Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]  (อ่าน 498316 ครั้ง)

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ทั้งหวานทั้ง...  :z1:

ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
รักน้องเวย์   :-[  ชอบพี่ไนท์  รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ ♥a2k♥

  • 見えないままだって愛しい
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-2
ไนท์น่าอัดคลิปแล้วไรด์แจกจริงๆ  :-[

bakabong

  • บุคคลทั่วไป
:fire:

หมอ อยู่หนายยยยยย เอาหมอคืนมา  :impress2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เรื่องนี้หวานปนหื่น :m25:

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป



ตอนที่ 16  ปีศาจในคราบเจ้าชาย

   หลังจากรู้ตัวว่าอาการยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมขของตัวเองนั้นเริ่มจะเหลือแค่ระดับจานข้าว  ผมก็เร่งฝีเท้าเดินกลับมาที่เดิมที่ไอ้ไนท์มันสั่งให้รอ  แต่ปรากฎว่ามันยังไม่มาครับ   มึงไปซื้อน้ำหรือไปช่วยเขาผลิตอยู่วะเนี่ย  มองซ้าย  มองขวา  ไร้วี่แวว  อ้าว  เวรแล้วไง  ไม่ใช่จะทิ้งกูไว้นี่นะเว้ย  ได้กูแล้วทิ้งไม่ได้นะเว้ยเฮ้ย   มองหามันด้วยความที่เริ่มจิตตกครับ  แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อมองเห็นร่างสูงที่ผมคุ้นตายืนอยู่กับเด็กผู้หญิงผมดัดเป็นสอนสีน้ำตาล  ถ้าผมจำไม่ผิดนะ  นั่นน้องแนน  ทั้งคู่ยืนอยู่ห่างจากผมไม่เท่าไร  เอาวะ  อย่าหาว่ากูเสือกเลย  เข้าไปทักเฉยๆ คงไม่เป็นไรมั้ง

   “พี่มัวทำอะไรอยู่  ทำไมไม่จัดการมันซะทีล่ะ”  พอเข้าไปใกล้ผมก็ได้ยินเสียงแนนน้องพูดในประโยคที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร  ดูเหมือนผมจะเข้ามาผิดเวลานะ
   “ใจเย็นสิ  พี่ก็พยายามอยู่นี่ไง”  เสียงพี่นัท!!  ผมมั่นใจแล้วว่าแผ่นหลังที่ดูคุ้นตานั่นเป็นของใคร  ทำไมพี่แกมาอยู่กับน้องแนนได้ล่ะครับเนี่ย  เริ่มสงสัยโดยลืมคิดไปว่าตัวเองกำลังเสือกไม่เข้าเรื่อง  นิสัยที่ทำให้ใครหลายคนตายไปแบบไม่รู้ตัว

   “เนี่ยนะ  พยายามของพี่  เห็นไหมว่าพี่ไนท์ชอบมันขนาดไหน  กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว  มีดีอะไรนักหนา”   เท้าที่กำลังก้าวถอยหลังของผมชะงักกึก  เริ่มได้กลิ่นไม่ดีตงิดๆ ว่าภัยมันจะมาถึงตัว  แค่เพราะได้ยินชื่อไอ้ไนท์คนเดียว
   “เวย์เขาไม่เหมือนเธอนะ”  นั่นไงครับ  ชัดเลย
   “พี่เข้าข้างมันเหรอพี่นัท  เห็นมันดีกว่าน้องสาวตัวเองรึไง”
   “ไม่ใช่อย่างนั้น”
   “งั้นก็รีบจัดการซะสิ  แนนอยากเห็นมันเจ็บปวด  ให้สมกับที่มันแย่งพี่ไนท์ไปจากแนน”  น้องแนนพูดจบ  เธอก็สะบัดหน้าเดินไป  แต่เท้าผมนี่กลับขยับไม่ได้  ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น  นี่คือความจริงเหรอ   พี่ชายคนหนึ่งที่ผมไว้ใจที่สุดกำลังคิดร้ายกับผม  น้องแนนเป็นน้องสาวพี่นัท???   พี่นัทเข้ามาเพื่อทำลายผมกับไอ้ไนท์   มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ??  น้ำเน่ายังกับละครหลังข่าว  ไม่สิ  ยิ่งกว่าอีก

   “ได้ยินแล้วสิ”  ขณะที่ผมกำลังตะลึงอยู่นั่น  คนที่ผมไม่คิดว่า ‘ร้าย’ กับผมก็พูดขึ้นทั้งๆ ยืนหันหลังให้ผม   เขารู้ตั้งแต่แรกว่าผมอยู่ที่นี่  แต่ก็ยังปล่อยให้ได้ยิน!!

   “พ่ะ..พี่นัท”  ผมรู้สึกว่าเสียงที่หลุดลอดออกมานั้นช่างสั่นอย่างน่าใจหาย  ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับผม  สายตาแน่วแน่จริงจังยืนยันเรื่องราวที่ได้ยินทั้งหมดได้เป็นอย่างดี  ทั้งๆ ที่ผมแอบหวังว่า  เขาอาจจะหันมายิ้มแล้วบอกว่าเรื่องทั้งหมดคือตลกฉากหนึ่งที่มีไว้เซอร์ไพรส์ผม
   “งั้นก็ดี  พี่จะได้เลิกเป็นคนดีซะที”
   “หมายความว่าไง”  ผมถามด้วยความไม่เข้าใจ  ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ละครให้ผมวางใจ  ไม่อยากจะคิดว่าความใจดีที่คนๆ นี้มีให้ก็แค่ภาพลวงตา  เขาไม่ได้ทำเพื่อผม  เขาทำเพื่อน้องสาวของเขา

   “ก็หมายความตามที่นายได้ยินแหละ  ตั้งแต่ต้น”
   “พี่รู้ว่าผมได้ยิน  จงใจ?”
   “ใช่  ในเมื่อทำเป็นคนดีแล้วไม่ได้นาย  หลังจากนี้ถ้าพี่ร้ายก็อย่ามาว่ากันนะ”  พี่นัทพูดด้วยสายตามาดมั่น  ผมจะไม่ว่าเลยถ้าพี่จะร้ายกับผมมาตั้งแต่ต้น  ไม่ใช่ทำร้ายความไว้ใจกันแบบนี้  บางทีแบบนี้มันก็เจ็บกว่าการที่รู้ว่าตัวเองมีศัตรู  เพราะมิตรที่เราคาดหวังกลับกลายเป็นศัตรูกับเราเสียเอง

   “ห๊ะ  อ่ะ..อะไร”
   “ไปก่อนนะ  แล้วเจอกันเย็นนี้บนเวที”  มือใหญ่ยื่นมาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง  รอยยิ้มก็ยังคงอบอุ่นพร้อมให้พึ่งพา  ตรงข้ามกับคำพูดโดยสิ้นเชิง  ภาพต่างๆ มากมายวนเวียนอยู่ในความคิดของผม  ตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรกที่สวนสนุก  ในร้านกาแฟ  นั่นก็จงใจเหรอ??  ตอนที่ผมเสียใจ  คนที่คอยปลอบใจ  คนที่เคยร้องเพลงให้  คนที่คอยทำท่าตลกๆ คนที่คอยดูแลผมตลอดช่วงที่ซ้อมละครอยู่ด้วยกัน  ทั้งหมดนั่นเป็นแค่การแสดงด้วยหรือเปล่า??

   “เป็นอะไรไป  ทำไมหน้าซีดวะ  ไม่สบาย?”
   “.....”
   “เวย์  เฮ้  เวย์”
   “ห๊ะ  อ่ะ..อะไร”  ไอ้ไนท์มันกลับมาตั้งแต่เมื่อไรผมยังไม่รู้สึกตัวเลย  ไอ้อาการอยากจะร้องก็ร้องไม่ออก   อยากจะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้เนี่ยมันเป็นอย่างนี้นี่เอง  ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าคนๆ หนึ่งมีอิทธิพลกับผมแค่ไหน  ถึงเขาอาจจะคิดว่าการทำดีของเขามันสูญเปล่า  แต่นั่นไม่ใช่เลย  ความดีของเขาฝังอยู่ในใจผมเมื่อไรก็ไม่รู้

   “เมิงนั่นแหละเป็นอะไร”
   “ป่ะ..เปล่า  ไปกันเหอะ”  ผมฝืนยิ้มให้มัน  คงไม่ดีหรอกครับถ้าผมจะเล่าเรื่องนีให้มันฟัง  จะให้บอกมันยังไงว่าเพราะมันสลัดรักน้องแนน  ความซวยมันถึงมาตกอยู่ที่ผม  ไม่ยุติธรรมเท่าไรเพราะทั้งหมดที่ทำไป  ผมต่างหากที่เต็มใจ  เต็มใจอยู่กับมันไม่ว่าในฐานะอะไร
   “เดี๋ยว  มีเรื่องอะไร” มันฉุดแขนผมไว้  อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงว่าผมไม่ได้เป็นอะไร  มันจะได้สบายใจ
   “มี..มีซะที่ไหนเล่า  กูเมาบรรยากาศโว้ย”  ก็เลยได้แต่เล่นมุกบ้าๆ อย่างนี้
   “เหรอวะ  กูก็นึกว่าเมารักกู”  มันบอกหน้าตาย
   “ห๊ะ!!”  แทนที่ผมจะเป็นคนช่วยให้มันสายใจเหมือนอย่างทุกที   มันต่างหากที่เป็นคนช่วย  จุดอ่อนผมล่ะครับ  ไม่ใช่ไอ้คนที่เล่นตลกไปขำไป   แต่ถ้าเป็นตลกหน้าตายนี่ไอ้เวย์ฮากลิ้งเลย “ฮ่าๆ  กูว่าเมิงต่างหากที่เมา”

