดๆ เสียงที่ดุเวลาผมไม่เก็บของแม้จะน้อยครั้ง แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าอีกฝ่าย

ใส่ใจต่อการดูแลห้องหับขนาดไหน  ผมหยิบเสื้อผ้าหลายชุดที่พาดอยู่โซฟาขึ้นกอดเบาๆ สูดดมกลิ่นกายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนจะลอบยิ้มน้อยๆ

“คิดถึงพี่พาร์ทนะครับ”  ผมเอ่ยเสียงแผ่ว ราวกับพี่พาร์ทมีตัวตนอยู่ตรงนี้  ลูบไล้เบาๆ สักพักก็เอาเข้าไปเก็บใส่ตระกล้าผ้าในห้องนอน

นั่งลงบนเตียง.....ที่เคยอบอุ่นขนาดไหนตอนที่เราเคยนอนกอดกัน  ทั้งที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ไล้มือไปทั่วบริเวณที่เคยเป็นของผม

ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นในตอนเช้า จะมีพี่พาร์ทที่ยังหลับตาพริ้ม เพียงผมแตะบางเบาที่ใบหน้าอีกฝ่ายมักจะตื่นอย่างง่ายดาย 

ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาที่ผมทั้งที่ดวงตาปรือแทบหลับ กุมมือผมแน่นๆ ก่อนจะจับมันวางทาบที่แก้มของตัวเอง แล้วหันมาสบตาผมนิ่งๆ 

“รักปัตนะ”   คำพูดสั้น ๆ ที่ทำเอาผมอายม้วนไม่เป็นท่า  ได้แต่ยิ้มแก้มแทบปริแตก  ใบหน้าร้อนผ่าวเสียจนคิดว่าน่าจะกลายเป็นลูกตำลึงสุก

“ปัตก็...รักพี่พาร์ทฮะ” ผมกระซิบเสียงแผ่ว บอกอีกฝ่ายให้ได้เข้าใจ  ว่าไม่ได้เป็นอยู่ฝ่ายเดียวซะหน่อย  เป็นภาพที่ดูดีเหลือเกินสำหรับผม

พี่พาร์ทมักจะดึงผมไปกอด จูบเบาๆ ที่หน้าผาก และพยายามจะสานต่อจากจูบ โดยมีผมที่ขัดขืน และชิ่งหนีก่อนเสมอ ภาพต่างๆ ดับวูบลง

ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอหนักๆ...  ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่  สะบัดหัวสองสามทีกลับเรียกสติกลับมาคืนมา  ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งเหม่อ

ผมควรจะจัดการกับทุกอย่างตรงหน้าให้เรียบร้อย  ก่อนที่.........เจ้าของหัวใจผมจะกลับมา   ผมเริ่มลงมือจัดการทุกอย่างตรงหน้า

เปลี่ยนผ้าคลุมเตียง ปอกหมอน สะบัดผ้าห่มคลุมทับอีกที    เก็บแฟ้มให้เข้าที่โดยไม่ลืมใส่ที่คั่นหนังสือแล้วเอาคลิปลวดหนีบไว้เพื่อให้ง่าย

ต่อการเปิดหาหน้าที่เปิดค้างอยู่ในครั้งถัดไป เห็นพี่พาร์ททำบ่อยๆ เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้าที่  เดินไปหุงเข้าทิ้งไว้ ก่อนจะเริ่มปัดฝุ่น ดูดฝุ่น เช็ดถู

ทำความสะอาดห้องน้ำ จนทุกอย่างน่าจะกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยสมบูรณ์แบบ   แบบที่.....ผมเคยอยู่กับพี่พาร์ท   ก้มดูเวลาอีกที

ผ่านไปเกือบ ๆ สามชั่วโมงแล้ว  พอเปิดดูตู้เย็นออกก็เกือบสะอึก เห็นแต่เบียร์กระป๋องแช่อยู่เต็มตู้  ไม่มีอาหารที่พอจะทำกับข้าวได้

นอกจากไข่ไก่หลายฟองเท่านั้น  ผมส่ายหัวเบาๆ น้ำตาพาลจะไหล เพราะผมเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้สินะ  กัดปากตัวเองแน่นๆ

สุดท้ายก็ตัดสินใจลงไปร้านชั้นล่างคอนโดที่มีของสดขาย  รวมถึงพืชผักเล็กน้อย  แม้จะไม่กี่อย่าง  แต่อย่างน้อยก็พอจะมีอะไรให้เลือกมากขึ้น

ผมเลือกจะซื้อไก่ กับใบกระเพรา กระเทียมด้านบนยังพอมีอยู่ หมูอีกสักแพ็ค  คราวหน้าเห็นทีจะต้องซื้อเข้ามาก่อน   

วันนี้คงทำได้แค่กระเพราไก่ กับไข่เจียวหมูสับ  เผื่อพี่พาร์ทกลับมาหิวๆ จะได้มีอะไรทาน  พี่ภีมคงโทรบอกพี่พาร์ทไว้แล้วว่า

แม่บ้านจะมาทำความสะอาดให้ และทำอาหารเย็นให้ด้วย  ที่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ผมมีเงินอะไรหนักหนา  แต่พี่ภีมเสนอให้ผมรับเงินเดือน

จากพี่พาร์ท  โดยพี่ภีมจะเป็นคนจัดการให้  อย่างน้อยก็ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายจิปาถะที่จำเป็นต้องซื้อ  แม้จะปฏิเสธในตอนแรก 

แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนท์ต่อเหตุผลทั้งหลายของพี่ภีม

“ปัตยังไม่ได้งานไม่ใช่เหรอ  รับไว้เถอะที่ที่เราพักกับคอนโดพาร์ทก็ไกลกันเยอะ อย่างน้อยก็รับเงินนี่ไว้ให้พี่ได้สบายใจ

ว่าไม่ได้เอาเปรียบเรานะ”   พี่ภีมตั้งข้อแม้ไว้  ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมช่วยให้ผมได้เข้ามาดูแลพี่พาร์ท   ด้วยเหตุผลนี้ผมก็ต้องยอมรับ

โดยดุษฏี   ผมกลับขึ้นมาบนห้อง เร่งมือทำกับข้าวให้ไวที่สุด  ถึงปกติพี่พาร์ทจะกลับช้ากว่านี้  แต่ผมก็ไม่อยากเสี่ยง  เร่งทำอยู่ครึ่งชั่วโมง

ก็เสร็จสิ้นทั้งอาหาร และจานชามกะทะที่ต้องล้างทำความสะอาด  สะพายกระเป๋าตัวเอง เดินสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งทุกอย่างโอเค

จนกระทั่งมาถึงห้องนอน  ภาพเก่าๆ ฉายวนอีกครั้งเมื่อหน้าที่ทำความสะอาดเสร็จสิ้น เสียงกระซิบบอกรัก หรือแม้แต่ภาพ “ทำรัก”

ที่แสนรันจวนใจ ทุกท่วงท่าที่ตอบสนองกันและกัน ความอุ่นซ่านบนพื้นเตียง  เสียงครางหวาน...ที่แสนสุขสม   ความสุขที่เอ่อล้น 

ผ่านเมือกน้ำสีข่าวขุ่น  เสียงหอบเหนื่อย หยาดเหงื่อที่หลั่งรินรดกัน  บ้าจริง.........คิดถึงมันเหลือเกิน    ทิ้งตัวนอนบนเตียงนุ่มนิ่ม

สูดดมกลิ่นหอมของปอกหมอนและผ้าห่ม  ยามที่เราทำรักกัน กลิ่นหอมนี่กลับลอยกรุ่นมากระทบจมูก  เพราะมักจะเป็นผม

ที่จะคุกเข่าคลานสี่ขา  คว่ำหน้าลงแนบกับหมอน ส่งเสียงครางกระเส่า เมื่ออีกคนซ้อนตัวอยู่ด้านหลัง มือแข็งแรงจับมั่นที่สะโพกผม

พร้อมแรงย้ำถี่ ๆ  กระแทกเข้ามาซ้ำๆ จนผมตัวโยกคอน  ริมฝีปากหนาและลิ้นร้อนๆ ที่กดจูบดูดซับ กัด เลียทั่วแผ่นหลัง 

จนผมครางสะบัด   แอ่นสะโพกหวานรับ แรงส่งจากสะโพกหนาๆ ของอีกฝ่าย ที่แทบจะกลืนกินความเป็นตัวตนผมทั้งตัว ให้เลือนหาย

เหลือเพียงสภาพที่ล่องล่อยเบาหวิวอยู่กลางอากาศ แล้วกระชากกลับล่วงลงสู่ที่ต่ำ ก่อนจะชักนำขึ้นสู่ที่สูงอีกครั้ง ซ้ำๆ ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

จนร่างกายต้องปลดปล่อยความเสียวซ่านเปรอะเปื้อน  บนมือฝ่ามือหนาที่ไล้มากอบกุมแกนกลางของผม  หอบครางทิ้งตัวหมอบลงกับ


พื้นเตียง ขณะที่อีกฝ่ายครางต่ำ กระแทกกระทั้นต่อเนื่องหนัก ๆ อย่างฉุดอารมณ์ไม่อยู่ เพียงชั่วครู่ผมก็รู้สัมผัสถึงความอุ่นซ่านของของเหลว

ที่พวยพุ่งเข้ามาในตัวผม  พี่พาร์ทกัดเบาๆ ที่ไหล่  ร่างกายเกร็งกระตุกสองสามขยัก ก่อนจะทิ้งตัวนอนอยู่ข้างกัน  ด้านล่างยังขยับเบาๆ

อย่างหยอกเย้า จนผมต้องตีศอกกระแทกหน้าท้องแข็งแรงนั่นเบาๆ  อีกฝ่ายกลับหัวเราะขำๆ  กระซิบกระซ่าบให้ผมม้วนตัวซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม

“น่าเอาอีกรอบชะมัด ”   มือแข็งแรงนวดเฟ้นอยู่ที่แก้มก้นของผม  ก่อนจะกระชับมือจับแน่นๆ แล้วเริ่มขยับช่วงล่างอีกครั้ง

.

.

.
“อ๊าาาาาาาาาา.....”  ผมครางเสียงกระเส่า มือรูดรั้งอยู่กลางลำตัวเร็วๆ อีกสองสามที  ก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีข่าวขุ่น พร้อมกับทิ้งตัวลงกับพื้น

นอนหอบหายใจลงกับพื้นเตียง


“แกร๊ก....”   ผมสะดุ้งสุดตัว  แย่แล้ว....พี่พาร์ทกลับมาแล้ว  รีบปิดซิปกางเกง กลิ้งตัวลงไปซ่อนใต้เตียง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 22-09-2012 22:40:20
เย้ๆ มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: sayhi11 ที่ 22-09-2012 22:57:47
เหมือนมันจะค้างเลยค่ะ
เรารอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 22-09-2012 23:07:22
กะลังลุ้นเลยยยย

 :sad4: :sad4: :sad4:


รอตอนต่อไปนะค่ะ

 :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 22-09-2012 23:20:35
มันค้างอ่ะค่ะ

พี่พาร์ทจะจับได้ไหมน้า ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 22-09-2012 23:34:04
รออีกนิดนะคะ  เดี่ยวมาต่อ กำลังแต่งอยู่ หุหุหุ


ไม่รู้มีอาถรรพ์ อะไรวันนี้ลองโพส์  ตอบคำถามพี่พาร์ทในช่วงตอนเก็บสบู่เป็นรอบที่ห้าแล้ว  เน็ตหลุดตลอด
ฉะนั้นเรื่องเก็บสบู่ไม่ตอบแหล่ะ  อาถรรพ์แรงมากค่ะ 
ฮือ ๆๆๆๆๆๆๆๆ  ร้องไห้ ตอบมาตั้งห้ารอบแล้ว โพสไม่ผ่านสักที
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 22-09-2012 23:41:50
ปัตดีเวอร์อะ แต่ดีเกินไปจนทำร้ายคนรักแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ  :m8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ช่วงถามมา-ตอบไป พี่พาร์ท P.13 Up 22/9/1/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 23-09-2012 00:14:09
ช่วงถามมา-ตอบไป พี่พาร์ท (เก็บสบู่)

Yeyong >>  สบู่  ยี่ห้ออะไรคะ  เก็บแล้วเลือดท่วมห้องน้ำ ??
น้องปัต >>  อ๊ากกกกกกกกกกกกก    ถามทำไมคร๊าบบบบบ   
พี่พาร์ท >>   (ยกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ ส่วนน้องปัตตอนนี้วิ่งหนีไปซ่อนตัวในห้องนอนแล้ว)   สบู่ยี่ห้ออะไรน่ะเหรอครับ ก็คงจะเป็นยี่ห้อ “ทำรัก” สิครับ
น้องปัต >>   พี่พาร์ทททททททททททททททท   บ้า!!  ปัง!! (ปิดประตูห้องนอนใส่ผมซะงั้น)
พี่พาร์ท >>   อ้าวไม่ใช่เหรอ  ฮ่าๆ   งั้นผมคงจำผมไปครับ จริง ๆ ก็ยี่ห้อ “ลักษ์”  นี่แหล่ะครับ  สาเหตุที่เลือกยี่ห้อนี้น่ะเหรอครับ เพราะมันอยู่ใกล้มือ
ฮ่าๆ  ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ  อย่ากล่าวหาว่าผมวางแผนอะไรทั้งนั้น ไม่มี๊ไม่มีสักกะนิสสส ครับ หึหึ (ยักคิ้วกวนๆ อีกสองที พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก)
 3วันที่ผ่านมา ผมก็แค่ทดสอบทฤษฏีตามที่ผมได้ดูรายการสารคดีเกี่ยวกับสุนัข  ฮ่าๆ  ถามว่าเกี่ยวกันยังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ
พอดีมันมีทฤษฏีหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเราอยากให้สุนัขรู้จักชื่อเรียก และเชื่องกับเรา  อย่างแรกก็ต้องทำให้มันคุ้นเคยเสียก่อน  เคาะกระดิ่งพร้อมกับให้
อาหารทุกๆ ครั้ง ทำเป็นประจำพอเราเคาะกระดิ่งปุ๊บสุนัขก็จะจำว่าจะได้กินอาหาร  เหมือนๆ กับ เริ่มเรียกชื่อพร้อมกับให้อาหาร  ทำซ้ำๆ มันก็จะจำชื่อ
ตัวเองได้เหมือนกัน  ผมเลยทดสอบ ผมทำสบู่ตก และให้น้องเก็บต่อเนื่อง บ่อยๆ ทุกที่  จนปัตจำได้ และบังเอิญว่าผมดันทำสบู่หล่นไว้ตรง
อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ  หึหึหึ (เหรออออออออ บังเอิญม๊ากกกกกกกกมากเน๊าะ)     แล้วปัตก็ก้มลงเก็บ คิดดูสิครับ ร่างกายเปล่าเปลือยแบบนั้น
แถมยังก้มลง โก้งโค้ง ให้ผมอีก  แล้วผมจะทนไหวไหมหล่ะ  ......  ผมก็เลยจัดเต็ม ฮ่าๆๆๆๆ   ฟังเหตุผลผมแล้วสมเหตุสมผลใช่ไหมหล่ะครับ
เข้าใจก็ดีแล้ว  เดี๋ยวจะหาว่าผมวางแผน  หึหึหึ   โอ๊ยยย (หมอนลึกลับ แต่จับตัวคนทำได้  ลอยมากระทบหัวพี่พาร์ท องศามาจากห้องนอน)
น้องปัต >>   อ๊ากกกกก  พี่พาร์ทๆๆๆๆ  พอเลยนะ ไม่ต้องเล่าแล้ว  บ้าๆๆๆๆๆ
พี่พาร์ท >>  ฮ่าๆ ยังไงผมขอตัวไปง้อแฟน ก่อนนะครับ  อ๊ะ!!  สบู่ ถือติดมือไว้ดีกว่า ฮ่าๆ   เผื่อเอาไว้ทดสอบทฤษฏีต่อ  บ๊ายบายคร๊าบบบบบ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 23-09-2012 00:35:18
เพี้ยงงงงงงงงงงงงง ขอให้รู้เถอะ

ถึงจะสงสารปิ่น แต่การทำให้เค้ารับรู้ความจริงและปลดปล่อยจากความทุกข์จากความไม่สมหวังน่าจะดีกว่าให้มีความสุขแบบจอมปลอม
ดูใจร้ายนะ แต่เราว่าความจริงสำคัญที่สุด อีกอย่างนึงนะ ความลับมันไม่มีในโลก

ไม่อยากนึกภาพตอนพี่พาร์ทรู้ความจริงเล้ยยย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 23-09-2012 01:08:00
พี่พาร์ทกลับมาแล้ว อย่าให้ปัตต้องเศร้าไปกว่านี้เลยนะคะ

รีบเคลียร์กันซะที
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-09-2012 08:13:08
ให้พี่พาร์ทเดี้ยงไปอีกซักคน จะได้เจ็บกันถ้วนหน้า
ไม่ชอบพ่อพาร์ทเลย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 31. P.13 Up 22/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-09-2012 10:08:53
พี่พาร์ทจะเห็นร่องรอยที่น้องปัตทำไว้รึป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 23-09-2012 15:12:39
แอบแปะตอบคำถามก่อน  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ยังไงอย่าลืมเม้นนะตัวเอง

ช่วงถามมา-ตอบไป พี่พาร์ท (Special เก็บสบู่)


Yeyong >>  สบู่  ยี่ห้ออะไรคะ  เก็บแล้วเลือดท่วมห้องน้ำ ??
น้องปัต >>  อ๊ากกกกกกกกกกกกก    ถามทำไมคร๊าบบบบบ   
พี่พาร์ท >>   (ยกยิ้มที่มุมปากนิด ๆ ส่วนน้องปัตตอนนี้วิ่งหนีไปซ่อนตัวในห้องนอนแล้ว)   
สบู่ยี่ห้ออะไรน่ะเหรอครับ ก็คงจะเป็นยี่ห้อ “ทำรัก” สิครับ
น้องปัต >>   พี่พาร์ทททททททททททททททท   บ้า!!  ปัง!! (ปิดประตูห้องนอนใส่ผมซะงั้น)
พี่พาร์ท >>   อ้าวไม่ใช่เหรอ  ฮ่าๆ   งั้นผมคงจำผิดไปครับ จริง ๆ ก็ยี่ห้อ “ลักษ์”  นี่แหล่ะครับ  สาเหตุที่เลือก
ยี่ห้อนี้น่ะเหรอครับ เพราะมันอยู่ใกล้มือแค่นั้นแหล่ะ  ไม่ได้มีความหมายอะไร ฮ่าๆ  แต่ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ 
อย่ากล่าวหาว่าผมวางแผนอะไรทั้งนั้น ไม่มี๊ไม่มีสักกะนิสสส ครับ หึหึ (ยักคิ้วกวนๆ อีกสองที พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก)
 3วันที่ผ่านมา ผมก็แค่ทดสอบทฤษฏีตามที่ผมได้ดูรายการสารคดีเกี่ยวกับสุนัข  ฮ่าๆ  ถามว่าเกี่ยวกันยังไง
เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ   พอดีมันมีทฤษฏีหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ถ้าเราอยากให้สุนัขรู้จักชื่อเรียก และเชื่องกับเรา 
อย่างแรกก็ต้องทำให้มันคุ้นเคยเสียก่อน  เคาะกระดิ่งพร้อมกับให้อาหารทุกๆ ครั้ง ทำเป็นประจำพอเราเคาะกระดิ่งปุ๊บ
สุนัขก็จะจำว่าจะได้กินอาหาร  เหมือนๆ กับ เริ่มเรียกชื่อพร้อมกับให้อาหาร  ทำซ้ำๆ มันก็จะจำชื่อตัวเองได้เหมือนกัน 
ผมเลยทดสอบ ผมทำสบู่ตก และให้น้องเก็บต่อเนื่อง บ่อยๆ ทุกที่  จนปัตจำได้ และบังเอิญว่าผมดันทำสบู่หล่นไว้ตรง
อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ  หึหึหึ (เหรออออออออ บังเอิญม๊ากกกกกกกกมากเน๊าะ)     แล้วปัตก็ก้มลงเก็บ
คิดดูสิครับ ร่างกายเปล่าเปลือยแบบนั้น  แถมยังก้มลง โก้งโค้ง ให้ผมอีก ยั่วกันขนาดนี้ แล้วผมจะทนไหวไหมหล่ะ 
......  ผมก็เลยจัดเต็ม ฮ่าๆๆๆๆ   ฟังเหตุผลผมแล้วสมเหตุสมผลใช่ไหมหล่ะครับ  อืม...เข้าใจก็ดีแล้วครับ 
เดี๋ยวจะหาว่าผมวางแผน  หึหึหึ   โอ๊ยยย (หมอนลึกลับ แต่จับตัวคนทำได้  ลอยมากระทบหัวพี่พาร์ท องศามาจากห้องนอน)
น้องปัต >>   อ๊ากกกกก  พี่พาร์ทๆๆๆๆ  พอเลยนะ ไม่ต้องเล่าแล้ว  บ้าๆๆๆๆๆ
พี่พาร์ท >>  ฮ่าๆ ยังไงผมขอตัวไปง้อแฟน ก่อนนะครับ  อ๊ะ!!  สบู่ ถือติดมือไว้ดีกว่า ฮ่าๆ   เผื่อเอาไว้ทดสอบทฤษฏีต่อ
  บ๊ายบายคร๊าบบบบบ


################################################################



Unit 32  เผชิญหน้า  (70%)


หัวใจผมเต้นรัวราวกับกลองชุด  เหงื่อกาฬผุดออกมาทั่วทุกรูขุมขน  ลอบฟังเสียงเท้าที่ก้าวเข้ามาในห้องไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงัก  แล้วเงียบเสียงไป

เม้มปากแน่นๆ อย่างลืมตัว หัวใจกระตุกวาบเป็นระยะ  มือเท้าเกร็งไปทั่ว แม้กระทั่งการหายใจ ยังแผ่วเบาเสียจนแทบไม่รู้สึกว่าหายใจอยู่

“ฮัลโหลครับพี่ภีม  ครับผมกลับถึงห้องแล้วครับ เปล่าครับไม่มีอะไร แค่จะโทรมาบอกว่าแม่บ้านพี่ภีมน่าจะมาทำความสะอาดให้ผมแล้ว

ฮะ  ทุกอย่างเรียบร้อยดี  อืม...ยังไม่รู้เลยครับ  อ้อ  กระเพราะไก่กับไข่เจียวหมูสับ หึหึ  แอ๊ด...ในตู้เย็นมีแต่เบียร์ เท่านี้ก็ดีแล้ว  ปิ่นเหรอครับ

อ่า....ยังไงดีหล่ะ ตอนนี้ยังสบายดี แต่ว่าน้องคงอยู่ไม่เกินสิ้นปีนี้ ครับ ....”  แกร๊ก...เสียงประตูห้องนอนเปิดออก  หัวใจผมชาวาบ..ที่ได้ยิน

ข้อความเหล่านั้น  มองเท้าพี่พาร์ทที่ค่อยก้าวเข้ามา  หย่อนตัวนั่งลงบนเตียง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า  เสียงถอมหายใจยาวเหยียด ..

หลังจากวางโทรศัพท์ไป

“ปัต.....”    ผมสะดุ้งเฮือก  ลำตัวเกร็งแน่นอีกครั้งหนึ่ง  เม้มปากแน่น  สายตาเหลือบมองจากใต้เตียงเป็นระยะ  ไม่เห็นใครอีกคนก้าวลงมา

ถึงได้แน่แก่ใจว่าอีกฝ่าย คงแค่....เอื้อนเอ่ยลอยๆ ถึงชื่อผม  คิดได้แค่นั้นก็ทำผมเศร้าจนแทบใจหาย  ปล่อยให้อีกฝ่ายจมอยู่กับความเงียบ

.

.

.

“คิดถึง”   เสียงพี่พาร์ทพึมพำแผ่วเบา  หากแต่กลับดังก้องสะท้อนในหัวใจผม  น้ำเสียงที่ดูเจ็บปวด ทำผมเจ็บ..จนแทบแหลกสลาย

เจ็บเสียจน....ห้ามความอ่อนแอที่มีไว้ไม่ไหว ปล่อยให้น้ำตาไหลเอื่อยๆ ตามขอบตาลงมาที่พื้น อยาก...จะโอบกอดใครคนนั้น

อยาก.....ให้ความอบอุ่น  อยาก.....ให้คลายความเจ็บปวด  อยากขอโทษ ...  ปัตเสียใจ  ที่ทำให้เราต้องเป็นอย่างนี้   


.

.

 ผมยังจำได้ดีหลายต่อหลายครั้ง  ที่ผมแอบมองพี่พาร์ทกับพี่ปิ่นที่โรงพยาบาล รอยยิ้มที่สดใส ... ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มนั่น 

น่ามองเป็นไหน ๆ  ไม่ว่าเมื่อไหร่พี่พาร์ทก็ดูเหมือนแสงสว่างสำหรับทุกๆ คน สว่างจ้า....จนเป็นเหมือนเรี่ยวแรง และเป็นเหมือนกำลังใจ

ที่ผลักดันให้คนที่อยู่ใกล้ๆ มีชีวิตชีวา     รอยยิ้มแบบนี้ของ...พี่ปิ่น  รอยยิ้ม....ที่ผมไม่เคยเห็น  เพราะมันไม่ใช่สำหรับใครก็ได้ 

แค่สำหรับคนสำคัญ...  แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ดีใจ    ผมเองก็ยังไปเยี่ยมพี่ปิ่นเสมอๆ ทำอาหารไปให้แม้อีกฝ่ายจะทานเท่าแมวดม


แต่ผมก็พยายามทำอาหารที่พี่ปิ่นอยากทาน   ไปนั่งคุยด้วยในวันธรรมดา เพราะผมรู้ดีว่าพี่พาร์ทไม่มีทางไปหาพี่ปิ่นได้ 

ฉะนั้นผมก็ทำหน้าที่แทน เราสนิทสนมกันระดับหนึ่ง เลยทีเดียว

.


.

แต่ตอนนี้ อยากจะเห็นแก่ตัวได้ไหม  ผมอยากโอบกอดพี่พาร์ทไว้  ทั้งตัว  ทั้งหัวใจ อยากปลอบโยน   ความคิดวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น

ทั้งๆ ที่ร่างกายผมไม่ได้ขยับสักนิด  เสียงยวบยาบบนเตียงดังขึ้น  บอกให้ทราบว่าอีกฝ่ายกำลังเคลื่อนไหวลงจากเตียง ผมนอนนิ่งๆ

อยู่อย่างนั้น เห็นขาพี่พาร์ทที่เหยียบลงบนพื้นพรหม ก่อนจะก้าวออกจากห้อง ได้ยินเสียงจานชามช้อนดังเป็นระยะ  ....อยู่สักพัก


ก็ได้ยินเสียงล้างจาน  ได้ยินเสียงเปิดตู้เย็นเบาๆ  เสียงเคาะถาดน้ำแข็งเทใส่อะไรสักอย่างน่าจะเป็นพลาสติก  ทั้งห้องที่ใส่น้ำแข็งได้

แล้วยังเป็นพลาสติกก็เห็นจะเป็นกระติกใบเล็กที่มีอยู่แค่ใบเดียว เสียงกระป๋องเบียร์กระทบกันเป็นระยะ  หอบมาวางในห้องนอน

ผมฟังเหตุการณ์ทุกอย่างต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จะพาตัวเองออกจากที่นี่ได้ยังไง  พี่พาร์ทวางกระติกลง จากนั้นก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้า

แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ โดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ผมรออยู่สักพักจนแน่ใจว่าพี่พาร์ทคงไม่ออกมาแล้วหล่ะ กำลังจะกลิ้งตัวออก

“แคว๊กกกกกก” เสื้อผมดันไปเกี่ยวกับตะปุหรือน็อตอะไรสักอย่างใต้เตียง นอกจากจะขาดแล้ว.....ยังตรึงเสื้อผมไว้แน่น จนขยับออกไม่ได้

ทั้งที่ผมเห็นโอกาสที่ตัวเองจะชิ่งได้แล้วแท้ๆ พยายามแกะ ทึ้ง ดึง ด้วยความที่พื้นที่ใต้เตียงกับพื้นห้องห่างกันแค่ฟุตเดียว

แค่ขยับเข้าออกก็ยากอยู่แล้วแต่นี่จะให้ผมแกะอะไรที่มันพันธนาการผมอยู่ด้วยองศาที่ไม่ถนัด  แถมเสื้อยังติดหนึบอยู่แน่นไม่ยอมขยับ

ทำผมอ่อนใจหลังจากดึงอยู่นานจนปวดแขน  เลยได้ยอมจำนนท์ปล่อยแขนวางกับพื้น หอบน้อย ๆ ด้วยความเหนื่อย  เหลือติดอยู่นิดเดียวแท้ๆ

พี่พาร์ทกลับออกมาจากห้องน้ำก่อน  ผมมองตามขาแข็งแรงที่เดินไปมา หยิบแค่กางเกงบอลมาสวมใส่ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง

“ป๊อก....แคว๊กกกก...... อึกๆๆ  ”  เสียงเปิดเบียร์กระป๋องขึ้นดื่ม   ก่อนจะวางมันลงข้างๆ เตียง
.

.

.


พี่พาร์ทดื่มกระป๋องแล้วกระป๋องเล่า  ขณะที่ผมเริ่มตัวสั่นหนาวสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ...นอกจากเสื้อตัวบางๆ นี้แล้ว ผมไม่ได้มี

อาภรณ์ใดๆ มาห่มกาย  เพราะแอร์ที่เย็นฉ่ำ หรือผมขี้หนาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนะ  ถึงได้สั่นสะท้านถึงเพียงนี้ 

“ไอ้เบียร์.....ปั..ต ...ทำ...ไ...ม”    เสียงคนครางแผ่ว เริ่มไร้สติ  ผมเม้มปากแน่นๆ  ไม่เข้าใจว่าพี่พาร์ทพูดถึงเบียร์ทำไม หรือว่า?

การที่เราเลิกกันครั้งนี้ พี่พาร์ทคิดว่าสาเหตุมันมาจากเบียร์กัน? ไม่จริงสักหน่อยผมอยากจะเถียง.....แต่ผมในตอนนี้ไม่อยู่ในสถานะ

ที่จะพูดอะไรได้  ลักลอบเข้ามาห้องเค้า แถมยังมาทำอะไรในห้องเต็มไปหมด ที่สำคัญตอนนี้ก็ยังแอบอยู่ใต้เตียงเหมือนคนเป็นโรคจิต 

บ้าจริง....ทำไมเป็นแบบนี้  อย่าเข้าใจปัตผิดสิ  ปัตรักพี่พาร์ทคนเดียวนะ  ผมได้แต่ประท้วงในใจ  แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าในกระเป๋ามีไกรกรร

เล็กๆ  มือเริ่มสอดเข้ากระเป๋าสะพายข้าง ควานหาสิ่งที่ต้องการอยู่เนิ่นนาม ด้วยอาการสั่นเทาความหนาวเหน็บเกาะกุม ดูทรมานได้อีก

แต่ที่ทรมานยิ่งกว่า ..... ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องคนข้างบนเท่านั้น  ทั้งๆ ที่รักกันขนาดนี้  .... แต่ผมกลับยืนข้างๆ พี่ไม่ได้  ขอโทษนะครับ

.

.

.

“พี่พาร์ท”  เสียงครางแผ่วเบาที่หลุดจากปากผม  แทบจะไม่ได้ยินเสียงทุกอย่างยังดูเงียบงัน  ในห้องนอนที่เปิดไฟสลัวที่หัวเตียง

เพียงดวงเดียว  พี่พาร์ทน่าจะเมามากจนหลับไปแล้ว เพราะทุกอย่างในห้องดูสงบนิ่ง  และจากการทิ้งกระป๋องเบียร์กระป๋องสุดท้าง

ลงพื้น  จนมันกระแทกกระป๋องเก่ากว่าครึ่งโหลล้มลงระเนระนาดไปคนละทิศละทาง จนเหมือนล่วงหลุดจากมือมาเสียมากกว่า   

ผมหยิบกรรไกรเล็กที่พึ่งค้นเจอ อยากขอบคุณงานที่ค้างบ่อยๆ จนต้องพกกรรไกรอันเล็กเพื่อตัดโมเดลจนเป็นนิสัย  ตอนนี้

มันมีประโยชน์มากกว่าตัดโมเดลแล้ว  ค่อยๆ ขยับตัวตัดเสื้อที่เกี่ยวกับอะไรสักอย่างใต้เตียงจนเสื้อผมหลุดออก  ค่อยกระเถิบตัว

ออกจากที่ซ่อนใต้เตียง  มีตื่นเต้นกว่านี้อีกมั้ย?   หัวใจกลับมาเต้นรัวเป็นกลองชุดอีกครั้ง  เมื่อผมไม่สามารถมองเห็นคนด้านบนได้เลย

ค่อยๆ กระดึ๊บๆ ตัวอยู่อย่างนั้น  เหงื่อซึมทั่วฝ่ามือ และฝ่าเท้า ไม่เว้นแม้แต่ไรผม หรือซอกหนีบทั่วตัว  จนสุดท้ายก็ออกมาอยู่ข้างเตียงสำเร็จ

แต่....       


“พรึบบบบบบบบบ!!    ปึก!!  โอ๊ย!”   โอยยย หัวใจผมแทบหยุดเต้น สะดุ้งเฮือกหัวโขก ขอบเตียงโดยไม่ได้เจตนา  ได้แต่ร้องเสียงหลง

 ....ทั้งที่พยายามกลั้นไว้แล้ว  จะไม่ให้ตกใจจนสติแตกได้ยังไง  ก็อยู่ดีๆ หลังจากที่เงียบมานานสองนาน พี่พาร์ทดันพลิกตัวขึ้นมาซะเฉยๆ

แล้วไอ้มือนี่ทำไมมันต้อง ยื่นเลยมาจากเตียงแล้วหย่อนลงมาตรงหน้าผมพอดีด้วยวะ   ตกใจจนแทบสติหลุด ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นอีกรอบ

เรียกพ่อแก้วแม่แก้วให้มาเรียกขวัญผมให้กลับสู่ตัวเสร็จ แต่ร่างกายกลับยังสั่นระริก  สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อีกสองสามตลบ ก็พลิกตัวคว่ำ

ค่อยๆ คลาน  แบบต่ำเตี้ยเรี่ยพื้นให้มากที่สุด ปากก็คาบกระเป๋าสะพายใบย่อมให้ลอยเหนือพื้นเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ

ค่อยๆ คลาน ....   

.

.

ค่อยๆ กระดึ๊บๆ  อย่าส่งเสียงใด ๆ พี่พาร์ทที่หลับอยู่จะได้ไม่รู้สึก

.

.

.

เกือบแล้วครับ  ....  อีกแค่เมตรเดียวข้างหน้า ผมจะถึงประตูห้องนอน  แล้วผมก็จะออกจากห้องนี้เสียที  หยุดบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นจนแทบ

....หยุดหายใจ.... นี่ไปซะ  แล้วปล่อยให้ทุกอย่างมันดำเนินต่อไปอย่างที่มันควรจะเป็น  ปล่อย.....ตามธรรมชาติของมัน

.

.

.
“ปัต”   


**************************************************************************

เดี๋ยว >>>>>   มาต่อนะ     ไปแต่งเติมน้ำตาลให้ทั้งผู้อ่านและคนแต่งก่อน  หึหึึ  งานนี้มีเลือดพุ่ง  หุหุหุ
 :m25: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-09-2012 15:24:50
ไอ้ที่เรียกตอนสุดท้ายนี่คือ เห็นแล้วใช่ไหม อย่าเพ้อนะ ต้องเห็นสิ

ขอหวานๆนะคะ ตอนนี้มาม่ามันอืดเต็มท้องไปหมดแล้ว เจ็บปวดที่สุด

สงสารทั้งปัต ทั้งพี่พาร์ท

ปล.รอเตรียมเลือดพุ่ง หุหุ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 23-09-2012 16:09:58
สาธุ ขอให้พี่พาร์ทจับปัตมัดไว้แล้วบังคับขู่เข็ญซะให้สาสม
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 23-09-2012 19:32:12
จะได้เจอแล้วสินะ ดีใจว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 23-09-2012 21:01:48
พี่พาร์ทละเมอใช่มั้ย ?
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 23-09-2012 21:54:09
 :sad4:  :sad4: สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (70%) P.14 23/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-09-2012 23:35:49
พี่พาร์ทละเมอชัวร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2012 01:04:15

ในที่สุดก็ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ซะที  ขอบอกไว้ก่อนนะคะ หลังจากโพส์แบบถล่มทลายแล้ว
ก็ขอเค้าหายตัวไปสักพัก  พอดีมีงานเข้า Audit จากบริษัทแม่มา เลยอาจจะหายตัวไปนาน
อย่ามางอนเค้านะ หึหึ.....  ถ้าให้กำลังใจเยอะ  เค้าก็จะรีบมา ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นค่ะ
ป่ะ......ไปให้เลือดท่วมตัวกันดีกว่า 


Unit 32  เผชิญหน้า  100%





“ปัต”   

.

.

.

“ฮ...ฮะ” ร่างกายผมชะงักกึก ขานรับเสียงเรียกอย่างลืมตัว ชันตัวขึ้นตรง ขณะที่ขายังพับราบไปกับพื้น (เหมือนตัว L อธิบายไม่ถูกอ่ะ)

ปล่อยกระเป๋าสะพายที่คาบไว้ในปากล่วงลงกระทบพื้นห้องดัง “แป๊ก”  เบาๆ หันไปมองสบตาพี่พาร์ทที่จ้องมองผมมาก่อนหน้านั้น 

แววตาที่มองมาอย่างเว้าวอน  เล่นเอาใจผมหล่นวูบ  มันบอกไม่ถูก  ทำตัวไม่ถูก  ไม่รู้จะเลือกอย่างไหน....... ระหว่างอยู่ต่อ กับหนีไป   

แววตาที่ทั้งเจ็บรวดร้าว และอ่อนแอ   ของพี่พาร์ท ทำผมนิ่งงันอยู่อย่างนั้น  ไม่ขยับ.....ทำได้แค่จ้องมองตอบ ด้วยสายตาที่รวดร้าวเช่นกัน


“อย่า...ทิ้..งพี่..ไปนะ ......ไ.ด้โ...ปร...ด”    น้ำเสียงที่ขาดห้วง กับมือที่ยื่นมาในอากาศ  ทำผมใจแทบขาด แต่ทุกอย่างก็วูบลง 

พี่พาร์ททิ้งแขนที่ยื่นมาเมื่อครู่ลงกับพื้นเตียง  พร้อมๆ กับหัวที่ยกขึ้นมามองผมเมื่อครู่ลงกับหมอน  หลับตาพริ้มเพรา... ปากยังพร่ำรำพัน

ไม่หยุดหย่อน.....

