พิมพ์หน้านี้ - Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 00:38:32

หัวข้อ: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 00:38:32
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
+++++++++++++


คือว่าเพิ่งลงเป็นครั้งแรก  หลังจากติดตามอ่านของคนอื่นมานาน  
ฝากติดตามด้วยนะคะ  เอ่อ เป็นเรื่องของเพื่อนรักเราสองคนค่า  เห็นน่ารักดีเลยขอแอบมาลงนิดนึง
ไอ้พวกปากแข็ง  แต่ชอบเก็กหลุดเนี่ย  เราว่ามันน่ารักดี  ขอแทนตัวเองว่าไวท์แล้วกันนะคะ  ฝากด้วยค่า


มาแก้ประเภทแล้วนะคะ ตามที่พี่ (เจ๊สอง) ได้แนะนำไว้  เรื่องจริงที่เอามาเสริมแต่ง หรือ  เรื่องแต่งที่อิงมาจากความจริง ไวท์ก็เลยตัดปัญหาโดยการเปลี่ยนเป็นประเภทนิยายอ่าค่ะ  เพราะไม่รู้ว่าจัดไว้หมวดไหนดี  แต่ไหนๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่มาจากประสบการณ์ของไวท์  ไวท์ก็เลยไม่อยากเรียกว่าเรื่องเล่า  เอาเป็นว่า เป็นนิยายเป็นแล้วกัน  เพื่อความปลอดภัย  ฮ่าๆขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้คำกำลังใจน้องใหม่นะคะ  ^^  รักเล้า   :o8:





บทที่ 1 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ (ชื่อตอนเอ้าท์จริงๆ เลยกรู)



....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นขัดจังหวะการนอนฝันหวานของผม  แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดรำคาญแต่อย่างใด  ในเมื่อไอ้คนที่โทรมาน่ะคือคนที่ผมลุ้นให้มันมาจีบผมอยู่ทุกวัน  ฮ่าๆ  แต่แน่นอนครับ  ถ้าวันไหนมันลุกมาจีบผมขึ้นมาจริงๆ วันนั้นพวกเราคงย้ายไปอยู่บนดาวอังคารกันเรียบร้อยแล้วล่ะ
 
“ว่าไงวะ”  ผมส่งเสียงหล่อๆแฝงแววเบื่อหน่าย(ที่แกล้งทำ)เอาไว้นิดๆ
“อะไรของมึงวะ  กูอุตส่าห์จะพาไปเที่ยว  มึงเสือกทำเสียงเบื่อกูงี้หรอวะ”  เสียงทุ้มนุ่มหูตอบกลับมาทางสายโทรศัพท์  งอแงเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่มีผิด
“อรุณสวัสดิ์คร้าบบ   คุณชาย  อยากให้ผมไปไหนเป็นเพื่อนครับ”  ผมก็หยอดมันกลับไปบ้าง   ปลายทางหัวเราะเล็กน้อย  ก่อนจะตอบกลับมาว่า
“เอาน่า  ไปอาบน้ำป่ะ  อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
 
ผมลุกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ที่คาดว่าจะเป็นวันดีๆของผม  เพราะไอ้คุณชายมันอุตส่าห์โทรมาปลุกตั้งแต่ยังไม่สิบโมง  ทั้งๆที่ปกติแล้วตัวมันเองไม่เคยตื่นก่อนเที่ยงด้วยซ้ำในวันหยุดอย่างนี้  ผมมองดูตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ในห้องน้ำ  ใบหน้าคมคายติดจะหวานเมื่อเผยรอยยิ้มร่าเริงจนเห็นเขี้ยวเล็กๆทั้งสองข้าง  และรอยบุ๋มที่แก้มข้างขวา  ผมสีน้ำตาลอ่อนซอยรับกับรูปหน้าไล่มาถึงต้นคอ  ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่จ้องกลับมายังคงสะลึมสะลืออยู่ไม่น้อย  แต่มันก็แฝงรอยตื่นเต้นไว้จางๆ  จมูกโด่งและริมฝีปากบางชมพูดูเป็นธรรมชาติ  อืม!!  หล่อไม่ใช่เล่นนี่หว่าเรา  ฮ่าๆ
 
 
“แม่คร้าบ  มีอะไรกินมั่ง” ผมพาร่างในชุดเสื้อยืดบางๆกับกางเกงยีนส์สีซีดตัวเก่งมาถึงห้องครัว  ก่อนจะกอดร่างของคนที่ผมรักยิ่งกว่าชีวิตไว้ในอ้อมแขน  แล้วหอมที่แก้มนวลนั้นอย่างเอาใจ
“อารมณ์ดีอะไรแต่เช้าหึ  ตาเวย์”  แม่..ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลกหันมาถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น  ฮ่าๆ  แต่เรื่องที่แม่ถามผมคงจะตอบไม่ได้หรอกนะครับ  ว่าลูกชายแม่น่ะกำลังจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชายที่มันแอบชอบมาตั้งสามปี

ใช่ครับ  ผมแอบชอบเพื่อนสนิทมาสามปีแล้ว  แถมมันก็ยังเป็นผู้ชายเหมือนผมซะด้วย  คิดๆ แล้วก็อดสมเพชตัวเองไม่ได้  อยู่ใกล้แต่เหมือนไกลจริงๆ  แม่งง  เน่าตัวเองโว้ยย   ทำไมผู้ชายหล่อๆ อย่างผมต้องมาชอบผู้ชายด้วยกันวะเนี่ย  หรือว่าคนบนฟ้าเกิดนึกอิจฉาผมที่เกิดมาหล่อเกินไป  ถึงได้ทำให้ผมไปตาบอดหลงรักไอ้เวรนั่น  หมดกัน  ชีวิตหนุ่มหล่อของผม
 
“เป็นอะไรไปลูก  ทำหน้าเศร้าเชียว  มาๆ มากินข้าวกับแม่”  ใบหน้าใจดีส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้  ถึงแม่จะไม่ใช่แม่แท้ๆของผม  แต่ผมก็รักแม่นะครับ
“ไม่ล่ะครับ  เดี๋ยวต้องออกไปกับไอ้ไนท์”  เหอๆ  ไอ้เอี้ยไนท์เนี่ยล่ะครับ  จำชื่อมันไว้  มันคือไอ้เลวที่มาทำลายชีวิตหนุ่มโสดอย่างผม  เหอๆ  โทษทีว่ะ เพื่อน  พอดีกูชอบโยนขี้ให้ห่างตัวว่ะ
“แหม  ที่แท้อารมณ์ดีที่ได้ออกไปเที่ยวนี่เอง  หึหึ”  อ้าว  รู้ทันอีกนะครับแม่  ว่าแต่นี่มันก็เลยครึ่งชั่วโมงมานานแล้วนะ  ทำไมไอ้ไนท์ยังไม่โผล่หัวมาซะทีวะ   แม่ง  มึงนะมึง  โทรมาปลุกกูเสือกมาสายซะเอง   เดี๋ยวมาเมื่อไรพ่อจะด่าไม่เลี้ยงเลย   เหอๆ  บ่นไปงั้นเองแหล่ะครับ  ถ้าด่ามันแล้วมันไม่ชวนมาอีก  ผมก็ซวยดิ  เหอๆ   เรื่องอะไรจะทำลายโอกาสตัวเองล่ะครับ  ( สามปีแล้วยังไม่เลิกหวังอีกนะกู)
 

‘ปิ้นๆ’  เสียงแตรรถดังขึ้นหน้าบ้านทำให้ผมลุกขึ้นจากโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยความกระตือรือร้น   ไม่อาจเก็บซ่อนอาการยิ้มกว้างไว้ได้
“แม่  ไอ้ไนท์มาแล้ว  ผมไปนะครับ”  ผมตะโกนบอกแม่ด้วยเสียงร่าเริงก่อนจะรีบรุดไปหน้าบ้าน  สิ่งแรกที่ผมเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาแฝงแววกวนทีนอยู่เสมอ  จมูกโด่ง  ริมฝีบางบางอมยิ้มน้อยๆ  และเส้นผมดำสนิทที่ยาวระต้นคอ

“โทษทีว่ะ  พอดีรถติด”    แหม  ข้อแก้ตัวยอดฮิตสำหรับคนมาสายเลยนะมึง  
“ไม่ใช่มาสายเพราะผู้หญิงหรอวะ”  ผมก็แซวมันเล่นครับ  เรื่องปกติของมันที่จะต้องควงผู้หญิงสวยๆ ไม่ซ้ำหน้า   เหอๆ  แล้วไอ้เรื่องผู้หญิงของมันนี่ก็ทำให้ผมปวดหัวพอๆ กับปวดใจ
“อ้าว  เฮ้ย  มึงรู้ได้ไงเนี่ย  ไอ้เวย์  แม่ง  มึงโคตรแม่นเลยวะ”  อ้าว  สรุปเรื่องผู้หญิงจริงๆ ด้วยใช่ไหมวะเนี่ย  แม่งง  กูล่ะไม่น่าหาเรื่องถามมันให้เจ็บใจตัวเองเล้ย

“อ่ะ  อะไรของมึงวะ”  

“ก็น้อง....”  ไอ้ไนท์มันกำลังจะอธิบายอะไรสักอย่างด้วยสีหน้าเซ็งๆ  ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน


“พี่ไนท์คะ?  จะไปได้รึยัง”   โอ้!  ชัดเลยครับว่าอะไร  น้องแนน  แฟนคนล่าสุดของไอ้ไนท์มัน  ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน  ใบหน้างามถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ  ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงใจเต้นตาลอยไปกับความสวยของเจ้าหล่อน  แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้  ในเมื่อน้องเขาเป็นศัตรูหัวใจผมนี่ครับ    แม่ง  ไอ้เวย์มึง  ยังงี้เขาไม่เรียกศัตรูเว้ย  เพราะน้องเขาชนะน็อกมึงไปแล้ว
“อ่ะครับ    เฮ้ย!  เป็นไรวะมึง  หน้าซีดๆ  ไม่สบายป่าววะ?”  เสียงไอ้ไนท์ปลุกผมจากห้วงความคิด  กูจะเป็นอะไรล่ะไอ้เอี้ย  แม่งมาหลอกให้กูดีใจ   มึงจะไปเดทกันแล้วจะชวนกูทำไมวะ

“ป่าว”  ผมตอบมันไปด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์  สะกดกลั้นความรู้สึกแย่ๆที่ควรจะชินได้แล้วของตัวเองเอาไว้
“แน่ใจนะ?”  ไอ้ไนท์ถามย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นห่วง  เฮ้อ!  เอาวะกู  ตายเป็นตาย  ไหนๆก็แต่งตัวมาซะหล่อแล้ว  ไปก็ไปวะ

“เออ  จะไปรึยังวะ  น้องเขารอแล้ว”  ผมพูดจบก็เดินผ่านหน้ามันไปขึ้นรถสปอร์ตของมันทันที  แน่นอนว่าผมต้องนั่งข้างหลัง  เหอๆ  รถสปอร์ตมันก็ต้องเอามาเอาใจหญิงอยู่แล้วสิวะ  แถมมีสาวมาด้วยอย่างนี้  ได้นั่งข้างหลังก็ดีถมเถไปแล้ว  ไอ้เวย์  เมื่อไรมึงจะเลิกเป็นแบบนี้ซะทีวะ  มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะรอมึงอยู่  ทำไมมึงไม่สนใจ  ไอ้โง่เอ๊ย
 


“ไอ้เวย์  ใครบอกให้มึงไปนั่งข้างหลัง”  เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูผม  เมื่อลืมตามองก็ต้องตกใจที่ไอ้ไนท์มันเปิดประตูยื่นหน้าเข้ามาในระยะเผาขน  ไอ้สาด  นี่ถ้ากูเป็นศูนย์หน้านะมึง  ระยะแค่นี้กูยิงเข้าไปแล้ว  เฮ้ย  ไม่เกี่ยวกันเว้ย  สงสัยผมจะตกใจจนเบลอแฮะ
“พูดอะไรของมึง?”  ผมถามมันด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ  ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  แต่เป็นใจผมเองเนี่ยแหละ  ที่ตัดมันไม่ได้ซะที
“ไปนั่งข้างหน้ากับกู”  มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง   เวรแท้เนอะมึง  ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าวะ  หรือวันนี้อากาศมันร้อน  ไอ้ไนท์มันถึงทำตัวไร้สาระอย่างนี้  มีอย่างที่ไหนมากับแฟน  เสือกจะให้เพื่อนไปนั่งข้างหน้า   ไอ้เท่าที่ไปเดทแล้วลากผมไปนี่มันก็แย่พออยู่แล้ว   ไอ้เวรไนท์มึงจะแกล้งกูหรือไงวะ  น้องแนนของมึงเขาจะกินหัวกูเข้าไปอยู่แล้ว
“มึงจะบ้าหรือไง  มึงก็นั่งข้างหน้ากับน้องเขาสิวะ  ไปเลยไป  กูจะนอน”  ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนที่เบาะหลังแสนนุ่มสบายของมันทันที  ก่อนที่มันจะทันได้เถียงอะไร  เรื่องอะไรจะเอาชีวิตไปเสี่ยงล่ะครับ    รู้ๆ กันอยู่ครับว่าความหึงหวงของผู้หญิงน่ะ  มันน่ากลัวขนาดไหน  ถึงเธอจะไม่รู้ว่าผมคิดจะแทงข้างหลังเพื่อนสนิทก็เหอะ   ผมได้ยินมันถอนหายใจฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ  แต่ก็ยอมขับรถออกไปโดยดี
 
ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่รถจอด  ผมไม่ได้หลับหรอกครับ  รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ  แต่ที่ต้องทำเป็นนอนหลับน่ะ  ก็เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจที่น้องแนนเขาจะป้อนน้ำป้อนขนมเอาใจแฟนเขา   แต่ถึงปิดตา  หูผมก็ไม่ได้หนวก  ยิ่งคุณเธอพูดดังซะขนาดนั้น  ใครไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว
 
เบื้องหน้าผมคือสวนสนุก!!  สถานที่สุดท้ายที่ผมคิดว่าไอ้เวรไนท์จะมา  เหอๆ  ดูท่าน้องคนนี้คงสำคัญกับมันมากเลยล่ะครับ  มันถึงได้ตามใจกันขนาดนี้   ขนาดผมเคยชวนมันนะ  มันยังไม่ยอมมาเลย  โอ๊ย  เจ็บโว้ยย  แสลงใจว่ะแม่ง
“เป็นไงมั่งวะ”  เสียงไอ้ไนท์ดังขึ้นข้างตัวผม  ทำให้ผมละสายตาจากบรรดาเครื่องเล่นและผู้คนไปมองหน้ามัน   ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นผมทำหน้าแบบไหน  รู้แต่ว่าไอ้ไนท์มันทำหน้าเครียดขึ้นทันทีที่มันเห็นหน้าผม
“กูไม่ได้เป็นอะไร  ไปๆ เข้าไปเล่นกันได้แล้ว”  ผมรีบจัดแจงดันหลังตัวมันและน้องแนนให้เดินไปข้างหน้า  แล้วรีบหันหลังจะชิ่งหนีไปนั่งจิบกาแฟในร้านใกล้ๆทางออก  เผื่อบางทีผมอาจจะชิ่งกลับบ้านเลยก็ได้  ที่จริงกูก็อยากไปเล่นกับมึงนะแต่ตอนนี้ขอกูไปทำใจก่อนนะเพื่อน  ถึงกูจะรู้ว่ามึงเจ้าชู้  เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ  แต่พอรู้ว่าน้องแนนเขาสำคัญกว่าแฟนคนก่อนๆ ของมึง  ไม่รู้ทำไมใจกูมันแปล๊บๆ พิกล
 

“นั่นมึงจะไปไหน”  มันถามเสียงเข้ม  สะบัดมือออกจากน้องแนน  แล้วเดินเข้ามาหาผม  เหอๆ  ไม่ต้องสนกูก็ได้  กูยังไม่อยากเห็นหน้ามึงโว้ย
“กูจะไปนั่งแดกกาแฟรอมึงที่ร้านโน้นอ่ะ  เล่นเสร็จแล้วค่อยมาตามกูแล้วกัน”  ผมบอกมันอย่างหน่ายๆ  ไปซะทีสิวะ  แม่งง
“ทำไมวะ  ไหนวันนั้นมึงบอกกูว่าอยากมาเล่น  พอกูพามามึงเสือกไม่อยากเล่นขึ้นมาอีก”  มันพูดเสียงดังขึ้น  เหมือนคนโมโห  ไม่พอใจอะไรสักอย่าง  อะไรของมันวะ  คนอุตส่าห์เปิดทางให้อยู่ด้วยกัน  ยังมาโมโหกูอีก  เฮ้อ  เหนื่อยเว้ย  แต่เดี๋ยว!!  มันบอกว่าพาผมมาเล่น?
“มึงจำได้?”  ผมถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร  มันเนี่ยนะจะพาผมมาเล่นที่นี่  ตอนนั้นมันยังบอกว่าผมปัญญาอ่อน  เรียนอยู่ตั้งปีสามแล้ว  ยังอยากมาสวนสนุกอยู่อีก
“เออ  ทุกเรื่องของมึงน่ะ  กูจำได้หมดแหล่ะ”  ประโยคที่มันพูดออกมาทำให้หัวใจผมพองโต  ผมเกือบจะยิ้มออกมาอยู่แล้ว  ถ้ามันไม่พูดต่อไปว่า
“...ก็มึงเป็นเพื่อนสนิทกูนี่”  เท่านั้นล่ะครับ  หัวใจผมแฟ่บลงทันที  เหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลม  เหอๆ  โทษทีว่ะ  กูก็ลืมตัวไป  เสือกมาสำคัญตัวเองผิดอีก




------------------------------------------

พอใช้ได้รึเปล่าก็ไม่รู้  แต่จะพยายามเขียนให้ดีขึ้นค่ะ   :bye2:




***เิข้ามาแก้หัวเรื่องเฉยคะ***
หัวข้อ: Re: Wait! หรือ เมิง จะ เล
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-04-2009 00:44:13
 :mc4:
ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่คะ

ในเมื่อไอ้คนที่โทรมาน่ะคือคนที่ผมลุ้นให้มันมาจีบผมอยู่ทุกวัน
>> ประโยคนี้ฮามาก รอให้มาจีบ แต่ถ้าช้าก็ปล้ำเลยนะคะ

คนเรามาเที่ยวกับแฟนยังชวนเพื่อนมาอีก ทำไมไม่นัดเป็นคนๆไปนะ ไนท์หนิน่าตีจัง

สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 10-04-2009 00:55:49
เย้ เย้  ตอนรับเรื่องใหม่  ...  มีเรื่องสนุก ๆ มาให้อ่านอีกแว้ววว

เขียนได้ดีทีเดียว น่าอ่านครับ  ... บวก 1 เป็นกำลังใจให้

รอตอนต่อไปน้า  ...  ขอบคุณนะครับ^_^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 10-04-2009 01:05:07
ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคน  :mc4:

อืม ไปเที่ยวกับแฟน แต่แคร์เพื่อนยิ่งกว่าอีก

แล้วแบบนี้จะให้ทั้งแฟนทั้งเพื่อนคิดยังไง  :z2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 01:09:28
ขอบคุณสำหรับทุกรีไพนะคะ

ที่นี่อบอุานจริงๆค่ะ

มีอะไรช่วยแนะนำด้วยนะคะ  แบบว่าโง่คอมมากๆ

เอ่อ  แล้วก็เพิ่งรุ้อ่าค่ะว่าต้องแยกประเภทด้วย  แล้วจะกลับไปแก้ยังไงอ่าคะ  งงอย่างแรง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 10-04-2009 01:16:01
เอ่อ  แล้วก็เพิ่งรุ้อ่าค่ะว่าต้องแยกประเภทด้วย  แล้วจะกลับไปแก้ยังไงอ่าคะ  งงอย่างแรง

คุณไวท์ ไปที่ความเห็นแรกของคุณนะครับ คลิก modify ด้านขวามือบน  แล้วเข้าไปแก้ไขที่ subject น่ะครับ  ... ได้เปล่าหว่า ไม่เคยแก้ด้วย 555++  แต่น่าจะได้ ลองดูนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 01:18:28
ได้แล้วค่า  ขอบคุณมากๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 10-04-2009 01:30:11
มารอดูว่าเมื่อไหร่เพื่อนจะได้เล่นเพื่อนซะที   :z1:

จิ้ม+ เป็นกำลังใจมาต่อบ่อยๆ นะจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: reden ที่ 10-04-2009 01:48:12
โอ่ว อยากจะบอกว่าเรื่องย่อคร่าวๆเนี่ย มันกระแทกใจมากๆฮะ ไอ้รักเค้ามาสามปีเนี่ยอะ (ก็เคยทำมาแล้วนี่นะ..กรำ คิดแล้วสงสารตัวเองชิบ) :เฮ้อ:
แล้วก็ไอฉากป้อนน้ำป้อนขนมแล้วเรานั่งเบาะหลัง....โอ๊ยยยย พระเจ้า หยั่งกะกรอเทปกลับไปอีกรอบเลย เศร้าและเซ็งชีวิต(ในตอนนั้นขึ้นมาทันที) :z3:

ตามอ่านอยู่นะ ... ยินดีๆ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 10-04-2009 01:59:19

ตั้งแต่รีอันนี้ขึ้นไป รับไปคนละ ๑+ ฐานที่เม้นต์ได้น่ารักกันทุกคนเลย
ส่วนเจ้าของเรื่องรับไป +๑ เช่นกัน กระตุ้นกำลังใจ คิกคิก

แต่มีขอเตือนไว้นิดนึงนะว่า 
เรื่องราวที่เป็นประเภท เรื่องเล่า นั้นจะต้องเป็นเรื่องที่อิงความจริงและแต่งเสริมเพียงบางส่วนเพื่ออรรถรสเท่านั้น 
หากแต่งมาก(เกิน ๘๐%)ก็ควรระบุว่าเป็นนิยายดีกว่า (ซึ่งพี่ก็ไม่ทราบเนอะ ว่าเรื่องของน้องมันเป็นประเภทไหนแน่)
แต่เท่าที่อ่านมา  มันเป็นเรื่องของเพื่อนน้องใช่ไหม  น้องอาจจะเอาเรื่องของเพื่อนมาเล่า ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล่าได้
แต่ถ้าน้องแต่งเสริมไปด้วย (และค่อนข้างมากเอาการอยู่)
ก็ระบุเอาไว้ในเม้นต์แรกที่แนะนำตัวผู้แต่งของเรื่องว่าเป็นเรื่องเล่าที่อิงจากเรื่องจริงก็น่าจะดี

เพราะว่า เล้าฯ ไม่มีนโยบายที่จะให้มีการหลอกลวงเกิดขึ้นอีก
เนื่องจากที่ผ่านมา  มีนักเขียนหลายต่อหลายคนที่ระบุว่าเรื่องราวของเขานั้นเป็นเรื่องเล่า(= เรื่องจริง)
แต่สุดท้าย...มันก็กลายร่าง เป็นเพียงแค่เรื่องแต่ง
และในที่สุดมันก็โดนลบออกไปจากเล้าฯ อย่างน่าเสียดาย(ในความรู้สึกของพี่  แต่พี่ก็ต้องทำ)

ดังนั้นพี่จึงเตือนน้องคนเขียนเอาไว้ก่อนเลยนะคะ  ว่าให้คิดดีๆ ก่อนระบุประเภทของเรื่อง
จะระบุเอาไว้เสียหน่อยในเม้นต์แรกของกระทู้  ก็ไม่น่าจะเสียอรรถรสอะไรมากมายเนอะว่ามันเป็นเรื่องทำนองไหน
เพราะในเล้าฯ เนี้ยมีผู้อ่านที่ชอบสืบค้นมากมาย
พี่ก็กลัวว่าจะเสียความรู้สึกกันไปเปล่าๆ เมื่อเรื่องมันไม่เป็นไปอย่างที่คิด
แล้วพี่ก็จะได้ไม่ต้องมาลบเรื่องของน้องออกไปอีกเรื่องหนึ่ง
เข้าใจพี่เนาะ

เจ้สอง กะเทยสวยไม่แคร์สื่อ  อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่า] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: k[1mE]:D ที่ 10-04-2009 02:12:21
มาเม้นให้เรยค่ะ  เป็นอีกเรื่องที่น่าติดตามมากเรยค่ะ

เพื่อนรักเพื่อนนนน  ประเด่นท๊อปฮิตเสมอ

รอลุ้นค่ะ  ว่าเพื่อนสนิทจะกลายมาเป้นแฟนได้ไม๊

เรื่องจะเป็นอย่างไร
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 10-04-2009 02:32:01
 :z13: +1 ให้กำลังใจคนแต่งค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 10-04-2009 02:49:31
 :z2: :z2: :z2: :z2:
+1 ให้คนเขียนนะคราบเจิมเรื่องใหม่
อ่านแล้วแบบว่า นี่หละชีวิตฮุๆ
มันต้องเจอกันบ้างแอบรักมาสามปี เฮ้อ
พออ่านมาเรื่อยๆจนถึงท้ายๆตอน หัวใจแฟบตามคำพูดของ ไนท์เลยอะ
ก็มึงเพื่อนสนิทกูนี่หว่า เคยเจอมาเหมือนกันแบบแอบรักเพื่อนอะ  :เฮ้อ:
ของนิวอะสุดท้ายก็เจ็บ เศร้าจังเวลานึกถึง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 10-04-2009 03:04:00
กะ กะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

มายก๊อดดดดดด

เรื่องที่เหมือนั่งชีวิตนู๋ มันมีขึ้นมาแล้ววววว


แต่ต่างแค่ที่ นู๋เป็นผู้หญิง แล้วอีเพื่อนเจือกเป็นเกน์


กิ๊ส ๆ ๆ  ๆ


จะรออ่านต่อไปนะคะ


ช๊อบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 10-04-2009 04:03:39
ด้วยคนๆๆๆ
อิอิ
คนโสด
อยากเม้น
หุหุ :mc4:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 10-04-2009 06:01:31
น่าลุ้นดีครับ เอาใจช่วยน้องเวย์
ไนท์นีชอบเวย์แต่ไม่กล้ายอมรับ เลยเอาแฟนเป็นไม้กันหมาเรอะ มันน่า...นัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 10-04-2009 08:26:00
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

เย้ เย้ เรื่องใหม่

เข้ามาให้กำลังใจค่ะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 10-04-2009 08:42:59
เจิมๆๆๆ เรื่องน่ารักดีอ่ะ น่าจะสนุกนะ :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 10-04-2009 09:11:02
ท่าทางเพื่อนสนิทคิดตรงกันแต่ปากแข็งทั้งคู่นะเนี่ย น่ารักดีค่ะต้องรอดูว่าใครจะทนไม่ไหวเปิดเผยใจก่อนกัน


เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 10-04-2009 09:28:56
ทำไมตูอินจังเลยฟะเนี่ย  - -*  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: golly* ที่ 10-04-2009 14:50:22
อร๊ายยยๆๆ
แค่เห็นชื่อเรื่องก็รีบจิ้มเข้ามาอย่างรวดเร็วทันที  เข้ามาต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคนค่ะ  :L2:
(ความจริงตั้งใจจะมาบอกว่า เค้าเป็นแควนเรื่องนี้จากเด็กดี  :o8:)
ชอบมากเลยอ้ะ!  เรื่องนี้เนี่ยย.. แอบหลงรักไนท์  ชอบปู้จายเย็นชา  :jul3:
จะเข้ามาจิ้มๆ ดันๆ บ่อยๆนะคะ  สัญญาๆ
เป็นกำลังใจให้คร่า..
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 16:33:08
ตอนที่ 1 (ต่อ)



“พี่ไนท์คะ  จะไปได้รึยังคะ  ตรงนี้มันร้อนนะ”  น้องแนนหน้าบึ้งมาเลยครับ  เธอจับแขนไอ้ไนท์ไว้  แล้วเริ่มลากมันไป  เหอๆ  ดีจริงวุ้ย  ผู้หญิงสมัยนี้  ผมเห็นไอ้ไนท์มันขืนตัวไว้  และกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง  ผมจึงรีบเอ่ยปากดักคอมันไว้


“มึงไปเหอะ  เดี๋ยวกูกินกาแฟเสร็จแล้วจะตามไป”  ว่าแล้วผมก็หันหลังเดินจากมาทันที 
 


ผมนั่งละเลียดกาแฟมอคค่ากับเค้กรสส้มของชอบของไอ้ไนท์มันอยู่  ตกใจตัวเองเหมือนกันที่สั่งสองอย่างนี้ไปทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากกินเลยสักนิด   หรือมันอาจจะเป็นความเคยชิน  เพราะทุกทีที่มากับมันผมจะเป็นคนสั่งโน่นสั่งนี่ให้มันกินเสมอ  ไอ้ไนท์มันก็กินง่าย  ผมสั่งอะไรให้มันก็ไม่เคยบ่น  แต่เค้กรสส้มกับกาแฟมอคค่าเนี่ย  มันเคยบอกว่าเป็นของโปรดมัน


คิดแล้วก็ตลกดีนะครับ  ที่ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็ยังคิดเรื่องของมันอยู่ตลอดเวลา  บางทีผมคงยึดติดมากเกินไป  บางทีผมควรเริ่มมองไปรอบข้างมากกว่าจะโฟกัสอยู่ที่มันคนเดียวได้แล้ว  ตั้งแต่เมื่อไรนะที่สายตาของผมหยุดอยู่ที่มัน  ตั้งแต่เมื่อไรที่มันกลายมาเป็นศูนย์กลางชีวิตของผม  หรือจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอมัน
 


‘โอ๊ยย  ซวยแล้วกรู  ซวยแล้ว’  ผมโอดครวญอยู่ในใจ  วันนี้เป็นวันแรกของการเป็นนักศึกษาของผม  ด้วยความรีบเกินพิกัด  ทำให้ผมลนลานจนลืมหยิบกระเป๋าสตางค์มา  แถมเพิ่งจะรู้ตัวตอนที่เดินมาถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วซะด้วย  ไอ้จะกลับไปเอามันก็ไม่ได้ไกลมาก  แต่เวลานี่สิเหลืออีกสิบห้านาทีก็จะเปิดประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่แล้ว  แม่งง  ลางไม่ดีตั้งแต่วันแรกเลยโว้ยย
 
“เฮ้!  นาย  เป็นอะไรรึเปล่า?”  ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวใส  และรอยยิ้มจริงใจของเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน  ที่สำคัญเขาใส่ชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับผม

“เอ่อ..คือว่า  เราลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา  แล้ว..เอ่อ..”  เอาไงดีวะกู  จะให้ขอยืมเขาหรอวะ  ไม่ดีมั้ง?  ยังไม่รู้จักกันเลยนี่หว่า  มันจะหาว่ากูหลอกเอาเงินมันรึเปล่าฟร่ะ  แม่งง  ใครจะกล้าไปขอวะ    ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่นั่น 

“อ่ะ”  เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยื่นบัตรบีทีเอสมาให้  พร้อมรอยยิ้มกวนๆ

“อ่ะ  เอ่อ” ผมก็ยังลังเล  ไม่ได้เกรงใจแล้วล่ะครับตอนนั้น  แต่ยังงงๆซะมากกว่า
“เอ้า  เอาไปดิ  เดี๋ยวสายนะเว้ย”  มันพูดจบก็ยัดบัตรใส่มือผมแล้วเดินเข้าช่องทางเข้าไป   เอาวะ  ไหนๆคนเขาก็อุตส่าห์มีน้ำใจ  จะไม่ใช้ก็เสียเงินฟรีดิ  ว่าแล้วผมก็เดินตามมันเข้าไป  ร่างสูงๆของมันยืนรอผมอยู่
“ขอบใจนะ”  ผมเอ่ยเสียงเบาขณะที่เดินเข้าไปใกล้มัน  ไม่ได้เขินมันหรอกครับ  แต่ไม่ค่อยได้พูดคำนี้กับใครเท่าไร  มันเลยตะหงิดๆในใจ
“ไม่เป็นไรเพื่อน  ว่าแต่นายเรียนอยู่คณะไรอ่ะ......” 
 


เราเดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงมหาลัย  แล้วก็สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว  ยิ่งรู้ว่าเรียนเศรษฐศาสตร์เหมือนกันยิ่งทำให้เรากลายเป็นเพื่อนสนิทกันมาจนถึงปัจจุบัน   เพื่อนสนิท...คำพูดเหมือนจะยืนยันความสำคัญที่ใครหลายคนต้องการ   แต่ไม่ใช่กับผม

 
“เฮ้!  นายๆ”    ฮ่ะๆ  แม้แต่ตอนนี้ผมยังรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงมันเรียกผม  เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน  โอ๊ยย  เมื่อไรจะเลิกบ้าซะทีวะ  มึงออกจะหล่อขนาดนี้  กลัวอะไร  ไปหาเอาข้างหน้าสิโว้ยย

“เฮ้  เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”   เสียงเรียกที่ดังขึ้นและแรงสะกิดที่ต้นแขนทำให้ผมตื่นจากภวังค์  หลังจากขจัดอาการเบลอๆ ออกไปได้แล้ว   ผมก็เห็นร่างสูงของใครบางคนที่ผมไม่รู้จัก  ใบหน้าคมเข้มน่ามอง  ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนเป็นภาพของผมที่นั่งอึ้งๆ และยังงงไม่หาย

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ  เห็นเหม่อๆ”  อ้าวว  กูเหม่อแล้วเกี่ยวอะไรกับมึงเนี่ย  แล้วมึงเป็นใครวะ  อยู่ดีๆ มานั่งโต๊ะกูได้ไงเนี่ย
“คือ..พอดีว่าโต๊ะมันเต็มหมดเลยนะครับ  ขอนั่งด้วยนะครับ”  แหนะ  รู้ใจกูอีกนะมึง  แต่ได้ข่าวว่ามึงนั่งไปแล้วไม่ใช่หรอวะ  จะมาขอกูทำด๋อยอะไรฟร่ะ
“อ่อ  ตามสบายครับ”  ถึงจะเคือง  แต่เราก็ต้องรักษามารยาทเอาไว้ครับ



“หน้าซีดๆนะครับ”   เออ  เลิกพูดเหมือนมันสักทีได้ไหมวะ  คนยิ่งอยากลืมๆอยู่  แม่ง
“อ่อ  ไม่ค่อยสบายนิดหน่อยนะครับ”  ผมบอกปัดๆ ไป
“อ้าว  หรอครับ  ลองเล่าอาการให้ผมฟังก็ได้นะ  พอดีว่าผมเป็นหมอ”  น้ำเสียงอบอุ่นจริงใจนั้น  ทำให้ผมต้องลอบถอนหายใจเฮือก  เลิกฟุ้งซ่านเรื่องไอ้ไนท์  และกลับมาสนใจสถานการณ์ตรงหน้าเสียที
“ไม่เป็นไรหรอกครับ  ขอบคุณมาก  ผมแค่เหนื่อยๆ”  ผมตอบพลางยิ้มขอบคุณในความเอาใจใส่คนอื่นของคนตรงหน้า  ไม่ว่าเขาจะทำด้วยใจหรือตามมารยาทก็ตามที
“งั้นหรือครับ”  เขาส่งสายตาห่วงใยมาให้  จนผมยังอดแปลกใจไม่ได้
“น่าแปลกนะครับ”  ผมเปรยขึ้นมา  พลางจ้องตาเขาตรงๆ
“...หืม? ครับ?”
“น่าแปลก  ตาคุณน่ะ  ดูอบอุ่นและห่วงใยคนอื่นน่ะครับ  หายาก”  ผมพูดออกไปตามตรง  ไม่รู้ทำไมผมถึงทำอย่างนั้น  ทั้งๆที่ปกติ  ผมแทบจะไม่เคยวุ่นวายกับใคร
“ฮ่าๆ  ขอบคุณครับ  คุณเป็นคนแรกที่พูดอย่างนี้  ผมชื่อนัท  คุณล่ะ”
“เวย์ครับ  ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ครับ  เช่นกัน”
แปลกนะครับที่คนอย่างผมสนิทกับใครเขาง่ายๆ อย่างนี้  เอาวะ  ช่างมันเหอะ  ก็ดีกว่าไปนั่งคิดอะไรไร้สาระแล้วกันน่า


   “เวย์  ยังเรียนอยู่ใช่ไหมครับ”  อ้าวว  ทำไมถามอย่างนั้นละครับเพ่
   “ทำไมครับ  หน้าผมดูเหมือนคนทำงานแล้วหรือครับ?”  ผมแกล้งขึ้นเสียงนิดๆ  เหมือนเคืองคำพูดของเขาอย่างมาก
   “เฮ้ย  ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ  คือ...ว่า...”  เห็นคนข้างหน้าอ้ำๆ อึ้งๆ ผมก็เลยหัวเราะก๊ากออกมาเต็มที่
   “ฮ่าๆ  คุณนี่ตลกดี  ฮ่าๆ  ผมเรียนอยู่ที่....  ปีสามแล้วครับ”  ผมเห็นเขาชะงักค้าง  แล้วทำหน้าอึ้งๆ  ก่อนที่ดวงหน้าหล่อเหลานั่นจะขึ้นสีจางๆ
   “อ่ะ  เอ่อ  คุณหัวเราะแล้ว  น่ารักดี”  ทันทีที่พูดจบ  ใบหน้าที่ผมมองอยู่ก็ขึ้นสียิ่งขึ้น  พลางยกมือเกาศีรษะแก้เก้อ    แม่งง  ไอ้ไนท์  จะเป็นไรไหมวะ  ถ้ากูจะนอกใจมึงนี่  ฮ่าๆ  ( พูดเหมือนกูเคยเข้าไปอยู่ในใจมันอย่างนั้นแหละ)
   “ผมน่ะมาดแมนขนาดนี้  ดันมาชมว่านักรัก  ผมจะดีใจดีไหมเนี่ย  ฮ่าๆ  เอ่อ  แล้วที่บอกว่าเป็นหมอ  เป็นหมอด้านไหนล่ะครับ”  เอาวะ  มึงไอ้เวย์   เป็นหมอเชียวนะมึง  เฮ้ย!!  สรุปนี่ผมกลายเป็นเกย์ไปจริงๆ แล้วหรอเนี่ย  ไม่ใช่มั้ง  ไม่ใช่เว้ยย   แค่รู้สึกดี  มึงจำไว้  ไอ้เวย์  มึงไม่ใช่เกย์  แค่ชอบเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายเท่านั้นเอง

   “อ๋อ  ที่จริงผมยังเรียนแพทย์อยู่น่ะ  ที่.....  ปีสี่แล้วครับ”
   “เฮ้ย  งั้นก็เรียนที่เดียวกันดิ”  พอผมพูดจบ  ไอ้พี่นัทมันก็ทำหน้างงๆ เอ๋อๆ  สรุปมึงแน่ใจนะว่า  มึงเรียนหมอเนี่ย  เหอๆ
 

   “งงอะไรพี่  ผมก็บอกพี่ไปแล้วอ่ะ   ว่าผมเรียนอยู่ปีสาม  ที่.....”
   “อ้าว  เหรอครับ  ผมไม่ทันได้ฟัง”  เวร  แล้วมึงมัวแต่ไปทำอะไรอยู่ครับ  ไอ้คุณนัท  ไอ้คุณหมอ  แม่งง  กูกะมึงอยู่ใกล้กันจนแทบจะแดกหัวกันได้อยู่แล้วเนี่ย   แต่ดีแล้ว  ที่กูได้รู้จักมึงก่อน  กูจะได้จำไว้  เวลากูป่วย  กูจะไม่ไปให้มึงรักษาเด็ดขาด  แม่งง   ไอ้หมอเอ๋อเอ๊ยย
 




   “ไอ้เวย์!!”  เสียงคุ้นเคยที่เรียกชื่อผมอย่างดัง  ทำให้ผมต้องละสายตาจากคนตรงหน้า  หันกลับไปมองที่ประตู  ก็เห็นไอ้ไนท์ยืนหอบอยู่ตรงนั้น  มันทำหน้าเครียดแล้วเดินมาหาผมที่นั่งอยู่ข้างหน้าต่างด้านในสุดของร้าน
   “อ้าว  เล่นเสร็จแล้วเหรอมึง”  ผมถามมันด้วยน้ำเสียงปกติของผม  ไม่มีความเหนื่อยหน่ายหรือไม่พอใจอยู่เลย  ฮ่าๆ  นี่ต้องขอบคุณไอ้คุณหมอคนนี้นะเนี่ย  ทำเอาผมหายเครียดไปเลย
   “ยัง”  มันตอบนิ่งอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก
   “อ้าว  แล้วน้องแนนอ่ะ  ไปไหนวะ”  ไปพาลูกเขามาแล้วเอาไปทิ้งไว้ไหนเนี่ยมึง  ไอ้เอี้ยไนท์  แม่ง  ไม่รู้พวกผู้หญิงทนเป็นแฟนมันได้ไง  ผมไม่เคยเห็นมันจะสนใจไยดีใครเท่าไรเลย
   “มึงไม่ต้องรู้  ออกไปกับกูได้แล้ว”  แหนะ  พูดซะคล้องจองเป็นกลอนเลยนะมึง   แต่ด้วยความที่เห็นสีหน้ากับท่าทางเหมือนโกรธใครมันสักล้านชาติ  ทำให้ผมไม่กล้าขัดใจมัน   ตามใจมันไปดีกว่าครับ  ยังไม่อยากเข้าโรงพยาบาลตอนนี้

   “เออ  ก็ได้วะ  พี่หมอ  ไปก่อนนะครับ”  ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นลาคนที่ทำให้ผมอารมณ์ดีด้วยรอยยิ้ม   ดูเหมือนเขาจะอึ้งๆ   ที่อยู่ๆ ผมก็ไปเรียกเขาว่าพี่หมออย่างสนิทสนม  ช่วยไม่ได้เว้ยย  เกิดมาด้านตั้งแต่เกิดว่ะ  ฮ่าๆ




   “แล้วเจอกันครับ  น้องเวย์”  ไม่ต้องยิ้มหวานให้กูก็ได้เว้ย  เดี๋ยวได้นอกใจไอ้ไนท์มันจริงๆ เนี่ย   บอกแล้วไง  ยังไม่ได้เข้าไปอยู่ในใจมันเลย  เออ  กูรู้  กูก็พยายามอยู่นี่ไง




มาต่อแล้วนะคะ  ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่มาให้กำลังใจ
สู้ๆ (--บอกตัวเอง  ฮ่าาๆ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: pvj ที่ 10-04-2009 18:09:02
ชอบๆ ต่อเร็วๆนะ คุณหมอก้อดีนะเนี่ย น่าสนๆ 555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 10-04-2009 18:19:44
 :z13: จึกเข้าให้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-04-2009 18:30:28
หึหึ คนใกล้รอตั้งนานไม่จีบเราซะที
เอาคนไกลนี่ล่ะ อิอิเป็นหมอซะด้วย พี่หมอนัทกับน้องเวย์ ฮิ้ววววววววว
ส่วนเจ้าไนท์ก็นะเอ็งจะเครียดไปไหน หวงเพื่อนแล้วไม่ห่วงแฟนตัวเองบ้างรึ

สู้ๆคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 10-04-2009 19:21:32
เปิดเรื่องตื่นเต้นดีจังเลยค่ะ

แบชอบชื่อเรื่องด้วย 555


รอคอยน้องเวย์ตอนต่อไป ><
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 10-04-2009 19:37:19
ว้าวๆๆๆๆ

พึ่งเห็นว่าเอามาลงในเล้าด้วย

เย่ๆ

มาให้กำลังใจคร้าบ

ตามมาจากเด็กดีจ้า

 :mc4:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 10-04-2009 19:44:36
เฮ้ยเวย์ อย่าเพิ่งปันใจเด่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 10-04-2009 19:45:09
เรียนที่เดียวกันอย่างนี้ อีกหน่อยคงได้เจอหน้าพี่หมอนัท ทุกวันแน่ ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 10-04-2009 20:08:05
 :z2:ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 10-04-2009 20:50:49
อุ๋ยน่ารักจังงงงงงเลยเวย์จ้า...+555

รีบมาต่อนะครับ...เริ่มเรื่องมานายเอกก็น่ารักเลยอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 10-04-2009 21:02:52

 o18

เหอๆๆ
หมอนัทนี่ เข้ามาได้จังหวะ เหอะ~


แต่เวลาเพื่อนเค้าจะ เล่นกัน  
หมอห้ามยุ่งนะคะ  (ยิ้มหวาน)
 :-[


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บวก 1 คนแต่งค่ะ  เรื่องน่ารักดี ^^


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mamagrils ที่ 10-04-2009 21:12:05
 :impress3:
            เป็นกำลังจัยค่า เคยอ่านที่เด็กดี น่ารักมั๊กมาก  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 10-04-2009 22:02:27
 :m20: :m20: มีคนเอามาลงเเล้ว o13  อ่านที่เด็กดีมานาน
เรื่องนี้สนุกๆ o13 มากๆๆ
 :กอด1:พี่เวย์ น่ารัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 10-04-2009 22:06:37
มอบแต้ม+ ที่ 9 คร้าบ
โอ...เรื่องนี้มาแรง
**********
ขอติดตามด้วยคนคร้าบบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 10-04-2009 22:22:37
 :กอด1:
เอาให้ถึงใจไปเรยสสสสสสส์

อิอิ
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 10-04-2009 23:22:54
โอ๊โอ แค่สองตอนเวย์ก็จะปันใจไปให้พี่หมอซะแล้วเหรอนี่  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-04-2009 23:59:34
บทที่ 2  กูไม่เล่น ( ไม่ได้ใช่มั้ย?)

ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามหลังไอ้ไนท์   เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลเข้มของมันสะบัดตามความเร็วในการเดินของเจ้าตัว   ตั้งแต่ออกจากร้านกาแฟมามันก็จ้ำอ้าวเดินไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของผม  ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง  เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ  มีแต่ผมที่คอยวิ่งตามมัน  เวลาที่ผมหยุดและตัดสินใจจะเลิกตาม  มันก็จะย้อนกลับมาหยิบยื่นความใจดีให้ผมหวั่นไหว  พอผมมีกำลังมากพอจะลุกขึ้นตามมันอีกครั้ง  มันก็ห่างออกไป  โดนไม่ได้สนใจผม

ในที่สุด  ผมจึงหยุดเดินและปล่อยให้สายตาไล่ตามแผ่นหลังกว้างนั้นไป  ให้ร่างของมันหดเล็กลงเรื่อยๆ   บางทีผมควรจะหยุดมานานแล้ว  ในเมื่อมันขีดความสัมพันธ์ระหว่างเราไว้แค่เพื่อนเสมอมา  บางทีผมควรจะหยุดแล้วมองคนอื่นบ้างได้แล้ว

“เฮ้ย!  หยุดทำไมวะ  ทำไมไม่ตามกูมา”  เสียงคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆ  ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง  ไอ้ไนท์ยืนทำหน้ายักษ์อยู่หน้าผม  ไอ้เอี้ยนี่สูงชิบหาย
“อ้าว  เงียบทำไม  กูตามว่าทำไมไม่ตามกูมา”  ไอ้ไนท์มันถามด้วยท่าทางจริงจัง   ไอ้ผมมันก็เป็นพวกไม่ชอบคิดมากซะด้วย   ไหนๆ ก็ตัดสินใจจะเลิกคิดเกินเลยกับมันแล้ว   เอาวะ  สู้ๆนะมึง  ไอ้เวย์  เพื่อนเว้ยเพื่อน  ท่องไว้ๆ 
“กูเหนื่อย  มึงอยากไปไหนก็ไปเหอะ  กูจะกลับบ้าน”  พูดจบผมก็หันหลังเตรียมจะจากไปทันที  แต่มือใหญ่ๆ คู่เดิมกลับรั้งผมไว้อีกครั้ง 

“มึงไม่สบาย?”  มันถามแล้วดึงตัวผมเข้าไปหา  สายตาแฝงความห่วงใยนั้นทอดมองมาชวนให้หวั่นไหว  แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้   มือนุ่มๆ ของมันยื่นมาสัมผัสหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา
“มีไข้หรอวะ  หน้าแดง”  ไอ้สาด  กูแดงเพราะมึงหรอก  ฮ่วย  แม่งตลกตัวเองชิบหาย  มึงไปหวังอะไรกับไอ้คนที่ไม่เคยรู้จักความรักอย่างไอ้ไนท์มัน  ตั้งแต่รู้จักกันมามึงเคยเห็นมันรักใครจริงๆไหม  ไอ้เวย์    เหอๆ  คิดได้ดังนั้นผมก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  ไม่รู้ทำไมตอนนี้ผมกลับรู้สึกดีที่ได้เป็นแค่เพื่อน  ถึงจะไม่ลึกซึ้งเท่าคนรัก  แต่ความสัมพันธ์มันยืดยาวกว่ากันเยอะ 

“ฮ่าๆ”  โล่งใจจริงโว้ย  กูก็โง่อยู่ได้ตั้งสามปี  เอาวะ  ได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ก็ดีแล้วนี่หว่า
“เป็นบ้าอะไรของมึงเนี่ย  อยู่ๆ ก็หัวเราะ”  ไอ้ไนท์มันเลิกคิ้วมองผมอย่างไม่เข้าใจ   อย่างงเลยว่ะเพื่อน  ขนาดกูยังไม่ค่อยเข้าใจตัวกูเองเลย   จะเป็นจะตายมาตั้งสามปี  นึกจะปล่อยก็ปล่อยง่ายๆ ซะงั้น  เฮ้อ! กูนี่
“ฮ่าๆ  ช่างกูเหอะน่า  คนอารมณ์ดี”  ผมยิ้มให้มัน  เป็นยิ้มที่ร่าเริง  ปลอดโปร่งที่สุดเท่าที่ผมเคยยิ้มให้มันมาในรอบสามปี
“อ๋อ  เพราะไอ้บ้านั่นสินะ”  ไอ้ไนท์พูดเสียงเครียด
“อะไรวะ”
“กูถามว่า  เพราะไอ้คนที่นั่งกินกาแฟกับมึงเมื่อกี้ใช่ไหม  มึงถึงได้อารมณ์ดีอย่างนี้”  เออ  จริงด้วยว่ะ   หรือว่าจะเป็นเพราะพี่หมอวะ  เราถึงได้อารมณ์เย็นขึ้นขนาดนี้  เพราะไอ้ท่าทางหรอหรานั่นรึเปล่านะ?    บ้าไปใหญ่แล้วกู   นี่ตกลงมึงจะเป็นเกย์เต็มขั้นแล้วใช่ไหมว้า  ไอ้คุณเวย์

“เออ  ไม่รู้ว่ะ”
“มึงว่าไงนะ!!”    แม่งงง   ไอ้คุณชายมึงจะตะคอกหาหอกมึงเรอะ 

“เสียงดังทำไมว้า   คนมองใหญ่แล้ว”   จะว่าไปก็เพิ่งสังเกตนี่ล่ะครับ  ว่าพวกผมสองคนเป็นจุดสนใจของผู้คนขนาดใหญ่  ผู้ชายหน้าตาดีสองคน  ยืนคุยกันกระหนุงกระหนิง  เฮ้ย!  ไม่ใช่แล้ว  ยืนเถียงกัน   เอ๊ะ!  แต่ก่อนหน้านั้น  ไอ้ไนท์มันเอามือมาแตะหน้าผากผมด้วยนี่หว่า  ซวยแล้วตรู   มากับมึงทีไรกูเสียภาพพจน์ทุกที

“ฮึ่ย!!”   ไอ้ไนท์มันฮัดฮัดเหมือนเคืองอะไรผม  จนผมอดถามไม่ได้
“มึงเป็นไรวะ  หรือว่า  อ๋อ  น้องแนนเขาทำไรวะ  แล้วนี่เขาหายไปไหนแล้วอ่ะ”  คนอย่างมันจะมีเรื่องอะไร  ถ้าไม่ใช่เรื่องผู้หญิง   พูดแล้วก็แปล๊บ  อ้าว  กูต้องเฉยสิฟร่ะ  อย่าไปสนใจโว้ย
“ไม่รู้โว้ย!!  มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง  ตกลงมึงอารมณ์ดีเพราะไอ้หมอนั่นใช่ไหม  ตอบกูมา”   ขอร้องเถอะคร้าบ  คุณชาย   อย่าแหกปากได้ไหมเนี่ย   กูอายคนเขาโว้ยย   ได้แต่บ่นครับ  สภาพนี้ต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ   ไม่งั้นมันจะยิ่งแรง  ผมยังรักชีวิตไม่อยากเจ็บตัว  แล้วจะตอบว่าไงดีวะกู  ตอบไม่รู้มันก็โมโห  ต้องตอบว่า ใช่  หรือ  ไม่ใช่  มันถึงจะพอใจวะ

“มึงเป็นเอี้ยไรเนี่ย  ทำอย่างกับหึงกู  ฮ่าๆ”  เอาเป็นว่าเลี่ยงไม่ตอบดีที่สุดครับ  ฉลาดจริงโว้ยกู  ฮ่าๆ   หล่อแล้วยังเสือกฉลาดอีกนะมึง  ไอ้เวย์
“มึงจะบ้าหรือไง  กูจะไปหึงมึงได้ไงวะ  ไอ้สาด”   เออ  กูรู้แล้ว  กูก็แกล้งมึงเล่นเฉยๆ  ไม่ต้องย้ำให้กูช้ำได้ไหมมึง  เหอๆ   สรุปผมแกล้งมันหรือแกล้งตัวเองอยู่กันแน่วะ
“ฮ่าๆ  กูหยอกเล่นน่ะ  ขำๆ”
“แต่กูไม่ขำ”    มันพูดมาทำผมขำค้างเลยครับ  เป็นเอี้ยไรเนี่ย   วันนี้โมโหง่ายแท้ๆ

“แล้วสรุป  น้องแนนเขาไปไหนวะ”  เปลี่ยนเรื่องดีที่สุดครับ
“ไม่รู้โว้ย   มึงจะยุ่งอะไรนักหนาวะ?  มันไม่ใช่เรื่องของมึง”    คำพูดของมันทำให้ผมเจ็บดีแท้ๆ   ไอ้เราก็แค่เป็นห่วง  นี่แม้แต่เป็นห่วงก็ยังกลายเป็นวุ่นวายงั้นเหรอวะ  ฮ่าๆ  สมเพชตัวเองชิบหาย   ไหนมึงบอกว่าตัวเองฉลาดนักหนาไง   เรื่องแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้วะ  มึงทำตัววุ่นวายมากเกินไปแล้ว  ไอ้เวย์   เลิกยุ่งกับมันซะที

“เฮ้ย  เวย์   กูขอโทษ”  มันคงเห็นว่าผมเงียบไป  มันก็เลยพูดออกมา  แต่ที่จริงมันไม่จำเป็นต้องขอโทษผมหรอก   ผมต่างหากที่ต้องขอโทษและขอบคุณมันในเวลาเดียวกัน   ขอโทษที่ไปวุ่นวายกับมัน   และก็ขอบคุณที่มันช่วยเตือนสติผม
“ขอโทษทำไมวะ   กูเข้าใจ”  ผมพูดแล้วฝืนยิ้มให้มันทีหนึ่ง  ก๊ากก   มาดกูนี่   นางเอกยังอายเลยว่ะ  กร๊ากๆๆ  ยังมีอารมณ์มาทำตลกอีกนะกู

“เข้าใจ?  เข้าใจเอี้ยอะไร    วันนี้กูตั้งใจจะพามึงมาเที่ยวก่อนเปิดเรียน   แต่อยู่ๆ น้องแนนเขาก็โผล่มาที่รถเฉยเลย  กูก็ไม่รู้จะทำยังไง  ก็เลยต้องพามาด้วย  แล้วมึงไอ้เวย์  เสือกทิ้งกูแล้วไปนั่งแดกกาแฟกับ...ฮึ่ย!!    แม่งเอ๊ยย”    อ้าว   ตกลงมึงตั้งใจจะพากูมาหรอวะ  แล้วมึงไอ้คุณชายจะขอโทษดีๆ ไม่ได้   ต้องมาฟอร์มด่ากู  ไอ้เอี้ยนี่
“กูไม่ได้ทิ้งมึง  แต่เห็นว่ามึงพาแฟนมาเดท  กูก็ไม่อยากเป็นก้างนี่หว่า”   แม่งเอ๊ย  ทำดีไม่ได้ดี  รู้อย่างนี้กูลากน้องแนนของมึงไปฆ่าหมกป่าซะก็ดีหรอก   น่าน  เผยสันดานชั่วซะแล้วกู
“ใครบอกว่ามึงเป็นก้าง  กูตั้งใจพามึงมาต่างหาก  แม่ง  อารมณ์เสียว่ะ”  มันเสยผมแล้วทำหน้าเบื่อโลก  โอ๊ยย   ขนาดเซ็งยังเท่ห์ได้อีกนะมึง   กูละกลุ้ม  อย่ามาเท่ห์ต่อหน้ากูได้ไหม
“อ้าว  กูจะไปรู้เรอะ  เห็นมาด้วยกัน”  ผมก็บ่นอุบอิบ  ขี้เกียจเถียงกับมันครับ  เพราะเถียงไปก็ไม่เคยชนะ   คนมันแพ้ทางกัน
“เออๆ  กูผิดเองโอเคไหม?  งั้นมึง”  มันเอานิ้วชี้ขาวๆ ของมันมาดันหน้าผากผม   “ไปเล่นเป็นเพื่อนกูได้แล้ว   เริ่มจากไอ้นั่นก่อน”  แล้วมันก็ชี้ไปที่ เฮอรีเคน   ไอ้สาดดด   มึงอยากให้กูอ้วกแตกใช่ไหมว้า   ไอ้เลว   ยังไม่ทันได้อ้าปากเถียง  ไอ้คุณชายมันก็ล็อคคอผมลากไปทันที

“ต๊าย!!  เธอดูนั่นสิ  คู่เกย์อ่ะ  น่ารักจัง   หล่อทั้งคู่เลยเนอะ”
“ว๊ายย  ใช่ๆ  หล๊อหล่ออ่ะ  เสียดายจัง  ไม่น่าเลย”
“เฮ้ย!  ดูนั่นดิ  มึงว่าใช่คู่เกย์ป่ะวะ   แม่งง  เสือกหน้าตาดีกว่ากูอีก  เซ็งว่ะ”

เสียงกระซิบที่ดังเหมือนเจ้าของจงใจให้ผมได้ยิน  ทำให้ใบหน้าด้านๆ ของผมเริ่มร้อนผ่าว   แหม ทำเป็นอายนะกู  ก็อยากเป็นคู่เกย์กับมันมาตั้งนานไม่ใช่หรอ?   แต่ยังไงซะ  ยอมรับครับว่าผมอาย  อายจนต้องดิ้นรนออกจากแขนใหญ่ๆ ของมัน  ทว่าไอ้ไนท์เหมือนไปเรียนมวยปล้ำมา   แรงมันแม่งโคตรเยอะ   แขนมันล็อกคอผมแน่นจนสลัดไม่หลุด


   “มึงอยู่เฉยๆ สักห้านาที  จะตายไหมวะ”   น่าน  อายก็ผิดอีกกู  เหอๆ   เพื่อนเว้ยเพื่อน   ไอ้เวย์  เพื่อนกอดคอมึงอยู่  เพื่อนเดินกอดคอกันเรื่องปกติเว้ย  ท่องไว้ๆ มึง   ด้านได้อายอด  อ้าว!  ชิบหาย  ไม่เกี่ยวกันเว้ยย   ด้านไม่ด้านมึงก็อดอยู่ดีแหล่ะว้า



----------------------------------------------

ขอบคุณทุกรีไพย์ค่า   มีคนชมไอ้เวย์มันน่ารัก  - -
เพราะมันเป็นนายเอกเรื่องนี้  ไวท์จำเป้นต้องให้มันดูดีกว่าตัวจริงมันนิดส์นึง    :เฮ้อ:

มีคนตามมาจากเด็กดีด้วย  ขอบคุณจ้าที่มาอ่านอีกรอบ  ฮ่าๆ :o8:
ทีจริงอยากลองลงเล้ามานานแระ ในที่สุดก็ได้ลงซะที  เย้ๆ   ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจเรื่องใหม่ค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิ&#
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 11-04-2009 00:11:32
อืมคุณชายชอบใช้กำลังแล้วก็เอาแต่ใจจริงๆเลยนะ
ทิ้งแฟนตัวไปไหนแล้วล่ะ อีกอย่างแทนที่จะพูดกับเพื่อนดีๆก็นะ
พูดทีนึงก็ใช้คำพูดแทงเข้าทะลุหัวใจ เวย์เลยนะนั่น สงสารและก็เห็นใจเวย์ไปในเวลาเดียวกัน

ชอบที่บอกว่าอยากจะตัดใจหยุดวิ่งตามแต่ไอ้เจ้าเืพ่อนรัก ก็มักจะหยิบยื่นน้ำใจมาให้หวั่นไหว
แล้วก็ทิ้งขว้างเหมือนที่เคยทำๆมา แบบนี้ใจใครมันจะทนได้ล่ะ เฮ้อออ

ทำให้ใบหน้าด้านๆ ของผมเริ่มร้อนผ่าว 
>> ฮามาก นายเอกว่าตัวเองเป็นด้วย 55
ปล.สู้ๆคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-04-2009 00:20:33
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หลงรัก เวย์ เข้าอย่างจังน่ารักอะนิสัยยังโดนใจอีก แล้วจะรออ่านต่อคราบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 11-04-2009 00:52:46
อิอิ-ชอบมากคร้าบ
***
แล้วมาต่ออีกนะคร้าบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 11-04-2009 06:05:36
น้องเวย์แพ้ทางจริงๆด้วย
รู้ตัวไวๆนะเพื่อนเดี๋ยวเมิงจะอด เวย์ยิ่งน่ารักอยู่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: kinkilaz ที่ 11-04-2009 09:49:25
น่ารักดีคร้าเรื่องนี้  สนุกม๊ากมาก o13
ไนท์เป็นประเภทเเสดงอารมไม่ค่อยเก่งสินะ หุหุ(น่าร๊ากกก :o8:)

ชอบมาเลยคร้า เเล้วจะคอยติดตาม
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 11-04-2009 10:16:01
มีแต่คนชมเวย์  งั้นชมไนท์บ้างดีกว่า ว่าน่ารักดี หึงแต่ไม่ยอมรับว่าหึง  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 11-04-2009 10:26:56
อีรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร์  (เสียงร้อง)  ทำไมมาสั้นนักอะ

(http://www.siam2.com/up/pic/440325766916905.gif)

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 11-04-2009 12:44:57
 :z1:

ค่อยเป็นค่อยไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 11-04-2009 12:58:27
หุ หุ ใครเพื่อน? ใครแฟน??  ^____^ น้องแนนหายยยไปเลย!   555++

สนุกดีครับ  ...  ขอบคุณนะครับ^____^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 11-04-2009 13:09:09
บทที่ 2 (ต่อ)


“ไนท์  มึงแน่ใจนะว่าจะเล่นไอ้นี่อ่ะ”  ผมถามเสียงสั่นนิดๆ  นี่มันระดับปราบเซียนเลยนะเว้ย  เหอๆ    ทำไม๊  ทำไม  มึงไม่ถามความสมัครใจกูก่อน   ไอ้ไนท์มันเหล่มองผมด้วยท่าทำกวนสุดตรีน  ไม่ได้พูดผิดนะครับ  ท่ามันน่าถีบให้สุดตรีนจริงๆ
“ไมว้า  หรือมึงกลัว?”  อ้าว  มาท้ากูอีกไอ้สัด  มึงคิดว่ากูจะหลงกลแผนยุง่ายๆ ของมึงหรือไง  สาดด   กูไม่ใช่เด็กสามขวบนะ
“ตัวตัวกันเลยดีกว่ามึง”  อ้าวว  เออ  เอาเข้าไป  เด็กจริงๆ เลยกู
“หึ”  แน่ะ  มียิ้มเยาะ  ไอ้สาด  เดี๋ยวมึงเจอดีแน่
ไอ้คุณชายมันลากผมเดินผิวปากตัวปลิวไปเข้าแถวรอเล่นเฮอริเคน  ส่วนไอ้ผมคนอยากมา  กลับยิ้มแหย๋ๆ  ขาสั่นน้อยๆ  หวาดเสียว้อย  ในใจก็ท่องพุธโธ  ธรรมโม  สังโฆ  ไปเรื่อยๆ  เล่นของว่างั้นเหอะ

“จะพระ  จะเทวดาก็ช่วยมึงไม่ได้ทั้งนั้นแหล่ะ  ไปได้แล้ว”  เสียงมันเหมือนคำพิพากษา  เมื่อเฮอริเคนมันลงมาจอด และคนที่เล่นรอบก่อนก็ทยอยกันลงมา   ตัวผมถูกไอ้ปีศาจบ้าพลังลากไปประจำที่ทันที    พอที่ล๊อกมันล๊อกพวกผมไว้เรียบร้อย ผมก็หันกลับไปมองไอ้คนข้างๆ ตาละห้อย  แต่มันกลับขยับยิ้มกวนทีน  และผิวปากทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“กูเปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมวะ  ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”   หลวงพี่เท่งช่วยผมด้วย  อ๊ากกกก   


เฮอริเคนเริ่มเคลื่อนสูงขึ้เรื่อยๆ  ไอ้ผมก็ใจหายวาบ   เหลือบไปมองคนข้างๆ  เห็นมันกำลังมองผมอยู่เหมือนกัน  เอาวะ!!   ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอกูหาเศษหาเลยหน่อยเหอะมึง   ว่าแล้วผมก็เอื้อมมือไปจับมือมันไว้แน่น  ไอ้ไนท์ทำหน้าตกใจนิดๆ  ก่อนที่จะบีบมือผมแน่นอย่างให้กำลังใจ   ไอ้สาดด   มึงไม่ต้องเสือกทำตัวเป็นคนดีตอนนี้    มันไม่ทันแล้วโว้ยย   จ๊ากกกกก  มึงบอกมันให้หยุดหมุนที   วิญญาณกูจะออกจากร่างแล้ว   ว๊ากกกก   แล้วมันจะเสือกมาหยุดค้างตอนที่หัวกูห้อยลงพื่นเพื่อ?  อ๊ากกก  กูจะตกไปตายแล้ววว   ม่ายยยยยย    ไอ้ไนท์เจอกันชาติหน้านะมึง  อ๊ากกกกก


‘กูรอดแล้ว  กูรอดแล้ว’    ผมปลอบใจตัวเองเมื่อเครื่องเล่นมันก็ค่อยๆเบาลง และนิ่งสนิทอยู่กับที่  ไม่เอาแล้วครับ  ชีวิตนี้  ผมจะเข็ดจนตาย   ต่อให้ใครท้า  ด่าญาติโกโหติกาผมยังโคตร  ผมก็จะไม่หลวมตัวมาเล่นไอ้เครื่องบ้านี่อีกแล้ว   ยังไงผมก็รักตัวกลัวตาย  ส่วนๆ ญาติก็...หาทางรอดเอาเองแล้วกันครับ   ตัวใครตัวมันครับงานนี้


“หึหึ  แล้วทำเป็นอวดเก่ง”   ไอ้เวร  กูจะไปรู้เรอะ  ว่ามันจะสนุกกระชากวิญญาณกูขนาดนี้   อยากด่ามันนะครับ  แต่ถ้าขืนผมเปิดปาก  ไอ้ของเก่าที่กินๆ มา มันจะขย้อนออกมาเสียหมด   ผมเลยรีบสาวเท้ายาวๆ  ไปทางห้องน้ำโดยไม่ได้สนใจจะตอบคำไอ้ไนท์มันทั้งสิ้น   ตอนนี้ขืนสนใจมันอีกก็บ้าแล้วล่ะครับ

“เฮ้ย!  มึงจะรีบไปไหนวะ  แค่นี้เคืองเหรอวะ   ขี้งอนจริง”  มันบ่นแล้วก้าวตามหลังผมมา   อยากจะบอกมันเหลือเกินว่าโคตรจะเคืองเลย   แต่ไอ้งอนนี่กูขอเหอะว่ะ   กูไม่เคยอยากจะงอนมึงมาก่อนเลยในชีวิตนี้  เพราะกูรู้ว่ากูต้องงอน  และง้อตัวเอง  รวมทั้งง้อมึงด้วย  แม่งง  โคตรเสียเปรียบเลย

“เฮ้ย!  กูถาม  ทำไมไม่ตอบ”  มันกระชากตัวผมจนปลิวไปปะทะอกกว้างๆ ของมัน  สถานการณ์มังคงจะโรแมนติกกว่านี้   ถ้าผมไม่...
“อ้วกกกกก  โอ้กกกกก”    ....ไม่อ้วกใส่เสื้อมันไปเต็มที่
“เฮ้ยยยย”   ร้องไปก็ไม่ทันแล้วมึง   มาเป็นกระโถนให้กูซะดีๆ  เสือกอยากถามมากดีนัก  มาอายเป็นเพื่อนกูเลยมึง    ผมไม่คิดจะสนใจเสียงก่นด่าของมันกลับยืนอ้วกอย่างเอาเป็นเอาตาย  โดยมีมันลากผมออกไปอ้วกข้างๆ พุ่มไม้  เพื่อไม่ให้การสันจรของผู้คนติดขัด  ขอบใจว่ะ  กูแม่งโคตรซึ้งน้ำใจมึงเลย  ไอ้ฟาย


“พอยังเมิง”  มันถามเสียงอ่อน  ซึ่งผมคาดว่าคงเป็นอ่อนอกอ่อนใจ  หลังจากปล่อยให้ผมรีดเอาของเก่าออกมาจนหมด
“เออ”  ว่าแล้วก็ใช้เสื้อมันเช็ดปากอีกที  ไหนๆ มันก็เลอะไปแล้วนี่หว่า
“เฮ้ย!   มึงนี่”  มันบ่นแต่ก็ยอมให้ผมเช็ดแต่โดยดี   

“สาแก่ใจแล้วใช่มะ?”  มันมองผมอย่างเคืองๆ  แล้วถอดเสื้อเปื้อนอ้วกของผมออก   โอ้!  มึงจะยั่วกูเหรอไงฟร่ะ  ใครใช้ให้มึงใส่เสื้อกล้ามบางๆ ไว้ข้างในวะ   น่านนน   มึงเห็นไหม  คนอื่นมองมึงจนตาค้างแล้ว   ใส่เสื้อเดี๋ยวนี้เลยนะมึง

“มองเอี้ยไร   รับผิดชอบด้วยนะมึง”  มองว่าที่ภรรยากูดิวะ  เฮ้ย!!  ไม่ใช่เว้ยย   อย่างไนท์จะยอมให้กูรุก   เหอๆ  ไม่มีทาง   อ้าวว   คิดไปไหนเนี่ยกู   เพื่อนเว้ยเพื่อน     ทำไมกูเป็นคนอย่างนี้วะ  เมื่อกี้เพิ่งบอกจะเลิกคิดเกินเลยกับมัน   แค่เห็นมันถอดเสื้อหน่อยเดียว   เสร็จมันเลยกู   ใจง่ายแท้

“เอ้า  เป็นไรอีกเมิง  ไปๆ กลับบ้าน  ไม่ลงไม่เล่นมันแล้ว”  เออ  กูก็ไม่ให้เมิงเล่นทั้งชุดนี้หรอกโว้ยย   กูกลัวหัวใจกูจะวายก่อนได้มึง   แน่ะ  เลิกไม่ได้แล้วมั้งเนี่ยกู - -
“เออ”  ผมตอบสั้นๆ  แล้วตั้งท่าจะเดินไปขึ้นรถ  แต่คำพูดต่อมาของมันทำเอาผมชะงัก
“แล้วคืนนี้  รับผิดชอบกูด้วยล่ะเมิง”     
เฮือก!!   ไม่ได้หลับไม่ได้นอนอีกแล้วกู     งานเข้าแล้วมึง  ไอ้เวย์
……………………………………….

“แม่คร้าบ  ผมกลับมาแล้ว”    หึหึ  คิดว่าเสียงใครครับ  เหอๆ  ไม่ใช่ผมหรอก  มีคนไอ้หน้าด้านมันสวมรอยเป็นลูกชายแม่ผมไปแล้ว
“อ้าว   ไนท์   มาๆ  ทานข้าวกับแม่ลูก”   แม่ผมยิ้มหวานมาโอบร่างสูงๆของ ไอ้ไนท์ไว้อย่างอารมณ์ดี  เออๆ  รักกันเข้าไป   ไม่ใช่ผมไม่ชอบนะครับ   หึหึ   ไม่เคยได้ยินหรอครับที่เขาบอกว่าให้เข้าทางผู้ใหญ่อ่ะ   น่าน  ไผลไปเรื่องนั้นอีกแล้วกู


ไอ้คุณชายไนท์กำลังคุยกับแม่ผมอย่างออกรสหลังอาหารเย็น   ทิ้งให้ผม  ลูกชายนอกคอกที่กลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้วตอนนี้นั่งฟังเงียบๆ  แอบเคืองหน่อยๆเหมือนกัน   แต่เคืองไปก็เท่านั้นล่ะครับ  สุดท้ายผมก็ต้องมาง้อตัวเองอยู่ดี    เหอๆ  แล้วจะงอนให้เหนื่อยเพื่อ?

“คืนนี้ผมค้างด้วยนะครับแม่”  เฮ้ย!!   อะไรของเมิง  กูไม่ให้   ไม่ให้   ไม่ให้มึงไป  กร๊ากกก   ค้างเลยเพื่อน   ตามสบาย  ฮ่าๆ   ถ้าคืนนี้มึงไม่เสร็จกู  กูไม่ขอเรียกตัวเองว่าชายเหนือชาย   
“เอาเลยลูก  ตามสบาย”   ใช่  เอาเลย  เฮ้ย!  ทะลึ่งแล้วกู

“เป็นเอี้ยไรของเมิงเนี่ย   ทำหน้าโคตรเอ็กซ์เลยว่ะ   บอกไว้ก่อนนะเว้ย  ไม่ต้องมายั่วกูให้เหนื่อย  กูไม่หวั่น”     สาดดด  ใครบอกว่ากูยั่วเมิง  กูแค่คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้นเอง  จะว่าไป  กูก็ให้ท่ามึงอยู่ตลอดนะเว้ย  แต่มึงอ่ะ  เสือกไม่รับความหวังดีของกูเอง  กร๊ากกก

“ยั่วพ่อเมิงดิ”  หมาเอาชัยไว้ก่อนครับ
“ยั่วทำไม   พ่อกูอ่ะให้แม่กูยั่วได้คนเดียวเว้ย”   อ้าว  ไอ้นี่   เล่นถึงพ่อถึงแม่เลยนะมึง   แต่เอาเหอะ   ปล่อยมันไป   พ่อแม่มันครับ  ไม่เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว   ที่จริงก็อยากให้เกี่ยวอยู่นะ  แหะๆ
“กวนทีนอีกนะเมิง  ไม่ไปช่วยแม่ล้างจานวะ?”
“อ้าว  มึงเข้าใจไรผิดป่ะวะ  น้านิ่มเขาแม่มึงนะเว้ย  ไม่ใช่แม่กู”   อ้าว  รู้ด้วยเหรอมึง 
“อ้าว  หรอวะ  กูก็หลงเข้าใจผิดมาตลอด”
“มึงนี่  ฮ่าๆ   เอาเหอะ  กูไม่เถียงแล้ว  ขึ้นห้องไปรับผิดชอบกูซะดีๆ”    มันพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้    น่าน  ยั่วกูไม่รู้ตัวอีกนะเมิง

“กูยัง..เอ่อ..กู  กู  ไปช่วยแม่ล้างจานก่อนนะ”   ไม่ใช่กูไม่อยากขึ้นห้องกับเมิงนะ   แต่ขอกูไปทำใจแป๊บ   แม่คร้าบ  ช่วยผมด้วย
“ไม่ต้องเลยมึง  ไปกับกูได้แล้ว”  พูดจบไอ้คุณชายมันก็จัดการลากผมขึ้นข้างบนกับมันทันที  ไอ้ผมก็ดิ้นๆ พอเป็นพิธี   เดี๋ยวมันจะว่าผมเล่นตัวไม่เป็น  หึหึ


ทันทีที่แสงไฟจากหลอดนีออนทำงาน   ห้องขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตา  เตียงขนาดคิงไซส์   ไม่ใช่เอามาเผื่อใคร  แต่เพราะผมเป็นคนนอนดิ้น  ทีวี  ชุดโฮมเธียเตอร์  เครื่องเล่นเกมส์  โต๊ะหนังสือ  ตู้เสื้อผ้า  ตู้เก็บโมเดล  ข้าวของมากมายถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ  ห้องทั้งห้อมอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสะอาดน่านอน

   “เข้ามาห้องมึงทีไร  กูมีอารมณ์ทุกที”  เฮือก!   ไม่ต้องมาเสือกยิ้มให้กู   สถานการณ์นี้มึงไม่ควรอย่างยิ่งจะมายั่วกูด้วยรอยยิ้ม   ไอ้คุณชายไนท์
   
   “มา   ไอ้เวย์  มาทำหน้าที่ของเมิงได้แล้ว”  เสียงเข้มที่แฝงแววขี้เล่นดังมาจากร่างที่นอนกลิ้งไปมาบนเตียงผม   ตกลงเมิงอายุเท่าไรวะ  ไอ้ไนท์      เสื้อกล้ามสีขาวบางๆ ของมันถกขึ้นไปเผยให้เห็นกล้ามท้องได้รูป  โอ๊ยยย   ตายๆ กู  งานนี้   ดับสนิท
   “เอ่อ..ม่ะ..ไม่อาบน้ำก่อนเหรอเมิง”
   “ไม่อ่ะ  ขึ้นมาเดี๋ยวนี้  ก่อนที่มึงจะเจ็บตัวถ้ากูต้องเป็นคนไปลากเมิงขึ้นมา”


   “อือ   อา  ดีเวย์  ดี”   
   “อืม  เลื่อนลงไปอีกนิดนึงครับ  อา  ใช่  ใช่”
   “อ้ะ  เบาๆ  อา  อือ  ดี  นั่นแหล่ะ  อา”

   “เมิงหยุดครางซะทีได้ไหม  ไอ้ฟายย   เดี๋ยวกูเลิกนะเมิง”
   “อย่าพูดมาก  นวดต่อไปเลยเมิง”   นวด?  ใช่แล้วครับ  ได้ยินไม่ผิดหรอก   เวลาผมทำอะไรผิดก็โดนลงโทษให้นวดให้มันประจำ  เหอๆ   แต่แม่ง  ไอ้สาดเอ๊ย  ให้กูนวดตั้งแต่หัวยันตีน   แล้วไล่กลับมาใหม่จากตีนยันหัว   ไอ้บ้า  มึงคิดได้ไงวะ?   แม่งง   แล้วยังจะเสือกมาครางบิวอารมณ์กูอีก  ไอ้เลว  มึงจะทรมานกูไปถึงไหน

   “อา  อือ   อือ”  มันยังคงหลับตาครางรับสัมผัสของผมต่อไป   แต่ไอ้ผมคนนวดน่ะ  มือไม้สั่นไปหมดแล้ว  ทำไมมึงเซ็กซี่ได้ใจกูขนาดนี้วะ?
   “กูบอกว่าอย่าครางไอ้สัด  ฟังไม่รู้เรื่องหรือไงวะ”
   “พูดมากดีนักมึง   นวดไปจนกว่ากูจะหลับก็แล้วกัน”
หา!  ตลกแล้วมึง  พูดเป็นเล่นไป   รอเมิงหลับ   แล้วกูจะได้นอนม้ายย   กูต้องทนฟังมึงคราง  ดูมึงบิดตัวไปมาให้หัวใจจะวายจนถึงเช้าเลยรึไงวะ  มึง  มึง  ไอ้เลว   ไอ้ปีศาจ   กูทรมานโว้ยยย  แงๆ  อดทนไว้ไอ้เวย์น้อย  ลูกพ่อ
 


--------------------------------------------------

 :bye2:   ไว้มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 11-04-2009 13:19:15
เพิ่งมาอ่าน 

เขียนน่ารักดีอะค่ะ

เห็นชื่อเรื่องแล้วนึกถึงภาษาไทยโบราณ

"เล่นเพื่อน"  นี่ถ้าจำไม่ผิดคือ ผู้หญิงกับผู้หญิงใช่ปะ

แต่เอามาใช้แล้วเหมาะดีอะ

+1 ให้ค่ะ

ป.ลๆๆๆๆ  อ่านไปก็จิ้นไป เพราะมีตัวอย่างอยู่ใกล้ๆตัว 5555555555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 11-04-2009 13:23:22
มาขอบคุณ-สำหรับตอนใหม่นะคร้าบบบ
******* :pig4:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 11-04-2009 14:41:09
ไหนๆก็นวดแล้ว นวดตรงกลางเน้นๆไปเลยดีมะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 11-04-2009 15:17:12
น่าเห็นใจจัง
งอนแล้วไม่มีใครมาง้อก็ต้องง้อตัวเองอีก
เจ้าไนท์มันจะรู้สึกอะไรบ้างมั๊ยเนี่ย เหอะๆแต่เวย์ก็คิดไปไกลแล้วเนอะ
อ้วกรดใส่ไปเลยสะใจดี อยู่ๆมาท่า กลัวที่ไหนเหอะๆ ลงมาก็แค่อ้วกซะ
แค่นี้ก็จบ อิอิ
ให้นวดเป็นการทำโทษด้วยแหะ แปลกจริงๆคนเราเวย์น้อยอดทนไว้ลูก
ถ้าอดทนไม่ได้ก็ปล้ำเลยนะ 55

สู้ๆคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 11-04-2009 16:10:31
...เวย์น่ารักจังเลยอ่าาาา...หุหุ :-[


 :m16:เเต่ไนท์นี่ยังไง...ทั้งห่วงทั้งหวง แต่ดันทำหั้ยเวย์ต้องตัดใจอยู่เรื่อยเลย :a5:


ฮึ่ม...เวย์พอไนท์หลับ จัดการเลย วะ555555 o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-04-2009 16:47:13
 :m20:  :m20: :m20:
แหมๆตอนท้ายมาหลอกให้อยากแล้วจากไปนะ ฮาจริงๆชอบนวดฮุๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 11-04-2009 17:54:59
น่ารักจังเลย น่าสงสารเวย์จัง งอน แล้วต้องง้อตัวเองเนี่ย เข้าใจอารมณ์ เพราะเป็นบ่อยๆ  :-[ งานนี้ท่าจะมีใจทั้งคู่แต่ทำปากแข็งซะแล้วใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 11-04-2009 18:34:37
นวดเน้นจุดกันเหรอ ถึงคราง อย่างนั้น  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: golly* ที่ 11-04-2009 19:48:06
 :impress2:  ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบพี่เวย์อ่ะค่ะ  น่ารักเกิ๊นน
พี่ไนท์ก็เย็นชาได้ใจ อ๊างงง.. :-[  เอาใจไปเต็มๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ จุ๊บๆ  :L2: :L2: อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 11-04-2009 20:19:00
พี่ไนท์ก็ทรมานพี่เวย์เกินไป

น่าสงสารจั

แอบรักเพื่อนตัวเอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 11-04-2009 23:23:42
กร้ากกกก


น้องเวย์ว่างมานวดให้ป้ามั่งมั้ยลูก :P~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-04-2009 23:43:30
หนทางรักไอ้เวย์ยังอีกยาวไกล เพราะดูท่ามันจะเหมือนของเล่นเจ้าไนท์มันซะมากกว่านิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: N19T ที่ 12-04-2009 01:16:23
มาต้อนรับเรื่องใหม่อีก 1 เรื่องค่ะ
ทางเดินแห่งรักของ เวย์และไนท์ ท่าทางจะไม่ราบรื่นซะละ เพราะต้องเจอทั้งพี่หมอ และ น้องแนน
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นการเพิ่มสีสันให้ชีวิตรัก จะได้รักกันยาวนาน มั่นคงมากขึ้น เพราะผ่านอะไรด้วยกันเยอะ


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 12-04-2009 03:01:38
กรี๊ดดดดดดดดดด

เอาเลยเวย์  ....

555

แก้เผ็ดมันเลยย ชอบทรมานเราดีนัก


เม้าส์ เม้าส์
"ความรู้สีกเดียวกันเลย ตอนที่เดินตามอ๊า.."

แล้วก็ตอน คิดว่าจะเลิก แต่มันดั้นกลับมาให้ความหวังอีกแล้ว(คิดเข้าข้างตัวเอง YoY)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-04-2009 08:56:07
ไนท์ครางยั่วขนาดนี้ น่าให้เวย์จับ  :oo1: ซะจริงๆ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 12-04-2009 09:14:44
เห็นด้วยกับทุกรีพลายที่ชมเวย์เลย

เวย์น่ารักจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 12-04-2009 12:27:18
ตลกดีจังเลยเรื่องนี้ เหอๆ น่ารักดีด้วย แนวการเขียนสื่อให้เห็นความฮาแตก+ความรักแบบแอบคิดเอาเองดี อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 12-04-2009 15:51:24
บทที่ 3  พี่หมอนัท (ของหวานยามบ่าย)

เสียงเอะอะโวยวายโหวกเหวกเซ็งแซ่โหยหวน  เอ้าๆ พอเถอะครับ  อย่ามามัวทำตลกอยู่เลย  ในเมื่อวันนี้ผมยอดชายนายเวย์ไม่มีอารมณ์มาตลกไปกับพวกคุณ  ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของมหาลัยผมแท้ๆ  แต่ผมกลับต้องแบกหน้าโทรมๆ ขอบตาดำคล้ำเยี่ยงด็อบบี้มาเรียน (หวังคุณคงเคยดูเแฮรี่ พอตเตอร์  ที่มีพระเอกตาย  ตอนเรือชนภูเขาน้ำแข็งนะครับ - -  น่าน  ฮากริบกันไปเลยทีเดียว  หึหึ)    เคยมีคนบอกว่า  สิ่งสำคัญที่ทำให้คนสนใจในตัวเรา  คือความประทับใจแรก   แต่ไอ้เวรไนท์มันกำลังจะทำเรทติ้งผมป่นปี้ไม่มีชิ้นดี  โว้ยยย   วันเปิดเรียนตอนกูอยู่ปีสามมันมีแค่วันเดียวในชีวิตนะโว้ยยยย  เอากับมันสิ

เอาล่ะครับ  หลังจากบ่นเวอร์ไปหลายนาที  ที่จริงหน้าตาผมมันก็ไม่ได้สึกหร่อไปเท่าไรหรอกครับ  คนมันหล่อ...อะไรก็ฉุดไว้ไม่อยู่  ก๊ากก   เอาเป็นว่าตัดกลับมาอยู่ในฉากปัจจุบัน

ผมเดินอาดๆ ไปยังโรงอาหารของคณะซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่พอควร   มีร้านอาหารนานาชนิดให้เลือกมากกว่าสิบร้าน   ยังไม่รวมร้านขายน้ำและขนมต่างอีกสี่ร้าน    โต๊ะขนาดยาวที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางโรงอาหารถูกจับจองโดยกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวอย่างน่าถีบ  เหอๆ  แต่ถ้าได้ลองเข้าไปแหย่พวกมันล่ะก็  คุณจะรู้ว่านรกบนดินมันเป็นยังไง

    “ว่าไงเมิง  ไอ้เวย์  เดินหน้าสวยเหมือนผีมาเลยนะเมิง”    ไอ้นุสวดอวยพรผมเป็นคนแรกทันทีที่ผมเดินมาถึง   ไอ้นุมันเป็นคนเชียงราย  ขาว  สูง  ตี๋  แต่ปากหมาและวอนทีนเป็นที่สุด  ถึงกระนั้นมันก็มีเจ้าของแล้วล่ะครับ   ก็ไอ้ส้มที่นั่งกระดิกตีนมองหน้าผมอยู่ข้างๆ มันนั่นไงครับ  รายนี้ก็สวยครับ...สวยแต่เปลือกนะ  โดยเฉพาะเวลาที่มันไม่พูด
   “จะชมหรือจะด่ากู  เลือกเอาซักอย่างสิวะ”  ผมว่ายิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งข้างมัน

   “เวย์   เมิงเดินไปนั่งข้างไอ้แชมป์ป่ะ”   ไอ้ส้มมันยื่นหน้าข้ามไหล่แฟนมันมาพูดกับผม
   “ทำไมวะ”  ผมก็ยื่นหน้าข้ามไหล่ไอ้นุไปถามมันบ้าง  คุณเธอก็รีบดันหน้าผมออก  แล้วดึงแฟนตัวเองออกห่างทันทีครับ  แหนะ  ทำอย่างกลัวติดเชื้อบ้ากู

   “เมิงไปตรงโน้นเลย  เดี๋ยวไอ้นุมันเขว  แล้วทิ้งกู”  พูดจบไอ้พวกที่เหลือก็ฮากันกระจายเลยครับ   ผมก็ฮาไปกับเขาด้วย  ไอ้ส้มกับไอ้นุมันเหมาะกันดีครับ  เป็นคู่หูคู่ฮาประจำกลุ่ม  ว่าแต่ไอ้คุณชายของผมมันหายหัวไปไหนของมันว้า
   “เวย์  เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอจ๊ะ  ตาคล้ำเชียว”  ไอ้หยก  สาว  สวย  หมวย  และที่สำคัญโสด  มองผมอย่างเป็นห่วง  นี่ล่ะครับ  นางฟ้าในฝูงควาย  เหอๆ  ผมไปเก็บได้ตอนรับน้อง  ก๊ากก  ว่าไปนั่นกู  เรารู้จักกันตอนรับน้องนะครับ

   “อือ  มันได้นอนก็เกือบจะเช้าแล้ว  ใช่ไหมเวย์”  น่านน  มาได้จังหวะเลยนะมึง  ไอ้ไนท์  มึงถึงก็เล่นกูเลย   ไอ้สันดรเอ๊ย
   “เฮ้ย!  เมิงรู้ได้ไงวะ  ไอ้ไนท์  หรือว่า….”  ไอ้แชมป์ถามแล้วทำตาโตเหมือนเห็นหมาที่บ้านมันออกลูกเป็นลิง  เวอร์ไปไหมเมิง
   “หึหึ  เอ้า!  ข้าวเช้า  กินซะ” ไอ้นี่ก็เสือกไม่แก้ต่างดันมาขำในลำคอให้น่าสงสัย  มือมันก็ยื่นจานข้าวไข่พะโล้ของโปรดมาปิดปากที่เตรียมจะด่าของผม
   “ใจว่ะ”  จากคำด่ากลายเป็นคำขอบคุณมันไปซะงั้น

   “ฮิ้ววว   ไปโว้ยพวกเรา  รีบไปกันเหอะ  ผัวเมียเขาจะดูแลกัน  อย่านั่งเป็นก้างเลยวะ”  ไอ้นุพูดเสียงดัง   บอกแล้วครับว่ามันกวนทีน  ได้จังหวะเป็นไม่ได้  เล่นกูทันที
   “เชี่ยนุ  ดูแลเมียเมิงโน่นไป”  ผมด่ามันแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
   “เอ้า  ค่อยๆ กินก็ได้  ข้าวมันไม่หนีไปไหนหรอก”  ไอ้ไนท์ว่ายิ้มๆ  แล้วโปรยเสน่ห์อีกนิดด้วยการลูบหัวผมเบาๆ   โอ๊ยย  เคลิ้มเว้ยเคลิ้ม

   “อ้วกกกกก”  สามัคคีวาจากันจริงนะพวกมึง
   “เป็นเอี้ยอะไรกัน  คนจะกิน  แมร่งงแพ้ท้องกันรึไงวะ” 
   “แมร่ง  ก็กูอิจฉา  ข้าวก็มีคนซื้อให้กิน  แถมยังนั่งประคบประหงมอย่างกับควายหวงลูก”  สรุป  พวกเมิงจะให้กูเป็นควายให้ได้ใช่ไหม
   “นุ  อิจฉาเขาเหรอ  อยากให้ส้มป้อนข้าวให้มะ  ป้อนด้วนตีนอ่ะ”  ไอ้ส้มค้อนแฟนมัน  ฮ่าๆ น่ารักดีครับ   ปากอย่างนี้แหละ  พวกมันถึงอยู่กันยืด
   “โหย  ที่รักอ่ะ  เขาเปล่าอิจฉาใครน้า  ที่รักของเขาดีที่สุดเลย”  แล้วไอ้นุก็เอาตัวโตๆ ของมันไปเบียดกับไหล่ไอ้ส้ม  ยิ้มหวาน  แล้วทำหน้าอ้อนๆ

   “แหวะ  กูจะอ้วก”    ขอกูแขวะเมิงมั่งเห้อ
   “แพ้ท้องหรอเมิง  แสดงว่าไอ้ไนท์มันขยันทำการบ้านล่ะสิ  ก๊ากกก”   
   “สาดด  นุ”  แม่งงง   ก็มันเล่นล้อกันทุกวันอย่างนี้    จะไม่ให้ผู้ชายมาดแมนแอนด์แฮนซั่ม อย่างผมหวั่นไหวได้ไงล่ะครับ   จะโทษก็ต้องโทษที่ไอ้ไนท์มันขยันรับมุกล่ะครับ
   “เออ  ช่วงนี้กูฟิต  สตาร์ทติดง่ายว่ะ   ฮ่าๆ”  น่าน  ยังไม่ทันขาดคำ  เขาชงมาไม่ต้องรับมั่งก็ได้นะเมิง

   
   “พี่ไนท์คะ”  เสียงหวานที่เรียกชื่อไอ้คุณชายทำผมถือช้อนค้าง  น้องแนนเดินถือกล่องสีชมพูขนาดย่อมมาให้ไอ้ไนท์   ผมเห็นมันมองน้องเขาด้วยสายตาเรียบเฉยที่เดาไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่  แต่ช่างมันเหอะครับ  เขาคงมาปรับความเข้าใจกัน  ไอ้เรามันคนนอกไม่เกี่ยวอยู่แล้ว

   “มีอะไร”    โอ้!  เสียงโหดไปไหมเพื่อนกู
   “อ่ะ..เอ่อ  คือ  แนน  แนน”  น้องแนนอ้ำๆ อึ้งๆ  อยู่นานพอที่ไอ้คนความอดทนต่ำมันจะไม่ทน

   “ถ้าไม่มีอะไร  พี่ขอตัว   ไอ้เวย์ไปเรียนได้แล้ว”  ว่าแล้วมันก็ลากคอผมให้ลุกขึ้นทันที  ชอบหาเรื่องให้กูจริง  สาดนี่  จะเลิกกับใครก็เดือดร้อนกูทุกที   ที่กูไม่มีแฟนซะทีก็เพราะเมิงเนี่ยแหล่ะ  ไอ้ชั่ว  รู้ตัวไหม
   “กูยังแดกไม่เสร็จเลย”  ขอกูแกล้งอิดออดนิดนึงเหอะ  กูกลัวแฟนมึงจะลากคอกูไปฆ่าว่ะ
   “จะแดกอะไรนักหนาวะ  ไอ้ข้าวเนี่ย  แดกอยู่ได้ทุกวัน  เดี๋ยวพรุ่งนี้เมิงก็ต้องแดกอีก  อย่าช้า  ไปเรียนได้แล้ว”  พูดแมวๆ นะเมิง  กูกินข้าวทุกวันแล้วมันผิดตรงไหนวะ  ไอ้สาดด  ถ้ากูไม่แดกนี่สิ  น่าห่วง
   “เออๆ  ยุ่งจริงโว้ย”  บ่นแต่มือก็เก็บข้าวของเตรียมขึ้นเรียนครับ  ผมเคยบอกหรือยังว่าเวลาไอ้คุณชายมันโกรธ  มันจะกลายเป็นหมาบ้าประเภทกัดไม่เลือก

   “พี่ไนท์  ยังไปไม่ได้!!”  จ๊ากกก   น้องครับ  น้องไปกินดีหมีหัวใจเสือมากจากไหนครับเนี่ย  ถึงได้กล้าไปตะคอกมันอย่างนั้น  น้องรู้ไหมครับ  เวลามันโกรธคนที่ซวยจะเป็นพี่เพราะไม่มีใครเข้าหน้ามันติดเลยสักคน
   “ทำไม”  น่าน  เสียงโคตรพ่อโคตรแม่เย็นมาเลย
   “ค่ะ..คือ  แนน  แนนขอโทษ”  น้องคนสวยพูดทั้งน้ำตา  โอ้ว  อย่าร้องครับน้อง  ไม่ใช่ว่ากลัวไอ้ไนท์มันจะใจอ่อนหรอกนะ  แต่กลัวมัน....
   “หึ  คิดว่าน้ำตาของเธอมันแก้ไขอะไรหรือไง   หลีกไป  อย่าให้พี่ต้องด่าผู้หญิง”  น้องรู้จักมันไม่พอครับ  น้ำตาใช้กับมันไม่ได้ผล  เพราะมันเกลียดคนเจ้าน้ำตา


ไอ้ไนท์เดินดุ่มๆ ออกมาพร้อมทั้งลากผมมาด้วย  ทิ้งให้โรงอาหารเงียบกริบกับพายุอารมณ์ที่เพิ่งผ่านไปของเจ้าตัว  เพื่อนๆ ในกลุ่มที่เหลืออยู่อีกสี่คนต่างก็เข้าไปช่วยปลอบเด็กสาวผู้น่าสงสาร  เอ้า  ว่าไปโน่น  แต่น้องเขาน่าสงสารจริงๆ ครับ  ดันรักใครไม่รัก  มารักไอ้ปีศาจนี่   ว่าแต่เขาไม่ได้ดูตัวเองเลยกู

   “เฮ้ย!  มีเรื่องอะไรกันวะ  มึงถึงต้องรุนแรงกับน้องเขาขนาดนี้”  ถามไปก็กลัวโดนมันด่าอยู่ไม่น้อยครับ  แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า
   “มึงอย่ารู้เลย  ไม่ใช่เรื่องดีหรอก”  อ้าว  ยิ่งพูดอย่างนี้กูยิ่งอยากรู้ดิวะ
   “แม่ง  แกล้งกู” 
   “อะไร?  แล้วมึงจะทำแก้มป่องทำไมวะ  ฮ่าๆ”  เป็นเอี้ยไรของมันเนี่ย  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  แสดด  อยู่ๆ มาหัวเราะกูเฉย  กูไม่ใช่ตลกคาเฟ่นะเมิง  แก้มมันป่องก็ไปด่ามัน  ไม่ต้องมาด่ากู  กูไม่เกี่ยว  กูไม่ได้ทำ
   “ก็มึงมาทำให้กูอยากรู้  แล้วเสือกอมไว้  ไม่คายออกมา”

   “น้องแนนเขาคิดว่ากู...เป็นแฟนกับเมิง”    กึก  คำเฉลยของมันทำเอาผมชะงักค้างอยู่กับที่  ผม  กับ  มัน   ก๊ากกก   น้องเขาเอาหัวแม่ตีนคิดรึไงวะ  ฮ่าๆ  ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิน้อง  พี่ตะล่อมมาสามปีเต็มยังไม่มีวี่แววเล้ย
   “ฮ่าๆ  ตลกว่ะ  คิดได้ไงวะ”
   “มีอะไรตลกวะ”  มันถามเสียงเครียด   อ่อ  กูรู้แล้ว  กลัวคนอื่นเขาเข้าใจผิดใช่ไหมวะ  ฮ่วย  กะแค่เป็นแฟนกับกูที่เป็นผู้ชาย   ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนเลย    ดูมัน  มีสักครั้งไหมที่ไม่เข้าข้างตัวเองน่ะ   (ไม่มีครับ)

   “โอเคๆ  ไม่ตลกๆ  ถ้าเมิงกลัวคนเข้าใจผิดขนาดนั้น   ห่างๆ กับกูไว้หน่อยก็ได้”  ผมพูดยิ้มๆ  แต่ใจนี่สิมันไม่ยิ้มตามไปด้วย   ยังคิดไม่ออกเลยครับว่าถ้าไม่มีมันแล้ว  ผมจะอยู่ยังไง
   
“อย่าเสนออะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ได้ไหมวะ”  มันเงียบไปนานจนผมใจเสีย  นึกว่ามันจะคิดว่าคำพูดของผมเข้าท่าเสียอีก   ไม่อย่างนั้นผมคงต้องกลับไปตบปากตัวเองเรียกเลือดซะหน่อย  ข้อหาชี้โพรงบัดซบให้กระรอก   แต่ประโยคที่มันพูดออกมาทำให้ผมอยากยิ้มกว้างแล้วกระโดดหอมแก้มมันซ้ายขวา  แต่อย่าเลยครับ  ผมยังไม่อยากพิการตั้งแต่ยังหนุ่มแบบนี้  เมียก็ยังไม่มี  แย่

“จะยิ้ม  ก็ยิ้มมาเหอะน่า  ทำหน้าอย่างนั้นตลกชิบหาย  ฮ่าๆ”  มันหัวเราะแล้วเอามือมาดึงแก้มผมให้ยืดออก   ไอ้สาด  เพราะอย่างนี้ไง  คนเขาถึงได้เข้าใจผิดน่ะ
“สาดไนท์”  ด่าแล้วก็วิ่งไล่เตะมันแก้เขิน  ใครที่เดินผ่านมาคงปลงกับชีวิต  เมื่อเห็นผู้ชายตัวโตๆ สองคนวิ่งไล่กันเป็นเด็กอนุบาลอย่างนี้   เอ่ หรือว่าอายุสมองของกูกะมึงมันมีเท่านี้จริงๆ วะ?



“ฮ้าววว”  โอ๊ยยย   ง่วงโว้ยย   ผมนั่งอ้าปากหาวเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ของวัน  และดูเหมือนความอดทนอดกลั้นของผมจะหมดลงแล้ว
“ง่วงเหรอวะ”   ที่ถามนี่เพราะไม่รู้  หรืออยากจะกวนทีนวะไอ้ไนท์   ตอนนี้ผมกับไอ้คุณชายกำลังนั่งฟังเลคเชอร์สุดยอดของความทรมานอยู่ในห้องเรียนรวมครับ  ห้องเรียนที่เชื่อว่าจะทำให้ความตั้งใจของเราลดลงไปถึงห้าสิบเปอร์   ดังนั้นถ้าความตั้งใจดั้งเดิมมันมีแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว   ผมคงไม่ต้องบอกนะว่า  ตอนนี้ผมเหลือกะจิตกะใจจะเรียนอยู่เท่าไร

“เพราะใครล่ะวะ  เมิง  กูไปงีบก่อนนะ  จดเผื่อด้วยอ่ะ”  บอกมันไปมือก็เก็บของไปครับ  ไม่ไหวแล้ว  ตาจะปิดแล้วครับ   
“เออๆ  นอนรออยู่ข้างล่างอ่ะ  เดี๋ยวกูตามไป”  นอนรอ?  แม่ง  พูดให้กูคิดอยู่เรื่อยนะเมิง

จากนั้นผมก็อาศัยความที่นั่งอยู่เกือบริมทางเดินปลีกตัวออกมาอย่างง่ายดาย   สาวเท้ายาวๆ ไปที่ซุ้มประจำของพวกผม  ซึ่งอยู่เยื้องจากคณะไปเล็กน้อย   แล้วจัดการสนองความง่วงของตนเองทันที   ไอ้ม้านั่งยาวนี่ก็ดีเหลือหลาย  มันพอดีตัวผม  นอนสบายไปครับ  บายครับทุกคน  ขอตัวไปเฝ้าองค์อินทร์ก่อนล่ะ


“อือ”    ใครมันทำอะไรอยู่ตรงแก้มกูวะ  ฮ่วย   ผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีแต่ไอ้สัมผัสบ้าๆ นี่มันก็ยังคงตามรังควาญไม่เลิก  จนผมต้องตัดใจออกจากห้วงความฝันและลืมตาขึ้นมาพบโลกแห่งความจริงในที่สุด

“แม่ง  ใครวะ?”  ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด  หงุดหงิดเว้ยหงุดหงิด  แม่งง  ใครบังอาจกวนกูตอนนนอนฟร่ะ  แม่งง
“เอ่อ..น้องเวย์”  ผมกระพริบตาถี่ๆ   สะบัดหัวไล่ความง่วงงุง  ภาพตรงหน้าที่เห็นคือดวงหน้าคุ้นตาของใครบางคน   นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมีแววลำบากใจ  ริมฝีปากแดงแย้มรอยยิ้มแหยๆ  ภาพที่ทำให้ผมต้องกลืนคำด่าลงคอ    เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างแทน   เจอทีไรคนๆ นี้ก็มีแต่ทำหน้าหรอหราทุกทีสิน่า

   “พี่หมอ  นั่งก่อนครับ”  ผมยันตัวลุกขึ้นแล้วขยับให้ร่างสูงนั่ง
   “โทษทีที่พี่มารบกวน”  เสีนงนุ่มเอ่ย  เฮ้อ   จะสุภาพไปไหนครับพี่
   “รู้ด้วยเหรอครับว่ากวน”  เล่นกับแกหน่อยครับ  ก๊ากกกก   ความสุขของผมได้กวนคนอื่นโดยที่ไม่โดนกวนกลับ  ฮ่าๆ
   “....”  คนตรงหน้าพูดอะไรไม่ออก  ได้แต่ยกมือเกาศีรษะแก้เก้อ  คงคิดไม่ถึงว่าผมจะพูดอย่างนี้   โหสินะพี่   มากวนผมตอนนอนเองอ่ะ
   “พูดไม่ออกเลย  คนเรา  ผมแกล้ง  พี่ดูไม่ออกรึไง”
   “ดูออกครับ  แต่ยอม”  น่าน  มีหยอดๆ  เอ้า  หยอดได้หยอดไปครับพี่  เอิ้กๆ
   “ฮ่าๆ  แล้วทำไมพี่มาอยู่นี่ได้อ่ะ”
   “ไม่รู้สิครับ”  พี่หมอเสยผมก่อนตอบ
   “หือ?”  สาดด   ถ้าเมิงไม่รู้แล้วมาโผล่ที่นี่ทำด๋อยไรฟร่ะ
   “ฮ่าๆ”
   “อ่ะ  ไม่ตอบก็ไม่ตอบ  ผมไม่ถามแล้ว”
   “ฮ่าๆ  ผ่านมานะครับ”   น่าน  พอกูไม่อยากรู้  จะตอบมาเพื่อ?  ไอ้นี่  ต้องเล่นมุกเดียวกับไอ้ไนท์มันเลย  ถามดีๆ  ไม่เคยจะได้หรอกไอ้คำตอบน่ะ    ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้  แล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะเตรียมจะเฝ้าพระอินทร์ต่อทันที

   “เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ”   เสียงนุ่มๆ ถาม  พร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่เส้นผม  งืม  สบายชิบ  เหอๆ  นี่ล่ะ  ความรู้สึกนี้  ความรู้สึกของการมีพ่อ  มีพี่ชาย   
   “อือ”  ผมครางเบาๆ เหมือนลูกแมวเวลามีคนเกาคางให้   แล้วยิ้มรับสัมผัสนั้นต่อไปโดยไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมอง   สบายเว้ย
   “ขี้อ้อนจังนะเรา”  อยากพูดอะไรก็พูดๆปครับพี่  ผมจะนอน


 
   ....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...
....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...

   “ฮัลโหลลลลล”  ผมรับสายด้วยเสียงยานคาง   ใครว้า  ขยันกวนกูจริง   ถามไปงั้น  ที่จริงแค่ได้ยินเสียงเรียกเข้าก็รู้แล้วล่ะครับว่าใคร
   “เมิงอยู่ไหน?”  เสียงเย็นๆ ของไอ้คุณชายทำให้ผมตาสว่างทันที   ใครไปทำให้มันโกรธอีกวะเนี่ย   กูล่ะอยากจะรู้นัก
   “ที่ซุ้มไง”   ไม่รู้มันจะโทรมาถามทำไม  ทั้งๆ ที่มันก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่าปกติผมจะหนีมางีบที่ไหน

   “อยู่กับใคร”   อะไรวะ?  มาแปลกนะไอ้นี่   ผมหันไปมองก็เห็นร่างสูงของพี่หมอนอนฟุบอยู่ข้างๆ   ใบหน้าคมเข้มนั้นหลับตาพริ้มอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าผมนัก   
   “อยู่..เอ่อ...”  จะตอบว่าไงดีวะ   กูจะกลัวอะไรเนี่ย  ก็แค่ตอบมันไป  ยากตรงไหนวะ
   “ว่าไง”
   “อยู่  กับ  เพื่อน”    เหอๆ  ทำไมกูต้องเลี่ยงมันด้วยวะเนี่ยย
   “คนไหน”
   “เป็นอะไรของเมิงเนี่ย  ถามบ้าอะไรนักหนาวะ  กูง่วงนะเว้ย”  ผมคงเสียงดังไปหน่อย  คนที่นอนฟุบอยู่ข้างๆ จึงลืมตาขึ้นมา   ดวงตาคู่งามดูแจ่มใสไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นเลยสักนิด
   “ทำไม  เดี๋ยวนี้เมิงนอนคนเดียวไม่หลับ  จนต้องหาคนกล่อมเลยรึไง  ไอ้เวย์”  เฮือก!  มันรู้ได้ยังงายย   เมิงเลี้ยงกุมารเหรอไอ้ไนท์    ส่วนไอ้คนข้างๆ  ไม่รู้มันใจตรงกันรึไง  อยู่ๆ ก็ยกมือขึ้นมาลูบผมผมซะงั้น

   “อ่ะ..อะไรของเมิงวะ”  ยังไม่ทันได้คำตอบ  สายก็ตัดไป  ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ  การกระทำของมันนับวันยิ่งน่าสงสัยเข้าไปทุกที   ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นคนสุดท้ายในโลกที่ผมคิดว่าจะเป็นเกย์   ผมคงต้องขอเข้าข้างตัวเองหน่อยว่ามันหวงผม  เหอๆ

   “เฮ้ย!!”  ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระชากไปข้างหลังจนตัวปลิวไปปะทะแผ่นอกกว้าง   เงยหน้ามองคนที่ยังจับคอเสื้อผมแน่น  ก็เห็นเพียงสีหน้าอยากฆ่าคนของไอ้ไนท์   อย่าฆ่ากูเลย   ไว้ชีวิตกูเถอะ  กูยังต้องมีเมีย  มีลูก  มีแม่อีกคนนะเว้ย  อ้าว  ไปว่านั่นกู

   “เอ่อ..เมิง  เมิงมาได้ไงวะ”  แล้วทำกูต้องทำเสียงอ่อยเหมือนคนผิดด้วยวะ   กูไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย  แค่ออกมานอนเนี่ย
   “....”  มันไม่ตอบผม  แต่ส่งสายตาดุๆมาแทน  เจี๊ยก!  กูมีพ่อเพิ่มอีกคนรึไงวะเนี่ย

   “สวัสดีครับ”  พี่หมอพูดเสียงนิ่ง  พลางยื่นมือมาตรงหน้า   อ้ไนท์มันก็มีมารยาทพอจะปล่อยเสื้อผม   แต่เสือกทะลึ่งมาบังตัวผมไว้แล้วค่อยยื่นมือออกไปจับตอบ  พร้อมกล่าวทักทาย
   “สวัสดีครับ  ผมชื่อไนท์  เป็นเพื่อน ‘สนิท’ เวย์”    เออ  ย้ำจริงเว้ย  ไอ้ห่-นี่   แล้วจะกอดคอกูเพื่อ?  กูรู้แล้วว่าสนิทอ่ะ  แม่งง  ช้ำเว้ย
   “ผมชื่อนัท  เรียนหมออยู่ปีสี่”  พี่หมอตอบยิ้มๆ  แต่ตา อืม..ไม่รู้เว้ย  ดูกันเอาเองเหอะ  หมดอารมณ์เพราะไอ้คำว่า  เพื่อนสนิท  นี่แหล่ะ

   “รู้จักกับไอ้เวย์ได้ไงครับ”
   “พรหมลิขิตมั้ง”   แกพูดแล้วยิ้มหวานทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี   เออแฮะ  นักเรียนแพทย์ก็เล่นมุกควายงงเป็นกับเขาด้วย
   “ฮ่าๆ   อ๊อก!”  เสียงหัวเราะของผมต้องมีอันสะดุดลงเมื่อไอ้คนข้างตัวมันเล่นรัดคอผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก   ไอ้สาด  เมิงจะฆ่ากูหรือไง

   “ปล่อยเวย์ก่อนดีกว่ามั้ง”  ขอบคุณครับพี่  ช่วยเอาตัวผมออกจาไปมันที  อ๊อก!  กูหายใจไม่ออกเว้ย 
   “เวย์มันชอบให้ผม ‘กอด’  พี่ไม่รู้หรือไง  จริงไหมเวย์”  ไม่จริ๊ง  ไม่จริง  เมิงหมายถึงกอดแบบไหนล่ะ  กูจะได้ตอบถูก   ถ้ากอดอย่างตอนนี้กูไม่ชอบ  กู  อ๊อก!  มันรัดคอผมแน่นขึ้น  พร้อมทั้งส่งสายให้ผมพยักหน้ายอมรับไปซะ   ซึ่งผมคนไม่เคยยอมใครอย่างผมก็...
   ‘หงึกๆ’  พยักหน้ารับไปตามระเบียบ   ทำให้ไอ้หมาบ้ามันแสยะยิ้ม  แล้วปล่อยคอผมในที่สุด
   
   “แฮ่กๆ”  โอ๊ยย   ใครมีอ๊อกซิเจนเม็ดไหมว้า   สูดหายใจไม่ทันเว้ย

   “เวย์  พี่ไปก่อนนะ  แล้วเจอกันครับ”  เออๆ  รีบไปเหอะพี่  อย่าอยู่นานกว่านี้  ไม่แน่ว่าทั้งผมทั้งพี่อาจจะไม่รอด   ผมยิ้มให้แกทีหนึ่งแต่ไม่มีอารมณ์บอกลา  ขอผมบอกทักทายกับอากาศบริสุทธิ์อีกสักพักเถอะครับ   โอ๊ยย   เข้าจมูกมาเลยลูกพ่อ  เข้ามา

   “หวังว่าคง...ไม่ได้พบกันอีกนะครับ”
   “หึ  อย่าปล่อยให้คลาดสายตาแล้วกัน”

เอ๋!  เหมือนได้ยินเสียงอะไรแว่วๆ รึเปล่าครับ?   เสียงเย็นๆ  เหมือน...เหมือน....จ๊ากกก   มหาลัยกูมีผีเหรอวะเนี่ย  ม่ายยยย    ไอ้เวย์  มึงหลอนเพราะสมองขาดอ็อกชิเจน   รีบแดกอากาศเข้าไปซะ  ไอ้ปัญญาอ่อน   อ้าว!  จะด่าตัวเองเพื่ออะไรวะกู? 
    


----------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่ชมน้องเวย์นะคะ  ฮ่าๆ  ปล่อยให้มันน่ารักของมันต่อไปล่ะกาน
สุขสันต์วันสงการนต์ทุกคนค่า
เรื่องนี้แต่งมาตั้งนานและ  เพิ่งจะได้มีโอกาสมาลงที่นี่แล้วได้เสียงตอบรับขนาดนี้  ดีใจเวอร์  ฮ่าๆ
ขอบคุณชาวเล้าคร้าบบบบบบ :o8: :bye2:

อ่อ  ไวท์ไม่แน่ใจว่าปกติเขาลงกันยาวแค่ไหน  ฮ่าๆ  เอาตามความสามารถไวท์แล้วกันนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 12-04-2009 16:29:27
น่ารักสุดๆเลย ผมว่าน่ารักทั้งสามคนเลย แต่เวย์น่ารักสุด อิอิ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 12-04-2009 16:40:21
 :-[ รักเวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 12-04-2009 16:57:28
ทั้งรักทั้งหวงขนาดนี้ ถ้าขืนปล่อยไว้นานมีหวังมคปด :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 12-04-2009 17:23:57
[บวก1]

สนุกดีค่ะ  เป็นกำลังใจ  รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: poom ที่ 12-04-2009 17:42:37
....เข้ามาอ่านด้วยคนนะคับ....

ไปอ่านก่อนแล้วนะ.............

poom_โอ๋ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 12-04-2009 19:57:40
เข้ามาเชียร์พี่หมอนะฮับ  พี่หมอน่ารักดี  หุหุ


รออ่านตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 12-04-2009 20:20:25
มอบแต้ม+ ที่ 14 คร้าบ
******************
เหอะๆ กะลังสนุกเลย ขอบคุณที่มาต่อตอนใหม่นะคร้าบบบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 12-04-2009 21:11:11
อ่านกี่ครั้ง พี่หมอนัทก็ยังน่ารักอยู่ดี

 :o8:


เวย์เอ๊ยย

น่ารักว่ะคร้าบบบ


 :L1:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 12-04-2009 21:36:48
เชียร์ไอ้คุณชายไนท์
อย่าปล่อยหนูเวย์คลาดสายตาล่ะเดี๋ยวโดนสอย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 12-04-2009 21:45:29
 :impress2: :impress2: :impress2:
หมอนัท น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะเนี่ย
แล้วจะรอดูนะคราบว่าคู่ หมอนัท กับ ไนท์ จะเจอะเจอกันอีกเมื่อไหร่ฮุๆ
ดูท่า หมอนัทจะใช่เล่นซะด้วย นิ่มๆแต่แอบแรง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 13-04-2009 00:27:15
 :serius2: :serius2:พี่หมอๆรักพี่เวย์จิงใช่ไมอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: kuraki ที่ 13-04-2009 01:13:15
 :-[ :-[  เลือกไม่ถูกเลยย พี่หมอ กับไนท์ เร้าใจคนละแบบ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 13-04-2009 01:18:02
จิ้ม+ ให้น้องไวท์ ลงได้ตามที่ใจต้องการเลยจ้า

สนุก ๆ อย่างนี้ ลงทุก ๆ วันเลยจ้ะ จะรออ่านนะจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-04-2009 01:33:39
ชอบตอนนี้อ่ะ น้องเวย์ฮาได้ใจมาก ไปเปิดคณะตลกเลยดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิ&#
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 13-04-2009 02:06:54
เวย์น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก ยอมไนท์ตลอดเลยอ่ะ
แต่ว่าอยู่กับเพื่อนๆก็น่ารักดีนะ ส่วนไนท์ไอ้ที่แสดงให้พี่หมอนัทเห็นเนี่ย
เป็นแค่หวงเพื่อนเฉยๆใ่ช่มั๊ย หึหึ เวย์เค้าไม่เคยเจอของแปลกแบบพี่หมอ
ที่เขินๆอายๆเข้ามารุกเวย์ก็แบบนี้แหละ อยู่กับไนท์ที่มักจะโหดๆใส่เค้าเนี่ย
เฮ้อออออออ เห็นใจน้องเวย์นะไม่รู้ว่าจะต้องเป็นเพื่อนรักกับคนที่เรารัก
ไปอีกนานแค่ไหน น่าเห็นใจ ให้พี่หมอมาจีบ มาแ่ย่งความสำคัญบ้างก็ดีเหมือนกันนะ

สนุกมากๆคะ ขอบคุณไวท์+1 จัดไปคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 13-04-2009 08:43:59
พี่ไนท์เนี่ย

สามารถจัง

สามารถทำให้คนเข้าใจผิดอยู่เรื่อยอ่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: reden ที่ 14-04-2009 00:17:28
ติดตามอยู่เน้อ ว่าคู่นี้จะไปลงเอยกันตรงไหน สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 14-04-2009 11:06:50
เชียร์พี่หมอนะ... รู้สึกเขาดูดี

แต่ส่วนตัวเป็นมาโซฯ เพราะงั้น ให้เวย์มันอยู่กะไนท์น่ะดีแล้ว  :z1:

+1 นะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 14-04-2009 16:12:56
 :serius2: :serius2:ไม่ค่อยชอบไนท์เลยไนท์ทำให้เวย์เจ็บ
สงสารพี่เวย์

 :mc4: :mc4:พี่หมอ (พี่หมอรักพี่เวย์จิงๆใช่ไม???)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 14-04-2009 17:34:49
บทที่ 4 ไม่รู้…กูเมา (วิธีการปฏิเสธแบบหน้าด้านๆ) 1

   “ป่ะ  แดกเหล้ากัน”  ไอ้นุ  เมิงมาได้จังหวะมาก   ไอ้ยอดมนุษย์  ไอ้ซุปเปอร์แมน  ถึงมึงไม่ได้ไปช่วยกู้โลก  แต่มึงช่วยชีวิตกูเอาไว้  ฮือๆ  กูอยากร้องไห้ซาบซึ้งในบุญคุณเมิง  ต่อไปกูจะจุดธูปเผากระดาษเงินกระดาษทองให้มึงทุกวันโกน  กูสัญญา
 
   “อ้าว  เป็นไรกันวะ  ไอ้ไนท์ทำหน้าเหมือนฆาตกร   ส่วนมึง...ญาติที่บ้านเสียหรอวะ”  ไอ้สาดด   กูขอคืนคำที่ว่าเมิงเป็นยอดมนุษย์  ไอ้โฉด  เสือกมาซ้ำเติมกูซะงั้น

   “ป่าว  ที่กูเศร้าเนี่ยเพราะไว้อาลัยล่วงหน้าให้มึงไง”  ผมกวนมันกลับ  แล้วเดินเลี่ยงออกจากรังสีอำมหิตของใครบางคน  ที่ยื่นมือมาคว้าคอเสื้อผมไว้ตามสัญชาตญาณ  ปล่อยยยยกู

   “ไม่ต้องทำเนียน  ไอ้เวย์   เมิงต้องคุยกะกูอีกยาว”  ง่า  คุยอะไร  คุยทำไม  กูไปทำอะไรให้เมิง  แงๆ  สาดดด  อย่าฆ่ากูเลย  ไม่งั้น  กู  กู  กูจะฟ้องแม่  พอๆ เลิกปัญญาอ่อนได้แล้วกู
   “อ..อะไรวะ  เหอๆ  ป่ะ  เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้า”  ลงทุนล่อด้วยของกินแล้วนะเมิง  ปล่อยกูเถอะ
   “....”  อย่าจ้องเดะ  กูกลัวจนหางหดแล้วเนี่ย

   “อ่ะ..เอ่อ  งั้นแถมหมูมะนาว  ไก่ผัดเม็ดมะม่วง  แกงจืดส่าหร่าย  ตีนควายแช่เหล้า  กุ้งเคล้าน้ำตา  มารยาร้อยเล่มเกวียน....”
   “ฮ่าๆ  พอๆ เลยเมิง  กูไม่ได้เห็นแก่กินเหมือนเมิงนะ  แล้วไอ้ตีนควายแช่เหล้า  กุ้งเคล้าน้ำตาของเมิงนี่มันอาหารที่ร้านไหนวะ  เฮ้อ!  เอาเป็นว่ากูยอมยกให้เมิงสักครั้งก็แล้วกัน”  โธ่เอ๊ย!  สุดท้ายก็ยอมกู  แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เห็นแก่กินอีก  ไอ้ปากแข็ง   แน่ะ!  ยังมาเสือกยิ้มดีอีก  ทีเมื่อกี้กูล่ะนึกว่าจะต้องไปจองศาลาซะแล้ว 
 
   “สวีทกันเสร็จยังวะ  จะได้ทำมาหาแดกอย่างอื่นซะที”  ไอ้นุมันส่งรอยยิ้มกวน ‘นันยาง’ มาให้  เมิงไม่รู้รึไง  ว่ากูเก๋าตั้งแต่รุ่นพ่อ

   “ยังโว้ย  อยากไปทำมาหาแดกอะไรก็ไปก่อนเลย  เดี๋ยวพวกกูตามไป”  น่าน  พ่อคนหล่อ  ไอ้พระเอก  ไอ้มิตรชัย  บัญชา  ไอ้เคน  ธีรเดช  เมิงจะรับมุกเก่งไปถึงไหน   แต่...คิดว่าผมจะอายเหรอครับ   พวกคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ   ที่จริงผมแอบสนับสนุนลูกล้อ  ลูกยุของไอ้นุอยู่ในใจมาตลอด   เพื่อฟลุ๊ก  ฮ่าๆ
 
   “เออๆ  แม่งง  กูล้อหน่อย  ทำเนียนเชียวนะเมิง  ไอ้ไนท์  อย่าทำอะไรรุนแรงอ่ะ  ไอ้เวย์น่ะ  มันเป็นของกู”   สาดนุยิ้มวอนตีน  ก่อนจะอำลาไปด้วยท่า  เลิฟ  ไอ นีด ซัม บอดี เลิฟ  ของพี่บี้  เดอะสตาร์   ไอ้นี่ก็กวนสุดตรีนอีกคน
 
   “แดกตรีนกูก่อนไปมั้ย”  ไม่ต้องไปด่ามัน  เดี๋ยวกูลุยเอง  กูเป็นของเมิงนะไอ้ไนท์  ทั้งตัว (หรอ?)  และหัวใจ  อ้วกกก  คิดเข้าไปได้นะกู - -
 
   “ฮ่าๆ  เฮ้ย!  ไอ้ส้มนี่หว่า”  ผมตะโกนแล้วชี้มือไปทางด้านหลังของมัน  พลางทำหน้าตกใจสุดชีวิต  ไหล่พลันสั่นสะท้านอย่างแนบเนียน  ไม่ใช่เพราะตกใจ  แต่กำลังกลั้นหัวเราะไว้อย่างเต็มที่  เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของไอ้คนสุดตรีน   เหงื่อเม็ดเป้งซึมจากหน้าผากมัน   นัยน์ตาเบิกโพล่งจ้องมองผมเหมือนต้องการให้บอกว่า  ‘เมิงล้อกูเล่นใช่ไหม’   ด้วยความรักเพื่อน  ผมจึงส่ายหัวอย่างอับจนหนทางให้มัน  แล้วส่งสายตาให้มันหันกลับไปมอง  พร้อมทั้งทำท่าเชือดคอ  มึงตายแน่!!
 
   “ไหน   ไหนวะ?”  ผมไม่รู้ว่าหน้าตาตอนนั้นของมันเป็นยังไง  เพราะทันทีที่มันหันหลังกลับไป  ผมก็ลากไอ้เวรไนท์ที่ยิ้มกลั้นหัวเราะจนตัวงอออกมาด้วยกันทันที
 
   “ไอ้สาดเวย์  เมิงหลอกกู  ไอ้สัดเอ๊ย  แม่งง”   เสียงไอ้นุตะโกนไล่หลังมา   ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมครับ  ว่าไอ้สุดตรีนคนนี้มันเป็นโรคกลัวเมีย

   “ก๊ากกก   ไอ้ – กลัว – เมีย  ฮ่าๆ”  ผมตะโกนด่ามันอย่างสะใจ  เป็นไงล่ะเมิง  ถึงทีกูบ้าง  ว๊ากก   สะใจโว้ยย

   “เอี้ยเวย์   ไอ้ไนท์ระวังเมียเมิงให้ดีเหอะ  คืนนี้มันเสร็จกูแน่”  น่าน  จะไปยังต้องวอนกูอีกเนอะเมิง   ยอมกูสักครั้งเป็นไหมวะ
 
   “ฮ่าๆ  เอาเลย  เดี๋ยวกูช่วยอีกแรง”   สาดดดนี่    ทำไมเมิงพูดอย่างนั้น  เมิงต้องหวงกูสิฟร่ะ  ไอ้เวรไนท์   ไอ้บ้า  นอกจากจะไม่เอาแล้วยังจะประเคนให้คนอื่นอีกเหรอเมิง   ไอ้เลว  แม่ง  กู  กู  ฮึ่ย!!  จะงอนก็ไม่ได้  จะเคืองก็ใช่ที่  แล้วกูจะทำอะไรได้บ้างวะนี่   เศร้าโว้ยย

 

 ...ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ  แต่มันคือแสนไกล  ยิ่งเพื่อนเป็นเหมือนเพื่อนสนิท  ยิ่งไม่มีสนิทจะบอกไป  ว่ารักเธอ..
 
กึก!!  เท้าที่กำลังก้าวเข้าไปยังร้านเฮียต้าของผมหยุดชะงัก    ใคร   ใครมันบังอาจร้องเพลงนี้วะ?  แม่งงง   อยากโดนดีใช่ไหมเนี่ย  หึหึ  ผมเหลือบตาข้ามหัวไอ้ ‘เพื่อนสนิท’ ไปยังเวทีที่มีวงดนตรี กำลังแสดงสด   ก็เห็นนักร้องสาวหน้าตาไฉไลยืนจับไมค์ทำหน้าบิ้วอารมณ์อยู่   น่าสงสัยว่าเวลาผมมองมัน  หน้าผมแสดงออกอย่างนั้นด้วยหรือเปล่า?
 
   “เหม่อหาอะไร  แม่เมิงยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีรึไง”  น่านน  เล่นถึงแม่กูเลยนะ  ไอ้ไนท์  เมิงก็รู้  แม่กูจะสวย  หุ่นดี  เสียงหวานอย่างน้องเขาได้ไงวะ  ไอ้โง่นี่
   “อ้าว  แม่กูหรอกเหรอ  ทำไมตอนแรกกูเห็นเป็นหน้าแม่เมิงวะ  ว่าจะเข้าไปสวัสดีอยู่เลย”  ก๊ากกก  เล่นกับใครไม่เล่น   ผมย้อนมันหน้าตาย  ส่วนไอ้เวรไนท์มันคงชินกับมุกควายๆ ของผม  เลยได้แต่ยิ้มรับ  แล้วส่ายหัวน้อยๆ   ชิ
 
   “ไอ้ไนท์  ไอ้เวย์”  เสียงไอ้แชมป์ดังมาจากโต๊ะขนาดยาวไม่ไกลจากเวทีมากนัก  เท่าที่เห็นมีคนร่วมสิบคนนั่งอยู่ในกลุ่มนั้น  สงสัยมันพาพวกเพื่อนๆ มันมาด้วย  ก็ดีครับ  หลายคน  ตัวหารเยอะ  ก๊ากก   งกจริงกู
 
   “มาไมกันเยอะแยะวะ?”  อ้าว  เจริญเหอะเมิง  ไอ้ไนท์  บ้านเตี่ยเมิงเขาสอนให้ทักคนอื่นอย่างนี้เหรอวะ?  มารยาทน่ะ  สะกดเป็นไหม  เหอๆ  อย่าไปถามเลยครับ  ผมว่ามันคงลืมทิ้งไว้ในท้องแม่แล้วล่ะ

   “อ้าว  สาด   นี่เพื่อนๆ กู”   ไอ้นุมันแนะนะพวกเพื่อนๆ มันให้รู้จัก  ก็มีไอ้โจ  ไอ้เก่ง  ไอ้คิม  ไอ้เพชร  ไอ้เต้  และไอ้กล้วย  ฮ่าๆ  ไอ้นี่หน้าโคตรหล่อ  เสือกชื่อซะฮาเลย  แม่ง  เป็นผมนะ  ผมจะเปลี่ยนชื่อเป็นคริส  เคน  อะไรทำนองนั้นให้เข้ากะหน้าหน่อย
 
   “ฮ่าๆ  ก๊ากกก”  ยังไม่เมาเหล้า  เมาชื่อซะงั้นกู
   “ขำเอี้ยไรของเมิง  ไอ้เวย์”  สาดนุ  ทำมาเป็นดุกู  เพื่อนๆ เมิงมาสำรองที่นั่งไม่บอกกูยังพอว่า  เสือกยังมีแต่ผู้ชายอีก  ฮ่วย  ไม่ได้ดั่งใจเลย  เมิงนี่

   “ขำชื่อเพื่อนเมิงดิ  ฮ่าๆ  ส่วนไหนของมันเหมาะจะชื่อกล้วยวะ  ก๊ากกก”  ผมขำจนน้ำตาคลอ  ไอ้คนหล่อที่นั่งข้างผมมันคงเริ่มหงุดหงิด  ก็เล่นไปฮาชื่อมันซะขนาดนั้น
   “ก๊ากกก  ไอ้กล้วย  กูบอกเมิงแล้วว่าไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ  เสือกอยากให้พวกกูเรียกอย่างนี้  เป็นไงล่ะเมิง   ไอ้เวย์มันฮาเยี่ยงแดกกัญชาเข้าไปแล้ว”
 
   “เปลี่ยนชื่ออะไรวะ”  ไอ้คุณชายที่นั่งแดกเหล้าอยู่ข้างๆ โดยไม่มีน้ำใจคิดจะชงให้ผมบ้าง  เอ่ยขึ้นมา

   “ก็ที่จริงไอ้กล้วยมันชื่อคริส  มันเป็นลูกครึ่ง”  ผมหันไปดูหน้ามันตามคำบอกของไอ้นุ  เออ  ก็จริงของมัน  ว่าแต่ทำไมต้องใช้ชื่อที่กูคิดด้วยวะ?  สาดนี่
 
   “แต่ไอ้นี่มันชอบกล้วย  เชิญยิ้มตอนพวกกูพาไปดูตลกคาเฟ่  พวกกูเลยแกล้งเรียกมันว่าไอ้กล้วย  เสือกชอบขึ้นมาซะงั้น”   โอ้!  เหตุผลคนหล่อ  เหอๆ  อย่างนี้ล่ะครับ  คนหน้าตาดีทำอะไรไม่น่าเกลียด
   “เมิงจะแฉกูอีกนานไหมวะ?   นายชื่อเวย์เหรอ  พูดเมิงกะกูได้มะ  ไม่ถนัดปากว่ะ”  ดูมัน  มีที่ไหนเขามาขอกันหน้าด้านๆ งี้วะ 
   “เออ”  ตอบมัน  มือก็ยื่นไปรับแก้วเหล้าจากไอ้แชมป์  หน้าที่ชงเหล้าตลอดศกเลยนะเมิงเนี่ย  กูว่ามึงหันมาเอาดีทางด้านนี้ดีไหมวะ
 
   “ที่เมิงถามว่าส่วนไหนของกูเหมาะจะชื่อกล้วยอ่ะ   เมิงอยากดูป่ะ”  มันอมยิ้มแปลกๆ  แล้วเหลือบมองไปที่หว่างขาของตัวเอง
   “เชี่ยนี่  ทะลึ่งล่ะเมิง  ฮ่าๆ”  ผมขำไปกับมุกกวนส้นของมัน  ไม่สงสัยแล้วครับว่าทำไมมาเป็นเพื่อนกับไอ้นุได้  คุยไปคุยมา  พวกเพื่อนๆ มันทุกคนก็นิสัยดี  กวนตีนไม่น้อยหน้ากัน  ไอ้พวกนี้มันเรียนม.ปลายที่เดียวกันครับ  แต่คนที่อยู่มหาลัยเดียวกับพวกผมนี่ก็มีแค่ไอ้คุณกล้วย  ซึ่งดูเหมือนจะอยากให้คนอื่นรียกมันว่า คริส  อย่างเดิมแล้วล่ะ  ไอ้คิม  แล้วก็ไอ้เพชรที่เรียนสถาปัตย์
 
   “ว่าแต่  เมียเมิงไปไหนเนี่ย  ไอ้นุ” 
   “ไปกับหยก  มันบอกว่าเรื่องของผู้หญิง  กูอยากเสือก  เหอๆ  เออ  พูดถึงเรื่องเมีย  ยังไม่ได้คิดบัญชีกับเมิงเลยนะ   ไอ้ไนท์  สรุปร่วมมือกับกูป่าววะ?”  น่าน  ไม่ต้องไปลากมันมาเป็นพวก  กูไม่เอา  สาดนุ

   “ได้  แต่กูก่อนแล้วกัน”  ไอ้นี่แม่งพูดหน้าตาย

   “เชี่ย”   ไอ้หน้าด้าน  ไอ้เลว  เมิง  แม่งเอ๊ยยย
 
 
   “สวัสดีครับ  เพลงต่อไป  มีสาวๆ ฝากมาให้ ไนท์  เศรษฐศาสตร์  ไปฟังกันเลยครับ”  เสียงประกาศบนเวทีเรียกความสนใจของผมได้ชะงัก  เสียงกรี๊ด  เสียงแซวไอ้ไนท์ดังไปทั่วร้าน  ไม่แปลกครับที่หลายๆ คนจะรู้จักพวกผม  ในเมื่อพวกผมมันเป็นขาประจำ
 
   “แม่ง  น่าอิจฉาเว้ย  คนเรา  นั่งอยู่ดีๆ ก็มีคนมาขอเพลงให้ซะงั้น”  ประชดไปดอกหนึ่งก่อน
   “ไมวะ?  หึงเหรอเมิง” มันกระซิบให้ได้ยินสองคน
   “ปัญญาอ่อน”  ไม่ใช่หรอก  กูมันปากไม่ตรงกับใจว่ะ  สาดดด  มึงมันไอ้โคตรปัญญาดีเลย  เออ  กูหึงมีอะไรมั้ยวะ  แม่งง   เอี้ยเอ๊ย  ผู้หญิงคนไหนวะ?  กล้าดีจริงๆ เว้ย  แม่ง  กูอยู่กับเมิงมาสามปี  ทำไมกูไม่กล้าวะ?  ทำไมกูต้องเป็นเพื่อนมึงด้วยวะ?  นี่ล่ะครับ  พอเหล้าเข้าปาก  อะไรที่มันเก็บไว้ในใจมันก็มักจะไม่ยอมให้เราควบคุมได้ง่ายๆ
 
รู้ก็ทั้งรู้ว่าเธอเป็นใคร
และฉันก็ไม่คิดจะปีนขึ้นไป
คงไม่มีทางจะเป็นไปได้
ก็เรานั้นมันต่างกัน
ทำได้แค่เพียงเจียมตัวมันไป วัน วัน
ฉันเข้าใจ

แต่ฉันก็ไม่รู้เพราะความบังเอิญ
หรืออันที่จริงฉันนันจงใจ
เวลาที่เธอมายืนใกล้ ใกล้
ก็ยังเผลอไปสบตา
รู้ก็ทั้งรู้ว่าคงไม่มีปัญญา
คงไม่มีหวัง ไม่อยากจะเหลียวมอง

ฉันคอยบอกตัวเอง แต่ยังทำไม่ได้
ไม่อยากจะสนใจ รู้ว่าไม่มีทาง
แต่ก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร
อดใจไม่ไหวเมื่อได้พบหน้า

ยิ่งเธอส่งยิ้มคืนมายังหวั่นไหว
ยังเป็นอย่างนี้อยู่ทุกวัน
ฉันต้องคอยหักห้ามใจ
(มันยังอดใจไม่ได้ มันยังห้ามใจไม่ได้)

อดใจไม่ไหวทุกทีที่เจอ
เพียงแค่แอบเผลอมองตา
จะผิดไหม เก็บเอาไปฝันอยู่ทุกคืน
ฉันต้องทำตัวเช่นไร ช่วยบอกได้ไหมเธอ
 
เออ  หวั่นไหวมันเข้าไป  ร้องเข้าไปพี่   กระแทกใจผมให้มันเต้นเป็นจังหวะรักไปเลย  โอะ โอ้ะ โอ้ โน โน   เอาเข้าไป  เอาเข้าไป  เอาเลย  เลิฟซีน  เฮ้ย!  ไปเพลงพี่แบงค์ซะงั้นกู
 
     “เฮ้ย!!  กระดกเอาๆ เลยเมิง  ไอ้เวย์  เบาๆ เลย  เดี๋ยวกลับไม่ไหวนะ”  สาดด  อย่ามายุ่งกับกู  แม่งเอ๊ย   กูเป็นเอี้ยอะไรเนี่ย  ทำไมเซนส์ซิทีฟอย่างนี้วะ  แม่งง  ปัญญาอ่อนเอ๊ย  แค่มีคนร้องเพลงจีบมันแล้วยังไง  อยากจีบมันมั่งรึไงวะ  ไอ้บ้า  ไอ้โง่   ไอ้เวย์

   “ปล่อยยย  กู  เอิ้ก  จะ กิน  ไปฟังเพลงโน้นเลย  ไป๊”  แสดงออกชัดเจนไปรึปล่าวครับพี่น้อง  เหอๆ  ไม่ทันได้ยั้ง  ปากมันก็ขยับไปก่อนแล้ว

   “อ๋อ  นึกว่าเรื่องอะไร  อิจฉาใช่ไหมไม่มีคนร้องให้เนี่ย  หึหึ”  เออ  รู้ก็ดี  กูอิจฉา  ไม่ใช่ที่มีคนร้องเพลงให้เมิง  แต่อิจฉาที่เขามีสิทธิ์ทำอย่างนั้นให้เมิง  แต่กูทำไม่ได้ต่างหาก  ไอ้เวย์เอ๊ย  เป็นเอี้ยอะไรเนีย  คืนฟอร์มด่วน  แม่งง  ใครชงเหล้าให้กูวะ  แรงดีจริงๆ
 
 
“สวัสดีครับ  ผมไนท์นะครับ   พอดีว่าอยากร้องเพลงให้ใครบางคนน่ะครับ  ฮ่าๆ  อยากให้เขารู้ว่า  ถ้าอยากฟังเพลง  บอกกันดีๆ ก็ได้  อ้อนผมหน่อย  ผมยินดีทำให้ได้อยู่แล้ว  ถ้าอยากปาขวดเหล้าก็ไม่ต้องปาขึ้นมาบนเวทีนะครับ   ปาไปแถวโต๊ะโน้นแทน  ฮ่าๆ”  เสียงคุ้นเคยเรียกให้ผมต้องเงยหน้าจากแก้วเหล้าหันไปมองคนที่เคยอยู่ข้างตัว  ที่บัดนี้ย้ายไปยืนเด่นบนเวทีเรียบร้อยแล้ว   เชี่ยนี่ชอบทำเด่นอยู่เรื่อย
 
ได้ชิดเพียงลมหายใจ
แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
แค่เพื่อนเท่านั้น แต่มันเกินห้ามใจ
ที่ค้างในความรู้สึก ว่าลึกๆเธอคิดยังไง
รักเธอเท่าไร แต่ไม่เคยพูดกัน

อะไรที่อยู่ในใจก็เก็บเอาไว้
มันมีความสุขแค่นี้ก็ดีมากมาย

' ใครบอกเมิง  ไม่โว้ยย  กูไม่มีความสุข  กูอึดอัด'

เธอจะมีใจหรือเปล่า
เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า
ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า
มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม
กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป



เสียงนุ่มๆ ของมันยังคงก้องอยู่ในใจของผม  เพลงนี้... เพลงของผม   ก็มันเป็นซะอย่างนี้  ผมจะปล่อยมือได้ยังไง  อย่างที่มันเคยพูด  ไม่มีเรื่องอะไรของผมที่มันจำไม่ได้  เพลงที่ผมเปรยเบาๆ ว่าชอบ  มันก็ยังไม่เคยลืม  แต่ว่ามันเอง...ก็คงไม่เคยรับรู้ว่าผมถามอะไรมันผ่านเพลงๆ นี้เสมอมา
 
‘ วู้ๆ  ใครเป็นคนโชคดีคนนั้นเนี่ย  ไอ้ไนท์’  โชคดีบ้านป้าเมิงดิ  ดีบ้าดีบออะไรวะ  แม่งง
‘ ฮิ้วๆ  น่าอิจฉาจังเลยค่ะ’  อิจฉาเหรอวะ?  ลองมาเป็นกูดูไหม  จะได้รู้ว่าเป็นยังไง  สาดเอ๊ย
 
   “ขอบคุณครับที่ไม่มีใครขว้างขวดขึ้นมา  เพลงต่อไป  เฮียต้าเจ้าของร้านเรียกร้องมา  ดูเหมือนจะอยากโชว์ตัวน้องรหัสแก  น้องรหัสพี่ต้าขึ้นมาบนเวทีด้วยครับ”  เออ  ร้องกันเข้าไปนะ  แม่งงง  อย่าให้กูมีโอกาสร้องมั่งนะ  กูจะเล่นให้หนักเลยเมิง  เอาไม่ต้องวางไมค์เลย  ใครขว้างขวด  หรือจะถีบกูลง  กูก็จะหน้าด้านร้องต่อ
 
   “เวย์  เวย์  ไอ้เอี้ยเวย์”
   “อะไรวะ”  แม่งง  สาดนุ  เรียกอยู่ได้  กูกำลังหงุดหงิดนะมึง
   “พี่รหัสเมิงอ่ะ  พี่ต้าเจ้าของร้านป่าววะ”
   “เออ”  ก็รู้อยู่แล้ว  จะถามเพื่อ?
   “เขาเรียกเมิงขึ้นไปบนเวทีอ่ะ”  หน้ามันกลั้นยิ้ม  แล้วชี้ไปที่พี่ต้ากับไอ้ไนท์ที่เปลี่ยนไปจับกีตาร์แทน  ผมชี้หน้าตัวเองงงๆ  อะไรของมันวะเนี่ย  กู..ไปเกี่ยวกะไรด้วย
 
   “น้องเวย์ครับ  อย่าเล่นตัว  ขึ้นมาด่วน  ประชาชีรออยู่ครับ”  เสียงพี่ต้าดังจากลำโพง  พร้อมทั้งเสียงปรบมือที่ทำให้ผมเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทางงงๆ  ไปถึงก็กระซิบถามแกก่อนเพื่อความชัวร์ครับ
 
   “อะไรพี่  ผมงง”
   “งงเอี้ยอะไรของเมิง  ไปหยิบไมค์มาร้องเพลง  จะเอาเพลงไร  ให้ว่องเลย”  อ้าว  ไหงพี่ทำงี้วะ  แม่งง  นึกว่าเป็นพี่รหัสแล้วผมจะกลัวรึไง  แม่งง  ร้องก็ร้องวะ   ได้ข่าวว่าเมื่อกี้มึงอยากร้องใจจะขาดไม่ใช่เหรอวะ  คุณเวย์
 
   “ง่า  ดีครับ  ผมเวย์ นักร้องจำเป็นนะ  ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าของร้านเขาไม่ลดค่าเหล้าให้  ฮ่าๆ  ใครอยากเลี้ยงเหล้า  ถือขวดเต็มๆ ไปโต๊ะโน้นนะครับ  อย่าไปแต่ตัว  ไปฟังกันเลยครับ  ถูกที่ผิดเวลา”
 
ดีเพียงใดที่ได้ยืนข้างเธอ
ได้พูดได้คุย ได้พบได้เจอ ได้ใกล้ชิดกัน
ดีเกินพอ กับคนอย่างฉัน
ความรักในใจคงไม่พูดมัน ไม่ให้สร้างปัญหา

ใจเธอมีเจ้าของ คงต้องโทษที่พรหมลิขิต
ให้ฉันมีสิทธิ์ แค่รักเธอผิดเวลา

ได้แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่
แม้จะได้แค่เพียงใกล้กัน
ใครคนนั้นคงไม่ว่า
ช่วยไม่ได้เธอรักเขาก่อน
ฉันต้องซ่อนอาการมากมาย
ไม่ให้เธอรับรู้ได้จากสายตา

‘ เมื่อไรจะโจบบบ   จบเถอะ  กูไม่ไหวแย้วว’

ใครเป็นใคร เข้าใจและรู้ตัว
ถ้าเขายังอยู่เธอไม่ต้องกลัว จะไม่วุ่นวาย
ได้มองเธอ ยังเจอกันได้เท่านั้นก็พอ
ไม่ขออะไร ไม่ต้องให้กลับมา

แค่นี้ก็เหมาะสม คงต้องโทษที่พรหมลิขิต
ให้ฉันมีสิทธิ์ แค่รักเธอผิดเวลา

ได้แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่
แม้จะได้แค่เพียงใกล้กัน
ใครคนนั้นคงไม่ว่า
ช่วยไม่ได้เธอรักเขาก่อน
ฉันต้องซ่อนอาการมากมาย
ไม่ให้เธอรับรู้ได้จากสายตา

' ต้องซ้ำอีกเว้ยย  เมื่อไรจะจบ   แม่งงง   กูต้องร้องท่อนต่อไปอีกใช่ไหม  ใครก็ได้เปลี่ยนเนื้อเพลง  เอาคำว่าเพื่อนออกไปที  ได้แค่เพื่อน  มันจะไปดีตรงไหนวะ  ใครแต่งเพลงนี้  มาตัวตัวกะกูเลยมา'


ได้แค่เพื่อนก็ดีเท่าไหร่
แม้จะได้แค่เพียงใกล้กัน
ใครคนนั้นคงไม่ว่า
ช่วยไม่ได้เธอรักเขาก่อน
ฉันต้องซ่อนอาการมากมาย
ไม่ให้เธอรับรู้ได้

ดีเท่าไหร่ที่ได้พบเธอ (ยังมีเธออยู่ในใจ)
ยังมีเธอให้ความสำคัญ (ไม่ว่าเธอจะมีใคร)
แค่เพื่อนกันก็ไม่ว่า (ฉันรอได้)
ไม่มีทางที่จะรักกัน (อาจจะถูกที่มีเธอ)
ไม่มีวันจะแทนที่ใคร (ที่มันผิดก็เวลา)
เก็บอาการไว้ไม่ให้มีน้ำตา
 
 
โอ๊ยย  กูจะร้องเพลงนี้ทำไมเนี่ย  ร้องเองเจ็บเอง  ตลอดเพลงผมหันไปมองมันหลายครั้ง  มันก็ยังคงยิ้มให้ผมอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร  กูแสดงออกขนาดนี้แล้วเนี่ย  ไอ้โง่  ต้องให้กูพูดจากปากเลยไหมวะ
ทันทีที่จบเพลง  ผมก็ได้เสียงปรบมือมากมาย  รวมทั้งส่วนลดค่าเหล้าและเหล้าฟรีจากบรรดาสาวๆ และหนุ่มๆ (?)  ที่แวะเวียนมาชนแก้วตามคำบอกของผม  ไอ้เราก็ไม่ได้งก  แต่เขามาเอง  มันก็...ช่วยไม่ได้ล่ะนะ  หึหึ
 
 
   “เวย์  ไอ้เวย์  เดินไหวไหมเนี่ย”  ผมปรือตามองคนที่โอบกระชับร่างผมอยู่  ก็เห็นไอ้ไนท์ส่งสายตาห่วงใยมาให้
   “หวายว้อยยย  ป่ะ..ปล่อย  กูเดิน  เองด้ายยย”
   “ไม่ต้องดื้อเลยเมิง  ไปคอนโดกู  เดี๋ยวกูโทรบอกแม่ให้”
   “ไม่อาววว  จะหา  แม่”

   “หึ  ไม่ต้องเลย  กูขี้เกียจไปส่ง  ไม่ต้องเถียงนะ”  มันคงเห็นว่าผมอ้าปากเตรียมจะปฏิเสธ  มันเลยดักทางไว้ก่อน  รู้ดีนัก  แล้วทำไมทีเรื่องง่ายๆ แค่นี้  เมิงถึงไม่รู้วะ?  ตอนนี้ยิ่งบิ้วง่ายๆ อยู่  ถ้าเกิดกูพูดอะไรของไป  เมิงจะทำยังไงวะ  เมิงจะยัง..เหมือนเดิมรึเปล่า   กูจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ยย
 

ไอ้ไนท์พาผมมานั่งบนเบาะนุ่มๆ ของรถมัน  ก็ไอ้คันเดิมนั่นแหล่ะ  แต่ว่าคราวนี้  ผมนั่งข้างหน้าสมใจ  ฮ่าๆ  จะเป็นไรไหมครับ  ถ้าผมอาศัยตอนเมา....บอกรักมัน   แบบว่าไม่รู้  กูเมาอ่ะ
 
   “ไม่ไหวก็หลับไปเลยนะเมิง  ถึงแล้วกูอุ้มขึ้นไปเอง”   เมิงจะดีกับกูไปถึงไหนวะ  หรือเมิงไม่รู้ว่าความอดทนของกูน่ะ  มันมีจำกัด  หรือเมิงไม่รู้ว่าเพื่อนคนนึง  มันแอบมันคิดอะไรไปไกล  กว่าเป็นเพื่อนกัน   มาเรื่อยๆ นะเนี่ย
 
จากเพื่อนที่รู้จักเป็นคนที่รู้ใจ
ก็ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป
จะทำยังไงก็ไม่เหมือนเดิม

รู้ไหมในวันนี้ไม่เหมือนเก่า
รู้ไหมใครแอบเหงาคิดถึงเธอ
รู้ไหมอยากบอกรัก แต่กลัวเก้อ
ทนไม่ไหวที่จะห้ามใจ ไม่ให้รักเธอ
 
เมิงจะให้กูพูดให้ได้ใช่ไหม  ไอ้ดีเจ  เสือกเปิดเพลงบิ้วกูอยู่ได้  วันนี้มันวันอะไรวะ  วันรักเพื่อนแห่งชาติหรือยังไง  แม่งง
 
วันที่เรามีรักให้ใครสักคน
ถ้ามันเป็นเพียงความรักข้างเดียวก็คงต้องเสียใจ
แต่รักเขาแล้วไม่บอกไม่ยอมพูดเพียงคำเดียวแล้วปล่อย ปล่อยมันให้สายไปยิ่งช้ำใจ
 
‘เออ  ก็จริงของมัน  รักข้างเดียว  หรือ  พูดออกไปแล้วอกหัก  อะไรมันช้ำกว่ากันวะ?’

ความในใจของฉัน ฉันมีต่อเธอมันคือคำว่ารัก
รักตั้งแต่วันที่พบกัน แต่เหมือนว่าฉันไม่แคร์
ไม่เคยสนใจในความรู้สึกของใจเธอเลยสักครั้ง
อยากให้รู้มันไม่จริง

แหละในชีวิตของฉันต้องการแค่เพียงคนเดียวคือเธอ
ก็คงไม่มีประโยชน์ต้องทนเก็บไว้ในใจ
อยากบอกให้เธอได้รู้ ฉันจะไม่มีความจริงจากนี้ไป
นาทีสุดท้าย คงยังไม่สายสำหรับเรา

‘ มันจะสายไปหรือเปล่าวะ  ไอ้ไนท์  ถ้ากูจะบอกว่า...’ 
 
“กู รัก เมิง”     อ๊ากกก  ผมพูดไปแล้ววววว


___________________________________

^^  ช้าไปหน่อยนะคะ  แบบว่าไปเที่ยวสงกรานต์มา  ฮ่าๆ

TBC  ตอนหน้านะคะ  เชียร์เวย์ด้วยน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 14-04-2009 17:47:50
 o13 555+

ชอบจัง เพื่อนรัก-รักเพื่อนแบบนี้

ที่ได้ๆอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อนกันนี่ล่ะ เล่นกันเอง 

กร๊ากกกกกกกกกกกก :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 14-04-2009 17:48:55
อ๊าก สารภาพไปแล้นนนน ไนท์จาได้ยินไหมเนี่ย -*- ได้ยินแล้วจาคิดตรงกันไหมหว่า???  :o8:

แต่ตื่นมาไนท์ต้องถามแหง เหอๆ  :z2:

รอตอนต่อปายยยยย  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 14-04-2009 17:59:56
เจ้าเวย์  ...  นี่มันรั่วได้ใจจริง ๆ   5555
ในที่สุดก็พูดออกมาได้ซะทีนะ...เวย์เอ๊ย
ขอบคุณค่ะ  whitedemon   :pig4:
ถ้าจะรบกวนคนเขียนให้บอกชื่อตอนกับวันที่อัพเดทไว้ที่หัวเรื่องซักเล็กน้อย
จะสะดวกไหมคะ  ...  เพราะจะทำให้ทราบว่านักเขียนมาอัพตอนต่อไปแล้วน่ะค่ะ
        ....  ขอบคุณมากค่ะ  .....
:L1:  เป็นกำลังใจให้นะคะ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 14-04-2009 18:23:07
สารภาพไปแล้ว แล้วไนท์จะตอบมาว่าไงเนี๊ย  :z3:

รอตอนต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 14-04-2009 18:53:28
ไนท์จะรับรู้มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-04-2009 19:04:56
ซึ้งกับเพลงเวย์ร้องจัง  งือ

รออ่านตอนไปนะจ๊ะ  เป็นกำลังใจให้นายเวย์จ้า
เวย์สู้  สู้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: PT ที่ 14-04-2009 21:56:27
รออยู่นะคับ    มาต่อเร็วๆๆๆนะ





รออ่านอยู่คับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 14-04-2009 23:05:23
 :-[ บอกรักไปแล้วววว

ไนท์จะว่าไงต่อ


รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 14-04-2009 23:05:57
โหยบอกออกไปแล้วอ่ะ เจ้าน้องเวย์ก็ฮาเหมือนเคยคิดได้ไง วันรักเพื่อนแห่งชาติ
ต้องมีสิ่งกระตุ้นก่อนสินะถึงได้กล้าบอกสิ่งที่ตัวเองรู้สึกออกไป รอดูปฏิกิริยาของเจ้าไนท์ก็แล้วกัน
ถ้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรก็จะใจดำกันเกินไปหน่อยแล้ว ตามบุคลิกของเวย์ เป็นคนที่ไม่ได้อ่า่นยากอะไรเลยสักหน่อย
ขอแค่มองมาทางเวย์บ้างก็พอ ฤทธิ์แอกอฮอล์ ทั้งเมาเหล้า เมารัก เมาเพลงรักเพื่อน เหอะๆๆ เต็มที่เลยนู๋เวย์
"ออ  ก็จริงของมัน  รักข้างเดียว  หรือ  พูดออกไปแล้วอกหัก  อะไรมันช้ำกว่ากันวะ?’
ประโยคนี้กินใจจัง แอบรักเงียบๆก็เจ็บ บอกออกไปถ้าโดนปฏิเสธหรือโดนเกลียดก็เจ็บ  :m15:

ขอบคุณไวท์คะ เยี่ยมมากๆ +1 จัดไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 14-04-2009 23:08:16
แล้วเฮียไนท์จะว่ายังไงล่ะเนี่ย

เชียร์พี่เวย์

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 14-04-2009 23:18:52
 :a5: บอกไปแล้วจริง ๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 14-04-2009 23:28:35
เอาล่ะสิงานเข้าใหญ่แล้ว

นี่ล่ะเขาถึงเรียกเหล้าว่าน้ำเปลี่ยนนิสัย

อยากอ่านตอนหน้าเร็วๆ ค่ะ

อยากรู้คำตอบ ว่า โอเค หรือโนเค กันแน่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 15-04-2009 01:08:43
เวย์น่ารักมากกกกกๆๆๆเลย
ชอบบบบ  :man1:
บอกออกไปแล้วจะเป็นยังไงเนี่ย
ทั้งๆที่ดูแล้วไนท์ก็ใจตรงกัน
ขอให้เวย์สมหวังเร็วๆ  :oo1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: PYMMM ที่ 15-04-2009 01:56:23
ดีใจจัง ในที่สุดก็บอกไปซักที ^^
รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ จะเป็นยังไงเนี่ย..ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 15-04-2009 02:20:33
มาขออ่านด้วยคนคร่า แหะๆ

สนุกจังเลย อยากบอกว่าชอบนู๋เวย์มากๆ (และรักตาไนท์สุดๆ55+)

คู่นี้มันชั่ง..น่าหมั่นเขี้ยวอะไรเยี่ยงนี้
(อยากหยิกแก้มนู๋เวย์ แล้วเซไปซบเฮียไนท์) แต่ก้อแอบหวั่นไหวไปกับพี่หมอ

และก้อชอบคู่นุกะส้มด้วย(ชอบมากมาย ผู้ชายกลัวเมีย)

สรุป เรื่องนี้มีแต่คนที่เตาอิชั้นมากมาย อ่านแล้วลั้นลาสุดๆ
เพราะงั้น จะตั้งตารอตอนต่อไปนะจร้า :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 15-04-2009 02:57:45
ชอบเวย์อ่ะ...ยิ่งเวลาเวย์อยากจะงอน
แต่ไม่อยากง้อตัวเองเนี่ย...ฮาได้อีก
เวย์น่าร๊ากกกอ่ะ...เอาใจช่วยนะ +1จ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 15-04-2009 03:46:53
กิ๊สสส ยาวซะใจม๊ากกกก

แล้วก็ น่าอ่านต่อม๊ากค๊าาาา

มาต่อให้ ว่องนะค๊าาา

กิ๊ส  ๆ ๆ  เป็นกำลังใจให้ ว๊ายยย ถูกใจจริงเรื่องนี้


_*_
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 15-04-2009 05:38:08
มอบแต้ม+ ที่ 21 คร้าบบบ
************

เหอะๆ บอกไปแล้ว-คำตอบคือ.....
ครึครึครึ
อยากรู้....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 15-04-2009 07:12:15
บอกไปแล้ววว เรื่องนี้แอบลุ้นตัวโก่งเลย ชอบแนวนี้ 555 คงไม่ใช่เนียนบอกว่าอยากดูหนัง เพื่อนกูรัก.... หรอกนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 15-04-2009 12:13:58
บอกไปซะแล้ว  ถ้าเค้าโอเค ก็คงไม่พ้นคืนนี้ ที่ คอนโด เค้า....

ฮ่า ฮ่า  เสร็จแน่เวย์เอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 4 ไม่รุ้กูเมา
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-04-2009 20:17:05
"ไม่รู้...กูเมา"


เหรออออออออออออออออออ


เฮียไนท์จะว่าไงต่อล่ะทีนี้???
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 15-04-2009 20:44:54

ตอนพิเศษวันสงกรานต์  : ของฟรีไม่มีในโลก
 
            13 เมษายน  วันปีใหม่ไทยที่ผมตั้งตารอมาหนึ่งปีเต็ม  วันที่ผมจะได้สาดน้ำเน่าน้ำเสียให้แก่ประชากรโลก  ว่าไปนั่น  วันที่เราจะได้ลาขาดจากมหาลัยห้าวันเต็มไงครับ พิเศษหน่อยที่ปีนี้ดูเหมือนผมจะได้หยุดเกิน  - -  (เอาเป็นว่าโยนปัญหาบ้านเมืองออกจากหัวไปสักครู่นะครับ  พูดที่นี่ไม่ได้ตามนโยบายห้ามออกความคิดเห็นทางการเมืองของไอ้ไนท์มัน  ฟังมันพล่ามแล้วอาจมีคนของขึ้นได้ง่ายๆ  หรือไม่ก็มันเนี่ยแหละจะเดินไปหาของเองถึงที่)
 
            ผมตื่นเก้าโมงเช้าหลังจากที่เมื่อคืนได้นอนไปเกือบๆ ตีสาม  คิดว่าผมทำอะไรกันครับ  - -เราไม่ได้ออกกำลังตอนดึก  แต่ใช้สมองและปากกันเล็กน้อย (กินเหล้าและเล่นไพ่  เจริญกันทุกคน)  ไอ้ที่ตื่นมาเช้าๆ เนี่ยก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรหรอกครับ  ก็แค่วันสงกรานต์ วันที่เราจะใส่เสื้อลายดอก  ถือปืนฉีดน้ำ  ถือขันสาดน้ำ  ปะแป้งสาว  แล้วก็เต้นกวนส้นตำรวจก็เท่านั้นเองครับ  กิจกรรมที่ทำได้ปีละครั้งโดยเฉพาะไอ้อันสุดท้ายนั่น  วันเดียวครับที่เราจะได้ผูกมิตรกับผู้รักษาสันติภาพโดยไม่โดนข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน - -   เพราะฉะนั้นบอกแล้วไงว่าผมไม่ตื่นเต้นเล้ย
 
            “ไอ้ไนท์  ไอ้นุ  ไอ้แชมป์ตื่นเว้ยๆ”  ผมแหกปากปลุกพวกมันทันทีที่ตัวเองเสริมหล่อเรียบร้อยตามประสาคนไม่ตื่นเต้น  ไม่บ้าเทศกาล  พูดแบบไม่มีอายเลยครับ  เมื่อคืนพวกผมสี่คนมามั่วสุม เอ๊ยย  สังสรรค์รับวันปีใหม่ไทยที่บ้านไอ้นุมันครับ  สะดวก  สบาย  และประหยัด (เพราะไอ้นุมันเป็นเจ้าบ้านมันก็เลยออกค่าเหล้า  ฉลองที่ภรรยาสุดที่รักมันกลับเหนือ  มันเลยโสดชั่วคราว)
 
            “ตื่นโว้ยยยย   จะสิบโมงแล้วววว”  ไอ้พวกนี้มันนอนกินบ้านกินเมือง  นอนไม่รู้จักกาละเทศะ  นอนได้ทุกวี่ทุกวัน  นอนได้นอนดี  นอนจนน่ารำคาญ

ดูมัน - -*  ขนาดผมทั้งปลุกด้วยปากและตีนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น  ไอ้นุกับไอ้แชมป์น่ะไม่เท่าไรหรอกเพราะเมื่อคืนมันแพ้เรียบโดนพวกผมรุมปรับเหล้าจบแทบจะ เรียกว่าอาบเลยก็ได้  แต่ไอ้ชายไนท์นี่สิชนะแทบทุกตา  เหล้าก็แทบจะไม่ได้กิน  มันจะหลับไปถึงไหนฟ่ะ??  ไม่รู้รึไงวันนี้มันสันสำคัญนะเฟ้ย

“ไอ้ไนท์  ตื่นสิเว้ย  ตื่งๆ มีเรื่องแล้ว” กูจะเล่นมุกพี่อ่างไปเพื่อ???  ผมพยายามเขย่ามันสุดชีวิต  ใช้กำลังยิ่งกว่าลากวัวลากควาย  แต่มันก็ยังเฉย  ในใจผมก็แอบคิดว่ามันกวนตีนผมชัวร์เลย

“เฮ้ย!!”  นั่นไงครับ  ไม่ทันขาดคำ  ไอ้คนกวนตีนมันก็ดึงผมไปกอดทันที  นี่ถ้ากูไม่รักกูไม่ยอมนะเนี่ย  ก๊ากก  ทีหลังบอกดีๆ ก็ได้นะมึง  กูมันว่าง่าย  ไม่มีขัดอยู่แล้ว
“ทำอะไรของมึงวะ”  แต่นี่คือสิ่งที่ผมพูดออกมา  น้ำเสียงที่ฟังดู(เหมือน)ตกใจและ(เหมือน)ไม่พอใจนิดๆ  ไม่ต้องขมวดคิ้วครับ  ผมเป็นนายเอกแน่นอน
“กอด”  กูรู้ - -*
“จะบ้ารึไง  ปล่อยกูเลยมึง  เดี๋ยวพวกมันเห็น”  เล่นตัวตามประสานายเอกครับ  ก็กลัวพวกคุณจะเคืองเอาได้ถ้าผมยอมมันง่ายๆ
“เรื่องของมัน”
“แต่...อุ๊บส์”  กำลังจะอ้าปากเถียงด้วยความไม่พอใจและขัดเขินถ้าจะมีคนเห็นผมนอนอยู่บนตัวมันตามประสานายเอก  แต่ไอ้คนที่รับบทพระเอกมันดันใช้สองมือกดท้ายทอยผมแล้วจูบทันที  เฟรนซ์คิสอย่างไม่ต้องสงสัยครับ  ช่วยรักษาภาพพจน์กูหน่อยได้ไหม  เดี๋ยวเขาก็ไม่เชื่อกันหรอกว่ากูเป็นนายเอก  -*-
“มอร์นิ่งคิส”  มันมีการเลียปากส่งท้ายให้ผมเห็นอีกด้วย  แม่งง  นับวันผมจะยิ่งรับมือมันไม่ทันครับ  อย่าทำหน้าเซ็กซี่ยั่วกูได้ไหม?
“บ่ะ..บ้า  นี่มันจะสิบโมงแล้วเว้ย”
“นั่นคำพูดเวลาเขินเหรอ”  อ๊ากก  ไอ้เอี้ยไนท์มึงทำกูเขินกว่าเดิมอีก  ไอ้เวรเอ๊ย  มันยิ้มครับ  ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างน่าถีบที่สุด
“ห๊ะ!  อ่ะ..เอ่อ  ปล่อยซะทีดิวะ  จะไปปลุกพวกมันสองคน”
“ปลุกทำไม”  ปลุกให้ตื่นไงครับ  ถามเพื่อ?
“อ้าว  ก็จะไปเล่นสงกรานต์ไง”
“...เล่นทำไมวะ”
“ให้มันเปียก”
“อย่ากวน”   กูไม่ได้จะกวน  แต่เล่นสงกรานต์ให้มันเปียกจริงๆ  มึงต่างหากที่ถามกวนๆ เล่นสงกรานต์ทำไม?  แล้วต้องการให้กูตอบว่าเพื่อรักษาประเพณีอันดีงามของประเทศไทยรึไงวะ  กูไม่ได้จะประกวดนางสาวไทยนะเฟ้ย  เอ๊ย!  ต้องมิสทิฟฟานี่นี่หว่า  เฮ้ยย  นี่ตกลงมึงจะเข้าวงการอย่างเต็มตัวแล้วใช่ไหมวะ  ไอ้คุณเวย์

“ก็เมิงกวนกูก่อน  ไปอาบน้ำดิวะ  จะได้ไปสักที”
“ไม่อยากเล่น  ขี้เกียจ”  แล้วมันก็หลับตาลงทั้งที่ยังกอดผมไว้
“ได้ไงว๊า  ปีหนึ่งมีหนเดียวนะมึง  อุตส่าห์หนีม็อบมาต่างจังหวัดแล้ว  กูจะเล่น”  บอกแล้วไงครับว่าผมไม่ได้บ้าวันเทศกาล  พอได้ข่าวเสื้อแดงจะชุมนุมวันที่ 10  ไอ้ผมก็เลยลากพวกมันมาต่างจังหวัดตั้งแต่เย็นวันที่ 9   แล้วก็สิงสถิตย์กันอยู่ที่บ้านไอ้นุมัน
“....งั้นก็ตามใจมึง”
“^_^  ไปอาบน้ำดิ”
“กูไม่ไป” 
“...อะไรของมึง  ก็ไหนว่าตามใจกู”
“ก็ใช่  มึงอยากเล่นก็ไป  แต่กูไม่อยาก”
“แล้วจะให้กูไป....”
“ชวนไอ้นุกับไอ้แชมป์ไปแล้วกัน  ลุกไปดิ  กูจะนอนต่อแล้ว”  แล้วมันก็ปล่อยมือจากตัวผม  หลับตา  ตะแคงตัวไปอีกด้านเหมือนรำคาญผมเต็มที่  ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ใช่ไหมครับว่าความรู้สึกตอนนี้ของผมมันเป็นยังไง  หน้าชา  นั่นก็ใช่  รู้สึกเหมือนหางตามันจะร้อนผ่าวแต่แค่การที่ ‘เพื่อน’ ปฏิเสธไม่ได้เล่นน้ำกับเรา  มันต้องถึงขนาดร้องไห้เลยเหรอ  ไม่ใช่อย่างแน่นอน!  ยอมรับว่าโคตรจะเสียความรู้สึก  โคตรจะน้อยใจ  แต่...ทำอะไรไม่ได้  ก็ในเมื่อมันห่วงนอนมากกว่าห่วงผม  ผมก็คงจะไปว่าอะไรมันไม่ได้  กลัวครับ...กลัวว่ามันจะรำคาญ  กลัวว่ามันจะตีตัวออกห่างผมเหมือนที่มันทำกับคนอื่นๆ  เพราะฉะนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายามจะไม่กวนใจมัน  ไม่เรียกร้องอะไรที่เกินกว่าความเป็นเพื่อน  มันต่างหากที่เรียกร้องจากผมเสมอ
กริ๊ง!!  นาฬิกาตีบอกเวลาเลิกน้ำเน่า  เพราะฉะนั้นผมก็เลยลุกจากเตียง เดินไปหาไอ้เพื่อนอีกสองคนที่เหลือที่นอนแผ่หราอยู่บนพื้นห้อง  ทั้งๆ ที่มันเป็นเจ้าของบ้านแท้ๆ


“เฮ้ย! พวกมึงตื่นดิ  ไปเล่นน้ำกันโว้ย”  ด้วยความเคืองที่ยังดับไม่หมด  ผมก็เลยเตะปลุกมันไปแบบเน้นๆ  หน้าไอ้ไนท์ลอยอยู่บนก้นไอ้นุชัดเลย
“อือ  ครายวะ  แม่งง”  นี่ขนาดกูเตะเน้นๆ นะ  มึงยังแคค่คราง  ไอ้ก้นด้าน!
“กูเองงง  ตื่นโว้ยยยยยย”  ตะโกนให้ดังเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ  เผื่อว่าไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียงมันจะรู้สึกสะทกสะท้านมั่ง  แต่เปล่าเลย  นิ่งสนิท  - -  น้อยใจจริงๆ แล้วนะมึง  สนใจกูหน่อยดิวะ  แม่ง
“เอี้ยเวย์  หูกูจะแตก”  ไอ้แชมป์ลุกขึ้นนั่งแคะหู  ในขนาดที่ตีนเกยอยู่บนหัวไอ้นุ  เจริญเหอะพวกมึง 
“เอี้ยแชมป์ ส้นตีนมึงบนหัวกู๊”  เออสิมึง  ไอ้ความรู้สึกช้า  ว่าแล้วพวกมันก็ตะลุมบอนกันสักพักก่อนที่ผมจะทนไม่ไหวตะโกนไล่ให้ไปอาบน้ำ  สรุปกูมีลูกชายสองคนว่างั้นเหอะ

“เออๆ  แป้บๆ  ไอ้แชมป์กูเข้าก่อน  แม่งงข้าศึกบุกค่ายบางระจัน  ถ้ากูไม่รีบ  พวกมึงได้เจอนายทองเหม็นกับนายทองก้อนแน่”  ขนาดค่ายใกล้จะแตกยังอุตส่าห์คิดได้นะมึง  กูล่ะนับถือมึงจริงๆ 


“อ้าว  แล้วไม่ปลุกคุณชายเหรอวะ”  ไอ้แชมป์ปากเริ่มวอนเดอะฟุตกูแล้วไง  พอกูเริ่มจะหายเคือง  มึงก็ปามีดมาฉึกที่ใจกูพอดีเลยนะมึง  ไอ้เวร
“เออ  มันไม่ไป  อย่าถามมากได้ไหมวะ  รีบไปได้แล้ว  วันนี้อยากปะแป้งสาวคนไหนกูจะไม่ห้ามพวกมึงเลย  ไม่บอกเมียมึงด้วย  เพราะงั้นให้ไว”  อันนี้ตั้งใจเสียงดังนิดๆ เผื่อว่ามันจะลุกขึ้นมาบอกว่า  ‘รอก่อน  กูไปด้วย’  แต่…ก็ยังนิ่ง
“เชี่ยเวย์เพื่อนผู้ประเสริฐ  สมแล้วที่เกิดมาหล่อนะมึง  หึหึ”  เออ กูไม่ได้หวังดีกับมึงไอ้นุ  กูมีจุดประสงค์แอบแฝงเว้ย  แต่เผอิญมันไม่สำเร็จว่ะ
“ไอ้เวย์ไม่พูด  แต่กู....”
“สัดแชมป์  อย่าให้กูบอกไอ้หยกมั่ง”
“กูยังพูดไม่จบ  กูจะบอกว่าไอ้เวย์ไม่พูด  แต่กูก็ไม่พูด”
“มึงเรียนภาษาไทยที่ไหนวะ กูจะให้ไม่ให้ลูกกูเรียน  ฟายยย  มึงเห็นด้วยแล้วจะเสือกใช้คำว่า ‘แต่’ เพื่อ??  แม่งง  กูก็นึกว่างานนี้ต้องเสียตังค์ค่าปิดปาก”  ป้าดดดด   ผมกับไอ้แชมป์สบตากันอย่างเข้าใจ  พวกกูไม่ทันนึก  แต่มึงดันเสือกนึกให้ซะงั้น
“เออ  จริงว่ะ  ร้อยนึงแล้วกันนะเมิง  ราคากันเอง  อ่ะ  อย่าได้ต่อนะมึง  กูไม่ใช่แม่ค้า  เดี๋ยวค่าตัวกูได้ขึ้นพรวดพราด”   เสือกขุดหลุมฝังตัวเองก็ช่วยไม่ได้นะมึง  กูไม่ได้งก  แต่เห็นแก่เงินว่ะ - -
“เชี่ย  ค่าเหล้าเมื่อวานกูก็ออก”  เอ้า  ไม่ใช่แต่ค่าเหล้า  ค่าข้าวมึงก็ออก  บ้านนี้ก็บ้านมึง
“แต่เมื่อวานมึงกับไอ้แชมป์แดกกันเกือบหมด  กูแทบไม่ได้แตะเลยนะเว้ย”
“กูอยากกินรึไง!!  มึงตอบกูดิ๊  ถ้าพวกกูไม่แพ้  กูจะแดกมั้ย  แม่งง  พวกมึงสองผัวเมียจำไว้เลยนะเว้ย  รวมหัวกันมอมเหล้าพวกกู”
“ฮ่าๆ  พูดแมวๆนะเมิง  รวมหัวที่ไหน  เขาเรียกว่ามวยคนละชั้นเว้ย”  มวยคนล่ะชั้นจริงๆ ครับ  เล่นสลาฟกันเกือบสองชั่วโมงไอ้ไนท์มันเป็นคิง  ส่วนผมก็เป็นควีนเกือบทุกตา  ส่วนไอ้สองคนนี่มันก็ผลัดกันเป็นสลาฟแดกเหล้าอย่างเข้มที่ไอ้ไนท์มันบรรจงผสมให้
“พวกมึงจะเล่นสาดน้ำลายกันอีกนานป่ะวะ  กูจะได้ไปก่อน”
“....พอพูดไม่ทันก็เร่งพวกกูเลยนะมึง  ฮ่าๆ  ไปเว้ยไอ้เวย์  วันนี้เรามันสามชายโสด  กั่กๆ”
“เมียไม่มาคึกเหลือเกินนะมึง”
“หรือมึงไม่คึกวะ  วันนี้ไม่มีพ่อ(ทูนหัว)ไปคุมทั้งนี้”
“เออ  คึกก็คึกวะ  ไปเว้ย”  ปากบอกมันว่าคึก  แต่ในใจนี่สิครับ  โคตรหดหู่เลย



“พี่ครับ  ขอปะแป้งหน่อย” ไอ้เด็กหน้าขาวตี๋มันเดินมาปะแป้งผม  ปะเสร็จ (เต็มหน้ากู) มันถึงขออนุญาต  ไอ้ฟายแล้วมึงจะขอกูเพื่อ???
“ชื่ออะไรครับ  ไม่เคยเห็นเลย”  คนมีเป็นล้าน  มึงไม่เคยเห็นกูก็ไม่แปลกหรอก  ที่เล่นๆ มาเนี่ย  กูก็ไม่รู้จักพวกมึงสักคนเลย
“น้องครับ  เต้นหน่อยครับ  เย้”  ใครไม่รู้ครับมันชวนผมเต้นตามเพลงที่เขาเปิดหน้าเซเว่น  แล้วมันก็จับไหล่ผมโยกทันที  สะบัดก็สะบัดไม่หลุด  ขนาดจะกระดิกตัวไปไหนยังไปไม่ได้เลยครับ  แม่ง  คนเบียดกันยิ่งกว่าปลาประป๋อง  แล้วเพลงมันก็....โคตรน่าเต้น

จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซี่มันต้องถอน…..(ถอนแล้วจั่งซี่ซ่วง)
มันเป็นสะเม็ก มันเป็น อุ๊ อุ๊ อ๊ะ อ๊ะ มันเป็น อุ๊ อุ๊ อ๊ะ อ๊ะ คันถอนคือสิซ่วงวะ จั่งซั่นเอาจั่งซี่ซะ ตึ่ม ตึ๋ม ตึ่ม ตึ่ม ตึม ตึม ตึ๋ม ตึ่ม ตึ๋ม ตึ่ม ตึ่ม ตึม ตึม ตึ๋ม หยอย หย่อย หย๋อย หยอย หยอ่ย หย่อย หยอ่ง จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซี่มันต้องถอน…

เอาวะ  เต้นก็เต้นเว้ยกู  แล้วไอ้เวย์ก็เริ่มสะบัดไหล่  โยกตัวก่อนที่จะแขน  ขา  มันจะขยับไปตามไอ้คนข้างๆ  ไม่ได้ตั้งใจ (อีกแล้ว) ครับ  แต่เห็นไอ้คนข้างๆ มันเต้นมันดี  ด้วยสปิริตที่อุตส่าห์ถ่อลงมาจากกรุงเทพ  กูต้องไม่แพ้!!  เต้นไปเต้นมาเริ่มรู้สึกว่าพื้นที่ข้างตัวมันจะหดน้อยลงๆ จนแทบขยับตัวไม่ได้  มึงจะเบียดกูทำไมกันนักวะ  ไอ้นุกับไอ้แชมป์เผลอแป๊บเดียวหายหัวกันไปหมด กลับมาเอากูออกไปจากที่นี่ก่อนสิโว้ย
“อ๊ะ!”  เชี่ยเอ๊ยใครจับก้นกู  นี่ไม่ใช่บนรลเมล์  ยังมีไอ้พวกโรคจิตอีกเหรอวะ

พลั่ก 
“โอ๊ยยย  ทำเชี่ยไรของมึงวะ”  เสียงใครสักคนพูด
“ไอ้สัด  มึงจับก้นเมียกู” เสียงใครสักคนที่โคตรคุ้น
สองประโยคเท่านั้นที่ผมได้ยิน  แล้วตามมาด้วยเสียงพลั่กอีกหลายครั้งก่อนที่จะรู้สึกว่าแขนถูกดึง(กระชาก)ออกมาจากตรงนั้น

“มึงมาได้ไงเนี่ย  ไหนว่าจะไม่เล่น”  ไอ้ไนท์ครับมันลากผมมาข้างหลังเซเว่น  มึงรู้จักซอกเอี้ยนี่ได้ไงวะ  แม่งง  ตกลงที่นี่บ้านไอ้นุหรือบ้านมึงเนี่ย  มันเป็นซอกที่แคบมากครับแถมยังอยู่ลึกลับสุดๆ  มึงเก่งจริง  กูยอมรับ
“....”  มันยังยืนสบตาผมนิ่ง  นิ่งมากจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบตาเสียเอง
“ไนท์  โกรธเหรอ”
“....”  ชัดเลยครับ  โกรธจัด
“ม่ะ..เมิง  คือว่า  เอ่อ..กู...อุ๊บส์”  กำลังจะอธิบายมันก็จัดการจูบปิดปากผมทันที  เอี้ยเอ๊ย  จูบเบาๆ ไม่เป็นรึไงวะ  นี่ปากนะเว้ย  ไม่ใช่ตีน  มันจูบผมแรงมาก พอจะขยับหนีมันก็เอามือมาจับต้นคอผมไว้แถมคลึงเบาๆ จนผมเริ่มจะเคลิ้ม  ทันทีที่มันปล่อย  ผมก็รีบหายใจกอบโกยอ็อกซิเจนทันที  ถ้าสมองกูพิการมึงต้องรับผิดชอบแต่งงานกับกูด้วย -*-

“ถ้ากูไม่ตามมา  มึงจะทำยังไง  ปล่อยให้ไอ้พวกเอี้ยนั่นจับตัวอยู่ได้  แม่งง  กูต่อยมันเบาไปหน่อย  แค้นเว้ย  ของๆ กูแท้ๆ  สัดเอ๊ย”  แต่เท่าที่กูได้ยินเสียง  มันไม่เบานะ
“ก็  ก็  มึงไม่มาเอง  กูชวนแล้ว”
“ถ้าเมื่อคืนมึงไม่ขัดใจกู  วันนี้กูมากับมึงแล้ว  ไม่ต้องแอบตามมาหรอก”
“เมื่อคืน??  ตอนไหนวะ”
“เหอะ”  แล้วผมก็เริ่มนึกออกครับว่าไปขัดใจมันเรื่องอะไร 
“เมิง...ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนนี่หว่า  กู...”
“พวกมันสองคนหลับแล้ว”  บนพื้นซะด้วย  แล้วกูกับมึงที่เป็นคนอาศัยก็ยึดเตียงเขามา
“แต่มันอาจจะตื่นก็ได้”  เพราะไอ้กิจกรรมที่มึงจะทำน่ะ  มันไม่ใช่กิจกรรมสันทนาการเงียบๆ  ไม่ต้องออกแรง  ไม่ต้องใช้เสียงนะเว้ย
“ไม่ต้องมาอ้าง  กูมอมเหล้าไปขนาดนั้น  ต่อให้ควายก็ยังน็อค” อ๋อ  ที่แท้ไอ้ที่ช่วยกูเล่นสลาฟนี่  มึงมีจุดประสงค์อย่างนี้นี่เอง  แถมพอกูแพ้ต้องกินเหล้า  มึงยังชงซะเบา  ไอ้ฟาย  ไอ้คนทำดีหวังผล
“กูว่าแล้ว  ทำไมช่วยกูเล่น”
“...แม่ง  ไม่ทำวันปีใหม่จะให้ทำวันไหนวะ”  มึงก็หาโอกาสทำได้ตลอดนั่นแหละ
“เฮ้ยย  เบาๆ ดิ”
“อาย??  อายทำไม  อยู่กับกูมาทำอาย  ทีเมื่อกี้โดนไอ้พวกเอี้ยนั่นจับมึงไม่อาย  หรือว่าจริงๆ แล้วมึงชอบห๊ะ”  มันตะคอกใส่หน้าผมด้วยสีหน้าโกรธจัด  แต่ละคำที่มันพูดมาไม่ว่าใครที่ไหนก็ต้องโกรธทั้งนั้นแหละครับ  ต่อให้ผมอดทนกับมันมากแค่ไหน  ต่อให้พยายามไม่คิดอะไร  แต่..ทำไม่ได้  มันพูดเหมือนผมง่าย  เหมือนผมอยากให้ไอ้พวกเวรนั่นทำอะไร  พูดเหมือนมันไม่เคยรู้จักผมเลย

“มึงพูดแรงไปแล้ว” โกรธครับ  โกรธมาก
“หรือไม่จริง กูเห็นยืนเต้นให้พวกมันเบียดอยู่ได้  ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมไม่ออกมา”  มึงต่างหากทำไมไม่ช่วยกู  มึงไม่เห็นรึไงว่ากูขยะแขยงสัมผัสมันขนาดไหน  มึงไม่เห็นรึไงว่ากูออกไปไม่ได้!!
“เออ  จริง  กูมันเลว  กูมันร่าน  ชัดไหม  ถ้าไม่ชัด  เดี๋ยวกูจะกลับไปทำให้ดู”  แล้วผมก็วิ่งออกไปทันที  ไม่ไหวแล้วครับ  ใครจะว่าผมเด็กก็ว่าเหอะ  ถ้าคนอื่นพูดผมอาจจะแค่ต่อยปากมันก็ได้  แต่นี่...ไอ้ไนท์  มันพูด  แรงที่จะต่อยใครผมไม่มีแล้วครับ  หมดแรง  ไม่อยากยืนอยู่ให้มันเห็น  เห็นว่าผมอ่อนแอแค่ไหนเวลาอยู่กับมัน  ไม่อยากให้มันรำคาญ  มันเคยบอกว่าผมชนะมันตลอด  แต่มันไม่รู้หรอกว่า  ผมต่างหากที่แพ้   
แพ้อย่างไม่มีวันชนะได้เลย

“อะไรอีก  ก็จะกลับไปไง  จะจับกูไว้ทำไม  ปล่อย”
“อย่ามาบ้านะมึง  ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”  เห็นไหมว่ามันเริ่มรำคาญผมแล้ว  ต้องรีบออกไปจากที่นี่  ต้องรีบออกไปจากตรงนี้
“เออ  ก็กูมันเด็กไง  แค่อยากจะเล่นน้ำเหมือนคนอื่นเขา  มึงไม่อยากมากูก็ตามใจมึงแล้ว  มึงจะเอาอะไรอีก  กูเล่นของกูได้จะตามทำไม”
“เวย์!!”
“ทำไม  กูก็ยอมรับแล้วไงว่ากูผิด  ต้องให้กูขอโทษมึงด้วยรึเปล่าวะที่ไม่ระวังตัว  ต้องขอโทษมึงไหมที่ออกมาไม่ได้  ต้องขอโทษไหมที่อยากมาเล่นน้ำ”  ต้องขอโทษไหมที่ทำให้มึงต้องลำบากไปต่อยกับคนอื่นเขา  ต้องขอโทษไหม...ที่รักมึง
“เวย์!  ฟังกูก่อน”  มันดึงผมเข้ามากอดอย่างแรง  แค่อ้อมกอดเดียวก็เหมือนจะสูบแรงทั้งหมดของผมไปได้อย่างง่ายดาย
“....”
“ขอโทษ”  มันกระซิบเสียงเบา
“.....”
“กูแค่เป็นห่วง  แล้วก็...หวง”
“.....”
“เออ  กูหึง”
“....(แอบยิ้ม)”  ในที่สุดมึงก็ยอมรับ
“หายโกรธยัง?  กูง้อไม่เป็น”  นี่ขนาดมึงง้อไม่เป็นนะ  ยังทำกูเขินได้ขนาดนี้  ถ้ามึงง้อเป็นกูคงไม่ต้องงอนมึงแล้วล่ะ  งอนไปก็มีแต่เข้าตัว  เพราะยิ่งมึงง้อ  กูก็ยิ่งชอบมึง
“....หวัดดีปีใหม่” ผมบ่นอู้อี้กับอ้อมอกมัน  ก็ไม่รู้นี่ครับว่าจะพูดอะไรดี 
“อืม”
“อยากจะเล่นน้ำอ่ะ”  ได้ทีก็อ้อนมันหน่อย  เผื่อมันตามใจ
“อยากไปแถวไหนอ่ะ”  ตามใจกูจริงๆ ด้วย  ฮ่าๆ
“เดินไปเรื่อยๆ ได้ไหม”
“อือ”
“มึงจะไปกับกูรึเปล่า”
“ไม่เห็นต้องถาม”  แล้วมันก็เป็นฝ่ายก้มมาจูบผมอีกครั้งก่อนจะเดินไปเล่นน้ำด้วยกัน  แต่มันอาจจะเป็นสงกรานต์ที่แปลกซะหน่อยเพราะผมแทบจะไม่ได้เล่นกับใคร  และแทบจะไม่มีใครเล่นกับผมนอกจากมัน   นี่กูจะขอบคุณมึงดีไหมเนี่ยที่ตามกูออกมาเล่น  แม่งงง  เที่ยวแยกเขี้ยใส่คนอื่นเขาทั่วไปหมด   เออ  เลยกลายเป็นว่าเดินดูชาวบ้านเขาเล่นแทนที่จะได้เล่นเอง  -*-  ไอ้เวย์แอบเซ็ง



“วันนี้กูตามใจพามึงเล่นสงกรานต์”  พอกลับมาถึงบ้านไอ้นุ  ผมก็ตรงดิ่งมาห้องน้ำทันทีครับ  หนาวโคตรเหอะ  สงสัยเมื่อเช้าไอ้ไนท์มันจะลืมปิดแอร์
“อือ ^_^” 
“แถมเลี้ยงมึงทุกอย่าง”  มึงต่างหากที่ลากกูไปกินนู่นกินนี่  กูน่ะอยากเล่นน้ำ  แต่มึงดึงกูแวะร้านขนมตลอดทาง  มึงจ่ายก็ถูกแล้ว
“อือ  มึงใจดี”  ชมมันไปตามน้ำครับ
“แต่มึงรู้ไหม..ของฟรีไม่มีในโลก”
“.เฮ้ยย  อย่าบอกว่าจะมาทวงเงินนะเว้ย  ไอ้งก”  กูไม่ให้นะเว้ย  แม่งง  มึงบังคับกูกินเอง  กูบอกแล้วว่าไม่อยากกิน  แต่มึงบังคับเองนะเว้ย
“เงินกูไม่สน  แต่มึงมาอาบน้ำกับกู”  มันพูดเหมือนชวนผมไปกินข้าวเช้า  มึงนิ่งมาก
“ห๊ะ!!  บ้าดิ  ไม่เอาเว้ย  อาบเองดิวะ  โตเป็นควายแล้วยังต้องให้อาบน้ำให้อีก  บ้า”
“กูไม่ได้ให้มึงอาบน้ำให้แน่นอน  เพราะฉะนั้นมาได้แล้ว” พูดจบมันก็อุ้มผมพาดบ่าแล้วเดินลิ่วๆ ไปห้องน้ำทันที  ชิบหายแล้วไง  กูว่าแล้วมึงมันพวกทำดีหวังผลจริงๆ ด้วย  ไอ้สัดเอ๊ย  กูอุตส่าห์ดีใจที่มึงเอาใจกู  ที่แท้มึงมันก็จ้องจะเอาเปรียบกูอยู่เรื่อย  ไอ้เวรไนท์
“ปล่อยนะเว้ย  ปล่อยกู  ไม่อาวววว”  สุดท้าย...ผมก็แพ้มันอีกจนได้  ขัดมันไม่ได้สักที


-----------------------------------------
ตัดตอนเอาตอนล่าสุดคือวันสงกรานต์มาลงก่อนนะคะ
ไม่รู้ว่าจะทำให้เสียอถรรสหรือเปล่าง่าาาา

เอาเป็นว่า  ถ้าไม่เวิร์คก็บอกได้นะคะ  จะได้เอาออกไว้ลงทีหลัง

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-04-2009 20:49:28
จิ้มมมม

และ

เจิมมมม


(มั้ง)

นิยายเรื่องนี้สอนให้พี่เวย์รู้ว่า

"ของฟรีไม่มีในโลก"

โดย เฮียไนท์

 :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 15-04-2009 20:59:37

ps.คือว่าไอ้กดบอกหนึ่งนี่  มันกดที่ไหนอ่าค๊าาาา    :o8:  ไวท์ไม่ยู้  เหอะๆ


ต้องโพส 250 โพสคร้าบถึงจะมีสิทธิ์แจกแต้ม
แล้วต้องรอ 24 ชม. ถึงจะกดให้คนเดิมได้
ฉะนั้น-แม๊คเพิ่งกดให้
รอบนี้รับคำขอบคุณไปอย่างเดียว อิอิ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Forget..* ที่ 15-04-2009 21:02:54
บะแร๊กแอ๊ก !
55+ >[]<
แน่ะ ! ไนท์แค้นฝังลึกลงรากแค้น(?)นี่เอง
สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนสินะ..(คิดไปทำไมวะ? เขาก็เล่าให้ฟังอยู่แล้ว)
ฮ่าๆ >[]<
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: faren ที่ 15-04-2009 21:07:17
เพิ่งทราบว่าเอามาลงที่นี่ด้วย ปกติตามอ่านอยู่เสมอในเด็กดี ชอบมากเลย   :m3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 15-04-2009 21:08:20
ตอนแรกอ่านไป ๆ ก็สงสารเวย์ ... ต้องเจียมตัวเจียมใจยอมให้ไนท์ตลอดเลย
อ่านตอนท้าย  แหม...ไนท์ก็ทั้งรักทั้งหวงขนาดนี้  :-[
ขอบคุณคนเขียนค่า  :กอด1:  

สำหรับคนที่โพสตั้งแต่ 250 ขึ้นไป ถึงจะกด + ได้ค่ะ

เอ้า...ไม่ทัน  น้องแม๊คอธิบายซะแล้ว
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 15-04-2009 22:25:27
ชอบมั่กๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-04-2009 22:52:16
น่ารักจริงๆมีหวงด้วย  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 15-04-2009 23:07:39
55+  :laugh:
ของฟรีไม่มีในโลกจริง ๆ
น่ารักกันดี
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 15-04-2009 23:29:30
เวย์น่ารักเหมือนเดิมแต่ว่าก็ยังใจอ่อนกับเจ้าไนท์เหมือนเคยเลยอ่ะ
เจ้าคนปากแข็งทำไมถึงได้ทำให้เวย์น้อยใจบ่อยๆนะ
รู้ทั้งรู้ว่าเวย์ไม่มีทางที่จะเซ้าซี่อะไรตัวเองมากๆ เพราะไม่อยากให้ไนท์รำคาญ
แต่ไนท์ชอบให้เวย์น้อยใจและเสียใจบ่อยๆ น่าตีนัก  :เฮ้อ:
แต่พอทำหวาน ก็ทำได้น่ารักนะถ้าหวงเค้าก็ดูแลเค้าใกล้ๆแค่นี้ทำไม่ได้เหรอ
จะมาว่าเวย์ทำไมให้เสียใจอ่ะ
ส่วนเรื่อง โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีเนี่ย คงเหมาะกับคนหื่นๆและค่ากำไรเกินควรแบบไนท์ที่สุดล่ะ อิอิ

ขอบคุณไวท์คะ ตอนพิเศษน่ารักดี หื่นๆ หวานๆ ปนๆกันไป +1 ให้คะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 15-04-2009 23:50:11
ไนท์ก็ชอบพูดให้เวย์เสียใจนะเนี่ย
ทั้งที่พูดด้วยดีๆนิดหน่อย..เวย์ก็ตัวลอยแล้วหล่ะ
แต่ก็ชอบนะ...ไนท์หวงเวย์...อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: kunpoo ที่ 16-04-2009 00:58:06
ตามอ่านครั้งแรก มาเกาะติดเรื่องนี้ด้วยคนค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 16-04-2009 01:25:33
แอบเขินตามเวย์ ~haha+

เป็นอีกเรื่องนึงที่น่ารักมากๆเลย
จะคอยติดตามนะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 16-04-2009 06:15:41
 :impress2: :impress2: :impress2:
ไนท์น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกอย่างแรงอะชอบจังเลย
แต่ตอนหลักก็ยังลุ้นได้นะ อยากรู้ว่าไนท์จะจัดการกับ หมอนัทยังไง อิๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 16-04-2009 10:48:51
แจ่มมมมมม รับได้ค่ะรับได้ ยังไงๆ ไนท์ก็เป็นลูกไก่ในกำมือเวย์ จะไปไหนเสีย วะ 55555  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 16-04-2009 10:59:12
เล่นน้ำเล่นน้ำ555
พี่เวย์เนื้อหอม(เฉพาะผู้ชาย) :z1:
พี่ไนท์ชอบทำให้พี่เวย์น้อยใจอ่ะนิสัย :fire:
ตอนในห้องน้ำล่ะมันหายไปไหน o22


ของฟรีไม่มีในโลก :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 16-04-2009 11:07:20
ตามมาอ่านตอนพิเศษรับสงกรานต์โอ้ลัลลา

น่ารักกันทั้งคู่เลยค่ะ

ไนท์เอ๋ยรักเขาเลยยอมเขาหมดทั้งตัวทั้งใจเลยใช่ไหมคะ


หุๆๆ รออ่านภาคปกติต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 16-04-2009 11:40:10
น่าร๊ากกกกก~!!มากมาย :-[
ชอบจัง  :pig4:ที่อุตส่าห์เอาตอนพิเศษที่เข้ากับช่วงเทศกาลมาให้อ่าน
แล้วก้อกำลังรออ่านตอนต่อไปเช่นชาวทู้ทั้งหลายคร่า :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 16-04-2009 12:05:28
ขอบคุณที่มาต่อคับ

^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 16-04-2009 13:51:40
เม้นผิดเรื่อง ก๊าก ๆ ๆ

กิ๊ส ๆ ... อันนั้น อันนู้น กันแล้ว แต่ทามไมยังบอกว่าเป็นแค่เพื่อนอยู่อ่าา

หรือว่า อย่าบอกน๊าา เพิ่งมาบอกว่ารัก ตอนที่เล่นสงกานต์เนี้ยยย  :z3:

กิ๊ส ๆ ๆ อยากอ่านปัจจุบัน อ่าค่ะ มาต่อไว ๆ ๆ เน้ออ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 16-04-2009 17:08:14
น่ารักจริง ๆ น้องเวย์กะน้องไนท์  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 16-04-2009 17:56:40
N' Way~~~~ ><

hu hu
Wanna play songkran with him jang
I'll touch his ass too =[]=!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 16-04-2009 20:39:24
เพิ่งเห็นเรื่องนี้ เข้ามาเพราะชื่อเรื่องเลยนะนี่  :z1:

สนุกมากๆเลยค่ะ เวย์น่ารักและแอบตลกนะคะเนี่ย
สุดท้ายพี่หมอต้องแห้วใช่มั้ยคะ ถ้าเป็นผู้ชายจะรับไว้เอง :o8:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไป ตอนพิเศษก็สนุกค่ะ น่ารักทั้งเวย์ทั้งไนท์เลย
แต่แอบเคืองตอนเข้าห้องน้ำอ่ะตัดซะงั้น  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 16-04-2009 20:44:30
มารอตอนปกติต่อไปคร้าบบบ
ถึงรู้ว่า-สุดท้ายก็รักกัน
แต่อยากอ่านที่มาที่ไป อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 16-04-2009 20:54:47
 :laugh:
"ของถูกไม่เคยดี
ของฟรีไม่มีในโลก"
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 16-04-2009 21:21:08
:laugh:
"ของถูกไม่เคยดี
ของฟรีไม่มีในโลก"


อ๋อยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 16-04-2009 21:28:41
น่ารักจังเลยคะ...^^

คนอ่านเข้าข้างเวย์เต็มที่....เพราะชวนแล้วไม่ไปเองนี่นา...จะมาหวงอะไร...555+

ว่าแต่พอเดินด้วยกันแล้วทำไม..เด็กปะแป้งหายไปไหนหมด....

กลัวกันหมดเลย...ปีหน้าอย่าชวนมาเลยเน้ออ...555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 16-04-2009 22:23:40
เอาตอนปัจจุบันมาลงนี่เอง  เล่นซะงงเลย

ว่าไหงไนท์ตามหึงตามหวงได้ขนาดนี้ แถม กิจกรรมที่มีเสียงดัง  สงสัยว่าอะไรน้า  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 16-04-2009 23:24:48
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ

ถึงผ่านไป4+1ตอนแล้ว ก็ยังทันเนอะ

สนุกๆ เจ้าเวย์ก็น่ารัก

 o13

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 17-04-2009 00:17:19
จังซี่มันต้องถอน 5555+

น่ารักกกมากเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 17-04-2009 02:40:39
มารอตอนดึก ๆ  ค๊าาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 17-04-2009 02:45:51
+1  :mc4:





เพิ่งได้อ่านค่ะ
ของฟรีไม่มีจริงๆ จ่ายไปเท่าไหร่ คราวนี้เวย์โดนเอาคืนแน่ๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-04-2009 06:58:57
อ่านตอนล่าสุดแล้ว  ยังงี้คู่เวย์ไนท์ก็ลุ้นกันขึ้นสิเนี่ย  :impress2:

ขอบคุณนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: qq_car ที่ 17-04-2009 13:32:34
 :z1:

ฮ่าๆๆๆ

น่ารักจังเลยยย

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 17-04-2009 14:43:15
ไนท์เป็นนักธุรกิจที่ดีจริง
ได้กลับมาคุ้มกว่าที่ลงทุนไป  :jul3:   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 17-04-2009 15:22:52
สมแล้วที่เรียนเศรษฐศาสตร์จริงๆ คำนวณผลได้ ผลเสียมาดีเชียวนะพ่อคุณ

กำไรเหนาะๆ เลย งานนี้

ว่าแต่ไนท์จะ yes หรือจะ no กันเนี่ย ปล่อยออกไปหมดเปลือกแล้วนั่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? Special Songkran Day : ของฟรีไม่มีในโลก
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 17-04-2009 15:43:09


บทที่ 5  ไม่รู้..กูเมา (2)

“กู รัก เมิง”     อ๊ากกก  ผมพูดไปแล้ววววว

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เสียงเบรกรถที่แทบจะอัญเชิญยมบาลขึ้นมาของไอ้คนข้างๆ  ทำเอาผมเหงื่อตก  ถึงจะแกล้งหลับตาจิตหลุดลอย  แต่ผมก็พอจะเดาสีหน้ามันออกว่า  มันจะอึ้ง  ทึ่ง  สยองขนาดไหน  อยู่ๆ เพื่อนที่เป็นเพศเดียวจะกับมันเสือกบอกรักมันซะงั้น   เอาไงดีวะกู  เอาไงดี  จะแกล้งเมาต่อไปไม่รู้เรื่อง  ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  หรือว่าละเมอว่าชอบคนอื่น  งืมๆ  ไม่ดีว่ะ  เดี๋ยวต้องมานั่งหาแฟนปลอมๆ หลอกมันอีก  จะยุ่งนะเว้ย  หรือว่า...อืม   ละเมอว่า  เหล้าจ๋า  กูรักเมิงว่ะ   เอิ้กๆ  ใส่โซดาด้วยน้า  จะดูโง่ไปไหมวะ   แม่งง  หรือว่ากูจะยอมรับไปเลย   ใส่แม่งเลยดีไหมวะ  ลูกผู้ชายอยู่แล้ว  แถมตอนนี้เมิงกำลังอยากจะเป็นชายเหนือชายด้วยนะเมิง  ไอ้เวย์   เอาไงๆ  โอ๊ยยย   อย่าเพิ่งถามอะไรกูนะ  ขอกูแอบโทรไปปรึกษาเทพธิดาพยากรณ์ก่อนนะเมิง


ขณะที่ความคิดกำลังสับสนวุ่นวายอยู่ในหัว  ผมก็พลันรู้สึกถึงลมหายใจที่คลอเคลียอยู่ไม่ห่างจากใบหู   ก่อนที่เจ้าของมันจะพ่นลมออกมาอย่างแรงราวกับต้องการระบายความอึดอัดในใจ  ผมยังคงหลับตาแน่น  แกล้งหัวเราะเอิ้กๆ ราวคนไม่มีสติ  ที่จริงแล้วกูสติเต็มร้อยโว้ยยยย (อย่าลืมว่า..คนเมามักจะคิดว่าตัวเองไม่เมา  เหอๆ)

“หึ  ละเมออย่างนี้ตอนกูขับรถ  กลัวจะไม่ได้ตายพร้อมกันรึไง”  เสียงที่เอ่ยบางเบาราวเสียงกระซิบ  ก่อนที่ความอบอุ่นข้างแก้มจะค่อยๆ จางไป  ทว่าเสียงกระซิบแหบพร่านั้นแทบจะทำให้คนแกล้งสติหลุดเกือบจะสำลักเสียงหัวเราะของตัวเอง


อ่ะ..ไอ้ไนท์  มันพูดบ้าอะไรของมันวะ  หรือ..หรือว่ามันรู้อยู่แล้ว  เฮ้ย!  จะเป็นไปได้ไงอ่ะ  เหอๆ  ไม่มีทาง  หรือว่ามัน....มันฟังผิด  เมิงได้ยินที่กูพูดไม่ใช่ชัดไหม  อ๊ากกกกกกกกกก   เกิดอะไรขึ้นโว้ยยย  ทำไมกูงง  งงไปหมดอย่างนี้ว้า   แม่งง  สรุปแล้วกูกำลังลองใจมึง  หรือว่ามึงกำลังลองใจกูอยู่เนี่ย  แม่งง  เทพธิดาพยากอนนนนนนน

ไม่รู้ไม่ชี้แล้วโว้ยยยยย   กูมึน  กูเมา  กูจะนอนนนนนน


อือ  แม่ง  อะไรหนักๆ บนท้องกูวะ   ทำไมลุกไม่ขึ้น  แม่ง  หรือว่ากูถูกผีอำ  สาดดด  ไม่จริง  ผีที่ไหนจะกล้ามาอำคนอย่างกู   เดี๋ยวพ่อก็บีบคอให้ตายอีกรอบหรอกมึง   ผมปรือเปลือกตาที่หนักอึ้งมองที่ไปที่เอวตัวเองช้าๆ   ท่อนแขนแข็งแกร่งสีน้ำผึ้งกำลังพาดอยู่ตรงนั้นอย่างไม่มีทีท่าจะปล่อย  ไล่สายตาตามลำแขนนั้นไป  ก่อนจะหยุดอยู่ที่ใบหน้าไร้พิษสงของใครบางคน   ใบหน้าคมเข้มเจือรอยยิ้มจางๆ ราวโลกนี้มีแต่ความสุข   เฮ้อ  สบายจริงนะมึง   อูยย   ปวดหัวชิบหาย

ผมสะบัดหัวไล่ความมึนงงก่อนจะดึงหมอนข้างมาให้ไอ้คุณชายมันกอดแทน  แล้วลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจอย่างเคยตัว   อืมม  เมื่อยอีหลี (- -,,)   ผมจัดการถอดเสื้อยืดกับบ็อกเซอร์(ของไอ้ไนท์) ออกแล้วตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำ  ทำตัวราวกับเป็นเจ้าของห้อง  อ่ะ  แน่นอน  เดี๋ยวต้องได้เป็น  กร๊ากก  ปลงซะเถอะครับกับคำพูดของผม  เอาน่า  ขอผมให้กำลังใจตัวเองมั่งสิ   ฮ่าๆ  ที่จริงผมก็ชินแล้วล่ะครับ  เวลาเมาทีไรก็มานอนห้องนี้ทุกที  ก็เด็กดีไงครับ  ไม่อยากให้แม่เห็น  เดี๋ยวท่านจะเสียใจ   น่านน พระเอกโคตรเลยกรู   รู้ใช่ไหมครับว่าที่จริงมันเป็นข้ออ้างที่ทำให้ผมได้ใกล้ชิดมันมากขึ้น  เหอๆ

น้ำเย็นๆ ที่กระทบตัวผม  ทำให้สมองเริ่มแจ่มใส  จิตใจปลอดโปร่ง  เอ๊ะ  มันสลับกันป่าววะ?  เออ  ช่างมันเหอะ  เอาเป็นว่าบังเกิดปัญญาเริ่มจะทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน  ไปอาบเหล้ากับพวกไอ้นุแล้วก็เมาเป็นหมากลับมากับไอ้ไนท์  งืมม  แล้วทำอะไรไปอีกมั่งวะ  เหมือนๆ จะลืมอะไรไปบางอย่าง  ขึ้นไปแหกปากร้องเพลง  ซดเหล้า  พ่นคำหยาบคาย  แล้ว...แล้ว...อ๋อ..แล้วก็ซดเหล้าฟรีจากโต๊ะอื่น  แล้วก็...อะไรวะ  เหมือนทำอะไรไปแต่จำไม่ได้  เหมือน..เหมือนจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย  ฮ่วย!!  ไม่ใช่มั้ง?  ถ้าเรื่องสำคัญก็ต้องจำได้ดิ   แม่งง  ช่างมันเว้ย  อุตส่าห์สระผมให้สมองโล่งแล้วจะสรรหาเรื่องมาให้รกสมองอีกเพื่อ?   แต่ทำไมมันค้างๆ คาๆ อย่างงี้ว้า  ฮ่วยยย

“เฮ้ย!  เปิดดิ๊  กูขออาบด้วย”  เสียงขออนุญาตที่ติดเหมือนคำสั่งเสียมากกว่าดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะถี่ๆ ที่บานประตู  ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วรำคาญ  อ่ะ!  อย่าบอกนะครับว่าลุ้นให้ผมเปิดประตูแล้วลากไอ้คนสั่งเข้ามา  จากนั้นก็...เผด็จศึกมันซะ   อ่า  ใช่ว่าไม่อยากทำหรอกนะ

“เปิดให้โง่ดิ  เดี๋ยวเมิงก็ถีบกูลงอ่างอีก”   งงกันรึเปล่า  ถ้างง  ผมจะขยายความให้ฟัง  มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไอ้คุณชายนี่เสือกนึกสนุกลากผมเข้าห้องน้ำไปอาบด้วยกัน  มันว่าอยากมีคนขัดหลังให้  แต่ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร  พ่อเจ้าประคุณก็จัดการเอาฝ่าเท้างามๆ ของมันถีบผมที่เปลือยเกือบทั้งตัวลงอ่าง  แล้ววิ่งหนีออกไปดูดบุหรี่นอกห้องเฉยเลย   พอผมออกมามันยังเสือกมีหน้ามาหัวเราะท้องแข็งอีก  หาว่าผมโง่ที่เชื่อมัน  ดู๊มันทำ  แสบไหมล่ะ

“ฮ่าๆ  ฉลาดขึ้นนี่หว่า”  เออ  กูอยู่กับเมิงมานาน  มันก็ต้องมีการพัฒนามั่งดิวะ

‘แกร๊ก’   ผมเปิดประตูออกจากห้องน้ำ  ก็เจอมันยืนโชว์หุ่นชวนให้คลั่งอยู่  แถมยังมองผมแปลกๆ  สาดด  กูหล่อขึ้นรึไงวะวันนี้

   “เป็นเอี้ยไรของเมิง  มองกูทำไม”  ผมถามมันเสียงดัง  ก็คนมันเขินนี่ครับ  เห็นก็บ่อย  แต่มันยังไม่ชินซะทีอ่ะ  ฮ่วยย  พุธโธ  ธัมโม  สังโฆ  สงบไว้ลูก  สงบไว้
   “หึหึ  กูว่านะ...วันนี้ตอนเย็นมึงอย่าเล่นบาสเลย”  หน้ามันตอนที่พูดนี่วอนตีนมากเลยครับ  เหมือนหมาเจ้าเล่ห์ไม่มีผิด
   “ทำไมวะ”
   “หึ”  สาดดด  กูถามให้เมิงตอบ  ไอ้ ‘หึ’ ของเมิงนี่  ถ้ากูเข้าใจได้  ป่านนี้กูไม่มานั่งเรียนให้เมื่อยก้น   ออกไปเปิดสำนักทรงเจ้าดังไปทั่วเมืองไทยแล้วโว้ยยย



ขณะนี้พวกผมมารวมตัวกันอยู่ในโรงยิมซึ่งแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา  แต่ส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นสาวๆ แหล่ะครับ  ผมว่ามันคงเป็นเรื่องธรรมดาที่สมาชิกทีมบาส(เกือบ) ทุกคนจะเป็นคนมีเจ้าของ  บ้างมีเจ้าของคนเดียวมานานแรมปี  เทิดทูนบูชาราวกับแม่คนที่สอง (ไอ้นุไงครับ)  บ้างเปลี่ยนเจ้าของบ่อยๆ   บ้างแอบหนีเจ้าของไปแสวงหาโลกใหม่   ส่วนไอ้ผมก็คนที่แอบหลงรักคนทีเจ้าของไง  กร๊ากกกก

   “ไอ้กัปตันครับ  จะยืนพ่นเสน่ห์แย่งหญิงพวกกูอีกนานไหม”  ผมหันไปทำตามเสียงเรียกที่โคตรเคารพของไอ้อ้น  ชูตติ้ง การ์ดของทีมเรา  ไอ้คนนี้เป็นพวกชอบแสวงหาโลกใหม่ครับ  แต่ฝีมือมันนี่รับประกันได้  เพราะผมคัดมาเองกับมือ   ฮ่าๆ  ไม่อยากจะคุยว่าผมเป็นถึงกัปตันทีมบาส  ฝีมือระดับเทพ  ฮ่าๆ  ไม่ได้คุยนะครับ  ผมโม้เท่านั้นเอง  ผมเป็นพอตท์  การ์ดครับ   นี่ถ้าไอ้ไนท์ซึ่งมันเป็นเซ็นเตอร์ไม่มัวแต่ทำตัวลอยไปลอยมา  ผมคงไม่ต้องมารับหน้าที่เหนื่อยอยู่คนเดียวหรอก  พูดแล้วก็แค้น  ตอนเลือกกัปตันมันเลือกหนีไปเที่ยวกับสาวเฉยเลย  ไอ้เวรนี่

   “สาด  กูนี่ยังโสด  มีโอกาส  ส่วนเมิงอ่ะ  มีแม่มาคุมไม่ใช่เหรอวะ”  ผมหันไปยักคิ้วกวนตีนมัน  ตอนนี้เราจัดการแบ่งสองทีม   ผม  ไอ้ไนท์  ไอ้อ้น  ไอ้แชมป์ (สมอล์  ฟอร์เวิร์ด) และไอ้นุ(พอวเวอร์  ฟอร์เวิร์ด) อยู่ทีมเดียวกัน  ส่วนอีกทีมเป็นเด็กปีหนึ่งกับปีสอง  เห็นชัดๆ ว่าไม่ได้เอาเปรียบรุ่นน้อง  - -  ก็แค่อยากดูความพร้อมของเด็กมันน่ะครับ  เชื่อดิ

   “โหยย  กูไม่ใช่ไอ้นุนะ  จะได้กลัวแต่เมียอ่ะ  กร๊ากก”
   “ก๊ากๆ”

ป้าบ!!  เสียงฝ่ามืออรหันต์ของไอ้คนกลัวเมียตบแสกหน้าคนช่างพูด  เล่นเอาไอ้อ้นหุบปากสนิทยิ่งกว่ารูดซิบ  จ้องไอ้นุที่หัวเราะอ้าปากกว้างอย่างเคืองๆ  ทำเอาผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่

   “หุบปากไปเลยเมิง  อย่านึกว่าเป็นกัปตันแล้วกูไม่กล้านะเว้ย”  สาดนุ  ลามปามๆ  ไอ้นี่ล้อเรื่องกลัวเมียหน่อยทำเป็นขึ้น  ฮ่วย  กูพูดเรื่องจริงแท้ๆ
   “อ้าว  อยู่ๆ มาลงกับกูอ่ะ  กูบอกแล้วให้อยู่เป็นโสดอย่างกู  ตัวเลือกเพียบ”  ว่าพลางยืดอกอย่างภูมิใจครับ  หนุ่มโสด  หน้าตาดี  ฝีมือเทพอย่างผม  ย่อมต้องมีสาวน้อยสาวใหญ่มาหลงใหลเป็นธรรมดา

   “ใครบอกว่าเมิงโสด  เมิงเป็นเมียไอ้คนที่ยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์อยู่โน่นไม่ใช่รึ”  อ๊ากกก  เมิงรู้ได้ยังไงว่านั่นคือความต้องการสูงสุดของกู    ถ้าจะให้ดี  ช่วยกล่อมมันให้ยอมกูหน่อยดิวะ   
   “ไอ้ฟาย  เมิงอยากลองของมะ  กูเห็นไอ้ส้มเพิ่งเดินมา  กูว่ากูไปบอกเรื่องดีๆ กับมันหน่อยดีกว่า”  ว่าแล้วผมก็ตั้งท่าจะเดินออกไป
   “เฮ้ย!!  อย่านะเว้ย  แม่งง   เมิงจะฆ่ากูหรือไง  สาดด  อยากได้อะไรบอกกูมาเลยเพื่อน”  แน่ะ  ทีตอนนี้มาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน  เฮอะ

   “เฮ้ย!  ทำอะไรกันวะ”  เสียงฉุนๆ ดังขึ้นขัดคอการสนทนาของพวกผม  พร้อมกับเสียงดัง ปึก!!  จากการที่ลูกบาสพุ่งมาปะทะอกของไอ้นุอย่างแรงจนมันแทบจะทรุด  สายตาจ้องเขม็งที่บ่งบอกอาการโมโหของเจ้าตัวทำให้เดาได้ไม่ยากว่าฝีมือใคร  ไอ้เวรไนท์

   “อูยย  แม่ง  แรงดีชิบหาย”   ไอ้นุมันลุกขึ้นมาเดาะลูกบาสหน้าตาเฉย  จะมีก็แค่อากรเบ้ปากเล็กน้อย   เฮอะ  ว่าแต่มันแรงดี  เมิงก็อึดไม่ใช่น้อย

จากการนั้นเราก็เริ่มเข้าสู่สนามรบระหว่างรุนพี่รุ่นน้องอย่างเต็มรูปแบบ  แต่แน่นอนครับว่าการแข่งขันไหนเลยจะมีคำว่าพี่น้อง  เช่นเดียวกับเรื่องเงินทองที่ไม่มีคำว่าญาติมิตร  ฮ่าๆ  สำนวนดีไหม   ผมเนี่ย

เปิดเกมส์มาพวกผมก็อาศัยความเก๋า  เข้าขากันเป็นอย่างดีนำไปก่อนเลยครับ  เล่นไปผมก็ต้องคอยดูจุดอ่อนของพวกน้องๆ ไป เพื่อนำไปแก้ไขกันทีหลัง  ไม่นานพวกรุ่นน้องที่คาดว่าคงจะซ้อมกันมาไม่ใช่น้อยก็เล่นเข้าขากันจนได้  เริ่มรีบาวด์ทำคะแนนเร็วตีขึ้นมาบ้างแล้ว  ท่านกลางเสียงเชียร์ที่ดังขึ้นไม่ขาดสาย    ครึ่งแรกผ่านไปด้วยความสนุก   ผลัดกันรุกผลัดกันรับตลอด   ซึ่งทำให้ผมค่อนข้างพอใจกับผลการฝึกซ้อม

พักครึ่ง  ผมเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ข้างสนามไม่เว้นแม้กระทั่งตัวสำรอง  และผู้จัดการทีม ( ไอ้ป้อน้อย  ซื่อ  เซ่อ และเชื่อง  คนโปรดผมทีเดียวครับ  สั่งอะไรได้อย่างนั้น  การจะสั่งคนอย่างมัน  ต้องทบทวนคำสั่งอย่างรัดกุม  ไม่มีช่องโหว่  วันหลังจะเอาผลของการสั่งไม่รัดกุม  มาเล่าให้ฟังนะครับ)

   “พวกมึงเตรียมตัวมาดี  เข้าขากันเร็ว  ไอ้โอมมึงต้องดีเฟนซ์ให้แน่นกว่านี้  ถ้าจับกูหรือไอ้อ้นไม่อยู่  เมิงก็แมนทูแมนไปเลย  แล้วปล่อยให้ไอ้เก่งมันจัดการอีกคน”
   “ครับพี่”  เวลาเป็นการเป็นงานอย่างนี้  ไม่มีใครพูดแทรก  ขาดคนกวนตีน  ไร้รสชาติเสียจริง ฮ่าๆ   ว่าแต่ไอ้ไนท์มันยิ้มแปลกๆ อีกแล้วนะเว้ยย  เป็นเอี้ยไรวะ
“น้องเนม  เมิงกับไอ้เป้  ลูกล่อลูกชนแพรวพราว  แต่อย่ามากไป  จะเสียโอกาสทำคะแนน”
“ครับ  กัปตัน”  เด็กปีหนึ่งสองคนในทีมที่ผมยอมรับให้เป็นตัวจริง  ส่วนเหตุที่ผมเรียกมันว่าน้องเนม ไม่ใช่เพราะว่าน่าเอ็นดูแต่อย่างใด  แต่เป็นเพราะถ้าเรียกอย่างอื่น  มันไม่หัน  ไอ้นี่มันกวนตีนเงียบ  แถมดื้อเงียบไม่แพ้ไอ้เซ็นเตอร์ของผมด้วย

“ส่วนเมิง  ไอ้เชน  มึงจงมาเป็นเสาหลักของเซซุนซะ”


ป้าบ!!  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบรรดาเพื่อนๆ ที่อุตส่าห์หุบปากไม่พูดแทรก  ไม่กวน  มันจะต้องหมดความอดทนสามัคคีฝ่ามือบนหลังผม

“สาดด  กูเจ็บ”
“ก็เสือกเล่นทำไมล่ะเมิง  ดูการ์ตูนมากไปรึไงวะ  เซซุนพ่อเมิงดิเล่นบาส  เขาเล่นเทนนิสกันเว้ย  แม่งงง  กูล่ะโคตรชอบเล่นเทสซึกะเนี่ย  โคตรจะหน้าตาเหมือนกูยังกะคลานตามกูออกมา  แล้วยังมี.....”

ป้าบ!!!  สามัคคีฝ่ามืออีกครั้ง  มอบให้เป็นที่ระลึกแก่ศีรษะงามๆ ของไอ้แชมป์

“อูยย  แม่งงง  ทีกูทำไมตีที่หัววะ  แม่งง  ยิ่งโง่ๆ อยู่”
“ไม่ต้องบ่นเลยเมิง  กูนี่เต็มหลัง  แดงเป็นรอยมือชัวร์”
“ไหนๆ  ขอดูหน่อยดิ  พวกกูไม่ได้เห็นเมิงแก้ผ้ามาตั้งนานแล้ว”   อ้าวๆ เวรแล้วไงพวกเมิง   อยู่ดีไม่ว่าดีเสือกอยากเห็นกูแก้ผ้า  ไอ้พวกบ้า  ปัญญาอ่อน
“เฮ้ย  อย่ามาบ้านะเมิง  ไอ้พวกเอี้ย”  โดยไม่รอฟังเสียงผม  ผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในสนาม - -  พวกมันจัดการถอดเสื้อนิสิตผม   ไอ้ครั้นจะดิ้นก็กลัวกระดุมขาด  เลยได้แต่สบถด่าพวกมัน  แน่นอนว่าไอ้ด้านๆ อย่างนี้ไม่มีสะดุ้งสะเทือน


“ว้ายย  แก้แล้วๆ  กรี๊ดดด”
“โว้!  ขาวจังเลยครับ  วิ๊ววว”
“ว้าววว   เนียนโคตร”
หนึ่งเหตุผลที่ผมไม่อยากถอดเสื้อในยิม  แต่ละคำที่ได้ยินล้วนน่าฟังทั้งน้านนนนนน

   “เฮ้ย!!   ไอ้เวย์   เมิง  เมิงงงงง”  ไอ้นุร้องแล้วมองหน้าผมอึ้งๆ ไม่ต่างจากคนที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังผมอยู่   เป็นเอี้ยอะไรของพวกมัน
   “พี่เวย์  พี่  โธ่   ไม่น่าเลย”  ไอ้เนมมึงทำหน้าเสียดายอย่างนั้นหมายความว่าไงวะ
   “เป็นอะไรกันวะ  มันแดงมากเลยเหรอ”  พวกมันพร้อมใจกันพยักหน้า  เว้นก็แต่...ไอ้ไนท์ที่ทำเป็นอมยิ้มไม่รู้ไม่ชี้  มองนั่นมองนี่ไปเรื่อย   สาดดด   เมิงก็ตบกูนะ  ไม่เคยใส่ใจเลยใช่ไหม

   “เออ  แดง  แดงทั่วทั้งหลังเลย   แดงเป็นจุดๆ ด้วย”  ง่า   จะเป็นไปได้ไงวะ  รอยตบจะแดงเป็นจุดๆ ได้ไง

   “เมิงบอกพวกกูมาซะดีๆ  เมื่อคืนเมิงไปนอนกับใครมา”


-----------------------------------------------
ตอนนี้มันยาวยังไม่จบนะคะ
เดี๋ยวไวท์มาต่อน่าจะเป็นงันพรุ่งนี้  ไม่ก็วันอาทิตย์ค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 17-04-2009 16:01:31
แดงเป็นจุดๆ  o22
นี่สินะเหตุผลที่ไนท์บอกว่าไม่ต้องไปเล่นบาส
แล้วยังมาอมยิ้มกับฝีมือตัวเองอีกนะคนเรา

ชอบเวย์ เวย์น่ารักกก  :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 17-04-2009 16:21:09
 :m20:

สนุกดีอ่า

ชอบมากๆเลย  มาต่อบ่อยๆนะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 17-04-2009 17:15:26
เมิงรู้ได้ยังไงว่านั่นคือความต้องการสูงสุดของกู    ถ้าจะให้ดี  ช่วยกล่อมมันให้ยอมกูหน่อยดิวะ   

ชอบอ่ะ บางครั้งก็คิดอย่างนี้กับใครบางคน   :-[

รอมาต่ออยู่น้า สนุกอ่ะ ชอบๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 17-04-2009 18:02:21
 :serius2:
ค้างมากกกก


รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 17-04-2009 18:15:38
ได้กันซะแล้ว 

ว่าแต่คนไรว้าอาบน้ำแล้วไม่สังเกตตัวเองมั่งเลยหรือไงนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 17-04-2009 18:21:40
มิน่า ไนท์ถึงห้ามไม่ให้เล่นบาส

แอบได้เสียกันละนี่เอง ฮ่าๆๆๆๆ

ชอบเวย์มากๆ เลย รั่วได้ใจ อยากได้แบบนี้อ่ะๆๆๆๆ
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 17-04-2009 18:31:41
อิอิ  รู้แล้วแหละว่าทำไมถึงห้าเวย์ไปเล่นบาส  ว้าว!!


ป.ล.  สงกรานต์หวานมากจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 17-04-2009 18:35:55
^^
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 17-04-2009 18:53:25
นั่นแน่ไนท์แอบตีตราจองไว้แล้ว เริ่มกลัวโดนแย่งแล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 17-04-2009 19:12:32
มอบแต้ม+ ที่ 27 คร้าบบบ
***
555 โดนฝากรอยตอนหลับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 17-04-2009 19:42:14
“เมิงบอกพวกกูมาซะดีๆ  เมื่อคืนเมิงไปนอนกับใครมา”

น้านนน

เจอประโยคเด็ดของ...เอ่อ..ของใครซักคน


ห่ะช็อคคคคเลยมั้ยล่ะพี่เวย์  :a5:


เฮียไนท์ ยังไงเนี่ย เรื่องนี้

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 17-04-2009 20:10:10
อ้ากกก จิกกบาล

ขอตอนหน้ามาด่วนจ้า
รอถึงวันอาทิดมะไหวแล้ว
 :serius2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: rain0akira ที่ 17-04-2009 20:52:45
 :serius2:  อ้ายยยยยย

ค้างอ่ะค่ะ

มาต่อด่วนเลยนะ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 17-04-2009 21:12:56
มีหลักฐานเต็มตัว แล้วอย่างนี้จะรอดไหมว่าเมื่อคืนไปเป็นเมียใครมา  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 17-04-2009 21:32:02
เวย์โชว์คิสมาร์กกลางโรงยิมเลยเหรอ
โถ่ๆๆๆ หมดกันอิมเมจกัปตันทีมสุดหล่อ
การี๊ดดดดดดดดด มีคนทำรอยไว้หมดแล้ว เสียหายหลายเลยนะเนี่ย
ไนท์เอ้ยทำกันได้ " ดูๆๆ ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกันเวย์ได้" = ='
+1 จัดไปคะ ไวท์ูสู้ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 17-04-2009 23:35:45
ว๊ายยย ไนท์ทำหรือป่าวค่ะ

นานนาน ไม่ยอมนะคะ

ม๊ายยย กิ๊สสส( พี่เวย์อย่าตบนู่นะคะ)

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 17-04-2009 23:47:35
ฮ่าๆๆ...นั่นสิเวย์...รอยตบที่ไหนมันจะแดงเป็นจุด

อยากรู้ว่ารอยอะไร...ต้องลองถามไนท์ดูอ๊ะป่าว  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 18-04-2009 00:09:28
สงสัยเวย์จะโดนยุงกัดมั้ง
ห้องไนท์ต้องยุงเยอะแน่ๆ เลย

 :jul3:

คงต้องรอเฉลยเนอะ  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 18-04-2009 01:31:29
เฮ้อ...เจ๊ไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมคนแต่งฟิคทั้งหลาย

ชอบทรมานคนอ่านกันจัง รู้มั้ยว่ามันอยากรู้มากมาย

มาต่อเร็วๆนะ เจ๊อยากรู้ว่าเสร็จหรือเปล่าหุหุ

พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 18-04-2009 02:03:09
 :z2: :z2: :z2:
ชอบฟูจิที่สุดคนอะไรน่ารักไม่มีใครเกิน 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-04-2009 02:17:17
อย่าบอกนะว่ามันเป็นรอย... :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: R@!nY~==~N!GhT ที่ 18-04-2009 02:43:26
555+ ตลกอ่าเรื่องนี้  ชอบๆ
นายเอกรั่วได้เรื่อยๆ ฮา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 18-04-2009 04:31:32
 :a5: :a5:

 :z6:

มาต่อโดยด่วนเลบครับ :fire:

ปล.อ่านรวดเดียวทันแว้วววววว :z2:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 18-04-2009 11:58:42
ที่ไหนได้ มดกัดนั่นเอง เตียงไนท์มดเยอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 18-04-2009 20:01:57
ูู^^

มารอค๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 18-04-2009 21:54:27
นอนกับไนท์ไงจ๊ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 18-04-2009 22:40:53
ขอตามอ่านเรื่องนี้ด้วยคนนะค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 19-04-2009 02:19:08
ชอบค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 19-04-2009 03:37:22
ไนท์ แน่เลย เน๊อะ จะเป็นใครไปได้
เอ้า ฮิ้วว ววว วว ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 19-04-2009 10:54:56
 

:serius2: :serius2: :serius2:


ค้างๆๆๆๆๆๆๆๆ  อย่างแรง    :sad4: :sad4:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: reden ที่ 19-04-2009 15:01:54
อื่มมมม....ว่าที่สามีไม่มีหวงของเลยเนอะ ปล่อยให้ถูกเพื่อนฝูงจับไปแก้ผ้าลูบไปลูบมาอยู่ได้ตั้งนาน
อะไรมันจะอยากโชว์ปานน้านนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา 2
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 19-04-2009 15:20:19

ตอนที่ 5   ต่อ....


“เมิงบอกพวกกูมาซะดีๆ  เมื่อคืนเมิงไปนอนกับใครมา”

หา!!!!    นอนกับใคร?
กู  ก็นอนกับ  ไอ้ไนท์ไง

แล้ว  แล้ว  ทำไม  ทำไม  ทำไม  หลังกูมีแต่รอยจูบอย่างนี้ล่ะโว้ยยยยยยยยยยยย

ผมทำหน้าอึ้ง  ตะลึงไม่แพ้พวกมันหลังจากไอ้อ้นจับกระจกสองอันส่องหน้าหลังให้ผมเห็น (มันไปเอามาตอนไหนวะ?)  ผมแทบจะอยากมุดหัวลงดิน  ซีดแล้วซีดอีก   สั่นแล้วสั่นอีก   แม่เจ้าเว้ยยย   เกิดอะไรขึ้นกับกูวะ  เมื่อคืนเนี่ยยยยย    ผมทำเนียนแอบเหล่ไปมองไอ้ไนท์  ก็ยังเห็นมันทำหน้างงๆ กับรอยยิ้มมุมปากที่ปิดไม่มิด   สาดดดด   เมื่อคืนกูทำอะไรไปมั่งเนี่ยยย

   “อ้าวเฮ้ย  พวกเมิงจะยืนจ้องกันอีกนานมั้ย   จะหกโมงแล้วเนี่ย  เดี๋ยวโรงยิมปิดนะเว้ยย”  ไอ้คนสติดีคนเดียวในทีมเอ่ยขึ้น  พลางจับเสื้อใส่ให้ผมช้าๆ  พร้อมทั้งติดกระดุมให้   กูไม่ใช่เด็กนะเมิง   แต่เอาเหอะ  ให้กูรอดจากที่นี่ไปก่อนเต๊อะ  จะเอาอะไรกูให้เมิงหมดเลยครับพี่ไนท์

ในขณะคนอื่นเดินกลับไปประที่  ไอ้คนชอบกู้สถานการณ์มันก็กระซิบทำลายสถานการณ์ว่า
   “เมื่อคืนเมิงนอนกับกู”    มันพูด   มันยิ้มให้  แล้วเดินจากไป  ทิ้งให้ผมยืนตาค้าง  แข็งเป็นหินอยู่ตรงนั้น 

เมื่อคืนเมิงนอนกับกู
เมื่อคืนเมิงนอนกับกู   นอนกับกู  กับกู  กับกู

ม่ายยยยยย    มันหมายความว่ายังไง   วอท  ดาส อิท  มีน?   ม่ายยย   กู  กะ  เมิง  นอน?  นอนแบบไหนละเว้ยยย  นอนเฉยๆ  หรือว่า....นอนไม่เฉย   แต่ทำไมกูไม่เจ็บ   กู  กู   ไอ้สาดดด   แม่ง  แกล้งกูอีกแล้วว

บาสครึ่งหลังวันนั้นผ่านไปอย่างร่อแร่   รุ่นพี่หวิดจะเสียฟอร์มแพ้ให้แก่รุ่นน้องเพราะท่านกัปตันมัวแต่เหม่อลอย  สติไม่อยู่กับตัว  บาสไม่มีอยู่ในหัว   ไม่มีอะไรนอกจากคำว่า
   “เมื่อคืน  เมิงนอนกับกู”


Night’s talk (special)

   “เมื่อคืนเมิงนอนกับกู”    ผมพูด   ผมยิ้ม  แล้วเดินจากมา   ทิ้งให้มันยืนตาค้าง  แข็งเป็นหินอยู่ตรงนั้น   เอาน่าขอกูลงโทษมึงหน่อยเหอะ  เมื่อคืนเล่นแรงกับกูก่อนนะ  ดูหน้ามันตอนตกใจนี่ก็ตลกดีครับ  ผมรู้มานานแล้วว่าการแกล้งให้ไอ้เวย์เปลี่ยนสีหน้าไปมานี่เป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง  เป็นความบันเทิงที่คงจะขาดไม่ได้อีกแล้วในชีวิตผม

ครึ่งหลังนี่ไอ้เวย์แทบจะเล่นบาสเหมือนเด็กอนุบาล  ฮ่าๆ  ผมเห็นมันแอบเหล่มองผมบ่อยๆ  เหมือนต้องการคำอธิบายว่าตกลงมันนอนแบบไหนกันแน่  ฮ่าๆ  กูไม่บอกหรอกมึง  คนผิดจริงๆ ของเรื่องนี้ก็คือมึงนั่นแหล่ะ  ผิดตั้งแต่ละเมออย่างนั้นออกมา

“กู รัก เมิง”   

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ผมเบรกรถอย่างแรง  โชคดีที่ตอนนี้ถนนโล่ง  ไม่อย่างนั้นผมกับมันคงได้ลงไปเฝ้าท่านยมด้วยกันแล้ว  ผมนำรถเทียบข้างทางก่อนจะหันมามองไอ้ตัวดีช้าๆ  ผมยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่มันละเมอออกมาคืออะไร  คำพูดที่ทำเอาผมแทบหยุดหายใจนั้นคือเรื่องที่ออกมาจากใจมันจริงๆ หรือเปล่า  หรือว่ามันกำลังเล่นตลกอะไรในฝัน

หน้าใสๆ ของมันแดงระเรื่องด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์  เปลือกตายังคงหลับพริ้ม  ขนตายาวงอน  ริมฝีปากแดงอิ่มนั่นแย้มรอยยิ้มกว้าง  แล้วมันก็หัวเราะออกมา  ผมอยากจะปลุกมันขึ้นมาถามเหลือเกินว่า   ไอ้คำที่มันพูดออกมาน่ะ  หมายความว่ายังไง   แต่ผม..ยังไม่กล้าพอ   ความกลัวความกังวลที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตบัดนี้กลับอัดแน่นอยู่ในใจ

ผมกลัวอะไร  ตัวผมเองยังไม่แน่ใจนัก  กลัวความหมายของมัน  กลัวว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่คิด  หรือบางที...กลัวตัวเอง

ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าระหว่างเรามีบรรยากาศบางอย่างที่แปลกไปจากความเป็นเพื่อน  ผมห่วงมันมาก  หวงมันด้วย  ผมไม่ชอบให้มันปิดบังอะไรผม  ต้องการความเชื่อใจจากมัน  ผมอยากให้มันพึ่งพาผม   นั่นแหล่ะ  ผมกับมันจึงไม่ได้เป็นแค่เพื่อน   แต่เป็นเพื่อนสนิท

‘เพื่อนสนิท’  คำนิยามที่ผมกำจัดขึ้นมากำหนดความสัมพันธ์นี้   คำที่บางครั้งผมพูดได้เต็มปาก  แต่ไม่อยากได้ยินจากปากอีกคน

ผมรู้สึกว่าวันนี้การอุ้มมันขึ้นไปนอนยากกว่าทุกที  มือไม้ที่เคยแข็งแรงกลับหมดกำลังไปดื้อๆ  แต่บางอย่างที่ไม่ควรแข็ง(แรง)  มันกลับไม่รักดีขึ้นซะอย่างนั้น

   “เพราะไอ้คำละเมอบ้าๆ ของเมิงแหล่ะ  ไอ้เวย์”

ขึ้นมาถึงห้องผมก็จัดการวางมันบนเตียง  ผมเผ้ายุ่งเหยิงในชุดนักศึกษา  หน้าตาที่บ่งบอกความรำคาญเล็กน้อย  ปากเล็กๆ ที่ขมุบขมิบเหมือนกำลังด่าใครอยู่นั้น  ทำให้มันดู...เซ็กซี่ชะมัด   ความคิดที่ผมแทบอยากเอาหัวโขกผนัง   โว้ยยย   ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันเซ็กซี่   เอ๊ะ  ก็ไม่ถูกซะทีเดียว   หลายครั้งผมยอมรับว่ามองมันแบบนั้น   อย่างน้อยๆ ก็ตอนที่ลากมันไปอาบน้ำด้วยกัน  ทั้งๆ ที่อยากจะแกล้งมันเล่น  แต่กลับกลายเป็นตัวผมเองที่ทนอยู่ในสภาพแบบนั้นไม่ได้  ก็เลยต้องถีบมันแล้ววิ่งหนีออกมาแทน   โคตรเสียฟอร์มเลย

มือที่ถอดเสื้อให้มันสั่นน้อยๆ  ก่อนจะเริ่มใช้ผ้าชุบน้ำไล้ไปทั่วผิวขาวเนียนนั้น  แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นมือ?  โว้ยยย   กูท่าจะอาการหนักซะแล้วว่ะ

   “อือ  อืมม”   กึก!!  เสียงครางของมันทำผมหยุดมือทันที
ทรมาน!!  แค่เห็น  มึงยังทรมานกูไม่พอใช่ไหม  ถึงต้องร้องออกมาให้กูได้ยินเนี่ย

   “เวย์  เมิงรักใคร”  เอาวะ  ตายเป็นตาย  เขาว่าคนเมาไม่โกหก
   “อือ”
   “รัก  กู  ไหม”
   “อือ”
เท่านั้นแหล่ะครับ   ไม่ว่ามันจะรู้เรื่องไหม  ผมก็ไม่สนแล้ว

   “งั้นวันนี้  ขอกูไม่เป็นเพื่อนมึงสักวันนะ”

ผมไซ้ไปทั่วร่างกายขาวเนียนของมัน  สูดดมความหอมหวาน  สัมผัสความนุ่มมือที่ชวนให้เลือดลมพลุ่งพล่าน  อยากจะเป็นเจ้าของ   สัญลักษณ์แห่งความเป็นเจ้าของถูกผมประทับไปทั่วแผ่นหลังและหน้าอกของมัน  ก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไปมากกว่านี้

‘ติ๊ด  ติ๊ด  ติ๊ด’

แม่งเอ๊ยยย   ใครมาตั้งนาฬิกาปลุกตอนนี้วะ   ผมสบถอย่างหัวเสียแต่แฝงความโล่งใจอยู่ในที  ไม่อยากจะคิดเลย  ถ้ามันไม่จบแค่นี้  ความสัมพันธ์ของเรามันจะเป็นยังไง

ปิดนาฬิกาปลุกที่ตัวเตียงเสร็จ  ผมก็เหลือบมองรอยแดงที่กระจายอยู่ทั่วเรือนรางนั้น  เลือดลมยิ่งพลุ่งพล่าน   ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนยากจะระงับ

   “ทำไมวันนี้มันร้อนอย่างนี้โว้ยยยยยย”   ว่าแล้วก็เผ่นเข้าห้องน้ำทันที


   “อ่ะ..เอ่อ  เมิง  กู  เมื่อคืน   เอ่อ....”  เสียงตะกุกตะกักพร้อมแรงกระตุกที่แขนเสื้อทำให้ผมหลุดจากภวังค์
   “อะไร”  ผมเห็นมันทำหน้าปั้นยาก  ก่อนจะพยักหน้าอย่างหนักแน่นราวกับตัดสินใจกับตัวเองเรียบร้อย  แล้วเอ่ยว่า
   “เมื่อคืน  เมิงนอนกับกู?”  พูดจบเจ้าตัวก็ก้มหน้างุด
   “ก็ใช่”   คำตอบของผมทำให้มันเบิกตากว้าง  กว้างมากๆ
   “แค่นอน...ใช่มั้ย”     ไม่ใช่!!  จะบอกมันยังไงว่าถ้าเมื่อคืนไม่มีนาฬิกาปลุก  มันได้กลายเป็นเมียผมอย่างที่ไอ้นุมันชอบล้อแล้วแน่ๆ

   “ไม่รู้”
   “เฮ้ยยยย   ไม่รู้ได้ยังไง  ก็  ก็....”
   “ก็  อะไร”
   “ก็กูเมา  แต่เมิง   เมิงงงง”   มันลำบากมากเลยเหรอวะ  พูดแต่ละคำเนี่ย  อายอะไรของมัน  คนที่สมควรอายนี่มันกูต่างหาก  เกือบไปแล้ว

   “กูก็เมา” 
   “เฮ้ยยยย   แล้วเมิง  เอ่อ  ไม่ได้ทำอะไร  เอ่อ  ใช่มั้ยย”   ทำ!!  แต่ไม่เสร็จว่ะ
   “ไม่รู้  กูเมา”

   “เฮ้ยยยย”  มันทำท่าตกใจมาก  ตาโต  อ้าปากค้าง  ฮ่าๆ  โคตรตลก  ทำไมเมื่อคืนเมิงไม่ทำหน้าอย่างนี้ล่ะวะ  กูจะได้ไม่ทำอะไร  มัวแต่นั่งฮาเมิง
   “ฮ่าๆ  เป็นเอี้ยอะไรของเมิง  เมาแล้วก็ต้องนอนดิวะ  คิดมากไปได้”  แล้วก็ขยี้ผมมันไปหลายทีอย่างหมั่นเขี้ยว   เรื่องบางอย่าง  ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก  เพราะมันก็แค่...ความหลงละเมอชั่วข้ามคืนเท่านั้นเอง


----------------------------------

ขอโทษที่ช้าจ้า  แต่มาแล้วน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 19-04-2009 15:25:01
มอบแต้ม+ ที่ 29 คร้าบ-ที่มาต่อ
ขอบคุณคร้าบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 19-04-2009 15:56:08
"แต่บางอย่างที่ไม่ควรแข็ง(แรง)  มันกลับไม่รักดีขึ้นซะอย่างนั้น"

เอ๊~~  อะไรหว่า ที่ไม่ควรแข็งน่ะ แถลงหน่อยดิเฮียไนท์  :z1:

อยากให้มีSPของเฮียไนท์บ่อยๆนะคับพี่ไวท์

อยากรู้ว่าเฮียไนท์คิดยังไงบ้างน่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 19-04-2009 17:46:26
เวย์ ถ้าแค่นอนเฉยๆ
รอยพวกนั้นจะมาได้ไงล่ะ  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 19-04-2009 18:26:10
เพิ่งได้มาอ่าน

สนุกมากอ่ะค่า

อดใจรออย่างยากลำบาก

ลุ้นๆๆ ถึงตอน...


หึ หึ


 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 19-04-2009 19:06:01
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 19-04-2009 20:31:55
ต่างคนต่างเมาเหรอ  แต่ว่าเมาเหล้ารึเมาอะไรกันแน่อ่ะ อิ อิ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 19-04-2009 23:21:40
ดูแล้วคำตอบของไนท์จะมะช่วยให้อาการเวย์ดีขึ้นหล่ะนะ
รู้สึกจะคิดมากหนักก่าเดิมซะง้าน...ฮ่าๆๆๆๆ

+1ให้คนแต่งจ้า...ตอนต่อไปมาเร็วๆน๊า...ชอบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 20-04-2009 00:22:48
ฮึๆ..... เมา....

เสียไปกะเมาเนี่ย หลายคนละ กร๊ากกกกก :jul3:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 20-04-2009 00:27:31
คิกๆ บอกแล้วว่าที่นอนไนท์มดเยอะ หนูเวย์ไปค้างคราวหน้าจะโดนมดกัดอีกมั้ยหนอ
ไนท์ครับรีบๆตัดสินใจนะ เดี๋ยวโดนแย่ง อิอิ
มาต่ออีกนะชอบมั่กๆเยย น่ารักทั้งคู่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 20-04-2009 00:31:29
 :laugh:
ไม่รู้ กูเมา

สุดยอดของข้ออ้างเลยจริงๆ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 20-04-2009 00:58:37
มาให้จูบงามๆซักทีคับ คนแต่ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-04-2009 11:36:47
เจ้าไนท์เอ้ย จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมรู้ใจตัวเองซะที ดูอย่างเจ้าเวย์สิ คิดไม่ซื่อมาเป็นชาติแระ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 20-04-2009 11:59:00
โฮะ ๆ ๆ ได้อ่านแล้วมีฟามสุข ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 20-04-2009 13:49:03
พี่ไนท์เมื่อไรจะรู้ใจตัวเองเนี่ย
 สู้ๆพี่เวย์
อะไรเเข็งเหรอพี่ไนท์ :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 20-04-2009 14:07:15
เรื่องนี้น่ารักจริง ๆ

น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก


ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :impress2:   :impress2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: zllbleazz ที่ 20-04-2009 14:16:16
แว๊บมาดูในเล้าจ้า

^^

ลออเองเน้อ

555 เข้ามาเปนกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 20-04-2009 15:19:19
 :laugh: :laugh:

ตลกดี กุไม่รู้ กุเมา

คำเด็ดจิงๆ :pigha2:

มารอลุ้นไนท์รู้ใจตัวเองครับบบบ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 20-04-2009 15:29:27
ไนท์เอ๋ย รู้ใจตัวเองได้แหล่ะ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/sang.gif)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 20-04-2009 15:55:07
มาต่อไว้ๆน่ะค่ะ
บอกพี่นุ่นด้วยว่าเรื่องอย่าเศร้าน่ะไปโปรด
ถ้าเศร้าล่ะก้อ o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 20-04-2009 21:24:13
มาต่อไวไว นะค๊าา คิดถึงงงงแล้ววว ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 20-04-2009 23:53:52
ชอบเรื่องนี้  o13
เวย์ก็ซื้อจริงๆ นอนเฉยๆรอยมาได้ยังไง
สงสัยมดกัด  :jul3:
ไนท์ รู้ใจตัวเองไวไวนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 21-04-2009 14:27:50
“เฮ้ยยยย   แล้วเมิง  เอ่อ  ไม่ได้ทำอะไร  เอ่อ  ใช่มั้ยย”   ทำ!!  แต่ไม่เสร็จว่ะ


ไม่เสร็จ 2 คน แต่เสร็จคนเดียว น่ะสิ  :laugh:

แต่งได้หลายรสมาก เหมือนเศร้า (เรื่องมันเศร้าที่แอบรัก แต่ เวย์ดันฮาได้อีก) แต่หนุกหนานมากมาย

ร้ากกกกกกกกก คนเขียน รีบมาต่อนะจ๊ะ  :m19:

จงมา จงมา  :oni3:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: rain0akira ที่ 21-04-2009 16:39:28
รอๆๆๆๆๆๆ

มาต่อไวๆน้า

รออ่านค้าบบบบ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 21-04-2009 17:53:57
ไม่ได้เข้าเล้าหลายวัน คิดถึงเวย์กับไนท์มากเลย ชอบเรื่องนี้จัง คนเขียนหยอดมุกฮามาก  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: minimai ที่ 21-04-2009 19:20:50
มาเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก

รักเวย์กับไนท์จังเลย

มากต่อไววววววน้า o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-04-2009 19:36:03
เย้ๆ...............ปั่นจนจบจนได้เลยนะนี่ อิอิ


ขอสมัครเปงสมาชิกใหม่ด้วยคนเน้อ.................อิอิ


ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อด้วยเน้อค๊าฟ อิอิ....................รออยู่เน้อค๊าฟ


น่ารักมากมาย...........แถมสถานที่เนี่ยก้อทามให้นึกถึงบางสถาบันเลยนะนี่ อิอิ น่ารักๆ


เปงกำลังใจให้เน้อค๊าฟ...............สู้ๆเน้อ อิอิ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 21-04-2009 20:41:50
แอบเข้ามารอ

เป็นกำลังใจให้จ้า ><
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 22-04-2009 01:32:24


:really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 22-04-2009 06:58:45
 :really2: :really2: รอรอรอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-04-2009 09:03:25
อยากจะให้ไนท์ขอต่อเวลาไม่เป็นเพื่อนกับเวย์ไปอีกนานๆ  จัง

รออ่านอยู่จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 22-04-2009 20:41:53
เฮ้ยๆๆ

ดันๆๆ

 :z10:


พี่ไวท์อยู่ไหนหว่า

จะร่วงแล้วเน่ออ

รีบมาเร็ว คิดถึงพี่เวย์  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 22-04-2009 20:50:32
หุหุ..เวย์น่ารักกกกกกมากมายก่ายกองฟักทองบวดมากมาก... :กอด1:


ไนท์นี่ก็...ฮึ่ม :m16: ไม่รู้ไรเล้ยยยยยย


รู้สึกตัวได้เเล้ววว...รอคนเเต่งอยู่นะคร๊าบบบบบ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 23-04-2009 11:20:51
มาอ่านตั้งกะเมื่อวานแต่ลืมเมนต์  ขอโทษคร้าบบ

เอ้อ  ไม่รู้กูเมาตลอด

แอบสงสัยว่าแค่เสียงโทรศัพท์ นี่ทำให้ค้างได้เลยเหรอ  อีกคนก็ยังไม่รู้สึกตัวซะหน่อยน้า  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 23-04-2009 23:05:01
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยนะจ๊ะนายเวย์ 


รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 23-04-2009 23:20:10
ต๊ายยย

My sunshine

ah ah ah lets' gooooo...

ฃ้าจริงเน้ออออออ

ยังไงก็รอนะค๊าาาา นิยายน่าอ่าน

ให้คนอ่านรอนาน มีองค์น๊าาา เด๋วจะหาว่าไม่เตื่อนน :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 5/ 2 ไม่รู้...กูเมา (มาต่อแล้วจ้าาาาาาาาา)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 23-04-2009 23:21:45
บทที่ 6  The one to cry

วันนี้เป็นวันที่สโมสรนักศักศึกษานัดประชุมกันเรื่องงานวิชาการซึ่งสามปีจะมีครั้งหนึ่งครับ  จากวันนั้นถึงวันนี้ (สรุปคือ..วันไหน??)  เหตุการณ์เมาสะท้านโลกของผมผ่านมาก็สามวันแล้ว  ในที่สุดผมก็ได้รู้ว่าไอ้การที่ผมเกือบจะหน้าแตกแพ้บาส  เกือบตกบันได  เกือบเดินชนประตู  และอีกทั้งหลายทั้งแหล่ที่เกิดขึ้นเพราะความใจลอยของผม  ล้วนแล้วแต่เป็นการกลั่นแกล้งของไอ้เพื่อนชั่วทั้งสิ้น  มันบอกว่ารอย Night’s mark เหล่านี้ (these เพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์  ย้ำ!! โคตรพหูพจน์เหอะ)  เป็นการลงโทษที่ผมเมาเหมือนหมาจนเดือดร้อนมันต้องมาคอยดูแล   สาดดดเอ๊ยยย  โคตรจะโมโหเลยครับ  เข้าใจกันป่ะว่าผมโมโหเรื่องอะไร

หึ  คิดดูดิครับ  ผมแอบรักมันมาสามปีเต็มๆ  คอยดูแลมันสารพัด  มันอยากให้ทำอะไรทั้งๆ ที่ฝืนใจผม  ผมก็ไม่เคยปริปากบ่น   จะเลิกกับแฟนก็เอาผมเป็นไม้กันหมา  พวกเธอๆ ทั้งหลายก็ไม่ตามรังควาญมัน  แต่ดันมาอาฆาตผมแทน   แม่งง  กูมันเป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ชัดๆ เลยนี่

หยุดครับ!!  อย่าเพิ่งเศร้าเพราะสงสารผม  คุณคิดว่าผม  ไอ้เวย์คนนี้  จะโมโหเพราะเรื่องพรรค์นี้เหรอครับ   ไม่มีทางซะล่ะ  ฮ่าๆ  ผมรู้จักมันดีพอ  ดีพอที่จะไม่คิดเล็กคิดน้อยไปกับการกระทำของมัน  เพราะมันเป็นพวกอยากทำอะไรก็ทำ  ไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว  ยิ่งผมเป็นเพื่อนสนิท  มันก็ยิ่งไม่ต้องคิดอะไร  ไม่ต้องกลัวว่าผมจะโกรธ  จะด่ามัน  สรุปก็คือ  ชิน  เหอะ  แต่ไอ้ที่โกรธเนี่ยย   โกรธตัวเองดิครับ  แม่ง  โคตรโมโหตัวเองเลย  ทำไมวันนนั้นผมต้องเมาวะ?  ทำไมกูต้องเมาจริงๆ วะ  ทำไม   แม่งงง  ถ้ากูไม่เมานะ  เมิงเสร็จกูไปแล้วไอ้ไนท์  เสร็จตั้งแต่ยังไม่ได้ชัดจนเป็นรอยเลย  โธ่เว้ยยย   ไอ้ชั่ววว  ไอ้เจ้าเล่ห์  ทำไมต้องทำตอนกูเมา  กูไม่ยอมมมมม

“เวย์  เวย์  ไอ้ฟายเวยยยยยยยยย์”
“ห๊ะ!!  อะไร  ควายที่ไหนร้องเรียกกูเนี่ยยย”  ผมหันไปทำหน้ามึนๆ พลางมองไปรอบๆ
“สัดเวย์  เหม่อหาดร๊อยอะไรของมึงฟร่ะ”  เสียงไอ้พีดังสะกิดตีนผมชะงัก  ไอ้พี่มันเป็นฝ่ายประสานงานครับ  หน้าตาดี  หุ่นเพรียวบางแต่เสือกชอบเล่นซูโม่  
“ใคร  ใครเหม่อ  พูดงี้กูเสียหายนะเว้ยย  แม่งง  พี่ออยมองกูอยู่นะ  สาดด  พี่ครับ  ผมไม่ได้เหม่อนะ  พูดจริงๆ  แต่กำลังคิดว่า  จะทำยังไงถึงจะได้ดอกฟ้ามาเชยชม”   ยักคิ้วกวนตีนปิดท้ายเป็นอันเสร็จพิธี  ไอ้ไนท์ไปห้องน้ำครับ  ไม่มีใครปราม  ได้ใจผมล่ะ

“อ้วกกกกก”  พร้อมเพียง - -;

พี่ออยคือใคร   ใครคือพี่ออย  เหตุไฉนกระผมจึงเอ่ยวาจาเยี่ยงนั้นออกไป  ฮ่าๆ  เอาล่ะครับ  พี่ออยเธอคือดอกฟ้าของคณะ  เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งรูปโฉม  นิสัย  และสติปัญญา  เสียอย่างเดียว  ตาไม่ถึงครับ  ดันไปเลือกไอ้พี่วายมาเป็นแฟน  ฮ่วย!!  ไว้อาลัยให้กับการรตัดสินใจผิดของพี่เขาอีกครั้ง

   “สัดเวย์ครับ  ตีสุนัขไม่ดูเจ้าของอีกแล้วนะครับ”  น่านน  ไอ้พี่วายมันขี้หวงอ่ะ   ดี  อย่างงี้ล่ะครับมันถึงจะสนุก  ไอ้พวกหวงๆ งี้  แหย่ขึ้น  แล้วไอ้ผมมันก็เป็นพวก  ชอบแหย่ซะด้วยดิ
   “อะไรกันครับ  ผมไม่เคยมองพี่ออยเป็นหมา..เอ๊ยย   สุนัขเลยนะพี่  ผมมองพี่เขาเป็นเครื่องบินมากกว่า  ส่วนหมา..ฮ่าๆ  ดันสอยร่วงมาจนได้”

   “ก๊ากกกกกก”  พร้อมเพียง - -; again
ไม่ใช่ไม่เคารพนะครับ  นี่แหล่ะคือการแสดงความเคารพของผม  เขารู้กันดีเลยไม่มีใครว่า  มีแต่คนจะคอยช่วยฮาซะมากกว่า  ก็ไอ้พี่วายอ่ะ  เมื่อก่อนที่ยังไม่มีพี่ออย  แม่งง  โคตรกวนตีนอ่ะ  พออยู่ต่อหน้าพี่ออยนี่  ทำเป็นเรียบร้อย  สุภาพ  ฮ่วยยย  เหมือนใครไหมครับ  โรคกลัวเมีย  ฮ่าๆ  พวกผมเลยชอบแหย่แกบ่อยๆ  นานๆ แกก็มีหลุดมาบ้าง  เอิ้กๆ  โคตรมีความสุข

   “หึ  กูจะฟ้องไอ้ไนท์”  ไอ้นุกระซิบที่หูผม   สาดดด  สยิวเว้ยยย
   “เรื่องของมึง”   ผมหันไปทำหน้าเมื่อยใส่มัน   กลุ่มผมเจ็ดคนนี่อยู่ในสโมฯ กันหมด  เรียกว่าไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบใคร  ว่างั้นเหอะ

   “เหอะ  ฝากไว้ก่อนนะมึง  ไอเวย์”  พี่วายชี้หน้าคาดโทษผมก่อนจะหันไปทำหน้าที่ประธานต่อไป  - -  ขัดใจว่ะ  หน้าอย่างมันเป็นประธานได้ไง  ฮ่วย!!  ว่าแต่ไอ้เชี่ยไนท์มันหายหัวไปไหนฟ่ะ  ว่าแล้วก็ไปห้องน้ำดีกว่า  เบื่อหน้าไอ้พี่ประธาน  เห็นแฟนมันสวยแล้วแสลงใจ  ชิส์  เชื่อดิ  ไม่ได้จะออกไปตามใครนะ  จริงจริ๊ง


ผมแว่บออกมาท่ามกลางสายตาคาดโทษอีกครั้งของไอ้พี่วายคนเดิม  เหอๆ  อยู่ไปกูก็ไม่เคยชอบเสนออะไรกับเขาอยู่แล้วล่ะว้า  ก็ประชุมตกลงกันให้เสร็จแล้วค่อยมาบอกแล้วกัน  ไอ้เรามันก็พวกว่าไงว่าตามกันอยู่แล้ว
ผมเดินอย่างไม่เร่งรีบไปที่ห้องน้ำชาย  แน่ดิ  ผู้ชายหนิครับ - -   อากาศเย็นสบาย  กลิ่นหอมๆ ของดอกไม้ตลอดสองข้างทางทำให้ผมอารมณ์ดีอย่างประหลาด  เผลอฮัมเพลงไปตลอดทาง

“อย่าทำอะไรให้ใจฉันสั่น  อย่าทำอะไรที่มันคิดได้  ว่าชอบกันว่าซึ้งใจ  ยิ่งไกลยิ่งดีเท่านั้น  อย่าทำอะไรที่มันก้ำกึ่ง  อย่าทำให้คนคนนึงยิ่งใฝ่ยิ่งฝานนนน.......”  

“อ่ะ  อื้อ  อืมมม”
กึก!!  เสียงหวานเจือกระแสเรียกร้องนั้นทำให้ผมต้องชะงักเท้า  ถ้าฟังไม่ผิด  ผมว่ามันเหมือน..   ด้วยเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีที่สะสมไว้ทำให้ผมก้าวเข้าไปสำรวจไขข้อข้องใจตัวเองอย่างรวดเร็ว  โคตรศักดิ์ศรีอ่ะ  เหอๆ


สาดดดด   กู-ว่า-แล้ว   หนังสดกันแต่บ่ายเลยครับพี่น้อง  ตรงหน้าผมคือร่างสองร่างที่ยืนเกาะเกี่ยวซุกไซ้กันอย่างเมามันในซอกเล็กๆ ข้างห้องน้ำ  จ๊อร์จจจจ   หามุมได้ดีโคตร

“อือ  ดี  ค่ะ”    ครับ  พี่เชื่อ   ก็ดูหน้าคุณเธอดิครับ  เหอๆ  ไม่เอาอ่ะ  สุภาพบุรุษอย่างผมไม่ขอบรรยายดีกว่า  สุภาพบุรุษมากกกกก   มาแอบดู    เอ้า!  ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย  แค่อยากรู้  ก็กำลังจะไปอยู่นี่ไงครับ

“อา  พี่ไนท์  อือ  อ้ะ”

กึก!!!!!   เฮือก!!!!!!
ทันทีที่ชื่อนั้นหลุดจากปากแดงๆ นั้น  ผมก็รู้สึกโหวงในช่องท้อง  ร่างกายแข็งทื่อ  ไม่อาจขยับไปไหนได้อย่างที่คิด  ไนท์  ไอ้ไนท์  หวังว่าคงไม่ใช่   ไม่ใช่เมิง  ใช่ไหม??

แต่...แผ่นหลังนั่นช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
แต่...ทรงผมนั่นช่างคุ้นตานัก
แต่...ท่าทางอย่างนั้น   ผิวพรรณแบบนั้น  ต่างหูรูปไม้กางเขนกลับหัวข้างนั้น
มันคือ  ไอ้ไนท์ไม่ใช่เหรอ    ไม่  ไม่ใช่  มัน  จะหนีผมออกมาทำเรื่องแบบนี้เหรอ  มัน...จะทำ??

“น้องสาครับ  อือ  เก่งจริงๆ  คนดี”  
เสียงมัน  เสียงมัน  เสียงไอ้ไนท์    น้องสาคนดี  อย่างนั้นเหรอวะ?

หึ!!  กูก็ลืมไปว่ามึงเป็นยังไง  ลืมไปว่ามึงมีใครอีกมากมายที่แค่กระดิกนิ้วก็พร้อมจะวิ่งเข้าหา  ลืมไปว่ากูกำลังเล่นกับไฟ  ลืมไปว่ากูเป็นแค่เพื่อน  ที่ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายยังไง  กูก็เป็นได้แค่เพื่อน
ลืมไป...ว่ามึงไม่เคยคิดเกินเลยกับกู    กูผิดเองที่คิดไปคนเดียว  ผิดเอง

ผมหันหลังเดินจากมาด้วยร่างกายเบาโหวง  ไร้ความรู้สึก  หน้าชาไปหมดกับภาพที่เห็น  กับเสียงที่ได้ยิน  ทั้งๆ ที่รู้มานาน  ทั้งๆ ที่คิดว่าทำใจได้มาตลอด   แต่ทำไมวันนี้ผทถึงได้เจ็บนัก  ทำไมวันนี้ผมถึงทนไม่ได้  ทำไม!!

ผมเดิน  เดิน  และเดินต่อไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย   เดินตามสัญชาตญาณ  เพราะดูเหมือนสมองน้อยๆ ของผมจะยังไม่พร้อมใช้การในเวลานี้

   “เวย์  น้องเวย์ครับ”  ร่างสูงมาเดินยืนอยู่ข้างๆ เมื่อไรไม่รู้  ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก  ก่อนจะฝืนยิ้มให้จางๆ  อยากบอกเหลือเกินว่า   ช่วยไปไกลๆ ตีนกูเถอะ  กูไม่มีอารมณ์คุยกับใครตอนนี้
   “พี่หมอ  แหะๆ”  เวร  ไม่รู้จะพูดอะไรว่ะ
   “ไปขับรถเล่นกันไหม?  ให้ลมมันพัดออกไปบ้าง  อาจจะดีขึ้น”  แน่ะ  รู้ดี   คนข้างๆ ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้  อบอุ่นเสียจนเกือบจะเรียกความอ่อนแอที่ผมพยายามสะกดไว้ให้ปะทุขึ้นมาอย่างง่ายๆ

   “ครับ”  ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ไว้ใจคนๆ นี้  รู้แต่เพียงว่า  เวลาอย่างนี้ถ้ามีใครสักคนอยู่ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายนักหรอก

...มนุสโสสิ อามะภันเต    คนรึเปล่า ใช่ครับโอ้เย   มนุสโสสิ อามะภันเต   เกิดเป็นคนทั้งทีก็ทำดีกันหน่อยซิ
มนุสโสสิ อามะภันเต   คนรึเปล่า ใช่ครับโอ้เย   มนุสโสสิ อามะภันเต    เกิดเป็นคนทั้งทีก็ทำดีกันหน่อยซิ.....

สาดเอ๊ยยย   ใครโทรมา  ใครเปลี่ยนริงโทนกรู  เอี้ยเอ๊ยยยย   กูกำลังเข้าโหมดแซดดด   เสือกทำอารมณ์กูสะดุดซะงั้นอ่ะ  แม่งง  ขอกูนั่งรถล้างความเศร้าเป็นพระเอกเอ็มวีสักวันไม่ได้รึไงว้า

   “ฮัลโหลครับ”  เสียงโคตรเนือยอ่ะ  รู้ตัว
   “เฮ้ยย  เมิงเป็นใคร  ทำไมรับโทรศัพท์ไอ้เวย์”  เชียนุ  เมิงอีกแล้ว - -;
   “ไอ้กลัวเมีย  มีอะไรวะ”
   “อ้าว  เมิงไอ้เวย์ตัวจริงนี่หว่า  แล้วเมื่อกี้ใครรับโทรศัพท์วะ  พูดดีเกิน”  เอ้า  กูพูดด้วยดีๆ  ไม่ชอบ

   “มีไร”
   “เฮ้ย  เมิงเป็นอะไรเปล่าวะ  ทำไมเสียงเป็นงั้นวะ  เป็นไรๆ”  เสียงร้อนรนของมันเรียกรอยยิ้มจางๆ จากผม  รู้ดีครับว่ามันเป็นเพื่อนที่ดี  ถึงปากอ้อนตีนตลอดก็เหอะ  มันไม่เคยทิ้งผมเวลามีปัญหา

   “ป่าววะ  กูเหนื่อยๆ  เดี๋ยวกลับก่อนนะเว้ย  ฝากฟังแทนด้วย”
   “อ้าวว  สาด  พี่วายให้กูโทรตามเมิงเนี่ย  ไอ้เอี้ยไนท์ก็ยังไม่มา  ไม่รู้ไปขี้หรือไม่ช่วยใครทำคลอด”  เออ  เกือบถูกแล้วเมิง   ไม่ได้ไปช่วยทำคลอด  แต่ไปช่วยให้ท้องอยู่ว่ะ

ผมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง  พยายามสงบสติอารมณ์ขณะที่เดินมาถึงรถพี่หมอ   แม่งง  Porsche Carrera GT    สาดดแพงโคตร  แต่แม่งงง  บุญของกูแท้ๆ

   “เฮ้ย  เวย์  ไอ้เวย์  ฟังกูอยู่ป่าววะ?”  เสียงไอ้นุโวยวายมาตามสายโทรศัพท์  ขณะที่ตาผมยังคงจับจองปอร์เช่สีเงินคันงานไม่วางตา  โว้ๆ  กูจะได้นั่ง  เหอะๆ  ลืมความเศร้าไปชั่วขณะจิต
   “อ่ะ..เออ  มีไรวะ”
   “สาดดแม่ง   ท่าจะอาการหนักว่ะ  พี่วายเขาถามว่าเรื่องงานแสดงอ่ะ  เมิงว่าไง  จะทำอะไรดี”
   “ห๊ะ  เอ่อ  อ๋อ   เอาไงก็ได้  ตามสบายเลย  กูได้หมดแหล่ะ”  แม่งงง  อารมณ์มันกำลังตีกันวุ่นวายไปหมดแล้วครับ  หัวตื้อไปหมดแล้วตอนนี้   พี่หมอเปิดประตูให้ผมก้าวเข้าไปนั่ง  แถมยังปิดให้เรียบร้อย  โอ๊ยย  นิ่มโคตร
   
   “เออๆ  พี่เขาถามว่า  แน่ใจนะว่าจะไม่ออกความเห็น  และจะเห็นด้วยทุกอย่าง”  ผมว่ามันฟังดูตงิดๆ นะ  แต่ว่ายังไม่มีอารมณ์จะสนใจ
   “เออ”
   “ไม่โวยทีหลัง”
   “เออ”
   “ก็ดี  แล้วเมิงเห็นสามีเมิงมั่งไหมเนี่ย  หายหัวไปไหนวะ”
   “.....”  กูอุตส่าห์ไม่คิด  เมิงยังมาช่วยย้ำ  อยากบอกเหลือเกินว่าไอ้สามีกูที่เมิงพูดถึงอยู่น่ะ  มันกำลังทำหน้าที่เป็นสามีคนอื่นอยู่   สาดเอ๊ยยย   ภาพนั้นมันยังติดตา  แม้จะพยายามสลัดไปสักเท่าไร  ก็ไม่ยอมหลุด

   “เฮ้ย  สรุปเห็นไหมวะ”
   “ไม่  แค่นี้นะเว้ย”  ไม่รอฟังอะไรอีก  ผมรีบตัดสายมันทันที  พร้อมทั้งหอบน้อยๆ  เหนื่อยกับการต้องกลั้นอารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง  เฮ้ออ  

   “ไปไหนดีครับ”  อ้าว  เวร  ผมลืมพี่ไปเลย  ลืมปอร์เช่ของพี่ด้วยเหอะ
   “แล้วแต่”  ห้วนไปไหม  ช่างแม่ง
   “โอเค”

ผมปล่อยให้สายลมปะทะหน้าเพื่อไล่ความเศร้าอย่างที่คนข้างๆ แนะนำ  แม้ว่ามันจะแทบไม่ช่วยอะไรเลยก็เหอะ  แต่มันก็เพลินๆ ดีเหมือนกัน

   “อกหัก??”  เสียงนุ่มๆ เอ่ยถาม  หรือพึมพำกับตัวเอง  ผมก็ไม่แน่ใจ   แต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง  อกหักเหรอ?  ก็คงใช่มั้ง  ไม่ใช่หรอก   ไม่ใช่   ที่ผมเศร้าไม่ใช่เพราะอกหัก  แต่เป็นเพราะสมเพชตัวเองมากกว่าที่หลงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป  ทั้งๆ ที่เมื่อก่อน  ผมก็รู้เสมอว่าควรอยู่ตรงไหน  ทำไมยังไม่ชิน

   “กินขนมไหม”
“....”
   “ฟังเพลงไหม?”
   “......”
   “โอเค  งั้นพี่เงียบ”    ก็ดี  แต่เสียงถอนหายใจนั้นทำให้ผมรู้สึกผิดแปลกๆ

   “พี่หมอ   ผมทำให้ลำบากหรือเปล่า”   แห้งแล้งยิ่งนัก  เสียงผม
   “หืมมม   ทำไมครับ”
   “ไม่ต้องพูดเพราะได้ไหม”  ไม่ชินอ่ะ
   “โอเคๆ  ทำไมเวย์ถึงคิดว่าทำให้พี่ลำบาก”
   “ไมรู้ดิ  อยากชวนคุยอ่ะ”   เวรจริงกู  ตรงเกินเวอร์อ่ะ
   “อุ๊บ  ฮ่าๆ   งั้นเหรอ  พี่ไม่ลำบากเลย  ดีกว่านั้นเยอะ”   ช่วยแปลให้กูเข้าใจหน่อยดิ

   “ผมอยากไปทะเล”   อยากไปตะโกนปลดปล่อยทุกอย่างลงน้ำเค็มๆ  คลื่นแรงๆ นั่น  คลื่นที่กระทบกัดเซาะหัวใจของผมจนแทบจะไม่เหลือชิ้นดี  บางที่แวะไปซื้อกาวมาต่อใจหน่อยก็ดีวะ   เสี่ยวอีกกรู - -
   “บางแสน??”
   “ตามใจพี่”
   “งั้นไปภูเก็ตแล้วกัน”
   “เฮ้ยยย  ไกลไปพี่  บางแสนนี่ล่ะ  แม่งง  เว่อร์ดีจริง”  หลังๆ ลดเสียงลงกลายเป็นบ่นอุบอิบแทน  แน่ดิครับ  ใครจะไปกล้าด่า  เดี๋ยวเขาเอาผมทิ้งไว้ข้างถนนทำไม  ผมยังไม่พร้อมจะถูกทิ้งเป็นครั้งที่สองหรอกนะ


....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...

เฮือก!!!!   เคยเป็นไหมครับ  ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้วสะดุ้งจนตัวโยนน่ะ  ผมยังไม่เคย  แต่เพิ่งได้ลองไปตอนนี้แหล่ะ  

....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...

ผมชั่งใจอยู่นาน   จะรับหรือไม่รับดี  ปกติผมแทบไม่เคยลังเลที่จะรับโทรศัพท์จากคนๆ นี้  แต่ว่าวันนี้  ต่อจากนี้  ผมอยากลังเล  อยากลองลังเลดูสักครั้ง

   “อย่ารับ”  สั้นๆ  ง่ายๆ  จากคนข้างๆ  ทำให้ผมต้องเหลือบมอง   แว่บหนึ่งที่ผมเห็นดวงตาคู่นั้นแปลกไป   ก่อนจะกลับมาสดใสอบอุ่นเหมือนเดิม

....อยากให้ช่วยมาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบฉันที....  ชะเง้อรอนานแล้ว     จีบ  มาจีบ  มาจีบฉันที  มาจีบ  มาจีบ  มาจีบฉันสักที...   ฉันทอดสะพานให้แล้ว...

ดังเป็นครั้งที่สาม  แล้วก็เงียบไป   เงียบไปพร้อมกับความโล่งใจกึ่งเสียดายของผม  เวรแท้ๆ   อีกครั้งที่ผมปล่อยให้ความคิดทั้งหลายหลุดลอยไปพร้อมๆ กับสายลม  จนในที่สุดปอร์เช่คันงามก็หยุดลงริมหาดบางแสน

ผมเปิดประตู  เดินตัวปลิวไปยังน้ำทะเลสีครามข้างหน้าอย่างไม่สนใจใคร  และตะโกนก้องอย่างไม่อาย  ดีนะเนี่ยที่ไม่ค่อยมีคน  เหอะๆ  วันศุกร์นี่ครับ

   “โว้ววววววว   เหนื่อยแล้วนะโว้ยยยยยยย”
   “กูเหนื่อยยยยยย   เมิงได้ยินม้ายยยยยยยยย”
   “เคยรู้อะไรมั่งม้ายยยยยยยย   ไอ้เลวเอ๊ยยยยยยย”
   “กูเจ็บโคตรรรรรร  โคตรรรรเลยเว้ยยย  ตอนเนนนนน้”

แฮ่กๆ  ตะโกนแล้วก็เหนื่อยดิครับ  เหนื่อยแล้วก็ทรุดลงนั่งมันตรงนั้นแหล่ะ   รอยต่อระหว่างทรายกับทะเล  รอยต่อที่มีแต่คลื่นเข้ามาปะทะเสมอ  รอยต่อที่ไม่มีวันบรรจบได้

   “อ่ะ  เผื่อคอแห้ง  เดี๋ยวหมดแรงตะโกน”  แป๊บซี่เย็นๆ กระป๋องหนึ่งสัมผัสแก้มผมเบาๆ
   “โหยย  ทำเป็นรู้ดี  แต็งค์หลายพี่”  ผมหันไปยิ้มบางๆ ให้คนที่ทรุดลงนั่งข้างๆ  เป็นหมอมันว่างมากนักรึไงวะ?  เอ้า  เขามาส่งแล้วยังเสือกพาลอีกกรู

   “พี่ปลอบใครไม่ค่อยเป็น  แต่ฟังแล้วแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเก่งนะ  พี่เนียน”
   “ฮ่าๆ  เหมือนกัน”

บางที...การมีใครสักคนนั่งนิ่งๆ  โดยไม่ต้องพูด  ไม่ต้องถาม  แค่อยู่เป็นเพื่อน...ข้างๆ  แบบนี้  มันก็อาจทำให้ไอ้เวย์กลับเป็นไอ้เวย์คนเดิมได้เร็วขึ้นเหมือนกันนะ    แฮ่  อะไรจะง่ายดายปานนั้น

ผมก็แค่รู้สึกว่า  ตอนนี้ถึงไม่มีไอ้ไนท์มันอาจจะเศร้าบ้าง  เหงาบ้าง  แต่ก็ยังดีกว่าต้องไปเจ็บแปลบๆ เวลามันอยู่กับคนอื่น  อีกอย่างตอนนี้...เหมือนมีความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้ผมวางใจและรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

เอาวะ!!  ขอกูอ่อนแอสักวันเหอะ  เดี๋ยวกลับไปแล้วกูค่อยคืนฟอร์มนะเมิง

   “เธอ..เจ็บจากเขาใช่ไหม ที่ถูกเขาทิ้งไปโดยที่ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย และเธอ...ก็ยังไม่ลืมเขาไป
ยังคงมีเยื่อใยกับคนที่เคยทำร้ายเธอ”  เสียงเพลงแผ่วเบาเรียกให้ผมหันไปมอง  คนข้างๆ ในชุดนักศึกษาที่เริ่มหลุดรุ่ยเอนหลังนอนบนผืนทรายโดยไม่สนใจว่าเสื้อขาวๆ นั่นจะเปี้อนแค่ไหน   ใบหน้าคนหันมาส่งยิ้มเผล่ให้ผม  ดวงตาซื่อตรงจริงใจนั้นแฝงความนัยบางอย่างที่ทำให้ผมอดที่จะร้อนวูบวาบไม่ได้

“แค่อยากให้เธอเข้าใจ  อยู่กับฉันไม่เป็นไร อยากให้เธอสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับฉันเลย....
ถ้าเธอยังคิดถึงเขา ยังคงมีแต่เขาในใจ ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ถ้าเธออยากจำ ไม่ต้องคิดถึงฉัน
ขอให้รู้ว่าฉันเข้าใจ และแม้จะนานเท่าไร จะดูแลและไม่ไปจากเธอ....”

   
 ^__^
“....”  อย่ายิ้มสิวะพี่  ตอนนี้หัวใจกำลังอ่อนแอ  ไม่ค่อยมีภูมิต้านทานนะเว้ยยย
“เป็นไง ^ ^ ”  ผมบอกว่าอย่ายิ้มครับ
“เพราะดี”
“(. . ) ”    อย่าหงอยดิ  ที่จริงเพราะมากอ่ะ  แต่คนอย่างผมมันชมใครไม่เป็นเว้ยยย  แสลงปาก

“อ่ะ  เอ่อ  ร้องต่อดิพี่  อยู่ว่างๆอ่ะ”  ฟอร์มครับ  นิดนึง
“ฮ่าๆ  แสดงว่าพี่ร้องเพราะอ่ะดิ ^0^ ”   อย่ายิ้มเว้ย!!  พูดไม่ฟัง
“เออ  แม่งงง  โคตรเด็กเลยว่ะ  เป็นหมอแน่ป่ะเนี่ยย”
“ฮ่าๆ  นานๆ ที  ให้พี่เป็นเด็กมั่งไม่ได้รึไง”
ผมไม่ได้ตอบ  เพียงแต่นอนลงข้างๆ  

   “Everybody's searching,  Everybody's looking for
Something to believe in, Something more,
Well baby I know the pain That you go through,
So let me be the arms that you can run to,
Far away from all the things that hurt you, Yeah,”

The one to cry  หนึ่งในเพลงโปรดของผม   ผมเคยชอบมัน  แต่ตอนนี้อยากบอกใหม่อีกครั้ง  ว่าผมชอบมันมาก  โคตรเข้ากับบรรยากาศตอนนี้เลย  มือใหญ่ลูบไล้เส้นผมผมช้าๆ อย่างปลอบโยน  เราต่างยิ้มให้กัน  ส่งผ่านกำลังใจในรอยยิ้มและเสียงเพลงที่ผมเริ่มร้องประสานด้วย  ฮ่าๆ  มั่นใจว่าจะไม่ทำให้เพลงเขาเสีย  เสียงดีโคตรๆ อ่ะ ผม  
  
        “Whenever you hit the sky, Feel like you live a lie,
And your world is a broken dream, Don't lose your faith in love,
Baby I'll be enough,  When you don't have the strength in your eyes,
I'll be the one to cry.”

       “You're my universe, My atmosphere,
The reason i breathe in, I breathe out, Why I'm here,
I don't wanna see you sad,  I don't wanna see you blue,
So I would gladly go into the darkness,
Just to take the place of where your heart is.”

“Whenever you hit the sky, Feel like you live a lie,
And your world is a broken dream, Don't lose your faith in love,
Baby I'll be enough,  When you don't have the strength in your eyes,
I'll be the one to cry.”


กว่าผมจะหลุดจากบรรยากาศเงียบเหงาทว่าอุ่นใจที่ทะเล  กลับมาถึงบ้านโดยมีสารถีคนเก่ง ( ก็มันเป็นหมอที่เสียงดีโคตรเทพอ่ะ)  และปอร์เช่คันงามก็เกือบสามทุ่มแล้ว

   “พี่นัท”  เปลี่ยนการเรียกอย่างรวดเร็ว  ไม่ได้ตีซี้นะเว้ย  ปอร์เช่ลูกพ่อ  ผมบอกรึยังครับ  ว่าบ้ารถเหอะ
   “ครับ??  เรียกงี้ตลอดเลยนะ  ดูสนิทกันดี”
   “ขอบคุณสำหรับวันนี้  ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย”  โว้  สงสัยของขึ้นไอ้เวย์คร้าบทุกคน  พูดโคตรเพราะ
   “ไม่เป็นไร  ไว้พาไปอีก ^__^”

   “ควรจะดีใช่ไหมเนี่ย  ฮ่าๆ  เข้าไปกินน้ำข้างในก่อนไหม”  อ้าว!!  เสือกมารยาทกระทันหันอีกกู
   “ฟู่  นึกว่าจะไม่ชวนซะแล้ว  ^__^”    ถามจริง  ที่บ้านผลิตอมยิ้มรึไง  ยิ้มได้ยิ้มดี

ปอร์เช่คันงาม (บอกแล้วว่าบ้ารถ) จอดเป็นสง่าราศรีที่หน้าบ้านของผม  เว้ยยย   อยากถ่ายรูปเก็บไว้จัง *__*

   “แม่ครับ  กลับมาแล้ววว  พาเพื่อนมาด้วยยย”  ผมตะโกนเสียงใสไปก่อนตัว  คุณนายจะทำอะไรอยู่น้า  หิวข้าววว   ได้ขาวว่ากินมาแล้วโคตรเยอะ

           “ไอ้เวย์   มึงไปไหนมา”  เสียงเย็นโคตร
เฮือก!!   ชิบหายแล้วว   ทำไมมึงมาอยู่บ้านกูได้วะเนี่ยยย  เชี่ยไนท์!!!

-----------------------------------

ขอโทษที่หายไปนานจ้าาาา   พอดีโดนเรียกตัวกลับกทม.ด่วน  - -
เพิ่งกลับมาก็รีบลงเล้าอย่างรวดเร็ว  เหอะๆ   ตอนนี้เลยยาววววว  ไถ่โทษจ้าาา

ไปล่ะๆ  ฝันดีทุกๆ คน
   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 23-04-2009 23:33:40
จิ้มคุณไวท์ มาต่อแล้วววววว
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 23-04-2009 23:44:09
ทำซะหนูเวย์หนีเตลิดแต่ยังไงก็เชียร์ไนท์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 23-04-2009 23:50:09
แอบเชียร์พี่หมอ ไนท์จะโกรธเรามั้ย
ก็ไนท์ทำอะไรไม่คิดถึงใจเวย์อ่ะ  :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 23-04-2009 23:57:47
ควงพี่หมอมาเย้ยเลยน้องเวย์ ไนท์มันจะได้รู้ซะบ้าง ชริส์

แค่ควงเย้ยนะ แต่ไม่เอาจริงเน้อ ยังงัยต้องเป็น เวย์-ไนท์ เท่านั้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 24-04-2009 00:22:25
พี่เวย์จะทำยังไงล่ะเนี่ย

หวงพี่เวย์ป่ะเนี่ย พี่ไนท์

รักแรง  หึงแรงนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: N19T ที่ 24-04-2009 01:19:31
ไงหละ เค้าโทรมาแล้วไม่รับ ( จริงๆ มันก็ไม่น่ารับเลยยยย Y___Y )
เลยมาหาถึงบ้าน คราวนี้จะทำยังไง ... หรือว่าจะควงพี่หมอเยาะเย้ยดี สาแก่ใจดีเหมือนกัน ผู้ชายแบบไนท์มันต้องเจอแบบนี้ หลายใจนัก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 24-04-2009 01:46:11
ออกไปจากชีวิตกู ได้ไหมวะ ไนทฺ์
อ่าๆๆ แรง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 24-04-2009 02:33:59

ไนท์   หรือ  พี่หมอ

        :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 24-04-2009 07:35:34
ไนท์มัวแต่ชะล่าใจ  ระวังพี่หมอจะเอาเวย์ไปครองนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 24-04-2009 07:44:28
ไนท์เอ๊ย
ระวังเหอะ พี่หมอจะเอาเวย์ไปแล้วเน้อ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 24-04-2009 08:59:57
ก้างชิ้นใหญ่โผล่มาแล้ว

ไนท์ระวังไว้ให้ดีเท้อะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 24-04-2009 09:17:15
ถ้าคุงหมอรักจริงก็อยากเชียร์คุงหมอมากกว่า เซ็งคนโลเล ที่ชอบแต่เรื่องใต้ร่มผ้า  :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 24-04-2009 09:29:34
ไปไหนมา..... :laugh:

ไปไหนก็เรื่องของเวย์ ไม่ใช่เหรอ แล้วไนท์อ่ะ เกี่ยวไรด้วย  :a14:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 24-04-2009 09:31:01
 :กอด1:  ฉากเวย์และหมอนัทน่ารักจัง


กลายเป็นชอบเพลง the one to cry ซะละเรา


เหมือนหัวใจถูกปักดังฉึก  :sad2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 24-04-2009 09:41:42
 :กอด1: เวย์

 :beat:ไนท์

 :3123: พี่หมอ

แต่ก็เชียร์ไนท์เหมือนเดิมแหละ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 24-04-2009 10:15:14
 :เฮ้อ: ไนท์นี่ก็นะ....สงสารเวย์บ้าง ง งง

ถ้าจะเชียรืพี่หมอนี่...ไนท์จะว่าป่าวเนี่ย

ฮ่าๆ ๆ ๆ

เวย์ สู้ๆ น้า า า

fighto!!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 24-04-2009 10:21:50
เพลงเพราะจัง

กำแพงของคำว่าเพื่อนช่างยิ่งใหญ่จิงๆ  :z3: (ใช้หัวพังกำแพงอาจจะหาทางออกเจอ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-04-2009 11:57:58
เห้อ..........มาต่อแล้วก้อเข้าโหมดเจ็บเลยนะนี่ เศร้าๆ :m15: :m15:

พี่หมอก้อชั่งเปงคนดีเกิ๊น............ดีไปแต่ก้อได้แค่รอ น่าสงสารๆ

แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก้อพี่เวย์อยู๋ดี..........เหงเรื่องร้ายขนาดนั่น แต่ก้อทามอารายไม่ได้

เพราะยังคงมีคำว่าเพื่อนกั้นอยู่สินะฮะ.......................เห้อ คิดแล้วก้อเศร้าได้อีก

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกเน้อค๊าฟ...........ตอนนี้รู้สึกค้างมากมาย จิงๆนะนี่

จะรอนะค๊าฟ..............เปงกำลังใจให้เน้อ สู้ๆค๊าฟ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 24-04-2009 17:38:44
ใจร้ายหว่ะ  แต่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรสักอย่างแน่ แบบแคะหูให้อารายแบบเนี้ย  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 24-04-2009 18:33:12
ฮึ เจ้าไนท์มัวแต่ลีลาอย่างงี้ ถ้าหนูเวย์โดนพี่หมอนัทคาบไปจริง ๆ ล่ะก้อ จะสมน้ำหน้าให้

จิ้นตอนหนูเวย์บอกกับเจ้าไนท์ ว่า "มึงมาบอกอะไรป่านนี้" แบบในเพื่อนสนิทเลย  :a14:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-04-2009 21:20:43
อ่านตอนนี้ทีไรก็รู้สึกว่า..

"พี่หมอนัทน่ารักมากกก"


 :o8:

สงสารพี่เวย์อ่ะ

เฮียไนท์แม่มทำตัวว่ะ  :เฮ้อ:


คอยดูเหอะเฮีย

เจอฤทธิ์นักศึกษาแพทย์ไปแล้วจะรู้สึก


ปล. รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-04-2009 21:31:27
พี่หมอน่ารักน่รักจังเล้ย  และที่สำคัญโรแมนติกมากเลยอ่ะ


เชียร์พี่หมอนัทอ่ะ
FC  พี่หมอนัทจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 25-04-2009 01:49:58


อ่อยยยยยย
ชอบเทะสึกะด้วยยยย (ไม่เกี่ยว) ฮ่าๆๆ



แม่มมม
ไนท์  :angry2:

รู้ตัวมั่งเหอะ ว่า เวย์เห็นอ่ะ
ไปทำชั่วๆไรไว้ กรุณานึก

อย่าด่าเวย์ (ของชั้น) เชียวนะคะ
โน .....  ห้าม !!!!!
น้องไม่ผิดใดใดเลย


ตอนหน้าอยู่ไหนนนนนน
 :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 25-04-2009 05:16:00
 :a5:

 :serius2:

อ๊ากกกก ค้างงงงงงงง

ตอนนี้เชียร์พี่หมอสุดหูรูด :a2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 25-04-2009 08:08:46
ง่า...จะผิดมั๊ยถ้าจะเอนเอียงไปข้างคุงพี่หมอ :o8:

ก็นะพี่หมอออกจะเป็นคนดี...ผิดกะไนท์แบบขาวกะดำเลยอ่ะ


อยากอ่านตอนต่อไปมากมาย  o9
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 25-04-2009 09:35:25
ค้างงง กิ๊ส ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 25-04-2009 10:20:59
มอบแต้ม+ที่ 32 คร้าบ
***
แม้รู้ว่าพี่หมอเป็นได้แค่พระรองเกาหลี
แต่ก็ชอบอ่ะคร้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 25-04-2009 16:07:27
 o13 o13 o13
สนุกมากนุ อ่านแล้วโดนไปหมด
ทั้งเรื่อง และการถ่ายทอดอารมณ์ชอบมาก แล้วจะรออ่านต่อ อิๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 6 The one to cry
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 25-04-2009 16:52:58


บทที่ 7  เอาใจออกห่าง

   “ว่าไง  กูถามว่าไปไหนมา” มันพูดเสียงเย็นพลางเหลือบมองคนข้างหลังผมด้วยสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก
   
   บอกตรงๆ ครับ  ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง  ควรดีใจหรือเปล่าที่มันอุตส่าห์มาหา (เรื่อง) ถึงที่นี่  ควรจะดีใจไหมที่มันสนใจผมขนาดนี้   หรือว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมจะทำอะไรให้ชัดเจน   ในเมื่อคำว่าเพื่อนของมันคลุมเคลือขนาดนี้  ในเมื่อมันไม่เคยสนใจจะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ที่มันก่ำกึ่งแบบนี้  ผมอาจจะต้อง...ลงมือเอง

   “บางแสน”  เสียงที่เคยร้องเพลงปลอบผมฟังดูขุ่นมัวไม่แพ้คนถาม
   นี่ก็อีกคน  ผมไม่รู้หรอกนะว่าพี่เขาคิดยังไง  เอ็นดูผมแบบไหน  แบบพี่น้องหรือมากกว่านั้น  แต่ผมไม่มีปัญญาไปคิดเองอีกแล้ว  กลัวใจ...กลัวว่าคำว่าพี่น้องของเรามันจะมีความหมายไม่เหมือนกัน

   “กูไม่ได้ถามมึง  ไอ้หมอ”  ทันทีที่มันพูดจบ  ก็ผลักไหล่คนข้างๆ ผมอย่างแรง  แม่ง  ทำเกินไปแล้ว
   “มึงอย่ามาพาล”  ผมตะคอกใส่มัน  นานเท่าไรแล้วนะที่ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้  นานเท่าไรแล้วนะที่ผมต้องโอนอ่อนผ่อนตามมันตลอด
   ดูสีหน้ามันอึ้งไป  ก่อนจะปรับเข้าสู่โหมดอำมหิตอย่างรวดเร็ว  สู้เขาไอ้เวย์  มึงอย่ากลัว  แม่งง  แต่กูปวดฉี่ชิบหาย

   “มึงขึ้นเสียงกับกู”
   “เออ”   สาดดดด  พูดแล้วอยากตบปากตัวเองชิบ  หน้ามันแม่งโคตรน่ากลัว
   “เวย์”  มันครางชื่อผมเบาๆ ราวกับพยายามสะกดกลั้นอารมณ์มากมาย

   “พี่นัท  คือ..เอ่อ ..”
   “ครับ  พี่กลับก่อนก็ได้  เวย์  มีอะไรโทรหาพี่นะ  พี่ยิงเข้าไปแล้ว”  แกยิ้มให้ผมบางๆ แล้วเดินจากไป  รู้สึกผิดโคตร  แต่ก็ต้องขอบคุณที่แกเข้าใจ

   “มึง  กลับไปก่อน”    เก่งมากเมิง  ไอ้เวย์  แข็งใจไว้  เมิงต้องทำได้ดิวะ
   “....”   มันมองผมด้วยความไม่เข้าใจ  แต่ภายในความไม่เข้าใจนั้น  ผมเห็น...ความมเดือดดาล   ซึ่งคงไม่คุ้มที่ผมจะเคลียร์อะไรกับมันวันนี้  วันที่ผมไม่พร้อมทั้งกำลังกาย  กำลังใจ

   “กูขอร้อง”
   “น้านิ่มไปชลฯ   กูมารับมึงไปคอนโด”   สาดดด  ฟังกันมั่งดิวะ  ถ้ากูไปกับเมิงวันนี้  เชื่อเหอะ  มึงกับกูขาดกันแน่

   “มึงกลับไปก่อน  กูอยากอยู่คนเดียว”
   “ไม่”
   “กลับ  ไป”    กูเหนื่อยแล้ว  ไม่มีแรงจะสู้รบกับมึงแล้ว
   “มึง  เป็นอะไร” 
   “....”     กูยังบอกไม่ได้ว่ะ
   “โธ่เว้ย  เออ  กูจะกลับ  แล้วพรุ่งนี้จะมารับไปคอนโดกู” 
   “ไม่ต้....”
   “อย่าขัดใจกูมากไปกว่านี้”    สั่งจบมันก็เดินออกไป  แผ่นหลังกว้างในชุดนักศึกษาของมันค่อยๆ ลับหายไปในรถสปอร์ตสีดำ  กระจกรถเลื่อนด้านคนขับเลื่อนลงช้า  นัยน์ตาสีเข้มสบกับดวงตาผมราวกับพยายามค้นหาอะไรบางอย่าง  ซึ่งผม..จะให้มันเห็นไม่ได้   ผมก้มหน้าลง  หลบสายตาคู่นั้นจนกระทั่งเสียงเครื่องยนต์ดังห่างออกไป

ผมทรุดลงนั่งบนสนามหญ้าหน้าบ้าน  พรมหญ้าเย็นชื้นทว่าผ่อนคลายจิตใจได้ชะงัก  สายลมเย็นๆ พัดมากระทบผิวหน้า  ผมยิ้ม  ยิ้มให้กับอะไรก็ตามที่อยู่ข้างผมในวันนี้  วันที่ผมจะอ่อนแอกับคำว่าเพื่อนเป็นวันสุดท้าย

“กูว่า...กูตัดสินใจได้แล้วว่ะ  เพื่อน” 

-ติ๊ด  ติ๊ด  เมสเสจมาคร้าบ  เมสเสจคนหล่อ  ห่อเกี๊ยวมาคร้าบ-
   ‘ The one to cry  ฝันดีนะครับ  คนดี  อย่าคิดมากล่ะ’
                           พี่นัท

เหอะ  จะไม่คิดมากได้ไงล่ะพี่  แต่ก็..ขอบคุณนะครับ  ถึงผมอาจจะไม่ได้ฝันดีอีกแล้วก็ตามเถอะ

-------------

   “จะบอกได้รึยัง  เรื่องเมื่อวาน”   สาดดด  ก้นกูเพิ่งจะแตะเบาะ  ปากเมิงก็เริ่มทำงานเลยนะ  ขอกูงีบสักพักไม่ได้รึไงวะ  เมื่อคืนกูไม่ได้นอนดึกด้วย  แต่นอนเช้าเลย  ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างทางไปโดนเชือด - -  เอ๊ย  ทางไปคอนโดมันคร้าบ  วันเสาร์อันแสนเศร้าของผม  เตียงนอนนุ่มของผม  แงๆๆ  แม่ทิ้งลูกชายคนนี้ไปได้ยังไง  คุณนายเธอไปดูงานที่ชลบุรีครับ  อาทิตย์หน้าโน่นกว่าจะกลับ   ผมจึงต้องไปสิงอยู่คอนโดไอ้ไนท์หนึ่งสัปดาห์  กูจะดีใจดีไหมเนี่ย  ไปได้ไม่ดูสถานการณ์เลยครับ  แม่ผม

   “กูง่วง”
   “ห้ามง่วง”  สาดดด  ของแบบนี้มันห้ามกันได้เรอะ  = =
   “งืมม  ไม่มีอะไร  กูง่วงงงงง”
เอี๊ยดดดดด  เฟี้ยวววว    เฮือก!!  O.O    สาดดดด   เมิงขับรถบ้าอะไรของเมิงงง  กูยังไม่อยากตาย
T^TT

   “เฮ้ยยย   ระวัง  แผงแตงโมมมมมม”
   “กรี๊ดดดดดด”

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด 
 เฮือก!!    ฟู่   กูสาบานกูจะไม่กวนตีนเมิงตอนขับรถอีกแล้ว  ขอโทษครับป้า  เพื่อนผมมันบ้า   แม่ง  เลวจริงๆ  เฉี่ยวแผงแตงโมแล้วขับหนี  ไอ้เวรไนท์ - -    ผมหันไปมองเห็นป้าแกกระโดดชี้นิ้วตามรถเหยงๆ  ปากก็อ้าหุบอ้าหุบ  คาดว่าคงถึงบุพการีพวกผมแน่  เหอะๆ

   “เป็นไง  หายง่วงแล้วใช่ไหม”   น่านนน  ยังมีหน้ามายักคิ้วกวนตีนกูอีก  ไอ้สาดเอ๊ย
   “เออ  ทีหลังไม่ต้องปลุกกูด้วยวิธีนี้นะ  กูไหว้ล่ะ”  ผมว่าพลางลูบหน้าลูบแขนตัวเองเป็นการใหญ่  เฮ้ออ  ยังอยู่ครบ  ขาดแค่ใจเท่านั้นล่ะ  หายไปตั้งแต่เห็นแผงแตงโมแล้ว  กูอยากกินนน  อ้าวว  ไม่ใช่และ

   “หึ  มึงยังตกใจไม่ได้ครึ่งของกูเมื่อวานหรอก”  รู้ตัวมั้ยวะ  หน้าแม่งโคตรเจ้าเล่ห์
   “อ่ะ..อะไร”    สาดดด  ตกใจทำไมวะกู??  อย่าลืมเรื่องที่ทำให้เมิงได้นอนเกือบตีสี่สิวะ  ไอ้เวย์

   “บางแสน??”  สาดด  อย่าเปลี่ยนเรื่องเร็วดิ  กูตามไม่ทันเว้ยยย  เคยเป็นไหมครับ  นอนน้อยแล้วสมองมันดื้อ  ไม่พร้อมประมวลผลอ่ะ  ผมว่าผมกำลังเป็นนะ   ให้ตายดิ
   “เออ  รึจะให้กูไปภูเก็ตอ่ะ”   ยืมมุกหน่อยนะพี่
   “อย่ามากวนกู  ทีนี้จะไม่ใช่แค่เฉี่ยว”  ไอ้สาด  ใครกันแน่ที่กวน  แม่ง  แต่เมิงนี่กวนทีถึงชีวิตเลยนะเว้ย
   “กูป่าว”
   “หึ สรุปมึงไปบางแสนกับไอ้นั่น”  เอี๊ยยย  อะไรคือไอ้นั่นของเมิงงง  คนอื่นไม่รู้เรื่อง เขาจะได้คิดไปไหนต่อไหน  เห็นอย่างนี้กูก็อายเป็นนะ

   “เออ  แม่งง  กุ้งตัวโคตรโต  ปูก็โคตรแน่น  ลมเย็น  ทะเลสวย  ฟ้ามีดาว  แม่งง  โคตรสวยอ่ะ  แน่ะ  ถามงี้อิจฉาอ่ะดิ  เอิ้กๆ”   พล่ามยาวคืออาการของผมเวลากลบเกลื่อนความรู้สึก
   “อยากไป  ทำไมไม่บอกกู  กูเป็นเพื่อนเมิงนะ”    เออ  ก็เพราะเมิงเป็น ‘เพื่อน’ นี่แหล่ะ  กูถึงได้ไม่ชวนเมิง  ฟายยย  ช่างไม่รู้อะไรบางเลยยยย

   “ก็  ก็  กูเห็นว่าเมิงกำลังยุ่งๆ อ่ะ”
   “กูไม่ดุ้ยุ่ง  เมิงอยากไปกับไอ้นั่นก็บอกมา”  มันส่งสายตาพิฆาตมาให้อีกแล้ว  แต่กูไม่ได้อยากไปกับเขา  หนูไม่รู้  เขามาเอง  หนูปล่าวชวนน้า  เขามาเองงงงง  เหอะๆ
   “เมิงยุ่งจริงๆ  ก็กูเห็น”   เต็มตาเลยว่ะ เพื่อน
   “เห็น  เมิงเห็นอะไร”

   “เอ่อ...ฮ่าๆ  ไม่พูดได้ป่ะ  กู  ช่ะ..เอ๊ย  กูอาย”  แม่งง  เกือบหลุดไปแล้วว่า  กูช้ำ 
   “เมิงเห็นอะไร  ไอ้เวย์  อย่าลีลา”
   “ก็  เห็น  เมิงกับน้องสา”  ผมพยายามพูดด้วยเสียงร่าเริงเหมือนกับว่าการที่มันจะทำอะไรกับใครเป็นเรื่องธรรมดา  ไม่ต่างจากลิงออกลูกเป็นไข่  เวร  - -  โทษครับ  ไม่มีอารมณ์เล่นมุก

เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด   
โป๊ก!!   เจ็บชิบ
   “สัด  หัวกู  แม่งง  อูยยยย  เบรกหาเตี่ยมึงเรอะ”
ไอ้คนที่หักพวงมาลัยเข้าข้างทางอย่างรวดเร็ว  (วอนนรกจริงๆ)   หันมามองผมด้วยสายตาตื่นตกใจ  ก่อนจะเอ่ยถามราวต้องการจะย้ำความจริง  ความจริงที่ผมล่ะโคตรปวดใจ

   “เมิง  เห็น??”  น้ำเสียงนั้นสั่นน้อยๆ ไม่ต่างจากแววตาของคนพูด
   “เออ  ก็  กู  กู  ออกไปตามเมิงไง  ฮ่าๆ  แต่ว่า  ก็บอกแล้วว่า   เมิงยุ่งอยู่  ฮ่าๆ  ดีจริงๆ เลยน้าเมิงเนี่ยย  น่าอิจฉาชิบ  ว่างๆ ก็หาให้กูสักคนดิ  กูเหงา”  รอยยิ้มที่พูดพยายามทำอย่างที่สุดหวังว่าคงพอตบตาความรู้สึกแย่ๆ  เหมือนจะหายใจไม่ออกนี่ได้ล่ะนะ

   “กู...”  มันก้มหน้าต่ำ  ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ 
   “เฮ้ย!  มึงไม่ต้องเครียดน่า  ไม่มีใครเห็นหรอกนอกจากกู”
   “ก็เพราะเป็นมึงนั่นแหละ”  มันพึมพำอะไรของมันวะ  สาดดด  กูก็อยากรู้นะเว้ย
   “หืมม  อะไรนะ  พูดดังๆ ดิวะ”

   “กูบอกว่า....”  มันยื่นมือมาจับแก้มผมไว้เบาๆ  สายตาตรึงผมให้อยู่กับที่  แค่ใช่สายตาเท่านั้น    “ เพราะเป็นมึงนั่นแหละ  กูถึงได้กังวล”

   “ฮะ..หา  เอ่อ  ฮ่ะๆ  มึงจะกังวลทำม้ายยย   กูไม่บอกใครจริงๆ นะ  อ่ะ  สัญญา”  ว่าแล้วผมก็ยื่นนิ้วก้อยไปกระดิกกวนตีนอยู่ที่ปลายจมูกโด่งๆ นั่น  เจ้าของจมูกจับมือข้างนั้นของผมไว้  จับไปทำเอี้ยอะรายยย   อย่าใกล้กูมากไปกว่านี้ดิ  สาดเอ๊ย

   “สัญญว่าจะไม่โกรธ”  อย่าปายยยย  อย่ามาเป่าลมรดกู  ไอ้  ไอ้  แม่งเอ๊ยย  เข้มแข็งไว้ลูกพ่อ
   “อ่ะ..ไม่ๆ”  แม่งงง   ยั่วกูอ่ะ  ยั่งกันเห็นๆ  แมร่ง
   “ไม่เคือง??”
   “เออๆ  ปล่อยกูได้แล้ว  แม่งงง   วันนี้จะได้ไปมั้ยวะ  คอนโดเมิงเนี่ย  กูหิวโว้ยยยย”   ผมโวยวายแล้วขยับมานั่งชิดหน้าต่าง  ปล่อยให้ไอ้บ้านั่นหัวเราะ หึหึ  ของมันไปคนเดียว

   ใจผมยังคงเต้นแรงทุกครั้งที่มันสบตา   ตัวผมยังคงร้อนผ่าวเมื่อมันเข้ามาใกล้  แต่สัญญาว่ามันจะน้อยลง  ผมจะบังคบให้มันน้อยลง  ทั้งปฏิกิริยาทางกายและความรู้สึกทางใจ  มันอาจจะไม่ได้ทำกันง่ายๆ   อาจจะไม่เห็นผลในทันที  แต่อย่างน้อย  ทุกๆ อย่างจะต้องเปลี่ยนไป  ผมแน่ใจ

   ก็ถ้ามันทำให้คำว่าเพื่อนของเราตรงกันไม่ได้  ผมจะย้ำความหมายของคำๆนั้นเอง  ย้ำจนกว่ามันจะเข้าใจ  และผมจะตัดใจได้  บางทีเรื่องนี้ผมคงต้องหาตัวช่วยล่ะมั้ง??

เอาล่ะครับ  ระหว่างที่ไอ้เวรไนท์ขับรถไป  ฮัมเพลงไป  ผมก็จะท่องมาตรการหักดิบของตัวเองไปด้วย  เพื่ออนาคต  สู้โว้ยยย

1.   ขัดใจมันบ้าง  ไม่ต้องตามใจมันทุกอย่าง
2.   เลิกทำตัวติดกับมัน  ไปสนุกกับเพื่อนคนอื่นบ้าง 
3.   เลิกใส่ใจเรื่องส่วนตัวของมัน  อยู่ในที่ๆ เพื่อนควรจะอยู่
4.   หาแฟนซะ   TOT  (ไอ้นุมันแนะนำมาอ่ะ  ข้อนี้ )

อ่อ  ลืมบอกไปว่าเมื่อคืนไม่ใช่แค่ผมที่ได้นอนเช้า  ไอ้นุก็นอนเกือบเช้าเช่นเดียวกัน  เพราะมันเป็นคนเดียวที่ผมไว้ใจ  ฮ่าๆ  ก็ไม่เชิงหรอกครับ  ที่จริงเรื่องที่ผมแอบชอบไอ้ไนท์  มันก็ได้กลิ่นมาสักพักแล้ว   ไอ้ผมก็ยังงงๆ อยู่  ก็ทันทีที่ผมเล่าให้มันฟังจบ  มันก็หัวเราะชอบใจใหญ่  แม่งง  โคตรกวนตีน  เพื่อนกำลังทุกข์  มันเสือกมีความสุขซะงั้น
ตอนแรกมันถามผมว่า  แน่ใจนะว่าจะเลิกรักมันได้   ผมบอกได้เลยว่า  ‘ยาก  แต่จะทำ’  เพราะยังไงมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  ผมจะยื้อไปเพื่อ??  สู้ผมเป็นเพื่อนที่ได้อยู่ข้างๆ มันอย่างนี้ต่อไปดีกว่า   ไอ้สัดนุก็ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่  แถมยังด่าผมว่า โง่  ซื่อบื้อ  - -  โคตรเศร้าเลยที่เลยปรึกษามัน  กว่ามันจะยอมช่วยผมเนี่ย   ผมต้องยกเอาชื่อไอ้ส้มมาอ้างไม่รู้เท่าไร  โคตรเป็นเพื่อนแท้  เพื่อนตายเลยครับ  ไอ้เวรนุ  มันว่า  ‘ทำไปเพื่อให้เมียสบายใจ’   เข้าใจเหตุผลมันไหมครับ  ถ้าไม่เข้าใจ  ก็ซวยไป   แต่ถ้าเข้าใจ  ช่วยมาบอกผมด้วย  จะเป็นพระคุณยิ่ง


------------------------------

มาต่อแล้วจ้าาา   ขอโทษด้วยที่นุ่นยังไม่ได้ตอบรีพลายทุกคนสักที  แต่ก็อ่านทุกอันนะ
พอดี  ต้องช่วยที่บ้นทำบัญชีอ่ะ  แอบเซ็ง
ขอบคุณทุกคนที่รักนู๋เวย์  แอบอยากโดดถีบชายไนท์  และปลื้มพี่หมอน้า  เจอกันตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 25-04-2009 17:13:55
พี่ไนท์มีความรู้สึกดีๆกับพี่เวย์แล้วใช่ไหมเนี่ย

แล้วพี่เวย์จะตัดใจจริงๆเหรอ

แล้วถ้าพี่เวย์ตัดใจได้จริงๆจะเป็นยังไงต่อเนี่ย

แล้วจะติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-04-2009 17:25:07
เห้อ..................คนปากแข็งนี่มานน่าเบื่อจิงๆนะเนี่ย

ได้แต่คอยทามให้คนอื่นเจ็บ.........ไม่สงสารคนอื่นกานบ้างรีไงนะ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกเน้อค๊าฟ.................รอ รอ เน้อค๊าฟ

เปงกำลังใจให้เน้อ..........สู้ๆค๊าฟ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 25-04-2009 17:38:10
แว๊ก  แว๊กกก

เอาใจช่วยยยยย

ให้ลืมให้ได้ ^^

(แต่ยังไงก็ได้กัน   :laugh:)


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 25-04-2009 17:42:45
สงสารเวย์-เข้มแข็งเข้าไว้นะ
*******
ขอบคุณที่ขยันมาต่อนะคร้าบ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 25-04-2009 17:47:13
สู้เขาไอ้เวย์  มึงอย่ากลัว  แม่งง  แต่กูปวดฉี่ชิบหาย   :m20:

ชอบอ่ะ เวย์สู้ๆ อย่าไปยอมนะอย่าไปยอม(ถ้าสมยอมมันก็ไม่สนุกอ่ะดิ เอิ๊กๆ)

มาต่อเร็วๆน้า

ป.ล. :pig4: แม่เวย์มากที่ไปในสถานการณ์อย่างนี้ ฝากบอกแม่เวย์ว่ากลับมาเผลอๆอาจจะได้ลูกเขยนะคะแม่  o18
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 25-04-2009 19:25:24
ชอบหนูเวย์ที่พูดบอกไปตรงๆ ว่าเห็นอะไร อิอิ
ชายไนท์ก็รู้ใจตัวเองเร็วๆนะหนูเวย์รออยู่
ส่วนคนแบบพี่หมอผมไม่ชอบอ่ะ ดูเลี่ยนๆ เป็นเทพบุตรไงไม่รู้ ไม่ปลื้มๆ
ผมแฟนคลับชายไนท์ครับ หึหึ เวย์รักใครผมก็รักคนนั้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-04-2009 20:06:49
หมั่นไส้เจ้าไนท์  เล่นตัวมาก เด๋วก็เชียร์พี่หมอเลยนี่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 25-04-2009 20:34:32
น้องเวย์สู้ๆนะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: lordhunter ที่ 25-04-2009 20:37:56
ชอบพี่หมอเถอะ  หรือตัวละครอื่นก็ได้  เบื่อไอ้ไนท์แระ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 25-04-2009 21:10:05
พี่หมอนัทก็ยังสตีลอบอุ่นต่อไป

 :กอด1:


พี่เวย์เอ๊ยย

ปรึกษาใครไม่ปรึกษา ไปปรึกษาพี่นุ

รอดูซิ ว่าจะสำเร็จมั้ย

เฮียไนท์ ทำตัวดีๆดิ เดี๋ยวโดนนักศึกษาแพทย์คาบ 

เอ่ออ.. เปลี่ยนคำใหม่ดีกว่า เป็น แย่งพี่เวย์ไปแล้วจะห่ะช็อคคค

 o22
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 25-04-2009 21:30:36
น้องเวย์ควงพี่หมอไปเลย ไนท์มันจะได้เลิกปากแข็งซะที

อึดอัด อ่านแล้วมันอึดอัด กำจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 25-04-2009 21:54:45
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 25-04-2009 22:07:07

 เอาใจช่วยเวร์   o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 25-04-2009 23:26:24
สงสารเวย์อ่ะ...ต้องตอบไนท์ไปแบบเหมือนไม่คิดอะไร
ไนท์จะรู้บ้างมั๊ยนะว่าเวย์เสียใจอ่ะ...ดูจิ๊ถึงกะเตรียมวิธีตัดใจเชียวนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจัง ที่ 25-04-2009 23:37:03
โอ๊ยๆๆ เจ็บก็เจ็บแต่ก็รักมาก ลำบากใจจังสถานการณ์แบบนี้  :เฮ้อ:

ลุ้นๆความรักของเวย์กะไนท์ต่อค๊า  :n1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 25-04-2009 23:49:37
ต่างคนต่างหึง

แต่ไม่มีใครสารภาพสักคน

คนหนึ่งรักแต่ไม่กล้าบอก

อีกคนรักแต่ไม่รุ้ตัว

ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 26-04-2009 00:09:11
เชียร์เวย์  :man1:
เข้าใจความรู้สึกนะ ทั้งสองคนก็กลัวว่าบอกไปแล้วจะเสียกันไปรึเปล่าถ้าไม่ได้รู้สึกเหมือนกัน  :เฮ้อ:
แต่ไนท์อ่ะ มาหึงเวลาเวย์ไปกับคนอื่น แต่ตัวเองยังอ่ะจึ้กๆกับสาวเลยอ่ะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-04-2009 11:26:18
ยังไงก็เชียร์ไนท์

แต่แอบชอบพี่นัทนะเนี๊ยะ

ขอสองไปเลยน้องเวย์

อิอิ โลภ  :-[

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 26-04-2009 12:47:31
ไมท์นะ ทำเวย์ได้ :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 26-04-2009 14:13:20
+1 รอตอนที่ 8 อ๊าาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 26-04-2009 14:34:23
 :z2: :z2: :z2:
ขอให้ห่างกันจริงๆเถอะชอบ อยากรู้ว่าไนท์มันจะทำไง แล้วจะรอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-04-2009 15:44:24
หว่า.............รออยู่นะต๊าฟ ยังไงมาอีกหยอ :call: :call:

มาต่อด้วยเน้อค๊าฟ...........อยากอ่านมากมายนะนี่ :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 26-04-2009 18:09:37
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากๆเลย

น่าสงสารเวย์จังเลย ไนท์ใจร้ายอ่ะ เด๋วเหอะจะเปลี่ยนใจไปเชียร์พี่นัทซะนี่ :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-04-2009 20:28:44
เมื่อไหร่ไนท์จะเลิกปากแข็ง  และยอมรับซะทีว่ารักเวย์เข้าแล้ว  งือ 


อ่านแล้วสงสารเวย์จังอ่ะ

ป.ล.  ยังเป็น FC  พี่หมอนัทอยู่นะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 26-04-2009 20:38:50


จะเอาออกห่างได้นานมั๊ยอ่ะ....
='=

แต่เรื่องสานี่ .... โกรธว่ะ


ต้องง้อนานอ่ะ  ^^




ชอบนุ  :-[
ทำไมมีแฟนแล้วล่าาาาา

 :sad11:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 7 เอาใจออกห่าง
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 26-04-2009 20:56:38


บทที่ 8  ขัดใจ??

“อาบน้ำก่อนไหม”   
“อ่ะ..เอ่อ  เมิง  เมิงอาบก่อนเหอะ”   ฟู่  เฮ้อ  แม่งงง  กูล่ะหัวใจจะวาย  เมิงถอดเสื้อถอดกางเกงแล้ว  ( ยังไม่ได้ถอดบ็อกเซอร์เว้ย  /ไนท์)   จะมายืนโทงๆ ถามกูเพื่อ?  สาดด  ขอเวลากูหน่อยเด   ว้อยยย  ไม่ได้หื่นครับ แค่มีความต้องการสูง - -
“เอางั้นก็ได้” 
เออ  ก็ต้องเอางั้นอยู่แล้วล่ะ  ไปซะ  ก่อนที่กูจะทำเรื่องผิดศีลธรรม   -*-

ผมว่า  ทุกคนกำลังสงสัย หรือไม่ก็สาบแช่ง??  ผมอยู่แน่ๆ เลยว่าทำไมยังเผลอไผลไปกับมันอีก  ทั้งๆ ที่ตั้งมาตรการอันสวยหรูไปแล้ว ( ได้ข่าวว่ากูคิดเองเกือบหมด / นุ)
เอาล่ะครับ  ขอสารภาพตามตรง  พูดกันอย่างลูกผู้ชายเลยนะครับ  ว่าการห้ามใจเนี่ยมันทำได้ยากจริงๆ  ไม่เกี่ยวหรอกว่า มันเป็นผู้ชาย มันเป็นเพื่อน  แต่เพราะเป็นไอ้ไนท์  ผมถึงบอกว่ามันยาก  มันก็เหมือนการที่เราเลี้ยงลูกบาสไปอยู่ใต้แป้นแล้วพยายามจะไม่ชู้ต  ทั้งที่ไม่มีคนมาขวางนั่นแหละ  (เมิงเอากูไปเปรียบกับลูกบาสหรอว๊ะ /ไนท์)  เฮ้อออออ    เคยได้ยินไหมว่าแม้สมองสั่งแต่หัวใจมันไม่ให้ความร่วมมืออ่ะ  ตูล่ะเซ็ง  เครียด  แต่ไม่มีเหล้าให้กิน   
แต่เอาล่ะครับ  ของอย่างนี้มันต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป  คนเราน่ะมันเริ่มเปลี่ยน  ตั้งแต่คิดจะเปลี่ยนแล้ว  สู้ต่อไป  ทาเคชิ

-   แกร๊ก –
“อาบน้ำได้แล้ว”
“อ่ะ  อือ”  กูล่ะไม่อยากหันไปมองเมิงเลย  กลัวใจตัวเองชิบ  เข้มแข็งไว้ๆ   มันก็ไม่เห็นมีอะไรที่มองไม่ได้นี่  ก็แค่หน้าอกขาวๆ มีกล้ามเนื้อพองามที่มีหยดน้ำเกาะอยู่เป็นประกาย  แล้วก็ช่วงล่างที่มีผ้าขนหนูเกาะอยู่หมิ่มเหม่เท่านั้นเอง  อ๊ากกกกกกกกกก   อาบน้ำก่อนล่ะโว้ยยยยย
นอกจากจะยังไม่ชิน (ซะที)  แล้วก็ดูเหมือนอาการผมมันจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วย  หรือว่ากูเป็นพวกยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุวะเนี่ยยย   

-   แกร๊ก - 
เมื่อเสียงเปิดประตูครั้งที่สองดังขึ้น  นายเวย์ในชุดเต็มยศ (ชุดนอนสีเทาขายาวแขนยาว) ก็เดินออกมาด้วยท่าทางมั่นใจ พร้อมรอยยิ้มยียวนในแบบของเจ้าตัว (ทำใจและคืนฟอร์มแล้วครับผม /เวย์)

“ยืนบื้ออยู่ทำไม  มากินข้าวดิ  เมื่อกี๊บ่นว่าหิวจนจะกินควายได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ”  กูจะขอบใจเมิงดีไหมเนี่ยที่เตรียมข้าวปลาไว้ให้กู  ว่าเขา  แต่ก็รีบจ้ำอ้าวไปหามันครับ  นิสัย -*-

“โห  แกงส้ม  ไข่เจียว  ปลาราดพริก  ไข่พะโล้  แสดด  เมิงไปซื้อมาตอนไหนเนี่ยย  ตักข้าวๆ”    โหยยย  น่ากิน  น่ากิน  จะกิน  กูหิววว  พูดก็พูดเหอะ  ตอนอาบน้ำอยู่ก็ลืมไปแล้วเชียวว่าหิว  แต่พอเห็นกับข้าวนี่  อยากจะกระโจนใส่ให้รู้แล้วรู้รอดไป
“หึหึ  หลอกง่ายจริงนะ”
“ไหนข้าวกูอ่ะ  ข้าวกูๆๆ”  สาดดไนท์  แม่งง  ทำตัวน่าถีบจริงครับ  เล่นตัวอยู่ได้  กว่ามันจะหยิบจาน  เปิดหมอข้าว  โอ๊ยย  นั่นๆ  ตักมาๆ  แต่  เอ๊ะ!  เมิงจะหยุดทำไมล่ะนั่น?

“หยุดตักทำไมวะ  ชาตินี้กูจะได้แดกไหมเนี่ย”
“มานั่งนี่”   ตักมัน??  บ้าไปแล้ว
“ทำไม  กูจะแดกข้าว”
“เช็ดผมก่อน”
“ไม่ต้อง  กูหิวแล้ว  ตักข้าวมาดิ  เดี่ยวมันก็แห้งเองแหละ”
“มานั่งนี่  กูจะเช็ดให้”
“เฮ้ยยย  ไม่เอา”
“...”  แปะๆ  มันยังคงตบที่หน้าขาตัวเอง   ส่วนผมก็ส่ายหัวไม่หยุด  เรื่องไรอ่ะ ยังไม่อยากแหกกฎนี่หว่า  กูเพิ่งตั้งไปหยกๆ เองน้า  กูไม่สู้  กูหวั่นใจว่ะ

“เดี๋ยวนี้ทำไมมึงดื้อ  ทำไมชอบขัดใจ  รู้มั้ยกูไม่ชอบ”
อึก!!  ทำไมกูจะไม่รู้  กูรู้  รู้ดีเลยด้วย
“แล้วทำไมมึงชอบสั่ง  ชอบบังคับ  มึงรู้มั้ยว่ากูก็ไม่ชอบ”

“ชอบหรือไม่ชอบ  เมิงก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธ”

ฟุบ!!  ไม่ทันได้ตั้งตัว  ผมก็ถูกจับโยนขึ้นมานอนแผ่หราอยู่บนเตียงนุ่มๆ ของมันซะแล้ว  ตามมาด้วยร่างกำยำที่ยังคงเปลือยท่อนบนทาบทับมาอย่างรวดเร็ว  สองมือผมถูกตรึงไว้เหนือหัว  ขาก็ถูกคนข้างบนกดไว้จนขยับไม่ได้  สถานการ์ชักเข้าขั้นวิกฤตณ์แล้วจริงๆ

“จ่ะ..จะทำอะไร”  อย่าเล่นอย่างนี้นะเว้ย  กูไม่ปลื้ม
“แล้วเมิงคิดว่าไงล่ะ”
“อย่า  อย่าเล่นอย่างนี้นะเว้ย  ปล่อย”  แม่งเอ๊ยยย   กูก็เล่นบาส  ทำไมสู้แรงมึงไม่ได้วะ
“กูไม่ได้เล่นว่ะ  เวย์  ถ้า... ถ้ากูขอเมิงล่ะ”  อย่าทำหน้าจริงจังอย่างนั้น  อย่าทำตาอย่างนั้นใส่กู  ไอ้สาดไนท์  ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานใส่กู๊
“ขอ  อะไร”
“เซ็กส์”    ชัดถ้อยชัดคำ  - -
“หะ..เฮ้ยยยย  พ่อเมิงดิ  ไอ้บ้า  ไอ้เวร  ไอ้ไนท์  ปล่อยกูนะ  ปล่อยกู๊  เชี่ยย  เป็นบ้าอะไรของเมิง  เมารึไง”
“เปล่า  กูไม่ได้เมา  กูพูดจริงๆ”

อึ้ง!!  ครับ  วันนี้มันวันอะไรกัน?  ใช่วันที่ 1 เมษารึเปล่า?  พอผมตกลงเสร็จ  มันก็จะตะโกนบอกว่า  April fool!!! ใส่หน้าผม  เฮ้ย  นี่มันไม่ตลกนะเว้ยยย   (ตอนเขาไม่ให้ทำ  ก็เสือกอยากจะทำ  ตอนนี้เขาอยากจะทำขึ้นมา  ทำไมมึงไม่ยอมว้า / นุ)   (สัดนี่  ก็มึงเป็นคนตั้งกฎเหล็กมาให้กูเองไม่ใช่เหรอวะ  เชี่ยนุ / เวย์)

“พูดบ้าอะไรของมึง  กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย”    ตอกย้ำ
“แล้วไง”  ยังจะมีหน้ามาแล้วไง  ก็ไอ้ที่เมิงขอน่ะ  มันเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนเขาขอกันรึไงวะ
“ล่ะ..แล้วไงอะไรเล่า  ก็เพื่อนที่ไหนเขาทำกันอย่างงี้วะ?”
“ก็มึงกับกูไง  อีกอย่างกูก็ไม่เคยทำกับเพื่อนคนอื่นเหมือนอย่างที่ทำกับมึงนะ”
???????   หมายความว่าไงวะ  หมายความว่ามีเซ็กส์กับกูได้  แต่กับคนอื่นไม่ได้???  หรือว่าการกระทำของมึง???   หน้าผมตอนนี้คงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

“หมายความว่าไง”
“มึงสำคัญกว่าคนอื่น”   แปร๊ด  หน้าร้อน  ใจเต้นแรง   แรงจนมันแทบจะกระโจนออกมาอยู่แล้ว  ถ้าไม่ติดว่าต้องเก็บอาการเอาไว้น่ะนะ

“ย่ะ...ยังไง”   ทำต้องสั่นด้วยวะกู  สั่นกลัวหรือว่าสั่นสู้เนี่ย
“หึ  ก็...”
“อุ๊บส์...   อื้อ”  ริมฝีปากร้อนบดเบียดเข้ามาโดยที่ร่างบางไม่ทันตั้งตัว  ผ่ามือของคนข้างบนเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ที่กีดขวางอยู่อย่างรวดเร็ว  ทันทีที่เห็นร่างบางเปลือยเปล่าเต็มตา  คนถอดก็เผลอมือสั่น  ตะลึงลานแทบหยุดหายใจ   สายตาร้อนแรงเต็มไปด้วยความต้องการทำให้คนข้างล่างเขินอายจนต้องเบือนหน้าหนี
เพรียว  บอบบาง  ขาวผ่อง  น่าทะนุถนอม  ยอดอกสีชมพู  เอวเล็กบางรับกับสะโพกกลมมน  เรือนร่างสั่นระริกตรงหน้ายั่วเย้าอารมณ์เกินกว่าจะทนไหว

“มึง..สวย”  น้ำเสียงแหบพร่าจนคนถูกชมยังตกใจ  ริมฝีปากร้อนๆ พรมจูบไปทั่วซอกคอ  กกหู  คลอเคลียไม่ห่าง  มือหนาทั้งสองข้างลูบไล้ไปทั่วร่างบางอย่างนุ่มนวลราวกับกลัวว่าหากรุนแรงไปเพียงนิด  เรือนร่างขาวนวลนี้จะบุสลาย

“..อ๊ะ..”  เสียงหวานเผลอหลุดรอดจาดริมฝีปากแดงอิ่มที่พยายามเม้นสนิทเมื่อลิ้นร้อนลากไล้หยอกเย้ายอดอก  จนร่างบางแอ่นเกร็ง  จุมพิตร้อนแรงยังคงประพรมไปทั่วแผ่นอกบาง  ปรนเปรอจนคนถูกกระทำนัยน์ตาปรือปรอย  สองมือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระก็ดูเกะกะเกินกว่าจะหาที่ยึดเหนี่ยว   จนร้อนถึงมือใหญ่ต้องชักนำมาวางไว้จนไหล่กว้างเสียเอง

ฝ่ามือร้อนผ่าวลูบเรื่อยมาถึงสะโพกกลมกลึง  บีบเคล้นตามแรงอารมณ์แล้ววกมากลางลำตัวด้านหน้า  สัมผัสเพียงแผ่วเบากลับทำให้อีกคนควาญคราง  ส่วนนั้นกระตุกหนีมือด้วยความเขินอาย  ทำให้ร่างสูงหัวเราะในลำคอก่อนจะเร่งสัมผัสให้เร็วขึ้น  ร้อนแรงขึ้น  จนร่างบางไม่อาจต้านทานความต้องการตามธรรมชาติของตน  มือเล็กบีบไหล่กว้างแรงอย่างต้องการหาที่ระบายอารมณ์ที่พุ่งสูงจนกลบความประหม่าเขินอายไปสิ้น

“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊า”  มือใหญ่เร่งความเร็วขึ้นเมื่อเห็นร่างบางแอ่นเกร็ง  ริมฝีปากแดงอ้ากว้างครวญครางยั่วอารมณ์  ก่อนที่คนตัวเล็กจนปลดปล่อยออกมา  เสียงลมหายใจหอบกระชั้นและผิวหน้าผิวกายที่แดงระเรื่อของร่างบางเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนข้างบนได้เป็นอย่างดี  ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มส่งสายตาเจ้าเล่ห์แกมหยอกล้อให้อีกคนได้ใจเต้น

“เพื่อความยุติธรรม  ต่อไปตากูนะ”  โดยไม่ฟังเสียงอุทรณ์ใดๆ  นิ้วหนาไล้วนปากทางเบาๆ ก่อนค่อยๆ สอดเข้าไป  ส่งผลให้ร่างบางสะดุ้งเฮือก
“เจ็บ..อ๊ะ  ไอ้ไนท์  ไม่เอา”
“อย่าเกร็ง  ทำตัวตามสบาย”  บอกเมื่อร่างบางเกร็งขาฝืนไว้  โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดการรุกล้ำอันแสนหวานของตนแต่อย่างใด
“หย่า..อย่า  พอแล้ว  อ๊ะ”  ร่างเล็กครวญครางเมื่อมือใหญ่ดันขาเรียวให้กางออกเพื่อความถนัดแล้วสอดนิ้วเพิ่มเข้ามาช้าๆ  มือเล็กขย้ำที่นอนแน่น  พร้อมทั้งพยายามกลั้นเสียงน่าอายไว้  แต่ก็ไม่อาจทำได้เมื่อคนข้างบนจงใจแกล้งด้วยการใช้ลิ้มหยอกเย้ายอกอดที่เป็นสีชมพูเข้มอย่างไม่ปราณี  สัมผัสร้อนแรงทำให้ร่างเล็กแทบคลั่ง  เสียงหวานหลุดรอดให้อีกคนได้ยินเป็นระยะ  ปลุกเร้าความรู้สึกคนด้านบนจนหมดความระงับตัว  อยากแตะต้อง  อยากครอบครองจนแทบทนไม่ได้

“พร้อมนะเวย์  กูทนไม่ไหวแล้ว”  เสียงฉีกซองพลาสติกดังยังไม่ถึงเสี้ยวนาที  สัมผัสร้อนๆ ที่น่าจะไม่ใช่นิ้วมืออย่างเคยก็ทำให้ร่างบางเกร็งรับด้วยความตระหนก  ร่างสูงรับรู้ได้จึงจูบพรมไปทั่วเรือนร่างเท่าที่จะทำได้  ราวกับต้องการปลอบประโลมและให้สัญญาว่าจะถนอมร่างบางนี้ดุจสมบัติล้ำค่า  เมื่อร่างบางเริ่มผ่อนคลาย  ร่างสูงจึงสอดแทรกแก่นกายที่เหลือเข้าไปจนหมด

“อ้า” สองเสียงครางราวนัดหมาย  อารมณ์อ่อนหวานละเมียดละไมอบอวลบางเบาไปทั่ว  ร่างสูงเริ่มเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยนแม้จะต้องทรมานกับความอดกลั้น  หลับตาหอบกระชั้นกับความร้อนที่ครอบครองแก่นกายของตน  ฝืนความต้องการที่จะเสร็จสมจนเกร็งไปทั้งตัว  จุมพิตนุ่มนวลประทับที่ปรือตาปรือปรอยของอีกฝ่าย  ก่อนจะกดหนักๆ อีกครั้งที่หน้าผากมน  พยายามค่อยๆ สร้างความคุ้นชินให้กับร่างบาง  ความเจ็บเริ่มบรรเทาก่อเกิดเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ร่างบางไม่เข้าใจ  ริมฝีปากเผยอ  ฝ่ามือทุบอกแกร่งวอนขอการปลดปล่อย   ร่างสูงหมดสิ้นความอดกลั้นขยับจังหวะรวดเร็ว  ร่างทั้งร่างสั่นเท่าด้วยความต้องการมากมายอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน  ฝ่ามือหนากุมขย้ำสะโพกมนจนเป็นรอย  มือเล็กเองก็เกาะเกี่ยวไหลกว้างไว้อย่างหาที่ยึดเหนี่ยว 

ภาพร่างบางครางเสียงหวาน  ใบหน้างามแดงเข้มมีน้ำตาคลอหน่วย  ฝือเล็กที่จิกทึ้งแผ่นหลังเขาอย่างต้องการระบายอารมณ์ยิ่งโหมไฟแห่งความต้องการของร่างสูงให้พลุ่งพล่าน  เสียงครางเริ่มดังถี่  หอบหายใจกระชั้นขึ้นทุกนาที  สะโพกมนแอ่นรับสัมผัสลึกล้ำอย่างขลาดเขลาทว่ากลับทำให้คนข้างบนพอใจนัก  ก่อนแรงกระทั้นหนักหน่วงครั้งสุดท้ายจะเรียกเสียงกรีดร้องหวานหูพร้อมกับเสียงครางแหบต่ำอย่างสาสมใจของคนข้างบน

ร่างสูงหลับตาแน่น  กอดเกี่ยวร่างบางไว้อย่างอ่อนโยน  นิ่งงันเพียงชั่วครูก่อนจะปรือเปลือกตาก้มมองอีกคนที่ซุกซบอกกว้างของเขาอย่างหมดแรง  ใบหน้างามยังคงแดงจัด  นัยน์ตาหวานยังคงปรือปรอย  หยาดเยิ้มชวนให้อารมณ์บางเบาก่อตัวขึ้นมาอีก  จนคนข้างล่างรู้สึกได้

“ม่ะ..มึง  เอ่อ”  เสียงหวานเบาราวกระซิบ  ใบหน้าคมฉายแววเจ้าเล่ห์  ก่อนจะก้มลงเลียใบหูเล็กและกระซิบอ้อนๆ ว่า
“ต่อนะ”
‘ม่ายยยยยยยย’   ร่างบางได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ  เมื่อร่างสูงเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ไอ้นุ  มึงจะรู้ไหมว่าแผนการของมึงที่ให้กูขัดใจมัน  ทำให้กูเสียจิ้นวันนี้  ไอ้เพื่อนชั่ว  TOT
.
.
.
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางระเบียงห้อง  ผ่านผ้าม่านสีขาวขุ่นที่พลิ้วไหวน้อยๆ หยอกล้อกับสายลมเย็นด้านนอกเรียกให้ร่างเล็กขยับตัวหนี  ก่อนจะปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก  และพบกับร่างกายเปลือยเปล่า   เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบ  และความปวดหนึบบริเวณบั้นท้าย  รู้สึกหนักอึ้งไปทั่วทั้งร่าง ความทรงจำเมื่อคืนค่อยๆย้อนกลับมาย้ำเตือนถึงสิ่งที่เขาได้ทำพลาดไป  จากขัดใจกลายเป็นเสียตัว

ผมมองร่างกำยำเปลือยเปล่าของคนด้านข้างด้วยอารมณ์หลากหลาย  แผ่นหลังเรียบเนียนของมันเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งการสู้รบระหว่างปีเตอร์ เชค กับ ไมเคิล โอเว่น  หลังจากถูกล่อหลอกด้วยลีลาท่าทางมากมาย  ไมเคิล โอเว่นก็ทำประตูไปได้ถึงหกประตู!!   ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นจนต้องกัดฟันกรอด  อยากจะยกเท้างามๆประเคนมันสักที  ร่างกายก็ไม่เอื้ออำนวย  ไอ้โอเว่นมันก็หลับฟุบไปคาอกผมเมื่อคืนนี้  หลังจากยิงประตูชนะอย่างขาดลอย

ผมขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอยู่พักใหญ่  ได้แต่เฝ้าคิดว่านี่มันเกิดขึ้นจริงๆ ใช่ไหม  ผมเสียประตูไปแล้วใช่ไหม  แถมไม่แค่ประตูสองประตูด้วย  ยิ่งคิดก็ยิ่งอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  จะโทษว่าเป็นความผิดของมันก็ไม่ใช่  จะว่าสมยอมซะทีเดียวก็ไม่เชิง   ความคิดในสมองวิ่งชนกันไปมาอย่างน่าเตะ  แต่ไอ้คนที่น่าเตะยิ่งกว่ามันกลับไม่ยอมตื่น  โธ่เว้ย!!  ไม่ตื่นใช่ไหมมึง  นี่แน่ะ!!

“อ่ะ  โอ๊ยยย”  ไอ้ไนท์ครางอย่างเจ็บปวด  เมื่อผมใช้สันมือฟาดหลังมันอย่างแรง  ไม่ต้องมาร้องนะมึง  ที่เมื่อคืนกูร้องให้หยุด  เสือกไม่หยุด  ยิงได้ยิงดี  ไอ้เลว  ที่จริงอย่างจะฟาดก้านคอมันด้วยซ้ำ  แต่แค่นั้นมันยังไม่สะใจ  เดี๋ยวมันจะตายสบายเกิน 

“อูย ตีกูทำไมวะ  หรือเมื่อคืนยังไม่พอ  จะต่อไหมล่ะ”  แปร๊ดดด   สัดไนท์  แม่งมันเจ้าเล่ห์ว่ะ   ต่อพ่อเมิงดิ  เมื่อคืนมึงล่อปีเตอร์  เชคซะเดี้ยงเลยนะมึง  ถ้าต่อได้อีก  กูก็ไม่ใช่คนแล้ว

“อย่าให้กูลุกได้นะมึง”  ผมกัดฟันพูด  แต่แทนที่ไอ้บ้านั่นมันจะสำนึก   กลับขยับยิ้มอย่างเท่ห์ที่มุมปาก  ไอ้ฟาย  ไม่ต้องมายั่วกู  กูไม่ใช่ผู้หญิงนะ  จะได้มาเคลิ้มไปกับมึง  (ได้ข่าวว่าเคลิ้มมาสามปีแล้ว)   งงกันใช่ไหมครับว่าผมโมโหอะไร   เป็นใครก็ต้องโมโหอยู่แล้วอ่ะ  ทำไมกูต้องเป็นผู้รักษาประตู  ทำไมกูไม่ได้เป็นศูนย์หน้า  ทำไม   โลกนี้มันไม่ยุติธรรม

“อะไร  แค่นี้ลุกไม่ขึ้นเลยเหรอว๊า  เอาน่า  เดี๋ยวกูฝึกให้ชินเอง”  ไอ้ฟาย  มึงยังมีหน้ามากวนทีนกูอีกนะ  อย่าอยู่เลยมึง  ว่าแล้วผมก็ส่งเรียวขางามไปถีบก้นมันอย่างแรง  อย่าสงสัยครับว่าทำไมต้องเป็นที่ก้น   ก็เมื่อคืนมันก็เล่นผมที่ก้นอ่ะ  TOT

“โอ๊ยย”  --> ไม่ใช่เสียงมันครับ   เสียงผมเอง  โอ๊ยย   แม่ง  เจ็บก้นชิบ  ไอ้เวย์  มึงเสียเอกราชไปแล้ว  โอ้  ม่ายยยย    มาย บุดดาห์  ได้โปรดบอกข้าว่ามันไม่จริ๊งงง  ( คนหล่อเอ๋อครับ)

“เฮ้ย!!  เป็นไงมั่งวะ  เจ็บมากมั้ย”  ไอ้ไนท์ลังจากหลบทีนผมได้  ก็เข้ามาพยุงผมอย่างร้อนรน  หึหึ  ทำดีตอนนี้ก็สายไปแล้วมึง

“แม่งง   มาลองเองสิฟร่ะ  ไอ้สัด  มึงจะได้รู้   ของอย่างงี้ไม่ลองไม่รู้นะมึง”  อ้าว  เวร  แล้วผมไปทำตลกกับมันทำไมกันคร้าบบ   ผมต้องด่ามันยันโคตรสิถึงจะถูก

“ฮ่าๆ  ได้  เอาไว้มาลองกันใหม่เนอะ”  ยังมีหน้ามายิ้มหน้าระรื่นอีกนะมึง

“ฝันไปเหอะมึง”  ไอ้สัดนุ  กรรมเวรครั้งนี้มึงต้องชดใช้  กูยังไม่ได้ถอย  ยังไม่ได้คืบหน้า  กลับต้องมาเสียตัวให้เพื่อนอย่างนี้เพราะมึงแท้ๆ  กูนอนกับมันมาตั้งหลายปี  ไม่เคยมีขอเซ็กส์กับกู  แต่เพราะแผนของมึง  กูขัดใจแม่งหน่อยเดียว  เล่นกูซะเดี้ยงเลย 


“ลุกไหวมั้ยวะ  ไปกินข้าวกัน  กูหิวแล้วเนี่ย  เมือคืนมึงกวนกูจนหมดแรงเลย”  อ้าว  ไอ้เพื่อนเวรครับ  อยู่ๆทำไมมึงทำตัวเลวโยนความผิดให้กูอย่างนี้อ่ะ  นิสัย!!  กูไปขอมึงตอนไหน  ไอ้บ้า  อ๊ะ  หรือว่าขอวะ  แม่งง  ใครจะไปรู้วะ  ก็อะไรทำแล้วรู้สึกดี   กูก็ทำสิ  เฮ้ย!!  ไม่ใช่  ไอ้เวย์  มึงบ้าไปแล้ว   ไหนว่าจะเลิกรักมันซะทีไง  ไอ้บ้า  มึงมันบ้า  ไปยอมมันทำไม  แม่ง  ใครใช้ให้มันเก่งอย่างนี้ล่ะวะ  กูก็ปฏิเสธไม่ได้เด้ 

“ไอ้..แม่ง  ..อยากแดกอะไร  ก็เชิญมึงไปแดกคนเดียวเลยไป๊”  ผมบอกมันเสียงดัง  พลางหันหน้าหนี  หงุดหงิดเว้ย  หงุดหงิด   ทำไมไอ้ไนท์มันทำท่าเฉยสนิทได้ขนาดนี้วะ??  เมื่อคืนกูเพิ่งนอนกับมึงนะเว้ย  นอนแบบไม่ธรรมดาด้วยนะมึง  เมื่อคืนมึงยังออดอ้อน  เคารพบูชากูยิ่งกว่าแม่  แล้วทำไมตอนนี้มึงเฉยได้ขนาดนี้ว้า  ไอ้สาดด  กูงง

“เออ  งั้นกูไปนะ”  พูดจบไอ้โอเว่น  มันก็เดินไปแต่งตัว  เสริมหล่อหน้ากระจกเล็กน้อย  แล้วก็เปิดประตูแล้วเดินสะบัดตูดจากไป

อึ้ง!!  ครับ   ผมอึ้งอยู่   ไอ้ฟายเอ๊ยย   มึงเป็นคนอย่างนี้เองเหรอวะ  ไอ้สัด  เออ!  กูจะจำไว้  ได้กูแล้วทิ้ง  ไอ้เอี้ยเอ๊ย  กูก็หิวเป็นนะมึง  เมื่อคืนกูก็เหนื่อยนะ  ไอ้บ้า  มึงกลับมา  กลับมาพากูไปแดกด้วยดิ   โว้ยยยย  โอ๊ยย  ทำตัวไม่ถูกโว้ยยย   

   ลองคิดดูครับ  เมื่อคืนมันเป็นเจ้าชายผู้แสนดีออดอ้อนขอความรัก (ขอร่วมรัก) จากเจ้าหญิงบนหอคอย(???)  ตื่นเช้ามากลายเป็นราชาผู้เย็นชาไม่ยี่หระต่อสรรพยิ่ง  เหมือนมีเมียในฮาเร็มมากมาย   พอได้แล้วก็ทิ้ง  เสร็จกิจแล้วก็ชิ่งไปท้องพระโรง  เฮ้ยยยย   กูไม่เข้าใจ!!



แอ๊ดดด

เสียงประตูเปิดอีกครั้ง  พร้อมกันร่างสูงใหญ่ของคนที่เพิ่งออกไป  เดินกลับเข้ามา  เออ  มึงคิดได้แล้วใช่ไหม  ว่าต้องพากูไปด้วย    อย่างน้อยๆ มึงก็ยังมีความคิดกลับมาดูแลกู 

“โทษทีว่ะ  ลืมกระเป๋าตังค์”  เสียงหล่อๆเอ่ยขึ้น  ก่อนจะจากไปอีกครั้งโดยมิได้สนใจสีหน้าตื่นตะลึงปนอาฆาตแค้นของคนบนเตียง
   .
   .
   .
   .


“อร่อยป่ะ?”  ไอ้ไนท์ถามขึ้นขณะที่ผมกับมันกำลังนั่งโซ้ยข้าวมันไก่กันอย่างเมามัน  สรุปว่าไอ้นี่มันออกไปซื้อจากร้านข้างล่างคอนโดมัน  แล้วมันนั่งกินกับผมครับ  แถมมันยัง ‘อุตส่าห์’ มีน้ำใจพาผมเข้าห้องน้ำ  เปลี่ยนชุดอย่างทุลักทุเล  เหอๆ

“เออ”  ผมก็ตอบมันไปอย่างไร้อารมณ์   ไม่ใช่ว่าโมโหอะไรมากมายหรอกครับ  แต่สมองยังไม่พร้อมประมวลผล   ทำไมท่าทีของมันที่ผมคิดไว้เมื่อคืนกับที่มันแสดงออกถึงต่างกันอย่างนี้วะ??  ไอ้เราก็อุตส่าห์กังวลแทบตายกลัวมันจะเปลี่ยนไป  ที่ไหนได้เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว  กูจะดีใจดีไหมเนี่ย  ไอ้ดีใจนะไม่  แต่ว่าก็โล่งใจมั้ง??  ที่อย่างน้อยเราก็ไม่ใช่เข้าหน้ากันไม่ติด   อย่างน้อยก็ยังมานั่งกินข้าวด้วยกัน  อย่างน้อยมันก็ไม่ได้บอกผมว่าที่ทำไปเมื่อคืน  เป็นแค่ความหลงละเมอชั่วข้ามคืน  ให้ลืมมันซะ


หลังจากกินเสร็จ  ไอ้ไนท์มันก็ทำตัวเป็นพ่อบ้านที่ดี  เก็บล้างจนเรียบร้อย  ส่วนผมก็นั่งเป็นคุณนายนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา  เอ๋ มันชักแปลกๆนะครับเนี่ย  เหมือนสถานการณ์ข้าวใหม่ปลามัน  เหอๆ  ว่าไปนู้น  ไอ้เวย์    สักพักไอ้ไนท์ก็เดินหน้าหล่อมานั่งข้างๆผม

“กูจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์  จะไปไหม”  มันถาม  ยังมีหน้ามาถาม  ดูสภาพกูก่อนดีไหมเพื่อน  ลำพังแรงจะอาบน้ำยังไม่มีเนี่ย  กูคงจะไปกับมึงหรอก  ไอ้เวร

“ไป”   

“จะไหวเร้อ”
“กูประชดโว้ยยย” 
“ฮ่าๆ”
“เชี่ย”   ขอด่าที่เหอะมึง  ก็ใครหน้าไหนล่ะ  ที่ทำให้กูเป็นแบบนี้เนี่ย

ภาวนาให้วันนี้ผมหาย (ถ้าไม่มีต่อ)   แล้วมีแรงไปล้างแค้นด้วยเถิด  สาธุ


---------------------------

TBC. จ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 26-04-2009 21:23:52
 :m25:

ครั้งหน้าขอให้เป็นศูนย์หน้านะจ๊ะนายเวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 26-04-2009 21:43:42
อ้าวครั้งแรกโดนไปหก ไม่ต้องไป รพ. เหรอครับ  หมอรับเย็บไหม

แค่คิดก็เจ้ยยยยย ...... น่ากัวอะครับ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 26-04-2009 21:47:52
แล้วสรุปไนท์จะไม่บอกเวย์เหรอว่ารู้สึกยังไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-04-2009 21:57:05
เง้อ.................ไหงเปงแบบนี่ละนั่น พี่เวย์เสียสาว(รึเปล่า??)ไปแล้วหลอเนี่ย

บังคับจังนะนี่...............พี่เวย์อย่ายอมนะค๊าฟ(ไม่ยอมแต่ก้อเส็ดไปแย้ว อิอิ)

แล้วมานจะเปงยังไงต่อไปละเนี่ย.............พี่หมอผู้น่าสงสารละค๊าฟ จะเปงยังไงน่า

อย่าลืมมาต่อด้วยเน้อค๊าฟ...........รอ รอ รอ นะ อิอิ

เปงกำลังใจให้เน้อ...................สู้ๆนะค๊าฟ อิอิ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 26-04-2009 22:04:34
โอ้ มาย บุ๊ดดา

ครั้งแรกก็ล่อไปซะ 6  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 26-04-2009 22:13:16
แค่ขัดใจไนท์เข้าหน่อย....เวย์ก็เจอซะ :m25:
แต่ไนท์ก็คงยังมะบอกความรู้สึกตัวเองอีกน๊อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 26-04-2009 22:35:01
เหอๆ เพราะขัดใจแท้ๆเลยนะนี่  :haun4:

ขนาดนี้แล้วเมื่อไหร่จะบอกว่ารักละเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจัง ที่ 26-04-2009 22:42:19
 :m16:  ตั้งหกเยอะไปป่าวไนท์

 :กอด1: กอดเดย์กะคนแต่งดีกว่า งิงิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 26-04-2009 22:47:43
มอบแต้ม+ ที่ 34
อ๊ากกกก-อยู่ดีๆก็เสียตัว อิอิ  :o8:
****
ขอบคุณคร้าบ  :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 26-04-2009 23:03:51
แฟนกันก้อไม่ใช่

บอกรักก้อยังไม่ได้บอก

แต่เสียตัวไปซะแล้ว

โถ โถ โถ จะดีใจหรือเสียใจดีนู๋เวย์

แต่สำหรับคนอ่านอย่างเจ๊ ดีใจ ชอบมากกกกกกกกก  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 26-04-2009 23:14:07
 :mc4:

yatta!!!!!!!!!!!!!!


 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 26-04-2009 23:49:29

 6 ประตูเชียวหรือ :pighaun:

 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 26-04-2009 23:50:03

ได้กันแบบขัดใจ
 :m31:


จิ้นไม่ออก รายละเอียดมันน้อยไป
 o18


ว่าแต่ .. หก !!!
 :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 27-04-2009 00:12:27
ขัดใจจริง ๆ แหละ แต่เป็นขัดใจแม่ยกนะ เจ้าไนท์ทำไมทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างนี้ หนูเวย์ก็ไปยอมมันได้นะ ฮึ่ย ขัดใจ ขัดใจ ขัดใจ  :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 27-04-2009 01:09:06
คืนแรกยิงกันไปหกศูนย์
เวย์ไปไหนไหวก็อึดเกินไปแล้ววว  :haun4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 27-04-2009 01:28:47
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แม้จะได้กันไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังค้างคาใจยังคงอยู่
ไนท์ทำไมถึงไปจูบกับผู้หญิงคนนั้นละ มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า
แล้วจะรออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 27-04-2009 02:59:25
ใครห้ามขัดใจผมเหมือนกาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 27-04-2009 08:54:31
 :haun4: อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 27-04-2009 09:24:40
เอ่อ เวย์ผู้น่าสงสาร โดนจนได้ เฮ้อ ทำไมไนท์ทำตัวเหมือนไร้หัวใจยังไงไม่รู้ แย่จังเลย  :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 27-04-2009 09:41:13
อ่านแล้วงง ตกลงจะตัดใจหรือเดินหน้าต่อ
เรื่องยังไม่เคลียแต่ยอมมีอะไรกับเขาสะแล้ว
ต่อไปถ้าผู้ชายกลับไปหาผู้หญิงของเขาอีก นายจะทำยังไงนายเวบ์
ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ  :เฮ้อ:
สู้ต่อไป
(http://i269.photobucket.com/albums/jj45/mongyao/66666.jpg)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 27-04-2009 11:28:41
ทำอะไรไม่เคลียร์ ค้างๆ คาๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 27-04-2009 11:59:49
 :mc4:  ฉลองที่นู๋เวย์เสียเอกราช


นี่นู๋เวย์แค่ขัดใจยัง 6 แล้วถ้าคราวหน้านู๋เวย์ทำผิดอะไรอีก

จะเท่าไหร่เนี่ย  :m25:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 27-04-2009 12:38:17
ครั้งแรก โดนไป หก ประตู  :haun4:

แล้วยังละทีนี้ ทำไป ในสถานะไหนกันอ่ะ

เพื่อนเหรอ ไม่ก็ไม่ใช่ เหอ ๆ  รอตอนต่อไป นะ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-04-2009 00:51:50
ถ้ารู้ว่าขัดใจ แล้วจะเจออะไรอย่างนี้
เวย์คงขัดใจไนท์ไปนานแล้ว
 :laugh:
แล้วทีนี้จะคบกันต่อไปในสถานะอะไรล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-04-2009 01:14:27

เจ้ว่าการเป็น "ผู้รักษาประตู" อะดีออก  ไม่เหนื่อยด้วย อิอิ

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Bessonova ที่ 28-04-2009 01:19:47
โดนหนักเหมือนกันนะเนี่ย
ครั้งแรก ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-04-2009 01:36:35
กรี้ดดด ดีใจ ได้กันแล้ว
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 28-04-2009 09:07:05
รู้งี้ น่าจะขัดใจกันไปตั้งนานแล้วนะเนี่ย  :z1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 8 ขัดใจ
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 28-04-2009 13:00:34

บทที่ 9  Turning Point
   
   ไอ้ไนท์มันออกไปแล้วครับ  ตอนนี้เหลือแค่ผมนั่งอยู่ที่โซฟาเพียงคนเดียว  ทีวีจอพลาสม่า 42 นิ้วตรงหน้าส่งเสียงสื่อภาพอะไร  ผมไม่รับรู้  ที่จริงบอกว่าไม่อยากจะรับรู้อะไรเลยมากกว่า  ฮ่าๆ  ว่าแต่ว่าคนเรานี้มันเปลี่ยนอารมณ์กันได้ง่ายๆ ขนาดนี้เลยเหรอ   
   หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้  ก่อนเสียงประตูจะปิดลง  ก่อนแผ่นหลังกว้างนั้นจะลับหายไปจากสายตา  ผมยังคงมีรอยยิ้มประดับใบหน้า  ยังคงปากดีกวนตีนได้แบบไม่เจียมสังขาร  แต่ตอนนี้ผมเพิ่งรู้สึกว่า  ห้องไอ้ไนท์มันกว้างขนาดนี้เลยเหรอ?   ทั้งกว้างและเงียบ  ไม่น่าอยู่สักนิด

   ผมเหม่อมองผ่านกระจกใสบานใหญ่  ทิวทัศน์ต่างๆ ล้วนเหลือเพียงเงารางๆ ไม่อาจแยกระหว่างความจริงกับความฝัน  ใบไม้สีเขียว  ท้องฟ้าสีขาวสว่าง  ช่างต่างจากอารมณ์หม่นหมองของผมนัก  น้ำตาลูกผู้ชายจะกลั้นไว้ได้นานแค่ไหนกันนะ
   ผมกับมัน  หึ  ทำไปแล้วจริงๆ ด้วยสินะ  ทำในฐานะเพื่อน  หึ  หึ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  ผมจะแกล้งเข้มแข็งต่อไปดีไหมนะ?  ผมจะทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกนานแค่ไหน  จะผิดไหมถ้าผมอาศัยเวลานี้หายตัวไปซะ

‘ผมไม่ได้หนี  แต่ขอถอยหลังไปตั้งหลักสักสองสามก้าว’
.
.
.
ไอ้ที่ว่าไม่ได้หนีน่ะ  ที่จริงผมโกหก   แล้วที่ว่าโล่งใจน่ะ  ผมก็โกหกอีกเหมือนกัน

คนเราก็เหมือนเหรียญมีสองด้าน  ไม่มีใครฝืนแสดงแค่ด้านสว่างของตัวเองได้ไปตลอดหรอก


Whenever you hit the sky, Feel like you live a lie,  And your world is a broken dream,
Don't lose your faith in love,........

ใครมันบังอาจปลุกกูออกจากภวังค์ฟร่ะ  แม่งง  ขอกูอยู่กับด้านมืดของตัวเองนานๆ หน่อยไม่ได้รึไง  แล้วใคร  ใครมันเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าให้กูอีกแล้ววะ ฮึ่ย!!   (พี่เปลี่ยนเองครับ  แหะๆ /พี่นัท)  (แอบไปเปลี่ยนตอนไหนล่ะฟ่ะ แฮ่ๆ /เวย์)   (ก็ตอนกลับจากบางแสน  เวย์หลับอ่ะ  อย่าขู่ดิ  พี่กลัวแล้ววววว   /พี่นัท)

‘ ท่านนุสุดหล่อ’
โทรมาได้จังหวะเหลือเกินนะมึง   ไอ้เวรนุ

   “เชี่ยนุ”  กูจะฆ่ามึง  กูจะฆ่ามึงงงงง
   “อ้าว  ไอ้นี่  กูไปทำอะไรให้เนี่ย  อยู่ดีๆ มาด่ากูเฉย”
   “มึงทำกูเสียตัว”
   .
   .
   .
   “ฮะ...ฮ้า  มึง  มึงว่าไงนะ!!”  มึงตกใจไม่แปลกหรอก  แต่ว่าทำไมมันตอบสนองช้าจังวะ
   “ก็อย่างที่ได้ยิน”
   “อ่ะ  เอ่อ  มึง  ทำใจดีๆ ไว้นะ  ใจเย็นๆ นะเว้ย  อย่าเพิ่งคิดสั้น”  - -  กูผิดเองแหละ  กูผิดเอง  ผิดตั้งแต่แรกที่หวังพึ่งคนอย่างมึง
   “สัดนุ  อย่ามากวน  กูไม่ได้ญาติเสีย  แต่ถ้ามึงอยู่ใกล้ๆ  มันก็ไม่แน่  หึหึ” 
   “อ้าว  เกี่ยวไรกะกู”   สาบานดิว่านี่คือคำพูดของคนที่กูเรียกว่าเพื่อน  คนที่ออกตัวให้คำปรึกษา (บ้าๆ) กับกูซะอย่างดิบดี   ไอ้ชั่วเอ๊ย
   “อย่าให้กูเจอนะมึง  เชี่ย  ก็เพราะไอ้แผนบ้าๆ ของมึงนั่นแหล่ะ  แม่งงง  ให้กูขัดใจมัน  เป็นไงล่ะมึง  นี่ขนาดกูเพิ่งเริ่มทำไปได้แค่ข้อเดียวนะ  แม่ง  เล่นกูซะระบม”
   “ฮ่าๆ  กูว่าแล้ว”
   “ฮะ  เมิงว่าไงนะ  อย่าบอกนะว่ามึง......”  นี่ผมหลงผิดอะไรหรือเปล่าวะ  ทำไมรู้สึกเหมือนติดกับเข้าอย่างจัง
   “อะไร  กูไม่ได้วางแผนให้เพื่อนเสียตัวหรอกน่า  มึงนี่ก็  กูแค่คิดเล่นๆ ว่าบางนี้อาจมีคนเริ่มฉลาดก็ได้”  มันทำเสียงเจ้าเล่ห์ซะจนผมนึกหน้ามันออก  นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ผมได้ประเคนตีนให้มันกินก่อนนอนไปแล้ว

   “สัดนุ  ดีๆ ดิวะ  อย่ากวนกู”
   “โอเคๆ  ว่าแต่มันไปไหนวะ”
   “ซุปเปอร์”
   “แล้วเท่าไรวะ”
   “..หก”
   “เชี่ยไนทททท   แม่งงง  ฮ่าๆ  แสดงว่ามีฝีมือพอตัวล่ะสิเพื่อนกู”  เสียงร่าเริงเหลือเกินนะเมิง
   “มันเก่ง”  อ๊ากกก   ลืมตัวพูดไปได้ไงวะเนี่ยกู  เสียเชิงหมด  ไอ้นุถึงกับปล่อยก๊ากออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  เอาเหอะ  ยังไงกูก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้วนี่
   “ฮ่าๆ  ก็ดีแล้วนี่หว่า  มึงก็ดูท่าไม่ได้ไม่ชอบ”  เออ  เอาคำตอบตรงๆไหม  กูชอบว่ะ 
   “เออ  มันก็ใช่  แต่ว่ากู....”  มันเป็นความรู้สึกที่หลากหลายจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้  ไม่ใช่ดีใจ  ไม่ใช่โล่งใจ  แต่ว่าอึดอัดราวกับได้ทำเรื่องที่ไม่สมควรลงไปอย่างนั้นแหละ

   “มึงกลัว?  เพราะไอไนท์มันเจ้าชู้  แถมยังแอนตี้พวกแบบนี้ใช่หรือเปล่า  มึงกลัวว่ามันกำลังนึกเสียใจที่มีอะไรเกินเลยกับมึงเมื่อคืนใช่ไหม” 
   “.....”  ความรู้สึกอึดอัดที่ผมบรรยายไม่ถูกที่แท้ก็คือความกลัวหรอกเหรอ?  ที่ไอ้นุพูดมามันตรงใจผมทุกอย่าง  ผม...เป็นอย่างที่มันว่าจริงๆ นั่นแหละ

   “แล้วมึงจะเอาไงต่อไป  จะถอย? หรือจะติดเครื่องชน?”   ติดเครื่องชน?  ไม่ใช่ดับเหรอวะนั่น  เอาเหอะ  ก็ใช้คำพูดสมเป็นตัวมัน   แต่..นั่นสินะ  มาถึงขึ้นนี้แล้ว  ผมเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้หรอกว่า  ไอ้ไนท์มันไปซุปเปอร์ทำไม  หึ  มันก็คงมีเรื่องให้คิดเยอะเหมือนกัน

   “กู  กู....”    ตอนแรกกูว่าจะหนีไปตั้งหลัก  แต่คงไม่ทันแล้วล่ะมั้ง

แอ๊ดดดด
‘ไม่ทันแล้วจริงๆ ด้วย’  TOT

   “มันกลับมาแล้วล่ะสิ  กูได้ยินเสียงเปิดประตู”  หูดีเหลือเกินนะมึง - -
   “เออ”
   “งั้นก็ลองคิดดูแล้วกัน  แต่กูจะบอกอะไรไว้อย่างนะ  ไอ้ไนท์น่ะ  มันไม่โง่ถึงขนาดที่จะดูไม่ออกหรอกว่ามึงคิดยังไงกับมัน  การเดิมพันด้วยความเป็นเพื่อนสามปีของพวกมึงน่ะ  กูว่าไม่เสียเปล่าหรอกว่ะ”   -ติ๊ด-   อีกฝ่ายตัดสายไป  พร้อมกับไอ้ต้นเรื่องคนเดิมที่เดินถือของพะรุพะรังเข้ามา

   ถึงเวลาที่ผมจะติดเครื่องชนแล้วล่ะมั้ง??

   “ใครโทรมาวะ”
   “ไอ้นุ”  มันยกคิ้วข้างหนึ่งอย่างแปลกใจ  แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร  นอกจากเดินลิ่วๆ ไปจัดการเก็บข้าวของในมือ   ก่อนจะเดินถือเบียร์เอามาส่งให้ผมกระป๋องหนึ่ง  ของตัวเองก็กระป๋องหนึ่ง  แล้วนั่งลงบนโซฟาข้างๆ ผม

ผมรู้จากท่าทีของมัน  ว่าต่อไปคงเป็นเรื่องที่เราสองคนต้องเคลียร์ให้ชัดเจนสักที

   “มึงจะพูด  หรือจะให้กูพูด”  มันว่า  แล้วกระดกเบียร์ตามหลังอึกใหญ่  ผมมองหน้ามันอย่างค้นหา  เอาจริงสินะ  ก็ดี  ไม่ว่ามันจะจบแบบไหน  ผมก็จะให้มันจบลงวันนี้
   “...มึง”  ผมหลับตา  กำมือแน่น  เกร็งยิ่งกว่าอยู่ในศาลเสียอีก  เมื่อไอ้คนข้างๆ มันกำลังจะพิพากษาความสัมพันธ์ของเรา

   “..ที่มึงละเมอตอนเมา  กับที่มึงละเมอเมื่อคืน  หมายถึงกูหรือเปล่า?”  คำถามของมันเล่นเอาผมใจหายวาบ  ความร้อนพวยพุ่งจากหัวจรดตีน  แต่ผมก็ข่มกลั้นความอายเอาไว้

   “ถ้าหมายถึงประโยคที่ว่า ‘กูรักมึง’ ล่ะก็ใช่”   มึงแน่มาก  ไอ้เวย์  พูดออกไปแล้วรู้สึกตัวเบาขึ้นอีกโข  เหมือนได้ปลดเปลื้องภาระที่แบกไว้มาเนิ่นนาน  ผมไม่ได้เหลือบมองมัน  แต่ก็พอจะจับได้ว่ามันสูดหายใจแรงกว่าปกติ  คนข้างๆ นิ่งไปนานจนผมเริ่มใจไม่ดี  แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรขณะที่มันกำลังใช้ความคิด   ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมึงแล้ว  ไอ้ไนท์

   “...นานแค่ไหนแล้ว”  เสียงนิ่งๆ ของมันทำให้ผมเริ่มเป็นกังวล  นึกสงสารตัวเองคิดมาตงิดๆ  แววอกหักมันเริ่มจะส่อมาให้เห็น  แต่ยังไงซะผมก็จะไม่ถอยอีกแล้ว
   “สามปี”  ผมตอบโดยไม่ลังเล
   “ทรมานมากไหมที่ต้องอยู่กับกูแบบนี้”
   “...กูไม่รู้  แต่กูไม่เคยเสียใจที่ชอบมึง  แล้วมึงล่ะ  เสียใจที่เมื่อคืน...”  มีอะไรเกินเลยกับกู
   “ไม่  กูไม่เคยเสียใจในสิ่งที่กูเลือก”  ประโยคนี้ของมันทำเอาผมนิ่งค้าง  ลมหายใจดูเหมือนจะชะงักไปเสียดื้อๆ   เลือดลมยิ่งสูบฉีดเมื่ออีกคนหันมาประสานสายตายืนยันในคำพูดของตน
   
   “เอ่อ..คือ...”  แล้วยังไงล่ะโว้ยยย   
   “มึงรู้ใช่ไหมว่ากูไม่ได้เป็นเกย์  แล้วกูก็ไม่เคยนึกอยากจะเป็น”  เพราะรู้ดีไง  กูถึงทนเป็นเพื่อนกับมึงมาตลอด  เพราะรู้ดีว่ามึงจะไม่มีทางรักกูอย่างที่กูเป็นได้
   “กูรู้”
   “แต่กูก็ยัง..อยากอยู่กับมึงตลอดเวลา  ไม่อยากให้มึงไปสนิทสนมกับคนอื่นโดยที่กูไม่รู้  กูดีใจมากที่มึงบอกว่ามึงชอบกู  กูหวงมึง  ห่วงมึงมากกว่าตัวกูเองอีก  ที่สำคัญ..กูดีใจที่เมื่อคืนมึงยอมเป็นของกู”  คำพูดจริงจังนั้นทำให้หัวใจผมพองโต  เท่านี้ก็พอแล้ว  แค่นี้  แค่เพียงมันเห็นผมเป็นคนสำคัญขนาดนี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ   ผมยิ้มให้มัน  ยิ้มที่ไม่ได้ปั้นแต่งแต่อย่างใด

   “ให้กูแค่นี้ก็พอแล้ว”
   “ไม่ได้   กูไม่อยากเอาเปรียบมึง ....รอ   รอกูหน่อยได้ไหม  รอจนกว่ากูจะพร้อม  จนว่ากูจะแน่ใจว่าใช่   แล้วกูสัญญาว่าถึงวันนั้น  กูจะไม่ทำให้มึงเสียใจอีก”  มันพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน  ใบหน้าสงบนิ่ง  นัยน์ตาคมกริบนั้นเต็มไปด้วยพลังมากมาย  พลังที่ก่อให้เกิดความวาบหวามในใจ  ความเชื่อมั่นที่เคยถูกบั่นทอน  บัดนี้กลับถูกมันเรียกคืนจนมั่นคงอีกครั้ง

   “...ได้  กูจะรอ  ไหนๆ ก็รอมาตั้งนานแล้วนี่  ฮ่าๆ”  ผมหัวเราะให้มันอย่างอารมณ์ดี  แถมยังอุตส่าห์หลิ่วตาแซวมันอีกด้วย   ในที่สุดใบหน้าเคร่งเครียดนั้นก็เริ่มเผยรอยยิ้มออกมา  มือใหญ่ของมันเอื้อมมารั้งร่างผมเข้าไปกอดไว้ช้าๆ ทว่าแนบแน่นเสียจนได้ยินเสียงหัวใจสองดวงเต้นแข่งกัน

   “อยู่กันอย่างนี้สักพักนะ”
   “อือ”

ในที่สุดผมก็เริ่มมีหวังแล้วสินะ   จะว่าไป  ต้องไปกราบตีนขอบคุณไอ้นุมันหรือเปล่าว้า?  ฮ่าๆๆ


   “เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่  แต่ว่ากูหึงมึงได้ใช่ไหม”  อยู่ๆ มันก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมา  ทฤษฎีไหนของมันวะ?  ไม่ใช่แฟน  แต่หึงได้เนี่ย  สาดด
   “กูมีสิทธิปฏิเสธไหมวะ”  ผมพูดอู้อี้กับหน้าอกมัน  อึดอัดแต่กูก็ยอมทน  ฮ่าๆ เพื่อซบอกมึง
   “ไม่มี”
   “แล้วมึงจะถามเพื่อ?”

   “งั้นมึง”  มันดึงผมออกจากอ้อมอก  TOT  กูยังไม่อยากไปง่ะ   “เล่าเรื่องระหว่างมึงกับไอ้หมอให้กูฟังหน่อย  โดยละเอียด”
   
   “พี่นัทเขาเป็นพี่นะมึง  เรียกดีๆ หน่อยดิวะ”
   “ทำไมต้องเถียงแทนมัน”  เอ้า   ไอ้นี่  ก็พี่เขาไม่อยู่เถียงมึงนี่หว่า  ถามโง่ๆ
   “...กูปล่าว” 
   “หึ  แล้วสรุปว่าไง  มันมาจีบมึงเหรอ”  อ่อ  นี่กำลังหึงกูใช่ไหมวะเนี่ย  หึหึ  แกล้งมันหน่อยดีไหมว้า  ฮ่าๆ 

   “กูไม่รู้  รู้แต่ว่าพี่เขาเป็นคนดี  อบอุ่น  อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”  ว่าแล้วก็ทำสีหน้าเคลิ้มฝันราวกับได้พบเจ้าชายแห่งทรานซีวาเนีย  เอ้า  ว่าไปนู้น  กูก็เวอร์ไป

ปึก!!  มันจับผมกดกับโซฟาอย่างแรง  สาดเอ๊ย  ไม่มีถนอมกูมั่งเล้ย

   “อ่ะ..อะไรวะ”  ผมเสียงสั่นไปโดยอัตโนมัติ  แม่ง  บอกกูทีว่ามึงไปเรียนวิธีทำตาน่ากลัวอย่างนั้นมาจากไหน  T^T
   “แล้วชอบไหมล่ะ”
   “ก็ชอบ..อุ๊บ”  จุมพิตร้อนแรงบดขี้ริมฝีปากผมจนเจ็บ   นัยน์ตาคนจูบกร้าวขึ้นอย่างน่าใจหาย  ประกายกรุ่นโกรธราวกับผมไปฆ่าล้างโคตรมันก็ไม่ปาน

   “เชี่ย  แฮ่กๆ  กูเจ็บ”  แม่งง  ปากแตกด้วย  จูบปากนะเว้ย  ไม่ใช่ตีน  ไม่ต้องรุนแรงนักก็ได้
   “ทำไมมึงหลายใจอย่างนี้วะ”  มันพูดแล้วก็ผละไปนั่งหน้างอ  เอามือกอดอก  เสมองไปทางอื่นอย่างไว้ฟอร์ม  เชี่ยเอ๊ย  ทำไมมึงน่ารักอย่างนี้วะ?   ผมแอบหัวเราะในลำคอ  แม่ง  โตเป็นควายแล้วยังงอนไม่เข้าท่า   นี่กูต้องง้อตามประสาเพื่อนด้วยใช่ไหม 

   “เชี่ย  น่ารักตายล่ะมึง  กูชอบเขาแบบพี่ชายอ่ะ  มึงเข้าใจไหม  ก็กูมันลูกคนเดียวนี่หว่า  มันก็ต้องอยากมีพี่น้องบ้างเป็นธรรมดา”
   “กูก็ลูกคนเดียว  ไม่เห็นอยากมี”  มันพึมพำเบาๆ
   “แต่กูอยากนี่”  แม่ง  ดูมัน   ชอบให้โลกหมุนรอบตัวเองอยู่เรื่อย  ความคิดใครก็ความคิดมันดิวะ   มึงไม่อยากมีพี่  กูก็ต้องไม่อยากด้วยว่างั้นเหอะ
   
   “...เดี๋ยวกูเป็นให้เอง”
   “ฮะ!!”
   “กูบอกว่าเดี๋ยวกูเป็นให้เอง  มึงอยากได้พี่  ได้พ่อ  ได้เพื่อน  กูจะเป็นให้เองหมด  ไม่ต้องไปหาคนอื่น  เข้าใจ๊?”    ฮ่าๆ  ผมล่ะอยากหัวเราะออกมาให้ดังๆ  ไอ้ขี้หวงเอ๊ย  กูแอบดีใจนะเนี่ยมึง  ยิ้มจนจะหุบไม่ลงอยู่แล้วเนี่ย

   “..แล้วถ้ากูอยากได้เมียอ่ะ”  อ๊าก  หลุดปาก

มันหันมามองด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์  กับรอยยิ้มร้ายๆ ที่มุมปาก  แม่งงง  หน้าโคตรเจ้าชู้เลยมึง
   “โทษที  กูไม่ถนัด  ถนัดก็แต่เอามึงทำเมียเท่านั้น”
   “..ไอ้..  อุ๊บ  อ่อย อู๊”   (ไอ้..(ถูกจูบ)..ปล่อยกู๊)
.
.
.
(ฉากอัศจรรย์  ไม่มีซับไทเทิ้ล  กรุณาใช้จินตนาการส่วนบุคคล)


------------------------------------------

ใครว่าไอ้เวย์มันง่าย - -

ยกมือ  ฮ่าๆ

ปล. ไวท์เบื่อคนเล่นตัว  ก๊ากกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 28-04-2009 13:19:48
จิ้มคุณไวท์

งี้แหล่ะดี หุหุหุหุ เอาไง เอาเรยยยยยย  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 28-04-2009 13:23:12
ชอบหนูเวย์ตรงที่ใจง่ายนี่ล่ะครับ  อิอิอิ ไม่ปวดหัวดี อยากได้แบบนี้สักคน
ชอบมากๆเลยเรื่องนี้
นายเอกบางคนชอบคิดเล็กคิดน้อยคิดมากคิดมาย
จนเรื่องบานปลาย ผลสุดท้ายก็เจ็บทั้งคู่
ทำยังกะจะคัดเลือกหาพ่อของลูกอย่างนั้นล่ะ 555+ :laugh:

ใครจะว่าไนท์มันเย็นชารึยังไงแต่ผมว่ามันก็แมนพอตัวนะครับ  
น่ารักดีออกคู่นี้  
เหมาะกันดี  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 28-04-2009 13:43:12
น่าสงสารเวย์เจงๆ หวังว่าจะยังอยู๋ดีไม่โดนหักคอจิ้มน้ำพริกก่อนนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 28-04-2009 13:57:28
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 28-04-2009 14:17:59
อร๊ายยยยยยยยยยยย


ขยันทำประตูจังเลย


สู้ๆ เชียร์ ไนท์

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 28-04-2009 14:28:47
ก็ดีแล้วที่พูดกันให้เคลียร์ดีกว่าเก็บไว้ในใจ
ยังไม่ได้เป็นแฟน เป็นแค่เพื่อน แต่ก็มีสิทธิ์หึง  o18

แล้วจะรอตอนต่อไปว่าไนท์จะพร้อมเมื่อไร อิ อิ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 28-04-2009 14:54:54
 :laugh: “เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่  แต่ว่ากูหึงมึงได้ใช่ไหม”

เอากะมันสิ  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-04-2009 16:34:51
ชอบอ่ะ เป็นเพื่อนแต่หึงได้  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 28-04-2009 16:45:19
ประทับใจตรงที่ไนท์บอกว่าจะเป็นทุกสิ่งให้เวย์ แต่ขัดใจตรงที่เลือกไม่ได้เนี่ย วิ่งหนีใจตัวเองนิดๆนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิ&#
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 28-04-2009 18:45:06
ไนท์อย่าให้เวย์รอนานนักล่ะ เดี๋ยวคนอื่นขโมยไปไม่รู้ด้วยน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-04-2009 19:28:57
เง้อๆ............แล้วแบบนี้จะเปงยังไงต่อไปละนี่

อยากให้แน่ใจเร็วๆจัง.............ความหวานมานคงจะเพิ่มขึ้น

ขนาดแค่นี่ยังแลดูพี่เวย์มีความสุขเลยนะนี่..............แล้วหลังจากนี่ละ อิอิ

ยังไงก้อมาต่ออีกเน้อค๊าฟ...............ชอบ ชอบ

เปงกำลังใจให้เน้อ............สู้ๆนะค๊าฟ อิอิ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 28-04-2009 19:51:01
มอบแต้ม+ ที่ 37 คร้าบ
*******
มีคนเดียว-เอาอยู่
เป็นทั้งเพื่อน-พี่-พ่อ-และ-ผัว 555
ขอบคุณคร้าบ  :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-04-2009 20:19:43
เข้ามายกมือ(สูงๆ)ด้วยคน~~!


ผมว่าเฮียไนท์ก็ไม่ชอบนะ พี่เวย์เล่นตัวน่ะ

 :laugh:

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า

"เฮียไนท์มันบ้า"

มีการ "หึงได้ แต่เป็นเพื่อนกัน"  เวน  :z3:

รอตอนต่อไปคร้าบพี่ไวท์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 28-04-2009 21:07:55
กร๊ากกกกกกกกก เพื่อนหึงเพื่อน  :m20:

ไนท์ถ้าแกให้น้องเวย์ของเจ๊รอนานละก้อ เจ๊จะยกให้พี่หมอไปเลย ชริส์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 28-04-2009 21:08:31

  มีงอนด้วย  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 28-04-2009 21:54:39
มีโอกาสได้มาตอบรีพลายซะที   เนื่องจากวันนี้ปลอดบัญชี  ฮ่าๆ

lomekung  ฮ่าๆ  งอนแต่พองาม  เอิ้ก

LoveNineTeen   ฮ่าๆ  นายไนท์  เจ๊เขารอยกแกให้พี่หมอแล้วนะ

N-SENT ฮ่าๆ  มันก็บ้าของมันเป็นปกติแหละค่ะ  อิอิ

mackerel ขอบคุณค่า ^^  รู้สึกว่าพี่ เพื่อน พ่อ ผัว  มันคล้องจองกันพิลึกนะ

•♀NoM!_KunG♀•  ขอบคุณค่า  เวย์มันก็รั่วของมันไปเรื่อยล่ะกัน  ขนาดมันจะทุกข์  มันยังอุตส่าห์รั่ว

Catrina  ฮ่าๆ  ท่าจะรออีกนานเหมือนกันอ่ะ

astral  แหม  คิดเหมือนกันเลยค่า   มันอยากจะเป็นพ่อทูนหัวที่สุดล่ะมั้ง

mist  ฮ่าๆ  ทฤษฎีประจำตัวพี่แกแหละ

FaKeR   ฮ่าๆ  นั่นแหละ  เอาดีเข้าตัวไว่้ก่อน เอิ้กๆ  ไอ้ไนท์

imageriz  ไนท์มันพร้อมเสมอจ้า  - -  บนเตียงน่ะนะ

a_tapha  ตกลงเชียร์ไนท์กับเวย์  หรือเชี่ยมันทำประตูค่ะเนี่ย

SoN   ^^  ThX  จ้า

woradach สงสัยคนโดนหักคอจิ้มน้ำพริกจะเป็นนายไนท์มากกว่ามั้ง

jokirito  ก๊ากก  ชอบตรงที่นู่เวย์ใจง่าย  ฮ่าๆ  เหมือนไวท์เลย  ขี้เกียจเล่นตัว  (พูดเหมือนตัวเองเป็นนางเอก)  ขอบคุณค่า


แค่นี้ก่อนนะคะ  ฝันดีค่าทุกคน  ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 28-04-2009 22:43:48
ว๊ายยยยย

น่ารักมากมายยยยย

แล้วให้รอเนี้ยไม่ใช่ไป คั่วกับผู้หญิงอื่นหรอเนี้ย อย่างนี้ไม่ปลื้มเลยเน้อออ

ระวัง ระวัง

+++++++++++++++++++++++++++++++

มาเป็นกำลังใจให้นะค๊าา สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 28-04-2009 23:04:10
ไม่ยอมอ่า 

ไวท์ขา


เค้าจินตนาการไม่เก่งง่ะ

 :haun4:


ปล.ห้ามคิดนานนะ ไม่งั้นเวย์ปล่อยใจลอยไปหาพี่หมอ ไม่รู้ด้วย ชิ๊ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 28-04-2009 23:14:39
ชอบเวย์ที่เป็นคนง่ายๆ
แสดงออกตรงๆ พูดตรงๆ
รักก็บอกว่ารัก
น่ารักกกกกที่สุด  :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 28-04-2009 23:15:04
 :z2: :z2: :z2:
สนุกอย่าบอกใคร
แต่การรอคอยมันก็เจ็บปวดนะ
เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่
ไม่มีใครมาบอกเราได้ว่า จนที่สุดแล้วสิ่งที่เรารอจะได้มาแน่หรือ
อาจดูเหมือนความฝันอันเลือนลางของคนที่ต้องเฝ้ารอ
ถึงอย่างงั้น 3 ปีที่ผ่านมา 3 ปีที่อัดอั้น เก็บความรู้สึก
เชื่ออยู่ลึกๆและเสมอมาว่า ไนท์ ไม่ได้เป็น เรื่องแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้
ในวันนี้มันเลยกว่าที่หวังมาแล้ว การจะรอแม้จะเลือนลางก็ยังคงดีกว่าการปล่อยโอกาสให้ผ่านไป

นิว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 29-04-2009 00:16:25

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
 :z1:

ดิฉันเป็นคนไร้จินตนาการ
T^T

ฮ่าๆๆๆ

เวย์ใจเด็ดมากอ่ะ
ดีแล้ว  ไม่พูดกัน ก็ไม่รู้เรื่องซักที  ^^

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 29-04-2009 08:20:38
อย่างน้อยความสัมพันธ์ก็ก้าวหน้าไปอีกขั้นละนะ นายเวย์ :z1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 29-04-2009 11:00:55
ควรจะดีใจนะครับเนี่ย

ดีแล้วๆ ในที่สุด ก็ ได้ กันซะที
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 29-04-2009 12:00:49
ยกมือ .. :m20:

แต่เวย์ง่ายเฉพาะ ไนท์คนเดียวใช่ปะ  :m12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: hatchi ที่ 29-04-2009 12:56:31
ชอบเวย์ เวย์น่ารัก ตรงไปตรงมาแอบฮาอีกต่างหาก แอบรักนายเอกนี่ผิดม๊ายยย (โครม!!! เอ๊งๆๆๆๆ ...ผิดเฟร๊ยย : คนอ่านโดนไอ้ไนท์เตะ งือออ)
ไม่อยากให้ความไม่แน่นอนของไนท์มาทำร้ายเวย์เลย แถมยังอินังชะนีอีกเป็นโขลงพวกนั้นด้วย ฮึ่ยยย กำจัดมันยังไงดีว๊า 
ลุ้นเอาใจช่วยเวย์ เพราะอิชั้นหลงรักนายเวย์เกย์ควีนซะแว๊วววว กร๊ากกกกกก
สนุกมากเลยนะคะ แล้วจะติดตามอ่านนะ อิ อิ
:man1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 29-04-2009 14:00:59
น้องเวย์น่าร๊ากกกก ...  ไม่เลยนู๋  ไม่ได้ใจง่ายหรอกจ้ะ
อย่างนี้แม่ยกชอบบบบบ ....

ขอบคุณคนเขียนค่าาา ....  :กอด1:  เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 29-04-2009 14:03:26
มารอให้เวย์มีชู้  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 29-04-2009 14:28:32
 :เฮ้อ:

ต้องรออีกแล้วเวย์ เด๋วเวย์ต้องมีเรื่องให้เสียใจอีกแน่ๆเล้ย

ปล.เชียร์พี่หมอเหมือนเดิม :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 30-04-2009 01:30:36
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 30-04-2009 12:57:05
อ๊ากก  ได้กัน ๆ


รอๆๆ   :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-04-2009 13:42:33
รอรอๆ.............หว่า ยังไม่มาอีกหลอเนี่ย


หือๆ.................เด๋วก้อ หึหึ รอ ต่อไปก้อได้ :monkeysad: :monkeysad:


อย่าให้รอนานเน้อค๊าฟ................อยากอ่านๆ :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 30-04-2009 23:05:16
เอาตอนที่ 10 ม๊าาาา

^^ มารอนะค๊าาาา

จ๊วบๆ ๆ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 30-04-2009 23:15:21
อยากอ่านต่อมากๆ เลยจ้า

มาไวๆ น้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: piggie ที่ 01-05-2009 09:53:56
เห็นเรื่องนี้ในเด็กดีมาสักพักแล้วค่ะ

เซฟเก็บไว้แต่ยังไม่ได้อ่าน กลับกลายเป็นว่ามาตามอ่านที่นี่แทน ^^~

อ่านแล้วชอบเวย์มากมาย น่ารักจริงๆ ฮาได้ใจแม้ยามเศร้า

แต่อยากจะบอกว่าพี่หมอดีเกินไป....อ่านปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่านี้มันพระรองเกาหลีชัด หุหุหุ

จะติดตามต่อไปนะค้า o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 9 Turning point
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 01-05-2009 20:59:33

บทที่ 10  น้องรหัส

   “อ้าว  ทำไมมาด้วยกันได้วะ  หึหึ”  เชี่ยนุครับ  มึงอย่าถามทั้งที่  ตามันฟ้องว่า  ‘กูรู้นะ  ว่าพวกมึงไปทำอะไรมา’ ได้ไหมวะ   แม่ง  ไอ้นี่  นับวันยิ่งน่ากลัวครับ  ไม่น่าหลวมตัวมาคบกับมันเลย
   “สัดนุ  ทำไมวันนี้ทำตัวเป็นโสดวะ  ไอ้ส้มไปไหน”
   “เฮียวายเรียกไปตั้งแต่เช้าแล้ว  ดีนะที่กูเผ่นออกมาได้  ไอ้แชมป์กับหยกโดนลากไปหมด”  อ๋อ  นี่กูต้องชมมึงใช่ไหมที่หนีมาไว  ไอ้ฟาย   ทิ้งให้เพื่อนไปรับกรรม  เสือกมีหน้ามาคุยโว  เหลือรับจริงๆ เพื่อนกู
   “มึงนี่...”

   “เวย์  ไปกินข้าวก่อนป่ะ  เดี๋ยวมึงปวดท้องอีก”   เฮือก!!  บอกดีๆ ก็ได้โว้ยย  ไม่ต้องมากอดคอ  โน้มหน้ามาใกล้กู   เมิงเห็นม้ายยย  ไอ้เชี่ยนุมันทำหน้ากวนตีนอีกแล้ว  แม่งเอ๊ย  กูนี่โคตรเสียหาย
   “เออๆ สวีตกันเข้าไป  หึ  กูก็ยังไม่ได้กิน  แม่ง  ห่วงกูกันมั่งไหม”
   “มึง...อย่าเจือก”  ไอ้ไนท์ว่ายิ้มๆ  แล้วต่อตัวการขยับปากที่ผมอ่านไม่ออกว่าอะไร  แต่ดูเหมือนว่า  ไอ้คนที่อ่านออกน่ะ  มันจะยิ้มค้าง  วิญญาณออกจากร่างไปแล้ว

   “เฮ้ย  ไอ้นุ  นุ  เฮ้ยย”  ผมเรียกพลางเอาตีนสะกิดมัน  โคตรผู้ดี - -

   “ห๊ะ   เชี่ยไนท์  มึง  แม่งงง  เออ  กูจะจำไว้  ฮ่าๆๆ”
ไอ้สาด  พวกมึงอย่ากันกูออกจากบทสนทนาดิ๊  คุยอะไรกันวะ  ยิ้มกันอยู่สองคน  ไอ้เพื่อนชั่วมึงหัดมีความลับกับกูเหรอ   หรือว่ามันมีอะไรลับหลัง  ลึกลับ  อะจึ๊ย  กันวะ  มึงปล่อยคอกู๊  งือ  อยากรู้
   “ป่ะ  ร้านป้าอินแล้วกัน  กูอยากกินส้มตำ”  บ้านป้ามึงดิ  แดกส้มตำตอนเช้า  ตกลงมึงกลัวกูจะปวดท้องจริงไหมวะเนี่ย?  แม่ง  แกล้งกูชัดๆ


   “เมื่อกี้พูดไรกันวะ”  ผมเงยหน้าถามมันหลังจากที่เราซื้อข้าวมานั่งกินที่โต๊ะ (มันเพิ่งสำนึกได้หลังจากสั่งส้มตำแล้ว  ผมนี่โคตรสงสารป้าแกเลย  แม่ง  กำลังจะใส่มะละกอ  ไอ้เชี่ยไนท์เสือกบอก  stop ครับป้า  ผมเปลี่ยนใจแล้ว  ลานะครับ  ดูมัน - -  มีการบอกลา  ไอ้คนมารยาทดี)
   “เรื่องของผู้ใหญ่”
   “ฟาย  มึงอายุเท่ากู”
   “กูแก่กว่าสี่เดือน”    กับอีกสามวัน  เฮ้ยย  ไม่ใช่แล้ว  มันกำลังพาเราเบี่ยงประเด็นครับ
   “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง   หรือว่า...พวกมึง..เอ่อ   กูเข้าใจ”
   “เข้าใจอะไร” 
   “ก็  ก็  มึง  กับ  ไอ้นุ  เอ่อ  อา”  ผมเริ่มรู้สึกถึงรังสีการฆ่าฟันลอยอยู่ไม่ห่าง  คิ้วเข้มของมันเริ่มจูนเข้าหากัน   หนังหน้าเริ่มกระตุก  (เห็นขนาดนั้น??)
   “อะไร” มันเริ่มออกอาการฮึดฮัดตามประสาคนถูกขัดใจ
   “..พวกมึง  แบบว่า  เอ่อ มึงอาจจะอยากลอง  อะจึ๊ย  อะจึ๊ย  อา  แหะๆ”  พูดได้เท่านั้นก็ต้องกลืนน้ำลายเอือกใหญ่  เมื่อไอ้คนตรงหน้ามันยิ้มเย็น  เอื้อมมือมาคว้าไหล่ผมไว้  ก่อนโน้มตัวเข้ามาอย่างคุกคาม
   “กูบอกมันว่า  อย่ามาเสือกเรื่องของผัวเมีย”
   “O.O!!!”   
   “ส่วนไอ้ที่กูอยากลองน่ะ   คืนนี้มึงได้รู้แน่  หึหึ”
ชิบหายแล้วกู  หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ไม่น่าโง่เลยกรู   ไอ้นี่ก็บ้า  รู้ทั้งรู้ว่ากูอำ  ก็ยังเสือกเคือง  แม่งง


ป้าบ!!
“พรูด!!  อ็อก  แค่กๆ”  ผมสำลักเมื่อไอ้มือดีบางตัวตบป้าบเข้ากลางหลัง  เชี่ยเอ๊ย  ไข่พะโล้กู   หมด  หมดกัน  อ้าปากกำลังจะหันไปด่าก็มีคนปากดีอีกคนช่วยจัดการให้เสร็จสรรพ
“ไอ้แชมป์”  ไอ้ไนท์ตะคอกเสียงดัง  และรีบย้ายก้นมายืนลูบหลังผม  โอ๊ย  คนหล่อปลื้มครับ
ไอ้แชมป์ส่ายหัวไม่ใส่ใจ  สาด  ไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ  แล้วลากมือไอ้หยกไปนั่งอีกด้านหนึ่ง  ชักน่าสงสัยครับว่าเพื่อนจะกินกันเองอีกหรือเปล่า  ฮ่าๆ

   “ไม่ต้องกางปีกปกป้องมันขนาดนั้นก็ได้มั้ง  ไอ้เวย์มันถึก  แค่นี้ไม่ถึงตายหรอกน่า”  ดูมันครับ  ทำร้ายร่างกายเขา  แล้วยังมีหน้ามาโยนความผิดให้พวกกู
   “เออ  ไอ้เวย์มันไม่ตายหรอก  แต่มึงอ่ะ  ไม่แน่”  ทำไมวันนี้ไอ้คุณชายมันทำตัวแสนดีพิลึกวะ   ปกติมันไม่ห่วงออกนอกหน้าขนาดนี้  ซ้ำยังรวมหัวกันแกล้งผมอีกต่างหาก  และเหมือนพ่อเจ้าประคุณจะรู้ความคิดผมครับ  มันเลยช่วยไขข้อข้องใจโดยการก้มกระซิบข้างหูว่า
   “ไม่บุบสลายใช่ไหมมึง  เดี๋ยวคืนนี้กูต้องใช้งาน”   ไอ้แสดดดด   ไอ้หน้าด้าน  ไอ้ชั่ว  แม่งงง   ไอ้ทำดีหวังผล  ฮ่วย

   “เป็นไรวะ  หน้าแดงเชียวมึง”  แน่ะ  ไม่ต้องมาเสือกตาดีตอนนี้ได้ไหมครับ  ไอ้คุณแชมป์
   “ป่ะ..เป็นเอี้ยไรเล่า  มึงแหละ  ตบหลังกูแรงงี้  เอาตีนมาฟาดหน้ากูเลยดีกว่า”
   “เหอะ  ถ้ากูทำจริง  มันคงต้องจองศาลาให้กูเลยมั้ง”  มันว่าพลางเหลือบไปมองไอ้คนที่ย้ายมานั่งข้างๆ ผมเรียบร้อย  เดี๋ยวนี้รู้จักประชดนะมรึง
   “ไม่หรอกว่ะ  ยังไงมรึงก็เพื่อน  แค่ไอซียูสักเดือนสองเดือนก็พอ”  ไอ้สาดนี่ก็รับมุก

   “เชี่ยไนท์  แม่งง    หวงกันเข้าไปนะมึง  เออ  ที่จริงกูมีข่าวดีกับข่าวร้ายมาบอกว่ะ”  มามุกนี่อีกล่ะ  โบราณจริงๆ เพื่อนกู  ข่าวดีกับข่าวร้ายอยากฟังข่าวไหนก่อนกันครับ?  นี่ไงมึงถึงไม่มีแฟน  ฮ่าๆ    พูดเหมือนตัวเองมีครับ - -

   “ข่าวไรวะ  หรือว่ามึงโดนไทร์”
   “เชี่ย  กูอยู่ของกูดีๆ  ไม่ต้องมาแช่ง  เดี๋ยวกูไม่อยู่แล้วมึงจะเสียน้ำตา”
   “รอเผามึงทีเดียวเลยดีกว่า”
   “อ้าวไอ้นี่  เดี๋ยวส้นเท้ากูกระตุกนะมึง”
   “จะเถียงกันอีกนานไหมคะ  เวย์กับแชมป์  ถ้านานหยกจะขึ้นไปรอบนห้อง”  รอบนห้อง??  ชะอุ๊ย  ไม่ได้คิดลามกนะครับ  หึหึ

   “โทษครับ  อย่างอนน้า  นะครับ”  ไม่ใช่เสียงผมแน่นอนครับ  ถึงแม้ว่าอยากจะอ้อนสาวขนาดไหน  เกรงว่าจะเป็นการอ้อนตีนใครบางคนมากกว่า   ไอ้แชมป์มันพูดยิ้มๆ  ส่วนไอ้หยกคนงามของผมก็เริ่มหน้าแดงเรื่อๆ  เอาแล้วเว้ย  มีลุ้น  ผมสะกิดสีข้างไอ้ไนท์  มันก็เอามือมาจับมือผมไว้แล้วบีบเป็นเชิงว่า  ‘ กูก็ว่างั้น’

   “อ่ะแฮ่ม”  ผมกระแอมนิดเดียว  นิดเดียวจริงๆ นะครับ  มันรีบออกจากการสร้างโลกส่วนตัวกันทันที  โหยย  ใจไม่กล้าเลยว่ะ
   “เอ่อ  เดี๋ยวหยกไปห้องน้ำก่อนนะ  แชมป์ก็บอกรายละเอียดให้เวย์กับไนท์เองแล้วกัน”  ว่าแล้วสาวเจ้าก็สาวเท้ายาวๆ เลี่ยงออกไป  เอิ้กๆ  น่ารักชิบ
   “คายออกมาเลยนะมึง  ไปแอบมีใจกันตอนไหนวะ”  ผมเริ่มรุกทันที
   “มีใจอะไรของมึง  อย่ายุ่งน่า  เดี๋ยวติดเมื่อไร  กูเลี้ยงหนึ่งเมา”
   “เชี่ย  แล้วบอกไม่มีอะไร  ฮ่าๆ  รีบๆ เข้าละมึง  เดี๋ยวหมาคาบไปแดกแล้วจะยุ่ง”
   “หึ  ไม่ต้องห่วงกู  ห่วงตัวมึงเองเหอะ  งานวิชาการปีนี้โทษฐานที่ปีนเกลียวนายก  หยอดจีบแฟนสุดหวง”  พูดถึงตอนนี้ไอ้ไนท์หันขวับมามองเลย “โดดประชุม  มึงคางเหลืองแน่ไอ้เวย์”
คำพูดของมันทำเอาผมเสียววาบๆ  โธ่ๆ  คนผิดมันไม่ใช่ผมนะครับ  ต้องโทษไอ้ไนท์โน่น  มันทำผมหมดอารมณ์ประชุมอ่ะ  แล้วยังมีหน้ามาทำตาดุอีก

   “เหอะๆ  กรรมของกู  เฮ้ย  แต่ไอ้ไนท์ ไอ้นุ ก็โดดนี่หว่า  ถ้าลงที่กูคนเดียวนะมรึง  มีเฮ”
   “มรึงจะลากกูไปด้วยให้ได้ใช่ไหม”  ไอ้คุณชายมันทำหน้าโหด  แต่ยิ้มหวาน  - -  คนบ้าไรวะ??   
   “ป๊าว  กูก็ว่าไปตามเนื้อผ้า”
   “หึ  เดี๋ยวค่อยเคลียร์คืนนี้”  ม่ายยเว้ย   แม่งง  เอี้ยไรก็ขึ้นเตียงเคลียร์กะกูตลอด  แม่ง

   “สรุปว่า..  ไอ้พี่วายมันจิกหัวใช้กูทำไรมั่งวะ”  เดี๋ยวก่อนนะมึง  รอปีหน้ากูใหญ่สุดเมื่อไร  หึหึ   กรูจะเล่นให้แสบเลย   (เป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัยที่รุ่นพี่จะต้องโขลกสับรุ่นน้อง)
   “หัวหน้างานฝ่ายปฏิคม  ฝ่ายประสานงานกันองค์ใหญ่ (หมายถึงคณะกรรมการบริหารกิจการนิสิต)  ชมรมบาสโดนหนึ่งร้าน  เดี๋ยวเย็นนี้มึงแวะไปจับฉลากด้วย”
   “เชี่ยยยย    เล่นงี้ฆ่ากูเลยดีกว่า  แม่งงง”
   “ยังไม่หมดว่ะ   ประธานจัดงานเขาขอแรงมึงไปช่วยละครเวทีมหาลัยฝั่งชายด้วย”
   “ห๊า!!!!!”   อย่าสงสัยครับว่าทำไมผมต้องตกใจขนาดนั้น  ก็ไอ้ละครมหาลัยใครเข้าร่วมนี่ก็โคตรซวยบรรลัย  ไอ้พี่วายแม่งแกล้งกู   ละครมหาลัยคือละครเวทีสุดยอดอลังการงานช้าง  ไฮไลท์เด็ดของงานเปิดบ้าน  เป็นการรวบรวมนิสิตจากทุกคณะไว้ด้วยกันเพื่อแสดงศักยภาพและความสามัคคี(ซึ่งกูไม่มี้โว้ยยย)   ออกจะประหลาดไปเสียหน่อยเนื่องจากมีการแบ่งเป็นฝั่งชายและฝั่งหญิง   - -  งงกันไหม  ผมก็งง  ไม่รู้ใครมันเป็นคนต้นคิดให้ผู้ชายล้วนแสดงเรื่องหนึ่ง  ผู้หญิงล้วนแสดงเรื่องหนึ่ง  แมร่งง   ปัญญาอ่อนอย่างเห็นได้ชัด 

   “สงสัยไรไว้ไปเคลียร์เย็นนี้เองล่ะกันมึง  แต่รู้สึกว่ามึงจะบอกไอ้นุว่า  จะให้ทำอะไรก็ได้หมดไม่ใช่หรอวะ  แล้วพี่แกก็ถามย้ำแล้วว่า  แน่ใจนะ  มึงก็บอกว่าแน่ใจ”  ห๊ะ   กูไปพูดอย่างนั้นตอนไหน  มั่วกันเห็นๆ เลยแม่งเหอะ

   “เฮ้ย  เวย์  ไอ้เวย์  ฟังกูอยู่ป่าววะ?” 
   “อ่ะ..เออ  มีไรวะ”
   “สาดดแม่ง   ท่าจะอาการหนักว่ะ  พี่วายเขาถามว่าเรื่องงานแสดงอ่ะ  เมิงว่าไง  จะทำอะไรดี”
   “ห๊ะ  เอ่อ  อ๋อ   เอาไงก็ได้  ตามสบายเลย  กูได้หมดแหล่ะ” 
   “เออๆ  พี่เขาถามว่า  แน่ใจนะว่าจะไม่ออกความเห็น  และจะเห็นด้วยทุกอย่าง” 
   “เออ”
   “ไม่โวยทีหลัง”
   “เออ”


   “ไง  นึกออกแล้วสิมึง  นั่งหน้าซีดเลย”  เออ  ชัดเลยว่ะ
   “แล้วนี่ไอ้นุ มันไปมุดหัวอยู่ไหน”  ผมถามด้วยความอาฆาต  กัดฟันกรอดอย่างสะกดอารมณ์  ไอ้เพื่อนชั่วเอ๊ย  โยนขี้มาให้กูอีกแล้ว

   “หึหึ  มันฝากมาบอกว่า  กูไม่อยู่ให้โง่หรอก  ฮ่าๆ”
   “ถ้ากูไม่ได้เสยยอดหน้ามัน  ไม่ต้องเรียกกูไอ้เวย์เลย”  ฝากไว้ก่อนเหอะมึง  ทำกูวอดวายหลายเรื่อง  เดี๋ยวกูทบต้นทบดอกให้คางเหลืองเอง




   “พี่เวย์คร้าบบบบบบ”  เสียงเรียกชื่อผมดังมาแต่ไกล  ยังไม่ทันที่จะรู้ตัว  ผมก็ถูกกอดหมับจากทางด้านหลัง  พร้อมกับสัมผัสนุ่มๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง  ไอ้สาด  กูถูกหอม!!  ดูเหมือนทุกคนจะหยุดอยู่ในปฏิกิริยาเดียวกันคือ  อึ้ง!!   สามวิผ่านไปผมที่ยังตัวแข็งอยู่ก็ถูกกระชากเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคนข้างๆ  ที่ทำหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อใครอีกคน

   ใครอีกคนที่มีเครื่องหน้าหมดจด  ริมฝีปากแดงจัดจนน่ากลัว  พร้อมเขี้ยวเล็กๆที่โผล่ให้เห็นยามที่ตัวเจ้ายิ้มแย้ม (ไม่ใช่แวมไพร์ครับ  ไม่ต้องห่วง)  เส้นผมสีทองยาวระต้นคอไล่ระดับอย่างลงตัว  ต่างหูสีเงินคู่เดิมที่ผมให้มันเป็นของขวัญก่อนไปญี่ปุ่น  ไอ้ชิน!!

   “ไอ้ชิน”  นึกออกก็กระโดดไปกอดคอมันทันที   ไอ้ชินเป็นน้องรหัสของผมครับ  ด้วยความที่มันปีนเกลียวได้ใจและการที่ผมแผลงฤทธิ์เอาไว้เยอะทำให้เรากลายเป็นคู่หูพี่น้องที่สนิทกันมากจนน่าอิจฉา  ฮ่าๆ   แต่ยังไม่ทันจบปีหนึ่งพ่อมันก็เรียกตัวกลับญี่ปุ่น  ดูเหมือนที่บ้านจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง  ไอ้ผมผู้ซึ่งกลายเป็นบุคคลไร้น้องรหัสและกำลังตั้งตารอหลานรหัสในปีนี้  ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอมันอีก  ตอนนี้โคตรดีใจเลยครับ

   “คิดถึงผมป่าวพี่”
   “เออสิวะ  แม่ง  ไม่เคยติดต่อหากู”  ผมผละจากอ้อมแขนมันเมื่อรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ชวนให้หวาดเสียวกว่าขึ้นไวกิ้ง
   “หล่อขึ้นนะมึง”  หล่อจนน่าถีบ  แม่ง  มาบดบังรัสมีกรูหมด
   “พี่ก็สวยเหมือนเดิม” 
   “ไม่ต้องมาหาเรื่องฟาดปากกับกรู  ไปแสดงตัวเป็นน้องรหัสที่ดีของกูก่อนเลยมึง”  ผมตบบ่ามัน  ส่วนไอ้ชินก็รู้เรื่องเป็นอย่างดี  รีบแสดงความเคารพเพื่อนๆ ผมกันใหญ่  ถ้าจะพูดให้ถูกเรียกว่าเล่นหัวกันไปเลยดีกว่า  เพราะไอ้พวกนี้ก็เอ็นดูมันไม่น้อย  เสียดายไอ้หยกไม่น่ารีบลุกไป  ไม่งั้นอาจมีวางมวย  เพราะพวกมันเคยมีข่าวซั่มติ้งรองกันอยู่พีกหนึ่ง  ฮ่าๆ  งานนี้ไอ้แชมป์คงรู้สึกเหมือนไฟลนก้นล่ะม้าง   กูบอกแล้วว่าอย่าใจเย็น  จนเริ่มจะช้า  ดา  ดา ดี้ ดา ดา   ว่าไปนั่น

   “ผมเรียนปีหนึ่งใหม่นะพี่  เผลอๆ ได้เป็นหลานรหัสพี่ปีนี้”
   “จริงเหรอวะ  แม่งง  เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงหนึ่งเมา”
   “เอ้า  พูดแล้วห้ามคืนคำ  ใช้เบอร์เดิมใช่ไหมพี่  เดี๋ยวผมโทรไปทวง”  เชี่ย  กูก็หลงนึกว่าคิดถึงพี่คิดถึงเชื้อ  ที่แท้ห่วงเหล้า  ของฝงของฝากไม่เคยมี  (แกก็คิดถึงแต่ของฝากใช่ไหมยะ)
   “เออ  แล้วหยุดไปเกือบเดือน  เพิ่งจะมาเอาป่านนี้ไม่เป็นอะไรเหรอวะ”
   “โหย  ชิวๆ พี่   พ่อผมใหญ่”  -*-
   “เออ  กูก็ลืมไป” 
   “อ่ะพี่  ของฝาก”  เฮัย!!  จริงดิ  สมแล้วที่เป็นน้องรหัสกู  ไอ้เวย์มองถุงกระดาษขนาดใหญ่ตาเป็นกระกาย  ยิ้มแก้มแทบปริบ  เห็นแก่ของจริงๆ กู

   “เฮ้ย  ขอบใจว่ะ  ไม่น่าต้องลำบากเลยนะมึง  หึหึ”
   “หน้าพี่มันฟ้องว่า  โคตรดีใจอ่ะ  ฮ่าๆๆ”
   “เชี่ย  ไม่ต้องมาเสือกรู้ทันกู”
   “ขนมที่โน่นนะพี่  ผมรู้ว่าพี่บ้าของกิน  แบ่งๆ กัน  ผมซื้อมาเยอะ  ส่วนไอ้ที่ไม่ใช่ของกิน  ไว้พี่เลี้ยงผมหนึ่งเมาก่อน  แล้วค่อยว่ากัน”  เอ้า  พูดงี้แสดงว่ากูยังจะได้กำไรเป็นอย่างอื่นอีกใช่ไหม  หึหึ  ไม่ได้โลภเลยนะเนี่ย 
   “งั้นไปเย็นนี้เลยนะมรึง  ฮ่าๆ”  ยืนยันว่าไม่ได้โลภจริงๆ  - -

   “ไอ้เวย์  ขึ้นไปเรียนได้แล้วมึง”
   “เฮ้ย  เวรแล้วกู  คุยเพลิน  คาบจารย์นริทร์  ไอ้ชิน  เดี๋ยวค่อยคุยกันนะมึง”  พูดได้เท่านั้นแหละครับ  เพราะไอ้คุณชายมันหยิบกระเป๋า  ลากคอผมไปเรียบร้อยโรงเรียนจ่าแล้ว  ไอ้บ้าพลังเอ๊ย

   “แล้วเจอกันนะพี่”  ไอ้น้องรักมันตะโกนไล่หลังมา



   “ที่อารมณ์ดีนี่เพราะได้ของฝาก  หรือเพราะได้เจอเด็กเก่า”  ไอ้ไนท์ถามขึ้นหลังจากหมดคาบของอาจารย์นริทร์ ผู้ทำให้เราได้อยู่ในดินแดนนรกอันเต็มไปด้วยแมว(C) และหมา (D)

   “เป็นอะไรของมึงเนี่ย”
   “หึ  คิดถึงมันมากถึงต้องแสดงความรักกันกลางโรงอาหาร?”
   “ไอ้บ้า  พูดอะไรไม่เข้าท่า  อ่ะ  แดกไปเลยมึงจะได้ปากไม่ว่างมากวนกู”  ผมจับขนมยัดปากมันไป  พร้อมทั้งเช็ดปากให้มันด้วย  ไอ้คนกินก็ดูผ่อนคลายขึ้น  ตาเป็นประกาย

   “ฮิ้ววววว   จะได้อุ้มหลานกันแล้วโว้ยยย  พวกเรา”  ไม่ต้องสงสัยว่ามาจากใคร  ประโยคกวนสุดตรีนอย่างนี้  มีไอ้เวรนุคนเดียว   ผมจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจเท่าไรเลย  ถ้าไอ้พวกว่างงานทั้งหลายจะไม่พร้อมใจกันส่งเสียงแซวชนิดเห็นด้วยสุดชีวิต

   “แต่งเมื่อไร  อย่าลืมชวนนะเวย์”
   “ไนท์ร้อนแรงไหมวะ”
   “เอาหัวปีท้ายปีเลยนะมึง”  ใช้ง่ามสมองส่วนไหนคิดวะ

   “เชี่ยนุ  เดี๋ยวมึงกับกูยังมีคดีกันอีกยาว  ล้างคอไว้รอเลยมึง”  มันหัวเราะ หึหึ  แล้วหันไปอ้อนเมียมันต่อ  ไอ้ส้มก็ดูติดจะรำคาญเลยเอาเท้ายันให้มันออกไปห่างๆ  เหมือนคนเล่นกับหมายังไงยังงั้นครับ  ฮาดี

   “เอาอีก”  เสียงคนข้างๆ บอกเรียบๆ  พร้อมทั้งทำหน้าอ้อน(ตีน)  อย่างที่นานทีปีหนจะได้เย็น  ยกเว้นพักนี้ที่มักจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ
   “กินเองดิเมิง”  ไม่เห็นรึไงวะ  ว่าเขาหยุดความเคลื่อนไหวหันมามองทางนี้กันหมดแล้ว  โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ทำหน้าเชียร์สุดชีวิต  ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่า  เดี๋ยวนี้พวกผู้หญิงเขามีกระเพาะเตรียมไว้รับเรื่องวายๆ อย่างนี้กันหมดแล้วเหรอ??  ไม่เสียดายทรัพยากรชายอันทรงคุณค่าของพวกผมมั่งรึไง

   “จะป้อนขนมกูดีๆ  หรือจะให้กูกินมึงแทน”  ทันทีที่มันพูดจบก็มีเสียงกรี๊ดดังขึ้นทันที  ผมล่ะอยากเอาหัวมุดเดินต่างเท้าจริงๆ  แต่เมื่อเห็นมันทำหน้าตาบ่งบอกว่าไม่ได้กำลังพูดเล่นหรือมีอารมณ์ขันแต่อย่างใด   ผมก็จำใจต้องป้อนขนมมันแต่โดยดี

   “ฮิ้ววว   ได้อุ้มหลานแน่กู  ฮ่าๆๆ”
   “ว้ายๆ   เต็มที่เลยไนท์  ไม่ต้องเกรงใจ  ฮิฮิ”

-   -   ชีวิต   กูล่ะอยากตายยยยยยยยย




---------------------------

ขอโทษที่ช้านะคะ  พอดีไวท์งานเข้า  เหอะๆ
ขอบคุณทุกรีพลายที่เห็นใจน้องเวย์จ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 01-05-2009 21:19:30
 มาต่อแล้ว

  :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 01-05-2009 21:35:10
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-05-2009 22:29:01
เง้อๆ.............ร้ายกาจมากมายเลยนะนี่ พี่ไนท์

แล้วนี้คนอ่านอย่างเราจะไปไหนได้ละนั่น.............แต่หวังว่าคงไม่ทามให้พี่เวย์เสียใจนะ

ว่าแต่พี่หมอก้อหายไปเยยนะนี่............แต่ดันมีคู่แข่งเพิ่มอีกคน

แลดูพี่เวย์จะเสน่ย์แรงน่าดู อิอิ................มาต่ออีกเน้อ

เปงกำลังใจให้ค๊าฟ...........สู้ๆเน้อ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 01-05-2009 22:29:35
ชอบเพื่อนของเวย์กะไนท์จริงๆอ่ะ...แต่ละคนขยันแซวเหลือเกิน...ฮ่าๆๆๆ

แต่น้องชินเนี่ย...โผล่มาแป๊บเดียว...ทำเวย์งานเข้าเจอไนท์หึงอีกหล่ะ...อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 01-05-2009 22:51:35
มอบแต้ม+ ที่ 39 คร้าบ
***
ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิ&#
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 01-05-2009 23:00:30
อ่านแล้วสงสารป้าขายส้มตำที่สุด ดีนะไม่รอให้แกตำเสร็จก่อน มารยาทดีเหมือนที่เวย์ว่าจริงๆ  
เพื่อนๆในห้องก็แซวกันจัง ไม่รู้บ้างเล้ยว่าเพื่อนเค้าจะเล่นกัน  :laugh:
ชอบค่ะชอบ มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 01-05-2009 23:06:16
โหยยย  ไอคุณน้องชินจะกลับมาทำพี่มันตายคาเตียงมั้ยเนี่ยยย

แถมยังมีละครชายล้วนอีก

งานนี้พักเรื่องพี่หมอไปก่อน

ไงจ๊ะ 

ไนท์..

