ต่อๆ
Imprison 13: เลือดสาดดดดดดดดด
“..เฮ้ย..พี่โต..นายเรียกว่ะ..” เสียงเรียกของคุณพี่โวยดังขึ้น ขณะที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาถือไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดพื้นเงียบๆ พอได้ยินเสียงนั้นผมชะงักทันที เงยหน้าไปมองไอ้คุณพี่โตที่ยืนถือไม้กวาดเต๊ะท่าอยู่แถวนั้น ผู้ชายคนนั้นชะงักกับคำบอกเล่าที่ได้ยินก่อนจะเขวี้ยงไม้กวาดลงพื้นดังโครม
“..หมาที่ไหนคาบไปบอกอีกล่ะ..” พูดแล้วหันมาสบตาผมที่ยืนมองอยู่..ทำเอาไอ้เนมสะดุ้งเฮือก..
หึ..คิดว่าคนอย่างผมจะมีปัญญาไปบอกใครรึไง
“..อะไรล่ะพี่..ออกจะโจ่งแจ้งปานนั้น..ไอ้หมาเฝ้าห้องพยาบาลมันไปเจอ เห็นว่ายังไม่ตายมั้ง..” คนบอกเล่าข่าวสารทำหน้าแสนรู้ใส่จนผมยังนึกระอาแทน ขณะที่ไอ้คุณพี่โตสถบดังๆอย่างอารมณ์เสีย.
“..ไอ้เวรนี่..เสือกไม่เข้าเรื่อง..”
“..จัดการมันซะเลยมั้ยพี่..จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ขวางหูขวางตาชิบ..”พี่ทินว่าพลางดึงแขนเสื้อตัวเองขึ้นจนถึงกล้ามล่ำๆดำๆของคุณพี่แก..อืม..สักยันต์หนุมานด้วยนิ..แต่คงเร็วกว่าตำรวจไม่ได้ล่ะสิถึงได้มาแอ้งแม้งอยู่ที่นี่..
“..ไม่ต้อง..เรื่องจัดการ กุวางคนไว้แล้ว..” ว่าพลางหันมามองผมอีกรอบ..ทำเอาผมหนาวสันหลังยะเยือก....อย่าบอกน่ะ...ว่าเป็นกรู..T^T
“..แล้วเอาไงพี่..นายเรียกแล้วน่ะ “
“..เออ...เดี๋ยวกุไป..” ว่าพลางเดินมาทางผม ที่พยายามอย่างยิ่งในการทำตัวล่องหน ไม่เป็นที่เตะตาใครโดยเฉพาะไอ้คนๆนี้..
หมับ !!!
“..มึงไปกับกู..” เสียงเหี้ยมๆกระซิบข้างหู..ทำเอาผมแทบร้องไห้..
“..ทำไม..ผมไม่ได้....”
“..เมื่อกี้มึงอยู่กับกูตอนเชือดไอ้นั่นนี่..หึ..ลองมาเป็นพยานให้กุหน่อยจะเป็นอะไรไป...” เสียงกระซิบนั้นทำให้ผมยิ่งเครียดมากกว่าเดิม ตัวโตๆกึ่งเอนกึ่งพิงกับร่างของผมโดยพาดแขนหนาเอาไว้กับไหล่ของผม ก้มลงกระซิบแผ่วเบาแต่แฝงการข่มขู่เอาไว้อย่างชัดเจน..
“..พี่...ผม....” ผมเบ้หน้า..รู้สึกเหมือนตัวเองจะร้องไห้.แต่ทำบาปมานอกคุกก็มากพอแล้ว นี่ขนาดมาอยู่ในคุก ยังต้องให้ผมทำเลวซ้ำรอยเดิมอีกรึไง..
“..มึง...” มือหนาบีบคางผมไว้หนักๆสายตาเย็นยะเยือกไร้ความเห็นใจจ้องสบมองผมอย่างเฉยชา..ทว่ามันกลับแฝงอาการข่มขู่ไว้อย่างชัดเจน “..ถ้าไม่อยากตาย..อย่าพูด...ถ้าไม่อยากติดคุกเพิ่ม..อย่าแส่เรื่องไม่เป็นเรื่อง..ถ้าไม่อยากเป็นเหมือนไอ้เมฆก็มากับกู..เร็วๆ!!!!...”
พูดแล้วก็กระชากแขนผมไปอย่างไม่ไยดี ไม่สนสายตางวยงงและเต็มไปด้วยคำถามของคนในแกงค์ของตัวเอง ผมเห็นพี่กิตลุกขึ้นมาเหมือนจะเข้ามาหา แต่โดนพี่ทินพี่แมกและคนอื่นๆดึงตัวเอาไว้อย่างรวดเร็ว.. ส่วนผมก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแรงลากจูงนั้นไปอย่างไร้ความรู้สึก..
...กล้าพูดว่าจะไม่ให้ผมเป็นเหมือนเมฆงั้นเหรอ?...
...คำพูดของคนๆนี้..มันไม่น่าเชื่อถืออีกแล้ว...
“..สรุปว่า..ตอนนั้นนี่..อยู่กับ...เขา...สิน่ะครับ...” คำพูดเรียบๆง่ายๆแต่ทำเอาผมหน้าชาดังมาจากปากผู้ช่วยผู้คุมรายเดิม..พี่กันย์..ที่ตอนนี้กำลังนั่งเขียนอะไรยิกๆอยู่..
“..เออ...” บอกเปล่าไม่พอ ยังเอามือมาลูบต้นคอผมขึ้นๆลงๆชวนให้ขนลุกพรึ่บอีก..ผมเม้มปากแน่น ไม่หันไปมองเขาซักนิด..ไอ้การแสดงบ้าบอนี่..มันชวนขยะแขยงจริงๆ..
“..แล้วแถวไหนเหรอครับ..”
“..พูดเหมือนไม่รู้น่ะ..เวลาจะเอานี่..มันที่ไหนล่ะ..” พูดเรียบๆแต่ชวนขนลุกกว่าเดิมด้วยประโยคนั้น..คำพูดแสนจะน่ารังเกียจยังคงดังออกมาจากปากคนๆนั้นอย่างต่อเนื่อง..ผมหน้าชา..จนไม่รู้จะอายยังไง ขณะที่คนข้างๆยังไม่มีท่าทีกระดากอาย..
ผมเม้มปาก ลอบขยับตัวอย่างนึกแสยงในอก..ผมไม่ได้รังเกียจที่เขาทำท่าทางแบบนี้..แต่ผมรังเกียจการกระทำของเขา...
คิดแล้วอยากจะหัวเราะใส่หน้าตัวเองให้ลั่น..
...สวนสนุก...คำพูดของผู้ชายคนนั้นมันทำให้ผมคิดได้ในที่สุด..
ใช่...ที่นี่ไม่ใช่สวนสนุก...
นี่เป็นที่ของผู้กระทำผิด..เป็นที่กักขัง...คนที่มีความผิด..คนที่ทำร้าย..ทำลายชีวิตคนอื่นอย่างผม..
แล้วจะหวังอะไรจากที่นี่..จะหวังอะไรจากคนที่พบในสถานที่แห่งนี้..
....คนดี...ที่คอยช่วยเหลือคนอื่นงั้นเหรอ?
..น่าขำ...ตัวผมที่คิดแบบนั้น...
แล้วเป็นยังไง..มาตอนนี้กลับถูกดัดหลัง..หักหลังจากคนที่ตัวเองคิดว่าดีนักหนาซะจุกไปหมด..
ไม่พอยังถูกลากไปพัวพันกับเรื่องชั่วๆของคนเลวๆพวกนี้อีก...
“..งั้นก็แถวใกล้ๆกัน..ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเหรอ?..” ผมชะงักกับคำถามที่ดังขึ้นพลางหันไปมองหน้าคนถามที่ยังทำสีหน้าไร้ความรู้สึก พลางจดอะไรยิกๆต่อไป แต่คนตอบก็หน้าด้านกว่า ยังคงก้มหน้าก้มตาไซ้เหาจากซอกคอผมไม่เลิก สัมผัสวูบๆวาบๆแถวต้นคอ...ชวนขยะแขยงซะจนอยากจะอ้วกออกมาด้วยซ้ำ..
...ผมหลับตาลงช้าๆ..เกลียด....ผมเกลียดคนๆนี้จริงๆ...
...คนที่ผมเคยไว้ใจ..เคยชื่อถือ..มาตอนนี้กลับทำลายความไว้ใจนั้นซะย่อยยับคามือ..
..ความรู้สึกของคนที่ตกจากที่สูง...จุกแค่ไหน..เจ็บแค่ไหน...ผมก็เพิ่งจะมารู้ก็วันนี้เอง...
“..ได้ยิน...” คำตอบนั้นทำเอาทั้งผมทั้งพี่กันย์ชะงัก หันไปมองหน้าคนพูดทั้งคู่ จอมวายร้ายในสายตาผมเอนตัวบนเก้าอี้นุ่มๆ พลางเอามือโอบไหล่ผมไว้ ด้วยสีหน้ากวนๆกึ่งกะลิ้มกะเหลี่ยที่ชวนโมโหสุดๆ...
“..ได้ยินแต่เสียงครางน่ะ..จะบอกให้ก็ได้น่ะว่าเป็นยัง....”
“..พี่ !!!..” ผมหน้าแดงก่ำ เอามืออุดปากไอ้คนตรงหน้าไว้แทบไม่ทัน โกรธจนแทบพูดไม่ออก ปากคอสั่น..ไอ้ปากปีจอเอ้ยยยยยย..
“..งั้นเหรอครับ..”ส่วนคนจดก็ยังนิ่งได้โล่จนผมอยากร้องไห้ใส่..
“..ถ้าอย่างนั้น..ก็แสดงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสิน่ะครับ..ขอโทษที่รบกวนเวลา..แล้วก็...” พี่กันย์ว่าเมื่อเห็นไอ้เจ้าพี่โตบ้านี่ดึงผมลุกขึ้นจากโต๊ะ เมื่อทราบว่าการสอบสวนจบลง เขาถอนใจ..
“..ช่วยเรียกคนที่ยืนฟังอยู่หน้าห้อง..ให้เข้ามาด้วยแล้วกัน...”
ว่าแล้วก็หันไปหยิบกระดาษมาเรียงๆกันสนใจกับงานของตัวเองต่อไป..ผมทอดสายตามองร่างนั้นที่ยังนิ่ง...ความจริงแล้ว..ในที่แห่งนี้..จะมีคนที่ดีกับผมจริงๆซักกี่คนกัน...
...หรือกระทั่งผู้ชายที่เป็นดั่งเทพบุตรตรงหน้า..เนื้อแท้แล้ว..จะเป็นดั่งพญามาร..
แกร๊ก....
“..เรื่องมากจริงๆ...” เสียงก่นด่าของใครบางคนหน้าประตูทำให้ผมชะงัก ละสายตาจากผู้ชายในห้องพยาบาล..พอไอ้คุณพี่โตเปิดประตูออกไปผมก็เจอร่างของเมฆยืนทำหน้าเบื่อๆอยู่ตรงนั้น เขาหันมามองหน้าผมที่กำลังถูกลากออกมา กับหน้าของคนลากที่ไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน..ดวงตาขุ่นเคืองไม่พอใจ..ก่อนจะบ่นแล้วเดินเข้าไปในห้องที่ผมเพิ่งออกมาเมื่อกี้..
..แต่ผมก็ยังทันได้เห็นแววตาร้ายๆของคนสองคนที่สบกันเพียงชั่ววูบ..ทำเอาผมใจหายวาบ..มองตามประตูห้องที่ปิดลงอย่างร้อนรน..
ผมนึกถึงใบหน้าและท่าทางของผู้ชายในห้องนั้น...พี่กันย์....ผู้ชายที่คอยดูแลผม..
...เขาไปทำอะไรให้ใครเมื่อไหร่...เขาไปทำให้คนๆนี้ขุ่นเคืองตั้งแต่ตอนไหน..
ผมหันไปมองหน้าไอ้คุณพี่โตที่ลากแขนผมออกมาจากห้องอย่างไม่สบายใจ..สายตาของเขาไร้แววอนาธรร้อนใจ..มุมปากปรากฏรอยยิ้มระรื่น...ทำเอาผมหนาววาบในใจ...
...จะทำเลวอะไรกันอีก..
“..หึ...ทำหน้าเหมือนจะตาย...” คนที่ลากผมออกมาบ่นเมื่อเห็นผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด..ผมไม่หันไปมองหน้าคนพูดเสียด้วยซ้ำ..ไม่สนใจแรงบีบแขนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ..ได้แต่เดินตามเขาไปเงียบๆ...ไม่ถามหรอกว่าไปที่ไหน..ในเมื่อผมมันเป็นแค่หมากตัวนึงในมือ...ก็แค่เด็กโง่ๆที่ถูกหลอกใช้..จะจูงไปซ้ายลากไปขวา รึจะทำอะไรก็ตามใจสิ
“..ไปอาบน้ำ...” เขาว่าพลางลากแขนผมเข้าไปในห้องขัง เพราะเมื่อเราสองคนออกมาแล้ว บรรยากาศก็เริ่มเย็นลงแล้ว ตะวันเริ่มคล้อยต่ำ..ท่าทางใกล้จะมืดแล้ว..
“..แล้วข้าว...” ผมเงยหน้ามามองท้วงงงๆ..นับแต่เข้ามานี่..ผมยังไม่ได้กินข้าวให้อิ่มจริงๆเลยซักมื้อ..
“..เดี๋ยวค่อยมากิน...” ว่าพลางลากแขนผมไปอีกแล้ว..ผมหน้าบูด..พยายามสะบัดแขนหนีแต่ไม่เป็นผล..เลยได้แต่บ่นลมๆแล้งๆไปตามเรื่อง..ฮึ่ย....ถ้าแขนหลุดมาน่ะ..พ่อจะงับเข้าให้.
แต่ผมก็ได้แต่ทำหน้าแบบนั้นแล้วเดินตามไปอย่างไรทางเลือก อะไรกันว่ะ(ครับ) ตอนเช้ายังขู่ผมจะเป็นจะตายอยู่เลย แล้วตอนนี้มันอะไร ใจอ่อนเรอะ ถึงได้พาผมลากไปโน่นไปนี่ มาทำดีใส่ หึ...ประทานโทษ สมองคนน่ะครับไม่ใช่ปลาทอง จะได้ความจำสั้นลืมง่ายว่าใครไปทำอะไรไว้ให้น่ะ..
ผมเดินดุ่มๆไปเอาของใช้ที่จำเป็นในห้องขังของตัวเอง แล้วก็จรลีตามท่าน ที่ยืนทำหน้าอารมณ์เสียไปอย่างไม่พอใจเช่นกัน แล้วพอมาถึงห้องอาบน้ำ ..ก็อย่างว่าล่ะครับ คนอื่นเค้าไปกินข้าวกันหมดแล้ว บรรยากาศเลยวังเวงวิเวกโหวงเหวง..เหลือแค่ผมกับเค้าแค่สองคน..
ผมเหลือบมองคนข้างๆที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเปิดก๊อก เอาหัวไปรองตรงนั้นแล้วเปิดน้ำใส่หัวตัวเองซะสุดแรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วสะบัดไปมาอย่างแสนเท่ห์..
...เออ ยอมรับว่าเท่ห์อยู่หรอก..แต่ถ้านับการกระทำที่ผ่านมาล่ะก็..เฮอะ !!...
ขอบอกว่าตอนนี้ ต่อให้คนตรงหน้าจะหล่อจะเท่ห์แบบไหน จะเหมือนดาราปานใด ไอ้เนมก็กรี้ดไม่ลง...
...เฮอะ..เกลียดมันว้อยยยยยยยยยย....
“..ยืนมองทำไมว่ะ..ไหนบอกจะกินข้าว..จะทำไรก็ทำ...” หันมาบ่นใส่ผมซะตาเขียว...เออ..คนเราพูดอะไรแล้วไม่เคยจำเลยน่ะ..ไหนเคยบอกอะไร..บอกว่าห้ามตูถอดไงล่ะ ฮึ..
ผมยืนกระฟัดกระเฟียดใส่คนพูดอยู่สักพักก็สำเหนียกได้ว่าไร้ประโยชน์ เมื่อคนตรงหน้าถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเหลือแค่กกน.กางเกงในตัวเดียวต่อหน้าผม ทำเอาผมหน้าแดงวาบ..หันหลังกลับแทบไม่ทัน..ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็ช่วยหน้าบางซะมั่งเหอะ..มาถอดให้เห็นโต้งๆแบบนี้..หน้าด้านเกินจะทนจริงๆ เหอะ..
ผมได้แต่บ่นงึมงำในใจเมื่อเห็นหุ่นสุดเท่ห์ที่ยังเห็นแวบๆผ่านหางตา....ตัวสูงๆล่ำพอประมาณ หน้าตาหล่อๆยืนเก๊กปล่อยฟีโรโมนเป็นนายแบบกางเกงในรอสโซ่..คิดพลางก้มมองหุ่นตัวเอง..ถ้ารายนั้นเป็นนายแบบกางเกงใน ผมก็คงเป็นได้แค่นายแบบผ้าอ้อมเด็ก..
คิดแล้วมีแต่อารมณ์เสียเลยไม่อยากคิด ผมจึงถอดเสื้อออกแบบเก้ๆกังๆ..ตามด้วยกางเกงสีเดียวกันแบบประดักประเดิด..ก็ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถอดเสื้อผ้าให้ใครดูนอกจากแม่นี่ครับ..ใครจะไม่อายกันเล่า..
“..มึงทำอะไรอยู่เนี่ย..จะอาบก็รีบอาบ...เป็นตุ๊ดรึไง ยืนอายอยู่ได้..” บ่น..บ่นเป็นหมีกินผึ้งเชียวเวลาใครทำอะไรไม่ทันใจ ผมแอบเบ้หน้ามองไปทางคนที่กำลังสระผมสบายใจแฮ..อยากจะทักเหลือเกินว่าหนังหัวที่มีผมติดแค่นั้นจะสระหาอะไร..ขี้กลากคงอยากจะขึ้นอยู่หรอก..หึ..(ตกลงเค้าสะอาดรึแกซกมกห๊ะ)
ผมได้แต่เม้มปากไม่พอใจ..ก่อนจะหันไปจัดการตัวเองบ้าง..รีบๆทำอะไรให้เสร็จๆซะจะได้รีบไป มาอยู่กับคนแบบนี้นานๆพาลจะเกลียดขี้หน้ามากกว่าเดิมไปซะเปล่าๆ
...แต่ไอ้เด็กขี้กางอย่างผม..ถึงจะเกลียดเค้าไปอีกคน หมอนี่ก็คงไม่รู้สึกอะไรหรอก...
ผมก้มตัวสระผมตัวเองเงียบๆ หูก็เงี่ยฟังเสียงน้ำสาดสะบัดจากคนข้างกาย ชั่วขณะหนึ่งหัวสมองก็คิดไปถึงตอนที่เข้ามาในสถานที่นี้เป็นครั้งแรก..แปลกจังน่ะ...ผมก็คิดแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว..มีเหตุผลอะไรเหรอ?..ที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นเข้าหาและรับผมมาอยู่ในกลุ่ม ให้เป็น..เด็ก...ของเขา...
...ทั้งที่เพิ่งเข้ามาแท้ๆ..ผมกลับไม่กลัว...นั่นสิน่ะ..น่าแปลกจริงๆ..ทำไมผมไม่กลัวกันน่ะ...ใครหลายคนก็เคยทักไว้แบบนั้น..ก็คงเพราะผม..ยังเป็น เด็ก อยู่ล่ะมั้ง...
..เด็กอย่างผม..เด็กที่ยังไม่รับรู้ถึงสังคมของการแก่งแย่ง เห็นแก่ตัว..ของผู้ใหญ่..
..เด็กน้อยที่ยังไม่รู้ถึงคำว่า ผลประโยชน์ และการ ใช้ประโยชน์จากคนๆหนึ่ง..
..เด็ก...ที่รู้สึกเหมือนกับการอยู่ในนี้คือสวนสนุก...ทั้งที่ความจริงมันคือนรก..
..ตื่นเต้นยินดีกับสิ่งแปลกๆใหม่ๆที่เข้ามา..ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มที่คนอื่นหยิบยื่นให้ แท้จริงมันคือความมาดร้ายที่น่ารังเกียจ..
...เด็กอย่างผมนี่...มันโตแต่ตัวจริงๆ...
ความเจ็บแปลบบริเวณเบ้าตาทำให้ผมชะงัก..ความคิดทั้งหมดพลันหยุดลงเมื่อรู้สึกปวดแสบแวดร้อนบริเวณเบ้าตา..มันอาจจะดีกว่าถ้าเป็นน้ำตาเหมือนทุกที...แต่ทว่าตอนนี้ผมกำลังสระผมอยู่ต่างหาก !!!
“...อูย.....” ผมร้องออกมาอย่างทนไม่ไหว แสบปวดเบ้าตาจนอยากร้องไห้ มือได้แต่ความสะเปะสะปะเพราะไม่เห็นภาพใดๆ..
“..ไอ้เวรนี่...ขนาดหัวมีผมแต่นั้นยังจะอุตส่าห์เอาแชมพูเข้าตาอีก..ใส่ทำพ่อมึงเยอะแยะอะไรนัก...” เสียงของคนๆเดียวที่อาบน้ำอยู่กับผมดังลั่นข้างๆตัว พร้อมกับความเย็นที่ลามตั้งแต่หัวจรดเท้า..ไอ้พี่บ้านี่มันเทน้ำใส่หัวผมซะเต็มเหนี่ยว..แต่หัวผมมันเป็นแชมพูอยู่น่ะเฟ้ย..
“..อุ๊บ...อ่ะ..แค่กๆ....พะ..พี่....แค่กๆๆๆ...” ผมสำลักกระอักกระไอจนตัวสั่น หลับตาปี๋ มือพยายามจพหยุดไอ้คนที่เทน้ำใส่หัวผมด้วยความหวังดี(?)แบบไม่ยั้งเอาไว้ แต่ว่ากลับไม่เป็นผล...กระแสน้ำเย็นๆที่รดมาเรื่อยๆทำเอาผมแทบจะขาดอากาศหายใจ แต่ทางรอดสุดท้ายของผมก็เปิดออก เมื่อมือของผมคว้าไปถึงวัตถุอะไรสักอย่างในตัวเขา ผมออกแรงดึงขณะที่เท้าสะเปะสะปะพลิกลับจนต้องเอนหลังกระแทกพื้น..
พรืด...ตุ๊บ....
ผมหล่นวืดลงบนพื้นทันทีที่เสียงการทรงตัว มือซ้ายที่ถืออะไรซักอย่างมองเห็นมันกองมาตรงข้อเท้าคนตรงหน้า ขณะที่ผมเบิกตากว้าง มองผ่านท่อนขาที่เต็มไปด้วยขนหน้าแข้ง ขึ้นไปยังขาอ่อนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ..แล้วก็......
พรวด... !!!!!
“..ว้ากกกกกกกกกก.....” ไอ้เนมตาลีตาเหลือกลุกพรวดออกมาจากพื้นที่อันตรายโดยเร็ว..มือข้างนึงก็กุมจมูกตัวเองพลางดิ้นหนีหนอนตัวยักษ์ อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า คือผู้ชายรูปหล่อ ล่ำ หน้าตาดี มีกล้ามพอประมาณ กำลังยืนอึ้งมองผมอยู่ ในสภาพ...
หนอนชาเขียวห้อยโตงเตงเลยว้อยยยยยยยยยยยยยยย...
แต่นั่นยังไม่เรียกว่าน่าอายที่สุด เพราะสิ่งที่น่าอายที่สุดนี่มันอยู่ที่ผม..ผมที่กำลังกุมจมูกตัวเอง ที่สร้างผลงานกระฉูดออกมาปรี้ด....ทันทีที่เจ้าหนอนยักษ์นั่นออกมาให้ผมเชยชมด้วยซ้ำ...
....ผมมองหน้าเขา...ส่วนเขา...ก็มองหน้าผม....
ผมหน้าแดง...แดงจัด แดงแป๊ด~~~~ ชนิดที่ชาตินี้ไม่เคยหน้าแดงได้ขนาดนี้มาก่อนด้วยซ้ำ...
...สาบาน...ว่านับแต่ลืมตาดูโลกมานี่เป็นความอับอายที่สุดในชีวิตของผมแล้ว...
อ้ากกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เลือดกำเดาบ้า จะไหลออกมาทำม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมพยายามเช็ดเลือดสีแดงๆที่น่ารังเกียจเป็นที่สุดในตอนนี้ออกจากใบหน้าและขาของผู้ชายตรงหน้า แต่ขาล่ำๆนั่นกลับขยับหนี พร้อมกับที่ผมรู้สึกถึงรังสีดำทะมึนด้วยแรงพิโรธของใครสักคนที่ไม่ต้องเดา เดือดปุดๆบริเวณเหนือศรีษะที่เต็มไปด้วยฟองแชมพูของผม...
“..ไอ้เนมมมมมมมมมมมมมมม เหี้_ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเอ้ย !!!!!!!!!!!! “
....................................
ขอบคุณที่ติดตามจ้า