ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===  (อ่าน 150416 ครั้ง)

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 7

จักริณทร์นั่งมองชยุตม์กำลังวัดระยะของโรงรถหน้าบ้านอยู่เงียบๆ เขาสังเกตว่าชยุตม์ค่อนข้างเปลี่ยนไป ปกติวิศวกรหนุ่มเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก แต่หลายวันที่เขามาเยี่ยมที่น่าน ชยุตม์ดูเงียบขึ้นกว่าเดิม บางครั้งดูจมอยู่ในความคิดของตัวเอง และบทรักก็เนิบนาบ ไม่เร่าร้อนเช่นเคย
ทั้งที่อยากถามว่าทำไมชายหนุ่มจึงดูเนือยๆ แต่เขาก็ยังไม่กลา ใจหนึ่งก็คิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องงาน และการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ เขาไปเที่ยวน้ำตกและชมวัดตอนที่ชยุตม์ทำเงานเลยไม่ได้เห็นว่าเหตุการณ์ที่ชาวบ้านมาประท้วงนั้นรุนแรงเพียงใด ชยุตม์บอกว่าโชคดีเป็นตัวตั้งตัวตีและทำไปเพราะไม่ชอบหน้าเขา
“ผมก็เห็นเขาคุยดีนี่นา เจอกันที่ไปรษณีย์เขายังทักผมเลย” จักริณทร์เล่าให้ชยุตม์ฟัง
“เขาพูดดีกับคุณนะสิ ดีกับทุกคนแต่ไม่ใช่ผม” ชยุตม์พูดราวกับตัดพ้อ

จักริณทร์ไปหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ ชยุตม์หันมาส่งยิ้มให้บางๆ แล้วถามว่า “หลับสบายไหมครับ”
“สบายที่สุด อากาศสดชื่นจริงๆ นานแล้วที่ไม่ได้นอนเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์แบบนี้” จักริณร์สูดเอาอากาศเข้าไปเต็มปอด
“เกินสิบปีแล้วมั๊ง”
“นานจนจำไม่ได้ ผมว่าตั้งแต่จำความได้ก็นอนห้องแอร์มาตลอด” จักรินทร์บิดขี้เกียจ “ยุตม์ตื่นแต่เช้าแบบนี้ทุกวันหรือครับ”
“ปกติก็ไม่เช้ามาก แต่ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ตื่นเช้าเองโดยอัตโนมัติ พอรู้สึกว่าพระอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าเริ่มสว่าง ตาผมก็ลืมขึ้นมาเอง”
“จะว่าไป วิถีชีวิตที่นี่ก็เรียบง่าย น่าอยู่นะครับ”
“ทำไม” ชยุตม์เลิกคิ้ว “คิดอยากจะมาอยู่หรือ”
“มาอยู่นี่ผมจะทำอะไรกินล่ะ จะให้ทิ้งงานทิ้งที่บ้านมาหรือไง”
“ไม่รู้สิ” ชยุตม์ยักไหล่ “แล้วเรื่องบริษัทเป็นยังไงบ้าง ที่ว่าจะลาออกมาดูแลบริษัท จักรยังคิดว่าจะ...”
“คงอีกซักระยะครับ” จักริณทร์เดินมแตะแขนชยุตม์ “ออกนะออกแน่ พอผมไม่ต้องบินก็จะมีเวลาให้ยุตม์มากขึ้น”
“งานบริษัทก็ใช่ว่าจะไม่ยุ่งนะ”
“ตอนแรกอาจจะยุ่ง ถ้าลงตัวแล้วก็คงจะดีขึ้น ว่าแต่ยุตม์เถอะ เสร็จจากการพักร้อนคราวนี้ จะได้พักร้อนจริงๆ หรือเปล่า หรือมีงานอื่น”
“The Krisida ครับที่ใต้หวัน ชอปปิ้งมอลล์ริมน้ำ ปลายๆ ปีก็จะเริ่ม ตอนนี้สถาปนิกเขาทำงานไปได้เยอะแล้วเหมือนกัน”
“ตกลงยุตม์ทำแน่หรือ โครงการใหญ่มาก”
“ยากด้วย มันมีข้อจำกัดหลายอย่างจนผมรู้สึกหนักใจ”
“ ก็ไหนชอบความท้าทายไง ยุตม์เก่ง ทำได้อยู่แล้ว ถ้าเสร็จก็เรียกว่าเป็น master piece”
“ผมไม่ค่อยอยากจะไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว ยิ่งโครงการใหญ่มากขนาดนั้น ก็คงต้องไปอยู่โน่นหลายปี”
...มาทำงานโปรเจ็คเล็กๆ ต่างจังหวัดไม่ถึงเดือนชักจะติดใจ จะว่าไปชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...
ชยุตม์อดคิดต่อไม่ได้ว่า จริงอยู่ โครงการเล็กๆ แบบนี้ไม่ต้องใช้ความสามารถมากนัก แต่การทำงานหนัก สร้างเสริมประสบการณ์มาตลอดตั้งแต่เรียนจบจนเขากลายมาเป็นวิศวกรที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างมีคจ้างงานไม่ได้ขาด เขาก็ต้องทำโปรเจ็คใหย่ๆ เป็นผลงานเอาไว้ และที่สำคัญ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่จบสิ้น เป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถอีกด้วย
“ยุตม์เคยคิดไหมว่าอยากจะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด” จู่ๆ จักริณทร์ก็ถามขึ้น
ชยุตม์ยิ้ม “ผมนี่นะ มาอยู่ที่นี่”
“เปล่า อาจไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ต่างจังหวัดที่ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่”
“ผมก็คงถามตัวเองเหมือนจักรนั่นล่ะว่าผมจะทำอะไรกิน”
“ก็สร้างบ้าน สร้างตึก อาคารพาณิชย์ รับต่อเติมบ้าน ไม่ก็สร้างโกดังเก็บของ” จักริณทร์พูดยิ้มๆ
“โอ้โห ดูถูกันมามากเลยนะนั่น เคยเห็นผลงานของผมแล้วไม่ใช่หรือ”
“งั้นก็รับสร้างรีสอร์ทริมน้ำก็ได้ เอาให้ครบแม่น้ำทุกสายของประเทศ” จักริณทร์ล้อเลียน
“ขอให้ที่นี่เสร็จกอนเถอะ ลึกๆ ผมยังหวั่นใจอยู่ว่ารีสอร์ทที่นี่จะออกหัวหรือออกก้อย”
ชยุตม์ถอนใจ วิถีชีวิตของเขาคงไม่สะดวกราบรื่อนหากสมมุติว่าเขาจะมาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดเช่นจังหวัดน่านแห่งนี้
ตอนนี้เรื่องประท้วงรีสอร์ทเงียบไปหลายวัน ไม่รู้ว่าโชคดีกำลังวางแผนอะไรอยู่
“ยุตม์ วันนี้เราไปเที่ยวน้ำตกตาดม่านกันนะ ผมอยากเล่นน้ำเย็นๆ กระโดดน้ำให้สนุก” จักริณทร์ชวน
“น้ำจะมีเร๊อ” ชยุตม์ถาม
“ไม่มีก็เอาแค่ว่ายน้ำในธารน้ำใสๆ ท่ามกลางธรรมชาติ”
“ครับ” ชยุตม์รับคำ ตั้งแต่จักริณทร์มาเยี่ยม เขายังไม่ได้พาชายหนุ่มเที่ยวเลยแม้แต่นิด
“ไปผ่อนคลายอารมณ์กันนะ ทิ้งเรื่องกังวลใจต่างๆ เอาไว้ซักวัน” จักริณทร์ยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นมาตบบ่าชยุตม์เบาๆ