ชะล่าใจไม่ได้แล้วนะเฟ้ย

ขืนมัวขอรอเวลามั่นใจเนี่ย

เวย์ได้ไหลลงกระเพาะหนุ่มอื่นแน่นอน

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-05-2009 00:04:38
น้องเวย์เนื้อหอมดีจริง ๆ ถึงคราวเจ้าไนท์ร้อนรนบ้างแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 02-05-2009 00:11:16
วู้วววววววว
สนุกสนานมากๆจ้า
ชอบเพื่อนๆมาก แซวแต่ล่ะที
แรงได้ใจค๊าบบบบบบ

ว่าแต่จะมีอุปสรรคใดผ่านมาอีกน๊อ
ความรักขอหนุ่มๆ (เอ๊ะรึไม่ใช่หนุ่ม อิอิ)
แต่จะว่าไป ไนท์ก็ยังไม่ได้บอกว่ารัก หรือรับเป็นแฟนกันเวย์นี่หว่า
เวย์สู้ๆนะ เชียร์อัพ

เป็นกำลังใจให้คุงไวท์ด้วยจ้า แล้วจะรอตอนต่อไปค๊าบบบ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 02-05-2009 01:34:28
 :haun4:

อ๊ากกกก

หลงรักไนท์แว้วววว 555+

รอตอนต่อไปอยู่นะคับบบ  :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 02-05-2009 02:49:57
เวย์ยังน่ารักเสมอ  :man1:

ชินเข้ามาก็หอมก็กอดเป็นใครก็หึงเนอะไนท์
คืนนี้โดนหนักแน่เวย์ หึหึ

แต่แอบกรี๊ดน้องชิน น่ารักอ่ะ อร๊ายย  :impress2:
อยากให้มีเมะแมนๆมาจีบน้องชิน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 02-05-2009 09:08:23
อิอิรอดูคืนนี้

 :z1:

โดนแน่ ๆ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 03-05-2009 13:22:20
รอ ฉาก เสียตัว ๆๆๆ




หื่น  ๆๆๆ    :oo1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 03-05-2009 15:08:01
ชอบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 03-05-2009 16:12:19


กรี๊ดดดดด

ตอนนี้เป็น FC น้องชิน  :-[



ฮ่าๆๆ  ปันใจได้รวดเร็วมาก !!!!

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 03-05-2009 19:34:27
กิ๊ส ๆ ๆมารอค๊าาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 03-05-2009 20:03:54
เหยยยยยยย
น้องชินโผล่ออกมาฉากเดียวเอาใจไปเต็มๆ ฮ่าๆ  :laugh:



คืนนี้จะโดนเยอะใช่มั้ยเนี่ยเวย์ ฮ่าๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 10 น้องรหัส
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 03-05-2009 21:11:59


ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย??

   ความเดิมตอนที่แล้ว  ยังจำกันได้ใช่ไหมครับหลังจากที่นายเอกหน้าตาหล่อ  หุ่นเท่  นิสัยดีอย่างผมห่างหายจากวงการไปหนึ่งเดือนเต็มๆ   - -  ฮ่าๆ  ความเดิมตอนที่แล้ว (..BY Zaza  ไม่เข้าใจมุก??  ยกมือขึ้น)   ก็ถึงตอนที่ทุกคนกำลังจะได้อุ้มหลานไงล่ะครับ ^^ 

   แป้ววว... ไม่ฮา??  อ่ะไม่เป็นไร  ไว้ขนมุก (เข้าข้างตัวเอง) มาเล่นใหม่  เล่นจนกว่ามันจะฮานั่นแหละ    หน้าด้านดีใช่ไหมนายเอกเรื่องนี้

   ทุกคนเห็นชื่อตอนแล้วใช่ไหมครับ  คุณคิดเหมือนที่ผมคิดไหมว่า  ทำไมชีวิตไอ้เวย์คนนี้มันไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งกับเขาสักที - -  ชอบมีเรื่องนู้นเรื่องนี้วิ่งเข้ามาทักทายให้ส้นเท้ากระตุกอยู่เนืองๆ  อ่าฮ้ะ!  ถ้ายังไม่คิด  อ่านตอนต่อไปนี้ แล้วคุณจะเริ่มเข้าใจกรรมเหนือกรรม   เวรเหนือเวรของผมครับ....ส่วนผม...ไปรอที่ทางช้างเผือกแล้วกัน  T^T

      ตกเย็น...หลังจากเทศกาลหวานกระชากไส้และมหกรรมเชียร์เพื่อนผลิตลูก (ไม่เข้าใจ  กรุณากลับไปอ่านท้ายตอนที่แล้ว)  ผม..ประธานที่ทีมบาสชายคณะเศรษฐศาสตร์   คณะที่มีนักบาสหล่อที่สุดในมหาลัย  ฮิ้วววว   ไอ้เรื่องเข้าข้างตัวเองน่ะ  ขอให้บอก  ไม่ต้องมีบท  ผมด้นสดๆให้เลย  ^^   เอาเป็นว่าทีมบาสของผมกำลังจะได้นักบาสฝีมือดีเข้ามาอีกคน  ฮ่าๆ  แล้วอย่างนี้เหรียญทองกีฬามหาลัยจะไปไหนเสีย    แต่ทว่า...ยังมีไอ้พวกมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำมาขัดขวางหนทางสู่แชมป์ของผมอยู่ครับ

“กูไม่เอา”  เสียงคนกล้า  ยกเว้นต่อหน้าเมีย ...ไอ้นุครับ
“กูด้วย”    เสียงไอ้คนกลัวหมาคาบกระดูกหวานๆ ไปแดก  ...ไอ้แชมป์
“ผมก็ไม่ยอมพี่”  เสียงไอ้รุ่นน้องที่ไม่มีสิทธิออกเสียง...ไอ้อ้น  ไอ้โอม

     “เชี่ย  ไอ้ชินมันเล่นบาสขั้นเทพ  กูรับรอง  พวกมึงยังจะมีปัญหาอะไรกันอีกวะ”  ไอ้ผมก็เริ่มฉุนตะหงิดๆ   ตอนนั้นพอเห็นฝีมือฝีตีน (อดีต) น้องรหัสผม  ไอ้พวกนี้ถึงกับอึ้ง  ตาโต  เฮแล้วเฮอีก  ไอ้ผมก็อาศัยความดี (ติดสินบนมันครับ  ให้มันขออะไรก็ได้อย่างหนึ่ง) ชิงตัวมันมาจากชมรมอื่นได้  ป็อบโคตรๆ ครับ ไอ้เด็กนี่   พวกมันเสือกมาทำตัวมีปัญหา  ไม่ยอมรับไอ้ชินกันซะอย่างนั้น

   “เชี่ยเวย์  หน้าตาอย่างมึงมันจะไปเข้าใจอะไร”
   “เออ  กูไม่เข้าใจโว้ยยย  ไอ้นุ  แม่ง  มันเรื่องอะไรกันวะ”

   “พี่เวย์  พี่ว่าไอ้เด็กใหม่เนี่ย  มันหล่อมะ?”  มึงไม่มีตามองรึไงวะ  ไอ้น้องโอม
   “เออ  หล่อ”
   “มากไหมพี่”
   “เออ  ก็มาก  ถามทำไมฟ่ะ”

   “แล้วพี่ว่า  ตอนไอ้ชินมันเล่นบาส  มันเท่โคตรๆ ไหม”
   “เออ  มึงไม่เห็นพวกผู้หญิงมานั่งกรี๊ดมันกันรึไง  ถามทำไมของพวกมึงเนี่ย”

   “ก็นั่นแหละพี่  เหตุผล  ถ้าพี่ยอมให้มันเข้าชมรมนะ   สาวๆ ก็หันไปหามันกันหมดดิ  แล้วพวกผมไม่แห้งเหี่ยวเฉาตายกันหมดรึไง  ใช่ไหมพวกเรา”
   “ใช่”   อย่างพร้อมเพรียง

   “ไอ้พวกประสาท”   ผมสบถแล้วก็ทำการเซ็นต์อนุมัติให้ไอ้ชินเข้าชมรมต่อหน้าต่อตาพวกมันทันที  ท่ามกลางเสียงโหยหวนร้อง ‘ไม่ยอมๆ’  ของไอ้สมาชิกที่กำลังทำหน้าเหมือนจะขาดใจตาย  นี่กูรับพวกมันเข้ามาได้ไงวะ???

   “โหย  พี่นะพี่  จำไว้เลย  ถ้ามันแย่งสาวๆ ผมไปหมดเมื่อไร  พี่กับพี่ไนท์ได้ชดใช้แน่”  ไอ้อ้นว่าพร้อมทั้งชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ  แล้วมันก็สะบัดตูดจากไป  อ้าว?  นี่กูทำอะไรผิด  แล้วไอ้ไนท์มันมาเกี่ยวอะไรด้วยวะ

   “ใช่พี่  เตรียมตัวเตียงหักได้เลย” 

   “เตียงหักอะไรของมึง  ไอ้เชี่ยโอม”  ผมตะโกนไล่หลังมันไป  พร้อมกับรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นริ้วๆ ขึ้นมาตามลำคอ

   “ฮ่าๆๆ  เป็นไงล่ะมึง  ลามไปเกลื้อนเลยใช่มะ  ข่าวร้อนข่าวสดของกู”  อ๋อ  เมิงนี่เอง  ไอ้ตัวการ   ไอ้ตัวปล่อยข่าว  ไอ้เพื่อนชั่ว

   “เชี่ยนุ  อย่าอยู่เลยมึง” 


   “เดี๋ยว”  ร่างกายที่กำลังติดสปีดตีนไล่ไอ้ตัวปล่อยข่าวของผมหยุดชะงักลง  เมื่อมือของใครบางคนเอื้อมมารังร่างผมเข้าไปแนบชิด

   “อ่ะ..อะไรวะ”
   “ทำไมต้องมี ‘วะ’    พูดให้มันน่าฟังหน่อยไม่ได้รึไง”   พูดเฉยๆ ไม่พอ  ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้กูอีก

   “ไม่ต้องเลยเมิง  ออกไปห่างๆ กูหน่อย”  ผมบิดตัวออกจากมือมัน  ไม่ใช่อยากจะเล่นตงเล่นตัวอะไรหรอกครับ  ถ้าไม่ใช่ว่าไอ้เชี่ยนุมันไปโพนทะนาอะไรที่ผมยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทันไว้  ผมคงจะไม่นึกระแวงขนาดนี้   ที่ทำไปนี่เพราะเป็นห่วง ‘มัน’ หรอกนะ   ไอ้การที่ใครจะมองผมยังไง  ผมไม่แคร์อยู่แล้ว  แต่กับไอ้ไนท์  ผม..ยังไม่มั่นใจ   ไม่แน่ว่า  ถ้ามันรู้  มันอาจจะเป็นคนถอยห่างจากผมเองก็เป็นได้  แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ  ผมก็ไม่มั่นใจนักหรอกว่าจะทนไหว

   “อย่าทำท่าอย่างนี้  กูไม่ชอบ”  มันมองผมอย่างดุดัน  เหอะ  อยากดุกูก็ดุไป  อยากว่ากูก็ว่าไป  ตราบใดที่เมิงยังดุยังว่า  กูก็ยังโล่งใจล่ะว้า

   “เออ  ไม่ทำๆ  ไปๆ  ช่วยซ้อมบาสให้พวกตัวจริงด้วย  เดี๋ยวกูต้องไปจับฉลากเฮงซวยของไอ้ประธานบ้าๆ บอๆ นั่นอีก  อ๋อ  แล้วก็ถ้าไอ้ชินมันมา  ฝากมันด้วยนะ”  ไอ้คนที่ผมฝากมันขมวดคิ้วขัดใจนิดนึง  ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยๆ

   “หึ  ได้  เดี๋ยวกูจะรับน้องใหม่ให้เอง”   เห็นหน้ายิ้มเย็นๆ ของมัน  แล้วก็พาลเป็นห่วงรุ่นน้องขึ้นมาตงิดๆ   ก็ไอ้หน้าอย่างนี้แหละที่หาเรื่องวอนตาย (ให้ชาวบ้าน) เขามาแล้วหลายครั้ง  ล่าสุดก็ตอนที่มันเข้าไปช่วยเด็กอาชีวะที่ถูกเด็กเทคนิครุม (เด็กดีอย่าทำตามนะจ๊ะ)  รุมเขาเสร็จก็ยิ้มอย่างนี้  ไอ้ผมก็ถามว่า  รู้จักเขาเหรอ  ถึงเข้าไปช่วย   ใครจะไปคิด  มันดันบอกว่า  หน้ายังไม่เคยเห็น  ผมก็แอบดีใจนิดนึง  นึกว่ามันเข้าไปช่วยเพราะสงสาร  ที่ไหนได้มันเสือกตอบมาว่า  ไอ้เด็กเทคนิคคนหนึ่ง  เมื่อกี้เหยียบตีนมันแล้วไม่ขอโทษ  พอดีเจอไอ้พวกนี้  เห็นเป็นสถาบันเดียวกัน  เลยฝากสั่งสอนไปนิดๆ หน่อยๆ  (ไอ้นิดๆ หน่อยๆ ของมึงนี่  กูว่าอย่างต่ำๆ ต้องนอนสักเดือนแหละ  ถึงจะพอเดินได้)  - -   กูจะจำไว้  ว่าอย่าไปคาดหวังอะไรจากคนอย่างมึง

   คำถามกร่อนปัญญา : ถ้าคุณเป็นผม  คุณจะทำอย่างไร
1.   ไม่ต้องทำอะไร  อยู่เฉยๆ  ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป
2.   ยิ้มรับ  ก็ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ผมต้องการมาตั้งแต่แรก
3.   อย่าเข้าใกล้มันมากเกินไป  ต่อหน้าคนอื่นเราก็เป็นแค่เพื่อนกัน
4.   ขอบใจไอ้นุ ด้วยตีน - -

แปลกไหม  ถ้าผมจะกังวล  ถ้าผมจะระแวง  มันอาจจะดูไม่เป็นลูกผู้ชายนักกับการคิดเล็กคิดน้อยกับไอ้แค่ข่าวลือพวกนี้   แต่สำหรับผม  ผมคงต้องยอมรับว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะยอมเชื่อในความสัมพันธ์ที่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร  ความกังวลของผมมันมีเหตุผล  และเหตุผลนั้นก็คือ  ตัวมันนั่นแหละ   ไอ้ไนท์...ภายนอกมันอาจจะดูเป็นคนเข้มแข็ง  เฮฮา และสารพัดจะกวนตีนชาวบ้านเขา  แต่จุดเปราะบางเพียงจุดเดียวของมัน  ทำให้ผมไม่กล้าจะก้าวข้ามเส้นๆ นี้ไป  ผมกลัวว่า ถ้าเราเป็นมากกว่าเพื่อนกันจริงๆ  ไอ้ไนท์มันอาจจะต้องเจ็บปวดอีกครั้งเพราะผม  ถึงแม้มันจะไม่พูดออกมาก็ตาม   ถ้าเพียงแต่พ่อของมันจะไม่.....

“ระวัง!!” 
“โอ๊ยย”  รู้ตัวอีกทีผมก็นอนล้มอยู่บนลำตัวของใครบางคนโดยมีอ้อมแขนนั้นกอดรัดไว้แน่น
“อย่าเหม่อตอนที่กำลังข้ามถนนสิ”  เสียงนั้นฟังดูกราดเกรี้ยว  แต่ทว่ากลับแฝงความอบอุ่นและเป็นห่วงจนคนผ่านประสบการเฉียดตายอย่างผมไม่กล้าขยับตัว
“พี่นัท” ผมครางเสียงอ่อย

“เฮ้อ  อย่าทำให้เป็นห่วงนักสิ  พี่ไม่เจอเราตั้งหลายวัน  อุตส่าห์ได้เจอทั้งที  ก็เห็นเราเกือบถูกรถชนเนี่ยนะ”  ผมยิ้มน้อยๆ  ขณะที่คนด้านล่างพยุงให้ลุกขึ้น  แล้วก้มดูร่างกายผมเป็นการใหญ่  ทั้งที่ตัวเองน่าจะเจ็บกว่าแท้ๆ

“ผมไม่ได้เป็นอะไรน่า  หัวแข็งกว่าถนนนี่เยอะ”   
“ไม่ต้องมายิ้มเลย  ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว  ถ้าพี่มาไม่ทัน...”  น้ำเสียงนั้นดูหวั่นวิตก  - -  จะเครียดอะไรกันนักหนาครับพี่  ก็ถ้าพี่มาไม่ทัน  ผมก็จะได้นอนเหล่นางพยาบาลไงครับ ^^  เอาเป็นว่าความคิดนี่อย่าพูดออกไปจะดีกว่า

“อูย”
“เป็นอะไรพี่  ขอผมดูหน่อย”  ผมจับแขนขวาของคนที่เผลอซี้ดปากแสดงความเจ็บปวดขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ   มันเต็มไปด้วยแผลถลอกลึกอยู่หลายแห่ง  โดยเฉพาะบริเวณข้อมือดูจะหนักกว่าเพื่อน  เป็นหลุมลึกอย่างกับอุกกาบาตชนโลก - - (มันใช่เวลามาล้อเล่นไหมเนี่ย)
“ไม่เป็นไรครับ  คันๆ ^^”
“คันๆ  บ้านพี่ดิ  อยากให้ผมช่วยเกาไหม”
“ฮ่าๆ  ไม่เป็นไร”
“เจ็บก็บอกว่าเจ็บสิครับ  มาช่วยผมแล้วเจ็บอย่างนี้  ทีหลังปล่อยให้รถชนผมไปเลยดีกว่า” 
“พี่ทำไม่ได้  นายก็รู้อยู่”  ดวงตาคู่นั้นฉายแววมั่นคงอย่างที่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้  เจ้าตัวก็คงไม่พ้นโดดเข้ามาช่วยผมอยู่ดี  เอาล่ะครับ  อย่าเพิ่งมาสร้างโลกส่วนตัวกันตอนนี้  ที่สำคัญคือพาไอ้คนอวดเก่งตรงหน้านี่ไปหาหมอซะก่อน

“ไปพี่  ไปโรงพยาบาลกัน”  ว่าแล้วผมก็ลากแขนคนที่กำลังยืนอมยิ้ม (มันยิ้มได้อย่างนี้ตลอด) ไปที่รถอย่างรวดเร็ว  จนลืมไปว่า

“เฮ้ย!  ผมไม่ได้เอารถมาอ่ะ”  อายชิบหายเลยกู  หน้าแตกเว้ยๆ  ก็ทุกวันนี้ผมมาพร้อมไอ้ไนท์อ่ะ  จะไปมีรถพร้อมใช้งานได้ไงล่ะครับ
“ฮ่าๆ  แล้วลากพี่เดินมาซะไกล”  ยังมาขำอีกนะเฟ้ย  เดี๋ยวปล่อยให้เดินไปเองเลยดีไหมฟ่ะ - -  ชักเคือง
“- -  เดี๋ยวผมโทรเรียกไอ้ไนท์ก่อน  พี่รอแป๊บ”
“ไม่ต้อง!  ไปรถพี่นี่ล่ะ  เดี๋ยวพี่ขับเอง”  แม่ง  ปฏิเสธทันควันเชียวนะ  ไอ้เราก็อุตส่าห์จะใช้โอกาสนี้เชื่อมความสัมพันธ์ซะหน่อย  เป็นคนกลางมันอึดอัดเฟ้ย  ไม่เข้าทางเราเลย
“พี่จะขับยังไง  แผลเต็มมือไปหมดอย่างนี้  แต่จะให้ผมขับปอร์เช่พี่  ผมขอบายดีกว่า” ถ้าเกิดผิดพลาดทางเทคนิด  ผมคงต้องตัดไต  ตัดม้ามมาใช้พี่แล้วล่ะ 

“สบายใจได้  คันนี้เวย์อาจจะอยากขับ”


จริงของพี่แกครับ  ทันทีที่เห็นรถที่แกพูดถึง  ผมก็ออกอาการกระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที  ฮาเล่สีดำมันเงาจอดนิ่งล้อแสงแดดจนเป็นประกาย  โว้ยย   แสบตาเว้ย  มันดึงดูดผม  ให้ขยับเข้าไปใกล้  แล้วลูบๆ คลำๆ มันอย่างลืมตัว  งือ  หลงใหลๆ  ฮ่าๆ  ไอ้ไนท์มันบอกผมว่า คนอย่างผมแค่ได้เห็นรถสวยๆหน่อย  ไอ้ที่เคยโกรธ อะไรที่กำลังจะพูด  ก็มีอันลืมไปหมด  ฮ่าๆ  ช่วยไม่ได้ครับ  ไอ้เรามันคนบ้ารถซะด้วย   ผมว่ามันคล้ายๆ กันนะ  เวลาผู้ชายเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสวย  อยากมอง  อยากสัมผัส  ผมเวลาเห็นรถสวยๆ ก็ออกอาการเดียวกันนั่นแหละ

“เห็นรถสวย  ลืมคนป่วยเลยนะครับ”  คนแขนเดี้ยงเอ่ยขำๆ แล้วโยนกุญแจให้ผมที่รับได้อย่างสวยงาม

“ฮ่าๆ เชิญคร้าบ  คนป่วย  ด่วนพิเศษสู่โรง’บาลพร้อมแล้วครับ”  ประโยคนี้มันดูเป็นลางทะแม่งๆ รึเปล่าครับเนี่ย  ฮ่าๆ  เอาเป็นว่าทันทีที่คนป่วยขึ้นมาซ้อนพร้อมทั้งใช้มือข้างที่ไม่เจ็บกอดเอวผมไว้  ผมก็กลายเป็นสารถีจำเป็นไปโดยปริยาย

เอ??  รู้สึกว่าผมจะลืมทำอะไรไปสักอย่างรึเปล่าครับเนี่ย  (ลืมไปจับฉลากไงโว้ยยย)

หลังจากที่เราออกจากโรงพยาบาลโดยที่ไอ้คนที่ปากว่าไม่เป็นไรๆ มีผ้าสีขาวผืนใหญ่พันทั่วตลอดทั้งแขนขวาเดินทำหน้ายุ่งๆ ตามหลังผมมา  ไอ้เราก็นึกว่าเจ็บแผล  ที่ไหนได้ถูกนางพยาบาลลวนลาม  ให้ตายเหอะพี่  เดี๋ยวตอนเป็นหมอจะโดนมากกว่านี้อีกไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า

“เลิกทำหน้ายุ่งซะทีเหอะน่า  แค่โดนจับนิดๆหน่อยๆ ไม่สึกหรอไปเท่าไรหรอกครับ”
“ไม่โดนกับตัว  ไม่เข้าใจหรอกน่า”  แกดูจะพูดกับผมแบบสนิทสนมมากขึ้น  ไอ้คำลงท้ายแบบสุภาพๆนั่นก็มีให้เห็นน้อยลงทุกทีแล้ว  เรื่องน่ายินดีจริงๆ
“โหยย  ก็ออกจะน่าลอง”  ผมไม่เกี่ยงนะ  ถ้าจะมีสาวๆ มาหาเศษหาเลยกับร่างกายของผมมั่ง  แบบว่า ความสุขเล็กๆ ไงครับ
“กับผู้หญิงคราวแม่เนี่ยนะครับ”
“อ้าว  งั้นเหรอ  ฮ่าๆๆ  ผมขอถอนคำพูดแล้วกัน”
“ใช่ไหมล่ะ   อีกอย่างนะ  ตอนนี้มีคนบางคนทำให้พี่อยากเลิกมองผู้หญิงซะแล้ว”
 กึก! ผมชะงักเล็กน้อยกับคำพูดกำกวมและสายตาระยับของแก  ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน  จะว่าไงดีล่ะ  มันก็ไม่ใช่ไม่รู้นะ  แต่ว่าผมอยากแกล้งทำเป็นไม่รู้ตลอดไปจัง  ถ้าทำได้น่ะนะ  แต่ถ้าวันไหนที่แกพูกับผมตรงๆ  ผมก็จะไม่เลี่ยงอีก  ถึงวันนั้นถึงแม้อาจจะต้องเสียพี่ชายดีๆ ไปอีกคนหนึ่ง  แต่ผมก็ไม่มีทางทรยศหัวใจตัวเองได้   ฮ่าๆ  หมู่นี้ไอ้เวย์มันน้ำเน่าตลอดเวลาเลย  ว่ามะ?

“เวย์”  เสียงนั้นดูหวานชอบกล
“ครับ”  ถ้าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้นะพี่  ขอเวลาผมตั้งตัวก่อน
“ค..คือว่า”  คนตรงหน้ายื่นมือข้างที่ไม่เจ็บมาสัมผัสแก้มผมอย่างแผ่วเบา  โอ๊ยย  เจ้าป่าเจ้าเขา  หัวใจจะหลุดจากขั้วแล้วขอรับ
“ฮ..ฮะ”
“พ่ะ..พี่  เอ่อ”  แก้มขาวๆ นั้นเริ่มแดงระเรื่อ  ไม่ต่างจากแก้มของผม   เอาไงดีวะกู  จะพูดยังไงแกถึงจะไม่เสียใจวะ  แม่งง  อยั่น้นมันจะไปทำได้ยังไงเล่า  เอาเป็นว่า  เสียใจน้อยหน่อยก็ได้วะ  หรือว่า...แม่ง  เอาวะ  ไหนๆก็จะจเบแล้ว  ทีเดียวหนักๆ แล้วจบเลยดีกว่านะพี่

“พี่เจ็บแผล  ไปกินไอติมกันเหอะ”
.
.
.
คนเจ็บแผลกลั้นใจพูดเต็มที่  แก้มที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงเข้าไปใหญ่  ไอ้หมอบ้า! กะไอ้แค่จะกินไอติมจะทำหน้าตื่นเต้มแถมอายขนาดนั้นทำไมล่ะฟ่ะ  แม่งเอ๊ย  ไอ้หมอปัญญาอ่อน  ไอ้  ไอ้  โว้ยยยย   สงสัยอยู่ไหมครับว่าหลังจากที่คนหมอปอยอออมันลงทุนสร้างโลกหวานแหววกับผมแล้วทำลายไปต่อหน้าต่อตา  ตอนนี้ผมกำลังทำหน้ายังไง??  จะทำหน้ายังไงได้ล่ะครับ  นอกจาก...ทำหน้าเมื่อยอยู่เนี่ย  แม่ง  ทำกันได้   (พี่หมอเขาไม่ได้ทำอะไรนะ  แกคิดไปเองไม่ใช่รึไงยะ -*-)

“ทำหน้าอย่างนี้ไม่อยากไปใช่มะ  งั้นพี่ไปส่งเรากลับบ้านก็แล้วกัน”  น้าน  กลายเป็นว่า กูผิดอีก  ฮ่วย    ผมส่ายหน้าปลงๆ  นี่ก็อีกคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้  เล่นซะผมอยากจะขุดหลุมใหญ่ฝังตัวเองซะเลย  หน้าแตกเป็นรอยที่เท่าไรของัวนแล้วฟ่ะกู

“ครับ  ก็ดี  เพราะยังไงผมก็ไม่มีรถอยู่แล้ว”  ว่าแล้วผมก็เดินนำแกไปที่รถ  ก่อนจะหันกลับมาเห็นใบหน้าเศร้าๆ เหงาๆ เหมือนน้องหมาของคนที่เดินหมดแรงตามหลังมา  แล้วพูดประโยคที่ค้างไว้ของตัวเองให้จบ

“หลังจากที่พี่เลี้ยงไอติมผมแล้ว”  น้องหมาที่กำลังหูตก  เงยหน้าขึ้นมาพร้อมด้วยรอมยิ้มสดใส  แล้วก้าวพรวดๆมากอดคอผมทันที
“ฮ่าๆ  อยากกินฟรีก็ไม่บอก  เก๊กอยู่ได้คนเรา”  ดูมันพูดครับ - -  โว๊ยยย  ทำไมเดี๋ยวนี้คนที่จับไต๋ผมได้มันมีมากขึ้นจนน่ากลัวอย่างนี้วะ  ชิส์  ช่างแม่งแล้ว  ถึงยังไงคนชอบของฟรีรองจากรถสวยๆ อย่างผมก็ไม่หน้าบางพอจะปฎิเสธใครอยู่แล้ว ^^


“กาแฟมอคค่ากับเค้กรสส้มสองที่ครับ”  เอ้า!  ไอ้สองอย่างที่พี่สั่งมาน่ะ  อันไหนมันเรียกว่าไอศครีมวะ
“ไม่กินไอติม??”
“เปลี่ยนใจแล้ว  พี่อยากระลึกความหลัง” 
“หืม?”
“ก็ตอนเจอกันครั้งแรก  พี่เห็นนายนั่งกินมอคค่ากับเค้ารสส้มอยู่นี่  ชอบกินเหรอ”  โห  ความจำ  สมองทำด้วยอะไรครับพี่  ขนาดผมเมื่อคืนใส่อะไรนอน  ยังจำไม่ได้เลย  (มึงไม่ได้ใส่  ไอ้เวย์  กูจำได้  /ไนท์)

“โห พี่  จำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“^^  แล้วสรุป  ใช่ของชอบรึเปล่า”
“ก็ชอบ  ไอ้ไนท์มันสั่งให้กินจนชิน  จากเฉยๆ ก็เลยกลายเป็นชอบไปตอนไหนไม่รู้”  เอ๊ะ  เวร  ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย  เอาเหอะ  น้ำที่หกไปแล้ว  แก้ไขอะไรไม่ทันซะแล้ว  ผมเห็นแกชะงักไปครู่หนึ่ง  แววตาน่ากลัวที่ผมไม่เคยได้เห็นปรากฎอยู่เสี้ยววินาที

“เค้กช็อกโกแลต”
“หืม?”
“วันนี้เปลี่ยนมากินของที่พี่ชอบสักวันได้รึเปล่า”   
“ถ้าแค่ของล่ะก็  ได้ครับ”  ดูจากสีหน้าแกแล้ว  ผมว่าแกเข้าใจนะว่าผมหมายความว่ายังไง  ของน่ะ  มันพอจะเปลี่ยนกันได้  แต่ความรู้สึก  มันเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆ หรอก  โดยเฉพาะความรู้สึกที่ผมสั่งสมมานานขนาดนี้

“นี่นายจะไม่ให้โอกาสพี่บ้างเลยรึไง”  เสียงพึมพำเบาๆนั้น  เบาเพียงพอที่ผมจะทำเป็นไม่ได้ยิน  แล้วหันไปสั่งเค้กช็อกโกแลตอีกสองที่

อย่าเพิ่งไปรักใคร  อย่าเพิ่งแอบไปชอบใคร  อย่าเพิ่งมองใครนอกจากฉัน  ก็ฉันรับประกัน  อยู่ในช่วงปรับปรุง.....

“ฮัลโหล”  สังเกตไหมครับว่าทำไมผมรับโทรศัพท์ดี  โดยไม่มีการกวนตีนแต่อย่างใด
“มึงอยู่ไหน”
“ข้างนอก”
“ที่ไหน  เดี๋ยวกูไปรับ  จะได้ไปเลี้ยงไอ้ชินมันด้วย”  เฮ้ย  อะไรวะ  กูออกมาแป๊บเดียว  จะมีเลี้ยงรับน้องกันซะงั้น  พลาดเรื่องอะไรรึเปล่าวะเนี่ย
“ไม่ต้องๆ  เจอกันที่ร้านเลยดีกว่า”
“มึงจะมายังไง  ก็มึงไม่มีรถ”
“ตอนนี้กูมีแล้ว”
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับกู  อยู่กับใคร  ที่ไหน”  ผมถอนหายใจ  ก่อนจะมองหน้าคนที่มองผมอยู่เช่นกัน

“อยู่ที่ร้าน....  กับพี่นัท”  ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ   อย่าเงียบเฟ้ย  กูใจไม่ดี
“ส่งโทรศัพท์ให้มัน”
“เฮ้ย  อะไรของมึง  ไนท์  กูพาพี่เขามาโรงพยาบาลเฉยๆ”
“เถอะน่า  เดี๋ยวกูคุยเอง”  ผมลังเลเล็กน้อย  แต่ก็ยอมส่งโทรศัพท์ให้อีกคนแต่โดยดี  แกดูแปลกใจ  แต่ทีนทีที่ได้ยินเสียงคนในโทรศัพท์  คิ้มเข้มก็ขวมดเป็นปมเข้าหากันจนผมนึกห่วง

“เดี๋ยวพี่มานะ”  พูดแค่นั้นแล้วก้หันหลังเดินออกจากร้านไปพร้อมโทรศัพท์ของผม  ไอ้ผมก็นั่งมองผ่านกระจก  เห็นพี่นัทยืนตัวตรง  ในมือถือไอ้เครื่องสื่อสารขนาดจิ๋ว  ปากก็โต้ตอบบทสนทนากับอีกคนที่ปลายสาย  ดูท่าเค้กสี่ชิ้น  กาแฟอีกสองถ้วยมื้อนี้คงจะเป็นหมันซะแล้ว  แต่..จะยังไงก็ตาม  อย่าชิ่งแล้วทิ้งหนี้ไว้ให้ผมเคลียร์ก็แล้วกัน

สิบนาทีโดยประมาณ  ร่างสูงของคนที่ผมมองอยู่ตลอดเวลา (ระหว่างทานเค้ก  เดี๋ยวเสียของครับ  ไม่คุ้ม  เพื่อแกชิ่งไม่จ่ายจริงๆ - -)  ก็กลับเข้ามาพร้อมทั้งยื่นมือถือคืนให้

“ไปกันเถอะ  เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดที่ห้องพี่  เพื่อนๆ เรารออยู่ที่ร้านแล้ว”  อ้าวเวร  นี่มันหมายความยังไงล่ะครับพี่



---------------------


TBC>>>>   ขอบคุณทุกรีพลายจ้า  (ประโยคน้ำเน่า  แต่น่ารักชิมิ)

อิอิ  มาต่อแล้วนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 03-05-2009 21:28:45
 :z13: ขอบคุณที่มาต่อค่ะ

พี่นัทกับไนท์คุยอะไรกันน้า แต่คาดว่าเวย์จะหนักใจก็งานเนี้ย
ตาหมอรุกแบบเนียนๆเลยแฮะ
ระวังเตียงหักกันเน้อ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 03-05-2009 21:31:15
แวํบ ๆๆ


รีบมาอ่าน เลยๆๆๆ    :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 03-05-2009 21:40:27
เอ่อ...พี่หมอค่ะ...กินไอติมเนี่ยจะทำให้หายเจ็บแผลหรอค่ะ...อิอิ :m28:
แต่อยากรู้จริงๆว่าพี่หมอคุยอะไรกะไนท์เนี่ย.... :m21:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 03-05-2009 22:34:27
ไม่อาวววววววววว

ไม่เอาคำขอบคุณ

 :angry2:



เอาเปนมาต่ออีกยาวๆ บ่อยๆ ได้ป่ะ ตัวเองงงง

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 03-05-2009 22:36:08
งง

พี่นัทออกไปคุยอะไรกะนัทอ่ะเนี่ย

ชักสงสัย

หึหึ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: poii ที่ 03-05-2009 22:52:31
ฮิ้วๆๆๆ  เจ้าไนท์เอ๊ย  อย่าปล่อยให้เวย์รอนานนักนะ

เดี๋ยวหมา(หมอ) ค.ป.ด. นะเฟ้ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-05-2009 23:05:56
เจ้าไนท์มันไปตกลงยังไงกะพี่นัทหว่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 04-05-2009 00:18:45
งานเข้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 04-05-2009 00:20:40
คุยไรกันหว่า อยากรู้ อยากรู้!!!
หวังว่าคงไม่มีเลือดตกยางออกน๊า...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 04-05-2009 00:35:54
หวังว่าคงไม่เป็นเรื่องนะ
 :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 04-05-2009 00:47:48
เจ้าไนท์จะได้พิสูจน์ใจตัวเอง  หาคำตอบให้หัวใจได้เร็ว ๆ หล่ะทีนี้
สงสารน้องเวย์อดทนมาตั้งสามปีแล้ว  ..... ขอบคุณคนเขียนค่ะ
ส่งกำลังใจให้นะคะ   :L2: 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 04-05-2009 02:31:22
^^ เชียร์พี่หมอออ

พี่หมอเรารักเดียวใจเดียวไม่ไปมั่วววว(มั้ง 555)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 04-05-2009 02:44:52
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 04-05-2009 05:34:01
 :m31:

ไนท์พูดไรกะหมอของผม หึ๊

เด๋วมีๆ :beat:  :z6:

รอตอนต่อไปอยู่นะค๊าบบบบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 04-05-2009 09:18:50
ไนท์คุยอะไรกับพี่นัทเหรอ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-05-2009 10:12:22
งานนี้มีเคลียร์

เอิ้กๆ  o18

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 04-05-2009 12:26:18


พี่นัทกะไนท์ .... ไม่ใช่พี่น้องกันช่ะ ??


เอ๊ะ ...





นั่นล่ะ
ชอบน้องชินนนนน

^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 04-05-2009 16:52:47
 :m31: คุยอารายกานนนนนนนนนนนน


อยากรู้อะ

แล้วน้องชินโดนแกล้งอะไรเนี่ย  :m28:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 04-05-2009 20:17:29
 :call: :call:
ค้างได้อีก อยากรู้ว่าไนท์พูดอะไรกับนัท มาปล่อยให้เราค้างได้ไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: p.w. ที่ 04-05-2009 22:38:05
สนุกมั่กมากเลยเพิ่งเข้ามาอ่าน

ชอบ นุ กะ พี่นัท จัง

แต่ก็ชอบเวย์มากที่สุดอ่า  เหอๆ

สู้ๆ นะ   เป็นกำลังใจให้  อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 04-05-2009 23:14:48
เข้ามาตามชมอย่างต่อเนื่องค๊าบบบ
ตอนนี้มีเวลาตามต้องตามก่อน
เด๋วยุ่งๆ ข้าน้อยคงจะไม่ค่อยได้เข้ามาอีก แง๊ๆๆๆ

บอกอีกครั้งว่าสนุกมากๆจ้า
คนเขียนสู้ๆๆๆๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 05-05-2009 00:07:21
มาต่อไวไว นะค๊าาา ^^

ชอบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 05-05-2009 04:21:27
พูดอะไรก๊านนน  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 05-05-2009 04:25:27
สงสัยพี่นัทกับไนท์จะประกาศสงครามแย่งเวย์กัน 

รออ่านตอนต่อไปนะจ้ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 05-05-2009 11:55:56
รีบมาต่อนะคับหนุกมาก :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 11 ความวัวไม่ทันหาย?
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 05-05-2009 20:55:38



ตอนที่ 12  ท้าชน

   ในชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมาของไอ้เวย์ไม่เคยมีครั้งไหนรู้สึกไม่อยากอาบเหล้าเมานารีขนาดนี้มาก่อน  ไอ้ลางสังหรณ์ที่นานทีปีหนมันจะโผล่มาสะกิดหัวใจสักครั้งของผม  รู้สึกว่าวันนี้มันจะขยันทำงานให้ผมจิตตก  เกรงว่าเหล้าไม่ได้ลิ้ม  นารีไม่ได้ลอง  อาจจะมีกองยำตีนมาประเคนกันถึงที่ได้  แล้วไอ้คนที่จะซวยน่ะ...มันคงไม่พ้นผมอีกล่ะครับ  อ่อ  ส่วนเฮียต้า  ไม่ต้องไปห่วงแกครับ  ร้านเฮียแกไม่เคยมีใครกล้ามีเรื่องวิวาทแจกบาทากัน  ก็เฮียผมน่ะมันนักเลงเก่า...ขาใหญ่กลับใจของแท้เลยครับ

   “เฮ้ย!!  พระเอกของงานมาแล้วเว้ย เอ๊ย  หรือว่ามันจะเป็นนางเอกวะ  มาเลยนั่งนี่เลยมึง  กูรอดูอยู่นานล่ะ”  ไอ้นุอ้าปากปล่อยหมาทันทีที่ผมเดินนำคนหน้ายุ่งมาถึงโต๊ะประจำของพวกผม  ดูจากเศษถั่ว  กับแกล้ม  แล้วก็ขวดเหล้าเปล่าๆที่วางระเกะระกะอยู่  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันคงล่วงหน้าผมไปไม่ใช่น้อยแล้ว

   “รอดู  ดูอะไรของมึงวะ”  ผมถามหลังจากนั่งลงข้างไอ้คนโทรตาม  โดยมีพี่นัทนั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆ  ส่วนไอ้คนโทรจิกผมมาน่ะเหรอ  เริ่มออกลายวอนตีนโอบไหล่ผมทันที  จากนั้นมันก็อุตส่าห์สงเคราะห์ส่งแก้วเหล้าในมือมันให้ผม   - - ทำไมกูต้องแดกแต่ของเหลือทุกทีเลยวะ   

   “กูก็รอดูศึกชิงนายไงวะ”
   “พรวดด!!”  คำตอบของมันเรียกเหล้าจากปากผมได้เป็นอย่างดี  ไอ้ชิบหายเอ๊ย  พูดเอี้ยไรไม่เคยดูเวลาร่ำเวลาลา  หาเรื่องให้เพื่อนมึงโดนดีแท้ๆเลย

   “แดกตีนกูก่อนดีไหม  เอี้ยนี่  พูดหมาๆ”  ปากผมเริ่มทำงานสนองคุณนายโดยการตอบโต้ได้เองโดยอัติโนมัติ  จากนั้นก็เริ่มแนะนำพี่นัทให้กับผู้ร่วมเมา  ก็ไอ้พวกชมรมบาสทุกคนนั่นแหล่ะครับ  งานนี้สาวๆ ไม่มีเอี่ยว

   “ตกลงพี่เวย์จะมีชู้เหรอครับ”
   “พรวดด!!  แค่ก  แค่ก”  ไอ้น้องเนมมันถามกลางปล่องพร้อมทำหน้าโคตรแบ๊ว  ประมาณว่า ผมไม่รู้จริงๆ  ช่วยบอกผมหน่อยเถอะครับ  เล่นเอาผมต้องเสียดายเหล้าอีกรอบ  เอี้ยเอ๊ย  ไม่ใช่ขวดละบาทสองบาทนะเว้ย  เท่านั้นยังไม่พอเพราะคำพูดเดียวของมันทำให้ผมงานเข้า  ไม่ใช่อะไรหรอกครับก็ไอ้สองคนที่นั่งขนาบข้างผมอยู่น่ะ  มันดันแย่งกันลูบหลังให้ผมตอนที่สำลัก  ต่างคนต่างชะงัก  แล้วแทนที่มันจะถอยออกไปสักคนหนึ่ง  กลายเป็นว่า ลูบตรงไหนได้แม่งก็ลูบไว้ก่อน  แถมแรงไม่ใช่น้อยๆ ด้วย

   “โอ๊ย  เจ็บนะเว้ย”    แม่ง  มึงจะช่วยกูหรือจะฆ่ากูกันแน่วะเนี่ย  ไม่ช้าแรงสัมผัสกลางหลังของผมก็หายไป  แต่ไอ้บรรยากาศมาคุกลับเพิ่มขึ้นมาแทน

   “เออ  แล้วไอ้ชินอ่ะ  มันไปไหนวะ  ไหนบอกกูว่ามาเลี้ยงต้อนรับมันไง”  เอาว่ะ  กอบกู้บรรยากาศสุดชีวิตครับ  กูคิดออกแค่นี้แหละ

   “ถามไมวะ  แค่สองคนกูก็หนาวชิบหายแล้วเนี่ย”  ไอ้สาด  ไอ้ไม่มีสมอง  ไอ้  ไอ้  แม่งเอ๊ย  แทนที่จะช่วยกันทำมาหากิน   เสือกเติมเชื้อไฟให้กูซะงั้น  ไอ้นุ  ไอ้เวรตะไล

   “เดี๋ยวเมิงจะเจอตีนกูแน่”

   “มันออกไปเอาของ  เดี๋ยวก็มา”  ไอ้ไนท์ว่า แล้วถือโอกาสฉกแก้วเหล้าในมือของผมไปเป็นของตัวเอง  ทีหลังไม่ต้องเสือกยกอะไรให้กูเลยนะ

   “ใครชงให้มึงวะ  เข้มชิบ”   ไอ้สาด  ก็ไอ้คนไหนมันยื่นมาให้กูตั้งแต่ตูดยังไม่ได้แตะเก้าอี้ล่ะฟะ   ผมมองหน้ามันอย่างปลงสังเวช   แต่พอมันหันมาสบตาเท่านั้นแหละ  รีบยิ้มแหยๆ ออกไปก่อนเลย

   “ไอ้แชมป์  เติมโซดากับน้ำแข็งให้มันหน่อย”   ไอ้คนชงมันหันมาสบตาผม  ก่อนจะส่ายหัวอย่างระอา  กูรู้  ไม่ต้องมาสมเพชกูที่มีพ่อมาคุม 

   “เวย์  กินอย่างอื่นบ้าง  อย่ากินแต่เหล้า  เดี๋ยวปวดท้อง”  คนที่นั่งคุยกับไอ้เป้และน้องเนม อยู่สักพัก  หันมาดุเบาๆ ตามแบบฉบับว่าที่นายแพทย์   แล้วเลื่อนจานหมูมะนาวที่อยู่ข้างหน้าตัวเองมาให้  แหมรู้ใจกรูจริงๆ
   “ขอบคุณครับพี่”  ของโปรดผมล่ะครับหมูมะนาวเนี่ย  มือเอื้อมไปหยิบช้อน  แต่ยังไม่ทันได้ส่งเนื้อหมูนุ่มๆเข้าปาก  ก็มีถั่วเค็มเกือบกำมือยัดเข้ามาเสียก่อน

   “อาไออองเอิงเอี่ย (อะไรของเมิงเนี่ย)”  ไอ้ไนท์ยังคงปิดปากผมไว้  เอี้ยเอ๊ย  ถั่วมึงมันจะไหลลงคอกูอยู่แล้ว  ไอ้บ้านี่  กูอยากกินหมูมะนาวเว้ย

   “กินไปเหอะน่า  มันเหลือจะหมดจานพอดี”    เมิงจะให้กูแดกแต่ของเหลือๆ รึไงวะ

   “หนาวแฮะ”    เสียงพึมพำดังขึ้นรอบโต๊ะ    เออ  พวกมึงก็คิดเหมือนกูใช่ไหม  กูไม่น่ายอมมาเลย  ให้ตาย    ไอ้นักร้องบนเวทีมันก็ช่างเลือกเพลงได้ร้อนเข้ากับบรรยากาศโต๊ะกูเหลือเกิน  แต่ทำไมยิ่งฟังกูยิ่งหนาววะเนี่ย

   อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับ Fire..
เธอสวยเซ็กซี่ Hot ยังกับ Fire..
เราก็เป็นผู้ชาย ชอบเล่นกับ Fire..
เข้าไป เข้าไป เข้าไปเล่นกับ Fire..
    ในปาร์ตี้อากาศมันร้อนเหมือน Fire
เธอเซ็กซี่ เธอ Hot เหมือนกับ Fire
เราผู้ชาย ก็ชอบเล่นกับ Fire

กูก็เป็นผู้ชายแต่กูไม่ชอบเล่นกับไฟเว้ย  ถ้าจะตายขอกูตายไปอย่างสงบๆ เหอะ  อย่าให้ต้องตายเพราะศึกสายตาข้างๆ เลย  ตัวกูจะลีบอยู่แล้วเฟ้ย
   
   ครืดด   เสียงจานหมูมะนาวเลื่อนมาใกล้ผมอีกครั้ง  พร้อมกับสายตากึ่งบังคับกึ่งอ้อนวอน  ไม่ต้องส่งสายตาอย่างนั้นมา  ผมก็จะกินอยู่แล้วครับพี่  ของชอบผมนิ  ผมยื่นมือเดิม  ช้อนเดิมไปที่จานเดิมทันที

   ครืดด  อันนี้ไม่ใช่ทั้งเสียงจานหมูมะนาว  หรือจานถั่วครับ  แต่เป็นเสียงเลื่อนเก้าอี้จากด้านขวาของผม   ไอ้ไนท์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  ใบหน้าเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์

   “กูจะไปห้องน้ำ   สนใจจะไปด้วยกันหน่อยไหม”  มันถามข้ามหัวผม  โดยไร้คำตอบ  เก้าอี้ทางด้านซ้ายของผมเลื่อนออกทันที   ร่างสูงในเสื้อสีดำของไอ้ไนท์และอีกคนในเสื้อสีขาวเดินเคียงกันไป  ทิ้งให้พวกผมนั่งมองอย่างเกร็งๆ   ท้องน้อยยังเสียววาบๆ ไม่หาย  ก็ดูสิครับ  ขนาดสีเสื้อมันยังเป็นปฏิปักษ์กันอย่างเห็นได้ชัดขนาดนั้น

   “มึงไม่ตามไปเหรอวะ”  ไอ้นุถาม  หน้าตาจริงจัง
   “นั่นดิพี่  เดี๋ยวมีเรียกเลือดหรอก  ผมว่า”   กูก็ว่าอย่างนั้น   แต่มันไม่ได้ชวนกูนี่หว่า

   “ไม่ว่ะ  กูจะแดกต่อ”   ให้มันเคลียร์กันให้จบๆ ไปเองดีกว่า  ผมไม่อยากจะไปยุ่ง  เดี๋ยวหมูมะนาวกับเหล้าจะไม่เหลือตอนกลับมา  - -  ว่าไปนั่น


อีกด้านหนึ่ง

   ผมเดินนำไอ้หมอออกจากประตูร้านมาหยุดที่ใต้ต้นไม้ข้างร้านเฮียต้า   ยอมรับว่าหงุดหงิดไม่น้อยกับการที่มันเข้ามาวุ่นวายกับคนของผม  มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวที่ผมทำตัวเป็นหมาหวงก้างทั้งที่ยังพูดไม่ได้เต็มปากว่า  เป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนกับไอ้ตัวดีที่นั่งเอ๋ออยู่ข้างใน   ผมอาจจะเป็นลูกผู้ชายในทุกๆ เรื่อง  ใจกว้างพอที่จะไม่ถือสากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  แต่เรื่องพวกนั้นต้องไม่ใช่เรื่องของคนที่ผมทั้งรักทั้งหวงอย่างไอ้เวย์   ถ้าทำได้ผมอยากจะมัดมันไว้ในห้องไม่ต้องให้ออกมาเห็นเดือนเห้นตะวันเลยด้วยซ้ำ  แต่น่ะครับ  มันเป็นไปไม่ได้  ผมถึงต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องของมันอยู่นี่ไง   โดยเฉพาะกับคนตรงหน้าที่เกือบจะเรียกได้ว่าเหนือกว่าผมทุกอย่าง  ยิ่งมันพยายามใกล้ชิดหรือคอยเป็นห่วงคนของผมมากเท่าไร  ผมยิ่งร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่ขึ้นเท่านั้น

   “นายคิดยังไงกับไอ้เวย์”  ผมถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ  แต่ผมต้องการคำยืนยันจากปากมัน  เดี๋ยวจะหาว่าผมอัดคนโดยไม่สอบสวน
 
   “แบบเดียวกับที่นายคิด  หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ”  มันตอบด้วยสีหน้ายียวนที่ผมไม่เคยเห็นมันทำเวลาอยู่กับไอ้เวย์เลยสักครั้ง
   “หึ  มั่นใจเหลือเกินนะ”  มันยิ้มตอบผม  ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกใจร้อนกว่าทุกที  ยั่วขึ้นกว่าทุกที  แค่เห็นหน้ามันผมก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว

   “เลิกยุ่งกับคนของกูได้แล้ว”  ผมเลือกที่จะพูดในสิ่งที่ต้องการมากที่สุด  ให้มันออกไปจากชีวิตไอ้เวย์ซะ
   “ไม่  มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู”   หึ  ในที่สุดไอ้ภาพความเป็นคนสุภาพแสนดีของมันก็หลุดออกจนได้  กูว่าแล้วว่ามึงมันไม่ต่างจากกูเท่าไร  ไอ้เสือซ้อนลาย

   “ทำไมกูจะห้ามไม่ได้”
   “หึ  มึงก็เป็นแค่เพื่อน  ไม่ใช่แฟน”   คำตอบของมันคิอสิ่งที่ผมคิดไว้อยู่แล้ว  แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้  ในเมื่อผมเอง...เป็นคนหนีคำๆนั้นมาตลอด

   “กูเป็นทุกอย่างของมัน  ไม่จำเป็นต้องมีมึงอีกคนให้เกะกะ”  ผมเคยบอกมันแล้วว่าจะเป็นทุกอย่างให้มัน  มีสิทธิ์จะหึงจะหวงมันได้  ถึงมันไม่รับปาก  ผมก็ขอทึกทักเอาเองล่ะ

   “มั่นใจจริงนะ”  มันเลียนคำพูดผม  “ถ้าไม่จำเป็น  เวย์คงไม่ร้องไห้กับกู  คงไม่ตะโกนระบายความอัดอั้นกับกู  แล้ววันนี้อาจจะเจ็บหนักไปแล้วก็ได้”  สิ่งที่มันพูดมาทั้งหมดคือสิ่งที่ผมไม่เคยรู้  คือสิ่งที่ทำหใผมต้องมองตัวเองใหม่   ผมปกป้องมันไม่ได้อย่างนั้นใช่ไหม

   “มึงหมายถึงอะไร  ทำไมต้องเจ็บหนัก”
   “หึ  เวย์เดินเหม่อ  เกือบถูกรถชน  มึงแน่ใจหรือปล่าวล่ะ  ว่าเขาไม่ได้กำลังคิดเรื่องของมึงอยู่  แน่ใจรึปล่าวว่าไม่ได้ทำให้เวย์ไม่สบายใจ” 

   ผมเงียบ   ตอบกับตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกยังไง  การที่รู้ว่ามันเกือบถูกรถชนทำให้ผมเจ็บแปล๊บที่หัวใจ  ความรู้สึกแกว่งไกวเหมือนคนเกือบสูญเสียสิ่งสำคัญ  นึกขอบคุณคนตรงหน้าที่ช่วยมันไว้ได้  และผมก็พูดไม่ได้เต้มปากว่า  ทำอะไรให้มันไม่สบายใจหรือปล่าว  ผมรู้ว่ามันคิดมากเรื่องของผม  เรื่องพ่อผม  แต่ถ้านั่นทำให้มันเกือบถูกรถชนล่ะก็  จากนี้ผมจะไม่ทำให้มันกังวลอีก  ผมรู้ว่าแม้จะแสดงออกมากมาย  มันคงยังไม่มั่นใจในตัวผม   เพราะผมยังไม่เชื่อมั่นในตัวเองมากพอ

   “หึ  ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ  เพราะฉะนั้นนายอย่ามากีดกันดีกว่า  จากนี้ก็แข่งกันอย่างแฟร์ๆ เถอะ  เพราะฉันไม่มีวันถอยแน่”

   “ได้  ถ้านายมั่นใจขนาดนั้น  ถึงวันที่ต้องอกหักเมื่อไร  ก็อย่าถึงขั้นฆ่าตัวตายล่ะ  กูไม่อยากให้เวย์รู้สึกผิดเพราะมึง” 
   “อย่ามาดูถูกกันขนาดนั้นดีกว่ามั้ง  บางทีคนที่ต้องตัดใจน่ะ  อาจจะเป็นนายก็ได้”
เป็นอันว่าผมกับมันเปิดศึกกันเป็นที่เรียบร้อย  จากนี้คงใจเย็นอยู่ไม่ได้แล้วสิ  ก็มีไอ้คู่แข่งตัวฉกาจแถมหน้าหนาไม่น้อย  มาคอยดักชิงตัวคนของผมอยู่ทั้งคนนี่นา


   “พวกพี่สองคน  แอบมาตกลงกันเองได้ไง  ในเมื่อแข่งกันแฟร์ๆ ขนาดนี้  หวังว่าคงไม่รังเกียจถ้าผมจะขอร่วมด้วยสักคนนะ”
   ไอ้น้องใหม่ความหวังของชมรมที่ไอ้เวย์มันชมนักชมหนาโผล่มาจากไหนไม่รู้  แต่เท่าที่มันพูด  คงแอบฟังพวกผมอยู่นาน  นึกแล้วไม่มีผิด  ว่ามันต้องคิดไม่ซื่อ  หึหึ  พอผมเริ่มหวงมาก  คนจ้องจะแย่งยิ่งโผล่กวนใจซะจริง   วุ่นวายชิบ

   “ไอ้ชิน  ไอ้น้องเวร  จะตีท้ายครัวกูเหรอวะ”
   “อันนี้ก็ต้องดูก่อนว่า  แม่ครัวเข้าจะยอมให้ผมเข้ารึปล่าว”  คำพุดมึงไม่มั่นใจ  แต่สายตามึงมันท้าทายตีนกูได้ดีเหลือหลาย

   “เหอะ  วุ่นวายกันจริงเว้ย  พวกมึงอยากทำอะไรก็ทำไป  แต่ขอบอกไว้ก่อน ไม่มีวันสมหวัง”  ผมยิ้มเย็น  มั่นใจทั้งความรู้สึกตัวเองและอีกคนที่ยังนั่งอาบเล้าอยู่ข้างใน  ป่านนี้หมูมะนาวคงไม่มีเหลือถึงผมซะแล้วล่ะมั้ง
   



TBC.   ขอบคุณที่ติดตามค่าาาาาาาา  ไวท์จะขยันๆ นะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 05-05-2009 21:04:28
ผู้ท้าชิงสามคน โดยที่น้องเวย์เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเล้ยยยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 05-05-2009 21:12:11
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ศึกชิง นาง...เอ้ย...นาย

เค้าชอบบบแบบนี้ โฮะ โฮะ โฮะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 05-05-2009 21:35:11
 :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: avogadro ที่ 05-05-2009 23:10:13
มันต้องยังงี้สิ..ถึงจะมันส์ ห้าๆๆๆ

ชอบมากๆๆๆอ่ะ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 05-05-2009 23:16:59
ไวท์ สู้ สู้  ไวท์ สู้ตาย
 เอาอีกๆๆ
เวย์น่ารัก 3 ชิง1 นายเอก
 :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 05-05-2009 23:35:16


ไนท์ สู้ๆ



ไม่เชียร์ชินนะ ....
เพราะชินน่ะ ของช้านนนนน


 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-05-2009 23:35:58
หุหุ มันหยดติ่งๆเลยนะเนี่ย
เอาล่ะ มาดูว่าแต่ละคนจะขนกลยุทธ์อะไรกันออกมาบ้าง

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค๊าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 05-05-2009 23:46:04
ร๊ากกกกกกกกกน้องชิน...ฮ่าๆๆๆ

โผล่มาได้จังหวะเจรงๆ....เห็น black and white เค้าแย่งเวย์กันสองคนเนี่ย
มะสะใจชินหล่ะสิ....ถึงได้ร่วมวงกะเค้าด้วย.... :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 06-05-2009 00:31:39
กิ๊สสส กำลังสนุกเลยคะ

ชอบ มารอตอนต่อไปนะค๊าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 06-05-2009 01:51:39
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 06-05-2009 02:39:57
ยกธงเชียร์ไนท์อย่างเป็นทางการ   :mc4:
แค่เพียงไนท์ชัดเจน เวย์ก็ไม่ไปไหนแล้วว   :man1:

 :pig4:

หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 06-05-2009 05:03:11
เซียร์คุณชายไนท์สุดใจขาดดิ้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 06-05-2009 10:09:54
 :m1: เชียร์ทุกคนเพราะชอบทู้กกกกกกกกกกกคน


อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 3 คน อาไรอย่างนี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: shiro_niji ที่ 06-05-2009 20:25:46
อ้าาา
เนื้อเรื่องน่ารักดี
อิอิ
แอบขำชิน
ที่กลับมาเรียนต่อนี่เพราะพี่รหัสหรือเปล่าหนอ
ต่อเร็วๆเน้อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 07-05-2009 03:08:44
มารอนะค๊าา ^^

เรื่องนี้สนุกดีอ่าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 07-05-2009 06:32:26
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 07-05-2009 14:34:40
 :z2: :z2: :z2:
กำลังสนุกรอลุ้นๆแล้วจะรออ่านต่อน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 12 ท้าชน
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 07-05-2009 21:37:27



ตอนที่ 13 งานเปิดบ้านกับ...กลางแจ้ง

   “ เรียนเชิญดร. ................ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัย........กล่าวเปิดงานวิชาการประจำปี 2551 ค่ะ”   เสียงพี่นีน่าคนสวยในชุดพิธีการ (กระโปรงยาว  เสื้อติดกระดุมถึงคอ  กระนั้นแกกังยิ้มแย้มอยู่ในมาดนางงามครับ - -) กล่าวเชิญท่านอธิการเปิดงานอย่างอลังการ  จะไม่อลังการได้ไงล่ะครับ  ก็ดูตั้งแต่เวที  พิธีกร  ยันการแสดง  แสงสีเสียงแบบทุ่มทุนสร้างขนาดนี้  เรียกว่าให้พวกผมเอาเงินไปอาบเหล้าได้หลายเดือน  เหอะๆ
   
“พี่เวย์ครับ  เขาเรียกให้ไปขนกลองอ่ะ”   ไอ้เก่ง  เด็กในทีมบาสทีมบีของผมใช้ตีนสะกิด ผมซึ่งเป็นรุ่นพี่มันปีหนึ่ง  แล้วก็ยังเป็นกัปตันชมรมที่มันสิงอยู่อย่างแสดงความเคารพเต็มที่  (เช่นเดียวกับที่ผมแสดงความเคารพเฮียวาย  หรือ เขา  ที่ไอ้เก่งมันพูดถึงนั่นเอง)
“เชี่ยดิ  พวกมึงตั้งหลายคน  ทำๆไปดิวะ  กูจะดูพี่นีน่า” ผมบอกปัดๆ ตามประสาคนสูงวัยกว่า  มักจะอ้างเช่นนี้เพื่อกดขี่ใช้งานรุ่นน้องซึ่งแทบจะคางเหลืองแล้วหลังจากสามอาทิตย์ของการเตรียมงานผ่านไป
“อย่ามาเอี้ยครับพี่”  เอ้า  เคารพกรูอีกแระ  “เพราะใคร  พวกผมถึงต้องโดนเขาจิกหัวใช้  ทั้งๆที่อยู่ชมรมโคตรป๊อบเนี่ย”  ไอ้เก่งยังยืนกรานพลางใช้สายตาจิกกัดจนแทบจะกินหัวผมได้อยู่แล้ว
“จะโทษว่าเป็นเพราะกู?”  เสียงผมนี่กวนตีนสาดอ่ะ  แต่สายตายังจับจ้องคนบนเวทีอย่างเอาเป็นเอาตาย  ส่งโทรจิตไปครับ  เพื่อพี่เขาจะสะดุ้งสะเทือนมั่ง

“อ้าว  ถ้าไม่ใช่พี่  แล้วมันจะเป็นลิงเป็นค่างที่ไหนล่ะคร้าบ”
“เออ  โทษกูกันจริง  กะอีแค่ลืมไปจับฉลาก”  ยังจำกันได้ไหมครับ  ที่ผมเห็นฮาเล่แล้วก็บึ่งพ่วงคนเจ็บไปโรงพยาบาล  เสร็จแล้วก็ไปอาบเหล้าต่อที่ร้านเฮียต้า

“เออ  แค่นั้นของพี่  ทำพวกผมต้องมาเป็น GB (เจเนรัลเบ๊ –  งานอุทิศตนเพื่อสังคมส่วนรวม)  กันถ้วนหน้านี่ไงครับ”  คิ้วมันเริ่มขมวดเป็นปม  มือก็เริ่มลากแขนผมไปตามที่มันต้องการ  แสด  เรื่องไรกูต้องไปขนวะ  ธุระไม่ใช่
“หยุดแค่นั้นเลย  ไอ้เก่ง  กูรู้ว่า  ไอ้พวกปีสามมันหายหัวไปหมด  เหลือพวกเมิงกะเด็กปีหนึ่งใช่ไหม  เลยเสือกจะมาดึงกูไปร่วมทุกข์ด้วย  ฝันไปแระเมิง”  พูดจบ  ไม่ต้องรอให้มันตอบ  ผมจัดการบิดข้อมือมันตอนเผลอ  แล้วจรลีออกมาทันที  ลาก่อนครับพี่นีน่า  ผมจะคอยเฝ้ามองพี่อยู่ในที่ไกลแสนไกล  ที่ไม่มีใครมาตามตัวเจอ  ก๊ากกก  ตามเจอก็ซวยสิครับ  งานมิใช่น้อยๆ

“ไอ้เชี่ยพี่เวย์  แม่งทำกูได้”


หลังจากหนีมาได้  ผมก็เริ่มลัดเลาะไปตามซุ้มต่างๆ  แหม  โดดงานนี่มันสบายอย่างนี้นี่เอง  เดินดูงานไปเรื่อยๆ  ก็เริ่มจะเหงาครับ  ทำไมคนหล่ออย่างผมต้องเดินคนเดียวปล่าวเปลี่ยวเหี่ยวแห้ง  ในขณะที่ลูกกะตาดันเหลือบไปเห็นคนเขาเดินจู๋จี๋  ชี้ชมนกชมไม้กันด้วยครับเนี่ย  เอี้ยไนท์มันหายหัวไปไหนของมันวะ  กูอยู่นี่ไม่มาดูแล  ก๊ากกก  ขี้ตู่ซะงั้นล่ะกรู   ฮ่าๆ  หลังจากวันนั้น (วันไหนฟร่ะ) เป็นต้นมา  ความสัมพันธ์ของพวกผมก็ยังราบรื่น  ไม่มีสะดุด  แต่ว่ามันอาจจะราบเกินไปซะหน่อยนะ  ผมว่า  ไม่มีตีลังกา  โลดโผนเล้ย  ให้ตาย  ช่วงสามอาทิตย์มานี้ก็ยุ่งๆ อยู่กับการเตรียมงาน (ที่ไม่ได้ตังค์ซักแดง - -  ต้องทำครับ  นิสิตที่ดีอย่างผม)  อย่างที่น่าจะรู้กันแล้วนะครับ  เนื่องจากกัปตันอย่างผมไม่ได้ไปจับฉลาก  เหล่าสมาชิกที่เหลือก็เลยถูกจิกหัวใช้กันสนุกสนาน  อ้า  จะว่าไปถึงมันจะเหนื่อย  ก็สนุกนะครับ  ได้ฟาดฝีปากกับคณะอื่นพอควร  มีสาวๆ มาติดต่อขอแรงก็มิใช่น้อย  ไม่รู้พวกมันจะมาบ่นผมกันทำไม   ทำงานน้อยกว่าผมตั้งเยอะ  น้อยกว่าเยอะจริงๆนะครับ  ต่อไปเวลาประชุมอะไร  จะจำไว้ครับ ปิดปาก  เปิดหู  เปิดตา  ส่ายหน้าลูกเดียว  แม่งง  ก็ไอ้งานที่ ‘เขา’  โยนโครมมาให้ผมน่ะ  นอกจากจะไม่สร้างสรรค์  แล้วยังทำผมเกือบสูญพันธุ์ - -  เริ่มด้วยหัวหน้าฝ่ายปฏิคมครับ  อันนี้ไม่ค่อยหนัก  แต่เปลืองตัว  หลังๆ มีไอ้ไนท์กับไอ้ชินมาช่วยกันครับ  แต่จะดีมาก  ถ้ามันจะ ‘กัน’  อย่างเดียว  ไม่ ‘กัดกัน’   ส่วนฝ่ายประสานงานองค์ใหญ่  อันนี้เหนื่อยโฮกครับ  วิ่งวุ่นหัวหมุนทุกวัน  พี่นัทแกมาช่วยบ้าง  แต่ได้ไม่นานครับ  มีคนตามตัวแกไปตลอด  เล่นเป็นถึงท่านรองนายก  กระผมก็มิอาจขอแรงท่านได้  พอกลับถึงหอไอ้ไนท์  (บ้านเบิ้นพักไว้ชั่วคราวครับ  คุณนายเธอก็ไม่ว่าอะไร  รู้ว่าลูกชายเหนื่อย) ผมก็หลับเป็นตาย  แน่นอนครับ  หลับอย่างเดียว  ไม่มีหลับนอน  ไอ้อีกคนมันก็ไม่มีสะกิดครับ  แรงหมดก๊อกเหมือนกัน  มีจูบราตรีสวัสดิ์นิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ  ฮ่าๆ  หน้าไม่อายครับ  เล่าหมด  เอิ้กๆ  ส่วนงานใหญ่อีกงานอย่างละครเวที  หึๆ  อุบไว้ครับ  เดี๋ยวมีอึ้ง

“เฮ้ย  นั่นไง  พี่เวย์”  เสียงตะโกนชวนให้เสียวสันหลังแปล๊บ  ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งทั่กๆ เข้ามาใกล้  ไอ้เวย์ไม่เสียเวลาหันกลับไปมอง  ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีลูกเดียวครับ
“อยู่ก็โง่ดิวะ  ลาขาดนะเว้ย”  แหกปาก  ขาสับไก  สายตามองหาที่ซ่อนครับ  ที่ไหนดีโว้ย  จากการสำรวจตรวจดูลาดเลา  (หัวหน้าเบ๊ ตอนเตรียมงานครับ)  ผมนึกถึงที่ๆ หนึ่งออกพอดี  ว่าแล้วไอ้เวย์ก็หักเลี้ยวขวาอย่างกระทัน  แล้วโดดข้ามพุ่มไม้  พุ่งหลาวราวนางเงือกพร้อมม้วนตัวลงพื้นอย่างสวยงาม  ที่ไหนเล่า  มันไม่สวยงามอย่างที่คิดครับ  ผมสะดุดขากางเกงที่มันยาวเกินไปของไอ้ไนท์ล้มไม่เป็นท่า  หลับตาเตรียมจูบพสุธาเต็มที่  ถ้ากูหมดหล่อเพราะกางเกงตัวนี้นะเมิง  เมิงตาย

ตุ้บ  แอ๊ก
เอ  ไม่ยักกะเจ็บครับ  แต่ไอ้เสียงแอ๊กนี่ผมไม่ได้ร้องน้า

“เชี่ย  จุกชิบหาย”  เสียงบ่นเบาๆ ดังข้างหูผม  ไม่ต้องให้บอกไอ้เวย์ดันตัวลุกขึ้นทันที
“อ่ะ  ไอ้ไนท์!!”  ชิบหายแล้ว  ตายยากจริงเมิง  สรุปว่าผมพุ่งมาลงพื้นอย่างเกือบจะสวยงาม  โดยมีมันเป็นเบาะรองครับ
“เออ  กูเอง  ตกใจอะไรนักหนาวะ  แล้วนี่เมิงโดดเข้ามาทำไม  เดินแบบที่คนปกติเค้าทำกันไม่ได้หรือไง  ทำไมชอบหาเรื่องเจ็บตัวนัก”  มาเป็นชุดเลยครับ  ท่านเทศน์ของท่านอีกแล้ว  คิ้วมันขมวดเป็นปม  ดีหน่อยที่ปากยังไม่เม้มเป็นเส้นตรง  เพราะนั่นจะหมายถึง  ความวินาศสันตะโรของมนุษยชาติ

“ก็ถ้ากูมาแบบปกติได้  กูก็มาไปแล้ว   ไม่ได้ยินรึไง  ไอ้พวกนั้นมันตามล่าตัวกูอยู่”  พูดเหมือนผมไปมีเรื่องกับนักเลง  ไม่ก็เจ้าพ่อ  แล้วถูกตามล่าตัวเลยนะครับ  เวอร์จริง
“ไอ้พวกนั้น??”
“นักบาส”
“เหอะ  สมควร”   กวนตีน - -
“.....”  พูดไรไม่ออกครับ  อารมณ์แบบว่า  เซ็งๆ  ข้าวยังไม่ได้กิน  เหนื่อยก็เหนื่อย  ดูมัน  ไม่ช่วยไม่พอ  ยังซ้ำเติม  คนหล่อแอบเซ็ง  มันจ้องมา  ก็หลบตามันครับ  ไม่ได้ตั้งใจนะ  แบบว่ามันเป็นไปเองอ่ะ  เหมือนถูกจับได้ว่าทำความผิดอ่ะครับ

“งอน?”  มันถาม  นัยน์ตาพราว
“เปล่า  กูเหนื่อย”  งอนบ้าไรครับ  อย่างนี้เขาเรียกงอนที่ไหน  ใช่ไหมครับ  นี่ไม่ใช่อาการงอน  ใช่ไหม?
“หึ  งั้นก็นอน”  ว่าแล้วมันก็กดหัวผมลง  รั้งเอวผมให้นอนลงบนตัวมัน  ความร้อนที่ไม่รู้มาจากไหนพวกพุ่งไปรวมกันบนหน้าหมดเลยครับ
“เฮ้ย  ปล่อยกู  จะนอนข้างล่าง”  แม่ง  ร้อนเว้
“แน่ใจ  นอนบนนี้สบายกว่านะ”  เออ  แต่กูไม่สบายใจเว้ย
“ไม่เอา  จะนอนข้างล่าง”
“ตามใจ”  ว่าแล้วมันก็พลิกตัวผมลง  พลิกครับ  คือพลิกจริงๆ พลิกทั้งตัวทั้งคู่เลยครับ  เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มันนอนอยู่บนตัวผมแทน  อ้าปากค้างเลยครับ  ไม่คิดว่ามันจะมามุกนี้  เอ๋อแดกเลยตู

“เฮ้ย  ทำไรวะ  ลงไปเลย  กูหนัก”  ผมก็ดันๆไหล่มัน  แม่ง  ไม่มีสะดุ้งสะเทือน  แรงควายชิบ
“ไม่ลง  กูไม่หนัก”  มันส่ายหน้า  แล้วอมยิ้มน้อยๆ  เชี่ย  หล่อว่ะ!!
“ไอ้ฟาย  มึงอยู่ข้างบน  จะไปหนักได้ไง”  พูดไรโง่ๆ  คำนี้เก็บไว้ในใจครับ  ยังไม่กล้าพอ
“เอ้า  งั้นกลับท่าเดิม”  ไม่มีขอคำอนุญาติจากศาล  มันพิพากษาตัวเองเสร็จเรียบร้อยด้วยการพลิกกลับท่าเดิมให้ผมอยู่ข้างบนเพื่อมันจะได้หนักเอง  แสดด  หวังดี  แต่กูไม่ต้องการ 
“เฮ้ย  จะเล่นอีกนานไหมวะ  ไม่หนักรึไง”  พยายามดุมันครับ  นี่ถ้าแยกเขี้ยวได้นี่ ผมแยกไปล่ะ  คนยิ่งเหนื่อยๆ มาเจอมันกวนตีนอีก
“ไม่หนัก  ตัวเมิงเบาขนาดนี้  ดูนะ”
“ฮะ  เฮ้ยย  ไม่เอา”   ผมร้องเสียงหลงเมื่อไอ้เวรไนท์มันอุตริเล่นเครื่องบินอากาศกับผม  เคยเล่นกันไหมครับ  ไอ้ที่คนข้างล่างใช้ขายกตัวคนข้างบนให้ลอยกลางอากาศ  แล้วเอามือจับกันไว้อ่ะ
“ฮ่ะๆ  เย็นมะ”
“เย็นบ้าอะไร  ไม่เอา  ไม่เล่นแล้ว”  เหลือเชื่อ  มันฟังผมครับ  ค่อยๆ ลดขาลง  แล้วจับผมนอนลงเหมือนเดิม

“นั่นดิ  เลิกเล่นแล้วเอาจริงเลยดีกว่า”  มันกระซิบพร้อมพ่นลมหายใจเบาๆ ที่ข้างหู  เล่นเอาขนไอ้เวย์ลุกซู่   ส่วนมือที่ว่างอยู่ของมันก็เลื่อนไปลูบที่แผ่นหลังของผม  เมิงเอาเข้าไปตั้งแต่เมื่อไรฟ่ะนั่น   เร็วชิบ

“ไนท์  จะทำอะไร” 
“หืม  ก็ทำอย่างนี้ไง”  มันเอามือทั้งสองข้างจับก้มผม  และกดลงบนน้องชายตัวเองอย่างแรง  พร้อมกับที่มันเด้งสะโพกขึ้นมา
“อ๊ะ” 
“ดีมั้ย”  มันยังคงบดเบียดส่วนนั้นกับผมอย่างต่อเนื่องโดยมีกางเกงนิสิตกั้นอยู่
“อ๊ะ  เมิง  อา  หยุด”
“เงียบน่า”  และผมก็ต้องเงียบจริงๆ  เมื่อมันจัดการปิดปากผมด้วยปากตัวเอง  ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวพันกันอย่างโหยหา  จูบร้อนแรงของมันทำเอาผมเกือบลืมหายใจ
“อือ  อืม” เสียงครางอย่างพอใจที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร   ในขณะที่สะโพกของเรายังคงบดเบียดกันอยู่  มือข้างหนึ่งของมันสอดขึ้นมาไล้ไปตามไขสันหลังให้ผมเสียววาบ  เชี่ย  เก่งเกินไปแล้ว

“เวย์  ทำกันเถอะ”  มันกระซิบเสียงพร่า  อย่ามาใช้สายตาอย่างนั้นกับกูนะเว้ย  ใจสั่นแม่ง
“บ้าเรอะ  ที่นี่เนี่ยนะ  ไม่เอาเว้ย”  ไม่ใช่ไม่อยากนะครับ  แต่คิดดู  นี่ผมกับมันนอนอยู่ในสวนหลังมหาลัย  ถึงมันจะเงียบ  ไม่มีคน  แถมยังมีต้นไม้ใหญ่พอให้หลบสายตาคนข้างนอกได้  แต่ผมยังไม่ด้านพอจะเล่นนอกสถานที่
“น่านะ”  อ้อนไป  มือมันก็ลูกคลึงหน้าอกผมไป  แสดด  ทำไมเมิงเชี่ยวขนาดนี้ฟ่ะ
“อ่ะ  ม่ะ..ไม่เอา”  ดึงมือมันก็ไม่ออกครับ  แม่ง  เหนียวเป็นตีนตุ๊กแก  คนอย่างมันยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุครับ  พอบอกไม่เอา  มันก็จะให้เอาลูกเดียว    เผลอไผลไปกับมันแป๊บเดียว  เสื้อหลุดไปตอนไหนไม่รู้ครับ  มันจัดการพลิกแล้วคร่อมร่างผมไว้ด้วยความเร็วแสง  ยิ้มใส่ตาให้ผมใจเต้น  แล้วก้มลงบรรเลงเพลงลิ้นกับหน้าอกผมอย่างชำนาญ  มือข้างหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างผมไว้เหนือหัว  ไม่ใช่ว่ามันแรงเยอะกว่าผมมากมาย  แต่ผมตอนนี้ร่างกายผมมันหมดแรงเอาเสียดื้อๆ  อีกมือก็จัดการลูบไล้เป้ากางเกงผมอย่างไม่มีติดขัด  แม่ง  ตามไม่ทันครับ  ตอนนี้ไม่รู้อะไรเลย  มีแต่สัมผัสของมันวนเวียนอยู่ในความคิดเท่านั้น

“อ๊ะ  อือ  แฮ่ก”  มันใช้มือเดียวนั่นรูดซิปกางเกง  แล้วดึงลงจนถึงหน้าขาผม  สัมผัสส่วนนั้นของผมเบาบ้างแรงบ้างสลับกันผ่านเนื้อผ้าฝ้ายบางๆ  ปราการชิ้นเดียวที่เหลืออยู่
“อา  พอ  ไนท์  พอ อ๊ะ”
“หึ  ก็ดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่  เอ๊ะ  อ๊า”  ผมต้องร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อมันก้มลงไปใช่ปากกับส่วนนั้น  กำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ถูกมันสูบไปจนหมดสิ้น  ไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ทัดทานมันอีก  มีความร้อนที่พากันแล่นไปยันตรงนั้นอย่างห้ามไม่อยู่
“อา  ไนท์ อย่า  มัน  สกปรก  อา”  เสียงห้ามของผมฟังดูเหมือนเสียงกระซิบที่นอกจะไม่ช่วยให้มันหยุดแล้ว  กลับทำให้มันเร่งมือแรงขึ้น  เร็วขึ้น  จนผมไม่อาจกลั้นสิ่งที่เก็บกดไว้ได้อีก

“ไนท์  อ่ะ  อ๊า  แฮ่กๆ”  ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมา  รู้สึกเบาหวิว  ลืมตัวทำเรื่องน่าอายไปกับมันจนได้ 
“เร็วจังนะ”
“ไม่ต้องมายิ้มดี  ไอ้บ้า  กินเข้าไปได้ยังไง”  ผมก็หน้าแดงไป  ด่ามันไป  เขินเว้ย  ไม่คิดว่ามันจะ...  เอ่อ  ทำให้ขนาดนั้น
“เอ้า  ทำไมกินไม่ได้วะ  มาลองๆ  เดี๋ยวสอนให้”  มันเสนอตัวพร้อมยิ้มกริ่ม  ดึงผมที่ยังไม่ค่อยมีแรงให้ลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับมัน
“อ่ะ  ไม่ต้องๆ  กูไม่อยากเรียน”  เรื่องอะไรเล่า  ใครจะไปกล้าทำ
“แต่กูอยากสอน”  มันไม่ฟังอะไรเลย  มือก็ปลดซิบตัวเอง  ดึงไทน์จูเนียร์ขึ้นมาทักทายหน้าตาเฉย  ด้านชิบ
“ไม่เอา” 
“น่า  ลองหน่อยนะ  เดี๋ยวกูต้องเหนื่อยเป็นบอดีการ์ดให้เมิงอีก  ขอรางวัลล่วงหน้าหน่อยดิ” กูไปขอให้เมิงเป็นตอนไหน  ไม่ได้เป็นลูกชายเจ้าพ่อนะเว้ย  จะได้ต้องมีบอดีการ์ดบ้าบอไปใหญ่
“พูดเรื่องบ้าอะไรของเมิง”
“เอ้า  กูต้องคอยตามดูแลเมิงไง”
“ฮะ”   หูผมฝาดไปใช่ไหมครับ  มันกำลังล้อเล่นอะไรของมันเนี่ย
“กูไม่มีวันยอมถูกตีท้ายครัว”  มันพูดด้วยเสียงน่ากลัว  หน้าแม่งโคตรเหี้ยมเลย
“อะไรนะ”
“แม่ง  โมโหว่ะ  ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ  เดี๋ยวกูทำเอง”  ผมยังไม่ทันได้เข้าใจอะไรเลย  สมองเพิ่งรับข้อความ  ยังไม่ทันได้ประมวล  มันก็จับผมกดคว่ำหน้าลงกับพื้น  เมิงจะทำให้ได้ใช่ไหมเนี่ย

    “ด่ะ..เดี๋ยว   ไอ้ไนท์  เฮ้ย  ปล่อยนะ  ไม่ทำที่นี่นะเว้ย”  ผมขยับตัวหนีมัน  แต่สะบัดยังไงก็ไม่หลุด  มันตัดปัญหาด้วยการจับมือผมไพล่หลังไว้  และทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ทัน  มัน  มัน  ก้มลงไปใช้ลิ้นกับประตูหลังของผม  ผมเกร็งตัว  สูดหายใจเฮือกอย่างตกใจ

   “อ๊า  อา  ไนท์  อย่า  อย่า”  ผมดิ้น  ขยับสะโพกหนีมัน  แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์มันยังคงทำต่อไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน  ในขณะที่ผมทั้งอาย  ทั้งรู้สึกดีจนแทบไม่แรงทรงตัว  และคงล้มไปแล้วถ้ามันไม่ยึดแขนผมไว้
   “อย่า  กูขอร้อง  อย่าทำ  อ๊า”  ลิ้นร้อนๆของมันทำเอาสสิผมกระเจิดกระเจิง

   “ทำไม  รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ”  ทันทีที่มันปล่อย  ผมก็ทรุดลงไปกองบนพื้นทันที
   “......”  นั่นมันก็ใช่  แต่มัน  โว้ยย   จะอธิบายอะไรล่ะฟ่ะ  รู้แต่ว่าไม่อยากให้มันทำแบบนั้น
   “ในเมื่อไม่ให้กูทำ  งั้นเมิงก็ทำเอง”  มันดึงผมขึ้นมานั่งตัก  แผ่นหลังเปลือยเปล่าของผมแนบชิดอยู่กับแผ่นอกที่ยังมีเสื้อกั้นขวาง
   “อะไรนะ”  อุทานอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง  สมองเบลอขนาดหนัก  นี่ถ้าปล่อยผมไว้กลางถนน  รับรองได้ไปเกิดใหม่แน่นอน

   “ทำสิ  ทำให้เมิงรับกูเข้าไปได้น่ะ”  มันพูดเสียงพร่า  กระซิบอ้อนๆ ใกล้ต้นคอผม  แล้วซุกไซ้สูดดม  เม้มแรงๆอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ  อีกมือก็บดขยี้ยอดยกจนผมเสียววาบ
   “ม่ะ..อา..ไม่เอา อ๊ะ”  ผมแทบจำเสียงดูเองไม่ได้  ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะฟังดู ..อือ..ขนาดนี้  เหอะ  เรื่องน่าอายอย่างนั้นใครจะไปทำ  แล้วยังทำบนตัวมันเนี่ยนะ  ไม่มีทาง
   “หรือจะให้กูทำ” ทำไมเมิงเฉยสนิทขนาดนี้วะ  กูไม่ชินเว้ย
   “ไม่  อา”  มันยังคงสัมผัสปลุกเร้าผมต่อไป  หมดแรงจนต้องนั่งพิงหน้าอกมันอยู่อย่างนั้น
   “เมิงจะเอายังไง  ถ้าไม่ขยายซะก่อน  มึงจะเจ็บนะ”  คำพูดซื่อๆ  ที่ซื่อเกินไปของมันทำเอาหน้าผมร้อนวูบ  ถ้าไม่อยากให้กูเจ็บก็ไม่ต้องทำสิเว้ย
   “ถ้า...”
   “อย่าคิดว่ากูจะปล่อยให้เมิงไปง่ายๆ  ทั้งๆที่มันค้างอยู่ขนาดนี้”  แสดด  ทำมาเป็นรู้ความคิดกู  ถ้ารู้ก็อย่าทำอย่างนี้สิโว้ยย
   “ไนท์  พอ  ไม่ทำแล้ว  ไม่เอา”  ผมรวบรวมสติทั้งหมดยันตัวลุกขึ้น 
   “มึงดื้อเองนะ”  มันฉุดผมลงมาอย่างรวดเร็ว  แล้วดันของที่ทั้งร้อนทั้งแข็งเข้ามาโดยไม่ให้โอกาสผมได้เตรียมใจ

   “เอ๊ะ  อ๊า  เจ็บ  ไนท์  เจ็บ  อา  เอาออกไป  อือ”  น้ำตาผมไหลออกมาทันที  มันเป็นความเจ็บที่เหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแยกออกจากกัน     
   “อา  ร้อนชะมัด  ทนหน่อยนะ  จะค่อยๆทำ”  มันกระซิบโดยที่ครึ่งหนึ่งของมันยังคงค้างอยู่ในตัวของผม   มันอยู่นิ่งให้ผมได้ปรับสภาพ  แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเจ็บมากกว่ารู้สึกดี
   “ฮือ  กู  เจ็บ  อา”  ผมต้องร้องออกมา  พยามยามสูดหายใจลึกๆ เพื่อบรรเทาอาการเหล่านั้น
   “ใช่  อย่างนั้นแหละ  อย่าเกร็ง  ค่อยๆ”  มันว่า  พลางพยายามช่วยให้ผมลืมความเจ็บด้วยการสัมผัสหน้าอกและส่วนนั้นของผมอย่างแผ่วเบา
   “อ๊า  อือ  แฮ่ก”  พอมันเห็นว่าผมเริ่มรับได้แล้ว  ก็ค่อยกดเอวผมลงช้าๆ  อ่อนโยนเท่าที่มันจะทำได้
   “อา  ดี  เวย์  อือ”   เสียงครางอย่างพอใจของมันทำให้ผมค่อยๆ  กดเอวลงไปช้าๆ  ถึงจะยังเจ็บ  แต่ก็เริ่มรู้สึกดีอยู่บ้าง   มือของมันทั้งสองข้างยังคงวุ่นวายอยู่กับร่างกายของผม

   “ฮ้า”  เราหายใจออกเฮือกใหญ่พร้อมกันเมื่อร่างกายของเราประสานเป็นหนึ่งเดียวกันในที่สุด   อารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงทำให้ผมขยับตัวขึ้นลงตามสัญชาตญาณ  สมองไม่รับรู้อะไรอีก  นอกจากเคลื่อนไหวตามจังหวะที่อีกคนชี้นำ  ซึมซับความสุขที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ  ราวกับกำลังปีนป่านขึ้นสู่บันไดสวรรค์

   “อ๊ะ  อ๊า  อือ”   ผมครางแรงขึ้นเมื่อคนข้างล่างดูเหมือนจะไม่พอใจกับจังหวะเนิ่บนาบ  เลยพลิกตัวให้ผมคุกเข่าลงกับพื้น  มือที่แทบไม่แรงพยายามยันตัวไว้อย่างสุดความสามารถ  โดยมีมันซ้อนอยู่ข้างหลัง  แล้วเริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะที่ไม่มีคำว่านุ่มนวล  อ่อนโยน  เข้ามายุ่งอีก

   “อ๊า  ไนท์  อือ  เบาๆ หน่อย อ๊ะ”
   “อา  เวย์  ดีไหม”  มือของมันเริ่มสัมผัสจุดอ่อนไหวทั้งสองจุดของผมอีกครั้ง  ในขณะที่สะโพกก็กำลังทำงานได้ดีเหลือหลาย  ดีจนความอดทนอดกลั้นเฮือกสุดท้ายของผมหมดลง
   
   “ไนท์  กู..อ๊า”  ผมล่วงหน้าไปแล้ว  ในขณะที่มันใส่เกียร์เร่งเครื่องเต็มที่โดยไม่สนใจสวัสดิภาพของคนข้างล่างอย่างผมที่หัวแทบจะลงไปกินหญ้าได้แล้ว
   “ฮึ่ก  อา”  และแล้วมันก็ปลดปล่อยในตัวผมจนรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของมัน  มันพลิกตัวให้ผมนอนอยู่บนตัวมัน  นอนลงด้วยความอ่อนแรง
   “เหนื่อยว่ะ  แต่ว่า  ค่อยหายคิดถึงเมิงหน่อย”  มือข้างหนึ่งเอื้อมมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา  แสดด  เมิงพอจะหวานก็เล่นเอากูจะกระอักตายเลยนะเมิง

   “ไม่ต้องมาพูดดีเลยมึง  แม่งง  นี่กูทำไปได้ยังวะ  กลางแจ้งนะเว้ย  แม่งง”  ผมบ่นอุบอิบ  แม่ง  เสียเซลฟ์โคตรอ่ะครับ
   “บ่นอะไรหึ  วันหลังลองทำที่อื่นมั่งเนอะ  ตื่นเต้นดี”
   “ฮะ  ไอ้บ้า  ไอ้  ไอ้  แม่งงง  ไอ้หื่นเอ๊ย”
   “ฮ่าๆ  ใครใช้ให้มันโดดมายั่วกูล่ะวะ”
   “ใครยั่วมึง  แม่ง”
   “หึ  ไม่รู้  โดดมานอนทับกูเลย  ใครวะ”  ผมนี่หน้าแดงขึ้นทันทีเพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ  เมื่อกี้  จะเถียงว่าไม่ใช่  หลักฐานมันก็ฟ้องอยู่  แม่งง  แพ้ทางเว้ย

   “อ่ะ  อย่างอนๆ  ยิ้มหน่อยดิวะ  กูไม่เคยทำกับใครที่นี่มาก่อนเลยนะ  เมิงคนแรก”
   “สาด  ดีใจตายห่าล่ะ”  แม่ง  น่าหมั่นไส้ชิบ  ผมลุกจากตัวมันแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าใส่  แล้วก็ต้องกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ อย่างน่าเตะของใครอีกคน  ที่ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะไม่มาซ่อนที่นี่อีก  เข็ดครับ

   จุ๊บ
สะดุ้งเลยครับ  ก็อยู่ดีๆ  ไอ้คนที่ขำอยู่เมื่อกี้มันลุกขึ้นมากอดผมจากทางด้านหลัง  แล้วขโมยหอมแก้มผมแรงๆ  อาการอ้อนที่เพิ่งเคยเห็นจากมันเป็นครั้งแรก  วันนี้มันทำผมอายไปกี่รอบแล้วเนี่ย

   “ป่ะ  กินข้าวกัน”  ว่าแล้วก็กอดคอผมพาเดินไปทันที
   “ด่ะ..เดี๋ยว”
   “หืม??”
“คือว่า  เอ่อ...จะไป..ห้องน้ำ”  พูดจบก็ก้มหน้างุดด้วยความอายครับ  ไม่งั้นจะให้ทำไงล่ะ  จะไปเดินทั้งอย่างนี้เหรอครับ  ไม่ไหวอ่ะ
“ฮ่ะๆ  รายวะ ไม่ได้สกปรกซะหน่อย  ยังหอมอยู่เลยน่า”  ถึงมันจะพูดอย่างนั้น  แต่ก็ยอมพาผมไปห้องน้ำแต่โดนดี  โอ๊ยยย  หมาในปากไอ้เวย์วันนี้พากันเฉาตายหมดเลยครับ  ไม่มีออกให้ช่วยกันทำมาหากินสักตัว  แย่ๆ  อยู่กับเสื้อร้ายอย่างมัน  บรรดาน้องหมาของผมก็เลยพากันไม่กล้าทำหน้าที่ซะอย่างนั้น - -   อ๊ากกกก   กลางแจ้งโว๊ยยยยย   ผมไม่ว่านะ  ถ้ามีใครอยากลองทำ  แต่แนะนำนิด  หาผ้ามาปูด้วยนะครับ  เพราะมัน...คันเว้ยย




------------------------
 = ^ =

TBC.  จ้าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 07-05-2009 22:06:29
555
เอาเสื่อมาๆ
เวย์ คัน
กร๊ากกกก

น่ารักดีนะคู่นี้
ชอบบบบบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 07-05-2009 22:16:18
 กลางแจ้ง
:m25:

หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 07-05-2009 22:41:41
 :haun4: จริง ๆ ไม่อายสายลมแสงแดดแถมด้วยนกบนท้องฟ้ากับต้นไม้บ้างเลยเรอะ
จะมีใครเห็นบ้างป่าวเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 07-05-2009 22:48:47
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 07-05-2009 22:55:03
จะถามพอดีเลยว่าน้องเวย์ไม่คันหรอ
มาอ่านเจอบรรทัดสุดท้ายพอดี  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 07-05-2009 23:23:43


สรุปว่าคัน .... แต่มันส์ ??



โอเค!!~
 :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 08-05-2009 00:49:02
ฉาก รีดเลือกเลยอ่า :jul1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 08-05-2009 00:55:33
ก็มันฉุกเฉิน ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อนนี่เนาะ ไม่งั้นคงมีอุปกรณ์ครบครันกว่านี้  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 08-05-2009 08:20:31
 :m25: 

ขอบคุณคนเขียนค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 08-05-2009 08:29:40
 :m25:  กลางแจ้ง ด้วย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-05-2009 10:54:19
แนะนำให้พกเสื่อไปด้วยทุกที่
เผื่อฉุกเฉิน
เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :m25: :pighaun:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: l3iZal2l2e ที่ 08-05-2009 15:43:56
เย้
มาตามให้กำลังใจในนี้ต่อ ...
นึกออกมั้ยว่าเราเป็นใคร ?
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 08-05-2009 16:09:50
เอ่อ...นอกสถานที่ ..กลางแจ้ง ...... :m25:

ไนท์ :angry2:...จำไว้นะ...
รอบหน้า...หาผ้าปู...ให้เวย์ด้วย  :jul3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 09-05-2009 00:34:11
 :m1: ในที่สุดก็อ่านจนทัน น่ารักมากเลย
ชอบเวย์ ตลกอ่ะ


อ่านตอนนี้แล้วก็...
กลางแจ้งนี่ก็น่าสนุกดีนะ ตื่นเต้นๆ :haun4:


จะเข้ามาอ่านสม่ำเสมอนะค้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 09-05-2009 00:57:05
ค๊าาา จะลองดู 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 09-05-2009 02:36:00
 :oo1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 09-05-2009 14:25:35

ฟ้าเปงกรมมการ....เปงพยาน   :jul1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 10-05-2009 17:38:00
 :m25:

ขออีกเยอะๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-05-2009 20:05:15
เข้ามาดูรอบค่ำจ้า
เชียร์ไนท์เต็มที่คร่า
โย่วๆๆ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 10-05-2009 20:52:27
ไนท์เอ๊ยย คู่แข่งเยอะน่ากลัวทีเดียวนะเนี่ย  :laugh:
พยายามเข้าล่ะ ระวังเวย์ไว้ให้ดี  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 13 วินนิ่งกลางแจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 10-05-2009 20:54:37

ตอนที่ 14  งานเปิดบ้านและปฏิบัติการตีท้ายครัว

หลังจากกิจกรรมเข้าจังหวะในรอบหนึ่งเดือนผ่านไป  ไอ้เวย์ที่กลัวจะโดนลากไปเล่นวินนิ่งกลางแจ้งอีกรอบ  เพราะไอ้คนบางคนมันดูจะชอบใจนักหนาที่เห็นผมสะดุ้งทุกครั้งเวลาได้ยินใครพูดถึงสวน  สนามหญ้า  และวินนิ่ง - -  ไอ้เวย์จึงจัดการหนีไอ้คนปากเสีย (ซึ่งอีกนิดดียวก็จะกลายเป็นปากหมา  qoute : ความจำสั้น  อิอิ  สะพานลอยน่ารักมากมาย)  แล้วพาตัวเองมาอยู่ในที่ๆ ประชากรพลุ่งพล่านและไม่ใครหน้าไหนกล้ามาลากตัวไปใช้แรงงาน  นั่นก็คือหน้างานครับ  ด้วยตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายปฏิคมที่ผมเพิ่งนึกอยากจะขอบคุณมันเป็นครั้งแรก  แน่นอนว่า  ที่นี่ไอ้เวย์ใหญ่สุด  ไม่มีใครกล้าหือ  ฮ่าๆ  อ้อ  อาจจะยกเว้น ‘มัน’

“พี่เวย์  เฮ  มาทางนี้หน่อยดิพี่  น้องคนนี้เขาไม่เข้าใจที่ผมพูดอ่ะ”  ‘มัน’ หรือ  ไอ้ชินตะโกนเรียกผมด้วยเสียงปานร้องเพลงโอเปร่า - - (หมายถึงดังและเวอร์มากมาย)  ไอ้ผมก็ถูกรุมล้อมจากน้องๆ ที่เข้ามาขอข้อมูลก็เลยได้แต่ทำหน้าเมื่อย  หลิ่วตาให้มันรู้ว่า ลำพังตัวกูก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้วเว้ย  เมิงก็ช่วยตัวเองไปก่อนแล้วกัน  เหมือนว่ามันจะเข้าใจความคิดของผม  มันเริ่มทำหน้าเหมือนเด็กถูกขัดใจ  ตีโพยตีพาย  ลงไปดิ้นอยู่กับพื้นเหมือนปลาถูกน้ำร้อนลวก  อ่ะ  ไม่ใช่และ  มันแค่ขมวดคิ้วเข้มๆ ของมัน  ก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์หันไปซุบซิบกับน้องๆที่ล้อมรอบตัวมันอยู่  ผมได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ ดังขึ้นรอบตัวมัน  ก่อนที่มันจะก้าวเท้ายาวๆ มาทางผม  พร้อมด้วยสาวกบริวารมากมาย  เมิงจะพ่วงมาทำไม๊  เท่าที่มีอยู่ตอนนี้กูก็แทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว  จะมองไปทางไหนก็ดูเหมือนไม่ใครจะสามารถช่วยผมได้  เพราะต่างคนต่างกำลังมีปัญหาทางหน้าตาอยู่  - -  เคยเป็นกันไหมครับ  ปัญหาของคนหน้าตาดีเกินน่ะ

“หลบหน่อยครับน้องๆ”  เหอะ  ฉีกยิ้มมาเลยนะเมิง  ลากปัญหามาให้กูอีก  แม่ง  ไอ้น้องไม่รักดี  เมิงจะเกิดมาหล่อทำไม  ผมเริ่มคิดแล้วว่าการพาตัวเองมาอยู่ที่ฝ่ายปฏิคมไม่เป็นผลดีแต่อย่างใด  และเชื่อว่าไอ้พวกที่ถูกจับมาอยู่ฝ่ายนี้ต้องคิดเหมือนผมแน่
“เมิงลากพวกแม่ๆ มาด้วยเพื่อ”  ผมกระซิบถามมันเมื่อมันมายืนข้างๆ  แต่ตาและปากของผมและมันก็ยังคงยิ้มต่อไป  the show must go on ครับ  นี่ผมไม่ใช่พวกเสแสร้ง  ผักชีโรยหน้านะ  แต่เป็นพวกรู้จักวางตัวตามสถานการณ์ครับ  ฮ่าๆ
“กรี๊ด  ใช่จริงๆ ด้วย  กรี๊ด”
“กรี๊ด ตกลงพวกพี่เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอคะ ว้ายๆ”
ห๊ะ  อะไรนะครับ  นี่ผมหูบอด หรือพวกน้องๆเขาตาหนวกกันแน่ครับเนี่ย  ใช้อะไรมองกันครับเนี่ยน้อง  พี่กระซิบด่ามันนะครับ  ไม่ได้เล่นบทพี่บี้  กระซิบรักหลายภาษา - -  
หมับ  ไอ้คนข้างๆ มันก็ดันยิ้มรับ  สวมรอยกอดผมทันที  คิ้วขวาไอ้เวย์เริ่มกระตุก  แต่ยังคงรักษามาดและรอยยิ้มไว้ได้อย่างดี  บอกแล้วไงครับ  The show must go on!!  แต่ชีวิตไอ้คนข้างๆ เนี่ย มันอาจจะ go on ได้ไม่นาน  เพราะพญามารในตัวผมมันเริ่มส้นเท้ากระตุกแล้ว - -
“เชี่ยชิน  ปล่อยเลยมึง  กูไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ”
“ผมก็ไม่ได้บอกว่าใช่”  เมิงนิ่งมาก  ไอ้น้อง  _*_
“เฮ้ย  แม่ง กวนเว้ย  ปล่อยดิวะ  กูหนวกหู”  จะกอดก็ช่วยไปกอดในที่ลับตาคนหน่อยได้ไหมวะ  รำคาญเสียงกรี๊ด  เฮ้ย  ไม่ใช่และ  กอดไม่ได้เว้ย  ของกินไม่มี  รถไม่มา  เสือกมากอด  แม่งง  ไม่มีลงทุน   นี่ผมกังวลถูกเรื่องถูกราวไหมเนี่ย??

“ยิ้มกว้างๆ ดิพี่  ถ่ายรูปอยู่นะ  ไม่ใช่เผานั่งยาง”  ถ้าหลุดออกไปได้  กูนี่แหละจะนั่งยางเมิง  โดยเฉพาะยางในหนังหน้าเมิงน่ะ  แม่งง  ใครลอกออกไปหมดแล้วรึไงวะ  ในใจก็บ่น  แต่ทั้งปากทั้งมือขยับตามที่มันสั่งหมดอย่างกับป้อนโปรแกรมไว้  - -  เวรแท้ครับ

“กรี๊ดดด  น่ารักมาเลยค่า  พี่คะ  ขอท่าซารังเฮโยได้ไหมคะ”  น้องคนสวยครับ  จะดีมากครับท่าน้องจะเป็นสอนพี่ทำท่านั้นเอง  ทำไมพี่จะต้องบ้าจี้ทำตามน้องด้วยล่ะคร้าบบบบบบ
“กรี๊ดดด  น่ารักมากค่า”  ไม่ได้ตั้งใจครับ  มือมันไปของมันเอง  สารภาพตามตรง  ผมไม่ได้บ้ากล้อง!!  แต่ตอนนี้ไอ้เวย์กำลังฉีกยิ้มทำท่าซารังเฮกับไอ้คุณชินที่หน้าบานจนน่าเอาอวัยวะเบื้องต่ำประเคนให้ซะจริงๆ  เอ้า!!  อยากถ่ายก็ถ่ายไปครับน้อง  พี่นับหัวอยู่มี่กี่หัว  คิดหัวละร้อย  ไม่ได้เก็บกับน้องๆครับ  ทำอย่างนั้นเราจะเสียภาพพจน์  รองานเลิกค่อยรีดจากไปตัวดีข้างๆนี่ก็แล้วกัน
“พี่ชินค่ะ เอามือไปข้างที่สะโพกพี่เวย์หน่อยค่ะ”  หมับ! มันทำทันที
“หันหน้าเข้าหากัน  แล้วกอดเอวค่ะพี่  กรี๊ด  สวยมากค่า”  พรึ่บ! หน้าห่างกันสองนิ้ว
“เอาหน้าผากชนกันได้ไหมค๊า”  มันไม่ตอบแต่ ..แปะ!! เต็มหน้าผากเลยกู
“อ๊ายย  จูบเลยค่า”   ไม่อ๊าวววว

หมับ!! ปึก!!
“จะทำอะไร”  
   เสียงแรกเป็นเสียงที่ร่างของผมถูกกระชากออก  เสียงที่สองเป็นเสียงหน้าอกไอ้ชินถูกตีนยันออกหนักๆ  และเสียงสุดท้ายไม่ใช่ของพญามารที่ไหน  นอกจากไอ้คนที่เพิ่งชวนผมเล่นวินนิ่งกลางแจ้งไปนั่นเอง  ถึงคราวซวยแล้ว   งานเข้าทั้งกูทั้งเมิงเลยว่ะ  ไอ้ชิน  TOT

   สรรพเสียงทุกอย่างเงียบลงก่อนจะ....  “กรี๊ดดดดดดดดดดด”   เสียงกรี๊ดดังขึ้นถล่มทลายไว้อาลัยให้กับชีวิตบัดซบของผม

   “วี้ดว้ายอะไรกันวะ  น่ารำคาญชิบ”  ไอ้ไนท์  เก็บอาการหน่อยเมิง  อย่าพูดหมาๆ อย่างนั้นได้ไหมวะ  หมดกันภาพพจน์ของคณะที่กูอุตส่าห์สร้างไว้  หมดๆ  กูอุตส่าห์ไม่ให้เมิงมายุ่งกับฝ่ายนี้แล้วนะ  แม่งง  วอดวายหมดภาพพจน์หนุ่มหล่อ  ใจดี  มีระดับของเศรษฐศาสตร์  หมด  หมด  เพราะมึงเลย
   
   “กรี๊ด  เศรษศาสตร์มีคนเถื่อนๆ ด้วยเหรอเนี่ย”  อย่าว่าแต่เถื่อนเลยครับ  ถ่อยก็มี  เฮ้ย!!  ไม่ใช่ดิ  ไม่มีครับน้อง  ไม่มี  ที่น้องเห็นน่ะมันเป็นแค่เพียงภาพลวงหลอกตา  
   “ว้าย  หล่อ  เท่  เถื่อน  ได้ใจมากค่า  พี่คะ  หนูจะเข้าเศรษฐศาสตร์แน่นอนค่ะ”  อ้าว  เป็นงั้นไปครับ  สรุปที่พี่ทำมาทั้งหมดเนี่ย  สู้ที่ไอ้ไนท์มันพูดประโยคเดียวไม่ได้??  แล้วกูจะทำไปเพื่อ??
   “พี่ชื่ออะไรคะ  แล้วเป็นอะไรกับพี่เวย์คนสวยคะ”  พี่เวย์คนสวย  พี่เวย์คนสวย  พี่เวย์คนสวย  กู..สวย  ไม่เอาว้อยยยยยยย

   “เป็นอะไรกับไอ้เวย์น่ะเหรอ  อืม  นี่  ไม่ได้ยินที่น้องเขาถามรึไง  ตอบดิ”  มันเอาแขนมาโอบรอบคอผมไว้  แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องเอนตัวหนี  ชิบ...แล้ว  งานเข้าซ้ำเข้าซ้อนจริงๆ เลยกู  ค่าล่วงเวลาก็ไม่มี  แม่ง  เหลือบไปมองน้องๆ ซึ่งเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์เป็นผู้หญิง  ก็เห็นแต่ล่ะคนทำหน้าอ้อนวอนให้ผมตอบอะไนที่เกินเพื่อนมากมาย  เอาไงดีวะ  เหอๆ

   “เอ่อ  เป็น  เป็น  ก็เป็นเพื่อนสิครับ  แหะๆ  เนอะ  ไอ้ไนท์”  ตอบเสร็จก็หันหน้าหนีมันครับ  หันหนีก็ดันไปเจอโจทย์เก่า  ไอ้ชินยืนทำหน้าหมาหงอย  ก่อนจะยิ้มให้ผมบางๆ  ทำท่าซารังเฮแล้วถอยหลังเดินจากไป  เฮ้ยยย  อย่าเพิ่ง  กลับมาช่วยกูก่อน  งานเข้าด้วยกัน  ก็ต้องช่วยกันดิวะ  ทิ้งกูงี้ได้ไงอ่า  หันกลับมาอีกด้าน  ก็เห็นอีกคนขวมดคิ้วด้วยท่าทางขัดใจ  ไม่รอดแน่กู เหงื่อตกๆ
   “ว้า  ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกเหรอคะ  ออกจะสมกัน”  พี่ก็อยากให้เป็นอยู่ครับน้อง  แต่มันมิได้นำพา - -
   “นั่นสิคะ  น่าเสียดายจัง  ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไรบอกด้วยนะคะ  หนูจะเชียร์  อิอิ”  ขอบคุณครับน้อง  ถ้าได้เป็น  พี่จะปิดมหาลัยเลี้ยง  แล้วจะเชิญน้องมาเป็นแขกวีไอพี

   “ครับ  พวกพี่ยังเป็นเพื่อนกันอยู่  แต่เป็นเพื่อนที่ทำแบบนี้ได้ด้วย”  จุ๊บ!!  พูดจบไอ้ไนท์ก็โน้มหน้าลงมาหอมแก้มผม   ไอ้เวย์ก็ตาโต  แข็งเป็นหิน ความสามารถในการพูดหายไปชั่วคราว
   “กรี๊ดดดด”  มีลูกคู่รับตลอด
   “แบบนี้ก็ได้”  หมับ!!  มันหันตัวผมเข้าหาตัวเอง  แล้วกอดไว้แน่น  แถมเอาฟันกัดหูผมเบาๆ  ไอ้เวย์สะดุ้งเฮือกเลยครับ  ความร้อนจากทุกสารทิศพุ่งขึ้นมารวมกันที่หน้าผมหมด  จะไหม้ไหมเนี่ยกู  เตรียมเรียกดับเพลิงได้เลยครับพี่น้อง
   “กรี๊ดดดดด”
   “แบบนี้...ก็ได้เหมือนกัน”  มันใช้มือดันไหล่ผมออก  แล้วค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา  รอยยิ้มมันเจ้าเล่ห์  แต่นัยน์ตาวาวโจรณ์   เฮ้ยย  อย่าบอกนะว่ามึงจะ...  ไม่เอานะเว้ย  ผมอยากจะดิ้นหนีแต่ปากมันก็ไวเกินกว่าจะหลบพ้น  ริมฝีปากร้อนๆ บดเบียดเข้ามาอย่างร้อนแรง  บดขยี้ด้วยความโกรธจนเลือดซึม  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันกำลังของขึ้น  นานกว่ามันจะถอนริมฝีปากออก  ผมต้องรีบหายใจกอบโกยอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่  และคงทรุดไปกองกับพื้นแล้ว  ถ้าไม่ได้มันพยุงแขนเอาไว้

   “ขอตัวนะ  พวกพี่มีเรื่องต้องไปทำต่อตามประสาเพื่อน”  มันดึงผมเดินออกไปโดยที่น้องๆ เปิดทางให้ด้วยสีหน้าที่ยังอึ้งไม่หาย  อย่าว่าแต่น้องๆ เลยครับ  พี่ยังเอ๋อไปเลย  เดินออกมาไปไม่กี่ก้าว  เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้นจนผมแทบจะมุดดินหนี  นี่ถ้าใครผ่านมาต้องนึกว่าดงบังชินกิบินมาไทยแน่นอน

   ไอ้ไนท์ลากผมเดินเข้างานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากมันสักคำจนผมก็ชักเกร็งๆ  จะหายใจไม่ออก  คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หลีกทางให้มันอย่างนกรู้  ช่วยเก็บรังสีอำมหิตหน่อยก็ดีนะเมิง  ใครไม่รู้เขาจะคิดว่าเมิงจะไปฆ่าใคร  หวังว่าคงไม่ใช่กูหรอกนะ  อยู่ๆ มันก็หยุด  แล้วหันมาทำหน้าเหี้ยมใส่ผม

   “อ๊อก  เฮือก  เฮือก  ค่อก  แค่ก”  ผมสำลักลมหายใจตัวเองจนหน้าแดง  น้ำตาซึม ไอ้คนที่ทำท่าโกรธมาสิบชาติเมื่อกี้รีบเข้ามาดู
   “เฮ้ย  เมิงเป็นอะไร”  มันพูดอย่างร้อนรน  แล้วลูบหลังผมเบาๆ
   “กูลืมหายใจ”  
   “ห๊ะ!!”  งงเชี่ยไรวะ  ไม่เคยเห็นคนรีบหายใจมากไปหน่อยรึไงวะ  แปลกตรงไหน
   “ก็เมิงน่ากลัว  กูก็เลยลืมหายใจ  แล้วพอนึกได้  กูก็เลยรีบหายใจมากไปหน่อย”  
   “หึหึ  ฮะ  ฮ่าๆ  มึงรีบหายใจมากไปหน่อย  ฮ่าๆ”  ตลกตรงไหนวะ  คนสำลักลมหายใจตัวเองเนี่ย  มันน่าขำมากนักรึไงวะ  แต่ก็ดี  เมิงตลกได้ถูกเวลาแล้ว  ไอ้เวย์  ฮ่าๆ
   
   “เดี๋ยว  เมิงไม่ต้องมาทำตลกกลบเกลื่อน”  เมิงกลับมานิ่งได้เร็วมากเพื่อน
   “กูป่าว  มึงขำของมึงเอง”
   “เออ  กูขำของกูเอง  แล้วเมื่อกี้ถ้ากูไปเข้าไปลากมึงออกมา  มึงกับไอ้ชินจะทำอะไรกัน”
   “ทำอะไร  ป่าวนี่  กูไม่ได้จะทำอะไร”  ไอ้ชิน  ช่วยด้วย  งานเข้ากูอีกแล้ว  งานช้างด้วยนะเมิง  ถ้ากูไม่ถูกเหยียบตายซะก่อน  กูจะไปทวงเงินค่าเป็นนายแบบถ่ายรูปจากเมิงทีหลัง
   “หึ  อย่านึกว่ากูไม่เห็น  แม่งเอ๊ย  พวกมึงกำลังจะจูบกัน!!”  ไอ้ชินนน   มันจะกินหัวกูแล้ว  ช่วยกูด้วย  สัพเพสัตตา  สัตทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์  มาช่วยทุกข์ด้วยกันหน่อยครับ
   ปัง!!  ถังขยะกระเด็นไปแล้วนะเมิง   ช่วยกูด้วย  กูส่งสัญญาณ  SOS ไปแล้ว  มึงได้รับไหม

   “ค่ะ..คือว่า  เอ่อ”  
   “อย่าเพิ่งพูดอะไรต้องนี้  ไปหาข้าวกินก่อน  กูไม่อยากให้เมิงเป็นเหมือนนั่น”  ผมกลืนน้ำลายดังเอือก  รีบพยักหน้าแรงๆ   ก็ ‘นั่น’ ที่มันมองน่ะ  คือไอ้ถังขยะที่มันเพิ่งเตะใบนั้นอ่ะดิ  โมโหผมกับไอ้ชินนั่นก็แย่พออยู่แล้ว  ขืนให้มันโมโหหิวด้วยอีกอย่าง  เห็นทีจะรอดยาก

   “จะกินอะไร”  เสียงเย็นไปไหมครับ  ถ้ากูตอบไม่ถูกใจแขนขากูจะยังอยู่ครบไหมวะ
   “แล้วแต่เมิงเลยจ้า”  อยากจะอ้วกว่ะ  แต่ต้องทนครับ  เพื่อเอาชีวิตให้รอด  ผมเห็นมันสะดุดนิดนึง  มุมปากเริ่มขยับออกคล้ายที่สิ่งคนทั่วไปเรียกว่า ‘ยิ้ม’  แต่ของมันจะออกแนวแสยะยิ้มมากกว่านะ  ผมว่า
   “หึ  งั้นกินไอ้นั่นแล้วกัน”  แปร๊ดดด  ควันจะออกหู  นึกถึงหน้าผมแดงแล้วมีควันออกจากหูได้ไหมครับ  ทำไมหน้าแดงน่ะเหรอ  คิดเอาเองแล้วกัน  ว่าไอ้นั่นที่มันมองน่ะคืออะไร  อย่าให้ผมต้องพูด  คิดกันได้อยู่แล้วล่ะ  เรื่องก่ำกึ่งทางศีลธรรมพวกนี้
   “เชี่ย  เอ๊ย!!  กูหมายถึง  โชย  กลิ่นก๋วยเตี๋ยวโชยมา  น่ากินเนอะ  เหอๆ”  โอ๊ยย  พูดเองยังอยากกระทืบตัวเอง  ไหลไปได้นะตู
   “ก็ได้  ก๋วยเตี๋ยวก็ก๋วยเตี๋ยว  หึ”  มึงอย่า ‘หึ’ บ่อยได้ไหม  กูเสียวสันหลัง  มึง ‘หึ’ ทีไร  ต้องมีคนได้เลือดทุกที


   “เอาหมี่ขาวหมูเลียง ไม่ใส่ถั่วงอกสองที่ครับ”  ผมสั่งเอาใจมันเต็มที่  เอาเหอะครับ  ยอมๆ มันไปก่อน  ผมยังไม่พร้อมไปเฝ้าท่านยม  มีแม่ต้องเลี้ยงอีกคนครับ
   “ค่ะ  พี่เวย์กับพี่ไนท์มาเอง  เดี๋ยวพิมแถมน้ำส้มให้นะคะ”  น้องตาโต  ปากแดง  ฉีกยิ้มจนเห็นเขี้ยวสวยๆ  ทำให้ผมมองตาค้าง  นอกจากรถแล้ว  คนที่เขี้ยวนี่ล่ะครับที่ผมเห็นไม่ได้  พยักหน้ารับเหม่อๆ เผลอมองเขาจนลับตา  แหม  เขี้ยว คนมีเขี้ยว
   “โรคเก่ากำเริบรึไงเมิง  ชอบนักก็ส่องกระจกสิวะ  เขี้ยวมึงก็มี”  
   “กูมีข้างเดียว”   ชิบ...  ลืมตัว  ก้มหน้าก้มตา  สงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้  อย่าไปขึ้นเสียง  อย่าไปหาเรื่องกระแทกส้นกับมัน  แม่ยังรออยู่ที่บ้านนะเว้ย
   “เหอะ  อยากขึ้นเตียงเคลียร์กะกูตอนนี้เลยไหม”
   “ม่ายย  กินก่อนดีกว่า  แหะๆ”  นี่ถ้าไม่เห็นแก่แม่  กูขึ้นไปแล้วนะเนี่ย  (ขึ้นห้อง  ล็อกประตู  ลงกลอน  ปะแป้ง  แกล้งหลับ  โคตรจะลูกผู้ชายตัวจริง)


   “หัวเราะต่อกระซิกให้เขาถ่ายรูป??”  มันเริ่มการสอบสวนทันทีที่วางตะเกียบด้วยประโยคบอกเล่าที่ไม่มีให้เลือกตอบว่า  ใช่ หรือ ไม่
   “ก็ไม่เชิง”
   “....”  ไม่มีคำพูด  แต่คิ้วที่เลิกขึ้นข้างหนึ่งบอกว่า  ยังไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไร
   “ก็น้องมันยุ”
   “เมิงก็บ้าจี้ทำ”
   “มันเป็นไปเอง  กูไม่ได้ตั้งใจทำ  แต่ห้ามแขนห้ามขาไม่ทัน”
   “พูดบ้าๆ  ตัวของมึง  บอกไม่ตั้งใจ  ถ้ากูไม่ตั้งใจปล้ำมึงตรงนี้เลยจะได้ไหม”  มึงอย่าเอาเรื่องเล่นๆมาพูดจริงได้ไหม  กูไม่ไว้ใจเมิงเลยเนี่ย
   “พ่อเมิงดิ”
   “อย่าพูดถึงผู้ชายคนนั้น”  มันพูดรอดไรฟัน
   “กูขอโทษ”  ไม่น่าปากไวเลยกู  หาเรื่องให้ตัวเอง ไม่หยุดหย่อน  รู้ทั้งรู้ว่ามันเรื่องต้องห้ามก็ยังไปแหย่  ไปทำให้มันคิดเรื่องนั้นขึ้นมาอีก  อะไรที่มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว  ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปอีก  โว้ยย  เมิงนะเมิง  ไอ้เวย์

   “ช่างเหอะ  กูไม่อยากทะเลาะกับมึงเรื่องนี้  แค่เรื่องไอ้ชินกับไอ้หมอ  แล้วก็เรื่องบนเตียง  กูก็จะหมดแรงแล้ว  เดี๋ยวนี้มึงไม่ใช่ธรรมดาแล้วด้วย”  
   “เชี่ย”  มันก้ต้องมีเริ่มเป็นงานกันมั่งดิวะ  ฮ่วย
   

   “นี่  ไปเศรษฐศาสตร์  คนหล่อเพียบเลยอ่ะ”  อะไรเศรษฐศาสตร์  หูกระดิกครับ  
   “ใช่ๆ  หล่อทั้งนั้นเลยอ่า  สุภาพด้วย  น่ารักๆๆ กรี๊ด”  น่าน  เป็นไงล่ะ  ฮ่าๆ  ไม่เสียแรงที่เตี๊ยมกันมาอย่างดี  
   “เออ  ตกลงพี่เวย์เขาเป็นแฟนใครเหรอ  พี่ชินหรือพี่เท่ๆอีกคน”  ชิบ...  พูดอะไรกันครับ  หยุดครับ  พี่ขอร้อง  พี่กำลังจะรอดอยู่แล้ว  อย่าลากพี่ไปตกหลุมดำอีกรอบ
   “เขาชื่อพี่ไนท์ย่ะ  หล่อโคตร”
   “ก็ไหนพี่ชินเขาบอกเองว่า พี่เวย์เป็นแฟนเขาอ่ะ”
   “แต่ว่าพี่ไนท์จูบกับพี่เวย์ด้วยนะ  อ๊ายย  น่ารักโคตรอ่ะ  ขอเชียร์พี่ไนท์ได้ไหมอ่ะ  พี่ชินก็หล่อนะ  แต่พี่ไนท์หล่อเถื่อนๆ ดีอ่า  เท๊”
   “แต่พี่เวย์บอกว่าเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่เหรอ”
   “อืม  เพื่อนที่ไหนจะหวงกันขนาดนั้น  ไม่ม๊าง”
   “อ๋อ  รู้แล้ว  พี่ไนท์อ่ะ  เป็นชู้แน่เลย  ฮ่าๆ  ชัวร์”  เฮือก!!   มันไม่ใช่ชู้ครับน้อง  มันเป็นยิ่งกว่าพ่อพี่อีก  และตอนนี้มันอาจจะเป็นฆาตรกรได้ง่ายๆ นะครับ  ถ้าพี่ไม่รอด  ฝากเก็บศพพี่ไปให้แม่ด้วยนะครับ  ขอบคุณล่วงหน้า

   ตึง!!  เสียงเก้าอี้ล้ม  พร้อมกับใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ชะตาขาดแน่กู
   “เมิงมานี่”  เบาๆ  ลากกูเบาๆ  ไอ้พญามารไนท์ลากแขนผมก้าวลิ่วๆ จากโต๊ะตัวในสุดของร้าน  เดินไปถึงโต๊ะตัวหน้าสุดที่สาวๆ ดวงตกนั่งอยู่  นินทาใครไม่นินทา  ความซวยจะมาเยือนถึงโต๊ะ  รีบๆ กินเข้าครับน้อง  ก่อนจะไม่มีโอกาสกิน

   “ไอ้เวย์บอกสิว่า กูเป็นชู้กับมึงหรอเปล่า”  โอ๊ยย  พูดเบาๆ ได้ไหมวะ  กูยังไม่อยากเป็นข่าว  แม่ง  น้องๆ นี่นั่งอ้าปากค้าง  หน้าซีด  เหงื่อตกเลยครับ
   “ป่ะ..เปล่า”
   “มึงจะสั่นทำไม  พูดให้มันหนักแน่นหน่อยสิ”  ก็มึงมันน่ากลัว  กูก็สั่นสิฟ่ะ  สั่นไม่สู้นะเว้ย  
   “เปล่าครับ”
   “แล้วกูเป็นอะไร”  อ้าว!  ทำไมมาถามผมอย่างนั้นล่ะครับคุณเพื่อนที่เคารพ  ไอ้ผมก็อยากเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อน  ครั้นจะตอบไปอย่างนั้นก็เกรงชีวีจะหาไม่
   “เอ่อ..พ่ะ..”  กำลังจะตอบว่าเป็นเพื่อน  แต่แรงบีบที่แขนบอกเป็นนัยๆ ว่า  ถ้าผมตอบว่า เป็นเพื่อน  เตรียมตัวตาย
   “ง่า  เป็นคนพิเศษครับ”
   “กรี๊ดดด”  ต่อมกรี๊ดทำงานแล้วหรือครับน้อง  ดีใจด้วย  เจอไอ้ไนท์มาดฟิวขาดเข้าไปใบ้กินกันหมด
   “แล้วไอ้ชิน??”
   “เป็นน้อง”  แรงที่แขนคลายลงเป็นสัญญาณว่าไอ้คนจุดเดือดไม่ค่อยต่ำมันเริ่มพอใจบ้างแล้ว  และโอกาสรอดไปดูแลแม่ของไอ้เวย์ก็เพิ่มขึ้นอีกโข

   “เข้าใจแล้วนะครับ”  มึงถาม แต่ตามันกำลังบอกว่า  ถ้ายังไม่เข้าใจอีก  อาจได้เลือด
   “คะ..ค่า”
   “แล้วจะเชียร์คนอื่นนอกจากพี่อีกไหมครับ”
   “ไม่ค่ะ”
   “ถ้ามีมดแมลงมาเกาะแกะไอ้เวย์  น้องๆ จะช่วยกันออกไปใช่ไหมครับ”
   “ค่ะ”
   “ดีครับ  พี่ถือว่าสัญญาแล้วนะ  งั้นมื้อนี้พี่เลี้ยงแล้วกัน  กินตามสบายนะ”
   “ข่ะ..ขอบคุณค่ะ”  ยอมมันง่ายไปไหมครับน้อง  แต่คิดถูกแล้วครับ  เป็นพี่พี่ก็ยอม  เหอๆ  โคตรเป็นคนดีเลยเพื่อนกู  ตบหัวลูบหลังอย่างเห็นได้ชัด  กับเด็กผู้หญิงมันยังกล้า  แล้วไอ้ผมจะไปเหลืออะไร  เหอะๆ

   “ส่วนมึง  ไอ้เพื่อนรัก  ไปเดินงานกัน  ไม่ต้องไปทำงานแม่งแล้ว  ถ้าไม่อยากให้ของกูขึ้นอีกรอบ”




-------------------------------

TBC>>>  ขอโทษที่ช้านะคะ  ก๊ากกก  อ่านรีพลายแล้วแอบฮา  สงสารคนคัน  ก๊ากกก  
ไนท์เจ้าเล่ห์ได้อีก  ฮ่าๆ  ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  ซึ้ง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 10-05-2009 21:02:30
จิ้มๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 10-05-2009 21:03:13
จิ้มทันมั้ยยย  :z13:


พี่หมอของผมอยู่หนายยยยยยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 10-05-2009 21:12:06
ไนท์แร๊ง !!!


แต่ชอบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 10-05-2009 21:19:05
อ๊ากๆๆ

เปิดเผย มากมาย   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 10-05-2009 21:49:53
โอ้ว ก๊อด เวย์ซวยแล้ว งานเข้า เหอๆ  :o12:

เอาใจช่วยให้รอดตายด้วยเถิด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 10-05-2009 21:54:44
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 10-05-2009 22:05:34
สงสารเวย์จัง

เจอคนพิเศษแบบไนท์เข้า

มึหึงมะไหร่เวย์ได้ขายหน้าทุกที ทุกที่อีกต่างหาก

เฮ้อออ

สงสารเวย์อ่า

คืนนี้กลับไปไม่ตายคาเตียงหรอฟ๊ะ

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 10-05-2009 22:55:50
เจ้าเวย์นี่มันแพ้ทางเจ้าไนท์ตลอดจริง ๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 10-05-2009 23:33:50
 :laugh:   อ่านรวดเดียวเลยค่ะ  ชอบม้ากค่ะ   :laugh:

ขำๆ ดีอ่ะ  แถมมีหวานด้วย กรี๊ดไนท์ที่สุดเลยค่ะ    มากกว่านี้พี่ก็ยังเขียร์ค่ะน้องไนท์   :oo1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 10-05-2009 23:48:40
โหด ได้ใจดีแท้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 11-05-2009 00:00:44

ไนท์แรงได้ใจ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 11-05-2009 00:06:37
อ่านแล้วแบบนะ....ไนท์ได้ใจมากมายยยยยยยยย
มันต้องแบบนี้หล่ะ....จะได้รู้ว่าใครอ่ะตัวจริง...ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: R@!nY~==~N!GhT ที่ 11-05-2009 00:12:08
ไนท์ สุโค่ย~~~~~~~~~~~~~~~~~~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 11-05-2009 01:05:08
รอบนี้มาข๊าาา าช้า   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: RealReal ที่ 11-05-2009 01:28:34
 o13 ยกนิ้วให้ เขียนดี หนุก ๆ

อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกไนท์มะแฟร์หงะ

"ไนท์เห็นแก่ตัวไปปะ  :angry2: --ตกลงแค่หวงเพื่อนใช่ปะ  :angry2: --แล้วไปมีอะไรกับเค้าเนี่ยนะ  :เฮ้อ: --รุ้ทั้งรุ้ว่าเวย์แอบชอบมานาน ยังงัยก้อต้องยอมอยู่แล้ว  :เฮ้อ: --แล้วที่ทำอยู่นี่หมายความว่างัย  :serius2: "

ป.ล.  o13 ให้กำลังใจเน่อ  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 11-05-2009 01:49:08
ไนท์ช่างร้อนแรง
ส่วนเวย์ก็รั่วได้ใจ

 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 11-05-2009 09:19:43
เทอร้อนแรงดั่งไฟเออะ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: l0nely4ever ที่ 11-05-2009 12:59:16
 :really2:



ไนท์แม่ง....


มันคลุมเครือตรงที่ว่าเป็นอะไรกันอ่ะ เนอะ ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 11-05-2009 21:57:30
เอ่อ ... จริงๆเท่าที่อ่าน เหมือน ไนท์ รู้ใจตัวเองดีแล้วใช่ป่ะ

แค่ ยังไม่ได้ บอก เวย์ ไปตรง ๆ ...


รีบบอกน๊า .... อย่าปล่อยให้ช่วงเวลาดีๆผ่านไป  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-05-2009 09:43:00
แสดงความเป็นเจ้าของซะขนาดนี้

เลิกเป็นเพื่อนกันได้แล้วม้างง  :m12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 12-05-2009 10:15:25
โห ไนท์ เถื่อนได้ใจจริง ๆ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 12-05-2009 14:53:54
ถ้าไนท์ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนแล้ว ก็บอกเวย์ดีๆก็ได้
ไม่ต้องโหด เถื่อน ขนาดนี้ เวย์ก็ยินดีเลื่อนสถานะอยู่แล้ว
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 12-05-2009 15:49:59
ไนท์ เถื่อนได้ใจจริงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 12-05-2009 20:44:41
เครียดพี่นุ่นโป้ง ทำให้เครียดเรื่องเวย์ :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: tvemmyxq ที่ 12-05-2009 22:26:27
อิดฉาสาวๆที่ได้เห็นฉากสดๆ 555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 13-05-2009 18:58:07
เข้ามาดันให้พี่ไวท์คร้าบ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 14 งานเปิดบ้านแะลปฏิบัติการ...
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-05-2009 20:31:45



บทที่ 15  เก๊กหลุด??

   วันงานเปิดบ้านวันที่สองอาจจะเป็นวันที่สดใสซาบซ่านของใครหลายๆ คน  ตั้งแต่รุ่น้องยันรุ่นลุง  เพราะต่างคนต่างโยนตำรา  หันมาหาความสุขใส่ตัว  ไอ้พวกเบ๊ทั้งหลายวันนี้ก็พากับปลดแอกตัวเองเป็นไท  เดินหลีสาวกับเต็มที่  มุกควายงง (แป๊กขนาดควายยังส่ายหน้า) มีให้เห็นกลาดเกลื่อนเต็มถนน  ไม่เว้นแม้กระทั่งไอ้คนที่มีเมียมาคุมอย่างไอ้นุมันก็ยังอุตส่าห์ลื่นไหลไปแสวงหาโลกใหม่กับเขาได้  คงจะมีแต่ผมนี่ล่ะครับ  ที่ถึงวันหยุดทีไรมีแต่เรื่องให้สังขารทรุดโทรมมันทุกครั้ง    ใครบอกว่าเวลามีปัญหาให้หันหน้าเข้าหากัน  พูดคุยกันด้วยเหตุผลแล้วสุดท้ายจะได้เข้าใจกัน  ไอ้เวย์ขอเถียงแบบสุดตรีนครับ  พี่เบิร์ดถามเราว่า  เถียงกันทำไม  แต่ผมนี่สิอยากถามว่า อธิบายมันเพื่ออะไร  - -  เพราะขนาดผมยกปัญจมหานทีทั้งห้าตามด้วยเขาสัตตบริภัณฑ์ทั้งเจ็ดมาพูดให้มันฟัง  แถมโปรโมชั่นนวดฟรีตลอดตีนจรดหัว (อันนี้สงสัยมานานแล้วครับ  เคยไปนวดกันไหมครับ  ผมไปนวดทีไร  เริ่มจากเท้ามายันหัวทุกที  เหอะๆ  โคตรเจริญ  เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต )  มันยังไม่ยอมเข้าใจเลย  อ้างโน่นอ้างนี่  ทำเป็นหูหนวกมั่ง  ตาบอดมั่ง สมองพิการมั่ง  สุดท้ายมันก็จะเคลียร์ด้วยวิธีของมันครับ  ผมคงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่ามันจะเคลียร์ยังไง  เราย้อนกลับดูเหตุการณ์เมื่อคืนครับ
   
   “กูเคือง” ไอ้คนที่ปิดปากเงียบมาตลอดทางทั้งๆ ผมอธิบายจนปากจะแฉะ   แถมยังขับรถเหมือนทำประกันชีวิตไว้สักร้อยล้าน  ในที่สุดก็พ่นคำพูดที่ไม่สมควรออกมาจนได้   ไม่สมควรยังไงน่ะเหรอครับ  ก็เพราะมันไม่สมควรยังไงเล่า  คนที่สมควรพูดคำนั้นจริงๆ มันต้องเป็นผมสิ  โดนมันลากไปลากมา  แถมยังนั่งเกร็งจนปวดม้ามไปหมดเพราะไอ้การขับรถยิ่งกว่านั่งเฮอริเคนของมันอีก  คิดดู  ผมหรือมันกันที่แน่ที่สมควรจะเคืองน่ะ
   “กูรู้”  ผมก้มหน้าก้มตาบอกมัน  แน่นอนครับว่าไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด  ไม่กล้าสู้หน้าอะไรหรอก แต่เป็นเพราะกำลังอดกลั้นเต็มที่ต่างหาก   “จะให้กูทำยังไง”  ไอ้เชี่ยชิน  อย่าให้กูเจอนะเมิง  ไม่เมิงก็กู  ต้องกระดูกหัก   ตับแตกกันไปข้างหนึ่ง

   “เขาว่า  อย่าถือคนบ้า  อย่าว่าคนเมา”  มันจับคางผมให้เงยหน้าคิด  สบตากับมัน  เหอๆ  รู้สึกว่าหนาวผิดปกติแฮะ  เหมือนจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับชีวิตยังไงยังงั้น  ปากมันยิ้มให้เริ่มใจชื้น  แต่ทำไมตามันดูระทึกแปลกๆวะ
   “....”
   “ถึงจะเป็นคนบ้าไม่ได้  แต่เป็นคนเมาไม่ยากใช่ไหม”  มันยิ้มครับ  ยิ้มกว้างกว่าทุกทีที่ผมเคยเห็น  เล่นเอาสมองไอ้เวย์หยุดทำงานไปชั่วขณะ  ตาเริ่มจะพร่าเพราะรัศมีความหล่อมันเข้าตา  ชิบหายเอ๊ย  ถ้าตากูบอดรับเลี้ยงกูไปชั่วชีวิตด้วยนะเว้ย  ได้ทีรีบมัดมือมัดเท้าตัวเองใส่พานทองส่งให้มันเลยครับ

   “ก็เออดิ  แดกเหล้าเพียวๆ ไม่ถึงขวดกูก็เมาแล้ว”   พอได้สติ  ก็รีบพูดซะจนลิ้นเกือบจะพันกัน  เห็นมันหลุดขำออกมาแอะหนึ่ง  เอาวะ  แอะเดียวก็ยังดี
   “ดี  งั้นเมิงก็เมาซะ”
   “ห๊ะ”  อุทานออกไปงงๆ   แต่มือก็ยังเสือกไวรับขวดเหล้าที่มันโยนมาไว้ได้ทัน  (ยี่ห้ออะไร  ผมไม่บอกแล้วกัน  เพราะยังไม่ได้ค่าโฆษณา   ไอ้เราก็ไม่นิยมทำอะไรให้ใครๆ ฟรีๆ ซะด้วย)
   “เพราะกูจะไม่ว่าคนเมา” 
   “ห๊ะ!!”
   “ดื่มเข้าไปให้หมด”  มันนั่งกอดอก  มองผมด้วยสีหน้าของผู้ชนะ
   “ห๊า!!!!!”  ส่วนผมมองหน้ามันสลับกับขวดเหล้าในมือ  กูเมา  มันหายเคือง  กูเมา  มันหายเคือง  กูเมา  และ........

สิบห้านาทีผ่านไป  สองร่างบนโซฟายังคงนั่งนิ่ง

   “ได้ที่ยัง?”  ไอ้ไนท์มันพล่ามอะไรของมันวะ  อะไรได้ที่  กูไม่ได้ไปจองที่ที่ไหน  หรือว่ามันจะไปไหว้เจ้าที่  อย่างนั้นก็ไปถามเจ้าที่ดิวะ  จะมาถามกูเพื่อ?
   “ยางงงงงง  จ้าววที่”
   “อ๋อ  ยังใช่ไหม  ฮ่าๆ”  ไนท์เลิกคิ้ว  ส่ายหน้าอย่างระอา  แล้วฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
   “ยิ้มทำมายยย”  คนตาเยิ้มที่ยังไม่รู้ว่าไอ้อัลกอฮอล์หนึ่งขวดใหญ่ที่ตัวเองเพิ่งจะกระดกเอื้อกๆ เข้าไปน่ะ  มันเริ่มออกฤทธิ์ยกมือน้อยๆ ขึ้นจับแก้มของอีกคนที่กำลังมองมาด้วยความเอ็นดูให้ยืดออก  พลางส่งยิ้มหวานให้อีกคนใจเต้น
   “เมิงน่ารัก”
   “เจงงงเหรอ  ง้านก็รักสิ” คนตัวเล็กยิ้มกว้าง  แล้วได้ทีอ้อนโดยการเอาหัวทุยๆ นั้นถูไถกับอกกว้าง
   “อืมมม  งั้นรักกูหน่อยสิ”  คนเจ้าเล่ห์ก้มลงไปกัดใบหูอีกคนเบาๆ
   “หืมมมมมมมมม”  คนตัวเล็กครางไม่เข้าใจ  ก็เขารักมันอยู่แล้วนี่น่า  ทำไมยังต้องรักอีกเล่า  ทำอย่างนั้นไม่กลายเป็นรักซ้ำรักซากรึไงนะ
   “รัก...แบบนี้ไง” ปลายนิ้วของคนช่างแกล้งเริ่มไล้ต้นคอบางเบาๆ จนอีกคนต้องย่นคอหนี  แต่อีกฝ่ายกลับรู้ทัน   จับต้นคอแล้วแนบริมฝีปากประทับจุมพิตถี่ๆ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เริ่มอยู่ไม่สุข  เลื้อยไปลูบไล้ตามไขสันหลัง  ทะนุถนอมราวสัมผัสกระเบื้องเคลือบชั้นดี   คนเมาจนไม่มีสติกลับรับรู้สัมผัสร้อนนั้นอย่างชัดเจน  ทั่วร่างสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่  ทั้งยังรู้สึกขัดใจที่อีกคนไม่ยอมไปไกลกว่านั้น   มากกว่านี้  เขายังต้องการมากกว่านี้

   ไนท์เห็นคนในอ้อมกอดเริ่มขยับตัวอย่างไม่สบายใจ  ประสบการณ์ (อันโชกโชน) ของเขาทำให้เขารู้ว่าถึงเวลาต้องเปิดเกมส์ต่อไป  ทำให้เร่าร้อน  ทำให้ทรมาน  จนขาดเขาไม่ได้
   ไนท์จับร่างคนเมานั่งบนโซฟาสีดำตัดกับผิวขาวๆ ที่ปราการหลายชิ้นถูกเขาเปลื้องออก  แล้วนั่งคุกเข่าจับเรียวขานวลข้างหนึ่งยกขึ้น  สายตาคมโลมเลียไปทั่วส่วนนั้น  เงยหน้ามองคนตัวเล็ก  เห็นยังหลับตาแน่นก็จัดการก้มศีรษะไปสัมผัสอย่างใจคิดตั้งแต่ข้อเท้า  ปลีกน่องกลมกลึง  ไล่มาถึงข้อพับ  กดเม้มอย่างหมั่นเขี้ยว  สูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงส่วนนั้น  ร่างน้อยลืมตาขึ้นสบประสานนัยน์ตาคมอย่างคาดหวัง  ไนท์กดจูบหนักๆ  ริมฝีปากร้อนผ่าวครอบครองเพียงนิด  ส่วนปลายของร่างบางก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง  รู้อยู่แก่ใจว่าอีกคนกำลังอารมณ์ค้าง  แต่เขาก็ไม่ยอมครอบครองทั้งหมด  จงใจกลั่นแกล้งให้ร่างบางทรมาน  สมกับการที่ทำให้เขาหึงหวง

   “ไนท์ อ่า ช่วย..ช่วย อ่า”  ร่างบางอ้อนวอนไม่เป็นประสา  สมองมึนงงเร้าร่อนกับสัมผัสนั้น  แม้อีกฝ่ายไม่ได้อ่อนโยน  แต่เขากลับรู้สึกต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

   คนตัวโตขยับรอยยิ้มสมใจ  ลุกขึ้นนั่งข้างแล้วจับคนตัวเล็กนั่งซ้อนตัก  มือใหญ่กำรูดส่วนนั้นให้เบาๆ ก่อนจะเพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ  จนอีกคนกรีดร้อง
   “อ๊-า”  อีกครั้งที่ไม่ยอมให้ถึงที่สุด  ก็ถ้าทำอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่การลงโทษน่ะสิ  เมื่อคนด้านหลังเอามือออกไปวางไปข้างตัวอย่างไม่สนใจไยดี  ร่างบางก็เริ่มขยับตัวไม่พอใจ  มือเล็กเอื้อมมาเพื่อจัดการปลดปล่อยให่ตัวเอง  แต่คนตัวโตกลับยึดไว้ไม่ยอม
   “ท่ะ..ทำไม”  เสียงหวานเจือกระแสอ้อนวอน
   “ทำให้หน่อยสิ”  ไนท์กระซิบอ้อน  อดกลั้นความต้องการของตัวเองไว้อย่างเต็มที่  การที่เขาตั้งใจจะทรมานอีกคน  กลับเป็นตัวเขาเองนั้นแหละที่ทรมานกว่าไม่รู้กี่เท่า  จับเอวบางยกขึ้นเปลี่ยนท่าให้มานั่งคร่อมหน้าตัก  เผชิญหน้ากับเขา  ส่วนนั้นสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาแต่ก็พอให้คนจัดท่าต้องกัดฟันกรอด  จับมือบางวางกลางลำตัวที่ร้อนผ่าว  เวย์ขยับอย่างขลาดๆ  จนมือใหญ่ต้องช่วยชี้นำจังหวะให้ 
   “อือ..ใช่..เวย์”  ฝ่ามือนุ่มลูบไล้อย่างไม่ประสาทำให้คนตัวโตเริ่มทนไม่ไหว  กัดฟันดึงมือน้อยออก  แล้วจับร่างนั้นคุกเข่าลงที่หว่างขา   ประคองศีรษะให้โน้มลง  ทว่าคนตัวเล็กกลับออกแรงต้านไว้  ไม่ยอม 

   “นะ”  กระซิบอ้อนๆ แล้วขยี้ยอดอกจนคนตัวเล็กเสียววาบ  มือน้อยประคองส่วนนั้น  เงยหน้าสบตาคมพบสายตาร้อนแรงเต้มไปด้วยความต้องการ  จนต้องก้มหน้าหนี  แลบลิ้นสัมผัสส่วนปลายอย่างหวาดๆ  พอคนตัวโตครางออกมาอย่างพอใจ  ก็เริ่มกล้าขยับครอบครองมากขึ้น  มากขึ้น  มือน้อยช่วยจับต้องเพิ่มความสุขจนคนตัวโตทนไม่ไหว  จับร่างบางพาดบนโซฟา  แทรกตัวเข้าไปรุกรานช่องทางคับแคบในทันที

   “อ๊-า”  เวย์เปล่งเสียงกรีดร้องด้วยยังไม่พร้อม  หากอีกฝ่ายกลับกัดฟันกรอด  กระซิบพร่าอย่างพอใจ  “ใช่!” มือใหญ่ขยับเข้ากอบกำร่างเล็ก  ขยับสัมผัสเพื่อให้คลายความเจ็บปวด  ริมฝีปาหทั้งคู่ต่างควานหาความหอมหวานซึ่งกันและกัน  ร่างกายกอดเกี่ยวหาความอบอุ่นที่บาดลึกไปจนถึงจิตใจ  ขณะที่คนตัวโตนึกอยู่ในใจว่าจะไปซื้อเหล้ามาตุนไว้  สะโพกกลมกลึงแอ่นขึ้นด้วยความเสียวซ่านในจังหวะที่คนข้างบนกดลงมา

   “อ๊า  อ๊ะ” ร่างเล็กครางเสียงหวานอยู่ข้างหูให้อีกคนลอบยิ้มพอใจ  ร่างสูงจับสะโพกบางยกร่างทั้งร่างนั้นขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่เขากระทั้นขึ้นไป  ต่างฝ่ายต่างกัดฟันอย่างเสียวซ่านกับสัมผัสเสีดสี  ร่างสูงขยับเดินไปยังห้องนอน  ว่างร่างเล็กลนบนเตียงกว้าง  จัดท่าท่างแล้วแอ่นสะโพกสัมผัสความร้อน  รัดแน่น  สุขจนแทบคลั่ง  สัมผัสมากขึ้น  มากขึ้นเหมือนไม่พอ  เท่าไรก็ยังไม่พอ  อยากจะกลืนกินความหอมหวานตรงหน้านี้ไปทั่วตัว  ขณะที่อีกคนกลับหลับตา  ครวญคราง  มือน้อยขย้ำผ่าปูจนยู้ยี้ไปหมดเพื่อระบายความรู้สึก   สุดทนทุกหยาดหยดพุ่งทะลักในช่องทางคับแคบนั้น  คำราญเสียงต่ำลั่นอย่างเก็บไม่อยู่  ขณะที่คนตัวเล็กนำไปก่อนแล้ว  สองร่างกอดเกี่ยวกันอย่างแนบแน่น 

   คนตัวเล็กหอบถี่ไม่มีแรงแม้จะลืมตา  ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องบัดนี้แดงเรื่อ  นัยน์ตาปรือปรอยบ่งบอกอารมร์พิศวาส  จนอีกฝ่ายเกิดอาการที่เรียกว่า “คลั่ง” ขึ้นมาอีก  โดยไม่มีการบอกกล่าว  ร่างเล็กที่เกยครึ่งท่อนอยู่บนเตียงนั้นถูกจับคว่ำ  และถุกรุกราน แนบร่างดันสะโพกเข้าไปอย่างรุนแรง  ฉากเร้าร้อนดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลง   อีกครั้งเสียงหอบดังขึ้นถี่  พร้อมกับคำบางคำที่คนตัวเล็กต้องการได้ยินมาตลอด  และคงจะมีความสุขเหมือนได้ยินสวรรค์หากไม่หมดแรงจนหลับไปเสียก่อน

   “รัก”
   

    “สายแล้ว”  เสียงนุ่มๆ ดูเหมือนดังมาจากที่ไกลๆ  กับสัมผัสแผ่วเบาที่ลูบไล้เส้นผม  ทำให้ผมอยากอ้อนแปลกๆ  และเผลอขยับตัวเข้าหาไออุ่นนั้นโดยไม่รู้ตัว
   “อือ”
   “หึหึ   นี่  สายแล้ว”  เสียงนั้นเหมือนดังอยู่ใกล้ๆ อืม  ข้างๆ หู  เอ๊ะ!  ข้างหู
   “หืม” เสียงสว่างจากผ้าม่านสีขาวทำให้ผมต้องหรี่ตาลง  กระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้เคยชิน  และ “เฮ้ยยย” 
   “โอยย  ตกใจอะไรฮะ  หูเกือบแตก” ไอ้คนที่ไม่รู้ตัวว่าทำให้คนอื่นตกใจทำหน้าดุ  แต่ยังไม่วายคร่อมตัวผมอยู่อย่างนั้น  “ปวดหัวไหม”  จะว่าไปก็มึนๆ เหมือนกันแฮะ  แต่รู้สึกเมื่อยมากกว่า  เมื่อยไปหมดทั้งตัว
   “ปวดตัว”  ไม่ได้ตั้งใจจะอ้อนนะครับ  แต่ทำไมรู้สึกว่าเสียงผมมันจะเจือแววหวานผิดปกติวะ
   “ก็นะ  สมควรอยู่หรอก”  เอ๋  แต่ดูเหมือนผมจะไม่ได้หวานอยู่คนเดียวซะล่ะมั้ง   ทำไมแม้แต่ไอ้คนอย่างมันก็ยังดูอ่อนโยนผิดปกติ  น่าน  มียิ้มหวานให้กูอีก  เกิดอะไรขึ้นวะ  มึงถูกรางวัลที่หนึ่งหรือว่ากูได้เป็นมิส  ไทยแลนด์เวอร์เนี่ย  (อย่างมึงอาจจะต้องเป็นมิส  ทิฟฟานี่ว่ะ)
   
   “ทำไมเมิงตื่นเช้ากว่ากู”  รู้สึกแปลกๆ ที่มันเป็นคนปลุกครับ  ปกติไม่มีหรอกครับไอ้ที่มาลูบหงลูบหัวแล้วกระซิบว่า  ที่รัก  สายแล้ว  ตื่นได้แล้วครับ  (แกเข้าใจอะไรผิดรึเปล่ายะ  นายไนท์เขาไปทำอย่างนั้นเมื่อไรห๊ะ)
   “เปล่า  กูยังไม่ได้นอน”
   “ห๊ะ  ทำไมวะ”   ตกใจจนแทบจะเด้งลุกจากที่นอนเดี๋ยวนั้นเลยครับ  แอบห่วงมันนิดหน่อย
   “คิดว่าไงล่ะ”
   “อึ่ก” ขอคืนล่ะกัน  ไอ้คำว่าห่วงน่ะ  ลองมันทำหน้ามีเลศนัยขนาดนี้แล้ว  ผมว่าผมห่วงตัวเองจะดีกว่านะ
   “คราวหน้าลองเหล้าอย่างอื่นมั่งเนอะ”  นั่นไง  กูว่าแล้ว  คนอย่างมันไม่พ้นหรอกไอ้เรื่องนี้น่ะ  แม่งง   ไม่อยากจะยอมรับหรอกครับว่าตอนนี้อะไรๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามันเริ่มจะกลับมารบกวนจิตใจผมบ้างแล้ว   ก็ไม่มีอะไรมากมายนักหรอกครับ  แค่ตั้งแต่ต้นโดยมีผมเป็นคนเริ่มจนจบเท่านั้นเอง - -

   “อ่ะ..อะไร” เพิ่งรู้นะครับว่า ไอ้การควบคุมไม่ให้เสียงสั่นที่มันทำได้ยากจริงๆ  โดยเฉพาะเวลาที่แกล้งทำเป็นว่า  ไม่รู้..กูเมาเนี่ย   ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไร  เพราะไอ้คนเสนอให้ลองมันดูท่าจะไม่เชื่อว่า  ผมจำอะไรไม่ได้

   “จำไม่ได้??   เสียดายนะ  กูน่าจะอัดวีดิโอไว้  เมิงจะได้รู้ไงว่าเมื่อคืน  เมิงร้อนแรงขนาดไหน”   อย่าพูดอะไรที่ส่อว่ากูอาจจะได้กลายเป็นดาราดังโดยไม่รู้ตัวอย่างนั้นได้ไหมวะ  กูยังไม่อยากดังจนไม่กล้าออกจากบ้านว่ะ

   “ไอ้บ้า  อย่าพูดนะ”  เห็นได้ชัดครับว่ามันรู้ว่าผมจำได้แต่ตั้งใจจะแกล้งมากกว่า  แม่งง  น่าหมั่นไส้ชะมัด   กูว่าแล้วว่าเมิงหายเคืองไปนานแล้ว  แต่หลอกมอมเหล้ากู  แม่ง
   “ตางี้เยิ้มเชียว  เล่นเอากูนั่งมองมึงทั้งคืนเลยเนี่ย”  ไอ้หน้าด้าน  ดูมันทำหน้าโคตรเจ้าเล่ห์  กูไปหลงชอบไอ้ปีศาจนี่ได้ไงฟร่ะ  แม่งงง
   “กูบอกว่าให้หยุดพูดไง”  แต่ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุครับ  พอเห็นมันกำลังจะอ้าปากพ่นคำพูดน่าอายออกมาเท่านั้นแหละ  มือผมก็ตะปบปากหมาๆ นั่นไว้โดยอัติโนมัติ  “เฮ้ย!!”  แทนที่มันจะหยุด  กลับเอาลิ้นชื้นๆ มาเลียมือผมแทน  แม่งงง  ทำไมมึงร้ายขนาดนี้วะ  รู้สึกถึงความร้อนที่แทบจะเผาหน้าตัวเองอยู่แล้ว

   “อยากออกกำลังกายตอนเช้าไหม”  มาแล้วครับ  คำชวนที่ดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพของมัน
   “อ่ะ..ไอ้..แม่งเอ๊ย  อาบน้ำโว้ย”  ผมผลักมันออกแล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที  ทั้งทียังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอย่างนั้นแหละครับ  ให้มันเห็นยังดีกว่าให้มันทำล่ะ  จริงไหม?

   “ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะไล่หลังมาของมันชวนให้ส้นเท้ากระตุกอยู่เนืองๆ  แต่เนื่องจากยังมองไม่เห็นชัยชนะ  ผมก็จำเป็นต้องปล่อยให้มันกระตุกไปก่อน  ครั้นจะไปลงกับเสา  กับอ่างก็เกรงว่าแก้แค้นไม่ได้  แต่ต้องมาเจ็บตัวเพิ่มอีก  เหอๆ  สุดท้ายผมก็แพ้มันอีกจนได้  แบบนี้ไม่เรียกว่าแพ้ทางก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าไงแล้วครับ



   “โหยย  งานเขาเริ่มเก้าโมง  พี่โผล่เกือบเที่ยง  โคตรเป็นพ่องานที่ดี”  ทันทีที่เท้าบางๆ พอกับหน้าของผมแตะสัมผัสพื้น   ไอ้พวกปากขยันมันก็เริ่มทำงานกันทันที
   “ว่าแต่กูนะไอ้เป้  กูเห็นเมิงกับไอ้น้องเนมเพิ่งจอดมอไซด์ก่อนพวกกูแป๊บเดียว  แล้วอย่านึกนะว่ากูไม่รู้  แต่งตัวงี้พวกเมิงเป็นไทกันหมดแล้วสิ”  แน่นอนครับว่าหลังจากถูกมัดมือชกได้รับตำแหน่งท่านเบ๊มารับประทานแทนข้าวกันถ้วนหน้าโดยที่ไอ้คนก่อเรื่องอย่างผมแวบหนีไปเป็นเจ้าแรก  ไอ้พวกเวรที่เหลืออยู่ก็ต้องรับกรรมแถมอวยพรผมไปหลายคำ

   “แสนรู้อีกนะพี่  ว่าแต่พวกพี่เหอะ  ท่าทางจะงานหนักนะ”
   “งานอะไรวะ”
   “นั่นดิพี่  เฮียไนท์รู้ป่ะครับ  งานอะไรทำให้คนไม่ได้หลับไม่ได้นอน”   อ๊ากกก   ไอ้เชี่ยเป้  มันทำหน้ากวนเบรคเกอร์ผมจริงๆ  ครั้นจะออกตัวปฏิเสธมันก็ดูจะเหมือนคนกินปูนร้อนท้อง  ทั้งๆที่ตอนนี้ผมก็ร้อนจะแย่อยู่แล้ว  ร้อนทั้งหน้า  ร้อนทั้งใจ   ไอ้พวกรุ่นน้องเวร  ไว้หน้ากันบ้างสิเว้ย

   “เหอะ  ก็งานเดียวกับที่มึงกับไอ้เนมทำนั่นแหละ”  ไอ้ไนท์มันพูดลอยๆ เหมือนคนล้อเล่น  แต่ผมเห็นไอ้เป้มันชะงักไปแวบหนึ่ง  กับไอ้น้องเนมที่ทำกุญแจรถหล่นพื้น  อ้าววว  ชิบหายแล้ว  อย่าบอกนะว่าพวกเมิงมีซัมติ้งรองกันเนี่ย 
   “เฮ้ยย  กูตกข่าวอะไรรึเปล่าวะ”  เรื่องของคนอื่นไอ้เวย์รีบเสนอหน้าทันทีครับ  อ้าวๆ  ไม่ได้สิ  ใครมีจุดอ่อน  ผมก็ต้องรีบหาไว้ก่อน  ไม่งั้นเดียวแพ้ทางมัน
   “ข่าวไรพี่  ไม่มีอ่ะ  ผมไปแล้ว  ฝากไว้ก่อนนะเฮีย”  ไอ้เป้มันชี้หน้าไอ้ไนท์แล้วรีบลากไอ้น้องเนมเดินหนีไปทันที
   “เฮ้ยย  จะรีบไปไหนวะ  มาพูดกันก่อนสิเว้ย”  ผมตะโกนเรียก  กำลังจะตามไปจับพวกมันกลับมาเค้นความจริง  ถ้าไม่ใช่มีใครบางคนมาฉุดข้อมือไว้ก่อน  แถมไอ้คนๆ นั้นยังมาทำหน้าระรื่นที่แกล้งคนอื่นเขาได้อีก
   
   “ไม่ต้องตามหรอกน่า  เด็กมันอาย”  ทีงี้ล่ะรู้ดีนักนะเมิง  ว่าเด็กมันอาย  ที่เวลาทำกูอายไม่เสือกเซนส์ดีอย่างนี้บ้าง
   “เออ  กูก็ลืมไป  อยู่กับคนหน้าหนาอย่างเมิงนาน”  ก๊ากก  ขอกูหลอกด่าหน่อยเหอะมึง  อดทนมานานล่ะ
   “พูดงี้  หรือว่าเมิงอยากดัง  อยากเป็นนายเอกหนังโป๊รึไง”  มันยกเรื่องที่ไม่นาจะเป็นเป็นได้มาขู่   แต่เสือกทำท่าทางจริงจัง  แถมอะไรที่ออกจากปากคนอย่างมัน  บอกตรงๆ ผมเดาไม่ค่อยได้หรอกว่านี่พูดเล่นหรือเรื่องจริง  แถมเมื่อคืนดันเมาอีก  เสียเปรียบเห็นๆ
   “เฮ้ยย  อย่าบอกนะว่าเมิง อัดไว้จริงๆ”  ใจหนึ่งก็ไม่เชื่อหรอกครับ  แต่มันก็อดสงสัยไม่ได้
   “ก็..แล้วแต่จะคิด”  น่าน  มันกวน  มียักคิ้วยั่ว  สาด
   “เชี่ยไนท์  บอกกูมา  มึงไม่ได้ทำใช่ม้ายยยย”  มันคงไม่ทำหรอกมั้ง  ถึงมันจะเอาแต่ใจไปหน่อย  ร้ายกาจไปนิดส์  บางทีก็ทำอะไรไม่คิดไปบ้าง   แถมยังชอบเล่นอะไรแผลงๆ คาดเดาไม่ได้  อ้าว  ชิบหายแล้ว  คิดไปคิดมา  ทำไมเปอร์เซ็นต์จะดังของกูมันมีสูงขึ้นๆ อย่างนี้ล่ะเว้ยยย
   “ไม่รู้เว้ย  ฮ่าๆๆ” 
     “อย่าหนีนะเมิง  ไอ้เวรตะไล”  เมิงจะวิ่งหนีกูไปไหน  ไอ้เวร  กลับมาบอกกูก่อนว่าเมิงไม่ได้ทำ   อาเมน  ชีวิตกู - -   อย่าดังเลยนะเว้ย  กูไม่อยากแจกลายเซ็นต์



   “อ่ะ  ไอติมช็อกโกแลต  กับทาโกยากิ”  ไอ้ตัวดีมันคงเห็นผมวิ่งจนหอบแฮก  แถมสังขารที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะตั้งแต่ใช้แรงานอย่างหนักไปเมื่อคืน  ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากโอวันติลกล่องเดียว   มันก็เลยยอมหยุด  แถมยังอุตส่าห์มีน้ำใจพาผมไปนั่งแล้วซื้อของกินมาให้  โคตรเหอะ  ตบหัวลูกตีนชัดๆ  ใครจะไปกินวะ
   “หึ”  ก๊ากก  ที่จริงก็ไม่ได้โกรธมันขนาดนั้นหรอก  รู้ว่ามันอยากแกล้ง  ก็เลยตามน้ำไปงั้นเอง  ให้ชีวิตมีสีสัน  ฮ่าๆ  แต่นานๆ ทีผมจะได้เป็นคนงอน  ให้มันง้อ  ว้าก  ก๊ากก  ไอ้เวย์ล่ะปลื้ม  เมื่อโอกาสมาถึง  มีรึเราจะไม่ใช้  ฮ่าๆ
   “หายงอนกูได้แล้วน่า  บอกว่าไม่ได้อัดไงเล่า”  มันทำเสียงนุ่มๆ  แถมยังเอามือมาผลักหัวผมเบา  ก๊ากกก  นี่คืออาการที่น้อยครั้งนักจะได้เห็นจากมัน  อาการที่เรียกว่า  อ้อนครับ  ก๊ากก  โคตรเหมือนโกเด้นตัวใหญ่มาเลียมืออ่ะ  ฮ่าๆ  (ทำไมเมิงต้องเปรียบเทียบกูกับหมาวะ)

   “จะให้กูเชื่อ”  โอ๊ยย  ปวดแก้มไปหมดแล้วครับ  กลั้นยิ้ม
   “เออน่า  เอางี้  คราวหลังถ้าอยากอัด  กูจะบอกก่อน  เครมะ”
   “ไอ้ฟาย  ไม่เอาเว้ย”  เป็นเด็กดีได้แป๊บเดียว  ออกลายอีกแล้วนะเมิง
   “ฮ่าๆ  กูล้อเล่นนะเมิง  อัดไปทำไม  ก็กูจำได้ทุกส่วนแล้ว  ต่อให้หลับตา  กูก็จำได้”
   “ไอ้  ไอ้”  มันกระซิบเสียงพร่าๆ ที่ข้างหู  เล่นเอาผมขนลุกซู่  เป็นใบ้ไปชั่วขณะ  อ้าปากค้าง  อยากจะด่า  ก็ด่าไม่ออก  น้องหมาพากันอู้งานซะอย่างนั้น  ดูมัน  ไอ้หน้าด้าน  พูดมาได้ยังไงวะ  ไอ้คำพูดชวนเลี่ยนแบบนั้น  แม่งง  ต่อให้หลับตาก็จำได้  แม่งเอ๊ยยย   เมิงทำกูหายใจไม่ออก help me please!  Help me please  ฉันสงสารหูฉันจริง  (อันนี้ก็ไม่ได้ค่าโฆษณา)
   “อ่ะ  อย่าด่านะ  ไม่งั้นเมิงเตรียมอาย”
   “ไอ้ ..โธ่เว้ยยย”  กูเกลียดเมิง  แม่งงง  ปากก็บอกว่าง้อ  แต่ไอ้ที่พูดมาแต่ล่ะคำนี่ไม่แกล้ง  ก็ขู่กูตลอด  เออ  กูไม่หน้าด้านอย่างมึงก็แล้วไป  ถ้าวันไหนกูเป็นฝ่ายรุกขึ้นมาล่ะก็  เมิงเตรียมตัวตาย
   “เอาเป็นว่าดีกันแล้วนะเมิง  ไม่ต้องงอนแล้วนะเว้ย  กูขี้เกียจง้อ”
   “ก็ไม่ต้องง้อ”  บ่นอุบอิบแล้วเสไปกินไอติมที่มันซื้อมาให้  (ของกิน  แถมยังฟรี  เราจะปฏิเสธเพื่อ??)  ที่จริงไอ้ผมมันก็ชินแล้วแหละ  ไอ้เรื่องที่จะให้คนอย่างมันมาตามง้ออย่างงู้นอย่างงี้  มันก็ออกจะดูประหลาดไปสักหน่อย  ขนาดเมื่อก่อนเรื่องมันน่าเคืองมากกว่านี้  มันยังไม่เคยง้อผมเลย  ไอ้คำขอโทษนั่นก็เหมือนกัน  ถือเป็นคำศักดิ์สิทธ์ที่มันไม่มีทางพูดง่ายๆ  เอาวะ  ปลงซะเถอะเมิง  ขนาดแฟนมันแต่ละคน  มันยังไม่เคยง้อ  ประสาอะไรกับกู  มันจะมาง้อวะ
 
   “ถ้าไม่ใช่เมิง    คิดเหรอว่ากูจะมานั่งง้อ  นั่งเอาใจขนาดนี้”  สรุป??  ยอมรับว่าง้อกู  ก๊ากก
   “อ่ะ..เอ่อ  แม่งง  พูดอะไรวะ” 
   “พูดเรื่องจริง  ทำให้ขนาดนี้แล้ว  หายโกรธซะทีเถอะน่า”  มันยกนิ้วก้อยมาเขี่ยปลายจมูกผมแล้วสะกิดเบาๆ  เชี่ย  ทำไมเดี๋ยวนี้เมิงอ้อนเก่งนัก  ทำอะไรคิดถึงจิตใจกูหน่อยได้ไหมวะ  ใจกูเต้นแรงจนเครื่องจะช็อตแล้วนะเว้ย
   “เอ่อ..ม่ะ..เมิง  แม่งง  เออ  ก็ได้วะ  กูแพ้เมิงตลอด”
   “มึงชนะกูตลอดต่างหาก”  คำพูดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินกลับหลุดออกมา  ตัวผมเองตกใจน่ะไม่เท่าไรหรอก  เพราะตัวเหมือนเจ้าตัวเองก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกมา  ในขณะที่ผมยังเอ๋อๆ อยู่นั่น  มันก็รีบลุกขึ้นยืน  หันหลังแล้วบอกว่า  “รอนี่นะ  จะไปซื้อน้ำ”  จากนั้นก็วิ่งไป  ผมที่ยังงงไม่หาย  ได้แต่พยักหน้าเบาๆ  ตาก็มองตามแผ่นหลังนั้นไปและทันได้เห็นใบหูมันขึ้นสีแดงจางๆ  อ๊ากก  อยากสำลักความสุขตายครับ  วันนี้ไอ้ไนท์มันเป็นอะไรของมัน   เก๊กหลุดได้ตลอดเวลาจนผมแทบจะตามไม่ทันอยู่แล้วเนี่ย  (พูดเหมือนปกติตามทัน??)  ขอเรียกเหงื่อให้ใจสงบหน่อยนะเมิง   ถ้าให้กูนั่งรอเฉยๆ  กูอายจะหยุดหายใจไปแบบไม่รู้ตัวก็ได้ว่ะ

   คิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นเดินตรงไปที่ถังขยะที่อยู่ไกลออกไปสักหน่อย  แน่ล่ะ  ถ้าทิ้งใกล้ๆ เหงื่อมันก็ยังไม่ทันได้ออกสิครับ  เอาเป็นใบโน้น  ตรงต้นหูกวางก็แล้วกัน  ไม่เข้าใจเลยครับว่าแค่เดินเอากล่องโฟมไปทิ้งทำไมทุกคนต้องมองหน้าผมเหมือนเห็นตัวประหลาดด้วย  คงไม่ใช่ว่า  ไอ้แผ่นเอวีนั่นเผยแพร่ไปแล้วหรอกนะ  (ก็บอกว่าไม่ได้อัดไงโว้ยยย)

   “ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้วพี่  ทาโกยากินั่นใส่กัญชารึไง”  สรุปไอ้ที่คนเขามองผมแปลกๆ  เพราะผมยิ้มหน้าบานเกินไปหรอกเหรอเนี่ย





-------------------------

เอาใจช่วยผมด้วยนะฮับ  >> เวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 13-05-2009 21:02:46
I like it
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 13-05-2009 21:10:59
แน่นอนเวย์
เอาใจช่วยย เสมออ  :man1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 13-05-2009 21:45:32
ตอนต้น ๆ :pighaun:

ตอนท้าย  :m3:

ช๊อบ...ชอบ  ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :L2: 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 13-05-2009 21:50:06
ให้มันเห็นยังดีกว่าให้มันทำล่ะ  จริงไหม?
ประโยคนี้ ไม่ดีนะ ก็ไนท์เห็นอยู่คนเดียวคนอ่านไม่ได้เห็นด้วยนี่

น่ารักมากๆ ชอบค่ะ


 :L2: ให้คนเขียน เอาใจช่วยเวย์ต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 13-05-2009 21:57:45
เอาใจช่วยเรื่องไหนดีล่ะ เวย์  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 13-05-2009 22:12:48
 :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 13-05-2009 22:23:40
คราวหน้าต้องระวังหน่อยนะเวย์....อาจโดนตั้งกล้องโดยมะรู้ตัว...ฮ่าๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 13-05-2009 22:48:28
เวย์สู้ๆ ฮับ เอาใจช่วยให้สมดังหวังครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 13-05-2009 22:53:30
สงสัยไนท์คงเขินอะ...... :haun4:


และเสียงครัยอะ


อย่าว่านะ..............เค้าคือ....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-05-2009 23:05:07
ทั้งหวานทั้ง...  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 13-05-2009 23:25:50
รักน้องเวย์   :-[  ชอบพี่ไนท์  รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 14-05-2009 00:12:11
ไนท์น่าอัดคลิปแล้วไรด์แจกจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 14-05-2009 06:19:14
 :fire:

หมอ อยู่หนายยยยยย เอาหมอคืนมา  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-05-2009 22:07:13
เรื่องนี้หวานปนหื่น :m25:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 15 เก็กหลุด??
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 15-05-2009 14:50:51



ตอนที่ 16  ปีศาจในคราบเจ้าชาย

   หลังจากรู้ตัวว่าอาการยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมขของตัวเองนั้นเริ่มจะเหลือแค่ระดับจานข้าว  ผมก็เร่งฝีเท้าเดินกลับมาที่เดิมที่ไอ้ไนท์มันสั่งให้รอ  แต่ปรากฎว่ามันยังไม่มาครับ   มึงไปซื้อน้ำหรือไปช่วยเขาผลิตอยู่วะเนี่ย  มองซ้าย  มองขวา  ไร้วี่แวว  อ้าว  เวรแล้วไง  ไม่ใช่จะทิ้งกูไว้นี่นะเว้ย  ได้กูแล้วทิ้งไม่ได้นะเว้ยเฮ้ย   มองหามันด้วยความที่เริ่มจิตตกครับ  แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อมองเห็นร่างสูงที่ผมคุ้นตายืนอยู่กับเด็กผู้หญิงผมดัดเป็นสอนสีน้ำตาล  ถ้าผมจำไม่ผิดนะ  นั่นน้องแนน  ทั้งคู่ยืนอยู่ห่างจากผมไม่เท่าไร  เอาวะ  อย่าหาว่ากูเสือกเลย  เข้าไปทักเฉยๆ คงไม่เป็นไรมั้ง

   “พี่มัวทำอะไรอยู่  ทำไมไม่จัดการมันซะทีล่ะ”  พอเข้าไปใกล้ผมก็ได้ยินเสียงแนนน้องพูดในประโยคที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร  ดูเหมือนผมจะเข้ามาผิดเวลานะ
   “ใจเย็นสิ  พี่ก็พยายามอยู่นี่ไง”  เสียงพี่นัท!!  ผมมั่นใจแล้วว่าแผ่นหลังที่ดูคุ้นตานั่นเป็นของใคร  ทำไมพี่แกมาอยู่กับน้องแนนได้ล่ะครับเนี่ย  เริ่มสงสัยโดยลืมคิดไปว่าตัวเองกำลังเสือกไม่เข้าเรื่อง  นิสัยที่ทำให้ใครหลายคนตายไปแบบไม่รู้ตัว

   “เนี่ยนะ  พยายามของพี่  เห็นไหมว่าพี่ไนท์ชอบมันขนาดไหน  กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว  มีดีอะไรนักหนา”   เท้าที่กำลังก้าวถอยหลังของผมชะงักกึก  เริ่มได้กลิ่นไม่ดีตงิดๆ ว่าภัยมันจะมาถึงตัว  แค่เพราะได้ยินชื่อไอ้ไนท์คนเดียว
   “เวย์เขาไม่เหมือนเธอนะ”  นั่นไงครับ  ชัดเลย
   “พี่เข้าข้างมันเหรอพี่นัท  เห็นมันดีกว่าน้องสาวตัวเองรึไง”
   “ไม่ใช่อย่างนั้น”
   “งั้นก็รีบจัดการซะสิ  แนนอยากเห็นมันเจ็บปวด  ให้สมกับที่มันแย่งพี่ไนท์ไปจากแนน”  น้องแนนพูดจบ  เธอก็สะบัดหน้าเดินไป  แต่เท้าผมนี่กลับขยับไม่ได้  ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น  นี่คือความจริงเหรอ   พี่ชายคนหนึ่งที่ผมไว้ใจที่สุดกำลังคิดร้ายกับผม  น้องแนนเป็นน้องสาวพี่นัท???   พี่นัทเข้ามาเพื่อทำลายผมกับไอ้ไนท์   มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ??  น้ำเน่ายังกับละครหลังข่าว  ไม่สิ  ยิ่งกว่าอีก

   “ได้ยินแล้วสิ”  ขณะที่ผมกำลังตะลึงอยู่นั่น  คนที่ผมไม่คิดว่า ‘ร้าย’ กับผมก็พูดขึ้นทั้งๆ ยืนหันหลังให้ผม   เขารู้ตั้งแต่แรกว่าผมอยู่ที่นี่  แต่ก็ยังปล่อยให้ได้ยิน!!

   “พ่ะ..พี่นัท”  ผมรู้สึกว่าเสียงที่หลุดลอดออกมานั้นช่างสั่นอย่างน่าใจหาย  ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับผม  สายตาแน่วแน่จริงจังยืนยันเรื่องราวที่ได้ยินทั้งหมดได้เป็นอย่างดี  ทั้งๆ ที่ผมแอบหวังว่า  เขาอาจจะหันมายิ้มแล้วบอกว่าเรื่องทั้งหมดคือตลกฉากหนึ่งที่มีไว้เซอร์ไพรส์ผม
   “งั้นก็ดี  พี่จะได้เลิกเป็นคนดีซะที”
   “หมายความว่าไง”  ผมถามด้วยความไม่เข้าใจ  ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ละครให้ผมวางใจ  ไม่อยากจะคิดว่าความใจดีที่คนๆ นี้มีให้ก็แค่ภาพลวงตา  เขาไม่ได้ทำเพื่อผม  เขาทำเพื่อน้องสาวของเขา

   “ก็หมายความตามที่นายได้ยินแหละ  ตั้งแต่ต้น”
   “พี่รู้ว่าผมได้ยิน  จงใจ?”
   “ใช่  ในเมื่อทำเป็นคนดีแล้วไม่ได้นาย  หลังจากนี้ถ้าพี่ร้ายก็อย่ามาว่ากันนะ”  พี่นัทพูดด้วยสายตามาดมั่น  ผมจะไม่ว่าเลยถ้าพี่จะร้ายกับผมมาตั้งแต่ต้น  ไม่ใช่ทำร้ายความไว้ใจกันแบบนี้  บางทีแบบนี้มันก็เจ็บกว่าการที่รู้ว่าตัวเองมีศัตรู  เพราะมิตรที่เราคาดหวังกลับกลายเป็นศัตรูกับเราเสียเอง

   “ห๊ะ  อ่ะ..อะไร”
   “ไปก่อนนะ  แล้วเจอกันเย็นนี้บนเวที”  มือใหญ่ยื่นมาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง  รอยยิ้มก็ยังคงอบอุ่นพร้อมให้พึ่งพา  ตรงข้ามกับคำพูดโดยสิ้นเชิง  ภาพต่างๆ มากมายวนเวียนอยู่ในความคิดของผม  ตั้งแต่ได้พบกันครั้งแรกที่สวนสนุก  ในร้านกาแฟ  นั่นก็จงใจเหรอ??  ตอนที่ผมเสียใจ  คนที่คอยปลอบใจ  คนที่เคยร้องเพลงให้  คนที่คอยทำท่าตลกๆ คนที่คอยดูแลผมตลอดช่วงที่ซ้อมละครอยู่ด้วยกัน  ทั้งหมดนั่นเป็นแค่การแสดงด้วยหรือเปล่า??

   “เป็นอะไรไป  ทำไมหน้าซีดวะ  ไม่สบาย?”
   “.....”
   “เวย์  เฮ้  เวย์”
   “ห๊ะ  อ่ะ..อะไร”  ไอ้ไนท์มันกลับมาตั้งแต่เมื่อไรผมยังไม่รู้สึกตัวเลย  ไอ้อาการอยากจะร้องก็ร้องไม่ออก   อยากจะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้เนี่ยมันเป็นอย่างนี้นี่เอง  ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าคนๆ หนึ่งมีอิทธิพลกับผมแค่ไหน  ถึงเขาอาจจะคิดว่าการทำดีของเขามันสูญเปล่า  แต่นั่นไม่ใช่เลย  ความดีของเขาฝังอยู่ในใจผมเมื่อไรก็ไม่รู้

   “เมิงนั่นแหละเป็นอะไร”
   “ป่ะ..เปล่า  ไปกันเหอะ”  ผมฝืนยิ้มให้มัน  คงไม่ดีหรอกครับถ้าผมจะเล่าเรื่องนีให้มันฟัง  จะให้บอกมันยังไงว่าเพราะมันสลัดรักน้องแนน  ความซวยมันถึงมาตกอยู่ที่ผม  ไม่ยุติธรรมเท่าไรเพราะทั้งหมดที่ทำไป  ผมต่างหากที่เต็มใจ  เต็มใจอยู่กับมันไม่ว่าในฐานะอะไร
   “เดี๋ยว  มีเรื่องอะไร” มันฉุดแขนผมไว้  อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงว่าผมไม่ได้เป็นอะไร  มันจะได้สบายใจ
   “มี..มีซะที่ไหนเล่า  กูเมาบรรยากาศโว้ย”  ก็เลยได้แต่เล่นมุกบ้าๆ อย่างนี้
   “เหรอวะ  กูก็นึกว่าเมารักกู”  มันบอกหน้าตาย
   “ห๊ะ!!”  แทนที่ผมจะเป็นคนช่วยให้มันสายใจเหมือนอย่างทุกที   มันต่างหากที่เป็นคนช่วย  จุดอ่อนผมล่ะครับ  ไม่ใช่ไอ้คนที่เล่นตลกไปขำไป   แต่ถ้าเป็นตลกหน้าตายนี่ไอ้เวย์ฮากลิ้งเลย “ฮ่าๆ  กูว่าเมิงต่างหากที่เมา”

   “ยิ้มได้แล้วเหรอเมิง”  ผมยิ้มให้มัน   ยิ้มเพราะอยากบอกว่า  ขอบคุณ
   “เออ  ไปเรียกเหงื่อกัน”
   “หือ  จริงเหรอวะ  เดี๋ยวกูไปซื้อเหล้าแป๊บ”  ผมขมวดคิ้วงง  จะไปออกกำลังกายเรียกเหงื่อแล้วจะไปซื้อเหล้าเพื่อ???  แต่พอเห็นหน้าตาที่โคตรเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มสมใจของมันก็พอจะนึกออกครับว่ามันกำลังคิดเรื่องอะไร  หน้าตาแม่งโคตรพ่อโคตรแม่หื่นเลย
   “เหล้า??  เชี่ย  คิดบ้าอะไรของเมิง  กูหมายถึงไปซ้อมบาสเว้ย  วันสุดท้ายมีแข่งเปิดชมรมไงวะ”
   “อ้าว  กูเห็นเมิงบอกเรียกเหงื่อ  ทำ(ติ๊ด = เซ็นเซอร์ค่ะ)ก็เรียกเหงื่อได้นี่หว่า”  ไอ้ฟาย  สมองมึงนี่ไม่คิดที่จะหลุดออกมาจากวงโคจรของเรื่องพรรค์นั้นมั่งเลยรึไง  กูว่าสักวันมึงไม่พ้นผิดศีลข้อสามแน่เลยว่ะ
   “ไอ้บ้า  เชี่ย  ลามก  แม่งง  กูจะไม่กินเหล้าอีกตลอดชีวิต (พึมพำ)”


   ผมกับไอ้ไนท์หลังจากที่เถียงกันตลอดทางเรื่องวิธีเรียกเหงื่อแก้เครียด  ก็เป็นอันว่ามาถึงโรงยิมเรียบร้อยครับ  ในที่สุดผมก็ชนะ  ฮ่าๆ
   และดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่ผมกับมันที่คิดจะเรียกเหงื่อ  เพราะในโรงยิมมีประชากรอยู่ค่อนข้างคับคั่ง  ไม่ว่าจะเป็นไอ้พวกในชมรม  สาวๆ ทั้งแท้ทั้งเทียมที่มาคอยให้กำลังใจ  ไอ้พวกสอดแนม (เห็นแล้วครับมีหลายคณะ  พอดีว่าจะมีกีฬามหาลัยหลังช่วงปีใหม่)  และพวกไม่มีที่อยู่มันก็มานั่งสิงสถิตอยู่บนแสตนด์  แย่งอากาศกันหายใจ - -   ลองวันไหนผมเก็เงินค่าเก้าอี้  คงรวยเละ (พูดเหมือนพ่อผมเป็นเจ้าของมหาลัยครับ)

   “เอ้า  พี่ไวย์  เฮียไนท์  มาด้วยกันอีกแล้วนะพี่  ไปทำไรกันมาวะ”  ไอ้เป้ตัวดีที่มันหนีรอดจากการสอบปากคำของผมไปได้มันเสนอหน้ามากวนบาทาทันทีครับ  แถมพูดเสียงไม่ใช่เบาซะด้วย  คิดจะทำให้กูลำบากยังเร็วไปสองร้อยปีไอ้น้อง
   “อ่อ  พอดีว่าง้างปากมึงไม่ได้  กูเลยต้องเค้นความจริงจากไอ้ไนท์แทนว่าเมิงกับไอ้น้อง_”  ยังพูดไม่ทันจับ  ไอ้ตัวดีมันก็รีบสอดปากขึ้นมาทันที
   “โอ๊ยยย   วันนี้ร้อนเนาะพี่  ออกกำลังเรียกเหงื่อกันสักเซ็ทเป็นไง”  ดูท่าการสนธนาของพวกผมมันจะเป็นอะไรที่น่าสนใจมากมั้งครับ  แถมไอ้อาการกลบเกลื่อนแบบเด็กน้อยของมันยิ่งทำให้คนอื่นเขาสงสัยกันเป็นแถว  ว่าไหมครับถ้าคนโดนแซวเป็นไอ้คนข้างๆ ผมล่ะก็  มันไม่มีวันกลบเกลื่อนเป็นเด็กประถมอย่างนี้หรอก   มันจะรีบรับมุกแล้วตามน้ำ  ทำทีเล่นทีจริงให้คนอื่นเขาคิดว่ามันพูดเล่นมากมว่า  ระดับฝีมือมันต่างกันว่ะ

   “เชี่ยเวย์  อย่าแซวเว้ยเมิง  สงสารไอ้เนม”  ไอ้นุที่ไม่รู้มาจากไหนมันเข้ามากอดคอผมไว้แล้วกระซิบเสียงเครียด  หันไปมองหน้าไอ้เนมก็เห็นตามันแดงๆ  อ้าวเวร  มันมีเรื่องอะไรกันวะ
   “ทำไมวะ  หรือว่าไอ้เป้มัน....ปล้ำ??”  ผมกระซิบตอบ  แต่กะว่าไอ้นุมันต้องด่ากลับแน่ๆ ว่าคิดอะไรไม่เข้าท่า  แต่มันไม่ด่าครับ  นิ่งไปเลย  คงไม่ใช่ว่ากูเดาถูกหรอกนะ

   “ไม่ต้องอยากรู้นักหรอกน่า  มานี่มา”  ไอ้ไนท์มัดึงผมออกไปกลางสนามโดยที่ไอ้นุมันเดินตามมา   แล้วไอ้แชมป์มันหายไปไหนวะ   ผมไม่เห็นมันว่าหลายวันแล้ว
   “ไอ้นุ  ไอ้แชมป์อ่ะ  ไปไหนวะ  ไมไม่มาซ้อม  หรือว่าตามจีบไอ้หยกอยู่”  อีกครั้งที่ไอ้นุมันนิ่งไป  ท่าทางอั้มๆ อึ้งๆ ของมันทำให้ผมชักใจไม่ดี  ดูเหมือนผมจะตกข่าวไปหลายข่าวครับ  แล้วทำไมเรื่องมันต้องประดังประเดเข้ามากันวันนี้ด้วยวะ  เรื่องของตัวเองยังเอาตัวไม่รอด  ดูเหมือนว่าเรื่องของคนใกล้ตัวก็เริ่มจะลามเป็นเกลื้อนมาอีกแล้ว

   “ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกน่า” 
   “ไม่ยุ่งได้ไงวะ  นั่นมันเพื่อนกู”  ผมหันไปตวาดไอ้ไนท์  ผมว่ามันต้องรู้อะไรแน่ๆ  แต่เสือกอมไว้  ไม่ยอมบอกผม  แม่งง  เพื่อนกันแท้ๆ
   “เชื่อกู  เดี๋ยวมันพร้อมก็บอกมึงเอง  ใช่ไหมไอ้นุ”  ไอ้ไนท์มันทำหน้าจริงจัง  แถมยังแฝงแววอำมหิตเล็กน้อย   กูว่านี่คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ซะล่ะมั้ง

   “เออ”  ไอ้นุตอบเสียงอ่อยๆ  โว้ยยย  เรื่องอะไรกันวะ  กูอยากรู้
   “เมิงไม่ต้องทำหน้าอยากรู้ขนาดนั้น  ไปเล่นได้แล้ว  อยากเรียกเหงื่อไม่ใช่หรือไง”  ไอ้ไนท์เมิงก็กันกูจัง   คนมันอยากรู้  ห้ามไม่ได้นี่หว่า  กูเป็นห่วงเพื่อนนะเว้ย
   “เออ  ก็ได้วะ  แต่รู้ไว้ด้วยนะเมิงว่ากูเคือง” 
   “ฮ่าๆ  รู้  งั้นเดี๋ยวคืนนี้กูเป็นฝ่ายเมาบ้างแล้วกัน”   ไอ้เชี่ย!!  อยากจะด่ามันแต่กำลังอ้าปากค้างอยู่ครับ  เมื่อไรเมิงจะลืมๆ ไปซะที  แม่งง   มีช่องหน่อยไม่ได้  หาเรื่องให้กูตลอด  ทั้งเมิงทั้งกูต้องไม่มีใครเมาเว้ย


   “เป็นไรวะ  ฟอร์มไม่ค่อยดี”  ไอ้ไนท์มันถามทันทีที่ผมสั่งพัก  เราเดินมานั่งกันที่ข้างสนาม  วันนี้ก็มากันเกือบครบขาดก็แต่ไอ้แชมป์  ไอ้ชิน (ยังไม่ได้ชำระความ)  แล้วก็ไอ้เชน  แต่ล่ะคน เทพๆ ทั้งนั้นเลย  แสดงว่าพวกมันคงตื่นเต้นอยากโชว์ฝีมือกันเต็มที่  วันพรุ่งนี้มีงานเปิดชมรม  ผมว่าคงไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากไปกว่าเรื่องผู้หญิงหรอกครับ  ประสบการณ์ตรงตอนปีหนึ่ง  ไม่ใช่ดิ  ก่อนจะไปชอบไปคนข้างๆ นี่
   “เออ  มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยว่ะ”   ที่จริงก็ไม่นิดหรอกครับ  เรียกว่าขั้นมหาศาลน่าจะดีกว่า 
   “อยากบอกกูไหม” 
   “อยาก...แต่ไม่บอกว่ะ”  ฮ่าๆ  ทีเมิงยังไม่บอกกูตั้งหลายเรื่อง  ทั้งเรื่องไอ้เนมกับไอ้เป้ซึ่งถ้ามันปล้ำกันจริงๆ  เป็นเรื่องครับ  แล้วยังเรื่องไอ้แชมป์อีก   นี่เขาเรียกว่าการเอาคืน

   “เฮ้ยย  เอาคืนเหรอเมิง”  ใช่แล้ว!

   “เฮ้ยย  ก๊ากก  ฮ่า  ย่ะ..อย่า  จี้  ฮ่าๆ”  ดูเหมือนผมจะทำท่าสะใจมากเกินไปครับ  ไอ้ไนท์มันเลยหมั่นไส้มาแกล้งผมคืนโดยวิธีที่โคตรปัญญาอ่อนแต่ได้ผลเกินคาดนั่นคือ  การจี้   ไม่ได้เลยครับ  เส้นมันกระตุก  ผมเลยนอนชักดิ้นชักงอให้มันจี้  เพราะไม่มีแรงจะหนี  ได้แต่หัวเราะอย่างทรมาน   ทรมานจริงๆ ครับ  เพราะมันหายใจไม่ทัน

   “จะบอกไหมฮะ”
   “ม่ะ..ม่าย  ฮ่าๆ  ปล่อย  กู  กั่กๆๆ   แฮ่กๆ  น่ะ...เหนื่อยเว้ย”  แต่มันก็ยังไม่หยุด  ไอ้ผมก็หอบจนหน้าแดง  นอนแผ่ให้มันจี้ต่อไป  มันลุกไม่ขึ้นจรงๆ ครับ


   “เฮ้ย  พวกมึง  เล่นเชี่ยไรกันกลางสนามวะ   เกรงใจคนอื่นเขาหน่อย  เขาอิจฉา”  ไอ้นุมันบอกยิ้มๆ  ทำให้ไอ้ไนท์มันยอมหยุดในที่สุดครับ  ขอบใจมากเพื่อน  ช่วยกูหลังจากที่กูใกล้ตายเต็มที่แล้วเนี่ยนะ  อยากลงไปกราบตีนด้วยความซึ้งใจ   แต่ก็จริงอย่างที่มันว่าครับ   รู้สึกเหมือนเป็นจุดรวมสายตาอย่างไรพิกล

   ฟุบ!!  ไอ้ไนท์มันดึงเสื้อที่ถลกถึงมาจนเกือบถึงหน้าอกของผมลง  แล้วดึงตัวผมขึ้นนั่ง  แถมยังมีการทำหน้าเครียด  เชี่ย  ไม่ต้องมาดุกูด้วยสายตาเลย  ที่กูเป็นอย่างนี้มันเพราะใครล่ะ

   “เกิดหวงขึ้นมารึไงวะ”  ไอ้นุมันเริ่มแกว่งปากหาเสี้ยนอีกครั้ง
   “เออ”  บอกแล้วครับว่าถ้าโยนมา  ไอไนท์มันจะรับมุก  แต่รู้สึกว่าเมิงจะจริงจังเกินไปนะ

   “ฮ่าๆๆ  ยอมรับแล้วสิเมิง  ว่าหวงไอ้เวย์”
   “กูเคยปฏิเสธด้วยเหรอ”  เลิกล้อเล่นกันซะทีเถอะพวกมึง  ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนในสนามนะ  เห็นหัวดำๆ ที่นั่งมองมาตาแป๋วกันมั่งไหม
   “เชี่ยไนท์  เชี่ยนุ”
   “แต่เมื่อกี้เมิงนอนไป  หอบไป  โคตรเซ็กซี่เลยว่ะ”  ไอ้นุมันพูดทำท่าเคลิ้ม  น่าน  อย่ามาเคลิ้มกับกูนะเมิง  อย่าลืมว่าภรรยาเมิงที่บ้านมันเปิดค่ายมวย
   “เชี่ยนุ”  ผมสบถ
   “ไอ้เวย์  ไปห้องน้ำกัน”  ไปทำไม???  ไม่ต้องคิดให้มากความครับ  เห็นหน้ามันผมเดาออกทันที
   “เชี่ยไนท์”
   “จริงดิ  กูไปด้วยได้ป่าววะ”
   “เชี่ยนุ”
   “เสือก  กูไม่นิยมเล่นสวิงกิ้ง”  กูว่าแล้ว  เมิงคิดเรื่องนี้อยู่จริงๆ ด้วย
   “เชี่ยไนท์  เชี่ยนุ พวกมึงจะให้กูด่าว่าเชี่ยกันอีกนานไหมเนี่ย”  นึกๆ แล้วก็ตลกตัวเองครับ  ผมด่าพวกมันด้วยคำๆ เดียวไปกี่ครั้งแล้วเนี่ย

   “แม่งง  น่าอิจฉาว่ะ  ทางนี้ก็คู่พี่  ทางนั้นก็คู่เพื่อน  เฮ้ออ  อยากมีแฟนโว้ยย”  ไอ้โอมมันถอนหายใจเสียงดัง  นี่คือไม่มีแฟนของมึงเรอะ  แล้วไอ้ที่เมิงควงไปกินข้าว  ไปดูหนัง  นั่นเรียกว่าแม่รึไงวะ   ด่ามันในใจก็ดันเหลือบไปเห็นช็อตเด็ดของคู่รุ่นน้องที่น่าสงสัยของผมเข้า

   “เช็ดหน้าให้หน่อย”  ไอ้เป็มันพูดด้วยเสียงเรียบๆ  น่าน  เมิงขอหรือเมิงสั่งกันแน่วะ
   “.....”  ไอ้เนมไม่ตอบ  แต่ก้มหน้านิ่ง  มือที่กำอยู่สั่นน้อยๆ
   “สั่งก็ทำสิ  เร็วๆ”   ทีนี้ไอ้เป้มันสั่งแล้วบีบแขนไอ้เนม  จนมันยอมทำตาม  เอาผ้าเช็ดเหงื่อให้ไอ้เป้  ผมนี่ขมวดคิ้วแบบไม่พอใจ  มีที่ไหน  นั่นมันยิ่งกว่าบังคับแล้ว  ใช้กำลังเลยนะนั่น  ไอ้เชี่ยเป้  มันเป็นอะไรของมันวะ  ปกติมันไม่ใช่คนอย่างนี้ครับ  เท่าที่ผมรู้  มันก็ออกแนวเฮฮา  บ้าบอไปวันๆ อย่างที่คนในชมรมนี้เป็นกัน  ไม่นึกว่ามันจะมีโหมดมืดกับเขาด้วย
   ไอ้เป้มันสั่งให้ไอ้เนมทำอีกหลายนอกจากจะเช็ดเหงื่อแล้ว  ก็ยังป้อนน้ำ  นวดตัว  ขอนอนตัก  ทำไมเมิงไม่ไปอาบอบนวดซะเลยล่ะวะ  จะไปเซอร์วิสให้ครบ - -

   “มันสองคนเป็นอะไรกันแน่วะ”  ด้วยทนความสงสัยไม่ไหว  ผมก็เลยหันไปถามคนข้างๆ ปรากฎว่ามันก็มองไอ้คู่นั้นอยู่เหมือนกัน  แต่มองด้วยสายตาที่ออกจะแปลกอยู่สักหน่อย  ถ้าผมเดาไม่ผิด มันมีแวว ‘อิจฉา’ อยู่ด้วยมั้ง
   “เรื่องของมัน”  พูดจบมันก็เอาหน้ามันไซร้กับเสื้อผมเบาๆ
   “ทำไรวะ  จั๊กจี้”
   “เช็ดเหงื่อ”
   “เฮ้ย  เช็ดที่ผ้าสิวะ  เสื้อกูก็เปียกเหงื่อเหมือนกัน”  มันท่าจะบ้าว่ะ  จะเช็ดเหงื่อกับผ้าที่เปียกเหงื่อ  แล้วหน้าเมิงจะแห้งไหม - -
   “เวย์  ขอน้ำหน่อย”  ผมก็ยื่นน้ำให้มัน  แต่มันสั่นหน้า  แล้วอ้าปากรอ  ให้กูป้อน??  กลางสนามเนี่ยนะเมิง  “แดกเองสิวะ”  มันขมวดคิ้วแล้วเหล่ไปทางไอ้เป้กับไอ้เนม  ก่อนจะมองผมสลับกับขวดน้ำ  เชี่ย  อิจฉาเด็กมันว่างั้นเหอะ  ผมก็ถอนหายใจแล้วยอมป้อนให้มันแต่โดยดี  เหอะ  นึกจะเอาแต่ใจก็เอาแต่ใจ  นึกจะเด็กก็เด็กนะเมิง  บางทีเวลามันเอาแต่ใจก็น่าเอ็นดูดีเหมือนกันนะครับ  ยังไม่ทันได้อ้าปากด่า  มันก็ล้มตัวลงนอนบนตักผมทันที  มึงจะเอาเหมือนเขาให้ได้ใช่ไหม  ไม่ได้ดูเลยรึไงว่านี่มันกลางโรงยิมนะเว้ย

   “ไอ้ไนท์ลุก”
   “ไม่”
   “คนมองนะเมิง”
   “ช่าง”
   “แต่....”
   “เงียบเถอะน่า  จะนอน”  กลายเป็นว่ากูผิดอีก  แต่สงสัยไอ้ไนท์มันจะแสดงชัดเจนว่าถ้าใครสอดปากแซว  ตาย!!  หูผมก็เลยยังปกติสุขอยู่  และมันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีสายตาล้อเลียนส่งมาจากทั่วทุกสารทิศ  แม่งง  ชีวิตกู



-----------------------

ก้มหัวคาราวะ  ต้องขอโทษด้วยค่า  พอดีไวท์กำลังมีโครงการแก้นิยาย  ฮ่าๆ
เลยไม่แน่ใจจะลงต่อดีไหม  แต่เอาดป็นว่าไว?จะมาลงทุกสองวันนะคะ  แล้วค่อยตามแก้มันทีหลัง  ฮ่าๆๆ


ขอบคุณค่า แต่..เอ่อ..หวานปนหื่น????  ฮ่าๆๆ  ท่าจะจริงแฮะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 15-05-2009 15:40:57
พี่น้าทททททท ดีแตกซะแล้ว อุตส่าห์แอบเชียร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 15-05-2009 15:56:24
ต่อถี่ๆนะคับ รักตายเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 15-05-2009 15:58:47
 o22 ช็อค ทำไมพี่นัทเป็นงี้ไปได้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 15-05-2009 16:10:00
ทุกสองวันก้อรอได้เสมอจ้า

แต่อย่าไร้ร่องรอยไปนานๆนะเด้อ

 :L2:


อยากรู้เบื้องหลัง เป้ เนม ซะแล้ววว

 :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 15-05-2009 17:13:14
 :z1: มีแต่เรื่องอยากรู้เพียบเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 15-05-2009 18:33:03
ตอนหน้า ขอแบบนี้ อีก ๆๆ    o13

(http://images.torrentmove.com/show.php?id=b194dae030641f5735af4d70455cff8b)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: woradach ที่ 15-05-2009 19:06:53
โอ้วลุงนัทดีแตกได้น่ากลัวมากๆๆๆๆ แต่ทุกอย่างน่าจะขึ้นกับเวย์มากกว่านะ ถึงแม้จะไม่มีไนท์ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปกะนัท มีชินอีกคน อิอิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจัง ที่ 15-05-2009 22:12:44
จะมีตอนพิเศษของเป้กะเนมและคู่ของแชมป์กับหยกมั๊ยค่ะ

อยากอ่านจังเลยค๊า  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 16-05-2009 13:53:18
พี่นุ่นอย่าเเก้เล่นดิวขอร้องน่ะน่ะ
พี่หมอ :serius2:พี่นี้มันจริงเล่น ในเมื่อทำเป็นคนดีแล้วไม่ได้นาย  หลังจากนี้ถ้าพี่ร้ายก็อย่ามาว่ากันนะ” ดูพูดเข้าน่าสงสารอ่ะ

ไนท์ทำอะไรก้อให้มันหมั่นใจน่ะ

รักเวย์ๆๆรักพี่นุ่นๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 16-05-2009 14:32:48
ตามทันแว้ววว

หุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 16-05-2009 14:57:22
อิจฉาอ๊าา^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 16-05-2009 16:48:10
ม่ายยยยยยยย

หมอนัทไม่จริง  :sad4:

แต่เราเชื่อหมอนัทว่าทำเพราะโดนน้องบังคับ

ที่จริงหมอนัทเป็นคนดีเนอะๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 16-05-2009 18:25:23
ไนท์เอ๊ยยย แกจะเถื่อนไปถึงไหนวะ (แบบว่าตูชอบ อิอิ)
แต่ก็อย่าให้มันมากนักนะ เด๋วเจ้าเวย์จะช้ำซะหมด
เค้าทนไม่ไหว ไปหาคนอื่นขึ้นมาละก็ แกจะน้ำตาหล่น
แต่ยังไงก็เชียร์ไนท์เหมือนเดิมนะจ๊ะ จ๊วบบบ

เอิ่มม เป้กะเนม??? เอาเป็นว่าคุยกันดีๆละกัน เป็นห่วงคับ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: ♥a2k♥ ที่ 16-05-2009 22:23:28
ในที่สุดพี่หมอก็เผยธาตุแท้ออกมา เหอๆ

อยากรู้เรื่องของเป้กับเนม ดูน่ารักกก   :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 16-05-2009 22:37:51

 บทที่ 17  ปีศาจลอกคราบ

   “เวย์”  เสียงเรียกที่คุ้นเคยดึงผมให้หลุดจากภวังค์  (ที่จริงคือมองหน้าตอนหลับของใครบางคนอยู่  แม่ง  คนไรวะ  หล่อแล้วยังเสือกหลับอีก!  มึงทำไม่ถูกรู้ไหม  ไอ้ฟายไนท์ กูไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแล้วเนี่ย)   ดวงหน้าของคนที่ทำให้ความคิดสับสน   หัวใจเจ็บแปลบด้วยไม่รู้ว่ายังจะเชื่อใจเขาได้อีกไหมชัดเจนขึ้นในสายตา  ที่แปลกไปคือร่างสูงสวมเครื่องแบบนิสิตไม่เรียบร้อยเหมือนทุกที   ชายเสื้อข้างหนึ่งออกนอกกางเกงที่บัดนี้ไม่เรียบกริบเหมือนอย่างเคย

   “พี่น่ะ..พี่หมอ”  คำเรียกขานที่คุ้นเคยจำต้องเปลี่ยนไป   ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเรียกเขาว่าพี่นัท  แต่รู้ตัวอีกทีปากมันก็ขยับไปเองแล้ว   บอกแล้วไงครับปากมันขยับเอง  ผมไม่ได้สั่ง  แวบหนึ่งที่ผมเห็นแววตาสีดำสนิทนั่นวูบไหวอย่างประหลาด  มันทำให้ผมรู้สึกผิดทั้งๆ ที่ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองทำผิดอะไร   คนที่ผิดจริงๆ คือเขาไม่ใช่เหรอ  คนที่มาหลอกใช้ความเชื่อใจของผม
   “มาทำไม”  ไอ้คนที่นอนหลับตานิ่งลุกขึ้นมานั่งจ้องอีกฝ่ายอย่างกินเลือดกินเนื้อเมื่อไรก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าบรรยากาศมันชวนน่าอึดอัดแปลกๆ   แต่ว่า...มึงจะรีบลุกทำไม๊  ขอกูหายใจไม่ออกต่ออีกหน่อยได้ไหมวะ  มุมกำลังดีเลยแม่ง
   “ฉันมารับเวย์ไปเตรียมตัว  ละครกำลังจะเริ่มในอีกสองชั่วโมง”  พี่หมอตอบพลางเดินเข้ามาใกล้  อย่าเพิ่งเข้ามาดิพี่  ไอ้ไนท์มึงกลับมาก่อน ฮ่วย (ทีตอนแรกล่ะก็ทำเป็นอายชาวบ้านนะกู)  สรุปแล้วไอ้เวย์ก็ยังนั่งเอ๋ออยู่ที่เดิมครับ  กะจะให้เหมือนนางเอกในละคร  แบบว่าหกล้มแล้วมีพระเอกมาช่วย  แต่อันนี้ผมเป็นเหน็บ -*-   คิดว่าไอ้ไนท์มันจะพยุงผมขึ้นหรือเหยียบให้จมดินครับ  ใครเลือกข้อหลังขอให้นั่งอ่านนิยายเรื่องไหนก็เหน็บกินเหอะ
   “ไม่จำเป็น  กูไปส่งของกูเองได้”  มึงพูดกับเขา  แล้วจะจ้องกูเพื่อ??  กูเปล่าน้า  เขามาเอง  กูเปล่าชวนน้า  เขามาเอง
   “ที่นี่เขาไม่สอนเหรอว่าอย่าลามปามรุ่นพี่  ผมเป็นรุ่นพี่คุณนะ”  อ้ะ!! วันนี้พี่หมอแกมาในมาดแปลกๆ ครับ  ไม่ยอมไอ้ไนท์เหมือนทุกทีแถมยังด่ามันอีก  เอาแล้วไง  พี่ไปยั่วมันเพื่อ???  ถ้าไอ้เวรไนท์มันกลายร่างเมื่อไร  ใครจะรับผิดชอบชีวิตผม  ใครจะเป็นพ่อเด็กในท้องผม???
   “หึ  แล้วนายไม่เคยรู้เหรอว่า ของๆ คนอื่น  อย่าได้คิดจะเอาเป็นของๆ ตัวเอง”  ไอ้คนที่รู้ตัวว่าเป็นรุ่นน้อง   มันเปลี่ยนจากคำพ่อขุน  มาใช้คำแทนตัวที่ธรรมดา  แต่...ไม่เคารพ  สรุปมันรู้ตัวจริงๆ ไหมเนี่ยว่าเป็นรุ่นน้องเขา  แต่ว่า...มึงจะรับผิดชอบกูแน่ใช่ไหม??

   “รู้   รู้แต่ว่าถ้าอยากได้อะไรแล้ว  ก็ต้องพยายามให้ได้มา  ฉันคงไม่บ้าพอที่จะงอมืองอเท้าปล่อยให้ของรักตกอยู่ในมือคนอื่นหรอก”  พี่หมอเลิกคิ้วจ้องหน้ามันแล้วพูด   แถมยังยิ้มในแบบที่ถ้าผมเป็นไอ้ไนท์  เท้ามันคงอยากกระตุกพิลึก  แม่ง  กวนตีนสุดๆ  กวนเสียจนไม่เหลือคราบคุณหมอผู้ใจดีอีกต่อไป  เอาเหอะพี่อยากด่าอยากยั่วอะไรมันก็เอาเลย  แต่ขออย่างเดียวอย่าให้หวยมาออกที่ผมกับลูกแล้วกัน  (มึงไปมีลูกกับเขาเมื่อไร  ไอ้บ้า)
   “หึ  ทำมาเป็นพูดดี  มันก็แค่ข้ออ้างของคนเลวเท่านั้นล่ะวะ”  เห็นได้ชัดครับว่ามันกำลังอดกลั้นอย่างที่สุด  เห็นมันพูดเรียบๆ อย่างนี้ก็เหอะ  ถ้ามองต่ำลงไปหน่อยจะเห็นว่ามันกำลังกำหมัดแน่น   แล้วถ้ามันเม้มปากเมื่อไร  เตรียมวิ่งครับ  ผมไม่ได้รักตัวกลัวตายแต่เป็นห่วงลูกในท้องที่กำลังจะลืมตามาดูโลก  สรุปมึงอยากท้องจริงๆ ใช่ไหม?
   “ฉันไม่เคยบอกสักครั้งว่าเป็นคนดี”  พี่แกพูดไปยิ้มไป  เออ  ยิ้มไปเหอะพี่  หันมาดูหน้าซีดๆ ของผมก่อนได้ไหม  เผื่อว่าพี่จะเห็นใจหยุดหาเรื่อง (ให้ผม) สักที
   “หึ  แล้วทำไมรีบหงายไพ่ซะล่ะ”  ไอ้ไนท์เป็นฝ่ายยิ้มบ้างแล้ว  แต่เป็นยิ้มเหยียดนะ  หยุดไว้แค่ยิ้มเหยียดพอนะมึง  อย่าถึงขั้นเม้มปากเลย  กูกราบล่ะ  อัญชลี  วันทา  อภิวาท
   “นั่นสิ บางทีฉันอาจจะกลัวว่า  ถ้าช้ากว่านี้โอกาสมันจะไม่มีอีกแล้วล่ะมั้ง”  โอกาสอะไร  โอกาสที่ผมจะโดนเล่นงานน่ะเหรอ  บานเลยพี่  หาได้ง่ายยิ่งกว่างมหอยงมปลาอีก  (งมปลา??  งงไหม  อย่างงเลยครับ  ภาษาส่วนตัว)

   “โอกาสของนายมันไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้ว”  กูไม่เชื่อ!!  ไม่มีโอกาสเชี่ยไร  เดี๋ยวนี้มึงก็คอยจะมอมเหล้ากู  พี่หมอก็เพิ่งสารภาพว่าจะทำร้ายกูโทษฐานที่มึงเจ้าชู  แล้วกูไปเกี่ยวด้วยเมื่อไรวะ  แสรดเอ๊ย   มึงยังมีหน้ามาบอกว่าไม่มีโอกาสอีกเรอะ  ไอ้คนโกหก  ไอ้คนหลอกลวง  กรุณาจินตนาการว่ามียักษ์สองตนยืนเถียงกันว่าใครจะกินมนุษย์ตัวน้อยอย่างผมก่อนดิ  ส่วนไอ้เวย์ผู้รับบทมนุษย์ (ตัวน้อย) ผู้อาภัพกำลังนั่งอยู่ในมุมมืด  มีแสงสปอร์ตไลท์ส่องมาเพียงอย่างเดียว
คุยอะไรกันโว้ยยย  ผมเงยหน้ามองทั้งสองคนสลับกันไปมาก็แทบอยากจะประเคนตีนให้...ตัวเอง (ใครจะกล้าให้พวกเขาล่ะครับ  ผมยังมีแม่ที่ต้องเลี้ยงอีกทั้งคน)  ทั้งที่พวกเขาพูดภาษาไทย  แต่ทำไมผมฟังไม่รู้เรื่องล่ะครับ


   “อย่าลืมว่าไพ่มันไม่ได้มีแค่แจ็ค  แหม่ม  คิง  มันยังมีโจ๊กเกอร์ด้วย”  
   “ต่อให้นายอีกสิบโจ๊กเกอร์เลยเป็นไง”  น่านนน   เผลอแป๊บเดียว  มันมาเป็นเรื่องไพ่ได้ไงล่ะครับเนี่ย  หรือว่าแอบไปพนันอะไรกันไว้  คงไม่ใช่ว่าถ้าฉันชนะ  นายต้องมาเป็นของฉันหรอกนะ  ม่ายยยย   (หมายเหตุ: นายเอกเรื่องนี้เครื่องพังบ่อย - -  กรุณาทำความเข้าใจ  แม้ฉากนี้จะเป็นซีนที่โคตรจะเครียด  พระเอกกับพระรองกำลังจะฆ่ากันตาย  แต่โปรดอย่าหวังสาระจากนายเอกเด็ดขาด  หรือจะพูดให้ถูก  อย่าหวังสาระจากคนอย่างไอ้เวย์)

   “หึ  บางทีคนอวดดีอย่างนายก็สมควรจะกระอักตายเสียบ้าง  อย่าง...ลองเสียของรักดูสักครั้งเป็นไง”
   “ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็ทำให้เต็มที่แล้วกัน  แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่เคยปล่อยให้ใครขโมยอะไรๆ ไปได้ง่ายๆ”  เออ  ถูกของมึง  ข้อนี้กูรู้ดียิ่งกว่าใคร  แค่กูขโมยแดกเหล้ามึงอึกเดียว  กูต้องเลี้ยงเหล้ามึงเดือนนึง  แสรด  ใครมันจะไปขโมยของมึงวะ  ไอ้คนเหนียวหนี้เอ๊ย
   “นายอาจยังไม่รู้  ขโมยบางคนน่ะฉลาดกว่าประธานาธิบดีซะอีก”
   “หึ  บางคนนั้นคงไม่ใช่นาย”  ผมนั่งฟังสองคนเถียงกันไปมา  เดี๋ยวไพ่  เดี๋ยวโจ๊กเกอร์  เดี๋ยวขโมย  เดี๋ยวประธานาธิบดี  อะไรๆ ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันแต่ดันโยงเข้าด้วยกันเฉยเลย  เล่นเอาผมนั่งมึนไปชั่วขณะ   จนสงครามน้ำลายเปลี่ยนมาเป็นเลเซอร์สายตานี่ล่ะครับ  ผมถึงพอหายใจหายคอได้บ้าง  (กรุณาอย่าสลับคำเป็นใจหายหรือคอหาย   น่าน  ฮากริบกันไปอีกรอบ  ก็เตือนแล้วว่าตอนนี้มันเป็นซีนอารมณ์  พวกคุณยังหวังให้ผมเล่นมุกฮาๆ ออกอีกรึไง  -*-)

   “เวย์  มึงไปหยิบของแล้วกูจะไปส่ง”  ไอ้ไนท์มันสั่งผมทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากอีกฝ่าย  แสรดเอ๊ย  จ้องกันเข้าไป  ถ้าพวกมึงท้องขึ้นมาใครจะเป็นพ่อใครจะเป็นแม่วะ  เฮ้ย!  แล้วกูจะทำยังไงอ่ะ  ไม่เอา  หยุดจ้องตากันสักทีสิโว้ย
   “อ่ะ..อือ” นี่คือสิ่งที่ผมพูด  สั้นๆ ง่ายๆ  เพราะสองตากำลังดูว่าใครจะเป็นฝ่ายก่อหวอด - -  คนนะเว้ย  ไม่ใช่ปลากัด

   “ระแวงขนาดนั้น??  คิดจะตามเขาไปถึงเมื่อไร”  พี่หมอถาม  มาถามผมดิพี่  ผมจะตอบว่าให้มันตามผมไปตลอดชีวิต  ฮิ้ว!  ด้านอย่างนี้มันจะไปไหนรอด  ก๊ากกก
   “จนกว่าตัวมันจะติดสัญญาณกันขโมย”   อ้าว  แล้วสัญญาณกันขโมยมาเกี่ยวอะไรด้วย  ว้อยยย  สรุปพวกมึงพูดเรื่องอะไรก๊าน



   ----------------------------

กรรม  เยอะเกิน  ต้องแยกตอน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 16 ปีศาจในคราบเจ้าชาย
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 16-05-2009 22:39:49


“นี่บัตรวีไอพี  หน้าสุด  ฉันเตรียมไว้ให้เรียบร้อย  นายไปนั่งรอที่นั่นแล้วกัน”  พี่หมอพูดทันทีที่เราเดินมาถึงหอประชุม  ตลอดทางไอ้ไนท์มันจับมือผมมาตลอด  คิดดูแล้วกันนะครับ  ผู้ชายตัวโตๆ สองคนเดินจับมือกัน  เหอะๆ  เอาเถอะครับ  ผมก็แอบดีใจอยู่นิดหน่อย (หน้าบานขนาดนี้อ่ะนะ  นิดหน่อย)  หรือว่ามันจะหึงผมวะ??  ถ้ามันหึงจริงนี่ผมจะยอมเล่นละครแบบถวายชีวิตเลย  ให้กระโดดจากที่สูง  ไอ้เวย์ก็จะโดด  ให้นอนกลิ้งเกลือกบนเวทีไอ้เวย์ก็จะกลิ่ง  ให้บุกน้ำไอ้เวย์ก็จะบุก  ให้ลุยไฟ..ขอคิดดูก่อนแล้วกัน  ไอ้ที่เขาบอกว่าคนดีตกน้ำไม่ไหล  ตกไฟไม่ไหม้นั่นผมก็พอจะเชื่อบ้าง  แต่ถ้าคนดี (ใจ) มากไปมันจะไม่ไหม้ไฟด้วยรึเปล่าวะ? (หวังว่าทุกคนจะเข้าใจมุกนี้  แม้จะแป้ก  เราก็จะเล่น)

   “ถ้าฉันไม่ไปล่ะ”  กูว่าแล้ว -*-   คิดไว้แล้วล่ะครับว่ามันต้องพูดอย่างนี้  เหอะๆ  กูก็ไม่อยากให้มึงไปหรอก  กูอยากอยู่กับมึงตลอดเวลาไม่ว่าจะกิน  ขี้  ( ปี้)  นอน แต่ถ้ามึงไม่ไป  มึงก็ต้องตามกูไปแต่งตัวข้างหลังเวที  แล้วพอถึงที่นั่นนอกจากกูต้องคอยดูแลสวัสดิภาพตัวเอง  กูยังต้องมาคอยห่วงสวัสดิภาพมึงด้วย  จะอะไรซะอีกล่ะครับ  ถ้าไม่ใช่ว่าช่างฝ่ายคอสตูมแต่ละคนล้วนเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์เพศชาย  ขอแค่คุณมีหนังหน้าที่ติดจะดูดี  คุณมีสิทธิ์ลุ้นรับบริการเสริมได้ทันทีแถมมีอ็อพชั่นให้เลือกกันอีกไม่หวาดไม่ไหว  แน่นอนครับกระทั่งคนชอบของฟรีอย่างผม  ยังไม่ยอมตกหลุมเลย  คิดดูเองแล้วกันว่ามันเป็นบริการเสริมแบบไหน

   “ค่ะ..คือ  ไอ้ไนท์  มึงไปนั่งรอกูก่อนนะ  เขา (กู) ไม่ให้คนนอกเข้าหลังเวทีอ่ะ  นะๆ”  โดยเฉพาะมึง  ห้ามเข้าเด็ดขาด  เพราะถ้ามึงเข้าไป  ไม่ตัวมึงซวย (อย่างที่บอกล่ะครับ) ก็เป็นพวกกูซวย (แต่งตัวไม่ทัน  เพราะพวกเจ๊ๆ แกมีเหยื่อรายใหม่เข้ามาให้อ้อล้อ)
   “...” มันไม่ตอบแต่จ้องหน้าผมนิ่ง  โกรธอะไรล่ะโว้ย  ที่ทำนี่เพราะกูเป็นห่วงมึงหรอกนะ   สักพักมันก็ยอมหันหลังเดินกลับไป  เล่นเอาผมใจไม่ค่อยดี  อะไรมันจะเชื่อฟังกันง่ายขนาดนั้น  นี่ถ้าเป็นปกติต้องมีเถียง  ไม่ก็ถีบนะ
   “เดี๋ยว”  ก็เลยเรียกมันไว้ครับ  เอ้า!  แล้วเรียกทำไมวะ?  ไม่รู้ตัว(อีกแล้ว) ครับ  ปากมันขยับของมันไปเอง  เลยต้องเดือดร้อนมาถึงสมอง  ต้องมานั่งคิดทางหนีทีไล่อีก
   “หืม?”  ส่งเสียงแต่ก็ยังไม่หันมา  นี่ไม่ใช่ว่างอนกูหรอกนะ  ก๊ากก  ว่าเข้าไปนั่น 
   “มึงจะไม่ให้กำลังใจกูหน่อยเหรอ”  อ๊ากก  พูดไปแล้วก็อยากกระโดดถีบตัวเอง  มึงด้านได้ใจมากไอ้เวย์  ถามไปหน้าก็แดงไป  ฉิบหายเอ๊ย    แต่ได้ผลครับ  ไอ้ไนท์มันหันกลับมายิ้มให้ในที่สุด   มันเดินเข้ามาหาผม  ในขณะที่อีกคนเดินหายเข้าไปหลังเวที
   “กูจะรอดูนะ”   มันกระซิบเสียงเบา   มือใหญ่ยื่นมาลูบผมยุ่งๆ จนไอ้คนขอร้องอย่างผมแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย  ไปเรียกให้มันมาทำมึงเขินทำไมว้า  ไอ้เวย์  ไอ้บ้า  ฮ่วย  เสียเชิงว้อย  (อยู่กับมัน  มึงเคยมีเชิง  มีฟอร์มกับเขาด้วยเหรอวะ)



   “น้องเวย์ข-า  มาทางนี้เลยค่า  แหมมม  พี่ล่ะรอวันนี้มานานแล้ว”  นั่นไงครับ  ยังไม่ทันที่ผมจะโผล่เข้าไปหมดทั้งตัว ( ยื่นหน้าเข้าไปดูลาดเลาก่อน)  เจ๊ดอลลี่ (ชื่อเดิม : แดนไทย) กระเทยช่างแต่งหน้าฝ่ายคอสตูมก็เดินลิ่วๆ มาลากตัวผมไป  - -  แล้วไอ้ที่แกบอกว่ารอวันนี้มานานแล้ว  มันชวนให้ผมคิดว่าตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่าน  แกคงเก็บกดไว้มาก  หวังว่าแกจะเก็บไว้ต่อไปนะครับ  อย่าให้ความพยายามในการรักษาชีวิตของผมต้องสูญเปล่าเลย
   “แหมม  หน้าก็ใส๊ใส  ผิวก็เนียนน่ากิ๊นน่ากิน  เอ๊ย  น่าลงแป้ง หุหุ พูดผิดไปหน่อย”  ผมว่าพี่ไม่ได้พูดผิดซะล่ะมั้ง  มันหลุดปากมากกว่านะนั่น  อย่าเพิ่งกระเดือกผมลงท้องเลยครับ  สงสารลูกนกลูกกาที่ยังต้องเลี้ยงดูครอบครัว  มีผม  มีไอ้ไนท์  มีแม่  แล้วก็ลูกอีกคนในท้อง - -
   “นั่นสิคะ  คุณหมอก็อีกคน  หน้าบริ้งค์เชียว  กระเทยล่ะอิจฉา”  เจ๊แจน (เจนจบ) ช่างแต่งหน้าอีกคนที่กำลังสัมผัสใบหน้าขาวๆ ที่ออกจะซีดของพี่หมอพูดขึ้น  เจ๊แจนแกเอาหน้าเข้าไปใกล้เสียจนผมแอบคิดว่าแกอาจอยากจะใช้ลิ้นพิสูจน์ความเนียนแทนมือ
   “ขอตัวก่อนนะครับ  ผมจะไปแต่งตัว”  พี่หมอลุกขึ้นเดินไปหาพี่นี  ผู้จัดการเสื้อผ้านักแสดง  เฮ้ย!  พี่ทิ้งผมไว้อย่างนี้  เดี๋ยวเจ๊แจนแกก็....
   “โธ่  ไปซะละ  ไหนๆ  ขอดูหน้าน้องเวย์มั่ง”  นั่นไง  งานเข้าแล้วกู  พอไอ้เวย์ทำท่าจะขยับเท่านั้นแหละ
   “น้องเวย์  อย่าคิดหนี”  เฮือก! แกสารภาพแล้ว  ช่วยด้วย  คนหล่อยังไม่อยากตาย  บอกแล้วไงว่ามีครอบครัวต้องเลี้ยง ฮ่วย  ฟังไม่รู้เรื่องรึไงวะ   “เอ๊ย  ไม่ใช่  อย่าขยับสิจ๊ะ  เดี๋ยวผมยุ่ง”  ยุ่งไม่ยุ่งมันจะเกี่ยวอะไรล่ะคร้าบบบบบ  ก็ในเมื่อผมต้องใส่วิก  แล้วจะมาเซ็ทผมให้เพื่อ???  ว้อยย  และแล้ว...ไอ้คนไม่เคยยอมคนอย่างผม  ก็นั่งนิ่งปล่อยให้แกแทะโลมต่อไป  ด้วยเกรงว่าถ้าแกไม่ได้ดั่งใจ  แกอาจจะเป็นคนเสนอตัวช่วยผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน


   “หมอนัทจ๊ะ  นี่ชุดจ้ะ  เปลี่ยนเองหรือให้พี่ช่วยดี  ชุดใส่ลำบากนะ”  พี่นีครับ  พี่มาช่วยผมก่อนดีกว่าไหม  แม่งงง  บอกว่ากูต้องใส่วิก  จะเซ็ทผมไปเพื่อ????  ถึงจะพูดว่าเซ็ท  ผมก็ยังดูไม่ออกว่าไอ้การขยำเส้นผมไปมานี่มันเป็นการเซ็ทตรงไหน  ตกลงพี่จะทำให้มันเป็นทรงหรือจะทำให้มันยุ่งครับ    ส่วนเจ๊แจนแกก็กำลังทำอะไรสักอย่างกับขนตาของผม  แม่งง  คันก็คัน  ขยับก็ไม่ได้  เพราะมึงเลยไอ้พี่วาย  โยนงานบ้างานบออะไรมาให้  หรือว่าแกรู้อยู่แล้ววะว่าต้องเจออะไรมั่ง  เฮ้ย!  ชัวร์เลย  คราวก่อนแกเล่นเป็นพระเอกด้วยนี่หว่า (เรื่องที่แล้วพระเอกเป็นคางคกครับ)  แม่งง  จบงานเมื่อไรพี่จะรู้ว่านรกมีจริงเหมือนอย่างที่ผมรู้อยู่ตอนนี้  แล้วต่อให้หมื่นพี่ออยก็ช่วยพี่ไปจากพวกเจ๊ๆ เขาไม่ได้

   “ไม่เป็นไรครับ  ถ้าใส่ไม่ได้  ผมกะว่าจะให้นางเอกเขาช่วย”  เสียงคนที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้น  แล้วทำไมพี่ต้องโยนมาให้ผมด้วยล่ะ  ไอ้เท่าที่เห็นนี่มันยังไม่น่าอนาถพอใช่ไหม?
   “ว้ายย  อย่ามีรักนอกจอกันเชียวนะ  เดี๋ยวกระเทยช้ำใจตาย”  พี่จะช้ำใจตายหรือเปล่าผมไม่รู้  แต่ตัวผมน่ะจะช้ำในตายอยู่แล้ว
   “ไม่ม่ะ..”  ผมกำลังจะปฏิเสธ
   “ไม่แน่ครับ  ฮ่าๆ”  แต่อีกคนพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน  ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้าเขาทันที  อีกฝ่ายกำลังมองมาทางนี้อยู่เหมือนกัน  แถมยังยิ้มในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  นั่นพี่กำลังยิ้มอยู่จริงๆ น่ะเหรอ??  ปกติพี่ยิ้มทีไรก้มักจะมีออร่าสีขาวล้อมอยู่เสมอ  แต่ครั้งนี้กลับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง  (ได้โปรดอย่าถามว่าผมเห็นออร่านั่นได้ยังไง  กระทั่งว่ามันคืออะไรผมยังไม่ค่อยจะแน่ใจเลย  เฮ้ย!  แต่ผมไม่ได้มั่วนะ  เห็นจริงๆ)
   “ว้ายย  วิ้ววว  คุณหมอร้ายจริงๆ  แอบไปเคลมน้องเวย์ของเจ๊มาเมื่อไรเนี่ย”  เคลมบ้านเจ๊ดิ  เห็นผมเป็นคนไงครับเจ๊  ขนาดเจ๊ตะล่อมแกมบังคับผมมาเกือบเดือน  ผมเคยยอมเจ๊สักครั้งไหม  ถามใหม่ดีกว่า  เคยมีใครยอมเจ๊สักคนไหม??
   “ร้าย??  คงจะอย่างนั้นล่ะครับ”   คนยอมรับว่าตัวเองร้ายละสายตาไปแล้ว  แต่ทำไมผมยังละสายตาไปจากเขาไม่ได้  ทำไมล่ะ  ทำไมผมถึงเห็นว่าคนที่เจ็บจริงๆ คือพี่ต่างหาก  เหอะๆ  มึงตาฝาดไปเองไอ้เวย์  อย่ามาทำเป็นโง่ในเมื่อมึงก็รู้ความจริงอยู่แล้ว  อย่ามาทำเน่าเป็นคนดี  ไม่เหมาะกับมึงเลย


   “เวย์  นายมาช่วยผูกเชือกข้างหลังหน่อยสิ”  เสียงคนร้ายในคราบคนดีเอ่ยขึ้น  เห็นไหมครับว่าผมเปลี่ยนวิธีเรียกแกใหม่  เพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอจะได้ไม่เผลอคิดว่าเขามาดีอีก  สุดยอดอ่ะมึง  คิดได้ไงวะ  ช่วยได้มากเลยเหอะ - -
   “ผมไม่ว่าง  ให้คนอื่นช่วยแล้วกัน”  และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทั้งๆ ที่ทุกครั้งที่ผ่านมา  ตลอดการซ้อมเราสองคนแทบจะตัวติดกัน  เพราะในบทพี่เขาเป็นพระเอกส่วนผมเป็นนางเอก (อย่าให้พูดเลยครับ  มันน่าอนาถนักแล  บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะหลงคารมพี่เอ  ผมไม่มีทางทำเด็ดขาด  แม่ง  แกเล่นเล่า  หว่านล้อมไปนู่นไปนี่จนผมงง  รู้อีกทีได้บทนี้มาแล้ว)  ซ้อมก็ซ้อมด้วยกัน  กินข้าวก็กินด้วยกัน  เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน  ไม่แปลกหรอกครับที่ใครๆ จะสงสัยว่าอาจมีรักนอกจอ  เหอะ  พูดเป็นดาราในหนังน้ำเน่าไปได้  ถึงผมจะไม่ใช่คนดีนักแต่ก็รักคนที่หักหลังตัวเองไม่ลงหรอก  หรือจะพูดให้ถูกตอนนี้ผมยังพอใจกับการเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออยู่  แถมดูท่าว่าเริ่มจะเข้าทางแล้วด้วย  ไม่เสียแรงที่ลงทุนขุดหลุมไว้ถี่ๆ  เอิ้กๆ  กูว่าแล้วว่าถ้ากูขุดเยอะ  สักวันมึงต้องตก  ฮ่าๆ

   “แหม  น้องเวย์คะ  ไปช่วยคุณหมอหน่อยเถอะ  ไม่ต้องมาเขินพวกพี่หรอก”  พวกพี่เขาคงคิดว่าที่ผมไม่ยอมไปช่วยเหมือนทุกทีเพราะเป็นความเขิน  - -  กูล่ะอยากจะบ้า
   “ผมไม่ได้..”
   “แค่ผูกเชือก  ก็ไม่ได้เหรอ”  น้ำเสียงมีแววเว้าวอนแปลกๆ  น่าตลกดีจริงๆ  ทั้งที่พี่ตั้งใจจะร้ายกับผมแล้วทำไมไม่ลงมือซะที  มัวแต่วางมาดคนดีอยู่ได้  มาดคนดีที่เหมาะกับพี่มากกว่าอะไรทั้งหมด   มาดคนดีที่ผมไม่เคยปฏิเสธได้สักครั้ง
   “.... ก็ได้ครับ”  ไม่ค่อยจะใจอ่อนเลยกู  แค่เขาทำเสียงเศร้าหน่อยเดียว  มึงยอมแล้ว


   “รักกันมากไหม??”  คำถามที่ทำให้มือที่กำลังผูกเชือกของผมต้องชะงัก  รักกันมากไหมน่ะเหรอ  ปัญหาของผม  พี่จะอยากรู้ไปทำไม  กะอีแค่จะทำร้ายผมอย่างที่น้องสาวต้องการ  จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอว่าตอนนี้ผมกับมันเป็นยังไง  หรือถ้ายิ่งรักมาก  ก็จะยิ่งทำร้ายผมได้มาก  งั้นพี่คงต้องเสียดายแล้วล่ะเพราะมันยังไม่เคยบอกรักผมสักครั้ง
   “พี่...ทำไม”
   “แค่อยากรู้”
   “มันไม่ใช่เรื่องของพี่  ผมคงไม่จำเป็นต้องบอก”  อยากทำอะไร  แค่ไหน  ก็ทำไปเถอะ  เห็นแก่ความดีของพี่  ไม่ว่าพี่ตั้งใจทำหรือแค่เสแสร้งก็ตาม  แต่พี่ก็ทำอะไรให้ผมมามาก  เพราะฉะนั้นอยากจะร้ายแค่ไหนก็ตามใจ  แต่ขออย่างเดียวอย่าทำลายความสัมพันธ์ที่ผมเพียรสร้างมาก็แล้วกัน  ต่อให้เป็นพี่ก็อย่าหวังว่าผมจะยอม  (ได้ข่าวว่าแกเพิ่งยอมเขาไปเมื่อกี้)

   อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนที่จะหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับผม  แล้วรวบมือทั้งสองข้างของผมไว้  สายตาที่มองมาบอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกยังไง  หรือบางทีอาจเป็นผมเองที่ไม่อยากจะรับรู้กับความเสียใจในดวงตาคู่นั้น 

   “อย่ายั่วโมโหพี่บ่อยนัก  พี่ไม่ได้มีความอดทนมากมายขนาดนั้น”  พี่น่ะเหรอไม่อดทน  หึ  ไม่หรอกพี่อดทนมากๆ เลยต่างหาก  ไม่งั้นจะรอจนถึงวันนี้  วันที่ผมเชื่อใจพี่สุดๆ ได้ยังไง  ไอ้คนความอดทนต่ำจริงๆ น่ะมันไอ้คนที่ไปนั่งรออยู่หน้าเวทีต่างหาก  ไม่พอใจใครมันซัดเลย  ไม่เหมือนพี่  หลอกให้คนอื่นตายใจแล้วค่อยฆ่ากันช้าๆ
   “ผมไม่เคยยั่ว  แต่บอกไว้ก่อนนะ  ถ้าพี่คิดจะแก้แค้นแทนน้องสาวก็เล่นกันตัวๆ อย่างลูกผู้ชายดีกว่า”  ที่ท้านี่ไม่ใช่เพราะผมถนัดบู๊  แต่เรื่องวิ่ง (หนี) น่ะ  บรูซลีเรียกพี่ล่ะครับ
   “ตัวๆ อย่างนั้นเหรอ  นายไม่ต้องห่วง  พี่ไม่ยั้งมือหรอก”  เอาแล้วไง  ไปท้าเขา  แล้วจะรอดไหมล่ะกู  แต่แค่คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้แผนหนีทั้งหมดของผมพังครืน  เหมือนความหวังลึกๆ ว่าแกอาจจะไม่กล้าทำร้ายผมจริงๆ มืดสนิทลง  ฮ่าๆ  มึงยังมัวหวังบ้าบออะไรอีกวะ    ติดใจกับแค่ความดีของเขาอยางนั้นเหรอ   ไม่ใช่หรอกครับแต่ผมสงสัยว่าถ้าอยากจะทำร้ายกันนักล่ะก็  แค่มาต่อยมาตีผมก็พอ  ทำไมต้องเข้ามาทำดีให้ผมตายใจด้วย  ทำไม  ทำไม
 
   “พี่ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่  ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเพราะพี่ต้องการแก้แค้นไอ้ไนท์”  แค่จะแก้แค้นใครสักคนต้องทำดีขนาดนี้เลยเหรอ  ต้องมาคอยเอาใจ  มาคอยห่วง  มาคอยดูแลขนาดนี้เชียวเหรอ  ถ้าอย่างนั้นพี่คงลงทุนมากไป  ลงทุนไปมากเสียจนผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่จะเรียกทุนคืนจากผมเท่าไร  (คิดตามประสาเด็กเศรษฐศาสตร์เหลือเกินนะมึง)
   “นายคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ??”  ก็แล้วจะให้คิดยังไงล่ะในเมื่อพี่เป็นคนบอกเอง  ในเมื่อน้องสาวของพี่บอกเอง  ในเมื่อผมได้ยินอย่างนั้นมากับหูของตัวเอง
   “ผม....”



   “ทุกคน  อีกห้านาทีจะได้เวลาเปิดม่านแล้ว  มารวมกันตรงนี้หน่อย”  เสียงพี่เอ  ประธานองค์ใหญ่และผู้รับผิดชอบละครเวทีครั้งนี้ทำให้ผมไม่ต้องตอบคำถามนั่น   คำถามที่ตัวผมเองก็ยังหาคำตอบให้มันไม่ได้ 

   นักแสดงรวมถึงทีมงานทั้งหมดต่างวางงานในมือแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าพี่เอ  นิสิตคณะรัฐศาสตร์ผู้เป็นหัวใจของงานในครั้งนี้   งานที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของเราทุกคน  งานหนึ่งที่แสดงถึงศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัย

   “วันนี้เป็นวันที่ความเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายอาทิตย์ของพวกเราจะได้รับการตอบแทน  วันนี้จะเป็นวันที่เราทุกคนทำได้ดีที่สุด   วันนี้จะเป็นวันที่เราจะจำไปตลอดชีวิต  เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนพยายามให้เต็มที่  ทำให้ละครเวทีเรื่องนี้ประทับอยู่ในใจคนดู  ทำให้พวกเขาได้คิด  คิดจะเสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างที่เราทุกคนหวังไว้  จงคิดว่าการแสดงวันนี้ไม่ใช่แต่เพียงเพื่อมหาวิทยาลัย  แต่เป็นการแสดงเพื่อประเทศชาติของเราด้วย  เอาล่ะ  ลุย!!”  คำพูดของแกแสดงถึงคณะที่เรียนได้เป็นอย่างดี  แต่ผมก็ยิ้มรับคำพูดนั่นด้วยใจที่พองฟู  แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือเสียงเฮที่ดังขึ้นพร้อมๆ กัน  คำพูดให้กำลังใจและเรียกความมั่นใจอย่างประหลาดๆ ของประธานองค์ใหญ่กลับทำให้ใจฮึกเหิมเหมือนยามจะออกรบ  แสดงเพื่อประเทศชาติเหรอ??  ฟังดูไม่เลวนะ

   “เรื่องของเราเอาไว้ก่อนแล้วกัน  ตั้งใจแสดงให้ดีล่ะ  ถึงนายจะเกลียดพี่มากแค่ไหนแต่ยังไงซะ...วันนี้ช่วยรักพี่สักวัน   อ้อ  วันนี้นายสวยมากเลยนะ  เจ้าสาวของพี่”  นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนการแสดงจะเริ่มขึ้น  รักพี่สักวันเหรอ??  พี่อาจไม่รู้ความรักของผมมีให้พี่มาเสมอ  แม้จะไม่ใช่แบบที่พี่ต้องการแต่ผมก็ให้พี่มาตลอด   ก่อนที่พี่จะเป็นคนทำลายมันด้วยตัวเอง

   “Ladies and gentlemen  welcome to the most inspiring performance: The prince, The tyrant and The lover…….”
ในที่สุดม่านการแสดงก็เปิดออกพร้อมกับเพลงบรรเลงที่ทุกคนคงคุ้นหูนั่นคือเพลงประกอบภาพยนตร์ The prince of Egypt  ในเวอร์ชั่นของเพลงบรรเลงเปียโน  เรื่องราวที่พวกผมนำเสนอเป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อประชาชนและชาติบ้านเมืองของเจ้าชายพลัดถิ่นนามว่าเลโอ (นำแสดงโดยพี่หมอ)  และคนรักของเขานามว่า เมราเซีย (นำแสดงโดยผมเอง - - )  เลโอเป็นผู้ชายที่มีอุดมการณ์และกล้าหาญต่อต้านเจ้าเมืองที่โลภมาก  ขายชาติ  โดยมีเมราเซียคนรักที่กำลังจะแต่งงานของเขาคอยให้กำลังใจ   ก่อนงานแต่งงานเพียงหนึ่งวัน  สายของเขาได้นำข่าวสำคัญมาบอกว่าเจ้าเมืองกำลังจะขายเทวรูปเครีอัส  เทวรูปคู่บ้านคู่เมืองให้แก่เจ้าชายเลทิส  เจ้าเมืองข้างๆตอนฟ้าสางของวันรุ่งขึ้น   เขาจึงรีบรวบรวมชายหนุ่มในหมู่บ้านที่ตัวเขาเป็นคนฝึกสอนวิชาการต่อสู้ต่างๆ  ลอบเข้าปราสาทเจ้าเมือง  โดยที่ไม่รู้เลยว่าเมราเซียแอบตามไปด้วย  การต่อสู้กับทหารของเจ้าเมืองเป็นไปอย่างทุลักทุเล  แต่เลโอผู้เก่งกาจก็นำชายหนุ่มที่เหลืออยู่ไม่ถึงสิบคนบุกตะลุยไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงห้องนอนของเจ้าเมือง  ด้วยความดีใจเลโอจึงรีบรุดไปยังเจ้าเมืองที่นั่งสั่นอยู่บนเตียง  ชายหนุ่มขว้างดาบยาวในมือทะลุร่างท้วมของชายชรา  เลือดสีแดงไหลทะลักจากบาดแผล  แต่ไม่มีใครสนใจรวมทั้งไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าก่อนสิ้นลม  ชายแก่ได้กดปุ่มหนึ่งบนเตียง  ปุ่มที่ทำให้ลูกธนูพุ่งตรงมายังชายผู้พรากชีวิตไปจากเขาอย่างแม่นยำ   

“เลโอ  ระวัง!!”  ผมตะโกนแล้วพุ่งไปรับธนูที่ถูกปามาจากด้านข้างเวที  แล้วแอบใช้มือข้างหนึ่งดึงผ้าโพกหัวออกเพื่อเผยให้เห็นเส้นผมสีทองยาวถึงกลางหลัง  - -  หนักก็หนัก  คันก็คัน  แต่ไม่อาจปฏิเสธครับ  เพราะไอ้พี่เอมันบอกอย่างชัดเจนว่า  มึงเป็นนางเอก  มึงต้องสวย  เพราะฉะนั้นอดทน!
“เมราเซีย!!” พี่หมอตะโกนเสียงดังแล้วรับร่างของผมไว้ด้วยใบหน้าซีดเผือด  ดวงตาสีดำสนิทฉายแววตกใจและเจ็บปวด   สุดยอดเลยพี่  ผมว่าพี่อย่าไปเป็นหมอเลย  หันมาเอาดีทางด้านการแสดงดูจะรุ่งกว่ากันเยอะ
“ล่ะ..เลโอ”  ผมขานเรียกอีกฝ่ายเสียงสั่น  แหม  ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะกู
“เมราเซีย  อย่าเป็นอะไรไปนะ  ข้ารักเจ้า”
“ข้า  ก็... รักท่าน  รัก”  ทันทีที่ผมพูดจบ  ร่างสูงก็กอดผมแน่น  น้ำตาชื้นสัมผัสแก้มผมเหมือนจริงจนน่าทึ่ง  เก่งจริงๆ  ตอนซ้อมยังไม่ได้เท่านี้  พี่ไปแอบเอายาหยอดตาหยอดไว้ก่อนรึเปล่าเนี่ย  แม่ง  เนียนว่ะ
“เจ้าสาวของข้า  เจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไป”
ฉากนี้เป็นฉากสุดท้ายของสงครามที่แลกมาด้วยชีวิตของผู้คน  สงครามที่ต้องเสียสละส่วนน้อยเพื่อส่วนใหญ่  แม้คนๆ นั้นจะเป็นคนที่เขารักยิ่งกว่าชีวิต  ผมหลับตารอรับสัมผัสจุมพิตที่หน้าผากตามที่ซ้อมมา (ที่จริงก็ซ้อมแบบเฉียดๆ มาตลอดครับ  จะได้ลองของจริงก็คราวนี้แหละ  พูดเหมือนอยากนะมึง)  ทว่าสัมผัสชื้นกลับเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก!!!  วินาทีที่ผมเกือบจะหยุดหายใจไปจริงๆ  เฮ้ย!!  นี่มันนอกบทนะเว้ยพี่  พี่มองปากผมเป็นหน้าผากไปได้ยังไง  หรือว่าปากผมมันเรียบลื่นแนบสนิทไปกับเนื้อ?  จะบ้าเรอะ    จะดิ้นหนีก็ไม่ได้  จะลืมตาก็ไม่ได้จึงได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายจูบต่อไป  บดขยี้เร่าร้อน  นานกว่าจะยอมปล่อย  จูบร้อนไล่ไปตามแก้ม  เปลือกตาและจบลงที่หน้าผาก  หาเจอแล้วเรอะ  หน้าผากผมเนี่ย

“เมราเซีย  ที่รักของข้า”  ประโยคสุดท้ายจบลงที่ริมฝีปากอีกครั้งพร้อมกับนักร้องคอรัสเปล่งเสียงเพลง   When you believe
Many nights we've prayed
With no proof anyone could hear
In our hearts a hopeful song
We barely understood

Now we are not afraid
Although we know there's much to fear
We were moving mountains long
Before we knew we could


There can be miracles, when you believe
Though hope is frail, it's hard to kill
Who knows what miracles you can achieve
When you believe, somehow you will
You will when you believe



ขณะที่คนดูต่างปรบมือชื่นชมกันดังลั่นหอประชุมกลับมีคนหนึ่งที่นั่งกัดฟันกรอดอย่างสะกดกลั้นอารมณ์   สองมือของเขาจับที่วางแขนแน่นกลัวจะห้ามตัวเองไม่ให้กระโดดขึ้นไปกระชากคนสองบนเวทีออกจากกันไม่ได้  ไฟค่อยๆหรี่ลงจนปิดม่านการแสดง




TBC  จ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 16-05-2009 22:47:59



จิ้มก่อนแล้วค่อยอ่าน :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: l0nely4ever ที่ 16-05-2009 23:56:39
โอ้วววววว


ย่ะ ยาว ได้ จาย~~
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-05-2009 01:37:40
โฮะๆๆๆ ยาวได้ใจ
ไนท์อดทนไว้ลูก
อย่าเพิ่งทำไรรุนแรงนะ
แล้วก็อย่าไปลงที่เวย์มันด้วย
มันไม่ได้รู้เรื่องไรนะ
พี่นัทมันทำเองงงงง

ขอบคุณคนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 17-05-2009 02:07:16
สุดไม้สอย  = สุดยอดเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 17-05-2009 08:45:15
5 55 5

อิจฉาาเวย์ เนอะ เนอะ ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 17-05-2009 09:23:57
(http://i385.photobucket.com/albums/oo293/melonjung_photo/emotion/en019.gif)-->ให้เวย์
แด่มนุษย์ตัวน้อยผู้อาภัพที่นั่งอยู่ในมุมมืดมีแค่เพียงแสงสปอร์ตไลท์ส่อง...อิอิ

เอ่อ..แต่พี่หมอค่ะ...ดูเหมือนพี่หมอจะทำให้เวย์งานเข้าหลังละครจบแน่แล้วหล่ะค่ะ
เล่นตั้งใจจูบพลาดจากหน้าผากเป็นปากซะง้าน....ไนท์คงมะยอมง่ายๆหรอก...เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 17-05-2009 13:46:23
พี่หมอถูกบังคับ ใช่มั้ย

รักพี่หมอเสมอ อิอิ :-[

เด๋วโดนคนแถวนี้  :beat:  :z6:  :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 17-05-2009 20:37:07
ไอพี่หมอโนนนนนนนนนนนนนนน
 :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-05-2009 22:04:44
พี่หมอทำแบบนี้ได้ไง  :beat:

เวย์งานเข้าอีกแล้วสิเนี่ย พายุจากคนนั่งแถวหน้ามาแน่ๆ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 18-05-2009 01:41:58
แวะเข้ามาดูเจ้าเวย์ว่าจะโดนไนท์ลงโทษสาหัสไปแค่ไหนแล้ว
แต่ดูท่าแล้วน่าจะยังปลอดภัย อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 18-05-2009 08:57:32
พี่หมอนัท นิ ยังงัยเนี่ยย

เห้อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 18-05-2009 13:14:45
พี่ไนท์ใจเย็นๆ......
 :laugh:

งานเข้าแน่เวย์เอ๊ยยยย :jul3:

นั่งรอตอนต่อไปค๊าบ..(ตามมาจากอีกเว็ปนึง) อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 18-05-2009 14:40:10
 :sad3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 18-05-2009 22:08:28
คงพูดได้อย่างเดียวว่า "งานเข้า"  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 17 ปีศาจลอกคราบ
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 19-05-2009 00:43:09

บทที่ 18  ของรักของหวง [Night’s talk]

   “เห็นไหมยัยแจนนี่  ฉันบอกแล้วว่างานนี้มีรักนอกจอชัวร์” เสียงห้าวที่พยายามดัดให้แหลมจนฟังดูน่าปวดหัวของร่างที่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพศเดียวกับผมหรือเป็นเพศเดียวกับแม่ผมกันแน่  ทำให้ผมต้องชะงักเท้า
   “นั่นสิยะ  หมอนัทนี่ก็ร้ายใช่ย่อย  จูบน้องเวย์กลางเวทีเลย  อ๊ายยย  ฉันล่ะอยากจะเป็นนางเอกมั่งจัง”  ใช่  มันร้ายมาก...มากกว่าที่ผมคิด  ผมคงวางใจเกินไปจนทำให้ไอ้เวย์ต้องเสียท่าวันนี้  ทั้งๆ ที่มันไม่เต็มใจ  แต่ผม...ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง  นอกจากรีบมาหามันให้เร็วที่สุด  เร็วแค่ไหนน่ะเหรอครับ...เอาเป็นว่าผมโดนด่ายันโคตรมาตลอดทางเลยก็แล้วกัน
   “เหอะ  คงจะมีคนมาจูบหล่อนหรอกย่ะ  ว่าก็ว่านะ  ไอ้เราก็สงสัยมาตั้งนานแล้ว  เห็นไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด  ขนาดน้ำยังดูดจากหลอดเดียวกันเลยแก”  คำพูดที่ทำให้ผมสะอึก  ไปไหนด้วยกันตลอด   ขนาดน้ำยังดูหลอดเดียวกัน... หรือว่าผมจะเข้าใจผิดที่คิดว่าไอ้หมอมันเป็นคนบังคับ  จริงๆ แล้วมึงก็เล่นด้วยใช่ไหมเวย์  จริงๆ แล้วมึงไม่ได้รังเกียจจูบของมันใช่ไหม?  ก็ในเมื่อมึงสนิทกันขนาดนี้แล้ว...คงเป็นกูที่บ้าไปคนเดียว   โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนอยากจะฆ่ามันให้ตายกับมือเพราะทนเห็นมึงอยู่กับคนอื่นไม่ได้...กูคงบ้าไปคนเดียว  ตลอดเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา   เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน   แต่มึงรู้ไหมว่ากูรอมึงทุกวัน  ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนแค่ได้เห็นหน้าก่อนนอนกูก็พอใจ   แต่มึง...ไม่รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม??   

   “นั่นสิยะ  ฉันเห็นหมอนัทคอยตามติดน้องเวย์ตลอด  ทีแรกก็นึกว่าแค่ซ้อมบท  ที่ไหนได้แอบไปทำความรู้จักฉันท์แฟนกันซะงั้น   พอฉันถามก็บอกไม่มีอะไร  แหมม  นี่ขนาดไม่มีอะไรนะยังจูบกันได้ตั้งนานสองนาน  แล้วถ้าเกิดว่ามีอะไร...”
   “อ๊ายยย  ก็ปิดไฟใส่กลอน  นอนเตียงสั่นไงแก๊”


   ในที่สุดความอดทนของผมก็หมดลง  ผมอยากจะเชื่อใจมัน...คนที่บอกว่ารักผมมาตลอดสามปี  ผมอยากจะเชื่อ  แต่...ทุกอย่างที่ได้ยินมันกลับทำลายความเชื่อมั่นของผมจนหมดสิ้น   ช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่  ช่วงเวลาที่มันบอกว่าเป็นความลับ...ให้ดูไม่ได้   จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นใช่ไหม  ช่วงเวลาที่มึงกันกูออกห่างไม่ใช่เพราะมันเป็นความลับ  แต่เพราะให้กูรู้ไม่ได้ต่างหากใช่ไหม   ไหนล่ะที่คนบอกจะรอ...หรือมันนานเกินไป
 
   สุดท้ายแล้ว...ในโลกนี้คงไม่มีใครที่ผมจะเชื่อใจได้อีก
   ขอแค่มึงคนเดียว...ที่จะไม่โกหกกู...ก็ไม่ได้ใช่ไหม?


   “โอ๊ยย  เดินประสาอะไรยะ  คนทั้งคนนะชนมาได้”  ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอไปทำร้ายร่างกายสองคนนั้นเมื่อไร  รู้อีกทีเท้าที่มันไม่ยอมฟังคำสั่งสมองก็เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณเสียแล้ว 
   ปิดไฟใส่กลอน  นอนเตียงสั่น ...แค่คิดตามก็แทบทนไม่ได้   ร่างกายมันถึงได้ขยับก่อนสมอง  แค่คิดว่าจะมีใครที่ไม่ใช่ผมมาสัมผัสร่างกายนั้น   หัวใจก็เต้นเร่าๆ  ร้อนรุ่มกว่าครั้งไหน

   “หรือว่าอยากจะโดนมากกว่านั้น”  ปากของผมมันคงจะเป็นปากพาจนอย่างนี้ไปตลอด  มันไม่เคยไว้หน้าใคร  โดยเฉพาะคนที่ทำให้หัวเสีย  และในกรณีนี้...ทำให้นึกอยากฆ่าคนโดยไม่สนคุกสนตาราง  ไม่ใช่แค่ปาก...แม้แต่ฟัน  มันก็ยังอยากขยับ

   “อ่ะ..อะไรกันฮ้า  อย่าคิดว่าหล่อแล้วดอลจะหวั่นนะ”
   “หึ  เมียผมอยู่ไหน”  ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงได้พูดคำๆ นี้ออกมา  รู้ว่ามันไม่ดี  รู้ว่ามันจะทำให้อีกคนเสียหาย  แต่ตอนนี้...ผมไม่อยากสน  แค่อยากประกาศให้คนอื่นรู้ว่ามันเป็นของผม  เป็นของรักที่ใครหน้าไหนก็แตะไม่ได้  ถึงแม้วันนี้มันอาจจะไม่ใช่ของรักของผมแค่คนเดียวอีกแล้วก็ตาม
   “ห๊ะ?!  เมีย?”
   “เออ  ไอ้เวย์เมียผมน่ะ  มันอยู่ไหน”  ได้ยินชัดแล้วใช่ไหมว่ามันเป็นของใคร  ได้ยินแล้วก็ช่วยจำใส่สมองได้ด้วยล่ะ  อย่าให้ตัวเองต้องมาเจ็บตัวเพราะปากหาเรื่องแบบนี้เลย  อย่าได้พูดเป็นครั้งที่สองว่ามันรักใครนอกจากผม  อย่าได้พูดอีกว่ามันไปกับใครที่ไม่ใช่ผม  อย่า!!

   “น่ะ..น้องเวย์ เอ่อ.. เมีย??”  พวกนั้นคงยังไม่เข้าใจ  หรืออาจจะเข้าใจแล้วแต่ยังไม่แน่ใจกับประโยคที่ผมประทับใส่เซลล์สมองพวกเขา  ผมจึงได้แต่สำทับอีกครั้งด้วยสายตา  ที่อาจจะคล้ายการช่มขู่มากกว่าการยืนยัน
   
   “ท่ะ..ทางโน้นจ้า”  ผมมองตามมือที่สั่นอย่างเห็นได้ชัดนั้นไปก็พบว่าเป็นทางไปห้องน้ำ  ใจที่ไม่เคยสงบลงได้มันกลับทวีความร้อนรุ่มขึ้นไปอีก   ห้องน้ำ...ถึงไม่มีเตียงแต่ก็เป็นสถานที่ที่ไม่เลวใช่ไหมสำหรับการลงโทษใครสักคน  ลงโทษ...ที่มันโกหกผม  ลงโทษ...ที่ทำให้ใจผมสั่นไหว  ลงโทษ..เพื่อตอกย้ำว่ามันเป็นของผม..แค่คนเดียว



   “พี่หมอ??  เข้ามาทำไมอีกพี่  ผมเปลี่ยนชุดเองได้” คำแรกที่ผมได้ยินจากปากมันคือคำว่า ‘พี่หมอ’    คนเพียงคนเดียวที่ผมอยากให้รอ   อยากขอร้องให้เขารอ...ในที่สุดแล้ว...เขาก็รอไม่ได้  หัวใจที่มันน่าจะด้านชาไปแล้วเพราะคนๆ นั้น  คนที่ให้กำเนิดผมแต่ไม่เคยให้ความรัก  คนที่ให้ผมเรียกว่าพ่อ  แต่ทำให้แม่...คนที่ผมรักที่สุดต้องตรอมใจตาย  กลับรู้สึกเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน   

.....ไม่เอาอีกแล้ว ฉันพอทีกับความรัก...


   ...ไม่ต้องรอแล้ว  เวย์...กูจะไม่ให้มึงต้องรอแล้ว...  เพราะฉะนั้น...อย่า...ไป...

   “....”
   “เงียบ??  ถ้าเรื่องบนเวทีล่ะก็  ผมบอกแล้วไงว่าลืมมันไปซะ  ผมจะไม่ใส่ใจอีก”  ลืมมันไปซะ  มันพูดราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสักนิดเดียว  มันบอกจะไม่ใส่ใจทั้งที่ผมร้อนใจแทบบ้า   แค่คนอื่นมองมันด้วยสายตาแบบเดียวกันกับผม    ผมยังยอมไม่ได้  แล้วนับประสาอะไรกับจูบ...ที่มันบอกไม่ต้องใส่ใจ

   “มึงจะให้กูลืม??”
   “ไอ้ไนท์!!”  ตกใจมากนักรึไงที่เห็นกูน่ะ   กูเข้ามาไม่ถูกเวลาใช่ไหม  กูไม่ใช่คนที่มึงอยากเจอใช่ไหม  หรือว่าตกใจ...ที่กูรู้ความจริง
   “มึงจะให้กูลืม   ลืมได้ยังไง!!”  ผมจะลืมได้ยังไง  พวกคุณบอกทีสิว่าผมจะลืมมันไปได้ยังไง  ลืมคนๆ เดียวที่พาผมออกมาจากความเหงา  ลืมคนๆ เดียวที่อยู่ข้างผมเสมอ  คนๆ เดียวที่ทำให้ผมยิ้ม  หัวเราะได้  และ...ทำให้ผมอยากร้องไห้เหลือเกิน

...ทุ่มเทกี่ครั้ง ฉันก็ยังต้องผิดหวัง...


   ถ้าทำได้...ผมจะลืมว่ามันเป็นเพื่อน...เป็นคนสำคัญ...เกินกว่าที่ผมจะกล้าเรียกมันว่า ‘คนรัก’   ถ้ามันเป็นใครสักคน...ที่ไม่ใช่เวย์...ไม่ใช่คนๆ นี้...ผมจะไม่ลังเลเลย

   เพราะคำว่า ‘รัก’  สำหรับผมแล้ว...เป็นเหมือนเหวลึก...น่ากลัว...หยั่งไม่ถึง...แตะต้องไม่ได้

   “น่ะ..ไนท์” อย่าเรียกกูด้วยน้ำเสียงแบบนั้น  อย่าทำท่าหวาดกลัว  อย่าถอยหนีกูแบบนั้น...อย่า...ได้โปรดเถอะ...มึงกำลังจะฆ่ากูรู้ตัวไหม 

...กี่ทีกี่ครั้งที่เสียน้ำตา เจ็บจนอ่อนล้าฉันช้ำเกินไป...

   “บอกกูมา  มันหมายความว่ายังไง  มึงบอกกูมา”
   “ไนท์  ฟังกูก่อน”  จะให้กูฟังอะไร  ฟังมึงบอกว่ารักมันแค่ไหน  ฟังมึงบอกกูว่า...ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว...อย่างนั้นใช่ไหม  ทำไมกูต้องฟัง  ทำไม!!

   “ลับหลังกู  มึงแอบไปกับมันใช่ไหม??   ชอบมันรึไง  ห๊ะ!!”  ผมถามด้วยเสียงดุดันอย่างที่ไม่เคยทำกับมันมาก่อน  สองมือที่พยายามควบคุมไม่ให้สั่นจับหัวไหล่กลมกลึงนั้นไว้แน่น...ไม่อยากปล่อยไปเลย   แต่ว่ามึง...คงอยากให้กูปล่อย

   “มึง  มันม่ะ...อุ๊บ!”  มึงกำลังจะยอมรับว่าชอบมันใช่ไหม  กูไม่มีทางให้มึงพูดประโยคบ้าๆ นั่นออกมาหรอก   ไม่ทีทาง  กูจะยอมโง่...ขอแค่มึงไม่จากไป  กูจะยอมไม่รู้...ขอแค่มึงเป็นของกูคนเดียว  กูปล่อยมือจากมึงไม่ได้จริงๆ

...วิ่งตามแค่ไหนก็ได้เพียงเงากับความเหงาใจ… แค่เท่านั้น...


   ผมจับมันหันหลัง  ชุดกระโปรงคว้านลึกเผยให้เห็นแผ่นหลังนวลเนียน...ชุดที่ทำให้มันสวย...ราวกับเจ้าหญิงบนเวที
   “ด่ะ..เดี๋ยว  อย่า”  มันร้องห้ามเสียงสั่นเมื่อผมใช้ปากรูดซิปชุดนั้นลงโดยไม่รู้เลยว่าเสียงสั่นๆ นั้นทำให้ผมหมดความอดทน  และสติทั้งหมด  สายตาจับจ้องแค่ผิวขาวนวลน่ามอง  แผ่นหลังที่กำลังสั่นระริก   จนอดไม่ได้ที่จะสัมผัสด้วยริมฝีปากและลิ้นเปียกชื้น
   อยากตีตรา...ประกาศความเป็นเจ้าของ

   “ไม่เอา  ที่นี่...หยุด  โอ๊ย!”  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ  ผมกัดไหล่บางนั้นแรงด้วยความรู้สึกมากมายที่แทบทำให้ผมเป็นบ้า  ความปรารถนา  ความต้องการ  ความโกรธ...ทำให้ผมคลั่ง

   รู้แต่ว่าตอนนี้...อยากจะยืนยันว่ามันเป็นของผม
   ผิวขาวนวลนี่เป็นของผม...ริมฝีปากนั่นเป็นของ...ทุกอย่างของมัน...เป็นของผมคนเดียว

   “หยุดไม่ได้แล้ว  เวย์” ผมดันร่างมันติดผนัง  จับสองมือรวบไว้ด้วยกันเหนือหัว  ลากลิ้นร้อนไล้ไปทั่วผิวเนื้อเปลือยเปล่า...ทุกที่ที่มองเห็น...กกหู  ซอกคอ  ไหล่ แผ่นหลัง  กดจูบหนักๆ ดูดดุนจนเป็นรอยชัด...นั่นแหละ...ชัดกว่านี้อีก...ต้องเห็นชัดกว่านี้
   “พอ..เจ็บ”  ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสียงที่ไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบนั้น  มือที่ว่างอยู่อีกข้างล้วงเข้าไปสัมผัสบางอย่างที่ตื่นตัวอยู่ด้านหน้า   เคล้นคลึงส่วนนั้นรุนแรงตามอารมณ์จนคนในอ้อมกอดสะอื้นสลับคราง  “อ๊ะ  อ๊-า”  เสียงร้องแบบนี้...มีแค่ฉันที่ได้ยินใช่ไหม

   ผมจับมันพลิกตัวกลับมาเพื่อมอบจูบที่ดูดดื่มที่สุดให้  คำพูดมากมายส่งมอบผ่านจุมพิตนี้...ได้ยินหรือเปล่า   ร่างกายเปลือยเปล่าของมันสั่นสะท้านยามรับสัมผัสจากผม   คนยังไม่ประสีประสาเหมือนจะหายใจไม่ทัน  ผมจึงต้องเปิดโอกาสให้อีกคนได้สูดอากาศหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะจูบปิดปากเล็กๆ นั้นอีกครั้ง
   ...ไม่อยากเปิดโอกาสให้มันได้พูด...

   นัยน์ตาหวานล้ำเหม่อลอย  ริมฝีปากเผยอน้อยๆ มันยั่วยวนเกินกว่าที่ผมจะทนไว้ 

   “สัมผัสฉัน”  มือบางยกขึ้นลูบไล้ผมช้าๆ  ตั้งแต่ใบหน้า  ซอกคอ  นวดคลึงจนผมต้องหลับตา  กัดฟันอย่างสะกดกลั้นอารมณ์  คนตัวเล็กขมวดคิ้วขัดใจกับเสื้อผ้าที่กั้นขวางจึงลงมือปลดกระดุมช้าๆ  ด้วยท่าทีที่ชวนให้คลั่ง   และผม...ไม่อาจรอ

   ปลดซิปกางเกงและดึงมันลงอย่างรวดเร็ว  ไม่สนใจสักนิดว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน  ส่งนิ้วชี้เข้าไปสัมผัสช่องทางร้อนระอุที่บีบรัดให้อารมณ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว   อยากจะขยายให้มากกว่านี้  ไม่อยากให้มันเจ็บ...แต่ก็ทนไม่ได้

   “อ๊า  ฮึก!  โอ๊ย” จับเรียวขางามข้างหนึ่งยกขึ้น  สอดแทรกสิ่งอุ่นๆ เข้าไปทันที  ความร้อนและคับแคบแทบทำให้ถึงจุด  ถอนหายใจยาวเมื่อช่องทางนั้นรับผมเข้าไปได้ทั้งหมด  จูบปลอบโยนอีกคนที่ทำหน้าเหมือนจะขาดใจ   สีหน้าท่าทางที่ทำให้หมดควมอดทน  ขยับสะโพกขึ้นลงรุนแรงไม่เปิดโอกาสให้ได้พักหายใจ

   “อ๊า  อ๊า”  ความเจ็บปวดยิ่งทำให้ส่วนนั้นบีบรัด  มันจะรู้หรือเปล่าว่าทำให้คนๆ หนึ่งหลงใหล  คลั่งไคล้ในความหอมหวานของมันจนไม่อยากไปไหน  อยากอยู่แบบนี้ไปตลอด  อยากขังตัวเองไว้กับมันไปแบบนี้...ไม่อยากให้มันไปพบใคร  ไม่อยาก

   “อ๊า  โอ๊ย  อือ”  อารมณ์หึงหวงก่อตัวโดยไม่มีใครฉุดรั้งทำให้สัมผัสแต่ล่ะครั้งช่างร้อนแรงนัก  ร้อนแรงจนใกล้เคียงกับความดิบเถื่อน   ผมกัดฟันแน่น  จูบเปลือกตาสีแดงจัดของคนในอ้อมกอด  มันเจ็บ...ผมรู้  แต่ผมหยุดไม่ได้  ไม่มีอะไรหยุดได้อีกแล้ว

   สะโพกขยับอย่างรวดเร็ว  มือใหญ่กอดรัดร่างบางไว้แน่น   ท่วงท่าที่ยังไม่คุ้นเคยทำให้ความต้องการของทั้งคู่ดูเหมือนจะมากกว่าทุกครั้ง   มือเล็กเอื้อมไปเกาะไหล่กว้างไว้เพื่อพยุงตัว  ขณะที่ปากก็อ้าออกเพื่อสูดลมหายใจบรรเทาความเจ็บอันหอมหวาน   ทั้งเจ็บและสุขจนยากจะแยกแยะว่ารู้สึกอย่างไหนมากกว่ากัน   สัมผัสรุนแรงทำให้เขาต้องกัดบ่าร่างสูงไว้ตามที่อีกคนบอก  กลั้นเสียงสุดความสามารถเพราะกลัวคนข้างนอกจะได้ยิน

   “อึ่ก!!!”  ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง  ร่างกายเหมือนไร้เรี่ยวแรงอ่อนยวบลงในอ้อมกอดนั้นโดยที่มีแขนข้างหนึ่งของคนเอาแต่ใจมารั้งไว้ได้ทัน  สติหลุดลอย...เหนื่อยเหลือเกิน


   เมื่อเห็นร่างบางหลับไปในอ้อมกอดด้วยความเหนื่อยล้าและหนาวเย็น  ผมจึงถอดเสื้อเชิ๊ตตัวเองใส่ให้  แล้วอุ้มร่างที่สั่นน้อยๆ นั้นออกจากหอประชุมทางด้านหลัง   ไปขึ้นรถเพื่อพามันกลับคอนโดโดยไม่สนสายตาของใครทั้งสิ้น

   ...ปล่อยมือจากคนๆ นี้ไม่ได้...จะให้รอก็ไม่ได้...แล้วผมจะทำอย่างไรดี...



----------------------------------

TBC  จ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 19-05-2009 00:57:57
^
^
^
 :z13:

จิ้มคนแต่ง 

 :jul1:

โอยยยย ไม่ไหวๆๆ

เสียเลือดอย่างแรงง

ไนท์ไม่ฟังเหตุผลบ้างเลย  :เฮ้อ:

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-05-2009 01:12:46
ก็เลิกปากแข็งซะทีสิ
เวย์ไม่ไปไหนอยู่แล้วล่ะ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 19-05-2009 01:54:41
หวง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: avogadro ที่ 19-05-2009 02:12:23
แล้วพี่นัทของเค้าไปหนายยอ่ะ

ไม่มาขัดขวางเลยรึไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 19-05-2009 08:21:15
หึงหน้ามืดซะขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่ารักเค้าขนาดไหนอ่ะไนท์..

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: Bliss_Destiny ที่ 19-05-2009 08:42:05
ก็เลิกทำตัวแบบนี้ซะที

ไงล่ะ

ไนท์

 :fire:
 :angry2: :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 19-05-2009 09:09:37
แม่ม ม่ายฟัง น้องเวย์ พูดเยยย

 :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 19-05-2009 09:19:44
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 19-05-2009 09:40:33
อาฮะ....

ไนท์ รู้ตัวสักที... อิ อิ

สงสารเวย์เค้า 

เวย์ สู้ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 19-05-2009 11:50:24
ฟังเวย์หน่อยก้อได้ม้างง

ไม่เปิดโอกาศให้พูดเล้ยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-05-2009 11:52:42
ไนท์... พูดเถอะคำว่ารักน่ะ
สำหรับคนที่มีอดีต มันอาจจะยาก
แต่สำหรับเวย์ที่ทั้งรักทั้งหวงมากขยาดนี้
บอกไปเถอะ ว่ารักเวย์มากแค่ไหน

ขอบคุณคนเขียนจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 19-05-2009 12:52:05
เจ็บแทนเวย์  :m15:

ไนท์นี่ไม่มั่นใจในตัวเวย์เลยนะ เค้ารอมาตั้งสามปียังไงก็ไม่เปลี่ยนใจอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 19-05-2009 13:09:27
ถอยไม่ได้ ก็ต้องรุกอย่างเดียวล่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 19-05-2009 13:46:05
 :sad5:  ไนท์ไม่ฟังกันบ้างเลย

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 19-05-2009 15:05:48
 :o8:



just say you love way
that:s the way it is

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 19-05-2009 20:53:20


บทที่ 19.1   ใจคนรอ

   ผมรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อหลังสัมผัสเตียง   ช่วงล่างเจ็บมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนและไม่เคยคิดด้วยว่าคนที่ทำให้ผมเจ็บตัวมากขนาดนี้จะเป็น ‘ มัน’  ถึงอย่างนั้นผมก็ยังหลับตาและรอ

   ‘รอฟังคำๆ นั้น  คำที่รอมาตลอดอย่างที่มันขอให้ผมทำ’  ก๊ากก  กลิ่นน้ำเน่าผสมน้ำปลาพริกลอยมาเชียวนะมึง   เรียกวิญญาณเข้าร่างด่วนโว้ย

   “เวย์”  เสียงมันเหมือนดังอยู่ใกล้มากๆ   มึงสงบใจไว้ไอ้เวย์  ไม่ต้องตื่นเต้น  นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วไว้  ชาติหน้าฉันใดขอให้...  เฮ้ย!!  ออกอ่าวไทยไปแล้วมึง  กลับมา  พูดยังกับจะตาย  แค่จะฟังคำบอกรักของมัน  ก๊ากก  โคตรมั่นเลยกู

   “กู  กู...”    เออ  สองกูเป็นพหูพจน์แล้วนะมึง  จะบอกอะไรก็รีบบอกสิวะ  หึงกูขนาดนี้แล้วยังจะมามัวอายอะไรอีก  ก๊ากก   หน้าด้านหน้าทนนะกูเนี่ยยย   บอกกูมาคำเดียวเลยว่า ‘รัก’  เสร็จแล้วก็ปลุกกูด้วยจูบไงมึง  เหมือนเรื่องเจ้าหญิงนิทราอ่ะ  แล้วกูจะได้ตื่นมาบอกรักมึง  หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข   -*-   

   “กู...มึง”   ‘กูมึง’ อะไรไอ้สาด  มีแต่ประธานกับกรรม  มึงลืมเติมกริยาเว้ย  ไอ้ผมก็ได้แต่รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านในใจ  รู้ดีครับว่าคำว่ารักของมันพูดยากขนาดไหน  แต่ก็ยังอดหวังไม่ได้ว่ามันจะเลื่อนตำแหน่ง  ขึ้นเงินเดือนให้ผมซะที  ฐานที่ผมอดทนทำงาน (ขุดหลุมรัก) มาสามปีเต็ม  ขุดแบบไม่บันยะบัยยังเสียด้วยนะครับ  เรียกว่ามันเดินขวา  ผมขุดซ้าย  มันเดินซ้าย  ผมขุดข้างหลัง  -*-  นี่ไง  มันถึงไม่ตกหลุมมึงซะที


   “มึงเป็น..”   อย่าหยุดสิมึง  พูดให้จบก่อน  บอกมาเลย..ว่าคิดยังไง  จะอยู่หรือไปก็บอกมา   บอกมาเลย...อย่าเสียเวลา   บอกฉันมาได้เลย   เอาสิมึง  ท่ามากอยู่ได้  กูลุ้นจะม้ามจะระเบิดแล้วเนี่ย  บอกมาเลยสิว่ากูเป็น..  “..เพื่อน...กู”  คำพูดต่อมาของมันทำให้ผมแทบหยุดหายใจ  หัวใจเหี่ยวเฉาลงแบบไม่ทันตั้งตัว   และไม่แม้กระทั่งรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผาก  คำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกน้ำใส่น้ำแข็งสาดหน้าเพราะมันทั้งเจ็บและชา   สุดท้ายแล้วมันก็ยังเห็นผมเป็นเพื่อน  เป็นแค่...เพื่อนเท่านั้น
...ไม่เอาแล้ว  ฉันพอทีกับความรัก...

   นี่แล้วผมกำลังรออะไรอยู่  ผมหวังอะไรที่มากเกินไปอย่างนั้นหรือ  ทั้งๆ ที่ผมพยายามขนาดนี้  ทั้งๆ ที่ผมทำเพื่อมันมากขนาดนี้  มัน...ไม่มีประโยชน์อะไรใช่ไหม
...ทุ่มเทกี่ครั้ง  ฉันก็ยังต้องผิดหวัง...

   ขอแค่คำเดียวจากมัน  แค่คำเดียว  ผมพร้อมจะยกโทษ  พร้อมจะลืมว่ามันทำให้ผมเจ็บแค่ไหน   ผมยอมรอ...เพราะเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งกำแพงที่มันสร้างขึ้นจะพังลงไปเสียที   แต่ดูเหมือนว่า..ผมจะเข้าใจผิดใช่   กำแพงนั้นสูงเกินไป  ผมปีนข้ามไม่ไหว  และแข็งแกร่งเกินไปจนไม่มีทางจะพังลงได้ใช่หรือเปล่า
...กี่ทีกี่ครั้งที่เสียน้ำตา  เจ็บจนอ่อนล้าฉันช้ำเกินไป...

   ผม..คงไม่ใช่คนๆ นั้น  ผมคงไม่มีความสามสารถจะดึงมันออกมาจากอดีตได้   สำหรับมันแล้วการมีตัวตนอยู่ของผมอาจเป็นแค่ความเคยชินที่ขาดไม่ได้  มันถึงได้หวง  แต่...ไม่ได้รัก
...วิ่งตามแค่ไหนก็ได้เพียงเงากับความเหงาใจ...แค่เท่านั้น...

   ถ้าทำได้ผมอยากจะวิ่งหนีไปซะ   ไปอยู่ในที่ที่ไม่ต้องมีผม  ไม่ต้องมีมัน  ไม่ต้องมีกำแพงที่เรียกว่า ‘เพื่อน’   ใครบอกว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น  ใครบอกว่าผู้ชายเจ็บไม่ได้   ไม่ใช่หรอก...เพราะตอนนี้ผมกำลังร้องไห้เงียบๆ   และกำลังเจ็บเงียบๆ ด้วย

ถ้าการรอคอยมันไม่มีความหมาย  ถ้ามันทำให้มึงเหนื่อยใจ  ถ้าอย่างนั้น...กูจะไม่รอ

   พรุ่งนี้ตอนที่มึงตื่นขึ้นมา  ขอให้มึงสบายใจได้...กูจะเป็นเพื่อนของมึงเสมอ  กูจะเป็น...เพื่อนที่ดีที่สุดอย่างที่มึงต้องการ  กูเชื่อแล้วว่าเส้นขนานมันไม่มีวันจะบรรจบกันได้  ขอแค่คืนนี้...ได้มองหน้า  ได้กอด  ได้ฝันถึงมึงเป็นครั้งสุดท้าย   แล้วกูจะลืมทุกอย่างเอง
   
   ...ลืมว่าใจยังคงคิดถึงเธออยู่เสมอ  ลืมว่าใจยังคงละเมอถึงเธอคนนี้  ลืมทุกอย่างในหัวใจขอเพียงนับจากนี้ไป  อย่าได้พบได้เจอ  อย่าได้เพ้อถึงเธอก็พอ...  นั่นอาจจะเป็นการแก้ปัญหาของคนอื่น  แต่ไม่ใช่ผม  ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะผมคิดจะข้ามเส้นขนานของคำว่าเพื่อน  และในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้  ผมก็ไม่จะคิดจะหนี   ผมเลือกจะทำในสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดนั่นคือ...ลบความรู้สึกเกินเลยของตัวเองไปซะ   ลบมันออกไปให้หมด

แค่เสียใจก็เกินพอแล้ว  อย่าให้ผมต้องเสียเพื่อนอย่างมันไปอีกเลย

.........................................................

   
   ...เช้าแล้วยังอยู่บนที่นอน   เงียบๆ คนเดียวและไม่อยากตื่นขึ้นพบใคร  เพราะว่าใจก็ยังเสียดายที่ฝันดีๆ กำลังจะจบและหายไป..    มึงยังไม่ได้นอนแล้วมึงจะฝันได้ยังไงไอ้เวย์  (พี่บอย  ผมโฆษณาเพลงพี่ให้หลายเพลงแล้ว  อย่าลืมค่าคอมมิชชั่นนะพี่)  ก็อย่างที่บอกแหละครับ  เช้าแล้วแต่ผมยังไม่ได้นอน   ‘และผมก็ไม่รู้สึกง่วงเลยแม้นิดเดียว  เพราะความคิดมากมายรุมเร้าจนเซลล์สมองใกล้ระเบิด’   ใช่ซะที่ไหนเล่า  ผมไม่ได้เป็นคนน้ำเน่าขนาดนั้น  ไม่ได้นอนทั้งคืนแถมยังเป็นวันที่โคตรทรหด  หมาที่ไหนมันจะไม่ง่วงวะ  (อยู่ดีไม่ว่าดี  เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับหมาซะงั้นอ่ะกู  -*-)  หนังตาแทบจะปิดแล้วรอมร่อแต่มันจะปิดไม่ได้เด็ดขาด  เพราะถ้าปิดเมื่อไร  รับรองมันจะไม่เปิดอีกนาน  หลับยาว   เอาวะ!  ตื่นก็ตื่นเว้ยย

   “O.O!!! ….”  ผมอึ้งไปได้สักพักเมื่อเห็นอีกคนมองอยู่  แม่งเอ๊ย! ขนาดกูนอนทำใจมาทั้งคืนนะ  อย่าฟ่อสิโว้ย  แสดงความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงเขียวให้มันเห็นหน่อย  (ไม่เอากระทิงแดงครับ  ไม่อยากโฆษณาให้ฟรีๆ  เงินไม่ถึงมือ)

   “ตื่นนานแล้วเหรอ...มึง”  อยู่ๆ ประโยคคำถามของผมมันก็ดูสุภาพผิดปกติไปซะงั้น  เลยต้องรีบเติม ‘มึง’ เพื่อเพิ่มความถ่อย  เอ๊ย  ความสนิทสนมให้เสียหน่อย
...ถึงมึงจะเจ็บเจียนตายแค่ไหน  ก็ยิ้มให้มันนะ...


   “อือ”   -*-  สั้นชิบ  มึงช่วยตอบอะไรที่มันยาวๆ หน่อยได้ไหม  ขอเวลาให้สมองกูได้คิดอะไรที่มันสร้างสรรค์จรรโลงโลกก่อนสิวะ
   “เอ่อ..กู..กูไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”  นี่ล่ะครับ  จรรโลงโลกสุดๆ แล้วของผม  แน่ะ  นับถือกันขนาดนั้นเลย  ไม่ต้องปรบมือครับ  ผมไม่แจกเงินแน่นอน ^^    แล้วผมก็ทำท่าจะลุกขึ้น  แปล๊บ!!  มันจี๊ดผ่านลำไส้  เข้ากระเพาะ  ขึ้นปอด  ไปถึงขั้วหัวใจ  ไอ้ก้นบัดซบ  กระผมไม่อยากเดินเป๋ไปแข่งบาสนะเฟ้ย   ท่านก้นช่วยไว้หน้า  รักษาฟอร์มผมหน่อยได้ไหม  กระผมเป็นถึงกัปตันเชียวนะ
   
   “เดี๋ยว!  มึงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”   เพราะว่าผมนั่งหันหลังให้ก็เลยไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไง  โกรธ?  เสียใจ?  รู้สึกผิดหรือว่าเฉยๆ ?  แต่จะเป็นแบบไหนก็ไม่สำคัญทั้งนั้นแหละครับในเมื่อผมตัดสินใจกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง  จุดเริ่มต้นที่มีแต่คำว่า ‘เพื่อน’

   “เอ่อ...อรุณสวัสดิ์”   เป็นไงครับ  คำทักทายตอนเช้าแบบเต็มประโยคไม่มีย่อคำ  ไม่มีตกหล่น  อันเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชนไทยครับ  แน่ะ  บอกแล้วไงไม่ต้องปรบมือ  ไม่มีเงินให้  พวกคุณนี่ทำดีหวังผลกันจริงๆ  -*-  (ไอ้เวย์  ปากหมาแล้วมึง จะทำตรูซวยไปด้วย)
   “เว-ย์”  อย่าทำเสียงอย่างนั้น  กูไม่อยากเดาแล้ว  กูไม่อยากคิดไปคนเดียว  หวังบ้าๆ บอๆ ไปคนเดียว  เพราะฉะนั้นเลิกทำเป็นห่วงกูเสียที   มึงคงลืมไปแล้วมั้งว่าเพื่อนมึงคนนี้มันเป็นผู้ชาย  ต่อให้มากกว่านี้กูก็ไม่ได้เสียหายอะไร  ไม่จำเป็นที่มึงต้องมารับผิดชอบ  มันก็แค่...ความทรงจำและประสบการณ์ที่กูกำลังจะลืมเท่านั้นเอง
   “ไปอาบน้ำล่ะ  มึงก็รีบๆ ตาสว่างได้แล้ว  วันนี้มีแข่งบาสนะเว้ย”   พูดรีบลุกขึ้นทันที  ข่มอาการเจ็บจี๊ดไว้ด้วยท่าทางพร้อมออกศึก
    ตาสว่าง  สำหรับผมมันไม่ใช่การออกจากความง่วงงุน  แต่เป็นการเลิกหวัง  เลิกหลอกตัวเอง   และสำหรับมันก็คือ  เลิกพยายามรัก  เลิกหลอกให้ผมรอ



   “เรื่องเมื่อวาน....”   มันเปิดฉากทันทีที่รถเคลื่อนตัว  น้ำเสียงที่ใช้ก็นุ่มนวลต่างจากทุกที  ถ้าเมื่อวานมันบอกรักผม  บรรยากาศวันนี้มันจะเป็นยังไงนะ  โลกมันจะเป็นสีชมพูอย่างที่คนอื่นบอกหรือเปล่า  ผมจะเห็นรถเป็นวัว  เห็นคนเป็นนก  เห็นตำรวจจราจรเป็นซานตาครอสหรือเปล่า  ฮ่าๆ  แต่ในเมื่อมันไม่ใช่อย่างที่หวัง   ผมจะไปพูดถึงมันอีกทำไม
   “มึงว่าวันนี้  เราจะชนะไหมวะ”  ผมเลี่ยงที่จะตอบเพราะสำหรับผมมันจะไม่มีเมื่อวาน  ไม่มีอีกหลายๆ วัน  หลายๆ เดือน  หรืออาจจะหลายปีที่ผ่านมา   และจะเหลือเพียงแต่เวย์...เพื่อนคนหนึ่งของมันก่อนที่แม่มันจะจากไป  เป็นเพื่อนธรรมดาที่คงจะเลื่อนขึ้นไปเป็นเพื่อนสนิทอย่างที่มันต้องการได้ในสักวัน  ผมภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้น

   “...เวย์  กูขอโทษ”    มึงจะขอโทษทำไมในเมื่อมึงไม่ได้ทำอะไรผิด  คนผิดคือกูต่างหาก  คิดผิด  ทำผิด  และเชื่ออะไรผิดๆ  แอบดีใจนะเนี่ยที่มึงยังไม่ตัดเงินเดือนกู  ไอ้แค่ไม่ได้เลื่อนขั้นน่ะมันจิ๊บจ๋อย  ฮ่าๆ
   “กูว่าเราชนะแหงว่ะ  กูลงเองซะอย่าง ^^”   ปากพูดยกหางตัวเองไปอย่างนั้น  แต่ในใจมันบอกว่าถ้าผมลง   แพ้ชัวร์เลย   ใจไม่สงบ  ร่างกายไม่อำนวย  ฮ่วย!  งามไส้ละมึง

   “...เวย์”


….Whenever  you hit the sky   Feel like you live on lie  And the world is a broken dream   Don’t lose your faith in love…
   
   ใครวะช่างโทรมาได้จังหวะเหลือหลาย  เพิ่งจะเปิดโทรศัพท์ยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะเว้ย  ก้มกูหน้าจอเห็นว่าเป็น  P’Nut calling  ถึงได้นึกออกว่าเพลงนี้เป็นริงโทนที่ตั้งไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
   หึ  The one to cry อย่างนั้นเหรอ  เกรงว่าสำหรับพี่อาจจะเป็น  The one to smile มากว่ามั้ง  ยิ้มสิพี่ในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นอย่างที่พี่ต้องการ  ยิ้มเถอะ  เพราะผมก็จะยิ้มในเมื่อทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น

เพื่อนก็คือเพื่อน   คนรักก็คือคนรัก  แทนกันไม่ได้จริงๆ


   “สวัสดีครับ” รับสายด้วยเสียงเยี่ยงดีเจ
   “เวย์  นายหายไปไหนมา  ทำไมไม่กลับบ้าน  พี่ไปรอทั้งคืน  ปลอดภัยดีหรือเปล่า”  เสียงปลายสายยังดูเป็นห่วงเป็นใยผมไม่ต่างจากทุกที  ตกลงจะเอายังไงกับผมกับแน่  ปากก็บอกว่าจะทำให้เจ็บแล้วจะมาห่วงทำไม  หรือว่าน้องพี่เขาบอกให้เลิก
   “ดีดิพี่  วันนี้น่ะอากาศโคตรดี  ผมมีแข่งบาสด้วยเนี่ย  รับรองชนะขาด  ฮ่าๆ”  ฝ่ายโน้นน่ะ  ชนะขาดแน่  -*-  ก็ดูผมดิปกติซะที่ไหน
   “...เวย์”  น่าน  ทำเสียงเหมือนกันอีกแล้ว  นัดกันมารึไงครับเนี่ย  เหอะๆ
   “แค่นี้ก่อนนะพี่  จะถึงมอแล้ว  บายครับ”  ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะกล้ารับโทรศัพท์พี่หมอต่อหน้ามันหรือเปล่านะ  กล้าสิมึงลูกผู้ชายตัวจริงนะเว้ย  บ้าดิ  จะกล้าได้ไงวะ  ยังมีแม่ต้องเลี้ยงอีกทั้งคน  ใครจะไปอยากโดนเฉือด  ฮ่าๆ  ผมต้องคิดอย่างนั้นแน่เลย  แต่วันนี้มันไม่ใช่ครับ  เพราะว่าเพื่อนอย่างมันไม่มีสิทธิ์หึงผมอย่างที่มันเคยขออีกแล้ว

   ตอนนี้เวลาอยู่กับมัน  ผมต้องพยายามคิดในแบบของนายเวย์เมื่อสามปีก่อน  ไม่ใช่ไอ้เวย์คนปัจจุบัน   รู้สึกเหมือนมีสองบุคลิกไงก็ไม่รู้แฮะ  เก่งว่ะกูเนี่ย

   “ใครโทรมา”
   “พี่นัท”  ผมตอบแล้วยิ้มให้มัน  หรือจะพูดให้ถูกยิ้มให้ตัวเอง
   “มันโทรมาทำไม  ยังไม่เลิก...”  มึงนั่นแหละที่ยังไม่เลิก  ไม่เลิกทำตัวเป็นเจ้าของกูทั้งที่ไม่เคยรักกู  ไม่เลิกให้ความหวังทั้งที่มึงก็รู้ว่ารักกูไม่ได้
   เพราะกูเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมเกินไปใช่ไหม  เพราะกูเข้ามาในช่วงเวลาที่มึงอ่อนแอที่สุดในชีวิตใช่ไหม   แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่ามึงก็ทำให้กูมีช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดในชีวิตเหมือนกัน

   “มึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ   กูยังไม่รู้เลยว่าเขาจะโทรมาทำไม  ฮ่าๆ  สงสัยที่บ้านผลิตเงินว่ะ”  แป้กตามสูตรเลยกู  มุกมาตรฐานของคนไทย  หยิบมาใช้ซะงั้น  ไอ้คนไร้หัวคิด
   “ไอ้เวย์!!”
   “มึงจะเรียกกูทำไมเนี่ย  กูรู้ว่ากูมันรูปงาม  นามเพราะ  ไม่ต้องช่วยย้ำ   ขับรถไปดีๆ เหอะมึง  เดี๋ยวก็เลยประตูหรอก”  ผมว่าพลางกลั้วหัวเราะไปด้วย  เอ่อ  สงสัยมานานแล้วครับ  เคยได้ยินแต่เอาน้ำกลั้วปาก  แล้วไอ้กลั้วหัวเราะนี่มันเป็นยังไง  เฮ้ย! ออกทะเล  กลับเข้าซีนด้วย  ซีนอารมณ์นะมึง  ทำเสียเรื่องหมด  ฮ่าๆ

แบบนี้ล่ะดีแล้ว  กลับมาเป็นตัวมึงอย่างที่มึงเคยเป็น  ไม่ต้องเอาหัวใจไปผูกติดกับตีนใคร  เพราะถ้าเขาสบัดทิ้งเมื่อไร  มึงอาจจะตายแบบไม่รู้ตัว


------------------------

TBC. จ้า  ก๊ากกก  ด่ากันกันเต็มเลย  ฮ่าๆ  สะใจๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 19-05-2009 21:05:55
จิ้ม



อะไรกันเนี่ย ยย ย ย

 :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 19-05-2009 21:13:19
NOOOOOOOOOOO

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 19-05-2009 21:16:38
อยากจะถามไนท์ว่า คำว่ารัก พูดยากมากรึยังไงหรือต้องรอให้เสียเค้าไปก่อนถึงจะพูด

เวย์จะตัดใจจริงๆอ่ะ ไม่น้า
แต่ถ้าไนท์ยังเป้นแบบนี้ล่ะก็ จะเชียร์เวย์ให้ตัดใจล่ะ  :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 19-05-2009 22:30:24
 :angry2:

แค่คำว่ารักมันพูดยากนักก็อดสะไอไนท์  :z6:  :beat:

มาหาพี่หมอเลยเนอะ เวย์ พี่หมอสู้ๆ  
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 19-05-2009 22:32:21
เสียใจ    :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 19-05-2009 22:32:46
ทำมายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 19-05-2009 22:33:38
ไม่น๊า เวย์ อดทนอีกนิดนึงนะ
แค่บางคนเค้ายังไม่รู้ใจตัวเองอ่ะ

ไม่นานหรอก

ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนะ ... รอ ไนท์ ทบทวนหัวใจตัวเองแป๊บนึง  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 19-05-2009 22:41:27
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 19-05-2009 22:58:05
แง่มๆๆ...สงสารเวย์อ่ะ...รักมากก็หวังมาก
แล้วก็เจ็บมากอีกด้วย....

ขอ :z6:ซะหน่อยเหอะไนท์...เคืองงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 19-05-2009 23:13:05
ปากแข็งมากๆ ระวังจะเสียของรักนะคับ ไนท์ :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 20-05-2009 00:11:36
อ้าว ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย

ค้างซะง้าน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 20-05-2009 01:48:36
ฟังคนอื่นมา เอามาตัวสิยความรัก ระหว่างคนสองคนได้ไง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 20-05-2009 12:57:10


อย่าตัดสินอีกฝ่ายจากลมปากของคนอื่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 20-05-2009 14:24:01
มาต่ออีกน้าา

มาเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 20-05-2009 17:59:45
อึดอัด ห่อเหี่ยว
อยากฆ่าคน!!!
 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 20-05-2009 18:08:49
เจอแบบนี้ ใจคงห่อเหี่ยว   เมือคนที่เรารัก     คิดกะเราแค่เพื่อนแต่ความสัมพันธ์เกินเพื่อน   


เราจะสลัดเราทิ้งตอนไหนก้อได้   ถึงตอนนั้น  เราคงเหมือนคนใกล้ตาย ชิมิ  *-*   
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 20-05-2009 19:12:29
 :z6:ไนท์บังอาจนัก :serius2:

เศร้าพี่นุ่น :m15: :m15: ดิวมาอ่านใหม่เเล้ว

(เเอบพี่ชายมาคุคุ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 20-05-2009 21:53:21
กิ๊สสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-05-2009 23:07:35
อ่านตอนนี้แล้วสงสารหนูเวย์สุด ๆ เลยอ่ะ  :m15: แทบอยากจะขอเปลี่ยนตัวพระเอกให้รู้แล้วรู้แรด  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 21-05-2009 10:48:20
 :monkeysad: เศร้า สงสารน้องเวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 21-05-2009 14:17:27
 :a5:  >>  :z3: >>  :impress3: >>  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-05-2009 15:26:20
อารมณ์ยังค้างคา
ต้องแอบเข้ามาดูความคืบหน้าซะหน่อย
ย๊ากกกกกกกกกกก!!! อยากทำร้ายร่างกายใครบางคน  :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 21-05-2009 18:29:02
:monkeysad: สงสารเวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.1 ใจคนรอ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 21-05-2009 18:55:41



บทที่ 18.2 ใจคอรอ (ครึ่งหลัง)
   
   ใครบางคนบอกว่าการรอคอย...คือการมองไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง  แต่สำหรับผม...การรอคอยคือความทรมานที่ไม่มีวันสิ้นสุด  หากเรา...ยังเลือกที่จะรอ


   “พี่เวย์  เฮีย  จงใจมาพร้อมพวกผมอีกแล้วเหรอ”  ไอ้เป้มันอ้าปากวอนอวัยวะติดพื้นของผมทันทีที่มาถึงมหา’ลัย   มือข้างหนึ่งของมันโอบไหล่น้องเนมไว้อย่างถือสิทธิ์  ไอ้คนถูกโอบก็ทำหน้าบึ้งปล่อยออร่าไม่น่าตอแยออกมาเต็มที่  เลยไปอีกหน่อยเป็นแผ่นหลังของใครสักคนที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับประตูรถ   เดาไม่ยากครับซีวิคสีดำของไอ้ชินมัน   
   “เออ  ไม่อยากเจอหน้าน้องรักอย่างพวกมึง  กูจะไปอยากเจอหน้าใครวะ”  สงสัยดวงเราคงผูกพันมาแต่ชาติปางก่อนล่ะมั้งไอ้เป้  หรือไม่ก็เป็นพวกมึงนี่แหละที่มาดักรอให้กูด่า  -*-  เรื่องของมึงกับไอ้เนมที่กูยังไม่รู้น่ะ  กูต้องรู้ให้ได้  กูงกได้ใจแค่ไหน  กูก็ขุดคุ้ยได้ใจแค่นั้น  (มันเกี่ยวอะไรกันวะพี่ /เป้)

   ”ก็คนที่มาด้วยไงพี่  เดี๋ยวนี้บ้านช่องไม่กลับ  อาศัยคอนโดเฮียไนท์ตลอดเลยนะ”  คำพูดของไอ้เป้มันทำให้ผมยิ้มค้าง  ผมไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วจริงๆ ด้วย  เพราะมัวแต่วิ่งตามบางอย่างที่ไม่มีวันได้มาอยู่  บางอย่าง...ที่ควรจะปล่อยมันไว้ตรงที่เดิม 

   “ทำไมวะ  ก็มันเพื่อนกู  ของๆ เพื่อนก็เหมือนของๆ เราน่ะ  มึงเคยได้ยินป่ะ”  ครับ  ก็ไอ้ไนท์น่ะมันเพื่อนผม  จะไปอยู่ไปค้างบ้างก็ไม่แปลกอะไรใช่ไหม  ที่ผมมากับมัน  กินข้าวกับมัน  และยังคงแอบเป็นห่วงมันตามประสาเพื่อน  ผมก็ยังทำได้ใช่ไหม 

   ผมนึกกังวล...ว่าผมทิ้งมันไว้กลางทางหรือเปล่า  คงไม่ใช่หรอกครับ  เพราะผมยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน  ยังอยู่กับมันเหมือนเดิมไม่ได้จากไปไหน  ผมก็ยัง...รักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับมันได้  ผม...ไม่ได้ทิ้งมัน และจะไม่มีวันทิ้ง
ผมยังคงเป็นเพื่อนที่ห่วงใยมันเสมอ


   “เพื่อน  ไม่ใช่ม้างง”  อ้าว  ไอ้เป้  กวนทีนพี่มึงแล้วนะเนี่ย  เห็นหน้ากูแล้วมึงจะกล้าเล่น ??  มึงมองให้มันดีๆ สิวะ  ไอ้พวกหัวช้าเอ๊ย  เดี๋ยวกูสกายคิกเลยแม่ง   เอาเหอะวะ  ถึงมึงจะหัวช้ายังไง (นี่กูไม่เรียกว่า ‘โง่’ ก็ถือว่าปรานีมึงมากแล้วนะ)  มึงก็น่าจะเอะใจบ้างสิวะ   แน่ะ  ยังไม่สะกิด  กูว่ามึงลองหันไปมองหน้าคนที่มึงโอบอยู่ดีไหม  เผื่อมึงจะได้รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง
   “ใช่สิวะ  ปากดีเดี๋ยวผีกัดตูดนะมึง  น้องเนมว่าไงมึง มีไรอยากให้พี่ช่วยเคลียร์ป่ะ”  ไอ้มุกผีกัดตูดเนี่ยผมได้มาจากน้องคนหนึ่งในเอ็ม  มันบอกว่า ‘ผมไปนอนนะพี่  ฝันดีผีกัดตูดครับ’  เวร! สรุปมันอวยพรหรือแช่งผมกันแน่วะ   ถ้าผีกัดตูดจริงๆ แล้วผมจะนั่งยังไงเล่า?!  หรือจะให้ผมนั่งทับหัวผีเลย  เฮ้ย!  ใครจะไปทำวะ  แล้วผมจะคิดออกอ่าวช่อ (อยู่ไหนสักแห่งในประเทศไทย) ไปทำไมล่ะครับ -*-

   “ไม่ต้องเลยพี่  จะฆ่าผมรึไง”  ไอ้เป้มันครางเสียงอ่อนไม่เข้ากับท่าทางแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจนของมันเลย  ดูดิครับมันกอดแน่นจนไอ้เนมหน้าจะเขียวอยู่แล้ว  ไอ้ฟาย  ปล่อยน้องกู  เดี๋ยวแข่งบาสแพ้นะมึงได้ตายจริงๆ แน่ไอ้เป้  สรุป..มันห่วงบาสไม่ได้ห่วงน้องเล้ย

   “อันนี้ก็แล้วแต่ไอ้เนมมันอยากให้มึงอยู่หรือตาย”  ผมพูดยิ้มๆ แล้วเหลือบไปมองไอ้เนมเห็นมันทำหน้าเหี้ยม แล้วพูดคำว่า ‘ตาย’ โดยไม่มีเสียง  แต่พอไอ้เป้หันไปมองมันก็ก้มหน้าลงทำเป็นไม่สู้คนตามเดิม  O.O!!  ไอ้เนมมัน...น่ากลัวว่ะ   ถ้าวันไหนตื่นมาแล้วได้ยินข่าวว่าไอ้เป้มันถูกวางยาน่ะ   เราคงจะหาตัวคนร้ายได้ไม่ยากล่ะครับ  ไอ้เนมชัวร์  ส่วนยา...เดี๋ยวผมหาไปประเคนมันเอง  กรรม!  สรุปผมกับไอ้เนมใครมันเลวกว่ากันแน่ครับเนี่ย

   “พี่เวย์  ผมยืนอยู่ตั้งนานไม่พูดด้วย  น้อยใจจะเนี่ย”  เจ้าของซีวิคว่าพลางเนียนทำตาละห้อย  ทำไมผมถึงว่ามันเนียนน่ะเหรอครับ  ก็ผมดูออกน่ะสิว่ามันแกล้งทำ  แม่งง  มารยาชายได้น่าไว้อาลัยในความหล่อมันมาก
   “น้อยใจไรวะ  ก็มึงมันเป็นทั้งน้องทั้งหลานรหัสกู  กูก็ต้องเก็บไว้ทักคนสุดท้ายสิวะ”  เพราะมึงดันโกอินเตอร์ไปญี่ปุ่นนี่แหละ  กูถึงไม่มีน้องรหัสกับเขา  แถมดวงมึงกับกูยังผูกพันกันชนิดโมเสกที่แหวกทะเลแดง  ยังแยกมึงกับกูไม่ได้ -*-  (เปรียบเทียบได้หรูจริงๆ กู)  กูถึงได้มึงเป็นหลานรหัสอีก  กูจะเศร้าดีไหมเนี่ย

   “ห้ะ!!  ทฤษฎีไหนของพี่เนี่ย”  มันทำหน้าตกใจที่ไม่ ‘มารยา’
   “อ้าว  ไม่เคยเป็นเหรอมึง  ของดีเก็บไว้หลังสุดอ่ะ”   แปลกรึไงครับ   เวลาผมกินข้าวทีไรก็มักจะเก็บของดีไว้กินหลังสุดทุกที  เรื่องทักคนมันสำคัญน้อยกว่าเรื่องกินอีก  ทำไมผมจะเอาทฤษฎีนี้มาใช้อีกไม่ได้วะ

   “ฮ่าๆ  พูดงี้บ่อยๆ  ผมรักตายเลย  เอางี้ป่ะพี่  เย็นนี้ไปเมาบ้านผมกัน  รับประกันความอร่อย  มันส์  และที่สำคัญฟรี”  ไอ้ชินมันเสนออย่างใจกว้างและตรงเป้า  อร่อย...ความจำเป็นที่ขาดไม่ได้   มันส์...ชวนให้คิดเหลือเกินว่ามันกำลังชวนผมไปทำอะไร -*-   และฟรี...เรื่องสำคัญที่ไม่ต้องพูดกับผมเป็นครั้งที่สองครับ  ไม่ใช่ไม่พอใจ  แต่แค่ครั้งเดียวผมก็เซย์เยสแล้ว
   “จริงเหรอวะ  กูไปแน่นอน  ฮ่าๆ”  เห็นไหมครับ  ขาดคำที่ไหน  ปากมันรู้หน้าที่ตอบกลับแบบไม่ต้องยั้งคิด  รู้ใจสมกับที่อยู่ด้วยกันมานาน   (ตั้งแต่เกิดแล้วครับพี่ /ปากเวย์) >> เล่นเพื่อ??

   “มึงจะไปทำไม” เสียงคนที่เงียบมานานดังขึ้น  ฟังก็รู้ว่ามันไม่พอใจ  แต่ผมจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นไม่รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น  มันอาจจะกำลังโกรธ  กำลังสับสันกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของผม   แต่ไม่นาน...เดี๋ยวมันก็จะชิน    ชินกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้หรือจะพูดให้ถูก   ชินกับการกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนของผม    และคงลืมไปได้เองว่าครั้งหนึ่ง... เพื่อนอย่างผมเคยพยายามเลื่อนขั้นเป็นคนรักของมัน   ลืม...เหมือนอย่างที่ผมกำลังพยายามทำ  ถ้ามันได้รู้มันคงสบายใจที่มันกำลังจะได้เพื่อนคนเดิมของมันกลับคืนมา

   “ไปกินของฟรีสิวะ  ไม่น่าถาม  ปกติเรื่องเมาๆ อย่างนี้มึงไม่มีพลาดนะเว้ย”  ผมพูดและยิ้มให้มัน  ไนท์...กูกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือยังวะ?  มึงตอบกูหน่อยได้ไหม   

   เมื่อก่อน...กูยิ้มให้มึงแบบนี้ใช่หรือเปล่า   
   เมื่อก่อน...กูพูดกับมึงด้วยท่าทาง  ด้วยน้ำเสียงอย่างนี้ใช่ไหม
   เมื่อก่อน...กูมองมึงด้วยสายตายังไง  กูจำไม่ได้แล้วเพราะมันนานเกินไป  แต่เท่าที่ทำอยู่ตอนนี้  มึงช่วยบอกกูที   กูทำได้ดีพอหรือยัง

   “ทำไมต้องไปกินบ้านคนอื่น  บ้านเราก็มี”   บ้านเรา   มันพูดคำนั้นด้วยสายตาที่ถ้าผมดูไม่ผิด  เกือบจะเรียกได้ว่า ‘เว้าวอน’   แค่มองก็ทำให้ความตั้งใจของผมสั่นไหว   แต่ผมก็ยังฝืนแข็งใจไม่รับรู้  บอกแล้วไงครับ   ไม่นาน...มันก็จะลืม
   เรื่องของผมมันควรจะจบตรงนี้ด้วยตัวผมเอง  ผมจะไม่ยื้อให้มันต้องเหนื่อยใจ
   และจะไม่ทน...ให้ใจตัวเองเจ็บไปมากกว่านี้


   “โหยย  เฮีย  ออกนอกหน้าไปมั้ง  บ้าน ‘เรา’ เลยเรอะ  ย้ายไปอยู่ด้วยกันเมื่อไรครับเนี่ย”  ไอ้เป้  มึงเข้าใจพวกกูผิดแล้ว  และมึงควรจะเข้าใจซะใหม่   สำหรับกูกับเฮียมึงจะยังใช้คำว่า ‘เรา’ อีกได้ยังไง  กูมันเป็นแค่เพื่อน  ไม่มีสิทธิ์ใช้คำๆ นั้นหรอกโว้ย  ไอ้โง่  ไอ้บ้า  มึงมันโง่ๆๆ   คำด่าดังก้องในใจที่ไม่รู้ว่าผมกำลังด่าใครกันแน่ระหว่างมันกับตัวผมเอง
   “เชี่ยละมึงไอ้เป้  คอนโดมันกูไปได้เพราะกูยึดคติ  ของๆ เพื่อนคือของๆ เราเว้ย  แต่บ้านกูเป็นของกูคนเดียว  เพราะของๆ เราก็คือของๆ เรา”  ผมพูดแล้วส่งยิ้มกวนๆ ให้มัน   ผมไม่เป็นไร   หัวใจของมันก็คือของๆ มัน  ผมเข้าไปดูแล  ไปทักทายได้  แต่ไม่ใช่ว่าผมจะได้มันกลับมา   ส่วนหัวใจของผม   มันก็ยังเป็นของๆ ผม  ที่มันเข้ามาทักทาย  เข้ามาดูแลและได้กลับไป

   จะโทษใครได้...ในเมื่อหัวใจของผม  ก็มีแต่ผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยกให้ใคร  และผม..เลือกยกให้มัน
   และคงโทษใครไม่ได้อีกเช่นกัน   ถ้ามันจะไม่ยอมยกหัวใจของมันให้ใคร   


   “โหยยพี่  โคตรงก”  ไอ้เป้ว่าเสียงอ่อน  ไอ้นี่มันความรู้สึกช้าหรือความผมเนียนว่ะ  ขนาดกูเศร้าจนอยากจะร้องไห้ให้เสียหมาแล้วนะ  มึงยังไม่สะกิด -*-  ไม่รู้มันไปฉลาดลากไอ้เนมที่ท่าจะฉลาดเป็นกรดขึ้นเตียงได้ยังไงนะครับ   หรือไอ้เป้มันจะเป็นคนฉลาดบางเวลาวะ  อยู่กับไอ้เนมมันฉลาด  เจอหน้าผมต่อมโง่มันเลยทำงานแทนซะงั้น
   จะว่ามันนักก็ไม่ได้เพราะมันก็ไม่ต่างจากผม  อยู่กับคนอื่น...ผมฉลาด(มั้ง)  แต่พออยู่กับไอ้ไนท์..อะไรบางอย่างในตัวมันทำให้สมองผมพากันอู้  ไม่ยอมทำงาน  แม้กระทั่งตอนนี้...อะไรบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวมัน   ทำให้ผมเลือกที่จะไม่หันไปมอง
   
   “เออ  มึงไม่ต้องย้ำความฉลาดของกู  ว่าแต่มึงไปด้วยป่าววะ  ไอ้เป้” 
   “อ้าว  ไม่ไปแล้วผมกับเนมจะไปนอนที่ไหนล่ะครับ”  ไอ้เป้มันเรียกเพื่อนมันเพราะเชียว  ผมว่าผมเริ่มจะเห็นแววไอ้นุสองจากมันนะ  น่าจะพากันตั้งชมรมคนกลัวเมียให้รู้แล้วรู้รอดไป  แต่คำตอบของมันทำให้ผมต้องขมวดคิ้วสงสัย   ถ้ามันไม่ไปบ้านไอ้ชินด้วย  มันกับไอ้เนมจะนอนที่ไหน???  อ้าวว   บ้านมันไม่มีให้อยู่หรือไงวะ  หรือว่ามันหนีออกจากบ้าน  o.o!!!  พ่อแม่มันรู้เรื่องมันกับไอ้เนมแล้วรับไม่ได้???  เฮ้ย!!

   “ม่ะ...มึง  พวกมึงใจเย็นๆ นะโว้ย  อย่าเพิ่งทำอะไรผลีผลาม  พ่อแม่ที่ไหนก็ตัดลูกไม่ขาดเหมือนสายสะดือนั่นแหละโว้ย  ใจเย็นๆ นะพวกมึง”  โอ๊ยยย  น้องมีปัญหาทำไมพี่ดีๆ อย่างผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะครับเนี่ย   มึงมัวไปมุดหัวอยู่ไหนวะไอ้เวย์
   “พี่เวย์!  เป็นไรพี่  พี่นั่นแหละใจเย็นๆ  พูดอะไรของพี่เนี่ย  ควายได้ยินยังงงเลยมั้ง”  ไอ้เป้มันเกาหัวแกรกๆ ยิ่งกว่าคนมีเหา  แถมยังทำหน้าออกแนวสมเพชผม  อ้าวไอ้นี่  คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง    แล้วเท่าที่กูเห็นนี่มึงกำลังงงแทนควายอยู่นะไอ้น้องรัก

   “คือ...พวกผมสามคนอยู่บ้านเดียวกันอ่ะพี่”  ในที่สุดไอ้ชินมันก็เป็นคนเฉลย  ไอ้เวร! แล้วทำไมไม่รีบบอก  ให้กูปล่อยเป็ดปล่อยไก่อยู่ได้  แม่งงง  เสียมาดหมดกู
   “จริงดิ  กูไม่เห็นรู้”  เออ  ถ้ามึงรู้มึงจะแหกปาก  ตกใจขนาดนั้นไหมไอ้เวย์  อายเขาไหมล่ะมึง  ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยนัก  เป็นไงล่ะ  หน้าเปื่อยทะลุหนังหัวหรือยัง?
   “พี่เคยรู้อะไรมั่ง”  ไอ้เป้มันย้อน   มือก็กอดอกเชิดหน้าอย่างคนเหนือกว่า  เออ  มึงเก่ง!
   “กูรู้เรื่องมึงกับไอ้เนมแล้วกัน”  แล้วผมคนที่เก่งกว่าก็ย้อนมันกลับด้วยท่าทางที่ไม่ต่างจากมันเลยสักนิด  ฮ่าๆ  สะใจโว้ย  หน้าไอ้เป้มันเปลี่ยนสีเช่นเดียวกับอีกคนที่ถูกดึงไปเอี่ยวด้วย  ต่างกันตรงที่ว่าไอ้เป้หน้าซีด  ส่วนไอ้เนมหน้าแดง  แสดงออกซะชัดขนาดนี้ต่อให้มึงลากวัดพระแก้วมาทั้งวัด  บอกกูว่าไม่มีอะไรกัน  ให้ตายกูก็ไม่เชื่อวะ

   “เฮ้ย!!  ใครบอกพี่  ไอ้ชินมึงเรอะ   แม่งง  อย่าให้กูพูดเรื่องเอลนะ”  พอเริ่มได้สติหายจากความตกใจ   ไอ้เป้มันก็เริ่มโวยวายทันที   แล้วไอ้เอลที่มึงพูดถึงน่ะมันใครอีกล่ะวะ  หรือมึงดูเดธโน้ตมากไปจนสมองเริ่มเพี้ยน  กูจะได้ไม่ต้องใส่ใจ -*-
   “เชี่ยเป้  หุบปากเลยมึง  กูไม่ได้พูดอะไรเลย  สาดเอ๊ย  มึงตกหลุมพี่เวย์แล้ว” ไอ้ชินมันโวยกลับทันทีด้วยท่าทางร้อนรนไม่แพ้กัน  อ้าว  มึงก็บ้าเดธโน้ตด้วยอีกคนเหรอวะ   ทำไมต้องทำท่าทางไม่อยากให้กูรู้ด้วย  หรือมันจะเขิน??  จะเขินทำไม  เขาก็ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง  กูยังดูเลย

   “หลุม???  พี่หลอกผม?”    ดีใจด้วยนะมึงที่ต่อมฉลาดเริ่มทำงานสักที  ปกติเห็นอยู่ในสนามมึงก็คุมเกมส์  สั่งชาวบ้านเขาได้ทั่ว  แล้วทำไมเรื่องแค่นี้หลุดง่ายจังวะ   ทางเข้าชมรมคนกลัวเมียรอมึงอยู่ข้างหน้าแล้วไอ้น้องเอ๊ย  รีบๆ เดินไปเลย
   “ฮ่าๆ  แสดงว่าเรื่องจริงล่ะสิ  กั่กๆ  น้องเนมมีไรบอกพี่ได้จริงๆ นะเว้ย  ฮ่าๆ  เห็นไอ้เป้หลุดบ่อยๆ มันตลกดี  พี่ชอบ”  พวกคุณก็ชอบใช่ไหม  ผมรู้นะ -*-

   “พี่เวย์!!  แม่งง  เนียนชิบ  เฮียก็ไม่ช่วยผมเลย”  กูไม่ได้เนียน  ขนาดไอ้ชินมันยังดูออกเลย  มึงนั่นแหละที่โง่มาตกหลุมกูเอง  ไอ้เป้  ตกหลุมก็กระโดดขึ้นมาเองสิวะ  จะไปขอให้ไอ้ไนท์มันมาช่วยทำไม  มันช่วยมึงไม่ได้หรอก  เพราะมันไม่เคยมีสักครั้งที่นึกอยากจะเฉียดเข้ามาใกล้หลุมที่กูขุดไว้  มึงขอความช่วยเหลือผิดคนซะแล้วไอ้น้อง

   “ไอ้ไนท์มันเพื่อนกู  ก็ต้องช่วยกูสิวะ  จะไปช่วยมึงทำไม  จริงมั้ย”  ผมยิ้มกวนๆ แล้วหันไปหามันหลังจากที่สูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด   กูรู้ว่ามึงเข้าใจที่กูถาม  กูรู้ว่ามึงเข้าใจว่ากูหมายความว่ายังไง   ตอบกูมาเถอะ  ช่วยตอกย้ำกูทีว่ามึงคิดกับกูแค่เพื่อนและไม่มีวันที่ความรู้สึกของมึงจะไปได้ไกลกว่านี้   ช่วยลบความหวังโง่ๆ ของกูออกด้วยมือมึงที   มันอาจจะเร็วกว่าการที่กูพยายามลืม   หรือถ้ามันลำบากมากเกินไปที่จะพูดอะไรกับกูตอนนี้  มึงแค่พยักหน้าก็ยังดี   พยักหน้าบอกให้กูรู้ว่ามึงก็คิดเหมือนกู  บอกว่ามึงพอใจที่กูทำแบบนี้   ช่วยยืนยันหน่อยว่ากูทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว   ช่วยพูดมาอีกครั้งได้ไหม   พูดว่ากูเป็นได้แค่เพื่อนของมึง


   “.....”  มันไม่ตอบแต่มองผมด้วยสายตาค้นหา  คาดคั้น  สายตาที่ทำให้ผมใจสั่นได้อย่างง่ายดาย   ผมคงยังไม่เข้มแข็งพอจริงๆ นั่นแหละ   ผมไม่ได้เก่งอย่างที่ปากพูดเลยสักนิด  เพราะฉะนั้นผมถึงอยากให้มันช่วย   แค่พูดคำๆ นั้นอีกสักครั้ง   ไอ้ไนท์...กูขอร้อง  แค่ครั้งเดียวเท่านั้น  ช่วยบอกกูทีว่ากูควรอยู่ตรงไหน  บอกให้คนโง่ๆ อย่างกูตัดใจได้สักที

   แม้จะเจ็บเจียนตาย...แต่มันจะทำให้กูเข้มแข็งและลุกขึ้นยืนได้เร็วขึ้น
   เข้มแข็งพอที่จะยิ้มให้มึงเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง

   “เฮ้ยพี่! จ้องกันจะเอาโล่รึไง  เดี๋ยวก็ท้องหรอก”  เสียงไอ้เป้มันดึงผมออกจากภวังค์  ครั้งนี้ผมคงต้องขอบใจมันที่ช่วยเรียกสติผมกลับมาได้ทันเวลา   สติ...ที่เกือบจะหลุดลอยไปเพราะสายตาคู่นั้น
   มึงมันอ่อนหัดจริงๆ ไอ้เวย์  แค่อกหัก...ไม่ถึงตายหรอกวะ  แผลสดมันต้องราดด้วยแอลกอฮอล์แรงๆ     ถึงจะแสบ  แต่มันก็จะหายดีในสักวัน

   ไนท์...มึงจะรู้ไหม...คำพูดเดียวของมึงเป็นยาที่ดีกว่าแอลกอฮอล์ให้กูได้ 


   “ฮะ!  อ่ะ..อะไรของมึงไอ้เป้  ก็ไอ้ไนท์มันไม่ตอบกูอ่ะ  สงสัยมันจะหิวข้าวจนไม่มีแรงอ้าปากว่ะ  งั้นป่ะ..ไปหาอะไรกระแทกปากกัน”   ผมจำใจฝืนยิ้มแล้วเรียกมุกสไตล์นายเวย์ออกมาอีกครั้ง  นี่ใช่ไหม...การฝืนที่เจ็บยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา  เข้าใจมันได้ดีก็วันนี้แหละครับ   การร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา   บางครั้ง...มันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า
      
   “เอาดิพี่  เลี้ยงพวกผมป่าวล่ะ  ท่านกัปตัน”   ไอ้เป้มันยังคงไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น  แต่ก็ดีครับ  ดีที่ยังมีคนเผื่อแผ่ความตลก  ความสดใสมาให้  บางที...มันอาจจะช่วยซ่อนความเศร้าให้ผมได้  ช่วยซ่อนมันไว้ลึกๆ  อย่าให้ใครคนไหนได้เห็นมันเลย

   เพราะเวย์...ไม่เคยขาดรอยยิ้มเวลาอยู่กับไนท์ยังไง   วันนี้มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น


   “สาด  ถามโง่ๆ  ดูดิมึงถามใคร  มีความเป็นไปได้เท่าไร”    อดทนไว้นะมึง  อดทนไว้  อย่าให้สิ่งที่มึงตั้งใจต้องสูญเปล่า   ทำเพื่อมัน  เข้าใจไหมไอ้เวย์  ทำเพื่อคนที่มึงรักไง

   “ศูนย์”  ไอ้เป้กับไอ้ชินพร้อมใจกับตอบ  ความงกของผมมันดูง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ  พวกมันถึงได้ประสานเสียงกันพร้อมเพรียงขนาดนี้
   “ก็เออสิวะ  แต่ถ้าชนะค่อยว่ากันเว้ย”   มึงยัง..ทนได้   รอก่อนไอ้เวย์  อีกนิดเดียว
   “พูดแล้วนะพี่  วันนี้ผมทุ่มสุดตัวเลย  อยากให้ลิ้นได้กินของฟรีจากพี่เวย์สักครั้ง  มันคงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์พิลึก”   ถ้าการที่ได้กินของฟรีจากกูแล้วมันมีความสุขเหมือนได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ ก็ดีสิวะ   กูจะได้เลี้ยงข้าวตัวเองแม่งทุกวันเลย   โดยเฉพาะตอนนี้...ตอนที่กูรู้สึกเหมือนอยู่ในนรกบนดิน   นรกที่มีคำว่า ‘เพื่อน’ คอยกัดกินหัวใจ

   “กวนแล้วมึง  จะไปไม่ไปวะ”  ไปเถอะ...ออกไปจากที่นี่ซะที  ผมไม่รู้ว่าจะฝืนยิ้มหน้าบานแบบนี้ได้อีกนานไหม   ไม่รู้ว่าเมื่อไรแบตเตอรี่ในสมองมันจะหมด  ไม่รู้ว่าปากของผมมันจะทนฝืนเล่นมุกตลกไปอีกนานแค่ไหน

ตลกร้าย...ที่คงมีแต่ผมเท่านั้นที่เข้าใจ


   “ไปคร้าบ ^o^”   พวกมึงเดินยิ้มออกไปแล้ว  แต่ไม่รู้ทำไม...ขาผมมันถึงยังไม่ยอมขยับ   รออะไรอยู่ล่ะ  เดินไปสิโว้ย  มึงจะมาพร้อมใจกันดื้ออะไรตอนนี้  ฟังคำสั่งจากสมองน่ะเข้าใจไหม  ไม่ใช่ฟังจากหัวใจโว้ยย


   “ไอ้เวย์  ถ้ากูไม่ให้มึงไปล่ะ”  เสียงที่ผมไม่อยากได้ยินที่สุดในตอนนี้เพราะกลัวว่าความพยายามของตัวเองจะสูญเปล่ากลับดังขึ้น   ห้ามกูทำไม?  มึงจะไม่ให้กูไปอย่างนั้นเหรอ  ไม่ให้กูไปแล้วจะให้กูอยู่ตรงไหนล่ะ  มึงรู้ไหมว่ากูไม่มีที่อยู่  จะเข้าใกล้มึงมากกว่านี้ก็ไม่ได้  จะอยู่ที่เดิมกูก็เจ็บ  เพราะฉะนั้นกูถึงได้เลือกถอยออกมา    ให้กูไปเถอะ    ไปจากที่ตรงนี้แต่ยังอยู่ข้างมึงอย่างที่มึงต้องการไงล่ะ   นั่นไม่ดีว่าเหรอ    ดีกับเราทั้งสองคน

   มึงจะได้เพื่อนคนเดิมอย่างมี่มึงต้องการ   และกู...ก็จะไม่ต้องเสียมึงไป   แต่...อย่าให้กูต้องทนอยู่ในทีที่เลื่อนลอยแบบนั้นอีกเลย

       “กูจะไป” 


นี่คือความเป็นจริงที่ฉันมี ในทุกๆนาทีที่เลื่ยนลอย
อ่อนล้าบ่อยๆ ที่ต้องค่อยจะทนเหงา…
อาจจะจริงที่เธอไม่ทิ้งไป แต่ในใจไม่มีคำว่าเรา
เจ็บช้ำเปล่าๆที่รักเราไม่เท่ากัน

คำๆเดียวกัน จากคนๆบางคน ก็ต่างแล้ว…
ใจใครใจมัน ความรักมีไม่เท่ากัน และฉันก็พอเข้าใจ

ถ้าหากความรัก… ของเรา…มันมีไม่เท่ากัน…
ฉันว่าเราก็ควรต้องยอม…รับมัน…
หากว่าเรายังฝืน…มันก็คงไม่ได้อะไร…
หากว่าใครถาม…ว่าเรา…จบลง…ด้วยเรื่องอะไร…
ฉันคงทำได้เพียง…แค่ตอบ…เขา…ไป…
ว่าที่สุดแล้ว จะทำอย่างไร รักเราถึงมีให้ไปมันไม่เท่ากัน…


คำๆ เดียวกัน  จากคนๆ บางคน  ก็ต่างแล้ว
ใจใครใจมัน  เมื่อรักมีไม่เท่ากัน  สุดท้าย...รักนั้นก็จบไป



-----------------

TBC จ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 21-05-2009 19:06:16
^
^

จิ้มๆๆ

แล้วอ่าน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 21-05-2009 19:19:46
กำ...อ่านแล้วเครียด

ปวดม้าม ปวดปอด ปวดตับ ไปหมดแล้ว

โฮ โฮ โฮ โฮ โฮ อยากได้น้ำตาลแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 21-05-2009 19:35:01
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 21-05-2009 19:39:09


ไงเปงงั้นอะ


เครียดๆๆๆๆๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 21-05-2009 20:27:14
 :serius2: ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 21-05-2009 21:14:28
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 21-05-2009 22:17:30
 :sad4:

เศร้าอ่าา

ปวดเฮดอย่างแรง  :z3:

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะฮะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: kunpoo ที่ 21-05-2009 23:58:29
เป็นเฮา เฮาก็ไป อยู่แล้วมันเจ็บก็ถอยก่อนดีกว่า ฮือออออออ :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-05-2009 00:16:43
ยัง ยังไม่พอ ไรท์เตอร์จัดไปอีก
เอาให้มันเศร้าให้ตายกันไปข้าง
เศร้าแบบไม่ต้องผุดต้องเกิดกันแล้ว
แน่นี้มันยังเศร้าไม่พอ
จัดไป อย่าให้เสีย!!!
ย๊ากกกกกกกกกกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 22-05-2009 00:40:38
 :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-05-2009 02:46:05
อ่านแล้วยิ่งสงสารน้องเวย์เข้าทุกที  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 22-05-2009 10:22:14
 :sad4:


เส้าจิตต
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 22-05-2009 12:21:13
อาฮะ....

ไนท์ก็รีบๆบอกเวย์ไปสิจ๊ะ  อิ อิ

สงสารเวย์เค้าน้า   

สู้ๆ   ๆ ๆ ๆ

fighto!!!
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: toonki ที่ 22-05-2009 14:12:55
 :a5:
ทำไมเป็นแบบนี้ละ
อ่านแล้วอยาก  :z6: กับไนท์อ่ะ
สงสารเวย์จังเลย สู้ๆนะเวย์  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 22-05-2009 16:42:04
รีบทำอะไรให้มันเคลียเถอะไนท์ ไม่งั้นอาจเสียนู๋เวย์ตลอดไปนะจ๊ะ

ส่วนนู๋เวย์ถ้ารักก็บอกไปเลยเตอะ ถ้าใจตรงกันมันก็ดี(ซึ่งใจก็ตรงกันอยู่แล้วอะ)

แต่ถ้าไม่ก็จะได้รู้กันไปเลยว่าเราจะยืนตรงไหน(ตอบคำถามในใจเราได้)

เห็นแล้ว  :เฮ้อ: >>  :sad2: แทน



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 22-05-2009 17:30:36
ไม่ชอบคนปากแข็งเลยอ่ะ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 23-05-2009 09:46:20
 :a5: o22 : :sad4: :o12:
 :z6:ไอ้พี่ไนท์ :กอด1:พี่เวย์
เศร้าอ่ะเศร้าที่สุดเลย

 o13พี่นุ่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 23-05-2009 10:02:20
 :serius2: :o12: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 23-05-2009 10:57:08
แล้ว ทำไม   ไม่พูดกัน

ปล่อยให้เข้าใจผิดๆๆๆ  กันอยู่ได้

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย





หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 23-05-2009 14:04:05



ตอนที่ 19  เส้นใยบางๆ

   ผมเดินยืดเข้าสนามด้วยใบหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง  มั่นใจยิ่งกว่าแมนยูตอนได้แชมป์  (ได้แชมป์จริงๆ ด้วยครับปีนี้  อ๊ากก  สะใจจนอยากจะลงไปกราบเตเวสกับเฮียปาร์คงามๆ สักสามที ) บรรยากาศในสนามก็ดูคึกคัก  ลูกทีมแต่ละคนหน้าบานอีกกว่าตอนที่ผียิงเข้า (แกจะไปเรื่องบอลอีกนานไหม?  ถ้านานฉันจะได้กลับมาแต่งต่อฤดูกาลหน้า -*-  แม่งอาเซชวดทำเอาเซ็งหมดอารมณ์แต่งนิยายไม่ได้ไปหลายวัน  ผัวะ!!  แกเป็นไรเตอร์จะไปออกทะเลกับมันเพื่อ??)

   ไม่ใช่หรอกครับไอ้ที่ผมพล่ามมาทั้งหมดน่ะ  โคตรตรงข้าม  หันไปทางขวาไอ้นุผู้ปากมากกับไอ้แชมป์ลูกคู่มันก็เงียบเป็นเป่าสากแถมยังเดินห่างกันเป็นวาเหมือนกลัวเห็บหมัดบนตัวมันจะกระเด็นใส่กัน    เหลือบไปทางซ้ายเห็นไอ้เป้จับแขนไอ้เนมลากลิ่วๆ ไปข้างสนาม  ไอ้เนมก็เดินจนขาจะพันกัน  และถ้าผมอ่านปากมันไม่ผิด  มันพึมพำว่า ‘มึงต้องตาย’ อยู่หลายครั้ง  หรือว่ามันจะเล่นของวะ?   มองไปข้างหน้าเห็นไอ้เชน  ไอ้ชินแล้วก็ไอ้เอล (หรือไอ้ป้อน้อยที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าถูกใจมันนัก  มันเป็นผู้จัดการทีมที่มีสมองรับคำสั่งได้ตรงยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์  เอาเป็นว่าถ้าคุณสั่งข้าวแล้วไม่บอกให้มันเอาช้อนกับซ้อมมาด้วย  คุณก็ต้องกินข้าวด้วยมือเปล่านั่นแหละครับ)  มันกำลังเล่นกัน???  เอ่อ..ดูท่าจะเป็นไอ้เอลมันโดนแกล้งอยู่ล่ะมั้ง  หึหึ  ตัวฮาอีกตัวเลยนะนั่น  ซื่อจนน่าแกล้ง  และถ้ามันไม่ทำตัวมืดมนไปหน่อย  ผมว่ามันคงดูดีเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว

   ส่วนข้างหลัง...  ไอ้เซ็นเตอร์ของผม...ผมไม่ได้หันไปมองเพราะงั้นถึงไม่รู้ว่ามันอยู่ในอารมณ์แบบไหน  ไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไร  รู้แค่ว่า...มันเดิมตามผมมาตลอดตั้งแต่โรงรถจนถึงเดี๋ยวนี้  และนี่เป็นครั้งแรก...ที่ผมไม่รอมัน   

   “ท่านกัปตันคร้าบบ  อีกสองชาติครึ่งท่านจะเดินมาถึงมั้ย” เสียงกวนๆ ที่ช่วยยิงมุกมาให้ผมตอบกลับอยู่ตลอดเวลาของไอ้เป้ดังมาแต่ไกล  เผลอแป๊บเดียวมันไปนั่งรอที่แสตนด์กันหมดแล้ว     และที่สำคัญเหลือแค่ผมกับ..ไอ้ไนท์  อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นวะ  ฟ้าแม่งจงใจแกล้งคนหล่อโดยกำเนิดไม่ต้องผ่านมีดหมออย่างผมชัดๆ
   “ท่านเซ็นเตอร์ก็อีกคน  นี่สนามบาสนะครับเฮียๆ ไม่ใช่ทุ่งดอกไม้  ไม่ต้องมีอารมณ์สุนทรีย์กันขนาดนั้นก็ได้”  ไอ้โอมปีสองที่เสือกทำตีซี้ไปเข้าคู่กับไอ้เป้ก็เริ่มช่วยคู่หูมันทำมาหากิน  ดีนะที่มันยังเรียกพวกผมว่า ‘เฮียๆ’ ไม่ผันเสียงให้สูงขึ้นอีกหน่อยไม่งั้นได้มีวางมวยกลางสนามแน่

   “เอ้าเหรอวะ  กูก็นึกว่าใช่  เห็นมีแต่ดอกๆ  โดยเฉพาะมึงไอ้โอม..อุตพิษ”  โอม  อุตพิษ  นักแสดงหน้าใหม่จากค่ายเอ็กโซซึ่งพอได้ยินชื่อในวงการที่ผมตั้งให้  มันก็เผลอแยกเขี้ยวทันที
   “โหยย  แม่ง  ปากอย่างพี่  ผมไม่เล่นด้วยดีกว่า  หาทางชนะยากชิบ  ไอ้เป้มึงเคลียร์ดิ” พอรู้ว่าสู้น้องหมาพันธุ์ดีที่ผ่านจากฝึกอย่างทรหดในปากผมไม่ได้  มันก็เริ่มแสวงหาที่พึ่งครับ
   “สาดพี่โอม  โยนขี้มาให้ผมอีกนะ” ไอ้เป้มันหันมามองหน้าผมแล้วส่ายหน้าหวือ  ย่นจมูกเหมือนดมของเหม็นๆ สีเหลืองๆ   มึงทำท่าขยะแขยงกูได้เทพมากไอ้สัดเป้  อยู่ดีไม่ว่าดีกูกลายเป็นขี้ให้พวกมึงโยนเล่นซะงั้น   ทำอย่างกับหนังของซุปเปอร์จูเนียร์ (ซึ่งเขาคือใครไอ้เวย์ไม่รู้จัก) ที่อยากจะโดนปาขี้ใส่หน้าเสียเต็มประดา  เหอะๆ  ดูคิดเข้าไปได้  กูดูจบไปสามรอบไม่เข้าใจ  เขาต้องการจะสื่ออะไรวะ?  (ใครไม่เข้าใจมุก  ไปหาหนังมาดูได้นะจ๊ะ  มีขายตามเซเว่น อีเลเว่น   ค่าโฆษณาไม่ได้อีกตามเคย - -^ ทั้ง 7-11  ทั้ง sj ใช้งานกูฟรีตลอด T^T)
   “มึงว่ากูเป็นขี้???” ผมทำหน้าเหี้ยมสืบเท้าเข้าหาดูโอ่คนรักหมา(ในปาก)   หักนิ้วมือแต่ไม่ดังกร๊อบๆ  (กลัวเจ็บครับ  เผื่อเผลอกดแรงมากไป  นิ้วมันจะทรยศแกล้งป่วยไม่ยอมช่วยผมเล่นบาส -*-  ไม่ชนะไอ้เวย์ไม่ว่า  แต่แพ้เพราะนิ้วทรยศนี่ผมทนไม่ได้)

   “ไอ้เวย์  มึงจะเถียงกับเด็กอีกนานมั้ยวะ  สรุปมึงจะเอาไง” เจ้าพ่อปากมากที่แท้จริงอย่างไอ้นุมันคงทนไม่ไหว  กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย  วันนี้มีอาการแปลกๆ ครับเพื่อนผม  เงียบ  เครียดและดูเหมือนจะมีสาระผิดปกติ  หรือต่อมรั่วมันยังไม่ตื่นดี  งั้นผมช่วยปลุกแล้วกัน
   “เอาอะไรยังไง”   ยืมมุกมึงหน่อยนะไอ้ป้อน้อย  ไอ้เรื่องทำเนียนไม่เข้าใจคำถามแล้วสักพักมันก็เดินหนีเนี่ย  มันถนัดนักแล
   “เอ้า! ก็แผนไงมึง  แผน” ไอนุมันพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหมดความอดทน
   “แผน??  ไปถามหาเอากับนางวันทองโน่น  ไม่ต้องมาถามกู”  ผัวะ!!  โดนตบเกรียนทันทีที่พูดจบ  ขุนแผนอยู่กับนางวันทองแล้วกูผิดอะไร! ถ้ากูบอกว่าอยู่กับนางสีดาสิ  มึงค่อยมาตบหัวกู   แม่งอิจฉาล่ะสิที่กูหล่อแล้วยังฉลาดกว่า  เหอะๆ
   “เชี่ยเอ๊ย  ต้องให้กูใช้กำลัง  แผนที่จะเล่นล่ะมึง  จะเอาไงดี” เนื่องจากเห็นหน้าที่เตรียมจะก่อวิศนศกรรมได้ทุกวินาทีของไอ้นุ และบรรดาดอกไม้ในสวนที่พร้อมจะประเคนยำตีนรสเด็ดมาให้ผมได้ทุกเวลา  ไอเวย์เลยตัดสินใจเลิกยั่วต่อมรั่วมันครับ

   “ไม่มี  ลุยไปเลย”   ง่ายไปไหมกู??
   “เฮ้ย!! ได้ไงเล่า  วิดวะนะพี่  วิดวะ”   ไอ้เป้เริ่มโวยวาย
   “มึงจะกลัวอะไรกับวิดวะ  ‘วิดโว้ย’ มาเองกูก็ไม่มีหวั่น” ดู๊ดูผมแถ  ก็มันไม่มีเวลาคิดนี่ครับ   อย่า..อย่ามองผมด้วยสายตาอย่างนั้น  ผมเป็นกัปตันทีมแน่นอน  เพียงแต่ว่ามันไม่มีเวลาให้คิดจริงๆ   รู้สึกตัวอีกทีตื่นมา  อ้าว! กูเสร็จมันอีกซะแล้วแถมยังเพิ่งผ่านการอกหักมาสดๆ ร้อนๆ แค่ผมท่อสังขารที่เกือบจะร่วงโรยของผมมาเล่นได้นี่ก็เป็นบุญมากแล้ว    ต้องเล่นกับวิดวะผมก็เพิ่งจะรู้เนี่ยแหละ  แกล้งเนียนทำเป็นไม่หวั่นไปอย่างนั้นเอง  แต่อย่าบอกใครนะครับว่าในใจนี่โคตรหวิวเลย  ให้พวกมันรู้ไม่ได้  เดี๋ยวใจแป้วกันหมด 

   “แม่งเอ๊ย! ใครเลือกพี่เวย์เป็นกัปตันวะ  หูหนวก  ตาบอดหรือสมองพิการเนี่ย” ไอ้โอมมึงช่างสรรหาโรคได้เก่งเหลือเกินนะ -*-   กัปตันอย่างกูพวกมึงจะไปหาได้ที่ไหน?  มีของดีแล้วไม่เห็นค่าเขาเรียกว่าคางคกขึ้นวอ  ผัวะ!!  เอ่อ..กิ้งกาได้พลอย  ถูกยังวะ??  โดนตบจนเกรียนจะหมดแล้วนะเฟ้ย  ก็รู้อยู่ว่ากูมันเด็กนอก(เมือง)  ก็ยังดึงดันจะให้กูเล่นสำนวนอยู่ได้
   “ไอ้โอม  กูจำได้ว่ามึงก็ยกมือ  สามโรคที่ว่ามา  เลือกเอามึงจะเป็นอะไร”
   “สงสัยวันนั้นผมลืมเอาสมองมาว่ะพี่  ถึงทำอะไรโง่ๆ ลงไป”  ไอ้โอมมันพูดหน้าตาย  ลืมเอาสมองมาบ้านพ่อมึงดิ  มึงต้องถอดสมองเอาเก็บใส่ตู้เย้นไว้ก่อนนอนกันมันเน่ารึไงวะ?  แม่ง  กวนได้กวนดีนะมึงเนี่ย  ผมว่าถ้าเอาทีมบาสผมได้ตั้งคณะตลกหากินมันจะรุ่งกว่าไหม?

   “มึงจะเอาจริงได้หรือยังไอ้เวย์  เหลืออีกครึ่งชั่วโมง”  มึงช่างมีสาระได้น่านับถือจริงๆ ไอ้นุ
   “เอ้า! กูก็พูดจริงๆ เนี่ย  ไม่มีแผนโว้ย  พวกมึงอยากเล่นอะไรก็เล่นไป  อย่างที่ซ้อมมา  ใส่ไม่ต้องยั้งเป็นพอ”  เพราะถ้าพวกมึงยั้ง  ได้เดี้ยงกันยกทีมแน่
   “โห  แม่ง  คำแนะนำโคตรมีประโยชน์จนน่าจารึกไว้กราบไหว้  พึ่งพาได้ชิบ!”  เอาเลยไอ้เก่ง  นานทีปีหนหมาในปากมึงจะออกมาเดินเพ่นพ่านสักที   กูจะแกล้งลืมไปว่ามึงประชดกู  อยากจะเอาไปจารึกที่ไหน  จะกราบไหว้เมื่อไร  มาบอกกู  กูจัดให้
   “เออ  ไร้ประโยชน์จริงๆ พี่เนี่ย  เฮียไนท์ครับ  ในฐานะคนรู้ใจ  เฮียช่วยบอกพวกผมหน่อยเหอะว่าไอ้ที่พี่เวย์พูดมาทั้งหมดน่ะ  เค้าจะให้พวกผมเล่นยังไง”  ไอ้เชี่ยเป้  แม่มึงต้มหมาให้กินแทนข้าวรึไง?  แถมชาติที่แล้วมึงต้องเป็นมือปืนไม่ก็หมอดูแน่ๆ   ยิงมาแต่ละประโยคเล่นเอากูแทบจะกระอัก  ผมหันไปมองหน้า ‘คนรู้ใจ’  ชัดๆ เกือบจะเป็นครั้งแรกของวัน  แต่มัน...ไม่มองผม  กลับเบือนหน้าหนีไปเสียดื้อๆ อย่างไม่ใช่นิสัยมัน

   “หึ  กูจะไปรู้ใจมันได้ยังไง” เสียงที่ดูเหมือนจะเป็นคำเยาะเย้ยมากกว่าประโยคบอกเล่าทำให้ใจคนถอยห่างอย่างผมสั่นไหว   หรือเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว  ไม่หรอก...มันก็แค่ยังไม่ชิน  ยังปรับตัวไม่ทันเท่านั้น  แต่อีกไม่นานเราจะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน  กอดคอ  หยอกล้อกันได้อย่างสนิทใจเหมือนเพื่อนธรรมดาๆ  อีกไม่นาน...

   “อ้าว  ถ้าเฮียไม่รู้แล้วใครมันจะรู้ล่ะเฮีย”  มึงไงล่ะไอ้เป้  ทีเรื่องของกูนี่รู้ดีนัก  ทำเนียนไม่ถามกูตรงๆ แต่หยอดแล้วหยอดอีก  ที่จริงไม่ใช่มึงไม่รู้แต่มึงแกล้งโง่อยู่ใช่ไหม  กูรู้แล้วทำไมมึงถึงลากไอ้เนมขึ้นเตียงได้  เนียนได้โล่จริงๆ
   “เชี่ยเป้  ตอนมึงเด็กๆ แม่ให้กินนมหมาให้กินแทนนมแม่รึไงวะ  ปากมอมชิบ  กูก็บอกแล้วไงว่าเล่นแบบที่พวกมึงซ้อมมา  เข้าขากันดีแล้ว  ไปวอร์มกันสักที  ยืนหายใจทิ้งมองหน้ากูอยู่ได้  ความหล่อของกูไม่ได้ช่วยให้พวกมึงชนะนะเว้ย”  พวกมันพร้อมใจกันทำหน้าเมื่อยและส่ายหัวอย่างปลงๆ  พวกมึงจะทำหน้าซังกะตายกันไปทำไม  กะอีแค่ออกไปวิ่งๆ ชู้ตๆ  เหนื่อยก็เหนื่อยแค่ตัว  ทนไม่ไหวก็ขอเวลานอก  ไม่ก็ตะโกนออก ‘ย้ากกก’ ออก  ก็ดีขึ้นเอง  คนที่ควรจะทำหน้าอย่างนั้นน่ะมันกูมากกว่า  ไม่เหนื่อยตัวแต่เหนื่อยใจ  จะตะโกนออกมาก็ไม่ได้  อยากจะขอเวลานอกใจแทบขาด...แต่ใครล่ะ  มันจะให้กู

   “เฮ้อ! หากัปตันใหม่กันดีมั้ยวะ”  ไอ้พวกปีหนึ่งปีสองมันออกไปวอร์มกันเรียบร้อยแล้ว  ทีนี้ก็เหลือแค่พวกผมปีสามกับบรรยากาศมาคุ  เพราะขาดตัวสร้างสีสรรอย่างไอ้เป้  ตัวชงอย่างไอ้นุก็ใบ้กิน  แล้วคนหมดมุกอย่างผมจะไปเอาใครมาสร้างเสียงฮาดี

   
   เกาะติดสถานการณ์ในสนามไปได้สักพักตามประสากัปตันผู้แสนดี (ทำไมต้องทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออย่างนั้นล่ะครับ)  ไอ้อ้นมันก็กระซิบเรียกให้ผมดูอะไรบางอย่างครับ 
 
   “กินข้าวมายัง?”  ไอ้นุมันถามไอ้แชมป์เสียงเบาเหมือนคนมีความผิด  เอ่อ..หรือมันกำลังจะพยายามทำตัวป็นซ่าซา   ความผิดติดตัวฉัน...
   “อือ”  สั้นไปไหมเพื่อนกู?  แถมมันยังไม่ยอมมองหน้าไอ้นุอีก  เกิดอะไรขึ้นกับพวกมันวะ  พอได้ยินคำตอบมหากุดไร้เยื่อใยของไอ้แชปม์   หน้าไอ้นุมันก็แทบจะหดเหลือสองนิ้ว  จ๋อยสนิทเลยเพื่อนกู   ผมหันไปมองหน้าไอ้อ้นอย่างต้องการคำตอบ  มันกลับทำหน้าหมางงมาให้  เวร! มึงแย่งกูทำหน้าน้องหมาตอนงงไปแล้ว  จะให้กูทำหน้ายังไงวะ  จะทำหน้าควายงงก็ใช่ที  กูไม่ได้ดำ  และที่สำคัญกูไม่มีเขา  หรือว่ามีแต่เพิ่งจะถอดออกก็ไม่รู้นะครับ

   ห้านาทีผ่านไป   ไอ้นุมันยังไม่ละความพยายามยิ่งกว่าง้อเมียของมัน
   “เอ่อ..หิวน้ำมั้ย”  มึงจะสั่นทำไมไอ้นุ  สู้มันสิโว้ย  ฮุคซ้าย  น่านมันหลบ  มึงก็แย้บขวาเลย
   “ไม่”  ไอ้แชมป์...มานิ่งๆ...แต่ชนะใส

   แล้วความพยายามของนุก็หมดลงครับ   มันถอนใจหายเบาๆ แล้วกลับมาทำหน้าเยี่ยงหมาหงอย  ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่าวะ??  ถ้าทะเลาะกัน  ซัดกันคนละหมัดก็จบแล้ว (แต่ปกติพวกผมไม่นิยมใช้ความรุนแรงครับ  คุยกันมั่ง  มอมเหล้ามั่ง  ตื่นมาก็ลืม)  ผมไม่เคยเห็นไอ้แชมป์มันโกรธเงียบขนาดนี้มากก่อนเลย  ท่าจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาครับ

   พอเลิกสนใจไอ้สองคนนั่นหันกลับไปทำหน้าที่กัปตันที่ดี(ซึ่งนานๆ ทีจะมีสักครั้ง)  ไอ้เวย์ก็แทบอยากจะกระโดดออกจากที่นั่งยิ่งกว่าไฟลนก้น  ไอ้เป้มันทำบ้าอะไรของมันวะ?!   แทนที่จะคุมเกมได้ดีโดยไม่ต้องสั่งเหมือนทุกที  มันกลับไปหันไปมองไอ้เนมทุกสามวิ  สักพักก็วิ่งไปหา  แล้วก็โดนผลักออกมา  ไอ้เวรอ๊ย!  พวกมึงเล่นอะไรกัน  สนามบาสนะเว้ย ไม่ใช่หนังอินเดีย  ไอ้พวกที่เหลือก็ไม่ยอมช่วยกูดูมั่งเลย  นั่งบิ๊วอารมณ์ทำมิวสิกกันอยู่ได้  ฮ่วย!  รู้ว่าคนอย่างกูมันพึ่งพาไม่ค่อยจะได้  ก็อยากจะพึ่งกูกันจริง 
   


   “เฮ้ย! ไอ้เป้ทำเชี่ยไรของมันวะ”  ยังไม่ทันที่ผมจะขอเวลานอก  สัญญาณหมดช่วงแรก (10 นาที) ก็ดังขึ้นพอดี   นับว่าโชคยังพอจะเข้าข้างอยู่บ้างครับ  หันไปดูคะแนน  ตามอยู่ห้าแต้ม   ขอสามคะแนนสักสองลูกก็ทัน  ต้องพึ่งมึงแล้วนะไอ้เนม  ลูกถนัดของมึงน่ะ

   “เป็นอะไรของมึงไอ้เป้  ทำไลน์รวนหมด  มึงเป็นเซนเตอร์นะ  ไปเวียนรอบตัวไอ้เนมทำไม”  พอพวกมันมาถึงผมเปิดฉากทันที   จะให้มัวเอ้อระเหยอยู่ได้ไงล่ะครับ  พักสองนาทีไม่ใช่สองชั่วโมง   ไอ้นุก็ส่งน้ำ  ไอ้แชมป์ก็ส่งผ้า  แม่งทีอย่างนี้ล่ะมาทำงานกันเป็นทีม   ไอ้สองคนที่เหมือนโกรธกันมาแต่ชาติก่อนนหายไปไหนวะ
   “มันไม่ค่อยดีอ่ะพี่”  ไอ้เป้มันหน้าเสียมองไปทางไอ้เนม  อะไรไม่ค่อยดี  กูก็เห็นมันเป็นคนดีนี่หว่า  มีแต่มึงนั่นแหละที่เลว  ไอ้เป้
   “เป็นอะไรวะ  น้องเนม”
   “ป่าวครับ”  มึงปฏิเสธแต่กูเห็นขามึงสั่นจนแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว  ไอ้เป้มันก็คงตาดีเห็นเหมือนกันถึงได้เข้าไปพยุงไว้ 
   “มึงอย่าดื้อ! เจ็บแล้วทำไมไม่บอกกู” ห่วงก็พูดกับมันดีๆ ก็ได้  จะไปตะคอกมันเพื่อ? หรือมึงคิดว่าไอ้ความเจ็บความปวดเนี่ยมันจะพากันกลัวเสียงมึง  จนหนีหายไปเอง -*-

   “....”  ไอ้เนมไม่ตอบ  แต่หันไปมองค้อน  เอ่อ..หรือจะพูดให้ถูก...อาฆาตเพื่อนมัน  ไอ้เป้เอ๊ย  ชีวีมึงจะหาไม่ก็งานนี้แหละวะ
   “ไอ้เป้  ไอ้เนมเป็นอะไร”
   “มันเจ็บ  เอ่อ..เจ็บ..คือ”  ไอ้เป้มันก็อ้ำๆ อึ้งๆ  แถมยังหน้าแดงโดยไม่มีสาเหตุ
   “เชี่ย  พักสองนาทีนะมึง  ไม่ใช่สองชาติ  มีไรก็พูดสิวะ”
   “ผมไม่ได้เป็นอะไร”  มันพูดจบปุ๊บ  ตัวมันทรุดปั๊บ  ปฏิเสธได้เนียนชิบ!  หมาแมวยังมองมึงออกเลยไอ้เนมว่ามึงเจ็บ
   “เงียบเหอะน่า”  ไอ้เป้หันไปดุเพื่อนมันก่อนจะกระซิบให้ผมฟังว่า “ไอ้เนมมันเจ็บก้นอ่ะพี่”  เจ็บก้น??   เชี่ยละมึง!  ผมมองไอ้เป้ตาค้างสลับกับไอ้เนมที่พร้อมใจกันหน้าแดง  แล้วก็ต้องสบถออกมาอย่างห้ามไม่อยู่   
   “บรรลัยล่ะมึง  ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือ”  รู้ว่าวันนี้มีแข่ง  พวกมึงก็ยังจะหักโหม  ไอ้พวกบ้าเอ๊ย  กูไม่ได้ด่ามึงนะไอ้น้องเนม  กูด่าไอ้เชี่ยเป้คนเดียว  กูรู้ว่ามึงปฏิเสธมันไม่ได้เพราะกูเจอกับตัวเองมาแล้ว  ไอ้พวกเซ็นเตอร์นี่มันไม่มีหัวคิดเลยสักคนรึไงวะ   ไม่พอใจอะไรก็ลากขึ้นเตียงตลอด  แม่งเอ๊ย! ทำอะไรไม่คิดถึงสังขารคนอื่นเขามั่ง

   “ไอ้เวย์  เกิดอะไรขึ้นวะ?”  ไอ้นุกับไอ้แชมป์พร้อมใจกันถาม   แล้วต่างคนก็ต่างชะงัก  นี่ถ้ากูไม่รู้  กูต้องนึกว่าพวกมึงงอนกันแน่นอน   แต่พวกมึง..ไม่ความรู้สึกช้ากันไปหน่อยรึไงวะ?
   “ไอ้เนมมัน..เอ่อ..ไม่ค่อยสบาย   ไอ้เป้มึงพามันไปพักไป  เดี๋ยวกูลงเอง”
   “ได้ไงพี่  ปีสามเค้าลงกันครึ่งหลังนะ”  มึงจะยังมาห่วงเรื่องไร้สาระอีก  ทำน้องกูช้ำแล้วยังไม่สำนึก  จบแข่งคราวนี้ถ้ากูไม่รู้เรื่องทั้งหมด  อย่าเรียกกูว่าไอ้เวย์   เรียกกูว่าไอ้คุณเวย์แทน -*-
   “ช่างมันๆ  แข่งกระชับมิตรงานเปิดบ้าน  คิดไรมากมายวะ  พามันไปพักไป”  ไอ้เป้พยักหน้าแล้วพยุงไอ้เนมออกไปนั่งข้างสนามทันที  เสร็จแล้วมันก็ลุกไปหยิบผ้ามาซับเหงื่อ   ป้อนน้ำให้คนเจ็บ   แน่นอนว่าคนดื้ออย่างไอ้เนมมันต้องไม่ยอม  แต่ไอ้เป้มันเก่งกว่าครับ  บังคับให้อีกคนยอมจนได้   พอเห็นว่าศึกจิ้งจอกกับลิงซึ่งลิงเป็นฝ่ายชนะจบลงแล้ว  ผมก็หันมาหาพวกที่เหลือ  ทุกคนยืนรวมกันอยู่ข้างสนามยกเว้น... ‘มัน’ ยังนั่งมองไปข้างนอกโดยที่ผมไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

   “ไอ้นุ  มึงลงไปกับกูหน่อย”   แม่งว่าแต่เด็กมันสภาพกูก็ใช่ว่าจะพร้อม
   “อ้าว  ทำไมหวยมาออกที่กูล่ะ  ตำแหน่งไอ้เป้ให้ไอ้ไนท์มันลงสิ”  เวรแท้   มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอว่าพวกมันเล่นเป็นเซ็นเตอร์เหมือนกัน  ถ้ากูบอกให้มันลงไปเล่นกับกูได้  กูทำไปแล้ว  กูจะมาขอให้มึงลงเพื่อ?  ช่วยสะกิดใจสักนิดได้ไหมวะ?
   “เอ่อ...”

   ปรี๊ดดดด 
   “หมดเวลาแล้วมึง  ไปๆ ทั้งคู่นั่นแหละ”  พูดจบมันเดินไปลากไอ้ไนท์มา  เสร็จแล้วก็จัดการผลักพวกผมออกไปแบบไม่ฟังคำค้านใดๆ ทั้งสิ้น  สรุปกูถูกปลดกลางอาการศ  ตอนนี้มึงเป็นกัปตันแทนใช่ไหมวะ?   ไอ้ไนท์มันยังคงไม่พูดอะไร...แม้แต่คำเดียว  มันไม่พูดแต่ก็ไม่ปฏิเสธ  ปากที่เคยยิ้ม  เคยกวนโมโหกลับเม้มสนิทเป็นเส้นตรง  มันไม่โมโห  ไม่ตะคอก  ไม่ใช้กำลังบังคับแต่ก็ไม่ขอร้อง   มันเฉยเสียจนน่ากลัว


   เปิดเกมส์มาได้ไม่ถึงสามนาที  แต้มที่ตามอยู่หกแต้มจาก 21 : 27  กลับกลายเป็น 30 : 27 อย่างรวดเร็วเพราะไอ้คนไม่พูดไม่จามันเล่นสามคะแนนไปสามลูกรวด  อีกฝ่ายก็เลยขอเปลี่ยนตัวเอาปีสามที่ตัวโคตรโตมาลงบ้าง  ที่สำคัญลงมาประกบผม   ไอ้ไนท์โน้นมันตัวทำแต้มจะส่งมาประกบกูเพื่อ??  และแล้วความสงสัยของผมก็ได้รับคำตอบในเวลาหลังจากนั้นไม่นานครับ
   “อึ่ก!!”  ไอ้เบอร์สิบที่ลงมาใหม่มันทำเนียนเหยียบเท้าผมเต็มแรง  แถมยังมองหน้าหาเรื่องแบบไม่มีทีท่าจะว่าสำนึกผิกสักนิด  ไอ้เชี่ยเอ๊ย!  ส่งไอ้เวรนี่มาตัดกำลังกูนี่เอง

   ผมยังใจเย็นพอที่จะไม่หลงกับการยั่วยุของอีกฝ่าย  แต่แม่งเอ๊ย!  คนอะไรหน้าตากวนตีนชิบ (ไหนมึงบอกไม่หลงไง)  หลังจากตัดบอลกันไปมาอีกพักใหญ่  แต้มแต่ละแต้มกลับอืดอย่างไม่น่าเชื่อ  และในที่สุดบอลก็มาถึงมือผมครับ  ผมฉีกตัวออกมาทางซ้ายและพบว่าทางโล่งพอดี  หวานกูล่ะสิ  ผมกระโดดเตรียมจะชู้ต  แต่...

   “โอ๊ย!!”  เชี่ยเอ๊ยเต็มท้องกูเลย  ไอ้เบอร์สิบมันกระโดดกันโดยที่ตัวมันยกเข่าขึ้นมากระแทกเต็มท้องผม  ลูกบาสหลุดจากมือโดยอัติโนมัติพร้อมกับร่างที่หล่นลงมากระแทกพื้น  แม่งเอ๊ย  จุกชิบหาย!  ทำไมมึงไม่ทำเบาะรองบนสนามให้กูวะ?
   “ไอ้เวย์!!”  เสียงคนที่เงียบไปนานตะโกนอย่างร้อนรน   ในที่สุดมันก็ยอมพูดแล้วครับ  ผมอยากจะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออก  ตอนนี้หน้าผมมันคงตลกพิลึก  มันจะเป็นสีม่วง หรือเขียวหรือสีแดงวะ  ฮ่าๆ  หรือไม่อีกทีก็คงบูดๆ เบี้ยวๆ ละมั้งครับ

   “มึงโดนกี่ครั้งแล้ว”  ไอ้ไนท์วิ่งมาถึงตัวผมเป็นคนแรกแล้วช้อนตัวผมขึ้นไว้บนตักมัน  ว่าแต่มึงทำสัญญาณขอเวลานอกแล้วใช่ไหม?
   “ค่ะ..ครั้งเดียว”  แรงจะอ้าปากพูดแทบจะไม่มีครับ  ทั้งจุกทั้งเจ็บจนบอกไม่ถูก  แม่งเอ๊ย  อย่าให้กูลุกไปได้นะมึงไอ้โย่งเบอร์สิบ  กูจะเนียนเอาคืนมึงให้สาแก่ใจเลย

   “อย่ามาโกหกกู”  มันดุทันทีที่ผมพูดจบ   ผมเงยหน้ามองมันก็เห็นแววตาบางอย่างที่ห่างหายไปนาน   แววตาที่แสนคิดถึง  ความห่วงใยที่ส่งมานั้นเหมือนสายใยบางๆ แต่เหนียวเกินกว่าที่ผมจะตัดขาด   มึงช่วยใจร้ายกับกูหน่อยได้ไหม  อย่าใจดีกับกู  อย่ามาห่วงกูเลย

รักในใจ เก็บมันเอาไว้เรื่อยมา เพียงแค่มองในตาเธออาจจะพอเข้าใจ
รักที่ใครบางคน ต้องทนเก็บไว้ข้างใน ไม่อาจจะเปิดเผยไป ให้ใครได้รู้

   “แค่สอง  กูยังไหว”  ผมสูดหายใจลึกๆ แล้วพยายามยันตัวออกมา  อยู่ใกล้มัมากเกินไปในเวลานี้ไม่ได้  หัวใจผมยังไม่แข็งแรงพอ  ผมรู้ตัวดี  ความรู้สึกที่สะสมมาหลายปีใช่ว่ามันจะลบออกไปได้ในเวลาวันเดียว
   “มึงจะรอให้มีครั้งที่สาม??   ออกไปซะ”  มันส่งสายตาดุๆ มาให้  มึงห่วงกูตามประสาเพื่อนใช่ไหม  ถ้าอย่างนั้นกูก็ควรจะยิ้มแล้วขอบใจมึงสิ  แต่ทำไม..กูถึงได้อยากปฏิเสธมึงนัก
   “กูจะเล่น”   อย่ามายุ่งกับกูเลย  อย่าสนใจกูให้มาก  กูจะเจ็บตัวเจ็บใจแค่ไหน  มึงแค่มองอยู่ห่างๆ ก็พอ  ไม่ต้องเข้ามาช่วยกู   ในเมื่อกูทำตัวกูเองก็ปล่อยให้กูยืนขึ้นด้วยตัวเองเถอะ

ฉันจึงต้องทำเป็นเฉยชา กลัวซักวันเธอรู้ว่าฉันรักเธอตลอดมา
และเธอเกิดจะบอกลากันไป

     
   “ออกไป  ให้ไอ้นุเล่นแทน” มันยังยืนยันคำเดิม
   “ไม่เอา  มันเล่นแรง  เดี๋ยวไอ้นุมันเจ็บ”  ผมเจ็บของผมคนเดียวก็พอ  จะให้คนอื่นมาช่วยเจ็บทำไม  แล้วอีกอย่าง...ไอ้โย่งเบอร์สิบ  กูยังไม่ได้ชำระความกับมึงตัวต่อตัว  มึงอย่าคิดว่ามึงเนียนเป็นคนเดียว  เดี๋ยวมึงจะได้เจอตัวเนียนขั้นเทพอย่างกู

   “แล้วตัวมึงล่ะ”  ก็บอกแล้วไงว่าตัวของกูเอง  ไม่ต้องให้ใครมาห่วง  ไม่ต้องให้ใครมายุ่ง   กูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น   ขีดจำกัดมันอยู่แค่ไหน  กูยังทนได้อีกเท่าไร  กูย่อมรู้ตัวเองดี  ไม่ต้องให้มึงมาเป็นกังวล
   “ช่างกู” 
   “ดื้อชิบ” มันสบถแล้วอุ้มผมขึ้นพาออกนอกสนามโดยไม่สนใจสายตาใคร  ไม่สนเสียงร้องห้ามของผม  ไม่สนแม้กระทั่งว่าเกมส์จะเป็นยังไงต่อไป  มึงกำลังทำให้กูหวั่นไหว  กำลังทำให้กูอ่อนแออีกแล้วนะ  มึงรู้ตัวไหมว่ามึงกำลังทำให้ความอดทนของกูมันถึงขีดจำกัด

แต่ต้องเก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย
สุดท้ายไม่มีค่าใด จะทำให้เธอเห็นใจ จะทำให้เธอสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป
เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม

   
   “ไอ้เวย์/พี่เวย์!!  เป็นไงมั่ง”  ทันทีที่ออกจากสนาม  พวกที่เหลือก็พากันมาล้อมหน้าล้อมหลังผมเหมือนลูกลิงเวลาแม่มันหากล้วยมาให้   กรรมการหยุดเกมส์ให้ชั่วคราวอย่างที่ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนไปขอไว้  อาจจะเป็นพวกวิดวะละมั้งครับ  คิดในแง่ดีไว้

   “เวย์!!  เป็นอะไรมากมั้ย??”  เสียงร้อนรนของคนที่ไม่น่าจะอยู่ตรงนี้กลับดังขึ้นเรียกความสนใจผมไปได้หมด  พี่นัทมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
   “ไม่เป็นไรครับ  พี่มานี่ได้ยังไง”  ผมถามทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคน  อ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
   “มาดูนายแข่งตั้งแต่แรกแล้ว”  แกพูดยิ้มๆ  แต่ก็ยังมองผมอย่างห่วงใย
   “เหรอครับ  ไนท์วางกูลง   แล้วมึงเข้าไปแข่งต่อ” ผมพูดเสียงเรียบ  มันจะรู้ไหมกว่าผมจะใช้เสียงแบบนี้พูดกับมันได้  ผมต้องใช้ความพยายามเท่าไร
   “ไม่” มันปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิด  แล้วทำท่าจะพาผมเดินออกไปจากสนาม  อย่าพากูไปเลย  ถ้ามึงจะพากูไปทิ้งไว้ในที่เดิมๆ  สู้มึงปล่อยกูให้เจ็บอยู่ตรงนี้ดีกว่า  เพราะอยู่ตรงนี้...กูยังพอหาทางออกได้ถ้ากูหาย  แต่ถ้ามึงพากูไป...ต่อให้กูแข็งแรงดีแค่ไหน  กูก็คงจะหลงทาง  หาทางออกไม่ได้อยู่อย่างนั้น

เหมือนในใจ จะมีเส้นใยบางๆ ที่คอยจะเข้ามาบัง กันขวางระหว่างสองใจ
จะทำให้เราเจอกัน แต่จะรักกันไม่ได้ ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจดวงนี้

   “ไอ้นุมึงเข้าไปแทนกูที  เอาไอ้ไนท์ไปด้วย  เขาหยุดเกมส์ให้นานแล้ว  อีกอย่าง..” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมัน  “ที่นี่มีหมออยู่ทั้งคน  กูไม่เป็นไรหรอก”  ผมไม่หลบตามันและมันก็กำลังมองกลับมาอย่างค้นหา  คาดคั้น... ก่อนจะเบือนหน้าหนีไป   
   ในที่สุดมันก็ยอมวางผมลง  แล้วเดินเข้าไปแข่งแต่โดยดีโดยไม่พูดอะไรสักคำ  มึงทำถูกแล้วล่ะ  ทิ้งกูไว้ที่นี่แหละ  ในที่ๆ ยังสว่างแบบนี้   ขอบใจว่ะ

   “มีเรื่องอะไรกันวะ” ไอ้นุมันถามเสียงเครียด  ก็ไม่มีอะไรนี่  แค่กู...กำลังจะตายเท่านั้นเอง
   “เปล่า  ไปสิวะ  เอาให้ชนะนะมึง”  ผมยิ้มแล้วชูกำปั้นให้มัน  เอาให้ชนะนะมึง  ไอ้นุ   อย่าแพ้..เหมือนกู

ฉันจึงต้องทำเป็นเฉยชา กลัวซักวันเธอรู้ว่าฉันรักเธอตลอดมา
และเธอเกิดจะบอกลากันไป


   ถ้าขืนผมยังอยู่ใกล้มัน  ยังมองสายตาคู่นั้นของมันต่อไปต่อไป  ไม่ใช่กำแพงของมันหรอกที่จะทลาย  แต่เป็นของผมต่างหาก  กำแพงที่มันเพิ่งเริ่มจะสร้างแถมยังไม่เสร็จดี  จะไปสู้กำแพงที่สร้างมานานอย่างนั้นได้ยังไง  สุดท้ายแล้ว...มันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก   ผมจะต้อง...กลับมาเป็นคนเลื่อนลอย   ไม่มีที่อยู่และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอยู่ตรงนั้นไปทำไม

แต่จะเก็บต่อไปได้นานแค่ไหน รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย
สุดท้ายไม่มีค่าใด จะทำให้เธอเห็นใจ จะทำให้เธอสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป
เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม

และหากว่าในเส้นใยบางๆได้จางลงไป คงถึงวันที่ใจสองใจ ได้รักกันซักที




--------------------------------------
กราบคาราวะงามๆ ให้คนที่ยังติดตาม ^o^
ขอบคุณมากนะเจ้าค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: 111_1 ที่ 23-05-2009 14:21:16
 :เฮ้อ:


         ทำไมยังไม่เข้าใจกันเสียที


               เจ็บทั้งคู่  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 23-05-2009 14:30:51
เจ็บปวดอ่ะ
ยิ่งเปิดเพลงคลอ

ไม่ไหวแระ ... เมื่อไหร่ ไอ้เส้นใยนี่ จะหมดไปซะที

..... ถ้าเวย์ ลองถาม ไนท์ไปตรงๆอีกสักครั้ง ...... จะได้คำตอบมั้ยน๊า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pton33 ที่ 23-05-2009 15:58:54
 :เฮ้อ:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกสนาน แต่ตอนนี้เริ่มจะเศร้าเคล้าน้ำตาแล้วค่ะ
 :L2: ให้ไรเตอร์ค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 23-05-2009 16:11:09
เศร้า สงสารเวย์   :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-05-2009 17:19:48
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก  :เฮ้อ:

 :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 23-05-2009 18:45:47
ยิ่งอ่านยิ่งเครียดด    :m15:

เหนื่อยเลยยอ่านตอนนี้้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 23-05-2009 19:47:55
มะไหร่จะพูดกันตรงๆ เนี่ย
ไนท์อมพะนำไรอยู่ได้
เวย์ก็เกิดจะมาถอดใจเอาดื้อๆ
 :เฮ้อ:


ไปลุ้นไอน้องเป้กะน้องเนม
ไอ้พี่นุกะพี่แชมป์ดีฝ่า
 :m16:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 23-05-2009 20:57:55
จากใจคนรอ มา ถึง เส้นใยบาง ๆ กำลังคิดว่า ถ้าเวย์ไม่รออีกต่อ อะไรจะเกิดขึ้น  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 23-05-2009 21:10:02
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 23-05-2009 21:14:27
ถามว่าเศร้ามั้ย??


เศร้าเว่อออออออ

 :o12:

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 23-05-2009 21:40:09
 :monkeysad: ที่เห็นไนท์กับเวย์ยังไม่เข้าใจกัน และเศร้าแทนเนมที่เจ็บก้น
เอ มันชักจะหลายคู่แล้วนะเนี่ย แชมป์กับนุก็แปลกๆ แต่ว่านุมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ
เวย์กับไนท์เศร้าไปใหญ่และ เป้กะเนมจะมีอะไรร้อนแรงมาคั่นบ้างมั้ยน้า  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 24-05-2009 00:01:09
แปลกนะครับเพียงแค่ได้พูดมันออกไป คำที่มันง่ายๆ แต่ไม่รูทำไมมันถึงพูดไม่ได้ แต่กลับต้องเก็บไว้ จนมันเอ่อล้นใจ ....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Pupa ที่ 24-05-2009 01:38:57
-*-' เข้ามาทำหน้าที่ เจ๊ดัน ที่ดี หุหุหุหุ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 24-05-2009 10:15:34
เครียดๆพี่นุ่น

 :z6:ไนท์ซะเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 24-05-2009 10:37:32
เอ่อ...มะรู้จะว่างัยดี...

ขอค้อนมาทุบกำแพงทีได้มั๊ย...

จะได้เปิดใจกันได้ซะที  :z3:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 24-05-2009 10:54:43
ทำไม  อะ  ยังเรียก   ว่าเพื่อนงงเลย 


ไนท์      อะ  ใจร้ายยย

เวย์   คบเพ่หมอเลยยยย   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 24-05-2009 14:51:40
แล้วก็ยังไม่คุยกันอีก อ่ะ


เมื่อไหร่เนี่ยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: eric ที่ 24-05-2009 21:50:47
 :sad11:

เข้าใจหัวอกเวย์ครับ บางทีตัดใจเสียมันก็ยังจะเ็จ็บน้อยกว่าที่จะปล่อยให้เรื้อรังต่อไป ผมก็เพิ่งจะบอกตัดสัมพันธ์(ไม่รู้ว่าสำหรับเขามันหมดไปแล้วหรือยัง หรือว่าแม้แต่หมดไปนานแล้วผมก็ไม่แน่ใจ แต่สำหรับผม เพิ่งจะตาสว่างว่าควรจะปล่อยมันไปเสียที แม้จะผูกพันธ์กันมานานกว่าสิบปีก็ตาม) ยอมรับครับว่าตัดยาก และก็หวังเพียงแต่ว่ามันจะไม่หวนคืนมาให้ช้ำใจอีก บางครั้งก็รู้สึกเสียดายเวลา เนื่องจากมันก็ระหองระแหงมานานแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้มองคนอื่น ฝังใจอยู่กับคนๆเดียว แต่ท้ายที่สุด เขาอาจจะมีคนอื่นแล้ว แต่เราต้องมาเดียวดาย เศร้านะครับ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 25-05-2009 04:40:08
 :m16:

 :z6: ไนท์

สงสารเวย์อ่าาาาา :sad4:

รออ่านต่ออยู่นะฮะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 27-05-2009 20:04:27
 :z13:

หายไปไหนเอ่ยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 27-05-2009 22:08:19

บทที่ 20  leave out all the rest (ครึ่งแรก)

[Way’s talk]

   “ป่ะ  กินเหล้าแก้แพ้กันเว้ย”   ผมฉีกยิ้มร่าเดินไปหาพวกที่เพิ่งผ่านพ้นมรสุมในสนาม  เอาน่า  แพ้อย่างฉิวเฉียดโดยที่กัปตันอย่างผมไม่ลงด้วย  มันก็ไม่เสียหายอะไรเท่าไรหรอก  แต่มึง...ไอ้เบอร์สิบ   มึงอย่าออกจากบ้านนะเว้ย  กูกลัวตัวเองจะกลายเป็นสโตรกเกอร์ไปดักรอตีหัวมึง  กูมันพวกแค้นฝังลึกซะด้วย

   “โหยพี่ผม  ช่างประเสริฐแท้  เหล้าแก้แพ้เนี่ยนะพี่??”  เออสิวะ  ไอ้เป้  นี่กูคิดผิดนะเนี่ย  ไม่ใช่สิ  ต้องบอกว่ากูคิดได้ช้าไปหน่อย  น่าจะพาพวกมึงไปอาบเหล้ากันซะก่อน  จะได้ไม่แพ้ (เพราะเหล้าแก้แพ้ครับ -*-)  พวกคุณอาจจะงงว่าอยู่ๆ ผมฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่า  กระดูกหน้าอกหักดังเปราะได้ยังไงรวดเร็วนัก   ไม่ยากครับสำหรับใครก็ตามที่กำลังอกหัก  รักคุด  ตุ๊ดแย่งแฟน  ผมมีวิธีง่ายๆ แต่อาจจะหาตัวช่วยได้ยากนิดนึงมาฝาก  นั่นคือ...หาคนที่มันเครียดกว่า  เศร้ากว่า  ชีวิตมืดมนกว่า  เราก็จะรู้สึกว่า...อนิจจัง  ทุขขัง  อนัตตา  เพื่อนเศร้ากว่า  กูทำใจ
   และในกรณีของผม ...ตัวช่วยอย่างดีก็ไอ้นุไงครับ  แค่ฟังปัญหาระดับชาติของมัน  ผู้ช่วยคกม. (คนกลัวเมีย) อย่างผมก็ถึงขั้นต้องพับเก็บปัญหาของตัวเองไว้เป็นการชั่วคราว  

   “ก็เออสิวะ  หรือมึงจะไม่ไปล่ะ”  ถามไปงั้นเองครับ  ผมรู้ดีอยู่แก่ใจเลยว่าหน้าอย่างมันไม่มีหรอกวิ่งหนีเหล้า  มีแต่จะรีบกระโดดกอดล่ะสิไม่ว่า
   “เหอะ  อย่าหวังเลยพี่ว่าอย่างผมจะพลาด”   นั่นไง  ชัดเลย -*-
   “สาด  แล้วทำมาเป็นเถียงกู”  ผมตบเกรียนมันไปทีหนึ่งโทษฐานกวนไม่ดูเวลา  ไอ้นุมันยังนั่งมองไอ้แชมป์นิ่งๆ   ผมก็ไม่รู้จะช่วยพวกมันยังไงครับ  มันไม่ใช่แค่ปัญหาของคนสองคน  แต่ยังรวมไอ้ส้ม  และบางทีอาจจะไอ้หยกเข้าไปด้วย  
   ผมอยากบอกให้พวกมันลืมเรื่องคืนนั้นไปแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม  แต่ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย  รู้ดีเลยล่ะครับว่าไอ้การพยายามจะลืมอะไรสักอย่างมันยากขนาดไหน   ใครอาจมองว่ามันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน   ก็แค่พวกมันเมา  ไม่ได้สติ  แต่สำหรับผมมันไม่ใช่   ผมว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น   ไม่อย่างนั้นไอ้นุมันไม่มานั่งนอยด์  หงอยขนาดนี้หรอกครับ


   “ยังเจ็บอยู่ไหม”  เสียงคนที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไรทำเอาผมสะดุ้งเฮือก  มือมันอ้อมมาจับหน้าท้องผมไว้อย่างเบามือ   มึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอวะว่าอย่ามายุ่งกับกูตอนนี้  ขอเวลาให้กูทำใจสักพักได้ไหม  กูเพิ่งออกจากโหมดซึมเศร้ามาหยกๆ  อย่าเพิ่งลากกูกลับไปเลย  ขอเวลากูสร้างภูมิคุ้มกันอีกนิดนึง  แค่นิดเดียวเท่านั้น

   “หา...เอ่อ  ไม่  ไม่เจ็บ  แล้วมึง...”   แล้วมึง..จะปล่อยกูได้หรือยัง??  ยังไม่ทันได้เอ่ยให้จบประโยคมันก็เป็นคนขยับตัวออกไปเสียก่อน  ไม่รู้จะบอกว่าโล่งใจหรือใจหายดีนะครับ  อยู่ๆ ก็เข้ามาเหมือนจะกอดผมไว้  แล้วก็ตีตัวออกไป  ฮ่าๆ  มันเป็นแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ  มึงเพิ่งจะเข้าใจหรือไง  นี่ไม่ใช่หรือไงเหตุผลที่ทำให้มึงตัดใจน่ะ  ไอ้คุณเวย์  ฮ่าๆๆ  เฮ้อออ

   “กู..ทำไม”  มันจับตัวผมหันไปเผชิญหน้ากับมัน  เอาอีกแล้วนะมึง  มองกูด้วยสายตาแบบนี้อีกแล้ว  สายตาเหมือนวันนั้น...ที่หลุมศพน้าภา   ที่มึงรับหน้าเช็ดหน้าเลอะๆ จากกู  ทั้งๆ ที่มันน่าจะเรียกว่าผ้าขี้ริ้วมากกว่า  มึงก็ยังรับไป  แทนที่จะโมโหมึงกลับยิ้มให้กู  ไอ้บ้าไนท์  กูไม่น่าพกผ้าเช็ดหน้าไปเลย  บางที...สิ่งที่เชื่อมโยงทุกอย่างมันอาจจะมาจากผ้าผืนเดียวก็ได้  มึงว่าไหม?  แต่..มึงคงจำไม่ได้หรอกมั้ง  มันผ่านมาตั้งนานแล้วนี่

   “เปล่า  เอ้านี่! เช็ดเหงื่อสิวะ  ยืนให้มันหยดอยู่ได้”  ผมยื่นผ้าขนหนูให้มัน  แถมยังลืมดูด้วยว่าไอ้ผ้าผืนนั้นน่ะ  เพิ่งจะเอาเช็ดเหงื่อตัวเองไป  โง่หรือโง่ว่ะเนี่ยกู  แต่มันกลับยิ้มให้ผมแล้วยื่นมือมารับไปเช็ดหน้าตัวเองอย่างไม่รังเกียจ...ไม่ต่างจากตอนนั้น

   “มึงพูดเหมือนวันนั้นเลยนะ  แทนที่จะให้กูเช็ดน้ำตา  เสือกบอกให้กูเช็ดเหงื่อ”
   “ฟาย  ก็มึงไม่ได้ร้องไห้  เอ๊ะ!  เอ่อ...”   มันจำได้!!  ผมแทบไม่อยากเชื่อแต่พอเงยหน้าไปสบตากับมันก็พบกับสายตาจริงจัง  อบอุ่น  ทั้งที่มันไม่น่าจะมองผมด้วยสายตาแบบนี้ได้อีก  ก็ในเมื่อผมขัดใจมันสารพัด  แถมยัง...เป็นคนเดินออกมาจากที่ตรงนั้น  เป็นคนถอยออกมาเองแท้ๆ  แล้วทำไมไม่โกรธล่ะ   ทำไมยังทำท่าใจดีแบบนั้นได้อีก  ทำไม??  มันไม่ใช่ตัวมึงเลยนะไอ้ไนท์  ไม่ใช่ตัวมึงเลย

   “ไอ้หมอไปไหนซะล่ะ”  อยู่ๆ มันก็เปลี่ยนเรื่องครับ  ผมเห็นความไม่มั่นคงในดวงตาคู่นั้น  นี่ผมกำลังทำตัวน้ำเน่าอยู่ใช่ไหมถึงได้ตาฝาดเห็นอะไรบ้าๆ บอๆ แบบนั้น   จริงๆ แล้วมันคงเป็นแค่สิ่งที่ผมอย่างเห็นเท่านั้น...ใช่ไหม  มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงหรอก

   “กลับไปแล้ว”    อ่า..จริงสิ  กลับไปแล้วพร้อมกับคำพูดบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะพูด  คำพูดที่ทำให้ผมได้คิด   แต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอกับการให้อภัยใครสักคน  กับการทำตามใจตัวเอง  กับการ...เผชิญหน้ากับความจริง  ผมจะไม่เสียใจอย่างที่เขาบอกจริงๆ น่ะเหรอ  ผมในตอนนี้น่ะ...กลัวเกินกว่าจะย้อนกลับไปแล้ว
   

   “เอ้า!  ไหนจะไปกินเหล้า  ยืนพลอดรักอะไรกันอีกล่ะพี่”   ไอ้เป้!!  ไอ้พ่อเจ้าประคุณทูนหัวของกู  ผัวะ!!  เว่อร์ไปแล้วกู  แต่อยากจะไปลากมึงมากอดสักทีจริงๆ  ขัดจังหวะกูได้ถูกจังหวะชะมัด (มันยังไงกันครับ)  ขอบใจมากไอ้น้อง  กูยังไม่อยากจะจมบ่อน้ำเน่าตายตอนนี้  มึงก็มาดึงกูไว้ได้ทันเวลาพอดี  ต่อไปกูสัญญาว่าจะไม่อาฆาต  ไม่ดุด่ามึงแล้ว

   “ไอ้สัดเป้  เดี๋ยวมึงไม่ต้องไปนะ  โทษฐานทำให้เซ็นเตอร์กูเจ็บตัว”  แล้วผมก็ผิดสัญญาในทันที  เออ..คนดีของสังคมจริงๆ   มึงช่วยกูเสร็จปุ๊บ  กูไล่มึงปั๊บ  มึงคงจะรักกูมากเลยสินะ
   “โหยยย  แล้วมาลงที่ผม  ที่จริงคนผิดมันคือพี่นะ  พี่เวย์”  อ้าว! ดูมันย้อนครับ  หรือมันจะรู้วะว่าผมสัญญาอะไรไว้ในใจแล้วก็ผิดสัญญา -*-   ถึงมันจะดูเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่กรุณาเตรียมใจเชื่อไว้บ้างนะครับ  เพราะมันรู้เรื่องที่ไม่ควรจะรู้มาหลายเรื่องแล้ว  ไอ้นี่น่ะ

   “อะไร  กูผิดอะไร”  ถ้ามึงตอบถูกนะ  กูจะไม่คุยกับมึงอีกเลย  กูหลอนว่ะ (เริ่มยัดเหยียดเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่คนให้มันครับ)
   “อ้าว  ก็ผิดที่ทำให้เฮียผมไม่มีสมาธิเล่นอ่ะดิ  หรือพี่จะเถียง”   อึ่ก!! ฟังคำตอบมันแล้วก็แทบสะอึก  มึงไม่รู้ก็จริง  แต่ยิงมาทีกูล่ะอยากลาตาย
   “กู..กู..เกี่ยวอะไรกับกูเล่า  สมองมันไม่ได้ผูกติดไว้กับกูนี่หว่า”   มีแต่กูเนี่ยแหละเอาไปผูกติดกับตีนมัน  สบัดทีกูงี้เกือบตาย
   “แต่หัวใจไม่แน่ใช่ไหมเฮีย  ฮ่าๆ”  O.O!!!!  ไอ้สัดเป้  มึง..มึง กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามึงแล้ว  เชี่ยเอ๊ย  แซวไม่ได้ดูสถานการณ์บ้านเมืองเลย  ฝ่านค้านอย่างกูใกล้จะแพ้เต็มที่แล้วเนี่ย  มึงยังจะมาช่วยซ้ำอีก  แม่ง  มึงรับใต้โต๊ะรึเปล่าวะ  ไอ้เลวเอ๊ย

   “ไอ้เชี่ยเป้  มึง...มึงตาย”  งานนี้อย่าหวังว่ามึงจะรอดจากตีนกูเลย  ไอ้น้องเนม...ถ้ากูทำให้มึงเป็นม่ายก็ต้องขอโทษด้วยนะเว้ย  กูทนไม่ไหวแล้ว

   “เดี๋ยว!  จะไปไหน”  อ๊ากก  ใครดึงคอเสื้อกู  ปล่อยสิเว้ย  ไอ้เป้มันหนีไปแล้ว  ฮึ่ม!!
   “ไปฆ่าไอ้เป้”  ผมพูดเสียงดังเป็นการขู่ไอ้คนที่วิ่งหนีไปในตัว  แล้วดูมันสิครับ  ไอ้เป้มันหันมาเลิกคิ้วทำหน้ากวนตีน  มึง...อย่าให้กูไล่ทันนะ

   “หึ  อันนั้นเอาไว้ให้ไอ้เนมทำเถอะ  ส่วนมึงไปกับกู”  โดยไม่สนใจเลยว่าผมกำลังติดภารกิจทำตัวเป็นนักฆ่า  หรือกำลังจะพยายามอยู่ห่างจากมันให้มากที่สุด  ไอ้ไนท์จัดการลากคอเสื้อผมเดินไปทันที  นี่กูเป็นคนน่ะ  ลากกูอย่างกับหมากับแมว  

   “เฮ้ย! ไม่เอา  กูจะไปกินเหล้า”  เหล้ามันก็แค่ข้ออ้างแต่ที่จริงแล้วคือกูไม่ไปกับมึงโว้ยยย  ไอ้นุมึงกลับมาเล่าเรื่องมึงกับไอ้แชมป์ให้กูฟังอีกที  เอาแบบเศร้า  เครียด  เจียนตายเลยนะมึง  เอาให้เต็มที่  แม่งง...กูไม่อยากไปกับมึงตอนนี้โว้ยยย  กูเพิ่งฟื้นไข้(อกเปราะ) อย่าเพิ่งลากกูออกไปตากแดดตากลม (อยู่กับมันเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวครับ) สิโว้ย

   “รู้แล้วน่า  มึงไม่มีรถมาไม่ใช่เหรอ”
   “เอ่อ..กูจะไปกับไอ้ชิน”   เออ..ก็จริง  เมื่อเช้าผมมากับมันนี่ครับ  นั่งบิ๊วอารมณ์ในรถมันมาเลย  แล้วขากลับนี่มันจะยังลากผมกลับไปบิ๊วอีกรอบเพื่อ??  ไม่เอาแล้วครับ  แค่ขามาขาเดียว  ทำเอาผมเหี่ยวไปเยอะแล้ว  เพิ่งจะรดน้ำได้ไม่เท่าไร  มันก็จะลากผมกลับไปเหี่ยวอีกรอบ  ไม่ดีมั้งครับ  ผมไม่อยากออกอาการให้คนอื่นเห็นเหมือนเมื่อกลางวัน  มันไม่ใช่ตัวผมเลยที่จะต้องให้ใครมาห่วง

   “รถมันเต็ม” มันตอบนิ่งๆ
   “ฮ่ะ..เฮ้ยยย  มึงรู้ได้ยังงาย”   เดี๋ยวก่อนสิวะ  รถมันจะเต็มหรือไม่เต็มมันไม่ใช่ประเด็นเว้ย  ว่าแต่ว่ามึงไปรู้เขาได้ยังงายยย  ไอ้เป้มันสอนมึงมาเรอะ??

................................................


   “วันนี้มึงเป็นอะไร”   ขอกูนั่งชื่นชมรถมึงสักพักได้ไหม  นั่งปุ๊บมึงก็ยิงคำถามใส่กูเลย  ดีนะเนี่ยหลบทัน  ไม่ทะลุจุดสำคัญ -*-   ขอผมทำตัวฮาบ้างสิครับ  ไอ้บรรยากาศมันก็เครียดพอแล้ว  ถ้าผมยังเอาสมองไปจมอยู่กับมันอีก  มีหวังไหลไปตามบรรยากาศที่ไอ้คนข้างๆ มันเป็นคนก่อแน่ๆ

   “หะ...กู...ก็ไม่ได้เป็นอะไร”  เห็นไหมครับ  แป๊บเดียว  สมองผมมันเริ่มสะดุดแล้ว  ไม่เอานะมึง  ไม่เศร้าแล้วนะเว้ย  เลิกคิด  เลิกอาวรณ์บ้าบอซะที  มึงตัดสินใจแล้วก็ลุยไปเลย
   “อย่าโกหกกู”  ก็ถ้ามึงรู้ว่ากูจะตอบอย่างนี้  จะบังคับให้กูต้องโกหกมึงทำไม  กูเป็นอะไรมึงก็รู้ดีอยู่แก่ใจนี่หว่า  จะถามให้กูต้องคิดอีกทำไม  กูไม่อยากบ้าแล้วนะเว้ย  ไม่เอาแล้ว  

   “ไม่ได้โกหก”  มันก็ถูกของพี่นะครับพี่หมอ  คนที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่น่ะมันคือตัวผมเองทั้งนั้น  เพราะผมเศร้าก็เลยดึงดูดแต่เรื่องเศร้าๆ  คิดแต่เรื่องที่จะกดดันให้ความรู้สึกของผมมันแย่ลงเรื่อยๆ  แค่ผมทำใจให้สบายเท่านั้นเอง  แค่ผม...เลือกเก็บแต่ดอกไม้  เลือกจำแต่ช่วงเวลาที่ดี  ผมก็จะยังยืนอยู่ข้างมันได้เหมือนเมื่อก่อนโดยที่ไม่ต้องทรมาณ   พูดง่าย..แต่ทำยากนะครับ  

   “กูไม่เคยบอกมึงเหรอว่ามึงชอบหลบตาเวลาพูดโกหก  แล้วมึงก็กำลังทำอยู่”  มือข้างหนึ่งของมันจับพวงมาลัยหมุนด้วยท่าทางสบายๆ ไม่เข้ากับหน้าตา  ส่วนอีกมือพาดกับขอบประตูรถแบบไม่กลัวเสียแขน  โชคดีนะครับที่เราเปลี่ยนไปเลี้ยงที่ร้านเฮียต้า  แทนที่จะไปบ้านไอ้ชิน  ไม่งั้นโอกาศเสียเจออุบัติเหตุทางรถชนของผมมันคงจะมีมากขึ้น

   “.....”  
   “ตกลงเป็นอะไร”  มันยังคงรักษาคอนเซ็ปไว้ได้อย่างเหนียวแน่น  ตกลงเป็นอะไรงั้นเหรอ??  ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนักหรอก  จะว่าอารมณ์แปรปรวนเหมือนคนวัยทองก็ไม่น่าจะใช่  ในเมื่ออายุผมเพิ่งจะเลขสอง  แต่ถ้าจะให้ตอบจริงๆ  มันก็คงมีเหตุผลเดียวล่ะมั้ง  เหตุผลเดียวที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้

   “ก็เป็น...เพื่อนมึงนะสิ  ฮ่าๆ  ถามอะไรโง่ๆ”   นี่ล่ะเหตุผล..ข้อเดียว  สั้นๆ แต่สำคัญที่สุด  เพราะกูเป็นเพื่อนมึง  และมึงเป็นเพื่อนกู  แค่นี้แหละที่ทำให้กูเปลี่ยนไป  กูพูดกับมึงตรงๆ แล้วนะ  กูไม่ได้หลบตามึง  ไม่ได้กัดฟันตอบ  แต่กูอยากให้มึงรู้  รู้ว่าตอนนี้กูกำลังพยายามทำอะไร เพราะฉะนั้นมึงช่วยรอกูอีกสักพัก  กูคงแห้งเหี่ยว  ไม่มีแรงแบบนี้ไปอีกไม่นานหรอกว่ะ  มึงอย่าลืมสิว่าเพื่อนมึงคนนี้มันเก่งจะตาย   เก่ง..จนใกล้จะตายแล้ว

   “เพื่อนเหรอ??  หึ”   ก็เออสิวะ  มึงบอกกูเอง
   “ใช  เพื่อน  อย่างเมื่อก่อน...เมื่อสามปีก่อน”  ก่อนที่กูจะยื่นผ้าเน่าๆ ผืนนั้นให้มึง  แล้วก้าวเข้าไปหามึงโดยไม่รู้ตัว  ก่อนที่กูจะคิดล้ำเส้นกับมึง  ก่อนที่ความหลงละเมอชั่วข้ามคืนของมึงจะผูกมัดตัวกูจนแน่นขนาดนี้
   “...งั้นเหรอ”
   “ใช่”


----------------------------

TbC  ตอนหน้าเป็นไนท์ทอล์กนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 27-05-2009 23:34:34
ปากแข็งกันจริงๆ

แบบนี้ต้อง :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 27-05-2009 23:54:24
คิดอะไรก้อพูดออกมากันซิค่ะคุณน้องทั้งสอง

ทำอย่างนี้เจ๊อึดอัดรู้ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยย


อีกครึ่งที่เหลือมาเร็วนะ เจ๊รออยู่  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 28-05-2009 00:03:30
เวย์ดูพยายามที่จะตัดใจซะเหลือเกิน.....แต่ดูเหมือนจะไปไม่รอดนะ
ขนาดไนท์ยังรู้เลยว่าเวย์แปลกไป :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 28-05-2009 00:39:19
แว๊กกกกก ค้างงง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-05-2009 01:30:27
อึดอัดจริงจิ๊งงงงงงงงงง
จะปากแข็งกันไปเพื่อ??
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 28-05-2009 03:35:54


ค้างได้อีก.....
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 28-05-2009 06:08:54
เมื่อไหร่จะเคลียร์กันสักที
มัวแต่อมอะไรกันอยู่ฮึ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: l0nely4ever ที่ 28-05-2009 07:33:01
อึดอัด   :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 28-05-2009 07:44:15
 :z3:

เครียดว๊อยยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 28-05-2009 11:43:12
ทำไมไม่พูดกันตรงๆเลย

มีไรก้อไม่พูดกันหล่ะ


ฮุ๊ย   บ่ดีใจ๋ ฮ่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 28-05-2009 12:04:50
ปากหนักกันจังวะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-05-2009 13:15:48
รอไนท์ทอล์ก  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 28-05-2009 15:59:47
ตอนหน้าขอให้คุยกันด้วยร่างกายไปเลยเด้อ
ก้อภาษาพูดมันไม่เคลียร์สักทีใช่ม้า

 :oo1:

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 28-05-2009 20:20:15
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 28-05-2009 21:26:00


[Night’s talk]

   “ป่ะ  กินเหล้าแก้แพ้กันเว้ย”   ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ใช่ไหมครับว่าไอ้ประโยคปัญญาอ่อนแบบนี้น่ะใครมันจะเป็นคนพูด  มีที่ไหนเหล้าแก้แพ้  แต่ก็เอาเถอะครับเห็นมันยิ้มได้ก็ดีแล้ว  เพราะวันนี้ทั้งวันผมก็ไม่แน่ใจนักว่ามันได้ยิ้มจริงๆ ออกมาบ้างหรือเปล่า   และก็ยังไม่เข้าใจด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้น  หรือบางที..ผมอาจจะแกล้งโง่  แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอยู่ก็ได้
   “โหยพี่ผม  ช่างประเสริฐแท้  เหล้าแก้แพ้เนี่ยนะพี่??” 
   “ก็เออสิวะ  หรือมึงจะไม่ไปล่ะ”
   “เหอะ  อย่าหวังเลยพี่ว่าอย่างผมจะพลาด” 
   “สาด  แล้วทำมาเป็นเถียงกู” ไอ้เวย์มันบ่น  แต่ผมก็เห็นมันแอบยิ้มเมื่อมองเห็นไอ้เป้คว้าไหล่ไอ้เนมมากอดแน่นแล้วยักคิ้วให้อย่างอวดๆ   บางทีเป็นอย่างไอ้เป้นี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ  ถึงแม้ไอ้วิธีการจับเพื่อนมาทำเมียของมันจะไม่ค่อยโสภาเท่าไร  แต่อย่างน้อย...ผมก็เชื่อว่ามันทั้งคู่รู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร   ผมเชื่อว่าคนอย่างไอ้เป้ไม่เคยกลัวที่จะบอกรักใคร   มันกล้าพอจะไขว่คว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจว่าจะต้องเสียอะไรไปบ้าง   ซึ่งมัน...ต่างจากผม...ไม่กล้าแม้แต่จะบอกว่ารัก

   “ยังเจ็บอยู่ไหม”  ผมคงทำได้เท่านี้  บอกมันด้วยการกระทำทุกอย่าง  ซึ่งบางทีมันอาจจะน้อยเกินไป    ไม่พอจะทำให้มันสบายใจเมื่ออยู่ข้างผม   

   “หา...เอ่อ  ไม่  ไม่เจ็บ  แล้วมึง...” 
   “กู..ทำไม”
   “เปล่า  เอ้านี่! เช็ดเหงื่อสิวะ  ยืนให้มันหยดอยู่ได้”  มันยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ผมแล้วทำท่าจะเดินไปทางอื่น  ทำให้ผมจะอดจะรั้งมันไว้ไม่ได้
   “มึงพูดเหมือนวันนั้นเลยนะ  แทนที่จะให้กูเช็ดน้ำตา  เสือกบอกให้กูเช็ดเหงื่อ”
   “ฟาย  ก็มึงไม่ได้ร้องไห้  เอ๊ะ!  เอ่อ...”    ไอ้เวย์มันทำหน้าตกใจมากเมื่อผมพูดแบบนั้น  มันคงไม่คิดว่าผมจะจำได้  ตรงข้ามผมกลับจำได้แม่นยำ   ที่หลุมศพแม่ผม...มันยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไรนอกจากยื่นผ้าเช็ดหน้าเลอะๆ ผืนหนึ่งมาให้แถมยังทำหน้าแดงลังเลว่าจะให้ดีหรือไม่ดี   แต่ผมก็รับไว้ทั้งที่ไม่มีน้ำตาให้ต้องเช็ดเพราะมันเป็นผ้าเช็ดหน้าผืนเดียว...ในตอนนั้น   

   มึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่ากูเสียใจแค่ไหนแล้วทำไม...วันนี้ถึงมองไม่เห็นเสียล่ะ

   “ไอ้หมอไปไหนซะล่ะ”
   “กลับไปแล้ว”    กลับไปแล้ว??  เป็นคำตอบที่ออกจะน่าแปลกใจสำหรับเวลาแบบนี้   แต่กลับทำให้ผมโล่งใจอย่างที่สุด

   
   “เอ้า!  ไหนจะไปกินเหล้า  ยืนพลอดรักอะไรกันอีกล่ะพี่”   
   “ไอ้สัดเป้  เดี๋ยวมึงไม่ต้องไปนะ  โทษฐานทำให้เซ็นเตอร์กูเจ็บตัว”  ไอ้เวย์หันไปแยกเขี้ยวใส่น้องมัน   ที่ไอ้เนมมันต้องเจ็บตัวน่ะ  ไอ้เป้มันมีเหตุผลของมัน  มึงต่างหากที่ไม่รู้  เหตุผลง่ายๆ ก็แค่หวง...   เพราะหวงถึงได้หน้ามืดตามัวจนลืมนึกถึงความรู้สึกอีกคน   ไม่ต่างจากกูเลย

   “โหยยย  แล้วมาลงที่ผม  ที่จริงคนผิดมันคือพี่นะ  พี่เวย์”
   “อะไร  กูผิดอะไร” 
   “อ้าว  ก็ผิดที่ทำให้เฮียผมไม่มีสมาธิเล่นอ่ะดิ  หรือพี่จะเถียง”  มึงก็ดูออกเหรอวะไอ้เป้ว่ากูไม่มีสมาธิ  จะว่าบ้าก็บ้าล่ะครับ   ก็ผมน่ะถ้าไม่หาโอกาสเนียนประเคนศอก  เข่าใส่ไอ้เบอร์สิบ  ก็คอยมองอีกคนที่ข้างสนาม  ทั้งเป็นห่วง  ทั้งหวง  ทั้งไม่พอใจ

   “กู..กู..เกี่ยวอะไรกับกูเล่า  สมองมันไม่ได้ผูกติดไว้กับกูนี่หว่า” มึงนั่นแหละตัวดีเลยไอ้เวย์  ยังมีหน้ามาปฏิเสธ   ถ้าไม่ใช่เพราะมึงเจ็บตัว  ถ้าไม่ใช่เพราะมีไอ้หมอมาวุ่นวายอยู่ข้างๆ  เราชนะไปแล้ว  มึงนั่นแหละที่ผิดเข้าใจไหม

   “แต่หัวใจไม่แน่ใช่มั้ยเฮีย  ฮ่าๆ”  หัวใจ??  นั่นสิ  ก็ไม่แน่หรอกไอ้เป้  บางทีพี่มึงอาจจะกำลังพยายามโยนหัวใจเฮียทิ้งก็ได้
   “ไอ้เชี่ยเป้  มึง...มึงตาย”

   “เดี๋ยว!  จะไปไหน”  พอเห็นมันทำท่าจะไล่ตามไอ้เป้ไป  ผมก็รั้งมันไว้โดยอัติโนมัติ  ไม่รู้ทำไมต้องทำอย่างนั้น  รู้แค่ว่าถ้ายังปล่อยให้ทุกอย่างเป็นอย่างนี้  ถ้ายังปล่อยให้มันได้ทำตามใจ  ผมกลัวว่า...มันจะไม่อยากกลับมาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว 

   “ไปฆ่าไอ้เป้”
   “หึ  อันนั้นเอาไว้ให้ไอ้เนมทำเถอะ  ส่วนมึงไปกับกู”  ว่าแล้วผมก็ลากมันมาโดยไม่สนใจฟังอะไรทั้งสิ้น    ปฏิเสธที่จะเชื่อว่ามันไม่ต้องการจะมากับผม  คิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้าผมพูดกับมันดีๆ  ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น  ผมคิดอย่างนั้น
   “เฮ้ย! ไม่เอา  กูจะไปกินเหล้า”
   “รู้แล้วน่า  มึงไม่มีรถมาไม่ใช่เหรอ”
   “เอ่อ..กูจะไปกับไอ้ชิน”  ทำไมต้องไปกับคนอื่น  ในเมื่อกูก็อยู่กับมึง  ทำไมต้องหลบ  ทำไมต้องหนี  หรือว่าเบื่อที่ตรงนี้แล้ว   ไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม
   “รถมันเต็ม”
   “ห่ะ..เฮ้ยยย  มึงรู้ได้ยังงายยย”    รู้??...กูไม่รู้อะไรหรอก  ไม่เข้าใจมึงด้วย  รู้อย่างเดียวถ้ากูไม่ได้คุยกับมึงให้รู้เรื่อง  กูคงบ้าตาย


.................................................


   “วันนี้มึงเป็นอะไร”   ผมเปิดฉากทันทีตามประสาคนใจร้อน  หรือจะพูดให้ถูกตอนนี้ผมกำลังร้อนใจ   ทั้งอยากรู้ว่ามันเป็นอะไร  ทั้งกลัวกับคำตอบของมัน  ความรู้สึกสับสนวุ่นวายจนอยากจะแยกแยะนี่   มันคนเดียวเท่านั้นจะหยุดได้
   “ห๊ะ...กู...ก็ไม่ได้เป็นอะไร”
   “อย่าโกหกกู”
   “ไม่ได้โกหก”  มันยังคงเถียง  แต่กลับไม่ยอมสบตาผม  ข้างนอกนั่นมันมีอะไรดีนักหรือไง  มึงถึงต้องจ้องจนตาไม่กระพริบอย่างนั้น  หรือว่าที่จริง...แค่ไม่อยากเห็นหน้ากู
   “กูไม่เคยบอกมึงเหรอว่ามึงชอบหลบตาเวลาพูดโกหก  แล้วมึงก็กำลังทำอยู่”
   “.....”
   “ตกลงเป็นอะไร”   มันเงียบไปชั่วอึกใจ  ใบหน้าที่เคยแกล้งทำเป็นสดใสสลดลงชั่ววูบ  ก่อนที่มันจะหันกลับมาแล้วตอบว่า

   “ก็เป็น...เพื่อนมึงนะสิ  ฮ่าๆ  ถามอะไรโง่ๆ”  คำตอบของมันทำเอาหัวใจผมสั่นวูบ  มันพูดเหมือนเป็นเรื่องตลก   แต่ผมรู้แก่ใจว่ามันไม่ใช่   รู้อยู่แก่ใจว่ามันจริงจังมากแค่ไหน
   
   “เพื่อนเหรอ??  หึ”   ไม่ทันแล้วใช่ไหม  ทุกอย่างมันพังเพราะผมเอง  เพราะความงี่เง่า  เพราะคำพูดเดียวของผมที่ทำให้ผมต้องเสียมันไป  ไม่ตลกเลยนะ

   “มึงเป็น...เพื่อนกู”  ทันทีที่พูดจบผมก็ต้องถอนใจหายใจเฮือกใหญ่   ทำไม่ได้...ทำไม??  แค่บอกว่ามันเป็นคนที่มึงรัก   ทำไมทำไม่ได้ทั้งที่มันรอฟังอยู่  ทำไม?
   
   ใช่...ผมรู้  รู้ว่ามันตื่นแล้ว  รู้ว่ามันรออยู่  รอฟังคำว่ารักจากปากผม  แค่นี้เองทำไมผมให้มันไม่ได้  ทำไมผมโง่ขนาดนี้  แค่บอกว่ารัก  แค่ดึงมันมาอยู่ข้างๆ อย่างที่ใจต้องการ  ทำไม...ผมไม่ทำ  ยังลังเลอะไรอยู่   ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าขาดมันไม่ได้   แต่ก็ยังทำให้มันเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
   

   ผมตัดสินใจจูบหน้าผากคนที่แกล้งทำเป็นหลับ  จูบอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้...ขอโทษที่กูให้มึงได้แค่นี้  ขอโทษ   แค่มึงรู้ไหม  นอกจากแม่...กูไม่เคยจูบใครแบบนี้   ไม่เคยรักใครมากเท่านี้   มึง...เข้าใจกูไหม  ช่วยทำเป็นเข้าใจกูที

   คำถามในใจผมได้รับคำตอบเร็วเหลือเกิน   เร็วเกินไปด้วยซ้ำ   มัน...ไม่เข้าใจและ...ตัดสินใจไม่รอ   
   
   “ใช  เพื่อน  อย่างเมื่อก่อน...เมื่อสามปีก่อน”  สามปีก่อน...ก่อนที่แม่กูจะจากไปน่ะเหรอ  ก่อนที่กูจะต้องอยู่คนเดียวในโลกใช่ไหม  ถ้าอย่างนั้น..มึงเข้ามาทำไม   เข้ามาทำให้กูขาดมึงไม่ได้แล้วสุดท้าย...มึงก็ทิ้งกูไปเหมือนคนอื่นๆ   
   “...งั้นเหรอ”     
   “ใช่”

อย่าบอกอะไรฉันเลย อย่าเอ่ยความจริงให้รู้เลย     เก็บคำร่ำลาที่มีไว้ก่อน
ถ้าหากเธอจะทิ้งกัน อย่าบอกความจริงให้ฉันฟัง    ช่วยทำว่ายังรักกัน ให้เหมือนที่แล้วมา


   “เดี๋ยว”   ผมรั้งมันอีกครั้งทันทีที่รถจอด  แค่มันขยับตัวจะลงเท่านั้น   ทำไมถึงรู้สึกว่าจะไม่ได้เจอมันอีก  ทำไมรู้สึกว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พูดกัน
   “อะไรของมึง  เดี๋ยวไม่เหลือเหล้ากับหมูมะนาว  กูจะทำยังไง”   มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ  ไม่เสียใจเลยใช่ไหม  หรือว่าดีใจที่ไม่ต้องทนอยู่กับคนอย่างกู   แล้วถ้ากูแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจล่ะ  ถ้ากูขอลองอีกครั้ง...แค่ครั้งเดียวเท่านั้น   จะยอมทิ้งอดีต  ทิ้งทุกอย่าง...เพื่อแลกกับโอกาสครั้งสุดท้าย   โอกาสที่จะรั้งมึงไว้   

   “กูอยากกินก๋วยเตี๋ยวว่ะ  ไปกันเถอะ”  ถ้ากูจะบอกว่ากูไม่มีวันเคยชินกับการไม่มีมึงอยู่ข้างๆ ล่ะ   ถ้ากูไม่ยอมปล่อย  ถ้ากูดึงดันจะรั้งไว้...มึงจะยอมอยู่ไหม  อยู่ข้างๆ กู  อย่าไปเลย...

ช่วยรอเวลา ให้ใจเเข็งแรงกว่านี้หน่อย   แล้วค่อยๆ ปล่อย ให้มันตายช้าช้า
จะขอได้ไหม ขอความเห็นใจ คนที่ไร้ค่า    เก็บช่วงเวลา ที่ได้มีเธออย่างนี้

   “เฮ้ย! ได้ไงเล่า  พวกมันมารอแล้ว”  มันเปิดประตูลงไปยืนอยู่ข้างรถ  แล้วพูดเรียบๆ โดยไม่หันกลับมา  ไม่แม้แต่...จะมองหน้าผม
   “ก็ช่างมันสิ  ไปกันเถอะ”  ถึงจะโกรธ  จะเบื่อหน้ากูแค่ไหน  แต่วันนี้ช่วยไปกับกูได้ไหม  แค่วันนี้เท่านั้น   กูไม่รู้หรอกว่าทำไม  แต่บางอย่างมันบอกกูว่า...นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่กูได้เห็นหน้ามึง  เพราะฉะนั้น...ไปด้วยกัน

   “...ไม่ไป  กูจะกินเหล้า”  มันปฏิเสธทันควันโดยไม่ต้องยั้งคิด  ถึงจะรั้งไว้แค่ไหน  ก็จะไปอยู่ดีใช่ไหม   ถึงจะไม่ได้พบกันอีก...มึงก็คงไม่เป็นไร

   “งั้นเหรอ?? .... งั้นก็ตามใจ”  ผมยิ้ม...เยาะเย้ยตัวเอง  สุดท้ายแล้ว... ‘รัก’ มันก็แค่สิ่งลวงตาที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกของผม   ดีแล้วล่ะที่ผมไม่พูดมันออกมา  ดีแล้ว...จากนี้ก็แค่กลับไปอยู่ในที่ของตัวเอง  ที่เดิมที่ไม่ต้องห่วงใยใคร  ไม่ต้อง...ผูกพันกับใคร

   ไม่ต้องปฏิเสธคนที่ผ่านมา  ไม่ต้องไล่ตามคนที่จากไป   จะยากอะไรกับการกลับไปเป็นเหมือนเดิม  จะยากอะไร...ก็แค่ลืมความเคยชินบางอย่างไป  จะยากอะไร...

ความอ่อนแอ ที่มีวันนี้มันทำให้ฉันกลัว   ขอแค่เพียงเวลาปรับตัวให้ได้เตรียมหัวใจ
กับความเหงาเดียวดาย ต้องอยู่อย่างอ้างว้าง
เมื่อพร้อมจะยอมให้เธอเดินจากไป ไม่ขออะไรอีกเลย


.........................................

   “อ๊ะ! พี่ไนท์หรือเปล่าครับ”  ไม่รู้ว่าผมขับรถมานานเท่าไร  รู้ตัวอีกทีขามันก็ก้าวเข้ามาที่นี่เสียแล้ว   ที่ที่ผมไม่ได้มาเสียนานนับตั้งแต่มีมันอยู่ข้างๆ  และผมก็กลับมาอีกครั้งเพื่อเรียกความทรงจำเก่าๆ   วิถีชีวิตเก่าๆ เมื่อไม่มีมัน
   “ใช่”  ผมตอบรับไปทั้งที่ไม่รู้ว่าไอ้เด็กในชุดบริกรนี่มันเป็นใคร
   “พี่จำผมได้มั้ย  นิคไง  คนที่พี่ฝากงานให้”   นิคคนที่ผมฝากงานให้??  อ๋อ  นึกออกแล้วครับ  ไอ้นิคมันเคยเป็นนักเลงเก่า  เคยขโมยกระเป๋าสตางค์ผมแต่ถูกผมจับได้  ถามไปถามมาก็รู้ว่ามันต้องการเงินส่งน้องสาวเรียน  (ก่อนจะถามก็ต้องอัดมันก่อนเป็นธรรมดาครับ)  ผมก็เลยฝากให้มันทำงานที่นี่   ไม่นึกว่ามันจะยังอยู่  แสดงว่าผมมองคนไม่ผิด  มันรักน้องมันจริงๆ

   “อ้าว  ยังอยู่อีกเหรอ”
   “เฮ้ย!!  ก็ต้องยังอยู่ดิพี่  ผมเรียกพี่โก้ให้มั้ยครับ”  พี่โก้ที่มันพูดถึงก็คือผู้จัดการร้านนี้ครับ 
   “ไม่ต้อง  กูแค่จะมาเมา”  เมาอย่างที่เคยเมา  เที่ยวอย่างที่เคยเที่ยว  ก็แค่...วิธีบ้าๆ เพื่อลืมเรื่องบางอย่างที่ไม่น่าจำ
   “อกหักมาเหรอครับ??”
   “มึงถามลูกค้าแบบนี้  ไม่เคยถูกขวดเบียร์ฟาดหัวเหรอวะ”
   “ปฏิกริยาแบบนี้  ผมพูดถูกชัวร์เลย”  มันยิ้มเผล่แบบไม่กลัวตาย
   “.....”  ผมไม่รู้ว่ามันใช่การอกหักหรือเปล่า  แต่ถ้าอกหักมันหมายถึงการเจ็บจนแทบไม่อยากหายใจล่ะก็  บางทีผมคงกำลังอกหักอยู่ละมั้ง

   “เอาไรดีล่ะพี่  เหล้า  เบียร์หรือว่าผู้หญิง”  เหล้า  เบียร์แล้วก็ผู้หญิง  วิถีชีวิตเดิมๆ ที่ห่างหายไปเสียนาน  ในที่สุดมันก็กำลังจะกลับมาอีกครั้ง  ทั้งๆ ที่ควรสนุก  ควรมีความสุขกับมัน  แต่ทำไมผมถึงอยากย้อนเวลากลับไป  และถ้าเป็นไปได้...ผมไม่อยากมาที่นี่เลย 
   “เอามาหมดนั่นแหละ”
   “งั้นเชิญทางนี้เลยครับ”   ไอ้นิคยิ้มรับแล้วพาผมขึ้นมาชั้นสองของร้าน  ห้องวีไอพีที่ดีที่สุด  ห้องประจำของผม

   “อ้าว  พี่โก้”  ไปถึงก็เห็นร่างคุ้นตาของพี่โก้ยืนรออยู่แล้ว  ข้างๆ แกคือหญิงสาวสองคนในชุดโชว์หน้าผ่าหลัง  ซึ่งมันดู...ธรรมดาเหลือเกินในสายตาผม   รอยยิ้มหวานที่เจ้าหล่อนโปรยมาให้กลับไม่มีเสนห์ดึงดูดเหมือนรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติของใครอีกคน
   “คุณไนท์มาไม่บอกไม่กล่าว  ผมเกือบหาห้องวีไอพีให้ไม่ทัน”
   “ไม่เห็นต้องยุ่งยาก  นั่งตรงไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ  ว่างก็นั่งคุยกันหน่อยสิพี่”
   

   “ไม่มาที่นี่ซะนานเลยนะครับ” แกพูดพลางรินเหล้าให้ผม  เป็นแบบนี้มาเสมอครับ  ถ้าผมมาเที่ยวที่นี่เมื่อไร  แกจะมาคอยดูแล  เว้นแต่ว่าผมจะสั่งให้คนอื่นทำ
   “งั้นเหรอ?”
   “ครับ  ไม่เที่ยวนานซะจนผมนึกว่ามีใครคอยคุมนายผมซะแล้ว”
   “หึ  คนอย่างผมน่ะเหรอ”  คนอย่างผมน่ะเหรอจะมีคนคอยคุม  จะมีใครอยากมาคอยดูแล  คอยห่วงใยคนอย่างผมกัน  ไม่มีหรอก ไม่มีใครทนอยู่กับผมได้นานๆ   หรือถ้ามี...ตอนนี้มันก็กลายเป็นแค่อดีตไปแล้ว

   “อ่านั่นสิครับ  ว่าแต่ได้กลับไปหาคุณท่านมั่งหรือเปล่าครับ”  คุณท่านที่แกพูดถึงก็คือพ่อของผมครับ  พี่โก้เป็นลูกน้องเก่าของพ่อผมก่อนที่แกจะลาออกมาเปิดร้านของตัวเอง
   “...ไปทำไม”  ไปเพื่อตอกย้ำว่า  สำหรับบ้านหลังนั้นผมมันก็แค่คนอื่นอย่างนั้นเหรอ   หึ  หรือถ้าไม่ใช่...ผมก็คงเข้าไปเพื่อทำลายล่ะมั้ง
   “คุณท่านบ่นถึงน่ะครับ  บางทีก็ตามหาถึงที่นี่แต่ก็ไม่เคยเจอ”  หึ  บ่นถึง??  เรียกว่าด่าหรือสาปแช่งผมน่าจะถูกกว่าละมั้ง   ส่วนไอ้เรื่องที่เขามาที่นี่ก็คงเพราะเบื่อ  เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศ  หรือไม่ไอ้หมอนั่นมันคงทำอะไรให้ไม่พอใจ  ถึงได้ออกมาหาความสนุกนอกบ้าน

   “พี่ไม่มีเรื่องอื่นให้พูดแล้วก็ไปเถอะ”  ผมออกปากไล่ตรงๆ  ถ้าอยากจะพูดเรื่องนี้ล่ะก็  ปล่อยให้ผมเมาอย่างสงบๆ ดีกว่า
   “อ่า..เอ่อ..ครับ   พิมม่า  แนตดูแลคุณไนท์ดีๆ นะ”
   “ไม่ต้อง  พวกเธอก็ด้วย  ออกไปให้หมด”  อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก  ไม่ว่าใครก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้น  ถ้าไม่ใช่มัน...ผมไม่ต้องการ
   “เอ่อ..ครับๆ  ได้  นั่งเฉยอยู่ทำไม  ออกมาสิ”

................................................

   “นิค  ไปส่งคุณไนท์สิ  อย่างนี้ขับรถไม่ไหวแน่”   
   “ไม่..ต้อง”  ผมดึงมือคนที่พยุงแขนผมออก  จะอะไรนักหนากับแค่เมา  เมาแค่นี้ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้  เมาสิดี  มันจะได้ลืม  จะได้ไม่ต้องนึกถึง   แล้วถ้าเกิดเหล้ามันช่วยลบความทรงจำบางอย่างออกไปได้จริง  มันก็คงจะดี  ผมจะไม่ลังเลเลยที่กินมันแทนข้าว  ดื่มมันแทนน้ำ
   “แต่ว่า  คุณเมามากนะครับ”
   “ผม...รู้ตัวดี  ไม่ต้องยุ่ง”  ไอ้นิคมันขับรถมาจอดรอที่หน้าร้าน  ผมเปิดประตูดึงตัวมันออกมาจากที่นั่งคนขับ  แล้วพาตัวเองเข้าไปนั่งแทน   มาเองก็ควรจะกลับเองใช่ไหมครับ  ไม่จำเป็นที่ใครหน้าไหนต้องมาเสนอตัวช่วยเหลือ  ผม..ไม่ต้องการใคร   ไม่อยากพึ่งใคร  และ...ไม่เชื่อใจใครทั้งนั้น

   
   แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายหนักอึ้ง  สมองประมวลผลช้าลง  ความเร็วรถตอนนี้มันเท่าไรผมไม่รู้  แต่อยากขับให้เร็วที่สุด  ให้ลมที่ปะทะใบหน้าผมตอนนี้ช่วยลบเรื่องที่ไม่น่าจดจำ   แต่ทำไม...ทุกอย่างกลับยิ่งชัดเจนขึ้นในใจ    ทุกอย่างผมทำผิดเอง   ไม่รู้เมื่อไรที่ผมเผลอจ้องมองที่นั่งข้างๆ ซึ่งบัดนี้มันว่างเปล่าอย่างน่าใจหาย   คนที่เคยนั่งอยู่ตรงนี้เสมอหายไปไหนกันนะ   รถคันนี้...ช่างกว้างเหลือเกิน    อากาศวันนี้...มันหนาวสุดขั้วหัวใจ

 
    ปี๊นนนนน   เอี๊ยดดดดดดด   
   โครม!!!!!


   เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ  ร่างกายที่ชาจนขยับไม่ได้นี่มันอะไรกัน   ผม...กำลังจะตาย???   ไม่ทันแล้วใช่ไหม   ไม่มีเวลาเหลือแล้ว  ผมจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว   ไม่มีโอกาสแม้แต่จะบอกว่า ‘ขอโทษ’   ถ้าอย่างนั้นอยากขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย...ช่วยลืมไปเรื่องที่กูเคยทำให้มึงเสียใจได้ไหม   ลืมมันไปซะ   แล้วจำแต่เรื่องดีๆ ระหว่างเรา   ถ้ากูเอาแต่ใจ   อยากให้มึงคิดถึงกูบ้าง...จะเป็นไรไหม

I dreamed I was missing, you were so scared
ผมฝันว่าผมหายตัวไป คุณหวาดกลัวมาก
But no one would listen, 'cause no one else cared
แต่ไม่มีใครเลยที่จะรับฟัง เพราะไม่มีใครอื่นเลยที่จะสนใจ

After my dreaming, I woke with this fear
หลังจากความฝันครั้งนั้น  ผมตื่นขึ้นมาพร้อมความหวาดกลัวนี้
What am I leaving when I'm done here?
"อะไรที่ผมจะเหลือทิ้งไว้เมื่อถึงเวลาที่ผมจะต้องจากไปจากโลกใบนี้"

So if you're asking me, I want you to know
เพราะฉะนั้น ถ้าหากคุณกำลังถามผม ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่า

When my time comes, forget the wrong that I've done
เมื่อเวลาที่ผมต้องจากไปมาถึง   ช่วยลืมความผิดที่ผมทำเอาไว้ทีนะ
Help me leave behind some reasons to be missed
ช่วยให้ผมได้เหลืออะไรไว้ให้คนข้างหลังได้คิดถึงบ้าง
Don't resent me, and when you're feeling empty
อย่าได้โกรธเคืองผมเลย และเมื่อคุณรู้สึกอ้างว้างว่างเปล่า

Keep me in your memory, leave out all the rest   
ให้คุณคิดถึงผม   ปล่อยวางสิ่งที่เหลือ
Leave out all the rest
ปล่อยวางมันเสีย


Credit : Buffy http://my.dek-d.com/buffy/story/view.php?id=445202


--------------------
TBC

ขอบคุณที่ติดตามและรีพลายเป็นกำลังใจนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-05-2009 21:49:51
ูู^
^
^

จิ้มพี่ไวท์ จึ้กๆๆ ก่อนจรลีจากไปอ่าน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 28-05-2009 22:11:34
เง้อออ ... วัยในวัยเรียน จบลงเพียงเท่านั้นจิงๆเหรอค่ะ
ใจหายวาบ ...
จบแล้ว ก็จบเลย ... มันย้อนไปแก้ไข อดีตไม่ได้แล้วใช่มั้ย
ทำไม ปล่อยโอกาสไปง่ายๆแบบนี้อ่ะ ไนท์  :m15: :m15:

ช็อค !!! รถชนอีก .... อย่าเป็นอะไรไป ก่อนที่จะได้สารภาพความในใจน๊า  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: Cloud~ ที่ 28-05-2009 22:17:02
โธ่ ไนท์ค่ะ
รู้สึกยังไงทำไมไม่พูดออกไป  :เฮ้อ:

'รัก' คำเดียวเท่านั้นเองนะ



แล้วนี่จะเป็นไรมากไหมเนี่ยะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 28-05-2009 22:20:11
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 28-05-2009 22:25:49
อ้าวซะงั้นอ่ะ
เซงเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 28-05-2009 23:16:02
โอ้ยยยยยยยยย บีบหัวใจมากกกกกกก :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 28-05-2009 23:34:12
เปงรายปายเนี่ย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-05-2009 23:42:31
จะเศร้าไปถึงไหนเนี่ย
 :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 29-05-2009 00:00:26
ไนท์อย่าเป็นไรนะ ถ้าไนท์เป็นไรไป เวย์จะทำไงล่ะนี่  :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 29-05-2009 00:03:24
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 29-05-2009 01:41:07
คำว่ารักสำหรับบางคน

มันยากที่จะเอ่ย :o12:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 29-05-2009 06:10:58
รอฉากแบบนี้มานานแล้ว
เอาให้สุดๆไปเลย
ผิดหวังเหมือนกันนะที่เวย์ไม่ยอมรอไนท์แล้ว
และเมื่อจะสูญเสียไนท์ไป
เวย์จะทำยังไงล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 29-05-2009 08:36:13
 :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 29-05-2009 08:58:30
โอยยยยยย

บีบอารมณ์เหลือเกิน :impress3:

คำบางคำมันก็พูดยาก

ไนท์อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ขอให้มีโอกาสอีกสักครั้ง o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 29-05-2009 10:11:26
เวย์  ไหนบอกว่ารักอ่ะ

แล้วไม่ทำตามหัวใจตัวเอง

ปากหนัก  ระวังเหมือนพี่นะ

ปากหนักทั้งคู่  เคยโดนทิ้งเพราะไม่บอกรักเค้านี่แหละ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 29-05-2009 11:04:10
อ่านแล้วปวดตับ


ใจตรงกันแท้แท้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: toonki ที่ 29-05-2009 11:58:31
 :m15:

เกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นแบบนี้ละ

น่าจะพูดกันให้เข้าใจนะทั้งสองคนเลย

แล้วอย่างนี้จะยังมีเวลาอีกมัยอ่ะ

น่าสงสารจังเลยเศร้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: Catrina ที่ 29-05-2009 12:29:56
 :m17: บีบคั้นอารมณ์มาก ทั้งสองคนคงไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันสินะ
เมื่อไหร่จะสมหวังเนี่ย หวังว่าคงไม่เศร้าจนถึงตอนจบหรอกนะ
 :o12:

คุณไวท์คะ เมื่อไหร่จะมีเรื่องของเป้กะเนม และแชมป์กะนุอ่ะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-05-2009 12:33:27
 :เฮ้อ:
ปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าจะพูดว่าไงดี...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 29-05-2009 12:44:12
อ่าว..พระเอกซี้แหงแก๋ แล้วซะงั้น :o12: จะจบไงละทีนี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 29-05-2009 13:10:46
ผมก็เป๋นอีกคนนึง ที่ยังโกหกใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 29-05-2009 19:55:17


โกหกใครก็โกหกได้......

แต่โกหกใจตัวเองมันจะทำให้เจ็บทั้งสองฝ่านะครับบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 30-05-2009 00:27:07
มารอตอนต่อไป กระซิก กระซิก :sad11:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจัง ที่ 30-05-2009 03:00:13
 :serius2:  ปากแข็งกันทั้งคู่   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 30-05-2009 18:31:10
:call:

จงลงๆ

 :z3:

อยากอ่านแล้วววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 30-05-2009 19:29:01
ห้ามไนท์ตายห้ามไนท์ความทรงจำเสียมไม่ไงหนูจะ...... จะ....จะ :m15: :m15: :m15:


น่ะๆๆๆบอกว่า รัก กันวะที่เถอะ สาธุ :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 30-05-2009 22:02:52
 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: poii ที่ 31-05-2009 13:30:28
ทำไมเศร้าจังเลยง่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 31-05-2009 15:53:28
ต่อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


กิ๊สสสสสสสสสสสสสสสสสส


จะเป็นอย่างไรต่อไปเดาไม่ถูกเลยย :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 01-06-2009 23:15:44

เฮ้อ เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 01-06-2009 23:34:39
เง๊อๆๆๆ...อารายกานหล่ะเนี่ย...ยังมะทันปรับความเข้าใจกันเลย   :sad4: :o12:

ขอตอนต่อไปด่วนเลยค่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 02-06-2009 16:49:02
เมื่อไรความเศร้าและน้ำตาจะหมดไปซะที
 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: ohhotopo ที่ 03-06-2009 14:29:48
 :m15: เศร้าๆๆๆ

มาต่อเร็วๆนะคร้าฟฟ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 03-06-2009 18:01:32
จุดธูปเรียก  :call:

มาต่อเร็วๆ นะค๊าบบบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 21 Leave out all the rest (ครึ่งหลัง) Night's t
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 04-06-2009 00:37:23
บทที่ 22 No time to turn back

 

 

ตั้งแต่วันที่ฉันได้คุยเพียงครู่สองคนกับเธอครั้งก่อน
กลับมานอนครวญครางละเมอ คอยพร่ำหาเธอเหมือนจะอ้อนวอน
เกิดอะไรขึ้นมาล่ะเออ มันอยากรู้นัก...เปลี่ยนฉันไปจากเดิม




            เอ๊ะ! ตกใจใช่ไหมครับ  ไม่ต้องครับ  ไม่ต้องขมวดคิ้วสงสัย  ทุกคนเปิดมาถูกเรื่องแล้วครับ  ผมยังคงเป็นไอ้เวย์จริงแท้แน่นอนไม่ได้กลายเป็นพี่เป้  วงเสลอแต่อย่างใด   ส่วนข้างๆ ผมนี่มันก็ยังเป็นไอ้นุครับ  ไม่ได้ไปผ่าตัดแปลงเพศ  เปลี่ยนชื่อเป็นอั้ม  พัชราภา   มันไม่ได้เป็นแจ๋วใจร้ายและผมไม่ได้เป็นคุณชายเทวดา  -*-   แต่ถ้าสงสัยว่าทำไมต้องขึ้นต้นบทด้วยเพลงนี้  ขอความกรุณาทุกท่านเลื่อนสายตาไปบนเวทีครับ    ไอ้เป้ตัวจริงมันกำลังถือไมค์แหกปากเปล่งเสียงอยู่บนนั้น    แม้มันจะไม่ได้เป็นพระเอกในจอ  แต่งานนี้ผมว่า..มันอาจกำลังทำตัวเป็นพระเอกนอกจอครับ

 


จะเป็นเพียงแววตาของเธอทั้งคู่ฉายมาสะกดรึเปล่า
อาจเป็นดาวดวงใดใช้เธอมาหลอกเล่นกล เป็นไปไม่ได้
ออกจะงง คงเปนเพราะเธอทำสับสน เดี๋ยวอยากรัก เดี๋ยวอยากลืม โอ๊ยๆ
ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเธอ



 

 

ไอ้คุณเป้กูล่ะนับถือในความพยายามของมึงจริงๆ   หน้าด้านขอเฮียเขาขึ้นไปร้องเพลงแล้วยังไม่พอ   มึงยังจะขายขนมจีบให้น้องกูซึ่งๆ หน้า  ไม่แคร์สายตาประชาชีอีก   ตอนเด็กๆ นี่มึงโดนลอกยางที่หนังหน้าออกไปหมดแล้วใช่ไหมวะ  ถึงไม่เหลือติดผิวเลยสักนิด  


เธอทำให้ฉันรักจนใจไม่อาจถอน หัวใจมันคอยแอบๆมองแบบซึ้งๆ
เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน นอนกอดหมอน..ทุกคืน จะทนได้นานซักเท่าไร หากคิดถึง



 

          ดูมันครับ  ดูมัน  แทนที่มันจะมองคนดูที่เขานั่งปรบมือมันอยู่ข้างล่าง  มันกลับจ้องไอ้เนมมือกลองที่มันใช้กำลังลากขึ้นไปบนเวทีซะหวานหยดมดเรียกพ่อ  โดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองกำลังถูกฆาตกรรมทางสายตา  แถมยังอาจถูกคาถาที่อีกฝ่ายเพียรบริกรรมอยู่ก็เป็นได้

 

            “ไอ้เป้มันกล้าดีเนาะพี่”  ไอ้ชินมันกระซิบผม  ว่าแต่มึงจะต้องกระซิบเพื่อ?   ทำอย่างกับมันเป็นความลับเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติอย่างนั้นแหละ

            “เออสิวะ”  ถ้าอย่างมันไม่เรียกว่ากล้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะครับ   ต่อให้คำว่า ‘ด้าน’  มันก็อาจจะยังน้อยไปด้วยซ้ำ  มันต้องหาอะไรมาโมดิฟาย (ขยาย) เอาให้ด้านตายกันไปข้างหนึ่ง

 

            “ขนาดมันทำไอ้เนมเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ  มันยังหน้าด้านหน้าทนตื้อไม่เว้นวัน”  ไอ้ชินมันพูดแล้วยิ้มให้เพื่อนมันอย่างเอ็นดู  เฮ้ย!  ผมใช้คำพูดผิดไปหรือเปล่าครับ  แต่เท่าที่เห็น  ไอ้รอยยิ้มของมันนี่ออกจะถูกใจแกมเอ็นดูอยู่ไม่น้อย   นี่มึงคิดอะไรกับเพื่อนมึงหรือเปล่าวะ

 

            “ก๊ากกก   มึงก็พูดซะกูเห็นภาพ”

            “แต่พี่รู้มั้ย  ไอ้เนมมันก็รักไอ้เป้นะ”

            “เฮ้ย!!  พูดเป็นเล่นไปมึง  ไหนว่ามันโดนปล้ำ??  หรือกูเข้าใจผิด”   ก็ไหนมึงว่าเจ็บทั้งตัวทั้งใจ  แล้วมันจะรักไอ้เป้ลงได้ไงวะ  กูเห็นทีไรไม่ฆ่าไอ้เป้ทางสายตา  ก็แช่งให้มันตายตลอด   แต่ถ้าคำว่ารักของไอ้เนมมันพูดว่า  ‘มึงต้องตาย’  ล่ะก็   ค่อยน่าเชื่อหน่อย



            “ก็ไม่ผิดหรอกพี่  แต่ไอ้การที่ไอ้เนมมันจะรักคนที่ทำร้ายมันก็ไม่ผิดเหมือนกัน”  มันหันมาจ้องตาผมอย่างจริงจังเหมือนตั้งใจจะบอกอะไรกับผมมากกว่าแค่เล่าเรื่องเพื่อนมัน   มันรักจริงๆ เหรอวะ  รักคนที่ทำให้มันเจ็บเนี่ยนะ  รัก...ได้ยังไง   ผมเลื่อนสายตาไปทางเวทีอีกครั้ง  ไอ้เนมมันยังคงบ่นพึมพำอะไรสักอย่างที่ผมไม่อยากเดา  แต่ใบหน้าที่เคยนิ่งสนิทของมันกลับขึ้นรอยแดงจางๆ  พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ  ที่เจ้าตัวคงห้ามไว้ไม่อยู่

 

            “...เหรอวะ   แล้วไอ้เป้มันรู้หรือเปล่า”  ให้เดาผมว่ามันไม่รู้หรอกครับ  เล่นบังคับไอ้เนมขนาดนั้น   มันคงแอบหวั่นอยู่เหมือนกัน  คนอย่างไอ้เป้เคยขอร้องใครที่ไหน  มีแต่ใช้กำลังตัดสินตลอด  แค่ให้ไอ้เนมขึ้นไปช่วยตีกลองนี่  เสียเหงื่อไปหลายลิตร

            “รู้ดิพี่  ทั้งที่ไอ้เนมมันไม่เคยบอกรักมันสักครั้ง”  ไอ้ชินมันพูดหน้าตายแถมยังอมยิ้มมองหน้าผม

 

            “อ้าว  ไอ้บ้า  ไม่บอกแล้วมันจะรู้ได้ไง”  อย่างนี้มันเข้าข้างตัวเองไม่ใช่เหรอครับ  คิดไปเอง  เดาเอาเองทุกอย่าง  สุดท้ายเมื่อมันไม่ใช่อย่างที่หวังก็ต้องพบกับความผิดหวัง  และถ้ายังไม่เลิกหวัง  มันก็จะผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ถ้าอย่างนั้นสู้เราเลิกหวัง  เลิกรอไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ  

 

            “รู้ด้วยใจไงพี่”  มันตอบขำๆ แล้วกระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่  ไม่ต่างจากผมที่ด่ามันอย่างทีเล่นทีจริง   แต่ในใจกลับสับสนวุ่นวายขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้   รู้ด้วยใจ..อย่างนั้นเหรอ  หึ  ถ้ากูเก่งขนาดนั้น  กูคงไม่มานั่งเรียนให้เมื่อยหรอกว่ะ  ถ้ากูรู้ใจมันได้  ทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้  กูคงไม่ต้องยืนมองไฟท้ายรถมันห่างออกไปเหมือนหมาถูกทิ้ง  ทั้งที่หมาตัวนั้นมันเป็นฝ่ายเมินกระดูกในมือของนายมันก่อน   หึ   สรุปว่ากูโง่หรือมึงบ้ากันแน่วะ

            “เชี่ย  เน่า”

 

             ไอ้ชินมันเงียบไปพักหนึ่ง  สายตาจับจ้องอยู่บนเวทีจนทำให้ผมอดที่จะมองตามไม่ได้  ไอ้เป้มันยังคงไม่ยอมเบนสายตาไปไหน  ส่วนไอ้คนถูกมองก็ชักเริ่มหน้าตึง  คิ้วเข้มเริ่มม้วนตัวเข้าหากัน  จะไม่ให้ไอ้เนมมันเคืองได้ไงล่ะครับ  ในเมื่อจากแค่ไอ้เป้คนเดียวที่มองมัน  ตอนนี้คนแทบทั้งร้านพากับมองมันสองคนสลับกันไปมา  แถมยังมีส่งลูกแซวเป็นระยะๆ ให้ไอ้นักร้องนำมันยิ้มกว้างอย่างพอใจ  แอบยกนิ้วโป้งให้คนดูไปหลายครั้ง

 

            “ผมรู้ว่าพี่รักเฮีย   รักมาก”

            “.....พรวดดด ..” ประโยคแรกหลังจากที่มันเงียบไปนานทำเอาเหล้าพุ่งจากปากผม   เสียดายชิบ   ผมว่าไอ้ชินนี่มันสมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นเพื่อนกับไอ้เป้นะครับ  ขยันกันปามีดใส่อกผมเหลือเกิน  แถมยังเสือกรู้ดีอีก

            “ผมคิดว่าเฮียก็รักพี่”  มันพูดยิ้มๆ แต่กลับเป็นประโยคที่ทำเอาผมยิ้มไม่ออก  ไม่ใช่ว่ากูไม่เคยคิด  ไม่ใช่ว่ากูไม่เคยหวัง   แต่มันป็นความหวังที่ออกจะลมๆ แล้งๆ ไปหน่อย  หึ

 

            “เชี่ย  ตลกแล้วมึง  นี่ถ้ามึงไม่บ้าคิดไม่ได้นะเนี่ย  เหอะๆ  กูเป็นแค่เพื่อนเว้ย  เพื่อน”  นั่นสิถ้ามึงไม่บ้ามึงคิดไม่ได้หรอก  ถ้ามึงไม่ทั้งโง่ทั้งบ้า  มึงไม่มีทางคิดจะรักเพื่อนตัวเองหรอกวะ   แล้วไงล่ะ  สุดท้ายมึงก็ยังเป็นได้แค่เพื่อน  แถมยังต้องเป็นเพื่อนที่ลดระดับตัวเองอีกด้วย   สนิทเกินไปก็ไม่ได้  กลัวใจตัวเอง  จะห่างมากไปก็ไม่ดี  กลัวใจมัน  มีลูกสอนลูก  มีหลานสอนหลานนะครับ  เพื่อนคือคนที่ห่วงได้ ดูแลได้  แต่ห้ามรัก   เพื่อนคือคนที่ใกล้ชิดได้  กอดคอคุยกันได้  แต่ห้ามเกินเลย  เพื่อนคือคนที่ปรึกษาได้  แบ่งปันทุกข์สุขได้  แต่อย่าได้คิดแบ่งใจให้มัน  เพราะไม่อย่างนั้น  คำว่า ‘เพื่อน’ จะกลายเป็นยาขมหม้อใหญ่ในทันที

 

            “พี่อาจจะเป็นแค่เพื่อน  แต่ก็เป็นเพื่อนที่เฮียเขารักมากกว่าใครในโลกไม่ใช่เหรอ”

            “....”  เพื่อนที่มันรักมากกว่าใครในโลก??



            “ผมรู้ว่าพี่เหนื่อย  แต่คนอย่างเฮียน่ะ...ก็ไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เราเห็นหรอก  พี่ก็รู้”

            “.....”   ผมเหนื่อย..ใช่  แต่ผมลืมไปว่าไอ้ไนท์มันไม่เข้มแข็งอย่างที่ไอ้ชินมันพูด  บางทีคนที่จิตใจเปราะบางยิ่งกว่าอาจเป็นมันก็ได้   ไม่ใช่มันไม่รัก  แต่เป็นเพราะมันยังกลัวที่จะรัก...อย่างนั้นเหรอ   ผมลืมไปว่ามันแย่แค่ไหนตอนที่แม่มันตาย  ผมลืมไปว่าเพราะอะไรคำว่าพ่อถึงทำให้มันไม่กล้ารักใคร   ลืมไปว่าเพราะอะไรมันถึงไม่เคยพูดคำว่ารัก  เพราะคำว่ารักเป็นข้ออ้างที่ทำให้พ่อของมันแยกทางกับแม่   เพราะคำว่ารักทำให้แม่ของมันตาย  เพราะคำว่ารัก...ที่ผมต้องการ

 

            “ผมรักพี่”  แล้วไอ้ชินมันก็บอกรักผม .. O.O!!!  เฮ้ยย  ไม่ใช่แล้ว!

            “เฮ้ยย  เชี่ย  อย่ามาทำตลก”  ตกลงมึงจะเอายังไงกับชีวิตกูกันแน่  คนอ่านเขากำลังลุ้นให้กูใจอ่อนอยู่นะเว้ย  อยู่ๆ เสือกมาบอกรักกู  นอกจากอารมณ์กูจะสะดุดแล้ว  มึงยังทำลายบรรยากาศซึ้งๆ ที่มึงสร้างมาซะพังยับหมด

 

            “อ้าว  พอผมพูดพี่ก็ไม่เชื่อผม  เห็นมั้ย?  เพราะคำว่ารักของผมมันพูดง่าย  พี่ถึงไม่เชื่อ  แต่คำว่ารักของเฮียมันไม่ง่ายเลยใช่มั้ยพี่  ยิ่งเฮียรักมาก  ก็ยิ่งยากมาก”  

            “..........”  คำพูดของมันทำเอาผมเป็นใบ้ไปชั่วขณะ  ทำไมผมถึงไม่เคยคิดมาก่อนเลยล่ะ  ทั้งที่คิดว่ารู้จักมันดีที่สุด   กลับมองข้ามเรื่องนี้ไป  มัวแต่คิดเข้าข้างตัวเอง  ปกป้องตัวเองจนลืมคิดถึงความรู้สึกของมัน   ผมไม่เคยถามว่ามันต้องการให้ผมทำแบบนี้ไหม   แต่คิดเอาเอง  ทึกทักเอาเองว่ามันต้องการ  เพราะความเห็นแก่ตัวของผมใช่ไหม   เพราะผมหวังมากเกินไปใช่หรือเปล่า  

 

            “ผมชอบพี่นะ  พี่เวย์  แต่ผมก็นับถือเฮียด้วย”

            “....”

 

            “ผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น   แต่อย่าทิ้งเฮียเลยนะ  เฮียไม่มีใครแล้วนอกจากพี่”  กูรู้แล้วไอ้ชิน  รู้แล้ว  ไม่มีทางหรอกที่กูจะทิ้งเฮียมึงได้   กูผิดเอง  แค่คำว่ารักคำเดียวมันไม่จำเป็นเลย  ถึงต้องอยู่อย่างไม่มั่นคงเท่าไร  ถึงกูจะไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร  แต่ช่างมันแล้วกับทุกอย่าง  แค่ได้อยู่ข้างๆ เหมือนเดิม  จะคิดเกินเลยกับมันบ้างตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปคงได้ใช่ไหม  ถ้ากูกลับไปบอกมันว่า  กูจะเป็นเพื่อนมึงในแบบของกู  มึงว่ามันจะตบเกรียนกูไหม  มันจะยอมให้กูเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า   ยอมออกมาอยู่นอกกำแพงกับกูอีกครั้งไหม

 

            “..กู..  ทำไมมึงรู้??”  ยังไม่ทันได้บอกการตัดสินใจที่บทจะง่ายก็ง่ายเหลือเกินของผมให้มันรู้  แต่ต้องนึกแปลกใจที่ไอ้ชินมันดูเหมือนจะรู้อะไรหลายอย่างที่นอกจากผมแล้ว  ไม่น่ามีใครอื่นรู้ได้

            “เพราะผมรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฮีย  บางที...ผมอาจจะรู้ดียิ่งกว่าตัวเฮียเองก็ได้”  

            “มึงหมายความว่ายังไง??”  คำพูดกับท่าทางของมันเริ่มทำให้ผมจับต้นชนปลายไม่ถูก  เรื่องอะไรของไอ้ไนท์ทำให้มึงต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น   นอกจากเรื่องที่แม่มันตรอมใจตายเพราะพ่อมันแอบคบกับอานพ...เลขาหนุ่มคนนั้นอย่างลับๆ  แล้วยังมีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้อีกเหรอ

 

 

            “เฮ้ยยย  อ้ายเวย์   คุยรายกันว้า”  = =;   ไอ้นุมาได้ถูกจังหวะเหลือเกินนะมึง  ปากที่เพิ่งจะอ้าของไอ้ชินเลยพาลหุบอย่างกะทันหัน   ต่อมอยากรู้ของกูเลยพลอยทำงานได้ไม่เต็มที่   บอกกูสิว่ามึงจะรับผิดชอบยังไง

 

            “เชี่ยนุ  เมาแล้วนะมึง  กูเผลอแป๊บเดียวมึงตกบ่อเหล้ามารึไงวะ”  ถึงแม้ในใจผมจะแอบเคืองมันอยู่ไม่น้อย  แต่กลับไม่กล้าด่ามันครับด้วยยังเห็นใจมันอยู่มาก   เพราะตั้งแต่เข้าร้านมานี่ไอ้คนในสังกัด คกม. มันไม่ทำอะไรเลยนอกจากนั่งหงอย   หมาในปากโดนยาเบื่อกันหมด   ขนาดเหล้ามันยังต้องชงเองเพราะไอ้คนทำหน้าที่ประจำมันไม่ยอมทำให้  แถมจะพูดด้วยสักคำยังแทบต้องเอาคีมไปง้างปากไอ้แชมป์ออก  เป็นสงครามเย็นที่น่าอึดอัดยิ่งกว่าวิกฤตการณ์คิวบาอีกครับ

 

            “กูม่ายเมาเว้ยย  ถ้าเมา..กูต้องมาววเด้”  มันโพล่งวาจายานคางสัญลักษณ์ของคนมีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากเกินพอดี (ความพอดีของแต่ละคนมันไม่เท่ากันครับ) พร้อมกับโถมตัวมากอดผมไว้  อ้าว!  มึงอ้อนผิดคนแล้วโว้ย  ของมึงนั่งอยู่อีกข้างโน่น

            “ไอ้บ้า  ขัดจังหวะกูยังไม่พอนะมึง  ยังเสือกแป้กอีก  ไอ้แชมป์เอามันไปดิ  กูจะคุยกับไอ้ชิน” ว่าแล้วผมก็ดึงแขนมันออก  พลางผลักตัวมันไปหาไอ้แชมป์ที่นั่งอยู่ข้างๆ  

            “ไม่” มันปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิด  แถมยังเขยิบหนีอย่างไม่ไว้หน้า

 

            “โธ่เมิง  อย่าไปโกรธมันเลย  ไอ้นุน่าสงสารออก”   กูช่วยมึงเต็มที่แล้วนะเว้ยเพื่อน  ที่เหลือลุยเองบ้างสิวะ  มึงดูไอ้เป้เป็นตัวอย่าง   ตื้อไปเลย  หน้าด้านเข้าไว้  อย่าเป็นเหมือนกู  กลัวจนต้องถอยห่างออกมา  สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น   มีแต่จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ   ไอ้การจะกลับมาเป็นเพื่อนอย่างเดิมน่ะ  มันเป็นไปไม่ได้หรอกมึง  นอกจากว่าพวกมึงไม่ได้ผูกพันกันมากอย่างที่กูคิด  

 

            “อึ่ก!  เออ  เมิงง   โกรธ..กู  นักใช่ม้าย” เมาเหมือนหมาแล้วยังไม่เจียม  ยังเสือกกระดกเหล้าเข้าปากไปอึกใหญ่  มันเอาแขนเสื้อปาดเหล้าที่หกเลอะปาก  แล้วหันไปถามไอ้แชมป์อย่างคาดคั้น  นี่กูเริ่มงงแล้วนะ  สรุปพวกมึงสองคน  ใครกดใครวะ  ไอ้นุมึงดูยิ่งกว่านางเอกเวลาอกหัก  ส่วนไอ้แชมป์...มึงจะนิ่งเอาโล่หรือไง

            “เออ”   เออ  เอาโล่ไปเลยมึง

            “ทำไม”

 

            “..........”  ไอ้แชมป์เหลือบมองไอ้คนถามด้วยหางตา  แต่ไม่ตอบอะไร  นอกจากกระดกเหล้าเข้าปากอย่างต่อเนื่อง  สุดท้ายคนที่ทนไม่ได้ก็คือ...

            “โธ่โว้ย!”  ไอ้นุมันสบถแล้วลุกขึ้นเดินออกไปหน้าตาเฉย  แถมยังไม่มีอาการเหมือนคนเมาเลยสักนิด  ไม่มีมึน  ไม่มีเซ   สรุปนี่มึงเนียน??   พอหลอกถามมันแล้วไม่ได้คำตอบเลยพาลโมโหเนียนต่อไปไม่ได้ว่างั้น   = =;  กูล่ะจนด้วยคำพูดจริงๆ  

 

            

            “พี่เวย์  คืนนี้นอนบ้านผมป่ะ”  ไอ้ชินมันเสนอ  ไม่ใช่เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศอะไรหรอกครับ  แต่เพราะมีเรื่องบางอย่างที่มันจำเป็นต้องบอกให้ผมรู้   และถ้าไม่ได้เหลือบไปเห็นช็อตเด็ดของไอ้สองคนที่เพิ่งลงจากเวที  ผมคงตอบตกลงสนองข้อเสนอมันไปแล้ว

 

            “ไม่ว่ะ  ส่งกูกลับบ้านที”  เรื่องที่ยังไม่รู้  ไม่นานผมคงจะได้รู้  สำคัญแค่ตอนนี้ผมต้องได้เจอคนที่อยากเจอ  ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดกับคนที่อยากให้ฟังซะก่อน   ไนท์...มึงรอกูนะ



-----------------

ขออภัยที่ช้าด้วยนะคะ  เปิดเทอมแล้ว  งานกำลังจะถล่ม  ทับตัวตาย  T^T

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 04-06-2009 00:40:07
ก่อนอื่นขอ+ไวท์ส่งผ่านไปให้ชินทีเถอะนะ

ร๊ากน้องชินที่สุด...ถ้าไม่มีชิน...ใครจะมาเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้เวย์เนี่ย
ตอนนี้เวย์ก็เริ่มเคลียใจตัวเองได้แล้ว...แต่ไนท์นี่สิ...ตอนนี้จะหมู่หรือจ่าก็ยังไม่รู้เลย :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 04-06-2009 00:53:59
ไนท์จ๋ารอแป๊บนะเวย์กำลังไปหาแล้ว

แอบกลัวใจคนแต่งจัง ไม่ใช่เวย์กลับไปเห็นอะไรที่ไม่อยากเห็นนะ



ขอบคุณค่ะที่มาต่อให้ ช่วงนี้เปิดเทอมเลยยุ่งกันใหญ่
ว่างเมื่อไหร่ค่อยมาต่อก็ได้จ๊ะ เจ๊ไม่รีบแค่อยากอ่าน55555
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจัง ที่ 04-06-2009 00:54:23
เรื่องกำลังเข้มข้นเลย ทั้งสามคู่   o13

รักกันได้อลวนอลเวงมากๆ   :m15:

ชอบทุกคู่เลยเรื่องเนี่ย แต่คิดถึงไนท์แร้วอ่ะ ตอนนี้ไม่มีบทพูดเล้ย   :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 04-06-2009 02:33:49
เวย์ยังไม่รู้เลยอ่ะว่าไนท์เกิดอุบัติเหตุ
ไนท์อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ เวย์กำลังมาแล้ว
ขอให้มาทัน
 :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 04-06-2009 05:34:56


ทำมายปากแข็งกันจังอะ
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 04-06-2009 05:59:32
เออ ไนท์มันคงนอนรอมึงอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่โรงพยาบาลก็ศาลาวัดว่ะ
คนเราก็นะ บางครั้งความเห็นแก่ตัวก็บังตา
คิดว่าตัวเองเจ็บอยู่คนเดียว
ถ้าไม่คนมาเตือนกว่าจะคิดได้เองคงสายเกินแก้แน่ๆ
สงสารไนท์จริงๆ แม้แต่เวย์ที่บอกว่ารักๆและบอกว่าจะรอแท้ๆ
ยังมาคิดตัดใจ
ไนท์มันเดียวดายจริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 04-06-2009 07:45:19
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 04-06-2009 08:43:12
 :m15:สงสารไนท์มากมายอ่ะ

แต่ก็สงสารเวย์มากกว่าอยู่ดี ... ก็พยายามทำเต็มที่แล้วนี่นา
แต่ไนท์ก็ยังครึ่งๆกลางๆ ไม่พูดมาตรงๆ ... แม้การแสดงออกมันจะ(เกือบ)ชัดเจน ก็เหอะ
แต่บางที คนเราก็อยากได้ยินจากปากมากกว่าไม่ใช่เหรอ
เวย์ คงไม่อยากคิดไปเอง ... แล้วต้องมาเจ็บเอง ทีหลัง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: toonki ที่ 04-06-2009 08:51:29
เอาน่าเมื่อรู้แล้วก็รีบไปหาแล้วพูดกันให้รู้เรื่องเลยนะ

ไปหาเลยนะ
ส่วนเรื่องที่อยากรู้ก็ไปถามกับไนท์เลยสิ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 04-06-2009 09:30:27
รีบไปดิ

เวย์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 04-06-2009 10:22:22
ความเข้าใจระหว่างคนรัก เปนสายสัมพันธ์ตัดให้ขาดยากกว่าโซ่ซะอีก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 04-06-2009 12:05:32
 :sad4:รีบเคลียร์กันสะที
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 04-06-2009 15:02:41
ไนท์มึงรอกุน่ะ

จัดให้ๆ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 04-06-2009 16:16:10
สงสัยจะได้ไปเปิดใจที่ รพ.  เหอ เหอ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: :+vitamin+: ที่ 04-06-2009 18:05:40
เวย์เข้าใจไนท์แล้ว แล้วไนท์เป็นยังไงล่ะเนี่ย
แอบชอบชินตอนนี้อ่ะ พูดซะเวย์กระจ่างเลย

 :L2: ให้คุณไวท์ค่ะ เรียนหนักพักผ่อนด้วยนะคะ พักมาลงนิยายบ้างก็ได้เหอๆ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 04-06-2009 18:33:59
เข้าใจกันเเล้วเย้ๆๆ :mc4:

 :L2:พี่นุ่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 04-06-2009 18:51:26
อ่าววว  ไนท์ โครมมม ไปแล้วหนิ


จามาบอกไนท์ ได้ไง 555


(เศร้าา )  :impress3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 04-06-2009 19:29:49
 :a6:

เครียดดดดดดดดดดดดดดด

แล้วจาเข้าใจกันมั้ยเนี่ยยยยยยยยยย

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 04-06-2009 20:52:36
หึหึ..

ปวดใจ

 :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 04-06-2009 20:55:55
กลับไปเถอะนะ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 04-06-2009 21:49:54
หวังว่าเจ้าไนท์มันยอมให้หนูเวย์เข้าไปในกำแพงอีกครั้งนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 04-06-2009 22:05:33
อยากจะคลุ้มคลั่ง  :serius2:
ถ้าเวย์มันรู้ว่าไนท์รถชนจะเป็นไงว๊า
เฮ้อออ  :เฮ้อ:

เอ่ออ ตกลงนี่แชมป์มันเสร็จไอ้นุไปแล้วใช่มะ???
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 04-06-2009 23:51:41
นึกถึงตอนหน้าแล้ว... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 05-06-2009 04:36:45


ปวดใจจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: RuleDark ที่ 05-06-2009 12:24:52
อ่านแล้วคิดถึงตัวเองเลยอ่ะ

แต่ชีวิตจริงเราไม่รออ่ะดิ

มาต่อเร็ว ๆ นะ

อยากอ่านอารายที่มันตรงข้ามกะชีวิตตัวเอง

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 05-06-2009 15:28:57
 :m4: oho (ขอยืมนิส) นู๋ชินพูดได้ใจมาก


ได้โล่เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: LovE YuNJaE ที่ 05-06-2009 22:59:27
ไนท์รอเวย์ก่อนเน้ ๆๆ

โอ๊ ย. เครียด :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 06-06-2009 01:14:03
แหม แต่หลังเหตุการณ์จับกดรอบนั้นจะให้เวย์มันไม่หวั่นไหวก็กระไรอยู่

คนเราย่อมมีขีดจำกัด
ให้พบกันครึ่งทางมันถึงจะโอเค
ให้เวย์มันยอมตลอด มันก็จะเกินไปป่าว

ส่วนหนึ่งก็อย่างที่ว่า ไนท์มันก็ทำตัวเองอ่ะ จะให้ไปโทษใคร
แม้กระทั่งเมา ขับรถเร็ว ชนอีกตะหาก มันก็ยังทำตัวเองเลย

ปั๊ดติโธ่
งานนี้สงสารไอ้เวย์ว่ะ ลงท้ายเดี๋ยวก็มาโทษตัวเองอีกแหง๋
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 06-06-2009 01:57:14
อ่านแล้วปวดใจมากเลยอ่ะ

จี๊ดตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 06-06-2009 18:11:55
พี่นุ่น :3125: :3125:ดิวรออยู่น่ะมันจะเป็นอะไรไมเนี่ย :sad4: :sad4:

ห้ามทำเวย์เสียใจ ห้ามทำพี่ไนท์ตายน่ะดิวขอร้อง :impress2: :impress2:


เวย์ๆๆๆๆอย่าโทษตัวเองด้วยน่ะเพราะหากไนท์เป็นอะไรเวย์ต้องโทษตัวเองเสมอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 06-06-2009 21:43:47


...แต่จะเก็บต่อไปได้นานแค่ไหน  รักที่เอ่อล้นใจ  รักที่มีให้เธอมากมาย  สุดท้ายไม่มีค่าใด  จะทำให้เธอเห็นใจ  จะทำให้เธอมาสนใจ  เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป  เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม...

...แต่จะเก็บต่อไปได้นานแค่ไหน  รักที่เอ่อล้นใจ  รักที่มีให้เธอมากมาย  สุดท้ายไม่มีค่าใด  จะทำให้เธอเห็นใจ  จะทำให้เธอมาสนใจ  เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป  เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม...

   ใครมันโทรตอนนี้วะ  ฮ่วยย  วันนี้ดูเหมือนมันจะเป็นวันซวยของผมครับ  โดนขัดจังหวะได้ทั้งวัน  ขนาดนอนฝัน  ก็ยังมีคนอุตส่าห์โทรขัด   ฮึ่มมมม   ฝันดีๆ ของไอ้เวย์พังหมด  แน่ะ! อยากรู้ใช่ไหมครับว่าผมฝันอะไร  ฮ่าๆ  ทำไมผมต้องบอกครับ   จำเป็น??   อะไรนะครับ??  จะเอาไปซื้อหวย  = =;;   อ่านะครับ  คนเรามันดูที่หน้าตาไม่ได้จริงๆ ด้วย    บอกก็ได้ครับเดี๋ยวจะหาว่าไอ้เวย์ใจดำ   ผมก็ฝันว่า....   ว่า....  ว่า....  ผัวะ!!!  (บอกซะทีสิโว้ย)  ว่าผมกับไอ้ไนท์ดีกันแล้วไง  กร๊ากกกก   รีบไปซื้อเลยนะครับ  ถ้าถูกแบ่งกัน  50 - 50   ฮ่าๆ  ล้อเล่นนะครับ  ผมไม่ได้งกขนาดนั้น  ขอแค่ให้ฝันผมเป็นจริงก็พอ

   “ครับ?” 
   “สวัสดีค่ะ  โทรจากโรงพยาบาล....นะคะ”  เสียงนางพยาบาลสาวสวยดังลอดมาตามสาย  ถ้าถามผมว่ารู้ได้ยังไงว่าสวย  ง่ายๆ ครับ  ก็แค่คิดซะว่าเธอสวย -*-   เราจะได้กระปรี้กระเปร่าหายง่วงเป็นปริดทิ้งไงครับ  ว่าแต่ว่า...คุณเธอโทรหาผมตอนตีสาม??? 
   “อ่าครับ???”  โรงพยาบาลมีธุระอะไรกับคนอย่างผมครับ  จะว่าไปผมก็ไม่มีโครงการจะเทคโอเวอร์โรงพยาบาลไหน (พูดเหมือนมึงรวย)  หรือจะโทรมาจองอวัยวะภายในล่วงหน้าก็ไม่น่าใช่  -*-   ไอ้ข้างในของผมมันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น    โทรผิดหรือเปล่าครับพี่?

   “เอ่อ..ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคุณนิรวัชช์คะ  ดิฉันกดโทรจากหมายเลขโทรออกล่าสุดน่ะค่ะ”  นิรวัชช์   ไอ้ไนท์!?  เกิดอะไรขึ้นกับมัน  แค่ได้ยินชื่อหัวใจผมก็สั่นไหวแปลกๆ  ความรู้สึกโหวงๆ ในอกนี่มันหมายความว่ายังไงกันนะ   ขอให้เป็นผมที่คิดมากไปเอง  ขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย 
   “เอ่อ..ผม เป็น  เพื่อน..ครับ”  แม้จะเพียรปลอบใจตัวเองว่า  ‘ไม่มีอะไรๆ’  แต่เสียงที่ออกมากลับฟังดูติดขัดตามลมหายใจ  ผม...กำลังกลัว  ทำไมมึงต้องไปเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลด้วย  ทำไมต้องเป็นเบอร์โทรออกล่าสุด  ทำไม  เกิดอะไรขึ้นกับมัน???

   “ถ้างั้นรบกวนติดต่อญาติเขาได้หรือเปล่าคะ   ตอนนี้คุณนิรวัชช์อยู่ห้องฉุกเฉินค่ะ”  ประโยคนั้นแทบทำให้ผมหยุดหายใจ  ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูง  ดำดิ่งสู่ห้วงเหวลึกที่ทั้งมืดและหนาวเหน็บ  มันเป็นอะไรทำไมต้องเข้าห้องฉุกเฉิน??  บาดเจ็บหรือป่วยเป็นโรคร้าย    เป็นไปไม่ได้  ไม่มีทาง  ผมเพิ่งแยกกับมันไม่ทันข้ามวัน  มันจะเป็นอะไรไปได้ยังไง   เรื่องบ้าๆ แบบนี้ผมไม่ทางเชื่อเด็ดขาด  นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม  ผมยังไม่ตื่นใช่ไหม  ใครก็ได้บอกผมที

   “....” 
   “เอ่อ..คุณคะ  คุณ?”  เสียงนั้นเรียกผมอีกครั้ง  เสียงที่เคยหวานใสกลับกลายเป็นเสียงที่ผมไม่อยากได้ยินที่สุดในตอนนี้  อย่าบอกอะไรผมอีกเลย  ถ้าคุณมาเข้าฝันผมล่ะก็  ได้โปรดปลุกผมเถอะ  ไม่เอาแล้ว  ฝันแบบนี้  ไม่เอา

   “คุณพูดเรื่องบ้าอะไร”  เรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเป็นจริงหรอก  ใครสักคนกำลังปั่นหัวผมแน่ๆ  ใครสักคนกำลังเล่นตลกกับผม  แต่รู้ไว้เถอะว่าผมไม่ขำเลยสักนิด

   “ใจเย็นๆ นะคะ  เพื่อนคุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์   คาดว่าน่าจะเมาแล้วขับค่ะ”  บ้าแล้ว  เรื่องแบบนี้  คนอย่างมัน... คนอย่างมันจะเมาแล้วขับได้ยังไง   ในเมื่อมันเคยสัญญาไว้ว่าจะไม่ทำ   สัญญาไว้แล้ว    ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด  แต่ทำไมใบหน้าถึงได้ร้อนผ่าว   หัวใจสั่นกระตุกอย่างห้ามไม่ได้ 

   “โก..หก   หลอกคนอื่นสนุกนักใช่มั้ย  สนุกนักหรือไง”  ผมไม่เชื่อ  ไม่มีวันเชื่อ  แต่ทำไมน้ำตาถึงได้ไหลไม่หยุด  เฝ้าบอกตัวเองว่านี่มันเป็นการเล่นสนุกของใครสักคน   ไม่มีทางเป็นเรื่องจริงไปได้  แต่ทำไมหัวใจได้บีบรัดจนเจ็บไปหมดอย่างนี้

   “ทำใจดีๆ ไว้นะคะ   ทางเราจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่”  เสียงนั้นยังคงยืนยันฝันร้ายอย่างที่ผมไม่ต้องการ   นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม  เรื่องจริงที่ทำฆ่าผมให้ตายทั้งเป็น
   “....”
   “คุณคะ  คุณ..ช่วยติดต่อญาติคนไข้ได้ไหมคะ”  คำพูดของเธอเหมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจผมให้เลือดมันไหลออกมาช้าๆ  ผมผิดเองใช่ไหม   ผมมันไม่เอาไหน   ญาติเหรอ??  ญาติที่มีก็เหมือนไม่มีของมันน่ะเหรอ   หึ  มึงมันเลวไอ้เวย์

   “ผม..จะไปเดี๋ยวนี้ครับ”   จะรีบไปหา   จะไปบอกว่าขอโทษ   จะไปบอกว่ารัก  เพราะฉะนั้นมึงอย่าเป็นอะไรนะ  มึงต้องรอกูนะ  ..มึงอย่างทิ้งกูไปนะ   พระเจ้าครับ  ผมไม่เคยขออะไรจากท่าน  ไม่เคยขออะไรให้ตัวเอง  แต่ตอนนี้ผมขอ...ขอเวลา  ขอชีวิตมันไว้  อย่าเอามันไปเลยนะครับ  คนอย่างมันไม่เหมาะจะไปอยู่กับท่านบนสววรค์หรอก  ให้มันอยู่กับผมที่นี่เถอะ


   
   

   “ไอ้ชิน ..มึง..กู  กู.. ” ผมโทรหาไอ้ชินแต่กลับพูดอะไรไม่ออก  ทั้งที่เพิ่งตาสว่างจากความโง่  ความเห็นแก่ตัวของตัวเอง  ทั้งที่ตั้งใจจะกลับไปขอโทษ  แต่ตอนนี้คนที่อยากให้ฟังคำขอโทษกลับไม่ยอมรอฟังเสียแล้ว  มันหนีไปนอนหลับอยู่ในห้องแคบๆ ที่น่าอึดอัดแบบนั้น  โดยไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะยอมออกมา

   “ครับ  มีอะไรครับพี่  โทรมาซะดึกคิดถึงผมมากหรือไง?”  ใช่กูคิดถึง  คิดถึงคำพูดของมึง  แต่กูไม่รู้ว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่า  พระเจ้ายังไม่ใจร้ายกับกูใช่ไหม  ท่านคงไม่เอามันไปตอนนี้ใช่ไหม  กูยังไม่ได้บอกมันเลยว่าจริงๆ แล้วกูรักมันแค่ไหน  ยังไม่ได้บอกมันเลย

วันที่มีเธออยู่เคียงกาย ไม่เคยได้บอกว่ารัก...
วันที่เธอได้จากกันไป
เพิ่งอยากจะบอกว่ารัก...

   “มึง...ไนท์  อึ่ก.. ไอ้ไนท์มันอยู่โรง’บาล  มัน..รถคว่ำ ” ผมพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น  แต่ไม่ง่ายเลย  เวลาแบบนี้ผมจะร้องไห้ได้ยังไง  ไอ้ไนท์มันหนังเหนียวจะตาย  มันไม่เป็นอะไรไปง่ายๆ หรอก   ผมควรเข้มแข็งสิ  ผมควรรีบไปหามันสิ

   “อะไรนะพี่!!”  เสียงอีกฝ่ายฟังดูตกใจไม่แพ้กัน
   “เพราะกู  มันเมา  แล้ว..อึ่ก..ขับรถ  เพราะกู  เพราะกู” อย่าร้องนะมึง  อย่าร้อง  มันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  หมอบอกว่าจะช่วยมันอย่างเต็มที่ไง  มันไม่เป็นไรหรอก  สวรรค์ก็ขึ้นไม่ได้  นรกยังไม่ต้องการ  เพราะฉะนั้นมันไม่ตายหรอก  มันต้องอยู่ที่นี่  บนโลกนี้

เพิ่งรู้เมื่อสูญเสีย เมื่อสายไป
จะร้องไห้แค่ไหน.. ก็ย้อนเวลาไม่ได้
หากฉันคิดสักนิด ในหัวใจ... คงไม่ต้องโทษตัวเอง

ที่ละเลย


   “พี่เวย์  ใจเย็นนะพี่  ผมจะไปเดี๋ยวนี้  พี่ใจเย็นๆ  เฮียต้องไม่เป็นไร  เชื่อผม”  กูเชื่อมึง  กูเชื่อ  อย่างน้อยก็พยายามจะเชื่อแบบนั้น   พี่หมอ...พี่เคยบอกผมใช่ไหมว่าขอแค่มีหวัง  ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้  ขอแค่เชื่อ..เท่านั้น  และตอนนี้ผมกำลังเชื่ออยู่  เชื่อว่ามันจะไม่เป็นไร   ความหวังของผมคงจะเป็นจริงใช่ไหม


   ไอ้ชินมาถึงในเวลาไม่นาน  แต่สำหรับผมมันช่างยาวนานเหลือเกิน  แม้ไม่รู้ว่ามันอัดรถมาแบบไหนจากลาดพร้าวมาถึงนี่ได้ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที  แต่ผมก็ไม่มีใจคิดจะถามได้แต่พุ่งตัวไปเปิดประตูข้างคนขับอย่างรวดเร็วที่สุดทั้งที่รถยังไม่ทันจอดสนิทดี   คิดแต่ว่าอยากไปหามันเดี๋ยวนี้   ขอแค่เร็วขึ้นสักวินาทีก็ยังดี

   ไม่มีใครพูดอะไรตลอดทาง  ไม่ใช่ไอ้ชินไม่พยายามจะพูดแต่ผมต่างหากที่ไม่อยากฟัง  ผมอยากจมอยู่กับตัวเอง  คิดถึงสิ่งที่อยากจะทำหลังจากนี้  เพราะเชื่อเสมอว่าจะมีโอกาสนั้น   โอกาสให้ผมได้แก้ตัว   กูอยากเป็นเพื่อนที่มึงรักที่สุดในโลกอีกครั้งจะได้ไหมวะ  กูจะเลิกคิดบ้าๆ บอๆ  กูจะเลิกทำตัวปัญญาอ่อน  ไร้สาระ  ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งในฐานะอะไรก็ได้ทั้งนั้น



   “เลิกทำแบบนี้เถอะ  พี่ไม่อยากเห็นนายเสียใจ”  จู่ๆ คำพูดของพี่นัทที่เคยทิ้งไว้วันที่ผมแข่งบาสก็ลอยกลับเข้ามาในห้วงความคิดที่แทบจะเป็นสีดำ 
   “ครับ???”  ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าอยู่ๆ ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น
   “มัวแต่ฝืนคิดอะไรไปคนเดียวแบบนี้  นายนั่นแหละจะเจ็บที่สุด”  ยังจำได้ว่าเขายิ้มให้ผมยังไง  ลูบหัวผมแบบไหน  ตอนนั้นยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าผมทำถูกแล้ว   คิดว่าตัวเองเจ็บที่สุด  แต่ต่อให้เจ็บหนักๆ สักทีก็ไม่เป็นไร  ขอแค่ได้หนีไปจากที่ตรงนั้นก็พอ
   “พี่..ทำไม”
   “ขอโทษนะที่ทำให้พวกนายผิดใจกัน  พี่ยอมถอยให้แล้ว  เพราะฉะนั้นนายก็เลิกหลอกตัวเองเถอะ”

   “ใครบอกว่าผมหลอกตัวเอง  ผมแค่..รู้ความจริงต่างหาก  แค่กำลังพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง”  ผมยังเถียงข้างๆ คูๆ  ยังคงมองว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก  มองว่ามันต่างหากที่ผิด  มันต่างหากที่ไม่เข้าใจผมเลย  ถึงได้พยายามถอยห่างเพราะไม่อยากหวังให้ตัวเองต้องเจ็บต่อไปเรื่อยๆ  จนลืมไปว่ามันเป็นของมันอย่างนั้นมาเสมอ  ดีกับผมยังไงก็ยังเป็นแบบนั้น  ไม่เคยเปลี่ยน   ผมต่างหากที่หวังมากเกินไป   ผมต่างหากที่เปลี่ยนไป   

   “งั้นเหรอ???  แล้วความถูกต้องของนายมันเป็นความถูกต้องของคนอื่นด้วยหรือเปล่า”  ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ใช่   ไม่ใช่ความถูกต้องของใครตั้งแต่แรก  มันก็แค่ทางออกของคนที่ไม่อยากให้ตัวเองเจ็บอย่างผม  ผมก็แค่พยายามหาทางปกป้องตัวเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของมัน  ลืมนึกถึงเรื่องที่ผ่านๆ มา
   “.....”
   “แต่ก็เอาเถอะ  ถ้ายังไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งตัดสินใจเร็วนัก   รออีกหน่อยก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ”  ขนาดพี่ยังบอกให้รอมัน  ขนาดพี่ยังบอกให้ผมคิดให้ดี  ถ้าวันนั้นผมทำตามที่พี่บอกมันก็คงไม่เป็นอย่างวันนี้  แค่ผมยอมรอ  แค่ผมหยุดคิดเท่านั้น
   “ผม...”

   “ทำตามใจตัวเองเถอะ  พี่ไม่อยากเห็นนายต้องมาเสียใจทีหลัง”  พี่รู้ไหมว่าตอนนี้ผมเสียใจมากแค่ไหน  รู้ไหมว่าผมอยากแลกอะไรก็ได้กับเวลาที่ผ่านมาให้ผมได้กลับไปแก้ไขอดีต  ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้    ทั้งที่ผมรักมัน  ทั้งที่มันก็รักผม  ทำไม...ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย

มีเพียงเงากับความว่างเปล่า ให้บอกให้กล่าวว่ารัก...
ไม่มีเธอให้บอกแล้ว
ต่อให้บอกสักกี่ล้านที เธอคงจะไม่ได้ยิน
เสียใจที่ไม่เอาไหน
ทำไมเพิ่งมาสำนึกตัว ทำไมต้องรอให้สายไป...
ทำไมต้องรอให้เสียเธอ

ทั้งที่รู้ว่าเธอ ก็รักกัน...


   ภาพทุกอย่างมันกำลังย้อนกลับมา  ไม่ว่าเรื่องดีหรือไม่ดี  ไม่ว่าจะตอนไหนนับตั้งแต่รู้จักกับมันมา  ผมไม่เคยเสียใจเท่าวันนี้  ไม่เคย...   ทั้งที่มันพยายามรั้งผมไว้  ทั้งที่มันขอร้องแต่ทำไมผมถึงปฏิเสธ  ทำไมต้องทำให้มันเสียใจ  ทำไม  ทำไม

กูรู้แล้วว่ามึงเสียใจแค่ไหน  แต่อยากให้รู้ไว้...ว่าวันนี้กูเสียใจยิ่งกว่า



   “พี่เวย์  ถึงแล้วพี่”  ไอ้ชินมันเดินลงมาเปิดประตูให้ผมเมื่อไรไม่รู้  แต่ผมก็ก้าวตามมันไปทั้งที่ใจไม่อยู่กับตัว  อยากวิ่งใจแทบขาด  แต่ขามันสั่นเสียจนวิ่งไม่ไหว   ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากให้มาถึงเร็วที่สุดแต่ตอนนี้ผมกลับอยากยืดเวลาออกไป  อยากให้มีเวลาได้ทำใจ  แต่ก็ไม่..ไม่ได้เลย  เมื่อไอ้ชินมันจับมือผมลากไปในทิศทางที่มันต้องการ   ไม่นานผมก็มาอยู่ที่นี่  หน้าห้องฉุกเฉิน

   ลมหนาวที่พัดมายิ่งทำให้รู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ  ผมรู้ว่าตัวเองกำลังกลัว  กลัวมากที่สุดในชีวิต    คำพูดให้กำลังใจจากคนข้างๆ  ไม่มีวี่แววจะส่งมาถึง  สัมผัสแผ่วเบาที่บ่าไม่อาจช่วยให้ใจสงบลง   ผมกลัว...จนแทบไม่อยากหายใจแล้ว   และคงจะหยุดหายใจไปจริงๆ  ถ้าสิ่งที่กลัวนั้นกลายเป็นเรื่องจริง


   
   “มึงต้องไม่เป็นไร   ไม่เป็นอะไร”     อีกไม่นานมึงจะออกมาพูดกับกูได้ใช่ไหม  มึงจะด่ากู  จะต่อยกูก็ได้ที่กูทำให้มึงเป็นแบบนี้  ที่กูผิดสัญญา  ที่กูมันเห็นแก่ตัว  จะทำอะไรกับกูก็ได้ทั้งนั้น  แต่ได้โปรดออกมาเถอะ  ในนั้นมันไม่มีอะไรดีหรอก  มีแต่เตียง  มีแต่สายยางกับเครื่องอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด  ห้องก็แคบด้วยแถมยังหนาวอีกต่างหาก  มึงต้องไม่ชอบแน่ๆ เลย  เพราะฉะนั้น  มึงต้องไม่เป็นอะไรมากนะเว้ย  มึงจะได้ออกมาจากห้องนั้นซะที  เข้าใจไหม?

   
   “เฮียต้องไม่เป็นไรพี่  เชื่อผม”   กูเชื่อ  เชื่อ....  แล้วทำไมมันไม่ออกมาซะทีล่ะ  ทำไมถึงเข้าไปนานนัก  มึงบอกให้มันออกมาสิ   นอนอยู่ในนั้นแล้วกูจะคุยกับมันได้ยังไง

   สิ่งที่กั้นผมกับมันมีแค่ประตูกระจกบานเดียวเท่านั้น   ทั้งที่ใกล้กันแค่นี้  แต่ทำไมกลับรู้สึกไกลเหลือเกิน   รีบๆ หายแล้วออกมาสิ  ออกมาฟังว่ากูไม่ไปไหนแล้ว  กูไม่ยอมแพ้แล้ว  มึงออกมาฟังสิ  กูขอโทษ  ขอโทษ....


ผิดที่ปล่อยให้เธอเดียวดาย ไม่กอดไม่บอกว่ารัก
ผิดที่อยู่กับสิ่งลวงตา เข้าใจว่าเธอไม่รัก...


   “เดี๋ยวผมมานะพี่”  ผมนั่งกุมมือตัวเองอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้หันไปสนใจว่าคนข้างตัวเดินออกไปไหน   เล็บจิกเข้าเนื้อจนเลือดซิบแต่ช่างมัน  เจ็บไว้นี่แหละดี  จะได้ยังรู้สึกตัว  คนข้างในมันคงเจ็บมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า  มันจะเป็นยังไงบ้าง   ผมไม่รู้  ไม่รู้อะไรเลย

   ออกมาซะที  มึงไม่ชอบโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ  มึงเกลียดกลิ่นนำยาฆ่าเชื้อใช่ไหม  ถ้างั้นออกมาสิ  อย่าอยู่ที่นี่เลย  กลับบ้านกันเถอะ  กลับบ้านเรา

เพิ่งรู้เมื่อสูญเสีย เมื่อสายไป
จะร้องไห้แค่ไหน.. ก็ย้อนเวลาไม่ได้
หากฉันคิดสักนิด ในหัวใจ... คงไม่ต้องโทษตัวเอง

ที่ละเลย



   “ชิน   ไนท์...ลูกลุงมันเป็นอะไร”   เสียงพูดอย่างร้อนใจดังขึ้นหลังเสียงฝีเท้า  ชายวัยกลางคนสองคนที่ผมจำได้แม่นยำ   พ่อของมันกับ..อานพ    เป็นครั้งแรกของวันที่ผมฉีกยิ้มอย่างขมขื่น   หึ  มาทำไมกัน  มาตอนนี้แล้วมันจะได้อะไร  เสียงในใจผมตะโกนก้อง  แต่ผมจะมีสิทธิ์ว่าใครได้  ในเมื่อผมก็ผิดเช่นกัน   

   “ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินครับคุณลุง  อ๊ะ!  หมอออกมาแล้ว!!”    ไอ้ชินมันตะโกนบอกผมที่ยังคงงุงงงกับความสัมพันธ์ของมันกับอีกสองคนที่เพิ่งมาถึง   แต่ผมไม่มีเวลาจะใส่ใจ  สิ่งที่ผมสนใจมีเพียงคนที่อยู่หลังประตูบานนั้นเท่านั้น   หมอออกมาแล้ว   พวกเขาช่วยมึงได้ใช่ไหม  มึงไม่เป็นไรแล้ว  เราจะกลับบ้านกันใช่ไหม   ผมวิ่งไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น  ไม่รับรู้แม้กระทั่งว่ามีใครอีกหลายคนที่เข้ามาที่นี่   มีใครอีกหลายคนที่วิ่งไปพร้อมกับผม

   “หมอ  เพื่อนผม  เพื่อนผม... ไม่เป็นไรใช่มั้ย” ผมถามด้วยเสียงร้อนรน  พลางชะเง้อมองประตู  มึงรอกูอยู่ในนั้นใช่ไหม   กำลังนอนยิ้มรอให้กูใช่ไหม .... กูกำลังจะเข้าไปหามึงแล้ว

   “เราพยายามเต็มที่แล้ว  แต่คนไข้.....” 


มีเพียงเงากับความว่างเปล่า ให้บอกให้กล่าวว่ารัก...
ไม่มีเธอให้บอกแล้ว
ต่อให้บอกสักกี่ล้านที เธอคงจะไม่ได้ยิน
เสียใจที่ไม่เอาไหน

ทำไมเพิ่งมาสำนึกตัว ทำไมต้องรอให้สายไป...
ทำไมต้องรอให้เสียเธอ

ทั้งที่รู้ว่าเธอ ก็รักกัน...


---------------------------

อย่าฆาตกรรมกันนะคะ  ที่จบแบบนี้  T^T
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 06-06-2009 21:50:04
...แต่คนไข้...ไข้...ไข้....ไข้



แว้กกกก  :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 06-06-2009 22:20:41


“เราพยายามเต็มที่แล้ว  แต่คนไข้.....” 


 :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 06-06-2009 22:32:02
 :serius2:
ไม่เอาน๊า...มันเศร้าอ่า...
จะจบอย่างนี้จริงๆ เหรอ
สงสารเวย์-ไนท์   :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 06-06-2009 22:44:28
นี่อะไร

เล่นมุขใช่มั้ยคะ

จริงๆ แล้วไนท์อยู่ห้องข้างๆใช่มั้ยค๊าาาา


 :o12:
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 06-06-2009 22:44:31
รู้สึกสมน้ำหน้าอิหนูเวย์ เหอะๆๆ งี่เง่าดีนัก ไนท์ป่วยหนักๆเลยก็ดี
ว่าแต่คนไข้ผิดคนรึเปล่า ไม่ใช่คนนี้หรอกมั้งง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 06-06-2009 22:52:15
คืนนี้จะหลับตาลงไหมเนี่ย  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 06-06-2009 23:04:20
 :m31: :serius2: :fire: :m16:

ทำไมเป็นแบบนี้ เจ๊จะต้องเครียดไปอีกกี่วันเนี๊ยะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 06-06-2009 23:24:22
เฮ้ยยย
เฮ้ยยยย

ช่วยมาบอกประโยคต่อไปทีเถอะค่ะ ...

 :z3: :z3:

Wait ???  ..... จะให้รอไปถึงเมื่อไหร่ .... กว่า 2 คน จะรักกัน .....  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 07-06-2009 02:03:16
ห้ามค้างค้าบ อย่านะ
มาต่อเลยนะค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: shiro_niji ที่ 07-06-2009 02:46:35
จบอย่างนี้ไม่ใช่ค้างธรรมดานะค่ะ
คุณหมอยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 07-06-2009 07:58:48
เครียดดดดดดดดด :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 07-06-2009 08:50:56
พี่นุ่นค่ะ o18 o18

 :serius2: :serius2:เวย์ทำไรผิดทำไม   ไนท์ไม่ตายหรอกน่ะ :sad4: เพราะคนที่อยู่น่ะเจ็บที่สุด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 07-06-2009 18:09:38
ตายไม่ได้นั ห้ามๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 07-06-2009 19:16:05
หึหึ..

พี่ไวท์(นุ่น)คงต้องรับศึกหนักแล้วล่ะ

ทั้งจากในเล้า และที่เด็กดี

 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 07-06-2009 23:12:38
"..แต่คนไข้..."

แล้วคนไข้ก็เดินตามออกมาอะดิ

รู้หรอกกก
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 08-06-2009 14:01:02
 :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-06-2009 20:41:40
มะรืนนี้วันพุธ

ยังแก้บททันนะพี่นุ่นนน

 o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-06-2009 22:23:32
ถ้าไนท์ตายนะ
เค้าจาไปประท้วงหน้าบ้านคนเขียน
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 08-06-2009 22:40:35
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 08-06-2009 23:18:23
โน้วววววววววววววววววววววว
 :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 08-06-2009 23:39:11
 :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:
  อย่าจบแบบนี้น้า.................
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 09-06-2009 00:09:39


มันไม่น่าจะจบแบบนี้หรอก.............ใจร้ายเกินไป

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 09-06-2009 10:24:29
ขอให้คนไข้ผิดราย ประมาณว่านายเวย์กำลังเศร้าแล้วนายไนท์ก็เดินมา อะไรอย่างนี้ได้ไหมอ่ะ  :sad4:


ไม่งั้นเครียดตาย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 09-06-2009 10:28:00
No time to turn back


คือจบแล้วใช่ป่ะ



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 09-06-2009 18:01:48
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อ่านมาตั้งนาน เจอแบบนี้แล้วเครียดค่ะ ขอกริ๊ดเสียหน่อย

อย่าได้จบแบบนี้เชียวนะค่ะ ได้โปรดเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 10-06-2009 10:13:02
จบแบบนี้มี กด ลบ   :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 11-06-2009 14:38:34
อ๊าก ก ก ก ก ก ก  ก ก ก  :serius2:

มาต่อเหอะนะๆ ๆ ๆ  ๆ

มันเป็นยังไงต่ออะ

ไนท์อยู่ไหน น น น มาหาเวย์ก่อน น

 :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 11-06-2009 19:14:27
อยู่หนายยยยยยยยยย

หายไปนานแล้วเด้อออออออออ


 :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 11-06-2009 19:28:30
วันศุกร์ใช่มั้ยพี่นุ่น  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: ohhotopo ที่ 12-06-2009 11:03:01
 :m31: :o12:

ไม่นะ อย่าจบแบบนี้สิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 12-06-2009 18:45:46



บทที่ 23  Give you my breath   “เราพยายามเต็มที่แล้ว  แต่คนไข้...ไม่หายใจแล้วครับ”   เสียงสูดหายใจอย่างหนาวเหน็บดังขึ้นทั่วบริเวณ  แต่ผมกลับได้ยินเพียงเสียงหัวใจตัวเอง  สมองพยายามปฏิเสธคำพูดที่เพิ่งได้ฟัง   
  ไม่หายใจ  ไม่..หายใจ  ไม่หายใจ..แล้ว   หมายความว่ามัน..มันจากไปแล้วอย่างนั้นเหรอ   

   “ไม่..จริง”  ปฏิเสธเสียงสั่นเครือ  ทว่าความชื้นที่ข้างแก้มกลับเป็นหลักฐานการยอมรับของผู้แพ้    ทำไมช่วยมันไม่ได้ล่ะ  ทำไม  ไหนบอกจะพยายามเต็มที่ไง  ทำไม  ทำไมปล่อยให้มัน...

   “เสียใจด้วยนะครับ เรา...”   
    “เอ๊ะ!!  คุณ”    ผมไม่ได้สนอะไรอีกแล้ว  นอกจากรีบวิ่งผ่านประตูบานนั้นเร็วเท่าที่จะทำได้  ยังทัน  ยังทันใช่ไหม   กูรอมึงมาตลอด  ครั้งนี้ช่วยรอกูบ้างได้ไหม  อย่าไป...อย่าไปเลย


   ภาพที่เห็นภาพม่านน้ำตาทำหัวใจกระตุกวูบ  สองเท้าถูกตรึงไว้ด้วยความกลัว  ร่างกายของที่คุ้นตานอนนิ่งอยู่บนเตียงที่มีสายระโยงระยาเต็มไปหมด  ดวงตาปิดสนิท  ผ้าคลุมสีขาวมีรอยเลือดอยู่หลายแห่ง  เส้นชีพจรในจอบอกว่า...มันไม่หายใจ

คำว่า ‘รัก’  ที่ผมอยากได้ยิน  คือสิ่งที่พรากชีวิตคนที่ผมรัก

   เอื้อมมือสั่นเทาไปสัมผัสใบหน้า  ดวงตาที่เคยสบ   จมูกโด่งที่เคยสัมผัสข้างแก้ม  ริมฝีปากที่เคยยิ้มให้...ยังคงอุ่นเหมือนมีชีวิต  ทว่า...กลับไร้ซึ่งลมหายใจ

   อยากร้อง  อยากร้องตะโกนดังๆ เพื่อระบายความอึดอัด  ความเสียใจ  ทว่ากลับหาเสียงตัวเองไม่เจอ  ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาชะล้างความเจ็บปวดที่ไม่มีวันหมดสิ้น  ทำได้เพียงกอดร่างนั้นไว้  หวังว่าความอบอุ่นจากร่างกายอาจจะทำให้ร่างที่เริ่มเย็นลงนั้นอุ่นขึ้น   ปล่อยให้หัวใจเต้นช้าๆ อยู่ข้างอกนั้นหวังว่ามันอาจชักนำให้หัวใจอีกดวงกลับมาเต้นอีกครั้ง

   “รัก  กูรักมึง  รักมึง”
   กระซิบถ้อยคำที่อยากบอก  พูดอยู่อย่างนั้นแม้รู้ว่าอีกคนจะไม่วันได้ยิน  หัวใจบีบรัดจนปวดหนึบ  แขนที่กอดมันไว้เริ่มหมดกำลัง  ทรุดร่างลงข้างเตียงโดยมีอ้อมแขนหนึ่งมาพยุงไว้

   “ไม่เป็นไรนะพี่  ไม่เป็นไรนะ”  ไอ้ชินมันกอดผมไว้แล้วปลอบเบาๆ  ทั้งที่ตัวมันเองก็ตาแดงก่ำ    มันก็คงเสียใจไม่น้อยกว่าผม   

   “ต่อยกูที”   ผมบอกมัน   อยากให้มันช่วยทำร้าย  ทำให้มันสาสมกับความผิดของผม  ทำให้ผมเจ็บเพราะตอนนี้หัวใจมันชาไปหมดแล้ว  ทำให้ผมเจ็บเพื่อเตือนว่าผมยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
   “พี่เวย์”  มันครางแล้วกอดมันแน่นขึ้น  บอกให้ต่อยกูไงเล่า  อย่าปลอบกูเลย  กูมันเลว  เลวเกินกว่าที่มึงต้องมาใส่ใจ   

   “ต่อยกู  ต่อย  อึ่ก  กูมันเลว  ฮือ”  ผมปล่อยโฮในอ้อมกอดนั้นอย่างกลั้นไม่อยู่  พระเจ้าท่านใจร้ายนัก   ถ้าคิดจะลงโทษผมล่ะก็ทำกับตัวผมสิ  อย่าทำกับคนที่ผมรัก  ท่าน...อยากเห็นผมตายทั้งเป็นอย่างนั้นใช่ไหม  ทำไมต้องเอามันไป  ทำไม  ทำไม
   

   ผมเงยหน้าจากอกนั้นเพราะได้ยินเสียงหมอสั่งให้ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วย้ายมันไปที่อื่น  ที่ที่ผมจะไม่มีวันได้มันกลับมาอีกตลอดกาล

   “จะเอามันไปไหน!!  ผมถามว่าจะเอามันไปไหน”  ผมผละจากอกไอ้ชินแล้ววิ่งไปขวางคนที่กำลังจะถอดเครื่องช่วยหายใจออกจาตัวมัน  มองด้วยสายตาโกรธแค้นทั้งที่คนที่สมควรถูกโกรธ  ถูกเกลียดมากที่สุดคือตัวผมต่างหาก
   “เราต้องย้ายคนไข้..”
   “ไม่!  ออกไปให้หมด  พวกคุณช่วยมันไม่ได้  อึ่ก  ทำไมยังจะฆ่ามันด้วย”  กล่าวโทษคนอื่นทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าคนผิดจริงๆ  คือผมต่างหาก  รู้..แต่ว่าถ้าลองโทษใครสักคนหนึ่ง  ความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่ในใจนี้อาจบรรเทาลงได้บ้าง  แต่มัน..ไม่ใช่เลย  มันกลับยิ่งบีบรัดหัวใจมากขึ้นทุกที   ‘ฆ่า’  คำที่ยิ่งกว่ามีดคมๆ คอยเฉือนเนื้อหัวใจออกไปช้าๆ  อึดอัด    อึดอัดจนอกแทบจะระเบิด  ทั้งความเสียใจทั้งความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใจจนน่ากลัวว่าหัวใจผมคงทนได้อีกไม่นาน

   “พี่เวย์  ไปเถอะ”  ไอ้ชินมันเข้ามาจับตัวผมไว้  แล้วอุ้มลอยออกมาจากตรงนั้น
   “ไม่เอา!  มึงปล่อยกู  ปล่อย...”  ผมตะโกนแล้วดิ้นสุดแรงทว่าไอ้ชินกลับล็อกตัวผมแน่น   ร่างแน่นิ่งของมันห่างไปทุกที...ทุกที   ไม่มีทางแล้วเหรอ  ไม่มีทางแล้วใช่ไหม...

   “ไนท์!!  กลับมาสิ  กลับมา  กูบอกให้มึงกลับมา  ได้ยินมั้ย   กลับม๊-า”  ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง  ขอให้มันได้ยิน  ได้โปรดเถอะ  ใครก็ได้พามันกลับมาที...   ภาพทุกภาพค่อยๆ มืดลง  รู้สึดอึดอัดจนหายใจไม่ออก  สมองหนักอึ้ง  ไม่นะ...มึงยังหลับไม่ได้  ไม่...  เข้าไปช่วยมันก่อน  เขากำลังจะพามันไปแล้ว  ไม่!!   

   “พี่เวย์!!”


..................................................................

Nut’s talk

“อือ”  เสียงครางเบาๆ ดังจากร่างที่นอนอยู่บนเตียงทำให้ผมรีบวางมือจากถ้วยกาแฟตรงหน้าแล้วรีบรุดไปหาทันที
“เวย์  ตื่นแล้วเหรอ  เป็นไงบ้าง”  ผมยิ้มได้เป็นครั้งแรกของวันเมื่อเห็นร่างบางในชุดผู้ป่วยสีฟ้าอ่อนลืมตาเสียทีหลังจากที่สลบไปนานจนทำเอาผมใจไม่ดี  ใบหน้าที่เคยขาวซีดเริ่มมีสีขึ้นบ้างหลังเจ้าตัวได้นอนเต็มตาและได้น้ำเกลือเข้าไปขวดใหญ่

“....”  ทว่า..เขากลับนั่งมองผมนิ่ง  ไม่พูดไม่จา  ไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งนั้น  ดวงตาสีน้ำตาลเหม่อลอยเหมือนคนไร้ความรู้สึก  ทำให้ใจผมปวดแปล๊บ  เวย์ที่ร่าเริงเสมอของผมไม่อยู่แล้ว  ที่นั่งอยู่ตรงนี้คือคนที่ร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา   คนที่สูญเสียจนไม่เหลืออะไร  แม้กระทั่ง...ความรู้สึก

“กินอะไรมั้ย” ผมฝืนยิ้มปลอบใจตัวเอง  ยื่นมือไปลูบเส้นผมอ่อนนุ่มนั้นเบาๆ  แต่คนตรงหน้ากลับนั่งนิ่ง  ไม่ไหวติง  ทำราวกับไม่รู้สึกถึงสัมผัสของผม   ถ้าเขาร้องไห้ออกมามันคงจะดีกว่านี้  คงจะน่าอึดอัดน้อยกว่านี้  เพราะผมยังสามารถกอดปลอบได้  ซับน้ำตาให้ได้  แต่ตอนนี้...ผมทำอะไรไม่ได้เลย
“....”

“ไอ้เวย์  กินๆ เข้าไปเหอะน่า  มึงป่วยแล้วใครจะดูแลไอ้ไนท์วะ”  นุพูดแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นว่าผมคงเอาคนตรงหน้าไม่อยู่   คำพูดที่ดูเหมือนจะได้ผลชะงักเมื่ออีกคนเริ่มมีปฏิกริยา  ดวงตาเลื่อนลอยเริ่มมีประกายหันไปมองเพื่อนเขาช้าๆ  หวังให้ช่วยขยายคำพูดนั้น
“....”
“พ่อมันก็แก่แล้ว  ไอ้ชินกับไอ้แชมป์มันก็ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน....”   เขาว่าเพื่อนย่อมรู้ใจเพื่อนด้วยกัน...มันคงจะจริงนะครับ  เพราะคนที่นั่งนิ่งมานานกลับมีสีหน้าตกใจ  ไม่อยากจะเชื่อ  แต่ดวงตากลับเจือด้วยความหวังจางๆ   แค่ได้ยินชื่อหมอนั่น...นายก็ดูมีชีตชีวามาทันที

“มึง..หมายความว่า...ยังไง  ก็ไนท์มัน...”  ถามด้วยสีหน้าลำบากใจและเจ็บปวดอย่างที่สุด  คำว่า ‘ตาย’  ถูกริมฝีปากแดงนั้นกลั้นไว้ราวกับว่าหากพูดออกมา  มันจะกลายเป็นความจริง

“อ้าว  ก็มึงเล่นสลบไปก่อนเพื่อนก็เลยไม่รู้ว่าไอ้ไนท์มันรอดแล้ว”  นุพูดด้วยเสียงกวนๆ  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวเขาเองก็แย่ไม่แพ้กัน  ห่วงเพื่อนทั้งสองคนจนแทบไม่กินไม่นอน  แต่ตอนนี้กลับทำตัวเข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ  ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดเขาก็คงไม่จ่างจากผม  ยิ้ม..เพื่อเป็นกำลังให้คนที่ไม่สามารถยิ้มได้

“...รอด??  มึงอย่ามาโกหก  กูเห็นมัน...”
“ก็พอมึงสลบปุ๊บ  ชีพจรมันก็กลับมาเต้นปั๊บ”  จะว่าเกิดปาฏิหารย์ก็คงไม่ผิดนัก  ทันทีที่เวย์สลบ  หมอนั่นมันก็กลับมาหายใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ   โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์อย่างผม  ถ้าไม่ได้ฟังคำยืนยันจากปากหมอล่ะก็  ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

“เฮ้ย!  ระวัง  นายจะรีบลุกไปไหน”  ผมรีบรั้งร่างที่เกือบจะร่วงลงพื้นของคนที่ลุกขึ้นอย่างกระทันหันไว้ในอ้อมแขน  พลางถามเสียงดุ  ยังไม่แข็งแรงเลยแท้ๆ  ฝืนไม่เข้าเรื่อง
“ไปหามัน  ปล่อย  ผมจะไปหามัน”  นายนี่มันดื้อจริงๆ  ไม่เคยรู้เลยใช่ไหมว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรไป  จะมีใครเสียใจแค่ไหน   ไอ้เท่าที่สลบไปนี่ก็ทำให้เป็นห่วงจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว
“กินยากินข้าวก่อนแล้วค่อยไป” 

“ไม่เอา  จะไปเดี๋ยวนี้” ผมบังคับให้เขานั่งลงบนเตียงแต่คนเพิ่งฟื้นก็ยังขยับทำท่าจะลุกไปเสียให้ได้
“เวย์อย่าดื้อ  ไม่อยากดูแลเพื่อนเราหรือไง  น้ำเกลือยังไม่ทันหมดขวดเลย”  และแล้วผมก็จำต้องยกชื่ออีกคนขึ้นมาอ้าง  เพราะรู้ว่าเป็นทางเดียวที่คนๆ นี้จะยอมฟัง   เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องเดียวที่เขาสนใจในตอนนี้

“พี่นัท  มัน...ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ เหรอ  มัน..ไม่ตายแล้วใช่ไหม”  ตัวเองเพิ่งจะฟื้นแต่เอากลับห่วงใยคนอื่นจนออกนอกหน้า  แล้วจะให้ผมพูดอะไรได้อีก  นอกจากยืนยันให้เขาสบายใจ  แม้ว่า...ผมเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหมอนั่นมันจะไม่เป็นอะไรจริงๆ 
“อืม  ไม่เป็นไรแล้ว   ทีนี้จะกินยาได้หรือยัง”  ผมยื่นยากับน้ำให้อีกคนที่รับมากินอย่างว่าง่าย  แล้วทำท่าจะลุกขึ้นอีกครั้ง

“ผมไปได้แล้วใช่ไหม”
“รอให้น้ำเกลือหมดขวดก่อน”  ผมรั้งเขาไว้อีกครั้งโดยให้เหตุผลเหมือนอย่างเคย  อยากให้แข็งแรงกว่านี้  อยากให้หายดีก่อนเพราะเป็นห่วง   แต่จริงๆ แล้วมันถูกแค่ครึ่งเดียว  เพราะผมอยากเห็นหน้า  อยากอยู่ด้วยถึงได้รั้งไว้    แค่รอจนน้ำเกลือหมดขวด   อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง 

“...”  แต่เขากลับทำในสิ่งที่ผมขาดไม่ถึง   มือขาวซีดดึงสายน้ำเกลือออกอย่างแรงโดยไม่สนว่าตัวเองจะเจ็บไหม   ลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ โดยที่ผมไม่อาจขวางได้อีก    “ผมต้องไปแล้ว..มันรอผมอยู่”    นั่นสินะ...นายรอเขา  แล้วเขาก็กลับมา..เพื่อนาย  หึ  แล้วผมจะอยู่ที่นี่ทำไมกัน??

“ไอ้เชี่ยเวย์ เดี๋ยวก็ล้มไปอีกหรอกมึง”  นุว่าแล้วหันมาถามผมด้วยสายที่ยังมองตามอีกคนด้วยความเป็นห่วง   “ผมไปดูมันก่อนนะ  พี่ไปด้วยกันมั้ย”

“นายไปก่อนเถอะ  เดี๋ยวผมตามไป”  ปากก็บอกว่ายอมถอยให้แล้ว  บอกให้กลับไปคืนดีกัน  แต่พอรู้ว่าหมอนั่นมันรถคว่ำก็ยังอุตส่าห์หวังว่าบางทีมันอาจจะไม่รอด  หวังว่าผมอาจมีโอกาสอีกครั้ง  เหอะ  น่าสมเพชชะมัด  นี่นายมันเลวจนอยากให้คนๆ หนึ่งหายไปจากโลกนี้เลยงั้นเหรอ??  คนที่จะเป็นหมออย่างผมกลับหวังว่าหมอที่นี่จะรักษาหมอนั่นไม่ได้  หึ  รีบไปซะ  ออกไปจากที่นี่ก่อนที่นายจะควบคุมตัวเองไม่อยู่  ก่อนที่นายจะต้องกลายเป็นคนเลวไปจริงๆ

.........................................................


Way’s talk

“ไนท์  ไนท์  ไอ้ไนท์!!”  ผมกอดมันไว้แล้วเรียกชื่อมันอยู่อย่างนั้น..ซ้ำไปซ้ำมาด้วยความดีใจ  มึงรอดแล้ว  มึงไม่เป็นไรแล้ว   มึงกลับมาแล้ว  กลับมาแล้วจริงๆ ด้วย  ฮ่าๆ  กูดีใจ  ดีใจจริงๆ
“ไอ้ชิน  มันรอดแล้ว  มันไม่เป็นไรแล้ว”  ผมหันไปยิ้มกว้างให้มัน   เพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่า ‘ยิ้มทั้งน้ำตา’ มันเป็นยังไง   มึงเองก็ดีใจใช่ไหมที่มันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง  ที่มันกลับมาหายใจอีกครั้ง
“ครับพี่  เฮียไม่เป็นไรแล้ว”  ไอ้ชินมันส่งยิ้มกลับมาให้ผม   มันกำลังทำท่าดีใจแต่ทำไมถึงดูเศร้าอย่างนั้น   ทำไม...มีอะไรอย่างนั้นเหรอ  ข้อสงสัยของผมยังไม่ทันได้ไขให้กระจ่าง   กลับถูกขัดด้วยเสียงของใครคนหนึ่ง

“เธอคือคนสำคัญของลูกชายลุงใช่ไหม”  คุณอนันต์  วชรทรัพย์  ประกรรมการบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเพท  ผู้ชายที่เพื่อนผมเคยเรียกว่าพ่อ
“......”  ผมไม่ตอบแต่มองเขานิ่งๆ  ทั้งที่ไม่ได้อยากทำอย่างนี้  แต่กลับห้ามสายตาตัวเองไม่ได้  ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรแสดงท่าทางอย่างนี้  แต่ก็รั้งมันไว้ไม่อยู่   เผลอคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา  ไอ้ไนท์คงไม่กลายเป็นคนกลัวความรักอย่างนี้โดยลืมนึกไปว่า  ตัวผมเองก็ไม่ต่างจากเขาเลย
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร  แต่ก็ขอบใจที่พาไนท์กลับมา   ฝากด้วยนะ”  คุณอนันต์ยิ้มให้ผมน้อยๆ  แล้วกล่าวคำพูดที่ผมไม่อยากจะเชื่อ  คนแบบนี้น่ะเหรอจะทิ้งลูกของตัวเองได้ลง  ผมมองตามแผ่นหลังนั้นไปกลับเห็นความเจ็บปวดอย่างที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะเป็นได้  เจ็บปวด...อ้างว้าง


“พี่เวย์อย่าโกรธลุงอนันต์เลย”   ไอ้ชินมันเดินมานั่งเก้าอี้ข้างเตียงฝั่งตรงข้ามกับผม
“กู..กู  ห้ามตัวเองไม่ได้  กูรู้ว่ากูไม่มีสิทธิ์โกรธ  แต่..มันห้ามไม่ได้จริงๆ”  ยิ่งเห็นเขาเดินออกไปแบบนั้นผมยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเอง  ผมนี่มันแย่จริงๆ  เป็นแค่คนนอกกล้าดียังไงไปทำสายตาแบบนั้นใส่พ่อมัน

“...งั้นผมจะบอกอะไรให้พี่รู้ไว้  คนที่ผิดจริงๆ  ไม่ใช่ลุงอนันต์แต่เป็นพ่อผมกับแม่ของเฮียต่างหาก”   มันพูดด้วยท่าทางจริงจัง  ในเรื่องที่ผมไม่อาจจะเข้าใจได้  แม่ของไนท์กับพ่อของมัน  พ่อของมัน...มาเกี่ยวอะไรด้วย??

“มึง...พูดเรื่องอะไร”
“เรื่องที่พี่กับเฮียไม่รู้”
“มึง...”
“หึ  แม่เฮียเป็นชู้กับพ่อผมก่อนที่ลุงอนันต์จะรับอานพมาอยู่บ้านซะอีก”  เป็นชู้??  หมายความว่าแม่ไอ้ไนท์เป็นฝ่ายนอกใจพ่อมันก่อนอย่างนั้นเหรอ?   แถมคนๆ นั้นยังเป็นพ่อไอ้ชินเนี่ยนะ  มันเรื่องบ้าอะไรกัน??  เท่าที่ผมรู้มา...แม่มันตรอมใจตายเพราะถูกนอกใจไม่ใช่เหรอ   ที่แม่มันต้องตายก็เพราะ...
“.....”

“คืนที่แม่เฮียรถคว่ำ  ไม่ใช่เพราะเห็นลุงอนันต์อยู่กับอานพ  แต่เพราะพ่อผมโทรเรียกให้ออกมาหาต่างหาก”   มันตอบเหมือนจะรู้ความคิดผม   ผมรู้ว่าแม่มันรถคว่ำตายในคืนที่มันแข่งบอลชนะ  มันก็เลยหันมาเล่นบาสแทน  แต่เรื่องที่ผมได้ยินมามันต่างจากที่ไอ้ชินกำลังพูดโดยสิ้นเชิง   ไอ้ไนท์มันบอกผมว่ามันเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเรื่องอานพ   พ่อมันบอกว่ารักอานพและอยากให้เขามาอยู่ด้วย  แม่มันทนไม่ได้ก็เลยขับรถออกไป   หลังจากนั้นก็....
“.....”

“พูดไม่ออกเลยเหรอพี่  เกลียดผมด้วยใช่มั้ย  เหอะ  มันก็สมควรแหละ  เพราะผมกลัว  กลัวว่าพี่จะเกลียด  กลัวว่าเฮียจะโกรธผม  ผมถึงได้เงียบมาตลอด”   มันเบือนหน้าหลบตาผม  แต่ผมรู้ว่ามันเสียใจ  รู้ว่ามันคงรู้สึกผิดมากเพราะผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว
“ไอ้ชิน...”  ผมถึงทำได้แต่เรียกชื่อมันเบาๆ เท่านั้น


“แต่วันนี้ผมเลือกจะบอกพี่   พี่จะเกลียดผมก็ได้  แต่อย่าโกรธลุงอนันต์เลย  ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าลุงเขาเสียใจแค่ไหน   ผมเพิ่งรู้ว่าคนเป็นพ่อรู้สึกยังไงถ้าต้องเสียลูกชายไป  แล้วยิ่งไปกว่านั้นถ้าถูกลูกในไส้เกลียดจนไม่อยากมองหน้า”  มันคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นจนผมอดรู้สึกสงสารไม่ได้  มันยอมบอกผมเพราะเป็นห่วงทั้งไนท์ทั้งลุงอนันต์   มันโทษตัวเองทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันเองก็คงเจ็บไม่น้อยกว่าไอ้ไนท์ที่พ่อมันทำแบบนั้น   แล้วยิ่งทำกับครอบครัวของคนที่มันนับถือ   มันจะอึดอัดแค่ไหนนะที่ต้องทนเก็บเรื่องนี้มาตลอด   บางทีนะ...ผมว่ามันอาจจะอยากบอกใครสักคนใจจะขาด  แต่ก็คงพูดไม่ออก   จะให้มันบอกไอ้ไนท์ยังไง..ว่าคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างคือพ่อของมันกับแม่ที่ไอ้ไนท์ทั้งรักและเทิดทูน

“......”
“ฝากดูแลเฮียด้วยนะพี่”  มันลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไป
“มึงจะไปไหน”
“สักที่หนึ่ง”  ผมรู้ว่ามันคงไม่กล้าสู้หน้าใคร  เพราะมันเอาแต่โทษตัวเองอย่างนั้น   มันคงไม่มีทางให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตถ้าไม่มีใครสักคนอภัยให้มัน  ถ้าไม่มีใครสักคนรับรู้

“ชิน ...มึง  อยู่กับกูได้มั้ย  อยู่ดูแลไอ้ไนท์กับกูนะ”  ถึงผมจะไม่มีสิทธิ์พูดให้อภัยมัน  แต่ผมรู้ว่าถ้าไอ้ไนท์ตื่นมามันต้องไม่โกรธไอ้ชิน  เพราะมันคงเข้าใจรุ่นน้องคนนี้ของมันมากกว่าใคร  การที่เห็นพ่อแม่ที่เรารักไปมีคนอื่น   เป็นใครก็คงต้องเศร้าทั้งนั้น
“....”  มันไม่ตอบแถมยังไม่ยอมหันกลับมาอีก  มึงนี่มันดื้อชิบ  หยิ่งด้วย  แต่กูก็จะพยายามต่ออีกหน่อยแล้วกัน  ไม่อยากให้ใครต้องโทษตัวเองเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว

“มึงไม่ใช่คนผิดซะหน่อย  อย่าโทษตัวเองสิวะ   อยู่กับกูนะ”   ชีวิตคน...บางทีก็เหมือนละครจนน่ากลัว   ทั้งที่กำลังเจอเหตุการณ์นั้นกับตัว  ก็ยังยากจะทำใจเชื่อ   ผมคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้   คงปลอบใจใครไม่ดีนัก  แต่ก็อยากจะอยู่ข้างๆ พวกมันทั้งสองคน   ทั้งสองคนที่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้าย   หวังว่าทุกๆ อย่างจะผ่านไปเสียที  หวังว่า...หลังจากนี้ทุกๆ คนคงกลับมายิ้มได้อีกครั้ง  เหมือนที่ผมกำลังพยายามทำอยู่

“พี่ไม่โกรธผม?”  ยอมมองหน้ากูได้ซะทีนะมึง  นึกว่าเอ็นคอเคล็ดไปซะแล้ว
“วะ!!  ลีลาจริงมึง  มานี่เลยมา  แกะข้าวใส่จานเลย  กูหิวโคตร  ว่าแต่ว่าใครซื้อมาวะ”  ได้ทีก็ชี้นิ้วสั่งมันครับ   พอรู้ว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น   พอรู้ว่าอีกไม่นานคนที่ผมรอกำลังจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง  กระเพาะมันก็เริ่มร้องจะเอาของกินไปสร้างพลังงานให้ร่างกายทันที
“ลุงอนันต์  ยังอยากกินอยู่มั้ยพี่”  มันถามด้วยสีหน้ากวนๆ  แถมยังเลิกคิ้วข้างหนึ่งเป็นเชิงล้อเลียนผมอีก  กูคิดถูกไหมเนี่ยที่ใช้มึง

“..เอ่อ..กินสิวะ  ของพ่อตากู  ฮ่าๆๆ”   ด้วยความหิวขอผมลืมเรื่องที่เคยทำไม่ดีกับคุณลุงสักพักนะครับ  สัญญาว่าถ้าลุงกลับมาเมื่อไรจะมีข้าวห่อใหม่มาวางแทนที่  เฮ้ย!!  ไม่ใช่  ถ้าลุงกลับ  ผมจะขอโทษแล้วดีกับลุงให้มากๆ  ฮ่าๆ  ทำตัวยิ่งกว่าสะใภ้เขาอีกนะครับเนี่ย  กร๊ากกก   

“พี่นี่มันบ้า  หึ  แต่ผมก็รักพี่”
“มึงพูดว่าไงนะ  ขอให้ทำแค่นี้มึงแอบนินทากูเรอะ   รอไอ้ไนท์ตื่นเมื่อไรเหอะมึง  มึงเจ็บแน่”  ผมเห็นมันชะงักไปแป๊บนึง  แล้วก็รีบเทข้าวใส่จานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หรือว่าผมจะตาฝาดไปเอง  เอาเถอะมันอาจจะกำลังกลบเกลื่อนคำนินทาผมอยู่ก็ได้   แต่ว่าผมไม่โกรธมันหรอกครับ  ไม่โกรธใครด้วยเพราะตอนนี้เรื่องที่ผมขอมันกำลังจะเป็นจริงแล้ว    มันอุตส่าห์ยอมเปลี่ยนใจกลับมาทั้งทีจะให้ผมมัวมานั่งกัดผ้าเช็ดหน้า  บีบน้ำตาร้องได้เป็นนางเอกหนังไทยเวลาถูกขมขื่นได้ยังไงล่ะครับ

ไนท์..รีบลุกขึ้นมานะมึง   หลอกให้กูร้องไห้จนสลบได้  มึงนี่มันกวนจริงๆ  อ้อ  กูยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่า   “ดีใจที่มึงกลับมานะ”


หากการรอคอยนี้มันมีความหมาย  ผมจะยอมรอมัน...ไปจนตาย


............................................................


^^  จะจบแล้วค่ะ  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 12-06-2009 19:11:04
:serius2:


ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 12-06-2009 19:19:50
 :pig4:

ไนท์กะเวย์ น่าร้ากกกกกก ชอบสำนวนที่เขียนอ่ะ ลื่นๆดี


ขอตอนพิเศษๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 12-06-2009 19:24:54
โหหหห ใจหายแว้บเลยอ่ะ ... พออ่านประโยคแรกที่ว่า
คนไข้...ไม่หายใจแล้วครับ
แค่คิดว่า ... เวย์จะต้องใช้ชีวิตต่อไปลำพังแล้ว ก็อยากจะร้องไห้ เป็นเพื่อน  :m15:

เราลุ้นมาตลอดนะ ... ว่ายังไงๆ ก็อยากให้เรื่องนี้ จบอย่างสวยงาม
ให้สมกับมิตรภาพ ความผูกพัน ความอดทน ... ที่ต่างรอคอยกันมานาน  :impress2:
อยากให้เส้นใยบางๆ ที่ขวางมาตลอดนั้น หมดไปซะที ...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 22 No time to turn back (ต่อครบแล้วจ้า)
เริ่มหัวข้อโดย: forte ที่ 12-06-2009 19:29:09
เพิ่งมาอ่าน ตอนแรกก็ว่าจะเม้นท์แล้ว แต่ไนท์ทำท่าไม่ดี ก็เลยรอดูท่าทีก่อน

ถ้าไนท์ไม่ได้อยู่กับเวย์งดเม้นท์ทุกประการ  :fire:

แต่แค่ตอนนี้ยังหายใจอยู่ก็พอแล้ว ที่เหลือก็ สาธุขอให้ไนท์หายวันหายคืน  :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 12-06-2009 19:33:05
 :call: :call:อยาสเอาชีวิตพี่ไนท์ไปน่ะเเค่คิกว่าพี่เวย์ร้องไห้ก้อเเสบจมูกจะร้องไห้เเล้ว
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 12-06-2009 20:09:47
คราวนี้บอกจะรอ(อีกละ)ก็รอให้จริงซะทีนะอิหนู
ว่าแต่ไนท์หยุดหายใจไปกี่นาทีอ่ะ เกิน 4 นาทีรึเปล่าครับ ฟื้นมาจะเป็นเอ๋อมั้ยเนี่ย 555+
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 12-06-2009 20:14:28
เฮ้ออออ โล่งไป1เปาะ
แล้วที่เหลือต่อจากนี้ล่ะ
 :serius2:

มาไวๆ นะค๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: Chatcha ที่ 12-06-2009 20:44:45
รีบมาตอเร็วๆๆๆๆๆนะคะ


รออยู่ :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 12-06-2009 20:58:04
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: shiro_niji ที่ 12-06-2009 21:57:49
จบแล้วนี่หมายความว่าจบตอนชิมิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 12-06-2009 22:18:46
ง่า...งัยก็ขอให้ไนท์ฟื้นมาแบบครบ 32นะค่ะ
อย่าให้นอนเอ๋อเป็นเจ้าชายนิทราละกันค่ะ

ยังอยากให้เวย์กะไนท์ได้มีโอกาสเปิดใจกับความรู้สีกที่แท้จริงของตัวเองค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-06-2009 22:34:31
อ้าวนึกว่าจะฟื้นมาพูดกัน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-06-2009 23:30:16
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 12-06-2009 23:58:49
 :fire:  โอ้!!!  ไม่  อย่าบอกนะว่าไนท์กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้วอ่ะ   ฟื้นเร็ว ๆ นะ  มีคนคอยอยู่  :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 13-06-2009 00:28:36
มารอคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 13-06-2009 00:36:17
ค่อยโล่งหน่อย ทีนี้ก็รอเจ้าไนท์ฟื้นอย่างเดียวสินะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 13-06-2009 01:08:12
บีบหัวใจจนเกือบตายเจ้าค่ะ

ลุ้นมากๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 13-06-2009 03:36:14
โห..มีเรื่องซับซ้อนตั้งเยอะ

รอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 13-06-2009 08:15:12


หัวใจจะวาย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: Akakame123 ที่ 13-06-2009 11:07:15
 :serius2:

โฮกกกกก
นึกว่าไนท์จะไปแล้วซะอีกงะ :m15:

ใจร้ายงะโฮกกกกกกกกกกกก

ไงก็เอาใจช่วยต่อไปฮับบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 13-06-2009 13:26:11
แว๊กกกกกกกกกกก


ดีใจที่สุดเล้ยยย เฮียกลับมาแล้ววววววว(มั้ง)

หวังว่าตื่นขึ้นมาแล้ว จะรักพี่เวย์เหมือนเดิมเน้ออ

ไม่เอาน๊าา แบบความจำเสื่อมเนี้ยยย



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 13-06-2009 19:06:12
รีบฟื้นนะครับ แล้วก็ห้ามความจำเสื่อม  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 14-06-2009 11:16:07
คนเขียนขา

อย่าพรากไนท์ไปจากเวย์เลย

คนอ่านใจจะขาดตามเวย์ไปแล้ว

เข้ามากดดันคนเขียนอีกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 14-06-2009 18:14:47

จบแล้วเหรอคะ

งื้อออ
ตกใจหมด  คิดว่าไนท์ตายจริงๆอ่ะ

ว่าแต่ .... ได้อยู่ด้วยกันก็ดีแล้วน้าาาา
><


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 15-06-2009 14:01:48
อ๊ากกกก :serius2: ต้องมีไรต่อแน่ๆเลย อย่าบอกนะว่าไนท์จะความจำเสื่อมแล้วจำเวย์ไม่ได้น่ะ
ไม่เอาน้าาาา แค่นี้ก็เศร้าจะตายแล้ว :m15:

แล้วที่บอกว่าจบนี่หมายความว่าไงครับ :m16:

สู้ๆ ครับ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 15-06-2009 15:04:42
จะจบแล้วเหรอ

อย่าใจร้ายเลยนะ


พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 15-06-2009 15:33:47
ดีใจๆ ไนท์รอดแย้ววววววว

คราวนี้ก็อย่าปากแข็งกันอีกล่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 15-06-2009 18:52:50
รอรอพี่ค่ะ :mc4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 15-06-2009 19:24:24
ดีใจที่ไนท์ไม่เป็นอะไร  :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 16-06-2009 10:36:25
ตามมาดูสถานการณ์ ในเล้าเป็ด ใครตามน้องนุ่น มาบ้างเนี้ย

 :a5:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: badbad_maru ที่ 17-06-2009 00:30:05
แผล่ๆๆๆๆๆๆ น้ำลายไหล เอ้ยไม่ใช้น้ำตา
ความจำเสื่อม น่าสงสารอ่ะ


รอๆๆๆๆๆๆๆ :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: ultramanzaku ที่ 17-06-2009 17:56:28
มาต่อเร็วๆน้าาา

รอ รอ  รอ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 18-06-2009 20:21:19
จาจบแล้วหรอ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-06-2009 01:27:11
เฮ้ออ ผ่านไรกันมาก็เยอะแล้ว
ขอให้ต่อไปนี้มีแต่เรื่องดีๆเถอะนะ

อีกอย่าง เรื่องนี้ไนท์มันไม่ได้ล้มหัวฟาดพื้น กระแทกหิน
ฉะนั้น มุขพระเอกความจำเสื่อมห้ามใช้นะเคอะไรท์เตอร์ขา

รอตอนต่อไปจ้า  :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 19-06-2009 02:21:24
รักว่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: toonki ที่ 19-06-2009 09:13:52
มารอตอนต่อไปอ่ะ

อยากรู้ว่าจะเป็นงัยต่อไปอ่ะ

 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 19-06-2009 16:13:35
ในที่สุดไนท์ก็รอดแล้ว  :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 20-06-2009 12:47:59
 24 หายไปไหนแล้วหนอออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 20-06-2009 13:21:41


ง่า  ขอโทษด้วยนะค  ที่ช้า

แต่ว่าก็ยังไม่เสร็จจริงๆ อ่ะ  T^T


กำลังรีบปั่นอยู่ค่ะ  เพราะมีว่างอยู่แค่วันเสาร์วันเดียว  เศร้า


แอบมาบอกนิดนึง  ตอนที่ 24  ตอนจบ  Back at one  นะคะ


อ๊ากกก   ไปปั่นต่อๆๆ



ปล. ตอนแรกเข้าบอร์ดเห็นท่านอื่นใช่นามแฝงกัน  ก็เลยอยากใช้มั่ง  แบบว่าชื่อไวท์เท่ดีอ่ะ

ฮ่าๆ  แอบเห็นคนรู้จักเข้ามาอ่านด้วย  ก็เลยขอแนะนำตัวอย่างเป้นทางการนะคะ

ไวท์ชื่อนุ่นค่ะ  >>  ประโยคนี้มันชวนให้งงๆ  สรุปมีกี่ชื่อวะ  กร๊ากกก


ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านนะคะ  แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้   คาราวะน้ำชา (เด็กดีค่ะ  ไม่ดื่มเหล้า  ฮ่า)  คนละสามจอกใหญ่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 20-06-2009 21:25:15
 o22 จะจบแล้วหรอ
ถ้าไงขอตอนพิเศษหวานๆด้วยนะครับนุ่น
ปล  แอบไปเห็นว่าชื่อนุ่นในเด็กดีมาเหมือนกันครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 20-06-2009 23:45:58




บทที่ 24  Back at One  [Endind Cp]





            ผมบอกจะรอมันไปจนวันตาย  แต่จะมีใครรู้ไหมว่าการเฝ้ามองคนที่ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อไร   มันทรมานแค่ไหน

 

            นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ  เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง  ท้องฟ้าปลอดโปร่ง  ลมกำลังพัดเย็นสบาย  ผมอยากจะยิ้มให้กับความสดชื่นของวันนี้  อยากจะหัวเราะแล้ววิ่งเท้าเปล่าไปบนพรมหญ้าที่ถูกตัดไว้อย่างเป็นระเบียบ   แต่ราวกับร่างกายถูกพันธนาการไว้ไม่ต่างจากหัวใจ  ผมขยับไม่ได้  หัวเราะไม่ออก  หรือแม้กระทั่งยิ้มก็ยังเค้นออกมาได้ยากเหลือเกิน

 

            มันนอนหลับอย่างนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว

 

            ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอ..ไม่สิ  สิ่งที่ผมทำตลอดในทุกวันนี้คือ  กระซิบบอกมันว่าผมยังรอมันอยู่เสมอ  บอกให้มันรีบตื่นขึ้นมาซะที    แต่คนบนเตียงทำราวกับไม่รับรู้อะไร  มันนิ่งเสียผมนึกกลัว...กลัวว่าหากคลาดสายตาไปเพียงนิด  ลมหายใจแผ่วเบานั้นอาจหยุดไปตลอดกาล

 

            “พี่เวย์!!  ทำอะไรน่ะพี่  เดี๋ยวเฮียก็กัดเอาหรอก”  เสียงไอ้เป้ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาทำให้มือที่กำลังจะสัมผัสจมูกคนหลับชะงัก  ที่จริงจะเรียกว่าสัมผัสจมูกคงไม่ถูกนักหรอกครับ  ต้องเรียกว่าสัมผัสลมหายใจมากกว่า  บ้าใช่ไหมครับ  ผมน่ะ   ถึงรู้ว่ามันแค่หลับลึก  มันแค่...กำลังพักผ่อน  แต่ผมก็ยังกังวลเสมอ   ความรู้สึกไม่มั่นคงแทรกซึมในใจมันเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน

 

            “หุบปากซะ”  ไอ้ประโยคคำสั่งกับเสียงเครียดๆ แบบนี้ไม่ใช่ของผมหรอกครับ  แต่เป็นของไอ้คนสวดอวยพรให้เพื่อนมันไปทักทายท่านยมเร็วๆ อย่างไอ้เนมมากกว่า  มันว่าเพื่อนมันเสร็จก็หันมามองผมอย่างขอโทษแทน

            “ ทำไมต้องว่า” ไอ้เป้จับมือไอ้เนมไว้ไม่ยอมให้มันเดินต่อ  แถมยังทำหน้าคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้  แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า  ผมว่าไอ้เป้มันยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกินพอดีไปหน่อยนะ

            “ปล่อยกู”  ไอ้ไนมกระซิบเสียงเย็นแล้วเบี่ยงตัวหลบ  แต่หน้ากลับขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู  ผมเข้าใจเลยละครับว่าทำไมไอ้เป้มันถึงอดใจไม่ไหว  คนปากไม่ตรงกับใจอย่างไอ้เนม  แต่สีหน้าท่าทางกลับแสดงสิ่งที่อยู่ในใจออกมาหมดอย่างนี้  มันน่าแกล้งน้อยเสียเมื่อไร

 

            “ก็ตอบมาสิ  ทำไมชอบดุกูอยู่เรื่อย  ตกลงกูเป็นแฟนหรือเป็นหมากันแน่วะ”  คำพูดของไอ้เป้ทำเอาผมยิ้มค้าง  กลายเป็นตกใจแทน   อะไรกันวะ!!  เผลอแป๊บเดียวพวกมึงตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้วเรอะ  มันจะไวไฟเกินหน้าเกินตากูไปหน่อยละมั้ง

            “พูดบ้าอะไรของมึง” คนหน้าแดงกระทุ้งศอกใส่ไอ้คนช่างแกล้ง (ที่มันคงเจอมาเยอะครับ  มันเลยเบี่ยงตัวหลบทัน)  แล้วเดินมานั่งโซฟาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

            “อุ๊ก! ศอกมาได้ (มึงหลบทัน  กูเห็น = =;; )  กูยังไม่ได้พูดว่าบ้าสักคำ  มีแต่มึงนี่แหละทำกูจะบ้าได้ทุกวัน”  ผมว่าเรามอบตุ๊กตาทอง  สาขานักแสดงเนียนยอดเยี่ยมให้มันกันเถอะครับ  หลบก็หลบทันเสือกเอามือกุมท้อง  ทำท่าเจ็บซะเต็มประดา  น่านนน   มีการเซเข้าไปซบเพื่อนมัน  -*-  ทำอะไรช่วยเกรงใจกูที่นั่งมองอยู่หน่อยได้มั้ยวะ   สงสัยชิบว่าถ้ากูไม่นั่งหัวโด่  (ขนาดนี้มันยังไม่เห็นหัวเลยครับ)  มึงจะจับไอ้เนมกดบนโซฟาเลยไหม

 

            “ไอ้เชี่ยเป้!!?”  มันกดจริงๆ ครับ  - -

            “คร้าบบบบ”  รังสีอำมหิตขนาดนี้  มึงยังสามารถกวนต่อได้อีก  กูล่ะนับถือมึงจริงๆ

            “ลุกว้อย!!”  ไอ้เนมสบถแล้วผลักหัวไอ้เป้ออกห่าง   ผมเห็นแบบนี้แล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้  ตั้งแต่มีไอ้เป้มาวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ  ไอ้เนมมันก็เริ่มแสดงอารมณ์ออกมามากขึ้น  ถึงแม้มันจะยังคงปิดปากเงียบเรื่องบางเรื่อง   แต่อย่างน้อย...วันนี้คนที่มักจะเก็บทุกเรื่องไว้ในใจอย่างมัน  ก็เริ่มดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนอื่นเขาสักที 

 

 

 

            “ไอ้เวย์!  ข้าวไข่พะโล้มาแล้วโว้ยยยยย”  เสียงไอ้นุตะโกนเข้ามาแต่ไกล  ตัวมันยังไม่พ้นประตูเลยครับ  ผมเห็นถุงใส่ข้าวโผล่มาก่อนเลย   แถมยังแหกปากประกาศของชอบผมเสียงดัง  มันคงลืมไปแล้วว่ามันอยู่โรงพยาบาล  ไม่ใช่ร้านข้าวแกง

            “เออ  ใจว่ะ  แต่ทีหลังไม่ต้องตะโกน  กูกลัวห้องข้างๆ มาขอแบ่ง”  ผมว่าแล้วยิ้มให้มัน  ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะครับว่ามันกำลังพยายามจะให้ผมยิ้ม   ผมก็เลยต้องสนองกลับด้วยการกวนมันเสียหน่อย   เผื่อว่าผมจะได้เห็นรอยยิ้มจากมันบ้าง...แล้วก็เป็นอย่างที่คิด  มันยิ้ม   เหมือนๆ กับที่คนอื่นๆ ในห้องยิ้ม   แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ   แค่ทุกคนยิ้ม...   เหลือแค่มึงคนเดียวนะไอ้ไนท์  มึงยัง..ไม่ได้ยิ้มเลย

 

            “กินเลยมั้ยวะ”  ไอ้นุมันชูถุงกับข้าวที่ซื้อมาเต็มสองมือ  แล้วทำท่าดมกลิ่นฟุดฟิด  นี่ตกลงเพื่อนผมมันตัดสินใจเปลี่ยนสปีชี่แล้วใช่ไหม

            “เออ  มีบริการใส่จานป่ะวะ”  ก็ในเมื่อมันอุตส่าห์เป็นคนดี  ลงทุนไปซื้อข้าวให้ผม  ผมก็เลยถือโอกาสให้มันได้สร้างบุญเยอะๆ  โดยการบริการเพื่อนฝูงต่อเลยไงครับ  เฮ้ย!!  แต่ที่จริงผมก็มีส่วนช่วยมันนะวันนี้น่ะ  เพราะผมอุตส่าห์ไล่ไอ้แชมป์ออกให้ไปช่วยมันอีกแรง  แต่ไม่รู้จะช่วยให้ดีขึ้นหรือเลวลงนะครับ  เพราะตั้งแต่กลับมาไอ้แชมป์มันยังไม่อ้าปากให้เส้นเสียงได้ทำงานสักครั้ง

 

            “กูใส่  มึงล้าง  เครป่ะวะ”  - -;;  ข้อเสนอมึงเหมือนกูจะขาดทุนนะ  ไม่ต้องมาแบ่งบุญให้กูหรอก  มึงพยายามทำให้เต็มที่เลย  กูมันสะสมมาเยอะแล้ว

            “ฟาย  งั้นมึงไม่ต้องเลย  เดี๋ยวกู...”

            “กูทำเอง  เถียงกันอยู่ได้  ปัญญาอ่อน”  ไอ้แชมป์มันคว้าหมับเข้าที่ถุงกับข้าว  แล้วเดินลิ่วๆ ไปหยิบจาน   ส่วนพวกผม...คนปัญญาอ่อนสองคนก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างจนด้วยคำพูด  สรุป..ที่กูให้พวกมึงออกไปด้วยกันนี่  ไม่ได้อะไรกลับมานอกจากคำว่า ‘ปัญญาอ่อน’ ใช่ไหม

 

 

            “ซื้อร้านไหนวะ  อร่อยโคตรๆ”  ด้วยความที่ไม่ได้กินไข่พะโล้มานาน  ไอ้ผมก็ถึงกับยกชามเทน้ำพะโล้ใส่จานตัวเองอย่างหน้าตาเฉย  ไม่มีเกรงใจใครครับ  เคยได้ยินสำนวนนี้ไหม ไข่(พะโล้)ข้า  ใครอย่าแตะ  = =;;    ไม่ได้งกครับ  แต่หวง

            “เหอะ  กูทำเอง”  ไอ้นุมันยักคิ้วแล้วยิ้มอวดภูมิ

            “พูดอะไรช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนได้มั้ยมึง”  ถ้าหน้าอย่างมันทำไข่พะโล้เป็น  ป่านนี้ผมหุงข้าวสวยกลายเป็นข้าวสารได้แล้วล่ะครับ 

            “เชี่ย  กูอุตส่าห์ไปซื้อให้”  เมื่อกี้มึงเพิ่งบอกทำเอง  กลับคำเร็วชิบ  ไอ้นุมันทำหน้ามุ่ยแล้วสะบัดหน้าหนีจนหัวไปชนกับไอ้คนที่มันหันมาจะตักกับข้าวอีกคนอย่างแรง  เล่นเอาคนที่กำลังจะขำกับการประชดได้น่าถีบของมันอย่างผม  ถึงกับขำค้างเลยทีเดียว   ชนใครไม่ชนเสือกไปชนไอ้แชมป์   ทำตัวเองนะมึง  งานนี้กูไม่มีเอี่ยว

 

            “โอ้ย /อูย  หัวกู”  แต่แล้วไอ้บรรยากาศมาคุที่ผมคาดเอาไว้กลับไม่เกิดขึ้น  กลายเป็นบรรยากาศแปลกๆ ที่หาคำจำกัดความไม่ได้แทน  เมื่อหัวพวกมันสองคนคงมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกันเหมือนแม่เหล็กขั้ว S กับ N  มาเจอกัน  บรรจบกันนิ่งอยู่อย่างนั้น...นานกว่าต่างฝ่ายจะรู้สึกตัวและผละออกจากกัน    ใบหน้าแดงๆ ที่หาได้ยากยิ่งจากไอ้คนหน้าหนายิ่งกว่าพื้นคอนกรีตของไอ้นุ  และไอ้คนเก็บความรู้สึกเก่งอย่างไอ้แชมป์ก็ได้ออกมาเผยโฉมให้พวกผมเห็นกันเป็นบุญตา

 

            “ขอโทษ”  O.O!!!!  ไอ้นุมันพูดคำว่าขอโทษครับ  ‘ขอโทษ’ เชียวนะครับ  นี่ผมหูฝาดหรือมันสมองเสื่อมจากการประสานงาเมื่อครู่นี้กันแน่ครับเนี่ย

            “ซุ่มซ่าม”  O.O!!!!!!!!!!!!!    ไอ้นุขอโทษผมว่าน่าตกใจแล้ว  แต่ไอ้แชมป์มัน เอ่อ..จะว่าด่ากลับก็ไม่น่าจะใช่  จะว่าแซว  ก็จะดูน่ารักไปหน่อย  อ๊ากก  จะอะไรก็ช่างเถอะครับ  แต่พวกมันดีกันแล้วใช่ไหม??   เอ่อ..สงสัยจะยังนะครับ  เพราะไอ้คนตกใจกว่าผมนะ  มันยังอ้าปากค้างอยู่อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

            “ม่ะ..มึง  พูด?”   ไอ้นุมันพ่นคำพูดแสดงสติปัญญาของตัวเองออกมา  เออ  ไอ้แชมป์มันพูดสิวะ  จะให้มันตดออกมาเป็นความหมายให้มึงได้ยินหรือไง  ไอ้บ้า   ไอ้แชมป์มันก็คงคิดเหมือนผมครับเพราะมันกำลังทำหน้าเมื่อยอย่างเห็นได้ชัด  แล้วหันไปสนใจข้าวในจานแทน   ไอ้นุมันก็เลยหันมามองผมหวังให้ช่วยยืนยัน   สรุปผมต้องทำให้มั้ย

            “เออ”  ช่วยยืนยันก็ได้ครับ

 

 

            เก๊งงง  เสียงช้อนกระทบกันทำให้ผมต้องเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาอีกครั้ง   ทำไมวันนี้ฟ้าช่างเป็นใจให้เกิดแรงดึงดูดของขั้วเหนือแล้วขั้วใต้บ่อยนักก็ไม่รู้สิครับ   ดูสิครับไอ้สองขั้วมันกำลังสร้างโลกส่วนตัวกันอีกแล้ว  นี่มันในนิยายนะโว้ยยย  ไม่ใช่ในละคร   พวกมึงจะจงใจตักกับข้าวอย่างเดียวกันเพื่อ???    เอาเถอะครับ  ปล่อยพวกมันไป  ผมจะกลับเข้าสู่โลกส่วนตัวเองของผม

            “เอ่อ..กูตักให้แล้วกัน”  ทีกูขอแค่ให้เอาข้าวใส่จาน  มึงมีต่อรอง  ทีไอ้แชมป์..ขยันสร้างบุญกับมันเหลือเกินนะมึง  ไอ้ชายนุ

            “ไม่ได้ขอ”  กร๊ากกก  เป็นไงล่ะมึง  สม!!

            “.....อ่า..คือ”

            “แต่ก็ดี”   พอไอ้แชมป์อนุญาตปุ๊บไอ้นุมันก็ยิ้มร่า  รีบตักกับข้าวใส่จานให้ไม่มียั้ง  จนไอ้แชมป์ต้องทำหน้าดุใส่มันนั่นแหละ  มันถึงยอมหยุด   หูตกหางตกอย่างเห็นได้ชัด  สรุปมันเปลี่ยนสปีชี่แล้วจริงๆ ครับ

 

            “พี่เวย์  อยากได้มะนาวมั้ยพี่” ไอ้เป้มันสะกิดถามผมอย่างรู้ใจ 

            “กูกำลังจะขอมึงอยู่พอดีเลยว่ะไอ้เป้  รู้สึกไข่พะโล้มันหวานขึ้นมากะทันหัน”

 

            เรียกหามะนาวมาดับความหวาน   มะนาวก็มาทันทีครับ   เมื่อโทรศัพท์ไอ้นุมันดัง  และคนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่น   นอกจาก...คนที่มันเคารพประดุจแม่คนที่สอง   งานเข้าแล้วไงมึง

 

            “เอ่อ...ฮัลโหล  ครับ”

            “เอ่อ...ก็ดี  เอ๊ย!  คือดี  ทุกอย่างเรียบร้อยดี  นี่กำลังกินข้าวกันอยู่  งั้นเดี๋ยวกินข้าวก่อนนะครับ”

            “หา!!  ป่าวนี้  พูดเพราะที่ไหนกัน  ปกติๆ   ครับๆ  ได้ครับ  บายครับ”  (เคยดูมิวสิกสักมิวสิกหนึ่งไหม  ว่ากันว่าถ้าแฟนคุณพูดเพราะผิดปกติ  เป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะนอกใจน่ะ  แต่ในกรณีของไอ้นุนี่ผมขอเรียกว่า  รู้สึกผิดหรือมีชนักติดหลังดีกว่านะครับ  เพราะผมยังจินตนาการภาพที่มันขอเลิกกับไอ้ส้มไม่ออกเลยจริงๆ และยังคงเชื่อว่าเพื่อนผมมันจะไม่ทำอย่างนั้น  ปัญหาตอนนี้ก็คือว่า...แล้วมันจะทำยังไง)

 

            แต่จะว่าไปแล้ว  มึงพูดเพราะผิดปกติจริงๆ ด้วยไอ้นุ  ลงท้ายครับตลอดเลย  ปกติมึงจะต้องมี “จ๊ะจ๋า”  ให้กูได้ยินแล้วนะ   แถมยังไอ้พวกเขาหวานๆ  อ้อนตีนแบบน่าขนลุกพวกนั้นอีก  แต่ดีแล้วที่มึงไม่พูด  เพราะแค่นี้กูก็หนาวจะตายแล้ว   พูดถึงมะนาว  มะนาวก็มา  แต่ทีหลังกูยอมกระอักความหวานตายดีกว่าว่ะ   กูมันคงขี้หนาวด้วย   ไม่ค่อยปลื้มกับการหนาวตายเท่าไร

 

            “อ่า..เอ่อ...”  กูให้ยืมผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อไหมมึง

            “ว่าไงล่ะวะ  ส้มมันโทรมาทำไม”  นี่ผมจะช่วยหรือฆ่ามันกันแน่ครับเนี่ย 

            “อ๋อ  มันบอกจะเข้ามาค่ำๆ  นี่ทำรายงานส่งให้พวกมึงอยู่”

            “โหหห  มีแฟนประเสริฐมากพี่  นับถือๆ”  ไอ้เป้มันโพล่งออกมาได้ถูกเวลายิ่ง  แค่นี้ไอ้นุมันยังไม่ถึงตายใช่ไหมวะ  ยังแค่สะบักสบอม  มึงพูดมาทีเดียวกะเหยียบมันให้ตายไปเลย  เอาให้ไม่เลยเกิดกันล่ะทีนี้   ไอ้นุมันเลยเปลี่ยนเป้าหมายในการจ้องตาอาฆาตไปที่ไอ้เป้แทน

            “เอ่อ..ผมพูดไรผิดเหรอพี่??”  มึงยังไม่รู้ตัว  = =;;

            “ถึงบอกให้หุบปากไงเล่า”  ไอ้เนมมันบ่นพึมพำ  แล้วส่ายหัวปลงๆ   ไม่รู้ว่าปลงกับปากไอ้เป้  หรือกำลังสงสารตัวเองที่มีแฟน?? (หรือหมา??)  อย่างไอ้เป้กันแน่นะครับ

 

            “อ้าว!!  นี่ผมพลาดเหรอ  งั้นแก้ตัวแล้วกัน  มุกเด็ดผม  เล่นทีฮากระจาย  ไอ้ชินเพิ่งสอนผม  ต้องเล่นก่อนมันมา  เดี๋ยวมันหาว่าขโมยมุกมัน”  อ้าว!  ไอ้เวร  มึงเล่นบอกมาซะหมดอย่างนี้  พวกกูก็รู้สิวะว่าขโมยมุกมา  - -   ไอ้เนม  มึงช่วยบอกกูอีกทีสิว่าไอ้คนที่กำลังทำโง่ตรงนี้น่ะ  คือคนที่กดมึงได้จริงๆ

 

            “พร้อมมั้ยพี่  ตั้งใจฟังนะ”  มันยิ้มอวดภูมิอย่างมีตั้ก (ลีลา >>  รู้ว่าแป้ก  แต่จะเล่น)  ไอ้ผมก็ตั้งใจฟังเต็มที่  หวังว่าเล่นมาทีเดียวช่วยกู้บรรยากาศได้เลยนะมึง  มาเลยมุกเด็ดของมึงน่ะ   กูพร้อมจะฮาแล้ว

           

            “เม็ด – ดุก” 

            .

            .

            .

 

            “ไอ้เวย์  เอาจานไปเก็บกันเหอะ  เจอแบบนี้  กูอิ่มว่ะ”  ไอ้นุทำหน้ายิ่งกว่าเมื่อย  แล้วลุกขึ้นเก็บจานตัวเอง  อีกมือคว้าแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่ด้วยสีหน้าปลงชีวิต  เข้าใจคำว่ามุกไม่ฮาพาเพื่อนเครียดก็ตอนนี้แหละครับ

            “เออ  แป้กเต็มท้องกูเลยเนี่ย”  มันกล้าเล่นได้ยังไงล่ะครับ  เม็ด – ดุก    มุกเด็ด   = =;;  คนเราถ้าไม่ด้านจริงเล่นมุกนี้ไม่ได้หรอกครับ  เชื่อผม   มุกตั้กลีลากูยังฮากว่าอีก  (นั่นก็แป้กพอกัน)

 

......................................

 

 

            ตกเย็นหลังจากที่ผมย่อยมุกเด็ดไอ้เป้ไปเกือบหมดแล้ว  ไอ้ชินกับอานพก็มาพร้อมข้าวของเต็มสองมือ  แน่นอนว่าไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากของกิน  ตั้งแต่ข้าว  ขนม  นม ยันผลไม้  มีแม้แต่บ๋วยเค็ม   จนห้องนี้แทบจะแปรสภาพเป็นร้านขนมย่อมๆ ไปแล้วล่ะครับ   แต่ทั้งที่มีของกินตั้งมากมาย  มันก็เหมือนขาดอะไรไปบางอย่างที่ทำให้รสชาติที่ควรอร่อยนั้นกร่อยลง  คงจะขาด...คนคอยดุเวลากินเลอะ  แต่ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้  คงจะขาด...คนคอยถามว่าอยากกินอะไร  แต่สุดท้ายก็เลือกหยิบให้ตามใจตัวเองเสมอ   ความอร่อยมันคงจะขาดไปเพราะคนๆ นั้นล่ะมั้ง

 

            “พี่เวย์เป็นไรพี่”

            “ฮะ..หา  อ๋อ  ปล่าวๆ  กูนั่งหารอยแตกที่พื้นอยู่  ว่าแต่มึงเห็นมั้ย” 

            “ฮะ??  พี่จะบ้ารึไง”  เออ  ถ้ากูไม่บ้ากูจะนั่งหาไหมไอ้รอยแตกที่พื้นเนี่ย  มึงลองใช้สมองที่มีเยอะจนเหลือใช้ของมึงนั่งตรองดูหน่อยสิ  แล้วช่วยบอกกูด้วยว่าสรุปกูบ้าหรือไม่บ้ากันแน่

           

            “อานพให้มาตามไปกินข้าวอ่ะพี่  ซื้อไข่พะโล้ของชอบพี่มาด้วย”  มันว่าแล้วเริ่มดันหลังผมไปที่โต๊ะ  เห็นอานพยกถุงไข่พะโล้ชูแกว่งเบาๆ แล้วยิ้มให้  เหมือนเวลาผมเรียกหมาที่บ้านมากินข้าว  เขย่าถุงอาหาร  แล้วเคาะจาน  เฮ้ย!! ไม่ใช่แล้ว  นี่ผมต้องกินไข่อีกแล้วเหรอเนี่ย???   ทั้งที่เป็นอย่างนั้น  แต่ผมกลับพบว่าตัวเองกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี   ก็จะมีสักกี่คนล่ะครับที่รู้ว่าผมน่ะชอบกินไข่พะโล้ขนาดไหน   อาหารพื้นๆ แต่ก็ย้ำเตือนถึงเรื่องราวดีๆ   เพราะมันเป็นอาหารมื้อแรกที่แม่นิ่มทำให้กินในวันที่ผมเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้น   แม่เลี้ยงที่ดูแลผมดียิ่งกว่าลูกในไส้

 

            “หึหึ  เอ้า!  ข้าวเช้า  กินซะ” 

          “ค่อยๆ กินก็ได้  ข้าวมันไม่หนีไปไหนหรอก” 

 

ผมยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงภาพที่มันซื้อข้าวไข่พะโล้มาให้  แล้วย่อตัวนั่งลงข้างๆ  ปากก็กวนตีนรับมุกไอ้นุไป  แต่ตามันก็คอยมองผมอยู่เสมอ  ...ไม่ลืมหรอกน่าว่าคนแรกที่รู้เรื่องนี้  และยังคอยซื้อให้กูกินเสมอก็คือมึง  ไม่ลืมหรอก  เพราะฉะนั้น..ทำไมไม่ตื่นมากินด้วยกันล่ะ   พ่อมึงซื้อของมาให้เยอะขนาดนี้  ก็เพื่อรอมึงนะ  รู้ไหมนอกจากของที่กูชอบแล้วก็มีแต่ของที่มึงชอบทั้งนั้น  รีบๆ ตื่นมาเจอพ่อมึงได้แล้ว   พ่อดีๆ แบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนวะ

 

“พี่เวย์  พี่เวย์  เหม่ออะไรพี่”  พอเห็นไอ้ชินมันทำท่าเป็นห่วงอย่างนั้นแล้ว  ผมก็เลยได้แต่ยิ้ม  จะให้บอกได้ยังไงล่ะครับว่าตัวเองกำลังอ่อนไหวเพียงเพราะเห็นของที่มีคนตั้งใจซื้อมาให้   จะให้บอกได้ยังไงว่าความทรงจำเก่าๆ กำลังรุมเล่นงานจนลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังถือช้อนค้างไว้ในมือ

 

“อ้อ..เอ่อ  กำลังคิดว่า   ต่อไปมึงอย่าได้สอนมุกเด็ดๆ ให้ไอ้เป้อีกนะ”

“มุกเด็ด??  หรือว่า..ไอ้เป้มัน....”  ผมพยักหน้าให้โดยมีไอ้นุช่วยยืนยัน  ทำให้ไอ้ชินทำหน้าปุเลี่ยนๆ อย่างไม่รู้จะขำหรือเครียดดี   ส่งผลให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นรอบโต๊ะ

 

ดีแล้วล่ะ   ในเมื่อทุกคนยังยิ้มได้  ผมเองก็จะยิ้มเหมือนกัน   ไม่รู้หรอกครับว่าเราจะยังต้องนั่งกินข้าวกันในห้องแบบนี้ไปถึงเมื่อไร   แต่ตราบใดที่ยังคงมีหวัง  ผมเชื่อว่า..เราก็คงนั่งล้อมวงกินข้าวรอมันแบบนี้ต่อไป...

 

 แล้วมึง...จะให้กูรอไปถึงเมื่อไร   รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว

 

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 20-06-2009 23:49:49

ต่อค่ะ



Night’s talk

 

                ผมรู้สึกตัวอยู่ในความมืดอันหนาวเหน็บ    ร่างกายเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  เหมือน...ไม่ใช่ร่างกายที่คุ้นเคย   มองไปรอบตัวมีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งมือของตัวเอง  เขาว่ากันว่าคนตายมักไม่รู้ว่าตัวเองตาย  แต่ผมรู้นะ   มันอาจจะดูเป็นการยอมรับที่ง่ายดายไปหน่อยแต่มันจะไปยากอะไรสำหรับที่คนคิดว่าตัวเองอยู่อย่างคนตายมาตลอดหลายปี

 

            หึ  มันช่างเป็นการจากลาที่เรียบง่ายดีจริงๆ   ไม่มีงานเลี้ยง  ไม่มีคำบอกลา  ไม่มีน้ำตาของใคร  แต่ก็ช่างมันเถอะ  ดีแล้ว   หวังว่ามันคงไม่ร้องไห้และคงลืมผมได้ในไม่ช้า   อยากกลับไปบอกว่าขอโทษ   อยากบอกว่ารักสักครั้ง  แต่เอาเถอะ...ในเมื่อผมพลาดเอง  ทิ้งโอกาสสุดท้ายไปเอง  แถมยังทิ้งชีวิตไปแล้วด้วย   ยังจะมีสิทธิ์หวังอะไรอีก   ทำได้แค่รู้สึกอึดอัดจนอกแทบระเบิดเท่านั้น

 

            ป่านนี้มึงจะรู้รึยังว่ากูตายไปแล้ว   แปลกนะครับทั้งที่คิดว่าทำใจยอมรับได้ง่ายๆ  แต่กลับรู้สึกโหวงในใจแถมยังอุตส่าห์ปวดแปลบขึ้นมาได้อีก   น่าสมเพชชะมัด  ไม่เท่เลยผม  ไม่เด็ดขาดเลย   ไม่ว่าจะตอนมีชีวิตหรือตอนนี้...ก็ยังไม่เด็ดขาดอยู่เหมือนเดิม  ยังลังเล  ยังอาวรณ์  หึ    คนตายไปแล้วจะยังอยากอยู่กับคนเป็นได้ยังไง  ผมนี่มันบ้า  ตอนที่ยังมีโอกาสทำไมไม่รีบตักตวงความสุขไว้   เกิดมาเสียดายเวลาเอาตอนนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา

 

            ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อผมจากมาแล้ว  จะมีใครสักคนดูแลมัน  เหอะ!  ประโยคโคตรพระเอก  ที่จริงแล้วมันไม่ใช่หรอกครับ  ผมมันคนเห็นแก่ตัวจะทนเห็นมันไปอยู่กับคนอื่นได้ยังไง   จะทนเห็นมันรักคนอื่นได้ยังไง  เพราะทนไม่ได้ทางเลือกจึงเหลือแค่อย่างเดียวก็คือ...ไปซะ  ไปในที่ที่ควรอยู่  แน่นอนว่าคนอย่างผมคงไม่มีบุญได้ขึ้นไปมองมันจากบนสวรรค์   สงสัยคงต้องทนเมื่อยคอแหงนมองจากในนรกแทน   ถ้าทำได้นะน่ะ  จะมอง...ไม่ให้คลาดสายตา   ถ้าทำได้..จะไม่มีวันปล่อยไปเลย

 

            และถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้  จะไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้...จบลงด้วยการที่ผมทิ้งมันไว้ข้างหลัง  ไม่ได้แม้แต่จะบอกว่ารัก    ถ้าทำได้ล่ะก็..อยากจะลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ทำให้เกิดกำแพงระหว่างเรา   จะลืมทุกคน  ทุกเรื่องที่ทำให้เรารักกันไม่ได้   ที่ทำให้หัวใจดวงนี้ปิดกั้นคำว่า ‘รัก’

 

            ถ้ามันทำให้เรารักกันได้ล่ะก็   จะลืมว่าเราเป็นเพื่อนกันก็ไม่เป็นไร   เพราะผมเข้าใจแล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นใคร  จะเป็นเพื่อนหรือเป็นคนรัก  ขอแค่มีมันอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว   เพราะฉะนั้นถ้าคำว่าเพื่อนมันเกะกะนัก   ผมก็จะลบมันทิ้งไปเอง  แล้วเริ่มต้นกันใหม่ด้วยคำว่าคนรู้จัก  ผมจะไม่ยืนมองปล่อยความรักจากไปง่ายๆ  แต่จะก้าวไปคว้ามันมาด้วยมือของตัวเอง

            ถ้าได้กลับไปอีกครั้ง...จะแลกด้วยอะไรก็ยอมทั้งนั้น   

            .

            .

            .

            แต่ในเมื่อมันทำไมได้  กูก็คงต้องลามึงตรงนี้   คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด  ผมยิ้มอย่างที่คิดว่าดีที่สุด  เป็นรอยยิ้มของไนท์คนที่ได้เจอมันวันแรกบนสถานีรถไฟฟ้า  เป็นรอยยิ้มของไนท์...คนที่พร้อมจะรักใครสักคน

 

            ...ลาก่อน...

 

            ไนท์ ...กล  ..สิ   มา...

          ไนท์  กลับ..    กูบอก   มึง .. มา  ได้...

          ไนท์!!  กลับมาสิ  กลับมา   กูบอกให้มึงกลับมา  ได้ยินมั้ย  กลับม๊-า

 

            ไอ้เวย์!!!   

 

................................................

 

            ขยับเปลือกตาช้าๆ  กระพริบตาถี่ๆ เพราะยังไม่ชินกับแสงสว่าง  ลำคอแห้งเป็นผง  ร่างกายหนึกอึ้งจนขยับไม่ได้  ที่นี่มันที่ไหนกัน??

            “น่ะ..น้ำ”  เสียงแหบแห้งราวกับไม่ใช่เสียงตัวเอง  แต่ก็ไม่มีเวลาให้แปลกใจมากนักเมื่อได้ยินเสียงผู้คนตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างหู

 

            “ไนท์ลูก!!”

            “เฮียฟื้นแล้ว  ฮ่าๆ  เฮีย  หมอๆ  อานพครับกดเรียกหมอที”

 

            “น้ำ”  ผมยังคงบอกความต้องการของตัวเองต่อไป  จนได้รับสิ่งที่ร้องขอในที่สุด  มือที่หมดแรงจนไม่สามารถยกขึ้นรับแก้วน้ำ  ได้แต่รอให้อีกคนพยุงขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้สนใจว่าเขาคือใคร  สิ่งที่ต้องการตอนนี้มีอย่างเดียว  คือน้ำใสๆ ตรงหน้าเท่านั้น

 

            “ไนท์เป็นไงบ้างลูก  เจ็บตรงไหนไหม” 

            “พ่อ  ทำไม...ผมมาอยู่ที่นี่  เกิดอะไรขึ้น”  ร่างกายที่อ่อนแรงเหมือนคนไม่ได้ขยับมานานนี่มันอะไรกัน   แล้วยังหัวที่ปวดหนึบๆ เหมือนมีบางอย่างบีบไว้นี่อีก  เกิดอะไรขึ้นกับผม

            “ลูกจำไม่ได้???”  จำเหรอ??  จำได้สิ  ก็ผมกำลัง...  ผมกำลัง..  ทำอะไรกันนะ  อะไรทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลกันแน่   เกิดอะไรขึน??

 

            “ผมโทรบอกพี่เวย์แล้ว  กำลังรีบวิ่งขึ้นมา  เราได้เห็นคนร้องไห้อีกแน่ๆ เลยงานนี้”   เด็กหนุ่มหน้าตาออกแนวญี่ปุ่นแต่ก็แฝงความคมเข้มแบบไทยที่ผมไม่รู้จักกำลังบอกเรื่องที่ทำให้หัวใจผมเต้นโครมคราม  แต่ทำไมล่ะ  ทำไมต้องดีใจด้วย  ทำไม??  แค่ได้ยินว่าคนชื่อเวย์กำลังมาหัวใจผมมันก็แทบจะกระโจนออกมานอกอก   ทั้งที่ไม่รู้จักเสียหน่อย   ทำไมถึงได้อยากเจอนัก

            “คุณเป็นใคร”

            “ผม??”  เขาเอานิ้วชี้หน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา  ตกใจอะไรกัน  ก็เพราะผมไม่รู้จัก  ถึงได้ถามน่ะสิ   ในห้องนี้มีแค่ผม  พ่อ  และก็เขา  จะให้ผมถามใคร??  อ่อ..แล้วก็หมอที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับนางพยาบาลอีกคน

 

            “เฮียจำไม่ได้???”

            “ผมไม่รู้จักคุณ”  ทันทีที่พูดจบ  หมอนั่นก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อ  นี่ผมพูดอะไรผิดหรือไง  หรือเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ  เท่าที่จำได้  ผมไม่มีเพื่อนหน้าเหมือนเด็กญี่ปุ่น

 

            “ไนท์  แล้วพ่อ  จำพ่อได้ใช่ไหม?”

            “ก็จำได้สิครับ  แม่ล่ะ  แม่อยู่ไหน”  ผมพูดอะไรแปลกไปอย่างนั้นหรือ  ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้น  แค่ถามหาแม่..มันแปลกอย่างนั้นเหรอครับ

 

            “หมอ!!   นี่มันหมายความว่ายังไง  เขาจำผมได้  แต่...”  พ่อถามหมอด้วยสีหน้าสับสนและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด   ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  ถึงจะไม่รู้ว่ามานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็เถอะ   แต่นอกจากหัวที่ปวดตึบๆ แล้ว  ร่างกายก็ดูจะปกติดี

            “ขอหมอตรวจคนไข้ก่อนแล้วกันนะครับ”

 

 

            “ไนท์!!!!”  เพราะหมอยืนบังทัศนวิสัยของผมอยู่จึงไม่อาจเห็นหน้าเจ้าของเสียงเรียกนั่น  ทว่าหัวใจกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด   แค่ได้ยินเสียงนี้...ทำไมกันนะ  เหมือนผมลืมเรื่องสำคัญไป  เรื่องสำคัญที่ติดค้างอยู่ในใจ   เสียงนี้...เหมือนเสียงที่ผมเคยได้ยิน  เหมือนเสียง..ที่เรียกให้ผมกลับมา  แต่...จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงในเมื่อผมไม่ได้จากไปไหน  และผมไม่รู้จัก...

 

            “ว่ะ..” ดวงหน้าหวานกำลังยิ้มอย่างยินดี  โล่งอก  เหมือนคนกำลังมีความสุขที่สุดในโลก  ทำให้หัวใจผมแกว่งไกวอย่างห้ามไม่ได้  และไม่รู้ว่าตัวเองพยายามพูดคำบางคำตั้งแต่เมื่อไร  คำบางคำที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก   ชื่อของเขางั้นหรือ??  ชื่ออะไรกันล่ะ

 

            “ ไนท์  กู  กู..อึ่ก” เขาเรียกชื่อผมแล้วร้องไห้เงียบๆ  ทำไมกันนะ  ผมรู้สึกปวดใจเหลือเกิน  ไม่อยากเห็นคนๆ นี้ร้องไห้   แขนที่ไม่ค่อยมีแรงกลับผลักหมอให้พ้นทาง  เอื้อมมือไปหาอย่างห้ามใจไม่ไหว  อยากกอด  อยากสัมผัส  คิดถึงเหลือเกิน.....

 

            “อย่าร้อง” เพียงคำพูดเดียวของผมกลับทำให้เขาร้องไห้มากกว่าเดิม  ร่างนั้นก้าวเข้ามาหาผมช้าๆ    จนในที่สุดผมก็เอื้อมถึง  ผมคว้าข้อมือเล็กๆ นั่นไว้แน่น   ไม่รู้เมื่อไรที่ออกแรงดึงร่างนั้นเข้ามาซบแนบอก   กอดไว้อย่างที่ใจโหยหา   คิดถึงสัมผัสนี้...

 

            ความอบอุ่นแบบนี้...ที่ผมโหยหามาตลอด   กลิ่นหอมแบบนี้...ที่ผมเฝ้าคอยเสมอมา   คำพูดหนึ่งที่เก็บไว้รอเพียงเพื่อเวลานี้   คำพูดที่รอจะพูดมาตลอด

 

            คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด 

 

            “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”

 

 

I could stay awake, just to hear you breathing
ฉันจะตื่นอยู่อย่างนั้น เพียงเพื่อฟังเสียงลมหายใจของเธอ

Watch your smile while you are sleeping
เฝ้ามองรอยยิ้มของเธอยามหลับใหล

While you're far away dreaming
ในยามที่เธออยู่ในดินแดนแห่งฝัน  อันแสนห่างไกล

I could spend my life, in this sweet surrender
ฉันพร้อมจะใช้ทั้งชีวิตอยู่ในการจำนนอันแสนหวานนี้

I could stay lost in this moment... forever
ยอมหลงอยู่ในนาทีนี้...ชั่วนิรันดร์

Every moment spent with you, is a moment I treasure
ทุกนาทีที่ได้อยู่กับเธอ เป็นช่วงเวลาที่มีค่าของฉัน

Don't want to close my eyes
ฉันไม่อยากจะหลับตาลง

I don't want to fall asleep
ฉันไม่อยากจะเผลอหลับไป

Cause I'd miss you baby
เพราะฉันนั้นอาจจะต้องพลัดพรากจากเธอ

And I don't want to miss a thing
และฉันก็ไม่อยากพลาดไปแม้เพียงสิ่งเดียว
Cause even when I dream of you
เพราะแม้แต่ยามที่ฉันได้ฝันถึงเธอ

The sweetest dream will never do
ความฝันที่ว่าสุดแสนหวาน....ก็ยังไม่อาจเทียบเทียมได้

I'd still miss you baby
ฉันยังคงคิดถึงเธอ..ที่รัก

And I don't want to miss a thing
ฉันไม่อยากจะพลาดสิ่งใดไปแม้เพียงสิ่งเดียว

Lying close to you, feeling your heart beating
ยามที่นอนข้างเธอ ฉันรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของเธอ

And I'm wondering what you're dreaming
ฉันได้แต่สงสัยว่าใช่ฉันหรือเปล่าที่เธอกำลังฝันถึง

Wondering if it's me what you're seeing
...ใช่ฉันไหม..ที่เธอกำลังเห็น

Then I kiss your eyes
แล้วฉันก็จุมพิตเปลือกตาของเธอ

And thank God we're together
และขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน

I just want to stay with you in this moment forever
ฉันเพียงอยากอยู่กับเธอ ในเวลานาทีนี้ตลอดไป

Forever and ever.
ตราบนานเท่านาน





I don't want to miss one smile
ไม่อยากจะพลาดไปจากสักรอยยิ้มเดียว

I don't want to miss one kiss
ไม่อยากสูญเสียจุมพิตไหนๆ

I just want to be with you
เพียงอยากอยู่กับเธอ

Right here with you, just like this
ณ ที่ตรงนี้... แบบนี้

I just want to hold you close
อยากสวมกอดเธอไว้ให้แนบแน่น

Feel you heart so close to mine
สัมผัสหัวใจเธออยู่แนบชิดใจฉัน

And just stay here in this moment
แค่อยู่ด้วยกันตรงนี้...ณ นาทีนี้

For all the rest of time
ตราบจนหมดเวลาของสองเรา




..................The End   .................

 

 

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนจบ ( ของภาคแรก ) ^^  เย้ๆ

            ตอนแรกก็คิดตอนจบไว้หลายอย่าง  แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นตอนจบแบบปลายเปิด  ฮ่าๆ  นุ่นคิดว่าบางครั้งตอนจบมันก็ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างมีความสุขเหมือนในเทพนิยายที่ตัวเอกต้องครองรักกันตลอดไป   บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องจบลงที่การจากลาหรือความตายเหมือนในทราจิดี้   แต่เชื่อว่า...บางครั้งตอนจบก็คือการกลับไปเริ่มต้นอะไรสักอย่างเหมือนชื่อตอน  Back at one   

            หวังว่าทุกคนคงจะมีความสุขกับนิยายเรื่องนี้  ซึ่งเป็นเรื่องแรกในชีวิตที่นุ่นแต่งจบ  ฮ่าๆ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดจนถึงตอนนี้   ขอบคุณที่ทำให้เรื่องนี้เป็นนิยายที่สมบูรณ์  ขอบคุณมากค่ะ

 

            หวังว่าจะได้พบกันอีก ^o^

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-06-2009 00:15:46
เย่ๆ

จิ้มพี่นุ่น จึ้กๆ

 :z13:

HBDด้วยนะคร้าบ

ขอให้พี่นุ่นมีความสุขมากๆนะ  :3123:

(รุรึยังว่าผมคือใคร?)

รักพี่นุ่นเน่อออ

รอภาค2ครับ  :n1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: Pecca_Suracora ที่ 21-06-2009 00:23:32


ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!

อีนังนู๋นุ่น ไหงแกจบแบบนี้วะเนี่ย
ฉันอุตส่าหืไมอ่านมานานสองนาน
ดันเปิดมาเจอพอดี   ให้ตายสิ
ไนท์ความจำเสื่อม  งั้นสรุปน้องเวย์ว่างใช่มะ 555+
มามะน้องเวย์ ป๋ารอมานานล่ะ (ผว้ะ)
แล้วภาคสองนี่ ตามที่แกบอกไว้ไหม ว่าเป็นคู่ของ.....
รึว่าแกจะโลเลเปลี่ยนใจอีก
นี่มันตอนที่23 เองนะเว้ยเฮ้ย
ไหนแกบอกว่า 30 Upไงเพื่อน เอิ๊กๆ

ช่างมานเหอะ ไว้จะตามไปอ่านละกัน -*-
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: Pecca_Suracora ที่ 21-06-2009 00:33:40

อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!
โดนใจอย่างแรงเพื่อนเลิฟ
น่าสนมากมาย จบแบบนี้
ฮ่าๆ นิยายฉันได้แนวคิดดีๆอีกแล้ว เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 21-06-2009 00:34:50
อ๊ากทำไมไนท์จำเวย์ไม่ได้อย่างนี้ล่ะ

ใจของคนรอก็เศร้าเหมือนกันนะคะ

อ๊าก ภาคสองมาต่อเร็วๆ เลยค่ะ

สงสารเวย์เหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 21-06-2009 01:03:50
กรี๊ดดดดดดดดดดด จบแบบนี้ได้ไง

แต่ บอกว่าภาคแรกใช่ไหม งั้นเอาภาคสองมาเลย เร็ว ๆ ให้ว่อง อย่างไวเลย  :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 21-06-2009 03:06:29
ไนท์จำไม่ได้...เพราะอยากจะลืมทุกอย่างที่ทำให้รักกันไม่ได้สินะ
แต่ไม่ว่ายังงัย....ความรู้สึกที่มีต่อเวย์ก็ยังคงอยู่เสมอ

 “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”

 :L1: :L2: :L1:

ป.ล. รอภาค 2 นะค่ะ...ยังงัยก็ยังอยากให้ไนท์จำทุกอย่างได้อ่ะ

+1 เป็นกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-06-2009 07:13:38
Happy Birthday น้องนุ่นครับ  :L2:
ขอให้มีความสุขมากๆ
แล้วก็ขอสมัครเป็นแฟนนิยายภาค 2 ต่อเลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: hatchi ที่ 21-06-2009 09:47:07
เห็นเพื่อนๆข้างบนบอกว่าเศร้า แต่เราว่าเราแอบแฮปปี้นะ (อ้าว อินี่ซาดิส ...มะช่ายน๊า)
ก็ถ้าอดีตมันโหดร้ายเกินจะจดจำ ลืมๆมันบ้างก็ดี
ถ้าตื่นมารู้ว่าจริงๆแม่ที่รักมาก โกรธพ่อแทนแม่มาตลอด แต่แม่กลับจ๊ะทิงจากับพ่อของชินแบบเนี๊ย
ชีวิตมันเลวร้ายไปไม๊นายไนท์ เหอ เหอ แบบนี้อย่าจำดีกว่าอ่ะ
แต่ไนท์ก็จำเวย์ได้นี่ ซึ้งนะ จำได้ด้วยหัวใจและความรู้สึกทั้งหมดกันเลยทีเดียว
สนุกมากเลยค่ะนุ่น แล้วจะติดตามภาค 2 นะ ภาค 2 ไม่ใช่เรื่องของสองคนนี้เหรอ งืออออ
ถ้างั้นขอแบบมีตอนพิเศษได้มั๊ยอ่า อยากรู้ว่าจะมีวันที่สวีทกับเค้าบ้างม๊ายยยย
 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 21-06-2009 11:27:31
ถึงจะจำไม่ได้


แต่ก็บอกรักแล้วนี่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 21-06-2009 11:40:16
 :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 21-06-2009 12:50:27
จบ แบบนี้ ก็น่ารักดี .......... แต่ จบแค่นี้ จิงเหรอค่ะ ...
ยังไม่ได้สวีทกันเลยง่ะ ... อยากอ่าน เวย์ ที่ยิ้มๆ อายๆ เขินๆ อีกง่ะ  :z3:

อื้มนะ ... บางทีสมอง ก็ไม่ได้อยากจำอะไรมากมาย
แค่ หัวใจ ยังรู้สึกว่า "รัก" เหมือนเดิม ก็เพียงพอแล้ว
 
ค่อยๆสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันใหม่ก็ได้ นี่เน้อะ ...
แค่ใจของคน 2 คน รู้สึกเหมือนกัน ... ก็เพียงพอแล้วจริงๆ


ปล.พอเพลงตอนจบขึ้นมา ... เรายิ้มเฉยเลย พอดี ชอบเพลงนั้นอยู่ด้วย อิอิ
จะตามอ่านต่อๆๆๆไป นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 21-06-2009 13:18:48
เปิดปลายทิ้งให้แบบนี้
ก็จิ้นเหนื่อยแย่สิค๊า ตะเองงงง

ไหนจะ ไนท์ เวย์

ไหนจะ เป้ เนม

ไหนจะ นุ แชมป์

ไหนจะ ชิน ....

มีภาคแรกแล้วก็ช่วยมีภาคต่อๆ ไปเถอะนะค๊า



นิยายสนุกมากค่ะ  รอลุ้นจนจุดสุดท้ายแห่งการเริ่มต้นใหม่
ขอบคุณมากๆ สำหรับนิยายค่า
ยังรอตอนต่อไปอยู่เสมอนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 21-06-2009 13:23:47
 :sad4:

น้ำตาไหลพรากกกก

ภาคสองขอคู่ หมอนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: Turn_righT ที่ 21-06-2009 14:33:49
เวย์ได้ฟังคำบอกรัก...ไนท์ได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูด  แม้จะยังจำเวย์ไม่ได้
พูดออกมาจากจิตใต้สำนึกกันเลยทีเดียว  โอ๊ย!!!....โรแมนติกจะตาย 

เราว่าจบแบบนี้เราแฮปปี้อ่ะ  ฮ่าๆๆๆ 
ขอบคุณสำหรับภาคหนึ่งค่า   :L2: :L2:
ปล.แอบชอบคู่น้องเนมอ่ะ...ใช่คู่ต่อไปมั้ย  แอบลุ้น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 21-06-2009 14:49:37
เอ มันก็แฮปปี้เอนดิ้งนะ
แต่อยากอ่านต่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 21-06-2009 18:53:28
 :sad11:  ภาค 2 จะมาเมื่อไหร่อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 21-06-2009 19:03:34
HBD ด้วยคน อิอิ

การจบของเรื่องนี้ คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เพราะไนท์เอง ก็บอกแล้วว่าจะแลกอะไรก็ยอม ขอแค่ได้บอกรักเค้า
ซึ่งไนท์เองก็ทำได้แล้ว จะจำไม่ได้ แต่ความรู้สึกว่ารัก ก็คือรัก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป้นใคร แต่ทำไม "ผมรักคุณ"
การจบครั้งนี้ คือการเริ่มต้น ของความรัก ระหว่าง ไนท์ กับ เวย์

ซึ้งมาก กินใจ  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: OitJi ที่ 21-06-2009 22:03:25
อย่างน้อยก็ยังได้รักกันนะ สักวันต้องจำได้แหละ :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-06-2009 22:51:54
ถือว่าจบแอปปี้ค่ะ
อย่างน้อยก็ได้บอกรักแล้ว
แล้วช่วยกันสร้างความทรงจำกันขึ้นมาใหม่นะ

ขอบคุณนุ่นจ้า หวังว่าจะได้อ่านภาค2ในไม่ช้านะคับ
ขอเป็นแรงผลักแรงดันให้นุ่นเขียนได้เรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
แล้วก็สุขสันต์วันเกิดด้วย มีความสุขมากๆนะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: Ekk_J ที่ 21-06-2009 23:02:11
ขนาดจำไม่ได้ยังบอกรักเฉย   เอางี้ก็ได้นะ  เจอกันภาค 2 ครับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 21-06-2009 23:22:05

+1 ให้ครับสำหรับภาคแรก

รอภาคสองครับบบบบ

HBD คนแต่ง :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: shiro_niji ที่ 21-06-2009 23:30:46
อ้าวอย่างนี้ไนท์ก็จำเวย์ไม่ค่อยได้อะดิ
มาต่อภาคสองไวๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 21-06-2009 23:33:08
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 21-06-2009 23:59:15
รีบเอาภาคต่อมาให้อ่านเร็วๆ ด้วยนะคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-06-2009 00:40:44
อยากรู้เรื่อง เป้กะเนม แล้วก็นุกะแชมป์
 :really2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 22-06-2009 01:18:20
กำลังสนุกเลยอ่ะ รอภาคสองอยู่น๊า  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-06-2009 01:19:43
ดีๆน้องนุ่น เพิ่งเห็นว่าเอานิยายลงเว็บนี้ด้วย

ต้องจำไม่ได้แน่เลยยย

ใช้นามแฝง angiotensin ในเว็บเด็กดีอ่ะ

ไม่รู้นุ่นจะจำได้ป่าว

เปนกำลังใจให้เสมอนะ

จะรออ่านภาค 2 อย่างใจจดจ่อเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-06-2009 10:24:53
แล้วก็กลับไปจุดเริ่มต้นอีกครั้ง  :m4:

รอติดตามภาค 2 นะคะ  :L2:


:a13: น้องนุ่นด้วยค่ะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: toonki ที่ 22-06-2009 12:05:52
จบได้แบบหายใจทั้วท้อง
รอตั้งนานว่าจะเป็นงัย

แล้วก็มารออ่านภาค 2 ต่อไป

ปล.แอบอยากรู้เรื่องเป้กับเนมอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 22-06-2009 14:00:48


 

            “อย่าร้อง” เพียงคำพูดเดียวของผมกลับทำให้เขาร้องไห้มากกว่าเดิม  ร่างนั้นก้าวเข้ามาหาผมช้าๆ    จนในที่สุดผมก็เอื้อมถึง  ผมคว้าข้อมือเล็กๆ นั่นไว้แน่น   ไม่รู้เมื่อไรที่ออกแรงดึงร่างนั้นเข้ามาซบแนบอก   กอดไว้อย่างที่ใจโหยหา   คิดถึงสัมผัสนี้...

 

            ความอบอุ่นแบบนี้...ที่ผมโหยหามาตลอด   กลิ่นหอมแบบนี้...ที่ผมเฝ้าคอยเสมอมา   คำพูดหนึ่งที่เก็บไว้รอเพียงเพื่อเวลานี้   คำพูดที่รอจะพูดมาตลอด

 

            คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด  

 

            “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”



โอ๊ย  :sad4: ซึ้งค่ะ

แต่งได้น่ารักมากมากเลยค่ะ  :กอด1:

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีอีกเรื่องนะค๊ะ

จะรออ่านภาคต่อไปค่ะ  :impress:

ขอบคุณค่ะ

 

 




หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 22-06-2009 19:46:30
พี่นุ่นรู้ไมว่ามันเส้รา คนรอ...ได้เเต่รอ รอจนตื่น...เเต่จำไม่ได้ ดีที่ตื่น..ดีกว่าหลับไปตลอดกาล

พี่นุ่นดิวของภาค2ต่อเลยน่ะ


“อย่าร้อง” เพียงคำพูดเดียวของผมกลับทำให้เขาร้องไห้มากกว่าเดิม  ร่างนั้นก้าวเข้ามาหาผมช้าๆ    จนในที่สุดผมก็เอื้อมถึง  ผมคว้าข้อมือเล็กๆ นั่นไว้แน่น   ไม่รู้เมื่อไรที่ออกแรงดึงร่างนั้นเข้ามาซบแนบอก   กอดไว้อย่างที่ใจโหยหา   คิดถึงสัมผัสนี้...

 

            ความอบอุ่นแบบนี้...ที่ผมโหยหามาตลอด   กลิ่นหอมแบบนี้...ที่ผมเฝ้าคอยเสมอมา   คำพูดหนึ่งที่เก็บไว้รอเพียงเพื่อเวลานี้   คำพูดที่รอจะพูดมาตลอด

 

            คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด 

 

            “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”


ซึ่งเหลือเกิน จบเเบบี้เเล้วนี้คือความสุขส่วนหนึ่งที่มันจะเเตกปลายเป็นความสุขตลอดกาลเเม้มันต้องมีเรื่องราวมากมายที่ต้องผ่านไป :sad4:

เเล้วเรื่องของ เเชมป์ นุ ส้ม จะเป็นยังไงเนี่ย
 :sad4:



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: 111_1 ที่ 22-06-2009 20:16:29
อยากได้ตอนพิเศษ

 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 23-06-2009 15:47:48
ขอรอภาค 2 ด้วยคน

แบบว่า จบแบบให้คิดง่ะ

ว่าตอไปจะเป็นไงน๊า

 o13

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 24-06-2009 01:24:08
เห็นด้วยครับเรื่องตอนจบ   o13

 :pig4: ที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน
 
และหวังว่าจะมีภาคต่อไปเร็วๆนี้นะครับ  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 24-06-2009 01:30:48
+1 ให้กับนิยายดีๆที่แต่งมาให้อ่านค่ะ


แล้วก็ ...
ภาค 2 จะรอนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 24-06-2009 08:02:13
พี่นุ่นค่ะ มาจองบัตรรอภาค 2 ค่ะ ^^

สนุกมากมายย

ขนาดความจำเสื่อม จำพี่เวย์ไม่ได้ นะเนี้ยย โอ้ยยย ขนลุก 555+

+1 ให้เลย  o13

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 24-06-2009 08:32:40
ดีค่ะ เริ่มต้นใหม่อีกครั้งเลยดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ฟังคำว่ารักแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 24-06-2009 10:30:11
แวะ เข้า มาดู บ้านนี้ มั่ง ใคร มาอยู่นี่ บ้างอ่ะ

กดดันที่ ป้อมฯ ไม่ซะใข พอ แวะมานี่ด้วยดีกว่า
5555
 :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 25-06-2009 00:16:23
^
^

ฮ่าๆๆ

ร่วมด้วยช่วยกันเนอะ ท่านแบท


เข้ามาดันให้พี่นุ่นครับ ก่อนหล่น
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 25-06-2009 08:00:52
 
เรื่องดีมากครับ

แต่

 :o12: :o12:

อ่านถึงตอนสุดท้าย.... น้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย
:sad11:

ซึ้งมากๆๆ


ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ แบบนี้ครับ



 :pig4: o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-06-2009 21:53:49
เอ้า

เข้ามาช่วยดันนน

เผื่อไรท์เตอร์จะเห็นใจ

ปล่อยตอนพิเศษมาให้อ่านซะที   :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 27-06-2009 23:43:21
555  ใช่ แล้วน้องนัท ดัน ๆ มะดันดอง ตื่นตอน ตี 2 ปลุกน้องมาดัน 55555

ตอนพิเศษอ่ะน้องนุ่น ตอนพิเศษ

 :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 28-06-2009 13:37:58
อ่าวๆ

พี่นุ่น

แย่แล้ววว

ชาวป้อมตามากดดันถึงในนี้แล้วน้าาา

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 04-07-2009 15:29:27
ขุด ๆๆ  ดัน ๆ ๆ มาเอา ภาค 2
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: ohhotopo ที่ 05-07-2009 19:56:33
 :serius2:

ซะงั้น

รอภาคสองๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 05-07-2009 20:16:14
 o13


ยังอ่านไม่จบแต่ มาทักทายก่อน


หวัดดีค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 05-07-2009 21:47:29


มาดันภาค 2   :z13:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 05-07-2009 23:30:37
แง่มๆๆๆ แวะมาดัน ภาคสองเจ้าค่ะ

หนุกจริงๆเลย กลังลุ้นเชียวนะึคะเนี่ย

ว่าจะเปนไงต่อไป เง้ออออออ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 06-07-2009 14:22:57
นานได้อีกนะคะ ยังไงก็จะรอนะคะ จ๊วบ ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-07-2009 21:31:59
หล่นมาหน้า2แล้วววว


สู้ๆพี่นุ่น

รอนุแชมป์อยู่เน้ออ

เอ๊ะ หรือเป้เนม

ใครก็ได้ทั้งนั้น

รออยู่~~  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 09-07-2009 20:35:46
อ่านจบแล้ว


    “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”


โหยยยย  ชอบจังเลยประโยคนี้

ขอบคุณนะคะ สนุกจัง 

รอภาค 2 เหมือนกันค่า

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: yumekun ที่ 13-07-2009 02:12:52
มาดันค่ะ

รอภาค2ทุกวันเลย

ทั้งในเด็กดีและที่นี่เลยนะคะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 14-07-2009 00:20:33
มาต่อได้แล้วค๊าา นู่อยากอ่านอ๊าาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 16-07-2009 19:18:40
ล่วงมาหน้า2อีกคราหนึ่ง

 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 27-07-2009 00:34:59
มานั่งรอนุ กับแชมป์ อีกแหละ
เฝ้า ๆ รอ ๆ
เดือนหน้า เมื่อไรจะมาถึงน้า :t3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 30-07-2009 18:47:16
จะเดือน สิงหาแล้ว ไรเตอร์ ปรากฏตัวยังเนี้ย :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 31-07-2009 22:12:43
รออ่านนุแชมป์ก่อนขึ้นเครื่องอยู่น้าา










 o18




(อ่าว ตกลงจะ้อ้อนหรือจะลอบฆ่าไรท์เตอร์กันแน่ฟะ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 01-08-2009 09:30:11
ตาย ๆ ๆ ไรเตอร์ตาย จะทันไหมเนี้ย ต้องทำให้เครื่อง ขึ้นไม่ได้ซะละม้าง  :laugh:

ไม่ต้องไปหรอก รออ่านอยู่เนี้ยแหละ

(เราต้องช่วยไรเตอร์)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 24 Back at one [ending cp]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 01-08-2009 22:12:54



ตอนพิเศษ : นุ – แชมป์ (เส้นขนาน 1)

   ถ้าผมรักมัน  ผมจะกลายเป็นคนเลว  แต่ผม...ไม่เคยบอกสักครั้งว่าเป็นคนดี
ผมทำสิ่งผิดที่สุดในในชีวิต  แต่กลับได้สิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตมาพร้อมกัน
ระหว่างเรามันคือ....เส้นขนาน
..............................................................................

   “เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลง  ไม่ใช่หาคีย์ไม่เจอนะครับ  แต่มัน..เฮ้ย  นี่มันไม่ใช่เวลามาทำตลกนะเมิง  ไอ้นุ  ผมก้มมองร่างเปลือยของตัวเองอย่างตื่นตะลึง  ความเหนื่อยล้าบวกกับความมึนงงทำให้ผมต้องสะบัดหัวอย่างหงุดหงิด  พลันสายตาเหลือบไปเห็น...แผ่นหลังเปลือยเปล่าขาวๆ ที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบของใครอีกคน   
ใครอีกคนที่ขยับตัวแล้วครางเบาๆ  คิ้วเรียวขมวดแน่นแสดงความเจ็บปวดเมื่อร่างนั้นพลิกกลับมานอนหงาย  นั่นมัน...ไอ้แชมป์!!!

“อ่ะ..”  ผมเกิดอาการใบ้กินไปชั่วขณะเมื่อสบกับสายตาที่มองมาเหมือนจะค้นหา   หรือต้องการคำพูดบางอย่างจากผม...ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“เอ่อ..เมิง  อ่า.. กู”  ได้ยินเสียงตัวเองพูดแล้วก็อยากจะกระโดดตบเกรียนบนหัวตะหงิดๆ  มัวแต่มา เอ่อๆ อ่าๆ  ชาตินี้มึงจะคุยกับมันรู้เรื่องไหมว่าตกลงมานอนด้วยกันได้ยังไง   ดีไม่ดีใครมาได้ยินเข้าจะนึกว่าคนกำลังมีเซ็กส์กัน
หืม.. เซ็กส์   เออ  เซ็กส์  ...เฮ้ย. เซ็กส์?????????!!!!!!!!!!!!

“โอ๊ย”  ไอ้แชมป์ครางเบาๆ เมื่อมันพยายามจะลุกขึ้น  สีหน้าที่พยายามจะปรับให้เป็นปกติของมัน  กับขาที่สั่นน้อยๆ  รวมถึงร่องรอยบางอย่างบริเวณด้านหลังทำให้ผมได้แต่ตะลึงมองตาค้างจนร่างนั้นหายเข้าไปในห้องน้ำ   นี่มึงไปนอนกับใครมา??   นอนกับใคร...นอนกับ  กู???
   ฮ่าๆ  บ้าน่า  จะเป็นไปได้ยังไงล่ะวะ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  เสียงหัวเราะของผมแห้งแล้งลงทุกที  เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มออกจากท่อนล่างตัวเองช้าๆ
   ตูม!!!  มหายุคซีโนอิก        กำเนิดโฮโมอีเรคตัส
   ตูม!!!  มหายุคเมโสโซอิก      กำเนิดไดโนเสาร์
   ตูม!!!  มหายุคพาลีโอโซอิก      กำเนิดสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์
   ตูม!!!  มหายุคพรีแคมเบียม      กำเนิดสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
ตูม!!!  กำนิดโลก   = =;;
V
V
V
   ชัดเลย!!!   เป็นผมเอง  ผมเป็นพ่อของเด็กในท้องมัน  เฮ้ย!  ยัง  ไม่ใช่  มึงจะรีบลัดขั้นตอนไปไหน  ผมเป็นคนนอนกับมันเอง  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  ฮ่าๆ  นอนด้วยกัน  ฮ่าๆ  ชิบหายแล้ว  งานเข้าแล้วไงกู!!!
ผมหันกลับไปมองประตูห้องน้ำโดยอัติโนมัติ  สมองเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็ว  ออกมาสิเว้ย  เรื่องเมื่อคืน  ออกมาๆๆ
....................................

“แชมป์มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”  ผมตรงเข้าไปกอดคอมันหลังเลิกซ้อมบาส
“ไปไหนวะ” มันถามโดยไม่มองหน้าผม  เออ  ของกินมันสำคัญกว่ากูว่างั้นเหอะ  ไอ้แชมป์นี่มันก็แปลกครับ  พอเล่นเสร็จ  ได้เหงื่อปุ๊บมันต้องหาอะไรยัดเข้าไปในท้องปั๊บโดยไม่มีทีท่าว่าจะจุกเหมือนคนอื่นเขา 
“ก๊งเหล้าเคล้านารีกับเพื่อนเก่ากูอ่ะดิ  พวกไอ้คริสไง  มันบ่นอยากเจอมึง”  ไม่รู้พวกมันไปตีซี้กันตอนไหนนะครับ  รู้อีกทีคนชงเหล้าก็เพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง  เพราะไอ้คริสมันอาสาช่วยไอ้แชมป์ชงอีกคน
“เออๆ  วันนี้เลยป่ะวะ”
“อือ  ขอกูกินน้ำมั่งดิ  เอาน้ำแดง”  ผมเริ่มหงุดหงิดเมื่อมันเอาแต่กิน  กิน  กินลูกเดียว  ไม่สิ  ต้องบอกว่าแต่กินอยู่คนเดียวโดยไม่ยอมหันมาถามผมบ้างว่าอยากกินหรือเปล่านี่แหละ
“มือไม่ว่างไงวะสาด  เอ้านี่!  เออ  แล้วไอ้เวย์  ไอ้ไนท์...”
“พวกมันไม่ไป  สงสัยจะอยากไปกินกันเองสองคน”
“มึงถามไอ้เวย์แล้ว?”  ไอ้แชมป์หันมาทำหน้าไม่อยากเชื่อ  คนอย่างไอ้เวย์น่ะเหรอจะยอมพลาดงานอย่างนี้  เรื่องกินล่ะขอให้บอก  เมาไหนเมานั่น  ยิ่งกับเพื่อนๆ ผมด้วยแล้ว  มันล่ะติดใจนัก  มันว่าคุยถูกคอดี  ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าไอ้คำพูดนี้ของมันนี่แหละที่ทำให้ตัวเองอดไป  เพราะพ่อทูนหัวมันเคือง
“ปล่าว  กูถามไอ้ไนท์คนเดียว”
“กูว่าแล้ว”  ผมกับมันสบตากันอย่างรู้ความหมายแล้วก็ต่างหลุดหัวเราะออกมา  ไอ้โรคขี้หวงของไอ้ไนท์มันคงรักษายากพอๆ กับโรคปากแข็งของมันนั่นแหละครับ

ไอ้แชมป์ไปอาบน้ำที่คอนโดผม  น่าน  อย่าทำหน้าอึ้งแบบนั้นสิครับ  หน้าอย่างผมก็อยู่คอนโดดีๆ กับเขาเหมือนกันนะ  อาทิตย์นี้ศรีภรรยากลับไปค้างกับแม่ที่บ้านเขา  ทางโล่งโปร่งเมียครับ  ฮ่าๆ  ไอ้แชมป์มันเลือกเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดตาปล่อยชายกับกางเกงยีนสีเข้ม  นาฬิกาหนังสีดำยี่ห้อดัง  แล้วก็สร้อยเงินที่มันหวงนักหวงหนาแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าสำคัญยังไง  ส่วนผมก็แต่งไม่ต่างจากมันเท่าไร  แน่นอนว่าเมื่อผมเป็นคนเล่า  ในสายตาผม  ผมต้องดูหล่อกว่ามันอยู่แล้วครับ
“สาดนุ  เดี๋ยวก็ทะลุไปอยู่ในกระจกหรอกมึง” เสียงมันทำเอาตัวผมในกระจกสะดุ้งเฮือก  ผมว่าผมส่องแบบเนียนๆ แล้วนะ  มันยังอุตส่าห์เห็นอีก  แฟนไม่อยู่ไม่รู้จะหล่อให้ใครมอง  ก็เลยต้องมองเองไงครับ
“เออ  หล่อแล้วมึง  อยากให้คนชมใช่ป่ะวะ” มันว่าพลางหัวเราะ  แวบหนึ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มซื่อๆ ของมัน  หัวใจผมกระตุกวูบ  อ้าว  เป็นบ้าอะไรไปกู  ดีใจที่มันชมว่าหล่อว่างั้นเหอะ
“รู้ดีนักมึง  อยู่คนเดียวไม่มีคนชมเว้ย  แม่ง  กูเหงา”
“ฮ่าๆ  ไม่โทรไปหาไอ้ส้มล่ะวะ”  โทรไปแล้วครับ  แต่เขาไม่ว่างคุยกับผม  กระซิกๆ  คิดถึงเมียโว้ย  เมียบอกไม่ว่าง(มาทั้งอาทิตย์)  แสดงว่าเขาต้องการให้เราห่างกันเพื่อคิดถึงกันมากๆ ใช่ไหมครับ  ฉะนั้นในฐานะคนรักเมีย  ผมต้องรู้จักอดทน  แม้เมียจะเหินห่างไปบ้าง  แต่เราก็ต้องไม่ห่างเหินจากเมียครับ 
อ๊ากก  ในหัวผมตอนนี้มีแต่คำว่า  เมีย  เมีย  เมีย  และก็เมีย  เมียจ้า...ได้ยินไหมว่าเสียงใคร  มันเหมือนเสียงคนร้องไห้  แต่คล้ายเสียงชายเจ้าน้ำตา.... (เพลงบอกอายุคนแต่งได้ดีเหลือหลาย -*- น้องคนไหนเกิดไม่ทันเพลงไก่จ้าของพี่เป้าเย็น (สายัณห์) ค่ะ)

“เป็นไรวะ  ทำหน้าเหมือนถูกทิ้ง  ไปๆ กูหิวแล้วเนี่ย”  ว่าแล้วมันก็จัดการลากผมเดิน  ไม่วายส่งยิ้มให้กับตัวผมในกระจก  อ้าว  แล้วมึง..ไอ้คนในกระจก  มึงจะมองมันตาค้างทำไม  ไอ้นี่ไม่รู้จักกาลเทศะ  หรือว่าคิดถึงเมียจนเพ้อ  ดันไปเห็นว่ามันน่ารักซะได้  ท่าจะบ้าเว้ย

คุยกันสักพักก็ตกลงกันได้ครับว่าเราจะขี่มอเตอร์ไซด์ไอ้แชมป์ไปเพื่อประหยัดน้ำมันรถผม  ไอ้นี่มันก็ดีเนอะ  ช่วยชาติเต็มที่  รถดีๆ มีไม่ยอมให้ผมขับ  บอกแต่ว่าอยากจะช่วยชาติอย่างเดียว  ฮ่าๆ  ตลกน่ารักดีครับ  เอ๊ะ  น่ารัก??  ใช้คำพูดผิดแล้วมั้งผม?



“เฮ้ย  ไอ้นุ  แชมป์  ทางนี้ๆๆ” ผมหันไปตามเสียงเรียกเห็นพวกไอ้คริสนั่งรออยู่แล้วที่โต๊ะประจำของพวกผม  แน่นอนครับร้านเฮียต้าเหมือนเดิม  มีพี่ผลาญพี่  เอ๊ย! อุดหนุนพี่สิครับ  จะเอาเงินเราไปละลายให้คนอื่นทำไมจริงไหม
“เออ  ดีเว้ย  ล่วงหน้ากันไปนานยังวะ” ดูจากขวดเหล้าเปล่าๆ แล้ว  คงยังไม่นานเท่าไรครับ  ยังพอตามทัน  ฮ่าๆ
“นิดหน่อยว่ะ  มาๆ แชมป์ช่วยกันชงเหล้า”
“กูมาปุ๊บก็มอบหน้าที่ให้เลยนะ” ไอ้แชมป์มันบ่นแต่ก็ยอมเดินไปนั่งข้างไอ้คริสแต่โดยดี  สองมือมันเริ่มรับผิดชอบหน้าที่โดยการชงเหล้าให้ผม  จากนั้นก็เติมเหล้าให้คนอื่น  รับรองเลยครับว่าเหล้าที่มันชงนี่กำลังอร่อย  ใครชอบรสแบบไหนมันจำได้หมด  คิดๆ แล้วก็ชักเห็นด้วยกับไอ้เวย์มัน  เพื่อนผมคนนี้ถ้าไปเป็นบาร์เทนเดอร์ก็คงจะรุ่งล่ะครับ
อ้อ  ผมเคยบอกรึยังว่าคำพูดไอ้เวย์มันมีอิทธิพลขนาดไหน  ก็ขนาดไอ้คริสเจอมันแค่ครั้งเดียว  ยังบังคับให้พวกผมเลิกเรียกมันว่ากล้วย  กลับมาเป็นไอ้ชื่อฝรั่งนี่แทน  ศักดิ์สิทธิ์ไหมล่ะครับ  ไอ้เวย์เนี่ย


“อืม  แล้วก็ใส่อันนี้เหรอ  อ๋อ  ฮ่าๆ  I see  I see”  ไอ้ประโยคไทยปนอังกฤษอย่างนี้จะเป็นของใครถ้าไม่ใช่  ไอ้คริส  มันกำลังพยายามจะจำสูตรชงเหล้าจากไอ้แชมป์ครับ
“มึงรู้มั้ย  กูว่าไอ้คริสมันต้องลืมเป้าหมายแล้วแน่เลยว่ะ”  ไอ้คิมมันสะกิดผม
“เป้าหมาย??  อะไรวะ”
“อ้าว!  นี่มึงไม่รู้เหรอวะ  ที่ไอ้คริสมันไปตีสนิทช่วยเพื่อนมึงชงเหล้าเนี่ย  ก็เพราะมันอยากล้วงความลับ” 
“ล้วงความลับ??  ของใครวะ”  ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง  ว่าแล้วอยู่ๆ ไอ้คุณชายมันไปอาสาชงเหล้าให้เหนื่อยทำไม  ที่แท้มันมีเบื้องหลังนี่เอง
“ของไอ้เวย์ไง  มันบอกว่าจะจีบคนมีเจ้าของต้องหาข้อมูลก่อน” 
“เฮ้ยยยย  พูดจริงดิมึง  บอกมันถ้าไม่อยากโดนเชือด  อย่าลองของดีกว่า”  นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีในฐานะเพื่อนเลยนะครับ  จะจีบใครไม่จีบดันจะจีบไอ้เวย์  กูว่ามึงจะไปจีบนางงามอย่างนาตาลี  เกลโบว่ายังดูจะปลอดภัยกับชีวิตมึงมากกว่าเลย  อย่างน้อยๆ ภารดรก็คงไม่อยากเป็นข่าวข้อหาทำร้ายร่างกาย  แต่อย่างไนท์...ต่อให้เป็นข้อหาฆ่าคนตาย  มันก็คงไม่สนล่ะมั้ง

“ฮ่าๆ  กูว่าปล่อยมันไปเหอะ  ดูท่ามันจะติดใจฝีมือชงเหล้าไอ้แชมป์จนลืมล้วงข้อมูลไปแล้ว”  ผมอดไม่ได้ที่จะมองคนชงเหล้าของผมอีกครั้ง  ใบหน้าขาวมีรอยแดงจางๆ  คาดว่ามันคงดื่มไปไม่น้อย  มือก็ยังสาละวนอยู่กับการชงเหล้า  เติมน้ำแข็ง  ปากก็คุยเล่นกับอีกคนที่มองมันหยิบโน่นผสมนี่ตาไม่กระพริบ
มันจะดูสนุกกันเกินไปหน่อยละมั้ง??

.........................................

   “จับดีๆ สิวะ”  ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังกอดอะไรบางอย่างอยู่  อะไรบางอย่างที่อุ่นสบายต่างจากสายลมภายนอกที่พัดผ่านมาชวนให้ต้องห่อกายเบียดหาความอบอุ่นนั้นมากยิ่งขึ้น
   “อย่ากอดแน่นสิโว้ย  กูหายใจไม่ออก” เสียงใครสักคนบ่นงึมงำแล้วพยายามดึงมือผมออกจากความอบอุ่นนั้นอย่างทุลักทุเล  แต่ผมไม่สนใจ  กลับยิ่งเพิ่มแรงกอดให้มากขึ้นจนฝ่ายนั้นเลิกขัดขืนไปเอง
   ผมยิ้มให้กับตัวเอง    สบายจัง 


   “พลิกหน่อย  จะถอดเสื้อให้”  ใครบางคนพยายามถอดเสื้อให้ผม  มือเย็นเฉียบสัมผัสลำคอร้อนรุ่นของผม   กลับมาแล้วเหรอ??  ผมเอื้อมมือไปกุมมือนั้นไว้แล้วดึงร่างทั้งร่างมากอดแน่นด้วยความคิดถึง  ไม่ได้กอดมาตั้งอาทิตย์หนึ่ง  ในที่สุดก็กลับมาสักที
   “อือ  คิดถึง..จัง”  กดปากหนักๆ กับพวงแก้ม  ก่อนจะไล่ไปตามซอกคอ  ขบเม้มตามแรงอารมณ์ให้สมกับความคิดถึงที่เก็บอยู่ในใจ
   “เฮ้ย!  ปล่อยนะมึง” คนในอ้อมกอดพยายามดันตัวออกจากผม  เรื่องอะไรจะปล่อยให้โง่เล่า  ผมจัดการกดร่างนั้นให้แนบชิดยิ่งขึ้น  กระซิบคำหวานที่ข้างหูหวังให้เขาใจอ่อนยอมให้ผมกอดแต่โดยดี
   “คิ-ด ถึง”
   “ปล่อยสิวะ  กูไม่ใช่ไอ้ส้มนะเว้ย  เฮ้ย!!!” 
   “อย่าดิ้นสิคร้าบ  หึหึ”  เมื่อคนในอ้อมกอดยังคงดิ้นรนจะหนีผมไปให้ได้  ผมจึงพลิกกายให้คนข้างบนมาอยู่ใต้ร่าง  ท่านี้...ง่ายต่อการคุกคาม  ใช้หน้าขากดร่างนั้นไว้ไม่ให้หนีไปไหน  มือข้างหนึ่งทำหน้าที่เป็นดั่งพันธนาการจับข้อมือทั้งสองข้างไขว้ไว้เหนือศีรษะ   ส่วนมือที่เหลืออีกข้าง...กำลังเคลื่อนไหวไปตามสันชาตญาณและความรู้สึกที่ร่ำร้องอยากสัมผัสคนตรงหน้า  ผิวกายนุ่มละเอียดชวนให้หลงใหล  จุดไฟในร่างกายให้ร้อนขึ้น...จนไม่อาจดับได้ด้วยตัวเอง

   “เชี่ยเอ๊ย  กินเหล้าแล้วกูไม่มีแรง  มึงปล่อย  เมิง..อุ๊บ...อื้อ”  จัดการปิดปากคนใต้ร่างด้วยจูบร้อน  ควานหาตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักพอราวกับคนเดินทางท่ามกลางไอแดดและความแห้งแล้งในทะเลทราย  พานพบบ่อน้ำใสสะอาด
   น้ำ...ที่ร้อน  และร้อนขึ้นเรื่อยๆ

.....................................................

โครม!!!!  เสียงของหนักกระแทกพื้นทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์  หลุดจากภาพอดีตที่ตอกย้ำความผิดของตัวเอง   ความตกใจและกังวลครอบงำความรู้สึกทั้งหมดเมื่อนึกถึงคนที่อยู่หลังประตูห้องน้ำ   ผมกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งตรงไปหาโดยไม่ต้องคิด
“ไอ้แชมป์  เป็นอะไร!!”  ผมตะโกนถามทว่าไม่มีเสียงตอบรับจากคนข้างใน  มือทุบประตูดังปังๆ  ทว่าข้างในก็ยังคงเงียบสนิท
“เฮ้ย!!  เกิดอะไรขึ้น  มึงตอบสิวะ”  ปังๆ  มันยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม  ผมร้อนใจจนอยู่ไม่เป็นสุขและไม่อาจข่มใจให้เย็นลงพอจะใคร่ครวญอะไรได้   ผมรีบวิ่งไปยังห้องนั่งเล่น  เปิดลิ้นชักของตู้ไม้สีฟ้าเล็กๆ อย่างแรงจนของข้างในกระจายออกมาหมดพร้อมๆ ลิ้นชักนั้นร่วงหล่นสู่พื้น

“แม่งเอ๊ย  ให้มันได้อย่างนี้สิวะ” ผมสบถอย่างหัวเสีย  มือควานหาของที่ต้องการ  และในที่สุดก็เจอพวงกุญแจขนาดย่อมที่มีกุญแจห้องทุกห้องของคอนโดผมและที่บ้าน  ผ่อนลมหายใจแล้ววิ่งกลับไปยังห้องนอนโดยไม่สนข้าวของที่กลาดเกลื่อนอยู่บนพื้น 
ช่างหัวมันสิ  ผมมีเรื่องสำคัญกว่านั้นหลายร้อยเท่ารอให้ไปจัดการอยู่


“ไอ้แชมป์!!!” หัวใจผมเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของมันนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้องน้ำ  แน่นิ่ง...จน่ากลัว   ผมยืนตะลึงอยู่อย่างนั้นหลายวินาทีกว่าจะรู้สึกตัวแล้วรีบตรงเข้าไปอุ้มมันไปนอนบนเตียง

เป็นครั้งแรกที่ผมทำอะรไม่ถูก   กลัว..จนร่างกายไม่ยอมขยับ
เหมือนคนเพิ่งค้นพบสิ่งสำคัญ  และกำลังจะสูญเสียมันไป

“ไอ้แชมป์ตื่น  แชมป์!!  โธ่เว้ย” ตัวมันร้อนอย่างกับไฟ  ผมเคยคิดว่าคำพูดนี้มันเกินเลยจากความจริงไปมากโข  แต่วันนี้เมื่อได้รับรู้อุณหภูมิของคนที่นอนนิ่งบนเตียงด้วยตัวเอง  ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น  ร้อนราวกับไฟจริงๆ  ทั้งตัวมัน  ทั้งใจผม

“อาวิทย์ครับ  รีบมาที่คอนโดผมด่วนเลย  เพื่อนผมอาการไม่ดี  ครับๆ  ขอบคุณครับ” ผมกดโทรศัพท์เรียกอาหมอประจำบ้านมาอย่างรวดเร็ดโดยไม่ยอมละสายตาไปจากใบหน้าทรมานของมัน  ลมหายใจหอบถี่กับอาการหนาวสั่น  ริมฝีปากซีดๆ ตัดกับใบหน้าที่แดงขึ้นด้วยพิษไข้ 

ความรู้สึกผิดเอ่อล้นอยู่เต็มหัวใจ  มันเป็นแบบนี้เพราะผม  ต้องทรมานขนาดนี้ก็เพราะผม    ผมควรจะชดใช้ยังไงดี
ก่อนอื่นคงต้องเช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มันก่อนสินะครับ


…………………………………….

ขอโทษที่หายไปนานด้วยนะคะ  ยุ่งๆ กับเรื่องเรียนน่ะค่ะ   ขอบคุณทุกท่านที่รอนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 01-08-2009 22:16:16
จิ้มคับ

^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 01-08-2009 22:21:51

ท่าน son  เจิมเร้วได้ใจมากเลยค่ะ  ฮ่าๆ  เร้วติดจรวดเจงๆ นะเนี่ย

อ๋อ  ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะคะที่นุ่นมาลงช้ามากมาย  ฮ่าๆ

แต่หลังจากนี้ก็คงจะลงเร็วขึ้น   (อาทิตย์ละตอน  >>  นี่มันเร็วตรงไหนยะ)

ฮ่าๆ  ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม  มาอ่านนะคะ

รออ่านภาคสองของไนท์กับเวย์กันด้วยนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 01-08-2009 22:25:41
โหหห ขยี้ตาแปดเก้าที
เรื่องนี้ก็มาต่อจริงๆ

ดีใจจังค่ะ  :mc4:


แล้วนี่แชมป์จะเป็นไงล่ะเนี่ย
แล้มาเฉลยไวๆ น้า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: knightto ที่ 01-08-2009 23:21:26
ฮร่าๆ.ๆ..

ดีใจที่พี่นุ่นมาต่อ  อิอิ

แต่อยากอ่านภาค 2 ของไนท์ก่าเวย์มากกว่า  แต่ของแชมป์กับนุ มาต่อเรื่อยๆก็ดี
อิอิ...ลุ้นอยู่ว่าคู่นี้จะได้รักกันป่าว....แต่ดูแล้ว นุมีพันธะ แล้วแชมป์อ่า  T^T

รีบๆมาต่อน๊า

เป็นกำลังใจ สู้ๆ


 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 02-08-2009 00:28:07
แอบบโดดไปอ่านในเด๊กดีมานึกว่าจะต่อแล้วซซะอีก
แต่ก็ดีใจครับที่กลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 02-08-2009 00:29:41
0h จิ้มกันกระจาย ไม่ทัน เลย

 :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 02-08-2009 00:31:43
โหจิ้มๆๆๆๆ

กันไวจัง

ดีจร้าค้างคาว

อิอิ

นุ่นอย่าลืมมาต่อเน้อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 02-08-2009 01:03:45
น่ารักดี

เพื่อนนุกะแชมป์อ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 02-08-2009 01:32:13
เย๊ๆๆๆๆๆ ไรท์เตอร์กลับมาแล้นนน
ดีใจจังค่ะ ขอบคุณจิงๆ
รอภาค2 ของไนท์กับเวย์อยู่นะ
จริงๆเรื่องของนุกับแชมป์ก็อยากรู้นะ
แต่คิดว่าเรื่องของ2คนนี้มันน่าจะจบไม่แฮบปี้นะ
นึกไม่ออกว่านุมันจะแก้ปัญหายังไงของมัน
"เส้นขนาน" จริงๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-08-2009 02:21:32
มาจิ้มด้วยคนนะคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 02-08-2009 02:33:08
ชอบคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 02-08-2009 13:05:33
อ่า ในที่สุดก็มาต่อแล้ววว

อยากรู้ตั้งแต่ภาคแรกละ ว่านุกะแชมป์เป็นมายังไง :m4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-08-2009 13:27:11
นี่สิเล่นเพื่อนของจริง เล่นไปแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1)
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 02-08-2009 14:37:08

ต่อจ้า

“ครับอาหมอ  ไม่ต้องห่วงครับ  ผมจะดูแลเขาเอง” อาหมอวิทย์กลับไปแล้วพร้อมกับความหนักใจของผมที่ค่อยบรรเทาลงบ้าง   อย่างน้อยๆ ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้ป็นอะไรมาก  รู้ว่า..เดี๋ยวมันก็จะหาย  ถึงตอนนั้น...ไม่ว่ามันจะทำยังไงกับผม  ผมจะไม่ปฏิเสธเลย

“กูขอโทษนะ  มึง..คงจะเจ็บมาก” ผมใช้ผ้าชุบน้ำซับเหงื่อตามใบหน้าให้มัน  เห็นร่องรอยที่ตัวเองทำไว้อย่างชัดเจนทุกที่ที่ผ้าขาวลากผ่าน
แทบจะไม่มีส่วนไหนเลย....ที่รอดจากการสัมผัสของผม
ผมนึกออกทุกอย่าง  ทุกฉากทุกตอน  ยังจดจำสัมผัสรัดรึงชวนให้สติหลุดลอยนั้นได้  ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย  แต่ผมกลับปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีเหลือเกิน   ทั้งๆ ที่ดื้อดึงรุกรานโดยที่มันไม่เต็มใจ  แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับเป็นความสุขที่แทบจะห้ามตัวเองไม่ได้
เมื่อคืนนี้...ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
ใบหน้าบูดเบี้ยวกับคราบน้ำตาจางๆ ยามถูกผมรุกรานยังคงติดอยู่ในห้วงความคิด  แค่มองคนที่ผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอบเตียงก็ทำให้หัวใจผมบีบรัดเกินบรรยาย
ความรู้สึกนี้...คืออะไรกันนะ
รู้สึกผิดที่ทำให้มันต้องเจ็บตัว  พร้อมๆ กับความลิงโลดอยู่ลึกๆ ที่ได้เป็นเจ้าของ
นี่ผมเป็นอะไรไป  ทั้งที่ทำมันเจ็บตัวขนาดนี้  ยังมีหน้ามาดีใจ  ผมนี่มัน...สารเลว

“กูจะชดใช้ให้มึงยังไงดี”  แล้วกับอีกคนหนึ่งด้วย  คนที่ผมบอกตัวเองว่าจะดูแลเขาไปตลอดชีวิต  ผมจะทำยังไง  ผมกำลังทรยศความไว้วางใจของเขาอยู่ใช่ไหม  เขาจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าผมกำลังจะนอกใจ   
นอกใจ??  ผมคิดอย่างนั้น  ผมคิดอย่างนั้นน่ะเหรอครับ

ผมจำได้ว่าคืนนั้นเป็นคืนที่ผมไม่อาจข่มตาให้หลับได้  ไม่อาจสลัดความคิดมากมายออกไปจากหัวได้  และไม่อาจ...ห้ามตัวเองไม่ให้กอดคนข้างๆ ได้
ผมนอน...โดยกอดมันไว้  เพราะมันเป็นไข้  หนาว  และต้องการความอบอุ่น  ครับ?  นั่นก็เป็นแค่ข้ออ้างที่ผมยกมาใช้เท่านั้นเอง
ก็แค่อยากกอด..เพราะรู้ว่าหลังจากนี้ผมอาจจะไม่ได้แม้แต่มองหน้ามัน

…………………………………….

