โอ้วววว ง่วงงับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกคน

.
.
.
.
Imprison 9: โอกาส..
เซ็ง..เซ็งเป็ด เซ็งเห็ด เซ็งหอย...
น่าเบื่อที่สุดในโลกหล้าเลยคร้าบบบบบบบบบบบบบบ...
ขณะนี้..เวลาสิบนาฬิกา นช.กันตธร สุดหล่อ กำลังนั่งกินลมชมวิวมองทิวทัศน์ของห้องพญาบาลด้วยอารมณ์สุนทรีย์ยิ่ง..โอ๊ะ..นั่นขวดน้ำเกลือนี่นา..โห..นั่นมันเข็มฉีดยาอันบักเอ้ง..หืม..นี่มันรถเข็นเหล็กขึ้นสนิม..หลอดไฟเล็กๆแตกหนึ่งดวง..พื้นห้องที่เป็นกระเบื้องเริ่มหลุดร่อน..ปากกาที่เหน็บบนเสื้อกาวน์ของคุณหมอเป็นของยี่ห้อปากเก้อร์(จงใจเขียนผิด)สุดหรู..
“..แล้วคุณคิดว่า ระหว่างแมวที่กำลังตกต้นไม้ กับหมาขี้เรื้อนขาหักกำลังจะข้ามสะพานข้ามคลองที่มีเพียงไม้เล็กๆพาดอยู่..จะช่วยเหลือใครก่อนดี??...” คำถามล่าสุดที่ทำผมหลุดจากวังวนของการหลอกตัวเองถึงความสุนทรีย์ยิ่งในห้องพยาบาลได้สติ และกลับมาพบกับโลกแห่งความจริงที่แสนเจ็บปวดอีกครั้ง.
คือตอนที่แล้วเนี่ย..ผมบอกไปใช่ไหม บอกว่าตัวเองต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อสอบประวิติ บันทึก ข้อมูล สอบถามตัวองว่ากุโรคจิตมั้ยอย่างนั้นอย่างนี้ คือตอนแรกๆมันก็สนุกอยู่หรอก แต่ผมเริ่มสนุกไม่ไหวเมื่อเจอคำถามพิสูจน์ความดีงามของจิตใจ ระหว่างแมวตกต้นไม้กับหมาขี้เรื้อนข้ามสะพานงั้นเรอะ ตูไม่เลือกช่วยใครทั้งนั้นว้อยยยย ไม่มีปัญญารักษาชีวิตตัวเองก็ตายห่าไปซะ แง่งงงงง...
อย่าหาว่าผมขี้หงุดหงิด (ซึ่งก็จริง) อย่าหาว่าผมปากหมา(ซึ่งก็จริง) อย่าหาว่าผมใจร้าย(จริงอีกเช่นกัน)ไอ้ตัวผมในตอนนี้อารมณ์เสียเกินจะกล่าว เพราะถูกทำร้ายจิตใจ กลายเป็นทาสอารมณ์(?) ถูกกลั่นแกล้งจากนังเมียหลวงและผัวนอมินี อุ๊บส์!!ไม่มีไรหรอกครับ ทุกคนแค่ฟังผิด ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบุคคลซึ่งรวมหัวกันกลั่นแกล้งผมแม้แต่น้อย เขาจะสวีตกัน จะรักกัน จะงุ้งงิ้งกุ้งกิ้งไรกันสองคนก็ช่างหัวแมวสิ เชอะ !!
“..กันตรธร...กันตธร..คุณกันตธร จะตอบข้อไหนครับ?? “ คุณหมอจิตวิทยาหน้าตาแบบที่เห็นแล้วชวนง่วงทักขึ้นมา ทำเอาผมงงไปวูบ..นี่เขาต้องการคำตอบจริงๆเหรอ?..
“...เอ่อ..ข้อ....หนึ่ง....แล้วกันครับ..” ผมตอบไปแบบงงๆคำถามและตัวเลือกมีว่ายังไงก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
อดคิดไม่ได้ว่าทำไมคำถามมันงี่เง่าจังฟ่ะ นี่มันนักโทษน่ะว้อย ไม่ใช่เด็กอนุบาลหัดเดินจะได้ตอบแบบนี้..
"..คิดอยู่ล่ะสิ..ว่าคำถามมันไร้สาระ...” คุณหมอขยับแว่น(แต่ไม่ได้ทำให้หน้าตาชวนง่วงหายไป)อย่างทรงภูมิพลางกระแอมเบาๆ ผมอยากจะตอบจริงๆ..ว่าโคตรจะใช่เลยคร้าบบบบบ...
“..นี่เป็นคำถามเชิงจิตวิทยาชั้นสูง..ที่จะนำมาแปรเป็นความต้องการและจิตสำนึกเบื้องลึกของมนุษย์..ในสมองของคนเรามีส่วนที่เรียกว่า @#$#%EYTEYU&&%$#...”
ก๊อกๆ...
“..ขอโทษน่ะคร้าบ..อาจารย์ ขอตัวนักโทษหน่อยครับ..” เสียงของคุณพี่กันย์ในชุดนักโทษสีเดิมๆแต่ดูดีขึ้นนับสิบของสิบของสิบเท่าเมื่ออยู่บนร่างของพี่เขา ดังขึ้นขัดจังหวะผมที่กำลังคิดว่าจะขอสมุดปากกามาจดดีมั้ย
“...หมดเวลาแล้วเหรอ..อืม...งั้นผมขอตัว...ผลทดสอบรออีกอาทิตย์นึงแล้วกัน..” คุณหมอง่วง(ผมตั้งชื่อให้แล้ว) ว่าพลางขยับตัวออกจากโต๊ะ แกตบไหล่ผมเบาๆแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไปในมาดอาจารย์หมอเต็มสตรีม..
คุณพี่กันย์มองตามแล้วหัวเราะเบาๆ แล้วหันกลับมามองหน้าผมที่นั่งบนโต๊ะ เลิกคิ้วด้วยสีหน้าแปลกใจ
“..เป็นอะไรไปล่ะ..” ถามผมพลางนั่งลงข้างๆ ในมือมีใบสีขาวๆพร้อมแผ่นรอง พี่แกเขียนอะไรยิกๆลงไปในนั่นอย่างเชี่ยวชาญ มาดเหมือนหมอสุดๆจนผมงง...เอ..รึพี่เป็นหมอปลอมตัวมาเขียนวิทยานิพนครับ..
“.................. .” ผมไม่ตอบอะไรนอกจากส่ายหัวช้าๆ ไม่เป็นไรคร้าบ ไม่เป็นไรเลย..ผมไม่เป็นไรหรอก..เหอะ...
“..ทำไมไม่ยิ้มเลยล่ะ...เมื่อวานยังสีหน้าดีกว่านี้อีก...” คุณพี่เทพบุตรในชุดคนคุกเอ่ยออกมาพลางทำหน้าสงสัย รัศมีความดีที่เปล่งประกายเจิดจ้านี่ทำเอาผมแสบตา..เฮ้อ..พี่ครับ..ถ้าพี่เป็นคนดีได้แบบนี้ ว่างๆก็ไปช่วยผมจากกลุ่มไอ้พวกซาดิสต์นั่นเซ่ ..ไอ้คนที่คอยแต่ทำร้ายร่างกายแล้วทอดทิ้งผมน่ะ ว้อยยยยย ตูอยากเปลี่ยนผัว ! เอ้ย ! เปลี่ยนตัว...
“..หรือว่าเสียดายผม...” คุณพี่กันย์ว่าพลางหัวเราะพรืดเมื่อผมชักสีหน้าเหยเกขึ้นทันควัน นี่ก็คือเรื่องของเรื่องของเรื่องอีกทีนั่นแหละครับ คิดแล้วยัง อะเลิท เฮิร์ต ไม่หาย ..
ก็ตั้งแต่ที่ผมโดนกลุ่มของพญามารแห่งเดอะคุกทอดทิ้งให้นั่งคาบช้อนเอ๋อๆอยู่บนโต๊ะอาหาร ความวิบัติแอนด์ จังไร ก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มบุคคล ที่ไม่ได้มีท่าทางข่มขู่อะไรเล้ยเมื่อผมเดินเข้ามาแต่แรกกลับเริ่มขยับตัวและเริ่มเดินเข้าหาผมด้วยรัศมีแห่งการคุกคามที่เด่นชัดนัก..
งานเข้าแล้วสิครับ ไอ้เนมที่ไม่รู้ว่าไปขัดแข้งขัดขาใครตอนไหนถึงกับหน้าซีดแล้วซีดอีก ซวยไรของตูฟ่ะเนี่ย ผมเพิ่งเข้าคุกมาวันนี้ก็วันที่สองเอ้ง~~ วันที่สองที่ยังไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเลย อย่ามายำตรีนผมสิคร้าบบบ...
ขณะที่ความวิบัติฉิบหายแห่งตนเองกำลังย่างกายเข้าใกล้ ซุปเปอร์เรนเจอร์ผู้พิทักษืความดีที่เหลือน้อยบนที่แห่งนี้ ก็ปรากฏกายขึ้นมาทันที.. เรนเจอร์ขาวมาช่วยผมไว้!! เมื่อมีคำสั่งมาจากผู้คุมอีกทีว่าตัวผมต้องไปตัดผมกับคุณพี่กันย์ ที่ยืนส่งออร่าคนดีอยู่เบื้องหลัง ทำไมตรูเจอแต่คนแบบนี้ฟ่ะ ลำบากแล้วไม่ยอมช่วย ขนาดคุณพี่กันย์ ยังเป็นไปกับเขาด้วยเรอะ เห็นความฉิบหายของคนอื่นแล้วรู้สึกดีสิน่ะ...คนพวกนี้
จังไรชิบเป๋ง !!!!
คิดแล้วยังเคืองๆไม่หาย แต่เพราะได้รับการช่วยเหลือไว้ผมเลยไม่คิดแค้นแกแบบมึนๆ ยอมเดินฝ่าดงตรีนไปตัดผมเพื่อสวัสดิภาพของชีวิตและร่างกายแต่โดยดี...
....แล้วดูตอนนี้สิครับ....ดูสภาพผมตอนนี้สิ....
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คิดแล้วยากเอาหัวทุบกระจกให้ขาดใจตายจริงๆ ผมอุตส่าห์คิด(ในแง่ดี) ว่าเวลาตัวเองตัดผมแล้วจะแมนขึ้น เข้มขึ้น และจะได้อัพเวล เอ้ย ! อัพเกรดประสบการ์ณและความน่าเชื่อถือให้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิผล,,เอ๊ย.. ผู้น่านับถือกับน้องๆ(?)ที่เข้าใหม่ซะบ้าง (แฮ่มๆสันดานออกเว้ย )ใครจะคิดล่ะครับว่าพอตัดมาแล้ว..
..นอกจากมันจะไม่แมนแล้ว...
...มันยัง...
...ยังกะอีโล้นซ่าเลยเว้ย !!...
คำชมที่ผมไม่เคยนึกต้องการ ดังมาจากปากพี่ช่างตัดผมประจำเรือนจำ ทำให้ผมต้องมานั่งซึมกะทือจะบ้าตายหลังจากถูกลากมาหาหมอ..มาหาหมอนึกว่าสภาพจิตใจตัวเองจะดีขึ้น ไม่เคยรู้เลย ว่ามันจะทำให้ผมเกิดสมองฝ่อขึ้นมาในพริบตา...
ชิบหายซิว้อยยยยยยยยยยยยยยย
ทำไมตูต้องมาเจอกะเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ยยยยยย
“..ฮ่ะๆๆ...อย่าคิดมากน่า เวลาตัดผมใหม่ใครๆก็ต้องไม่มั่นใจเหมือนกันล่ะน่า...” คุณพี่กันย์ว่าพลางลูบไหล่ผมเบาๆ ด้วยสีหน้ารื่นรมย์ไม่ทุกข์ร้อน ผมหันไปมองหนังหัวพี่แกที่เกรียนพอๆกับผมด้วยน้ำตานองหน้า(แหลชัดๆ)...
....แล้วมีใครตัดแล้วโดนทักว่าอิโล้นซ่าอย่างผมมั่ง อยากจะรู้นัก !!..
“..เอาเถอะๆ..นี่..พี่เอานี่มาให้...” เหมือนจะจับสายตาของผมได้ว่าการปลอบประโลมไม่เป็นผล..ถูกครับ..ผมคงจะเฮิร์ตกับทรงผมนำสมัยของตัวเองอีกพักใหญ่กว่าจะชินและทำใจได้ เฮ้อ..เครียด...
ผมหันมามองกระดาษในมือที่คุณพี่กันย์ยื่นให้แล้วขมวดคิ้วจางๆ...เมื่อ่านแล้วจับใจความได้คร่าวๆว่า..เรียนทางไกล...?....เรียนเรอะ..?.....
“..ทางเรือนจำของเรา...จัดระบบการศึกษาให้กับนักโทษ..คนที่ไม่จบมอสามมอหกก็เรียนต่อให้จบ..ใครอยากเรียนป.ตรี ก็ยังได้เลย..สนใจไหม?..” พี่กันย์ว่า พลางยื่นเอกสารบอกรายละเอียดคณะสาขาวิชาต่างๆมาให้ผมที่นิ่งอึ้ง...
“...ได้ข่าวว่าเราเพิ่งจบมอหกมาหมาดๆ..ความรู้คงดีกว่าพวกคนแก่หัวทึบๆอย่างพี่เยอะ..” พี่กันย์ว่า ก่อนจะเอียงคอมองผมด้วยรอยยิ้ม...
“..เนม...สอบติดที่ศิลปากร. .เลือกเรียนดนตรีสากลใช่มั้ย..”
“.......................” ข้อความนั้นทำให้ความขื่นข่มแล่นจุกอก..ผมพยักหน้าช้าๆ..
“...อยากเรียนอะไรเหรอ?..”
“...ไว..ไวโอลิน...ครับ....” ผมตอบช้าๆสายตาหรุบต่ำมองกระดาษในมือ..ความเจ็บปวดในหัวอกยิ่งทบทวี..เมื่อคิดถึงความฝัน...ความต้องการของตัวเองที่พังทลายลงเพียงชั่ววูบเดียว...
“..อืม...ก็เหมาะดีน่ะ...เนมดูเป็นคนอ่อนโยน..” พี่กันย์ว่าพลางก้มมองฝ่ามือของผมแล้วลองจับดูเบาๆ..ทอดถอนใจด้วยแววตาครุ่นคิด.
“...ไม่น่ามาอยู่ที่นี่เลย...”
ผมพยักหน้ารับคำพูดนั้นช้าๆ...
...แม้จะเสียใจหรือเสียดาย..ก็ไร้ประโยชน์ที่จะมาพูดถึงสิ่งที่ผ่านมาแล้ว...
..มันเป็นการกระทำของผม..ผมก็ต้องยอมรับมัน...
“...ถึงจะเสียโอกาส ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนี่...” คุณพี่กันย์คืนกลับมาสู่อารมณ์เดิมอีกครั้งพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
“..คงจะเรียนดนตรีอย่างที่ชอบไม่ได้เพราะมันมีภาคปฏิบัติด้วย..แต่ก็เลือกเรียนอย่างอื่นที่ตัวเองชอบได้น่ะ...ลองเลือกดู..พี่ขอตัวออกไปเอาของก่อน...”
ว่าแล้วคุณพี่เขาก็ขยี้หัวผมด้วยความเอ็นดูอีกครั้งหนึ่งพลางยิ้มโชว์เขี้ยวให้ผมอย่างอารมณ์ดี
“...ถึงจะเสียโอกาสไปครั้งหนึ่ง..ก็ใช่ว่าชีวิตจะจบสิ้นนี่..โอกาสครั้งที่สองก็มาแล้ว..คว้าไว้ให้ได้สิ...”
....โอกาส...
ผมมองแผ่นเอกสารและโบชัวร์แนะนำคณะต่างๆในมือ ก้อนจะเงยหน้าขึ้นมองห้องพยาบาลโดยรอบ..
...ถึงจะโดนกักขังร่างกาย แต่ยังไงผมก็มีโอกาสเลือกสิน่ะ...
ผมก้มไปเลือกดูเอกสารในมืออย่างตั้งใจมากขึ้น แต่ในหัวก็ยังไพล่คิดถึงรอยยิ้มของผู้ชายที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้...
...เขาบอกว่าคนอย่างผมไม่ควรมาอยู่ในคุก..
...เขาก็เป็นอีกหนึ่งคน..ที่ผมไม่คิดว่าจะได้เจอในสถานที่แบบนี้เช่นกัน..
...ตกลงพี่เป็นหมอปลอมตัวมาเขียนวิทยานิพนธ์สิน่ะ...
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ร่างสูงเดินออกมาจากบานประตูไม้พลางปิดลงเบาๆเพื่อให้คนข้างในได้มีสมาธิ สายตากวาดมองภายนอกที่มีเจ้าหน้าที่ยืนประจำอยู่ กันย์ยิ้มน้อยๆให้ชายคนนั้น ขณะที่ผู้คุมมองก่อนจะกวักมือไปหา..
“..นี่....อัยการเขาสั่งฟ้องอีกเรื่องแล้วน่ะ..” ผู้คุมบอกพลางมองหน้าของชายหนุ่ม หลายปีแล้วที่กันย์เข้ามาในนี้ แม้ตอนแรกๆ จะโดนแกล้ง จะโดนทำร้ายนับไม่ถ้วน แต่ด้วยความที่เนื้อแท้เป็นคนดี ชายหนุ่มจึงสามารถก้าวผ่านทุกอย่างมาได้ เหมือนดั่งอัญมณีที่ผ่านการเจียระไน..มันส่องแสงงดงามกว่าเดิมยามมาปะปนกับกรวดทรายเช่นนี้..
“..งั้นเหรอครับ...” สีหน้าชายหนุ่มไหววูบ มือเอื้อมรับเอกสารที่ถูกส่งให้ ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรฉายแววหนุกอกหนักใจไม่น้อย..
“..เวรกรรมของมึงจริงๆ...ไอ้กันย์เอ๊ย..” ผู้คุมบ่นพลางเดินไปนั่งโต๊ะเดิม กันย์มองตามก้มมองเอกสารส่งฟ้องทั้งสำนวนและรูปคดีที่ทนายส่งมา ถอนหายใจ..อดเอามือบีบขมับตัวเองเบาๆไม่ได้
“..ทำไมต้องจองเวรกันขนาดนี้น่ะ...” ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบา ก่อนจะสะดุดกับสียงร้องเอะอะของกลุ่มคนสี่ห้าคนที่พาใครสักคนมาห้องพยาบาล สัญชาติญาณบอกว่ามีเรื่องเขาจึงรีบถลันไปหา
“..ใครเป็นอะไรไป?...” เขาออกปากถามพลางมองไปยังคนเจ็บ พบกับใบหน้าซนๆของคนที่เขารู้จักดี..วิทย์หนุ่มนักเลงที่มักถูกลงโทษข้อหาวิวาทให้เขาไปตามเช็คชื่อเสมอนั่นเอง..
“..หลีกหน่อยๆ...ไปโดนอะไรมา..”กันย์ออกปากถาม มือหนาคว้าท่อนขายาวของคนตรงหน้าที่มีรอยบาดแผลฉีกเป็นทางยาวจากเข่าซ้ายลงมาจนถึงปลีน่อง เรียกเลือดสีเข้มไหลเปื้อนท่อนขา แม้จะไม่ใช่แผลลึกจนน่าหวาดเสียวแต่ก็เป็นแผลใหญ่เอาการ..
“..โอ๊ย!!..ไอ้เวร บีบเบาๆสิมึง!!!..” วิทย์ออกปากบ่นพลางเอื้อมมือที่เคยจับขาตัวเองมาฟาดหัวคนช่วยเต็มแรงอย่างไม่ซึ้งถึงความช่วยเหลือซักนิด..
“...อย่าทุบหัวสิ...เจ็บน่ะ..” บ่นพลางถอนใจเฮือก รับกับเสียงเฮของพวกลูกน้องที่ยังขบขันได้แม้จะเห็นว่าลูกพี่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกช่วยเหลือ
“..บีบขากูหาพ่อมึงสิ ไอ้หมอเก๊ !!จะทำไรก็ทำดิว่ะ !!..” เมฆว่าพลางซัดแขนใส่หลังกันย์ผลั่วๆ เอาแบบที่เขาเจ็บแค่ไหนอีกคนก็เจ็บเท่านั้น..
“..อยู่นิ่งๆก่อนสิครับ..คุณคนไข้...” บ่นใส่พลางออกแรงฉุดร่างเพรียวมาไว้ในอ้อมแขน กันย์วิ่งพรวดเข้าไปเปิดประตูห้องพยาบาลทันที โดยไม่สนใจเสียงร้องทักท้วงของคนที่โดนเขาอุ้มหรือลูกน้องที่วิ่งตามไปด่าไปเป็นพรวน..
ปัง !!!
“..มีอ่ะ.....” เสียงของผมเพิ่งโผล่พ้นลำคอแค่ไม่กี่คำก็ต้องชะงักกึกกับภาพเบื้องหน้า ภาพคุณพี่กันย์วิ่งอุ้มเมีย เอ๊ย ! อุ้มคุณพี่วิทย์คนเมื่อวาน ผ่านสายตาอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงโหวกเหวกกับกลุ่มคนที่เข้ามารุมล้อมเตียงพยาบาลในห้อง..
แต่ภาพทั้งหมดก็เบลอและพร่าเลือนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผมเห็นบางสิ่งบางอย่างชัดเจนในแววตา..เลือด...มันคือเลือด..เลือดสีแดงสดที่ชโลมขาคุณพี่วิทย์เหมือนน้ำแดงราดน้ำแข็งไส (เปรียบเทียบซะน่าแดรกเชียว) เลือดที่หลั่งลงมาเปื้อนพื้นเป็นดวงๆ..เลือด...เ...ลื...อ.....ด.....
....และแล้วภาพทั้งหมดก็วูบดับลงไปในพริบตา...
.......Oh bad Guy!! รักร้ายๆของผู้ชายในคุก.......
ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้า