ร.ต.อ. ปฐพีเกาหัวแกรกๆ เมื่อโชคดีพยายามอธิบายเรื่องผลกระทบทางนิเวศน์วิทยาและปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการสร้างรีสอร์ท The River Bend โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างประตูน้ำผันน้ำเข้าออกโครงการที่จะเป็นประเด็ดหลักที่จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเปลี่ยนไป
“พอน้ำหลากเขาก็ผันน้ำออก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงกว่าปกติ ไม่ก็น้ำท่วม เวลาหน้าแล้งก็จะผันน้ำเข้า น้ำก็จะไม่เหลือให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ ผู้กองต้องช่วยกันขัดขวาง” โชคดีสรุป
“โธ่ โชคดี ผมว่าเขาก็น่าจะจัดการดีอยู่ ไม่กระทบอย่างที่เรากลัว” ปฐพีทำหน้าอ่อนใจ
“ผู้กองรู้ได้ยังไง ผมไม่เคยเห็นนายทุนหน้าไหนจะแคร์เรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว” โชคดียักไหล่ เสียงแข็ง
“คุณมองคนแง่ลบมากเกินไปหรือเปล่า”
“แล้วผู้กองมองคนแง่บวกมากเกินไปหรือเปล่าล่ะ” โชคดีย้อน
“ผมมองเป็นกลาง”
“เป็นกลางไม่ได้หรอก ผู้กองต้องเอียงมาทางด้านผม ถ้าไม่เอียงมาทางด้านนี้ผู้กองก็เป็นพวกโน้น” โชคดียื่นคำขาดดื้อๆ
“อ้าว ไหงพูดแบบนี้” ปฐพีทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เราต้องเลือกข้าง จะซ้ายหรือขวาก็เลือกเอาซักอย่าง จะเห็นด้วยหรือต่อต้าน จะสนับสนุนหรือคัดค้าน จะสู้หรือจะถอย ต้องเลือกให้ชัดเจน” โชคดีทำท่าเหมือนจะปลุกระดม
“ประนีประนอมไม่ได้หรือครับ” ปฐพีต่อรอง “จะให้โลกนี้มีขาวกับดำสองสีหรืออย่างไร”
“แสดงว่าผู้กองไม่เห็นด้วยกับผม”
ปฐพีถอนหายใจ บทโชคดีจะดื้อก็ดื้อจนไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น “เท่าที่รู้ คุณชยุตม์เขาก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่” ปฐพีพยายามใจเย็น
“เขาเป็นวิศวกร เขาจะทำอะไรได้มาก สถาปนิกสิ ไม่ก็ผู้บริหารของโครงการที่เป็นคนวางแผน”
“คุณชยุตม์เป็น...” ปฐพียั้งคำพูดไว้ทัน กำลังจะบอกว่าชยุตม์เป้นหลานอาของเจ้าของโครงการ และเป็นลูกชายของพี่ชายเจ้าของโครงการซึ่งเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวมมหาดไทย กระดูกชิ้นโต ผู้มีอิทธิพล แม้กระทั่งเป็นอำนาจมืดที่อาจจะทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อการต่อต้านการสร้างรีสอร์ท
...โชคดีจะว่าอย่างไรหากรู้ว่าชยุตม์เกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าของโครงการ และที่สำคัญเป็นลูกรักของผู้ที่โชคดีปักใจสรุปว่าเป็นผู้มีอิทธิพล...
“เขายังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ปฐพีให้เหตุผลแก่โชคดี
“ตอนนี้ยัง ต่อไปไม่แน่ การต่อสู้ยังไม่เข้มข้น ถ้าถึงตอนนั้น ใครจะรู้ว่าอาจมีคนมาดักทำร้ายผม ไม่ก็ดักยิง” โชคดีพูดจริงจัง
...ก็ชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยนนี่นา...
ปฐพีย้อนในใจ ไม่กล้าพูดออกมา แต่เขาก็บอกตัวเองว่าจะคอยช่วยชายหนุ่มเท่าที่จะสามารถทำได้ เขารู้สึกห่วงใยโชคดี ความเป็นโผงผางตรงไปตรงมาของโชคดีอาจไปสะกิดต่อมความไม่พอใจของใครบางคนตอนไหนก็ไม่รู้ แต่โชคดีที่ยังไม่มีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลและคุณอำพลเจ้าของ The River Bend ก็นับได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง กรณีนี้เขาจึงไม่ค่อยกังวลนัก
“ว่าแต่ว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา ผู้กองจะอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายเขาหรือฝ่ายผม” โชคดีบังคับให้ปฐพีเลือกอีก
“ผมจะเป็นนกสองหัว เข้ากับทั้งสองฝ่าย จะเกลียดผมก็ต้องยอม เพราะผมต้องการคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง” ปฐพีตอบยิ้มๆ “แต่ว่าตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันได้ไหม อุตส่าห์มาเที่ยวน้ำตก พักผ่อนในวันหยุด มาชื่นชมกับธรรมชาติกันก่อนเถอะ”
“ใครว่าผมมาเที่ยว”
“อ้าว ที่ชวนผมมานี่นะ เรื่องอะไรกันล่ะ” ปฐพีทำหน้างง
“มาให้ผู้กองเห็นว่า น้ำที่มันมีอยู่มันเหลือไม่เท่าไหร่แล้วไง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าหน้าหนาวเต็มที่ น้ำที่น้ำตกยังน้อยกว่าทุกปี ลองนึกภาพอีกสี่ห้าปีสิครับ”
“แม่น้ำน่านไม่ได้ไหลมาตกที่นี่ซักหน่อย อย่าบอกนะว่าดึงให้มันไปเกี่ยวกับรีสอร์ทของนายช่างชยุตม์ให้ได้” ปฐพีอดพูดกระทบไม่ได้
“ผู้กอง พูดยังงี้หมายความว่ายังไง” โชคดีตาขวาง เตรียมเอาเรื่องนายตำรวจหนุ่มที่ยืนทำหน้ายิ้มๆ
ปฐพีหลบหน้า พยายามเลี่ยงที่จะคุยต่อ ทันใดก็มองเห็นร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังเดินมาจึงร้องทัก
“คุณชยุตม์”
โชคดีหันตาม ทำตาขวางทันที “มาทำไม”
“โชคดี อย่าหาเรื่องนายช่างเขานะ” ปฐพีหันมาปรามคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ
“พูดยังกับว่าผมเป็นอันธพาล ถ้าผมทำผิด ผู้กองก็จับเขากรงเลยสิ” ชายหนุ่มท้าทาย
“อยากจับอยู่เหมือนกัน”
...กรงขังหัวใจไงล่ะ...
ปฐพีคิดต่อในใจ มองตามโชคดีที่เดินตรงลิ่วไปหาชยุตม์และชายหนุ่มที่เดินมาด้วยกัน ซึ่งฝ่ายนั้นก็ดูประหลาดใจพอสมควรที่เห็นเขาทั้งสองคน
“มาหาทำเลสร้างรีสอรท์แห่งใหม่หรือครับ” โชคดีทักชยุตม์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากความจริงต้องการเหน็บแนม
อีกฝ่ายรู้ว่าโดนว่ากระทบกระเทียบแต่ก็ยังยิ้มรับ “พาคุณจักริณทร์มาเที่ยวน้ำตกครับ ว่าแต่คุณโชคดีคงมาสำรวจแหล่งน้ำเพราะกลัวน้ำหมดป่า”
“คุณโชคดีทำงาน NGO หรือครับ” จักริณทร์พาซื่อ
“เปล่าครับ ผมเป็นประชาชนธรรมดาที่ใส่ใสธรรมชาติ” โชคดีเน้นเสียง
“ดีจังเลยนะครับ คนสมัยนี้ลืมว่าธรรมชาติของเรากำลังโดนทำลาย” จักริณทร์แสดงความเห็น
“ใช่ครับ คนเราเห็นแก่ตัวกนมาก คิดแต่จะได้ประโยชน์จนลืมนึกไปว่า หรือไม่สนว่า ธรรมชาติต้องได้รับการปกป้อง ถึงไม่ทำลายโดยตรง แต่ก็ช่วยคนอื่นทำลาย”
ชยุตม์ยืนฟัง ไม่สนใจที่โดยกระทบกระเทียบ จักริณทร์ยังคุยเรื่องธรรมชาติกับโชคดีเพราะไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง หันไปมองปฐพีก็ทำหน้านิ่งเรียบ
“ขึ้นไปข้างบนหรือยังครับคุณชยุตม์” ปฐพีถาม หมายถึงน้ำตกชั้นบน
“ยังครับ ผมเพิ่งมาถึง”
...มาถึง โชคดีก็บรรยายเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้เที่ยวน้ำตกแต่อย่างใด...
“เราก็เพิ่งมาถึงเหมือนกน งั้นไปด้วยกันเลยนะครับ คุณ...เอ่อ...” ปฐพีหันไปหาจักริณทร์
“จักริณทร์ครับ เพื่อนผมจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยม” ชยุตม์แนะนำจักริณร์ให้รู้จักกับปฐพีแล้วเดินนำไปตามทางเดินเข้าสู้น้ำตก
ชยุตม์แปลกใจที่โชคดีเดินประกบเขาตลอดเวลา ปล่อยให้จักริณทร์เดินคุยกับปฐพีที่เดินตามหลังมาช้าๆ ชายหนุ่มผู้ต่อต้านการสร้างรีสอร์ทพยายามพูดเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยากับเขาต่อและแทรกด้วยการพูดกระทบกระเทียบเป็นระยะ ขัดกับใบหน้ายิ้มๆ จนชยุตม์รู้สึกว่าโชคดีกำลังกวนประสาทเขา
“คุณโชคดีครับ สรุปแล้วคุณจะขัดขวางการก่อสร้างรีสอร์ทให้ได้ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่มีหลักฐานเชิงลึกว่ารีสอร์ทของเราทำลายระบบนิเวศน์โดยรอบ” ชยุตม์สุดจะจน จ้องหน้าโชคดีเขม็ง แต่เท้ายังก้าวเดินช้าๆ
“ใช่” โชคดียอมรับ “ถ้าคุณจะเอรายงานผลกระเชิงลึก ผมจะทำให้ไม่ได้หรอก มันต้องใช้ทีมวิจัยและคนมีความรู้ทางวิชาการและใช้เวลา กว่าจะทำเสร็จ พวกคุณก็สร้างรีสอร์ทเสร็จแล้ว ไม่งั้นคุณจะเสนอเงินหนึ่งล้านให้คนที่หาหลักฐานได้หรือ อ้อ ที่จริงสองล้านสิ เจาะจงว่าหากเป็นคนที่ชื่อว่าโชคดีหาได้จะให้สองล้าน คุณก็รู้ว่ายังไงตัวเองก็ชนะ จะเสนอเงินทำไม แล้วมีเงินหรือนั่น สองล้านไม่ใช่น้อยๆ นะ หวังว่าคงไม่เอาเงินของนายทุนมาให้ผม”
ชยุตม์ส่ายหน้า แล้วเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไป โชคดีไม่ยอมแพ้ เดินตามไม่ห่าง
...เอาสิ เล่นกับโชคดีสิ จะปั่นหัวให้ประสาทกินจนต้องย้ายกลับกรุงเทพฯ เลยทีเดียว”
“ท่าทางคุณก็เป็นคนดีนะ ทำไมเข้าใจอะไรยาก” โชคดีเดินเข้ามาใกล้
...ผมต่างหากควรจะเป็นคนพูดประโยคนี้...
ชยุตม์ตะโกนในใจ หากเก็บคำพูดเอาไว้ ทำทีเป็นไม่สนใจคนที่จ้องจะยั่วโมโหเขา
...เขารู้ดีว่าโชคดีพยายามยั่วให้เขาโกรธ เพื่ออะไร เพื่อหาเรื่องทะเลาะ หรือเพื่อปกป้องธรรมชาติ...
...ไม่มีวันเสียล่ะ โชคดีไม่ชนะเขาหรอก ยั่วได้ยั่วไป เขาจะนิ่งเงียบ เดี๋ยวอีกหน่อยโชคดีก้คงเบื่อ เลิกพูดไปเอง...
“หรือคุณมีส่วนได้ส่วนเสีย ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกนายทุนนัก”
...โอย พอกันที ว่าจะอดทน แต่เขาไม่ไหวแล้ว...
“คุณโชคดีครับ กรุณาเลิกกล่าวหากันได้แล้ว ตั้งแต่เจอกัน คุณใส่ความผมไม่ได้หยุดหย่อน จะเกลียดกันไปถึงไหน”
“ผมว่าคุณเจอคนที่อ่านคุณออกมกกว่า บางที ผมอาจเป็นคนที่รู้จักคุณ เชิงลึก มากกว่าใคร”
“โชคดี คุณชยุตม์” ปฐพีเดินเข้ามาใกล้แล้วรีบเรียกชื่อของทั้งสองที่ทำท่ากำลังจะกระโดนเข้าต่อยกัน “คุณชยุตม์ครับ ผมว่าแวะซื้ออะไรกันก่อนนะครับ ผมกับคุณจักริณทร์เห็นว่าเราน่าจะซื้ออะไรไปนั่งทานริมธารน้ำตก ถือซะว่าเป็นการปิกนิกกลางธรรมชาติ”
“ธรรมชาติมันไม่เหลือจะให้ปิกนิกแล๊ว” โชคดียักไหล่แล้วเดินไปก่อน ทิ้งให้จักริณทร์มองตามงงๆ แล้วเปรยขึ้นว่า
“คุณโชคดีท่าจะรักธรรมชาติมาก ดีจังเลย ถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ เมืองไทยคงน่าอยู่”
...ถ้ามีคนแบบโชคดีเยอะๆ เขาคงเป็นโรคประสาทพอดี ไปทำงานสร้างตึกที่ไหนคงมีแต่คนถือป้ายประท้วงมารวมกลุ่มต่อต้านอยู่หน้าโครงการ...
จักริณทร์ถอนหายใจเบาๆ มองตามจักริณทร์ที่เร่งเดินตามโชคดีไป ผู้กองปฐพีมองยิ้มๆ แล้วหันมาปลอบชยุตม์ว่า “อดทนหน่อยนะครับ อีกหน่อยโชคดีก็คงเข้าใจ”
ปฐพีพูดไปก็อดกังวลไม่ได้ ด้วยรู้ว่าคนอารมณ์ร้อนอย่างโชคดีคงโวยวายไม่น้อยหากรู้ว่าชยุตม์เป็นใคร เป็นลูกชายของใคร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าของโครงการรีสอร์ท The River Bend

จักริณทร์ลอยคลออยู่ในธารน้ำของน้ำตก นักบินหนุ่มดูมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชยุตม์นั่งมองดูคนรักอย่างคิดคำนึง นานเข้า เขาเริ่มมีความรู้สึกว่าเขากับจักริณทร์เริ่มจะมีความเป็นเพื่อนกับมากกว่าเดิม เขายอมรับว่าไม่ได้คิดถึงจักริณทร์มากมายอย่างที่ควรจะเป็นเวลาบายหนุ่มเดินทางไปทำงนไกลๆ เป็นเวลานาน รวมถึงช่วงที่เขาทำงานที่น่าน เขาก็ไม่ได้รู้สึกทรมานด้วยความคิดถึงเลยแม้แต่นิด
...ก็ปวดหัวกับเจ้าของร้านขายเหล็กเจ้าปัญหาอยู่นี่นะ จะให้คิดถึงแฟนอย่างไรได้ แต่ละขั้นต้องคอยคิดว่าจะรับมือกับโชคดีอย่างไร เขาจะมีเวลาที่ไหนไปคิดถึงถึงจักริณทร์...
...แล้วนี่หายไปไหน มาถึงแล้วก็แวบไปไม่บอกอะไรซักคำ...
ชยุตม์หันซ้ายหันขวา เห็นปฐพีเอนตัวนอนพักอย่างมีความสุข จักริณทร์ยังเล่นน้ำอยู่คนเดียวอย่างเพลิดเพลิน ไม่มีวี่แววจะขึ้นจากน้ำ ชยุตม์จึงลุกขึ้นแล้วเดินตามหาโชคดีว่าหายไปไหน
...หรือไปปลุกระดมนักท่องเที่ยวให้มาต่อต้านการทำลายธรรมชาติ...
ชยุตม์ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วเดินลัดเลาะไปตามโขดหินจนมาหยุดยืนมองชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนเท้าสะเอวอยู่ต่อหน้าเด็กมัธยมศึกษากลุ่มหนึ่งที่ยืนฟังอยู่อย่างตั้งใจ
“จำไว้นะ เราทุกนต้องแสดงเจตน์จำนง ให้คนพวกนั้นรู้ว่าจะมาทำแบบนี้กับเมืองน่านของเราไม่ได้เป็นอันขาด”
...คิดไว้ไม่ผิด คราวนี้ปลุกระดมเด็กมัธยมเรื่องอะไร...
“กลับไปบอกเพื่อนๆ ที่โรงเรียน บอกพ่อแม่ บอกผู้ใหญ่แถวบ้านให้ต่อต้านการก่อสร้างรีสอร์ทที่มุ่งปรนเปรอความสุขให้คนรวยโดยไม่ใส่ใจในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” เสียงโชคดีประกาศ
...ตายล่ะ โชคดีเล่นแบบนี้เลยหรือ...
ชยุตม์อยากจะตะโกนแทรกอธิบายแย้งให้เด็กๆ เข้าใจ แต่เขาก็เห็นว่ายังไม่ควรทำ เดี๋ยวจะกลายเป็นเวทีมวยกลางน้ำตก จึงตัดสินใยรอจนโชคดีพูดจบและ “อนุญาต” ให้เด็กกลุ่มนั้นจากไปแล้วจึงเดินเข้าไปหา
“ผมว่าคุณไปหาเครื่องขยายเสียงมาประกาศให้ทุกคนทึ่มาเที่ยวน้ำตกให้มารวมกันฟังคุณทีเดียวเลยดีไหม จะได้ไม่เหนื่อยหลายรอบ” ชยุตม์พูดขึ้นใกล้ๆ หูของคนหัวรุนแรง
โชคดียืนนิ่ง ยังไม่เห็นหันมามองชยุตม์ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว เดินอ้อมไปยืนเผชิญหน้าคนที่ตั้งตัวเป็นฝ่ายต่อต้านเขา
“หรือไม่ก็ไปจ้างบริษัทโฆษณาทำสปอตฉายทางทีวีเสียเลย”
“ยังก่อน” โชคดีพูดเสียงเย็น “แต่วิทยุท้องถิ่นล่ะไม่แน่ ขอบคุณสำหรับไอเดียดีๆ”
โชคดีหันหลบกลับ เดินหนีชยุตม์ไปอีทาง วิศวกรหนุ่มไม่ได้เดินตามแต่พูดตามหลังว่า “คุณโชคดี ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะสร้างรีสอร์ทให้เสร็จตามกำหนดการ”
“ไม่ว่าจะยังไง ผมก็จะขัดขวางทุกวิถีทาง” โชคดีตอบโดนไม่หันมามอง ปล่อยให้ชยุตม์ยืนกัดฟันมองตามอย่างหนักใจ
...ทำไม่จะไม่รู้ โชคดีต้องขัดขวางเขาทุกวิถีทางอยู่แล้ว แต่อย่าคิดว่าคนเงียบๆ นิ่งๆ อย่างชยุตม์จะยอมแพ้ง่ายๆ นะ เขาชอบอะไรที่ท้าทาย และโชคดีนี่ล่ะ เป็นความท้าทายอย่างที่สุด...


katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ชยุตม์เดินกลับมาที่เดิม ปฐพียังหลับอยู่ แต่จักริณทร์ขึ้นมาจากน้ำแล้ว นุ่งผ้าเช็ดตัวเพียงตัวเดียวนั่งมองปฐพีอยู่เงียบๆ วิศวกรหนุ่มกระแอมเบาๆ จักริณทร์หันมามองแล้วยิ้มให้บางๆ
“สบายมากเลยยุตม์ น้ำเย็น สะอาด สดชื่นที่สุด ผมไม่เคยอาบน้ำแล้วมีความสุขแบบนี้มาก่อน” จักริณทร์ขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดต่อว่า “อยากมาช่วยยุตม์ทำงานที่นี่ซะแล้ว รู้สึกผ่อนคลายกว่าขับเครื่องบินตั้งเยอะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เหมือนได้เข้าสปาทุกวัน”
...เหมือนต้องเข้าสู่สมรภูมิทุกวันต่างหาก...
“แล้วนี่ไม่หนาวหรือ ทำไมไม่สวมเสื้อผ้า” ชยุตม์ถามคนรักเสียงนุ่ม
“รอให้ต้วเแห้งเอง” จักริณทร์ตอบยิ้มๆ แล้วหันไปมองรอบๆ “แล้วนี่คุณโชคดีหายไปไหนครับ ตั้งแต่มาถึงก็ไม่เห็นหน้าเลย”
“เขาก็ไปเดินตระเวนปลุกระดมมวลชนให้ต่อต้านการสร้างรีสอร์ทอยุ่นะสิครับ” ชยุตม์เบ้ปาก ตอบเสียงเนือยๆ
“พูดเป็นเล่น ยุตม์นี่ไม่ถูกกับคุณโชคดีเป็นเอามาก”
“จริงๆ นะจักร ผมไปเจอเขากำลังยืนทำไอปาร์คกลางป่ากับเด็กมัธยม กำลังล้างสมองเด็กให้ต่อต้านรีสอร์ทของคุณอา นี่ตอนเป็นนิสิต คงถือโทรโข่งตะโกนปาวๆ อยู่กลางสนามฟุตบอลเรียกร้องความยุติธรรม”
จักริณทร์หัวเราะเบาๆ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองปฐพีแวบหนึ่ง
“ผมก็ว่าเขาเป็นคนจริงใจดี ตรงไปตรงมา ไม่สวมหน้ากาก ผู้กองปฐพีก็เหมือนกัน เป็นมิตรแบบที่เราไม่ต้องกังวลเลยว่าเขาแกล้งทำหรือเปล่า แต่นี่ก็มานอนอย่างเดียวแท้ๆ” จักริณทร์หยุดพูดไปชั่วครู่แล้วพูดต่อว่า “ยุตม์ครับ คนที่นี่เขาดูเป็นมิตร ไม่สวมหน้ากากเหมือนสังคมกรุงเทพฯ หรือนิวยอร์คที่คุณไปอยู่หลายปี ไม่เหมือนแวนคูเวอร์ ไม่เหมือนปารีส หรือแม้แต่โตเกียว คุณเคยอยู่แต่เมืองใหญ่ๆ ที่คนไม่เคยสนใจอะไรรอบกายนอกจากตัวเอง พอมาอยู่จังหวัดน่านก็ยังปรับตัวไม่ได้ เขาหวงแหนธรรมชาติและท้องถิ่นของเขา เลยแสดงออกมาแบบนั้น แต่คุณโชคดีนี่เขาโผงผางไปนิด แต่ก็ไม่น่ามีพิษมีภัย อย่าคิดมากสิ”
...จักริณทร์มองคนในแง่บวกเสมอ นี่คือข้อดีอีกอย่างของจักริณทร์ที่เขาชอบ รวมถึงความใจเย็น...
...ต่างจากโชคดีลิบลับ...
...จักริณทร์จะว่าอย่างไรนะ หากรู้เรื่องที่โชคดีบุกไปถึงบ้าน บีบให้โต๋รับผิดชอบเดือนและลูกในท้อง และจับแต่งงานภายในสองวัน อีกทั้งขู่ว่าจะจัดการไม่ให้โต๋ได้มีโอกาสเหยียบเมืองน่าน และหากโต๋ไม่รับผิดชอบลูกก็จะให้เดือนเอาเด็กออก...
...และข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับคื กว่าหนึ่งสวนสามของลูกน้องเขาที่ไซท์งานเป็นลูกหนี้โชคดีทั้งนั้น รวมถึงแสวงด้วย ตอนนี้เขาจึงเข้าใจว่าทำไมแสวงจึงได้ทำท่าเกรงกลัวโชคดีนัก ส่วนตำรวจอย่างผู้กองปฐพีก็คงเอาโชคดีไม่อยู่ จัดการกับโชคดีไม่ได้ แต่ก็นั่นล่ะ เขาคิดว่าปฐพีคงชอบโชคดีอยู่เหมือนกัน ท่าทางยอมๆ โชคดีอยู่ไม่ใช่น้อย...
...จะว่าไป ปฐพีก็ดูใจเย็น มองโลกในแง่ดีเหมือนจักริณทร์และดูเข้ากันได้ดี แต่หากปฐพีกลายเป็นแฟนกับโชคดีก็คงแปลกน่าดูและท่าทางคงถูกแฟนข่ม...
...แล้วใครล่ะจะเหมาะกับโชคดี คนแบบนี้จะมีแฟนกับใครเขาได้ด้วยหรือ ดุขนาดนั้น ใครจะมาทนอยู่ด้วยได้...
...คนที่จะมาเป็นแฟนโชคดีต้องเป็นคนแข็ง ใจเย็นและอดทน แต่ในขณะเดียวกันต้องร้ายลึกพอที่จะสู้รบปรบมือกับโชคดีให้ได้...

ชยุตม์เดินออกจากสำนักงานมาที่รถ วันนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปได้ตามแผนงาน วันทำงานจบลงอีกวันหนึ่งโดยไม่มีเรื่องให้หนักใจ รวมถึงเรื่องการประท้วงที่ทุกคนหนักใจ กลุ่มต่อต่อต้านไม่ได้กลับมาอีกนับจากวันนั้นที่เขาประกาศมอบเงินรางวัลหนึ่งล้านบาทให้แก่ผู้ที่หาหลักฐานมายืนยัน คุณอาของเขาทราบข่าวแล้วเพราะผู้จัดการโครงการโทรไปรายงาน เขาจึงถูกบ่นเสียยกใหญ่ แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบาย คุณอาของเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของชยุตม์
“อาจะขายหุ้นให้ยุตม์เลยดีไหม เอาไปซัก 40 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะเหลือให้กลุ่มเจียงสกุลสิบห้าเปอร์เซ็นต์ก็พอ”
ชยุตม์ปฏิเสธ เพราะยังไม่คิดจะทำธุรกิจในตอนนี้ เขายังเด็กและยังอยากทำงานวิศวกรให้เต็มที่ ไม่อยากจะมากังวลกับเรื่องการถือหุ้นอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ หากโชคดีรู้ว่าเขาถือหุ้นของรีสอร์ทที่เจ้าตัวเกลียดนักหนา เขาคงโดนเกลียดไปด้วย
...ไม่ใช่สิ โดนเกลียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แค่เป็นวิศวกรโครงการ โชคดีก็ไม่ชอบหน้าเขาจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามาถือหุ้น โชคดีคงถึงกับไม่มองหน้าเขา...
ชยุตม์หันไปเห็นโต๋กำลังทำงานอยู่จึงเดินเข้าไปหาและถามด้วยความแปลกใจที่โต๋ไม่รีบตาลีตาเหลือกกลับบ้านเช่นทุกวัน
“โต๋ เลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อตาโวยวายเอานะ” ชยุตม์ถามแกมเหน็บแนมอีกคนที่คยควบคุมดูแลคุ่สามีภรรยาวัยรุ่นคู่ใหม่
“คุณโชคดีไม่อยู่ครับ” โต๋ตอบยิ้มๆ เมื่อได้ยินชยุตม์เรียกโชคดีว่า พ่อตา “เดือนโทรมาบอกว่าไม่ต้องรีบกลับก็ได้ คุณโชคดีไปเชียงใหม่ อาจจะกลับค่ำๆ”
“ไปทำไม” ชยุตม์พึมพำ ไม่ได้ตั้งใจถาม แต่คำตอบที่ได้ยินจากโต๋ทำให้เขาต้องนิ่ง
“ไปคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นอาจารย์ครับ เห็นเดือนบอกว่าคุณโชคดีจะจัดการนายช่างให้อยู่หมัด” โต๋ตอบแบบที่ได้ยินเดือนพูดให้ฟัง
“จัดการ หมายความว่าจัดการเรื่องประท้วงต่อต้านรีสอร์ทนี่นะ”
...เอาจริงแฮะ โชคดีท่าทางจะเอาจริง แต่คนอย่างโชคดีก็คงเอาจริงทุกอย่างนั่นล่ะ...
...แล้วทำไมโชคดีบอกว่าจะจัดการเขาให้อยู่หมัด นี่เปลี่ยนเป้าหมายจากรีสอร์ทมาเป็นตัวเขาแล้วหรืออย่างไร...
“โต๋ก็รีบกลับบ้านเถอะ ถึงเขาไม่อยู่ก็อย่ากลับค่ำ สายเขามีทั่วทุกหัวระแหงไม่ใช่หรือ เข้าไปถึงหูพ่อตาแล้วจะยุ่ง”
โต๋พยักหน้าแล้วเก็บของให้เข้าที่ “ครับ กลับแล้วครับ อ้อ แต่ว่านายช่างอย่าไปพูดให้คุณโชคดีได้ยินว่าเป็นพ่อตาผมนะครับ เดี๋ยวโกรธปรอทแตก เมื่อวาน คนงานโดนไล่ออกไปคน โทษฐานส่งของลูกค้าผิดที่”
...ขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมร้ายแบบนั้น แล้วเรื่องโกรธปรอทแตกเพราะพูดไม่เข้าหูนี่เขาสงสัยนักว่าระหว่างเรียกชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง กับล้อเล่นว่าเป็นพ่อตา อย่างไหนโชคดีจะโกรธมากกว่ากัน...
“แล้วเรื่องคุณโชคดีไปคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเพื่อมาจัดการนายช่าง ผมจะคอยสืบสวนให้” โต๋ทำท่าจริงจัง
“ไม่ต้องหรอก แต่ขอบใจนะโต๋ ผมจะไปสืบเอง ให้มันรู้ไปสิว่าเขาจะมุ่งมาจัดการผม แทนที่จะเป็นการต่อต้านการสร้างรีสอร์ท”

ชยุตม์มาหยุดยืนหน้าร้านโชคดีค้าเหล็กเอาเมื่อเวลาหนึ่งทุ่ม มีลูกค้าอยู่สี่ห้าคนกำลังเลือกซื้อสินค้า พงษ์เดินเข้ามาทักทายแล้วเชิญให้เขาไปนั่งคอยโชคดีในห้องทำงานแต่ชยุตม์บอกว่าไม่ได้มาพบเจ้าของร้าน
“ผมมาหาคุณเตือนใจ” ชยุตม์แจ้งความประสงค์
“คุณนายไม่อยู่ครับ ไปซื้อของ แต่อีกหน่อยก็คงกลับ นายช่างรอเดี๋ยวนะครับ” พงษ์ตอบแล้วขอตัวไปดูแลลูกค้า ปล่อยให้ชยุตม์นั่งมองไปรอบๆ สภาพภายในร้าน
ธุรกิจของโชคดีท่าทางไปได้ดี ตลอดเวลาที่เขานั่งอยู่มีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว เขาอดคิดไม่ได้ว่าหากโชคดีขายเหล็กให้โครงการรีสอร์ทชายหนุ่มก็จะทำรายได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่โชคดีคงไม่ยอม คนๆ นี้มีทิฐิมากนักเกินกว่าจะยอมฝืนอุดมการณ์ตัวเองเพื่อแลกกับเงิน
...เหมือนพ่อเขาไม่มีผิด เหมือนโชกออกมาจากพิมพ์เดียวกันยังไงยังงั้น นี่ถ้าได้อยู่ด้วยกันคงถูกคอกันอย่างรวดเร็ว...
เมื่อนึกถึงผู้เป็นพ่อ ชยุตม์ก็ถอนหายใจเบาๆ พ่อเขาเริ่มระแคระคายเรื่องของเขาแล้ว ทั้งที่พ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่เขาก็รู้ว่าพ่อคงทำใจลำบากที่รู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ ความจริงเขาคิดว่าพ่อคงจะสงสัยมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว หรือบางทีก็คงตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย แต่พ่อก็ไม่เคยพูดอะไรหรือแสดงท่าทีใดๆ จวบจนกระทั่งพี่ชายคนรองของเขาเปิดเผยตัวเองให้พ่อกับแม่ทราบ คราวนี้เลยก็กลัวลูกชายคนเล็กจะเป็นเหมือนพี่ชายคนรองไปอีกคน
...ซึ่งพ่อก็คงจะคิถูก และคงจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าเขากับจักริณทร์เป็นแฟนกันมาได้กว่าหนึ่งปีแล้ว และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่คอนโดของเขา แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเพราะการทำงานที่แตกต่างกัน แต่ก็เรียกว่าเขากับจักริณทร์ใช้ชีวิตคุ่อยู่ด้วยกัน
ชยุตม์รออยู่ประมาณ 10 นาทีคุณเตือนใจก็กลับมาถึงบ้าน คุณแม่ของโชคดียังดูสวยมาก เหมือนคุณแม่ของเขาที่อายุเกือบหกสิบปีแล้วก็ยังสวย
“ผมแวะมาสวัสดีคุณเตือนใจครับ จะมาซื้อเหล็กด้วย ตั้งใจว่าจะต่อเติมบ้านคนงาน พอดีคุณโชคดีไม่อยู่”
“ไปเชียงใหม่ค่ะ เห็นบอกว่าจะไปคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวัทยาลัยให้ช่วยทำวิจัย ก็เรื่องรีสอร์ทของนายช่างนั่นล่ะคะ โชคดีเขากะจะโค่นลงให้ได้เหมือนเรื่องสร้างห้างสรรพสินค้า” คุณเตือนใจอธิบายยิ้มๆ “แต่นายช่างไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าโครงการไม่ผิดจริง ยังไงโชคดีก็ทำอะไรนายช่างไม่ได้”
ชยุตม์ฟังไปก็ขมวดคิ้วตาม คุณเตือนใจพูดเหมือนโชคดีหาทางขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทำงานวิจัย แต่ดูๆ ไปก็เหมือนจงใจต่อต้านเขา
...ถ้าโครงการไม่ผิดจริง ก็ทำอะไรเขาไม่ได้...
...และเขาอยากจะพูดซ้ำอีกเหลือเกินว่าไม่ใช่รีสอร์ทของเขา คุณเตือนใจพูดเหมือนจะเข้าใจง่ายแต่ก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก...
...แล้วตอนนี้เขาเลยกลายเป็นนายช่าง แทนที่จะเป็นวิศวกร เพื่อนๆ รุ้คงหัวเราะเยาะกันเป็นแถว โครงการแต่ละแห่งที่เขาสร้างนั้นยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น ตึกสูงเกินร้อยชั้น ศูนย์แสดงสินค้า สนามบิน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างทั้งนั้น ได้รับรางวัลทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมาจากหลายสถาบัน ทุกโครงการสำเร็จเรียบร้อยอย่างดี...
...แต่รีสอร์ทเล็กๆ ขนาดเพียงเจ็บสิบกว่าไร่ อาคารก่ออิฐธรรมดาๆ ไม่ได้ใช้โทคโนโลยีพิเศษใดๆ เลยกลับทำให้เขาหนักใจยิ่งกว่าสร้างตึก The Royal Heaven ที่เมืองโอซาก้า...
...โชคดี เพราะโชคดีจริงๆ...
“คุณเตือนใจคิดว่าคุณโชคดีเขาตั้งใจจะจัดการผมให้ได้ใช่ไหมครับ นอกจากเรื่องรีสอร์ทแล้ว คุณโชคดีคงหมายหัวผมไว้ด้วย” ชยุตม์พูดออกไปตรงๆ
“โธ่ อย่าคิดถึงขนาดนั้นสิคะนายช่าง หมูปิ้ง เอ๊ย โชคดีไม่คิดร้ายขนาดนั้นหรอก ลูกชายดิฉันมันเห็นอะไรไม่ค่อยถูกที่ถูกทางก็พยายามทำอะไรบ้าง ไม่เคยนั่งนิ่งมองอยู่เฉยๆ จะว่าไป ม้นก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แม้จะรั้นไปสักหน่อย แต่ถ้ารีสอร์ทของนายช่างมีแผนงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีก็คงไม่มีปัญหา”
“ไม่ใช่รีสอร์ทของผมครับ ผมเป็นวิศวกรโครงการ” ชยุตม์แก้ให้ถูก
“คะ ดิฉันทราบ มันพูดติดปากไปยังงั้นเอง”
“แล้วผมก็มั่นใจว่ารีสอร์ทของเราใส่ใจเรื่องนี้มาก สถาปนิกก็ให้ความสำคัญเป็นอันดับนึ่ง เรามุ่งจะทำให้เป็นรีสอร์ทที่อิงแอบธรรมชาติ ให้คนที่มาพักได้สัมผัสธรรมชาติแท้จริง ส่วนเรื่องที่กังวลเกี่ยวกับแม่น้ำน่านและประตูน้ำของโครงการ ตอนนี้ทีมงานกำลังมุ่งศึกษาประเด็นนี้เพิ่มเป็นพิเศษ หากคุณโชคดีกังวลก็อยากให้ส่งตัวแทนเข้าไปศึกษาร่วม”
ชยุตม์คุยกับคุณเตือนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยหวังว่าสิ่งที่คุยอาจจะผ่านไปยังโชคดี เขาขอความกรุณาให้คุณยินดีช่วยคุยกับลูกชายให้เข้าใจเขาบ้าง เขาไม่กล้าคุยกับโชคดีโดยตรงเพราะรู้ว่าฝ่ายนั้นคงไม่ยอมคุยกับเขาดีๆ
...จะเกลียดกันไปถึงไหนก็ไม่รู้...
“ไว้ดิฉันจะช่วยคุยอีกที ให้ผู้กองปฐพีช่วยคุยด้วย” คุณเตือนใจปิดการสนทน
“ขอบคุณมากครับ ผมก็อยากให้คุณโชคดีเข้าใจผมบ้าง”
“นายช่างไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ โชคดีไม่ได้เกลียดนายช่าง ยังไงๆ หากนายช่างมีเจตนาดี หมูปิ้งก็ต้องเห็นความดีของนายช่างอยู่วันยังค่ำ” คุณเตือนใจให้กำลังใจ
“ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ชยุตม์ลุกขึ้น เตรียมตัวอำลาผู้สุงวัยกว่า “ผมคงไม่รบกวนเวลาคุณเตือนใจแล้ว ขอลาเลยนะครับ”
ชยุตม์ยกมือสวัสดีแล้วกล่าวอำลาย ไม่ลืมย้ำเรื่องการซื้อเหล็ก “เอ่อ เรื่องการซื้อเหล็ก คุณเตือนใจอยากบอกคุณโชคดีนะครับ”
“ไม่บอกหรอกค่ะ แต่ว่าไม่รับประกันว่าหมูปิ้งจะไม่รู้นะคะ เพราะว่ารายนั้นตรวจบัญชีเป็นประจำ แต่ว่าพอลูกค้าซื้อไปแล้วจะไปตามเอาคืนไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณนายช่างซื้อเป็นเงินสด คือเรื่องตามไปเอาของคืนจากลูกค้านี่ไม่เคยมีประวัติ” คุณเตือนใจรับปาก แต่ก็ยังทำหน้าสงสัย “ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ยอมขายให้นายช่าง”
“เขากลัวผมเอาไปสร้างรีสอร์ท” ชยุตม์ตอบสั้นๆ
คุณเตือนใจหัวเราะอย่างเห็นขัน พลางเดินมาส่งชยุตม์ที่หน้าร้านแล้วพูดว่า “นายช่างไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ โชคดีมันเป็นคนจริง เป็นคนยุติธรรม บางทีมันอาจดูร้ายไปบ้าง แต่คนที่รู้จักดีจะรู้ว่าลูกชายดิฉันเป็นคนดีคนหนึ่ง ถ้าโชคดีเข้าใจคุณแล้ว มันก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ให้เขาพิสูจน์อะไรของเขาเถอะ ให้เวลาเขาบ้าง”
...ให้เวลา โชคดีก็ควรให้เวลาเขาบ้างเหมือนกัน...
ชยุตม์คิดในใจ ยกมือสวัสดีคุณเตือนใจแล้วขึ้นรถกลับบ้านเพื่อไปทานอาหารเย็นกับจักริณทร์ที่รอเขาอยู่ แต่ไม่ทันจะออกนอกเขตเทศบาล เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจักริณทร์ว่ายังอยู่ในตัวจังหวัด
“ผมเจอกับผู้กองปฐพีที่ตลาด ผู้กองชวนทานข้าว ยุตม์ย้อนกลับมาสิ มาทานด้วยกัน แต่ถ้าอยากทานกันสองต่อสองก็ได้นะ ผมจะบอกปฏิเสธผู้กอง” จักริณทร์บอก
“จักรทานเถอะ แล้วจะให้กลับเข้าไปรับไหม” ชยุตม์ตอบ
“ไม่ต้องหรอกครับ ผู้กองคงไปส่ง แต่ยุตม์แน่ใจนะว่าทานข้าวคนเดียวได้”
“แน่ใจสิ ผมทานข้าวคนเดียวมาหลายมื้อแล้วนะจักร” ชยุตม์ยืนยัน
“ผมอดแวะดูตลาดริมแม่น้ำไม่ได้ ของน่าซื้อเยอะแยะ ได้ของไปฝากเพื่อนจนแทบจะถือไม่ไหวเลยกลับบ้านช้า พอดีเจอผู้กอง ยุตม์รู้ไหม ผู้กองปฐพีต่อราคาเก่งมาก ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจจะซื้อของเก่งขนาดนี้ แล้วรู้จักคนแทบทั้งตลาดเลยดีเดียวล่ะ สมกับเป็นลูกชายผู้ว่าราชาการจังหวัด” จักริณทร์อธิบาย แล้วลงท้ายด้วยการบอกว่าคิดถึง ก่อนจะวางสายไป
 
ชยุตม์ขับรถมาถึงสะพาน เห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนั่งตกปลากันอยู่ เขาจึงจอดรถแวะลงไปคุยด้วย เด็กหนุ่มทั้งสามคนบอกว่าขอบมาตกปลาตอนค่ำๆ โดยเฉพาะคืนที่พระจันทร์เต็มดวงเพราะได้ปลาเยอะ
“แต่อีกหน่อยคงไม่ค่อยมีแล้วครับ” เด็กหนุ่มร่างผอมสุงพูดขึ้น ชยุตม์ถามว่าทำไม คำตอบที่ได้ยินทำให้เขาอึ้ง
“พอรีสอร์ทตรงเชิงดอยสร้างเสร็จ อะไรก็คงเปลี่ยนไป ปลาที่เคยมีก็คงน้อยลง”
...โชคดี ทั้งหมดนี่เพราะโชคดีแท้ๆ ล้างสมองเด็กวัยรุ่นยังได้ น่าให้ไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศีกษาธิการยิ่งนัก...
ชยุตม์ตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้เขาจะไปคุยตกลงกับโชคดีอีกครั้ง ต่อให้ต้องทะเลาะกันหรือถูกต่อยเขาก็ไม่กลัว

 :pig4:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
 :z13:


หมูปิ้งหาคนช่วยใหญ่เลย :laugh:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
โชคดีช่างร้ายสมชื่อเรื่องจริงๆ

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
มาขออ่านด้วยคนจร้า~
อ่านแล้วก้อเฮ้อ~ เหนื่อยแทนพระเอก ต้องมาชิงไหวชิงพริบกะนายเอกที่ร้ายเหลือ
(ตอนแรกมะค่อยชอบนายเอกซักเท่าไร ด้วยความที่ชีใจร้อนและอีโก้สูงเกิ๊นน ถึงจะดูว่ามีเหตุผลรองรับการกระทำ แต่ก้อเป็นเหตุผลที่มีอารมณ์เป็นที่ตั้ง มันเลยดูจะกลายเป็นอคติ ไม่เปิดใจรับฟังคนอื่น  แต่ก้อนะ สงสัยจะเพราะนิสัยเสียๆนั่นก้อคลายๆนิสัยอิชั้น :เขาว่าคนนิสัยคล้ายกันมักอยู่ด้วยกันนานๆไม่ค่อยได้55+ อ่านมาอ่านไปก้อได้แต่หวังว่า เมื่ออคติของคุณเธอลดลง นิสัยในด้านดีที่ตอนนี้อาจจะยังหลบมุมอยู่บ้างน่าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นๆไปอีก  แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้ชีจะไม่มีเสน่ห์นะ ไอ้มีน่ะมี แต่มันดูจะเป็นเสน่ห์ในแบบร้ายๆเหมือนแมวป่าเจ้าอารมณ์ยังไงก้อไม่รุ)
แต่สนุกคร่า ลุ้นด้วยว่าต่อไปจะมีเรื่องวุ่นๆอะไรอีก จะรอติดตามต่อไปน้า o13 :call:

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
มุขจับโชคดีเข้ากรงนี่เน่ามากอ่ะ :m20:

จักริณทร์+ปฐพีก็ดีนะ สงบร่มรื่น

แต่ชยุตม์+หมูปิ้ง เร้าใจกว่า :impress2:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
โชคดีหาพรรคพวกใหญ่เชียว  :laugh:

ออฟไลน์ bellebee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-3
คุณหมูปิ้ง แบบว่า... อุดมการณ์ล้นเหลือ  พออ่านๆ ไป ออกแนว แค่ ทิฐิ เองมากกว่าแฮะ

ติดตามต่อไปค่า  สนุกๆๆๆ ท่าทาง จะมีสองคู่  พ่อนักบินกะคุณตำรวจ มีแววมาแต่ไกล...

va_yu

  • บุคคลทั่วไป
"พ่อตาโต๋" คนแต่งชั่งคิดจริงๆ....โชคดีได้ยินเข้าคงควันออกหู

คู่ตำรวจกับนักบิน น่าลุ้น... :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เห็นท่าได้เห็นสนามมวยในจังหวัดน่านแน่เลยงานนี้
โชคดีเอาจริง
ทำไมตะหยิด ๆ เรื่องเกี่ยวกับชาติตระกูลของโชคดี
จังเลยอะ
ดูท่าคู่ของจักรกับผู้กองปฐพี ก็ชักจะยังไง ๆ แล้วนะ
คู่นี้

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาติดตามนะคร้าบบบ
********
หมูปิ้งเนี่ย-สงสัยเป็นหมูป่าปิ้ง
ร้ายมากๆ อิอิ-ชอบ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 ระดับโชคดีนี้เขี้ยวลากดินของแท้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
+ให้เป็นกำลังใจนะคะ รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เจองานหินเข้าแล้ว นายช่าง ( ฮิ ฮิ......)

นายหมูปิ้งนี่ก็กัดไม่ปล่อย ตกลงเป็นหมูหรือเป็นหมาครับ พี่นาย

รอบทที่ 8 อยู่น้า พี่นาย +1 พร้อมกำลังใจให้พี่นาย ใจดีดี ดี ดี ดี ....... มาก ๆ หรือเปล่า 55555.....



ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
โชคดีหาข้อมูลเตรียมพร้อมถล่มนายช่างแล้ว

ผู้กอง+นักบิน  เริ่มส่อแววละ


 :pig4:คุณคฑาวุธ

รอลุ้นตอนต่อไป

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 8 ครับ
สั้นไปหน่อย เพราะไม่ค่อยได้พิมพ์ครับ (ผู้เขียนกำลังติดเกมส์ ไปจ้างเขาลงเกมส์ใน iphone เล่นเพลิืนดีมากมาย)

บทที่ 8

ชยุตม์แปลกใจที่จักริณทร์โทรมาบอกเขาว่าจะไปเที่ยวกับผู้กองปฐพี วันนี้เขาต้องทำงานแต่ตั้งใจว่าจะเลิกงานเร็วกว่าปกติ ไปคุยกับโชคดีที่ร้านแล้วพาจักริณทร์ไปเที่ยว
“ผู้กองจะไปเชียงราย ผมเลยขอติดรถไปด้วย คงกลับค่ำๆ นะ ยุตม์ทานข้าวก่อนเลย ผมขอโทษที่ต้องทานคนเดียวอีกแล้ว”
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ไม่ได้พาจักรเที่ยวเท่าไหร่เลย” ชยุตม์บอกเสียงนุ่ม
“ยุตม์ต้องทำงานนี่นา แล้วอีกอย่างผู้กองปฐพีเป็นคนในพื้นที่ รู้จักที่เที่ยวที่กินดีๆ และยังซื้อของเก่งอีกต่างหาก” จักริณทร์หัวเราะเบาๆ แล้วก็วางสายไป
ชยุตม์เดินออกไปนอกสำนักงานชั่วคราวที่สร้างขึ้นใต้ต้นไม้ใหญ่ริมคลองสายหลักของโครงการ สราวุฒิสถาปนิกคนหนึ่งของโครงการเดินมาแต่ไกล โบกมือให้ชยุตม์ ส่งสัญญาณว่าจะมาคุยด้วย
“ทีมสถาปนิกกำลังแก้แบบครับ แต่ไม่มาก แค่สร้างสะพานเพิ่มอีกแค่สามจุด คุณไพศาลขอให้เพิ่มจุดโค้งน้ำด้านนอก ฝั่งทิศตะวันตก สะพานกว้างตั้งใจว่าจะให้เป็นจุดถ่ายรูป เพราะมองออกไปเห็นโค้งน้ำด้านนอกโครงการกับพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างชัดเจน มีภูเขาเป็นฉากหลัง ฝ่ายเซลล์แนะนำว่าตรงสะพาานจัดโต๊ะพิเศษได้ 5-6 โต๊ะเลยทีเดียว  ขายเป็นแพคเก็จฮันนี่มูน ทางคุณนิภายังเสนอเลยนะครับว่าให้มีล่องเรือไปตามคลองรอบๆ โครงการได้ด้วย แล้วอยากให้มีช่องทางออกไปล่องแม่น้ำน่านต่อได้อีก”
...โชคดีจะได้อยู่อีกฟากของแม่น้ำ ถือปืนคอยยิงแขกที่นั่งเรือโผล่ออกไปทีละคนๆ...
“ทำไมผมไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย”
“ก็เพิ่งคุยๆ กันครับ ยังไม่ได้ประชุมเป็นทางการ” สราวุฒิให้เหตุผล
“แต่เรื่องสร้างสะพานเพิ่มนี่เป็นทางการแล้วหรือครับ สถาปนิกแก้แบบไปแล้วหรืออย่างไร” ชยุตม์หน้าขรึม เสียงเข้ม “ส่วนเรื่องล่องเรือออกไปแม่น้ำน่าน ผมว่าไม่เหมาะ จำได้ไหมครับ ว่าเรากำลังมีประเด็นเรื่องประตูน้ำ”
“ไม่เห็นมีใครมาประท้วงแล้วนี่ครับ”
ชยุตมถอนหายใจที่เห็นว่าสถปานิกคนนี้คิดอะไรตื้นๆ และคิดว่าเห็นทีจะต้องคุยกับหัวหน้าสถาปนิกเสียแล้ว และหากไม่ไหวจริงๆ เขาจะคุยกับคุณอาองอาจ จะหาว่าก้าวก่ายก็ยอม
...แทนที่จะมุ่งไปเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ กลับมานั่งนึกถึงเรื่องอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา...
“คนที่เป็นแกนนำประท้วงเขากำลังทำงานหาข้อมูลอยู่ เราประมาทไม่ได้ครับ เรื่องประตูน้ำยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องช่องทางออกไปล่องเรือต่อในแม่น้ำน่านเลยครับ ช่วยคุยกับคุณนิภาพให้ด้วย”
สราวุฒิทำหน้าไม่ค่อยพอใจแต่ก็รับปาก ด้วยรู้สถานภาพของคนที่เป็นวิศวกรดี ชยุตม์จึงเดินไปยังส่วนหน้าของโครงการด้านที่ติดกับแม่น้ำ จุดที่จะเป็นที่สร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
...โชคดีก็คงจะโวยวายอีกละสิท่า ว่าสร้างสระว่ายน้ำขนาดมหึมาติดกับแม่น้ำน่าน ทำลายทัศนียภาพ...
...โชคดีกำลังทำอะไรอยู่นะ กำลังคิดเงินขายเหล็ก หรือนั่งวางแผนต่อต้านรีสอร์ท หรือจะพูดให้ถูก นั่งคิดหาวิธีจัดการเขาให้อยู่หมัด...



ออฟไลน์ CMYK

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
หุหุ แนะนำให้ชยุตเอาตัวเข้าแลกไปเร้ย 5555

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ใครจะจัดการใครได้ก่อนกัน :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






jaideejung007

  • บุคคลทั่วไป
มาลงทะเบียนอ่านด้วยคนครับ

ฝากด้วยนะครับ

โจ้คับ

และขอโฆษณาเรื่องเล่าหน่อยนะครับ

ไม่ว่ากันนะ

[เรื่องเล่า] จากเกลียดกลายเป็นรักได้ไงว่ะ[By เขมคับ]

ฝากด้วยนะครับ

ไม่ว่ากันนะ แค่อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านเรื่องหนึ่งๆ ที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะชอบกันนะ

โจ้คับ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ยอมรับเลยรบกับงานยังไงๆก็เหนื่อยน้อยกว่ารบกับคน
โดยเฉพาะมาเจอแสบๆแบบโชคดี ก็ตัวใครตัวมันละเน้อ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
มาตามอ่านนิยาย ของคนแต่งสุดแสนจะน่ารัก

ปล.คิดถึงเค้าป่าวอ่ะพี่นาย ไม่ได้เข้ามาไม่กี่วัน ได้แต้มไป เจะร้อยกว่าละ แถมให้อีกแต้มค่ะ  :กอด1:

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
ถึงจะมาสั้นๆ-แต่ก็ขอขอบคุณที่มาคร้าบ
********

แล้วก็รอต่อไป คริคริคริ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
คิดเหมือนรีบน  :z1:

รีบมาต่อนะครับ พี่นาย + ไม่ได้เพิ่ง + ไปเมื่อเช้าเอง  :z2:

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
สั้นจริงๆด้วย - -*

งอนนนนน :o12:

เรื่องปวดหัวมาอีกแล้ววว :a5:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มาตามอ่านนิยาย ของคนแต่งสุดแสนจะน่ารัก

ปล.คิดถึงเค้าป่าวอ่ะพี่นาย ไม่ได้เข้ามาไม่กี่วัน ได้แต้มไป เจะร้อยกว่าละ แถมให้อีกแต้มค่ะ  :กอด1:

คิดถึงสิครับ คิดถึงคนอ่านทุกๆ คนเลย คืนนี้ก็เข้ามาอ่านคอมเม้นท์และโพสต่อ แล้วก็นั่งกดคะแนนให้คนอ่านเล่นๆ เพลินดี

ต่อ

...โชคดีกำลังทำอะไรอยู่นะ กำลังคิดเงินว่าขายเหล็กได้กี่บาท หรือนั่งวางแผนต่อต้านรีสอร์ท หรือจะพูดให้ถูก นั่งคิดหาวิธีจัดการเขาให้อยู่หมัด...

โชคดีวางโทรศัพท์ลงช้าๆ ราวกับเหนื่อยแรงยิ่งนัก เขาเพิ่งจบการสนทนากับ ดร. พงศธร แฟนของวารุณีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลาย พงศธรตรวจสอบข้อมูลของ The River Bend Resort แล้วบอกเขาว่าเจ้าของเป็นน้องชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวมมหาดไทย เขาบอก ดร. พงศธรว่าเรื่องนี้เขารู้แล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่รู้คือ สถาปนิกที่ออกแบบเป็นญาติของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้จัดการโครงการเป็นสามีของน้องสาวรองผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิศวกรโครงการเป็นสามีของรองผู้จัดการตลาดหุ้นแห่งประเทศไทย เขาแย้ง ดร. พงศธรว่าวิศวกรยังเป็นโสด ชื่อชยุตม์ แต่ ดร. พงศธรบอกว่าในข้อมูลที่เขาได้มาไม่มีชื่อชยุตม์
"อาจเป็นหนึ่งในทีมวิศวกร หรือไม่ก็มีการเปลี่ยนตัว แต่สถาปนิกใหญ่ผมมั่นใจ ภูมิสถาปนิกเป็นน้องชายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่"
"กระดูกทั้งนั้น" โชคดีเปรยกับ ดร. พงศธร
"คุณโชคดีครับ ถ้าให้ผมพูดตรงๆ แม้เราจะมีหลักฐานชัดเจนว่าการสร้างรีสอร์ทมีผลกระทบจริง ก็คงโค่นเขาลงยาก และที่สำคัญ การทำวิจัยต้องใช้เวลา ใช้แรงคนและเงินทุน ทางนั้นคงไม่รอให้เราทำวิจัยเสร็จก่อนแล้วค่อยสร้าง ที่พูดนี่ไม่ได้ปิดทางสู้ของคุณโชคดีนะครับ แต่บอกไว้เป็นข้อมูลและปรับเปลี่ยนกลวิธี ถ้าจำเป็น"
เสียงของ ดร. พงศธรยังดังก้องอยู่ในหัวของโชคดี ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีกำแพงมหึมากำลังมาขวางกั้นเขาอยู่ มีชยุตม์ยืนเท้าสะเอวอยู่บนกำแพง มองลงมาที่เขาด้วยสายตายิ้มๆ ราวกับจะบอกว่า "ยังไงคุณก็ขวางผมไม่ได้"
...ท่าทางหนักกว่าตอนขับไล่การก่อสร้างห้างสรรพสินค้ากลางเมือง...
...เจ็บใจชยุตม์นัก คงยิ้มย่องในใจละสิตอนที่คุยกับเขา รู้ว่าตัวเองมีทางชนะเห็นๆ มิน่า ถึงได้กล้าเสนอเงินตัวเองสองล้าน...
...คนตัวเล็กๆ อย่างเขาจะสู้คนเหล่านั้นไม่ได้เลยหรือ แม่เขาคงบอกว่า สู้ไม่ได้หรอก ปฐพีก็คงโน้วน้าวให้เขาเลิกล้มความตั้งใจ แล้วคนอื่นๆ ละ จะยอมสู้ต่อกับเขาหรือเปล่า รู้สถานภาพทางสังคมของผู้ประกอบการรีสอร์ทแล้ว แทบรู้สึกอยากจะถอนใจ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เดือนเข้ามาบอกว่าชยุตม์มาหา โชคดีจึงรีบเดินออกไปหน้าร้านเพื่อพบกับ "คู่ต่อสู้" คนสำคัญ
...สู้กับชยุตม์นะหรือ นี่เรากำลังสู้กับชยุตม์หรือสู้กับ The River Bend Resort...
...ลองเปลี่ยนกลวิธีใหม่ ทำงานผ่านชยุตม์ โน้วน้าวชยุตม์ดู เผื่อจะพูดกับนายทุนให้ได้บ้าง...
...ขอญาติดีกับชยุตม์ลองดูซักหน่อยเถอะ...
ชยุตม์นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อนหน้าร้าน ตัวตรงนิ่ง ใบหน้าเรียบนิ่ง ท่าทางใจเย็น อดทน
...ดูๆ ไปชยุตม์ก็ไม่ได้แย่อย่างที่มองไว้ตอนแรก จะว่าไปเขาก็ร้ายกับชยุตม์อยู่บ้าง แต่นายช่างก็ไม่ได้โต้ตอบเขามากเท่าไหร่นัก นอกจากทำหน้าตาขวางหูขวางตาและพูดอะไรไม่ค่อยเข้าหู มัวแต่อ้อมค้อม ไม่ทันใจ น่าจะไปเป็นนักเจรจาต่อรองตัวประกันให้กรมตำรวจ ชักช้าแบบนั้น พูดให้โจรหลับก็คงได้หรอก...
โชคดีลอบมองวิศวกรหนุ่ม แล้วเดินเข้าไปใกล้ กล่าวทักทายเบาๆ แต่ทำให้ชยุตม์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
"สวัสดีครับนายช่าง มีธุระอะไรหรือครับ"
ชยุตม์อึ้งไปชั่วขณะ ในใจนึกว่าโชคดีควรจะทักเขาด้วยคำพูดอีกแบบหนึ่ง
...ว่าไง คุณมาทำไมอีกล่ะ...
"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย" ชยุตม์ตอบเบาๆ
"เรื่องรีสอร์ทใช่ไหมครับ" โชคดีถามเสียงเรียบ
...เรื่องอะไรอีกล่ะ...
"ทำไมคิดว่าเป็นเรื่องนั้น"
"ก็คงไม่มีเรื่องอื่น เพราะเรื่องโต๋กับเดือนก็จบลงไปแล้ว ส่วนเรื่องให้โต๋ทำงานจนเกินเวลากลับบ้านค่ำ ผมไม่ถือสาหรอก ทำงานมันก็มีการติดพันกันบ้างเป็นธรรมดา" โชคดียักไหล่ แล้วเดินมายืนพิงเสาใกล้ๆ ม้าหินอ่อน ทอดสายตาลงมองชยุตม์ที่นั่งอยู่ตรงหน้า
...ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้จะเรื่องอะไรล่ะ เรื่องโต๋ทำงานเกินเวลาหรือไง แทนที่จะรีบกลับบ้านมาดูแลเมียที่กำลังท้อง กลับต้องมาทุ่มแรงกายแรงใจช่วยสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ...
ชยุตม์นิ่ง แปลกใจและประหลาดใจที่เห็นโชคดีเปลี่ยนไปน่าใจหาย
...จะมีใครเตือนเขาบ้างไหมว่านี่เป็นบุคลิกใหม่ของโชคดีที่ทำท่าเป็นมิตร...ก่อนเชือด...
...ใครก็ได้ ช่วยบอกเขาทีว่าโชคดีกำลังแกล้งทำ...
"ว่าไงครับนายช่าง จะคุยอะไรเรื่องรีสอร์ทก็รีบพูดมา"
...ผมไม่มีเวลานั่งฟังนอนฟังคุณทั้งวันนะ...
ชยุตม์เติมคำพูดให้เจ้าของร้านเหล็กในใจแล้วพูดออกมาว่า "ผมมาคุยเรื่องที่คุณเข้าใจผิดว่าการก่อสร้างรีสอร์ทจะทำลายระบบนิเวศน์ ทำให้ธรรมชาติเดิมๆ ของแม่น้ำน่านเปลี่ยนไป
"ผมไม่ได้เข้าใจผิด" โชคดีแย้ง ใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง
"แต่คุณก็เข้าใจไม่ถูกหมดซะทีเดียว ตอนนี้โครงการจ้างเจ้าหน้าที่พิเศษมาศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติม สถาปนิกก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก"
...สถาปนิก ญาติของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั่นนะ...
"คุณอยากเห็นแม่น้ำน่านแบบที่คุณไม่เคยเห็นไหมนายช่าง ผมจะพาไปดู อย่างน้อยจะได้ทำให้คุณรักแม่น้ำสายนี้เพิ่มขึ้นมาบ้าง นอกเหนือจากความนิยมชมชอบเท่าที่เห็นมนไหลผ่านใกล้ๆ โครงการรีสอร์ทของคุณ" โชคดีเริ่มเสียงเข้มขึ้น
"ไม่ใช่ของผม รีสอร์ทไม่ใช่ของผม ผมเป็นแค่วิศวกร และไม่ได้มีวิศวกรแค่คนเดียวด้วย และผมไม่ได้ออกแบบ คนออกแบบคือ..."
"สถาปนิก" โชคดีแทรก "ทำไมผมจะไม่รู้"
"ผมก็สร้างตามพิมพ์เขียวที่เขาออกแบบ" ชยุตม์ทักท้วงด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
"เอาเถอะ คุณจะเป็นอะไรก็ช่าง เดี๋ยววันพุธไปดูกัน มาหาผมที่นี่ตอนเที่ยงตรง"
"ผมต้องทำงาน" ชยุตม์แย้ง
"ต้องตอกบัตรลงเวลาเข้าออกหรือไง" โชคดีประชด "ผมจะเขียนใบลาให้"
...โชคดีตัวจริงกลับมาแล้ว เมื่อกี้ที่ทำพูดดีนั้น แกล้งพูดชัดๆ...
ชยุตม์เหน็บแนมชายหนุ่มในใจ อยากจะพูดออกมาให้ฝ่ายนั้นได้ยินแต่เขาก็ยังไม่กล้า
...กลัวโชคดีหรือ...
...เปล่า เขาแค่ไม่อยากมีเรื่อง...
"ได้" ชยุตม์ตอบสั้นๆ แล้วลุกขึ้น เตรียมตัวกลับ โชคดีมองตามวิศวกรหนุ่มที่เดินตัวตรงกลับไปที่รถด้วยสายตาคิดคำนึงแล้วถอนหายใจแรงๆ
...ดูเอาเถอะ ตอนนั่งก็ตัวตรง นิ่งเหมือนหุ่น ตอนเดินก็ตัวตรง ไม่เห็นจะเหมือนวิศวกรตรงไหน เดินเหมือนทหาร ไม่น่าจะมาเป็นวิศวกรเล๊ย...