“อย่..าทิ้...ง....กัน”   ถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแค่ละเมอ  ผมค่อยๆ ชันตัวลุกขึ้นมองภาพตรงหน้า  ทิ้งตัวลงเบาๆ บน เตียง  ....  ทิ้งไปไม่ไหวจริงๆ

ผมกำลังทำให้คนที่ผมรักเจ็บปวด  ....  ทำไมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน  อะไรก็ยอมแล้ว แลกกับคืนนี้ที่จะได้โอบกอดปลอบโยนผู้ชายตรงหน้า

อย่างน้อยคืนนี้ก็ให้มันเป็น “ฝันดี”  ของเราสองคน   ไล้มือแตะแก้มพี่พาร์ทเบาๆ   มือหนาๆ ก็คว้าหา ยกขึ้นมากอบกุมมือผมแน่นๆ

ราวกับตกอยู่ในภวัง  ผมกดจูบที่เปลือกตาพี่พาร์ท

“ปัต.....ปัต”   เสียงพี่พาร์ท ที่ยังเรียกหาผมไม่ขาดสาย  ผมรู้ว่าพี่รักผม “รักผมจริงๆ”  รักเหมือนที่ผม  “รักพี่”  หมดทั้งตัวและหัวใจ

“ฮะ...ปัตอยู่นี่แล้ว ลืมตาสิฮะ”  ผมกระซิบข้างๆ หู  พร้อมกับแตะจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากหนาที่ผมแสนรัก  อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

อีกฝ่ายค่อยๆ ปรือตา ขึ้นมามอง กระพริบตาถี่ๆ  ราวกับแยกไม่ออกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า เป็น “ความจริง”  หรือ “ความฝัน”  กันแน่

“ปัต.....  พี่ฝันไปรึเปล่า”   พี่พาร์ทกระซิบเสียงพร่า  ดึงผมไปกอดแน่นๆ  แล้วไล่จูบไปทั่วใบหน้าผม 

“ฮะ...พี่พาร์ทกำลังฝัน ”  ผมตอบกลับไปแค่นั้น

“คิดถึง......ทำไมทิ้งพี่ไป”  มือพี่พาร์ทยื่นมาจับที่ใบหน้าผมไล้ มันไปมา   ผมจ้องมองกลับ.....ยากจะตอบคำถาม

“เพราะจำเป็นฮะ....อย่าเกลียดปัตเลย”  ผมก้มลงจูบที่เปลือกตาพี่พาร์ทเบาๆ อย่างปลอบโยน

“ไม่รักพี่แล้วใช่ไหม”   ผมส่ายหน้าไปมา  น้ำตาพราวเอ่อขอบตา  เรื่องนี้เท่านั้นแหล่ะ.......ที่ไม่อยากให้เข้าใจผิด  พี่พาร์ทไล้มือเกลี่ยให้เบาๆ

“ผมรักพี่......รักพี่พาร์ทคนเดียว ....จะรักตลอดไปเลย”  ผมเอ่ยเสียงแผ่ว  ไม่รู้น้ำตาจะล่วงลงมาตอกย้ำทำไม  พี่พาร์ทรั้งหน้าผมลงไปกดจูบ

“เบียร์หล่ะ?”  พี่พาร์ทขมวดคิ้วมุ่น  ด้วยความสงสัย  ผมอมยิ้มนิด ๆ ทั้งที่มีน้ำตาอาบแก้ม   นี่ขนาดเข้าใจว่าเป็นในฝันนะ 

 ผมยังซักฟอกซะ.....ขนาดนี้  แล้วถ้ารู้ว่าเป็นความจริงผมไม่โดนฟอกจนซีดเหรอ? 

“มันเป็นเพื่อนคนเดียวที่จริงใจกับผม  ผมกับมันไม่เคยมีอะไรเกินกว่าคำว่า “เพื่อน” สำหรับปัตคนที่ปัตจะรัก  มีแค่คนเดียวคือพี่นะฮะ” 

ผมตอบ จ้องมองอีกฝ่าย....แน่วแน่   อยากยืนยันสิ่งที่ผมจะพูด  อยากรู้เหลือเกิน คำว่า “รัก”  ของผม  มันมั่นคงพอ.........ที่พี่จะเชื่อใจได้ไหม

“จ...จริงเหรอปัต....พี่ก็รักปัตนะ...รักจนไม่มีพื้นที่เหลือไว้เผื่อใครแล้ว”   พี่พาร์ทดึงผมไปกอด  รอยยิ้มนั่น.....ที่ผมไม่ได้เห็นมานาน

สายตาที่บอกว่า “รัก” จนหมดหัวใจ นั่นอีก   .........อบอุ่นเหลือเกิน..................


.

.

.

“อ๊ะ....อืมมมมม...”  ผมครางกระเส่า เชิดหน้าขึ้นมองเพดานสูง   ....  สะโพกแอ่นหงายรับกับมือหนาที่สอดเข้ามาใต้บั้นท้าย

แล้วจับไว้มั่น ขาสองข้างถูกดันให้อ้ากว้างเปิดทางให้ร่างกายแข็งแรงแทรกตัวเข้ามาได้ง่าย ก่อนจะดุนดันท่อนเอ็นแข็งร้อน

ราวกับกำลังจะปะทุ พยายามสอดใส่เข้ามาในตัวผม..........ไร้ซึ่งสารหล่อลื่น  ริมฝีปากร้อนซอกซอนซุกซน วาดวนล้อเล่น

อย่างอ้อยอิ่งอยู่บริเวณหน้าอกผม   ทั้งดูด เลีย ขบเม้น หนักๆ จนขนลุกทั่วทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน เผลอจิกเล็กคมไปบนไหล่หนา
เพียงเพื่อจะบรรเทาความซ่าน 

“ซีสสสสสส  อืมมมมมมม  ปัต”    พี่พาร์ทครางเสียงแหบพร่า  เมื่อดันส่วนหัวมุดให้เข้าไปข้างในได้เรียบร้อยแล้ว  ผมเกร็งตัวแน่น

มืออีกข้างดันหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไม่ให้ดุนดันเข้ามาเร็วเกินไป  รู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจกระเส่า เป่ารดมาเบาๆ

อยู่รอบใบหู   ขณะที่ผมกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่ง  พี่พาร์ทกอบกุมมือผมที่ดันหน้าท้องอยู่เมื่อครู่ ให้มาแนบแก้มตัวเอง  ถูไถแก้มตัวเอง

ไปมากับฝามือผม  นัยตาฉ่ำเยิ้ม.....ด้วยความรักและแรงปรารถนา  ริมฝีปากหนาได้รูปยกยิ้ม ดวงตาพราวประกายวาบหวาม

จับจ้องโลมเลียทั่วทั้งตัวผม ทำเอาร้อนผ่าวทั่วทุกอณุสัมผัสที่สายตาลากผ่าน เผลอมองสบตาที่ฉ่ำหวาน....ก็นิ่งงันราวกับถูกสะกด 

ไม่อาจจะละสายตาออกห่างนัยตาคมที่จ้องมองมา..........ได้แม้เพียงสักเสี้ยววินาที   ลอบกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่   ก่อนที่อีกฝ่าย   

จะค่อยๆ โน้ม ใบหน้าคมคายก้มต่ำลงเรื่อย  ริมฝีปากเราแตะกันแผ่วเบา  ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสอบอุ่นที่มันกำจายอยู่ทั่วหัวใจ

สองแขนโอบรอบลำคออีกฝ่าย  หลงไหลไปกับสัมผัสกับพี่พาร์ทชักพา  แรงเต้นของหัวใจ.....ที่เอื่อยเฉื่อยเมื่อสักครู่ ....
เปลี่ยนมาเป็นเต้นเร็วรัวราวกับกลองชุด รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว  ยิ่งใบหน้าที่ร้อนผะผ่าวทุกครั้งที่ริมฝีปากอีกฝ่ายแตะจูบ 

ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากผม ดูดดุน หยอกเย้า   ก่อนที่ลิ้นร้อนๆ ชอนไชแทรกเข้าในกลีบปากหวาน สัมผัสนุ่มหยุ่นสำรวจทั่วโพรงปาก

ก่อนจะตวัดลิ้นเกี่ยวลิ้นผม เราดูดกลืน ไล้เลียลิ้นร้อนของกันและกัน  ส่งเสียงดังจ๊วบ จ๊าบ ยามริมฝีปากผละออกจากกัน 

หากแต่..... ไม่นานมันก็กลับมาบรรจบกันใหม่อย่างโหยหา และร้อนแรงกว่าเดิมเป็นเท่าทวีคูณ  ราวกับอาลัยนักหนาที่จะผละออก

นิ้วมือแข็งแกร็งรุกราน ลูบไล้ไปทั่ว  เรียกความเสียวซ่านจนผมต้องบิดกายเร่าๆ  กับสัมผัสที่ว่า     พี่พาร์ทละริมฝีปากออก

เกิดเสียง “จ๊วบ”  ดังลั่น  กระตุ้นความกระสันให้พุ่งขึ้นอีก  ผมมองตามริมฝีปากหนาอย่างเสียดาย  ไล้ลิ้นเลียรอบริมฝีปากตัวเอง

ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่  ....  เสียดาย ความหวานฉ่ำ ที่ดูดกลืนกันและกัน  พี่พาร์ทกระตุกยิ้มนิด  ๆ  กดจูบที่ริมฝีปากผมบางเบา
ก่อนจะเม้มริมฝีปากล่างแรงๆ  อย่างหมั่นเขี้ยว แล้วผละออก

“อื๊อออออออ”  ผมส่งเสียงคราง อืออ่า อย่างขัดใจ      จมูกคมซุกลงบนซอกคอหอม  สูดกลิ่นหอมจากตัวผม  แหงนหงายหน้าขึ้นสูง

ปล่อยให้อีกฝ่ายรุกรานได้ถนัด  ริมฝีปากร้อนดูดกลืน ไล้เลียสลับกัน  ก่อนลิ้นร้อนๆ จะแยงเข้าที่ใบหูตวัดไล้เลียให้เสียวซ่าน

“อ๊าาาาาาา~  พี่พาร์ท”  ผมครางกระเส่า  หดคอหนีพันวัล     พี่พาร์ทไล่ขบเบาๆ ที่ลำคอผม และไหล่ลาดของผม ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า

“ถ้าเจ็บ.....กัดไหล่พี่นะครับ”   ผมมองตามด้วยความสงสัย  ก่อนที่จะรู้ตัว ด้านล่างที่ขยับถอยออกเล็กน้อย ก่อนจะดันเข้ามาจนสุดลำ

“อ๊ะ”   ผมร้องเสียงหลง
“อืมมมมมมมมมมมมม”   พี่พาร์ทครางเสียงกระเส่า   ขณะที่ผมกัดไหล่หนาจนจมเขี้ยว  ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ

พี่พาร์ทจูบซับเหงื่อที่ซึมตามไรผม ก่อนจะกดจูบริมฝีปากผมหนักหน่วง เร่าร้อน  มือด้านล่างลูบไล้  ชักขึ้นลงกับปัตน้อยอย่างเป็นสเต็บ

ความเจ็บปวดค่อยๆ จางหาย  กลายเป็นความความเสียวซ่าน และวาบหวาน  ผมแอ่นสะโพกเข้าหามือหนา ๆของอีกฝ่าย ที่กำลังนำพาผม

ขึ้นสวรรค์   ใบหน้าแดงซ่านจนเกินจะปิด  ตัวทั้งตัวล่องลอยอยู่ในอากาศ  ความรู้กระสันพุ่งพร่านจนเกินทัดทานไหว  ด้านล่างเริ่มขยับ

พี่พาร์ทซอยเนิบๆ ช้าให้ผมปรับตัวได้ ก่อนจะเริ่มซอยถี่ๆ ย้ำ ๆ ซ้ำๆ ซ้ำๆ  อยู่อย่างนั้น จนผมครางหวาน  สองขาโอบกอดรอบเอวแกร่ง

เพื่อให้เราแนบชิดกันมากขึ้น



“อ่าปัต......เยี่ยมครับที่รัก”   พี่พาร์ทกระแทกลงมาหนัก จนเตียงสะเทือน  ก่อนจะจับผมพลิกตัวให้อยู่ในท่าคว่ำหน้า คลานสี่ขา 

ขณะที่ท่อนเอ็นร้อนแรง ยังแช่แข็งอยู่ภายใน  ทำเอาผมครางหวือ เสียวสะท้านจับใจ

“อื๊ออออออออออออ พี่พาร์ท”   อีกฝ่ายจับสะโพกผมแน่น  ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นร้อนแรงเน้นๆ ผ่านช่องสวาทของผม

ผมแอ่นสะโพกเข้าหา รับแรงส่งจากสะโพกแกร่งที่ส่งแรงมา เน้นๆ รัว ๆ จนหัวผมโยกคอน  ซุกหน้าลงกับหมอน สูดกลิ่นหอมที่คุ้นเคย

“อ่าาาาาาา~   พี่พาร์ท  พี่พาร์ท  อ๊าาาา~”   ผมกรีดเสียงร้องครางกระเส่า เมื่ออารมณ์รักพุ่งสู่จุดสูงราวกับถูกเหวี่ยงไปมาในอากาศ

ล่องลอยไร้ สิ่งยึดเหนี่ยว แล้วถูกแรงกระแทกเข้าถาโถม เสียงดัง  พรึบๆๆๆๆๆ  เสียวสะท้านจนแทบขาดใจ  ก้มหน้าลงกัดหมอนแน่น

มือเท้าจิกลงที่พื้นเตียง  ร่างกายเกร็งกระตุก ช่องด้านหลังบีบรัดรุนแรง  จนผมกับพี่พาร์ทครางกระเส่าเร่าร้อน

“อื๊ออออออออออออ  พี่พาร์ท// อ๊าาาาาาาาา~ปัต”     ร่างกายฉีดพ่นน้ำรัก พวยพุ่งสู่พื้นเตียงสองสามขยัก  ก่อนจะทิ้งตัวลง

หมดแรงกับพื้นเตียง  หอบหายใจหนักๆ  เพราะแรงบีบของหัวใจที่เต้นเร็วรัวถี่ๆ ปานจะขาดใจ ณ ตรงนี้   สะโพกผมถูกรั้งให้ลอยสูง

มือแกร่งปานคีมเหล็กจับสะโพกผมไว้แน่น  ก่อนจะสาวลำออกจนเกือบสุด แล้วกระแทกซอยกลับมาถี่ๆ หนัก ๆ

“อ๊ะ ...อ๊ะ ...อ๊ะ ...”

.

.



“อ๊า....อ่ะ ......อ่า”

.

.

.

“ อืมมมมมมมมม”      มือแกร่ง จิกแน่นที่สะโพกผม  ร่างกายเกร็งกระตุกทั่วร่าง  สาวลำกระแทกแรงๆ อีกสองสามครั้ง ก่อนความอุ่นร้อน

จะไหลวาบเข้ามาในตัวผม  พี่พาร์ททิ้งตัวหอบเหนื่อยลงข้างๆ กัน  โอบกอดผมจากด้านหลัง  ส่วนท่อนเอ็นแกร่งยังแช่อยู่อย่างนั้น

พี่พาร์ทสอดมือเข้าใต้ลำคอผม  ก่อนจะดันให้มันแหงนหงาย  หันมาด้านหลัง แล้วดันตัวมาประกบปากผม ริมฝีปากที่ดูดกลืนกันและกัน

.

.

.

“อื๊ออออออออออ  พี่พาร์ท  อ๊าาาาาาา~     ย...หยุดก่อนฮะ”  ผมได้แต่ประท้วง ขาด้านหนึ่งถูกมือพี่พาร์ทจับตรงข้อพับแล้วยกขึ้นให้อ้าสูง

แล้วสอดขาตัวเองแทรกมาตรงกลางระหว่างขาผมสองข้าง  สะโพกสอบขยับไม่หยุดหย่อน  เรียกความเสียวซ่านจนเกินต้านทานไหว


“ไม่ครับ  ...อย่าหวังว่าพี่จะปล่อยเราไปไหนอีก  คืนนี้พี่จะรักเราทั้งคืน.....โทษฐานที่ทิ้งพี่ไป ” ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผม รวมกับเปลวเพลิงที่หื่นกระหาย   

.

.

“อ๊ะ....  ย...อย่าฮะ”    ผมครางเสียงกระเส่า ไม่อาจต้านทานแรงรัก  และการชักพาที่ชวนหวั่นไหวนี่ได้สักครั้ง

“อืมมมมมมม เด็กดีของพี่  อย่าดื้อนะครับ”  พี่พาร์ทกระซิบเสียงพร่า  แววตาหยาดเยิ้มฉ่ำหวานจนผมแทบละลาย ลืมเสียงประกาศเกล้าเมื่อครู่

“อ๊าาาาาาาาาา~  พี่พาร์ท อุ๊...”  ได้แต่ครางเสียงหวาน  รอรับการลงทัณฑ์อันน่าโหยหา  หอมหวานยิ่งกว่าน้ำเชื่อม

“พี่รักปัตนะครับ   อ่า~”  เร่าร้อนปานเพลิงแผดเผา  หากแต่........สุขสมจนหาที่เปรียบไม่ได้
.

.

.

สติของผมรับรู้อยู่แค่นั้น  ............ ก่อนมันจะจมหายไปกับบทรักที่วาบหวาม   เสียงกระซิบบอกรักที่ทำเอาคนฟัง.....ร้อนฉ่า

นิ้วแกร่ง ที่ชวนหลงไหลยามสัมผัส  ริมฝีปากหนาได้รูป .....ที่เร่าร้อนไปทุกอณุพื้นผิวที่ละผ่าน  นัยตาคมที่ฉ่ำเยิ้มทำเอาแทบละลาย

ลีลารักที่เร่าร้อน รันจวนราวกับไฟแผดเผาให้หมอดไหม้  ~   ละทิ้งความเป็นตัวตนจนหมดสิ้น ได้แต่วิ่งตามบทรัก

ที่อีกฝ่ายนำพา 

.

.
ครั้งแล้ว 

.

.

.

ครั้งเล่า
.

.

.

จนน้ำรักรินหลั่งให้เปรอะเปื้อน จมดิ่งกับความหฤหรรษ์  ที่ยากจะบรรยายความหรรษา รู้แต่เพียงว่า.............

ผมยินยอม.......รับการลงทัณฑ์ในครั้งนี้  ด้วยความยินดีและเต็มใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2012 01:07:29
อีกนิดนะคะ .......  ลืมไป  ถ้าอยากพูดคุยกับใครเป็นพิเศษก็ลองถามๆ มาได้นะ
เดี๋ยวจะตอบเป็นช่วงถามมาตอบไปเช่นเดิมค่ะ 

เมื่อกี้ลืมบอก  อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-09-2012 08:43:31
 :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 24-09-2012 09:47:33
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:   เด๋วพอเช้าตื่นมาพี่พาร์ทก็จำอะไรไม่ได้หรือป่าวอ่ะ  ดีกันเร็วๆ เถอะนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-09-2012 10:32:18
ขนาดพาร์ทคิดว่าฝันทำเอา  :haun4:
ปัตคุยกับพาร์ทเรื่องนี้ดีกว่าไหม จะได้ไม่เจ็บกันไปกว่านี้
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2012 10:34:28
พี่พาร์ทไม่ลืม หรอกค่ะ  แบบว่า....คราวนี้ตื่นจริงๆ นะ ตัวเอง ไม่ได้ฝันแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 24-09-2012 16:01:15
 o18 o18 ถ้าพี่พาร์ทตื่นแล้ว จะเข้าใจน้องมั๊ยอ่ะ   ไม่อยากให้มาม่า ต่อเลยอ่ะ  อ่านไปก็ เศร้าไปด้วย  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-09-2012 18:10:22
กลัวตื่นมาแล้วเศร้าอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2012 18:26:20
SM ค่ะ แต่เศร้ารึเปล่าหว่า? :m28: :m28:

แต่เป็นช่วงเปิดใจพี่พาร์ท น้องปัตค่ะ 

.
.
.

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-09-2012 18:43:24
รอจ้า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-09-2012 19:20:07
พารท์จัดเต็มขนาดนี้คงรู้ว่าไม่ใช่ฝันแล้วแหละ :oo1:  :pighaun:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 24-09-2012 19:40:54
พี่พาร์ทตื่นแล้วแน่เลย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-09-2012 20:50:35
 :laugh3:พี่พาร์ทจัดหนักให้เข่าอ่อน หนีไปไหนไม่ได้แล้วล่ามโซ่เอาไว้เลย
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 24-09-2012 21:35:18
พี่พาร์ทจัดแบบนี้คงรู้แล้วสิว่าตัวจริง

ปัตจ๋า อย่าหนีพี่พาร์ทไปอีกน้า แค่นี้ก็สงสารจะแย่แล้ว

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: ruby ที่ 24-09-2012 22:54:55
น้องปัตโดนจัดหนักขนาดนี้ คงหนีไปไหนไม่ได้แล้วมั้ง
ดีกันเร็วๆนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 24-09-2012 23:10:08
พอตื่นแล้วก็ ฟัดน้องอีกรอบ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอบๆๆๆๆๆๆๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-09-2012 23:20:04
ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นนะคะ  .......   ยังไงตอนต่อไปก็รอหน่อยนะคะ   :-[ :-[ :-[ :-[
 
จำได้ว่าเสาร์_ อาทิตย์ที่ผ่านมาพึ่งอัพแบบ  สะบั้นหั่นแหลกมา  เดี๋ยวคนแต่งจะตายซะก่อน

 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:

จนโดนน้อง(ที่ออฟฟิศ)แซว   "โพสๆ ไป เนี่ย มีคนอ่านรึเปล่า?"  (น้องมันไม่อ่าน หึหึ เราก็เขินไม่อยากให้อ่าน)

 ง่ะ......อ้าปากค้าง  :a5:  เถียงตอบไม่ถูก    ยังไงก็ขอบคุณๆ ทุกๆ คอมเม้นอีกครั้งค่ะ o13 เป็นกำลังที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ยิ่งอ่านยิ่งอยากแต่งเร็ว แต่สองวันนี้ติดภาระำกิจ  เหนื่อยๆ ก๊าบ  ขออีกสักสองสามสี่ห้าหกวันนะก๊าบบบบ  :t3:



ถึง===>คุณหมอตัวเปียกตัว    ซาดิส ไปรึเปล่าคะ ฮ่าๆ  กิ่วๆ   (แอบแซว)

ถึง===>Noo_Patchy    ไม่ต้องกลัวนะคะ  .....  อาจจะมีมาม่าแทรกนิด ๆ พอเป็นกระสัย ต่อไปก็จะค่อยๆ ผ่านพ้นแล้วค่ะ
             มีแอบหวานกันตลอด ใกล้ๆ จบแล้วค่ะ

 
ถึง===>Nus@nT@R@   ตื่นมาก็ไม่เศร้าเท่าไหร่  ออกแนว SM มากกว่าค่ะ ยังไงตอนหน้า love  ๆ กันแล้วแน่ๆ
             คนเขียนแต่งดราม่า  จนน้ำตาล่วงไปหลายปี๊บแล้ว  ไม่ไหววววววว


ถึง===> mild-dy   ขอบคุณนะคะ  ที่ติดตาม ถ้าชอบยังไง ฝากเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ 

ถึง===> tuek   ตื่นแล้วค่ะ ตื่นแน่นอน 100%

ถึง===> Ju   ถู......ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบบบบบ

ถึง===> ○TeaCafé○    คราวนี้ปัตหนีไม่รอดแล้วค่ะ  ...  (ถูกขัง)   ฮ่าๆๆๆ

ถึง===> ruby   งานนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต  อิอิ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 24-09-2012 23:35:33
รอบแรกยังพอคิดว่าเมา

แต่รอบต่อๆมา จัดท่าซะ...... ถ้าคิดว่าฝันนี่น่าเอาตะหลิวฟาดนะพี่พาร์ท
รีบๆคุยกันให้เข้าใจ คนอ่านปวดใจแทนค่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-09-2012 23:49:29
ซาดิสเพราะอ่านนิยายของคนเขียนแหละ อิอิ โยนให้ซะเลย  :laugh:

ตอนหน้าขอตบจูบๆ ให้ปัตง้อพี่พาร์ทให้หนักเลยนะครับ  :call:

รอตอนต่อไป  :haun4:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-09-2012 00:27:13
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก  ขอปฏิเสธ  คร๊าบบบบบบบบบบบบ

คนแต่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ  คึคึคึ

มี FaceBook  แล้วนะคะ   ไปดูรูปน้องปัต และน้องแพนได้เลย  อิอิ


http://www.facebook.com/
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 25-09-2012 08:15:09
แง้ เคลียร์กันให้รู้เรื่องไปเลยนะสงสารทั้งสองคนเลยอะ หวังว่าตื่นเช้ามาจะรู้เรื่องกันนะคะ QQ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 26-09-2012 01:21:08
เรื่องนี้น่ารักมากค่า ชอบจัง อบอุ่นมากกกกกกกก แม้ว่าพระเอกจะหื่นไปหน่อยก็เหอะ555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-09-2012 00:07:30
แอบบ่น~   งุ้งงิ้ง

อยากแต่งต่ออ่า  แต่ต้องเคลียร์งานให้เสร็จซะก่อน ง่ะ 

ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 32 เผชิญหน้า (100%) P.14 24/9/12
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 27-09-2012 00:09:48
 มาจิ้ม มารอ  :z13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 01-10-2012 00:47:31
Unit 33  เรื่องของเรา



“.....แฮกๆ.....แฮกๆ.....”     ผมได้แต่นั่งหายใจหอบเหนื่อย เหงื่อไหลโทรมกาย ขณะที่สายตายังจับจ้องอีกร่างที่นอนนิ่งหมดสติ
ไปแล้ว 

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้.... เพราะผมไม่ได้นับ  แต่มันคงเยอะซะจนอีกฝ่ายทนรับไม่ไหว ถึงได้หมดสติไปในขณะที่ยังทำกิจกรรมรัก 

ทั้งที่ร่างกายผมกำลังขยับเข้าออกไม่หยุดหย่อน ....พร้อมกับเสียงครางของอีกฝ่าย  น้องประท้วงขึ้นมาครั้งสุดท้ายแล้วสิ้นสติไป

“อือออออออออ.....ไม่ไหวแล้ว” 

 ทิ้งให้ห้องเงียบสงัด แม้แต่เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นเมื่อสักครู่  ก็พลันหยุดไปเสียเฉยๆ จะเหลือ........ก็แต่เพียง

กลิ่นคาวของน้ำรักที่ฟุ้งกำจายไปทั่วห้อง  ที่นอนเปียกแฉะเป็นหย่อมๆ  หรือแม้แต่ไอ้นั่นของผมที่ยังสอดใส่อยู่ในช่องหวาน

เห็นจะเป็นหลักฐานอย่างไม่ต้องสงสัย  ยังไงซะ...นี่มันก็ไม่ใช่ “ฝัน”   ถ้าฝันแล้วได้เอาน้องมันส์ขนาดนี้ ผมควรจะขายบริษัททิ้ง

แล้วหนีมาเอาแต่นอนฝันจะดีไหม?   ผมถอนพันธนาการที่เชื่อมผมกับน้องให้เป็นคนๆ เดียวกันออก   ค่อยๆ ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ
อีกฝ่าย

โอบรั้งร่างบางเข้ามากอดให้ศรีษะหนุนแนบบนอก  จะให้บอกความรู้สึกทั้งหมดที่มียังไงกัน  มันทั้งโหยหา ทั้งต้องการเสียจน .......   

แม้กระทั้งตอนนี้...........ความรู้สึกที่ว่าก็ยังถาโถมอยู่ล้นหัวใจ  เพราะผมรัก............จนเกินกว่าจะทนไหว 

แต่มันก็เจ็บที่อีกฝ่ายคิดจะ “ทิ้ง”  กันไปเสียเฉยๆ  โดยที่เรายังรักกัน  ......  ช่วยบอกผมที อะไรมันเป็นสาเหตุที่น้องเลือกจะจาก

ไป

ผมกดจูบเบาๆ ที่หัวทุยของอีกฝ่าย  คืนนี้....ผมรักน้องหนักไปไหม?   กลิ่นกายที่ผมโหยหา  ......มันห่างหายไปนานซะจน

ผมอยากจะจับน้องข่มขืนซะให้สาแก่ใจ   ผมบ้าใช่ไหม ?   สายตาที่อ้อยอิ่งมองเพดานห้องในความมือ  คุณเคยเป็นมั้ย?

ทั้งที่อ่อนล้า...ร่างกายต้องการพักผ่อนเต็มที่  แต่ความกลัว......กลัวว่าถ้าผมหลับไป  คนที่อยู่ในอ้อมกอดของผมมันจะกลายเป็น

......ว่างเปล่า........   ผมผิดอะไร.?............  ทำไมหัวใจผมจ้องจะวิ่งหนี   ถ้าตอนนี้ผมจะเลว.......น้องจะเกลียดผมไหม


แต่ผมยินดีทำทุกอย่างเชื่อสิ........เพื่อกักขังหัวใจดวงนี้.......ให้เป็นของผมแต่ผู้เดียว   สัญญา....จะไม่ยอมให้ใครมาพรากไป
อีกแล้ว


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 01-10-2012 01:09:11
 :กอด1:  เข้าใจกันเร็วๆ เถอะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 01-10-2012 01:50:37
มารอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-10-2012 09:25:03
 :haun4:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-10-2012 16:27:13
โอ๊ะ,,,นี่ขนาดเกริ่นนำนะ ฮ่าๆๆๆ มาต่อเนื้อเรื่องไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 01-10-2012 16:37:58
ถูกใจเป็นที่สุด จัดหนักๆเลย ห้าๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 01-10-2012 22:12:52
มาต่อเร็วๆนะอยากอ่านมากๆแล้วอะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-10-2012 15:41:02
พาร์ทจัดหนักน้องปัตจนน้องสลบไปเลย
อย่างนี้เอาโซ่มาล่ามน้องไว้ก็ดีนะจะได้ไม่ไปไหนอีก
ถ้าปัตยอมเล่าความจริงออกมาก็ดี
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 02-10-2012 15:51:16
แง๊

ตื่นมาคุยกันเดี๋ยวนี้น๊า า า าา!!  เข้าใจกันน้า า า า
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: prae_07 ที่ 02-10-2012 22:35:25
ต่อเถิด พลีสๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (เกริ่นนำ) P.15 1/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-10-2012 22:58:29
ขอโทษนะคะ ยังแต่งไม่เสร็จอ่า~  เดี๋ยวจะค้างกันอีกง่ะ 

พอดีสองวันก่อนก็ .......  ง่อยๆ เพราะพึ่งเคลียร์งานเสร็จ งุงิ  เลยแต่งไม่เสร็จอ่า

รอเค้าหน่อยน๊าาาาาาา  นะนะนะ


จะพยายามให้เสร็จวันนี้ หรือไม่ก็พรุ่งนี้ค่า   
 :m23: :m23: :m23: :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-10-2012 02:11:16
ปั่นกระจุยกระจาย หลังจากอ่านของคนอื่นแล้วมันกลืนเรื่องของตัวเอง จนแต่งไม่ได้ ~  เพราะตัวตนเรื่องของเรามันหายไปอ่า
เรียกว่าทับซ้อนอ่ะค่ะ  เลยต้องบิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  นานไปหน่อยเน้อ  ในที่สุดก็เสร็จ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :really2: :really2: :really2:อ่านให้สนุกนะคะ    :t3: :t3: :t3:  อย่าลืมเม้นนะตัวเอง  นอนดีกว่า  ฮ่้าๆๆ




Unit 33  เรื่องของเรา


“.....แฮกๆ.....แฮกๆ.....”     ผมได้แต่นั่งหายใจหอบเหนื่อย เหงื่อไหลโทรมกาย ขณะที่สายตายังจับจ้องอีกร่างที่นอนนิ่งหมดสติไปแล้ว 

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้.... เพราะผมไม่ได้นับ  แต่มันคงเยอะซะจนอีกฝ่ายทนรับไม่ไหว ถึงได้หมดสติไปในขณะที่ยังทำกิจกรรมรัก 

ทั้งที่ร่างกายผมกำลังขยับเข้าออกไม่หยุดหย่อน ....พร้อมกับเสียงครางของอีกฝ่าย  น้องประท้วงขึ้นมาครั้งสุดท้ายแล้วสิ้นสติไป

“อือออออออออ.....ไม่ไหวแล้ว” 

 ทิ้งให้ห้องเงียบสงัด แม้แต่เสียงเนื้อที่กระทบกันดังสนั่นเมื่อสักครู่  ก็พลันหยุดไปเสียเฉยๆ จะเหลือ........ก็แต่เพียง

กลิ่นคาวของน้ำรักที่ฟุ้งกำจายไปทั่วห้อง  ที่นอนเปียกแฉะเป็นหย่อมๆ  หรือแม้แต่ไอ้นั่นของผมที่ยังสอดใส่อยู่ในช่องหวาน

เห็นจะเป็นหลักฐานอย่างไม่ต้องสงสัย  ยังไงซะ...นี่มันก็ไม่ใช่ “ฝัน”   ถ้าฝันแล้วได้เอาน้องมันส์ขนาดนี้ ผมควรจะขายบริษัททิ้ง


แล้วหนีมาเอาแต่นอนฝันจะดีไหม?   ผมถอนพันธนาการที่เชื่อมผมกับน้องให้เป็นคนๆ เดียวกันออก   ค่อยๆ ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ อีกฝ่าย

โอบรั้งร่างบางเข้ามากอดให้ศรีษะหนุนแนบบนอก  จะให้บอกความรู้สึกทั้งหมดที่มียังไงกัน  มันทั้งโหยหา ทั้งต้องการเสียจน .......   

แม้กระทั้งตอนนี้...........ความรู้สึกที่ว่าก็ยังถาโถมอยู่ล้นหัวใจ  เพราะผมรัก............จนเกินกว่าจะทนไหว 

แต่มันก็เจ็บที่อีกฝ่ายคิดจะ “ทิ้ง”  กันไปเสียเฉยๆ  โดยที่เรายังรักกัน  ......  ช่วยบอกผมที อะไรมันเป็นสาเหตุที่น้องเลือกจะจากไป

ผมกดจูบเบาๆ ที่หัวทุยของอีกฝ่าย  คืนนี้....ผมรักน้องหนักไปไหม?   กลิ่นกายที่ผมโหยหา  ......มันห่างหายไปนานซะจน

ผมอยากจะจับน้องข่มขืนซะให้สาแก่ใจ   ผมบ้าใช่ไหม ?   สายตาที่อ้อยอิ่งมองเพดานห้องในความมืด  คุณเคยเป็นมั้ย?

ทั้งที่อ่อนล้า...ร่างกายต้องการพักผ่อนเต็มที่  แต่ความกลัว......กลัวว่าถ้าผมหลับไป  คนที่อยู่ในอ้อมกอดของผมมันจะกลายเป็น

......ว่างเปล่า........   ผมผิดอะไร.?............  ทำไมหัวใจผมจ้องจะวิ่งหนี   ถ้าตอนนี้ผมจะเลว.......น้องจะเกลียดผมไหม

แต่ผมยินดีทำทุกอย่างเชื่อสิ........เพื่อกักขังหัวใจดวงนี้.......ให้เป็นของผมแต่ผู้เดียว   สัญญา....จะไม่ยอมให้ใครมาพรากไปอีกแล้ว

.

.

.

.

“อือ~....”    ผมส่งเสียงครางเบาๆ บิดตัวอย่างเกียจคร้านอีกเล็กน้อย ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงที่สาดส่องเข้ามาในห้อง 

ทุกอย่างดูเงียบงันราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากตัวผม   เมื่อคืนนี้...ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่จำไม่ได้.......  จำได้แต่ว่าผม “ถูกรัก”

“บทรัก”  ที่ร้อนแรง แต่ก็หอมหวานพอๆ กัน สัมผัสรักจากคนที่รัก   ไม่ว่าสักกี่ครั้งมันก็ดูอบอุ่น.......และชวนหลงไหล 

แม้รู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งตัวจนไม่อยากขยับตัวไปไหน โดยเฉพาะทางรักด้านหลัง..... เหมือนๆ จะฉีกจนเป็นแผล ทั้งๆ ที่เจ็บขนาดนั้น

แต่ทำไม.....ถึงทำให้ผมมีความสุขได้มากขนาดนี้กันนะ   “สุข”....จนหุบยิ้มไม่อยู่   ผมไม่ได้คิดจะตำหนิพี่พาร์ท......

ที่ “รัก”  ผมหนักจนสลบไปเสียดื้อๆ เพราะผมเอง....ก็โหยหาอีกฝ่ายไม่ต่างกัน  ถ้าทำได้.....ก็อยากจะรับมันให้ได้ทั้งหมด ทุกหยาดหยด

ที่พี่พาร์ทต้องการอยากจะรักผม  หึหึ...แต่ก็นะ  จะให้ทำขนาดนั้น.....ถ้าทางจะแย่จนนึกสภาพไม่ออก ขนาดแค่รับมาแค่นี้

แค่ลุกให้ไหว....ก็บุญเท่าไหร่แล้ว  ขืนผมรับจนเต็มพิกัดที่พี่พาร์ทต้องการ.......มีหวังต้องละสังขารลาจากโลกเป็นการถาวรกันพอดี

แต่ทำไมนะ....ในหัวผมกับต้องการการสัมผัสที่มากขึ้นไปอีก อยากโอบกอด อยากจูบ อยากแสดงการมีตัวตนของผม  ...ว่าผมยืนอยู่ตรงนี้

ว่าที่ตรงนี้........ “มันเป็นที่ของผม”  เอื้อมมือไปที่ว่างข้างตัวไล้มือลูบผ่านบางๆ  ที่ตรงนั้น.... เมื่อวานนี้มีใครอีกคนที่เรียกร้องหาผม

และผม....ก็ถวิลหาเค้าไม่ต่างกัน  ท่อนแขนแข็งแรงที่กำลังโอบกอดผม   เราต่างตอบ “รัก” กัน  ความรู้สึกที่หลากหลาย......

ถูกถ่ายทอดถึงกันผ่านทางสัมผัสที่เร่าร้อน แต่กลับนุ่มนวล  ไม่จำเป็นต้องมีภาษา หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด...แต่เราก็เข้าใจกัน 

“คำว่ารัก”  ที่ฝากบอกผ่าน....ปากหวานๆ กับลิ้นร้อนๆ ของแต่ฝ่าย 

“คำว่าคิดถึง”  ที่ฝากบอกผ่าน......จมูกคมที่คอยดอมดมกลิ่นหอมของกันและกัน 

“คำว่าห่วงใย”  ที่ฝากบอกผ่าน....อ้อมแขนแข็งแรงที่เกี่ยวกระหวัดรัดตรึงเป็นพัลวัน

“สายตาที่คงมั่น กับ หัวใจที่มั่นคง”  หล่อหลอมเราทั้งสองคนให้เป็นหนึ่งเดียว

ยิ่งกว่าฝัน .....ไม่นึกจะได้อยู่ข้างกันจนถึงวันนี้ด้วยซ้ำ......   ทุกอย่างมันไปได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ  ไม่ว่าครอบครัวผม หรือแม้แต่ครอบครัวพี่พาร์ท

ดีจนไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นความจริง....ไม่ใช่ฝันอย่างที่ผมกำลังนิยามอยู่นี่    แต่ตอนนี้ดูจะบางเบา...มากกว่าหนักแน่น   ก็เพราะผมใช่ไหม?

พี่ผิดหวังมั้ยฮะ?   ที่เลือกผมมายืนข้างๆ ......  เสียใจรึเปล่า?  ขอโทษนะครับ......

.

.

“พี่พาร์ท...ปัต....รักพี่นะฮะ”   ผมกำลังกระซิบบอกความว่างเปล่าแต่ราวกับมีอีกคนอยู่ตรงหน้า... ดึงผ้าห่มขึ้นห่มกลบเกลื่อนความเขินอาย 

กลิ้งไปกลิ้งมาเบาๆ บนเตียงนอน  เพราะยังสำเนียกได้ว่าร่างกายยังระบมอยู่มากโข  กลิ่นหอมกรุ่นของความสุขที่กำจายอยู่ในอากาศ

กลิ่นคาวที่แสนหวาน~   หลักฐานของเรื่องเมื่อคืนนี้ก็ยังส่งกลิ่นหอมหวนชวนให้นึกถึงที่มาของมัน  อยากหอบเอาไปเก็บไว้ในถุง....

ถ้ามันทำได้อ่ะนะ  ตอนนี้ถึงทำได้แค่....อมยิ้มอยู่อย่างนั้น  ......  แล้วซุกหน้าแดงๆ กับหมอน   พอคิดได้ว่าเมื่อคืนนี้ซุกหน้ากับหมอนตอนไหน 

แค่นึกถึงเท่านั้นแหล่ะ....ก็ถึงกลับต้องสะบัดหน้าหนี  ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งตัว   ริมฝีปากเม้มแน่น   บ้าจริง.....เขินได้แม้กระทั่งเจ้าตัวไม่อยู่ 

เสียงครางเมื่อคืนทำเอาหน้าร้อนตามไปอีก ไม่ใช่ไม่เคย......หากแต่    ไม่เคยมากมายอย่างนี้......ไม่เคยรู้สึกโหยหากันขนาดนี้ต่างหาก

แค่ทำให้พี่พาร์ทรู้.....ว่าผมก็รัก  แค่ได้โอบกอดกันและกัน  เมื่อคืนนี้ก็มากพอดูแล้ว   มีสุขจนเกินที่คนอย่างผมควรจะได้รับแล้ว 

อย่างน้อยเรื่อง ...เรื่องเดียว  “ที่ไม่อยากให้พี่เข้าใจผิด”  ก็คงไม่ได้มีปัญหาอันใดแล้ว  สายป่านนี้อีกฝ่ายคงทำงานไปถึงไหนต่อไหน

กำลังวุ่นวายหัวฟู ปั้นหน้าผู้บริหารสุดหล่อ  หรือฝึกบริหารเสน่ห์ด้วยการส่งยิ้มให้สาวๆ เหมือนเช่นทุกวัน  เป็นผู้ชายที่ยิ้มสดใส

ไม่ว่ามองเมื่อไหร่ ก็เหมือนเป็นแสงสว่างให้ชีวิตพอจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้อยู่ทุกครั้ง  ..... ถึงได้รัก........รักมากขนาดนี้

อยากอยู่ตรงนี้ .......  อยากจะมีความสุขแบบนี้ทุกๆ วัน  ถ้าทำได้ก็อยากให้เวลา....หยุดหมุน  อยากลืมความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

อยากจะมีแค่ "เรื่องของเรา" เท่านั้น  จะได้ไหม?  ดึงหมอนมากอด  อยากสัมผัสได้ถึงเวลาที่เรามีกันและกัน..เหมือนก่อนหน้านี้

เหมือนเมื่อคืนนี้  หมอนของพี่พาร์ทยังมีกลิ่นกายของอีกฝ่ายอยู่เต็มไปหมด   ขโมยไปดีมั้ย  ยังไงซะตอนนี้พี่พาร์ทก็คงไปทำงานแล้ว.... 

แค่หมอนใบเดียว....คงไม่หวงใช่มั้ยฮะ  ....   ผมก็แค่ อยากอยู่ในที่ๆ มีกลิ่นของเรา มีความรู้สึกของเราอยู่ในนั้น   

และมีกลิ่นอายความรักของเราลอยอบอวลอยู่ก็เท่านั้น  แค่สัมผัส......ก็รู้แล้วว่าเรา   “รักกันมากขนาดไหน”

ได้แต่ยิ้ม....มันคงเป็นยิ้มที่ไม่มีเหตุผลที่สุดเท่าที่เคยมีมา  อยากเก็บความสุขที่มีทุกหยาดหยดของเมื่อคืนเอาไว้ตราบนานเท่านาน 

กระทั่ง.......ตื่นมานานขนาดนี้ถึงไม่ยอมไปไหน  ไม่อาบน้ำ ไปแปรงฟัน ไม่กินข้าว  ไม่ทำอะไรทั้งนั้น   ขอแค่วันนี้วันเดียว  .....  แค่นี้ก็พอ 

เผลอลอบยิ้มน้อยๆ  คิดถึงสัมผัสของอีกฝ่าย  อบอุ่น......เหลือเกิน  แค่คิดแค่นั้นก็นึกอยากจะกลืนน้ำลายตัวเองขึ้นมาทันที...ที่รับปากพ่อไว้

ที่ยินดียกคนที่ผมรักไปมอบให้ใคร  ..... อยากจะกลืนน้ำลายตัวเอง  อยากจะผิดคำพูด  ..หรืออะไรก็ได้  แค่ให้เราอยู่ด้วยกัน

อยากจะเก็บพี่พาร์ทไว้เป็นของผมคนเดียว  แค่คิด.....ว่าพี่กำลังนอนกอดคนอื่น  กำลังมีใครมานอนแทนที่ผมตรงนี้ 

ก็ถึงกับคอแข็ง.....   ต้องกลืนน้ำลายหนักๆ ลงคือเสียอึกใหญ่  เจ็บ....จนพูดไม่ออก  เหลือบตามองนาฬิกา.....บ่ายสามแล้ว 

ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อเช้า  แปลกมั้ย?  ผมกลับไม่รู้สึกหิวสักนิด  อิ่มทิพย์เอาเสียดื้อๆ  อิ่มกับความรักที่ถาโถมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

แม้จะได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องประท้วงอยู่หน่อยๆ  แต่ก็ช่างประไร  ในเมื่อปากผมมันยังไม่อยาก  ....  อีกสองชั่วโมงพี่พาร์ทเลิกงาน

และแน่นอนอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น.......พี่พาร์ทก็คงมาถึง  ไม่มีเวลาโอ้เอ้แล้ว...  ค่อยๆ ตะกายเตียงเพื่อลุกขึ้นนั่ง

เจ็บจนเหมือนตัวจะฉีกออกจากกัน  จนต้องทิ้งตัวลงไปใหม่นอนหอบแฮ่กๆ อยู่กับเตียง  กลั้นใจกัดริมฝีปากตัวเองแน่น แล้วฝืนลุกขึ้น

“อ๊ากกกกกก   >////<  อูยยยยยยยยยย~”   เสียงครางไม่หวานนะ.....แต่โอดครวญ   พอลุกขึ้นได้ขาก็ทรุดยวบ ล้มก้นกระแทกพื้นซะงั้น

เจ็บจนสะดุ้งเลยทีเดียว  ผมค่อยๆ คลานเข้าห้องน้ำไป มันเสียวอ่ะ....กลัวจะล้มแบบเมื่อครู่  ดันตัวเองอย่างระมัดระวังสุดกู่

นั่งลงบนขบอ่างอาบน้ำ เอาหลังพิงผนังมือทั้งสองข้างยึดขอบอ่างเสียแน่น ก่อนจะคู้ตัวงอเข่า ยกขาทั้งสองขาขึ้นพร้อมกัน  ยกลอยข้าม

มาในอ่าง อย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยหย่อนตัวลง ไปนั่ง  ถอดเสื้อผ้าอย่างไม่ใยดี เปิดน้ำเย็น น้ำร้อน พร้อมๆ กัน ไม่นานนักก็ได้ปริมาณ

ที่ต้องการ  น้ำค่อนข้างอุ่นจนค่อนไปทางร้อนเกือบมาก ตอนแผลข้างหลังโดนน้ำครั้งแรก แสบ....จนต้องกัดปากตัวเองจนปากเจ่อ

หลังจากที่เจ่ออยู่แล้ว(เพราะโดนจูบจนปากเจ่อ  เหอๆๆๆ)  ตอนนี้ปากผมน่าจะห้อยเหมือนปากพี่โน้ต (เชิญยิ้ม) ไปแล้ว  ง่า >///<อายจัง

.

.

.

หลังจากที่แช่อยู่สักพัก  ขัดสีฉวีวรรณกันจนเสร็จเรียบร้อย  เมื่อคืนดุเดือดขนาดนั้นก็ขอสำรวจตัวเองเสียหน่อย  มองเท่าไหร่

ก็เห็นแต่ “รอยรัก” ที่พี่พาร์ททำไว้   เผลอยิ้มกับกระจกไม่แน่ใจว่าไอ้ตัวที่อยู่ตรงหน้าจะเรียกว่า “ตุ๊กแกหรือตัวอะไรดี”

ถึงได้ลายพร้อยไปทั้งตัวขนาดนั้น  แทบจะเปลี่ยนสัญชาติจากคน...ไปเป็นสัตว์เลื้อยคลานกันเลยทีเดียว หึหึ  พี่พาร์ทนี่ก็SeXจัดเหมือนกันนะ

หลังจากแช่น้ำร้อนอยู่นาน ...ความเจ็บปวดทั้งหลายจางหายอย่างไม่น่าเชื่อ  มองหาผ้าเช็ดตัวนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบเข้ามาด้วย
เดินกลับมาเก็บเสื้อผ้าที่ผมถอดทิ้งไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปด้วยตัวเปล่าเปลือย  ด้านล่างยังขัดๆ อยู่บ้าง แต่ก็เดินสะดวกมากขึ้น

แม้จะเสียเวลาอาบน้ำไปเกือบๆ ชั่วโมงแต่ก็คุ้มค่า  จัดการเช็คตัวเช็คผม แต่งตัวจนเรียบร้อย ได้แค่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดหลวมๆ ของพี่พาร์ท

มาใส่  มองไปที่เตียงสภาพกระจุยกระจายราวกับผ่านสมรภูมิรบมาอย่างหนัก  แล้วทำไมต้องรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วใบหน้าด้วยนะ 

เลยหันไปจัดการเปลี่ยนผ้าปูเตียง ปอกหมอน ผ้าห่ม จนเสร็จ หยิบ MP3 มาคล้องคอ เสียบหูฟังฟังเพลงโปรด  เดินออกไปห้องครัว

ค้นหาข้าวของสำหรับมื้อเย็น พี่พาร์ทกลับมาคงหิว  มองเวลาที่ข้อมือบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว มีเวลาเหลือแค่ชั่วโมงครึ่ง.... ผมว่าพอสำหรับทำอาหาร
.

.

ทำกับข้าวไปสองสามอย่าง สำหรับคนๆ เดียวผมว่านี่ก็น่าจะพอ  ผมเก็บกวาดทำความสะอาดจนเสร็จทิ้งอย่าง  ยืนมอง....ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องครัว

บ้าจริง......  ในที่สุด ก็เสร็จหมดทุกอย่างจนได้ ไม่มีอะไรต้องทำอีกแล้ว ......ไม่มีแล้ว  เผลอเม้มปากตัวเองแน่นๆ  ใจหายอีกแล้ว แต่สุดท้ายก็ยิ้ม

“พี่พาร์ท....ผมรักพี่จริงๆ นะ”   ผมบอกกับชุดเครื่องครัว ห้องนอน  เปลี่ยนเสื้อผ้าเอาชุดเดิมมาใส่  หยิบปลอกหมอนใบเดิมที่พึ่งถอดออกไป

ก่อนหน้านี้สวมใส่หมอนใบเดิม  หมอนของพี่พาร์ท มองกระเป๋าใบย่อมขนาดเท่าเน็ตบุ๊คเท่านั้น  คงไม่สามารถใส่หมอนใบใหญ่ได้

เดี๋ยวหอบลงไปที่ร้านสะดวกซื้อพี่แจ๋วคงมีถุงขนาดใหญ่พอจะใส่หมอนหนึ่งใบ  หยิบกระเป๋าสะพายบนบ่า อย่างรวดเร็ว  จ้องมองรอบห้องอีกครั้ง

“ผ...ผม.....รักพี่นะ อันนี้....ขอนะครับเป็นตัวแทนพี่ไงมันมีกลิ่นพี่เต็มไปหมดเลย ” กดจูบที่หมอนเบาๆ  กำลังส่งยิ้มให้ความรักที่มากมายในห้องนี้

“ผม...รักพี่...”  พูดได้แค่นั้น  ก็สะดุ้งสุดตัว   รู้สึกได้ถึงแขนแข็งแรงที่โอบกอดผมจากด้านหลัง เกี่ยวหูฟังให้หลุดไป

.

“..................”



“.................”

.

“โกหก.....”  เสียงรำพึงรำพันเบาๆ จากด้านหลัง อย่างน้อยใจ  ผมรู้ ......ผมรู้ดีว่าพี่เสียใจ  ทาบมือบนฝ่ามือหนาอย่างปลอบใจ แต่ก็...ไม่กล้าพอ

ที่จะหันไปสบตาคนข้างหลัง

“เอาแต่จะหนีพี่ไป...แล้วจะพูดทำไมว่ารักพี่  คนรักกันเค้าทิ้งกันไปอย่างหนีเหรอปัต?”  น้ำเสียงที่ดูน้อยเนื้อต่ำใจ ....   กำลังตัดพ้อต่อว่าผม 

ได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา   อีกคนจับผมหมุนให้หันหน้าเข้าไปหา  ได้แต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย

“......................”

“บอกพี่ที....เหตุผลของปัตคืออะไร  ทั้ง ๆ ที่เรายังรักกัน  ทำไ..ม  ถึงจะทิ้งพี่ไป”  พี่พาร์ทดึงผมไปกอดแน่นๆ

“ปัต.... ปัต......”  ได้แต่อึกอัก จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออก ซุกหน้าเข้าหาอกกว้าง.....  ฝามือหนาค่อยๆ ดันผมออก สายตาคาดคั้นส่งมาที่ผม

“บอกพี่...บอกกับพี่เถอะ ได้โปรด”   แววตาเศร้าสร้อยนั้น ช่างเจ็บปวด จนผมต้องโอบกอดพี่พาร์ทไว้แน่นๆ

“ผม...จำเป็นฮะ  อย่าโกรธปัตเลย”

“จะไม่ให้โกรธได้ยังไง เราจะทิ้งพี่ไปโดยไม่บอกเหตุผลพี่เลย  พี่ทำอะไรผิดเหรอปัต บอกพี่มาสิ”

“ไม่ฮะ...พี่ไม่ผิด  ไม่ผิดเลย  ผมผิดเอง”

“เรา....มีคนอื่นเหรอ?”  ผมรีบส่ายหน้าเป็นระวิง

“ไม่ฮะ...ไม่เคยมีใคร”

“แล้วเพราะอะไร?”

“ขอโทษฮะ  ปัตบอกพี่ไม่ได้”   มือพี่พาร์ทบีบแน่นๆ ที่แขนผม....จนเจ็บ

“เพราะพ่อพี่เหรอ?”

“พ่อพี่ไม่เกี่ยว”

“แล้วใครเกี่ยว?”

“ไม่มีฮะ  พี่พาร์ทขอโทษฮะ  ปัตต้องไปแล้ว”   พี่พาร์ทจ้องลงมาสบตากับผมอย่างจัง

“จะไปจริงๆ เหรอ ถึงพี่จะขอให้อยู่?”  เจ็บจนพูดไม่ออก

“...............”  พยักหน้าแล้ว เม้มปากแน่น

“ไม่รักพี่แล้วใช่ไหม?”

“..............”  ก้มหน้ามองพื้นส่ายหน้าไปมา

“พี่เข้าใจแล้ว....ขอโทษทีที่รั้งเราไว้”  พี่พาร์ทปล่อยมือผมออก   ผมก้มหน้าเดินผ่านพี่พาร์ทไปจนถึงประตูห้องนอน  มือข้าหนึ่ง

ยังจับหมอนไว้จนแน่น  กำลังจะเปิดประตู......แต่ก็ต้องชะงัก

“ถ้าเลือกที่จะไป....   ก็ขอให้ปัตลืมให้หมด ลืมว่าเราเคย “รู้จัก”......  ลืมว่าเราเคย “รักกัน”  อย่าจดจำเรื่องที่เคยผ่านมา ลืมมันไปซะให้หมด

ในเมื่อมันไม่ได้มีค่าอะไร  ก็ขอให้เราเป็นแค่ “คนแปลกหน้า”ที่ไม่เคยรู้จักกันก็แล้วกัน พี่เอง.....นับจากวินาทีนี้ก็จะลืม”   

ของที่อยู่ในมือร่วงผลอยลงกับพื้นเหมือนสติขาดผึง ขาไม่รักดีทรุดฮวบลงกับพื้น  ดีที่มือค้ำประตูไว้ทัน ค่อยๆ ดันตัวหันหลังกลับมามอง

คนที่พูดประโยคเมื่อครู่  รู้สึกว่าขอบตาตัวเองร้อนผ่าว  เจ็บ.....ราวกับใครเอาหวายแช่น้ำมาเฆี่ยนตีผม   น้ำใสๆ ไหลออกมาราวกับก็อกแตก

 จะให้ทนไหวได้ไง.....  คนที่ผมรักบอกจะลืมผม  และให้ผมลืมเรื่องระหว่างเรา งั้นเหรอ?  โกรธจนพูดไม่ออก  ผมรวบรวมแรงที่เหลือ

วิ่งเข้าพุ่งชนพี่พาร์ท.....จนเราล้มคว่ำไปด้วยกัน  มือทั้งสองข้างกระหน่ำรัวทุบลงบนอกพี่พาร์ท  อีกฝ่ายก็ปัดป้องพัลวัน

“ไม่..ไม่!........ .ฮึก ......”

“ไม่.... อย่า.ลืม... ฮึกๆ....ปัต... ......พี่พาร์ท....อย่า...ลืม  ฮึกๆ ..ม..ไม่ให้ลืม...  ฮือๆ....”

“อย่าลืม......ฮือๆๆ  ......อย่า...ลืม.....ฮือๆ......”   ผมได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น กับอกพี่พาร์ท เพราะอีกฝ่ายกอดรัดผมเสียแน่นจนขยับไม่ได้

ผมไม่ไหวทนไม่ไหว (ฮือๆๆๆๆ)   เสียใจเหลือเกิน  ร้องไห้อยู่นาน......พี่พาร์ทค่อยแรงกอด  ค่อยๆ ลูบหัวผมอย่างปลอบใจ

.

“อย่าลืมได้โปรด.....   อย่าทำเหมือนปัตไม่มีตัวตน  อย่าทำเหมือนปัตตายไปจากใจพี่แล้ว  อย่าลืม...ไม่อยากให้ลืม  อย่าลืมนะ พี่สัญญาสิ”

ใจผมมันเหมือนจะขาด  หันไปจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง  เม้มปากแน่น ดวงตาพราวไปด้วยหยาดน้ำตา

“งั้นบอกพี่มาทำไมถึงจะต้องทิ้งพี่ไป?”  พี่พาร์ทหันมาสบตาผมนิ่ง  ดวงตาคมจับจ้องมาที่ผม สายตาที่สอบเค้นรีดเอาความจริง

“ปัต...”

“ถ้าไม่พูด...ก็ไปซะ พี่จะลืมเราเลยคอยดู”

“อย่า!!......ฮึกๆ  พี่อย่าลืมปัตนะ...... บอกแล้วปัตยอมแล้ว ปัต......สงสารพี่ปิ่น พี่ปิ่นรักพี่พาร์ท  แล้วๆ พี่ปิ่นกำลังจะตายใช่ไหมฮะ? ”

“โธ่..ปัต เด็กโง่เอ้ย ”     พี่พาร์ทกอดผมแน่นขึ้น  มือแข็งแรงกำลังลูบหัวผมอย่างปลอบใจ  แล้วกดจูบเบาๆ ที่หัว   

“ทำไมไม่คุยกับพี่ครับ...พี่จะบอกให้นะถึงเราจะเลิกคบกันจริงแต่พี่ก็ไม่มีทางรักปิ่น ไม่มีทางแต่งงานกับปิ่นหรอก เพราะพี่คิดกับปิ่น

แค่น้องสาว เข้าใจมั้ยครับ? ”   พี่พาร์ทประกบมือทั้งสองข้างที่แก้มผม จับให้ผมเงยหน้าขึ้นจากอก  ก่อนจะรั้งผมให้เลื่อนตัวสูงขึ้น

พร้อมทั้งยื่นหน้าเข้ามามอบจูบแสนหวานที่แผ่วเบาให้กับริมฝีปากผม   

“ฟังพี่นะ...เรามีอีกตั้งหลายวิธีที่จะทำให้ปิ่นมีความสุข  รวมถึงตัวเราเองด้วย อย่าบอกพี่นะว่าเด็กผู้ชายที่ทำกับข้าวไปให้ปิ่นชิมบ่อยๆ

แทบจะทุกวันธรรมดา จนปิ่นชมนักชมหนานี่เป็นปัตอ่ะ?”   พี่พาร์ทหันหน้ามาคาดคั้นเอาความจริง  ผมพยักหน้าตอบ

“ฮะ”

“แล้วเรารู้จักปิ่นได้ยังไง บอกพี่มาตามตรงนะ....ไม่งั้นพี่จะลืมเราซะเดี๋ยวนี้”

“อือ~  พี่พาร์ทอ่ะ ขี้แกล้ง นี่แนะ!”  ผมทุบอกพี่พาร์ทไปแรงๆ ทีหนึ่งข้อหาน่าหมั่นไส้

“โอยยย  เจ็บ...  อย่ามาเฉไฉเล่ามา  ไอ้ป่วน”  พี่พาร์ทยกมือขึ้นมาชี้หน้าผม  ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังรวมถึงการตัดสินใจของผม

พี่พาร์ทฟังนิ่งๆ ไม่ได้แสดงความเห็นอะไรจนผมเล่าจบ 

“ปัตใจดีเกินไป....แต่ช่วยรักพี่ก่อนคนอื่นได้ไหม?  รู้ไหมตอนที่เราทิ้งพี่ไปพี่เป็นยังไง? เสียใจแค่ไหน ? เจ็บจนคิดว่าอยู่บนโลกนี้ไม่ไหว”

“พี่พาร์ท.......” 

“ยังดีที่มีพี่ภีมคอยปลอบใจพี่ ...ไม่อย่างนั้น  จะมีชีวิตเหลือมาให้คนบางคนสารภาพรึเปล่าไม่รู้”

“พี่พาร์ท...ปัตขอโทษฮะ”  ผมกราบลงบนอกพี่พาร์ท น้ำตาซึมน้อยๆ เสียใจจริงๆ เพราะผมเองที่คิดอะไรตื้นๆ

“ปัตเสียใจ ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว  ปัตจะไม่ทิ้งหัวใจตัวเองไปไหน  จะไม่เห็นใครดีกว่า จะไม่สนใจใครอีกแล้ว จะสนแต่เรื่องของเรา

คิดแต่เรื่องของเราเท่านั้นฮะ”  ผมพูดเสียงเศร้า

“ไม่ใช่แค่นั้นมีอะไรเราต้องคุยกันก่อนนะเด็กดี  เข้าใจมั้ย?”

“ครับ..ต่อไปปัตจะคุยกับพี่พาร์ทก่อนฮะ”    เรากอดกันแน่น อยู่อย่างนั้น 

.

.

.

“สรุปไม่ทิ้งพี่แล้วใช่ม่ะ?”

“ฮะ..ไม่ไปไหนแล้วจะเกาะอย่างนี้ทั้งชีวิตเลย”    ผมเงยหน้าไปสบตาพี่พาร์ท  ที่กำลังยกยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก  ผมก็ยิ้มตอบเขินๆ

ริมปากที่ผมหวงแหน  ....  พี่พาร์ทค่อยยื่นหน้าเข้ามาใกล้    ผมหลับตาพริ้ม.....รอรับสัมผัสหวาน 


จมูกคมยื่นใกล้จนเฉี่ยวกันเบาๆ รู้สึกถึงลมหายใจที่ละอยู่บนใบหน้า   ขนตางอนๆ ของอีกฝ่าย ปะป่ายไปมาบนหน้าผมราวกับแกล้ง

.


.

.

.

.

.

.


.

.

.

“จ๊อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

.

.

“อุ๊บบบบ....กำลังจะ Romantic”    พี่พาร์ทปิดปากแน่นกลั้นหัวเราะเต็มที่  ผมหน้างอ   >////<  อายจนหน้าแดงไปหมด
“ป่ะไปกินข้าวกันไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?”

“พี่รู้ได้ยังไงอ่ะ?”

“ก็พี่นั่งทำงานอยู่นอกห้องไง?”

“อ้าว..ไม่ได้ไปทำงานเหรอฮะ?”

“อืมม  .. ก็อยู่บ้านทั้งวันนั่นแหล่ะ ก็เราสลบไปขนาดนั้นใครมันจะกล้าทิ้งไปหล่ะ?”

“งั้นทำไมผมถึงไม่เห็นพี่เลยหล่ะ?”

“มุมตรงนั้นจากห้องครัวมันเห็นที่ไหนหล่ะ?”

“แล้วทำไมปัตยังไม่ได้ยินเสียงอ่ะ?”

“ก็เสียบหูฟังทั้งสองข้างขนาดนี้...จะได้ยินมั้ยหล่ะ?”

“งั้นที่ปัตพูดคนเดียวตลอดเวลาพี่ก็?  ... >/////////////////////////<  อ๊า~”   ผมเม้มปากแน่น

“ครับ...ได้ยินเต็มสองรูหูเลยแหล่ะ”
“ตุ๊บ..........โอ๊ย”

“ทำไมไม่บอกปัตอ่ะ?”


“บอกก็ไม่ได้ฟังอะไรดีๆ ดิ  ว่ามีคนแถวนี้....หึหึหึ”

“พี่พาร์ทบ้า ... ชิส์”  สะบัดหน้าหนี

“ฮ่าๆ  โอ๋ๆ อย่างอนนะครับคนดี  ป่ะไปกินข้าวกัน”  พี่พาร์ทกำลังจะดันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ผมขืนตัวไว้

“เดี๋ยวดิ”

“อะไรหึ?”

“ขอ Romantic หน่อย”  พูดจบ ผมก็ก้มไปจูบพี่พาร์ทแผ่วเบา ริมฝีปากเราประกบกันบางเบาแต่อบอุ่น  กำลังจะผละออก มือหนาๆ

ของอีกฝ่ายก็จับเข้าที่ท้ายทอยผม กระซิบเสียงแผ่วก่อนจะกดหน้าผมให้ก้มลงไปอีก

“ยังไม่อิ่มเลย  อีกนิดนะ”

.



.

.

“อือออออ...อ๊ะ.....อ่า  ”

“อืมม ....จ๊วบบ  อ่า”

“อ๊ะ...พี่พาร์ท  อือออออ  พอก่อน”   ผมผละตัวออกได้ในที่สุดหลังโดนจูบไปร่วมสิบกว่านาที  พี่พาร์ทดันตัวขึ้นมาถามด้วยความสงสัย

“ทำไมครับ  พี่ยังไม่อิ่มเลย”

“ปัตหิวอ่า”

“กินพี่ไปกินไม่ได้เหรอฮะ  แป๊บเดียวเองนะ นะ”

“ไม่ได้ฮะ  กินพี่ไม่อิ่มหรอก”

“ของพี่เล็กไปเหรอ หึหึ”  พี่พาร์ทยิ้มที่มุมปากนิด ๆ ยักคิ้วกวนๆ อีกสองที  ผมหมั่นไส้ เลยชกท้องพี่พาร์ทเบาๆ

“บ้า...ปัตหิวข้าวนิ ไม่ได้หิวสวาท บ้ากามอย่างบางคนอ่ะ  เมื่อคืนไม่พอรึไง”

“กินปัตเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก”

“ไม่เอาอ่ะ จะกินข้าว กินข้าว ๆๆๆๆๆๆ” ผมเริ่มประท้วงจนพี่พาร์ทหัวเราะ

“โอเคๆ  5นาทีพอนะ”

“ไม่เอา 10 นาที”

“ไม่เอางั้น 6นาที”

“ไม่เอางั้น 20นาที”

“วุ้ย!!  ไอ้เปี๊ยก  10 นาทีพอ”

“งั้น 1 ชั่วโมง”

“โอย  ไปๆ  ยิ่งพูดพี่ยิ่งเสียเปรียบไปกินกัน  ไปๆๆๆๆ”



“ตุ๊บ”   ผมหันไปจ้องหน้าพี่พาร์ทเขม็ง  เอากับพี่แกสิพยุงผมลุกขึ้นไม่ทันไร ผลักลงเตียงซะงั้น จะได้กินข้าวมั้ยวันนี้

“อ๊ะ..โทษทีพี่เข้าใจผิด  หึหึ”

“เหรอฮะ  แล้วที่พี่คร่อมผมอยู่นี่หมายความว่ายังไงฮะ” 

“อ๊ะเหรอพี่ไม่เห็นรู้ตัว...งั้นไปกินข้าวกันเน๊าะ  ป่ะๆ” 

.

.

สุดท้ายอาหารมื้อแรกของวันก็ตกถึงท้องซะที  เย้......................







หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 03-10-2012 07:39:17
“ปัตใจดีเกินไป....แต่ช่วยรักพี่ก่อนคนอื่นได้ไหม?  รู้ไหมตอนที่เราทิ้งพี่ไปพี่เป็นยังไง? เสียใจแค่ไหน ? เจ็บจนคิดว่าอยู่บนโลกนี้ไม่ไหว”

ดีนะที่พี่พาร์ทไม่โกรธอะไรปัต แต่อ่านประโยคนี้แล้วน้ำตาซึมเลยอะ  :monkeysad:

กอดคนเขียนหน่อยสิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 03-10-2012 08:58:52
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:  รักคนเขียน อิอิ  ต่อไปนี้จะไม่ปัตจะไม่เสียใจแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 03-10-2012 09:45:11
 :-[ ไม่มาม่าแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 03-10-2012 10:24:10
ใกล้จะจบแหล่ะ  หมดมาม่าไปเป็นลัง  ฮ่าๆๆๆ   ต่อไปก็มีแต่ยิ้มๆ กับหวานๆ ค่ะ

ถ้าถามว่า...SM ตรงไหน  S= ตอนที่บอกว่าพี่พาร์ทSEXจัด, 
M=ตอนนั้น ที่น้องชอบให้พี่พาร์ทจัดหนัก  โฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทำได้แค่นี้ เพราะเรื่องมัน ซอฟท์อ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-10-2012 11:01:50
ดีใจที่เขากลับมารักและอยู่ด้วยกันอีก กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 03-10-2012 11:09:23
เย่ ในที่สุดก็รักกันแล้ว เย่ๆทีหลังก็คุยกันก่อนจะทำอะไรนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-10-2012 11:31:40
พี่พาร์ทหื่นเกินไปแล้วนะ  :jul1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 03-10-2012 13:18:24
น้องปัตคราวหลังมีเรื่องอะไรต้องคุยกับพี่พาร์ทก่อนนะจ๊ะ อย่าตัดสินใจเองคนเดียวอีกน้า

ดีใจที่กลับมาดีกันเหมือนเดิมแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 03-10-2012 14:42:18
กลับมาหากันสักที  :m1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 03-10-2012 16:03:54
เข้าใจกันแล้ว
ปัตกลับมาอยู่กับพี่พาร์ทแล้ว
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 33 เรื่องของเรา (100%) P.15 3/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: prae_07 ที่ 03-10-2012 16:55:09
 :-[ ดีกันแล้ว เย้ๆๆๆๆๆดีใจจังเลย ><
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-10-2012 13:00:34
อันเนื่องมาจากตอนที่แล้ว  มันยาวมั๊กๆ แล้วเลยไม่ได้ต่อบท Love scene ดังที่ตั้งใจ
เรียกว่ายังไม่สะใจพอ  หุหุหุ  เลยมา Special กันต่อ     :-[ :-[ :-[
มาดื่มด่ำฉ่ำหวาน กับรักโรแมนๆ กันเลยจ้า 
 :bye2: :bye2:



Special ดื่มด่ำและฉ่ำหวาน

แถม+++++ร้อนๆ+++++++


“อร่อยมั้ย?”   ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย หลังจากก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างตั้งใจสมกับ  ...ที่ลำบากเหลือเกินกว่าอีกฝ่ายจะปล่อย

ให้มาทานอาหารได้มื้อแรกของวันได้   

“ฮะ”  สั้นๆ ง่ายๆ แล้วก้มหน้าก้มตาลงมือกับอาหารตรงหน้าต่อ  อีกฝ่ายก็ทานเรื่อยๆ ไม่ได้เร่งรีบอะไร

“มากกว่าพี่รึเปล่า?”   ผมถึงกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย  คนกับอาหารจะเอามาเปรียบเทียบกันได้ยังไงหล่ะ?

“ไม่เห็นจะเกี่ยวกันนี่ฮะ”  ผมเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย  แต่ก็แค่นั้นแหล่ะ พอเห็นสายตากรุ้มกริ่มของอีกฝ่ายก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยาก


“นั่งตักพี่หน่อยนะ....อยากกอด นะนะ”   พี่พาร์ทว่าอ้อน ๆ  สายตาเว้าวอนเป็นที่สุด ทำผมหลุดยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก หันหน้าหนีแทบไม่ทัน

ก่อนจะหันกลับมามองอีกฝ่าย  ที่ยังจ้องผมยิ้ม  ๆ  แล้วเปลี่ยนมาทำสายตาเจ้าชู้ใส่ ฮ่าๆๆๆ ผมยิ้มกว้างอย่างหยุดไม่อยู่

“ว่าไง?” พี่พาร์ทเร่งเร้า  จนผมต้องขยับไปนั่งตัก ลำแขนแข็งแรงวาดมาโอบกอดผมรวดเร็ว  แล้วยื่นคางมาวางบนไหล่ผม 

ริมฝีปากร้อน ไล่งับเบาๆ ตามลำคอผมอย่างย่ามใจ  สลับกับกดจมูกคมซุกไซร้ซอกคอ  และหอมแก้มผมเป็นระยะ

“อืออ ~  อย่าฮะ  ปัตยังกินข้าวไม่เสร็จเลย ”  ผมเอนตัวหนีริมฝีปากร้อนของอีกฝ่าย  พี่พาร์ทไม่สนใจเปลี่ยนมาไล่งับเบาๆ ตามแขน

แล้วดูดทำรอย ส่วนปากก็เฝ้าต่อปากต่อคำไม่ขาดปาก  ยามที่ละออกจากแขนผม


“ก็กินไปสิครับ  พี่ไม่ได้ปิดปากเราไว้ซะหน่อยนี่”  ว่าแล้วก็รั้งตัวผมให้กลับมานั่งอย่างเดิม  ไล่จูบรั้งแต่ลำคอยันใบหู สอดลิ้นหยุ่น
รุกรานเข้ามาทำผมขนลุกซู่ชูชันขึ้นทั้งตัว 

“อ่า~   พ...พอก่อนฮะ   อื๊อออ~”  ผมครางเสียงแผ่ว แอ่นตัวหวือ เพราะอีกฝ่ายใช้มือบดบี้หน้าอกผมอย่างมันมือ 

“พ.....พี่พาร์ท  อืมมมม”  ได้แต่หายใจหอบถี่   ทิ้งตัวพิงด้านหลัง  แหงนหงายคอให้อีกฝ่ายซุกไซร้ลำคอตามอำเภอใจ 

ผมยื่นมือไปข้างหลัง สอดมือเข้าสัมผัสเรือนผมนุ่มมือของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกโหยหา  รู้สึกปรารถนาให้อีกฝ่ายสัมผัสมากขึ้นไปอีก

“จ..จูบ...หน่อยฮะ”  ผมว่าเสียงปร่า น้ำเสียงขาดห้วงเป็นระยะ  ด้วยอารมณ์ที่ค่อยๆ โหมกระพือขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ 

ริมฝีปากหนาของอีกฝ่ายทาบทับมาบนริมฝีปากผม  ลิ้นหยุ่นเฉอะแฉะกำลังทำหน้าที่ของมันด้วยความกระหาย 

ซอกซอนค้นหาความหวานของกันและกัน  ดูดดุนซุกไซร้ ไล่เกี่ยวกันจนแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียว  ทั้งโหยหาและเร่าร้อนพอกัน

อาจจะเป็นเพราะนานแล้ว......ที่ห่างหายกับเรื่องอย่างนี้   อาจจะเป็นเพราะยิ่งห่าง....ความต้องการก็ยิ่งสะสม

อาจจะเป็นเพราะความกลัว.....ที่ว่าจะต้องห่างหายกันไปอีกครั้ง จึงต่างพยายามพันธนาการอีกฝ่ายด้วยความโหยหา ตักตวง

ความสุขเอาไว้มากที่สุด  เท่าที่.....ตอนนี้จะสามารถตักตวงมาได้   อาจจะเพราะเมื่อทุกอย่างพ้นผ่านไปได้ด้วยดี........
....  “คุณค่าของ”   คำว่า   “รัก”  ในวันนี้ถึงไม่อาจประเมินค่าได้  รู้แต่ว่าอยากจูบ....  อยากสัมผัส....  อยากมีตัวตนในสายตาของอีกฝ่าย

อยากได้อ้อมกอด  อยากเป็นของกันและกัน  อยากให้รู้ว่า......ความรัก...ที่มีอยู่ ณ ตอนนี้......  จะรักษามันไว้ “ยิ่งชีวิต”

.

.

.

.

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ที่จูบกันอยู่บนโซฟานั่น..... ความรู้สึก “รัก”   ที่ต่างฝ่ายต่างประเคนให้กัน   อย่างไม่มีใครยอมใคร   

รู้สึกตัวอีกที   หลังผมก็ค่อยๆ ถูกวางบนเตียงนุ่มๆ  ตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ของใครบางคน ที่ไม่ยอมละแม้กระทั่งริมฝีปาก

ในยามที่อุ้มผมเข้าห้องนอนด้วยร่างกายเปลือยเปล่า  เสื้อผ้า....ที่ต่างฝ่ายต่างทึ้งของอีกฝ่ายอย่างขัดใจ  ราวกับเป็นของเกะกะ

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผมชอบ.....ลอยจางๆ กระทบจมูก  ทำให้นึกถึงตอนไปเลือกซื้อที่ทำผมหน้าแดง

.

.



“กลิ่นไหนดีฮะพี่พาร์ท”  อีกฝ่ายที่ยิ้มกริ่มเดินเข้ามาหา ผมที่เข็นรถเข็นมาตามชั้นน้ำยาปรับผ้านุ่มล่วงหน้าอยู่ก่อน และกำลังก้มๆ

เงยๆ ดมกลิ่นนั้น ลองกลิ่นนี้ จนเลือกที่ถูกใจมาได้ 2 สองกลิ่น  แต่ไม่รู้จะเลือกกลิ่นไหนดี เพราะถูกใจทั้งสองแบบ 

“แล้วสองแบบนี้ต่างกันยังไงหล่ะ?”

“อันหนึ่งก็กลิ่นหอมแบบสดชื่นเฟรชราวกับบรรยากาศในยามเช้ากลิ่นแดดอ่อนๆ ลอยละล่อง  ส่วนอีกกลิ่นหอมเย็น ๆ

ทำให้รู้สึกสบายทุกครั้งที่ได้กลิ่น  เหมือนๆ กลับกล่อมให้นอนหลับสบายอ่ะครับ”  ผมอธิบายเสร็จสรรพ อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มๆ

“ตามใจปัตสิ ........เพราะคนที่ดมกลิ่นหมอนบ่อยๆ ก็คือปัตนะครับ   หึหึ”  พี่พาร์ทกระซิบเสียงแผ่วเบาละเลียดตามแนวใบหู ขบเบาๆ

เล่นเอาคนฟังหน้าร้อนผ่าวถึงกับไปไม่เป็น  ได้แต่ทำหน้าแดง >///////<    สายตาค้อนๆ ไปให้

“ก็ปัตเลือกแล้วได้สองแบบนี้   ที่เหลือเป็นหน้าที่พี่พาร์ทสิ”  ผมบ่นเสียงงุ้งงิ้งอยู่ในลำคอ  เริ่มส่งสายตาหันไปสนทธากันพื้นกระเบื้อง

“งั้นพี่เลือกแบบที่สอง  เพราะมันเหมาะกับกลางคืนดี”  อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ขณะที่ผมเลือกหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่พี่พาร์ทเลือกลงรถเข็น

แล้วเร่งเข็นหนีอีกฝ่าย ที่ยังส่งเสียงหัวเราะ เบาๆ ตามมาหลอกหลอนผมเป็นระยะ

.

.

“ย...อย่าอม  อึก .....อ่าาาาาาา~ ”   ผมครางเสียงกระเส่า  ทั้งที่ปากพูดแบบนั้น  แต่ร่างกายกลับตอบสนองเต็มที่ มือของผมกำลังขยุ้ม

เรือนผมหนานุ่มของอีกฝ่าย  ขา....อ้ากว้างออกไปอีกเพื่อให้ริมฝีปากสัมผัสได้มากขึ้น  ด้านล่างขยับสวนเข้าปากร้อนของอีกฝ่าย

ตามแรงปรารถนา   เกิน...กว่าที่ใจจะต้านทานไหว   ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความรู้สึกของเราทั้งสองฝ่าย  ริมฝีปากร้อน

ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ  ขบเม้นเป็นระยะเพื่อสร้างความเสียว  พร้อมกับไล้ลิ้นเลียรอบลำ ก่อนจะหยอกเอินยอดสุดจนผมครางเสียว

“อืออ~  พ...พี่พาร์ท  อ่า~  เสียวครับ”    แล้วกับมาดูดกลืนทั่วทั้งลำ  ให้จมหายไปในปากร้อนๆ  ตามประสาคนมีประสบการณ์

.

.

.
.

“อ๊ะอ๊ะ.......อึก..”



.

.

.

“อ๊าา~   พี่พาร์ทจะเสร็.......อืออออออออออออออออ~”   เรือนผมสีดำถูกกดให้ลงต่ำ พร้อมทั้งด้านล่างที่กระแทกสวนขึ้นมา

ร่างทั้งร่างเกร็งกระตุก ฝ่าเท้าจิกลงบนที่นอนเสียแน่น  น้ำนมสีขาวขุ่นพุ่งทะลัก  เข้าปากอีกฝ่าย   ริมฝีปากหนาดูดกลืนหนัก

สร้างเสียวขึ้นมาอีกระลอกจนต้องบิดตัวเร่าๆ  เพื่อระบายความสะยิว ทิ้งตัวลงกับพื้นเตียงหอบหายใจหนักหน่วง เมื่ออีกฝ่าย
ยอมถอมริมฝีปาก ใบหน้าคมยกยิ้มที่มุมปาก.....หล่อซะจนแทบทนหลงไม่ไหว ต้องดันตัวขึ้น ดึงอีกฝ่ายมากดจูบ

แทรกลิ้นจ้วงชิมรสเฝื่อนในปากของอีกฝ่าย  กลิ่นคาวคลุ้งกำจาย ......หากแต่ซ่อนความหวานฉ่ำไว้ภายใน  ดูดดื่มอยู่เป็นนานกว่า

จะละริมฝีปากออก   

“ตาพี่บ้างนะครับ”  พี่พาร์ทว่าเสียงกระเส่า  เร้าอารมณ์กว่าทุกที  มือแกร่งจับตัวผมพลิกคว่ำอย่างง่ายดาย  เลื่อนมาจับบริเวณสะโพก

ก่อนจะรั้งให้ชันตัวขึ้น โดยที่ใบหน้ายังทำหน้าที่ซุกอยู่กับหมอน สูดดมกลิ่นหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ร่วมกันเลือกมาเองกับมือ

ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ที่แดงจัดขนาดนี้เพราะอาย หรือเพราะแรงปรารถนามันมากกว่ากัน  พอส่วนหัวของมังกรแตะโดน

ก็สะดุ้งสุดตัว เพราะฤทธิ์ “รัก” ของคืนที่ผ่านมาบาดแผลยังไม่บรรเทา  พี่พาร์ทชะงัก  ก้มหน้าลงมาจูบที่หลัง ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า
“เจ็บเหรอครับคนดี”    ผมพยักหน้าอยู่กับหมอน  ริมฝีปากเม้มแน่น  น้ำตาคลอหน่วย  พี่พาร์ทก้มลงมากดหอมเบาๆ ที่หัวผม

“พอแค่นี้มั้ยครับ?”     พี่พาร์ทว่าน้ำเสียงอบอุ่น ผมจ้องตากับพี่พาร์ทอยู่นาน  สุดท้ายก็ได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายหน้าช้าๆ   

เพราะนิ้วของอีกฝ่ายที่กำลังทำปูไต่ไปทั่วหลังอยู่ตอนนี้ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย  ไม่อยากให้ห่างไปไหนเลย....อยากจะคนๆนี้กอดนานๆ

“เบามือหน่อยนะฮะ......ปัตขอร้อง”  ผมพูดเสียงอู้อี้อยู่กับหมอน 

“หึหึ...  ขอร้องครางรึเปล่า?”

“งั้นไม่ต้อง.......อือออออออออ~   พ...พี่พาร์ท”   ลิ้นหยุ่นๆ ของอีกฝ่าย  กำลังไล้เลียรอบบริเวณตะเข็บของช่องหวาน มือผมจิกแน่น

ที่หมอนระบายอารมณ์  แอ่นสะโพกรับสัมผัสหวาม  ลิ้นร้อนๆ ของอีกฝ่ายค่อยชำแรกเข้าออกช่องหวานเป็นว่าเล่นทำผมครางกระเส่า

ด้วยความเสียวซ่าน

“อ่า.....  พ....พี่พาร์ท”   รู้สึกถึงของเย็นๆ ถูกป้ายที่ช่องหวาน  นิ้วแกร่งค่อยๆ ชำแรกเข้ามาช้า ๆ ร่างกายผมเกร็งเครียดต่อต้าน

รู้สึกเจ็บแปลบ พร้อมๆ กับเสียวซ่านไปในตัว  พี่พาร์ทกดจูบเบาๆ ทั่วสะโพกกลมมน  มืออีกข้างลูดขึ้นลงให้แก่นกลางลำตัวผม 

ปลอบโยนให้รู้สึกผ่อนคลาย  ผมหายใจหอบถี่  เมื่อร่างกายปรับตัวรับกับสัมผัสแปลกปลอม นิ้วแกร่งสะกิดต่อมกระสัน 

ทำผมลืมเจ็บปวดทั้งมวล  ร่างกายแอ่นหยัดเด้งรับนิ้วแกร่งที่สอดแทรกเข้ามาเรื่อยๆ จนเป็นสามนิ้ว 

“อ่าาาา~  เข้ามาครับ  เข้ามาในตัวปัตที”  ผมกรีดเสียงแหบพร่าที่คราคร่ำไปด้วยอารมณ์หวิว  เรียกร้องสัมผัสที่มากกว่า 

หัวมังกรแตะเบาๆ กับช่องด้านหลัง   ถูไถเบาๆ ให้ร่างกายผมคุ้นชิน  ก่อนจะค่อยๆ กดตัวมุดเข้ามาเรื่อยๆ จนหมดลำ

“อืมมมมมม~”  พี่พาร์ทครางเสียงต่ำ  นิ่งค้างไว้ยังไม่ขยับ  แล้วก้มมากดจูบไปทั่วแผ่นหลัง   มือแกร่งขยับแก่นกลางลำตัวผม

จนผมบิดเร่าๆ  ครวญครางเสียงหอบถี่   ช่องด้านหลังเต้นตุบๆ  บีบรัดมังกรของพี่พาร์ทเป็นระยะ  ร่างกายพร้อมแล้วกับการสัมผัส

พี่พาร์ทเลื่อนเข้าออกช้าๆ  สองมือกระแน่นที่สะโพกผมค่อยๆ บดเบียนสัมผัสร้อนเลื่อนไปมา จนผมปั่นปวน 

แรงสัมผัสเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์หวาม ที่โหมกระพือไม่หยุดหย่อน

.

.

.

“เด็กดี .....ซู๊ดดดดดด ....  อ่าาาาาา~”  อีกฝ่ายกัดฟันแน่นๆ  เสียงครางซี๊ดซ๊าดดดด  หลุดรอดตามไรฟัน

.

.

ตับ....             ตับ.....   

.

.

.

ตับตับ    ตับตับ     ตับตับ

.

.

.

ตับๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.

.

.

“อือออออออออออ~  / อ่าาาาาาาา~”   น้ำนมสีขาวขุ่นพุ่งทะยานอีกรอบ ขณะที่อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นอีกสองสามรอบ  ก็เกร็งกระตุก

มังกรด้านหลัง กระตุก กึกๆ กึกๆ กระแทกจุดเสียว  ก่อนจะปลดปล่อยน้ำคาว  อุ่นร้อนพวยพุ่งเข้าด้านหลัง ผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั่ว

.

.

จนสิ้นสุด  พี่พารทค่อยๆ ทิ้งตัวนอนข้างๆ กัน รั้งผมไปกอดแน่น  กดจูบที่แก้มผมหนักๆ 

“เอาออกก่อนครับพี่พาร์ท...ปัตจะได้ไปล้างตัว”

“ไม่เอาออกหรอก  กว่าจะเข้าได้มันยาก”

“แต่ปัตอยากล้างตัวอ่ะ  มันเหนียว”
“อื๊อ จะรีบล้างไปไหนครับ  สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร”


“ไรอ่ะ พี่พาร์ทไม่ไหวแล้วฮะ”  อีกฝ่ายขยับเข้าออกเบาๆ

“อูยยยย  ซี๊ด  ย...อย่าฮะ มัน...มัน”

“มันเสียวเหรอ?  หึหึ   น่านะนอนก่อนพักเอาแรง  ตื่นมาค่อยเ_ากันใหม่”
“โหหหหหหห ไม่ไหวจะเคลียร์อ่ะพี่?”

“อย่าดื้อ ไอ้ป่วน นอนๆ เอาแรง เร็ว....เดี๋ยวพี่เปลี่ยนใจต่อเลยนะ”

“ฮะๆ  นอนๆ อย่าพึ่งต่อนะฮะ ปัตไม่ไหวแล้ว”

“จุ๊บ...คร๊าบ   รักนะครับ”

“ปัต....ก็   รักครับ”

.

.

.

.

.

ครอกฟี้~    เสียงลมหายใจแผ่วเบา  แต่สม่ำเสมอ  กับสองคนที่ยังหลับใหลในนิทรา  ในเวลาที่อ่อนล้า  อย่างน้อยแค่ “เรา”  ยังมีกันและกัน

 มีอ้อมกอดอบอุ่น  มีรอยยิ้มที่จริงใจ  มีคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน  ไม่ว่าปัญหาจะ “ยิ่งใหญ่” สักเพียงไหน  แต่ผมก็เชื่อว่า “เรา”  จะต้องข้ามผ่าน

ไปได้อย่างแน่นอน  ถึงจะล้มจะคลุกคลาน  เราก็สัญญาว่า “จะจับมือกันและกัน”  อยู่อย่างนี้ ...... “จากนี้และตลอดไป”

 



หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 07-10-2012 13:45:43
ร้อนแรงกันจริงๆคู่นี้

พี่พาร์ทรู้ว่าอดอยากมานาน แต่ถนอมน้องหน่อยสิคะ น้องช้ำหมดแล้วววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ruby ที่ 07-10-2012 14:19:05
 :haun4: ร้อนแรงจังพี่พาร์ท ถนอมน้องบ้าง
รักกันไปนานๆนะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 07-10-2012 16:11:27
กลับมาจัดหนักกันเหรอ  :jul1:

ดีๆ คนอ่านชอบ  :m3:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-10-2012 17:46:46
พี่พาร์ทหื่นเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-10-2012 18:04:51
 :jul1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 07-10-2012 19:01:20
หวานเรียกเลือดคนอ่านจริงเลย

ร้อนแรงกันทั้งคู่ ฮะฮะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 07-10-2012 20:54:33
สองคนนี้รักกันมาก

มากจนอิจฉาแล้วนะ

 :-[
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-10-2012 22:59:39
เหมือนๆ จะซวย  คอมชาร์ทแบทไม่เข้าอ่ะ  ง่าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย +Special ดื่มด่ำฉ่ำหวาน P.15 7/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-10-2012 00:46:11
ในที่สุดปัตก้อกลับมาแล้ว พี่พาร์ทจับไว้ให้แน่นเลยนะอย่าปล่อยไปอีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ประกาศ--Computer เจ้งค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 09-10-2012 14:59:05
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ต้องขออภัยนะคะ  ตอนนี้ คอมที่ห้องเจ้งอ่ะ  แอบใช้ที่ออฟฟิศเล็กน้อย  ฉะนั้น


หุหุหุหุ   อาจจะไม่ได้อัพอีกหลายเพลา นะคะ   



 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 11-10-2012 00:33:12
ไปซ่อมมาแหล่ะ  อแด็ปเตอร์เสีย  เสียไปอีก 800-900 เดินดุ่มไปพันธุ์ทิพย์ หุหุหุ



Unit 34    แค่สายลม  [50%]



ผมยื่นอยู่หน้าสิ่งก่อสร้างทรงสูงชะลูด  ด้านในกลวงโบ๋ มีเพียงด้านล่างที่ทำจากวัตถุหนาเป็นเหล็กกล้าทรงสี่เหลี่ยม

มีประตูเพียงด้านเดียว ด้านหน้ายึดติดกับพื้นที่ว่างไม่กี่ตารางเมตร  ก่อนจะเป็นเชิงบันไดที่มีความชันไม่กี่ขึ้นทอดยาวไปถึง

สามด้าน ด้านซ้าย และขวา กับด้านหน้า  เพื่อให้แขกเหรื่อในงานเดินขึ้นมาแสดงความเคารพ และรำลึกถึงผู้ที่จากไป

เป็นวาระสุดท้าย    หยาดหยดน้ำตาบางๆ ค่อยๆ ไหลเอื่อยราวกับคนเดินทอดน่องไปเรื่อย  ไร้จุดหมาย และปลายทาง 

ได้แต่เม้มปากแน่น   แม้จะพยายามแล้วที่จะสะกัดกลั้นความรู้สึกที่ถาโถม แต่ความสูญเสีย......ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เจ็บปวดเสมอ

“อย่าร้อง....ปัตทำดีที่สุดแล้วลูก  ขอบใจนะปัตที่อยู่เป็นเพื่อนกับพี่เค้าจนวาระสุดท้าย”   พ่อพี่พาร์ทเอ่ยเสียงแผ่วเบา

จนแทบไม่ได้ยินเสียง  ผมยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ

“ครับพ่อ พ่อก็อย่าเสียใจเลยนะครับ.พี่เค้าไปดีแล้ว” ผมเอ่ยตอบอีกฝ่าย  ในเวลาที่เสียใจเช่นนี้ก็มีแต่คนที่เสียใจที่คอยปลอบ
โยน

กันและกัน   ผมมองพ่อที่ดวงตาแดงก่ำบ่งบอกให้ทราบว่า....ผ่านการร้องไห้มามากในระดับหนึ่ง พยายามฝืนยิ้มจางๆ ให้กัน

“นึกไม่ถึงเลย ชีวิตคนเรานี่ไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ เฮ้อ~    ป่ะ...ลูก ไปเคารพศพพี่เค้าเป็นครั้งสุดท้าย”  ผมพยักหน้ารับ

เราทั้งคู่ตรงดิ่งไปยังเมรุที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า หลังจากแขกเหลื่อทั้งหลายได้วางดอกไม้จันทร์จนเกือบจะหมดแล้ว

ผมกับพ่อเดินไปต่อแถว  ค่อยๆ สาวเท้าก้าวตามลำดับ จนใกล้ถึงบริเวณที่ตั้งศพ น้าสาวยื่นถาดดอกไม้จันทร์ให้พ่อ


ขณะที่พี่พาร์ทยื่นถาดดอกไม้จันทร์ให้กับผม  เราสบตากันเล็กน้อย  สายตาพี่พาร์ทที่ดูเป็นห่วงเป็นใยผมมากเป็นพิเศษ
ผมยิ้มน้อยส่งไปให้บอกให้อีกฝ่ายทราบว่า “ผมไม่เป็นไร”  พี่พาร์ทพยักหน้าน้อย ๆ รับรู้ แล้วหันไปทำหน้าที่ต่อ

ผมปล่อยให้พ่อร่ำลาพี่ปิ่นก่อน 

“ปิ่น....หนูเป็นเด็กดีมากนะลูก พ่อ......รักหนูเหมือนลูกพ่อคนหนึ่ง ชาตินี้เกิดมา ถือซะว่าทำกรรมมาน้อยนะลูก

ถึงเวลาที่เราไปรับบุญกุศลอยู่บนสวรรค์แล้วนะ  อย่าห่วง อย่ากังวล ขอให้ไปดี ไปสู่ภพภูมิที่ชอบนะลูก หากชาติหน้ามีจริง

ก็ขอให้หนูได้เกิดมาอยู่ในที่ดี สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างนะลูก”  พ่อพี่พาร์ทว่าเสียงสั่น  ผมเห็นพ่อแอบเช็ดหยาดน้ำตาไหล

คลอแก้มเบาๆ  สีหน้าเศร้าโศกเหลือเกิน พ่อขยับตัวไปพื้นว่างข้างๆ หันมาพยักหน้า บอกให้ผมไปร่ำลาพี่เค้าเป็นครั้งสุดท้าย

ผมก้าวเท้าไปหยิบตรงหน้า  หยิบดอกไม้จันทร์วางลงในไปในโลงไม้ ที่ตอนนี้มีพี่ปิ่นนอนสงบนิ่งอยู่ในนั้น มือถือดอกบัวพนมไหว้

มีสาญสิจน์พันรอบ  ใบหน้าสงบนิ่งราวกับแค่คนนอนหลับ ต่างกันก็แค่....สีผิวที่ดูจะซีดกว่าตอนปกติมากไปหน่อย

“พี่ปิ่นครับ... ขอบคุณที่เข้าใจผมกับพี่พาร์ท  ขอโทษที่ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้ ทำให้พี่มีความสุขไม่ได้ ปัต...ปัต.. เสียใจ  ฮึกๆ

ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้พี่เกิดมาสุขภาพแข็งแรง  และสมหวังในเรื่องของความรักนะครับ ”  ผมกระซิบเสียงแผ่วเบา  ๆ

พ่อลูบหัวผมปลอบใจ  ผมเช็ดน้ำตาอีกครั้งหันไปประครองพ่อที่ดูเหมือนจะหมดแรงเดินต่อไม่ไหว  ค่อยๆ เดินลงไป 

เมื่อถึงเวลาประชุมเพลิง บรรดาญาติทั้งหลายก็ลงมาจากเมรุ  ภาพเปลวเพลิงค่อยลุกโชนขึ้น  ประตูเมรุถูกปิดลงไม่นาน

หลังจากนั้น  ไม่ช้าไม่นานแขกเหลือก็ทะยอยกันร่ำลาเจ้าภาพและกลับไป.....จนเหลือแต่เหล่าบรรดาญาติ กับคนสนิท


ไม่ถึงสิบคน  ผมกับพ่อนั่งลงบนเก้าอี้ใต้เต็นท์ที่กางไว้ห่างจากเมรุประมาณ 5-10 เมตร มองภาพควันไฟ ที่กำลังพวยพุ่ง
สู่อากาศ    ควันสีดำโขมงค่อยๆ จาง  ค่อยๆ จาง หลังจากลอยสู่ที่สูง  จนสลายไปกลายเป็นแค่สายลมจางๆ ที่มองไม่เห็น

ทุกๆ อย่าง ดำเนินไปเรื่อยๆ ตามแบบฉบับของมัน เหลือเพียงร่องรอย....น้ำตา  ร่องรอย....ของความเศร้าโศกเสียใจ 

พี่พาร์ทเดินตรงมานั่งลงข้างๆ ผม  มือแข็งแรงยื่นมากุมผมแน่น....ใบหน้าคมยังคงจ้องมองมาที่ผมด้วยความห่วงใย


“ไม่เป็นไรนะ...อย่าคิดมาก”

“ครับ”

.

.

เกือบๆ สี่ทุ่มหลังจากช่วยงานเสร็จสิ้น ผม พ่อ และพี่พาร์ท ก็ขับรถกลับไปยังบ้านของพ่อ  ตอนนี้เรามาอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว

อดจะเป็นห่วงพ่อไม่ได้ แม้พ่อจะดูเข้มแข็งยังไง...แต่ในบางเสี้ยวในจิตใจคนเรามันก็อ่อนแอไม่รู้ตัว ผมกับพี่พาร์ทเลยอาสา

มาพักอยู่ที่นี่จนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่ขึ้น ......   หลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ต่างฝ่ายก็ต่างอาบน้ำ แล้วทิ้งตัวลงนอน

พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย  แต่.....อาจจะยกเว้นผมไว้คนหนึ่งที่ ตามันแข็งจนนอนไม่หลับ  เลยได้แต่คิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อย

ทบทวนทุกอย่าง  ภาพวนไปวนมาในหัวอย่างห้ามไม่ได้  ภาพคืนนั้นที่ผมกับพี่พาร์ทคืนดีกัน

.

.

“แล้วเราจะช่วยพี่ปิ่นได้ยังไงหล่ะครับ  ปัต...ปัตอยากให้พี่ปิ่นได้มีความสุขบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ชีวิตที่เหลือ”

“ก็ไม่ยังไง ... เราก็ดูเราเค้าเหมือนเดิมในแบบเดิม เพียงแต่เราจะช่วยกัน  ช่วยให้ปิ่นมีความสุขมากขึ้นไง”

“ยังไงหล่ะครับ?”

“แค่ใช้หัวใจเรา...เอาใจใส่ดูแลเค้าไง?”

“แล้วยังไงหล่ะฮะ? ปัตไม่เข้าใจ” 

“ปัต...ตอนเราไปเยี่ยมเคยเห็นปิ่นร้องไห้รึเปล่า?”  ผมส่ายหน้าช้าๆ ยังไม่เข้าใจความหมายที่พี่พาร์ทกำลังจะสื่อ

“แล้วปัตเคยเห็น ปิ่นทำท่าทางเจ็บปวด เสียใจ ในเรื่องความเจ็บป่วยรึเปล่า?” ผมส่ายหน้าอีกครั้งแทนคำตอบ


“เรารู้มั้ย....ว่าพี่เค้าร่างกายไม่รับอาหารแล้ว ทุกครั้งที่ทานจะต้องอาเจียรออกมาไม่มาก ก็น้อย”  ผมพยักหน้าช้าๆ
พี่พยาบาลก็เคยบอกอยู่บ่อยๆ  แต่ไม่เคยเห็นเองสักครั้ง

“แล้วปัตรู้มั้ย  ....ทำไมปิ่นยังทานข้าวทุกวัน ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น?”

“ไม่ฮะ”

“เพราะว่าปิ่นเองไม่ต้องการให้ใครเป็นห่วง  ปัต....พี่ว่าปิ่นเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งมากๆ ปิ่นเค้ารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

แต่ก็ยังยิ้ม  อาจจะเจ็บ อาจจะเสียใจ แต่พี่ว่าปิ่นไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร  และไม่อยากเป็นภาระใคร 

เพราะที่ปิ่นทำอยู่ทุกวันนี้ ก็คือพยายามเข้มแข็ง พยายามมีความสุข เพื่อให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องเป็นห่วง หรือเป็นกังวล

ถ้าปัตกำลังทำอะไรที่เป็นการสงสารปิ่น หรือแม้แต่เพราะเธอเป็นสาเหตุให้ปัตต้องเสียใจ  พี่ว่าปิ่นจะไม่มีความสุข


บางครั้งพี่ว่าปิ่นเองก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีเพื่อนสักคนอยู่ข้างๆ  รับฟัง พูดคุย หรือแม้แต่มีโอกาสที่เธอ
จะมอบความสุขให้คนรอบตัวให้รู้ว่าถึง -คุณค่า ของตัวเอง - เพื่อที่จะศรัทธา  และมีกำลังใจให้ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

ถึงเราจะอยากช่วยเหลือหรือหวังดีต่ออีกฝ่ายสักแค่ไหน  แต่ปัตอย่าลืมว่า....เราคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่สามารถ

ดลบันดาลทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่เราปรารถนาได้  ฉะนั้นก็จงทำแค่พอที่เราจะทำได้ก็พอ  แต่อย่าให้ถึงขั้น ...

ทำร้ายตัวเอง และคนรอบตัวนะครับ  เข้าใจมั้ย?”    พี่พาร์ทหันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง   มันรู้สึกผิดจนน้ำตาซึม

มัวแต่คิดอะไร....ก็ไม่อยู่คนเดียว  คิดเองเออเอง แล้วก็เจ็บเอง  ผมพยักหน้าในที่สุด  ซบหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย

“ขอโทษฮะ”







หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Singleman ที่ 11-10-2012 02:26:36
เสียใจกับปิ่นด้วยนะ

อย่างน้อยหนูก็เข้มแข็งมากนะ

ขอให้หนูไปสบายนะจ้า

และช่วยเป็นกำลังใจให้ทั้งสองด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-10-2012 06:14:16
พี่พาร์ทพูดได้ดี  o13
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 11-10-2012 07:35:12
พี่พาร์ทเป็นผู้ใหญ่มากอะ พูดได้ดีมาก  o13
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 11-10-2012 09:04:26
อืม ปรึกษากันตั้งกะแต่แรกก็จบแล้วหนูปรัชเอ๋ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 11-10-2012 12:56:05
 :man1:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 11-10-2012 15:04:15
ถ้าปัตคุยกับพี่พาร์ทแต่แรก คงไม่เสียใจกันตั้งหลายตอนเนอะ 5555
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 12-10-2012 07:19:03
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม P.16 10/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 12-10-2012 19:08:11
พึ่งจะเห็นความเจ๋งของพี่พาร์ทก็วันนี้แหละ  (ปกติหื่นตลอด555)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-10-2012 00:50:23
Unit 34 แค่สายลม  75%






“อ้าว!...พี่พาร์ท น้องปัตมาด้วยกันได้ยังไงคะเนี่ย?”   ปิ่นที่กำลังนั่งรถเข็นอยู่กลางสนามหญ้า ผมสลวยถูกรวบมัดไว้

แต่ก็ทำให้ใจหายได้ไม่น้อย เพราะดูแล้วมัดผมที่เคยหนา ตอนนี้กลับบางลงซะจนเหลือสักครึ่งเดียวเห็นจะได้

อีกฝ่ายหันมาถามไถ่ ขณะที่ผมกับปัตกำลังเดินเข้าไปหา  รอยยิ้มกับแววตาที่ดูสดใสขัดกับผิวซีดๆ ที่นับวันดูจะ

ซีดลงทุกที ร่างกายของปิ่นดูเล็กลงกว่าอาทิตย์ที่แล้วที่ผมมาเยี่ยมอย่างเห็นได้ชัด  เรี่ยวแรงดูเหลือน้อยจนแทบ

จะเรียกว่าไม่มีเหลือซะมากกว่า   ปิ่นยิ้มน้อยๆ มาให้   ผมกับปัตยิ้มตอบ  ไอ้ตัวเล็กยื่นขนมของโปรดปิ่นไปให้ 

ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของปิ่นที่เห็นได้ชัด  ก่อนจะย่อตัวลงข้างๆ รถ เกาะกุมมืออีกฝ่าย

อย่างทนุถนอมราวกับกลัวมันจะแตกหักถ้าออกแรงบีบมากขึ้นเพียงนิด  ลูบหลังมือแผ่วเบา จนผมอดคิดไม่ได้

ถ้าผมไม่ทำให้ปัตเป็นแบบนี้  ผู้หญิงที่เป็นคนรักของปัตจะโชคดีสักแค่ไหนที่ได้รับการดูแลจากคนๆ นี้

แต่....เมื่อทุกอย่างได้ล่วงเลยมาถึงตอนนี้ผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยน เมื่อผมมีความสุขและที่สำคัญกว่านั้นไอ้ตัวเล็กของผม

ก็มีความสุข  แถมยังพยายามแบ่งปันความรักของผมที่มีให้ไปเผื่อแผ่คนอื่น...จนบางครั้งก็แอบ  “หึง”

ว่าน้องไปแอบหลงรัก ความน่ารักและความนุ่มนวลในแบบผู้หญิงไปแล้วรึเปล่า  รัก...จนมากกว่าผมรึเปล่า

แต่เมื่อทุกอย่างกระจ่างผมถึงเข้าใจ....ไม่ใช่เพราะ “ไม่รัก”  หากแต่เป็น “รักมาก” เกินไป ไม่ใช่แค่เพื่อปิ่น แต่..ส่วนหนึ่ง

ก็เพราะทำเพื่อผม....  ผมยังจำคำพูดประโยคหนึ่งที่ดูจะกระตุกใจตัวเองไม่น้อย เมื่อนึกใบหน้าเจ็บปวดของคนพูด

“ถ้าไม่มีปัต พี่พาร์ทก็คงมีครอบครัว มีลูกได้แบบสมบูรณ์”  จำได้ว่าผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย

ทำได้แค่ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นๆ  กอดจนแทบจะกลืนหายเข้าไปในอก ลำคอตีบตันทั้งที่มีคำพูดมากมายอยากจะ

อธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ  แต่น่าแปลก .....ที่มันกลืนหายลงไปในลำคอเสียเฉยๆ

“ของฝากฮะ ของโปรดพี่ปิ่นเลยนะเนี่ย  เป็นยังไงบ้างฮะ แล้วน้าสาวหล่ะฮะไปไหน” ไอ้ตัวเล็กเอ่ยถาม

“ขอบใจนะจ๊ะน้องปัต  ก็เหมือนๆ เดิมแหล่ะ  วันนี้น้าสาวไปธุระที่สระบุรี  ว่าแต่เรามาพี่พาร์ทได้ยังไงหล่ะ?”

ปิ่นเลิกคิ้วสงสัย หันกลับมามองผมสลับกับปัตไปมา  ไอ้ตัวเล็กเหล่มองเล็กน้อยปิดปากเงียบสนิท ส่วนผมเอาแต่ยิ้ม

แล้วหันไปบอกปิ่น 

“ปัตเป็นรุ่นน้องพี่ แล้วก็ทำงานที่บริษัทพี่ด้วย ส่วนตอนนี้ย้ายตำแหน่งไปเป็นลูกรักพ่อแทนพี่แล้ว”
“อ้อ  อย่างนี้นี่เองเห็นน้าสาวบอกปิ่นว่าเจอปัตครั้งแรกตอนที่มาเยี่ยมปิ่นกับคุณลุง  แต่ไม่เห็นเคยมากับพี่พาร์ทเลยค่ะ”

“พี่ไม่รู้ว่าปัตรู้จักกับปิ่นเลยไม่ได้คุยกันน่ะ   พอรู้ก็เลยมาเยี่ยมพร้อมกันซะเลย”  ปิ่นพยักหน้าเข้าใจ  หันไปมองหน้า

ไอ้ตัวเล็กของผมยิ้มๆ วางมือทาบทับบนฝ่ามืออีกฝ่าย

“น้องปัตเป็นคนน่ารักค่ะ ใครอยู่ใกล้ก็หลงรัก เนี่ยถ้าไม่ได้น้องปัตมาเยี่ยมบ่อยปิ่นคงเหงาแย่เลย ถ้ามีน้องสาวนะ

พี่จะยกให้เราคนแรกเลยรู้มั้ย? ”   ปิ่นหันไปยิ้มให้ไอ้ตัวเล็กอย่างเอ็นดู ปัตก็ยิ้มเล็กๆตอบ  แทนการตอบคำถามของอีกฝ่าย

เมื่อเริ่มเห็นท่าทีที่เหนื่อยอ่อนของปิ่น  เหงื่อผดเล็กๆ ค่อยๆ ซึมตามไรผม ใบหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม

“เข้าไปข้างในกันเถอะ  พี่ว่าตอนนี้แดดแรงมากแล้ว”
“ค่ะ”

“ปัตเข็นให้นะฮะ”   

“ขอบใจจ๊ะ”  ไอ้ตัวเล็กลุกขึ้นเดินอ้อมไปด้านหลังจากนั้นก็เข็นรถตามถนนอิฐตัวหนอนไปเรื่อยๆ มุ่งไปสู่ตึกห้องพัก รพ.

เสียงพูดคุยเรื่องราวมากมายหลั่งไหลออกมาไม่ได้หยุดหย่อน โดยเฉพาะสองคนนั่น เหมือนๆ จะลืมผมไปซะแล้ว

“ถ้าได้ไปเที่ยวด้วยกันสักครั้งพี่คงจะมีความสุขมากเลยแหล่ะ เสียดาย...ที่ตัวเองมัวแต่ไม่สบายอยู่อย่างนี้

เสียดาย..ที่เรารู้จักกันช้าไปเน๊าะ  ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พี่รับรองเลยชวนไปไหนพี่ก็จะไป”  ปิ่นรำพันราวกับน้อยใจ 

ดวงตาสดใจสลดลงอย่างเห็นได้ชัด  ปิ่นใช้ชีวิตที่นี่มาหลายเดือนจนแทบไม่ได้ออกไปข้างนอกสักครั้ง    คนที่เคย

ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกตลอดชีวิต แต่ตอนนี้กลับเหมือนถูกกักขังให้อยู่ในบริเวณที่จำกัด  ถ้าเป็นคุณ...จะทนได้ไหม?

ผมสังเกตุหันไอ้ตัวเล็กผมแอบกลืนน้ำลายลงคอหนัก  ถอนหายใจเบาๆ  แต่ก็ยังยิ้มปลอบใจส่งไปให้อีกฝ่าย

มือบีบลง ที่ไหล่บางของอีกฝ่าย  ปิ่นได้หันมามองแล้วยิ้มตอบน้อย จากนั้นก็ได้แต่ก้มหน้า ไหล่บางสั่นน้อย ๆ

ผมเดินข้างไปนั่งลงด้านข้าง ส่งรอยยิ้มที่คิดว่าอบอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้  ลูบหัวเบาๆ บนหัวทุยของอีกฝ่าย

โยกไปมา ปลอบใจเด็กขี้แย   รอยน้ำตาเอ่อคลอน้อยๆ ที่ดวงตาสวยของอีกฝ่ายเหมือนกลั้นความรู้สึกน้อยใจ

เอาไว้ไม่อยู่ ทั้งที่ผมก็รู้ว่าน้องพยายามแล้ว

“ถ้าปิ่นอยากไปพี่ก็จะพาไปเอง” 

“จ..จริงนะคะ พี่พาร์ทสัญญาแล้วนะ  ฮึกๆ ”   น้ำที่เกินจะกลั้นของปิ่นไหลลงมาไม่ขาดสาย ผมดึงน้องเข้ามากอด

เสียงสะอื้นไห้ กับรอยน้ำตาที่ชื้นแฉะบนอกผม ทำให้รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายดีใจเพียงใด  ผมลูบหัวทุยเบาๆ หันไปสบตา

ไอ้ตัวเล็กที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ริมฝีปากเม้นแน่นเป็นเส้นขีด จมูกแดง หูตาแดงไปหมดเพราะพยายามกลั้นน้ำตา

พยักหน้าไปมาเห็นด้วยกับความคิดของผม  ผมยิ้มกว้างไปให้ ยื่นมือข้างที่ว่างเกาะกุมมืออีกฝ่ายบีบหนักๆ

ผมทำปากเป็นรูปคำพูดสั้นๆ  “ทำได้แล้ว”  ช่วยกันทำให้ปิ่นมีความสุขได้แล้ว  โดยที่เราไม่จำเป็นต้องแยกจากกัน

ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้างขึ้น ทั้งที่ขอบดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา   ผมดันตัวปิ่นออกไล้มือเช็ดน้ำตาที่แก้มให้

“เลิกร้องได้แล้วครับ  กลายเป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ผมว่าแซวๆ แล้วพวกเราก็ขำกันเบาๆ
.

.

“คุณหมอครับพอดีผมมีเรื่องที่จะปรึกษา”  ผมเดินตรงไปยังห้องพักแพทย์ เคาะประตูหน้าห้องเบาๆ เพราะพยาบาล

ที่นั่งประจำหน้าห้องไม่อยู่  แล้วยื่นหัวเข้าไปเล็กน้อย เนื่องจากประตูห้องยังแง้มเปิดทำมุม 45 องศา  เห็นพยาบาล

กำลังยื่นแฟ้มรายงานให้กับคุณหมอ   คุณหมอเอียงคอเพื่อให้มองเห็นผมก่อนจะกล่าวเชิญ แล้วหันไปพยักหน้ากับ

พยาบาลสาวว่างานเสร็จแล้ว

“เชิญครับ”  ผมถอยห่างประตูสองสามก้าว เพื่อหลีกทางให้พยาบาลคนที่ว่า ก่อนจะแทรกตัวเข้าห้องแล้วปิดประตูเบาๆ

“คุณพาร์ทมีอะไรเหรอครับ  ถ้าเป็นเรื่องคุณปิ่นผมอยากให้ทางญาติทำใจไว้ด้วยนะครับ ตอนนี้เราไม่สามารถระบุได้

ว่าทางคนไข้จะสามารถอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ เพราะเชื้อลุกลามไปมาก  ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจของคนป่วยเท่านั้นครับ”

แพทย์ผู้ดูแลอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ผมทราบทั้งๆ ที่ก็พอจะเดาออกอยู่หรอก  แต่พอฟังจากปากหมอเอง

ทำไมใจผมมันหายขนาดนี้นะ   ผมนั่งลงตรงเก้าฝั่งตรงข้ามมอง

“ผมทราบดีครับ  ถ้าผมอยากจะพาแกออกไปเที่ยวสักอาทิตย์คุณหมอจะขัดข้องไหม  ผมรู้ว่าน้องมีเวลาอยู่ไม่มาก

ผมอยากให้แกมีความสุขมากที่สุดครับ”

“แต่มันเสี่ยงมากนะครับ แกพร้อมจะไปได้ทุกเมื่อหากอยู่ห่างจากแพทย์”  คุณหมอพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ครับ แต่ในเมื่อผมเองก็ไม่ทราบว่าน้องจะไปเมื่อไหร่ ความสุขครั้งสุดท้ายนี้ผมอยากทำให้แกสมหวังครับ” 

ผมยืนยันน้ำเสียงหนักแน่น  คุณหมอเบนสายตามองแฟ้มผู้ป่วยของปิ่นอยู่เนิ่นนาน มือข้างที่ถือปากกาอยู่ เคาะเบาๆ

ลงบนแฟ้มที่ว่าไปมาอย่างใช้ความคิด  แต่ในที่สุดก็หยุดแล้วเงยหน้ามาสบตากับผม  แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“เห้อ~  ร่างกายคนไข้อ่อนแอมากจริงๆ ผมคงต้องได้รับความยินยอมจากทางผู้ปกครองคุณปิ่นก่อนนะครับ   ผมเข้าใจดีนะ

เพราะแกต้องมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลยจะครึ่งปีแล้ว ถ้าเป็นความต้องการครั้งสุดท้ายและทางผู้ปกครองยินยอม

ผมก็ไม่ขัดข้อง แต่สถานที่ที่จะไปจะต้องไม่มีผู้คนพลุกพล่านอย่างห้างสรรพสินค้าและโรงหนังนะครับ เพราะคนไข้มี

อากาศแทรกซ้อนและติดเชื้อได้ง่าย ทานยาให้ตรงเวลานะครับ แนะนำให้จ้างพยาบาลส่วนตัวไปอีกคน เพราะผู้ป่วย

ทานอาหารเองไม่ได้ ต้องให้น้ำเกลือ และที่พักจะต้องไม่ห่างจากโรงพยาบาล หากมีกรณีฉุกเฉินจะได้รับการรักษาทัน”

“ขอบคุณมากนะครับหมอ ผมจะจัดการเอกสารให้เรียบร้อยครับ ส่วนเรื่องพยาบาลผมรบกวนคุณหมอเป็นธุระ

ให้หน่อยนะครับ  ผมอยากได้คนที่เคยดูแลน้องปิ่นอยู่แล้ว”  ผมยกมือไหว้คุณหมอเป็นการขอบคุณ

“ได้ครับไม่มีปัญหาเรื่องนั้นผมจะจัดการให้”

.

หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 15-10-2012 01:34:56
สงสารปิ่นอะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-10-2012 07:05:41
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-10-2012 08:47:55
ปิ่นน่าสงสารมากเลย พี่พาร์ทกับปัตคิดจะพาไปเที่ยวแล้วให้จากไปอย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-10-2012 08:53:40
เฮ้อ สงสารปิ่นอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 15-10-2012 13:02:58
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม II 75% P.16 15/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 15-10-2012 18:31:17
 :oo1: เห็นไหมไม่จำเป็นต้องเลิกกันก็ทำให้ปิ่นมีความสุขได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม 100% P.16 19/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 19-10-2012 01:11:22
ขอตัดเรื่องปิ่นไปตอนถัดไป  ตอนนี้มีแอบหวานนิดๆ  อ่ะ  คึคึ



Unit 34 แค่สายลม  100%


.

.

ณ  เชียงใหม่ 

.

.

หลังจากจัดการเอกสารทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ผม ปัต ปิ่น และคุณพยาบาลก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อย


ผมจัดการเช่ารถ แล้วขับตรงไปยังบ้านพักของผมที่เชียงใหม่ ครั้งล่าสุดที่มาที่นี่ก็พาไอ้ตัวเล็กของผมมาเยี่ยมครอบครัว

พอขับถึงบ้านพักเป็นบ้านสองชั้น ผมกับปัตพักด้านบน  ส่วนปิ่นกับพยาบาลพักห้องด้านล่าง เพื่อความสะดวก

ตอนนี้ปิ่นต้องนั่งรถเข็นตลอด  หลังจากเก็บสัมภาระ ผมกับปัตก็รับหน้าที่ไปตลาดและทำอาหารเย็น  ส่วนพยาบาลก็

อาบน้ำให้กับปิ่นระหว่างรอ  เราทานมื้อเย็นกันประมาณสองทุ่ม หลังจากทานเสร็จได้สักพักปิ่นก็ขอตัวไปพักผ่อน

เนื่องจากวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไกลหลังจากเข้ารับการรักษาตัว ทำให้ปิ่นรู้สึกเพลียๆ อยู่สักหน่อย

ปัตเข้าไปล้างจานในครัว ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทีวีรอ สักพักไอ้ตัวเล็กก็มานั่งลงข้างๆ  วางหัวแหมะกับไหล่ผม

ผมเอื้อมมือลูบหัวน้องเบาๆ  กลิ่นหอมของตัวน้องลอยกรุ่นยั่วให้ผมกดจมูกลงไปบนหัวทุยๆ ของอีกฝ่าย

“เหนื่อยเหรอ หืมมม?”   ไอ้ตัวเล็กเอาหัวไถเบาๆ กับไหล่ผม อ้อนๆ   นานๆ ทีไอ้ตัวเล็กถึงจะอ้อนแบบนี้ ...ยิ่งเห็นยิ่งน่ารัก

ผมเชยคางอีกฝ่าย ก่อนจะส่งจูบหวาบหวามไปให้  ยิ่งจูบก็ยิ่งต้องการมากไปอีก  ริมฝีปากแสนหวานของอีกฝ่าย

ให้ชิมเท่าไหร่ก็ไม่พอสิน่า สอดลิ้นร้อน ๆ ไปไล่ต้อนลิ้นหวาน  มือเรียวจิกแน่นที่ไหล่ผม ไม่ได้ผลักไส อย่างที่ปากสั่ง

“อืออ~  อย่าฮะ เดี๋ยวใครมาเห็น”  ไอ้ตัวเล็กครางประท้วง  หลังจากผมกดอีกฝ่ายให้นอนหงายหลังแนบพื้นโซฟา

ไปเรียบร้อยแล้ว  ผมสบตาอีกฝ่าย  ....  คิดถึง  ไม่ได้กอดแบบนี้ตั้งเป็นอาทิตย์แล้ว  หลังจากร่วมมือกันดูแลปิ่น

ไอ้ตัวเล็กก็แทบจะย้ายมาอยู่ รพ.  จนผมแทบจะน้อยใจ ทั้งที่ผมก็อยากได้กำลังใจบ้างแท้ๆ  สักนิดก็ยังดี 

ผมกดจมูกกับแก้มหอม  สูดดมความหอมความหอมที่กรุ่นอยู่รอบๆ ตัว ไอ้ตัวเล็กของผม ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

“คิดถึงจัง....ให้กำลังใจพี่บ้างสิ เหงาจะแย่แล้วโดนทิ้งทุกวัน”  ไล่เกลี่ยจมูกอยู่กับแก้มของอีกฝ่ายอยู่นาน พอเงยหน้า

ขึ้นมามองอีกที  ก็เห็นแต่แก้มใสๆ แดงระเรื่อ  นั่นยิ่งทำให้ผมยิ่งได้ใจ บดริมฝีปากดูดกลืนริมฝีปากหวานอีกครั้งให้ฉ่ำใจ

“คืนนี้พี่ขอนะครับ......ไม่ไหวแล้ว”  พูดจบ ก็หันไปปิดทีวี แล้วลากอีกฝ่ายให้เดินตามขึ้นข้างบนด้วยกัน ทันที

ไม่ได้รอความเห็นชอบแต่อย่างใด   .....บางครั้ง .....ความรัก......ก็ต้องเห็นแก่ตัวบ้างจริงไหม?



.

.




“อ่า~    พี่....พี่พาร์ท  อึก....  อืมมมม”  ไอ้ตัวเล็กครางหวือ  คว่ำหน้าซุกหมอน ริมฝีปากเม้มแน่น  ขณะที่สะโพกลอยโด่ง

เนื่องจากมือแกร่งของผมสอดกระชับและยกมันขึ้นมา  ตามด้วยท่อนเอ็นที่กำลังระอุกลางลำตัวค่อยๆ สอดแทรกเข้าไป

ในตัวอีกฝ่าย  เสียงหอบหายใจดังออกมาเป็นระยะ  ไอ้ตัวเล็กอ้าปากกัดแน่นที่หมอน  พร้อมเสียงครางระงมในลำคอ

ทั้งที่พยายามจะซ่อน   ริมฝีปากผมไล้เลีย ดูดกลืนไปทั่วแผ่นหลัง ด้านล่างขยับเนิบ ๆ ให้อีกฝ่ายได้ปรับตัว   

ก่อนจะเพิ่มแรงกระแทกให้หนักหน่วงตามสภาวะอารมณ์ที่พุ่งสูงอยู่ตอนนี้  ไอ้ตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองแน่น


แต่ก็ยังมีเสียงหลุดออกมาเป็นระยะ

“อ่ะ”


“อ๊ะ”




“อ๊าาาาาาาา~ ”  ร่างกายผมเกร็งกระตุกพ่นน้ำรักเข้าไปในตัวอีกฝ่าย  ดูเหมือนไอ้ตัวเล็กเหมือนจะเสร็จพร้อมกัน
ช่องด้านกระตุกถี่ บีบรัด จนท่อนเอ็นของผมเสียววาบ เผลอกระแทกตอบแรงๆ ไปอีกสองสามที  ก็เหนื่อยหอบ

ทิ้งตัวลงนอนกอดกัน   ยังไม่ได้ถอนแก่นกายออก  ผมชอบความรู้สึกนี้ กลิ่นหอม...จากตัวของปัตลอยกรุ่นอยู่แถวจมูก

แทรกด้วยกลิ่นเหงื่อตามไรผมนิดๆ จากกิจกรรมรัก ยิ่งทำให้รู้สึกว่าน้องเซ็กซี่เร้าใจเข้าไปอีก  ด้านล่างยังเชื่อมต่อกันแน่น

ราวกับเราเป็นคนเดียวกัน  เป็นของกันและกัน  ผมสอดแขนช้อนเข้าใต้ตัวของฝ่าย ดึงน้องให้หลังแนบกับแผ่นอกผม

เสียงหัวใจที่เต้นรัว ราวกับจะระเบิดออกมาซะเดี๋ยวนั้น มันกำลังเต้นกระแทกแผ่งหลังบางๆ ที่ดูสะดุ้งน้อยๆ ยามที่สัมผัส

โดนครั้งแรก  จนผมอดขำไม่ได้  ก่อนที่ไอ้ตัวเล็กจะรวบมือหนาๆ ของผม ขึ้นไปจับบริเวณเดียวกัน  บริเวณที่เรียกว่า  “หัวใจ”

จังหวะเต้นของหัวใจ ที่แรงไม่แตกต่าง  ทำเอาผมยิ้มแก้มแทบปริ บทจะน่ารักนี่ไม่ต้องพูดอะไร  ก็หวานได้จนน่าเหลือเชื่อ

ผมกดจูบที่หัวทุย กำลังจินตนาการถึงใบหน้าหวานของอีกฝ่าย ว่าจะแดงซ่านน่ารักน่าเอ็นดูขนาดไหน ปกติขี้อาย

จนจะมุดดินหนีอยู่แล้วแท้ๆ ทำผมอดใจไม่ไหวรำพึงรำพันคำว่า “รัก”  ที่มันมีอยู่จนล้นใจ ดูท่า...ถ้าไม่ได้บอกรักสักวัน

เห็นทีอกจะแตกตายไปซะก่อน   มัวบางๆ กุมมือผมไว้แน่น  หัวทุยค่อยๆ หงายแหงน จนเราสบตากัน  ผมยิ้ม...น้องยิ้ม

ปากบางจุ๊บเบาๆ ที่คางผม ผมไซร้จมูกหยอกเอิน อยู่บนเนินแก้มของอีกฝ่ายเล่น มันทั้งนุ่มทั้งหอม ทั้งรักทั้งหลงจนโงหัวไม่ขึ้น

“รัก”  ไอ้ตัวเล็กกระซิบตอบ  มีความสุขเป็นบ้า ได้แต่ยกยิ้มจนหุบแก้มไม่ได้ ถอนแก่นกายออก อุ้มสุดที่รักไปอาบน้ำ

ก่อนจะกลับมานอนกอดกันแน่น ให้ความอบอุ่นมันแล่นมาฉาบหัวใจให้ฟู่ฟ่อง   จมดิ่งสู่นิทราอันแสนหวาน

.

.

.


ที่มีกันและกัน.......เพียงสองคน





หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม 100% P.16 19/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: devotionNightmare ที่ 19-10-2012 04:04:07
หวานเกิ๊นนน  :m25:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม 100% P.16 19/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 19-10-2012 07:42:30
หวาน!!! คนอ่านตายเพราะเสียเลือดมาก ห้าๆ  :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม 100% P.16 19/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 19-10-2012 08:00:09
 :z1: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 34 แค่สายลม 100% P.16 19/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-10-2012 13:47:10
 :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 01:06:49
ต้องกรา่บขออภัยงามๆ  :sad4: เพราะตอนนี้แต่งยาก  และยาวมากๆๆๆๆๆๆ  แต่งๆ ลบๆ อยู่หลายรอบค่ะ  :z3:

กว่าจะจบลงได้  เพราะอยากให้มันมีแง่คิด  (ไม่แน่ใจว่าได้หรือเปล่า :confuse:)  แทรกเข้ามา

ไม่อยากให้มองว่า...ยังไง มันก็เป็นแค่นิยายเรื่องหนึ่ง  ให้แค่ความเพลิดเพลิน สุข ทุกข์ ร้องไห้ จบ  (ซึ่งมันก็จริงอยู่ :o11:)

อย่างน้อย  ก็อยากให้มีอะไรแฝงไว้  ถึงตัวเองจะเป็น หญิงที่ชอบผู้ชายก็จริง  แต่พอมองกลับไป

เห็นกลุ่มคนที่ "รักเพศเดียวกัน"  รู้สึกว่าเค้าลำบากมาก ๆ  ไม่ว่าด้านไหน สังคม ครอบครัว หรือแม้ในที่ทำงาน

อยากเป็น "กำลังใจ"  ให้นะคะ  เพราะส่วนตัวรู้สึกว่า  "ความรัก"  ก็คือ "ความรัก"   

ดังนั้น ความรัก  สำหรับเรา  มันสวยงามเสมอ  ไม่ว่าจะเป็น "รัก" ในรูปแบบไหน  สู้ๆ    o7 o7 ค่ะ

เวิ่นเยอะแล้ว  .....  เชิญอ่านค่า


ขออภัยนะคะ  ที่โพส หลายรอบ  พอดี ลองตัด แล้วโพสอยู่ สามรอบ มันบอกเกิน 20000 ตัวอักษร โพสไม่ได้
เลยตัดสินใจโพสเป็น สี่ทอนซะเลย  ฮ่าๆๆ   ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ค่า :bye2: :bye2: :bye2:

****************************************************************************************
Unit 35 

เช้าวันที่สองแห่งการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนและสัมผัสถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง  เราเลือกจะเดินทางไปแม่ฮ่องสอน

เพื่อไปชื่นชมทุ่งดอกบัวตองที่กำลังเบ่งบานปกคลุมทั่วทั้งภูเขาสีเหลืองทองอร่ามอวดโฉมท้าสายตาผู้คนทั่วทุกภาค

ให้มาเยี่ยมชม เราออกเดินทางกันแต่เช้าตรู่ ไม่ได้เร่งรีบ หากสังเกตุเห็นว่าปิ่นเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง

เราก็จะทำการแวะปั้มให้น้องสาวของผมได้ลงมาสูดอากาศหายใจอยู่เป็นระยะ  พร้อมกับแวะรายทางที่มีซุ้มอาหาร

พื้นเมืองของเหนือหลากหลายน่าอร่อยล่อน้ำย่อยจนต้องแวะทาน เมื่อปิ่นปิดไม่ได้เรื่องร่างกายไม่สามารถรับอาหาร

ก็เปลี่ยนมาเป็นทานเข้าปากเพื่อให้ลิ้นรับรู้รสชาดของอาหารเหล่านั้น ก่อนจะคลายออกมา เพราะไม่อยากจะบั่นทอน

ร่างกายของตัวเอง ยามเมื่ออาเจียรครั้งใดเห็นพยาบาลเล่าว่าปิ่นจะหอบเหนื่อยจนตัวโยนแล้วนอนหมดแรงอยู่ทุกที

แม้ผมกับปัตจะเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการนั้นออกมาจนเกินเหตุ เพราะรู้ดีว่ารังแต่จะทำให้อีกฝ่ายกังวล แถมรู้สึกแย่

ที่ทำตัวเป็นภาระในการเดินทางครั้งนี้  การเดินทางยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ แต่ผมกับสังเกตุเห็นรอยยิ้มที่เพิ่มขึ้น

พร้อมกับแววตาที่ตื่นเต้นดีใจราวกับเด็กที่พึ่งได้ของเล่นเป็นครั้งแรก  แต่ที่น่าแปลกคือสภาพร่างกายของปิ่นที่ดูอิดโรย

หากแต่จิตใจที่เข้มแข็งมากกว่าถึงได้กลบเกลื่อนอาการเหนื่อยล้าจนดูไม่ค่อยออก แม้ในบางเวลาปิ่นจะเผลอแสดงอารมณ์

อ่อนล้ามาให้เป็นระยะ เสียงสนทนาเจื้อยแจ้วระหว่างทางของปัตกับปิ่นดังอยู่เนืองๆ เพราะไอ้ตัวเล็กรับหน้าที่เป็นไกด์อาสา

ตามประสาเจ้าของพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่นี้มากที่สุด  เราเดินทางมาถึงทุ่งดอกบัวตองเป็นเวลาเกือบๆ บ่ายสามโมงเย็น

สีเหลืองทองทั่วขุนเขางามอร่ามจนน่าเหลือเชื่อ   ปิ่นตาโตตะลึงในความงามที่ธรรมชาติได้สรรสร้าง  เราจอดรถริมทาง

เพื่อลงไปสัมผัสธรรมชาติอันสวยสดงดงามนี้ด้วยตัวเอง  หลังจากเมียงมองผ่านกระจกรถมานานหลายร้อยเมตร

ผมอุ้มปิ่นวางลงบนรถเข็นโดยมีปัตที่จับรถเข็นไว้มั่นเพื่อไม่ให้มันไถลอยู่ก่อนหน้าแล้ว  หลังจากที่จัดท่าทางเรียบร้อย


มีลมเย็นๆ โชยมาให้สัมผัสกับอากาศที่หนาวของฤดู ไอ้ตัวเล็กถึงกับห่อไหล่ ผมแอบวางมือทาบบนมือน้องที่วางอยู่บนรถเข็น

ทำทีเป็นเข็นช่วย จริงๆ แล้วก็อยากจะเพิ่มความอบอุ่นให้อีกฝ่าย แต่สำหรับปิ่นแค่นี้คงไม่เท่าไหร่เมื่อการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ

อากาศดูจะโหดร้ายกว่านี้เป็นเท่าทวีคูณ  รอยยิ้มแห่งความดีใจปรากฎบนใบหน้าของปิ่น  มือผอมเรียวยื่นออกไป

เพื่อสัมผัสกิ่งดอกไม้งาม แต่ดูจะสูงเกินไป ปิ่นจึงทำได้แต่เอื้อมคว้าจน ผมยื่นมือไปเพื่อเด็ดดอกที่อยู่ตรงหน้า


“อย่าค่ะ...อย่าเด็ดปล่อยให้มันสวยอยู่ตามธรรมชาติดีแล้วค่ะพี่พาร์ท”

“แต่ปิ่น...”  พูดได้แค่นั้น อีกฝ่ายที่ทักท้วงก็แสดงเจตนารมณ์

“แค่โน้มก็พอแล้วค่ะ  ...แค่นั้นก็พอแล้ว อย่าให้มันมีค่าแค่ชั่วครู่ พอเหี่ยวเราก็ต้องทิ้งอยู่ดี  ถ้าอยู่บนต้นมันก็จะยัง

สวยงามอย่างนี้ได้อีกนาน”   ปิ่นหันมายิ้มให้ผม  ผมยิ้มตอบน้องลูบหัวน้องเบาๆ ปัตหันมามองด้วยความตื้นตัน


“พี่ปิ่นมองโลกในแง่ดีจังเลยนะฮะ” ปิ่นหันมามองปัตแล้วดึงมือไอ้ตัวเล็กไปกุมไว้ 

“ปัตครับ  ของบางอย่างอยู่กับเราอาจไม่เหมาะ อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์มากพอ   แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นอาจจะดีกว่า

มีประโยชน์มากกว่า มีคุณค่ามากกว่า และที่สำคัญอาจจะมีความสุขมากกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นพี่ก็เลือกที่จะไม่เก็บมันไว้

ไม่เหนี่ยวรั้งมันไว้  เพราะพี่ถือว่ามันอยู่ถูกที่ถูกเวลา และมีคุณค่าอย่างสูงสุดอย่างที่มันควรจะเป็น  จำไว้นะปัต

ของที่เป็นของๆ เรา ทำยังไงมันก็เป็นของเรา ถึงเราจะพยายามหยิบยื่นให้คนอื่น ผลักไสเท่าไหร่ แต่สุดท้ายมันก็เป็นของเรา

อยู่วันยังค่ำ   ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็รักษา “ของรัก” ให้ดีๆ นะจ๊ะ อย่ายอมให้ใครมาแย่ง และอย่าได้เปิดโอกาสให้กับใครอีก”

คำพูดของปิ่นมันทิ้งความหมายไว้หลากหลายจนผมไม่แน่ใจว่าปิ่นรู้เรื่องของผมกับปัตหรือเปล่า  รู้เรื่องของปัตที่พยายาม


[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 01:08:07


อย่างยิ่งที่จะช่วยปิ่นให้มีความสุขหรือเปล่า  “ของรัก” ที่ปิ่นว่า จะหมายถึงผมหรือเปล่า ผมก็ไม่อาจจะเดาใจใครได้

ไอ้ตัวเล็กพยักหน้าตอบรับช้าๆ  ดวงตาสบกันนิ่ง ผมเห็นแต่ความห่วงใยและจริงใจที่สื่อถึงกัน 
“ครับ ปัตจะจำไว้ครับ”  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  ปิ่นยิ้มตอบ  พร้อมกับอ้าแขนกว้าง  ปัตรั้งตัวปิ่นเบาๆ เพื่อสวมกอด บางครั้ง


คำว่า “มิตรภาพ”  มันก็ดูยิ่งใหญ่เกินกว่าผมจะเข้าไปแทรกได้  ทำได้เพียงจดจำรอยยิ้มกับแอบรัวชัตเตอร์เบาๆ เพื่อบันทึก

ภาพอันเป็นความทรงจำที่แสนดี  กอดกันอยู่ไม่นานนักไอ้ตัวเล็กก็ผละตัวออกมา

“ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันนะฮะพี่ปิ่น  ส่วนดอกนี้ปัตขอเด็ดนะฮะ เพราะปัตว่ามันจะมีคุณค่ามากพอสำหรับความทรงจำครั้งแรก

ของเรา  ปัตอยากเก็บมันไว้  อย่างน้อยก็ให้เป็นที่ระลึกระหว่างเรานะฮะ”  ไอ้ตัวเล็กยิ้มหวาน  ส่วนปิ่นก็พยักหน้าน้อยๆ 

แล้วรับดอกไม้ดอกงามมาถือไว้ในมือแน่น  ผมตั้งขาตั้งกล้อง จ้องมองภาพฉากหลังเต็มไปด้วยดอกบัวตองสีเหลืองสด

เต็มทิวเขาแซมด้วยใบสีเขียวดูสดใส ตรงใจกลางผืนดินที่แหว่งเว้าเว้นที่ว่างไว้สำหรับนักท่องเที่ยวให้ได้ถ่ายภาพ
สุดประทับใจ  รถเข็นสีเงินตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่นั้น สาวน้อยชุดขาวกระโปรงยาวจนเกือบชิดตาตุ่มกับเสื้อสีเนื้อแขนกุด

คลุมด้วยผ้าคลุมไหล่สีชมพูอ่อนกำลังปลิวไสว เพราะแรงลม  ใกล้ๆ กันไอ้ตัวเล็กของผมยืนขนาบข้างอยู่ด้านขวา

ถัดไปเป็นพยาบาลสาว  ส่วนพื้นที่ว่างด้านซ้ายเป็นของผม   ผมตั้งโปรแกรมถ่ายต่อเนื่องหลายแอ็ก พร้อมกับตั้งเวลา

5 วินาทีสำหรับการเปลี่ยนท่า  พอกดปุ่มก็วิ่งเข้าไปด้านซ้ายของปิ่น ต่างคนต่างถ่ายรูปกันสนุกสนาน  รีโมทในมือกด

เพื่อให้กล้องถ่ายภาพต่อไป เราวิ่งย้ายไปย้ายมารวมถึงคุณพยาบาลก็ร่วมแจมด้วย  จนวนมาถึงภาพที่เราถ่ายกันสามคน

มือข้างหนึ่งปิ่นกุมมือกับปัตไว้นิ้วเรียวสอดประสานเข้าหากัน   และอีกข้างหนึ่งก็กำลังกุมมือกับผมไว้แน่น 

“แชะ   แชะ   แชะ”  เสียงชัตเตอร์หมดลง ปิ่นคลายมือออกจากเราทั้งสอง น้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้มด้วยความยินดี


“ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ที่พาปิ่นมา ขอบคุณที่ทำให้ปิ่นมีความสุขจนถึงวันนี้ ขอบคุณทั้งพี่พาร์ทและก็ปัตมากค่ะ” 

ร่างบางๆ ของปิ่นสั่นระริกตามแรงสะอื้นไห้  แม้จะเข้มแข็งแค่ไหนแต่อย่างไรเสียความอ่อนแอ...มันก็มักจะปรากฎโฉมให้เห็น

ความสุข....ที่อยู่ตรงหน้า สิ่งได้รับการตอบสนอง ฝันที่เกินกว่าจะเป็นจริง แต่ปิ่นก็ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว คงจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

สำหรับน้อง  แต่ผมกับปัตก็พยายามที่จะทำให้มันเป็นจริง แล้วจะมีสิ่งไหนที่พอจะทำให้น้องได้อีกบ้างไหม? 

ไม่อยากให้คนตรงหน้ามีแต่เพียงน้ำตาอาบแก้ม... อยากให้มีแต่รอยยิ้มและความสุขจนถึงวาระสุดท้าย 

รอยยิ้ม....ที่มีแต่ความสดใส ในแบบของปิ่น 

“อย่าร้องฮะ  ผมอยากเห็นพี่ปิ่นยิ้ม  อยากเห็นพี่มีความสุข เลิกร้องนะฮะ”   ไอ้ตัวเล็กทรุดตัวลงข้างๆ

“ใช่ครับ คนเก่งของพี่ขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  เลิกร้องนะครับเรามายิ้ม มามีความสุขกันดีกว่านะ”

“ฮึก....ฮึก.....ค...ค่ะ”  ปิ่นเม้มปากแน่น รับปากเบาๆ แม้น้ำเสียงติดจะสะอื้น ปัตค่อยไล่เช็ดน้ำตาทั่วใบหน้าอีกฝ่าย

รอยยิ้มอบอุ่น...ถูกส่งไปให้ปิ่น  มือบางของปัตไล้บางๆ ทั่วหน้าปิ่นจนน้ำตาเหือดแห้ง

“เห็นมั้ยครับพี่ปิ่นยิ้มแล้วสวยกว่าตอนร้องไห้ตั้งเยอะ”  ผมเห็นปิ่นยิ้มกว้าง  เหมือนคำปลอบเด็กแต่ผมว่าได้ใจปิ่นไปเต็มๆ

.

.

.

หลังจากกลับจากทุ่งดอกบัวตอง เราก็ตรงดิ่งไปยังที่พักระแวกที่ใกล้ที่สุด บรรยากาศแห่งขุนเขาแม้จะหนาวนิด ๆ

แต่ธรรมชาติสีเขียวขจีก็ทำให้จิตใจผ่อนคลายได้มาก  ผมมองปิ่นที่กำลังนั่งนิ่งๆ สายตามองไปไกลจะสุดลูกตา

ยามตะวันโพล้เพล้  แสงสีส้มฉาบทาทั่วท้องฟ้า  ดวงอาทิตย์ค่อยๆ กลืนหายไปในก้อนเมฆ เสียงนกในบรรยากาศป่าเขา

เสนาะหู ต้นไม้ไหวเอนตามแรงลม รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก  ริมฝีปากบางยกยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก ปล่อยให้ตัวเอง

เอื่อยเฉื่อยอยู่เนิ่นนาน  จนท้องฟ้ามืดมิด แต่ปิ่นกลับไม่มีทีท่าจะขยับ ....ยังคงปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปเรื่อยๆ กับความคิด

จนกระทั่งพยาบาลสาวที่มาหยุดยืนอยู่ด้านหลัง  ปิ่นก็ยังไม่รู้สึกตัวสายตาที่เหม่อมองบางครั้งก็ดูครุ่นคิด บางครั้งก็เปื้อน

รอยยิ้ม  มือผอมบางกำลังจับกันแน่นราวกับว่ามืออีกข้างมันจะหายไปเสียอย่างนั้น  ผมก็ได้แต่จ้องมองอยู่อย่างนั้น

“ทานข้าวกันเถอะค่ะน้องปิ่น   เดี๋ยวต้องทานยาแล้ว”  พี่พยาบาลแตะมือลงเบาๆ บนไหล่ปิ่น  น้องสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะหัน

กลับมายิ้ม   ให้พยาบาลสาว .... ปิ่นพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะตอบคำว่า “ค่ะ”  ออกมา ดูจะเสียดายที่ต้องละสายตาจาก

บรรยากาศสุดโปรดของตัวเองไป  แต่ก็ไม่ได้ดื้อดึงอะไรนัก ยินยอมให้พยาบาลเข็นรถเข็นแต่โดยดี

“ทานที่ห้องได้ไหมคะพี่? ปิ่นเกรงใจพี่พาร์ทกับน้องปัตค่ะ  กลืนเข้าปากแล้วก็ต้องคายสองคนนั่นคอแข็ง ทานไม่ลงกันพอดี” 

หญิงสาวก้มหน้างุด  มองที่ปลายเท้า  ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราวกับมันเป็นเรื่องสนทนาปกติที่ใช้พูดคุยกัน

“วันนี้ปิ่นมีความสุขมากๆ เลย  ไม่เคยคิดเลยค่ะว่าจะได้ออกมาข้างนอกอีก  นึกว่าจะต้องนอนตายที่ รพ. แล้ว”

“โถ ..น้องปิ่น  อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ  ดูสิตอนนี้หนูก็ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย ยังแข็งแรง ยังสวยเหมือนเดิม”  พี่พยาบาลคนเดิม

ปลอบใจ ลูบเบาๆ ที่หัวทุยของอีกฝ่าย ที่ตอนนี้หันมาซบลงกับอกพยาบาลสาวอย่างออดอ้อน

“ไม่ต้องปลอบใจหรอกค่ะพี่  ปิ่นรู้ตัวดี  ....รู้มาตลอด ปิ่นทำใจได้แล้วค่ะ  อะไรที่อยากทำก็ได้ทำแล้ว อยากเที่ยวกับพี่พาร์ท

อยากเที่ยวกับน้องปัต ก็ได้ทำแล้ว เหลือแต่ไปไหว้พระเท่านั้น ที่ยังไม่ได้ทำ”

“งั้นพรุ่งนี้เราไปไหว้พระกันค่ะ  พี่จะบอกคุณพาร์ทให้”

“ขอบคุณค่ะ”   บทสนทนาจบลง ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นปิ่นขอตัวที่จะทานข้าวในห้องพัก เหตุผลเพราะเหนื่อย ดูท่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 01:08:52
ปัตเองก็ไม่ได้นึกติดใจอะไร  เรานัดกันว่าจะไปไหว้พระในวันพรุ่งนี้  ตามที่ปิ่นต้องการ  ค่ำคืนนี้เหลือเพียงผมกับปัต

ที่นั่งมองดูดาวอยู่ด้านนอก ท้องฟ้าที่มืดสนิททำให้ดวงดาวส่องสว่างเต็มท้องฟ้า แสงพราวระยิบระยับ สวยเหลือเกิน

“พี่ว่าพี่ปิ่นเค้าจะมีความสุขมาที่มาเที่ยวกับเราไหมฮะ?  ผมอยากให้พี่ปิ่นมีความสุข อยากให้เห็นดาวเต็มท้องฟ้าตอนนี้”

ไอ้ตัวเล็กพร่ำรำพัน  น้ำเสียงปนเศร้า ฟังแล้วก็ใจหายตามอย่างบอกไม่ถูก เพราะรู้ดีว่าเวลา....ของอีกฝ่ายมีค่าแค่ไหน

ผมลูบหัวน้องเบาๆ  ก่อนจะรั้งหัวอีกฝ่ายให้มาซบอกตัวเอง   โยกตัวไปมาราวกับกำลังกล่อม ปลอบใจเด็กน้อย


“มีสิ  มีแน่นอน ปิ่นต้องมีความสุขมากๆ เลยหล่ะ  ปัตไม่เห็นเหรอครับคนดี รู้ไหมเราทำให้ปิ่นยิ้มได้มากกว่าพี่ซะอีก 

พี่เองยังรู้สึกได้เลยว่าปิ่นมีความสุขมากๆ ยิ่งได้พูดคุย มีเราคอยดูแล ปิ่นก็ดูจะมีความสุขสุดๆ เลย

เหลือแต่พี่นี่แหล่ะที่โดนลืมบ้าง โดนทิ้งบ้าง ชักอยากจะงอนบ้างแล้วนะเนี่ย”  ผมว่าแซว ๆ 


“โหยพี่อ่ะ  กำลังจะซึ้ง  ฮ่าๆ ๆ”  ปัตชกเบาๆ ที่ท้องผม ดีที่ผมเกร็งท้องไว้ทันไม่งั้นอาจจะเจ็บเอาได้ง่ายๆ ไอ้ตัวเล็ก

ที่แรงหมัดไม่เคยเล็กตามไปด้วย  ทำผมจุกอยู่บ่อยๆ แล้วทุกอย่างก็หยุดลงแค่นั้น เราสองคนนั่งเงียบๆ มองดูดาว

ที่เกลื่อนเต็มท้องฟ้า ลมเย็นโชยพัดมา  มองไปทางห้องปิ่น ผมเห็นบานหน้าต่างเปิดอยู่ 

ตอนนี้...ปิ่นก็คงกำลังนอนดูดาวบนเตียงนอน  ดาวที่สวยสว่าง ...  ผมก็หวังแค่ว่าน้องจะอยากแข็งแรง มีกำลังใจมากขึ้น

เพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อ... ให้นานกว่านี้อีกสักนิดก็ยังดี
.

.

.

ผมขับรถมาที่วัดแห่งหนึ่งเป็นวัดที่เงียบสงบ  ร่มรื่น เรียบง่าย ไม่ได้มีวัตถุอะไรหรูหรา  กุฏิตั้งห่างกันเป็นแนวออกไปในป่า

แต่ละหลังห่างกันประมาณ 10-20 เมตร  ใจกลางมีโบสถ์ที่ทำจากไม้ทั้งหลังตั้งอยู่  จากนั้นเป็นลานกว้าง  ห่างออกไป


ประมาณ 500-600 เมตรมีเมรุที่ทำขึ้นจากปูนก่อสูง ด้านหน้ามีบันได้ขึ้นได้สามทาง ด้านหน้าหนึ่ง และปีกด้านข้าง

ซ้ายขวา   เราทั้งสี่ตรงดิ่งเข้าไปยังโบสถ์ไม้เก่าแก่ ถึงบันไดทางขึ้นผมก็อุ้มปิ่นขึ้น เดินเข้าไปด้านในโบสถ์ วางน้องลงกับพื้น

ก่อนที่ตัวเองจะนั่งลงตามไป ก้มกราบพระประทานด้านใน แล้วค่อยหันไปกราบพระสงฆ์ที่พึ่งรับกิจนิมนต์ของชาวบ้าน
ให้ไปช่วยทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ในวันพรุ่งนี้  ถังสังฆทานสี่ถังถูกวางเรียงราย  ตรงหน้าแต่ละคน ก่อนบทสวดถวายสังฆทาน

จะเริ่มต้นขึ้น จนจบ  เมื่อถวายเสร็จพระรูปที่รับสังฆทานพระท่านก็ให้ธรรมะ  เพื่อเป็นแนวหลักแห่งการเตือนสติ

“วันนี้อาตมาขอพูดธรรมะให้เป็นธรรมทานนะโยม  การทำบุญนั้น จะทำก็ดี ไม่ทำก็ดี ขึ้นอยุ่กับว่าอย่างไหนจะพอดี


ถ้ามีน้อยทำน้อยมันก็ดีไม่ลำบากยากแค้น  แต่มีน้อยทำมากไปเสียก็จะพาตัวอับจนให้ข้นแค้น ฉะนั้นการที่เราจะทำอะไร

ก็ขอให้ตั้งอยู่บนความพอดี  ทำอย่างนั้นแล้วถึงจะว่าดีได้นะโยม ชีวิตคนมันน่ะไม่มีอะไรแน่นอน  ...มีมีบทสรุปตายตัว

ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปกังวล ไม่จำเป็นต้องไปเครียด หรือกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพียงให้มีสติรู้...ไม่ประมาท

ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ มีความสุข  มีความระมัดระวัง ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ให้ประมาณตนตั้งอยู่ในความพอดี
คนเราทุกคน  เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีใครหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ได้ ทำบุญทำกรรมมาเท่าไหร่ชดใช้หมดแล้ว

ก็ย่อมต้องไปอยู่ในภพภูมิที่ดีที่ชอบ ถ้าเราอยากไปอยู่ในภพภูมิที่ดีก็ให้ทำดี ก็เหมือนการปลูกพืชนั่นแหล่ะ

เราหว่านพืชอะไรก็ให้ผลเช่นนั้น นะแหล่ะโยม ฉะนั้นอย่าลืมมีสติให้มากๆนะ เดี๋ยวหลวงพี่ต้องไปเตรียมตัวแล้ว ”

“สาธุ”  พวกผมยกมือขึ้นสาธุ  หลวงพี่จึงขอตัวไปเตรียมตัวสำหรับกิจนิมนต์ตอนเย็น    พวกเราออกมาเดินรอบๆ วัด

ให้อาหารปลาที่มีสระน้ำไม่ใหญ่นัก เหล่าฝูงปลาที่อุดมสมบูรณ์มากมายกระโจนเข้าหาอาหาร ตามประสาปลาหิว

บรรยากาศ ที่เย็นสบายและเงียงสงบ ทำให้จิตในเราเป็นสุขอย่างน่าประหลาด ทุกๆ อย่างดำเนินผ่านไป อย่างเชื่องช้า

อิ่มเอม  ราวกับถูกความสงบห่อหุ้ม ให้จิตใจที่เคยร้อนรุ่มวุ่นวาย  ได้สงบนิ่งดูบ้าง 

“ถ้าปิ่นตาย ปิ่นอยากมาอยู่ที่นี่ค่ะ”  น้ำเสียงแผ่วเบาของปิ่นเอ่ยขึ้น เป็นน้ำเสียงที่ราบเรียบไม่มีแม้แต่ความเศร้าเจือปน


หากแต่ดูนิ่งสงบ ราวกับต้องการบอกความต้องการสุดท้ายทิ้งไว้หากต้องจากลา  ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างเป็นสุข

แม้จะเข้าใจอย่างนั้น แต่ก็อดลอบถอนหายใจหนักออกมาจนได้  ส่วนไอ้ตัวเล็กดูนิ่งงันไม่ได้ตอบอะไรออกมา  มีเพียงแววตา

ที่หันไปตอบรับคำร้องขอจากปิ่น  เราทุกคนมองหน้ากันนิ่ง ๆ คิดอะไรเพลิน ๆ สุดท้ายก็เลือกจะกลับที่พักที่เชียงใหม่

.

.
.
ผมขับรถเลื่อยๆ ระหว่างทางทุกอย่างดูจะกลับมาเหมือนเดิม มีเสียงพูดคุย มีรอยยิ้ม และมีเสียงหัวเราะ  เราจอดแวะพัก

รายทางเป็นระยะ  อาหารหลากหลายที่อยากทานตั้งแต่ขามาแต่ยังทานไม่หมดถูกกวาดเลียบขึ้นมาบนรถ สำหรับเตรียม

เป็นมื้อเย็นของวัน  .....  วันที่.....ผมและไม่มีวันลืม.....   และมันคงลืมไม่ลง

.

.


“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอปิ่น  งั้นทานข้าวกันเลยนะครับ”  ผมหันไปถาม พร้อมชวนกลายๆ เพราะนี่ก็เกือบสองทุ่มแล้ว

“ค่ะ”   พี่พยาบาลเข็นรถปิ่นมาที่โต๊ะ  ไอ้ตัวเล็กก็หันไปทำหน้าที่ตักข้าวใส่จานทันที ยื่นส่งให้คนนั้นที คนนี้ทีอลหม่าน

กับข้าวถูกวางเรียงรายเต็มโต๊ะไม่ทราบว่าเพราะความอยาก ... หรือความตะกละกันแน่ ถึงได้เยอะจนเกือบล้นโต๊ะ   

“โห~  พึ่งสังเกตุวันนี้พี่ปิ่นสวยจังเลยครับ”  ไอ้ตัวเล็กออกปากชมปร๋อ  แล้วนั่งลงข้างๆ ผม สายตายังไม่ละจากคนตรงหน้า

ผมที่ไม่ทันได้สังเกตุ เลยเงยหน้าขึ้นไปมองด้วย  ปิ่นยังคงคอนเซ็ปกระโปรงสีขาวยาวถึงหัวเข่า เสื้อแขนกุดสีชมพู

พร้อมผ้าคลุมไหล่สีชมพูหวาน  ใบหน้าหวานของอีกฝ่ายแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนดูกลับมาสวยสดใสดังเดิม 

“สวยจริงๆ ด้วย”  ผมว่าแล้วยิ้มให้ปิ่นไป   เห็นปิ่นยิ้มเขินมองหน้าผมที มองหน้าปัตที  ก่อนจะเอียงหน้าหลบน้อยๆ

“ชมกันแบบนี้ ปิ่นก็เขินแย่สิคะ ทานกันเถอะค่ะปิ่นหิวแล้ว”  ไอ้ตัวเล็กยกมือขึ้นโชว์หรา  พยักหน้าหงึกๆ ๆ


“ใช่ๆ ปัตเห็นด้วยฮะ หิวจะแย่แล้ว”  อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ปัตก็คือปัต ไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ยังเป็นปัตคนเดิม  ผมยกกำปั้น

ทุบเบาๆ บนหัวไอ้ป่วน 

“ไม่มีมารยาทเล๊ย...ไอ้เปี๊ยก”  ผมว่า   ปัตหันมาค้อนควับทันที  ทำปากจู๋ยื่นมาให้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน

เล่นเอาผมหัวเราะกร๊าก  จนแทบไม่เป็นอันทานอาหาร  ได้ยินแต่เสียงหัวเราะดังรอบโต๊ะ  .... ก็ดีใจที่ปิ่นก็มีความสุขเช่นกัน

“โหย~ ใจร้ายอ่ะพี่พาร์ท  ก็ปัตหิวนี่ครับ”
“หิวก็ต้องอดทนครับ พูดแบบนี้พี่ก็อายคนอื่นแย่สิ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าพี่เลี้ยงเราไม่ดีปล่อยให้อดๆ อยากๆ ถึงได้หิวโซขนาดนี้”

“ชิส์  ... ไม่เกี่ยวซะหน่อยกินดีกว่า”  ไอ้ตัวเล็กส่ายหน้าดุ๊กดิ๊กแล้วทานอาหารไม่สนใจผมอีก  เราทุกคนหันมาจัดการ

อาหารตรงหน้า  เสียงสนทนา  เสียงหัวเราะ  พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีทั้งแซว มีทั้งเผา เล่าเรื่องขำ ๆ หรือแม้แต่เรื่องหน้าแตก

ก็ยังขุดกันมายกใหญ่  ยิ่งทำให้มื้ออาหารมื้อนี้ อร่อย....เสียยิ่งกว่ามื้อไหน  ผมลืมอะไรไปรึเปล่า?  กำลังจะเล่าเรื่องตลก

ตอนเจอปัตครั้งแรกที่สนามบิน  พอเงยหน้าไปเห็นปิ่นกำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ แล้วกลืนลงคอ  ผมก็ชะงักงันมุ่นคิ้วอย่างแปลกใจ

จำได้ว่าปิ่นทานอาหารไปก็ต้องอาเจียรออกมาไม่ใช่หรือไง  เมื่อพี่พยาบาลเองก็ไม่เห็นว่าอะไร บวกกับบรรยากาศที่กำลัง

เป็นสุขสนุกสนานความคิดที่จะทักท้วงเลยหยุดไปแค่นั้น หันไปมองไอ้ตัวเล็กที่กำลังเล่าเรื่องที่เจอกับผมครั้งแรกที่สนามบิน

แทนตัวเองซะแล้ว  ... เลยอดยิ้มขำไม่ได้  อะไรจะใจตรงกันขนาดนั้น   เผลอเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเย็นจนเวลาล่วงเลย

มาถึงสี่ทุ่ม เราทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน  พี่พยาบาลเข็นรถปิ่นกลับไปที่ห้องนอน  ขณะที่ผมกับปัตเริ่มเก็บกวาด

ทำความสะอาด  เสร็จสิ้นก็ขึ้นห้องอาบน้ำนอน...   แปลกที่วันนี้ผมรู้สึกแปลกนอนไม่หลับทั้งที่เหนื่อยมาทั้งวัน  ไอ้ตัวเล็ก

ที่อยู่ในอ้อมกอดก็ดิ้นขลุกขลักเหมือนคนนอนกระสับส่ายอย่างที่ไม่เคยเป็น พลิกตัวไปมาอยู่อย่างนั้น  ผมดึงน้องมากอด

กดจูบเบาๆ ที่หัวทุย  แล้วลูบเบาๆ  ที่หลัง   กลายเคลื่อยไหวของไอ้ตัวป่วนน้อยลง จนค่อยๆ หลับสนิท... 

ทุกอย่างดูเหนื่อยล้า  และผมก็เหนื่อยอ่อนจนเกินจะต้านทานความง่วงไหว   เปลือกตาค่อย ๆ หนักอึ้งจนปิดสนิท

.

.
.

“ก็อกๆ  ก็อกๆๆ  ก็อกๆๆๆ”  ผมได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนมีใครเคาะประตูห้อง แต่ด้วยความง่วงบวกกับได้ยินไม่ชัดนัก

ผมก็เดาเอาว่าคงหูแว่ว

“คุณพาร์ท ...คุณพาร์ทคะ  คุณปัต ได้ยินพี่มั้ย ช่วยด้วยค่ะ  ช่วยด้วย ”   น้ำเสียงที่ระร่ำระลักตะโกนเข้ามาทำเอาผมกับ

ปัตสะดุ้งตื่นลุกขึ้นนั่งโดยอัตโนมัติ ก่อนจะวิ่งหน้าตื่นไปเปิดประตูห้อง   ปากก็ร้องถามกลับไป

“มีใครเป็นอะไรเหรอครับ?”  ผมถาม ด้วยความที่พึ่งตื่นเลยทำให้สมองเบลอกว่าปกติ  ตอนนี้ปัตก็มายื่นอยู่ข้างๆ ผมแล้ว

“น้องปิ่นค่ะ น้องปิ่น  ฮือๆๆ  แกอาเจียรหนักเลยค่ะ  พี่เผลอหลับไปแป๊บเดียว ตื่นมาก็เห็นน้องปิ่นโก่งคออาเจียรอยู่ ตอนนี้

นอนหมดแรงอยู่ที่ห้องค่ะ  ฮือๆ  ตัวแกสั่นมากเลย  พี่ให้น้ำเกลือแล้วก็ไม่ดีขึ้นเลยค่ะ  ฮือๆ แถมหน้าแกซีดมาก ช่วยหน่อยค่ะ

พาแกไปส่ง รพ.หน่อย”  พยาบาลเล่าขณะที่เราทั้งสามกำลังวิ่งไปที่ห้องนอนด้านล่าง  เปิดประตูเข้าไปเห็นปิ่นนอนหมดแรง

หลับตาอยู่บนเตียงทำเอาผมใจหาย  ขาทรุดลงกับพื้นทันที  ไอ้ตัวเล็กปรี่เข้าไปหาปิ่น เริ่มเขย่าตัวอีกฝ่ายแรงๆ ร้องเรียกเสียงดัง

“พี่ปิ่น  พี่ปิ่น  พี่ปิ่นฮะ...ตื่นฮะ  พี่ปิ่น”   ราวกับปาฏิหาริย์ ใบหน้าอิดโรยค่อยเปิดเปลือกตา ขึ้นมองปัต

“ปัต”  รอยยิ้มของปิ่นยกขึ้นน้อย ๆ อย่างยากลำบาก

“ฮะ  พี่อย่าหลับนะฮะ เดี๋ยวผมกับพี่พาร์ทจะพาไปหาหมอ”  ปัตว่าเสียงสั่น  ผมก็รีบตรงเข้าไปหาปิ่น  ปิ่นส่ายหน้าน้อยๆ
“พอแล้ว..ไม่ไหวแล้ว  พี่เหนื่อยปล่อยพี่เถอนะปัต ให้พี่ได้มีโอกาสเลือกทางเดินของตัวเอง”  ปิ่นว่าน้ำเสียงหอบเหนื่อย

“ฮึกๆ ม...ไม่เอา”   ปัตร้องไห้เสียงสั่น ส่ายหน้าไปมา  แม้แต่ผมก็อดน้ำตารื่นขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่  เราจับมือปิ่นไว้แน่น

“พี่พาร์ท  ปัต ข..ขอบคุณ สำหรับทุกอย่าง  แฮกๆ..... รักกันนานๆนะคะ”

“พี่รู้? ฮึก..   ปัตขอโทษ  ปัตเสียใจ”    ปัตร้องคราง  ซุกหน้าที่อาบด้วยน้ำตาลงกับมือของปิ่น  ปิ่นดึงมือออกอย่างเชื่องช้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 01:09:57
ลูบหัวไอ้ตัวเล็กเบา ๆ  พร้อมทั้งส่ายหน้า  รอยยิ้มที่มุมปาก แม้จะขัดกับน้ำตาที่ไหลเอื่อยอยู่ตรงหางตา แต่ก็รับรู้ได้ว่าคำพูด

ของคนใกล้จะจากไปมันจริงใจแค่ไหน  ไม่จำเป็นต้องหลอก  ไม่จำเป็นต้องโกหก

 “รู้สิ ทุกเรื่องที่เราทำเพื่อพี่..  แฮกๆ .. รู้ที่เรากับพี่พาร์ทคบกัน  แฮกๆ...  ปัตเป็นคนดีจริงๆ  ขอบคุณที่คนยืนข้างพี่พาร์ท

เป็นปัต  พี่ไม่เสียใจเลยที่เป็นแบบนี้....แฮกๆ  ........   ข...ขอบใจนะ...  ข...แฮกๆ  ...ขอบ...คุ..   แฮกๆ   อื๊ออออ~ ” 

ร่างของปิ่นเกร็งกระตุก ก่อนที่จะทิ้งตัวลงกับพื้นเตียง ......นิ่งสนิท  ราวกับไม่มีลมหายใจ  ผมช้อนร่างของน้องขึ้น

อุ้มแล้ววิ่งตรงไปยังรถที่จอด อยู่ด้านนอก ปัตคว้ากุญแจที่แขวนอยู่ในตู้บริเวณประตู ส่วนพยาบาลก็วิ่งมาเปิดประตูให้

ทุกอย่างดูฉุกละหุก แต่เราทุกคนก็คาดหวังว่าจะเกิด...ปาฏิหาริย์ .....

.

.

เราทั้งสามนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน   แพทย์พยายามช่วยชีวิตปิ่น ...ผมกดโทรศัพย์หาพ่อ  ตอนตีห้าอยากให้พ่อแล้วฝากพ่อ


ไปบอกน้าสาว  แต่ไม่อยากให้ตกใจมาก  คิดว่าพ่อคงมีวิธีที่ดี   จากนั้นก็ทรุดตัวลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆ ปัต ไอ้ตัวเล็กเอาแต่
ร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ หากแต่ไร้เสียงสะอื้น  ผมดึงน้องมาซุกกับอกกอดปลอบใจอยู่อย่างนั้น

.

.

“แกร๊ก.... ไม่ทราบใครเป็นญาติของผู้ป่วยครับ?”  ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก เราทั้งสามยืนขึ้นอย่างอัตโนมัติ  ผมก้าวไป

ข้างหน้าแล้วหันไปมองตอบแพทย์ผู้รักษา

“ผมครับเป็นคนรู้จักครับ  กำลังติดต่อญาติ...น้องปิ่นอาการเป็นยังไงบ้างครับ?”  ผมถามอย่างร้อนลน

“ทางเราขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผู้ป่วยน่าจะหยุดหายใจก่อนมาถึงมือแพทย์แล้ว ทางเราได้ทำการปั๊มเพื่อให้หัวใจ

กลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ร่างกายของผู้ป่วยไม่ตอบสนอง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากอาการของมะเร็งระยะสุดท้าย

มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร บวกกับผู้ป่วยมีการอาเจียรอย่างหนักร่างกายขาดน้ำจนช็อค ทางเราขอแสดงความเสียใจ

ด้วยจริงๆ ครับ  หมอต้องขอตัวก่อนนะครับ”  พูดจบก็เดินจากไป  ผมยืนงงกับเหตุการณ์ทุกอย่างมันพูดไม่ถูก  ไม่มีน้ำตา

หรือเสียงร้องไห้จากผม ทำได้เพียงนิ่งงัน  พอหันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ยืนโงนเงนก็เลยคว้าน้องมากอดแน่น  พยาบาลที่มาด้วยกัน

ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะพี่เค้าเป็นคนดูแลน้องปิ่นมาตั้งแต่แรก ความผูกพันธ์ก็มีมากมาย  เธอนั่งลงกับเก้าอี้ ดวงตาแดงก่ำ

ส่วนอีกคนก็กำลังตัวสั่นเทาอยู่กับอกผม น้ำตาเปียกชื้นชุ่มจนเปียกอก  ผมกอดน้องอยู่อย่างนั้น สมองก็พลันคิดได้ว่าต้อง

โทรไปบอกที่บ้าน หยิบมือถือ กดโทรหาพ่อเช่นเดิม บอกให้พาน้าสาวมาที่เชียงใหม่ น้องเสียแล้ว  ทุกอย่างดูมึนงง

.

.

ผมกับพ่อ  แล้วก็ปัตจัดการเดินเรื่องนำศพของปิ่นไปที่วัดที่แม่ฮ่องสอน วัดสุดท้ายที่เราไปไหว้พร้ะด้วยกัน  หลังจากที่มีสติ

ไม่ได้เชิญแขกเหรื่อมากนัก  หากแต่บรรดาแขกเหรื่อกับมากันมากมายเพราะพ่อปิ่นเป็นคนกว้างขวางส่วนมากก็โทรบอก

หรือบอกกันต่อๆ ทำการ์ดเชิญได้แค่บางส่วน  กับขึ้นสเตตัสใน FB ของปิ่น เชิญแขกที่เป็นเพื่อนกับคนรู้จักผ่านสื่อ 

ตั้งศพเจ็ดวันแล้วเผา  ........... มองเห็นควันลอยสูงไปในอากาศ  ผมได้แต่ยืนมองความไม่แน่นอนของชีวิต   กุมมือปัต

ที่ยืนอยู่ข้างๆ แน่น  ได้แค่ปลอบใจ ในแววตาที่ดูเศร้าโศกไม่ต่างจากพ่อ และน้าสาว   

.

.

.

หลังกลับจากงานมาถึงบ้านพ่อ แค่อาบน้ำทิ้งตัวลงนอนผมก็หลับทันที  ความเหนื่อยล้าที่อดนอนพร้อมการใช้งานร่างกาย


อย่างหนักหน่วงก็พอจะทำให้ความง่วงเอาชนะทุกสิ่ง 
.

.


หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้สึกตัวอีกที ....ก็ตอนที่คลำไปข้างๆ ตัวแล้วไอ้ตัวเล็กไม่อยู่ ผมปรับสายตาในความมืดอยู่ครู่เดียว

มองไปที่ห้องน้ำที่มืดสนิทเช่นกัน  ปัตไม่อยู่  ผมชันตัวลุกขึ้นนั่ง  มองไปรอบ ๆ ห้อง ไม่เห็นวี่แววของอีกฝ่าย ก็ลุกขึ้นทันที

เดินตามหาไปทั่วบ้าน  เผื่อปัตจะหิว....เพราะวันนี้ทั้งวันเห็นดื่มแต่น้ำไปแค่ไม่กี่แก้ว ผมเดินเข้าห้องครัวแต่ก็ไม่พบ
รู้สึกใจมันหวิวอย่างบอกไม่ถูก  ...  เหมือนของที่รักหายไป  ... ใจหาย ...  หัวใจสั่นระริก หวาดกลัวความสูญเสียซะเหลือเกิน

แม้อีกใจหนึ่ง....ก็ประท้วงอยู่ในใจ  และค่อนข้างแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไร  แต่พอไม่มองไม่เห็นใจมันก็เสียไปกว่าครึ่ง

จะหนี...ผมไปอีกไหม  ความรู้สึกผิดของปัตที่มีต่อปิ่นมันจะทำให้น้อง....ทิ้งผมไปอีกมั้ย?  มือสั่นอีกแล้ว เดินออกมารอบบ้าน

.

.

สุดท้าย..... ก็เห็นเงารางๆ ของใครบางคนที่ผมตามหา กำลังนั่งชิงช้าชาลี แกว่งไกวช้าๆ  สายตากลับจ้องมองไปบนท้องฟ้า

ลมเย็นๆ พัดแผ่วเบา  รอบๆ บริเวณเงียบสงบ จนได้ยินเสียงจั๊กจั่นร้องเสียงดัง  ผมเดินเข้าไปหาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงเบา


“ปัต”  ไอ้ตัวเล็กหันมามองตามเสียง
“พี่พาร์ท”   ผมเดินเข้าไปถึงก็จบชิงช้าให้หยุดแกว่งแล้วดึงอีกฝ่ายขึ้นมากอดแน่น  มือที่สั่นค่อยนิ่งลง หัวใจค่อยกลับมาทำงาน

เป็นปกติ   ความกลัวลดหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ   

“เป็นอะไรครับ ตัวสั่นเชียว”  ไอ้ตัวเล็กเอ่ยถามพร้อมกอดตอบผมเบาๆ

“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ครับ?”  ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามอีกฝ่าย

“นอนไม่หลับครับ เลยนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ชีวิตคนเรานี่ไม่แน่นอนเลยนะครับ”

“อืม...พี่ก็ว่างั้น”

“ว่าแต่พี่พาร์ท....ยังไม่ตอบปัตเลยนะฮะ”

“พี่กลัว”

“กลัว?  กลัวอะไรฮะ?”

“กลัวว่าเราจะทิ้งพี่ไปอีก กลัวว่าเราจะหนีไป กลัวจะไม่ได้เจอกัน กลัวว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก”  ผมระร่ำระลักบอกเป็นเด็กๆ

ซุกหน้ากับซอกคอหอมๆ ของอีกฝ่ายนิ่ง

“ครับ?  ปัตไม่หนีแล้ว  ไม่ทิ้ง ไม่ไปไหน ถึงไล่ก็ไม่ไปหรอก ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ  บอกแล้วไงครับว่าจะอยู่เกาะพี่พาร์ทจนแก่
ตายไปข้างหนึ่งเลย พอจะเลี้ยงปัตไหวมั้ยฮะ?”  ไอ้ตัวเล็กพูดขำๆ ผมกดจูบที่แก้มน้องเบาๆ

“พูดแล้วอย่าคืนคำนะ  ....ต้องอยู่กับพี่ทั้งชีวิตเลย”  ผมเงยหน้ามาสบตาไอ้ตัวเล็กนิ่งๆ

“ครับ...จะอยู่ด้วยทั้งชีวิตเลย”  ไอ้ตัวเล็กตอบเสร็จก็ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย

ผมเชยคางอีกฝ่ายขึ้นมา  บดจูบริมฝีปากอิ่มอยู่เนิ่นนาน สองมือรั้งสะโพกมนให้ขยับมาแนบชิดลำตัวผมให้มากขึ้น

ปัตโอบกอดรอบคอผม  ผมละริมฝีปากออกไล้ลิ้นเลียรอบริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนจะกดจูบย้ำๆ ที่ริมฝีปากหวาน


ที่สัมผัสเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ   ผมทิ้งตัวนั่งลงบนชิงช้าตัวเดิมที่ปัตลุกออกมา พร้อมรั้งอีกฝ่ายให้นั่งลงพร้อมกัน

ริมฝีปากที่บดจูบกันไม่หยุดหย่อน  สะโพกหวานนั่งบนตักผมหันหน้าเข้าหากัน  สองมือผมจับที่เชือกเส้นหนาที่ใช้

ยึดจับที่นั่งกับต้นเสาสูง ไว้แน่น  ส่วนแขนไอ้ตัวเล็กก็โอบรอบลำคอผมไว้แน่นเช่นกัน  ผมไกวชิงช้าเบา ๆ  เพื่อให้อีกฝ่าย

กอดผมแน่นขึ้น และให้ด้านล่างของเราสัมผัสกันมากขึ้น  ริมฝีปากที่ดูดดื่มกันจนมัวเมา ลิ้นชื้นแฉะเกี่ยวกวัดกันเป็นพันลวัน

ยิ่งจูบนานอารณย์ก็ยิ่งพุ่งทะยาน  ผมไล้มือสัมผัสยอดอกหวานของอีกฝ่าย  ไอ้ตัวเล็กเผลอแอ่นอกรับสัมผัสจากผม

“อื๊ออออ~   พ...พี่พาร์ท”   ไอ้ตัวเล็กดังมือผมออก  หันมากอดผมแน่นๆ ซบหน้าลงกับอกแล้วนั่งหอบหายใจแทน

“วันนี้ปัตขอนะฮะ” 
“ครับพี่ไม่ทำอะไรแล้ว”  เรากอดกันอยู่อย่างนั้น ไกวชิงช้าให้แกว่งเบา ๆ มองดูดาว พูดคุยกันเรื่องไร้สาระ

.

.

“ปัต”

“ฮะ?”

“อยู่กับพี่มีความสุขมั้ย?”  ไอ้ตัวเล็กดันตัวออกจากอกผมแล้วหันมามองหน้าด้วยความสงสัย

“มากที่สุดเลยครับ”

“เหรอ?”


“ฮะ”

“จะอยู่กับพี่ตลอดชีวิต จริงๆ เหรอ?”

“ฮะ”

“ไม่ทิ้งพี่ไปไหนแน่ๆ นะ”

“ฮะ”

“ถ้าพี่ป่วย ท้อแท้ เราจะดูแลมั้ย?”

“ยุ่งไม่ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยฮะ”

“ถ้าพี่ประสบความสำเร็จ ถ้าพี่มีความสุข เราจะอยู่ข้างๆ พี่รึเปล่า?”

“ปัตจะเตรียมงานเลี้ยงฉลองไว้ให้เลยฮะ”

“ปัตจะยอมรับพี่ว่าเป็นคนรักของปัต ต่อหน้าสาธารณะชนด้วยรึเปล่า?”

“แน่นอนครับ รับฮะ ”

“อืม.....ดีแล้ว”   ผมยิ้มกว้าง 

.

.

.

.

“ถ้าอย่างนั้น...”

.
.
.
.
.
.
“แต่งงานกันนะ?”

.

.

.
.
.
“....................”
.
..
.
.
.
“ปัต.....ว่าไงครับ?”
.
.
.
..
.
“พี่พาร์ท.......ฟังดีๆนะครับ”



“..............”  เงียบบ



















“ครับ”   

“หืม...อะไรนะ?”

“ตกลงครับ”

“ห๊า.....อะไรนะครับ?”

“ก็บอกว่าตกลงไงครับ”


“อ๊ะ...อะไ”


“พอเลย ไม่ต๊งไม่แต่งมันแล้ว”  ไอ้ตัวเล็กฉุนขาดทำท่าจะลุกจากตักผม  ผมเลยรีบคว้าตัวน้องไว้แล้วกอดแน่นๆ

หอมแก้มซ้ายที ขวาที อย่างเอาอกเอาใจ สุดท้ายก็แตะจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากบางของอีกฝ่าย


“โอ๋ๆๆ  ได้ยินแล้วครับ อย่างอนดิ พี่แค่อยากฟังให้มั่นใจอ่ะ   ฟังทีไรชื่นใจทุกที”

“ก็...พี่พาร์ทอ่ะ”   ไอ้ตัวเล็กทำหน้างอ  ผมเลยพรมจูบไปทั่วใบหน้า

“ตกลงแต่งงานกับพี่แล้วนะครับ”   

“ค...ครับ”   ไอ้ตัวเล็กก้มหน้าน้อยๆ หลบสายตาของผม   ผมซบหน้าลงกับซอกคอหอมของอีกฝ่าย  กอดน้องไว้แน่น

เสียงหัวใจที่เต้นแรงพอกัน ทำให้รู้ว่าต่างฝ่ายต่างตื่นเต้น  .....   

“พี่ไม่อยากรออีกแล้ว ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ ไม่อยากปิดบังใคร  พี่ไม่อยากเสียเวลา ไม่อยากเสียใจที่ไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ

พี่อยากใช้ชีวิตอยู่กับปัต อยากให้ครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายรับรู้  ไม่ใช่แค่แม่ปัตนะ  แต่พี่หมายถึงทุกคน  พี่อยากให้คนที่

บริษัทรับรู้ว่าปัตอยู่ในฐานะอะไร  อยากทานข้าว  อยากเที่ยว อยากใช้ชีวิตกับปัตในฐานะ “คนรัก” ได้อย่างเปิดเผย

พี่ไม่กลัวอะไรแล้ว  ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป และให้ทุกคนรับรู้ว่าเรารักกัน ก็พอ”

ผมกดจูบเบา ที่หัวทุยของอีกฝ่าย  น้องดันตัวออกหันมามองหน้าผมนิ่ง  ..... แววตากังวลอย่างเห็นได้ชัด 

“พี่พาร์ท.... ไม่บอกพ่อกับน้องผมไม่ได้เหรอฮะ  ปัต.....ไม่อยากให้น้องผิดหวัง ที่ผมเป็นแบบนี้”   


“เชื่อพี่นะ ...ทุกคนต้องเข้าใจ ความรักของเรา ” ดวงตาเว้าวอนนี่ทำผมแทบใจอ่อน 

แต่ก็นะ....ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องเข้าใจ  “ความรัก”  มันเป็นเรื่องของหัวใจ  มันไม่สามารถกะเกณฑ์อะไรได้

ในเมื่อตัวเราเองก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ที่จะเลือก “รัก”  หรือ “เกลียด” ใคร  ทุกๆ อย่างมันเป็นไปอย่าง

ไม่มีเหตุผล  รู้แค่ว่า   “รัก”    ....ก็แค่นั้น   อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข .....จนไม่อยากจะมองใครที่ไหน  ช่องว่างที่..เคยขาด

กลับถูกเติมเต็ม  เหมือนจิ๊กซอ....ในส่วนที่ขาดหาย  เป็นแค่ชิ้นเล็ก ๆ เพียงชิ้นเดียว  หากแต่.....กลับมีความสำคัญมหาศาล

มาเติมเต็ม.....ให้ภาพนั้นสมบูรณ์  เป็นส่วนที่ตามหา......มาแสนนาน   เมื่อได้พบเจอแล้ว....จะบอกให้ทิ้งไป


เพียงเพราะ......อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย   แล้วความสุขมากมายที่มันมาเติมเต็มจนสุขล้นหล่ะ  ไม่คิดว่ามันคุ้มค่ากว่าหรือ?

ที่เราจะยืนต่อสู้เพื่อให้ได้ “รัก......ที่ขาดหาย”   เพื่อให้เป็น “รัก.....ที่สมบูรณ์”  ผมยอมแล้ว และพร้อมแล้ว...

ที่จะก้าวข้ามผ่าน  สายตาของผู้คน ผมไม่สนว่าใครจะคิดยังไง  คุณค่าของคนผมก็ยังเชื่อว่ามันอยู่ที่ “ผลของงาน”

“หัวใจ”  และ “ความสุข”  เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จทั้งหลาย   ดังนั้นเพียงเพื่อจะปล่อยให้ผมได้ “รัก” กับคนที่ “ผมรัก”

เพียงเท่านั้น.....   เพียงแค่ปล่อยให้เป็นเรื่องของเรา ..... “ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันจะต้องไปได้ด้วยดี”

อย่ามองด้วยสายตาดูแคลน  เพราะคนอย่างผม...ก็มีหัวใจ   มีความรู้สึก ... ถ้าคุณเพียงลองเปิดใจ  กับคำว่ารักที่มันไม่มี

เหตุผล  ก็ขอให้เข้าใจ ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำบอกไปนั้น...นั่นมันก็เพราะ   คำว่า “รัก”   เท่านั้นเอง






**************************************   อวสาน  ***************************
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 28-10-2012 01:52:58
อยากอ่านตอนพิเศษ พาร์ทกับครอบครัวน้องปัต อ่ะ :call:
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-10-2012 02:13:28
มีบทส่งท้ายอีกไหมเอ่ย
อยากรู้ว่าครอบครัวปัตจะว่ายังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 03:07:39
มีค่ะ  เป็นตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-10-2012 11:57:37
ขอบคุณครับสำหรับดีๆ น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 28-10-2012 14:54:48
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ

ครอบครัวปัตจะต้องเข้าใจแน่ๆ พี่พาร์ท น้องปัตรักกันนานๆน้า ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 28-10-2012 15:11:28
อยากอ่านตอนพิเศษ

ครอบครัวปัตอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 28-10-2012 15:30:20
เศร้าแต่ก้อดีจัยอะที่ลงเอยด้วยดี
หัวข้อ: Re: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-10-2012 16:31:38
ขอไปแต่งก่อนนะคะ 
รับรอง  ______   แซ่บ   แน่นอน 

หุหุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Unit 35 อวสาน P.16 28/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-10-2012 17:25:53
เป็นอันว่าสุดท้ายแล้ว ทั้งพี่พาร์ทและปัตก็ได้แต่งงานกันซะทีนะ  :กอด1:


ขอบคุณคนแต่งนะครับ  o13
หัวข้อ: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-10-2012 01:19:14
ตอนพิเศษ  คุณพ่อครับ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้ไหมครับ?


ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในบ้านของปัตบรรยากาศเคร่งเครียดบนโต๊ะทานข้าว รวมถึงความรู้สึกกดดันที่ได้รับอยู่ตอนนี้

ทำผมแทบหายใจไม่ออก หันไปมองไอ้ตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง ริมฝีปากถูกเม้มแน่นซะจนผมเจ็บแทน

 มือทั้งสองข้างสอดประสานเข้าหากันจนจะรวมเป็นมือเดียวอยู่แล้ว    ผมแทรกมือเข้าไป

แล้วสอดประสานมือตัวเองไปแทนที่บีบแน่นๆ ให้กำลังใจอีกฝ่าย

ว่าไม่เป็นไร  เงยหน้าขึ้นมองผู้ใหญ่ ทั้งสองบ้าน  ประกอบไปด้วย พ่อผม พ่อปัต และแม่ปัต  พ่อของปัตดูนิ่งเงียบกว่าใคร

ส่วนพ่อผมดูสบายๆ ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรทั้งนั้น  แต่ก็ยังนั่งสงบนิ่งเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่าย 

ทุกคนทานอาหารไปเรื่อย ๆ เพื่อรอเวลา.....   ผมว่าการมาครั้งนี้ พ่อผมคงเกริ่นกับแม่ของปิ่นไว้บ้างแล้ว  และดูท่า

คุณพ่อของอีกฝ่าย ไม่ได้จะเห็นดีเห็นงามไปด้วยซักเท่าไหร่  สังเกตุจากสีหน้าดุๆ แทบจะรับประทานศรีษะกันได้นี่

มันต่างจากทุกครั้งที่ผมมา  ทุกทีเห็นยิ้มร่าต้อนรับขับสู้ แทบจะรับผมเป็นลูกอีกคน เพราะนอกจากจะคุยกันถูกคอแล้ว

ยังสนใจอะไรๆ ที่เหมือนกัน     (ที่จริงก็ไม่เชิงว่าจะสนใจอะไรเหมือนๆ กันสักเท่าไหร่หรอก  เพราะผมหาข้อมูลมาดี


ตะหาก  ฮ่าๆๆๆๆ  ชะอุ้ย!!  และบังเอิญว่าศึกษาไปศึกษามามันก็ดันชอบซะงั้น  เลยกลายเป็นชอบอะไร เหมือนๆ กัน)

ของบรรณาการที่ผมทุ่มทุนสร้างหามาถวาย คิดว่าจะช่วยส่งผลบุญให้คุณว่าที่พ่อตาเห็นความดีงาม หรือไม่ก็ใจอ่อน

ซักนิดก็ไม่มี   เล่นเอาเหงื่อแตก ...เหงือกแห้งหาคำพูดมาเกริ่นไม่ถูก  แต่ก็เอาว่ะ....บุกมาถึงถ้ำเสื้อ  แถมยังเอาลูกเสือเขา

(ซ้ำแล้วซ้ำเล่า )  เรียกว่าเสพติด ชนิด ชีวิตนี้ขาดไม่ได้แล้ว  แต่ให้ถือปืนมาตรงหน้า....ผมก็ไม่หวั่น  ถูกยิง...ก็แค่ตาย


ให้เลิกกับไอ้ตัวเล็ก.....มีชีวิตอยู่ไปก็คงไม่แตกต่าง   เหมือนตายทั้งที่ยังหายใจ  ฉะนั้น.....ต่อให้สู้ยิบตา  ก็สู้โว้ยยยยย!!

.

.

.

หลังจากเงียบมานานสองนาน   ไม่เห็นมีใครทำทีท่าว่าจะเอ่ยวัตถุประสงค์ในการมาของผมกับพ่อในครั้งนี้   แม้แต่พ่อผมเอง

ก็ดูท่าจะนิ่งเฉยไม่เอ่ยไม่กล่าว ไม่เกริ่นอะไรทั้งนั้น   ผมหันไปมองหน้าปัต  แล้วบีบมือปัตเบาๆ  เห็นทีต้องพูดเอง

“เอ่อคุณพ่อครับ  ที่ผมกับพ่อมาวันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาคุยกับคุณพ่อครับ”   ผมเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น พยายาม

แสดงให้เห็นความจริงใจที่สุดที่จะทำได้  คุณพ่อที่กำลังดื่มชาชะงักเล็กน้อยก่อนจะวางแก้วชาลง  แล้วหันมามองหน้าผม

ตรงๆ  สายตาดุ ๆ ที่มองมานั้นไม่ได้ลดแรงกดดันของบรรยากาศลงเลยสักนิดสักนิด    ไอ้ตัวเล็กก้มหน้างุดลงไปอีก


“ไม่ทราบว่า...ใครพ่อคุณเหรอครับคุณพาร์ท เท่าที่ผมจำได้ผมมีลูกชายแค่คนเดียว”  ผมยกคิ้วขึ้นสูงขึ้นเป็นคำถาม

หืมม...เมื่อก่อนยังเรียกผมลูกอยู่เลย  ตอนนี้พอผมเรียกพ่อเท่านั้นแหล่ะ  แหม...ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

....เย็นชนิดที่ว่าเรียกว่าเสียวไปถึงไขสันหลังกันเลยทีเดียว   ยกมือขึ้นปาดเหงื่อไหลพรั่กๆๆๆๆ   ออกมาตามไรผมซะโชกชุ่ม
กันเลยทีเดียว  เรียกว่าไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว  จำได้ว่าถ้าไปขอลูกสาวชาวบ้าน...ดูมันจะไม่ลำบากกันขนาดนี้

“อ่ะ  ...เอ่อ  ว่าจะมาขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกชายคุณพ่ออีกคนน่ะครับ”  ผมหันไปสบตาคุณพ่ออย่างจริงจัง

“หึ......   เห็นทีจะเลี้ยงไม่ไหวลูกผมก็มีตั้งหลายคน จะไปรับลูกชาวบ้านมาเลี้ยงเพิ่มก็ใช่ที่ ”  พ่อปัตกล่าวตัดเยื่อใย

เล่นซะต่อแทบไม่ติด   หันไปขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อ  ซึ่งก็เห็นแต่ท่านอมยิ้มเล็ก ๆ  โหย~ ....ใจร้ายจัง

ในเมื่อเป็นอย่างนี้  ก็ขอต่อปากต่อคำให้เต็มที่   เพื่อ...จะแย่งไอ้ตัวเล็กมาครอบครอง  ฮ่าๆๆๆๆ

“ไม่ต้องเลี้ยงให้เสียข้าวสุกหรอกครับคุณพ่อผมโตแล้ว  แค่ช่วยรับผมเป็นคนในครอบครัวอีกสักคนจะได้ไหมครับ?

แล้วผมจะดูแลลูกของคุณพ่อเป็นอย่างดีให้เอง”     ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเช่นเดิม  แต่ก็นอบน้อมอยู่ในที
ริมฝีปากผมยกยิ้มนิดๆ พ่อปัตหันมามองผม  ดวงตาหรี่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด  คิ้วขมวดชนกันมุ่น รังสีอำมหิตแผ่ขยาย 

จนผมต้องลอบถอนหายใจยาวๆ เพื่อบรรเทาแรงกดดันที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้  มือไอ้ตัวเล็กจิกแน่นขึ้นไปอีก


บอกให้รู้ถึงความกังวล ผสมหวานกลัวของอีกฝ่าย   

“ลูกคนไหนหล่ะคุณ   ผมมีลูกสาวอยู่สองคน  ยายแป้ง กับยายปุ้ม  คุณจะมาขอคนไหนหล่ะ?”  คุณพ่อกล่าวเสียงเย็น

ทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่   

“ไม่ใช่ทั้งน้องแป้งและน้องปุ้มนั่นแหล่ะครับ”  ผมกล่าวเสียงเรียบ

“หืมมม...แล้ว?”    พ่อปัตเลิกคิ้วเป็นคำถาม   หน้าเครียดยิ่งกว่าเดิมสิบเท่า 

“อ่ะ...เอ่อ...คือ....  คือว่า”  ไอ้ตัวเล็กระล่ำระลัก พูดออกมาไม่เป็นภาษา กระสับกระส่ายไปมาเหมือนคืนเป็นไข้

มือเย็นเฉียบ  หันมามองหน้าผม.....  เหมือนๆ จะถอดใจ  ใบหน้าหวานส่ายหน้าช้าๆ 
“ว่าไงหล่ะคู๊ณ?”  พ่อปัตเหมือนเริ่มรำคาญ   หันมาถามย้ำกับผม  ไอ้ตัวเล็กบีบมือผมแน่น ส่ายหน้าหวือ

“คือ...คือ...ไม่มีอะไรครับพ่อ  พี่พาร์ทก็แค่พูดเล่..”   ไอ้ตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงเร็วรัว ติดจะสั่น

“ผมรักปัตครับ”   แต่ผมพูดแทรกขึ้นมาก่อน   หันไปสบตาพ่อปัตตรงๆ มั่นคง  และเชื่อมั่นผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

“ปัง!!”   พ่อปัตทุบโต๊ะเสียงดัง  ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว  พ่นลมหายใจเสียงดังราวกับสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องขัดใจหนักหนา

หันหลังให้กับโต๊ะอาหาร  มือข้างหนึ่งยังจับเก้าอี้ไว้  ถูกกำแน่นเหมือนกำลังพยายามระงับโทสะ     ทั้งโต๊ะเงียบสนิท

“ผมรักปัตจริงๆ ครับ เรารักกันให้โอกาสเราสองคนด้วยนะครับคุณพ่อ  ถ้าไม่มีปัตผมคงอยู่ไม่ได้”  ผมพูดในสิ่งที่อยู่ในใจ
ทั้งเว้าวอนและขอร้อง  อยากให้พ่อปัตช่วยเห็นใจเราทั้งคู่   ถึงจะเข้าใจดีว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ...  แต่มันก็คือเรื่องจริง

“แน่ใจเหรอคุณพาร์ทที่คุณพูดว่าคุณรักปัต  มันก็แค่หลงรึเปล่า หรือคุณคิดจะหลอกอะไรลูกผมรึเปล่า?”  พ่อปัตหันกลับมา

สบตาผมแววตาแข็งกล้า จ้องมาที่ผม  ซึ่งแน่นอนไม่มีทางที่ผมจะหลบนัยตาคู่คมที่มองมา  ไอ้ตัวเล็กสั่นสะท้าน

น้ำตาไหลเอื่อยๆ ที่ใบหน้าหวาน  จนผมแทบอยากจะดึงน้องมากอดปลอบ...และเช็คน้ำแต่ให้เหือดแห้ง  แต่..ไม่ใช่ตอนนี้

“ยิ่งกว่าแน่ซะอีกครับ  ผมรักปัต..  ไม่เคยมีความคิดจะหลอกลวง และผมมั่นใจว่าผม “รัก” มันไม่ใช่แค่หลง แต่มันเป็น

ความรัก และผมอยากจะใช้ชีวิตกับคนๆนี้  อยากจะดูแลคนๆ นี้ ตลอดชีวิตของผม”  ผมหันไปสบตาน้อง  ไอ้ตัวเล็กเอง

ก็เงยหน้ามาสบตาผม  ริมฝีปากเม้มแน่น ตัวสะอื้นน้อยๆ  แล้วหันไปสบตาพ่อของตัวเอง

“ใช่ครับ  เรารักกัน ให้โอกาสผมกับพี่พาร์ทนะครับพ่อ  ปัตเสียใจจริงๆ ที่เป็นแบบนี้  แต่ปัต.... ปัตรักพี่พาร์ท  ฮึกๆ”

“รักเหรอ?  ใครๆ ก็พูดได้  ปัตยังเด็กไม่ทันเกมของพวกผู้ใหญ่หลอกลูก  ถ้าคุณรักปัตจริงก็ต้องพิสูจน์สิ”   พ่อปัตหันมามองผม

สายตาที่ดูเชือดเฉือนราวกับผมเป็นศัตรูแต่ชาติปางไหนนั่น ทำให้รู้ได้ทันทีว่าปัต  เป็นที่รักของครอบครัวขนาดไหน

ของสำคัญขนาดนั้น  พอผมจะมาแย่งไปจงอางก็เลยต้องออกอาการหวงไข่กันหน่อย  ...

“จะให้ผมพิสูจน์ยังไงหล่ะครับ  ว่ามาเลย”

“พิสูจน์ด้วยชีวิตเป็นไง คุณก็รู้ว่างานอดิเรกของผมคืออะไร ไม่เมื่อไม่มีปัต  คุณเองก็ไม่อยากจะมีชิวิตอยู่ไม่ใช่รึไง

งั้นมาลองเสี่ยงกันดูสักตั้ง แค่ถือกระป๋องน้ำอัดลมไว้ในมือเท่านั้นก็พอ....  หึหึ    ว่าแต่ว่าคุณ  “กล้า” พอไหมหล่ะ

คุณกนต์ธร  ภูมรินทร์   ถ้ากลัวจะถอนตัวตอนนี้ก็ยังทันนะครับ”  น้ำเสียงติดจะเย๊าะเย้ยถากถาง   แค่ถือกระป๋องน้ำอัดลม 

งั้นเหรอ.?.....หึหึ  ไอ้แค่ถือกระป๋องน้ำอัดลมที่ว่า  ก็เพื่อให้ว่าที่พ่อตาเล็กกระสุนปืนเล็งมาที่เป้า  “กล้า”  พอไหมงั้นเหรอ?

ผมหันไปมองไอ้ตัวเล็กที่ส่ายหน้าไปมาอย่างแตกตื่น  สายตาเว้าวอนร้องขอ  สองมือเกาะแขนผมแน่น
“อย่าฮะ”   ริมฝีปากบางกระซิบเสียงแผ่ว  น้ำตาไหลอาบแก้ม  ผมได้แต่ยิ้มให้...จะให้ถอยตอนนี้ไม่มีทาง  นี่ก็ถือเป็นโอกาส

ที่พ่อของปัตหยิบยื่นมาให้


“เชื่อพี่ ....พี่ไม่เป็นไรหรอก พี่สัญญา”  ผมลูบหัวไอ้ตัวเล็กเบา ๆ แต่น้องกลับส่ายหน้า ไปมาอยู่อย่างนั้น

“จะไปกันได้รึยัง?”   พ่อปัตหันมาถามผม  ผมพยักหน้าตอบ 

“เชิญคุณด้วยนะครับมาเป็นพยายาน เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่ยุติธรรม”   พ่อปัตหันไปพูดกับพ่อผม แล้วมองผมด้วยหางตา

นิดนึง   ก่อนจะล้วงมือไปหยิบปืนสั้นในกระเป๋าหลัง พร้อมกับหยิบกระป๋องน้ำอัดลมที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้ผม

เดินนำไปสวนหลังบ้าน แน่นอน....ผมจำได้ดี สถานที่ๆ เรามาซ้อมยิงปืนกันบ่อยๆ  ทุกครั้งที่ผมมาที่นี่ก็ว่าได้

ไม่ต้องมีคำพูดใดผมเดินตรงไปยังหน้าเป้าที่ใช้ยินกันเสมอ  ตอนนี้ยังมีกระดาษรูปคนยืนหรามีรอยกระสุนจากการซ้อม

พรุนทั่วทั้งร่าง  ล้วนแล้วแต่เป็นจุดสำคัญทั้งสิ้น  ไม่ต้องถามว่ามีความเชี่ยวชาญขนาดไหน  ผมวางกระป๋องน้ำอัดลม
ไว้กลางศรีษะ  แล้วยืนนิ่งหันไปมองคนที่กำลังเล็งกระบอกปืนมาที่ผม อยู่ในท่าพร้อมจะยิง

“พร้อมแล้วบอก” พ่อปัตบอกนิ่งๆ  ริมฝีปากกระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ 

“ถ้ากลัวก็หลับตาซะคุณพาร์ท  ...  แป๊บเดียวแค่นั้นแหล่ะ  หึ”  กระปืนเล็งต่ำ  กว่าที่จะเป็นการยิงกระป๋องบนหัว

แต่...ปากกระบอกกลับเล็งมายังกลางอก  ผมหันไปมองน้องนี่อาจจะเป็นจุดจบของผมก็ได้  ที่บังอาจเข้าถ้ำเสือ

“ผมพร้อมแล้ว”  ผมพูดเสียงดังฟังชัด  หากแต่สายตาไม่ได้ละไปจากไอ้ตัวเล็กของผม  อย่างน้อย...ถ้าต้องตายวันนี้

ให้ผมได้จดจำภาพน้องไว้ก็ยังดี  ปัตจะรู้ใช่ไหม?.......   ว่าผม “รัก”   รักมากกว่าชีวิตตัวเองแล้วตอนนี้ 

“หนึ่ง.....สอง.....ส”   พ่อปัตนับช้าๆ  แกร๊ก.ๆ...    เสียงปืนที่กำลังขึ้นลำ  ผมยกยิ้ม.....อยากให้ปัตจำรอยยิ้มผมไว้

“สาม....ปัง!! // พี่พาร์ท!!”    กระสุนทะลุผ่านเข้ามากระแทกอก   จนผมเซน้อยๆ  กระป๋องน้ำอัดลมล่วงลงกระแทกพื้น 
เลือดสีแดงเข้มไหลจนเปียกชุ่มเสื้อ   ผมกุมมือไว้ที่หน้าอกแน่น....  เริ่มหายใจไม่ออก ไม่คิดว่าพ่อจะกล้ายิง

ทรุดตัวลงขาคุกเข่าลงกับพื้น กำลังจะล้ม  ไอ้ตัวเล็กก็วิ่งพรวดเข้ามาประครองกอดได้ทันจากด้านหลัง


“พี่พาร์ทททท  ฮือออออ~   ปัตรักพี่พาร์ทอย่าเป็นอะไรนะ  ไหนสัญญากับปัตแล้วว่าจะแต่งงานกันไงเล่า อย่าตายนะ
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   อย่าตาย   ฮึกๆๆ  พี่พาร์ททททททท”    ไอ้ตัวเล็กร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ  ผมเองก็เหมือนจะขาดใจไปด้วย

ยกมืออีกข้าง ไล้บางๆ เช็คคราบน้ำตาจากแก้มสวยของอีกฝ่าย   ค่อยๆ ยิ้ม   รอยยิ้ม.....ครั้งสุดท้าย

“ขอ....โทษครับ...... พี่รักปัตนะ”  สติผมค่อยๆ ลางเลือน ......และดับวูบไปในที่สุด  ลาก่อน..............สุดที่รัก

.

.






หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: evanescence_69 ที่ 30-10-2012 01:37:46
แค่ฝันใช่ ไหม
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 30-10-2012 07:34:22
คุณพ่อจะโหดไปไหน เด่วลูกชายก็เป็นหม้ายหรอก  :sad3:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 30-10-2012 09:03:01
แค่ฝันใช่ ไหม

^
^


นั่นสิ  พี่พาร์ทอะ จอมฝันเลย ตั้งแต่ต้นเรื่องละ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: arisa_sa ที่ 30-10-2012 09:39:46
ฝันไปจริงๆใช่ใหม พี่พาร์ท  :m15: :m15: :m15:  :sad4:  :sad4: :sad4:



ขอบคุณค่ะ :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 30-10-2012 15:14:04
กระสุนยางป่าว
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 30-10-2012 16:01:14
 o22ได้ไงเนี่ย มันเป็นแค่ความฝันใช่ไหม
มันไม่เป็นความจริงไม่่่่่่่่่่่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่ :o12:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 50% P.17 29/10/12
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-10-2012 22:33:11
ถ้าไม่ใช่ฝัน พ่อปัตก็โหดจริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% P.17 1/11/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 01-11-2012 03:35:05
ตอนพิเศษ  คุณพ่อครับ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้ไหมครับ? 100%

.

.

“พี่พาร์ทททททททททททท  ”  ผมโอบกอดพี่พาร์ทไว้แน่น  ตัวทั้งตัวพิงมาที่อกผม อยู่ในอ้อมกอดผม

ทั้งตัวสั่นระริก ในหัวสมองขาวโพลนนึกอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้แล้วกอดพี่พาร์ทไว้แน่นอยู่อย่างนั้น 

“ปัตรู้แล้วฮะว่าพี่รักปัตจริง ๆ  ตื่นขึ้นมาสักที ฮึกๆ ได้โปรด ปัตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่”   ดวงตาที่พล่าเบลอมองไม่เห็นใครทั้งนั้น

พ่อใจร้ายทำพี่พาร์ทได้ลงคอ  ทั้งๆ ที่เป็นรักของผม  พ่อพี่ปัตเองก็นิ่งเฉย....  หรือจะเป็นเพราะตกใจอย่างสุดขีด

เลยขาดสตินิ่งงันอยู่อย่างนั้น มีเพียงสายตาที่เรียบเฉย...แต่แฝงด้วยอะไรสักอย่างมองมาที่ผม   หรืออาจจะเป็นเพราะโกรธ

เพราะเกลียดผมกันหล่ะ ?   ผมได้แต่ร้องไห้พยายามดันอีกฝ่ายที่ไร้สติให้ลุกขึ้นตัวทั้งตัวของพี่พาร์ทที่โถมมาที่ผมตอนนี้


ใหญ่โตเกินกว่าผมคนเดียวจะพยุงไหว...  แต่จะยังไงก็ช่างผมไม่มีทางเชื่อว่าพี่พาร์ทจะทิ้งผมไป ไม่มีทาง  ........


ผมตะเกียกตะกายอยู่เพียงครู่  พ่อผมก็เดินเข้ามานั่งใกล้ ๆ สีหน้าเฉยเมย   ออกจะหงุดหงิดเสียมาก  คำสั่งเฉียบฉาดดังขึ้นใกล้

“เลิกร้องได้แล้ว...  พ่อไม่อยากให้เราเสียใจ” ผมได้แต่นิ่งงันรู้สึกโกรธพ่อเหลือเกินที่ใจร้ายแบบนี้  พ่อไม่ใส่ใจสายตาผม

แต่กลับหันไปมองพี่พาร์ทด้วยสีหน้าเอือมๆ  จับที่ไหล่กว้างของอีกฝ่ายดันตัวให้หงายไปข้างหลังเล็กน้อย  เริ่มเขย่าเบาๆ


อีกฝ่ายที่หมดสติไปแล้ว หัวโยกคอนไปตามแรงเขย่า  เสียใจอย่างบอกไม่ถูก  ทำไม?  พ่อต้องเกลียดพี่ปัตด้วย

หลังจากเขย่าอยู่พักไม่เป็นผล  ผมยื่นมือจะดึงมือพ่อออก แต่สายตาที่มองมาอย่างมีอำนาจ พร้อมคำสั่งเฉียบขาด

ที่ฟังแล้วต้องสะดุ้ง   

“หยุดนะปัต”  ทำผมตัวน้ำตาไหลลงอีกทนไม่ไหวแล้ว..พ่อใจร้าย  กำลังจะผลักพ่อไปให้พ้นทางผมจะพาพี่พาร์ทไปหาหมอ

“ตื่นได้แล้ว....ไอ้ลูกเขย  อย่าสำออยนัก  แค่เพ้นท์บอลแค่นี้หมอบเป็นลูกหมาเลยเหรอว่ะ”   พ่อว่าตีปุ๊ๆ  ที่หน้าพี่พาร์ท


.

.

.

ผมหันขวับไปมองหน้าพ่อทันที   หืมมม? เมื่อกี้พ่อว่าอะไรนะ ได้ยินแว่วๆ แต่จับใจความไม่ได้  เพราะมัวแต่หูอื้อ

จากการร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนแทบจะขาดใจ 

“หือ~   เมื่อกี้พ่อว่าอะไรนะฮะ?”  พ่อหันมามองผมด้วยหางตา สะบัดด้วยอาการงอนนิด ๆ  แล้วถอนหายใจยาวเหยียด

“พ่อบอกว่า  อย่าสำออยให้มากนัก  กะอีแค่โดนเพ้นท์บอลยิงแค่นี้ไม่ตายหรอก”  ผมได้แต่ทำหน้าเหวอ  ก้มลงไปมอง

สีแดงที่ฉาบอยู่บนเสื้อ  ไม่เหมือนเลือดแม้สักนิ๊ด~  ถ้าหากผมจะทันสังเกตุ  อารามตกใจให้อีกฝ่ายทรุดและเห็นสีแดงกลายๆ

ก็คิดว่าพ่อใช้กระสุนจริงซะงั้น  ทำเอาหมดอารมณ์  อย่าบอกนะว่า.....ไอ้ตัวที่แกล้งนอนนิ่งเนี่ยรู้เห็นเป็นใจในการหลอกผมด้วย

โหยยยย~  ร้ายนักนะพี่พาร์ท  ดี!!  หลอกกันอย่างนี้เห็นทีจะแต่งงานด้วยไม่ได้แล้ว ฮึม!!~   

.

.


.
“พอเถอะครับคุณป้อง  เจ้าพาร์ทคงไม่ตื่นแล้วหล่ะครับ ”  พ่อพี่พาร์ทเดินมานั่งลงข้างๆ พ่อผม

“อ้าว  ทำไมหล่ะครับ? คุณพล ผมว่าไอ้เพ้นท์บอลนี่มันก็ไม่น่าจะแรงขนาดทำให้คนหมดสติได้นี่หรับ” พ่อยกกระบอกปืน


ขึ้นสำรวจด้วยความสงสัย

“เอ่อ .... จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวกับความแรงสักเท่าไหร่หรอกครับ  ความแรงแค่นี้คงทำไรเจ้าพาร์ทไม่ได้”  พ่อว่าเสียงเบา
“แล้วทำไมพี่พาร์ทสลบไปหล่ะครับพ่อ?”  ผมหันไปถามด้วยความฉงนพอกัน

“คือเจ้าพาร์ทมันกลัวเลือดน่ะลูก  ...พอคุณพลยิงโดน มันก็ดันคิดว่ากระสุนจริง เห็นสีแดงๆ คิดว่าเลือดเลยลมจับน่ะสิ

ปกติน่ะแค่เห็นก็หน้าซีดจนจะเป็นลมอยู่แล้ว นี่โดนกับตัวเองแท้ๆ ยังมีหน้ามาพูดสั่งลากับปัตได้นี่  ปัตนี่เจ๋งจริงๆ นะลูก ฮ่าๆๆ

แต่ก็นะ  น่าขายหน้าจริงๆ  เฮ้อ....  มีตาแต่ไม่มีแววจริงเล้ย!! ลูกเรา” 

“ต๊าย  ..ตาพาร์ทเป็นอะไรคะคุณ ถึงได้นอนอยู่กับพื้นอย่างนั้น  ว๊าย...เลือดเหรอ?”  แม่ร้องเสียงดังรีบถลาตัวเข้ามา

แต่พอเข้ามาใกล้ทำนั้นแหล่ะก็หันไปมองหน้าพ่อ  ทำหน้าเหม็นเบื่ออย่างถึงที่สุด

“มามุกนี้อีกแล้ว  สงสัยกว่าลูกสาวจะขายออก ลูกเขยคงหัวใจวายตายก่อนพอดี”  แม่ว่าอย่างรำคาญ ส่วนพ่อเอาแต่หัวเราะขำ
“แหม!! คุณก็ลูกเราทั้งคนนะ จะไม่ให้พิสูจน์ได้ไง”  แล้วหัวเราะอย่างสะใจ

“คร้าาาาา....  เมื่อเดือนที่แล้วนะ  ก็ยิงแบบนี้แหล่ะไปสองคน  เกือบจะวิ่งกันป่าราบอยู่แล้ว  ลูกเราน่ะเข้ามหาลัยแล้วนะคะ

จะไปกะเกณฑ์อะไรนักหนา  ปล่อยๆ ไปบ้างเถอะค่ะ ”   แม่สะตาค้อนน้อยๆ

“โหย~  ได้ไงคุณบ้านเรามีแต่ลูกสาว ต้องพิสูจน์ ๆ”  พ่อพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ผมสะดุ้งเฮือก  มี...แต่ผู้หญิงงั้นเหรอ?

“เอ่อ  ...พ่อฮะ  ปัตเป็นผู้ชายนะฮะ”  ผมหันไปเตือนความทรงจำ  พ่อหันมามองทำหน้ารำคาญ
“คนเป็นเมีย  ยังไงก็เป็นผู้หญิง...  ไปๆ ช่วยกันพยุงเจ้าพาร์ทเข้าบ้านกันได้แล้ว”   พ่อว่าขยับเข้ามาช้อนตัวพี่พาร์ทอีกด้าน

ส่วนผมพยุงอีกด้าน  อ่ะ....เอ่อ ...  ผมหล่ะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีซะตอนนี้จริงๆ เชียว  แล้วเสียงหัวเราะของทั้งแม่กับ

พ่อพี่พาร์ทนี่มันยังไงนะ   ผมหล่ะ.....เฮ้อ~

.

.
.

.

.

ผมรู้สึกตัวขึ้นมาได้แต่กระพริบตาถี่เพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืดทุกอณุที่มองผ่าน  รู้สึกแห้งผากที่ลำคอจนอยาก

จะหาน้ำดื่ม ลืมตัวไปว่าตายแล้ว เลยพลอยให้นึกสงสัยว่าทำไมยังหิวน้ำได้อีกว่ะ ? หรือคนตายก็ยังต้องกิน  แต่ไอ้กินที่ว่า

น่าจะต้องกินบุญ  แอบดีใจลึกๆ ที่ช่วงหลังๆ ทำบุญบ่อย   ค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง  ...  ถอนหายใจเบาๆ  รอสักพัก

บุญที่เคยทำมาน่าจะทำให้เรารู้สึกกระหายลดลง  น่าแปลกใจอีกอย่าง...ตายแล้วไม่ยักเจ็บที่แผลแฮะ   ร่างกายอบอุ่น
หนาวๆ ร้อนๆ แปลกๆ ราวกับถูกโอบกอด  อืมมมม~  อ่าาาาา~  บ้าจริง .....  อยู่ดีๆ ก็เสียวราวกับถูกบวบกลางลำตัว

ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น หรือผีตนอื่นกำลังลักหลับผมอยู่ (ว่าแต่ผีนอนหลับด้วยรึเปล่า) อู๊ยยยย ~  เสียวจริงๆ 

เสียวจนต้องยื่นมือไปหาต้นตอ  แล้วก็เจอตอ......  หัวทุยๆ ที่มีผมสลวยนุ่มมืออย่างทุกที ....  ปัต ผมได้แต่นึกในใจ

สอดมือเข้าไปในเรือนผมนิ่ม เพิ่มแรงกดให้ลำคออุ่นดูดกลืนของผมมากขึ้นไปอีก  เลื่อนขึ้นเลื่อนลงไม่หยุดหย่อน

ทำผมครางกระเส่า   ปัต......สัมผัสวิญญาณได้?   ตั้งแต่เมื่อไหร่?   ไม่เห็นน้องเคยบอก ...นึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้อยากรู้

อย่างน้อยก็ในเวลานี้  เวลาที่สมองประมวลผลได้แต่เรื่องใต้สะดือ  เมื่อปรับสายตาให้เข้ากับความมืดได้ดี 

ก็มองเห็นหน้าหวานของอีกฝ่ายชัดขึ้น  ไอ้ตัวเล็กละริมฝีปาก.....  หันมาจ้องผมด้วยแววตาอ่อนหวาน

นึกขอบคุณแสงของพระจันทร์ที่ดันโผล่พ้นเมฆออกมาได้จังหวะเวลาพอดิบพอดี  ให้ผมมองเห็นสายตาอ่อนเชื่อมเย้ายวนนี่
“รู้สึกตัวซะทีนะฮะ  พี่พาร์ท.....”   ไอ้ตัวเล็กคลานต้วมเตี้ยมมานั่งบนตัวผม เพิ่งสังเกตุ...ร่างกายอีกฝ่ายกำลังเปลือยเปล่า

ขณะที่ผมก็มีเพียงบ็อกเซอร์เท่านั้นที่เป็นอาภรณ์ปิดบังร่างกาย  สะโพกหวานวางอยู่ติดกับท่อนเอ็นร้อนที่ไอ้ตัวดีอมรูดให้ผม

อยู่เมื่อครู่ ปัตแอ่นสะโพกเบียดท่อนเอ็นที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง ท่อนเอ็นแทรกกลางอยู่ระหว่างก้นงามๆ สองแคม

น้องค่อยลูดขึ้นลง ช้าๆ ทำผมสูดปาก...เสียวจนทนไม่ไหว  ยื่นมือไปดันท่อนเอ็นไม่เอนไปมา  น้ำชื้นแฉะจากการอมช่วย

ให้ลื่นไหลได้สะดวก  พอน้องลูดไปถึงยอดสูง ส่วนหัวที่เป็นปีกก็สะกิดช่องหวาน จนครางสะท้านกันทั้งสองฝ่าย

“อืมมมมม/อ๊าาาาาาาา~” ไอ้ตัวเล็กบดเบียดสะโพกหวานหยอกล้อหนักเข้าไปอีก  ผมสบถเบาๆ เห็นทีต้องปล้ำคนซะแล้ว

“ช่วยปัตทีฮะ...พ่อให้กินอะไรไม่รู้ร้อนไปหมดแล้ว.....  อ๊าาาาาา~”   ผมจับสะโพกน้องให้หยุดลูด  แล้วค้างอยู่บนอากาศ

ก่อนจะกำท่อนเอ็นที่ร้อนราวกับไฟให้ตั้งชัน  ส่วนมืออีกข้างรั้งสะโพกมนให้กดทับลงมา  ไอ้ตัวเล็กทำตามอย่างว่าง่าย
เห็นทีที่พอให้กินน่าจะเป็นยาปลุกเซ็กส์  คนไม่เคยเลยร้อนเร่าครางกระเส่าเต็มที่  สะโพกบางค่อยๆ กลืนท่อนเอ็นของผม

เข้าไปในตัว สัมผัสอ่อนนุ่มบีบรัดแน่นอุ่นซ่านไปทั่วลำในส่วนที่มุดผ่านเข้าไป ได้แต่กัดปากตัวเองให้เจ็บเพื่อสะกดอารมณ์อยาก

จะกระแทกสวนเข้าไปในตัวอีกฝ่าย   ได้ตัวเล็กห่อปากลำตัวสั่นสะท้านทั้งเสียวซ่านและทั้งจุกไปในคราเดียว  สองมือ

ดันหน้าท้องผมเป็นระยะ  ไม่ให้ผมรั้งตัวน้องเข้าไปเร็วจนเกินไป  ใช้เวลาไม่นานนักมันภายในน้องชุ่มฉ่ำหล่อลื่นไปด้วย

ไฟปรารถนา ท่อนเอ็นร้อนๆ หนานุ่มก็มุดหายเข้าไปจนหมด   น้องทำผมตาพร่ามองเห็นอีกฝ่ายนั่งหอบหายใจ  ผมช่วยลูด

หนอนน้อยของอีกฝ่ายขึ้นลงเป็นจังหวะจนกลายเป็นผีเสื้อตีปีก กระดกหงึกๆ เบาอยู่บนหน้าท้องผม ปลายหัวลูกศร
มีน้ำซึมนิดๆ  ผมลากนิ้วไปบี้ส่วนปลายเน้นๆ ไอ้ตัวเล็กถึงกับครางหวือด้วยความเสียว ภายในช่องหวานเลยบีบรัดตามไป

ผมเผลอกระแทกสวนเบาๆ เมื่อปัตไม่ยอมขยับสักที  ไอ้ตัวดีเลยเริ่มขยับช้าๆ  มือผมบีบสะโพกแน่นช่วยอีกฝ่ายให้ลูดขึ้นลง

ได้สะดวกขึ้น  เสียงเนื้อกระแทกกันเป็นจังหวะ  พร้อมกับเสียงครางระงม  ไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใคร   ตามแต่อารมณ์

ที่พุ่งพร่านอยู่ตอนนี้   

.

.

“ปับๆๆๆ”      ไอ้ตัวเล็กเร่งกระแทกสะโพกถี่รัว   หัวใจเต้นแรงตามสภาพจิตใจที่พุ่งทะยานสู่ที่สูง   ผมจับสะโพกอีกฝ่ายแน่น

ดึงให้กระแทกลงมาหนักๆ  ขณะที่ด้านล่างก็กระแทกเอ็นสวนแรงรัวไม่แพ้กัน  ไอ้ตัวเล็กร่อนสะโพกส่ายไปมายั่วยวน

เร่งให้ผมกระแทกเอ็นด้านล่างในจังหวะที่ถี่รัว  ...  จนแทบหายใจไม่ทัน

“ป๊าบๆ   ป๊าบๆ ป๊าบๆ”

“อืออออออออออ~/ อืมมมมมมมม”   ช่องหวานบีบรัดผมไว้แน่น ร่างกายเราทั้งคู่เกร็งกระตุก ผีเสื้อตัวอวบบนหน้าท้องผม

หัวกระดกหงึกๆๆ  อยู่สามรอบ ก่อนจะพ่นพิษหวาน  อุ่นซ่านด้วยแรงปรารถนา สีขาวขุ่นราวกับน้ำนมบนหน้าท้องผม 

ผมซอยท่อนเอ็นช้าๆ เพราะช่องทางที่รัดแน่น มันเสียวซ่านจนต้องพ่นน้ำ “รัก”   ใส่อีกฝ่ายอย่างอดใจไม่ไหว 

.

.


“แฮกๆ  แฮกๆ ”  เสียงหอบหายใจดังระงม  หลังจากจบบทเลิฟซีน ไอ้ตัวเล็กทิ้งตัวหอบเหนื่อยอยู่บนอกผม  ท่อนเอ็น
ยังคงนอนแช่อยู่ในทางรัก ของอีกฝ่าย  ริมฝีปากเราดูดกลืนหากันอย่างโหยหา สอดลิ้นเข้าไปดูดกลืนลิ้นของอีกฝ่าย

ไล่ตอนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร กระหวัดรัดกันจนแทบจะกลายเป็นลิ้นเดียว รสหวานซ่าบซ่าน ..หลอกล่อให้ค้นหา

ไม่อาจละริมฝีปากได้โดยง่าย  สองมือคลำทั่วจุดอ่อนไหวของอีกฝ่าย เสียงดังเป็นระยะในลำคอ   ท่อนเอ็นอ่อนนุ่ม

หันกลับมาตื่นเต็มตัวอีกครั้ง  ผมพลิกให้ตัวเองมาอยู่ด้านบน ละริมฝีปากออกน้ำเชื่อมยืดยาวระหว่างลิ้นเราสองคน

จนต้องกลับไปดูดดุนกันเบาๆ ไล้เลียเล่นที่ริมฝีปากบางได้รูปของอีกฝ่าย แล้วงับปากล่างเบาๆ อย่างหยอกเย้า

หนไปไล่จูบตั้งแต่ติ่งหูทั้งซอกซอน ไล้เล็ม ทั้งติ่ง ทั้งรู จนทั่วใบหู  ได้ยินเสียงครางหวาน ก็เริ่มขยับด้านล่างเป็นจังหวะ

แล้วซุกจมูกลงซอกคอหอม อีกฝ่ายเงยคอให้สัมผัสได้ถนัดถนี่  มือเรียวข้างหนึ่งกดแน่นที่บั้นเอวเร่งให้ผมซอยเอวถี่

และหนักหน่วง มืออีกข้างสอดเข้ามาในเรือนผม  กดให้หน้าซุกแน่นเข้าไปอีกเมื่อปากผมกำลังดูด เลียหน้าอกของอีกฝ่าย
ไอ้ตัวแอ่นอกหวือ ผมถือโอกาสสอดมือเข้าได้เอวเล็กคอด  ให้สะโพกหวานแอ่นได้องศา จากนั้นหยุดกิจกรรมทางปาก

เดินเครื่องบั้นเอว  ให้ทั้งเร็วทั้งถี่ เสียดสีกันจนเหมือนไฟที่โหมกระพือ  ขาเรียวรัดแน่นรอบเอวผม ทำให้แรงกระแทก

แต่ละที “แน่น” เข้าไปอีก 

“อ๊ะ    อ๊ะ...  แรงอีก”

.

.

“โอ๊ววววว~ ....พ....พี่พาร์ท....”

.

.



“อ๊ะ ...  อ๊ะ....อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา~”    ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก ร่างทั้งร่างบิดเร่า พ่น น้ำนมทั่วหน้าท้องผม   ส่วนหัว

ถูไถเบาๆ กับไรขนบนหน้าท้องผม   ปัตปรือตาฉ่ำเยิ้ม ริมฝีปากเผยอน้อยๆ หายใจหอบเหนื่อย เซ็กซี่อย่างร้ายกาจ


 โอย~ ทนไม่ไหวแล้ว  ผมจับน้องพลิกคว่ำ ขณะที่ท่อนเอ็นยังสอดใส่เชื่อมต่อกันดีไม่มีหลุด  ปล่อยให้ไอ้ตัวเล็กจัดท่า

ให้อยู่ในท่าที่สบาย ก่อนจะรั้งสะโพกมนให้โดงสูง  ขยับเนิบๆ พอเป็นพิธี  เรียกว่าหลอกล่อเด็กน้อยให้หลงก่อน
ก่อนจะสาวจนสุดลำ  แล้วกระแทกกลับไปใหม่  ทั้งถี่  ทั้งรัว ทั้งหนัก ทั้งแรง  โถมใส่จนไอ้ตัวเล็ก หัวสะบัดไปมา

ครางจนเสียงหลง


“อ๊าาาาา   อือออออ”

“ซี๊ดดดดดดดด  สุดยอดเลยครับที่รัก”

“อืมมมมม  ร...เร็วอีกกกกกกก”

“โอ๊วววววววววว  แน่นเซี๊ยะ เมียพี่เอาโคตรมันส์  อื๊อออ~”

“ป๊าบๆๆ”

“อ๊ะ.......อื๊ออออออออออออ/  อืมมมมมมมมมมมมม”

ผมคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เกร็งกระตุกไปพร้อมกับคนข้างล่าง ก่อนจะพ่นน้ำรัก เข้าไปในช่องหวาน 

แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา  ชักลำออกช้า ๆ  เกิดเสียงดัง  “เป๊าะ”  น้ำรักไหลออกมาตาร่องขาน้อง  ผมดึงน้องมากอดแน่น

แล้วพรมจูบเบาๆ ทั่วใบหน้า เหนื่อยอ่อนกันทั้งคู่  มันแรงจากการ “ร่วมรัก”  สามรอบต่อเนื่อง มีเวลาหยุดพักเพียงเสี้ยววินาที


หลังจากพักอยู่ครู่เลยตัดสินใจอาบน้ำ แล้วหาผ้ามาเช็ดตัวให้อีกฝ่ายจะได้หลับสบาย ผ้าปูเตียงถูกดึงทิ้งอย่างลวก ๆ ที่ข้างเตียง
แล้วสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่ม ดึงไอ้ตัวเล็กมากอดด้วยร่างกายที่ยังเปลือยเปล่ากันทั้งคู่  ความอบอุ่นที่ดื่มด่ำ จุมพิศเบาๆ ที่หน้าผาก

ของอีกฝ่าย ก่อนจะกระซิบเบาๆ  ว่า

“ฝันดีนะครับคนดี”  แล้วพากันจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา   ไม่นึกว่า.....เป็นผีแล้วก็ยังไม่มีอะไรแตกต่างจากตอนเป็นคน  ถึงผมจะตาย

แต่ได้อยู่ใกล้  ได้สัมผัส  ได้โอบกอดคนที่รัก  อย่างปัต  ...แบบนี้  การตาย.....ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

.

.

.

.

“ตื่นได้แล้วครับ?”   เสียงคุ้นเคยปลุกผมจากห้องนิทรา  ผมกระพริบตาถี่ไล่ความง่วง  ก็เห็นไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้างมาให้ เลยยิ้มตอบ

“ตื่นได้แล้วครับ  ป่ะ ไปกินข้าวกัน”  ไอ้ตัวเล็กว่า  ผมยิ้มแล้วส่ายหัว ดึงอีกฝ่ายลงมานอนด้วยกัน

“วิญญาณไม่ต้องกินข้าวหรอกรู้มั้ย?”  ผมยังจำได้ว่าตัวเองตายไปแล้ว  แต่ก็นะ...รู้สึกหิวเหมือนจะกินช้างได้ทั้งตัวเหมือนกัน

“แล้วกินอะไร?”

“กินบุญไง”

“แล้วพี่พาร์ทตายตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ?”

“ก็.......เมื่อวานนี้ไง”

“ฮ่าๆๆ  ยังไม่รู้เรื่องจริงเหรอครับ?”  ผมทำหน้าฉงนทันที  ไอ้ตัวเล็กเลยทำหน้าที่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง

ผมนี่อายแทบแทรกแผ่นดินหนี  ก็นะ...คนเราก็ย่อมที่มีเรื่องที่เรากลัวบ้างสิ  ผมกลัวเลือดก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน


.

.

“แล้วจากนั้นหล่ะ?”


“ก็พอพาพี่พาร์ทขึ้นมานอนบนห้องเสร็จ พวกเราก็ปาร์ตี้กันฉลองต้อนรับลูกเขย ไงครับ?”

“โดยที่ลูกเขยไม่อยู่”

“ก็พี่พาร์ทไม่ยอมตื่นเองนี่นา  แล้วพ่อปัตก็เอาอะไรไม่รู้มาให้กิน บอกว่าฉลองวันส่งตัวเข้าหออ่ะ”

“อ่อ”  ผมยกยิ้ม  คิดถึงน้องเมื่อคืน ทั้งร้อนแรง เย้ายวน  และเซ็กซี่จริงๆ  ไอ้ตัวเล็กน่าแดงแจ๋

“ว่าแต่...คืนนี้พี่ขอเหมือนเดิมได้ป่ะครับ?”   ผมหันไปทำสายตาเจ้าชู้ มองไอ้ตัวเล็ก  น้องกัดปากตัวเองแน่น

จนปากบวมเห่อกว่าเดิม  น่ารักจริงๆ  ผมกดจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย

“ล้อเล่นครับ หึหึ  ใครจะกล้าบังคับปัต  พี่อยากรักปัต ตอนที่ปัตเองก็อยากรักพี่มากกว่า” ผมหอมแก้มน้องเบาๆ

“ด...ได้ครับ”

“หืมม?”   ผมเลิกคิ้วสูงเป็นคำถาม

“เรื่องคืนนี้.......”



.

.
.

.

“แบบเดิมก็ได้ครับ”





******************  จบ*******************************




หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% P.17 1/11/12
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 01-11-2012 08:27:54
 :jul1:  :jul1:  :jul1:

คุณพ่อแรงมาก เป็นใจลูกเขยสุดๆ  :m25:  :m25:  :m25:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% P.17 1/11/12
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 01-11-2012 09:00:57
คุณพ่อไม่หวงไม่พอ ยังใส่ยาให้ลูกกินเข้าไปอีก  :haun4:
ท่าจะรักลูกเขยมากกว่าลูกตัวเองนะเนี่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 01-11-2012 12:03:09
จบแล้ว ย้ายเลยค่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% P.17 1/11/12
เริ่มหัวข้อโดย: KaeM_PonG ที่ 01-11-2012 12:25:22
 :m25: :m25: :m25: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-11-2012 13:39:36
ปั๊ดโธ่ อภินันทนาการจากพ่อตา สุดยอดจริงๆ 555555555
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 01-11-2012 16:14:44
จบซะแล้ว ตอนพิเศษเด็ดจิงอะไรจิงฮะ

จะติดตามผลงานไปเรื่อยๆ เลยนะฮะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-11-2012 18:01:08
นึกว่าโดนยิงจริงๆ แค่กลัวเลือดแล้วเป็นลม 5555
แม้ยังมีส่งตัวกันอีกน่ารักจริงๆ ครอบครัวนี้

+1จ้า
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-11-2012 19:02:40
นึกว่าพี่พาร์ทไปซะแล้ว 



คุณพ่อก็แอบแรงนะ มียาให้ปัตกิน ตอนส่งตัวเข้าหอด้วย  :laugh:


ขอบคุณนะครับ  เรื่องนี้สนุกมาก o13
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-11-2012 19:03:55
ปกติไม่ใช้ยา ก็ร้อนแรงกันอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 01-11-2012 22:37:50
เรื่องนี้น่ารักมากค่า เสียดายจิ๊ดนึง ช่วงปีหนึ่งถึงสี่อ่ะ สี่ปีตัดฉึบ อยากอ่านนนนนน ชอบอ๊า
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 01-11-2012 23:49:51
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาเม้นให้นะคะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 02-11-2012 00:37:44
หื่นเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ คู่นี้   o6


 :pig4:   :pig4:   :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: acidic_crazy ที่ 02-11-2012 01:48:46
อ่านจบแล้ว ขอบคุณมากนะคะ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-11-2012 11:11:38
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ  อ่านแล้ว 
ชื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนใจ มากๆ

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 02-11-2012 18:42:39
หื่นดีจิง. พ่อตาเป้นใจขนาดนี้.  :haun4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 05-11-2012 11:10:59
 o13 o13 o13 ขอยกนิ้วให้กับงานของคุณทัดมากกกกกกก ค่ะ ชอบมาก ๆ บทแต่ละบทได้อารมณ์เลยค่ะไม่ว่าจะเป็นสุขเศร้าเหงาเสียใจร้องไห้เร่าร้อนเซ็กซี่ เขียนได้ดีหมดเลย ไม่น่าเชื่อว่าพึ่งจะเริ่มเขียนได้ไม่นาน ยังไงรอเรื่องใหม่น่ะจ้ะ และลุ้นให้รวมเล่มพิมพ์เป็นเล่มด้วยน่ะ ถ้าจะทำเมื่อไหร่ขึ้นกระทู้แจ้งด้วยน่ะจ้ะ :3123:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-11-2012 22:21:50
ขอบคุณ  kitty08  ขอบคุณนะคะ สำหรับการติดตาม และคำแนะนำ เห็นตามไปอ่านทุกเรื่องเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านด้วยนะคะ   o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13


เรื่องทำเล่มก็เคยคิดนะคะ  แต่คิดว่าน่าจะมีคนซื้อแค่คนเดียว  ฮ่าๆๆ   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
  เลยคิดว่าไม่น่าทำ 

ขอบคุณจริงๆ สำหรับกำลังใจค่ะ  ถ้ามีคนอยากซื้อก็อยากทำค่ะ  เพราะอยากทำเก็บไว้เองด้วยเป็นที่ระทึก  ...กึกๆๆๆ

จริงๆ ตั้งแต่แต่งมา  เรื่องที่ตัวเองชอบที่สุดคือ มรดกทาสค่ะ   ....  เพราะรู้สึกเป็นดราม่า...ที่ตั้งใจดราม่าเรื่อง ๆ แรก

และมันดูมีอะไรดี  ....
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 07-11-2012 01:46:31
จะว่าไงดี เหมือนตัวละครทุกตัวมีจิตใจฝ่ายดีเป็นผู้นำ เร่ืองราวต่างๆ จึงผ่านไปอย่างสวยงาม
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dearz ที่ 07-11-2012 04:03:50
เซ็กซี่ ร้อนแรง กำเดากระฉูดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 07-11-2012 10:06:48
อ่านรวดเดียวจบ จะบอกว่ามันน่ารัก อบอุ่น มากคะถึงแม้พี่พาร์ทจะหื่นไปบ้าง 5555

สนุกมากๆๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aezac ที่ 07-11-2012 13:53:01
 :jul1: o13

 o13 :jul1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 07-11-2012 14:06:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :L2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 07-11-2012 14:30:46
คุณทัดน่ารักจัง  :impress3: เป็นคนแต่งที่ขยันตอบคำถามมาก ๆ เลยจ้ะ ยังไงเป็นกำลังใจให้น่ะจ้ะ เราไม่เชื่อหรอกว่าจะมีเราแค่คนเดียวที่ซื้อน่ะ ยังไงแต่งต่อไปเรื่อยๆ น่ะจ้ะ ได้โอกาสเมื่อไหร่ก้อมาบอกกล่าวกันน่ะจ้ะ จะตามไปอุดหนุนจ้า
ป.ล.ชอบมรดกทาสเหมือนกันจ้ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 07-11-2012 21:03:26
น่าอ่านจัง ^O^
เดี๋ยวไปอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 07-11-2012 22:15:23
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจริงๆค่ะ  :pig4:

แต่มันก็ :jul1:

แล้วจะติดตามผลงานต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย แนะนำเรื่องที่แต่งค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 07-11-2012 22:34:34
(เรื่องไม่สั้น)  ยอม...มึงคนเดียวว่ะ   // จบ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31213.60


มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ  //  จบ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31213.270


มรดกทาส  // จบ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32551.270


กอด   ////  ยังไม่จบ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33355.0

หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: omeye ที่ 09-11-2012 19:32:28
ครบเครื่อง หวาน เศร้า  ซึ้ง กินใจ  น่ารัก

สนุกสุดๆเลยค่่ะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: RyuJo ที่ 10-11-2012 22:23:03
 :L1: น่ารักมว๊ากกกกกกกก  :bye2:  :mc4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 10-11-2012 22:30:14
ถ่างตาอ่านจนจบ ง่วงแต่ก็ทนอ่าน

อ่านไปยิ้มไป ปัตน่ารักอะ แต่พี่พาร์ท หื่นตั้งแต่ต้นเรื่องและหื่นเพิ่มขึ้นเรื่อย  ๆเลยอะ

หุหุ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: everlastingly ที่ 11-11-2012 15:49:47
 :pig4: :pig4: ขอบคุณผู้แต่งมากมายนะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 11-11-2012 19:03:33
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ ชอบมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 14-11-2012 15:44:35
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 15-11-2012 00:02:10
อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆมาให้อ่านกันคะ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 16-11-2012 11:58:32
สนุกดีนะคับ NC เยอะได้ใจ 5555555555+ ชอบๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ นะค้าบ ^^
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: paintshinki ที่ 16-11-2012 22:39:15
หวานมากอ่านแล้วแอบอิจฉาเบาๆ55+
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-11-2012 00:56:52
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ค่ะดีจมากๆ เรื่องนี้เคยแอบจะ
เลิกโพสอยู่หลายครั้งเพ :-[ราะยอดเม้นน้อยเลยคิดว่าไม่ชอบกัน
แต่เห็นหลายท่านท่ียังสม่ำเแมออยู่เลยใม่อยากให้ค้างคา
แม้จะน้อยแต่ก็เป็นกำลังใจที่ดีจริงๆถึงได้แต่งจนขอบคุณฮับ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: erng ที่ 17-11-2012 15:07:57
น่ารักขนาดดดดดดดดดดดดดด
หวานมากกกกกกกกกกกกก
ชอบสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แบบว่าถ้าจะรักกันขนาดนี้ คนอ่านก็แอบหมั่นไส้นะค่ะ
อิจฉามากกกกกกกกกก
ปัตก็น่ารัก อ๊ายยยยยยย อยากกอดดดดดดด
พี่พาร์ทก็น่ารักกกกกกกก อ๊ายยยยยยยย
ชอบมากกกก ตอนที่พี่พาร์ทบอกว่า
"รักพี่ก่อนคนอื่นได้มั้ยยยย"
กรี๊ดบ้านแทบแตกกกกก 555555

ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับความหวานในชีวิตแบบนี้ ^^
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 19-11-2012 03:07:58
คุณพ่อนี่น่ารักจริงยิ่งตรงที่"บ้านเรามีแต่ลูกสาว"
เล่นซะน่ารักเลย
อยากอ่านเรื่องของเบียร์จัง
จะรอเรื่องต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 21-11-2012 23:51:41
สงสารคนที่จะมาเป็นลูกเขยบ้านนี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 24-11-2012 07:59:54
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
พาร์ทกับปัต น่ารักมากมาย อิอิ ^^"
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 25-11-2012 18:02:58
ปัต เธอเเซ่บมาก

เรื่องนี้สนุกมาก

จะติดตามเรื่องต่อๆไปค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 25-11-2012 20:52:33
เรื่องนี้สนุกมากได้เห็นความรักในครอบครัวปัตถึงตอนแรกๆ

จะแอบเศร้าเรื่องพ่อแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีส่วนความรักระหว่าปัตกับพาร์ท

ทั้งน่ารัก ทั้งหวาน และทั้งหื่นนนเลย..ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shizuruviola ที่ 25-11-2012 21:43:22
สนุกดีครับ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-11-2012 21:47:02
ขอบคุณทุกคอมเม้น นะคะ

กลับมาอ่านตลอด  ตอนนี้ดีใจจนลอยติดหลังแล้ว  ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zeeds ที่ 27-11-2012 20:29:39
แซบบบบได้อ่ีกเรื่องนี้ ยิ่งเวลาทิ้งระยะห่างคำพูดทำเอาคิดเตลิดไปไกลเลย สนุกมากกขอบคุณนะครับที่มีนิยายดีๆอย่างนี้มาให้ได้อ่าน^^  o13
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gustova ที่ 28-11-2012 12:32:46
 o13 น่ารัก
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tittawat ที่ 29-11-2012 11:02:31
เนื้อเรื่องมีความเป็นไปไม่ได้และขัดแย้งกันสูงอยู่หลายตอน แต่ต้องยอมรับว่าทุกๆตอนมีเรื่องราวที่ทำให้น่าสนใจและสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ร้องให้และยิ้มคนเดียวอยู่หลายซีน
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-11-2012 20:05:07
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ค่า

แต่ถ้าจะดีช่วยยกตัวอย่างได้ไหมคะ  จะได้เอาไปปรับปรุงในเรื่องต่อๆ ไป

 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-12-2012 02:44:24
พาร์ทตอนแรกอย่างกวนเลย หลัง ๆ ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ น้องปัดรักปัดมาก ๆ เลยนะเนีย ปิ่นน่าสงสาร พ่อปัดขู่แบบนี้เลยหรือเนี่ย แต่พาร์ทคิดไปได้ขนาดนั้น ขนาดทำแบบนั้นกับปัดยังเข้าใจว่าเป็นแบบนั้นอีก
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kikumaru ที่ 01-12-2012 16:29:00
สนุกมากคะเป็นกำลังใจให้คนเขียนมีผลงานดีๆออกมาอีก
ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 05-12-2012 18:54:21
น้องปัต กับพี่พาร์ท น่ารักที่สุด  :o8:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 05-12-2012 21:05:28
 :3123: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 08-12-2012 16:39:01
ชอบเรื่องนี้จังง
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 23-12-2012 11:05:27
น่ารักอะเรื่องนี้!!
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 29-12-2012 02:54:39
อ่านเรื่องนี้จบ
เลือดก็ใกล้หมดตัว
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PinKy_PeaCock ที่ 30-12-2012 18:18:16
ตามอ่านรวดเดียว ครบทุกรสชาติจริงๆ  o13 ทั้งตลก ซึ้ง เศร้า หื่นกระจาย หาไม่ได้ง่ายๆจากนิยายเรื่องเดียวนะเออ คนแต่งเก่งมากจ้าาาา

สุดยอดที่สุดเห็นจะเป็นพี่พาร์ท ช่างเป็นพระเอกที่หล่อและติ๊งต๊องจริงๆ ความนึกคิดของเธอแต่ละอย่าง อย่างฮา555 :laugh: แต่แอบมีสาระนะเออ ใช่ว่าจะติ๊งต๊องหรือหื่นไปวันๆ คริคริ

น่ารักมากๆเลย เป็นพระเอกที่มีเสน่ห์มากคนนึงเลยนะ ชอบค่ะ :o8:

ขอบคุณคนแต่งจ้า



หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 01-01-2013 11:40:06
แรกๆ ดราม่า หลังๆ นักอ่านโควม่า  :jul1: ขอเลือดสำรองด้วยจ้าาาาา

ปล.ขอบคุณนักเขียนด้วยนะจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: icyblue ที่ 02-01-2013 13:10:40
 :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: golf7777 ที่ 12-01-2013 22:08:15
เมื่อไหร่ตอนพิเศษนะคับ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2013 12:07:17
ตอนพิเศษจบไปแล้วค่ะ 
:)  ขอบคุณนะคะที่ติดตามผลงาน
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 25-03-2013 22:26:51
ตอนจบคุณพ่อน่ารักมากอ่ะ ชอบที่พูดว่า บ้านเรามีแต่ลูกสาว อิอิ :L2:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 29-03-2013 22:16:57
 :z13:


ชอบบบบบบบบบบบบบบบ


เอาอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 30-03-2013 13:46:44
 :katai5:

อยากได้ตอนพิเศษจุงเบยยยยยย
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 30-03-2013 19:56:29
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-03-2013 19:58:48
ขอบคุณนะคะที่ติดตามผลงาน 


หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-07-2013 16:20:55
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากเลย :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 11-07-2013 18:01:47
เรื่องนี้สนุกมาก น่ารักมาก หวานมาก และก็รักกันมากๆ
<3พี่พาร์ทน้องปัต
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 15-07-2013 10:02:51
ตามอ่านเรื่องนี้อยู่หนึ่งวัน ตั้งแต่ต้นจนจบ (ขออภัยที่อ่านแล้วเม้นท์ทีเดียวเลย)
ตอนแรกเสียน้ำตาให้กับปมในใจของน้องปัต น่าสงสารอยู่มากๆ
แต่สุดท้ายปัญหานั้นก็จบลงด้วยดี น้องปัตผ่านมันมาได้อย่างสวยงาม
พร้อมกับมาเจอพี่พาร์ทที่เป็นทั้งพี่ชายและคนรักได้อย่างสมบูรณ์
แม้ระหว่างทางจะเจอกับปัญหาเจอกับอุปสรรคบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
ปลายทางทั้งสองคนก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงความรักที่มีให้กันและกัน
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านงานของคุณ Tassanee เขียนได้น่ารักมากค่ะ
ว่าจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆด้วย น่าจะประทับใจไม่แพ้กัน ^^
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ที่ทำให้เราได้อ่านเรื่องดีๆอย่างนี้ :กอด1:

หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-07-2013 13:14:26
ขอบคุณค่ะ  ที่ชอบดีใจมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 03-10-2013 08:52:15
ตกลงคุณพ่อหวงหรือส่งเสริมคะเนี่ย 55555
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-10-2013 07:21:05
ขอบคุณค๊าบบบบบบ
สนุกมาก  ^^
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 29-12-2013 02:20:39
 o13  o13
ครบรส สนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 06-01-2014 21:56:19
สนุกจังค่ะ ชอบตอนที่คุณพ่อลองใจ อ่านแล้วฮา  :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 16-01-2014 18:06:15
กรี๊ดดดดด นอนจมกองเลือดให้อิพี่พาร์ทกลัวไปเลย 

:jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

ครบเครื่องครบรสมากขอบอก

น้องปัตน่ารักจนอยากจะลักมาจากพี่พาร์ท

เอามาเก็บตั้งโชว์เป็นตุ๊กตาที่บ้านได้มั้ย

น่ารัก ร้องแรงเกินไปแล้วววว >//<

 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-01-2014 23:01:01
อิอิ.   จอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 15-08-2016 17:31:15
เป็นเรื่องที่บนรักที่เร้าร้อนดีจัง


 :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 20-09-2016 07:05:46
เข้ามาอ่านอีกรอบ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-09-2016 03:13:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 05-10-2016 04:12:03
น้องปัดน่ารักอ่ะ จะเป็นคนดีอะไรขนาดนั้นคะลูกสาว
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-01-2019 20:35:09
 :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 07-01-2019 00:19:36
พ่อตาไม่ธรรมดามากกกกมีความส่งเสริมลูกเขยยยย  :haun4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 17-02-2020 03:29:10
อ่านถึงปัตบอกเลิกพาร์ท ให้พาร์ทไปแต่งกะคนอื่นละงงใจกะปัต ไหวนะปัต 555555 เพลียนายเอก
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 17-02-2020 23:15:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 13:55:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 11-11-2020 07:47:56

“ฟังพี่นะคะ  น้องปุ้ม น้องแป้ง  พี่ปัตต้องไปเรียนไกลๆ ก็เพราะพี่อยากเรียนที่ดีๆ ทำงานดี ๆ  เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ไงคะ

ปุ้มกับแป้งรักพ่อกับแม่ของเรามั้ย?”  น้องพยักหน้าตอบช้า  พลางกลั้นสะอื้น แขนทั้งสองข้างโอบกอดผมแน่น
รู้อะไรมั้ย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่3ของประเทศไทยมามากกว่า10ปีแล้ว โดยมีจุฬาเป็นอันดับที่1 มหิดลเป็นลำดับที่สอง ส่วนลำดับที่4-5จะสลับกันไปๆมาๆระหว่างม.เกษตรกับม.ธรรมศาสตร์
เชียงใหม่ก็มีที่ดีๆให้เรียนมากกว่ากรุงเทพฯนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 11-11-2020 18:20:15
ขออภัยนะคะ มาช้าไปหน่อย   o18 o18 o18

ขอให้เพลิดเพลินกับตอนต่อของการเก็บสบู่นะคะ

 :impress2: :impress2: :impress2:



ต่อ~


"อึก......อ่าาาาา"   ไอ้ตัวเล็กเกร็งเครียดไปทั่วทั้งตัวเมื่อผมสอดใส่  สีหน้าเหยเกมองช้อนขึ้นมาจ้องผมตาเป็นมันจากด้านล่าง

ภายในบีบรัดแน่น  ...  จนน้ำผมแทบแตกเลยต้องหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวผ่านช่องหวานด้านหลังเพื่อให้น้องได้ปรับตัว 

แล้วเปลี่ยนมาโอ้โลมไอ้ตัวเล็กให้คล้อยตามกิจกรรมรักสุดหรรษาไปด้วยกัน  ปล่อยมือที่กดตัวน้องไว้

เปลี่ยนมาเป็นรั้งไอ้ตัวเล็กให้มาเกาะพื้นที่ว่างข้างอ่างล้างหน้า  ซุกจมูกคมสูดดมซอกคอหอม ไล่ขบไปทั่วลำคอขาว

ดูดดุนแรงๆ จนรอยแดงเป็นจ้ำๆ โชว์หรา ขบเบาๆ ที่ไหปลาร้าแล้วดูดดุนไปอีกที  แล้วเปลี่ยนเป็นลากลิ้นไล้เลีย

ตั้งแต่ไหปลาร้ายันใบหู  สอดลิ้นแยงจนทั่วทิ้งท้ายด้วยการดูดติ่งหู  ไอ้ตัวเล็กครางหวีดหวิวขาอ่อนยวบจนผมต้องรั้งเอวเอาไว้

“อื๊อออออออ  พ...พี่พาร์ท  อ่าาาาา~”     

มืออีกข้างนวดเฟ้นอยู่บนเม็ดสีชมพูหวาน ที่ตอนนี้แข็งเป็นไตสู้มือ ละมือออกแล้วเลื่อนสอดเข้าใต้คางดันให้หันมารับจูบจากผม

แทรกลิ้นร้อน ๆ ควานหาความหวาน ไล่ต้อนลิ้นเรียว ..ที่ตอนนี้หันมาตวัดเกี่ยวลิ้นผมตอบ จนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

รู้แต่ว่าหวาน...จนซาบซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน   เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ........ 

ผมผละริมฝีปากออก ต่างฝ่ายต่างหายใจหอบถี่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

ดวงตาเยิ้มหวานชวนให้ทำรัก    ผมกระตุกยิ้มนิดๆ ......   ชื่นชมกับผลงานตรงหน้า   ปล่อยมือที่จับปลายคางมน

ค่อยลากมือลงต่ำ ไล้สัมผัสแผ่วเบาผ่าน ลำคอ หน้าอก ท้องน้อง จนกระทั่งถึง..........แก่นกายร้อนๆ กึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย

บดขยี้ส่วนหัวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น  ขณะที่ริมฝีปากก็จูบซับที่ไหล่ลาด ขบกัด ดูดดุน ให้หวั่นไหว  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน

ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่าน  ทิ้งตัวพิงมาด้านหลัง ผมกระชับมือที่โอบรอบเอวไว้ตอนแรกให้แน่นขึ้น  ส่วนมืออีกข้าง

ขยับรูดรั้งรวดเร็ว จนไอ้ตัวเล็กเผลอจิกมือแรงๆ ที่ต้นขาผม  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สะโพกหวานขยับเคลื่อนไปตามแรงมือ

“อ๊ะ  อ่าาาาาา  พ...พี่พาร์ททททททททท”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก พ่นน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักออกมาเต็มมือ  ทิ้งตัวหมดแรงอยู่ใน

อ้อมกอดผม  หายใจหอบกระเส่า  ผมจับน้องให้พิงตัวไปด้านหน้า  กดจูบซับเหงื่อทั้งลำคำและใบหน้า สอดมือจับปลายคางอีกฝ่าย

ให้หันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก

“ปัต...ดูสิว่าปัตเซ็กซี่ขนาดไหน ”  ผมกระซิบเสียงพร่าเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา  ใบหน้าน้องแดงซ่านที่ลามเลียไปถึงใบหู

นัยตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความหวาน จากกิจกรรมรักเมื่อครู่   ริมฝีปากแดงจัดบวมเจ่อ อกบางกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ

สะโพกกลมกลึงเหมาะมือ  ขาเรียวขาว  ปัตน้อยก็มีขนบางนุ่มมือ บอกผมทีได้ไหม.....จะมีส่วนไหนที่ไม่เซ็กซี่เร้าใจผมบ้าง 
 
“แล้วยังงี้...จะห้ามไม่ให้พี่ทำบ่อยๆ ได้ยังไง   ดูนะครับ ปัตดูนะ  ว่าเวลาพี่รักปัตแล้วปัตน่า  -ทำรัก-  ขนาดไหน”  ผมกระซิบ

ข้างหู สายตาโลมเลียทั่วทั้งตัวน้องผ่านกระจกเงาด้านหน้า   ดันไหล่น้องให้แนบกับพื้นมากขึ้น จากนั้นจับสะโพกหวานไว้มั่น

สาวลำออกจนเกือบสุดอย่างเชื่องช้า แล้วกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรง จนน้องตัวโยกคอน เรียกความเสียวซ่าน

จนสะโพกหวานแอ่นเข้าหาเพื่อรับสัมผัส ซ้ำๆ ก่อนกระหน่ำแทง ทั้งเร็วทั้งรัว  เร่งจังรักให้ร้อนดั่งเปลวไฟ ที่ทั้งเร่าร้อน และหวาบหวาม

“อ๊ะ  ...อ๊ะ.....อ๊าาาาาาาาาา”   ไอ้ตัวเล็กกรีดเสียงหลับตาปี๋   

“อืมมม  ปัต....อย่าห..ลั.บ....ตา...ครับที่รัก   ดูเร..า  รักกันสิครับ  อ่าาาาาา”    น้ำเสียงขาดห้วง

“อื๊อออออออ  พ...พี่...พี่พาร์ททททท”

“เยี่ยม  ...ที่รัก มองพี่นะครับ  อือออออออ” 

“อ๊ะ อ๊า  ระ..เร็ว...  ไม่.....ไหวแล้ว . อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.”  ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยลาวาร้อนอีกครั้ง

ใบหน้าขาวร้อนผ่าว  ริมฝีปากแดงซ่านน่ากดจูบกำลังเผยอน้อย ๆ เพราะหอบเหนื่อย  อ่า~  ไม่ไหวแล้ว

แถมช่องด้านหลังที่บีบรัด...............   ทำผมอดใจไม่ไหว กระแทกต่อเน้นๆ  เสียงดัง ป๊าบๆๆ ดังต่อเนื่อง 

ร่างกายผมเกร็งกระตุก ........ค่อยๆ ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าตัวน้อง  สองแขนโอบรัดน้องจนแน่นตรึง

ทิ้งตัวพิงทาบทับตัวน้องไม่ได้ถอมแก่นกายออก มา  .......  ตาสบตากัน.ผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า

........แล้วส่งยิ้มให้กันและกัน.............................. อบอุ่นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่ไม่มีวันแยกจาก

“รักปัตนะครับ.....ที่รัก”   ผมกดจูบแก้มหอมเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  หัวเราะคิกคัก .....แล้วเบนสายตาหนีผมแล้วหันกลับมาใหม่

สบตาผมในกระจก  ก่อนจะหลบเปลือกตาลงต่ำ  อมยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแทบปริ  แล้วเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง

ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัด~  ใกล้เคียงกับลูกตำลึง  ทำผมอมยิ้มไปด้วยจ้องมองกิริยาอาการของคนตรงหน้า

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาสบตาผมตรง  เอียงหน้าแล้วกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม  ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

โน้มตัวไปกระซิบประโยคสุดท้ายที่ข้างหู.......ที่ทำเอาอีกฝ่ายตะลึงจนน่าขำ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ขออีกทีนะ”
พูดถึงอาการปิ่นอยู่ดีๆ ทำไมย้อนกลับมาตอนรักกับน้องอีก น่าจะเขียนให้จบเรื่อง แล้วตอนพิเศษค่อยลงท้ายๆทีหลัง ย้อนไปย้อนมาไม่ได้อรรถรส
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 21-11-2020 00:40:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 23-11-2020 14:30:40
อ่านเพลินดีครับ 2 วันจบ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย ตอน5 ครอบครัว P.2 DT.16/7/12
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-12-2021 23:11:49

“ฟังพี่นะคะ  น้องปุ้ม น้องแป้ง  พี่ปัตต้องไปเรียนไกลๆ ก็เพราะพี่อยากเรียนที่ดีๆ ทำงานดี ๆ  เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อกับแม่ไงคะ

ปุ้มกับแป้งรักพ่อกับแม่ของเรามั้ย?”  น้องพยักหน้าตอบช้า  พลางกลั้นสะอื้น แขนทั้งสองข้างโอบกอดผมแน่น
รู้อะไรมั้ย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่3ของประเทศไทยมามากกว่า10ปีแล้ว โดยมีจุฬาเป็นอันดับที่1 มหิดลเป็นลำดับที่สอง ส่วนลำดับที่4-5จะสลับกันไปๆมาๆระหว่างม.เกษตรกับม.ธรรมศาสตร์
เชียงใหม่ก็มีที่ดีๆให้เรียนมากกว่ากรุงเทพฯนะ


ต้องขออภัยนะคะที่ตอบช้า  เราเป็นคนแต่งแต่ลืมล็อคอินเก่า 

ความจริงที่ปัตตอบเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อจะไปจากบ้านหลังนนี้เท่านั้นค่ะ  ต้องขออภัยที่ทำให้เป็นประเด็น  ในความรู้สึกของเราไม่ว่าจะสถาบันไหน ทุกที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกะนไป แต่เราเขื่อนะคะว่าทุกสถานบันมุ่งหวังสร้าง นศ.ให้เป็นคนดีและมีคุณภาพเช่นกันค่ะ


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-12-2021 23:16:36
ขออภัยนะคะ มาช้าไปหน่อย   o18 o18 o18

ขอให้เพลิดเพลินกับตอนต่อของการเก็บสบู่นะคะ

 :impress2: :impress2: :impress2:



ต่อ~


"อึก......อ่าาาาา"   ไอ้ตัวเล็กเกร็งเครียดไปทั่วทั้งตัวเมื่อผมสอดใส่  สีหน้าเหยเกมองช้อนขึ้นมาจ้องผมตาเป็นมันจากด้านล่าง

ภายในบีบรัดแน่น  ...  จนน้ำผมแทบแตกเลยต้องหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวผ่านช่องหวานด้านหลังเพื่อให้น้องได้ปรับตัว 

แล้วเปลี่ยนมาโอ้โลมไอ้ตัวเล็กให้คล้อยตามกิจกรรมรักสุดหรรษาไปด้วยกัน  ปล่อยมือที่กดตัวน้องไว้

เปลี่ยนมาเป็นรั้งไอ้ตัวเล็กให้มาเกาะพื้นที่ว่างข้างอ่างล้างหน้า  ซุกจมูกคมสูดดมซอกคอหอม ไล่ขบไปทั่วลำคอขาว

ดูดดุนแรงๆ จนรอยแดงเป็นจ้ำๆ โชว์หรา ขบเบาๆ ที่ไหปลาร้าแล้วดูดดุนไปอีกที  แล้วเปลี่ยนเป็นลากลิ้นไล้เลีย

ตั้งแต่ไหปลาร้ายันใบหู  สอดลิ้นแยงจนทั่วทิ้งท้ายด้วยการดูดติ่งหู  ไอ้ตัวเล็กครางหวีดหวิวขาอ่อนยวบจนผมต้องรั้งเอวเอาไว้

“อื๊อออออออ  พ...พี่พาร์ท  อ่าาาาา~”     

มืออีกข้างนวดเฟ้นอยู่บนเม็ดสีชมพูหวาน ที่ตอนนี้แข็งเป็นไตสู้มือ ละมือออกแล้วเลื่อนสอดเข้าใต้คางดันให้หันมารับจูบจากผม

แทรกลิ้นร้อน ๆ ควานหาความหวาน ไล่ต้อนลิ้นเรียว ..ที่ตอนนี้หันมาตวัดเกี่ยวลิ้นผมตอบ จนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

รู้แต่ว่าหวาน...จนซาบซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน   เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ........ 

ผมผละริมฝีปากออก ต่างฝ่ายต่างหายใจหอบถี่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

ดวงตาเยิ้มหวานชวนให้ทำรัก    ผมกระตุกยิ้มนิดๆ ......   ชื่นชมกับผลงานตรงหน้า   ปล่อยมือที่จับปลายคางมน

ค่อยลากมือลงต่ำ ไล้สัมผัสแผ่วเบาผ่าน ลำคอ หน้าอก ท้องน้อง จนกระทั่งถึง..........แก่นกายร้อนๆ กึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย

บดขยี้ส่วนหัวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น  ขณะที่ริมฝีปากก็จูบซับที่ไหล่ลาด ขบกัด ดูดดุน ให้หวั่นไหว  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน

ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่าน  ทิ้งตัวพิงมาด้านหลัง ผมกระชับมือที่โอบรอบเอวไว้ตอนแรกให้แน่นขึ้น  ส่วนมืออีกข้าง

ขยับรูดรั้งรวดเร็ว จนไอ้ตัวเล็กเผลอจิกมือแรงๆ ที่ต้นขาผม  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สะโพกหวานขยับเคลื่อนไปตามแรงมือ

“อ๊ะ  อ่าาาาาา  พ...พี่พาร์ททททททททท”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก พ่นน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักออกมาเต็มมือ  ทิ้งตัวหมดแรงอยู่ใน

อ้อมกอดผม  หายใจหอบกระเส่า  ผมจับน้องให้พิงตัวไปด้านหน้า  กดจูบซับเหงื่อทั้งลำคำและใบหน้า สอดมือจับปลายคางอีกฝ่าย

ให้หันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก

“ปัต...ดูสิว่าปัตเซ็กซี่ขนาดไหน ”  ผมกระซิบเสียงพร่าเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา  ใบหน้าน้องแดงซ่านที่ลามเลียไปถึงใบหู

นัยตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความหวาน จากกิจกรรมรักเมื่อครู่   ริมฝีปากแดงจัดบวมเจ่อ อกบางกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ

สะโพกกลมกลึงเหมาะมือ  ขาเรียวขาว  ปัตน้อยก็มีขนบางนุ่มมือ บอกผมทีได้ไหม.....จะมีส่วนไหนที่ไม่เซ็กซี่เร้าใจผมบ้าง 
 
“แล้วยังงี้...จะห้ามไม่ให้พี่ทำบ่อยๆ ได้ยังไง   ดูนะครับ ปัตดูนะ  ว่าเวลาพี่รักปัตแล้วปัตน่า  -ทำรัก-  ขนาดไหน”  ผมกระซิบ

ข้างหู สายตาโลมเลียทั่วทั้งตัวน้องผ่านกระจกเงาด้านหน้า   ดันไหล่น้องให้แนบกับพื้นมากขึ้น จากนั้นจับสะโพกหวานไว้มั่น

สาวลำออกจนเกือบสุดอย่างเชื่องช้า แล้วกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรง จนน้องตัวโยกคอน เรียกความเสียวซ่าน

จนสะโพกหวานแอ่นเข้าหาเพื่อรับสัมผัส ซ้ำๆ ก่อนกระหน่ำแทง ทั้งเร็วทั้งรัว  เร่งจังรักให้ร้อนดั่งเปลวไฟ ที่ทั้งเร่าร้อน และหวาบหวาม

“อ๊ะ  ...อ๊ะ.....อ๊าาาาาาาาาา”   ไอ้ตัวเล็กกรีดเสียงหลับตาปี๋   

“อืมมม  ปัต....อย่าห..ลั.บ....ตา...ครับที่รัก   ดูเร..า  รักกันสิครับ  อ่าาาาาา”    น้ำเสียงขาดห้วง

“อื๊อออออออ  พ...พี่...พี่พาร์ททททท”

“เยี่ยม  ...ที่รัก มองพี่นะครับ  อือออออออ” 

“อ๊ะ อ๊า  ระ..เร็ว...  ไม่.....ไหวแล้ว . อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.”  ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยลาวาร้อนอีกครั้ง

ใบหน้าขาวร้อนผ่าว  ริมฝีปากแดงซ่านน่ากดจูบกำลังเผยอน้อย ๆ เพราะหอบเหนื่อย  อ่า~  ไม่ไหวแล้ว

แถมช่องด้านหลังที่บีบรัด...............   ทำผมอดใจไม่ไหว กระแทกต่อเน้นๆ  เสียงดัง ป๊าบๆๆ ดังต่อเนื่อง 

ร่างกายผมเกร็งกระตุก ........ค่อยๆ ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าตัวน้อง  สองแขนโอบรัดน้องจนแน่นตรึง

ทิ้งตัวพิงทาบทับตัวน้องไม่ได้ถอมแก่นกายออก มา  .......  ตาสบตากัน.ผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า

........แล้วส่งยิ้มให้กันและกัน.............................. อบอุ่นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่ไม่มีวันแยกจาก

“รักปัตนะครับ.....ที่รัก”   ผมกดจูบแก้มหอมเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  หัวเราะคิกคัก .....แล้วเบนสายตาหนีผมแล้วหันกลับมาใหม่

สบตาผมในกระจก  ก่อนจะหลบเปลือกตาลงต่ำ  อมยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแทบปริ  แล้วเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง

ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัด~  ใกล้เคียงกับลูกตำลึง  ทำผมอมยิ้มไปด้วยจ้องมองกิริยาอาการของคนตรงหน้า

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาสบตาผมตรง  เอียงหน้าแล้วกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม  ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

โน้มตัวไปกระซิบประโยคสุดท้ายที่ข้างหู.......ที่ทำเอาอีกฝ่ายตะลึงจนน่าขำ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ขออีกทีนะ”
พูดถึงอาการปิ่นอยู่ดีๆ ทำไมย้อนกลับมาตอนรักกับน้องอีก น่าจะเขียนให้จบเรื่อง แล้วตอนพิเศษค่อยลงท้ายๆทีหลัง ย้อนไปย้อนมาไม่ได้อรรถรส


ก็ต้องขอโทษที่แต่งข้ามไปข้ามมานะคะ 
บางทีคิดพอตเรื่้องต่อไม่ออก  หรือจะดึงดราม่าหนักๆ ก็จะแทรกเรื่องยิ้มๆ มาก่อนค่ะ  เวลาแต่งดราม่า ค่อนข้างใช้เวลาแต่งแล้วแก้ซ้ำไปซ้ำมา   กลัวคนอ่านจะรอนาน ก็จะหย่อนๆ ไว้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) รัก....ที่ขาดหาย Special เก็บสบู่ แก้เครียด 100%. P.13
เริ่มหัวข้อโดย: klebkamol ที่ 28-12-2021 15:05:05
ขออภัยนะคะ มาช้าไปหน่อย   o18 o18 o18

ขอให้เพลิดเพลินกับตอนต่อของการเก็บสบู่นะคะ

 :impress2: :impress2: :impress2:



ต่อ~


"อึก......อ่าาาาา"   ไอ้ตัวเล็กเกร็งเครียดไปทั่วทั้งตัวเมื่อผมสอดใส่  สีหน้าเหยเกมองช้อนขึ้นมาจ้องผมตาเป็นมันจากด้านล่าง

ภายในบีบรัดแน่น  ...  จนน้ำผมแทบแตกเลยต้องหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวผ่านช่องหวานด้านหลังเพื่อให้น้องได้ปรับตัว 

แล้วเปลี่ยนมาโอ้โลมไอ้ตัวเล็กให้คล้อยตามกิจกรรมรักสุดหรรษาไปด้วยกัน  ปล่อยมือที่กดตัวน้องไว้

เปลี่ยนมาเป็นรั้งไอ้ตัวเล็กให้มาเกาะพื้นที่ว่างข้างอ่างล้างหน้า  ซุกจมูกคมสูดดมซอกคอหอม ไล่ขบไปทั่วลำคอขาว

ดูดดุนแรงๆ จนรอยแดงเป็นจ้ำๆ โชว์หรา ขบเบาๆ ที่ไหปลาร้าแล้วดูดดุนไปอีกที  แล้วเปลี่ยนเป็นลากลิ้นไล้เลีย

ตั้งแต่ไหปลาร้ายันใบหู  สอดลิ้นแยงจนทั่วทิ้งท้ายด้วยการดูดติ่งหู  ไอ้ตัวเล็กครางหวีดหวิวขาอ่อนยวบจนผมต้องรั้งเอวเอาไว้

“อื๊อออออออ  พ...พี่พาร์ท  อ่าาาาา~”     

มืออีกข้างนวดเฟ้นอยู่บนเม็ดสีชมพูหวาน ที่ตอนนี้แข็งเป็นไตสู้มือ ละมือออกแล้วเลื่อนสอดเข้าใต้คางดันให้หันมารับจูบจากผม

แทรกลิ้นร้อน ๆ ควานหาความหวาน ไล่ต้อนลิ้นเรียว ..ที่ตอนนี้หันมาตวัดเกี่ยวลิ้นผมตอบ จนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร

รู้แต่ว่าหวาน...จนซาบซ่านไปทั่วทุกรูขุมขน   เสียงครางกระเส่าเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ........ 

ผมผละริมฝีปากออก ต่างฝ่ายต่างหายใจหอบถี่ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

ดวงตาเยิ้มหวานชวนให้ทำรัก    ผมกระตุกยิ้มนิดๆ ......   ชื่นชมกับผลงานตรงหน้า   ปล่อยมือที่จับปลายคางมน

ค่อยลากมือลงต่ำ ไล้สัมผัสแผ่วเบาผ่าน ลำคอ หน้าอก ท้องน้อง จนกระทั่งถึง..........แก่นกายร้อนๆ กึ่งกลางลำตัวของอีกฝ่าย

บดขยี้ส่วนหัวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น  ขณะที่ริมฝีปากก็จูบซับที่ไหล่ลาด ขบกัด ดูดดุน ให้หวั่นไหว  ไอ้ตัวเล็กครางหวาน

ร่างกายสั่นกระตุกด้วยความเสียวซ่าน  ทิ้งตัวพิงมาด้านหลัง ผมกระชับมือที่โอบรอบเอวไว้ตอนแรกให้แน่นขึ้น  ส่วนมืออีกข้าง

ขยับรูดรั้งรวดเร็ว จนไอ้ตัวเล็กเผลอจิกมือแรงๆ ที่ต้นขาผม  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน สะโพกหวานขยับเคลื่อนไปตามแรงมือ

“อ๊ะ  อ่าาาาาา  พ...พี่พาร์ททททททททท”   ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุก พ่นน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักออกมาเต็มมือ  ทิ้งตัวหมดแรงอยู่ใน

อ้อมกอดผม  หายใจหอบกระเส่า  ผมจับน้องให้พิงตัวไปด้านหน้า  กดจูบซับเหงื่อทั้งลำคำและใบหน้า สอดมือจับปลายคางอีกฝ่าย

ให้หันไปมองตัวเองที่อยู่ในกระจก

“ปัต...ดูสิว่าปัตเซ็กซี่ขนาดไหน ”  ผมกระซิบเสียงพร่าเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา  ใบหน้าน้องแดงซ่านที่ลามเลียไปถึงใบหู

นัยตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความหวาน จากกิจกรรมรักเมื่อครู่   ริมฝีปากแดงจัดบวมเจ่อ อกบางกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ

สะโพกกลมกลึงเหมาะมือ  ขาเรียวขาว  ปัตน้อยก็มีขนบางนุ่มมือ บอกผมทีได้ไหม.....จะมีส่วนไหนที่ไม่เซ็กซี่เร้าใจผมบ้าง 
 
“แล้วยังงี้...จะห้ามไม่ให้พี่ทำบ่อยๆ ได้ยังไง   ดูนะครับ ปัตดูนะ  ว่าเวลาพี่รักปัตแล้วปัตน่า  -ทำรัก-  ขนาดไหน”  ผมกระซิบ

ข้างหู สายตาโลมเลียทั่วทั้งตัวน้องผ่านกระจกเงาด้านหน้า   ดันไหล่น้องให้แนบกับพื้นมากขึ้น จากนั้นจับสะโพกหวานไว้มั่น

สาวลำออกจนเกือบสุดอย่างเชื่องช้า แล้วกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรง จนน้องตัวโยกคอน เรียกความเสียวซ่าน

จนสะโพกหวานแอ่นเข้าหาเพื่อรับสัมผัส ซ้ำๆ ก่อนกระหน่ำแทง ทั้งเร็วทั้งรัว  เร่งจังรักให้ร้อนดั่งเปลวไฟ ที่ทั้งเร่าร้อน และหวาบหวาม

“อ๊ะ  ...อ๊ะ.....อ๊าาาาาาาาาา”   ไอ้ตัวเล็กกรีดเสียงหลับตาปี๋   

“อืมมม  ปัต....อย่าห..ลั.บ....ตา...ครับที่รัก   ดูเร..า  รักกันสิครับ  อ่าาาาาา”    น้ำเสียงขาดห้วง

“อื๊อออออออ  พ...พี่...พี่พาร์ททททท”

“เยี่ยม  ...ที่รัก มองพี่นะครับ  อือออออออ” 

“อ๊ะ อ๊า  ระ..เร็ว...  ไม่.....ไหวแล้ว . อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา.”  ไอ้ตัวเล็กเกร็งกระตุกปลดปล่อยลาวาร้อนอีกครั้ง

ใบหน้าขาวร้อนผ่าว  ริมฝีปากแดงซ่านน่ากดจูบกำลังเผยอน้อย ๆ เพราะหอบเหนื่อย  อ่า~  ไม่ไหวแล้ว

แถมช่องด้านหลังที่บีบรัด...............   ทำผมอดใจไม่ไหว กระแทกต่อเน้นๆ  เสียงดัง ป๊าบๆๆ ดังต่อเนื่อง 

ร่างกายผมเกร็งกระตุก ........ค่อยๆ ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าตัวน้อง  สองแขนโอบรัดน้องจนแน่นตรึง

ทิ้งตัวพิงทาบทับตัวน้องไม่ได้ถอมแก่นกายออก มา  .......  ตาสบตากัน.ผ่านกระจกเงาบานใหญ่ตรงหน้า

........แล้วส่งยิ้มให้กันและกัน.............................. อบอุ่นราวกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่ไม่มีวันแยกจาก

“รักปัตนะครับ.....ที่รัก”   ผมกดจูบแก้มหอมเบาๆ  ไอ้ตัวเล็กยิ้มกว้าง  หัวเราะคิกคัก .....แล้วเบนสายตาหนีผมแล้วหันกลับมาใหม่

สบตาผมในกระจก  ก่อนจะหลบเปลือกตาลงต่ำ  อมยิ้มจนแก้มทั้งสองข้างแทบปริ  แล้วเงยหน้ามาสบตาผมอีกครั้ง

ใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อแดงจัด~  ใกล้เคียงกับลูกตำลึง  ทำผมอมยิ้มไปด้วยจ้องมองกิริยาอาการของคนตรงหน้า

“ปัตก็รักพี่พาร์ทฮะ”   ไอ้ตัวเล็กหันหน้ามาสบตาผมตรง  เอียงหน้าแล้วกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม  ผมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

โน้มตัวไปกระซิบประโยคสุดท้ายที่ข้างหู.......ที่ทำเอาอีกฝ่ายตะลึงจนน่าขำ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ขออีกทีนะ”
พูดถึงอาการปิ่นอยู่ดีๆ ทำไมย้อนกลับมาตอนรักกับน้องอีก น่าจะเขียนให้จบเรื่อง แล้วตอนพิเศษค่อยลงท้ายๆทีหลัง ย้อนไปย้อนมาไม่ได้อรรถรส


ก็ต้องขอโทษที่แต่งข้ามไปข้ามมานะคะ 
บางทีคิดพอตเรื่้องต่อไม่ออก  หรือจะดึงดราม่าหนักๆ ก็จะแทรกเรื่องยิ้มๆ มาก่อนค่ะ  เวลาแต่งดราม่า ค่อนข้างใช้เวลาแต่งแล้วแก้ซ้ำไปซ้ำมา   กลัวคนอ่านจะรอนาน ก็จะหย่อนๆ ไว้ค่ะ




           มาให้กำลังใจผู้แต่งครับ ผมว่าอย่าไปให้น้ำหนักอะไรกับ user คนนี้เลยครับผมตามดูมาเป็น 10 คอมเมนท์แล้วดีแต่โพสต์บั่นทอนคนแต่งนิยายทั้งนั้น อย่าเรื่องที่ดังๆกำลังออนแอร์อยู่ที่ we tv (ตอนนี้เห็นเค้าลบไปแล้ว) ก็ทะลึ่งไปคอมเม้นต์หาว่า เค้าไปดูถูก คณะวิศวะกับสถาปัตย์  หาว่าไม่มีคณะสถาปัตย์ที่ไหนเรียน 4 ปีจบ
           คือเค้าก็บอกว่าอยู่ว่า ในเนื้อเรื่องเค้าเรียน 4 ปีจบก็ยังไปดราม่าใส่เค้าอีก เห็นชื่อไอ้ มุซาชิอะไรนี่แล้วอยากจะเบะปากครับ เห็นมีแต่คนกดลบให้ทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-07-2022 02:28:34
ขอบคุณมากนะคะ     :z1:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bs_sai69 ที่ 17-01-2024 19:11:39
 :haun4:ฟินมาก :katai2-1: :call: :haun4:
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bs_sai69 ที่ 18-01-2024 15:33:43
 :z13: :hao3: :katai3:สุดยอด
หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-03-2024 20:46:49
:z13: :hao3: :katai3:สุดยอด


มีอีก 4เรื่องนะคะ เผื่อสนใจ อิอิอิ


หัวข้อ: Re: รัก....ที่ขาดหาย พิเศษ ลูกชายคุณพ่อผมขอได้มั้ยครับ 100% จบแล้วย้ายเลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 27-03-2024 20:23:27
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)