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจ  เมื่อคนที่นอนซมด้วยพิษไข้มีสีหน้าดีขึ้น  และในที่สุดก็ยอมลืมตาเสียที
มันมองหน้าผมอย่างเฉยชาจนทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ  เหมือนนักโทษกำลังรอผู้พิพากษาลงอาญา   หวั่นวิตกว่าอาจจะไม่วันพรุ่งนี้อีกต่อไป
“ดีขึ้นบ้างมั้ย  หิวหรือเปล่า  กูซื้อโจ๊กสามย่านมาให้มึงด้วย  กินเลยมั้ย” ไม่รู้ว่าผมไปขุดความกล้าออกมาจากซอกหลืบไหนในหัวใจถึงยังไม่ยอมจำนนให้กับดวงตาเฉยชาของมัน  ผมยังคงมองมันอย่างมีความหวัง  อย่างน้อยๆ ก็พูดกับกูสักคำก็ยังดี  แค่บอกว่า ‘หิว’ เท่านั้นก็พอ
แต่นอกจากมันจะไม่ยอมพูดแล้ว  กลับหันหน้าหนีแล้วหลับตาลง
มันโกรธมาก  ผมรู้  โกรธจนไม่อยากเห็นหน้าผม  แต่ผมยังไปไหนไม่ได้  อย่างน้อยๆ ก็จนกว่ามันจะหายดี  ถึงมันจะเหม็นขี้หน้าผมแค่ไหนก็ต้องทนเห็นไปจนกว่าผมจะวางใจว่ามันไม่เป็นอะไรแน่แล้วนั่นแหละ
“งั้นกินเลยนะ  เดี๋ยวกูไปอุ่นมาให้”


“นั่นมึงจะไปไหน!!” ผมยังอุ่นโจ๊กไม่ทันเสร็จ  ก็พบว่ามันกำลังเดินโซเซออกจากจากห้องพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่มันสะพายมาเมื่อวาน
มันกำลังจะไป  มันกำลังจะไป

“กูถามว่ามึงจะไปไหน!!”  ผมตวาดมัน  ไม่รู้ทำไมต้องโมโหขนาดนั้น  มันสิต้องโกรธผม  ไม่ใช่ผมมีสิทธิ์ไปโกรธมัน  ผมเป็นบ้าอะไร   พอนึกได้ดังนั้นจึงค่อยปรับเสียงตัวเองให้นุ่มลง  ครั้งสุดท้ายที่ผมโมโหจนตวาดใครแบบนี้มันเมื่อไรกันนะ  “มึงจะไปไหน  กลับไปนอนเถอะ  มึงยังป่วยอยู่นะ”
มันหันมาสบตาผมแล้วแสยะยิ้มอย่างที่ผมไม่เคยเห็นคนใจเย็นอย่างมันทำมาก่อน  รอยยิ้มนั่นดูเหมือนจะมีให้ตัวเองมากกว่าให้ผม 
เยาะเย้ย  สมเพชตัวเอง  แต่สำหรับผมมันคือ...ความปวดร้าว
เพื่อนสนิท  เพื่อนที่ดี  วันนี้...ผมทำลายมันเอง

“แชมป์  กู  กูขอโทษ  กูรู้ว่ากูมันเลว  กูผิด  แต่มึงอย่าเพิ่งไปเลยนะ  ให้กูได้ดูแลมึงบ้าง  ให้กูได้ชดใช้ที่ทำให้มึงเจ็บ”  ผมสบตามัน  บอกสิ่งที่อยู่ในใจ  ตอนนี้ผมไม่รู้หรอกว่าต่อไปความรู้สึกของผมที่มีต่อมันจะเป็นยังไง  รู้แต่ว่า...ตอนนี้ผมปล่อยมันไปไม่ได้
มันถอนหายใจ  หันหลังกลับไปยังห้องนอน  แต่ก็ปัดมือที่หวังจะช่วยพยุงของผมออกทันที  มันเดินห่างออกไปแล้วล้มตัวลงนอนนิ่งๆ  โดยไม่พูดอะไร
ความผิดครั้งนี้....มันมากเกินกว่าจะชดใช้หรือเปล่านะ


“กินโจ๊กก่อนดิ  กำลังร้อนเลย  อร่อยด้วยนะมึง” ผมยังคงหน้าด้านหน้าทนพูดคุยเล่นกับมันต่อไป  ทำเหมือนเพื่อนสนิทดูแลเพื่อนเวลาป่วยไข้  หึ  เรื่องธรรมดาที่ไม่มีความธรรมดาอยู่เลยสักนิดเดียว
“มึง...”  แค่มันอ้าปากพูดเท่านั้น  ผมถึงกับกลั้นหายใจรอฟังประโยคต่อไป  จะอะไรก็ได้  ขอแค่มันพูดออกมา  “ออกไป”
“ห๊ะ!!”  ออกไป??  หมายถึงไล่ผมน่ะเหรอ
“ไปมหาลัย  ไปซ้อมบาส  ทำตัวปกติ  อย่าบอกเรื่องนี้กับใครโดยเฉพาะไอ้เวย์  อย่าทำให้มันเป็นห่วง  แล้วถ้าไม่จำเป็น...ไม่ต้องวุ่นวายกับกู”  คำสั่งยาวรวดเดียวของมันทำเอาผมตั้งตัวไม่ติด  บทจะพูดก็พูด  บทจะสั่งก็สั่ง  แต่ทุกคำที่มันพูดออกมา  ไม่ทีคำไหนที่ผมอยากได้ยินเลยสักคำเดียว
“กูไม่ไป  กูจะอยู่เฝ้าไข้มึง  อีกอย่าง..กูไม่วุ่นวายกับมึงไม่ได้” ตั้งแต่เห็นมันล้มในห้องน้ำ  นอนนิ่งเหมือนคนไม่หายใจ  ผมก็บอกกับตัวเองแล้วว่ายังไงก็ต้องดูแลมันให้ดีที่สุด  ไม่ว่าในฐานะไหนก็ตาม  ต่อให้มันว่า  มันต่อย  มันเตะแค่ไหน  ยังไง  ผมไม่สน
ผมเชื่อว่าสักวัน  ผมกับมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ถ้าไม่อยากให้กูตัดเพื่อนกับมึง  ก็ทำตามที่บอก”  มันหลับตาลง  หันหลังให้ผม  พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  ราวกับว่าการจะตัดขาดกับเพื่อนอย่างผม  มันไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไรเลย  “ส่วนเรื่องเมื่อคืน  กูกับมึงจะลืมมันซะ”
มันบอกจะลืม  พร้อมทั้งยังสั่งให้ผมลืมด้วย  ผมคงลืมได้หรอกนะ  ในเมื่อความรู้สึก  สัมผัส  ทุกภาพยังคงติดอยู่ในความทรงจำ  ต่อให้ไม่นึกถึง  มันก็ปรากฏชัดเสมอ
ทั้งที่เป็นความผิดที่สุดในชีวิต  แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปแล้วไม่ได้สัมผัสมัน  ผมกลับรู้สึกยอมรับไม่ได้  หึ  บ้าสิ้นดี

“มึงไปได้แล้ว”  คือคำสุดท้ายที่มันบอกผม  ผมไม่รู้เลยว่าจากนี้ทุกอย่างจะเป็นยังไง  มันบอกว่าจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  มันว่าจะไม่ตัดเพื่อนกับผมถ้าหากว่าผมลืมเรื่องนั้นแล้วทำตามที่มันบอก  ในเมื่อเป็นอย่างนั้น...แทนที่ผมจะดีใจ  ทำไมหัวใจถึงได้บีบรัดจนเจ็บไปหมดอย่างนี้

ผมเดินคอตกออกจากห้องโดยไม่ลืมหันไปมองมันอีกครั้ง   ถ้าผมกลับมาตอนเย็นจะยังได้เห็นมันนอนหลับอยู่บนเตียงอีกไหม   ราวกับก้อนโลหะหนักๆ กดทับจนหายใจไม่ออก
ผมคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับมันไม่ได้  แต่ว่ากันตามตรงแล้ว  ผมยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะทำตามที่มันบอก  เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ได้ผิดสัญญา
จะให้กูลืมเหรอ  มึงรอจนกูตายนั่นแหละ

“ไนท์  กูมีเรื่องจะคุยด้วย”


....................................
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 02-08-2009 14:56:46
 :mc4: มาต่ออีกนิด จิตแจ่มใส

แล้วไงต่อเนี่ย นุจะบอกอะไรกับไนท์
มิน่าตอนโน้นนนน ไนท์มันทำเหมือนรู้เรื่องดีเลย ตอนที่เวย์ยังงงๆ อ่ะ

มาต่อไวๆ น้า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 02-08-2009 15:05:27
คู่นี้

เริ่ม ก็มีได้เสียเลย ชอบๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 02-08-2009 15:14:11
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 02-08-2009 17:14:24
 :pig4:  o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 02-08-2009 20:31:51
 :mc4:    เย้! ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ในที่สุดก็มาแล้ว  ว่าแล้ว ว่าตอนนั้น 2 คนนี้ อาการแปลกๆ

ที่แท้ก็ อย่างนี้นี่เอง

ขอบคุณนะคะที่มาต่อ


 :L1:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 02-08-2009 20:58:53
ดีใจ..เห็นตอนพิเศษ...จัด+1 ให้เลยค่ะ :L2:

แต่งานนี้คงจะเรียกได้ว่างานเข้าอย่างแรง
นุจะเคลียร์ชีวิตตัวเองงัยดีหง่ะ...ทั้งเรื่องส้มเรื่องแชมป์ :serius2:

ป.ล. จะมีตอนพิเศษเป้กะเนมมั๊ยอ่ะค่ะ...อยากอ่านคู่นี้เหมือนกัน
แต่งัยก็รอเวย์กะไนท์อยู่นะค่ะ (จริงๆคือโลภ..จะเอาหมดทุกคู่นี่เอง) :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-08-2009 21:42:56
มาแล้วๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 02-08-2009 21:53:06
เย้ๆ ดีใจจัง มีตอนต่อมาแล้ว สนุกมากมาย

ถึงเป็นเส้นขนาน แต่ว่าก็ได้เคียงคู่กันเสมอ สองเส้นนี้ ไม่ห่างกันมากช่ายไหม  มีโซ่เกี่ยวคล้องกันด้วยช่ายป่ะ

กลัวความเศร้าจัง


คิดถึงคนแต่งจังเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 02-08-2009 22:27:11
มีเด็กใหม่ให้เจาะไข่ด้วยย

ฮิ้ววว  :mc4:

อ่าว เวิ่นแล้วกุ

แชมป์..เด็ดเดี่ยวดีนะ อาจจะไม่เท่าเวย์ก็เถอะ 

งานนี้ มีร้องไห้ครับ

วันเสาร์ หึหึ..  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 03-08-2009 01:18:00
เนื่องจากความขยันของไรท์เตอร์ เลย +1  ไปเลยจ้า
นุเอ๊ยนุ แล้วจะทำไงต่อไปล่ะเนี่ย
ตอนต่อๆไปเรื่องมันต้องหนักกว่านี้แน่เลย
ต้องเตรียมผ้าไว้ซับน้ำตารึป่าวเนี่ย  :เฮ้อ:

แล้วจะรอตอนต่อไปจ้า

ว่างๆก็ขอคู๋ เป้+เนม มั่งนะ
อยากรู้ว่าเป้มันลากเนมขึ้นเตียงได้ยังไง เหอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-08-2009 07:57:47
 :pig4:


อืม  มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

อือ ๆ

หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 04-08-2009 09:18:31
นุ นายเป็นคนแบบนี้เองเหรอเนี่ย ฮุๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 12-08-2009 20:50:09
 :m15:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 13-08-2009 15:48:55
ในที่สุดก็ได้อ่านภาคสองที่เฝ้ารอ

อยากรู้เรื่องราวของไนท์ต่อด้วยค่ะ

ช่วยต่อให้ทีนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 13-08-2009 15:49:34
ในที่สุดก็ได้อ่านภาคสองที่เฝ้ารอ

อยากรู้เรื่องราวของไนท์ต่อด้วยค่ะ

ช่วยต่อให้ทีนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 13-08-2009 19:41:08
เห็นใจนุ กับ แชมป์ สุดๆเลยอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 15-08-2009 02:06:09
รอครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 15-08-2009 20:57:33

มาต่อแล้วจ้า  พอดีติดงานที่มหาลัย  ขอโทษด้วยนะคะ


ตอนพิเศษนุ- แชมป์ (เส้นขนาน 2)
Champ ‘s talk

ผมคิดเสมอว่าหากเราแกล้งทำเป็นลืมบางอย่าง  ไม่นานเราก็จะลืมมันได้จริงๆ   ไม่นานความรู้สึกที่ฝังใจกับภาพที่ตามหลอกหลอนนั้นก็จะจางหายไปราวกับละลายผงหมึกในแม่น้ำ   ทั้งที่ความจริงแล้ว   สิ่งที่ผมทำก็แค่...หนีความจริง  หนีจาก...หัวใจตัวเอง

ผมโทรให้ไอ้ป้องรูมเมทผมมารับที่หน้าคอนโด  แล้วกลับมาหลังจากที่ผมไล่มันไปมหาลัย  ผมไม่รู้ว่านี่ใช่การหนีหรือเปล่า  รู้แค่ว่าผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้ามันตอนนี้  ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรอกครับ  นั่นไม่ใช่ความผิดของไอ้นุคนเดียว  ผมเองก็ผิดไม่น้อยไปกว่ามัน  ดังนั้นผมไม่สิทธิ์ไปต่อว่ามัน  แต่เรื่องที่ทำให้ผมไม่พร้อมจะเจอหน้ามันตอนนี้ก็คือความรู้สึกเก่าๆ ที่ควรจะหายไปแล้วมันกำลังจะกลับมา
ผมเคย...คิดกับมันมากกว่าเพื่อน

“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งกับกู” แต่มันยังไม่เข้าใจ  ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย  มันมาหาผมถึงที่หอ  ซื้อข้าวซื้อยามาให้  ความเป็นห่วงเป็นใยกับสีหน้าทุกข์ร้อนที่ผมไม่ต้องการ
รำคาญ! ผมต้องให้คำจำกัดความการกระทำของมันด้วยคำนี้  ผมจำเป็นต้องรำคาญมัน  จำเป็นต้องตีสีหน้าหงุดหงิด  จำเป็นต้อง...ออกปากไล่
“แต่มึงยังไม่หาย”
“หายแล้ว”  กูจะหายแล้วถ้ามึงไม่มา  กูลบมันออกไปได้หมดแล้วถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น  เวลาสองปีที่กูใช้เพื่อหลุดพ้นจากความรู้สึกบ้าๆ นั่น  มึงกำลังจะทำให้มันสูญเปล่า
“ยัง  ก็เห็นๆ อยู่  แค่กินยา  กินข้าวที่กูซื้อมาให้  มึงยังทำไม่ได้  แล้วเมื่อไรมึงจะหาย  รู้มั้ยมีคนเป็นห่วงมึงมากแค่ไหน”
“....”  ผมเงียบเมื่อข้างในใจความรู้สึกสองอย่างกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก  หนึ่งคือความดีใจที่รู้ว่ามันเป็นห่วง  ดีใจที่มันเอาใจใส่  สองคือความรู้สึกผิดที่เกาะกุมอยู่ทุกขณะ
ต่อให้ดีใจแค่ไหนก็ทำได้แค่กดมันไว้ให้ลึกที่สุด
ลึกจนไม่มีใครมองเห็น...แม้แต่ตัวเอง
“เอ่อ..  กูขอโทษ  กูแค่..เฮ้อ! กูไปก็ได้  มึงกินยา  กินข้าว  แล้วห่มผ้าหนาๆ นะ  พรุ่งนี้เช้ากูมารับ”
“....”
“ฝันดี”
ผมหลับตาลงทำเป็นไม่สนใจคำพูดของมัน  ทำเป็นไม่รับรู้การคงอยู่ของมัน  จนคำพูดสุดท้ายที่ไม่ได้ฟังมานานนั่นแหละ  ผมถึงได้ลืมตาขึ้นมาพบกับแผ่นหลังชุ่มเหงื่อทั้งที่ห้องนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำ   แม้ไม่อยากแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันรีบมาหาผม  รีบมาเพราะไม่เห็นผมอยู่ที่คอนโด
ถึงจะเป็นแค่ความรู้สึกผิดของมันก็ตามที


ตอนเช้ามันมารับผมจริงอย่างที่ปากว่า  ทั้งที่ปกติคนไปถึงมหาลัยก่อนคือผมเสมอ  แต่วันนี้มันกลับเป็นฝ่ายมารอ  เพราะไม่อยากให้ไอ้ป้องจับสังเกตได้ผมจึงยอมมากับมันแต่โดยดี  นั่งมาบนรถคันหรูที่มันแทบไม่เคยเอาออกมาใช้
แอร์เย็นในรถถูกหรี่จนดูเหมือนไม่มี  มันเปิดกระจกข้างตัวเองลงเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ  พร้อมกับเสื้อหนาวคลุมลงมาบนตัวผมโดยปราศจากคำพูด   ทำ...ทั้งที่ไม่มีใครขอ  แต่ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ นี้กลับมีอำนาจมากมายต่อผมอย่างที่ตัวมันไม่มีวันเข้าใจ

“ไปกินข้าวก่อน” มันดึงไหล่ผมไว้ทันทีที่ผมลงจากรถแล้วกำลังจะเดินขึ้นตึก  หึ! ข้าวเช้า  นานเท่าไรแล้วที่ไม่เคยมีใครบอกให้ผมกิน  นานเท่าไรแล้วที่ทุกๆ วันผมต้องซื้อขนมปังไปนั่งรอพวกมันในห้อง  รอไอ้ไนท์เดินมากับไอ้เวย์  แล้วก็รอมันเดินมากับผู้หญิงที่มันเลือก  ผู้หญิงที่มันรัก
ส้ม...มันเป็นคนดี  เป็นเพื่อนที่ดี  เป็นผู้หญิงที่เข้าใจไอ้นุมากกว่าใครๆ  เป็นคนที่ผมเชื่อว่าสามารถหยุดคนเจ้าชู้บรรลัยอย่างไอ้นุไว้ได้  และมันก็ทำได้จริงๆ

“กูไม่หิว”
“ไม่ได้  คนเราต้องกินข้าวสามมื้อ  มึงไม่รู้หรือไง”  ผมน่ะเหรอไม่รู้  มันต่างหากที่ไม่เข้าใจ  ผมไม่เคยบอกใคร  ไม่เคยยอมให้ความรู้สึกนั้นอยู่เกินระดับที่ควบคุมได้
 “....”  สองปีที่ผ่านมา  นอกจากข้าวกลางวันผมจะไม่ไปกินกับพวกมัน  พวกมันชอบเรียกผมว่าไอ้ไอโซเลท  เหอะ  ใช่ว่าผมอยากอยู่คนเดียวเสียเมื่อไร  แต่ถ้าให้เลือกระหว่างการอยู่คนเดียวกับการอยู่ในวงล้อมของเพื่อนที่มีระยะห่างเพิ่มขึ้นทุกวัน
ผมเลือกจะอยู่คนเดียวดีกว่า  อย่างน้อยผมก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
เป็นเพื่อนที่ยินดีกับความสุขของเพื่อนเสมอ

“ไป  ถ้าไม่หิวจริงๆ  กินขนมปังกับนมร้อนๆ ก็ยังดี” มันมองผมเหมือนเมื่อก่อนตอนปีหนึ่ง  ตอนที่เรารู้จักกันใหม่  ดื้อดึงแต่ก็ห่วงอย่างจริงใจ  เป็นคนลากผมที่พูดน้อย  มนุษยสัมพันธ์ย่ำแย่ไปเข้ากลุ่ม  พาไปกินข้าวทุกเช้า  กลางวัน  เย็น  ไม่มีมื้อไหนที่ผมไม่ได้กิน  มันบอกคนเราต้องกินข้าวสามมื้อเหมือนอย่างที่มันพูดกับผมในวันนี้ 
มันทำให้ผมติดใจขนมปังกับนมร้อน  ทำให้ขาดข้าวเช้าไม่ได้  เช่นเดียวกับที่ขาดมันไม่ได้  แต่แล้ววันหนึ่งคนที่มันพาไปกินข้าวด้วยเสมอก็ไม่ใช่ผม   มันทำให้ผมเริ่มเกลียดข้าวเช้า  เริ่มเกลียดขนมปังกับนมร้อน  เริ่มเกลียดการอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในกลุ่มเพื่อน
เริ่มเกลียดการอยู่กับมัน  พอๆ กับการอยู่คนเดียว
แล้ววันนี้...ถ้าผมเกิดอยากกินขนมปังกับนมร้อนๆ อีกครั้งเพราะอากาศหนาว  มันจะผิดปกติไหม


“เดี๋ยว! เป่าก่อน  มันร้อน” ไอ้นุมันร้องโวยวายขึ้นมาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเล่นเอาผมเกือบสำลัก  กะไอ้แค่ไม่เป่านมก่อนกินมันยังโวยวายเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด  ความเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ผมแอบยิ้มกับตัวเองแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนให้มันเป็นเหมือนเรื่องตลกเมื่อเห็นสายตาแปลกๆ กับใบหน้างงๆ ของเพื่อนร่วมโต๊ะ
“ฮ่าๆ  ผีเข้ารึไงมึง  ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีจะยืมเงินกูอีกล่ะสิ  ของเก่ายังไม่ได้คืน”
“อ้าวๆ  ไอ้นุ  เงินกูด้วย  ยังไม่ได้คืนนะมึง” ไอ้เวย์ได้ทีรีบฉวยโอกาสสร้างเสียงเฮฮาอย่างที่มันทำของมันทุกวัน  หรือใจจริงแล้วมันอาจจะพูดไปเผื่อฟลุ๊กได้เงินจริงๆ ก็ไม่รู้นะครับ  แต่สำหรับคนที่อยู่ๆ ก็เป็นฝ่ายถูกทวงเงินกลับทำหน้ามึน   ไม่เข้าใจสถานการณ์
“นุ  ยืมเงินพื่อนอีกแล้วเหรอ?”  จนเมื่อไอ้ส้มมาร่วมวงนั่นแหละครับ  มันถึงได้ตาสว่าง  หัวเราะเฮฮา  ปฏิเสธไปตามน้ำอย่างที่มันสมควรจะเป็น
“เฮ้ย! เปล่าน้า” มันว่าพลางโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน  ทำหน้าตาตื่นอย่างสมบทบาท  หึ! ก็ดีแล้วนี่ครับ  ที่มันทำแบบนี่  ทั้งที่เป็นอย่างนั้นผมกลับรู้สึกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ  คล้ายคนสะดุดแต่ไม่ยอมล้ม  ต่อสู้ดิ้นรนจนยืนตรงๆ ได้อีกครั้ง

“ไม่ต้องมาเนียน  ยืมมาได้ไม่มีแบ่ง  เดี๋ยวเย็นนี้ไม่ต้องกินข้าวนะ  นอนนอกบ้านด้วย” ส้มเอามือตีไหล่แฟนมัน  แล้วสะบัดหน้างอนอย่างที่รู้กันว่ามันแกล้งทำ  น่ารัก..มันน่ารัก  ท่าทางหยอกล้อที่นานๆ ทำทีของมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนทั้งโต๊ะยิ้มได้
และเป็นสิ่งที่ผมทำไม่ได้ 
ผมอมยิ้มน้อยๆ  เลือกที่จะกัดขนมปังในมือแล้วดื่มนมร้อนๆ นั่นจนหมดแก้ว  ทั้งดีใจและเสียใจที่ได้เห็นภาพนี้  ภาพที่เมื่อวานยังเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม  แต่วันนี้กลับเป็นบอระเพ็ดชิ้นใหญ่ที่ถูกบังคับให้กิน
“กร๊ากกก  ไอ้นุ  ตกลงมึงไปแจ้งเปลี่ยนสปีชี่ส์ใหม่เป็นหมาที่อำเภอแล้วใช่มั้ยวะ”
“เชี่ยเวย์  กวนแล้วมึง” 
เสียงเฮฮากลับมาเยือนพวกเราอีกครั้ง  ภาพอบอุ่น  มิตรภาพที่ทำให้หลายคนอิจฉา  ดีแค่ไหนแล้วที่คนอย่างผมได้นั่งอยู่ตรงนี้  ดีแค่ไหนแล้วที่ได้พวกมันมาเป็นเพื่อน


ขณะที่พวกผมกำลังจะขึ้นเรียน  ไอ้นุมันก็ลากผมออกมาด้วยท่าทางปกติของมัน  บอกคนอื่นว่าจะพาผมไปไถเงินรุ่นน้องชดใช้ที่มันยืมเงินผมมา   เหตุผลบ้าๆ บอๆ ที่ไม่มีใครติดใจสงสัยเพราะคิดว่าเป็นมุกตลก  ผมได้แต่หัวเราะเออออตามมันไป  สุดท้าย...ก็เรื่องตลก
“เมื่อไรมึงจะเลิกทำแบบนี้สักที”  ตลกเสียจนผมทนไม่ไหว  ดูเหมือนมันกำลังสนุกกับอะไรบางอย่าง  ทั้งที่ผมกำลังจะบ้า
“ทำอะไร”
“มึงอย่ามาแกล้งโง่  กูบอกมึงว่าอย่ามายุ่งกับกูถ้าไม่จำเป็น”
“จำเป็นสิ  กูทำผิด  กูต้อง..ชดใช้”
นี่แหละคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด  กลัวมาตลอด  และก็เดาถูกมาตลอด  มันเป็นคนดีเกินไปจนทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น  มันโทษตัวเอง  คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง  และต้องการชดใช้ความผิดนั้น  เป็นคนดีในแบบที่ผมไม่ต้องการ
ผมไม่ต้องการคนดี  แค่อยากได้คนรัก
เพราะผมรักมัน  เพราะผมไม่เคยลืมว่าเคยรักมัน  ไม่เคยลืมว่าเพราะมันผมถึงได้มีเพื่อนดีๆ มากมาย  เพราะมันผมถึงไม่ต้องใช้ชีวิตในมหาลัยอย่างโดดเดี่ยว  เพราะมัน...
และเพราะผมเป็นคนเลวแบบนี้  เพราะผมยังเลิกรักมันไม่ได้
ผมถึงเกลียดคนดีอย่างมัน

“มึงอยากชดใช้นักใช่มั้ย” มันไม่ตอบแต่มองผมด้วยสายตาจริงจังโดยไม่พูดอะไร  ก็ได้ถ้ามึงอยากชดใช้  ถ้านี่จะทำให้มึงหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดได้  ต่อให้มึงจะเกลียดกูทีหลัง  กูก็จะทำ
พลั่ก!  ผมต่อยมันเต็มแรง  หมัดขวาชาเมื่อกระทบกับใบหน้าที่สะบัดไปตามแรง  “เจ็บมั้ย”  ผมถามทั้งที่รู้คำตอบดี  ขนาดคนต่อยอย่างผมยังเจ็บ  มันจะไม่เจ็บได้ยังไง
“....”
“เราหายกัน”  ผมเดินออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปมอง  จบแล้วเรื่องทุกอย่าง  จบแล้ว  ไม่มีเรื่องที่ทำให้มันต้องกังวลอีกต่อไป  ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาห่วงผม  มาคอยดูแลอีกแล้ว
จบแล้ว  จบแล้วจริงๆ  ผมพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น  เก็บซ่อนความรู้สึกหลากหลายในใจ  ก้มมองมือขวาที่ยังหลงเหลืออาการชาของตัวเอง
มือนี้...ที่ทำร้ายมัน   เป็นเหมือนสิ่งที่น่าขยะแขยงเหลือเกินสำหรับผม  ขยะแขยงเสียจนอยากทำลาย  อยากตัดมันทิ้งไป
รู้ตัวอีกทีก็เห็นมือข้างนั้นแปะอยู่กับต้นไม้ใกล้ๆ  ความเจ็บพุ่งริ้วๆ จนต้องเผลอขมวดคิ้ว  แผลถลอกมีอยู่เต็มข้อนิ้ว  เหอะ! นี่ผมกำลังทำบ้าอะไร   นอกจากทำร้ายคนอื่นแล้วยังทำร้ายตัวเองอีก  นอกจากรักคนอื่นไม่ได้  ยังจะไม่รักตัวเองด้วย
ความรักทำให้คนโง่  ทำให้คนบ้า  ไม่นาน...อาจทำให้คนตาย
................................................
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 15-08-2009 20:58:43

“การ์ดเร็ว!!”  ใครสักคนตะโกน  แต่ไม่ทันแล้ว  ผมที่ยังตั้งตัวไม่ติดถูกไหล่แข็งๆ กระแทกเข้าเต็มรัก  ลูกบาสในมือหลุดกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นสนาม
“อึ่ก!” 
“เฮ้ย! เป็นไรมั้ย  ไอ้เชน  ทำเชี่ยไรของมึงวะ” ไอ้นุตวาดรุ่นน้องเป็นครั้งแรกในรอบปี  สีหน้าร้อนรนที่คิดว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้วของมันปรากฏชัด
อยากถามเหลือเกินว่ามันโกรธผมหรือเปล่าที่ต่อยมัน  อยากรู้ว่าทำไมยังเป็นห่วงผมนัก   แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้
ในเมื่อเลือกเดินออกมาแล้ว  จะให้กลับไปทางเก่าได้ยังไง
“ผมขอโทษพี่” ไอ้เชนเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้น  ผมพยักหน้ายิ้มให้มัน  รู้ว่ามันไม่ตั้งใจ  คนที่ผิดคือคนเหม่ออย่างผมต่างหาก  ผมบอกให้ไอ้เชนช่วยพาออกไปข้างสนามเพราะจุกเกินกว่าจะเล่นต่อ   โดยไม่ลืมทำเรื่องร้ายกาจลงไปอีกครั้ง
“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่ง”  กระซิบเสียงเบาที่มีแค่ผมกับมันเท่านั้นจะได้ยิน

ใครจะคิดว่าคนเหม่อไม่ได้มีแค่ผม  หลังจากที่ผมออกมานั่งดูอยู่ข้างสนามไม่ถึงห้านาทีก็มีไอ้บ้าคนหนึ่งยืนเซ่อให้ลูกบาสลอยมากระแทกหัวจนได้
ผมลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ  สองเท้าเดินเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว  ถ้าไม่ติดว่ามีผู้หญิงอีกคนข้างๆ ผมลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหามันเสียก่อน  ผมได้แต่ยืนตัวแข็ง  ด่าทอตัวเองในใจที่อยากจะเข้าไปดูคนเจ็บ  ไม่ใช่เรื่องเลย  ไม่ใช่เรื่องของผมเลย
ผมนั่งลงช้าๆ  พยายามเบนสายตาไปทางอื่น  แต่มันกลับทรยศเลือกรับภาพตรงหน้ามากกว่าทิวทัศน์ที่ผมแกล้งทำเป็นสนใจ
ผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเรื่องของผมกับมันก็ไม่ต่างจากเส้นขนาน  ไม่วันบรรจบ  ต่อให้ได้อยู่ใกล้กันแค่ไหน  สุดท้ายปลายทางของมันก็คือความว่างเปล่า


ความสัมพันธ์ของเราดูเหมือนจะเป็นปกติในสายตาคนอื่นยกเว้นไอ้เวย์กับไอ้ไนท์  ผมไม่รู้หรอกว่าพวกมันรู้ตื้นลึกหนาบางแค่ไหน  แต่ผมเลือกที่จะเงียบและก็ต้องขอบใจพวกมันที่ไม่ถาม
แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้
ผมไม่เคยคิดเลยว่าอยู่ๆ เพื่อนสนิทคนหนึ่งจะประสบอุบัติเหตุเป็นตายเท่ากัน  ไม่สิ  ต้องบอกว่ามันตายไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหารย์เพราะเสียงของเรียกของอีกคนหนึ่ง
ความรักของเพื่อนผมสองคน   ลึกซึ้ง  ยิ่งใหญ่  เสียจนกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพวกมันได้
ผมไม่เคยเห็นไอ้เวย์ร้องไห้  ฟูมฟายจนสลบไปแบบนี้  ไม่เคยเห็นท่าทางทุกข์ทรมานจนเหมือนคนไม่มีวิญญาณ  ไม่กิน  ไม่พูด  ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ  ตอนที่ผมเห็นมันสลบไปในอ้อมกอดของไอ้ชิน  ตอนที่หมอบอกว่าไอ้ไนท์ตายแล้ว   เหมือนโลกทั้งโลกพังลงตรงหน้า
นอกจากพวกมันผมไม่มีใคร  ผมวิ่งเข้าไปกอดมันไว้  กอดทั้งที่มันยังสลบอยู่ตรงนั้น  น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้   สักพักผมก็รู้สึกถึงอ้อมแขนของใครอีกคนที่เข้ามาโอบผมไว้แน่น  ไอ้นุ...มันก็กำลังร้องไห้เหมือนกัน  นั่นทำให้ผมไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นได้อีกต่อไป
พวกเรากอดกันร้องไห้อยู่อย่างนั้น   ร้องไห้หนักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ณ  วินาทีนั้น  ผมบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมเสียคนที่ผมรักไปอีกแล้ว   ไม่รู้เมื่อไรที่อ้อมแขนของพวกเราขยับเข้าหากันแน่นขึ้น  จนกระทั่ง....
เสียงชีพจรดังขึ้นอีกครั้ง  แม้จะเป็นเพียงลมหายใจแผ่วเบา
แต่กลับทำให้ห้องทั้งห้องสว่างไสว
ไอ้ไนท์...มันกลับมาแล้ว

เป็นเวลาเกือบอาทิตย์ที่พวกผมมาเฝ้าไข้คนหลับเป็นตายรอให้ฟื้นขึ้นมา  พวกเรารอคอยด้วยความหวัง  ปลอบประโลมกันและกันด้วยรอยยิ้ม
มีใครบางคนบอกให้ผมเชื่อในสิ่งที่คิด  และมันจะเป็นจริง
ดังนั้นเพราะเราจึงเชื่อว่าพรุ่งนี้ไอ้ไนท์จะฟื้น  ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่พรุ่งนี้ก็ตาม


จากวันนั้นดูเหมือนระยะห่างระหว่างผมกับไอ้นุจะแคบลงเรื่อยๆ  อาจเป็นเพราะว่าเราไม่ต้องการลิ้มรสความสูญเสียอีกแล้วก็เป็นได้
เวลาของมนุษย์สั้นนัก  ทำไมจึงไม่ยอมลดทิฐิแล้วตักตวงแต่ความสุขไว้บ้าง
    “ไอ้เวย์!  ข้าวไข่พะโล้มาแล้วโว้ยยยย”  ไอ้นุมันตะโกนตั้งแต่ยังไม่พ้นประตู  มันพยายามทำตัวร่าเริงเสมอ  บางครั้งก็ออกจะร่าเริงเกินพอดีจนลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล 
   “เออ  ใจว่ะ  แต่ทีหลังไม่ต้องตะโกน  กูกลัวห้องข้างๆ มาขอแบ่ง”  ไอ้เวย์มันตอบยิ้มๆ  ใบหน้าเหนื่อยอ่อนของมันดูร่าเริงขึ้นเมื่อเห็นพวกผม  มันก็เป็นอย่างนี้เสมอ  ไม่ชอบให้ใครเป็นห่วงทั้งที่ผมอยากให้มันอ้อนบ้าง  อ่อนแอบ้าง  ไม่อยากให้มันอดทนเอาไว้
   เหลือบไปอีกทางเห็นไอ้เป้ฉุดให้เนมให้ลุกขึ้นจากโซฟา  แล้วยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ผม   ปิดตอนนี้...ก็ดูจะไม่ทันแล้วมั้งพวกมึง
   ผมอวยพรให้พวกมันสองคนมีความสุข

   “กินเลยมั้ยวะ”  ไอ้นุมันชูถุงกับข้าวที่ซื้อมาเต็มสองมือ  แล้วทำท่าดมกลิ่นฟุดฟิดเหมาะกับสปีชี่ส์ใหม่ที่ไอ้เวย์เพียรมอบให้เป็นอย่างยิ่ง 
   “เออ  มีบริการใส่จานป่ะวะ” 
   “กูใส่  มึงล้าง  เครป่ะวะ” 
   “ฟาย  งั้นมึงไม่ต้องเลย  เดี๋ยวกู...”
   “กูทำเอง  เถียงกันอยู่ได้  ปัญญาอ่อน”  ผมคว้าหมับเข้าที่ถุงกับข้าว  แล้วเดินลิ่วๆ ไปหยิบจาน   เมื่อเห็นว่าคนปัญญาอ่อนสองคนอย่างพวกมันคงตกลงกันไม่ได้ง่ายๆ 
   ท่าทางผมคงจะเหมือนคนหงุดหงิดเต็มที่  แต่ในใจผมกลับกำลังยิ้ม
ดีใจที่ได้เห็นพวกมันเถียงกันเหมือนเด็กๆ

   “ซื้อร้านไหนวะ  อร่อยโคตรๆ”  ผมมองไอ้เวย์กินด้วยความเร็วมหาศาล  อาการยกชามไข่พะโล้เพื่อซดน้ำเล่นเอาผมไม่กล้าแตะของมันอีกเลย   ท่าทางจะชอบจริงครับ  ไอ้นุหันมายักคิ้วอวดๆ ให้ผม  อาจะแปลได้ว่า  ‘เห็นมั้ย  ไอ้เวย์มันชอบ’
   “เหอะ  กูทำเอง”  แล้วมันก็ยังด้านเอาความดีเข้าตัวต่อไป
   “พูดอะไรช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนได้มั้ยมึง” 
   “เชี่ย  กูอุตส่าห์ไปซื้อให้” จำได้มั้ยครับ  เมื่อกี้ไอ้บ้าตัวไหนมันบอกว่ามันทำเอง
 
   “โอ้ย /อูย  หัวกู”  ผมสบถออกมา  แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเงยหน้ามาพบกับใบหน้าของคนที่ผมยังไม่พร้อมจะเถียงด้วย   เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาออกจากกันได้ง่ายๆ ...นานกว่าต่างฝ่ายจะรู้สึกตัวและผละออกจากกัน   
   “ขอโทษ”  ไอ้นุพูดเสียงอ่อย
   “ซุ่มซ่าม”  ผมพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว  พอนึกได้ก็เห็นดวงตาโตเท่าไข่ห่านของไอ้นุเบิกรออยู่  แค่ผมพูดกับมันนี่น่าตกใจมากขนาดนั้นหรือไง  ผมได้แต่แกล้งตีหน้าเฉยขณะที่อยากหัวเราะออกมาดังๆ กับท่าทางไม่อยากจะเชื่อของมัน
   ไอ้นุมันบ้า  ไอ้บ้าขนานแท้
   “ม่ะ..มึง  พูด?”   ดูมันทำปัญญาอ่อน  ร้อนถึงไอ้เวย์ต้องช่วยตบบ่าพร้อมคำยืนยัน
   “เออ” 


   เก๊งงง  เสียงช้อนกระทบกันทำให้ผมต้องเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาอีกครั้ง   ทำไมวันนี้ผมกับมันจะมีเรื่องบังเอิญให้ได้สบตากันบ่อยนักก็ไม่รู้สิครับ
   “เอ่อ..กูตักให้แล้วกัน”  ไอ้นุพูดเสียงเบา  พลางเลื่อนช้อนที่มีแกงหมูอยู่เต็มมาใกล้จานผม
   “ไม่ได้ขอ”  ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ อย่างนั้นทำให้ผมนึกอยากแกล้งมันขึ้นมา
   “.....อ่า..คือ”
   “แต่ก็ดี”   พอผมอนุญาตปุ๊บไอ้นุมันก็ยิ้มกว้างอย่างไม่เก็บอาการ  รีบตักกับข้าวใส่จานให้ไม่มียั้ง  จนไอ้ผมต้องทำหน้าดุใส่มันนั่นแหละ  มันถึงยอมหยุด   หูตกหางตกอย่างเห็นได้ชัด  สรุปมันเปลี่ยนสปีชี่ส์อย่างที่ไอ้เวย์บอกแล้วจริงๆ ครับ

   “พี่เวย์  อยากได้มะนาวมั้ยพี่” ไอ้เป้มันสะกิดถามไอ้เวย์  มันสองคนเหมาะจะอยู่ด้วยกันแล้วครับ  จะได้ช่วยกันกวน 
   “กูกำลังจะขอมึงอยู่พอดีเลยว่ะไอ้เป้  รู้สึกไข่พะโล้มันหวานขึ้นมากะทันหัน” อ้าว!  มึงเองก็รู้สึกเหรอ  นึกว่ากูจะรู้สึกไปคนเดียวเสียอีก

   สำหรับผม...เรื่องดีๆ มันจะเป็นความสุขชั่วคราว  มาไวไปไว  อยู่ได้ไม่นาน  แค่เสียงโทรศัพท์ของไอ้คนข้างตัวมันดังเป็นเพลงที่ผมรู้ได้ทันทีว่าใครโทรมา  ความสุขก็ผมก็หมดเวลาลงแล้ว
   เพลงพิเศษสำหรับคนพิเศษ...ที่มีได้แค่คนเดียว
   

   คืนนั้นไอ้เวย์มันขออยู่เฝ้าไนท์กับลุงนพ  มันบอกมีเรื่องอยากคุยกันให้เข้าใจ  ผมว่าคงไม่พ้นเรื่องของไอ้ไนท์นั่นแหละครับ  ผมกับไอ้นุก็เลยถือโอกาสกลับบ้านไปปั่นรายงายในส่วนของตัวเองเพื่อช่วยลดภาระของส้มกับหยกที่ยังตามเคลียร์งานให้ไอ้เวย์กับไอ้ไนท์ไม่หมด
   พวกเราหกคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนใครๆ ต่างก็อิจฉา  ผมรู้เพราะผมเองก็เคยนึกอิจฉาบ้างเหมือนกัน  แต่จากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้วครับ  ผมจะรักพวกมันทุกคนให้มากๆ  จะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดอย่างมีค่าที่สุด  เพราะผมไม่อยากเสียใจทีหลังหากใครสักคนต้องจากไป
   เมื่อเดินมาถึงสนามหญ้าหน้าโรงพยาบาลก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว   ผมรู้สึกถึงสัมผัสบางเบาที่หัวไหล่  พร้อมกับคำพูดที่ตรงกับสิ่งที่ผมกำลังคิดราวกับมานั่งอยู่ในใจ
 “มึงรู้มั้ย  เพราะไอ้เวย์กับไอ้ไนท์ทำให้กูคิดอะไรได้บางอย่าง”
“...” ผมเลือกที่จะเงียบแล้วฟังมันพูดต่อไป
“ถ้าคนที่ถูกรถชนเป็นกู  ถ้ากูกำลังจะตาย”
“....”
“กูอยากเจอหน้ามึงสักครั้ง  อยากบอกว่า..กูรักมึง”
หัวใจผมแทบหยุดเต้นกับคำพูดบอกรักของมัน  มัน..รักผม  รักอย่างที่ผมก็รักมันอย่างนั้นเหรอ?  ความยินดีมากมายจนแทบจะเอ่อล้นออกมา  ทว่าในนั้นกลับมีความหนักใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน   ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ราวกับคนหาเสียงตัวเองไม่เจอ
หัวใจที่เต้นแรงด้วยความยินดีกำลังเหนื่อยอ่อนกับความรู้สึกผิด
ผิดที่รักมัน  ผิดที่มันรักผม  ผิด  ผิดทุกอย่าง

ยามที่เราต้องพบกัน    เจ็บในใจฉันทุกครา
ที่ต้องคอยหลบสายตา    เพื่อซ่อนรักในใจ


จนมันดึงให้มันหันไปเผชิญหน้ากับมันนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัว
“กูมีเรื่องอยากบอกมึงหลายเรื่อง  แต่มีเรื่องอยากถามแค่เรื่องเดียว” ดวงตาคมกล้าที่จ้องมาทำให้ผมรู้สึกกลัว  กลัวหัวใจตัวเอง  กลัว..คำถามของมัน
“มึงรักกูหรือเปล่า” นี่แหละที่ผมไม่อยากได้ยิน  เพราะผมไม่มีคำตอบให้มัน  เพราะผมตอบมันไม่ได้  บอกมันไม่ได้ว่าผมก็รักมัน  รักมันมานานแล้ว
“มึงก็รู้...ว่าเรารักกันไม่ได้” พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น  กลั้นน้ำตาที่แทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ   แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าการรักมันข้างเดียวเป็นไหนๆ
ถ้ารักข้างเดียว...อย่างน้อยผมก็รู้ตัวว่าควรยืนอยู่ตรงไหน  รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำได้ก็คือคอยมองอยู่ไกลๆ  คอยบอกรักอยู่ในใจ  และอาจ...ตัดใจอวยพรให้มันได้ถ้ามันต้องการ
แต่การได้รู้ว่ามันก็รักผมเหมือนกัน  มันทำให้ผมทั้งเจ็บ  ทั้งอึดอัดที่ไม่อาจทำให้รักครั้งนี้เป็นรักที่สมหวัง
ทั้งที่รักมากขนาดนี้

อยากมีเธออยู่ข้างกาย    เก็บเธอไว้ไม่ให้ไกล
แต่ความจริงช่างโหดร้าย   ที่ไม่อาจมีเธอ


“กูแค่อยากรู้ว่ามึงรักกูบ้างไหม  มึงเริ่มรักกูบ้างหรือยัง” น้ำเสียงคาดคั้นกับดวงตาที่เหมือนพร้อมรับความเจ็บปวดทุกอย่างทำให้ผมไม่อาจฝืนตัวเองได้อยากต่อไป  ไม่อาจต้านทานความรักมากมายที่ต้องเก็บไว้มาตลอด  ไม่อาจอดกลั้นทำเป็นไม่รู้สึกได้อีกแล้ว
ผมพยักหน้าลงอย่างเงียบงัน  มันยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น  ดวงตาคู่นั้นมีน้ำใสๆ เอ่อคลอไม่ต่างจากผม  น้ำตาแห่งความยินดี   มันดึงผมไปกอดแน่นและผมก็กอดมันตอบอย่างที่อยากทำมาเสมอ
มันเป็นความยินดีในความเจ็บปวด  เจ็บที่รู้ว่าเราต่างรักกัน  แต่เรา...รักกันไม่ได้

ต่างคนต่างรู้หัวใจ     มากมายเพียงไหน รักกัน
ปิดบังซ่อนไว้   ทุกวัน   มันปวดร้าวใจ


 “แค่นี้เราก็รักกันได้แล้ว” มันกระซิบที่ข้างหูผม  แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้  ผมมันเลวอยู่แล้ว  จะเลวดื้อดึงรักมันต่อไปก็ไม่เป็นไร  แต่คนดีอย่างมันจะกลายเป็นคนเลวเพราะผมไม่ได้  ผมยิ้มได้เสมอเมื่อเห็นเพื่อนสองคนมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น  และคงทนไม่ได้หากเราสองคนจะต้องทำให้ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งที่ไม่มีความผิดอะไรเลยต้องร้องไห้  ต้องเสียใจ
ผู้หญิงดีๆ ที่ตอนนี้ก็กำลังทำเพื่อพวกเรา
“กู..ทำไม่ได้”
มันลูบหัวผมเบาๆ  แล้วกระซิบถ้อยคำที่ชาตินี้ผมคงไม่มีวันลืม  ถ้อยคำที่ต่อให้มีคนมากมายมาพูดให้ฟังก็คงไม่ซึ้งได้เท่านี้
“กูไม่ได้ขอให้เราเป็นแฟนกัน  แต่อย่างน้อยกูดีใจที่ได้รู้ว่ามึงก็รักกูเหมือนกัน  ได้มีช่วงเวลาที่มีมึงอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ให้จดจำ  จะผ่านไปอีกกี่สิบปี  จนกูกับมึงกลายเป็นตาแก่  กูก็จะไม่ลืม”
ผมร้องไห้ออกมาเงียบๆแล้วกอดมันแน่นขึ้น  ความรู้สึกมากมายทอดผ่านการสัมผัสโดยไม่ต้องอาศัยคำพูด
นี่สินะครับ...เรียกว่าความสุขของการรักและได้ความรักตอบ
ถึงแม้วันพรุ่งนี้ความสุขจะแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์  แต่อย่างน้อย...ก็ยังมีเวลาแบบนี้ให้จดจำในหัวใจ

แค่หนึ่งนาทีให้เราได้รักกัน    ต้องแลกอะไรก็ยอมและพร้อมใจ
ดีกว่าไหวหวั่น อยู่กันใกล้ๆ
แต่ไม่ได้รักเลย

อ้อนวอนทุกอย่าง   ช่วยเปิดทางหัวใจ
ให้เราได้รักกัน

ความรักของเรา...ยังคงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ  แต่ผมจะไม่ลืมเลยว่าเคยมีเส้นตรงเส้นหนึ่ง  มั่นคง  ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเสมอ


...............................................
•   เพลงหนึ่งนาทีจากเรื่องคู่กรรม  หาฟังได้ที่นี่ http://music.siamza.com/music.php?k=64K&id=216
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 1) ต่อๆ อีกนิด
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 15-08-2009 21:01:28
จบเรื่องราวของเส้นขนาน  อาจเป็นความรักที่หาจุดลงตัวแบบคู่อื่นๆ ไม่ได้  แต่ก็เป็นความรักที่มั่นคงและมีอยู่จริงในนิยายเรื่องนี้  ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้พวกเขาทั้งสองคน  และขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นุ่นแต่งนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอด  ^^
ภาคสอง...อาจจะไม่ได้มาเร็วๆ นี้  เพราะภาระกับงานมากมายฉุดแข้งฉุดขาอยู่  อีกทั้งพล็อตก็ยังไม่มา  มีแต่ธีมมาอย่างเดียว  ฮ่าๆ  อาจจะลงช้ามากๆ ก็เลยฝากลิงค์ไว้เผื่อใครอยากติดตามนะคะ
http://writer.dek-d.com/mediodia/story/view.php?id=448527
ขอบคุณอีกครั้งที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Chatcha ที่ 15-08-2009 21:19:21
เข้าไปอ่านในเด็กดีมาแล้วละ

มาจิ้มที่นี่อีกรอบ

ยังไงก็อยากให้ 2 คนนี้ ลงเอยกันอะ

แบบเป็นแฟนกันเลย

แบบนี้มันค้างคาไงไม่รู้

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 15-08-2009 21:57:37
เป็นความรักแบบที่ ซาบซึ้งจริงๆค่ะ

ทั้งคู่ต่างก็รักกัน

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 15-08-2009 22:50:42
ทั้งเสียใจและดีใจ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 15-08-2009 23:08:05
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ  :monkeysad:

+1 ให้ค่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 15-08-2009 23:18:21
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 15-08-2009 23:32:47
 :sad11:ขอบคุนค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 15-08-2009 23:59:11
อ่านแล้วน้ำตาซึม  รักกันแต่ครองคู่กันไม่ได้  :o12:

แต่งได้ดีมากเลย ชอบอ่ะ  ใจจริงอยากให้คู่นี้สมหวัง แต่อ่านแล้วจบแบบนี้ก็สมบูรณ์
ถึงแม้จะเป็นแฟนกันไม่ได้ แต่ก็รักกัน เป็นความรู้สึกที่ดีและยิ่งใหญ่นะ

"ความรักของเรา...ยังคงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ  แต่ผมจะไม่ลืมเลยว่าเคยมีเส้นตรงเส้นหนึ่ง  มั่นคง  ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเสมอ" ชอบประโยคนี้มากจ้ะ โดนใจอย่างจัง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 16-08-2009 01:58:46
สุดใจเลย ชอบมากคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 16-08-2009 02:28:38
 :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 16-08-2009 07:49:37
 :monkeysad:  อยากให้เส้นขนานคู่นี้มีซักวันที่มาบรรจบกันค่ะ
แม้ว่าจะยาวไกลซักแค่ไหน ...  ก็อยากให้มีวันนั้น

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  ส่งกำลังใจให้มีตอนต่อไปทั้งของเวย์-ไนท์
และนุ-แชมป์นะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 16-08-2009 09:54:33
ซึ้งอะ

 :o12:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 16-08-2009 11:16:03
ทั้งเศร้า และซึ้งเลยครับ

ผมว่าอย่างน้อย นุกับแชมป์เปิดใจกัน ก็ทำให้รู้ว่ามีเส้นขนานเส้นหนึ่งที่เคียงข้างเราเสมอ แม้อาจจะไม่ได้มาบรรจบกันก็ตาม

แต่ทุกอย่างก็เป็นเรื่องอนาคตเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...

เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องดีๆ ที่ได้อ่านนะครับ

 o13

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนพิเศษนุ-แชมป์ (เส้นขนาน 2) แชมป์ทอล์กมาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 16-08-2009 12:30:48

อยากทราบว่านิยายจบแล้ว  จะต้องย้ายหมวดยังไงคะ?

หรือว่ารอพวกพี่ๆ ย้ายให้  ไม่ต้องทำอะไรใช่ไหมคะ


อ้อ...   ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 16-08-2009 14:26:10
อ่านในเด็กดีมาแล้วแระ

ตามมาจิ้มให้ที่บอร์ดนี้อีก

นิยายนุ่นจะได้ reply เยอะๆไง

จบแล้ว รอภาคสอง  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 16-08-2009 14:57:46
 :m15:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากเป็นเรื่องโปรดเลยก็ว่าได้

รออ่านภาค 2 ค่ะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: bakabong ที่ 16-08-2009 22:30:30
รอภาค2นะค๊าฟฟฟฟ

 :เฮ้อ:

เรารักกันแต่มันเป็นไปไม่ได้ เกลียดคำนี้เนอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 17-08-2009 18:16:13
 o13

บทจะฮาก็ฮาได้ใจ

บทจะซึ้งก็ล่อซะ....... :o12:


สรุป....เยี่ยมค่ะ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 17-08-2009 19:24:42
รอภาคใหม่
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 18-08-2009 20:34:09
จะมีภาคใหม่จริงๆ ช่ายมะ??
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-08-2009 22:57:33
ภาค2ละพี่นุ่นนน



"เหมือนคนสะดุดแต่ไม่ล้ม"  เป๊ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 18-08-2009 23:38:10
รักกันแบบเส้นขนาน  อนาคตไม่รู้ว่าใครจะเจ็บปวดกว่ากัน  เจ็บปวดจากการรอ

รอภาคต่อ ไปจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 19-08-2009 18:31:17
เฮ้ออ กะแล้วมันน่าจะต้องจบประมาณนี้ เศร้าๆๆๆ  :เฮ้อ:
ก็คงเป็นทางออกของความรักอีกรูปแบบหนึ่งล่ะมั้ง
แต่แชมป์ก็คงทรมานน่าดูนะ ที่ต้องเห็นคนที่เรารักอยู่กับผู้หญิงอีกคน
ถ้าจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ก็ดีอยู่หรอกนะ

ขอบคุณนุ่นด้วยจ้า สำหรับเรื่องดีๆ(อีกเรื่องหนึ่งในใจเราเลยนะ)  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 19-08-2009 21:08:32
 :laugh: :o12: :-[ :m31: :z3: :เฮ้อ: :m25:  <<<<< คืออารมณ์ที่ได้อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ มีหมดเลยอ่ะ
ชอบเวย์ ฮาได้อีก ขนาดอยู่ช่วงที่ควรจะเครียด แต่กลับป่วงซะงั้น 555
ชอบไนท์ ดูจิงใจดี การกระทำมันก็สื่อไรได้เยอะดีจากไนท์
ชอบชิน ไม่มีใครเอา เค้าเอาเอง หุหุ กร๊ากกกก
ชอบนุ ที่รักแฟนตัวเองมาก แล้วก็กลัวเมียดี 555 สงสารที่มารู้ตัวช้าไป
ชอบแชมป์ที่รักนุมาตลอด แต่ก็รู้จักหักห้ามใจ เฮ้ออ สงสารอ่ะ จิงๆก็อยากให้สมหวังกันนะ
ทำให้ได้เห็นมุมมองความรักและรูปแบบความรักที่แตกต่างกันไปแต่ละคู่
แต่สุดท้ายทุกๆคู่นั้น ก็เกิดมาจากความหมายเดียวกันคือ ความรัก
ปล.แล้วเมื่อไหร่เราจะมีกับเค้าบ่าง กรรมเจงๆ :o11:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-08-2009 22:01:13
 :L2:
มากมายค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 20-08-2009 20:10:06
อ่านแล้วซึ้งมากมาย (เก็บไว้นึงขนมจีบได้อีกเป็นปี)  :impress2:
เป็นการจบที่ดีอีกแบบหนึ่งเนอะ ยังไงก็ผูกพันกันตลอดไป  :กอด1:

ภาค 2 ภาค 2 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 20-08-2009 20:34:00
เห็นด้วยกะรีบนๆๆๆๆ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 22-08-2009 11:23:39
โอ้ยย  อ่านไปตอนใกล้จะจบ แบบลุ้นมักๆๆ อย่าให้ นุ เลิกกับส้มเลยย

เพราะว่าถ้าเราเป็นส้ม เราก็คงตายไปเลยทีเดียวว (เป็นครั้งแรกที่ไม่อยากให้ พระเอก นายเอก สมหวัง)

แต่ยังไงเค้าก็รักกันเนอะแค่ ต่างฐานะ .. ซึ้งอ่ะ

กูไม่ได้ขอให้เราเป็นแฟนกัน  แต่อย่างน้อยกูดีใจที่ได้รู้ว่ามึงก็รักกูเหมือนกัน  ได้มีช่วงเวลาที่มีมึงอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ให้จดจำ  จะผ่านไปอีกกี่สิบปี  จนกูกับมึงกลายเป็นตาแก่  กูก็จะไม่ลืม” :monkeysad:

ซึ้งที่สุดใน 3 โลกกก ร้องไห้โลกแตกกนี่หรือเค้าเรียกว่าความรักเส้นขนานคิดตามเรื่องนี้แล้วรู้สึก รักข้างเดียวจะโอกว่าเลย เศร้าาอย่าให้เกิดกับตัวนู๋เลยไม่อยากเป็นคนเลวว ถ้าเป็นหนัง หรือ การ์ตูน รับรองค่ะร้องไห้แบบ ฝนตกขี้หมูไหลเลยย โอ้ยยเกิ๊ดด..3*

**************

ขอบคุณน๊ะค๊าา ที่เอาเรื่องสนุกๆ ซึ้ง ๆ มาให้อ่าน จะติดตามผลงานเรื่องต่อไป หรือ ภาคต่อไปนะค่ะ จ๊วบ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 23-08-2009 10:57:50
รอต่อไป อิอิ  :L2:  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 23-08-2009 11:36:36
โฮ่
ภาคแรกจบได้ค้างคา
แถมตอนพิเศษยังเกือบเรียกน้ำตาอีกต่างหาก
 :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 23-08-2009 16:21:08
นุ่น


 :m16: :m16:

ป่าวไม่มีไรแค่อยากบอกว่ายังรออ่านอยู่นะ

แค่นี้แหละ

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Winer ที่ 23-08-2009 20:41:51
รู้แระ

ครายเขียนเรื่องนี้

สำเนียงคุ้นหู

คริคริคริ

ก้อดีอ่ะๆๆ  แต้ลดเสน่นางเอกลงมั่งกะได้

จะแย่งกานไปถึงหนายยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 24-08-2009 21:20:50
 :monkeysad: ภาคแรกประมาณ รักล้นใจของพี่มายด์  :monkeysad:


 แต่ทำไมภาคสองถึงเป็น รักไม่ได้ของ กรู๊ฟไรเดอร์ซะงั้นอ่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 25-08-2009 12:11:15
โดนย้ายบอร์ดแล้วววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 25-08-2009 12:37:24
เพิ่งมาอ่าน หลังจากที่จบไปแล้ว

จากชื่อเรื่อง เหมือนจะฮาๆ แต่บีบหัวใจใช่เล่นเลยนะครับเนี่ย



รออ่านภาค 2 ต่อนะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: mizing_liz ที่ 25-08-2009 19:05:03
 :sad11: :monkeysad:

 รอภาค 2 นะคะ

นุกะแชมป์ ชอบคู่นี้จัง

มันเป็นความลงตัว
เฮ้ออ อ


ปล.รอภาค 2 ~~


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-08-2009 20:42:25
 :L2: :L2: :L2: :3123: :L2: :L2: :L2:

ครับผม ผมมาอ่านช้าไปป่าวครับเนี้ย

อยากบอกว่าเรื่องน่าสนใจน่าติดตามมากๆเลย

ตอนนี้ยังอ่านไม่ทันเลยครับผม

แล้วจะอ่านใหม่ครับ

ตอนนี้หาไรกินก่อนหิวๆ

:L2: :L2: :L2: :3123: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: pug5 ที่ 25-08-2009 20:59:58
หนุกดีจังขอบคุณนะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 27-08-2009 00:19:20
ภาค 2  ๆ   :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: nine-poo ที่ 28-08-2009 23:28:55
เสียวหัวใจว๊าบเลย
คิดว่าไนท์จะไปจากเวย์ซะแว้วว
เหอะบีบหัวใจเหมือนกันนะเรื่องนี้
แต่ชอบค๊าฟฟ
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 29-08-2009 08:39:07
สนุกค่าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 29-08-2009 08:40:00
สนุกค่าาาา

แต่เศร้าไปหน่อย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-08-2009 08:48:28
WaiT 4 Episode II From U.S.   :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: MonkeYMauS ที่ 29-08-2009 14:48:43
รอติดตามภาคสองคับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 29-08-2009 16:37:17
อยากอ่านภาคพิเศษของเป้อีกอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: baroona59 ที่ 29-08-2009 16:39:03
อยากอ่านภาค 2 แล้ว


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 30-08-2009 02:39:40
กะลังอ่านอยู่ครับ  สนุกมากมาย
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Aon ที่ 01-09-2009 23:04:51
 :L2: อยากอ่านภาค 2 ต่อมากมายช่วงท้ายๆจะจบทำให้น้ำตาไหลพรากเลยล่ะ



ภาคพิเศษของแชมป์กับนุก็น่าเศร้ามากๆเลยรักกันแต่อยู่คู่กันไม่ได้ :o12:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 04-09-2009 00:49:17
อา.....

ไม่ได้เข้ามานานน น น น น

จบภาค 1 แล้ว ว ว

 :mc4:

สู้ๆ ๆ ๆ

รอภาค 2 จ้า า าา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิ&#
เริ่มหัวข้อโดย: ppangg ที่ 07-09-2009 16:50:42
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านจนจบ
ขอเม้นรวดเดียวนะคะ
เวย์ ไนท์ จบได้ซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆ...
สมองจำไม่ได้ แต่ใจสั่งให้รักจริงๆ

แต่กับ แชมป์ นุ เศร้า แต่ก็แอบซึ้งนะคะ
อ่านแล้วแบบว่า อึดอัดแทนทั้งคู่จัง
อ่านไป น้ำตาจะไหล
ต่างคน ต่างไม่ได้รักกันเลยจะดีซะกว่า
"ไม่ได้รักกัน" น่าจะดีกว่า "รักกันไม่ได้" อย่างนี้

ปล. แอบอ่านในที่ทำงาน อ่านจบ มีอาการนอยด์ทั้งวัน
กินข้าวกลางวันไม่อร่อยเลยอ่ะ
สงสัย ถ้าอ่านทุกวัน เราคงผอมแน่ๆ คราวนี้ หุหุ

ขอบคุณคนแต่งนะคะ สำหรับนิยายน่าอ่านอย่างนี้ ^-^


Edit....ลืมบอกไป จะรอภาค 2 นะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 07-09-2009 17:45:42
ตามอ่านมา สองวัน 

แรกๆ ซื้งกะคู่เอก คือ น้องเวย์ ไนท์

ไปๆมาๆ เกิดชอบคู่นุ อีกคู่ซะนี่ 

สนุกมาก ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 10-09-2009 18:26:27
 :m20: :m20:ฮามากเลยครับเรื่องนี้อ่ะ
ชอบทุกคู่เลยอ่ะ ฮาได้ทุกคู่เลย
แต่ที่ขาดไม่ได้ ก็คือ....มุก "เม็ด-ดุก" :m20: :m20:
มุกนี้อ่ะ ถ้าไม่กล้าจริงไม่ใครเค้ากล้าเล่นกันนะคร้าบบบบ :laugh3: :laugh3:
ปล..แล้วภาคสองจะมาเมื่อไหร่คร้าบบบ แบบว่า...เราจะตามไปอ่านอ่ะ  ของเค้าฮาจริงๆๆๆเล้ยยยย o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: จริงใจ ที่ 16-09-2009 17:22:41
อ่านจบแล้ว มาให้กำลังใจ นุ่น ต่อภาค 2  นะ
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 24-09-2009 13:23:10
W o W ว่าจะเข้ามาเจิม ภาค 2
ทำไมมันไม่มีเนี้ย  :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: cascada ที่ 25-09-2009 14:12:50
จบแล้วครับบบบบบ

อ่านแล้วบีบหัวใจจริงๆแหล่ะ แบบว่าตอนแรกๆน่ารักมากๆ หลังๆบีบหัวใจสุดๆ โดยเฉพาะคู่นุ+แชมป์เนี่ย เฮ้ออออออ เอาน่า อนาคตมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ส้มอาจเจอคนใหม่ก็ได้ใครจะรู้ 555+ (แอบจิ้นต่อเองอ่ะ)
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: pazon ที่ 25-09-2009 16:53:43
 อ่านแล้ว อิ่มเอมไปทั้งวันเลย อะ  :กอด1:  :กอด1:

ขอบคุณมากเลย ครับ

 :L2:  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: tummy22 ที่ 03-10-2009 12:12:51
ขอบคุณค้าบ....................

 :L1:   :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Overdose ที่ 04-10-2009 12:38:40
ภาค 2 ของนู๋  รอน้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? จบแล้วจ้า ^^
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 04-10-2009 22:30:59

บทส่งท้าย

   “รัก  ไม่รู้ทำไม  แต่ผมรักคุณ” 
นาน...กว่าผมจะรู้ตัวว่ามันเป็นเสียงของผม  เสียงที่บอกว่ารักคนในอ้อมกอด  คนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน  แม้ไออุ่นกับสัมผัสที่ได้รับจะคุ้นเคยและเหมือนได้รับการเติมเต็มยิ่งนักก็ตามที
ไม่รู้ทำไมถึงยังกอดเขาไว้แน่นราวกับหากปล่อยมือคงจะไม่ได้พบกันอีก  ใจผมสั่น..ใช่  สั่นพอๆ กับร่างกายของอีกคน   ทำไมถึงร้องไห้...ให้ผม
หรือว่าผมสำคัญกับเขา
ความคิดที่ทำให้หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก  แต่...มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรือที่ผมรู้สึกว่าตัวเองรักคนๆ นี้  รักอย่างที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
แปลกไหม...คนที่ผมรักเป็นผู้ชาย
ความเป็นจริงมันคงแปลก  แต่ผมกลับรู้สึกปกติอย่างเหลือเชื่อ
ไอ้ไนท์หรือมึงจะบ้าไปแล้ว??
“ฟื้นแล้ว  ไม่หลับแล้วใช่ไหม”  เสียงเครือบ่นอู้อี้กับอกผม  กลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่มชวนให้สัมผัส  และผมก็ไม่รอช้าที่จะยกมือขึ้นลูบเบาๆ
เอาว่ะ..แปลกก็แปลก  บ้าก็บ้า  ถ้าเพื่อคำพูดนี้ล่ะก็...ยอม
“ครับ  ฟื้นแล้วแต่คงจะหลับอีก” ผมพูดพร้อมรอยยิ้ม  ก็มันน่าแกล้งน้อยซะเมื่อไรล่ะ  สนิทกันแค่ไหนหรือคนๆ นี้เป็นใครผมก็ไม่สนล่ะ  ขอแค่อย่าหนีไปเป็นของคนอื่นก็พอ
ขอแค่อยู่ให้ผมกอดแบบนี้ไปนานๆ...
“ไม่  ไม่ให้หลับ  ฮึก” คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมาจ้องตาผมอย่างคาดคั้น  ดางตาสีน้ำตาลกลมโตเปื้อนหยาดน้ำตา  ยั่วให้คนมองอย่างผมใจเต้นแรงจนต้องกระชับวงแขนแน่นขึ้น 
...อบอุ่นในหัวใจ...
ทั้งที่ไม่กี่นาทีก่อนหน้ารู้สึกหนาวเหมือนเลือดจะจับตัวเป็นก้อนแท้ๆ  แค่คนๆ นี้มองมาเท่านั้น  แค่ได้สบดวงตาคู่นี้เท่านั้น  ควมหนาวก็หายไปหมด  เออเว้ย!  นี่นายเป็นคนแน่หรือเปล่าเนี่ย  ผมนึกแล้วก็ขำตัวเองอยู่ในใจ  มึงนี่เป็นเอามากนะ  ไอ้ไนท์  ทำเหมือนคนไม่เคยมีความรัก หึหึ
“อ้าว! ก็ง่วงนี่ครับ  ง่วงมากๆ” อันนี้ไม่ได้แกล้งนะครับ  รู้สึกเหมือนร่างกายไม่มีแรง  หนังตาหนักอึ้งแต่ก็ฝืนไว้  ขอมองหน้าอีกหน่อยแล้วกัน  ยังไม่อยากหลับเลย
“... แล้วจะตื่นอีกใช่ไหม”  แววตาที่เหมือนจะอ้อนนั้นทำเอาผมยิ้มออกมาอย่างยั้งไม่อยู่  มีคนอย่างนี้อยู่ใกล้ๆ  ไม่ตื่นมาก็โคตรโง่สิ
“ครับ”  มึงจะทำเสียงอ่อนเสียงหวานไปไหนวะ
“งั้นรีบๆ ตื่นนะ”  คนตรงหน้าเหมือนพยายามจะยิ้ม  คาดคั้นเอาสัญญาจากผม
“ครับ”
“ต้องตื่นนะ”
“ครับ”  ผมตอบง่ายๆ  สบายๆ  หนังตาหนักอึ้งจนเหมือนจะฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว  ฤทธิ์ยาและความอ่อนเพลียมันเริ่มเล่นงานผมจนตั้งตัวไม่ติด   ผมมองคนที่ผละออกห่างจากอกผมด้วยสายตางุนงง  ใบหน้าเปื้อนน้ำตาฉายแววหงุดหงิด  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน  ย่นจมูก  พร้อมกับคำพูดที่เล่นเอาคนง่วงอย่างผมแทบจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“มึงเข้าใจกูแน่นะ  ไอ้ไนท์  ถ้ามึงเสือกหลับไปเป็นอาทิตย์ๆ อีก กูถีบตกเตียงเลยนะมึง”
“...”  เอ่อ...อย่าบอกนะว่านี่คือโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา  ไม่ตื่นถีบตกเตียง?  อยู่ๆ ก็เล่นจะปลุกผมด้วยตีนซะอย่างนั้น  เฮ้ย! เอาจริงอ่ะ  ไอ้คนที่มันร้องไห้ซบอกอ้อนผมอยู่เมื่อกี้มันหายไปไหนแล้วว่ะ 
“เข้าใจมั้ยวะ”  ดูครับ  คงเห็นว่าผมยังอึ้งไม่พอ  มีย้ำ  ตานี่โคตรดุ  เหอะ  แต่มันดูน่าตลกมากกว่าน่ากลัวนะผมว่า
“..ครับ”  แล้วผมก็ตอบรับอย่างง่ายดายยิ่งกว่าหมาเชื่อฟังเจ้าของ  ก็เอาเถอะครับ  จะมีหมาสักกี่ตัวในโลกมีเจ้าของน่ารักขนาดนี้  มึงเป็นเอามาจริงๆ ไอ้ไนท์  ขนาดเป็นหมา  มึงยังยอม
“เออ  งั้นก็นอน  แล้ว..จะนอนเฝ้า”  ท้ายประโยคพูดเสียงเบา  แก้มขาวๆ ซับสีเลือดอย่างน่ารัก  อาการเขินที่ทำเอาหมาอย่างผมนึกอยากกินเจ้าของขึ้นมาตงิดๆ
“อือ”
ผมล้มตัวนอนอย่างสบายใจ  รู้สึกเมื่อยแก้มมากๆ เพราะดันหุบยิ้มไม่ได้  ไม่อยากนึกภาพตัวเองตอนนอนเลยครับ  มันคงคล้ายๆ คนบ้าพิลึก  นอนไปยิ้มไป  หัวเราะไป  และคาดว่าพอตื่นขึ้นมาก็จะยิ่งยิ้มได้มากกว่านี้อีก
ผมเอื้อมมือไปข้างตัว  แบกว้างรอรับสัมผัสอบอุ่นของมือนุ่มที่เข้ามากุมไว้  แล้วบีบกระชับไว้ไม่ยอมปล่อย
...มารยาคนป่วย....
นานๆ จะได้ใช้สักที  เจ็บตัวขนาดนี้  ต้องเอาให้คุ้มเว้ย


หลับไปนานเท่าไรไม่รู้  พอตื่นมาอีกทีสัมผัสร้อนๆ ที่ฝ่ามือก็ไม่เหลือเสียแล้ว  กระพริบตาถี่ๆ สู้กับแสงไฟ  มองไปรอบห้องไม่เจอคนที่บอกจะนอนเฝ้า  ไปไหน?  อารมณ์ดีๆ เริ่มกลายเป็นหงุดหงิดเมื่อตื่นมาแล้วไม่เห็นใบหน้าที่อยากเห็น  ชิส์  รู้งี้ไม่หลับหรอก
“มองหาใครครับเฮีย” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งปรากฏข้างเตียง  ไม่ใช่คนที่ผมต้องการ  แล้วมันเป็นใคร  อ้อ! นึกออกแล้วครับ  ไอ้คนที่ผมเห็นตอนที่ตื่นมาครั้งแรก   ผมมองมันผ่านๆ อย่างไม่อยากจะสนใจ  แต่ไอ้นี่มันกลับจ้องผมเอาๆ เหมือนคนได้เจอของแปลก
จะเอาไงก็ว่ามา  กูเริ่มหงุดหงิดแล้วนะมึง
 “เฮีย  จำใครไม่ได้จริงๆ เหรอ”  มันถามผม  จำได้สิวะ  แต่คนที่กูจำได้ไม่มีมึงรวมอยู่ในนั้น
“นาย..”  ผมยังพยายามจะสุภาพกับคนไม่รู้จักนะครับ
“ผมชินไง” มันแนะนำตัว  พูดเหมือนผมสนิทกับมันมาก  ‘ชินไง’  เออ  สรุปคือผมต้องรู้จักมันใช่ไหม
“เออ  ชินไง”
“...สมองเสื่อม  แต่ความกวนตีนยังคงเส้นคงวานะเฮีย”  มันล้วงกระเป๋ามองหน้าผมอย่างหาเรื่อง  นี่ถ้าไม่ติดว่าขาเดี้ยง  ผมยกตีนยันมันไปแล้วครับ   อยู่ๆ มีคนมาแช่งให้ผมสมองเสื่อมถึงที่  มันดีลิเวอร์ลี่ได้รวดเร็วทันใจจริง แต่ไม่คิดจะถามคนอื่นว่าเขาอยากได้ไหม
“คนเมื่อกี้...ไปไหน”
“ใคร?”  มึงแกล้งโง่?
“คนที่บอกจะนอนเฝ้า” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  สะกดอารมณ์ตัวเองแล้วตอบมัน
“ใครเขาอยากจะเฝ้าคนสมองเสื่อมกันเฮีย  ดี! จำไม่ได้ก็ดีแล้ว  อย่างนี้พี่เวย์ก็ว่าง”
“เวย์  คนที่ชั้นกอด”  คนเมื่อกี้ชื่อเวย์หรอกหรือ  เวย์  เวย์  เวย์  ไม่ได้ย้ำเพื่อให้ตัวเองจำได้นะครับ  แต่เพราะชื่อนี้เหมือนคอยสะกิดอะไรบางอย่างในใจผม  อะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆ  แต่กลับจำไม่ได้  อะไรบางอย่างที่แม้หายไปจากสมอง  แต่ไม่เคยหนีไปจากหัวใจ
“..แล้วบอกว่ารักด้วย  รัก  ไม่รู้ทำไม  แต่ผมรักคุณ  เหอะ! คบกันมาตั้งนาน  นึกจะบอกรักก็ดันไม่รู้ว่าทำไม  ทำเป็นพูดดีแต่ก็จำเขาไม่ได้  เฮียแม่งเลวว่ะ”  มันด่าผมเสร็จสรรพ
“...”  คบกันมาตั้งนาน??  คบ..แบบไหน  หมายถึงผมกับเขาเป็น..แฟน..กันน่ะเหรอ  จริงเหรอ?  นี่ผมไม่ได้กำลังเข้าใจผิดใช่ไหม  เขาไม่ใช่เจ้าของหมาแต่เป็น..แฟนผม..น่ะเหรอ  เฮ้ย! ถ้าเป็นเรื่องจริง  ไอ้ที่เจ็บตัว  ขาเดี้ยงนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ
“จำไม่ได้จริงๆ อ่ะ”
“เออ”  มึงก็ถามย้ำอยู่นั่น  กูก็อยากรู้อยู่เหมือนกันเว้ย   เริ่มไม่อยากสุภาพกับมันครับ
“งั้นพี่เวย์ผมขอ”
“ไม่ได้!!” ไอ้เชี่ยนี่ เมื่อกี้มันเพิ่งบอกว่าพวกผมคบกันอยู่  แล้วนี่มีหน้ามาขอ  ไอ้เวร  ถ้าเป็นแฟนผมก็ดี  ผมไม่มีวันยกให้  แต่ถ้าไม่ใช่แฟน..อีกเดี๋ยวก็ใช่ครับ
“นั่นมันเรื่องของเฮีย  ส่วนนี่มันเรื่องของผม  เฮียรู้ไว้ด้วยนะว่าตอนที่พี่เวย์รู้ว่าเฮียจำเขาไม่ได้  เขาช็อกมาก  ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว  และผมก็กำลังจะตามไปดูแล  ไป - ปลอบ -ใจ”  มันเน้นพยางค์หลังด้วยสายตาท้าทายจนผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ  เหมือนแมวมันกำลังจะโขมยกินปลาย่างของคนที่ไม่ได้กินข้าวมาสักสามวันยังไงอย่างนั้น
“เฮ้ย!”
“โชคดีนะเฮีย  แล้วก็ไม่ต้องรีบหาย  ผมเหม็นหน้า  เมาแล้วขับแม่งสมควรแล้ว”  มันยักคิ้วมองผมอย่างกวนๆ  มันไม่รู้สักนิดเลยเหรอว่าผมต่างหากที่เหม็นหน้ามัน  ว่าแต่ว่าที่ผมเป็นอย่างนี้เพราะเมาแล้วขับหรอกเหรอครับ  เออ  สมควรถูกด่า
“อ้าวไอ้นี่”  ...แต่คนด่าต้องไม่ใช่มึง
“ผมไปล่ะ  หายเมื่อไรก็ตามไปแล้วกัน  อ้อ  แต่จำไม่ได้นี่นะว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน  หึหึ”
“...”  ...พูดไม่ออกครับ  ก็จริงของมัน
“ผมบอกให้ก็ได้  ที่ไหนสักแห่งในประเทศไทยที่ล่ะเฮีย”
“สัดเอ๊ย” สถบอย่างหัวเสีย   กูไม่รู้เลยมั้งไอ้เชี่ยนี่
“หึหึ  เก็บแรงด่าไว้กินข้าวต้มเถอะเฮีย”  มันมองผมด้วยสายตาเหยียดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาที่เข้าเฝือกอยู่ของผม  มันกำลังเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่าครับ  ขาผมหัก  แขนเจ็บ  หลังเป็นแผล (เยอะเหมือนกันนะเนี่ย) แต่ฟันไม่ได้หัก  ยังไม่ถึงขั้นต้องซดน้ำข้าวต้ม
“มึงรีบออกไปเลย”  รีบไปก่อนที่กูจะฝืนสังขารเอาเฝือกฟาดปากมึง
“ไม่ไล่ก็ไปครับ  ไปหาพี่เวย์”   มีหน้ามายิ้ม
“เฮ้ยยย  ห้ามไปนะมึง”
“คงยากว่ะเฮีย  โอกาสอย่างนี้  ผมไม่คว้าก็ไม่รู้ว่าบ้าหรือโง่แล้ว”  มันยิ้มอย่างผู้ชนะ  จนขมับผมเต้นตุ้บๆ อย่างโมโห  เออ  มึงชนะ  แต่กูก็ไม่แพ้  คราวนี้ผมมองมันกลับและพยักหน้าให้มัน
“เออ  งั้นมึงไป”  มันหันมามองผมแบบไม่เชื่อสายตา  ยังๆ กูยังพูดไม่จบ  “แต่กูไปด้วย”
“เฮ้ย  ไปได้ไงเฮีย”  มึงจะตกใจอะไร  กูรู้ว่าขากูเดี้ยง  กูเดินไปเองไม่ได้  บ้านเขากูก็ไม่รู้จัก  แล้วกูจะไปได้ยังไง  ...ถ้าไม่มีมึง
“...กับมึง”  พูดจบก็ยิ้มอย่างผู้ชนะที่แท้จริงให้มันครับ  รู้จักกูน้อยไปแล้วไอ้ชิน  มันมองผมอย่างอึ้งๆ ก็แล้วหัวเราะออกมา
“อ๋อเหรอ”  เออสิวะ  มันจ้องหน้าผม  เดินเข้ามาใกล้  แล้วก็...
-ออดดดดด-   ผมห้ามไม่ทัน  มันเดินเข้ามากดกริ่งเรียกพยาบาลที่หัวเตียงผมทันที  ไอ้ชินมันหัวเราะ  ในขณะที่ผมหัวเราะไม่ออก
แพ้ครับ...ยกนี้
“มีอะไรคะ” นางพยาบาลที่นี่ก็ทำหน้าที่ดีเหลือหลาย  ผมยังไม่ทันด่ามัน  เธอก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา   บริการดีเหลือหลาย  แต่ไม่ถูกจังหวะครับ
“ฝากดูแลคนไข้หน่อยครับ  ระวังเขาจะหนี” ไอ้เด็กเวรมันหันไปสั่งนางพยาบาลที่พยักหน้ารับอย่างงงๆ  ถ้างงก็อย่าไปรับคำมันสิครับเจ๊   “ไปนะเฮีย  ฮ่าๆ”
“เฮ้ยย  ไอ้  ไอ้   โธ่เว้ย” พอนึกว่ามันกำลังจะไปปลอบใครอีกคนที่ควรอยู่ข้างเตียงผมตอนนี้   ผมก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่สนใจสังขาร  แน่นอนครับก็ในเมื่อขามันเดี้ยง  ร่างกายหนักๆ ของผมก็เลยเซจนเหมือนจะล้ม  ดีที่คุณนางพยาบาลเธอหายงง  เลิกยืนเอ๋อเข้ามาพยุงผมไว้ได้ทัน
ผมมองแผ่นหลังของมันเดินห่างออกไป  ประตูสีขาวปิดลง
...ไม่ทัน....
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ  กัดฟันกรอด  สองมือกำหมัดแน่น  พึมพำกับตัวเอง
“ไอ้ชิน  มึงเป็นใครไม่รู้  แต่จากวันนี้มึงกับกูเป็นศัตรูกัน”


….The End….

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 04-10-2009 22:36:26

^ ^
^ ^
^ ^
^ ^
^ ^
^ ^

จิ้ม นุ่น กร๊ากกกกกกกกกกก  ตามมา จิ้ม  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 05-10-2009 00:43:36
กร๊ากกกกก

คนลืม

กับคนจำ

ต้องมาแข่งกันหร๊อ !!! ๕๕๕
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 05-10-2009 10:38:56
 :mc4:  แง  ทำไมมีแค่นี้อ่าาาาาาาา   เอาอีกๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 05-10-2009 15:59:04
อย่างงี้ต้องมีตอนพิเศษเลย


ขอตอนพิเศษๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :call:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 05-10-2009 16:33:09
ขอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Greenkub ที่ 05-10-2009 19:04:39
สนุกมากครับ

 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 07-10-2009 14:43:58
 :กอด1:
หึหึ
กว่าจะอ่านจบ
ปาไป 3 วัน
ซึ้งมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 07-10-2009 14:55:35
ดีมาก แกล้งคนป่วยซะ อิอิ เหอๆ

มาต่ออีกนะ ชอบจัง ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: melon_jung ที่ 07-10-2009 17:37:48
สมกะที่เป็นไนท์เลยอ่ะ...ถึงจะจำไม่ได้
แต่หวงเวย์ไว้ก่อน...หุหุหุ
ถ้าไม่อยากให้เวย์โดนแย่งเนี่ย...ไนท์คงต้องรีบหายแล้วหล่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 07-10-2009 18:57:43

ไมมันมีแค่เนี้ยอ่ะน้องนุ่นค๊า....ภาค 2 อย่างด่วนได้มั้ยค๊า

อย่าเพิ่งงงค่ะว่ามาจากไหนคนนี้ คือว่าไปแอบอ่านในบล๊อกมาแล้ว ตามนั้น

พักหลังไม่ค่อยได้เข้าไปแถวนั้น ก็เลยตามอ่านแถวนี้ แต่ว่า.....รู้สึกเหมือนค้างไงไม่รู้นะเนี่ย  :m17:

ภาค 2 รอค่ะ รอๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 08-10-2009 22:18:21
 :monkeysad: จบจริงอ่ะ งั้นจะรอภาค 2 นะฮับ

*ชอบความรักแบบนี้จัง ถึงจะจำไม่ได้แต่ก็ยังรัก  :-[

สู้ ๆ ฮับ   :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 09-10-2009 16:03:04


ภาค 2 คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ



 :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: VICTORY ที่ 10-10-2009 23:07:48
อิอิ
พี่ไนท์ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 11-10-2009 00:00:24
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 18-10-2009 23:20:48
มาพาก2ไวไวนะ :call:
ได้ข่าวว่าที dek-d มีพาก2เเล้วหรอครับมาต่อที่นี้มังดิพี้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 19-10-2009 11:14:55
ภาค พิเศษ อ่ะ ภาค พิเศษ :angry2:
ภาค สอง   อ่ะ ภาค สอง
 :fire:
 :m31:

จะลงไม่ลง           ลง >>>>>>>>> :กอด1:
                     ไม่ลง >>>>>>>>  :z6:   

กร๊ากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 20-10-2009 17:03:06
ภาค สอง  o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: memo_ppk ที่ 20-10-2009 18:54:58
รอภาค สอง :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 20-10-2009 19:17:58
อยากอ่านต่อจัง จะมาต่ออีกมั้ยน๊า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? บทส่งท้าย [4/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 20-10-2009 23:58:18


ขอโทษที่หายไปนานด้วยนะคะ  กลับมาต่อแล้วกับภาคสองค่ะ ^^  อ้อ ขอบคุณหลายท่านที่ได้ช่วยเสนอชื่อเรื่องนี้จนได้เข้ารอบสองกับเขา  ขอบคุณมากค่ะ  จะพยายามรักษาความฮาเอาไว้ต่อไปค่ะ  ฮ่าๆ


Wait II [ Way+Night as Freshy ]

Intro   

   คุณคิดว่าการที่ผู้ชายสักคนจะยอมหันหลังให้กับสังคมเพื่อมีความรักให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่งมันยากแค่ไหน  โดยเฉพาะเมื่อรู้ดีแก่ใจว่าหากเลือกจะรัก  ก็ต้องทำใจให้มีความสุขกับการรักโดยไม่ได้ความรักนั้นกลับมาเมื่อเส้นความสัมพันธ์ที่ว่าไม่อาจเกินคำว่า “เพื่อน” ไปได้
   สำหรับผม...ไม่ยากเลย
   เพราะผมรู้ดีว่าถ้าผมไม่รักมัน  ผมจะเสียใจไปจนวันตาย
   “เวย์  จะกินอะไรดี  ไข่พะโล้น่ากินว่ะ  กินมั้ย”
   “อือ  เอาน้ำเยอะๆ นะ”
   “ไข่ไม่เอา?”
   “อยากกินไข่พะโล้  ไม่ใช่น้ำพะโล้เข้าใจป่ะวะ”
   “ครับ  ไม่ได้โง่”
   และเพราะผมเลือกรักมันในวันนั้น  ผมถึงได้รู้ว่า...บางครั้งคำว่ารัก  ก็ไม่ต้องการเหตุผล  บางครั้งคำว่ารัก...ก็จำเป็นต้องก้าวข้ามข้อแม้  เหมือนอย่างที่ “มัน”  ทำให้ผมเข้าใจในวันนี้
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับจำได้ว่าผมชอบกินอะไร
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับบอกได้ว่าผมจะเลือกสีไหนระหว่างสีฟ้ากับสีเขียว
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับรับลูกบาสจากผมในตำแหน่งเดิมอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
   มันจำผมไม่ได้  แต่มันกลับบอกว่า “รัก” ผมทุกครั้งที่มีโอกาส
   ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมกับมันยังเป็นแค่เพื่อนอยู่หรือเปล่า  แต่รู้ดีว่าแม้มันจะจำไม่ได้  แต่เรื่องราวทั้งหมดนับตั้งแต่รู้จักกันมาเป็นช่วงเวลามีค่าสำหรับผม
..................................................

   “แม่ครับ  ผมไปนะ”  ผมบอกลาแม่นิ่ม (บอกชื่อให้ฟัง  แต่ห้ามเอาไปล้อนะครับ  หวง  มีแม่คนเดียว  ไว้มีหลายคนเมื่อไร  จะยอมแบ่งให้เรียกบ้าง)  มือถือกระเป๋า  เท้าถีบประตู  ก้าวซ้ายก่อนเอาชัยแล้วก็เดินฮัมเพลงไปขึ้นรถไฟฟ้า  ข้อดีครับของการที่มีรถไฟฟ้ามาตั้งใกล้ๆ บ้าน  เรียนแปดโมงผมตื่นเกือบเจ็ดโมงครึ่ง  ฮ่าๆ  ทันไม่ทันไม่รู้ล่ะ  รู้แต่ว่าพอลงจากรถไฟฟ้าเมื่อไร  ถ้าไปสายด่ารถป็อบ  มันผิดที่มาช้า  ผมถูกที่มาก่อนมัน (แม้หันไปทางซ้ายจะเห็นท้ายรถมันเพิ่งผ่านไปไวๆ ก็เถอะ)
   ถึงสถานีก็ยังคงคอนเซ็ปก้าวซ้ายขึ้นบันไดเลื่อนอยู่ดีครับ  เห็นได้ชัดผมเป็นเด็กรุ่นใหม่  หัวก้าวหน้าขนาดไหน  ไอ้เรื่องเชื่อโชคลางของขลังไม่มี๊ไม่มี  แต่แม่สอนว่าทางที่ดีอย่าลบลู่  หรือถ้าจะเอาให้ชัวร์ก็ทำตามเขาไปเถอะ  ล้วงมือขวาลงในกระเป๋า..ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ข้างซ้าย  ล้วงมือซ้ายบ้าง...ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ในกระเป๋า  ล้วงมือขวาไปควานหาในกระเป๋า ...ว่างเปล่า  หรือว่ามือขวามันโชคไม่ดี  ลองเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายล้วงเผื่อจะเจอ ปรากฏว่า...ว่างเปล่า...  หรือมันต้องใช้ทั้งสองมือพร้อมกันวะ??  ว่าแล้วด้วยความหน้าด้านหน้าทน  ผมนั่งยองๆ แหวกกระเป๋าออกแล้วเริ่มปฏิบัติการล้วงระดับชาติ  งานใหญ่อย่างที่ไอ้พวกหนู G –force  มันยังไม่กล้าขันอาสา  แต่ไอ้เวย์ไม่มีหวั่น  ใครมองไม่มีแคร์  เพราะเป็นเลดี้กาก้าไม่แคร์สื่อ  ...กลับเข้าฝั่งดีกว่ามั้ยครับ?
ล้วง  ล้วง  ล้วง  ล้วง  ไอ้สัดเอ๊ย...ไม่มี!!!

‘โอ๊ยย  ซวยแล้วกู  ซวยแล้ว’  ผมโอดครวญอยู่ในใจ  วันนี้เป็นวันแรกของการเป็นนักศึกษาของผม  ด้วยความรีบเกินพิกัด  ทำให้ผมลนลานจนลืมหยิบกระเป๋าสตางค์มา  แถมเพิ่งจะรู้ตัวตอนที่เดินมาถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วซะด้วย  ไอ้จะกลับไปเอามันก็ไม่ได้ไกลมาก  แต่เวลานี่สิเหลืออีกสิบห้านาทีก็จะเปิดประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่แล้ว  แม่งง  ลางไม่ดีตั้งแต่วันแรกเลยโว้ยย
    “เฮ้!  นาย  เป็นอะไรรึเปล่า?”  ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวใส  และรอยยิ้มจริงใจของเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน  ที่สำคัญเขาใส่ชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับผม
“เอ่อ..คือว่า  เราลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา  แล้ว..เอ่อ..”  เอาไงดีวะกู  จะให้ขอยืมเขาหรอวะ  ไม่ดีมั้ง?  ยังไม่รู้จักกันเลยนี่หว่า  มันจะหาว่ากูหลอกเอาเงินมันรึเปล่าฟะ  แม่งง  ใครจะกล้าไปขอวะ    ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่นั่น 
“อ่ะ”  เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยื่นบัตรบีทีเอสมาให้  พร้อมรอยยิ้มกวนๆ
“อ่ะ  เอ่อ” ผมก็ยังลังเล  ไม่ได้เกรงใจแล้วล่ะครับตอนนั้น  แต่ยังงงๆซะมากกว่า
“เอ้า  เอาไปดิ  เดี๋ยวสายนะเว้ย”  มันพูดจบก็ยัดบัตรใส่มือผมแล้วเดินเข้าช่องทางเข้าไป   เอาวะ  ไหนๆคนเขาก็อุตส่าห์มีน้ำใจ  จะไม่ใช้ก็เสียเงินฟรีดิ  ว่าแล้วผมก็เดินตามมันเข้าไป  ร่างสูงๆของมันยืนรอผมอยู่
“ขอบใจนะ”  ผมเอ่ยเสียงเบาขณะที่เดินเข้าไปใกล้มัน  ไม่ได้เขินมันหรอกครับ  แต่ไม่ค่อยได้พูดคำนี้กับใครเท่าไร  มันเลยตะหงิดๆในใจ
“ไม่เป็นไรเพื่อน  ว่าแต่นายเรียนอยู่คณะไรอ่ะ”  มันจะถามทำไมของมันนักหนาวะ  วิ่งเข้าสิมึง  รถป๊อบเลี้ยวโค้งมาแล้วมึงแหกตาดูสิครับ  ถ้ามึงวิ่งไปไม่ถึงลิโด้ก่อนมันมา  กูจะฮาให้  ด้วยความที่ผมกลัวว่ามันจะตามมาทวงหนี้ที่ผมคิดจะเหนียว  ผมก็เลยต้องหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองซะหน่อยครับ  กรุณาทำความเข้าใจด้วยว่า “เป็นการหาทางหนีทีไล่” ไม่ใช่ “หนีเอาตัวรอด” ไอ้คำหลังนี่ห้ามใช้นะครับ  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี
“อักษร” ตอบไปแบบไม่คิดเพราะตั้งใจว่าต้องหาคณะที่มันไกลจากคณะตัวเองเข้าไว้  ผมวิ่งมาทันรถป็อบพอดี  ที่จริงก็ไม่ใช่หรอกครับต้องบอกว่ามันหยุดรอมากกว่า  ก็ไหนใครสักคนบอกผมว่ามันมาไวไปไวเหมือนจรวดไง  แสดด  นี่หมาวิ่งแซง  แมวตะแคงตด  มึงยังไม่ไปเลย
“รีบทำไมของนายวะ  กลัวรถหายรึไง” มันบ่นพึมพำแล้วมายืนข้างผม  อ้าว! ไอ้นี่  กูเพิ่งด่าคนที่บอกกูมาผิดๆ ไป  ทำไมมึงไม่ฟังเล่า  ถ้ากูรู้นะว่ามันจะหยุดรอ  กูจะวิ่งให้เหนื่อยเพื่อ?
“เออ  กลัวไม่ได้ขึ้น” อ้าว  กูก็ปากไว  อย่าไปคุยกับมันสิเฟ้ย  ได้เงินมาแล้วตั้งใจจะไม่คืน  ต้องทำเป็นคนไม่รู้จักเข้าใจมั้ยวะ
“กวนตีน” แล้วมึงล่ะ?  ไม่กวนกูเลยเนอะ  เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงห้านาที  มึงก็เริ่มด่ากูแล้วเนี่ย  ไอ้คนคบไม่ได้  (แต่ทีตัวเองจะไม่คืนเงินเขา  คบได้มากเลยนะมึง)
“ยัง  ตีนไม่ว่าง”  หยุด..ไม่ทัน  สงสัยต้องหาอะไรยัดปากกันพูดมากไว้ก่อนแล้วมั้งเนี่ย
“แต่ตีนกูว่างว่ะ  อยากลองมั้ย” มันหันมายักคิ้วท้าทาย  หึ  กูไม่โง่หลงกลมึงหรอก
“อยาก  แต่พอดีไม่มีส่วนไหนของกูว่างลอง”  มันขึ้นมึงขึ้นกู  ผมมีหรือจะปล่อยผ่านง่ายๆ 
“หึ  เด็กอักษรเขาปากหมาเป็นเหมือนกันเหรอวะ  นึกว่าจะเรียบร้อยๆ” แล้วกูจะรู้มั้ยวะ  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เรียนอักษรเว้ย  ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหางอย่างกูจะมีปัญญาไปเรียนมั้ย  มึงคิด  แต่ว่าตามจริงเลขกูก็กระดิกแบบแผ่วๆ   ดันเลือกเอาเศรษฐศาสตร์แล้วยังเสือกติดอีก  ฆ่าตัวตายทางอ้อมแท้ๆ กู
ผมมองหน้ามัน...พ่อกับแม่มึงผสมกันยังไงวะ  ถึงได้มึงออกมาเนี่ย??  กูอยากจะรู้เผื่อเอาเคล็บลับไว้ใช้ในอนาคต  ก่อนอื่นมาที่นี่ต้องหาแม่ที่ดีของลูกให้ได้ก่อนครับ  มองหน้ามันอีกทีก็อยากจะถอนหายใจด้วยความเสียดาย
   หน้าตาไม่เหมาะกับปากหมาๆ ของมันเลย
   อ๋อ  รู้แล้วปากอย่างมึงต้องอยู่คณะนี้เท่านั้น...วิดวะ
   อยู่ตรงสามแยกปากหมานั่นไง  ฮ่าๆ  โคตรเหมาะ

   “เป็นไรวะ  มองหน้าแล้วยิ้ม  อยู่อักษรด้วย  อ้าว..หรือว่ามึง...”  มันทำตาโต อ้าปาก  ประมาณว่าตกใจมาก  เสร็จแล้วก็เริ่มมองผมอย่างหวาดๆ  กูทำไม?  เกี่ยวไรกับอักษร?  ทำหน้าเหมือนรู้ว่ากูจะไม่ยอมคืนเงินมึงงั้นแหละ
   “กู?  ทำไม”
   “ชอบผู้ชาย???” มันพูดด้วยสีหน้าจริง  และเสียงที่ถึงจะไม่ดังแต่หลายคนคงได้ยินในเมื่อมันยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋องแบบนี้
   “....”  ผมจ้องหน้ามัน  จนด้วยคำพูด  บอกไม่ถูกว่าระหว่างความโกรธกับความอายอันไหนมันมีมากกว่ากัน  แต่ที่แน่ๆ ผมกำลังสรรหาคำด่าตั้งแต่สมัยทวารดียันปีสองพันห้าด่ามันในใจ  ตอนนี้ไม่กล้าหันไปมองหน้าใครเลยครับ  ทั้งที่เราไม่มองแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีคนมองอยู่  สาดเอ๊ย!  จะคิดไปเองหรือปล่าวไม่รู้ล่ะ  แต่แม่งโคตรอาย
   ผม...เกิดมาสิบเก้าปีมีแฟนเป็นผู้หญิงแท้ๆ ทั้งหมดสี่คน  แต่ละคนน่ารักขนาดเชอร์มาลย์ชิดขวา  อุษามณีชิดซ้าย  เหลือแค่ตุ๊กกี้คนเดียวเท่านั้นแหละครับที่พอจะสู้ได้อย่างสูสี  แล้วมัน..มันเป็นใครมาจากไหนบังอาจหาว่าผมชอบ ผู้-ชาย   กูจะชอบผู้ชายได้ยังไง  ถ้ากูชอบเพศเดียวกับตัวเองแล้ว  ลูกสาวลูกชายว่าที่นักแสดงในอนาคตที่กูกำลังจะขอเคล็ดลับจากพ่อแม่มึง  กูจะผลิตออกมาได้มั้ย  ถามหน่อยสิวะ
   “ถึงแล้ว  ไม่ลงรึไง”  มึงยังมีหน้ามาถาม  ไอ้เชี่ยเอ๊ย  ทำกูขายหน้าไม่พอ  มึงยังจะไล่กูลงจากรถ  กูจะลงเพื่อ?  นี่ตึกอักษร  กูไม่ได้เรียนที่นี่  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ ไอ้ฟาย  มึงเข้าใจมั้ย  กูเรียนเศรษฐศ่าสตร์  กูไม่ได้เป็นเกย์  ไอ้สาดด 
ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่ามัน  ใจก็คิดว่าไม่ลงเด็ดขาด  ครั้นเหลือบไปมองรอบๆ  งานเข้าเลยกู!!  เห็นคนมองมาแล้วยิ้มให้ผมเหมือนรู้ทัน  มึงรู้ทันอะไรกู๊  กูไม่ช่ายยยยย  ไอ้เชี่ย  ต้องให้กูไปเปลี่ยนชื่อเป็นนายสมชายให้สาแก่ใจพวกมึงเลยดีมั้ย
   สุดท้าย..ไม่อยากลง  ก็ต้องลงครับ  ใครบอกผมไม่แคร์สื่อ  ครับสื่อน่ะผมไม่แคร์  แต่ผมแคร์หน้าบางๆ ของผม  ผู้หญิงหลายคนมองหน้าผมตาวาว  บ้างก็ถอนหายใจด้วยอาการคล้าย “กูว่าแล้ว”   ขนาดเดินลงมายังได้ยินคำนินทาลับหน้า (เดินอยู่ข้างหนาครับ) ว่า
   “บอกแล้ว  ไม่แอ๊บก็อันโนว์( ยังระบุเพศไม่ได้) เสียดายเนาะ  หน้าตาดีด้วย”
   ผมกล้ำกลืนฝีนความอัปยศไว้ในใจ  จำไว้นะมึง  อย่าให้กูเจอที่ไหน  กูจะตะโกนว่ามึงชอบหลอกฟันเด็กแปดขวบให้ได้ยินกันทั้งมอเลย  กูอายบนรถป๊อบ  มึงต้องอายทั้งมหาลัย

.................................................
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: cascada ที่ 21-10-2009 12:50:03
ดีใจมากๆ มาต่อภาคสองแร้ววววว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 21-10-2009 14:57:03
มาต่อแล้ววว


บอกให้ย้ายไปห้องนิยายด้วยก็ดีนะครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 21-10-2009 17:18:21
ภาค 2 นี่มันภาคเริ่มต้นที่เอง
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 21-10-2009 18:18:49
ภาคเริ่มต้นนี้เอง
 :m15: :m15:มาต่อเเล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 21-10-2009 20:37:30
 :L2:มาต่อแล้วววว สนุกมากเลยค่ะ
จะรอนะค่ะ   
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 21-10-2009 20:53:04

อ่านั่นสิคะ  แต่..จะบอกยังไงดี  นุ่นไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะนอกจากอัพนิยาย T^T

รบกวนพี่ๆ ช่วยย้ายให้หน่อยได้มั้ยค่ะ

นุ่นมาแต่งต่อแล้ว  ฮ่าๆๆ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ภาคสองจ้า [20/10/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 21-10-2009 23:08:16

ตามาติดๆ  ฮ่าๆๆ



Wait II

บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก...

   ผมไม่เสียเวลายืนแกร่วให้โดนแซวครับ  แม้ใจจะอยากแซวแอ่วสาวก็ตามที  หลังจากหน้าหายชาโดยไม่ต้องพึ่งยา(ฉีด) หรือมือ(ตบ)  เท้าก็เริ่มรับคำสั่งจากสมองให้วิ่งสี่คูณร้อยไปตึกเศรษฐศาสตร์ทันที  นาฬิกาใส่อยู่ที่ข้อมือแต่แน่นอนว่าผมไม่ดูให้เสียอารมณ์
เพราะมัน...ไม่ทันชัวร์!!!
ไอ้เวย์ใส่เกียร์ม้า(จะลดตัวเป็นหมากันเพื่อ?) ควบตัวโก่งแบบไม่กลัวเสียศูนย์  พอเห็นว่าอีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัย  ใจมันก็มาเกินร้อยแล้วครับ  สปีดมีเท่าไรใส่ไม่ยั้งทั้งเท้าหน้าเท้าหลังทำงานประสานกันอย่างดีเยี่ยม  ตาจ้องป้ายคณะเขม็งยิ่งกว่าตอนสเนปท่องมนต์สาปแช่ง
อีกนิดเดียว  โกยเข้ามึง  โกย  โกย  โก้ยยย
เฮ้ย!!!  พรืดดด   พรวดดด  สวบ  แอ้ก!!  (แม่งคล้องกันดีชิบ)

...จบสิ้นกันแล้ว  ชีวิตกู...
.
.
.
หมดแล้วสิบแปดปีที่สร้างมา  หมดแล้ว  หมด  หมด  โม๊ดดดดแล่ว (มิได้พิมพิ์ผิด  แค่ลิ้นลืมสำเนียงปกติชั่วขณะ)
ใครเห็นภาพผมตอนนี้คงนึกได้อยู่ไม่กี่เพลงหรอกครับ  ง่ายๆ เลยนะ  เพลงนี้ผมว่าตรงสุด
...ก่อนเคยเห็น เอ้ออ.. เอ๋ย..  อยู่หลัดๆ  ตอนนี้พลัดตกพุ่ม เอิง..เอ๋ย..ไม้...เอย....
เรามารีเพลย์ภาพช้าให้ดูกันครับ  ถามว่าอายไหมที่ต้องประจานตัวเอง  อายครับ  แต่ยอมเพราะ...ผมเกิดมาเพื่อเป็นคนของประชาชน  ก๊ากก
ไม่เกินเมตรจะถึงบันไดขึ้นตึก  มีไอ้ถุงพลาสติกหน้าโง่แผ่นหนึ่งมันมานอนแอ้งแม่งอยู่บนพื้น  ใจผมก็อยากจะตะโกนบอกให้มันหลบไป  แต่เผอิญว่าตามัวแต่จ้องป้ายคณะ  รู้ตัวอีกทีเท้าก็ลอยจ่อหัวมันอยู่แล้วครับ (ใครว่าถุงพลาสติกไม่มีหัว  ผมนี่เถียงขาดใจเลย  มันจะไม่มีหัวได้ยังไงในเมื่อมันต้องมีหัวไว้คั่นหูทั้งสองข้างของมัน  ...เออ  กูก็คิดได้เนาะ = =;;)
ผมเหยียบมันเข้าเต็มเท้า  จากนั้นดูเหมือนว่าไอ้ถุงบ้านั่นมันจะหนักจนทนไม่ไหว  สะบัดตัวหน่อยเดียวเท้าข้างนั้นของผมก็ลอยขึ้น  ร่างกายเริ่มเสียสมดุล  ด้วยความที่ไม่อยากดังตั้งแต่วันแรก  ผมจึงพยายามยื้อยุดชุดกระชากตัวเองไว้เต็มที่  แต่ว่า..ผลของมันนี่ออกจะดูอุจาดสายตาไปหน่อยเท่านั้น
เพราะแทนที่ร่างกายซึ่งเสียสมดุลไปแล้วของผมมันจะหงายหลังให้ก้นได้ร้องอรุณสวัสดิ์กับพื้น  กลายเป็นว่ามันโน้มไปข้างหน้าจนหัวผมทิ่มทะลุพุ่มไม้  ให้หน้าได้เซย์ไฮกับไอ้ใบสีเขียวๆ นี่แทนน่ะสิครับ!!
สรุปนี่ผมจะพยายามไปเพื่อ????
ไม่เกิดคราวนี้  มึงจะไปเกิดคราวไหนวะไอ้เวย์

“เฮ้ย! คนตกต้นไม้!”  นั่นไง..มันมาแล้วไอ้คนสร้างกระแส  ผมจะเรียกมันว่าป๋าดันดีไหม  แล้วดูมันตะโกนครับ  ท่าทางผมมันเหมือนคนตกต้นไม้หรือไงครับ  แล้วไอ้พุ่มเตี้ยๆ เนี่ย  บ้านเคอิโงะมึงเรียกต้นไม้หรือไงวะ?
“เป็นอะไรหรือปล่าวอ่ะ” ...เออ  ไม่เป็นไร กูสบายดี  แต่จะสบายกว่านี้ถ้ามึงจะกรุณาช่วยดึงกูขึ้นเงียบๆ  ย้ำนะ เงียบๆ
รู้สึกว่ามีมือมาช่วยดึงตัวผมขึ้น  พอหัวโผล่มาปะทะกับอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นแหละ  ผมก็แทบอยากจะเอาหัวมุดลงไปอยู่ที่เดิมอีกรอบ  คำเตือนสั้นๆ คำเดียวครับ ...ระวัง! มันกำลังจะมา...
“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”  นั่นไง...มันมากันแล้ว
บอกแล้วไง  ไม่เกิดงานนี้จะรอเกิดงานไหน  ดีใจกับตัวเองชิบ อยากตะโกนบอกแม่  แม่ครับผมดังแล้ว  ดังกร๊ากยาวๆ เลยด้วย  ฮ่วย! เพราะมึงเลยไอ้ปากหมา  ทำกูซวยแต่เช้า
“ฮ่าๆ  นาย..นาย  ฮ่าๆ  ผม  กร๊ากกกก”  ผมเงยหน้ามาเห็นผู้ชายตัวสูงหน้าตี๋คนหนึ่งยืนแหกปากหัวเราะผมอย่างเอาเป็นเอาตาย  ขอชมจากใจจริง  มารยาทมึงดีโคตร
“ผม?  ทำไม”
“ฮ่าๆ  ไม่มีอะไร  เท่ดีวะ  กร๊ากก  ปีหนึ่งเหมือนกันใช่ป่ะ  เราชื่อนุ  นายอ่ะ”  
“เวย์”  
มันมองหน้าผมอึ้งๆ ไปสักพัก  ทำไมวะ  หรือชื่อผมมันแปลกมาก  สักพักมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้  แล้วก็เริ่มแหกปากหัวเราะเต็มแรงอีกครั้ง
“กร๊ากกกก  งั้นเมื่อกี้ก็รองเวย์ (wrong way) อ่ะดิ  ฮ่าๆๆ  บันไดมีไม่ขึ้น  จะกระโดดข้ามต้นไม้เหรอวะ  กร๊ากกกก  ปวดท้องโว้ย  ม้ามจะระเบิดแล้วเนี่ย”  งั้นมึงก็หยุดขำซะทีสิไอ้สัด  ดูแลม้ามมึงด้วย  น่าสงสารชิบมีเจ้าของอย่างมึง  ถ้ากูเป็นมันนะกูชิงระเบิดตัวเองไปนานแล้ว  แล้วไอ้นี่เขาเรียกว่าพุ่มไม้เว้ย  มึงดูปากกูชัดๆ นะ  พุ่มไม้  ไม่ใช่ต้นไม้
“เหนื่อยยัง”  ผมถามผมด้วยสายตาแกมสมเพช  ที่จริงสมเพชตัวเองมากกว่าครับ  แต่เอาไปลงกับมันแทน  ช่วยไม่ได้ครับแม่สอนมาให้รู้จักรักตัวเองก่อนจึงค่อยรักคนอื่น
“เออ  เหนื่อยว่ะ” ... สมควร
“ดี  จะได้ไปสักที  แม่งสายโคตร”
“กร๊ากกกก  ก็ถ้านายไม่อุตริไปขี่ต้นไม้  มันคงไม่สายจนขนาดนี้”  เอ๊ะ ไอ้เวรนี่  ตกลงมึงจะเอายังไงแน่วะ  จะให้กูตกหรือขี่  ส่วนไอ้เรื่องต้นไม้ของมึง  กูปลงแล้ว  ชาตินี้ยังไงมึงก็คงแยกระหว่างพุ่มไม้กับต้นไม้ไม่ออกหรอก
“ขำเข้าไป  เดี๋ยวกูต่อยม้ามแตก”  ไม่ต้องรักษาภาพพจน์มันแล้วครับ  เจอคนกวนตีนขนาดนี้  ดิบๆ กับมันไปเลย
“โอ๊ย  ไม่ต้องต่อยๆ  มึงโดดเข้าไปที่เดิมอีกที  รับรองแม้แต่ตับกูก็ยอมระเบิด” อ้าวๆ  นี่มึงกำลังท้ากูอยู่เหรอ  มึงรู้ไหมว่ามึงกำลังท้าผิดคน  ผมยักคิ้วให้มันแล้วทำท่าจะเอาหัวทิ่มพุ่มไม้จริงๆ  มันร้องเฮ้ยแล้วรีบดึงแขนผมไว้  ไอ้สาด   ยุเองห้ามเอง  ทีหลังไม่ต้องยุกูให้เหนื่อยนะมึง
“จะทำไรวะ”
“ทำให้ตับมึงระเบิดไง”
“กร๊ากกกกก  โอ๊ย  ขำโว้ย  มึงนี่กวนตีนสาด  มาเป็นเพื่อนกันเหอะว่ะ  คนบ้านเดียวกัน” ...แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่...  เออ  รู้ด้วยเหรอมึงว่าตัวเองกวนตีน  นี่ถ้ามึงยังไม่รู้ตัว  กูว่าจะอัญเชิญหลวงพ่อมารดน้ำมนต์เบิกสมองมึงแล้วนะเนี่ย
“เออ”  ผมตอบตกลง  แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะถูกใจเหตุผลคนบ้านเดียวกันของมัน  แต่เป็นเพราะว่าหลังจากเหตุการณ์หัวทะลุพุ่มเมื่อกี้นี้  ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าจะยังมีใครกล้าคบผมเป็นเพื่อนอีกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 22-10-2009 00:27:22
วีรกรรมเวย์ช่างเยอะจิงๆเลย

 :-[พี่นุ่นมาต่อเเล้ว เวย์กะไนท์ +1ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 22-10-2009 00:28:25
 :jul3: :jul3: :jul3:
น้องเวย์จ๊ะ วันแรกก็ขึ้นไปขี่พุ่งไม้แล้วหรือจ๊ะ
+1จัดปายยยยยย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 22-10-2009 00:42:13
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก.  เวย์น่ารัก  :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 22-10-2009 01:34:48
welcome back ha..

^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 22-10-2009 06:00:06
น้องเวย์เราซุ่มซ่ามอีกแล้ว

เย้ๆๆมาต่อภาคสองแล้วจะติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 22-10-2009 14:32:06
ภาคสองคือภาคเริ่มต้น....



ดีค่ะๆๆๆ เข้าใจคิดดี



รออ่านนะคะ



เออ...ว่าแต่ เราว่าน่าจะให้ย้ายไปอยู่ห้องนิยายปกตินะคะ มาห้องนี้มันไม่ค่อยคึกอะ  :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-10-2009 14:34:54
คู่กันแล้วไม่แคล้วกันจริงๆ ว่าแต่นี่เป็นตอนเริ่มต้นใช่ปะ แล้วภาคสองจริงๆ หลังความจำเสื่อมนี่ จะมีอีกบ้างปะ แบบว่า อยากอ่านตอนหวานๆ บ้างอะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: knightto ที่ 22-10-2009 19:48:01
เย้ๆๆ



เวย์กลับมาแล้ววววววววววววววววววว

ดีใจมากมาย


อิอิ


 :impress2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 22-10-2009 19:50:07
เรื่องสมัยอดีต
พูดแล้วเดาไม่ออกเลยเนอะว่ามหาลัยอะไร
ห้าๆๆๆๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 22-10-2009 20:05:09


^
^
^

ช่วยแกล้งทำเป็นไม่รู้ได้ป่ะคะ?

ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-10-2009 21:24:54

ดีใจด้วยที่ได้ย้ายกลับมาแล้ว

เจ้ขอตัวไปกินยาก่อนนะคะ

เมื่อกี้ท่าจะลืมเขย่าขวด

เอิ้กๆ

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 23-10-2009 08:13:38
 :m20:  วันแรกก็พุ่งเข้าพุ่มไม่ซะแระ..

นายเอกของเรา.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 23-10-2009 10:21:14
 :pig4:


หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 23-10-2009 16:11:10
 :z2: ตอนนี้ติดตามถึงหน้า 22 จะรีบใส่เกียร์หมู~~~!!~ ให้ถึงตอนปัจจุบันเร็วๆนะคะ

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 23-10-2009 18:37:33
จะฮาไปไหนคราบบบบบบ

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 23-10-2009 18:45:39
^
^

ขอโทษค่ะเจ๊

นุ่นต่างหากที่ลืมเขย่าขวด T^T


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 23-10-2009 18:50:24
^
^

คนแต่งมึน คนอ่านเลยมึนตาม  :m28:


มาลงชื่อรออ่านจ้า...
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 23-10-2009 21:51:33
มารอด้วยคนคร้า 
ชอบเรื่องนี้มากมาย :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: love_y ที่ 23-10-2009 23:26:04
เพิ่งอ่านภาคแรกจบไปไม่กี่วันนี่เอง
อ่านไปแบบรวดเดียวเลย
ชอบมากถึงมากๆๆๆๆๆๆ
หลงรักเวย์ก่ะไนท์ไปแล้วอ่ะตอนนี้ :กอด1:
ดีใจมากๆเลยนะคะที่มาต่อภาคสองแล้ว
จะจิดตามอ่านและเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 23-10-2009 23:49:45
มาแล้ว  รออ่านอยู่ตั้งนาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 24-10-2009 00:58:26


^
^
^

ช่วยแกล้งทำเป็นไม่รู้ได้ป่ะคะ?

ฮ่าๆๆ

ได้ขอรับท่าน
แต่ว่าต้องมาต่อเร็วๆ นะครับ
อยากอ่านแล้ว
จริงๆ ชอบเรื่องนี้มากๆ เลยครับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 24-10-2009 08:32:32


ดังตั้งแต่วันแรกเลย....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: wickedwoman ที่ 24-10-2009 22:27:09
เข้ามาอ่านเรื่องนี้แล้วชอบมาเลยค่า :impress2:
ยิ่งภาค2นี่สนุก ขำกันจนพ่อแม่หันมามองเลยทีเดียว :jul3:
เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปนะค้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก 21/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 25-10-2009 14:38:31

“อ้าว  น้องสองคนทำไมเพิ่งมาครับ” ...ก็เพราะผมมาช้าไงพี่  ถ้าผมมาเร็วนะผมก็คงไปนั่งรวมกับเพื่อนคนอื่นตรงโน้นแล้ว  ไม่มายืนเซ่อให้พี่ถามอย่างนี้หรอก...  ใจจริงก็อยากจะตอบอย่างนี้ครับแต่กลัวมันจะเป็นการปีนเกลียวตั้งแต่วันแรก  ซึ่งดูหน้าไอ้เกลียวตัวที่ว่า..ผมว่ามันไม่น่าปีนเท่าไรนะ  กลัวว่ายังไม่ทันถึงครึ่งเกลียว  ตีนมันก็เอี้ยวมายันผมออกก่อนชัวร์
ผมไล่ตามองเห็นเด็กปีหนึ่งนั่งหน้าสลอนบนอยู่พื้น  มีพี่ๆ ยืนล้อมอยู่  ส่วนใหญ่เป็นพี่ผู้ชายครับ  พี่ผู้หญิงมีบ้างแต่ที่น่ารัก..น้อย (เอ่อ..ใครบังเอิญเป็นผู้หญิงคณะดังกล่าวแล้วอ่านมาถึงตรงนี้  คิดซะว่าพวกคุณเป็นส่วนน้อยที่น่ารักในสายตาผมก็แล้วกันนะครับ )  ผมหยุดสายตาอยู่แถวๆ ม้านั่งนานเป็นพิเศษ  เพราะมีพี่ๆ ผู้หญิงน่ารักอยู่สามสี่คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ตรงนั้น  สภาพมันคล้ายๆ นางฟ้าในฝูงควายยังไงยังนั้น  แล้วไอ้พี่คนเดิมมันก็เดินตีหน้าโหดเข้ามาหาผม  หืม..ลำพังมันทำหน้าเฉยๆ ผมยังเผลอมองปากกาแลนเซอร์ (ได้ค่าโฆษณามั่งมั้ยเนี่ยกู) ที่มันควงอยู่เป็น .357  เตรียมไปเอาเลือดหัวใครออกแล้วนะครับเนี่ย  แน่นอน..ว่ามันต้องไม่ใช่หัวผม แต่ถ้าเป็นหัวไอ้เพื่อนใหม่ที่มันกำลังพล่ามวาจาน่าเอาตีนกระทืบกะโหลกอยู่นี่ก็ไม่แน่
“อ๋อ  พอดีเพื่อนผมมันมุดเข้าไปช่วยหมาติดพุ่มไม้น่ะครับ”  ...รู้ตั้งแต่เมื่อไรวะมึงว่ามันเป็นพุ่มไม้  ให้กูแก้แทนในใจตั้งนาน...  มันว่าแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม  ขยิบตาสองที  กระดิกหูอีกที  ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนมีคนโยนขี้มาให้  แล้วบังคับให้เอามือรับน่ะครับ  
จะไม่รับก็กลัวมันตก  จะรับก็กลัวมือเหม็น  แม่ง  ...แล้วก็ช่างเปรียบได้น่าดูเหลือเกินนะกู
“หมาตกพุ่มไม้?” เกลียวหน้าโหดเลิกคิ้วขึ้นเหมือนไม่อยากเชื่อ  ก็สมควรล่ะ  ใครเชื่อมันนี่ก็โคตรควาย  หมาที่ไหนมันจะโง่ตกพุ่มไม้  เอ่อ..ยกเว้นผมไว้คน
“ครับ  แล้วไอ้นี่มันก็เป็นคนดีไงครับ  วิ่งเข้าไปช่วยมัน” นั่น..มึงยังหน้าด้านแถต่อ  มึงจะแถจะไถจนหน้าเรียบ  จมูกปากหายไปรวมที่คอหมดกูก็ไม่ว่า  แต่มึงช่วยอย่าลากกูไปเอี่ยวด้วยได้มั้ย  หน้ากูเป็นแบบนี้กูพอใจแล้ว  ไม่ต้องมาอยากช่วยให้กูหล่อขึ้น  เรื่องแถกูไม่ถนัด
“อ๋อเหรอ  กูเป็นคนดีขนาดนั้น  เพิ่งรู้นะเนี่ย”  ผมกระซิบเบาๆ ให้มันได้ยินแค่คนเดียว  ตอนนี้ดูเหมือนขี้มันกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วครับ  ทางเลือกของผมน้อยลงทุกที  หัวใจเต้นตึกตัก  รับไม่รับ  รับไม่รับ  แม่งเอ๊ย..มึงนะมึง  ไม่น่าโยนให้กูตั้งแต่แรก
“งั้นสิ  เนี่ย  ใบไม้ยังติดหัวมึงอยู่เลย”  มันเอื้อมมาดึงใบไม้ออกจากหัวผม  ผมล่ะอยากจะขอบคุณมันเหลือเกิ๊น... ไอ้สัดเอ๊ย ทำไมมึงไม่รีบเอาออกก่อนหน้านี้  ไม่ใช่ว่ามึงคิดแผนนี้ไว้ตั้งแต่ตอนนั้นหรอกนะ มันจะฉลาดเกินหน้ามึงไปแล้วโว้ย  ไอ้เวรนุ
มันลอยหย้าลอยตาคลำหัวผม  หยิบบ้าหยิบบออะไรออกให้เต็มไปหมด  เห็นได้ชัดว่ามันจงใจถ่วงเวลา   กวนตีน  และกำลังหาเรื่องให้ผมลำบาก
ผมนี่มันช่างโชคดีนัก!!!!   ได้มีเพื่อนคนแรกเป็นคนอย่างมัน  ฮ่วย
“หมาสีอะไร”  ...มันสำคัญตรงไหนวะพี่?...  ไอ้พี่โหดมันเหลือบมองพวกผมด้วยหางตา  พอจะรู้แล้วครับว่ามันสำคัญยังไง  ที่แท้ก็กำลังจับผิดพวกผมอยู่นี่เอง  แต่แค่รู้มันยังไม่พอครับ  มันต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ด้วย  ว่าแต่..แล้วกูจะรอดไปได้ไงวะ สีหมามันก็คงมีอยู่ไม่กี่สีหรอก ..ถ้าไอ้คนคณะนี้มันจะไม่อุตริพามันไปย้อมให้ดูเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาน่ะนะ
ผมก้มหน้าลง  แต่ตาแอบเหลือบมองไปรอบๆ
บิงโก!!  ไอ้ผู้ช่วยมันโผล่หัวโผล่หางออกมาพอดีเลยครับ
ไอ้เวย์เอ๊ย  ชาติที่แล้วมึงต้องทำบุญกับไอ้พวกสี่เท้าไว้เยอะแน่ๆ

“อ๋อ  สีขาวครับ แต่ตรงตูด  เอ้ย ก้นสีดำ” ผมเงยหน้าตอบอย่างผู้มีชัย  ใจอยากจะหัวเราะเสียงดังใส่หน้าแกให้รู้แล้วรู้หรอก  แต่อย่างที่บอกครับ  เกลียวตัวนี้มันน่ากลัวเกินกว่าจะปีน
“หืมม  อ๋อไอ้ตัวนั้นเอง” พี่แกพึมพำด้วยสีหน้าดีขึ้น  เหมือนจะยอมเชื่อคำพูดพวกผมเรียบร้อย  “ดีๆ หัดมีน้ำใจช่วยเพื่อนร่วมโลก  พี่ชอบ” ..นั่นไงมันเชื่อจริงๆ ด้วยครับ  ก็จะไม่ให้เชื่อได้ไงล่ะ  ก็ไอ้หมาตัวที่ว่ามันเดินบิดขี้เกียจผ่านหลังแกไปเมื่อกี้  แถมยังเอาเท้าก่ายหน้าผากแบบปลงสังเวชแกอีก  ก๊ากกก  ขนาดหมายังฉลาดขนาดนี้  ผมเรียนที่นี่สี่ปี  คิดดูผมจะฉลาดขนาดไหน
“เนียนนะมึง” ไอ้คนข้างๆ มันขมุบขมิบปากกระซิบผม
“กูยอมเนียนเพื่อมึงแหละ  ไอ้เพื่อนใหม่”
“ฮ่าๆ  ใจว่ะ  เดี๋ยวกูเลี้ยงน้ำ”
“ไอ้งก  ข้าวจานหนึ่งบวกน้ำด้วย” กูทำให้ถึงขนาดนี้  ยอมลดตัวเป็นคนดีเพื่อมึงขนาดนี้  ยังจะเลี้ยงแค่น้ำแก้วเดียว  มึงคิดดิ  คนงกกว่าอย่างกูจะยอมมึงมั้ย  ไอ้นุทำท่าจะแย้งข้อเสนอที่ออกจะสมเหตุสมผลของผม  เสียงพี่โหดก็ดังขัดขึ้นซะก่อนครับ
“เราอ่ะมานี่ดิ”
พวกผมก็เงียบครับ  สองเท้าข้างนี่พร้อมใจกันนิ่งสนิท  เราไหนไม่รู้ล่ะ  แต่คิดซะว่าไม่ใช่ “ตัวเรา” ก็แล้วกัน
“มึงอ่ะ  ออกไป” ไอ้นุมันเอาตีนสะกิดตีนผม  เห็นได้ชัดว่ามันยึดคติเดียวกันกับผมในการใช้ชีวิต  ...เรื่องซวยๆ โยนให้คนอื่นได้  จงอย่าลังเลที่จะทำ...
“เขาเรียกมึงต่างหาก  ออกไปดิ”  ผมเอาตีนสะกิดมันกลับ  คนเริ่มเรื่องมันคือมึงนะโว้ย
“น้องนั่นแหละ  ที่มุดไปช่วยหมาอ่ะ  มาหาพี่เร็วๆ” สิ้นเสียง  เท้าคนข้างๆ มันก็หยุด  แต่ใบหน้ากวนๆ ของมันกลับหันมาแลผมแทนด้วยรอยยิ้มสะใจยิ่งกว่าเห็นไก่กินหมา  มือตบไหล่ๆ ผมป้าบใหญ่  บีบแน่นอย่างให้กำลังใจ  ทั้งที่ปากของมันกำลังสั่นเพราะสะกดกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่
..ขอบใจมากนะมึง  ไอ้เพื่อนใหม่  กูไม่เกิดเพราะใคร  แต่เกิดเพราะมึงจริงๆ...

“ปรบมือต้อนรับคนดีของคณะกันหน่อยครับ”  พอผมไปยืนอยู่ข้างพี่โหด  ก็มีไอ้พี่คณะอีกคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาพร้อมเสียงปรบมือนำชาวบ้านเขา  จงใจแกล้งกันชัดๆ ทำไมพี่ไม่ออกไปเอาดีทางด้านนี้เลยล่ะ  รับจ้างเป็นหน้าม้าตามงานวัดท่าจะรุ่งกว่ามั้ย
เสียงปรบมือ  เสียงหัวเราะ  ผิวปากดังมาไม่ขาดสาย  รู้ทั้งรู้ว่าโดนแกล้งแต่ด้วยสปิริตของอะไรสักอย่างมันสั่งให้ผมฝืนยิ้มไว้ครับ  คิดซะกว่าอย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีเสียงโห่ล่ะวะ  แต่ดูเหมือนยิ่งผมยิ้ม  เสียงบัดซบนี่มันก็ยิ่งดังขึ้น
เออ  ตลกกันซะให้พอนะพวกมึง  ถึงทีกูบ้างจะตลกไม่ออกกันทั้งคณะ
แถวนี้มันมีถังน้ำมันกับไม้ขีดไฟหรือเปล่าวะ?

“เอ้า  น้องแนะนำตัวหน่อยครับ” หลังเสียงหัวเราะเริ่มซาลง  ไอ้คนข้างๆ มันก็สั่งทันที
“สวัสดีครับ  ผมนาย....  ชื่อเล่นเวย์ครับ” พยายามจะทำหน้าให้นิ่งที่สุด  แต่ก็ยังมีคนเสือกหลุดขำ  หรือว่าผมจะย้ายสายอาชีพดีครับ?  หันมาเอาดีทางด้านเอ็นเทอร์เทนจะรุ่งกว่าไหม
“บ่นพึมพำอะไรของน้อง  คนดีเสียงไม่ดังมันไม่เกิดนะน้อง”  ไอ้พี่โหดเริ่มอยากได้ชื่อเพิ่มเป็นไอ้กวน  มันเริ่มหาเรื่องใส่ตัวอีกครั้ง   พี่ครับ  รู้จักผมน้อยเกินไปแล้ว   ก็ได้..ถ้าอยากให้ผมเกิดนัก  ผมจะเกิดให้ดูเป็นบุญตา
...เปิดหู  เปิดตาให้ดีแล้วกัน...

“ผมชื่อนายคนดีศรีเมือง  นามสกุลรักคุณธรรมยิ่งชีพ   ...ทีนี้ผมเกิดรึยังพี่”  ผมพูดด้วยเสียงอันดังเหมือนตอนเรียนรด. แล้วยิ้มให้พี่แกที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเอ๋อจนแทบจะลบฉายาไอ้โหดไปหมด
.
.
.
“ก๊ากกกกกก”
..เห็นได้ชัดว่ากูเกิดของจริง...
ผ่านวันนี้ไป  ชื่อนี้ของผมคงถูกจำจนตาย
ว่าแล้วคนดีก็เริ่มรู้สึกสำนึกเสียใจ  ... นี่กูทำอะไรลงปายยยยยยยยยยยย
“ฮ่าๆ  อ่ะแฮ่ม  เออ  มึงเกิดแล้วไอ้น้องเวย์  ไปนั่งที่ได้แล้วไป” ไอ้โหดมันกลั้นยิ้มเก๊กหน้าขรึมอีกรอบ  เอามือมาตไหล่ผมป้าบใหญ่ไม่แพ้ไอ้นุทำเอาไหล่ผมมันร้องโอ๊ย  อยากจะตะโกนด่าตอบ  ติดอย่างเดียว...มันไม่มีปาก
ผมก็ยังคงเก๊กหน้าด้านๆ ของตัวเอง  ฉีกยิ้มที่ออกจะแหยๆ ไปบ้างเดินอ้อมไปนั่งด้านหลัง  แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว  เสียงเดิมก็รั้งผมไว้
“เดี๋ยว!!” อะไรของมึงอีกครับ... “นั่งรวมกับคนไม่ดีอย่างพวกนั้นได้มั้ยวะ” ... ฟังคำถามมันผมถึงกับพูดไม่ออก  ไอ้พี่คนนี้แม่งกวนตีนสาด  มีการยักคิ้วให้ผม  ดีเนาะมึง  พูดให้คนอื่นเขาโห่เล่น  เพราะตอนนี้กลุ่มบุคคลที่ถูกหาว่าเป็นคนไม่ดีกำลังโห่ว่าพี่เขาเสียงดัง  อืม..ช่างมีซิเนียริตี้ (การเคารพผู้อาวุโส) ดีจริงๆ คณะนี้
“โหยยยยยย”
นึกแล้วผมก็ขำ  ตลกดีครับ  ที่แท้ก็โหดไม่จริงนี่หว่า
“ได้ครับพี่  ผมมันคนใจกว้างอยู่แล้ว ^^”
“ฮิ้ววววววว  ฮ่าๆๆ”  คราวนี่เสียงโห่เป็นของผมล้วนๆ  ยืดว่ะ  ไอ้เวย์ยืด  ฮ่าๆๆ  ผมเดินไปนั่งหลังสุด  ตลอดทางมีคนกระซิบทักอยู่เรื่อย  เรียกว่าเวย์บ้าง  คนดีศรีเมืองบ้าง  แน่นอนให้คำหลังมันเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“ว่าไงไอ้คุณคนดี  เกิดเพราะกูเลยนะมึง”  สุดท้ายผมก็มานั่งข้างไอ้นุเป็นคู่ดูโอ่  เพราะนั่งข้างหลังสุดกันอยู่สองคนครับ  ดูเหมือนพวกไม่มีคนคบซะอย่างนั้น
“ขอบใจว่ะ  ไว้คราวหน้ามึงได้เกิดแทนกูแน่”
“อย่าเลย  หน้าหล่อแค่นี้กูก็ดังจะแย่อยู่แล้ว”  มันว่าแล้วกระพริบตาปริบๆ  ทำปากจู๋อย่างที่หาความหล่อไม่เจอ
“เชี่ย หล่อตายเลยมึง”
จะว่าไปมันก็แปลกนะครับ  คนเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงดันมานั่งคุยกันเหมือนสนิทมานาน  แถมยังขึ้นมึงขึ้นกูกันเรียบร้อยโรงเรียนหล่อ  เออ..คงจะจริงของมันที่ว่าพกวผมมันคนบ้านเดียวกัน
เสียงรุ่นพี่พูดอะไรสักอย่างอยู่ข้างหน้าแต่ผมไม่ค่อยได้ยิน  เพราะมีไอ้กำแพงตัวหนามันนั่งอยู่หน้าผม  ใครวะตัวใหญ่  ไหล่กว้างชิบ  บังกูหมด  เออ  แต่ก็ดี  หน้าด้านๆ ของผมตอนนี้มันยังไม่พร้อมรับแขก

 “ไหนว่าอยู่อักษรวะ” เสียงที่เหมือนจะคุ้นก็คุ้น  จะว่าไม่คุ้นก็อาจใช่ดังขึ้นจากข้างหน้า  แต่ผมไม่อยากจะสนใจ   เพราะกำลังเร่งกระตุ้นความด้านบนใบหน้าให้ตั้งใจทำงานอยู่
“พูดกับมึงนั่นแหละไอ้คนดี  โกหกเก่งแบบนี้  ท่าจะไม่ใช่คนดีแล้วล่ะมั้ง”  ผมเงยหน้ามองในจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้คนข้างหน้ามันหันมา
O.O!!!!!
Oh! My god!!!
.
.
.
.
Ship Lost Yet!!! ( ชิบ หาย แล้ว)

...นี่กูหนีมึงไม่พ้นใช่มั้นเนี่ย!?...
ไอ้ต้นแบบลูกชายในอนาคต!!!

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 25-10-2009 14:41:58

ขอบคุณทุกแต้ม  ทุกรีพลายนะคะ

ต้องขอโทษด้วยที่มาต่อช้าตลอด  ฮ่าๆ

พอดีว่าตอนนี้เริ่มลองแต่งแฟนตาซี  แล้วรู้สึกว่ามันเกินความสามารถชิบ T^T
สูบพลังงานไปหมดเลย  แต่ก้ยังหน้าด้านแต่งต่อไป  ฮ่าๆ

ดังนั้นอาจจะมาต่อช้าไปบ้าง  ต้องขอโทษด้วยนะคะ
กราบงามๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 25-10-2009 15:00:25
น่าติดตามมากๆจ้า รอมานานแล้วอ่ะ  :mc4:

เหอๆๆ เจอกันแล้ว อยากรู้จริงเป็นยังไงต่อไป เกือบครบองค์ประชุม อยากทราบว่าพี่ว๊ากเนี่ย ครือใคร เผลอๆเป็นพี่สายรหัสของเวย์รึป่าว อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: Soulmate ที่ 25-10-2009 15:08:31
อยากแซวอะ เมายาที่ลืมเขย่าขวดหรอ?
ตุลาเดือน 10 นะ :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: SJ ที่ 25-10-2009 15:11:31
น้องเวย์ ฮา มากกกกกอ่ะ  :m20:
น่ารัก น่ารัก มาต่ออีกเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 25-10-2009 15:15:59
+1 ให้น้องนุ่นนะคะ เวย์น่ารักดี แต่ซวยจริง ๆ เนอะมาเจอโจทก์เก่า
เรื่องนี้ชอบมาแต่ภาคแรกแล้ว แต่มาภาคนี้ไม่แตกต่างเลย น่ารักอีกแล้ว
ฉะนั้น จงติดนิยายของน้องนุ่นต่อไป ........... :pig4:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 25-10-2009 15:22:13
เวย์น่ารักอ่ะ

ชอบ ๆ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-10-2009 15:51:29
ต้นแบบลูกชายในอนาคตเลยเหรอ กะให้ออกมาเหมือนพ่อมันเลยใช่ม้ายยยย  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/09/09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 25-10-2009 16:29:29


Søulmate✖

T^T

ตุลาเดือน 10 จริงๆ ด้วยอ่า

แง๊

ปฏฺทินมันเขียน ๑๐  จริงด้วยอ่ะ  แง๊

ขอบคุณค่ะ  ยาลืมเขย่านั้น  ฝาก็ยังมิได้เปิด
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 25-10-2009 16:40:57
เย้...มาต่อแล้ว..

มาเรื่อยๆ เลยนะ...

เต๋วขาดตอน   :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 25-10-2009 17:17:38
 :m20: :m20: :m20:
น้องเวย์ฮาได้ใจมากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 25-10-2009 17:26:18
Ship Lost Yet!!!

ขอยืมไปใช้บ้างนะ
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai ที่ 25-10-2009 21:08:07
เวย์เนียนได้ใจมาก o13

ยอดเยี่ยมมากสุดๆ o13

พี่มาต่ออีกน่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 25-10-2009 22:18:52
ไม่เป็นไรคะ มาช้าดีกว่าไม่มา อิอิ

แต่งเรื่องใหม่ด้วยหรอ งั้นรอติดตามนะคะ

มาลงไวๆๆนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: love_y ที่ 25-10-2009 23:32:21
เย่เวย์มาแล้วววววว
น่ารักว่ะขนาดทำเรื่องน่าแตกยังน่ารักเลย
เด่นตั้งแต่วันแรกเลยนะเออ
คราวนี้อย่าหายไปหลายวันอีกนะคะ
มาต่อไวๆนะรออ่านใจจดใจจ่อเลยอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 25-10-2009 23:43:32
กลับมาต่อด่วน!! :z3:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 26-10-2009 00:01:10
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ครับ
รอตอนต่อไปอยู่นะค้าบ
ปอลอ แต่งเรื่องนั้นก้อย่าลืมว่ามีคนรออ่านเรื่องนี้นะครับ
 :3123: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 26-10-2009 14:27:51
 :mc4:  ในทึ่สุดภาค 2 ก็มาแล้ว  o22

 :n1: ที่ :z6:ไปเรามาดีกันน้า  :กอด1:


แล้วก็ อัพต่อเร็ว ๆ เข้า  :z13:

หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 28-10-2009 09:19:56
ฮาาาาาา.....
ต้นแบบลูกชายในอนาคต....

ฮาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 28-10-2009 10:53:21
น้องเวย์กวนได้ใจมากๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 28-10-2009 15:03:08
555+   :m20:  ต้นแบบลูกชายในอนาคต แต่ดูเหมือนงานนี้คนอุ้มท้องจะเป็นตัวเจ้าเวย์ซะละนะนี่  อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Salim021 ที่ 28-10-2009 18:51:45
ยังคงความฮา + รั่วได้อย่างครบถ้วนสำหรับน้องเวย์


ชอบเรื่องนี้มากๆเลยนะ มาต่อบ่อยๆล่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 29-10-2009 13:12:28
ภาคสองมาแว้วววววว เข้ามาเม้นท์ให้ก่อนเลย

แล้วก็รีบไปอ่านซะที
เพราะรอมานาน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 29-10-2009 23:04:30
 :jul3: ชอบค้าบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 30-10-2009 12:50:47
ฮ่าาๆ ๆ  ๆ โอ้ยย ฮ่าา มากก๊าก ๆ ๆ +1 ค๊าาา ^^  :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 31-10-2009 21:11:23
ภาคสอง มาแย้ว :mc4:


ต้องรีบมาลงชื่อว่า ซุ่มอ่านตั้งแต่ภาคแรกแต่เพิ่งจะมาโพส เพราะเพิ่งตัดสินใจสมัครเป็นประชากรเล้าค่ะ


น้องเวย์  เค้าคิดถึงนะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Tinton ที่ 31-10-2009 21:57:50
 :haun4:

อ่านมานานแล้วครับ

สนุกมาก ๆ เลย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: littlepretty ที่ 01-11-2009 08:52:01
 :mc4: ภาคสองมาแล้ว

รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: [[_GozpeL_]] ที่ 01-11-2009 15:20:36
อ่านทันแล้ววว วันเดียวจบ


รอตอนต่อไปค่า....
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: dek_jun_rai ที่ 01-11-2009 15:48:01
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 02-11-2009 09:42:11
ตามมาจาก dek-d  :m7:
มาอ่านที่นี่นุกก่าวมากกกกกเพาะที่นี่มี NC  :m25:
มาต่อิกนะ (II)เลี้มต้นนุกมาก o13
เเละมาต่อ นุกับเเชนอิกนะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: memo_ppk ที่ 03-11-2009 13:43:25
ดีใจจางมาแล้วภาคII
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 03-11-2009 19:28:00
^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 04-11-2009 16:13:09
รอต่อไปๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 24-11-2009 20:19:37
จะให้ลออีกกี่เดือนอะ :m16:
สะเบื่ยงใก้หมดทับใก้จะเเตกเเล้วนะ(เกื่ยวป่าวเน้ย :seng2ped:)
มาต่อไวๆๆๆๆๆๆนะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจะรอ
 :sad11:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 24-11-2009 22:12:50
1 เดือนเต็มแล้วนะค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 28-11-2009 00:00:01
จะได้อ่านป่าวเน้ย :serius2:
 :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 28-11-2009 12:19:08
^
^
^
^
^
^
^
^
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ขอร่วมด้วยช่วยกันนนนนนนนนน ^_^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-11-2009 10:29:41
^
^
 :z6:  :z6:  :z6:

ร่วมด้วยช่วยท่่านแบทอีกหนึ่งแรง

แต่ถ้าไรท์เตอร์หายไปนานกว่าเดิมก็ไม่ต้องสงสัย

รักษาโรคช้ำใน(เพราะโดนถีบ)อยุ่้เป็นแน่แท้
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 29-11-2009 10:44:09
อย่ารุนแรงนักนะคะ

เดี๋ยวพี่นุ่นไม่มีแรงมาแต่งต่อ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 29-11-2009 19:25:23
^
^
^
จิ้มที่เดียวทั้งสองคนข้างบน

อ้างถึง
อย่ารุนแรงนักนะคะ

เดี๋ยวพี่นุ่นไม่มีแรงมาแต่งต่อ

ไม่ต้องห่วงน้องยุ้ย นุ่นมันทรหด อดทน บึกบึน  และที่สำคัญ มันเป็นพวก SM

ว่าแล้วก็  :beat: :z6: :beat: :z6: :beat: :z6: :beat: :z6: :beat:

โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 29-11-2009 20:04:26
ถึงงั้นก็เถอะค่ะ เพลาๆหน่อย

เดี๋ยวหนูทำตามนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 29-11-2009 20:09:00
^
^
เอ๋ มันยังไงหว่า 
อ้างถึง
เดี๋ยวหนูทำตามนะ 


สรุป คือก็จะลงไม้ลงมือ หมือนกันต่เอาพวกพี่เป็นข้ออ้างใช่ม่ะ -*- o18



หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 29-11-2009 21:46:44
 :z2: :z2:รอรอพี่นุ่น

ดิวไม่ทำร้ายพี่นุ่นหรอกน่ะ :o8:

เเต่ :beat:สักที่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 01-12-2009 00:56:53
^
^
เอ๋ มันยังไงหว่า 
อ้างถึง
เดี๋ยวหนูทำตามนะ 


สรุป คือก็จะลงไม้ลงมือ หมือนกันต่เอาพวกพี่เป็นข้ออ้างใช่ม่ะ -*- o18





 ๕๕๕คงงั้นแหละค่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 01-12-2009 01:30:26
คนแต่งหายไปหนายยยยยยยยยยยยยยย

ใครพบเจอที่ไหน กรุณาจับส่งเล้าด่วนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 02-12-2009 23:27:29
รออ่านอยู่นะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 03-12-2009 10:17:03
จากเหตุการที่เกิดขึ้นในหน้าที่แล้ว (P.49)  คาดว่าตอนนี้ไรเตอร์ไม่สามารถมาลงเรื่องต่อได้เนื่องจาก
ไปรักษาอาการช้ำในอยู่  :laugh:  ขอให้ทุกท่าน อดใจรออีกกันซักนิด 
เดี๋ยวตอนนี้ไปเยี่ยมไรเตอร์ก่อนน่ะ จะชอบดอกไม้ไหมหว่า :L2:  แถวนี้ไม่มีของกินซะด้วยดิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 04-12-2009 18:42:35
ยังไงก็จะรอนะคับ


 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 1 ถ้ากูเจอมึงอีก(ต่อ) 25/10 T^T /09]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 07-12-2009 15:05:18

บทที่ 2 วรเวร  ซวยซ้ำซ้อน

“หึ” ไอ้ต้นแบบลูกชายผมมันหัวเราะหึในลำคออย่างน่าเตะที่สุด  หน้าใสปิ๊งยิ่งกว่านางแบบโฆษณาผ้าอนามัยของมันกำลังแผ่รังสีอันตรายให้ใจผมร้อนๆ หนาวๆ   คิ้วเข้มๆ ชักกระตุกคล้ายคนเป็นลมบ้าหมูเสียจนผมไม่กล้าเอ่ยปากด่าสวนอย่างที่ใจคิด  แน่ล่ะสิครับ  ใครจะไปรู้ไม่แน่ว่าไอ้โรคชักกระตุกนี่มันอาจติดต่อกันผ่านสายตาก็เป็นได้
“ว่าไง  ไหนว่าอยู่อักษร” ...แล้วมึงเห็นกูอยู่ที่ไหนล่ะ  กูดังแล้ว  มึงเข้าใจไหม  กูดังแล้ว  กูดัง กูเกิดที่นี่  ก็ต้องอยู่นี่ดิวะ  จะไปอยู่อักษรให้อาร์ทเมน (Arts Men) ข่มเพื่อ?  ถามอยู่นั่น  ย้ำคิดย้ำทำจริง  มึงเป็นออรึไง ไม่ใช่ออทิสติกนะครับ  แต่เป็นออโต้โง่บรม  โง่ง่ายๆ เพียงกดสวิตช์ เหอะๆ
 “เอ่อ..ความจำดีนะนาย  ฮ่าๆ” แต่แน่นอนครับ  สำหรับที่คนเป็นออเช่นกันอย่างผม  (ออโต้เนียนบรม)  มันก็ต้องมีกรณีลื่นไหลเกิดขึ้นเพราะสัญชาตญาณที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่กำเนิดก็คือสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดครับ
ผมเกาหัว  ส่งยิ้มที่พยายามจะจริงใจและดูบริสุทธิ์ผุดผ่องที่สุดในชีวิตให้มัน  เอียงหน้าเป็นมุมสี่สิบห้าองศาเพราะเหงื่อเย็นๆ มันกำลังจะไหลเข้าตา  มือทั้งสองประกบกันในท่าอ้อนวอนพระเจ้า  (หรืออาจจะเป็นอ้อนตีนในแง่ที่คนมองตาไม่ถึงพอ) โดยอัติโนมัติ  ไอ้พระเจ้าเหากระโดดคนที่ว่ามันยังเหล่มองผมไม่เลิก  ตาเริ่มวาว  ริมฝีปากกระตุกเหมือนพยายามสะกดกลั้นอะไรสักอย่าง  นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวมันโต  ผมเอาตัวเข้าแลกกับมันแล้วนะครับเนี่ย
 “คือ..แบบว่า  เมื่อกี้มันสมองเบลอกระทันหัน  เครื่องช็อตแบบลืมหยอดน้ำมันอ่ะ  เลยหลง จำคณะผิด  ฮ่าๆ  ไม่ได้ตั้งใจจะหนีหนี้เลยนะเนี่ย”  ว่าแล้วก็หัวเราะแห้งๆ ส่งไปสำทับอีกที  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลครับ  ชิ  อย่างว่าแหละครับคนมันใจแคบ  ขอโทษ (แก้ตัว) ยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจ
“อ้าว  รู้จักกันแล้วเหรอวะ  ไอ้ไนท์” อยู่ๆ ไอ้คนแจ้งเกิดให้ผมมันก็ถามทะลุกลางปล้องแบบไม่รอให้ผมลดมือท่าอ้อนตีนลง  ไอ้ตาวาวมันหันมาสบตาไอ้นุ  ก่อนจะไล่มองผมตั้งแต่ตีนจรดตัว  สุดท้ายมาหยุดที่มือที่ประสานกันแน่นอยู่กลางอกของผม
“ยัง  แต่คิดว่ากำลังจะรู้จัก”  มันตอบ  แล้วฉีกยิ้มที่เล่นเอาผมเสียวสันหลังวาบ  งานไม่เข้างานนี้  จะไปเข้าไหนวะกู
“ฮ่าๆ  สนใจแล้วล่ะสิมึง” ไอ้นุมันเอามือกุมท้องหัวเราะแบบชักดิ้นชักงอได้โอเวอร์น่าถีบที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา  นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตายนะ  ผมจะช่วยสงเคราะห์กระโดดถีบมันรู้แล้วรู้รอดไป
“เฮ้ย! ไอ้พวกข้างหลัง  มีไรตลกนักหนาวะ  มาเล่าให้พี่ๆ ฟังบ้างดิ”
= =;;
...ก็บอกแล้ว  ตามฉบับนิยายทั่วไป  งานเข้าไม่ได้หยุดจริงๆ...
แต่คราวนี้  มีคนอยากดังได้แจ้งเกิดกันอีกหลายคนแน่นอนครับ
“ว่าไงมึง  กูบอกแล้วว่ามึงจะได้เกิดเป็นเพื่อนกูแน่”  ผมหันไปเอาเข่ากระแทกขาไอ้คนที่ยังนั่งค้างท่าเดิม  ท่าไหนน่ะเหรอครับ  ก็ท่าของคนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะตายไง  ไอ้นุเด้งกลับมานั่งหลังตรงโดยอัติโนมัติ  เสียงหัวเราะก็ค่อยๆ ลดระดับลงก่อนจะกลืนหายไปในท้อง  ให้ผมเดา  มันคงคิดว่าค่อยลงเฟดเสียงลงแบบหรี่เพลงคงจะทำให้มันดูเนียนมากขึ้น = =;;  เหอะ  ปัญญาอ่อนชิบ
“อ้าว  ว่าไง  คุยเรื่องไรกัน  ออกมาข้างหน้านี่  เร็วๆ อย่าให้พี่ต้องนับถึงหนึ่ง”  พี่ครับ  ถ้าขี้เกียจนับ  หรือถ้ามีปัญหากับตัวเลขขนาดนั้นก็อย่าลำบากเลยครับ  ผมล่ะกลัวพี่จะขาดใจตายจะก่อนเลขสองมันจะโผล่ออกมา
“เวย์  ไหนๆ มึงก็ดังแล้ว  มึงออกไปรับหน้าแทนหน่อยดิ  กูมันคนธรรมดาไม่ชินกับการเป็นข่าวว่ะ” อ้าว  ไอ้นี่นี่  โผล่หางมาแล้วเหรอมึง นี่ตอนนี้ล่ะเรียกกูว่าเวย์ซะเสียงอ่อนเสียงหวาน  เหอะ  มึงลืมอะไรไปหรือเปล่าว่าเรามันคนบ้านเดียวกัน
“นุ  ก็ไหนนายบอกว่าอยากเกิดบ้างก็เลยลงไปนอนดิ้นๆ กับพื้นไง  เนี่ยพี่เขาเรียกแล้ว  ออกไปสิวะ” ผมยืดอกพูดด้วยเสียงอันดังที่รับรองว่าถ้าไม่หูตึง  ต้องได้ยินกับครบถ้วนกระบวนคำ  แล้วตีหน้าซื่อตาใสเหมือนคนประสงค์ดีสุดชีวิต  แน่นอนครับว่ามุมปากยังอดจะฉีกยิ้มน้อยๆ ให้มันไม่ได้
ไอ้นุถลึงตามองผมอย่างหมั่นเขี้ยว  แต่ชาติชายอย่างไอ้เวย์หรือจะมีกลัว  ยกมือขึ้นตบบ่ามันป้าบอย่างให้กำลังใจ  เอาเลยมึง  หึหึ  เอาให้เต็มที่  ฮ่าๆๆ จัดไปอย่าให้เสีย
“อ้าว  นั่งเงียบอยู่ทำไมครับ  ออกไปหาพี่เขาสิครับ หึหึ”  ผมพูดเพราะแต่ยิ้มชั่วร้าย
“อ้อเหรอ  เออ  ไปก็ได้ครับ  แต่งานนี้ไหนเลยผมจะยอมตายคนเดียว  มันต้อง..ตายหมู่”  พูดจบรอยยิ้มที่ชั่วร้ายไม่แพ้กันก็ปรากฏขึ้น  คิ้วขวาผมไม่ทันได้กระดิกเตือนภัย  มันก็จัดการลากผมขึ้นมาทั้งตัว  แล้วเอาแขนกอดเอวผมไว้แน่น  ฉีกยิ้มหวานให้ส้นเท้าผมอยากกระตุก
“ปล่อยกู” ผมฉีกยิ้ม  กระซิบผ่านรอยฟัน
“อย่าฝัน”  มันตอบมาด้วยวิธีแบบเดียวกัน  นั่นคือลอดไรฟัน
“นุครับ  ปล่อยกู”
“ไม่มีวัน” ...ชัดถ้อยชัดคำ...
“กูไม่อยากไปเกิดกับมึงอีกรอบ  ปล่อยกู  กูไม่ใช่คนเริ่มนะเว้ย”  ว่าแล้วก็ต้องตวัดสายตามองไอ้หัวดำข้างล่างที่มันยังนั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ผมสบตาไอ้นุ  แล้วบุกใบ้ว่าเพื่อนมันนั่นแหละเป็นตัวการ  แล้วยังมีหน้ามานั่งเฉย  ปล่อยให้คนอื่นเขารับกรรมแทน  คนรักความยุติธรรมอย่างผมทนไม่ได้ครับ  ไอ้นุขมวดคิ้วมองเพื่อนมันที่ยังนั่งหลังตรงแน่วแบบไม่สกทะสะท้านหรือยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น  สักพักมันก็คลี่ยิ้มชวนขนลุกออกมา  ลางสังหรณ์ผมมันบอกว่า...ท่าจะไม่สนุกซะแล้ว
“งั้น..ไอ้ไนท์  มึงไปเกิดกันด้วยกัน”
...กลัวแต่ว่าก่อนจะได้เกิด  มึงจะลากพวกกูลงนรกไปชดใช้กรรมก่อนน่ะสิ...
ไอ้นุใช้อีกมือดึงต้นแขนไอ้ไนท์ขึ้นมา  แต่ร่างสูงใหญ่นั้นไม่มีทีท่าว่าจะขยับ  ไอ้นุพยายามอีกอย่างน้อยสองครั้ง  ไอ้คนชื่อไนท์ก็ยังนั่งนิ่งราวกับมีรากแก้วงอกยึดก้นไว้กับพื้น  ผมก็อยากจะช่วยมันอยู่หรอกแต่เกรงว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัว  เพราะเท่าที่ผ่านมายังไม่ถึงครึ่งวันนี้  ผมก็ดูจะสร้างเรื่องกับมันไว้ไม่ใช่น้อยแล้ว
แต่ดูท่าท่านยมคงจะเริ่มรำคาญครับ  ท่านก็เลยยื่นกระบอง (ปากาอะไรสักอย่าง) ชี้มาทางพวกผมแล้วออกคำสั่ง
“ทั้งสามคน  ออกมา ...ให้ไว  ย้ำ  ให้ไว!!”
ผมหันไปสบตาไอ้นุเชิงตำหนิ  แล้วเหลือบลงไปมองไอ้คนข้างล่างที่ดึงมือไอ้นุออกจากต้นแขนมันแล้วลุกขึ้นอย่างว่าง่ายผิดปกติ  มันยืนขึ้นเต็มความสูง  หันมามองหน้าผมแล้ว...ยิ้ม!!  
กูขอร้องได้ไหม  มึงอย่ายิ้มให้กู  ถ้ามึงจะยิ้มแบบนี้  มึงไม่ต้องเสือกยิ้ม  T^T  แม่ครับ  ถ้าผมเป็นอะไรอย่าลืมเซ่นไข้พะโล้ส่งมาให้ผมกินทุกวันนะครับ  อ้ะ  อาทิตย์ละครั้งก็แล้วกันเดี๋ยวมันจะเอียนเสียก่อน
หมับ!!
รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้อมือ  ผมล่ะไม่อยากจะนึก  แบะปากมองหน้ามันสลับกับมือที่ยื่นมาจับแขนผมอย่างถือวิสาสะ  มันยิ้มอีกแล้ว  ยิ้มทำเอี้ยไรไอ้บ้า   ยิ่งมึงยิ้ม  กูยิ่งอยากร้องไห้ให้ควายงง  มึงรู้ไหม
ผมถูกมันลากมาถึงด้านหน้า  มีไอ้นุเดินตามมาติดๆ เหลือบมองท่านยมเห็นเขาจ้องมือผมที่ถูกจับไว้แน่น  หน้าไอ้เวย์ก็ร้อนขึ้นมาทันตาเห็น  กระชากแขนออกจากมันเท่าไรก็ไม่เป็นผล  มึงนะมึงนอกรากจากแก้วที่ก้น  ยังมีรากฝอยอยู่ตามตัวด้วยรึไงวะ
“อ้าว  ตกลงคุยอะไรกันเสียงดัง  ว่าไงไนท์”  พี่ยม (เอาชื่อนี้ไปก่อนแล้วกันนะพี่) ถามไอ้ไนท์อย่างคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมาก่อน   ไอ้คนข้างตัวมันหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง  ก่อนตอบว่า
“ไอ้เตี้ยคนนี้  มันบอกว่าอยากย้ายไปอยู่อักษร”
O.O!!
กูพูดอย่างนั้นเหรอวะ?  กูพูดเรอะ  ไอ้สัตว์  กูพูดเรอะ!!
 “เฮ้ย  ผมป่าวนะพี่  ไอ้โย่งมึงมั่วแล้ว” ผมมองมันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  มีอย่างที่ไหน  นึกอยากให้ใครตายก็โยนระเบิดมาให้ง่ายๆ  ไอ้บ้า  กูรับก็โง่เต็มกลืนแล้ว
“หึ  ตัวเองบอกอย่างนั้นแท้ๆ”  ยัง  มึงยังมีหน้ามายิ้มเยาะ ไอ้เอี้ยเอ๊ย  เดี๋ยวมึงจะยิ้มไม่ออก
“บ้า  ที่บ้านไม้เคะหูหมดรึไงวะ  ฟังให้มันถูกๆ หน่อยดิ  กูบอกว่า..เอ่อ..โคตรรักคณะต่างหาก  เหอะๆ  ใช่ไหมไอ้นุ”  ผมสะกิดไอ้นุ  จ้องตามันอย่างคาดคั้น ...ออออกับกูซะ...
“ห้ะ! ไม่รู้เว้ย  กูไม่เกี่ยว  กูนั่งขำของกูคนเดียว” พูดจบมันก็หันหน้าหนีเหมือนคนไม่อยากเสวนา  ยกมือเกาหัวแกรกไม่กลัวรังแคร่วง  มึงนะมึงทำกับกูได้
“เพื่อนเวร”  ผมสถบด่ามัน  เขาว่าคนเรามีเนื้อคู่ทั้งคู่บุญ  คู่สร้างคู่สม  และกูเวรคู่กรรม  ไม่ยักรู้นะครับว่าแม้แต่เพื่อนก็ยังมีแยกประเภท  แถมผมยังซวยได้เจอแต่พวกคู่เวรเสียด้วยสิ
“อ้าว  สรุปยังไง  ทำไมมึงไม่เตี้ยมกันให้ดีก่อนวะ  ดูนี่  กัญ เจมส์พวกมึงมานี่  แสดงให้น้องมันดูหน่อย” ผมล่ะงงกับไอ้รุ่นพี่คณะนี้จริงๆ  แทนที่จะว่าพวกผมคุยกันเสียงดัง  ดันตำหนิที่ไม่เตี้ยมกันใหดีก่อน  จะโกหกทั้งทียังทำไม่เนียน  พี่เลยทนดูไม่ได้ว่างั้นเหอะ  นี่ผมยังย้ายคณะทันไหมครับเนี่ย  
พี่ผู้ชายสองคนลุกมาจากม้านั่งด้านข้าง  ตัวสูงคนหนึ่ง  เกือบสูงคนหนึ่ง  คนตัวสูงหน้าตาธรรมดาครับ  เอาเป็นว่าหาได้ทั่วไปตามท้องถนน  พบมากแถวสวนลุม  ส่วนคนที่เตี้ยกว่าหน้าตาดีทีเดียวครับ ผิวสีน้ำผึ้ง  คิ้วเข้ม  ระหว่างชื่อเจมส์กับกัญ  แกเหมาะจะชื่อกัญมากกว่า  ส่วนอีกคนก็ไม่เหมาะจะชื่อเจมส์  หาชื่อใหม่ดีกว่าครับ  ชื่อวายก็น่าจะเข้าท่าดี  ‘วอดวาย’  เหมาะจะคบหาเป็นพี่เป็นน้องครับ  รวมกันก็เป็น...เวย์วอดวาย = =;;  
“เมื่อกี้พวกมึงคุยไรกันวะ”
“ลมฟ้าอากาศครับพี่” คนตัวเตี้ยตอบ  
“ผมบอกมันว่าวันนี้อากาศดี  แดดกำลังดี  ลมกำลังดี” ...นี่คือเรื่องที่พวกผมควรเอามาพูดว่างั้นเหอะ  แดดจัดสมควรตากผ้า  แดดดีสมควรออกไปเที่ยว  ไม่เคยดูโฆษณาหรือไงพี่  พยากรณ์อากาศเชื่อใจได้ที่ไหน
“แต่ผมไม่เชื่อ  ผมเลยบอกมันว่ามึงเชื่อมั้ยอีกเดี๋ยวฝนจะตก” ไอ้คนตัวเตี้ยกว่า ( คือที่จริงแกก็ไม่ได้เตี้ยหรอกครับ  แต่เตี้ยกว่าอีกคนนิดหน่อยเท่านั้น) พูดแล้วฉีกยิ้มเป็นนัย
“ทำไมวะ?”  ตัวโตขมวดคิ้วถาม  แต่ผมเห็นแกกลั้นยิ้ม  เหมือนรู้อะไรบางอย่าง
“ฟ้ากำลังจะผ่าอ่ะดิ”
“ตรงไหนวะ”
“ตรงนั้น” ว่าแล้วไอ้พี่คนเตี้ยก็ชี้มายังมือที่ถูกจับกุมไว้แน่นของผม  เท่านั้นแหละครับ  เสียงหัวเราะดังสนั่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นแทบจะในทันที   คราวนี้ไอ้เวย์ไม่รอช้ารวบรวมแรงทั้งหมดกระชากมือออกได้สำเร็จ  แต่ผมจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อมันไม่ทันแล้ว  โธ่เว้ย! ยังไม่ถึงชั่วโมง  กูเกิดแล้วเกิดอีกจนจะกลายเป็นแมวเก้าชีวิตอยู่แล้วเนี่ย
“ชัดไหม” ไอ้พี่ยม(บาล) มันหันมาถาม
“ชัดครับ” แจ่มเลยพี่  ไม่ต้องมีต่อยกสองสามสี่นะ  ผมยอมแล้วจริงๆ  พี่แม่งเก่งจริง  เทพจริง  เมพจริง  สาดเอ๊ย  อยากผ่าก็ผ่ามาเลย  ตายไม่กลัว  กลัวแต่อายเนี่ยล่ะเว้ย
พี่สามคนยิ้มให้กันอย่างพอใจ  ก่อนคนอื่นๆ จะเริ่มหัวเราะออกมาอีกรอบ  นี่ถ้าไม่เห็นว่าต้องอยู่อีกสี่ปีนะ  ผมจะอาละวาดแม่ง
“ดี  หลังจากให้ความรู้” ..เออ  ช่วยได้มาก  ผมรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยพี่  อย่างน้อยๆ ก็รู้ว่าเวลาหมดมุก  ควรเอาเรื่องลมฟ้ามาอากาศมาเล่น  แล้วก็หาโอกาสทำฟ้าผ่าใส่หัวใครสักคน... “ก็ถึงตอนสั่งสอน” เท่านี้ยังไม่สะใจอีกใช่ไหมพี่  กระทืบเลยไหม  กระทืบกันเลยดีกว่า  เอาให้ผมไม่ต้องไปผุดไปเกิดที่ไหนอีกเลย  ให้มันตายอยู่ที่นี่แหละ  แต่ขอร้องเถอะ  ตายทั้งทีเอาให้คุ้มนะพี่  ประหยัดงบประมาณชาติ  ตายเดี่ยวๆ ไม่เอา  เอาตายหมู่แล้วกัน
หลังจากผมตัดสินใจเลือกวิธีการตายเสร็จเรียบร้อย  ท่านยมก็ออกคำสั่งที่ดูเหมือนยังพอมีความเมตตาอยู่บ้าง
“ครั้งแรก  พี่จะเอาเบาๆ ก็แล้วกัน  ค่อยๆ ทำ  ไว้เริ่มชิน  แล้วค่อยเล่นหนักๆ” ไอ้พี่ยมหน้าโหด  ช่วยพูดให้มันกระจ่างหน่อยได้ไหมวะครับว่านี่คือการลงโทษรุ่นน้อง  ไม่ใช่จับพวกผมทำเมีย   ฮ่วย!  มีหน้ามาห่วงครั้งแรกครั้งหลัง  สุดท้ายยังไงผมก็ต้องโดนพี่ทำอยู่ดีใช่ไหมล่ะ  งั้นก็รีบทำๆ ให้มันเสร็จไปเลยสิ  (ใครคิดอะไรออกทะเล  เรือโผล่มาพอดี  อาศัยกลับเข้าฝั่งด่วนครับ  ย้ำอีกครั้งนะครับ  ผมกำลังจะถูกลงโทษต่อหน้าเพื่อนๆ  ไม่ใช่บนเตียง = =;; ชัดเจนนะครับ)
 “กล้วยส้มสักสามรอบก็แล้วกัน” ..แม้กระทั่งเลือกเพลง  มึงยังจะไม่ไกลจากเตียงเท่าไรเลยนะพี่..  ผมไม่แน่ใจว่าความคิดในสมองมันไหลออกทางหน้าด้วยหรือเปล่า  ไอ้พี่ยมมันถึงได้ถามว่า  “ทำไม  ไม่พอใจ  งั้นเปลี่ยนเป็น...”
“เปล่าครับพี่  พอใจโคตรๆ  ผมชอบผลไม้” ไอ้เวย์ก็รีบสวนกลับพลางยิ้มประจบทันที  รู้เลยครับว่ามันเริ่มนึกเสียใจที่ตัวเองสั่งเพลงอนุบาลๆ อย่างนี้เลย  ขืนปล่อยให้มันเปลี่ยน   ทุเรียนไม่ยกโขยงมาทั้งสวนก็บ้าแล้ว
“ดี  แต่คนยังขาดไปคนนึง  ไปหาเพื่อนมาดิ๊”
...สั่งจริงสั่งจังนะพี่  ชาติที่แล้วขายอาหารตามสั่งรึไงวะ...
ผมทำท่าจะเดินออกไปหาเพื่อนมาร่วมชะตากรรม  แต่ไอ้คนชื่อไนท์มันดันไม่ยอมปล่อยมือ  แถมยังหันไปสั่งเพื่อนมันเสียงดังฟังชัด  ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น
“นุ  มึงหาเอาใหม่  กูขี้เกียจ”  ฟังคำพูดมันครับ  โคตรน่าคบ  ไอ้ฟายอย่างนี้จะมีใครใจดียอมช่วยไหมเนี่ย
“ไม่ๆ กูขยัน  เดี๋ยวกูจัดการเอง”  ที่จริงก็ไม่ได้ขยันอะไรหรอกครับ  แต่ใครจะโง่ยอมคู่กับมัน  นรกอยู่ใกล้  ผมเดินไปหาสวรรค์เอาดาบหน้าดีกว่า
“เฉยเหอะ”
ดุผมเสร็จ  ก็ส่งสายตาให้ไอ้นุที่ตอนนี้กลายเป็นหมาเชื่องๆ  ยิ้มแป้นเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่พากันก้มหน้าก้มตาหลบเป็นแถว  ไอ้นี่ก็ไม่เสียเวลาคิดเลยครับ  มันคว้าแขนเพื่อนแถวหน้าสุดมาคนหนึ่ง  แล้วพูดง่ายๆ ว่า “นาย  ช่วยหน่อย”  ...นี่คือการขอร้องของมึงว่างั้นเหอะ...
เหยื่อ..เงยหน้ามองมันอย่างคาดโทษ  ผมเห็นแล้วอยากจะขำ  เหยื่อคนที่ว่านับวาหน้าตาใช้ได้เลยครับ  เตี้ยกว่าไอ้นุนิดหน่อย  น่าจะประมาณร้อยเจ็ดสิบห้า  ผิวขาว  รูปร่างสมส่วน  ที่สำคัญตามันสวยมากครับ  มันยอมยืนข้างๆ แต่ไม่พูดอะไร  บรรยากาศรอบตัวดูเย็นชาแปลกๆ  ไอ้นุดูท่ามึงจะเจอของจริงเข้าให้แล้วว่ะ
“เอ้า  กลองพร้อม  นักร้องพร้อม  นักเต้นพร้อม   สามสี่...ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม .........................  กล้วยส้ม”
ผมจำไม่ได้ว่าโดนกล้วยส้มไปกี่ครั้ง  แต่มั่นใจว่าจะไม้กินผลไม้ทั้งสองอย่างนี้ไปอีกหลายเดือน  แม่ง  เด้งไปเด้งมาไม่เท่าไรหรอกครับ  ถ้าไอ้คนที่เด้งอยู่ด้วยไม่ใช่ไอ้บ้านี่  เด้งไปยิ้มไป  ไอ้สัตว์เอ๊ย  ขำเอี้ยไรนักวะ
“ซิป” ..พอเพลงหยุดมันก็กระซิบข้างหูผม..  “รูดลง”
.
.
.
ซิปรูดลง  มึงก็รูดขึ้นสิไอ้ง่ะ..  เฮ้ยยย  ซิปกู
ผมแทบจะตะโกนออกไปให้ได้อาย  ดีที่ยั้งไว้ทัน  รีบหอบเอาใบหน้าร้อนๆ กับไอ้ซิปไม่รักดีของตัวเองหลบหลังมันแล้วรูดขึ้นด้วยความเร็วแสง  ไอ้ยินเสียงมันหัวเราะหึๆ อย่างน่าถีบ  ไอ้ฟาย  รู้แล้วก็ไม่รีบบอก  มัวแต่มองอยู่ได้   อ๊ากกกก   กูอยากตาย
ผมจ้องหน้ามันส่งกระแสความแค้นผ่านทางสายตา  แล้วก็เตรียมจะหลบไปนั่งที่ให้พ้นจากสายตาประชาชีที่ดูจะสงสัยเหลือเกินว่าผมหลบไปทำอะไรของหลังมัน  จะให้บอกยังไงครับว่าหลบไปรูดซิป  = =;;
“เดี๋ยว  จะรีบไปไหน”
พี่ครับ..ยังไม่สะใจอีกเหรอ?  ถ้ายังไม่พอ  ผมพูดตามตรงนะ จากใจเลย  กระทืบผมเถอะครับพี่  กี่ตีนไม่ว่า  ขอแค่ตายไปเลยเป็นพอ  ไม่ต้องยั้งไว้แค่เดี้ยงนะพี่
“มาแนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักไว้หน่อย  หน่วยก้านดีทุกคน  เผื่อว่ากีฬาเฟรชชี่ปีนี้จะได้หาหลีดกันง่ายๆ  จริงไหมหมวย”  ไอ้พี่ยมยิ้มให้กับสวยผมยาวรูปร่างน่าชมคนหนึ่ง  เธอยกมือจับแว่นดำแล้วพยักหน้ารับ  สวยครับ  สวยมาก  มาดนางพญาอย่างไงอย่างนั้น  และก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ...ถ้าเธอไม่ได้ใส่ชุดนิสิตชาย (รัดรูป)  นี่ถ้าไม่มีเครื่องแบบกำกับไว้  ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็หนีไม่รอดชัวร์
“เอ้า  บอกชื่อจริง  ชื่อเล่น  ของที่ชอบที่เกลียด  อ้อ  ส่วนพ่อแม่ญาติไม่ต้องนะ  ยาวไป  อ้อ  เบอร์โทรก็ไม่ต้องนะ  เดี๋ยวอยากได้แล้วจะไปขอเอง” ดูมันครับ  กวนได้กวนดี  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่บ้านงานหลักคืออะไร  ถนอมอาหารแน่นอน
ด้วยความที่เห็นว่าตัวเองอยู่คนแรก  ผมก็เลยก็ถอนหายใจ  เริ่มแนะนำตัวแบบปกติที่สุด
“สวัสดีครับ  ผมชื่อ...”
“เดี๋ยว! น้องคนดี  เอาไว้ทีหลังสุด  ยังไม่อยากฟัง  เอ้า  น้องคนต่อมาก่อน”
ผมอ้าปากค้างมองพี่แกอย่างไม่อยากเชื่อสายตา  อะไรของแกวะ  นึกไม่อยากฟังก็ข้ามกูไปซะอย่างนั้น  อะไรของมึงเนี่ย  ไอ้บ้าอาจเอ๊ย
“ผมชื่อนายพัธสุ  ชื่อเล่น นุ  สิ่งที่ชอบ ผู้หญิงสวย  สิ่งที่ไม่ชอบ ผู้หญิงขี้หึง  เบอร์โทร 087 – xxxx  บอกเลยแล้วกัน  รู้ว่าเดี๋ยวต้องมีคนขอ  จะได้ไม่ต้องลำบากกันทั้งสองฝ่าย”  มันพูดจบเสียงโห่ก็ดังขึ้นทันที  ไหนมึงบอกไม่อยากเกิดวะ  นี่ขนาดมึงไม่อยากนะ  กระทั่งเบอร์โทรมึงยังบอกแล้วเลย  ยังไม่ทันได้ด่ามันก็ได้ยินเสียงดังโอ๊ยขึ้นมาเสียงก่อน  ไอ้นุกระโดดจับเท้าแหยงๆ  สีหน้าแหยเก  ส่วนไอ้คนข้างๆ ขมวดคิ้วไม่พอใจ  ผมได้ยินมันพูดเบาๆ ทำนองว่า..  ไอ้สัตว์  เบอร์กู
สรุปไอ้นุมันเอาเบอร์ไอ้ไนท์ประกาศออกไมค์  ขายเพื่อนเพื่อความดังไปเรียบร้อยแล้วครับ  
“นุชื่อมั้ย  087 – xxxx  ได้  เดี๋ยวพี่จัดการประกาศให้เอง”
“พี่ต้า  นั่นเบอร์ผม” ไนท์หันไปแย้ง  ที่แท้พี่ยมแกชื่อต้าครับ
“อ้าว  เพื่อนมึงบอกเองว่าเบอร์มัน  กูไม่เกี่ยว”  พอพี่แกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  แถมไอ้นุก็ดันรู้แกวหนีไปซะก่อน  ไอ้ไนท์มันก็เลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากแนะนำตัวเองไปลวกๆ
“ชื่อนิรวัชช์   ไนท์  สิ่งที่เกลียด..” มันไม่พูดแต่ปรายตามองทางไอ้นุ  แล้วมาหยุดที่พี่ต้า  ก่อนพูดต่อว่า “ไม่มี”...นี่ขนาดไม่มีนะเนี่ยมึง  ถ้าฆ่าคนทางสายตาได้  สองคนนั้นคงพรุนไปแล้ว  “สิ่งที่ชอบ...”  คราวนี้มันทำท่านึก  สักพักก็ยิ้มออกมา  แล้วหันมามองหน้าผม  “เด็กอักษร”
วิ้วววว
คนเป่าปากกันตรึมครับ  ขึ้นชื่อว่าสาวอักษรก็ย่อมเนื้อหอมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว  (ไม่จริงค่ะ  ไม่จริง  มันเป็นแค่ทฤษฎี)  นี่เล่นประกาศออกมาแบบนี้  คนก็ต้องโห่กันเป็นธรรมดาครับ
“ฮ่าๆ  ไม่เบาๆ  ไว้พามาแนะนำมั่งนะเว้ย” ไอ้พี่ต้านี่ก็แปลก  ที่กับคนอื่นทำโหด  ทีกับไอ้โย่งนี่  ทำสนิทสนม  ฮ่วย  ไอ้พี่ลำเอียง  ไอ้ไนท์ยิ้ม ไม่ตอบ  แล้วมันก็มองหน้าผมอีก  ทำไมวะ  อะไรกับหน้ากูนักหนาเนี่ย  บอกไว้ก่อนนะเว้ยว่าหน้ากูไม่มีซิป  รูดลงไม่ได้
“เอ้า  ตาน้องแล้ว”  พี่ต้าตกบ่าเหยื่อของไอ้นุ  ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมเงยหน้ามองใคร  สงสันพื้นที่นี่สวยจัดครับถึงขึ้นถอนสายตาไม่ได้
“ชื่ออนุทิน   ชื่อเล่นแชมป์ครับ  ไม่ชอบคนเยอะๆ  ชอบคนน้อยๆ”  พูดจบมันก็ทรุดนั่งลงในแถวเดิมทันที  แถมยังก้มหน้าก้มตา  ตั้งท่าจะไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีก  ขนาดพี่ต้าแกยังอึ้ง  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่อยากยุ่งด้วยมากนัก  ให้ผมเดานะ  หมอนี่ไม่ใช่คนยอมคน  ขี้หงอเหมือนท่าทางที่แสดงออกมาแน่นอน  แต่ต้องดื้อเงียบ  แล้วก็หัวรั้นไม่เบาทีเดียว  ตัดสินใจแล้วล่ะครับ  คนนี้แหละ  เพื่อนเบอร์สองของผม  เอาไว้ค่อยไปตีสนิททีหลังก็แล้วกัน
“อ้าว  น้องคนดี  ถึงตาน้องแล้วครับ  ทำไมไม่พูดสักที”
...ก็ตอนผมจะพูด  ทำไมไม่เสือกฟังล่ะครับพี่...
แล้วอยู่ๆ  ผมก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา  ตั้งใจว่าจะไม่กวนแล้วนะ  แต่มันก็อดไม่ได้  นึกย้อนเรื่องราวที่ตัวเองเจอมาตลอดครึ่งวันนี้ก็สรุปได้คำเดียวครับว่า..ซวย
“ครับ  พูดก็พูด  ผม..เพิ่งเปลี่ยนชื่อเมื่อกี้จากคนดี  ศรีเมือง  เป็นนายวรเวร ซวยซ้ำซ้อน  ชื่อเล่นเวย์  เบอร์โทร..ใครถามไม่ให้  พอใจจะบอกเอง   ของที่ชอบ..  ไข่พะโล้    สิ่งที่เกลียด  คนบ้าอำนาจ  (ผมเหลือบมองพี่ต้าแล้วยักคิ้วให้  กวนได้ใจเลยกู)  ผลไม้โดยเฉพาะกล้วยกับส้ม (คราวนี้มองไอ้คนข้างตัว) และ...การเต้น (สุดท้ายมองพี่หมวยที่ยืนขึ้นทันทีที่ผมเริ่มแนะนำตัว)”  พูดจบก็โค้งรับเสียงตบมือและเสียงหัวเราะราวกับรู้ล่วงหน้า  เอ้า  ทำซะเป็นธรรมชาติเลยกู
“หึ  รู้ไหมคนเราเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น  วรเวร”
พี่ต้าแกพูดแค่นั้นแล้วก็ปล่อยให้ผมกลับไปนั่งที่
...มันเป็นความเงียบสงบครับ  สงบก่อนที่พายุกำลังจะมา...

...............................................

ขอโทษที่หายตัวไปเดือนกว่าๆ นะคะ  และก็จะบอกว่าช่วงนี้คงช้าและอืดอย่างนี้เรื่อยๆ เพราะงานนุ่นเยอะมาก  ถึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  เลยค่ะ  แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ติดตามเสมอนะคะ  ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมค่ะ  อ้อ..แล้วก็ภาคแรกที่นุ่นพิมพ์ไปว่าเดินคุยกันแล้วก็สนิทกันตามประสาผู้ชาย  เดี๋ยวนุ่นไปแก้ค่ะ  ม่งั้นมันคงขัดกันพิลึก  นุ่นก็ลืมไปแล้ว  ฮ่าๆๆ  ส่วนชื่อจริงของนายเวย์  ชื่อวีรณัฐค่ะ  มาอย่างง่ายเลยคือเอาชื่อตัวเองสลับที่  จากณัฐรวี  ป็นวีรณัฐ  -*-
ปล. ดูเหมือนคนเริ่มจะเป็นนายไนท์นะคะเนี่ย  แล้วไหงมันกลายเป็นฝ่ายถอยห่างได้แหละเนี่ย  น่าโมโหจริงๆ
ปล. สุดท้าย  ขอโทษที่ช้าและ...ขอบคุณที่รอค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 07-12-2009 16:23:44
 :mc4:  มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มาอ่ะนะ 
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 07-12-2009 16:30:36
เกือบขาดใจ :เฮ้อ:
นืกว่าจะหายสาบสูนไปเสยอีก
เเต่ก่อขอบใจนะเพ่นุ่นที่เอามาต่อออออออออ
 :oo1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-12-2009 16:45:48
ขอบคุณนะค่ะที่ยังคิดถึงคนอ่านตาดำๆ ที่เฝ้ารอ

ช่วงนี้คงจะไม่ยุ่งมากแล้วใช่มั้ยค่ะงั้นต่อไปคงจะได้อ่านบ่อยๆแล้ว    เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 07-12-2009 16:47:28
 :mc4: :mc4:มาเเล้วๆเวย์เอ๋ยอยู่มาได้ไง4ปีซวยจิงๆเกิดตั้งเเต่รับน้อง :z2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 07-12-2009 19:46:43
 :jul3: :jul3: :jul3:
ซู้ดดดดดดดดดยอดน้องวรเวร
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kj_blue ที่ 07-12-2009 19:58:40
 o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 07-12-2009 20:16:30

สนุกสมการรอคอยค่ะ

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tinton ที่ 08-12-2009 00:14:06
 :pig4:

มาต่อลแ้ล้ว ขอบคุณครับ

ไรเตอร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: love_y ที่ 08-12-2009 01:01:34
ย๊ากกก รอนานจนเกือบลืมตอนที่แล้วเลยนะเนี่ยยย
เวย์น่ารักได้ใจเราเลยอ่ะ มาต่อไวๆนะค๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-12-2009 10:11:12
นายวรเวร

ฮ่าๆๆๆ   :laugh:


เฮียไนท์  งานนี้มึงเริ่มได้ข่าวว่า

"ชอบ..เด็กอักษร"

แม่มมม 


ให้ท่าชริบ 


หมายความว่าไงวะ!!!

ปอลอ.. แอบเห็นเด็กอักษรแก้ตัวอะไรแว้บๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 08-12-2009 20:36:34
ชอบเด็กอักษร
วิ้ววววววววววว
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 08-12-2009 22:07:00




 :z13: :z13:

 :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 09-12-2009 01:51:30
 :angry2: ไนท์!!!~  มาให้ความหวังแล้วจากไปซะงั้นอ่า

เหอๆ  งานยุ่งก้อสู้เข้านะค้า

จะเข้ามาติดตามเสมอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 09-12-2009 09:36:49
บอกรักกันกลางฝูงชนเลยน่อ

ชอบเด็กอักษร แถมชื่อนายวรเวร ด้วย  :-[ แทน

อ่าน ๆ ไปเ้วย์น่าจะชื่อ นายหาเรื่องใส่ตัว มากกว่า แต่ละเรื่อง  :z1:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pay-it-forward ที่ 09-12-2009 10:44:00
เวย์น่ารักว่ะ กวนได้ใจ
ไนท์นี่แอบชอบเวย์ตั้งแต่ปี 1 แน่ๆ
 :L2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 09-12-2009 17:10:00
เรายังนั่งอ่านไปหัวเราะไปเหมือนเดิม :m20:
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 11-12-2009 17:24:55
  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dragon3oyd ที่ 12-12-2009 01:23:00
วรเวร กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มาต่ออีกไวๆ นะค๊าาา ^^
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 12-12-2009 23:54:03
ชอบมากมายยย o13
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 15-12-2009 00:07:56
รอกันต่อปายยยย
 :a1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 16-12-2009 21:57:02
 :z2: :z2:รอรอพี่นุ่น
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 17-12-2009 14:54:10
วรเวร   :z3:

โธ่เวย์ น้อย ๆ ของเจ้ เกิดได้อลังการณ์มาก ๆ  กวนส้นตั้งแต่วันเรกเลย  o22

มันรอดถุงปัจจุบันได้ เพราะหน้าตาหน้าเอ็นดู (รึเปล่าว่ะ) ใช่ม่ะเนี้ย    :laugh:


ปล.สอบเสร็จแล้วก็มาต่อเร็ว ๆ เข้า  o18
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 17-12-2009 21:48:40
อ่านแล้วมีความสุขครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 22-12-2009 08:48:44
คอยอีกวัน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 22-12-2009 17:10:10
 :m20:  คิดถึงเวย์   เวย์น่ารักน่ากด
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 22-12-2009 21:59:06
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมักมาก
ชอบคะ ชอบสุดๆเลยจ้า
อัพอีกไวไวน้า รอเชียร์เต็มที่คะ ยิ้มแก้มปริตลอดเล้ย
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 23-12-2009 08:35:45
รอครับ :z1: :m20: :laugh: :mc4: o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 23-12-2009 18:49:36
 :เฮ้อ:  นานๆ มาที...


ไม่เป็นไร..รอได้.. o18
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-12-2009 12:11:24
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ
เพิ่งจบภาคแรก
สนุกสนานแต่ก็น้ำตาซึมเลยครับ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 25-12-2009 01:38:37
มาคอยครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 25-12-2009 11:08:51
ยังสอบไม่เสร็จ แต่ตั้งตารอเวย์จังกะไนท์คุงเต็มที่คร่าาาาา

สู้ตายเลยน้า.....เอ...สรุปชื่อไวท์หรือนุ่นหว่า ?
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 25-12-2009 12:22:07
แอบทวงเลยได้ป่าวน้าา

(http://image.ohozaa.com/in/814385cp6l7e7atf.gif)
Happy Happy Happy :mc1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 25-12-2009 16:37:16
 :z6:  Happy Marry X'Mas จ้า   :กอด1:

กระโดดถีบ แล้วจัดกอด
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 26-12-2009 15:59:20
ชอบหายไปนานๆ นะเนี่ย
คนแต่ง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 27-12-2009 17:12:56



คนแต่งปายหนายยยยย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 28-12-2009 00:34:38
555...อันนี้เป็นภาคย้อนอดีตหรอคับ....จะรออ่านต่อนะคับ :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 28-12-2009 09:59:48
คนแต่งจมข้อสอบและรายงานตาย  กำลังปั๊มพลังงาน

รอ ๆ กันหน่อยน้า  ^___________^

ดัน  ๆ ๆ ๆ

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 28-12-2009 23:06:09
Happy New Year ล่วงหน้าฮะไรท์เตอร์
ขอให้มีความสุขมากๆนะคร้าบบบบ

ปล.รอตอนต่อไปอยู่นะฮะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 29-12-2009 20:57:38
ฮามากเลย เรื่องนี้

ชอบครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 30-12-2009 15:09:33
นึกว่าเรื่องนี้ไม่มีภาคสองเลยไม่ได้มาอ่านต่อเลยอ่า
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 30-12-2009 15:38:51
อ่า หนุกอ่ะ

เปงภาคย้อนอดีตรึป่าว
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-01-2010 11:25:09
Happy New Year Krub :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 01-01-2010 14:46:59
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่นุ่น พี่แบท ทุกคนด้วย :mc4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 01-01-2010 20:19:04
สวัสดีปีใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่
เริ่มหัวข้อโดย: vorest ที่ 02-01-2010 23:41:36
ดีใจอ่านตามทันแล้วครับ

อ่านแล้ว เจ็บที่ขั้วหัวใจ ทุกๆตอนเลย น้ำตาซึม

เป๊ะมากกับนายเวย์

คำว่ารัก มันมีค่ามากสำหรับบางคน
ฐานะที่เป็น ความไม่แน่นอน และเรื่องของอนาคต เป็นความเจ็บปวดของรักแบบนี้
ดังนั้น ขอแค่คำว่ารัก ให้อุ่นใจ เถอะ
อินกับเวย์มากๆ

แต่มุมมองของตัวละคร ไนท์  ก็ทำให้ผมคิดได้
คำว่ารักสำหรับบางคน ที่เขาไม่กล้าบอกไป เขาก็มีเหตุผลส่วนตัว

เปิดใจ ให้ มาก ขึ้น

ซึ้ง มาก
โดน มาก

จี้ด จริงๆ เข้มถึงใจ


ปล ถ้าเป็นจริง คงต้องหาเวลาไปเดินแถวเศรษฐศาสตร์บ่อยๆละ หึหึ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 04-01-2010 11:47:43
รออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 2 วรเวร ซวยซ้ำซ้อน 07/12 /09] มาต่อแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 05-01-2010 22:15:05


บทที่ 3  ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร

 

            ผมจัดการปิดปากกา  เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ผนัง สามทุ่มครึ่ง ได้เวลาที่มันจะกลับมาแล้ว  ผมเก็บสมุดบันทึกยัดใส่ลิ้นชักข้างเตียงนอน  ล็อคกุญแจเรียบร้อย  แน่นอน..ผมไม่อยากให้มันอ่าน  อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้  เรื่องราวของผมกับมันตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน  เรื่องราวที่มันลืมไปแล้ว…

 

 

            “กลับมาแล้ว” เสียงตะโกนเหมือนเด็กๆ ดังมาจากหน้าประตู  ที่แน่นอนว่าไอ้ไนท์คนเดิมที่ผมรู้จักไม่มีวันทำการกระทำที่มันจัดให้อยู่ในประเภท “ปัญญาอ่อน” อย่างนี้

ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่เชิงบันได  กำลังทำตัวเป็นโคนัน  เจ้าหนูยอดนักสืบ  แอบมองไอ้คนหน้าเดิมแต่นิสัยต่างกันราวยอดเมฆกับก้นเหว  เหมือนผมเห็นนักบุญในคราบซาตานยังไงยังนั้นครับ  ไอ้ซาตานใจดีคนที่ว่ามันก้มลงเก็บรองเท้าแล้วจัดการเก็บเรียงจนเป็นระเบียบ  แม่ผมคงปลื้มนะครับได้ลูกเขยแบบนี้  นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงต้องรีบวิ่งกลับไปหยิบยาพารา  ยาแก้ปวดท้อง  ยาธาตุ  ยาแก้ปวดท้องเมนส์  ยาแก้สิว  อ้อ  น้ำมนต์ด้วยไปประเคนให้มันถึงที่เพราะไม่แน่ว่าอาจไม่ใช่แค่ป่วยแต่มันคงจะโดนของเข้าไปเต็มๆ

 

“เวย์  เวย์ครับ  เวย์” ดูมันครับ   ชะเง้อคอมองหา  ปากก็ตะโกน  นี่มันอายุเท่าไร  มันชื่อไนท์ นิรวัฒน์จริงๆ ใช่ไหมเนี่ย  แล้วนี่ผมเป็นอะไรไปครับ  กรามค้าง  หุบยิ้มไม่ได้  มันเป็นแบบนี้ก็...น่ารักดีครับ  เรียกชื่อก็มีคำลงท้าย  คิดดูสิครับ  มันเรียกผมว่า  เวย์ครับ  ขอไอ้เวย์แหกปากตะโกนสักทีได้ไหมครับเนี่ย  ไอ้ฟาย  อยากบอกว่าฟังแล้วขนลุก  ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ  แต่มันรู้สึกถึงความหวานเลี่ยนแปลกๆ ในหัวใจเท่านั้นเอง  ไอ้ผมนี่ก็แย่  ตอนมันไม่สนก็อยากให้มันสน  พอมันใส่ใจก็ดันคิดว่าแปลก  เอ  หรือผมจะเริ่มเข้าสู่วัยทองตามแม่ไปอีกคนแล้วครับเนี่ย

 

“ยืนยิ้มอยู่ได้  หิวข้าวจะตายชัก”  เสียงเหมือนอยู่ใกล้ๆ

“เอ๊ะ!” มึงหายตัวมาอยู่หน้ากูตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย  นี่กูโง่หรือมึงเก่งวะ  เมื่อกี้ยังเห็นยืนจัดรองเท้าอยู่หลัดๆ(ไม่ใช่จะตาย) เผลอแป๊บเดียวมันมาเสนอหน้ายืนอยู่ตรงหน้าผมซะแล้ว  และเพราะยืนอยู่บนบันไดขั้นต่ำกว่าทำให้หน้าผมตรงกับมันพอดี  แหม..วิวดีเชียวกู  ฮ่าๆๆ  เอ้า วิวดีก็มองสิวะ  มึงจะหลบตามันทำไม  ไอ้เชี่ยเวย์  ไอ้โง่  เงยหน้าสิไอ้สาด  อย่าปล่อยให้มันมองมึงคนเดียว  ขาดทุนเว้ย

 

“เหนื่อย” เออ  มึงเหนื่อยก็ไปนอนสิเว้ย มายืนจ้องกูหาเพชรหาพลอยอะไร  กูจนนะครับ บ้านไม่ได้ทำเหมือง  หาไปก็ไม่เจอหรอกว้อย  ดูเหมือนมันจะไม่ได้ยินเสียงต่อต้านในใจผม  ถึงได้ยกแขนหนักๆ ทั้งสองข้างมาโอบเอวผมไว้  แล้วซบหน้ากับซอกคอ  “อืม  ดีขึ้น”  มึงดีแต่กูไม่ดีเว้ย  ไอ้ฟาย  กูเสียว  เฮ้ย  นี่ผมไม่ได้ทะลึ่งนะ  แต่คอมันเป็นจุดอ่อนนี่ครับ  สาดนี่ก็ขี้อ้อนชิบหาย  แล้วผมจะทำอะไรได้  นอกจากยืนให้มันอ้อนต่อไป  ใจง่ายดีแท้กู

 

ที่จริงก็สมควรที่มันจะเหนื่อยล่ะครับ  ตั้งแต่ถูกรถชนเข้าโรงพยาบาล นอนหลับไปอาทิตย์กว่าๆ  ตื่นมาก็ต้องรักษาตัวต่ออีกเดือนเต็มๆ เพราะแผลภายในมันหนักกว่าที่เห็นภายนอกมากนัก  พอหายก็ต้องตามเก็บงานไปตามระเบียบ  แถมยังต้องตามเนื้อหาอีกมหาศาลล้านแปดที่เหล่าบรรดาอาจารย์พากันยัดเหยียดให้ก่อนสอบมิดเทอม  นี่คงกะจะไม่ให้พวกผมได้มีโอกาสพักหายใจรับปีใหม่กันเลยสินะครับเนี่ย

 

“น้านิ่มล่ะ” มันถามเสียงอ่อยทั้งที่ยังกอดผมไว้  ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจมันนักหรอกครับ  ดูเหมือนความสัมพันธ์พ่อลูกระหว่างมันกับลุงนพจะดีขึ้นมากๆ  แต่มันก็ยังหอบสังขารมาค้างที่บ้านผมทุกวัน  มันบอกว่าคุ้นเคยและสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่...บ้านของผม

“หลับแล้ว”

“งั้นก็ทางสะดวกดิ  หึหึ”  เออ  สะดวก  เฮ้ย  ไม่ใช่  มึงจะลากกูไปไหน  มันหัวเราะเจ้าเล่ห์แล้วลากแขนผมขึ้นไปข้างบน 

“เฮ้ย  มึงจะไปไหน”  ถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจครับ  ก็ไอ้ที่มันกำลังเปิดอยู่น่ะคือประตูห้องนอนผมเอง

“นอน”

“อ้าว  ไหนว่าหิว”

“ไม่ได้หิวข้าวนี่ครับ”  มันหัวเราะแล้วยักคิ้วให้ผม 

ครับ  แค่สายตามึงกูก็เดาออกแล้วว่ามึงหิวอะไร  เคยได้ยินไหมครับว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ  แต่นี่ดวงตาฆ่าคนได้  เพราะผมกำลังจะหายอากาศหายใจตายอยู่แล้ว

 

(ฉากอัศจรรย์  กรุณาใช้จินตนาการส่วนบุคคล  ไม่ก็..รออ่านในหนังสือนะจ๊ะ)

 

………………………

 

“เมื่อก่อนผมเป็นคนยังไง”  ผมได้ยินเสียงมันถามขึ้นจากด้านหลัง  ไม่รู้เพราะอะไรผมมักจะยังวางตัวไม่ถูกเสมอ  ยังไม่กล้ามองหน้า  ยังต้องนอนหันหลังให้มันทั้งที่เมื่อกี้เราเพิ่งจะผ่านการสนิทสนมที่สุดแท้ๆ  อาจเป็นเพราะ...ไนท์คนนี้ต่างจากไนท์คนก่อน  อ่อนโยนมากกว่า  ใส่ใจมากกว่า  ไม่ใช่คนที่ดีแต่รุกรานอย่างเอาแต่ใจคนนั้นอีก

ความคิดที่ทำให้ผมรู้สึกละอายใจ  ขนาดตัวผมยังเห็นความแตกต่าง  ขนาดผมยังนึกเปรียบเทียบทั้งที่มันเอามาเทียบกันไม่ได้  ก็สมควรแล้วที่ตัวมันจะรู้สึกจนต้องเอ่ยถาม  บางทีคนที่ผิดมาตั้งแต่ต้นก็คือผม  ผิดที่ผมเอาแต่ใจ  ผิดที่คิดถึงแต่ตัวเอง  ผิดที่กลัวจะต้องเสียมันไปอีกครั้งถึงได้ยอมให้มันใช้ตัวผมเพื่อฟื้นความทรงจำได้ตามใจ  หึ  ไม่ใช่การเสียสละ  ไม่ใช่การฝืนใจ  แต่เป็นการเห็นแก่ตัวของตัวเองทั้งนั้น

 

“...  มึงก็เป็นมึงสิ  จะให้ใครที่ไหววะ”  คำตอบที่กำลังบอกทั้งมันทั้งตัวเอง  แบบนี้เรียกว่าการทรยศได้หรือเปล่า  การที่ผมเริ่มรู้สึกมีความสุขกับการอยู่แบบนี้  มีความสุขกับการถูกเอาใจ  ถูกตามใจ  มากกว่าคอยตาม  คอยเรียกร้องอยู่ไกลๆ เหมือนเมื่อก่อน

“ไม่ใช่  หมายถึง  ผมดีกับนายหรือเปล่า”  มืออุ่นๆ ยืนมากุมไหล่ผมไว้  มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริงๆ ครับ  เหมือนเรากำลังยืนอยู่ในที่ๆ สวยงามจนไม่อยากออกไปไหน  แต่ใจก็ยังคิดพะวงอยู่เสมอว่าเมื่อไรเวลาแห่งความสุขจะหมดลง  ผมรักมัน  รักยังไงก็ยังรักแบบนั้น  ไม่ว่ามันจะเป็นไนท์ในแบบไหนผมก็เชื่อว่าตัวเองจะยังรักมัน  แต่ตอนนี้กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจมากกว่าทุกครั้ง  บางทีนี่อาจเรียกว่า “รู้สึกวางใจ”  เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายก็รักผมเช่นกัน  ผมเคยรู้สึกไม่ชอบใจที่ได้ยินมันแทนตัวเองว่า “ผม”  เพราะมันทำให้เราดูห่างเหินกันเหมือนคนไม่รู้จัก  แต่ต่อมาผมก็พบว่ามันจะแทนตัวเองแบบนั้นเฉพาะเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น  ผมกลับชอบ  ชอบที่ได้เป็นคนพิเศษของมัน  คนพิเศษที่ไม่รู้ว่าได้เป็นตั้งแต่เมื่อไรและทำไม

มันถามว่าตัวมันเมื่อก่อนดีกับผมหรือเปล่า  ผมตอบได้ทันทีว่าดี  ดีมาก  เป็นคนที่ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน  จนถึงวันนั้นวันที่มันกำลังจะจากไป  มันก็ยังเลือก..จะกลับมา 

 

“ดีสิวะ ดีมากๆ  ไม่งั้นจะชอบได้ไง  เป็นไรไปอ่ะ”  ผมพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับมัน  เห็นความกังวล  ไม่มั่นใจฉายชัดในดวงตาคู่นั้น  ไนท์..มันเหมือนมีบุคลิกที่แตกแยก  เหมือนหินก้อนใหญ่ที่ดูแข็งแกร่งแต่ก็พร้อมจะโค่นลงง่ายๆ ถ้าสะกิดถูกจุด

“แล้วชอบคนไหนมากกว่า”

“...”  ผมได้แต่มองตามันอยู่อย่างนั้น  ไม่ได้ตอบ  เพราะตอบไม่ได้ มันกังวลอะไรผมก็รู้  แต่ไม่มีอะไรเลยที่ผมจะทำได้  บางทีมันดูเป็นเรื่องง่ายๆ นะครับ  แค่คนสองคนที่บอกว่ารักกัน  แล้วก็อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน  กินด้วยกัน  แต่สำหรับพวกผม  ไม่ใช่เลย  ต่างคนต่างรู้ดีแก่ใจถึงความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์  ผมไม่มั่นใจว่าถ้ามันจำได้แล้ว  อนาคตจะเป็นยังไง  มันไม่มั่นใจว่าผมจะรักมันเท่าที่เคยรักหรือเปล่า  เราต่างไม่มั่นใจในกันและกัน  ไม่มั่นใจในอนาคต  แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ  จะให้ผมบอกมันยังไงมันถึงจะเชื่อ  และจะให้มันทำยังไงผมถึงจะมั่นใจว่าเรื่องร้ายๆ จะไม่เกิดขึ้นอีก  ผมจะไม่ต้องเสียใจอีก

ก็เพราะไม่มีอะไรที่เราทำได้  ผมถึงเลิกคิดถึงอนาคตแต่ตักตวงความสุขในปัจจุบันให้เต็มที่  แต่สำหรับมัน...ผมคงต้องทำให้มันมั่นใจ

 

“หืม คนไหน”

“กูชอบไนท์  แล้วมึงก็อย่าถามว่าคนไหน  เพราะมึงก็เป็นมึง  มึงมีแค่คนเดียวในโลก  แค่..มึงกลับมาหากู  แค่มึงอยู่กับกู กูก็ดีใจแล้ว”

ดวงตาคู่นั้นจ้องมองผมด้วยอาการคล้ายประหลาดใจ  แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นยินดี  มันยิ้มกว้างแล้วขยับมากอดผมไว้ทั้งตัว  ความอบอุ่นจากอ้อมแขน จากลำตัว จากท่อนขา ทุกส่วนของร่างกาย  ราวกับผมกำลังจมอยู่ในตัวมัน  จมอยู่ในความรู้สึกอันลึกซึ่ง

“ขอโทษ” มันกระซิบ

“เออ  ทีหลังก็อย่าคิดอะไรบ้าๆ อีกนะมึง” ผมกอดมันตอบ  ลูบหลังมันเบาๆ  ทั้งที่ดูแข็งแกร่งขนาดนี้  ดูมั่นใจในตัวเองขนาดนี้  แต่สำหรับคำว่า “รัก”  ดูเหมือนคนเรามักจะพยายามหาสิ่งค้ำประกัน ยืนยันให้แก่กันและกัน  คอยตรวจสอบสถานะและความรู้สึกของกันและกันอยู่เสมอ  ก็เพราะว่ารักมากนั่นเอง

 

“ไม่ใช่เรื่องนี้  ขอโทษที่เกือบจะตายน่ะ”

หมดเลยครับ  อารมณ์โรแมนติก  ไอ้ฟาย  ไอ้มหาบ้าปัญญาทะลุ  มึงเคยเห็นใครที่ไหนเขาขอโทษที่ตัวเองเกือบตายมั่งมั้ยวะ ดูมันสิครับ  กวนตีนคงเส้นคงวาไม่มีลดดีกรี  ไอ้เวรไนท์  ด้วยความที่เริ่มหมดอารมณ์จะทำซึ้งกับมัน  ผมก็เลยผละออกจากตัวมัน  เหตุผลหนึ่งก็เพราะเริ่มจะหายใจลำบากแล้วครับ

 

ผมลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง  ยกนิ้วชี้หน้ามันอย่างหาญกล้า  ฮ่าๆ  ช่วงนี้ไอ้เวย์คุมครับ  เอาแต่ใจได้เต็มที่  สั่งได้เต็มคราบ  ฮ่าๆๆ

“อย่าทำอีกนะมึง  ถ้าจะตายต้องขออนุญาตกูก่อนเข้าใจมั้ย”  สั่งเสร็จก็นั่งรอคำว่า “ครับ” จากมันด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง  เก่งมั้ยล่ะครับ  จะตายก็ต้องขอก่อน  เพราะฉะนั้นมันจะไม่ตายถ้าผมไม่ยอม  มันจะไม่เป็นอะไรไปโดยที่ผมไม่รู้อีก 

“ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง” มันพึมพำ

“มึง?”  ผมทวนคำด้วยความแปลกใจ  ไม่ใช่ไม่พอใจนะครับ  แค่แปลกใจแล้วก็รู้สึกคุ้นเคยจนต้องเลิกคิ้วถาม

“อะไร  เรียกมึงไม่ได้รึไง  ถ้าไม่ชอบ  งั้นเปลี่ยน  นายเรียกตัวเองว่าเวย์  เรียกผมว่าไนท์  ไม่เอามึงกูดีมั้ย”  ไอ้ไนท์มันยกข้อศอกเท้าที่ต้อคอเผยให้เห็นรูปร่างสมส่วน  เอวรูปตัววี  กับผ้าห่มที่เกือบจะไม่ปิดบังอะไรเลย   นี่มึงกำลังให้ท่ากูหรือเปล่าเนี่ย

“เรื่องดิ”

“เอ้าไรวะ  ขอแค่นี้ไม่ได้  ทีขอไม่ให้คนอื่นตายนี่ง่ายนัก”

 

“....”  ก็ผมไม่อยากให้มันตาย  แปลกเหรอครับ  ครั้งก่อนมันเกือบจะ..  โดยที่ผมไม่รู้อะไรเลย เกือบจะจากไปโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสได้บอกรักมันด้วยซ้ำ  จากไปทั้งที่ยังทะเลาะกันอยู่เลย  มันคงไม่รู้ว่าตอนนั้นพวกผมรู้สึกยังไง  ร้องไห้ไปหนักแค่ไหน  ถ้าเสียมันสักคน  ผมจะอยู่ยังไง  พ่อมันจะอยู่ยังไง

“น้อยใจตายเลยว่ะ”

“มึงหยุดพูดเรื่องตายซักทีได้มั้ย  มึงเห็นกูตลกเหรอ  เห็นกูสนุกเหรอ  ฟาย  มึงมัน..แม่ง  ตายแล้วก็ไปสบาย  เชี่ย  ไม่นึกถึงคนข้างหลัง  สัญญากับกูจะไม่กินเหล้า  แล้วไง  เมาไม่พอเสือกขับรถ  มึงมันโง่หรือโคตรโง่วะ  เชี่ย”  ผมก้มหน้าด่ามัน  ไม่อยากมองมันครับ  มองแล้วอยากต่อยให้หนักๆ เลย  มันน่าโมโหชะมัด  คิดว่าชีวิตตัวเองเป็นอะไร  เป็นของตัวเองคนเดียวรึไง ก่อนจะทำอะไรถึงได้ไม่ต้องนึกถึงคนอื่น  ไม่ต้องกลัวว่าใครจะร้องไห้  ใครจะเจ็บปวดบ้าง  ยิ่งมันทำเป็นไม่ใส่ใจเท่าไรผมยิ่งโมโหมากเท่านั้น  โมโหจนน้ำไหลไม่หยุด  มันไม่รู้จะระบายออกมายังไง  ความรู้สึกที่ทั้งโมโหทั้งเสียใจจนห้ามตัวเองไม่ได้แบบนี้

ไอ้ไนท์มันสะดุ้งรีบลุกมากอดผมไว้แน่น  ผมปล่อยให้มันกอด  แต่ไม่กอดตอบมัน  ผมอยากให้มันรู้ว่าผมเสียใจแค่ไหน อยากให้รู้ว่าผมรู้สึกยังไง

“ถ้าเป็นกูที่ตาย มึงจะมีความสุขมั้ย  มึงจะชอบมั้ย  ฮึก” มันลนลานกอดผมแน่นขึ้น  ซุกหน้ากับซอกคอผม  ยิ่งคิดยิ่งอยากร้องไห้  ความรู้สึกตอนนั้นผมไม่มีทางลืมได้  มันได้กลายเป็นแผลลึก  ทำให้ผมกลายเป็นคนขี้กลัว  กลัวว่าจะเสียมันไปอีกครั้ง

“ขอโทษ  ขอโทษ  ขอโทษ” มันพร่ำขอโทษไม่หยุด   ผมรู้สึกว่าตัวมันสั่น  ตอนนั้นก็เหมือนกัน  เวลาที่ผมร้องไห้มันก็จะลนลานเข้ามากอดไว้  และก็จะสั่นแบบนี้  ร่างกายของมันเหมือนกำลังจะบอกผมว่ามันกำลังร้องไห้ไปกับผม เหมือนจะบอกว่ามันกำลังเจ็บปวดไปกับผม

“ฮึก  น่ารำคาญ  แม่ง”  มันสะดุ้งน้อยๆ  และยิ่งกอดผมแน่นขึ้น

“ขอโทษ  อย่ารำคาญเลยนะ”

“ไม่ ฮึก  กูรำคาญตัวเอง  เชี่ย  ไม่ได้เศร้าสักหน่อยจะร้องหาพระแสงของ้วงเรือยาวอะไรวะ  แม่งเอ๊ย  ไหลอยู่ได้  น่ารำคาญ”  ผมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองออกแรงๆ  อ่อนแอน่าเบื่อเป็นบ้า  พอเป็นเรื่องนี้ทีไร  ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอจนน่าโมโห  น่ารำคาญ  ขนาดตัวผมยังรู้สึกแบบนั้นแล้วมันล่ะ  จะรู้สึกยังไง  คงจะรำคาญผมด้วยใช่มั้ย

 “ไม่ร้องนะครับ  ไม่ร้องนะ” เสียงปลอบนุ่มๆ พร้อมกับลิ้นที่จูบซับน้ำตาให้เบาๆ ทำให้ผมยิ่งร้องไห้หนักขึ้น  อดนึกไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นมันไม่ยอมตื่น  วันนี้ใครจะกอดผม  จะจูบผมอย่างนี้  วันนี้  ที่นี่  ผมจะเป็นยังไง  จะอยู่ยังไงถ้ามันไม่ยอมกลับมาจริงๆ

ไอ้ไนท์จับตัวผมโยกไปมากล่อมเหมือนกล่อมเด็ก  เออ  ก็จริง  ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองโคตรบ้า  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้  สภาพจิตใจเหมือนไม่อยู่กับร่องกับรอย  ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนเพิ่งหายเจ็บอย่างมันเสียหน่อย

 

“นอนเนอะ  นอน”

“ไม่” 

“ไม่นอน แล้วจะทำอะไร”

“....”  นั่นสิครับ  อย่างที่มันว่าแหละไม่นอนแล้วจะทำอะไร นอกจากสภาพจิตใจแปรปรวนแล้ว  ผมว่าอารมณ์ผมก็คงจะเข้าขั้นผิดปกติด้วยแน่ๆ 

“หืม  ทำไรดีครับ”

“เล่นบาสมั้งมึง  ไอ้บ้า”  ว่าแล้วก็ทำใจกล้าเงยหน้าจูบคางมันก่อน   เอาเว้ยกู  ไม่วัยทองก็ไวรัสแดกล่ะวะ  เดี๋ยวโกรธ  เดี่ยวร้อง  เดี๋ยวอ้อน  โคตรบ้า  กูมันบ้า  แถมตอนนี้ยังใจกล้ารุกมันก่อนอีก  ไอ้เวย์มึงมันบ้าไปแล้ว  แต่ช่างมันเถอะครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  ผมแค่อยากจะตักตวงความสุขไว้เท่าที่จะทำได้   อยากจะทำดีกับคนที่รักไว้ให้มากๆ  เพราะผมเคยเกือบสูญเสียโอกาสไปแล้วครั้งหนึ่ง  ผมถึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของเวลา  เวลาที่ยังเหลืออยู่ด้วยกัน

 

“เวย์  อย่าอ้อนแบบนี้บ่อยๆ นะ”

“...” ทำไมวะ หรือมันน่ารำคาญ  หรือมันไม่ชอบ  หรือ...  หรือมันจะชอบให้ผมเล่นตัว  หรือมันจะชอบให้ผมทำตัวไร้เดียงสา

“อ้อนบ่อยๆ  จะไม่อยากออกจากบ้านไปไหนเลย  รู้มั้ย”

.

.

O.O!?

“ไอ้บ้า”  ไอ้เชี่ยไนท์  ไอ้  ไอ้  แม่ง..ปากดีนักนะมึง  เดี๋ยวกูจะอ้อนไม่ให้มึงไปไหนเลย

“หึ  ก็บ้ารัก  หลงจนโง่หัวไม่ขึ้นแล้วเนี่ย”  พูดจบมันฟุบหน้าลงมาที่หน้าอกผม  แล้วเอาหัวไถไปไถมาเหมือนเด็กๆ จนผมต้องหัวเราะคิกออกมา   เอ๊ะ! อย่าบอกนะครับว่านี่มันกำลังอ้อนกลับ?  โอ้ก็อด  ไม่ต้องรอถึง 2012  ต่อให้โลกแตกตอนนี้ไอ้เวย์ก็ตายตาหลับแล้วครับท่านผู้ชม

“ยิ้มไรน่ะ  ดีใจอ่ะดิมีคนหลง”  ไอ้ฟาย  มึงไม่ต้องล้อกูได้มั้ย  ไอ้บ้านี่

“บ่ะ..” กำลังจะด่าคำเดิม  แต่เกิดกลัวมุกบ้ารักของมันจะมาอีกรอบก็เลยเปลี่ยนครับ “เชี่ย  เงียบไปเลยมึง”

“กล่อมให้เอามะ” ข้อเสนอที่มาพร้อมกับมือที่ลูบผมเบาๆ ชวนให้ใจเต้น 

“...”  นี่มึงไปฝึกลูกอ้อนพวกนี้มาจากไหนวะ  บอกไว้ก่อนนะว่ากูไม่ใช่พวกแม่ยก  อ้อนนิดอ้อนหน่อยจะได้ประเคนพวงมาลัยติดแบงค์พันให้มึงน่ะ

 

“ไม่เอา?  งั้นนอน” 

“เฮ้ย  เอา”

“หืม  ว่าไงนะ  ไม่ได้ยิน” ไม่ได้ยินบ้านป้ามึงสิครับ  กูเห็นนะว่าหูมึงกะดิกรับคำพูดกูนะ  ยังมีหน้ามาปฏิเสธ  กูเห็นค้อน  ทั่ง โกลนของมึงสั่นอยู่ชัดๆ  อยากจะเถียงแต่สุดท้ายก็แพ้สายตามันครับ  ผมนี่เกิดมาเพื่อแพ้คนอย่างมันจริงๆ

“กล่อมเร็วๆ  ง่วง”

ไอ้ไนท์ยิ้มกว้าง  ยื่นหน้ามาจูบหน้าผากผมเหมือนอย่างที่มันชอบทำเวลาจะนอน  มันดึงหัวผมมาซบไหล่ตัวเอง  อีกมือลูบหลังผมเบาๆ เป็นจังหวะ  ก่อนที่มันจะเริ่มร้องเพลงที่นอกจากจะทำให้ผมหลับไม่ลงแล้ว   ยังยินดีไม่หลับเพราะมันอีกด้วย

 

“หากฉันจะรัก  รักใครสักคน
เรื่องของเหตุผล สำคัญน้อยกว่าจิตใจ
จะบอกว่ารักเพราะอยากจะรัก  ก็คงไม่มากเกินไป
ใครจะมองยังไง ฉันคิดว่าไม่สำคัญ
แค่รู้ว่ารัก รักเธอจนหมดใจ
ไม่รู้ตรงไหน ขอเพียงแต่ให้เป็นเธอ
ไม่มีตรงไหนที่ไม่รัก  รักเธอที่เธอเป็นเธอ
ไม่ได้พลั้งได้เผลอ  ฉันรักเธอเพียงผู้เดียว
 
 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร เพราะมันไม่ใช่เธอ
แต่ขอให้เป็นอย่างเธอ ทั้งตัวและหัวใจ
ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ จะดี  จะร้าย
ถึงแม้จะเป็นอย่างไร  ไม่เสียใจที่รักเธอ”
 

แค่นี้...ผมยังจะต้องการอะไรอีกครับ  ไม่ว่ามันจะจำได้หรือไม่  มันสำคัญยังไง  ขอแค่มันกอด  บอกรักผมอย่างที่มันทำอยู่ทุกวันนี้  ผมยังจะ..อ้อนวอนขอความสุขอื่นใดจากพระเจ้าได้อีก

 

………………………………..


ขอโทษด้วยนะคะ  งานนุ่นเยอะจริงๆ  ที่จริงตอนนี้แต่งเสร็จตั้งแต่ปีใหม่แล้ว  แต่เอาลงที่นี่ไม่ได้  กลับบ้าน  ใช้คอมน้องแล้วเข้าเมมตัวเองไม่ได้อ่ะ

ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยนะคะ  ขอให้มีความสุข  สุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 05-01-2010 22:25:22
ncหายไปไหนอ่ะพี่นุ่น

ไนท์คนไหนก้อเป็นไนท์คนเดิมคนๆเดียวกัน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 05-01-2010 22:40:47
ขอตอบก่อนค่อยอ่าน :n1:
มาต่ออีกนะเพาะปีใหม่ต้องมีเเบบเบี้น2เลยครับ :mc4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 05-01-2010 22:43:13
คงต้องรอในหนังสือแล้วมั้งคะ :sad4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 06-01-2010 00:11:53
เอ่อ.........ขอแบบไนท์ความจำเสื่อมไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องมีวันหายเลยได้ป่ะ
เพราะตอนนี้มันอ้อนน่ารักดี ไอ่ไนท์คนเก่านิสัยเสียอ่ะ
แต่เวย์น่ารักเหมือนเดิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 06-01-2010 00:41:07
 :-[
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 06-01-2010 08:08:37
จะเอา NC พี่นุ้นเอามาลงนะนะนะนะนะ
ที่ dek-d ก่ออดอ่านเเล้ว มานี่หยังจะไม่ได้อีก
น่อยใจเเล้วนะตามมาก่อไม่มีสาก  :oo1:ให้เลือดสูบชิด :sad11:
ไม่รักเพ่นุ้นเเล้วไปละ :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 06-01-2010 12:38:57
ไนท์น่ารักอ่ะ..

ขี้อ้อนด้วย...อยากได้ซักคน.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™» ที่ 06-01-2010 14:44:54
น่ารัก จังเลยคั้บบบ    :oo1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 06-01-2010 20:23:56
จะไนท์คนใหม่หรือไนท์คนเก่า

ก็รักทั้งนั้น

จะจำได้หรือไม่ก็ชั่งมัน

อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 06-01-2010 21:09:44
ตามอ่านทันแล้ว น่ารักจังเลยอ่ะ อบอุ่นดีค่ะ ชอบเวย์อ่ะฮาดี ส่วนไนท์ไม่ว่าจะยังงัยเวย์ก้อยังสำคัญที่สุดสำหรับไนท์เสมอ น่าร๊ากจัง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 06-01-2010 21:31:34
ชอบเวย์จังอ่ะ คนอะไรตลกจริงๆเลยอ่ะ :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon3oyd ที่ 06-01-2010 23:02:38
อร๊างงงง น่ารักง่ะะะะ ><
ไนท์ อ้อนซ๊าาาาาา
 :-[
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 06-01-2010 23:11:25
อร้ากกกก   น่าร้ากอ่า   :-[  ไนท์เวอร์ชั่นนี้

แต่ถึงจะเปนแบบไหน  เวยเค้าก้อรักอยู่ดีแหละ อิอิ



สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วยค่ะคนแต่ง :L2:

ยังไงก็รักษาสุขภาพน้า  รออ่านเสมอ   o13
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 06-01-2010 23:19:21
ไนท์น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก
โดยเฉพาะตอนเอาหัวมาถูๆ อ่ะ
อย่างที่เวย์บอก
ไม่ต้องรอ 2012 ก็อาจจะตายได้
 :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: NUTTYZERO ที่ 06-01-2010 23:46:55
 :z13: ตามอ่านจนทัน 555+


และก็จะรออ่านต่อไปนะครับ^^  :a5:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 06-01-2010 23:49:16
ไนท์น่ารักมากๆเลยค่ะ (เวย์ก้อด้วย)

ชอบมากๆๆ o18

ยังงัยจะรอติดตามอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 07-01-2010 00:22:01
งืมม

ไนท์ซอฟท์ลงมาเยอะเลยนะเนี่ยย

ถ้าผมเป็นเวย์ก็คงแปลกๆอยู่เหมือนกันอ่ะ

แต่ก็..

ยังไงก็น่ารักเนอะ

ทั้งคู่เลย

ปีใหม่ก็ขอให้มีความสุขมากๆๆ

และสุขทุกวันนะครับ

 :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 08-01-2010 20:40:00
 :-[ น่ารักที่สุดเล้ย !!!
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Lala ที่ 08-01-2010 23:43:54
น่ารักไปอ่ะ...
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 09-01-2010 19:40:20
เขียนตอนย้อนอดีตเยอะๆนะครับ

ฮาดีครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: cascada ที่ 10-01-2010 00:26:30
ชอบอ่าาา
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 10-01-2010 02:29:46
วันเด็ก พาเด็กไปเที่ยวไหน ไม่ยอมมาอัพ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 10-01-2010 09:08:07
เฮียน่ารักเนอะ  :o8:

ปอลิง.. เด็กที่ไหนหว่าท่านแบท  :z2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 10-01-2010 14:48:52
อร๊ายยยยยยยย น่ารักได้ใจ :-[
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 11-01-2010 18:30:33
 :z2: :z2:รอรอพี่นุ่น
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: prophet_doll ที่ 11-01-2010 21:50:13
เหอ เหอ ไม่ชินแฮะ ไนท์
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 12-01-2010 15:57:20
:m32: แอบย่องเข้ามาอ่านน คงไม่มีใครเห็นนะ

เดี๋ยวเขาหาว่าเราเฉย  เพิ่งได้อ่านรวดเดียวจบ

สนุกมากมายย ไร้คำบรรยายย

แต่ว่ามาอ่านตอนคนเขียนยุ่ง ๆ ซะงั้น

ก็เลยมาค้างเติ่งกับคนอื่น  :laugh:



เอามาต่ออีกนะค๊าบบ จะขาดใจตายแว้วว อยากอ่าน ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 12-01-2010 20:11:31
รอคอยเธอมาแสนนาน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10] (P.52)
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 13-01-2010 14:37:00
เฮียน่ารักเนอะ  :o8:

ปอลิง.. เด็กที่ไหนหว่าท่านแบท  :z2:

ไม่รู้มันไม่พาไปดู 555 ต้องตามสืบ  

ปอลิง.มั่ง  คนเขียน จมกองหนังสือภาษาต่าง ๆ ตาย แค่เห็นตัวอักษรต่างด้าว ก็ปวดหัวแล้ว ไม่รู้มันเรียนไปได้ไง -*-  แถมหนาโครต ๆ เอาไว้แทนหน้าสามได้เลย


หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: porpeppe ที่ 13-01-2010 16:24:37
รักเวย์..รักไนท์

สู้ต่อไปคร้าบไรท์เตอร์

 :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 13-01-2010 20:00:01
แค่นี้ก็รักตายและ น่ารักมั่กมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 13-01-2010 20:37:25
อะ....

ไม่ได้เข้าบอร์ดนานมาก ก ก ก

ไนท์ก็ยังคงเป็นไนท์ จะไนท์คนไหน เวย์ก็รักทั้งนั้นแหละ

เนอะๆ ๆ ๆ ๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ai_no_uta ที่ 13-01-2010 21:03:42
น่ารัก มากๆๆๆๆๆๆ เล้ยยยย




ชอบอ่ะ  :L2:


ไนท์♥เวย์ 4EveR อิอิอิ   :L1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 3 ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร 05/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2010 22:12:12


บทที่ 4  Swift Shift
 
   ...อยากจะขอแค่เพียงกอดเธอได้ไหมก่อนเธอจะทิ้งไป  ให้มันซึ้งถึงหัวใจ  จนนาทีสุดท้าย  เจ็บช้ำแค่ไหน  แม้หัวใจ...
 
   “ฮัลโหล”
   “มึงถึงไหนแล้ว”  เสียงไอ้นุตะโกนลอดผ่านสายโทรศัพท์  ไฟกำลังไหม้ก้นมึงรึไงวะถึงต้องแหกปากเป็นหมาโดนผึ้งต่อยอย่างนี้ 
   “ถึงสวรรค์มั้งมึง”  ด้วยความหมั่นไส้ผมเลยกวนมันกลับ  ไม่นึกว่าไอ้เจ้านรกเดินได้คนข้างๆ มันจะหยุดเดินกึกเพื่อส่งสายตาพิฆาตเจ็ดคาบสมุทรมาให้  นี่ถ้ากูไม่รู้ว่ามึงหึง  (กร๊ากกก  เข้าข้างตัวเองเต็มตีน)  กูต้องเผ่นโลดแล้วนะเนี่ย  กลัวโดนมึงฆ่าทางสายตา
   “เออ  อยู่หน้าคณะแล้ว  เออๆ  พูดมากจริงมึง” ผมกดวางโทรศัพท์ แสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาตั้งคำถามบวกไม่พอใจน้อยๆ ของคนข้างๆ
   “ใครโทรมา”  นั่นไง  มันมาแล้วคำถามนี้...  หึหึ  เริ่มอยากแสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกูแล้วล่ะสิมึง  กร๊ากกกก  ถ้าได้เห็นหน้าผมแอบยิ้มตอนนี้อาจจะถึงขั้นหมดศรัทธาในตัวผมได้ครับ  เมื่อคืนไอ้เวย์อุตส่าห์หน้าด้านหน้าทนลงทุนอ้อนไปไม่ใช่น้อยๆ  ถ้าวันนี้มันยังไม่หวงผมล่ะก็  ไอ้ที่ทำไปเมื่อคืนก็ขาดทุนย่อยยับหมดสิครับ  หึหึ
   “นายกฯ” อ้าว  กูก็ปากไว   ทำตัวเชื่องๆ ไว้สิมึง  อย่าไปกวนมัน  ถึงมันจะติดเป็นสันดานก็พยายามขุดลอกออกเข้า
   “ตลก  ใคร”  เออ  ตลก  แต่กูเห็นหน้ามึงแล้วเริ่มตลกไม่ออกว่ะ  ทำไมวะ  กูล้อเล่นหน่อยไม่ได้  นายกฯ ท่านไม่ว่างมาว่าหรอกน่า  งานกำลังล้นมือ  ต่อให้กูลามปามมากกว่านี้อีกสักเล็กน้อย  คนไทยก็ไม่สามัคคีกันขึ้นมาได้หรอก  หากคนไทยหันมาฆ่ากันเอง  จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง   -*-  เออเว้ย  โคตรจะเกี่ยวกัน
   “ไอ้นุ โทรมาถามว่าจะถึงโรงอาหารรึยัง  ไส้มันจะขาดแล้ว” 
   “เออ  เดี๋ยวคอมันจะขาดด้วย  เบอร์กูก็มี  เสือกโทรหาเมียกู  เดี๋ยวเถอะมึง”
   ...O.O!?...
   รู้สึกอย่างที่ผมรู้สึกหรือเปล่าครับ  ไอ้ท่าทางแบบนี้  ไอ้คำพูดแบบนี้  มัน  มัน..ไอ้เวรไนท์ชัดๆ  เออ  มันก็เป็นไอ้ไนท์อยู่แล้วนั่นแหละ  แต่..แต่ ไม่ใช่ไอ้ไนท์คนเมื่อคืน  คนเมื่อเดือนที่ผ่านมา  แต่เป็นไอ้ไนท์ที่ปากหมา  บ้าอำนาจและหน้าด้านหน้าทน  ไอ้ไนท์...ที่ไม่ใช่ไอ้คนที่ร้องเพลงกล่อมผมนอน  หรือว่าเมื่อคืนนี้ผมฝันไป?  หรือตอนนี้ผมกำลังละเมอ  เมารัก  เมาลม  เมาแอร์
   “มึง...”  ผมอยากจะถาม  แต่จะถามว่าอะไร?
   “ครับ”  มันตอบรับด้วยใบหน้าซื่อๆ  แถมยังยิ้มให้ผมอย่างเอาใจ  อ๊ากกก  ไอ้ฟาย  ตกลงมึงจะสุภาพหรือปากหมา  มึงช่วยเลือกเอาสักอย่างได้ไหมครับ  กูตามไม่ทัน
   “..เปล่า”
   “ทำไม  หิวอ่ะดิ  โทษทีเมื่อคืนหนักไปหน่อย” มันยกมือเกาท้ายทอย  ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี  นี่ตกลงมึงสำนึกหรือสนุกอยู่กันแน่วะเนี่ย
   “ไอ้..พูดได้หน้าตาเฉยเลยนะมึง”  ผมก็พอจะรู้หรอกครับว่ามันหน้าด้าน  แต่ไม่คิดว่ามันจะทั้งหนาทั้งด้านยิ่งกว่าไม้ตะเคียนอย่างนี้  นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า  คนพูดไม่อาย  คนฟังแทรกแผ่นดินหนี
   “อ้าว  เรื่องจริง  หรือนายอายที่อยู่กับผม”  จบข่าวครับ เจอดอกนี้เข้าไปไอ้เวย์ใบ้รับประทานเลย  พอเห็นผมไม่เถียง  ที่จริงคือเถียงไม่ได้ มันก็ผิวปากกวนตีน  ยกมือกอดคอผมเดินไปยังโรงอาหาร  นี่สรุปด้วยเหตุผลของมัน  ผมต้องยอมหน้าด้านตามว่างั้นเถอะ  ถ้าสมมุตินะครับ  สมมุติ  ถ้าผมกับมันเกิดผีเข้าเล่นลมกันกลางโรงอาหาร (มึงสมมุติได้น่ากลัวมา)  ผมก็ต้องยืดอกรับอย่างภาคภูมิ  เพราะมันเป็นเรื่องจริงที่ผมอยู่กับมัน  -*-  กูจะบ้าตาย  สรุปนี่กูได้กำไรหรือขาดทุนย่อยยับกันแน่วะเนี่ย
   
 
   “ทางนี้มึง”  ไอ้นุตะโกน โบกมือมาจากโต๊ะประจำของพวกผม  ดูท่ามันคงหิวไส้จะขาดจริงๆ แหละครับ  ทำท่าเหมือนหมาเห็นเจ้าของ  แล้วต้องวิ่งน้ำลายหกมาพันแข้งพันขา  เพราะหิวข้าว   ผมกำลังจะเดินไปหามันตามประสาเจ้าของหมาที่ดี  แต่แขนที่โอบรอบคอผมอยู่มันกลับออกแรงลากผมออกไปคนละทิศ  ไม่นานเราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายอาหารตามสั่ง
   “ข้าวไข่พะโล้  อ้ะ  เปลี่ยนเป็นผัดผักกับหมูทอด 2 จานครับป้า”
   “เฮ้ย  ไม่เอา  กูไม่กินผัก”  หรือว่ามันจะลืมไปแล้วว่าผมไม่ชอบกินผัก  หรือว่ามันจะแกล้งไม่ให้ผมได้กินไข่พะโล้   อย่าฝันเลยมึง  กูต้องกินของกูทุกวัน  ขาดไม่ได้เดี๋ยวตาย  ไม่เว่อร์นะครับ  แค่ล้นๆ พอน่ารักน่าเอ็นดู
   “ก็ใช่ไง  ถึงเวลาที่มึงต้องกินแล้ว”
   “ไม่”  ให้กูกินผัก  มึงเอาอ้วกหมามาให้กูกินแทนข้าวเลยดีกว่า = =;;  สวนมันในใจครับ  ไม่กล้าท้า  กลัวมันทำจริง
   “อย่าดื้อนะมึง  ที่นี่กูไม่ตามใจกูหรอก  ไว้กลับบ้านเมื่อไรจะเอาแต่ใจแค่ไหนก็ตามใจมึง”  ดุเสร็จมันก็ยื่นมือไปรับจานข้าวพร้อมจ่ายเงินให้เรียบร้อย   แล้วใช้สายตาบังคับให้ผมเดินตามมันไปที่โต๊ะแต่โดยดี   เก่งจริงนะมึง  มือไม่พอใช้  แค่สายตามึงก็บังคับคนได้  กูล่ะนับถือมึงจริงๆ
   สรุป..อยู่บ้านผมคุม  อยู่มอมันใหญ่ว่างั้นเหอะ  มันช่างจัดแบ่งได้เท่าเทียมกันดีแท้
   “ไง สายนะมึง”  ผมกำลังจะอ้าปากเถียงไอ้นุ  ใครบางคนก็แทรกขึ้นมาก่อนว่า
   “มึง  ไสตูดไปนั่งตรงนู้นไป”
   ไอ้ไนท์ครับ  สั่งเพื่อนมันไสตูดหนีเสร็จ (ด้วยตีน) มันก็จัดการวางจานข้าวผมกับมันลงข้างกัน  แล้วนั่งลงแทนที่ไอ้นุทันที  สุดโค่ยเลยมึง  ใครได้มึงเป็นเพื่อนนี่ชาตินี้คงไม่ต้องหาเพื่อนใหม่ที่ไหนอีก  เพราะคงจะกลัวการมีเพื่อนไปตลอดชีวิตแน่ๆ
   ไอ้นุมันทำหน้ามุ่ย  แล้วลุกขึ้นไปนั่งอีกฝั่ง  ข้างๆ มันคือไอ้แชมป์กับหยกที่กำลังสนทนาธรรมหรืออย่างไรไม่ทราบ  เพราะมันทั้งดูเงียบและสงบผิดปกติ
   “กูจะจำไว้นะมึง  เห็นเมียดีกว่าเพื่อน”  นุครับ  ถ้ามึงช่วยหลีกเลี่ยงคำว่า “เมีย” ซึ่งบอกตำแหน่งบนเตียงอันชัดเจนเกินไปของกู  มาใช้คำน่ารักๆ อย่าง “แฟน”  ได้จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
   “เรื่องปกติ”  ไอ้ไนท์ตอบแล้วตักข้าวเข้าปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เออ กูเชื่อแล้วว่าสำหรับมึง  มันเป็นเรื่องปกติจริงๆ
   “O.O!!!!!!!!!!!!!!!!!!”  à  ไม่ใช่สายตาผมครับ  อาจเป็นเพราะผมเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันไนท์คนใหม่ได้แล้ว  ร่างกายเลยไม่เกิดอาการตกตะลึงจนขนลุกชันอย่างที่คนอื่นเป็นกัน  เพราะนอกจากผม  ทั้งหยก  ไอ้นุไอ้แชมป์ต่างกำลังมีสีหน้าตกใจจนน่าถ่ายรูปเก็บไว้ดูเล่นเลยครับ  ตาโตยิ่งกว่าเห็นซุปเปอร์แมนใส่กางเกงในกลับด้านเป็นไหนๆ (ไอ้อันนี้มันน่าตกใจยังไงวะ  เพราะถ้าคุณรับได้กับการใส่กางเกงในไว้ข้างนอกของเขา  ไอ้แค่จะกลับด้านไม่กลับด้าน  มันไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วล่ะครับ)
   ไนท์มันคงสังเกตได้ถึงสายตากบโดนกระทืบ (ตามันจะโตครับ)  มันถึงได้เงยหน้าจากจานข้าวในที่สุด
   “ทำไม?  กูผิดเหรอ  มึงกับไอ้เวย์เทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว”  พูดจบ  มันก็ก้มลงไปสวาปามข้าวในจานต่อ  มันอร่อยมากเลยรึไงวะเนี่ย  มึงช่วยสนใจพวกกูก่อนได้มั้ย  โดยเฉพาะไอ้นุเนี่ย  ตามันจะหลุดออกมาเด้งดึ๋งเป็นลูกชิ้นโอเด้งอยู่แล้วเว้ย  ว่าเข้าไปนั่น...อยากเห็นหน้าผมตอนนี้มั้ยครับ  ฮ่าๆ  อย่าเลย  เดี๋ยวจะหมดศรัทธาต่อเนื่องไปเสียเปล่าๆ
 
   “ซึ้งว่ะมึง  คำว่าเพื่อนฟังแล้วน้ำตาจะไหล”  ไอ้นุยกมือทำท่าปาดน้ำตาอย่างน่าหมั่นไส้ ปากมันก็ร้องบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นเพลงว่า  “คำว่าเพื่อน... พูดเบาๆ ก็เจ็บ”
   “เออ จะได้จำ”  ไอ้นี่ก็ตอกย้ำทุกครั้งที่เงยหน้าจากจานข้าวครับ
   “เออ  กูจำได้ว่าคบกับมึงมาตั้งแต่ขึ้น ม. 1 แต่ตอนนี้กูเป็นแค่ขี้มูก  ขี้ตา เศษรังแค  เป็นแค่ผิวหนังที่หลุดลอกจากข้อพับของมึง  กูมันไม่มีค่า  กูจะจำไว้  คำว่าเพื่อน..พูดเบาๆ ก็เจ็บ”
   “ที่กูคบมึง  เพราะสงสาร  อย่าลืม”
   “เออ  ขอบคุณครับสำหรับมิตรภาพที่มีให้  ที่ยอมคบกูเป็นเพื่อนตั้งเกือบ 10 ปี”
   “ไม่เป็นไร”
   .
   .
   ดีนะครับ  การมีเพื่อนเนี่ย  ผมไม่ได้อยากคิดมาก  ไม่ได้อยากทำตัวปัญญาอ่อน  คิดเล็กคิดน้อย  แต่มันก็อดเศร้าไม่ได้  มันจำได้ว่าคบกับไอ้นุตั้งม.1  จำได้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง  มันสนิทกันยังไง  เล่นกันยังไง  เรียนด้วยกันมายังไง แต่ความทรงจำที่เหลืออยู่นั้นกลับไม่มีผมอยู่เลย  หึ  ผมนี่เอาแต่ใจใช่มั้ยครับ  มักมากด้วย ได้คืบก็อยากจะเอาศอก  ตอนแรกขอแค่มันฟื้น  ผมยอมได้ทุกอย่าง  พอมันฟื้นแล้วบอกรักผม  ผมกลับโมโหที่มันจำผมไม่ได้  ที่มันเลือกจะลืมความทรงจำที่มีผมอยู่ทั้งหมด  ทำไม?  บางครั้งผมก็อดนึกไม่ได้ว่าทำไมมันต้องเลือกจะลืมผม  ทำไมต้องเลือกจะลืมแค่ผม  ทำไมต้องเป็นผม??   
   หรือมันโกรธ  มันเกลียดผมที่ผมไม่ยอมกลับไปกับมัน  ที่ผมเลือกจะเดินหนีจากมัน  มันก็เลยอยากลืมๆ ผมไปซะ   ถ้าเป็นอย่างนั้น  ถ้าวันหนึ่งมันเกิดจำได้ขึ้นมา  มันจะยังรักผมมั้ย?  จะยังอยู่ข้างๆ  คอยดูแล  คอยเอาใจใส่อย่างที่มันทำทุกวันนี้มั้ย
 
   “เป็นไร ทำไมไม่ยอมกินเลย  ไม่หิวก็ต้องกิน  เดี๋ยวปวดท้อง  ไม่ต้องให้ป้อนใช่มั้ย”  สนใจกูได้สักทีนะมึง  กูจิตตกเพราะมึงไปเรียบร้อยแล้วครับคุณไนท์
   “เออ”
   “งอนไร”  แน่ะ..เดี๋ยวนี้รู้ดี
   “งอนป้ามึงสิครับ  แค่กำลังฟังพวกมึงเถียงกันเพลินๆ  เถียงต่อดิ” ดู  โง่โคตรอ่ะผม  นิสัยมากๆ อย่างนี้ไม่งอนเลยครับ ไม่งอนเลย แถมปากยังไว  พูดไรไปมันจับความคิดได้หมด
   “อ๋อ  ไม่งอนแต่เหงา”  เห็นไหมครับ  มันจับได้หมด  เดี่ยวนี้มันเก่งแล้วครับ  หลอกมันก็ไม่ได้  โกหกก็ไม่ได้  อีกหน่อยซ่อนเงินไว้มีหวังหาเจอหมดแน่นอน  น่าน...ยังแยกกระเป๋ากันอยู่ครับ  ฮ่าๆๆ
   “ใครเหงา  ตลกแล้วมึง”  กูแค่แอบเหงา  กูแอบ  มึงต้องไม่เห็นสิวะ
   “กูเหงาเองครับ  มาๆ กินข้าว  ผักน่ะ  กินเข้าไปด้วย  ไม่หมดไม่เป็นไรแต่ต้องกิน”  มันยอมรับว่าเหงาแทนผม  ดูมันดิครับ  โคตรน่ารัก  ไอ้ฟายเอ๊ย  เดี๋ยวกูจับกดแม่งตรงนี้เลย  ไม่องไม่อายใครแล้วเว้ย
   “มึงเป็นพ่อกูรึไง”  ด่าแก้เขินครับ  ชอบอ่ะมันเอาใจ
   “หึ  กูเป็นอะไร  เดี๋ยวคืนนี้มึงก็รู้”
   “ไอ้...”
   “ไอ้หน้าด้าน”  เปล่าครับ  ไม่ใช่ผม  แต่เป็นไอ้นุกับไอ้แชมป์มันประสานเสียงกัน  ไอ้นุตะโกนด่าเสียงดัง  ส่วนไอ้แชมป์พึมพำด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย  ด่าเสร็จพวกมันก็หันไปมองหน้ากันแล้วหัวเราะ  เออ  ทำอย่างกับดีใจที่ใจตรงกัน  คิดเหมือนกันอย่างนั้นแหละ  พวกมึงนี่ก็ชักจะแปลกๆ
   ไอ้ไนท์นี่ก็แปลกพอกัน  เวลาอยู่ด้วยกันสองคนก็  เวย์ครับ  ผมอย่างโน้นผมอย่างนี้ อ้อนได้อ้อนดี  มาตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นไอ้คนอ้อนตีนแทนซะเฉยๆ  สรุปเมื่อคืนที่มันทั้งอ้อนทั้งเอาใจกูนี่เพื่อหวังฟันกูใช่ม้ายยยย  (หมายเหตุ :  เวย์..หนุ่มน้อยผู้เริ่มสงสัยว่าตัวเองกำลังถูกหลอกฟัน)
 
.............................
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2010 22:15:14

50%  ก่อนนะคะ  คือนุ่นใกล้จะโดดอาจารย์เหยียบย่ำ  เนื่องจากดองงานและขาดเรียนใกล้จะเกินกำหนด  ฮ่าๆๆ

ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามเหมือนเดิมค่ะ   ครึ่งหลังของตอนนี้เป็นเรื่องต่อของนุ แชมป์นะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 13-01-2010 22:34:35
^
^
^

555 ได้จิ้มพี่ซะที 



ว้าวว  จะได้อ่านตอนของนุกะแชมป์แล้ววว :impress2:

เริ่มสงสัยไนท์แล้วค่ะ  มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ  หรือว่า!!  (เดาในใจแต่ไม่กล้าพูด อิอิ o18)


หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 13-01-2010 22:39:26
ขอบคุณค่าน้องนุ่น

เป็นกำลังใจให้นะคะ :mc4:

ติดตามๆๆต่อไปค่า

 :bye2:

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: lomekung ที่ 13-01-2010 22:41:25


รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 13-01-2010 23:07:37
เฮียไนท์น่ารักๆๆ เคารพเมียเป็นอย่างยิ่ง

นุแชมป์เนี่ยใจตรงกันจังนะ

รออ่านตอนของคู่นี้อยู่น๊า
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 13-01-2010 23:39:38
 o13  ฮฺฮฺฮฺ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: i_lost in.. ที่ 14-01-2010 00:09:43
 :impress2: น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 14-01-2010 00:12:12
ครึ่งหลัง มาไวๆ :m13:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 14-01-2010 00:22:08
 :เฮ้อ:

แง่มๆๆ

เหมือนไนท์จาแกล้งลืมเลยอ่า

เนอะ ว่ามะ

แล้วยังไงง

ยังไง

โอ๊ยงง

เอาเถอะ

จิ้มใก้ละเน้อ

อั่นนี่

รักอ่ะ  และก็อยากบอกด้วย

กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 14-01-2010 00:41:22
ง่าาาา สู้ๆฮะ

แต่ไนท์นี่่สงสัยว่าจำเวย์ได้แล้วรึป่าวอ่ะ (อยากรู้แต่ไม่อยากถาม >> ได้ข่าวว่าถามไปแล้วนะนั่น = =")
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: porpeppe ที่ 14-01-2010 00:41:59
เหอ..มันไม่ช้าไปเหรอเวย์

อิอิ

แล้วมาต่ออีกนะ


จะติดตามต่อไป...

 :pig4:

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 14-01-2010 01:46:53
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เขียนสนุกมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ

พึ่งเข้ามาอ่าน ก็ติดงอมแงมเลย อ่านยาวเลย

พรุ่งนี้ทำงานต้องง่วงแน่เลย  แต่ยอมค่ะ ก็สนุกซะขนาดนี้

สู้ ๆ นะคะ  ขอบคุณค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 14-01-2010 04:36:45
เอ๊ะ หรือว่าไนท์จะแกล้งลืม  :confuse:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 14-01-2010 06:30:36
น่ารักแบบสั้นๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 14-01-2010 13:11:54
เพิ่งจะรู้หรือว่าโดนหลอก.....

สลับกันซะ เปลี่ยนบรรยากาศ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 14-01-2010 13:40:37
สนุกมากคร้าบ
= w =
ยังไงกะอยากให้นุกะแชมป์คู่กานอ่า
แงๆๆ (ดูเอาแต่ใจเนอะ..- [] -)
ขอบคุณนะครับ
มาต่อไวๆน่อ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 14-01-2010 16:01:10
รอๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 14-01-2010 18:33:10
หง่ะ
น่ารักดี
แต่เรื่องมันงงๆ ป่ะคับ
หรือว่าผมงงเองคนเดียว??
คือตอนนี้ไนท์หายดีแล้วป่ะ??
แล้วอยู่ปี 4 แล้ว (เริ่มคบนุมอ 1 บอกคบมา 10 ปี ตอนนี้ก็ปี 4)
เหมือนตอนก่อนรถชนไม่ได้อยู๋ปี 4 นี่นา
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-01-2010 18:50:55
น้องเวย์ ขรา  ตราวหน้าหนูก็แกล้งขัดขืนมั่งอะไรมั่งอย่าไปใจอ่อนกับคำออดอ้อนดิ๊


สงสัยช่วงสลบ น้องไนท์ สมองสับสน เดี่ยว ขี้อ้อนเดี่ยว ปากหมา เง้อ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 14-01-2010 19:36:41
น่ารักอ่ะเวย์เอ๋ยสงสัยจิงๆถามไปเลย :z1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 14-01-2010 22:16:12
ชอบเวย์จัง ฮาได้ใจมากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 14-01-2010 22:26:16
ชอบไนท์แบบตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยมากกว่านะ อ่านแล้วคิดถึงไนท์คนเดิมมากๆเลยค่ะ

ยังติดตามอยู่เสมอนะ ช้าไม่เป็นไร จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: jeeyingvii ที่ 15-01-2010 20:03:09
ชอบเวย์มากอะ อ่านภาคแรกแล้วติด อ่านภาคนี้งงยังไงไม่รู้อะ :jul3: :z3:แต่ก็ o13
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: jobisuka ที่ 16-01-2010 13:12:48
เค้าไม่เรียกว่าโดนหลอกฟันหรอก เค้าเรียกสมยอมตะหาก เอิ๊ก ๆ
 :jul3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 16-01-2010 20:11:30
ชอบมากครับ
สนุกๆๆๆๆ
 :n1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 16-01-2010 21:18:33
อยังไงก่อมาต่ออีกนะครับบบบบบ
สู้ๆนะครับ :m9:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 16-01-2010 21:29:44
ชอบเวย์มากอะ อ่านภาคแรกแล้วติด อ่านภาคนี้งงยังไงไม่รู้อะ :jul3: :z3:แต่ก็ o13

เห็นมั้ยครับ
มีคนงงเหมือนผมจริงๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 17-01-2010 01:46:51
อ๊ากกกก จะเอาตอนต่อปายยยยยอ่าาา   o9
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: porpeppe ที่ 17-01-2010 02:37:01
มาๆๆๆๆๆๆ

ต่อได้แล้วขอรับ..

อยากอ่านจายจะขาดรอน~~~รอน

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon3oyd ที่ 17-01-2010 11:33:34
น่ารักจังงงงงงง
รอครึ่งหลังจ้าาาา ><
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 17-01-2010 12:30:21
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักแบบสุดโค้ๆๆๆๆๆๆ :z3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 17-01-2010 14:44:04
ขอบคุณที่เข้ามาต่อให้ครับ
มาไวๆนะครับ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 17-01-2010 14:55:47
พานายเวย์มาฮาหน่อยซิครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 17-01-2010 16:46:58
กรี๊ดกำลังสนุกอยู่เลยค่ะ

ไม่ได้อ่่านเรื่องนี้ตั้งนาน คราวนี้ก็มาตามเก็บต่อ

ขอให้ไนท์กับเวย์มาแจมเยอะๆ นะคะ

แล้วรักกันหวานชื่นอีกคู่ด้วยนา
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 20-01-2010 01:28:55
อยากได้ไนท์อ่า

เวย์

ลองดูหน่อยดิ

อิอิ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10] (P.54)
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 20-01-2010 16:22:06
หง่ะ
น่ารักดี
แต่เรื่องมันงงๆ ป่ะคับ
หรือว่าผมงงเองคนเดียว??
คือตอนนี้ไนท์หายดีแล้วป่ะ??
แล้วอยู่ปี 4 แล้ว (เริ่มคบนุมอ 1 บอกคบมา 10 ปี ตอนนี้ก็ปี 4)
เหมือนตอนก่อนรถชนไม่ได้อยู๋ปี 4 นี่นา


มาตอบแทนคนเขียนนะค่ะ รู้สึกหลาย ๆ คนจะ งง มึน ๆ กันกับภาค 2  

ไนท์กับเวย์ อยู่ ปี 3 ค่ะ  ส่วนที่บอกว่า  เริ่มคบนุตอนม.1 คบมา 10 ปี เป็นอยู่ปี 4 อันนี้ขออธิบายโดยยกประโยคที่นุพูดมานะค่ะ

 “เออ  ขอบคุณครับสำหรับมิตรภาพที่มีให้  ที่ยอมคบกูเป็นเพื่อนตั้งเกือบ 10 ปี”

การใช้ คำว่า  " ตั้งเกือบ 10 ปี "  

คนเขียนใช้คำแบบเปรียบเทียบของคนไทยเราส่วนใหญ่ในการที่ไม่ระบุระยะเวลาที่ชัดเจน
ส่วนใหญ่ จะไม่มีใครพูดหรอกกว่าคบกันมา 8 ปี 9 ปี แล้ว
ที่เราเห็นในชิวิตประจำวันก็คือ คบกันมาเกือบ 1 0 ปี หรือ คบกันมาเป็น 1 0 ปี  

คือ ตั้งแต่ ม.1 ถึง ปี 3 จริง ๆ ก็คือ 9 ปี แต่ในภาษาไทยเรามักจะใช้  
ประโยคเช่น  คบกันมาเป็น 10 ปี  ก็คือ อาจจะเป็นคบกันมา  9 ปี หรือ  11 ปี ก็เป็นไป

และอาจจะมีคนงง ตอนขึ้นต้นของภาค 2 ด้วย ตอนต้น ๆ เป็นการย้อนนึกถึงอดีตของเวย์ค่ะ จะเป็นข้อมูลพื้นฐานในตอนหลัง ๆ ต่อไป

ถ้าใคร งง สันสน หรือมีตรงไหนต้องการแนะนำ แจ้งไว้ได้เลยนะค่ะ

ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ


หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 20-01-2010 21:40:28
อย่าหายไปอีกนะมาตอไวๆนะพี่
สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: natingle ที่ 22-01-2010 17:03:30
งุงิๆๆ
หายไปไหนๆๆ
มาต่อหน่อยจ้า
อยากอ่านแล้ว  :sad4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 24-01-2010 14:37:06
I Miss YoU  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 25-01-2010 13:32:51
อะ....

สงสัยไนท์จะอ้อนหวังเวย์.....รึเปล่าจ๊ะ...

อิ อิ :mc4:

รอมาต่อนะงับ...
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 25-01-2010 16:18:21
 :angry2:  เฮ้ย คนเขียน เห็นม่ะว่าคนรอกันมากมายเนี้ย เดี๋ยวเถอะ เอาแต่เรียนนิยายไม่ยอมลง นะ   นี่แน่ะ  :beat: :beat: :beat: :beat:

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 28-01-2010 18:54:49
มารอค่า...แต่ยังไม่มาเลยยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 29-01-2010 23:37:05
แวะมาเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 30-01-2010 23:35:50
 :-[  เป็นกำลังใจให้นะ



อย่าลืมมาอัพนะคะ


ไนท์น่ารักอ่า~~~~ :impress2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 31-01-2010 02:20:50
จะครึ่งเดือนแล้วน๊า มาต่อเหอะ
กะลังสนุกเลย :really2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 01-02-2010 20:52:36
 :sad4:นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆเเล้วนะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 01-02-2010 21:11:53
ไนท์น่ารักขึ้นนะเนี่ยตั้งแต่ความจำเสื่อม
เวย์ก็น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย
ชอบๆๆๆๆๆๆ รีบมาต่อไว ๆ เน้อ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 03-02-2010 16:17:45
มาเยี่ยมครับ เดี๋ยวจะลืม
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 04-02-2010 08:33:31
เค้าหายไปไหนนะ แจ้งตำรวจดีมั้ยนั่น  :confuse:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 04-02-2010 16:39:40
อ้างถึง
กราบสวัสดีทุกท่าน
ข้าพเจ้าจะสารภาพบาปล่ะนะ T^T
ข้าพเจ้า ยังมิได้แต่งต่อเลยแม้แต่บรรทัดเดียวอ่ะ ฮืออออ
คือนุ่นงานยุ่งจริงๆ นะ ยุ่งมากๆๆ แบบไม่ได้หาข้อแก้ตัวจริงจริ้ง (พุดจริงจ้า)
ตอนนี้งานก็ยังคงกองสุมหัวไม่มีเปลี่ยน ไม่ยอมลดลง เพราะส่งไปแล้วโดนสั่งแก้อ่า แง๊ๆๆๆๆๆๆ

ปล. ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ สงสัยจะต้องรอจนกว่าจะสิ้นเดือนกุภา สอบเสร็จนั่นแล้วล่ะค่ะ ขอโทษด้วยจริงๆ น้า ฮึกๆ

นำข้อความจากคนเขียนมาส่งค่ะ

มันยังมีชีวิตอยู่ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งแจ้งความกัน   :z2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 05-02-2010 08:06:45
โดนสั่งแก้  :z1:

โหย ๆๆ สิ้นเดือนกุมภา เหมือนจะสิ้นใจ อ๊ากกกกกกกกกก

ขอให้งานเสร็จเร็ว ๆ นะค๊าบบบบ  :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 05-02-2010 13:06:17
 o13 :3123: :impress2: :z1: :m20:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 07-02-2010 23:15:01
ดีนะที่เดือนกุมภามีแค่ 28 วัน ถ้ามี 31 วันนี่ได้ลงแดงแน่ (>>> น้อยกว่าแค่ 3 วันเนี่ยนะ = =" )
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 12-02-2010 23:32:39
อย่าลืมมาต่อน้า
จารอหลังกุมภา = w =
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 15-02-2010 22:15:06
สุขสันต์หลังวันแห่งความรัก :L2:
และวันปีใหม่จีน  :mc4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 16-02-2010 22:06:34
คิดถึงๆๆๆๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10] (P.54)
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 16-02-2010 23:18:15
หง่ะ
น่ารักดี
แต่เรื่องมันงงๆ ป่ะคับ
หรือว่าผมงงเองคนเดียว??
คือตอนนี้ไนท์หายดีแล้วป่ะ??
แล้วอยู่ปี 4 แล้ว (เริ่มคบนุมอ 1 บอกคบมา 10 ปี ตอนนี้ก็ปี 4)
เหมือนตอนก่อนรถชนไม่ได้อยู๋ปี 4 นี่นา


มาตอบแทนคนเขียนนะค่ะ รู้สึกหลาย ๆ คนจะ งง มึน ๆ กันกับภาค 2  

ไนท์กับเวย์ อยู่ ปี 3 ค่ะ  ส่วนที่บอกว่า  เริ่มคบนุตอนม.1 คบมา 10 ปี เป็นอยู่ปี 4 อันนี้ขออธิบายโดยยกประโยคที่นุพูดมานะค่ะ

 “เออ  ขอบคุณครับสำหรับมิตรภาพที่มีให้  ที่ยอมคบกูเป็นเพื่อนตั้งเกือบ 10 ปี”

การใช้ คำว่า  " ตั้งเกือบ 10 ปี "  

คนเขียนใช้คำแบบเปรียบเทียบของคนไทยเราส่วนใหญ่ในการที่ไม่ระบุระยะเวลาที่ชัดเจน
ส่วนใหญ่ จะไม่มีใครพูดหรอกกว่าคบกันมา 8 ปี 9 ปี แล้ว
ที่เราเห็นในชิวิตประจำวันก็คือ คบกันมาเกือบ 1 0 ปี หรือ คบกันมาเป็น 1 0 ปี  

คือ ตั้งแต่ ม.1 ถึง ปี 3 จริง ๆ ก็คือ 9 ปี แต่ในภาษาไทยเรามักจะใช้  
ประโยคเช่น  คบกันมาเป็น 10 ปี  ก็คือ อาจจะเป็นคบกันมา  9 ปี หรือ  11 ปี ก็เป็นไป

และอาจจะมีคนงง ตอนขึ้นต้นของภาค 2 ด้วย ตอนต้น ๆ เป็นการย้อนนึกถึงอดีตของเวย์ค่ะ จะเป็นข้อมูลพื้นฐานในตอนหลัง ๆ ต่อไป

ถ้าใคร งง สันสน หรือมีตรงไหนต้องการแนะนำ แจ้งไว้ได้เลยนะค่ะ

ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ




ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ
ฝากบอกคนเขียนด้วยว่ายังไงก็รออ่าน
ว่างๆ ก็เข้ามาต่อบ้างนะครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shiro_niji ที่ 17-02-2010 00:13:46
อ้ากเราลืมไปแล้วว่าอ่านถึงตอนไหน
อ้านย้อนๆ
ซึ้ง
เหมือนนู๋เวย์จะถูกหลอกจิงๆนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 24-02-2010 08:19:53
รอนานอีกตามเคียยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 27-02-2010 18:49:58
แวะมารออ่านเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-03-2010 00:07:28
นั่งอ่านทั้งคืน...ในที่สุดก็ทัน o18
นู๋เวย์โดนเพื่อนไนท์อำแหงเลย :z1:
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์นะคร้า รีบสอบ รีบเคลียร์งาน แล้วรีบมาต่อน๊า :-[
+1 ขอบคุณสำหรับความน่ารักของเวย์
ติดใจอย่างจังเลยอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: porpeppe ที่ 02-03-2010 01:46:57
ตั้งตารอ..อย่างใจจดใจจ่อคร๊าบป๋ม

มาต่อเร็ว..เน้อ

 :call: :call:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่ที่รัก ที่ 02-03-2010 06:11:03
มารอด้วยยยย
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 03-03-2010 21:40:09
เกียดคนเเต่ง :angry2:

จะด่องไปถืงไน่ :m31:

อย่างนี่ต้อง :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:ฃ
 :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 04-03-2010 12:55:26
เฮ้ยไอ้คนแต่งอ่ะ หมดเดือนกุมภาแล้ว นะ
อย่ามัวแต่อู้ ลุกขึ้นมาแต่งต่อซะ
อย่าหนี อย่าหลบ ไม่งั้น
 :z6:  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 16-03-2010 16:08:38
เอ้ ตอนใหม่ ๆ  อยู่ไหนว่า

 ตอนคั่นเวลาช่วงสมองตันอ่ะ   o18

ยังไม่เอามาล่ะซิ :z6: แทนคนแถวนี้
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: armchair2535 ที่ 16-03-2010 17:07:18
ชอบเรื่องนี้อ่ะ

   องค์ประกอบทุกอย่างมันใช่หมดเลย     o13   
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 16-03-2010 17:44:11
^
^
^
น้องอาร์มอ่านเรื่องนี้
รอนานนะครับ
อิอิ
ปอลอ แต่สนุกจริง ไม่เถียง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 17-03-2010 09:05:34
เฮ้ย ยังไม่มาอีก  :เฮ้อ: 

เอามาเร็ว ๆ เข้า ลูกค้ารอ 

 :beat: :beat: :beat:

ฟ้อง คนเขียนไม่ยอมโผล่หัวเอามาลง  :z6:
ตอนนี้อยู่ไหนหว่า    :m31:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nanzari ที่ 19-03-2010 09:15:59
หมดเดือนกุมภา จนจะหมดเดือนมีนาไปอีกเดือนแล้วนะคะ
ยังไม่มาอีกหรอ  :monkeysad:
 :เฮ้อ: ต้องรออีกนานแค่ไหนนะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: honeymic ที่ 19-03-2010 16:40:22
 :monkeysad:
ไรท์เตอร์ where r u?
กลับมาเถอะผู้อ่านให้อภัยแล้ว
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 19-03-2010 20:25:45
นั่นดิ  คนเขียนมันหายไปไหน หว่า
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 19-03-2010 21:56:31
พี่นุ่น อัพ1ตอนเเล้วค่ะที่เว็บเด็กดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 19-03-2010 22:54:11
พี่นุ่น มาอับเร็วๆๆๆๆๆๆๆนะอย่าตันนานนักชีพี่ :angry2:

จะลมเเดงเเล้วนะ :m31:

มาตอมาตอมาตอ :o211:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: leeseunggi ที่ 19-03-2010 23:01:10
เรื่องนี้อ่านกี่ทีก็ไม่เบื่อเนอะ ^-----------------^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 19-03-2010 23:09:29
ไม่เบื่อแต่ก้ออยากอ่านตอนใหม่เน้อ
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 24-03-2010 00:58:55
รออยู่มาต่อเร็วนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ~EnSlAvE_tO_dEsIrE~ ที่ 25-03-2010 11:34:39
จาลงแดงแว้วน้าาาาาาาาาาาาา :m31: :m31: :m31:


มาต่อเร็วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :call: :call: :call:



 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 26-03-2010 09:28:17
สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจมากมาย ให้ความรู้สึก  :m1: :m11: :m2: :m15: :mc3: :m13: ฯลฯ

ขอบคุณนะค่ะ มาต่อเร็ว ๆ นะค่ะ คอยอยู่ค่ะ  o1
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 26-03-2010 23:10:48
 o18
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 26-03-2010 23:56:31
นานแล้วววววว
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: na_near ที่ 27-03-2010 00:51:14
รอร้อรอ  รอเธออยู่

นาน๊านา  นานน๊านนานๆๆๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Shock_n2n ที่ 30-03-2010 17:33:00
รออยู่นะงับ

กะลังค้างขั้นสูงสุด

รอคุณมาปลดปล่อย :laugh:

เป้นกะลังใจไห้นะงับ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 18 ของรกของหวง [Night's talk]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 31-03-2010 20:09:59
รุนเเรงเกินไปมะเนี่ย

อ๊ายยยยยยยยย

ใจร้าย
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 19.2 ใจคนรอ (2)
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 31-03-2010 20:24:53
นั่งร้องไห้ น้ำตาไหลพรากๆ เครื่องข้างๆมองเราเป็นคนบ้าไปเเล้ว

ความรู้สึกนี้ เราเข้าใจดีล่ะ


หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 01-04-2010 20:09:52
รอจนลงเเดงหรายรอบเเล้ว :angry2:

มาต่อนะนะมาต่อ :call: :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nanzari ที่ 01-04-2010 23:54:34
 :call: :call:

รอนานนนนนนนนนนแล้ว

มามะ...มาต่อซักที
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kartoon ที่ 14-04-2010 21:49:51
เพิ่งเข้ามาอ่าน เพื่อนแนะนำ อ่านวันเดียวจบ ถึงตอนนี้ค้างคาอ่ะอยากอ่านต่อ  มาต่อด้วยนะค่ะ ขอร้อง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 15-04-2010 13:57:29
คิดถึงคร้าบบบบบบบบ
หายไปนานนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 16-04-2010 19:59:41
 :serius2: หายไปเลยหรอจ๊ะ อย่าปล่อยคนอ่านให้รอนานจิจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kartoon ที่ 17-04-2010 18:47:27
รออยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 17-04-2010 23:42:51
ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 23-04-2010 14:38:53
มันไม่มีอีกแล้วไม่มี ไม่มีเธอแล้วข้างกาย ร้องไห้คนเดียวกับสายลมอยู่ทุกคืน เพราะห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย....ก็เพราะรักเธอ

แวะมาพร่ำเพ้อ ไร้เตอร์หายไปแล้ว.... :z3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: minsunye ที่ 26-04-2010 08:55:17
  รออยู่นะ อัพสักที เถอะคร้าบบ   :call:

  จะทำเป็นหนังสือมั้ยคับ 
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-04-2010 13:08:54
เข้ามาอ่านรอบที่ฉองแล้ว

เลยรู้ตัวว่า คิดถึงเรื่องนี้ที่สุดเลย

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-04-2010 13:24:25
แวะมารอด้วยความคิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-05-2010 22:49:34
เมื่อไหร่จะมาต่อค้าบบบ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 05-05-2010 02:10:09
เรื่องนี้น่ารักมากอะค่ะ...ว่าแต่คุณคนแต่งหายตัวไปไหนละเนี่ยยยยย  :sad4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 07-05-2010 19:45:45
ลืมกันแล้วใช่มั้ยอ่า... :sad11:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 10-05-2010 18:17:40
เอ้า อึ๊บบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 12-05-2010 20:36:59
พี่ครับอย่าหายไปนานดิ :sad4:

เดียวเจ้าของเล้าเข้าลบถี้งนะ :m15:

มาต่อด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :call:

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: maxman148 ที่ 20-05-2010 19:28:46
พี่ค้าบเมื่อไหร่จะมาต่อค้าบอยากอ่านต่ออะ :serius2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 25-05-2010 15:06:07
 :เฮ้อ: อยากอ่านต่อแล้วคับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 07-06-2010 16:34:49
มาขอลงชื่อรอตอนต่อไปเหมือนกัน หลังจากอ่านจนทัน ชอบเวย์อะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: cynthia ที่ 07-06-2010 21:44:53
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวจบ ชอบเวย์มากๆๆๆๆๆๆ

คนอะไรกวนตีนได้น่ารักชะมัด......

ปูเสื่อรอตอนต่อไปนะคะ~
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 23-06-2010 09:51:14
Writer หายไปกับสายลมเลยหรอค่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ETOM ที่ 02-07-2010 13:11:04
ตามมาดนแล้วครับท่านพี่
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 04-07-2010 01:16:11
ค๊าฟฟ  อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ แต่มันแหงกอยู่อตนนี้มาหลายรอบเหมือนกัน

มาต่อเหอะค๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 04-07-2010 19:29:15
ยังคงรออยู่นะคะ ไรเตอร์สู้ๆ ^-^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 04-07-2010 22:53:06
รอมั้ง
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: aeyja55 ที่ 08-07-2010 19:54:54
อ่านอยู่สองวันถึงจะจบ ชอบมากกกกก ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ ส่วนที่ชอบพิเศษคือตอนที่ย้อนไปตอนทีเวย์กับไนท์รู้จักกันครั้งแรก เพราะตอนนั้นเวย์ยังไม่เศร้า แล้วก็อ่านแล้วขำกลิ้งดีอ่ะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 10-07-2010 14:49:01
TT'มาต่อเหอะนะ

อยากอ่านมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ash ที่ 04-08-2010 13:11:45
หายไปเลยยยยยยยย
 :o12:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 04-08-2010 18:29:01
555

ช่วงนี้คนแต่งงานเข้าอย่างแรงเลยครับ

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 04-08-2010 21:43:47
ซะอร้าว
อ่านจบ ค้างเลยตรู . . .  TT__________TT
ไรท์เตอร์ เค้ารักเรื่องนี้นะ อย่าจากเค้าปายยยยยยย ฮือออออออออออ
รู้สึกชอบหนุ่มไนท์แบบนี้ ดูมีหลายบุคลิก ทำเอาเวย์ และเพื่อนๆ อึ้งไปตามๆ กัน
เวย์ไม่ต้องน้อยใจนะลูก เดี๋ยวไนท์มันก็จำได้แหละ ถ้ามันยิ่งจำได้ มันจะยิ่งรักยิ่งหวงนู๋มากขึ้นขนาดไหนเนี่ย โอ้ย ไม่อยากจะจิ้น
ไรท์เตอร์จะทำเป็นหนังสือด้วยเหรอค่ะ !
ติดต่อด่วนนนนนน
อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 05-08-2010 01:16:22
ไล่อ่านจนจบแล้วค่าาาาาาาาาา!...แต่ได้ข่าวว่าไรเตอร์หาย   o22 o22
แงๆๆๆๆๆ รีบๆมานะค้า...ไนท์เวอร์ชั่นใหม่น่ารักมากมาย เวย์ก็น่าแกล้ง  :laugh: :laugh:
เฮ้อ  :เฮ้อ:...แต่เศร้านิดๆกะคู่แชมป์-นุ เราว่ามันยังค้างคาอยู่อ่ะ
แล้วหยกแฟนแชมป์ก็ท่าทางจะรู้ๆแล้วด้วย
และเราคิดว่าแชมป์เลือกที่จะรักนุ...เลิกกะหยก ก็นะ--รักมาตั้งหลายปีนี่นา
ถึงจะรู้ว่าจะอยู่ได้แค่ฐานะเพื่อนเท่านั้น หรือนุจะแต่งงานกับส้มก็ตาม
แต่ดูจากนิสัยแชมป์แล้วคงจะคอยอยู่ข้างๆตลอดไปและไม่ยอมมองใครแหงๆเลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:(อินกะคู่นี้เจงๆ)
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: minsunye ที่ 22-08-2010 03:25:27
ไรเตอร์ มาต่อเถอะนะ

PLEASEEEEEEEE
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 22-08-2010 07:14:47
 :call:
เรียกไรเตอร์มาด่วน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-08-2010 02:30:16
 :man1: เรื่องราวน่ารักมากค่ะ
ตอนนี้อ่านจบภาคแรค ภาคสองยังไม่ได้อ่านนะคะ
ไม่ไหวแระ ง่วง :t3:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: lionnoi ที่ 24-08-2010 07:15:34
รอชั้นรอเธออยู่
แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด
เธอจะมา เธอจะมา เมื่อใด
ขอให้งานเสร็จไวๆ ได้เกรด A นะคะ
กลับมาอ่านอีกรอบก็สนุกเหมือนเดิม
รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-08-2010 13:42:55
อ่านทันแระ
ไรเตอร์รีบมาต่อนะคะ
เวย์กะไนท์น่ารักๆ
ชอบไนท์เวลา้อ้อนอ่ะ
อยากเก็บมาเลี้ยง 55555
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: หลงไหลในม่านหมอก ที่ 24-08-2010 23:03:38
อ่านทันแล้วววววววว

ตอนนี้ค้างอยู่ เหอะๆ

เรื่องนี้น่ารักมากอ่ะ เป็นเรื่องที่สองในบอร์ดนี้ที่เรารักทั้งพระเอกและนายเอก

ทำออกมาได้น่ารักและไม่น่าเบื่อจริงๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: ballzz ที่ 01-09-2010 22:36:21
ดีครับพี่นุ่น

อ่านทันแย้วววว

หนุกจัง

มาต่อไวๆหน่อยดิคร้าบบบบบบบ

จะขาดใจตาย :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 19-10-2010 16:18:13
รอๆๆๆๆ  :amen:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-11-2010 15:08:44
ชอบเรื่องนี้มากเลยเจ้าคร่าาาส์

อ่านแล้วเหมือนโดนเชือดนิ่มๆ ฮ่าฮ่า

แต่...ในบอร์ดเด็กดี เรื่องนี้มันจบไปแล้วนี่??? เหมือนเค้ากำลังวางแผนจะพิมพ์รวมเล่มนี่คะ???

อย่างไรก็ตาม  :กอด1: :L2: :3123: :L1: ให้ไรเตอร์นะคะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 05-11-2010 17:51:33
ถูกครับเจ้านุ่นมันกำลังจะรวมเล่มครับ

เห็นว่ากำลังรวบรวมอยู่ว่ามีใครจะเอากี่คนจะไปคุยกับสำนักพิมพ์อยู่อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 18-11-2010 15:26:38
มาต่อเหอะนะTT'
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:50:21
เนื่องจากนุ่นแก้ไข  เปลี่ยนแปลง  จากภาคสองเหลือแค่ตอนพิเศษค่ะ  อาจจมีอะไรงงๆ นิดหน่อย  ที่จริงคือคงจะเยอะมาก
แต่ว่าจะขออัพรวดเดียวจบเลยแล้วกันนะคะ  ขออภัยที่หายตัวไปนานค่ะ
.............................................................................

Special chapter [way champ]: ปล่อยตัวปล่อยใจ

(ตอนพิเศษนี้เกิดจาก OPV hyukmin = eunhyuk + sungmin 55+  รวมทั้งอาการฝืดที่หาสาเหตุไม่ได้  ทำให้แต่งต่อแล้วมันตัน  = =’’  เพราะฉะนั้นเอาดาร์กไซด์นี้ไปอ่านเล่นๆ ก่อนก็แล้วกันนะคะ)

 

            สองปีก่อน  ผมเกือบจะทำผิดครั้งใหญ่ในชีวิต  ผมเกือบจะหักหลังคนสองคนที่ผมรักเพียงเพราะความผิดหวัง  ...อดีตที่มีเพียงผมเท่านั้นที่รู้  ...อดีตที่ผม (ทำเป็น) ลืม

 

            “เฮ้ย  พวกมึงที่เคารพรักครับ” ไอ้นุมันตบโต๊ะเสียงดังก่อนประกาศเรียกร้องความสนใจเต็มที่  ผมเงยหน้าจากหนังสือเล่มโปรด  ปากขยับยิ้มโดยอัตโนมัติ  ก็ไม่รู้ทำไมนะครับแค่เห็นหน้ามันผมก็อยากจะยิ้มออกมาทุกครั้ง  ไอ้นุ ไอ้ส้มแล้วก็หยกนั่งตรงข้ามกับผม  ส่วนไอ้เวย์กับไอ้ไนท์นั่งอยู่ข้างๆ ผม  พวกมันก็ยังคงทำตัวเป็นติดกันเป็นปลากระป๋องเหมือนเดิม (ผมว่ามันติดกันจนเอาออกจากกันยากยิ่งกว่าปลาท่องโก๋เสียอีกนะครับ  ไม่รู้ทำไมต้องเอาไปแออัดยัดเยียดกันขนาดนั้น)

            “เมื่อไรคำพูดของมึงมันจะเลิกพาราด็อกกันเองสักทีวะ   จะเคารพไม่เคารพพวกกูมึงก็เลือกมาสักอย่างดิ” ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดากันถูกนะครับว่าไอ้คนขยันหาเรื่องให้ตัวเองและคนอื่นนี่ใคร   จะเป็นใครได้ครับถ้าไม่ใช่ไอ้เวย์

            “มึงสิไอ้เวย์  อย่าเสือกมาใช้ศัพท์ที่กูฟังไม่รู้เรื่อง  เพราะกูจะเถียงไม่ได้”  ไอ้นุขมวดคิ้วดุเพื่อน  ฮ่าๆ  หน้าตลกชิบ  คิ้วมันสองข้างไม่เท่ากัน  ยิ่งขมวดแบบนี้ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่  จมูกโด่งๆ พ่นลมออกมาเสียงดังฟืด  ฮ่าๆๆ  มันคนหรือควายวะเนี่ย  หรือผมจะช่วยใส่เขาเอฟเฟกซ์ให้มันดีครับ  เปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศหน่อย  เอ้า! ฉันขี่ไอ้ทุยวิ่งลุยท้องนา  ฮุย ฮุย ฮุย  กร๊ากกกก  นึกแล้วก็อยากจะขำแต่ก็ต้องเก็บไว้ครับ  เดี๋ยวมันจะผิดอิมเมจผม  เอ๊ย  เดี๋ยวมันจะหาว่าผมเมากัญชา

            “เออ  ก็ถ้าใช้แล้วมึงเถียงได้  กูคงจะใช้ให้โง่หรอก”

            “อ้าว  ไอ้เตี้ยนี้” ไอ้นุลุกพรวด  เงื้อหมัดขึ้นในท่าเตรียม  มันนี่ก็ไม่เคยจำครับว่าก่อนที่มันจะได้แกล้งไอ้เวย์  ไอ้คนคุมข้างๆ มันก็มือไวกว่าทุกที

            “นุ”   ดีครับที่ไอ้ส้มมันดุขึ้นมาเสียก่อนที่คนคุมอย่างไนท์มันจะขยับ

            “เออเห็นแก่วันนี้เป็นวันดีนะ  กูจะยอมให้มึงวันหนึ่ง”

            “พิเศษยังไงวะ  หรือเพราะกูตื่นมาเรียนทัน”

            “ไอ้เวย์  เงียบสักห้านาทีเหอะ  จะให้กูกราบก็ยอมวะ”  ไอ้นุทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจ  ส่วนไอ้เวย์ก็เงียบ  ผิดปกติครับ!  ทำไมวันนี้มันยอมง่ายจัง  ผมหันไปมองแวบเดียวเท่านั้นเข้าใจเลย  ไอ้เวย์หุบปากแบบสนิทแนบแน่นชนิดไม่ยอมให้ใครง้างออกได้ง่ายๆ  แขนสองข้างยกขึ้นมากอดอก   ขาไขว้กันในท่าของคนรอ  ก่อนที่มันจะพยักหน้าให้ไอ้นุเหมือนจะบอกว่า ...กราบซะสิ  กูรับข้อเสนอแล้วนี่ไง...  สรุปมันไม่ได้ยอมครับ  ไอ้เวย์..เหนือกว่านั้นเยอะ

            “ไอ้...”

            “พอแล้ว  รอพวกแกกราบไหว้กันเสร็จ  ไม่ต้องขึ้นเรียนกันพอดี  คืองี้นะ...เมื่อวานเราสองคนตกลงคบกันแล้ว  แค่นี้แหละ”

            “....”

            เหมือนสมองและร่างกายผมหยุดทำงานไปชั่วขณะกับคำพูดของส้ม  หมายว่ายังไง...พวกมันคบกันแล้ว?   คบกันจริงๆ นะเหรอ  ทำไมผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อนผมสองคนจะลงเอยกันได้  หรือผมจะเข้าใจผิด?

            “เออ  คืองี้แหละ  ฮ่าๆๆ  ตกใจล่ะสิพวกมึง  กูมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วนะโว้ย  เอ้าโชนนนนน”

            ไอ้นุมันยกแก้วน้ำขึ้นมาด้วยสีหน้าแดงเรื่อ  มันยิ้มกว้าง...ยิ้มทั้งตาทั้งปาก   นี่พวกมันคบกันจริงๆ เหรอ  คบเป็นแฟนกันจริงๆ  แล้ว...แล้วผมล่ะ  ผมที่...  

ที่ทำไม?  ไม่มีเหตุผลอะไรสักหน่อย  ทั้งที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย  แต่ทำไมหัวใจผมถึงได้เจ็บนัก  ทำไมถึงร่างกายถึงได้สั่นจนเหมือนจะเป็นไข้  ทำไมสมองถึงไม่ยอมให้ผมยกแก้วขึ้นชนแสดงความยินดีกับมัน  ทำไม?

            หรือว่าผมรักมัน?  รักอะไรกัน   รักมันตั้งแต่เมื่อไร?

            คำถามที่ผมยังตอบตัวเองไม่ได้  รู้แต่ว่าภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ผมตัวชา  หัวใจปวดหนึบ

            “ส้ม  คนฉลาดอย่างมึง  โธ่  เพื่อนกูไม่น่าเลย...”

            “เดี๋ยวเถอะมึงไอ้เวย์  ใครได้กูไปนี่นับว่าโคตรเฮงเลยนะเว้ย  หล่อ  รวย  หมวย  อึ๋มขนาดนี้  หรือมึงไม่ชอบ”

            “ไม่...  แต่ไอ้หมวยอึ๋มนี่กูไม่พลาดว่ะ  ฮ่าๆๆ”

            “ไม่เคยสำเร็จเลยมากกว่ามั้ง”

            “เงียบไปเลยมึง”

            “ฮ่าๆ  ไนท์มึงพูดถูกว่ะ  คนเป็นโสดมาตลอดปีอย่างมึงน่ะเงียบไปเลย  คืนนี้ร้านพี่ต้านะพวกมึง  เลี้ยงสละโสดว่ะ  ฮ่าๆๆ  พวกมึงคนโสดทั้งหลายก็เลี้ยงกูแล้วกัน”

            “ไอ้นุ - -  ถึงกูจะโสดแต่กูไม่โง่นะ”

            “ฮ่าๆๆ”

            ทำไมทุกคนถึงได้ดูมีความสุขกันนัก  ก็ใช่แล้วไง   นี่มันเป็นเรื่องน่ายินดี  ผมควรจะเข้าร่วมกับคนอื่นๆ ใช่ไหม  แต่..ผมควรจะทำหน้ายังไงดี  

            ผมไม่รู้ว่าพวกมันพูดอะไรกันบ้าง  ความคิดวนเวียนอยู่กับภาพไอ้นุกับส้มกอดกันอย่างเขินอายเหมือนไม่ใช่เพื่อนที่ผมรู้จัก  หนังสือในมือผมถูกบีบจนยับยู่ยี่พอๆ กับหัวใจที่กำลังบีบรัดจนเจ็บปวดไปหมด  วูบนึงผมปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในอ้อมกอดนั้นแทนที่ใครอีกคนที่มันกำลังกอดอยู่  ปรารถนาให้รอยยิ้มอบอุ่นยิ้มเพื่อผมคนเดียว

            ผมรักไอ้นุ...   รักมัน  

            ทำไมมึงเพิ่งรู้ตัวล่ะไอ้แชมป์  ทำไม?  ผมเฝ้าตัวเองอยู่อย่างนั้น

            ผมเคยคิดว่าอยากอยู่กับมันตลอดเวลา  แค่ได้เห็นมันก็มีความสุข  ความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว  เคยคิดอยากผูกขาดมันไว้  แต่นั่นเป็นความหวงแบบ “เพื่อน” ไม่ใช่หรือ?  

            เพราะไอ้นุเป็นเพื่อนคนแรกในมหาลัยของผม  เพราะมันทำให้ผมได้มีเพื่อน  มีชีวิตที่สนุกสนานอย่างทุกวันนี้  เพราะมันคอยถามไถ่ห่วงใยเสมอว่าผมกินข้าวหรือยัง  ผมสบายดีมั้ย  ผมนอนห่มผ้าหรือเปล่า  มันทำในสิ่งที่ไม่มีเพื่อนคนไหนทำให้ผม  เพราะแบบนั้นผมถึงได้หวงมัน...ไม่ใช่หรือไง?

            หรือที่ผมเสียใจเพราะความใจดีของมันไม่มีเพื่อผมเพียงคนเดียว?

            หรือเพราะกลัวว่าจะต้องกลับไปเผชิญกับความโดดเดี่ยวอีกครั้ง

            หรือ...เพราะรัก?

            “แชมป์เป็นไรวะ  ตกใจจนเอ๋อเลยหรือไง  ไหนเพื่อนรักชนแก้วอวยพรหน่อยคร้าบ” ผมกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากเย็น  รู้สึกราวกับคำพูดต่างๆ ที่ควรจะพูดพากันหนีหายไปกับสมองที่หยุดประมวลผล  ผมไม่แน่ใจว่าใช้เวลาไปนานเท่าไรหรือบอกตัวเองด้วยวิธีไหน  แต่ในที่สุดผมก็สามารถยิ้มและดื่มอวยพรให้มันได้

            ดื่มอวยพรให้เพื่อนมีความสุขในความรัก  หึ  อย่างกับวันแต่งงานนะครับ

            “เออ  ดีใจด้วยนะมึง”

 

 

            เวลาหนึ่งอาทิตย์ของผมผ่านไปอย่างล่องลอย  ผมเริ่มปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว  หนึ่งเพราะผมยังไม่พร้อมจะรับความจริง  สองเพราะผมอยากมีเวลาอยู่กับตัวเอง  บางครั้งผมก็นึกถามตัวเองว่าทำไมผมถึงเป็นได้ขนาดนี้  เวลากินข้าวก็มักได้ยินเสียงมันถามว่าอร่อยมั้ย  เวลานอนก็นึกไปว่ามันกำลังห่มผ้าให้ผม  เวลาอ่านหนังสือก็ยังหยุดคิดเรื่องของมันไม่ได้  บางครั้งผมเริ่มคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า

            การที่รู้ตัวว่ารักมันไม่ได้ทำให้ผมตื่นตกใจ  เพราะถ้าลองนึกดูดีๆ แล้ว  ผมก็รักมันจริงๆ มาตลอด  เพียงแต่ยังไม่กล้ายอมรับเท่านั้น  ผมพยายามหลอกตัวเองว่าแค่รัก  แค่หวงมันอย่างเพื่อนคนหนึ่ง  จนวันที่มันกลายเป็นของคนอื่นนั่นแหละ  ผมถึงได้ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง

            ...โง่จนน่าตายนะครับ....

            มันก็สมควรแล้วกับคนขี้ขลาดอย่างผม  คนที่อกหักทั้งที่ยังไม่ทันได้บอกรัก  คนที่ต้องยอมตัดใจตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มพยายาม   “กลัวเสียเพื่อน”  มันกลายเป็นวลีที่งี่เง่าทันตาเห็นสำหรับผม  ก็เพราะว่าตอนนี้ผมเสียมันไปแล้ว..จริงๆ

 

            “ไอ้แชมป์!!!” เสียงตะโกนคุ้นหูทำให้ผมสะดุ้งเฮือก  ตามมาด้วยเสียงป้าบ พร้อมกับน้ำหนักของแขนเหวี่ยงพาดคอผมอย่างไม่ห่วงใยในสวัสดิภาพไหล่ที่กลายเป็นเบาะรองรับ

            “เจ็บ”

            “เออ  ก็มึงมัวแต่ใจลอยอยู่ได้  กูเรียกตั้งนานแถมวิ่งตามมาโคตรเหนื่อยเลยครับ”  ไอ้เวย์มันตีหน้ายุ่ง  เบะปากบ่นผม  ลมเย็นๆ พัดผมมันปลิวระตามใบหน้าและลำคอ  แดดอ่อนๆ สะท้อนเหงื่อข้างไรผม  ยืนยันความพยายามในการวิ่งตามมาของมันได้เป็นอย่างดี

            “อะไร  มองกูตาหวานเชียวนะ  อย่ามายั่วนะมึง  เดี๋ยวกูจับปล้ำแม่งตรงนี้”  ผมตอบรับคำท้าของมันด้วยรอยยิ้ม  ก็มันน่าตลกมั้ยล่ะครับ  ไอ้พวกชอบพูดจาไม่ดูตัวเองเนี่ย  หน้าอย่างมันเงี้ยมีแต่จะถูกเขาปล้ำสิไม่ว่า

            “แน่ะ  กูพูดไม่เชื่อนะ  เป็นของกูซะเถอะมึง”  พูดจบมันก็กระโดดกอดผมแถมยังเอาปากมันเม้มหูผมอย่างแรง  ด้วยความเจ็บบวกกับความหมั่นเขี้ยว  ผมจับเอวมันลอยแล้วพยายามจะเหวี่ยงมันทิ้ง  แต่ไอ้เวย์มันก็เหมือนมีมือตีนตุ๊กแกครับ  เอาขามันรัดเอวผมไว้ได้ทันท่วงที  แถมมือก็ยังไม่ยอมอยู่ว่าง  ขย้ำหัวผมจนมันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด

            “โอ๊ย  เจ็บนะมึง  ลงมาจากตัวกูเลย  ไอ้ลิงนี่”

            “ลงก็ได้  แต่มึงห้ามหนีนะ”  ดูมัน  ใหญ่เหลือเกินนะ

            “ทำไม  จะแกล้งไรอีก”

            “เปล่า  ก็มึงหายไปนาน  กูคิดถึง”  ว่าแล้วมันก็กระโดดจากตัวผมมายืนจ้องหน้าด้วยสายตาจริงจัง  สายตาที่แฝงความเป็นห่วงจนผมรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ

            ...อย่างน้อยมันก็ยังห่วงผม...

            ...อย่างน้อย  เพื่อนคนหนึ่งก็กำลังเป็นห่วงผม...

            ผมไม่ใช่คนอ่อนไหวอะไรมากมาย  แต่คำพูดประโยคเดียวในเวลาอย่างนี้กลับทำให้ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าว  จนต้องแกล้งขยี้หัวมันแล้วกดไว้  เพื่อไล่น้ำตาไม่ให้มันได้เห็น

            “ปล่อยกู  เดี๋ยวหมดหล่อ”

            “เออ  หล่อ  หล่อให้ได้ตลอดนะมึง”

            “It’s a fact” มันพูดคำว่า “fact” ได้ชัดเจนและถูกต้องตามหลักการออกเสียงเสียจนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้  วูบนึงผมนึกขอบคุณที่มันหาผมเจอ  ขอบคุณที่มันอยู่ตรงนี้  และนึกอยากให้มันอยู่ตรงนี้เพื่อผมในวันต่อๆ ไป

            “ไปหาข้าวกินกัน”  ผมปล่อยให้คนเตี้ยกว่า  เขย่งเพื่อกอดคอผมเดินกับพร้อมกับมัน  ไม่รู้เมื่อไรที่แขนเอื้อมไปกอดเอวมันไว้  ไม่ได้กอดจนแน่น... แค่พอให้รู้ว่าผมไม่ได้กำลังเดินคนเดียว

            

            อยู่ๆ ไอ้เวย์มันก็หยุดเดินกึก  ผมมองเสี้ยวหน้าด้านข้างที่ดูมืดมนลงของมันด้วยความไม่เข้าใจ   สายตามันฉายแววที่อาจเรียกได้ว่าเจ็บปวด  เมื่อผมมองตามไปก็พอเข้าใจว่าทำไมมันถึงได้ทำหน้าอย่างนี้

            คนสองคนกอดกันเดินด้วยท่าทางที่ไม่ต่างจากพวกผมนัก

            ไอ้ไนท์กับผู้หญิงคนที่เท่าไรไม่รู้ของมันเดินกอดเอวกันอยู่ห่างจากผมไปไม่ไกลนัก  เป็นระยะทางที่พอจะเห็นใบหน้ากับท่าทางของคนทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน  

            มันช่างเป็นใบหน้าที่ต่างจากคนข้างๆ ผมเหลือเกิน

            ผม..ไม่เคยนึกโกรธไอ้ไนท์เท่านี้มาก่อนเลยนับตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมันมา

            มันทำได้ยังไง?  ทำในสิ่งที่มันพอใจโดยที่ไม่เคยคิดถึงใจไอ้เวย์เลยสักครั้ง

            ไอ้เวย์มันรักไอ้ไนท์  ใครๆ ก็ดูออก  ส่วนการกระทำหลายๆ อย่างของไอ้ไนท์มันก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่ามันก็รักไอ้เวย์  ตั้งแต่ครั้งแรกมันเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเข้าไปวุ่นวายกับไอ้เวย์ก่อน  มันคือคนที่คอยดูแล  คอยวุ่นวายอยู่ข้างๆ ไอ้เวย์เสมอจนผมนึกว่าพวกมันตกลงเป็นแฟนกันไปนานแล้ว  แต่อยู่ๆ พวกมันก็เปลี่ยนไป  กลายเป็นเพื่อน..เพื่อนที่ไอ้โง่ที่ไหนก็ดูออกว่าไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา  ผม..ไม่เข้าใจหรอกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่  แต่ที่รู้ตอนนี้ผมโมโหกับการกระทำงี่เง่าที่โคตรเห็นแก่ตัวของมันจนไม่อยากให้อภัย

            มันทำไม่ถูก!!  ผมรู้แค่นั้น

            ทั้งที่เมื่อก่อนผมไม่เคยสนใจใคร  แต่วันนี้ผมกลับเป็นห่วงคนข้างๆ จนทนไม่ไหว

 

            “ไอ้เวย์  ไปเที่ยวกัน”

            “หืม?  ฮะ  เที่ยว?  แล้วเรียน?”

            “โดด”

            ผมไม่รอให้มันตอบ  แต่ลากมันขึ้นแท็กซี่ทันผ่านมาพอดี

            “สยามครับ”

 

            นึกแล้วก็แอบตลกตัวเองเหมือนกันนะครับ  ทั้งที่ปากก็บอกว่าโมโหแทนไอ้เวย์  แต่จริงๆ แล้วในใจผมก็รู้ว่าส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะผมโมโหไอ้นุ  โมโหที่มันเลือกคนอื่นทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธมัน  พอหาที่ระบายกับใครไม่ได้  ก็เอาความโกรธไปลงกับไอ้ไนท์  หึ  นิสัยแย่ชะมัดเลยผม

            “ลากกูมาสยามเพื่อ?”

            “เที่ยวไงครับเพื่อน”

            ไอ้เวย์มันขมวดคิ้ว  ทำหน้าเมื่อยกับคำตอบของผม  ไม่รู้ทำไมไอ้หน้าตาแบบนี้ของมันถึงได้ดูน่ารักน่าเอ็นดูนัก

            “ดูหนังมั้ย”

            “ไม่อ่ะ”

            “แล้วจะทำไร”

            “ลิเกมีมั้ย”

            คราวนี้ผมเป็นฝ่ายที่ทำหน้าเมื่อยให้คำตอบของมันบ้าง  ทำเองแล้วก็หัวเราะออกมาเองอย่างไม่รู้สาเหตุ  แค่นึกภาพตัวเองก็รู้สึกตลกจนต้องหัวเราะออกมา  บางที่ผมว่าอารมณ์ผมมันอาจถึงขั้นต้องได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วนแล้วล่ะมั้งครับ

            สรุปว่าวันนั้นไอ้คนอยากดูลิเกมันก็ได้ดูหนังไปสองเรื่อง  แถมยังดูฟรีอีกต่างหากด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่ามันไม่ได้เต็มใจมาเอง  แต่ผมเป็นคนลากมันมา (ทั้งที่หนังทั้งสองเรื่อง  มันเป็นคนเลือกแล้วก็บังคับให้ผมอยากดูเหมือนกัน)  ด้วยอาการเกร็งจากหนัง (เรื่องอะไรก็ช่างมันเถอะครับ  ผ่านมานานแล้ว  ถึงบอกไปก็ไม่ได้ช่วยเขาโปรโมทอยู่ดี)  เราก็ไปหาอะไรใส่ท้องจนไม่สามารถยัดอะไรเข้าไปได้อีกก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม  ตอนแรกผมคิดจะแยกกับมันตรงนี้เลยแต่ไอ้คนไม่อยากเที่ยวกลับเปรี้ยวปากอยากกินเหล้าขึ้นมาซะอย่างนั้น  เราก็เลยไปต่อกันที่ผับดังย่านเอกมัยครับ  โดยไม่ต้องบอก...เราต่างคนต่างหลีกเลี่ยงร้านพี่ต้าที่อาจบังเอิญเจอกับคนที่ไม่อยากเจอ

 

            ผับนี้ผมค่อนข้างถูกใจนะ  ถึงคนจะเยอะไปหน่อย  แต่ก็จัดสถานที่ได้ดี  แถมมีดนตรีสด  นักร้องนักดนตรีก็มืออาชีพ  บรรยากาศดีครับ  ส่วนไอ้คนข้างๆ มันไม่มามัวพูดพล่ามทำเพลงหรือพิจารณาบรรยากาศอะไรทั้งนั้น  สั่งเหล้าอย่างแรงและแพงมาสองขวดโดยไม่รอถามความเห็นผมสักนิด   เอาเถอะครับ  วันนี้ยอมมันวันหนึ่ง

            “แชมป์  ชงให้กูหน่อย”

            มันสั่ง  แต่ก็เหมือนไม่ได้สั่งครับ  เสียงมันอ่อนเหมือนคนหมดแรงเพียงแค่เห็นเหล้าเท่านั้น  สวิตซ์ความเศร้ามันเริ่มทำงานทันที  บรรยากาศสนุกๆ รอบข้างดูเหมือนจะไม่ช่วยให้มันสดใสขึ้นเลย  ผมชงเหล้าแบบที่มันชอบยื่นให้  มันพึมพำว่าขอบใจเบาๆ  ก่อนจะกระดกหมดแก้ว

            “เฮ้ย  ค่อยๆ กินสิมึง  เดี๋ยวก็เมา”

            “อ้าว  ก็กูมากินให้เมา  ไม่งั้นกูจะสั่งเหล้าให้มึงเปลืองเงินทำไม  โค้กกระป๋องก็มี”

            “อย่ากวนนะมึง”  มันไม่ตอบเพียงแต่ส่งแกล้วเหล้าแก้วเดิมมาให้

            ผมก็จำไม่ได้ว่าผ่านไปกี่แก้ว  แต่ไอ้เวย์มันหน้าแดงจัด  ตาเยิ้ม  ตัวอ่อนไปเรียบร้อยแล้ว  ผมประคองจับให้มันนั่งพิงไหล่ไว้  

            “กูบอกแล้วว่าเดี๋ยวจะเมา”

            มันเริ่มหัวเราะออกมาเหมือนทุกครั้งที่มันเมา  หัวทุยๆ ของมันเลื่อนมาหยุดที่หน้าอกของผม  แล้วก็เริ่มพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้ยิน

            “อะไรนะ”

            “กู..กู..เกลียดไอ้ไนท์”  คำพูดที่ผมแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง  เห็นชัดๆ อยู่ว่ามันรักของมันอย่างกับอะไร  อยู่ๆ มาบอกว่าเกลียด  มันเป็นอะไรที่ผมไม่เข้าใจจริงๆ

            “มาน ..ชอบ ทำ .ให้  กูเสีย..ใจ” มันพูดแล้วก็สะอึกออกมา  ก่อนจะเริ่มร้องไห้เงียบๆ กับอกผม  ในตอนนั้นผมจำได้ว่าทั้งเจ็บใจ  ทั้งสงสารมัน  ผมลูบผมมันเบาๆ  กระซิบบอกมันว่า “ไม่เป็นไรๆ” อยู่อย่างนั้น  เพราะไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้มากไปกว่านี้

            “กู  เจ็บ.. ตรงนี้  ฮึก ..ฮึก” มันร้องไห้ไม่หยุด  มืออีกข้างทุบที่หน้าอกตัวเองอย่างแรงจนผมต้องจับมือมันไว้  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันร้องไห้  เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่าเพื่อนคนที่สดใส  เข้มแข็งอยู่เสมอ  แท้จริงแล้วกำลังเจ็บปวดมากกว่าใครๆ  ผมเฝ้าถามตัวเองว่ามันเป็นแบบนี้มานานแค่ไหน  ต้องเก็บความเสียใจไว้  ต้องร้องไห้คนเดียวมานานแค่ไหนแล้ว  แล้วไอ้ไนท์ล่ะ..มันเคยคิดสักครั้งไหม  เคยได้เห็นท่าทางทรมานแบบนี้บ้างหรือเปล่า

            “อย่าร้องนะ  อย่าร้อง”  อีกครั้งที่ผมจนปัญญา  ผมไม่รู้จะช่วยมันยังไง  ทำได้เพียงแต่กอดปลอบมันอยู่อย่างนี้  ความรู้สึกหนึ่งที่ผมรู้สึกได้อย่างชัดเจนในเวลานั้นคือ  “อยากดูแลปกป้องคนๆ นี้”  ผมไม่อยากให้มันเสียใจอีก  ไม่อยากให้มันต้องร้องไห้คนเดียวแบบนี้อีก  เพราะถึงผมจะช่วยไม่ให้มันไม่เสียใจไม่ได้  แต่ผมก็ยังปลอบมันได้

            ...เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นความอ่อนแอของไอ้เวย์  และดูเหมือนว่าใจผมกำลังหวั่นไหวอย่างรุนแรง...

            

            เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้กว่าไอ้เวย์จะเลิกร้องไห้  ตอนนี้มันเปลี่ยนมานอนหนุนตักผม  ปากก็ร้องเพลงตามนักร้องในผับด้วยจังหวะกับเนื้อเพลงที่ออกจะผิดอยู่สักหน่อย แต่ก็อภัยให้มันเถอะครับ  มันเมาแล้วนอนร้องเพลง  ก็ยังดีกว่าเมาแล้วระรานหาเรื่องคนอื่น  หรือร้องไห้อย่างหนักแบบเมื่อกี้นี้

            “Hi, I’m Daniel, you can call me Dan”

            “…”  ชาวต่างชาติแปลกหน้าคนหนึ่งเดินมาทักโต๊ะผม  หัวสีทองยังเป็นประกายแม้อยู่ในที่มืด  เค้าโครงใบหน้าที่ติดจะดูดี  แต่อย่างว่าแหละครับ  ไฟในผับมักทำให้คนดูต่างจากตัวจริงอยู่สองสามส่วน

            “Can I have a seat?”

            “Yeahhhhh”

            “No” ผมรีบแก้คำอนุญาตของไอ้คนเมาไม่รู้เรื่องทันที  มีอย่างที่ไหนอนุญาตให้เขานั่งทั้งที่ตายังหลับพริ้ม  

            “Why? I just wanna make friends with you guys”

            “But I don’t want to,” มันสังเกตหน้าผมบ้างมั้ยว่าไม่อยู่ในอารมณ์สานสัมพันธ์กับใคร

            “55+  just thinkin your friend’s so cute”  มันยิ้มกว้าง  พลางมองไอ้เวย์ตาเป็นประกาย  ไม่ต้องรอให้มันรุกล้ำเข้ามามากว่านี้  ผมขยับมือโอบไอ้เวย์ไว้ก่อนประกาศขับไล่เสียงเย็น

            “He’s mine, get out!”

            “Okay, okay boys. Why don’t you just be a little friendlier?”

 

            ผมก็ตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดนัก  คนครึ่งหลับครึ่งตื่นมันจะรู้ตัวบ้างมั้ยนะว่าตัวเองกำลังถูกเล็ง  ฝรั่งคนนั้นเดินจากไป  แต่สายตาอีกหลายคู่ก็ยังคงมองมาเงียบๆ    

            “คนอย่างมึงนี่  ห้ามวางทิ้งไว้จริงๆ นะ”  

            ผมก้มมองหน้ามัน  ขนตายาวดกดำพอๆ กับคิ้วของมันเลยทีเดียว  จมูกโด่งสวย  ปากแดงๆ ที่กำลังร้องเพลงไม่เป็นเพลง  และที่สำคัญผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันมีคางที่ได้รูปขนาดไหน

            ...ขนตามันยังเปียกชื้น  แก้มมันก็ยังมีคราบหยดน้ำตา...

            ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นว่ามันน่ารัก  แต่เป็นครั้งแรกที่ไอ้เวย์มีเสน่ห์ต่อผมขนาดนี้

            “เวย์  มึงทำอะไรกับกู” เสียงกระซิบของตัวเองแปร่งหูจนผมจำแทบไม่ได้  ขณะที่ผมก้มหน้าลงสัมผัสขมับมันอย่างแผ่วเบาๆ  ก่อนจะขยับเลื่อนไปยังกกหูแดงเรื่อ  จมูกโด่ง  และเมื่อริมฝีปากห่างกันเพียงไม่ถึงนิ้ว

 

            “ไนท์..กูเกลียด..ที่..มึงทำ  แต่..แต่  กู..รักมึง”

            .

            .

            ผมชะงัก  ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

            นี่ผมทำอะไรลงไป  และผมกำลังจะทำอะไรต่อไป?

            ผมยังให้เหตุผลกับการไหวหวั่นในคืนนั้นไม่ได้  ตอบไม่ได้ว่าเพราะไอ้เวย์หรือตัวผมเอง  เพราะวันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันร้องไห้  หรือเพราะผมเองที่เป็นฝ่ายอ่อนแอ  ไม่กล้ายอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น  และกำลังพยายามหนี

            แต่คำพูดของไอ้เวย์  คำพูดตอนที่มันไม่รู้สึกตัว ทำให้ผมได้คิด

            ..แท้จริงแล้ว  ไม่ใช่ความผิดของใครเลย  แต่เป็นตัวเราที่ตัดใจไม่ได้..

            ...เพราะถึงแม้จะเกลียดการกระทำของเขาแค่ไหน  ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น...

            ...เพราะถึงแม้จะต้องทุกข์ใจ  ต้องร้องไห้  แต่สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะรัก...

            …เหมือนไอ้เวย์  เหมือนผม...

 

            คืนนั้นผมพาไอ้เวย์กลับไปนอนด้วยกันที่หอ  ผมนอนมองมันทั้งคืน  นอนกอดมันไว้  แต่สิ่งที่รู้สึกในหัวใจไม่ใช่ความหลงใหล  หรือความหวั่นไหว  แต่เป็นความอบอุ่นและมั่นคงเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะมีให้แก่กันได้

 

 

……………………….

 
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:57:06
Special Chapter: วันแรกเจอ

 

            “แม่ครับ  ผมไปนะ”  ผมบอกลาแม่นิ่ม (บอกชื่อให้ฟัง  แต่ห้ามเอาไปล้อนะครับ  หวง  มีแม่คนเดียว  ไว้มีหลายคนเมื่อไร  จะยอมแบ่งให้เรียกบ้าง)  มือถือกระเป๋า  เท้าถีบประตู  ก้าวซ้ายก่อนเอาชัยแล้วก็เดินฮัมเพลงไปขึ้นรถไฟฟ้า  ข้อดีครับของการที่มีรถไฟฟ้ามาตั้งใกล้ๆ บ้าน  เรียนแปดโมงผมตื่นเกือบเจ็ดโมงครึ่ง  ฮ่าๆ  ทันไม่ทันไม่รู้ล่ะ  รู้แต่ว่าพอลงจากรถไฟฟ้าเมื่อไร  ถ้าไปสายด่ารถป็อบ  มันผิดที่มาช้า  ผมถูกที่มาก่อนมัน (แม้หันไปทางซ้ายจะเห็นท้ายรถมันเพิ่งผ่านไปไวๆ ก็เถอะ)

            ถึงสถานีก็ยังคงคอนเซ็ปก้าวซ้ายขึ้นบันไดเลื่อนอยู่ดีครับ  เห็นได้ชัดผมเป็นเด็กรุ่นใหม่  หัวก้าวหน้าขนาดไหน  ไอ้เรื่องเชื่อโชคลางของขลังไม่มี๊ไม่มี  แต่แม่สอนว่าทางที่ดีอย่าลบลู่  หรือถ้าจะเอาให้ชัวร์ก็ทำตามเขาไปเถอะ  ล้วงมือขวาลงในกระเป๋า..ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ข้างซ้าย  ล้วงมือซ้ายบ้าง...ว่างเปล่า  อ๋อ  สงสัยอยู่ในกระเป๋า  ล้วงมือขวาไปควานหาในกระเป๋า ...ว่างเปล่า  หรือว่ามือขวามันโชคไม่ดี  ลองเปลี่ยนเป็นใช้มือซ้ายล้วงเผื่อจะเจอ ปรากฏว่า...ว่างเปล่า...  หรือมันต้องใช้ทั้งสองมือพร้อมกันวะ??  ว่าแล้วด้วยความหน้าด้านหน้าทน  ผมนั่งยองๆ แหวกกระเป๋าออกแล้วเริ่มปฏิบัติการล้วงระดับชาติ  งานใหญ่อย่างที่ไอ้พวกหนู G –force  มันยังไม่กล้าขันอาสา  แต่ไอ้เวย์ไม่มีหวั่น  ใครมองไม่มีแคร์  เพราะเป็นเลดี้กาก้าไม่แคร์สื่อ  ...กลับเข้าฝั่งดีกว่ามั้ยครับ?

ล้วง  ล้วง  ล้วง  ล้วง  ไอ้สัดเอ๊ย...ไม่มี!!!

 

‘โอ๊ยย  ซวยแล้วกู  ซวยแล้ว’  ผมโอดครวญอยู่ในใจ  วันนี้เป็นวันแรกของการเป็นนักศึกษาของผม  ด้วยความรีบเกินพิกัด  ทำให้ผมลนลานจนลืมหยิบกระเป๋าสตางค์มา  แถมเพิ่งจะรู้ตัวตอนที่เดินมาถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วซะด้วย  ไอ้จะกลับไปเอามันก็ไม่ได้ไกลมาก  แต่เวลานี่สิเหลืออีกสิบห้านาทีก็จะเปิดประชุมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่แล้ว  แม่งง  ลางไม่ดีตั้งแต่วันแรกเลยโว้ยย

            “เฮ้!  นาย  เป็นอะไรรึเปล่า?”  ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าขาวใส  และรอยยิ้มจริงใจของเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน  ที่สำคัญเขาใส่ชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับผม

“เอ่อ..คือว่า  เราลืมหยิบกระเป๋าตังค์มา  แล้ว..เอ่อ..”  เอาไงดีวะกู  จะให้ขอยืมเขาหรอวะ  ไม่ดีมั้ง?  ยังไม่รู้จักกันเลยนี่หว่า  มันจะหาว่ากูหลอกเอาเงินมันรึเปล่าฟะ  แม่งง  ใครจะกล้าไปขอวะ    ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวนกับตัวเองอยู่นั่น  

“อ่ะ”  เด็กหนุ่มคนนั้นก็ยื่นบัตรบีทีเอสมาให้  พร้อมรอยยิ้มกวนๆ

“อ่ะ  เอ่อ” ผมก็ยังลังเล  ไม่ได้เกรงใจแล้วล่ะครับตอนนั้น  แต่ยังงงๆซะมากกว่า

“เอ้า  เอาไปดิ  เดี๋ยวสายนะเว้ย”  มันพูดจบก็ยัดบัตรใส่มือผมแล้วเดินเข้าช่องทางเข้าไป   เอาวะ  ไหนๆคนเขาก็อุตส่าห์มีน้ำใจ  จะไม่ใช้ก็เสียเงินฟรีดิ  ว่าแล้วผมก็เดินตามมันเข้าไป  ร่างสูงๆของมันยืนรอผมอยู่

“ขอบใจนะ”  ผมเอ่ยเสียงเบาขณะที่เดินเข้าไปใกล้มัน  ไม่ได้เขินมันหรอกครับ  แต่ไม่ค่อยได้พูดคำนี้กับใครเท่าไร  มันเลยตะหงิดๆในใจ

“ไม่เป็นไรเพื่อน  ว่าแต่นายเรียนอยู่คณะไรอ่ะ”  มันจะถามทำไมของมันนักหนาวะ  วิ่งเข้าสิมึง  รถป๊อบเลี้ยวโค้งมาแล้วมึงแหกตาดูสิครับ  ถ้ามึงวิ่งไปไม่ถึงลิโด้ก่อนมันมา  กูจะฮาให้  ด้วยความที่ผมกลัวว่ามันจะตามมาทวงหนี้ที่ผมคิดจะเหนียว  ผมก็เลยต้องหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองซะหน่อยครับ  กรุณาทำความเข้าใจด้วยว่า “เป็นการหาทางหนีทีไล่” ไม่ใช่ “หนีเอาตัวรอด” ไอ้คำหลังนี่ห้ามใช้นะครับ  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี

“อักษร” ตอบไปแบบไม่คิดเพราะตั้งใจว่าต้องหาคณะที่มันไกลจากคณะตัวเองเข้าไว้  ผมวิ่งมาทันรถป็อบพอดี  ที่จริงก็ไม่ใช่หรอกครับต้องบอกว่ามันหยุดรอมากกว่า  ก็ไหนใครสักคนบอกผมว่ามันมาไวไปไวเหมือนจรวดไง  แสดด  นี่หมาวิ่งแซง  แมวตะแคงตด  มึงยังไม่ไปเลย

“รีบทำไมของนายวะ  กลัวรถหายรึไง” มันบ่นพึมพำแล้วมายืนข้างผม  อ้าว! ไอ้นี่  กูเพิ่งด่าคนที่บอกกูมาผิดๆ ไป  ทำไมมึงไม่ฟังเล่า  ถ้ากูรู้นะว่ามันจะหยุดรอ  กูจะวิ่งให้เหนื่อยเพื่อ?

“เออ  กลัวไม่ได้ขึ้น” อ้าว  กูก็ปากไว  อย่าไปคุยกับมันสิเฟ้ย  ได้เงินมาแล้วตั้งใจจะไม่คืน  ต้องทำเป็นคนไม่รู้จักเข้าใจมั้ยวะ

“กวนตีน” แล้วมึงล่ะ?  ไม่กวนกูเลยเนอะ  เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงห้านาที  มึงก็เริ่มด่ากูแล้วเนี่ย  ไอ้คนคบไม่ได้  (แต่ทีตัวเองจะไม่คืนเงินเขา  คบได้มากเลยนะมึง)

“ยัง  ตีนไม่ว่าง”  หยุด..ไม่ทัน  สงสัยต้องหาอะไรยัดปากกันพูดมากไว้ก่อนแล้วมั้งเนี่ย

“แต่ตีนกูว่างว่ะ  อยากลองมั้ย” มันหันมายักคิ้วท้าทาย  หึ  กูไม่โง่หลงกลมึงหรอก

“อยาก  แต่พอดีไม่มีส่วนไหนของกูว่างลอง”  มันขึ้นมึงขึ้นกู  ผมมีหรือจะปล่อยผ่านง่ายๆ  

“หึ  เด็กอักษรเขาปากหมาเป็นเหมือนกันเหรอวะ  นึกว่าจะเรียบร้อยๆ” แล้วกูจะรู้มั้ยวะ  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ไม่ได้เรียนอักษรเว้ย  ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหางอย่างกูจะมีปัญญาไปเรียนมั้ย  มึงคิด  แต่ว่าตามจริงเลขกูก็กระดิกแบบแผ่วๆ   ดันเลือกเอาเศรษฐศาสตร์แล้วยังเสือกติดอีก  ฆ่าตัวตายทางอ้อมแท้ๆ กู

ผมมองหน้ามัน...พ่อกับแม่มึงผสมกันยังไงวะ  ถึงได้มึงออกมาเนี่ย??  กูอยากจะรู้เผื่อเอาเคล็บลับไว้ใช้ในอนาคต  ก่อนอื่นมาที่นี่ต้องหาแม่ที่ดีของลูกให้ได้ก่อนครับ  มองหน้ามันอีกทีก็อยากจะถอนหายใจด้วยความเสียดาย

            หน้าตาไม่เหมาะกับปากหมาๆ ของมันเลย

            อ๋อ  รู้แล้วปากอย่างมึงต้องอยู่คณะนี้เท่านั้น...วิดวะ

            อยู่ตรงสามแยกปากหมานั่นไง  ฮ่าๆ  โคตรเหมาะ

 

            “เป็นไรวะ  มองหน้าแล้วยิ้ม  อยู่อักษรด้วย  อ้าว..หรือว่ามึง...”  มันทำตาโต อ้าปาก  ประมาณว่าตกใจมาก  เสร็จแล้วก็เริ่มมองผมอย่างหวาดๆ  กูทำไม?  เกี่ยวไรกับอักษร?  ทำหน้าเหมือนรู้ว่ากูจะไม่ยอมคืนเงินมึงงั้นแหละ

            “กู?  ทำไม”

            “ชอบผู้ชาย???” มันพูดด้วยสีหน้าจริง  และเสียงที่ถึงจะไม่ดังแต่หลายคนคงได้ยินในเมื่อมันยืนเบียดกันเป็นปลากระป๋องแบบนี้

            “....”  ผมจ้องหน้ามัน  จนด้วยคำพูด  บอกไม่ถูกว่าระหว่างความโกรธกับความอายอันไหนมันมีมากกว่ากัน  แต่ที่แน่ๆ ผมกำลังสรรหาคำด่าตั้งแต่สมัยทวารดียันปีสองพันห้าด่ามันในใจ  ตอนนี้ไม่กล้าหันไปมองหน้าใครเลยครับ  ทั้งที่เราไม่มองแต่ก็ยังรู้สึกว่ามีคนมองอยู่  สาดเอ๊ย!  จะคิดไปเองหรือปล่าวไม่รู้ล่ะ  แต่แม่งโคตรอาย

            ผม...เกิดมาสิบเก้าปีมีแฟนเป็นผู้หญิงแท้ๆ ทั้งหมดสี่คน  แต่ละคนน่ารักขนาดเชอร์มาลย์ชิดขวา  อุษามณีชิดซ้าย  เหลือแค่ตุ๊กกี้คนเดียวเท่านั้นแหละครับที่พอจะสู้ได้อย่างสูสี  แล้วมัน..มันเป็นใครมาจากไหนบังอาจหาว่าผมชอบ ผู้-ชาย   กูจะชอบผู้ชายได้ยังไง  ถ้ากูชอบเพศเดียวกับตัวเองแล้ว  ลูกสาวลูกชายว่าที่นักแสดงในอนาคตที่กูกำลังจะขอเคล็ดลับจากพ่อแม่มึง  กูจะผลิตออกมาได้มั้ย  ถามหน่อยสิวะ

            “ถึงแล้ว  ไม่ลงรึไง”  มึงยังมีหน้ามาถาม  ไอ้เชี่ยเอ๊ย  ทำกูขายหน้าไม่พอ  มึงยังจะไล่กูลงจากรถ  กูจะลงเพื่อ?  นี่ตึกอักษร  กูไม่ได้เรียนที่นี่  กูเรียนเศรษฐศาสตร์ ไอ้ฟาย  มึงเข้าใจมั้ย  กูเรียนเศรษฐศ่าสตร์  กูไม่ได้เป็นเกย์  ไอ้สาดด  

ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่ามัน  ใจก็คิดว่าไม่ลงเด็ดขาด  ครั้นเหลือบไปมองรอบๆ  งานเข้าเลยกู!!  เห็นหลายคนมองมาแล้วยิ้มให้ผมเหมือนรู้ทัน  มึงรู้ทันอะไรกู๊  กูไม่ช่ายยยยย  ไอ้เชี่ย  ต้องให้กูไปเปลี่ยนชื่อเป็นนายสมชายให้สาแก่ใจพวกมึงเลยดีมั้ย

            สุดท้าย..ไม่อยากลง  ก็ต้องลงครับ  ใครบอกผมไม่แคร์สื่อ  ครับสื่อน่ะผมไม่แคร์  แต่ผมแคร์หน้าบางๆ ของผม  ผู้หญิงหลายคนมองหน้าผมตาวาว  บ้างก็ถอนหายใจด้วยอาการคล้าย “กูว่าแล้ว”   ขนาดเดินลงมายังได้ยินคำนินทาลับหน้า (เดินอยู่ข้างหนาครับ) ว่า

            “บอกแล้ว  ไม่แอ๊บก็อันโนว์( ยังระบุเพศไม่ได้) เสียดายเนาะ  หน้าตาดีด้วย”

            ผมกล้ำกลืนฝีนความอัปยศไว้ในใจ  จำไว้นะมึง  อย่าให้กูเจอที่ไหน  กูจะตะโกนว่ามึงชอบหลอกฟันเด็กแปดขวบให้ได้ยินกันทั้งมอเลย  กูอายบนรถป๊อบ  มึงต้องอายทั้งมหาลัย

 

.................................................

            

ผมไม่เสียเวลายืนแกร่วให้โดนแซวครับ  แม้ใจจะอยากแซวแอ่วสาวก็ตามที  หลังจากหน้าหายชาโดยไม่ต้องพึ่งยา(ฉีด) หรือมือ(ตบ)  เท้าก็เริ่มรับคำสั่งจากสมองให้วิ่งสี่คูณร้อยไปตึกเศรษฐศาสตร์ทันที  นาฬิกาใส่อยู่ที่ข้อมือแต่แน่นอนว่าผมไม่ดูให้เสียอารมณ์

เพราะมัน...ไม่ทันชัวร์!!!

ไอ้เวย์ใส่เกียร์ม้า(จะลดตัวเป็นหมากันเพื่อ?) ควบตัวโก่งแบบไม่กลัวเสียศูนย์  พอเห็นว่าอีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัย  ใจมันก็มาเกินร้อยแล้วครับ  สปีดมีเท่าไรใส่ไม่ยั้งทั้งเท้าหน้าเท้าหลังทำงานประสานกันอย่างดีเยี่ยม  ตาจ้องป้ายคณะเขม็งยิ่งกว่าตอนสเนปท่องมนต์สาปแช่ง

อีกนิดเดียว  โกยเข้ามึง  โกย  โกย  โก้ยยย

เฮ้ย!!!  พรืดดด   พรวดดด  สวบ  แอ้ก!!  (แม่งคล้องกันดีชิบ)

 

...จบสิ้นกันแล้ว  ชีวิตกู...

.

.

.

หมดแล้วสิบแปดปีที่สร้างมา  หมดแล้ว  หมด  หมด  โม๊ดดดดแล่ว (มิได้พิมพิ์ผิด  แค่ลิ้นลืมสำเนียงปกติชั่วขณะ)

ใครเห็นภาพผมตอนนี้คงนึกได้อยู่ไม่กี่เพลงหรอกครับ  ง่ายๆ เลยนะ  เพลงนี้ผมว่าตรงสุด

...ก่อนเคยเห็น เอ้ออ.. เอ๋ย..  อยู่หลัดๆ  ตอนนี้พลัดตกพุ่ม เอิง..เอ๋ย..ไม้...เอย....

เรามารีเพลย์ภาพช้าให้ดูกันครับ  ถามว่าอายไหมที่ต้องประจานตัวเอง  อายครับ  แต่ยอมเพราะ...ผมเกิดมาเพื่อเป็นคนของประชาชน  ก๊ากก

ไม่เกินเมตรจะถึงบันไดขึ้นตึก  มีไอ้ถุงพลาสติกหน้าโง่แผ่นหนึ่งมันมานอนแอ้งแม่งอยู่บนพื้น  ใจผมก็อยากจะตะโกนบอกให้มันหลบไป  แต่เผอิญว่าตามัวแต่จ้องป้ายคณะ  รู้ตัวอีกทีเท้าก็ลอยจ่อหัวมันอยู่แล้วครับ (ใครว่าถุงพลาสติกไม่มีหัว  ผมนี่เถียงขาดใจเลย  มันจะไม่มีหัวได้ยังไงในเมื่อมันต้องมีหัวไว้คั่นหูทั้งสองข้างของมัน  ...เออ  กูก็คิดได้เนาะ = =;;)

ผมเหยียบมันเข้าเต็มเท้า  จากนั้นดูเหมือนว่าไอ้ถุงบ้านั่นมันจะหนักจนทนไม่ไหว  สะบัดตัวหน่อยเดียวเท้าข้างนั้นของผมก็ลอยขึ้น  ร่างกายเริ่มเสียสมดุล  ด้วยความที่ไม่อยากดังตั้งแต่วันแรก  ผมจึงพยายามยื้อยุดชุดกระชากตัวเองไว้เต็มที่  แต่ว่า..ผลของมันนี่ออกจะดูอุจาดสายตาไปหน่อยเท่านั้น

เพราะแทนที่ร่างกายซึ่งเสียสมดุลไปแล้วของผมมันจะหงายหลังให้ก้นได้ร้องอรุณสวัสดิ์กับพื้น  กลายเป็นว่ามันโน้มไปข้างหน้าจนหัวผมทิ่มทะลุพุ่มไม้  ให้หน้าได้เซย์ไฮกับไอ้ใบสีเขียวๆ นี่แทนน่ะสิครับ!!

สรุปนี่ผมจะพยายามไปเพื่อ????

ไม่เกิดคราวนี้  มึงจะไปเกิดคราวไหนวะไอ้เวย์

 

“เฮ้ย! คนตกต้นไม้!”  นั่นไง..มันมาแล้วไอ้คนสร้างกระแส  ผมจะเรียกมันว่าป๋าดันดีไหม  แล้วดูมันตะโกนครับ  ท่าทางผมมันเหมือนคนตกต้นไม้หรือไงครับ  แล้วไอ้พุ่มเตี้ยๆ เนี่ย  บ้านเคอิโงะมึงเรียกต้นไม้หรือไงวะ?

“เป็นอะไรหรือปล่าวอ่ะ” ...เออ  ไม่เป็นไร กูสบายดี  แต่จะสบายกว่านี้ถ้ามึงจะกรุณาช่วยดึงกูขึ้นเงียบๆ  ย้ำนะ เงียบๆ

รู้สึกว่ามีมือมาช่วยดึงตัวผมขึ้น  พอหัวโผล่มาปะทะกับอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นแหละ  ผมก็แทบอยากจะเอาหัวมุดลงไปอยู่ที่เดิมอีกรอบ  คำเตือนสั้นๆ คำเดียวครับ ...ระวัง! มันกำลังจะมา...

“กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”  

นั่นไง...มันมากันแล้ว

บอกแล้วไง  ไม่เกิดงานนี้จะรอเกิดงานไหน  ดีใจกับตัวเองชิบ อยากตะโกนบอกแม่  แม่ครับผมดังแล้ว  ดังกร๊ากยาวๆ เลยด้วย  ฮ่วย! เพราะมึงเลยไอ้ปากหมา  ทำกูซวยแต่เช้า

“ฮ่าๆ  นาย..นาย  ฮ่าๆ  ผม  กร๊ากกกก”  ผมเงยหน้ามาเห็นผู้ชายตัวสูงหน้าตี๋คนหนึ่งยืนแหกปากหัวเราะผมอย่างเอาเป็นเอาตาย  ขอชมจากใจจริง  มารยาทมึงดีโคตร

“ผม?  ทำไม”

“ฮ่าๆ  ไม่มีอะไร  เท่ดีวะ  กร๊ากก  ปีหนึ่งเหมือนกันใช่ป่ะ  เราชื่อนุ  นายอ่ะ”  

“เวย์”  

มันมองหน้าผมอึ้งๆ ไปสักพัก  ทำไมวะ  หรือชื่อผมมันแปลกมาก  สักพักมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้  แล้วก็เริ่มแหกปากหัวเราะเต็มแรงอีกครั้ง

“กร๊ากกกก  งั้นเมื่อกี้ก็รองเวย์ (wrong way) อ่ะดิ  ฮ่าๆๆ  บันไดมีไม่ขึ้น  จะกระโดดข้ามต้นไม้เหรอวะ  กร๊ากกกก  ปวดท้องโว้ย  ม้ามจะระเบิดแล้วเนี่ย”  งั้นมึงก็หยุดขำซะทีสิไอ้สัด  ดูแลม้ามมึงด้วย  น่าสงสารชิบมีเจ้าของอย่างมึง  ถ้ากูเป็นมันนะกูชิงระเบิดตัวเองไปนานแล้ว  แล้วไอ้นี่เขาเรียกว่าพุ่มไม้เว้ย  มึงดูปากกูชัดๆ นะ  พุ่มไม้  ไม่ใช่ต้นไม้

“เหนื่อยยัง”  ผมถามผมด้วยสายตาแกมสมเพช  ที่จริงสมเพชตัวเองมากกว่าครับ  แต่เอาไปลงกับมันแทน  ช่วยไม่ได้ครับแม่สอนมาให้รู้จักรักตัวเองก่อนจึงค่อยรักคนอื่น

“เออ  เหนื่อยว่ะ” ... สมควร

“ดี  จะได้ไปสักที  แม่งสายโคตร”

“กร๊ากกกก  ก็ถ้านายไม่อุตริไปขี่ต้นไม้  มันคงไม่สายจนขนาดนี้”  เอ๊ะ ไอ้เวรนี่  ตกลงมึงจะเอายังไงแน่วะ  จะให้กูตกหรือขี่  ส่วนไอ้เรื่องต้นไม้ของมึง  กูปลงแล้ว  ชาตินี้ยังไงมึงก็คงแยกระหว่างพุ่มไม้กับต้นไม้ไม่ออกหรอก

“ขำเข้าไป  เดี๋ยวกูต่อยม้ามแตก”  ไม่ต้องรักษาภาพพจน์มันแล้วครับ  เจอคนกวนตีนขนาดนี้  ดิบๆ กับมันไปเลย

“โอ๊ย  ไม่ต้องต่อยๆ  มึงโดดเข้าไปที่เดิมอีกที  รับรองแม้แต่ตับกูก็ยอมระเบิด” อ้าวๆ  นี่มึงกำลังท้ากูอยู่เหรอ  มึงรู้ไหมว่ามึงกำลังท้าผิดคน  ผมยักคิ้วให้มันแล้วทำท่าจะเอาหัวทิ่มพุ่มไม้จริงๆ  มันร้องเฮ้ยแล้วรีบดึงแขนผมไว้  ไอ้สาด   ยุเองห้ามเอง  ทีหลังไม่ต้องยุกูให้เหนื่อยนะมึง

“ เฮ้ย จะทำไรวะ”

“ทำให้ตับมึงระเบิดไง” ผมยักคิ้วให้มัน

“กร๊ากกกกก  โอ๊ย  ขำโว้ย  มึงนี่กวนตีนสาด  มาเป็นเพื่อนกันเหอะว่ะ  คนบ้านเดียวกัน” ...แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่  รู้ว่าเหนื่อยเพียงไหน  ฮ่วย  ไอ้บ้า...    รู้ด้วยเหรอมึงว่าตัวเองกวนตีน  นี่ถ้ามึงยังไม่รู้ตัว  กูว่าจะอัญเชิญหลวงพ่อมารดน้ำมนต์เบิกสมองมึงแล้วนะเนี่ย

“เออ”  ผมตอบตกลง  แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะถูกใจเหตุผลคนบ้านเดียวกันของมัน  แต่เป็นเพราะว่าหลังจากเหตุการณ์หัวทะลุพุ่มเมื่อกี้นี้  ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าจะยังมีใครกล้าคบผมเป็นเพื่อนอีกหรือเปล่า

 

 
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:58:11
อ้าว  น้องสองคนทำไมเพิ่งมาครับ” ...ก็เพราะผมมาช้าไงพี่  ถ้าผมมาเร็วนะผมก็คงไปนั่งรวมกับเพื่อนคนอื่นตรงโน้นแล้ว  ไม่มายืนเซ่อให้พี่ถามอย่างนี้หรอก...  ใจจริงก็อยากจะตอบอย่างนี้ครับแต่กลัวมันจะเป็นการปีนเกลียวตั้งแต่วันแรก  ซึ่งดูหน้าไอ้เกลียวตัวที่ว่า..ผมว่ามันไม่น่าปีนเท่าไรนะ  กลัวว่ายังไม่ทันถึงครึ่งเกลียว  ตีนมันก็เอี้ยวมายันผมออกก่อนชัวร์

ผมไล่ตามองเห็นเด็กปีหนึ่งนั่งหน้าสลอนบนอยู่พื้น  มีพี่ๆ ยืนล้อมอยู่  ส่วนใหญ่เป็นพี่ผู้ชายครับ  พี่ผู้หญิงมีบ้างแต่ที่น่ารัก..น้อย (เอ่อ..ใครบังเอิญเป็นผู้หญิงคณะดังกล่าวแล้วอ่านมาถึงตรงนี้  คิดซะว่าพวกคุณเป็นส่วนน้อยที่น่ารักในสายตาผมก็แล้วกันนะครับ )  ผมหยุดสายตาอยู่แถวๆ ม้านั่งนานเป็นพิเศษ  เพราะมีพี่ๆ ผู้หญิงน่ารักอยู่สามสี่คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ตรงนั้น  สภาพมันคล้ายๆ นางฟ้าในฝูงควายยังไงยังนั้น  แล้วไอ้พี่คนเดิมมันก็เดินตีหน้าโหดเข้ามาหาผม  หืม..ลำพังมันทำหน้าเฉยๆ ผมยังเผลอมองปากกาแลนเซอร์ (ได้ค่าโฆษณามั่งมั้ยเนี่ยกู) ที่มันควงอยู่เป็น .357  เตรียมไปเอาเลือดหัวใครออกแล้วนะครับเนี่ย  แน่นอน..ว่ามันต้องไม่ใช่หัวผม แต่ถ้าเป็นหัวไอ้เพื่อนใหม่ที่มันกำลังพล่ามวาจาน่าเอาตีนกระทืบกะโหลกอยู่นี่ก็ไม่แน่

“อ๋อ  พอดีเพื่อนผมมันมุดเข้าไปช่วยหมาติดพุ่มไม้น่ะครับ”  ...รู้ตั้งแต่เมื่อไรวะมึงว่ามันเป็นพุ่มไม้  ให้กูแก้แทนในใจตั้งนาน...  มันว่าแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม  ขยิบตาสองที  กระดิกหูอีกที  ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนมีคนโยนขี้มาให้  แล้วบังคับให้เอามือรับน่ะครับ  

จะไม่รับก็กลัวมันตก  จะรับก็กลัวมือเหม็น  แม่ง  ...แล้วก็ช่างเปรียบได้น่าดูเหลือเกินนะกู

“หมาตกพุ่มไม้?” เกลียวหน้าโหดเลิกคิ้วขึ้นเหมือนไม่อยากเชื่อ  ก็สมควรล่ะ  ใครเชื่อมันนี่ก็โคตรควาย  หมาที่ไหนมันจะโง่ตกพุ่มไม้  เอ่อ..ยกเว้นผมไว้คน

“ครับ  แล้วไอ้นี่มันก็เป็นคนดีไงครับ  วิ่งเข้าไปช่วยมัน” นั่น..มึงยังหน้าด้านแถต่อ  มึงจะแถจะไถจนหน้าเรียบ  จมูกปากหายไปรวมที่คอหมดกูก็ไม่ว่า  แต่มึงช่วยอย่าลากกูไปเอี่ยวด้วยได้มั้ย  หน้ากูเป็นแบบนี้กูพอใจแล้ว  ไม่ต้องมาอยากช่วยให้กูหล่อขึ้น  เรื่องแถกูไม่ถนัด

“อ๋อเหรอ  กูเป็นคนดีขนาดนั้น  เพิ่งรู้นะเนี่ย”  ผมกระซิบเบาๆ ให้มันได้ยินแค่คนเดียว  ตอนนี้ดูเหมือนขี้มันกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วครับ  ทางเลือกของผมน้อยลงทุกที  หัวใจเต้นตึกตัก  รับไม่รับ  รับไม่รับ  แม่งเอ๊ย..มึงนะมึง  ไม่น่าโยนให้กูตั้งแต่แรก

“งั้นสิ  เนี่ย  ใบไม้ยังติดหัวมึงอยู่เลย”  มันเอื้อมมาดึงใบไม้ออกจากหัวผม  ผมล่ะอยากจะขอบคุณมันเหลือเกิ๊น... ไอ้สัดเอ๊ย ทำไมมึงไม่รีบเอาออกก่อนหน้านี้  ไม่ใช่ว่ามึงคิดแผนนี้ไว้ตั้งแต่ตอนนั้นหรอกนะ มันจะฉลาดเกินหน้ามึงไปแล้วโว้ย  ไอ้เวรนุ

มันลอยหย้าลอยตาคลำหัวผม  หยิบบ้าหยิบบออะไรออกให้เต็มไปหมด  เห็นได้ชัดว่ามันจงใจถ่วงเวลา   กวนตีน  และกำลังหาเรื่องให้ผมลำบาก

ผมนี่มันช่างโชคดีนัก!!!!   ได้มีเพื่อนคนแรกเป็นคนอย่างมัน  ฮ่วย

“หมาสีอะไร”  ...มันสำคัญตรงไหนวะพี่?...  ไอ้พี่โหดมันเหลือบมองพวกผมด้วยหางตา  พอจะรู้แล้วครับว่ามันสำคัญยังไง  ที่แท้ก็กำลังจับผิดพวกผมอยู่นี่เอง  แต่แค่รู้มันยังไม่พอครับ  มันต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ด้วย  ว่าแต่..แล้วกูจะรอดไปได้ไงวะ สีหมามันก็คงมีอยู่ไม่กี่สีหรอก ..ถ้าไอ้คนคณะนี้มันจะไม่อุตริพามันไปย้อมให้ดูเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาน่ะนะ

ผมก้มหน้าลง  แต่ตาแอบเหลือบมองไปรอบๆ

บิงโก!!  ไอ้ผู้ช่วยมันโผล่หัวโผล่หางออกมาพอดีเลยครับ

ไอ้เวย์เอ๊ย  ชาติที่แล้วมึงต้องทำบุญกับไอ้พวกสี่เท้าไว้เยอะแน่ๆ

 

“อ๋อ  สีขาวครับ แต่ตรงตูด  เอ้ย ก้นสีดำ” ผมเงยหน้าตอบอย่างผู้มีชัย  ใจอยากจะหัวเราะเสียงดังใส่หน้าแกให้รู้แล้วรู้หรอก  แต่อย่างที่บอกครับ  เกลียวตัวนี้มันน่ากลัวเกินกว่าจะปีน

“หืมม  อ๋อไอ้ตัวนั้นเอง” พี่แกพึมพำด้วยสีหน้าดีขึ้น  เหมือนจะยอมเชื่อคำพูดพวกผมเรียบร้อย  “ดีๆ หัดมีน้ำใจช่วยเพื่อนร่วมโลก  พี่ชอบ” ..นั่นไงมันเชื่อจริงๆ ด้วยครับ  ก็จะไม่ให้เชื่อได้ไงล่ะ  ก็ไอ้หมาตัวที่ว่ามันเดินบิดขี้เกียจผ่านหลังแกไปเมื่อกี้  แถมยังเอาเท้าก่ายหน้าผากแบบปลงสังเวชแกอีก  ก๊ากกก  ขนาดหมายังฉลาดขนาดนี้  ผมเรียนที่นี่สี่ปี  คิดดูผมจะฉลาดขนาดไหน

“เนียนนะมึง” ไอ้คนข้างๆ มันขมุบขมิบปากกระซิบผม

“กูยอมเนียนเพื่อมึงแหละ  ไอ้เพื่อนใหม่”

“ฮ่าๆ  ใจว่ะ  เดี๋ยวกูเลี้ยงน้ำ”

“ไอ้งก  ข้าวจานหนึ่งบวกน้ำด้วย” กูทำให้ถึงขนาดนี้  ยอมลดตัวเป็นคนดีเพื่อมึงขนาดนี้  ยังจะเลี้ยงแค่น้ำแก้วเดียว  มึงคิดดิ  คนงกกว่าอย่างกูจะยอมมึงมั้ย  ไอ้นุทำท่าจะแย้งข้อเสนอที่ออกจะสมเหตุสมผลของผม  เสียงพี่โหดก็ดังขัดขึ้นซะก่อนครับ

“เราอ่ะมานี่ดิ”

พวกผมก็เงียบครับ  สองเท้าข้างนี่พร้อมใจกันนิ่งสนิท  เราไหนไม่รู้ล่ะ  แต่คิดซะว่าไม่ใช่ “ตัวเรา” ก็แล้วกัน

“มึงอ่ะ  ออกไป” ไอ้นุมันเอาตีนสะกิดตีนผม  เห็นได้ชัดว่ามันยึดคติเดียวกันกับผมในการใช้ชีวิต  ...เรื่องซวยๆ โยนให้คนอื่นได้  จงอย่าลังเลที่จะทำ...

“เขาเรียกมึงต่างหาก  ออกไปดิ”  ผมเอาตีนสะกิดมันกลับ  คนเริ่มเรื่องมันคือมึงนะโว้ย

“น้องนั่นแหละ  ที่มุดไปช่วยหมาอ่ะ  มาหาพี่เร็วๆ” สิ้นเสียง  เท้าคนข้างๆ มันก็หยุด  แต่ใบหน้ากวนๆ ของมันกลับหันมาแลผมแทนด้วยรอยยิ้มสะใจยิ่งกว่าเห็นไก่กินหมา  มือตบไหล่ๆ ผมป้าบใหญ่  บีบแน่นอย่างให้กำลังใจ  ทั้งที่ปากของมันกำลังสั่นเพราะสะกดกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

..ขอบใจมากนะมึง  ไอ้เพื่อนใหม่  กูไม่เกิดเพราะใคร  แต่เกิดเพราะมึงจริงๆ...

 

“ปรบมือต้อนรับคนดีของคณะกันหน่อยครับ”  พอผมไปยืนอยู่ข้างพี่โหด  ก็มีไอ้พี่คณะอีกคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาพร้อมเสียงปรบมือนำชาวบ้านเขา  จงใจแกล้งกันชัดๆ ทำไมพี่ไม่ออกไปเอาดีทางด้านนี้เลยล่ะ  รับจ้างเป็นหน้าม้าตามงานวัดท่าจะรุ่งกว่ามั้ย

เสียงปรบมือ  เสียงหัวเราะ  ผิวปากดังมาไม่ขาดสาย  รู้ทั้งรู้ว่าโดนแกล้งแต่ด้วยสปิริตของอะไรสักอย่างมันสั่งให้ผมฝืนยิ้มไว้ครับ  คิดซะกว่าอย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีเสียงโห่ล่ะวะ  แต่ดูเหมือนยิ่งผมยิ้ม  เสียงบัดซบนี่มันก็ยิ่งดังขึ้น

เออ  ตลกกันซะให้พอนะพวกมึง  ถึงทีกูบ้างจะตลกไม่ออกกันทั้งคณะ

แถวนี้มันมีถังน้ำมันกับไม้ขีดไฟหรือเปล่าวะ?

 

“เอ้า  น้องแนะนำตัวหน่อยครับ” หลังเสียงหัวเราะเริ่มซาลง  ไอ้คนข้างๆ มันก็สั่งทันที

“สวัสดีครับ  ผมนาย....  ชื่อเล่นเวย์ครับ” พยายามจะทำหน้าให้นิ่งที่สุด  แต่ก็ยังมีคนเสือกหลุดขำ  หรือว่าผมจะย้ายสายอาชีพดีครับ?  หันมาเอาดีทางด้านเอ็นเทอร์เทนจะรุ่งกว่าไหม

“บ่นพึมพำอะไรของน้อง  คนดีเสียงไม่ดังมันไม่เกิดนะน้อง”  ไอ้พี่โหดเริ่มอยากได้ชื่อเพิ่มเป็นไอ้กวน  มันเริ่มหาเรื่องใส่ตัวอีกครั้ง   พี่ครับ  รู้จักผมน้อยเกินไปแล้ว   ก็ได้..ถ้าอยากให้ผมเกิดนัก  ผมจะเกิดให้ดูเป็นบุญตา

...เปิดหู  เปิดตาให้ดีแล้วกัน...

 

“ผมชื่อนายคนดีศรีเมือง  นามสกุลรักคุณธรรมยิ่งชีพ   ...ทีนี้ผมเกิดรึยังพี่”  ผมพูดด้วยเสียงอันดังเหมือนตอนเรียนรด. แล้วยิ้มให้พี่แกที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเอ๋อจนแทบจะลบฉายาไอ้โหดไปหมด

.

.

.

“ก๊ากกกกกก”

..เห็นได้ชัดว่ากูเกิดของจริง...

ผ่านวันนี้ไป  ชื่อนี้ของผมคงถูกจำจนตาย

ว่าแล้วคนดีก็เริ่มรู้สึกสำนึกเสียใจ  ... นี่กูทำอะไรลงปายยยยยยยยยยยย

“ฮ่าๆ  อ่ะแฮ่ม  เออ  มึงเกิดแล้วไอ้น้องเวย์  ไปนั่งที่ได้แล้วไป” ไอ้โหดมันกลั้นยิ้มเก๊กหน้าขรึมอีกรอบ  เอามือมาตบไหล่ผมป้าบใหญ่ไม่แพ้ไอ้นุทำเอาไหล่ผมมันร้องโอ๊ย  อยากจะตะโกนด่าตอบ  ติดอย่างเดียว...มันไม่มีปาก

ผมก็ยังคงเก๊กหน้าด้านๆ ของตัวเอง  ฉีกยิ้มที่ออกจะแหยๆ ไปบ้างเดินอ้อมไปนั่งด้านหลัง  แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว  เสียงเดิมก็รั้งผมไว้

“เดี๋ยว!!” อะไรของมึงอีกครับ... “นั่งรวมกับคนไม่ดีอย่างพวกนั้นได้มั้ยวะ” ... ฟังคำถามมันผมถึงกับพูดไม่ออก  ไอ้พี่คนนี้แม่งกวนตีนสาด  มีการยักคิ้วให้ผม  ดีเนาะมึง  พูดให้คนอื่นเขาโห่เล่น  เพราะตอนนี้กลุ่มบุคคลที่ถูกหาว่าเป็นคนไม่ดีกำลังโห่ว่าพี่เขาเสียงดัง  อืม..ช่างมีซิเนียริตี้ (การเคารพผู้อาวุโส) ดีจริงๆ คณะนี้

“โหยยยยยย”

นึกแล้วผมก็ขำ  ตลกดีครับ  ที่แท้ก็โหดไม่จริงนี่หว่า

“ได้ครับพี่  ผมมันคนใจกว้างอยู่แล้ว ^^”

“ฮิ้ววววววว  ฮ่าๆๆ”  คราวนี่เสียงโห่เป็นของผมล้วนๆ  ยืดว่ะ  ไอ้เวย์ยืด  ฮ่าๆๆ  ผมเดินไปนั่งหลังสุด  ตลอดทางมีคนกระซิบทักอยู่เรื่อย  เรียกว่าเวย์บ้าง  คนดีศรีเมืองบ้าง  แน่นอนให้คำหลังมันเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:58:29


“ว่าไงไอ้คุณคนดี  เกิดเพราะกูเลยนะมึง”  สุดท้ายผมก็มานั่งข้างไอ้นุเป็นคู่ดูโอ่  เพราะนั่งข้างหลังสุดกันอยู่สองคนครับ  ดูเหมือนพวกไม่มีคนคบซะอย่างนั้น

“ขอบใจว่ะ  ไว้คราวหน้ามึงได้เกิดแทนกูแน่”

“อย่าเลย  หน้าหล่อแค่นี้กูก็ดังจะแย่อยู่แล้ว”  มันว่าแล้วกระพริบตาปริบๆ  ทำปากจู๋อย่างที่หาความหล่อไม่เจอ

“เชี่ย หล่อตายเลยมึง”

จะว่าไปมันก็แปลกนะครับ  คนเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงดันมานั่งคุยกันเหมือนสนิทมานาน  แถมยังขึ้นมึงขึ้นกูกันเรียบร้อยโรงเรียนหล่อ  เออ..คงจะจริงของมันที่ว่าพกวผมมันคนบ้านเดียวกัน

เสียงรุ่นพี่พูดอะไรสักอย่างอยู่ข้างหน้าแต่ผมไม่ค่อยได้ยิน  เพราะมีไอ้กำแพงตัวหนามันนั่งอยู่หน้าผม  ใครวะตัวใหญ่  ไหล่กว้างชิบ  บังกูหมด  เออ  แต่ก็ดี  หน้าด้านๆ ของผมตอนนี้มันยังไม่พร้อมรับแขก

 

 “ไหนว่าอยู่อักษรวะ” เสียงที่เหมือนจะคุ้นก็คุ้น  จะว่าไม่คุ้นก็อาจใช่ดังขึ้นจากข้างหน้า  แต่ผมไม่อยากจะสนใจ   เพราะกำลังเร่งกระตุ้นความด้านบนใบหน้าให้ตั้งใจทำงานอยู่

“พูดกับมึงนั่นแหละไอ้คนดี  โกหกเก่งแบบนี้  ท่าจะไม่ใช่คนดีแล้วล่ะมั้ง”  ผมเงยหน้ามองในจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้คนข้างหน้ามันหันมา

O.O!!!!!

Oh! My god!!!

.

.

.

.

Ship Lost Yet!!! ( ชิบ หาย แล้ว)

 

...นี่กูหนีมึงไม่พ้นใช่มั้นเนี่ย!?...

ไอ้ต้นแบบลูกชายในอนาคต!!!

 

 

“หึ” ไอ้ต้นแบบลูกชายผมมันหัวเราะหึในลำคออย่างน่าเตะที่สุด  หน้าใสปิ๊งยิ่งกว่านางแบบโฆษณาผ้าอนามัยของมันกำลังแผ่รังสีอันตรายให้ใจผมร้อนๆ หนาวๆ   คิ้วเข้มๆ ชักกระตุกคล้ายคนเป็นลมบ้าหมูเสียจนผมไม่กล้าเอ่ยปากด่าสวนอย่างที่ใจคิด  แน่ล่ะสิครับ  ใครจะไปรู้ไม่แน่ว่าไอ้โรคชักกระตุกนี่มันอาจติดต่อกันผ่านสายตาก็เป็นได้

“ว่าไง  ไหนว่าอยู่อักษร” ...แล้วมึงเห็นกูอยู่ที่ไหนล่ะ  กูดังแล้ว  มึงเข้าใจไหม  กูดังแล้ว  กูดัง กูเกิดที่นี่  ก็ต้องอยู่นี่ดิวะ  จะไปอยู่อักษรให้อาร์ทเมน (Arts Men) ข่มเพื่อ?  ถามอยู่นั่น  ย้ำคิดย้ำทำจริง  มึงเป็นออรึไง ไม่ใช่ออทิสติกนะครับ  แต่เป็นออโต้โง่บรม  โง่ง่ายๆ เพียงกดสวิตช์ เหอะๆ

 “เอ่อ..ความจำดีนะนาย  ฮ่าๆ” แต่แน่นอนครับ  สำหรับที่คนเป็นออเช่นกันอย่างผม  (ออเตี้ยนเนียนบรม)  มันก็ต้องมีกรณีลื่นไหลเกิดขึ้นเพราะสัญชาตญาณที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่กำเนิดก็คือสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดครับ

ผมเกาหัว  ส่งยิ้มที่พยายามจะจริงใจและดูบริสุทธิ์ผุดผ่องที่สุดในชีวิตให้มัน  เอียงหน้าเป็นมุมสี่สิบห้าองศาเพราะเหงื่อเย็นๆ มันกำลังจะไหลเข้าตา  มือทั้งสองประกบกันในท่าอ้อนวอนพระเจ้า  (หรืออาจจะเป็นอ้อนตีนในแง่ที่คนมองตาไม่ถึงพอ) โดยอัติโนมัติ  ไอ้พระเจ้าเหากระโดดคนที่ว่ามันยังเหล่มองผมไม่เลิก  ตาเริ่มวาว  ริมฝีปากกระตุกเหมือนพยายามสะกดกลั้นอะไรสักอย่าง  นี่ถ้าไม่ติดว่าตัวมันโต  ผมเอาตัวเข้าแลกกับมันแล้วนะครับเนี่ย

 “คือ..แบบว่า  เมื่อกี้มันสมองเบลอกระทันหัน  เครื่องช็อตแบบลืมหยอดน้ำมันอ่ะ  เลยหลง จำคณะผิด  ฮ่าๆ  ไม่ได้ตั้งใจจะหนีหนี้เลยนะเนี่ย”  ว่าแล้วก็หัวเราะแห้งๆ ส่งไปสำทับอีกที  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลครับ  ชิ  อย่างว่าแหละครับคนมันใจแคบ  ขอโทษ (แก้ตัว) ยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจ

“อ้าว  รู้จักกันแล้วเหรอวะ  ไอ้ไนท์” อยู่ๆ ไอ้คนแจ้งเกิดให้ผมมันก็ถามทะลุกลางปล้องแบบไม่รอให้ผมลดมือท่าอ้อนตีนลง  ไอ้ตาวาวมันหันมาสบตาไอ้นุ  ก่อนจะไล่มองผมตั้งแต่ตีนจรดตัว  สุดท้ายมาหยุดที่มือที่ประสานกันแน่นอยู่กลางอกของผม

“ยัง  แต่คิดว่ากำลังจะรู้จัก”  มันตอบ  แล้วฉีกยิ้มที่เล่นเอาผมเสียวสันหลังวาบ  งานไม่เข้างานนี้  จะไปเข้าไหนวะกู

“ฮ่าๆ  สนใจแล้วล่ะสิมึง” ไอ้นุมันเอามือกุมท้องหัวเราะแบบชักดิ้นชักงอได้โอเวอร์น่าถีบที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา  นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตายนะ  ผมจะช่วยสงเคราะห์กระโดดถีบมันรู้แล้วรู้รอดไป

“เฮ้ย! ไอ้พวกข้างหลัง  มีไรตลกนักหนาวะ  มาเล่าให้พี่ๆ ฟังบ้างดิ”

= =;;

...ก็บอกแล้ว  ตามฉบับนิยายทั่วไป  งานเข้าไม่ได้หยุดจริงๆ...

แต่คราวนี้  มีคนอยากดังได้แจ้งเกิดกันอีกหลายคนแน่นอนครับ

“ว่าไงมึง  กูบอกแล้วว่ามึงจะได้เกิดเป็นเพื่อนกูแน่”  ผมหันไปเอาเข่ากระแทกขาไอ้คนที่ยังนั่งค้างท่าเดิม  ท่าไหนน่ะเหรอครับ  ก็ท่าของคนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังจะตายไง  ไอ้นุเด้งกลับมานั่งหลังตรงโดยอัติโนมัติ  เสียงหัวเราะก็ค่อยๆ ลดระดับลงก่อนจะกลืนหายไปในท้อง  ให้ผมเดา  มันคงคิดว่าค่อยลงเฟดเสียงลงแบบหรี่เพลงคงจะทำให้มันดูเนียนมากขึ้น = =;;  เหอะ  ปัญญาอ่อนชิบ

“อ้าว  ว่าไง  คุยเรื่องไรกัน  ออกมาข้างหน้านี่  เร็วๆ อย่าให้พี่ต้องนับถึงหนึ่ง”  พี่ครับ  ถ้าขี้เกียจนับ  หรือถ้ามีปัญหากับตัวเลขขนาดนั้นก็อย่าลำบากเลยครับ  ผมล่ะกลัวพี่จะขาดใจตายจะก่อนเลขสองมันจะโผล่ออกมา

“เวย์  ไหนๆ มึงก็ดังแล้ว  มึงออกไปรับหน้าแทนหน่อยดิ  กูมันคนธรรมดาไม่ชินกับการเป็นข่าวว่ะ” อ้าว  ไอ้นี่นี่  โผล่หางมาแล้วเหรอมึง นี่ตอนนี้ล่ะเรียกกูว่าเวย์ซะเสียงอ่อนเสียงหวาน  เหอะ  มึงลืมอะไรไปหรือเปล่าว่าเรามันคนบ้านเดียวกัน

“นุ  ก็ไหนนายบอกว่าอยากเกิดบ้างก็เลยลงไปนอนดิ้นๆ กับพื้นไง  เนี่ยพี่เขาเรียกแล้ว  ออกไปสิวะ” ผมยืดอกพูดด้วยเสียงอันดังที่รับรองว่าถ้าไม่หูตึง  ต้องได้ยินกับครบถ้วนกระบวนคำ  แล้วตีหน้าซื่อตาใสเหมือนคนประสงค์ดีสุดชีวิต  แน่นอนครับว่ามุมปากยังอดจะฉีกยิ้มน้อยๆ ให้มันไม่ได้

ไอ้นุถลึงตามองผมอย่างหมั่นเขี้ยว  แต่ชาติชายอย่างไอ้เวย์หรือจะมีกลัว  ยกมือขึ้นตบบ่ามันป้าบอย่างให้กำลังใจ  เอาเลยมึง  หึหึ  เอาให้เต็มที่  ฮ่าๆๆ จัดไปอย่าให้เสีย

“อ้าว  นั่งเงียบอยู่ทำไมครับ  ออกไปหาพี่เขาสิครับ หึหึ”  ผมพูดเพราะแต่ยิ้มชั่วร้าย

“อ้อเหรอ  เออ  ไปก็ได้ครับ  แต่งานนี้ไหนเลยผมจะยอมตายคนเดียว  มันต้อง..ตายหมู่”  พูดจบรอยยิ้มที่ชั่วร้ายไม่แพ้กันก็ปรากฏขึ้น  คิ้วขวาผมไม่ทันได้กระดิกเตือนภัย  มันก็จัดการลากผมขึ้นมาทั้งตัว  แล้วเอาแขนกอดเอวผมไว้แน่น  ฉีกยิ้มหวานให้ส้นเท้าผมอยากกระตุก

“ปล่อยกู” ผมฉีกยิ้ม  กระซิบผ่านรอยฟัน

“อย่าฝัน”  มันตอบมาด้วยวิธีแบบเดียวกัน  นั่นคือลอดไรฟัน

“นุครับ  ปล่อยกู”

“ไม่มีวัน” ...ชัดถ้อยชัดคำ...

“กูไม่อยากไปเกิดกับมึงอีกรอบ  ปล่อยกู  กูไม่ใช่คนเริ่มนะเว้ย”  ว่าแล้วก็ต้องตวัดสายตามองไอ้หัวดำข้างล่างที่มันยังนั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ผมสบตาไอ้นุ  แล้วบุกใบ้ว่าเพื่อนมันนั่นแหละเป็นตัวการ  แล้วยังมีหน้ามานั่งเฉย  ปล่อยให้คนอื่นเขารับกรรมแทน  คนรักความยุติธรรมอย่างผมทนไม่ได้ครับ  ไอ้นุขมวดคิ้วมองเพื่อนมันที่ยังนั่งหลังตรงแน่วแบบไม่สกทะสะท้านหรือยี่หระใดๆ ทั้งสิ้น  สักพักมันก็คลี่ยิ้มชวนขนลุกออกมา  ลางสังหรณ์ผมมันบอกว่า...ท่าจะไม่สนุกซะแล้ว

“งั้น..ไอ้ไนท์  มึงไปเกิดกันด้วยกัน”

...กลัวแต่ว่าก่อนจะได้เกิด  มึงจะลากพวกกูลงนรกไปชดใช้กรรมก่อนน่ะสิ...

ไอ้นุใช้อีกมือดึงต้นแขนไอ้ไนท์ขึ้นมา  แต่ร่างสูงใหญ่นั้นไม่มีทีท่าว่าจะขยับ  ไอ้นุพยายามอีกอย่างน้อยสองครั้ง  ไอ้คนชื่อไนท์ก็ยังนั่งนิ่งราวกับมีรากแก้วงอกยึดก้นไว้กับพื้น  ผมก็อยากจะช่วยมันอยู่หรอกแต่เกรงว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัว  เพราะเท่าที่ผ่านมายังไม่ถึงครึ่งวันนี้  ผมก็ดูจะสร้างเรื่องกับมันไว้ไม่ใช่น้อยแล้ว

แต่ดูท่าท่านยมคงจะเริ่มรำคาญครับ  ท่านก็เลยยื่นกระบอง (ปากาอะไรสักอย่าง) ชี้มาทางพวกผมแล้วออกคำสั่ง

“ทั้งสามคน  ออกมา ...ให้ไว  ย้ำ  ให้ไว!!”

ผมหันไปสบตาไอ้นุเชิงตำหนิ  แล้วเหลือบลงไปมองไอ้คนข้างล่างที่ดึงมือไอ้นุออกจากต้นแขนมันแล้วลุกขึ้นอย่างว่าง่ายผิดปกติ  มันยืนขึ้นเต็มความสูง  หันมามองหน้าผมแล้ว...ยิ้ม!! 

กูขอร้องได้ไหม  มึงอย่ายิ้มให้กู  ถ้ามึงจะยิ้มแบบนี้  มึงไม่ต้องเสือกยิ้ม  T^T  แม่ครับ  ถ้าผมเป็นอะไรอย่าลืมเซ่นไข้พะโล้ส่งมาให้ผมกินทุกวันนะครับ  อ้ะ  อาทิตย์ละครั้งก็แล้วกันเดี๋ยวมันจะเอียนเสียก่อน

หมับ!!

รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ข้อมือ  ผมล่ะไม่อยากจะนึก  แบะปากมองหน้ามันสลับกับมือที่ยื่นมาจับแขนผมอย่างถือวิสาสะ  มันยิ้มอีกแล้ว  ยิ้มทำเอี้ยไรไอ้บ้า   ยิ่งมึงยิ้ม  กูยิ่งอยากร้องไห้ให้ควายงง  มึงรู้ไหม

ผมถูกมันลากมาถึงด้านหน้า  มีไอ้นุเดินตามมาติดๆ เหลือบมองท่านยมเห็นเขาจ้องมือผมที่ถูกจับไว้แน่น  หน้าไอ้เวย์ก็ร้อนขึ้นมาทันตาเห็น  กระชากแขนออกจากมันเท่าไรก็ไม่เป็นผล  มึงนะมึงนอกรากจากแก้วที่ก้น  ยังมีรากฝอยอยู่ตามตัวด้วยรึไงวะ

“อ้าว  ตกลงคุยอะไรกันเสียงดัง  ว่าไงไนท์”  พี่ยม (เอาชื่อนี้ไปก่อนแล้วกันนะพี่) ถามไอ้ไนท์อย่างคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมาก่อน   ไอ้คนข้างตัวมันหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง  ก่อนตอบว่า

“ไอ้เตี้ยคนนี้  มันบอกว่าอยากย้ายไปอยู่อักษร”

O.O!!

กูพูดอย่างนั้นเหรอวะ?  กูพูดเรอะ  ไอ้สัตว์  กูพูดเรอะ!!

 “เฮ้ย  ผมป่าวนะพี่  ไอ้โย่งมึงมั่วแล้ว” ผมมองมันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  มีอย่างที่ไหน  นึกอยากให้ใครตายก็โยนระเบิดมาให้ง่ายๆ  ไอ้บ้า  กูรับก็โง่เต็มกลืนแล้ว

“หึ  ตัวเองบอกอย่างนั้นแท้ๆ”  ยัง  มึงยังมีหน้ามายิ้มเยาะ ไอ้เอี้ยเอ๊ย  เดี๋ยวมึงจะยิ้มไม่ออก

“บ้า  ที่บ้านไม้เคะหูหมดรึไงวะ  ฟังให้มันถูกๆ หน่อยดิ  กูบอกว่า..เอ่อ..โคตรรักคณะต่างหาก  เหอะๆ  ใช่ไหมไอ้นุ”  ผมสะกิดไอ้นุ  จ้องตามันอย่างคาดคั้น ...ออออกับกูซะ...

“ห้ะ! ไม่รู้เว้ย  กูไม่เกี่ยว  กูนั่งขำของกูคนเดียว” พูดจบมันก็หันหน้าหนีเหมือนคนไม่อยากเสวนา  ยกมือเกาหัวแกรกไม่กลัวรังแคร่วง  มึงนะมึงทำกับกูได้

“เพื่อนเวร”  ผมสถบด่ามัน  เขาว่าคนเรามีเนื้อคู่ทั้งคู่บุญ  คู่สร้างคู่สม  และกูเวรคู่กรรม  ไม่ยักรู้นะครับว่าแม้แต่เพื่อนก็ยังมีแยกประเภท  แถมผมยังซวยได้เจอแต่พวกคู่เวรเสียด้วยสิ

“อ้าว  สรุปยังไง  ทำไมมึงไม่เตี้ยมกันให้ดีก่อนวะ  ดูนี่  กัญ เจมส์พวกมึงมานี่  แสดงให้น้องมันดูหน่อย” ผมล่ะงงกับไอ้รุ่นพี่คณะนี้จริงๆ  แทนที่จะว่าพวกผมคุยกันเสียงดัง  ดันตำหนิที่ไม่เตี้ยมกันใหดีก่อน  จะโกหกทั้งทียังทำไม่เนียน  พี่เลยทนดูไม่ได้ว่างั้นเหอะ  นี่ผมยังย้ายคณะทันไหมครับเนี่ย 

พี่ผู้ชายสองคนลุกมาจากม้านั่งด้านข้าง  ตัวสูงคนหนึ่ง  เกือบสูงคนหนึ่ง  คนตัวสูงหน้าตาธรรมดาครับ  เอาเป็นว่าหาได้ทั่วไปตามท้องถนน  พบมากแถวสวนลุม  ส่วนคนที่เตี้ยกว่าหน้าตาดีทีเดียวครับ ผิวสีน้ำผึ้ง  คิ้วเข้ม  ระหว่างชื่อเจมส์กับกัญ  แกเหมาะจะชื่อกัญมากกว่า  ส่วนอีกคนก็ไม่เหมาะจะชื่อเจมส์  หาชื่อใหม่ดีกว่าครับ  ชื่อวายก็น่าจะเข้าท่าดี  ‘วอดวาย’  เหมาะจะคบหาเป็นพี่เป็นน้องครับ  รวมกันก็เป็น...เวย์วอดวาย = =;; 

“เมื่อกี้พวกมึงคุยไรกันวะ”

“ลมฟ้าอากาศครับพี่” คนตัวเตี้ยตอบ 

“ผมบอกมันว่าวันนี้อากาศดี  แดดกำลังดี  ลมกำลังดี” ...นี่คือเรื่องที่พวกผมควรเอามาพูดว่างั้นเหอะ  แดดจัดสมควรตากผ้า  แดดดีสมควรออกไปเที่ยว  ไม่เคยดูโฆษณาหรือไงพี่  พยากรณ์อากาศเชื่อใจได้ที่ไหน

“แต่ผมไม่เชื่อ  ผมเลยบอกมันว่ามึงเชื่อมั้ยอีกเดี๋ยวฝนจะตก” ไอ้คนตัวเตี้ยกว่า ( คือที่จริงแกก็ไม่ได้เตี้ยหรอกครับ  แต่เตี้ยกว่าอีกคนนิดหน่อยเท่านั้น) พูดแล้วฉีกยิ้มเป็นนัย

“ทำไมวะ?”  ตัวโตขมวดคิ้วถาม  แต่ผมเห็นแกกลั้นยิ้ม  เหมือนรู้อะไรบางอย่าง

“ฟ้ากำลังจะผ่าอ่ะดิ”

“ตรงไหนวะ”

“ตรงนั้น” ว่าแล้วไอ้พี่คนเตี้ยก็ชี้มายังมือที่ถูกจับกุมไว้แน่นของผม  เท่านั้นแหละครับ  เสียงหัวเราะดังสนั่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้นแทบจะในทันที   คราวนี้ไอ้เวย์ไม่รอช้ารวบรวมแรงทั้งหมดกระชากมือออกได้สำเร็จ  แต่ผมจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อมันไม่ทันแล้ว  โธ่เว้ย! ยังไม่ถึงชั่วโมง  กูเกิดแล้วเกิดอีกจนจะกลายเป็นแมวเก้าชีวิตอยู่แล้วเนี่ย

“ชัดไหม” ไอ้พี่ยม(บาล) มันหันมาถาม

“ชัดครับ” แจ่มเลยพี่  ไม่ต้องมีต่อยกสองสามสี่นะ  ผมยอมแล้วจริงๆ  พี่แม่งเก่งจริง  เทพจริง  เมพจริง  สาดเอ๊ย  อยากผ่าก็ผ่ามาเลย  ตายไม่กลัว  กลัวแต่อายเนี่ยล่ะเว้ย

พี่สามคนยิ้มให้กันอย่างพอใจ  ก่อนคนอื่นๆ จะเริ่มหัวเราะออกมาอีกรอบ  นี่ถ้าไม่เห็นว่าต้องอยู่อีกสี่ปีนะ  ผมจะอาละวาดแม่ง

“ดี  หลังจากให้ความรู้” ..เออ  ช่วยได้มาก  ผมรู้อะไรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยพี่  อย่างน้อยๆ ก็รู้ว่าเวลาหมดมุก  ควรเอาเรื่องลมฟ้ามาอากาศมาเล่น  แล้วก็หาโอกาสทำฟ้าผ่าใส่หัวใครสักคน... “ก็ถึงตอนสั่งสอน” เท่านี้ยังไม่สะใจอีกใช่ไหมพี่  กระทืบเลยไหม  กระทืบกันเลยดีกว่า  เอาให้ผมไม่ต้องไปผุดไปเกิดที่ไหนอีกเลย  ให้มันตายอยู่ที่นี่แหละ  แต่ขอร้องเถอะ  ตายทั้งทีเอาให้คุ้มนะพี่  ประหยัดงบประมาณชาติ  ตายเดี่ยวๆ ไม่เอา  เอาตายหมู่แล้วกัน

หลังจากผมตัดสินใจเลือกวิธีการตายเสร็จเรียบร้อย  ท่านยมก็ออกคำสั่งที่ดูเหมือนยังพอมีความเมตตาอยู่บ้าง

“ครั้งแรก  พี่จะเอาเบาๆ ก็แล้วกัน  ค่อยๆ ทำ  ไว้เริ่มชิน  แล้วค่อยเล่นหนักๆ” ไอ้พี่ยมหน้าโหด  ช่วยพูดให้มันกระจ่างหน่อยได้ไหมวะครับว่านี่คือการลงโทษรุ่นน้อง  ไม่ใช่จับพวกผมทำเมีย   ฮ่วย!  มีหน้ามาห่วงครั้งแรกครั้งหลัง  สุดท้ายยังไงผมก็ต้องโดนพี่ทำอยู่ดีใช่ไหมล่ะ  งั้นก็รีบทำๆ ให้มันเสร็จไปเลยสิ  (ใครคิดอะไรออกทะเล  เรือโผล่มาพอดี  อาศัยกลับเข้าฝั่งด่วนครับ  ย้ำอีกครั้งนะครับ  ผมกำลังจะถูกลงโทษต่อหน้าเพื่อนๆ  ไม่ใช่บนเตียง = =;; ชัดเจนนะครับ)

 “กล้วยส้มสักสามรอบก็แล้วกัน” ..แม้กระทั่งเลือกเพลง  มึงยังจะไม่ไกลจากเตียงเท่าไรเลยนะพี่..  ผมไม่แน่ใจว่าความคิดในสมองมันไหลออกทางหน้าด้วยหรือเปล่า  ไอ้พี่ยมมันถึงได้ถามว่า  “ทำไม  ไม่พอใจ  งั้นเปลี่ยนเป็น...”

“เปล่าครับพี่  พอใจโคตรๆ  ผมชอบผลไม้” ไอ้เวย์ก็รีบสวนกลับพลางยิ้มประจบทันที  รู้เลยครับว่ามันเริ่มนึกเสียใจที่ตัวเองสั่งเพลงอนุบาลๆ อย่างนี้เลย  ขืนปล่อยให้มันเปลี่ยน   ทุเรียนไม่ยกโขยงมาทั้งสวนก็บ้าแล้ว

“ดี  แต่คนยังขาดไปคนนึง  ไปหาเพื่อนมาดิ๊”

...สั่งจริงสั่งจังนะพี่  ชาติที่แล้วขายอาหารตามสั่งรึไงวะ...

ผมทำท่าจะเดินออกไปหาเพื่อนมาร่วมชะตากรรม  แต่ไอ้คนชื่อไนท์มันดันไม่ยอมปล่อยมือ  แถมยังหันไปสั่งเพื่อนมันเสียงดังฟังชัด  ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น

“นุ  มึงหาเอาใหม่  กูขี้เกียจ”  ฟังคำพูดมันครับ  โคตรน่าคบ  ไอ้ฟายอย่างนี้จะมีใครใจดียอมช่วยไหมเนี่ย

“ไม่ๆ กูขยัน  เดี๋ยวกูจัดการเอง”  ที่จริงก็ไม่ได้ขยันอะไรหรอกครับ  แต่ใครจะโง่ยอมคู่กับมัน  นรกอยู่ใกล้  ผมเดินไปหาสวรรค์เอาดาบหน้าดีกว่า

“เฉยเหอะ”

ดุผมเสร็จ  ก็ส่งสายตาให้ไอ้นุที่ตอนนี้กลายเป็นหมาเชื่องๆ  ยิ้มแป้นเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่พากันก้มหน้าก้มตาหลบเป็นแถว  ไอ้นี่ก็ไม่เสียเวลาคิดเลยครับ  มันคว้าแขนเพื่อนแถวหน้าสุดมาคนหนึ่ง  แล้วพูดง่ายๆ ว่า “นาย  ช่วยหน่อย”  ...นี่คือการขอร้องของมึงว่างั้นเหอะ...

เหยื่อ..เงยหน้ามองมันอย่างคาดโทษ  ผมเห็นแล้วอยากจะขำ  เหยื่อคนที่ว่านับวาหน้าตาใช้ได้เลยครับ  เตี้ยกว่าไอ้นุนิดหน่อย  น่าจะประมาณร้อยเจ็ดสิบห้า  ผิวขาว  รูปร่างสมส่วน  ที่สำคัญตามันสวยมากครับ  มันยอมยืนข้างๆ แต่ไม่พูดอะไร  บรรยากาศรอบตัวดูเย็นชาแปลกๆ  ไอ้นุดูท่ามึงจะเจอของจริงเข้าให้แล้วว่ะ

“เอ้า  กลองพร้อม  นักร้องพร้อม  นักเต้นพร้อม   สามสี่...ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  ส้มส้มส้ม  แอปเปิ้ล มะละกอ กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม  กล้วยส้ม .........................  กล้วยส้ม”

ผมจำไม่ได้ว่าโดนกล้วยส้มไปกี่ครั้ง  แต่มั่นใจว่าจะไม้กินผลไม้ทั้งสองอย่างนี้ไปอีกหลายเดือน  แม่ง  เด้งไปเด้งมาไม่เท่าไรหรอกครับ  ถ้าไอ้คนที่เด้งอยู่ด้วยไม่ใช่ไอ้บ้านี่  เด้งไปยิ้มไป  ไอ้สัตว์เอ๊ย  ขำเอี้ยไรนักวะ

“ซิป” ..พอเพลงหยุดมันก็กระซิบข้างหูผม..  “รูดลง”

.

.

.

ซิปรูดลง  มึงก็รูดขึ้นสิไอ้ง่ะ..  เฮ้ยยย  ซิปกู

ผมแทบจะตะโกนออกไปให้ได้อาย  ดีที่ยั้งไว้ทัน  รีบหอบเอาใบหน้าร้อนๆ กับไอ้ซิปไม่รักดีของตัวเองหลบหลังมันแล้วรูดขึ้นด้วยความเร็วแสง  ไอ้ยินเสียงมันหัวเราะหึๆ อย่างน่าถีบ  ไอ้ฟาย  รู้แล้วก็ไม่รีบบอก  มัวแต่มองอยู่ได้   อ๊ากกกก   กูอยากตาย

ผมจ้องหน้ามันส่งกระแสความแค้นผ่านทางสายตา  แล้วก็เตรียมจะหลบไปนั่งที่ให้พ้นจากสายตาประชาชีที่ดูจะสงสัยเหลือเกินว่าผมหลบไปทำอะไรของหลังมัน  จะให้บอกยังไงครับว่าหลบไปรูดซิป  = =;;

“เดี๋ยว  จะรีบไปไหน”

พี่ครับ..ยังไม่สะใจอีกเหรอ?  ถ้ายังไม่พอ  ผมพูดตามตรงนะ จากใจเลย  กระทืบผมเถอะครับพี่  กี่ตีนไม่ว่า  ขอแค่ตายไปเลยเป็นพอ  ไม่ต้องยั้งไว้แค่เดี้ยงนะพี่

“มาแนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักไว้หน่อย  หน่วยก้านดีทุกคน  เผื่อว่ากีฬาเฟรชชี่ปีนี้จะได้หาหลีดกันง่ายๆ  จริงไหมหมวย”  ไอ้พี่ยมยิ้มให้กับสวยผมยาวรูปร่างน่าชมคนหนึ่ง  เธอยกมือจับแว่นดำแล้วพยักหน้ารับ  สวยครับ  สวยมาก  มาดนางพญาอย่างไงอย่างนั้น  และก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ...ถ้าเธอไม่ได้ใส่ชุดนิสิตชาย (รัดรูป)  นี่ถ้าไม่มีเครื่องแบบกำกับไว้  ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็หนีไม่รอดชัวร์

“เอ้า  บอกชื่อจริง  ชื่อเล่น  ของที่ชอบที่เกลียด  อ้อ  ส่วนพ่อแม่ญาติไม่ต้องนะ  ยาวไป  อ้อ  เบอร์โทรก็ไม่ต้องนะ  เดี๋ยวอยากได้แล้วจะไปขอเอง” ดูมันครับ  กวนได้กวนดี  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่บ้านงานหลักคืออะไร  ถนอมอาหารแน่นอน

ด้วยความที่เห็นว่าตัวเองอยู่คนแรก  ผมก็เลยก็ถอนหายใจ  เริ่มแนะนำตัวแบบปกติที่สุด

“สวัสดีครับ  ผมชื่อ...”

“เดี๋ยว! น้องคนดี  เอาไว้ทีหลังสุด  ยังไม่อยากฟัง  เอ้า  น้องคนต่อมาก่อน”

ผมอ้าปากค้างมองพี่แกอย่างไม่อยากเชื่อสายตา  อะไรของแกวะ  นึกไม่อยากฟังก็ข้ามกูไปซะอย่างนั้น  อะไรของมึงเนี่ย  ไอ้บ้าอำนาจเอ๊ย

“ผมชื่อนายพัธสุ  ชื่อเล่น นุ  สิ่งที่ชอบ ผู้หญิงสวย  สิ่งที่ไม่ชอบ ผู้หญิงขี้หึง  เบอร์โทร 087 – xxxx  บอกเลยแล้วกัน  รู้ว่าเดี๋ยวต้องมีคนขอ  จะได้ไม่ต้องลำบากกันทั้งสองฝ่าย”  มันพูดจบเสียงโห่ก็ดังขึ้นทันที  ไหนมึงบอกไม่อยากเกิดวะ  นี่ขนาดมึงไม่อยากนะ  กระทั่งเบอร์โทรมึงยังบอกแล้วเลย  ยังไม่ทันได้ด่ามันก็ได้ยินเสียงดังโอ๊ยขึ้นมาเสียงก่อน  ไอ้นุกระโดดจับเท้าแหยงๆ  สีหน้าแหยเก  ส่วนไอ้คนข้างๆ ขมวดคิ้วไม่พอใจ  ผมได้ยินมันพูดเบาๆ ทำนองว่า..  ไอ้สัตว์  เบอร์กู

สรุปไอ้นุมันเอาเบอร์ไอ้ไนท์ประกาศออกไมค์  ขายเพื่อนเพื่อความดังไปเรียบร้อยแล้วครับ 

“นุใช่มั้ย  087 – xxxx  ได้  เดี๋ยวพี่จัดการประกาศให้เอง”

“พี่ต้า  นั่นเบอร์ผม” ไนท์หันไปแย้ง  ที่แท้พี่ยมแกชื่อต้าครับ

“อ้าว  เพื่อนมึงบอกเองว่าเบอร์มัน  กูไม่เกี่ยว”  พอพี่แกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  แถมไอ้นุก็ดันรู้แกวหนีไปซะก่อน  ไอ้ไนท์มันก็เลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากแนะนำตัวเองไปลวกๆ

“ชื่อนิรวัชช์   ไนท์  สิ่งที่เกลียด..” มันไม่พูดแต่ปรายตามองทางไอ้นุ  แล้วมาหยุดที่พี่ต้า  ก่อนพูดต่อว่า “ไม่มี”...นี่ขนาดไม่มีนะเนี่ยมึง  ถ้าฆ่าคนทางสายตาได้  สองคนนั้นคงพรุนไปแล้ว  “สิ่งที่ชอบ...”  คราวนี้มันทำท่านึก  สักพักก็ยิ้มออกมา  แล้วหันมามองหน้าผม  “เด็กอักษร”

วิ้วววว

คนเป่าปากกันตรึมครับ  ขึ้นชื่อว่าสาวอักษรก็ย่อมเนื้อหอมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว  (ไม่จริงค่ะ  ไม่จริง  มันเป็นแค่ทฤษฎี)  นี่เล่นประกาศออกมาแบบนี้  คนก็ต้องโห่กันเป็นธรรมดาครับ

“ฮ่าๆ  ไม่เบาๆ  ไว้พามาแนะนำมั่งนะเว้ย” ไอ้พี่ต้านี่ก็แปลก  กับคนอื่นทำโหด  ทีกับไอ้โย่งนี่  ทำสนิทสนม  ฮ่วย  ไอ้พี่ลำเอียง  ไอ้ไนท์ยิ้ม ไม่ตอบ  แล้วมันก็มองหน้าผมอีก  ทำไมวะ  อะไรกับหน้ากูนักหนาเนี่ย  บอกไว้ก่อนนะเว้ยว่าหน้ากูไม่มีซิป  รูดลงไม่ได้

“เอ้า  ตาน้องแล้ว”  พี่ต้าตบบ่าเหยื่อของไอ้นุ  ที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมเงยหน้ามองใคร  สงสัยพื้นที่นี่สวยจัดครับถึงขั้นถอนสายตาไม่ได้

“ชื่ออนุทิน   ชื่อเล่นแชมป์ครับ  ไม่ชอบคนเยอะๆ  ชอบคนน้อยๆ”  พูดจบมันก็ทรุดนั่งลงในแถวเดิมทันที  แถมยังก้มหน้าก้มตา  ตั้งท่าจะไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีก  ขนาดพี่ต้าแกยังอึ้ง  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่อยากยุ่งด้วยมากนัก  ให้ผมเดานะ  หมอนี่ไม่ใช่คนยอมคน  ขี้หงอเหมือนท่าทางที่แสดงออกมาแน่นอน  แต่ต้องดื้อเงียบ  แล้วก็หัวรั้นไม่เบาทีเดียว  ตัดสินใจแล้วล่ะครับ  คนนี้แหละ  เพื่อนเบอร์สองของผม  เอาไว้ค่อยไปตีสนิททีหลังก็แล้วกัน

“อ้าว  น้องคนดี  ถึงตาน้องแล้วครับ  ทำไมไม่พูดสักที”

...ก็ตอนผมจะพูด  ทำไมไม่เสือกฟังล่ะครับพี่...

แล้วอยู่ๆ  ผมก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา  ตั้งใจว่าจะไม่กวนแล้วนะ  แต่มันก็อดไม่ได้  นึกย้อนเรื่องราวที่ตัวเองเจอมาตลอดครึ่งวันนี้ก็สรุปได้คำเดียวครับว่า..ซวย

“ครับ  พูดก็พูด  ผม..เพิ่งเปลี่ยนชื่อเมื่อกี้จากคนดี  ศรีเมือง  เป็นนายวรเวร ซวยซ้ำซ้อน  ชื่อเล่นเวย์  เบอร์โทร..ใครถามไม่ให้  พอใจจะบอกเอง   ของที่ชอบ..  ไข่พะโล้    สิ่งที่เกลียด  คนบ้าอำนาจ  (ผมเหลือบมองพี่ต้าแล้วยักคิ้วให้  กวนได้ใจเลยกู)  ผลไม้โดยเฉพาะกล้วยกับส้ม (คราวนี้มองไอ้คนข้างตัว) และ...การเต้น (สุดท้ายมองพี่หมวยที่ยืนขึ้นทันทีที่ผมเริ่มแนะนำตัว)”  พูดจบก็โค้งรับเสียงตบมือและเสียงหัวเราะราวกับรู้ล่วงหน้า  เอ้า  ทำซะเป็นธรรมชาติเลยกู

“หึ  รู้ไหมคนเราเกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้น  วรเวร”


...............................................

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:59:20
Special Chapter: ลูกไล่?...ต่อไปมึงไล่กูก็ไม่ไปแล้วนะ [1]

 

            ...ถ้าวันไหนคุณรู้ตัวว่าตกหลุมรักคนที่คุณไม่ควรจะรัก  จำไว้...อย่าเสียใจ  อย่าโทษตัวเอง  แต่จงโทษไอ้คนที่ขุดหลุมทั้งกว้างทั้งลึกนั้นไว้โดยไม่ปิดป้ายเตือน....

            ...ก็ในเมื่อมันอุตส่าห์ขุดหลุมล่อกันขนาดนี้    ก็ในเมื่อเผอิญผมดันสายตาไม่ดี  แถมยังไร้ทักษะด้านการปีนป่าย  เพราะฉะนั้นจะว่าไปมันก็เป็นเหตุสุดวิสัยไม่ใช่เหรอครับ...

………………………………………………….

 

            ผมยังจำคำพูดของพี่ต้าได้ขึ้นใจ  แกบอกว่า “เกลียดอะไรก็จะได้อย่างนั้น”   เป็นคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ นะครับ  บ่อยเกินไปจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะเป็นตามนั้นจริงๆ   แถมยังได้อย่างที่เกลียดแบบครบถ้วนกระบวนความ  ไม่ตกหล่นแม้สักข้อเดียวอีกด้วย 

            ข้อแรก  ผมบอกว่าเกลียด “กล้วยกับส้ม” ที่พวกพี่แกร้องให้ผมเต้น  ใจจริงอยากจะใช้คำว่า “เด้ง” นะครับ  จะได้เห็นภาพกันอย่างชัดเจน  แต่ก็กลัวว่ามันจะไม่สุภาพ  เดี๋ยวจะไม่เหมาะกับอิมเมจใสซื่อผมด้วย  (อ้าววว  โห่กันทำไมครับ  ผมจำไม่ได้ว่ากำลังจะไปขอลูกสาวบ้านไหน)  ปรากฏว่าไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหนมันเอาทั้งกล้วยทั้งส้มมาประเคนไว้หน้าบ้านผมเกือบสิบวัน  บางวันมันมาอย่างเดียว  บางวันมันมาเป็นคู่  แถมจัดใส่ถาดมาอย่างดี  ทำอย่างกับไว้เจ้า  นี่ถ้ามันบอกกันสักหน่อยว่าจะเอามาไหว้ขอพร  ผมจะได้จัดธูปจัดเทียนไปปักให้ฟรีๆ  ตอบแทนความตั้งใจจริงของมัน   แต่ไม่ใช่ว่าไอ้ของสองอย่างนี้มันหายไปเองนะครับ  ผมนี่..ผม  ต้องขุดเซลล์สมองคิดแล้วคิดอีกกว่าจะหาทางจัดการได้

            ไม่เชื่อเหรอว่าผมจัดการด้วยตัวเองจริงๆ   โธ่! ปัญหามันเท่าหนวดแมลงหวี่นะครับ  ไม่ใช่ปัญหาความมั่นคงระดับชาติที่ผมจะแก้คนเดียวไม่ได้  แต่ต้องใช้หลายคน  หลายฝ่ายเข้ามาแก้  มันจะได้ยิ่งแก้ยิ่งยุ่งเพราะต่างฝ่ายก็ต่างจะแก้แต่ปัญหาของตัวเอง  น่านนน  เป็นไงครับ  คำพูดผม  พอจะยกสติปัญญาให้มันดูมีมากขึ้นมาอีกนิดหนึ่งไหม  ช่วยได้มาก?  ดีครับ  งั้นคราวนี้มองตาผมแล้วลองนึกดูนะครับว่าหน้าตาท่าทางฉลาดๆ แบบนี้จะแก้ปัญหายังไง.... 

            “ฉี่รดเสาและรั้วบ้าน  ประกาศว่าอาณาเขตนี้ของข้า  ใครอย่าแตะ”  ...คิดได้นะครับ  ผมบอกให้มองหน้าผม  ไม่ใช่ไอ้ตูบข้างหลังผม  ถึงผมจะดูใจกล้าหน้าด้านไร้ยางอายขนาดไหน  มันก็ต้องมีขอบเขตกันบ้างนะครับ -*-

            “เอาเลือดไปสาดไว้หน้าบ้าน  ทำพิธีสาปแช่งคนที่เอาของมาวางไว้”  ...ข้อนี้ขอผ่านครับ  อันตรายๆ  หลังคาบ้านผมยังทำจากกระเบื้องตราห้าหกเจ็ดห่วง  กันแดด  กันฝัน  แต่ไม่กันระเบิด  เพราะงั้น...ผ่านครับ

            “ติดลูกศรกับป้ายเขียนว่า  ศาลเจ้าอีก  1oo เมตร”   ...เอิ่ม  ข้อนี้น่าสนใจครับ  ถ้าไม่ใช่ว่าแถวนี้ไม่มีศาลเจ้าไม่ว่าจะอีกร้อยหรือพันเมตร  ถ้าเกิดบังเอิญไอ้เจ้าของกล้วยมันฉลาดน้อยโง่มาก  เดินไปตามลูกศรจริงๆ แล้วหาไม่เจอ  ...บอกไว้ก่อนนะครับว่าผนังบ้านผมก็เคลือบด้วยสีกัปตันธรรมดา  ไม่มีเกราะกันกระสุน

            “แอบดักซุ่มรอดูตัวคนร้าย  เรามันลูกผู้ชายซะอย่าง”  ...ตลก ตำรวจก็ไม่ใช่  นักสืบยิ่งไม่ใกล้เคียง  ทำไมผมต้องมานั่งเสียเวลาทำเรื่องแมนๆ อย่างนี้ด้วยล่ะครับ  โนว์  มันไม่ใช่ทาง  คนฉลาดกล้าหาญอย่างผมหลังจากคิดแล้วคิดอีก  ก็สรุปว่า..ปล่อยมันไปตามบุญตามกรรมครับ  เดี๋ยวพอมันเหนื่อย  มันเบื่อ  หรือไม่ก็คิดได้ว่าไอ้ที่มันทำอยู่น่ะเป็นการเวลา แถมยังเสียเงินฟรี  วันไหนที่มันเริ่มฉลาด  มันก็เลิกทำไปเองแหละครับ

            แล้วมันก็เป็นไปตามการคำนวณตามหลักตรรกะ (?)ของผมเป๊ะ  เจ้าของกล้วยมันเริ่มฉลาดหลังจากเสียเวลามาเก้าวัน  พอวันที่สิบผลไม้หายเหลือแต่ถาดเปล่าวางทิ้งไปหน้าบ้านผม  บนนั้นมีกระดาษขาวเขียนว่า  “หยุดส่งเสบียงชั่วคราว  พี่รหัสเงินหมด”

            จบข่าว....

            ไม่ใช่ไอ้บ้าที่ไหน  พี่รหัสกูเอง....

           

            อย่าเข้าใจผิดว่าคณะผม  หรือใครก็ตามในคณะผมรับน้องรหัสกันแบบนี้  อย่าเข้าใจผิด  อย่า..  ไม่ใช่คณะผม  แต่เป็น “พี่ต้า” คนเดียว   เพราะฉะนั้นต่อให้ผมอยากอยู่ในระบบเคารพผู้อาวุโสขนาดไหน   เจอพี่อย่างนี้  มันก็อดจะปีนเกลียวไม่ได้หรอกครับ   เกลียวแรกที่ผมปีนก็ยังเรียกว่าขั้นทารกได้อยู่มั้งครับ  ทันที่ที่ประกาศเรื่องพี่รหัส  ของที่ผมจัดไปให้แกคือ  เปลือกกล้วยกับเปลือกส้มหนึ่งกล้องใหญ่พร้อมติดกระดาษเขียนว่า “ส่งชิงโชคตั๋วทัวร์ญี่ปุ่นฟรี 3 ที่นั่ง” ตั้งแต่วันนั้นรู้สึกว่าความนิยมของผมในหมู่รุ่นพี่มันพุ่งปรี๊ดเสียจนน่ากลัว  ...กลัวว่าจะโดนดักเก็บแบบไม่รู้ตัว

            ข้อสอง  ผมบอกว่าเกลียด “การเต้น”  วันรุ่งขึ้นก่อนที่ผมจะกลับไปพบกับถาดกล้วยถาดส้ม  พี่หมวยแกก็ยิ้มหวาน  ยื่นใบสมัครให้ผม  พร้อมกับพูดที่โคตรจะเปิดทางให้เลือกว่า  “พี่กรอกให้หมดแล้ว  เซ็นชื่อซะ น้องเวย์”  ไม่รู้ไอ้รุ่นพี่คณะนี้เขาฉีดวิตามินบ้าอำนาจแทนโบท็อกหรือเปล่านะครับ   คำพูดกับการกระทำมันถึงได้เหมือนเคาะมาจากยีนเดียวกันอย่างนี้  ไอ้ลีดคณะนี่ก็เกือบๆ จะได้เป็นอยู่ครับ  แต่โชคดีที่ผมคัดตัวบาสผ่านได้เป็นตัวจริงซะก่อน 

            ข้อสาม  ผมบอกว่าเกลียด “พวกบ้าอำนาจ”  รู้อะไรไหมครับ...นอกจากผมจะได้แต่เจอพวกบ้าอำนาจแล้ว  ยังหนีอำนาจมันไม่พ้นอีกด้วย   มองหน้าผมแล้วทำใจเชื่อไม่ได้ใช่มั้ยครับ  งั้นไปดูตัวอย่างกันครับ  กล้องพร้อม  ไฟพร้อม  กันสาดพร้อม  ฝนพร้อม  เพลงพร้อม  อะไรนะ? เพลงไม่พร้อม?  ...ไม่เป็นไร  เอาฝนมาบิ๊วสร้างบรรยายกาศสลดก่อน  เดี๋ยวเพลง  ผมจัดให้...

 

            ...เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย   ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น  ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ  นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนป่า...

          ลักษณะเบื้องต้นของคนป่า 

1. ไม่มีมารยาท 

            “เดี๋ยว!!” 

            มาแล้วครับ  ไอ้คนป่า...

            ไอ้คนป่าที่ว่านี่ไม่ได้เปลือยท่อนบน  แล้วใส่เฉพาะกางเกงในที่ทำจากใบไม้  มันใส่ชุดนิสิตถูกต้องตามระเบียบ  แถมยังดูดีจนผิดปกติไปสักหน่อย  มันไม่ได้ไว้หนวดเครารุงรัง  หน้าไหม้แดด  ปากดำใหญ่  จมูกโต  แต่กลับเป็นไอ้คนที่ไปสรรหาหน้ากากหนังเทพมาใส่จากที่ไหนก็ไม่รู้  คำว่า “หล่อ” ก็อาจจะดูน้อยไปที่จะบรรยายอาการยีนหน้าตาดีผิดมนุษย์ของมัน   สรุปว่ามันดูเหมือนคน (เหนือ) ปกติทุกประการ   มันไม่ได้ใช้ภาษามือ  หรือภาษาเผ่า  แต่เข้าใจภาษามนุษย์และมีการศึกษาดี   แล้วทำไม..ผมถึงเรียกมันว่าคนป่าน่ะเหรอครับ?  ก็อย่างที่บอก  ...ไร้มารยาท

            คนป่าชื่อออกจะอินเตอร์ว่า “ไนท์”  มันกระชากคอเสื้อผมจากด้านหลังอย่างแรง  นี่ถ้ามือมันยาวกว่านี้อีกสักหน่อย  มันคงกระชากคอผมแทนไปแล้ว  ผมถอนหายใจเฮือกอย่างรู้ชะตาตัวเองเป็นอย่างดี 

            ...กูอีกแล้ว   ถามจริงๆ  ไม่เคยมีคนบอกมึงเหรอว่าวิธีเรียกคนที่ถูกต้องมันเป็นยังไง...

           

 2. ไร้การขัดเกลาทางภาษา 

          แน่นอนครับว่าผมกำลังเคืองตงิดๆ  แต่ด้วยความที่ผมมีมารยาท (มากกว่ามัน)  ผมพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองแล้วหันไปมองหน้ามันช้าๆ  เห็นไอ้ไนท์ยืนกอดอกทำหน้ากวนตีนอยู่  เท้ามันกระดิกเป็นจังหวะเหมือนผมเป็นฝ่ายทำให้มันอารมณ์เสีย  ..เอ่อ.. นี่มึงเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่าวะ

            “อะไร”

“รอกูกลับบ้านด้วย”  อ้อ..กระชากคอเสื้อเหมือนจงใจฆ่ากูเพื่อให้กูรอเมิงกลับบ้าน  ตังฮวย!!!  บ้านก็คนละบ้าน  ทางไปก็โคตรจะคนละทาง  แล้วกูต้องรอมึงเพื่อ?  เอ..ไม่ใช่ว่ามันจะติดใจกับข้าวฝีมือแม่ผม  แล้วตามไปขอส่วนบุญเหมือนเมื่อวานหรอกนะ?  ไม่ม้างงง

            “บ้านใคร” เอาวะ  ถามเพื่อความชัวร์

            “มีดีแต่หน้าเหรอมึง  สมองผุหรือไง”

            .

            .

            ไอ้ฟาย  ที่ผุน่ะไม่ใช่สมองกู  แต่เป็นปากมึงต่างหาก  คนเขาถามดีๆ มึงก็ตอบดีๆ สิวะ  มันด่าผมยังไม่พอครับ  ยังเสือกเอื้อมมือสองข้างมันจับหัวผมพลิกไปพลิกมา  เหมือนต้องการจะหาไอ้รอยผุที่ว่า  ไอ้บ้า! สมองกูแช่ตู้เย็นทุกครั้งที่กลับบ้าน  ยัดสารกันบูดทุกเวลาที่มีโอกาส  มันไม่ผุง่ายๆ หรอกโว้ย  เออ..ถ้าสมองบวมเพราะเซลล์ฉลาดเยอะจัดก็ว่าไปอย่าง

            ผมงึมงำในใจ  แต่แน่นอนว่าไม่ได้ด่ามันออกไป  เพราะอะไรน่ะเหรอครับ?  ก็เพราะผมเป็นคนมีการศึกษาไง  ได้รับการขัดเกลาทางภาษาเป็นอย่างดีแล้วครับ  ผมจึง..ไม่ใช่คำพูดอย่างมัน

 

            3. รู้จักแต่ “สั่ง”  ไม่รู้จักการขอร้องอย่างสุภาพชน

            ผมเม้มปากแน่น  ดึงมือมันออกจากหัวตัวเองช้าๆ  ไม่ใช่ว่าอยากลีลาอะไรหรอกครับแต่กำลังอดกลั้นไม่ให้ดึงมือมันมากัดให้หนำใจ 

“ขี้เกียจรอ  กลับคอนโดไปดิ”  พยายามทำตาดุที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้  ขมวดคิ้วเป็นเชิงรำคาญ  ดูสิว่ามันจะมีเซนส์รู้ไหมว่าคนอื่นเขาไม่เต็มใจ  ไสหัวไปสักที

            “รอ – กู – กลับ – ด้วย”

            “...”  สรุป..นี่มึงไม่รู้หรือมึงรู้แต่ไม่ทำ  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่  จะทำอะไรได้ล่ะครับนอกจากเดินกลับไปนั่งรอมันที่ข้างสนาม  เฮ้อ! ถือซะว่าฟาดเคราะห์เถอะมึง  ไม่รู้จะต้องอยู่ฟาดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่เลยไหม

 

...ไม่ขอคุกเข่าเฝ้าง้องอน   แม้ใจขาดรอนขอตายดีกว่า  ไม่ขอร้องใครให้กรุณา  ไม่ขอเศร้าโศกา  หรือบีบน้ำตาอ้อนวอนใคร ๆ...

...ห้าวันต่อสัปดาห์...

มันโผล่หัวมาที่บ้านผมอาทิตย์ละห้าวันจนผมสงสัยว่าที่บ้านมันอาหารคงรสชาติแย่ขนาดหมาส่ายหน้า  แมวถอนหายใจ  มันถึงได้ต้องแวะมากินข้าวเย็นบ้านผมทุกวัน  บางทีมันก็จะลากผมไปซุปเปอร์ซื้อของสดมาเก็บไว้ในตู้เย็นเหมือนจะบอกว่า “เดี๋ยวกูก็มากินอีกแน่”   วันหนึ่งผมเลยถามมันไปว่า “ข้าวบ้านกูอร่อยขนาดนั้น  ทำไมมึงไม่จ้างแม่กูไปทำให้กินเลยวะ”  ผมก็นึกว่ามันจะด่ากลับมาเหมือนทุกที  หาว่าผมพูดจาไร้สาระ  สมองผุ  กะโหลกเปื่อย  หรืออะไรก็ตามแต่ที่สมองอันบรรเจิดของมันจะนึกออกได้  แต่ปรากฏว่ามันหันมามองหน้าผมนิ่งๆ ด้วยสายตาโคตรประหลาด  แล้วถามผมว่า “มึงคิดว่ากูมาบ้านมึงทุกวันนี้เพื่อมากินข้าวเหรอ?”  ตอนนั้นผมก็เกือบจะหลงเชื่อแล้วว่ามันอยากจะสนิทกับผมจริงๆ  เกือบจะหลงโทษว่าตัวเองใจแคบอยู่แล้ว  เกือบไปแล้ว  ถ้าไม่ใช่....

 

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 14:59:43
 ลักษณะเฉพาะของคนเถื่อน

            1.ดำรงชีวิตอยู่ด้วยสัญชาตญาณ  หาอาหารเมื่อหิว  ดื่มน้ำเมื่อกระหาย 

          ถ้าไม่ใช่ว่ามาบ้านผมทีไร  มันก็ใช้ผมเป็นเบ๊ส่วนตัวมันทุกที  แถมยังทำได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ  เหมือนมันเกิดมาเพื่อเป็นคุณชาย  แล้วผมสังกัดสปีชี่ส์ที่เป็นได้แค่คนรับใช้ของมันเท่านั้น

            “หิวน้ำ”

            “หิวข้าว”

            ด้วยเป็นเจ้าของบ้านที่ดี  ผมก็หาน้ำหาข้างให้มันกินครับ  วันนี้บังเอิญแม่ไม่กลับบ้าน  ความซวยทั้งหลายทั้งแหล่มันถึงได้ตกอยู่กับผมคนเดียว   ไอ้คุณชายนั่งเชียร์บอลอยู่หน้าทีวี  ส่วนผมยืนทอดไข่อยู่ในครัว  ดูๆ ไปมันก็เหมือนคู่สามีภรรยาหลังหมดช่วงโปรโมชั่นน่ะครับ  ภรรยาที่เคยเปรียบดังแม่คนที่สอง สุดท้ายก็กลายเป็นแจ๋วก้นครัว

 

            2.บางครั้ง..คนเถื่อนมักไม่พอใจกับของที่มีอยู่  แต่ไม่มีปัญญาพอจะแก้ไข  ได้แต่โทษชะตาฟ้าดิน

            ผมยกข้าวราดไข่เจียวหอมกรุ่นกับน้ำเปล่าไปประเคนมันถึงหน้าทีวี  กะว่ามันต้องขอบใจผมแน่ๆ  ไอ้ไนท์ยื่นมือมารับจานข้าวขณะที่ตายังไม่ละไปจากจอทีวี  ผมนั่งลงข้างๆ มัน ส่ายหัวอย่างปลงๆ  ลืมไปครับว่ามารยาทในสายเลือดมันเจือจางเกินมนุษย์

            “ทำอย่างอื่นนอกจากไข่ไม่เป็นหรือไงวะ”  เป็นคำพูดแรกหลังจากที่มันตักข้าวเข้าปาก  ผมหันไปมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ  นี่นอกจากมึงเป็นโรคมารยาทในเลือดเจือจางแล้ว  มึงจะเป็นโรคเม็ดเลือดไร้มารยาทเข้มข้นด้วยนะเนี่ย

            “โตป่านนี้  ทำกับข้าวได้แค่นี้เองเหรอวะ” 

“.... -*- “  มันดุเหมือนผมทำผิดใหญ่หลวง  ถามจริงๆ นะครับ  ไอ้การที่ผู้ชายอย่างผมหุงข้าว  ทอดไข่เป็นนี่มันเป็นความผิดงั้นเหรอครับ  ความผิดเรอะ!!  กูไม่เอาเปลือกไข่บดให้มึงกินก็ดีถมไปแล้ว

            “ไม่พอใจ?”  ...เออ  นี่มึงถามเพราะไม่รู้เรอะ  ไม่รู้จริงๆ เรอะ  ไอ้สมองผุตัวจริง...  นั่นคือสิ่งที่ผมคิด  แต่สิ่งที่ผมพูดก็คือ...

            “...กู (กล้า) พูดเหรอ”  อ้ะ! อย่าเพิ่งคิดว่าผมอ่อนนะครับ  ไม่ใช่อ่อนแอ  แค่อ่อนน้อม  ปาด..ว่าไปนั้น  ไม่พูดเพราะรู้ดีว่านอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว  มันอาจจะให้โทษมหันต์อีกด้วย

 

            3.โลกแคบ  คิดว่าตัวเองใหญ่คับฟ้า  บ้าอำนาจ  หลงตัวเอง

            ผมเบื่อที่จะต้องมานั่งเถียงกับมัน  ก็เลยเดินไปทอดไข่อีกลูกกินเอง  อ้อ  ไม่ใช่ลูกเดียวครับ  สามลูก ..เรื่องอื่นสู้มันไม่ได้  ขอเรื่องกินไว้เรื่องหนึ่งเหอะ...  ผมถือจานข้าวไข่เจียวราดซอสมะเขือเทศสีแดงสดมานั่งข้างๆ มัน  ใจหนึ่งก็อยากให้มันสังเกตว่าไข่ผมมากกกว่ามัน (กรุณาอย่าคิดลึก)  อีกใจก็กลัวว่ามันจะหาเรื่องด่าผมอีก  เอาเป็นว่ากินๆ ไปแล้วกันครับ   แต่แม่ง...สามลูกมันเยอะเกินไป  กินไม่หมด  โคตรอิ่ม  อยากจะอวดมันแต่กรรมดันตกอยู่กับตัวเอง  โง่ได้เก่งจริงๆ กู  พอผมวางจานข้าวลงแล้วดื่มน้ำเท่านั้นแหละ  มันมาเลยครับ

            “กินเข้าไปอีก  ผอมชิบ” มันหันมามองด้วยสายตาเหมือนอาจารย์ฝ่ายปกครองกำลังสอบสวนนักเรียน

            “ตัวของกู”

            “ถ้ามึงผอมกว่านี้  กูจะไม่กอดมึงแล้ว”

            !!!! 

            นี่กูฟังผิดหรือมึงพูดไม่ถูกครับเนี่ย  กูไปอยากให้มึงมากอดตอนไหน  ตอนหนายยยยยยยยย  คนอย่างมึงนี่...คนหลงตัวเองอย่างมึงนี่....  สักวันกูจะโยนออกไปเป็นขยะอวกาศเลย  มึงคอยดู

 

ลักษณะเด่นของคนถ่อย

1.ความผิดคนอื่นเท่าภูเขา  ความผิดเราเท่าเส้นขน

หลังจากได้ฟังคำขู่อันน่าสยองของมัน  ผมก็เผลอปากไวรีบไล่มันกลับบ้าน  ไม่รู้จะไปกลัวมันทำไมทั้งที่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน  แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้แม่บอกจะไม่กลับบ้าน  แล้วมันยังมานอนเสนอหน้าอยู่บนโซฟา  แถมพูดจาแปลกๆ  ใจผมก็เริ่มสั่น  สมองสั่งให้ไล่มันออกไปทันที  ไม่นึกว่าไอ้คนถูกไล่นอกจากจะไม่สะดุ้งสะเทือนแล้ว  มันยังลากผมเข้าห้องเหมือนฉากในละครซะอย่างนั้น   แสดงว่าที่กูกลัวมึงนี่กูทำถูกแล้วใช่ไหม  ไอ้เวรไนท์

เฮ้ย!!  มึงช่วยจับกูด้วยท่าอื่นได้ไหม  ท่านี้มันล่อแหลมเกินไปนะเว้ย  ผมกับมันอยู่ท่าไหนน่ะเหรอครับ  ถ้าใครที่ได้ดูหนังเกาหลีหรืออ่านการ์ตูนผู้หญิงบ่อยๆ คงนึกภาพออกได้ไม่ยาก  ก่อนอื่นมันดึงผมเข้าประตูมา  แล้วเอาตีนยันประตูปิดได้อย่างโคตรไร้มารยาท  จากนั้นมันก็จับข้อมือผมสองข้างตรึงไว้เหนือหัว  แล้วโน้มตัวเข้ามา!!!  บอกแล้วใช่ไหมว่าไอ้ฉากอย่างนี้มันมีแต่ในการ์ตูนชัดๆ  อย่าบอกนะว่าหน้าเถื่อน  พฤติกรรมถ่อยอย่างมันจะแอบอ่านอะไรหวานแหววแบบนั้น  เฮ้ยยยย  แล้วหรือว่ามันจะเป็นวะ?

            “มึงทำผิดรู้ไหม”  ไม่เลย..ด้วยความสัตย์จริงนะมึง  เรื่องเดียวที่กูทำผิดคือ  รับไอ้บัตรบีทีเอสเฮงซวยจากมึงนั่นแหละ

            “ถ้ากูตอบว่าไม่”

            “มึงโง่”  เออ  กูยอมโง่ก็ได้  แต่มึงรีบเอาหน้าออกไปห่างๆ จากจมูกกูได้ไหม  กูกลั้นหายใจจนสมองใกล้ตายอยู่แล้วเนี่ย  ถ้ากูตายเพราะไล่เพื่อนกลับบ้าน  รู้ถึงไหน  อายถึงนั่นเลยนะมึง

            “งั้น ใช่  กูผิดเอง”  ผมก้มหน้าตอบมัน  ไม่ใช่รู้สึกผิดอะไรหรอกครับ  แต่เป็นการหาอากาศหายใจ  แล้วก็จะเรียกว่าก้มหน้ายอมรับชะตากรรมก็คงไม่ผิดนัก  ผมนี่เกิดมาเพื่อแพ้คนอย่างมันแท้ๆ

 

            2.ไม่เคารพกฎหมาย  ละเลยกฎบ้านเมือง  เพราะข้านี่แหละ “กฎ”

          “เออ  รู้ก็ดี ” ในที่สุดมันก็ปล่อยผม  โอ้  ขอบคุณพระพุทธองค์  ทรงช่วยขจัดมารร้ายให้พ้นทางแท้ๆ  “มานวดให้หน่อย  ซ้อมบาสโคตรเมื่อย”  ขณะที่ผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูก  มันก็ลากผมไปที่เตียงแล้วล้มตัวนอนคว่ำทันที  สรุป..นี่มึงเห็นกูเป็นอะไรไม่ทราบ  บาสกูก็ซ้อมนะครับ  แถมยังซ้อมก่อนมึงที่เสือกมาสายทุกวันอีก  แล้วทำไม  ทำไม...มือผมถึงกำลังบีบน่องแข็งๆ ของมันอยู่นี่เล่า  ไอ้เวย์..มึงยอมมันทำมายยยยย

            “อือ  อืม  ดี  ดี  แรงอีกดิ  เออ...”  สบายเหลือเกินนะมึง  เออ  คราง  คราง  คราง  มึงจะครางทำไม!!  กูนวดดีขนาดนั้นเลยเรอะ  กูเกิดมาเพื่อนวดเมิงเรอะ  ในที่สุดความอดทนของผมก็หมดลง

            “ไอ้บ้า  ครางทำเตี่ยมึงเรอะ”

            “บ้านกูคนไทยแท้  ไม่มีเตี่ย”

            “...” เสียงนิ่งๆ ของมันดับอารมณ์ร้อนๆ ของผมได้ชะงัด  นี่กูบริการมึงขนาดนี้แล้ว  มึงยัง...

            เพี๊ยะ!! มันเอามือตบเตียงเสียงดังจนผมสะดุ้ง  แค่กูไม่รู้ว่ามึงเป็นคนไทยแท้  มึงโกรธถึงขนาดจะลงไม้ลงมือกับกูเลยเหรอ  มึงอยากจะฆ่ากูเลยเรอะ!!

            “ต่อไป  ถ้ามึงทำผิดอีก....”  ไม่ๆ  กูไม่กล้าทำแล้ว  มึงอย่าฆ่ากูเลยนะเว้ย  มันจะดูไม่ดีนะมึง  ตายเพราะด่าเตี่ยเพื่อนในบ้านตัวเองเนี่ย  ไม่งามนะมึง   “กูจะลงโทษด้วยการให้มึงนวด”  พูดจบมันก็หลับตาครางต่อ  นี่มึงบ้าหรือกูเมา  ทำไมเราอยู่ในสภาพนี่ว้า....  ฝ่ายเทคนิคช่วยทำพื้นหลังเป็นสีดำ  แล้วฉายสปอต์ไลท์มาที่ผมด้วยครับ  ผมกำลังจะร้องเพลงทั้งน้ำตาแล้ว

...เชิญคุณลงทัณฑ์บัญชา  จนสมอุราจนสาแก่ใจ  ไม่มีวันที่ฉันจะร้องไห้  ร่ำไรเพราะฉันมิใช่หญิงเจ้าน้ำตา...

 

            3.ไร้จิตเมตตา  เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นความบันเทิงของตัวเอง

            เสียงครางเริ่มเงียบไป  ร่างกายแน่นิ่ง  ลมหายใจเริ่มแผ่วเบา  มันหลับแล้ว!?  อ้าว  ได้โอกาส  แมวหลับ  หนูจะอยู่ให้โง่หรือไงครับ  เผ่นดิ

            “จะไปไหน”  เอี๊ยดดดดด!!!   สาดดดด  กูยังไม่ทันได้ใส่เกียร์เดินหน้า  มึงก็เอาตีนแตะเบรกกูซะงั้น  เครื่องกูไม่ได้ติดเทอร์โบนะมึง  จะได้เร่งปุ๊บ  พุ่งทะยานปั๊บ  ขอกูได้วอร์มเครื่องบ้างอะไรบ้าง  ผมจำใจต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย (อย่าถามมากได้ไหมครับ  ผมบอกว่าพวงมาลัยก็พวงมาลัยน่า)  ถอนหายใจเฮือกแล้วตอบมัน

            “นอน”

            “ที่ไหน”

            “ในส้วมมั้ง” เออ  มึงนี่ก็ถามแปลก  มึงเล่นยึดเตียงกูนี่ครับ  แถมยึดซะเนียนเหมือนกูเป็นฝ่ายมาบุกรุกที่มึงซะอย่างนั้น  เออ  ไอ้เนียนตัวพ่อ  ในเมื่อกูเนียน (ด้าน)สู้มึงไม่ได้  กูขอไปตามทางขอกูดีกว่า  กูจะไปนอนในส้วม  ในครัว  หน้าทีวี  สนามหญ้า  กูนอนที่ไหนก็ได้โว้ยยย  กูเก่ง  มึงได้ยินไหม  ที่กูยอมมึงเนี่ยไม่ใช่เพราะกูไม่สู้นะ  แต่เพราะกูเก่ง  กูนอนที่ไหนก็ได้

            “อย่าโง่”

            “เฮ้ยยยยยย” มันด่าจบก็ดึงผมไปนอนข้างๆ แล้วจัดการเอาแขนขาพาดทับทันที  นี่มึงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่านี่  กูเป็นเพื่อนมึง..เอ่อ..คนใช้ก็ได้  แต่กูไม่ใช่หมอนข้างอเนกประสงค์นะมึง  กูคนนะมึง คน  ช่วยอย่าลดค่ากูไปมากกว่านี้ได้มั้ย

            “พอดีเลย”

            “พอดีเชี่ยไร  ปล่อยนะสัด” กูเริ่มไม่อยากทนกับมึงแล้วนะ  กูเริ่มจะหยาบกับมึงอย่านะ  นี่ดูด่ามึง “สัด” เลยนะ  มึงสะดุ้งสะเทือน  ลุกมาเตะกูดิ  กูจะได้หนี  ไอ้ปัญญานิ่ม   มึงจะนอนอมยิ้มหาหอกมึงเรอะ  นี่กูด่ามึงว่า “สัด” เลยนะ  ไอ้ฟาย  ขี้หูมึงลุกมาปิดกั้นช่องทางเสียงกะทันหันรึไง

            “นอนนี่แหละ”

            “ไม่เอา”

            “เรื่องของมึง”  เรื่องของกูเชี่ยไร...เรื่องของมึงต่างหาก  เรื่องของมึงเข้าใจมั้ย  มึงอย่าหลับ  ไอ้ไนท์ อย่าเพิ่งหลับ  กอดแน่นขนาดนี้  กูจะไปได้ยังไง  ไอ้สาดดดดดดด

 

...กักขังฉันเถิดกักขังไป  ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า  อย่าขังหัวใจให้ทรมาน ให้ฉันเศร้าโศกา  เหมือนว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย...

            คืนนั้นไม่รู้ผมผล็อยหลับไปตอนไหน  แต่จำได้ว่ากลางดึกตื่นเพราะฝันว่าถูกงูเหลือมตัวมหาบักเฮก (แปลว่าใหญ่มาก) รัดจนหายใจไม่ออก  พอตื่นมาก็เจอเลยครับ  ควายหน้าตาดีมันนอนเกยอยู่บนตัวผมไม่ต่างจากปลาพะยูน  แถมยังกรนน้อยๆ เหมือนกำลังสบายมาก  ส่วนผมทำยังไงนะเหรอครับ  ...ก็หาทางเอาชีวิตรอดไงเล่า!!

            จำไว้นะครับ  เห็นคนป่า  คนเถื่อน  คนถ่อยที่ไหน  มีมีดใช้มีด (หั่นผัก  หั่นหมูให้มันกิน)  มีปืนใช้ปืน (ฉีดน้ำให้เวลามันร้อน)  มีเงินซื้อหมอนข้างอย่างดี  เอาแบบที่อุ่นร้อนอุณหภูมิเท่าคนจริงได้ก็ดีครับ  ยื่นให้มันเป็นของขวัญวันพบหน้าไปเลย  ผูกมิตรกันไว้  รณรงค์คนไทยไม่ใช้ความรุนแรงครับ  เพราะคนสามประเภทนี้ต่อให้ต้มหนังสือ “คู่มือมนุษย์” กินต่างข้าวก็ไม่ช่วยให้มันดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหรอกครับ  ฉะนั้นคุณมีทางเลือกแค่สองทาง  หนึ่งคือ..หนี  สอง..ในกรณีที่หนีไม่พ้น  ก็ต้อง..ยอม

 

......................................

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 15:00:28
Special chapter: ลูกไล่?...ต่อไปมึงไล่กูก็ไม่ไปแล้วนะ (2)

ทักทายด้วยมารยาทงามๆ ก่อนแล้วกันนะครับ..โย่ โย่  วอทสับ  แมน? ไอ แอม อะ บิ๊ก บอย อิน เดอะ  เดอะ ไรวะ..  แม่งเอ๊ย  ผมล่ะไม่ได้อยากจะหยาบคายเลย  แต่มันทนไม่ได้ครับ  ไม่ได้จริงๆ  อึกอัดคับข้องในใจมาก  มีใครเคยคิดเหมืนผมมั่งไหมครับว่าทำไมคนบนโลกถึงต้องพูดคนละภาษา? = =;; พระเจ้าจะเอาอะไรกับหอคอยปาเปลนักหนา  ทำไม...  แล้วทำไมคนไทยอย่างผมต้องมาฝึกพูดภาษาปะกิตปะกวยนี่ด้วย  ญาติผมรึก็ไม่ได้  แฟนแหม่มผมก็ไม่เคยนึกอยากได้  แล้วทำไม  ทำมายยยยยยย   กูต้องมานั่งทนเจ็บตัวให้ไปเด็จมันฟาดเอาๆ ด้วยวะ

“ไอ้เวย์”  เสียงไอ้เด็จ  (ย่อมาจาก เผด็จการนะครับ  ไม่ใช่เผด็จศึก) ดังขึ้นเรียบๆ  ผมกำหัวปอยๆ เงยหน้ามองมัน  พยายามเลียนแบบน้องหมาอย่างน่าสงสาร  ตาก็ละห้อยแล้ว  ลิ้นก็เริ่มย้อยลงมา  เอาน่า  เห็นใจกูเหอะ  ท่องเอถึงแซ่ดได้นี่ก็นับว่าบุญมากแล้วนะ

“ก็..เอ่อ..เอ็กซ์..อ่ะ  อ่อ..ดิโด้?”  แม่งงง  ภาษาต่างด้าวๆ ต่างด้าวชัดๆ  ต่างด้าวเด็ดๆ  ไอ้ตัวบ้านี่เอามารวมกันหลายๆ แล้วมันคือคำว่าอะไรวะ  โว้ยยย  แต่ตัวเดียวกูก็ไม่เข้าใจแล้วเว้ย

ป้าบ!!

บ่นไม่ทันจบ  ม้วนหนังสือก็ฟาดลงมากลางกระบาล  นี่มันกะจะเอาไม่ให้ผมเหลือแม้กระทั่งเซลล์สมองเลยไงวะ  หึ  ผิดไรที่กูโง่เนี่ย  คนโง่ก็มีหัวใจนะเฟ้ย

“Export dependent”

“เอ็กซพอร์ท  เด่นเด้น?”  เด่นไรวะ  ไม่เข้าใจ  แม่ง  ยากเว้ย  เซ็งตับว่ะ

“มึงนี่มีดีแต่หน้าจริงๆ”

“อึก” สัด!  ถ้าด่าตรงๆ ผมยังไม่เจ็บเท่านี้ครับ

“เอฟเอฟ” มันลอยหน้าลอยด่าพูดนิ่งๆ  หน้านี่โคตรกวนโมโหเลยครับ  เออ  เมิงมันเทพ  เมิงมันเก่ง  เมิงมันเฮง  เมิงมัน  ไอ้  ไอ้ โคตรจะเพอร์เฟค  ยังต้องการอะไรจากกูอีกมั้ย  เอาเลยมั้ย  เอากะกูเลยมั้ย  สัด

“ปากหมา”

“อะไร”

“ป๊าว”  นี่ขนาดกูงุบงิบให้แค่หูกับขี้หูตัวเองได้ยินเท่านั้นนะ  ยังไม่วาย  เหอะ

“หิว”

...แล้วไง?  บอกกูทำไม  กินเอฟด้วยกันมั้ยละเมิง  เอาให้อิ่มจนท้องแตกตายไปเลย  จะได้เผาพร้อมกันทีเดียว  ไม่โดดเดี่ยวแถมประหยัดงบได้อีกโข

“โอ๊ยยย  หยิกไมวะ”  ไอ้บ้านี่  แม่งนอกจากเผด็จการแล้วยังบ้าพลัง  ไอซาดิสม์  หูคนนะเว้ยไม่ใช่สิว  จะได้เก็บไว้ให้มึงบีบเล่นบีบทิ้ง  แล้วก็ขึ้นมาใหม่ให้มึงบีบทิ้งบีบเล่น

“นึกว่าหูตึง  กูบอกว่ากูหิว”

“เออ  รู้แล้ว  ปล่อยสิฟะ”

“ไม่  หาข้าวให้กินก่อน”

“เออ  ก็ปล่อยสิฟะ  จะได้ไปหาอะไรให้กิน”  ไหนใครด่าว่ากูโง่นะ  เมิงสิ..แม่ง   เล่นจับหูคนอื่นเค้าไว้ทั้งสองข้าง  ยังมีหน้ามาบอกให้หาข้าวให้กินอีก  หรือมึงจะให้กูทิ้งหูไว้ที่เมิง  แล้วเอาส่วนที่เหลือเดินเข้าครัวไปทำกับข้าวมาเสริฟมึงแลกกับหูกูรึไง   ไอ้บ้า!!  หูนะครับ  มิใช่ตัวประกัน

“เอ้า! ลุก  เร็วๆ เข้าเมิง  เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ”  เพาะแพะไรของเมิง  หูกูนี่สิจะกลายเป็นกระทะเดือดน้ำมัน  ร้อนจนจะไหม้แล้วโว้ย

ท่าทางผมตอนนี้มันออกจะพิลึกพิลั่นอยู่สักหน่อยนะครับ  เหมือนแม่ลิงชิมแปนซีแบกลูกลิงกอลิล่าไว้บนหลัง  อืม..ใช่ครับ  ภาพนี้แหละ  ใช่เลย  แถมไอ้กอลิล่าตัวที่ว่ามันก็ยังเป็นลิงโรคจิต  เล่นหูคนอื่นเขาไม่เลิก  หูตัวเองก็มีไมไม่จับวะ  จับของกู  ขอก็ไม่ขอ  นิสัย!!  หวงหูเหอะเว้ยย

ผมก็ขี้เกียจไปขัดใจมันครับ  เพราะหลังจากผ่านไปเกือบเทอม  ผมเริ่มฉลาดเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตกับคนอย่างมัน  ดีทุกอย่างแหละครับ  ยกเว้นนิสัย

ผมเดินไปเปิดกระทะ  เทน้ำมัน  หยิบไข่ทำไข่เจียว  ไอ้ไนท์ก็ยังคงทำ “หูขยี้” อาหารจานเด็ดของมันต่อไปอย่างร่าเริง  กำหูขึ้นแล้วหมุนๆ  ดึงหูขึ้นบิดไปมา กางหูขึ้นและลง  นิ้วไชลงหมุนไปรอบรู  ถุย!  อุบาทว์สิ้นดี

“มึงจะกินหูกูแทนข้าวเลยมั้ย” เริ่มรำคาญจนทนไม่ไหวแล้วครับ

“ได้เหรอ?”  ได้เอี้ยอะไรครับ  ผมประชัด  ประชัดเด็ดๆ เลยครับพี่  “งั้น..ไม่เกรงใจนะ”

งั่ม!!

O.O!!

งั่ม?  งั่ม?  คือ....  เฮ้ยยยยยยยยย  ผมสะดุ้งโหยงเมื่อสัมผัสได้ถึงลิ้นนุ่มเปียกชื้นของมันกำลัง  กำลัง..เลีย?  อยู่?   อ๊ากกกกก  ไอ้โรคจิต

“ทำบ้าอะไรของมึง  ไอ้  ไอ้....”  ผมถองศอกใส่ท้องมันที่ยังมีหน้ามาหลบได้อย่างเฉียดฉิว  ไอ้คนใจแคบ  แทนที่จะมีน้ำใจแกล้งเจ็บตัวให้กูหายโกรธบ้าง  เฮ้ย  ผิดเรื่องแล้วกู

“ก็กิน..”

“กิน?  หูกูเนี่ยนะ”  นี่ผมฟังผิดหรือสมองไอ้ไนท์มันขัดข้อง  สั่งงานผิดปกติชั่วคราว  หรือว่าเพราะมันหิวเกินไปจนหน้ามืดตาลาย  เห็นหูคนเป็นหูฉลามน้ำแดงไปแล้ว  คิดอะไรของมันวะ  ไอ้ประสาทนี่

“The most delicious ever, even want more and more”

มันพ่นภาษาต่างด้าวอะไรที่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ  เลือกพูดซะเร็วแถมยังใส่สำเนียงอินเตอร์  แม่ง  กัดกูแล้วก็สะบัดตูดหนี  ไอ้เลว  ไอ้  ไอ้  ไอ้ไข่บ้า   จะไหม้ก็บอกกูก่อนสิวะ  อ๊ากกกก   ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว  เดี๋ยวก็คว่ำครัวหนีซะเลยนิ

 

สุดท้ายกับข้าวฝีมือผม  หรือจะพูดให้ถูกก็คือไข่เจียวฝีมือผมก็มีอันเป็นหมันไปครับ  แต่ไอ้เด็จมันก็ไม่เห็นว่า  แถมยังใจดีชวนผมมาซื้อของกินที่โลตัสอีก   เออเว้ย  แปรปรวนดีแท้

            “กินไรดี”  เออ  อารมณ์ดีเหลือเกินนะ  ผิวปาก  อมยิ้ม  เออ  เอาให้เต็มที่เลยนะเมิง  ชอบนักแกล้งกูได้  เห็นหน้ากูมั้ย สังเกตมั่งมั้ย  สนุกด้วยมากกกก  ฮ่วย

            “ไม่หิว”

            “หึ!”

            กวน! กวนนักนะเมิง  “หึ” หาป้าแกเรอะ  ว้อย  เคือง  เคือง  เคือง  อ๊ากกก  เคืองแต่ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี   สู้ก็สู้ไม่ได้ เถียงก็เถียงไม่ได้  สมองก็ยังสู้มันไม่ได้อีก  ทำไม  พระเจ้าส่งผมเกิดมาแล้วต้องมามันมาเกิดพร้อมกันด้วย  ทำไม

            “ถามอีกครั้งเดียวนะ  มึงจะกินอะไร” นี่มึงถามหรือมึงขู่ครับ  หน้าดุชิบ

            “ไข่พะโล้”

            “อีกแล้ว?” อีกแล้วอะไร  วันนี้ทั้งวันกูยังไม่ได้กินเหลือนะ  เหมือนวานก็ไม่ได้กินต้องทนกินแต่ข้าวไข่เจียวหมูสับ  กุ้งสับ  ทูน่าสับ  ปูอัดสับของมึงเนี่ย  เมนูไข่สุดจะสิ้นคิดกว่าของกูอีก

            “เออ  อยากกิน”

            “ชอบจริงๆ เลยนะ  ไข่ดำๆ เนี่ย  น่ากินตรงไหนวะ”  มันจะเริ่มไม่น่ากินเพราะคำพูดเมิงเนี่ยแหละ  ชื่อของเขามีดีๆ ไม่เรียก  ดันไปเปลี่ยนให้ซะอย่างงั้น  แล้วเปลี่ยนทั้งทีก็เอากูแทบจะหมดความอยากอาหาร

            “เอ้า  เอาไปนั่งรอตรงโน้น”  มันยื่นของให้ผม  สั่งเสร็จก็เดินลิ่วๆ ไปแลกบัตร  เออ ก็ดีครับ  ประหยัดเงินค่าข้าวไปอีกมื้อหนึ่ง  ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมกับข้าวไข่พะโล้สองจานที่เอาผมอ้าปากค้าง  ไม่ใช่ตกใจที่เห็นไข่พะโล้หรอกนะครับ  มันไม่ใช่ของแปลกอะไร  แต่ที่แปลกก็คือไอ้จำนวนไข่และหมูที่เยอะจนแทบจะกลบข้าวหมดนั่นต่างหาก

            “เยอะจังวะ”

            “แล้วไม่ดีเรอะ”

            “เปล่า  ดีมาก  ดีสุดๆ  พิเศษเหรอ?”

            “ธรรมดา  แต่ว่าเค้าให้มาเป็นพิเศษ”  มันยิ้มแล้วขยิบตาให้อย่างขี้เล่น  อ้อ.. คงจะทำหน้าทำท่าแบบนี้ตอนไปซื้อล่ะสิ  มิน่า...  ต้องขอบคุณพ่อกับแม่มันนะครับเนี่ยที่ปั้นหน้าตาแบบนี้มาให้  ไม่งั้นอะไรก็กลบข้อเสียเจ็ดพันหกร้อนล้านของมันไม่ได้ชัวร์ๆ

                    ...............................................................................................

 

Special Chapter: เพราะใคร...

            ชีวิตนิสิตกับพวกเพื่อนบ้าๆ นี่ก็เป็นแบบนี้มาตลอดครับ  เป็นชีวิตในมหาลัยที่ผมไม่เคยมีวันไหนที่รู้สึกไม่มีความสุขเลยสักครั้ง  บางคนอาจจะมองว่าพวกผมเล่นกันแรงๆ  ด่ากันเหมือนคนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน  แต่จริงๆ แล้ว  ผมว่าเพราะเพื่อนนะ  ผมถึงไม่กลัวการมามหาลัย  ไม่กลัวการทำกิจกรรม  ไม่กลัวที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมา

            ผมเคยที่เคยกลัวการคบใครอย่างจริงจังมาก่อน  กลับได้มิตรภาพดีๆ จากคนกลุ่มนี้ตั้งแต่วันแรกที่พบ  จนถึงวันนี้   

            ไอ้นุ...คือคนกวนๆ  แข็งๆ  ดูเหมือนไม่ค่อยชอบใส่ใจใคร  กลับสังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนอย่างผมได้ก่อนใคร

            ไอ้แชมป์...คือคนเงียบๆ  แต่ในใจกลับคิดถึงเรื่องของคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ  ผมรู้ดีว่าคนอย่างมันจะไม่ยอมให้ตัวเองมีความสุข  ขณะที่คนอื่นทุกข์ใจ

            ส้มกับหยก...ผู้สองคนที่ต่างกันสุดขั้ว  แต่เข้ากับผู้ชายเถื่อนๆ อย่างพวกผมได้ดี  จัดการอะไรหลายอย่างให้โดยที่ไม่ต้องขอ

            และมัน...ทั้งที่ไม่เคยตามใจ  ไม่เคยเอาใจ  ไม่เคยบอกว่ารัก  ดีแต่ดุ  แต่บังคับ  ทั้งที่เป็นอย่างนั้น..แต่ผมกลับรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับมัน  เพราะผมรู้..รู้ดีว่า  มันจะเป็นคนสุดท้ายในโลกที่หักหลังผม

            ไม่รู้ผมเริ่มติดใจกับการบังคับเพราะห่วงของมันตั้งแต่เมื่อไร  รู้แต่วันนั้น...คือวันที่ผมรู้สึกตัวว่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา  แต่เป็นคนสำคัญ...

 

            “มึงไม่เข้าใจ  พวกมึงไม่เข้าใจ  ฮึก  ฮึก..”  แม่ง  ผมมันโคตรซวย  โคตรอ่อนแอ  เป็นผู้ชายซะเปล่าร้องไห้ให้เพื่อนเห็นได้ยังไง  ตัวของตัวเองยังไม่มีปัญญาดูแล  จะไปรับผิดชอบใครได้  จะไปทำอะไรเพื่อใครได้!!

            “เวย์  มึง  ใจเย็นๆ  กูรู้ว่ามึงเจ็บใจ  แต่มึงต้องรักษาตัวเองให้หายก่อน”  ไอ้นุพูดเสียงเครียดต่างจากปกติ  มันบีบไหล่ผมที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง  โดยมีสายน้ำเกลือห้อยอยู่ข้างๆ

            ใช่ครับ  อย่างที่มันพูดนั่นแหละ  ผมเจ็บใจ  เจ็บใจตัวเองจริงๆ  ทั้งที่อีกสามวันก็ถึงวันแข่งรอบชิงบาสของกีฬามหาลัยแล้ว  ผมดันมานั่งขาหักทำอะไรไม่ได้อยู่บนเตียงนี่  นอกจากจะช่วยใครไม่ได้  แค่จะเดินไปไหนมาไหนยังช่วยตัวเองไม่ได้เลย  แม่ง  เฮงซวยเอ๊ย

            “มึงไม่ต้องห่วง  พวกกูจะชนะให้ได้  กินข้าวก่อนนะมึง  จะได้กินยา  หมอว่าบอกมึงมีไข้ด้วยนิ”  แล้วไง?  จะกินทำไมวะ  ต่อให้กินไปเท่าไร  กูก็เดินไม่ได้  ลงสนามไม่ได้อยู่  ความพยามต่อหลายเดือนที่ผ่านมาก็สูญเปล่าอยู่ดี

            มันดูเป็นเรื่องเล็กน้อยใช่ไหมครับ  ผมไม่ควรร้องไห้บ้าบออยู่นี่ใช่ไหม?  ไม่ครับ  สำหรับผมการแข่งรอบสุดท้ายมันสำคัญมาก  มีคนที่ผมแพ้ไม่ได้และไม่อยากแพ้อยู่  ไอ้เจตที่เล่นสกปรกทำให้พี่ต้าเจ็บจนลงสนามไม่ได้  ไอ้คนพรรค์นั้น  ผมตั้งใจจะไม่แพ้เด็ดขาด   แล้วไหนคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่รหัสที่กลายมาเป็นเหมือนพี่ชายของผมอีก  สัญญาไว้แล้ว..ว่าจะสู้เต็มที่แทนพี่เขา  ทั้งที่เป็นอย่างนั้น..ผมกลับ....

            “กูไม่หิว  พวกมึงไปซ้อมกันเหอะ  กูอยากนอน”

            ผมหลบตาทุกคนเพราะไม่อยากให้ใครเห็นสภาพแย่ๆ ของตัวเองตอนนี้  ไม่อยากให้รู้ว่าผมมันเห็นแก่ตัว  เอาแต่ใจ  ไม่อยากทำให้คนอื่นเดือดร้อน

            ขยับตัวลงนอน  หลับตาแน่นอย่างไม่สนใจใคร  น้ำตาโง่ๆ ยังไม่วายไหลซึมออกมาอย่างห้ามไม่ได้  ผมกำหมัดแน่นจนเจ็บ  เพราะอยากลืมความเจ็บใจที่เจ็บยิ่งกว่า  แต่ก็ทำไม่ได้  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ค่า  ไร้ความสามารถเหลือเกิน

 

            “เวย์  ลุกขึ้นมากินข้าว”  ผมได้ยินเสียงมัน  ก็รู้เลยครับว่ามันกำลังโกรธแต่ก็พยายามอดทนไว้  แต่ครั้งนี้ผมไม่เชื่อมัน  ไม่ใช่เพราะอยากลองดี  แต่รู้ว่าถ้ามองตามัน  ผมจะยิ่งอ่อนแอ  ผมไม่เข้าใจหนอกว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น  รู้แต่ว่าตาของมันทำให้ผมแสดงออกในสิ่งที่คิดได้อย่างง่ายดายเหลือเกิน 

            “กูยังไม่หิว  เดี่ยวหิวแล้วจะตื่นมากินเอง”

            “มึงอย่าทำตัวมีปัญหาได้มั้ย  ต้องทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนอีกเท่าไรมึงถึงจะพอใจ  กูบอกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา   มึงทำได้ใช่มั้ย?”

            คำพูดของมันทำให้ผมรู้จักกับคำว่า ปวดใจ  เป็นครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกหวิวในอกปนความเจ็บที่ยากจะบรรยาย  ตัวผมสั่นแต่ผมพยายามจะหยุดมันไว้  และทำเหมือนปกติที่สุด  ผมรู้ว่ามันโกรธ  รู้ว่าตัวเองทำให้มันเดือดร้อน  รู้ว่าทำตัวไม่ดี  แต่ตอนผมหมดแรงยิ่งกว่ารู้ตัวว่าขาหักซะอีก  ไม่มีแรงแม้แต่จะหายใจเลยด้วยซ้ำ  ผมพยายามจะขยับให้น้อยที่สุดเพราะกลัวน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ข้างในจะไหลออกมาประจานตัวเองว่า  คำพูดของมันมีอิทธิพลต่อผมมากขนาดไหน..มากอย่างที่ผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อน

            ผมแคร์มัน...ถึงได้เจ็บปวดกับคำพูดของมัน

            และกลัว..ว่าสักวัน  มันจะรำคาญ  จะไม่อยากเป็นเพื่อนกับผม

            และดูเหมือนว่า..วันนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด

           

            “อย่าลืมนะว่า  ที่มึงเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเอง”

          ปัง!!

            มันออกไปแล้ว...

            ผมกลัวเหลือเกินว่ามันจะโกรธจนไม่อยากเห็นหน้าผมอีก  ไม่รู้เมื่อไรผมเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้  ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างช้า  เสียงสะอื้นที่ไม่เคยคิดว่าจะยอมให้ใครได้ยินกลับดังขึ้นเรื่อยๆ  ผมยังไม่กล้าลืมตา  รู้ดีว่าพวกมันต้องเห็นสภาพน่าสมเพชของผม

            “เวย์  ไนท์โกรธเพราะเป็นห่วงนะ  ฮึก..เวย์  อย่าร้องไห้เลยนะ ..”  หยกปลอบผมทั้งที่ตัวเองก็ร้องไห้เหมือนกัน  ร้องไห้ให้ผม?  เศร้าใจกับผม  แต่มัน..เลือกจะเดินหนีผม  เพราะผมทำตัวน่ารำคาญ  ทำให้มันเดือดร้อน  ก็สมควร

            “มึง..พักผ่อนนะ  นอนอีกหน่อยก็ได้  แต่เดี๋ยวต้องตื่นมากินข้าวกินยา  เข้าใจมั้ย”

            “...”  ผมไม่มีแรงตอบ  ไม่มีเสียงจะพูด  นอกจากเสียงสะอื้นที่พยายามเก็บไว้อย่างเต็มที่

            “พวกกูจะไปซ้อมอย่างที่มึงต้องการ  กูสัญญาว่าจะทำให้ได้ในส่วนของมึงด้วย  ไอ้เวย์  พวกกูเป็นห่วงมึงนะ  แล้วไอ้คนที่ห่วงที่สุดก็เป็นธรรมดาที่มันจะโกรธที่สุดที่ช่วยอะไรมึงไม่ได้  จำคำกูไว้”

 

            ไอ้นุมันรู้ดีว่าผมไม่อยากให้ใครเห็นตัวเองเป็นแบบนี้  มันเลยยอมให้ผมอยู่คนเดียว  ผมพยักหน้ารับส่งๆ เพื่อให้มันพาคนอื่นออกไปด้วย

            มันโกรธเพราะห่วงไม่ใช่รำคาญเหรอ?

            ไม่รู้สิครับ ผมไม่กล้าคิด  ไม่อยากคาดหวังเพราะกลัวจะต้องผิดหวัง  และไม่อยากเสียใจเพราะสุดท้ายสิ่งที่ทำได้คือปลอบตัวเอง

            แต่ก็จริงอย่างที่ไอ้ไนท์มันพูด..ที่ผมเป็นอย่างนี้ก็เพราะตัวเอง

           

            ย้อนกลับไปตอนที่รู้ว่าได้เป็นตัวจริง  ผมก็ดีใจครับ  พยายามซ้อมอย่างเต็มที่เพราะรู้ตัวว่าชอบเล่นบาสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  ยิ่งได้เล่นกับคนที่เข้าขากันได้ยิ่งสนุก  ตอนนั้นผมเกิดความคิดหยามใจว่า พวกเราเป็นทีมที่ดี  ดีพอจะเอาชนะใครๆ ได้  แต่นั่นก็คือความภูมิใจ  ไม่ใช่ความอยากชนะ  ความอยากชนะนั้นมาพร้อมกับความแค้นใจ  บวกกับคำสัญญาตอนที่ไปเยี่ยมพี่ต้าที่โรงพยาบาล  อยู่ในสภาพย่ำแย่ครับเพราะถูกรุมซ้อม  แกบอกมีเรื่องขัดใจกับนักเลงนิดหน่อย  แต่ที่จริงแล้วผมรู้ดีว่าเป็นเพราะใครและทำไม

            ผมจับมือแกไว้  บอกว่า..”ถึงพี่ไม่บอก  ผมก็จะเอาชนะมันให้ได้  และได้อย่างใสสะอาดด้วย”  ตั้งแต่วันนั้นผมซ้อมบาสอย่างเอาเป็นเอาตาย  ซ้อมจนลืมทุกอย่าง  ลืมกินลืมนอน  รู้ครับว่าร่างกายมันคงรับไม่ไหว  แต่ใจมันไม่ยอมให้พัก   ไอ้ไนท์มันคอยดุผมตลอด  แล้วผมก็โหกมันตลอดเหมือนกันว่ากินแล้ว นอนพักแล้ว  จนสุดท้ายผลของการไม่ประมาณตนก็ทำให้ผมต้องมานอนเจ็บอยู่อย่างนี้  ผมหน้ามืดเลยถูกมอเตอร์ไซด์เฉี่ยว  ยังดีครับที่แค่ขาหัก  ไม่ได้เป็นอะไรมาก  แต่นั่นแหละไอ้ไนท์มันเดินอยู่หน้าผม  และมัน..อยู่ตรงนั้นตอนที่เกิดอุบัติเหตุ   มันเป็นคนห้ามผมมาส่งโรงพยาบาล   ผมไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงต่อ  รู้ตัวอีกทีก็มานานเดี้ยงอยู่บนเตียงนี้แล้ว

            ผมทำตัวเองแท้ๆ  ยังมีหน้ามาโกรธคนอื่น  ถ้าจะแค้น  จะโกรธ  ก็มีแต่ตัวเองเท่านั้นแหละครับที่ควรโดน

            เพื่อนๆ ยังขยันมาเยี่ยมผมเสมอไม่เคยขาด  คอยรายงานผมการฝึกซ้อมตลอด  ตอนนี้ผมเลิกคิดมากแล้ว  แต่ก็ยังหวังให้พวกมันพยายามอย่างเต็มที่และเอาชนะพวกนั้นเผื่อผมด้วย  แต่กับใครอีกคนสิครับ..ไม่เคยโผล่มาเลย  เงียบหายไปจนผมเริ่มใจเสีย

            ไนท์..ถ้ามึงมา..  กูจะขอโทษมึง

            เพราะถ้าผมเป็นมัน  ผมก็คงจะโกรธเหมือนกัน

 

……………………………………………………………………………

 

            วันนี้เป็นวันแข่งรอบชิงแล้วครับ  ห้องนี้ก็เลยดูเงียบๆ ไปสักหน่อย  ที่จริงคือเงียบมากเลยครับในความรู้สึกของผม   ตอนนี้เพิ่งเข้าใจว่า ผมก็รู้สึกเหงาได้รุนแรงเหมือนกัน  ที่จริงวันนี้ควรเป็นวันที่ผมได้วิ่งอยู่ในสนามกับทุกคน  ต่อสู้ด้วยกัน  ควรจะเป็นวันที่สนุกสุดๆ   และน่าจดจำสุดๆ   แต่ว่า..มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้  ทำตัวเองจริงๆ

            ผมนั่งเปิดทีวีดูไรไปเรื่องเปื่อย  หลับๆ ตื่นๆ ไม่ทันไรท้องฟ้ามืดแล้วครับ  ที่เขาพูดกันว่ายิ่งดึกยิ่งเงียบเหงานี่  ผมเห็นด้วยสุดใจเลย  อ่า..ไม่รู้ทำไม  สงสัยจิตใจจะอ่อนแอตามสภาพร่างกาย  บอกตรงๆ ตอนนี้ผมโคตรอยากจะร้องไห้เลย

 

            “ไอ้เวยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

            ผมหันไปทางประตูที่เปิดออก  ก็แทบอยากจะยิ้มให้ปากฉีกเลยครับ  พวกมันมากันครบทีมเลย  ทั้งเพื่อนทั้งพี่โผล่หน้ามากันหมด  ทำเอาบรรยากาศในห้องผมเปลี่ยนจากหน้าผากเป็นแก้มก้นเลยครับ  ไม่รู้ไอ้ตัวเหงาเมื่อกี้มันถูกไล่ไปไหนแล้ว

            “สัดเวย์  ฮ่าๆๆ  มึง  อิอิ” ขำบ้าไปแล้วมึง 

            “ไง  น้องเวย์  เดี้ยงยังไง  ปล้ำง่ายเลยนะ”

            “ปากเรอะพี่น็อต  ไง  โผล่มาพร้อมหน้าเลย  ไหนๆ เอาอะไรมาฝากผมป่าว”  โหย  ไอ้เวย์ล่ะมีความสุขมากเลยครับ  เห็นคนมาเยี่ยมเยอะ  รื่นเริงลืมป่วยเลย

            “ต้องดูก่อนว่าอยากได้อะไร” พี่ๆ เข้ามารุมอยู่รอบเตียง  ส่วนพวกไอ้นุไอ้แชมป์แล้วก็เพื่อนๆ ผมออกันอยู่หน้าทีวี  เรียกว่าบังทัศนียภาพทุกอย่างในห้องหมดเลยครับ  โรงพยาบาลนี้ก็ดี  แปลกดี  เล่นให้เข้ามากันทั้งโขยงขนาดนี้

            ผมกวาดตามองจนครบ  คนที่อยากเจอที่สุดก็ไม่มา  ช่างเถอะครับ  เดี๋ยวผมหายดีก่อนแล้วค่อยไปง้อมันเองก็ได้  ก็บอกแล้วว่าแพ้ทุกครั้ง  ไม่เคยชนะมันได้เลย   ผมหันไปตอบพี่น็อตด้วยหน้าตาจริงจัง

            “ของที่ผมอยากได้...  ชัยชนะ”

            ...เงียบ...

            อ้าว..ไหงเงียบกันหมดล่ะครับ   ไอ้เราก็เห็นว่ามากันอย่างรื่นเริงออกนอกหน้า  ก็นึกว่าชนะมาชัวร์  หรือว่าไม่ใช่?

            “เอ่อ...ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรสักหน่อยพี่  ที่สองนี่ก็ตึงโคตรๆ แล้ว เดี๋ยวผมหายให้พี่ต้าเลี้ยงเหล้าทุกคนเลย”

            “ไม่ใช่กูไม่อยากเอาถ้วยชนะเลิศให้มึงนะไอ้เวย์”  เฮ้ย  พี่  อย่าทำหน้าเศร้างั้นดิ  ผมผิดเอง  ผมมันปากพล่อย  ทำลายบรรยากาศ  ผมแม่งโคตรไม่รู้จักคิดให้ดีก่อนพูด

            “เฮ้ย  ไม่เป็นไรพี่  พยายามกันเต็มที่แล้ว  ผมไม่ได้ไปเชียร์ด้วย  ผม...”

            “ที่กูให้มึงไม่ได้  เพราะถ้วยมันไม่ได้อยู่ที่กู  แต่อยู่โน้น....”  ว่าแล้วแกก็ชื่อไปที่หน้าประตู

            ครับ...ถ้วยชนะเลิศจริงๆ ด้วย  แต่ที่ทำให้ผมดีใจจนพูดไม่ออก  ไม่ใช่ถ้วยสีทองใบนั้น  แต่เป็นคนที่ถือมันมา...ไอ้ไนท์  ในที่สุดมันก็มา

            ภาพที่มันถือถ้วยเดินเข้ามาหาผม  เป็นภาพที่ผมไม่เคยลืม  รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก  ดีใจจนแทบลืมหายใจ

            “ไง  กินข้าวกินยาหรือเปล่า”

            “อืม”  ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ ครับ  มันตื้นตันมากจนบอกไม่ถูก  มันยื่นถ้วยให้ผม  อีกมือก็ลูบหัวผมเบาๆ เหมือนที่มันชอบทำเสมอ  ตอนนั้น..ผมโคตรจะมีความสุขเลย

            “แม่ง  พระเอกตลอดนะเมิง  มาทีหลัง  ถือถ้วยรางวัลมาด้วย  โคตรตัดหน้าพวกกู”

            “เออ  ทีตอนกูให้ลงเป็นตัวจริงงี้ทำเกี่ยง  สุดท้ายก็ต้องมาอ้อนวอนของกูเล่น  ในเมื่อเล่นไปแล้ว  ถอนตัวไม่ได้แล้วนะเมิง   เป็นสมาชิกถาวรไปซะ  นัดไหนกูสั่งมึงก็ต้องลงตามที่สัญญานะเว้ย”  สัญญา?  มันไปสัญญาอะไรกับพวกพี่เขาไว้วะ  แล้วอ้อนวอนอะไร?

            “พูดมากน่าพี่  ผมไม่ผิดสัญญา  พี่ก็เงียบไว้ด้วยแล้วกัน”  ทำไมต้องทำตัวเหมือนมีความลับกันด้วยวะ  ผมละไม่เข้าใจ  ไอ้ไนท์มันก็ดูเหมือนเขินๆ อะไรสักอย่าง  หูแดงด้วย  เรื่องอะไรกันว่า

            “สัญญาไรอ่ะพี่”

            “อยากรู้เหรอ  น้องเวย์”  มากครับพี่  ณ เวลานี้เป็นวาระสำคัญมาก

            “พี่เอ พี่บอกว่าจะเงียบ”

            “กล้าสั่งกูเหรอไอ้ไนท์  หึ  เออ กูไม่บอกก็ได้  ไม่บอกหรอกว่ามึงขอเล่นแทนในส่วนของไอ้เวย์  ไม่บอกด้วยว่ามาให้พวกกูซ้อมหนักสามวันเต็ม  เพื่อเอาถ้วยมาให้คนป่วย  กูไม่บอกร้อก”

            ……..

            ฮะ!!

            ถามจริง?  นี่มัน....   ที่มันหายไป  ที่มันไม่มา... 

            ผมหันไปมองมัน  แต่มันหลบตาผม  เอามือเกาท้ายทอยแล้วเสมองไปนอกหน้าต่าง

            นี่มัน..ทำเพื่อผมขนาดนั้น?

            ทำไม?   เพราะอะไร?  ทั้งที่ไม่รู้คำตอบแต่กลับห้ามไม่ใช่หัวใจเต้นแรงไม่ได้

            “ไม่ต้องมาทำซึ้งใจเลยมึง  กูขอโทษที่ช่วยมึงไม่ทัน  แต่ชัยชนะครั้งนี้เป็นของมึงด้วย”  มันก้มมากระซิบกับผม  พร้อมทั้งจับเสื้อบาสที่มันใส่อยู่  ทันทีที่ผมเห็นหมายเลข 11 บนนั้น  น้ำตาก็พาลไหลซึมออกมาแบบไม่รู้ตัว  ผมโผไปกอดมันไว้อย่างลืมอาย  ลืมไปเลยว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน  ลืมสายตาทุกคู่ที่อยู่ตรงนั้น

            ...มันใส่เสื้อของผมลงเล่น  เพื่อให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของชัยชนะในวันนี้…

            ...ผมอยู่ตรงนั้น  อยู่สนามกับคนอื่นๆ ด้วย...

            ผม..  ผมจะขอบคุณมักสักกี่ล้านครั้งดีกับสิ่งที่มันทำ

            มันไม่เคยพูด  ไม่เคยบอก  แต่การกระทำของมันทำให้ผมจดจำไปจนวันตายว่า...ตั้งแต่วินาทีนี้  มันคือคนสำคัญ   คนที่ผมจะไม่มีวันทำให้เสียใจ

 

....................................................................

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 15:01:26
Special Chapter: คำสัญญา

 

ผมเคยบอกตัวเองจะไม่คาดหวัง  เพราะกลัวเกินกว่าจะรับผลที่ตามมาได้  เพราะความเป็นเพื่อนที่มีมันสำคัญเกินกว่าจะยอมแลก  แต่ยิ่งใกล้มันเท่าไร  ผมยิ่งเอาใจออกห่างจากมันไม่ได้  เพราะความห่วงใย  ความใจดีในแบบของมันทำให้ผม...รัก...เกินกว่าจะทำเฉย 

บางที...ผมอาจจะลองเดินหน้าดูสักครั้ง  แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น..ไม่กี่ก้าว

บางที...ผมจะบอกมัน

 

ผมเดินมาคณะด้วยใจหนักอึ้ง  ไม่มั่นใจสักนิดว่าการตัดสินใจของผมจะนำไปสู่จุดจบแบบไหน  รู้แต่ว่าถ้าผมไม่พูดวันนี้  ผมอาจจะผูกพันกับมันในฐานะเพื่อนจนไม่สามารถพูดว่ารักได้อีกต่อไป

ผมเดินเข้ามาโรงอาหารเป็นที่แรกเหมือนอย่างที่เคยทำเสมอ  ไอ้นุกับส้มมานั่งรออยู่แล้ว  อย่างนี้แหละครับพวกบ้านไกลมักมาเร็ว  ส่วนไอ้พวกที่อยู่หอใกล้ๆ เนี่ย  เรียนแปดโมง  มันตื่นเจ็ดโมงห้าสิบเก้า  อาบน้ำแปรงฟังพร้อมตั้งแต่เมื่อคืนครับ  ดีไม่ดีบอลดึกก็แต่งตัวรอคาบกระเป๋าไว้  นาฬิกาปลุกดังก็มาได้เลย

“ไง ไอ้คุณนุ  อย่าลืมว่าเพื่อนกันไม่กินกันเองนะครับ”  ผมวางกระเป๋าแล้วก็เปิดปากแซวมันทันที  ใบหน้าหนาๆ ของพ่อเจ้าประคุณแดงขึ้นเล็กน้อย  ในขณะที่ผู้หญิงอย่างไอ้ส้มลอยหน้าลอยตายิ้มให้ผมแบบไม่สะทกสะท้าน  เออ  เว้ย  ก็สลับกันได้เหมาะดี

“ปากดีนักนะเมิง  พอพ่อไม่มาคุมก็เอาใหญ่”  มันเกาหัวแกรกๆ  แต่ดูจากคำย้อนที่ไม่ค่อยจะเจ็บแสบ  สร้างสรรค์เหมือนอย่างทุกที  แสดงว่าคงเขินไม่ใช่น้อยแหละครับ  เอาเถอะครับ  มันกับไอ้ส้มก็สมกันดี  ถ้าในกลุ่มจะมีคู่รักเพิ่มขึ้นมาสักคู่จะเป็นไรไป  ดีออกด้วยซ้ำไป  ผมจะไม่มีอะไรให้ได้แซว  ไม่เหงาปาก

“เอ้า  เชิญรุกต่อไปได้เลยครับ  กระผมขอตัวไปหาอะไรใส่ท้องก่อน”

“หึ  เมื่อก่อนกูบอกให้กินเท่าไร ไม่เคยฟัง  เดี๋ยวนี้กินเองได้ไม่ต้องบอก  พัฒนาขาขึ้นนะเมิง ไอ้ไนท์รู้ดีใจตาย”  นั่นไงครับ  พอสมองเริ่มทำงาน  ปากมันก็คิดหาคำพูดสร้างสรรค์มากัดคืนได้เร็วเหลือรับ

“สาด  หิวกูก็กิน  ผิดเรอะ  หาเรื่องนะเมิง  เดี๋ยวกูปากสว่างบอกอะไรๆ ไอ้ส้มมันแล้ว...”

“ไปเลยมึง  หรือต้องให้กูพาไปเลือก  จ่ายให้เลยด้วยดีมั้ย”  ไอ้นุรีบยืนขั้น  ดันหลังผมให้ออกไปหาอะไรปิดปากเร็วๆ  ด้วยกลัวว่าปากดีๆ ของผมจะปิดทางเจริญก้าวหน้าด้านความรักของมัน

“ฮ่าๆๆ  ตัวเมิงไม่ต้อง  เอาแต่เงินก็พอ”  ผมมองหน้าตาเคียดแค้นของมันด้วยความสนุก  แต่ดูเหมือนคนที่สนุกยิ่งกว่าจะเป็นไอ้ส้ม  ที่หันมาสบตาผมอย่างมีเลศนัย  ดูท่าความลับไม่มีในโลกนี่จะเป็นเรื่อจริงนะครับ

ผมกินข้าวจนหมดเหมือนอย่างที่มันสั่งไว้  แต่ก็ยังไม่มีเห็นวี่แววของคนที่เคยมานั่งคะยั้นคะยอให้กิน  จนพวกผมเข้าเรียน  มันก็ยังไม่มา  การที่มันจะโดดเรียนสักวันสองวันมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ  แต่ไม่รู้ทำไมใจผมถึงรู้สึกแปลกๆ  ราวกับว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนั้น  ตกเย็นผมตัดสินใจโทรไป   แต่มันไม่รับ   ผมปลอบใจตัวเองว่ามันคงจะยุ่งๆ แต่กลับห้ามความกังวลไร้สาเหตุที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ของตัวเองไม่ได้   บางที..มันอาจจะไม่สบาย  ผมลังเลว่าจะไปหามันดีไหม  แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ไป  เพราะอะไรผมก็ตอบตัวเองไม่ได้  ทำไมตอนนั้นผมไม่ไปหามัน...ด้วยเหตุผลบ้าบออะไรก็แล้วแต่  ผมพลาดไป...

ไอ้ไนท์ไม่มาเรียนตลอดทั้งอาทิตย์  ผมโทรไปโทรศัพท์มันก็ปิดเครื่องตลอด  ไปหาที่คอนโดมันก็ไม่อยู่  ตลอดเจ็ดวันเต็ม  มันหายไปจากชีวิตผม  หายไปโดยที่ผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นตายร้ายดียังไง  ไม่รู้ว่ามันทำอะไรอยู่ที่ไหน  สบายดีไหม  ผมไม่รู้อะไรเลย

ผมร้อนใจ  กังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ครั้งนี้เองที่ผมรู้ตัวว่ามันสำคัญกว่าที่ผมคิด  การไม่มีมันอยู่ข้างๆ ทำให้ผมเสียศูนย์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  มันไม่ใช่รักครั้งแรก  แต่เป็นรักที่ต่างจากทุกครั้งที่เคยพบมา

...เพราะมันเป็นความรักที่ไม่ได้เกิดจากรูปลักษณ์ภายนอก  ไม่ได้เกิดจากคำหวานหรือการเอาใจ  ไม่ได้เกิดจากความเหงา   แต่เป็นความรักที่เกิดการความผูกพันและความเป็นเพื่อน  เป็นความรักที่สำคัญของผม  ดังนั้นไม่ว่ามันจะสมหวังหรือไม่  ผมก็ยังดีใจที่ได้รัก...

วันนี้เป็นอีกครั้งที่ผมนั่งรอมันหน้าประตูห้องที่ไฟปิดสนิท  มันยังไม่กลับมา  ผมไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนและจะตามหามันได้ยังไง  ก็เลยได้แต่รออยู่อย่างนี้...รอ...ไม่รู้ว่านานเท่าไร  แต่เพราะทำอะไรไม่ได้  ถึงเลือกที่จะรอ

บางคนรอเพราะจำใจเลยทำให้เหนื่อยและเจ็บปวด  จนบางครั้งก็เฝ้าแต่โทษคนที่ตัวเองรอ   แต่ผมไม่ใช่  ผมไม่ได้รอเพราะจำใจ  ผมรอเพราะอยากจะรอ  เต็มใจจะรอ  อย่างน้อยผมก็ยังมีความหวังว่ามันจะกลับมา

เสียงฝีเท้าหนักดังมาไม่ไกลทำให้ผมตาสว่าง  เงยหน้ามองด้วยความหวัง  มันกลับมา?...ครับ  มันกลับมา  หัวใจผมเต้นรัวด้วยความดีใจ  แต่เพียงไม่นาน  เมื่อพบว่ามันไม่ได้มาคนเดียว  มีผู้หญิงคนหนึ่งกลับมากับมันด้วย  ท่าทางของคนทั้งคู่ทำให้ผมเดาได้ไม่ยากเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

วินาทีนั้นผมตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าผมควรจะดีใจที่มันปลอดภัยหรือเสียใจและผิดหวังดี  รู้อย่างเดียวว่าตัวเองมาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเข้าซะแล้ว

 

“มึง  ทำไมมาอยู่นี่”  คำถามมันยิ่งตอกย้ำให้ผมรู้ว่าผมไม่ควรรออยู่ตรงนี้  แล้วผมมาทำบ้าอะไรตรงนี้วะ  หนาวก็หนาว  ยุ่งก็กัด  แม่ง  โคตรจะเสียเวลา  ไร้สาระ  บ้าบอ!!  มึงมานั่งทำโง่อะไรไอ้เวย์

“เปล่า  ก็เห็นมึงไม่ไปเรียน”

“....” มันไม่ตอบแต่ผมก็ไม่กล้าคาดคั้น  ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ามัน  กลัวว่าจะทนไม่ได้  กลัวว่าจะยั้งตัวเองไม่ให้ชกหน้ามันไม่ได้  โกรธครับ! อารมณ์ความรู้สึกตีกันวุ่นวายไปหมด  และคงไม่ดีแน่ถ้าผมจะคุยกับมันให้รู้เรื่องว่ามันหายหัวไปไหนมา  ทางที่ดีที่สุดคือออกไปสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้เสียก่อน

“เออ  ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว  กูไปนะ”

“เดี๋ยว”  ผมลุกเดินไปกดลิฟท์  แต่มันรั้งแขนไว้

“กูง่วง  พรุ่งนี้ไปคุยกันที่มหาลัย  ไปเรียนด้วยนะมึง”

 

ผมนั่งแท็กซี่กลับมาบ้านตัวเองก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว  ทักทายแม่ด้วยสีหน้าปกติ  กินข้าวด้วยท่าทางปกติ  ปกติเสียจนตัวเองยังแปลกใจ  ต้องขอบคุณความอดทนของตัวเองจริงๆ ที่ไม่ทำให้ขายหน้า  นี่ถ้ามีเหรียญรางวัลให้มันสักหน่อย  มันอาจจะทำหน้าที่ได้ขยันขันแข็งขึ้นนะครับ  เพราะทันทีที่ผมเปิดฝักบัวรดหัว  มันก็พากันหมดแรงละเลยหน้าที่กะทันหันเสียจนผมไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตามันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไร

“โง่  มึงมันโง่  ฮึก.. แม่งเอ๊ย..”  ผมหลับตา ปล่อยให้น้ำจากฝักบัวทำให้อารมณ์เย็นลง  แต่จริงๆ แล้วมันแทบไม่ช่วยอะไรเลย  ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่  และจะต้องทำอะไรต่อไป  เหมือนคนหลงทางอยู่ในเขาวงกต  ไม่ว่าจะเลี้ยวไปทางไหนก็เต็มด้วยความหวาดกลัว  กลัวว่าจะต้องติดอยู่ในนี้ตลอดไป..คนเดียว

ผมลูบหน้าตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติ  กับแค่อกหักครั้งเดียวมันจะเป็นอะไรนักหนาวะ  เมิงก็ทำใจไว้แล้วไม่ใช่เหรอวะ  จะมัวมานั่งคร่ำครวญเหมือนคนบ้าทำไม  เห็นอยู่ว่ามันชอบผู้หญิง  แล้วมึง..มึงเป็นใคร  มีสิทธิ์อะไรไปวุ่นวายกับชีวิตมัน  มีสิทธิ์อะไรไปโกรธมัน  แค่หวัง..มึงยังผิดเลยไอ้เวย์

 

 

ตอนเช้าผมตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนเมาค้าง  โลกหมุนครับ  มันเบลอๆ บอกไม่ถูก  เห็นหน้าตัวเองในกระจกแล้วแทบจะผงะ  ความหล่อลดหดหายเหลือแต่อาการ “หน้าผี” ที่ไอ้นุมันชอบเรียกไอ้แชมป์เวลาลืมกินข้าว   ผมอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนเหมือนทุกวัน  ต่างกันก็แค่วันนี้ต่อมรับความสุขของผมทำงานบกพร่อง  พาลให้ต่อมหิวหยุดทำงานไปด้วย  ขนาดเห็นไข่พะโล้ในหม้อผมยังไม่ตื่นเต้นเลย  คิดดู!  ว่าเรื่องใหญ่ขนาดไหน  โห  เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันน่ากลัวนะครับ  หม้อไข่พะโล้หมุนบนเตาแก๊สได้ด้วย

ผมลงจากรถเดินมาถึงหน้าคณะก็บังเอิญเจอไอ้แชมป์ที่มักจะบังเอิญมาสายเหมือนๆ กันเขาพอดี  ผมหันไปยิ้มให้มัน  แต่มันดันขมวดคิ้วมองหน้าผมแปลกๆ

“ไอ้เวย์  อะไรต่อยตามาวะ  บวมชิบ”  อ้าว  จริงดิ! กูก็ว่ามองอะไรไม่ค่อยเห็น  เห็นแต่คนอื่นนี่แหละมองกูจัง

“ป่าว  เมื่อคืนกูดูชิงร้อยชิงล้าน”

“แล้ว?”

“ขำจนร้องไห้ไงเมิง  หยุดไม่ได้ว่ะ”  ผมว่าไม่ใช่เฉพาะหน้าแล้วครับ  สมองผมวันนี้มันต้องมีปัญหาด้วยแน่ๆ  ข้อแก้ตัวโคตรน่าเชื่อ

“ปัญญาอ่อน”  เออ  ก็กูว่างั้นแหละ   ไอ้แชมป์มองผมหน้าเมื่อยแต่ก็เอาแขนมาพาดไหล่ผมไว้อย่างให้กำลังใจ  มันก็เป็นของมันแบบนี้แหละครับ  มันไม่ถามแต่รอให้ผมบอก  มันไม่เซ้าซี้แต่คอยอยู่ข้างๆ เสมอเวลาเพื่อนมีปัญหา   ผมก็น่าจะรู้ว่าความเป็นเพื่อนนี่แหละดีที่สุดแล้ว  ไม่น่าหาเรื่องเจ็บตัวให้ตัวเอง

“เป็นไรวะ  กินข้าวกันมึง  กูเลี้ยง  เดี๋ยวคาบแรกมีพรีเซนส์ มึงจะสลบไปซะก่อน”  ว่าแล้วมันก็ลากผมไปโรงอาหาร  เอาวะ  กินก็กิน  ไม่หิวก็กิน  เพราะ...มันฟรี  ยิ่งไอ้คนเกลียดข้าวเช้ามันลงทุนเลี้ยงซะด้วย  ลาภปากเห็นๆ   แต่เดี๋ยว! พรีเซนส์?

“พรีเซนส์!!”

“เออ  ไง  อย่าบอกนะว่ามึงลืม?”

ผมไม่ตอบ  แต่หันไปสบตามันด้วยสายตาราวกับนักโทษรอการประหาร  ไอ้แชมป์สบถพรืดตามมาด้วยคำด่าเล็กๆ พอน่ารักน่าชังอย่าง “ไอ้โง่”  แล้วมันก็เปลี่ยนทิศ  พาผมขึ้นไปห้องเรียนทันที  ตามด้วยกระดาษสามสี่แผ่นยัดมาในมือผม

“กูเตรียมมาสองเรื่อง  มึงเอาไปเรื่องหนึ่ง  ทีเหลือช่วยตัวเองแล้วกัน”  เพื่อนรัก!!  ไอ้ผู้มีพระคุณ  ไอ้คนช่วยชีวิต  ไอ้  ไอ้  ไอ้หลวงพระรอด  มึงช่างประเสริฐเลิศเลอยากหาใครที่ไหนมาเปรียบ  ไอ้พ่อเจ้าประคุณทูนหัว!!

“ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นมึง  อ่านซะ”

“คร้าบ”  ผมก้มมองกระดาษในมือ  เอ  ทำไมกูอ่านไม่ออกวะ  หรือยังเบลอๆ  ผมสะบัดหัวแรงๆ แล้วก้มลงอ่านใหม่ O.O!!  “ภาษาอังกฤษ!!!!!!!!”

“เออ”

....จบสิ้นกันแล้วชีวิตกู....

 

I’m big, big boy in a big, big world…  ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอลิสหลงอยู่ในวันเดอร์แลนด์มากครับ  ประมาณหลงอยู่ที่ไหนสักที่ที่มีแต่ตัวบ้าบอที่อ่านไม่เข้าใจ  ผมก้มลงฟุบกับโต๊ะเรียนอย่างหมดปัญญา  มีไอ้แชมป์อาสาไปซื้อเสบียงฉุกเฉินให้  สักพักเริ่มได้ยินเสียงเอะอะรอบตัว  คาดว่าคงถึงเวลาเรียนแล้วครับ  ตั้งใจจะเงยหน้ารับชะตากรรม  แต่กลับยกหัวหนักๆ ราวกับท่อนเหล็กของตัวเองไม่ขึ้น  หรือว่าใครที่ไหนมันกดหัวผมไว้  หรือ..ว่า  โดนผีอำ?  ไอ้ผีชั่ว  ออกไป  นะโม  มะตามา  โอม ผี...

“ไอ้เวย์  ไอ้เวย์”  ได้ยินแล้วโว้ย  แต่ไอ้ผีบ้านี่มันไม่ปล่อยกู  จะให้ไงล่ะวะ  “มันเพ้ออะไรไม่รู้วะ  กูฟังไม่รู้เรื่อง”  กูไม่ได้เพ้อไอ้พวกบ้า  สวดมนต์ไล่ผีอยู่เว้ย  นะโม ...

สักพักเริ่มรู้สึกว่าบทสวดมนต์ของตัวเองมันแปลกๆ  แต่ผมก็อดทนสวดต่อไป  สวดไป  สวดไป....

 

 

รู้ว่าตัวเองหลับไปแต่ไม่รู้ว่านานเท่าไร  คงไม่นานมั้งครับเพราะไม่เห็นไม่มีใครปลุกให้ลุกไปพรีเซนส์ซะที  ไอ้เรื่องที่เอามาอ่านก็โคตรจะยาก  แค่ภาษาไทยผมยังจะเอาตัวไม่รอดเลย  ดันเป็นภาษาต่างด้าวแบบนี้ไม่หลับสักงีบไม่ไหวครับ

ผมพยายามลืมตาขึ้น  รู้สึกว่าลำคอแห้งผาก  แค่กลืนน้ำลายยังเจ็บเลย  หรือว่าจะสวดมนต์ไล่ผีนานเกินไป  แถมดูเหมือนนอกจากจะไล่ไม่ไปแล้ว  มันยังบังอาจไปตามเพื่อนมาช่วยด้วยแน่นอน  เพราะนอกจากหนักหัว  ตอนนี้รู้สึกว่าผมจะหนักไปหมดทั้งตัว

“เวย์  เป็นไง  ดีขึ้นมั้ย”  รู้สึกถึงสัมผัสเย็นๆ บนหน้าผาก  ไล่ไปที่แก้มและลำคอ  ผมพยายามจะลืมตาขึ้นมองแต่ไม่สำเร็จ  ผีมันยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ครับ  ตาลืมไม่ขึ้น  ปากอ้าไม่ได้  โคตรจะน่าแค้นใจเลย  สัมผัสเย็นๆ นุ่มๆ ไล้ไปทั่วทั้งตัว  ไม่อยากบอกเลยครับว่าสบายมาก  เย็นๆ เพลินๆ  แถมไม่เหนื่อยด้วย  นี่หรือครับข้อดีของการถูกผีอำ  แหม  ถ้ารู้นอกจากไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแล้วยังสบายขนาดนี้  ผมจะไม่สวดมนต์ให้เหนื่อยเลย  ดีไม่ดี  รับจ้างเชิญผีมาอำหารายได้พิเศษอีกต่างหาก

“มึงห้ามเป็นอะไรนะ”  เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นที่ข้างหู  เสียงที่ผมคุ้นเคยดีแต่ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง  หรือว่าผมกำลังฝันไป  เอาวะ  ในเมื่อความจริงมันเป็นไปไม่ได้  งั้นฝันต่อแล้วกัน

สัมผัสเย็นแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นข้างแก้ม  นิ้วมือทั้งสากทั้งใหญ่  แต่ผมกลับชอบสัมผัสนี่มากกว่าสัมผัสไหนๆ  ผมกำลังฝันดี...  ฝันว่ามันนอนอยู่ข้างผม   มือหนึ่งลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยนในแบบที่คนอย่างมันไม่มีวันทำ  แขนข้างหนึ่งกอดเอวผมไว้หลวมๆ  แต่เหมือนมันยังไม่พอใจ  สักพักมันก็ยกหัวผมข้ามาหนุนแขนตัวเอง  ใบหน้าคมก้มลงมาจนจมูกเราห่างกันเพียงเส้นผมคั่น  ผมกลั้นหายใจรออย่างไม่รู้ตัวทั้งที่นี่เป็นความฝันของตัวเองแท้ๆ  ทั้งที่จะจัดการให้มันทำอะไรก็ได้ในความฝันนี้  แต่ตัวผมกลับกำลังเกร็งรอรับสัมผัสนั้นด้วยใจเต้นถี่   ลมหายใจอุ่นจนร้อนนั้นทำให้ผมคิดอะไรไม่ออก   ทว่ามันกำลังชะงักอยู่อย่างนั้น  ตัวมันสั่นจนผมรู้สึกได้

“ไม่ได้”  สิ้นเสียง  สัมผัสที่ผมรอก็ถอยห่างออกไป  ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  แต่อีกใจหนึ่งกลับทั้งเสียดายและเจ็บอยู่ลึกๆ  ทำไมถึงไม่ได้  ทำไมถึงเป็นผมไม่ได้  เพราะอะไร   ทั้งที่นี่เป็นความฝันของผมแท้ๆ   แม้แต่ในฝัน...ก็ยังไม่ได้...

 

เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม เพราะหัวใจฉันกระซิบว่า  รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง
ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว   รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง
ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง

 

 

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  คราวนี้รู้สึกนี้ว่าตัวเบาขึ้นเยอะทีเดียว  แต่คอนี่สิครับโคตรเจ็บ  หัวก็ปวดตุ้บๆ อาการเหมือนคนมีไข้   เออใช่  เนี่ยแหละ  อาการแบบนี้แหละเหมือนตอนที่ผมป่วยเลย!  เหมือนมาก

“ป่วย?” 

“เออ  มึงป่วย  นี่ไข้ลดลงแล้ว  หิวมั้ย?”

ผมแทบผงะเมื่อเห็นไอ้ไนท์นอนอยู่ข้างๆ  หน้ามันอยู่ใกล้เสียจนผมไม่กล้าหายใจ  ความรู้สึกแรกที่เห็นหน้ามันคือดีใจ  แต่อยู่ๆ ภาพวันนั้นก็กลับมาฉายซ้ำๆ ตรงหน้าผม  ผมไม่รู้เลยว่าเริ่มคุยกับมันยังไง  ต้องคิดกับมันยังไง  ต้องทำตัวแบบไหน  บอกตรงๆ ว่ายังหาที่ยืนให้ตัวเองอยู่ข้างมันแบบสบายใจเหมือนแต่ก่อนไม่ได้  ตอนนี้..ผมควรมองมันในฐานะอะไร

“ทำไมมองกูอย่างนั้น”  มันทำหน้าเหมือนเจ็บอะไรสักอย่างที่ผมไม่เข้าใจ  และไม่เคยเห็น  ผมมองมันยังไงนะ  เมื่อก่อน..และหลังจากนี้  สายตาผมเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า

โครกกกกก

แต่ก่อนที่บรรยากาศจะกระอักกระอวนไปมากกว่านี้  เพราะสมองตื้อๆ ของผมมันไม่อนุญาตให้ผมใช้ความคิดสร้างสรรค์ใดๆ ในการกู้สถานการณ์ให้ไหลไปได้อย่างทุกที  ท้องเจ้ากรรมก็อาสาออกหน้าเสียก่อนครับ

“มานั่งดีๆ  กูซื้อข้าวต้มไว้ให้แล้ว”

ผมที่ยังมึนงงก็ได้เลยนั่งให้มันป้อนข้าวป้อนน้ำ  ตามด้วยยาอีกหลายเม็ด  ที่แท้ก็ป่วย  ไอ้ผมก็บ้าสวดมนต์ซะเหนื่อยเลย  นึกว่าถูกผีอำ

“เช็ดตัวอีกรอบดีมั้ย  เหงื่อมึงออกเยอะเลย”  ไอ้ไนท์พูดเสียงนุ่ม  นานมากแล้วนะครับที่ผมไม่ได้ฟังมันพูดแบบนี้  ตั้งแต่ที่มันหายไปนั่นแหละ  ผมนั่งเฉยๆ ยอมให้มันเช็ดตัวดีๆ เพราะคบกันมานานเกินกว่าจะมัวมานั่งอิดออดแล้วครับ  ถึงผมอยากทำเองแค่ไหนมันก็คงไม่ยอมอยู่แล้ว  ดีไม่ดีถูกด่าว่าไม่เจียมสังขารอีกเปล่าๆ

ท่าทางการเช็ดตัวมันออกจะทุลักทุเลแถมพิลึกอยู่ไม่น้อยครับ  ไอ้ไนท์มันนั่งซ้อนหลังผม  ให้ผมพิงมันเพราะนั่งคนเดียวแล้วตัวมันชอบเอนล้มไปเองเหมือนคนสมดุลทางร่างกายเสีย  กำลังนั่งเพลินๆ ก็ต้องตกใจเพราะอยู่ๆ ไอ้พ่อพยาบาลจำเป็นมันก็กอดผมไว้  แถมยังซบหน้ากับไหล่ผม  ท่าทางเหมือนจะอ้อนของมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก

“มึง  อย่าป่วยอีกได้มั้ย” 

ผมอยากจะเถียงมันว่าคนมันจะป่วยห้ามได้ที่ไหน  นึกๆ ดูแล้วมันนี่แหละครับที่เป็นต้นเหตุให้ผมนั่งตากน้ำฝักบัวอยู่หลายชั่วโมง 

“กูเหลือมึงแค่คนเดียว”

ผมชะงักกับคำพูดและเสียงอ่อนแรงของมัน  มันหมายความว่ายังไงที่บอกว่าเหลือผมแค่คนเดียว  ครอบครัวมัน  พ่อกับแม่มันล่ะ   เพื่อนคนอื่นล่ะ  ทำไมถึงจะเหลือแค่ผมคนเดียว

“ไนท์  มึงไม่ได้..”  อ้อมกอดมันกระชับแน่นขึ้น  สัมผัสอุ่นชื้นที่ไหล่ทำให้ผมหันไปมองอย่างแทบไม่เชื่อสายตา  ร้องไห้?  มันกำลังร้องไห้?  “ไนท์..”  ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น  อยากรู้ว่ามันเป็นอะไร 

“อยู่เฉยๆ”  เสียงที่ฟังดูไม่เหมือนเป็นคำสั่ง  แต่ฟังคล้ายคำขอร้องนั่นทำให้ผมไม่กล้าขยับตัว  ผมนั่งให้มันกอดอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร  เราทั้งคู่ต่างไม่มีใครพูดอะไร  แต่กลับรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกันและกันอย่างแท้จริง  ราวกับมีเชือกที่มองไม่เห็นเส้นหนึ่งมัดผมไว้กับมันตั้งแต่นาทีนั้น  เชือกที่ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันรัดแน่นขึ้นทุกวันๆ  จนผมไม่สามารถแยกออกมาได้

เชือกที่เรียกว่า...ความผูกพัน

หลายคนเคยบอกตัวเองให้เลือกระหว่างความรักกับความผูกพัน

หลายคนบอกว่ารักและผูกพันไม่เหมือนกัน

สำหรับผม...ความรักครั้งนี้เริ่มจากความผูกพันและอยู่มาได้ด้วยความผูกพัน

 

 

คืนนั้นมันนอนกอดผมไว้  มือข้างหนึ่งกดหัวผมให้พิงอยู่กับหน้าอกมัน  และเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น  เหตุผลที่มันไม่ยอมมาเรียน  พ่อกับแม่มันทะเลาะกันเพราะแม่จับได้ว่าพ่อมันรักผู้ชายอีกคน  สุดท้ายแม่มันก็รถคว่ำตาย

ผมกอดมันแน่น  ฝังหน้ากับหน้าอกมัน  ร้องไห้หนักกว่าครั้งไหนๆ  หนักกว่าตอนที่คิดว่าตัวเองอกหัก  หนักกว่าตอนที่รู้ว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่   ร้องไห้ไม่แค่เพราะเสียใจกับมัน  แต่เพราะตอนที่มันเจ็บปวดขนาดนั้น  ผมไม่ได้อยู่ข้างๆ มัน  เพราะวันนั้นผมไม่ยอมตามหามัน  ร้อง..เพราะว่าผมช่วยอะไรมันไม่ได้เลย

ไอ้ไนท์มันกอดผมแน่นขึ้นเหมือนกัน  และกลับเป็นฝ่ายปลอบผมเสียเอง  บอกผมว่ามันไม่เป็นไรแล้ว  ห้ามไม่ให้ผมร้องไห้เพราะกลัวไข้กลับ  ผมเพิ่งรู้ว่าระหว่างผมกลับมันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ  เพราะเราต่างคิดถึงอีกคนเสมอ  มันเป็นความสัมพันธ์ที่ให้และรับอย่างเท่าเทียม  เป็นสิ่งที่ผมเพิ่งเคยเจอ

ไอ้ไนท์ลูบหลังผมเบาๆ  เราต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง  พอเสียงสะอื้นผมเบาลง  มันก็จับคางให้ผมเงยหน้าสบตามัน

สายตาแน่วแน่ของมันทำให้ผมอดใจสั่นไม่ได้  ปล่อยให้มันเช็ดน้ำตาให้โดยที่ผมก็ไม่ได้หลบตา  มันก้มหน้าลง  กดริมฝีปากบางกับหน้าผากผม  เลื่อนลงมาที่เปลือกตา   วินาทีนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเลย  สมองตื้อจนปล่อยให้ความรู้สึกล้วนๆ นำพาร่างกาย   ยามที่ริมฝีปากสัมผัสกัน  ผมบอกตัวเองว่าไม่เสียใจเลยที่รักมัน  กระทั่งตอนที่ตอบรับคำสัญญาของมัน  ผมก็นึกไม่เสียใจเลย

 

“เวย์  มึงจะเป็นเพื่อนรักของกูไปตลอดชีวิตได้มั้ย”

“ได้  กูสัญญา”

 

เพราะผมรู้ว่าผมจะเป็นคนสำคัญของมัน  ไม่ว่าอยู่ฐานะไหนผมก็จะเป็นสิ่งสำคัญของมัน..ตลอดชีวิต  เหมือนที่ผม..เลือกจะรักมันไปตลอดชีวิตเช่นกัน

 

..........................................................................

 

ผมวางปากาลง  ปิดสมุดบันทึกเล่มเล็กแล้วลูบปกสีฟ้าครามนั้นเบาๆ  ทะนุถนอมสิ่งที่จดบันทึกความทรงจำดีๆ ของผมกับมันไว้   ความทรงจำที่มันอาจจะลืมไปแล้วแต่ผมก็ยังเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คงจะหลงเหลืออยู่ที่ไหนสักแห่งในหัวใจมัน

คุณลุงพาไอ้ไนท์ออกไปข้างนอก  ผมเลยได้โอกาสเขียนบันทึกจนจบปีหนึ่ง  กะว่าจะเริ่มอ่านใหม่อีกครั้งก่อนจะเริ่มบันทึกช่วงเวลาของปีสอง  ผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังหวังอะไรอยู่  หรือทำไปเพื่ออะไร  จดไว้ทั้งที่จะไม่มีวันให้มันได้อ่าน   หรือเพราะผมยังหวังลึกๆ ว่ามันจะจำได้ในสักวันหนึ่ง

ผมดีใจที่มันรักผม  ดีใจที่มันอยู่ข้างๆ ผม  แต่ไม่เคยไม่เสียใจที่มันลืมไปแล้วว่ารักผมเพราะอะไร  จริงอยู่ครับที่ความรักไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล  แต่ความผูกพันไม่มีวันก่อตัวได้ในวันเดียว  ความผูกพันต้องใช้เวลานาน  ผ่านเรื่องราวต่างๆ หลายหลากจนกลายเป็นเชือกเส้นหนึ่งที่พันรอบตัวเราไว้รอบแล้วรอบเล่า

ในขณะที่เชือกเส้นนั้นมัดผมไว้แน่น  ในขณะที่ผมรู้จักความยาว  ขนาด  สีสันของมันดี  ผมจึงยอมอยู่ภายใต้การผูกมัดของมันได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือกังวล   แต่ไอ้ไนท์ล่ะ  มันยังถูกมัดอยู่ด้วยกันกับผมหรือเปล่า  ผมไม่แน่ใจ

 

มือเล็กเปิดสมุดอีกครั้ง  สายตาไล่อ่านตั้งแต่หน้าแรก  สีหน้าหลากหลายเกิดขึ้นตามเรื่องราวที่เจ้าตัวเขียนบันทึกไว้  เปลี่ยนไปมาราวกับกำลังย้อนเวลาไปอยู่ในจุดนั้น  เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวตามแรงลม  ไม่นานศีรษะทุยๆ นั้นก็ค่อยๆ โคลงเคลงจนสัมผัสกับหัวเตียง  แล้วนิ่งไป...

ในความฝันเขากำลังวิ่งเล่นไปกับความทรงจำในอดีต  ขณะที่ในความเป็นจริง  ใครบางคนอุ้มเขาให้นอนลงในท่าทีคิดว่าน่าจะสบาย  ห่มผ้าและจูบหน้าผากเขาอย่างอ่อนโยน  ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นสมุดบันทึกเล่มนั้น  ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆ คนหลับ  ก่อนจะเปิดอ่านทีละหน้า…

ตราบจนถึงหน้าสุดท้าย  มือใหญ่ที่ถือสมุดอยู่ก็สั่นจนสังเกตได้  น้ำตาหยดหนึ่งหยดลงบนกระดาษแผ่นสุดท้าย  ข้างๆ คำสัญญาที่เขาเป็นฝ่ายร้องขอ....

 

......................จบ(ไม่) บริบูรณ์.........................

 

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 15:02:10
เปิดสั่งจองและโอนเงินอย่างเป็นทางการ

หนังสือ Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน  จำนวน 650 – 700 หน้าโดยประมาณ  เนื่องจากระยะเวลาสองเดือนที่ให้เปิดจองและโอนเงิน  ตอนพิเศษและเนื้อหาตอนตรวจทานมันคงจะเพิ่มขึ้น = =;;

แบ่งเป็นสองเล่ม  เล่มละ 330 – 350 หน้า  ปกหน้าสีเคลือบด้าน  ไสกาว  กระดาษ green read ถนอมสายตา  ภายในมีภาพประกอบฉากบางฉากซึ่งรอติดตามในหนังสือค่ะ

ราคา  เล่มละ 300 บาท  รวมสองเล่มเป็นเงิน 600 บาท  ไม่รวมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 50 บาท  ชุดที่ 2 คิดเพิ่มอีก 30 บาท  ชุดที่ 3  เพิ่มอีก 20 บาท (ใส่กล่องกันกระแทกอย่างดี)

ตอนพิเศษ

1. A Way in Wonderland by Garnet

   “เฮ้ย!  ไอ้บ้าที่ไหนเอาชุดนี้มาแต่งให้กูวะ   สัด”   หมดเลยครับหมด   ภาพลักษณ์สุดเท่ที่ผมอุตส่าห์สร้างมากับมือหมดไปแล้วบัดเดี๋ยวนี้   ชุดเมดสีน้ำเงินมากับผ้ากันเปื้อนสีขาว   หัวเหอนี่ไม่ต้องพูดถึง   สไตลิสต์จัดเตรียมวิกผมบลอนด์ทองยาวสลวยมาให้เสร็จสรรพ   ไอ้หน้าไหนมันกล้าทำกับกูอย่างนี้วะ   บอกมานะ   มึงบอกกูมานะ   มิน่า   ตอนวิ่งเมื่อกี้ถึงเย็นวาบ ๆ  กูนุ่งกระโปรงอยู่นี่เอง  เชี่ยเอ๊ย! เสือกซิวไนกี้กูไปด้วยซะงั้น

 

2. SP Pae+Name  By N’ palm  “ Just be friend”  

            “ไม่ใช่แค่นั้น... แต่...โว้ยย! จะให้กูพูดมาให้ได้เลยใช่ไหม!?” ผมสะดุ้งกับเสียงดังๆ ของมัน คนรอบๆ เริ่มหันมามองแล้ว

            “เบาๆ สิวะ เสียงดังไปเพื่อ?”

            “ก็...ก็กู...พูดไม่ถูกนี่หว่า”

            “หึ...” เสียงหัวเราะของผมลอดออกมาจากริมฝีปากแผ่วเบา

            “แล้วยังไง ก็กูไม่ชอบที่มึงเดินหนีกูนี่”

            “?”

 

3. Sp  Champ’s Talk:  “เส้นตรงที่จากไป”

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนเลิกรัก

ความไม่เข้าใจ  ความเหนื่อยหน่าย  หรือความเห็นแก่ตัว?

สำหรับผม...เหตุผลที่ทำให้เลิกรักนั้นไม่มี

แต่เหตุผลให้ตัดใจนั้น  ชัดเจนอยู่ตรงหน้า...

 

4. Sp Nu’s Talk:  “เมื่อหัวใจบรรจบกัน”

“ผมเคยคิดว่า  หากการได้รักมันคือการต้องหลบซ่อน  ก็จะขอซ่อนไปจนวันตาย  เพราะผมคงปล่อยมันไม่ได้  แต่ผมไม่เคยถาม  ว่ามันเจ็บไหมที่ต้องทนอยู่กับคนเห็นแก่ตัวอย่างผม  จนกระทั่ง...มันหนีผมไป”

 

5. The End: ปลายทางแห่งการรอคอย  

            ไม่มีสปอยล์  รออ่านในเวบ  อีกไม่นานค่ะ

 

6. บทส่งท้าย “Let’s get married”

            ไม่มีสปอยล์  รออ่านเองในเล่มค่ะ

 

ของที่ระลึก   ที่คั่นหนังสือรูปเวย์ไนท์  นุแชมป์  เคลือบและร้อยไหมทองอย่างสวยงาม (ตามฝีมือคนทำและคนช่วยทำ  ฮา)  

 

กรุณาส่งรายละเอียดการสั่งจองดังต่อไปนี้

 ชื่อ-นามสกุล  
 ที่อยู่                            
 จำนวนที่สั่ง  
 ชื่อที่ใช้ในการจอง login หรือ ชื่อสมมุติ
 เบอร์ติดต่อ
รับเอง/ ไปรษณีย์


 มาที่ E-mail: sae_kikung [at] hotmail.com  เพื่อรับรายละเอียดการโอนเงินค่ะ  กรุณาตั้งชื่อเมลว่า “ขอรับรายละเอียดการโอนเงิน WAIT”

(เปิดให้โอนเงินตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2554   ได้รับหนังสือหลังจากนั้นไม่เกินหนึ่งเดือนค่ะ)

 

หากมีข้อสงสัยแล้วต้องการคอตอบเร่งด่วนสามารถติดต่อที่ได้

http://www.facebook.com/#!/profile.php?id=100000152756701  หรือ

yochistunae_nunอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com

 

 

ระวัง!!!!  ตอนจบกำลังจะมา  ^^  กรุณารอรับ

 
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? II [บทที่ 4 Swift Shift 13/01 /10]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 15:03:28


ตอนนี้กำลังปั่นตอนจบอยู่ค่ะ  ปาดเหงื่อ

แล้วรีบเอามาลงให้อ่านนะคะ

ขอบคุณหลายคนที่รอ  ขอบคุณหลายคนที่ให้กำลังใจ

ในที่สุดมันก็จบ(สักที) ... :m15: :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 13-01-2011 15:24:37
เมลล์มัน กลายเป็นห้ามแสดงเมลล์บนบอร์ดนะครับ ลองใส่ [at] หรืออื่นๆ ลงไปแทน @ ทีครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-01-2011 15:52:45
^
^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 13-01-2011 16:43:06
รอมานานเรื่องนี้ ในที่่สุดหนังสือก็คลอด  :mc4:
ขอบคุณคุณนุ่นมากๆนะคะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 13-01-2011 17:00:48
 o13
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 13-01-2011 17:17:14
มาซะที  เยอะมากกกกกกกกกกกกก  จะตามอ่านไหวมั้ยนี้
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 13-01-2011 21:34:28
5555

+1จ๊ะที่รัก

เดี๋ยวส่งเมลล์ไปให้นะ

หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-01-2011 22:24:10
อูยยยย จุใจ สาแก่ใจ เอาอีกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 14-01-2011 14:55:44
อร้ายยยยยย
ชอบเรื่องเน้ แต่กว่าจะได้โอนเงิน คงต้องเป็นประมาณ 31 มีนาแน่ๆ เลยฮ๊าาา
เพราะุตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งตังค์จะกิน 555+
แถบจะขายมือถือกินอยู่แล้ว 55555555

ไม่ได้การรร ต้องเก็บเงินนน อยากได้เรื่องนี้ !!1
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 16-01-2011 19:32:35
โอนเงินและแจ้งรายละเอียดไปแล้วนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 16-01-2011 19:53:53
ด้วย จ้า  รออ่านตอนพิเศษ พยายามกันเข้า ^^  :L2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 17-01-2011 01:27:35
ว้าวววว ได้อ่านเเล้วอ่ะ > [ ] <! ยังไม่ลืมด้วยวุ๊ย เป็ฯเรื่องที่สองในบอร์ดนี้ (รู้จักบอร์ดนี้เพราะบุพเพ วายร้าย. . .)

ดีใจ ที่คนเเต่งยังไม่ลืมคนอ่าน = -= รอ ร๊อ รอ ตอนจบจ๊ะ!
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 17-01-2011 17:38:11
ขอบคุณที่มาต่อจ้า :really2:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 18-01-2011 01:20:43
ว้าววว  มีรวมเลมจริงๆด้วย
เห็นพูดนานแล้ว คิดว่าจะไม่ได้แล้วซะอีกT T สนใจมากจ้า
แต่อยากเห็นหน้าปกก่อน  จะได้มั้ยอ่าจ้ะ

ปล.  อัพเยอะมาก  ขอตามอ่านก่อนนะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 18-01-2011 14:09:56
แวะ มา


ดัน
^____^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 18-01-2011 23:45:44
 :L1: :L1: :L1: ชอบเรื่องนี้อ่ะ ซื้อเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 21-01-2011 20:33:47
โฮ่ ไม่ได้เข้ามาซะนาน ตามอ่านกันอานเลย
ตอนแรกอ่านๆไปก็ เอ๊ะ เราอ่านผิดป่าวเนี่ย ทำไมเหมือนอ่านซ้ำ
ที่แท้ก็บันทึกของเวย์นี่เอง
จะรอติดตามตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 23-01-2011 16:14:15
แต่งได้ถึงไหนแล้วหว่า O_o
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 24-01-2011 02:14:03
ตอนจบของภาคแรกเป็นอะไรที่แหวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

"รัก...ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมรักคุณ"

มันทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง ทั้งอบอุ่น จนบรรยายไม่ถูก!!

ถึงจะจำไม่ได้ว่าเวย์เป็นใคร แต่ใจมันก็ยังรัก!

สุดยอดอ่ะค่ะ

ว่าแล้วก็ไปอ่านต่อดีกว่า


/////////////////////////////////////////

edit...

อ่านทันแว้วววววววววววววววววววว

ตอนช่วงปีหนึ่งน่ารักมากเลยค่ะ โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไนท์ได้อ่านบันทึกจนได้ น้ำตาล่วงแบบนั้นจำได้แล้วสินะ  .......ชักอยากรู้ตอนจบที่แท้จริงแล้วสิ ^O^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 24-01-2011 17:13:47
ตอนจบยังไม่มา

คนแต่งมัวไปเที่ยวอยู่อิอิ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 25-01-2011 10:25:33
คิดถึงเวย์กับนุ...
ได้อยู่ใกล้ๆสองคนนี้คงจะไม่มีวันเหงาเนาะ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 25-01-2011 17:23:20
ได้เวลาเสียเงินอีกแล้ว ถึงจะรอนานไปสักหน่อย (ปีเดียวเอง) แต่ก็มาแบบคุ้ม
สั่งชัวร์ แต่รอแป๊บนึงนะน้องนุ่น(เนียนเรียกไว้ก่อน) ^o^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 26-01-2011 06:13:59
O_o น้องนุ่น คนรอมากมาย อยู่ไหน หว่า
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 28-01-2011 22:33:01
 จองด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: pics ที่ 30-01-2011 18:58:29
มาลงชื่อจองหนังสือด้วยคนคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: กลั่นกรอง ที่ 01-02-2011 16:17:25
จองด้วย  ^^
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 20-02-2011 17:31:30
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-02-2011 00:32:28
 o13


...รักจัง...


 :n1:
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: DarKLasT ที่ 21-02-2011 00:56:59
รอกันไปก่อนนะ

รอคนแต่งสอบเสร็จก่อน
หัวข้อ: Re: Wait! หรือเมิงจะเล่นเพื่อน? ตอนพิเศษทั้งหมด [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 26-02-2011 14:20:59
เพิ่งส่งเมล์การจองไปนะคะ รอรับรายละเอียดต่อไป

หัวข้อ: The end ปลายทางแห่งการรอคอย [13/01 /11]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 05-03-2011 23:35:51



READ THIS FIRST: ที่จะได้อ่านกันต่อไปนี้คือตอนจบบริบูรณ์ของนิยายเรื่องนี้นะคะ  ตอนแรกนุ่นกะว่าจะเอาไว้เฉพาะในหนังสือเท่านั้น  คือหลังจาก 1. A Way in Wonderland by Garnet (เรื่องราวต่อจากบันทึกเล่มนั้นหลังจากที่ไนท์ได้อ่าน แต่งโดย Garnet พี่สาวสุดที่รัก)  2.ตอนพิเศษของเป้ - เนม  SP Chapter By N’ palm แต่งออกมาได้เหมือนเป้กับเนมในจินตนาการนุ่นเป๊ะค่ะ  ชื่อตอน Just be friend น่ารักมากๆ  ขอบคุณน้องปาล์มด้วยนะคะ  3. ตอนพิเศษนุ – แชมป์ Champ’s Talk: เส้นตรงที่จากไป และ Nu’s Talk: เมื่อหัวใจบรรจบกัน (ขออุบไว้นะคะ  เพราะเป็นตอนพิเศษที่พิเศษจริงๆ อธิบายไม่ได้  อยากให้คนอ่านได้สัมผัสความรู้สึกนี้เองมากกว่า  ไม่อยากสปอยส์  เดี๋ยวโดนดักตีหัว)  และตอนสุดท้ายที่นุ่นแอบเอามาลงให้อ่านก่อน  The End: ปลายทางแห่งการรอคอย  เพราะว่าพอแต่งแล้วมันเกิดรู้สึกเสียดายขึ้นมาถ้าจะลงแค่ในหนังสือเท่านั้น  อยากให้คนอ่านคนอื่นๆ ที่อยู่ด้วยกันมาสองปีได้สัมผัสตอนจบดีๆ ของการรอคอยไปด้วยกันในป้อมแห่งนี้  เป็นการตอบแทนที่ยังรอและไม่ทิ้งกันไปไหน  ^O^  หวังว่าทุกคนคงจะชอบนะคะ  และก็หวังว่าคนที่สั่งหนังสือจะไม่โกรธน้าที่เอาตอนสุดท้ายมาลงก่อน T^T  หรือว่าถ้ากลัวมันจะไม่ต่อเนื่องที่ยังไม่ได้อ่านนุแชมป์ก็ยังไม่ต้องอ่านก็ได้นะคะ  แนะนำว่าถ้ารอได้  ก็รออ่านในหนังสือทีเดียวเลยจะดีกว่าค่ะ  จะได้อารมณ์มากกว่า   เตือนแล้วนะคะ  รอได้ก็อย่าเพิ่งอ่าน   พล่ามมาเยอะแล้ว  ไปอ่านกันเลยดีกว่านะ  ตอนสุดท้ายของเรื่องนี้  หวังว่าเราจะได้พบกันอีกในเรื่องต่อๆ ไปนะคะ  ...

THE END: ปลายทางแห่งการรอคอย

ผมยืนมองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่  ร่างกายเปลือยเปล่าสะท้อนกลับมาเต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบที่ใครบางคนฝากไว้  ใครบางคนที่ตอนนี้คงจะกำลังเข้าครัวทำอาหารไว้รอผมเหมือนทุกๆ วัน  ใครบางคนที่เพิ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว  แต่กลับเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจผมมาเนิ่นนาน
เคยฝันไว้นะครับว่าสักวันจะมีผู้หญิงที่รักนอนเคียงข้าง  คอยดูแลเอาอกเอาใจ  ทำอาหารที่ผมอยากทาน  ยืนรอรับเวลาผมกลับบ้าน  รักแม่ผมเหมือนแม่ตัวเอง  และวันนี้ฝันของผมมันก็เป็นความจริงแล้ว  แม้ว่าคนๆ นั้นจะไม่ใช่ผู้หญิงน่ารักอ่อนหวาน  ไม่คอยออดอ้อนเอาใจ  แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่แม้จะไม่รู้จักการเอาใจแต่ก็คอยใส่ใจ  แม้จะไม่พูดคำหวานแต่ก็บอกรักผมทุกวันผ่านกระทำ  เป็นผู้ชายที่ผมรัก  เป็นคนที่บอกให้ผมรอ  และเป็นคน...สิ้นสุดการรอคอยของผม
...................................................................................

 ผมกระพริบตาถี่ๆ บอกตัวเองให้ลุกจากที่นอนนุ่มๆ นี่ได้แล้ว  ทว่ากลับขยับเขยื้อนไม่ได้อย่างที่คิดเพราะมีมือมารของไอ้พญาปีศาจคชสารกอดเอวไว้แน่น  มันนอนคว่ำหันหน้ามาทางผม  เผยให้แผ่นหลังรูปตัววีสุดเซ็กซี่  ใจพาลนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วก็แทบอยากจะเอาหน้าเดินต่างเท้า  เอาไถๆ ไปกับพื้นคอนกรีตเผื่อว่าหนังหนาๆ มันจะได้ลอกเอาหน้าบางๆ ของผมกลับมาเหมือนเดิม  คิดแล้วก็  อ๊ากกก  นี่กูทำลงไปได้ยังไงวะ  แม่ง  กูมันโคตรยั่ว  โคตรเอ็กซ์  ฮือออ  โว้ย  หรือจะเปลี่ยนใจไปเอาดีทาง AV ดีวะเนี่ย
   “กำลังคิดเรื่องลามกอยู่ล่ะสิ”
   “เออ  ถ่าย AV  ...เฮ้ย  ไม่ใช่”  ผมเบิกตากว้างหันไปมองมันที่ตาพราวระยับ  แถมยังอมยิ้มมองผมอย่างน่าไม่อาย  อยากจะด่ามันว่าหน้าด้านนะครับ  แต่นึกถึงตัวเองแล้ว  มันด้านน้อยเสียเมื่อไร  อ๊ากกก
   “ไม่ใช่?  เมื่อคืนมึงเยี่ยมกว่า AV แผ่นไหนที่เคยดูมาซะอีก” มันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเลื่อนมามาจับก้นผมแล้วบีบเบาๆ   อ๊ากก  ไอ้เชี่ยไนท์  ไอ้เลว  ล้อกู  ฮือออ  อายโว้ย  ผมเอามือยันหัวมันไปแรงๆ ทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้แล้วเผ่นเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าจะมีการเอาคืนอย่างเมื่อคืนอีก  แผนของไอ้นุนี่มัน...หาเรื่องให้ผมเสียตัวได้ตลอด  แต่ผมก็ยังรักษาดีกรีความโง่เชื่อมันไว้อย่างเสอมต้นเสอมปลาย  (ต้นเรื่องโง่ยังไง  ตอนจบโง่อย่างนั้นครับ) 
   เปิดน้ำอุ่นกำลังดีแล้วยืนยิ้มอยู่ใต้สายน้ำนั้น  ก้มมองแหวนเงินเกลี้ยงบนนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง  ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ  ว่าตอนนี้ผม...หมั้นแล้ว 

ย้อนกลับไปเมื่อสองวันก่อน  วันที่ 13 กุมภาพันธ์  วันก่อนวันวาเลนไทน์สุดท้ายในรั้วมหาลัยของผม
ผมกับไอ้นุมาหาอะไรกินที่ร้าน DOD ไม่ได้โฆษณาร้านเขานะครับ  แต่ว่ามันอยู่แถวสามย่าน  อร่อยและถูก  ที่สำคัญ  มันเป็นร้านสำหรับให้ระบาย!!  ร้านเล็กๆ น่าสบายที่บนผนังและโต๊ะเต็มไปด้วยข้อความมากมายของเหล่าลูกค้าซึ่งกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเพื่อนร่วมสถาบันของผม
‘อยากโสด  แต่หน้าไม่อำนวย’   ให้กูช่วยอำนวยให้มั้ยครับ  เอาให้เละจนได้โสดตลอดชีวิต    ‘กดเบอร์ห้ารับปรึกษาปัญหาชีวิต’  ฟราย  เบอร์ห้าเอาไว้ประหยัดไฟ   ‘รักน้องแนน วิทยา’   สมมติว่ากูเป็นน้องแนนมาอ่าน  แล้วกูจะรู้มั้ยว่ามึงเป็นใคร
“เหม่ออะไรของเมิงวะ  ชวนกูมานั่งสมาธิรึไง  สาด”  ไอ้นุที่สั่งอาหารเสร็จ  ปากก็เริ่มว่างทันที  เหอะ  ทีตอนนี้มานั่งทำหน้าระรื่นกวนส้มตีนผม   เมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังทำท่าจะเป็นจะตายอยู่เลย  รู้งี้ไม่น่าช่วยมันเลย  น่าจะปล่อยให้เป็นไอ้บ้า เมารัก  น้ำตาตก  อกเดาะเพราะแฟนหนีต่อไป
“นินทาอะไรกูในใจ”  แน่ะ  เสือกรู้ดีอีก
“เปล๊า  กูนั่งด่าไอ้เจ้าของโพสอิทพวกนี้อยู่  เมิงดูดิ  เขียนไปเพื่อ?”   อันนี้ยิ่งกวนตีนใหญ่ครับ  ‘คนอย่างกู  คาร์ฟูลไม่มีขาย’  ฟราย  นั่นเพราะมึงไม่มีค่า  ไร้ราคาไงครับ  ไอ้คนที่มันคิดมุกกระบือขนาดนี้ได้  เซเว่นยังไม่รับเมิงเลยครับพี่น้อง
“อย่าไปเสือกเรื่องของเขาน่าเมิง  ว่าเรื่องของตัวเมิงเหอะ  จะให้กูช่วยอะไร  อย่าช้า  กูมีธุระ”
“ทำไรวะ”
“สอนพิเศษ”  เดี๋ยวนี้ทำตัวดี  หางานหาการทำ  เหอะ  สอนแม่งทุกวัน  วันละไม่ใช่น้อยๆ จนผมที่เป็นเพื่อนมันแทบจะไม่ได้เห็นหน้ามันอยู่แล้ว  นี่แหละนะครับ  อานุภาพของความรัก
“บินไปได้ทุกเดือนๆ  รวยเหลือเกินนะเมิง”
“อ้าว  ก็กูคิดถึงของกู  มึงจะทำไม”  ว่าแล้วมันก็ยิ้มกว้างจนผมอยากจะเอาเท้างามๆ ช่วยยัดไว้  แต่ก็เอาเถอะครับ  ไม่ใช่ว่าผมไม่ยินดีกับมัน  กว่าจะได้รักกันอย่างนี้คนหนึ่งก็ต้องจากไป  คนหนึ่งก็เกือบเป็นบ้า  และอีกคนก็ต้องเสียใจ  ผมเดาไว้แล้วว่าสักวันมันจะต้องเกิดเรื่องนี้  เพียงแต่ไม่คิดว่าบทสรุปมันจะเป็นแบบนี้  และยิ่งไม่คิดว่าไอ้เพื่อนที่ดีแต่บ้าๆ บอๆ ไปวันๆ จะรักใครและทำเพื่อใครได้ขนาดนี้
“เงียบอีก.. งั้นกูกลับล่ะ”
“เฮ้ย  เดี๋ยวดิ  ไอ้นุ  แม่ง  เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนตลอด”
“อ้าว  หรือมึงไม่ใช่  นี่ถ้ามึงไม่ได้เรียกกูมาเพราะเรื่องไอ้ไนท์นะ  กูยอมให้มึงเอาตีนลูบหน้าเลยเอ้า”  น่าน  มีท้า  ไอ้ผมก็เริ่มอยากจะรับคำท้าตงิดๆ ครับ  แต่เอาเถอะ  แค่เอาตีนลูบหน้ามันมอมเหล้าหน่อยเดียวก็ทำได้แล้ว  แต่เรื่องไอ้ไนท์นี่สิ  ทำเอาผมอยากจะบ้าตายมาหลายวันแล้ว
“เออ  กูยอม  มึงถูก  โอเคมะ” ไอ้นุยักคิ้วไม่สนใจ  แล้วหันไปรับจานขนมปังและน้ำปั่นจากพี่พนักงานเสริฟ  ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินเอาๆ แน่สิครับ  ของฟรี  มื้อนี้ผมเลี้ยงนี่  “เงยหน้าจากจานมามองกูหน่อยได้มั้ยมึง”
“มึงเป็นใคร”
“คนที่อาจจะไม่จ่ายเงินให้มึง”
“โอเค  มีไร”
“มีทุกอย่าง  ยกเว้นอนาคต”
ฟังคำตอบของผมจบ  ไอ้นุมันก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างที่ผมต้องการ  แต่ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายสุดชีวิต  อ้าว  ที่จริงจะโทษผมก็ไม่ถูกนะ  ต้องโทษไอ้ข้อความกวนๆ รอบตัวนี่ต่างหากมันออสโมซิสเข้ามาแบบแทรกลึกซึมเร็ว  สมองมันก็ต้องสั่งการให้ทำตัวกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมสิครับ  แบบว่า  เข้ามาเมืองตาหลิ่วให้ยักคิ้วตามไง
“กูกลับล่ะ”  มันกระแทกช้อนเสียงดัง  แล้วทำท่าจะลุกขึ้น
“เฮ้ยยยย  เดี๋ยวววว  พี่นุครับ  ผมล้อเล่น  ใจคอมึงจะไม่ห่วงเพื่อนอย่างกูบ้างรึไงวะ”
“อย่างกับมึงทำตัวน่าห่วงนักนี่”   พี่นุครับ  คือ..ถ้ามึงจะลืมตามองไปรอบๆ มึงจะรู้ว่าไอ้โต๊ะข้างๆ มันนั่งเล่นไพ่อูโน่  ถัดไปอีกโต๊ะมันพลัดกันเอามีดเสียบท้องไอ้โจรสลัด  แล้วข้างล่างก็เปิดเพลง sorry sorry  เมิงจะให้กูเอาส่วนไหนไปทำเศร้าครับ   แต่ว่า...ที่จริงเรื่องมันก็ไม่เศร้า  เพียงแต่ว่า..โว๊ย...มันคิดไม่ตกอ่ะ  ไอ้ความรู้สึกอึดอัด  สับสน  ไม่เข้าใจเนี่ยมันน่าโมโหนะครับ 
 “เอ้า  ซึม  เป็นไรว้า”  ไอ้นุเอาเท้าสะกิดขาผมอย่างมีมารยาทมาก
“เมิงว่าไอ้ไนท์มันแปลกๆ มั้ย”
“หืม..”
“ไม่รู้ว่ะ  กูรู้สึกเดี๋ยวนี้มันมองกูแปลกๆ  ทำตัวแปลกๆ”  คือ..ไอ้เวย์ไม่ได้สติแตก  คิดมาก  วิตกจริตอะไรนะครับ แต่ทุกวันนี้ไอ้บ้านั่นมันทำตัวประหลาดขึ้นทุกวัน  มองผมแล้วเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา  บางทีมันก็เอาใจจนน่ากลัว  บางทีก็เอาแต่ใจตัวเองจนน่าหมั่นไส้  แล้ว...แล้ว...เมื่อเช้ามันก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้เข้ามาสระผม  เช็ดผมให้..แบบ..ไอ้เวย์ตามเกมส์คุณชายมันไม่ทันเลยครับ
“ยังไงวะ”
“ไม่รู้  กูถึงได้มาถามมึงไง”
“อย่าโง่ได้มั้ยครับเพื่อนเวย์  ทุกวันนี้นอกจากมึง กูไม่เห็นมันยุ่งกับใครเลย  ขนาดกูเป็นเพื่อนนะ  มันยังไม่สนใจจะคุยด้วย  เชี่ย  ลำเอียง”
“....แต่มัน” 
“ข้าวก็ซื้อมาประเคน  ไปไหนก็มาคอยรับส่ง  บนเตียงก็ปรนนิบัติรับใช้เป็นอย่างดี  เชื่องราวหมาตัวน้อยๆ  มึงยังจะไม่พอใจอะไรอีก”
“มันก็...”
“ก็อะไร  ทั้งรักทั้งดูแลเอาใจใส่ขนาดนี้  มึงจะเอายังไงอีก  ดูอย่างกูดิ  กว่าจะได้ไปเอาใจแฟนสักทีก็ต้องถ่อไปถึงญี่ปุ่นโน้น”  ไอ้นุมันใส่อารมณ์เต็มที่พาลไปถึงเรื่องมันกับไอ้แชมป์  จนผมเริ่มนึกเสียใจที่เลือกปรึกษาคนอย่างมัน 
“เอ่อ..”
“แล้วไง  ทีนี้มีปัญหาอะไรอีก” โธ่  ไอ้ตัวเลือกสุดท้าย  ถ้าไอ้แชมป์อยู่นะ  กูจะไม่ถามมึงเลย  แต่..เอาวะเสียค่าขนมให้มันไปตั้งเกือบร้อย  ไม่ได้คำตอบที่อยากได้ผมก็ขาดทุนแย่ดิ  อีกอย่างไอ้คำถามข้อนี้  นอกจากมันผมก็ไม่กล้าถามใคร

“..เมิงว่า...กูจะให้อะไรมันดีวะ  วาเลนไทน์นี้อ่ะ”  ผมก้มหน้าถามเบาๆ อายชิบ  บอกตามตรง!!  แต่ว่า..ก็ไอ้ไนท์เดี๋ยวนี้มันเป็นฝ่ายให้ผมอย่างเดียวเลย  ผมก็แค่อยากตอบแทนมันบ้างตามประสาคนที่แม่อบรมมาอย่างดี แค่นั้นจริงจริ๊งครับ  ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลยนะ
“เชี่ย  ถามเป็นสาวน้อยเริ่มมีความรักเชียว  ฮ่าๆ” ไอ้นุเอามือกุมหัวหัวเราะอย่างน่าเอาซ้อมจิ้มตาแตก
“สัด  ตอบดีๆ”
“ถ้าตอบในฐานะเพื่อน...ซื้ออะไรก็ซื้อๆ ไปเหอะ  มันดีใจทั้งนั้นแหละ  ถ้ามึงเป็นคนให้  แต่ถ้าตอบในฐานะผู้ชายที่มีแฟนเหมือนกัน  ก็ต้องตอบว่า.....”  มันทำหน้าเจ้าเล่ห์  แล้วกระซิบข้อความที่ทำให้ผมเปลี่ยนสภาพเป็นกาต้มน้ำที่กำลังเดือดได้ที่   ถลึงตามองไอ้คนให้คำแนะนำที่กำลังหัวเราะจนแทบจะลงไปชักดิ้นชักงอตรงหน้าอย่างหมั่นไส้ 
“จริง  ถ้ามึงทำได้นะ  กูรับรอง  มันจะหลงมึงเพิ่มเป็นอีกสิบเท่า”
มึงคิดว่ากูจะโง่เชื่อมึงเมื่อครั้งก่อนๆ หรือไงครับ  เพื่อนนุ
กูเจ็บแล้วจำนะ  โง่แล้วก็ฉลาดได้
คำแนะของมึง......กูขอน้อมรับไว้...และจะ
ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด


ตอนค่ำไอ้ไนท์ขับรถพาผมไปกินข้าวที่พารากอน  ก่อนจะพากลับคอนโดมันเพราะวันนี้แม่นิ่มไปต่างจังหวัด  มันไม่อยากให้ผมอยู่บ้านคนเดียว  มือจับพวงมาลัยเลี้ยวเข้าลานจอดรถอย่างชำนาญ  ขณะที่ผมยังนั่งคิดฟุ้งซ่านกับอาการอ่อนโยนผิดปกติของมัน  ก็ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูของคนที่เดินมาเปิดประตูว่า
“คืนนี้  ขอขวัญวาเลนไทน์ล่วงหน้านะ”  ก่อนเจ้าของคำพูดจะกดจูบหนักๆ บนแก้มของผม
ไอ้ไนท์...นี่มึงผีเข้าหรือกูผีออกกันแน่วะ  ทำไมบทมันจะดี  ก็ดีใจหายอย่างนี้ล่ะเว้ยเฮ้ย

ผมเดินเข้าห้องมันอย่างคุ้นเคย  กลิ่นหอมๆ แต่ไร้ชีวิตชีวาบัดนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น  คุ้นเคยไม่ต่างจากบ้านตัวเอง  ว่าแล้วก็ทำตัวเป็นเจ้าของบ้านด้วยการกระโดดไปนอนบนโซฟาหน้าทีวี  มือก็กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ  มวยปล้ำ..ไม่เอาอ่ะ  ตอนนี้ผมอยากอยู่ให้ห่างจากอะไรปล้ำๆ ที่สุด  ฟุตบอล..เอ่อ..ถ้าจำไม่ผิด  ไอ้ลูกโทษกับการยิงประตูนี่ก็ไม่ค่อยถูกโฉลกกับผมเหมือนกัน  เอ๊ะ..นี่เลยๆๆ  น้องญาญ่า  เด็กอะไรก็ไม่รู้ครับน่ารักจริงๆ  ผู้หญิงในอุดมคติผมเลย  ตัวเล็กๆ  ผมยาว  น่ารักเป็นแบบธรรมชาติ  หูย  อย่ายิ้มมากครับน้อง  พี่หัวใจจะวาย
“น้ำลายจะไหลแล้ว”  เสียงทุ้มดังขึ้นข้างตัว   มันจะยกหัวผมขึ้นแล้วแทรกตัวเข้ามานั่ง  จับหัวผมวางลงบนตักตัวเอง  ผมแข็งขึ้นทันทีครับ  หมายถึงตัวแข็งอ่ะนะ  เห็นมั้ย!!  เชื่อผมรึยังว่าไอ้ไนท์มันแปลก  แปลกเด็ดๆ  แปลกสุดๆ  แปลกจนหัวใจผมเต้นแรงโคตรๆ  แรงกว่าเห็นน้องญาญ่ายิ้มไม่รู้กี่เท่า  พอผมขยับตัวจะลุกมันก็กดหัวผมไว้กับตักตัวเองแล้วลูบเบาๆ  พ่อแก้วแม่แก้ว  ถ้าอะไรก็ตามสิงไอ้ไนท์มันอยู่  ก็ได้โปรดอยู่กับมันไปนานๆ นะครับ  ผมจะแผ่ส่วนบุญให้ทุกวันเลย
“น่ารักนะ”
หืม?  มันเปรย?  ผมเหลือบตามองมันเห็นมันจ้องจอทีวีแล้วยิ้ม  เท่านั้นแหละครับไอ้อารมณ์อยากแผ่ส่วนบุญของผมหมดไปเลย  เล่นมาชมน้องญาญ่าต่อหน้ากูได้ไงเล่า  นิสัยแย่  ไอ้ไนท์มึง..ฮ่วย  ไม่เคยได้ดั่งใจ
“ขาว”
เออ  ไอ้บ้า  มึงชอบแบบนั้นใช่มั้ย  กูก็ขาวนะ  มึงจะดูตรงนี้เลยไหมล่ะ  แม่ง
“หุ่นดี”
ใช่สิ  น้องเขาหุ่นดี  สวย  เออ  กูมันแบน  แม่ง..หรือมึงจะให้กูไปทำนมห้ะ! เอาให้มันใหญ่จนต้องคลานไปไหนมาไหนเลยมั้ย  ฮือ  เจ็บใจ
“ตาโต  ปากก็สวย  น่าจูบ”
เท่านั้นแหละครับผมหมดความอดทน  ลุกพรวดจากตักมัน  ไม่อยากนั่งฟัง  เออ..หึงอ่ะ  มีไรไหม  ตอนนี้ผมอยู่ในฐานะที่พอจะหึงมันได้นะ  เพราะฉะนั้น..งอนโว้ย  พอผมผละจะเดินหนีไอ้บ้าที่นั่งชมผู้หญิงคนอื่นหน้าตาเฉยมันกลับดึงมือผมไว้แล้วฉุดไปนั่งตักตัวเอง  มันก็คงให้อารมณ์น่าใจเต้นอยู่หรอกนะครับถ้ามันไม่ชมน้องญาญ่าจนผมหัวเสียขนาดนี้  น้องญาญ่าเขาน่ารักเกินไป  แสนดีเกินไป  ไม่เหมาะกับไอ้คนไร้หัวคิด  นิสัยไม่ดีอย่างมึงหรอก  คนอย่างมึงน่ะ..ต้องอยู่กับกูเท่านั้นแหละ  ฮึ่ย!
“จะไปไหน”
“...”  ไปให้พ้นจากน้องญาญ่า
“งอนอะไรน่ะ  หือ?” มันเอาคางมาเกยไหล่ผม  แล้วโยกตัวไปมา  ไนท์ครับ..คือกูยี่สิบเอ็ดแล้ว  ไม่ใช่เด็กห้าขวบ  ง้ออย่างนี้มันจะได้เรื่องไหม
“เปล่าเว้ย  เอารีโมทมาดิ๊  จะเปลี่ยนช่อง”  สิ้นคำโวยวายของผมไอ้ไนท์มันก็หัวเราะออกมาเบาๆ  น้านนน  ดูมัน  ยังไม่สำนึก  เออ  ไม่สำนึกใช่ไหม  ไม่เคยรู้เลยใช่ไหมว่าที่มึงพูดน่ะทำให้กูเสียใจ  เสียความรู้สึก  มึงไม่รู้ใช่ไหม เออ..งั้นก็เลิกงอนแล้ว  เหนื่อยเปล่า   มันก็เป็นของมันอย่างนี้มาตลอดนั่นแหละ  ผมก็ควรจะชิน  พอผมถอนหายใจอย่างปลงๆ เท่านั้นแหละไอ้ไนท์มันก็จับตัวผมพลิกเข้าหาตัวเอง  แล้วใช้นิ้วเกลี่ยแก้มผมเบาๆ
“ขาว” มันพูดขณะที่ผมยังคงมองมันอย่างอึ้งๆ และไม่เข้าใจ
“หุ่นดี” ทีนี้มันดึงเสื้อผมออกจากกางเกง  โดยที่ผมก็ยังคงนั่งนิ่งๆ  จ้องหน้ามันเหมือนสมองไม่สั่งการให้ขัดขืนเมื่อมือมันไล้ขึ้นมาแนวสันหลัง
“ตาโต  ปากก็สวย  ...น่าจูบ”  ริมฝีปากเย็นๆ กระซิบชิดริมฝีปากของผมที่คงกำลังสั่นเหมือนทุกครั้ง  ก่อนที่มันจะเลื่อนมาประกบกันไว้อย่างนุ่มนวล  ผมไม่ได้หลับตา  มันเองก็สบตาผม  ลิ้นเปียกชื้นรุกรานเข้ามาเชื่องช้าโดยที่ผมขยับเปิดทางให้  มือมันยังคงลูบหลังผมแล้วกระชับเข้าหาตัว   จูบของมันเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ  พอๆ กับสายตาที่ทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายหลับตาก่อนเพราะเห็นความปรารถนามากมายในดวงตาคู่นั้น  นาน...กว่ามันจะปล่อยผม  ผมหอบหายใจอย่างหนัก  ไอ้บ้านี่มันคงไม่คิดจะฆ่าผมด้วยจูบใช่ไหม  จูบเอาๆ ไอ้ผมก็ไม่ขัดขืน  เออ..พอกันทั้งผมทั้งผม  จูบกันอย่างกับทำสงคราม
ไอ้ไนท์ใช้นิ้วโป้งลูบริมฝีปากที่เพิ่งผ่านศึกของผมอย่างแผ่วเบา  ผมเงยหน้าสบตามันแล้วก็แทบอยากวิ่งหาหลุมหลับภัย  รู้ตัวเลยครับว่าสงครามของจริงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
“ตอนแรกก็ว่าจะให้กินข้าวก่อน  แต่ไม่ต้องแล้ว  อยากมองสาวดีนัก  ทนหิวไปแล้วกัน” 

……………………………………………….
(ฉากอัศจรรย์ 
...........................................................................


วันวาเลนไทน์สุดท้ายของชีวิตมหาลัยของผม  ไม่รู้จะบอกว่ามันสดชื่นเป็นพิเศษดีมั้ย  ไม่เอาดีกว่าครับ  เราเป็นชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม  ต้องเก๊กขรึมไว้  อย่าดีใจออกนอกหน้า  เดี๋ยวไอ้คนที่เดินยิ้มเป็นบ้าอยู่ข้างตัวนี่มันจะได้ใจ  แต่ดูเหมือนผมจะทำไม่สำเร็จ  เพราะแทนที่มันจะหุบยิ้ม  กลับกลายเป็นว่ายิ้มกว้างขึ้นๆ จนหลุดหัวเราะออกมา   ฟรายยย  เห็นกูอายนี่มันสนุกนักใช่มั้ย  ไอ้บ้าเอ๊ย  ไอ้นุนะไอ้นุ  แม่ง  เสี้ยมกูมาได้  ฮืออ  แม่ง  อายโว้ย  ก็..อารมณ์มันพาไปนี่ครับ!

   “พี่ไนท์คะ  ช่วยรับนี่ไว้ด้วยคะ” อาการหน้าจะระเบิดของผมมีอันชะงักลงชั่วคราว  เมื่อน้องผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยื่นกล่องสีชมพูขนาดพอดีมือให้ไอ้ไนท์  แหม  อิจฉาโว้ย  เดินผ่านประตูมายังไม่ทันถึงสิบก้าว  มีคนวิ่งเอาของขวัญมาให้ซะแล้ว  ผมเงยหน้ามองคนข้างตัว  เห็นมันกำลังมองผมอยู่เหมือนกัน  อ้าวก็รับไปสิครับ  มามองกูทำไม
 “กูรับไว้ได้มั้ย” ขออนุญาตกูเพื่อ?
“เอ้า  ก็รับไปสิวะ”
“ได้เหรอ” มันทำหน้าเครียดแล้วถามย้ำ  เล่นเอาผมแทบจะเหวอไปเลย  เป็นอะไรของมันวะ  ทุกปีๆ ก็รับจนแทบจะต้องแบกกลับไปแล้วทีนี้ดันมาถามผม  หรือสมองมันจะเริ่มแฮงค์
“...ไนท์  มึงเพี้ยนไปแล้วเหรอ  มาถามกูทำไม”
“น้องครับ  สงสัยต้องขออนุญาตพี่เวย์ก่อนนะ”  อ้าวๆๆ  ทำไมโยนมาให้กูอย่างนั้นล่ะครับ  ไอ้คุณไนท์  เขาให้มึง  อย่ามาโยนให้กูสิ  กูไม่เกี่ยวเว้ย  ผมยิ้มแหยๆ ให้น้องที่นอกจากจะไม่หน้าเสียแล้วยังหันมายิ้มกว้างขออนุญาตผมอีก
“เอ่อ  พี่เวย์คะ  หนูให้ของกับพี่ไนท์ได้มั้ยคะ”
“ห้ะ  ได้ครับๆ  เชิญเลยๆ  ไอ้ไนท์  รับสิวะ”  ผมหันไปสะกิดมัน  กลับต้องเจอสายตาพิฆาตส่งตอบกลับมา  อ้าว  กูผิดอะไรอีกวะเนี่ย  อารมณ์แปรปรวนจริงคุณชาย
“โทษทีนะ  ช่วยใส่ไว้ในล็อกเกอร์พี่ได้มั้ย  พอดีมีเรื่องสำคัญต้องทำต่อ  ส่วนมึง  มานี่เลย”  ว่าแล้วมันก็ลากผมออกมา  ไอ้ผมนอกจากจะงงว่าไปทำอะไรให้มันโกรธแล้ว  ยังงงด้วยที่น้องเขาส่งเสียงกรี๊ดเบาๆ แล้วโบกมือให้กำลังใจผม  ไอ้ไนท์พาผมมาหยุดข้างตึกเรียนที่ค่อนข้างปลอดคน
“ทำไมมึงไม่ห้าม”
“ห้ามอะไรวะ”
บอกตรงๆ ครับว่างง  คือตอนนี้ผมควรจะตอบอะไรและควรทำยังไง   ไอ้ไนท์มันเดาะลิ้น  กลอกตาไปมาเหมือนเริ่มจะรำคาญ  อ้าว..อย่าเพิ่งโมโหนะมึง  ก่อนอื่นมึงต้องอธิบายให้กูเข้าในสถานการณ์ก่อน  ไม่งั้นกูไหลไม่ถูก  ตอนนี้ถึงขึ้นไปไม่เป็นเลย
“ต่อไปนี้ถ้ามีใคร  ผู้หญิงคนไหนเอาของมาให้กู  มึงต้องห้ามเพราะกูไม่อยากรับ”  ห้ะ!!  ช่วยบอกผมหน่อยว่าไอ้คำสั่งนี้มันออกมาจากปากไอ้ไนท์จริงๆ ไอ้ไนท์ที่เปลี่ยนแฟนยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าคนนั้น  “แล้ว...ถ้ามีใครเอาของมาให้มึง  กูจะห้ามเอง  เข้าใจมั้ย” ...ไม่  ไม่เข้าใจ  ไม่เข้าใจอย่างแรง  สรุปว่ามึง  มึงมันเพี้ยนไปแล้วไอ้บ้า
“เข้าใจมั้ย”  มันถามเสียงดุ
“..เอ่อ..อือ”  เข้าใจมั้ง  คือมึงขี้เกียจถือของ  เลยจะให้กูถือให้  เอ๊ย  ให้กูปฏิเสธ  ส่วนกูก็ห้ามรับของใคร  เพราะมึงจะได้ห้าม  อ้ะ  หรือยังไง  โว๊ยยยย  มึง...กูไม่อยากจะแกล้งโง่เลยนะเว้ย  แต่จะให้ตีความว่า...ว่า..มึง  เอ่อ..กู  มันจะดีเร้อ
“ที่บอกว่าเข้าใจน่ะ  เข้าใจความหมายหรือเปล่า”  มันดึงผมตรงท้ายทอยให้ผมเงยหน้าขึ้น  โหย  บอกกดีๆ ก็ได้ครับ  ทำท่าได้อันธพาลหาเรื่องมาก  แต่ว่าตามันทำเอาผมพาลไม่อยากมีเรื่องซะเฉยๆ  พอจะก้มหน้าหลบมันก็ดึงผมไว้เหมือนรู้ใจ  ครับ  ยอมรับก็ได้ว่าเข้าใจ!!  แต่ไม่กล้าจะคิดต่อเท่านั้นเอง
“ถ้ายังไม่เข้าใจ  งั้นมานี่...”  ว่าแล้วมันก็เริ่มลากผมอีกครั้ง  ผมก็ปล่อยตามใจ  ที่จริงผมเข้าใจความหมายของมัน  เข้าใจว่าตอนนี้ผมเดินล้ำเส้นที่มันเคยกั้นไว้เข้ามาแล้ว  แต่ไม่รู้สิครับ  ผมกลัว...อย่างที่ไม่รู้เหมือนกันว่ากลัวอะไร  ไม่มั่นใจอะไร  ตัวเองหรือมัน  หรือความสัมพันธ์นี้   มันอาจจะฟังดูตลก  ทั้งที่รอคอยมาตลอดแต่กลับไม่กล้าพอจะไขว่คว้าไว้  ผมมันขี้ขลาดเกินไปหรือเปล่า
ผมเพียงแต่ไม่ชินกับความใจดีของมัน  ไม่ชินที่มันให้ความสำคัญผมกว่าใครๆ  ไม่ชินที่สามารถหึงมันได้  หวงมันได้   หรือเพราะผมยังคงติดใจเสมอว่าเพราะมันจำไม่ได้  มันถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้  แล้วเกิดวันหนึ่งมันจำได้ขึ้นมา  ถ้ามันจำสัญญาของเราได้  สัญญาที่ผมรับปากจะเป็นเพื่อนกับมันไปตลอดชีวิต  ถ้ามันจำเรื่องของพ่อกับแม่มันได้  มันจะยังเป็นเหมือนทุกวันนี้ไหม  มันจะยังยอมให้ผมก้าวไปอยู่ในอาณาเขตของตัวเองได้อีกไหม
   
………………………………………………..
ไนท์เปลี่ยนไป!!!!  เดี๋ยวมาต่อค่ะ   ขอโทษด้วยที่ลงช้าเพราะว่าเพิ่งสอบเสร็จแต่รายงานยังไม่เสร็จ  อ้อ  เห็นมีหลายคนสอบถามเข้ามาว่าเรื่องราวตอนที่ไนท์จำเวย์ไม่ได้จะมีต่อไหม  นุ่นยังไม่ยืนยันนะคะ  แต่อาจจะมีให้บทส่งท้ายซึ่งเป็นไนท์ทอล์ก   แล้วก็ภาพประกอบในหนังสือพี่ยิ้มอาจจะทำให้ไม่ทัน  เพราะฉะนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นสมุดบันทึกเล่มเล็กแทนนะคะ ^^
สำหรับรายชื่อคนที่สั่งจองและโอนเงินแล้ว  จะทำตารางหลังวันที่สิบห้านะคะ  คือต้องทำรายงานปลายภาคให้เสร็จก่อนค่ะ T^T


ปล. ขอบคุณที่ช่วยพรูฟให้นะคะ
หัวข้อ: Re: The end ปลายทางแห่งการรอคอย [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 06-03-2011 03:13:00
ฮ่าๆ  เวย์น่ารักเหมือนเดิมม :กอด1: แต่เอ๋อได้ตลอด ตามไนท์ไม่เคยทันจริงๆ
-------
ตอนนี้เจอคำผิดเยอะเลย ท่าทางพี่นุ่นงานเยอะจริง ยังไงก็สู้ๆนะคะ  :L2:
ฟังคำตอบของผมจบ  ไอ้นุมันก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างที่ผมต้อง > ต้องการ รึเปล่าคะ
เข้ามาเมืองตาหลิ้วให้ยักคิ้วตามไง > ตาหลิ่ว
แต่..เอาวะเสียขอขนมให้มันไปตั้งเกือบร้อย > ค่าขนม
ไอ้นุเอามือกุมหัวหัวเราะอย่างน่าอะซ้อมจิ้มตา > เอาส้อม
ว่าแล้วก็ทำตัวเป็นข้าวของบ้าน > เจ้าของ
“น้ำลายจะไหลแล้ว”  เสียงทุ่มดังขึ้นข้างตัว > เสียงทุ้ม
ไม่เหมาะกับไอ้คนไร้ตัวคิด > หัวคิด
มันก็เป็นอย่างมันอย่างนี้มาตลอดนั่นแหละ > ของมัน รึเปล่าคะ
ไอ้นุนะไอ้นุ  แม่ง  เสี่ยมกูมาได้ > เสี้ยม
หัวข้อ: Re: The end ปลายทางแห่งการรอคอย [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 06-03-2011 12:56:05
ชื่อเรื่องเปลี่ยนแฮะ ระวังคนอ่านงงนะคะ เอาWaitขึ้นก่อนดีกว่ามั้ง อิๆ

ที่เข้ามานึกว่ามีเรื่องใหม่ชื่อใหม่นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The end ปลายทางแห่งการรอคอย [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 06-03-2011 14:12:32
ขอบคุณค่ะ  เดี๋ยวแก้นะ

ปล. ชื่อเรื่องมันเปลี่ยนเหรอคะเนี่ย  แก้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 06-03-2011 14:58:59
กร๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หนูเวย์จ๋า ไนท์เขาจำเรื่องเมื่อก่อนได้หมดแล้วเถอะ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 06-03-2011 15:20:35
กรี๊ดดดดดดดดด......

ไนท์น่ารักมากก...


นุกับแชมป์ด้วย...
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 06-03-2011 16:19:39
รอวันได้รับหนังสือ อิ อิ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: jenjad99 ที่ 06-03-2011 22:50:36
ยังไงก็รอคะ

เรื่องนี้โดนสุด ๆ

นึกว่าจะไม่มาต่อแล้วนะคะเนี่ย

ดีใจจังเลย เมื่อกี้อ่านผ่าน ๆ แล้วเห็นอะไรแวบ ๆ 

ย้อนกลับ ๆ 5/03/54

นึกว่าตาฝาด
เย้ ๆ  ได้อ่านแล้ว o18
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 07-03-2011 02:15:50
เห็นวันอัพแล้วตกใจ..นึกว่าอ่านผิด อิอิ

ไนท์เวย์กลับมาแล้ว  รอต่อไปอย่างมีความหวังค่ะ

ว่าแต่ :-[  ฉากอัศจรรย์ เค้าอยากอ่านอ่า   ว่าAV ชิดซ้ายนี่เป้นไงเหรอค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 07-03-2011 03:04:48
มารอตอนจบด้วยคนนน

เราคงจะสั่งจองภายในเดือนนี้แหละจ้า  ยังไงก็อย่าเพิ่งรีบปิดน้าา

หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pu4755 ที่ 08-03-2011 14:48:57
เราแจ้งโอนเงินไปเรียบร้อยแล้วนะ ^_^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 08-03-2011 15:57:54
ตามหาฉากอัศจรรย์ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 08-03-2011 20:43:08
รักนิยายเรื่องนี้ไปแล้วอ่ะ ทำไงดี  :L2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 08-03-2011 23:23:19
ยังไม่จบไม่ใช่เหรอ??
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: vutloor ที่ 09-03-2011 00:58:10
รออ่านตอนจบงะ ค้างๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kazama ที่ 09-03-2011 02:30:54
อ่ะ...อ้าว  อีกนิดเดียวจะจบแล้ว

ค้างไปเลย

ไนท์ลากไปไหนนั่น ><


ขอบคุณมาก สนุกดีจ้า
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pu4755 ที่ 09-03-2011 11:17:32
wait wait wait wait
รอ  รอ  รอ  รอ  รอ  รอ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 09-03-2011 12:50:36
ไนท์น่ารักขึ้นมากเลย
ปิดจองหนังสือสิ้นเดือนใช่มั้ย
ขอเวลาเก็บตังค์อีกแปปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: minigj ที่ 10-03-2011 16:42:37
จองตอนนี้ทันไหม  แล้วโอนเงินไงง่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-03-2011 01:49:43
รอตอนสุดท้าย และท้ายสุด ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 11-03-2011 18:08:49
เวย์เคยรู้เนื่องอะไรกะเค้าบ้างมั้ยเนี่ย?

มิน่าล่ะโดนไนท์มันถึงเอาเปรียบตลอดอ่ะ ๕๕
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Butterfly_Angle ที่ 11-03-2011 22:28:37
โอ้ว วว  รอวันได้หนังสือมากมาย ๆ  > <
กรี๊ดกร๊าด ด  อยากจะหักห้ามใจไม่ให้อ่านตอนนี้ เพราะจะไปอ่านในหนังสือเลย
เเต่ ! now ทนไม่ไหวเเล้ว ว > < อ่านเเล้วคลั่ง ! ไนท์เวย์ น่ารักเกินห้ามใจ

 
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบจ้ะ [5/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 12-03-2011 04:26:51


ไอ้ไนท์พาผมมาหยุดที่หน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง  ผมมองมันงงๆ ยังไม่ทันได้เปิดปากถามมันก็ดึงผมเข้าห้อง  ชะอุ๊ย!  สถานการณ์เหมือนจะล่อแหลม  สักพักมันต้องปิดประตู  น่าน..ปิดแล้ว  จากนั้นไฟต้องดับ  ฝนตก  ทั้งมืดและอากาศเย็น  เราสองคนจึงได้ให้ไออุ่นกันและกัน  ตาสบตา..มือประสานมือ  แล้ว..
“หน้าลามกว่ะ  บอกไว้ก่อนนะว่ากูไม่ได้พามาเปลี่ยนบรรยากาศ  แต่ถ้ามึงจะสานต่อเรื่องเมื่อคืน...”
“อ่ะ..อะไรเล่า  เชี่ย  มึง  ปาก...”  ดูมันพูดครับ  โคตรใส่ร้าย  ผมแค่นึกถึงตอนมือประสานแล้วนอนลงเท่านั้นเอง  ยังไม่ทันได้เริ่มให้ความอบอุ่นอะไรเลย  หน้าจะลามากได้ไงถามหน่อยเหอะ   แล้วไอ้สานต่อเรื่องเมื่อคืนอะไร  ไอ้เวย์ขอสาบานด้วยเกียรติของสมาคมคนหน้าโง่เลยว่า  ต่อไปมันจะไม่มีอีกแล้ว!
“หึ  ตัวเองก็ออกจะชอบแท้ๆ” มันยกยิ้มมุมปากอย่างที่โคตรหล่อในสายตาผม  อ้าว  แล้วกูจะชมมันเพื่อ?
“ไอ้เชี่ยไนท์”  ผมสบถด่ามันด้วยความเขิน  ใจก็นึกไปถึงไอ้ตัวดีเจ้าของคำแนะนำ ไอ้นุ  ไอ้เพื่อนรัก  พรุ่งนี้เถอะมึง กูจะแสดงความรักกับมึงให้ถึงอกถึงตีนเลย
“หน้าแดงไปถึงหูแล้ว” ผมสะดุ้งเมื่อมือที่ค่อนข้างชื้นเหงื่อสัมผัสกกหูผมแล้วคลึงเบาๆ   สายตากับรอยยิ้มที่เดี๋ยวนี้ชักมีบ่อยขึ้นชวนให้ผมหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนจะเป็นไข้  ไอ้ไนท์...มันต้องเจ้าชู้ประตูดินชัวร์  ถึงจะรู้มานานแล้ว  แต่ ณ เวลานี้  ขอย้ำว่า  มันโคตรเจ้าชู้!
มันดึงแขนผมให้เดินไปยังโต๊ะเรียนตัวหลังห้องซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่าง  มองออกไปข้างนอกคือลานอเนกประสงค์ที่มักใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ภายในคณะ  มันนั่งลงแล้วดึงผมให้นั่งบนตักตัวเอง  เดี๋ยวนี้มันชักจะหน้าด้านใหญ่แล้วครับ
“กูไม่เมื่อย  จะยืน”
มันไม่ตอบ  แต่ไม่ยอมปล่อยผมแถมยังยื่นหน้าเอาคางมาเกยไหล่อย่างหน้าตาเฉย  ลมหายใจร้อนๆ บริเวณซอกคอทำให้ผมนิ่งโดยอัตโนมัติ  จริงๆ แล้วก็เริ่มชินกับอาการแสดงออกแบบไม่เลือกที่ของมันแล้วล่ะครับ  แต่ไอ้บรรยากาศอย่างกับจะสร้างโลกส่วนตัวเนี่ย  ผมยังไม่ค่อยอยากจะชินไปกับมันสักเท่าไร
“มึงพากูมาที่นี่ทำไม”
“มึงรู้มั้ย  ตอนเจอกันครั้งแรก  มึงปากเสีย  กวนตีนมาก  จนกูหมั่นไส้”
“อ้าว  ก็ตอนนั้นมึงกวนกูก่อน” ผมรีบเถียงกลับแทบจะในทันที  มั่นใจว่าตัวเองแม้จะอยู่เฉียดๆ กับคำว่า “กวนตีน” แต่ก็ไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแน่นอนครับ  จำได้ว่าตอนนั้นไอ้ไนท์มันชอบมองหน้าหาเรื่องผม  ไม่ยกคิ้วก็ยกปาก  แล้วสายตามัน  เหอะ  ไม่รู้รอดยำตีนมาจนป่านนี้ได้ยังไง
“กูพยายามจะพูดดีๆ กับมึงแล้วนะ  แต่มึงพอเจอหน้ากูก็ตั้งท่าจะด่ากูตลอด”
“มึงต่างหากชอบกัดกู”  ผมบ่นอุบอิบ  พลางยกนิ้วเกาจมูก  นึกตามมันก็ยอมรับอย่างไม่เต็มใจครับว่า  ตอนนั้นไม่ถูกชะตากับมัน  เห็นช่องหน่อยไม่ได้  ผมแอบด่ามันตลอด  ถึงแม้หน้าตามันจะชวนให้ใช้เป็นโมเดลสร้างลูกก็เถอะ 
“แต่ที่ห้องนี้  มึงพูดดีๆ กับกูเป็นครั้งแรก”
“หืม?”
“หน้าแดง  พึมพำขอยางลบกู”  ยางลบ?  อ้อ  ตอนนั้น..คิดแล้วก็อาย  นั่นน่ะถ้าไม่ใช่เพราะจะสอบแล้วไม่มีใครที่รู้จักนั่งอยู่ใกล้ๆ นอกจากมันนะ  ผมไม่ยอมเสียฟอร์มไปขอมันหรอก  เอ๊ะ  แต่จริงๆ ตอนนั้นก็ไว้ฟอร์มพอควรอยู่เหมือนกันนะครับ  ผมถือคัตเตอร์ไว้ในมือเสร็จสรรพ  แล้วบอกมันว่า  ‘ขอแบ่งยางลบครึ่งหนึ่ง’  ยังจำหน้ามันได้เลยครับตอนที่เลิกคิ้วมองผม  แล้วเลื่อนสายตาไปเจอมีดคัตเตอร์ในมือผม  มันหลุดหัวเราะ  ทำให้หน้ามู่ๆ ในสายตาผมดูอ่อนโยนขึ้นเยอะ  ผมไม่รอให้มันอนุญาตก็จัดการตัดแบ่งยางลบเป็น 70 – 30 แน่นอนว่าผมต้องได้มากกว่าเพราะอุตส่าห์ข่มความอายไปขอมัน  ไอ้ไนท์เห็นยางลบที่มันได้คืนแล้ว  นอกจากจะไม่โกรธอย่างที่ผมแอบหวังไว้  ยังหัวเราะออกมาซะอย่างนั้น  เล่นเอาคนขออย่างผมเสียเซล์ฟไปแล้ว

“ตอนนั้นกูคิดว่ามึงตลกดี”  อ้อ...ไอ้ที่ขำนั่นน่ะเหรอ  กูก็นึกว่ามึงเครียดจนเพี้ยนไปแล้วเหอะ
ผมยิ้มให้มัน  ไอ้ไนท์แตะแก้มผมให้มองไปนอกหน้าต่าง  เห็นลานอเนกประสงค์ที่ยังมีคนเดินอยู่ประปราย  แล้วพูดว่า
“ที่ลานนั้น  ถ้ามึงยังจำได้ สมัยปีหนึ่งมึงต้องเดินเอาขนมไปให้ไอ้ลักกี้ทุกวันก่อนกลับบ้าน  แล้วบางทีก็อยู่เล่นกับมันจนเย็น”  ไอ้ลักกี้  ก็ไอ้หมาก้นด่างตัวนั้นไงครับ  ไอ้หมาผู้มีพระคุณที่ผมใช้เป็นข้ออ้างตอนมาปฐมนิเทศสาย  ถ้ามันไม่บังเอิญผ่านมา  มุกช่วยหมาตกพุ่มไม้ของผมกับไอ้นุคงเหลวไม่เป็นท่าไปแล้ว  ฉะนั้นเมื่อมีเวลาผมก็มักจะพยายามตอบแทนบุญคุณมันเสมอครับ “ตอนนั้นกูยังนึกว่ามึงเป็นพวกขาดความอบอุ่น  ไม่อยากกลับบ้าน  หึ  แล้วก็เลยกลายเป็นว่ากูต้องหาอะไรทำอยู่จนเย็นทุกวัน  รอมึงเล่นกับหมาเสร็จ”
ไอ้บ้า  คนอย่างกูมีแต่แบ่งปันความอบอุ่นให้กับคนอื่นเว้ย  แต่ผมก็เพิ่งรู้นะครับว่าที่เจอมันตอนเย็นบ่อยๆ นั่น  เพราะมันนั่งดูผมเล่นกับหมา  ว่างจริงนะพ่อคุณ  เห็นผมเป็นของแปลกไปได้  ตอนปีหนึ่งที่เริ่มสนิทกันนอกจากเรื่องบาสก็คงเพราะ “บังเอิญ” เจอมันตอนเย็นนั่นแหละ
แต่เดี๋ยวนะ ไอ้ไนท์..นี่มัน  เรื่องตอนปีหนึ่ง!!  ผมตาโตหันขวับไปมองมันอย่างต้องการคำอธิบาย  ก็ในเมื่อมันจำอะไรไม่ได้  แล้วมันรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน
“น่ะ..ไนท์”
“อย่าเพิ่งพูด  ไปที่อื่นต่อกัน”
ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก  ในใจยังสับสนไปหมด  เมื่อมันยื่นมือมาปัดผมตรงหน้าผากให้อย่างแผ่วเบา  ก่อนจะลากผมออกจากห้อง  ในสมองผมยังมีแต่ภาพตอนปีหนึ่งหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย  บางอย่างอุ่นวาบในหัวใจคล้ายความหวังอะไรสักอย่างที่ผมเองก็ไม่แน่ใจ  รู้สึกขอบตาร้อนผ่าวจนผมต้องกระพริบถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตาออกไป  ไนท์...มึงจะไม่ทำให้กูผิดหวังอีกครั้งใช่ไหม

ผมเดินตามแรงลากของมันจนมาหยุดอยู่สระกว้างข้างหอประชุม  ก่อนเข้ามาเรียนที่นี่ผมได้ฟังเรื่องเล่ามาหลายเรื่อง  หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของสระนี้  ว่ากันว่าถ้าใครได้มาลอยกระทงด้วยกันจะได้เป็นแฟนกัน  แต่คนที่เป็นแฟนกันอยู่แล้ว  ถ้าลอยด้วยกันก็จะเลิกกัน  เรื่องเล่าที่พิสูจน์มาแล้วว่าไม่จริงครับ
 “วันลอยกระทงที่กูไม่มีทางลืมคือตอนปีหนึ่ง ตัวมึงตกไปพร้อมกระทง”  ไอ้ไนท์ทอดสายตามองตรงพร้อมรอยยิ้มบางๆ เหมือนกำลังนึกภาพวันนั้น  สายตามันอ่อนลงจนผมนึกว่าตัวเองตาฝาด  ปกติมันมองผมอย่างนั้นเหรอ?
“ตอนนี้นึกแล้วก็ขำ  ตอนนั้นกูขำไม่ออก  เพราะมึงป่วยแล้วดื้อจะมา สุดท้ายก็ต้องห้ามส่งโรงพยาบาล” มันหันมาสบตาผม  แถมยังส่งสายตาดุๆ มาให้ทั้งที่เรื่องก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว  ผมไม่ตอบ  ที่จริง  ปฏิกิริยาตอบสนองของผมดูเหมือนจะพากันหยุดทำงานเอาเสียดื้อๆ  ไนท์มันจำได้แล้ว  ผมเชื่อว่าอย่างนั้น  เชื่อว่ามันจำได้จริงๆ จากสายตาของมัน  และคงจำได้ด้วยตัวเอง  ไม่ได้ไปฟังจากใครมา  ความรู้สึกของผมอธิบายได้ยากครับ  เหมือนจะดีใจแต่ก็ยังไม่สุด  เหมือนจะสมหวังแต่ก็ยังมีความกังวลเคลือบอยู่บางเบา  และอาจจะมีความโกรธ  ความน้อยใจอยู่ด้วยเช่นกัน
“มึงอาจไม่รู้  แต่กูเป็นห่วงมึงมาก” 
ผมสบดวงตาที่เหมือนจะยิ้มได้ของมัน  ใจสั่นแปลกๆ ด้วยคำพูดตรงๆ เพียงประโยคเดียว  ตอนนั้นไม่รู้  ไม่รู้จริงๆ  แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว  ไม่ว่าอยู่ในฐานะอะไร  มันก็เป็นคนแรกที่ช่วยเหลือผมเสมอ
ที่ต่อมาคือโต๊ะมานั่งยาวที่ผมชอบแอบโดดเรียนมางีบหลับ  เพราะลมพัดเย็นดี  บวกกับมีต้นไม้ใหญ่ค่อยกันแดด  แถมมองขึ้นก็จะเห็นห้องเรียนประจำทำให้ง่ายต่อการส่งซิก  เมื่อมีเรื่องด่วนอย่างเช่นอาจารย์แจกเทสย่อยกะทันหัน
“โต๊ะตัวนี้  มึงทำให้กูหึงด้วยการนอนมองหน้ากับไอ้นัท”  มันว่าแล้วนั่งลงแนบแก้มกับโต๊ะจนผมหลุดขำ  เมื่อผู้บรรยายไม่พูดเปล่าแต่ถึงขนาดลงทุนสาธิตด้วยตัวเอง  ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ แล้วเลียนแบบมันด้วยการสวมรอยเป็นพี่นัท  ปิดท้ายด้วยการทำใจกล้าตบแก้มมันเบาๆ   
“ตอนนั้น  กู  ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังหึง  เพียงแต่ไม่เคยร้อนใจเท่านั้นมาก่อน”  ฟังมันพูดจบ  ความใจกล้าผมก็ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว  เพราะความอายมันมีมากกว่า  เออเว้ย  ดูสลับกันชอบกล  เมื่อก่อนผมยึดคติด้านได้อายอด  ดับเครื่องชนเดินหน้าเข้าหามันตลอด  แต่พอเจอพ่อคนดีมันรุกหนักๆ  เครื่องมันก็ชักไม่ไหวครับ  ผมกลายเป็นนักมวยใจไม่สู้ที่พออีกฝ่ายต่อยมา  ก็ได้แต่โยกหลบท่าเดียว
“ดีแล้ว  ที่มันไปเมืองนอก  กูจะได้วางใจ”
   นั่งให้ลมพัดเย็นๆ จนผมเริ่มเคลิ้ม  ไอ้ไนท์ก็ฉุดผมลุกขึ้นเดินทัวร์ต่อ  ได้แต่หวังว่ามันคงไม่บ้าจี้พาผมระลึกความหลังจนทั่วมหาลัย
   มันพาผมมาสนามบาส  แล้วเดินไปหยิบไอ้ลูกกลมสีส้มเพื่อนสนิทของผมและมัน  ก่อนจะโยนมาให้  มันยิ้มให้ผม  ผมยิ้มตอบมันแล้วเริ่มเดาะบอลตรงไปใต้แป้น  ชู้ตลงไปอย่างง่ายดาย  โดยมีไอ้ไนท์ยืนมองยิ้มๆ  ผมจับบอลแล้วส่งไปให้มันบ้าง  มันโยนยาวจากเขตสามคะแนนลงห่วงดังสวบก่อนที่เกมส์ของจริงระหว่างเราสองคนจะเริ่มขึ้น
   ตอนนี้ผมบอกตัวเองว่าจะไม่คิดอะไร  นอกจากเล่นบาสให้สุดเหวี่ยง  ให้เต็มที่อย่างที่ไม่ได้เล่นด้วยกันสองคนมานาน  ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมจะขอรอคำอธิบายจากมัน  ไอ้การผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใครอย่างนี้ทำให้นึกถึงตอนปีหนึ่งครับ  ตอนนั้นไอ้ไนท์มันยั่วโมโหผมด้วยการบอกว่าผมเตี้ย   คงจะเล่นบาสไม่ได้เรื่อง  ไอ้ผมก็ของขึ้นง่ายท้าแข่งบาส กับมัน  สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าเล่นเข้าขากันมากกว่าคนอื่นๆ จนได้จับคู่ซ้อมกันอยู่บ่อยๆ  รู้ตัวอีกทีก็สนิทกับมันไปซะแล้ว  และเพราะมันใส่เสื้อผมลงแข่งจนได้แชมป์มานั้น  ทำเอาผมตกหลุมที่มันไม่ได้ตั้งใจขุดไปเต็มๆ  จนตอนนี้ปีสี่แล้วก็ยังปีนขึ้นมาไม่ได้เสียที  เพราะฉะนั้นไอ้ลูกกลมๆ ลูกนี้ ผมจะยกตำแหน่งแม่สื่อกิตติมศักดิ์ให้มันแล้วกัน
   เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไร  แต่คงนานพอสมควรกับเหงื่อที่เปียกชื้นไปหมด  ผมยอมแพ้  ทิ้งตัวลงนอนกลางสนาม  หอบหายใจอย่างหนัก  ดูท่าจะต้องกลับไปฟิตร่างกายอย่างเร่งด่วนครับ  เสียงหอบหายใจข้างๆ ทำให้ผมรู้โดยไม่ต้องลืมตาว่าไอ้ไนท์มันมานอนแผ่หราอยู่ใกล้ๆ  รอจนมันรับอ็อกซิเจนไปหล่อเลี้ยงหัวใจจนร่างกายเริ่มสงบลงแล้วจึงพูดว่า
 “มึงทั้งอวดดี  ดื้อ  ไม่ยอมคน  ตัวเล็กแค่นี้แต่ดันวิ่งทั่วสนาม  แถมยังเข้าขากับกูได้ดีสุดๆ  ตอนเป็นกัปตันก็ตีหน้าขึงขังทั้งที่ไม่มีใครเคารพสักหน่อย”  มันหัวเราะออกมาเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวันนี้  สายตาที่ทอดมองมาดูอ่อนโยนไม่ปิดบัง  จนผมแทบอยากจะควักลูกตามันเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ความรัก   “กูคอยแต่จะมองมึงเพราะมึงตลกดี  ดูแล้วสบายใจดี  อยู่กับมึงแล้วกูไม่มีเบื่อเลย”  หยอดเสร็จ  ยังมีการเอื้อมมาเช็ดเหงื่อให้ผม  ณ เวลานี้  ต่อให้โลกแตก  ผมก็ยอมแล้วครับ  ยอมมันอย่างไม่มีมาด  ไม่มีฟอร์ม  ยอมรับกันตรงๆ แล้วเอ้าว่า  ผมโคตรแพ้ทางมัน  ยิ่งมันทำอย่างนี้  ไอ้เวย์เหมือนโดนหมัดน็อคเอาท์ครับ  เคโอแบบไม่ต้องนับ  เห็นดาวแล้วขึ้นสวรรค์ในทันใด
“รู้มั้ยตอนที่กูคิดว่ามึงน่ารัก”  มันพึมพำเบาๆ ผมเห็นหูมันแดง  หรือมันจะเขินวะ?  “ตอนที่รู้ตัวว่าคงชอบมึงเข้าให้แล้ว  กูไม่ตกใจเลย  กลับดีใจด้วยซ้ำที่คนๆ นั้นเป็นมึง  ถ้าไม่มีเรื่องของพ่อซะก่อน  กูคงไม่ต้องปล่อยให้มึงรอนานขนาดนี้”
“ไนท์...” ผมครางออกมาด้วยความอึ้ง  พูดอะไรไม่ออกนอกจากเรียกชื่อมัน  รู้สึกเหมือนความหนักอึ้งในใจคลายลง  มันบอกว่ามันไม่เสียใจที่รักผม  ผมเข้าใจอย่างนั้นได้ใช่ไหม  ไอ้ไนท์เอื้อมมือมากุมมือผมไว้หลวมๆ  ผมบีบตอบมัน  เอ่ยถามทั้งที่หัวใจบีบรัดแน่นกับคำตอบที่กำลังจะตามมา
 “มึงจำได้ตั้งแต่เมื่อไร”
“สักพัก” 
แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกูตอนนี้  คือสิ่งแรกที่ผมนึก  และดูเหมือนมันจะเข้าใจความคิดผม  มันบอกว่า
“ขอโทษที่เพิ่งบอกมึง  แต่กูอยากให้เวลาพ่อ  และตัวเอง  ตอนที่กูเริ่มจำได้  กู..”  มันถอนหายใจเหมือนไม่รู้จะอธิบายให้ผมฟังยังไงดี  ผมบีบมือมันอีกครั้งอย่างเข้าใจ  ผมคิดว่าตัวเองพอจะเข้าใจความรู้สึกมัน  ถึงจะไม่ทั้งหมด  แต่เข้าใจว่ามันคงยากจะทำใจยอมรับเรื่องพ่อ  รวมทั้งให้อภัย  เพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมามันไม่เคยทำได้ สภาพมันหลังจากแม่มันเสีย  ผมก็ยังจำได้  รวมถึงสัญญาที่มันเคยขอจากผมไว้ในวันนั้นด้วย
“แล้วตอนนี้”
“ไอ้ชินบอกกูแล้ว”
“แล้วมึงไม่โกรธ?” มันนิ่งไปสักพัก  แล้วถอนหายใจอีกรอบก่อนจะตอบว่า
“ตอนแรกก็โกรธ  แต่ตอนนี้กูคิดได้แล้ว”  ผมเงียบรอฟัง  ขณะที่มันเองก็กำลังใช้ความคิด  อดแปลกใจไม่ได้ที่ไอ้ชินมันตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ไอ้ไนท์ฟัง  ทั้งที่มันจะปิดเงียบก็ได้ในเมื่อไอ้ไนท์มันก็จำอะไรไม่ได้  แล้วก็เข้ากับลุงนพได้ดี  ภาพครอบครัวกับรอยยิ้มของลุงนพที่ผมไม่ได้เห็นมานาน ก็ได้เห็นตลอดในช่วงหลายเดือนมานี้  หรือมันจะรู้สึกผิดจนต้องพูดออกมา?  ความคิดผมหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคล้ายจะสั่นของคนข้างๆ
“มึงรู้มั้ย  ตอนกูอยู่โรงพยาบาล  ตอนกูกำลังจะตาย  กูได้ยินเสียงมึง  เห็นหน้ามึง...มึงคนเดียว”  อาจจะเพราะคำพูดของมัน  หรือเพราะน้ำเสียงเจ็บปวดที่น้อยครั้งจะได้ยินทำให้ขอบตาผมร้อนแผ่ว  ยิ่งนึกถึงตอนที่มันนอนนิ่ง  ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล  เข็มน้ำเกลือและเครื่องช่วยหายใจ  นึกถึงตอนที่หัวใจมันหยุดเต้น  นึกถึงความรู้สึก...ของการสูญเสียแล้วผมจึงได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ   อยู่ตอนหน้ามันผมรู้สึกเหมือนตัวเองทั้งอ่อนไหวและอ่อนแอ  แปลก...ที่คนๆ หนึ่งมีอิทธิพลต่อเราขนาดนั้น  มากจนเหมือนชีวิตครึ่งหนึ่งแขวนอยู่กับมัน  ความรู้สึกที่เหนือการควบคุมของเหตุผลที่ต่อให้อกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  คนเราก็ยังคงยอมแลกเพื่อให้ได้รักใครสักคนและเพื่อให้ได้ความรักนั้นกลับมา
“ถ้าตอนนั้น  ถ้ากูตายไปจริงๆ  กูคงเสียใจมาก”  ผมรู้สึกว่าน้ำตาไหลออกมามากจนหยุดไม่ได้  อาการสะอื้นน้อยๆ นั้นก็เช่นกัน  เหมือนเขื่อนความรู้สึกที่เก็บกดมานานได้รับการปลดปล่อย  มันทั้งเชี่ยวกรากและรุนแรงจนคล้ายหัวใจจะพังเสียให้ได้
“เสียใจที่ปล่อยให้มึงรอตั้งหลายปี  เสียใจที่ดื้อดึงจะเป็นเพื่อนกับมึงทั้งที่มึงสำคัญกว่านั้น  เสียใจที่ทำให้มึงต้องร้องไห้”  มันเช็ดน้ำตาที่ไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ ให้ผม  ยิ่งมันเช็ด  ผมยิ่งร้อง  ทั้งที่อยากจะหยุดแล้วพูดอะไรมากมายกับมัน  อะไรมากมายที่เก็บไว้มาตลอด   ผมอยากจะบอกให้มันรู้  ความรู้สึกทั้งหมดของผม  ทั้งหมด...ที่มันควรจะรับรู้มาเนิ่นนาน  แต่ไอ้น้ำตาบ้าๆ นี้กลับทำให้ผมไม่สามารถพูดออกไปได้อย่างใจ  ไอ้ไนท์ขยับมากอดผมไว้  กอดแน่นจนผมรู้สึกได้ถึงร่างกายทุกส่วนที่สัมผัสกัน  แล้วมันก็กระซิบประโยคที่ยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักขึ้น  ร้องไห้เหมือนคนบ้าทั้งที่ควรจะดีใจที่สุด
“เวย์  มึงจะช่วยลืมสัญญาของเรา  แล้วรับความรักจริงๆ จากกูได้มั้ย”
ผมกอดตอบมัน  มือก็ขย้ำเสื้อมันแน่น  นี่ใช่ไหมที่รอมาตลอด  คำพูดนี้ใช่ไหมที่อยากได้ยิน  ผมพูดไม่ออก  เพียงแต่พยักหน้าอยู่กับไหล่มัน   จากนี้ไปผมจะมีที่ยืนที่มั่นคงอยู่ข้างๆ มันโดยไม่ต้องถูกเส้นบางๆ ที่เรียกว่า “เพื่อน” คอยกั้นอีกแล้วใช่ไหม?  นับจากนี้ผมจะรักมันได้อย่างหมดหัวใจแล้วใช่ไหม
“ขอบคุณที่รอ  กูรักมึงนะ” 
เวลานั้นผมได้ยินคำบอกรักที่ฟังแล้วดีใจที่สุด  อบอุ่นใจที่สุด  พร้อมกับจูบที่อ่อนโยนที่สุด
   การรอคอยของผมสิ้นสุดลงแล้ว  แต่คำว่าเพื่อน..ผมคิดว่าจะคงอยู่ตลอดไป  มันจะเป็นคำที่ได้ยินแล้วไม่เจ็บปวดอีกต่อไป  เพราะมันกลายเป็นจุดเริ่ม  เป็นสิ่งที่คอยประคับประคอง  และที่พักที่ปลอดภัย
   อาจจะนานไปสักหน่อย  แต่ผมอยากบอกว่า

ดีแล้วที่ผมได้รอ…
ดีแล้วที่ได้รัก...

..............................................................................

หลังจากตอนนี้  ยังมีบทส่งท้ายให้อีกตอนหนึ่ง  เป็นตอนที่ชื่อว่า “let’s get married” ค่ะ  ตัวละครสำคัญเกือบทั้งหมดจะมาปรากฏในตอนนั้น  ทั้งพี่หมอ  น้องชิน  เป้เนม  นุแชมป์  และเวย์ไนท์   รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย  ยังไงก็รออ่านในหนังสือนะคะ  ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด 




ps.  เหมือนจะมีภาคสองค่ะในหนังสือ  ฮาๆ  ยังจองได้ถึงสิ้นเดือนในเมล sae_kikung แอด hotmail.com นะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-03-2011 11:29:48
อยากอ่านหนังสือแล้วววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 12-03-2011 13:31:18
ไชโย~~ ในที่สุดไนท์ก็คลายปมสุดท้ายในใจเวย์ได้ซักที!

น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เอาใจอิเจ๊ไปเต็มๆเลยค่ะ

 ขอ :กอด1: และ+1 ให้คนแต่งซะที
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pu4755 ที่ 12-03-2011 17:11:53
อ่านแล้วอยากอ่านเต็ม ๆ ในหนังสือจริง ๆ เลย

รอ รอ รอ ครับ หนังสือออกเมื่อไร คงได้

นั่งอ่านทั้งวันทั้งคืนแน่ ๆ ^_^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 12-03-2011 19:14:48
ไนท์จำได้แล้ววว ทีนี้เวย์ก็หมดเรื่องที่ต้องกังวลแล้วน้าา  :กอด1:
รอหนังสือค่าา อยากอ่านบทส่งท้ายเร็วๆ  :impress2:

คำผิดค่ะ
หน้าจะลามากได้ไงถามหน่อยเหอะ > ลามก
สุดท้ายก็ต้องห้ามส่งโรงพยาบาล > หาม
ที่ต่อมาคือโต๊ะมานั่งยาว > ม้านั่ง
บวกกับมีต้นไม้ใหญ่ค่อยกันแดด > คอย
อยู่ตอนหน้ามันผมรู้สึกเหมือนตัวเองทั้งอ่อนไหว > ต่อหน้า
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 12-03-2011 20:17:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 12-03-2011 22:20:53
@Iriz   ขอบคุณสำหรับคำผิดค่ะ  จะได้แก้ในหนังสือ  ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rawint_PK ที่ 13-03-2011 05:04:10
เอิ่ม.
เมนท์ไม่ถูก
รู้แต่ว่า
น้ำตาซึมมม
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 13-03-2011 12:01:49
สมกับที่รอคอย สนุกมากก ซึ้งอ่ะ น้ำตาซึมเลย
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: gkyoai ที่ 14-03-2011 14:52:44
โคตรชอบพี่เวย์เลยอะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: tokun ที่ 14-03-2011 22:26:08
ได้ทั้งรอยยิ้ม คราบน้ำตา และเสียงหัวเราะ แบบว่าครบทุกอย่าง

อยากได้หนังสือ :z3:แต่ไม่รู้จะหาทุนได้มั้ย :เฮ้อ:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆฮับ :L2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 15-03-2011 15:38:20
.......จริงๆติดตามนิยายเรื่องนี้มาแต่แรกละ  ตั้งแต่ตอนแรกก็รู้สึกชอบ  ตอนคนเขียนหายไปก็ยังรอติดตามอยู่
พอกลับมา.. กลายเป็นว่าตัดไปตอนจบทีเดียว แล้วเนื้อเรื่องไปติดตามเอาในนิยาย  จากที่อ่านมาหลายๆเรื่องส่วนใหญ่ตอนพิเศษเพิ่มนั้นเค้าจะลงในหนังสือมากกว่า
นี้ก็เพิ่งรู้หล่ะ ว่า ต้องไปอ่านภาคสองเอาในเล่มเท่าันั้น   ...
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 15-03-2011 16:39:09
ได้ฟังคำว่ารักซะทีนะ
ปล่อยให้เวย์รอตั้งนานเลย(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/015-2.gif)
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: babyfaibossy ที่ 15-03-2011 17:21:24
รุ้ว่ารัก แต่จำไม่ได้ - ไนท์นี่เจ๋งดีแท้ 55+
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-03-2011 01:37:00
ความจริงกระจ่างแล้ว
ไนท์เท่สุดๆ เลยตอนนี้ หวานมาก
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 16-03-2011 11:20:03
+1 ค่ะ
อ่านจบแล้ว
สุข เศร้า ซึ้ง ประทับใจมากค่ะ o13
ส่งเมลล์ไปจองหนังสือแล้วนะคะ

หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 16-03-2011 22:34:05


อ่า.. ขอตอบนิดนึง

คือไม่ใช่ว่าตัดจบค่ะ

เรื่องมันจบแล้วจริงๆ  ภาคสองมันไม่มีมาตั้งแต่แรกเพราะนุ่นไม่ได้แต่ง  เนื่องจากตัน
ตอนนี้ก้ยังไม่แน่ว่าจะมีหรือเปล่าค่ะ เพราะยังไม่ได้แต่ง

เพียงแต่ว่ามีคนอ่านเรียกร้องมาก็เลยบอกวว่า "อาจจะ" ทำให้เท่านั้น

อ่า..นะคะ 

แล้วที่จริง  มันก็ไม่ใช่ภาคสองหรอกค่ะ  เป็นแค่ตอนเป็นพิเศษของไนท์ที่เนื้อหาลิงค์ไปถึงตอนที่ไนท์จำไม่ได้เท่านั้นเอง ^^

เพราะฉะนั้น  ถึงไม่ซื้อหนังสือก็อ่านจบจนได้เหมือนกันค่ะ  อย่าเครียดนะคะ  ยังไงก็จบแบบนั้นแหละค่ะ  Hapy ending เอาใจกันสุดๆ แล้ว

สำหรับคนที่สั่งหนังสือ  เดี๋ยวจะทำแบบสอบถามอีกทีค่ะว่ายินดีรอหนังสือเพิ่มขึ้นอีกสักสองอาทิตย์มั้ย  คือจากสิ้นเดือนเมษา  เป็นกลางเดือนพฤษภา
ถ้ายินดีรอก็จะแต่งไนท์ทอล์กให้  ถ้าไม่ก็เอาตอนพิเศษเท่าเดิม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Asuke ที่ 18-03-2011 20:46:34
สุดท้ายก้แฮปปี้นะครับ

ขอให้รักกันไปนานๆนะครับ :call:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 20-03-2011 03:27:01
 :pig4: ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีที่แต่งมาให้อ่านนะค้ะ


ชอบมากมายเลยจริง ๆ ให้นิยามรักแท้ได้ดีจริงเชียว


นี่แหล่ะน้าคู่แท้ ที่ไม่ว่าจะมีอุปสรรค หรือเส้นใยบาง ๆ มากั้นไว้ยังไง


ก็สามารถก้าวผ่านมาได้ด้วยดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: namwaan1992 ที่ 20-03-2011 21:09:43
ยังอ่านม่ะจบเล้ยยยย ย ><

อยากอ่านต่อ.....แต่ต้องไปนอนแล้วๆ  เจอกันพรุ่งนี้นะคร้าบๆ

'พี่ไวท์.....เดย์&ไนท์'

(ขออนุญาติเรียกพี่ีนะครับ  พี่แก่กว่าผมใช่ป่าว TT^TT)
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: rachanok ที่ 21-03-2011 10:12:07
โอนเงินและแจ้งรายละเอียดไปทางmailแล้วนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 21-03-2011 21:15:10
โอนเงินแล้วนะ แจ้งไปทางเมลแล้ว
...Last Jung
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 25-03-2011 15:28:53
เพิ่งได้มาตามอ่านค่ะ +1แต้มให้กับความน่ารักของน้องเวย์..

ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 26-03-2011 01:44:08
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้หวังว่าจะได้อ่านตอนจบเลยนะเนี่ย

ซึ้งอ่ะ ดีใจที่จำได้แล้วTT^TT และเคลียร์ใจทุกอย่าง

สวดยวด
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: YYY ที่ 26-03-2011 14:04:02
โอนเงิน+แจ้งโอนไปแล้วทางเมล์นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: aunny ที่ 26-03-2011 21:26:29
เราแจ้ง โอนเงิน เกิน 5 วัน แล้วอะ ยังไม่ได้รับเมล์ ตอบกลับเลย รบกวนเช็คเมล์ด้วยนะค
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 27-03-2011 21:14:59


Night’s Talk Confirmed!!
ที่นุ่นเคยเกริ่นๆ ไว้ว่าอาจจะมีเรื่องราวในช่วงที่ไนท์ความจำเสื่อม  สรุปว่า...มีค่ะ ^_^
เนื่องจากตอนนี้พล็อตไม่ตันแล้วซะอย่างนั้น  แต่ว่าคงจะไม่ได้ยาวถึงขนาดเป็นภาคสองขึ้นมานะคะ  จะเป็นคล้ายๆ ตอนพิเศษสักสามถึงสี่ตอนก่อนจะเป็นบทส่งท้าย  ให้นายเวย์มันได้เอาคืนคุณชายไนท์บ้างอะไรบ้างเพื่อความเท่าเทียม
ฉะนั้น...ผลที่ตามมาก็คือ
1.   อาจจะไม่มีภาพประกอบแล้ว  หรืออาจะมีน้อยลง  ตามแต่ความสามารถของคนวาด  นิยายเรื่องนี้นุ่นไม่ได้ทำคนเดียว  มีพี่ๆ น้องๆ ช่วยวาด ช่วยพรูฟ และแต่งตอนพิเศษด้วย  ดังนั้นอะไรๆ ก็ยังไม่แน่นอนค่ะ  คนวาดเพิ่งสอบเสร็จ  คนพรูฟก็กำลังงานเข้า  ส่วนคนเขียนก็กำลังฝึกงาน  ลำพังแต่งตอนพิเศษของชายไนท์เพิ่มก็แทบจะไม่ทันแล้ว  ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ
2.   หนังสือจะล่าช้าไปสองอาทิตย์โดยประมาณ (ถ้ามันไม่ต้องแก้ไขมาก)  จากสิ้นเดือนเมษาไปเป็นพฤษภา  เพราะนุ่นจะส่งต้นฉบับให้ fast book ในวันที่ 18 เมษา  (ปีนี้โรงพิมพ์ปิดสงกรานต์สิบวันค่ะ  คือเปิดวันที 19  เลยกะจะถือโอกาสนี้แต่งเพิ่มอีกสักสามสี่ตอน)
3.   กำหนดโอนเงินและสั่งจองขยายไปถึงวันที่ 15 เมษาค่ะ

ตารางรายชื่อคนโอนเงินจะรีบทำให้นะคะ  ต้องขอโทษจริงๆ ที่ตอนนี้ไม่มีเวลาเลย  T^T
สำหรับที่คนรอ Skinship นุ่นแอบเข้าไปดูเห็นมีคนแอดไว้เยอะแล้ว เคยมีประสบการณ์เป็นหมอนข้างให้ใครหรือเปล่าเนี่ย  ฮ่า  ยังไงช่วยรอช่วงหลังสงกรานต์นะคะ  จะเริ่มอัพให้ค่ะ
และสำหรับคนที่คิดถึงเวย์ไนท์ มีเพลงตอนพิเศษมาฝาก  ฮ่าๆๆ  รับรองว่าฟังแล้วต้องนั่งอมยิ้มแน่นอน  ชื่อเพลง Lucky ของ Jason Mraz & Colbie Caillat ค่ะ  นุ่นจะแปลใส่ไว้ในตอนพิเศษ
เจอกันค่ะ


http://www.youtube.com/watch?v=LQCY2zL0Jr8


ตอบคุณ aunny  นุ่นตอบเมลแล้วเมื่อครู่นี้ค่ะ

หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: insane_mesa ที่ 30-03-2011 19:58:39

ขอบคุณมากจ้า


สนุกมากอะ o13 o13

ทั้งลุ้น ทั้งเครียด ทั้งฮา  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ซึ้งมาก :m15:

หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: golddragon ที่ 31-03-2011 20:41:12
ตามอ่านรวดเดียวจบอย่างเอาเป็นเอาตาย   :เฮ้อ:

เป็นนิยายที่อยากมีเก็บไว้เป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง     คือส่งเมลไปแล้วรบกวนช่วยตอบเมลด้วยนะค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: sogato ที่ 31-03-2011 21:45:42
โอบเงินให้แล้วนะคะ รอตอบกลับค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 02-04-2011 03:40:21
อ่านทีเดียวจบ 43หน้าเลยค่ะ 

ร้องไห้

ทั้งจากเรื่อง และ จองนิยายไม่ทัน
มาช้าไป
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 07-04-2011 19:13:37
เอ่อ แล้วตอนนี้จองไม่ได้แล้วหรอเนี่ย
อ่านจบแล้ว เสียดายฉากncในหนังสืออ่า
สนุกมากเลย แต่ไม่มีตังค์ T^T
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: rabbitta ที่ 08-04-2011 21:06:02
เพิ่งเห็นว่าให้จองค่ะ ส่งขอรายละเอียดการจองไปแล้ว ช่วยเปิดดูให้ด้วยนะค้า
กล้วโอนมิทันอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: namwaan1992 ที่ 09-04-2011 14:13:46
คือไรเตอร์คับๆ   ไอ้ Wait II นี้  จะมีในหนังสือไหมอ่ะคับๆ   อยากรู้อ่ะๆ  ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-04-2011 15:05:36
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 12-04-2011 20:06:28
เพิ่งอ่านจบเมื่อกี้ สนุกมากมาย
นายเอกน่ารักจังทั้งโก๊ะทั้งกวนเป็นที่สุด
พระเอกก็หล่อเท่ได้ใจ
ทั้งฮาทั้งน่ารักแต่บทจะเศร้าก็แอบทำเราน้ำตาไหลเลยทีเดียว
 o13
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ตอนจบ2จ้ะ [12/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 13-04-2011 18:30:01

คือจะเอารูปร่างของปกเล่มแรกให้ดูแต่ใส่ไม่เป็นอ่าค่ะ 55+

ลงลิงค์แทนแล้วกันนะคะ

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=448527&chapter=43


ปล. จองและโอนเงินวันสุดท้ายวันที่ 15 นะคะ ^__^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 13-04-2011 21:38:11
+1 เป็น 100พอดีเลย  :-[

กรี๊ดกร๊าดกับปกด้วยคนค่าาาา ไนท์หล่อ เวย์น่าร๊ากกกกก  :m3:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: inhyung ที่ 16-04-2011 14:24:44
น่ารักมากเลยอ่า

เวย์ ไนท์  เหมาะสม ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kut ที่ 18-04-2011 18:46:17
สั่งจองหนังสือ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pepopyj ที่ 20-04-2011 18:32:41
จองและโอนเงิน ส่งเข้าเมลล์แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: panis ที่ 04-05-2011 15:46:14
หนังสือเสร็จยังคะ  จะจัดส่งได้ ประมาณวันไหนคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 11-05-2011 11:39:24
มาสวบถามความคืบหน้าของหนังสือค่ะ เห็นว่าน้องนุ่นเงียบหายไปเลย
ขออัพเดทเพื่อให้ได้รับทราบด้วยนะคะ
ไงก็มาให้เห็นในกระทู้บ้างก็ดีค่ะ  อัพเดททั้งสองที่เลยดีกว่า :L2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล$
เริ่มหัวข้อโดย: na_near ที่ 17-05-2011 13:50:59
^
^
^
เห็นด้วยกลับรีข้างบนค่ะ

แล้วก็โอนเงินไปแล้ว รับpmแล้วด้วยค่ะ แต่เพื่อความแน่ใจจะตรวจpmย้อนหลังแต่หายไปหมดเลย
เลยไม่แน่ใจว่า ตัวเองมีรายชื่อคนที่โอนตังไปแล้วรึป่าว ถ้ายังไงช่วยส่งpmมาบอกได้ไหมค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-05-2011 15:25:31
ส่งข่าวเกี่ยวกับหนังสือหน่อยก็ดีนะคะ
มีปัญหาติดขัดอะไร ยังไง
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 19-05-2011 01:44:37
อันนี้เป็นรายชื่อคนโอนเงินค่า
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=448527&chapter=44
ส่วนอันนี้เป็นความคืบหน้าของหนังสือนะคะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=448527&chapter=45
ปล.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เขียนนะคะ พอดีเข้าไปเช็คในเด็กดีเห็นพี่เค้าอัพความคืบหน้าไว้ เลยเอามาลงให้ค่า เผื่อบางคนไม่ได้เล่นที่เด็กดีเน้อ  :L2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล$
เริ่มหัวข้อโดย: na_near ที่ 19-05-2011 17:11:16
ฮู้  :เฮ้อ:โล่งอกไปโอนแล้วๆ ขอบคุณ@Iriz มากค่ะ  :pig4:

หนังสือสวยน่าอ่านรูปน่ารักมากค่ะ  ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 21-05-2011 19:08:18
หุหุ ชอบแนวนี้เหมือนกันค่ะ เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน  :laugh: :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 21-05-2011 22:25:59
 อยากได้ลายเซ็นต์ด้วยอ่ะ ทันไหมเนี่ย T_T
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-06-2011 23:18:27
เพิ่งได้อ่าน สนุกมากมาย
เราชอบตอนจบแบบภาคแรกนะ รู้สึกดี ซึ้ง น้ำตาซึมเลย
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: uuro ที่ 06-06-2011 10:24:28
เข้ามาถามเรื่องหนังสือด้วยคน โอนไปนานแล้วเหมือนกันเนาะ ยังไงอัพรายชื่อคนโอนด้วยก็จะดีมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: whitedemon ที่ 06-06-2011 13:11:36

เริ่มส่งหนังสือไปวันนี้แล้วค่ะ 

ถ้าใครไม่มีรายชื่ออัพเดต  รบกวนช่วยแจ้งด้วยนะคะ

   ชื่อ   จำนวน   รับเอง/ไปรษณีย์   ราคารวม   ชำระเงิน   หมายเหตุ
1   zenail   1   ไปรษณีย์   650.01      
2   Nutupz   1   ไปรษณีย์   650.02   โอนแล้ว   
3   ladyji   1   ไปรษณีย์   650.03   โอนแล้ว   
4   wayyz   1   ไปรษณีย์   650.04   โอนแล้ว   
5   tsuyu   1   ไปรษณีย์   650.05   โอนแล้ว   
6   Toon   1   ตีพิมพ์ทางอากาศ   1,861.00   โอนแล้ว    U.S.A
7   Pmasszax   1   ไปรษณีย์   650.07   โอนแล้ว   
8   TTTT_TTTT   1   ไปรษณีย์   650.08   โอนแล้ว   
9   Nazezus   1   ไปรษณีย์   650.09   โอนแล้ว   
10   @Iriz   1   ไปรษณีย์   650.10   โอนแล้ว   
11   Canond   1   ไปรษณีย์   650.11   โอนแล้ว   
12   Tonlax   1   ไปรษณีย์   650.12   โอนแล้ว   
13   sogato   1   ไปรษณีย์   650.13   โอนแล้ว   
14   ดาวพเนจร   1   ไปรษณีย์   650.14      
15   mickii   1   ไปรษณีย์   650.15   โอนแล้ว   
16   sweet matter   1   รับเอง   600.16   โอนแล้ว   
17   WI_   1   ไปรษณีย์   650.17   โอนแล้ว   
18   mnutsu.always   1   ไปรษณีย์   650.18   โอนแล้ว   
19   krora2   1   ไปรษณีย์   650.19      
20   ฝน   1   ไปรษณีย์   650.20      
21   pinpin'   1   ไปรษณีย์   650.21   โอนแล้ว   
22   Lee05   1   ไปรษณีย์   650.22   โอนแล้ว   
23   panda   1   ไปรษณีย์   650.23   โอนแล้ว   
24   mimu   1   ไปรษณีย์   650.24   โอนแล้ว   
25   send   1   ไปรษณีย์   650.25   โอนแล้ว   
26   มานากะ   1   รับเอง   600.26   โอนแล้ว   
27   พี่งุงิ   1   ไปรษณีย์   650.27   โอนแล้ว   
28   elluna_zoldick   1   ไปรษณีย์   650.28   โอนแล้ว   
29   Toffy   1   ไปรษณีย์   650.29   โอนแล้ว   
30   maicy   1   รับเอง   600.30   โอนแล้ว   
31   OPPEE   1   ไปรษณีย์   650.31   โอนแล้ว   
32   yeyong   1   ไปรษณีย์   650.32   โอนแล้ว   
33   bigbeeboom   1   ไปรษณีย์   650.33   โอนแล้ว   
34   ณัฐพร ตี้กุล   1   ไปรษณีย์   650.34   โอนแล้ว   
35   กลม  ไชยสิทธิ์   1   ไปรษณีย์   650.35   โอนแล้ว   
36   jokirito   1   ไปรษณีย์   650.36   โอนแล้ว   
37   Tochiya   1   ไปรษณีย์   650.37      
38   waweewa   1   ไปรษณีย์   650.38   โอนแล้ว   
39   astral   1   ไปรษณีย์   650.39   โอนแล้ว   
40   eddiam   1   ไปรษณีย์   650.40   โอนแล้ว   
41   ลูกอมก้อนรสแมลงสาบ   1   ไปรษณีย์   650.41   โอนแล้ว   
42   Dream_SMC   1   ไปรษณีย์   650.42   โอนแล้ว   
43   คุณหนูโมโมะจัง   1   ไปรษณีย์   650.43   โอนแล้ว   
44   นู๋มิ้นท์จุง   1   ไปรษณีย์   650.44      
45   อัครวัฒน์ ธนาพรฯ   1   ไปรษณีย์   650.45   โอนแล้ว   
46   Butterfly_Angle   1   ไปรษณีย์   650.46   โอนแล้ว   
47   M.Akira   1   ไปรษณีย์   650.47   โอนแล้ว   
48   Saiyoman   1   ไปรษณีย์   650.48   โอนแล้ว   
49   Priew   1   ไปรษณีย์   650.49   โอนแล้ว   
50   na_near   1   ไปรษณีย์   650.50   โอนแล้ว   
51   mildmild   1   ไปรษณีย์   650.51      
52   .fog   1   ไปรษณีย์   650.52   โอนแล้ว   
53   ทอมเซอๆ   1   ไปรษณีย์   650.53   โอนแล้ว   
54   Ticha   1   ไปรษณีย์   650.54      
55   tika   1   ไปรษณีย์   650.55      
56   เนียง   1   ไปรษณีย์   650.56      
57   หมิว   1   ไปรษณีย์   650.57   โอนแล้ว   
58   tookkatah   1   ไปรษณีย์   650.58   โอนแล้ว   
59   teenoi   1   ไปรษณีย์   650.59   โอนแล้ว   
60   llDoc AuAire GM Pi   3   ไปรษณีย์   1,900.60   โอนแล้ว   
61   Adamant   1   รับเอง   600.61   โอนแล้ว   
62   K Rider   1   ไปรษณีย์   650.62   โอนแล้ว   
63   forte   1   ไปรษณีย์   650.63   โอนแล้ว   
64   RapunzelL   1   รับเอง   600.64      
65   Aree_Yong   1   ไปรษณีย์   650.65      
66   iForgive   1   ไปรษณีย์   650.66   โอนแล้ว   
67   Cipher   1   ไปรษณีย์   650.67   โอนแล้ว   
68   1andonly   1   ไปรษณีย์   650.68   โอนแล้ว   
69   nong   1   ไปรษณีย์   650.69   โอนแล้ว   
70   Haruhi   1   ไปรษณีย์   650.70   โอนแล้ว   
71   gonjung   1   ไปรษณีย์   650.71   โอนแล้ว   
72   Tw!n_kh   1   ไปรษณีย์   650.72   โอนแล้ว   
73   chaoyui   1   ไปรษณีย์   650.73   โอนแล้ว   
74   i_lost in..   1   ไปรษณีย์   650.74   โอนแล้ว   
75   โชติมา วิทยานิติพงษ์   1   ไปรษณีย์   650.75   โอนแล้ว   
76   มืด   1   ไปรษณีย์   650.76      
77   _oo_   1   ไปรษณีย์   650.77      
78   vava   1   ไปรษณีย์   650.78   โอนแล้ว   
79   ศรีภัสสร   1   ไปรษณีย์   650.79   โอนแล้ว   
80   นู๋มิ้นท์จุง   1   รับเอง   600.80      
81   Fluke GypsophillA   1   ไปรษณีย์   650.81   โอนแล้ว   
82   flyhigh   1   ไปรษณีย์   650.82   โอนแล้ว   
83   minmin96   1   ไปรษณีย์   650.83   โอนแล้ว   
84   kisskiss_kuru   1   ไปรษณีย์   650.84      
85   sagittarius   1   ไปรษณีย์   650.85   โอนแล้ว   
86   โยธิน ทวีแจ่มทรัพย์   1   ไปรษณีย์   650.86   โอนแล้ว   
87   aingagainst   1   ไปรษณีย์   650.87   โอนแล้ว   
88   chfa.rei   1   ไปรษณีย์   650.88      
89   genieposh   1   ไปรษณีย์   650.89   โอนแล้ว   
90   koko_iiz   1   ไปรษณีย์   650.90   โอนแล้ว   
91   DB   1   ไปรษณีย์   650.91   โอนแล้ว   
92   houtos   1   ไปรษณีย์   650.92   โอนแล้ว   
93   Last Jong   1   ไปรษณีย์   650.93   โอนแล้ว   
94   nunsmteky   1   ไปรษณีย์   650.94   โอนแล้ว   
95   Saji   1   ไปรษณีย์   650.95   โอนแล้ว   
96   luxifer_lost   1   ไปรษณีย์   650.96      
97   saueme   1   ไปรษณีย์   650.97   โอนแล้ว   
98   เจี๊ยบ   1   ไปรษณีย์   650.98   โอนแล้ว   
99   Chanannact   1   ไปรษณีย์   650.99      
100   FiZZ   1   ไปรษณีย์   651.00   โอนแล้ว   
101   Super_Tamo   1   ไปรษณีย์   651.01      
102   AutomaticLM   1   ไปรษณีย์   651.02   โอนแล้ว   
103   Kimaira-fire   1   ไปรษณีย์   651.03   โอนแล้ว   
104   DosTresCuatro   1   ไปรษณีย์   651.04   โอนแล้ว   
105   Milce   1   ไปรษณีย์   651.05   โอนแล้ว   
106   mooham   1   รับเอง   600.06   โอนแล้ว   
107   Withyoonho   1   ไปรษณีย์   651.07      
108   Minnie_min   1   ไปรษณีย์   651.08   โอนแล้ว   
109   minimumi   1   ไปรษณีย์   651.09   โอนแล้ว   
110   ไวไว   1   ไปรษณีย์   651.10   โอนแล้ว   
111   ปรมัตถะ   1   ไปรษณีย์   651.11      
112   rubbitmoon   1   ไปรษณีย์   651.12   โอนแล้ว   
113   wild adapter   1   ไปรษณีย์   651.13   โอนแล้ว   
114   P'T   1   ไปรษณีย์   651.14   โอนแล้ว   
115   thomo   1   ไปรษณีย์   651.15   โอนแล้ว   
116   P'Jan   1   รับเอง   600.16      
117   Pu4755   1   ไปรษณีย์   651.17   โอนแล้ว   
118   -kazu-   1   ไปรษณีย์   651.18   โอนแล้ว   
119   jagaimo   1   ไปรษณีย์   651.19   โอนแล้ว   
120   money_m_   1   ไปรษณีย์   651.20      
121   Newsattun   1   ไปรษณีย์   651.21   โอนแล้ว   
122   เคตะน้อย   1   ไปรษณีย์   651.22      
123   กลั่นกรอง   1   ไปรษณีย์   651.23   โอนแล้ว   
124   THE.SLAM   1   ไปรษณีย์   651.24   โอนแล้ว   
125   Mooyong   1   ไปรษณีย์   651.25   โอนแล้ว   
126   chen   1   ไปรษณีย์   651.26   โอนแล้ว   
127   ming   1   ไปรษณีย์   651.27   โอนแล้ว   
128   wp   1   ไปรษณีย์   651.28   โอนแล้ว   
129   pinkutako   1   ไปรษณีย์   651.29   โอนแล้ว   
130   kalos   1   ไปรษณีย์   651.30   โอนแล้ว   
131   mizuths   1   ไปรษณีย์   651.31   โอนแล้ว   
132   kiss koki   1   ไปรษณีย์   651.32   โอนแล้ว   
133   Poby   1   ไปรษณีย์   651.33      
134   Uonlii_I   1   ไปรษณีย์   651.34   โอนแล้ว   
135   ศิริพรรณ   1   ไปรษณีย์   651.35      
136   taisetsu   1   ไปรษณีย์   651.36   โอนแล้ว   
137   Pui   1   ไปรษณีย์   651.37   โอนแล้ว   
138   nongcin   1   ไปรษณีย์   651.38   โอนแล้ว   
139   Kwankaow   1   ไปรษณีย์   651.39   โอนแล้ว   
140   กางเกงในสีชมพู   2   ไปรษณีย์   1,280.40   โอนแล้ว   
141   ต้นหอมครองโลก   1   ไปรษณีย์   651.41   โอนแล้ว   
142   Kily*maniaque   1   รับเอง   601.42      
143   fusung   1   รับเอง   601.43   โอนแล้ว   
144   Asgard   1   รับเอง   601.44   โอนแล้ว   
145   sopapan   1   ไปรษณีย์   651.45   โอนแล้ว   
146   badcow   1   ไปรษณีย์   651.46      
147   gigne   1   ไปรษณีย์   651.47      
148   cartoon_nn   1   ไปรษณีย์   651.48      
149   rachanok   1   ไปรษณีย์   651.49   โอนแล้ว   
150   precious   1   ไปรษณีย์   651.50   โอนแล้ว   
151   Akad3ar   1   ไปรษณีย์   651.51   โอนแล้ว   
152   REI   1   รับเอง   601.52   โอนแล้ว   
153   chigi_py   1   ไปรษณีย์   651.53      
154   Jao_a   1   ไปรษณีย์   651.54   โอนแล้ว   
155   wp   1   ไปรษณีย์   651.55   โอนแล้ว   
156   nirun4   1   ไปรษณีย์   651.56   โอนแล้ว   
157   kamui   1   รับเอง   601.57   โอนแล้ว   
158   Lylies   1   ไปรษณีย์   651.58   โอนแล้ว   
159   yok nuttha   1   ไปรษณีย์   651.59   โอนแล้ว   
160   10 kk 23   1   ไปรษณีย์   651.60   โอนแล้ว   
161   สันติ   1   ไปรษณีย์   651.61      
162   oryunho   1   ไปรษณีย์   651.62   โอนแล้ว   
163   Achy   1   ไปรษณีย์   651.63      
164   phandora   1   รับเอง   601.64      
165   jutatan   1   ไปรษณีย์   651.65   โอนแล้ว   
166   deer   1   ไปรษณีย์   651.66   โอนแล้ว   
167   khunjan   1   ไปรษณีย์   651.67   โอนแล้ว   
168   PrettyAtom   1   ไปรษณีย์   651.68   โอนแล้ว   
169   ฟองน้ำ   1   ไปรษณีย์   651.69   โอนแล้ว   
170   goodjee   1   ไปรษณีย์   651.70      
171   NorniZ_kyomin   1   ไปรษณีย์   651.71   โอนแล้ว   
172   muyong   1   ไปรษณีย์   651.72   โอนแล้ว   
173   GaJta   1   ไปรษณีย์   651.73   โอนแล้ว   
174   none               
175   willow   1   ไปรษณีย์   651.75   โอนแล้ว   
176   ชนิสา   1   ไปรษณีย์   651.76   โอนแล้ว   
177   Paran   1   ไปรษณีย์   651.77   โอนแล้ว   
178   พริม   1   ไปรษณีย์   651.78   โอนแล้ว   
179   cascada   1   ไปรษณีย์   651.79      
180   jackykrub   1   ไปรษณีย์   651.80   โอนแล้ว   
181   matty   1   ไปรษณีย์   651.81   โอนแล้ว   
182   เจนจิรา   1   ไปรษณีย์   651.82      
183   aun   1   ไปรษณีย์   651.83   โอนแล้ว   
184   enjoy   1   ไปรษณีย์   651.84   โอนแล้ว   
185   auau   1   ไปรษณีย์   651.85      
186   Saint De Jupiter   1   ไปรษณีย์   651.86      
187   sarissa   2   ไปรษณีย์   1,281.54   โอนแล้ว   
188   sein   1   ไปรษณีย์   651.88   โอนแล้ว   
189   Shipperseconf   1   รับเอง   601.89   โอนแล้ว   
190   บุหรง   1   ไปรษณีย์   651.90   โอนแล้ว   
191   วาตานุกิ   1   ไปรษณีย์   651.91   โอนแล้ว   
192   Piloy   1   ไปรษณีย์   651.92   โอนแล้ว   
193   hkikomori   1   ไปรษณีย์   651.93   โอนแล้ว   
194   Dark_Dion   1   ไปรษณีย์   651.94   โอนแล้ว   
195   teetarkung   1   ไปรษณีย์   651.95   โอนแล้ว   
196   knightto   1   ไปรษณีย์   651.96      
197   ภัทราพร   1   ไปรษณีย์   651.97   โอนแล้ว   
198   seasun   1   ไปรษณีย์   651.98   โอนแล้ว   
199   ประภาศรี   1   ไปรษณีย์   651.99      
200   hwitaz   1   ไปรษณีย์   652.00   โอนแล้ว   
201   Mengyu   1   ไปรษณีย์   652.01   โอนแล้ว   
202   pepopyj   1   ไปรษณีย์   652.02   โอนแล้ว   
203   ริน   1   ไปรษณีย์   652.03   โอนแล้ว   
204   แมวน้ำงุงิ   1   ไปรษณีย์   652.04   โอนแล้ว   
205   sainthouse   1   ไปรษณีย์   652.05      
206   kaekii   1   ไปรษณีย์   652.06      
207   Ryze   1   ไปรษณีย์   652.07      
208   น้ำฝน   1   ไปรษณีย์   652.08      
209   หยก   1   ไปรษณีย์   652.09      
210   พิมสิรี   1   ไปรษณีย์   652.10      
211   จันทร์ธิดา   1   ไปรษณีย์   652.11      
212   พรรณราย   1   ไปรษณีย์   652.12   โอนแล้ว   
213   ศรุตยา   1   ไปรษณีย์   652.13   โอนแล้ว   
214   dimond_pach   1   ไปรษณีย์   652.14   โอนแล้ว   
215   dug38   1   ไปรษณีย์   652.15   โอนแล้ว   
216   natsuyuki   1   ไปรษณีย์   652.16   โอนแล้ว   
217   kaekii   1   ไปรษณีย์   652.17   โอนแล้ว   
218   ณัฎฐวรรณ   1   รับเอง   602.18      
219   Na   1   ไปรษณีย์   652.19   โอนแล้ว   
220   KimJaeSine'   1   ไปรษณีย์   652.20   โอนแล้ว   
221   knes   1   ไปรษณีย์   652.21   โอนแล้ว   
222   Rindee   1   ไปรษณีย์   652.22   โอนแล้ว   
223   Heaven13   1   ไปรษณีย์   652.23   โอนแล้ว   
224   Arbutus   1   ไปรษณีย์   652.24   โอนแล้ว   
225   Auau   1   ไปรษณีย์   652.25   โอนแล้ว   
226   Misspm   1   ไปรษณีย์   652.26   โอนแล้ว   
227   AginaJang   1   ไปรษณีย์   652.27   โอนแล้ว   
228   Cheery Blossom   1   ไปรษณีย์   652.28   โอนแล้ว   
229   Yona   1   ไปรษณีย์   652.29   โอนแล้ว   
230   momojizung   1   ไปรษณีย์   652.30   โอนแล้ว   
231   Little-Devil   1   ไปรษณีย์   652.31   โอนแล้ว   
232   Mixer   1   ไปรษณีย์   652.32   โอนแล้ว   
233   Tazzuko   1   ไปรษณีย์   652.33   โอนแล้ว   
234   krataikids   1   ไปรษณีย์   652.34   โอนแล้ว   
235   grab   1   ไปรษณีย์   652.35   โอนแล้ว   
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 07-06-2011 22:47:07
ได้รับหนังสือแล้วนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยค่าา  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 08-06-2011 13:07:20
เมื่อวานได้รับหนังสือแล้วนะคะ
หนังสือน่ารักมากค่ะ
ชอบปกในมากเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: krataikids ที่ 08-06-2011 15:51:38
234   krataikids 

ได้รับหนังสือแล้วค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: GaIta ที่ 08-06-2011 20:17:51
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
ชอบปกมากเลย
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-06-2011 11:46:57
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 09-06-2011 21:55:54
89   genieposh   1   ไปรษณีย์   650.89   โอนแล้ว
แจ้งว่า ได้รับแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: JoJo3 ที่ 15-06-2011 21:09:07
สั่งจองเพื่อม โอนเงิน พรุ่งีน้ได้ปะครับล
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: tamaki1 ที่ 15-06-2011 21:18:32
ขอบคุณมากเลยนะคะ ปกน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 15-06-2011 23:36:23

สั่งจองเพื่อม โอนเงิน พรุ่งีน้ได้ปะครับล



อ้างถึง
REPRINT

ตามที่มีคนเรียกร้องมานะคะ  ใครที่ต้องการสั่งหนังสือแต่ไม่ทันรอบนี้

กรุณาส่งเมลล์มาที่ sae_kikung[at]hotmail.com  ตั้งหัวข้อ/subject ว่า “สั่ง wait รอบสอง” โดยไม่ต้องใส่รายละเอียดอะไร  หากเกิน 50 ชุด  นุ่นจะเปิดให้สั่งจองค่ะ

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=448527
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 17-08-2011 15:29:53
เมลไปแล้วนะคะ ขอให้มีรีปริ๊นนนนนนนนนนนรอบสองทีเทิ้ด :call:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kengjung23 ที่ 17-08-2011 22:00:42
ชอบจังเลย สนุกดี
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LYNN ที่ 19-08-2011 22:48:59
ยั่งสั่งทันไหมเนี่ย??? TT,.TT
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 23-08-2011 23:27:38
ในที่สุดก็ตามอ่านทันจนจบ ฮือ.....ซึ้งค่า.... ชอบตอนจบจัง แฮปปีิเอนดิ้ง :n1:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 26-08-2011 00:34:42
 o13 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 26-08-2011 20:49:30
ชอบมากเลยค่ะ
แอบรักเพื่อนเนี่ย, รักข้างเดียว
แรกๆ ก็หวานดีนะ หวานได้แปบเดียวก็เศร้า
สงสารเวย์มากเลยอะ! ทำไมไนท์ไม่กล้าพูดคำว่า "รัก"
แต่สุดท้ายก็จบอย่างสมหวัง ภาคสองก็สนุกตอนรับน้อง ชอบไนท์อ้อนอะ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: libra82 ที่ 03-09-2011 07:33:39
อยากตบไนท์อ่ะ ไอ้บ้านิ ทำกับนู๋เวย์ได้ไงอ่ะ
เจ็บแทนเลยนะ ดีนะที่ได้หมอนัทมาช่วยไว้ได้
อย่าให้เจอนะแม่จะกระชากคอบอกความในใจของเวย์ใหู้้รู้ไปเลย
ฮึ่ย!! รักนู๋เวย์ค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: libra82 ที่ 04-09-2011 06:20:52
ไนท์เอ๊ย รักก็บอกว่ามาัรักมาแทงกั๊กทำไมเนี่ย
เค้าแอบเชียร์หมอนัทแหล่ะ มาแรงแซงโค้งไปเลย
รักก็แสดงออกไม่ใช่มาลังเลไม่แน่ใจ
โหย!! ไม่บอกว่ารักยังจะหวงอีก หนูเวย์เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ยังทันเน้อ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bennnyyy ที่ 13-09-2011 16:50:49
เมล์ไปแล้ว อยากให้มีรอบสองค่ะ

 :sad4:อยากได้
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Sirimongkol ที่ 04-10-2011 00:55:45
แวะมาเชียร์คับ :impress2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 30-10-2011 21:23:41
ชอบเรื่องนี้อ่ะ

เพื่อนรักเพื่อน  ทั้งสนุกสนาน  รักปวดใจ  เศร้าเค้าน้ำตา

ขอบคุณคนอ่านมากๆๆๆๆๆๆค่ะ 

จะตามอ่านภาค 2 นะค่ะ   :pig4:     :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: KoiKa ที่ 31-10-2011 09:33:09
แอร๊ยยย ชอบไนท์อ่ะ นิสัยเหมือนเด็กจริงจัง
55555+ น่ารัก น่าแกล้งชะมัดเลย
โอ๊ยยย อ่านแล้วอยากหยิกแก้มไนท์มากกกกกกกกกก
ทำตัวน่ารักชะมัด อิอิ
เวย์ก็น่ารัก น่า........(เซนเซอร์) ฮ่าๆๆๆๆ
ให้สองจุ๊บ โทษฐานที่รอมานาน~~ แอร๊ววววววว

ขอบคุณค่า ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: som-o_t ที่ 07-12-2011 16:14:37
อยากได้หนังสือเรื่องนี้ค่ะ
ต้องทำยังไงบ้างคะ
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 08-12-2011 00:00:41
อยากได้หนังสือเรื่องนี้ค่ะ
ต้องทำยังไงบ้างคะ
 :monkeysad:
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=448527
ลองเข้าไปส่องๆดูนะคะ ในนั้นมีเฟสบุ้คคนเขียนบอกอยู่ด้วยค่ะ ลองติดต่อไปสอบถามดู เผื่อยังมีหนังสือเหลืออยู่
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 15-12-2011 09:26:51
อยากถามว่าถ้าจะสั่งหนังสือได้รึเปล่าอ่ะคร้าพพพพ เค้าอยากได้
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: namnakxD ที่ 17-12-2011 23:04:10
อ่านจบแล้วรวดเดียวจบ อยากได้หนังสือเลย :m15:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 19-12-2011 22:46:28
^^ อ่านรวดเดียวเลยคะ  ตอนจบขัดใจอ่าไนท์น่าหมั้นใส้แต่ก็เป็นพระเอกอยู่ดีเฮ้ย
เรื่องนี้ก็น่ารักมากเลยคะ ถึงจะแบบแอบรันทดน่อยๆ สงสารเวย์ซะเยอะ ><
ปล เขียนได้ลื่นๆอ่านสนุกดีนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 20-12-2011 22:27:44
เรื่องนี้เป็นนิยายที่ทำให้นอยด์มาก

ไม่รู้ครับคงเป็นเพราะเนื้อเรื่อง

แม้นายเอกจะร่าเริงมาก แต่เนื้อเรื่อง...

บีบหัวใจเกินทน (แต่ทน เพราะชอบ)

แสดงศักยภาพของผู้เขียวได้อย่างชัดเจน

ดีใจที่ได้อ่านผลงานดีๆแบบนี้

ดีใจที่จบสวย ให้ได้บอกตัวเองว่า

"ชีวิตเราก็ต้องจบสวย" เหมือนกัน

 :pig4: ที่เอามาลงไว้ให้ได้อ่านนะครับ

น่ารักมากจริงๆ  :L2:

เรื่องนี้จะอยู่ในใจไปอีกนานเลยครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 01-02-2012 20:15:02
ThankS
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pemiko2012 ที่ 08-02-2012 23:55:48
จบแล้ววว  o13
น่ารักดีอ่ะ > <
ไนท์เกือบจะไม่ได้ตื่นมาบอกรักแล้วนะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 12-02-2012 12:44:32
อ่านรวดเดียวจบ ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 17-03-2012 22:59:51
อ่านถึงตอนจบภาค1ไปแล้ว บีบหัวใจกันมากมายเลยค่ะ เวย์เนี่ยจะยอมอะไรไนท์ไปซะทุกสิ่งอย่าง
สงสารเวย์มาก ยิ่งมารอคำว่ารักเนี่ย คนอ่านลุ้นแล้วลุ้นอีก แล้วยิ่งมาเจออุบัติเหตุ น้ำตาออกมาเป็นเขื่อนแตกเลย
แล้วพอมาอ่านว่าไนท์ฝื้น นี้ดีใจอย่างกับตัวเองเป็นเวย์ซะเองเลย

เดี๋ยวจะกลับไปอ่านต่อ แต่ขอมาเม้นหน่อย
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 21-03-2012 08:56:17
ยังไม่จบใดีใช่ไหมค่ะ สรุปว่านุให้เวย์ทำไรอะ งงเลย แล้วทำไมแชมป์ต้องไปญี่ปุ่น ส้มไปไหน
อันนี้มีเฉพาะในหนังสือหรอค่ะ น่าเสียดาย เพราะสั่งไม่ทัน
เนื่อเรื่องสนุกค่ะนายเอกน่ารักมาก ใสซื่อดี ปากหมาและกวนตีน
พระเอกเราก็ฮิทเลอย์เหลือเกิน แต่กว่าจะบอกรักนายเอกของเราได้ เล่นเอาคนอ่านด่าไปอ่านไปที่พระเอกทำเรื่องไว้
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: NaNaAS ที่ 25-06-2012 02:14:37
 :o8:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-06-2012 16:11:28
ชอบมากๆค่า :)
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-06-2012 17:50:14
น่ารักมากเรยเสียดายที่เก็บหนังสือไม่ทันอ่ะ

ถ้ารีปริ้นอย่าลืมแจ้งข่าวเน้อ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: srikoon ที่ 11-07-2012 08:19:08

 :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:

คิดถึงครับเลยกลับมาอ่านใหม่

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kingviolet ที่ 11-09-2012 17:39:51
เสียดายมาก รีปริ้นเมื่อไรแจ้งข่าวด้วยนะT^T
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 16-09-2012 08:52:56
สนุกมากเลย  o13
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mclvblue ที่ 19-09-2012 01:58:46
เรื่องเก่าที่ขุดขึ้นมาอ่าน (ได้ยังไงหว่า ?)
แต่ก็อ่านจบแล๊วใช้เวลาถึง 3 วันกันเลยทีเดียว

ขอบคุณคนเขียนมากที่เขียนแบบนึกถึงผู้อ่านตลอด
ทั้งคนตามในเด็กดีในเล้าและอื่นๆ สัมผัสได้เลยทีเดียว  :L2:
(ไม่ต้องเชิญเจน ญาณทิพย์แล้วนะ เกี่ยวอะไรกัน  :beat:)

ปล.อยากเห็นอินสปายไนท์ เวย์จังเลย
     แต่โดนส่วนตัวจิ้นคู่ชิน พี่หมอนัทไว้อย่างแรง  :haun4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 10-10-2012 22:08:41
ThankS
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_Teukky ที่ 13-10-2012 02:23:45
สนุกมากๆเลยค่ะ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 16-11-2012 23:45:05
คิดถึงจึงแวะมา ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Love_ewan ที่ 18-11-2012 02:28:21
ชอบเรื่องนี้จัง ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Re-ya ที่ 24-11-2012 19:18:11
 o13 o13 o13 ชอบบบบบบบบบบบบบม๊ากกกกกกกกกกกก

ไว้จะค่อยติดตามเรื่องใหม่น่ะค่ะ  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 20-04-2013 15:25:17
ตามอ่านจบแล้วววววว  :m4:

น่าเสียดายที่รู้จักเรื่องนี้ช้าไปหน่อยเลยไม่ทันได้ซื้อหนังสือเลย  :m15:
ความจริงเหมือนจะเคยอ่านเรื่องนี้ไปแล้วรอบนึง (แต่ก็ไม่ทันซื้ออยู่ดี = =)
แล้วกลับมาอ่านอีกครั้ง ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ สนุกมากๆ
ทั้งเวย์ ไนท์ และแอนด์เดอะแก๊ง ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 03-07-2013 21:03:00
 :bye2: o13 o13 o13 o13 :bye2:
อยากอ่านเรื่องของนุกับแชมป์
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-07-2013 11:22:30
ตามอ่านมานานมาก ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ไม่ได้ตามอย่างต่อเนื่อง
มาเจออีกทีจบแล้ววววววว ^.^
เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในใจเราเลย ขอบคุณผู้เขียนมากนะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 15-07-2013 23:45:42
ถ้ามีรีปริ้นเมื่อไหร่บอกด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 01-10-2013 20:14:03
เข้ามาอ่านอีกรอบแล้ว แฮ่ๆๆๆ

แบบว่าถ้าพิมพ์ซ้ำอีกเมื่อไร นุ่นแจ้งด้วยน๊าาาาาาาา
อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 09-03-2014 14:28:42
คิดถึงเรื่องนี้ เลยเข้ามาอ่านอีกรอบค่ะ
ยังสนุกและพาเสียน้ำตาเหมือนเดิม T__T
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 30-04-2014 22:32:55
แม้คู่แชมป์นุจะไม่เคลียร์ แต่แค่ได้รู้ว่าคู่กันก็พอ นุก็ทนหน่อยน้าาา แค่ญี่ปุ่นเองนั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึง คึคึ มาถึงคูหลัก ลุ้นมากทั้งเรื่องว่าจะบอกรักกันเมื่อไหร่่ ทั้งหน่วง ทั้งปวดใจ ยิ่งตอนเวย์เห็นไนท์กับยัยสานะ หึ้ยย โคตรโกรธไนท์อ่ะ อยากเชียร์เวย์ให้พี่นัทเลย แต่ แหมม พอตกลงปลงใจกันได้ อดึตเพื่อนไนท์ก็หวานออกสื่อแบบไม่แคร์ใคร แถมจากที่หวงหนูเวย์อยู่แล้วยิ่งทวีคูณเลยนะ มาตกใจกะชิน แต่ก็แอบสงสารนะ อยากให้ชินมีคู่
มาถึงคู่เนมเป้ ก็น่ารักนะ พี่เป้นี่หักโหมเหมือนไนท์เลยนะ เล่นหนูเนมลงแข่งมิได้ เดือดร้อนหนูเวย์ที่เคยตกที่นั่งเดียวกันและเข้าใจเนมต้องลงแทนเลย คึคึ
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 01-05-2014 19:21:38
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: tpaibull ที่ 04-05-2014 21:39:14
เป็นรักที่กว่าจะลงตัวได้ เวย์ก็แทบตาย ดีใจกับเวย์ด้วย
อ่านแล้วซึ้งจนน้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nicedog ที่ 21-09-2014 18:42:11
อ่านกี่รอบก็ยังสนุกค่ะ

ชอบมากๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 23-09-2014 16:02:25
 o16
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: shin_endlesslove ที่ 08-11-2014 16:23:52
ตามอ่านรอบเดียวจบเลยครับ  ซึ้งมากร้องให้จนตาบวม   ขอบคุณครับ 5555+ :m25: :m25: :m25: :m15: :m15: :m15: :pig4: :pig4: :pig4:   
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 18-11-2014 21:25:38
ขอบคุณค่ะนิยายน่ารักดี ตลกด้วย จบก็น่รักดีค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 13-12-2014 13:47:36
สนุกมักมากน้อย
 :hao7: เศร้าด้วย
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: real port ที่ 13-12-2014 20:11:29
อ่านจบรอบสองแล้ว ยังยืนยันว่าชอบมากครับ
สนุกมากหน่วงมาก :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 15-12-2014 21:11:55
 :ling1: :ling1: รู้ใจเมื่อสาย นึกถึงคำนี้เลยยยย  :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 15-12-2014 21:13:13
แปะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 19-12-2014 16:40:39
สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: มากิ ที่ 08-01-2015 15:44:59
ไปเจอมาจากกระทู้แนะนำนิยาย มีคนไปตาทหาเรื่องนี้ น่าสนใจจริงๆด้วย แต่หาสารบัญไม่เจออ่ะ หาไม่เป็น555 สมัครวันแรกเพื่อมาเม้นเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: มากิ ที่ 08-01-2015 16:21:44
ชอบอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 09-01-2015 15:09:49
สนุก ฮา น่ารักดี
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 09-01-2015 15:12:07
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 10-01-2015 00:43:12
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆคร๊าา o18 o18
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นวงกลม ที่ 12-01-2015 22:30:35
เพิ่งตามมาอ่านสนุกมากกกกคะ เวย์น่ารักอะ  :mew1: ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 21-07-2015 23:49:24
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ  สนุกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 22-07-2015 18:15:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 11:35:57
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 04-11-2015 22:19:03
เวย์นางนี่น่ารักที่สุดในสามโลกเค้าบอกเลย อิจฉาไนท์มากกกก เวย์เจ็บมาเยอะเหมือนกันนะ ในที่สุดไนท์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเนอะงานนี้ ถึงแม้ว่าจะทำเสียน้ำตาไปบ้างงงง

นุแชมป์นี่ลุ้นมากบอกเลยค่า รักกันด้วยงานนี้มีคนเจ็บเห็นๆเลย

สนุกมากๆเลยค่า ชอบเรื่องนี้มากๆเลย มาอ่านช้าไปหลายเลย เสียใจอ่าอยากได้หนังสืแจังเลยค่า
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rosnest ที่ 13-11-2015 21:31:32
     ชอบๆๆๆๆๆ   :hao7:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 23-02-2016 12:39:24
 :L1: ตามอ่านวันเดียวจนจบ บอกเลยชอบมาก เนื้อเรื่องเป็นเรื่องเศร้านะ แต่เวย์และผองเพื่อนทำซะกลายเป็นเรื่องตลกตลอด จัดว่าเด็ดค่ะ ไงก็ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆ . :n1:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 24-02-2016 18:05:46
  ในที่สุดก็ตามอ่านจนจบ  ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะ  ส่วนตัวชอบคู่นุ-แชมป์  รู้สึกว่ามันเป็นรักแบบหน่วง ๆ จะยิ้มก็ยิ้มไม่สุดจะเศร้าก็เศร้าไม่มาก  ดูมีมิติดีค่ะ  รัก3เศร้า ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครที่ไม่เจ็บมีแค่เจ็บมากหรือเจ็บน้อยเท่านั้นเอง  อ่านแล้วอิน 5555   :pig4:   :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 28-03-2016 13:56:55
กลับมาอ่านอีกทีก็ยังชอบบบบบ!!
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 12-11-2016 15:04:02
เวย์น่ารักโฮก
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 24-12-2016 08:33:27
คิดถึงเวย์ ไนท์  :sad4:  :sad4:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Usamomo ที่ 09-01-2017 03:24:22
อ่านรวดเดียวยาวๆ จนจบ ชอบแนวพัฒนาความสัมพันธ์ เริ่มจากแอบรัก รักข้างเดียวหน่วงเบาๆ แล้วลงท้ายหวานๆ
รอลุ้นข่าวรีปรินท์จากคุณนุ่นนะคะ
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:13:22
 :katai5:
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 08-12-2017 13:54:48
 o13  :katai2-1: อยากได้หนังสือ ทันไหม  โอ้ยยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: half-clear ที่ 09-02-2018 17:20:39
ขอบคุณมากสำหรับเรื่องดีๆ ไปอุดหนุน e-book meb ละค่ะ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน?
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-08-2021 08:53:09
“กูถามว่า  เพราะไอ้คนที่นั่งกินกาแฟกับมึงเมื่อกี้ใช่ไหม  มึงถึงได้อารมณ์ดีอย่างนี้”  เออ  จริงด้วยว่ะ   หรือว่าจะเป็นเพราะพี่หมอวะ  เราถึงได้อารมณ์เย็นขึ้นขนาดนี้  เพราะไอ้ท่าทางหรอหรานั่นรึเปล่านะ?    บ้าไปใหญ่แล้วกู   นี่ตกลงมึงจะเป็นเกย์เต็มขั้นแล้วใช่ไหมว้า  ไอ้คุณเวย์
เนื้อเรื่องสนุกดีนะ ถ้า........ตัดบทที่บรรยายความคิดของตัวเองออกไป มันดูเหมือนจะตลกนะ แต่มากไปมันก็เบื่อ
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 20 เส้นใยบางๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-08-2021 22:28:31
สโตรกเกอร์  (Stalker ) สตอล์คเกอร์
หัวข้อ: Re: [นิยาย] Wait! หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน? ตอนที่ 23 Give you my breath
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-08-2021 23:05:47

            “ไนท์ลูก!!”

            “เฮียฟื้นแล้ว  ฮ่าๆ  เฮีย  หมอๆ  อานพครับกดเรียกหมอที”

 

            “น้ำ”  ผมยังคงบอกความต้องการของตัวเองต่อไป  จนได้รับสิ่งที่ร้องขอในที่สุด  มือที่หมดแรงจนไม่สามารถยกขึ้นรับแก้วน้ำ  ได้แต่รอให้อีกคนพยุงขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้สนใจว่าเขาคือใคร  สิ่งที่ต้องการตอนนี้มีอย่างเดียว  คือน้ำใสๆ ตรงหน้าเท่านั้น

 

            “ไนท์เป็นไงบ้างลูก  เจ็บตรงไหนไหม” 

            “พ่อ  ทำไม...ผมมาอยู่ที่นี่  เกิดอะไรขึ้น”  ร่างกายที่อ่อนแรงเหมือนคนไม่ได้ขยับมานานนี่มันอะไรกัน   แล้วยังหัวที่ปวดหนึบๆ เหมือนมีบางอย่างบีบไว้นี่อีก  เกิดอะไรขึ้นกับผม

            “ลูกจำไม่ได้???”  จำเหรอ??  จำได้สิ  ก็ผมกำลัง...  ผมกำลัง..  ทำอะไรกันนะ  อะไรทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลกันแน่   เกิดอะไรขึน??

 

            “ผมโทรบอกพี่เวย์แล้ว  กำลังรีบวิ่งขึ้นมา  เราได้เห็นคนร้องไห้อีกแน่ๆ เลยงานนี้”   เด็กหนุ่มหน้าตาออกแนวญี่ปุ่นแต่ก็แฝงความคมเข้มแบบไทยที่ผมไม่รู้จักกำลังบอกเรื่องที่ทำให้หัวใจผมเต้นโครมคราม  แต่ทำไมล่ะ  ทำไมต้องดีใจด้วย  ทำไม??  แค่ได้ยินว่าคนชื่อเวย์กำลังมาหัวใจผมมันก็แทบจะกระโจนออกมานอกอก   ทั้งที่ไม่รู้จักเสียหน่อย   ทำไมถึงได้อยากเจอนัก

            “คุณเป็นใคร”

            “ผม??”  เขาเอานิ้วชี้หน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา  ตกใจอะไรกัน  ก็เพราะผมไม่รู้จัก  ถึงได้ถามน่ะสิ   ในห้องนี้มีแค่ผม  พ่อ  และก็เขา  จะให้ผมถามใคร??  อ่อ..แล้วก็หมอที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับนางพยาบาลอีกคน

 

            “เฮียจำไม่ได้???”

            “ผมไม่รู้จักคุณ”  ทันทีที่พูดจบ  หมอนั่นก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อ  นี่ผมพูดอะไรผิดหรือไง  หรือเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ  เท่าที่จำได้  ผมไม่มีเพื่อนหน้าเหมือนเด็กญี่ปุ่น

 

            “ไนท์  แล้วพ่อ  จำพ่อได้ใช่ไหม?”

            “ก็จำได้สิครับ  แม่ล่ะ  แม่อยู่ไหน”  ผมพูดอะไรแปลกไปอย่างนั้นหรือ  ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้น  แค่ถามหาแม่..มันแปลกอย่างนั้นเหรอครับ
 
เราชอบอ่านแบบนี้มากกว่าที่จะแทรกมุขตลกลงไปแทบจะทุกประโยคการสนทนา มันรกมันฝืดไม่มีสาระและอ่านยาก เขียนดีๆแบบปกติก็เขียนเป็นนี่
หัวข้อ: Re: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 08-08-2021 08:43:12
สนุกมากๆๆๆๆ