ชยุตม์ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกชื่นชมระคนแปลกใจ โชคดีขับรถพาเขาออกจากตัวเมืองขึ้นเหนือมาราวหนึ่งชั่วโมง แล้วหยุดยืนมองโค้งน้ำที่สวยมากจนเขาอดทึ่งไม่ได้
“เป็นไงครับ สวยกว่าทำเลของรีสอร์ทคุณมากเลยใช่ไหม”
ชยุตม์หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจว่า “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ใช่รีสอร์ทผม และขอย้ำอีกครั้งว่าผมเป็นแค่วิศวกร สร้างตามที่สถาปนิกเขาออกแบบ และสถาปนิกก็ออกแบบตามที่เจ้าของต้องการ”
“รู้แล้วน่า ไม่เห็นต้องพูดร่ำไร” โชคดียักไหล่ ทำหน้าระอาใจประหนึ่งว่าชยุตม์พูดเรื่องเดิมอยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
...คุณต่างหาก พูดไม่รู้เรื่อง เหน็บแนมอยู่ได้...
ชยุตม์ส่ายหน้าช้าๆ แล้วหันไปชื่นชมทัศนียภาพเบื้องหน้าต่อ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าหากคุณอาของเขามาเห็นที่ดินผืนนี้คงต้องร้องด้วยความเสียดาย
“คุณพาผมมาดูทำไม” ชยุตม์ถามขึ้น สายตายังมองภาพเบื้องหน้า
“ก็พามาดูให้เห็นว่ามันสวยขนาดไหน”
“ทำไมหรือครับ ให้ผมเสียดายที่ตรงนี้แทนเจ้าของรีสอร์ท หรือเพราะอะไร พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า หรือจะรอให้ผมถามให้ตรงคำตอบ” ชยุตม์พูดเบาๆ แต่เสียงเข้มขึ้น
“ชอบประชดจริงเลย” โชคดีพึมพำแล้วเดินไปอีกทางเสียเดื้อๆ
...โอย ทำไมกวนโมโหได้ตลอดเวลาแบบนี้นะ ถ้าต้องอยู่กับโชคดีทุกวัน เขานึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะอ่อนอกอ่อนใจกับคนๆ นี้เพียงใด...
...ใครได้มาเป็นแฟนโชคดีคงปวดหัวพิลึก...
...หากมีใครใจกล้า หลงผิดเป็นชอบ ยอมเป็นแฟนโชคดีซักคนนะ...
“คุณโชคดี” ชยุตม์เรียกคนที่กำลังเดินลงเนินไปโดยไม่สนใจเขา “คุณโชคดี”
...อยากกระโดดลงไปบีบคอนัก...
“คุณโชคดี”
ฝ่ายนั้นไม่สนใจ ยังเดินไปข้างหน้าต่อไปหลังจากว่าเขาซึ่งหน้า
...ชอบประชด ใครกันชอบประชด ตัวเองต่างหาก พูดกับเขาทีไรมีแต่ประชด กระทบกระเทียบ เหน็บแนม สารพัดจะจงใจกวนประสาทเขา...
“คุณหมู” ชยุตม์เรียกคนกวนประสาทเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
ได้ผล คนที่ถูกเรียกชื่อเล่นแบบไม่เต็มยศหันขวับทันที ตาขวางใส่คนเรียกที่แอบอมยิ้มเล็กน้อย
ชยุตม์เบือนหน้าไปมองด้านข้าง สายตาก้มต่ำยังไม่สบตาโชคดี
...เป็นไงล่ะ ทีเรียกชื่อเล่นรีบหันมามองเชียว ดีนะไม่เรียกแบบเต็มๆ...
ชยุตม์นึกขำ หากเขาเรียกชายหนุ่มด้วยชื่อเล่นแบบเต็มๆ โชคดีคงวิ่งขึ้นเนินมาต่อยปากเขาเป็นแน่ แค่เรียกคุณหมูเฉยๆ ยังทำหน้าโกรธ
“ทำไม มีปัญหาอะไร” คุณหมูเสียงเข้ม
“คุณจะไปไหน” ชยุตม์ตะโกนถาม
โชคดีไม่ตอบ หันกลับเดินตรงไปข้างหน้าเร็วๆ เหมือนจะกลัวว่าจะได้ยินชยุตม์เรียกชื่อเล่นอีกครั้ง
...หมูปิ้งก็น่ารักดีนี่นา ไม่เห็นจะต้องอาย เพียงแต่ทำตัวให้อ่อนโยนน่ารักลงซักหน่อยก็คงน่าดูมากกว่านี้ ทำท่าดุอยู่ได้...
...ตอนเด็กๆ โชคดีคงอ้วนตุ้ยนุ้ยน่ารักสมกับชื่อ แม่ถึงได้ตั้งชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง...
...ถ้าแฟนเขาชื่อหมูปิ้ง เขาจะเรียกทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง...

ง่วงนอนแล่ะ ราตรีสวัสดิ์ครับ  :t3: จะมาต่อให้จบบทที่ 8 ในอนาคตอันใกล้นะครับ

เอ่อ คู่นักบินกับตำรวจเหรือครับ  :m20: ทำไมมาชี้นำคนเขียแบบนี้อ่ะ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย  :sad11: อิ อิ

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
คุณหมูปิ้งจะพานายช่างไปดูอะไรน่ะ

ไปต่อเรื่องนู้นด้วยสิพี่นายยย .... อย่าทิ้งกันๆ :serius2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
จะเอา คู่นักบินกับตำรวจ จะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
«ตอบ #149 เมื่อ18-04-2009 00:53:17 »

..ชอบประชด ใครกันชอบประชด ตัวเองต่างหาก พูดกับเขาทีไรมีแต่ประชด
กระทบกระเทียบ เหน็บแนม สารพัดจะจงใจกวนประสาทเขา...

>> ที่สุดมากๆเลยหมูปิ้งลูกคุณนายเตือนใจ เหอะๆ นิสัยจัดว่าน่า :z6: :z6: มากกกกก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2009 01:04:03 โดย mecon »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด