ตอนที่ 13 งานเปิดบ้านกับ...กลางแจ้ง
“ เรียนเชิญดร. ................ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัย........กล่าวเปิดงานวิชาการประจำปี 2551 ค่ะ” เสียงพี่นีน่าคนสวยในชุดพิธีการ (กระโปรงยาว เสื้อติดกระดุมถึงคอ กระนั้นแกกังยิ้มแย้มอยู่ในมาดนางงามครับ - -) กล่าวเชิญท่านอธิการเปิดงานอย่างอลังการ จะไม่อลังการได้ไงล่ะครับ ก็ดูตั้งแต่เวที พิธีกร ยันการแสดง แสงสีเสียงแบบทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ เรียกว่าให้พวกผมเอาเงินไปอาบเหล้าได้หลายเดือน เหอะๆ
“พี่เวย์ครับ เขาเรียกให้ไปขนกลองอ่ะ” ไอ้เก่ง เด็กในทีมบาสทีมบีของผมใช้ตีนสะกิด ผมซึ่งเป็นรุ่นพี่มันปีหนึ่ง แล้วก็ยังเป็นกัปตันชมรมที่มันสิงอยู่อย่างแสดงความเคารพเต็มที่ (เช่นเดียวกับที่ผมแสดงความเคารพเฮียวาย หรือ เขา ที่ไอ้เก่งมันพูดถึงนั่นเอง)
“เชี่ยดิ พวกมึงตั้งหลายคน ทำๆไปดิวะ กูจะดูพี่นีน่า” ผมบอกปัดๆ ตามประสาคนสูงวัยกว่า มักจะอ้างเช่นนี้เพื่อกดขี่ใช้งานรุ่นน้องซึ่งแทบจะคางเหลืองแล้วหลังจากสามอาทิตย์ของการเตรียมงานผ่านไป
“อย่ามาเอี้ยครับพี่” เอ้า เคารพกรูอีกแระ “เพราะใคร พวกผมถึงต้องโดนเขาจิกหัวใช้ ทั้งๆที่อยู่ชมรมโคตรป๊อบเนี่ย” ไอ้เก่งยังยืนกรานพลางใช้สายตาจิกกัดจนแทบจะกินหัวผมได้อยู่แล้ว
“จะโทษว่าเป็นเพราะกู?” เสียงผมนี่กวนตีนสาดอ่ะ แต่สายตายังจับจ้องคนบนเวทีอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่งโทรจิตไปครับ เพื่อพี่เขาจะสะดุ้งสะเทือนมั่ง
“อ้าว ถ้าไม่ใช่พี่ แล้วมันจะเป็นลิงเป็นค่างที่ไหนล่ะคร้าบ”
“เออ โทษกูกันจริง กะอีแค่ลืมไปจับฉลาก” ยังจำกันได้ไหมครับ ที่ผมเห็นฮาเล่แล้วก็บึ่งพ่วงคนเจ็บไปโรงพยาบาล เสร็จแล้วก็ไปอาบเหล้าต่อที่ร้านเฮียต้า
“เออ แค่นั้นของพี่ ทำพวกผมต้องมาเป็น GB (เจเนรัลเบ๊ – งานอุทิศตนเพื่อสังคมส่วนรวม) กันถ้วนหน้านี่ไงครับ” คิ้วมันเริ่มขมวดเป็นปม มือก็เริ่มลากแขนผมไปตามที่มันต้องการ แสด เรื่องไรกูต้องไปขนวะ ธุระไม่ใช่
“หยุดแค่นั้นเลย ไอ้เก่ง กูรู้ว่า ไอ้พวกปีสามมันหายหัวไปหมด เหลือพวกเมิงกะเด็กปีหนึ่งใช่ไหม เลยเสือกจะมาดึงกูไปร่วมทุกข์ด้วย ฝันไปแระเมิง” พูดจบ ไม่ต้องรอให้มันตอบ ผมจัดการบิดข้อมือมันตอนเผลอ แล้วจรลีออกมาทันที ลาก่อนครับพี่นีน่า ผมจะคอยเฝ้ามองพี่อยู่ในที่ไกลแสนไกล ที่ไม่มีใครมาตามตัวเจอ ก๊ากกก ตามเจอก็ซวยสิครับ งานมิใช่น้อยๆ
“ไอ้เชี่ยพี่เวย์ แม่งทำกูได้”
หลังจากหนีมาได้ ผมก็เริ่มลัดเลาะไปตามซุ้มต่างๆ แหม โดดงานนี่มันสบายอย่างนี้นี่เอง เดินดูงานไปเรื่อยๆ ก็เริ่มจะเหงาครับ ทำไมคนหล่ออย่างผมต้องเดินคนเดียวปล่าวเปลี่ยวเหี่ยวแห้ง ในขณะที่ลูกกะตาดันเหลือบไปเห็นคนเขาเดินจู๋จี๋ ชี้ชมนกชมไม้กันด้วยครับเนี่ย เอี้ยไนท์มันหายหัวไปไหนของมันวะ กูอยู่นี่ไม่มาดูแล ก๊ากกก ขี้ตู่ซะงั้นล่ะกรู ฮ่าๆ หลังจากวันนั้น (วันไหนฟร่ะ) เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของพวกผมก็ยังราบรื่น ไม่มีสะดุด แต่ว่ามันอาจจะราบเกินไปซะหน่อยนะ ผมว่า ไม่มีตีลังกา โลดโผนเล้ย ให้ตาย ช่วงสามอาทิตย์มานี้ก็ยุ่งๆ อยู่กับการเตรียมงาน (ที่ไม่ได้ตังค์ซักแดง - - ต้องทำครับ นิสิตที่ดีอย่างผม) อย่างที่น่าจะรู้กันแล้วนะครับ เนื่องจากกัปตันอย่างผมไม่ได้ไปจับฉลาก เหล่าสมาชิกที่เหลือก็เลยถูกจิกหัวใช้กันสนุกสนาน อ้า จะว่าไปถึงมันจะเหนื่อย ก็สนุกนะครับ ได้ฟาดฝีปากกับคณะอื่นพอควร มีสาวๆ มาติดต่อขอแรงก็มิใช่น้อย ไม่รู้พวกมันจะมาบ่นผมกันทำไม ทำงานน้อยกว่าผมตั้งเยอะ น้อยกว่าเยอะจริงๆนะครับ ต่อไปเวลาประชุมอะไร จะจำไว้ครับ ปิดปาก เปิดหู เปิดตา ส่ายหน้าลูกเดียว แม่งง ก็ไอ้งานที่ ‘เขา’ โยนโครมมาให้ผมน่ะ นอกจากจะไม่สร้างสรรค์ แล้วยังทำผมเกือบสูญพันธุ์ - - เริ่มด้วยหัวหน้าฝ่ายปฏิคมครับ อันนี้ไม่ค่อยหนัก แต่เปลืองตัว หลังๆ มีไอ้ไนท์กับไอ้ชินมาช่วยกันครับ แต่จะดีมาก ถ้ามันจะ ‘กัน’ อย่างเดียว ไม่ ‘กัดกัน’ ส่วนฝ่ายประสานงานองค์ใหญ่ อันนี้เหนื่อยโฮกครับ วิ่งวุ่นหัวหมุนทุกวัน พี่นัทแกมาช่วยบ้าง แต่ได้ไม่นานครับ มีคนตามตัวแกไปตลอด เล่นเป็นถึงท่านรองนายก กระผมก็มิอาจขอแรงท่านได้ พอกลับถึงหอไอ้ไนท์ (บ้านเบิ้นพักไว้ชั่วคราวครับ คุณนายเธอก็ไม่ว่าอะไร รู้ว่าลูกชายเหนื่อย) ผมก็หลับเป็นตาย แน่นอนครับ หลับอย่างเดียว ไม่มีหลับนอน ไอ้อีกคนมันก็ไม่มีสะกิดครับ แรงหมดก๊อกเหมือนกัน มีจูบราตรีสวัสดิ์นิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ ฮ่าๆ หน้าไม่อายครับ เล่าหมด เอิ้กๆ ส่วนงานใหญ่อีกงานอย่างละครเวที หึๆ อุบไว้ครับ เดี๋ยวมีอึ้ง
“เฮ้ย นั่นไง พี่เวย์” เสียงตะโกนชวนให้เสียวสันหลังแปล๊บ ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งทั่กๆ เข้ามาใกล้ ไอ้เวย์ไม่เสียเวลาหันกลับไปมอง ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีลูกเดียวครับ
“อยู่ก็โง่ดิวะ ลาขาดนะเว้ย” แหกปาก ขาสับไก สายตามองหาที่ซ่อนครับ ที่ไหนดีโว้ย จากการสำรวจตรวจดูลาดเลา (หัวหน้าเบ๊ ตอนเตรียมงานครับ) ผมนึกถึงที่ๆ หนึ่งออกพอดี ว่าแล้วไอ้เวย์ก็หักเลี้ยวขวาอย่างกระทัน แล้วโดดข้ามพุ่มไม้ พุ่งหลาวราวนางเงือกพร้อมม้วนตัวลงพื้นอย่างสวยงาม ที่ไหนเล่า มันไม่สวยงามอย่างที่คิดครับ ผมสะดุดขากางเกงที่มันยาวเกินไปของไอ้ไนท์ล้มไม่เป็นท่า หลับตาเตรียมจูบพสุธาเต็มที่ ถ้ากูหมดหล่อเพราะกางเกงตัวนี้นะเมิง เมิงตาย
ตุ้บ แอ๊ก
เอ ไม่ยักกะเจ็บครับ แต่ไอ้เสียงแอ๊กนี่ผมไม่ได้ร้องน้า
“เชี่ย จุกชิบหาย” เสียงบ่นเบาๆ ดังข้างหูผม ไม่ต้องให้บอกไอ้เวย์ดันตัวลุกขึ้นทันที
“อ่ะ ไอ้ไนท์!!” ชิบหายแล้ว ตายยากจริงเมิง สรุปว่าผมพุ่งมาลงพื้นอย่างเกือบจะสวยงาม โดยมีมันเป็นเบาะรองครับ
“เออ กูเอง ตกใจอะไรนักหนาวะ แล้วนี่เมิงโดดเข้ามาทำไม เดินแบบที่คนปกติเค้าทำกันไม่ได้หรือไง ทำไมชอบหาเรื่องเจ็บตัวนัก” มาเป็นชุดเลยครับ ท่านเทศน์ของท่านอีกแล้ว คิ้วมันขมวดเป็นปม ดีหน่อยที่ปากยังไม่เม้มเป็นเส้นตรง เพราะนั่นจะหมายถึง ความวินาศสันตะโรของมนุษยชาติ
“ก็ถ้ากูมาแบบปกติได้ กูก็มาไปแล้ว ไม่ได้ยินรึไง ไอ้พวกนั้นมันตามล่าตัวกูอยู่” พูดเหมือนผมไปมีเรื่องกับนักเลง ไม่ก็เจ้าพ่อ แล้วถูกตามล่าตัวเลยนะครับ เวอร์จริง
“ไอ้พวกนั้น??”
“นักบาส”
“เหอะ สมควร” กวนตีน - -
“.....” พูดไรไม่ออกครับ อารมณ์แบบว่า เซ็งๆ ข้าวยังไม่ได้กิน เหนื่อยก็เหนื่อย ดูมัน ไม่ช่วยไม่พอ ยังซ้ำเติม คนหล่อแอบเซ็ง มันจ้องมา ก็หลบตามันครับ ไม่ได้ตั้งใจนะ แบบว่ามันเป็นไปเองอ่ะ เหมือนถูกจับได้ว่าทำความผิดอ่ะครับ
“งอน?” มันถาม นัยน์ตาพราว
“เปล่า กูเหนื่อย” งอนบ้าไรครับ อย่างนี้เขาเรียกงอนที่ไหน ใช่ไหมครับ นี่ไม่ใช่อาการงอน ใช่ไหม?
“หึ งั้นก็นอน” ว่าแล้วมันก็กดหัวผมลง รั้งเอวผมให้นอนลงบนตัวมัน ความร้อนที่ไม่รู้มาจากไหนพวกพุ่งไปรวมกันบนหน้าหมดเลยครับ
“เฮ้ย ปล่อยกู จะนอนข้างล่าง” แม่ง ร้อนเว้
“แน่ใจ นอนบนนี้สบายกว่านะ” เออ แต่กูไม่สบายใจเว้ย
“ไม่เอา จะนอนข้างล่าง”
“ตามใจ” ว่าแล้วมันก็พลิกตัวผมลง พลิกครับ คือพลิกจริงๆ พลิกทั้งตัวทั้งคู่เลยครับ เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มันนอนอยู่บนตัวผมแทน อ้าปากค้างเลยครับ ไม่คิดว่ามันจะมามุกนี้ เอ๋อแดกเลยตู
“เฮ้ย ทำไรวะ ลงไปเลย กูหนัก” ผมก็ดันๆไหล่มัน แม่ง ไม่มีสะดุ้งสะเทือน แรงควายชิบ
“ไม่ลง กูไม่หนัก” มันส่ายหน้า แล้วอมยิ้มน้อยๆ เชี่ย หล่อว่ะ!!
“ไอ้ฟาย มึงอยู่ข้างบน จะไปหนักได้ไง” พูดไรโง่ๆ คำนี้เก็บไว้ในใจครับ ยังไม่กล้าพอ
“เอ้า งั้นกลับท่าเดิม” ไม่มีขอคำอนุญาติจากศาล มันพิพากษาตัวเองเสร็จเรียบร้อยด้วยการพลิกกลับท่าเดิมให้ผมอยู่ข้างบนเพื่อมันจะได้หนักเอง แสดด หวังดี แต่กูไม่ต้องการ
“เฮ้ย จะเล่นอีกนานไหมวะ ไม่หนักรึไง” พยายามดุมันครับ นี่ถ้าแยกเขี้ยวได้นี่ ผมแยกไปล่ะ คนยิ่งเหนื่อยๆ มาเจอมันกวนตีนอีก
“ไม่หนัก ตัวเมิงเบาขนาดนี้ ดูนะ”
“ฮะ เฮ้ยย ไม่เอา” ผมร้องเสียงหลงเมื่อไอ้เวรไนท์มันอุตริเล่นเครื่องบินอากาศกับผม เคยเล่นกันไหมครับ ไอ้ที่คนข้างล่างใช้ขายกตัวคนข้างบนให้ลอยกลางอากาศ แล้วเอามือจับกันไว้อ่ะ
“ฮ่ะๆ เย็นมะ”
“เย็นบ้าอะไร ไม่เอา ไม่เล่นแล้ว” เหลือเชื่อ มันฟังผมครับ ค่อยๆ ลดขาลง แล้วจับผมนอนลงเหมือนเดิม
“นั่นดิ เลิกเล่นแล้วเอาจริงเลยดีกว่า” มันกระซิบพร้อมพ่นลมหายใจเบาๆ ที่ข้างหู เล่นเอาขนไอ้เวย์ลุกซู่ ส่วนมือที่ว่างอยู่ของมันก็เลื่อนไปลูบที่แผ่นหลังของผม เมิงเอาเข้าไปตั้งแต่เมื่อไรฟ่ะนั่น เร็วชิบ
“ไนท์ จะทำอะไร”
“หืม ก็ทำอย่างนี้ไง” มันเอามือทั้งสองข้างจับก้มผม และกดลงบนน้องชายตัวเองอย่างแรง พร้อมกับที่มันเด้งสะโพกขึ้นมา
“อ๊ะ”
“ดีมั้ย” มันยังคงบดเบียดส่วนนั้นกับผมอย่างต่อเนื่องโดยมีกางเกงนิสิตกั้นอยู่
“อ๊ะ เมิง อา หยุด”
“เงียบน่า” และผมก็ต้องเงียบจริงๆ เมื่อมันจัดการปิดปากผมด้วยปากตัวเอง ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวพันกันอย่างโหยหา จูบร้อนแรงของมันทำเอาผมเกือบลืมหายใจ
“อือ อืม” เสียงครางอย่างพอใจที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร ในขณะที่สะโพกของเรายังคงบดเบียดกันอยู่ มือข้างหนึ่งของมันสอดขึ้นมาไล้ไปตามไขสันหลังให้ผมเสียววาบ เชี่ย เก่งเกินไปแล้ว
“เวย์ ทำกันเถอะ” มันกระซิบเสียงพร่า อย่ามาใช้สายตาอย่างนั้นกับกูนะเว้ย ใจสั่นแม่ง
“บ้าเรอะ ที่นี่เนี่ยนะ ไม่เอาเว้ย” ไม่ใช่ไม่อยากนะครับ แต่คิดดู นี่ผมกับมันนอนอยู่ในสวนหลังมหาลัย ถึงมันจะเงียบ ไม่มีคน แถมยังมีต้นไม้ใหญ่พอให้หลบสายตาคนข้างนอกได้ แต่ผมยังไม่ด้านพอจะเล่นนอกสถานที่
“น่านะ” อ้อนไป มือมันก็ลูกคลึงหน้าอกผมไป แสดด ทำไมเมิงเชี่ยวขนาดนี้ฟ่ะ
“อ่ะ ม่ะ..ไม่เอา” ดึงมือมันก็ไม่ออกครับ แม่ง เหนียวเป็นตีนตุ๊กแก คนอย่างมันยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุครับ พอบอกไม่เอา มันก็จะให้เอาลูกเดียว เผลอไผลไปกับมันแป๊บเดียว เสื้อหลุดไปตอนไหนไม่รู้ครับ มันจัดการพลิกแล้วคร่อมร่างผมไว้ด้วยความเร็วแสง ยิ้มใส่ตาให้ผมใจเต้น แล้วก้มลงบรรเลงเพลงลิ้นกับหน้าอกผมอย่างชำนาญ มือข้างหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างผมไว้เหนือหัว ไม่ใช่ว่ามันแรงเยอะกว่าผมมากมาย แต่ผมตอนนี้ร่างกายผมมันหมดแรงเอาเสียดื้อๆ อีกมือก็จัดการลูบไล้เป้ากางเกงผมอย่างไม่มีติดขัด แม่ง ตามไม่ทันครับ ตอนนี้ไม่รู้อะไรเลย มีแต่สัมผัสของมันวนเวียนอยู่ในความคิดเท่านั้น
“อ๊ะ อือ แฮ่ก” มันใช้มือเดียวนั่นรูดซิปกางเกง แล้วดึงลงจนถึงหน้าขาผม สัมผัสส่วนนั้นของผมเบาบ้างแรงบ้างสลับกันผ่านเนื้อผ้าฝ้ายบางๆ ปราการชิ้นเดียวที่เหลืออยู่
“อา พอ ไนท์ พอ อ๊ะ”
“หึ ก็ดีไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ เอ๊ะ อ๊า” ผมต้องร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อมันก้มลงไปใช่ปากกับส่วนนั้น กำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ถูกมันสูบไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ทัดทานมันอีก มีความร้อนที่พากันแล่นไปยันตรงนั้นอย่างห้ามไม่อยู่
“อา ไนท์ อย่า มัน สกปรก อา” เสียงห้ามของผมฟังดูเหมือนเสียงกระซิบที่นอกจะไม่ช่วยให้มันหยุดแล้ว กลับทำให้มันเร่งมือแรงขึ้น เร็วขึ้น จนผมไม่อาจกลั้นสิ่งที่เก็บกดไว้ได้อีก
“ไนท์ อ่ะ อ๊า แฮ่กๆ” ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมา รู้สึกเบาหวิว ลืมตัวทำเรื่องน่าอายไปกับมันจนได้
“เร็วจังนะ”
“ไม่ต้องมายิ้มดี ไอ้บ้า กินเข้าไปได้ยังไง” ผมก็หน้าแดงไป ด่ามันไป เขินเว้ย ไม่คิดว่ามันจะ... เอ่อ ทำให้ขนาดนั้น
“เอ้า ทำไมกินไม่ได้วะ มาลองๆ เดี๋ยวสอนให้” มันเสนอตัวพร้อมยิ้มกริ่ม ดึงผมที่ยังไม่ค่อยมีแรงให้ลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับมัน
“อ่ะ ไม่ต้องๆ กูไม่อยากเรียน” เรื่องอะไรเล่า ใครจะไปกล้าทำ
“แต่กูอยากสอน” มันไม่ฟังอะไรเลย มือก็ปลดซิบตัวเอง ดึงไทน์จูเนียร์ขึ้นมาทักทายหน้าตาเฉย ด้านชิบ
“ไม่เอา”
“น่า ลองหน่อยนะ เดี๋ยวกูต้องเหนื่อยเป็นบอดีการ์ดให้เมิงอีก ขอรางวัลล่วงหน้าหน่อยดิ” กูไปขอให้เมิงเป็นตอนไหน ไม่ได้เป็นลูกชายเจ้าพ่อนะเว้ย จะได้ต้องมีบอดีการ์ดบ้าบอไปใหญ่
“พูดเรื่องบ้าอะไรของเมิง”
“เอ้า กูต้องคอยตามดูแลเมิงไง”
“ฮะ” หูผมฝาดไปใช่ไหมครับ มันกำลังล้อเล่นอะไรของมันเนี่ย
“กูไม่มีวันยอมถูกตีท้ายครัว” มันพูดด้วยเสียงน่ากลัว หน้าแม่งโคตรเหี้ยมเลย
“อะไรนะ”
“แม่ง โมโหว่ะ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ เดี๋ยวกูทำเอง” ผมยังไม่ทันได้เข้าใจอะไรเลย สมองเพิ่งรับข้อความ ยังไม่ทันได้ประมวล มันก็จับผมกดคว่ำหน้าลงกับพื้น เมิงจะทำให้ได้ใช่ไหมเนี่ย
“ด่ะ..เดี๋ยว ไอ้ไนท์ เฮ้ย ปล่อยนะ ไม่ทำที่นี่นะเว้ย” ผมขยับตัวหนีมัน แต่สะบัดยังไงก็ไม่หลุด มันตัดปัญหาด้วยการจับมือผมไพล่หลังไว้ และทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ทัน มัน มัน ก้มลงไปใช้ลิ้นกับประตูหลังของผม ผมเกร็งตัว สูดหายใจเฮือกอย่างตกใจ
“อ๊า อา ไนท์ อย่า อย่า” ผมดิ้น ขยับสะโพกหนีมัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์มันยังคงทำต่อไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน ในขณะที่ผมทั้งอาย ทั้งรู้สึกดีจนแทบไม่แรงทรงตัว และคงล้มไปแล้วถ้ามันไม่ยึดแขนผมไว้
“อย่า กูขอร้อง อย่าทำ อ๊า” ลิ้นร้อนๆของมันทำเอาสสิผมกระเจิดกระเจิง
“ทำไม รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ” ทันทีที่มันปล่อย ผมก็ทรุดลงไปกองบนพื้นทันที
“......” นั่นมันก็ใช่ แต่มัน โว้ยย จะอธิบายอะไรล่ะฟ่ะ รู้แต่ว่าไม่อยากให้มันทำแบบนั้น
“ในเมื่อไม่ให้กูทำ งั้นเมิงก็ทำเอง” มันดึงผมขึ้นมานั่งตัก แผ่นหลังเปลือยเปล่าของผมแนบชิดอยู่กับแผ่นอกที่ยังมีเสื้อกั้นขวาง
“อะไรนะ” อุทานอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง สมองเบลอขนาดหนัก นี่ถ้าปล่อยผมไว้กลางถนน รับรองได้ไปเกิดใหม่แน่นอน
“ทำสิ ทำให้เมิงรับกูเข้าไปได้น่ะ” มันพูดเสียงพร่า กระซิบอ้อนๆ ใกล้ต้นคอผม แล้วซุกไซ้สูดดม เม้มแรงๆอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ อีกมือก็บดขยี้ยอดยกจนผมเสียววาบ
“ม่ะ..อา..ไม่เอา อ๊ะ” ผมแทบจำเสียงดูเองไม่ได้ ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะฟังดู ..อือ..ขนาดนี้ เหอะ เรื่องน่าอายอย่างนั้นใครจะไปทำ แล้วยังทำบนตัวมันเนี่ยนะ ไม่มีทาง
“หรือจะให้กูทำ” ทำไมเมิงเฉยสนิทขนาดนี้วะ กูไม่ชินเว้ย
“ไม่ อา” มันยังคงสัมผัสปลุกเร้าผมต่อไป หมดแรงจนต้องนั่งพิงหน้าอกมันอยู่อย่างนั้น
“เมิงจะเอายังไง ถ้าไม่ขยายซะก่อน มึงจะเจ็บนะ” คำพูดซื่อๆ ที่ซื่อเกินไปของมันทำเอาหน้าผมร้อนวูบ ถ้าไม่อยากให้กูเจ็บก็ไม่ต้องทำสิเว้ย
“ถ้า...”
“อย่าคิดว่ากูจะปล่อยให้เมิงไปง่ายๆ ทั้งๆที่มันค้างอยู่ขนาดนี้” แสดด ทำมาเป็นรู้ความคิดกู ถ้ารู้ก็อย่าทำอย่างนี้สิโว้ยย
“ไนท์ พอ ไม่ทำแล้ว ไม่เอา” ผมรวบรวมสติทั้งหมดยันตัวลุกขึ้น
“มึงดื้อเองนะ” มันฉุดผมลงมาอย่างรวดเร็ว แล้วดันของที่ทั้งร้อนทั้งแข็งเข้ามาโดยไม่ให้โอกาสผมได้เตรียมใจ
“เอ๊ะ อ๊า เจ็บ ไนท์ เจ็บ อา เอาออกไป อือ” น้ำตาผมไหลออกมาทันที มันเป็นความเจ็บที่เหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแยกออกจากกัน
“อา ร้อนชะมัด ทนหน่อยนะ จะค่อยๆทำ” มันกระซิบโดยที่ครึ่งหนึ่งของมันยังคงค้างอยู่ในตัวของผม มันอยู่นิ่งให้ผมได้ปรับสภาพ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเจ็บมากกว่ารู้สึกดี
“ฮือ กู เจ็บ อา” ผมต้องร้องออกมา พยามยามสูดหายใจลึกๆ เพื่อบรรเทาอาการเหล่านั้น
“ใช่ อย่างนั้นแหละ อย่าเกร็ง ค่อยๆ” มันว่า พลางพยายามช่วยให้ผมลืมความเจ็บด้วยการสัมผัสหน้าอกและส่วนนั้นของผมอย่างแผ่วเบา
“อ๊า อือ แฮ่ก” พอมันเห็นว่าผมเริ่มรับได้แล้ว ก็ค่อยกดเอวผมลงช้าๆ อ่อนโยนเท่าที่มันจะทำได้
“อา ดี เวย์ อือ” เสียงครางอย่างพอใจของมันทำให้ผมค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ ถึงจะยังเจ็บ แต่ก็เริ่มรู้สึกดีอยู่บ้าง มือของมันทั้งสองข้างยังคงวุ่นวายอยู่กับร่างกายของผม
“ฮ้า” เราหายใจออกเฮือกใหญ่พร้อมกันเมื่อร่างกายของเราประสานเป็นหนึ่งเดียวกันในที่สุด อารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงทำให้ผมขยับตัวขึ้นลงตามสัญชาตญาณ สมองไม่รับรู้อะไรอีก นอกจากเคลื่อนไหวตามจังหวะที่อีกคนชี้นำ ซึมซับความสุขที่กำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังปีนป่านขึ้นสู่บันไดสวรรค์
“อ๊ะ อ๊า อือ” ผมครางแรงขึ้นเมื่อคนข้างล่างดูเหมือนจะไม่พอใจกับจังหวะเนิ่บนาบ เลยพลิกตัวให้ผมคุกเข่าลงกับพื้น มือที่แทบไม่แรงพยายามยันตัวไว้อย่างสุดความสามารถ โดยมีมันซ้อนอยู่ข้างหลัง แล้วเริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะที่ไม่มีคำว่านุ่มนวล อ่อนโยน เข้ามายุ่งอีก
“อ๊า ไนท์ อือ เบาๆ หน่อย อ๊ะ”
“อา เวย์ ดีไหม” มือของมันเริ่มสัมผัสจุดอ่อนไหวทั้งสองจุดของผมอีกครั้ง ในขณะที่สะโพกก็กำลังทำงานได้ดีเหลือหลาย ดีจนความอดทนอดกลั้นเฮือกสุดท้ายของผมหมดลง
“ไนท์ กู..อ๊า” ผมล่วงหน้าไปแล้ว ในขณะที่มันใส่เกียร์เร่งเครื่องเต็มที่โดยไม่สนใจสวัสดิภาพของคนข้างล่างอย่างผมที่หัวแทบจะลงไปกินหญ้าได้แล้ว
“ฮึ่ก อา” และแล้วมันก็ปลดปล่อยในตัวผมจนรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของมัน มันพลิกตัวให้ผมนอนอยู่บนตัวมัน นอนลงด้วยความอ่อนแรง
“เหนื่อยว่ะ แต่ว่า ค่อยหายคิดถึงเมิงหน่อย” มือข้างหนึ่งเอื้อมมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบา แสดด เมิงพอจะหวานก็เล่นเอากูจะกระอักตายเลยนะเมิง
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยมึง แม่งง นี่กูทำไปได้ยังวะ กลางแจ้งนะเว้ย แม่งง” ผมบ่นอุบอิบ แม่ง เสียเซลฟ์โคตรอ่ะครับ
“บ่นอะไรหึ วันหลังลองทำที่อื่นมั่งเนอะ ตื่นเต้นดี”
“ฮะ ไอ้บ้า ไอ้ ไอ้ แม่งงง ไอ้หื่นเอ๊ย”
“ฮ่าๆ ใครใช้ให้มันโดดมายั่วกูล่ะวะ”
“ใครยั่วมึง แม่ง”
“หึ ไม่รู้ โดดมานอนทับกูเลย ใครวะ” ผมนี่หน้าแดงขึ้นทันทีเพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อกี้ จะเถียงว่าไม่ใช่ หลักฐานมันก็ฟ้องอยู่ แม่งง แพ้ทางเว้ย
“อ่ะ อย่างอนๆ ยิ้มหน่อยดิวะ กูไม่เคยทำกับใครที่นี่มาก่อนเลยนะ เมิงคนแรก”
“สาด ดีใจตายห่าล่ะ” แม่ง น่าหมั่นไส้ชิบ ผมลุกจากตัวมันแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าใส่ แล้วก็ต้องกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ อย่างน่าเตะของใครอีกคน ที่ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะไม่มาซ่อนที่นี่อีก เข็ดครับ
จุ๊บ
สะดุ้งเลยครับ ก็อยู่ดีๆ ไอ้คนที่ขำอยู่เมื่อกี้มันลุกขึ้นมากอดผมจากทางด้านหลัง แล้วขโมยหอมแก้มผมแรงๆ อาการอ้อนที่เพิ่งเคยเห็นจากมันเป็นครั้งแรก วันนี้มันทำผมอายไปกี่รอบแล้วเนี่ย
“ป่ะ กินข้าวกัน” ว่าแล้วก็กอดคอผมพาเดินไปทันที
“ด่ะ..เดี๋ยว”
“หืม??”
“คือว่า เอ่อ...จะไป..ห้องน้ำ” พูดจบก็ก้มหน้างุดด้วยความอายครับ ไม่งั้นจะให้ทำไงล่ะ จะไปเดินทั้งอย่างนี้เหรอครับ ไม่ไหวอ่ะ
“ฮ่ะๆ รายวะ ไม่ได้สกปรกซะหน่อย ยังหอมอยู่เลยน่า” ถึงมันจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ยอมพาผมไปห้องน้ำแต่โดนดี โอ๊ยยย หมาในปากไอ้เวย์วันนี้พากันเฉาตายหมดเลยครับ ไม่มีออกให้ช่วยกันทำมาหากินสักตัว แย่ๆ อยู่กับเสื้อร้ายอย่างมัน บรรดาน้องหมาของผมก็เลยพากันไม่กล้าทำหน้าที่ซะอย่างนั้น - - อ๊ากกกก กลางแจ้งโว๊ยยยยย ผมไม่ว่านะ ถ้ามีใครอยากลองทำ แต่แนะนำนิด หาผ้ามาปูด้วยนะครับ เพราะมัน...คันเว้ยย
------------------------
= ^ =
TBC. จ้าา