   “ยิ้มได้แล้วเหรอเมิง”  ผมยิ้มให้มัน   ยิ้มเพราะอยากบอกว่า  ขอบคุณ
   “เออ  ไปเรียกเหงื่อกัน”
   “หือ  จริงเหรอวะ  เดี๋ยวกูไปซื้อเหล้าแป๊บ”  ผมขมวดคิ้วงง  จะไปออกกำลังกายเรียกเหงื่อแล้วจะไปซื้อเหล้าเพื่อ???  แต่พอเห็นหน้าตาที่โคตรเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มสมใจของมันก็พอจะนึกออกครับว่ามันกำลังคิดเรื่องอะไร  หน้าตาแม่งโคตรพ่อโคตรแม่หื่นเลย
   “เหล้า??  เชี่ย  คิดบ้าอะไรของเมิง  กูหมายถึงไปซ้อมบาสเว้ย  วันสุดท้ายมีแข่งเปิดชมรมไงวะ”
   “อ้าว  กูเห็นเมิงบอกเรียกเหงื่อ  ทำ(ติ๊ด = เซ็นเซอร์ค่ะ)ก็เรียกเหงื่อได้นี่หว่า”  ไอ้ฟาย  สมองมึงนี่ไม่คิดที่จะหลุดออกมาจากวงโคจรของเรื่องพรรค์นั้นมั่งเลยรึไง  กูว่าสักวันมึงไม่พ้นผิดศีลข้อสามแน่เลยว่ะ
   “ไอ้บ้า  เชี่ย  ลามก  แม่งง  กูจะไม่กินเหล้าอีกตลอดชีวิต (พึมพำ)”


   ผมกับไอ้ไนท์หลังจากที่เถียงกันตลอดทางเรื่องวิธีเรียกเหงื่อแก้เครียด  ก็เป็นอันว่ามาถึงโรงยิมเรียบร้อยครับ  ในที่สุดผมก็ชนะ  ฮ่าๆ
   และดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ผมกับมันที่คิดจะเรียกเหงื่อ  เพราะในโรงยิมมีประชากรอยู่ค่อนข้างคับคั่ง  ไม่ว่าจะเป็นไอ้พวกในชมรม  สาวๆ ทั้งแท้ทั้งเทียมที่มาคอยให้กำลังใจ  ไอ้พวกสอดแนม (เห็นแล้วครับมีหลายคณะ  พอดีว่าจะมีกีฬามหาลัยหลังช่วงปีใหม่)  และพวกไม่มีที่อยู่มันก็มานั่งสิงสถิตอยู่บนแสตนด์  แย่งอากาศกันหายใจ - -   ลองวันไหนผมเก็เงินค่าเก้าอี้  คงรวยเละ (พูดเหมือนพ่อผมเป็นเจ้าของมหาลัยครับ)

   “เอ้า  พี่ไวย์  เฮียไนท์  มาด้วยกันอีกแล้วนะพี่  ไปทำไรกันมาวะ”  ไอ้เป้ตัวดีที่มันหนีรอดจากการสอบปากคำของผมไปได้มันเสนอหน้ามากวนบาทาทันทีครับ  แถมพูดเสียงไม่ใช่เบาซะด้วย  คิดจะทำให้กูลำบากยังเร็วไปสองร้อยปีไอ้น้อง
   “อ่อ  พอดีว่าง้างปากมึงไม่ได้  กูเลยต้องเค้นความจริงจากไอ้ไนท์แทนว่าเมิงกับไอ้น้อง_”  ยังพูดไม่ทันจับ  ไอ้ตัวดีมันก็รีบสอดปากขึ้นมาทันที
   “โอ๊ยยย   วันนี้ร้อนเนาะพี่  ออกกำลังเรียกเหงื่อกันสักเซ็ทเป็นไง”  ดูท่าการสนธนาของพวกผมมันจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากมั้งครับ  แถมไอ้อาการกลบเกลื่อนแบบเด็กน้อยของมันยิ่งทำให้คนอื่นเขาสงสัยกันเป็นแถว  ว่าไหมครับถ้าคนโดนแซวเป็นไอ้คนข้างๆ ผมล่ะก็  มันไม่มีวันกลบเกลื่อนเป็นเด็กประถมอย่างนี้หรอก   มันจะรีบรับมุกแล้วตามน้ำ  ทำทีเล่นทีจริงให้คนอื่นเขาคิดว่ามันพูดเล่นมากมว่า  ระดับฝีมือมันต่างกันว่ะ

   “เชี่ยเวย์  อย่าแซวเว้ยเมิง  สงสารไอ้เนม”  ไอ้นุที่ไม่รู้มาจากไหนมันเข้ามากอดคอผมไว้แล้วกระซิบเสียงเครียด  หันไปมองหน้าไอ้เนมก็เห็นตามันแดงๆ  อ้าวเวร  มันมีเรื่องอะไรกันวะ
   “ทำไมวะ  หรือว่าไอ้เป้มัน....ปล้ำ??”  ผมกระซิบตอบ  แต่กะว่าไอ้นุมันต้องด่ากลับแน่ๆ ว่าคิดอะไรไม่เข้าท่า  แต่มันไม่ด่าครับ  นิ่งไปเลย  คงไม่ใช่ว่ากูเดาถูกหรอกนะ

   “ไม่ต้องอยากรู้นักหรอกน่า  มานี่มา”  ไอ้ไนท์มัดึงผมออกไปกลางสนามโดยที่ไอ้นุมันเดินตามมา   แล้วไอ้แชมป์มันหายไปไหนวะ   ผมไม่เห็นมันว่าหลายวันแล้ว
   “ไอ้นุ  ไอ้แชมป์อ่ะ  ไปไหนวะ  ไมไม่มาซ้อม  หรือว่าตามจีบไอ้หยกอยู่”  อีกครั้งที่ไอ้นุมันนิ่งไป  ท่าทางอั้มๆ อึ้งๆ ของมันทำให้ผมชักใจไม่ดี  ดูเหมือนผมจะตกข่าวไปหลายข่าวครับ  แล้วทำไมเรื่องมันต้องประดังประเดเข้ามากันวันนี้ด้วยวะ  เรื่องของตัวเองยังเอาตัวไม่รอด  ดูเหมือนว่าเรื่องของคนใกล้ตัวก็เริ่มจะลามเป็นเกลื้อนมาอีกแล้ว

   “ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกน่า” 
   “ไม่ยุ่งได้ไงวะ  นั่นมันเพื่อนกู”  ผมหันไปตวาดไอ้ไนท์  ผมว่ามันต้องรู้อะไรแน่ๆ  แต่เสือกอมไว้  ไม่ยอมบอกผม  แม่งง  เพื่อนกันแท้ๆ
   “เชื่อกู  เดี๋ยวมันพร้อมก็บอกมึงเอง  ใช่ไหมไอ้นุ”  ไอ้ไนท์มันทำหน้าจริงจัง  แถมยังแฝงแววอำมหิตเล็กน้อย   กูว่านี่คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ซะล่ะมั้ง

   “เออ”  ไอ้นุตอบเสียงอ่อยๆ  โว้ยยย  เรื่องอะไรกันวะ  กูอยากรู้
   “เมิงไม่ต้องทำหน้าอยากรู้ขนาดนั้น  ไปเล่นได้แล้ว  อยากเรียกเหงื่อไม่ใช่หรือไง”  ไอ้ไนท์เมิงก็กันกูจัง   คนมันอยากรู้  ห้ามไม่ได้นี่หว่า  กูเป็นห่วงเพื่อนนะเว้ย
   “เออ  ก็ได้วะ  แต่รู้ไว้ด้วยนะเมิงว่ากูเคือง” 
   “ฮ่าๆ  รู้  งั้นเดี๋ยวคืนนี้กูเป็นฝ่ายเมาบ้างแล้วกัน”   ไอ้เชี่ย!!  อยากจะด่ามันแต่กำลังอ้าปากค้างอยู่ครับ  เมื่อไรเมิงจะลืมๆ ไปซะที  แม่งง   มีช่องหน่อยไม่ได้  หาเรื่องให้กูตลอด  ทั้งเมิงทั้งกูต้องไม่มีใครเมาเว้ย


   “เป็นไรวะ  ฟอร์มไม่ค่อยดี”  ไอ้ไนท์มันถามทันทีที่ผมสั่งพัก  เราเดินมานั่งกันที่ข้างสนาม  วันนี้ก็มากันเกือบครบขาดก็แต่ไอ้แชมป์  ไอ้ชิน (ยังไม่ได้ชำระความ)  แล้วก็ไอ้เชน  แต่ล่ะคน เทพๆ ทั้งนั้นเลย  แสดงว่าพวกมันคงตื่นเต้นอยากโชว์ฝีมือกันเต็มที่  วันพรุ่งนี้มีงานเปิดชมรม  ผมว่าคงไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากไปกว่าเรื่องผู้หญิงหรอกครับ  ประสบการณ์ตรงตอนปีหนึ่ง  ไม่ใช่ดิ  ก่อนจะไปชอบไปคนข้างๆ นี่
   “เออ  มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยว่ะ”   ที่จริงก็ไม่นิดหรอกครับ  เรียกว่าขั้นมหาศาลน่าจะดีกว่า 
   “อยากบอกกูไหม” 
   “อยาก...แต่ไม่บอกว่ะ”  ฮ่าๆ  ทีเมิงยังไม่บอกกูตั้งหลายเรื่อง  ทั้งเรื่องไอ้เนมกับไอ้เป้ซึ่งถ้ามันปล้ำกันจริงๆ  เป็นเรื่องครับ  แล้วยังเรื่องไอ้แชมป์อีก   นี่เขาเรียกว่าการเอาคืน

   “เฮ้ยย  เอาคืนเหรอเมิง”  ใช่แล้ว!

   “เฮ้ยย  ก๊ากก  ฮ่า  ย่ะ..อย่า  จี้  ฮ่าๆ”  ดูเหมือนผมจะทำท่าสะใจมากเกินไปครับ  ไอ้ไนท์มันเลยหมั่นไส้มาแกล้งผมคืนโดยวิธีที่โคตรปัญญาอ่อนแต่ได้ผลเกินคาดนั่นคือ  การจี้   ไม่ได้เลยครับ  เส้นมันกระตุก  ผมเลยนอนชักดิ้นชักงอให้มันจี้  เพราะไม่มีแรงจะหนี  ได้แต่หัวเราะอย่างทรมาน   ทรมานจริงๆ ครับ  เพราะมันหายใจไม่ทัน

   “จะบอกไหมฮะ”
   “ม่ะ..ม่าย  ฮ่าๆ  ปล่อย  กู  กั่กๆๆ   แฮ่กๆ  น่ะ...เหนื่อยเว้ย”  แต่มันก็ยังไม่หยุด  ไอ้ผมก็หอบจนหน้าแดง  นอนแผ่ให้มันจี้ต่อไป  มันลุกไม่ขึ้นจรงๆ ครับ


   “เฮ้ย  พวกมึง  เล่นเชี่ยไรกันกลางสนามวะ   เกรงใจคนอื่นเขาหน่อย  เขาอิจฉา”  ไอ้นุมันบอกยิ้มๆ  ทำให้ไอ้ไนท์มันยอมหยุดในที่สุดครับ  ขอบใจมากเพื่อน  ช่วยกูหลังจากที่กูใกล้ตายเต็มที่แล้วเนี่ยนะ  อยากลงไปกราบตีนด้วยความซึ้งใจ   แต่ก็จริงอย่างที่มันว่าครับ   รู้สึกเหมือนเป็นจุดรวมสายตาอย่างไรพิกล

   ฟุบ!!  ไอ้ไนท์มันดึงเสื้อที่ถลกถึงมาจนเกือบถึงหน้าอกของผมลง  แล้วดึงตัวผมขึ้นนั่ง  แถมยังมีการทำหน้าเครียด  เชี่ย  ไม่ต้องมาดุกูด้วยสายตาเลย  ที่กูเป็นอย่างนี้มันเพราะใครล่ะ

   “เกิดหวงขึ้นมารึไงวะ”  ไอ้นุมันเริ่มแกว่งปากหาเสี้ยนอีกครั้ง
   “เออ”  บอกแล้วครับว่าถ้าโยนมา  ไอไนท์มันจะรับมุก  แต่รู้สึกว่าเมิงจะจริงจังเกินไปนะ

   “ฮ่าๆๆ  ยอมรับแล้วสิเมิง  ว่าหวงไอ้เวย์”
   “กูเคยปฏิเสธด้วยเหรอ”  เลิกล้อเล่นกันซะทีเถอะพวกมึง  ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนในสนามนะ  เห็นหัวดำๆ ที่นั่งมองมาตาแป๋วกันมั่งไหม
   “เชี่ยไนท์  เชี่ยนุ”
   “แต่เมื่อกี้เมิงนอนไป  หอบไป  โคตรเซ็กซี่เลยว่ะ”  ไอ้นุมันพูดทำท่าเคลิ้ม  น่าน  อย่ามาเคลิ้มกับกูนะเมิง  อย่าลืมว่าภรรยาเมิงที่บ้านมันเปิดค่ายมวย
   “เชี่ยนุ”  ผมสบถ
   “ไอ้เวย์  ไปห้องน้ำกัน”  ไปทำไม???  ไม่ต้องคิดให้มากความครับ  เห็นหน้ามันผมเดาออกทันที
   “เชี่ยไนท์”
   “จริงดิ  กูไปด้วยได้ป่าววะ”
   “เชี่ยนุ”
   “เสือก  กูไม่นิยมเล่นสวิงกิ้ง”  กูว่าแล้ว  เมิงคิดเรื่องนี้อยู่จริงๆ ด้วย
   “เชี่ยไนท์  เชี่ยนุ พวกมึงจะให้กูด่าว่าเชี่ยกันอีกนานไหมเนี่ย”  นึกๆ แล้วก็ตลกตัวเองครับ  ผมด่าพวกมันด้วยคำๆ เดียวไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย

   “แม่งง  น่าอิจฉาว่ะ  ทางนี้ก็คู่พี่  ทางนั้นก็คู่เพื่อน  เฮ้ออ  อยากมีแฟนโว้ยย”  ไอ้โอมมันถอนหายใจเสียงดัง  นี่คือไม่มีแฟนของมึงเรอะ  แล้วไอ้ที่เมิงควงไปกินข้าว  ไปดูหนัง  นั่นเรียกว่าแม่รึไงวะ   ด่ามันในใจก็ดันเหลือบไปเห็นช็อตเด็ดของคู่รุ่นน้องที่น่าสงสัยของผมเข้า

   “เช็ดหน้าให้หน่อย”  ไอ้เป็มันพูดด้วยเสียงเรียบๆ  น่าน  เมิงขอหรือเมิงสั่งกันแน่วะ
   “.....”  ไอ้เนมไม่ตอบ  แต่ก้มหน้านิ่ง  มือที่กำอยู่สั่นน้อยๆ
   “สั่งก็ทำสิ  เร็วๆ”   ทีนี้ไอ้เป้มันสั่งแล้วบีบแขนไอ้เนม  จนมันยอมทำตาม  เอาผ้าเช็ดเหงื่อให้ไอ้เป้  ผมนี่ขมวดคิ้วแบบไม่พอใจ  มีที่ไหน  นั่นมันยิ่งกว่าบังคับแล้ว  ใช้กำลังเลยนะนั่น  ไอ้เชี่ยเป้  มันเป็นอะไรของมันวะ  ปกติมันไม่ใช่คนอย่างนี้ครับ  เท่าที่ผมรู้  มันก็ออกแนวเฮฮา  บ้าบอไปวันๆ อย่างที่คนในชมรมนี้เป็นกัน  ไม่นึกว่ามันจะมีโหมดมืดกับเขาด้วย
   ไอ้เป้มันสั่งให้ไอ้เนมทำอีกหลายนอกจากจะเช็ดเหงื่อแล้ว  ก็ยังป้อนน้ำ  นวดตัว  ขอนอนตัก  ทำไมเมิงไม่ไปอาบอบนวดซะเลยล่ะวะ  จะไปเซอร์วิสให้ครบ - -

   “มันสองคนเป็นอะไรกันแน่วะ”  ด้วยทนความสงสัยไม่ไหว  ผมก็เลยหันไปถามคนข้างๆ ปรากฎว่ามันก็มองไอ้คู่นั้นอยู่เหมือนกัน  แต่มองด้วยสายตาที่ออกจะแปลกอยู่สักหน่อย  ถ้าผมเดาไม่ผิด มันมีแวว ‘อิจฉา’ อยู่ด้วยมั้ง
   “เรื่องของมัน”  พูดจบมันก็เอาหน้ามันไซร้กับเสื้อผมเบาๆ
   “ทำไรวะ  จั๊กจี้”
   “เช็ดเหงื่อ”
   “เฮ้ย  เช็ดที่ผ้าสิวะ  เสื้อกูก็เปียกเหงื่อเหมือนกัน”  มันท่าจะบ้าว่ะ  จะเช็ดเหงื่อกับผ้าที่เปียกเหงื่อ  แล้วหน้าเมิงจะแห้งไหม - -
   “เวย์  ขอน้ำหน่อย”  ผมก็ยื่นน้ำให้มัน  แต่มันสั่นหน้า  แล้วอ้าปากรอ  ให้กูป้อน??  กลางสนามเนี่ยนะเมิง  “แดกเองสิวะ”  มันขมวดคิ้วแล้วเหล่ไปทางไอ้เป้กับไอ้เนม  ก่อนจะมองผมสลับกับขวดน้ำ  เชี่ย  อิจฉาเด็กมันว่างั้นเหอะ  ผมก็ถอนหายใจแล้วยอมป้อนให้มันแต่โดยดี  เหอะ  นึกจะเอาแต่ใจก็เอาแต่ใจ  นึกจะเด็กก็เด็กนะเมิง  บางทีเวลามันเอาแต่ใจก็น่าเอ็นดูดีเหมือนกันนะครับ  ยังไม่ทันได้อ้าปากด่า  มันก็ล้มตัวลงนอนบนตักผมทันที  มึงจะเอาเหมือนเขาให้ได้ใช่ไหม  ไม่ได้ดูเลยรึไงว่านี่มันกลางโรงยิมนะเว้ย

   “ไอ้ไนท์ลุก”
   “ไม่”
   “คนมองนะเมิง”
   “ช่าง”
   “แต่....”
   “เงียบเถอะน่า  จะนอน”  กลายเป็นว่ากูผิดอีก  แต่สงสัยไอ้ไนท์มันจะแสดงชัดเจนว่าถ้าใครสอดปากแซว  ตาย!!  หูผมก็เลยยังปกติสุขอยู่  และมันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีสายตาล้อเลียนส่งมาจากทั่วทุกสารทิศ  แม่งง  ชีวิตกู



-----------------------

ก้มหัวคาราวะ  ต้องขอโทษด้วยค่า  พอดีไวท์กำลังมีโครงการแก้นิยาย  ฮ่าๆ
เลยไม่แน่ใจจะลงต่อดีไหม  แต่เอาดป็นว่าไว?จะมาลงทุกสองวันนะคะ  แล้วค่อยตามแก้มันทีหลัง  ฮ่าๆๆ


ขอบคุณค่า แต่..เอ่อ..หวานปนหื่น????  ฮ่าๆๆ  ท่าจะจริงแฮะ

nam-nueng

  • บุคคลทั่วไป
พี่น้าทททททท ดีแตกซะแล้ว อุตส่าห์แอบเชียร์

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4
ต่อถี่ๆนะคับ รักตายเลย

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
 o22 ช็อค ทำไมพี่นัทเป็นงี้ไปได้

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ทุกสองวันก้อรอได้เสมอจ้า

แต่อย่าไร้ร่องรอยไปนานๆนะเด้อ

 :L2:


อยากรู้เบื้องหลัง เป้ เนม ซะแล้ววว

 :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cloud~

  • True love never run smooth....
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
 :z1: มีแต่เรื่องอยากรู้เพียบเลย

ออฟไลน์ «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™»

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตอนหน้า ขอแบบนี้ อีก ๆๆ    o13


ออฟไลน์ woradach

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
โอ้วลุงนัทดีแตกได้น่ากลัวมากๆๆๆๆ แต่ทุกอย่างน่าจะขึ้นกับเวย์มากกว่านะ ถึงแม้จะไม่มีไนท์ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปกะนัท มีชินอีกคน อิอิ  :laugh:

ออฟไลน์ ชินจัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
จะมีตอนพิเศษของเป้กะเนมและคู่ของแชมป์กับหยกมั๊ยค่ะ

อยากอ่านจังเลยค๊า  :z2:

gumrai

  • บุคคลทั่วไป
พี่นุ่นอย่าเเก้เล่นดิวขอร้องน่ะน่ะ
พี่หมอ :serius2:พี่นี้มันจริงเล่น ในเมื่อทำเป็นคนดีแล้วไม่ได้นาย  หลังจากนี้ถ้าพี่ร้ายก็อย่ามาว่ากันนะ” ดูพูดเข้าน่าสงสารอ่ะ

ไนท์ทำอะไรก้อให้มันหมั่นใจน่ะ

รักเวย์ๆๆรักพี่นุ่นๆๆ

ultramanzaku

  • บุคคลทั่วไป

xiiiNG

  • บุคคลทั่วไป

bakabong

  • บุคคลทั่วไป
ม่ายยยยยยยย

หมอนัทไม่จริง  :sad4:

แต่เราเชื่อหมอนัทว่าทำเพราะโดนน้องบังคับ

ที่จริงหมอนัทเป็นคนดีเนอะๆๆๆ :impress2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ไนท์เอ๊ยยย แกจะเถื่อนไปถึงไหนวะ (แบบว่าตูชอบ อิอิ)
แต่ก็อย่าให้มันมากนักนะ เด๋วเจ้าเวย์จะช้ำซะหมด
เค้าทนไม่ไหว ไปหาคนอื่นขึ้นมาละก็ แกจะน้ำตาหล่น
แต่ยังไงก็เชียร์ไนท์เหมือนเดิมนะจ๊ะ จ๊วบบบ

เอิ่มม เป้กะเนม??? เอาเป็นว่าคุยกันดีๆละกัน เป็นห่วงคับ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ ♥a2k♥

  • 見えないままだって愛しい
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-2
ในที่สุดพี่หมอก็เผยธาตุแท้ออกมา เหอๆ

อยากรู้เรื่องของเป้กับเนม ดูน่ารักกก   :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

 บทที่ 17  ปีศาจลอกคราบ

   “เวย์”  เสียงเรียกที่คุ้นเคยดึงผมให้หลุดจากภวังค์  (ที่จริงคือมองหน้าตอนหลับของใครบางคนอยู่  แม่ง  คนไรวะ  หล่อแล้วยังเสือกหลับอีก!  มึงทำไม่ถูกรู้ไหม  ไอ้ฟายไนท์ กูไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแล้วเนี่ย)   ดวงหน้าของคนที่ทำให้ความคิดสับสน   หัวใจเจ็บแปลบด้วยไม่รู้ว่ายังจะเชื่อใจเขาได้อีกไหมชัดเจนขึ้นในสายตา  ที่แปลกไปคือร่างสูงสวมเครื่องแบบนิสิตไม่เรียบร้อยเหมือนทุกที   ชายเสื้อข้างหนึ่งออกนอกกางเกงที่บัดนี้ไม่เรียบกริบเหมือนอย่างเคย

   “พี่น่ะ..พี่หมอ”  คำเรียกขานที่คุ้นเคยจำต้องเปลี่ยนไป   ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเรียกเขาว่าพี่นัท  แต่รู้ตัวอีกทีปากมันก็ขยับไปเองแล้ว   บอกแล้วไงครับปากมันขยับเอง  ผมไม่ได้สั่ง  แวบหนึ่งที่ผมเห็นแววตาสีดำสนิทนั่นวูบไหวอย่างประหลาด  มันทำให้ผมรู้สึกผิดทั้งๆ ที่ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดอะไร   คนที่ผิดจริงๆ คือเขาไม่ใช่เหรอ  คนที่มาหลอกใช้ความเชื่อใจของผม
   “มาทำไม”  ไอ้คนที่นอนหลับตานิ่งลุกขึ้นมานั่งจ้องอีกฝ่ายอย่างกินเลือดกินเนื้อเมื่อไรก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าบรรยากาศมันชวนน่าอึดอัดแปลกๆ   แต่ว่า...มึงจะรีบลุกทำไม๊  ขอกูหายใจไม่ออกต่ออีกหน่อยได้ไหมวะ  มุมกำลังดีเลยแม่ง
   “ฉันมารับเวย์ไปเตรียมตัว  ละครกำลังจะเริ่มในอีกสองชั่วโมง”  พี่หมอตอบพลางเดินเข้ามาใกล้  อย่าเพิ่งเข้ามาดิพี่  ไอ้ไนท์มึงกลับมาก่อน ฮ่วย (ทีตอนแรกล่ะก็ทำเป็นอายชาวบ้านนะกู)  สรุปแล้วไอ้เวย์ก็ยังนั่งเอ๋ออยู่ที่เดิมครับ  กะจะให้เหมือนนางเอกในละคร  แบบว่าหกล้มแล้วมีพระเอกมาช่วย  แต่อันนี้ผมเป็นเหน็บ -*-   คิดว่าไอ้ไนท์มันจะพยุงผมขึ้นหรือเหยียบให้จมดินครับ  ใครเลือกข้อหลังขอให้นั่งอ่านนิยายเรื่องไหนก็เหน็บกินเหอะ
   “ไม่จำเป็น  กูไปส่งของกูเองได้”  มึงพูดกับเขา  แล้วจะจ้องกูเพื่อ??  กูเปล่าน้า  เขามาเอง  กูเปล่าชวนน้า  เขามาเอง
   “ที่นี่เขาไม่สอนเหรอว่าอย่าลามปามรุ่นพี่  ผมเป็นรุ่นพี่คุณนะ”  อ้ะ!! วันนี้พี่หมอแกมาในมาดแปลกๆ ครับ  ไม่ยอมไอ้ไนท์เหมือนทุกทีแถมยังด่ามันอีก  เอาแล้วไง  พี่ไปยั่วมันเพื่อ???  ถ้าไอ้เวรไนท์มันกลายร่างเมื่อไร  ใครจะรับผิดชอบชีวิตผม  ใครจะเป็นพ่อเด็กในท้องผม???
   “หึ  แล้วนายไม่เคยรู้เหรอว่า ของๆ คนอื่น  อย่าได้คิดจะเอาเป็นของๆ ตัวเอง”  ไอ้คนที่รู้ตัวว่าเป็นรุ่นน้อง   มันเปลี่ยนจากคำพ่อขุน  มาใช้คำแทนตัวที่ธรรมดา  แต่...ไม่เคารพ  สรุปมันรู้ตัวจริงๆ ไหมเนี่ยว่าเป็นรุ่นน้องเขา  แต่ว่า...มึงจะรับผิดชอบกูแน่ใช่ไหม??

   “รู้   รู้แต่ว่าถ้าอยากได้อะไรแล้ว  ก็ต้องพยายามให้ได้มา  ฉันคงไม่บ้าพอที่จะงอมืองอเท้าปล่อยให้ของรักตกอยู่ในมือคนอื่นหรอก”  พี่หมอเลิกคิ้วจ้องหน้ามันแล้วพูด   แถมยังยิ้มในแบบที่ถ้าผมเป็นไอ้ไนท์  เท้ามันคงอยากกระตุกพิลึก  แม่ง  กวนตีนสุดๆ  กวนเสียจนไม่เหลือคราบคุณหมอผู้ใจดีอีกต่อไป  เอาเหอะพี่อยากด่าอยากยั่วอะไรมันก็เอาเลย  แต่ขออย่างเดียวอย่าให้หวยมาออกที่ผมกับลูกแล้วกัน  (มึงไปมีลูกกับเขาเมื่อไร  ไอ้บ้า)
   “หึ  ทำมาเป็นพูดดี  มันก็แค่ข้ออ้างของคนเลวเท่านั้นล่ะวะ”  เห็นได้ชัดครับว่ามันกำลังอดกลั้นอย่างที่สุด  เห็นมันพูดเรียบๆ อย่างนี้ก็เหอะ  ถ้ามองต่ำลงไปหน่อยจะเห็นว่ามันกำลังกำหมัดแน่น   แล้วถ้ามันเม้มปากเมื่อไร  เตรียมวิ่งครับ  ผมไม่ได้รักตัวกลัวตายแต่เป็นห่วงลูกในท้องที่กำลังจะลืมตามาดูโลก  สรุปมึงอยากท้องจริงๆ ใช่ไหม?
   “ฉันไม่เคยบอกสักครั้งว่าเป็นคนดี”  พี่แกพูดไปยิ้มไป  เออ  ยิ้มไปเหอะพี่  หันมาดูหน้าซีดๆ ของผมก่อนได้ไหม  เผื่อว่าพี่จะเห็นใจหยุดหาเรื่อง (ให้ผม) สักที
   “หึ  แล้วทำไมรีบหงายไพ่ซะล่ะ”  ไอ้ไนท์เป็นฝ่ายยิ้มบ้างแล้ว  แต่เป็นยิ้มเหยียดนะ  หยุดไว้แค่ยิ้มเหยียดพอนะมึง  อย่าถึงขั้นเม้มปากเลย  กูกราบล่ะ  อัญชลี  วันทา  อภิวาท
   “นั่นสิ บางทีฉันอาจจะกลัวว่า  ถ้าช้ากว่านี้โอกาสมันจะไม่มีอีกแล้วล่ะมั้ง”  โอกาสอะไร  โอกาสที่ผมจะโดนเล่นงานน่ะเหรอ  บานเลยพี่  หาได้ง่ายยิ่งกว่างมหอยงมปลาอีก  (งมปลา??  งงไหม  อย่างงเลยครับ  ภาษาส่วนตัว)

   “โอกาสของนายมันไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว”  กูไม่เชื่อ!!  ไม่มีโอกาสเชี่ยไร  เดี๋ยวนี้มึงก็คอยจะมอมเหล้ากู  พี่หมอก็เพิ่งสารภาพว่าจะทำร้ายกูโทษฐานที่มึงเจ้าชู  แล้วกูไปเกี่ยวด้วยเมื่อไรวะ  แสรดเอ๊ย   มึงยังมีหน้ามาบอกว่าไม่มีโอกาสอีกเรอะ  ไอ้คนโกหก  ไอ้คนหลอกลวง  กรุณาจินตนาการว่ามียักษ์สองตนยืนเถียงกันว่าใครจะกินมนุษย์ตัวน้อยอย่างผมก่อนดิ  ส่วนไอ้เวย์ผู้รับบทมนุษย์ (ตัวน้อย) ผู้อาภัพกำลังนั่งอยู่ในมุมมืด  มีแสงสปอร์ตไลท์ส่องมาเพียงอย่างเดียว
คุยอะไรกันโว้ยยย  ผมเงยหน้ามองทั้งสองคนสลับกันไปมาก็แทบอยากจะประเคนตีนให้...ตัวเอง (ใครจะกล้าให้พวกเขาล่ะครับ  ผมยังมีแม่ที่ต้องเลี้ยงอีกทั้งคน)  ทั้งที่พวกเขาพูดภาษาไทย  แต่ทำไมผมฟังไม่รู้เรื่องล่ะครับ


   “อย่าลืมว่าไพ่มันไม่ได้มีแค่แจ็ค  แหม่ม  คิง  มันยังมีโจ๊กเกอร์ด้วย”  
   “ต่อให้นายอีกสิบโจ๊กเกอร์เลยเป็นไง”  น่านนน   เผลอแป๊บเดียว  มันมาเป็นเรื่องไพ่ได้ไงล่ะครับเนี่ย  หรือว่าแอบไปพนันอะไรกันไว้  คงไม่ใช่ว่าถ้าฉันชนะ  นายต้องมาเป็นของฉันหรอกนะ  ม่ายยยย   (หมายเหตุ: นายเอกเรื่องนี้เครื่องพังบ่อย - -  กรุณาทำความเข้าใจ  แม้ฉากนี้จะเป็นซีนที่โคตรจะเครียด  พระเอกกับพระรองกำลังจะฆ่ากันตาย  แต่โปรดอย่าหวังสาระจากนายเอกเด็ดขาด  หรือจะพูดให้ถูก  อย่าหวังสาระจากคนอย่างไอ้เวย์)

   “หึ  บางทีคนอวดดีอย่างนายก็สมควรจะกระอักตายเสียบ้าง  อย่าง...ลองเสียของรักดูสักครั้งเป็นไง”
   “ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็ทำให้เต็มที่แล้วกัน  แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่เคยปล่อยให้ใครขโมยอะไรๆ ไปได้ง่ายๆ”  เออ  ถูกของมึง  ข้อนี้กูรู้ดียิ่งกว่าใคร  แค่กูขโมยแดกเหล้ามึงอึกเดียว  กูต้องเลี้ยงเหล้ามึงเดือนนึง  แสรด  ใครมันจะไปขโมยของมึงวะ  ไอ้คนเหนียวหนี้เอ๊ย
   “นายอาจยังไม่รู้  ขโมยบางคนน่ะฉลาดกว่าประธานาธิบดีซะอีก”
   “หึ  บางคนนั้นคงไม่ใช่นาย”  ผมนั่งฟังสองคนเถียงกันไปมา  เดี๋ยวไพ่  เดี๋ยวโจ๊กเกอร์  เดี๋ยวขโมย  เดี๋ยวประธานาธิบดี  อะไรๆ ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันแต่ดันโยงเข้าด้วยกันเฉยเลย  เล่นเอาผมนั่งมึนไปชั่วขณะ   จนสงครามน้ำลายเปลี่ยนมาเป็นเลเซอร์สายตานี่ล่ะครับ  ผมถึงพอหายใจหายคอได้บ้าง  (กรุณาอย่าสลับคำเป็นใจหายหรือคอหาย   น่าน  ฮากริบกันไปอีกรอบ  ก็เตือนแล้วว่าตอนนี้มันเป็นซีนอารมณ์  พวกคุณยังหวังให้ผมเล่นมุกฮาๆ ออกอีกรึไง  -*-)

   “เวย์  มึงไปหยิบของแล้วกูจะไปส่ง”  ไอ้ไนท์มันสั่งผมทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากอีกฝ่าย  แสรดเอ๊ย  จ้องกันเข้าไป  ถ้าพวกมึงท้องขึ้นมาใครจะเป็นพ่อใครจะเป็นแม่วะ  เฮ้ย!  แล้วกูจะทำยังไงอ่ะ  ไม่เอา  หยุดจ้องตากันสักทีสิโว้ย
   “อ่ะ..อือ” นี่คือสิ่งที่ผมพูด  สั้นๆ ง่ายๆ  เพราะสองตากำลังดูว่าใครจะเป็นฝ่ายก่อหวอด - -  คนนะเว้ย  ไม่ใช่ปลากัด

   “ระแวงขนาดนั้น??  คิดจะตามเขาไปถึงเมื่อไร”  พี่หมอถาม  มาถามผมดิพี่  ผมจะตอบว่าให้มันตามผมไปตลอดชีวิต  ฮิ้ว!  ด้านอย่างนี้มันจะไปไหนรอด  ก๊ากกก
   “จนกว่าตัวมันจะติดสัญญาณกันขโมย”   อ้าว  แล้วสัญญาณกันขโมยมาเกี่ยวอะไรด้วย  ว้อยยย  สรุปพวกมึงพูดเรื่องอะไรก๊าน



   ----------------------------

กรรม  เยอะเกิน  ต้องแยกตอน

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป


“นี่บัตรวีไอพี  หน้าสุด  ฉันเตรียมไว้ให้เรียบร้อย  นายไปนั่งรอที่นั่นแล้วกัน”  พี่หมอพูดทันทีที่เราเดินมาถึงหอประชุม  ตลอดทางไอ้ไนท์มันจับมือผมมาตลอด  คิดดูแล้วกันนะครับ  ผู้ชายตัวโตๆ สองคนเดินจับมือกัน  เหอะๆ  เอาเถอะครับ  ผมก็แอบดีใจอยู่นิดหน่อย (หน้าบานขนาดนี้อ่ะนะ  นิดหน่อย)  หรือว่ามันจะหึงผมวะ??  ถ้ามันหึงจริงนี่ผมจะยอมเล่นละครแบบถวายชีวิตเลย  ให้กระโดดจากที่สูง  ไอ้เวย์ก็จะโดด  ให้นอนกลิ้งเกลือกบนเวทีไอ้เวย์ก็จะกลิ่ง  ให้บุกน้ำไอ้เวย์ก็จะบุก  ให้ลุยไฟ..ขอคิดดูก่อนแล้วกัน  ไอ้ที่เขาบอกว่าคนดีตกน้ำไม่ไหล  ตกไฟไม่ไหม้นั่นผมก็พอจะเชื่อบ้าง  แต่ถ้าคนดี (ใจ) มากไปมันจะไม่ไหม้ไฟด้วยรึเปล่าวะ? (หวังว่าทุกคนจะเข้าใจมุกนี้  แม้จะแป้ก  เราก็จะเล่น)

   “ถ้าฉันไม่ไปล่ะ”  กูว่าแล้ว -*-   คิดไว้แล้วล่ะครับว่ามันต้องพูดอย่างนี้  เหอะๆ  กูก็ไม่อยากให้มึงไปหรอก  กูอยากอยู่กับมึงตลอดเวลาไม่ว่าจะกิน  ขี้  ( ปี้)  นอน แต่ถ้ามึงไม่ไป  มึงก็ต้องตามกูไปแต่งตัวข้างหลังเวที  แล้วพอถึงที่นั่นนอกจากกูต้องคอยดูแลสวัสดิภาพตัวเอง  กูยังต้องมาคอยห่วงสวัสดิภาพมึงด้วย  จะอะไรซะอีกล่ะครับ  ถ้าไม่ใช่ว่าช่างฝ่ายคอสตูมแต่ละคนล้วนเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์เพศชาย  ขอแค่คุณมีหนังหน้าที่ติดจะดูดี  คุณมีสิทธิ์ลุ้นรับบริการเสริมได้ทันทีแถมมีอ็อพชั่นให้เลือกกันอีกไม่หวาดไม่ไหว  แน่นอนครับกระทั่งคนชอบของฟรีอย่างผม  ยังไม่ยอมตกหลุมเลย  คิดดูเองแล้วกันว่ามันเป็นบริการเสริมแบบไหน

   “ค่ะ..คือ  ไอ้ไนท์  มึงไปนั่งรอกูก่อนนะ  เขา (กู) ไม่ให้คนนอกเข้าหลังเวทีอ่ะ  นะๆ”  โดยเฉพาะมึง  ห้ามเข้าเด็ดขาด  เพราะถ้ามึงเข้าไป  ไม่ตัวมึงซวย (อย่างที่บอกล่ะครับ) ก็เป็นพวกกูซวย (แต่งตัวไม่ทัน  เพราะพวกเจ๊ๆ แกมีเหยื่อรายใหม่เข้ามาให้อ้อล้อ)
   “...” มันไม่ตอบแต่จ้องหน้าผมนิ่ง  โกรธอะไรล่ะโว้ย  ที่ทำนี่เพราะกูเป็นห่วงมึงหรอกนะ   สักพักมันก็ยอมหันหลังเดินกลับไป  เล่นเอาผมใจไม่ค่อยดี  อะไรมันจะเชื่อฟังกันง่ายขนาดนั้น  นี่ถ้าเป็นปกติต้องมีเถียง  ไม่ก็ถีบนะ
   “เดี๋ยว”  ก็เลยเรียกมันไว้ครับ  เอ้า!  แล้วเรียกทำไมวะ?  ไม่รู้ตัว(อีกแล้ว) ครับ  ปากมันขยับของมันไปเอง  เลยต้องเดือดร้อนมาถึงสมอง  ต้องมานั่งคิดทางหนีทีไล่อีก
   “หืม?”  ส่งเสียงแต่ก็ยังไม่หันมา  นี่ไม่ใช่ว่างอนกูหรอกนะ  ก๊ากก  ว่าเข้าไปนั่น 
   “มึงจะไม่ให้กำลังใจกูหน่อยเหรอ”  อ๊ากก  พูดไปแล้วก็อยากกระโดดถีบตัวเอง  มึงด้านได้ใจมากไอ้เวย์  ถามไปหน้าก็แดงไป  ฉิบหายเอ๊ย    แต่ได้ผลครับ  ไอ้ไนท์มันหันกลับมายิ้มให้ในที่สุด   มันเดินเข้ามาหาผม  ในขณะที่อีกคนเดินหายเข้าไปหลังเวที
   “กูจะรอดูนะ”   มันกระซิบเสียงเบา   มือใหญ่ยื่นมาลูบผมยุ่งๆ จนไอ้คนขอร้องอย่างผมแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย  ไปเรียกให้มันมาทำมึงเขินทำไมว้า  ไอ้เวย์  ไอ้บ้า  ฮ่วย  เสียเชิงว้อย  (อยู่กับมัน  มึงเคยมีเชิง  มีฟอร์มกับเขาด้วยเหรอวะ)



   “น้องเวย์ข-า  มาทางนี้เลยค่า  แหมมม  พี่ล่ะรอวันนี้มานานแล้ว”  นั่นไงครับ  ยังไม่ทันที่ผมจะโผล่เข้าไปหมดทั้งตัว ( ยื่นหน้าเข้าไปดูลาดเลาก่อน)  เจ๊ดอลลี่ (ชื่อเดิม : แดนไทย) กระเทยช่างแต่งหน้าฝ่ายคอสตูมก็เดินลิ่วๆ มาลากตัวผมไป  - -  แล้วไอ้ที่แกบอกว่ารอวันนี้มานานแล้ว  มันชวนให้ผมคิดว่าตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่าน  แกคงเก็บกดไว้มาก  หวังว่าแกจะเก็บไว้ต่อไปนะครับ  อย่าให้ความพยายามในการรักษาชีวิตของผมต้องสูญเปล่าเลย
   “แหมม  หน้าก็ใส๊ใส  ผิวก็เนียนน่ากิ๊นน่ากิน  เอ๊ย  น่าลงแป้ง หุหุ พูดผิดไปหน่อย”  ผมว่าพี่ไม่ได้พูดผิดซะล่ะมั้ง  มันหลุดปากมากกว่านะนั่น  อย่าเพิ่งกระเดือกผมลงท้องเลยครับ  สงสารลูกนกลูกกาที่ยังต้องเลี้ยงดูครอบครัว  มีผม  มีไอ้ไนท์  มีแม่  แล้วก็ลูกอีกคนในท้อง - -
   “นั่นสิคะ  คุณหมอก็อีกคน  หน้าบริ้งค์เชียว  กระเทยล่ะอิจฉา”  เจ๊แจน (เจนจบ) ช่างแต่งหน้าอีกคนที่กำลังสัมผัสใบหน้าขาวๆ ที่ออกจะซีดของพี่หมอพูดขึ้น  เจ๊แจนแกเอาหน้าเข้าไปใกล้เสียจนผมแอบคิดว่าแกอาจอยากจะใช้ลิ้นพิสูจน์ความเนียนแทนมือ
   “ขอตัวก่อนนะครับ  ผมจะไปแต่งตัว”  พี่หมอลุกขึ้นเดินไปหาพี่นี  ผู้จัดการเสื้อผ้านักแสดง  เฮ้ย!  พี่ทิ้งผมไว้อย่างนี้  เดี๋ยวเจ๊แจนแกก็....
   “โธ่  ไปซะละ  ไหนๆ  ขอดูหน้าน้องเวย์มั่ง”  นั่นไง  งานเข้าแล้วกู  พอไอ้เวย์ทำท่าจะขยับเท่านั้นแหละ
   “น้องเวย์  อย่าคิดหนี”  เฮือก! แกสารภาพแล้ว  ช่วยด้วย  คนหล่อยังไม่อยากตาย  บอกแล้วไงว่ามีครอบครัวต้องเลี้ยง ฮ่วย  ฟังไม่รู้เรื่องรึไงวะ   “เอ๊ย  ไม่ใช่  อย่าขยับสิจ๊ะ  เดี๋ยวผมยุ่ง”  ยุ่งไม่ยุ่งมันจะเกี่ยวอะไรล่ะคร้าบบบบบ  ก็ในเมื่อผมต้องใส่วิก  แล้วจะมาเซ็ทผมให้เพื่อ???  ว้อยย  และแล้ว...ไอ้คนไม่เคยยอมคนอย่างผม  ก็นั่งนิ่งปล่อยให้แกแทะโลมต่อไป  ด้วยเกรงว่าถ้าแกไม่ได้ดั่งใจ  แกอาจจะเป็นคนเสนอตัวช่วยผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน


   “หมอนัทจ๊ะ  นี่ชุดจ้ะ  เปลี่ยนเองหรือให้พี่ช่วยดี  ชุดใส่ลำบากนะ”  พี่นีครับ  พี่มาช่วยผมก่อนดีกว่าไหม  แม่งงง  บอกว่ากูต้องใส่วิก  จะเซ็ทผมไปเพื่อ????  ถึงจะพูดว่าเซ็ท  ผมก็ยังดูไม่ออกว่าไอ้การขยำเส้นผมไปมานี่มันเป็นการเซ็ทตรงไหน  ตกลงพี่จะทำให้มันเป็นทรงหรือจะทำให้มันยุ่งครับ    ส่วนเจ๊แจนแกก็กำลังทำอะไรสักอย่างกับขนตาของผม  แม่งง  คันก็คัน  ขยับก็ไม่ได้  เพราะมึงเลยไอ้พี่วาย  โยนงานบ้างานบออะไรมาให้  หรือว่าแกรู้อยู่แล้ววะว่าต้องเจออะไรมั่ง  เฮ้ย!  ชัวร์เลย  คราวก่อนแกเล่นเป็นพระเอกด้วยนี่หว่า (เรื่องที่แล้วพระเอกเป็นคางคกครับ)  แม่งง  จบงานเมื่อไรพี่จะรู้ว่านรกมีจริงเหมือนอย่างที่ผมรู้อยู่ตอนนี้  แล้วต่อให้หมื่นพี่ออยก็ช่วยพี่ไปจากพวกเจ๊ๆ เขาไม่ได้

   “ไม่เป็นไรครับ  ถ้าใส่ไม่ได้  ผมกะว่าจะให้นางเอกเขาช่วย”  เสียงคนที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้น  แล้วทำไมพี่ต้องโยนมาให้ผมด้วยล่ะ  ไอ้เท่าที่เห็นนี่มันยังไม่น่าอนาถพอใช่ไหม?
   “ว้ายย  อย่ามีรักนอกจอกันเชียวนะ  เดี๋ยวกระเทยช้ำใจตาย”  พี่จะช้ำใจตายหรือเปล่าผมไม่รู้  แต่ตัวผมน่ะจะช้ำในตายอยู่แล้ว
   “ไม่ม่ะ..”  ผมกำลังจะปฏิเสธ
   “ไม่แน่ครับ  ฮ่าๆ”  แต่อีกคนพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน  ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้าเขาทันที  อีกฝ่ายกำลังมองมาทางนี้อยู่เหมือนกัน  แถมยังยิ้มในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  นั่นพี่กำลังยิ้มอยู่จริงๆ น่ะเหรอ??  ปกติพี่ยิ้มทีไรก้มักจะมีออร่าสีขาวล้อมอยู่เสมอ  แต่ครั้งนี้กลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง  (ได้โปรดอย่าถามว่าผมเห็นออร่านั่นได้ยังไง  กระทั่งว่ามันคืออะไรผมยังไม่ค่อยจะแน่ใจเลย  เฮ้ย!  แต่ผมไม่ได้มั่วนะ  เห็นจริงๆ)
   “ว้ายย  วิ้ววว  คุณหมอร้ายจริงๆ  แอบไปเคลมน้องเวย์ของเจ๊มาเมื่อไรเนี่ย”  เคลมบ้านเจ๊ดิ  เห็นผมเป็นคนไงครับเจ๊  ขนาดเจ๊ตะล่อมแกมบังคับผมมาเกือบเดือน  ผมเคยยอมเจ๊สักครั้งไหม  ถามใหม่ดีกว่า  เคยมีใครยอมเจ๊สักคนไหม??
   “ร้าย??  คงจะอย่างนั้นล่ะครับ”   คนยอมรับว่าตัวเองร้ายละสายตาไปแล้ว  แต่ทำไมผมยังละสายตาไปจากเขาไม่ได้  ทำไมล่ะ  ทำไมผมถึงเห็นว่าคนที่เจ็บจริงๆ คือพี่ต่างหาก  เหอะๆ  มึงตาฝาดไปเองไอ้เวย์  อย่ามาทำเป็นโง่ในเมื่อมึงก็รู้ความจริงอยู่แล้ว  อย่ามาทำเน่าเป็นคนดี  ไม่เหมาะกับมึงเลย


   “เวย์  นายมาช่วยผูกเชือกข้างหลังหน่อยสิ”  เสียงคนร้ายในคราบคนดีเอ่ยขึ้น  เห็นไหมครับว่าผมเปลี่ยนวิธีเรียกแกใหม่  เพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอจะได้ไม่เผลอคิดว่าเขามาดีอีก  สุดยอดอ่ะมึง  คิดได้ไงวะ  ช่วยได้มากเลยเหอะ - -
   “ผมไม่ว่าง  ให้คนอื่นช่วยแล้วกัน”  และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทั้งๆ ที่ทุกครั้งที่ผ่านมา  ตลอดการซ้อมเราสองคนแทบจะตัวติดกัน  เพราะในบทพี่เขาเป็นพระเอกส่วนผมเป็นนางเอก (อย่าให้พูดเลยครับ  มันน่าอนาถนักแล  บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะหลงคารมพี่เอ  ผมไม่มีทางทำเด็ดขาด  แม่ง  แกเล่นเล่า  หว่านล้อมไปนู่นไปนี่จนผมงง  รู้อีกทีได้บทนี้มาแล้ว)  ซ้อมก็ซ้อมด้วยกัน  กินข้าวก็กินด้วยกัน  เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน  ไม่แปลกหรอกครับที่ใครๆ จะสงสัยว่าอาจมีรักนอกจอ  เหอะ  พูดเป็นดาราในหนังน้ำเน่าไปได้  ถึงผมจะไม่ใช่คนดีนักแต่ก็รักคนที่หักหลังตัวเองไม่ลงหรอก  หรือจะพูดให้ถูกตอนนี้ผมยังพอใจกับการเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออยู่  แถมดูท่าว่าเริ่มจะเข้าทางแล้วด้วย  ไม่เสียแรงที่ลงทุนขุดหลุมไว้ถี่ๆ  เอิ้กๆ  กูว่าแล้วว่าถ้ากูขุดเยอะ  สักวันมึงต้องตก  ฮ่าๆ

   “แหม  น้องเวย์คะ  ไปช่วยคุณหมอหน่อยเถอะ  ไม่ต้องมาเขินพวกพี่หรอก”  พวกพี่เขาคงคิดว่าที่ผมไม่ยอมไปช่วยเหมือนทุกทีเพราะเป็นความเขิน  - -  กูล่ะอยากจะบ้า
   “ผมไม่ได้..”
   “แค่ผูกเชือก  ก็ไม่ได้เหรอ”  น้ำเสียงมีแววเว้าวอนแปลกๆ  น่าตลกดีจริงๆ  ทั้งที่พี่ตั้งใจจะร้ายกับผมแล้วทำไมไม่ลงมือซะที  มัวแต่วางมาดคนดีอยู่ได้  มาดคนดีที่เหมาะกับพี่มากกว่าอะไรทั้งหมด   มาดคนดีที่ผมไม่เคยปฏิเสธได้สักครั้ง
   “.... ก็ได้ครับ”  ไม่ค่อยจะใจอ่อนเลยกู  แค่เขาทำเสียงเศร้าหน่อยเดียว  มึงยอมแล้ว


   “รักกันมากไหม??”  คำถามที่ทำให้มือที่กำลังผูกเชือกของผมต้องชะงัก  รักกันมากไหมน่ะเหรอ  ปัญหาของผม  พี่จะอยากรู้ไปทำไม  กะอีแค่จะทำร้ายผมอย่างที่น้องสาวต้องการ  จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอว่าตอนนี้ผมกับมันเป็นยังไง  หรือถ้ายิ่งรักมาก  ก็จะยิ่งทำร้ายผมได้มาก  งั้นพี่คงต้องเสียดายแล้วล่ะเพราะมันยังไม่เคยบอกรักผมสักครั้ง
   “พี่...ทำไม”
   “แค่อยากรู้”
   “มันไม่ใช่เรื่องของพี่  ผมคงไม่จำเป็นต้องบอก”  อยากทำอะไร  แค่ไหน  ก็ทำไปเถอะ  เห็นแก่ความดีของพี่  ไม่ว่าพี่ตั้งใจทำหรือแค่เสแสร้งก็ตาม  แต่พี่ก็ทำอะไรให้ผมมามาก  เพราะฉะนั้นอยากจะร้ายแค่ไหนก็ตามใจ  แต่ขออย่างเดียวอย่าทำลายความสัมพันธ์ที่ผมเพียรสร้างมาก็แล้วกัน  ต่อให้เป็นพี่ก็อย่าหวังว่าผมจะยอม  (ได้ข่าวว่าแกเพิ่งยอมเขาไปเมื่อกี้)

   อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนที่จะหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับผม  แล้วรวบมือทั้งสองข้างของผมไว้  สายตาที่มองมาบอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกยังไง  หรือบางทีอาจเป็นผมเองที่ไม่อยากจะรับรู้กับความเสียใจในดวงตาคู่นั้น 

   “อย่ายั่วโมโหพี่บ่อยนัก  พี่ไม่ได้มีความอดทนมากมายขนาดนั้น”  พี่น่ะเหรอไม่อดทน  หึ  ไม่หรอกพี่อดทนมากๆ เลยต่างหาก  ไม่งั้นจะรอจนถึงวันนี้  วันที่ผมเชื่อใจพี่สุดๆ ได้ยังไง  ไอ้คนความอดทนต่ำจริงๆ น่ะมันไอ้คนที่ไปนั่งรออยู่หน้าเวทีต่างหาก  ไม่พอใจใครมันซัดเลย  ไม่เหมือนพี่  หลอกให้คนอื่นตายใจแล้วค่อยฆ่ากันช้าๆ
   “ผมไม่เคยยั่ว  แต่บอกไว้ก่อนนะ  ถ้าพี่คิดจะแก้แค้นแทนน้องสาวก็เล่นกันตัวๆ อย่างลูกผู้ชายดีกว่า”  ที่ท้านี่ไม่ใช่เพราะผมถนัดบู๊  แต่เรื่องวิ่ง (หนี) น่ะ  บรูซลีเรียกพี่ล่ะครับ
   “ตัวๆ อย่างนั้นเหรอ  นายไม่ต้องห่วง  พี่ไม่ยั้งมือหรอก”  เอาแล้วไง  ไปท้าเขา  แล้วจะรอดไหมล่ะกู  แต่แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้แผนหนีทั้งหมดของผมพังครืน  เหมือนความหวังลึกๆ ว่าแกอาจจะไม่กล้าทำร้ายผมจริงๆ มืดสนิทลง  ฮ่าๆ  มึงยังมัวหวังบ้าบออะไรอีกวะ    ติดใจกับแค่ความดีของเขาอยางนั้นเหรอ   ไม่ใช่หรอกครับแต่ผมสงสัยว่าถ้าอยากจะทำร้ายกันนักล่ะก็  แค่มาต่อยมาตีผมก็พอ  ทำไมต้องเข้ามาทำดีให้ผมตายใจด้วย  ทำไม  ทำไม
 
   “พี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่  ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเพราะพี่ต้องการแก้แค้นไอ้ไนท์”  แค่จะแก้แค้นใครสักคนต้องทำดีขนาดนี้เลยเหรอ  ต้องมาคอยเอาใจ  มาคอยห่วง  มาคอยดูแลขนาดนี้เชียวเหรอ  ถ้าอย่างนั้นพี่คงลงทุนมากไป  ลงทุนไปมากเสียจนผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่จะเรียกทุนคืนจากผมเท่าไร  (คิดตามประสาเด็กเศรษฐศาสตร์เหลือเกินนะมึง)
   “นายคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ??”  ก็แล้วจะให้คิดยังไงล่ะในเมื่อพี่เป็นคนบอกเอง  ในเมื่อน้องสาวของพี่บอกเอง  ในเมื่อผมได้ยินอย่างนั้นมากับหูของตัวเอง
   “ผม....”



   “ทุกคน  อีกห้านาทีจะได้เวลาเปิดม่านแล้ว  มารวมกันตรงนี้หน่อย”  เสียงพี่เอ  ประธานองค์ใหญ่และผู้รับผิดชอบละครเวทีครั้งนี้ทำให้ผมไม่ต้องตอบคำถามนั่น   คำถามที่ตัวผมเองก็ยังหาคำตอบให้มันไม่ได้ 

   นักแสดงรวมถึงทีมงานทั้งหมดต่างวางงานในมือแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าพี่เอ  นิสิตคณะรัฐศาสตร์ผู้เป็นหัวใจของงานในครั้งนี้   งานที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของเราทุกคน  งานหนึ่งที่แสดงถึงศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัย

   “วันนี้เป็นวันที่ความเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายอาทิตย์ของพวกเราจะได้รับการตอบแทน  วันนี้จะเป็นวันที่เราทุกคนทำได้ดีที่สุด   วันนี้จะเป็นวันที่เราจะจำไปตลอดชีวิต  เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนพยายามให้เต็มที่  ทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ประทับอยู่ในใจคนดู  ทำให้พวกเขาได้คิด  คิดจะเสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างที่เราทุกคนหวังไว้  จงคิดว่าการแสดงวันนี้ไม่ใช่แต่เพียงเพื่อมหาวิทยาลัย  แต่เป็นการแสดงเพื่อประเทศชาติของเราด้วย  เอาล่ะ  ลุย!!”  คำพูดของแกแสดงถึงคณะที่เรียนได้เป็นอย่างดี  แต่ผมก็ยิ้มรับคำพูดนั่นด้วยใจที่พองฟู  แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือเสียงเฮที่ดังขึ้นพร้อมๆ กัน  คำพูดให้กำลังใจและเรียกความมั่นใจอย่างประหลาดๆ ของประธานองค์ใหญ่กลับทำให้ใจฮึกเหิมเหมือนยามจะออกรบ  แสดงเพื่อประเทศชาติเหรอ??  ฟังดูไม่เลวนะ

   “เรื่องของเราเอาไว้ก่อนแล้วกัน  ตั้งใจแสดงให้ดีล่ะ  ถึงนายจะเกลียดพี่มากแค่ไหนแต่ยังไงซะ...วันนี้ช่วยรักพี่สักวัน   อ้อ  วันนี้นายสวยมากเลยนะ  เจ้าสาวของพี่”  นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้น  รักพี่สักวันเหรอ??  พี่อาจไม่รู้ความรักของผมมีให้พี่มาเสมอ  แม้จะไม่ใช่แบบที่พี่ต้องการแต่ผมก็ให้พี่มาตลอด   ก่อนที่พี่จะเป็นคนทำลายมันด้วยตัวเอง

   “Ladies and gentlemen  welcome to the most inspiring performance: The prince, The tyrant and The lover…….”
ในที่สุดม่านการแสดงก็เปิดออกพร้อมกับเพลงบรรเลงที่ทุกคนคงคุ้นหูนั่นคือเพลงประกอบภาพยนตร์ The prince of Egypt  ในเวอร์ชั่นของเพลงบรรเลงเปียโน  เรื่องราวที่พวกผมนำเสนอเป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อประชาชนและชาติบ้านเมืองของเจ้าชายพลัดถิ่นนามว่าเลโอ (นำแสดงโดยพี่หมอ)  และคนรักของเขานามว่า เมราเซีย (นำแสดงโดยผมเอง - - )  เลโอเป็นผู้ชายที่มีอุดมการณ์และกล้าหาญต่อต้านเจ้าเมืองที่โลภมาก  ขายชาติ  โดยมีเมราเซียคนรักที่กำลังจะแต่งงานของเขาคอยให้กำลังใจ   ก่อนงานแต่งงานเพียงหนึ่งวัน  สายของเขาได้นำข่าวสำคัญมาบอกว่าเจ้าเมืองกำลังจะขายเทวรูปเครีอัส  เทวรูปคู่บ้านคู่เมืองให้แก่เจ้าชายเลทิส  เจ้าเมืองข้างๆตอนฟ้าสางของวันรุ่งขึ้น   เขาจึงรีบรวบรวมชายหนุ่มในหมู่บ้านที่ตัวเขาเป็นคนฝึกสอนวิชาการต่อสู้ต่างๆ  ลอบเข้าปราสาทเจ้าเมือง  โดยที่ไม่รู้เลยว่าเมราเซียแอบตามไปด้วย  การต่อสู้กับทหารของเจ้าเมืองเป็นไปอย่างทุลักทุเล  แต่เลโอผู้เก่งกาจก็นำชายหนุ่มที่เหลืออยู่ไม่ถึงสิบคนบุกตะลุยไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงห้องนอนของเจ้าเมือง  ด้วยความดีใจเลโอจึงรีบรุดไปยังเจ้าเมืองที่นั่งสั่นอยู่บนเตียง  ชายหนุ่มขว้างดาบยาวในมือทะลุร่างท้วมของชายชรา  เลือดสีแดงไหลทะลักจากบาดแผล  แต่ไม่มีใครสนใจรวมทั้งไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าก่อนสิ้นลม  ชายแก่ได้กดปุ่มหนึ่งบนเตียง  ปุ่มที่ทำให้ลูกธนูพุ่งตรงมายังชายผู้พรากชีวิตไปจากเขาอย่างแม่นยำ   

“เลโอ  ระวัง!!”  ผมตะโกนแล้วพุ่งไปรับธนูที่ถูกปามาจากด้านข้างเวที  แล้วแอบใช้มือข้างหนึ่งดึงผ้าโพกหัวออกเพื่อเผยให้เห็นเส้นผมสีทองยาวถึงกลางหลัง  - -  หนักก็หนัก  คันก็คัน  แต่ไม่อาจปฏิเสธครับ  เพราะไอ้พี่เอมันบอกอย่างชัดเจนว่า  มึงเป็นนางเอก  มึงต้องสวย  เพราะฉะนั้นอดทน!
“เมราเซีย!!” พี่หมอตะโกนเสียงดังแล้วรับร่างของผมไว้ด้วยใบหน้าซีดเผือด  ดวงตาสีดำสนิทฉายแววตกใจและเจ็บปวด   สุดยอดเลยพี่  ผมว่าพี่อย่าไปเป็นหมอเลย  หันมาเอาดีทางด้านการแสดงดูจะรุ่งกว่ากันเยอะ
“ล่ะ..เลโอ”  ผมขานเรียกอีกฝ่ายเสียงสั่น  แหม  ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะกู
“เมราเซีย  อย่าเป็นอะไรไปนะ  ข้ารักเจ้า”
“ข้า  ก็... รักท่าน  รัก”  ทันทีที่ผมพูดจบ  ร่างสูงก็กอดผมแน่น  น้ำตาชื้นสัมผัสแก้มผมเหมือนจริงจนน่าทึ่ง  เก่งจริงๆ  ตอนซ้อมยังไม่ได้เท่านี้  พี่ไปแอบเอายาหยอดตาหยอดไว้ก่อนรึเปล่าเนี่ย  แม่ง  เนียนว่ะ
“เจ้าสาวของข้า  เจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไป”
ฉากนี้เป็นฉากสุดท้ายของสงครามที่แลกมาด้วยชีวิตของผู้คน  สงครามที่ต้องเสียสละส่วนน้อยเพื่อส่วนใหญ่  แม้คนๆ นั้นจะเป็นคนที่เขารักยิ่งกว่าชีวิต  ผมหลับตารอรับสัมผัสจุมพิตที่หน้าผากตามที่ซ้อมมา (ที่จริงก็ซ้อมแบบเฉียดๆ มาตลอดครับ  จะได้ลองของจริงก็คราวนี้แหละ  พูดเหมือนอยากนะมึง)  ทว่าสัมผัสชื้นกลับเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก!!!  วินาทีที่ผมเกือบจะหยุดหายใจไปจริงๆ  เฮ้ย!!  นี่มันนอกบทนะเว้ยพี่  พี่มองปากผมเป็นหน้าผากไปได้ยังไง  หรือว่าปากผมมันเรียบลื่นแนบสนิทไปกับเนื้อ?  จะบ้าเรอะ    จะดิ้นหนีก็ไม่ได้  จะลืมตาก็ไม่ได้จึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายจูบต่อไป  บดขยี้เร่าร้อน  นานกว่าจะยอมปล่อย  จูบร้อนไล่ไปตามแก้ม  เปลือกตาและจบลงที่หน้าผาก  หาเจอแล้วเรอะ  หน้าผากผมเนี่ย

“เมราเซีย  ที่รักของข้า”  ประโยคสุดท้ายจบลงที่ริมฝีปากอีกครั้งพร้อมกับนักร้องคอรัสเปล่งเสียงเพลง   When you believe
Many nights we've prayed
With no proof anyone could hear
In our hearts a hopeful song
We barely understood

Now we are not afraid
Although we know there's much to fear
We were moving mountains long
Before we knew we could


There can be miracles, when you believe
Though hope is frail, it's hard to kill
Who knows what miracles you can achieve
When you believe, somehow you will
You will when you believe



ขณะที่คนดูต่างปรบมือชื่นชมกันดังลั่นหอประชุมกลับมีคนหนึ่งที่นั่งกัดฟันกรอดอย่างสะกดกลั้นอารมณ์   สองมือของเขาจับที่วางแขนแน่นกลัวจะห้ามตัวเองไม่ให้กระโดดขึ้นไปกระชากคนสองบนเวทีออกจากกันไม่ได้  ไฟค่อยๆหรี่ลงจนปิดม่านการแสดง




TBC  จ้า

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1



จิ้มก่อนแล้วค่อยอ่าน :impress2:

l0nely4ever

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วววววว


ย่ะ ยาว ได้ จาย~~

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮะๆๆๆ ยาวได้ใจ
ไนท์อดทนไว้ลูก
อย่าเพิ่งทำไรรุนแรงนะ
แล้วก็อย่าไปลงที่เวย์มันด้วย
มันไม่ได้รู้เรื่องไรนะ
พี่นัทมันทำเองงงงง

ขอบคุณคนเขียนจ้า

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4
สุดไม้สอย  = สุดยอดเลย

xiiiNG

  • บุคคลทั่วไป
5 55 5

อิจฉาาเวย์ เนอะ เนอะ ^^

melon_jung

  • บุคคลทั่วไป
-->ให้เวย์
แด่มนุษย์ตัวน้อยผู้อาภัพที่นั่งอยู่ในมุมมืดมีแค่เพียงแสงสปอร์ตไลท์ส่อง...อิอิ

เอ่อ..แต่พี่หมอค่ะ...ดูเหมือนพี่หมอจะทำให้เวย์งานเข้าหลังละครจบแน่แล้วหล่ะค่ะ
เล่นตั้งใจจูบพลาดจากหน้าผากเป็นปากซะง้าน....ไนท์คงมะยอมง่ายๆหรอก...เหอๆๆ

bakabong

  • บุคคลทั่วไป
พี่หมอถูกบังคับ ใช่มั้ย

รักพี่หมอเสมอ อิอิ :-[

เด๋วโดนคนแถวนี้  :beat:  :z6:  :z13:

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ไอพี่หมอโนนนนนนนนนนนนนนน
 :fire:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด