พิมพ์หน้านี้ - ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: katawoot ที่ 31-03-2009 08:12:25

หัวข้อ: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-03-2009 08:12:25
Series: Love, Finally (กว่าเราจะรักกันได้) ตอน ร้ายนักรักซะเลย

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
****************
ชยุตม์เป็นวิศกรหนุ่มไฟแรงฝีมือดี
ผ่านงานโปรเจ็คใหญ่ๆ มานับไม่ถ้วน
สร้างตึกระฟ้า
สร้างศูนย์แสดงสินค้าขนาดยักษ์
และอีกสารพัด

หลังจากทำงานหนักมาตลอด
ชยุตม์ตัดสินพักหกเดือนมาทำงานสร้างรีสอร์ทเล็กๆ บนโค้งน้ำอันสวยงามของเมืองเล็กๆ ทางภาคเหนือ
ถือเสียว่าเป็นการพักผ่อนในรอบ 8 ปี

แต่งานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด

ลูกน้องวัยรุ่นของเขาเกิดไปทำผู้หญิงท้อง
ชายหนุ่มหน้าดุ จึงมายืนจังก้าอยู่หน้าบ้าน บังคับให้ลูกน้องของเขารับเป็นพ่อเด็ก
ชยุตม์ จึงต้องกลายเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชายไปโดยปริยาย

ที่แย่ไปกว่านั้น
คนหน้าดุ เจ้าของร้านค้าเหล็กแห่งจังหวัดน่าน ซึ่งเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลประจำจังหวัด
ไม่เห็นด้วยกับการสร้างรีสอร์ทที่เจ้าตัวกล่าวหาว่าทำลายธรรมชาติ
ชยุตม์ เลยต้องปวดหัว เพราะชายหนุ่มมาดร้ายคนนั้น นำชาวบ้านต่อต้านเขาทุกวิถีทาง
โครงการรีสอร์ทเล็กๆ ที่เขาตั้งใจทำงานแบบสบายๆ
จึงต้องกลายมาเป็น
อภิมหาโปรเจ็คที่สำเร็จได้ยากกว่าสร้างตึกร้อยชั้นกลางมหานครแวนคูเวอร์ งานชิ้นล่าสุดของเขา

***********

ตัวอย่าง

ชยุตม์เดินออกไปที่ระเบียงซึ่งเป็นยกพื้นสูงราวหนึ่งเมตร บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนโล่ง ทาสีเขียวซีดๆ กลางเก่ากลางใหม่
ที่หน้าบ้านเป็นประตูรั้วไม้เก่าๆ ซึ่งแทบไม่สามารถกันผู้รุกรานที่ไหนได้เลย ประตูเปิดแง้มเอาไว้ ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งกางขา เท้าสะเอวตะโกนโหวกเหวก ท่าทางเอาเรื่อง ข้างกายมีหญิงสาววัยรุ่นยืนก้มหน้าร้องให้กระซิกๆ
"อะไรกันคุณ โวยวายแต่เช้า" ชยุตม์ถาม เดินลงจากบันไดมายืนอยู่บนพื้น
"คุณเป็นใคร" ชายหนุ่มคนนั้นถามเสียงห้วน
"ผมก็คนอยู่ที่นี่นะสิ" ชยุตม์อดกวนไม่ได้
...นึกว่าคนเหนือจะอ่อนโยน นุ่มนวล พูดเพราะอย่างที่เพื่อนๆ เคยบอก แต่คนนี้กลับตรงกันข้าม...
"คุณเรียกโต๋ออกมาคุยกับผม" ชายหนุ่มสั่ง
"เขาไปทำอะไรผิด คุณถึงได้มาโวยวายเหมือนจะเรียกโต๋ออกมาฆ่า"
"คุณมายุ่งอะไรด้วย" อีกฝ่ายถามเสียงเข้ม หน้าตาไม่เป็นมิตร
"ผมเป็นหัวหน้าเขา ผมก็อยากจะรู้" ชยุตม์เสียงเข้มพอกัน
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้าประตูมา เด็กสาวที่ยืนร้องให้อยู่ข้างๆ ก็ตามเข้ามาด้วยเหมือนโดนสั่งทั้งที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร

.....
"คุณจะให้ผมสั่งให้โต๋เป็นพ่อเด็กหรือยังไง" ชยุตม์เริ่มเสียงดัง
"ก็ต้องสั่งสิ คุณกำลังจะพูดให้โต๋มันมีทางเลือก"
"เขาก็ต้องมีทางเลือก ไม่งั้นก็ต้องพิสูจน์กัน" ชยุตม์เถียง
"อย่าบอกนะว่าต้องตรวจดีเอ็นเอ" โชคดีโวยวาย เอาเสียงเข้าข่ม
ชยุตม์ยกมือขึ้นเท้าสะเอวเหมือนกัน ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ผมก็ไม่ได้พูด ผมกำลังจะถามเด็ก แต่คุณก็ไม่ยอมรอ"
"เสียเวลา แล้วไม่ต้องเอาประเด็นดีเอ็นเอมาพูด นี่มันบ้านป่า ใครทำก็ต้องใจนักเลงพอที่จะยอมรับ ไม่ต้องเอาบรรทัดฐานของเมืองกรุงมาใช้ที่นี่"
ชยุตม์กับโชคดีกลายมาเป็นมวยคู่ใหม่ แสวงกับโต๋มองหน้ากัน ไมเข้าใจว่าเจ้านายทั้งสองคุยอะไรกันเพราะไม่เข้าใจคำศัพท์แปลกๆ ส่วนเดือนได้แต่ก้มหน้าสะอึดสะอื้น โต๋โผล่หน้าออกมาจากด้านหลังของชยุตม์ มองเดือนด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย เขารักเดือน แต่เขาไม่นึกว่าเดือนจะเกิดท้อง และเขาจะต้องเป็นพ่อคน เขาสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยิ่งโดนโชคบุกมายืนข่มขู่จะเอาเรื่อง เขายิ่งไม่รู้จะทำอย่างไร


"เฮ้อ" โชคดีถอนหายใจแรงๆ จนชยุตม์หันไปมอง
"เป็นอะไรหรือครับ" ชายหนุ่มอดถามไม่ได้ ทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะได้ยินเพื่อความแน่ใจ
"ทำไมผมจะต้องมาติดอยู่บนเขากับคุณด้วยนะ" โชคดีพูดหน้าตาเฉย ตรงไปตรงมาจนชยุตม์สะดุ้ง
วิศวกรหนุ่มอึ้งไปชั่วครู่ ไม่นึกว่าตัวเองจะกลายมาเป็นบุคคลน่ารังเกียจไปเสียได้ "ทำไมล่ะ ติดอยู่กับผมมันเลยร้ายมากนักหรือไง"
"เปล่า" โชคดียักไหล่ หันไปมองทิวเขาสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหาลูกตาผ่านม่านสายฝนที่ตกปรอยๆ ไม่ยอมหยุดเกือบสองวันเต็ม
ชยุตม์ไม่เข้าใจโชคดี ชายหนุ่มมีบุคลิกที่ซับซ้อนมากจนเขาอ่านไม่ออก ดูไปเหมือนจะเกลียดเขา ขณะที่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเป็นมิตร บางครั้งตรงไปตรงมา โผงผางจนเขาตกใจ หากบางคราวดูอ้อมค้อม ลึกลับ ปิดบังอย่างไรก็ไม่รู้...
"ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ทำให้ผมสบายใจมาก" ชยุตม์อดประชดไม่ได้ อยู่กับโชคดีนาน เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้วาจากระทบกระเทียบเป็นแล้ว


ชยุตม์รับคำ แล้วขอตัวพาเพื่อนไปทานอาหาร แต่ก่อนเดินจากไปชายหนุ่มหันมาพูดกับคนที่นั่งทานอาหารไม่สนใจใคร
"ขอบคุณคุณโชคดีมากนะครับที่ช่วยแนะนำร้านเปลี่ยนยางรถ ถ้าไม่ได้คนใจดีแบบคุณโชคดีผมคงแย่" ชยุตม์แสดงท่าทางขอบคุณอย่างจริงใจ ซึ่งมีเพียงเขากับโชคดีเท่านั้นที่เข้าใจ
"ไม่เป็นไรครับ ครั้งต่อไปขับรถก็ระวังอย่าไปชนตอก็แล้วกัน จะหาว่าไม่เตือน" โชดดีตอบ ไม่หันหน้ากลับไปมองชยุตม์ปล่อยให้วิศวกรหนุ่มพูดกับแผ่นหลังของเขา
"ขอบคุณครับที่เตือน คราวต่อไปถ้าเจอตอ ผมจะเหยียบให้จมดิน ชาวบ้านผ่านไปมาจะได้ไม่เดือดร้อน"
...อ๊ะ...ประกาศสงครามเลยหรือ...โชคดีชะงัก มือที่กำลังตักราดหน้าค้างเติ่ง ซ่งเป็นคนเดียวที่สังเกตเห็น เพราะพิมลวรรณกับวิษณุกำลังหัวเราะชอบใจกับคำพูดของชยุตม์


“พี่น้องครับ ฟังทางนี้ก่อน ผมขอประกาศว่า ใครก็ได้ที่มีหลักฐานชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรที่พิสูจน์ได้ว่าการก่อสร้างรีสอร์ทของเราจะทำให้แม่น้ำน่านได้รับความเสียหายจนผิดไปจากเดิม ผมจะให้เงินรางวัลเป็นเงินสดหนึ่งล้านบาท”
ลูกน้องของศักดิ์ชัยไปหาเครื่องขยายเสียงหูหิ้วที่เสียงดังมีประสิทธิภาพมาก เสียงห้าวทุ้มของชยุตม์สะกดทุกคนให้นิ่งเงียบ
“เงินสดหนึ่งล้านบาทครับ พยานมีกันเป็นร้อย ผมไม่โกหก หากใครพิสูจน์ได้ว่ารีสอร์ทแห่งนี้สร้างขึ้นแล้วทำให้ธรรมชาติเของแม่น้ำน่านเสียหาย ผมยินดีจ่ายให้หนึ่งล้าน เราพูดกับอย่างผู้ใหญ่ ไม่มีอคติ ที่กำลังเย้วๆ กันอยู่นี่ ถามตัวเองหน่อยเถอะ ท่านมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนหรือเปล่า หากมี ก็ขอให้แสดงออกมา ใครหาหลักฐานที่ถูกหลักวิชาการและเชื่อถือได้ มีการรับรองอย่างถูกต้องอย่างเป็นทางการ ผมให้หนึ่งล้านบาท”
ชยุตม์มองโชคดี เขาเห็นว่าชายหนุ่มยังหยืนอยู่เหมือนเดิม ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขาปรายตามองหญิงสาวที่เป็นแกนนำ สังเกตเห็นว่าสาวห้าวคนนั้นหันไปมองโชคดีเหมือนกับจะขอสัญญาณอะไรบางอย่างเพื่อให้ดำเนินการต่อไป
...แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าใครเป็นแกนนำที่แท้จริง...ทำตัวเป็นผู้ยืนมองอยู่ห่างๆ แต่ที่จริงแล้ว โชคดีนั่นล่ะคือตัวตั้งตัวตี


ปฐพีอมยิ้ม ขำกับความยียวนของชายหนุ่มที่เขาชอบ
...โชคดี...ชายหนุ่มชื่อแปลกที่บุคลิกไม่เหมือนใครที่เขาเคยรู้จักมา ชายหนุ่มที่ทำให้ใจเขารู้สึกหวั่นไหวมานานหลายปี และตอนนี้ยิ่งรู้สึกเข้มข้นมากขึ้นทุกวัน ชายหนุ่มที่ทำให้เขาขับรถข้ามจังหวัดจากลำปางมาน่านอยู่บ่อยๆ นอกเหนือจากเหตุผลหนึ่งที่มาเยี่ยมบิดามารดา
...เออหนอ..แบบนี้เรียกว่าเป็นความรักได้ไหมนี่...ปฐพียิ้มบางๆ ขณะที่เดินขึ้นบันไดบ้าน เพื่อไปคุยกับบุพการีที่คงกำลังนั่งคอยเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น
แม้จะกังวลอยู่ว่า ชีวิตรักแบบที่เขาเป็นอยู่นี่อาจไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมและจากผู้ให้กำเนิดทั้งสอง แต่เขาก็รู้สึกสุขใจที่จะได้มีความรู้สึกเช่นนี้...ความรู้สึกที่เขาเริ่มจะเข้าใจว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก...
...ตกหลุมรักพ่อตัวร้ายประจำจังหวัด...





*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 31-03-2009 08:26:40
 :z2: :z2: :z2:

ได้เจิมเรื่องใหม่อีกแล้ว

ดีใจ  อิ อิ เรื่องทางเหนือๆ ชอบๆ

เพิ่งไปน่านกลับมาเหมือนกัน

เป็นกำลังใจให้ชยุตม์

จะทำไงให้ พ่อค้าเหล็กคนหน้าดุใจอ่อนได้

 :pig2:

 :z10:
หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 31-03-2009 08:33:29
กรี๊ดดดด~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


เห็นชื่อก็คลิ๊ก ทันที กรี๊ดดดด~~~~~~~~~~~~~~~~~


มีนิยายดี ๆให้อ่านอีกแล้วววววววววว
 :oo1:


ปล. มีคนให้แซวเล่น เหมือนเดิม เอิ๊กๆ o18
หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 31-03-2009 08:37:52
เข้ามาจิ้มเรื่องใหม่

 :mc4:   :mc4:

หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mma419109 ที่ 31-03-2009 08:39:03
   +1 เป็นแรงใจให้เรื่องใหม่  :mc4:
   พ่อแง่แม่งอน รักไปตีกันไป  เรื่องเกิดที่น่าน..ภูเขาอีกแล้ว แววจะได้วิ่งรอบเขา
 อีกหรือเปล่าเนี่ย ล้อเล่นเฉยๆวิ่งวนเขาสักกี่ลูก เราก็จะตามไปอ่านนนนนน :3130:
หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 31-03-2009 08:41:14
Oo.....oO

เจ้าพ่อนิยายตัวจิง

รวดเร็วทันใจ เรื่องใหม่ ฟิตได้อีกนะคับ !!!!!!!!!!

+1 เป็นกำลังใจให้คร้าบบบบบบบบ    :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_nan ที่ 31-03-2009 09:31:02
มาตัดริบบิ้น ประเดิมเรื่องใหม่  : 222222:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 31-03-2009 09:31:20
เจิม+1  ให้เรื่องใหม่

 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 31-03-2009 09:52:56
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ตะลุง ตุ้งแช่ มาทำพีธี เปิด เรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 31-03-2009 10:19:56
 :m32: แอบเจิมเรื่องใหม่  แล้วแอบหนีไปเงียบๆ  :m32:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 31-03-2009 10:29:28
เรื่องใหม่ๆ ของคุณคทาวุธว้าวๆ เนื้อเรื่องน่าติดตามมม อิอิ ยังอ่านสารวัตรภาค 2 ไม่จบเลย
หัวข้อ: Re: Love, Finally ซีรี่ยส์ == กว่าเราจะรักกันได้ - ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-03-2009 11:06:52
กรี๊ดดดด~~เห็นชื่อก็คลิ๊ก ทันที กรี๊ดดดด~~~~~มีนิยายดี ๆให้อ่านอีกแล้วววววววววว
ปล. มีคนให้แซวเล่น เหมือนเดิม เอิ๊กๆ

ใจร้าย  :เฮ้อ: โดนแกล้งอีกแล้วสิเรา สงสารตัวเองเป็นที่สุด
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 31-03-2009 11:11:42
 :call: มาเร็วนะพี่
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 31-03-2009 11:48:26
มีคนอยากอ่านเหมือนกันรึ? โพสซะเลย
ขอบคุณนะครับ ดูแล้วอย่าลืมกดให้คะแนนคนน่ารักนะครับ  :o8: :-[ :impress2:
 :z13:

1.

เสียงก๊อกแก๊กนอกห้องทำให้ชยุตม์ต้องตื่นขึ้นมา ผ่านไปถึงวันที่ห้าเขาถึงเริ่มปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตของต่างจังหวัดได้ คนเมืองน่านตื่นเช้ามาก รวมถึง "คนเมืองน่าน" ที่เขาอาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว
หกโมงเช้า แสวง หัวหน้าคนงาน สมศักดิ์ ผู้ช่วยของแสวง สมยศ และมาลีภรรยาของสมยศกับลูกสาว และคนอื่นๆ จะตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่หกโมงเช้าและเริ่มทำภารกิจประจำวัน เขาจึงต้องตื่นขึ้นมาด้วยโดยปริยาย
ชยุตม์เคยอยู่แต่เมืองใหญ่ ใช้ชีวิตกว่าครึ่งชีวิตอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ หลายแห่งเกือบทั่วโลก การดำรงชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอดในห้องอพาร์ทเมนท์ทำให้เขามีความเป็นส่วนตัวสูง แต่เมื่อมาอยู่ร่วมกับคนหลายคนในบ้านไม้หลังเดียวกันเขาจึงต้องปรับตัวอย่างมาก
ชยุตม์ได้รับการขอร้องจากคุณอาของเขาให้มารับผิดชอบงานการก่อสร้าง The River Bend Resort ที่จังหวัดน่าน คราวจริงแล้วเขาวางแผนที่จะพักผ่อนเป็นเวลาหกเดือนหลังจากทำงานโครงการใหญ่ๆ มาตลอดตั้งแต่จบการศึกษา เขาบอกตัวเองว่างานโครงการเล็กๆ ของ The River Bend Resort ที่เป็นการก่อสร้างแบบธรรมดาๆ ให้ถือเสียว่าเป็น "งานพักร้อน" ครึ่งปี ทำงานสบายๆ แล้วถือโอกาสพักผ่อนไปด้วยในตัว อากาศเมืองน่านก็สดชื่น ธรรมชาติสวยงามช่วยให้เขาได้ผ่อนคลาย ผู้คนก็เป็นมิตร แต่ข้อเสียหนึ่งอย่างที่เขายังปรับตัวไม่ค่อยได้คืออาหาร แต่โชคดีที่ร้านอาหารในเมืองบางแห่งมีซีเรียลขาย และภรรยาของสมยศก็ทำไข่ดาวอร่อยใช้ได้ แม้ชอบปิ้งขนมปังไหม้อยู่บ่อยๆ
ขณะนี้บ้านพักของชยุตม์ยังไม่เสร็จจึงต้องมานอนบ้านของหัวหน้าคนงานชั่วคราว เดิมทีนั้นคุณอาของเขาจะจัดหาที่พักให้พักโรงแรมในตัวเมืองแต่เขาปฏิเสธ ลองมาพักกับแสวง อย่างน้อยก็เป็นการทำความรู้จักกันกับผู้ร่วมงาน แต่หากบ้านพักของเขาพร้อมเข้าอยู่ เขาก็จะรียย้ายออก เพราะตอนนี้เขาเริ่มจะไม่ไหวแล้วที่ต้องอาศัยรวมกับคนกลุ่มใหญ่ บ้านพักชั่วคราวของเขาสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นบ้านหลังเล็กๆ แฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเหนือโค้งน้ำของแม่น้ำน่านจุดที่ไม่ไกลจากสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ทเท่าใดนัก
เช้าวันนี้เป็นวัดหยุด เขาคิดไว้ว่าจะนอนตื่นประมาณเจ็ดโมงเช้า ทั้งที่รู้ดีว่าจะมีเสียงก๊อกแก๊กนอกห้องทำให้เขานอนต่อไปไม่ได้เขาก็จะพยายามไม่ใส่ใจ คนอื่นๆ ในบ้านคงเข้าใจว่าเขาอยากจะนอน "ตื่นสาย" เช้าวันนี้เสียงการกระทำภารกิจประจำวันนอกห้องนอนชยุตม์จึงดังค่อยกว่าทุกวัน
ยกเว้นเสียงห้าวของผู้ชายคนหนึ่งตะโกนอยู่หน้าบ้าน...
"โต๋...โต๋อยู่ข้างในหรือเปล่า ออกมาหน่อยซิ โต๋ ออกมาคุยกันหน่อย"
โต๋เป็นคนงานที่พักอาศัยอยู่กับแสวงมานานแล้ว ทำหน้าที่เป็น "ช่างฝึกงาน" กลายๆ อยู่กับแสวง ซึ่งฝ่ายนั้นคอยสอนงานให้ โต๋อายุย่างสิบเก้าปี ขยันขันแข็งทำงานและเรียนรู้ได้เร็วจนชยุตม์แปลกใจ
"โต๋ ออกมาสิวะ โต๋" เสียงร้องเรียกเริ่มดังขึ้น "ไอ้โต๋ รู้นะว่าแกอยู่ข้างใน ออกมาเดี๋ยวนี้ โต๋"
ชยุตม์บิดตัวไปมา ซุกหน้าลงกับหมอนราวอยากให้ศรีษะจมหายลงไปจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงรบกวน แต่เสียงนั้นยังดังอยู่และไม่มีท่าทีว่าใครในบ้านจะเดินออกไปรับแขก
"ไอ้โต๋ ออกมาสิวะ" เสียงคนเรียกกำลังจะหมดความอดทนเพราะห้วนและดังกว่าเดิม "รู้นะโว้ยว่าแกอยู่ข้างใน มัวแต่มุดหัวอยู่ได้ ออกมาเดี๋ยวนี้ เป็นผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ ไอ้โต๋"
ชยุตม์ทนไม่ไหวแล้ว หากเสียงนี้ไม่หายไป เขาก็คงนอนต่อไม่ได้ ห้องนอนของเขาอยู่ด้านหน้าสุดและได้ยินชัดเจน เขาจึงเดินงัวเงียออกไปเปิดประตูหน้าบ้าน
...ทีแบบนี้ละคนในบ้านเสียงเงียบ พอเงียบๆ ก็ทำเสียงก๊อกแก๊กๆ ดังกันไม่ยอมหยุด พอมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเอะอะอยู่หน้าบ้าน ทุกคนก็เงียบกริบและคิดว่าคงไปแอบอยู่หลังบ้านกันหมด...
ชยุตม์เดินออกไปที่ระเบียงซึ่งเป็นยกพื้นสูงราวหนึ่งเมตร บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนโล่ง ทาสีเขียวซีดๆ กลางเก่ากลางใหม่
ที่หน้าบ้านเป็นประตูรั้วไม้เก่าๆ ซึ่งแทบไม่สามารถกันผู้รุกรานที่ไหนได้เลย ประตูเปิดแง้มเอาไว้ ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนจังก้า เท้าสะเอวตะโกนโหวกเหวก ท่าทางเอาเรื่อง ข้างกายมีหญิงสาววัยรุ่นยืนก้มหน้าร้องให้กระซิกๆ
"อะไรกันคุณ โวยวายแต่เช้า" ชยุตม์ถาม เดินลงจากบันไดมายืนอยู่บนพื้น
"คุณเป็นใคร" ชายหนุ่มคนนั้นถามเสียงห้วน
"ผมก็คนอยู่ที่นี่นะสิ" ชยุตม์อดกวนไม่ได้
...นึกว่าคนเหนือจะอ่อนโยน นุ่มนวล พูดเพราะอย่างที่เพื่อนๆ เคยบอก แต่คนนี้กลับตรงกันข้าม...
"คุณเรียกโต๋ออกมาคุยกับผม" ชายหนุ่มสั่ง
"เขาไปทำอะไรผิด คุณถึงได้มาโวยวายเหมือนจะเรียกโต๋ออกมาฆ่า"
"คุณมายุ่งอะไรด้วย" อีกฝ่ายถามเสียงเข้ม หน้าตาไม่เป็นมิตร
"ผมเป็นหัวหน้าเขา ผมก็อยากจะรู้" ชยุตม์เสียงเข้มพอกัน
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้าประตูมา เด็กสาวที่ยืนร้องให้อยู่ข้างๆ ก็ตามเข้ามาด้วยเหมือนโดนสั่งทั้งที่ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร
"รู้แล้วคุณจะไปทำอะไรได้ หรือคุณจะให้มันรับผิดชอบ" เจ้าของใบหน้าคมเข้มพูดเสียงห้วน
ชยุตม์เห็นว่าเสียงทุ้มของชายหนุ่มเป็นเสียงที่เพราะทีเดียวหากพูดจาอ่อนโยน แต่ตอนนั้นคนพูดกำลังอารมณ์ฉุนเฉียว เสียงจึงฟังดูกร้าว
...ไปกันได้กับหน้าตา คิ้วเข้ม หัวคิ้วต่ำ ปลายเฉียงขึ้นด้านด้านบน จมูกโด่ง  แต่ปากอิ่มเต็มแดงจัด หน้าเหมือนจะหวานแต่ก็ดูดุผสมกัน...
"ถ้าผมยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะไปรับผิดชอบได้ยังไง" ชยุตม์งง ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรกัน
"งั้นก็เรียกไอ้โต๋ออกมา" ชายหนุ่มหน้าคมสั่งอีกครั้ง แต่ทว่าไม่สนใจคำตอบ หันไปตะโกนต่อ "ไอ้โต๋ ไอ้ขี้ขลาด ออกมาสิวะ มัวแต่มุดหัวอยู่ได้ คิดหรือว่าจะรอดตัว ออกมาเดี๋ยวนี้"
"นี่คุณ ไม่บอกว่าจะเรียกเขาออกมาเรื่องอะไร เขาจะออกมาทำไม คุณก็มีแต่บอกให้เขาออกมาหา มาตะโกนสั่งเสียงดุแบบนี้ ใครเขาจะกล้าโผล่ให้เห็น" ชยุตม์เอียงหน้า น้ำเสียงบ่งบอกว่าอ่อนใจ
"นั่นสิ มันไม่กล้าเพราะมันขี้ขลาด แต่มันได้ยินเสียงผม มันก็รู้ว่าใคร มาทำไม"ชายหนุ่มหันมาพูดกับชยุตม์เสียงเย็นแล้วหันไปตะโกนเรียกโต๋ต่ออย่างไม่ลดละ
ขณะที่เสียงกำลังดัง ชายหนุ่มที่กำลังโกรธเกรี้ยวหันไปเห็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนกลมคนหนึ่งเดินโผล่มาจากหัวมุมของบ้านด้านที่มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายจึงสั่งเสียงเข้ม
"ลุงแหวง ไอ้โต๋อยู่ในบ้านใช่หรือไม่ ลุงไปตามมันออกมาคุยกับผม"
ทันทีที่แสวงเห็นว่าใครกำลังยืนอยู่ประตูรั้วก็ชะงัก กำลังจะหันหลังกลับ
"ลุงแหวงจะไปไหน" ชายหนุ่มเสียงกร้าว
"ผม เอ่อ..." แสวงเลิกลั่ก อ้ำอึ้ง หันรีหันขวาง
ชยุตม์หันตามไปมอง ด้วยไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไร ทำไมผู้ช่วยของเขาจึงทำหน้าเหมือนเจอผีก็ไม่ปาน
"ไปบอกไอ้โต๋ให้ออกมาคุยกับผมเดี๋ยวนี้ มันจะเอายังไงกับเดือน" คนหน้าดุสั่งแสวง ไม่สนใจชยุตม์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พร้อมส่งสายตาถามคำถามมาให้
"ไอ้โต๋ มัน...มัน" แสวงตะกุกตะกัก "มันไม่อยู่ครับ"
"โกหก ดูหน้าก็รู้ว่าลุงแหวงโกหก รู้ใช่ไหมว่าไม่มีใครโกหกผมได้ และคนโกหกจะได้รับผลตอบแทนยังไง" ชายหนุ่มตวาด
"เขาบอกว่าไม่อยู่ก็ไม่อยู่สิครับครับ เด็กมันอาจจะไปทำธุระที่ไหน ผมว่ามีเรื่องอะไรฝากเอาไว้ก่อน ผมจะบอกโต๋ให้" ชยุตม์แทรก แต่พลันชายหนุ่มหันขวับมาเอาเรื่องเขาแทน
"ต้องอยู่สิ มันไปไหนผมต้องรู้ มันออกจากบ้านเมื่อไหร่ผมรู้ทันที คุณทำอะไรไม่ได้และไม่ได้ทำ ไม่ต้องมายุ่ง"
"อ้าว" ชยุตม์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูด
"ฝากเรื่องเอาไว้ไม่ได้หรอก ต้องคุยกันเดี๋ยวนี้ให้มันชัดเจน" ชายหนุ่มร่างสูงเสียงเข้ม แลัวหันไปดุเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ "เห็นไหมเดือน มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไม่กล้าแม้แต่จะออกมาสู้หน้า เธอนี่ก็ตาถั่วจริงๆ"
เด็กสาวเอาแต่ก้มหน้าสะอึกสะอื้น ชยุตม์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่นึกว่าเช้าวันหยุดอันสดใสวันแรกของเขาที่เมืองน่านจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หันไปมองแสวงที่กำลังจะหลบฉากไป แต่ก็ดูกลัวๆ ชายหนุ่มหน้าขาวที่ยืนจังก้าท่าทางเอาเรื่อง
"ลุงแหวง โต๋ไปไหน ไปตามหามาให้คุณกับคุณคนนี้ให้จบๆ ไป ผมจะได้หลับได้นอนเสียที" ชยุฒม์บอกแสวง
"มันอยู่ในบ้านนี่ล่ะ ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนหรอก" หนุ่มหน้าดุแทรก
"ครับๆ" แสวงรีบผลุบหายไป
"มันอยู่ข้างใน ไอ้โต๋มันขี้ขลาด ดีไม่ดีกำลังนั่งแอบอยู่ข้างโอ่งน้ำ ไม่ก็หลบอยู่ในส้วม จะปกป้องมันอยู่ได้"
"นี่คุณ อย่าเพิ่งโวยวายดีกว่า มีอะไรคุยกันดีๆ" ชยุตม์พยายามพูดเสียงอ่อนโยน
"ก็ไอ้โต๋มันเหลี่ยมจัด คุยดีไม่ได้หรอก ไม่เอาตำรวจมาลากคอมันเข้าคุกก็บุญเท่าไหร่แล้ว"
"เฮ้ย เรื่องถึงตำรวจได้เลยหรือ" ชยุตม์อุทาน
"ก็ทำคนท้อง มันน่าถึงไหมล่ะ ผู้หญิงยังไม่บรรลุนิติภาวะ มันก็คงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหมือนกัน" คนเสียงห้วนรีบสวน
"ท้อง...ท้องกับโต๋นะหรือ ยังเด็กอยู่แท้ๆ" ชยุตม์คราง ทอดสายตามองเด็กสาวที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างๆ คนหน้าดุ
"ท้องแล้วทิ้ง น่าเอามาตัดคอเสียบประจานเหลือเกิน" ชายหนุ่มเค้นเสียงรอดไรฟัน
"คุณโชคดีคะ อย่าเลย เรากลับกับเถอะ" เด็กสาวชื่อเดือนพูดขึ้นมาครั้งแรกด้วยเสียงสั่นเครือ
...ชื่อโชคดีหรือ หน้าตาถมึงถึงเอาเรื่องไม่ใช่ย่อย ชื่อไม่เข้ากับตัว...
ชยุตม์ก้าวเท้าเข้ามาใกล้อีกสามก้าว ตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณามากขึ้น ใบหน้าคมเข้มนั้นขาวเนียนสะอาด ผิวพรรณดีอย่างคนเหนือดังที่เพื่อนๆ ของเขาเล่าให้ฟัง ดวงตาคมกริบวิบวับท่าทางเอาเรื่อง ตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มคางบุ๋มเล็กน้อย และมีลักยิ้มแก้มขวาเพราะกระตุกมุมปาก ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ราวกับว่าใกล้จะหมดความอดทน
'คุณโชคดี' สูงกว่าเขาเล็กน้อย แม้รูปร่างเพรียวกว่า แต่ก็เป็นคนมีกล้ามเนื้อพองาม สังเกตจากแผ่นอกภายใต้เสื้อลายทางสีน้ำเงินเข้ม ชายหนุ่มสวมกางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบสีเทาหม่น
"คุณรู้ได้ยังยังว่าเขาทิ้ง ยังไม่ได้คุยกับโต๋เลย" ชยุตม์พยายามพูดเสียงเรียบ หากสังเกตเห็นว่าแววตาของโชคดีแข็งกร้าวขึ้นทันที
"ถ้ามันไม่ทิ้ง ผมจะมายืนแหกปากให้เสียแรงอยู่ตรงนี้หรือ เสียเวลาทำมาหากิน คุณอยู่นี่ก็ดีแล้ว เป็นหัวหน้ามันใช่ไหม คุณต้องบอกให้มันรับผิดชอบ" โชคดีสั่ง
"คุณโชคดีกลับเถอะค่ะ พี่โต๋ไม่ยอมหนูก็ไม่อยากบังคับ" เดือนเงยหน้าขึ้นมาอ้อนวอน
"เงียบซะที ถึงขนาดนี้แล้วยังปกป้องมันอีก" โชคดีเสียงแข็ง
"คุณแน่ใจหรือว่าโต๋เป็นพ่อของเด็ก" พูดเสร็จ ชยุตม์ก็นึกได้ว่า ไม่น่าพูดเลย...
แววตาของฝ่ายตรงข้ามลุกวาบขึ้นมาอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงห้วนกว่าเดิม "อ้าว พูดอย่างนี้ก็สวยสิ"
"เปล่า ผมก็แค่..."
"คุณจะไปรู้อะไร นี่คิดว่าผมมาหาเรื่องหรือไง ถ้าไม่แน่ใจ คนอย่างผมไม่กล้ามายืนอยู่ตรงนี้หรอก" โชคดีพูดกับชยุตม์แล้วหันไปตะโกนอีกครั้ง "ไอ้โต๋ออกมาเดี๋ยวนี้ นับหนึ่งถึงสิบ หนึ่ง..."
สิ้นเสียงนับของโชคดี เด็กหนุ่มอายุ 18 ปีย่าง 19 ปี ค่อยๆ เดินออกมา โชคดีหรี่ตามองอย่างเอาเรื่อง โต๋สูงแค่ถึงคางของชายหนุ่มหน้าดุ เด็กหนุ่มร่างผอมยังอ่อนเยาว์มากนัก ตาคมเหลือบไปมองชยุตม์แวบหนึ่งก่อนก้มหน้าลง
"ไอ้โต๋ ท่ามากนักนะเอ็ง จงใจกวนประสาทชิบหาย นี่จะไม่รับผิดชอบใช่ไหม" โชคดีตะคอก
"ผม...ผม..." โต๋ปรายตาไปมองเดือนที่ยืนร้องให้กระซิกอยู่ข้างโชคดี
"แกจะเอายังไงบอกมา" โชคดีคาดคั้น
โต๋ยังก้มหน้าไม่ยอมพูดจา โชคดีเริ่มจะหมดความอดทนจึงตะคอกเสียงดังกว่าเดิม
"ไอ้โต๋ ไม่ได้เอาปากมาด้วยหรือไงวะ บอกมา จะเอายังไง" โชคดีก้าวเข้ามาหา โต๋ถอยหลังกรูด หันหน้าไปมองชยุตม์ราวกับจะขอความช่วยเหลือ
"นี่คุณ พูดกันดีๆ อย่าให้ถึงกับลงไม้ลงมือเลย" ชยุตม์ยกมือขึ้นห้าม
"ใครว่าผมจะลงไม้ลงมือ" โชคดีมองโต๋กับชยุตม์สลับกัน "อย่างมันต้องลงแข้งลงตีน"
"นายช่าง ช่วยผมด้วย" โต๋ถอยมาหลับหลังชยุตม์
"ขอทีเถอะคุณ" ชยุตม์กางมือกั้น ทั้งๆ ที่โชคดียังยืนอยู่เฉยๆ
"ไอ้โต๋ ไอ้คนขี้ขลาด"
ชยุตม์ถอนหายใจ ท่าทางจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ฝ่ายนี้ก็ดูดุเหลือเกิน ส่วนโต๋ก็เอาแต่เงียบ
"ผมว่าคุณบอกมาดีกว่าจะให้โต๋ทำยังไง" ชยุตม์ถาม
โชคดีเผชิญหน้าวิศวกรคนใหม่ จ้องตาคมกริบคู่นั้นเขม็ง ท่าทางเขาเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนวลแต่ก็ดูเด็ดเดี่ยวราวจะปกป้องลูกน้องเต็มที่
"เอางั้นใช่ไหม ก็ได้ ผมต้องการให้ไอ้โต๋มันรับผิดชอบเดือน แต่งงานอยู่กินกัน รับผิดชอบลูกในท้อง" โชคดีพูดชัดถ้อยชัดคำ สายตาจริงจัง
"เดือนท้องกับผมหรือ" โต๋ครวญ
"เออสิวะ ก็ท้องกับแกสิ ไม่ท้องกับแกจะท้องกับลุงเแหวงหรือไง" โชคดีขึ้นเสียง อยากกระโดดเข้าไปตบกะโหลกของเด็กหนุ่ม
"อ้าว มาเกี่ยวกับผมได้ไง ซวยซะไหมล่ะ" ลุงแหวงสะดุ้ง "คุณโชคดีอย่าพูดแบบนี้สิครับ มันไม่ค่อยน่าฟัง"
"คุณมีหลักฐานอะไรมาบอกว่าโต๋เป็นพ่อของเด็ก" ชยุตม์พูดเสียงเรียบ พยายามช่วยลูกน้อง
"ปกป้องกันเข้าไป" โชคดีหรี่ตา ก่อนเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นเรียบเย็น "ผมไม่ต้องมีหลักฐานอะไรหรอก รู้ๆ กันอยู่ ไอ้โต๋กับเดือนชอบพอกัน ทีนี้ก็เกิดเลยเถิด ลักลอบมีอะไรกัน เดือนมันท้อง ผมคาดคั้น ถึงได้บอกว่าพ่อของลูกในท้องคือไอ้โต๋"
ชยุตม์ขมวดคิ้ว คิดในใจว่าตัวเองหลงยุคย้อนอดีตที่มีการลักลอบรักกันจนพลาดท่า พอท้องขึ้นมา พ่อก็มาบีบให้ลูกสาวบอกว่าใครเป็นพ่อ
...แล้วนี่พูดกันง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ แปลกคนจริง...
"แล้วคุณก็เชื่อเด็กของคุณ"
"เดือนไม่กล้าโกหกผม เด็กของผมไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณอาจจะเคยรู้จัก นี่มันเมืองน่าน ไม่ใช่กรุงเทพฯ" โชคดีคาดว่าหนุ่มแปลกหน้าคนนี้น่าจะเพิ่งมาจากเมืองหลวง "คุณเป็นคนกรุงเทพฯ คงนึกละสิว่าผู้หญิงที่นี่นอนกับผู้ชายจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เด็กมันพลาดไปเพราะมันรักกัน ทีนี้พอเกิดปัญญาขึ้นก็ต้องมีคนมาจัดการให้เรียบร้อย"
"และคุณก็คงรู้ว่าเด็กยังเด็กกันมาก จะจับแต่งงานกันได้ยังไง" ชยุตม์โต้เสียงเบา แต่หนักแน่น
"ถ้าไม่แต่งจะปล่อยให้ผู้หญิงท้องโย้หาพ่อให้ลูกไม่ได้หรือยังไง" โชคดีกระแทกเสียง ไม่เข้าใจว่าหนุ่มกรุงหน้านิ่งคนนี้ทำไมเข้าใจอะไรยากนัก
"ถ้าคุณบอกว่าเชื่อเด็กคุณ ผมก็จะถามเด็กผมเหมือนกัน และผมควรเชื่อเขาเหมือนคุณเชื่อเด็กคุณใช่ไหม" ชยุตม์พูดเสียงเบาพอให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน เขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังยืนเผชิญหน้าเขาอยู่หายใจแรงอย่างพยายามสะกดอารมณ์
"ถ้าไอ้โต๋มันเป็นลูกผู้ชายพอ" โชคดีเสียงเบาเช่นกัน
"ว่าไงโต๋ เราเคยมีอะไรกับคุณเดือนเขาหรือเปล่า" ชยุตม์หันไปถามเด็กหนุ่ม
"ไง ไอ้โต๋ ยอมรับหรือเปล่า" โชคดีแทรก
ชยุตม์หันหน้ามาปราม "คุณครับให้ผมถามเถอะ คุณอย่าเพิ่งพูด"
"คุณก็มัวแต่อ้อมค้อมอยู่ได้ เมื่อไหร่จะรู้เรื่อง" โชคดีทำเสียงหงุดหงิด
"ผมก็กำลังคุยอยู่นี่ไง" ชยุตม์ประท้วง "ผมไม่ได้ยืนอยู่เฉยๆ ที่ไหน"
"ถามนำให้เด็กเฉไฉออกนอกเรื่อง..."
"ผมกำลังถามอยู่ กรุณารอสักครู่" ชยุตม์เสียงเข้ม
"โต๋ เราคิดว่าเราเป็นพ่อเด็กหรือเปล่า" ชยุตม์ถามเสียงเรียบ
"คิดว่า คิดว่าหรือ มันน่ะเป็นพ่อของเด็กร้อยเปอร์เซ็นต์" โชคดีอดไม่ได้ ชยุตม์เชื่องช้า อ้อมค้อมไม่ทันใจเขา
"คุณจะให้ผมสั่งให้โต๋เป็นพ่อเด็กหรือยังไง" ชยุตม์เริ่มเสียงดัง
"ก็ต้องสั่งสิ คุณกำลังจะพูดให้โต๋มันมีทางเลือก"
"เขาก็ต้องมีทางเลือก ไม่งั้นก็ต้องพิสูจน์กัน" ชยุตม์เถียง
"อย่าบอกนะว่าต้องตรวจดีเอ็นเอ" โชคดีโวยวาย เอาเสียงเข้าข่ม
ชยุตม์ยกมือขึ้นเท้าสะเอวเหมือนกัน ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ผมก็ไม่ได้พูด ผมกำลังจะถามเด็ก แต่คุณก็ไม่ยอมรอ"
"เสียเวลา แล้วไม่ต้องเอาประเด็นดีเอ็นเอมาพูด นี่มันบ้านป่า ใครทำก็ต้องใจนักเลงพอที่จะยอมรับ ไม่ต้องเอาบรรทัดฐานของเมืองกรุงมาใช้ที่นี่"
ชยุตม์กับโชคดีกลายมาเป็นมวยคู่ใหม่ แสวงกับโต๋มองหน้ากัน ไมเข้าใจว่าเจ้านายทั้งสองคุยอะไรกันเพราะไม่เข้าใจคำศัพท์แปลกๆ ส่วนเดือนได้แต่ก้มหน้าสะอึดสะอื้น โต๋โผล่หน้าออกมาจากด้านหลังของชยุตม์ มองเดือนด้วยสายตาที่ยากจะบรรยาย เขารักเดือน แต่เขาไม่นึกว่าเดือนจะเกิดท้อง และเขาจะต้องเป็นพ่อคน เขาสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ยิ่งโดนโชคบุกมายืนข่มขู่จะเอาเรื่อง เขายิ่งไม่รู้จะทำอย่างไร
"ผมต้องมีความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย" ชยุตม์หันหน้าไปหาโต๋แล้วถามลูกน้อง "โต๋ เคยมีอะไรกับคุณเดือนโดยไม่ใช้ถุงยางหรือเปลา"
ชยุตม์ไม่รู้จะถามอะไรดี เกิดมาเขาไม่เคยจะต้องเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ในสมองคิดเพียงว่าคนจะท้องก็ต้องมีความสัมพันธ์ทางเพศกันเพราะไม่ใส่ถุงยางอนามัย
เท่านั้นเอง โชคดีก็หมดความอดทน หันหลังกลับ
"โว้ย เสียเวลา ไปเดือน กลับ น้าพงษ์ สตาร์ทรถ" โชคดีก้าวเดินกลับไปที่รถที่จอดอยู่หน้าประตู ก่อนหันมาทางชยุตม์กับโต๋ ยกมือขึ้นชี้หน้าเด็กหนุ่ม
"ไอ้โต๋ ให้เวลาถึงพรุ่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หาผู้ใหญ่ไปสู่ขอเดือน มะรืนนี้แต่งงาน ไม่งั้น แกอย่าหวังจะยืนเหยียบแผ่นดินเมืองน่านต่อไปได้"
โต๋หน้าซีดเผือด ชยุตม์งง ไม่นึกว่าโชคดี จู่ๆ ก็หันหลังกลับกลางคัน เลิกคุยตกลงกัน ทั้งสงสัยว่าที่ชายหนุ่มหน้าดุพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร
"พวกเรา กลับ" โชคดีสั่งคนที่มาด้วย "เดือน ถ้าไอ้โต๋ไม่ยอมรับก็ไปเอาเด็กออก ถ้าพ่อมันไม่เป็นลูกผู้ชายพอจะยอมรับลูกของตัวเอง มันก็เป็นพ่อคนไม่ได้หรอก"
เดือนปล่อยโฮลั่น พร้อมๆ กับเสียงสตาร์ทรถกระบะโฟรวีลด์ โชคดีหันไปสั่งชายวัยกลางคนที่มาด้วยกันให้ออกรถ
ชยุตม์ยืนมองท้ายรถกระบะสองตอนสีเงินที่วิ่งฝุ่นตลบออกไปโดยเร็ว ก่อนหันมาหาแสวง
"ลุงแสวง หมายความว่ายังไงทีโต๋จะเหยียบแผ่นดินเมืองน่านต่อไปไม่ได้ แล้วนี่จะเอาเด็กออกเลยหรือ เขากล้าทำหรือ"
แสวงอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเพราะเกรงกลัวโชคดีอยู่แล้ว เขารู้ว่า บทจะร้าย โชคดีก็ร้ายเหลือทน
"คือผม..." แสวงอึกอัก พลันหันไปหาเด็กหนุ่มอายุคราวหลานที่ยืนทำหน้าซีดอยู่ข้างๆ จึงยกมือขึ้นตบหัวแรงๆ "นี่แนะ ไอ้บื๊อ จะทำให้กูซวยไปด้วยแล้ว"
"ก็ผม..." โต๋พูดอะไรไม่ออก
"เมื่อกี้ทำไมเอ็งไม่รับ คราวนี้มึงจะไม่มีแผ่นดินอยู่" แสวงตะคอก
"ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ผม...ผม..." โต๋หลบมือแสวงที่กำลังจะตบหัวอีกครั้ง
"พอๆ ลุงแสวง" ชยุตม์ห้าม แล้วหันหน้ามาหาโต๋ เอ่ยถามเสียงเรียบ "ไหนโต๋ บอกมาซิว่าเราไปทำเขาท้องจริงหรือ"
"ผมแค่มีอะไรกัน" โต๋เสียงอ่อย เงยหน้าขึ้นสบหน้าชยุตม์แวบหนึ่งก่อนก้มหน้าลง
"เวรกรรม" ชยุตม์พึมพำ "แล้วที่เขาบอกว่าเราเป็นพ่อเด็กจริงหรือเปล่า"
"ก็...เอ่อ...ไม่รู้สิครับ" เด็กหนุ่มตอบอ้อมแอ้ม
"โต๋" ชยุตม์เรียกเสียงเข้ม "นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ"
โต๋ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่พูดอะไรทั้งนั้น เอาแต่นิ่งเงียบ ชยุตม์มองเด็กหนุ่มแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ นึกสงสารโต๋อยู่บ้างที่กลายมาเป็นพ่อคนตั้งแต่อายุ 18 ปี และท่าทางผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงก็ร้ายไม่ใช่ย่อย แต่เขาก็สงสารตัวเองด้วย ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชายไปโดยปริยาย
...แล้วนี่ เขาต้องไปขอสาวให้ลูกน้องแต่งงานหรืออย่างไร เกิดมาไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้...
...โชคดี ถ้าเจอกันอีกคราวนี้จะร้ายขนาดไหน...
1      1      1      1       1
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 31-03-2009 12:03:10
 :mc4: :mc4:


วู้ วู้


เอาไปเลย 1 แต้ม
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Donald~duck ที่ 31-03-2009 12:13:05
 :mc4:  :mc4: 

ติดตามเรื่องใหม่ๆ   o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 31-03-2009 12:25:41
+1ให้เรือ่งใหม่คับ

มาต่อไวๆนะคับ

ท่าทางจะมันดี
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dokjarn ที่ 31-03-2009 12:48:13
มีคนอยากอ่านเหมือนกันรึ? โพสซะเลย
ขอบคุณนะครับ ดูแล้วอย่าลืมกดให้คะแนนคนน่ารักนะครับ 
 :o8: :-[ :impress2:
 :z13:


ครับ..ดูแล้ว...อ่านแล้ว

กดให้คะแนนคนน่ารักไปแล้วเป็น 657

สนุกดีครับ  ต่อปากต่อคำกัน  ไม่มีใครยอม

ชยุตม์  ท่าทางนายเอกจะ นุ่ม เย็นกว่า พระเอก

คุณโชคดี...โชคดีเพราะเจอ...ชยุตม์ รึป่าวเนี่ย

แล้วเมื่อไรจะเย็นลง  นายเอกเอาน้ำ....เข้าลูบน่าจะดีขึ้น

ชอบเมืองเหนือ  จะคอยอ่านตอน พระ นาย กุ๊กกิ๊กกัน

ทร่ามกลางบรรยากาศของขุนเขาอ่ะ    จะได้อ่านมั๊ย

ขอบคุณนะครับ  เป็นกำลังใจเน้อ

 :z2: :pig4: :pig4: :pig4: :z2:

 :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-03-2009 12:54:37
เข้ามาบอกว่า...
กฏข้อที่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณถูกแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

***ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่ห้องอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ***


ต่อไปนี้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของดิฉันในฐานะโมฯ นะคะ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฏระเบียบของเล้าฯ  ไม่ได้ทำไปเพราะสาเหตุส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าใครไม่สบายใจได้การปฏิบัติหน้าของดิฉัน  เชิญตั้งกระทู้เพื่อสอบถามได้ที่ "ห้องพูดคุยทั่วไป" นะคะ
เพราะห้องนั้นเรามีไว้ให้พูดคุย ซักถาม แสดงความคิดเห็น-คิดถึง ต่อกันได้อย่างอิสระ
ผิดจากห้องนี้ซึ่งเป็นห้องนิยายที่เปรียบไปก็คล้ายกับห้องสมุดกลายๆ
ดังนั้นหากต้องการจะพูดคุย-ไต่ถามกันก็เชิญได้ที่ห้องพูดคุยนะคะ
แล้วดิฉันจะได้เรียนชี้แจงเป็นรายบุคคล และถี่ถ้วนนะคะ
หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้อ่าน  แฟนคลับ  นักโพสต์ และนักเขียน นะคะ

เราเตือนคุณแล้วนะคะ
เจ้สอง  กะเทยอาวุโส  อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 31-03-2009 19:27:36
 :z2: เต้น ขอตอนต่อไป คึคึ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 31-03-2009 19:45:32
คุณโชคดีนี่ ปากแก  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 31-03-2009 20:40:53
เข้ามาสำแดงตน-เพื่อให้กำลังใจคนเขียนนะคร้าบบบ

****************

เปิดเรื่องได้น่าสนใจมากๆ..
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 31-03-2009 23:09:15
เนื้อเรื่องน่าติดตามากๆ  o13

แล้วเอาตอนใหม่มาลงไวๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 31-03-2009 23:53:24
คุณโชคดีนี่ ปากคอเราะร้ายจริงๆ o13

ท่าทางใจร้อนด้วย

ไอ้โต๋ ผิดก็ยอมรับไปเหอะ

เดี๋ยวก็ได้โดนคุณโชคดีลงแข้งลงตีนจริงๆหรอก :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 01-04-2009 01:54:36
แอบมาจิ้มคุณคฑาวุธต้องดึกๆ
 :mc4: ฉลองเรื่องใหม่คะ ผลงานดีมีคุณภาพอีกแล้วคับท่าน 55

คุณโชคดีมาโหมดโมโหร้ายแบบนี้ก็เข้าใจอ่ะนะ ในเมื่อคนของตัวเป็นฝ่ายเสียหาย
แล้วโต๋เป็นผู้ชาย ถ้าใจนักเลงจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ แต่คุณโชค
เล่นประกาศว่าจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่แบบนี้ เหอะๆเจ้าโต๋ตอนแต่งไม่เท่าไหร่หรอก ไอ้หลังแต่งเนี่ยซิ เจอชุดใหญ่แหงๆ ชยุตม์ต้องรับเป็นเถ้าแก่งานแรกเลยสิเนี่ยดุท่าแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 01-04-2009 02:16:55
 :กอด1:
มาให้กำลังใจครับบบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-04-2009 07:08:11
 :mc4: ฉลองเรื่องใหม่ พี่นาย

เปิดเรื่องก็ฉะกันเลย เรื่องนี้คงปะทะคารมกันตลอดเรื่องแน่ ๆ

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ ทำไมมีแต่คนคอยแกล้งพี่นายทั้งนั้นเลย น่า ฉง ฉาน  :z1:

เป็นกำลังใจให้แล้วกัน +1 ให้แล้วนะ แต่ถ้าไม่มาต่อ ...... ไม่มีอะไรหรอก :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 01-04-2009 10:34:35
มานั่งรอตอนต่อไปคับ


คิดว่าเรือ่งนี้ความสนุกน่าจะมาจากปากของคุณโชคดีนะคับเนี่ย


รู้สึกว่าจะร้ายไม่ใช่เล่น
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 01-04-2009 12:28:32
:mc4:

ตามมาค่าเรื่องใหม่

น่าสนุกทีเดียว

ขิงก็ราข่าก็แรง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nam-nueng ที่ 01-04-2009 13:18:47
กีสสสสสสสส ติดตามๆ เรื่องใหม่มาแล้ว

 :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 01-04-2009 14:36:30
 :mc4:  ผลงานคุณคฑาวุธ เรื่องใหม่ มาแล้วววววววว


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-04-2009 14:48:50
สนุกมากๆ :laugh:


 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MrTroy ที่ 01-04-2009 15:26:13
ตอนแรกกำลังลุ้นว่าคุณ katawoot จะแต่งเรื่อง นักรักพยัคฆ์ร้าย ต่อรึเปล่า
แต่กลายเป็นเรื่องใหม่แทน ซึ่งท่าทางจะแรงไม่หนีกันด้วย หุหุ

รออ่านตอนต่อไปนะคับ o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 01-04-2009 16:01:30
มีเรื่องใหม่แล้ว...แวะมาให้กำลังใจค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 01-04-2009 16:47:54
หุหุ ถ่ายทำที่เมืองน่านเหรอเนี่ย  ถ่ายในเวียงก๊ะว่าถ่ายตั้งไหน
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 01-04-2009 23:29:29
คุณโชคดีนี่ดุมากกกกกกก



แล้วจะไงล่ะเนี่ยอย่างงี้ก็ต้องไปขออ่ะดิ




ลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 02-04-2009 00:40:03
 :mc4:

เรื่องท่าทางจะมันส์


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย (31/3/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-04-2009 11:01:39
: 2 :

ไม่มีใครสนใจโชคดีตอนที่เขาเดินเข้ามาในสถานที่ก่อสร้างรีสอร์ทแห่งใหม่เชิงดอย ชายหนุ่มเดินดูสถานที่ไปเรื่อยๆ เห็นว่าป่าถูกถางไปมากพอสมควร มีการปรับดินให้เป็นเนินสูงต่ำติดกับลำธารคดเคี้ยวไปมาในโครงการ บางช่วงเป็นธารธรรมชาติ หากบางช่วงขุดขึ้นมาใหม่ให้ต่อเนื่องกัน เสาเข็มจำนวนมากกองอยู่เป็นระยะๆ โชคดีคาดคะแนว่าโครงการนี้ท่าทางจะใหญ่โตเอาการ อย่างก็เกิน 70 ไร่
ก่อนหน้านี้ ญาติของพงษ์ผู้ช่วยคนสนิทของเขามาบอกว่านายทุนจากกรุงเทพฯ มาสร้างรีสอร์ทแห่งใหม่เชิงดอย ติดกับโค้งน้ำของแม่น้ำน่านก่อนถึงสะพานข้ามจากหมู่บ้านไปยังที่ดินผืนกว้างที่เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง รีสอร์ทแห่งนี้ขุดคลองเยอะมาก และทำประตูน้ำติดกับแม่น้ำน่านและท่าทางจะผันน้ำเข้าไปในโครงการ หากเป็นเช่นนั้นจริง ถ้าเป็นการรบกวนธรรมชาติ เปลี่ยนแปลงทางเดินของน้ำ หือไม่ก็มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าแล้ง โชคดีจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา
ชายหนุ่มนักสำรวจเดินลัดแนวต้นไม้ใหญที่ไม่ถูกตัดลงเพื่อตรงไปยังด้านที่ติดกับแม่น้ำ เพื่อดูว่ามีการขุดคลองเชื่อมกับแม่น้ำหรือไม่ ขณะที่กำลังเดินขึ้นเนินดินใกล้ต้นตะแบกใหญ่ เขาเห็นชายหนุ่มสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่อีกฟากหนึ่งของเนินดินจึงหยุดเพ่งมอง
...นายช่างคนนั้นกับผู้ชายที่สูงพอๆ กันแต่ผอมกว่าใบหน้าสะอาด นัยน์ตาเรียวเล็ก ไว้หนวดเข้ม สวมหมวกสีเขียวขี้ม้าในมือถือแปลนที่ม้วนอยู่ นายช่างที่เขาไม่ชอบหน้าหันมาเห็นและดูเหมือนจะจำเขาได้
"คุณโชคดี" ชยุตม์ตะโกนเรียก แต่โชคดีรีบหันหลัง เดินย้อนกลับไปทางเดิม
โชคดีบอกตัวเองว่า ตอนนี้ยังไม่อยากจะคุยเรื่องอะไรกับชายหนุ่มคนนั้น อย่างน้อยก็เรื่องโต๋กับเดือน ไม่อยากให้คนขี้เต๊ะคนนั้นคิดไปว่าเขาตามมาตอแยถึงที่ทำงาน เมื่อวานเขายื่นคำขาดไปแล้วและไม่ต้องการพูดร่ำไรอะไรอีก เขาต้องการรออย่างเดียว ดูซิว่าวันนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เจ้าโต๋จะเอายังไง หรืออีกนัยหนึ่ง "ผู้ใหญ่" ของโต๋จะทำอะไร
ไม่นานโชคดีก็เดินถึงรถ หันไปมองไม่เห็นชยุตม์เดินตามมา ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนขึ้นรถสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับตรงไปยังทางออกหน้าโครงการในขณะเดียวกันรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำวิ่งสวนเข้ามา เขาหันไปมองเห็นใบหน้าของผู้นั่งอยู่บนเบาะหลังของรถ
...คุณองอาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด กับลูกชายคนเล็ก...ปฐพี...

โชคดีขับรถไปตามถนนลูกรักด้วยความรู้สึกสงสัย กลับไปถึงบ้านเขาต้องสืบให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของโครงการนี้
...แล้วทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมาเกี่ยวข้องด้วย ปฐพี นายตำรวจคนเก่งก็มาด้วย...
...ไหนบอกว่าเป็นตำรวจใสซื่อมือสะอาดนัก...
...หากโครงการนี้โปร่งใสและใส่ใจกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ต้องไม่มีการทำลายระบบนิเวศน์วิทยา แต่หากสิ่งที่เขากังวลจะเกิดขึ้นจริง จะทันทานไหวหรือ ในเมื่อผู้ว่าราชการก็อาจมีส่วนได้ส่วนเสียด้วย...
...คนรวย คนรวยมาอีกแล้ว แรกก็ห้างสรรพสินค้าในตัวจังหวัดที่ถูกตีกระเจิงไป คราวนี้รีสอร์ท อยู่มาตั้งนานไม่เห็นจะมีรีสอร์ทใหญ่โตแบบนี้ คราวนี้จะโผล่ขึ้นมากลางป่า กลางธรรมชาติอันสวยงาม...
ความคิดของโชคดีสะดุดเมื่อรถกระตุกและทำเสียงแปลกๆ อีกไม่กี่เมตรเขาก็จะถึงสะพานไม้ข้ามคลองที่แยกออกมาจากแม่น้ำน่าน เมื่อข้ามสะพานไปแล้วถนนกว้าจะกว้างขึ้น เป็นถนนลาดยางมะตอยที่รถสามารถวิ่งสวนทางกนได้อย่างสะดวก แต่สะพานแคบจนรถสวนกันไม่ได้ต้องผลัดกันผ่านไปมา
สองข้างทางเป็นเนินดินลาดต่ำลงไปเป็นพื่นที่เจิ่งน้ำ ฝนสุดท้ายของหน้าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้น้ำในลำธารเอ่อล้น ฤดูหนาวกำลังจะเริ่มขึ้น ความสดชื่นของฤดูฝนกำลังจะแทนที่ด้วยความหนาวเย็น
รถสะดุดอีกสองครั้งแล้วหยุดสนิท โชคดียกมือตบพวงมาลัยอย่างอารมณ์เสียที่รถคู่ใจเกิดมาดับกลางทาง เขาพยายามสตาร์ทรถอยู่หลายครั้งแต่กระบะไฮลักซ์ไทเกอร์ของเขาก็ไม่ตอบสนอง
ชายหนุ่มลงจากรถมายืนมองอย่างเซ็งๆ ที่ตัวเองไม่มีความรู้เรื่องรถเลย มือล้วงกระเป๋ากางเกงตั้งใจจะหยิบโทรศัพท์ดึงออกมาโทรเรรียกพงษ์ให้มาช่วย แต่กางเกงตัวนี้ค่อนข้างคับ ขณะที่ล้วงโทรศัพท์ออกมา ผ้าเช็ดหน้าสีขาวนวลผืนเล็กก็ถูกดึงติดออกมาด้วย โชคดีหยิบผ้าออกมาคลี่แล้วมองอย่างพิจารณา ผ้าเช็ดหน้าเก่ามากแล้ว แต่ก็สะอาด เขาใช้ผ้าผืนนี้อยู่บ่อยๆ จนแม่ของเขาบ่นว่าควรจะทิ้งได้แล้ว
ชายหนุ่มสะบัดผ้าเช็ดหน้าแรงๆ แต่โชคร้ายลมแรงกระโชกมาวูบหนึ่ง พัดเอาผ้าเช็ดหน้าให้ปลิวไป โชคดีรีบคว้าแต่ไม่ทัน ผ้าเช็ดหน้าปลิวไปตกลงในแอ่งน้ำข้างถนน
"โธ่โว้ย เปื้อนหมด" โชคดีหันซ้ายหันขวา หาไม้จะเขี่ยผ้าเช็ดหน้าผืนโปรด
เขาไม่อยากทิ้งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก...ผืนเดียวที่เขาใช้แทบทุกวัน สิ่งเดียวที่ยังเป็นความทรงจำของเขา ความทรงจำที่เจ็บปวด และผ้าเช็ดนี้เป็นสิ่งที่จะคอยเตือนใจเขาตลอดเวลาถึงความรักครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยมี
ชายหนุ่มพยายามยื่นแขนออกไปจนสุด ปลายไม้เขี่ยถูกผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ค้างติดอยู่กับกอหญ้า กิ่งไม้ที่เขาถืออยู่สั้นเกินไป โชคดีลุกขึ้น รีบหันมองหากิ่งไม้กิ่งอื่นที่ยาวกว่า พลันสายตามองไปเห็นรถกระบะสีขาวคันหนึ่งกำลังวิ่งตรงมา
รถของเขาขวางทางอยู่ โชคดียักไหล่ หันมาสนใจผ้าเช็ดน้าของตัวเองต่อ รถที่มาจากทางด้านนั้นเป็นรถที่มาจากโรงการก่อสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ เขาจึงไม่เห็นจะต้องสนใจ
โชคดีหากิ่งไม้กิ่งอื่นไม่ได้ จำต้องใช้กิ่งเดิม ชายหนุ่มขยับตัวเข้าไปไกล้มากขึ้น เท้าเริ่มจุ่มลงไปน้ำ ที่จริงเขาคิดว่าแค่ลุยลงน้ำไปก็หยิบได้ แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากลงทุนขนาดนั้น น้ำลึกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตรงนี้ใกล้กับลำธารและน้ำที่เอ่อล้มขึ้นมาทำให้ไม่แน่ใจว่าริมตลิ่งอยู่ตรงไหนกันแน่
"คุณครับ ช่วยเลื่อนรถด้วย" เสียงคุ้นๆ ดังขึ้นข้างหลัง โชคดีเกี่ยวผ้าเช็ดหน้าได้แล้ว ชายหนุ่มกำลังจับกิ่งไม้ให้มั่นแล้วหมุนมือช้าๆ เพื่อให้ผ้าเช็ดหน้าพันปลายกิ่งไม้
"คุณ...คุณจอดรถขวางสะพานอยู่ ช่วยขยับรถให้หน่อยสิครับ" มือใหญ่ๆ แตะลงที่บ่าของโชคดี
"เดี๋ยวสิ" โชคดีพูดเบาๆ ไม่หันไปมอง
"ทำอะไรหรือครับ ให้ผมช่วยไหม" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นข้างหู คนพูดก้มหน้าลงมาใกล้มาก เสียงคุ้นจนโชคดีอดหันไปมองไม่ได้
"คุณ..."
...นายช่างคนนั้นเอง...โชคดีตกใจ ไม่นึกว่าจะเจอคู่ปรับ เผลอขยับมือ ผลก็คือผ้าเช็ดหน้าที่เกี่ยวได้แล้วหลุดออกจากปลายกิ่งไม้ ลอยออกไปไกลกว่าเดิม
"โอ้ย ชิบหาย แย่แล้ว" ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กกำลังจะจมลง โชคดีรีบยืดแขนใช้กิ่งไม้เกี่ยวอย่างรวดเร็วแต่ไร้ผล จนในที่สุดคนที่มาทำให้เขาตกใจก็พูดขึ้น
"คุณจับแขนผมไว้แล้วยืดออกไป" ชยุตม์กางขาออก จับมือโชคดีแล้วพยักหน้า ชั่ววินาที โชคดียืนตัวล้ำออกไปจากตลิ่ง ยืดตัวล้ำออกจากฝั่งไปเหนือน้ำ ยื่นแขนออกไปใช้กิ่งไม้เกี่ยวเอาผ้าเช็ดหน้าไว้ได้ทันท่วงที แขนยาวของชยุตม์ช่วยเพิ่มความยาวให้แขนเขาเอื้อมถึงผ้าเช็ดหน้าแล้วเกี่ยวเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
"ได้แล้ว ดึงผมขึ้นไปสิ" โชคดีสั่ง
ชยุตม์รีรออยู่ชั่วครู่ ในใจสึกสนุกอยากล้อเล่นเพราะขณะนี้คนปากร้ายยืนตัวเอียงเหนือผิวน้ำ แขนขวายืดออกจนสุด โดยมีมือของเขายึดจับข้อมืออีกข้างเอาไว้
"คุณโชคดีครับ ช่วยบอกผมหน่อยว่า..."
"ดึงกลับไป" โชคดีแทรก ไม่ยอมฟังที่ชยุตม์พูด
...จะเป็นยังไงนะถ้าปล่อยมือ...
ชยุตม์คิดเล่นๆ นึกอยากจะเห็นภาพชายหนุ่มหน้าเข้มหล่นตูมลงไปในน้ำ เขาเห็นฤทธิ์เดชของโชคดีแล้วเมื่อวานนี้ ท่าทางจะกินเลือดกินเนื้อจนลุงแสวงกับโต๋กลัวจนหัวหด ถามอะไรก็เอาแต่อ้ำอึ้ง
...แต่อย่าดีกว่า ถ้าปล่อยมือโชคดีให้หล่นลงไป แม้นึกภาพออกว่าน่าจะเป็นภาพที่น่าดูมาก แต่ผลที่ตามมาก็ไม่อาจคาดเอาได้ แต่คาดว่าคงไม่น่าเสี่ยง เผลอๆ เขาจะเป็นคนที่ "อยู่เมืองน่านไม่ได้"
"ขอบคุณ" คนที่ได้รับการช่วยเหลือตอบเบาๆ "แต่ว่าผมกำลังจะเกี่ยวได้อยู่แล้ว ถ้าคุณไม่มาทำให้ตกใจ"
"อ้าว ผมผิดหรือ"
โชคดียักไหล่ บิดผ้าเช็ดให้แห้ง "เปล๊า ไม่ได้ว่าผิด"
ชยุตม์เอียงคอมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนก้มหน้าบิดผ้าเช็ดหน้าเหมือนตั้งใจมาก ชายหนุ่มผู้สร้างความแปลกใจให้เขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มที่เขารู้สึกว่ามีอะไรค้นหา ชายหนุ่มที่ไม่เหมือนใครที่เขาเคยรู้จัก
เขารู้สึกว่าภายใต้บุคลิกก้าวร้าวนั้นามีความอ่อนโยนแฝงอยู่ วาจาโผงผางนั้นเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้
...บางอย่างที่น่าเข้าไปสัมผัส...

 :pig4:
ไปทานอาหารกลางวันก่อนครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 02-04-2009 11:12:10
บางอย่างที่น่าสัมผัส

อืม...


น่าคิดนะ

 :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-04-2009 12:10:16
คู่กัดคู่ใหม่ ท่าทางจะแรงส์สสสทั้งคู่ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-04-2009 14:30:21
คุณโชคนี้ท่าจะมีค.หลังเยอะนะ
ผ้าเช็ดหน้านั่นก็คงจะสำคัญมาก พอๆกับอดีตของมัน
ถึงขนาดลงทุนตามเก็บเลย ยังดีที่ชยุตม์ช่วยอีกแรงถึงแม้ว่า
เกือบทำให้ล่มก็ตาม ไม่งั้นมีหวังไม่ชอบขี้หน้ากันไปมากกว่านี้
ชยุตม์อาจไม่เท่าไหร่ ณ ตอนนี้ แต่คุณโชคเนี่ยดูท่าจะเอาอคติส่วนตัว
มาปนกะเรื่องงาน งานนี้คงกัดไม่ปล่อยหรอก ถ้ามีหลักฐานจริงๆอ่ะนะ
ก่อนทำโครงการมันก็ต้องศึกษาแล้วจิว่าจะกระทบกับสิ่งแวดล้อมรึป่าว
แต่อย่างว่าถ้ามีตังค์แล้วมีback หนุนหลังเป็นถึงผู้ว่าฯเนี่ย การมองโลก
ให้แง่ร้ายของคุณโชคก็คงไม่ผิดหรอก มีเงินกับอิทธิพล สีดำยังปั่นให้เป็นสีเทาได้เลย
นับประสาอะไร คุณโชคถ้าจะลุยก็ลุยกันให้ถึงพริกถึงขิงนะ ถ้าสร้างแล้วกระทบต่อระบบนิเวศน์
ก็อย่าปล่อยให้ลอยนวลล่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 02-04-2009 14:37:25
บางอย่างคืออะไรหนอ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-04-2009 15:52:06
ต่อ

เขารู้สึกว่าภายใต้บุคลิกก้าวร้าวนั้นามีความอ่อนโยนแฝงอยู่ วาจาโผงผางนั้นเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้
...บางอย่างที่น่าเข้าไปสัมผัส...

"รถของคุณขวางทางอยู่ ผมผ่านไม่ได้ ขอความกรุณาช่วยเลื่อนรถด้วยครับ" ชยุตม์ขอร้อง
โชดดีไม่พูดอะไรตอบ ล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกง ดึงกุญแจรถออกมายื่นชยุตม์
วิศวกรหนุ่มส่ายหน้า ถอนหายใจเบาๆ ที่โดนกวนประสาท
ชยุตม์รับกุญแจจากมือโชคดี เดินไปที่รถกระบะโตโยต้ากลางเก่ากางใหม่ที่จอดขวางทางอยู่ แล้วสตาร์ทเครื่อง ตั้งใจว่าจะขับข้ามสะพานไปจอดไว้อีกฟากของลำธารที่ถนนกว้างกว่า
ตอนนั้นเองที่ชยุตม์ถึงรู้ว่ารถเสีย และเขาถูกหลอกให้มาสตาร์ทรถเสีย
...คนอะไร มันน่า...นัก...
ชยุตม์ยื่นหน้าออกมาจากรถ สูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ ก่อนจะตะโกนเรียกโชคดี
"รถเสียนี่ครับ"
...ก็เข็นให้พ้นทางสิ คนอะไร เรื่องมากชมัด...
โชคดีคิดอย่างฉุนๆ ในใจ พอไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาก็ไม่อยากพูดดีด้วย ยิ่งมารู้ว่าเป็นนายช่างสร้างรีสอร์ทยิ่งไม่ชอบหน้า
ชายหนุ่มไม่ตอบ เดินช้าๆ ไปที่รถ หันมองซ้ายมองขวาราวกำลังชื่นชมกับทุ่งหญ้าป่าเขา จงใจให้ชยุตม์รอ อีกฝ่ายก็รออย่างอดทน นั่งทำหน้านิ่งอยู่ในรถ จับตามองโชคดีไม่วางตา
"ทำไมไม่บอกผมว่ารถเสีย" ชยุตม์ต่อว่าเมื่อโชคดีเดินมาถึงที่รถ
"คุณนี่รอนิดรอหน่อยก็ไม่ได้ มาถึงก็บอกให้เลื่อนรถ" โชคดีตอบเสียงเรียบ "ส่วนเรื่องรถเสีย คุณก็ไม่ได้ถาม อยากได้คำตอบยังไง ก็ถามให้ถูกสิครับนายช่าง"
ชยุตม์ถอนหายใจอีกครั้ง คุยกับโชคดีแชล้วเขาต้องใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา พอๆ กับก่อสร้างอาคารสูงร้อยชั้นกลางทะเลทราย ไม่เคยคุยกับใครแล้วต้องใช้สมองมากเท่านี้มาก่อน
"อ๋อ ผมต้องถามถูกคำถาม ถึงจะได้คำตอบที่ถูกต้อง" ชยุตม์สรุป พยักหน้าช้าๆ ทำทีเป็นเข้าใจ "แล้วทีนี้ ผมควรจะถามว่า เป็นผมใช่หรือไม่ ที่ควรจะเป็นคนเข็นรถข้ามสะพาน"
"ผมเข็นก็ได้ ไม่เห็นต้องมากระทบกระเทียบ" โชคดีตอบสั้นๆ แล้วเดินไปท้ายรถ ออกแรงไม่มากผลักรถไปข้างหน้ารถก็เคลื่อนตัวเพราะถนนค่อนข้างลาดลงคอสะพาน
ชยุตม์ลงจากรถ ยื่นกุญแจให้ชายหนุ่มหน้านิ่งที่เดินเข้ามาใกล้แล้วบอกว่าจะช่วยดูรถให้ แต่โชคดีปฏิเสธ บอกว่าจะให้ช่างมาจัดการ ชยุตม์จึงถามว่า "คุณจะกลับยังไง ผมไปส่งไหมครับ รถทิ้งไว้ที่นี่ก่อนก็คงได้นะ"
โชคดีพยักหน้า แล้วพูดว่า "ที่นี่ไม่มีโจรหรอก ที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ"
ชายหนุ่มเน้นเสียงคำสุดท้าย แล้วเดินไปยังรถของชยุตม์ นายช่างหนุ่มอมยิ้ม รู้ว่าถูกประชดและรู้ว่ายังไงโชคดีก็พยายามหาเรื่องว่าเขาจนได้ทุกสถานการณ์
เขาเดินตามชายหนุ่มช้าๆ อดพิจารณาเรือนร่างสูงโปร่งของโชคดีไม่ได้ แผ่นหลังกว้าง ขายาว ก้าวเดินเป็นจังหวะอย่างมั่นใจ รูปร่างใต้เสื้อลายสก๊อตสีน้าตาลปนดำและกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มนั้นดูก็รู้ว่าเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เนื้อแน่นๆ ใต้เข็มขัดด้านหลังยิ่งทำให้เขาไม่อยากละสายตา

ชายหนุ่มทั้งสองนั่งเงียบมาตลอดทางจนรถเข้าเขตตัวเมืองชยุตม์จึงเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นว่า "คุณโชคดีครับ ผมอยากถามคุณเรื่องโต๋"
"ไม่ต้องถาม ผมไม่มีคำตอบ พูดไปแล้ว ไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ"
"คุณไม่คิดหรือว่ามันเร็วไปหรือที่จะจับเด็กทั้งสองแต่งานกัน" ชยุตม์ถาม ไม่สนใจที่อีกฝ่ายบอกว่าไม่มีคำตอบ
"คุณนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย" โชคดีส่ายหน้า
ชยุตม์ไม่เข้าใจ "นี่ไง ผมถึงต้องถาม แล้วผมถามถูกตรงกับคำตอบไหมล่ะ" เสียงชยุตม์ฟังดูอ่อนใจ
"เอาไว้คุยกันตอนที่โต๋มาสู่ขอเดือนและตกลงกันเรื่องแต่งงาน" โชคดีตอบแล้วยกเท้าขวาขึ้นวางบนเบาะ นั่งชันเข่าข้างเดียว ศอกขวางวางบนเข่า มือค้ำอยู่ที่ที่คางของตัวเอง เมินหน้ามองออกไปนอกรถ
"คุณแน่ใจหรือว่าที่ทำนี่ถูกแล้ว" ชยุตม์ยังไม่ยอมแพ้ ถามเพื่อจะเอาคำตอบให้ได้
"เลี้ยวซ้ายข้างหน้า ตรงไปถึงไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา ข้ามสะพานแล้วจอดหน้าร้านขายเหล็ก อย่าต้องให้ยอกซ้ำ"
"ผมความจำดี" ชยุตม์หน้าบึ้ง
"ถ้าผมไม่แน่ใจผมไม่ทำหรอก ถ้าไม่ถูกผมก็ไม่ทำเหมือนกัน" โชคดีหันมามอง แววตามุ่งมั่น
ชยุตม์ไม่พูดอะไรต่อ ท่าทางโชคดีเป็นคนหัวแข็งมาก ประเภทยอมหักไม่ยอมงอ แบบที่ว่า หากคิดว่าตัวเองถูกแล้ว ก็ยากที่จะเปลี่ยนความคิดได้ หรืออาจจะเปลี่ยนไม่ได้เลย

ชยุตม์จอดรถหน้า "โชคดีค้าเหล็ก" อาคารพาณิชย์ 3 คูหาที่ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจ อดทึ่งไม่ได้กับชายหนุ่มที่เพิ่งจะกล่าวขอบคุณเขาสั้นๆ ก่อนจะก้าวลงจากรถเดนเข้าไปร้าน ไม่หันหลังกลับมามองเขาแม้แต่นิดเดียว
ชยุตม์ลงรถแล้วเดินตามชายหนุ่ม ตั้งใจว่าจะคุยกับเด็กสาวที่ชื่อเดือนให้รู้เรื่อง ในใจหวังว่าคงไม่โดนโชคดีไล่ตะเพิดออกมา
ชายหนุ่มเจ้าของกิจการค้าเหล็กหยุดเดิน หันขวับกลับมาด้านหลังทันที่รู้ว่ามีคนเดินตาม
"ผมอยากจะขอคุยกับเดือน" ชยุตม์รีบแจ้งความประสงค์
"คุยทำไม" ฝ่ายนั้นถามเสียงห้วน
"คุณอยากให้เรื่องจบไม่ใช่หรือ ผมกำลังจะช่วย" ขยุตม์มองหน้าโชคดีนิ่ง ตาสองคู่ประสานกัน แวบหนึ่งทั้งสองสัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่มีเพียงทั้งสองคนนั้นเข้าใจ อะไรบางอย่างที่ยากจะอธิบาย อะไรบางอย่างที่เปิดเผยโจ่งแจ้งไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเล็กๆ เช่นนี้
"ได้ แต่คุณก็รู้จุดยืนผม หวังว่าคงเข้าใจ" โชคดีประกาศ แล้วหันหน้าไปหาเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องกระจกข้างๆ ชั้นวางเหล็กหลายขนาด
"โอ่ง ไปตามเดือนมาให้น้าซิ" โชคดีสั่ง
"ครับผม" เด็กหนุ่มอายุประมาณ 15 ปีพยักหน้าแล้วรีบวิ่งหายไปหลังร้าน
ไม่นาน เด็กสาวอายุมากกว่าก็เดินก้มหน้าเข้ามาหาชยุตม์กับโชคดีอย่างอายๆ ชยุตม์คาดคะเนอายุของเดือนไม่น่าจะเกิด 17 ปี โต๋อายุ 18 ย่าง 19 ปี เด็กมากทั้งสองคน เด็กเกินกว่าจะเป็นสามีภรรรยากัน...เป็นพ่อแม่ของเด็กที่กำลังจะเกิด
...ทำไมโชคดีแน่ใจนักว่าโต๋เป็นพ่อของเด็ก พอท้องขึ้นมาก็รู้ได้เลยหรือไร...
ชยุตม์นั่งลงบนม้าหินอ่อนหน้าร้าน ส่วนโชคดียืนกอดอกพิงเสาอยู่ใกล้ๆ ขาซ้ายหย่อนไขว้ทับขาขวาเอาไว้ มองเขากับเดือนนิ่ง
"คุณโชคดีครับ ผมขอคุยกับเดือน"
"ก็คุยไปสิ" โชคดีตอบห้วนๆ "เรียกมาให้คุยแล้ว ไม่ได้ให้มานั่งมองตากัน แต่รีบๆ คุยเข้านะ เพราะเรามีงานต้องทำ"
"ผมหมายความว่า ขอคุยตามลำพัง" ชยุตม์เสียงเรียบ ใบหน้านิ่งขรึม พยายามใจเย็น
"ไม่ได้ จะคุยกับเดือนต้องคุยต่อหน้าผม ไม่งั้นก็ไม่ต้องคุย" เจ้าของร้านเหล็กตอบเสียงแข็ง
ชยุตม์ถอนหายใจ โชคดีร้ายเสียจนเขาเริ่มจะอ่อนใจ ไม่เคยนึกเลยว่ามาเป็นวิศวกรสร้างรีสอร์ทของคุณอาเพียงหกเดือนเพื่อนเป็นการพักผ่อนกลายๆ เขาต้องมาเป็นเถ้าแกสู่ขอลูกสาววัยรุ่นของร้านโชคดีค้าเหล็กแห่งเมืองน่าน
"เดือน ผมขอถามเดือนหน่อยสิว่ารู้จักกับโต๋มานานแค่ไหน"
...ไหนๆ โชคดีก็ไม่ยอมให้เขาคุยกับเด็กสาวเพียงลำพัง เขาก็ต้องยอมล่อ ลองดูซักหน่อย...
"ก็...ราวๆ สองปีค่ะ" เดือนตอบเสียงค่อย หันไปมองโชคดีอย่างหวั่นๆ
...ใครก็กลัวโชคดีกันทุกคน มีอะไรกันนะ ถึงได้กลัวกันนัก ท่าทางร้ายก็จริงแต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเจ้าพ่อ หรือผู้มีอิทธิพลที่ไหน...
"แล้วคบกับโชคดีคนเดียวหรือ" ชยุตม์ลดเสียงให้ค่อยลง พอได้ยินกันเฉพาะเขากับเดือน แต่ชายหนุ่มคนที่ยืนพิงเสาอยู่ก็ช่างหูดีจริงๆ
"พอแล้ว ถือดียังไงมาดูหมิ่นกันขนาดนี้" โชคดีถลันเข้ามาใกล้ ชยุตม์รีบลุกขึ้น เตรียมพร้อม เพราะไม่รู้ว่าเจ้าของร้านเหล็กจะร้ายขนาดไหน
"ผมก็แค่อยากรู้" ชยุตม์ให้เหตุผล
"คุณคิดว่าคุณกำลังจะทำอะไร ดูตาเด็กมันซะก่อนสิค่อยถาม" โชคดีเสียงเข้ม แล้วหันไปสั่งเด็กในร้าน "เดือน กลับเข้าบ้าน"
เด็กสาวลุกขึ้น "คุณโชคดีคะ อย่าทำอะไรนายช่างนะคะ"
"เดือน..." ชยุตม์คราง ตอนนี้รู้สึกแล้วว่าเขาใช้คำถามผิด
ดวงตาของเด็กสาวนั้นใสซื่อ ไร้มารยา จะบอกว่าโต๋เป็นผู้ชายแรกและคนเดียวที่เดือนเคยพบเขาก็เชื่อ แม้คำถามของเขาดูเหมือนจะโหดร้ายไปนิด แต่แววตาของเดือนไม่มีแววขึ้งโกรธ ซ้ำยังห่วงใย กลัวว่าเขาจะถูกโชคดีทำร้าย
...โชคดี...นอนนี้ทำท่าจะกินเลือดกินเนื้อเขาอยู่แล้ว...
"หนูรักพี่โต๋มาก พี่โต๋ก็รักหนู คุณโชคดีคะ นายช่างไม่ผิดอะไร คุณโชคดีอย่า..."
"บอกให้เข้าบ้าน" โชคดีหันไปทำหน้าดุ เสียงเข้มดังขึ้นกว่าเดิม เด็กสาวจึงรีบก้มหน้าเดินลับหายไป
"ส่วนคุณ เชิญกลับไปได้แล้ว ถ้ายังคิดอย่างนี้อีก เราก็ไม่ต้องมาพูดกัน ไอ้โต๋จะรับไม่รับ ผมจัดการเอง คุณไม่ต้องเกี่ยวแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องของผมกับไอ้โต๋"
"ฟังผมก่อนสิ ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างที่คุณคิด ผมแค่..." ชยุตม์พยายามอธิบาย
"แค่หลุดปากออกมา" โชคดีแทรก "ถ้าไม่คิดก็ไม่พูดหรอก"
"เอาเป็นว่าผมขอโทษ วิธีพูดของผมอาจไม่ใช่แบบที่คุณชอบใจ แต่ผมก็ควรถามคำถามแบบนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้ คุณก็พูดเองว่าอยากรู้อะไรต้องถามให้ตรงคำตอบ"
"บอกแล้วไง คุณจะไปรู้อะไร" โชคดีกระชากเสียง "เชิญกับไปได้แล้ว อย่าหาว่าไล่เลย แต่ผมไม่อยากต้อนรับคุณ"
ชยุตม์จำต้องหันหลังกลับ พูดกับโชคดีท่าทางจะเข้าใจกันยาก เขาเคยคุยตกลงอะไรกับใครได้เสมอ จนเพื่อนเคยล้อว่าน่าจะไปเป็นนักเจรจาต่อรองแทนที่จะมาเป็นวิศวกร แต่กับชายหนุ่มหน้าขาวคนนี้เขากลับพ่ายไม่เป็นท่า

 

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_nan ที่ 02-04-2009 16:06:56
^
^
จึ้ม ฮะจิ้ม  จิ้มซะเลย
ได้รับหนังสือแล้ว ขอบคุณมาก
และก็ติดตามเรื่องนี้ต่อไป :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-04-2009 16:58:05
คุณโชค.................
นายมันกวนประสาทที่สุด น่าชกมาก
กินน้ำตาลเป็นอาหารเรอะทำไมถึงดุจัง ชยุตม์อุตสาห์พูดดีๆ
ถามดีๆก็กวนได้โล่ห์ ตัวเองยังไม่ชอบให้ประชดเลย หนอยๆ
แล้วทีตัวเองพูดจาห่วยๆแบบนี้ล่ะคนอื่นเค้าคงชอบงั้นแหละ
"ส่วนเรื่องรถเสีย คุณก็ไม่ได้ถาม อยากได้คำตอบยังไง ก็ถามให้ถูกสิครับนายช่าง"
>> :z6:
"ผมเข็นก็ได้ ไม่เห็นต้องมากระทบกระเทียบ"
 :beat:
"ไม่ได้ จะคุยกับเดือนต้องคุยต่อหน้าผม ไม่งั้นก็ไม่ต้องคุย"
 :serius2: ลดปริมาณการกินน้ำตาลหน่อยนะคุณโชค ดุเกิ๊น
ชยุตม์ไม่ต้องไปหลงรูปหลงหุ่นแน่นของพี่แกหรอก เจอปากเจ็บๆไปแบบนี้
หมดอารมณ์พิศวาส 555

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-04-2009 18:13:31
คุณโชคดีเนี่ยท่าจะร้ายไม่เบาเลยน่ะเนี่ย



โต๋งานเข้าแล้วยังไงก็ต้องรับผิดชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 02-04-2009 19:23:27
โต๋กับเดือนจะเป็นยังไงไม่รู็้

แต่ท่าทางคุณโชคดีกับนายช่างชยุตม์จะเป็นคู่กัดคู่รักแน่นอน

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 02-04-2009 19:57:17
ร้ายๆ-เด๋วก็-รักๆ เน้อ..ครึครึครึ
***
ขอบคุณที่ต่อแบบจุใจคร้าบ
แต่ว่า

...

เอาอีก ครึครึครึ..  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-04-2009 22:08:32
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-04-2009 22:19:13
เรื่องโต๋กับเดือน จะจบยังไง ต้องตามดู

เพราะโชคดี ไม่ยอมคุยอะไรเลย ส่วนนายช่างก็ไม่รู้จะทำยังไง

+1 ให้พี่นาย แล้วรีบมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 02-04-2009 23:49:21
พี่นาย +1 ให้แล้วนะ
มิสๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 03-04-2009 04:26:34
โชคดีอารมณ์รุนแรงมากๆ
แต่ทำไมเรารู้สึกชอบคุณโชคดีแบบนี้มากๆเลยล่ะเนี่ย  :laugh:


อารมณ์เหมือนนางเอกเจ้าอารมณ์ยังไงไม่รู้สิเนี่ย
 :impress2:

+1 พี่นายค่ะ
เรื่องใหม่ทันใจจริงๆ  :mc4: o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: un_john2006 ที่ 03-04-2009 05:08:36
 o13 o13 o13 o13


 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:


 :z2: :z2: :z2: :z2:


 :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 2 (2/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 03-04-2009 11:02:42
ชยุตม์จำต้องหันหลังกลับ พูดกับโชคดีท่าทางจะเข้าใจกันยาก เขาเคยคุยตกลงอะไรกับใครได้เสมอ จนเพื่อนเคยล้อว่าน่าจะไปเป็นนักเจรจาต่อรองแทนที่จะมาเป็นวิศวกร แต่กับชายหนุ่มหน้าขาวคนนี้เขากลับพ่ายไม่เป็นท่า

...ที่จริงใบหน้าขาวสะอาดนั้นไม่ดุเลย ดูเศร้าๆ เสียด้วยซ้ำ แต่เจ้าตัวกลับทำหน้าดุ เสียงเข้ม วางมาดนักเลงข่มขู่เขาอยู่ได้...
ชยุตม์เปิดประตูรถ หันกลับไปมองชายหนุ่มเจ้าของร้านเหล็กที่ยังยืนกอดอกจ้องมองเขาอยู่ไม่วางตา

...จ้องอยู่ได้ สงสัยกลัวเราจะแอบวิ่งเข้าไปในร้านคุยกับเด็กของตัวเอง...

...เดือน ลูกสาวก็ไม่ใช่ เด็กในร้านหรือ แค่เด็กในร้าน ทำไมโชคดีเป็นเดือดเป็นร้อนแทนมากมายนัก...

ความคิดของชยุตม์ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจออยู่ชั่วครู่อย่าง
คิดคำนึง ก่อนจะกดรับ

...จักริณทร์...

เสียงของคนในสายต่อว่าทันทีที่ชยุตม์ตอบรับ แต่เป็นการต่อว่าแบบเสียงนุ่มๆ แสดงให้รู้ว่าฝ่ายที่โทรมานั้นไม่ได้ฉุนเฉียวอย่างที่พูด

"ยุตม์ ไม่เห็นโทรหาผมบ้างเลย คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะไปหาได้"

"ผมกำลังยุ่งๆ อะไรก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง อีกวันสองวันน่าจะพร้อม" ชยุตม์ตอบน้ำเสียงเรียบๆ เช่นเคย

"ผมได้พัก 10 วันก่อนบินยาวไปยุโรป" จักริณทร์บอก

"บินอีกแล้ว"

"อ้าว ก็เป็นนักบิน ถ้าผมไม่ขับ เครื่องบินก็ไม่ขึ้นจากสนามบินสิครับ แต่บินยาวก็ดีนะ เพราะได้พักยาวเหมือนกัน เราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ว่าแต่ยุตม์เถอะ จะมีเวลาหรือเปล่า แต่คงมีนะ เพราะรีสอร์ทเล็กๆ ไม่มีอะไรน่าหนักใจนี่ แค่สร้างกระท่อมไม่กี่หลัง" จักริณทร์หัวเราะขำๆ ชยุตม์บอกเขาว่าขอ "พักร้อน" ด้วยการรับงานง่ายๆ กลางธรรมชาติสักครั้ง สร้างแต่โครงการขนาดใหญ่กลางเมืองมานานแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูเสียบ้าง

"ก็ไม่ค่อยหนักใจเท่าไหร่ครับ" ชยุตม์เสียงอ้อมแอ้ม พลันใบหน้าของใครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา ทำให้เขาต้องถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว

"เป็นอะไรยุตม์" จักรินทร์คงได้ยินในโทรศัพท์

"เปล่า" ชยุตม์ปฏิเสธแล้วถามชายหนุ่มเกี่ยวกับการเดินทาง แล้วลงท้ายด้วยเรื่องที่จักริณทร์จะมาเยี่ยมเขาที่น่าน

"แล้วนี่อาทิตย์กว่าๆ แล้วนะ บ้านพักยังไม่เสร็จหรือ"

"เสร็จแล้วครับ แต่ว่ายังไม่ได้ติดตั้งปั๊มน้ำ ยังเข้าไปอยู่ไม่ได้ ตอนนี้ผมอยู่บ้านโฟร์แมน จักรอย่าเพิ่งมาเลย มันยังไม่สะดวก" ชยุตม์ตอบ

"แอบซ่อนใครไว้ที่นั่นหรือเปล่า ถึงไม่อยากให้ผมไป" จักริณทร์ล้อ

ชยุตม์หัวเราะเบาๆ แวบหนึ่งภาพใบหน้าคมเข้มของคนดุๆ ที่เพิ่งปะทะคารมกับเขาเมื่อครู่โผล่ขึ้นมาในความคิดอีกครั้ง

"มีที่ไหน นี่เมืองเล็กๆ นะครับ มีแต่ชาวบ้าน"

"เขาว่าชาวเหนือหน้าตาดี นุ่มนวล อ่อนโยน มีเสน่ห์ ใครเห็นใครก็อดชอบไม่ได้" จักริณทร์พูดยิ้มๆ

...ยกตัวอย่างเช่น โชคดี...

"ไงก็สู้จักรไม่ได้" ชยุตม์หัวเราะเบาๆ

"หวานกับแฟนเป็นด้วยหรือยุตม์" จักริณทร์เย้า "นึกว่าทำหน้านิ่งๆ เงียบๆ เป็นอย่างเดียว"

"ถ้ามาถึงน่านแล้วผมจะฝึกหวานให้ดู แต่ว่าตอนนี้จักรรออีกหน่อยนะครับ ซักวันปลายๆ อาทิตย์นี้ก็คงเรียบร้อย"

"สรุปแล้ววันศุกร์นะ ถ้าหลังจากนั้น ก็ไม่มีเวลาเหลือมาก ผมกลัวว่าเขาจะเรียกขึ้นบิน" จักริณทร์สรุป "ยุตม์ก็เร่งๆ ช่างให้ทำให้เรียบร้อย เราจะได้อยู่ด้วยกันท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามซะที"

"ครับ" ยุตม์ตอบรับสั้นๆ "แต่น่านเป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆ ไม่มีอะไรเลยนะ จักรอาจจะเบื่อ"

"ไม่เบื่อหรอก มียุตม์จะเบื่อได้ยังไง ตอนนี้ยุตม์ก็ทนเบื่อไปคนเดียวก่อน พอจักรไปถึง จะทำให้หายเบื่อ อยู่เงียบๆ มีคนไปเป็นอยู่เป็นเพื่อน ยุตม์จะได้ไม่เหงา"

...มีโชคดีคอยหาเรื่องก็ไม่เหงาแล้ว...

ชยุตม์ตอบจักริณทร์อยู่ในใจ แต่ตอบว่า "ผมก็งานยุ่งนิดหน่อย อาจจะไม่ค่อยมีเวลาพาจักรเที่ยว"

อะไรบางอย่างลึกๆ ในใจทำให้ชยุตม์รู้สึกลังเลที่จะให้แฟนเดินทางมาเยี่ยม อะไรเองที่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ

"มีเวลาอยู่ด้วยกันตอนเย็นๆ กับกลางคืนก็พอแล้ว" จักริณทร์หัวเราะชอบใจ "กลางวันผมก็จะขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ"

ชยุตม์คุยกับจักริณทร์จนเขาขับรถกลับมาถึงบ้านพักชั่วคราว ฝ่ายนั้นจึงยอมวางสาย

จักริณทร์เป็นนักบิน และเดินทางบ่อยๆ บางครั้งไปทำงานถึงสองอาทิตย์หากบินไกลถึงยุโรป ชยุตม์เองก็มีตารางการทำงานที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กันทำให้เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้เวลากับจักริณทร์มากนัก ชีวิตรักของเขากับจักริณทร์ดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา ลักษณะต่างคนต่างอยู่มากกว่า แล้วก็มาเจอกันเป็นครั้งคราวช่วงเวลาสองสามวัน

ชยุตม์เดินขึ้นไปบนบ้านเห็นแสวงนั่งคุยอยู่กับโต๋ ทันทีที่เห็นเขา ชายต่างวัยทั้งสองก็มองหน้ากันเหมือนจะสื่อสารอะไรกันบางอย่าง แสวงกับโต๋ดูอ้ำอึ้ง เหมือนจะอยากบอกอะไรเขาแต่ก็ยังสองจิตสองใจอยู่ วิศวกรหนุ่มจึงถามขึ้นว่า "ว่าไง มีอะไรหรือลุงแสวง"
"คือ เอ่อ...เอ่อ..." แสวงอึกอักไม่กล้าพูด
"คืออะไรก็พูดมา" ชยุตม์บอกแล้วหันไปยังเด็กหนุ่มหน้าอ่อนที่นั่งอยู่ใกล้ "หรือโต๋อยากจะพูด"
โต๋หันไปมองแสวง แล้วหันมามองชยุตม์ ยังทำท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เช่นเคย จนชยุตม์ต้องย้ำ "เร็วๆ เข้า ผมจะไปดูบ้านริมธาร"
โต๋ทำหน้าผะอือผะดม ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า "ผมอยากขอให้นายช่างช่วยกับ คือว่า เอ่อ..."
"คืออะไรโต๋ อ้ำอึ้งอยู่นั่นล่ะ"
โต๋หันไปมองแสวง ฝ่ายนั้นถลึงตาใส่ โต๋จึงพูดต่อ "คือผมอยากขอให้นายช่างไป..."
โต๋อุตส่าห์รวบรวมความกล้า แต่วลีท้ายสุดกลับหายไปในลำคอ ทว่าชยุตม์เดาความได้ จึงเติมให้วา
"ไปสู่ขอเดือน"
เด็กหนุ่มพยักหน้า แล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะโล่งอกที่พูดออกมาได้
"เพราะว่ายอมรับว่าตัวเองเป็นพ่อของเด็ก หรือเพราะเพราะว่ากลัวคุณโชคดี"
"ทั้งสองครับ" แสวงแทรก
"แน่ใจหรือโต๋ ที่ว่าตัวเองเป็นพ่อของเด็ก" ชยุตม์ถามย้ำ
"ก็คงงั้นครับ" โต๋ตอบอ้อมแอ้ม
"ก็คงงั้น..." ชยุตม์ทวนคำ ถอนหายใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่นี่เป็นอย่างนี้ ทำไมไม่พูดอะไรกันตรงไปตรงมา เข้าใจได้ง่ายๆ
"แล้วรักเขาหรือเปล่า จะแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล็กนะ ยิ่งจะเป็นพ่อคนยิ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องแน่ใจจริงๆ นะ" ชยุตม์ย้ำ อดหนักใจแทนไม่ได้ เด็กหนุ่มอายุ 18 ปีกว่า กับเด็กสาวอายุ 17 ปีกำลังจะเป็นพ่อแม่คน จะไปกันรอดหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
...แต่โชคดีคงไม่ทิ้งสองคนนี้ ยังไงก็คงต้องคอยกำกับควบคุมดูแลทั้งสองคนนี้ไม่ห่าง...
อะไรบางอย่างทำให้เขานึกถึงชายหนุ่มผู้แสนดุคนนี้ ชยุตม์อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมตัวเองรู้สึกมั่นใจว่าโชคดีจะดูแลสามีภรรยาเด็กคู่นี้ได้
...ก็แน่สิ ท่าทางช่างเป็นคนเจ้าจัดการนักนี่ เด็กในร้านท้องขึ้นมาก็วิ่งไปลุยหาคนรับผิดชอบถึงที่อย่างไม่เกรงกลัว...
ชยุตม์อมยิ้ม
"ตกลงนายช่างจะไปเป็นเถ้าแก่ให้ผมใช่ไหมครับ" โต๋ละล่ำละลัก ตาเป็นประกาย
ชยุตม์โคลงศรีษะ ไม่เข้าใจเด็กหนุ่มคนนี้ ท่าทางเหมือนจะอยากมีเมีย ทำท่าดีใจตื่นเต้น ทั้งๆ ที่เมื่อวานทำอึกอัก เงอะงะ ไม่รู้จะเอายังไง
...นี่เขาต้องหวนกลับไปหาโชคดีอีกครั้งหนึ่งใช่ไหมนี่ คิดแล้วก็หนักใจ ไม่รู้จะโดนอะไรอีก...
ชยุตม์พยักหน้าช้าๆ โต๋ยิ้มกว้าง หันไปหาแสวงที่แสดงอาการโล่งอก
วิศวกรหนุ่มผู้กลายมาเป็นเถ้าแก่ฝ่ายชายอดนึกขำไม่ได้ มาอยู่น่านแค่อาทิตย์กว่าต้องกลายเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอลูกสาวเจ้าของร้านค้าเหล็กที่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อเจ้าอารมณ์อายุไล่เลี่ยกันกับเขา ถ้าโทรศัพท์ไปเล่าให้คุณพ่อกับคุณแม่ของเขาฟัง ทั้งสองคนหัวเราะจนปวดท้อง
...ชยุตม์ หนุ่มกรุงเทพฯ อายุ 30 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่กลางเมืองหลวงและต่างประเทศมาแห่งละ 15 ปี กลับต้องมาเป็นผู้ใหญ่ไปขอสาวให้ลูกน้อง ประสบการณ์ที่ในชีวิตเขาไม่เคยนึกว่าจะได้รับ...
***************
จบบบที่ 2
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 03-04-2009 16:58:30
 :กอด1:
เต็มอิ่มจริง
ได้อ่านวันนี้
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 03-04-2009 17:36:33
อ่านตอนล่าสุดแล้วคร้าบ
*********
เหวอ-มีแฟนอยู่แล้ว อีกต่างหาก

***********
ขอบคุณคร้าบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-04-2009 18:07:36
+เป็นกำลังใจให้เสมอครับ+
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-04-2009 22:47:36
หวายยย มีแฟนแล้วด้วย แต่ไม่เป็นไรมีแฟนแล้วก็เลิกได้ โชคดีเร้าใจกว่า :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 03-04-2009 23:20:45
^
^
คิดเหมือนรีบนเลย มีแฟนก็เลิกได้  o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-04-2009 23:44:01
ว้าววววววววววววววววววววววววววววเรื่องใหม่มาแล้ววววววววววววววววววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 03-04-2009 23:57:15
 :m16:โชคดีนะโชคดีแมนซะขนาดนั้นแต่ดันซ่อมรถไม่เป็น เซ็ง!
ปล.พิมพ์ผิดนะครับพี่นาย เรื่องนี้ก็น่าติดตามถือว่ารอดไป แล้วจะคอยดูต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 03-04-2009 23:59:45
เหวอเลยเนี่ยมีแฟนอยู่แล้วเหรอเนี่ยอ้ากกกกกกกกก


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: un_john2006 ที่ 04-04-2009 01:12:39
 :z2: :z2: :z2:


 o13 o13 o13



 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 04-04-2009 01:47:03
ชยุตม์รสนิยมแปลกนะเนี่ย ชอบคนปากร้ายๆเหรอ มีแฟนแล้วหนิ
แต่ดูท่าทางจะแปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนในเร็ววันแหงๆ
อายุ 30 เป็นเถ้าแก่สู้ของลูกสาวบ้านอื่น ก็โออยู่นะ ฝึกเอาไว้แยะๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 04-04-2009 02:23:33
โชคดีเปิดตัวแมนมากอ่ะ เหอๆๆ
พระเอกมีแฟนแล้วอีก ยังไงต่อละเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-04-2009 09:05:42
เป็นนักเขียนที่มีผลงานต่อเนื่องดีค่ะ ปลาบปลื้มมากมาย  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 04-04-2009 12:25:47
เป็นประสบการณ์ที่ต้องลุ้นน่าดูเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 04-04-2009 14:06:02
ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ แหะๆๆ (อ่านแค่ เกริ่นนำเรื่องไปนี๊ดสสสสเดียว)
แต่รีบมาให้กำลังใจก่อน  :L2:
อ่านทันแล้วจะรีบมาเม้นท์นะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 05-04-2009 16:15:20
มาดันรอ มีหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วยนะเนี่ย นักเขียนจอมขยัน  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: prawy ที่ 06-04-2009 01:46:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-04-2009 09:40:01
อรุณสวัสดิ์ครับ
เมื่อวานฝนตกหนักหลังคาบ้านเปิดเปิงบ้านเละไปหมด มาทำงานก็เละเพราะหลังคาัรั่ว สนุกจริงๆ ฝนอันชุ่มฉ่ำ
อ่านบทที่ 3 ต่อกันนะครับ (ผู้เขียนโพสตามวันและเวลาราชการ  :z1:

3

โชคดีเดินเข้าไปในตลาดสด ตรงไปยังห้องแถวหลังตลาด จุดหมายคือร้านเสริมสวยของสายสมร หญิงวัยกลางคนลูกหนี้รายหนึ่งของเขา ปกติเขาไม่เคยมาเก็บเงินด้วยตัวเอง ลูกหนี้ส่วนมากมักจะเอาเงินไปให้เขาที่ร้าน หรือบางคนที่จ่ายยาก เขาจะให้พงษ์เป็นคนไปทวง ซึ่งมีน้อยร้ายมาก ลูกหนี้ของเขาทุกคนมักจะตรงต่อเวลา เพราะหากใครมีปัญหาเรื่องการใช้คืนบ่อยครั้งเข้า เขาก็จะไม่ให้ยืมเงินอีก ซึ่งทั้งหลายรู้กันดีอยู่ว่า จะหาเจ้าหนี้ที่ดีแสนดีคิดดอกเบี้ยต่ำอย่างโชคดีไม่ได้อีกแล้ว
สายสมรป่วยเรื้อรังมานาน โชคดียอมให้หญิงม่ายผัดผ่อนมาแล้วเกือบสามเดือน วันนี้เขาตั้งใจมาเยี่ยมดูอาการ เผื่อจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง สายสมรอาศัยอยู่กับลูกสาวที่ตอนนี้เพิ่งสอบเข้าเรียนมัธยมปลาย ธาราลูกสาวคนเดียวของช่างเสริมสวยฝีมือดีรีบเปิดประตูต้อนรับโชคดีทันที่เห็นเขายืนอยู่หน้าประตู
“แม่เป็นยังไงบ้างธารา” โชคดีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แบบที่ชยุตม์คงจะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจหากมาได้ยินเข้า
“ก็ดีขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณโชคดีที่กรุณามาเยี่ยมนะคะ แม่นอนหลับอยู่ข้างบน หนูจะไปเอาเงินมาให้” ธารากล่าวด้วยความนอบน้อม
“อย่าเพิ่งก็ได้ธารา มีใช้หรือเปล่าล่ะ”
“ก็มีค่ะ ช่วงนี้หนูพอช่วยแม่ได้แล้ว มีลูกค้าสระไดร์ผมบ่อยเหมือนกัน” ธาราตอบ
“ดีแล้ว ฝึกๆ เอาไว้ ถ้าคิดว่าจะเป็นช่างเสริมสวยก็ต้องฝึกไว้เยอะๆ แต่การเรียนก็อย่าให้เสีย”
“หนูไม่ทิ้งเรื่องเรียนเรียนหรอกค่ะ หนูจะเป็นครูให้ได้” ธาราแววตามุ่งมั่น
“นี่ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว อาจต้องใช้เงิน เก็บเงินนี้เอาไว้ก่อน ให้จ่ายค่าเทอมเรียบร้อยแล้วค่อยเอาเงินที่ค้างอยู่มาให้พี่ก็แล้วกัน ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ เรียนยังไม่ค่อยหนัก เสาร์อาทิตย์ทำงานเก็บเงินเอาไว้ ปลายเทอมต้องทุ่มเวลาอ่านหนังสือสอบ” โชคดีแนะนำ
“ขอบคุณค่ะ” ธาราเริ่มน้ำตาคลอเพราะซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเจ้าหนี้
“จำไว้นะธารา ตราบใดที่ยังมีแรงอยู่ก็ยังมีความหวัง ถ้าเราไม่แพ้ เราก็ทำอะไรได้ทุกอย่าง มีปัญหาเรื่องเงินทองก็ให้มาคุยกัน แต่อย่าไปยืมเจ้าหนี้คนอื่นที่คิดดอกแพงมหาโหด”
ธาราพยักหน้ารับคำ โชคดีชวนเด็กสาวอยู่อีกไม่กี่นาทีก็ขอตัวกลับ บอกว่าจะกลับร้านเพราะเย็นนี้มีงานแต่งงานของเดือน
“แล้วเรื่องรักอย่าเพิ่งคิดล่ะ เอาเรื่องเรียนไว้ก่อน เวลายังเหลืออีกเยอะ เดือนมันทำงานที่ร้าน ไม่ได้คิดจะเรียนหรือไปทำมาหากินอย่างอื่นอะไรอีกแล้ว แต่ธารามีความสามารถที่จะไปให้ได้ไกลกว่าเดือน เพราะฉะนั้น ต้องดูแลตัวเองให้ดี พี่ไปแล้ว ฝากเยี่ยมแม่ด้วยนะ”
โชคดีให้กำลังเด็กสาวแล้วขอตัวกลับ ตั้งใจจะแวะร้านของมาโนทย์ เพื่อนที่รู้จักและช่วยเหลือกันมาตั้งแต่เขากับแม่ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดน่านใหม่ๆ แต่ไม่ทันถึงรถที่จอดไว้หน้าตลาด ชายหนุ่มก็ชะงักเมื่อเจอคนที่ไม่อยากเจอ
“หมูปิ้ง มาทำอะไรหรือ เราอยากเจอหมูจะแย่อยู่แล้ว”
“ไอ้ซ่ง” โชคดีพึมพำ
ซ่ง หรือ ทรงศักดิ์ ลูกชายร้านทองร้านใหญ่ที่สุดของจังหวัดยืนยิ้มเผล่ขวางทางอยู่ตรงหน้า
“มาเก็บเงินลูกหนี้เหมือนเราหรือ” คนถามยิ้มกว้างแทบเห็นฟันสามสิบสองซี่
“หยุดเรียกชื่อนี้ได้แล้วซ่ง” โชคดีพูดเสียงเข้ม เดินเลี่ยงจะไปขึ้นรถ
“เดี๋ยวสิหมู คุยกับเราก่อน เราจะชวนนายไปงานเลี้ยงโต๊ะจีนสโมสรไลอ้อนที่ศาลากลางวันศุกร์หน้า”
“ไม่ไป ไม่อยากกิน ไม่ชอบอาหารจีน เลี่ยน” โชคดีปฏิเสธทันใดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“ไม่ใช่อาหารจีนอย่างเดียวนะ มีอาหารไทยด้วย ข้าวผัดปูก็อร่อย ร้านป้าต้อยเขาเป็นคนรับจัด”
“มีต้มย้ำโป๊ะแตกไหมล่ะ ถ้ามีถึงจะไป”
“เดี๋ยวเราไปสั่งให้เขาทำพิเศษ ป้าต้อยเป็นลูกหนี้เรา รับรองว่าทำอร่อยขาดใจ โชคดีไปนั่งโต๊ะเรานะ มีเพื่อนๆ สมัยเรียนไปกันหลายคน เราไปทาบทามหมดแล้ว” ซ่งยิ้มกว้าง เดินตามโชคดีไม่ยอมห่าง

โชคดีรู้จักกับซ่งตั้งแต่เขาย้ายมาน่าน รู้จักกันพร้อมๆ กับรู้จักมาโนทย์ เขาย้ายมาเรียนชั้น ม. 4 ที่โรงเรียนประจำจังหวัด ซ่งรวยที่สุดในห้อง มักจะเอาของแพงๆ มาอวดเพื่อนในห้องเสมอ แต่ตี๋หน้าจืดของทุกคนก็หาขนมมาให้เพื่อนทานไม่ได้ขาด ทำให้ซ่งเป็นที่รักของทุกคน
วันหนึ่ง วันที่โชคดีไม่มีวันลืม เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ เขาปั่นจักรยานกลับบ้าน ผ่านบึงใหญ่หลังโรงพยาบาล เห็นเด็กสองคนกำลังยืนตะโกนโหวกเหวกเรียกให้ช่วยคนตกน้ำ โชคดีรีบวิ่งเข้าไปหา จึงเห็นว่าคนที่กำลังตะกุยตะกายอยู่กลางน้ำกำลังจะจมคือตี๋น้อยหน้าขาวคนเดียวกันกับคนที่กำลังเดินตามเขาต้อยๆ อยู่ตอนนี้
วันนั้นเองที่โชคดีได้รู้ว่า ซ่ง แอบชอบเขาตั้งแต่เดือนแรกที่เขาย้ายเข้ามาเรียน ม 4 กลางเทอมแรก
...นักเรียนหน้าใหม่ที่ท่าทางเข้มเหลือหลาย ไม่คบหาใครทั้งสิ้น วันๆ เอาแต่นั่งเงียบอยู่คนเดียว...
โชคดีเกือบจะปล่อยมือที่ลากคอเสื้อของซ่งขณะที่ตะกายเข้าหาฝั่ง
“เราชอบนายนะ ชอบมาตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรก โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เรามาเจอกัน ให้นายมาช่วยชีวิตเรา” ทั้งๆ ที่กำลังจะตาย ตี๋น้อยลูกเถ้าแก่ร้านทองก็ยังพล่ามด้วยเสียงกระหืดกระหอบไม่ยอมหยุด
“นี่ถ้าไม่เฉียดตาย เราก็ไม่กล้าเผยความในใจออกมาหรอกโชคดี”
โชคดีจำได้ว่าตัวเองตะคอกตี๋น้อยหน้าจืดว่า “หุบปาก”
หลังจากนั้น ซ่งก็คอยกวนใจเขาอยู่เรื่อยไม่ยอมหยุด จนโตเป็นหนุ่ม ตี๋น้อยหน้าจืดกลายเป็นตี๋เข้มรูปหล่อ ทุกครั้งที่ซ่งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเรียนมหาวิทยาลัยจะต้องวนเวียนมาหาโชคดีอยู่ไม่ได้ขาด บางทีโชคดีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมซ่งจึงปักใจอยู่กับเขาไม่ยอมเลิกเสียที สี่ปีที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ซ่งไม่เคยพบรักกับใครบ้างหรืออย่างไร...
“เราบอกแล้วไงว่ามันเป็นชะตาฟ้าลิขิต” ซ่งให้เหตุผลโชคดีด้วยท่าทางฝันเฟื่อง “โชคดีอยู่ในใจเราตลอดไม่เคยหายไปไหน”
“โชคชะตาหรือความซวยกันแน่ รู้อย่างนี้ปล่อยให้จมน้ำตายซะก็ดี” โชคดีถอนหายใจ

โชคดีก้าวขึ้นนั่งบนรถ ซ่งเดินมาเกาะขอบหน้าต่าง ยิ้มกว้างจนตาหยี
“ว่าไง หมูปิ้ง ตกลงไหม”
“ซ่ง ไม่อายคนหรือไง ตามตื๊ออยู่ได้” โชคดีอ่อนใจเพราะซ่งตามเขาไม่เลิก “แล้วห้ามเรียกชื่อเล่นเด็ดขาด”
“ก็ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ เราไม่ได้ทำอะไรโจ่งแจ้งน่าเกลียดนี่นา”
“เดี๋ยวเตี่ยรู้ ถูกฆ่าหั่นศพ ไม่กลัวหรือ”
“ก็อย่าให้เตี่ยรู้สิ” ซ่งยักไหล่ “น่านะ โชคดี ตั้งแต่เล็กจนโตอายุ 27 ปีแล้วยังปิดมาได้”
“ความลับไม่มีในโลก” โชคดีแย้ง  สตาร์ทเครื่องรถกระบะคู่ชีพ
“แต่ถึงมันจะกลายเป็นความไม่ลับ เราก็ไม่กลัว ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เราจะยืดอก ยืนเคียงข้างโชคดี เป็นไงเป็นกัน” ซ่งแววตามุ่งมั่น “ขออย่างเดียว ขออย่าให้โชคดีปฏิเสธเรา”
“แต่อั๊วไม่อยากยืนเคียงข้างลื๊อ ไม่อยากยืนเคียงข้างใครทั้งนั้น ไม่อยากมีแฟน เข้าใจไม๊ คำว่าไม่อยากมีความรักน่ะ มันเข้าใจยากตรงไหน” โชคดีเค้นเสียงผ่านไรฟัน รู้สึกอ่อนใจเพราะพูดแบบนี้มาบ่อยแล้ว
“หมูปิ้งก็เปิดใจบ้างสิ” ซ่งอ้อนวอน ทำหน้าตาน่าสงสาร
“ไม่เปิดโว๊ย” โชคดีเริ่มเสียงดัง
“ไม่เปิดใจแล้วใยจะเจอรัก” ซ่งยิ้มแป้น พูดคล้องจอง
“โธ่เว้ย พูดไม่รู้เรื่อง แล้วเลิกเรียกหมูปิ้งซะที” โชคดีเข้าเกียร์ แล้วกระชากรถออกตัวไปอย่างรวดเร็ว จนซ่งเกือบกระโดดหลบแทบไม่ทัน
“ก็ตัวเองชื่อหมูปิ้ง จะให้เรียกว่ายังไงเล่า” ตี๋หนุ่มบ่นตามเบาๆ ยกมือขึ้นเกาศรีษะอย่างเซ็งๆ “แล้วตกลงจะไปงานไลอ้อนกับเราไหมเนี่ย สงสัยต้องไปเชิญถึงที่บ้าน”

โชคดีกลับมาถึงร้านก็เห็นว่าลูกน้องกับเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดสถานที่ เตรียมงานแต่งงานของโต๋กับเดือน เวลาเพียงวันเดียว ทุกอย่างก็เกือบแล้วเสร็จ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี
ชายหนุ่มเจ้าของร้านค้าเหล็กยิ้มบางๆ กวาดตามองภาพที่กำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า รู้สึกโชคดีที่ได้มาอยู่ท่ามกลางผู้คนที่เป็นมิตรและน่ารัก คิดขอบคุณมารดาที่หอบเขามาใกลถึงขนาดนี้ หนีความหลังอันโหดร้ายและเจ็บปวด หนีมาจากผุ้คนที่ร้ายกาจซึ่งจ้องแต่จะทำร้ายเขากับแม่ หนีมาจากผู้คนที่หัวใจไม่เคยมีความรักให้เขากับแม่เลย
...ผู้ดีตระกูลเมธานนท์...

สายตาของโชคดีหยุดนิ่งที่ชายหนุ่มหน้าเข้มที่นั่งมองซ้ายมองขวาอยู่อย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี วิศวกรหนุ่มชาวกรุงผู้กลายมาเป็นเถ้าแก่ฝ่ายชายดูท่าทางเงอะงะไม่คุ้นเคย
...ดูๆ ไปก็เป็นคนดี แต่พูดอะไรไม่คิด หรือไม่ก็มีความคิดแปลกๆ
เอาเถอะ ยอมให้เขาสักนิด อย่างน้อยเขาก็พยายามช่วยเรื่องโต๋ ยังไงก็คงไม่แย่เท่าไหร่...
โชคดีคิดในใจชั่วครู่หนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหา “นายช่าง” ที่คนของเขาเรียก ชื่ออะไรเขาจำไม่ได้แล้ว ไม่เคยได้แนะนำตัวเป็นทางการ
“โชคดี มีงานอะไรหรือ”
โชคดีชะงัก หันหน้าไปยังเสียงคนที่เรียกเขาทางด้านหลัง นายช่างคนนั้นคงได้ยินด้วย จึงหันหน้ามามอง สบตาเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
...มาดเยอะนัก วางท่าเหมือนคุณชาย ทำหน้านิ่งๆ คิดว่าตัวเองหล่อนักหรือไง...
“พอดีผ่านมา เห็นกำลังจัดอะไรกันอยู่” ร้อยตำรวจเอกปฐพี ลูกชายผู้ว่าราชการจังหวัดในชุดเครื่องแบบตำรวจเดินเข้ามาหาโชคดีช้าๆ
“แต่งงาน” โชคดีตอบสั้นๆ
“แต่งงาน โชคดีจะแต่งงานหรือ” ปฐพีล้อ ใบหน้ายิ้มๆ
...บ้าหรือ แต่งเข้าไปได้ยังไง ปฐพีรู้จักเล่นมุขตลกแบบนี้ด้วยหรือ...
“ถ้าแต่ง จะบอกผู้กองเป็นคนแรก จะให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วย” โชคดีเบ้ปาก ทำท่าทางไม่พอใจ
“ไม่อยากเป็นเพื่อน” ปฐพียักไหล่ “แต่อยากเป็นเจ้าบ่าว”
“เห็นแล้วว่าที่นี่มีงาน จะมาช่วยหรือเปล่า เอาเหล้ามาช่วยงานซักสองสามลังก็ได้นะผู้กอง” โชคดีเปลี่ยนเรื่อง เอียงหน้าคุยกับนายตำรวจ
ปฐพียิ้มกว้าง นัยน์ตาพราวระยับ ลักยิ้มสองข้างบนแก้มทำให้ใบหน้าหล่อเหลาคมคายน่าดูมากยิ่งขึ้น
ปฐพีรู้จักกับโชคดีตั้งแต่เรียนจบนายร้อยตำรวจแล้วมาประจำการอยู่ที่จังหวัดใกล้เคียง ครั้งแรกที่พบกัน นายตำรวจหนุ่มโดนหัวหน้านำการชุมนุมต่อต้านการสร้างห้างสรรพสินค้าฟาดด้วยเสาธงชาติเข้าที่ต้นแขนและลำตัว และโชคดีถูกจับขึ้นโรงพักด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“ได้เลย จะแถมโซดาให้ด้วยสี่ลัง” ปฐพียิ้มกว้าง “แล้วนี่ใครแต่ง”
“เดือน เด็กที่ร้าน”
“ไม่เห็นมีบัตรเชิญ แล้วพ่อรู้หรือเปล่านี่” ปฐพีล้อยิ้มๆ เพราะรู้ว่าฝ่ายนี้ไม่ถูกกับพ่อเขา
“งานแค่นี้คงไม่บังอาจเชิญท่านผู้ว่ามาหรอกครับ เดี๋ยวคนจะแตกตื่นกันใหญ่ เราจัดกันง่ายๆ เฉพาะคนกันเอง” โชคดีกล่าวเสียงเรียบ ใบหน้าเคร่งขรึมเกือบทุกครั้งที่พูดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด อดคิดถึงเรื่องในอดีตไม่ได้
วันนั้น ประท้วงขับไล่นายทุนที่จะมาสร้างห้างสรรพสินค้ากลางเมือง โชคดีขับรถติดเครื่องขยายเสียงประกาศกระตุ้นให้คนออกมาคัดค้านการก่อสร้างห้างขนาดใหญ่เพราะจะทำลายวิถีชีวิตของคนเมืองเล็กๆ แห่งนี้และส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย เจ้าของร้านค้าแห่กันออกมาตามเขาไปยังศาลากลางจังหวัด ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เพราะฝูงชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น การต่อรองเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด โชคดียื่นคำขาดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาคุยกับผู้ชุมนุม เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงเกิดความอลเวงกันขึ้น เมื่อผู้ว่าราชการออกมาพบฝูงชน สถานการณ์ก็แทบจะควบคุมไว้ไม่ได้แล้วเพราะตัวแทนคนหนึ่งของนายทุนตะโกนด่ากลุ่มผู้ต่อต้าน สองฝ่ายจึงเข้าปะทะกัน  โชคดีเข้าไปขวางแต่ปฐพีโผล่มาจากไหนไม่รู้ โดนลูกหลงจากมือเขาไปเต็มๆ จนล้มคว่ำไม่เป็นท่า ตำรวจจับเขาข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่เขาเถียงว่าปฐพีผุนผลันเข้ามาขวางทางและเป็นอุบัติเหตุ ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่าปฐพีเป็นลูกชายผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นตำรวจที่เผอิญวันนั้นไม่ได้แต่งเครื่องแบบ
“ผมกลัวว่าคุณจะบุกเข้าไปทำอะไรพ่อผม เลยเข้ามาขวาง” ปฐพีบอกกับโชคดีตอนที่มาประกันตัวเขาออกจากโรงพัก
“ใครจะบ้าทำอย่างนั้น ผมไม่ใช่คนป่าเถื่อนประเภทนั้น ผมแค่มาร้องทุกข์ ตำรวจงี่เง่าใช้กำลังกับพวกเราเอง”
“ร้องทุกข์ประเภทที่ไม่ใช้ความรุนแรงใช่ไหม” ปฐพีล้อยิ้มๆ “ขอโทษที่ผมเข้าใจผิด และที่มาประกันตัวนี่คุณพ่อผมเป็นคนสั่งให้มา”
“ขอบคุณ แต่อย่าถือว่าเป็นบุญเป็นคุณกันนะ เพราะยังไงแม่ผมก็จะมาประกันตัวผมอยู่แล้ว” โชคดีเบ้ปาก

“คิดอะไรอยู่หรือโชคดี หรือคิดถึงใคร เวลามีงานแต่งงาน คนจัดงานมักคิดถึงเรื่อง...” ปฐีพีถามกลั้วเสียงหัวเราะ
“รู้ดีจังนะผู้กอง หัดเดาใจคนตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่...” ปฐพีขยิบตา แต่ต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“โชคดีลูกแม่ แม่มีข่าวดีมาฝาก”
โชคดีกับปฐพีหันขวับไปยังต้นเสียงนั้น ผู้ที่กำลังเดินตรงเข้ามาใกล้จึงยิ้มกว้างมากกว่าเดิม
“อ้าว สวัสดีค่ะผู้กอง มาจีบใครแถวนี้คะ”
โชคดีกรอกตา ถอนหายใจ แม่เขาชอบล้อเล่นปฐพีแบบนี้อยู่เรื่อย
บฐพีอมยิ้ม ยกมือสวัสดีคุณเตือนใจ มารดาของโชคดี “ก็คนเดิมครับ แต่ว่าวันนี้จะมีงานแต่งงาน ผมเลยเว้นเรื่องจีบคนซักวัน”
โชคดีบ่นพึมพำเบาๆ อย่างระอาใจ แม่ของเขาเข้ากับปฐพีได้เสียจนเขาเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจ เพราะสองคนนี้มักจะพูดกันให้กระทบถึงเขาอยู่บ่อยๆ
“อ้าว หมูปิ้ง จะไปไหนลูก มาฟังข่าวดีแม่ก่อน”
“แม่” โชคดีเรียกมารดาเสียงเข้มที่เรียกชื่อเล่นเขา ผู้กองปฐพีอมยิ้มด้วยความชอบใจ จนเขาอยากจะหยิบอะไรขว้าง
...แม่เขาก็นี่กระไร รู้อยู่ว่าไม่ชอบให้เรียกชื่อเล่น บอกเท่าไหร่ก็ไม่จำ...
...คนอะไรไม่รู้ ตั้งชื่อเล่นลูกว่าหมูปิ้ง เขาอุตส่าห์รักษาภาพพจน์ห้าวๆ เอาไว้อย่างเหนียวแน่น แต่โดนเรียกว่าหมูปิ้ง ใครได้ยินก็อมยิ้มไปตามๆ กัน...
...แล้วนายช่างคนนั้นจะได้ยินหรือเปล่านะ...
โชคดีอดหันซ้ายหันขวาไม่ได้ เห็นนายช่างเถ้าแก่ของโต๋ยืนอยู่กับพงษ์อีกฟากหนึ่งของห้องแล้วก็โล่งอก
“แม่ได้เป็นนายกไลอ้อน ดีใจกับแม่หน่อยสิลูก” คุณเตือนใจยิ้มแก้มปริ
...ดีใจตายล่ะ คราวนี้แม่ก็คงไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน เขาก็คงต้องเหนื่อยดูร้านคนเดียวมากขึ้นกว่าเดิม...
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับ จะเลี้ยงฉลองเมื่อไหร่แม่ พร้อมๆ กับงานแต่งยัยเดือนเลยดีไหม จะได้ประหยัดงบ”
นายกไลอ้อนสตรีคนใหม่ค้อนขวับ ลูกชายคนเดียวพูดจาประชดจนปฐพีกลั้นหัวเราะไม่ไหว
“ผมขอตัวไปดูเด็กๆ ก่อนนะครับ เชิญคุณแม่ตามสบาย ผู้กองฝากดูแลคุณแม่ด้วนนะครับ” โชคดีพูดเหน็บแนมมารดา แล้วผละจากไป
“แปลกคนจริง หมูปิ้งนี่ ผู้กองเป็นแขกจะให้ดูแลเจ้าของบ้าน”
“อ้าว แม่อยู่บ้านนี้ด้วยหรือ นานๆ ผมเห็นหน้าที” โชคดีเดินเข้าไปในโรงรถข้างร้านที่คนงานกำลังจัดสถานที่กันอยู่
“ไอ้ลูกคนนี้นี่จริงๆ เลย” เตือนใจ สาวใหญ่อายุห้าสิบปีที่ยังคงความสวยไม่สร่างมองตามลูกชายด้วยใบหน้ายิ้มๆ ภายนอกคนอาจจะมองว่าแม่ลูกคู่นี้โวยวายใส่กันเหมือนไม้เบื่อไม้เมา แต่ความเป็นจริงรักและสนิทกันมาก
“ผู้กองอย่าไปถือสามันเลยนะคะ” เตือนใจหันกลับมายิ้มกับนายตำรวจหนุ่ม
“ไม่เคยถือสาอยู่แล้วครับ” ปฐพีตอบเสียงนุ่ม ยิ่งเห็นโชคดีทำหน้าบึ้งเมื่อถูกแม่เรียกชื่อเล่นเขายิ่งชอบใจ เวลาโชคดีหน้าบึ้งนั้น น่ามองเป็นที่สุด
เขารู้ว่าโชคดีไม่เคยชอบชื่อเล่นของตัวเอง ปฐพีจำได้ถึงครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเล่นของชายหนุ่ม โชคดีกระทืบเบรกรถจนเขาหัวคะมำ กระแทกกับกระจกหน้ารถจนหัวโน หนำซ้ำเกือบจะโดนชก ครั้งนั้น โชคดีบังคับเขาให้แต่งชุดตำรวจเต็มยศไปช่วยข่มขวัญนายทุนกว้านซื้อที่ดินที่มาบีบบังคับให้พงษ์ขายที่ดินติดเชิงเขา และวันนั้นเป็นวันแรกที่เขาแสดงออกชัดเจนว่าสนใจโชคดี เป็นวันแรกที่ต่างรู้จักกันและกันใน “ด้านลึก” ที่เคยแอบปกปิดกันไว้ และวันนั้นเองที่เขาก็รู้ด้วยว่า นอกจากเขาแล้ว มีตี๋หนุ่มลูกเถ้าแก่ร้านทองที่มาติดพันโชคดีอยู่
...โชคดี...ดุขนาดนี้ก็ยังมีคนมาชอบ...
“ผู้กองอดทนหน่อยก็แล้วกัน แม่ก็คิดว่าเลี้ยงหมูปิ้งมาดีแล้ว ไม่รู้ผิดพลาดยังไง ถึงกลายเป็นยังงี้ได้ แต่ผู้กองสบายใจได้ แม่ถือหางฝ่ายผู้กองเสมอ” เตือนใจยิ้มแก้มปริ
คนที่ได้รับการสนับสนุนสะดุ้ง “เอ่อ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ” ผู้กองหนุ่มยิ้ม “แค่เอ็นดูผมก็พอ ไม่ต้องถึงกับถือหาง”
เมื่อนึกถึงความเด็ดเดี่ยว ในใจนายตำรวจนึกว่า โชคดีก็คงเหมือนแม่นี่ล่ะ คุณเตือนใจเองเมื่อตอนสาวก็ใช่ย่อย ผู้ใหญ่ที่เขารู้จักหลายคนเล่าให้ฟังว่า ในอดีต หญิงสาวคนหนึ่งมาตั้งรกรากที่จังหวัดน่าน หอบลูกชายมาคนเดียวกับกระเป๋าไม่กี่ใบ เช่าห้องพักอยู่หลังตลาด ทำงานด้วยความขยันขันแข็งจนสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ครั้นโชคดีจบมัธยมปลายก็ช่วยแม่ทำงานเต็มที่ ไม่นานก็สามารถมีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง  และขยายใหญ่โตขึ้นเป็นตึกสามคูหา
โชคดีเป็นนักสู้ ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่เคยเห็นชายหนุ่มยอมแพ้ พลังที่อัดแน่นอยู่ในตัวของโชคดีเป็นเหมือนหัวรถจักรไอน้ำที่ผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าไม่ยอมหยุด นี่เองเป็นส่วนหนึ่งที่เขาชอบชายหนุ่ม นอกเหนือไปจากบุคลิกอันโดดเด่นที่หาไม่ได้ง่ายๆ เหมือนพริกผสมน้ำตาลกับเกลือเค็มกำลังพอดีๆ
ปฐพีอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงจุดนี้ “โชคดี – เจ้าหนี้เงินกู้รายใหญ่คนหนึ่งของจังหวัด” จนเขาเคยล้อว่า “ระวังไว้เถอะ พอผมเป็นสารวัตร จะย้ายมาอยู่ที่น่าน มาปราบคนที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล”
“มาสิ ผมจะได้เกณฑ์คนไปประท้วงขับไล่” โชคดีท้าทาย
ขณะที่ร้อยตำรวจเอกปฐพีกำลังคิดอะไรเพลิน คุณเตือนใจก็แทรกขึ้นมาว่า “ผู้กอง เย็นนี้มางานนะคะ แต่คงไม่ถึงต้องเชิญคุณพ่อกับคุณแม่ งานเล็กๆ ของเด็กในร้าน จัดกันง่ายๆ แบบฉุกละหุก” เตือนใจบอก
“ครับผม” ปฐพีพยักหน้า “แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า หากมีงานใหญ่กว่านี้จริง โชคดีจะเชิญพ่อหรือเปล่า”
เตือนใจถอนหายใจ “เฮ้อ ไม่รู้ว่ามันโกรธอะไรนักหนา ไม่ยอมลืมเสียที”
“นั่นสิ พ่อก็ขอโทษแล้ว” ปฐพีเห็นด้วย นึกถึงสาเหตุของปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เขารู้ว่าโชคดดีโกรธพ่อของเขาเกี่ยวกับเรื่องตั้งห้างสรรพสินค้ากลางเมือง แม้จะไล่นายทุนไปแล้ว ยกเลิกการสร้าง แต่โชคดีก็ยังไม่ยอมหายโกรธ ตอนนั้นพ่อของเขาตัดสินใจช้าและพลาดไป ไม่ได้ทำอะไรเฉียบขาดตามที่ได้รับการร้องเรียนและยื้อเวลาอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะออกมาพบกับผู้ชุมนุ่ม โชคดีเลยเลือดขึ้นหน้า ปลุกระดมจนเกิดเรื่องขึ้น แต่ยังดีที่ไม่พาลโกรธมาถึงลูกชาย

โชคดียืนสั่งการลูกน้อง ปล่อยให้แม่ของเขาคุยกับร้อยตำรวจเอกปฐพีอยู่หน้าร้าน ผู้กองหนุ่มเหลือบตามองมาที่เขาบ่อยๆ แต่โชคดีไม่สนใจ
โรงรถข้างร้านค้าเหล็กได้รับการเก็บกวาดเรียบร้อยจนมีพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับจัดงาน โชคดีเห็นว่าแม้เดือนจะเป็นเพียงเด็กในบ้าน แต่เดือนก็ควรได้รับโอกาสพิเศษสำหรับวันที่พิเศษสุดของลูกผู้หญิง ลึกๆ ในใจชายหนุ่มอดกังวลไม่ได้ว่าสามีภรรยาวัยรุ่นคู่นี้จะพาชีวิตคู่ไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เขาบอกตัวเองว่า ตราบใดที่ยังพอดูแลได้ เขาจะคอยช่วยเหลือจนสุดความสามารถ
สมบูรณ์กับมานพ คนงานประจำร้านยกโซฟาออกมาจากหลังร้าน โชคดีรีบปรี่เข้าไปชี้จุดที่จะให้วาง แล้วยืนดูจนสองหนุ่มจัดวางโซฟาไม้สักขนาดใหญ่ให้เข้าที่แล้วจึงหันหน้าไปมองหาฤดี แม่บ้านของเบาที่รับหน้าที่จัดดอกไม้ แต่กลับเห็นใบหน้าของ “นายช่างใหญ่” อยู่ใกล้ๆ
“คุณโชคดี พักหน่อยเถอะครับ” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม แล้วยื่นแก้วน้ำให้ โชคดีหันซ้ายหันขวา ไม่ยื่นมือไปรับ
“ไม่มีใครมองหรอก” นายช่างทำหน้าเรียบ “ถ้าคุณกลัวว่าใครจะเห็น” ชยุตม์วางแก้วน้ำลงใกล้ๆ
“กลัวสิ” โชคดีพูดเสียงห้วน “กลัวจะมีคนเห็นว่าผมญาติดีกับคุณ”
“อ้าว” ชยุตม์หมดคำพูด อึ้งไปทันที เหมือนถูกต่อยเข้าที่ท้อง
โชคดีหันหลังเดินตรงไปยังอีกฟากหนึ่งของโรงรถแล้วสั่งให้คนไปตามแม่บ้านมาพบ ชายหนุ่มไม่แตะแก้วน้ำที่ชยุตม์ถือมาให้แม้แต่นิด
วิศวกรหนุ่มผู้กลายมาเป็น “นายช่าง” เหลือบตามมองแก้วน้ำเหมือนจะตัดพ้อ และหาคนคุยด้วย เพื่อระบายความในใจว่า ทำไมโชคดีไม่ชอบอะไรเขานักหนา
ชยุตม์ส่ายหน้า แล้วจึงตัดสินใจคุยให้รู้เรื่อง เขาอุตส่าห์พาโต๋มาขอเดือนแล้ว นี่ก็กำลังจะแต่งงานกัน ยังจะมาเกลียดกันอีก
...เป็นไงเป็นกัน มีคนอยู่กันหลายคน โชคดีคงไม่กล้าตะโกนโหวกเหวกเหมือนตอนพบกันครั้งแรกหรอก...
ชยุตม์เดินเข้ามาใกล้คนเลือดร้อนทันได้ยินเสียงเข้มสั่งเดือน
“จะแต่งอยู่แล้ว มาทำอะไรอีก ไปอาบน้ำแต่งตัว งานพวกนี้ให้คนอื่นทำ”
“ค่ะ” เดือนรับคำสั้นๆ แล้วรีบเดินหายเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้โชคดียืนเท้าสะเอวมองซ้ายมองขวาตรวจดูความเรียบร้อย
“คุณโชคดีครับ” ชยุตม์เรียก
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านนิ่งเงียบชั่วครู่ ยกไหล่ขึ้นเหมือนสูดลมหายใจเข้าไปลึก ก่อนพ่นออกมาดังๆ แล้วหันมาเผชิญหน้าชยุตม์ช้าๆ
“คุณมีเรื่องอะไรอีก”
“ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่อยากญาติดีกับผมนัก นี่ผมก็พาโต๋มาแต่งงานแล้ว ยังจะมาโกรธเกลียดอะไรกันอีก”
“ผมพูดหรือว่าเกลียด”
ชยุตม์ส่ายหน้า บทจะเจ้าคารมก็ไม่มีใครเกินโชคดี “คุณไม่พูดว่าเกลียด แต่คุณก็บอกว่าไม่อยากญาติดี มันก็คือเกลียดนั่นล่ะ”
“เปล่า” โชคดีปฏิเสธหน้านิ่ง “ถ้าเกลียด ผมไม่ให้คุณเข้ามาเหยียบบ้านผมหรอก”
“อ้าว” ชยุตม์อุทานอีกครั้ง
“ผมขอบคุณที่พาโต๋มา ซึ่งคุณอาจจะเป็นคนโน้วน้าวโต๋จริงๆ หรือโต๋อยากมาเองก็ได้แต่คุณบอกว่าพามา” โชคดีพูดเสียงเรียบ แต่ทำให้คนฟังสะอึก คิดในใจว่า...ชมหรือดูถูกเขากันแน่...
“ผมไม่เข้าใจ” ชยุตม์งง ไม่เข้าใจจริงๆ
“เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น”
“แล้วเรื่องอะไรคือประเด็นละครับ บอกผมหน่อยสิ จะได้รู้ว่าผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจ” ชยุตม์ขมวดคิ้ว ถามด้วยน้ำเสียงระอาใจ
“ยังไม่รู้” โชคดียักไหล่ พูดหน้าตาเฉย
“อ้าว” ชยุตม์อึ้งอีกแล้ว
“ถ้าผมยังไม่แน่ใจ ผมจะยังไม่พูด” โชคดีจ้องตาชยุตม์
“แล้วเรื่องไม่อยากญาติดีกับผมนี่แน่ใจแล้วหรือถึงได้พูดออกมา” ชยุตม์จ้องตากลับ
“แต่รู้ว่ามีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมยังไม่อยากญาติดีกับคุณ” โชคดีพูดต่อโดยไม่สนใจตอบคำถามของวิศวกรชาวกรุง “เพราะฉะนั้น กรุณาอย่าเพิ่งถาม ตอนนี้ เราก็แค่เป็นคนช่วยกันจัดงานให้เด็กสองคนนั่น คุณเองก็อย่ามัวแต่มายืนหาเรื่องผม กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวให้ดูดี จะได้กลับมาทันงานแต่งงาน” โชคดีพูดยาว ก่อนหันไปตะโกนเรียกพงษ์ ผู้ช่วยคนสนิท
“น้าพงษ์ ให้คนไปนิมนต์พระหรือยัง”
“ยังครับ” พงษ์ตะโกนตอบกลับ
"รีบไปสิ เดี๋ยวไม่ทัน" โชคดีเร่ง
"คุณโชคดีครับ งานแต่งนะ ไม่ใช่งานศพ" พงษ์ตอบ
"อ้าวเหรอ" โชคดีทำหน้าเข้าใจ แล้วหันหน้ามาพูดกับชยตม์สั้นๆ แต่เน้นเสียงทุกคำ ก่อนจะเดินจากไป“ขอตัวนะครับ คนมีงานต้องทำจะไปทำงาน”
วิศวกรหนุ่มมองตามคนหน้าดุอย่างไม่เข้าใจตัวเอง แค่ไม่กี่วันที่รู้จักโชคดี เขารู้สึกเหมือนหมดพลังไปอย่างมาก สมองเหมือนถูกกระตุ้นด้วยการเอาเข็มทิ่มแทงทำให้ต้องรู้สึกตัวเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพราะคาดเดาไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะพูด จะทำอะไร หรือจะออกฤทธิ์อะไรอีก
ชยุตม์ไม่รู้ว่า อาจจะตกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินโชคดีอวยพรคู่บ่าวสาว...คำอวยพรที่จะทำให้เขาสะดุ้งและอึ้งอีกครั้ง หลังจากสองวันที่ผ่านมาเขาอึ้งไปหลายครั้งแล้ว
***** จบบทที่ 3 *****
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 07-04-2009 10:17:03
^

^

^

ได้จิ้มคนแต่งด้วย หุ หุ

อ่านสองตอนแรก โชคดี ดูแมนมากน่าจะเป็นพระเอก

แต่อ่านตอนสามแล้ว...เอิ่ม...มันออกมาทางนายเอกอ่ะ

สรุปว่าใครจะเป็นนายใครเป็นพระกันแน่ อยากรู้จัง

 :L2: :กอด1:

replyไม่ถึงกดบวกไม่ได้อ่ะ เจ๊ให้ดอกไม้

แถมกอดกับจูบแทนละกัน จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-04-2009 13:06:57
3 คนเข้าไปแล้วน่ะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย โชคดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 07-04-2009 13:15:17
หมูปิ้ง ... ชื่อน่ารักดีออก :-[

ชยุตกลับไปฝึกปรือเตรียมรับฝีปากกะโชคดีดีกว่าไป

ซ่งนี่จะตายแล้วยังปากมากอีกนะ

พูดจาน่าปล่อยให้จมอยู่แบบนั้นแหละ :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 07-04-2009 16:55:25
 :กอด1: ชอบหมูปิ้งมากๆเลย


  :-[รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-04-2009 17:47:26
พระเอกเรื่องนี้ทำไมกลัวนายเอกจั๊ง  :sad4:
ไม่ได้เลยนะ ผิดคอนเซปท์พระเอกของคุณนาย ต้องกวนๆซิ  o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 07-04-2009 21:14:02
เหอะ เหอะ-อยากกินหมูปิ้ง ครึครึครึ
******************

มอบแต้มที่ 680 คร้าบบบบ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 07-04-2009 22:48:21
หมูปิ้งชื่อน่ารัก แต่ไม่สมกับบุคลิกคุณโชคดีจริงๆนั่นแหละ
เหอะๆๆ เสน่ห์แรงจังมีแต่คนสิเน่หา
ซ่งน่ารัก รู้ว่าเพื่อนเบื่อหน้าตัวเองจะแย่แต่ก็ตามตื้อได้ไม่ลดละ
“มีต้มย้ำโป๊ะแตกไหมล่ะ ถ้ามีถึงจะไป”
“เดี๋ยวเราไปสั่งให้เขาทำพิเศษ ป้าต้อยเป็นลูกหนี้เรา
>> ฮาอิคุณโชคเห็นแก่กิน ส่วนเพื่อนก็ตามใจกันเกิ๊น

อืม ชยุตม์เลิกตามต่อแยญาติดีกับคุณโชคเหอะ
คำพูดคำจาไม่น่าจะญาติดีด้วยเลย สงสัยคงต้องรอให้คุณโชคดี
วีนเรื่องงานกับชยุตม์โดยตรงก่อนมั้ง ชยุตม์ถึงจะได้แปลงร่าง
โต้กลับคุนโชคดีไปบ้าง พูดจากวนประสาท น่าหมั่นไส้จริงๆ  :z6:

ขอบคุณคะคุณคฑาวุธ

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 07-04-2009 23:23:13
เอ๊ะพี่นายครับ


ทำไมรู้สึกว่ามันออกแนวนายเอกโดนรุมขอความรักนะ


คล้ายๆกับวุ่นนักรุมรักสถาปนิกเลยอ่ะ


แต่คิดว่าเรือ่งนรี้น่าจะมันส์กันไปคนละแนว


เพราะเรือ่งนี้คุณโชคดีไม่้ร้ายเหมือนแทน


แต่ออกแนวนักเลงๆมากกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 08-04-2009 10:48:14
มาต่อบทที่ 4 ครับ
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านและลงคอมเมนท์
อืิมมม มีความรู้สึกว่าคนไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เลยนะเี่นี่ย มันเงียบๆ เหงาๆ พิกล สงสัยชอบเรื่องที่มีพระเอกเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ และกะล่อน มีการตามจีบหยอกเย้ากันใช่ป่ะ แน่ๆ เลย
สงสัย ทำไมชอบคนเจ้าชู้กันนัก

บทที่ 4

"โต๋ ดูแลเดือนดีๆ นะ ถ้าเมื่อใดทิ้งเดือนกับลูกให้ตกระกำลำบาก เมื่อนั้นแกก็หาทางหลบดีๆ ก็แล้วกัน"
"โชคดี" สิ้นเสียงอวยพรของเถ้าแก่ฝ่ายหญิง เสียงคนสามคนก็ดังขึ้นพร้อมกันราวกับนัดหมาย คุณเตือนใจสะกิดลูกชาย ผู้กองปฐพีอุทานเบาๆ ส่วนอีกคนหนึ่ง ชยุตม์ เถ้าแก่ฝ่ายชายส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าจะได้ยินชายหนุ่มหน้าดุอวยพรคู่บ่าวสาวแบบที่ไม่มีใครที่ไหนในโลกทำกัน
โชคดีไม่สนใจ "อวยพร" ต่อ "เพราะแกไม่มีแผ่นดินอยู่สงบแน่" จากนั้น หันไปพูดกับเดือน "เดือนก็เหมือนกัน โต๋เป็นสามี และกำลังจะเป็นพ่อของลูก เราต้องคอยดูแลปรนนิบัติเขาให้ดี ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่าให้ขาดตกบกพร่อง"
ชยุตม์พยักหน้า เห็นด้วยกับสิ่งที่โชคดีพูดกับเดือนเพราะตอนแรกตกใจกับคำอวยพร ทว่า วิศวกรหนุ่มก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคถัดไป
"แต่งแล้วก็มาอยู่กันที่ร้านนี่ล่ะ ช่วยกันทำงาน"
...ร้ายจริงๆ โชคดีนี่เจ้าเล่ห์ใด้หน้านิ่งๆ
มาช่วยกันทำงาน...ทำงานที่ร้านค้าเหล็กของตัวเองนี่นะ เอาโต๋มาใช้งานสิไม่ว่า...
ชยุตม์นึกในใจก่อนจะทักท้วงขึ้นมา "เอ่อ คุณโชคดีครับ โต๋ยังทำงานกับที่รีสอร์ท"
"เป็นสามีก็ต้องดูแลภรรยาสิ" โชคดีหันมาตอบเสียงเรียบ
"แต่โต๋ทำงานกินเงินเดือนเป็นลูกจ้างบริษัท แล้วก็..."
"ก็ลาออก มาอยู่ที่นี่ก็ได้เงินเดือน" โชคดีแทรก
"คุณโชคดีครับ ผม..." โต๋เงยหน้าขึ้น ทำท่าจะทักท้วง
"ลูกน้องคุณก็เยอะแล้ว โต๋ทำงานที่เดิม เลิกงานก็กลับบ้าน" ชยุตม์ไม่ยอม
"เมียกำลังท้อง ผัวก็ต้อง..." โชคดีเริ่มจะเสียงดัง
"เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งเถียงกัน ให้งานแต่งเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยก็ได้" คุณเตือนใจรีบห้ามทัพเพราะเห็นท่าทางสองหนุ่มจะทำลายพิธี ปฐพีก็ช่วยเสริมอีกแรง
"โชคดี แขกรออวยพรคู่บ่าวสาวอยู่นะ เอาไว้ค่อยคุยกันตอนเสร็จงานดีกว่า"
"ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มนี่" โชคดีพูดเสียงเข้ม ปรายตาไปมองชยุตม์ที่นั่งมองอยู่ไม่วางตา ทำหน้าเรียบเฉย แต่กำลังจะอ้าปากเถียง คุณเตือนใจสังเกตเห็นจึงรีบพูดขึ้นว่า
"นายช่างคะ เชิญอวยพรคู่บ่าวสาวค่ะ"
"ครับผม" ชยุตม์ตอบรับเสียงเบา มองโชคดีอยู่ไม่วางตา ขณะที่อีกฝ่ายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หันไปมองแขกเหรื่อ ยิ้มทักทายคนอื่นเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชยุตม์เงอะงะ ไม่รู้จะอวยพรบ่าวสาวอย่างไร เกิดมาในชีวิตไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ชีวิตในต่างประเทศกว่าครึ่งชีวิตทำให้เขาไม่คุ้นกับพิธีรีตรองใดๆ โดยเฉพาะการอวยพรในงานพิธีแบบไทย อย่างมากที่เคยทำก็มีเพียงกล่าวสุขสันต์วันเกิด Merry Christmas หรือ สุขสันต์วันปีใหม่กับเพื่อนๆ หรือคนรู้จัก
"ขอให้เป็นโต๋เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี ดูแลครอบครัว ส่วนเดือน ขอให้เป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่ที่ดี ดูแลครอบครัว"
"ลอกกันเห็นๆ" เสียงพูดเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคนดังขึ้นข้างๆ ชยุตม์หลังจากเขาอวยพรเสร็จและถอยกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง วิศวกรเด็กนอกผู้กลายมาเป็นเถ้าแก่จำเป็นทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้น...เสียงห้าวๆ ของชายหนุ่มที่คอยแต่จะขวางเขาทุกเรื่อง
...โชคดี...ต่อจากนี้ไปเขาจะเจออะไรอีก เรื่องของโต๋ยังไม่จบ งานแต่งงานเสร็จ ส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ก็คงต้องมานั่งเถียงกับโชคดีต่ออีกยก จะยอมหรือจะสู้ดี...
ชยุตม์นึกในใจ สายตากวาดมองบรรยากาศในงานแต่งงาน ภาพชีวิตเรียบง่ายของผู้คนต่างจังหวัดทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ผู้คนที่นี่ต่างจากผู้คนที่อยู่ในสังคมของเขามาตลอดชีวิต งานแต่งงานที่เขาเคยไปร่วมเป็นเพียงงานเลี้ยงต้อนรับในโรงแรมหรู แต่ละคนถือแก้วเครื่องดื่มยืนคุยกันหรือเดินไปเดินมาเหมือนไม่รู้จะทำอะไรดี แต่งตัวชุดหรูหราออกโทนสีดำหรือสีทองมันเลื่อมระยิบระยับ

เวลาผ่านไปจนถึงบ่ายแก่ๆ งานแต่งงานง่ายๆ สิ้นสุดลงเอาเวลาเกือบห้าโมงเย็น หลังจากนั้นแขกที่มางานก็รับประทานอาหารร่วมกัน บรรยากาศเป็นมิตร เสียงคุยกันเป็นภาษาท้องถิ่นดังไม่ได้สรรพ ชยุตม์แทบจะไม่เข้าใจสิ่งที่ทุกคนพูด อาหารลำเลียงมาวางบนโต๊ะ ชยุตม์ก้มหน้าลงมองด้วยสีหน้าผะอืดผะอมเพราะไม่รู้จักชื่ออาหารสักอย่าง นอกจากข้าวและผัก เขานั่งอยู่กับอภิชาติ สถาปนิกของโครงการและประวิทย์ วิศวกรอีกคน เขาไม่ได้แนะนำผู้ร่วมงานสองคนนี้ให้โชคดีรู้จักเพราะกลัวว่าจะโดนหางเลขไปด้วย โชคดีนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ติดกับคุณเตือนใจ ร้อยตำรวจเอกปฐพี และสมาชิกสภาจังหวัดอีกสองคนที่เขาเคยเห็นเมื่อไปรับงานจากคุณอาของเขาเมื่อสองสามวันแรกที่เดินทางมาถึงน่าน
โต๊ะกว้างมาก เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสคุยกับคุณเตือนใจมากนัก เพราะท่าทางกำลังคุยกับสมาชิกสภาจังหวัดทั้งสองคนอย่างออกรส ส่วนปฐพีก็หันไปรับไหว้จากแขกในงานบ่อยๆ แต่เขาก็สังเกตเห็นว่านายตำรวจหนุ่มมักจะหันไปมองโชคดีอยู่เป็นระยะเมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปทักทายแขกโต๊ะอื่นๆ
หากเดาไม่ผิด ผู้กองหนุ่มรูปหล่อลูกชายผู้ว่าราชการจังหวัดคนนี้ต้องชอบโชคดีแน่นอน ชยุตม์แอบเห็นประกายตาวูบวาบหลายครั้ง และที่สำคัญคุณเตือนใจก็เหมือนจะรู้เห็นเป็นใจ และท่าทางคงจะสนับสนุน
...ร้อยตำรวจเอกหนุ่ม หน้าตาดี ลูกชายผู้ว่าฯ แม่สนับสนุน กระดูกชิ้นโตๆ นี่เอง...
...กระดูกชิ้นโต! หมายความว่าอย่างไร ทำไมเขาต้องคิดแบบนี้...
ชยุตม์ไม่เข้าใจและถามตัวเองในใจว่าทำไมต้องคิดถึงเรื่องนี้ ผู้กองปฐพีจะชอบโชคดีก็ชอบไปสิ มาเกี่ยวอะไรกับเขา อีกอย่าง เขาเองก็รู้จักโชคดีได้เพียงสามวัน และฝ่ายนั้นก็ท่าทางไม่ชอบหน้าเขาเป็นเอามาก...
...รักแรกพบหรือ ลืมไปได้เลย เกลียดแรกเจอต่างหากเล่า...

หลังรับประทานอาหารเสร็จ ก็ถึงเวลาคุยเรื่อง "แย่งตัวโต๋"
ชยุตม์แปลกใจที่เห็นโชคดียอมรับโดยง่าย ตอนแรกนึกว่าชายหนุ่มจะดันทุรังเอาตัวโต๋ไว้ทำงานที่ร้าน แต่เมื่อคุณเตือนใจช่วยคุยและผู้กองปฐพีช่วยเสริมอีกแรง โชคดีก็ยอม ตอนแรกเขายังหนักใจอยู่ว่ากลัวจะเถียงสู้โชคดีไม่ได้
...เออ ก็ฟังเหตุผลอยู่เหมือนกันนี่นะ นึกว่าจะรั้นไม่มีที่สิ้นสุด...
ชยุตม์นึกในใจขณะที่ฟังโชคดี "สั่งการ" โต๋
"เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน อย่าผิดเวลา เป็นพ่อคนแล้ว"
"เดือนเพิ่งตั้งท้องเองนะโชคดี" ผู้กองปฐพีท้วง
"ผมหมายถึงรวมๆ โดยทั่วไป" โชคดีหันมาตอบปฐพี แล้วหันไปหาโต๋ "ถ้ามีปัญหาอะไรมาคุยกับพี่เท่านั้น"
พูดเสร็จโชคดีก็ปรายตาไปมองชยุตม์แวบหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายเมินหน้าไปมองด้านอื่นและทำท่าไม่สนใจที่ถูกข่ม
"หมูปิ้ง อย่าลืมนะ พรุ่งนี้ไปพบ ส.ส. ธานินท์ กับแม่" จู่ๆ คุณเตือนใจที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็โพล่งขึ้นมา
"แม่!" โชคดีปรามเสียงดัง
ชยุตม์ที่ทำเฉไฉมองด้านอื่นหันขวับมาทันทีที่ยินเสียงสองแม่ลูก
...หมูปิ้ง โชคดีชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง นึกว่าชื่อจริงจะแปลกแหวกแนวแล้ว ชื่อเล่นยิ่งเด็ดกว่า ไม่เข้ากับตัวจริงเอาเสียเลย ถ้าให้เขาเดาชื่อเล่นของโชคดี เขาจะเดาว่าชื่อ เสือ หรืออะไรที่คล้ายๆ กัน...
ชยุตม์อดยิ้มไม่ได้ ส่งผลให้อีกฝ่ายปรายตามองตาขวาง
"โอ๊ยตาย โทษทีค่ะลูกรัก แม่ลืมไป" คุณเตือนใจขอโทษลูกชาย หากใบหน้าและแววตาไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด
โชคดีอายชยุตม์ที่ได้ยินแม่เรียกเขาด้วยชื่อเล่น...ชื่อที่ไม่เคยชอบเลยตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มจึงรีบกลบเกลื่อนด้วยการหันไปสั่งโต๋ว่า "พรุ่งนี้สายๆ ก็ไปขนของมาเลยนะโต๋ เอารถที่บ้านโน้นขนมา มีคนช่วยยกของอยู่แล้วไม่ใช่หรือ"
"พรุ่งนี้ต้องทำงานครับ" ชยุตม์รีบแย้ง
"แหม คุณนายช่างครับ คนเพิ่งแต่งงาน ให้เขาพักซักวันไม่ได้หรือไร"
"แล้วทำไมต้องให้โต๋ขนพรุ่งนี้ล่ะ ในเมื่อเพิ่งแต่งงานก็ให้พักสิ" ชยุตม์ไม่ยอม "แล้วอีกอย่าง ผมก็ต้องทำงาน จะเอารถผมขนได้ยังไง ตื่นเช้าลุงแสวงกับคนอื่นๆ ก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน"
"ผมช่วยก็ได้ครับ นะโชคดี เอาไว้ขนตอนเลิกงานก็ได้" ปฐพีช่วยพูด
"รถที่บ้านเราก็มีหลายคัน อย่าเรื่องมากไปหน่อยเลยหมู..."
"แม่" โชคดีปรามมารดา กลัวจะหลุดชื่อเล่นเต็มๆ ออกมาอีก ทั้งที่เรียกแค่ "หมู" เขาก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจ
"งกอยู่ได้" คุณเตือนใจบ่นให้ลูกชาย
"ไม่งกแล้วจะรวยหรือแม่" โชคดีพูด
"เหอะน่า ให้คนที่บ้านไปช่วยขน ไหนแกบอกว่าจะดูแลโต๋มันไง แค่เอารถไปขนของเด็กในร้าน ทำเรื่องมาก" ผู้เป็นแม่บ่นลูกชายอีกครั้ง
"อ้าวมายืนอยู่ทำไมโต๋ ไปหาเมียสิ" โชคดีพาล ไล่โต๋ไปหาภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วรีบหายตัวไป ก่อนจะซวยโดนโชคดีดุไปมากกว่านี้เพราะท่าทางอารมณ์ไม่ดีที่โดนสามรุมหนึ่ง
ปฐพีเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้วจึงขอตัวกลับ คุณเตือนใจเดินออกมาส่งนายตำรวจหนุ่มที่ริมฟุตบาธหน้าร้าน พร้อมกล่าวขอบคุณที่ผู้กองหนุ่มช่วยงาน หญิงสูงวัยกว่าตบไหล่ปฐพีเบาๆ แล้วพูดว่า
"ผู้กองก็คอยระวังๆ เอาไว้ด้วยนะคะ อย่ามัวแต่ย่ามใจ"
ปฐพีเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจ "ระวังอะไรหรือครับ"
คุณเตือนใจไม่ตอบ หันไปมองโชคดีที่ยืนสั่งลูกน้องให้เก็บของ มีชยุตม์ยืนมองอยู่เงียบๆ
ปฐพีมองตาม ยังไม่เข้าใจอยู่ดีคุณเตือนใจเห็นสีหน้างงๆ ของผู้กองหนุ่มจึงพูดต่อไปว่า "เถอะ ไว้ซักหน่อยก็เข้าใจ พักนี้ก็แวะมาบ่อยๆ หน่อยก็แล้วกันนะคะผู้กอง"
ปฐพีรับคำแล้วขึ้นรถขับออกไป แต่ก็ไม่วายหันไปมองโชคดีอีกแวบหนึ่ง และอดนึกถึงคำพูดของคุณเตือนใจไม่ได้
...ที่ว่าระวัง ให้ระวังอะไรหรือ ระวังโชคดี หรือระวังชยุตม์...
...หรือชยุตม์ชอบโชคดี คงไม่หรอก เห็นท่าทางไม่ถูกกัน อีกอย่าง ชยุตม์เพิ่งรู้จักกับครอบครัวนี้เพียงแค่สองสามวันเท่านั้นเอง...

ชยุตม์ยืนหันซ้ายหันขวา ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว วันนี้เขาเหนื่อยมาก ทั้งๆ ที่แทบไม่ได้ทำอะไรเลย โชคดีเป็นคนจัดการทั้งหมด แล้วตอนนี้ก็ยังมีพลังเหลือเฟือ เดินทำโน่นทำนี่ไม่ยอมหยุด
คุณเตือนใจเดินเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มจึงหันไปกล่าวอำลา
"ขอบคุณนายช่างนะคะที่ช่วยเหลือ"
"ยินดีครับ ที่จริงผมไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่" ชยุตม์ออกตัว
"ขอบคุณเรื่องโต๋ด้วย ถ้าไม่ได้คุณ ป่านนี้โต๋มันคงถูกฆ่าหมกป่าไปแล้ว" คุณเตือนใจพูดยิ้มๆ
ชยุตม์เบิกตากว้าง "ฮ้า เล่นกันขนาดนั้นเลยหรือครับ"
"ที่นี่บ้านป่าเมืองเถื่อนนะคะ อีกอย่างโชคดีก็ร้ายไม่เบา เวลาโกรธขึ้นมานี่ไม่เหมือนผู้เหมือนคน"
"แม่ เลิกใส่ร้ายผมได้แล้ว" เสียงโชคดีดังขึ้น
"หูดีจริงๆ เลยลูกคนนี้" คุณเตือนใจพึมพำ
"คุณนายช่างคงง่วงนอนเต็มที เห็นทำตาปรือตั้งนานแล้ว" โชคดีวางของที่กำลังถืออยู่ลงบนโต๊ะ เดินเข้ามาใกล้ๆ "พรุ่งนี้หากโมงจะให้คนไปขนของโต๋ หวังว่าพนักงานก่อสร้างรีสอร์ทคงเลิกงานตรงเวลานะครับ"
"ครับ ผมจะให้โต๋ยืนคอยหน้าบ้าน 15 นาทีก่อนเวลานัด" ชยุตม์ตอบเสียงเรียบ ใบหน้าเคร่งขรึม
คุณเตือนใจเบือนหน้าไปอมยิ้มเมื่อได้ยินชยุตม์ประชดลูกชาย ในใจก็คิดว่าโชคดีกำลังจะเจอคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อกันเข้าให้แล้ว
"ดีครับ แล้วเราค่อยคุยกันเรื่องรายละเอียด" โชคดีพูดแล้วผละเดินจากไปเพื่อทำงานต่อ
...รายละเอียด...รายละเอียดอะไรอีก เรื่องนี้ยังไม่จบอยู่อีกหรือ ต้องคุยอะไรกับโชคดีอีก...
ชยุตม์ร้องทักท้วงในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมาเพราะยังไม่พร้อมจะสู้กับโชคดีอีกยก เย็นนี้เขาเหนื่อยและอยากจะล้มตัวลงนอนพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

ชยุตม์จอดรถหน้าบ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ริมธารน้ำ ต้นไม้ร่มรื่น สนามหญ้าหน้าบ้านเขียวจีเพราะขณะเป็นเวลาปลายฝนต้นหนาว บ้านพักของเขาสร้างขึ้นอย่างเร่งรีบเพราะเขาต้องการแยกตัวออกมาพักคนเดียว
บ้านหลังเล็กมีระเบียงยื่นออกไปจรดริมตลิ่งของธารน้ำใสที่แยกออกมาจากแม่น้ำน่าน อีกฟากหนึ่งของลำธารเป็นทุ่งนากว้างสุดลูกหูลูกตา กลางทุ่งมีต้นไม้ยืนต้นโดดเด่นอยู่สองต้น ราวกับคู่รักกำลังยืนเคียงข้างกัน
ชยุตม์เดินไปเปิดไฟเพื่อดูว่าไฟฟ้าต่อเข้าบ้านเรียบร้อยดีหรือยัง จากนั้นเดินไปที่ครัวเล็กๆ หลังบ้านแล้วเปิดน้ำที่อ่างล้างจาน ครัวนอกบ้านของเขาบรรยากาศดีมาก ยืนล้างมือแล้วมองไปที่โค้งน้ำอีกด้านหนึ่งเห็นทิวไม้ยืนต้นสล้างสวยงามยิ่งนัก ต่างจากครัวของเขาที่กรุงเทพฯ หรือเมืองอื่นๆ ที่เขาเคยไปอยู่ ครัวในเมือง มองออกไปจากหน้าต่างเห็นระเบียงของอีกห้องหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งร้อยวันพันปีเจ้าของห้องไม่เคยเปิดออกมายืนเลย...
วิศวกรหนุ่มแวะมาที่บ้านพักเพื่อดูความเรียบร้อยและล้างหน้าตาให้สดชื่น ก่อนจะเดินทางไปรับแฟนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งจักริณทร์บอกว่าจะมาถึงน่านประมาณหกโมงเย็น
ชีวิตรักของเขากับจักริณทร์ไม่มีอะไรหวือหวา นานๆ ทีถึงจะได้เจอกันเพราะจักริณทร์เดินทางบ่อย เขาเองก็หมกตัวอยู่กับงานทีละนานๆ บางครั้งชยุตม์ก็อดนึกไม่ได้ว่าเขากับจักริณทร์ดูราวกับเป็นคนแปลกหน้ากัน เดือนหนึ่งเจอกันเพียงสองสามวัน
...แต่คราวนี้จักริณทร์ยอมลาหยุดพักผ่อนมาเยี่ยมเขาที่น่าน มีเวลาจะได้อยู่กับเขาถึงสี่ห้าวัน ปกติจักริณทร์ไม่เคยว่างนานขนาดนี้...
นอกจากงานประจำแล้ว จักริณทร์ต้องดูแลธุรกิจครอบครัว พี่ชายของจักริณทร์เพิ่งประสบอุบัติเหตุ กำลังพักฟื้น ส่วนพี่สาวก็ท้องแก่ใกล้คลอด สองสามเดือนที่ผ่านมาจักริณทร์จึงต้องทำงานหนัก กิจการส่งออกของครอบครัวกำลังไปได้ดี ชายหนุ่มยังเคยเปรยว่าอาจจะลาออกจากการเป็นนักบินมาทำงานธุรกิจเต็มตัว

ชยุตม์ต้องหยุดความคิดของตัวเองไว้ชั่วขณะเมื่อขับรถมาถึงเชิงสะพานข้ามลำธารเพื่อเข้าสู่เขตเทศบาลเมือง บ้านพักของเขาอยู่อยู่ไกลออกไปทางตอนเหนือ ทุกครั้งที่เข้าเมืองเขาจะใช้เส้นทางนี้ ต้องข้ามสะพานที่มองออกไปทางด้านขวาเห็นต้นไม้สูงใหญ่มากต้นหนึ่งที่ยืนต้นแห้งตายอยู่ใกล้ๆ กับสะพาน แต่ฉากหลังเป็นทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเลิกงานตอนที่เข้าเมืองมาทานอาหาร เกือบทุกครั้งที่มาถึงสะพาน มักจะเป็นเวลาพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน
พระอาทิตย์กลมโตสีแดงเข้มดวงใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนดวงลับทิวไม้เหนือลำน้ำที่ทอดตัวยาวไปจนลับตา แสงสีทองส่องต้องผิวน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ทอแสงระยิบระยับสวยงามยิ่งนัก
เย็นวันนี้ มีอะไรบางอย่างที่แปลกไป ปกติสะพานนี้เงียบมาก เขาสังเกตว่าเส้นทางนี้คนสัญจรน้อย ทุกครั้งที่มาถึงสะพานจะไม่มีรถสวนมาเลย แต่คราวนี้ รถคันหนึ่งจอดอยู่กลางสะพาน กระโปรงรถเปิด ชายหนุ่มคนหนึ่งก้มๆ เงยๆ อยู่หน้ารถกระบะโฟร์วีลด์กลางเก่ากลางใหม่
ร่างสูงเพรียวนั้นดูคุ้นๆ กล้ามเนื้อต้นขาแน่น ถือว่าเป็นคนรูปร่างดีคนหนึ่ง แต่เมื่อชยุตม์เดินเข้าใกล้ เขาก็นึกใบหน้าดุๆ ออก
...โชคดี...
ชยุตม์เดินเข้าไปหาคนที่กำลังยกมือขึ้นจะดึงกระโปรงรถปิด โชคดีชะงัก หันมามองชยุตม์ ใบหน้าเรียบนิ่ง
"รถเป็นอะไรครับ" ชยุตม์ยิ้มบางๆ
"รถเสีย" โชคดีตอบสั้นๆ ไม่ถึงกับห้วน แต่น้ำเสียงเย็นชา
"ซ่อมเสร็จหรือยังครับ" ชยุตม์ถามเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะดึงฝากระโปรงรถปิด
"ยัง" คำตอบต่อมาของคนหน้าดุยิ่งสั้นกว่าเดิม
"ผมช่วยดูไหม ผมพอรู้เรื่องรถอยู่บ้าง"
โชคดีไม่ตอบ ลดมือลงจากฝากระโปรงรถที่เปิดอ้าอยู่ แล้วถอยหลังไปสองก้าวเปิดทางให้ช่างจำเป็น ใบหน้านิ่งเรียบมองมือของชยุตม์ที่วางบนขอบห้องเครื่อง
"คุณดูเป็นหรือ"
"ผมเป็นวิศวกรนะครับ" ชยุตม์พูดเบาๆ ก้มลงมองเครื่องยนต์
"อ้อ เป็นวิศวกร ซ่อมรถได้ด้วย" โชคดีทวน "นึกว่าทำลายธรรมชาติเป็นอย่างเดียว"
ชยุตม์ชะงัก อยากจะเดินหนีไปจากตรงนั้นโดยไม่พูดไม่จา ทิ้งให้โชคดีทำหน้าดุอยู่คนเดียว อยู่ดีๆ ก็โดนถากถาง ทั้งๆ ที่จะช่วยซ่อมรถให้
"คุณหมายความว่ายังไง" ชยุตม์เงยหน้าขึ้น
"เปล่า" โชคดีตอบสั้นๆ อีกแล้ว
"รีสอร์ทที่สร้างนั่นน่ะ เรานึกอยู่เสมอว่าจะให้มีผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด แต่จะให้รับประกันว่าไม่ต้องตัดต้นไม้เลยซักต้นก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่รีสอร์ทก็ต้องการความร่มรื่นเหมือนกัน เขาจึงพยายายามเก็บต้นไม้ไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ ตอนสร้างเสร็จแล้ว จะปลูกต้นไม้เพิ่มด้วยซ้ำ เผลอๆ จะร่มรื่นมากกว่าเดิม" ชยุตม์อธิบายยืดยาวด้วยเสียงเรียบ หากโชคดีทำท่าทางไม่สนใจฟัง
"ตกลงคุณซ่อมได้ไหม หรือจะเหมือนคราวที่แล้ว"
"ขอผมดูก่อนว่ารถเป็นอะไร" ชยุตม์พูดเสียงเบา คุณมีไฟฉายหรือเปล่าครับ พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว เดี๋ยวจะมืด มองไม่เห็น"
"ไม่มี" เสียงเข้มตอบสั้นๆ
ชยุตม์ไม่พูดอะไรอีก ก้มหน้าสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่นาน วิศวกรหนุ่มก็เห็นว่าสายพานเส้นหนึ่งของเครื่องยนต์ขาด
"สงสัยต้องทิ้งรถไว้ที่นี่แล้วละครับ สายพานขาด ผมว่าเรียกช่างดีกว่า" ชยุตม์พูด แล้วได้ยินเสียงของอีกฝ่ายถอนหายใจแรงๆ แล้วเดินไปเปิดประตูรถฝั่งคนขับ หยิบโทรศัพท์ออกมา และทันใดก็ทำเสียงฮึดฮัดบ่งบอกว่าอารมณ์เสีย ปิดประตูรถดังปัง จนชยุตม์สะดุ้ง จากนั้นจึงเดินมาหาชยุตม์บอกว่าขอติดรถเข้าในเมือง
ก่อนจะขึ้นรถ โชคดีไม่วายบ่นเบาๆ ให้ชยุตม์ต้องกัดฟันสะกดอารมณ์ พยายามไม่ต่อปากต่อคำ
"นึกว่าจะซ่อมได้ ทำเป็นเก่ง"

ทั้งสองนั่งนิ่งเงียบมาตลอดทางจนรถเลี้ยวผ่านหน้าโรงเรียนประจำจังหวัด โชคดีจึงพูดขึ้นว่า "นายช่าง ขอบคุณนะที่ช่วย จอดให้ผมลงตรงนี้ล่ะ"
"ผมไปส่งถึงร้านก็ได้" ชยุตม์พูดเสียงเรียบ
"ไม่ต้อง ผมไม่อยากรบกวน" โชคดีปฏิเสธ
"รบกวนที่ไหน มาจนถึงป่านนี้ ใกล้จะถึงบ้านแล้ว"
"ส่งตรงนี้ก็ตรงนี้เถอะ" โชคดีเสียงแข็ง
...เขาไม่อยากให้ใครที่ร้านเห็นว่านั่งรถมากับชยุตม์ กลัวจะเสียภาพพจน์ที่เคยสร้างไว้ว่าไม่กินเส้นกัน...
"จะแวะทำธุระหรือครับ ผมรอก็ได้นะ" ชยุตม์พาซื่อ เสนอความช่วยเหลือเพราะเป็นคนมีน้ำใจ
โชคดีถอนหายใจเบาๆ แล้วบ่นเบาๆ ว่า "พูดไม่รู้เรื่อง"
คนขับรถใจดีที่โดนว่ารู้สึกฉุนกึกขึ้นมาทันใด เหยียบเบรกพรวดเดียวจนได้ยินเสียงล้อครูดกับถนน ชยุตม์ฉุนจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาทำดีกับโชคดีมาก พยายามใจเย็นก็แล้ว โดนโชคดีว่าเสียหายจนชักจะทนไม่ไหว
"อ้าว เชิญตามสบายครับ" ชยุตม์พูดเสียงเย็น ใบหน้าเรียบนิ่ง ตามองตรงไปข้างหน้า รอให้อีกฝ่ายลงจากรถ
โชคดีก้าวลงจากรถ แต่ก็ยังทิ้งท้ายให้คนขับรถผู้ใจดีต้องขมวดคิ้วมองตาม "พูดแค่นี้ทำโกรธ"
ชยุตม์นั่งนิ่งชั่วครู่ ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าจะได้ยินชายหนุ่มหน้าเข้มตำหนิเขาซึ่งๆ หน้า
...เขาไม่เข้าใจว่า ทำไมโชดดีไม่ชอบอะไรเขานักหนา คิดแล้วคิดอีกก็ไม่เห็นว่าเขาทำผิดอะไร โชคดีทำราวกับว่าเป็นศัตรูกับเขามาตั้งแต่ชาติปางก่อน...
วิศวกรหนุ่มหันไปมองผู้ชายตัวสูงที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างถนน มองซ้ายมองขวาประหนึ่งว่ากำลังสนใจสิ่งต่างๆ รอบข้าง แต่ในใจชยุตม์กลับคิดว่าโชคดีกำลังรอให้เขาออกรถไป
...ร้ายนัก อยากไล่เขาไปให้พ้นๆ ก็จะอยู่ขวางหูขวางตาอยู่ตรงนี้ล่ะ...
นานเข้าโชคดีทนไม่ไหว ชยุตม์ไม่ออกรถไปเสียที ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามาเคาะกระจก ชยุตม์ทำทีเป็นไม่ได้ยิน แสร้งก้มลงค้นหาสิ่งของที่อยู่บนพื้นรถ จนต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุบกระจกหนักๆ
วิศวกรหนุ่มเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าเอาเรื่องของคนๆ เดียวในจังหวัดที่ทำท่าจงเกลียดจงชังเขานักกำลังแนบอยู่กับกระจก
"ทำไมคุณยังไม่ไปอีก" ทันทีที่ลดกระจกลง ชยุตม์ก็ได้ยินเสียงห้วนๆ ของคนหน้าบึ้ง
"คุณเป็นตำรวจหรือไง" ชยุตม์จงใจแกล้งโชคดีบ้าง "ผมหาของอยู่ จะไปตอนไหนก็เรื่องของผม"
"งั้นก็เลื่อนรถออกไป อย่างมากีดขวางทางจราจร ผมกำลังรอคนอยู่ เดี๋ยวเขามองไม่เห็น" โชคดีไม่ยอมแพ้
...พาลหาเรื่อง จะรออะไรล่ะ ถ้าไม่รอเอาชนะเขา...
ชยุตม์คิด ชักเริ่มสนุกกับคนไม่มีมีเหตุผล "ทำไมคุณไม่ขยับไปยืนรอตรงโน้น หัวมุมโล่งๆ ใครผ่านไปมาก็เห็นคุณ โชคดี ณ เมืองน่าน"
...ตัวสูงขนาดนั้น หน้าตาก็สะดุดตาคน ใครมองไม่เห็นก็ไม่รู้จะว่ายังไง...
ชยุตม์บ่นในใจ ยอมรับว่ายิ่งมองโชคดีนานๆ ก็ยิ่งหน้าตาดี ตอนแรกที่เขามองชายหนุ่มก็เห็นว่าหน้าตาดีธรรมดา แต่ครั้นพิจารณา โชคดีมีใบหน้าที่คมเข้มมาก คิ้วรับกับสันจมูก ตาสองข้างคมกริบ ปากอิ่มเต็มได้รูป โครงหน้าสมบูรณ์แบบราวกับแกะสลัก มองได้ไม่เบื่อ ยิ่งนัยน์ตาวิบวับเอาเรื่องคู่นั้นยิ่งชวนมอง ไม่เหมือนใครที่เขาเคยพบเห็น
ก่อนที่มวยคู่เอกจะเริ่มชก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชยุตม์ยกโทรศัพท์ขึ้นกำลังจะกดรับสาย เสียงของโชคดีก็ดังแทรก
"อ้าว มีโทรศัพท์ เมื่อกี้ก็ไม่บอก จะได้ยืมโทรเรียกช่าง"
"คุณไม่ได้ถาม จำได้ไหมครับ ต้องถามให้ตรงคำตอบ" ชยุตม์ยั่วโมโหแล้วทักทายคนที่อยู่ในสายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงสดใสเป็นพิเศษ จงใจให้โชคดีได้ยินและรู้ว่าเขาอยากจะพูดเพราะกับคนที่พูดดีกับเขาเท่านั้น
จักริณทร์โทรมาบอกว่าถึงจังหวัดน่านแล้ว รออยู่ที่สนามบิน ชยุตม์พูดเสียงอ่อนหวานว่าอีกไม่เกินห้านาทีก็ถึง แล้วลงท้ายด้วยการรับคำด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า "ครับผม ครับ ครับ รอผมหน่อยนะ"
โชคดีเบ้ปาก เมื่อเห็นชยุตม์ปรายตามามองแล้วกดกระจกเลื่อนขึ้น ทำราวกับว่าเขากำลังยืนแอบฟังการสนทนา
...รอผมหน่อยนะ พูดได้ออดอ้อนน่าหมั่นใส้นัก...
ชายหนุ่มร่างสูงยืนจ้องคนที่ยังคงคุยโทรศัพท์ต่อท่าทางสดชื่น สายตาของโชคดีแข็งกร้าว เขารู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนยั่วขึ้น แต่ไม่เคยนึกว่าคนท่าทางเรียบนิ่งอย่างชยุตม์จะกวนอารมณ์ได้ถึงขนาดนี้ ที่ประเมินไว้ตอนแรกคงต้องประเมินใหม่ ชยุตม์ไม่ใช่คุณชายเมืองกรุงธรรมดาไร้พิษสง เพราะท่าทางไม่เบาเหมือนกัน
...แบบนี้ต้องเจอของแข็ง เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับโชคดี ณ เมืองน่าน ดีนะไม่เรียกเขาว่าหมูปิ้ง ไม่งั้น ชยุตม์เป็นได้โดนต่อยปากแตก แล้วเสียงออดอ้อนว่า รอผมหน่อยนั่นน่ะ ได้ยินแล้วขวางหูชะมัด แบบนี้ต้องได้รับบทเรียน...
มือไวพอๆ กับความคิด โชคดีขยับตัวสามก้าวไปยืนอยู่ข้างล้อรถด้านหลังซ้ายของกระบะโฟร์วีลด์ของวิศวกรจอมกวน ขณะที่ชยุตม์ยังคงพูดโทรศัพท์ต่อ โชคดีก้มลง ทำสิ่งที่ร้ายกาจเท่าที่เขานึกได้ในตอนนั้น
...ปล่อยลมยางรถของชยุตม์!

**** end of chapter 4 ****
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-04-2009 11:53:49
อ่านๆไปชักรู้สึกว่าโชคดีแสบไม่น้อยไปกว่าแทน แต่พระเอกของเราซิจะตามทันไม๊เนี่ย

ปล.คนเจ้าชู้น่ารักดีค่ะเลยชอบ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ï_Kiss_U♥ ที่ 08-04-2009 11:57:56
+ 1 ให้พี่นายสุดสวย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 08-04-2009 12:26:59
ตามอ่านทันแล้ว  รู้สึกว่าโชคดีกะชยุตม์  เป็นคู่กัด กันดีแท้

แต่เจอปล่อยลมยางเขาไปนี่  เหอ ๆ ไม่อยากคิดว่าชยุตม์จะจักการยังไงกับโชคดี

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 08-04-2009 13:01:22
เย้ๆ เชียร์ชยุตม์ตอกกลับโชคดีไปบ้างเหอะ
หน้าตาดีแต่ปาก....เหลือเกิน ตัวเองคิดยังรู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น
กับคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าด้วย โดยไม่คิดถึงค.รู้สึกของคนอื่น
ถึงจะเป็นคนที่พึ่งเจอหน้ากันไม่ครบเดือนก็เหอะ ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้มี
อิทธิพล ณ เมืองน่านเลยนะเนี่ย เหอะๆ

รถเสียบ่อยจังคุณโชค อ่อยอะไรใครแถวนี้ป่าวเนี่ย แล้วไอ้เรื่องสร้างภาพ
ว่าเขม่นไม่ถูกกันเนี่ย คงไม่ต้องสร้างหรอกมั้งก็ในเมื่อตัวเองประกาศออกนอกหน้า
แบบนั้นแล้ว เหอะๆต่อไปขอให้นายช่างใหญ่ไปฝึกลับคารมมายั่ว พ่อหมูปิ้งของคุณนาย
เตือนใจให้ปรอทแตกไปเลย

ส่วนเรื่องปล่อยยาง ทำอะไรไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่สักนิด ขอให้แค่คิดเฉยนะโชคดี
ถ้าทำจะเรียกหมูปิ้งตลอดเรื่องเลย เหอะๆ
ขอบคุณคะคุณคฑาวุธ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 08-04-2009 14:58:36
อืิมมม มีความรู้สึกว่าคนไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เลยนะเี่นี่ย มันเงียบๆ เหงาๆ พิกล สงสัยชอบเรื่องที่มีพระเอกเจ้าชู้ เจ้าเล่ห์ และกะล่อน มีการตามจีบหยอกเย้ากันใช่ป่ะ แน่ๆ เลย
สงสัย ทำไมชอบคนเจ้าชู้กันนัก

^
^
^
 ผมคนหนึ่งละครับที่เกลียดคนเจ้าชู้ :o211:

 :กอด1:ชอบเรื่องนี้จังครับ อ่านแล้วไม่ปวดตับชอบๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 08-04-2009 16:11:19
โชคดีแซ่บมากกกกกกกกกกก :กอด1:


ต่างลุ่มหลงกันโดยมิรู้ตัว :laugh:


ชยุตม์เรียกหมูปิ้งหน่อยสิ .... อยากเห็นหมูปิ้งต่อยชยุตม์น่ะ :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 09-04-2009 00:11:41
แหม  คู่นี้เค้าสมน้ำสมเนื้อกันดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-04-2009 08:15:40
อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณทุกท่านที่กดคะแนนให้นะครับ และขอบคุณที่ลงคอมเมนท์ไว้นะ
คืนอื่นๆ หายไปไหนหมดน๊อ หรือว่าไม่เอ็นดูคฑาวุธอีกแล้ว  :m15:  :เฮ้อ:

บทที่ 5

จักริณทร์ยังอยู่ในชุดเครื่องแบบนักบินเมื่อชยุตม์จอดรถหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินเล็กๆ ของจังหวัดน่าน คนในสนามบินที่เดินผ่านไปมาต่างก็หันมองชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนตรงนิ่ง มือจับกระเป๋าล้อเลื่อนสีดำ ส่วนอีกข้างถือหมวกนักบิน สาวๆ บางคนที่เดินผ่านส่งยิ้มให้ จักริณทร์ยิ้มตอบ แล้วหันไปมองคนที่กำลังเดินมาหาเขา
นักบินหนุ่มเห็นว่าเกือบหนึ่งเดือนที่ไม่ได้เจอกัน ชยุตม์ดูคล้ำลง ผมยาวขึ้น และเมื่อมองดูใกล้ๆ ก็สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มตัวหนาขึ้นมากกว่าเดิม ความสูง 176 เซ็นติเมตรของชยุตม์เมื่อเทียบกับเขาแล้วถือว่าตัวเล็ก แต่ความกำยำล่ำสันของชยุตม์ทำให้ชายหนุ่มดูเข้มแข็ง บึกบึนกว่าเขาที่สูง 182
"โทษทีนะจักรที่ปล่อยให้รอนาน พอดีผมมีเรื่องนิดหน่อย" ชยุตม์ยิ้มกว้าง เอื้อมมือมาจับที่ลากกระเป๋าของนักบินหนุ่ม
"คิดถึง" จักริณทร์พูดเบาๆ ส่งสายตาหวานเยิ้ม
"เหมือนกัน" ชยุตม์ตอบสั้นๆ แล้วพูดว่า "ไปเถอะ จักรคงหิวแล้ว เดี๋ยวพาไปทานอาหารเหนืออร่อยๆ"
"ทานอาหารพื้นเมืองเลยหรือ ไม่รอให้ปรับตัวหรือนี่ เผ็ดแย่เลย" จักริณทร์ยิ้มกว้าง เดินตามชยุตม์ไปที่รถ
ชยุตม์เดินเร็ว จับกระเป๋าของจักริณทร์ยกขึ้นแล้วเดินตรงลิ่วไปที่รถ จักริณทร์มองตาม เห็นแผ่นหลังกว้าง ต้นขาและบั้นท้ายแน่นภายใต้กางเกงยีนส์ซีด แขนกำยำ ร่างกายที่เคลื่อนไหวเป็นจังหวะของวิศวกรหนุ่มทำให้จักริณทร์แทบจะทนไม่ไหว อยากกระโดดกอดคนที่เขารักเสียให้ได้
ทั้งสองเดินถึงรถกระบะสีดำคันใหญ่ ชยุตม์ยกกระเป๋าของจักริณทร์ขึ้นวางบนเบาะหลังแล้วเดินอ้อมไปยังประตูฝั่งคนขับ จักริณทร์เปิดประตูจะก้าวขึ้นรถ พลันสายตามองไปยังล้อรถข้างหลังที่แบนเกือบจะราบเรียบติดพื้น
"ยุตม์ รถยางแบน" จักริณทร์เรียกแฟนหนุ่ม "ดูสิ เหยียบอะไรมาก็ไม่รู้"
ชยุตม์ชะงัก รีบเดินย้อมกลับมา ยืนมองอยู่ชั่วครู่ก็สบถออกมา
"บ้าจริง มิน่าผมรู้สึกรถมันโคลงๆ" วิศวกรหนุ่มยกมือขึ้นเท้าสะเอว เงยหน้าขึ้นมองออกไปยังถนนเบื้องหน้า เอียงคอทำท่าทางเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
"โชคดี"
จักริณทร์ขมวดคิ้ว "โชคดีอะไรกัน ยางแบนแบบนี้ยังจะโชคดีอีกหรือ โชคร้ายสิไม่ว่า"
"ใช่ โชคร้าย" ชยุตม์พยักหน้า แล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์เปลี่ยนยางรถ พึมพำกับตัวเองเบาๆ ว่า "โชคร้ายที่เจอโชคดี"
ชยุตม์คิดต่อในใจว่า...เจอโชคดีทีไรเขาโชคร้ายทุกที แต่คราวนี้อย่าให้เจออีกนะ เจอคราวนี้ละน่าดู..
เปลี่ยนยางเสร็จ คิดแล้วอยากจะขับรถไปที่ร้านโชคดีค้าเหล็ก แล้วโวยวายเอาเรื่องอันธพาลข้างถนนคนนั้นนัก
...แต่โชคดีจะจนมุมหรือ คนแบบนั้นคงไม่ยอมรับหากไม่มีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา...
...เล่นกับโชคดีต้องวางแผนอย่างแยบคาย คอยดูเถอะ ต้องมีวันของชยุตม์บ้างละน่า...
"ให้ผมช่วยอะไรไหมยุตม์" จักริณทร์ย่อตัวลงข้างๆ ถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงห่วงใย "ดูยุตม์ท่าทางอารมณ์เสียมากเลย ยางแบนแค่นี้เอง ก็แค่อุบัติเหตุ"
...อุบัติเหตุจากน้ำมือของโชคดีไงล่ะ จะมีใครถ้าไม่ใช่คนๆ นั้น...
"เปล่า ผมเพียงแค่เสียอารมณ์ นึกว่าจะได้รีบพาจักรไปทานข้าว ต้องมาเปลี่ยนยาง" ยุตม์ปฏิเสธ ใบหน้ายังเรียบตึง
"ก็ขับรถไม่ระวัง นี่คงไปลุยที่ไหนมา" นักบินหนุ่มแกล้งตำหนิหน้ายิ้มๆ
...ไปลุยป่าลุยโคลนยังดีกว่าเยอะ ไม่นึกว่าโชคดีจะเล่นแรงขนาดนี้...
ชยุตม์ตอบจักริณทร์ในใจ แล้วพูดกับชายหนุ่มว่า "ทนหิวอีกนิดนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว"
"ครับ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก แค่ท้องกิ่ว" จักริณทร์หัวเราะเบาๆ
ชยุตม์โยนล้อรถที่ถูกปล่อยลมจนแบนลงบนพื้นถนนแรงๆ พลางจินตนาการภาพใบหน้าของพ่อตัวร้ายเจ้าของร้านขายเหล็กที่กำลังยิ้มเยาะ ภาพของคนๆ นั้นที่เขามองเห็นอยู่บนยางรถโฟร์วีลด์ของเขา
...เปลี่ยนยางยังตามมาหลอกหลอน นี่จะต้องเจอฤทธ์เดชของโชคดีอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้...
ชยุตม์อดนึกถึงคนร้ายกาจคนนั้นไม่ได้

คนที่มีฤทธิ์เดชมากมายตอนนี้กำลังเดินเอ้อละเหยลอยชายอยู่ท่ามกลางรถเข็นขายอาหารที่ตลาดโต้รุ่งกลางเมือง โชคดีกำลังตัดสินใจวาจะรับประทานอะไรดีเป็นอาหารเย็น วันนี้เขานึกอยากจะทานอาหารนอกบ้านขึ้นมาทันใด
เมื่อเดินกลับไปที่บ้านแล้วเห็นรถของอาตี๋ซ่งจอดอยู่หน้าบ้านเขาก็รีบหลบฉาก หันหลังหลัง เปลี่ยนจุดหมายทันที เขาเดินไปเรื่อยๆ แวะคุยกับเพื่อนที่ทำธุรกิจค้าอุปกรณ์การเกษตร แล้วบังเอิญพบกับปลัดจินตวีร์ ปลัดจังหวัดคนเก่งที่เขานับถือจึงคุยกันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินมาถึงตลาดโต้รุ่ง
แต่จังหวัดน่านเล็กนิดเดียว โชคดีหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น ซ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าร้านราดหน้ารสเด็ด จะหันหลังกลับเดินหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว ตี๋หนุ่มเห็นเขาจึงร้องทักเสียงดัง
"โชคดีๆ มานั่งด้วยกันสิ จะไปไหนเล่า" ซ่งรีบลุกขึ้น ทำท่าจะวิ่งมาหาเขา เพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่กับอาตี๋ลูกชายร้านทองหันขวับมาหาเขาแล้วช่วยกันส่งเสียงเรียก
ชายหนุ่มเจ้าของร้านค้าเหล็กต้องจำใจเดินเข้าไปหา นึกในใจว่าหากไม่มีพิมลวรรณกับวิษณุนั่งอยู่กับซ่ง เขาก็จะโกยอ้าวหนีไปโดยเร็ว
"เส้นใหญ่ผักเยอะๆ นะ เราสั่งให้" ซ่งเสียงใส หันไปสั่งแม่ค้าโดยไม่รอให้โชคดีปฏิเสธ
"ว่าไงอาเสี่ย กิจการกำลังไปโลดนี่" วิษณุเอื้อมมือมาตบไหล่โชคดี
ชายหนุ่มยิ้มแล้วตอบว่า "อย่ามาแข่งกันขายก็แล้วกัน นายรวยแล้ว ให้คนอื่นได้รวยบ้าง"
"จะพยายาม" วิษณุหัวเราะ "แต่โครงการรีสอร์ทที่กำลังสร้างอยู่เราขอนะ เราขายวัสดุก่อสร้างให้เขาทุกอย่าง แต่เรื่องเหล็กจะไม่ยุ่ง ให้เขาไปซื้อกับนาย"
"ขายไปเลย โครงการนั้นเราไม่สน" โชคดียักไหล่
"อ้าว" พิมลวรรณเจ้าของร้านขนมเค้กอุทานด้วยความแปลกใจ ร้อยวันพันปี เธอไม่เคยเห็นโชคดียอมใครง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิษณุ
"ทำไมล่ะโชคดี จะปล่อยให้วิษณะคว้าพุงปลามันๆ ไปกินคนเดียวได้ยังไง"
"แน่ใจหรือว่าจะได้กินพุงปลา" โชคดียิ้ม ในสมองเกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาทันใด
"ทำไมล่ะ ก็นายไม่เข้ามาแข่ง ใครที่ไหนจะกล้า" วิษณุถาม ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างของครอบครัวเขาเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุด โครงการก่อสร้างในจังหวัดน่านซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างจากร้านเขาแทบทั้งสิ้น คู่แข่งที่พอสมน้ำสมเนื้อกันก็คือร้านค้าเหล็กของโชคดี วิษณุเคยบอกตัวเองว่าโชคดีที่เพื่อนของเขาขายเฉพาะเหล็ก หากโชคดีกระโดดเข้าร่วมแข่งขันขายวัศดุอุปกรณ์ก่อสร้างทุกประเภทเหมือนร้านของเขาก็คงต้องห้ำหั่นกันน่าดู
"โครงการอาจล่มได้ ใครจะรู้ เล่นสร้างกันริมน้ำน่าน ผันน้ำเข้าโครงการตัวเอง ทำลายธรรมชาติ แบบนี้มันน่าจะ..."โชคดีพูดเสียงแข็ง
"เฮ่ยๆ อย่านะโชคดี เสียหายหลายล้านนะโว้ย" วิษณะเบิกตากว้าง รีบทักท้วง
"เอาเลยโชคดี เราช่วย" พิไลวรรณสนับสนุน
วิษณุท่าทางจะเสียประโยชน์รีบหันหน้ามาหาเพื่อน "บ้าหรือวรรณ ไปยุเขาทำไม เกิดพ่อคุณเอาจริงขึ้นมา ณุก็แย่สิจ๊ะ"
"แหวะ เลิกตัวเองว่าณุซะที จะอ๊วก" พิมลวรรณทำท่ารังเกียจ วิษณุชอบจีบเธอทีเล่นที่จริงมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายแล้วแต่ไม่มีวี่แววจะไปถึงไหน
...ผู้ชายเจ้าชู้ เธอรับไม่ได้หรอก ถ้าวิษณุเป็นได้อย่างโชคดีสักครึ่งเดียว เธอจะลองพิจารณาดูบ้าง"
"คุยอะไรกัน" ซ่งที่ถูกตัดออกนอกวงสนทนามองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที ก่อนจะถามหน้าตาเหรอหรา
"เงียบเถอะซ่ง ไม่รู้อะไรก็ดีแล้ว" โชคดีเสียงห้วน
"จงไม่รู้ต่อไป" พิมลวรรณเสริม ยืนคำพูดของโชคดีมาว่าชายหนุ่มหน้าตี๋ที่วันๆ เอาแต่สนุกสนานร่าเริง
"ว่าเราอีกแล้ว ว่าเหมือนโชคดีเปี๊ยบเลย" ซ่งทำหน้าน้อยใจ ส่งสายตาตัดพ้อมายังคนหน้าเข้มที่ชอบดุเขาด้วยประโยคที่พิมลวรรณยืมมาพูด สมัยเรียนมัธยมปลาย เวลาเขาถามจู้จี้จุกจิกกวนใจมักโดนโชคดีของตะคอกอยู่บ่อยๆ ครั้นชายหนุ่มอธิบายยืดยาวแล้วเขายังทำหน้างงๆ ก็จะโดนโชคดียกนิ้วขึ้นชี้หน้าผากแล้วพูดว่า "จงไม่รู้ต่อไป แล้วอย่าถามอีกนะ รำคาญ"
"ขอร้องเถอะ โชคดี อย่าประท้วงเลย เราอยากขายของ" วิษณุขอร้อง
"ใครบอกเราจะประท้วง" โชคดียักไหล่" คราวนี้ควรเป็นคนอื่นบ้าง"
"ใครก็คนอื่นก็นายนั่นล่ะหนุนหลัง อย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย" วิษณุเบ้ปาก
"ราดหน้ามาแล้วจ๊ะโชคดี" ซ่งส่งเสียง ยื่นมือไปรับจากราดหน้าจากเด็กเสิร์ฟ แล้ววางลงตรงหน้าชายหนุ่ม พร้อมยกเครื่องปรุงวางให้ใกล้ๆ
"ซ่ง" โชคดีปรามด้วยสายตาเขียวปั๊ด
"ทำไมล่ะ" ซ่งทำหน้ามุ่ย "เราผิดตรงไหน"
"น่า โชคดี อย่าดุมันนักเลย" พิมลวรรณแตะมือเพื่อน เธอรู้ว่าซ่งนั้นหลงไหลคลั่งไคล้โชคดียิ่งนัก ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไม
จะว่าไป ซ่งก็หน้าตาดี ร่ำรวย เรียนจบจากเมืองกรุง นิสัยดี ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ทำไมโชคดีไม่เคยหันมามองเพื่อนของเธอคนนี้เลย ในขณะเดียวกัน ซ่งก็ไม่เคยถอย รู้ทั้งรู้ว่าโชคดีไม่ชอบตัว ทั้งดุทั้งว่า ซ่งก็ยังยอมโชคดีสารพัด
...แปลกจิงมนุษย์...
พิมลวรรณถอนหายใจเบาๆ หันหน้าไปมองรอบๆ พลันสายตาสะดุดกับชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามา
ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบเหมือนนักบิน กับอีกคนสวมเสื้อยืดสีเขียวเข้ม กางเกงยีนส์สีซีด รูปร่างบึกบึน หน้าตาดีทั้งสองคน ลักษณะท่าทางไม่ใช่คนจังหวัดนี้
"หล่อจัง" พิมลวรรณเผลอพึมพำ "หล่อเท่ห์ไม่จำกัด"

ชยุตม์ชะงักชั่วอึดใจเมื่อหันไปมองรอบๆ แล้วมองเห็น "คู่กรณี" กำลังนั่งทานอาหารอยู่ วิศวกรหนุ่มจึงเดินนำจักริณทร์เข้ามาหา โชคดีหันไปมองแวบเดียวก็ก้มหน้าลงรับประทานราดหน้า ไม่สนใจผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง
วิศวกรหนุ่มผู้โดนแกล้ง ยิ้มให้พิมลวรรณ์กับวิษณุที่ยิ้มกว้างท่าทางเป็นมิตร ทรงศักดิ์ก้มศรีษะทักทายแต่ใบหน้าเรียบนิ่ง
"สวัสดีครับคุณโชคดี" ชยุตม์ทักทาย
โชคดียังไม่ตอบกลับทันที มือที่ถือช้อนอยู่ตักราดหน้าเข้าปาก แล้วหันมาพยักหน้าให้ชยุตม์พลางเคี้ยวอาหารช้าๆ
พิมลวรรณยกศอกกระแทกเพื่อนเบาๆ เป็นทำนองว่าให้แนะนำให้รู้จักชายหนุ่มทั้งสองคน โชดดีทำท่าไม่สนใจ วิษณุเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดจึงรีบพูดขึ้นว่า "มาเที่ยวหรือครับ นั่งทานด้วยกันไหมครับ เชิญๆ"
"คุณเค้าคงไม่ค่อยชอบทานราดหน้า" ซ่งพูดแทรกขึ้นมา จับตามองชยุตม์นิ่ง เขาเห็นประกายตาบางอย่างที่เขาเท่านั้นมองออก ส่วนวิษณุกับพิมลวรรณไม่มีเรดาร์พิเศษเช่นเขา
"โชคดี" พิมลวรรณเรียกเพื่อนเสียงเบา มือดึงแขนเสื้อของชายหนุ่ม
"วิษณุ พิมลวรรณ นี่คุณเอ่อ..." โชคดีทำท่านึกชื่อของชยุตม์ "คุณชยุตม์ คุมงานก่อสร้างรีสอร์ทหรูที่อาจจะสร้างที่เวียงดาว"
"ดิฉันพิมลวรรณค่ะ"
"ผมวิษณุครับ ขายวัสดุก่อสร้าง"
ซ่งนั่งเงียบ เพียงแต่ยิ้มมุมปากให้บางๆ จนพิมลวรรณหันมามองแล้วแนะนำตัวแทนเพื่อน
มุมปากชยุตย์กระตุก โชคดีแกล้งทำเป็นนึกชื่อเขาไม่ออก แล้วยังกระทบกระเทียบว่าเขาเป็นคนคุมงานก่อสร้างรีสอร์ท แถมยังใช้คำว่า "อาจจะ" ได้รับการก่อสร้าง
...โชคดีหมายความว่าอย่างไร...อาจจะ...ชายหนุ่มหน้าดุคนนี้มีแผนจะทำอะไร?...
"วิษณุ ถ้าอยากขายอิฐขายปูนก็ติดต่อคุณ..."
"ชยุตม์" วิศวกรคนเก่งที่กลายมาเป็นคนคุมงานก่อสร้างรีบพูดแทรกบอกชื่อตัวเอง
"คุณชยุตม์นั่งด้วยกันสิครับ" วิษณุขยับเก้าอี้ ไม่ได้มองชยุตม์เป็นเพียงโฟร์แมน หากเป็นวิศวกรของโครงการเพราะมาดให้ เขารู้นิสัยโชคดีว่าหากไม่ชอบหน้าใครมักจะ 'ข่มและเหยียบ' แบบไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด
"เอ่อคงต้องขอตัวครับ ขอบคุณครับ พอดีเพื่อนผมมาจากกรุงเทพฯ เลยอยากทานอาหารพื้นเมือง" ชยุตม์ยิ้มเป็นมิตร "เอาไว้คราวหน้าคงได้มีโอกาส"
"ว่างๆ เชิญที่ร้านวรรณนะคะ วรรณขายเค้กที่หน้าไปรษณีย์ ร้านสีขาวเห็นเด่นชัดค่ะ ผ่านไปทางหอนาฬิการับรองว่าไม่พลาด" พิมลวรรณยิ้มหวาน ทอดสะพานให้ชยุตม์เต็มที่
วิษณุไม่ยอมน้อยหน้า รีบเสนอตัวทันที "ร้านผมก็อยู่ไม่ไกลกันครับ จากหอนาฬิกา ตรงไปสุดสุดถนนก็ถึง ก่อนเลี้ยวขวาไปตลาดเช้า คุณชยุตม์ขาดเหลืออะไรก็เชิญนะครับ"
ชยุตม์รับคำ แล้วขอตัวพาเพื่อนไปทานอาหาร แต่ก่อนเดินจากไปชายหนุ่มหันมาพูดกับคนที่นั่งทานอาหารไม่สนใจใคร
"ขอบคุณคุณโชคดีมากนะครับที่ช่วยแนะนำร้านเปลี่ยนยางรถ ถ้าไม่ได้คนใจดีแบบคุณโชคดีผมคงแย่" ชยุตม์แสดงท่าทางขอบคุณอย่างจริงใจ ซึ่งมีเพียงเขากับโชคดีเท่านั้นที่เข้าใจ
"ไม่เป็นไรครับ ครั้งต่อไปขับรถก็ระวังอย่าไปชนตอก็แล้วกัน จะหาว่าไม่เตือน" โชดดีตอบ ไม่หันหน้ากลับไปมองชยุตม์ ปล่อยให้วิศวกรหนุ่มพูดกับแผ่นหลังของเขา
"ขอบคุณครับที่เตือน คราวต่อไปถ้าเจอตอ ผมจะเหยียบให้จมดิน ชาวบ้านผ่านไปมาจะได้ไม่เดือดร้อน"
...อ๊ะ...ประกาศสงครามเลยหรือ...โชคดีชะงัก มือที่กำลังตักราดหน้าค้างเติ่ง ซ่งเป็นคนเดียวที่สังเกตเห็น เพราะพิมลวรรณกับวิษณุกำลังหัวเราะชอบใจกับคำพูดของชยุตม์
"โชคดี อย่านะ ใจเย็นๆ" ซ่งเตือน เพราะกลัวว่าโชคดีจะจับจานราดหน้าขว้างไปยังชายหนุ่มหน้าตาดีที่ทำหน้ายิ้มๆ คนนั้น เขารู้ความร้ายกาจของโชคดี เขาเคยโดนมาแล้ว วิษณุก็เคยเช่นกัน

ชยุตม์กับจักรินทร์เดินจากไปแล้ว พิมลวรรณยังมองตามจนลับสายตา วิษณุหันมาพูดกับซ่งและโชคดีที่นั่งทานอาหารอยู่อย่างเอร็ดอร่อย "ท่าทางไม่เห็นเหมือนโฟร์แมน"
"ดูเป็นผู้ดี มีการศึกษา" พิมลวรรณเสริม
"ว่าแต่ว่า ไปรู้จักกันยังไงล่ะหมู...โชคดี" ซ่งลืมตัว พูดเสร็จก็รีบขยับตัวตั้งท่าจะยกมือปกป้องตัวเอง
ชายหนุ่มผู้เกลียดชื่อเล่นตัวเองหันมองตี๋หนุ่มตาขวาง "จะรู้ไปทำไม"
"ดุจัง ถามหน่อยก็ไม่ได้" ซ่งบ่นอุบอิบ
"นั่นสิ ไปรู้จักกันยังไง" พิมลวรรณถามอีกคน "สงสัยจังว่าเขาจะมาอยู่นี่นานแค่ไหน นานพอจะสร้างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนได้หรือเปล่าน๊อ"
"เพื่อนหรือคนรักกันแน่จ๊ะ" วิษณุเย้า "ระวังเน๊อ คนใต้ขี้จุ๊ คนเหนือด้วยกั๋นบ่หันมอง"
"คนเหนือเจ้าชู้ บ่น่าไว้ใจ๋" พิมลวรรณเปลี่ยนสำเนียงการพูด ทำตาค้อนวิษณุประหลับประเหลือก
"ใช่เลี้ยว เราเห็งล่วย" ซ่งผสมโรง ก่อนทั้งสามจะหัวเราะครื้นเครง
"สนุกกันนักนะ ระวังเถอะวรรณ คนกรุงเทพฯ นะร้ายกาจนัก จะหาว่าไม่เตือน"
"ใช่ ใช่ คนบ้านเดียวกันสิน่ารัก" ซ่งสนับสนุน "ไม่เคยคิดจะทำให้ช้ำใจ"
โชคดีวางช้อนแรงๆ เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำยกขึ้นดื่มแล้วพูดว่า "อิ่มแล้ว"
"อ้าว ทำไมรีบอิ่ม เรายังกินไม่หมดเลย" ซ่งอุทาน
"ก็มัวแต่พูด เชื่องช้าอยู่ได้" โชคดีอดว่าตี๋หนุ่มไม่ได้ "คลานเป็นเต่า จะไปทันกินอะไรเค้า"
โชคดีลุกขึ้นยืน ควักเงินออกมาวางบนโต๊ะ แล้วฝากให้พิมลวรรณช่วยจ่าย ไม่สนใจคำทัดทานของเพื่อนทั้งสามที่ชวนให้นั่งต่อ
ซ่งรีบลุกตามแต่ต้องชะงักเพราะโชคดีหันมาสังเสียงเข้มว่า "ซ่ง ไม่ต้องตามมา จะกลับบ้านแล้ว ปวดห้องน้ำ"
ตี๋หนุ่มหน้ามุ่ย จำต้องนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหงอยๆ แต่ไม่วายพูดว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปที่ร้านตอนสายๆ นะ"
"ไปทำไม" โชคดีถามเสียงดุ
"ไปซื้อเหล็ก ที่บ้านจะซ่อมโรงรถ" ซ่งตอบเสียงอ่อย
"โทรไปสั่ง เดี๋ยวให้คนไปส่ง"
"เราจะไปซื้อเอง"
"ตามใจ" โชคดีตัดบทสนทนา ยกมือขึ้นอำลาวิษณุกับพิมลวรรณ์แล้วเดินลิ่วย้อนกลับไปทางเดิมที่เดินมา ผ่านรถเข็นขายอาหารนานาชนิด เมื่อใกล้จะพ้นรถเข็นคันสุดท้าย ชายหนุ่มหันไปมองด้านซ้ายมือที่เป็นร้านขายอาหารพื้นเมือง เขาเห็นชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ ทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนม...สนิทจนดูราวไม่ใช่เพื่อนกัน...
...สนิทเหมือนไม่ใช่เพื่อน...ถ้างั้นก็เป็น...?
...ฮึ...แฟน...มาทำงานต่างจังหวัดไม่ทันไร แฟนก็ตามมาเยี่ยมแล้วหรือ ห่างกันไม่ได้เลยนะ นึกแล้วหมั่นใส้ ขวางหูขวางตาที่สุด...
...ยางแบนอีกรอบดีไหมนี่ เอาทีเดียวสี่ล้อพร้อมกันเลย ดูซิ หน้านิ่งๆ ของชยุตม์จะกลายเป็นสีอะไร คงโกรธจนควันออกหู...
โชคดีคิดเล่นๆ เผลออมยิ้มกับความคิดแผลงๆ ของตัวเองไม่ได้ หากก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น ถึงอย่างไรเขาก็ไม่โหดร้ายกับชยุตม์ถึงขนาดนั้น
...แต่หากจะเหยียบ 'ตอ' ให้จมดินอย่างที่พูดเมื่อสักครู่จริงๆ ละก็ สงสัยต้องเจอกันซักหน่อยแล้ว คนอย่างโชคดีไม่เคยถอย...

ชายหนุ่มเดินผ่านรถกระบะของวิศวกรหนุ่มที่จอดอยู่ไม่ไกล แล้วโบกมือเรียกจักรยานยนต์รับจ้างที่รีบตรงรี่เข้ามาหา
"ลุงทองคำ" ชายหนุ่มอุทานเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนขับ
"คุณโชคดีไปไหนครับ" ชายแก่ถามอย่างนอบน้อม
โชคดีตอบว่ากลับบ้าน และถามสารทุกข์สุขดิบลุงทองคำและครอบครัว ก่อนจะบอกให้ออกรถได้
อากาศค่อนข้างเย็น ลมที่พัดปะทะใบหน้าของชายหนุ่มทำให้เขารู้สึกชา แต่เขาชอบ เขาชอบให้ลมปะทะหน้าแรงๆ ชอบขับรถเปิดกระจกให้ลมตีเข้ามา ได้ยินเสื้ออื้ออึงอยู่ในหู ทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ในโลกของตัวเอง ไม่ได้ยินสรรพสำเนียงอื่นใด
โชคดีมองสองข้างทางที่ประดับตกแต่งด้วยไประยิบระยับ อีกไม่กี่เดือนก็ปีใหม่แล้ว งานฉลองกำลังจะเริ่มขึ้น ปีนี้ก็เหมือนทุกปี เขาฉลองกับแม่และคนงานที่ร้าน ไร้เงาพ่อเช่นเคย...
พ่อที่เห็นหน้านับครั้งได้...
ตั้งแต่แม่หอบหิ้วเขาออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเมธานนท์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขากับแม่ก็ไม่เคยกลับไปที่นั่นอีกเลย พ่อก็ไม่เคยตามมาเยี่ยม ไม่เคยได้ข่าวคราว ไม่เคยติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว
ตัดกันแล้วก็ตัดกันสิ้น ไม่เหลือเยื่อใย ชีวิตเขากับแม่สองคนรวมกันเป็นสี่มือสี่เท้าที่ช่วยกันสู้ชีวิต แม่บอกเขาอย่างนั้น และเขาก็บอกตัวเองเช่นนั้นด้วย...

ชยุตม์วางโทรศัพท์ หันมาสนใจกับแบบแปลนที่วางอยู่บนโต๊ะ เมื่อครู่จักรินทร์โทรศัพท์มาบอกเขาว่าจะขับรถไปเที่ยวน้ำตก และจะรีบกลับมาให้ทันเขาเลิกงาน เย็นนี้จักรินทร์อยากให้เขาพาไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่อร่อยที่สุดของจังหวัด
ขณะที่กำลังมีสมาธิในการทำงาน ประตูห้องทำงานของเขาซึ่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์ก็เปิดออก เจษฎา สถาปนิกคนหนึ่งของโครงการรีสอร์ทหน้าตื่น เรียกเขาเสียงดัง
"คุณชยุตม์ครับ เกิดเรื่องแล้ว ที่ริมน้ำ ไปดูเร็วเถอะครับ" ชายหนุ่มรุ่นน้องพูดเสร็จแล้วก็รีบหันหลังกลับแล้ววิ่งจากไป
ชยุตม์รีบลุกขึ้น คว้าโทรศัพท์แล้วรีบตามหลังเจษฎาไปติดๆ พอใกล้ถึงริมแม่น้ำน่าน ช่วงต่อระหว่างคลองในโครงการกับประตูน้ำที่กำลังก่อสร้าง เขาได้ยินเสียงเครื่องขยายเสียงดังลั่น เสียงผู้หญิงห้าวๆ คนหนึ่งตะโกนขับไล่รีสอร์ทของคุณอาเขา พร้อมปลุกระดมให้ชาวบ้านที่มาชุมนุมช่วยกันขัดขวางการก่อสร้างทำนองว่ารีสอร์ททดน้ำจากแม่น้ำเข้าไปในโครงการและทำลายธรรมชาติ ทำให้ระบบนิเวศน์และวิถีชีวิตของคนเมืองน่านเปลี่ยนแปลงไป
"จะสร้างไปเพื่อใคร เพื่อคนรวยเพียงหยิบมือเดียวที่มานอนตากอากาศไม่กี่คืน แต่สิ่งที่เราต้องเสียไปไม่คุ้มกันเลย ที่สำคัญ ขโมยน้ำจากแม่น้ำของเราเข้าไปปรนเปรอความสุขสบายของคนพวกนี้ เรายอมไม่ได้" สิ้นเสียงหญิงสาววัยประมาณยี่สิบปลายๆ เสียงชาวบ้านทั้งชายหญิงหลากวัยก็สนับสนุนดังรับกันเป็นทอดๆ
"เอาน้ำเราคืนมา เอาป่าเราคืนมา เอาธรรมชาติเราคืนมา" เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้น
"ใช่ ใช่" เสียงคนอีกกลุ่มหนึ่งดังตามมา พร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์สิบกว่าคนกรูกันเข้าไปยังประตูน้ำของโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่
เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทพยายามห้ามปรามผ่านโทรโข่งที่มีอยู่เพียงอันเดียวแต่ก็ไม่เป็นผล คนงานก่อสร้างของรีสอร์ทวิ่งเข้ามาขวาง มีการผลักกันไปผลักกันมากันชุลมุน แต่ยังไม่มีมีการทำร้ายกัน เจษฎากับชยุตม์ยืนมองอยู่ยังไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เสียงร้องห้ามดังลั่น พยายามต่อรองไม่ให้ทำลายทรัพย์สิน อีกฝ่ายตะโกนขับไล่ไม่ยอมหยุด ศักดิ์ชัย ผู้บริหารโครงการคนหนึ่งตะโกนขอให้กลุ่มชาวบ้านฟังคำอธิบายและรอผู้ใหญ่
"เราไม่รอ เราไม่คุย ออกไป ออกไป ออกไป" หญิงสาวแกนนำการต่อต้านกระตุ้นชาวบ้านด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
"หยุดสร้าง หยุดสร้าง หยุดสร้าง" กลุ่มหนุ่มสาวที่แต่งเครื่องแบบนักศึกษาตะโกนเร่งเร้า
ชยุตม์เห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังชุลมุน ตั้งใจว่าจะช่วยพูดอีกแรง แม้เขาเป็นวิศวกรไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงแต่สถานการณ์เช่นนี้จะให้ยืนดูเฉยๆ ก็กระไรอยู่
...แต่เดี๋ยวก่อน นั่นโชคดีนี่นา...
ชยุตม์ชะงัก มองไปอีกฟากของแม่น้ำเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนกอดอกอยู่ใต้ร่มไม้ เท่านั้นเองเขาก็รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ชยุตม์ถึงตัวศักดิ์ชัย ผู้บริหารโครงการหันมามองหัวหน้าวิศวกรหนุ่มแล้วรีบหันไปอีกด้านเมื่อผู้ช่วยอีกคนของเขาวิ่งกระหืดกระหอบมาถึง ยื่นไมโครโฟนในมือให้
ชยุตม์พยักหน้า ยื่นมือไปหาศักดิ์ชัยขอให้หนุ่มใหญ่ส่งไมโครโฟนให้เขา ศักด์ชัยรีบส่งสิ่งที่อยู่ในมือให้หลานชายของเจ้าของรีสอร์ทราวกับว่าเป็นเผือกร้อนๆ ที่เขาไม่อยากถือเอาไว้อีกแล้ว
วิศวกรหนุ่มที่ต้องกลายมาเป็นนักเจรจาสูดลมหายใจลึกๆ ตาเพ่งมองตรงไปข้างหน้าดังจะมองผู้คนที่กำลังวุ่นวานกันอยู่ตรงหน้า หากสายตาเขามองข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ ไปยังคนที่ยืนกอดอกพิงต้นไม้อยู่ราวกับสบายใจนักหนา มองไปยังชายหนุ่มที่ตั้งท่าจะขวางเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม
...ไม่รู้โกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน โชดดีถึงกัดเขาไม่ยอมปล่อย ชยุตม์อดคิดไม่ได้ว่าที่ชาวบ้านถูกเกณฑ์มาต่อต้านการสร้างรีสอร์ทนี่ก็เพราะว่าโชดดีไม่ชอบหน้าเขา
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 4 (8/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-04-2009 08:16:03
ชยุตม์ใช้มือตบทดสอบเสียงของไมโครโฟนเพื่อให้แน่ใจว่ามีเสียงดังเป็นที่พอใจ ก่อนที่จะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างเพื่อสะกดทุกคนให้เงีบบฟัง
“พี่น้องครับ ฟังทางนี้ก่อน ผมขอประกาศว่า ใครก็ได้ที่มีหลักฐานชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรที่พิสูจน์ได้ว่าการก่อสร้างรีสอร์ทของเราจะทำให้แม่น้ำน่านได้รับความเสียหายจนผิดไปจากเดิม ผมจะให้เงินรางวัลเป็นเงินสดหนึ่งล้านบาท”
ลูกน้องของศักดิ์ชัยไปหาเครื่องขยายเสียงหูหิ้วที่เสียงดังมีประสิทธิภาพมากมาให้ เสียงห้าวทุ้มของชยุตม์สะกดทุกคนให้นิ่งเงียบ
“เงินสดหนึ่งล้านบาทครับ พยานมีกันเป็นร้อย ผมไม่โกหก หากใครพิสูจน์ได้ว่ารีสอร์ทแห่งนี้สร้างขึ้นแล้วทำให้ธรรมชาติเของแม่น้ำน่านเสียหาย ผมยินดีจ่ายให้หนึ่งล้าน เราพูดกับอย่างผู้ใหญ่ ไม่มีอคติ ที่กำลังเย้วๆ กันอยู่นี่ ถามตัวเองหน่อยเถอะ ท่านมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนหรือเปล่า หากมี ก็ขอให้แสดงออกมา ใครหาหลักฐานที่ถูกหลักวิชาการและเชื่อถือได้ มีการรับรองอย่างถูกต้องอย่างเป็นทางการ ผมให้หนึ่งล้านบาท”
ชยุตม์มองโชคดี เขาเห็นว่าชายหนุ่มยังหยืนอยู่เหมือนเดิม ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากนั้นปรายตามองหญิงสาวที่เป็นแกนนำ เขาสังเกตเห็นว่าสาวห้าวคนนั้นหันไปมองโชคดีเหมือนกับจะขอสัญญาณอะไรบางอย่างเพื่อให้ดำเนินการต่อไป
...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นแกนนำที่แท้จริง ทำตัวเป็นผู้ยืนมองอยู่ห่างๆ แต่ที่จริงแล้ว โชคดีนั่นล่ะคือตัวตั้งตัวตี
ชาวบ้านที่ยืนนิ่งเริ่มหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ข้อเสนอหนึ่งล้านบาทนั้นยวนใจไม่น้อย ชยุตม์เห็นว่าผู้ต่อต้านกำลังลังเลจึงรีบพูดต่อ
“พ่อแม่พี่น้องครับ ผมเป็นวิศวกร ผมขอรับรองด้วยเกียรติของผมว่าจะดูแลการก่อสร้างให้ดีที่สุด ไม่ให้ทำลายธรรมชาติโดยเด็ดขาด จริงอยู่ การก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะสร้างอะไร มันก็ต้องมีการตัดต้นไม้กันบ้าง ทุกท่านสร้างบ้านก็ต้องตัดต้นไม้กันแทบทุกคนไม่ใช่หรือครับ แต่พอลุงๆ ป้าๆ สร้างบ้านเสร็จแล้ว เราก็ปลูกต้นไม้ขึ้นมาให้ความร่มรื่นให้บ้านของเรา ยิ่งทำให้น่าอยู่มากกว่าเดิม ผมก็จะสร้างรีสอร์ทนี้ให้เป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องผันน้ำเข้าโครงการนั้นเราไม่ทำครับ ที่เราทำประตูกั้นน้ำก็เพื่อปรับระดับน้ำให้สมดุลกัน ตั้งใจจะไม่ให้น้ำจากในโครงการของเราไหลออกไปทำความเสียหายให้แม่น้ำข้างนอกด้วยซ้ำไป ผมยินดีที่จะให้ชาวน่านจัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการก่อสร้างร่วมกันกันเราอีกด้วย”
สิ้นเสียงชยุตม์ ฝ่ายเจ้าหน้าที่รีสอร์ทเกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา ศักดิ์ชัยหันซ้ายหันขวา ทำหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตกใจไม่น้อยที่ได้ยินชยุตม์พูด
“ผมขอร้องล่ะครับคุณน้าคุณอาทั้งหลาย ให้เวลาเราบ้าง เรามาคุยกันดีๆ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ก็มาทำลายข้าวของกัน ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย ถ้าทุกท่านมีความกังวลว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะมีผลกระทบที่ไม่ดีต่อแม่น้ำ ก็ขอให้มาคุยกัน เราจะได้ช่วยกันแก้ไข ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจมีบางอย่างที่เราทำไม่ถูกใจพี่น้อง ตอนนี้เรารู้แล้วว่าทุกท่านกังวลเรื่องอะไร เรามาคุยกันก่อนดีกว่าครับ ผมอยากขอร้องให้ทุกท่านอย่าเพิ่งทำอะไรรุนแรง เราเป็นคนไทยด้วยกัน เราควรจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขทั้งสองฝ่าย ผมไม่โกหกหรอกครับ ขอให้เชื่อผม”
ชยุตม์อ้อนวอนเสียงอ่อน ถือโอกาสขณะที่คนกำลังฟังเขาอธิบายเสียยืดยาว ใช้โอกาสขณะที่เขามีเครื่องเสียงอยู่ในมือให้เป็นประโยชน์ เขาเชื่อว่าความจริงใจของเขาซึ่งออกมาจากข้างในจะแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง ยังไงๆ คนก็ต้องเห็นบ้าง
...โชคดีก็ควรจะมองเห็น หากไม่อคติจนเกินไปนัก...

**** end of chapter 5*****
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-04-2009 09:19:39
สุนทรพจน์เยี่ยมจริงๆ ขอไปหาหลักฐานมาก่อนนะคะ อยากได้1ล้าน เดี๋ยวหาเจอจะกลับมาประท้วงต่อ :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 09-04-2009 09:46:14
ชยุตม์ รับมือโชคดี ได้ดีจริง ๆ  อย่างนี้ต้องเอาใจช่วยชยุตม์ ที่โดนโชคดีแกล้งซะแล้ว
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 09-04-2009 10:08:16
ชยุตม์ตอบโต้โชคดีได้เยี่ยม มีหลักการ o13

โชคดีนี่ร้ายจริงๆ

เอาใจช่วยชยุตม์


 :L1:คุณคฑาวุธ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 09-04-2009 12:41:53
 :z1:
สงครามเริ่มเห็นแบบรูปเป็นร่างและ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 09-04-2009 14:10:14
โอ๋ๆๆๆ พี่คฑาวุธอย่างอน :กอด1:


โชคดีจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-04-2009 14:33:31
ชยุตม์.....................หัวไวมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 09-04-2009 19:50:02
เหอะๆๆ เด็กจริงๆเลยหมูปิ้งเนี่ย ปล่อยลมยางรถจริงๆด้วย
สงสารซ่งนะ ตามตื้อตามบริการหมูปิ้งไม่ห่างเลยอ่ะ
แต่หมูปิ้งก็เอาแต่ใจตัวในแบบเถื่อนๆไม่มีผิดเพี้ยน
โดนดุโดนว่าโดน โชคดีขัดตลอดเลย น่าเห็นใจชะมัด

ส่วนเรื่องรีสอร์ทถ้าไม่อยากให้เค้าทำก็หาหลักฐานมานะคุณโชคดี
ทำให้ชยุตม์วีนแตกอีกแล้ว เหอะๆ

ขอบคุณคุณคฑาวุธคะ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 09-04-2009 21:22:18
มอบแต้ม+ที่ 688 เป็นกำลังใจคร้าบ

*****************
ขอบคุณคร้าบบบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 09-04-2009 21:57:19
สุนทรพจน์คุณชยุทธ์เยี่ยมมากๆ



ว่าแต่ ชื่อหมูปิ้งนี่น่ารักเหอะพี่นาย
อ่านแล้วหิวเพราะชื่อ ฮ่าฮ่า


ทำไมยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกชอบคุณโชคดี ร้ายแบบบน่ารัก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 09-04-2009 23:47:31
หมูปิ้งร้ายจังเลยนะคะ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน คั้นไม่ตายเลย แต่ก็น่ารักนา

รอดูการแก้ลำของชยุตม์ค่ะ

+1 ให้เป็นกำลังใจนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 09-04-2009 23:58:55
ชอบค่ะ. :3123:...น่าติดตาม.....

มาเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 5 (9/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-04-2009 12:20:50
บทที่ 6 ครับ
ช่วยดัน ช่วยกดคะแนนให้หน่อยนะครับ  :pig4:  :กอด1:

6

“ไปสมัครผู้แทนได้เลยนะเนี่ย” โชคดีพูดเสียงเบา มือที่กอดออกลดลงมาล้วงกระเป๋า ส่ายหน้าช้าๆ เขายอมรับว่าไม่คาดคิดว่าชยุตม์จะกระโดดออกมาเป็นคนรับมือกับสถานการณ์วุ่นวาย ที่สำคัญ ไม่คิดว่าชยุตม์จะเอาเงินมาล่อชาวบ้าน ซึ่งก็ได้ผลอย่างที่ฝ่ายนั้นคาดหวัง แต่สิ่งที่ตามมาต่อจากนั้นคือการประณีประนอม ชาวบ้านที่เขาเกณฑ์มาดูท่าทางจะคล้อยตามกับชยุตม์
...ใจหนึ่งเขาอยากจะออกไปกระตุ้นชาวบ้านไม่ใช้ฟังที่ชยุตม์พูด ซึ่งหากทำเช่นนั้นจริงก็มีความเป็นไปได้ว่าชาวบ้านจะฟังเขา แต่นั่นก็เท่ากับว่าเขาทำไปเพราะอคติ ลึกๆ แล้วเขาเห็นด้วยกับชยุตม์ที่เสนอทางเลือกให้มีการคุยตกลงกันระหว่างสองฝ่าย
...เอาเถอะ...ยอมถอยซักก้าว ลองดูซิว่าชยุตม์จะทำได้จริงอย่างราคาคุยหรือเปล่า หากเล่นอะไรตุกติก เขานี่ล่ะจะเป็นทัพหน้าพาคนขับรถขุดดินเข้าลุยคูกันน้ำของโครงการ
ชายหนุ่มส่งสัญญาณถอยแก่สุนิศา แกนนำที่เขามอบหมายให้เป็นคนพาชาวบ้านเข้าประท้วง หญิงสาวต่อรองกับชยุตม์อีกราวห้านาที จึงสั่งให้ชาวบ้านถอยกลับออกมา ชยุตม์ขอคุยกับสุนิศาเป็นการส่วนตัว หญิงสาวหันหน้ามามองเขาอีกแล้ว...โชคดีอยากโวยวายใส่รุ่นน้องคนนี้นัก แต่ติดอยู่ตรงที่ขณะนี้สุนิศากำลังยืนอยู่หน้าชยุตม์ และสถานการณ์ไม่อำนวย เขาจึงต้องปล่อยให้หญิงสาวคุยกับชยุตม์โดยหวังว่าสุนิศาคงพอจะจัดการได้
“น้าพงษ์ ไปอยู่กันศานะ คอยช่วย ผมไม่ค่อยไว้ใจนายช่างคนนี้ ท่าทางไม่ใช่ย่อย สงสัยเป็นลูกทูต ต่อรองได้ดีนักเชียว” โชคดีสั่งการพงษ์ ผู้ช่วยคู่ใจที่ทำงานช่วยเขามาตั้งแต่เริ่มธุริกจค้าเหล็ก พงษ์รีบเร่งเดินลุยแม่น้ำที่น้ำไหลเอื่อยสูงเพียงเข่าไปยังสุนิศากับชยุตม์ โชคดีหันหลังกับ เดินตรงไปที่รถ ขับออกไปโดยมีจุดหมายอยู่ที่จวนผู้ว่าราชการ
...คราวนี้เขาจะคุยกับผู้ว่าราชการตรงๆ วันนั้นเขาเห็นท่านผู้ว่ากับลูกชายเข้าไปยังโครงการ เขาอยากจะรู้ว่าท่านรณชัย พ่อของผู้กองปฐพีมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับโครงการนี้ เขานี่ล่ะจะเป็นคนหาหลักฐานให้ชยุตม์เอง ไม่ใช่เพราะต้องการเงินสดหนึ่งล้าน แต่เพราะคงไม่มีใครทำได้ หากไม่ใช่โชคดีคนนี้
...ชยุตม์ฉลาดมาก...เสนอเงินหนึ่งล้าน เพื่อให้ชาวบ้านฟังตัวเอง...หนึ่งล้านกับหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ถูกหลักวิชาการและเชื่อถือได้...ทำได้ง่ายนักตายล่ะ...ชาวบ้านได้ยินแค่เงินสดหนึ่งล้านก็คิดว่าจะได้ง่ายๆ วิธีพูดแบบนี้นักการเมืองเขาพูดกัน กำกวมเข้าไว้ พอถึงเวลา ก็ไม่ต้องเสียอะไรซักอย่าง มีแต่ได้กับได้
...บ้าจริงๆ คิดแล้วอยากจะบีบคอชยุตม์นัก...

“ขอบคุณคุณสุนิศามากนะครับที่ยอมคุยกับผม แต่ว่าผมเป็นวิศวกร ที่จริงอำนาจสิทธิ์ขาดเป็นของเจ้าของโครงการ เพราะฉะนั้นผมจึงอยากให้คุณสุนิศาคุยกับคุณอำพล ไว้ผมจะนัดให้”
“เมื่อไหร่ค่ะ” สุนิศาถามทันที
“ขอผมโทรหาคุณอำพลก่อนนะครับ แล้วผมจะติดต่อกลับ ผมขอเบอร์คุณสุนิศาด้วย” ชยุตม์ต่อรอง
“คุณก็โทรหาเขาตอนนี้เลยสิ คุยกันตอนนี้เลยก็ได้” สุนิศาเริ่มเสียงแข็ง
“ผมเกรงว่าจะไม่สะดวก ผมว่าต่างฝ่ายต่างเตรียมข้อมูลกันก่อนดีไหมครับ หรือว่าตอนนี้คุณสุนิศามีข้อมูลทุกอย่างพร้อมแล้วที่ชี้ชัดว่าโครงการของเราทำลายระบบนิเวศน์ของแม่น้ำน่าน แล้วก็มีอำนาจตัดสินใจเด็ดขาดแทนประชาชนเมืองน่านทั้งหมด” ชยุตม์พูดเสียงเรียบ เขารู้ว่าสุนิศาเป็นเพียงตัวแทน ไม่ใช่ตัวจริง เขาต้องการตัวจริงมากกว่า ทั้งที่ในใจลึกๆ ก็เขาเองก็ค่อนข้างหวั่นตัวจริงอยู่เหมือนกันเพราะรู้ว่าโชคดีนั้นร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
สุนิศาดูลังเล หญิงสาวอายุยี่สิบปลายๆ ดูท่าทางไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก ชยุตม์มองว่าคงไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะต่อรองอะไรในระดับใหญ่ๆ ได้ หญิงสาวหันไปมอง “มือขวา” ของโชคดีที่เพิ่งเดินมาถึง ธงชัย...คนที่โชคดีเรียกน้าพงษ์ตอนที่ไปเอาเรื่องโต๋ที่ทำเด็กในร้านของโชคดีท้อง
พงษ์เห็นด้วยกับชยุตม์ เขาขอให้นัดคุยกันวันพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ สุนิศาก็เห็นด้วยตามนั้น ทั้งหมดจึงแยกกัน
ก่อนแยกย้าย ชยุฒม์แอบกระซิบสุนิศาฝากข่าวถึง “แกนนำตัวจริง” ว่า “คุณสุนิศาครับ ฝากบอกเจ้านายด้วยนะครับว่า หากเขาเป็นคนหาหลักฐานได้ ผมยินดีเพิ่มให้อีกหนึ่งล้าน”
สุนิศาเผยอปากและกำลังจะเบิกตากว้างเพราะตกใจกับจำนวนเงิน แต่ก็ยั้งเอาไว้ได้ จึงพยักหน้าช้าๆ แล้วรีบเดินตามธงชัยไปที่รถ บอกสิ่งที่ได้ยินมา
ธงชัยยิ้ม รู้ทันทีว่าชยุตม์จงใจยั่วโมโหเจ้านายเขา ในใจอดคิดไม่ได้ว่า คราวนี้ โชคดีเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อเสียแล้ว...

ยามหน้าจวนผู้ว่าราชการบอกชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าดุอยู่หลังพวงมาลัยรถกระบะโฟรวีลด์ว่าท่านรณชัยไม่ว่าง ขอให้เขากลับมาใหม่ แต่โชคดีไม่ยอม บอกว่าจะเข้าไปนั่งรอให้จวน แต่ยามไม่ยอม
“นี่ลุง จะให้นั่งรอหน้ารั้วหรือยังไง ประชาชนมาขอพบผู้ว่านะ อย่าทำเป็นเรื่องมากหน่อยเลยน่า” โชคดีเสียงดัง
ยามร่างใหญ่ที่เคยรู้ฤทธิ์ของชายหนุ่มหน้าดุมาแล้วยังยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว จนโชคดีชักจะทนไม่ไหว
“งั้นไปบอกท่านเลยว่าโชคดีมาหา รับรองว่าท่านต้องให้เข้าพบ”
“คุณรอตรงนี้ก่อนดีกว่า ถ้าท่านว่างแล้ว จะออกมาตาม” ยามพูดเสียงห้วนทำท่าจะเดินกลับไปที่ป้อม โชดดีกดแตรถี่ๆ ส่งผลให้ยามรีบหันหลังกลับมาโวยวาย
“อย่ากดแตรสิ เดี๋ยวถูกท่านด่าเอา”
“ก็ให้เข้าไปรอข้างในสิ กันท่าอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อก็ขับรถชนประตูซะนี่” โชคดีอารมณ์พุ่ง
“ลองดูสิ เดี๋ยวเรียกตำรวจ” อีกฝ่ายไม่ยอม “อ้าว นั่นไง ตำรวจมาพอดี ตำรวจใหญ่เสียด้วย”
โชคดีหันไปมองตามสายตาของยาม รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำจอดข้างหลังรถกระบะของเขา “ตำรวจใหญ่” ที่ยามคู่อาฆาตเรียกเดินลงมาจากรถ ชายหนุ่มยิ้มบางๆ จับตามองท่าทีของยามจวนผู้ว่าว่าจะทำสีหน้าอย่างไรตอนที่เห็นผู้กองปฐพีลูกชายผู้ว่าทักเขา
“โชคดี” ปฐพีเปลี่ยนสีหน้าจากเคร่งขรึมมาเป็นยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่ในรถที่จอดจ่อคาประตูทางเข้าอยู่ ยามกะเย็นรายงานเขาทันทีถึงคนเจ้าปัญหาที่พยายามจะบุกเข้าจวนเสียให้ได้ และขอให้เขาจับข้อหารบกวนความสงบของผู้ว่าราชการ
“ผู้กอง มาได้จังหวะพอดีเลย” โชคดีพูดเสียงเบา ใบหน้าเรียบนิ่ง
“โชคดีนี่เองเป็นตัวปัญหา” ปฐพีหัวเราะเบาๆ แล้วหันหน้าไปหายาม พูดว่า “เปิดประตูได้แล้วสนธิ เพื่อนผมเอง”
“เพื่อน” ยามร่างใหญ่พึมพำ
“อ้าวรออะไรล่ะพี่สนธิ เดี๋ยวเรียกตำรวจใหญ่จับข้อหาไม่เชื่อฟังเจ้านาย” โชคดีได้ที ทำเสียงดุใส่ยามคู่แค้นที่ทำหน้าราวจะกัดกินเขาเสียให้ได้
“น่าโชคดี อย่าไปถือสาเขาเลย เขาก็พยายามทำหน้าที่” ปฐพีพูดกลั้วหัวเราะ เดินกลับไปที่รถ พยักหน้าให้สนธิที่วิ่งไปเปิดประตู แล้วต้องรีบกระโดดหลบรถของโชดดีที่พุ่งทะยานเข้าไปในจวนผู้ว่าอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ร้อยตำรวจเอกปฐพีจอดรถ โชคดีก็เดินตรงเข้ามาหาไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มตั้งตัว
“ผมเห็นผู้กองกับท่านผู้ว่าเข้าไปที่รีสอร์ทนั่น รู้จักกับใครที่นั่นเหรอครับ” โชคดีถามเสียงเรียบ มองหน้าปฐพีนิ่งอย่างรอคำตอบ
“รีสอร์ทไหน”
“แล้วมีรีสอร์ทที่กำลังสร้างกี่ที่”
ปฐพีถอนหายใจเบาๆ เมื่อครู่เขาตั้งตัวไม่ติดจริงๆ ที่ลงจากรถแล้วโชดดีก็เดินเข้ามาประชิดตัว ถามเขาเรื่องรีสอร์ท แต่ชั่ววินาทีเขาก็นึกออก
“ก็รู้อยู่ว่ามีที่เดียว เมื่อกี้ยังงงๆ อยู่ อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับ เจ้าของคือคุณอำพล น้องชายของท่านอำนาจ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย คุณพ่อรู้จักกับคุณอำพลตั้งแต่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ”
“สนิทกัน” โชคดีเสียงเบาลง
“ก็นับถือกัน” ปฐพีนั่งลงที่ม้านั่งข้างกระถางดอกไม้ มองใบหน้าคมเข้มของโชคดีที่แปรเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด นายตำรวจหนุ่มตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว ส่งสัญญาณให้โชคดีนั่งลงข้างๆ แต่อีกฝ่ายเดินไปยืนพิงเสาร์หินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
...งานนี้เจอตอใหญ่...นึกว่าชยุตม์คนเดียวจะเป็นตอขวางทาง มาถึงนี่เจอหนักกว่าเสียอีก เจ้าของเป็นน้องชายรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย หน้ำซ้ำสนิทกับผู้ว่าราชการ...
...มิน่า ชยุตม์ดูมั่นใจยิ่งนัก ถึงกลับกล้าเสนอเงินหนึ่งล้านบาทขึ้นมาทันใด เขารู้ว่าชยุตม์ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน แผนการนั้นคิดขึ้นมาสดๆ...
...งั้นชยุตม์ก็อาจโกหก...ไม่จริงใจ...เพราะรู้อยู่ว่ายังไงๆ ก็ไม่มีใครหน้าไหนขวางได้...
เกลียดชยุตม์นัก...เจ็บใจจริงๆ อยากจะวิ่งไปต่อยหน้านิ่งๆ นั้นเสียเดี๋ยวนี้
“ว่าไงโชคดี จะคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้หรือเปล่า ผมได้ยินมาว่าชาวบ้านไปประท้วงที่โครงการ”
“รู้เร็วจังนะ”
“เมืองเล็กแค่นี้เองนะ แค่จอดรถหน้าตลาด ยังไม่ทันได้ถามใครก็ได้ยินแล้ว” ปฐพียิ้ม...ยิ้มอย่างที่เคยเห็นเป็นประจำ “โชคดี ลองให้โอกาสเขาหน่อยสิ โครงการเขาอาจไม่ได้แย่อย่างที่เรากลัวก็ได้ เท่าที่ทราบ สถาปนิกเขาก็เก่งเหมือนกันนะ ชื่อเสียงดี ก็น่าจะพอการันตีได้ว่าเขาก็คงต้องใส่ใจสภาพแวดล้อมด้วยเหมือนกัน เขาคงไม่อยากเอาชื่อเสียงเขามาเสี่ยงหรอก”
“เป็นพีอาร์เขาตั้งแต่เมื่อไหร่” โชคดีเสียงแข็ง
“โธ่ อย่าพูดยังงั้นสิ ผมก็แค่พูดไปตามที่เห็น” ปฐพีลุกขึ้นยืน ขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่มร่างสูงที่ยังยืนกอดอกนิ่ง “ถ้าเรากลัวจริงๆ ก็ลองคุยกับเขาดู เป็นเสียงสะท้อนให้เขาได้รับรู้ความกังวลของเราในฐานะที่เป็นคนในท้องที่ เขาอาจจะให้เราเข้าไปตรวจสอบ หากเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลก็ค่อยว่ากันอีกที ไม่ก็ร้องเรียน....”
“ไม่ใช่อาจจะ...ต้อง...ต้องให้เราเข้าไปตรวจสอบ แล้วร้องเรียนกับใคร” โชคดีสวนขึ้นมาทันที
ปฐพีถอนหายใจเบาๆ เข้าใจสิ่งที่โชคดีถาม เรื่องเก่าที่โชคดีกับพ่อเขาเคยทะเลาะกันชายหนุ่มยังจำไม่ยอมลืม เขารู้ว่าชายหนุ่มจงใจกระทบกระเทียบพ่อของเขาเรื่องการร้องเรียน “ผมจะช่วยพูดให้ ผมสัญญา ตอนนี้ใจเย็นๆ ก่อน ให้เวลาเขาสักนิด ที่พูดนี่ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ที่เข้าไปโครงการเพราะไปสวัสดีคุณอำพลในฐานะคนที่รู้จักกันเฉยๆ”
“ผมกลับล่ะ” โชคดีตัดบทเอาเสียดื้อๆ ชายหนุ่มตระหนักแล้วว่าตัวเองเดินหมากผิด เขายังไม่มีข้อมูลอะไรเพียงพอเกี่ยวกับโครงการรีสอร์ทแห่งนี้ หากจะเข้าพบท่านรณชัย เขาควรจะพร้อมมากกว่านี้เสียก่อน ที่มานี่ก็เพราะอารมณ์ฉุนเฉียวแท้ๆ
“อ้าว ทำไมรีบกลับ แล้วไม่พบคุณพ่อหรือ” ปฐพีถาม ไม่แปลกใจที่จู่ๆ โชคดีก็เปลี่ยนใจเสียดื้อๆ ด้วยเขารู้จักชายหนุ่มดี “ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปสวัสดีคุณพ่อก่อนดีกว่า แล้วคุณแม่ก็ยังบ่นว่าคิดถึงอยู่เลย”
“คุณแม่ผู้กองนั่นหรือคิดถึงผม”...ไม่อยากจะเชื่อ...โชคดีคิดต่อในใจ ปฐพีกำลังพูดอะไรอยู่นี่...ทำราวกับว่าจะพาเขาไปไหว้พ่อแม่ตัวเอง แล้วแนะนำว่านี่ไงล่ะ...ลูกสะใภ้ในอนาคต...หรือว่าลูกเขย...หรือว่า...จะเรียกว่าอะไรดี...ลูกชายของพ่อชอบลูกชายเจ้าของร้านขายเหล็ก...ขืนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผู้ว่าราชการกับภริยาคงช๊อคตายพอดี
“ทานข้าวกันก่อนนะ” ปฐพีเสียงเบาลง...รู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไปถนัด ที่จริงเขาตั้งใจว่าจะชวนโชคดีให้อยู่ต่อนานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่เผลอพูดออกไปแบบนั้นโดยไม่ทันคิด พักหลังๆ เขารู้สึกประหม่าเป็นบางครั้งเวลาอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มหน้าดุคนนี้ เขายอมรับว่าชอบพอโชคดีมาก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าความรู้สึกนั่นเริ่มรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะทนไม่ไหว อยากสัมผัสเนื้อตัวของโชคดี อยากจะทำอะไรที่ใจปรารถนา
“อย่าเลย ผมต้องกลับไปทานข้าวกับแม่ที่บ้าน ผู้กองก็คงต้องทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่สิครับ” โชคดีขยับตัว ก้าวเท้าจะเดินตรงไปที่รถ พลันสายตาก็มองไปยังรถตรวจการณ์สีขาวที่วิ่งเข้ามาตัวบ้านช้าๆ เขารู้ทันทีว่าเป็นท่านรณชัยกับภรรยา ผู้ว่าราชการ...คุณพ่อและคุณแม่ของปฐพี
“อ้าวคุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่บ้านหรอกหรือนี่” ปฐพียกมือขึ้นเกาหัว พึมพำเบาๆ หันไปมองโชคดีแว่บหนึ่ง ก่อนจะรีบหลบตาชายหนุ่มที่ตีหน้าเคร่งมองเขา ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองคุณพ่อคุณแม่ของเขาที่เพิ่งลงจากรถ
รณชัยยิ้มกว้างมาแต่ไกลเมื่อเห็นสองหนุ่มที่กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน โชคดียกมือขึ้นสวัสดีผู้สูงวัยกว่า คุณกิตติมารีบเดินเข้ามาหาลูกชายพลางพูดว่า “มาถึงเร็วเหมือนกันนะ นี่ขับรถเร็วล่ะสิท่า บอกว่าอย่าขับเร็วก็ไม่เชื่อ” พูดเสร็จภรรยาท่านผู้ว่าก็หันไปรับไหว้ชายหนุ่มร่างสูงที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
“สวัสดีจ๊ะโชคดี ไม่ได้เจอกันตั้งนาน นี่ผิวคล้ำลงไปนะ”
“ทำงานหนักครับ” โชคดียิ้มบางๆ
“พักบ้างเถอะโชคดี แม่บ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่าทำงานไม่ยอมหยุด แล้ววันนี้มาหามีธุระอะไรหรือเปล่า” รณชัยยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“เปล่าครับ ผมแวะมาคุยกับผู้กอง กำลังจะกลับพอดี”
“ทานข้าวด้วยกันก่อนสิ ลุงมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ขอบพระคุณท่านครับ แต่ผมคงต้องขอตัว เย็นนี้ตั้งใจว่าจะกลับไปทานข้าวกับแม่” โชคดีตอบยิ้มๆ “แต่ไว้วันหน้าคงต้องขอเข้าพบปรึกษาท่านผู้ว่าที่ทำงาน”
ชายหนุ่มกล่าวสั้นๆ แล้วรีบยกมือสวัสดีอำลาผู้ใหญ่ทั้งสอง ปฐพีเดินตามมาส่งชายหนุ่มที่รถ โชดดีอดกระทบกระเทียบนายตำรวจหนุ่มไม่ได้
“เลยได้สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ผู้กองสมใจ”
ปฐพีหัวเราะเบาๆ ตอบรับสั้นๆ ว่า “ใช่”
“ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ผู้กองขอให้ไปสวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ และบอกว่าไม่รู้ว่าคุณแม่ไม่อยู่บ้าน แต่พอคุณแม่มาถึง กลับทักลูกชายว่าทำไมมาถึงเร็ว เหมือนๆ กับรู้ๆ กันอยู่ว่า...”
“โธ่ โชคดี ก็มันผิดพลาดทางเทคนิคบางประการ อย่าโกรธกันเลยน่า” ปฐพีทำหน้ารู้สึกผิด ในใจคิดว่า หากพ่อกับแม่เขาไม่ได้ยืนอยู่หน้าบ้าน เขาจะเอื้อมมือไปจับแขนโชคดีแล้วง้อชายหนุ่มเสียเดี๋ยวนี้ เขาบอกตัวเองว่าคิดไม่ผิดที่รู้สึกว่าโชคดีกำลังงอนเขาอยู่...
บางครั้งเขาก็คิดว่าโชคดีชอบเขาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่บางครั้งชายหนุ่มก็ดูเย็นชาเหลือเกิน ราวกับหัวใจไม่เคยคิดจะรักใคร หรือยอมเปิดโอกาสให้ใครได้ใกล้ชิด
“พรุ่งนี้จะไปหานะ อยากชวนไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน”
“ไม่รู้จะว่างหรือเปล่า ผู้กองอย่านัดเลย พักนี้ผมยุ่งๆ” โชคดีตอบเสียงเรียบ แล้วขับรถออกไปโดยไม่ยอมฟังนายตำรวจหนุ่มทัดทาน ทิ้งให้คนที่อยากทานข้าวด้วยยืนมองจนชายหนุ่มหน้าดุจอดรถที่ประตูรั้ว หูได้ยินเสียงโชคดีแว่วๆ
“ยาม...เปิดประตู มัวแต่หลับอยู่นั่นล่ะ”
ปฐพีอมยิ้ม ขำกับความยียวนของชายหนุ่มที่เขาชอบ
...โชคดี...ชายหนุ่มชื่อแปลกที่บุคลิกไม่เหมือนใครที่เขาเคยรู้จักมา ชายหนุ่มที่ทำให้ใจเขารู้สึกหวั่นไหวมานานหลายปี และตอนนี้ยิ่งรู้สึกเข้มข้นมากขึ้นทุกวัน ชายหนุ่มที่ทำให้เขาขับรถข้ามจังหวัดจากลำปางมาน่านอยู่บ่อยๆ นอกเหนือจากเหตุผลหนึ่งที่มาเยี่ยมบิดามารดา
...เออหนอ...แบบนี้เรียกว่าเป็นความรักได้ไหมนี่...ปฐพียิ้มบางๆ ขณะที่เดินขึ้นบันไดบ้าน เพื่อไปคุยกับบุพการีที่คงกำลังนั่งคอยเขาอยู่ในห้องนั่งเล่น
แม้จะกังวลอยู่ว่า ชีวิตรักแบบที่เขาเป็นอยู่นี่อาจไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมและจากผู้ให้กำเนิดทั้งสอง แต่เขาก็รู้สึกสุขใจที่จะได้มีความรู้สึกเช่นนี้...ความรู้สึกที่เขาเริ่มจะเข้าใจว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก...
...ตกหลุมรักพ่อตัวร้ายประจำจังหวัด...

ชยุตม์จอดรถหน้าร้านโชคดีค้าเหล็ก นั่งมองอยู่ชั่วอึดใจแล้วเดินลงจากรถตรงเข้าไปในร้าน พนักงานเดินเข้ามาต้อนรับเขาจึงบอกว่ามาพบโชคดี หญิงสาวจึงนำเขาไปยังห้องทำงานของเจ้าของชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง
โชคดีนั่งอยู่ที่โต๊ะ กดเครื่องคิดเลขอยู่อย่างคล่องแคล่ว ชยุตม์รอจนชายหนุ่มคิดเลขเสร็จจึงเอ่ยทักแล้วบอกเหตุผลการมาเยือน
"ผมมาซื้อเหล็ก"
"ไม่ขาย" โชคดีปฏิเสธทันที" ผมไม่สนับสนุนโครงการทำลายธรรมชาติ"
"คุณยังไม่รู้เลยว่าผมจะซื้อเหล็กไปทำไม ยังไม่รู้เหตุผลก็ตอบปฏิเสธ หรือว่าไม่ขายให้ผม"
"คุณจะซื้อไปทำไม"
"ผมจะซื้อไปทำโรงรถ"
"ร้านอื่นก็มีขาย"
"ทำไมผมจะซื้อร้านนี้ไม่ได้ล่ะ"
"ไม่ได้ลดพิเศษอะไรนะ แล้วก็งานเงินสด งดเชื่อ เบื่อทวง"
"ผมก็ไม่คิดว่าจะได้ลด เห็นรู้จักกัน ก็เลยมาอุดหนุน"
"ลูกค้าผมมีเยอะแล้ว"
"งั้นก็รับผมเป็นลูกค้าเพิ่มอีกซักคนเถอะครับ" ชยุตม์ทำเสียงเรียบเย็น ขัดกับคำพูดที่ดูเหมือนจะอ้อนวอน
โชคดีไม่ตอบ ลุกขึ้นเดินไปเปิดช่องหน้าต่างเล็กๆ ยื่นหน้าออกไปตะโกนเรียกพงษ์ แล้วหันมาพูดกับชยุตม์
"คุณไปซื้อกับน้าพงษ์ ซื้อมากไปส่ง ซื้อน้อยขนไปเอง"
"ผมซื้อน้อย แค่ทำโรงรถหน้าบ้าน"
"จ่ายสดนะครับ ที่นี่ไม่รับบัตรเครดิตเหมือนในกรุงเทพฯ" โชคดีพูดเสียงเรียบ แล้วก้มหน้าทำงานต่อ ชยุตม์ยังไม่เดินออกจากห้อง เจ้าของร้านหน้าไม่รับแขกจึงเงยหน้าขึ้นถามเสียงเรียบ
"มีอะไรอีกครับนายช่าง"
"เปล่า" ชยุตม์ตอบแล้วเดินออกจากห้องเงียบๆ ทิ้งให้โชคดีมองตามด้วยสายตาครุ่นคิด
...จะว่าไป ชยุตม์ก็เป็นคนนิสัยดี มีมารยาท ถ้าไม่ได้เป็นวิศวกรโครงการรีสอร์ทริมน้ำเขาก็อาจจะเป็นมิตรด้วย แต่นี่ เป็นคนทำงานของผู้ใกล้ชิดคนใหญ่คนโต ทำให้เขาไม่ชอบหน้า
เจ้าของรีสอร์ทเป็นถึงน้องชายรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ชยุตม์จึงดูมั่นใจนักว่าโครงการจะดำเนินต่อไปได้ ถึงกับก้าวออกมายืดอกประกาศให้เงินรางวัลโน้วน้าวให้แนวร่วมต่อต้านไขว้เขว ทำยังกับมีอำนาจตัดสินใจแทนเจ้าของโครงการทั้งที่ตัวเองเป็นแค่วิศวกร
...งานนี้ไม่หมูซะแล้ว หากจะสู้กัเจ้าของรีสอร์ที่เป็นถึงน้องชายของรัฐมนตรีฯ ทางชนะแทบไม่มี...
ความคิดของโชคดีถูกขัดจังหวะเมื่อพงษ์เปิดประตูห้องทำงานเข้ามาถามคำถามว่า "คุณโชคดีครับ นายช่างซื้อเหล็ก 40 เส้น คงขนใส่กระบะไม่ได้ เลยมาให้ให้เราไปส่ง"
...40 เส้นหรือ โรงรถหน้าบ้านนี่นะต้องใช้เหล็กเยอะขนาดนั้น...
โชคดีสงสัย ส่วนพงษ์ผู้ช่วยคู่ใจก็สงสัยไม่แพ้กันที่ชยุตม์ยืนยันให้เขามาถามโชคดีก่อนทั้งที่เขาบอกว่าซื้อมากขนาดนี้ ทางร้านจะไปส่งถึงที่ และแม้แต่ซื้อไม่มาก คนรู้จักกันเขาก็ไปส่งได้
"แค่ทำโรงรถหน้าบ้าน ซื้อทำไมเยอะแยะ"
...อ้าวแปลก ลูกค้าซื้อเยอะก็สงสัย...
พงษ์ถามในใจ แต่ไม่กล้าพูดเพราะดูท่าทางเจ้านายไม่ค่อยกินเส้นกับลูกค้าคนนี้
"น้าพงษ์ไปส่งเขาเถอะ แล้วดูด้วยนะว่าเอาไปทำโรงรถจริง ไม่ใช่เอาไปที่รีสอร์ทนั่น" โชคดีสั่ง
พงษ์รับคำแล้วเดินออกจากห้องไป แต่โชคดีรู้สึกร้นใจจนต้องตามออกไปดู ชยุตม์ยืนเท้าสะเอวมองดูคนงานกำลังขนเหล็กขึ้นรถ จึงไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหลัง
"คุณแน่ใจนะว่าเอาไปทำโรงรถ" โชคดีถามเสียงเรียบ
ชยุตม์หันไปมองคนที่เขาคิดว่ากำลัง "หาเรื่อง" เขาช้าๆ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบวา "แน่ใจครับ ถ้าคุณไม่เชื่อจะตามไปดูก็ยังได้ ผมจะให้คนงานทำเครื่องหมายเหล็กแต่ละเส้นไว้ จะได้รู้ว่าผมไม่ได้เอาไปสร้างรีสอร์ทที่คุณเกลียดนักเกลียดหนา"
"ไม่ต้องประชดหรอก ก็แค่ถามเฉยๆ" โชคดียักไหล่
ชยุตม์หมุนตัวหันมายืนเผชิญหน้ากับโชคดีเต็มที่ ขยับเข้าไปใกล้ราวคู่มวยบนเวทีกำลังจะชก
"ผมไม่ได้ประชด ผมแค่ตอบคำถามคุณเฉยๆ"
โชคดีขยับตัวออกห่าง หันไปมองคนงานที่กำลังขนของ แล้วไปยืนอยู่ใกล้ๆ รถ ยกนิ้วชี้ขึ้นมาใกล้ๆ ริมฝีปากแล้วทำมากขมุบขมิบเหมือนกำลังนับจำนวนเหล็ก หากในใจนึกถึงเมื่อครู่ที่ชยุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขามาก ใกล้จะได้กลิ่นน้ำหอมโกนหนวด และสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ เขาอดคิดไม่ได้ว่าดวงตาคมกริบใต้คิ้วเข้มดกดำคู่นั้นมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ ราวจะบอกว่า
...ทำไม ผมทำอะไรผิด คุณถึงไม่ชอบหน้าผมนัก...
...ผิดสิ ผิดที่เป็นวิศวกรโครงการรีสอร์ท ผิดที่ชอบทำหน้านิ่งๆ แต่กลับกวนอารมณ์ได้ชะมัด...
"คุณโชคดีครับ นี่เงิน" พงษ์ยื่นเงินสดให้ "คุณชยุตม์ขอใบเสร็จด้วยครับ"
"ทำไมต้องขอใบเสร็จ" โชคดีก้มหน้านับเงิน แล้วหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ชยุตม์ไม่ตอบ แล้วเดินจากไปเงียบๆ
...งอนหรือ ถามแค่นี้ทำเป็นงอน...
โชคดียักไหล่แล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน รู้สึกฉุนชยุตม์ขึ้นมาทันใด
...พูดด้วยก็ไม่พูดตอบ เดินหนีเขาไปเสียดื้อๆ มันน่านัก...


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 10-04-2009 12:43:20
ไม่ได้แวะมานาน คิดถึงนะคะ  :z13:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bellebee ที่ 10-04-2009 13:43:46
ชอบคู่นี้จังค่ะ เค้างอนกันน่ารักเชียว (?)  ชอบค่ะชอบ  ยิ่งมาลงทุกวันยิ่งรักคนแต่ง จุ๊บๆ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 10-04-2009 14:18:54
หมุปิ้งแรงงงงงงงงงงงงงงงงงส์ o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 10-04-2009 14:45:23
อืม แรงพอกัน สมน้ำสมเนื้อ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 10-04-2009 14:46:15
อ่าว ก็ดูรักกันปานจะกลืนกินดีนี่  :laugh: o18
ระวังกันให้ดีเถอะ อย่าพลาดนะ ทั้งคู่แหล่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-04-2009 15:24:44
นายช่างจัดการปล้ำเลยดีมั๊ย ตอนนี้นายช่างเจ๊งจริงๆชอบอ่ะ
ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรกับคนหาเรื่องมากหรอก ตอบไปอย่างที่คิดนั่นแหละดีแล้วสะใจดี
หมั่นไส้คนหาเรื่องมากๆ เหอะตอนนี้ล่ะ
ทำมาเป็นว่าคนอื่นว่าถามแค่นี้แล้วจะมาประชดผมทำไม
พูดออกมาได้ หมูปิ้งของคุณนายเตือนใจยังกวนประสาทเหมือนเคยเลยนะคะ :z6:

ให้กำลังใจคนแต่งนะคะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 10-04-2009 15:38:23
คู่นี้แรง  ดีจริง ๆ โต้ตอบกันได้มันส์ดีจริง ๆ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-04-2009 16:25:58
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-04-2009 17:13:35
สุขสันต์สงกรานต์นะครับ


เคยได้ยินคนพูดว่า สงกรานต์ใครไม่เปียกแสดงว่าไม่น่ารักดึงดูดใจ เลยไม่มีใครไล่ตามมารดนำ
ขอให้เปียกๆ กันทุกคนนะครับ (ฝันเปียกนั่นอีกเรื่อง  :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 10-04-2009 19:03:29
ขอให้คุณคฑาวุฒิ เปียกน้ำ..?!!!..อาไรดีหว่า 555555555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 10-04-2009 20:20:36
มาติดตามแล้วนะคร้าบ..
สุขสันต์วันปีใหม่ไทย..
ขอบคุณคร้าบบบ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-04-2009 23:37:54
กัดกันแบบเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย รักกันดีนักแหละ 555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: prawy ที่ 11-04-2009 01:03:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 11-04-2009 09:52:03
มารดน้ำดำหัวคุณพี่นายล่วงหน้าค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 11-04-2009 12:08:12
อิอิ มารดน้ำจับพี่นายกดหัว ดีก่า


ว่าแต่ว่า หมูปิ้ง อ่ะ ใจร้ายจังเลยเนาะ พอ ๆ กะคนแต่งอ๊ะป่าว  :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-04-2009 12:19:30
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ ขอให้เปียกๆๆๆ นะคะ  :z1:

มาจิ้ม+ รับวันสงกรานต์ให้ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mootorn ที่ 12-04-2009 06:07:26
 :o8: ตามมาจากบอร์ดปาลม์   ขอบคุณมากนะครับที่ลงเรื่องให้อ่านจุใจ 

        สุขสันตืวันสงกรานต์ครับ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: poom ที่ 12-04-2009 10:14:12
......ตามมาอ่านคับ.....

poom_โอ๋ o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 13-04-2009 21:21:22
โชคดีจะรู้ไหมเนี่ยว่า มีความรู้สึกว่าที่ไม่เคยแน่ใจว่าคืออะไรเกิดขึ้นแล้ว เงียบ ๆ ภายในจิตใจ
แต่ดูท่า ชยุตม์เองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน และที่สำคัญดูท่าก็ร้ายไม่ใช่เล่น เหมือนโชคดีนะครับเนี่ย
เห็นเงียบ ๆ แต่ก็สู้ได้สมน้ำสมเนื้อกับโชคดี นะครับเนี่ย จะดูต่อไปซิว่า ทั้งคู่จะรู้ตัวว่า
รู้สึกแปลกที่เกิดขึ้นทั้งคู่ ตอนไหน

ป.ล. ในที่สุดก็อ่านทันเสียที่ หลังจาก กลับไปอ่าน คดีรัก 1 ฉบับหนังสือ
แต่เห็นถ้าต้องอ่าน ภาค 2 ใน บอร์ดต่อแล้วกันเนี่ย ฮิฮิ

สุขสันต์วันสงกรานต์ สุขสันต์วันที่ดี ๆ สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_nan ที่ 14-04-2009 15:02:08
+1 ให้ด้วยความคิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 16-04-2009 07:56:54
บทที่ 7

จักริณทร์นั่งมองชยุตม์กำลังวัดระยะของโรงรถหน้าบ้านอยู่เงียบๆ เขาสังเกตว่าชยุตม์ค่อนข้างเปลี่ยนไป ปกติวิศวกรหนุ่มเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าใดนัก แต่หลายวันที่เขามาเยี่ยมที่น่าน ชยุตม์ดูเงียบขึ้นกว่าเดิม บางครั้งดูจมอยู่ในความคิดของตัวเอง และบทรักก็เนิบนาบ ไม่เร่าร้อนเช่นเคย
ทั้งที่อยากถามว่าทำไมชายหนุ่มจึงดูเนือยๆ แต่เขาก็ยังไม่กลา ใจหนึ่งก็คิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องงาน และการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ เขาไปเที่ยวน้ำตกและชมวัดตอนที่ชยุตม์ทำเงานเลยไม่ได้เห็นว่าเหตุการณ์ที่ชาวบ้านมาประท้วงนั้นรุนแรงเพียงใด ชยุตม์บอกว่าโชคดีเป็นตัวตั้งตัวตีและทำไปเพราะไม่ชอบหน้าเขา
“ผมก็เห็นเขาคุยดีนี่นา เจอกันที่ไปรษณีย์เขายังทักผมเลย” จักริณทร์เล่าให้ชยุตม์ฟัง
“เขาพูดดีกับคุณนะสิ ดีกับทุกคนแต่ไม่ใช่ผม” ชยุตม์พูดราวกับตัดพ้อ

จักริณทร์ไปหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ ชยุตม์หันมาส่งยิ้มให้บางๆ แล้วถามว่า “หลับสบายไหมครับ”
“สบายที่สุด อากาศสดชื่นจริงๆ นานแล้วที่ไม่ได้นอนเปิดหน้าต่างรับอากาศบริสุทธิ์แบบนี้” จักริณร์สูดเอาอากาศเข้าไปเต็มปอด
“เกินสิบปีแล้วมั๊ง”
“นานจนจำไม่ได้ ผมว่าตั้งแต่จำความได้ก็นอนห้องแอร์มาตลอด” จักรินทร์บิดขี้เกียจ “ยุตม์ตื่นแต่เช้าแบบนี้ทุกวันหรือครับ”
“ปกติก็ไม่เช้ามาก แต่ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ตื่นเช้าเองโดยอัตโนมัติ พอรู้สึกว่าพระอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าเริ่มสว่าง ตาผมก็ลืมขึ้นมาเอง”
“จะว่าไป วิถีชีวิตที่นี่ก็เรียบง่าย น่าอยู่นะครับ”
“ทำไม” ชยุตม์เลิกคิ้ว “คิดอยากจะมาอยู่หรือ”
“มาอยู่นี่ผมจะทำอะไรกินล่ะ จะให้ทิ้งงานทิ้งที่บ้านมาหรือไง”
“ไม่รู้สิ” ชยุตม์ยักไหล่ “แล้วเรื่องบริษัทเป็นยังไงบ้าง ที่ว่าจะลาออกมาดูแลบริษัท จักรยังคิดว่าจะ...”
“คงอีกซักระยะครับ” จักริณทร์เดินมแตะแขนชยุตม์ “ออกนะออกแน่ พอผมไม่ต้องบินก็จะมีเวลาให้ยุตม์มากขึ้น”
“งานบริษัทก็ใช่ว่าจะไม่ยุ่งนะ”
“ตอนแรกอาจจะยุ่ง ถ้าลงตัวแล้วก็คงจะดีขึ้น ว่าแต่ยุตม์เถอะ เสร็จจากการพักร้อนคราวนี้ จะได้พักร้อนจริงๆ หรือเปล่า หรือมีงานอื่น”
“The Krisida ครับที่ใต้หวัน ชอปปิ้งมอลล์ริมน้ำ ปลายๆ ปีก็จะเริ่ม ตอนนี้สถาปนิกเขาทำงานไปได้เยอะแล้วเหมือนกัน”
“ตกลงยุตม์ทำแน่หรือ โครงการใหญ่มาก”
“ยากด้วย มันมีข้อจำกัดหลายอย่างจนผมรู้สึกหนักใจ”
“ ก็ไหนชอบความท้าทายไง ยุตม์เก่ง ทำได้อยู่แล้ว ถ้าเสร็จก็เรียกว่าเป็น master piece”
“ผมไม่ค่อยอยากจะไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว ยิ่งโครงการใหญ่มากขนาดนั้น ก็คงต้องไปอยู่โน่นหลายปี”
...มาทำงานโปรเจ็คเล็กๆ ต่างจังหวัดไม่ถึงเดือนชักจะติดใจ จะว่าไปชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...
ชยุตม์อดคิดต่อไม่ได้ว่า จริงอยู่ โครงการเล็กๆ แบบนี้ไม่ต้องใช้ความสามารถมากนัก แต่การทำงานหนัก สร้างเสริมประสบการณ์มาตลอดตั้งแต่เรียนจบจนเขากลายมาเป็นวิศวกรที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างมีคจ้างงานไม่ได้ขาด เขาก็ต้องทำโปรเจ็คใหย่ๆ เป็นผลงานเอาไว้ และที่สำคัญ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ไม่จบสิ้น เป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถอีกด้วย
“ยุตม์เคยคิดไหมว่าอยากจะย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด” จู่ๆ จักริณทร์ก็ถามขึ้น
ชยุตม์ยิ้ม “ผมนี่นะ มาอยู่ที่นี่”
“เปล่า อาจไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ต่างจังหวัดที่ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่”
“ผมก็คงถามตัวเองเหมือนจักรนั่นล่ะว่าผมจะทำอะไรกิน”
“ก็สร้างบ้าน สร้างตึก อาคารพาณิชย์ รับต่อเติมบ้าน ไม่ก็สร้างโกดังเก็บของ” จักริณทร์พูดยิ้มๆ
“โอ้โห ดูถูกันมามากเลยนะนั่น เคยเห็นผลงานของผมแล้วไม่ใช่หรือ”
“งั้นก็รับสร้างรีสอร์ทริมน้ำก็ได้ เอาให้ครบแม่น้ำทุกสายของประเทศ” จักริณทร์ล้อเลียน
“ขอให้ที่นี่เสร็จกอนเถอะ ลึกๆ ผมยังหวั่นใจอยู่ว่ารีสอร์ทที่นี่จะออกหัวหรือออกก้อย”
ชยุตม์ถอนใจ วิถีชีวิตของเขาคงไม่สะดวกราบรื่อนหากสมมุติว่าเขาจะมาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดเช่นจังหวัดน่านแห่งนี้
ตอนนี้เรื่องประท้วงรีสอร์ทเงียบไปหลายวัน ไม่รู้ว่าโชคดีกำลังวางแผนอะไรอยู่
“ยุตม์ วันนี้เราไปเที่ยวน้ำตกตาดม่านกันนะ ผมอยากเล่นน้ำเย็นๆ กระโดดน้ำให้สนุก” จักริณทร์ชวน
“น้ำจะมีเร๊อ” ชยุตม์ถาม
“ไม่มีก็เอาแค่ว่ายน้ำในธารน้ำใสๆ ท่ามกลางธรรมชาติ”
“ครับ” ชยุตม์รับคำ ตั้งแต่จักริณทร์มาเยี่ยม เขายังไม่ได้พาชายหนุ่มเที่ยวเลยแม้แต่นิด
“ไปผ่อนคลายอารมณ์กันนะ ทิ้งเรื่องกังวลใจต่างๆ เอาไว้ซักวัน” จักริณทร์ยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นมาตบบ่าชยุตม์เบาๆ


ร.ต.อ. ปฐพีเกาหัวแกรกๆ เมื่อโชคดีพยายามอธิบายเรื่องผลกระทบทางนิเวศน์วิทยาและปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการสร้างรีสอร์ท The River Bend โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างประตูน้ำผันน้ำเข้าออกโครงการที่จะเป็นประเด็ดหลักที่จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเปลี่ยนไป
“พอน้ำหลากเขาก็ผันน้ำออก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงกว่าปกติ ไม่ก็น้ำท่วม เวลาหน้าแล้งก็จะผันน้ำเข้า น้ำก็จะไม่เหลือให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ ผู้กองต้องช่วยกันขัดขวาง” โชคดีสรุป
“โธ่ โชคดี ผมว่าเขาก็น่าจะจัดการดีอยู่ ไม่กระทบอย่างที่เรากลัว” ปฐพีทำหน้าอ่อนใจ
“ผู้กองรู้ได้ยังไง ผมไม่เคยเห็นนายทุนหน้าไหนจะแคร์เรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว” โชคดียักไหล่ เสียงแข็ง
“คุณมองคนแง่ลบมากเกินไปหรือเปล่า”
“แล้วผู้กองมองคนแง่บวกมากเกินไปหรือเปล่าล่ะ” โชคดีย้อน
“ผมมองเป็นกลาง”
“เป็นกลางไม่ได้หรอก ผู้กองต้องเอียงมาทางด้านผม ถ้าไม่เอียงมาทางด้านนี้ผู้กองก็เป็นพวกโน้น” โชคดียื่นคำขาดดื้อๆ
“อ้าว ไหงพูดแบบนี้” ปฐพีทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เราต้องเลือกข้าง จะซ้ายหรือขวาก็เลือกเอาซักอย่าง จะเห็นด้วยหรือต่อต้าน จะสนับสนุนหรือคัดค้าน จะสู้หรือจะถอย ต้องเลือกให้ชัดเจน” โชคดีทำท่าเหมือนจะปลุกระดม
“ประนีประนอมไม่ได้หรือครับ” ปฐพีต่อรอง “จะให้โลกนี้มีขาวกับดำสองสีหรืออย่างไร”
“แสดงว่าผู้กองไม่เห็นด้วยกับผม”
ปฐพีถอนหายใจ บทโชคดีจะดื้อก็ดื้อจนไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น “เท่าที่รู้ คุณชยุตม์เขาก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่” ปฐพีพยายามใจเย็น
“เขาเป็นวิศวกร เขาจะทำอะไรได้มาก สถาปนิกสิ ไม่ก็ผู้บริหารของโครงการที่เป็นคนวางแผน”
“คุณชยุตม์เป็น...” ปฐพียั้งคำพูดไว้ทัน กำลังจะบอกว่าชยุตม์เป้นหลานอาของเจ้าของโครงการ และเป็นลูกชายของพี่ชายเจ้าของโครงการซึ่งเป็นถึงรัฐมนตรีกระทรวมมหาดไทย กระดูกชิ้นโต ผู้มีอิทธิพล แม้กระทั่งเป็นอำนาจมืดที่อาจจะทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อการต่อต้านการสร้างรีสอร์ท
...โชคดีจะว่าอย่างไรหากรู้ว่าชยุตม์เกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าของโครงการ และที่สำคัญเป็นลูกรักของผู้ที่โชคดีปักใจสรุปว่าเป็นผู้มีอิทธิพล...
“เขายังไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ปฐพีให้เหตุผลแก่โชคดี
“ตอนนี้ยัง ต่อไปไม่แน่ การต่อสู้ยังไม่เข้มข้น ถ้าถึงตอนนั้น ใครจะรู้ว่าอาจมีคนมาดักทำร้ายผม ไม่ก็ดักยิง” โชคดีพูดจริงจัง
...ก็ชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยนนี่นา...
ปฐพีย้อนในใจ ไม่กล้าพูดออกมา แต่เขาก็บอกตัวเองว่าจะคอยช่วยชายหนุ่มเท่าที่จะสามารถทำได้ เขารู้สึกห่วงใยโชคดี ความเป็นโผงผางตรงไปตรงมาของโชคดีอาจไปสะกิดต่อมความไม่พอใจของใครบางคนตอนไหนก็ไม่รู้ แต่โชคดีที่ยังไม่มีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลและคุณอำพลเจ้าของ The River Bend ก็นับได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง กรณีนี้เขาจึงไม่ค่อยกังวลนัก
“ว่าแต่ว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา ผู้กองจะอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายเขาหรือฝ่ายผม” โชคดีบังคับให้ปฐพีเลือกอีก
“ผมจะเป็นนกสองหัว เข้ากับทั้งสองฝ่าย จะเกลียดผมก็ต้องยอม เพราะผมต้องการคงไว้ซึ่งความเป็นกลาง” ปฐพีตอบยิ้มๆ “แต่ว่าตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันได้ไหม อุตส่าห์มาเที่ยวน้ำตก พักผ่อนในวันหยุด มาชื่นชมกับธรรมชาติกันก่อนเถอะ”
“ใครว่าผมมาเที่ยว”
“อ้าว ที่ชวนผมมานี่นะ เรื่องอะไรกันล่ะ” ปฐพีทำหน้างง
“มาให้ผู้กองเห็นว่า น้ำที่มันมีอยู่มันเหลือไม่เท่าไหร่แล้วไง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เข้าหน้าหนาวเต็มที่ น้ำที่น้ำตกยังน้อยกว่าทุกปี ลองนึกภาพอีกสี่ห้าปีสิครับ”
“แม่น้ำน่านไม่ได้ไหลมาตกที่นี่ซักหน่อย อย่าบอกนะว่าดึงให้มันไปเกี่ยวกับรีสอร์ทของนายช่างชยุตม์ให้ได้” ปฐพีอดพูดกระทบไม่ได้
“ผู้กอง พูดยังงี้หมายความว่ายังไง” โชคดีตาขวาง เตรียมเอาเรื่องนายตำรวจหนุ่มที่ยืนทำหน้ายิ้มๆ
ปฐพีหลบหน้า พยายามเลี่ยงที่จะคุยต่อ ทันใดก็มองเห็นร่างของชายหนุ่มสองคนกำลังเดินมาจึงร้องทัก
“คุณชยุตม์”
โชคดีหันตาม ทำตาขวางทันที “มาทำไม”
“โชคดี อย่าหาเรื่องนายช่างเขานะ” ปฐพีหันมาปรามคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ
“พูดยังกับว่าผมเป็นอันธพาล ถ้าผมทำผิด ผู้กองก็จับเขากรงเลยสิ” ชายหนุ่มท้าทาย
“อยากจับอยู่เหมือนกัน”
...กรงขังหัวใจไงล่ะ...
ปฐพีคิดต่อในใจ มองตามโชคดีที่เดินตรงลิ่วไปหาชยุตม์และชายหนุ่มที่เดินมาด้วยกัน ซึ่งฝ่ายนั้นก็ดูประหลาดใจพอสมควรที่เห็นเขาทั้งสองคน
“มาหาทำเลสร้างรีสอรท์แห่งใหม่หรือครับ” โชคดีทักชยุตม์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากความจริงต้องการเหน็บแนม
อีกฝ่ายรู้ว่าโดนว่ากระทบกระเทียบแต่ก็ยังยิ้มรับ “พาคุณจักริณทร์มาเที่ยวน้ำตกครับ ว่าแต่คุณโชคดีคงมาสำรวจแหล่งน้ำเพราะกลัวน้ำหมดป่า”
“คุณโชคดีทำงาน NGO หรือครับ” จักริณทร์พาซื่อ
“เปล่าครับ ผมเป็นประชาชนธรรมดาที่ใส่ใสธรรมชาติ” โชคดีเน้นเสียง
“ดีจังเลยนะครับ คนสมัยนี้ลืมว่าธรรมชาติของเรากำลังโดนทำลาย” จักริณทร์แสดงความเห็น
“ใช่ครับ คนเราเห็นแก่ตัวกนมาก คิดแต่จะได้ประโยชน์จนลืมนึกไปว่า หรือไม่สนว่า ธรรมชาติต้องได้รับการปกป้อง ถึงไม่ทำลายโดยตรง แต่ก็ช่วยคนอื่นทำลาย”
ชยุตม์ยืนฟัง ไม่สนใจที่โดยกระทบกระเทียบ จักริณทร์ยังคุยเรื่องธรรมชาติกับโชคดีเพราะไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง หันไปมองปฐพีก็ทำหน้านิ่งเรียบ
“ขึ้นไปข้างบนหรือยังครับคุณชยุตม์” ปฐพีถาม หมายถึงน้ำตกชั้นบน
“ยังครับ ผมเพิ่งมาถึง”
...มาถึง โชคดีก็บรรยายเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้เที่ยวน้ำตกแต่อย่างใด...
“เราก็เพิ่งมาถึงเหมือนกน งั้นไปด้วยกันเลยนะครับ คุณ...เอ่อ...” ปฐพีหันไปหาจักริณทร์
“จักริณทร์ครับ เพื่อนผมจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยม” ชยุตม์แนะนำจักริณร์ให้รู้จักกับปฐพีแล้วเดินนำไปตามทางเดินเข้าสู้น้ำตก
ชยุตม์แปลกใจที่โชคดีเดินประกบเขาตลอดเวลา ปล่อยให้จักริณทร์เดินคุยกับปฐพีที่เดินตามหลังมาช้าๆ ชายหนุ่มผู้ต่อต้านการสร้างรีสอร์ทพยายามพูดเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยากับเขาต่อและแทรกด้วยการพูดกระทบกระเทียบเป็นระยะ ขัดกับใบหน้ายิ้มๆ จนชยุตม์รู้สึกว่าโชคดีกำลังกวนประสาทเขา
“คุณโชคดีครับ สรุปแล้วคุณจะขัดขวางการก่อสร้างรีสอร์ทให้ได้ทั้งๆ ที่คุณก็ไม่มีหลักฐานเชิงลึกว่ารีสอร์ทของเราทำลายระบบนิเวศน์โดยรอบ” ชยุตม์สุดจะจน จ้องหน้าโชคดีเขม็ง แต่เท้ายังก้าวเดินช้าๆ
“ใช่” โชคดียอมรับ “ถ้าคุณจะเอรายงานผลกระเชิงลึก ผมจะทำให้ไม่ได้หรอก มันต้องใช้ทีมวิจัยและคนมีความรู้ทางวิชาการและใช้เวลา กว่าจะทำเสร็จ พวกคุณก็สร้างรีสอร์ทเสร็จแล้ว ไม่งั้นคุณจะเสนอเงินหนึ่งล้านให้คนที่หาหลักฐานได้หรือ อ้อ ที่จริงสองล้านสิ เจาะจงว่าหากเป็นคนที่ชื่อว่าโชคดีหาได้จะให้สองล้าน คุณก็รู้ว่ายังไงตัวเองก็ชนะ จะเสนอเงินทำไม แล้วมีเงินหรือนั่น สองล้านไม่ใช่น้อยๆ นะ หวังว่าคงไม่เอาเงินของนายทุนมาให้ผม”
ชยุตม์ส่ายหน้า แล้วเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าไป โชคดีไม่ยอมแพ้ เดินตามไม่ห่าง
...เอาสิ เล่นกับโชคดีสิ จะปั่นหัวให้ประสาทกินจนต้องย้ายกลับกรุงเทพฯ เลยทีเดียว”
“ท่าทางคุณก็เป็นคนดีนะ ทำไมเข้าใจอะไรยาก” โชคดีเดินเข้ามาใกล้
...ผมต่างหากควรจะเป็นคนพูดประโยคนี้...
ชยุตม์ตะโกนในใจ หากเก็บคำพูดเอาไว้ ทำทีเป็นไม่สนใจคนที่จ้องจะยั่วโมโหเขา
...เขารู้ดีว่าโชคดีพยายามยั่วให้เขาโกรธ เพื่ออะไร เพื่อหาเรื่องทะเลาะ หรือเพื่อปกป้องธรรมชาติ...
...ไม่มีวันเสียล่ะ โชคดีไม่ชนะเขาหรอก ยั่วได้ยั่วไป เขาจะนิ่งเงียบ เดี๋ยวอีกหน่อยโชคดีก้คงเบื่อ เลิกพูดไปเอง...
“หรือคุณมีส่วนได้ส่วนเสีย ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกนายทุนนัก”
...โอย พอกันที ว่าจะอดทน แต่เขาไม่ไหวแล้ว...
“คุณโชคดีครับ กรุณาเลิกกล่าวหากันได้แล้ว ตั้งแต่เจอกัน คุณใส่ความผมไม่ได้หยุดหย่อน จะเกลียดกันไปถึงไหน”
“ผมว่าคุณเจอคนที่อ่านคุณออกมกกว่า บางที ผมอาจเป็นคนที่รู้จักคุณ เชิงลึก มากกว่าใคร”
“โชคดี คุณชยุตม์” ปฐพีเดินเข้ามาใกล้แล้วรีบเรียกชื่อของทั้งสองที่ทำท่ากำลังจะกระโดนเข้าต่อยกัน “คุณชยุตม์ครับ ผมว่าแวะซื้ออะไรกันก่อนนะครับ ผมกับคุณจักริณทร์เห็นว่าเราน่าจะซื้ออะไรไปนั่งทานริมธารน้ำตก ถือซะว่าเป็นการปิกนิกกลางธรรมชาติ”
“ธรรมชาติมันไม่เหลือจะให้ปิกนิกแล๊ว” โชคดียักไหล่แล้วเดินไปก่อน ทิ้งให้จักริณทร์มองตามงงๆ แล้วเปรยขึ้นว่า
“คุณโชคดีท่าจะรักธรรมชาติมาก ดีจังเลย ถ้ามีคนแบบนี้เยอะๆ เมืองไทยคงน่าอยู่”
...ถ้ามีคนแบบโชคดีเยอะๆ เขาคงเป็นโรคประสาทพอดี ไปทำงานสร้างตึกที่ไหนคงมีแต่คนถือป้ายประท้วงมารวมกลุ่มต่อต้านอยู่หน้าโครงการ...
จักริณทร์ถอนหายใจเบาๆ มองตามจักริณทร์ที่เร่งเดินตามโชคดีไป ผู้กองปฐพีมองยิ้มๆ แล้วหันมาปลอบชยุตม์ว่า “อดทนหน่อยนะครับ อีกหน่อยโชคดีก็คงเข้าใจ”
ปฐพีพูดไปก็อดกังวลไม่ได้ ด้วยรู้ว่าคนอารมณ์ร้อนอย่างโชคดีคงโวยวายไม่น้อยหากรู้ว่าชยุตม์เป็นใคร เป็นลูกชายของใคร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าของโครงการรีสอร์ท The River Bend

จักริณทร์ลอยคลออยู่ในธารน้ำของน้ำตก นักบินหนุ่มดูมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชยุตม์นั่งมองดูคนรักอย่างคิดคำนึง นานเข้า เขาเริ่มมีความรู้สึกว่าเขากับจักริณทร์เริ่มจะมีความเป็นเพื่อนกับมากกว่าเดิม เขายอมรับว่าไม่ได้คิดถึงจักริณทร์มากมายอย่างที่ควรจะเป็นเวลาบายหนุ่มเดินทางไปทำงนไกลๆ เป็นเวลานาน รวมถึงช่วงที่เขาทำงานที่น่าน เขาก็ไม่ได้รู้สึกทรมานด้วยความคิดถึงเลยแม้แต่นิด
...ก็ปวดหัวกับเจ้าของร้านขายเหล็กเจ้าปัญหาอยู่นี่นะ จะให้คิดถึงแฟนอย่างไรได้ แต่ละขั้นต้องคอยคิดว่าจะรับมือกับโชคดีอย่างไร เขาจะมีเวลาที่ไหนไปคิดถึงถึงจักริณทร์...
...แล้วนี่หายไปไหน มาถึงแล้วก็แวบไปไม่บอกอะไรซักคำ...
ชยุตม์หันซ้ายหันขวา เห็นปฐพีเอนตัวนอนพักอย่างมีความสุข จักริณทร์ยังเล่นน้ำอยู่คนเดียวอย่างเพลิดเพลิน ไม่มีวี่แววจะขึ้นจากน้ำ ชยุตม์จึงลุกขึ้นแล้วเดินตามหาโชคดีว่าหายไปไหน
...หรือไปปลุกระดมนักท่องเที่ยวให้มาต่อต้านการทำลายธรรมชาติ...
ชยุตม์ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วเดินลัดเลาะไปตามโขดหินจนมาหยุดยืนมองชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนเท้าสะเอวอยู่ต่อหน้าเด็กมัธยมศึกษากลุ่มหนึ่งที่ยืนฟังอยู่อย่างตั้งใจ
“จำไว้นะ เราทุกนต้องแสดงเจตน์จำนง ให้คนพวกนั้นรู้ว่าจะมาทำแบบนี้กับเมืองน่านของเราไม่ได้เป็นอันขาด”
...คิดไว้ไม่ผิด คราวนี้ปลุกระดมเด็กมัธยมเรื่องอะไร...
“กลับไปบอกเพื่อนๆ ที่โรงเรียน บอกพ่อแม่ บอกผู้ใหญ่แถวบ้านให้ต่อต้านการก่อสร้างรีสอร์ทที่มุ่งปรนเปรอความสุขให้คนรวยโดยไม่ใส่ใจในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” เสียงโชคดีประกาศ
...ตายล่ะ โชคดีเล่นแบบนี้เลยหรือ...
ชยุตม์อยากจะตะโกนแทรกอธิบายแย้งให้เด็กๆ เข้าใจ แต่เขาก็เห็นว่ายังไม่ควรทำ เดี๋ยวจะกลายเป็นเวทีมวยกลางน้ำตก จึงตัดสินใยรอจนโชคดีพูดจบและ “อนุญาต” ให้เด็กกลุ่มนั้นจากไปแล้วจึงเดินเข้าไปหา
“ผมว่าคุณไปหาเครื่องขยายเสียงมาประกาศให้ทุกคนทึ่มาเที่ยวน้ำตกให้มารวมกันฟังคุณทีเดียวเลยดีไหม จะได้ไม่เหนื่อยหลายรอบ” ชยุตม์พูดขึ้นใกล้ๆ หูของคนหัวรุนแรง
โชคดียืนนิ่ง ยังไม่เห็นหันมามองชยุตม์ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว เดินอ้อมไปยืนเผชิญหน้าคนที่ตั้งตัวเป็นฝ่ายต่อต้านเขา
“หรือไม่ก็ไปจ้างบริษัทโฆษณาทำสปอตฉายทางทีวีเสียเลย”
“ยังก่อน” โชคดีพูดเสียงเย็น “แต่วิทยุท้องถิ่นล่ะไม่แน่ ขอบคุณสำหรับไอเดียดีๆ”
โชคดีหันหลบกลับ เดินหนีชยุตม์ไปอีทาง วิศวกรหนุ่มไม่ได้เดินตามแต่พูดตามหลังว่า “คุณโชคดี ไม่ว่าจะยังไงผมก็จะสร้างรีสอร์ทให้เสร็จตามกำหนดการ”
“ไม่ว่าจะยังไง ผมก็จะขัดขวางทุกวิถีทาง” โชคดีตอบโดนไม่หันมามอง ปล่อยให้ชยุตม์ยืนกัดฟันมองตามอย่างหนักใจ
...ทำไม่จะไม่รู้ โชคดีต้องขัดขวางเขาทุกวิถีทางอยู่แล้ว แต่อย่าคิดว่าคนเงียบๆ นิ่งๆ อย่างชยุตม์จะยอมแพ้ง่ายๆ นะ เขาชอบอะไรที่ท้าทาย และโชคดีนี่ล่ะ เป็นความท้าทายอย่างที่สุด...

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 6 (10/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 16-04-2009 07:57:17
ชยุตม์เดินกลับมาที่เดิม ปฐพียังหลับอยู่ แต่จักริณทร์ขึ้นมาจากน้ำแล้ว นุ่งผ้าเช็ดตัวเพียงตัวเดียวนั่งมองปฐพีอยู่เงียบๆ วิศวกรหนุ่มกระแอมเบาๆ จักริณทร์หันมามองแล้วยิ้มให้บางๆ
“สบายมากเลยยุตม์ น้ำเย็น สะอาด สดชื่นที่สุด ผมไม่เคยอาบน้ำแล้วมีความสุขแบบนี้มาก่อน” จักริณทร์ขยับเข้ามาใกล้แล้วพูดต่อว่า “อยากมาช่วยยุตม์ทำงานที่นี่ซะแล้ว รู้สึกผ่อนคลายกว่าขับเครื่องบินตั้งเยอะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เหมือนได้เข้าสปาทุกวัน”
...เหมือนต้องเข้าสู่สมรภูมิทุกวันต่างหาก...
“แล้วนี่ไม่หนาวหรือ ทำไมไม่สวมเสื้อผ้า” ชยุตม์ถามคนรักเสียงนุ่ม
“รอให้ต้วเแห้งเอง” จักริณทร์ตอบยิ้มๆ แล้วหันไปมองรอบๆ “แล้วนี่คุณโชคดีหายไปไหนครับ ตั้งแต่มาถึงก็ไม่เห็นหน้าเลย”
“เขาก็ไปเดินตระเวนปลุกระดมมวลชนให้ต่อต้านการสร้างรีสอร์ทอยุ่นะสิครับ” ชยุตม์เบ้ปาก ตอบเสียงเนือยๆ
“พูดเป็นเล่น ยุตม์นี่ไม่ถูกกับคุณโชคดีเป็นเอามาก”
“จริงๆ นะจักร ผมไปเจอเขากำลังยืนทำไอปาร์คกลางป่ากับเด็กมัธยม กำลังล้างสมองเด็กให้ต่อต้านรีสอร์ทของคุณอา นี่ตอนเป็นนิสิต คงถือโทรโข่งตะโกนปาวๆ อยู่กลางสนามฟุตบอลเรียกร้องความยุติธรรม”
จักริณทร์หัวเราะเบาๆ แล้วส่ายหน้า ก่อนจะหันไปมองปฐพีแวบหนึ่ง
“ผมก็ว่าเขาเป็นคนจริงใจดี ตรงไปตรงมา ไม่สวมหน้ากาก ผู้กองปฐพีก็เหมือนกัน เป็นมิตรแบบที่เราไม่ต้องกังวลเลยว่าเขาแกล้งทำหรือเปล่า แต่นี่ก็มานอนอย่างเดียวแท้ๆ” จักริณทร์หยุดพูดไปชั่วครู่แล้วพูดต่อว่า “ยุตม์ครับ คนที่นี่เขาดูเป็นมิตร ไม่สวมหน้ากากเหมือนสังคมกรุงเทพฯ หรือนิวยอร์คที่คุณไปอยู่หลายปี ไม่เหมือนแวนคูเวอร์ ไม่เหมือนปารีส หรือแม้แต่โตเกียว คุณเคยอยู่แต่เมืองใหญ่ๆ ที่คนไม่เคยสนใจอะไรรอบกายนอกจากตัวเอง พอมาอยู่จังหวัดน่านก็ยังปรับตัวไม่ได้ เขาหวงแหนธรรมชาติและท้องถิ่นของเขา เลยแสดงออกมาแบบนั้น แต่คุณโชคดีนี่เขาโผงผางไปนิด แต่ก็ไม่น่ามีพิษมีภัย อย่าคิดมากสิ”
...จักริณทร์มองคนในแง่บวกเสมอ นี่คือข้อดีอีกอย่างของจักริณทร์ที่เขาชอบ รวมถึงความใจเย็น...
...ต่างจากโชคดีลิบลับ...
...จักริณทร์จะว่าอย่างไรนะ หากรู้เรื่องที่โชคดีบุกไปถึงบ้าน บีบให้โต๋รับผิดชอบเดือนและลูกในท้อง และจับแต่งงานภายในสองวัน อีกทั้งขู่ว่าจะจัดการไม่ให้โต๋ได้มีโอกาสเหยียบเมืองน่าน และหากโต๋ไม่รับผิดชอบลูกก็จะให้เดือนเอาเด็กออก...
...และข้อมูลล่าสุดที่เขาได้รับคื กว่าหนึ่งสวนสามของลูกน้องเขาที่ไซท์งานเป็นลูกหนี้โชคดีทั้งนั้น รวมถึงแสวงด้วย ตอนนี้เขาจึงเข้าใจว่าทำไมแสวงจึงได้ทำท่าเกรงกลัวโชคดีนัก ส่วนตำรวจอย่างผู้กองปฐพีก็คงเอาโชคดีไม่อยู่ จัดการกับโชคดีไม่ได้ แต่ก็นั่นล่ะ เขาคิดว่าปฐพีคงชอบโชคดีอยู่เหมือนกัน ท่าทางยอมๆ โชคดีอยู่ไม่ใช่น้อย...
...จะว่าไป ปฐพีก็ดูใจเย็น มองโลกในแง่ดีเหมือนจักริณทร์และดูเข้ากันได้ดี แต่หากปฐพีกลายเป็นแฟนกับโชคดีก็คงแปลกน่าดูและท่าทางคงถูกแฟนข่ม...
...แล้วใครล่ะจะเหมาะกับโชคดี คนแบบนี้จะมีแฟนกับใครเขาได้ด้วยหรือ ดุขนาดนั้น ใครจะมาทนอยู่ด้วยได้...
...คนที่จะมาเป็นแฟนโชคดีต้องเป็นคนแข็ง ใจเย็นและอดทน แต่ในขณะเดียวกันต้องร้ายลึกพอที่จะสู้รบปรบมือกับโชคดีให้ได้...

ชยุตม์เดินออกจากสำนักงานมาที่รถ วันนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปได้ตามแผนงาน วันทำงานจบลงอีกวันหนึ่งโดยไม่มีเรื่องให้หนักใจ รวมถึงเรื่องการประท้วงที่ทุกคนหนักใจ กลุ่มต่อต่อต้านไม่ได้กลับมาอีกนับจากวันนั้นที่เขาประกาศมอบเงินรางวัลหนึ่งล้านบาทให้แก่ผู้ที่หาหลักฐานมายืนยัน คุณอาของเขาทราบข่าวแล้วเพราะผู้จัดการโครงการโทรไปรายงาน เขาจึงถูกบ่นเสียยกใหญ่ แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบาย คุณอาของเขาก็ยอมรับการตัดสินใจของชยุตม์
“อาจะขายหุ้นให้ยุตม์เลยดีไหม เอาไปซัก 40 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะเหลือให้กลุ่มเจียงสกุลสิบห้าเปอร์เซ็นต์ก็พอ”
ชยุตม์ปฏิเสธ เพราะยังไม่คิดจะทำธุรกิจในตอนนี้ เขายังเด็กและยังอยากทำงานวิศวกรให้เต็มที่ ไม่อยากจะมากังวลกับเรื่องการถือหุ้นอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ หากโชคดีรู้ว่าเขาถือหุ้นของรีสอร์ทที่เจ้าตัวเกลียดนักหนา เขาคงโดนเกลียดไปด้วย
...ไม่ใช่สิ โดนเกลียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แค่เป็นวิศวกรโครงการ โชคดีก็ไม่ชอบหน้าเขาจะแย่อยู่แล้ว ถ้ามาถือหุ้น โชคดีคงถึงกับไม่มองหน้าเขา...
ชยุตม์หันไปเห็นโต๋กำลังทำงานอยู่จึงเดินเข้าไปหาและถามด้วยความแปลกใจที่โต๋ไม่รีบตาลีตาเหลือกกลับบ้านเช่นทุกวัน
“โต๋ เลิกงานแล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อตาโวยวายเอานะ” ชยุตม์ถามแกมเหน็บแนมอีกคนที่คยควบคุมดูแลคุ่สามีภรรยาวัยรุ่นคู่ใหม่
“คุณโชคดีไม่อยู่ครับ” โต๋ตอบยิ้มๆ เมื่อได้ยินชยุตม์เรียกโชคดีว่า พ่อตา “เดือนโทรมาบอกว่าไม่ต้องรีบกลับก็ได้ คุณโชคดีไปเชียงใหม่ อาจจะกลับค่ำๆ”
“ไปทำไม” ชยุตม์พึมพำ ไม่ได้ตั้งใจถาม แต่คำตอบที่ได้ยินจากโต๋ทำให้เขาต้องนิ่ง
“ไปคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นอาจารย์ครับ เห็นเดือนบอกว่าคุณโชคดีจะจัดการนายช่างให้อยู่หมัด” โต๋ตอบแบบที่ได้ยินเดือนพูดให้ฟัง
“จัดการ หมายความว่าจัดการเรื่องประท้วงต่อต้านรีสอร์ทนี่นะ”
...เอาจริงแฮะ โชคดีท่าทางจะเอาจริง แต่คนอย่างโชคดีก็คงเอาจริงทุกอย่างนั่นล่ะ...
...แล้วทำไมโชคดีบอกว่าจะจัดการเขาให้อยู่หมัด นี่เปลี่ยนเป้าหมายจากรีสอร์ทมาเป็นตัวเขาแล้วหรืออย่างไร...
“โต๋ก็รีบกลับบ้านเถอะ ถึงเขาไม่อยู่ก็อย่ากลับค่ำ สายเขามีทั่วทุกหัวระแหงไม่ใช่หรือ เข้าไปถึงหูพ่อตาแล้วจะยุ่ง”
โต๋พยักหน้าแล้วเก็บของให้เข้าที่ “ครับ กลับแล้วครับ อ้อ แต่ว่านายช่างอย่าไปพูดให้คุณโชคดีได้ยินว่าเป็นพ่อตาผมนะครับ เดี๋ยวโกรธปรอทแตก เมื่อวาน คนงานโดนไล่ออกไปคน โทษฐานส่งของลูกค้าผิดที่”
...ขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมร้ายแบบนั้น แล้วเรื่องโกรธปรอทแตกเพราะพูดไม่เข้าหูนี่เขาสงสัยนักว่าระหว่างเรียกชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง กับล้อเล่นว่าเป็นพ่อตา อย่างไหนโชคดีจะโกรธมากกว่ากัน...
“แล้วเรื่องคุณโชคดีไปคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเพื่อมาจัดการนายช่าง ผมจะคอยสืบสวนให้” โต๋ทำท่าจริงจัง
“ไม่ต้องหรอก แต่ขอบใจนะโต๋ ผมจะไปสืบเอง ให้มันรู้ไปสิว่าเขาจะมุ่งมาจัดการผม แทนที่จะเป็นการต่อต้านการสร้างรีสอร์ท”

ชยุตม์มาหยุดยืนหน้าร้านโชคดีค้าเหล็กเอาเมื่อเวลาหนึ่งทุ่ม มีลูกค้าอยู่สี่ห้าคนกำลังเลือกซื้อสินค้า พงษ์เดินเข้ามาทักทายแล้วเชิญให้เขาไปนั่งคอยโชคดีในห้องทำงานแต่ชยุตม์บอกว่าไม่ได้มาพบเจ้าของร้าน
“ผมมาหาคุณเตือนใจ” ชยุตม์แจ้งความประสงค์
“คุณนายไม่อยู่ครับ ไปซื้อของ แต่อีกหน่อยก็คงกลับ นายช่างรอเดี๋ยวนะครับ” พงษ์ตอบแล้วขอตัวไปดูแลลูกค้า ปล่อยให้ชยุตม์นั่งมองไปรอบๆ สภาพภายในร้าน
ธุรกิจของโชคดีท่าทางไปได้ดี ตลอดเวลาที่เขานั่งอยู่มีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว เขาอดคิดไม่ได้ว่าหากโชคดีขายเหล็กให้โครงการรีสอร์ทชายหนุ่มก็จะทำรายได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่โชคดีคงไม่ยอม คนๆ นี้มีทิฐิมากนักเกินกว่าจะยอมฝืนอุดมการณ์ตัวเองเพื่อแลกกับเงิน
...เหมือนพ่อเขาไม่มีผิด เหมือนโชกออกมาจากพิมพ์เดียวกันยังไงยังงั้น นี่ถ้าได้อยู่ด้วยกันคงถูกคอกันอย่างรวดเร็ว...
เมื่อนึกถึงผู้เป็นพ่อ ชยุตม์ก็ถอนหายใจเบาๆ พ่อเขาเริ่มระแคระคายเรื่องของเขาแล้ว ทั้งที่พ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่เขาก็รู้ว่าพ่อคงทำใจลำบากที่รู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ ความจริงเขาคิดว่าพ่อคงจะสงสัยมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว หรือบางทีก็คงตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย แต่พ่อก็ไม่เคยพูดอะไรหรือแสดงท่าทีใดๆ จวบจนกระทั่งพี่ชายคนรองของเขาเปิดเผยตัวเองให้พ่อกับแม่ทราบ คราวนี้เลยก็กลัวลูกชายคนเล็กจะเป็นเหมือนพี่ชายคนรองไปอีกคน
...ซึ่งพ่อก็คงจะคิถูก และคงจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าเขากับจักริณทร์เป็นแฟนกันมาได้กว่าหนึ่งปีแล้ว และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่คอนโดของเขา แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเพราะการทำงานที่แตกต่างกัน แต่ก็เรียกว่าเขากับจักริณทร์ใช้ชีวิตคุ่อยู่ด้วยกัน
ชยุตม์รออยู่ประมาณ 10 นาทีคุณเตือนใจก็กลับมาถึงบ้าน คุณแม่ของโชคดียังดูสวยมาก เหมือนคุณแม่ของเขาที่อายุเกือบหกสิบปีแล้วก็ยังสวย
“ผมแวะมาสวัสดีคุณเตือนใจครับ จะมาซื้อเหล็กด้วย ตั้งใจว่าจะต่อเติมบ้านคนงาน พอดีคุณโชคดีไม่อยู่”
“ไปเชียงใหม่ค่ะ เห็นบอกว่าจะไปคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวัทยาลัยให้ช่วยทำวิจัย ก็เรื่องรีสอร์ทของนายช่างนั่นล่ะคะ โชคดีเขากะจะโค่นลงให้ได้เหมือนเรื่องสร้างห้างสรรพสินค้า” คุณเตือนใจอธิบายยิ้มๆ “แต่นายช่างไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าโครงการไม่ผิดจริง ยังไงโชคดีก็ทำอะไรนายช่างไม่ได้”
ชยุตม์ฟังไปก็ขมวดคิ้วตาม คุณเตือนใจพูดเหมือนโชคดีหาทางขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทำงานวิจัย แต่ดูๆ ไปก็เหมือนจงใจต่อต้านเขา
...ถ้าโครงการไม่ผิดจริง ก็ทำอะไรเขาไม่ได้...
...และเขาอยากจะพูดซ้ำอีกเหลือเกินว่าไม่ใช่รีสอร์ทของเขา คุณเตือนใจพูดเหมือนจะเข้าใจง่ายแต่ก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าใดนัก...
...แล้วตอนนี้เขาเลยกลายเป็นนายช่าง แทนที่จะเป็นวิศวกร เพื่อนๆ รุ้คงหัวเราะเยาะกันเป็นแถว โครงการแต่ละแห่งที่เขาสร้างนั้นยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น ตึกสูงเกินร้อยชั้น ศูนย์แสดงสินค้า สนามบิน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างทั้งนั้น ได้รับรางวัลทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมาจากหลายสถาบัน ทุกโครงการสำเร็จเรียบร้อยอย่างดี...
...แต่รีสอร์ทเล็กๆ ขนาดเพียงเจ็บสิบกว่าไร่ อาคารก่ออิฐธรรมดาๆ ไม่ได้ใช้โทคโนโลยีพิเศษใดๆ เลยกลับทำให้เขาหนักใจยิ่งกว่าสร้างตึก The Royal Heaven ที่เมืองโอซาก้า...
...โชคดี เพราะโชคดีจริงๆ...
“คุณเตือนใจคิดว่าคุณโชคดีเขาตั้งใจจะจัดการผมให้ได้ใช่ไหมครับ นอกจากเรื่องรีสอร์ทแล้ว คุณโชคดีคงหมายหัวผมไว้ด้วย” ชยุตม์พูดออกไปตรงๆ
“โธ่ อย่าคิดถึงขนาดนั้นสิคะนายช่าง หมูปิ้ง เอ๊ย โชคดีไม่คิดร้ายขนาดนั้นหรอก ลูกชายดิฉันมันเห็นอะไรไม่ค่อยถูกที่ถูกทางก็พยายามทำอะไรบ้าง ไม่เคยนั่งนิ่งมองอยู่เฉยๆ จะว่าไป ม้นก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แม้จะรั้นไปสักหน่อย แต่ถ้ารีสอร์ทของนายช่างมีแผนงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีก็คงไม่มีปัญหา”
“ไม่ใช่รีสอร์ทของผมครับ ผมเป็นวิศวกรโครงการ” ชยุตม์แก้ให้ถูก
“คะ ดิฉันทราบ มันพูดติดปากไปยังงั้นเอง”
“แล้วผมก็มั่นใจว่ารีสอร์ทของเราใส่ใจเรื่องนี้มาก สถาปนิกก็ให้ความสำคัญเป็นอันดับนึ่ง เรามุ่งจะทำให้เป็นรีสอร์ทที่อิงแอบธรรมชาติ ให้คนที่มาพักได้สัมผัสธรรมชาติแท้จริง ส่วนเรื่องที่กังวลเกี่ยวกับแม่น้ำน่านและประตูน้ำของโครงการ ตอนนี้ทีมงานกำลังมุ่งศึกษาประเด็นนี้เพิ่มเป็นพิเศษ หากคุณโชคดีกังวลก็อยากให้ส่งตัวแทนเข้าไปศึกษาร่วม”
ชยุตม์คุยกับคุณเตือนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยหวังว่าสิ่งที่คุยอาจจะผ่านไปยังโชคดี เขาขอความกรุณาให้คุณยินดีช่วยคุยกับลูกชายให้เข้าใจเขาบ้าง เขาไม่กล้าคุยกับโชคดีโดยตรงเพราะรู้ว่าฝ่ายนั้นคงไม่ยอมคุยกับเขาดีๆ
...จะเกลียดกันไปถึงไหนก็ไม่รู้...
“ไว้ดิฉันจะช่วยคุยอีกที ให้ผู้กองปฐพีช่วยคุยด้วย” คุณเตือนใจปิดการสนทน
“ขอบคุณมากครับ ผมก็อยากให้คุณโชคดีเข้าใจผมบ้าง”
“นายช่างไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ โชคดีไม่ได้เกลียดนายช่าง ยังไงๆ หากนายช่างมีเจตนาดี หมูปิ้งก็ต้องเห็นความดีของนายช่างอยู่วันยังค่ำ” คุณเตือนใจให้กำลังใจ
“ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ชยุตม์ลุกขึ้น เตรียมตัวอำลาผู้สุงวัยกว่า “ผมคงไม่รบกวนเวลาคุณเตือนใจแล้ว ขอลาเลยนะครับ”
ชยุตม์ยกมือสวัสดีแล้วกล่าวอำลาย ไม่ลืมย้ำเรื่องการซื้อเหล็ก “เอ่อ เรื่องการซื้อเหล็ก คุณเตือนใจอยากบอกคุณโชคดีนะครับ”
“ไม่บอกหรอกค่ะ แต่ว่าไม่รับประกันว่าหมูปิ้งจะไม่รู้นะคะ เพราะว่ารายนั้นตรวจบัญชีเป็นประจำ แต่ว่าพอลูกค้าซื้อไปแล้วจะไปตามเอาคืนไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณนายช่างซื้อเป็นเงินสด คือเรื่องตามไปเอาของคืนจากลูกค้านี่ไม่เคยมีประวัติ” คุณเตือนใจรับปาก แต่ก็ยังทำหน้าสงสัย “ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ยอมขายให้นายช่าง”
“เขากลัวผมเอาไปสร้างรีสอร์ท” ชยุตม์ตอบสั้นๆ
คุณเตือนใจหัวเราะอย่างเห็นขัน พลางเดินมาส่งชยุตม์ที่หน้าร้านแล้วพูดว่า “นายช่างไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ โชคดีมันเป็นคนจริง เป็นคนยุติธรรม บางทีมันอาจดูร้ายไปบ้าง แต่คนที่รู้จักดีจะรู้ว่าลูกชายดิฉันเป็นคนดีคนหนึ่ง ถ้าโชคดีเข้าใจคุณแล้ว มันก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ให้เขาพิสูจน์อะไรของเขาเถอะ ให้เวลาเขาบ้าง”
...ให้เวลา โชคดีก็ควรให้เวลาเขาบ้างเหมือนกัน...
ชยุตม์คิดในใจ ยกมือสวัสดีคุณเตือนใจแล้วขึ้นรถกลับบ้านเพื่อไปทานอาหารเย็นกับจักริณทร์ที่รอเขาอยู่ แต่ไม่ทันจะออกนอกเขตเทศบาล เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจักริณทร์ว่ายังอยู่ในตัวจังหวัด
“ผมเจอกับผู้กองปฐพีที่ตลาด ผู้กองชวนทานข้าว ยุตม์ย้อนกลับมาสิ มาทานด้วยกัน แต่ถ้าอยากทานกันสองต่อสองก็ได้นะ ผมจะบอกปฏิเสธผู้กอง” จักริณทร์บอก
“จักรทานเถอะ แล้วจะให้กลับเข้าไปรับไหม” ชยุตม์ตอบ
“ไม่ต้องหรอกครับ ผู้กองคงไปส่ง แต่ยุตม์แน่ใจนะว่าทานข้าวคนเดียวได้”
“แน่ใจสิ ผมทานข้าวคนเดียวมาหลายมื้อแล้วนะจักร” ชยุตม์ยืนยัน
“ผมอดแวะดูตลาดริมแม่น้ำไม่ได้ ของน่าซื้อเยอะแยะ ได้ของไปฝากเพื่อนจนแทบจะถือไม่ไหวเลยกลับบ้านช้า พอดีเจอผู้กอง ยุตม์รู้ไหม ผู้กองปฐพีต่อราคาเก่งมาก ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจจะซื้อของเก่งขนาดนี้ แล้วรู้จักคนแทบทั้งตลาดเลยดีเดียวล่ะ สมกับเป็นลูกชายผู้ว่าราชาการจังหวัด” จักริณทร์อธิบาย แล้วลงท้ายด้วยการบอกว่าคิดถึง ก่อนจะวางสายไป
 
ชยุตม์ขับรถมาถึงสะพาน เห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนั่งตกปลากันอยู่ เขาจึงจอดรถแวะลงไปคุยด้วย เด็กหนุ่มทั้งสามคนบอกว่าขอบมาตกปลาตอนค่ำๆ โดยเฉพาะคืนที่พระจันทร์เต็มดวงเพราะได้ปลาเยอะ
“แต่อีกหน่อยคงไม่ค่อยมีแล้วครับ” เด็กหนุ่มร่างผอมสุงพูดขึ้น ชยุตม์ถามว่าทำไม คำตอบที่ได้ยินทำให้เขาอึ้ง
“พอรีสอร์ทตรงเชิงดอยสร้างเสร็จ อะไรก็คงเปลี่ยนไป ปลาที่เคยมีก็คงน้อยลง”
...โชคดี ทั้งหมดนี่เพราะโชคดีแท้ๆ ล้างสมองเด็กวัยรุ่นยังได้ น่าให้ไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศีกษาธิการยิ่งนัก...
ชยุตม์ตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้เขาจะไปคุยตกลงกับโชคดีอีกครั้ง ต่อให้ต้องทะเลาะกันหรือถูกต่อยเขาก็ไม่กลัว

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 16-04-2009 08:57:21
 :z13:


หมูปิ้งหาคนช่วยใหญ่เลย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-04-2009 09:31:13
โชคดีช่างร้ายสมชื่อเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 16-04-2009 11:04:33
มาขออ่านด้วยคนจร้า~
อ่านแล้วก้อเฮ้อ~ เหนื่อยแทนพระเอก ต้องมาชิงไหวชิงพริบกะนายเอกที่ร้ายเหลือ
(ตอนแรกมะค่อยชอบนายเอกซักเท่าไร ด้วยความที่ชีใจร้อนและอีโก้สูงเกิ๊นน ถึงจะดูว่ามีเหตุผลรองรับการกระทำ แต่ก้อเป็นเหตุผลที่มีอารมณ์เป็นที่ตั้ง มันเลยดูจะกลายเป็นอคติ ไม่เปิดใจรับฟังคนอื่น  แต่ก้อนะ สงสัยจะเพราะนิสัยเสียๆนั่นก้อคลายๆนิสัยอิชั้น :เขาว่าคนนิสัยคล้ายกันมักอยู่ด้วยกันนานๆไม่ค่อยได้55+ อ่านมาอ่านไปก้อได้แต่หวังว่า เมื่ออคติของคุณเธอลดลง นิสัยในด้านดีที่ตอนนี้อาจจะยังหลบมุมอยู่บ้างน่าจะเห็นได้ชัดเจนขึ้นๆไปอีก  แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้ชีจะไม่มีเสน่ห์นะ ไอ้มีน่ะมี แต่มันดูจะเป็นเสน่ห์ในแบบร้ายๆเหมือนแมวป่าเจ้าอารมณ์ยังไงก้อไม่รุ)
แต่สนุกคร่า ลุ้นด้วยว่าต่อไปจะมีเรื่องวุ่นๆอะไรอีก จะรอติดตามต่อไปน้า o13 :call:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-04-2009 12:25:35
มุขจับโชคดีเข้ากรงนี่เน่ามากอ่ะ :m20:

จักริณทร์+ปฐพีก็ดีนะ สงบร่มรื่น

แต่ชยุตม์+หมูปิ้ง เร้าใจกว่า :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 16-04-2009 13:00:37
โชคดีหาพรรคพวกใหญ่เชียว  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: bellebee ที่ 16-04-2009 14:35:50
คุณหมูปิ้ง แบบว่า... อุดมการณ์ล้นเหลือ  พออ่านๆ ไป ออกแนว แค่ ทิฐิ เองมากกว่าแฮะ

ติดตามต่อไปค่า  สนุกๆๆๆ ท่าทาง จะมีสองคู่  พ่อนักบินกะคุณตำรวจ มีแววมาแต่ไกล...
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 16-04-2009 15:14:45
"พ่อตาโต๋" คนแต่งชั่งคิดจริงๆ....โชคดีได้ยินเข้าคงควันออกหู

คู่ตำรวจกับนักบิน น่าลุ้น... :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 16-04-2009 16:21:32
เห็นท่าได้เห็นสนามมวยในจังหวัดน่านแน่เลยงานนี้
โชคดีเอาจริง
ทำไมตะหยิด ๆ เรื่องเกี่ยวกับชาติตระกูลของโชคดี
จังเลยอะ
ดูท่าคู่ของจักรกับผู้กองปฐพี ก็ชักจะยังไง ๆ แล้วนะ
คู่นี้
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 16-04-2009 23:06:36
แวะมาติดตามนะคร้าบบบ
********
หมูปิ้งเนี่ย-สงสัยเป็นหมูป่าปิ้ง
ร้ายมากๆ อิอิ-ชอบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-04-2009 02:21:33
555 ระดับโชคดีนี้เขี้ยวลากดินของแท้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-04-2009 07:00:38
+ให้เป็นกำลังใจนะคะ รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-04-2009 07:15:54
เจองานหินเข้าแล้ว นายช่าง ( ฮิ ฮิ......)

นายหมูปิ้งนี่ก็กัดไม่ปล่อย ตกลงเป็นหมูหรือเป็นหมาครับ พี่นาย

รอบทที่ 8 อยู่น้า พี่นาย +1 พร้อมกำลังใจให้พี่นาย ใจดีดี ดี ดี ดี ....... มาก ๆ หรือเปล่า 55555.....


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 17-04-2009 08:02:36
โชคดีหาข้อมูลเตรียมพร้อมถล่มนายช่างแล้ว

ผู้กอง+นักบิน  เริ่มส่อแววละ


 :pig4:คุณคฑาวุธ

รอลุ้นตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 17-04-2009 12:28:39
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 7 (16/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-04-2009 15:48:40
บทที่ 8 ครับ
สั้นไปหน่อย เพราะไม่ค่อยได้พิมพ์ครับ (ผู้เขียนกำลังติดเกมส์ ไปจ้างเขาลงเกมส์ใน iphone เล่นเพลิืนดีมากมาย)

บทที่ 8

ชยุตม์แปลกใจที่จักริณทร์โทรมาบอกเขาว่าจะไปเที่ยวกับผู้กองปฐพี วันนี้เขาต้องทำงานแต่ตั้งใจว่าจะเลิกงานเร็วกว่าปกติ ไปคุยกับโชคดีที่ร้านแล้วพาจักริณทร์ไปเที่ยว
“ผู้กองจะไปเชียงราย ผมเลยขอติดรถไปด้วย คงกลับค่ำๆ นะ ยุตม์ทานข้าวก่อนเลย ผมขอโทษที่ต้องทานคนเดียวอีกแล้ว”
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ไม่ได้พาจักรเที่ยวเท่าไหร่เลย” ชยุตม์บอกเสียงนุ่ม
“ยุตม์ต้องทำงานนี่นา แล้วอีกอย่างผู้กองปฐพีเป็นคนในพื้นที่ รู้จักที่เที่ยวที่กินดีๆ และยังซื้อของเก่งอีกต่างหาก” จักริณทร์หัวเราะเบาๆ แล้วก็วางสายไป
ชยุตม์เดินออกไปนอกสำนักงานชั่วคราวที่สร้างขึ้นใต้ต้นไม้ใหญ่ริมคลองสายหลักของโครงการ สราวุฒิสถาปนิกคนหนึ่งของโครงการเดินมาแต่ไกล โบกมือให้ชยุตม์ ส่งสัญญาณว่าจะมาคุยด้วย
“ทีมสถาปนิกกำลังแก้แบบครับ แต่ไม่มาก แค่สร้างสะพานเพิ่มอีกแค่สามจุด คุณไพศาลขอให้เพิ่มจุดโค้งน้ำด้านนอก ฝั่งทิศตะวันตก สะพานกว้างตั้งใจว่าจะให้เป็นจุดถ่ายรูป เพราะมองออกไปเห็นโค้งน้ำด้านนอกโครงการกับพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างชัดเจน มีภูเขาเป็นฉากหลัง ฝ่ายเซลล์แนะนำว่าตรงสะพาานจัดโต๊ะพิเศษได้ 5-6 โต๊ะเลยทีเดียว  ขายเป็นแพคเก็จฮันนี่มูน ทางคุณนิภายังเสนอเลยนะครับว่าให้มีล่องเรือไปตามคลองรอบๆ โครงการได้ด้วย แล้วอยากให้มีช่องทางออกไปล่องแม่น้ำน่านต่อได้อีก”
...โชคดีจะได้อยู่อีกฟากของแม่น้ำ ถือปืนคอยยิงแขกที่นั่งเรือโผล่ออกไปทีละคนๆ...
“ทำไมผมไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย”
“ก็เพิ่งคุยๆ กันครับ ยังไม่ได้ประชุมเป็นทางการ” สราวุฒิให้เหตุผล
“แต่เรื่องสร้างสะพานเพิ่มนี่เป็นทางการแล้วหรือครับ สถาปนิกแก้แบบไปแล้วหรืออย่างไร” ชยุตม์หน้าขรึม เสียงเข้ม “ส่วนเรื่องล่องเรือออกไปแม่น้ำน่าน ผมว่าไม่เหมาะ จำได้ไหมครับ ว่าเรากำลังมีประเด็นเรื่องประตูน้ำ”
“ไม่เห็นมีใครมาประท้วงแล้วนี่ครับ”
ชยุตมถอนหายใจที่เห็นว่าสถปานิกคนนี้คิดอะไรตื้นๆ และคิดว่าเห็นทีจะต้องคุยกับหัวหน้าสถาปนิกเสียแล้ว และหากไม่ไหวจริงๆ เขาจะคุยกับคุณอาองอาจ จะหาว่าก้าวก่ายก็ยอม
...แทนที่จะมุ่งไปเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ กลับมานั่งนึกถึงเรื่องอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามา...
“คนที่เป็นแกนนำประท้วงเขากำลังทำงานหาข้อมูลอยู่ เราประมาทไม่ได้ครับ เรื่องประตูน้ำยังไม่จบ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องช่องทางออกไปล่องเรือต่อในแม่น้ำน่านเลยครับ ช่วยคุยกับคุณนิภาพให้ด้วย”
สราวุฒิทำหน้าไม่ค่อยพอใจแต่ก็รับปาก ด้วยรู้สถานภาพของคนที่เป็นวิศวกรดี ชยุตม์จึงเดินไปยังส่วนหน้าของโครงการด้านที่ติดกับแม่น้ำ จุดที่จะเป็นที่สร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
...โชคดีก็คงจะโวยวายอีกละสิท่า ว่าสร้างสระว่ายน้ำขนาดมหึมาติดกับแม่น้ำน่าน ทำลายทัศนียภาพ...
...โชคดีกำลังทำอะไรอยู่นะ กำลังคิดเงินขายเหล็ก หรือนั่งวางแผนต่อต้านรีสอร์ท หรือจะพูดให้ถูก นั่งคิดหาวิธีจัดการเขาให้อยู่หมัด...


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 17-04-2009 18:10:23
หุหุ แนะนำให้ชยุตเอาตัวเข้าแลกไปเร้ย 5555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 17-04-2009 18:15:56
ใครจะจัดการใครได้ก่อนกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jaideejung007 ที่ 17-04-2009 18:31:53
มาลงทะเบียนอ่านด้วยคนครับ

ฝากด้วยนะครับ

โจ้คับ

และขอโฆษณาเรื่องเล่าหน่อยนะครับ

ไม่ว่ากันนะ

[เรื่องเล่า] จากเกลียดกลายเป็นรักได้ไงว่ะ[By เขมคับ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=9774.0)

ฝากด้วยนะครับ

ไม่ว่ากันนะ แค่อยากให้เพื่อนๆ ได้อ่านเรื่องหนึ่งๆ ที่ผมคิดว่าทุกคนน่าจะชอบกันนะ

โจ้คับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-04-2009 21:27:34
ยอมรับเลยรบกับงานยังไงๆก็เหนื่อยน้อยกว่ารบกับคน
โดยเฉพาะมาเจอแสบๆแบบโชคดี ก็ตัวใครตัวมันละเน้อ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 17-04-2009 21:33:36
มาตามอ่านนิยาย ของคนแต่งสุดแสนจะน่ารัก

ปล.คิดถึงเค้าป่าวอ่ะพี่นาย ไม่ได้เข้ามาไม่กี่วัน ได้แต้มไป เจะร้อยกว่าละ แถมให้อีกแต้มค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 17-04-2009 21:46:00
ถึงจะมาสั้นๆ-แต่ก็ขอขอบคุณที่มาคร้าบ
********

แล้วก็รอต่อไป คริคริคริ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-04-2009 21:51:19
คิดเหมือนรีบน  :z1:

รีบมาต่อนะครับ พี่นาย + ไม่ได้เพิ่ง + ไปเมื่อเช้าเอง  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 17-04-2009 22:06:57
สั้นจริงๆด้วย - -*

งอนนนนน :o12:

เรื่องปวดหัวมาอีกแล้ววว :a5:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-04-2009 23:54:56
มาตามอ่านนิยาย ของคนแต่งสุดแสนจะน่ารัก

ปล.คิดถึงเค้าป่าวอ่ะพี่นาย ไม่ได้เข้ามาไม่กี่วัน ได้แต้มไป เจะร้อยกว่าละ แถมให้อีกแต้มค่ะ  :กอด1:

คิดถึงสิครับ คิดถึงคนอ่านทุกๆ คนเลย คืนนี้ก็เข้ามาอ่านคอมเม้นท์และโพสต่อ แล้วก็นั่งกดคะแนนให้คนอ่านเล่นๆ เพลินดี

ต่อ

...โชคดีกำลังทำอะไรอยู่นะ กำลังคิดเงินว่าขายเหล็กได้กี่บาท หรือนั่งวางแผนต่อต้านรีสอร์ท หรือจะพูดให้ถูก นั่งคิดหาวิธีจัดการเขาให้อยู่หมัด...

โชคดีวางโทรศัพท์ลงช้าๆ ราวกับเหนื่อยแรงยิ่งนัก เขาเพิ่งจบการสนทนากับ ดร. พงศธร แฟนของวารุณีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลาย พงศธรตรวจสอบข้อมูลของ The River Bend Resort แล้วบอกเขาว่าเจ้าของเป็นน้องชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวมมหาดไทย เขาบอก ดร. พงศธรว่าเรื่องนี้เขารู้แล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่รู้คือ สถาปนิกที่ออกแบบเป็นญาติของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้จัดการโครงการเป็นสามีของน้องสาวรองผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วิศวกรโครงการเป็นสามีของรองผู้จัดการตลาดหุ้นแห่งประเทศไทย เขาแย้ง ดร. พงศธรว่าวิศวกรยังเป็นโสด ชื่อชยุตม์ แต่ ดร. พงศธรบอกว่าในข้อมูลที่เขาได้มาไม่มีชื่อชยุตม์
"อาจเป็นหนึ่งในทีมวิศวกร หรือไม่ก็มีการเปลี่ยนตัว แต่สถาปนิกใหญ่ผมมั่นใจ ภูมิสถาปนิกเป็นน้องชายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่"
"กระดูกทั้งนั้น" โชคดีเปรยกับ ดร. พงศธร
"คุณโชคดีครับ ถ้าให้ผมพูดตรงๆ แม้เราจะมีหลักฐานชัดเจนว่าการสร้างรีสอร์ทมีผลกระทบจริง ก็คงโค่นเขาลงยาก และที่สำคัญ การทำวิจัยต้องใช้เวลา ใช้แรงคนและเงินทุน ทางนั้นคงไม่รอให้เราทำวิจัยเสร็จก่อนแล้วค่อยสร้าง ที่พูดนี่ไม่ได้ปิดทางสู้ของคุณโชคดีนะครับ แต่บอกไว้เป็นข้อมูลและปรับเปลี่ยนกลวิธี ถ้าจำเป็น"
เสียงของ ดร. พงศธรยังดังก้องอยู่ในหัวของโชคดี ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนมีกำแพงมหึมากำลังมาขวางกั้นเขาอยู่ มีชยุตม์ยืนเท้าสะเอวอยู่บนกำแพง มองลงมาที่เขาด้วยสายตายิ้มๆ ราวกับจะบอกว่า "ยังไงคุณก็ขวางผมไม่ได้"
...ท่าทางหนักกว่าตอนขับไล่การก่อสร้างห้างสรรพสินค้ากลางเมือง...
...เจ็บใจชยุตม์นัก คงยิ้มย่องในใจละสิตอนที่คุยกับเขา รู้ว่าตัวเองมีทางชนะเห็นๆ มิน่า ถึงได้กล้าเสนอเงินตัวเองสองล้าน...
...คนตัวเล็กๆ อย่างเขาจะสู้คนเหล่านั้นไม่ได้เลยหรือ แม่เขาคงบอกว่า สู้ไม่ได้หรอก ปฐพีก็คงโน้วน้าวให้เขาเลิกล้มความตั้งใจ แล้วคนอื่นๆ ละ จะยอมสู้ต่อกับเขาหรือเปล่า รู้สถานภาพทางสังคมของผู้ประกอบการรีสอร์ทแล้ว แทบรู้สึกอยากจะถอนใจ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เดือนเข้ามาบอกว่าชยุตม์มาหา โชคดีจึงรีบเดินออกไปหน้าร้านเพื่อพบกับ "คู่ต่อสู้" คนสำคัญ
...สู้กับชยุตม์นะหรือ นี่เรากำลังสู้กับชยุตม์หรือสู้กับ The River Bend Resort...
...ลองเปลี่ยนกลวิธีใหม่ ทำงานผ่านชยุตม์ โน้วน้าวชยุตม์ดู เผื่อจะพูดกับนายทุนให้ได้บ้าง...
...ขอญาติดีกับชยุตม์ลองดูซักหน่อยเถอะ...
ชยุตม์นั่งรออยู่บนม้าหินอ่อนหน้าร้าน ตัวตรงนิ่ง ใบหน้าเรียบนิ่ง ท่าทางใจเย็น อดทน
...ดูๆ ไปชยุตม์ก็ไม่ได้แย่อย่างที่มองไว้ตอนแรก จะว่าไปเขาก็ร้ายกับชยุตม์อยู่บ้าง แต่นายช่างก็ไม่ได้โต้ตอบเขามากเท่าไหร่นัก นอกจากทำหน้าตาขวางหูขวางตาและพูดอะไรไม่ค่อยเข้าหู มัวแต่อ้อมค้อม ไม่ทันใจ น่าจะไปเป็นนักเจรจาต่อรองตัวประกันให้กรมตำรวจ ชักช้าแบบนั้น พูดให้โจรหลับก็คงได้หรอก...
โชคดีลอบมองวิศวกรหนุ่ม แล้วเดินเข้าไปใกล้ กล่าวทักทายเบาๆ แต่ทำให้ชยุตม์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
"สวัสดีครับนายช่าง มีธุระอะไรหรือครับ"
ชยุตม์อึ้งไปชั่วขณะ ในใจนึกว่าโชคดีควรจะทักเขาด้วยคำพูดอีกแบบหนึ่ง
...ว่าไง คุณมาทำไมอีกล่ะ...
"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย" ชยุตม์ตอบเบาๆ
"เรื่องรีสอร์ทใช่ไหมครับ" โชคดีถามเสียงเรียบ
...เรื่องอะไรอีกล่ะ...
"ทำไมคิดว่าเป็นเรื่องนั้น"
"ก็คงไม่มีเรื่องอื่น เพราะเรื่องโต๋กับเดือนก็จบลงไปแล้ว ส่วนเรื่องให้โต๋ทำงานจนเกินเวลากลับบ้านค่ำ ผมไม่ถือสาหรอก ทำงานมันก็มีการติดพันกันบ้างเป็นธรรมดา" โชคดียักไหล่ แล้วเดินมายืนพิงเสาใกล้ๆ ม้าหินอ่อน ทอดสายตาลงมองชยุตม์ที่นั่งอยู่ตรงหน้า
...ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้จะเรื่องอะไรล่ะ เรื่องโต๋ทำงานเกินเวลาหรือไง แทนที่จะรีบกลับบ้านมาดูแลเมียที่กำลังท้อง กลับต้องมาทุ่มแรงกายแรงใจช่วยสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ...
ชยุตม์นิ่ง แปลกใจและประหลาดใจที่เห็นโชคดีเปลี่ยนไปน่าใจหาย
...จะมีใครเตือนเขาบ้างไหมว่านี่เป็นบุคลิกใหม่ของโชคดีที่ทำท่าเป็นมิตร...ก่อนเชือด...
...ใครก็ได้ ช่วยบอกเขาทีว่าโชคดีกำลังแกล้งทำ...
"ว่าไงครับนายช่าง จะคุยอะไรเรื่องรีสอร์ทก็รีบพูดมา"
...ผมไม่มีเวลานั่งฟังนอนฟังคุณทั้งวันนะ...
ชยุตม์เติมคำพูดให้เจ้าของร้านเหล็กในใจแล้วพูดออกมาว่า "ผมมาคุยเรื่องที่คุณเข้าใจผิดว่าการก่อสร้างรีสอร์ทจะทำลายระบบนิเวศน์ ทำให้ธรรมชาติเดิมๆ ของแม่น้ำน่านเปลี่ยนไป
"ผมไม่ได้เข้าใจผิด" โชคดีแย้ง ใบหน้ายังคงเรียบนิ่ง
"แต่คุณก็เข้าใจไม่ถูกหมดซะทีเดียว ตอนนี้โครงการจ้างเจ้าหน้าที่พิเศษมาศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติม สถาปนิกก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก"
...สถาปนิก ญาติของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั่นนะ...
"คุณอยากเห็นแม่น้ำน่านแบบที่คุณไม่เคยเห็นไหมนายช่าง ผมจะพาไปดู อย่างน้อยจะได้ทำให้คุณรักแม่น้ำสายนี้เพิ่มขึ้นมาบ้าง นอกเหนือจากความนิยมชมชอบเท่าที่เห็นมนไหลผ่านใกล้ๆ โครงการรีสอร์ทของคุณ" โชคดีเริ่มเสียงเข้มขึ้น
"ไม่ใช่ของผม รีสอร์ทไม่ใช่ของผม ผมเป็นแค่วิศวกร และไม่ได้มีวิศวกรแค่คนเดียวด้วย และผมไม่ได้ออกแบบ คนออกแบบคือ..."
"สถาปนิก" โชคดีแทรก "ทำไมผมจะไม่รู้"
"ผมก็สร้างตามพิมพ์เขียวที่เขาออกแบบ" ชยุตม์ทักท้วงด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
"เอาเถอะ คุณจะเป็นอะไรก็ช่าง เดี๋ยววันพุธไปดูกัน มาหาผมที่นี่ตอนเที่ยงตรง"
"ผมต้องทำงาน" ชยุตม์แย้ง
"ต้องตอกบัตรลงเวลาเข้าออกหรือไง" โชคดีประชด "ผมจะเขียนใบลาให้"
...โชคดีตัวจริงกลับมาแล้ว เมื่อกี้ที่ทำพูดดีนั้น แกล้งพูดชัดๆ...
ชยุตม์เหน็บแนมชายหนุ่มในใจ อยากจะพูดออกมาให้ฝ่ายนั้นได้ยินแต่เขาก็ยังไม่กล้า
...กลัวโชคดีหรือ...
...เปล่า เขาแค่ไม่อยากมีเรื่อง...
"ได้" ชยุตม์ตอบสั้นๆ แล้วลุกขึ้น เตรียมตัวกลับ โชคดีมองตามวิศวกรหนุ่มที่เดินตัวตรงกลับไปที่รถด้วยสายตาคิดคำนึงแล้วถอนหายใจแรงๆ
...ดูเอาเถอะ ตอนนั่งก็ตัวตรง นิ่งเหมือนหุ่น ตอนเดินก็ตัวตรง ไม่เห็นจะเหมือนวิศวกรตรงไหน เดินเหมือนทหาร ไม่น่าจะมาเป็นวิศวกรเล๊ย...

ชยุตม์ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกชื่นชมระคนแปลกใจ โชคดีขับรถพาเขาออกจากตัวเมืองขึ้นเหนือมาราวหนึ่งชั่วโมง แล้วหยุดยืนมองโค้งน้ำที่สวยมากจนเขาอดทึ่งไม่ได้
“เป็นไงครับ สวยกว่าทำเลของรีสอร์ทคุณมากเลยใช่ไหม”
ชยุตม์หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจว่า “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ใช่รีสอร์ทผม และขอย้ำอีกครั้งว่าผมเป็นแค่วิศวกร สร้างตามที่สถาปนิกเขาออกแบบ และสถาปนิกก็ออกแบบตามที่เจ้าของต้องการ”
“รู้แล้วน่า ไม่เห็นต้องพูดร่ำไร” โชคดียักไหล่ ทำหน้าระอาใจประหนึ่งว่าชยุตม์พูดเรื่องเดิมอยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
...คุณต่างหาก พูดไม่รู้เรื่อง เหน็บแนมอยู่ได้...
ชยุตม์ส่ายหน้าช้าๆ แล้วหันไปชื่นชมทัศนียภาพเบื้องหน้าต่อ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าหากคุณอาของเขามาเห็นที่ดินผืนนี้คงต้องร้องด้วยความเสียดาย
“คุณพาผมมาดูทำไม” ชยุตม์ถามขึ้น สายตายังมองภาพเบื้องหน้า
“ก็พามาดูให้เห็นว่ามันสวยขนาดไหน”
“ทำไมหรือครับ ให้ผมเสียดายที่ตรงนี้แทนเจ้าของรีสอร์ท หรือเพราะอะไร พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า หรือจะรอให้ผมถามให้ตรงคำตอบ” ชยุตม์พูดเบาๆ แต่เสียงเข้มขึ้น
“ชอบประชดจริงเลย” โชคดีพึมพำแล้วเดินไปอีกทางเสียเดื้อๆ
...โอย ทำไมกวนโมโหได้ตลอดเวลาแบบนี้นะ ถ้าต้องอยู่กับโชคดีทุกวัน เขานึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะอ่อนอกอ่อนใจกับคนๆ นี้เพียงใด...
...ใครได้มาเป็นแฟนโชคดีคงปวดหัวพิลึก...
...หากมีใครใจกล้า หลงผิดเป็นชอบ ยอมเป็นแฟนโชคดีซักคนนะ...
“คุณโชคดี” ชยุตม์เรียกคนที่กำลังเดินลงเนินไปโดยไม่สนใจเขา “คุณโชคดี”
...อยากกระโดดลงไปบีบคอนัก...
“คุณโชคดี”
ฝ่ายนั้นไม่สนใจ ยังเดินไปข้างหน้าต่อไปหลังจากว่าเขาซึ่งหน้า
...ชอบประชด ใครกันชอบประชด ตัวเองต่างหาก พูดกับเขาทีไรมีแต่ประชด กระทบกระเทียบ เหน็บแนม สารพัดจะจงใจกวนประสาทเขา...
“คุณหมู” ชยุตม์เรียกคนกวนประสาทเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
ได้ผล คนที่ถูกเรียกชื่อเล่นแบบไม่เต็มยศหันขวับทันที ตาขวางใส่คนเรียกที่แอบอมยิ้มเล็กน้อย
ชยุตม์เบือนหน้าไปมองด้านข้าง สายตาก้มต่ำยังไม่สบตาโชคดี
...เป็นไงล่ะ ทีเรียกชื่อเล่นรีบหันมามองเชียว ดีนะไม่เรียกแบบเต็มๆ...
ชยุตม์นึกขำ หากเขาเรียกชายหนุ่มด้วยชื่อเล่นแบบเต็มๆ โชคดีคงวิ่งขึ้นเนินมาต่อยปากเขาเป็นแน่ แค่เรียกคุณหมูเฉยๆ ยังทำหน้าโกรธ
“ทำไม มีปัญหาอะไร” คุณหมูเสียงเข้ม
“คุณจะไปไหน” ชยุตม์ตะโกนถาม
โชคดีไม่ตอบ หันกลับเดินตรงไปข้างหน้าเร็วๆ เหมือนจะกลัวว่าจะได้ยินชยุตม์เรียกชื่อเล่นอีกครั้ง
...หมูปิ้งก็น่ารักดีนี่นา ไม่เห็นจะต้องอาย เพียงแต่ทำตัวให้อ่อนโยนน่ารักลงซักหน่อยก็คงน่าดูมากกว่านี้ ทำท่าดุอยู่ได้...
...ตอนเด็กๆ โชคดีคงอ้วนตุ้ยนุ้ยน่ารักสมกับชื่อ แม่ถึงได้ตั้งชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง...
...ถ้าแฟนเขาชื่อหมูปิ้ง เขาจะเรียกทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง...

ง่วงนอนแล่ะ ราตรีสวัสดิ์ครับ  :t3: จะมาต่อให้จบบทที่ 8 ในอนาคตอันใกล้นะครับ

เอ่อ คู่นักบินกับตำรวจเหรือครับ  :m20: ทำไมมาชี้นำคนเขียแบบนี้อ่ะ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย  :sad11: อิ อิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 18-04-2009 00:15:51
คุณหมูปิ้งจะพานายช่างไปดูอะไรน่ะ

ไปต่อเรื่องนู้นด้วยสิพี่นายยย .... อย่าทิ้งกันๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-04-2009 00:36:55
จะเอา คู่นักบินกับตำรวจ จะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 18-04-2009 00:53:17
..ชอบประชด ใครกันชอบประชด ตัวเองต่างหาก พูดกับเขาทีไรมีแต่ประชด
กระทบกระเทียบ เหน็บแนม สารพัดจะจงใจกวนประสาทเขา...

>> ที่สุดมากๆเลยหมูปิ้งลูกคุณนายเตือนใจ เหอะๆ นิสัยจัดว่าน่า :z6: :z6: มากกกกก

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 18-04-2009 11:10:00
อ้างถึง
เอ่อ คู่นักบินกับตำรวจเหรือครับ   ทำไมมาชี้นำคนเขียแบบนี้อ่ะ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย   อิ อิ
จริงหรือครับ ที่พี่นายบอกว่า ยังไม่อยู่ในความคิดเนีย ฮิฮิ  o18

ดูท่าสองคนนี้ยังไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่า ในระหว่างที่ประชดกันอยู่แถบทุกวันที่เจอหน้า แต่กลับมาการเปรียบในใจว่า
ถ้าได้เดินเคียงกันกันไปเป็นยังไงบ้าง รู้สึกเริ่มมีกลิ่นอายของน้ำตาแล้วนะครับพี่นาย
แล้วจะรอ ตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 18-04-2009 11:34:41
คนอ่านคิดล่วงหน้าให้ไงค่ะ ระหว่างคู่นักบินกับตำรวจ :mc4:

นายช่างจะกินหมูปิ้งท่าไหนกันล่ะเนี่ย ทั้งดื้อ ทั้งรั้นแบบนี้...ลุ้นอีกแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 18-04-2009 14:40:01
ถ้านักบินคู่กับตำรวจ ก็คงจะดีนะ   :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jaideejung007 ที่ 18-04-2009 18:13:43
ส่งกำลังใจไปให้ที่บ้าน รอรับที่หน้าประตูนะครับ
และมาฝากตัวอ่านด้วยคนครับ

ฝากด้วยนะครับ

โจ้คับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 18-04-2009 20:08:57
เอ๊ ~
จริงๆแล้วตอนนี้ก็เริ่มจะน่ารักขึ้นมาบ้างแล้วนี่นา คุณหมูปิ้ง
เสียแต่ประชดและขี้งอนเท่านั้น  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 19-04-2009 15:28:46
 :m20:ขอโทษด้วยนะครับพี่นายไม่ได้แวะเข้ามาทักเลยยุ่งจริงวันนี้เลยตั้งใจอ่านทั้งวันเพิ่งเสร็จนี่แหละ คุณโชคดีนี่น่าหมั่นใส้จริงๆไม่รู้จะเหมือนคนเขียนหรือเปล่านะ5555 o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 8 (17/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 20-04-2009 12:23:26
:m20:ขอโทษด้วยนะครับพี่นายไม่ได้แวะเข้ามาทักเลยยุ่งจริงวันนี้เลยตั้งใจอ่านทั้งวันเพิ่งเสร็จนี่แหละ คุณโชคดีนี่น่าหมั่นใส้จริงๆไม่รู้จะเหมือนคนเขียนหรือเปล่านะ5555 o18
เหมือนที่ไหน คนเขียนออกน่ารัก อ่อนโยน นุ่มนวล ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง

...ตอนเด็กๆ โชคดีคงอ้วนตุ้ยนุ้ยน่ารักสมกับชื่อ แม่ถึงได้ตั้งชื่อเล่นว่าหมูปิ้ง...
...ถ้าแฟนเขาชื่อหมูปิ้ง เขาจะเรียกทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง...

ชยุตม์เดินตามช้าๆ หันไปชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติรอบข้าง อดนึกภาพสิ่งก่อสร้างเติมเข้าไปในพื้นที่ว่างเปล่าแห่งนี้ไม่ได้ เขาสมมุตว่าหากที่ดินผืนนี้เป็นของเขา และมีเนินสูงสวยงามเช่นนี้ เขาอยากจะสร้างบ้านตากอากาศหลังเล็กๆ ที่เนินสูง แล้วทำระเบียบกว้างๆ ยื่นออกมา ยืนที่ระเบียงมองลงไปเบื้องล่างเห็นภาพมุมกว้างของโค้งน้ำที่มีฉากหลังเป็นภูเขาที่สวยงามยิ่งนัก
“เอาล่ะ คุณจะบอกผมได้หรือยังว่าพาผมมาที่นี่ทำไม” ชยุตม์หยุดยืนข้างๆ โชคดีที่ยืนอยู่ริมน้ำ
ชายหนุ่มยังไม่ตอบ หันขวาไปมองสายน้ำ แล้วเคลื่อนสายตาไปด้านซ้าย ราวกับมองตามแม่น้ำที่กำลังไหลเอื่อยๆ
“คุณโชคดีครับ”
“อย่าได้เรียกชื่อเล่นผมเด็ดขาดนะ” โชคดีหันหน้ามาพูดเสียงเข้ม “ขื่อเล่นเรียกกันเฉพาะคนสนิท ไม่ได้เอาไว้ให้มาพูดกันเล่น”
...แปลกคน ชื่อเล่นก็เอาไว้เรียกกันเล่นๆ สิ คิดอะไรแปลกๆ...
“คุณเรียกผมว่ายุตม์เฉยๆ ก็ได้” ชยุตม์ตอบยิ้ม
“ถ้าคุณเรียกผมว่าหมูปิ้ง คุณโดนต่อยแน่” โชคดีขู่
“ผมกลัวมากเลย กลัวปากแตก” ชยุตม์พูดเรียบๆ ใบหน้านิ่ง มองตาโชคดีไม่หลบแม้แต่นิด “คุณจะอายชื่อนี้ไปทำไม ชื่อก็น่ารักดี ถ้าหาก...”
“ถ้าหากอะไร” โชคดีรีบถามเสียงห้วน
“ถ้าหากคุณทำตัวน่ารักเหมือนชื่อเล่น ผมว่ามันก็ไปกันได้ดีนะ” ชยุตม์ยิ้มมุมปาก
“ทำล้อเลียน เดี๋ยวได้เจอดี”
“ทำไม คุณจะฆ่าผมหมกป่าหรือไง” ชยุตม์เอียงหน้าท้าทาย
“เปล่า ผมไม่ฆ่าใครง่ายๆ หรอก ทำอย่างอื่นสะใจกว่าเยอะ” โชคดีหันหน้าหนี กลับไปมองสายน้ำอีกครั้ง
ชยุตม์หัวเราะหึๆ ในลำคอ แล้วขยับล้ำไปข้างหน้า มือไขว้หลัง มองดูสายน้ำเช่นกัน แต่ทันใดก็นึกอะไรได้ จึงรีบถอยกลับมาสองก้าว
...ยืนอยู่หน้าโชคดีท่าจะไม่ค่อยปลอดภัย มองไม่เห็นหน้าตาโชคดีว่าแสดงอารมณ์อะไรอยู่ จู่ๆ เกิดหมั่นใส้เขาขึ้นมา ถีบเขาตกลงน้ำคงซวยน่าดู...
ชยุตม์อดก้มลงมองสำรวจร่างกายของโชคดีไม่ได้ ชายหนุ่มตัวสูงอยู่ในชุดกางเกงยีนส์พอดีตัวและเสื้อเชิ้ทตัวโคร่งและรองเท้าคู่เก่าทุกครั้งเวลาเจอกัน นอกจากวันแต่งงานของเดือนที่เห็นแต่งตัวดีกว่าปกติ
...แต่ต้นขาแน่น บั้นท้ายงอนได้รูปนั้นเล่า เขามองอย่างไรก็ไม่เบื่อ...
“ที่ดินผืนนี้เป็นของผม” จู่ๆ โชคดีก็โพล่งขึ้นมา
“อะไรนะ”
“สวยใช่ไหมล่ะ คุณคิดว่าถ้าสร้างเป็นรีสอร์ทก็คงสวยมาก พอเห็นที่ดินสวยๆ คนเมืองอย่างคุณก็คงคิดสร้างอะไรเพิ่มเติมตามใจนึกภาพ รีสอร์ทหรือบ้านพักตากอากาศเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง อะไรก็ได้ที่ต้องได้เสียเงินสร้างขึ้นมา”
“คุณคิดทางลบเกินไปหรือเปล่า” ชยุตม์พูดไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าใดนัก เพราะความจริงก็เป็นเช่นนั้น
...แต่เขาเป็นวิศวกรนี่นา อดนึกภาพสร้างนั่นสร้างนี่ไม่ได้ เขาหลงไหลตึกสูงทรงแปลกๆ สร้างด้วยวิธีการซับซ้อน รู้สึกท้าทายและภูมิใจที่ทำอะไรยากๆ ให้สำเร็จลงได้...
...แล้วเอาชนะโชคดีนี่ก็คงเป็นการท้าทายอีกอย่างหนึ่งใช่ไหมเล่า...
ชยุตม์อดนึกเปรียบโชคดีกับตึกสูงที่เขาเพิ่งสร้างเสร็จก่อนมาทำงานที่น่านไม่ได้ เขาได้ยินข่าวว่าผลงานของเขาเข้ารอบสุดท้ายของการพิจารณาให้รางวัลสำคัญรางวัลหนึ่งที่วิศวกรทุกคนต่างก็อยากได้
เขาสงสัยนัก หากพาโชคดีไป “ทัวร์” ดูตึกที่เขาสร้าง ชายหนุ่มจะทำหน้าอย่างไร
“ผมคิดทางบวกต่างหากเล่า พวกคุณนั่นล่ะที่คิดแต่ทางลบ” โชคดีกอดอก ตาจับนิ่งอยู่ที่ผิวน้ำเบื้องหน้า
“หมายความว่ายังไง” ชยุตม์ถาม
...ก็หมายความอย่างที่พูด...
ชยุตม์ตอบคำถามในใจ แบบที่คิดว่าโชคดีจะตอบ อดนึกถึงคำพูดกวนๆ แบบที่เคยพูดไม่ได้ว่า ต้องถามให้ตรงกับคำตอบ ตอนที่เขาโทรศัพท์คุยกับเพื่อนแล้วเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพื่อนเขาหัวเราะชอบใจจนบอกว่าอยากจะมาเจอ “วายร้ายเมืองน่าน” ให้เห็นกับตา
“ก็หมายความอย่างที่พูด” โชคดีตอบห้วนๆ แล้วไม่ลืมยักไหล่ -- บุคลิกประจำตัว
“ผมคงถามไม่ตรงคำตอบ” ชยุตม์เปรยเบาๆ “ถ้ายังงั้นผมถามใหม่ คุณคงคิดว่าผมโง่ ไม่เข้าใจอะไรที่คุณพยายามเล่นคำ หรือพูดเพื่อบอกนัยสำคัญทางอ้อม”
“สร้างรีสอร์ทใหญ่ๆ คุณคิดว่าได้มากกว่าเสียหรือครับคุณชยุตม์” โชคดีหันมามองวิศวกรหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แววตาจริงจัง
ชยุตม์อึ้ง คราวนี้โชคดีเรียกเขาดีๆ เสียงราบเรียบๆ ไม่มีแววตากวนๆ อย่างที่เคยเห็นเป็นนิจ
“นั่นล่ะที่ผมเรียกว่าคิดทางลบ หมายความว่า มันมีแต่สิ่งที่หายไป ไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาเลย”
“คุณกำลังว่าการสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ อะไรที่สวยๆ ก็หายไปเมื่อสร้างรีสอร์ทเสร็จ”
“เราต้องอยู่ที่สวยงามแบบนั้นหรือ คืนละ ห้าหกพัน เสียเงินนอนกันหนึ่งคืน แล้วเดินออกมาชื่นชมกับธรรมชาติสวยงามตอนเช้าไม่กี่นาที สูดลมหายใจเอาอากาศสดชื่นเข้าไปแล้วก็เตรียมตัวเสียเงินอีกห้าพันสำหรับคืนต่อไป” โชคดีหันกลับไปมองสายน้ำเบื้องหน้า
...คืนละหมื่นต่างหากล่ะ ถ้าโชคดีรู้ราคาค่าห้องจะยังยืนกอดอกพูดเสียงเรียบๆ แบบนี้อยู่อีกหรือเปล่านะ นี่ราคาต่ำสุด ยังไม่ได้พูดถึงราคาห้องสวีท...
“งั้นเราก็คงให้บริการกางเต้นท์แทน” ชยุตม์เอ่ยเสียงเบาแล้วรีบขยายความเพราะกลัวอีกฝ่ายเอาเรื่อง “ผมไม่ได้ประชดนะครับ ผมแค่พูดให้คุณเห็นว่า...”
“เห็นว่ายังไง” โชคดีรีบพูดแทรกจนได้
ชยุตม์ถอนหายใจเบาๆ แล้วอธิบายว่า “เห็นว่า จะให้มันแตกต่างกันสุดขั้วแบบนั้นก็ไม่ได้ทุกสถานการณ์หรอกนะครับ มันไม่ได้มีเพียงสีขาวและดำ มันมีสีเทา และสีเทามันก็มีหลายเฉด ตั้งแต่อ่อนไปเข้ม แต่เท่าที่คุณแสดงเจตน์จำนง ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งที่ผมเป็นวิศวกร ไม่ได้รับผิดชอบนโยบายโดยตรง แต่ผมก็ทำเท่าที่ผมทำได้ที่จะสร้างรีสอร์ท The River Bend เป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุด เวลาประชุมผมก็ท้วงเรื่องธรรมชาติขึ้นมาเสมอ ถ้าคุณยังจำที่เราเคยพูดกันได้ ทางรีสอร์ทก็พร้อมให้ทางคุณเข้าไปตรวจสอบ”
“คุณจะทำอะไรได้ คุณเป็นแค่วิศวกรที่รับจ้างเขาทำงาน ไม่ใช่สถาปนิก ไม่ใช่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่คนวางมโนทัศน์”
“Concept ใช่ไหม” ชยุตม์ถามย้ำเพื่อให้เข้าใจถูกต้อง
“คอน เส็บ ใช่ครับ” โชคดีเน้นเสียง “ขอโทษ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ผมไม่ใช่เด็กนอก ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ รามคำแหงก็เรียนยังไม่จบ”
“ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่” ชยุตม์บ่นอุบอิบ “แต่ผมก็พอพูดกับเขาได้”
...คุยกับคุณอาเขาอยู่บ่อยๆ แล้วคุณอาก็เชื่อเขามากกว่าคนอื่นๆ ด้วย นี่หากโชคดีรู้ว่าคุณอาเขาเป็นเจ้าของโครงการและหนำซ้ำเสนอขายหุ้นให้เขาถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โชคดีคงโกรธจนไฟพุ่งออกหูเหมือนไฟเครื่องบินไอพ่น...
...คงน่ามองพิลึก...
“ทำไม เป็นอะไร” โชคดีเสียงห้วน
“อะไรหรือครับ” ชยุตม์ทำหน้าเหรอหรา
“ยิ้มทำไม”
“ผมยิ้มหรือ” ชยุตม์ถามเพราะไม่รู้สึกตัวจริงๆ ว่าตัวเองอมยิ้มขำๆ เมื่อนึกถึงภาพไฟพุ่งออกจากหูของโชคดีเหมือนที่นึกเปรียบเทียบ
“กวน” โชคดีพูดสั้นๆ แล้วหันหลังเดินกลับ
“แล้วตกลงเรื่องนั้น คุณจะเอายังไง” ชยุตม์หันหลังเดินตาม
“เรื่องอะไร” โชคดีถามเสียงห้วน เร่งเท้าเดินเร็วขึ้น
“คุณโชคดีครับ ก็จะเรื่องอะไรเล่า” ชยุตม์ทำเสียงอ่อนใจ
“เมื่อไหร่คุณพร้อมก็บอกมา”
“ผมพร้อมทุกเมื่อ เจ้าหน้าที่โครงการก็พร้อมที่จะให้คุณเข้าไปตรวจสอบ” ชยุตม์ตอบ
“งั้นกลับถึงน่าน ไปดูกันเดี๋ยวนี้เลย” โชคดีหยุดเดิน หันมาพูด
“เร็วไปมั๊งครับ นี่ก็จะเลิกงานแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้ดีกว่า ให้ผมแจ้งทางนั้นเสียก่อน”
“จะได้มีเวลาตกแต่งฉาก” โชคดียิ้มเยาะ
“อคติ”
“แต่อย่าคิดนะว่าจะมาหลอกผมได้” โชคดีจ้องหน้าชยุตม์ “ผมให้เวลาคุณจนหมดสัปดาห์ เช้าวันจันทร์ขอเข้าไปตรวจสอบ จะตกแต่งตบตาอะไรก็รีบทำเข้า”
ชยุตม์ถอนหายใจ มองตามหลังจองคนที่พูดเสร็จแล้วก็เดินลิ่วจากไป ก่อนที่สายตาเขาจะลดต่ำลงเพราะบังคับสายตาตัวเองไม่ได้
โชคดีขายาวมาก เดินขึ้นเนินไปอย่างคล่องแคล่ว บั้นท้ายขยับไปมาเป็นจังหวะ ซึ่งชยุตม์ต้องยอมรับว่ายิ่งมองเขาก็ยิ่งชอบ
...ชอบโชคดีหรือ...บ้าไปแล้ว...
...ไม่ได้ชอบโชคดี เขาแค่ชอบมอง แปลกตาและเพลินดี ไม่เหมือนใคร...
“อ้าว เดินตามมาสิครับคุณนายช่าง ถึงรถแล้วผมไม่รอนะ ถ้ามัวแต่โอ้เอ้ก็หาทางกลับเข้าเมืองเอง คนต้องทำงาน ไม่มีเวลาทั้งวัน” โชคดีหันมาเร่ง
...ร้ายจริงๆ คนที่ร้ายกว่านี้มีอีกไหมนี่...
... สงสัยนัก เขาโชคดีหรือโชคร้ายที่มาเจอโชคดี...

ชยุตม์กลับมาถึงบ้านและนั่งคอยจักริณทร์เพื่อพาไปรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่นักบินหนุ่มจะกลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น แต่เขาก็แปลกใจอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่มาส่งแฟนเขาที่บ้าน
“ผมหลงทาง แต่โชคดีที่เจอผู้กอง เลยมีคนพามาส่งที่บ้าน” จักริณทร์เล่าให้ฟังยิ้มๆ
“แล้วคุณชยุตม์ต้องไปส่งผมกลับบ้าน ส่งกันไปส่งกันมา” ร้อยตำรวจเอกปฐพีหัวเราะแล้วหันมาพูดกับจักริณทร์ “เสียดายที่คุณจักรจะต้องกลับเสียแล้ว ยังไม่ได้ไปเที่ยวอุทยานศรีน่านเลยครับ”
“ไว้คราวหลังผมต้องไม่พลาดแน่ ได้ยินผู้กองเล่าให้ฟังแล้วอยากไป”
“จักรมาอยู่ไม่กี่วันได้ไปเที่ยวเยอะกว่าผมอีก” ชยุตม์มองจักริณทร์และปฐพีสลับไปมา แล้วเชิญปฐพีให้นั่งพัก จักริณทร์ขอตัวไปทำธุระ ชยุตม์จึงเล่าให้ปฐพีฟังว่าโชคดีพาเขาไปดูที่ดิน
“เคยมีคนต้องการที่ผืนนั้นจนเกือบมีเรื่องกันครับ โชคดีให้ผมแต่งชุดเครื่องแบบไปทำท่าข่มฝ่ายตรงข้าม พอเรื่องจบก็เลยซื้อต่อจากญาติของลูกน้อง คนที่โชคดีเรียกน้าพงษ์ คุณชยุตม์คงจำหน้าได้”
“ที่สวยมาก” ชยุตม์ชม “ถ้าสร้างบูติกรีสอร์ทเล็กๆ จะสวยมากจริงๆ”
“อย่าไปพูดให้เขาได้ยินเชียวนะครับ เดี๋ยวได้ควันออกหู” ปฐพีหัวเราะ
ชยุตม์หัวเราะเช่นกันเพราะเขาไม่ได้นึกถึงแค่โชคดีโกรธจนควันออกหู เขานึกไปมากกว่านั้น “ผมพูดเล่นเฉยๆ ไม่กล้าคิดจะไปพูดให้ได้ยินหรอกครับ แค่ผมเปรยว่าน่าสร้างบ้านพักตากอากาศ ก็เกือบโดนลุย”
“โชคดีไม่ได้ร้ายอย่างที่เห็นหรอกครับ เขาเป็นคนมีจิตใจดีงาม เพียงแต่โผงผางไปนิด” ปฐพีเข้าข้างคนใกล้ตัว
...โผงผางไปนิดหรือ เขาว่าโผงผางเหลือทนต่างหาก เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ปฐพีก็เข้าข้างคนของตัวละสิ ชอบโชคดีเข้าแล้วนี่...
...แต่ทำไมมายุ่งอะไรกับจักริณทร์...
...และหากปฐพีจะมายุ่งกับจักริณทร์จริง ทำไมเขาไม่ค่อยรู้สึกหึงหวงเท่าใดนัก...

จักริณทร์เดินออกมาเพื่อสมทบกับสองหนุ่มที่นั่งคุยอยู่กันหน้าบ้าน แล้วชวนกันไปทานข้าวเพราะจะได้ไปส่งปฐพีด้วย แต่นายตำรวจหนุ่มปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าต้องกลับไปรับประทานกับบิดาและมารดา
“วันนี้คุณลุงกับคุณป้ามาเยี่ยมตอนค่ำๆ ครับ เลยต้องกลับไปทานข้าวที่บ้าน” ปฐพีตอบแล้วหันไปพูดกับจักริณทร์ว่า “คราวหน้า ผมจะพาไปทานที่ร้านเพื่อนผม อร่อยมากเลยครับ แต่ต้องออกไปนอกเมืองไกลพอสมควร แต่รับรองว่าคุ้มกับการเดินทาง บรรยากาศดีมาก อาหารก็รสเด็ด”
“งั้นผมต้องรีบหาโอกาสลาหยุดอีกแล้ว” จักริณทร์ทำท่าตื่นเต้น
“ไม่ต้องรีบมากก็ได้ ผมคงต้องทำงานอยู่ที่น่านอีกนาน ไม่รู้ว่ารีสอร์ทจะเสร็จเมื่อไหร่” ชยุตม์ถอนหายใจเบาๆ
“อย่ากังวลไปเลยครับคุณชยุตม์ ผมจะช่วยคุยกับฝ่ายโน้นด้วย” ปฐพีให้กำลังใจ
“คุณต้องทำได้แน่ยุตม์ อะไรๆ ก็เคยทำสำเร็จมาแล้ว คราวนี้ก็คงต้องสำเร็จอีก ไหนบอกว่าชอบการท้าทายไม่ใช่หรือ”
ชยุตม์ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มบางๆ ในใจนึกถึง “เวลา” จนถึงสุดสัปดาห์ที่โชคดีให้กับเขาก่อนเข้าไปร่วมตรวจสอบ ซึ่งไม่รู้จะออกหัวหรือออกก้อย
...จากวันนี้เขาต้องเตรียมตัวดีๆ เพราะฝ่ายนั้นคงไม่ปล่อยให้เขาทำงานได้สะดวกเป็นแน่แท้...

โชคดีนั่งอยู่ในห้องทำงานกับพงษ์ สุนิศา บำรุง และวัลลภ แกนนำร่วมการต่อต้านรีสอร์ทแห่งใหม่เพื่อแจ้งกำหนดการที่จะเข้าไปร่วมตรวจสอบการก่อสร้างรีสอร์ทตามที่ชยุตม์เสนอมา
“แล้วเขาจะยอมอย่างนั้นจริงๆ หรือครับ ผมกลัวว่าพอจะเข้าไปจริงๆ ฝ่ายนั้นจะโยกโย้” บำรุงตั้งข้อสังเกต
“ถ้ากลับคำ เราก็เกณฑ์คนไปลุยที่โครงการ ปิดทางเข้าทุกทาง กดดันให้หนักๆ” วัลลภที่หัวรุนแรงกว่าคนอื่นเสนอความเห็น
“ไม่ได้หรอก ทำแบบนั้นยิ่งจะไปกันใหญ่ ถ้าหากฝ่ายนั้นเล่นไม้แข็งไม่ยอมเอาดื้อ เราก็จะเจอปัญหาไม่น้อยเหมือนกัน” พงษ์แย้ง “เท่าที่ผมสังเกต ฝ่ายรีสอร์ทก็ดูเหมือนจะพยายามประนีประนอม”
โชคดีหันไปมองพงษ์ที่หันมาสบตาเขาเพื่อขอความเห็น วัลลภกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาจึงต้องพูดขึ้นว่า “ผมเห็นด้วยอย่างที่น้าพงษ์พูด เอาแบบนี้ก่อน ถ้าเกิดโยกโย้ เราค่อยมาปรับแผน ระหว่างนี้ผมจะเร่งทาง ดร. พงศธรเรื่องงานวิจัย ถ้าได้ข้อมูลอะไรออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร การต่อรองของเราก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น ศา ประสานงานกับกลุ่มคนรักเมืองน่านให้ดี ถ้าเขามาร่วมกับเราได้ก็เป็นประโยชน์ต่อเรามาก”
...คราวนี้ล่ะ ชยุตม์ไม่รอดแน่...

ชยุตม์เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นจักรินทร์เดินถือโทรศัพท์มายื่นให้แล้วบอกว่ามีคนโทรมาหาหลายครั้งแล้ว ชยุตม์มองโทรศัพท์แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “พ่อ โทรมาทำไม”
วิศวกรหนุ่มไม่โทรกลับทันใด ชยุตม์เช็ดตัวจนแห้งและแต่งตัวจนเสร็จแล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงที่จักริณทร์กำลังนอนหงายมองเขาอยู่
“ทำไมไม่รีบโทรกลับหาคุณพ่อล่ะครับ สงสัยป่านนี้กำลังรออยู่” จักริณทร์ถาม
“ไว้ค่อยโทรก็ได้ ให้พ่อรอซะบ้าง” ชยุตม์ยักไหล่ แต่สิ้นคำพูด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาจึงต้องหยิบมารับ
“พ่อจะไปเชียงใหม่ ยุตม์มาหาพ่อพรุ่งนี้ตอนค่ำนะ ทานข้าวเย็นด้วยกัน แม่ฝากของมาให้ด้วย” บิดาของชยุตม์สั่งทันทีที่เขารับโทรศัพท์แล้วพูดต่อ ไม่เปิดโอกาสให้ลูกชายได้แสดงความเห็น “ทุ่มตรง ไปเจอพ่อที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ่อคุยกับอธิการบดีเสร็จแล้วค่อยไปกัน”
“ทำไมไม่ให้คนขับรถเอามาให้ที่นี่เลยล่ะครับ” ชยุตม์ถาม
“แค่นี้นะยุตม์”
“คุณพ่อ” ชยุตม์รีบเรียกบิดาเพราะกลัวว่าจะวางสายไปเสียก่อน พ่อเขาพูดโทรศัพท์สั้นมาก ชอบสื่อสารทางเดียว เอาแต่สั่งแล้วให้คนอื่นทำตาม
“อะไรอีกเล่า เร็วๆ เข้า พ่อรีบ”
“ผมยังไม่ได้บอกว่าจะไปเลย” ชยุตม์ทำเสียงอ่อนใจ
“นี่ยุตม์ เราไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้วนะ ไม่กลัวลืมหน้าพ่อหรือยังไง มากินข้าวด้วยกันหน่อย พ่อมีธุระจะคุยด้วย”
“ธุระอะไรครับ” ชยุตม์ถาม รู้ทั้งรู้ว่าพ่อของเขาจะตอบอย่างไร แต่เขาก็อดถามไม่ได้
“ธุระเรื่องอะไรแล้วค่อยมาคุยตอนกินข้าว หนึ่งทุ่มนะ มารอหน้าห้องอธิการบดี หาให้เจอล่ะ”
ชยุตม์ถอนหายใจ พ่อของเขาสั่งแล้วก็รีบวางสายไป ไม่รอให้เขาพูดอะไรต่อ
“นี่ล่ะ พ่อผมล่ะ” ชยุตม์หันไปพูดกับจักริณทร์ที่นอนมองอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มๆ เช่นเคย
...เหมือนโชคดียังไงยังงั้น นี่ถ้าให้โชคดเป็นลูกพ่อเขาแทน ก็คงจะเหมาะกันมาก บอกใครว่าเป็นลูกชาย ใครก็คงเชื่อแล้วพูดว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”...
“ก็รู้ว่าปฏิเสธ หรือต่อรองไม่ได้ ก็ยังไปต่อรอง”
“ผมก็อดไม่ได้ซักที” ชยุตม์ส่ายหน้า แล้วเอนตัวลงนอนแผ่นข้างๆ จักริณทร์ที่ตอนนี้พลิกตัวมานอนตะแคงแล้วเบียดเข้ามาหาเขา
“ยุตม์ มีความสุขไหมครับที่จักรมาเยี่ยม” จักริณทร์ถามเสียงนุ่ม
“มีความสุขสิครับ”
“ดูยุตม์ใจลอยๆ คิดอะไรอยู่”
“เปล่า” ชยุตม์ส่ายหน้า แต่เมื่อเห็นจักริณทร์ถอนหายใจรีบพูดเติมว่า “ก็สงสัยคงเหนื่อยเรื่องงาน มันมีอะไรต้องคิด”
“ผมไม่ใช่คนอื่นนะ ถ้ามีอะไรก็คุยกันก็ได้ อย่างน้อยถ้ายุตม์มีอะไรไม่สบายใจก็จะได้ระบายออกมาบ้าง อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว” จักริณทร์พูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “อย่างน้อย การได้เป็นคนรับฟังอะไรๆ และให้กำลังใจนี่ก็ถือว่าผมจะได้ทำหน้าที่ของแฟนที่ดีเสียบ้าง”
“ผมต่างหากล่ะที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของแฟนที่ดี จักรอุตส่าห์มาเยี่ยม ได้พาไปเที่ยวน้ำตกครั้งเดียว ที่เหลือก็ทำแต่งาน” ชยุตม์ยกมือขึ้นลูบไล้ต้นแขนของคนที่กำลังนอนซบอกกว้างของเขาอยู่
“ไม่เห็นเป็นไรเลย บอกแล้วไงว่าผมไปเที่ยวคนเดียวเองก็ได้” จักริณทร์เขียนยอดอกของชยุตม์แล้วหัวเราะเบาๆ “แต่ดีที่ตอนหลังเจอกับผู้กองปฐพี ได้ไกด์กิตติมศักดิ์พาเที่ยว”
“ดีครับ เจ้าถิ่นพาเที่ยว ดีกว่าพาไปหลงทางตั้งเยอะ” ชยุตม์หัวเราะเบาๆ
“หึงหรือเปล่า” จักรินทร์เงยหน้าขึ้นมองคนรัก
“ทำไมต้องหึง”
“หึงบ้างก็ได้นะ” จักริณทร์พูดเสียงเรียบๆ ใบหน้ายิ้ม แล้วซุกหน้าลงกับอกของชยุตม์แล้วประทับจูบลงบนอกกว้างแกร่งเบาๆ
“ผมเชื่อใจจักร” ชยุตม์พูดเสียงอ่อนโยน หากเพียงเสี้ยววินาทีเขาเห็นภาพของคนๆ หนึ่งฉายวาบขึ้นมาให้ความคิด
...จักรก็คงเชื่อใจเขาเหมือนกัน...
...แล้วเขาล่ะ เชื่อใจตนเองได้เพียงใด...
**** end of chapter ****
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 20-04-2009 13:17:07
น่ากลัวใจตัวเอง :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 20-04-2009 13:33:45
ยอมรับซะเถอะเฮีย ... หลงรักหมูปิ้งแบบไม่รู้ตัว :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 20-04-2009 13:43:19
เฮ้อนึกว่าหมูปิ้งจะลวงชยุตม์มาฆ่าหมกป่าซะอีก
แต่ทำแบบนี้ก็คงไม่สาแก่ใจหมูปิ้งเค้าหรอก
เค้าต้องการเห็นมันพังคามือชยุตม์ ถึงจะสะใจ
คุณพ่อชยุตม์ชอบออกคำสั่งเหลือเกินถึงว่าทำไม
ถึงได้มีน้ำอดน้ำทนกับคนงี่เง่าจนน่าหมั่นไส้แบบหมูปิ้งได้
ต้องปราบพยศค.ท้าทายแบบนี้ให้ได้ชิมิ ก่อนอื่นต้องไปกินยา
เพิ่มภูมิต้านทานค.กวนประสาทของหมูปิ้งสักขวดก่อนมั้ง
กลัวใจตัวเองตอนนี้ไม่ทันแล้วล่ะ

ขอบคุณคะคุณคฑาวุธ :L2:

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-04-2009 14:04:30
แหม........จักรกับปฐพีออกนอกหน้าซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 20-04-2009 14:15:53
นั่นสิจะเชื่อใจตัวเองได้ไหมนะ คิดถึงหมูปิ้งมากกว่าแฟนแล้วมั้งเนี๊ย


+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่งคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 20-04-2009 15:21:19
หลงเค้าแล้วล่ะสิเนี่ยคุณชยุตม์
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 20-04-2009 15:35:07
เข้ามาอ่านและกดบวกให้คนแต่ง :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 20-04-2009 17:11:19
เข้ามาอ่านและกดบวกให้คนแต่ง :L2:
เป็นการกระทำที่ดีมากเลยครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 20-04-2009 18:03:35
เรื่องของคุณนายแต่ละเรื่องลุ้นกันเหงื่อตกกว่าจะลงเอยกัน
ดูแล้วไม่เห็นวี่แววเลยจะมารักกันได้ไง  :serius2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 20-04-2009 18:22:32
เข้ามาอ่านแต่กด+ให้คนแต่งไม่ได้ 555+ :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 20-04-2009 20:11:02
หวังว่าเรื่องนี้คงจะไปเป็นนิยาย disney นะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 20-04-2009 23:06:37
มอบแต้ม + ที่ 729 เป็นกำลังใจ
ขอบคุณคร้าบผม
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 20-04-2009 23:56:56
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ

แอบบหมั่นใส้หมูปิ้งนิดนิด

 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 21-04-2009 07:40:15
เรื่องของคุณนายแต่ละเรื่องลุ้นกันเหงื่อตกกว่าจะลงเอยกัน
ดูแล้วไม่เห็นวี่แววเลยจะมารักกันได้ไง  :serius2:
ก็ชื่ีอเรื่องมันคุมเอาไว้ซะแล้วนี่คร้าบบบ กว่าจะรักกันได้ มันก็ต้องมีอุปสรรคซะบ้าง จะให้เจอกันหนึ่งวันแล้วนอนกันเลยมันก็ขัดๆ นะ คนเขียนเป็นสุภาพบุรุษ ทำแบบนั้นไ่ม่ได้คร้าบบบ  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 8 (20/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 21-04-2009 09:35:13
บทที่ 9

ชยุตม์จอดรถหน้าตึกอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถอนหายใจหนักๆ แล้วเปิดประตูออกมายืนอยู่ข้างรถอย่างเซ็งๆ หันไปมองด้านซ้ายเห็นคนขับรถของคุณพ่อของเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่เช่นเคย ทุกครั้งที่ชายร่างใหญพูดน้อยคนนี้รอพ่อของเขา ชยุตม์จะเห็นคุยโทรศัพท์อยู่แทบตลอดเวลา อดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อของเขาจะรู้หรือเปล่าว่าคนขับรถท่าทางเคร่งขรึม พอไม่ได้อยู่ต่อหน้าท่านรัฐมนตรีแล้วกลายเป็นคนพูดน้ำไหลไฟดับ
ชยุตม์เดินตรงไปยังบันไดเพื่อจะเข้าไปในตึก เขาสังเกตเห็นรถจอดอยู่เพียงไม่กี่คัน รวมถึงรถแลนด์ครูซเซอร์สีดำของพ่อเขาด้วย วิศวกรหนุ่มเก็บความสงสัยเอาไว้ว่าพ่อของเขามาทำธุระส่วนตัวอะไรที่เชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอธิการบดีมหาวิทยาลัย และยังให้คนขับรถส่วนตัวขับรถมาไกลจากกรุงเทพฯ และที่สำคัญสั่งให้เขามาพบเพื่อคุยธุระด้วย เรื่องทานอาหารเย็นด้วยกันนั้นเขารู้ดีว่าเป็นข้ออ้าง พ่อเขาเป็นแบบนี้ ดูเหมือนจะพูดตรงไปตรงมาแต่ก็ไม่ตรง เรื่องบอกให้มาทานข้าวและคุณแม่ฝากของมาให้ด้วยนี่เป็นตัวอย่างได้ดีทีเดียวว่ามีเจตนาอื่นที่ไม่ยอมบอกเขา
ขณะที่กำลังจมอยู่ในความคิด ชยุตม์กลับต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้น เขาหันหลัง แล้วต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นคนที่ไม่ค่อยจะชอบหน้าเขามาตลอดยืนกอดอกมองเขาอยู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“คุณมาทำไม”
“ผมมาธุระ”
“ธุระเรื่องอะไร”
“ธุระส่วนตัวครับ นี่ผมต้องรายงานให้คุณทราบหรือว่าผมมามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วยเหตุผลอะไร” ชยุตม์เดินเข้าไปใกล้คนที่ยืนทำหน้าเข้มอยู่ใกล้ๆ บันได
“ผมว่าการที่คุณมาปรากฏตัวที่นี่ต้องเกี่ยวข้องการกับการที่ผมมาที่นี่อย่างแน่นอน ลางสังหรณ์ผมบอก”
ชยุตม์หัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วพูดว่า “คุณนี่เก่งจังเลย ไม่เคยนึกว่านอกจากขายเหล็กแล้วยังฝึกเป็นหมอดูด้วย”
“คุณชยุตม์” โชคดีก้าวเข้ามาใกล้ “อย่าให้ผมรู้นะว่าคุณมาพบผู้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้ขัดขวางงานวิจัยของ ดร. พงศธร ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผมกับคุณได้เห็นดีกันแน่”
“ผมไม่รู้จัก ดร. พงศธรของคุณด้วยซ้ำ” ชยุตม์เค้นเสียง “และผมไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก คนอย่างผม ทำอะไรซึ่งหน้า และเรื่องรีสอร์ท ผมไม่ผิด ไม่มีอะไรจะต้องปิดบังหรือมาทำอะไรลับหลัง”
“ขอให้จริงเถอะ” โชคดีพูดสั้นๆ แล้วหันหลังเดินจากไปโดยเร็ว ทิ้งให้ชยุตม์มองตามด้วยสีหน้าอ่อนใจปนกังวล
...ขออย่าให้รู้เลยว่าพ่อของเขาเป็นใคร หรือจะพูดให้ถูก อย่าได้มาเจอกับพ่อเขาในตึกนี้เลย...

โชคดีขึ้นมาถึงชั้นสามของตึก แล้วเดินตรงลิ่วไปยังห้องประชุมที่ ดร. พงศธรกำลังรอเขาอยู่ วันนี้ดอกเตอร์หนุ่มตามให้เขามาพบโดยด่วนเพราะมีแขกคนสำคัญจะให้พบ
...คนที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการก่อสร้าง The Riverbend Resort
แต่ทันทีที่เลี้ยวหัวมุม ชายร่างใหญ่สามคนในสูทซาฟารีสีดำก็ขวางเขาไว้แล้วบอกว่าให้รอสักครู่
“ทำไม” โชคดีถาม
“ขอโทษในความไม่สะดวกนะครับ รอเดี๋ยวเดียว ตอนนี้ท่านกำลังจะออกมา” บอดี้การ์ดร่างใหญ่กล่าวอย่างสุภาพ
“ท่านไหน” โชคดียังไม่หันกลับ
“ท่านรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยครับ”
...พี่ชายเจ้าของรีสอร์นั่นนะหรือ ทำไมโชคดีแบบนี้นะ...
...แต่ว่า มท. 1 จะยอมให้เขาพบหรือ อยู่เฉยๆ เดินออกมาจากห้องแล้วเขาก็จะเดินทื่อๆ เข้าไปหาแล้วพูดว่าอะไรดี ร้องเรียนที่น้องชายของท่านกำลังสร้างรีสอร์ทริมน้ำที่ทำลายธรรมชาติ...
...แต่ตอนนี้เขายังไม่มีข้อมูลเพียงพอ...
โชคดีส่ายหน้าด้วยความเสียดาย แม้รู้สึกไม่พอใจนิดๆ ที่ต้องเสียเวลา แต่ก็ยอมยืนรอ อย่างน้อยเขาจะได้เห็นหน้า "ม.ท. 1" ชัดๆ
คนกลุ่มหนึ่งประมาณทยอยเดินออกมาจากห้อง นับได้คร่าวๆ ประมาณเกือบสิบคน แต่ละคนสวม  สูทสีเข้ม คุยกันเบาๆ เสียงวิทยุสื่อสารดังผสมกับเสียงคุยกัน จับความได้ว่าสั่งให้คนรถเตรียมตัวให้พร้อม ท่านจะขึ้นไปบนห้องทำงานของอธิการบดีเสียก่อน แล้วอีกไม่นานจะลงไปข้างล่าง
โชคดี รอให้คนกลุ่มนั้นเดินผ่าน เขาต้องการเห็นหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน พักหลังๆ เขามัวแต่ยุ่งๆ ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง เลยไม่รู้ว่ารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยหน้าตาเป็นอย่างไร เคยได้ยินแต่ชื่อแว่วๆ นามสกุลยาวๆ ไม่ได้จำ
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชายวัยกลางคนร่างสูงที่เดินคู่มากับหญิงอายุรุ่นเดียวกันสวมแว่นตาหนาเตอะซึ่งเขาคิดว่าคงเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ใบหน้าคนที่โชคดีมั่นใจว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยคุ้นตาเขามาก เหมือนกับเคยพบที่ไหนมาก่อนแต่เขานึกไม่ออก
...นี่หรือ มท. 1 ยังไม่แก่เลยด้วยซ้ำ ดูหน้าตาดีเกินคาด เขานึกว่าจะเป็นนักการเมืองที่อายุค่อนข้างมากแล้ว หน้าตาอย่างนักการเมืองอายุห้าสิบปีกว่าปีทั่วๆ ไป รูปร่างท้วมๆ ท่าทางเขี้ยวลากดิน...
...คุ้นหน้าจริงๆ เหมือนใครซักคนที่เขารู้จัก...

ชยุตม์ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วยิ้มให้บิดาบางๆ คุณพ่อของเขาแนะนำตัวให้รู้จักกับคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เดินมาด้วยกันแล้วบอกให้รอสักครู่ พอคุยธุระกับอธิการบดีแล้วจะออกมาพบเขาแล้วจึงจะไปทานข้าวด้วยกันทั้งหมด
...ทานข้าวด้วยกันทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าพ่ออยากจะทานข้าวกับเขาสองคน แต่ต้องการให้มาทานข้าวกับอธิการบดีและคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์กระมัง...
...พ่อนะพ่อ กำลังคิดจะทำอะไร...
...อีกหน่อยก็รู้ รออีกหน่อย ท่าน มท. 1 ก็จะเผยความจริงออกมา พ่อเขาก็เป็นเสียแบบนี้...
ทั้งที่รู้จักดี แต่ชยุตม์ก็ไม่เคยชินกับนิสัยของพ่อเสียที บางครั้งเขาก็อดแปลกใจไม่ได้ ลูกชายสามคน ไม่มีใครสักคนที่เหมือนพ่อ ยิ่งพี่ชายคนโตยิ่งไม่เหมือน ที่ค่อนข้างใกล้เคียงคือพี่ชายคนรอง ที่ไม่ค่อยจะถูกกันกับพ่อเท่าไหร่นัก เขาเป็นคนสุดท้อง ยอมให้พ่อมากที่สุดกว่าใครในบ้าน พ่อจึงรักเขามากที่สุด

“โชคดียิ้มกว้างด้วยความยินดีเมื่อ ดร. พงศธร แนะนำให้รู้จักกับ ดร. ธรนินทร์ เพื่อนที่เป็นอาจารย์จากกรุงเทพฯ และทำงานให้องค์กรอิสระทางด้านสิ่งแวดล้อม
“อาจาร์ยธรนินทร์กำลังตามเรื่องนี้อยู่” ดร. พงศธรบอก
โชคดีใช้เวลาคุยกับ ดร. ธรนินทร์เกือบหนึ่งชั่วโมง ให้ข้อมูลดอกเตอร์หนุ่มทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบอกว่าอีกไม่กี่วันก็จะมีฝ่ายของเขาเข้าไปร่วมตรวจสอบการก่อสร้างร่วมกับทางรีสอร์ท
“เขายอมให้ทำแบบนั้นด้วยหรือครับ” ดร. ธรนินทร์เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“วันจันทร์นี้ผมมีคนสามคนเข้าไปที่ไซท์งาน แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าทางรีสอร์ทจะให้ร่วมตรวจสอบไปจนสร้างเสร็จ หรือให้เวลาเราเท่าไหร่”
“เขาใจกว้างมาก ไม่น่าเชื่อ แบบนี้ก็ทำงานง่ายขึ้น เอาไว้ผมจะรีบหาคนที่เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยด้วย อันนี้ไม่ได้ดูถูกคนของคุณโชคดีนะครับ” ดร. ธรนินทร์พูดยิ้มๆ
“ผมเข้าใจครับ คนที่เข้าไปก็ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ข้อนี้ผมรู้ดี” โชคดีพยักหน้า “แต่เราจะพยายามให้ดีที่สุด”
“เราต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม หากเห็นว่าโครงการสร้างผลกระทบทางด้านลบจนน่าวิตก เราก็นิ่งนอนใจไม่ได้ สิ่งที่ผมกังวลคือการทำประตูระบายน้ำเข้าออกที่เชื่อมกับแม่น้ำน่านโดยตรง ตอนนี้ผมกำลังหาทางเข้าถึงตัวสถาปนิกใหญ่ ผมฝันถึงว่ายิ่งได้พิมพ์เขียวของโครงการก็ยิ่งดี แต่การที่คุณโชคดีเข้าไปร่วมตรวจสอบกับทางรีสอร์ทได้ ถือว่าเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว บริษัทนี้เคยมีปัญหาเรื่องสร้างรีสอร์ทที่พังงา ผมคิดว่าโครงการนี้เขาคงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น”
“ผมก็หวังว่าอย่าให้มีปัญหาเหมือนที่อื่นเลย” โชคดีเอ่ยเสียงแผ่วเบา
...ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เขานี่ล่ะจะลุยชยุตม์ เอาให้พังไปเป็นแถบๆ เลยทีเดียว ให้ชยุตม์สร้างรีสอร์ทไม่เสร็จ แล้วเก็บข้าวของกลับกรุงเทพฯ...
...ยิ่งไปจากน่านได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เห็นหน้าทีไรก็กวนให้อารมณ์ขุ่นมัว หน้านิ่งๆ เรียบๆ พูดจาเนิบนาบไม่ทันใจ ขวางหูขวางตานัก พักหลังๆ ชอบทำตาวิบวับ ยิ่งน่าหมั่นใส้...

เมื่อ “ผู้ใหญ่” คนอื่นๆ แยกย้ายกันกลับบ้านและเหลือเขากับพ่อเพียงสองคน ชยุตม์จึงส่ายหน้าอย่างหงุดหงิดเมื่อพ่อของเขาหันมาย้ำเรื่องที่ได้รับการทาบทามให้สร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยและแถมพ่วงด้วยการเป็นอาจารย์สอนพิเศษ
“เห็นแก่พ่อหน่อยเถอะยุตม์”
“เพราะพ่อเห็นแก่อธิการที่เป็นเพื่อนเก่า” ชยุตม์เติม
“เขาชื่นชมผลงานแกมาตั้งนานแล้ว ทำให้เขาหน่อยเถอะ งานนี้ได้เงินดีนะ ไม่ได้ทำแบบบริจาคแรงงานให้อาแกซักหน่อย”
“อาก็ให้เงินผม” ชยุตม์แย้ง
“ให้เศษเงินสิไม่ว่า อาแกขี้เหนียวจะตาย ชอบหลอกใช้หลาน” คนเป็นพ่อยักไหล่ “น่ายุตม์ลูกพ่อ ไม่
งั้นพ่อไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้หรอก”
“พ่อมาราชการต่างหาก แล้วแวะมาคุยเรื่องนี้ แต่อย่าบอกนะว่าพ่อไปตกลงกับอธิการหรือคณบดีแล้ว” ชยุตม์รู้ทัน ส่ายหน้าอย่างเซ็ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอผมตัดสินใจก่อนนะครับพ่อ”
“อย่านานนักล่ะ”
...พ่อรีบ เห็นรีบแบบนี้ทุกที ไม่เคยเลยที่จะรออะไรซักอย่าง พ่อเขาก็เป็นเสียอย่างนี้ เหมือนโชคดีไม่มีผิด...
...โชคดีจะว่าอย่างไรถ้ารู้ว่าเขาจะมาสร้างตึกให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากที่สร้างรีสอร์ทที่น่านเสร็จ...
“พ่อครับ ผมต้องไปทำโปรเจ็ค The Krisida ที่ไต้หวัน งานกำลังจะเริ่ม”
“ให้เขารอไปก่อนสิ เอาอันนี้ให้เสร็จก่อน แล้วเรื่องรีสอร์ทอาแกก็เร่งๆ เข้า สร้างกระท่อมไม่กี่หลัง ทำไมมันนานนักวะ ไอ้รีสอร์ททำลายธรรมชาตินั่นนะ จะสร้างไปทำไมก็ไม่รู้ เดี๋ยวได้โดนไล่เหมือนที่พังงาหรอก” ท่านรัฐมนตรีกระทรวมมหาดไทยบ่น
...พ่อเขาไม่รู้อะไร งานเล็กๆ ที่น่านนี่ล่ะทำให้เขาปวดหัวกว่าที่อื่นๆ นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่คอยขัดขวางเขาคนนั้น...
“พ่อครับ ที่ไต้หวันเขาคงไม่แช่โปรเจ็คเอาไว้เพียงเพื่อจะรอวิศวกรคนหนึ่งให้พร้อมซะก่อนหรอกครับ” ชยุตม์ทำเสียงเนือยๆ
“งั้นก็ทำสองที่ บินไปบินมา ใต้หวันใกล้แค่นี้เอง” มท. 1 สรุปง่ายเช่นเคย
...ถ้าเป็นเรื่องให้คนอื่นทำอะไรให้ พ่อเขารวบรัดแบบนี้เสมอ แต่ถ้าเป็นเรื่องของตัวเอง พูดไปเถอะ พ่อเขาไม่เคยจนมุมง่ายๆ...
“ผมก็คงไม่ต้องทำงาน วันๆ ก็อยู่แต่บนฟ้า” ชยุตม์ประชด
“งั้นก็เลิกไต้หวัน มาทำที่เชียงใหม่ สร้างตึกให้เด็กนักศึกษาไทยดีกว่าไปสร้างตึกสวยๆ ให้พวกคนจีนรวยๆ อยู่ ไร้สาระ” ท่านรัฐมนตรีฯ สรุปง่ายๆ อีกแล้ว
“อย่างที่ผมบอก ขอคิดดูก่อน” ชยุตม์ยังไม่ยอมตกลง
“รีบๆ เข้านะ”
...เอาอีกแล้ว พ่อเขาเร่งอีกแล้ว แบบนี้ให้ไปอยู่กับโชคดีคงได้ชวนกันหาเรื่องทำนั่นทำนี่ไม่หยุดไม่หย่อน ไฮเปอร์เหมือนกันทั้งสองคน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโชคดีเหมือนใคร เหมือนพ่อเขานี่เอง ขออย่างเดียวอย่าให้ได้มาเจอกันแล้วกลายเป็นแนวร่วมต่อต้านรีสอร์ทของคุณอาเขาเลย นั่นก็ไม่ค่อยจะถูกกับน้องชาย นักธุรกิจกับนักการเมืองเลือดรักชาติแรง เจอกันทีไรเขาต้องคอยเป็นกรรมการห้ามมวยพ่อกับอาที่ชอบทะเลาะกันเป็นเด็กๆ...
รถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าตึกกลางของมหาวิทยาลัยที่ชยุตม์จอดรถทิ้งไว้ ซึ่งที่จริงแล้วพ่อเขาสั่งให้จอดทิ้งไว้แล้วนั่งรถคันเดียวกันไปทานอาหารเย็น ทั้งที่เขายืนยันจะขับรถไปเองเพราะเมื่อทานอาหารเสร็จจะได้แยกย้ายกันกลับเลย
“ยุตม์ พ่อรักแกนะลูก” ท่านรัฐมนตรีใจร้อนตบไหล่ลูกชายเบาๆ ก่อนที่ชยุตม์จะลงจากรถแล้วกล่าวว่าเขาก็รักพ่อเหมือนกัน
...ลูกไม้เดิมๆ เขารู้ดี พ่อชอบเล่นแบบนี้เวลาต้องการให้เขาทำอะไรให้ อ้อนลูกชายแบบนี้ คิดว่าได้ผลทุกครั้งสิน่า...
...แต่คราวนี้อย่าเพิ่งดีใจไปก่อนเลยนะพ่อนะ...
“ยุตม์”
วิศวกรหนุ่มหันหน้ากลับไปหาบิดา เลิกคิ้วถามคำถาม แล้วต้องรีบยกมือรับกล่องกระดาษเล็กๆ ที่ผู้เป็นพ่อโยนออกจากรถมาให้
“แม่ฝากมา เดี๋ยวจะหาว่าพ่อหลอกให้แกมากินข้าวด้วยอย่างเดียว”
ชยุตม์ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วยืนมองรถของพ่อแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเอง
...เฮ้อ...ทำไมต้องมามีเรื่องให้คิดอีกแล้วนะ แค่คิดเรื่องของโชคดีก็จะแย่อยู่แล้ว...
...เรื่องของโชคดีหรือ เรื่องอะไรของโชคดี เรื่องรีสอร์ทนั่นหรือไง...
...ใช่ เรื่องรีสอร์ท...
ชยุตม์บอกตัวเองว่าเรื่องรีสอร์ท...
...รีสอร์ทเจ้าปัญหา...
...โชคดีเจ้าปัญหา...

 :mc4:

เดี๋ยะมีต่อ ยังไม่จบบทนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 21-04-2009 09:49:07
ก็แอบสนใจเค้าเข้าไปแล้ว จนคิดถึงเค้าตลอดยังไม่รู้ตัวอีกนะพ่อคู้ณ :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 21-04-2009 11:17:32
กว่านายช่างจะรู้ใจตัวเอง ระวังหมูปิ้งจะโดนคนอื่นคว้าไปกินซะล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 21-04-2009 13:01:03
ปวดหัวแทนคุณวิศวกร :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 21-04-2009 13:42:12
ที่ชยุตม์รับมือโชคดีได้เป็นเพราะประสบการณ์การรับมือบิดานี่เอง  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 21-04-2009 13:50:26
รออีกตอน


มิน่าล่ะที่ชยุตม์บอกว่าโชคดีเหมือนพ่อตัวเอง
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 21-04-2009 13:54:03
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า โชคดีกับ มท1 เป็นอะไรกันดีเอ่ย...
คงน่ารักน่าดูเลย ฮิฮิ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 21-04-2009 15:13:46
ลองถ้ารู้ว่าชยุตม์มีพ่อใหญ่แบบนี้ล่ะก้อ
หมูปิ้งคงพ่นไฟออกจากปากแน่ๆ เหอะๆ
พ่อก็เอาแต่ใจตัวจัง ยุตม์จะต้องตามใจอีกมั๊ยอ่ะ
เห็นแบบนี้คนเคยแพ้ทางพ่อก็คงต้องแพ้ทางอยู่วันยังค่ำแหละ
เรื่องหมูปิ้งก็น่าปวดหัว กัดไม่ปล่อยจริงๆแทนที่จะไล่เบี้ยกับตัวการ
จริงๆไปๆมาๆก็อยากจะขับไปให้พ้นๆไม่ต้องทำงาน คิดว่ามันจะ
ง่ายแบบนั้นเหรอ กว่าจะได้หลักฐานรีสอร์ทก็สร้างเสร็จพอดีนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-04-2009 21:40:35
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 21-04-2009 22:17:17
ชยุตย์เริ่มสับสน ระหว่างงานกับคนที่ชื่อโชคดี

เห็นเค้ารางของความยุ่งยากเริ่มตามมาอีกแล้ว

ขอบคุณนะครับ พี่นาย ก็อย่างที่รู้กัน กด + ให้เมื่อเช้า

ฉนั้น ตอนนี้กด + ให้ไม่ได้เอากำลังใจไปแทนก็แล้วกัน  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: un_john2006 ที่ 22-04-2009 03:12:48
เป็นกำลังใจอีหนึ่งคนนะครับ

 :3123: :3123:



 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงแรกบทที่ 9 (21/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 22-04-2009 07:53:19
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า โชคดีกับ มท1 เป็นอะไรกันดีเอ่ย...
คงน่ารักน่าดูเลย ฮิฮิ  :เฮ้อ:
โชคดีกับ มท 1 เป็นอะไรกัน Oh no!!! :pighaun: น่าเกลียดมากๆ นะ แค่คิดก็สยอง  :m25:
ที่จริงมันมีประเด็นอื่นอ่ะครับ รอตอนปลายๆ เรื่องนะ อีกไม่นานหรอก



ปฐพีนั่งมองฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก พลางตัดสินใจว่าจะยอมเปียกเปิดประตูรถวิ่งย้อนกลับไปยังร้านโชคดีค้าเหล็กดีหรือไม่ วันนี้เขาตั้งใจมาหาชายหนุ่มเพื่อชวนไปทานอาหารเย็นด้วยกันหลังจากที่ไม่ได้พบกันมาหลายวัน แต่ระหว่างทางจากลำปางมาที่น่าน ฝนก็เทลงมา กว่าเขาจะมาถึงน่านก็เกือบเป็นเวลาหนึ่งทุ่ม หน้าร้านของโชคดีก็จอดรถไม่ได้เพราะมีรถจอดเต็มไปหมด เขาต้องขับเลยหน้าร้านมาจอดเสียไกล คิดจะโทรศัพท์หาชายหนุ่มบอกให้ส่งคนกางร่มมารับเขาก็ไม่อยากทำ เดี๋ยวจะถูกหาว่าห่วงสบาย
...แต่ตอนนี้ฝนตกหนัก โชคดีคงไม่บ่นหรอก...
ร้อยตำรวจเอกปฐพีหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อกดหมายเลข แต่โทรศัพท์ดับไปทันทีที่กดหมายเลขไปได้เพียงสี่ตัว นายตำรวจหนุ่มจึงปรับเบาะพอให้เอนตัวได้สบาย แล้วหลับตาลงช้าๆ นึกถึงใบหน้าของคนหน้าดุที่คงกำลังนั่งอยู่ในร้าน อาจจะกำลังตรวจบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวันของร้านอยู่ หรือไม่ก็ยืนสั่งให้ลูกน้องทำงาน หรือไม่ก็วางแผน “ล้ม” โครงการรีสอร์ทริมน้ำ
...โชคดีคิดยังไงกับเขาบ้างหนอ จะคิดแบบที่เขากำลังคิดอยู่หรือเปล่า รู้จักกันมาก็นานหลายปีแล้ว น่าจะถึงเวลาหรือยังที่เขาจะปรับความสัมพันธ์กับโชคดีให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง...
...ขั้นที่ใกล้ชิดมากกว่าเดิม...
...วันมะรืนนี้ล่ะ มีงานฤดูหนาว มีการจุดพลุสวยงาม เขาจะชวนโชคดีไปยืนอยู่ริมแม่น้ำ มองดูพลุที่สว่างไสวที่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ แล้วเขาจะบอกความในใจกับโชคดี ขอเป็นแฟนจริงจัง...
...แต่ทำไมเกิดมีพายุกระหน่ำแบบนี้ หน้าฝนก็หมดไปแล้วนี่นา ล่วงเข้าหน้าหนาวได้เกือบเดือนแล้ว เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ อากาศก็เปลี่ยนแปลงทันใด...

คนที่ร้อยตำรวจเอกปฐพีกำลังคิดถึงตอนนี้ยืนเท้าสะเอวทำหน้าบึ้งตึงใส่ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนจ๋องอยู่ใกล้ประตูหน้าร้านโชคดีค้าเหล็ก
ซ่งหันซ้ายหันขวา มองหาทางหนีทีไล่ หลังจากพูดอะไรที่อยากพูดแล้วก็ต้องเตรียมตัวป้องกันตัวเอง เผื่อโชคดีเกิดอาการผีเข้า กระโดษเข้ามาทำร้ายเขา
"โชคดีรักใคร บอกเราได้ไหม ถ้าไม่รักเราแล้วรักใคร"
"ไม่ได้รักใครโว๊ย" โชคดีทำเสียงหงุดหงิด "แต่ถึงจะรักใครแล้วมายุ่งอะไรด้วย ยังไงก็ไม่ได้รักแกก็แล้วกัน"
"โธ่ โชคดี ทำไมพูดตรงแบบนี้" ซ่งทำหน้าเหมือนจะร้องให้
"พูดตรงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้เรื่องซักที เมื่อไหร่จะเลิกกวนใจซะทีนะซ่ง"
"เรารักหรอกถึงได้มาตอแย"
"แต่เราไม่ได้รักนาย ดูปากเราพูดนะซ่ง ไม่ได้รัก ไม่ได้รัก ไม่ได้รัก" โชคดีตะคอกเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนในร้านได้ยิน "และจะไม่รักด้วย"
เสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ทรงศักดิ์สะดุ้ง หันหน้าออกไปมองนอกร้านแวบหนึ่งแล้วหันกลับมามองคนหน้าดุที่ยืนจังก้าเท้าสะเอวมองเขาอยู่เหมือนจะไล่ให้เขาออกไปพ้นๆ ร้าน
"ทำไม่แน่ใจขนาดนั้นละโชคดี"
"ก็แน่ใจสิวะ ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย" โชคดีตวาด "แล้วนี่มาพูดอะไรตอนฝนฟ้าคะนอง เกิดเพี๊ยนอะไรขึ้นมา อากาศเปลี่ยนก็เลยส่งผลกระทบต่อสมองหรือไงซ่ง"
"ทำไมโชคดีใจร้ายกับเรานัก" ซ่งโอดครวญ "ไม่เห้นความจงรักภักดีของเราบ้างเลยหรือหมูปิ้ง"
"ไอ้ซ่ง อย่ามาเรียกชื่อเล่นนะ เดี๋ยวยันออกนอกร้านไปให้ฟ้าผ่าหัวเลยเลย" โชคดีตะคอกเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
"ไม่ต้องเสียแรงถีบเราหรอก ถ้าอยากให้เราไป เราก็จะไป"
"งั้นไปเลย วิ่งออกไปเลย วิ่งตากฝนกลับบ้านไปได้เลยยิ่งดี" โชคดีสนับสนุน
"แต่เราเอารถมา" ซ่งตอนหน้าซื่อๆ
"โว๊ย ปวดหัว" โชคดีหันหน้าไปโวยวายใส่ผนังด้านข้างเพราะรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจเหลือเกิน เขารู้ว่าทรงศักดิ์ไม่ได้แกล้งพูดกวน ฝ่ายนั้นพูดออกมาอย่างที่ตัวเองรู้สึกจริงๆ
"เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หมู เอ๊ย โชคดีไม่สบายนะ เรามาบอกรักก็เพราะเรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ คนเราต้องซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเอง รู้สึกยังไงก็ต้องสื่อออกไปยังงั้น โชคดีก็เอาแต่ปิดกั้นตัวเองแบบนี้ เมื่อไหร่จะได้สัมผัสกับรักแท้เสียทีล่ะ" ซ่งยังพยายามโน้มน้าวคนหน้าดุที่ตอนนี้เริ่มหายใจฟึดฟัดเหมือนวัวกระทิงพร้อมวิ่งเข้าชนคู่ต่อสู้
"ไม่อยากสัมผัส เข้าใจไหมซ่ง" โชคดียื่นหน้าเข้าไปใกล้ พูดชัดถ้อยชัดคำ "ทีนี้ไปได้หรือยัง"
"ฝนยักตกอยู่เลย" ซ่งตอบเสียงแผ่ว หน้ามุ่ยเพราะโดนไล่และโดนดุจนแทบจะถอดใจอยู่แล้ว
"เดี๋ยวจะไปหาเด็กกางร่มไปส่งที่รถ"
"ไม่ต้องลำบากหรอก" ซ่งรีบห้าม
"ไม่ลำบากเลยซ่ง ไม่ลำบากจริงๆ บริการพิเศษจากร้านโชคดีค้าเหล็ก ส่งให้ขึ้นรถ ขับออกไปไม่ให้เกะกันหน้าร้าน บริการได้เสมอ"
"เราไม่ได้จอดรถขวางหน้าร้านที่ไหน เราจอดเยื้องไปตรงโน้น ต้องเดินไปตั้งไกล" ซ่งชี้มือ
โชคดีพ่นลมหายใจออกมาดังๆ พยายามีควบคุมมือตัวเองไม่ให้ยื่นไปบีบคอทรงศักดิ์ที่ยืนทำหน้าซื่ออยู่ใกล้ๆ
...โอย ใครก็ได้มาลากไอ้ซ่งไปให้พ้นหน้าๆ ทีเถอะ จะไม่ไหวอยู่แล้ว...
...อะไรจะรักนักหนา ถูกปฏิเสธไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย จนป่านนี้ก็ยังไม่เลิกลา เราก็ออกดุ ซ่งมาเห็นเสน่ห์อะไรของเราวะ เมื่อไหร่จะเลิกรักเราซะที คนที่อยากให้...
...เฮ้ย ทำไมเราคิดแบบนี้...
...คนที่อยากให้รักก็ไม่รัก...
...ไม่ได้ คิดแบบนี้ไม่ได้...

 :call: เดี๋ยงคงมีต่อ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 22-04-2009 08:35:26
ขอให้มีต่อ  :call:

ใครกันที่โชคดีอยากให้รัก ชักสงสัยแล้วซิ  :z1:

+1 แล้วรออ่านต่อไป  :z2:

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-04-2009 08:38:14
+1 ให้และรออ่านตอนต่อไป  :call:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 22-04-2009 11:42:29
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า โชคดีกับ มท1 เป็นอะไรกันดีเอ่ย...
คงน่ารักน่าดูเลย ฮิฮิ  :เฮ้อ:
โชคดีกับ มท 1 เป็นอะไรกัน Oh no!!! :pighaun: น่าเกลียดมากๆ นะ แค่คิดก็สยอง  :m25:
ที่จริงมันมีประเด็นอื่นอ่ะครับ รอตอนปลายๆ เรื่องนะ อีกไม่นานหรอก

พี่นายคิดอะไร อะ ผมก็แค่ เห็นคุยชยุตม์ เห็นโชคดีใจร้อน เหมือนกับ มท.1 แล้วมีอะไรคล้าย ๆ กัน แถม
แม่ของโชคดี ก็โดนคุณที่ค่อยข้างมีอำนาจ กลั่นแกล้ง จึงได้ระเห่เร่ร่อนมาถึง น่านนะครับ พี่นายกำลังคิดอะไรอะ
ตัวเองคิดแล้วบอกว่า คนอื่นคิดอีก ฮิฮิ
ส่วน ผู้กองปฐพี ลองถามใจตัวเองดูให้แน่ก่อนนะครับ ว่ามีใจให้โชคดีจริง ๆ หรือป่าว
หรือมีใจให้อีกคนนึง แต่ยังนึกไม่ออกกันแน่ 
ก่อนไปขอ +1 ให้พี่นายก่อนแล้วกันนะ แถม  :z6: ให้ด้วย คิดมาก
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 22-04-2009 12:41:24
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 22-04-2009 12:57:47
ซ่งน่ารักอ่ะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 22-04-2009 15:35:20
นั่งรอตอนต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 22-04-2009 19:32:55
 :laugh:แล้วใครหล่ะที่อยากให้รัก...อิอิ
ปล.พี่นายครับเรื่อง มท.1กับคุณโชคดีหวังว่าคงไม่น้ำเน่าเหมือนหนังไทยหรอกนะคับ :beat:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-04-2009 20:57:41
สงสารซ่ง วันนั้นคงจิตตกไปเลย :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: [W]olf[T]ricky ที่ 22-04-2009 22:21:21
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
สุดๆๆๆๆเลยอ่า  :o12: มันทรมานมากมายๆๆๆๆๆ
รีบๆมาค่อนะคร๊าฟฟฟฟ รอน๊าๆๆๆๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-04-2009 22:48:53
เดี๋ยวจะมีต่อ ยังไม่เห็นมีเลย พี่นาย

ว่าแต่ทำไมโชคดี นี่เนื้อหอมจัง มีแต่คนมารุมรัก

แล้วผู้กองปฐพีอีกคน ถ้าเข้ามาบอกรักตอนนี้ คงเจอของแข็งของนายหมูปิ้งแน่ ๆ

เป็นกำลังใจให้นะครับ + ให้แล้วจากเรื่องโน้น ไปละ ไม่ได้ไปไกลนะครับ

รอตอนต่อไปอยู่นะ พี่นาย  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSacrifice ที่ 22-04-2009 22:51:34
ขำซ่งอ่ะ ซื่อได้ใจมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 23-04-2009 01:44:04
ไม่มีใครฮาเท่าซ่งอีกแล้วนะเนี่ย
ยิ่งอย่างทั้งขำทั้งสงสาร ทาสผู้ซื่อสัตย์ต่อหมูปิ้ง
ทั้งกลัวทั้งกล้าในเวลาเดียวกัน

"งั้นไปเลย วิ่งออกไปเลย วิ่งตากฝนกลับบ้านไปได้เลยยิ่งดี"
"แต่เราเอารถมา"

> :laugh: ซ่งน่ารักกกกกกกกอวยพรให้ตาสว่างไวไวนะจะได้ไม่เจ็บตัว
และเจ็บใจจากทำพูดแสนแร้งน้ำใจของหมูปิ้ง :a14: เล่นตัวนักระวังโดนปล้ำนะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 24-04-2009 09:16:52
พี่นายคร๊าบบบบ....
หายไปไหนเนี่ย ชอบหายไปแบบ
ไร้ร่องรอยอีกแล้วนะครับ คิดถึงจังเลย....
แต่ คิดถึงโชคดี กับ ชยุตม์มากกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 24-04-2009 09:29:22
แอบมีใจให้ใครหนอ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 25-04-2009 12:03:13
มอบแต้ม+ ที่ 752 แทนคำขอบคุณนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 25-04-2009 14:44:53
+1 ให้แทนคำขอบคุณ เชื่อแล้วค่ะว่าเรื่องนี้ hot มากมาย fc เข้ามารอตอนต่อไปกันตลอดเวลานะ
...อยากกินหมูปิ้ง ... (หมูปิ้งสูตรพิเศษ รสชาดจัดจ้าน ดุเด็ดเผ็ดมันถึงใจ) แล้วเมื่อไหร่นายช่างของเรา
กับนายเอกจะเกิดความรู้สึกดี ๆ มีซีนแบบหวาน ๆ ให้เห็นละเนี่ย ต้องรออีกนานไหม.. แต่ยังไงก็จะรอ
ชอบทุกตอนเลย นายเอกของเราดุดีแถมเจ้าอารมณ์และปากจัดมีอะไรให้ค้นหาได้ตลอด น่าเอาชนะเนอะ
พระเอก (ชยุตม์) ก็ดูมาดสุขุมน่าจะเอานายเอกของเราอยู่... จะรอตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: พี่นาย หรือ
น้องนาย ดีละ แบบแน่น ๆ 
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 26-04-2009 09:54:50
มาเต้นรอคุณนาย :a11:
เบื่อเล่นเกมแล้วมาต่อซักทีนะคะ :m26:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 27-04-2009 03:43:13
คิดถึงยุตม์จังคะ หายไปไหนเอ่ย
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
 :z13: +1 เพลินๆ :z2: แล้วจากปาย

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 27-04-2009 07:49:13
อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านและคิดถึงนะครับ
โทษทียังไม่ได้โพสตอนใหม่เลยเพราะยังไม่ได้พิมพ์ สุดสัปดาห์ที่แล้วยุ่งมากๆ พอดีี่พี่สาวน้องสาวและหลานๆ มาเยี่ยมที่บ้านเลยยุ่ง ต้องพาไปนั่นไปนี่ วันนี้ต้องพาหลานไปเที่ยวเซ็นทรัลชดเชยที่ไม่ได้ไปเที่ยวทะเล (อา ให้เหตผลว่าฝนมันตก เล่นน้ำไม่ได้เดี๋ยวโดนแมงกระพรุน ก็เลยต้องชดเชยด้วยการพาไปเดินห้างหรือไม่ก็ไปสวนน้ำเดอ)
จะพยายามหาเวลาพิมพ์นะครับ  :call:
 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 27-04-2009 10:24:17
แล้วจะรอ ต่อไปนะครับ พี่นาย
สู้ ๆ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 27-04-2009 11:03:44
หมูปิ้ง  หมูปิ้ง  หมูปิ้ง


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 27-04-2009 12:39:54
รอหมูปิ้ง


พาหลานไปเที่ยวเสร็จอย่าลืมมาต่อนะค่ะ


รอคุณคฑาวุธเสมอ :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 27-04-2009 18:18:23
พี่เคนไปพัทยามาหรือป่าวเนี่ย เพราะพัทยาฝนมันตก แล้วหนูก้อไปมา ไมได้เล่นน้ำด้วย แถมแม่เจอแจ็กพลอต ผีหลอกด้วยอ่ะ o22 :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 28-04-2009 07:55:17
มารอค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 28-04-2009 09:02:46
ว่างแล้วมาต่อนะคะ

มารอค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 29-04-2009 04:38:08
รอค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 29-04-2009 04:45:38
หมูปิ้ง  o18
ชยุตม์  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-04-2009 02:52:08
หิวหมูปิ้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย ช่วงกลางบทที่ 9 (22/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 30-04-2009 08:12:08
ต้องขอกราบประทานโทษผู้อ่านทุกท่านนะครับที่ให้รอนาน วันนี้มาจบบทที่ 9 ครับ
พักนี้มันยุ่งๆ น่าดู เลยกระดึ๊บกระดึ๊บได้ทีละหน่อย แอบใช้คอมที่ทำงานพิมพ์ก็กลัวเจ้านายเห็น กลับบ้านหลานก็แย่งคอมเล่น พอพี่สาวกับหลานๆ กลับต่างจังหวัดไปแล้วผู้เขียนก็เลยพักผ่อนหลับเป็นตายเวลาถึงบ้านทุกที
ก้อ เลยมาโพสช้า

ท้ายตอนที่แล้ว

...โอย ใครก็ได้มาลากไอ้ซ่งไปให้พ้นหน้าๆ ทีเถอะ จะไม่ไหวอยู่แล้ว...
...อะไรจะรักนักหนา ถูกปฏิเสธไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย จนป่านนี้ก็ยังไม่เลิกลา เราก็ออกดุ ซ่งมาเห็นเสน่ห์อะไรของเราวะ เมื่อไหร่จะเลิกรักเราซะที คนที่อยากให้...
...เฮ้ย ทำไมเราคิดแบบนี้...
...คนที่อยากให้รักก็ไม่รัก...
...ไม่ได้ คิดแบบนี้ไม่ได้...

ต่อ...

ร้อยตำรวจเอกปฐพีรอจนฝนซาจึงลงจากรถ เดินย้อนไปยังร้านค้าของโชคดี ฝนยังตกปรอยๆ อากาศเริ่มเย็น แสงไฟข้างถนนส่องต้องสายฝนทำให้มองเห็นเป็นประกายระยิบระยับ
นายตำรวจหนุ่มเห็นร่างหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ จึงหลีกทางให้ แต่พอเข้าใกล้ ปฐพีก็รู้ว่าเป็นใคร นายตำรวจหนุ่มกำลังจะเอ่ยทักแต่ชายหนุ่มคนนั้นชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“ผู้กอง สวัสดีครับ ผู้กองมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยพูดกับโชคดีให้ผม” ทรงศักดิ์น้ำเสียงร้อนรน
ปฐพีทำหน้าสงสัย ฝ่ายนั้นจึงรีบพูดต่อ “โชคดีนะสิครับ ไล่ผมออกมาจากร้านทั้งๆ ที่ฝนยังตกไม่หยุด ร้ายที่สุดเลย”
“ถ้าไม่ร้ายก็ไม่ใช่โชคดีสิครับ เสียยี่ห้อหมูปิ้งหมด” ปฐพีพูดยิ้มๆ
“โอ๊ะๆ ผู้กองอย่าไปพูดให้ได้ยินเชียวนะครับ” ทรงศักดิ์ทำหน้าตกใจ อดหันไปมองข้างหลังไม่ได้ แล้วหันมาพูดกับนายตำรวจว่า “ผู้กองช่วยผมด้วยนะครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว ถ้าปล่อยให้นานไปกว่านี้ ผมเกรงว่าจะไม่ทันการณ์”
“เรื่องอะไรหรือครับ” ปฐพีพูดอย่างใจเย็น
“ก็...” ทรงศักดิ์อ้ำอึ้งขึ้นมาทันใด “ก็ หมูปิ้งนะสิครับ ปฎิเสธผม”
ปฐพีไม่แปลกใจ โชคดีปฏิเสธทรงศักดิ์มาแต่ไหนแต่ไร ฝ่ายนี้เองก็ยังไม่ยอมรับเสียที เฝ้าแต่อาลัยอาวรณ์โชคดีไม่เคยหยุด
“แล้วนี่เกี่ยวอะไรกับผม”
“ผมอยากให้ผู้กองไปคุยกับโชคดีให้ผมหน่อย” ทรงศักดิ์พูดเสียงเบา ก้มหน้าลงมองพื้น
“คุย...คุยอะไร” ปฐพีถามเบาๆ
“ก็คุยให้โชคดียอมรับผมบ้าง อย่าผลักใสไล่ส่งผม ผู้กองเป็นผู้ใหญ่ เป็นลูกชายผู้ว่า โชคดีก็เกรงใจผู้กองมากกว่าใคร”
...เกรงใจตายล่ะ โชคดียังข่มขู่เขาอยู่บ่อย เรื่องจะโน้วน้าวโชคดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย...
...แล้วทำไมต้องเป็นเขา ทรงศักดิ์ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารู้สึกอย่างไรกับโชคดี...
“ผมรักโชคดี ผมยอมรับกับผู้กองตรงๆ ผู้กองไป เอ่อ...ไป คุยกับโชคดีให้ผมหน่อยนะครับ ผมขอร้อง” ทรงศักดิ์ทำเสียงหน้าสงสาร
...จะพูดให้ถูก ให้เขาไปขอโชคดีให้อย่างนั้นละสิ...
...เดี๋ยวได้โดนกระทืบ รายนั้นร้ายน้อยเสียเมื่อไหร่...
“คุณทรงศักดิ์ครับ จะให้ผมทำอย่างนั้นได้ยังไง มีใครไปบังคับใจโชคดีได้ล่ะ ก็รู้ๆ กันอยู่”
“แต่โชคดีเขาเชื่อผู้กอง เกรงใจผู้กอง”
“แต่เรื่องนี้มัน...”
...เขาก็ยังหวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่าจะบอกความในใจของตัวเองกับโชคดีว่าอย่างไร อย่าพูดถึงเรื่องเป็นเถ้าแก่ให้ทรงศักดิ์เลย ยากเสียยิ่งกว่ายาก...
“คุณทรงศักดิ์ครับ เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของกรรม คนเราถ้าเป็นคู่กันแล้วก็ย่อมไม่แคล้วกัน อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลยครับ ยังมีเวลาอีกถมเถ อายุก็ยังน้อยอยู่” ปฐพีไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ผมไม่ไว้ใจ อะไรบางอย่างทำให้ผมรู้สึกว่ารอไม่ได้” ทรงศักดิ์ขมวดคิ้ว พูดเบาๆ ราวพูดกับตัวเอง
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่า เวลาและวารีไม่เคยคอยใครสิครับ หากไม่รีบตอนนี้ โชคดีก็อาจหลุดลอยไปเป็นของคนอื่น ผมอดหวั่นใจไม่ได้”
...ทรงศักดิ์พูดแปลก โชคดีจะไปเป็นของใคร หรือจะพูดให้ถูก ใครจะกล้ามาจีบโชคดี ที่เห็นก็มีทรงศักดิ์คนเดียวนี่ล่ะ เขาเองก็ไม่ได้แสดงออกให้เห็นว่าจีบ เพียงแต่ทำความคุ้นเคยกับโชคดีจนรู้สึกสนิทกัน และเผยให้เห็นบ้างว่าชอบพอโชคดีอยู่ไม่น้อย คนที่รู้มีอยู่เพียงคนเดียวคือคุณแม่ของโชคดี...
...ชยุตม์อย่างนั้นหรือ นายช่าง หนุ่มกรุงเทพฯ คนที่โชคดีไม่ชอบหน้าเป็นอันดับหนึ่ง ไม่น่าเชื่อ...
...หรือจักริณทร์ ไม่ใช่ ไม่มีทางเป็นจักริณทร์ไปได้ เขามองออกว่าจักริณทร์เป็นแบบไหน...
ทรงศักดิ์พร่ำรำพันกับปฐพีไม่ยอมหยุด จนนายตำรวจหนุ่มจำต้องรับปากว่าจะช่วยพูด แต่ก็ไม่ได้รับประกันผลที่จะออกมา
"คุณทรงศักดิ์ก็รู้จักโชคดี รายนั้น ใครจะไปโน้วน้าวใจได้ถ้าเขาไม่ได้คิดเองตัดสินใจเอง แต่ผมก็จะพูดให้โชคดีเห็นความดีของคุณ ส่วนที่เหลือก็ให้เขาตัดสินใจเอง"
"งั้นก็ได้ครับ" ทรงศักดิ์ยอมรับ "ผมขอบคุณผู้กองมาก ผมมองไม่เห็นใครเลยจริงๆ ผู้กองเป็นพ่อพระของผม เป็นคนที่จะทำให้ผมได้สมหวังกับโชคดี" ทรงศักดิ์รู้สึกสดชื่นขึ้นมาอีกเล็กน้อย
...อย่าว่าแต่จะช่วยคุณเลย ผมเอ็งก็ยังหนักใจเรื่องของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย...
ปฐพีแอบถอนหายใจแล้วให้กำลังใจทรงศักดิ์ก่อนที่ชายหนุ่มหน้าตี๋จะยอมเดินไปที่รถ นายตำรวจหนุ่มยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินตรงไปยังจุดหมาย

ร้านโชคดีค้าเหล็กกำลังจะปิด พนักงานเก็บของอย่างแข็งขัน โดยมีโชคดีคอยยืนดูแลอยู่กลางร้าน ทันทีที่เห็นร้อยตำรวจเอกปฐพี โชคดีก็ตรงรี่เข้ามาหา แล้วถามคำถามที่นายตำรวจตอบไม่ได้
"สารวัตรรู้หรือไม่ว่าแม่ผมหายไปไหน ผมไม่เห็นแม่มาสองวันแล้ว" โชคดีทำหน้ามุ่ย "แจ้งความคนหายเลยได้ไหมครับ"
"แม่เป็นประธานไลออนส์ ก็ต้องยุ่งเป็นธรรมดา" ปฐพีตอบยิ้มๆ
"งานยุ่งจะตาย แม่ก็ปล่อยให้ผมทำอยู่คนเดียว คนก็ซื้อได้ซื้อดี ไม่รู้จะสร้างบ้านสร้างเรือนกันไปถึงไหน" โชคดีส่ายหน้า
"อ้าว คนซื้อของแล้วมาบ่น" ปฐพีหัวเราะเมื่อเห็นโชคดีพาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
"แล้วนี่ผู้กองจะมาซื้อของหรือเปล่า ร้านปิดแล้วนะครับ"
"มาชวนไปทานข้าว"
"มาจากลำปางเพื่อมาชวนผมไปทานข้าวนี่นะ ผู้กองทำงานหรือเปล่านี่ เห็นมาเมืองน่านบ่อยมาก มิน่า ขโมยลำปางถึงชุมนัก" โชคดีทำหน้าเข้ม
"ใครบอก” ผู้กองปฐพีเอียงหน้าถาม
"ผมจะอยู่ทานข้าวกับเด็กที่ร้าน เตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว" โชคดีเสียงอ่อนลง
"แล้วไม่ชวนกันทานข้าวด้วยหรือไง" ปฐพีมองตาชายหนุ่มหน้าดุ "ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว มาถึงตั้งนานแล้วล่ะ แต่ฝนตกหนัก เลยนั่งคอยอยู่ในรถ"
"อ๋อ" โชคดีทำหน้าเข้าใจ "กลัวฝนขนาดนั้นเชียว ต้องรอให้ฝนปรอยๆ ก่อนถึงจะมาหาผม ทำไมไม่โทรมาบอกล่ะครับ จะให้เด็กกางร่มออกไปรับ"
...ว่าแล้วเชียว โดนจนได้...
"ไม่อยากรบกวน ที่จริงก็อยากวิ่งมาเลยล่ะ เปียกก็ช่าง แต่กลัวโชคดีลำบากหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน" ปฐพียิ้มหวาน รู้สึกอยากจะ "จีบ" โชคดีขึ้นมาทันใด
"ไม่ลำบากหรอกครับ" โชคดียักไหล่ "เพราะผมคงไม่คิดจะหาเสื้อผ้าให้ใครเปลี่ยนหรอก เปียกแล้วก็แห้งได้ บ้านก็อยู่ไม่ไกล ไปเปลี่ยนบ้านของตัวเองก็แล้วกัน"
"เดี๋ยวเป็นปอดบวมตาย" ปฐพีแกล้งทำเสียงน้อยใจ
"ผู้กอง" โชคดีถอนหายใจเบาๆ มองหน้าปฐพีเหมือนเห็นตัวประหลาด แล้วพูดขึ้นว่า "แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมทำท่าแปลกๆ"
"เปล่า"
"ทำท่าเป็นหนุ่มน้อย เป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย" โชคดีถามเสียงเรียบ
"ฝนตก ก็เลยรู้สึกครึ้มๆ อยากชวนโชคดีไปทานข้าว อ๊ะๆ รู้แล้วว่าจะทานข้าวกับเด็กที่ร้าน" นายตำรวจหนุ่มรีบยกมือห้ามอีกฝ่ายที่กำลังจะอ้าปากพูด "ขอวันนี้วันเดียวไม่ได้หรือหมูปิ้ง"
ปฐพีกัดฟัน ตัดสินใจเรียกชื่อเล่นของชายหนุ่มเจ้าอารมณ์เพราะรู้สึกอยากหยอกล้อโชคดีขึ้นมาทันใด
"จะไม่ได้ก็เพราะเรียกชื่อนี้นี่ล่ะ" โชคดีกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่โวยวายอย่างที่ปฐพีหวั่นใจ
"ผมอยากเรียกบ้าง อย่างน้อยก็ได้รู้สึกว่าเราสนิทกัน สามารถเรียกชื่อเล่นกันได้"
"ผู้กองไม่มีชื่อเล่น ทำไมพ่อแม่ไม่ตั้งให้ก็ไม่รู้" โชคดีส่ายหน้า
"มีสิ พ่อแม่ผมเรียกผมว่าตุ้ยนุ้ยตอนเป็นเด็ก เพราะผมอ้วนน่ารัก"
โชคดีหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แล้วพูดว่า "ตอนนี้ก็เริ่มตุ้ยนุ้ยอีกแล้วล่ะ ระวังนะครับ จะเผละก่อนที่จะได้เป็นสารวัตร"
"ผมว่าก็ดูสมวัยนะ" ปฐพียักไหล่ แล้วทวงคำตอบโชคดีอีกครั้ง "ว่าไงหมูปิ้ง ไปทานข้าวด้วยกันเถอะ ไม่ได้ทานข้าวด้วยกันนานมากแล้ว ตั้งแต่ผมเป็นหมวดโน่นมั๊ง"
"น้อยๆ หน่อย ตอนเลื่อนยศยังไปทานข้าวด้วยกันอยู่เลย แล้วเลิกเรียกชื่อเล่นผมซะที ไม่งั้นผมไม่รับรองความปลอดภัย"
ปฐพีอมยิ้ม ในที่สุดโชคดีก็ยอมไปตอบรับคำชวนของเขา นายตำรวจหนุ่มถามว่าจะให้ช่วยอะไรบ้าง แต่โชคดีบอกว่าไม่เป็นไร ให้เด็กที่ร้านจัดการก็ได้ โชคดีขอตัวไปสั่งงานลูกน้องอีกชั่วครู่แล้วจึงเดินกลับมาหาปฐพี หน้าตาสดชื่นขึ้น ปฐพีเดาว่าโชคดีคงล้างหน้าลวกๆ เพราะเห็นโชคดียกแขนขึ้นเช็ดหน้า
"เดี๋ยวจะซื้อผ้าเช็ดหน้าให้ซักผืนนะ จะได้ไม่ต้องเอาแขนเสื้อเช็ดหน้า" ปฐพีกล่าวยิ้มๆ แล้วเดินนำโชคดีออกไปนอกร้าน
"ผู้กองหยุดพูดเถอะ เดินไปเงียบๆ อย่ามาทำเป็นหนุ่มน้อยพูดมาก" โชคดีเสียงเข้ม แล้วเดินแซงนายตำรวจ ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินตามพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

ชยุตม์ชะงักเมื่อเดินออกมาจากร้านอาหารแล้วเห็นโชคดีเดินมากับร้อยตำรวจเอกปฐพี เขาสงสัยอยู่ก่อนแล้วว่าปฐพีชอบโชคดี และการที่เห็นทั้งสองควงกันมาทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารนอกเมืองก็เป็นการตอกย้ำว่าเขาคิดไม่ผิด
...แต่สองคนนี้ไม่เห็นจะเหมาะสมกัน โชคดีดูแข็งเกินไป ปฐพีก็ดูอ่อน ไม่น่าจะคุมโชคดีได้...
...แล้วใครล่ะจะคุมได้ หากเป็นเขา ก็ต้องคิดหนักพอสมควรทีเดียว...
...แต่เขาเป็นคนอดทน ยอมๆ ให้โชคดีซักหน่อย หลอกให้ตายใจ หลังจากนั้นค่อยตลบหลัง เอาให้อยู่หมัด ถ้าเป็นแฟนกัน โชคดีก็ต้องยอมให้บ้างล่ะน่า เคยมีคนพูดว่า หากคนสองคนได้เสียกันแล้ว อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป โชคดีอาจจะอ่อนลงมากกว่านี้ คุยด้วยง่ายมากขึ้นกว่าเดิม...
“นายช่าง รู้จักมากินร้านนี้เหมือนกันหรือ”
ชยุตม์สะดุ้ง เมื่อครู่ตกอยู่ในภวังค์เลยไม่ทันสังเกตว่าโชคดีกับปฐพีเดินเข้ามาใกล้แล้ว และชายหนุ่มหน้าดุก็ทักเขาคำพูดที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วเพื่อคิดไตร่ตรองว่าคนพูดหมายความว่าอย่างไรกันแน่
...คุยกับโชคดี หรือแม้แต่ฟังโชคดีพูดเพียงฝ่ายเดียว ต้องใช้สมองมากกว่าปกติ...
“คุณชยุตม์เพิ่งมาถึงหรือทานเสร็จแล้วครับ” ผู้กองปฐพีถาม
“ทานเสร็จแล้วครับ กำลังจะกลับ” ชยุตม์ตอบเสียงสุภาพ แต่ทันใดก็แทบจะหุบยิ้มเมื่อเขาคิดว่าได้ยินเสียงโชคดีพูดค่อยๆ ว่า “ดี”
“เชิญทานอาหารให้อร่อยนะครับ” ชยุตม์ก้าวเท้าลงบันใด แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มปากร้ายที่ยืนทำหน้านิ่งมองเขาอยู่ “แล้วเจอกันที่รีสอร์ทนะครับคุณโชคดี ผมจะเตรียมต้อนรับคณะของคุณให้ดีทีเดียว”
โชคดีไม่ตอบ หันหลังเดินเข้าไปในร้านอาหารทันที ทิ้งให้ปฐพีทำหน้าเหรอหราอยู่กับชยุตม์
“สงสัยหิวจัด”ปฐพีพูดยิ้มๆ
“คงงั้นมั๊งครับ” ชยุตม์พยักหน้า “เชิญผู้กองตามสบายนะครับ ทานอาหารให้อร่อย ผมต้องขอตัวกลับก่อน”
ชยุตม์กล่าวลาปฐพีแล้วเดินตรงไปที่รถ แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด เขาอดไม่ไห้ที่จะหันกลับไปมองร้านอาหารนั้นอีกครั้ง จึงเหลือบไปเห็นโชคดีนั่งหน้านิ่งอยู่ที่โต๊ะอาหารใกล้ๆ กับโต๊ะตัวที่เขาเพิ่งนั่งรับประทานอาหารอยู่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
วิศวกรหนุ่มถอนหายใจเบาๆ อย่างลืมตัว ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงยังไม่อยากกลับบ้าน ในใจลึกๆ นึกเสียดายที่บอกนายตำรวจหนุ่มไปว่าเขาทานอาหารเสร็จแล้วและกำลังจะกลับ
...ใบหน้าเคร่งๆ ของโครคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาในห้วงคำนึง ตลอดทางที่เดินไปที่รถ ชยุตม์รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงและเร็วผิดปกติ รู้สึกร้อนรุ่มอย่างไรก็ไม่ทราบ...
...ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ...

วันนี้ฝนตกทั้งวัน ชยุตม์และเพื่อนร่วมงานต่างก็บ่นที่อากาศแปรปรวน ทั้งที่เริ่มเข้าหน้าหนาวได้หลายอาทิตย์แล้ว แต่จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาราวกับเป็นช่วงกลางฤดูฝนและไม่มีวี่แววว่าจะหยุดภายในเวลาอันใกล้ งานก่อสร้างรีสอร์ทชะงัก วันนี้ทั้งวันงานคืบหน้าได้น้อยมาก เขาจึงใช้เวลามากเป็นพิเศษกับกลุ่ม “ร่วมตรวจสอบ” การก่อสร้างรีสอร์ทที่โชคดีส่งเข้ามา
ชยุตม์แปลกใจที่ไม่เห็นโชคดีร่วมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เขาไม่อยากจะยอมรับว่านอกจากรู้สึกแปลกใจแล้ว เขารู้สึกเสียดาย
...เสียดายอะไรหรือ เขาควรจะสบายใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องมาต่อปากต่อคำกับโชคดี ซึ่งหากเข้ามาร่วมตรวจสอบแล้วก็คงแต่คอยจับผิดเขาเสียให้ได้ และคงพูดกระทบกระเทียบกวนโมโหจนเขาไม่มีสมาธิทำงาน...
...แต่นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมโชคดีไม่เข้าร่วมกับกลุ่มตรวจสอบด้วย เพราะเหตุนี้ หลังเลิก
งาน เขาจึงมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านโชคดีค้าเหล็ก...
ไม่ถึงนาที ชยุตม์ก็เห็นโชคดีเดินลิ่วออกมาจากด้านหลังของร้าน มีโต๋กับเดือนเร่งเดินตามมาติดๆ หน้าตาไม่ค่อยสู้ดีนัก
โชคดีชะงักชั่วครู่เมื่อมองเห็นชยุตม์ยืนอยู่บนฟุตบาธหน้าร้าน ชายหนุ่มหันไปเร่งโต๋กับเดือน แล้วบอกให้ขึ้นไปนั่งรอในรถ ก่อนจะหันมาพูดกับชยุตม์ “ผมไม่ว่างจะคุย ต้องพาเดือนกลับบ้าน”
“มีเรื่องอะไรครับ” ชยุตม์ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“บอกแล้วไงว่าไม่ว่างจะคุย”
“ผมก็แค่ถามด้วยความห่วงใย” ชยุตม์เสียงเข้มขึ้น “เผื่อมีอะไรจะช่วยได้บ้าง โต๋ก็เด็กผม จำไม่ได้หรือครับ ผมเป็นเถ้าแก่ฝ่ายชายตอนที่คุณให้โต๋แต่งงานกับเดือน”
โชคดีส่ายหน้าช้าๆ แล้วผละจากชยุตม์เดินไปที่รถ วิศวกรหนุ่มเดินตาม โชคดีจึงหันมากล่าวสั้นๆ ว่า “ยายเดือนผีเข้า”
“อะไรนะ” ชยุตม์ไม่เข้าใจ
“เฮ้อ คุยกับคุณนี่เหนื่อยจริงๆ เข้าใจอะไรยาก ผมไม่มีเวลามาขยายความหรอกคุณชยุตม์” โชคดีพ่นลมหายใจแรงๆ กรอกตาไปมาราวกับเอือมระอายิ่งนัก
“ลองขยายซักนิดจะเป็นไรไป ผมว่าผมฉลาดพอจะเข้าใจคำอธิบายสั้นๆ ได้ใจความ เมื่อกี้มันสั้นและห้วนมาก แค่คำพูดสี่คำผมจะไปเข้าใจอะไรได้”
“สี่คำก็ยาวเกินไปแล้ว” โชคดียังคงพูดเสียงห้วน เดินถึงรถ และกำลังจะเอื้อมมือไปดึงเปิดประตูรถ ชยุตม์ยกมือขึ้น ทำท่าจะแย่งเปิดประตูแล้วบอกว่าจะไปด้วย
“ผมจะไปนั่งฟังคุณอธิบายบนรถ”
“นายช่าง ไม่มีอะไรทำหรือยังไง มาถ่วงเวลากันอยู่ได้” โชคดีเสียงเข้ม ขมวดคิ้วมองชยุตม์อย่างไม่ชอบใจ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ เดินอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของรถ เปิดประตูขึ้นนั่งหน้าตาเฉยๆ แล้วหันไปยิ้มให้โต๋กับเดือนที่นั่งคู่กันอยู่เบาะหลัง ราวกับรู้ว่าจะเหลือที่ไว้ให้เขานั่งคู่กับคนขับ
“อ้าวโต๋ ไปนั่งทำไมข้างหลัง บอกให้มารอที่รถ จะให้เจ้านายขับรถให้นั่งหรือไง” โชคดีเริ่มพาล
โต๋ทำหน้าจ๋อยเพราะโดนดุ จึงขยับตัวยุกยิกทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถ แต่ชยุตม์รีบแทรกขึ้นว่า “นั่งตรงนั้นดีแล้วล่ะโต๋ จะได้ดูแลเดือน คุณโชคดีครับ ไหนว่ารีบ ขึ้นรถสิครับ เดี๋ยวไม่ทัน ฝนตกหนักกว่านี้จะลำบาก นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว”
“ถ้าไม่เสียเวลาต่อปากต่อคำก็คงได้ไปตั้งนานแล้ว” โชคดีบ่นอุบแต่ก็ยอมขึ้นรถ พอนั่งประจำที่คนขับ ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนก็ทะยานรถออกไปโดยเร็ว พร้อมๆ กับเสียงแตรดังลั่นมาจากข้างหลังเพราะรถคันหนึ่งโดนตัดหน้ากระชั้นชิด
“ขับดีๆ นะครับคุณโชคดี ในรถมีผู้หญิงท้องอยู่ด้วยนะ กระทบกระเทือนมากๆ ไม่ดี เสี่ยงต่อการแท้งลูกได้” ชยุตม์พูดเสียงเบา ทำให้ “ผู้หญิงท้อง” และ “สามี” ที่นั่งกุมมือกันอยู่เบาะหลังต้องอมยิ้ม
“นายช่างไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณโชคดีขับรถไม่เคยมีประวัติชนโดนชน” โต๋ชะโงกหน้ามาพูดกับชยุตม์ ในใจก็คิดว่าคนร้ายๆ อย่างโชคดี ตอนนี้มาเจอกับคู่ต่อสู้ที่ค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อ แม้นายช่างจะดูเงียบและนิ่ง มาคนละแนวกับนายจ้างของภรรยา แต่เขารู้ว่า ชยุตม์นั้น “แข็ง” ไม่ใช่เล่น
...คุณโชคดีโค่นนายช่างไม่ลงหรอก คุณชยุตม์นี่ดูท่าจะเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือประชาชนชาวเมืองน่าน...
*************end of chapter 9***************
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 30-04-2009 11:26:29
ยายเดือนผีเข้า เนี่ยนะ
เกิดอะไรขึ้นอีกแหละเนี่ย แต่ที่แน่ ๆ รู้สึกว่านายช่าง
จะเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ น่ากลัวที่เกิดขึ้นในจิตใจ  :laugh:
จะรอต่อไปนะครับ พี่นาย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 30-04-2009 11:47:14
เจอแบบโชคดีเข้าไปเนี่ย ประสาทต้องตื่นตัวตลอดเวลา เมื่อไหร่จะโดนจิกกัด  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 30-04-2009 12:29:24
เดือนไปทำไรให้ผีเข้าเนี่ย

สู้ๆลูกมท.1 :ped149:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 30-04-2009 13:15:58
มีแฟนแบบโชคดีนี่ มีรสชาติดีออก ไม่เบื่อเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 30-04-2009 13:27:10
ชยุตม์จะเป็นอัศวินม้าขาวเรอะ ต้องทำตัวให้ชินกับค.กวนประสาทของ
หมูปิ้งให้ได้เกินพิกัดค.อดทนของคนธรรมดาๆจะทำกันให้ได้ก่อนมั้งแล้วค่อย
มาเรียกนายช่างว่าเป็นอัศวินหนะ หุหุ
ส่วนเรื่องจะรวบหัวรวบหางหมูปิ้ง เอิ่มชยุตม์ไปฝึกวิชาหลบกีบหลบหมัดหมูปิ้ง
ก่อนก็ดีนะ เพราะนอกปากจะจัดน่าจับลงโทษแล้วเนี่ย มือเท้าก็คงไวไม่ต่างจากปากหรอก
สงสารซ่งจริงๆมองไม่ออกเหรอว่าตัวเองไม่ได้เป็นแฟนคลับของหมูปิ้งเพียงคนเดียว
ถึงได้ไปขอร้องแกมบังคับให้ผู้กองไปเจรจานั่นอ่ะ ไปๆมาๆคนเจรจานั่นแหละจะ
เป็นแมวขโมยซะเอง
ตอนหมูปิ้งอยู่กับผู้กองก็น่ารักดีนะ ปากไวเหมือนเคยแต่ดูท่าจะปราณีกับผู้กองมาก
เป็นพิเศษเลยตอบอะไีรแล้วค่อนข้างน่าเอ็นดู
"มาจากลำปางเพื่อมาชวนผมไปทานข้าวนี่นะ ผู้กองทำงานหรือเปล่านี่
 เห็นมาเมืองน่านบ่อยมาก มิน่า ขโมยลำปางถึงชุมนัก"
> กวนประสาทดีแท้  :jul3: หมูปิ้งนี่น่าปล้ำจริงๆ แต่นายช่างอย่างพึ่งเสี่ยงล่ะกัน
กลัวมท.หนึ่งมาดูใจลูกชายตัวเองไม่ทัน
"เดี๋ยวจะซื้อผ้าเช็ดหน้าให้ซักผืนนะ จะได้ไม่ต้องเอาแขนเสื้อเช็ดหน้า"
"ผู้กองหยุดพูดเถอะ เดินไปเงียบๆ อย่ามาทำเป็นหนุ่มน้อยพูดมาก"
>> อ้อเป็นพวกปากแข็งใช่มะ เวลาเขินก็จะทำหน้าทำเสียงดุกลบเกลื่อนอ่ะ

 o13 เยี่ยมเช่นเคย +1 เชียร์ให้นายช่า่งไม่ประสาทกินไปก่อนได้ปล้ำหมูปิ้ง 55
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 30-04-2009 14:05:36
 o22  ยายเดือน ผีเข้า  เหอ ๆ น่าสนุก  จะรอตอนต่อไป
ว่าโชคดีกับชยุมต์ จะจัดการยังไงกับผี   :laugh:

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 30-04-2009 17:27:14
มาให้กำลังใจนายช่าง

นาน ๆ ได้เข้ามาทีนึง มาบวกให้พี่นายเหมือนเคย  :n1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 30-04-2009 17:50:52
นายเอกเราทั้งดุ ทั้งปากร้าย ทั้งเอาแต่ใจ พาลด้วย แต่ก็ชอบ .........
ขอบคุณคนแต่ง ที่แต่งมาให้นายเอกเราไม่เหมือนใคร
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 30-04-2009 19:34:12
เห็นชื่อคนแต่ง รีบมาเมนต์ก่อน เพราะรู้สึกผิดที่ไม่ได้เข้ามาอ่านนานนนนนนนนมากกกกกกก

ตั้งแต่อนุภาพ กับ อธิคม ยังงอนกันอยู่เลย

เรื่องนี้อ่านไปนิดเดียว ท่าทางจะสนุก ได้คู่กัดคู่ใหม่แล้ว

อ้อ จะมาบอกว่า ยังไม่ได้เปิดอ่านหนังสือ คดีรัก ภาคหนึ่งเลย

แต่มาบอกว่า เป็นกำลังใจให้คนเจ้าชู้ไม่รู้ตัวด้วยคน

+๑ ให้แล้วกัน คราวนี้มี Target หรือเปล่าคะ ว่าจะเอาเท่าไหร่

ถึง ๘๐๐ คะแนน จะมีภาคพิเศษ คชานนท์ อาวุธ ให้หรือเปล่าคะ

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 30-04-2009 21:54:50
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: baroona59 ที่ 30-04-2009 22:02:15
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13


 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

สนุกมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 30-04-2009 22:55:03
 :m20:พักผ่อนให้หัวโล่งก่อนแล้วค่อยมาเขียนก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 01-05-2009 16:07:00
เป็นกำลังใจให้ครับ

รอตอนต่อไปอยู่ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jackoo ที่ 01-05-2009 21:44:05
แอบอ่านเงียบๆมานาน    สนุกมากเลย..........คุณคฑาวุธ   :z13:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 01-05-2009 21:51:43
+ 1  ไปคร้าบ

เครื่องเดี้ยงไปหลายวัน  อิอิ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mackerel ที่ 02-05-2009 08:29:37
มอบแต้ม+ ที่ 769 คร้าบ..
***
ไปไล่ผีหลายวันเลยนะ อิอิ
ขอบคุณคร้าบ  :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 02-05-2009 18:43:38
 :laugh: 770 ซะที

อยากกินหมูปิ้ง  :oo1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 02-05-2009 23:25:20
กว่าจะอ่านทัน อย่างงี้สิจะสมน้ำสมเนื้อหน่อย แต่ก้อเห็นฉากหวาน ๆ  ๆ มั่งอ่ะ แล้วตกลงจะเปลี่ยนใจจากจักรมาเป็นหมุปิ้งซักทีอ่ะ รอตอนต่อไปนะ o13 o13 o13 o13ห
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-05-2009 07:37:05
ไม่ว่างมาต่อเลยหรือครับ พี่นาย

เอาว่าว่างเมื่อไหร่ รีบมานะครับ  +1 เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 9 (30/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: vin2526 ที่ 03-05-2009 19:08:39
เรื่องใหม่ของพี่นาย เย้ เห็นด้วย นายเอกภาคนี้ ท่าทางจะสุดๆ

เออ ของเชียร์ คชานนท์กับอาวุธด้วยได้ป่ะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 10 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 04-05-2009 09:26:18
อรุณไม่ค่อยสวัสดิ์ครับ (เพราะเช้านี้งานยุ่งมาก แต่ก็ยังแอบมาโพสนิยาย - เห็นป่ะ น่ารักขนาดไหน)

บทที่ 10 ครับ

บทที่ 10

โชคดี ชยุตม์ โต๋ และเดือนมาถึงบ้านยายเอาเมื่อเกือบหนึ่งทุ่มครึ่ง พอลงจากรถ เดือนก็รีบวิ่งขึ้นบ้าน โดยมีโชคดีตามไปติดๆ
ชณะที่ชยุตม์กำลังปีนบันได้ไม้เก่าๆ ขึ้นไปบนเรือนที่ยกพื้นสูง เขาก็ได้ยินเสียงโวยวายของโชคดี แล้วตามด้วยเสียงอีกหลายเสียงพูดเป็นภาษาท้องถิ่น โชคดีบอกว่ายายของเดือนไม่ได้ถูกผีเข้า แต่กำลังป่วยหนัก ต้องนำส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้
“ลองดูสิ ใครกล้ามาขวาง จะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้อีกซักยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
คำขู่ของชายหนุ่มได้ผล ไม่นาน ยายของเดือนก็ได้รับการนำส่งโรงพยาบาล ชยุตม์เห็นอาการของหญิงชราแล้วจึงเข้าใจว่ายายของเดือนที่บอกว่าผีเข้านั้น ความจริงแล้วมีอาการไข้และปวดท้องอย่างแรง ทำให้หญิงชรามีอาการเพ้อ หนำซ้ำมาถูกพรมน้ำจนหัวเปียกชุ่ม อาการก็ยิ่งแย่ลง
ตลอดทางจากตัวเมืองน่านถึงบ้านของเดือน ชยุตม์รอด้วยความตื่นเต้นว่าจะได้เห็นอาการของคนที่ชาวบ้านเรียกว่า "ผีเข้า" โชคดีก็ไม่ยอมอธิบายอะไรให้เขาเข้าใจ เดือนกับโต๋ก็บรรยายอะไรไม่ได้มาก บอกแต่เพียงว่าได้รับโทรศัพท์จากน้าสาวว่ายายอาการแย่แล้วเพราะโดนปีศาจร้ายเข้าสิง
ชยุตม์เดินตามโชคดีมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยรวม ยังรู้สึกฉุนชายหนุ่มไม่หาย คำพูดเพียงสี่คำยังดังก้องอยู่ในหูว่า "ยายเดือนผีเข้า"
...จงใจกวนประสาทเขาจริงๆ ตอนนั้นหากโชคดีอธิบายอะไรเสียบ้าง เขาก็คงไม่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขนาดนี้ แต่ครั้นพอมาเห็นคนที่บอกว่าถูกผีเข้า เขาก็ต้องส่ายหน้าด้วยความเซ็ง...
โชคดีให้เดือนและโต๋อยู่ดูแลยาย ชยุตม์ไม่มีโอกาสทักท้วงอะไรเพราะฝ่ายนั้นจัดการทุกอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงลางานให้โต๋ด้วย
"ผมจะพูดอะไรได้ ถึงผมบอกว่าไม่ให้โต๋ลา คุณก็ให้โต๋หยุดอยู่ดี" ชยุตม์พูดเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน
"แต่อย่างน้อยผมก็บอกให้คุณรู้ ไม่ดีหรือครับคุณชยุตม์" โชคดีกระซิบเขาเสียงเบาเช่นกัน
"ดีครับดี" ชยุตม์ตอบรับด้วยใบหน้าเรียบๆ "ความคิดคุณดีทั้งนั้นล่ะ ใครจะเถียงได้"
ชยุตม์ตอบแล้วรีบเดินหนีให้พ้น ปล่อยให้โชคดีมองตามด้วยสายตาฉุนเฉียว ทว่า เขาได้ยินเสียงลอยตามมาเบาๆ ว่า "ก็ความคิดผมมันอิงอยู่กับเหตุผลและความเหมาะสม ไม่ใช่ผลประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียว"
...อิงอยู่กับความไม่ชอบหน้าผมต่างหาก...
ชยุตม์เถียงอยู่ในใจ หันไปมองโชคดีแวบหนึ่ง แล้วเดินไปหยุดยืนพิงเสาอยู่หน้าห้องพักคนป่วย มองเดือนที่กำลังเช็ดตัวให้ยายที่นอนอยู่บนเตียง โต๋ยืนอยู่ไม่ไกล ผงักหัวรับฟังคำสั่งของโชคดีอยู่อย่างนอบน้อม
...ใครเป็นหัวหน้าโต๋กันแน่นะ โชคดีหรือเขา หากโชคดีกลายมาเป็นแฟนเขาก็คงเล่นบทผู้จัดการทุกอย่างตามใจตัวเอง...
...อย่าหวังว่าเขาจะยอม...
...เขาไม่ยอมให้โชคดีจัดการทุกอย่างตามใจตนเองหรอก ของแบบนี้มันต้องปรึกษากัน ช่วยกันคิด จะมาทำอะไรคนเดียวตามใจตัวเองทุกอย่างไม่ได้...

โชคดีออกจากโรงพยาบาลเอาเมื่อเกือบสี่ทุ่ม ชายหนุ่มขับรถเงียบๆ ไม่คุยอะไรกับชยุตม์แม้แต่นิดเดียว วิศวกรหนุ่มเองก็ไม่ถามอะไรให้คนใจร้อนต้องออกอาการ จนกระทั่งรถเริ่มไต่ระดับขึ้นเขาสูง ชยุตม์จึงหันไปถามคนขับด้วยความหวังดี
"ให้ผมเปลี่ยนขับไหมครับ คุณจะได้พัก"
"เดี๋ยวก็ได้พากันตกข้างทาง"
...ปากร้ายจริงๆ คนอุตส่าห์ห่วงใย...
ชยุตม์โต้กลับทันที "ผมขับรถเป็น และหากฝนตกถนนลื่น ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิม ไม่ขับรถเร็วเกินอัตรากฎหมายกำหนด"
"แล้วนี่ได้ชนใครหรือยังล่ะ ผมก็ขับแค่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง" โชคดีตอบกลับเสียงแข็ง "คุณไม่ใช่คนพื้นที่ ไม่ชินทาง นั่งเป็นผู้โดยสารดีแล้ว"
"ตอนผมอยู่แคนาดา ขับฝ่าหิมะอยู่บ่อยๆ ฝนตกปรอยๆ แค่นี้เรื่องธรรมดา" ชยุตม์พูดไปตามจริง หากอีกฝ่ายแปลความไปอีกอย่าง
"อ๋อ เก่ง"
"คุณโชคดีครับ ผมถามเพราะว่าห่วง กลัวคุณจะเหนื่อย ผมรู้ว่าคุณไม่ค่อยชอบผม แต่อย่าให้อคติเรื่องรีสอร์ทมายุ่งอะไรกับเรื่องการช่วยขับรถสิ" ชยุตม์อธิบายเสียงเรียบ
"คุณหาว่าผมพาล" โชคดีหันมาสบตากับวิศวกรหนุ่มที่นั่งมองอยู่
...ไม่เรียกว่าพาลแล้วจะเรียกว่าอะไรเล่า...
ชยุตม์อยากจะตอบออกไป หากยั้งปากเอาไว้ทัน ไม่อยากจะเสี่ยงกับการที่โชคดีพุ่งรถลงข้างทางเพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้
"ผมขอโทษ" ชยุตม์ลองเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นพูดดี "ผมไม่ได้คิดจะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น เห็นว่าคุณขับรถขามา แล้วยังช่วยจัดการเรื่องยายของเดือนจนเรียบร้อย เป็นใครก็ต้องเหนื่อย นี่ยังขับรถกลับอีก ฝนก็ตก ถนนก็ไม่ค่อยดี ขึ้นเขาอีกต่างหาก ผมเลยอยากจะช่วยบ้าง"
...ขอบคุณซักคำจะได้ไหมคุณโชคดี คนเขาห่วงใย แสดงความขอบคุณบ้างสิ จะร้ายไปถึงไหน...
ชยุตม์กลั้นหายใจ รอฟังโชคดีพูดตอบ
"ไม่เหนื่อยหรอก แค่นี้สบายมาก" ชายหนุ่มเสียงอ่อนลง "แต่ถ้าจะให้ดี นั่งอยู่เงียบๆ ดีกว่า ผมต้องใช้สมาธิขับรถ"
...ว่าแล้วเชียว...
...หรือว่านี่คือวิธีที่โชคดีแสดงความขอบคุณที่เขาห่วงใยนะ จะมีใครในโลกนี้เป็นแบบคนๆ นี้บ้างไหมเนี่ย...
ชยุตม์หันไปมองถนน ฝนยังคงตกปรอยๆ ที่ปัดน้ำฝนหน้ากระจกรถทำงานเป็นจังหวะ รถกระบะโตโยต้าของโชคดีทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วคงที่ สองข้างทางมืดสนิทเพราะเป็นถนนที่ตัดผ่านหุบเขา คนขับนั่งเงียบ ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เงียบ แต่ทันใดก็พูดบางอย่างออกมา
"ทำไมคุณเกลียดผมนัก"
รถกระตุก แต่เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที คนที่ถูกกล่าวหาว่า "เกลียด" ไม่โต้ตอบอะไร ยังคงขับรถไปราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
"ผมไม่เคยคิดเกลียดคุณเลย" ชยุตม์พูดต่อ
"ใครไปเกลียดคุณ" โชคดีนิ่งไปชั่วอึดใจแล้วพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะอุทานเสียงดังแล้วเหยียบเบรกจนได้ยินเสียงล้อรถครูดกับถนน
ชยุตม์ใช้มือดันคอนโซลหน้ารถเอาไว้ หันไปมองหน้ารถอย่างตกใจ ต้นไม้ต้นใหญ่ล้มพาดขวางถนน โชคดีหยุดรถทัน แต่ก็เกือบชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง
โชคดีสบถออกมาอย่างหัวเสีย ชยุตม์หันไปมองเงียบๆ ชายหนุ่มตบพวงมาลัยอย่างฉุนเฉียวแล้วเปิดประตูรถ
“จะลงไปทำไมครับ” ชยุตม์เผลอถาม พลันก็นึกได้ว่าไม่น่าเลย
“คงไปยกต้นไม้โยนให้พ้นถนนมั๊งครับ” โชคดีด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย แล้วปิดประตูแรงๆ
ชยุตม์สูดลมหายใจลึกๆ นั่งมองโชคดีที่เดินไปหยุดยืนเท้าสะเอวอยู่หน้ารถ มองดูต้นไม้ใหญ่ที่ขวางทางอยู่ วิศวกรหนุ่มยอมรับกับตัวเองว่าคำถามของเขาค่อนข้างไม่ได้เรื่อง แต่อีกใจหนึ่งก็อดตัดพ้อโชคดีไม่ได้ว่า เขาพูดด้วยด้วยดีๆ จะพูดดีตอบบ้างไม่ได้เลยหรือ
...ก็เขาลืมตัวนี่นา อยู่ใกล้ๆ โชคดีแล้วไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง เป็นอะไรก็ไม่รู้...
ชยุตม์ลงจากรถ เดินไปยืนข้างชายหนุ่มหน้าดุ แต่ฝ่ายนั้นเดินหนี แล้วปีนขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้ที่วางพาดขวางอยู่ วิศวกรหนุ่มร้องเรียกแล้วแนะนำว่าถอยรถกลับดีกว่า และหาทางอื่นที่จะเดินทางกลับบ้าน
“ฝนกำลังเริ่มตกหนักขึ้นแล้วนะครับ ไปกันเถอะ” ชยุตม์ชวน
“เดี๋ยว” โชคดีพูดสั้นๆ แล้วกระโดดลงไปไปอีกฟากหนึ่งของต้นไม้ พลางตะโกนบอกให้ชยุตม์ตามมา
“คุณจะทำอะไร” ชยุตม์ไม่เข้าใจ
“ตามมาเถอะน่า”
“บอกผมก่อนสิ” ชยุตม์ถาม แต่ก็เริ่มปีนขึ้นไปบนต้นไม้
“ทำตามผม เดี๋ยวคุณก็เข้าใจเอง” โชคดีตอบแล้วเริ่มหักกิ่งไม้ แล้วหอบเดินออกไปห่างจากต้นไม้ประมาณสามสิบเมตรแล้วโยนกิ่งไม้ลงบนพื้น
ชยุตม์พอจะเข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังทำ จึงกระโดดลงมาช่วย แล้วทำตามโชคดีเงียบๆ ทั้งที่อยากจะบ่นว่า...”ก็แค่นี้เอง จะบอกหน่อยก็ไม่ได้”...แต่เขาก็ตัดสินใจว่า สงบปากสงบคำเอาไว้ก่อนดีกว่า แล้วรอดูว่าโชคดีจะทำอะไรต่อไป
“กองเอาไว้ คนที่ขับรถมาจะได้ไม่ชนต้นไม้ ทีนี้ก็กลับไปทำด้านโน้นด้วย” พอเสร็จงาน โชคดีจึงอธิบายสั้นถึงสิ่งที่เพิ่งทำไป
“ผมเข้าใจได้เองแล้ว” ชยุตม์พูดเสียงเรียบ เริ่มปีนข้ามต้นไม้กลับไปอีกด้าน “ขอบคุณครับที่อธิบายให้ฟังหลังจากเสร็จภารกิจ”
“ทำเป็นอารมณ์เสีย” เสียงฝ่ายที่โดนกระทบกระเทียบดังเบาๆ แต่ชยุตม์หูดี ได้ยินชัดเจน
หลังจากกองกิ่งไม้ทิ้งระยะห่างพอประมาณจากต้นไม้ที่ล้มพาดขวางทาง สองหนุ่มก็เปียกปอนเพราะฝนเริ่มลงเม็ดหนักขึ้นกว่าเดิม ชยุตม์แอบมองรูปร่างของชายหนุ่มหน้าดุที่เดินกลับไปที่รถ ในใจอดนึกถึงร่างกายของโชคดีที่ปราศจากเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตที่เห็นใส่อยู่เป็นประจำไม่ได้
เขายอมรับว่าเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มปากร้าย อะไรบางอย่างในใจที่ค่อนข้างสับสนวุ่นวาย อะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อะไรบางอย่างที่เขาคิดว่าคือความปรารถนาอันล้ำลึก
“จะยืนเฝ้ากองไม้หรือครับคุณชยุตม์ ไปกันได้หรือยัง” โชคดีหันมาถาม ชยุตม์รู้สึกตัวจึงรีบเดินตามมาที่รถ
...ดูเอาเถอะ ไม่เรียกว่าคนปากร้ายจะให้เรียกว่าอะไรดี...
ชยุตม์ส่ายหน้าช้าๆ เหลือบตามองคนใจร้อนแวบหนึ่งแล้วเดินไปเปิดประตูขึ้นนั่งบนเบาะ แล้วเอื้อมมือไปปิดแอร์ โชคดีบอกว่ามีผ้าหรือเสื้อซุกอยู่หลังเบาะ ให้เอามาเช็ดศีรษะให้แห้ง ชยุตม์เอนตัวไปด้านหลัง ค้นเจอผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาได้หนึ่งผืน แล้วยื่นให้โชคดี
“คุณเช็ดไป” โชคดีพูดสั้นๆ เช่นเคย
“คุณเช็ดก่อน” ชยุตม์ยังไม่หดมือกลับ
“ผมกลับรถอยู่ไม่เห็นหรือไง”
“จะให้ผมเช็ดให้หรือเปล่าล่ะ” ชยุตม์นึกสนุก อยากกวนโชคดีดูบ้าง
...ขออย่างเดียว อย่าต่อยก็แล้วกัน...
โชคดีเบรกรถอย่างแรงจนรถหยุด หันมามองชยุตม์ตาขวาง แต่ฝ่ายนั้นหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าเพราะต้องการหลบสายตาเพชรฆาตของคนขับรถที่เปลี่ยนเกียร์แรงๆ ขยับรถกึกกักอยู่สองครั้งแล้วเลี้ยวย้อนกลับไปทางเดิม
โชคดีเงียบมาตลอดทาง ชยุตม์วางผ้าเช็ดตัวไว้บนที่วางพักแขนระหว่างเบาะหน้าทั้งสองเบาะ โชคดียังไม่ยอมเอื้อมมือมาหยิบผ้า จนชยุตม์ทนไม่ไหว
...จะรั้นไปถึงไหนก็ไม่รู้...
“ผมขอโทษ ถ้าพูดไม่เข้าหูก็ลืมๆ มันไปซะเถอะ ที่อยากให้คุณเช็ดให้แห้งก็เพราะกลัวว่าจะเป็นหวัด” ชยุตม์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
โชคดียังเงียบ วิศวกรหนุ่มจึงพูดต่อว่า “ผมขอบคุณนะครับที่คุณก็เป็นห่วง อยากให้ผมเช็ดก่อน ขอบคุณจริงๆ แต่คุณเป็นคนขับรถ เหนื่อยมามากแล้ว ผมมีแต่นั่งอยู่เฉยๆ เพราะฉะนั้น คุณน่าจะเป็นคนได้ใช้ผ้าเช็ดตัวก่อน”
“คุณชยุตม์ครับ ผมไม่ใช่คนอ่อนแอ ไม่เป็นหวัดง่ายๆ หรอก แล้วไม่ต้องพูดขอบคุณหรือขอโทษบ่อยนัก มันเลี่ยน” โชคดีพูดเสียงเรียบ
...ปากร้ายจริงๆ ยังไงเขาก็อยากจะบอกว่าโชคดีปากร้ายจนเขาอยากจะ...
...บ้าจริง คิดอะไรอย่างนั้น...
ชยุตม์อมยิ้ม เบือนหน้าออกไปด้านซ้าย มองข้างถนนฝ่าความมืดและสายฝนออกไปด้วยสายตาพราวระยับ โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองเขาด้วยหางตาอย่างฉุนๆ
...อมยิ้มอะไร อยู่เฉยๆ ก็ยิ้ม โดนว่าแล้วยังมาทำหน้าทำตาแบบนี้อีก น่าหมั่นใส้ที่สุด...
โชคดีชะลอความเร็วรถลงเมื่อข้ามสะพาน จำได้ว่าข้างหน้าเป็นทางแยก และน่าจะเป็นเส้นทางที่อ้อมไปอีกอำเภอหนึ่งแล้วไปถึงตัวจังหวัดได้
...นี่คงใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว จะถึงบ้านเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฝนก็ตกไม่ยอมหยุด ฤดูกาลมันทำไมมั่วไปหมด...
...เพราะพวกทำลายธรรมชาติแท้ๆ เชียว ฝนเลยตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล...
...รีสอร์ทของชยุตม์นี่ก็ด้วย...
โชคดีพาลมาลงกับชยุตม์จนได้เพราะไม่รู้จะคิดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้รู้สึกทั้งเหนื่อยทั้งง่วง จะขอให้ชยุตม์เปลี่ยนขับก็กลัวเสียหน้า อุตส่าห์ทำกร้าวเอาไว้แล้ว เดี๋ยวชยุตม์จะดูถูกเขาได้

เมื่อถึงทางแยก โชคดีเลี้ยวซ้าย ชยุตม์หันมาถามว่าจะไปไหนกัน วิศวกรหนุ่มเลยโดนพูดกระทบกระเทียบอีกครั้ง
“ไปกรุงเทพฯ มั๊งครับ ผมจะขับรถไปส่งคุณให้ถึงที่”
“อยากไล่ผมให้ไปจากน่านเร็วๆ ใช่หรือเปล่า” ชยุตม์เสียงเข้ม “ผมรู๊ คุณคงนั่งภาวนาอยู่ทุกวันว่าให้โครงการรีสอร์ทพังไม่เป็นท่า เพราะมันเป็นรีสอร์ททำลายธรรมชาติ”
“ไม่ต้องมาประชดหรอก” โชคดีเสียงเข้มไม่แพ้กัน
“ผมประชดหรือ” ชยุตม์เลิกคิ้ว ตีหน้าซื่อ “ผมไม่รู้เลยนะว่าผมประชด สงสัยคงต้องหัดทำซักหน่อยแล้ว แต่คงทำได้ไม่ยาก ผมเรียนรู้ประสบการณ์รอบข้างได้เร็ว”
“คนกรุงเทพฯ เรียนรู้อะไรในกรุงได้เร็วอยู่แล้ว มาถึงต่างจังหวัดก็พร้อมใช้สิ่งที่เรียนรู้มาได้เลย”
“ผมเพิ่งเรียนครับ” ชยุตม์หันไปมองชายหนุ่มหน้าเคร่งที่เร่งความเร็วรถขึ้นมากกว่าเดิม “ไม่นานมานี้เอง”
“แต่มีบางอย่างที่คุณไม่ได้เรียนรู้เลย ทั้งๆ ที่อยู่เมืองน่านมานานแล้ว” โชคดีเบ้ปาก
...อะไร...
ชยุตม์พูดอยู่ในใจ พลางบอกตัวเองว่า โชคดีต้องคาดหวังว่าจะให้เขาถามว่า “อะไร” ละสิ
...ไม่ เขาจะไม่ถาม ทั้งๆ ที่อยากจะรู้มากกว่าโชคดีหมายถึงอะไร...
“ไม่อยากรู้หรือครับ” โชคดีเลิกคิ้ว เอียงหน้ามองชยุตม์ที่นั่งนิ่ง ทำราวกับว่าไม่ได้ยินคำถาม
“ถึงไม่อยากจะรู้ แต่ผมจะบอกให้ก็ได้”
“ไม่ได้เรียนรู้ที่จะรักธรรมชาติ คุณจะบอกผมอย่างนี้ใช่ไหมล่ะ” ชยุตม์กล่าว
“แล้วแต่จะคิด” โชคดียักไหล่ แล้วชะลอรถ หันมองซ้ายมองขวา
“หากผมไม่รักธรรมชาติ ผมก็คงขอให้เขาตัดต้นไม้ออกให้หมดเพราะจะได้สร้างรีสอร์ทได้ง่ายๆ จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภูมิสภาปนิกมาเป็นคนจัดสวนเสียใหม่ จะเอาสวยยังไงก็ได้ ถ้าผมไม่เห็นว่าธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี และแคร์ความรู้สึกของคนในพื้นที่ ผมก็คงไม่ยอมให้มีกลุ่มคนเมืองน่านเข้าไปร่วมตรวจสอบการก่อสร้างรีสอร์ทด้วยหรอก คุณยังไม่รู้จักตัวตนของผมอย่างลึกซึ้ง อย่าเพิ่งมาสรุปผมแบบนั้นสิครับ ลองเปิดใจมากกว่านี้บ้าง ผมอาจไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด บางทีคุณอาจจะชอบหน้าผมบ้างก็ได้”
ชยุตม์พูดไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะโชคดีไม่ตอบโต้อะไรเลย ชายหนุ่มจึงหันไปมองคนขับที่ขับรถอยู่เงียบๆ ท่าทางไม่ค่อยสนใจฟังสิ่งที่เขาพูด
“คุณโชคดี อย่าบอกนะว่าเรากำลังหลงทาง” ชยุตม์อุทาน
“เปล่า” โชคดียักไหล่ แล้วพูดต่อสั้นๆ “ยัง”
ชยุตม์ถอนหายใจกับความดื้อรั้นของเจ้าของร้านขายเหล็กที่ยังคงขับรถด้วยสีหน้านิ่งๆ ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร แต่เขามองออก เขารู้สึกได้ว่าแววตามั่นใจของโชคดีลดลง แม้จะมองจากเสี้ยวหน้าด้านข้าง เขาก็มองออก
...เสี้ยวหน้าด้านข้างของโชคดีน่ามองพอๆ กับด้านหน้าเลยทีเดียว ดูแปลกไปจากที่เคยเห็น เขาไม่เคยมองด้านข้างของโชคดีนานๆ แบบนี้มาก่อน...
...เพลินดีจริงๆ...
“มองอะไรนายช่าง” คนที่ถูกมองถามขึ้นห้วนๆ ตายังจับจ้องอยู่ถนนเบื้องหน้า มือจับพวงมาลัยรถมั่นขึ้นกว่าเดิมเพราะรถเริ่มโคลงเคลงมากขึ้น แสดงให้รู้ว่าพื้นผิวถนนขรุขละมากกว่าเดิม และคงไม่ใช่ผิวถนนลาดยางต่อไปอีกแล้ว
...หลงทางแน่ๆ...
“บอกมาเถอะว่าเราหลงทาง”
“หลงได้ยังไง ถ้าผมจอดรถ เลี้ยวรถกลับ เราก็ย้อนกลับไปทางเดิม” โชคดีให้เหตุผล
“งั้นก็ย้อนกลับสิครับ กลับไปหมู่บ้านของเดือนก็ได้ นอนค้างที่นั่นซักคืน ตอนเช้าแจ้งพนักงานหรือเจ้าหน้าที่หรือใครก็ได้ ให้ไปช่วยกันย้ายต้นไม้ออกจากถนน แล้วเราค่อยกลับน่าน นี่เที่ยงคืนแล้วนะ” ชยุตม์เสนอความเห็น
“ทางนี้ก็ไปได้”
“คุณนี่ดื้อจริงๆ” ชยุตม์อดไม่ได้
“คุณไม่ต้องเถียง”
“เพราะผมไม่ใช่คนในพื้นที่ เลยไม่คุ้นทาง” ชยุตม์ต่อปากต่อคำ “แล้วผมถามหน่อยเถอะ ถนนที่รถกำลังวิ่งอยู่นี่ คุณคุ้นทางหรือเปล่า”
“มาขับเองเลยไหมล่ะ” โชคดีประชด
“งั้นจอดรถสิครับ” ชยุตม์ท้า หากกลับทอดเสียงอ่อนลงแล้วพูดว่า “ไม่ใช่เพราะผมอยากจะท้าคุณนะ แต่เพราะคุณดูเหนื่อย ผมเป็นห่วง”
“ห่วงว่าตัวเองจะไม่ได้กลับบ้านละสิ” โชคดีพูดเสียงเบา
“คุณนี่จริงเลยๆ ไม่ชอบหน้าผมเป็นเอามาก” ชยุตม์ส่ายหน้า
รถถึงทางแยก โชคดีชะลอ มองซ้ายมองขวาเพื่อตัดสินใจ แล้วจึงเลี้ยวซ้าย ชยุตม์ควักโทรศัพท์ออกมาดูแล้วถอนหายใจหนักๆ พร้อมกับเสียงของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ดังขึ้นทันที
“คิดได้ไงว่าจะมีสัญญาณโทรศัพท์”
“จีพีเอสครับ”
“งั้นบอกทีสิ ว่าเราอยู่พิกัดไหน ถ้าโทรศัพท์แพงๆ มีจีพีเอสของคุณไม่ได้ใช้สัญญาณโทรศัพท์ช่วยให้จีพีเอสทำงาน” โชคดีประชด
ชยุตม์ถอนหายใจหนักๆ อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะไม่พอใจที่โดนโชคดีพูดประชด แต่เพราะรู้ว่าโทรศัพท์ของตัวเองไม่สามารถบอกตำแหน่งได้จริงๆ ดังที่อีกฝ่ายประชด
...ตอนนี้สมองเขาเริ่มจะไม่ค่อยทำงาน เพราะอะไรนะหรือ?...
...คำตอบนี้ง่ายมาก ก็เพราะสมองถูกใช้ต่อสู้กับโชคดีมาตั้งแต่หัวค่ำแล้วจนล้าไปหมด โชคดีก็คงพอๆ กัน เพราะท่าทางเริ่มจะเชื่องช้าลง...
“ถึงเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ” ชยุตม์เอนศีรษะพิงพนัก ตาเหลือมองเพดานรถ แม้ไม่มองออกไปนอกรถเขาก็รู้ว่าขณะนี้รถกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าทึบ ไม่นาน โชคดีก็ลดความเร็วลงเพราะรถกำลังลงเขา
“ปางเสือหมอบ” โชคดีพึมพำ
ชยุตม์หันไปมองชายหนุ่ม โชคดีหันมาสบตาแล้วพูดขึ้นว่า “บอกแล้ว ผมไม่ได้หลง มันมืด ก็เลยดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เพราะผมต้องคอยดูทาง พ้นปางเสือหมอบไปแล้ว ผ่านลำธาร แล้วขึ้นเขาก็ถึงศูนย์อนุรักษ์พันธ์ไม้ ข้ามเขาอีกสองลูกก็ถึงอำเภอ... แล้วก็ตรงเข้าตัวจังหวัด พอถึงศาลหลักเมือง คุณก็ต้องลงไปยืนข้างรถ แล้วขอโทษผมที่สบประมาถผมว่าหลงทาง ให้สิ่งศักดิสิทธ์เป็นสักขีพยาน”
โชคดีพูดยาว ยิ้มเยาะมุมปาก แล้วเร่งความเร็วรถทะยานไปข้างหน้าอย่างมั่นใจอีกครั้งหนึ่ง
“โชคดีที่โทรศัพท์แพงๆ ของผมถ่ายรูปได้ คุณจะได้หลักฐานเป็นทั้งภาพและเสียง” ชยุตม์พูดเบาๆ แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
...เอากับโชคดีสิ เรื่องจะเอาชนะคนนี่คงไม่มีใครเกิน...
...ไม่ใช่สิ เอาชนะเขาต่างหาก...
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 10 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 04-05-2009 09:26:42
พอรถผ่านปากเสือหมอบฝนก็ตกหนักขึ้นจนแทบมองไม่เห็นทาง ชยุตม์คอยถามโชคดีว่าเหนื่อยหรือไม่หลังจากที่นั่งเงียบมาเป็นเวลานาน
“ให้ผมเปลี่ยนขับบ้างเถอะ คุณเหนื่อยมากแล้ว” ชยุตม์ทอดเสียงอ่อนโยน เพราะเริ่มจะจับทางโชคดีได้แล้วว่าหากเขาแสดงความห่วงใยอย่างจริงจัง ฝ่ายนั้นก็ดูจะอ่อนลงบ้าง
โชคดียังไม่ตอบ ชยุตม์จึงพูดต่อ “ผมรู้ว่าคุณห่วงว่าจะประสบอุบัติเหตุเพราะผมไม่ชินทาง แต่ผมสัญญาว่าจะขับด้วยความระมัดระวังที่สุด ผมก็อยากถึงบ้านโดยสวัสิดิภาพพอๆ กับคุณนั่นละครับ”
“ฝนยังตกอยู่ จอดเปลี่ยนกันขับก็ได้เปียกอีกกันพอดี” โชคดีเหลือบตาลงมองผ้าเช็ดตัวผืนเล็กแวบหนึ่ง แล้วเพ่งมองหน้ารถอย่างระมัดระวังเช่นเคย
“ก็ไม่ต้องออกไปนอกรถสิครับ เปลี่ยนกันข้างในรถก็ได้ ผมเคยทำกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ ตอนขับรถที่แคนาดา หิมะตกหนัก ข้างนอกหนาวมาก เราไม่อยากออกไปข้างนอก ที่พูดนี่ไม่ได้อยากอวดว่าเก่งนะครับ แต่เพราะว่า...”
“รอเดี๋ยว พ้นเนินซะก่อน ตอนนี้กำลังจะข้ามลำธาร” โชคดีตอบสั้นๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ต่ำ เพราะรถกำลังพุ่งลงเนินลาดชัน
ชยุตม์หันไปอมยิ้ม รู้สึกได้ว่าโชคดีอ่อนลงให้เขาจริงๆ
...อีกไม่นานหรอก เขาจะเปลี่ยนโชคดีให้ได้ พ่อกับพี่ชายคนโตเขายังเคยรับมือมาแล้ว นั่นก็ร้ายพอๆ กัน โชคดีแม้จะเหนือกว่าสองคนนั้นพอสมควรแต่ก็ไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรง...
ความคิดของชยุตม์สะดุดเพราะรถกระตุกถี่ๆ แล้วกระแทกกับอะไรบางอย่างจนเกือบจะเสียหลัก ทว่าโชคดีคุมรถเอาไว้ได้ แต่รถกลับหยุดนิ่ง ชายหนุ่มเปลี่ยนเกียร์แล้วพยายามทะยานรถออกไป แต่กระบะโตโยต้าคู่ชีพไม่ขยับ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม โชคดีพยายามอยู่สองสามนาทีแล้วจึงเปิดประตูรถ ชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอกแล้วบ่นว่ารถติดหล่ม
“ผมจะลงไปดัน” ชยุตม์เปิดประตูแล้วลงจากรถ แต่ต้องอุทานเสียงเบาเมื่อเท่าจมลงไปในโคลนกว่าครึ่งน่อง
“ไหวหรือคุณ” โชคดีถาม
“ผมแข็งแรงกว่าคุณเห็นนะครับ ลองดูก็ไม่เสียหาย”ชยุตม์เดินอ้อมไปท้ายรถแล้วตกลงกับโชคดีเรื่องวิธีการเอารถขึ้นจากหล่ม แต่ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นปรามให้เขาหยุดพูด แล้วยื่นมือซ้ายไปดับเครื่องยนต์
“อะไรหรือครับคุณโชคดี” ชยุตม์ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจสิ่งที่โชคดีทำอีกแล้ว
“เงียบ” โชคดีสั่ง
“มีอะไรบอกผมบ้างสิ หรือจะรอให้ผมเข้าใจเองอย่างตอนที่เจอต้นไม้ล้มขวางถนน” ชยุตม์โวยวาย
“เงียบเถอะน่านายช่าง ฟังเสียงนี่ซิ” โชคดีนิ่ง ดูราวตั้งใจเงี่ยหูฟังอะไรบางอย่าง แต่ไม่กี่อึดใจ ชายหนุ่มก็รีบมุดเข้าไปในรถ ทำอะไรกุกกักๆ แล้วถอยออกมาจากรถพร้อมกับถุงพลาสติก ก่อนจะหันมาตะโกนเรียกชยุตม์
“คุณชยุตม์ ตามมาเร็ว”โชคดีผละจากรถ วิ่งขึ้นเนินเบื้องหน้า แล้วหันมาเร่งชยุตม์อีกครั้งเมื่อเห็นวิศวกรหนุ่มยืนทำหน้างงๆ
“ทำไมหรือ มีอะไร”
“บอกให้ตามมาก็ตามมาเถอะน่า” โชคดีทำหน้าอ่อนใจ
“คุณก็บอกผมก่อนสิ อยู่ดีๆ จะให้วิ่งป่าราบ ทิ้งรถไว้อย่างนี้หรือไง”
“น้ำป่า” ธงรบพูดสั้นๆ ห้วนๆ แล้วหันหลังวิ่งต่อไป
ชยุตม์หันรีหันขวาง ประมวลความคิดอย่างรวดเร็ว แม้ในใจนึกสงสัยอยู่ว่าน้ำป่าจะมาจากไหนได้เร็วขนาดที่โชคดีต้องทิ้งรถแล้ววิ่งไม่คิดชีวิตแบบนี้
“คุณชยุตม์” เสียงโชคดีตะโกน
ชยุตม์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อดูว่าโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าธนบัตรยังอยู่แล้วคิดจะมุดเข้าไปในรถเพื่อคว้าสิ่งของอะไรซักอย่างเท่าที่จะคว้าได้ แต่เขาก็เปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงท่าทางของโชคดีเมื่อครู่ ด้วยตระหนักได้ว่าหากโชคดีลนลานแบบนั้นต่างจากที่เห็นภาพความเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง ชายหนุ่มคงไม่ได้ล้อเล่น
...วิ่งหนีน้ำป่ากับโชคดี ประสบการณ์ครั้งนี้คงไม่มีวันลืมได้ลง...
โชคดีคล่องแคล่วรวดเร็วมาก ตัวสูงๆ ขายาวๆ ตะลุยไปข้างหน้าไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ชยุตม์ตามไปติดๆ สงสัยในใจว่ามืดก็มืด โชคดีมองเห็นทางได้อย่างไร
ฝนเทลงมาหนักมากกว่าเดิม ร่างทั้งสองเปียกโชก ชยุตม์ตามโชคดีทันเพราะชายหนุ่มลดความเร็วลงเมื่อเห็นขึ้นเนินมาได้สูงไกลจากที่ลุ่มมามากพอสมควรแล้ว ไม่นาน โชคดีก็ยืนหอบฮักๆ ก่อนจะล้วงมือลงไปในถุงที่ถือมาเพื่อควานหาอะไรบางอย่าง
“เราพ้นน้ำป่าแล้วหรือครับ” ชยุตม์ถามเสียงหอบ รู้สึกเหนื่อยไม่แพ้กัน
“ไม่รู้” โชคดีตอบสั้นๆ ดึงมือออกมาจากถุงพลาสติก แล้วฉายไปฉายที่อยู่ในมือไปรอบๆ
“คุณรู้ได้ยังไงว่าน้ำป่ากำลังมาก แล้วตรงที่รถติดหล่ม...”
“รถมันติดหล่มบนเนินที่ไหนล่ะ”
...ไม่รู้อะไรซะเลย...ชยุตม์เติมสิ่งที่เขาคิดว่าโชคดีจะพูดอยู่ในใจ
“เสียงอื้อๆ บึ้มๆ คุณไม่ได้ยินหรือ นั่นเสียงน้ำป่ากำลังมาล่ะ”
“ผมไม่ได้ยิน ผมไม่ได้คุ้นกับเสียงน้ำป่านี่ครับ” ชยุตม์ตอบหน้านิ่งๆ
“อ๋อ หูชินแต่เสียงเปียโน”
...ดูเอาเถอะ ขนาดนี้โชคดียังไม่ลืมที่จะกระทบกระเทียบ...
“และชินเสียงคนพูดเหน็บแนมด้วย” ชยุตม์กระแทกเสียงแล้วขยับตั้งท่าเตรียมพร้อมเผื่อโชคดีจะกระโจนเข้าขย้ำเขาเหมือนเสือตะครุบเหยื่อเพราะสายตาคู่นั้นลุกวาบขึ้นมาทันที แสงฟ้าแลบช่วยให้เขามองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดขึ้น โชคดีกำลังไม่พอใจ
...ไม่พอใจที่เขาแสดงความฉุนเฉียวให้เห็น...
...ไม่ไหวแล้ว จะร้ายใส่กันไปถึงไหน อยากจะบีบคอโชคดีนัก ทำไมร้ายได้ขนาดนี้...
“งั้นจะไม่พูดอะไรแล้ว คุณก็ไม่ต้องถาม” โชคดีสะบัดหน้า แวบหนึ่งชยุตม์คิดว่าเขาเห็นโชดดีทำตางอนๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินลิ่วหนีไป จนเขาต้องกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไปห่างๆ

เวลาผ่านไปเท่าไหร่ไม่ทราบได้ แต่ชยุตม์รู้สึกเข่าอ่อนไปหมด ขาสองข้างล้าจนแทบไม่มีแรงจะเดินต่อ เขาคาดคะเนว่าคงเดินขึ้นเขามาจนแทบจะเรียกได้ว่าสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว โชคดียังมีแรงเหลือเฟือ ขายาวๆ สองข้างนั้นก้าวเป็นจังหวะ ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
วิศวกรหนุ่มที่มั่นใจตัวเองว่าเป็นนักกีฬาและแข็งแรงพอตัว แต่มาเจอสภาพแบบนี้ก็อดอ่อนอกอ่อนใจไม่ได้ โชคดีไม่ยอมหยุดพักเลย ชยุตม์อยากจะถามว่าจะพาเขาไปถึงไหน แต่ครั้นนึกถึงประโยคสุดท้ายที่คุยกันก็ต้องหุบปาก
...”งั้นจะไม่พูดอะไรแล้ว คุณก็ไม่ต้องถาม”...
...โชคดีกำลังงอนเขาอยู่หรือเปล่านี่...
...ลองง้อซักหน่อยดีไหม พูดกับโชคดีเสียงอ่อน ขอโทษเสียงนุ่ม ทำหน้ารู้สึกผิดเสริมอีกนิด โชคดีน่าจะหายงอน...
“คุณโชคดีครับ เราจะไหนกัน” ชยุตม์เร่งฝีเท้าจนตามทันโชคดี
คนที่กำลังงอนไม่ตอบ หากชกมือขึ้นชี้ไปข้างหน้า แล้วก้มหน้าเดินต่อ ไม่สนใจคนที่เดินอยู่ข้างๆ
...เอาวะ ง้อซะหน่อย อย่างน้อยจะได้คุยกันรู้เรื่อง...
“คุณโชคดีครับ ผมขอโทษ” ชยุตม์เสียงอ่อน ในใจนึกถึงที่ชายหนุ่มหน้าดุพูดสั่งไว้ไม่ให้ขอบคุณและขอโทษมากนักเพราะรู้สึกเลี่ยน
“เมื่อกี้ผมพูดไม่คิด ผมขอโทษจริงๆ เดินมาตั้งนานก็คิดตามไปด้วย เลยเห็นว่าตัวเองผิดที่แสดงอาการแบบนั้น ผมสียใจที่พูดกระทบกระเทียบคุณ ผมไม่ตั้งใจ คือว่า...”
“ช่างเถอะ” โชคดีแทรกโดยไม่หันมามอง “เดินไปเงียบดีกว่า อีกไม่นานก็ถึงศูนย์วิจัยพันธ์พืช จะได้พักได้นอนกันซะที”
ชยุตม์ยิ้มมุมปาก ในใจนึกว่าแค่ขอโทษเสียงอ่อนหน่อยเดียว โชคดีก็พูดกับเขาแล้ว เสียงอ่อนลงอีกต่างหาก
...เอ ดูๆ ไปก็ไม่ได้ใจแข็งเท่าไหร่นี่นะ ว่าแต่ว่าเขาต้องยอมให้แบบนี้ทุกทีหรือไง ต้องยอมเป็นคนผิดโชคดีถึงจะพอใจ วิธีอื่นมีอีกไหมเนี่ย...
ชยุตม์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อสายตามองเห็นบ้านหลังเล็กๆ อยู่ไม่ไกล ซึ่งก็คงเป็นศูนย์วิจัยพันธ์พืชที่โชคดีบอก ครั้งแรกนั้นเขานึกภาพศูนย์ฯ ที่เป็นอาคารหลังใหญ่กว่านี้ มีไฟส่องสว่าง และคงมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อยู่กันอย่างน้อยสามสี่คน
...แต่ศูนย์ฯ ที่เขากับโชคดีเพิ่งเดินมาถึงนี้เงียบและมืดสนิท และดูเป็นกระท่อมเชิงดอยมากกว่าจะเป็นศูนย์วิจัยพันธ์พืช...
...พืชมันไม่ค่อยมีแล้ว ศูนย์มันเลยเล็กแบบนี้ล่ะ ทำลายธรรมชาติกันนักเลยไม่เหลือพืชให้วิจัย...
ชยุตม์อมยิ้มเมื่อนึกในใจว่าหากโชคดีหันมาเห็นแววตาฉงนของเขา ฝ่ายนั้นก็คงพูดออกมาแบบนี้
อาคารไม้ชั้นเดียวหลังนี้เล็กพอๆ กับตู้คอนเทนเนอร์ครึ่งตู้ กันสาดด้านหน้าเป็นสังกะสีเก่าๆ กว้างพอจอดรถได้สองคัน โต๊ะเตี้ยๆ ขนาดใหญ่มีกองไม้วางเต็มไปหมด ใกล้ๆ กันมีกระถางต้นไม้กองระเนระนาด โชคดีเดินไปเคาะประตูแรงๆ แล้วจึงเปิดประตูออก ชยุตม์เดินเข้าไปใกล้แล้วพูดว่าไม่มีใครอยู่ โชคดีไม่พูดอะไรแล้วเดินเข้าไปข้างใน ส่องไฟฉายไปรอบๆ เพื่อสำรวจสถานที่แล้วหันมาหาชยุตม์
“มีคนอยู่ แต่ผมคิดว่าเขาคงไปติดฝนหรือติดน้ำป่าที่ไหนซักแห่ง คืนนี้เราพักที่นี้ก็แล้วกัน คุณนอนบนนั้น ผมจะนอนตรงนี้” โชคดีชี้นิ้ว จัดการออกคำสั่งเช่นเคย
ชยุตม์อยากจะแย้งว่า ถึงเขาเป็นหนุ่มเมืองกรุง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะลำบากไม่ได้ โชคดีไม่ต้องมาเสียสละเตียงให้เขา หากเมื่อมองหน้าของชายหนุ่มแล้ว ชยุตม์ก็เปลี่ยนใจ ไม่ขอต่อรองดีกว่า
โชคดีโยนถุงที่อยู่ในมือลงกับพื้น แล้วเดินไปค้นหาอะไรบางอย่างในตู้ที่ตั้งอยู่มุมห้อง ก่อนจะจุดเทียนให้ความสว่าง
เปลวไฟเต้นระริก แสงสีทองส่องสลัวทำให้ชยุตม์อดมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของโชคดีไม่ได้ ใบหน้าของชายหนุ่มดูแปลกไปยามต้องแสงเทียน เสี้ยวหน้าคมเข้มของโชคดีดูเรียบนิ่งต่างจากที่เคยเห็น ปากเรียวแดงดูซีดลงซึ่งก็คงเป็นเพราะความหนาวเย็นจากการตากฝนมานาน
ชยุตม์มองจนเพลินแต่พลันก็ต้องรีบหลบตาเพราะคนที่ถูกมองหันขวับมาแล้วพูดว่า “เอาเสื้อผ้าเขาไปใส่ก่อนก็คงได้มั๊ง คุณมาเลือกเอาสิ เห็นมีตัวใหญ่ๆ อยู่หลายตัว”
...โชคดีเสียสละให้เขาอีกแล้ว...
“คุณเลือกก่อน” ชยุตม์ตอบเสียงเบา แล้วเดินออกไปด้านนอก ไม่รอให้โชคดีได้ทันมีโอกาสแย้ง
ฝนยังตกหนักเหมือนเดิม โชคดีที่ไม่มีลมกระโชก ไม่เช่นนั้นอากาศก็คงหนาวเย็นมากกว่านี้ ชยุตม์ยืนกอดอกมองสายฝนด้วยสายตาเหม่อลอย แวบหนึ่งอดนึกถึงจักริณทร์ไม่ได้ เขาไม่ได้คุยกับจักริณทร์มาหลายวันแล้ว ล่าสุด ชายหนุ่มบอกว่าต้องบินเที่ยวบินยาวไปสแกนดิเนเวียซึ่งหากเป็นการเป็นเดินทางไกลๆเช่นนี้ จักริณทร์จะหายไปเกือบสองอาทิตย์
จักริณทร์กับโชคดีต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งอ่อนโยนนุ่มนวล ใจเย็น มองโลกในแง่ดี ส่วนอีกคน เขาไม่กล้าแม้แต่จะบรรยาย รู้แต่ว่า โชคดีนั้น ไม่เหมือนใครที่เขาเคยคบเป็นแฟน...
...สงสัยคนแบบนี้คงมีคนเดียวในประเทศไทย...
...ใครมีแฟนแบบโชคดีคงได้ปวดหัวทุกวัน วันละหลายครั้ง...
************* end of chapter 10*************



หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: piggie ที่ 04-05-2009 10:57:30
โอ๊ะโอ่...ถึงตอนที่รอคอยแล้ววว

เอ๊ะๆๆ ทำไมไม่รู้อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าโชคดีน่ารักจังเลยค่ะ ^^~

ดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเองเลยค่า

ปล. แอบเจอธงรบในเรื่องด้วย - -"

คุณก็บอกผมก่อนสิ อยู่ดีๆ จะให้วิ่งป่าราบ ทิ้งรถไว้อย่างนี้หรือไง”
“น้ำป่า” ธงรบพูดสั้นๆ ห้วนๆ แล้วหันหลังวิ่งต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-05-2009 11:29:11
^
^ใช่แล้วเจอสารวัตรธงรบเหมือนกัน :jul3:
ตอนนี้ดูน่ารักดีอ่ะงอนไปงอนมา งอนง้อ  :m3:

ปล.ชื่อตอนที่หัวเรื่องผิดค่ะ ทีแรกนึกว่าลง2ตอนซะอีก หรือว่ากำลังจะลงตอน11เนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 04-05-2009 12:21:29
แอบตามน้องฟางมา

ให้กำลังใจนายหมูปิ้งดีกว่า

บวกให้พี่นายเหมือนเคย จะได้มี กามมมลังใจเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 04-05-2009 13:12:12
โอ๊ะโอ่...ถึงตอนที่รอคอยแล้ววว เอ๊ะๆๆ ทำไมไม่รู้อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าโชคดีน่ารักจังเลยค่ะ ^^~ ดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเองเลยค่า ปล. แอบเจอธงรบในเรื่องด้วย - -"
คุณก็บอกผมก่อนสิ อยู่ดีๆ จะให้วิ่งป่าราบ ทิ้งรถไว้อย่างนี้หรือไง”
“น้ำป่า” ธงรบพูดสั้นๆ ห้วนๆ แล้วหันหลังวิ่งต่อไป

ตาดีกันจัง เบลอไปหน่อย มัวแต่นึกถึงคนเจ้าชู้

บทที่ 11 ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่กดบวกคะแนนให้นะครับ ตื่นเต้นมากที่อีกสองร้อยกว่าๆ จะได้คะแนนหนึ่ 1 พันแล้ว ใครเป็นคนกดคะแนนที่ 1000 ต้องกลายมาเป็นแฟนผมนะ เหงามานานแล่ะ อยากมีเมีย  :L3:

บทที่ 11

“มายืนเปียกรอให้ปอดบวมหรือครับนายช่าง” เสียงพูดของคนที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครดังขึ้นข้างหลังชยุตม์
วิศวกรหนุ่มหันไปมองหน้าโชคดีช้าๆ บอกตัวเองว่าเริ่มจะชินและเข้าใจการสื่อสารแบบ “ตรงๆ แต่อ้อมค้อม” ของโชคดีแล้ว
...ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นายช่างเข้าไปเปลี่ยนสิครับ ข้างนอกมันหนาว มายืนตัวเปียกอยู่แบบนี้เดี๋ยวจะเป็นปอดบวม...
...คนคนนี้พูดแบบนี้เป็นหรือเปล่านะ...
“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง” ชยุตม์เดินเข้ามาใกล้โชคดี ตอบเบาๆ ใกล้หูแล้วเดินเข้าไปในห้องเงียบๆ โชคดีเดินตามเข้ามาและมองด้วยสายตาขุ่นๆ
“แค่นี้ทำฉุน”
...ผมไม่ได้ฉุน ผมน้อยใจ...
ชยุตม์ตอบอยู่ในใจ ทำทีไม่สนใจคำพูดกระทบกระเทียบของอีกฝ่าย แล้วถอดเสื้อออก เผยให้เห็นมัดกล้ามกำยำ
วิศวกรหนุ่มปลดตะขอกางเกงแล้วกำลังจะรูดกางเกงลง เสียงเดิมก็ดังขึ้นเบาๆ ว่า “ผ้าเช็ดตัวอยู่ตรงนั้น”
ชยุตม์หันไปมองด้วยสายตานิ่งเรียบหากท้าทายอยู่ในที ดังจะบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่า...ผมจะถอด ผมไม่พันผ้าเช็ดตัวหรอก เลิกสั่งผมได้แล้ว...
ชยุตม์ได้ยินเสียงปิดประตูแรงๆ เมื่อเขาดึงกางเกงให้หลุดลงไปกองกับพื้น ครั้นแอบปรายตาไปมองก็เห็นโชคดีนอนตะแคงหันหลังให้
...เดี๋ยวก็ถอดกางเกงชั้นในด้วยเสียเลย แล้วเดินไปถามว่า มีปัญหาอะไรไหม ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าของผมอย่างนี้ล่ะ คุณจะทำไม...
...มีปัญหานัก จะจับปล้ำซะเลย...
ชยุตม์ยิ้มบางๆ แล้วจัดการเช็ดตัวให้แห้ง ก่อนจะหยิบเสื้อผ้ามาสวม รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันใดหลังจากที่เปียกปอนอยู่นาน
...คงจะอุ่นมากกว่านี้ ถ้าได้นอนกอดกับใครซักคน ผ้าห่มก็ไม่มี ไออุ่นจากร่างกายของคนสองคนนี่ล่ะ อุ่นยิ่งกว่าผ้าห่มนัก...
...หากโชคดีเป็นแฟนเขา จะเดินไปสะกิดให้มานอนกอดกันดีกว่า...
...แต่ตอนนี้ หากไปชวนโชคดีทำอย่างที่คิดคงถูกต่อยปากเป็นแน่แท้...
...คนอะไร แม้นอนอยู่เฉยๆ ยังทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ได้ถึงเพียงนี้...
ชยุตม์เอนตัวลงนอน ยกมือก่ายหน้าผาก ลืมตาโพลงในความมืดทั้งๆ ที่รู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนเป็นที่สุด คืนนี้เป็นคืนแรกที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับโชคดีถึงเพียงนี้ คืนแรกในชีวิตการทำงานที่เขาต้องนอนอยู่ในสถานที่แบบนี้ซึ่งไม่มีความสะดวกสะบายใดๆ เลย
...แต่เป็นคืนที่เขาได้นอนอมยิ้ม...

ชยุตม์ก้าวออกมานอกศูนย์วิจัยพันธ์พืชเอาเมื่อเวลาเกือบเก้าโมงเช้า ชายหนุ่มบิดตัวอย่างเหนื่อยล้า แล้วสูดลมหายใจลึกเอาอากาศบริสุทธิ์ คืนที่ผ่านมาฝนตกตลอดคืน เช้าวันนี้อากาศสดชื่นมาก มองไปรอบๆ เห็นแต่ต้นไม้เขียวชะอุ่ม
...และเห็นชายหนุ่มร่างสูงเดินขึ้นเนินมาช้าๆ ในมือถือกิ่งไม้ยาวประมาณหนึ่งช่วงแขน...
โชคดีฟาดไม้ไปมาราวกับครูกำลังเตรียมจะตีนักเรียนเกเร ใบหน้าคมเข้มนั้นเรียบนิ่ง และแม้เงยหน้าขึ้นมองชยุตม์ที่กำลังเดินเข้าไปหาก็ยังเรียบนิ่งอยู่
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ชยุตม์ทักทายยิ้มๆ
...ติดน้ำป่าแบบนี้ยังมาทำหน้ามีความสุขเหมือนมาพักรีสอร์ทยังงั้นล่ะ...
โชคดีไม่ “อรุณสวัสดิ์” ตอบ หากถอนหายใจแรงๆ แล้วพูดว่า “เราติดน้ำป่า ไปไหนไม่ได้”
“รู้ได้ยังไง” ชยุตม์ถามแล้วต้องรีบกัดริมฝีปากตัวเอง เพราะรู้ตัวทันใดว่าถามอะไร “ไม่ได้เรื่อง” อีกแล้ว
“ผมก็ไปเดินสำรวจดูนะสิ ไม่ได้มานอนพักผ่อนประจำปีนะ”
...ตอบดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องเหน็บแนมกันเลย...
“งั้นผมไปดูบ้าง” ชยุตม์เดินลงเนินไปตามทางที่โชคดีเดินกลับมา ไม่ถึงสิบนาที เขาก็มาหยุดยืนอยู่ริมสายน้ำสีขุ่นคลั่กที่กำลังไหลเชี่ยวกรากราวกับจะลากเอาทุกสิ่งให้ไหลตามไปด้วย
ชยุตม์เดินสำรวจบริเวณรอบๆ อยู่นานพอสมควร จึงเห็นว่าเขากับโชคดีคงไม่มีความสามารถที่จะข้ามสายน้ำได้ เขาเคยเห็นน้ำป่าในโทรทัศน์ ครั้นมาเจอของจริงจึงตระหนักได้ว่าน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้ ชีวิตของเขาเคยอยู่แต่เมืองใหญ่ๆ ทันสมัย เขาโตมากลางความเจริญในเมือง ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ ต่างจากโชคดีซึ่งเก่งกว่าเขามากนัก แม้ฝนตก รถติดหล่มอยู่ที่ลุ่ม ยังได้ยินเสียงน้ำป่ากำลังถาโถมเข้ามาใกล้
...ปากดีแล้วยังหูดีอีก...
วิศวกรหนุ่มเริ่มรู้สึกหิวข้าวจึงเดินกลับที่พัก โชคดีหายไปอีกแล้ว แต่ชยุตม์เห็นจานอาหารวางอยู่บนโต๊ะหน้าประตู เหมือนโชคดีเตรียมไว้ให้เขาทาน
อาหารง่ายๆ ไข่ดาวหนึ่งฟองวางอยู่บนข้าวพูนจาน มีขวดน้ำปลาเตรียมไว้ให้
วิศวกรหนุ่มอมยิ้ม หยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารส่งเข้าปาก...อาหารจานที่เขาจะไม่มีวันลืมในชีวิตการเป็น ชยุตม์ เมธีวุฒิไกร วิศวกรหนุ่มคนเก่งที่สร้างตึกสูงๆ ใหญ่มาแล้วในหลายประเทศ ลูกชายคนเล็กของ ม.ท. 1
...ข้าวไข่ดาวหนึ่งฟอง หนึ่งจาน ฝีมือคนปากร้าย อร่อยจริงๆ...

ปฐพีนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน ตั้งแต่เช้าจนเที่ยงเขาวิ่งตามหาโชคดีจนแทบหมดแรง คุณเตือนใจโทรศัพท์มาหาเขาตั้งแต่เช้ามืดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ขอให้เขาช่วยตามหาลูกชาย
...โชคดีหายไปกับชยุตม์ โต๋กับเดือนบอกว่าโชคดีไปส่งทั้งสองที่บ้านยายของเดือน พายายไปส่งโรงพยาบาลแล้วกลับตั้งแต่เมื่อคืน แต่จนรุ่งเช้าก็ยังไม่ถึงบ้าน ติดต่อก็ไม่ได้...
คืนที่ผ่านมามีพายุฝนฟ้าคะนอง ปฐพีได้ข่าวว่ามีน้ำป่าไหลหลาก เขาตั้งสมมุติฐานว่าโชคดีกับชยุตม์คงติดอยู่ที่ไหนซักแห่ง แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เส้นทางจากบ้านสะเละของเดือนมาจังหวัดน่านเป็นถนนลาดยางตลอดสาย หากเดินทางมาตั้งแต่สี่ทุ่มก็ต้องถึงตัวจังหวัดไม่เกินเที่ยงคืน
“ผู้กอง ให้ผมช่วยไหมครับ ผมจะระดมเพื่อนๆ ให้ช่วยกันออกตามหา” ทรงศักดิ์นั่งอยู่ข้างๆ ปฐพี ท่าทางร้อนร้อนไม่แพ้คุณเตือนใจที่เฝ้าโทรศัพท์สอบถามไปยังที่ต่างๆ
“อย่าเพิ่งเลยครับ ตอนนี้ลูกน้องผมก็กำลังตามอยู่ อีกไม่นานก็คงได้เรื่อง”
“ทำไมโชคดีต้องไปกับเขา” ทรงศักดิ์พึมพำเบาๆ “ไม่รู้หรือยังไง”
ร้อยตำรวจเอกปฐพีหันไปมองหนุ่มหน้าตี๋ที่ผุดลุกผุดนั่งด้วยความกังวล เขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ทรงศักดิ์พูดเท่าใดนัก กำลังจะเอ่ยปากถาม แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ปฐพีจึงรีบรับสาย
ลูกน้องของเขารายงายว่ายังไม่พบตัวโชคดี หรือจะพูดให้ถูก ยังไม่พบรถกระบะโตโยต้าคันที่โชคดีขับไป
“ผู้กอง ผมทนไม่ไหวแล้ว เป็นห่วงโชคดี ผมจะไปขอให้ป๋าช่วย” ทรงศักดิ์พูดขึ้นทันทีที่ปฐพีคุยโทรศัพท์เสร็จ “ป๋ารู้จักคนเยอะ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. ทั่วจังหวัดน่านรู้จักป๋าทั้งนั้น ต้องมีใครซักคนที่ช่วยได้ โชคดีต้องไปติดน้ำป่าอยู่บนเขาที่ไหนซักลูก”
ปฐพีปล่อยให้ทรงศักดิ์ทำตามที่ต้องการ เขาลุกเดินเข้าไปในร้านเพื่อนคุยปลอบใจคุณแม่ของโชคดีแล้วย้ำกับคุณเตือนใจว่าเขาจะพยายามอย่างสุดความสามารถ
“ผมจะไปคุยกับคุณพ่อ ขอให้ท่านสั่งหน่วยบรรเทาสาธารณภัยมาช่วย” ปฐพีพูด
“จะดีหรือคะผู้กอง เท่าที่ทราบ ประชาชนหลายพื้นที่ก็ได้รับความเดือนร้อน ฉันเองในฐานะประธานไลอ้อนส์จังหวัดก็ต้องออกไปช่วยประชาชนเหมือนกัน เราทำได้เท่าที่ทำได้เถอะ จริงอยู่ อยากระดมคนช่วยตามหาโชคดีก็จริง แต่ก็ไม่อยากเอาคนของราชการตั้งหลายคนมาช่วยคนๆ เดียว”
“สองคนครับ” ปฐพีเตือน “อีกคนคือลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย”
...หาก ม.ท. 1 ทราบเรื่อง เฮลิคอปเตอร์ก็คงบินว่อนทั่วจังหวัดน่าน...
...แต่ตอนนี้รอก่อน ขอให้เขาได้พยายามเสียก่อน อย่าเพิ่งให้ถึงพ่อของชยุตม์เลย โชคดีคงไม่เป็นอะไร รายนั้นเก่งจะตายเรื่องเอาตัวรอด...
...กลัวอย่างเดียวว่าจะทะเลาะกับชยุตม์...

โชคดียืนเท้าสะเอวมองคนที่นอนหลับอยู่บนแคร่หน้าศูนย์วิจัยพันธ์พืช ซึ่งหลังจากพิจารณาแล้วเขาตกลงใจที่เรียกว่า “กระท่อมปลายดอย” เพราะศูนย์ฯ แห่งนี้เล็กเหลือเกิน
ชยุตม์นอนหลับท่าทางมีความสุข อกกว้างกระเพื่อมตามจังหวะหายใจสม่ำเสมอ ใบหน้าคมเข้มดูเรียบนิ่ง ไม่ต่างจากตอนที่ตื่น
...นิ่งเหมือนหุ่น ตอนตื่นก็ดูขรึมๆ นิ่งๆ วางมาดเป็นผู้ดี เป็นคุณชาย เป็นลูกท่านหลานเธอ ตอนนอนก็ยังมีมาดอีก ตัวเหยียดตรงนิ่ง เหมือนทหารกำลังยืนทำความเคารพผู้บังคับบัญชา...
โชคดีกลับจากเดินสำรวจรอบเนินเขาที่ศูนย์วิจัยพันธ์พืชแห่งนี้ตั้งอยู่ เขาติดน้ำป่าจริงๆ ไม่มีทางเลยที่จะฝ่าข้ามไปได้ แต่ถึงแม้จะข้ามได้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีกเมื่อเดินลงเขาเพื่อหาทางกลับเข้าเมือง หรือแม้แต่จะไปให้ถึงปางเสือหมอบ เขาเคยเจอน้ำป่ามาสามสี่ครั้ง รู้ “ฤทธิ์” ของมันดี และครั้งหนึ่ง น้ำป่าก็ได้คร่าชีวิตของคนที่เขารู้จักไปถึงสามคน
หลังเที่ยง ฟ้าเริ่มครึ้มอีกครั้ง ฝนตั้งเค้าว่าจะตกอีกแล้ว ขณะนี้เลยเวลาอาหารกลางวันมานานพอสมควร โชคดีเริ่มหิว จึงก่อไฟ เตรียมทำอาหารง่ายๆ
มื้อเช้าไข่ดาว มือกลางวันไข่เจียว
เมื่อทำเสร็จ ชยุตม์ก็ตื่นพอดี ราวกับว่ากลิ่นหอมฉุยของไข่เจียวเป็นนาฬิกาปลุก วิศวกรหนุ่มเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ โชคดีที่กำลังตักข้าวใส่จาน มองชายหนุ่มอยู่เงียบๆ
...ทำไมตักข้าวแค่จานเดียว...
“ขอทานด้วยได้ไหมครับ” ชยุตม์ถามดื้อๆ เขานั่งคอยโชคดีตั้งแต่สายๆ จนเที่ยง หิวจนท้องกิ่วแล้วจึงนอนหลับไป
“ตามใจ แต่ช่วยล้างจานใบเดิมมาใช้นะครับ ที่นี่ไม่ใช่ภัตตาคาร ไม่มีพนักงานล้างจาน” โชคดีพูดเสียงเรียบ ไม่เงยหน้ามองคนที่ตัวเองพูดด้วย
“ขอโทษ ไม่มีเครื่องล้างจาน” ชยุตม์ประชด เดินไปหยิบจานของตัวเองที่ทิ้งไว้ตั้งแต่เช้า แล้วหันซ้ายหันขวาเหมือนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
...เฮ้อ ล้างจานเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ คุณหนูไฮโซจริงๆ เลย...
โชคดีถอนหายใจ รู้สึกขวางหูขวางตาเป็นที่สุด ชยุตม์ดูท่าทางเงอะงะไม่ทันใจเขา แม้จะเห็นตุ่มใส่น้ำแล้ว คุณวิศวกรก็ยังทำท่าเหมือนจะตัดสินใจว่าจะล้างจานใบเดียว “แบบไหนดี”
“เอาน้ำราดก่อนนะครับ แล้วก็เอามือถู อย่าจุ่มจานลงไปในตุ่ม” โชคดีบอก
ชยุตม์หันมามองด้วยสายตาขวางๆ แล้วหันกลับไปก้มหน้าล้างจานช้าๆ จากนั้นถือจานโบกไปมาเหมือนจะพยายามทำให้จานแห้ง
...โอ๊ย ขวางหูขวางตาอีกแล้ว แบบนี้น่าจะจับให้ไปเป็นเด็กทำงานที่ร้านของเขา จะได้สอนให้รู้จักทำงานบ้าน...
หลังทานอาหารกลางวัน “มือบ่าย” เสร็จ โชคดีกับชยุตม์ก็ไม่มีอะไรทำ ฝนเริ่มตกปรอยๆ สองหนุ่มจึงจับจองพื้นที่หน้าอาคารหลังเล็กคนละด้าน นั่งมองสายฝนกันอยู่เงียบๆ

ทรงศักดิ์นั่งหน้ามุ่ยอยู่ในรถหลังจากได้รับข่าวจากผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งว่าตามหารถของโชคดีไม่เจอ วันนี้เขาทั้งวันเขาเอาแต่สืบหาโชคดีและ “ชยุตม์” คนที่เขาคิดว่าคงกำลังเริ่มชอบพอโชคดีเข้าให้แล้ว ทั้งสองคนหายไปด้วยกัน หากไปติดน้ำป่าที่ไหนซักแห่ง ก็หมายความว่าทั้งสองคนนั้นได้ใกล้ชิดกัน ชยุตม์เป็นคนหน้าตาดี บุคลิกก็สง่า เขายอมรับว่าอิจฉาชยุตม์ ทั้งยังกลัวว่าโชคดีจะเกิดไปหลงรักวิศวกรคนนั้น หนทางเอาชนะใจโชคดีของเขาก็จะยากลำบากมากขึ้น
“คุณซ่งครับ ใกล้ค่ำแล้ว ผมว่าพอแค่นี้ก่อนเถอะ กลับบ้านกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่” พงษ์ คนสนิทของโชคดีที่มาช่วยเขาพูดขึ้นเบาๆ
“แล้วเขาจะอยู่ยังไงน้าพงษ์ ค่ำคืนดึกดื่นจะกินจะนอนยังไง” ทรงศักดิ์ถอนหายใจ
“คุณโชคดีเอาตัวรอดได้ครับ” พงษ์พูด
...ห่วงแต่นายช่างนั่นล่ะ ท่าทางไม่เคยลำบาก แล้วอีกอย่าง จะทนเจ้านายของเขาได้นานแค่ไหน...
“รถก็หาไม่เจอ” ทรงศักดิ์พึมพำ คิ้วขมวด
“หาก็ไม่เจอก็ดีสิครับ อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าคุณโชคดีไม่เป็นอะไร”
“หรืออาจถูกน้ำป่าพัดหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้” ทรงศักดิ์เหม่อลอยมองออกไปนอกรถ
“อย่าเพิ่งคิดด้านที่ไม่ดีสิครับคุณซ่ง คุณโชคดีอาจขับรถไปหลบฝนที่ไหนซักแห่ง พอน้ำท่วมก็ติดอยู่ออกมาไม่ได้”
“โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องนะครับ ไปติดอยู่ที่ไหน กลางป่ากลางเขาหรือไง ถ้าติดอยู่หมู่บ้านข้างถนนที่ไหนก็น่าจะมีสัญญาณบ้าง”
“จากบ้านเดือนมาน่านต้องผ่านภูเขาสูงหลายลูกนะครับคุณซ่ง สัญญาณโทรศัพท์ก็ไปไม่ทั่วถึง หรืออาจจะแบตหมด” พงษ์ปลอบใจ มองทรงศักด์อย่างไม่เชื่อสายตาว่าเป็นห่วงเจ้านายของเขาเกินไป เขาเคยสงสัยอยู่ว่าทรงศักดิ์อาจจะแอบชอบโชคดี ตอนนี้เขาไม่สงสัยแล้ว
พายุหนักเมื่อวานนี้ทำให้เขาเห็นอะไรหลายอย่าง สิ่งที่เขาแอบสงสัยเรื่องทรงศักดิ์กับผู้กองปฐพี ตอนนี้กระจ่างแจ้งแล้วว่าสองคนนี้มารักคนๆ เดียวกัน
...แล้วที่เขาสงสัยเกี่ยวกับนายช่างชยุตม์จะเป็นจริงหรือไม่ อีกไม่นานก็คงรู้กัน ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับทั้งสองคนนั้นด้วยเถิด...

โชคดีเก็บกระถางต้นไม้ที่กองระเนระนาดอยู่หน้าศูนย์วิจัยพันธ์พืชให้เข้าที่จนเรียบร้อย หันไปมองชยุตม์แล้วส่ายหน้าช้าๆ เพราะเห็นฝ่ายนั้นเอาแต่นอน จนค่ำแล้ววิศวกรหนุ่มก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่าง
...ทำอะไรล่ะ ติดอยู่ตรงนี้ครึ่งคืนกับหนึ่งวันเต็มๆ เบื่อแสนเบื่อ...
...หาเรื่องทะเลากับชยุตม์แก้เซ็งดีกว่า...
โชคดีเดินไปหาชยุตม์ที่นอนแผ่หราอยู่บนแคร่ไม้หน้า “กระท่อม” ร่างแกร่งกำยำนั้นนอนสงบนิ่งไม่ไหวติง ชยุตม์แทบไม่ขยับตัวเปลี่ยนท่านอนเลยตั้งแต่บ่าย เขาสังเกตเห็นว่าเกือบสามชั่วโมงที่ผ่านไป “คุณหนูไฮโซ” คนนี้เปลี่ยนท่านอนเพียงสองครั้ง นั่นคือ นอนหงายเหยียดตรง มือวางประสานพาดบนหน้าท้องเป็นท่าที่หนึ่ง แล้วมือกางแผ่หราออกเป็นท่าที่สอง
...คนอะไร เวลานอนยังขวางหูขวางตา...
“คุณชยุตม์” โชคดีเรียกเบาๆ ตามองที่คางบึกบึนของชายหนุ่ม หนวดเคราสากๆ ของชยุตม์เริ่มขึ้นเป็นแนวครึ้ม แรกที่เขาเห็นชยุตม์ ใบหน้าของชายหนุ่มขาวสะอาด แต่มาอยู่น่านได้เกือบสองเดือน ชยุตม์ผิวคล้ำลงอย่างรวดเร็ว
...สงสัยคงแพ้แดด นี่หากมาอาศัยอยู่ต่างจังหวัดแบบนี้จะไปรอดไหมเนี่ย ทำกับข้าวล้างจานยังทำไม่เป็นเลย...
“นายช่างชยุตม์” โชคดีเอื้อมมือไปเขย่าขาของชยุตม์เบาๆ สายตาพลันเหลือบไปเห็นแผลเลือดแห้งกรังที่ข้อเท้า เขามองเลยขึ้นไปยังใบหน้าอ่อนโยนของวิศวกรหนุ่มแล้วต้องถอนหายใจ รู้สึกสงสารชยุตม์ขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าทำไม ความคิดที่จะแกล้งชยุตม์หายไป จึงปล่อยให้วิศวกรหนุ่มนอนหลับต่อ แล้วเดินไปเตรียมอาหาร
...วันนี้พิเศษหน่อยก็แล้วกัน เพิ่มข้าวสวยมากกว่าเดิม สองมื้อที่ผ่านมาท่าทางชยุตม์ไม่อิ่มเพราะเห็นดื่มน้ำเข้าไปเยอะมากหลังทานข้าว โชคดีที่ใน “กระท่อม” มีข้าวเหลือครึ่งถุงและไข่ไก่ตั้งสิบฟอง ปลากระป๋องอีกสองกระป๋อง พอดำรงชีวิตอยู่ได้เกือบหนึ่งอาทิตย์...

ปฐพีกลับมาถึงร้านโชคดีค้าเหล็กเมื่อเวลาสามทุ่ม เขาแปลกใจที่เห็นรถหลายคันจอดอยู่หน้าร้าน ชายฉกรรจ์สามคนสวมชุดซาฟารียืนอยู่ข้างรถแลนด์ครูซเซอร์สีดำคันใหญ่ นายตำรวจหนุ่มจึงพอจะเดาออกว่า “ใคร” อยู่ข้างในร้าน
“ผู้กองมาโน่นแล้ว” เสียงคุณเตือนใจดังขึ้นเมื่อมองเห็นปฐพีเดินเข้าไปในร้าน ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมามอง ปฐพีจึงรีบยกมือไหว้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
“ยังไม่พบครับ” ปฐพีพูดเบาๆ
คุณเตือนใจถอนหายใจแรงๆ ใบหน้าไม่สู้ดี “พงษ์ก็ยังตามไม่พบเหมือนกัน นี่โชคดีกับนายช่างไปอยู่ไหนกันนะ”
“นายช่าง?” ม.ท. 1 ทวนคำ
“อ๋อ เราเรียกคุณชยุตม์ว่านายช่างครับ” ปฐพีรีบอธิบาย “คืนนี้คงออกตามหากันไม่ได้เพราะมืด เว้นแต่ว่าท่าน...”
“รอพรุ่งนี้เช้าเถอะ ผมจะขอคนเพิ่มให้มาช่วยกัน แต่คงมากไม่ได้ เข้าใจว่าประชาชนก็ได้รับความลำบากอยู่มากเหมือนกัน เราต้องระดมกำลังช่วยคนที่กำลังประสบปัญหาก่อน ผมเชื่อว่าชยุตม์กับคุณโชคดีคงไม่เป็นอะไร” ม.ท. 1 หันไปให้กำลังใจคุณเตือนใจ “คุณโชคดีคงโชคดีเหมือนชื่อ”
“ดิฉันก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะท่าน” คุณเตือนใจตอบเสียงแผ่ว ส่งสายตามายังปฐพีดุจจะฝากให้เขาช่วยเป็นพิเศษเพราะคนที่เธอไว้ใจที่สุดคือนายตำรวจหนุ่มคนนี้
“พรุ่งนี้เช้าผมจะรีบออกตั้งแต่เช้าเลยครับ คุณซ่งก็เหมือนกัน” ปฐพีกล่าวหนักแน่น แล้วขอตัวรับโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังขึ้น
ทันทีที่เขารับสาย เสียงคุ้นเคยก็ถามอย่างร้อนรน “ผู้กองครับ ได้ข่าวว่าชยุตม์หายไป ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ยังตามหาไม่เจอครับ” ปฐพีตอบ “แต่คุณจักรไม่ต้องห่วง ผมจะพยายามสุดความสามารถ ขณะนี้มีคนช่วยเยอะ ไม่นานต้องเจอแน่ ผมคิดว่าโชคดีกับคุณชยุตม์คงไปติดอยู่ที่ไหนซักแห่ง ตอนนี้น้ำป่าไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่ ทางจังหวัดกำลังระดมกำลังกันช่วยเหลืออยู่”
“สองคนนั้นไปด้วยกัน” จักริณทร์ถาม
“ใช่ครับ โชคดีพาเดือนไปหายาย นายช่างขอไปด้วย ขากลับคงเจอพายุฝน อาจจะหาที่หลบ ทีนี้น้ำท่วม ก็คงจะติดอยู่ออกมาไม่ได้” ปฐพีอธิบายอย่างรวบรัด “ตอนนี้คุณพ่อของนายช่างก็อยู่ที่น่าน คุณจักรไม่ต้องห่วง ผมก็ช่วยออกตามหา พรุ่งนี้เช้าเรากะใช้เรือลุยหาเต็มที่”
“ผู้กองระวังตัวด้วยนะครับ” จักรินทร์เอ่ยเบาๆ “พักผ่อนให้เต็มที่ด้วย เดี๋ยวจะเกิดเป็นอะไรไป ไม่มีแรงช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้ผมอยู่โคเปนฮาร์เก็น คงยังกลับเมืองไทยไม่ได้อีกเกือบอาทิตย์ ถ้าไปถึง ผมจะหาโอกาสไปน่านอีก”
ปฐพีกล่าวขอบคุณจักริณทร์และย้ำให้นักบินหนุ่มไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อน เขารับปากว่าจะช่วยเหลือชยุตม์อย่างเต็มที่
“ผมห่วงแต่จะทะเลาะกับคุณโชคดี ท่าทางสองคนนั้นไม่ค่อยถูกกัน กลัวคุณโชคดีจะทำอะไรยุตม์” จักริณทร์พูดเสียงกลั้วหัวเราะ
“โชคดีไม่ได้ร้ายเท่าไหร่หรอกครับ แต่ถึงร้าย ก็คงไม่ถึงกลับฆ่าคุณชยุตม์หมกป่า” ปฐพีหัวเราะเสียงเบา แล้วถามถึงการทำงานของจักริณทร์
“อากาศที่นี่หนาวมากครับ ผมพักหนึ่งวัน พรุ่งนี้ก็ต้องบินต่ออีกแล้ว เที่ยวบินยาวๆ แบบนี้เหนื่อยหน่อย”
“ดูแลตัวเองด้วยนะครับ” ปฐพีแสดงความห่วงใย
“ผู้กองด้วย”
“ผมสบายมาก แข็งแรงไม่เคยเป็นอะไร”
“ดีแล้วครับ ผมก็แข็งแรง ไม่เคยเป็นอะไรเหมือนกัน” จักริณทร์ตอบ
ปฐพีไม่รู้สึกตัวว่า แรกที่คุยกับจักริณทร์เรื่องของชยุตม์กับโชคดี ตอนนี้กลายมาเป็นพูดเรื่องของตัวเองกับจักริณทร์ไปแล้ว นายตำรวจหนุ่มคุยกับจักริณทร์จนเพลิน ลืมนึกไปว่าพ่อของชยุตม์กับแม่ของโชคดีกำลังยืนคุยกันอยู่ ครั้นหันไปมองทั้งคู่ ปฐพีจึงต้องหยุดการสนทนาแล้วเดินมาสมทบกับผู้ใหญ่สอง ก่อนจะคุยกันต่ออีกชั่วครู่ จนพ่อของชยุตม์ชวนกลับจวนผู้ว่าฯ เพราะคืนนี้พ่อของเขาเชิญค้างที่บ้าน
“ผมคงค้างที่จวนฯ อีกคืน พรุ่งนี้เช้าคุณหญิงจะมา ห้ามก็ไม่ฟัง เขาบอกจะมาตามหาลูกชายด้วยตัวเอง” ม.ท. 1 พูดเบาๆ ขณะเดินออกมาหน้าร้านกับปฐพี
“คนเป็นแม่ก็ต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา” ปฐพีพูด
“แน่นอน ลูกรักคนสุดท้อง ใครจะไม่ห่วง” ม.ท. 1 พูดกลั้วหัวเราะ ปฐพีรู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งได้ใกล้ชิดท่านรัฐมนตรีฯ และได้สัมผัสถึง “พลัง” บางอย่างในตัวของชายผู้นี่ พ่อของโชคดีค่อนข้างแตกต่างจากลูกชาย ท่าทางเป็น “นักเลง” พอตัว ดูเหมือนเป็นพ่อของโชคดีมากกว่าที่จะเป็นพ่อของคนขรึมๆ นิ่งๆ อย่างชยุตม์
“ผู้กองครับ ฝากด้วยนะ ถ้าต้องการอะไรก็บอกผมได้ หากแอบเอาเฮลิคอปเตอร์ราชการมาช่วยได้ซักเครื่อง ผมจะรีบโทรมาบอก แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เหมาะ ขอช่วยประชาชนก่อน ผมว่าชยุตม์คงไม่เป็นอะไร อ้อ เรื่องนี้อย่าให้ถึงหูสื่อมวลชน ผมกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ ลูกชาย ม.ท. 1 หนึ่งหายไปกับลูกชายร้านค้าเหล็ก กลัวคนเข้าใจผิด”
พูดเสร็จ บิดาของชยุตม์ก็หัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วแยกกับปฐพีไปขึ้นรถคันใหญ่ที่จอดรออยู่ ปล่อยให้ปฐพีมองตามด้วยสายตาฉงน
...พ่อของชยุตม์รู้อะไรหรือ? หมายความว่ายังไง...
...ชยุตม์กับโชคดี...หมายความว่ายังไง...
...แล้วที่ซ่งหวั่นกลัว...หมายความว่ายังไง...

อาหารมื้อ “พิเศษ” ทำให้ชยุตม์รู้สึกอิ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาติดน้ำป่าอยู่กับโชคดีที่ “กระท่อมปลายดอย” โชคดีทำไข่ตุ๋นเป็นอาหารเย็น เขาเหลือบไปเห็นปลากระป๋อง แต่โชคดีดูราวกับมีพลังจิตอ่านใจเขาออก จึงรีบพูดดักคอเขาว่า “กับข้าวมื้อละอย่าง ปลากระป๋องรอเอาไว้เมื่อไข่หมด”
“ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่” ชยุตม์เบ้ปากเล็กน้อย แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่
“กินเสร็จแล้วคุณล้างถ้วยนะ ผมทำอาหารแล้ว” โชคดีสั่ง
“ครับ” ชยุตม์รับคำสั้นๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปยื่นมือรองน้ำฝนที่ตกลงมาจากชายคาเพื่อล้างมือ ฝนที่ตกปรอยๆ มาตลอดบ่ายเริ่มตกหนักขึ้น และท่าทางจะหนักขึ้นมากกว่าเดิม
“คุณโชคดีครับ คิดว่าเราจะติดอยู่ที่นี่นานแค่ไหน” ชยุตม์หันไปถามชายหนุ่ม มือสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อด้านหลังแล้วเกาหลังเพราะรู้สึกคัน เสื้อผ้าของเขายังไม่แห้ง จึงต้องใส่เสื้อผ้าตัวเดิมตั้งแต่มาถึงศูนย์ฯ แห่งนี้
“จะไปรู้หรือ”
...ถามดีๆ จะตอบดีๆ บ้างได้ไหมเนี่ย...
“ผมนึกว่าคุณรู้ทุกอย่าง” ชยุตม์พึมพำเบาๆ โชคดีเงยหน้าขึ้นมามองประหนึ่งว่าได้ยินที่เขาบ่น แต่ชายหนุ่มหลุบตาลงมองจานข้าวของตัวเองแล้วทานต่อช้าๆ แล้วไม่พูดอะไรอีก
“พรุ่งนี้ผมว่าเราลองหาทางกันอีกครั้ง เผื่อจะออกไปจากที่นี่ได้”
“เดี๋ยวได้จมน้ำตายกันพอดี” โชคดีให้ความเห็น
“แล้วจะนั่งรออยู่แบบนี้หรือครับ”
“ไม่เคยติดน้ำป่าสิท่า” โชคดีวางจานข้าวลงกับโต๊ะ “อ้อ ลืมไป คุณเคยอยู่แต่กรุงเทพฯ กับแคนาดา น้ำป่าคงไม่ไหลเข้าไปท่วมกรุง”
“โตเกียวก็เคยอยู่ครับ นิวยอร์คก็ด้วย ลอนดอน ปารีส มาดริด โรม ซิดนีย์ ผมเคยไปอยู่หมด” ชยุตม์ประชด
“สงสัยคงต่างจากน่านเยอะ” โชคดีเบ้ปาก ยกจานขึ้นมาตักอาหารทานต่อ
“แน่นอน”
...งอนอีกแล้ว ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว โชคดีทำหน้างอนๆ น้อยใจก็เป็น ไม่นึกเลย...
ชยุตม์อดยิ้มมุมปากไม่ได้ ตั้งแต่มาติดน้ำป่าอยู่ที่นี่เขาเห็นโชคดีทำหน้าแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหลายครั้งแล้ว
...และเขาชอบเสียด้วย...
ชยุตม์ตกใจกับความคิดนี้ ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะเริ่มชอบคนหน้าดุปากร้ายอย่างโชคดี
“น่านก็น่าอยู่ คนเมืองน่านก็น่ารัก แต่ว่า...”
โชคดีทำไม่สนใจสิ่งที่ชยุตม์พูด มือยังตักข้าวเข้าปากช้าๆ ตาหลุบมองพื้นโต๊ะ ทำหูทวนลม
ชยุตม์ทิ้งจังหวะ รอให้โชคดีรู้สึกกระหายอยากรู้ที่สิ่งเขาละเอาไว้ เขาแน่ใจว่าชายหนุ่มกำลังเอียงหูรอฟังอยู่ เพียงแต่ว่าต้องรักษา “มาด” เอาไว้ ไม่ยอมว่า “แต่ว่า อะไร”
วิศวกรหนุ่มแกล้งถอนหายใจหนักๆ ให้อีกคนได้ยิน
...แต่ว่าอะไร ชยุตม์นี่บทจะกวนก็กวนได้แบบหน้าเรียบๆ นิ่งๆ น่าหมั่นใส้ชะมัด...
โชคดีวางจานอาหารลงกับพื้นโต๊ะแรงๆ ยกน้ำขึ้นดื่มแล้วลุกเดินไปบ้วนปาก หูยังเงี่ยฟังสิ่งที่ชยุตม์จงใจทิ้งท้ายให้เขาอยากรู้
...นี่คงคิดจะให้เขาถามละสิ คงคิดว่าเขาอยากจะรู้มากว่า คนเมืองน่านก็น่ารัก แต่ว่า...แต่ว่าอะไร...
...แล้วแต่ว่าอะไรล่ะ...
...คงแต่ว่า “...คุณไม่น่ารักกับผมเลย ทำไมถึงเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผมนัก...” จะมาพูดน้อยใจกับเขาแบบนี้ใช่ไหม...
...บ้าจริงๆ อยากต่อยปากแดงๆ ของชยุตม์นัก แล้วนี่ทำอมยิ้มอยู่ได้ ขำอะไรนักหนา ติดน้ำป่าอยู่บนดอยยังไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรอีก...

 :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 04-05-2009 14:12:08
ติดน้ำป่า

ช่างโรแมนติกนัก :o8:

ตลกที่หมูปิ้งบอกว่า ... เบื่อๆไปหาเรื่องทะเลาะกะชยุตม์ดีกว่า ...

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 04-05-2009 17:36:36
ติดน้ำป่าครั้งนี้คงได้อะไรมากขึ้นนะเนี่ย
หมูปิ้งมีงอนเสียด้วย ฮ่าๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: piggie ที่ 04-05-2009 22:23:40
ตอนแรกนึกว่าพิมพ์ตอนผิด.....แอบมีตอน11มาให้อ่านด้วย

อ่านเรื่องนี้แล้วหลงรักโชคดีจังเลยค่ะ

ทำไมรู้สึกเหมือนอ่านตรงนี้แล้วขัดๆอ่ะค่ะ

แน่นอน ลูกรักคนสุดท้อง ใครจะไม่ห่วง” ม.ท. 1 พูดกลั้วหัวเราะ ปฐพีรู้สึกแปลกใจ เขาเพิ่งได้ใกล้ชิดท่านรัฐมนตรีฯ และได้สัมผัสถึง “พลัง” บางอย่างในตัวของชายผู้นี่ พ่อของโชคดีค่อนข้างแตกต่างจากลูกชาย  ท่าทางเป็น “นักเลง” พอตัว ดูเหมือนเป็นพ่อของโชคดีมากกว่าที่จะเป็นพ่อของคนขรึมๆ นิ่งๆ อย่างชยุตม์

น่าจะเป็นพ่อของชยุตม์รึป่าวค้า...
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-05-2009 23:12:39
ติดน้ำป่าซักอาทิตย์ ทั้งคู่คงได้เรียนรู้ และเข้าใจกันและกันอีกมาก

+1 ให้พี่นายได้ครบ 1000 ไว ๆ จะได้มีเมีย  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-05-2009 23:36:23
เอาแล้วไง
ติดฝน
อยู่ในกระท่อม
เดี๋ยวสองคน
มองไปมองมา
สปาร์คกันแน่ๆเลย
ฮ่าๆๆๆๆ :m11:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 05-05-2009 00:39:01
เออแหะยังมีมุมน่ารักขึ้นมานิดนึงและ (นิดนึงจริงๆ โฮ๊ะๆ)
ทำกับข้าวกับปลาประทังชีวิตรอดก็เก่งมากมาย เด็กนอกต้องขอบคุณนะเนี่ย
ไม่อยากงั้นคงไม่รู้หรอกว่า ข้าวสวยกับไข่ดาวธรรมดาๆบ้านๆตลอดซู้ดยอด
แต่คุ้มใช่มะ ต้องต่อปากต่อคำต้องใช้สมองคิดว่า ถามแบบไหนถึงจะเป็นคำถามที่
ได้เรื่อง เหอะๆ แค่นี้ก็ใช้พลังไปมากโขแล้ว

“ขอบคุณครับที่อธิบายให้ฟังหลังจากเสร็จภารกิจ”
“ทำเป็นอารมณ์เสีย”
“ผมรู๊ คุณคงนั่งภาวนาอยู่ทุกวันว่าให้โครงการรีสอร์ทพังไม่เป็นท่า เพราะมันเป็นรีสอร์ททำลายธรรมชาติ”
“ไม่ต้องมาประชดหรอก”
>> หึหึ หมั่นเขี้ยวหมูปิ้งชะมัด น่า :oo1:

หมูปิ้งจะได้รางวัลนายเอกผู้เสียสละมั๊ยเนี่ย  :-[ เก่งจริงๆเด๋วนี้พัฒนาแล้นนะ มีงอนด้วย เหอะๆ

สู้ๆคะ +1ให้กับค.น่ากดของหมูปิ้ง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 05-05-2009 03:39:14
ค้างกันแค่คืนเดียว เริ่มจะรู้ใจกันแล้วสิเนี่ย
นายช่างเริ่มแปลภาษารักของหมูปิ้งออกแล้ว  :laugh:

มาร่วมด้วยช่วยกด+ อยากให้คนเขียนได้เมียซะที  55+ 

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 05-05-2009 13:48:32
อ้าว รู้สึกว่า ชยุตม์จะรู้สึกแล้วซิครับเนี่ยว่า มันแปลก ๆ
เวลาที่โต้เถียงกับโชคดี ส่วนโชคดี ก็คงใกล้จะรู้สึก
แล้วด้วยมั้งครับ แต่ก็ไม่อยากยอมรับเท่าไรมั้ง

เล่นต่อให้ซะ ตอนครึ่งอย่างนี้ น่ารักจังเลยครับพี่นาย :กอด1:
ทีนึงแล้วกัน  พร้อม +1 ให้ด้วยแล้วกัน
มาต่อด้วยนะครับ กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 05-05-2009 15:22:50
+1 ให้นะคะ โชคดีจะน่ารักไปถึงไหน ถึงจะดุแต่ก็น่ารักจ้า
เขียนจนนึกภาพออกเลยสำหรับคุณหนูชยุตม์ ลูกชายคนเล็กของคุณหญิง มท.1
ประชดกันไปประชดกันมา น่ารักดี แต่เมื่อไรจะรักกันแบบหวาน ๆ ล่ะ
แต่ติดน้ำป่าอยู่ด้วยกันตอนนี้ ก็ทำให้เริ่มจะเห็นมุมมองของแต่ละคนที่
คนอื่นไม่มีทางได้เห็น และแถมเริ่มมีความรู้สึกแปลก ๆ ให้กันอีก
คงได้ลุ้นกันอีกไม่กี่ตอนละนะ
มาต่อไว ๆ นะคะ ....... :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 05-05-2009 16:26:49
เพิ่งเข้ามาอ่าน  สนุกดี...อ่านของคุณมาหลายเรื่องแล้ว  ชอบทุกเรื่อง  o13
รีบๆมาต่อไวๆนะ 

ปล.ไม่เคยโพสต์มาก่อน  ยังไม่รู้ว่าเค้าให้คะแนนกันตรงไหน ช่วยแนะนำด้วยฮับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: McDeliVery ที่ 05-05-2009 18:02:49
สมัครสมาชิกเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ  อิอิ


ป่อล้อ  คนน่านเหมือนกันคับ เหอๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 05-05-2009 20:10:30
หมูปิ้งแอบน่ารักนะเนี่ย.....



 :3125:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 06-05-2009 01:00:50
มาอ่านจนทันจนได้

ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 06-05-2009 08:34:33
สงสารชยุตม์ สงสัยจะเริ่มติดไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์หมูปิ้ง ซะแล้ว

เริ่มมองด้วย ความคิดแปลกๆ แล้ว

ชอบมาก สำหรับ "คู่กัด" หรือ "คู่รัก" คู่นี้ สถาปนิก กับ พ่อค้าเหล็ก

คู่ปฐพี่ กับ จักรินทร์ ก็เหมาะสมกันดี ตำรวจ กับ สจ๊วต

ว่าแต่ คนแต่ง จะคู่กับใครดี น่าจะเป็นแบบ กลัว ม สระเอีย 5555 :z2:

+1 ให้ถึง ๑๐๐๐ เร็วๆ  :z13: o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (4/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 06-05-2009 10:16:01
รอ ๆ ชอบๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 06-05-2009 11:11:31
ค่อ  :pig4:

...นี่คงคิดจะให้เขาถามละสิ คงคิดว่าเขาอยากจะรู้มากว่า คนเมืองน่านก็น่ารัก แต่ว่า...แต่ว่าอะไร...
...แล้วแต่ว่าอะไรล่ะ...
...คงแต่ว่า “...คุณไม่น่ารักกับผมเลย ทำไมถึงเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผมนัก...” จะมาพูดน้อยใจกับเขาแบบนี้ใช่ไหม...
...บ้าจริงๆ อยากต่อยปากแดงๆ ของชยุตม์นัก แล้วนี่ทำอมยิ้มอยู่ได้ ขำอะไรนักหนา ติดน้ำป่าอยู่บนดอยยังไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรอีก...

“โชคดี ซ่งจะขาดใจตายอยู่แล้ว” ทรงศักดิ์โอดครวญเสียงเบาอยู่คนเดียว เขากับพงษ์ระดมตามหาโชคดีทั้งวัน จนกระทั่งเย็นก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบ กำนันผู้ใหญ่บ้านหลายตำบลที่เขาขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครรายงานเข้ามาสักคน
“โชคดีอยู่กับชยุตม์มาสองคืนแล้ว จะเป็นยังไงบ้าง อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ซ่งกำลังคิดนะ อย่านะ อย่า อย่าเด็ดขาด ถ้าเป็นแบบนั้น ซ่งคงต้องขาดใจตาย”
“คุณซ่ง” เสียงพงษ์ตะโกนเรียก ทรงศักดิ์หันขวับไปมอง เห็นผู้ช่วยร่างใหญ่ของโชคดีวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา
“เจอแล้วครับ”
“หา เจอโชคดีแล้วหรือ ที่ไหนๆ บอกผมเร็วเข้า” ซ่งกระโดดลงจากท้ายรถกระบะที่นั่งอยู่ รีบตรงไปหาพงษ์ รอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เปล่าครับ เจอรถของคุณโชคดี ไม่ได้เจอตัว”
“หมายความว่า...” ทรงศักดิ์แทบช๊อค
“เขาบอกว่าล้อหลังรถยางแบน ผมเชื่อว่ารถเสีย คุณโชคดีกับนายช่างต้องทิ้งรถไว้ ทีนี้น้ำท่วมคงพัดพารถให้ลอยไปจากที่เดิม ถ้าเราพบรถที่ปางตอง แสดงว่าคุณโชคดีต้องติดอยู่ที่ไหนเหนือปางตอง เราต้องย้อนกลับขึ้นไปหาตามเส้นทางการไหลของน้ำ”
“คุณพงษ์คิดว่าหมูปิ้งยัง...”
“ยังไม่เป็นอะไรหรอกครับ” พงษ์แสดงท่าทางมั่นใจ “ผมเชื่อว่าคุณโชคดีไม่เป็นอะไร พระย่อมคุ้มครองคนดี”
ทรงศักดิ์ยิ้มกว้าง เตือนให้พงษ์โทรศัพท์ไปบอกข่าวคุณเตือนใจ พงษ์บอกว่าแจ้งข่าวให้ทางโน้นทราบเรียบร้อยแล้วและผู้กองปฐพีกับคนของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำลังตามมาสมทบ
“หมายความว่าไงคนของรัฐมนตรี” ทรงศักดิ์ถาม
“คุณชยุตม์เป็นลูกชายของท่านฯ ครับ” พงษ์ตอบ
“อะไรนะ” ทรงศักดิ์อุทาน
...ชยุตม์เป็นลูกคนใหญ่คนโตขนาดนี้เชียวหรือ ลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พี่ชายของเจ้าของรีสอร์ที่เจ้าตัวกำลังต่อต้านนั่นหรือ...
...มองเห็นทางชนะแล้ว...
ทรงศักดิ์กระหยิ่มยิ้มย่อง ด้วยมั่นใจว่าโชคดีคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟหากรู้ว่าชยุตม์เป็นใคร ไม่มีชยุตม์เสียคน คู่แข่งก็หายไป เหลือเขาคนเดียวให้โชคดีตัดสินใจ หากเขาตามหาโชคดีเจอและช่วยเอาไว้ได้ เขาก็จะได้คะแนนเพิ่ม โชคดีจะได้หันมามองเขาเสียที

"เฮ้อ" โชคดีถอนหายใจแรงๆ จนชยุตม์หันไปมอง
"เป็นอะไรหรือครับ" ชายหนุ่มอดถามไม่ได้ ทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะได้ยินเพื่อความแน่ใจ
"ทำไมผมจะต้องมาติดอยู่บนเขากับคุณด้วยนะ" โชคดีพูดหน้าตาเฉย ตรงไปตรงมาจนชยุตม์สะดุ้ง
วิศวกรหนุ่มอึ้งไปชั่วครู่ ไม่นึกว่าตัวเองจะกลายมาเป็นบุคคลน่ารังเกียจไปเสียได้ "ทำไมล่ะ ติดอยู่กับผมมันเลยร้ายมากนักหรือไง"
"เปล่า" โชคดียักไหล่ หันไปมองทิวเขาสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหาลูกตาผ่านม่านสายฝนที่ตกปรอยๆ ไม่ยอมหยุดเกือบสองวันเต็ม
ชยุตม์ไม่เข้าใจโชคดี ชายหนุ่มมีบุคลิกที่ซับซ้อนมากจนเขาอ่านไม่ออก ดูไปเหมือนจะเกลียดเขา ขณะที่บางครั้งก็รู้สึกเหมือนเป็นมิตร บางครั้งตรงไปตรงมา โผงผางจนเขาตกใจ หากบางคราวดูอ้อมค้อม ลึกลับ ปิดบังอย่างไรก็ไม่รู้
"ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ทำให้ผมสบายใจมาก" ชยุตม์อดประชดไม่ได้ อยู่กับโชคดีนาน เขาเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้วาจากระทบกระเทียบเป็นแล้ว
หลังจากจงใจพูดให้ชยุตม์งง โชคดีปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปไกลแสนไกล เขารู้ว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงที่ก่อขึ้นมาขวางกั้นตัวเองเอาไว้ การได้อยู่ใกล้ชิดกับชยุตม์ทำให้เขาเห็นด้านดีของชายหนุ่มมากขึ้น ความขาวสะอาดค่อยๆ ไล่สีดำที่เขาระบายภาพของวิศวกรหนุ่มเอาไว้ จากเมื่อเดือนที่แล้วที่ชยุตม์ในภาพความคิดของเขาเป็นสีเทาเข้ม ตอนนี้เริ่มเป็นสีเทาจาง และเขาก็กลัวว่าอีกไม่นานก็จะกลายเป็นสีขาว และท้ายที่สุดอาจเป็นสีชมพู เมื่อนั้นก็จะถึงเวลาที่ต้องจากกัน และทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นสีหม่นมัว บางที่อาจจะกลายเป็นสีดำสนิท
...มืดสนิทจนโลกทั้งโลกของเขาไร้ซึ่งแสงสว่าง...
...สู้อย่าดีกันเลยอาจจะดีกว่า สร้างภาพชยุตม์ให้น่าชังเข้าไว้ จะได้ไม่ตกหลุมรักเขา...
...รัก...ทรมานมากนัก เขาเคยเจอมาแล้ว ทั้งของตัวเองและเห็นจากคนใกล้ตัว...
...ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ยังจำคำพูดนี้ได้เสมอ...
...เพราะฉะนั้น ห้ามรัก ห้ามเด็ดขาด...

ชยุตม์ยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาว่าใกล้ค่ำแล้ว ฝนที่ตกปรอยๆ ตลอดวันและฟ้ามืดครึ้มที่ปกคลุมขุนเขาแห่งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าวันทั้งวันเป็นเหมือนเวลาใกล้ค่ำเพียงเวลาเดียว
ท้องเริ่มหิว อากาศเริ่มหนาว ชยุตม์จึงก่อไฟเพื่อให้แสงสว่างและความอบอุ่น หลังจากนั้นจะได้ทำอาหารเย็น เขาใช้เวลาไม่นานก็ก่อไฟเสร็จ แล้วจึงเดินไปหาโชคดีที่ยังคงนั่งอยู่บนแคร่ กอดเข่ามองออกไปเบื้องหน้า
ชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่กว่าชั่วโมงแล้ว เหมือนจมอยู่ในทะเลความคิดของตัวเองจนเขารู้สึกแปลกใจ คนที่เคยคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เติมไปด้วยพลัง ไม่เคยหยุดนิ่ง ตอนนี้นั่งนิ่งเป็นรูปปั้น ทำเหมือนตัวเองอยู่คนเดียวบนโลก
"คุณโชคดีครับ เราจะทานอะไรกันดี" ชยุตม์ถามเบาๆ
โชคดียังนิ่งอยู่ ทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาถาม "ผมรู้ว่าตัวเองถามคำถามซื่อบื้ออีกแล้ว แต่อย่าเพิ่งถอนหายใจแรงๆ นะ เพราะพรุ่งนี้เช้าผมก็คงจะถามคุณอีก"
แม้ชยุตม์จะดักทาง โชคดีก็ยังถอนหายใจแรงๆ ราวกับระอาชายหนุ่มชาวกรุงคนนี้นัก "นี่คุณไม่เคยทำกับข้าวอะไรกินเลยบ้างหรือนี่" โชคดีหันหน้ามามองนายช่างใหญ่อย่างไม่เชื่อสายตา
...วิศวกรดูแลการก่อสร้างรีสอร์ท ไม่รู้อะไรสักนิดเรื่องการเอาชีวิตรอดในป่า "ถ้าไม่มีคนอื่นคุณคงอดตาย"
ชยุตม์ไม่ตอบโต้ ยังทำหน้านิ่ง มองโชคดีตาปริบๆ ปล่อยให้ชายหนุ่มบ่นจนพอใจ นั่นยิ่งทำให้โชคดีอารมณ์คุกรุ่น เพราะอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ
...เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชยุตม์ทำอะไรไม่เป็น แม้แต่เจียวไข่ เขายังไม่ได้ทดสอบเรื่องให้ชยุตม์ทำไข่ต้ม กลัวว่าสมมุติฐานที่ตั้งไว้ในใจจะกลายเป็นความจริง กลัวว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาจะทนไม่ได้ วิ่งไปกระโจนลงสายน้ำป่าเชี่ยวกรากที่กำลังถั่งโถมไหลท่วมป่าอยู่ในขณะนี้...
"แล้วมือนี้จะรับอะไรดีครับ" ...คุณหนู... โชคดีพูดต่อในใจ ยันกายลุกขึ้น เดินอย่างเซ็งๆ ไปยืนมองกองไฟ
...อย่างน้อยก็ก่อไฟเป็น...
โชคดีมองอุปกรณ์ทำกับข้าวที่ชยุตม์ขนมาวางไว้ข้างๆ กองไฟ มีทุกอย่าง ทั้งถ้วย จาน ทัพพี หม้อ กระทะ กาต้มน้ำ มีด และเขียง ทั้งๆ ที่อาหารมีเพียงไข่ไก่ไม่กี่ฟอง
...ท่าทางจะหิวจัด...โชคดีส่ายหน้า
"อะไรผมก็ทานได้"...ถ้าทานกับคุณ...ถ้าคุณทำให้ผมทาน...ชยุตม์เติมประโยคในใจ
...เลือกได้เสียเมื่อไหร่ เสนอความเห็นเข้าหน่อยก็โดนว่า แล้วยังจะมาถามอีกว่าเขาอยากทานอะไร...
"งั้นก็กินไข่เจียวเหมือนเดิมก็แล้วกันนะ พอไข่เจียวหมดถาดแล้ว เราก็ค่อยหากินผักกินหญ้าแถวนี้"
"ไข่เจียวอีกแล้วเหรอ" ชยุตม์เผลอประท้วง ติดน้ำป่ามาสองวันนี้เขาทานไข่มาหลายมื้อแล้ว
ได้เรื่อง โชคดีหันขวับ ทำเสียงเข้ม "ถ้าไม่กินไข่เจียว แล้วคุณจะกินอะไร...ไข่ต้มหรือไง"
ชยุตม์ไม่พูดเพราะไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดอีก เขาเดินอ้อมไปอีกทาง หยิบไข่ออกมาวางสี่ฟอง
"สองฟองก็พอ...ประหยัด นี่ไม่รู้ว่าจะติดน้ำป่าไปอีกกี่วัน" โชคดีหยิบไข่สองฟองกลับคืน
ชยุตม์เงยหน้าขึ้น ประท้วงด้วยสายตา ราวกับจะบอกว่า ไม่ไหวแล้วนะ ทานข้าวไม่เคยจะอิ่ม มื้อนี้ขอพิเศษด้วยเถอะ...
โชคดีรู้สึกหมั่นใส้ขึ้นมาทันใด
...ลูกคนรวย ขนาดติดน้ำป่าอยู่บนภูเขายังไม่รู้จักอด สงสัยที่บ้านกินทิ้งกินขว้างเสียจนชิน ถึงเวลา คนรับใช้ก็คงจัดเตรียมสำรับกับข้าววางไว้บนโต๊ะ นั่งทานจนอิ่ม แล้วก็ลุกเดินหนีไป พอจะทำไข่เจียวให้กินก็โวยวาย...
...เอาล่ะ เมื่อสักครู่ที่คิดไว้ว่าไม่อยากจะรู้ว่าชยุตม์ต้มไข่เป็นเหรือเปล่า ตอนนี้ขอเปลี่ยนใจ เวลามีเหลือตั้งเยอะ ไม่มีอะไรทำ ขอทดสอบดูเสียหน่อยเถอะ...
ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้น เดินกลับไปนั่งที่แคร่ ปล่อยให้ชยุตม์เงยหน้าขึ้นมามองตามอย่างงงๆ
"ผมทำอะไรผิดหรือคุณโชคดี ทีนี้อะไรอีกล่ะ" ชยุตม์ทำหน้าผะอืดผะอม หากเขาเป็นสาวน้อยก็คงน้ำตาซึมไปแล้ว...
...โชคดีเริ่มสนุก ได้เล่นสงครามประสาทกับชยุตม์...
"ถ้าไม่อยากกินไข่เจียว คุณก็ต้มไข่กินเองก็แล้วกัน ผมทำกับข้าวให้กินมาหลายมื้อแล้ว คุณก็คงเบื่อฝีมือผม"
คราวนี้เป็นชยุตม์ที่ถอนหายใจแรงๆ หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เขาหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับโชคดีแล้ว ตอนนี้หิวข้าวเป็นที่สุด อยู่เฉยๆ โชคดีก็เปลี่ยนใจไม่ยอมทำกับข้าว...
...เอาวะ...ต้มไข่จะยากแค่ไหนเชียว แค่เอาน้ำใส่ เอาไข่ลง แล้วรอให้สุก...
...เอ...แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ไข่ถึงจะสุก...
ขณะที่วิศวกรหนุ่มผู้เคยสร้างแต่ตึกขนาดใหญ่กำลังก้มหน้าก้มตาพยายามต้มไข่อยู่นั่น พ่อครัวตัวดีก็อดเดินเข้ามาดูไม่ได้ ก่อนจะโวยวายว่า "บอกแล้วไง แค่สองฟอง"
ชยุตม์ชะงัก มือที่กำลังหย่อนไข่ฟองที่สามลงหม้อที่มีน้ำเต็มหดกลับ
"คุณโชคดีครับ ขอมื้อนี้ซักมื้อเถอะ ผมหิวมาก กลางวันผมก็ทานไม่อิ่ม" ชยุตม์ทำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง มือกำไข่ฟองที่สามในมือแน่น ไม่ยอมวาง เหมือนตั้งใจจะปกป้องเต็มที่ราวกับเป็นสิ่งที่ประเมินค่ามิได้ และจะไม่ยอมให้โชคดีมาแย่งไปเด็ดขาด
โชคดีอ่อนใจ ไม่ต้องรอให้ชยุตม์ต้นไข่จนเสร็จเขาก็รู้ว่าท่าทางสมมุติฐานของเขาจะเป็นจริง
...ชยุตม์ทำไข่ต้มไม่เป็น!...
"ใส่น้ำจะทำต้มย้ำกุ้งฉลองติดเกาะหรือไง ไข่แค่สามฟอง เปลืองน้ำ แล้วเมื่อไหร่จะได้กินครับคุณวิศวกร" โชคดีบ่น คราวนี้อดไม่ได้จริงๆ
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ชยุตม์รู้สึกอยากจะเอื้อมมือไปบีบคอของโชคดี ทั้งที่เขารู้สึกว่าชายหนุ่มเป็นคนที่สร้างสีสันสารพัดสีให้ชีวิตเขา ทำให้ชีวิตที่เคยราบเรียบของเขามีหลากหลายรสชาติ แต่ตอนนี้ อยากจะบีบคอโชคดีจริงๆ
เกือบสองเดือนที่จากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่น่าน เขารู้สึกเหมือนกับได้ใช้ชีวิตเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เท่ากับที่ได้เรียนรู้มาถึงสองปี
"คุณไปนั่งคอยที่แคร่ดีกว่า เดี๋ยวไข่ไม่สุก" โขคดีไล่ ชยุตม์ไม่อุทธรณ์ หันหลังกลับเดินไปที่แคร่โดยง่ายตามที่ถูกสั่ง ทั้งที่ใจอยากจะทักท้วงว่า สิ่งที่โชคดีพูดนั้นไม่เห็นจะเข้าใจสักนิด

ชยุตน์เอนตัวนอนลงบนแคร่เพื่อรออาหารเย็นมื้อพิเศษ สายตาเหม่อมองออกไปนอกชายคาของกระท่อมเล็กๆ บนเนินเขาที่เขาอยู่ร่วมกันโชคดีมาได้สองวันแล้ว เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่รู้ได้ เพราะไม่นานหลังจากเอนตัวลงนอนเล่น ชยุตม์ก็หลับไหลไม่รู้เรื่องราว ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นโชยมาแตะจมูก
...ไข่ต้มเสร็จแล้วหรือ ไข่ต้มทำไมหอมอย่างนี้...
วิศวกรหนุ่มผู้หิวโหยรีบผลุดลุกนั่ง มองไปยังชายหนุ่มที่ตกระกำลำบากด้วยกันกำลังนั่งทานข้าวอยู่อย่างอร่อย
ชยุตม์ฉุนที่โดนแกล้ง โชคดีรู้ว่าเขาหิวข้าวมาก ทำอาหารเสร็จแล้วแต่ไม่ยอมปลุกให้ลุกขึ้นมากิน
ในมือของชายหนุ่มเป็นจานข้าวผัดน่าอร่อย กลิ่นหอมฉุย
คาดว่าโชคดีน่าจะรู้ตัวแล้วว่าเขาเดินเข้ามาใกล้แล้ว หากชายหนุ่มเพิ่งจะเงยหน้าขึ้น เลิกคิ้ว ทำเสมือนว่าเพิ่งจะรับรู้ว่าเขามาหยุดยืนตรงหน้า
"อ้าว ตื่นแล้วหรือครับ" โชคดีทำหน้าเฉย แล้วก้มหน้าทานข้าวผัดต่อ ชยุตม์ไม่ตอบ นั่งลงเงียบๆ ตรงข้ามคนใจร้าย หยิบจานและช้อนตักข้าวผัดในกระทะ เหลือบตาไปมองเห็นไข่เหลืออยู่ในถาดหวายที่วางอยู่ใกล้ๆ กับหม้อและกาน้ำ
...ยังไงๆ โชคดีก็ชนะ นับจำนวนไข่ที่เหลือ หักลบกันแล้วมีไข่ประกอบอาหารมื้อนี้เพียงสองฟองอย่างที่โชคดี 'สั่ง' ในตอนแรก...
"อร่อยไหมครับ" โชคดีถาม แต่วิศวกรหนุ่มยังคงทานข้าวต่อเงียบๆ "ถ้าไม่อร่อย พรุ่งนี้เช้าจะทำโจ๊กไข่ให้ทาน จะได้กินคล่อง อาหารนิ่มๆ ลื่นๆ จะได้ไม่ติดคอ"
ชยุตม์มองชายหนุ่มด้วยหางตา รู้ว่าโชคดีจงใจกระทบกระเทียบและยั่วโมโหเขา
"แต่ถ้าคุณอยากกินเนื้อ เราก็คงต้องออกไปยิงนกตกปลา" โชคดียกน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะตักข้าวเข้าปากแล้วพูดต่อทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวอยู่ "ไม่รู้ว่าคุณทำเป็นหรือเปล่า"
"ผมขอทานไข่ดีกว่า อร่อยดี" ชยุตม์พูดเสียงเบา ใบหน้านิ่งเรียบ "เมนูไข่ที่อร่อยที่สุดในโลก เท่าที่ผมเคยทานมา"
...ชยุตม์หมายความอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้คิดจะประชดแต่อย่างใด เวลาที่หิวจนท้องกิ่ว อาหารง่ายๆ แบบนี้อร่อยมาก ไม่เคยนึกเลยว่าเพียงไข่เจียว ไข่น้ำ หรือไข่ตุ๋น จะอร่อยขนาดนี้ เพียงแต่ว่าทานติดต่อกันหกมื้ออาจทำให้เขารู้สึกผะอือผะอมไปสักนิด
มือของโชคดีที่ยกช้อนตักข้าวเข้าปากชะงัก เข้าใจว่าชยุตม์ประชด "คงสู้อาหารฝรั่งในร้านหรูๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ได้หรอก เชฟมือหนึ่งจากต่างประเทศ มื้อละพันสองพัน"
"สี่ห้าพันครับ ถ้าหรูและเชฟจากต่างประเทศ ทานสองคนต้องสี่ห้าพัน" ชยุตม์แก้ให้ถูก "แต่ทานกับคุณ ไม่ต้องเสียเงินซักบาทเดียว อร่อยพอๆ กัน" วิศกรหนุ่มพูดเนิบๆ แล้วหันหน้ามามองเชฟบ้านป่าที่ทันใดก็หันหน้าหนีไปมองสายฝนที่กำลังโปรยปราย ละอองฝนบางเบาพัดปลิวเข้ามาใต้ชายหน้าหน้ากระท่อม จับอยู่ที่ใบหน้าของชายหนุ่มหน้าคม
ชยุตม์มองคนข้างๆ นิ่งอยู่ชั่วครู่ ในใจอยากวางจานลง แล้วเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้โชคดี เมื่ออาหารตกถึงท้อง ความหิวเริ่มจาง อารมณ์ก็สดชื่นขึ้น
"กินเสร็จ คุณล้างจานนะ" โชคดีสั่ง "ล้างให้สะอาดๆ"
"ครับ" วิศวกรรับคำสั้นๆ "สะอาดแน่ น้ำอุดมสมบูรณ์แบบนี้ เวลาก็มีเยอะ ผมจะล้างแล้วล้างอีก ถูแล้วถูอีกจนสีเคลือบจานถลอกเลยทีเดียว"
โชคดีเบือนหน้าออกไปด้านข้าง ซ่อนใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆ อดขันไม่ได้กับมุขตลกของชยุตม์
...เป็นเขา ก็คงจะพูดอะไรทำนองนี้ เวลามีเยอะเหลือเกิน นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ มากว่าสองวันแล้ว รู้อย่างนี้ขนหนังสือมาอ่านด้วยเสียก็ดี...
****************end of chapter 11*************
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 06-05-2009 11:34:57
เมื่อไหร่จะได้เห็นกระท่อมสั่นน้อออ :laugh:

สองคนนี้ทะเลาะกันมันดี o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-05-2009 12:50:25
 :m1:ดีที่มีไข่อยู่นะ ไม่งั้นละก็ตีกันตายไม๊คู่นี้ ทะเลาะกันเรื่องไข่ก็ยังดีนะ
เพี้ยงอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ตกหลุมรักกัน ก็เอาไม้ตีหัวกันแน่ๆ แต่ละคนกวนประสาทใช่ย่อย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 06-05-2009 14:21:55
นั้นแหน่.... โชคดีรู้สึกกำลังต่อสู้กับตัวเองมากไปป่าวเนี่ย
เหนื่อยบ้างก็ดีนะครับ  :laugh:
แต่ชยุตม์ ตึกร้อยล้านก็สร้างมาแล้ว ไงต้มไข่ยังมีปัญหานะเนี่ย
เหนื่อยแทนนะครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 06-05-2009 15:00:02
เฮ้อออออออ ประชดกันเข้าไปประชดได้ประชดดี
หนุ่มเมืองกรุงก็นะความอดทนสูงมากๆหิวจนตาลาย
แถมยังมีคนมาพูดจากวนประสาทก็ต้องทนไปนะ
ออกแนวโดนหมูปิ้งรังแกด้วยคำพูด แต่ยังมีข้าว
ให้กินก็โออยู่ชิมิ
ส่วนหมูปิ้ง โดนรุกแบบโจ่งแจ้งก็ยังคงทนทำสีหน้านิ่งๆได้
หึหึ อย่าพลาดมาล่ะกัน จะให้ชยุตม์จับปล้ำซะให้เข็ด

+1 สำหรับเชฟปากร้ายใจดี
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-05-2009 19:33:46
น้ำป่าพารักมาสุดริด
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 06-05-2009 20:21:23
งานเข้านายช่างชยุตม์ เจ้าซ่งต้องเป็นกาคาบข่าวไปบอกโชคดีแน่นอนว่า
นายช่างของเราเป็นลูก ม.ท.1 ตายแน่ ๆ งานนี้ อะไร ๆ ยังไม่ทันจะดีราบรื่น
เจองานใหม่ งานช้างเข้ามาอีก ไม่อยากคิด เครียด ..... :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 06-05-2009 21:04:02
แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกันอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 06-05-2009 23:11:25
ที่หมูปิ้งทำร้ายๆ ใส่ชยุตม์บ่อยๆ ที่แท้ก็กลัวจะเผลอใจรักนิเอง

มาจิ้ม+ ช่วยคนแต่งสะสมคะแนนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 07-05-2009 00:22:19
ตามมาอ่าน สนุกเหลือหลาย เมื่อไหร่หมูปิ้งจะหมดฤทธิ์นะเนี่ยย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 07-05-2009 07:57:13
ติดใจเรื่องนี้งอมแงม จนไม่อยากไปอ่านเรื่องคดีรัก แล้วซิ ทำไงดี

กลัวคนแต่งน้อยใจ

+1 แทนคำขอบคุณ และขอให้ได้ ม สระเอีย เร็วๆ แล้วกัน

ปล. กลัวจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพหมูปิ้ง คือคุณ Katawoot แล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 07-05-2009 09:54:55
ดันรอๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-05-2009 11:46:46
ติดใจเรื่องนี้งอมแงม จนไม่อยากไปอ่านเรื่องคดีรัก แล้วซิ ทำไงดี กลัวคนแต่งน้อยใจ +1 แทนคำขอบคุณ และขอให้ได้ ม สระเอีย เร็วๆ แล้วกัน ปล. กลัวจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพหมูปิ้ง คือคุณ Katawoot แล้วล่ะ

 :z1:  :-[  :o8:  :pigha2:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:   :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:
ไม่มีอะไรจะพูด  :z1:  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-05-2009 11:51:14
บทที่ 12

เมื่อดูรถที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันลากขึ้นมาจากน้ำแล้วปฐพีค่อนข้างมั่นใจว่าโชคดีกับชยุตม์คงไม่เป็นอะไร เขาหันไปปลอบทรงศักดิ์ที่ยืนพร่ำรำพันอยู่ข้างๆ บอกให้ชายหนุ่มใจเย็นๆ
“ผู้กองรู้ได้ยังไงว่าหมูปิ้งไม่เป็นอะไร” ทรงศักดิ์ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องให้
“รถอยู่เกียร์ว่าง ดึงเบรกมือ ล้อหลังยากแตก ผมคิดว่าโชคดีทิ้งรถ” ปฐพีอธิบายสั้นๆ ทรงศักดิ์ยังมีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่นายตำรวจหนุ่มไม่อธิบายต่อ หันไปคุยกับพงษ์ แล้วโทรศัพท์ไปรายงานคุณเตือนใจกับคุณพ่อของชยุตม์
“น้าพงษ์ คืนนี้เราลุยค้นหากันต่อนะครับ โชคดีหายไปสองคืนแล้ว ป่านนี้คงหิวจนตาลาย” ทรงศักดิ์หันไปคุยกับผู้ช่วยคนสนิทของโชคดี
“ผมว่าอย่าเลยครับ ไม่สะดวก รอจนพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”
“แล้วโชคดีจะทำยังไงล่ะ”
“คุณโชคดีคงหาอะไรกินประทังชีวิตได้ครับ แค่สามวันเอง” พงษ์ตอบ แล้วเบือนหน้าไปยิ้มขันๆ เมื่อเห็นท่าทางห่วงใยเกินเหตุของทรงศักดิ์
“โอ๊ย จะบ้าตาย ทำไมเป็นแบบนี้” ทรงศักดิ์บ่น “หมูปิ้ง จะกินจะนอนยังไง ซ่งเป็นห่วงเหลือเกิน”
ทรงศักดิ์ถอนหายใจแรงๆ ปากก็ยังบ่นพึมพำอยู่คนเดียว เขารู้สึกห่วงโชคดีจนอยากจะกระโจนขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วสั่งให้พระอาทิตย์ยือเวลาส่องแสงให้นานขึ้นเป็นพิเศษ ไล่ความมืดออกไปให้สิ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องหยุดตามหาโชคดี
...เป็นห่วงโชคดีของเขาเหลือเกิน ทั้งห่วงทั้งหวง หากโชคดีหายไปคนเดียวเขาก็คงไม่ร้อนใจขนาดนี้ แต่นี่ หายไปกับชยุตม์ คนที่เขามั่นใจว่ากำลังเริ่มชอบพอโชคดีเข้าให้แล้ว...
...ไปตกระกำลำบากด้วยกัน ก็อาจเห็นใจกัน ในละครทีวี คู่ไหนคู่นั้น ลองได้ไปติดฝนในกระท่อมด้วยกันเป็นรักกันทุกคู่...
...โอ๊ย หึงจริงๆ ให้ตายสิ...

โชคดีหันหน้าเข้าผนัง พยายามไม่มองชยุตม์ที่ยืนเช็ดตัวอยู่อย่างช้าๆ ฝ่ายนั้นทำเหมือนจงใจเปิดเผยเนื้อตัว ตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ ชยุตม์ก็เดินไปเดินมาในห้อง ยังไม่ยอมแต่งตัวเสียที ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันกายท่อนล่างอยู่ทำท่าจะหลุดเสียให้ได้
“คุณโชคดีครับ มีแป้งหรือเปล่า ผมคันไปทั้งตัวอยู่แล้ว” ชยุตม์แกล้งถาม ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีแป้งฝุ่น โชคดีหลบตาเขาตั้งนานแล้ว
...ทำเป็นเขิน จะอายอะไรกันเชียว แค่เห็นผู้ชายเกลือบเปลือยก็ทำหน้าแดง นิ่งเงียบเหมือนหุ่น...
...เอ๊ะ นี่หรืออาจจะเป็นจุดอ่อนของโชคดี ลองทำเป็นผ้าเช็ดตัวหลุดดีไหมเนี่ย...
“มีเงินก็ไปซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสิ ลุยน้ำป่าไปคืนนึงก็คงถึง” โชคดีตอบเสียงห้วน
“ผมคันไปทั้งตัวแล้ว ข้างหลังคงเป็นผื่นแดงไปหมด ช่วยดูให้หน่อยสิครับ” ชยุตม์นึกสนุก เดินเข้ามาใกล้
“อดทนบ้างสินายช่าง” โชคดียังไม่สนใจ ก้มหน้าหยิบสิ่งของรอบกายวางให้เข้าที่ ทำเหมือนกำลังยุ่ง
“โดนอะไรกัดก็ไม่รู้ โอย” ชยุตม์บ่นพึมพำ “คืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ เลย”
...ก็เห็นหลับทุกที นอนกลางวันก็หลับ นอนกลางคืนก็หลับ คนอะไร เกิดมากินกับนอนแท้ๆ เชียว...
“เสื้อมันไม่สะอาดก็คันเป็นธรรมดา ตอนนี้เสื้อแห้งแล้วไม่ใช่หรือ พอใส่เสื้อตัวเองก็คงสบายขึ้น”
“กางเกงยังหมาดๆ อยู่เลยครับ” ชยุตม์พูดเสียงเซ็งๆ “สงสัยคืนนี้ต้องถอดกางเกงนอน”
“จะบ้าหรือ เปลือยกายนอนได้ยังไง” โชคดีโวยวาย หันขวับมามองชยุตม์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ อวดแผงอกกว้างแกร่ง หน้าท้องแบนเรียบ กายท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัวไว้หลวมๆ
“ใครบอก ผมจะนุ่งผ้าเช็ดตัวนอน”ชยุตม์ยิ้มพราวระยับ รู้สึกขำที่โชคดีรีบหันหน้าหนี
“ผ้าเช็ดตัวก็หลุดลุ่ยพอดี” โชคดีเตือนเสียงเบา
“หลุดก็คว้ามานุ่งใหม่ได้” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม “ผมใส่เสื้อผ้าไม่ได้หรอก คันยิบๆ ไปทั้งตัวแบบนี้ ทรมานที่สุดเลยรู้ไหม เกาก็ไม่ถึง คุณช่วยเกาหลังให้ผมหน่อยสิ”
“เกาเองสิ”
“บอกแล้วไงว่าเกาไม่ถึง แขนผมไม่ยาวขนาดนั้น ช่วยเกาให้หน่อยก็ไม่ได้ เกลียดกันนักหนาขนาดช่วยอะไรกันไม่ได้เลยหรือ” ชยุตม์ทำเสียงน้อยใจ
“น้อยๆ หน่อยนะคุณชยุตม์” โชคดีเสียงเข้ม “แล้วเลิกร่ำไรเรื่องเกลียดหน้ากันได้แล้ว ใครไปเกลียดอะไรคุณ”
“อ้าว ผมนึกว่าคุณเกลียดผมไม่ใช่หรือ” ชยุตม์โน้มตัวลงมาใกล้ “ถ้าไม่ได้เกลียด งั้นคุณก็...”
ใบหน้าของชยุตม์อยู่ใกล้เพียงไม่กี่คืบ กลิ่นสบู่จางๆ หอมกรุ่น ลมหายใจอุ่นๆ กระทบแก้ม โชคดีรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ตอนนี้แน่ใจแล้วว่าชยุตม์กำลังแกล้งล้อเลียนเขา
...ใจเต้นตึกตัก ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย...
“หันหลังมา” โชคดีหันหน้าไปบอกชยุตม์เบาๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง พยายามสบตาชยุตม์อย่างไม่สะทกสะท้าน ดังจะบอกให้วิศวกรหนุ่มรู้ว่า...เห็นไหมล่ะ ผมไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับเสน่ห์ของคุณเลย ไม่ต้องมาแกล้งทำยั่วยวนกันหรอก...
ชยุตม์ยืดตัวขึ้น หันหลังให้โชคดีช้าๆ
...แผ่นหลังของชยุตม์กว้างมาก ผิวใต้ร่มผ้าขาวเนียน แต่กลางแผ่นหลังเป็นผื่นแดง มองลงมาเบื้องล่าง เห็นต้นขากำยำล่ำสั่น ปลีน่องแน่น ไรขนลู่ไปกับผิวเนื้อเพราะขายังเปียกอยู่...
...คันนักใช่ไหม มาสิ จะช่วยเกา...
“โอ๊ยย....” ชยุตม์ร้องเสียงดัง เมื่อคนที่เขาขอให้ช่วยเกาหลังลงมือเกาอย่างเต็มแรง
“ร้องทำไม” โชคดีถามเสียงห้วน
“เจ็บ”
“แล้วทำไมไม่เกาเอง”
“ไม่เอาแล้ว ผมเกาเองก็ได้” ชยุตม์ขยับตัวออกห่าง แต่ไม่ทันมือของโชคดีที่ “ช่วย” เกาอีกครั้ง
“คุณหมูปิ้ง จะฆ่ากันหรือไง”
“ใครบอกให้เรียกชื่อเล่นผม” โชคดีคำราม ลุกขึ้นจะเอาเรื่อง ชยุตม์ผละออกไปยืนอยู่กลางห้อง หันหน้ามาตั้งหลัก เผชิญหน้ากับโชคดีที่ทำท่าเหมือนจะกระโดดเข้าจัดการเขา
“อย่านะครับ เดี๋ยวผ้าเช็ดตัวหลุด ผมไม่อยากโป๊” ชยุตม์ห้าม แต่ในใจไม่ได้รู้สึนหวั่นวิตกอย่างที่พูดเลยแม้แต่น้อย
...ดีสิ เปลือยกายซะเลย จะได้ลองนัวเนียกันซักหน่อย เบื่อมาสองวันสองคืนเต็มๆ แล้ว มีอะไรสนุกๆ ทำซะบ้างก็ดี...
“แล้วเมื่อไหร่จะใส่เสื้อผ้าซะที คุณนี่เล่นเป็นเด็ก” โชคดีกระชากเสียง “แล้วห้ามเรียกชื่อเล่นผมเด็ดขาด ชื่อนี้เฉพาะคนสนิทกันเท่านั้น”
“ใครล่ะครับ ใครเรียกคุณว่าหมูปิ้งได้บ้าง ใครที่สนิทกันขนาดนั้น คุณซ่ง หรือผู้กองปฐพี” ชยุตม์ถามด้วยใบหน้านิ่งๆ จงใจ “สะกิด” ต่อมโมโหของโชคดี
...กระโจนเข้ามาเลยสิโชคดี มาประชิดตัวผมเลย มาลองสัมผัสอกกำยำของผมดูบ้าง ผมจะแกล้งถอยหลังล้มลงกับพื้น แล้วดึงตัวคุณลงมาด้วย...
“ใครก็ช่าง ไม่ใช่คุณก็แล้วกัน” โชคดีตอบเสียงห้วน แล้วเดินไปที่ประตู เปิดประตูออกไปนอกห้อง ทิ้งให้ชยุตม์ยืนอยู่กลางห้องด้วยความผิดหวัง
...ผิดหวังที่โชคดีตัดเยื่อใยต่อเขา ซึ่งตอนนี้เขาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าโชคดีคงพอจะมองออกว่าเขาเริ่มชอบตัวเองเข้าให้แล้ว
...ผิดหวังที่ชายหนุ่มไม่กระโจนเข้ามาทำร้ายเขา เพื่อจะได้แกล้งทำเป็นป้องกันตัวแบบถึงเนื้อถึงตัว
...เขาชอบโชคดีเข้าไปแล้วจริงๆ หรือเนี่ย ต่อนี้ไปจะทำยังไงดีล่ะ เรื่องมันคงต้องยุ่งกว่านี้แน่เลย...

เช้าวันใหม่สดชื่นเช่นเคยเพราะฝนตกหลอดทั้งคืน ส่วนโชคดีก็ตื่นตั้งแต่เช้าและหายหน้าไปอีกเหมือนเช่นทุกเช้า ชยุตม์เดินออกมาบิดขี้เกียจอยู่หน้าประตู มองซ้ายมองขวาชื่นชมธรรมชาติ
...ธรรมชาติดูน่ากลัวในบางครั้ง แต่เมื่อพายุสงบ ก็ช่างสวยงามเหลือเกิน...
วิศกรหนุ่มผู้คุ้นเคยแต่การอยู่ในเมืองใหญ่เดินสูดอากาศหน้าศูนย์วิจัยพันธ์พืชที่เขากับโชคดีใช้เป็นที่หลบฝนและหลับนอนมาเป็นเวลาสามคืนแล้ว รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน คืนที่ผ่านมา เขานอนหลับอย่างมีความสุข หลังจากได้หยอกล้อโชคดีอีกรอบหนึ่งก่อนนอน
โชคดีหายออกไปยืนอยู่หน้า “กระท่อมเชิงดอย” อยู่เป็นนานสองนาน เขาสวมเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปคุยด้วย แต่โชคดีไม่ยอมพูดจา เขาจึงกลายเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว เล่าเรื่องการสร้างตึกสูงในเมืองต่างๆ ทั่วโลกที่เขาได้ไปอยู่มา ลงท้ายด้วยการพูดถึงรีสอร์ท The Riverbend ที่โชคดีเกลียดนักหนา
“ช่างคุณ จะสร้างอะไรก็สร้าง ผมจะเลิกสนใจแล้ว คนจะรักธรรมชาติหรือไม่รัก มันบังคับกันไม่ได้หรอก ของแบบนี้มันฝังอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมคงคิดผิด ที่ไปเย้วๆ ต่อต้านรีสอร์ทของคุณ ถ้าคุณรักธรรมชาติจริงๆ คุณก็คงไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ แต่ถึงแม้เราจะต่อต้านและหยุดยั้งคุณไว้ได้ หากพวกคุณยังดันทุรัง ก็ต้องแอบทำ ฝืนทำจนได้ เสียงเล็กๆ ของคนเมืองที่ห่วงใยถิ่นที่อยู่ของตน ไหนเลยจะสู้พลังเงินหนาๆ ของนายทุนได้” ในที่สุดโชคดีก็พูดขึ้นเสียยืดยาว ต่างจากทุกครั้งที่พูดกับชยุตม์สั้นๆ ห้วนๆ เมื่อพูดเสร็จ ก็หันกลับเดินไปที่ประตู
“ไม่ใช่รีสอร์ทของผม” ชยุตม์พูดเสียงเบา “แต่ถึงไม่ใช่ ผมก็จะสร้างให้ดีที่สุด คุณเป็นคนฉลาด จนป่านนี้ คุณน่าจะพอมองออกว่าผมเป็นคนยังไง”
“ถ้าไม่ดี ชาตินี้ไม่ต้องมาคุยกันอีก” โชคดีขู่เสียงเบา แล้วเปิดประตูเข้านอน
...นี่เป็นการตกลงกันแบบแปลกๆ ระหว่างเขากับโชคดีหรืออย่างไร เป็นการเจรจาสงบศึกการต่อต้านการสร้างรีสอร์ทในสไตล์ของโชคดีกระนั้นหรือ แต่เขารู้ว่า โชคดีอ่อนลงให้เขาเยอะ แม้จะขู่เอาไว้ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าโชคดีประนีประนอมมากขึ้นกว่าเดิม...
...ดูๆ ไป โชคดีก็ไม่ได้ร้ายเท่าไหร่หรอก หากลดความใจร้อนและคำพูดเจ็บๆ แสบๆ ลงเสียหน่อย โชคดีก็ดูน่ารักได้เหมือนกัน...
...อืม...แม้จะร้ายๆ แบบนี้ เขาก็ยังคิดว่าโชคดีน่ารักอยู่ไม่น้อย...
...แต่ว่า เดินหน้าบึ้งมาโน่นแล้ว ทำไมล่ะทีนี้...

“เราต้องไปแล้ว น้ำเริ่มลด บางทีอาจจะหาทางกลับได้” โชคดีพูดสั้นๆ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ “คุณไปก่อไฟนะ ผมจะทำอาหารเอาไว้เป็นเสบียงตอนเดินทาง”
“เราไม่รออยู่ที่นี่ให้คนมาช่วยหรือครับ หรือไม่ก็รออีกซักวันให้น้ำมันลดลงมากกว่านี้ จะได้แน่ใจว่าเราจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง”
...พ่อเขาคงรู้แล้วล่ะว่าเขาหายไป แล้วตอนนี้ก็คงระดมคนออกตามหากันอยู่ ผู้กองปฐพีก็คงไม่อยู่เฉยๆ ลูกน้องโชคดีก็เยอะ ไม่นานก็คงได้รับการช่วยเหลือ...
...อยากจะอยู่กับโชคดีสองต่อสองใน “กระท่อมปลายดอย” ต่ออีกซักคืน...
“อาหารจะหมดแล้ว”
“เหลือปลากระป๋องอีกตั้งสองกระป๋อง ไข่อีกสองฟอง ทำข้าวต้มทานกันทุกมื้อก็ได้ ผมจะทานน้อยลง ถือว่าเป็นการลดน้ำหนักไปในตัว” ชยุตม์พูดยิ้มๆ
“ผมไม่อยากลดน้ำหนักกับคุณหรอก” โชคดีเบ้ปาก แล้วเดินตรงไปที่อาคารศูนย์ฯ
“อยู่นี่ก็สบายดีเหมือนกันนะ ถือว่าเป็นการพักผ่อน”
โชคดีหันมามองชยุตม์ราวเป็นตัวประหลาด หรี่ตาลงช้าๆ แล้วพูดเสียงเรียบว่า “เสียเวลาทำมาหากิน ผมจะกลับไปขายเหล็ก ไม่ได้มาพักผ่อนที่รีสอร์ทบนดอยนะ”
“ไม่อยากอยู่ต่อกับผมงั้นสิ” ชยุตม์พูดยิ้มๆ
...กลัวโดนปล้ำหรือไง สงสัยเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้โชคดีขวัญเสีย...
โชคดีกระพริบตาช้าๆ เบือนหน้าหนี แล้วถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเดินหนีชยุตม์ไปเตรียมก่อไฟ
วิศวกรหนุ่มหัวเราะเบาๆ รู้สึกขันที่เห็นโชคดีค้อน แล้วเดินตามชายหนุ่มไปแย่งก่อไฟ โชคดีไม่ขัด ผละไปหยิบกระทะกับไข่ที่เหลือมาทำอาหาร แบ่งส่วนหนึ่งใว้เพื่อเป็นเสบียง และส่วนที่เหลือก็ตักแบ่งเป็นสองจาน จานหนึ่งยื่นให้ชยุตม์ อีกจานหนึ่งถือไปนั่งทานเงียบๆ ที่ขอนไม้หน้ากระท่อม
“นั่งทานด้วยสิครับ” ชยุตม์ตามมา “ทำไมชอบเดินหนีกันนักนะ”
“ผมอยากกินคนเดียว”
“แต่ผมไม่อยากทานคนเดียว” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม “ทานด้วยกัน อร่อยกว่าเป็นไหนๆ”
...อย่ามาจีบกันแบบนี้นะ ชยุตม์นี่เป็นอะไร ยิ่งนานไปยิ่งทำอะไรแปลกๆ...
ชยุตม์ตักข้าวใส่ปาก ทอดสายตามองใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่นั่งขมวดคิ้วทานอาหารช้าๆ อยู่ตรงหน้า
...จะจีบแล้วนะคุณหมูปิ้ง ระวังตัวให้ดี...

คุณเตือนใจเดินทางมากับร้อยตำรวจเอกปฐพี วันนี้เธอขอมาตามหาลูกชายสุดที่รักด้วยคน มิไยที่นายตำรวจหนุ่มจะห้ามไว้ แต่คุณเตือนใจก็ไม่ยอม
ทีมค้นหามีสองกลุ่ม ทีมแรกนำโดยปฐพีและพงษ์ มีทรงศักดิ์คอยช่วยเหลืออย่างแข็งขัน อีกทีมหนึ่ง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเป็นคนนำเอง มีลูกชายคนรองตามมาช่วย
รถแลนด์ครูซเซอร์สีดำสนิทเพิ่งเข้าจอดใต้ต้นไม้ใหญ่หลังจากไปรับคุณหญิงเพียงฤดี ภรรยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และชยานนท์ ลูกชายคนรอง สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศไทย ปฐพีหันไปยิ้มให้คุณพ่อของเขาที่ลงจากรถ เดินนำภรรยาท่านรัฐมนตรีฯ กับลูกชายมาที่จุดที่จอดเรือท้องแบน ท่านรัฐมนตรีอยู่ในเรือแล้ว กำลังพร้อมจะออกเรือ แต่ก็ต้องกลับขึ้นมาบนบกอีกครั้ง พลางบ่นอุบอิบว่าคุณหญิงจะมาด้วยทำไมก็ไม่รู้
“ก็ดิฉันเป็นห่วงลูก” คุณหญิงเพียงฤดีให้เหตุผล “วันนี้ต้องเจอลูกนะคะท่าน ถ้าไม่เจอ ดิฉันก็ยังไม่กลับกรุงเทพฯ”
“เจออยู่แล้วน่า คุณหญิงคอยอยู่ที่นี่ ได้ข่าวยังไงจะรีบโทรไปบอก” ม.ท. 1 ตอบ
“ดิฉันขอไปด้วยนะคะท่าน”
“ไม่ได้หรอก มันอันตราย อย่าให้ผมต้องเป็นห่วงไปอีกคน คุณเตือนใจแม่ของคุณโชคดียังรออยู่ที่นี่เหมือนกันเลย” ท่านรัฐมนตรีตอบ แล้วหันซ้ายหันขวา มองหาคุณเตือนใจ ด้วยหวังว่าจะให้เป็นเพื่อนภรรยา ชวนกันรออยู่ที่บนฝั่ง
“คุณเตือนใจอยู่ในเรือแล้วครับท่าน” ปฐพีพูดเสียงเบา หันหน้าไปยังเรือของพงษ์ที่กำลังเตรียมพร้อม
“อ้าว” ม.ท. 1 ทำหน้าเหรอหรา
“ดิฉันเป็นห่วงลูก นนท์ บอกพ่อสิลูก ว่าแม่ฝันถึงน้องยังไง ถ้าแม่ไปด้วย พ่อต้องโชคดีหายุตม์เจอ” คุณหญิงเพียงฤดีหันไปสะกิดลูกชาย
ชยานนท์สะดุ้งเพราะไม่ได้ฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน สายตาเขากำลังแอบมองใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ บิดาของเขา สายตาพึงใจของชยานนท์ปิดบิดาไม่ได้ ผู้เป็นพ่อหันมามองลูกชายแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
“นนท์ บอกแม่เขาไปสิลูกว่า ให้ผู้ชายเขาไปทำงานกันเถอะ ผู้หญิงไปนั่งคอยสบายๆ ไม่ต้องมาลำบากหรอก ผู้กองครับ ไปกันหรือยัง เดี๋ยวจะช้า” ม.ท. 1 ตัดบท
“คุณแม่ครับ เชื่อคุณพ่อเถอะ รออยู่นี่ ผมรู้ว่าคุณแม่ห่วงยุตม์ แต่ว่าเราต้องหาน้องเจอแน่ ถ้าคุณแม่ไปด้วย คุณพ่อก็จะต้องห่วงเพิ่มอีกคน ยิ่งค้นหาได้ช้า”
“อ้าวออกเรือ” ท่านรัฐมนตรีฯ ใจร้อน
“คุณพ่อครับ รอด้วยสิ” ชยานนท์หันไปร้องเรียกบิดา เมื่อเห็นว่าเรือลำที่เขา “หมายตา” เอาไว้กำลังจะเคลื่อนออกจากฝั่ง
“แกไปลำโน้น” ท่านรัฐมนตรีฯ พูดสั้นๆ แล้วหันมาโบกมือให้ภรรยาที่จำต้องถอยไปยืนอยู่กับคนขับรถ
ชยานนท์ถอนหายใจ รู้สึกเสียดายที่พลาดจะได้ลงเรือลำเดียวกันกับพ่อซึ่งมี “คนที่เขาถูกใจ” ยืนอยู่บนนั้น สถาปนิกหนุ่มจึงต้องเดินไปลงเรืออีกลำที่มีหนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งยืนหน้ามุ่ยอยู่อย่างอึดอัด ทันทีที่ก้าวลงเรือ หนุ่มน้อยหน้าอ่อนก็สั่งให้ออกเรือทันทีด้วยความใจร้อน
“ไปกันได้แล้ว ตามแผน ทำเวลากันหน่อย” ท่านรัฐมนตรีฯ ผู้นำทีมตะโกนสั่งงาน ก่อนจะอุทานเสียงลั่นว่า “อ้าวเฮ้ย นักข่าวมากันได้ไง”
รถสามคันมีโลโก้ของสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์กำลังวิ่งเข้ามาจอด ท่านรัฐมนตรีบ่นอุบก่อนจะหันไปสั่งให้เรือรีบเร่งความเร็วออกไป

“คราวนี้ได้ดังกันทั่วประเทศล่ะ” คุณเตือนใจบ่น อดนึกภาพใบหน้าของลูกชายไม่ได้ว่า หากโชคดีรู้เรื่องเข้า คงโกรธจนแทบจะพ่นไฟได้
...หากหมูปิ้งรู้ว่าชยุตม์เป็นลูกชายของท่านรัฐมนตรีฯ นายช่างจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้...
...ขบวนค้นหาแม้จะพยายามให้เล็กที่สุดแล้ว แต่ก็ถือว่ามีคนจำนวนไม่ใช่น้อย และที่สำคัญ นักข่าวโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ก็มารอทำข่าว คุณหญิงของท่านรัฐมตรีก็มาด้วย...
...คุณหญิงท่านรัฐมนตรีฯ คนนี้เองหรือ!
...พักหลังๆ มาเธอมัวแต่ยุ่งกับงาน จนไม่ได้สนใจดูข่าวโทรทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่มีภรรยาชื่ออะไรเธอก็ไม่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ เธอได้เห็นตัวจริงแล้ว คุณหญิงฯ ยืนสง่าอยู่บนฝั่ง มองมายังขบวนเรือที่กำลังแล่นออกไปยังผืนน้ำที่กำลังท่วมเป็นบริเวณกว้าง...
...เพียงฤดี...เพียงฤดีจริงๆ ด้วย....
...ทำไมเธอไม่เคยสงสัยเลยนะว่าชยุตม์มีเค้าหน้าเหมือนใคร...
เตือนใจกำขอบเรือแน่นจนรู้สึกเกร็ง ตามองคุณหญิงของท่านรัฐมนตรีฯ จนลับตา โชคดีที่หมวกใบใหญ่ปกปิดใบหน้าเธอเอาไว้ ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างว่าผู้หญิงคนที่ยืนอยู่บนฝั่งคงจำเธอไม่ได้...
...โลกกลมจริงๆ กลมจนเธออยากให้โลกกลายเป็นเหลี่ยมหลายๆ เหลี่ยม...

เด๊ยะมีต่อ ตอนนี้หิวข้าวจนหูอื้อแล้ว  :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 07-05-2009 12:45:30
คิคิ วันนี้ได้  :z13: พี่นาย

เจอะพี่นายทานข้าวทีไร หายไป สองสามวันทุกทีเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 07-05-2009 13:22:51
มาต่อบทที่ 12 ให้แล้วนะครับ (ไม่ได้หายไปหลังทานข้าวซะหน่อย  :m19:


“พักซักหน่อยไหมนายช่าง”
โชคดีหยุดเดิน หันไปถามชยุตม์ที่เดินตามมาห่างๆ แต่ก็แปลกใจที่เห็นชยุตม์ท่าทางไม่รีบร้อน เขานึกว่าชยุตม์จะเหนื่อยจนลิ้นห้อย ที่ไหนได้ ทำเหมือนเดินชมนกชมไม้ยังไงยังงั้น
“ถ้าคุณเหนื่อยก็หยุดพักบ้างก็ได้ครับ”
“ผมไม่เหนื่อยหรอก ห่วงแต่คุณนั่นล่ะ” โชคดีกระแทกเสียง รู้สึกฉุนกึกที่โดนชยุตม์กวนอารมณ์
“อ้าว ห่วงผมหรอกหรือ” ชยุตม์ยิ้ม เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโชคดี “พักก็ได้ นั่งชมวิวกันให้สบายใจแล้วค่อยไปต่อ แต่ว่าผมชักหิวข้าวแล้วนะ ทานข้าวกันเลยดีไหม”
“เพิ่งเที่ยงเอง” โชคดีทำปากยื่น ราวจะตำหนิชยุตม์ว่า...รีบหิวไปทำไม
“เที่ยงก็เวลาทานข้าวกันไม่ใช่หรือครับ”
...แปลกคนจริงๆ พอแดดออก โชคดีก็เริ่มจะกลายมาเป็นคนอารมณ์ร้อนอีกแล้ว ตอนที่ฝนปรอย ไม่เห็นจะร้ายแบบนี้ อยู่ที่กระท่อมปลายดอยก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาบ้าง ตอนนี้พอลงที่ลุ่ม ชักจะกลับมาเป็นโชคดีคนเดิมซะแล้ว...
“ทำไมหรือครับ มีปัญหาอะไร” โชคดีถามเสียงแข็ง
...ทำหน้ายิ้มๆ อยู่ได้ เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยเมาแดด...
โชคดีขมวดคิ้วมองหน้าคนที่เอาแต่อมยิ้มทำเป็นอารมณ์ดี บางทีเขาก็ไม่เข้าใจชยุตม์เหมือนกัน โดนเขาว่า โดนเขาโขกสับ ชยุตม์ก็ยังทำหน้านิ่งๆ สลับกับหน้ายิ้มๆ อยู่ได้ ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
...หรือว่าชอบโดนดุ...
“ผมน่ะไม่เคยมีปัญหาหรอก”
“อ้อ คุณว่าผมมีปัญหา” โชดดีขึ้นเสียง
“อ้าว พาล” ชยุตม์ส่ายหน้า “ผมไปว่าคุณตอนไหนล่ะ”
“คุณว่าทางอ้อม”
“ไม่ได้ว่า”
“เมื่อกี้ไง” โชคดีไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ได้
“เมื่อกี้ไหน” ชยุตม์ทำหน้าเหรอหรา
“ก็เมื่อกี้คุณบอกว่าไม่เคยมีปัญหา”
“ก็จริงนี่ครับ” วิศวกรหนุ่มพยักหน้า
“การที่คุณบอกว่าตัวเองไม่เคยมีปัญหา มันเป็นการว่าผมทางอ้อมว่าผมชอบมีปัญหา”
“คุณกล่าวหาผมอีกแล้ว” ชยุตม์เริ่มเสียงดัง
“แล้วนี้ว่าผมชอบใส่ความคุณงั้นสิ”
ชยุตม์ส่ายหน้า ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ โชคดีก็เกิดอาการขึ้นมา “ผมไปว่าคุณที่ไหน”
“คุณพูดว่า กล่าวหาผมอีกแล้ว มันก็หมายความว่า คุณคิดว่าผมกล่าวหาคุณอยู่เป็นประจำ”
“ไม่เคยครับ” ชยุตม์โบกมือปฏิเสธ “คุณไม่เคยกล่าวหาผมเลย พอใจหรือยัง”
“ไม่ต้องมาประชด” โชคดีหรี่ตา ท่าทางเอาเรื่อง
“โมโหหิวนะเนี่ย บอกแล้วว่าถึงเวลาทานข้าวก็ไม่เชื่อ” ชยุตม์สรุป รู้สึกทั้งฉุนทั้งขัน ตอนนี้เขาเริ่มจะจับทางโชคดีได้แล้ว
...ชายหนุ่มมักจะหาเรื่องเขาเวลาเขิน...
...เพื่อปกปิดอะไรหรือ...
...ปกปิดความรู้สึกที่ว่าตัวเองก็เริ่มชอบเขาเหมือนกันแล้วสิท่า...
คิดได้ดังนี้ชยุตม์ก็อดอมยิ้มไม่ได้ แต่นัยน์ตาเขาคงวิบวับน่าหมั่นใส้ในสายตาของโชคดีกระมัง ชายหนุ่มเลยยื่นมือมาผลักเขาแรงๆ จนตกน้ำ
ตูม!!
“เฮ้ยย” ชยุตม์ร้องลั่นด้วยความตกใจ พร้อมกับเสียงร้องของโชคดีที่ร้องดังไม่แพ้กัน
...อย่าคิดว่าเขาจะลงคนเดียว บอกแล้วไง ถ้าจะทำร้ายเขาก็ต้องนัวเนียกันหน่อยแบบถึงเนื้อถึงตัว...
“โอ๊ย” ชยุตม์ร้องเบาๆ ด้วยไม่รู้ว่ามือหรือศอก หรือส่วนไหนของโชคดีที่กระแทกเข้าท้องของเขา แต่เขาไม่ยอมหรอก ลองทำกันแบบนี้ก็ต้องมีกอดรัดกันบ้างล่ะ
ชยุตม์ตะกุยตะกายประหนึ่งว่าหาที่จับเพื่อช่วยพยุงตัวเพราะกลัวจมน้ำ โชคดที่ช้างๆ มีต้นไม้เล็กๆ ที่ขึ้นริมตลิ่ง และสายน้ำไม่ไหล่เชี่ยวจนเกินไป น้ำไม่ลึกมาก เท้าของเขาเหยียบถึงพื้น แต่กระนั้นก็ปริ่มคอ
โชคดีผลักให้เขาออกห่าง แต่ชยุตม์พยายามกอดรัดชายหนุ่มเอาไว้ มือป่ายปะไปทั่ว ทำทีเป็นว่ากำลังจะจมน้ำ
“หมูปิ้ง ผมว่ายน้ำไม่เป็น” ชยุตม์ทำเสียงหอบ โชคดีชะงักชั่วครู่ แต่ครั้นหันมามองตาชยุตม์ ชายหนุ่มก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ทำท่าจะจมน้ำนั้นแกล้งทำ
“งั้นจมไปเลย” โชคดีออกแรงผลักอย่างแรง ชยุตม์เสียหลักเพราะเหยียบขอนไม้ลื่นๆ ใต้น้ำ มือวิศวกรหนุ่มจึงหลุดจากกิ่งไม้แล้วลอยออกห่างจากฝั่ง โชคดีหันขวับไปมอง แล้วรีบโผออกมาคว้ามือของชยุตม์เอาไว้ ทำให้ทั้งสองหนุ่มลอยออกไปไกลจากฝั่งมากกว่าเดิม
“โชคดี ระวังนะ” ชยุตม์ร้องเตือน มือพยายามไขว่คว้าหาหลักยืด ตามองไปยังพุ่มไม้ที่อยู่โค้งน้ำเบื้องหน้า มือแข็งแรงของเขายังจับแขนโชคดีเอาไว้มั่น
“ดูโน่น กอไม้ตรงโน้น คว้าให้ได้” โชคดีตะโกน พยักเพยิดให้ชยุตม์มองตาม กระแสน้ำเชี่ยวกรากมากขึ้นกว่าเดิม ชยุตม์พยายามตีเท้าให้แรงมากขึ้น ยื่นแขนออกไปจนสุด แล้วคว้ากิ่งไม้เอาไว้ได้ โชคดีถูกน้ำพัดออกห่าง แต่ชายหนุ่มก็กระเสือกตัวเข้าหาเขาและกอดเอวเขาไว้ได้
“เป็นไงล่ะ สนุกไหม” โชคดีหอบแฮกๆ ถลึงตามองชยุตม์ ดันตัวขึ้นมาคว้ากิ่งไม้
“สนุกครับ” ชยุตม์ยิ้ม “ตี่นเต้นและสนุกที่สุด”
ชายหนุ่มทั้งสองหายใจแรง มองหน้ากันนิ่งชั่วครู่ ลืมไปว่าลำตัวกำลังแนบชิด และขากำลังเกี่ยวกันอยู่
...น้ำเย็น แต่ทำไมอุ่นเหลือเกิน หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุดันออกมาจากอก...
ชยุตม์นิ่ง มองตาคมกริบของโชคดีด้วยความคิดคำนึง เขาดูไม่ผิด นัยน์ตาของโชคดีส่องประกายพึงพอใจ
...โชคดีก็ชอบเขาเหมือนกัน!...
...หมูปิ้งไม่ได้เกลียดเขาเลย ที่เคยพูดเคยสงสัยว่า ทำไมไม่ชอบหน้าเขาอะไรนักหนา ต่อจากนี้ไปไม่ต้องถามแล้ว...
ทว่า ช่วงเวลาเช่นนี้อยู่ได้ไม่นาน โชคดีรู้สึกตัวแล้ว และแกล้งเหยียบเท้าชยุตม์ และเตะหน้าแข้งเข้าไปหนึ่งที
“โอ๊ยเจ็บ” ชยุตม์ร้อง รู้สึกเจ็บจริงๆ
“เจ็บเป็นเหมือนกันหรือ แล้วขึ้นฝั่งได้หรือยัง” โชคดีกระชากเสียง
“เจ็บสิ ผมเป็นคนนะ มีความรู้สึก” ชยุตม์ตอบ
“อยากได้ความรู้สึกอีกซักหน่อยไหมคุณนายช่างชยุตม์ คราวนี้จะเอาให้รู้สึกจนลืมไม่ลง”
“อย่านะ” ชยุตม์รีบห้าม ด้วยรู้ว่าโชคดีคิดอะไรอยู่ “อย่าใจร้ายขนาดนั้น”
คนใจร้ายไม่ตอบ ขยับตัวออกห่างวิศวกรหนุ่มแล้วดึงตัวเองให้เข้าใกล้ฝั่ง ชยุตม์หันตัวตาม แล้วขยับตัวช้าๆ ยังไม่ยอมหยุดพูด
"โชคดี คุณจะจงเกลียดจงชังผมไปถึงไหน" ชยุตม์เค้นเสียงถามคนที่ทำหน้าบึ้งอยู่ใกล้ๆ
"ไม่ได้เกลียด ใครบอกว่าเกลียด" โชคดีตอบหน้านิ่งๆ มือคอยผลักเศษไม้ที่ลอยมากับน้ำเชี่ยวกราก
"ไม่ได้เกลียดแล้วรักหรือไง แกล้งผมอยู่ได้ไม่เบื่อ" ชยุตม์ตัดพ้อ
"ใครว่าแกล้ง" โชคดีปฏิเสธ
"แล้วที่ต้องลอยคลอเกาะกิ่งไม้อยู่อยู่กลางน้ำนี่เรียกว่าอะไร" ชยุตม์เสียงเข้ม จ้องตาโชคดีเขม็ง
"ใครว่าลอยคลอ แค่ยืนต่างหาก  ทำเป็นบ่น" โชคดีเบ้ปาก แล้วหันหน้าไปมองทางอื่น
"อยากจะหักคอคุณนัก" ชยุตม์พึมพำ
"ก็เอาสิ" โชคดีพูดเสียงเบา ตามองไปยังพุ่มไม้  พลางขยับเท้าช้าๆ "แต่ระวังเท้าผมหน่อยก็แล้วกัน เคยโดนม้าถีบไหมนายช่าง"
"ผมไม่ใช่นายช่าง ผมเป็นวิศวกร คุณรู้ไหมว่าผมจบจากที่ไหนและทำงานโครงการอะไรมาบ้าง ได้รางวัลมากี่สถาบัน" ชยุตม์ชักจะเหลือทน
"มหาลัยเมืองนอกมั๊ง ท่าทางคุณบอก ส่วนสร้างอะไรมาบ้าง ถ้าให้ผมเดาน่าจะเป็นบ้านเอื้ออาทรแถวชานกรุง รางวัลก็คงได้จากสถาบันผลิตปูนซีเมนต์แห่งประเทศไทย" โชคดีประชด แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
"ร้ายจริงๆ ระวังตัวไว้เถอะ" ชยุตม์เสียงเข้ม กัดฟันกรอดๆ
โชคดีหันหน้ามามองคนที่กำลังตามมาข้างหลัง มือขวายึดกิ่งไม้ไว้แน่น มือซ้ายแหวกเศษวัชพืชที่ลอยมากับน้ำ
"คุณวิศวกรชยุตม์ครับ คนที่นี่เขาเรียกวิศวกรว่านายช่างกันทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ชอบ ผมจะไม่เรียกอีกก็ได้ ไม่เรียกเลยก็ไม่เห็นจะลำบากผมที่ไหน"
"ผมอยากให้เรียกอย่างอื่น" ชยุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ รู้สึกแปลกๆ เมื่อเห็นโชคดีทำหน้านิ่งเรียบ น้ำเสียงเย็นๆ ทำท่าเหมือนจะงอน
"เรียกอะไร" โชคดีถาม แต่เริ่มหลบตาทั้งที่ใบหน้ายังมองตรงมาที่ชยุตม์ หากตาดุคู่นั้นกรอกไปมาซ้ายขวาอย่างพยายายามจะหลีกเลี่ยงการสบตากับอีกฝ่าย แต่คนที่ร้ายเหลือทนพยายามบังคับไม่ให้หน้าหันไปทางอื่นเพราะกลัวถูกหาว่าไม่สู้หน้าคน
"คุณรู้ไหมว่าผมอยากให้คุณเรียกผมว่ายังไง" ชยุตม์ขยับเข้ามาใกล้ เสียงเบามากกว่าเดิม
"ไม่บอกจะไปรู้ได้ยังไง"
"เรียกว่า..." ชยุตม์อมยิ้ม ตากรุ้มกริ่ม
...โชดดีอายเป็นด้วยแฮะ...
ชยุตม์หายใจแรงเมื่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้คนหน้าดุมากกว่าเดิม โชคดีจ้องตาเขานิ่งเช่นกันราวถูกสะกดจิต แต่ก็เพียงชั่วไม่กี่อึดใจ คนที่ร้ายนักก็ขยับตัว แล้วชยุตม์ก็ต้องร้องลั่นป่า เสียงดังแข่งกับเสียงน้ำหลากที่ไหล่เชี่ยวในแม่น้ำน่าน
"ขอโทษ" โชคดีพูดเสียงเบา แล้วเร่งความเร็วดึงตัวเข้าหาฝั่ง
ชยุตม์ย่อตัวลงจนน้ำปริ่มคอ เพราะเจ็บที่โดนอีกฝ่ายทำร้ายแบบไม่ได้ตั้งตัว หากสายตาที่มองตามหลังของโชคดีนั้นพราวระยับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชายหนุ่มพยายามปีนขึ้นไปบนฝั่ง
...ซ่อนรูปไม่เบาแฮะ เห็นตัวเพรียว ไม่น่าเชื่อว่า...
"อ้าวจะแช่น้ำอยู่อย่างนั้นหรือนายช่าง" โชคดีกระแทกเสียง "เร็วๆ เข้าสิ"
"ผมยังเจ็บอยู่" ชยุตม์ทำหน้ากึ่งบึ้งกึ่งขำ
"มาเจ็บต่อบนบก" โชคดีหันหลังให้ แล้วถอดเสื้อเชิ้ทออกมาบิด เผยให้เห็นกล้ามพองามภายใต้เสื้อยืดที่เปียกลู่ติดลำตัว
ชยุตม์มองอย่างเพลิดเพลิน ไม่ได้คิดอยากจะขึ้นไปบนฝั่งแม้แต่นิด ตอนนี้เขากำลังมองชายหนุ่มที่เขาพึงใจมาตลอด
...แค่พึงใจหรือ...
ชยุตม์ยามตัวเอง
...หรือชอบใจ ถูกใจ ชอบ หรือถึงขนาดรัก...
...รักโชคดีนี่นะ แล้วจักริณทร์ล่ะ เขาจะเอาจักริณทร์ไปไว้ไหน...
ชยุตม์ถอนหายใจ ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเริ่มสับสัน ในหัวใจก็เริ่มสับสน ชีวิตที่เคยราบเรียบมาตลอดตั้งแต่ก่อนมาเจอโชคดีแล้วเจอแต่ความวุ่นวาย เขาเริ่มจะปรับตัวได้แล้ว
แต่ความรู้สึกใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในใจนี่สิ ทำไมเขารู้สึกแปลกๆ แบบนี้...

คุณเตือนใจนิ่งเงียบไปจนปฐพีรู้สึกแปลกๆ ขณะที่กำลังพักทานอาหารกลางวัน นายตำรวจหนุ่มจึงเดินเข้าไปหา
“เหนื่อยหรือครับ” ปฐพีถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
คุณเตือนใจพยักหน้า แต่ปฐพีไม่เชื่อ เขารู้ว่าคุณเตือนใจเป็นคนเข้มแข็งและแข็งแรง แค่นั่งเรือมาแค่นี้ไม่ทำให้เหนื่อยจนท่าทางเปลี่ยนไปขนาดนี้หรอก
“โชคดีต้องไม่เป็นอะไรครับ ผมมั่นใจว่าโชคดีต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง” ปฐพีปลอบ
คุณเตือนใจนิ่งไปครู่ใหญ่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองนายตำรวหนุ่มที่เธอเอ็นดู “ผู้กองจำที่แม่เคยพูดได้ไหมว่า จะทำอะไรก็รีบทำเข้า”
“จำได้ครับ แต่หมายความว่า...”
“ถ้ารักหมูปิ้งก็รีบบอกรักมันซะ เอาให้แน่นอน จริงจังไปเลย อย่ารีรออะไรอีก” คุณเตือนใจพูดเสียงหนักแน่น
ปฐพีนิ่ง ไม่ตอบว่าอะไร ในใจพยายามคิดหาเหตุผลว่าเหตุใดคุณแม่ของโชคดีจึงมีท่าทีเช่นนี้ คุณเตือนใจดูครุ่นคิดคำนึงจนเอาอยากจะถามให้มากกว่านี้
“มีอะไรบอกผมได้ไหมครับ ทำไมจู่ๆ มาให้ผม...”
“ผู้กองก็ไปมาหาสู่ สนิทกับครอบครัวของเรามานาน แม่มองออกว่าผู้กองชอบโชคดี และโชคดีก็คงไม่ได้เกลียดผู้กอง หากจะตกลงปลงใจรักกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา แม่รู้ ความรักแบบนี้มันแปลกกว่าความรักหญิงชายทั่วไป แม่ได้บอกว่าชีวิตรักจะต้องเป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่การมีคนที่เรารักและให้กำลังใจกันและกัน คอยดูแลกันแบบพิเศษก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ หากผู้กองกับโชคดีเปิดเผยต่อกันและตกลงใจรักกัน ชีวิตก็น่าจะมีความหมายมากกว่าที่เป็นอยู่”
...คุณเตือนใจกำลังบอกให้เขาไปสู่ขอโชคดีหรืออย่างไร...
...รัก...
...รักแล้วหรือ...
...ตอนนี้เลยหรือ...

โชคดีทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง หันไปมองชยุตม์ที่เดินโผเผตามมาทิ้งตัวลงนอนแผ่ข้างๆ เขาก็อดฉุนไม่ได้
“นี่ถ้าคุณไม่เล่นอะไรบ้าๆ เราก็คงได้กินข้าวไปแล้ว”
ชยุตม์นิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่แล้วพูดขึ้นเสียงเบาๆ เพราะไม่มีแรง “คุณเป็นคนผลักผมตกน้ำนะ”
“แล้วคุณดึงผมลงไปด้วยทำไม กับข้าวเลยลอยหายไปกับน้ำหมด” โชคดีเสียงเข้มขึ้น แต่เป็นเสียงเข้มแบบอ่อนแรง
“อ๋อ คุณโทษผมอีกล่ะสิ คราวนี้ผมขอว่าคุณหน่อยว่ากำลังหาเรื่องผม” ชยุตม์ยังเสียงหอบไม่หาย
“พูดไม่เข้าหูทำไมล่ะ”
“แล้วจะให้พูดแบบไหนจะได้เข้าหู”
“อย่าพูดอะไรซะเลยจะดีกว่า” โชคดีเอ็ด หันไปมองคนที่นอนหายใจรวยรินปานกำลังจะสิ้นลม
“ถ้าอยู่ที่กระท่อมปลายดอยต่อ ป่านนี้เราคงอาบน้ำ ทำอาหารจะรับประทานกันอย่างอร่อย”
“ผมทำ คุณไม่ได้ทำ” โชคดีแย้ง “ล้างจานไม่สะอาดอีกต่างหาก”
“มันไม่มีฝอยขัดหม้อนะโชคดี”
“ไหนบอกว่าจะขัดให้จานสีถลอกยังไงล่ะ” โชคดีถอนหายใจ
“คุณก็รู้ว่าผมล้างจานไม่เป็น ยังจะให้ผมล้างอีก”
“อ๋อ ผมต้องทำกับข้าว ล้างจ้าน กวาดบ้านถูบ้าน ซักเสื้อผ้าให้ด้วยใช่ไหม” โชคดีขึ้นเสียง ตอนนี้ชักจะลืมความเหนื่อยล้า
“ผมก่อไฟนะ อย่างน้อยผมก็มีประโยชน์ ซ่อมแซมบ้านก็ได้ จะสร้างให้ทั้งหลังยังได้เลย”
“สร้างเรือซักลำก่อนเถอะ” โชคดีพูดเสร็จก็นอนแผ่หราลงข้างๆ ชยุตม์ มือลูบท้องด้วยความหิว ตาเหม่อขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เริ่มเป็นสีทอง บ่งบอกว่าอีกไม่นานก็จะมืด
“พระอาทิตย์ตกดินสวยจริงๆ” ชยุตม์พึมพำ
...บ้าจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังมีหน้ามาชื่นชมอาทิตย์อัสดงอีก...
“ตกน้ำต่างหาก ยอมรับซะเถอะ ว่าเราติดเกาะ ไปไหนไม่ได้”
“คุณกำลังบอกว่าให้ยอมรับชะตากรรม นอนตายอยู่ตรงนี้งั้นหรือ” ชยุตม์เอียงหน้ามามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่กำลังนอนใกล้ชิดกับเขา จนไหล่แทบจะชนกัน
...อยากพลิกตัวนอนกอดโชคดีจังเลย เหนื่อยล้าขนาดนี้จะมีแรงผลักเราหรือเปล่านะ...
ชยุตม์คิด แต่ก็ตัดสินใจว่าไม่ทำดีกว่า ขอนอนจับมือโชคดีก็พอแล้ว
“ถอยไป” โชคดีตวาด เมื่อรู้สึกตัวว่านิ้วของชยุตม์ขยับมาแตะมือเขา
“เงียบเถอะน่า กำลังฟังเสียงนกร้อง” ชยุตม์หัวเราะหึๆ
“คุณนี่จริงๆ เลย” โชคดีขยับตัว “อย่าตามมานะ”
“ยังมีแรงหนีอีก”
“คุณนายช่างชยุตม์ ขอทีเถอะ หยุดพูดได้ไหม ขออยู่เงียบซักพัก” โชคดีสั่งเสียงแผ่ว
ชยุตม์ยอมทำตามที่โชคดีสั่ง เพราะเขาเองก็หมดแรงเช่นกัน สองหนุ่มนอนพักจนเริ่มจะเคลิ้มหลับ แต่ไม่นาน หูก็ได้ยินเสียงแว่วๆ
...เหมือนเสียงเรือ และเสียงคนตะโกนเรียกชื่อ...
โชคดีดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ตาเพ่งมองออกไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า รู้สึกเหมือนจะมองเห็นอะไรบางอย่างใกลๆ ครั้นหันไปมองชยุตม์ก็เห็นฝ่ายนั้นหลับไปเสียแล้ว อกสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ท่านอนท่าเดิม เหยียดตรงนิ่งเป็นหุ่น
ใบหน้าที่คมเข้มอยู่แล้วของชยุตม์ยิ่งคมเข้มขึ้นเพราะไม่ได้โกนหนวดเครามากว่าสี่วัน แต่ยามหลับ ใบหน้านั้นดูอ่อนเยาว์ เหมือนหนุ่มน้อยที่เพิ่งเรียนจบ แทนที่จะเป็นวิศวกรฝีมือดีมีผลงานเห็นตึกสูงอยู่ทั่วทุกมุมโลกอย่างที่เจ้าตัวอวดนักอวดหนา
...ดูๆ ไป ชยุตม์ก็เป็นคนน่าคบ แม้จะทำอะไรขวางหูขวางตาบ้าง แต่ชยุตม์ก็ดูเป็นคนอดทน มองโลกในแง่ดี มีความมุ่งมั่น และหากชยุตม์รักษาสัญญาที่จะสร้างรีสอร์ทออกมาให้ดีที่สุด ไม่ทำลายธรรมชาติ บางทีเขาอาจจะ...
“โชคดี”
“คุณชยุตม์”
“หมูปิ้ง”
“ยุตม์”
เสียงหลายเสียงดังขึ้น โชคดีหันขวับ ลุกขึ้นทันใดเมื่อสังเกตเห็นว่ามีเรือกำลังลอยลำอยู่ห่างออกไป รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น ชายหนุ่มเดินไปริมน้ำ โบกไม้โบกมือ แล้วเคลื่อนไหวไปมา ให้คนที่อยู่ในเรือสังเกตเห็น
พระอาทิตย์ทอแสงสีทองกระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ เสียงนกการ้องประสานกันเพราะกำลังพากันกลับรัง ลมพัดเอื่อยๆ กระทบใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่น โชคดีหันไปมองชยุตม์ที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ใจหนึ่งอยากวิ่งไปปลุก แต่ใจหนึ่งก็อยากปล่อยให้หลับต่อ จนกว่าเรือจะมาถึง แล้วเขาก็จะเดินไปหาวิศวกรหนุ่มแล้วดึงให้ลุกขึ้น เพื่อจะทำท่าข่มแล้วบอกว่า “เห็นไหมล่ะ เขาแข็งแรงกว่า เหนื่อยแสนเหนื่อยยังไม่หมดแรงพับไปเหมือนตัวเอง ลุกขึ้นมาได้แล้ว กลับบ้านกัน...”
เขาจะหัวเราะเยาะๆ แล้วบอกชยุตม์อีกว่า “ถ้ายังอยู่ที่กระท่อมปลายดอย ก็คงอดตายอยู่บนนั้น เชื่อโชคดี ยังไงก็ต้องรอด”
...ว่าแต่ว่าใครกันมาช่วยเขา เมื่อกี้ได้ยินเสียงเรียกหมูปิ้ง ถ้าไม่ใช่แม่ก็คงเป็นผู้กองปฐพี ไม่ก็ซ่ง ใครเล่าจะกล้าเรียกชื่อเล่นเขา...
...ชยุตม์นี่ไง กล้าขึ้นมากแล้วนี่ เรียกชื่อเล่นเขาได้หน้าตาเฉย ไม่มีท่าทีจะกลัวแม้แต่นิด...
...แล้วทำไมมากันเยอะนัก เรือก็หลายลำ...
“โชคดี”
“แม่ ผู้กอง” โชคดีตะโกนกลับ พลางหันไปมองชยุตม์ที่กำลังงัวเงีย ยันตัวขึ้นนั่ง
...แล้วใครกัน หน้าตาคล้ายๆ ชยุตม์ตั้งสองคน...
โชคดีขมวดคิ้ว พลางยกมือขึ้นโบกให้แม่ของเขากับผู้กองปฐพีและคนที่อยู่บนเรือซึ่งกำลังใกล้เข้ามามากจนเห็นหน้าทุกคนที่อยู่บนเรือได้ชัด
ซ่งทำหน้าลิงโลดดีใจอย่างสุดซึ้ง ราวกันตามหาเขาเป็นปีๆ ผู้กองปฐพีส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ แม่ของเขาทำเหมือนจะร้องให้ น้าพงษ์ยิ้มกว้างเหมือนโล่งใจ ชายหนุ่มหน้าตาดียิ้มบ้างๆ เหมือนชยุตม์มากจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นพี่กับน้องกัน แล้วผู้ชายวัยกลางคนร่างสูงที่ยืนเด่นอยู่หัวเรือลำที่อยู่ขวาสุดนั่นก็คุ้นตาเขามาก
...นั่นรัฐมตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนี่น่า...
โชคดีหันหน้าไปมองชยุตม์ที่นั่งอยู่ข้างหลังกำลังยกมือขึ้นลูบหน้าตา แล้วหันไปมองท่านรัฐมนตรีฯ และชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนอยู่ข้างๆ ซ่ง สลับกันไปมา
เรือลำของผู้กองปฐพีถึงก่อน โชคดีหันไปมองชยุตม์ที่กำลังลุกขึ้นช้าๆ ใบหน้าคมเข้มเรียบนิ่ง แทนที่จะกระโดดโลดเต้นดีใจเหมือนเขาตอนแรกที่มองเห็นว่ามีคนมาช่วย
...เจ็บใจนัก ชยุตม์นะชยุตม์...
โชคดีหันหลัง เดินไปหาชยุตม์ช้าๆ หูแว่วเสียงของปฐพีเรียกชื่อเขาแล้วร้องห้าม ตามมาด้วยเสียงตูมเหมือนกระโดดลงน้ำ
...เจ็บใจจริง...
ชยุตม์กลืนน้ำลาย ตั้งท่ารอให้โชคดีเดินเข้ามาใกล้ แต่ครั้นโชคดีใกล้จะถึงตัวเขา มือแข็งแรงของผู้กองปฐพีก็คว้าตัวชายหนุ่มเอาไว้ได้
...ตอนนี้ไม่ได้ยินอะไรแล้ว รู้แต่ว่ารู้สึกหูอื้อ เสียงคนพูดดังระเบ็งเซ็งแซ่ไปหมด ระคนเสียงลมดังอื้ออึง เมื่อกี้ยังลมเอื่อยๆ แต่ตอนนี้ลมแรงจนหูอื้อไปหมด...
...ดีใจที่มีคนมาช่วยชีวิต แต่เจ็บใจที่เห็นหน้านิ่งๆ ของชยุตม์....
...หายไปไหนแล้ว...
...อย่าให้เจออีกนะ...
...หรือไม่ก็ไม่ต้องมาเจอกันอีกเลย...
*******12*******

สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์ทุกๆ คนนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 07-05-2009 15:02:42
ค้างคับ เข้าใจมั๊ยว่ามันค้าง!!

ว่าแต่ว่าแม่ของหมูปิ้ง มีไรกะแม่ชยุตอ่าา
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-05-2009 15:24:37
นายช่างตายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 07-05-2009 19:21:02
นายช่างโดนโกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติของจริงแล้วซิทีนี้
โกรธซะลมออกหูซะขนาดนั้น คงคิดว่าตัวเองโดนนายช่างบางกอก
หลอกเข้าให้แล้วมั๊ยล่ะ ซวยจริงๆนายช่างแล้วจะหาอะไรมาแก้ตัวหรือ
ว่าขอโทษล่ะนั่น แบบนี้หมูปิ้งคงคิดเองเออเองเสร็จสรรพล่ะว่า โดนต้ม

หมูปิ้งรู้ค.จริงแล้น เหอะๆค.สัมพันธ์กำลังดีๆอยู่เลย
กำแพงของหมูปิ้งกำลังจะสั่นคลอนแล้นพอมาเจอแบบนี้แล้วยัง
มีผู้กองที่กำลังแสดงตัวออกนอกหน้าเพราะคุณแม่ยายหนุนหลังอีก
เนี่ย หนทางพิชิตกำแพงใจของนายช่าง ปิดตายแหงๆ
กำลังจะเปิดใจแล้วเชียว

เอิ่มแต่พี่นนท์ปิ๊งใครล่ะ ถ้าปิ๊งผู้กองล่ะก้องานนี้คงไม่ง่ายล่ะ

“คุณโชคดีครับ มีแป้งหรือเปล่า ผมคันไปทั้งตัวอยู่แล้ว”
"มีเงินก็ไปซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสิ ลุยน้ำป่าไปคืนนึงก็คงถึง”
> กวนประสาทจริงๆ หมูปิ้งนี่ เจอนายช่างโป๊นิดโป๊หน่อยก็อายเป็นสาวเชียวนะ หุหุ

...จะจีบแล้วนะคุณหมูปิ้ง ระวังตัวให้ดี...
>> แหง่มๆๆ ไม่ง่ายล่ะทีนี้ กำลังจะมีใจสักหน่อยอุปสรรคมันเยอะเจงๆ
คุณนายเตือนใจก็แปลกๆมีอะไรกับคุณแม่ของนายช่างรึเนี่ย เฮ้อออออ

 :z13: หมูปิ้งในคราบคุณคฑาวุธ

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 07-05-2009 20:44:25
กรุณา อย่าบอกว่า "พ่อ" คนเดียวกัน
ไม่งั้นมันคงสมชื่อเรื่องจริงๆ กว่าจะรักกันได้ ก็คงอีกนานโข
เพราะใช้เวลาทะเลาะกันไปครึ่ง แล้วก็อุปสรรคต่างๆอีกครึ่ง  o18 o18 :serius2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 07-05-2009 23:29:42
เริ่มกุ๊กกิ๊ก :-[
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 07-05-2009 23:56:19
ได้กลิ่นความหวานของเรื่องนี้แล้วซิครับเนี่ย แต่รู้สึกต้องบ่มอีกหน่อยนะครับ
แต่ดูถ้า น่าจะยุ่งอยู่เหมือนกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นความรักของโชคดีกับชยุตม์ที่
ดูแล้ว ยังไงก็อุปสรรคเห็น ๆ แล้วยังมีเรื่องของผู้กองปฐพี และก็ซ่งด้วย
ส่วนของคุณชยุตม์ก็ยังมีคุณจักรอีก จะเอาไงหละที่นี่
ถึงรู้ใจตัวเองว่าเริ่มมีความรักให้กับคนข้างหน้า แต่ก็มีคนข้างหลังเกาะติดอยู่ด้วย
แล้วปัญหาที่ใหญ่ (คิดว่านะครับ) เรื่องของชาติตระกูลของโชคดี อย่างที่เคย
สงสัย ชักสงสัยมากกว่าเดิมแล้วซิครับเริ่มเห็นพิรุธของคุณเตือนใจที่เห็น
คุณหญิง แล้วถึงกับต้องอำพรางใบหน้า แปลว่าต้องมีอะไรสึกอย่างที่เกี่ยวข้องกัน
ในอดีต แล้วโชคดีกับชยุตม์จะได้รักกันไหมเนี่ย
คิดแล้วเครียด  จะบ้าอะคร๊าบบบบบบ   :z3:

ก่อนนอน  :กอด1: พี่นาย แล้ว +1 ให้นะครับ อุตส่าห์ไม่มาต่อช่วงช้า ก็มาต่อ
ให้ช่วงบ่ายเลย แล้วะจรอต่อไปนะครับ
สนุกกับวันหยุดสุดสัปดาห์ทั้ง 3 วันนะครับ แล้วอย่าลืมทำบุญเวียนเทียนด้วยนะคร๊าบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: imageriz ที่ 08-05-2009 09:04:59
เหอ ๆ ระหว่างรุ่นแม่นี่มีไรกันรึเปล่าเนี๊ย 

จะรอตอนต่อไปนะ
 :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 08-05-2009 16:02:13
ชอบเรื่องนี้จัง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 09-05-2009 03:43:36
อ๊ากกกกก ค้างอะ

เดาก่อนเรื่องนี้มีกี่คู่ ใช่ 3 คู่รึเปล่านะ ฮิ ฮิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 09-05-2009 07:46:41
อะไร ๆ กำลังจะดีแล้วเชียว

 :เฮ้อ: เริ่มต้นกันใหม่แล้วกัน นายช่าง

+1 ให้พี่นาย ใกล้ว 1000 เข้าไปอีกนิด  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 09-05-2009 10:13:56
มีเงื่อนเล็กๆให้ติดตามซะแล้ว สำหรับรุ่นแม่

กดบวกให้คนแต่งค่ะ...ยังเขียนได้น่าติดตามเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-05-2009 10:18:58
น่าจะติดน้ำป่ากันนานๆ รับรองอยู่ต่ออีกซัก2-3วัน ลงเอยกันแน่ๆ555+
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: McDeliVery ที่ 09-05-2009 19:21:53
สงสัยต้องพาไปปล่อยเกาะทั้งคู่เลย

อิอิ  :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 09-05-2009 21:26:54
 :z2: แวะมาตามไป อัพ คดีรักฯ

บ้างจิ คิดส์ถึงอ่ะ ลุงฮับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-05-2009 21:46:53
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MoOkRaPoOk ที่ 10-05-2009 07:46:40
กรี๊ซซซซซซซซซซ

กว่าจะตามอ่านทัน

อร๊ายยยย
เลือกไม่ถูกเลย พี่หมูปิ้งคงจะเลือกยาก ว่าจะไปเป็นสะใภ้ร้านทอง หรือลูกสะใภ้คุณนายผู้ว่า อร๊ายยยยย หรืจะเป็นสะใภ้ท่าน รมต. 
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยจบบทที่ 11 (6/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoifan ที่ 11-05-2009 07:34:37
ติดใจเรื่องนี้งอมแงม จนไม่อยากไปอ่านเรื่องคดีรัก แล้วซิ ทำไงดี กลัวคนแต่งน้อยใจ +1 แทนคำขอบคุณ และขอให้ได้ ม สระเอีย เร็วๆ แล้วกัน ปล. กลัวจริงๆ ยิ่งอ่านยิ่งเห็นภาพหมูปิ้ง คือคุณ Katawoot แล้วล่ะ

 :z1:  :-[  :o8:  :pigha2:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:  :m20:   :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:  :pigha2:
ไม่มีอะไรจะพูด  :z1:  :z1:

ไม่ต้องพูดมาต่อไวๆ ก็พอค่ะ น้องหมูสามชั้น 5555
 :z13:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 12-05-2009 08:20:24
กรุณาอนุมัติด้วยนะคร้าบ  :pig4:  :sad11:  :กอด1:
(http://upic.me/i/a6/95w4r.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-05-2009 08:54:52
ไม่อยากจะอนุมัติเลย แต่คงต้องยอม :z3:

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ เรียนให้จบสมกับที่ตั้งใจไว้ละกัน  :3123:

แต่จะไม่เขียนให้จบก่อนไปตั้งใจเรียนหรออออ มันค้างอ่ะค่ะ  :impress3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 12-05-2009 10:40:45
พี่นายส่งข้อความขออนุมัติอย่างนี้
ถึงจะไม่อนุมัติ ก็คงจะไม่ได้นะครับ
เอาเป็นว่า ขอให้พี่วุธเรียนจบเมื่อไหร่
อย่าลืม กลับมาต่อด้วยนะครับ
แล้วขอแสดงความยินดีล่วงหน้า สำหรับการ
จบ ป.โทด้วยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 12-05-2009 13:54:22
รับทราบคะ
หมูปิ้ง  :man1: ยังไงก็รอได้ คะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 12-05-2009 23:51:46
รอได้อยู่แล้ว
ขอให้งานสำเร็จด้วยดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 12-05-2009 23:59:23
รอมหาบัณฑิตคนใหม่อยู่นะคร๊าบบ o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 13-05-2009 09:50:56
เข้าใจและยอมรับค่ะ
แต่ถ้าคิดอะไรเรื่องวิทยานิพนธ์ไม่ออก ก็แว่บมาเขียนนิยายคลายเครียดนะคะ จะรอ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 13-05-2009 23:27:22
 :z2: :z3:
799+1+ +1  แล้ว ลั้ลลา
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 18-05-2009 12:36:06
ขอบคุณผู้อ่านที่น่ารักที่สุดในโลกทุกท่านนะครับที่กรุณารอ
หวังว่าเจ้าของบอร์ดเขาคงไม่ลบกระทู้ผมนะครับ สัญญาว่าจะต่อให้จบแน่ๆ ไม่นานหรอก
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-05-2009 13:39:52
ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ 
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ   :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-05-2009 20:54:07
^
^
^คุณเคนเขียนยาว..กว่าหนึ่งประโยค :jul3:
มาแซวคุณเคนโดนเฉพาะ....กร๊ากกกกกกกกก
(เพราะรักถึงแซวนะคะ...อย่าโกรธกัน :กอด1:)

กับมาบอกคุณคฑาวุธว่า....รออยู่เช่นเคยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 19-05-2009 13:47:19
^คุณเคนเขียนยาว..กว่าหนึ่งประโยค :jul3:
มาแซวคุณเคนโดนเฉพาะ....กร๊ากกกกกกกกก
(เพราะรักถึงแซวนะคะ...อย่าโกรธกัน :กอด1:)
กับมาบอกคุณคฑาวุธว่า....รออยู่เช่นเคยค่ะ :L2:
หุ หุ หุ อ่านคอมเมนท์มาจนถึงน้องเคนกำลังจะตอบว่า "เย้ ดีใจจัง เห็นพูดเพิ่มตั้งหนึ่งประโยค แถมรูปให้ด้วย" แต่คุณM@nfaNG ตัดหน้าซะก่อน  :เฮ้อ:

คิดถึง นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 19-05-2009 17:15:14
555

คุณเคนเค้าคงอยากอ่านต่อไว ๆ อ่ะ พี่นาย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: kororo ที่ 20-05-2009 21:34:47
เพิ่งมีเวลา นึกว่าจะมานั่งอ่านรวดเดียวยาว ๆ จนจบ สงสัยคงต้องพับโปรแกรมนี้ไปก่อน ไว้รอให้น้องนายกลับมาแต่งต่อเมื่อไหร่ค่อยเริ่มอ่านตั้งแต่ต้นใหม่

ไม่อยาก ค้าง นานน่ะครับ ฮุฮุฮุ  :o9:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 21-05-2009 14:51:11
เข้ามา  :laugh: เจ้าของเรื่องโดนตัดหน้า

นานก็จะรออ่านนะคะ  :3123:

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 21-05-2009 20:32:29
รับทราบ อนาคตสำคัญนะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 12 (7/5/09)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 22-05-2009 19:29:34
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 01-06-2009 10:12:06
คิดถึงผู้อ่านจนทนไม่ไหว ก็เลยแอบเขียนต่ออีกบทให้อ่านครับ ไม่รู้จะมีใครคิดถึงและเป็นกำลังใจให้คนเขียนหรือเปล่าน๊อ  :m15:  :monkeysad:  :sad11:  :call:

บทที่ 13

ชยุตม์จอดหน้าร้านโชคดีค้าเหล็กแล้วนั่งมองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ แล้วลงจากรถเดินไปยังหน้าร้าน กว่าจะเขาจะปลีกตัวออกมาจากจวนผู้ว่าราชการได้ก็แทบแย่ เมื่อวานเขาถูกมารดาบังคับให้นอนพักผ่อนและไม่ให้ออกไปไหนทั้งวัน ทั้งแขกผู้ใหญ่หลายคนในจังหวัดต่างก็มาเยี่ยมเยือน พ่อของเขาก็กักตัวเขาไว้ให้คุยกับคนนั้นคนนี้จนเขาปวดหัวไปหมด รวมถึงถกกันเรื่องการก่อสร้างรีสอร์ทของคุณอาของเขาด้วย
เช่นเคย พ่อของเขากับคุณอาเถียงกันทุกครั้งเมื่อคุยกันเรื่องธุรกิจ พ่อพยายามจะดึงตัวเขาไปทำงานให้โครงการมหาวิทยาลัย แต่คุณอาของเขาไม่ยอม แม่ของเขาก็พยายามจะให้เขากลับเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ
“ผมจะพักอีกซักครึ่งปี เสร็จงานคุณอา ผมจะพักร้อนแบบพักร้อนจริงๆ คืออยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร ไปเที่ยวให้หายเหนื่อย” ชยุตม์ยื่นคำขาด
“แล้วแกตกลงจะทำงานช่วยพ่อหรือเปล่า” พ่อของเขายังไม่ยอมละความพยายาม
“ขอเวลาผมคิดก่อนนะครับพ่อ” ชยุตม์ตอบ “ถ้าพ่อให้ผมพัก ผมก็สัญญาว่าจะคิดเรื่องนี้ให้มากๆ และก็อาจจะไม่ปฏิเสธ แต่ผมต้องคุยกับทางใต้หวันก่อน”
คุยกับพ่อเขานั้นยากที่สุด รองลงมาคือพี่ชายคนโต สองคนนั้นถ้าต้องการอะไรแล้วก็จะเอาให้ได้ ทว่า ยากขนาดไหนเขาก็พอรับมือได้ แต่คนที่เขากำลังจะไปพบนี่สิ...
...หนักใจจริงๆ เลย...

ร้านเงียบ ไม่คึกคักอย่างที่ชยุตม์คาด บรรยากาศต่างจากที่จวนผู้ว่าฯ โดยสิ้นเชิง น้าพงษ์ยืนตรวจนับสินค้าอยู่เงียบๆ คุณเตือนใจยืนอยู่ไม่ไกลนัก กำลังคุยอยู่กับชายหนุ่มหน้าอ่อนนัยน์ตาเรียวเล็ก
พงษ์มองเห็นชยุตม์ก่อนจึงรีบเดินเข้ามาทักทาย คุณเตือนใจหันตาม พร้อมๆ กับชายหนุ่มที่เขาจำได้ว่าเป็นคนที่แอบชอบโชคดีอยู่ สายตาคู่นั้นไม่เป็นมิตร มองเขาเหมือนเด็กกลัวจะถูกแย่งของเล่น
“คุณโชคดีอยู่ข้างบนครับ แต่ว่า...” พงษ์ทำอึกอัก แล้วก็หยุดพูดเมื่อคุณเตือนใจเดินมาใกล้
“พงษ์ ไปตามโชคดีมาพบนายช่างหน่อยเถอะ” คุณเตือนใจสั่ง พงษ์ทำหน้าแปลกใจแล้วเดินจากไปเงียบๆ
คุณแม่ของโชคดีเชิญให้ชยุตม์ไปนั่งรอในห้องทำงาน แต่ชยุตม์ขอนั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน บอกว่าอากาศสดชื่นกว่า
“คุณพ่อกับคุณแม่กำลังยุ่งอยู่ครับ แต่ท่านบอกว่าจะหาเวลามาขอบคุณที่ช่วยกันออกตามหาผม”
“ตามหานายช่างกับโชคดีต่างหาก ไม่ต้องมาขอบคุณกันหรอก ท่านก็ออกตามหาด้วยเหมือนกัน ไม่ได้อยู่เฉยๆ เลย จะว่าไป หากไม่ได้ท่าน เราก็อาจจะเจอกันนายช่างกับโชคดีช้ากว่านี้ด้วยซ้ำ”
เตือนใจใม่อยากให้ท่านรัฐมนตรีฯ มาที่ร้านพร้อมกับคุณหญิงเพียงฤดี เธอไม่อยากให้อดีตหวนกลับมาอีก สิ่งที่ต้องการลืม เธอต้องการฝังมันไว้ แต่เธอก็ยอมรับเช่นกันว่า คนเราจะฝืนความจริงไม่พ้น อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เธอไม่ได้พบกับเพียงฤดีนานมากแล้ว นานเกือบจะพอๆ กับอายุของโชคดี แต่แวบแรกที่มองเห็น เธอก็จำเพียงฤดีได้ ภาพอดีตที่เคยเลือนจางกลับเด่นชัดขึ้นมาราวปฏิหารยิ์
...เมื่อเธอจำเพียงฤดีได้เพียงแวบแรกที่เห็น ฝ่ายนั้นก็คงจำเธอได้เช่นกัน เพียงฤดีไม่มีวันลืมเธอเด็ดขาด ไม่มีทาง...
ไม่นานพงษ์ก็เดินเข้ามาบอกว่าโชคดีนอนหลับไปแล้ว ทรงศักดิ์หันมายิ้มเยาะให้ชยุตม์แล้วขอตัวกลับ ชายหนุ่มเข้าใจว่าโชคดีไม่ยอมลงมาพบชยุตม์เพราะคุยกับเขาเสร็จแล้วขึ้นห้องไปเมื่อไม่นานนี่เอง
ชยุตม์รอจนทรงศักดิ์เดินห่างออกไปแล้วจึงพูดกับคุณเตือนใจว่าต้องการมาขอโทษโชคดี
“ผมคิดว่าคุณโชคดีคงโกรธเพราะรู้ว่าผมเป็นลูกใคร”
“ไว้ดิฉันจะช่วยคุยให้” คุณเตือนใจพูดเสียงอ่อนโยน “โชคดีเป็นคนมีเหตุผล แม้ดูร้ายๆ อย่างนั้นแต่ก็เป็นคนมีเหตุผล นายช่างอย่าเพิ่งหนักใจเลย”
...โกรธจนหูอื้อสิไม่ว่า ลองได้เงียบสนิทแบบนี้ ต่อให้เธอพูดจนปากฉีก ลูกชายคนเดียวของเธอก็ไม่ฟัง...
“ขอบคุณครับ แต่ผมก็ยังอยากจะอธิบายด้วยตัวเอง”
“รอซักหน่อยเถอะค่ะนายช่าง” คุณเตือนใจแนะนำ “น้ำกำลังเชี่ยว”
ชยุตม์กล่าวขอบคุณและอำลาคุณเตือนใจและพงษ์แล้วเดินไปขึ้นรถ เงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของร้านโชคดีค้าเหล็กอยู่ชั่วครู่แล้วถอนหายใจแรงๆ อีกครั้งหนึ่งก่อนจะขับรถออกไป
...โชคดีต้องโกรธเขามาก ตั้งแต่ขึ้นเรือแล้วก็ไม่มองหน้าเขาอีกเลย พอเรือช่วยเหลือมาถึงฝั่งก็รีบลงเรือแล้วเดินลิ่วๆ หายไปทันที...
...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ กำลังไปกันได้ดีอยู่แล้วเชียว เขายังนึกขอบคุณน้ำป่าด้วยซ้ำที่ทำให้เขากับโชคดีไปติดอยู่ที่กระท่อมปลายดอย แต่ตอนนี้...
...ตอนนี้ในหัวใจเขาร้อนรุ่มยิ่งนัก...
...หรือนี่เรียกว่ารัก...
...เขารักโชคดีเข้าแล้วหรือนี่ ใครก็ได้ช่วยบอกที...
...ร้ายซะขนาดนี้ รักเข้าไปได้ยังไง...

...วันนี้เป็นไงเป็นกัน เขารอไม่ได้แล้ว ยังไงเขาก็จะตกลงกับโชคดีให้ได้ ชยุตม์ก็หลุดจากวงโคจรไปแล้ว ไม่มีใครเป็นอุปสรรค ขอเพียงแต่โชคดีใจอ่อน ความรักของเขาก็จะสมหวัง...
ทรงศักดิ์สูดลมหายใจลึกๆ เดินเข้าไปหาโชคดี แม้จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่เขาก็อดประหม่าไม่ได้ วันนี้เขาตามหาโชคดีมาทั้งวันจนมาเจอตัวเอาตอนบ่าย
โชคดีปรายตามองเขาแวบหนึ่งแล้วหันไปมองไซท์ก่อสร้างรีสอร์ทเจ้าปัญหาต่อ มือไขว้หลัง หย่อนขาซ้ายเล็กน้อย ท่าทางผ่อนคลาย
"โชคดี" ทรงศักดิ์เรียกชื่อคนที่เขาหลงรักมาตลอด แล้วไปหยุดยืนอยู่ข้างๆ เงยหน้ามองโชคดีด้วยสายตาหลงไหล
...บางทีเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมหลงรักโชคดีมากมายขนาดนี้ โชคดีไม่เคยแสดงท่าทีมีเยื่อใยกับเขาเลย หน้ำซ้ำมีแต่ดุว่า พูดกับเขาห้วนๆ แต่ความรู้สึกของเขาต่อโชคดีก็ไม่เคยเปลี่ยน หนำซ้ำกลับรู้สึกเข้มข้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชยุตม์โผล่เข้ามา...
"หนาวไหมโชคดี" ทรงศักดิ์ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เห็นลมโกรกก็เลยคิดว่าโชคดีอาจจะหนาว
"ร้อนจะตายอยู่แล้ว" โชคดีตอบเสียงห้วน ตายังมองอยู่ที่ประตูน้ำของโครงการก่อสร้างรีสอร์ท
"ตามหาตั้งนาน มาอยู่ตรงนี้เอง" ทรงศักดิ์ทำเสียงอ่อนโยน "เรามีเรื่องจะคุยด้วย"
"อย่ามาบอกรักนะซ่ง ไม่อยากฟัง"
"โธ่ ทำไมพูดแบบนี้" ทรงศักดิ์หน้ามุ่ยเพราะถูกดักคอ
"ไม่อยากคิดอะไรเรื่องรัก"
ทรงศักดิ์สะอึก โชคดีตรงไปตรงมาอย่างเคย แต่เพียงชั่วเสี้ยววินาที เขาก็รวบรวมความกล้าได้ ตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาอีกครั้ง
"เรารักโชคดี จะบอกว่าไม่อยากฟังเราก็จะพูด ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้อง เราก็ไม่อยากทรยศหัวใจตนเอง"
"ก็รู้ว่าคำตอบจะเป็นยังไง ทำไมไม่เลิกซะที" โชคดีหันมามองใบหน้าขาวสะอาดของขายหนุ่ม ทรงศักดิ์ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่แววตาก็จริงจัง
"รักแล้วแสดงออกมามันผิดตรงไหน รักและเก็บงำเอาไว้สิไม่ควรทำ โชคดีรู้อย่างนี้แล้วทำไมไม่พิจารณาเราดูบ้าง ตัวเองก็ยังไม่มีใคร" ทรงศักดิ์พูดได้ไม่เต็มเสียง อะไรบางอย่างลึกๆ บอกเขาว่าโชคดีอาจมีใจให้ชยุตม์ แต่อีกเสียงในหัวก็คอบปลอบใจเขาว่า ชยุตม์ทำให้โชคดีโกรธและผิดหวัง วิศวกรหน้าขรึมคนนั้นมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากโชคดีเหมือนอยู่คนละโลก และโชคดีเองก็น่าจะเข้าใจสภาพที่เกิดขึ้น
"เราไม่ได้รักนาย"
คำตอบสั้นๆ ของโชคดีเสียดแทงเข้าไปในจิตใจของทรงศักดิ์ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ จะขอพยายามให้ถึงที่สุด
"แต่เรารักโชคดี รักไม่เคยเปลี่ยน กี่ปีๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยน รู้อย่างนี้แล้ว โชคดีไม่รู้สึกหวั่นไหวบ้างเลยหรือ ตั้งแต่เรียน ม. ปลายจนถึงตอนนี้ ไม่ใจอ่อนให้เราบ้างหรือไง" ทรงศักดิ์ออดอ้อน เสียงเริ่มแตกพร่า
"ซ่ง อีกสองปีค่อยมาคุยกับอีกทีได้ไหม" โชคดีต่อรอง "ตอนนี้ไม่อยากพูดเรื่องรัก"
แม้จะผัดผ่อนเรื่องเวลา ทรงศักดิ์ก็ควรจะดีใจที่โชคดียอมให้โอกาสเขา แต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกอย่างนั้น ยิ่งมีชยุตม์เข้ามาแทรก เขาก็ยิ่งไม่อยากรอ
"อย่าให้เราต้องรออีกเลย ถ้าโชคดีไม่ได้รักคุณชยุตม์ ก็รับรักเราเสียเถอะ"
โชคดีหันขวับมามองทรงศักดิ์นัยน์ตากร้าว แล้วกระแทกเสียงตอบ "อย่ามาพูดถึงคนคนนั้นนะ ไม่อยากได้ยินชื่อ แล้วไม่ต้องมาเดาว่าเรากับเขาจะรักชอบกัน"
"เรามองออก" ทรงศักดิ์แย้ง "แม่ของโชคดีก็มองออก ผู้กองปฐพีก็มองออก มีแต่โชคดีนี่ล่ะที่มองไม่ออก คุณชยุตม์ชอบโชคดี หลับตาข้างเดียวมองก็เห็น ถ้าโชคดีรักเขาทำไมไม่บอกเขาไปเลยล่ะ แต่ถ้าไม่รัก ก็ให้โอกาสเราสิ ให้โอกาสคนที่รักโชคดีหมดใจ"
"หุบปากนะซ่ง"
"ไม่" ทรงศักดิ์ปฏิเสธเสียงแข็ง "เราไม่ยอมแล้ว เรารักโชคดี มาเป็นแฟนกันเถอะ เราจะดูแลโชคดีเอง"
"จะบ้าหรือ อยากโดนต่อยหรือไง"
"จะต่อยให้เราสลบคามือ เราก็จะบอกว่ารัก อยากจะทำร้ายให้สมใจ เราก็จะยอม โชคดี มารักกันเถอะ ไม่มีใครเหมาะกับโชคดีเท่าเราแล้ว เราคนเมืองน่านด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากิน เราจะหาคนซื้อเหล็กร้านโชคดีเยอะๆ คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปมองเขาหรอก" ทรงศักดิ์ก้าวเข้ามาใกล้ ทำท่าเหมือนจะยื่นมือมาจับมือของโชคดี แต่ชายหนุ่มร่างสูงถอยหลัง รู้สึกแปลกใจอยู่บ้างที่เห็นทรงศักดิ์กล้ามากกว่าทุกครั้ง
"ผู้กองปฐพีก็คนเมืองน่านเหมือนกัน แม้ไม่ได้เกิดที่นี่เหมือนเราแต่ก็อยู่มาตั้งแต่วัยรุ่น"
"หมายความว่ายังไง" ทรงศักดิ์เบิกตากว้าง อ้าปากค้าง
"หมายความว่าเราชอบผู้กอง มองไม่ออกหรือซ่ง" โชคดีตัดสินใจพูด อย่างน้อยก็คิดว่าพอจะช่วยให้ทรงศักดิ์เลิกกวนใจเขา
"ทำไมผู้กองรับปากจะช่วยเรา" ทรงศักดิ์พึมพำ
...บ้าหรือ ผู้กองปฐพีนั่นหรือจะทำแบบนั้น ตัวเองก็ชอบเขาอยู่ จะมาช่วยซ่งได้ยังไง...
...เจ็บใจผู้กองอีกคนแล้วนะนี่ นึกว่าจะเจ็บใจชยุตม์คนเดียวเสียอีก...
"ผู้กองเป็นสุภาพบุรษ ไม่อยากให้นายเสียใจนะสิ" โชคดีพูดต่อ "ลูกชายผู้ว่าฯ กับลูกชายเจ้าของร้านทอง จะให้เราเลือกใครซ่ง"
"เรารักโชคดีจริงๆ" ทรงศักดิ์พึมพำ ตาหลุบมองพื้น มือกำแน่น กรามขับกันจนขึ้นเป็นสันนูน ปากเม้มเป็นเส้นตรง หัวใจเต้นแรง หายใจไม่สม่ำเสมอ ในหัวหมุนติ้วแทบจะทรงตัวไม่อยู่
"เราไม่ชอบคนตาตี่ ไม่ชอบคนจีน เราชอบคนไทยเหมือนกัน"
"ทำไมต้องแบ่งเชื้อชาติกันด้วย" ทรงศักดิ์รำพัน น้อยใจโชคดียิ่งนัก คราวนี้โชคดีทำร้ายหัวใจเขามากกว่าทุกครั้ง สิ่งที่ได้ยิน แทบทำให้เขาอยากไปเกิดใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด
"ซ่ง นายเป็นคนดีนะ" โชคดีถอนหายใจลึกๆ อดรู้สึกสงสารทรงศักดิ์ไม่ได้ "เป็นเพื่อนที่ดี"
"ทำไมไม่ให้ผู้กองเป็นพี่ชายบ้างล่ะ แล้วให้เราเป็นแฟน" ทรงศักดิ์เสียงแผ่ว "เราไม่อยากเป็นเพื่อน"
"เลือกเอา เป็นเพื่อนหรือไม่ต้องเป็นอะไรกันเลย" โชคดีใจแข็ง แล้วเดินหนี ทิ้งให้ทรงศักดิ์ยืนคอตกอยู่คนเดียว
...พี่ชายหรือ ให้ผู้กองปฐพีเป็นพี่ชาย ให้ซ่งเป็นเพื่อน แล้วใครเป็นคนรัก...
...หรือไม่ต้องมีเลยเสียก็ดี...

แม้รู้ว่าโชคดีจะมาหาที่สถานีตำรวจ แต่ครั้นเห็นร่างสูงเดินขึ้นบันไดมาอย่างมั่นใจ ร้อยตำรวจเอกปฐพีก็อดหวั่นไม่ได้
"ผู้กองรู้ตลอดเวลาใช่ไหมว่าคุณคนนั้นเขาเป็นลูกชายรัฐมนตรี พี่ชายเจ้าของรีสอร์ท" โชคดีเปิดฉากทันทีที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของปฐพี
นายตำรวจหนุ่มคงตอบไม่ทันใจ ฝ่ายที่ขับรถข้ามจังหวัดมาหาถึงที่จึงพูดต่อว่า "ผมถือว่าการเงียบคำการให้คำตอบว่า ใช่"
"โธ่ โชคดี ให้เวลา..."
"ให้เวลาคิดว่าจะตอบยังไงหรือครับ" โชคดีแทรก "หลงเชื่อใจนึกว่าเป็นพวกเดียวกับผม"
"ผมก็พวกเดียวกับโชคดีมาตลอด ไม่เคยเป็นพวกคนอื่นเลย" ปฐพียิ้มประจบ
"งั้นมาร่วมลุยรีสอร์ทนั่นกับผม วันเสาร์นี้ผมจะเกณฑ์คนไปปิดทางเข้าออกรีสอร์ท"
"อะไรนะ" ปฐพีเบิกตากว้าง "จะทำจริงๆ หรือ"
"เคยพูดเล่นที่ไหน" โชคดีกอดอก เอนตัวพิงขอบหน้าต่างห้องทำงานของปฐพี จ้องหน้านายตำรวจหนุ่มนิ่ง แสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริง
"เพราะอะไรโชคดี" ปฐพีลุกขึ้นเยิน เดินเข้ามาใกล้ "เพราะรีสอร์ทสร้างขึ้นโดยการทำลายธรรมชาติ หรือเพราะไม่ชอบหน้าคุณชยุตม์ที่เขาเป็นวิศวกรโครงการ หรือที่เขาเป็นลูกชายรัฐมนตรีมหาดไทย อีกอย่าง โชคดีก็ยังไม่รู้เลยว่าท่านเกี่ยวข้องกับโครงการหรือเปล่า"
"เพราะอะไรอย่ารู้เลย" โชคดีเมินหน้าออกนอกหน้าต่าง
"นี่สิ ผมถึงตอบรับไม่ได้ว่าจะเข้าร่วมต่อต้านด้วย" ปฐพียื่นหน้าเข้ามาใกล้ "มีเหตุผลหน่อยสิครับ อย่าพาล"
โชคดีหันขวับมามอง ปกติปฐพีไม่เคยพูดอะไรกับเขาตรงไปตรงมาขนาดนี้ นายตำรวจหนุ่มพูดประนีประนอมมาตลอด แต่ตอนนี้ทำเหมือนพี่ชายกำลังจะดุน้อง
ปฐพีถือโอกาสทองตอนที่โชคดีกำลังนิ่ง พูดต่อไปว่า "เท่าที่ผมได้ยินเขาคุยกัน ท่านฯ ไม่ค่อยลงรอยกับน้องชายเท่าไหร่ ผมเห็นว่าท่านเป็นคนดีคนหนึ่ง ตรงไปตรงมา ค่อนข้างนักเลงด้วยซ้ำ ดูๆ ไปก็ไม่ได้จะชอบที่น้องชายสร้างรีสอร์ท และที่สำคัญ หาหลักฐานได้ชัดเจนแล้วหรือว่ารีสอร์ทของเขาทำลายธรรมชาติจริงๆ ถ้าหลักฐานไม่แน่น ตัวเองก็รู้นี่ว่าจะ..."
"ผมรู้แล้ว" โชคดีลดมือลงล้วงกระเป๋า เอียงคอมองปฐพีอยู่ชั่วเสี้ยววินาที แล้วเดินตรงไปยังประตู
"หมูปิ้ง" นายตำรวจเรียกเสียงอ่อนโยน
โชคดีหันขวับ ตาขวาง ท่าทางไม่ชอบใจเช่นเคยเมื่อมีคนเรียกชื่อเล่น
"อย่าโกรธผมเลยนะ ถ้าลองคิดดีๆ จะเข้าใจว่าทำไมผมถึงเงียบไว้"
ชายหนุ่มหน้าดุไม่พูด มองนายตำรวจอย่างคิดคำนึงชั่วเวลาสั้นๆ แล้วเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ปฐพีมองตามด้วยสายตาครุ่นคิดเช่นกัน

จากลำปาง โชคดีบึ่งรถตรงไปเชียงใหม่เพื่อพบกับดอกเตอร์พงศธร ชายหนุ่มนั่งรออยู่หน้าห้องทำงานของดอกเตอร์เกือบครึ่งชั่วโมง โทรศัพท์ดังขึ้น มารดาของเขาบอกว่าให้รีบกลับเพราะเย็นนี้ท่านรัฐมนตรีเชิญทานอาหารเย็น
"ผมไม่กิน" โชคดีตอบ
"ไปบอกท่านเองสิ" คุณเตือนใจสวนกลับ
"ทำไมเขาจะต้องมาเชิญเราล่ะแม่"
"ตอนไปถึงค่อยถามเค้า" ผู้เป็นแม่พูดกวนพอๆ กับลูกชาย หากประโยคต่อมาทอดเสียงลงอย่างอ่อนโยน "นะ หมูปิ้ง มาเป็นเพื่อนแม่หน่อย"
"ผมอยู่เชียงใหม่"
"มีเวลาถมเถ อีกหนึ่งชั่วโมงแกก็ออกจากเชียงใหม่ กลับมาถึงบ้านก็ห้าโมงเย็น หกโมงก็ไปพบท่านที่โรงแรมวังเวียง"
"ลูกชายท่านไปด้วยหรือเปล่า" โชคดีถาม
"แม่ไม่รู้" คุณเตือนใจตอบ "ทำไม แกไม่กล้าสู้หน้าเขาหรือไง"
"ทำไมจะไม่กล้า คนอย่างโชคดีไม่เคยกลัวใคร"
"ถ้าไม่กลัวก็มา แม่ไม่อยากไปคนเดียว"
"แต่ผมว่าแม่นั่นล่ะไม่กล้าสู้หน้า มีอะไรที่ผมต้องรู้หรือเปล่า"
คุณเตือนใจอ้ำอึ้ง โชคดีจึงพูดต่อว่า "แม่ เราไม่เคยมีความลับต่อกัน อย่ามากั๊กอะไรเอาไว้นะ บอกมาเถอะว่าทำไมไม่อยากไป"
"แล้วแกล่ะ ทำไมไม่อยากไป"
"ผมไม่อยากเจอหน้าคุณคนนั้น"
"คุณคนนั้น" คนที่เป็นแม่ทวนคำ "คุณคนนั้นคือคุณนายช่างชยุตม์หรือเปล่า งอนเขาล่ะสิ"
"เปล่า"
"แกบอกแม่ไม่ให้มีกั๊กความลับ" คุณเตือนใจหยุดไปชั่วอึดใจแล้วพูดออกมาว่า "แกก็ต้องตอบคำถามแม่เหมือนกันว่า แกรักคุณชยุตม์ใช่หรือไม่ และตอนนี้กำลังงอนเขา เลยไม่กล้าเจอหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อ"
"ไม่ใช่ไม่กล้า ไม่อยาก" โชคดีตอบสั้น เสียงหนักแน่น ไม่ต้องการให้มารดาจับน้ำเสียงหวั่นไหวได้
"คำตอบแรกยังไม่ได้ตอบเลย"
"คำตอบไหน ผมตอบไปหมดแล้ว คราวนี้แม่บอกมาว่าทำไมไม่อยากไป"
"แกรักคุณชยุตม์หรือเปล่า" คุณเตือนใจไม่ยอมทิ้งประเด็น
"ไม่"
"งั้นก็รักผู้กอง"
"ไม่เหมือนกัน"
"งั้นเจ้าซ่ง"
"แม่" โชคดีโวยวาย "ไม่รักใครทั้งนั้น ได้ยินไหม ไม่ได้รักใคร"
...ไม่แน่ใจ ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจ เขาต้องการเวลาซักพัก...
"เอาล่ะ ตอนนี้แม่ตอบมา"
คนที่เป็นฝ่ายเงียบคือคุณเตือนใจ
"ว่าไงแม่ หรือว่าแม่เคยรู้จักกับท่านรัฐมนตรีฯ มาก่อน"
"เปล่า" คุณเตือนใจถอนหายใจเฮือกใหญ่ "แม่รู้จักกับคุณหญิงฯ ของท่าน"
"ทำไมผมไม่รู้"
"ตอนนั้นแกดิ้นอยู่ในท้องแม่ เลยไม่รู้จัก"
"ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย" โชคดีพูดเสียงเรียบ "แล้วคุณหญิงรัฐมนตรี แม่ของคุณคนนั้นเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราต้องมาตายเอาดาบหน้าที่เมืองน่านหรือเปล่า"
"โชคดี อย่าเพิ่งมาถามแม่ตอนนี้เลย ตกลงเย็นนี้ไปกับแม่นะ"
"ได้" โชคดีรับคำ "แต่ไม่รับประกันความราบรื่นนะแม่ ผมกลัวว่าเห็นหน้านายช่างคนนั้นแล้วผมจะอารมณ์เสีย"
"แกนั่งไกลๆ เขาหน่อยก็แล้วกัน แม่กับผู้กองจะขนาบข้างเอาไว้ ไม่ต้องห่วง"
"อ้อ แล้วถ้าไม่อยากไป ทำไมไม่บอกปฏิเสธไปล่ะแม่" โชคดีนึกอะไรได้ จึงถามมารดาออกไป ในใจรู้สึกสงสัยยิ่งนักว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ทำไม่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แม่ไม่เคยพูดถึง "ผู้หญิงคนที่สอง" เลยแม้แต่ครั้งเดียว คนในอดีตที่ทำให้แม่ต้องหอบเขาออกมาจากกรุงเทพฯ ก็มีเพียงคนในตระกูล?????เท่านั้น
...พ่อกับภรรยาใหม่ของพ่อที่คุณหญิงย่าเป็นคนจัดการแต่งานให้ แล้วบังคับให้แม่กับเขาต้องออกจากบ้านไปเช่าห้องพักอยู่กันสองแม่ลูก...
...แม่ของชยุตม์มาเกี่ยวอะไรด้วย...
...หรือว่า...
...ได้โปรดเถิด ขออย่าให้เป็นอย่างที่เขากำลังนึกอยู่ตอนนี้เลย...
****************13**************
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-06-2009 11:22:49
ได้อ่านแล้ววววววววววววววววววววเข้มข้นสุดๆเลย ตอนหน้าความจริงจะเฉลยมั้ยน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mma419109 ที่ 01-06-2009 12:12:20
     +1ฉลองการกลับมา ว่างก็เข้ามาต่อก็แล้วกันนะ
    อย่าบอกนะว่าหมูปิ้งกับนายช่างเป็นพี่น้องกัน แล้วชยานนท์เล็ง
 ใครปฐพีหรือคุณทรงศักดิ์  ซับซ้อน ซับซ้อน :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 01-06-2009 13:35:04
หมูปิ้ง มีแต่หนุ่มมารุมรักกกกกกก สงสารซ่งอ่ะ
เฮ้อ หมูปิ้งจะพูดตัดรอนดีๆกว่านี้ก็ไม่ได้ ไอ้เรื่องตาตี๋ ลูกคนจีนอะไรนั่น
มันเป็นคำพูดที่แรงมากกกกกเลยนะ สงสารซ่งจริงๆนะ นี่กล้ามาพูดสารภาพรัก
แบบหัวชนฝาแบบนี้ได้ก็ต้องเตรียมใจมาเป็นอย่างดีแล้วสินะ กล้าพูดปาวๆ
ถึงผลตอบรับที่ได้ไปจะน่าปวกใจก็ตาม เฮ้ออออ ซ่งเอ้ยน้อยใจให้ตาย
หมูปิ้งมันก็ไม่ดูดำดูดีหรอก
นี่หมูปิ้งจะ เจ็บแค้นเคืองโกรธนายช่างไปถึงไหนเนี่ย โกรธแล้วพาล
จะไปปิดทางเข้ารีสอร์ตเค้าอีก ไปกันใหญ่แล้ว แล้วอีกอย่างจะไม่ให้โอกาส
นายช่างได้อธิบายเลยเหรอ เค้าต้องมีเหตผลสิ ถึงเค้าโกหกไป เค้าก็ไม่ได้ผล
ประโยชน์อะไรจากคำโกหกนั่นเลยนะ แม้แต่ชื่อยังไม่พูดออกมาจากปากเลย
เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆ
ส่วนเรื่องคุณนายเืตือนใจกับคุณแม่ชยุตม์อีก อะไรกันนักกันหนาเนี่ย
ภรรยาใหม่ที่คุณย่าหาให้ คงไม่เกี่ยวดองกับแม่ของชยุตม์หรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น
คนใจแข็งแบบหมูปิ้งคงไม่ต้องมองหน้า หรือเผาผีกันเลย หมูปิ้งเป็นประเภท แค้นฝังหุ่น เฮ้อ น่ากลัวเกิ๊น

ปล. ได้อ่านซักที ชื่นใจเป็นที่สุด เด๋วตามกดบวกให้ทีหลังนะคะรอเวลาอีกนิด >//<

เหอะๆ 821
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-06-2009 16:54:31
 :กอด1: ด้วยความคิดถึง
บอกแล้วว่าต้องคิดถึงคนอ่านเหมือนกัน :laugh:


ปล.โชคดีกับชยุตน์อย่าเป็นพี่น้องกันนะ มีเคืองจริงๆด้วย

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 01-06-2009 20:25:11
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

อย่าบอกนะว่าพ่อเดียวกัน

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-06-2009 21:34:09
ปมมันเริ่มเป็นเกรียวแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

แล้วปมนี้จะเกี่ยวไปถึงนายช่าง กับหมูปิ้ง ยังไง ( แล้วจะโกรธไหมละที่ไปเรียกชื่อเล่นเค้า พี่นายช่วยบอกที )

+1 เป็น 820 ให้พี่นาย เป็นกำลังใจให้ พี่นาย ทำวิทยานิพนธ์เรียบร้อย และเป็นมหาบัณฑิต เร็ว ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 01-06-2009 21:54:51
เอ่อ ....



แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกัน
ชื่อเรื่องบอกเหตุเยอะไปแระ TTATT
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 01-06-2009 23:06:05
ได้อ่านแล้ว นึกว่าจะไม่ได้อ่านซะแล้ว

รอคอยนานมาก

ยังรักเรื่องนี้อยู่เสมอคับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 01-06-2009 23:41:34
จะเป็นพี่น้องคนละแม่????????
แล้วจะลงเอยกันได้ไง
ป้าอยากอ่านตอนต่อไปแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 14 (2/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 02-06-2009 07:51:16
อรุณสวัสดิ์ครับ

บทที่ 14

ตลอดเวลาการทานอาหารเย็น โชคดีนั่งเงียบเสียเป็นส่วนมาก ชยุตม์ก็เช่นเดียวกัน คุณเพียงฤดีทักทายกับคุณแม่ของโชคดีและคุยกันเพียงนิดหน่อย ดูเหมือนว่าต่างคนต่างไม่อยากจะพูดถึงเรื่องในอดีต หรือแสดงตัวให้คนอื่นเห็นว่าเคยรู้จักกันมาก่อน จึงมีเพียงคุณพ่อของชยุตม์ คุณพ่อคุณแม่ของปฐพี และนายตำรวจสนทนากัน ส่วนชยานนท์เอาแ่ต่นั่งเงียบมองผู้กองหนุ่ม
โชคดีแอบสังเกตชยุตม์และบิดา เขาค่อนข้างแน่ใจว่าสองคนนั้นรู้ว่าคุณเพียงฤดีกับแม่ของเขาเคยรู้จักกันมาก่อนและเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้
...หมั่นใส้ชยุตม์ รู้แล้วเงียบ ไม่พูดอะไรซักคำ ทำหน้านิ่งๆ นึกว่าตัวเองเท่มากนักหรือไง...
"ตอนที่รู้ว่าคุณชยุตม์เป็นลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผมนึกภาพว่าลูกชายคงถอดแบบมาจากพ่อ แต่ท่านกับคุณชยุตม์ดูต่างกันจังเลยนะครับ" โชคดีพูดโพล่งขึ้นมาเมื่อได้โอกาสแทรกการสนทนาระหว่างท่านรัฐมนตรีกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด
ชยุตม์เหลือบตาขึ้นมอง มือที่กำลังตักอาหารจะเข้าปากวางช้อนลงบนจาน แล้วจ้องโชคดีเขม็ง คุณเพียงฤดีและคุณเตือนใจยิ้มบางๆ แล้วทานอาหารต่อช้าๆ ท่านรัฐมนตรีหัวเราะชอบใจแล้วพูดว่าโชคดีเป็นคนพูดน้อย บทจะพูดก็ทำให้ทุกคนต้องหยุดฟัง
"เขาเรียกว่าลูกไม้หล่นไกลต้น ผมอยากให้เล่นการเมืองก็ไม่ยอมท่าเดียว รายนี้เป็นคนรักสันโดษ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบก่ออิฐก่อปูน" คุณพ่อของชนุยม์หันไปมองลูกชายยิ้ม
"รักสันโดษ รักธรรมชาติ" โชคดีพนักหน้าหงึกหงัก ทำท่าเข้าใจ "มิน่า คุณชยุตม์ถึงได้ปลีกตัวไปพักที่บ้านหลังเล็กริมแม่น้ำเพื่ออิงแอบธรรมชาติ"
...มิน่า ถึงได้รับงานเป็นวิศกรสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ อยากจะพูดกระทบกระเทียบเขาแบบนี้ใช่หรือเปล่าล่ะ...
ชยุตม์ก้มหน้าลงทานอาหารต่อ พยายามไม่ร่วมวงสนทนา พ่อของเขาเล่าภูมิหลังของเขาให้ทุกคนฟังสั้นๆ โดยมีโชคดีคอยพยักหน้าทำท่ารับรู้
...คนอะไร น่าบีบคอให้ขาดใจตายนัก ยิ่งเห็นทำตาเยาะๆ แบบนั้นยิ่งน่าหมั่นใส้ ทำเหมือนสนใจฟังสิ่งที่พอเขาพูดยิ่งนัก...
"พอเห็นตึกล่าสุดที่ยุตม์สร้างผมก็ตาเหลือก ตึกอะไรมันแปลกประหลาดขนาดนั้น เดินเข้าไปข้างในเหมือนใครเขาแก้วยักษ์มาครอบพื้นดินเอาไว้ เสาก็ไม่มีซักต้น กลัวว่ามันจะพังลงมา แต่พอรู้ว่ามาสร้างรีสอร์ทริมน้ำกลางป่ากลางเขา ผมก็ยังแปลกใจ ปกติเห็นอยู่แต่เมืองใหญ่ ไม่เคยออกต่างจังหวัด" ท่านรัฐมนตรีคุยเพลิน "ไม่เหมือนพ่อ แทบไม่เคยอยู่ในเมือง พอมีโอกาส ขอให้ได้ออกต่างจังหวัด"
"ปกติคนไม่ค่อยเหมือนพ่อ มักจะเหมือนแม่นะครับ" โชคดีแทรก แล้วหันไปยิ้มให้มารดาตัวเอง "ผมก็เหมือนแม่"
"ผมว่าคุณโชคดีเหมือนท่านมากกว่า ท่าทางลุยๆ เหมือนกัน" ท่านผู้ว่าราชการแทรก ทำให้ ม.ท. 1 หัวเราะชอบใจ
"จริงสิ ตั้งแต่เจอกันมาผมก็ว่าอย่างนั้น งั้นมาเป็นลูกผมอีกคนดีไหม ชยุตม์เขาเคยบ่นเหมือนกันว่าอยากมีน้องชาย เขาไม่ชอบเป็นลูกคนสุดท้อง" พ่อของชยุตม์พูดเล่น
...ใครจะอยากได้มาเป็นพี่ชาย ไม่เอาด้วยหรอก...
...ใครจะอยากได้มาเป็นน้องชาย ไม่เห็นจะอยากให้เป็น...
สองหนุ่มมองตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้น ชยุตม์จึงหันไปยิ้มให้บิดา แล้วพูดขึ้นว่า "ดีเหมือนกันครับ พ่อจะได้มีคนช่วยทำงาน จัดการดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประเทศชาติและประชาชน"
ปฐพีเผลอหัวเราะเสียงดัง หลังจากที่นั่งเงียบมานาน ทำให้โชคดีหันขวับไปมองตาเขียว ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้า หันมามองคนที่พูดกระทบเขาได้อย่างหน้านิ่งๆ
...รอเดี๋ยวเถอะ อยากเล่นกับโชคดีก็จะได้เจอโชคดี...

เสียงกระแทกเท้าเดินไปตามทางเดินปูพื้นไม้ ตามมาด้วยเสียงกระแทกประตูปิดแรงๆ และเสียงขอโทษจากร้อยตำรวจเอกปฐพี โชคดีหยุดยืนถอนหายใจลึกๆ อยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ มองตัวเองด้วยใบหน้าขุ่นเคือง
"ตัวเองเป็นคนกวนเขาก่อน" ปฐพีเปิดประตูตามหลังโชคดีเข้ามาในห้องน้ำ
"เข้าข้างกันตั้งแต่เมื่อไหร่" โชคดีเบ้ปาก
"เปล่า ผมอยู่ข้างโชคดี ขอสัญญา" ปฐพีตอบ "ตราบเท่าที่โชคดีทำสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม"
"คิดว่าที่ผมพูดไปเมื่อครู่นี้ไม่เหมาะสมยังงั้นสิ"  โชคดียืนมองปฐพีในกระจก
"ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่ และที่คุณชยุตม์พูด ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเหมือนกัน"
"เข้าข้างกันเข้าไป" โชคดีเปิดน้ำ ก้มหน้าลงล้างหน้าแรงๆ อย่างฉุนเฉียว
"น้ำเลอะเสื้อหมดแล้วโชคดี" ปฐพีเตือน
"แล้วนี่ผู้กองเข้ามาทำไม" โชคดีเงยหน้าขึ้น ยกแขนเสื้อขึ้นจะเช็ดหน้าอย่างที่เคยทำ
"ห้องน้ำบ้านผม ทำไมจะเข้าไม่ได้ แล้วนี้ก็ห้องน้ำแขก เข้าพร้อมกันได้หลายคน แยกชายแยกหญิงต่างหาก" ปฐพีส่ายหน้าพลางยื่นผ้าเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย "เอ้านี่ เลิกใช้แขนเสื้อเช็ดหน้าได้แล้ว อุตส่าห์แต่งตัวซะดี เสื้อใหม่หรือเปล่า"
"ขอบคุณครับ" โชคดีเน้นเสียง รับผ้าเช็ดหน้าไปจากปฐพีแต่กลับยกแขนเสื้อเช็ดหน้า
"ดื้อจริงๆ" ปฐพีส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วก้มตัวลงเปิดน้ำเพื่อล้างมือ
"ผู้กอง ผม..."
ปฐพีเลิกคิ้ว ชะงัก แล้วยืดตัวขึ้น ละสายตาจากใบหน้าคมเข้มที่กำลังมองเห็นในกระจัก หันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รอฟังสิ่งที่โชคดีจะพูดต่อ
"เปล่า ไม่มีอะไร" โชคดีส่ายหน้า เปลี่ยนใจไม่พูดอะไรต่อ แล้วหันหลังเดินไปที่ประตูห้องน้ำ
"เดี๋ยวสิโชคดี" ปฐพีคว้าข้อมือชายหนุ่มเอาไว้ โชคดีหันหน้ากลับมา พยายามดึงมือกลับ นายตำรวจไม่ยอมปล่อย หากดึงคนใจร้อนเข้ามาใกล้ แล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
"โชคดีก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไง และจะอยู่ข้างโชคดีเสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรก็ขอให้ผมได้รับรู้บ้าง ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ หรือจะบ่นให้ฟังก็ได้"
โชคดีมองหน้าปฐพีนิ่งอยู่ชั่วครู่ แล้วดึงมือกลับ คราวนี้นายตำรวจปล่อยมือเขาแต่โดยดี ปฐพียืนมองประตูห้องน้ำอยู่ชั่วครู่แล้วหันไปทำธุระส่วนตัว ก่อนจะมายืนมองตัวเองในกระจกอีกครั้งอย่างคิดคำนึง
...เขาพอจะมองออกแล้วว่า สิ่งที่ทรงศักดิ์พูดนั้น ดูท่าจะเป็นความจริง ภายใต้ท่าทีไม่ถูกกันระหว่างโชคดีกับชยุตม์ มีเยื่อใยอะไรบางอย่างถักทอสองคนนั้นไว้...
...หรือเขาจะไม่มีโอกาสแล้วจริงๆ พยายามใกล้ชิดกับโชคดีมานานหลายปี ท้ายที่สุดเขาจะเป็นได้แค่พี่ชาย...
...แต่ทำไมเขาไม่ได้รู้สึกทรมานมากอย่างที่ควรเป็น
...ทำไม...

หลังจากกล่าวอำลาเจ้าบ้านและท่านรัฐมนตรีแล้ว โชคดีเดินเลี่ยงออกมายืนรอแม่ที่ข้างต้นไม้ แม่ของเขาเดินตามมาช้าๆ โดยมีคุณเพียงฤดีเดินเข้ามาคุยด้วยเบาๆ ชยุตม์เดินคู่มากับปฐพี ส่วนท่านรัฐมนตรีกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยืนอยู่กับมารดาของชยุตม์
...ไม่รู้จะหันมามองทำไม ไม่กลัวพ่อแม่ตัวเองสงสัยหรือยังไงนะ...
โชคดีเบือนหน้าหนีอย่างเคืองๆ ตั้งแต่ทานอาหารเสร็จ เขาเห็นชยุตม์มองเขาอยู่บ่อยๆ ทำเหมือนจะเข้ามาคุย
...จะอยากคุยอะไรอีก จะหาเรื่องพูดกระทบกระเทียบเขาอีกละสิ พักหลังเหน็บแนมเก่งขึ้นเยอะ ตอนมาใหม่เห็นเงียบขรึม อยู่ไม่กี่เดือน ปากคอไม่เบา...
"ว่างๆ ก็แวะมาคุยกันบ้างนะโชคดี" คุณนายผู้ว่าส่งเสียงตามหลังโชคดีเมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถ
"ถ้าไม่มาผมจะไปตามเองครับคุณแม่" ปฐพีแทรกขึ้นมา ใบหน้ายิ้มๆ
โชคดีรับปากแล้วขึ้นรถประจำที่คนขับรอให้แม่ขึ้นนั่ง แต่คนที่เดินเข้ามาหาทำให้เขาต้องหันหน้าหนี ชยุตม์พูดขอบคุณโชคดีเสียงเรียบที่ให้เกียรติมารับประทานอาหารด้วย ชายหนุ่มหน้าเข้มพยักหน้าอย่างขอไปที แล้วก้มหน้าลงทำเป็นเลือกเทปเพลงเพื่อเปิดฟัง
"ไปทำอะไรมาครับ ทำไมเสื้อเปียก" ชยุตม์อดถามไม่ได้ ต้นแขนของชายหนุ่มสองข้างเปียกชื้อ คอเสื้อก็เปียก ทำเหมือนไปเล่นน้ำมา
...จะรู้ไปทำไม มาวุ่นวายอะไรกันกับเสื้อของเขา...
โชคดีไม่ตอบ ทำทีเป็นหันหลังไปมองมารดาที่กำลังเดินมา
"เดี๋ยวก็เป็นหวัด" เสียงชยตม์ยังแว่ว "เอาเสื้อผมใส่กลับบ้านไหมครับ"
...ยุ่งจริงๆ เลย...
"ถ้าจะเปลี่ยนเสื้อ ผมยืมเสื้อผู้กองปฐพีดีกว่า" โชคดีหันไปตอบ แล้วหันหน้าหนี เลยไม่ได้เห็นว่าชยุตม์หน้าเสียไปทันที แต่วิศวกรหนุ่มก็ไม่ลดละ
...เล่นกับโชคดีถอยไม่ได้...
"อ๋อ ชอบเครื่องแบบ"
โชคดีหันขวับ กำลังจะอ้าปากตอบโต้ แต่คุณแม่ของเขาเปิดประตูรถเสียก่อนจึงเลิกคิดจะตอบโต้ชยุตม์
"ขับรถดีๆ นะครับ เป็นห่วง" ชยุตม์พูด หากคำสุดท้ายเบาหวิวจนผู้ฟังแทบไม่ได้ยิน

ขณะที่เดินทางกลับบ้าน โชคดีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามมารดาถึงสิ่งที่คุยกับคุณเพียงฤดี แม่ของเขาบอกว่าเพียงแค่ถามสารทุกข์สุขดิบ
"เรื่องมันจบลงไปแล้ว ฤดีก็ไม่ได้ติดใจอะไรอีก" คุณเตือนใจสรุปเสียงเบา
"ติดใจเรื่องอะไรแม่" โชคดีถาม แล้วหันไปมองถนน มือเคาะพวงมาลัยเล่น ทำท่าสบายใจ ทั้งที่ร้อนใจยิ่งนัก
...ตอนแรกที่เห็นท่านรัฐมนตรีฯ เขาคิดว่าชยุตม์เหมือนพ่อ แต่นั่นเพราะเห็นชยานนท์ด้วย ทั้งสถานการณ์ก็ชี้นำทำให้นึกไปเช่นนั้น พอมองอย่างพิจารณา ชยุตม์ไม่เหมือนพ่อเลย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา บุคลิก ท่าทาง การพูดการจา หรือแม้แต่ความคิดก็ไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย...
...แม่ก็ไม่เหมือน...
...อย่างเดียวที่พอจะเหมือนแม่คือท่าทางนิ่งๆ เยือกเย็น...
...เขาคิดว่าเค้าหน้าของชยุตม์ไม่เหมือนพ่อแม่เลยทั้งสองคน...
"มองอะไร เดี๋ยวก็ได้ลงข้างทางกันหรอกหมูปิ้ง หันไปมองถนนโน่น" คุณเตือนใจสั่งลูกชาย
โชคดีหันกลับไปมองถนนเพราะเผลอหันไปมองมารดาบ่อยเกินไป แล้วขับรถไปเงียบๆ ครั้นใกล้จะถึงบ้านจึงชวนคุยเรื่องอื่น
...ชยุตม์เหมือนใคร...
...เขาเหมือนแม่ หน้าตาท่าทาง บุคลิก นิสัยใจคอเหมือนกันทุกอย่าง...
...เขาจำหน้าพ่อไม่ค่อยได้ รูปถ่ายก็ไม่เคยสนใจจะเก็บเอาไว้ และไม่เคยขอแม่ดูด้วยซ้ำ...
ครั้นจอดรถหน้าบ้าน โชคดีก็หันไปมองแม่อีกครั้ง ไม่ทราบด้วยเหตุผมอันใด แวบหนึ่ง เขารู้สึกอยากจะเห็นพ่อของตัวเองขึ้นมาทันที
...ชยุตม์เหมือนใคร หน้าตาคมเข้มหล่อเหลาแบบนั้นจะหน้าตาเหมือนใคร...
...ปฐพียังหน้าตาเหมือนพ่อกับแม่อย่างเห็นได้ชัด ช่างเป็นคนที่แบ่งเอาลักษณะทุกอย่างของผู้ให้กำเนิดมาได้คนละครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก นิสัยใจคอ จังหวะการพูด การเดิน ปฐพีเหมือนพ่อกับแม่มาก...
...ชยุตม์ไม่เห็นจะเหมือนบุพการีตนเองเลย...
...ไม่เหมือน...
...แม่เขายังขยักเรื่องราวในอดีตเอาไว้ ไม่ได้บอกทั้งหมด เขารู้สึกลึกๆ ว่ามีอะไรบางอย่างที่ยังไม่รู้และแม่ไม่อยากจะพูดถึง...
...ได้โปรดเถอะ ขออย่าให้อะไรเป็นไปอย่างที่คิดเลย...

ฝนที่ตกมาหลายวันหยุดตกเอาเมื่อใกล้รุ่งสางทำให้อากาศของเช้าวันใหม่สดชื่นยิ่งนัก หมอกบางๆ ปกคลุมไปทั่ว ฤดูหนาวกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ถูกฝนหลงฤดูขัดจังหวะ ชยุตม์คว้าเสื้อสเว็ตเตอร์สีเทาเข้มตัวเดียวที่มีอยู่มาสวมแล้วออกมายืนสูดอากาศบริสุทธิ์หน้าบ้านพัก ก้มลงเอามือแตะเท้าเพื่อยืดเส้นยืดสาย พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินเข้มคันหนึ่งกำลังวิ่งตรงมา แม้ยังไม่รู้ว่าใครขับ แต่อะไรบางอย่างบอกเขาว่าคนที่มาหาเขาคือใคร
...จะมาดีหรือมาร้าย ข้อนี้เขายังบอกไม่ได้...
ชยุตม์ยืดตัวตรง ยืนคอยจนกว่ารถคันนั้นจะจอดสนิท พร้อมร่างสูงของคนขับเปิดประตูลงจากรถ เดินฉับๆ เข้ามาหาเขาด้วยท่าทางมั่นใจ
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ชยุตม์ทัก
“คุณเป็นลูกคนที่เท่าไหร่” โชคดีไม่ตอบ หากถามคำถามชยุตม์ทันทีที่เดินเข้ามาใกล้
“อากาศตอนเช้าสดชื่นจังเลยนะครับ” ชยุตม์ไม่ตอบคำถามเช่นกัน
“พ่อคุณมีลูกกี่คน”
“คุณมาหาผมเพื่อถามคำถามนี่หรือ ถ้าแค่นี้ ไม่น่าต้องลำบากขับรถออกนอกเมืองมาขนาดนี้ โทรศัพท์มาถามก็ได้” ชยุตม์กล่าวเสียงเรียบ ไม่เข้าใจเหตุผลที่โชคดีเดินเข้ามาถามเขาทื่อๆ
“ผมชอบเผชิญหน้า” โชคดีตอบเสียงเข้ม เอียงคอรอฟังคำตอบอย่างอดทน
“ไม่บอกผมก็รู้”
“ว่าไงครับ” โชคดีเร่งรัด ความอดทนที่มีเพียงน้อยนิดใกล้จะหมดลงแล้ว
“ขออนุญาตถามได้ไหมครับว่าทำไม” ชยุตม์จงใจพูดอย่างนอบน้อม
ได้ผล อีกฝ่ายรู้สึดว่าโดนประชด “ผมสงสัยว่าแม่คุณกับแม่ของผมมีเรื่องอะไรกันในอดีต”
“คุณเลยมาถามผมว่าผมเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ และพ่อผมมีลูกกี่คน...” ชยุตม์ทวนคำถาม “นี่คุณกำลังคิดว่าเรา...”
ชยุตม์เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อว่าโชคดีจะคิดอะไรแบบที่เขากำลังจะพูด
“คิดว่าเราเป็น”
“เป็นอะไรก็ช่างเถอะ ตอบคำถามผมมา”
“สามคน ผมเป็นคนสุดท้อง” ชยุตม์พูดเบาๆ
“งั้นก็ไม่มีทางเป็นไปได้” โชคดีพึมพำแล้วหันหลังกลับเดินไปที่รถหน้าตาเฉย
...เออแปลกจริง มาก็ไม่ทัก ไปก็ไม่ลา คนแบบนี้มีกี่คนในโลกกันนี่...
ชยุตม์เดินตาม เอื้อมมือไปแตะไหล่ชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังเปิดประตูรถ ฝ่ายนั้นหันขวับมาทันทีแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มหน้าลงมองมือแข็งแรงของวิศวกรหนุ่ม แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเรียบนิ่งของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังราวกับจะบอกว่า “เอามือออกไปเดี๋ยวนี้”
ชยุตม์ไม่สนใจ “ผมก็ว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่หากเป็นอย่างนั้น ผมก็คงรู้สึก...”
“ผมคงรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต” โชคดีรีบแทรกขึ้นมา ขยับไหล่หนีให้พ้นมือของชยุตม์ที่กำลังแตะไหล่เขาอยู่
“รังเกียจกันถึงขนาดนั้นหรือ”
“เปล่า” โชคดีตอบเบาๆ แล้วขึ้นนั่งบนรถ
“ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ไว้ผมจะถามคุณพ่อกับคุณแม่ เมื่อคืนผมก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน นึกสงสัยว่าเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าแต่ผมก็ยังไม่ได้ถาม”
“แล้วก็รอให้ผ่านมาตั้งหนึ่งคืนเต็มๆ” โชคดีส่ายหน้า “คุณนี่อืดอาดยืดยาดเหมือนเคย”
“ผมไม่ได้ใจร้อนรออะไรไม่ได้เหมือนคุณนี่ครับ” ชยุตม์หน้าตึงเพราะโดนว่าซึ่งหน้า
“งั้นผมจะรอ อย่างน้อยก็วันนี้ทั้งวัน ผมคิดไว้ว่าเย็นนี้จะไปจวนผู้ว่า ถามท่านรัฐมนตรีและคุณหญิงกับพี่ชายคุณให้รู้ไปเลย แต่คุณพ่อกับพี่ชายคุณไม่อยู่ ผมไม่อยากไปตอนนี้ ผมอยากถามตอนที่อยู่พร้อมหน้ากันทั้งหมด”
“คุณโชคดี” ชยุตม์อุทาน
“จนป่านนี้คุณก็คงรู้แล้วว่าผมเป็นคนนิสัยยังไง”
“ให้ผมไปคุยกับคุณแม่ก่อน” ชยุตม์พูด “อย่าเพิ่งคิดจะทำ...”
“ผมถึงมาบอกคุณก่อนไงล่ะ” โชคดีดึงประตูปิด แต่ชยุตม์ดันเอาไว้ “ผมไม่ได้ทำอะไรโดยไม่คิดหน้าคิดหลังแบบที่คุณจะคิดว่าผมจะทำหรอก”
“ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย” ชยุตม์ส่ายหน้า แค่ไม่กี่นาทีที่คุยกัน เขาโดนโชคดีตำหนิตรงๆ หลายครั้งแล้ว
“คุณชยุตม์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันก็ไม่ได้ความว่าอะไรๆ จะต้อง...” โชคดีพูดเสียงเรียบ แต่ท้ายประโยคดูลังเล แล้วก็หยุดพูดไปเฉยๆ
“ผมก็ไม่อยากให้มันเปลี่ยน คุณก็รู้ว่าผมอยากให้มันเป็นยังไง” ชยุตม์พูดเสียงหนักแน่น มองตาคมกริบของโชคดีไม่กระพริบ แต่อีกฝ่ายหันหน้าไปมองกระจกหน้ารถ แล้วบิดกุญแจติดเครื่อง บอกให้ชยุตม์รู้ว่าต้องการออกรถแล้ว วิศวกรหนุ่มจึงต้องปิดประตูรถเบาๆ
โชคดีทะยานรถออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชยุตม์ยืนมองตามจนลับสายตาอย่างครุ่นคิด เขาตั้งใจว่าจะรอให้ถึงเวลาสายแล้วจะไปพบมารดาที่จวนผู้ว่าราชการซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวขณะพักอยู่ที่น่าน ตอนนี้ความสงสัยของเขาเพิ่มเป็นทวีคูณ แม้จะรู้สึกไม่ค่อยจะเชื่อในสิ่งที่โชคดีคิด แต่เขาก็รู้สึกหวั่นใจในคำตอบที่อาจจะได้รับจากคุณแม่
*************
:::::::::คำคมวันนี้:::::::: ถึงคุณตัวหนัก แต่ผมก็รัก เพราะชอบเด็กอ้วน :::::::::::
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 02-06-2009 09:29:18
^
^
^

โอ้โฮ มาแถมให้อีกตอน แต่เช้าอีกต่างหาก ขอบคุณคร๊าบบบ

อย่าว่าแต่ โชคดี กับ ชยุตม์สงสัยเลย
เจ๊ก้อสงสัยเหมือนกัน...

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-06-2009 21:06:16
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 13 (1/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 02-06-2009 23:29:42
ขอบคุณมากๆค่ะ

สมกับที่รอคอย........... :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 15 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 03-06-2009 08:18:31
บทที่ 15 Draft 1

ชยุตม์จอดรถหน้าบ้านของผู้ว่าราชการ คนรับใช้รีบวิ่งมาต้อนรับและรายงานว่าไม่มีใครอยู่บ้านแม้แต่คนเดียวนอกจากคุณหญิงเพียงฤดี ชยุตม์เดินขึ้นบนเรือนไม้สองชั้นสีขาวอย่างช้าๆ มารดาของเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น พอเห็นเขาเข้าไป จึงลุกขึ้นยืนและส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“เขาทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียว แม่จะขอไปด้วยพ่อก็ไม่ยอม บอกว่าลำบาก พี่ชายยุตม์ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ มีงานด่วน” คุณหญิงรีบฟ้องลูกชาย “นี่ทำยังกับแม่ไม่เคยลำบากยังงั้นล่ะ”
“ผมเห็นด้วยกับคุณพ่อครับ” ชยุตม์ตอบเบาๆ เดินไปจูงมือมารดาพาออกไปยังระเบียงกว้างหน้าห้องนั่งเล่น
“บ้านนี้ร่มรื่นจังเลยนะ ต้นไม้ต้นใหญ่ๆ ทั้งนั้น แม่อยากให้บ้านเราที่กรุงเทพฯ เป็นแบบนี้บ้าง จะปลูกต้นไม้พ่อก็ชอบขัด บอกว่ารก แต่ตัวเองก็ขนกระถางบอนไซมาตั้งไว้ทั่วบ้านเป็นร้อยๆ ไม่เคยบ่นว่ารก” ผู้เป็นมารดาบ่นใบหน้ายิ้ม พูดถึงสามีด้วยประกายตาอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยความรัก ชยุตม์ลอบมองด้วยความคิดคำนึงจนอีกฝ่ายถามขึ้น
“เป็นอะไรยุตม์ ทำไมมายืนมองแม่แบบนี้”
ชยุตม์ยิ้มบางๆ แล้วหันหลังพิงระเบียง “คุณแม่กับคุณพ่อรักกันมาก ตั้งแต่อยู่มาด้วยกัน ผมไม่เคยเห็นทะเลาะกันซักที”
“ก็เรารักกันนี่จ๊ะ” คุณหญิงเพียงฤดีตอบโดยไม่รีรอ
ชยุตม์เอาแต่ยิ้ม ในใจรู้สึกลังเลที่จะถามคำถามอย่างที่เขาคิดว่าโชคดีอยากจะถาม ตอนนี้เขาเริ่มจะเห็นด้วยกับที่ 'คนใจร้อน'เคยตำหนิเขาว่าชอบพูดอ้อมค้อม ไม่ตรงไปตรงมา กว่าจะรู้เรื่องก็เสียเวลาไปเฉยๆ
“แล้วนี่คุณแม่จะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ครับ” ชยุตม์ถามอ้อมคอมอีกจนได้
“ทำไม จะไล่แม่ให้ไปเร็วๆ ยังงั้นหรือ”
ชยุตม์รีบปฏิเสธ บอกมารดาว่าถามเพราะอยากจะรู้จริงๆ “อีกอย่าง ที่คุณแม่มาก็เพราะเป็นเรื่องฉุกเฉิน คุณพ่อรู้จักกับท่านผู้ว่าฯ ก็จริงอยู่ แต่ถ้าอยากอยู่ต่อ ผมว่าน่าจะไปพักที่โรงแรม จะได้สะดวก”
“ผู้ว่าฯ คงไม่ยอมหรอก ตอนแรกจะไปพักโรงแรมแล้ว แต่ก็ยืนกรานให้เรามาพักที่นี่ พรุ่งนี้พ่อต้องไปราชการต่อ แม่ก็คงต้องกลับ ยุตม์จะได้ทำงานต่อได้สะดวก ไม่ต้องมากังวลว่าจะดูแลแม่”
“คุณนายผู้ว่าก็สนิทกันนี่ครับ อย่างน้อยคุณแม่ก็มีเพื่อน แล้วก็...” ชยุตม์เว้นระยะ เริ่มจะเข้าเรื่องที่เขาอยากรู้
“แล้วก็อะไรจ๊ะ”
“แล้วก็...” ชยุตม์สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ดูเหมือนคุณแม่จะรู้จักกับคุณเตือนใจ”
คุณแม่ของเขาอึ้งไปชั่วครู่ เบือนหน้าออกไปมองต้นไม้เบื้องหน้า ถอนหายใจเบาๆ แล้วหันมาหาชยุตม์ด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
“ยุตม์ อยากรู้เรื่องนี้เองหรือ”
“ผมเพียงแต่...” ชยุตม์อึกอัก
“แม่รู้ ยุตม์คงเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ชยานนท์ก็ถาม แต่แม่...”
"แล้วพี่ไปไหนครับ" ชยุตม์ออกนอกเรื่องไปชั่วขณะเพราะรู้สึกว่ามารดาเริ่มรู้สึกอึดอัด
"นอนยังไม่ตื่นจ๊ะ"
“ไม่รู้เมื่อคืนไปเมาที่ไหน บ่ายวันนี้ก็ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ งานยุ่งแบบนี้ไม่เห็นต้องมาก็ได้” ชยุตม์ยิ้มเมื่อพูดถึงพี่ชายก่อนจะวกเข้าเรื่องเดิม “คุณแม่ครับ ผมขอโทษ ถ้าคำถามผมทำให้รู้สึกลำบากใจ”
“แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษลูก แม่ไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อนเลย” คุณหญิงเพียงฤดีเสียงสั่น “แม่กับเตือนใจรู้จักกันมานาน ก่อนที่ลูกจะเกิดด้วยซ้ำ ก่อนที่แม่จะรู้จักกับพ่อ”
“นานขนาดนั้นเลยหรือครับ” ชยุตม์แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
“เตือนใจเป็นคนสวยมาก ลูกก็คงพอจะนึกภาพได้ ตอนนี้ก็ยังสวย มีคนมาชอบหลายคน รวมถึงคุณชายอนิรุจน์”
“คุณชายอนิรุจน์...” ชยุตม์ทวน
“หม่อมราชวงศ์อนิรุจน์ เมธีวุฒิไกร ลูกชายของท่านชายปรเมศวร์ กับท่านผู้หญิงวิจิตรา” คุณเพียงฤดีอธิบายเพิ่มเติม ชยุตม์พยักหน้า ที่จริงเขานึกออกตั้งแต่ได้ยินนามสกุลของคุณชายอนิรุจน์แล้ว
“และคุณอาของยุตม์ด้วย”
“อะไรนะครับ” ชยุตม์อุทาน
“แม่ยอมรับนะยุตม์ แม่เคยหวั่นใจว่า ตอนนั้น หากพ่อของลูกกลับมาเมืองไทยและเจอกับเตือนใจ ก็ไม่แน่ว่าพ่อของลูกจะชอบเขาด้วยหรือเปล่า พอดีเกิดเรื่องขึ้นก่อน”
ชยุตม์กลั้นหายใจ รอฟังสิ่งที่มารดาเขากำลังจะเล่าต่อไป ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ฟังอย่างเดียว คุณแม่ของเขาดูประหนึ่งตกอยู่ในภวังค์ ปากพรั่งพรูเรื่องในอดีตออกมาอย่างช้าๆ เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาที เรื่องที่เขารู้สึกว่าเป็นเหมือนนิยายหนึ่งเรื่องก็จบลง มารดาของเขาหันมามองเช้าด้วยตาแดงเรื่อๆ เหมือนกำลังจะร้องให้
“แล้วเขาก็หายไป คุณชายตามหาอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ทนแรงบีบจากท่านชายกับท่านผู้หญิงไม่ได้ ท่านหญิงสาวิตรีก็ไม่ยอมเพราะกำลังท้องลูกคนแรก คุณชายเลยต้องปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป”
“แต่ก็ดูว่าไม่เกี่ยวกับแม่เท่าไหร่” ชยุตม์ออกความเห็น แต่ก็พูดได้ไม่เต็มเสียงนัก
“แม่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ คุณชายรักเตือนใจ แต่แม่ช่วยคุณชายไม่ได้แล้ว แม่ทำไม่ได้ จะหาว่าแม่ใจร้ายก็ยอม”
...หมายความว่ายังไง แม่ช่วยพ่อของโชคดีไม่ได้แล้ว...
“คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว”
“ไม่นึกเลยว่าเด็กในท้องคนนั้นคือคุณโชคดี ถ้าแม่ยอมเชื่อพ่อกับอาของยุตม์ โชคดีก็คงรู้จักกับพ่อของเขา หรือไม่ก็ได้เข้าไปอยู่ที่บ้านเมธีวุฒิไกร”
“คุณเตือนใจท้องก่อนหรือหลังจากที่หายไปครับ” ชยุตม์กลั้นใจถามคำถาม ในใจยังสงสัยประเด็นที่ว่าทำไมมารดาต้องเชื่อพ่อและอาของเขาถึงจะทำให้โชคดีเป็นที่ยอมรับจากครอบครัวของบิดา
“หลัง” คุณเพียงฤดีตอบสั้นๆ แล้วเบือนหน้าออกไปด้านข้าง น้ำตาหยดแรกเริ่มไหลริน ชยุตม์มองตามด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย แรกที่เขาคิดว่าคุณแม่ของเขาเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังอย่างหมดสิ้น ตอนนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว
...คุณแม่อาจจะข้ามบางตอนไป...
...เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณอาของเขาตามคุณพ่อให้กลับมาจากต่างประเทศ และช่วยตามหาคนที่คุณอารัก...
...คุณชายอนิรุจน์คือคนรักเก่าของคุณแม่...
...คุณชายอนิรุจน์คือบิดาของโชคดี...
...หรืออาจจะ...
...เป็นคุณอาของเขา...
...หรือ?...
“แล้วคุณพ่อรู้เรื่องนี้...” ชยุตม์ทิ้งช่วงนาน ก่อนจะถามมารดาเบาๆ
คุณแม่ของเขาไม่ตอบ เพียงแต่พยักหน้าช้าๆ แล้วหันมามองชยุตม์ หลังจากที่เช็ดน้ำตาแล้ว
“ยุตม์ แม่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดเรื่องนี้ พ่อกับแม่คุยกันแล้ว เราจึงตกลงกันว่า...”
“ผมเข้าใจครับ” ชยุตม์เอื้อมมือไปบีบมือของมารดา “คุณแม่กับคุณพ่อก็คงมีเหตุผลส่วนตัว และผมก็ขอบคุณคุณแม่มากที่เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง”
“พี่ของลูกยังไม่รู้หรอก”
“ผมไม่อยากเป็นคนเล่าให้เขาฟัง” ชยุตม์ยิ้มบางๆ “ปล่อยให้มีเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องเล่าเกิดขึ้นก่อนดีกว่าค่อยว่ากันอีกที”
“ถ้าไม่เจอเตือนใจ แม่ก็คง...”
“ผมเข้าใจครับ” ชยุตม์ยิ้มให้มารดาอย่างอบอุ่น มือใหญ่แข็งแรงบีบมือผู้สูงวัยกว่าอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มเป็นแบบนี้เสมอ เคร่งขรึม ใจเย็น เป็นผู้ใหญ่จนทุกคนในบ้านที่กรุงเทพฯ พูดกันว่า ลูกชายสามคน ชยุตม์เป็นพี่ใหญ่ แทนที่จะเป็นน้องคนสุดท้อง
วิศวกรหนุ่มกับมารดายืนอยู่ด้วยกันๆ เงียบๆ ชั่วครู่ คุณเพียงฤดีจึงบอกให้ชยุตม์ไปปลุกพี่ชายเพราะกลัวว่าจะไปสนามบินไม่ทัน ชยุตม์เดินไปเคาะประตูพี่ชายอยู่นานกว่าฝ่ายนั้นจะงัวเงียเดินมาเปิดประตู
“ผู้กองไปทำงานหรือยัง”
ชยุตม์แปลกใจ คำถามแรกที่ชยุตม์ได้ยินคือพี่ชายถามถึงปฐพี
“อย่าบอกนะว่าที่พี่หายไปเกือบทั้งคืนคือพี่ไปกับ...”
“ไปได้ก็ดีสิ” พี่ชายของชยุตม์ถอนหายใจ “คนอะไร เย็นชาที่สุด”
“พี่อย่าไปยุ่งกับเขาเลยดีกว่า ผู้ชายดีๆ เก็บเอาไว้ให้คนที่เขารักจริงหวังแต่งดีกว่า” ชยุตม์เหน็บแนมพี่ชาย
“บ้า พี่ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะยุตม์ คิดว่าพี่คิดแต่จะชอบความสัมพันธ์ฉาบฉวยหรือไง”
“งั้นหาแฟนเป็นตัวเป็นตนให้ผมเห็นซักคนสิครับ ใครก็ได้ อย่าไปยุ่งกับผู้กองเลย”
“ทำไม นายจะเก็บเอาไว้เองหรือ” พี่ชายยักคิ้ว ทำหน้ายิ้มๆ
“บ้าหรือพี่ ผู้กองไม่ใช่...” ชยุตม์ส่ายหน้า “อย่าเลย พี่รีบอาบน้ำเถอะ จะได้ทานข้าวแล้วรีบไปสนามบิน เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“คนดีๆ อย่างผู้กองปฐพีปล่อยให้รอดไปก็น่าเสียดาย นี่แค่รู้จักแค่วันเดียว พี่ก็รู้สึกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ทำให้พี่อยากหยุดความเจ้าชู้และมีรักแท้” พี่ชายชยุตม์พูดขึ้นมาแล้วปิดประตู ตามมาด้วยเสียงฮัมเพลงเบาๆ
ชยุตม์ยืนมองพื้นหน้าห้องของพี่ชายชั่วครู่ ในใจอดนึกภาพของปฐพีกับโชคดีไม่ได้ คนที่เหมาะกับโชคดีที่สุดก็คือปฐพีนี่ล่ะ หากอีกใจหนึ่งก็แย้งว่า โชคดีเหมาะกับคนแข็งๆ มากกว่า ไม่เช่นนั้นก็คุมเอาไว้ไม่ได้ ผู้กองปฐพีดูอ่อนโยนมากเกินไป ท่าทางคงจะตามใจแฟนจนเหลิง
...โชคดีเหมาะกับคนที่รับมือกับคนเจ้าอารมณ์ได้ เช่นเขาเป็นต้น...
...เขากับโชคดี หากเป็นแฟนกัน จะทะเลาะกันทุกวันหรือเปล่านะ หรือโชคดีจะยอมอ่อนลงมากกว่านี้หรือเปล่า แต่เขาไม่ยอมอ่อนให้หรอก ลองได้อ่อนข้อให้สิเป็นโดนข่ม...

ทรงศักดิ์ผิดหวังจากโชคดีจึงไปหาปฐพีเพื่อทวงสัญญาที่ว่าจะช่วยเรื่องปัญหาหัวใจ ทันที่เข้าไปในห้องทำงานของนายตำรวจหนุ่มและเล่าเรื่องราวที่โชคดีตัดสัมพันธ์เขาทรงศักดิ์ก็แทบจะร้องไห้
“ทำไมหมูปิ้งไม่มองผมบ้างเลยครับผู้กอง คนกรุงเทพฯ คนนั้นเป็นใครมาจากไหน อยู่ๆ ก็จะมาคว้าโชคดีไป” ทรงศักดิ์พร่ำรำพัน
“แน่ใจหรือ”ปฐพีถามย้ำเพื่อความมั่นใจ พักหลังเขาเริ่มมีความรู้สึกว่าชยุตม์ชักจะแสดงท่าทีสนใจโชคดีมากกว่าเดิม
“ตาที่มองโชคดีแวววาวเหมือนคนตกหลุมรัก คิดว่าแอบซ่อนไว้ภายใต้ท่าทางไม่กินเส้นกันแล้วจะปิดผมได้ ผมมองเดี๋ยวเดียวก็รู้ ผมไม่ใช่คนโง่”
...ซ่งไม่โง่ แต่เขานี่ล่ะโง่ แค่นี้ก็มองไม่ออก เผลอคิดไปว่าโชคดีไม่ถูกกับชยุตม์มาเป็นนานสองนาน คุณเตือนใจก็เคยบอกความนัยให้รู้แต่เขาก็ไม่ฉุกคิด...
...แต่หากโชคดีกับชยุตม์ชอบกันเขาจะทำอะไรได้ แม้แต่ตอนที่ยังไม่มีชยุตม์โผล่เข้ามา โชคดีก็ใช่ว่าจะยอมรับรักเขาเสียเมื่อไหร่ ผ่านมานานหลายปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบรับอะไรเขาเลย เขาเองก็ไม่ต่างจากซ่งเท่าไหร่นัก...
“ผู้กองต้องช่วยผมนะครับ ผมยอมให้โชคดีตกเป็นของนายช่างเมืองกรุงคนนั้นไม่ได้หรอก” ทรงศักดิ์เริ่มตาแดง ขบกรามจนขึ้นเป็นสันนูน
“ซ่ง คือเรื่องนี้นะ มันเป็นเรื่องของ...”
“ถ้าถึงที่สุดแล้วหมูปิ้งไม่ยอมรักผมจริงๆ คนที่ผมอยากจะให้โชคดีรักก็คือผู้กอง อย่างน้อยผมก็อุ่นใจว่าได้คนดี คนที่จะคุม เอ๊ย ดูแลโชคดีได้”
ปฐพีไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้วจึงเอาแต่ยิ้มบางๆ รอฟังทรงศักดิ์พูดต่อไป
“ผู้กองเป็นตัวแทนความรักของผมต่อโชคดี ถ้าให้ต้องทนเห็นโชคดีเป็นของคนอื่น ผมก็คงจะทนได้หากเห็นว่าเป็นของผู้กอง”
“ยอมแพ้แล้วหรือซ่ง” ปฐพีถาม
“โธ่ ผู้กองครับ ผมไม่อยากยอมเลยซักนิด แต่โชคดีปิดตายประตูทุกบาน ในใจเขาไม่มีผมเลย ผมเปิดห้องหัวใจสี่ห้องให้หมูปิ้งขนาดนั้นมาตั้งแต่เรียนมัธยมฯ แต่โชคดีเอาแต่ด่าว่าเหมือนผมเป็นคนไร้ความรู้สึก ทำยังไงก็ไม่มองผมบ้าง แต่ผู้ชายคนนั้นมาไม่กี่เดือน โชคดีก็หวั่นไหว ชอบเขาไปเสียแล้ว แต่ก็ยังปากแข็ง แกล้งทำเป็นไม่ถูกกับเขาเพื่อปิดบังความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง กลัวเสียหน้า กลัวเสียมาด กลัวไปเสียทุกอย่าง ไม่รู้ใจตัวเอง ไม่ยอมรับเสียเรียกร้องของหัวใจ” ทรงศักดิ์พูดเสียงขื่น
...มองทรงศักดิ์ผิดไปจริงๆ เห็นท่าทางแบบนี้ไม่นึกว่าจะเข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งจนผู้ใหญ่บางคนยังอาย เพียงแต่ว่าทรงศักดิ์ไม่ยอมตัดใจ แต่ทว่าตอนนี้คงน่าจะถึงที่สุดแล้ว...
...ผู้ใหญ่ที่หนึ่งในนั้นควรมีเขารวมอยู่ด้วย...
...แล้วเขาล่ะ หัวใจเขาเรียกร้องอะไร...

แดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ ชยุตม์บิดขี้เกียจ มองออกไปเห็นท้องฟ้าสีครามสดใสแล้วก็ไม่สามารถนอนต่อไปอีกได้ อากาศสดชื่นเหลือเกิน ตั้งแต่ช่วงฝนหลงฤดูหยุดตก อากาศเมืองน่านเริ่มเย็นลง เขาเปิดหน้าต่างนอนทุกคืน รู้สึกเย็นเหมือนเปิดแอร์
วิศวกรหนุ่มเปิดประตูออกมายืนนอกบ้าน มองไปรอบๆ แล้วออกเดินเลาะไปตามริมธารน้ำ มุ่งตรงไปทางรีสอร์ทเจ้าปัญหาที่การก่อสร้างกำลังรุดหน้า ในใจอดนึกถึงใบหน้าดุๆ ของใครบางคนไม่ได้
..."รักสันโดษ รักธรรมชาติ มิน่า คุณชยุตม์ถึงได้ปลีกตัวไปพักที่บ้านหลังเล็กริมแม่น้ำเพื่ออิงแอบธรรมชาติ"
...มิน่า ถึงได้รับงานเป็นวิศกรสร้างรีสอร์ททำลายธรรมชาติ...
...ช่างเหน็บแนมเขาได้ไม่หยุดหย่อน ทีตัวเองถูกพูดกระทบบ้างก็ทำเป็นโกรธจะเอาเรื่อง คนแบบนี้ก็มีด้วย...
ชยุตม์เผลออมยิ้มเมื่อนึกถึงคนเจ้าอารมณ์ เขายอมรักว่าภาพใบหน้าคนเข้มของโชคดีค่อนข้างรบกวนจิตใจเขาบ่อยขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ติดน้ำป่าบนเขาอาทิตย์ที่แล้ว เขาก็แทบไม่ได้เจอหน้าโชคดี เขารู้ว่าชายหนุ่มพยายามหลบหน้าเขา แล้วเรื่องประท้วงการก่อสร้างรีสอร์ทก็ดูเหมือนจะเงียบไป ทีมร่วมตรวจสอบที่โชคดีส่งเข้ามาสังเกตการณ์ก็ดูเหมือนจะพอใจกับการก่อสร้างที่ดำเนินงานไปตามที่ตกลงกัน
อาทิตย์หน้า ประตูน้ำที่ผันน้ำเข้าออกโครงการจะถูกปิดตาย จะมีการทำเนินดินด้านนอกเพื่อฝังกลบประตูน้ำ แล้วปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้สวยงาม ปลูกต้นไม้ใหญ่น้อยทำเป็นสวน แบบที่โชคดีต้องตาค้างหากได้เห็นว่า "โครงการ" ได้ "ยอม" โชคดีมากขนาดไหน
ชยุตม์เดินเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงประตูน้ำเจ้าปัญหา ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ เขาก็ชะงัก เมื่อสายตามองไปเห็นร่างคุ้นตากำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ริมแม่น้ำ
...ทำอะไรอีกล่ะ เช้าขนาดนี้รีบตื่นมาทำอะไร...
ชยุตม์ค่อยเดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านหลังของคนที่แสดงท่าทางเย็นชากับเขาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว โชคดีกำลังตั้งใจทำอะไรบางอย่าง ในมือถึงตะกร้าบรรจุขวดแก้วหลายขวด ไม่รับรู้ว่า "เจ้าของพื้นที่" กำลังชะโงกหน้ามอง
...ตัวอย่างน้ำหรือ นี่กำลังคิดจะยกประเด็นเรื่องรีสอร์ทปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติเอามาต่อต้านเขาหรืออย่างไร...
...มันน่า...นัก...
"มาทำอะไรแต่เช้าครับ" ในที่สุด ชยุตม์ก็อดถามไม่ได้ แต่เขาก็แปลกใจ โชคดีไม่สะดุ้งอย่างที่เขาคิด ชายหนุ่มนิ่งอยู่ชั่วครู่ในท่าก้มตัว มือกำลังจะจุ่มลงไปในน้ำ
"ให้ช่วยไหมครับ ผมถือตะกร้าให้ก็ได้" ชยุตม์อมยิ้ม
'นักวิทยาศาสตร์' คนใหม่ยืดตัวขึ้น แล้วหันมามองวิศกรหนุ่มช้าๆ จ้องตาคนที่กำลังเสนอความช่วยเหลือ ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า "ไม่ต้อง"
"กำลังหาตัวอย่างสารปนเปื้อนหรือครับ" ชยุตม์กัดไม่ยอมปล่อย "คราวนี้คุณคงกะเล่นประเด็นโรงงาน The River Bend Resort ปล่อยสายตะกั่วลงแม่น้ำน่าน"
โชคดีเดินหนีช้าๆ ไม่อยากต่อปากต่อคำกับชยุตม์ แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมลดละ เดินตามเขามาไม่ห่าง แต่ก็เลิกพูดแล้ว
...เดี๋ยวได้โดนชกปากแตกหรอก พูดอะไรกวนอารมณ์...
...จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ แล้วนี่กำลังทำหน้ายังไง มองเขาอยู่หรือเปล่า...
โชคดีเกิดอยากรู้ขึ้นมาเฉยๆ จึงหยุดเดิน แล้วหันหน้าไปมองคนที่เดินตามเขาเงียบๆ ชยุตม์กระตุกยิ้มมุมปากให้ ตาวิบวับ ขัดกับใบหน้าเรียบนิ่งอย่างที่เคยเห็น
...ประการแบบนี้เหมือนกันที่ปฐพีและซ่งทำเวลาจีบเขายังไงยังงั้น...
...ชยุตม์กำลังจะจีบเขาหรือ โดนเขาว่ามาตลอด ยังกล้ามาจีบอีกหรือ อุตส่าห์ตั้งตัวเป็นศัตรู ชยุตม์ยังคิดว่าเขาจะตอบรับความสัมพันธ์อีกหรือ ที่สำคัญ ตัวเองมีแฟนอยู่แล้ว จักริณทร์ก็เป็นคนดีขนาดนั้น ตัวเองมาทำงานต่างจังหวัด ยังกล้านอกใจแฟน...
...บ้าที่สุด ร้ายกาจมาก...
"ผมไม่ชอบหน้าคุณ" โชคดีเสียงห้วน "ไปไกลๆ หน่อยได้ไหม"
ชยุตม์อึ้ง สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นตกใจกับคำพูดของโชคดีที่จู่ๆ ก็หันหน้ามาขมวดคิ้ว ทำหน้าดุมากกว่าเดิม
"ผมไม่ไป ที่นี่เป็นที่สาธารณะ ผมไม่ได้รบกวนอะไรคุณด้วยซ้ำ แค่เดินเฉยๆ" ชยุตม์ฉุน พูดกับโชคดีเสียงเข้ม
"แค่เห็นหน้าก็อารมณ์เสียแล้ว" โชคดีเบ้ปาก จงใจยั่วมัวโหชยุตม์ "เช้าอากาศดีๆ แบบนี้ ไม่น่าเลย"
"แล้วทำไมต้องมาเดินเล่นในอาณาเขตของผมล่ะ ก็รู้อยู่ว่าบ้านผมอยู่แถวนี้"
...จะยั่วโมโหเขาหรือ เขาก็จะก็ยั่วเหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ได้น้อยกว่าก็ยังคิดจะมาลองดี...
"ผมจะไปเดินเล่นหน้าบ้านคุณยังได้ จะว่าไป บ้านหลังเล็กที่คุณไปสร้างอยู่ก็เป็นที่สาธารณะ จะเกณฑ์คนมาไล่เมื่อไหร่ก็ได้..."
"แน่ใจหรือ ไม่คิดหรือว่าผมจะมีเงินพอจะซื้อที่ดินแค่นั้น" ชยุตม์แทรก "หรือบางทีรอบๆ แถวนั้นด้วยซ้ำ ผมมีงบอยู่สองล้าน ตอนแรกว่าจะเอาไว้รอให้รางวัลชาวบ้านตามที่เคยประกาศเอาไว้ตอนคุณเกณฑ์คนมาประท้วง ตอนนี้ผมแน่ใจว่าคงไม่ต้องเสียเงินสองล้านไปฟรีๆ ผมก็เลยซื้อที่ดินซะเลย"
"รวยจังเลยนะ" โชคดีกระแทกเสียง เริ่มหายใจแรง แต่ก็พยายามสะกดอารมณ์ไว้ พยายามบอกตัวเองว่าชยุตม์เป็นคนที่มีอัตราความอดทนมากกว่าเขานัก และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าตั้งใจยั่วให้เขาระเบิดอารมณ์ออกมา
...อย่าหวังว่าเขาจะถูกปั่นให้เต้นไปตามใจต้องการ ไม่มีวันที่โชคดีจะแพ้ชยุตม์หรอก...
"ผมเป็นลูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนี่ครับ ไม่รวยได้ยังไง" ชยุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ อมยิ้มอย่างที่อีกฝ่ายคิดว่าน่าหมั่นใส้
"อ้อ ลูกนักการเมือง" โชคดีหรี่ตาเล็กน้อย พยักหน้า แล้วทำเป็นสื่อความหมายแฝงในคำพูด "เข้าใจแล้ว"
ชยุตม์นิ่ง ตระหนักว่าตัวเองพลาดไปถนัดที่เอาพ่อของเขาเข้ามาเกี่ยว ไม่ทันที่เขาจะนึกได้ว่าจะพูดอะไรต่อไป  โชคดีที่หัวไวกว่าก็พูดขึ้นว่า
"ผมไม่เคยคิดจะเป็นลูกนักการเมืองเลย ผมกัดฟันขายเหล็ก อีกหน่อยก็รวยเท่าคุณได้แล้ว"
"โชคดี" ชยุตม์เน้นเสียง
"ที่สำคัญ ไม่อยากเป็นน้องชายคุณด้วย"
"ผมก็ไม่อยากเป็นพี่ชาย ใครจะอยากเป็นพี่ชายคุณ มีน้องดื้อแบบนี้ คงเหนื่อยไล่จับตีก้นให้หายดื้อ"
"งั้นเราก็เป็นศัตรูกันเหมือนเดิมดีแล้ว" โชคดีเค้นเสียงผ่านไรฟัน
"ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นศัตรูกับคุณเลย ไม่เคยคิดจะเป็น" ชยุตม์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนโชคดีเผลอเอนตัวหนี ตอนนี้ทั้งสองยืนอยู่ริมตลิ่งที่เทลาดลงไป ชยุตม์ยืนอยู่สูงกว่าจึงดูเหมือนว่ากำลังยืนข่มโชคดี ยิ่งอีกฝ่ายตัวหนากว่าก็ยิ่งดูเหมือนว่ากำลังโดนคุกคาม
"คุณคงคิดอย่างนั้นมาตลอด ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ ไม่รู้หรือว่าผมรู้สึกยังไง"
...รู้สึกอะไร ชยุตม์รู้สึกอะไร...
...ทำไมเขาจะไม่รู้สึก...
...แต่รู้สึกยังไงของชยุตม์นี่คืออะไรกันหรือ เหมือนที่เขารู้สึกหรือเปล่า...
...บอกมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่พูดออกมาก็ไม่ต้องมาขยักเอาไว้ให้สงสัย...
...ชยุตม์...


...ทำไมร้ายแบบนี้นะ...
ชยุตม์มองตาคมกริบของโชคดี ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ รู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าว
...ร้ายนัก เดี๋ยวก็รักซะเลย...
...ไม่ไหวแล้ว เป็นไงเป็นกัน ปากแดงๆ ชอบพูดจาถากถางประชัดประชันเขาอยู่เรื่อย ขอจูบซักหน่อยเถอะ...
ชยุตม์เลิกคิดจะอดทนต่อไปอีกแล้ว ตอนนี้เขาแพ้หัวใจตนเองอย่างราบคาบ ถือโอกาสตอนที่โชคดีกำลังอึ้ง ก้มหน้าลงไป และประทับปากเข้ากับปากแดงๆ ของชายหนุ่มหน้าดุ
เพียงเสี้ยววินาที โชคดีก็ตั้งตัวได้ และทันทีที่รู้สึกตัว ชยุตม์ก็ถอนปากออกมาร้องลั่น เมื่อคนที่โดน "รังแก" เตะเท้าเข้าหน้าแข้งของเขาอย่างแรง ตามด้วยหมัดฮุกเข้ากลางท้องจนต้องยกมือขึ้นมากุมเอาไว้
"อย่านะ" ชยุตม์เสียงหลงเมื่อเห็นโชคดีกำหมัดแล้วง้างแขนออก ทำเหมือนจะเล็งหมัดเข้าที่แก้มของเขา
วิศกรหนุ่มที่กำลังยืนตัวงอ ละมือออกจากหน้าท้องแล้วกอดเอวฝ่ายตรงข้าม ซุกหน้าเข้ากลางอกของคนเลือดร้อน ตั้งใจคลุกวงในเพราะไม่ต้องการให้โชคดีต่อยเขาได้ถนัด แต่พื้นลาดและลื่นทำให้ทั้งสองเสียหลัก ล้มกลิ้งตกลงไปในแม่น้ำ โชคดีโวยวาย ทั้งมือและเท้าไม่หยุดนิ่ง ทว่า ชยุตม์ไม่ยอมแพ้ อาศัยความแข็งแรงกดตัวชายหนุ่มเอาไว้ โชคดีก็ไม่ยอมเช่นกัน พยายามดิ้นสุดแรงเกิด
"โชคดี"
"ปล่อย" โชคดีตวาด "บอกให้ปล่อย"
"ไม่" ชยุตม์เสียงแข็ง แล้วซุกหน้าเข้ากับแก้มของคนที่กำลังดิ้นรนขัดขืน
...ให้มันรู้ไปสิ ฤทธิ์มากนัก เขาจะปล้ำกลางแจ้งแบบนี้ล่ะ...
"พอเถอะโชคดี" ชยุตม์เสียงอู้อี้ หอบหายใจกระชั้นถี่ ปากพยายามประกบปากของโชคดีที่กำลังส่ายหน้าหนี
"หยุดนะ" โชคดีเสียงแผ่วลง แต่แรงดิ้นไม่ยอมตก
...ดื้อจริงๆ เลย...
ชยุตม์กัดฟัน ชักจะทนไม่ไหวแล้ว โชคดีฤทธิ์มากจริงๆ ทั้งหมัดทั้งศอกทั้งเข่า ประเคนใส่เขาเป็นชุดๆ ในเมื่อเขาโดนแบบนี้ก็สมควรที่จะตอบโต้บ้าง ดูซิ ใครจะแรงเยอะกว่ากัน
"คุณนั่นล่ะหยุด" ชยุตม์ตวาดเสียงเข้ม "แล้วยอมผม"
วิศวกรหนุ่มออกแรง มือคว้าแขนของชายหนุ่มเจ้าอารมณ์กดลงแนบเอว แล้วพยายามพลิกตัวขึ้นทับ กดอีกฝ่ายเอาไว้แนบพื้น โชคดีสูงกว่าชยุตม์ก็จริง แต่นายช่างหนุ่มร่างหนาและกำยำกว่า จึงตรึงโชคดีเอาไว้ได้
...จูบนี้รอมานาน เสี่ยงโดนกัดก็ยอม...
****15*******

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 03-06-2009 08:23:02
16 Draft 1

คุณเตือนใจเดินเข้ามาในร้านโชคดีค้าเหล็กแล้วมองไปรอบๆ เห็นคนงานกำลังเก็บของเพื่อปิดร้านโดยปราศจากเงาของลูกชายคนเดียวคอยดูแลความเรียบร้อย
"ยังไม่กลับครับ ไม่ได้บอกไว้ด้วยครับ" พงษ์ตอบเสียงเบาเมื่อคุณเตือนใจถาม
"ลองโทรตามซิ สามทุ่มครึ่งแล้ว เย็นวันศุกร์มันไปไหนของมัน"
"โทรไปแล้วครับ แต่ไม่มีสัญญาณ ผมอยากปรึกษาเรื่องออเดอร์ของสำนักงานโยธา เขาเร่งให้ส่งของ พรุ่งนี้หัวหน้าวินัยก็จะมาที่ร้าน ไม่รู้จะให้คำตอบเขายังไง" พงษ์รายงาน
"ไม่เป็นไร เอกสารอยู่บนโต๊ะใช่ไหม เดี๋ยวไปจัดการเอง" คุณเตือนใจพูด แล้วหันไปบอกพนักงานประจำร้านให้ไปตามโต๋มาหา
"หายไปทั้งวันแล้วนะครับ" พงษ์เงยหน้าขึ้นมามองนายจ้าง แล้วพูดเสียงเบา
"ทั้งวัน" อีกฝ่ายทวนคำ "หมายความว่าที่ติดต่อไม่ได้นี่คือตั้งแต่เช้าหรือ"
พงษ์พยักหน้าแล้วหันไปทำงานต่อ ปล่อยให้คุณเตือนใจยืนนิ่ง ครุ่นคิดถึงเหตุผลที่ลูกชายหายหน้าไปตั้งแต่เช้า ปกติโชคดีมักจะบอกคนที่ร้านไว้เสมอ นอกจากมีธุระด่วนจริงๆ ซึ่งมักจะใช้เวลาไม่นานมาก แต่การหายไปทั้งวันตั้งแต่เช้าจนค่ำ ไม่ใช่นิสัยของลูกชาย
ไม่นาน โต๋ก็เดินเข้ามาหา คุณเตือนใจบอกให้ชายหนุ่มไปนั่งคอยในห้องทำงาน เด็กหนุ่มลอบทำหน้าหนักใจเพราะเกรงว่าจะโดนดุ ร้อยวันพันปีคุณเตือนใจไม่เคยเรียกเขามาคุย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไปคุยในห้องทำงาน

โต๋แปลกใจปนโล่งอกเพราะไม่ได้โดนดุอย่างที่หวาดหวั่น แต่คำถามของคุณเตือนใจทำให้เขาอึ้งไปชั่วขณะ จนอีกฝ่ายต้องถามซ้ำ
"คือผมก็ไม่เห็นนายช่างพูดอะไรนะครับ"
"ไม่บ่นบ้างเลยหรือ"
"นายช่างเป็นคนอดทน ไม่เคยบ่นเรื่องอะไรให้ได้ยินเลยครับ ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว นายช่างเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด" โต๋ตอบไปตามความเป็นจริง
"แสดงว่านายช่างชยุตม์กับโชคดีไม่ได้ทะเลาะกัน"
"เอ่อ ผมก็เห็นว่าไม่ค่อยถูกกันเป็นปกติ" โต๋พูดเบาๆ
"วันนี้นายช่างไปทำงานหรือเปล่า"
"ไปครับ แต่สายมาก นายช่างไม่เคยไปทำงานสายขนาดนี้ ถามก็ไม่ตอบ เห็นหน้าช้ำเป็นแผล ปากบามเจ่อ สงสัยมีอุบัติเหตุ" โต๋อธิบาย "เดินเขยกๆ ด้วย"
"โต๋ คอยดูนายช่างให้ด้วย มีอะไรต้องเอามารายงานให้หมด และอย่าไปพูดอะไรล่ะ ถ้าทำตามที่บอก ฉันจะหาห้องแถวให้ซักห้อง พานวลออกไปอยู่นอกร้าน จะได้สร้างครอบครัวด้วยกัน "
"จริงหรือครับ" โต๋ตาลุกวาบ รู้สึกดีใจเป็นล้นพ้น
"จริงสิ ฉันก็อยากเห็นเธอทั้งสองโตเป็นผู้ใหญ่ มีอะไรเป็นของตัวเอง แต่ช่วงแรกๆ ก็ต้องมาช่วยทำงานที่ร้านอย่างเคย แต่อีกสองสามปี ถ้าพร้อม เธอก็ควรเป็นหัวหน้าครอบครัว สร้างชีวิตด้วยกัน คงไม่อยากเป็นเด็กในร้านไปตลอดใช่ไหม"
โต๋ส่ายหน้า "แล้วคุณโชคดี"
"โชคดีก็คงคิดแบบนี้ล่ะ ไม่งั้นจะบังคับให้แต่งงานกันหรือ รอให้เดือนคลอดแล้วลูกเริ่มหัดคลานเสียก่อน ค่อยขยับขยาย ฉันจะช่วย แต่ว่าเธอก็ต้องช่วยฉันด้วย" คุณเตือนใจเสนอเงื่อนไข "ด้วยการรายงานทุกอย่างให้ฉันรู้ พูดง่ายๆ ก็คือเป็นสายลับให้เข้าใจไหม"
โต๋พยักหน้าโดยไม่รีรอเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากหรือเสียหายอะไร แค่กลับมาเล่าให้คุณเตือนใจฟังว่าชยุตม์ทำอะไรบ้างที่ทำงานเขาก็ได้ห้องแถวไปหนึ่งห้อง แต่ในใจเขากลับอดสงสัยไม่ได้ ร้อยวันพันปีคุณเตือนใจไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ปกติแทบไม่เคยอยู่ร้าน งานส่วนมากคุณโชคดีเป็นคนจัดการ
เมื่อโต๋เดินออกจากห้องทำงาน คุณเตือนใจเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ในใจล่องลอยถึงเรื่องราวในอดีต ภาพใบหน้าของชายคนที่เธอเคยรักมากผุดขึ้นมาในความคิด ตามมาด้วยภาพอื่นๆ ที่เคยเลือนจาง แต่ตอนนี้กลับเด่นชัดขึ้น
...แม้เขาจะทำกับเธอแบบนั้น เธอก็ไม่เคยเกลียดเขาเลย ผ่านมานานจนถึงขนาดนี้ มีประโยชน์อะไรกันเล่าจะมาเคืองแค้นกัน...
...แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น โชคดีก็ไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องกับชยุตม์ และครอบครัวนั้น ความแตกต่างจะนำมาซึ่งความผิดหวัง เธอไม่อยากให้ลูกของเธอเสียใจ ซักวัน ชยุตม์ก็ต้องกลับกรุงเทพฯ ไปมีชีวิตตามวิถีทางของตัวเอง...
...วิถีชีวิตคนเมือง วิถีชีวิตคนรวย วิถีชีวิตของตระกูลผู้ดีเก่า เธอเคยเจอมาแล้วกับตัว...

ปฐพีหยุดยืนมองชยุตม์ รู้สึกแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มมานั่งทานข้าวข้างถนนคนเดียว ทั้งที่บิดาเพิ่งกลับมาจังหวัดน่านเมื่อบ่ายวันนี้
คุณแม่ของชยุตม์กลับกรุงเทพฯ ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน คุณพ่อของนายช่างหนุ่มก็ย้ายไปพักที่โรงแรมในเชียงใหม่ แต่เย็นนี้มีงานเลี้ยงกับผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด พ่อชวนเขาไปด้วย แต่เขาปฏิเสธเพราะมีนัดกับโชคดีตอนสี่ทุ่ม และเขาก็คิดว่าคุณพ่อของชยุตม์ก็คงจะชวนลูกชายไปงานด้วยเช่นกัน
...แต่ทำไมชยุตม์มานั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่คนเดียว ท่าทางเหมือนไปต่อยกับใครมา...
"อุบัติเหตุที่ทำงานน่ะครับ" ชยุตม์ตอบยิ้มๆ เมื่อปฐพีเดินเข้าไปทักและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"นึกว่าไปชกกับใครมาซะอีก" ปฐพีแสดงความเห็น "แล้วนี่ไม่ไปงานเลี้ยงหรือครับ"
"ไม่ดีกว่าครับ สภาพแบบนี้ คงต้องตอบคำถามเดิมๆ ทั้งคืน"
...อุบัติเหตุที่ทำงาน ไม่เห็นจะต้องโกหกเขาเลย เขาเป็นตำรวจ จากสภาพที่เห็น บอกได้ไม่ยากว่าเป็นการชกต่อย...
"ผู้กองมาทานข้าวหรือครับ" ชยุตม์ถาม
...เอ๊ะ ดูเหมือนรอยถูกแมวข่วน นี่ถ้าบอกว่าชยุตม์มีแฟนเป็นผู้หญิงขี้หึง เขาก็จะสรุปว่ารอยข้างแก้มใกล้ต้นคอนั้นเป็นรอยเล็บ...
"เปล่าครับ ผมทานแล้ว พอดีมีนัดกับโชคดี ใกล้จะถึงเวลานัดเลยรีบมารอ กลัวโดนดุ" ปฐพีหัวเราะ "ไม่รู้มีเรื่องอะไร นัดให้ไปเจอที่ศาลหลักเมืองตอนสี่ทุ่ม แปลกคนจริงๆ ปกติไปหาที่ร้านก็ได้อยู่แล้ว"
...คิดไว้ไม่ผิด ชยุตม์เงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที แววตากร้าวขึ้นเห็นได้ชัดแม้เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที...
"นี่ก็ใกล้สี่ทุ่มแล้ว" ชยุตม์ยิ้มบางๆ ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา
"งั้นผมต้องขอตัวก่อน" ปฐพีลุกขึ้น แล้วยกมือวันทยาหัตถ์อำลาชยุตม์ ปล่อยให้วิศวกรหนุ่มมองตามจนลับสายตา
...ร้อยตำรวจเอกปฐพีในชุดเครื่องแบบดูหล่อและเท่ ใครเห็นก็ต้องหันมองตาม ยิ่งไปกว่านั้น เป็นลูกชายผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานก็ใกล้กับโชคดี สนิทกันมานาน แม่ของโชคดีก็สนับสนุน ใจเย็น อ่อนโยน อบอุ่น โชคดีเองก็ดูเหมือนจะเกรงๆ ปฐพีอยู่เหมือนกัน ไม่คอยหาเรื่องเหมือนที่ทำกับเขา...
...ไม่ว่าจะมองมุมไหน ผู้กองปฐพีก็ดูเหมาะสมกับโชคดี...
...บ้าจริงๆ ทำไมรู้สึกเหมือนคนอกหักแบบนี้นะ ยังไม่ทันจะได้บอกรัก แต่ทำไมอกหักเสียแล้ว...
...แล้วนี่โชคดีนัดผู้กองปฐพีให้ออกมาหานอกบ้านทำไมดึกดื่น หายไปทั้งวัน โผล่มาก็ต้องการเจอผู้กอง เขาโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย ปิดเครื่องไปเสียเฉยๆ แวะไปที่ร้าน พนักงานก็บอกว่าไม่รู้หายไปไหน...
...โกรธเขามากเลยหรือนี่ คนแค่กอดจูบ แลกกับถูกซ้อม คนที่โกรธควรจะเป็นเขาต่างหาก...
...มอบความรักให้กลับถูกต่อย...

โชคดีหันไปมองนายตำรวจหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีกากีที่เดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล ปฐพีมาตรงเวลาเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกินแม้เพียงนาทีเดียว
"มารอนานแล้วหรือครับ โทษทีที่ไม่ได้มารอ"
"ผู้กองไม่ได้มาสายนี่ครับ" โชคดีตอบยิ้มๆ
"แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นถึงได้บอกให้ผมมาหาที่หน้าศาลหลักเมือง"
"จะร้องเรียนเรื่องไฟหน้าศาลหลักเมืองไม่สว่าง อาจก่อให้เกิดมุมเปลี่ยวที่วัยรุ่นอาจมามั่วสุมกัน"
"แจ้งตำรวจท้องที่สิ ผมทำงานอยู่ลำปาง ไม่มีแรงมาดูแลเมืองน่านหรอก" ปฐพียิ้มกว้าง แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ว่าไง เรียกมาทำไม อย่าบอกนะว่า..."
"ผมอยากใช้เวลาส่วนตัวกับผู้กอง" โชคดีพูดเสียงเรียบ แล้วหลุบตาลงมองพื้น ก่อนจะหันหน้าไปมองศาลหลักเมือง
"น่าจะบอกก่อน จะได้แต่งตัวหล่อๆ" ปฐพีหัวเราะ กลบเกลื่อนความตกใจที่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม
"ทำเป็นพูดเล่นไป" โชคดีหันมาทำหน้าบึ้ง เสียงเข้มขึ้น
"ล้อเล่นก็ไม่ได้ ถ้ายังงั้นไปหาอะไรดื่มกัน" ปฐพียิ้มพราวแล้วเดินนำโชคดีไปตามฟุตบาธ
"ผู้กองครับ ตอนนี้ผู้กองคิดยังไงกับผม" โชคดีเดินตามมาได้สามสี่ก้าวก่อนจะถามขึ้น
นายตำรวจหนุ่มไม่ตอบทันใด ยังคงเดินล้วงประเป๋ากางเกงช้าๆ จนมาหยุดยืนตรงหัวมุมถนนจึงหันกลับไปมองอีกฝ่ายแล้วพูดว่า "ถามทำไมโชคดี ก็รู้อยู่นี่ว่าคิดยังไง ผมต่างหากควรจะเป็นฝ่ายถาม"
"ก็"
"และเมื่อผมถามแล้ว ก็ควรจะตอบตามความเป็นจริง"
โชคดีเงยหน้ามองไฟจราจรที่กำลังกระพริบ กำลังจะก้าวเท้าลงเหยียบพื้นถนน แต่ปฐพีแตะแขนเอาไว้ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"จะให้ถามตอนนี้เลยไหมโชคดี หรือจะรอให้เราไปหาที่นั่งเงียบๆ กันซะก่อน แล้วให้ผมถามอย่างเป็นทางการ"
"แล้วแต่" โชคดียักไหล่
"รอเป็นทางการดีกว่า" ปฐพียักไหล่เช่นกัน ก้าวเท้าเดินข้ามถนน แล้วหันมาพยักหน้าให้โชคดีเดินตาม แต่พลันเขาก็ชะงัก สองเท้าหยุดนิ่ง เมื่อได้ยินคนที่อยู่ข้างหลังพูดขึ้น
"ผู้กอง เรามาคบกับเป็นแฟนเถอะ"

ชยุตม์ปิดประตูรถแรงๆ ปล่อยตัวเองให้นั่งนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่แล้วเสียบกุญแจเตรียมตัวติดเครื่อง แต่ชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจ เอนตัวพิงเบาะรถช้าๆ ถอนหายใจแรงๆ นึกภาพของปฐพีกับโชคดีโผเข้าหากันแล้วจูงมือกันเดินไปตามถนนยามค่ำคืน
...โชคดีพบกับปฐพีทำไม วันนี้หากโชคดีตกใจและโกรธกับการกระทำของเขาและต้องการหลบหน้าทุกคน ก็ไม่ควรจะนัดให้ผู้กองปฐพีไปพบในเวลาดึกเช่นนี้ สี่ทุ่มของเมืองเล็กๆ กลางหุบเขาถือว่าดึกพอสมควร ปฐพีถึงกับปฏิเสธงานเลี้ยงที่ควรไปกับบิดา...
...อยากขับรถไปดูให้เห็นกับตานัก...
ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรต่อไป ความคิดของชยุตม์ก็ถูกรบกวนด้วยเสียงโทรศัพท์ วิศวกรหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าคนโทรมาไม่มีทีท่าจะยอมวางสาย เขาจึงล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วยกขึ้นแนบหูอย่างเหม่อลอย
"ยุตม์ ผมกลับถึงกรุงเทพฯ แล้ว เป็นห่วงแทบแย่ พรุ่งนี้จะไปหานะ มีเรื่องจะคุยด้วย" เสียงของจักรินทร์ดังขึ้นทันทีที่ชยุตม์รับสาย
“มากี่โมง จะให้ผมไปรับไหม”
"เป็นอะไรไป ทำไมเสียงเหมือนจะขาดใจ โดนใครต่อยปากมา อ้าปากกว้างไม่ได้หรือยังไง"
"เปล่า" ชยุตม์ปฏิเสธ "ผมง่วงนอนเฉยๆ"
"งั้นก็รีบกลับบ้านเถอะ" จักรินทร์น้ำเสียงห่วงใย "ง่วงแล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีก"
...รู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่นอกบ้าน...
"จักร" ชยุตม์เอ่ยขึ้นเสียงเบา
"เดี๋ยวนะ ผมกำลังจะผ่านอิมมิเกรชั่น" จักริณทร์บอกให้ชยุตม์รอ ระหว่างนั้น เขาได้ยินจักริณทร์พูดกับใครบางคนแล้วจึงกลับมาพูดกับเขาอย่างเร่งรีบ "ยุตม์ แล้วค่อยคุยกันเถอะนะ ง่วงแล้วก็รีบกลับไปนอนเถอะ ผมไม่โทรไปกวนอีกแล้วล่ะ ไว้คุยกันพรุ่งนี้เลย"
"เดี๋ยวสิจักร" ชยุตม์เรียกชายหนุ่ม จักริณทร์ถามว่าอะไรอีก ชยุตม์นิ่งไปชั่วครู่แล้วจึงพูดขึ้นว่า "คิดถึงผมไหมครับ"
คราวนี้คนที่นิ่งเงียบไปคือจักริณทร์ แม้เป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่ชยุตม์พอจะนึกภาพออกว่าจักริณท์คงทำหน้าแปลกๆ
...ตอนนี้เองที่เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้ถามจักรินทร์ด้วยคำถามนี้เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่งแล้ว...
"คิดถึงสิ แล้วยุตม์ล่ะ คิดถึงผมหรือเปล่า" จักริณทร์หัวเราะ แล้วบอกให้ชยุตม์รีบกลับบ้านพักผ่อน
...คิดถึง...
...คิดถึงบ้าง แต่ไม่ทุรนทุราย...
...ไม่รู้สึกทรมานเหมือนกับความรู้สึกตอนนี้ที่เขาจินตนาการภาพของคนสองคนที่กำลังยืนหรือเดินอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาจอดรถอยู่...
...เมืองเล็กๆ แค่นี้ ขับรถหรือเดินไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว...
...โชคดีจะทำหน้าอย่างไร หากเขาเดินตรงเข้าไปหา แล้วบอกให้ผู้กองปฐพีถอยไป อย่ามายุ่งกับคนที่เขารัก...
...รัก...
...แน่ใจแล้วหรือว่ารัก...
...ชยุตม์ นายแน่ใจและพร้อมแค่ไหนที่จะรับมือกับพ่อตัวร้ายประจำจังหวัด...
...แล้วจักริณทร์ล่ะ จะทำอย่างไร...
******16*******

ขอบคุณที่อ่านนะครับ  :pig4:

(http://upic.me/i/6e/lovecase_hearthijacked.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 03-06-2009 08:54:38
ดีจังที่วันนี้มาแต่เช้า ได้อ่านเพิ่มอีกตั้งหลายตอน

แค่จูบยังโดนขนาดนี้ ถ้าไปถึงขั้นนั้นจะโดนขนาดไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-06-2009 11:25:02
ยาวสะใจ แต่แอบสงสารพระเอกของเรา เฮ้อ...งานหนักเลย
โชคดีเฮี้ยวสุดๆ แถมหลอกตัวเองได้อีก
แต่ว่า...อ่านเรื่องพ่อแม่โชคดีแล้วงงงวย..สงสัยต้องไปอ่านใหม่อีกรอบเอิกซ์ซซซซซ  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 03-06-2009 12:44:14
คิคิ

พี่นาย หักห้ามใจ มาลงให้จนได้

ส่วนเรื่องนั้นอย่าหักโหมมากนะคะ

เด่วไปตามอ่านก่อน .. 
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 03-06-2009 12:48:15
อุกรี๊ดดดดดดดดดด สามตอนรวดดดดดดดดดดดดด
ขอบคุณมากๆคะ  :กอด1:

หมูปิ้งเอ้ยโดนจู่โจมด้วยจูบแบบกะท้ันหันไม่ได้ตั้งตัวแบบนี้
คงอึ้งไปน่าดูเหมือนกันนะ แต่ตัวเองก็ชกนายช่างคืนแล้วหนิ
โกรธมากกกกกกเลยเหรอ หรือว่า กำลังโกรธที่ใจตัวเองก็ไม่รักดี
เหมือนกัน ถึงต้องทำประชดโดยการขอผู้กองคบแบบนี้อ่ะ  :z3:
ถ้านายช่างรู้คงหน้าชาหน้าดู เฮ้อออออทำไมเป็นแบบนี้นะ
หมูปิ้งจะลากผู้กองเข้ามาเจ็บทำไมเนี่ย รู้ว่าผู้กองเค้ารักเค้าชอบ
แต่ใจตัวเองไม่ได้คิดตาม แต่ตอนนี้อยากดึงเข้ามาให้วังวนรักสามเส้านี่ด้วย
เฮ้ออ สงสารผู้กองนะ ทำแบบนี้แลเหมือนหมูปิ้งจะมีใจให้ชัดๆ
รู้แบบนี้ นายช่างน่าจะทำมากกว่าจูบนะ แค่จูบยังลงโทษนายช่างด้วยการไปขอคบ
กับผู้กองเลย ถ้านายช่างทำมากกว่าจูบนี่ คงประชดมากกว่าแค่ขอผู้กองเป็นแฟนแน่ๆ
หมูปิ้งนะหมูปิ้ง ถึงตอนที่อยู่กับผู้กองจะน่ารักน่าหยิกอยู่หรอก ขี้งอนซะเหลือเกิน
เหมือนเด็กที่ต้องการเอาชนะด้วยการลากผู้กองมาเป็นพวกกับตัว ส่วนผู้กองก็นะ
ตามใจ เด็กดื้อคนนี้สารพัด เหอะๆ
ได้คบกับผู้กองเป็นแฟนจริงๆสมใจซ่งแล้วสิ แต่ว่าผู้กองจะรับรึป่าวเหอะ อืม..แต่ว่า
โอกาสแบบนี้ก็หาได้ยากนะนั่น ฉวยซะเลยเป็นไง

ส่วนนายช่างโดนคาบไปรับทานแบบนี้แล้ว เด๋วคงจะอึ้งหนักกว่าเก่าแน่ๆเหอะๆ
ก็เค้าเป็นแฟนกันแล้วหนิ จูบนั่นมันก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก

ส่วนเรื่องอดีต นี่มันงงนะ
โชคดี เป็นลูกของคุณชายอนิจรุจน์ หรือว่าอาของชยุตม์กันแน่แต่ทำไมคุณแม่ของนายช่าง
บอกว่า แม่โชคดีท้องหลังจากหายไป หงะ ปริศนานี้มึนมากกกกกก
แม่ชยุตม์เป็นแฟนเก่าของคุณชาย แล้วมาหลังรักท่างมท.หนึ่งได้ไง
แล้วทำไมถึงกลัวว่า ถ้าท่านมท.1 เห็นแม่โชคดีแล้วกัวว่าจะตกหลุมรักล่ะ หงะ มึนๆ งงๆ

ปล. o13 เยี่ยมมากๆคะ ยังบวกแต้มไม่ได้รออีกนิดนะคะ
ปล.1 คงไม่ต้องให้ครบ1000แล้วมั้งคนแต่งถึงจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนหนะ
ครึๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 03-06-2009 22:03:48
สงสารชยุตท์จังอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-06-2009 23:44:30
มาอย่างเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคับ แต่เรื่องอดีตนั้นยังคาใจอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 04-06-2009 02:29:03
กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
แค่จูบ โดนขนาดนันเชียวรึ นายช่าง >w<
ร้ายเกินไปแล้วนะเนี่ย


แล้วนี่อะไรโชคดี !
จะมาคบกับผู้กอง โฮกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่ย๊อมมมมมมมมมมมมมมม
ให้ผู้กองไปกับจักรโน่นนน !
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 17 (4/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 04-06-2009 09:37:24
17

เลิกงาน ชยุตม์แวะไปหาโชคดีที่บ้าน ตั้งใจจะไปขอโทษ พงษ์บอกว่าโชคดีไปเชียงใหม่ ชยุตม์จึงขับรถกลับบ้านอาบน้ำและเตรียมตัวไปรับจักริณทร์ที่สนามบิน ขณะที่รถกำลังจะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำนึกถึงครั้งที่โชคดีรถเสียอยู่กลางสะพาน ใบหน้าดุๆ ของชายหนุ่มผุดขึ้นมาในความคิด ชยุตม์จอดรถ เดินไปหยุดยืนมองทัศนีภาพรอบๆ เพื่อปล่อยใจให้ล่องลอย แต่ครั้นก้มลงมองสายน้ำเบื้องล่างก็ต้องแปลกใจระคนดีใจที่โชคดีกำลังนั่งขว้างก้อนหินลงน้ำอยู่คนเดียว
...สงสัยคิดว่าก้อนหินเป็นใบหน้าของเขา...
ชยุตม์เดินลงไปหา พยายามทำเสียงให้ค่อยที่สุด จนกระทั่งเข้าไปใกล้ โชคดีจึงรู้สึกตัว ชายหนุ่มหันมามอง “ผู้ทำลายความเงียบ” ด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะหันกลับไป ทำเสมือนว่ายังนั่งอยู่คนเดียวเช่นเคย
“ผมมาขอโทษ” ชยุตม์เอ่ยขึ้นเสียงเบา “ผมรู้ว่าคุณโกรธ ผม...”
“ผมไม่สนใจหรอก ถือเสียว่าให้ทานคนเก็บกด” โชคดีตอบเสียงห้วน หยิบก้อนหินก้อนใหญ่ โยนลงไปในน้ำดังตูม
“ผมทำผิด ผมก็ต้องขอโทษ”ชยุตม์ให้เหตุผล
“ไม่ได้เจอแฟนมานานก็คงอยากปลดปล่อยอารมณ์หื่น กลางวันแสกๆ กลางแจ้งริมแม่น้ำก็ไม่เว้น”
“เช้าตรู่ต่างหาก” ชยุตม์แก้ให้ถูก
ได้เรื่อง โชคดีหันขวับมามองชยุตม์ตาลุกโชน ทำเหมือนจะกระโจนเข้ามาขย้ำคอวิศวกรหนุ่มหน้านิ่งแล้วพูดว่า “ถ้าคุณไม่เลิกกวนใจผม ระวังเจ็บตัวนะ คราวนี้ผมจะไม่ยั้งมือ”
“อ๋อ เมื่อวานคุณยั้งมือหรอกหรือ ปากผมถึงได้บวมเจ่อ โหนกแก้มช้ำ ต้นคอได้แผลเลือดซิบๆ แบบนี้” ชยุตม์ประชด “รอยที่ฝากเอาไว้นี่ยังไม่พอหรือไง”
“ถ้าไม่ยั้งได้เบ้าตาแตกไปแล้ว”
“เอาอีกสิ ให้จมูกผมหักไปเลย เลาะฟันอีกซักสองสามซี่ดีไหม”
“อย่าท้านะ”
“ผมไม่ได้ท้า ผมเอาจริง” ชยุตม์เอามือไพร่หลัง ก้มตัว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “เอาให้เละคามือสมใจ คุณคงอยากจะตะบันหน้าผมมาตั้งนานแล้ว”
โชคดีหันหน้าหนี นิ่งเงียบไม่ตอบโต้ต่อ เวลาผ่านไปชั่วครู่ ชายหนุ่มจึงถามชยุตม์ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่ามายุ่งกับเขาทำไม
“ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก”
“ผมห้ามใจตัวเองไมได้” ชยุตม์พูดขึ้นมาเบาๆ ส่งผลให้โชคดีนิ่งเงียบต่อไปอีกนานหลายอึดใจ
“ในเมื่อหัวใจเรียกร้อง ผมก็ไม่อยากฝืน”
“อารมร์หื่นเรียกร้องต่างหาก”
“คุณคิดยังไงครับ เกลียดผมจนเข้ากระดูกดำหรือยังไง รู้สึกยังไงทำไมต้องเก็บงำเอาไว้” ชยุตม์ถาม
“คุณคิดจะพูดอะไร บอกมาตรงๆ เลยดีกว่า” โชคดีถามเสียงเข้ม “เลิกอ้อมค้อมได้แล้ว”
“คุณชอบใคร ชอบผู้กองปฐพีหรือคุณทรงศักดิ์” ชยุตม์ถามไปตรงๆ อย่างที่โชคดีต้องการ แต่เขาก็รู้อยู่ว่า ตัวเองก็ยังไม่ “ถามตรงเป้า” ถึงที่สุด
...คุณชอบผมหรือเปล่า...นี่คือคำถามที่เขาอยากถาม
ทั้งที่บอกให้อีกฝ่ายเลิกอ้อมค้อม แต่โชคดีก็ไม่ตอบชยุตม์ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบก้อนหินขึ้นมาหลายก้อน แล้วขว้างลงน้ำพร้อมกัน
“ตอบมาสิครับ รู้สึกยังไง” ชยุตม์เร่งเมื่อเห็นว่าโชคดีเงียบนานจนเกินไป
...ไม่รู้หรือไงว่าเขาชอบใคร ถามอยู่ได้...
โชคดีเม้มปาก อยากจะหันไปมองหน้าชยุตม์แต่ก็ฝืนเอาไว้ อยากจะเห็นแววตาของคนที่กำลังถามคำถามเขา แต่ไมทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เขากลับรู้สึกไม่กล้าหันหน้าไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
..."เรารักโชคดี จะบอกว่าไม่อยากฟังเราก็จะพูด ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้อง เราก็ไม่อยากทรยศหัวใจตนเอง"...
คำพูดของทรงศักดิ์ตอนที่ขอความรักเขาดังขึ้นมา โชคดีเผลอถอนหายใจเบาๆ แล้วพึมพำเสียงค่อยว่า “คุณจะรู้ไปทำไม”
...ก็แล้วตัวเองล่ะ รู้สึกยังไงทำไมไม่พูดออกมา...
..."รักแล้วแสดงออกมามันผิดตรงไหน รักและเก็บงำเอาไว้สิไม่ควรทำ”...
...ซ่ง ทำไมต้องมาพูดกับเขาแบบนี้นะ...
โชคดีนึกถึงสิ่งที่ทรงศักดิ์พูดอีกครั้ง ในใจสับสนเป็นยิ่งนัก เขาอยากจะตรงไปตรงมาและเปิดเผยเหมือนกันทรงศักดิ์ คนบอกว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมา ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น แต่พอชยุตม์มาถามแบบนี้ เขากลับไม่รู้จะพูดอะไร
โชคดีลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งบนโขดหินใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ชยุตม์ไม่ลดละ เดินตามไปยืนอยู่ใกล้ๆ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่โชคดีหันหน้ามาเสียก่อนแล้วห้ามว่า “อย่าพูดอะไรให้อารมณ์เสียนะ”
...ชยุตม์กำลังทำให้เขาหวั่นไหว สายตาคู่นั้นกำลังทำให้เขาจะแพ้ตัวเอง...
“ครับ” ชยุตม์รับคำสั้นๆ แล้วยืนนิ่ง มองชายหนุ่มที่นั่งชันเข่าอยู่บนโขดหินใหญ่
ภาพของโชคดีทำให้เขามองไม่เบื่อ ฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีม่วงแดงเหนือลำน้ำคดเคี้ยวที่กำลังไหล่เอื่อยๆ แสงสีทองของพระอาทิตย์ตกดินส่องกระทบเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่มเป็นภาพที่ตรึงตาตรึงใจเขายิ่งนัก
“คุณรู้หรือเปล่า ผมรักแม่น้ำสายนี้มาก ตั้งแต่เป็นเด็กเรียนมัธยมปลาย ผมมานั่งตรงนี้บ่อยๆ ผมรักที่นี่ ไม่เคยคิดจะจากที่นี่ไปเลย แม้แต่จะเข้าไปเที่ยวในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ก็ไม่เคยคิด”
“ผมรู้ว่าคุณรักน่านมาก” ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม
“เราควรจะรักที่ที่เราอยู่”
“ผมรักที่ที่ผมกับคนที่ผมรักอยู่ด้วยกัน”
“คุณจักริณทร์เป็นคนดี เจอแค่ไม่กี่ครั้งช่วงสั้นๆ ก็รู้ว่าเป็นคนดี” โชคดีพูดเสียงอ่อนโยน ซึ่งชยุตม์แทบไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน สิ่งที่ชายหนุ่มพูด ทำให้เขานึกถึงเมื่อครั้งที่พี่ชายพูดถึงผู้กองปฐพี
...จักริณทร์กับปฐพีเป็นดีในสายตาของโชคดี แต่เขาเป็นคนไม่ดียังงั้นสิ...
“แต่ผมเป็นคนไม่ดีใช่ไหม คุณเลยไม่ชอบหน้าผม เจอมาตั้งหลายเดือน คุณก็ยังเห็นผมเป็นบุคคลน่ารังเกียจ” น้ำเสียงชยุตม์น้อยใจ
“ใครบอก” โชคดีพึมพำ
“อะไรนะครับ”ชยุตม์โน้วตัวเข้าไปหา เอียงหูเข้าไปใกล้เพราะไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดชัดเจน
“เปล่า”
“ถ้ายังงั้นผมก็ไม่รบกวนคุณแล้ว”ชยุตม์ขยับตัว
...ของอนหน่อยเถอะ ดูซิว่าโชคดีจะมีปฏิกิริยาอย่างไร...
“ไม่ได้ไล่นะ” โชคดีพูดเบาๆ ตายังมองไปอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ
...ลองพูดว่า “อย่าเพิ่งไปเลยครับ” สิโชคดี ถ้าคุณพูดออกมา ผมจะนั่งลงเดี๋ยวนี้...
ชยุตม์ถอนหายใจแล้วหันหลังเดินจากไปช้าๆ ในใจก็ลุ้นว่าจะได้ยินโชคดีพูดอะไรอย่างที่อยากจะให้พูดหรือไม่ จนเขาก้าวขึ้นเนินแล้ว โชคดีก็ยังเงียบ แอบหันไปมองก็เห็นนั่งกอดเข่านิ่งเหมือนรูปปั้น ชยุตม์หมดความอดทน หันหลัง เดินกลับมาที่เดิม แล้วยืนพิงโขดหินที่โชคดีนั่งอยู่
“ไหนว่าจะไปแล้ว” คนที่นั่งนิ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะๆ
“ผมเปลี่ยนใจ” ชยุตม์พูดเบาๆ มองไปยังพระอาทิตย์สีทองดวงกลมโตที่กำลังคล้อยต่ำลง
“หลายใจ” โชคดีพึมพำ นั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิมไม่กระดุกกระดิก
ชยุตม์ไม่ตอบ เพียงหลุบตาลงมองคนที่นั่งนิ่งเป็นหุ่น แล้วหันกลับไปมองอาทิตย์อัสดงเช่นเดิม
...ก็ยังดีกวาคนที่ไม่ยอมรับสิ่งที่ใจตนเองเรียกร้อง...
วิศวกรหนุ่มพูดอยู่ในใจ แทนที่จะเอ่ยออกมา ตอนนี้เขาไม่อยากทำลายบรรยากาศ การได้ยืนนิ่งๆ อยู่เกือบแนบชิดกับโชคดีในบรรยากาศเงียบสงบเช่นนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ตอนนี้เขาอยากให้โลกหยุดหมุน เวลาหยุดนิ่ง แล้วซึมซับเอาไว้ในความทรงจำ
...จะดีเพียงใดนะ หากได้ยืนกอดกัน เขาอยากกอดโชคดีอีกสักครั้ง คราวนี้กอดจริงๆ อยากจะรู้ว่าตัวจะอุ่นเพียงใด สองครั้งที่ได้แตะเนื้อต้องตัวนั้นเป็นการ “คลุกวงใน” ที่ล้มกลิ้งลงน้ำอย่างไม่เป็นท่า เปียกปอนกันทั้งสองครั้งสองครา ครั้งแรกโดนกระแทกไปหนึ่งครึ้ง แต่ครั้งที่สองโดนทั้งมือทั้งเล็บ ศอกเข่าประเคนมาหมด...
...ครั้งที่สามล่ะ ขอดีๆ สักครั้งได้ไหมครับโชคดี...
...ตอนนี้กำลังสงบ ลองสอดมือเข้าโอบเอวแบบนุ่มนวล แล้วดึงโชคดีมาอิงกับอก โชคดีวางศรีษะลงบนอกกว้างของเขา ยกมือขึ้นจับท่อนแขนของเขาเอาไว้ แล้วยืนนิ่งๆ...
ชยุตม์อมยิ้ม ได้แต่คิดในใจ เขายอมรับว่ายังไม่กล้า หากโดนถีบ โดนต่อยและล้มลงไปคงเสี่ยงหัวแตกเพราะรอบๆ เป็นก้อนหินทั้งนั้น วิศวกรหนุ่มจึงได้แต่ยืนมองไปข้างหน้าด้วยใบหน้ายิ้มๆ ไม่ได้สังเกตว่าคนที่นั่งกอดเข่าอยู่ ช้อนตาขึ้นมามองด้วยสายตาขวางๆ ราวกับจะบ่นว่า “คนอะไร ยืนยิ้มอยู่ได้”

จักริณทร์หันไปมองคนที่เดินกระหือกระหอบเข้ามาในร้านอาหารแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้ายิ้ม ชยุตม์ลืมไปรับเขาที่สนามบิน โทรศัพท์หาเท่าไหร่ก็ไม่ติด โชคดีขณะที่ยืนรอรถรับจ้างเพื่อเข้าเมือง เสียงโทรศัพท์ของปฐพีก็ดังขึ้น เขาเลยได้นั่งรถตำรวจเข้าเมือง แถมด้วยอาหารค่ำฟรีหนึ่งมือโดยร้อยตำรวจเอกปฐพีเป็นเจ้าภาพ
“จักร ผมขอโทษ” ชยุตม์พูดขึ้นทันทีที่เดินถึงโต๊ะอาหาร
“ลืมละสิ” จักรินทร์ยิ้ม แล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าของอีกฝ่าย
“ไปต่อยกับใครมา”
“เปล่า” ชยุตม์ตอบ แล้วหันไปขอบคุณปฐพีที่ช่วยไปรับจักริณทร์
“ใต้คางเหมือนโดนข่วนด้วยนะ” จักริณทร์ทัก “ไม่เคยเห็นยุตม์มีเรื่องทะเลาะอะไรกับใครจนต้องลงไม้ลงมือ”
“อุบัติเหตุที่ทำงาน” ชยุตม์พูดเสียงอุบอิบแล้วพยายามชวนปฐพีคุยเรื่องอื่น นายตำรวจหนุ่มมองชยุตม์อย่างครุ่นคิด ในใจนึกไปถึงคนที่เพิ่งขอคบกับเขาเป็นแฟน แต่พอขอเป็นแฟนแล้ว วันถัดมา ก็หายหน้าไปเฉยๆ อีกครั้ง
...เกิดอะไรขึ้นระหว่างชยุตม์กับโชคดี และรอยที่อยู่บนหน้าของชยุตม์นั่นน่ะ ตอนนี้เริ่มจะมั่นใจแล้วว่าต้องเป็นโชคดีที่เป็นคนฝากเอาไว้...
“ผมจะอยู่แค่สองสามวัน แล้วต้องกลับไปทำงาน คราวนี้บินใกล้ๆ อีกไม่กี่วันก็ว่างอีก ตอนนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี บริษัทลดเที่ยวบินลง สบายไปเลย” จักริณทร์เล่ายิ้มๆ “ตอนแรกจะมาตอนที่ชยุตม์หายตัวไป แต่ว่าผู้กองบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง”
...ไปบอกกันตอนไหน ปฐพีโทรไปบอก หรือจักริณทร์โทรมาถาม...
ชยุตม์สบตากับปฐพีแวบหนึ่ง แล้วหันไปเรียกพนักงานร้านอาหาร ในใจสงสัยว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างจักริณท์กับปฐพี
...ดีสิ ตัวแปรสองคนจะได้หายไป เรื่องของเขากับโชคดีจะได้ง่ายขึ้น ส่วนตี๋หน้าจืดคนนั้นเขาไม่ค่อยกังวลใจเท่าใดนัก...
“ผมโทรไปถามที่บ้าน คุณแม่ยุตม์เลยให้คุยกับผู้กอง” จักริณทร์อธิบาย
...แล้วนี่จักรจะพักกับผมหรือจวนผู้ว่าราชการ...
ชยุตม์ยิ้ม นึกถามคำถามอยู่ในใจ รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย บอกไม่ถูกว่าทำไมตัวเองถึงคิดอยากจะถามจักริณทร์เช่นนั้น
...หากโชคดีรู้ว่าจักริณทร์มาหาเขาที่น่าน จะทำหน้าอย่างไรนะ โชคดีก็คงเข้าใจว่า เมื่อจักริณทร์มาหา ก็หมายความว่าพักบ้านเดียวกัน ห้องเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน...
...ทำไมตอนนี้เขาแคร์ความรู้สึกของโชคดีเหลือเกิน...
...นี่เขาเปลี่ยนใจจากจักริณทร์แล้วเช่นนั้นหรือ...

ชยุตม์เดินออกมาจากห้องน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง แล้วมองหาจักริณทร์ ทันที่ที่กลับถึงบ้าน จักริณทร์ก็ตรงเข้าไปอาบน้ำอยู่เป็นนานสองนาน
ขณะที่กำลังถูสบู่ เขารู้สึกเจ็บชายโครง พอก้มลงมองก็เห็นว่ามีรอยช้ำที่ไม่ได้สังเกตเห็นมาก่อน เลยนับจำนวน “รอย” ที่โชคดีฝากไว้ให้เพิ่มขึ้นมาได้อีกหนึ่งรอย
...อีกหน่อยรอยฟกช้ำเหล่านี้ก็จะหายไป แผลมุมปากกับใต้คางก็จะหาย แต่รอยประทับบนริมฝีปากกลับรู้สึกร้อนผ่าวไม่เคยจาง...
...นี่หรือคือรอยรัก...
...แรกที่เขากับจักริณทร์รู้จักกัน รอยจูบก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกได้ถึงขนาดนี้ สงสัยคงเป็นเพราะรู้จักกันได้ไม่ถึงอาทิตย์เขากับจักริณทร์ก็มีอะไรกัน ความสัมพันธ์ไม่หวือหวา ตื่นเต้น ท้าทาย เพราะเหตุนี้หรือ รสจูบถึงได้ต่างกัน...
...เรื่องแบบนี้ทำไมเข้าใจได้ยากเหลือเกิน...

จักริณทร์อยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน ขดตัวอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ เหม่อมองออกไปยังความมืดข้างนอก แต่ครั้นชยุตม์เดินออกไป ชายหนุ่มก็หันมามองยิ้มๆ ราวกับว่าไม่ได้นั่งเหม่อ
“อากาศดีจังเลย ผมชักจะอิจฉายุตม์แล้วนะเนี่ย”
“งั้นก็ย้ายมาอยู่เลยสิ ซื้อที่ดินซักผืน สร้างบ้านหลังเล็ก” ชยุตม์แนะนำ
“ให้มาอยู่เลย หรือมาพักผ่อนตากอากาศ”
“ไม่ใช่ทะเล มาตากอากาศได้ยังไง” ชยุตม์ยิ้ม แล้วนั่งลงข้างๆ
“อยากมาอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ” จักริณทร์ถาม แล้วเอนตัวมาพิงไหล่ของอีกฝ่าย
ชยุตม์แอบถอนหายใจเบาๆ คำถามของจักริณทร์ทำให้เขาอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งวันนี้ ที่ริมน้ำใต้สะพานที่เขายืนอยู่กับโชคดี และตอนนี้ ขณะที่จักริณทร์กำลังนั่งพิงเขาอยู่
...“คุณรู้หรือเปล่า ผมรักแม่น้ำสายนี้มาก ตั้งแต่เป็นเด็กเรียนมัธยมปลาย ผมมานั่งตรงนี้บ่อยๆ ผมรักที่นี่ ไม่เคยคิดจะจากที่นี่ไปเลย แม้แต่จะเข้าไปเที่ยวในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ก็ไม่เคยคิด”...
คำพูดของโชคดียังดังก้องอยู่ในความคิด โชคดีบอกว่ารักเมืองน่านมาก ไม่เคยคิดที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น
...แล้วเขาล่ะ อีกไม่นานการก่อสร้างรีสอร์ทก็จะเสร็จ โปรเจ็คใหญ่ของเขากำลังรออยู่ที่ไต้หวัน แม้พ่อของเขาจะพยายามชวนให้เขารับงานที่เชียงใหม่ แต่ยังไงๆ การก่อสร้างก็จะเสร็จแล้วเขาก็จะต้องรับงานโครงการใหม่ๆ ต่อไปและเดินทางไปทำงาน ไม่ต่างจากจักริณทร์ที่ต้องขับเครื่องบินไปทั่วโลกเท่าใดนัก...
...รับงานสร้างหมู่บ้านจัดสรร สร้างโกดัง สร้างอาคารพาณิชย์ตามอำเภอ หรือจังหวัดต่างๆ ในแถบภาคเหนือก็ได้...
...วิศวกรที่เคยสร้างตึกสูงกว่าร้อยชั้นหลายตึกในเมืองใหญ่ๆ หลายประเทศ สร้างศูนย์ประชุม สร้างอะไรต่ออะไรที่ใช้โทคโนโลยีล้ำสมัย ต้องกลายมาเป็นโฟร์แมนสร้างบ้านเหมือนที่โดนโชคดีดูถูกหรือนี่...
...ทำไมรู้สึกว่าโลกของเขากับโลกของโชคดีเหมือนเป็นคนละโลก และท้ายที่สุดจะเป็นเหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับจักริณทร์เช่นนั้นหรือ จักริณทร์เดินทางบ่อย เขาก็ทำงานตามที่ต่างๆ อยู่บ่อยๆ พอห่างกันก็รู้สึกเนือยๆ ความสัมพันธ์ก็เริ่มจืดจาง...
“ถามแค่นี้ต้องคิดนานขนาดนี้เลยหรือยุตม์” จักริณทร์ถามขึ้นมาเสียงเบา
“เปล่า”
“พักหลังคุณพูดว่า เปล่า บ่อยขึ้นนะ” จักริณทร์อมยิ้ม “ขี้เกียจคิดหาคำตอบขนาดนั้นเลยหรือ”
ชยุตม์ส่ายหน้าแทนคำตอบที่หากเขาจะตอบแล้วก็คงพูดว่า “เปล่า” อีกครั้ง ก่อนจะชวนจักริณทร์เข้านอนเพราะเห็นว่าเดินทางมาเหนื่อย
“ไม่เหนื่อยหรอก พอเครื่องลงผมก็นอนหลับเป็นตายเกือบสิบห้าชั่วโมง ตอนนี้ยังไม่ง่วง ยุตม์ไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน แล้วนี่ก็เห็นท่าทางจะไม่ไหวแล้ว” จักริณทร์ดันตัวออกห่าง “ไปชกต่อยกับคนทำไมก็ไม่รู้ ไปนอนเถอะไป๊”
ชยุตม์ไม่ขัดขืน ลุกขึ้นยืนช้าๆ แล้วบอกจักริณทร์ว่าอย่านอนดึกมากนัก ก่อนจะทิ้งท้ายว่าพรุ่งนี้เขาจะรีบกลับจากทำงานเพื่อพาจักริณทร์ไปเที่ยว
“ไม่ต้องหรอก ทำงานให้สบายใจเถอะ ไม่ต้องรีบกลับ ผู้กองจะพาไป คุยกันไว้แล้ว” จักริณทร์พูดยิ้มๆ “หึงหรือเปล่า”
“ควรหึงไหมล่ะ”
“ไม่ควร” จักริณทร์ส่ายหน้า “ผู้กองมีไมตรีให้แบบเพื่อน เขาเห็นว่าผมเป็นแขก มาเยี่ยมเมืองน่าน ก็อยากต้อนรับในฐานะคนรู้จักกัน ส่วนยุตม์ เป็นแฟน ต้อนรับที่บ้านก็พอแล้ว”
ชยุตม์ไม่ตอบว่าอะไร มองใบหน้ายิ้มๆ ของจักริณทร์แล้วเดินเข้าไปในบ้าน นึกถึงคำพูดของโชคดีเมื่อตอนบ่ายแล้วต้องถอนหายใจ
...จักริณทร์เป็นคนดี ทำไมเขาจะไม่รู้...
...คนดีอย่างจักริณทร์ ควรจะคู่กับคนดีอย่างผู้กองปฐพี...
...ส่วนตัวร้ายอย่างโชคดี ควรจะคู่กับเขา ถ้าจะมีใครปราบโชคดีได้ ก็น่าจะเป็นเขานี่ล่ะ...
***********************

::::คำคมวันนี้:::::::รักคือความอดทน >>>>> ผมยอมให้คุณนั่งตัก แม้คุณตัวหนัก ผมก็ยอมทน::::::::::::

แฟนใคร หล่อจัง นึกถึงผู้กองปฐพีขึ้นมาทันทีเลยอ่ะ  :z1: (http://upic.me/i/h4/akrapan2.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-06-2009 09:53:09
งึ่มๆๆๆๆอีกนิดเดียวจริงๆ ชอบฉากริมแม่น้ำจัง
แอบอยากให้สวีทหวานมากกว่านี้ ....เฮ้อ


ปล.ใครไม่งงเรื่องพ่อของโชคดีมาอธิบายสรุปๆให้ฟังหน่อยค่ะ....อิฉันงงงวย... :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 04-06-2009 13:45:21
เฮ้ออออออออออ หมูปิ้งคิดเยอะ คิดมาก คิดมายไปทำไมกันนะ
คิดมากขนาดมาปล่อยวิเวก โยนหินถมแม่น้ำซะอย่างงั้น
แต่นายช่างอ่ะ หมูปิ้งพูดเปิดทางแหวกออกซะขนาดนั้นแล้ว
ถ้ามีใจให้กันก็ร้ากกกกกกกกกกันได้ หมูปิ้งแค่ต้องการคนโฉดๆ เอ้ย คนโสดๆ
ที่ไม่มีพันธะใดๆ แล้วที่สำคัญพร้อมที่จะสละทุกสิ่งอย่างมาอยู่ที่น่านกับเค้า
ก็เท่านั้น
หมูปิ้งโดนรุกสเต็ปง่ายๆ ใจก็อ่อนยวบแล้วเห็นมั๊ย นายช่างทำอะไรให้มันเคลียร์นะ
 :กอด1: รักหมูปิ้ง (เป็นครั้งแรกที่รู้สึกแบบนี้ 55555)
ปล. +1 จัดให้งามๆคะ คุณคฑาวุธ ขยันสุดพลัง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: kaewpoo ที่ 04-06-2009 15:08:39
 :laugh: นายช่างบอกไปเลย ผมรักหมูปิ้ง  :laugh:-------> ผลคือโดนต่อยเหงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 04-06-2009 16:44:43
หลงรักโชคดีอีกตอนแล้วคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 06-06-2009 10:07:14
นายช่าง ... เลิกกะแฟนก่อนดีหรือไม่ :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 06-06-2009 16:40:47
นายช่างยังติดจักรคนเดียวนะเนี่ย

น่าจะบอกเลิกไปเลยให้รู้แล้วรู้แรดซะ

เดี่ยวคนอกหักสองคนก็ไปกันได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 08-06-2009 07:39:03
ขอบคุณทุกท่านที่กดให้คะแนนนะครับ

บทที่ 18

'พ่อตัวร้าย' บีบแตรรถดังๆ ส่งผลให้ยามรักษาการณ์หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรีบวิ่งออกมาโวยวาย พอเห็นหน้า 'คู่ปรับ' ที่นั่งอยู่ในรถก็เบ้ปาก
“เปิดเร็วๆ หรือจะให้โทรเรียกผู้กองมาเปิด รู้ไหมนี่ว่าใคร”
“กรุณารอสักครู่นะครับท่าน” ยามพูดแดกดัน สีหน้าตรงกันข้ามกับคำพูด รีบเดินไปเปิดประตูรั้วให้ชายหนุ่มที่กำลังทำหน้ากวนๆ
“ขอบใจน้อง” โชคดีอดกวนไม่ได้ เมื่อประตูเปิด เขาจงใจเข้าเกียร์และเร่งเครื่องแรงๆ ทำให้ยามรีบกระโดดออกไปยืนให้พ้นทาง แต่ชายหนุ่มกลับเคลื่อนรถเข้าไปในจวนผู้ว่าราชการช้าๆ ปล่อยให้ยามมองตามอย่างขุ่นเคืองที่โดนแกล้ง
ปฐพียืนรออยู่หน้าบ้าน ทันที่ที่โชคดีจอดรถ นายตำรวจหนุ่มก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วเปิดประตูรถเพื่อขึ้นนั่งคู่คนขับ แต่โชคดีลงจากรถ แล้วบอกให้ปฐพีเป็นคนขับ
“ผมเหนื่อย วันนี้ทำงานทั้งวัน ผู้กองไม่เหนื่อย เป็นคนขับรถก็แล้วกัน”
“ผมมาจากลำปาง”
“อ้าวนึกว่าเป็นตำรวจเมืองน่านไม่ใช่หรือ เห็นอยู่ที่นี่มากกว่าอยู่ที่ลำปางเสียอีก”
“เลิกประชดได้แล้ว เป็นแฟนกันมาประชดกันแบบนี้ เดี๋ยวเจอดีนะ” ปฐพีทำตาวิบวับ
“กลัวซะที่ไหน” โชคดียักไหล่แล้วขึ้นนั่งบนรถ หันไปเร่งปฐพีที่ยังยืนส่ายหน้าช้าๆ อยู่ข้างรถ แล้วบอกให้ไปได้แล้ว
“ผมต้องแวะรับคุณจักริณทร์ด้วย” ปฐพีพูดเสียงเบา เมื่อรถพ้นออกจากประตูรั้วบ้าน “นัดกับคุณจักรเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน”
“เขามาทำไม” โชคดีถาม พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
...จักริณทร์มาก็ต้องพักบ้านชยุตม์สิ นอนห้องเดียวกัน เตียงเดียวกัน แล้วก็มีอะไรกัน ชยุตม์ออกอาการหื่นขนาดนั้น สงสัยเก็บกดอารมณ์เอาไว้นาน พอแฟนมาเยี่ยม ก็คง...
“อ้าว เดี๋ยวกระจกรถแตก” ปฐพีเตือน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายใช้กำปั้นทุบกระจกด้านข้าง “เขาเป็นแฟนกัน ก็ต้องมาเยี่ยมกันเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนประสบอุบัติเหตุ หน้าหล่อๆ ได้แผลมาเยอะแยะขนาดนั้น”
“เยอะที่ไหน แค่ไม่กี่รอย” โชคดีพึมพำ
“เห็นด้วยหรือ” ปฐพีเลิกคิ้วถาม โชคดีไม่ตอบ เมินหน้าออกไปมองนอกรถ นายตำรวจหนุ่มจึงพูดต่อว่า “หรือว่าเป็นคนฝากรอยเอาไว้เอง”
“อย่ามากล่าวหาผมนะผู้กอง” โชคดีปากเข็ง “ปากอย่างคุณคนนั้น คงหาเรื่องใส่ตัว โดนใครที่ไหนต่อยเข้าให้”
“อันธพาล น่าจับขังคุกให้เข็ด” ปฐพีเออออ
...แล้วปากอย่างตัวเองล่ะ ควรจะโดนทำอะไร โดนต่อย หรือโดนจูบ...
...ชยุตม์จูบโชคดี!
...แน่ๆ เลย ชยุตม์ต้องจูบโชคดีแน่ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่โดนต่อยขนาดนั้น...
...เพราะเหตุนี้ ถึงได้รีบมาขอคบกับเขาเป็นแฟน...
ปฐพีชะลอรถ แล้วจอดข้างทาง โชคดีหันมาถามว่าจอดรถทำไม ปฐพีจึงตอบว่ามีเรื่องอยากจะคุย
“มาคุยอะไรตอนนี้ ไปให้ถึงร้านก่อนค่อยคุยกัน มีเวลาถมเถ”
“จะคุยต่อหน้าคุณจักรได้ยังไงกันล่ะ” ปฐพีทำเสียงดุ
“ก็แล้วทำไมไม่ปฏิเสธเขาไป แฟนนัดทานข้าวยังจะให้คนอื่นไปด้วยอีก”
“ก็ผมนัดกับคุณจักรเขาก่อน แล้วโชคดีเพิ่งมาชวมผมเมื่อกี้ ตอนที่จะขับรถมาหาถึงที่บ้าน จะให้ยกเลิกเขากระทันหันก็น่าเกลียด คุณจักรอุตส่าห์มาจากกรุงเทพฯ และที่สำคัญ ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน พอผมบอกคุณจักร เขาก็ขอยกเลิกด้วยซ้ำไป”
“แล้วทำไมไม่ยกเลิก” โชคดีเลิกคิ้ว เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับคำสรรพนามที่ปฐพีใช้เรียกจักริณทร์
“ก็ตามมารยาท”
“ผมไม่มีมารยาทหรือไง”
“เลิกเป็นเด็กดื้อได้แล้วโชคดี”ปฐพีปรามยิ้มๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้ว ต้องปรับปรุงตัวซักหน่อย อย่างน้อยผมก็อายุมากกว่า ต้องยอมลงให้ผมบ้าง”
โชคดีนิ่ง มองตาวิบวับของปฐพีแล้วเบือนหน้าออกไปมองนอกรถอีกครั้ง
“เป็นแฟนกัน ก็ต้องทำตัวอย่างเป็นแฟน” ปฐพียื่นหน้าเข้ามาชิดแก้ม พูดเสียงต่ำ “ตอนนี้ขอชื่นใจก่อน”
“ผู้กอง กลางวันแสกๆ ในรถข้างถนน อย่าทำอะไรแบบนี้”
“งั้นคืนนี้เราก็ไปหาที่โรแมนติกคุยกัน ออกไปนอกเมืองใกลๆ หารีสอร์ทเล็กๆ ที่ไหนค้างกันซักคืน นะโชคดีนะ”
“บ้าหรือ คิดอะไรอยู่”
“ก็คิดแบบที่แฟนกันเขาคิดยังไงล่ะ จะให้ผมรอต่อไปอีกกี่ปี รอให้แต่งงานส่งตัวเข้าหอหรือยังไง”ปฐพีเสียงดังขึ้น “โชคดี ผมรอมานานหลายปีแล้วนะ เรารู้จักกันมาก็ไม่น้อย ตอนนี้โชคดีเปิดใจรับผมแล้ว เราก็อย่ารีรออะไรกันอยู่อีกเลย”
โชคดีกระสับกระส่าย หันซ้ายหันขวาโดยอัตโนมัติ รู้สึกอ้ำอึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนแรกปฐพีพูดยิ้มๆ แต่ตอนนี้ท่าทางเอาจริง
“ผมขอเรียกร้อง ในฐานะแฟน”
“ผมขอปฏิเสธ”
“ในฐานะแฟนหรือ” ปฐพีเสียงเข้ม “ก็ได้ คืนนี้ยังก็ได้ แต่คืนพรุ่งนี้ ห้ามปฏิเสธ ไม่ก็คืนมะรืน คืนต่อๆ ไป จะกี่คืนก็ได้ แต่ไม่ให้เกินหนึ่งอาทิตย์หรอก ยังไงๆ ผมกับโชคดีก็ต้องได้มีอะไรกัน”
“ต้องการแค่นี้เองหรือ เป็นแฟนแล้วต้องการแค่นี้เองหรือ” โชคดีโวยวาย
“แล้วโชคดีต้องการอะไร” ปฐพีเสียงดังขึ้นเหมือนกัน หน้าตาตอนนี้เคร่งขรึมจริงจัง “ที่มาขอคบกับผมแบบแฟน ต้องการอะไร”
โชคดีหันหน้าออกนอกรถ พ่นลมหายใจแรงๆ ในใจนึกอยากจะเปิดประตูรถเดินหนีปฐพีให้สิ้นเรื่อง แต่ก็ยั้งใจไว้ได้
“เรื่องรัก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะโชคดี คิดอะไรก็อย่าฝืนใจตัวเอง ผมไม่อยากเสียใจภายหลัง และผมก็ไม่อยากให้โชคดีเสียใจภายหลังด้วย รู้ดีนี่ว่าผมห่วงใยโชคดีมากแค่ไหน จะเป็นอะไรกัน ผมก็คอยอยู่เคียงข้าง คอยห่วงใยไม่เปลี่ยนหรอก”
หลังจากต่างคนต่างเงียบอยู่ชั่วครู่ ปฐพีก็ออกรถ แล้วขับไปต่อไปช้าๆ นายตำรวจบอกว่าจักริณทร์รออยู่ที่พระธาตุแช่แห้ง กำลังถ่ายรูป โชคดีนั่งเงียบไม่พูดอะไรตลอดทาง จนกระทั่งรถจอด จึงทักทายจักริณทร์
“ผมต้องขอโทษคุณโชคดีมากๆ บอกผู้กองแล้วว่าให้ไปทานกับคุณโชคดีได้เลย แต่ผู้กองก็ไม่ยอม”
“ไปทานด้วยกันนี่ล่ะครับ ถือว่าเป็นการต้อนรับ”
“เมื่อกี้นี้ชยุตม์ก็โทรมาถามครับ เพิ่งวางสายไป จะชวนผมไปทานข้าว วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ มีแต่คนชวนกันทานข้าว”
“งั้นชวนคุณชยุตม์ไปด้วยกันเลยสิครับ” ปฐพีเอ่ยขึ้นมา ไม่สนใจโชคดีที่หันขวับมามองเขาทันที
“กลัวจะทานไม่ได้สิครับ ร้านที่เราจะไปเป็นอาหารพื้นเมืองไม่ใช่หรือ ถ้ารสจัดก็น่าสงสารยุตม์ ปากกำลังเป็นแผล”
“ให้ทานแกงจืดกับไข่เจียวก็ได้ครับ” ปฐพีตอบแล้วหัวเราะประสานกับจักริณทร์ ปล่อยให้โชคดีทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว
“ไม่รู้โดนอันธพาลที่ไหนอัดมา” ปฐพีเปรย “ถ้ารู้ตัว ผมจะจับขังคุกให้เข็ด ลงโทษให้เข็ดหลาบ เอาให้หนัก”
“โทษฐานที่ซ้อมลูกชายรัฐมนตรีมหาดไทย” จักริณทร์เสริม แล้วหัวเราะประสานกับปฐพีอีกครั้ง ก่อนจะยกโทรศัพท์โทรหาชยุตม์
...อยากต่อยอีกซักหมัดสองหมัด เอาให้หยอดน้ำข้าวต้มเลย ให้ตายสิ..
โชคดีเอนตัวลงกับเบาะ ปล่อยให้ปฐพีคุยกับจักริณทร์อย่างถูกคอ จักริณทร์บอกว่าชยุตม์กำลังจะออกจากที่ทำงาน แต่ขอกลับบ้านไปอาบน้ำก่อนเพราะเนื้อตัวสกปรก จากนั้นจะตามไปที่ร้านอาหาร
รถแล่นไปช้าๆ โชคดีมองออกไปนอกรถ พระอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลง ขณะที่ข้ามสะพาน เขาอดมองลงไปยังแม่น้ำไม่ได้ แม้เป็นคนละสะพานกับที่เขาและชยุตม์พบกันเมื่อวาน แต่เขาก็อดนึกภาพชยุตม์กับตัวเองนั่งอยู่บนโขดหินริมแม่น้ำเมื่อวานนี้ไม่ได้
...ภาพเสี้ยวหน้าคมเข้มของชยุตม์เป็นสีทองเพราะแสงอาทิตย์ยามอัสดง ใบหน้ายิ้มๆ ของชายหนุ่มประทับอยู่ในความทรงจำเขาอย่างชัดเจน...
...ภาพนั้นคงไม่เลือนหายไปโดยง่าย...
...แล้วชยุตม์ล่ะ จะเห็นภาพอะไร...

ชายหนุ่มทั้งสามคนนั่งคุยกันในร้านอาหารริมแม่น้ำนานเป็นเวลาพอสมควรจนจักริณทร์บ่นขึ้นมาว่าทำไมชยุตม์ยังไม่มาเสียที
“สงสัยรู้ว่าผมมาด้วย เลยไม่อยากเจอหน้าผมก็ได้มั๊งครับ” โชคดีพูดยิ้มๆ
“ทำไมล่ะ ไม่อยากเจอหน้ากันมีเรื่องอะไรกันหรือ หรือว่าโชคดีไปต่อยหน้าคุณชยุตม์” ปฐพีแกล้งยั่ว จักริณทร์หันมายิ้มแล้วส่ายหน้ากับคำพูดของนายตำรวจหนุ่มแล้วพูดว่าปฐพีพูดอะไรก็ไม่รู้
“คุณโชคดีจะมีเหตุผลอะไรไปต่อยยุตม์ล่ะครับ”
“นั่นสิ จะมีเหตุผลอะไร ผมก็พูดเล่นไปยังงั้นล่ะ” ปฐพีพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะบอกให้จักริณทร์ลองโทรหาชยุตม์อีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่รับโทรศัพท์เลย ปกติยุตม์ไม่เคยเหลวไหล เป็นคนตรงต่อเวลา” จักริณทร์บ่น แต่ในใจกลับนึกไปอีกอย่างเพราะเขารู้สึกว่าชยุตม์ทำอะไรแปลกๆ ไปหลายอย่างทีเดียว อย่างน้อยก็ถึงกับลืมไปรับเขาที่สนามบิน
...เหม่อ ใจลอย เหมือนจมอยู่ในความคิดของตัวเอง แม้แต่นอนอยู่บนเตียงก็เอามือก่ายหน้าผากและปล่อยให้ใจล่องลอยไปถึงไหนก็ไม่รู้...
“ไม่รับโทรศัพท์เลยครับ” จักริณทร์พับโทรศัพท์เก็บ สีหน้าเป็นกังวล
“หรือว่ากลับไปอาบน้ำที่บ้าน แล้วเผลองีบหลับไปเพราะเหนื่อย” ปฐพีแสดงความเห็น
“ตามไปดูเลยให้เห็นกับตา” โชคดีเสนอความเห็นบ้าง “ทำตัวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน คุณจักริณทร์มาทั้งที วันนั้นก็ให้รอเก้อที่สนามบิน”
“ลองโทรไปที่สถานีตำรวจดูดีกว่า” ปฐพีฉุกคิด เกรงว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
“อุบัติเหตุ” จักริณทร์อุทาน
บริกรนำอาหารมาเสริฟ์ ทั้งสามหนุ่มแทบทานไม่ลง ปฐพีง่วนอยู่กับการโทรศัพท์สอบถามรายงานอุบัติเหตุ แต่ไม่ว่าจะโทรศัพท์ไปที่ไหนก็มีรายงานคนเจ็บชื่อชยุตม์
“โรงพยาบาลก็ไม่มี” ปฐพีขมวดคิ้ว
ในที่สุดทั้งหมดก็ตกลงกันว่าจะกลับไปดูที่บ้านแต่ก็พบว่าบ้านปิดเงียบ ห้องน้ำแห้งสนิท ไม่มีร่องรอยว่าเจ้าของบ้านกลับมาอาบน้ำดังที่บอก โชคดีนึกอะไรได้จึงโทรศัพท์หาโต๋เพื่อสอบถามเรื่องชยุตม์แต่คำตอบที่ได้รับทำให้เขาตกใจจนอึ้ง
“แล้วแกทำไมไม่โทรมาบอก” โชคดีตวาดคนที่อยู่ในสาย
“ก็...” โต๋อึกอัก “ก็...”
“เรื่องแบบนี้ทำไมไม่โทรมา”
“แล้วคุณโชคดีเป็นอะไรกับนายช่างล่ะครับ ผมนึกว่าไม่ถูกกันเสียอีก”
“ไอ้...” โชคดีกำลังจะบริภาษเด็กหนุ่ม แต่นึกได้ว่าก็จริงอย่างที่ฝ่ายนั้นพูด โต๋เลยรอดตัวไป
“ผู้จัดการพาไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วครับ กว่าจะเอาตัวนายช่างออกมาได้ก็แทบแย่ เกือบจมน้ำตายกันไปหลายคน ประตูน้ำมันพัง นายช่างอยู่ใกล้ที่สุด บอกแล้วว่าไม่ให้เข้าไป แต่นายช่างเป็นห่วง กลัวงานไม่เรียบร้อย” โต๋เล่าเหตุการณ์ให้โชคดีฟัง แต่ประโยคหลังๆ โชคดีไม่ค่อยจะได้ยินสิ่งที่เด็กหนุ่มเล่าแล้ว ในใจนึกภาพตามและต่อเติมเข้าไปเองอยู่นาน จนปฐพีต้องสะกิดให้ขึ้นรถเพื่อตรงไปโรงพยาบาล
...ชยุตม์จะเป็นอะไรมากหรือเปล่า แต่จากที่ได้ยินโต๋เล่าให้ฟังท่าทางอาการก็หนักพอดู แต่โต๋ก็มักเป็นคนที่พูดอะไรเกินจริงไปบ้าง...
...รอให้กลับถึงบ้านก่อนเถอะ จะเตะซักสองสามที ชยุตม์เจ็บยังไม่โทรมาบอก แล้วยังมีหน้ามาพูดกระทบกระเทียบเขาอีก...

จักริณทร์ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ โชคดีกับปฐพีหลังจากพูดโทรศัพท์เสร็จ ใบหน้าเคร่งขรึมแปลกไปจากที่เคยเห็นยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจ
“คุณพ่อยุตม์กำลังมาจากแม่ฮ่องสอนครับ ผู้กองกับคุณโชคดีอยากกลับไปก่อนก็ได้ ตอนนี้เรารอหมออย่างเดียว”
“นายช่างคงไม่เป็นอะไรมาก” ปฐพีปลอบ วางมือบนไหล่ของจักริณทร์แล้วบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับ” จักริณทร์ยิ้มเศร้าๆ “ขออย่างเดียว อย่าให้ถึงกับต้องเข้าไอซียูเลย แต่ถ้าอาการไม่หนัก ทำไมต้องเข้าห้องผ่าตัดนานขนาดนี้”
ปฐพีกับโชคดีนั่งเป็นเพื่อนจักริณทร์ชั่วครู่จนกลุ่มพนักงานจากรีสอร์ทเข้ามาสมทบจึงปลีกตัวออกมา ขณะที่เดินไปที่รถ นายตำรวจหนุ่มปลอบให้โชคดีไม่ต้องกังวลเพราะชยุตม์ต้องไม่เป็นอะไร
“พ่อเขาเป็นถึงรัฐมนตรีมหาดไทย หมอต้องรักษาเต็มที่ล่ะ”
“มาบอกผมทำไม ไปบอกคุณจักริณทร์โน่น” โชคดีพูดเบาๆ
“กับจักรผมก็พูดแบบนี้เหมือนกัน” ปฐพีตอบ “ทำไมจะบอกโชคดีไม่ได้ล่ะ ก็เห็นทำท่าห่วงใยเขาไม่แพ้จักร”
“จักร” โชคดีหันไปสบตากับปฐพี “เลิกเรียกคุณจักริณทร์ว่า คุณจักร ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็...”
“อย่าลืมนะว่าเป็นแฟนผมอยู่” โชคดีพูดเสร็จก็เปิดประตูรถขึ้นนั่งบนเบาะด้านคนขับ
“ให้ผมขับดีไหม” ปฐพีเดินมายืนอยู่ข้างรถ
“ผมขับได้ ไม่ได้ตกใจตัวสั่นระริกเหมือนคุณจักรจนขับรถไม่ได้หรอก” โชคดีตอบ “ผมไม่เหมือนจักร ไม่ต้องห่วงผมขนาดนั้น”
ปฐพีถอนหายใจ ส่ายหน้ายิ้ม แล้วเดินอ้อมไปอีกด้านของรถกระบะโฟรวีลด์ พร้อมกับพำพำเบาๆ ว่า “จริงๆ เลย คนอะไรก็ไม่รู้”
“ขึ้นรถสิครับ หรือถ้ายังไม่อยากกลับก็ไปนั่งเป็นเพื่อนคุณจักริณทร์ เอ๊ย จักร ก็ได้นะ” โชคดีแกล้งเหน็บแนมอีกฝ่าย
“พอเถอะโชคดี” ปฐพีแกล้งทำหน้าบึ้ง “มาแกล้งทำเป็นหึงแฟนนี่ต้องการอะไร หึงจริงหรือหึงเล่น”
โชคดีไม่ตอบ เข้าเกียร์แล้วถอยรถอย่างรวดเร็วโดยมีปฐพีคอยปรามว่าให้ระวังชน คนขับใจร้อนบอกว่าไม่กลัวเพราะมีตำรวจลูกชายผู้ว่าราชการนั่งมาด้วย
“พ่อใหญ่ซะอย่าง อะไรก็ง่ายไปหมด” โชคดีพูดเบาๆ แล้วพุ่งรถออกไปจากประตูรั้วโรงพยาบาล ไม่สนใจหันไปมองปฐพีที่นั่งมองเขายิ้มๆ ด้วยสายตาขำๆ
...ฉุนที่ตัวเองไม่ได้นั่งเฝ้าชยุตม์งั้นสิ แทนที่จะเป็นตัวเองกลับเป็นจักริณทร์ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าโชคดีคิดยังไงกับชยุตม์...
...แล้วนี่เขาต้องยอมรับความจริงข้อนี้ให้ได้หรือนี่ เขาควรจะยอมรับอย่างที่เขาปลอบซ่งให้ยอมรับใช่หรือไม่...

กลับถึงร้าน โต๋ถูกโชคดีเรียกมาพบเพื่อต่อว่าที่ไม่รู้จักโทรศัพท์แจ้งข่าวร้าย คุณเตือนใจกลับมาถึงร้านทันได้ยินที่โต๋ตอบโต้ชายหนุ่ม
“ก็ผมไม่นึกว่าคุณโชคดีจะสนใจ”
“ระวังปากไว้เถอะ เดี๋ยวนี้ปากดีขึ้นนะเอ็ง” โชคดีชี้หน้าเด็กหนุ่ม
“ก็จริงอย่างมี่เด็กมันพูด” คุณเตือนใจแทรก “ไหนบอกว่าไม่ชอบหน้านายช่างไงล่ะ ทำไมเป็นห่วงเป็นใย มาโกรธอะไรไอ้โต๋มัน”
“ไอ้โต๋มันพูดกวน” โชคดีกระแทกเสียง
“ผมเปล่า” โต๋เสียงอ่อย
“จะไปไหนก็ไปให้พ้นๆ หน้าเลย” โชคดีไล่ โต๋รีบผลุบหายไปทันทีไม่ต้องรอให้ถูกไล่ซ้ำ
“แล้วนี่กลับบ้านทำไม ห่วงเขานักทำไมไม่เฝ้าไข้” คุณเตือนใจถามลูกชาย
“แฟนเขามาแล้ว ก็ให้แฟนเขาเฝ้าสิแม่” โชคดีเดินหนีมารดาขึ้นชั้นบน ทิ้งให้มารดายืนส่ายหน้ามองตาม
“มันทำเหมือนผู้หญิงมีเมนส์เลยว่ะ”
คุณเตือนใจมองตามลูกชายแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกสงสารลูกของตัวเองยิ่งนัก เธอรู้จักลูกชายดี โชคดีเป็นคนที่มีความซับซ้อนภายใต้บุคลิกที่ตรงไปตรงมา ดูเหมือนจะเปิดเผยความรู้สึก แต่ในขณะเดียวกันก็เก็บความรู้สึกเอาไว้ คนทั่วไปจะเห็นว่าเป็นคนโผงผาง คิดอะไรก็พูดไปแบบนั้น แต่เธอรู้ว่า ลูกชายคนเดียวนั้นเป็นคนเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ จนแม้แต่ตัวเองก็ยังจัดการกับความรู้สึกสับสนของตัวเองไม่ได้
...ใครล่ะจะช่วยให้โชคดีพ้นจากพันธนาการทางอารมณ์...
...ปฐพีหรือชยุตม์...
...เธอยอมรับว่าแม้จะเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกเจออะไรคล้ายๆ กับที่เธอเจอ แต่เธอก็อยากให้ลูกมีความสุข ได้สัมผัสกับความรัก ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนั้นก็แล้วแต่เวรแต่กรรม เพราะท้ายที่สุด คนเราก็จะเอาชนะมันได้...
...จริงสิ เธอยังเอาชนะความเจ็บปวดครั้งนั้นได้เลย เธอสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมาได้ แต่เธอก็รู้ว่า ช่วงเวลาแห่งความสุขในการได้รักกับพ่อของโชคดีก็เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้น...
...หากลูกชายของเธอสมหวังในรัก เธอก็จะดีใจมาก และหากคิดให้ตลก ถ้าโชคดีมีความรัก คนแถวนี้ก็คงสงบสุขกันไปตามๆ กัน...
...ร้ายนัก ต้องมีความรักถึงจะดี...

**18********

::::::::::::: จะมีบ้างไหม ที่ใครจะรักผม :::::::::::::

 :m15:  :monkeysad:  :sad11:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 16 (3/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 08-06-2009 07:57:24
พี่นายเรานี่น่า love จริง ๆ

แต่อย่าทำร้ายจิตใจ น้อง ตัวน้อย ๆ บ่อยนักนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-06-2009 09:39:08
คุณคฑาวุธ...สงสารพระเอกบ้างนะคะ กว่าจะได้ลงเอยกัน กลัวจะน่วมเสียก่อน :เฮ้อ:
ไหนจะหมัดโชคดี ไหนจะเขื่อนแตก เง้อ....
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 08-06-2009 10:41:24
โหย หมูปิ้งวีนซะ ทั้งไอ้เจ้าโต๋ ผู้กองหรือแม้แต่คุณนายเตือนใจก็นะ
รั้งค.วีน หงุดหงิดของหมูปิ้งไม่อยู่จริงๆ 555
“มันทำเหมือนผู้หญิงมีเมนส์เลยว่ะ”
>> นายแม่พูดซะเห็นภาพ อั๊ยยย แต่ต้องย้ำอีกว่า สงสัยเข้าวัยทองสินะ
ส่วนผู้กอง เหอะๆ ขู่ซะหมูปิ้งอึ้งไปเลยเป็นไงล่ะ
อย่าเอาเรื่องรักๆใคร่ๆมาล้อเล่นนะ จะเป็นแฟนเค้าก็ต้องยอมเค้านะ เค้ามีสิทธิ์ ตัวเองเหอะเตรียม
ใจมาแล้วรึยัง อิอิ
"..แล้วปากอย่างตัวเองล่ะ ควรจะโดนทำอะไร โดนต่อย หรือโดนจูบ..."
>> ผู้กองถ้าไม่กลัวชีวิตจะหาไม่ก็ลองสักหน่อยสิ 55 หมูปิ้งมัน
คงยอมให้คนซ้ำรอยหรอกนะ ปากเค้ามีเจ้าของแล้น
แล้วอีกอย่างปกติก็ตามใจหมูปิ้งอยู่แล้วอ่ะนะแล้วพอเลื่อนฐานะ
หมูปิ้งเหมือนแฟนช่างวีน เอาแต่ใจตัวเองจัง ตัวเองนัดที่หลังจักร
ยังมีบ่นอีก 5555
“เป็นแฟนกัน ก็ต้องทำตัวอย่างเป็นแฟน”
>> จัดการซะผู้กอง ปราบเด็กดื้อโชว์ฝีมือหน่อยจิ
“ผมขอเรียกร้อง ในฐานะแฟน”
“ผมขอปฏิเสธ”
>> เอิ่ม ผู้กองคระ แฟนกันไม่ต้องเรียกร้องซะเหมือน ม๊อบเกษตรกรอะไร
แบบนี้ก็ได้มั้ง
"ห้ามปฏิเสธ ไม่ก็คืนมะรืน คืนต่อๆ ไป จะกี่คืนก็ได้ แต่ไม่ให้เกินหนึ่งอาทิตย์หรอก ยังไงๆ ผมกับโชคดีก็ต้องได้มีอะไรกัน”
>>  จะตรงไปไหนเนี่ย กะอิแค่แฟน หมูปิ้งโดนรวบหัวเรื่องหางแน่ๆ
แต่แบบว่าถ้าผู้กองเข้าเอาจริงๆอ่ะนะ ผู้กองทำเหมือนพี่ชายก็กำลังแกล้ง
อำน้องสาวผู้ดื้อรั้นก็ไม่ปาน เหอะๆ
“เรื่องรัก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะโชคดี คิดอะไรก็อย่าฝืนใจตัวเอง
ผมไม่อยากเสียใจภายหลัง และผมก็ไม่อยากให้โชคดีเสียใจภายหลังด้วย
 รู้ดีนี่ว่าผมห่วงใยโชคดีมากแค่ไหน จะเป็นอะไรกัน ผมก็คอยอยู่เคียงข้าง คอยห่วงใยไม่เปลี่ยนหรอก
>> ผู้กองน่ารักจัง หมูปิ้งสะอึกมั๊ยนั่น
หมูปิ้งพรุ่งนี้หรือวันมะรืนก็แก้ตัวใหม่ได้นะ เด๋วจักรก็กลับแล้วจะไป
เฝ้าไปเยี่ยมก็สะดวกแล้น อิอิ อารมณ์ไม่ดีแล้วของขึ้นแบบนี้ น่าสงสารลูกน้องนะหมูปิ้ง

สู้ๆค้าบคุณคฑาวุธ +1 จัดไป


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 08-06-2009 10:48:43
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 08-06-2009 15:43:10
เรื่องนี้ผู้กองปฐพีน่ารักที่สุดเลย  :o8:

โชคดีเป็นผู้ร้ายปากแข็งจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: canzaa ที่ 08-06-2009 18:14:43
่ต่างคต่างปากแข็งแล้วจะลงเอยอย่างไรต่อไปน่าติดตามจิงๆ 
 :L2:เป็นกำลังจัยให้นะคับ สู้ๆ
+1 ให้นะคับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 08-06-2009 19:00:38
ใกล้แล้ว
ใกล้แล้ว  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-06-2009 21:47:19
อยากเห็นคนปากเก่งแบบโชคดีจนมุมจริงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 08-06-2009 22:34:22
จะลงเอยกันไหมเนี่ย แล้วยังมีปมจากอดีตอีก ลุ้นแทบเลยนะเน่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 08-06-2009 22:44:39
+ 1 นะครับ

หมูปิ้งนี้เฮี้ยวจริงๆ :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-06-2009 01:43:45
กำลังเข้มข้นเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 18 (8/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 09-06-2009 02:03:04
โชคดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ซะทีนะซะที


รอเชียร์ม่ายไหวนะเนี่ย


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 09-06-2009 11:19:13
ใกล้จบแ้ล้วนะครับ บทจบเรื่องพอๆ กับอายุจบมหาลัยอ่ะ ว่าแต่ว่า เขาเรียนจบกันอายุ 21 หรือ 22 ปีนะ?

19


ตื่นเช้า โชคดีรู้สึกหงุดหงิด เดินพล่านไปทั่ว โต๋เดินออกมาจากหลังบ้าน พอเห็นเจ้านายหันมามองตาขวางก็รีบหลบฉากออกไปหน้าร้าน
“นายช่างอาการเป็นยังไงบ้างครับ” พงษ์เมียงมองโชคดีอยู่ชั่วครู่แล้วตัดสินใจเดินเข้ามาถาม
“ผมจะไปรู้ได้ยังไง” โชคดีตอบสั้นๆ แล้วหยิบใบสั่งของขึ้นมาดู แล้วหันไปมองดูสินค้า
“ไม่ไปเยี่ยมนายช่างหรือครับ” พงษ์ถามต่อ
“จะรีบไปเยี่ยมทำไมน้าพงษ์ เช้าขนาดนี้เขาก็คงนอนพักผ่อนอยู่มั๊ง” โชคดีตอบเสียงเรียบ ทำท่าสนใจเรื่องงาน
“นี่แปดโมงกว่าแล้วนะครับ” พูดเสร็จ พงษ์ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“เออแล้วทำไมไอ้โต๋มันไปทำงานสายล่ะ เพิ่งเห็นออกไปเมื่อกี้” โชคดีเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้ว ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเหยื่อคนใหม่เพื่อระบายอารมณ์
...วันนี้วันอาทิตย์ครับคุณโชคดี...
พงษ์ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วแยกตัวไปช่วยคนงานหน้าร้านจัดปล่อยให้โชคดีทำหน้าหงุดหงิดอยู่คนเดียว
พนักงานในร้านต่างกำลังทำงาน โชคดีเดินไปเดินมาอยู่ชั่วครู่จึงเดินออกไปหน้าร้านแล้วบอกลูกน้องคนหนึ่งว่าจะไปตลาด
พงษ์ยืนอยู่ใกล้ๆ ได้ยินที่เจ้านายบอกเด็กหน้าร้านแล้วก็อมยิ้ม ก่อนจะหันไปบอกเด็กสาวที่คุยกับเจ้านายให้ไปเตรียมใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าที่กำลังจะเอาของไปส่ง
“คุณโชคดีเป็นอะไรไป”
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตอนนี้ก็อย่าไปพูดอะไรไม่เข้าหูล่ะ เดี๋ยวจะโดนดุ” พงษ์เตือน แล้วทำงานต่อ ในใจอดลุ้นให้เจ้านายสมหวังไม่ได้
...ทำไมเขาจะไม่รู้ โชคดีเป็นคนใจแข็ง ปากแข็ง หากรักใครซักคน เรื่องจะยอมรับง่ายๆ นั้นไม่มีวันเสียล่ะ...

โชคดีไปตลาดอย่างที่บอกลูกน้องที่ร้าน แต่เขาเดินดูแม่ค้าขายของหน้าตลาดเพียงแค่ไม่กี่นาทีแล้วก็เปลี่ยนจุดหมายปลายทาง โชคดีขับรถผ่านโรงพยาบาลประจำจังหวัดแล้วชะเง้อมองเข้าไปข้างในราวกับจะเห็น "คนป่วย" ออกมานั่งที่ระเบียง ชายหนุ่มเจ้าของร้านค้าเหล็กกลับรถแล้วย้อนมาทางเดิม ก่อนจะจอดรถข้างถนนใกล้ตู้โทรศัพท์ ยืนหันรีหันขวางอยู่ชั่วครู่ ยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกา ถอนหายใจเบาๆ บอกตัวเองว่า
...ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว...
...ไปเก็บเงินลูกหนี้ดีกว่า...
โชคดีข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม แวะร้านขายอาหารตามสั่งก่อนเป็นร้านแรก จากนั้นเดินเอื่อยๆ ไปตามฟุตบาธอย่างใจเย็น เขามีลูกหนี้ทำการค้าขายอยู่หน้าโรงพยาบาลประมาณห้าราย ปกติพงษ์จะเป็นคนมาเก็บเงิน แต่วันนี้ โชคดีเห็นว่าควรจะช่วยพงษ์ทำงานเสียบ้าง พงษ์อยู่กับเขามานาน ทำงานสารพัดอย่าง หากไม่มีพงษ์ เขากับแม่อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้
...เก็บเงินได้หมดแล้ว วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ลูกหนี้อยู่กันพร้อมหน้า ไม่ต้องนั่งรอ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เก็บเงินได้หมด...
โชคดีหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายของชำ มองข้ามไปอีกฟากหนึ่งของถนน โรงพยาบาลประจำจังหวัดยังไม่พลุกพล่านเพราะยังเช้าอยู่
...ชยุตม์คงตื่นแล้ว จักริณทร์ก็คงนั่งอยู่ข้างเตียง ฟุบหลับอยู่กับเตียงคนไข้ ชยุตม์คงเอื้อมมือไปแตะข้างแก้มจักริณทร์ ฝ่ายนั้นก็คงเงยหน้ายิ้มให้อย่างอบอุ่น สองสายตาประสานกัน คนจะเห็นใจกันก็คงเป็นยามเจ็บป่วยแบบนี้ล่ะ...
...แต่ว่า คนป่วยไม่น่าจะตื่นก่อนคนเฝ้านี่นา ถ้ายังงั้น จักริณทร์ก็คงยืนอยู่ข้างเตียงชยุตม์ ก้มลงมองด้วยสายตาห่วงใยรักใคร่ บีบมือชยุตม์เบาๆ พอคนป่วยตื่นก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน...
...บ้าจริงๆ เกลียดชยุตม์นัก ตัวเองมีแฟนเป็นตัวเป็นตนยังมาทำท่าทีชอบพอเราอีก...
...หลายใจ โลเล คนแบบนี้ จะไปหลงรักเขาทำไม...

โชคดีเปิดประตูรถขึ้นนั่งประจำที่คนขับ หันไปมองโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งแล้วเคลื่อนรถออกไป ในตอนนั้นจุดหมายปลายทางคืออ่างเก็บน้ำที่อยู่นอกเมืองไกลออกไปราวสิบกิโลเมตร เขาอยากจะนั่งอยู่เงียบๆ ซักพักเพื่อคิดไตร่ตรองอะไรบางอย่าง แต่ครั้นใกล้ถึงสี่แยก โชคดีก็หันไปมองโรงพยาบาลอีกครั้ง ภาพของชยุตม์กำลังบาดเจ็บผุดขึ้นมาในหัว
...บาดเจ็บเพราะดูแลการรื้อประตูผันน้ำของรีสอร์ท...
...“แล้วคุณโชคดีเป็นอะไรกับนายช่างล่ะครับ ผมนึกว่าไม่ถูกกันเสียอีก”...คำพูดของโต๋ดังก้องขึ้นมา
...“ไหนบอกว่าไม่ชอบหน้านายช่างไงล่ะ ทำไมเป็นห่วงเป็นใย"...เสียงของแม่เขาดังตามมา
...แม่นะแม่ ใครบอกว่าเขาไม่ชอบหน้านายช่าง แรกๆ นั้นใช่ แต่ว่าตอนนี้...ไม่แล้ว...

โชคดีเปลี่ยนใจ เบี่ยงพวงมาลัยรถให้ชิดขวาเพื่อกลับรถ แต่พลันต้องหยุดกระทันหันเพราะจู่ๆ ก็มีรถตำรวจวิ่งมาด้วยความเร็ว เปิดไซเรนดังลั่น ประกาศให้ผู้สัญจรบนท้องถนนหยุดรถ เปิดทางให้ขบวนรถสามคันที่กำลังวิ่งข้ามทางแยก โชคดีมองตาม พยายามเพ่งดูว่าใครอยู่ในรถโฟรวีดล์คันใหญ่สีดำแต่ก็มองไม่เห็น จนกระทั่งเขาเห็นขบวนรถเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลจึงตระหนักได้ว่า ขบวนรถคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
...มาเยี่ยมลูกชายคนเล็ก ซึ่งน่าจะเป็นคนโปรด เวลาพูดถึงชยุตม์ ตาเป็นประกายด้วยความรักใคร่ยิ่งนัก...
...ลูกชาย ม.ท. 1 จะมารักชอบเขาหรือ ใครจะคิดว่ามันจะเป็นไปได้ หากพ่อของชยุตม์รู้จะเกิดอะไรขึ้น ท่านรัฐมนตรีฯ คงไม่ยอม
...แต่จักริณทร์ล่ะ แล้วพ่อของชยุตม์จะรู้หรือเปล่าว่าลูกชายสุดที่รักเป็นอะไรกับจักริณทร์...
...จักริณทร์เป็นนักบิน ชาติกระกูลดี ร่ำรวย ก็คงสมกับชยุตม์กระมัง ท่านรัฐมนตรีฯ อาจจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ แต่นั่นสำคัญที่ไหน เมื่อหัวใจมันเรียกร้อง ต่อให้พ่อใหญ่ขนาดไหนจะมากีดขวางความรักของลูกได้หรือ...
...เขาก็ชาติตระกูลดีเหมือนกัน สกุลเมธีวุฒิไกรก็ไม่ใช่ย่อย...
...ตระกูลที่ไม่ยอมรับเขาต่างหาก ไม่เช่นนั้นแม่ก็คงไม่หอบเขามาตายเอาดาบหน้าหรอก...
...พิจารณายังไง เขากับชยุตม์ก็ไม่เหมาะกัน ชยุตม์เหมาะกับจักริณทร์มากกว่า ใครก็เหมาะกับจักริณทร์ ผู้กองปฐพีก็ยังเหมาะกับจักริณทร์ นั่นก็คงเปลี่ยนใจจากเขาหันไปชอบจักริณทร์แล้วกระมัง เห็นเรียกชื่อเล่นคำเดียวแบบสนิทสนม แล้วนี่ก็คงเห็นใจ "จักร" จนอยากจะไปนั่งเป็นเพื่อนละสิ...
...บ้า บ้าจริงๆ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ชยุตม์กับจักริณทร์รักกัน ปฐพีไปชอบจักริณทร์ เขามาชอบชยุตม์ ซ่งมาชอบเขา ผิดคู่ผิดตัวกันไปหมด...


**หิวข้าวแล่ะ ไปทานข้าวข้างนอกก่อนนะครับ วันนี้ทนทานข้าวที่ทำงานไม่ไหวแล้ว***  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-06-2009 11:36:27
ยอมรับแล้วล่ะซิว่ารักชยุตม์ 5555+
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 09-06-2009 12:28:29
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-06-2009 13:00:42
 :L2:

ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 09-06-2009 13:05:31
หมูปิ้งเกือบจะได้ที่แล้ว
รอข้าวเหนียวกับน้ำพริก
เดี๋ยวเอาไปให้นายช่างที่โรงพยาบาลดีกว่า
อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-06-2009 14:49:54
อ่าน้า ก็ไม่ยอมรับสักที ก็ไม่ได้รักกันซะที
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 09-06-2009 19:04:49
ชิ ถ้าตาพ่อไม่มาป่านนี้โชคดีแล่นไปถึงห้องแล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 09-06-2009 19:41:35
 :laugh:ผมว่าคนที่น่าโดนหวดนี่ไม่น่าใช่คุณโชคดีหรอกควรเป็นนักเขียนมากกว่าชอบทำร้ายพระเอกดีนัก555555 o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-06-2009 21:48:17
โชคดีคิดมากกกกกกกกกกกกกกกกกไปป่าว
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 09-06-2009 23:32:31
ใกล้แล้วววววววววว
คิดมากไปปปปปปปป * บางอย่างไม่ต้องคิดให้มากก็ได้นะโชคดี

นายช่างน่าจะรีบเคลียร์ตัวเองกับจักรกรินทร์ดีกว่านะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 10-06-2009 00:12:05
ใครก็ด้ายช่วยหาไฟมาเผาเจ้าหมูปิ้งใจแข็งนี่ทีคร้าบ


ปากก็แข็งเฮ้ออึดจิงๆนะคร้าบ


ลุ้นกันต่อไปนะพวกเรา


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 10-06-2009 00:57:12
หมูปิ้งน่ารักเกิ๊น
อยากไปดูใจจะขาดทำฟอร์มอยู่ได้ ขนาดพงษ์ยังดุออกเลย
นี่หงุดหงิดพาลลูกน้องไปทั่วแบบนี้ทำยังกะสาวแรกรุ่นจะมีรอบเดือนงั้นแหละ
นานะไปดูใจเค้าหน่อย คิดโน้นนี่ว่าจักรดูแลจับมือป้อนข้าวให้กำลังใจชยุตม์
ไปดูให้เห็นกับตาเลยดิ อั๊ยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักน่าปล้ำ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 (9/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-06-2009 09:42:54
มาต่อตอนที่ 19 ให้จบครับ
อีกสองตอนแล้วนะ

ป.ล. ใครที่ว่าผมชอบทำร้ายพระเอกในนิยายก็ขอให้สมพรปากนะครับ  :z1:
มาหาว่าเราใจร้าย จะหาคนเขียนนิยายน่ารักอย่างนี้ได้ที่ไหน  :L3:  :m15:

ในที่สุด โชคดก็กลับมาที่ร้านและนั่งทำงาน ลูกค้าไม่ค่อยมากนักแต่ชายหนุ่มเดินไปเดินมาจนพงษ์ต้องมองตาม คุณเตือนใจเดินออกจากด้านในของบ้านและบอกว่าจะไปเยี่ยมชยุตม์และชวนโชคดีไปด้วยกันแต่ชายหนุ่มปฏิเสธ ขอทำงานต่อ บางทีตอนบ่ายหากมีเวลาก็จะไปเยี่ยม
"ท่ามากอยู่ได้" คุณเตือนใจพูดกระทบ
"แม่จะไปก็ไปเถอะ ตอนนี้คนคงเต็มโรงพยาบาล ผมไม่ชอบคนเยอะๆ พ่อเขาก็มา รถเป็นขบวนขนาดนั้น เยี่ยมก็ไม่สะดวก" โชคดีตอบเสียงเรียบ มือหยิบจับสิ่งของรอบๆ ข้าง
"รู้ได้ยังไงว่าท่านรัฐมนตรีฯ มา" คุณเตือนใจถามยิ้มๆ "นี่คงแอบไปยืนเฝ้าเขาหน้าโรงพยาบาลละสิ หมูปิ๊งเอ๊ย ไม่รู้สึกสมเพธตัวเองหรือลูกรัก"
"แม่ จะไปก็ไปเถอะ อย่ามายุ่งกับผมนักเลย" โชคดีกระแทกเสียงแล้วเดินหนีมารดาทันทีและหันไปเรียกพนักงานในร้านให้มายกของออกให้พ้นทางเดิน ตามมาด้วยการบ่นอีกกระบุงโกยว่าปล่อยให้ร้านรก
"เดี๋ยวให้ทำความสะอาดร้านครั้งใหญ่ซะนี่ เร็วๆ เข้าสิ" โชคดีน้ำเสียงหงุดหงิด พนักงานสองคนรีบเดินเข้ามาจัดการยกกล่องสองกล่องที่วางอยู่ใกล้ๆ เจ้านายแล้วทำหน้าเหรอหราพร้อมกับถามว่า "วางไว้ตรงไหนครับ"
"วางไว้บนหัวแกนั่นล่ะ" โชคดีตอบเสียงห้วน แล้วหันไปถามเสมียนประจำร้าน "หวาน เอาของไปส่งเฮียชัยหรือยัง"
"ไปส่งตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ" เสียงของพงษ์แทรกตอบขึ้นมาจากด้านในของร้าน
คุณเตือนใจยืนมองด้วยสายตาห่วงใยปนขำ ตอนนี้เธอมั่นใจมากที่สุดแล้วว่าโชคดีตกหลุมรักเข้าให้แล้ว และอดนึกขอบคุณอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับชยุตม์ไม่ได้ที่ทำให้ลูกชายของตัวเองเกิด "อาการ"
"แม่ไปแล้วนะหมูปิ้ง" คุณเตือนใจบอกลูกชายด้วยเสียงอ่อนโยนก่อนจะเดินออกจากร้านไป ปล่อยให้โชคดียืนเท้าสะเอวทำหน้ามุ่ยอยู่คนเดียวกลางร้าน
ชายหนุ่มใจแข็งเจ้าของร้านค้าเหล็กเดินไปเดินมาในร้านด้วยความกระวนกระวายพร้อมกับปรายตามองไปยังหน้าร้านอยู่บ่อยครั้งเพื่อรอให้มารดากลับมา เวลาผ่านไปเพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบนาที คุณเตือนใจก็กลับมาที่ร้านพร้อมกับถุงกระดาษหลายถุง ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้แล้วบอกให้พนักงานในร้านไปเอาน้ำมาให้ดื่ม
"ทำไมกลับเร็วนักละแม่"
"โรงพยาบาลอยู่แค่นี้เอง ไม่ได้ไปเชียงใหม่นะหมูปิ้ง" คุณเตือนใจตอบแล้วเรียกเสมียนประจำร้านมารับของฝากซึ่งเป็นเสื้อสีสวยสดใส
"แม่ไปเยี่ยมคนป่วยหรือไปชอปปิ้ง" โชคดีอดถามไม่ได้
"ตัวมันก็ดำ ไม่รู้ทำไมมันชอบใส่สีสดนัก" คุณเตือนใจพึมพำ ทำเป็นไม่ได้ยินที่ถูกถาม ครั้นเห็นว่าลูกชายยืนรอฟังคำตอบอยู่จึงเงยหน้าขึ้นแล้วตอบว่า "ก็ไปเยี่ยมคนป่วยสิ แต่แวะซื้อของหน้าโรงพยาบาลตอนกลับ ลูกหนี้เขายังบอกแม่เลยว่าแกเป็นคนไปเก็บเงินตั้งแต่เช้า เดินไปเดินมาหลายรอบจนเขาตาลายไปหมด"
"ใครมันพูด จะขึ้นดอกเบี้ยซะเลย" โชคดีพูดเสียงเข้ม แล้วหันไปทำทียืนสำรวจเหล็กที่วางกองอยู่บนพื้น
คุณเตือนใจมองลูกชายอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วเปลี่ยนเป็นเอ็นดู การได้ไปโรงพยาบาลในครั้งนี้ทำให้เธอตัดสินใจอะไรได้หลังจากไตร่ตรองมาเป็นเวลาพอสมควร ทั้งที่เธอไม่อยากให้โชคดีต้องตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกับตัวเองในอดีต ไม่อยากให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนสังคมแบบที่เธอจากมา แต่เธอก็อดสงสารลูกไม่ได้ ภาพในอดีตเริ่มหวนกลับมาอีก เธอจำเรื่องราวได้อย่างแม่นยำ แต่เธอก็รีบสลัดให้หลุดออกไปจากหัวแล้วถามลูกชายด้วยเสียงอ่อนโยน
"แล้วไม่อยากรู้หรือว่านายช่างเป็นยังไง"
"ก็คงปลอดภัยดีมั๊ง พ่อใหญ่ขนาดนนั้น มาเยี่ยมลูกตำรวจต้องปิดถนนนำมาให้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็คงต้องวิ่งลงมาต้อนรับ กำกับดูแลการรักษาเป็นอย่างดี"
"รู้ได้ยังไงครับว่าเขาปิดถนน" โต๋อยู่ใกล้สงสัย
"เงียบไปเลยโต๋ อย่ามาสอดแทรกเวลาผู้ใหญ่คุยกัน" โชคดีหันไปทำตาขวางใส่เด็กหนุ่ม
"สงสารนายช่าง คนดีๆ ไม่น่าต้องมา..."
"ไอ้โต๋ ปากหรือนั่นที่พูด นายช่างยังไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย" โชคดีตวาด
"ใครจะรู้แน่ ยังไม่ได้ไปเยี่ยมไม่ได้ข่าวอะไรเลย" คุณเตือนใจแทรก
"อ้าว ก็ไหนแม่บอกว่าไปเยี่ยม ตกลงนี่แม่ไปเยี่ยมคนป่วยหรือไปซื้อของ" โชคดีหันมาทำเสียงเข้มใส่มารดา
"ก็ไปเยี่ยมสิ เอ๊ะไอ้ลูกคนนี้ แต่ว่าเขาห้ามเยี่ยม" ผู้เป็นแม่เสียงเข้มขึ้นบ้าง ก่อนจะลดน้ำเสียงเป็นอ่อนโยน "อาการเป็นยังไงก็ไม่รู้ น่าสงสารคนดีๆ นะ"
"ผมว่าถ้าคุณโชคดีไป ต้องได้เยี่ยมแน่เลย" โต๋วอนหาเรื่องถูกเตะ
"หุบปาก บอกแล้วว่าอย่าพูด" โชคดีเงื้อมือ โต๋ไวเป็นปรอท ผลุบหายไปทันทีเพราะกลัวจะโดนฝ่ามือเจ้านาย
"ไปเถอะหมูปิ้ง ไปเยี่ยมนายช่างเขาซะหน่อย ไม่ต้องวางท่ามากขนาดนี้ก็ได้ แกไปเยี่ยม นายช่างจะได้อาการดีขึ้น"
"แม่น่ะ" โชคดีหน้าง้ำ "บอกแล้วว่าอย่า..."
"ใครที่ไหนจะมาได้ยิน" คุณเตือนใจถอนหายใจ "แม่ก็เรียกแกอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร รู้ไหม แกโตมาได้ก็เพราะแม่ขายหมูปิ้งตั้งแต่คลอดแกใหม่ๆ นะ ตอนนั้นแกยังคลานเล่นรอบๆ เตาปิ้งหมูเลย มิน่า ถึงได้ใจร้อนเหมือนไฟ"
"เปล่าเรื่องนั้น"
"เรื่องนั้นเรื่องไหน เรื่องชื่อเล่นแกนี่หรือ เอายังงี้ แม่ตั้งชื่อเล่นให้แกใหม่ดีไหม" คุณเตือนใจทำไก๋
"เรื่องมาหาว่าผมวางท่า"
"อ้าว ก็จริงไม่ใช่หรือ" คุณเตือนใจทำหน้าเหรอหรา "ก็แค่จะไปเยี่ยมคนป่วยยังทำเรื่องมาก"
"ก็เขาบอกห้ามเยี่ยม แม่เป็นคนพูดเอง" โชคดีเถียง
"สำหรับคนทั่วไปนั่นนะใ แต่ถ้าคนพิเศษ เขาก็คงยอมให้เยี่ยม"
"แม่" โชคดีกระแทกเสียง "คนพิเศษเขาตอนนี้ก็คงกำลังนั่งเฝ้ากันอยู่ แฟนเขามาหาตั้งแต่เมื่อวานซืนโน่นแล้ว ไม่ต้องมานั่นนี่กับผมหรอก ไหนพยายามจับให้ผมคู่ผู้กอง อยู่ดีๆ ทำไมมาเปลี่ยนใจแบบนี้"
"คนเรามันต้องทำตามหัวใจของตัวเองลูกเอ๊ย ผลจะออกมายังไงเราก็ต้องยอมรับมัน" คุณเตือนใจพูดเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีลูกชายทันที จงใจปล่อยให้คนฟังได้คิด เธอเองก็ต้องการคิดด้วย อดีตของเธอกับลูกชายต่างกันไม่ผิด เพียงแต่ว่าเธอเป็นผู้หญิงและยอมเป็นของคุณชายอนิรุจน์พ่อของโชคดีและตามเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เมธีวุฒิไกรและถูกบีบให้ออกมา เพียงแต่เธอแย่งอนิรุจน์มาจากเพียงฤดี คู่หมั้นของชายหนุ่มรูปหล่อที่ตามมาจากกรุงเทพฯ แต่ต้องพ่ายแพ้กลับไป
...ที่ต่างจังหวัดเพียงฤดีแพ้ แต่ที่ในกรุงเทพฯ กลับเป็นฝ่ายชนะ...
...สาวสวยบ้านป่า เป็นที่ต้องตาต้องใจหนุ่มเมืองกรุง ยิ่งห่างๆ จากคู่หมั้นมาแบบนั้น ชั่วเวลาไม่กี่อาทิตย์ อนิรุจน์ก็หลงรักเธอ ไม่ว่าเธอจะร้ายขนาดไหนก็ไม่หวั่น เธอเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร อนิรุจน์ไม่มีเงินจ่ายเลยโดนเธอกักตัวเอาไว้ มิใยที่เขาจะบอกว่ามีเงินแต่ลืมเอากระเป๋าสตางค์ติดตัวมาด้วย เรื่องจบลงที่สถานีตำรวจเพราะเธอบังคับให้อนิรุจน์ไปสถานีตำรวจจนได้จึงได้รู้ว่าอนิรุจน์เป็นใคร และจากนั้นร้านอาหารเล็กๆ ริมแม่น้ำอันสงบเงียบก็มีขาประจำมาทานอาหารเย็นทุกมื้อ...
...จนกระทั่งเพียงฤดีปรากฏตัวที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคู่หมั้นที่บาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุ หัวใจเธอแทบแตกสลายเมื่อรู้ว่าอนิรุจน์หมั้นแล้ว แต่รักแท้ย่อมเข้าใจในรักแท้ อนิรุจน์สัญญาว่าจะถอนหมั้นเพื่อแต่งงานกับเธอ...
...เขารักษาสัญญา เขาพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้าน แต่เธอไม่ได้กลายเป็นเจ้าหญิง...
...เธอกลายเป็นผู้แพ้...
...แต่ตอนนี้เธอยอมรับแล้ว อะไรจะเกิดกับลูกชายคนเดียวก็ขอให้เกิด อย่างน้อยโชคดีก็ไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องกลัวว่าจะท้อง อย่างเดียวที่ต้องกังวลคือ สองคนนั้นจะใช้ชีวิตรักกันอย่างไร...

หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ โชคดีก็โยกโย้อยู่นานครึ่งชั่วโมงกว่าจะออกจากร้านโดยมีคุณแม่ของเขาคอยเดินออกมาเมียงมองด้วยสายตาอิดหนาระอาใจ โชคดีชวนพงษ์ไปด้วยแต่แม่เขารีบแทรกว่า
"จะชวนไปทำไม แกกลัวหาโรงพยาบาลไม่เจอหรือไง เลิกท่ามากได้แล้วหมูปิ้ง แวะซื้อดอกไม้ฝากเยี่ยมนายช่างแทนแม่ด้วยนะ"
"ซื้อได้ยังไงแม่" โชคดีโวยวาย
...หากเขาเอาออกไม้ไปยื่นให้ชยุตม์ ฝ่ายนั้นก็จะหาว่าเขาเป็นห่วงมากละสิ ถึงบอกว่าแม่เป็นคนฝากมาเยี่ยมก็คงไม่เชื่อ...
"ไม่เห็นจะยาก แกก็จอดรถ แล้วเดินลงไปร้านดาวกระจาย บอกว่าซื้อดอกไม้หนึ่งช่อ แล้วยื่นเงินให้เขาไป แค่นี้เขาก็เอาดอกไม้ให้แก อ้อ อย่าลืมต่อราคานะ ยัยดาวชอบคิดแพง แต่แกก็คงต่ออยู่แล้วล่ะ ใครจะเค็มเท่าโชคดีเป็นไม่มี"
โชคดีเลิกคิดที่จะตอบโต้มารดาที่พูดจากวนอารมณ์ แล้วเดินก้มหน้างุดๆ ไปที่รถแล้วขับออกไปจากร้าน ใช้เส้นทางที่อ้อมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อ 'เดินทาง' ไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่อยู่ไม่ไกล
โชคดีใช้เวลาสิบห้านาทีกว่าจะถึงโรงพยาบาลทั้งที่ปกติใช้เวลาเพียงไม่ถึงห้านาที ตลอดทาง เขาอดนึกภาพจักริณทร์นั่งกุมมือชยุตม์อยู่ข้างเตียงไม่ได้
...ตอนที่ซ่งเห็นเขาอยู่กับผู้กองปฐพีก็คงรู้สึกแบบนี้กระมัง คงคิดเห็นภาพนั้นภาพนี้จนปวดหัว...
...บ้าจริงๆ ทำไมชยุตม์ต้องมีแฟนแล้วนะ...
...เจ็บใจนัก มีแฟนแล้วยังมาจูบเขาอีก อยากจะต่อยปากอีกซักครั้ง เอาให้หายเจ็บใจไปเลย เลาะฟันออกซักสองสามซี่อย่างที่ชยุตม์ท้า...
...แต่ฟันชยุตม์สวยมาก ขาวสะอาด เรียงกันเป็นระเบียบ ถ้าหลุดไปก็น่าเสียดาย ใบหน้าหล่อเหลาของชยุตม์ มีรอยช้ำๆ แดงๆ แต่ก็ยังน่าดู ปากก็อุ่น ตอนที่จูบเขาทำให้รู้สึกใจเต้นระทึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

โชคดีแปลกใจที่ด้านหน้าของโรงพยาบาลเงียบสงบเช่นเคย ต่างจากเมื่อเช้าที่พลุกพล่านและเต็มไปด้วยนักข่าว
ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์พยาบาลช้าๆ และแจ้งว่ามาเยี่ยมผู้ป่วยชื่อชยุตม์ ยังไม่ทันที่จะเอ่ยนามสกุลของ 'นายช่าง' พยาบาลก็รีบแจ้งข่าวที่ทำให้เขาต้องนิ่งอึ้ง
"เพิ่งส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ เมื่อกี้นี้เองค่ะ"
"ทำไม" โชดดีได้ยินตัวเองพูดขึ้นมาเบาๆ พยาบาลคงคิดว่าเขาถามคำถามจึงตอบว่า
"ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยสั่งคะ เห็นว่าท่าทางไม่ค่อยดี หมอก็เลยย้าย..."
โชคดีไม่ได้ยินที่พยาบาลพูดต่อไปอีกแล้ว เขาหันหลังแล้วเดินช้าๆ มานั่งบนม้าหินหน้าโรงพยาบาล พยายามรวบรวมสติ
...ชยุตม์ย้ายเข้ากรุงเทพฯ อาการไม่ไม่ค่อยดี...
...หนักขนานนั้นเลยหรือ...
*-*********** 19 ***************
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 10-06-2009 09:48:31
โธ่กว่าจะไปเยียมก็เข้ากรุงเทพซะแล้ว

เวรกรรมจริงๆนะหมูปิ้ง สงสัยตอนหน้าแล่นตามไปกรุงเทพ

ชยุตหายขึ้นมาเพชรบูรณ์แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 10-06-2009 10:21:14
โธ่กว่าจะไปเยียมก็เข้ากรุงเทพซะแล้ว เวรกรรมจริงๆนะหมูปิ้ง สงสัยตอนหน้าแล่นตามไปกรุงเทพ ชยุตหายขึ้นมาเพชรบูรณ์แน่ๆ
โหย ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่จะได้พบกัน (ถามในฐานะคนอ่านนะ ไม่ใช่ฐานะคนเขียน คุณคฑาวุธเขาเขียนไว้แล้ว ผมมีหน้าที่พิมพ์  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 10-06-2009 10:26:09
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 10-06-2009 11:28:13
ในที่สุด คุณยุตม์ ก็เข้ากรุงเทพฯ จนได้ จะเอาไงต่อทีหมูปิ้ง จะเดินต่อหรือป่าว หรือว่าจหยุดแค่นี้ดีอะ
อ่านแล้วลุ้นจังเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 10-06-2009 13:00:49
หมูปิ้งชวนคุณแม่เข้ากทม.มาเยี่ยมไข้แล้วก็สะสางเรื่องในอดีตให้ครบๆเลย
อิอิ ป้าคิดการใหญ่
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-06-2009 15:17:43
สมน้ำหน้าคนปากแข็ง อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 10-06-2009 18:22:02
สรุปหมูปิ้งเป็นลูกคุณชายอนิรุจน์ (ชื่อคุณช้ายคุณชาย) ฉะนั้น หมูปิ้งก็เป็น หม่อมหลวง นะสิ ใช่ไหมครับคุณคฑาวู้ดดดดด
โอ..เป็นราชนิกูลซะด้วย ว่าแต่คงไม่ได้เป็นหม่อมสามหยอยหรอกนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 10-06-2009 18:57:52
เอ้อกว่าจะได้ร้ากกัน..............ลุ้นจนเหนื่อยแล้วนะคร้าบ


กว่าจะถึงกรุงเทพ   โอ้ย............นานเกินไปแล้วเนี่ย



เอ้าก็รีบไปซิคร้าบยังมานั่งอยู่อีกหมูปิ้งเนี่ยมันน่านัก  อิอิ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 10-06-2009 23:21:46
โอ๊ย น่าสงสารความรักครั้งนี้จัง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 11-06-2009 00:53:51
หมูปิ้งรักแท้ไม่แพ้ระยะทางนะ
แค่รพ.ไกลๆขับวนซะนาน แล้วนี่ย้ายไปกทม.แล้ว
ให้เวลาคิดอีกหนึ่งคืนนะ ไปเยี่ยมนายช่างซะ
อาการหมูปิ้งเป็นซะขนาดนี้คุณนายเตือนใจยังเป็นปอมปอมเกิร์ลเลย เหอะๆเชียร์ออกนอกหน้ามากคระคุณนาย  :m20:
+1 จัดไป
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 11-06-2009 01:03:37
หมูปิ้ง เข้ากรุงเทพตามไปเลย
เห็นมั้ยมัวแต่รีรออะไรก็ไม่รู้
ทีนี้ห่างกันแล้วจะทนไม่ได้เอา  o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 (11/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 11-06-2009 10:15:06
อรุณสวัสดิ์สายๆ ครับ

บทที่ 20 ครับ เหลืออีกหนึ่่งตอนก็จบ

20

คนแรกที่โชคดีนึกถึงคือปฐพี ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์ที่จำได้จนขึ้นใจ สายโทรศัพท์ไม่ว่าง โชคดีจึงลดมือลงมา วางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
"ผมกำลังจะโทรหาอยู่พอดี" เสียงนุ่มนวลอ่อนโยนของปฐพีดังขึ้นทันทีที่โชคดีรับสาย "คุณชยุตม์ถูกทรานเฟอร์เข้ากรุงเทพฯ ท่านอยากให้หมอที่โรงพยาบาลศิริราชรักษา"
"ครับ" โชคดีตอบรับสั้นๆ
"โชคดีอยู่ไหน" ปฐพีถาม
"บ้าน"
ปฐพีบอกว่าจะไปหาเพื่อเล่าอาการของชยุตม์ให้ฟัง โชคดีตอบรับสั้นๆ แล้ววางสาย นั่งมองป้ายหน้าห้องพยาบาลชั่วครู่แล้วเดินหงอยๆ ไปที่รถ
...ท่านรัฐมนตรีย้ายลูกชายเข้ากรุงเทพฯ เป็นเขาก็คงทำแบบนั้น หากมีตำแหน่งใหญ่โตเท่าพ่อของชยุตม์ แค่ออกคำสั่ง ทุกอย่างก็เรียบร้อย...
...แล้วจักริณทร์ก็คงตามไปพร้อมกัน จักริณทร์เป็นแฟนชยุตม์นี่นา...
...เขาเป็นคนอื่น ไม่ใช่คนพิเศษอย่างที่แม่เขาล้อด้วยซ้ำ...
...แถมเป็นคนที่ไม่ถูกกับนายช่างอย่างที่โต๋พูดอีกต่างหาก...


"พรุ่งนี้ผมถึงจะเข้าไปเยี่ยมที่กรุงเทพฯ โชคดีไปด้วยกันไหม" ปฐพีถามปิดท้าย หลังจากเล่าเรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับชยุตม์ให้โชคดีและแม่ฟัง
"คงไม่สะดวกหรอกค่ะผู้กอง หมูปิ้งงานยุ่งขนาดนี้ จะทิ้งร้านเข้ากรุงเทพฯ ได้ยังไงกัน" คุณเตือนใจแทรก ทำท่าห่วงใยลูกชาย แต่อีกฝ่ายรู้ดีว่าโดนกระทบกระเทียบ
"อาการหนักขนาดนั้นเลยหรือ" โชคดีไม่สนใยแม่ พึมพำกับปฐพีเบาๆ
"ผมก็ไม่รู้ละเอียดขนาดนั้น จักรเล่าให้ฟังคร่าวๆ แล้วต้องรีบขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เดี๋ยวเย็นนี่ผมจะโทรไปถามอีกที"
"เฮ้อ ไม่ระวังกันบ้างเลย แค่พังประตูน้ำแค่นี้เอง ต้องเกิดอุบัติเหตุจนวิศวกรใหญ่ของโครงการบาดเจ็บ แล้วนี่รีสอร์ทก็คงชะงักล่ะสิ ประตู้น้ำเจ้าปัญหานี่ก็จริงๆ เลย รีสอร์ทจะเสร็จทันตามกำหนดหรือเปล่าก็ไม่รู้" คุณเตือนใจบ่น
"แม่...ห่วงรีสอร์ทหรือห่วงคนเจ็บ" โชคดีกระแทกเสียง ชักจะฉุนมารดาที่เหน็บแนมไม่หยุด
"แม่ห่วงคนไม่เจ็บมากกว่า กลัวจะตรอมใจตาย" คุณเตือนใจยักไหล่แล้วลุกขึ้นขอตัวปฐพีเข้าบ้าน ปล่อยให้สองหนุ่มนั่งอยู่กันเงียบๆ
"จักรบอกว่าคุณชยุตม์เพ้อเกือบทั้งคืน" ปฐพีพูดขึ้นมา
"คนเจ็บก็เพ้อเป็นเรื่องธรรมดา" โชคดีให้เหตุผล "ไข้ขึ้นสูงก็กระสับกระส่าย เพ้อเจ้ออะไรไปเรื่อยเปื่อย"
"ใช่ เพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อยเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเพ้อเป็นเรื่องเป็นราวนี่สิ น่าคิด" ปฐพีผงักศีรษะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน โชคดีคงโต้กลับไปว่าปฐพีมีปัญหาอะไร หมายความว่าอย่างไร ทำไมไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ตอนนี้ คนใจร้อนปากร้ายกลับนั่งนิ่งเงียบ
"ที่จริงจักรขอให้ผมตามเข้ากรุงเทพฯ ไปวันนี้เลย อย่างน้อยก็มีเพื่อนจะได้ช่วยเหลือกัน คุณชยุตม์อาจจจะมีคนดูแลก็จริงเพราะพ่อใหญ่โต แต่ก็ไม่เหมือนกับคนที่เขารักและรักเขาเป็นคนดูแล" ปฐพีพูดต่อ
"ผู้กองรักคุณชยุตม์หรือ" โชคดีอดประชดไม่ได้
"หาเรื่อง" ปฐพีเสียงเข้ม
"คนที่เขารักและรักเขาก็ดูอยู่แล้ว ได้ยาดีขนาดนั้น เดี๋ยวก็หาย"
"เกรงว่าจะเป็นยาหมดอายุแล้วนะสิ" ปฐพีหันหน้าออกด้านข้าง ทำเหมือนพูดลอยๆ แล้วหันกลับมาถามโชคดี "ผมจะไปพรุ่งนี้ เที่ยว 11 โมง จะไปด้วยกันไหม จะซื้อตัวให้ด้วยเลย"
...ไปเยี่ยมชยุตม์!
...ในฐานะอะไร เพื่อนก็ไม่ใช่ คนที่ไม่กินเส้นกัน หรือแค่คนที่รู้จักกัน...
...แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ในฐานะคนรักกันหรอก ก็คนที่รักกันนั่งเฝ้ากันอยู่แล้วนี่...


จักริณทร์หันไปยังประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ ทันที่ประตูเปิดออกก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อร่างสูงโปร่งของร้อยตำรวจเอกปฐพีก้าวเข้ามา
"คุณโชคดีไม่มาด้วยหรือครับ" จักริณทร์ถามถึงอีกคนทันที รู้สึกแปลกใจที่เห็นปฐพีมาคนเดียว
"เอ่อ..." ปฐพีทำท่าอึกอักก่อนจะพูดวา "โชคดีเขายุ่งครับ ก็เลยมาไม่ได้ ฝากผมมาเยี่ยมคุณชยุตม์และฝากถามอาการ"
"ผมอาการไม่แย่อย่างที่ตื่นตกใจกันหรอกครับ แค่ขาหักกระดูกแตกนิดหน่อย" ชยุตม์ขยับตัว ทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ แต่จักริณทร์ห้ามเอาไว้
"ผมไม่เป็นอะไรมาก ถ้าเดินจากเตียงมานั่งตรงนี้ได้ผมก็เดินกลับไปได้" ชยุตม์ยกมือห้ามจักริณทร์กับปฐพีที่ทำท่าจะเข้ามาช่วยพยุง
"ดื้อไม่ใช่เล่น" จักริณทร์ฟ้องปฐพี ยืนมองชยุตม์ที่ทำหน้าเหยเกและพยายามเดินกลับไปที่เตียงคนไข้จนได้
"โล่งอกนะครับที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ผมจะได้โทรไปบอกโชคดี ท่าทางก็ห่วงคุณชยุตม์เหมือนกัน"
...แต่ทำปากแข็ง ใจแข็งไม่พอยังปากแข็งอีก...
"ทางรีสอร์รู้ข่าวแล้วครับ แต่พอดีมัวแต่ยุ่งๆ เลยไม่ได้บอกคุณโชคดี ผมไม่มีเบอร์ จะโทรไปถามผู้กองก็ลืม" จักริณทร์พูด
"คุณชยุตม์คงกลับไปทำงานยังไม่ได้ เจ็บขนาดนี้ผมว่าคงเกือบสองเดือนถึงจะหายเป็นปกติ ได้ยินข่าวว่ารีสอร์ทใกล้จะเสร็จแล้ว กำหนิดเปิดปีใหม่พอดี" ปฐพีพูดขึ้นมา จักริณทร์จึงพูดเสริม ส่วนชยุตม์เอาแต่พยักหน้าและตอบรับสั้นๆ จากนั้นก็เลยเป็นว่าปฐพีชวนจักริณทร์คุยเรื่องทั่วๆ ไป และท้ายที่สุสดก็จบลงด้วยเรื่องที่ปฐพีเล่าว่าโชคดีเกือบจะเตะโต๋ เด็กในร้านที่ทำงานกับชยุตม์
"ร้ายจริงๆ เลย ไม่นึกว่าคุณโชคดีจะดุขนาดนี้" จักริณทร์ทำหน้าไม่เชื่อ
"ทำไมจะไม่ร้าย คุณไม่เคยเห็นเขาจะเอาเรื่องผม" ชยุตม์แทรกขึ้นมา "นี่ไม่รู้เกลียดอะไรผมนักหนา ขวางได้ทุกเรื่อง ตอนนี้ผมไม่อยู่ ก็คงไปเย้วๆ ต่อต้านการสร้างรีสอร์ท"
"คงไม่หรอกครับ" ปฐพีแย้ง "จากที่เห็น โชคดีก็คงน่าจะเข้าใจคุณชยุตม์แล้ว ยิ่งได้รู้ว่าบาดเจ็บเพราะเรื่องประตูน้ำ โชคดีก็คงไม่ติดใจอะไรอีกต่อไป"
...แล้วทำไมไม่มาเยี่ยมเขาพร้อมปฐพีล่ะ ทำไม...
...จำได้ว่าโชคดีเคยพูดว่าไม่เคยคิดจะมาเข้ามาเหยียบกรุงเทพฯ แม้แต่น้อย แล้วทำไมโชคดีจะมาเยี่ยมเขา...
...หรือต้องให้เขาย้ายโรงพยาบาลกลับไปที่น่านเพื่อให้โชคดีเยี่ยม...
ชยุตม์เอนตัวนอนพักเพราะจักริณร์ขอตัวไปทานอาหารกับปฐพี วิศวกรผู้บาดเจ็บบอกทั้งสองว่าไม่ต้องรีบกลับเพราะอีกไม่นานคุณแม่กับพี่ชายของเขาก็จะมาเยี่ยม
ตั้งแต่เขารู้สึกตัวก็มีคนมาเยี่ยมกันไม่ขาด ส่วนมากเป็นคนรู้จักคุณพ่อของเขา มาเยี่ยมลูกชายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนเพื่อนของเขามาเยี่ยมกันครบทุกคนแล้วภายในวันเดียวเพราะเขามีเพื่อที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยนับจำนวนคนได้
...แต่คนที่เขาอยากให้มากลับไม่มา...
...ทำไมใจแข็งขนาดนี้...


โต๋เดินเข้ามาในร้านโชคดีค้าเหล็ก ชะเง้อมองโชคดีที่นั่งอยู่ในห้องทำงานแล้วทำท่าสองจิตสองใจว่าควรจะเข้าไปรายงาน "อาการ" ของนายช่างชยุตม์ให้ฟังดีหรือไม่ ขณะที่ลังเลอยู่นั้น เจ้านายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมา ส่งสายตาคมกริบมาถามว่า "มีอะไร เข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้"
"ที่ทำงานประกาศว่าอาการนายช่างพ้นขีดอันตรายแล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วง นายช่างแค่ขาหัก อีกไม่นานก็กลับบ้านได้"
"ทำเป็นกระต่ายตื่นตูม" โชคดีพูดเสียงเบา
"มันเป็นยังไงหรือครับ" โต๋อ้อมแอ้มถามเพราะไม่เข้าใจที่โชคดีพูด
"ก็หมายความว่าทำเป็นเรื่องใหญ่กันไปได้นะสิ" โชคดีตอบ
"ก็ใครจะรู้ล่ะครับ ตอนนั้นท่าทางหนักเอาการ นายช่างก็ไม่รู้สึกตัวเลย เอามือจับขาบิดก็พึมพำว่าไม่รู้สึกเจ็บ ทีนี้ก็ตกใจกันใหญ่" โต๋อธิบาย "ผมเห็นเพื่อนนายช่างร้องให้เลยนะครับ"
"แกไปเห็นตอนไหน" โชคดีเสียงเข้ม
"ก็...เอ่อ...ที่โรงพยาบาล" โต๋พูดเสียงอ่อยๆ ทำท่าคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามโชคดีว่า "แล้วนี่อยู่ถึงกรุงเทพฯ คุณโชคดีจะไปเยี่ยมได้หรือครับ ไกลขนาดนั้น ผมอยากไปเยี่ยมแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง"
"ก็เห็นว่าอาการไม่น่าเป็นห่วง จะไปเยี่ยมทำไม"
"โธ่ ก็นายช่างเป็นนายช่าง มีบุญคุณต่อผม ใครจะใจไม้ใส้ระกำ ใจจืดใจดำไม่ไปเยี่ยมล่ะครับ นายช่างดีกับผมขนาดนั้น"
"รู้จักใช้สำนวนนะ ปากเก่งนัก" โชคดีเบ้ปาก ถลึงตา ก่อนจะไล่เด็กหนุ่มออกไปให้พ้นหน้า "จะไปไหนก็ไป"
...ใจไม้ใส้ระกำ ใจจืดใจดำ...
...ไอ้โต๋นะไอ้โต๋ หลอกด่าเราหรือนี่...
...ใจดำที่ไหน ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ นี่นา คนเฝ้าก็มีอยู่แล้ว จักริณทร์ก็คงนั่งอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง...
...แล้วนี่ทำไมเขาจะต้องมารู้อาการชยุตม์จากโต๋ ไหนปฐพีบอกว่าไปเยี่ยมที่กรุงเทพฯ ไปถึงตั้งนานแล้ว ทำไมไม่โทรมาเล่าให้เขาฟังบ้างเลย จะโทรไปก็กลัวเสียหน้า...


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 11-06-2009 12:13:01
สวัสดีตอนเที่ยง

เข้ามาส่งพี่นาย ไปทานข้าวค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-06-2009 12:24:57
มารอดูผู้ร้ายปากแข็ง ว่าแต่ว่าตัวเองจะหาทางไปเยี่ยมชยุตม์ ยังไงไม่ให้เสียฟอร์ม

อย่าช้านะครับ พี่นาย +1 เพิ่มให้อีกคะแนน เอาใจไว้ก่อน  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 11-06-2009 14:40:26
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 11-06-2009 14:54:59
มาเป็นแรงใจให้นายหมูปิ้งใจแข็งนี่หน่อยนะคร้าบ


สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคร้าบหมูปิ้งเบาๆมั่งได้แล้วละคร้าบ


รักกันซะทีนะคร้าบ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 12-06-2009 00:22:27
หูย สงสารหมูปิ้งอยู่ในโหมดซึมๆเลยเหรอ
โดนคุณนายแม่จิกอีก 55 น่าสงสาร
เด๋ซคนป่วยก็กลับมาให้เยี่ยมเองล่ะนะ หมูปิ้ง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 12-06-2009 10:18:21
ดูท่าน่าจะเหนื่อยหน่อยนะครับ หมูปิ้ง
อยากจะไปเยี่ยมกับ ก็ไม่รู้ว่า ฐานะไหน
อยากจะพูด อยากจะบอกอะไร ก็ ไม่กล้าไปซะหมด

คุณชยุตม์ ก็รีบหายเร็ว ๆ หน่อยนะครับ
จะได้รู้เหตุผลเสียทีว่า หมูปิ้งเค้า ทำไมไม่มาเยี่ยม

ใกล้จบอีกแล้วอะ จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 12-06-2009 11:03:09
มารอตอนจบคร๊าบบ

ชยุตม์จะได้กินหมูปิ้งมั๊ยเนี่ยย อิอิ :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 19 จบบท (10/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-06-2009 11:26:01
ดูท่าทางแล้วมันจะจบได้ยังไงเนี่ยยย ...ไม่เข้าใจ :serius2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 12-06-2009 14:12:44
ต่อบทที่ 20

ชยานนท์มองน้องชายแล้วหันไปกระซิบกระซาบกับมารดาก่อนจะร้องลั่นเพราะถูกบิดแขน
“ไปว่าน้องอย่างนั้นได้ยังไง” คุณหญิงเพียงฤดีดุลูกชายคนรอง
“ก็จริงนี่ครับ คุณหญิงแม่ไม่รู้อะไร แบบนี้เขาเรียกว่าอกหัก มองครึ่งตาก็รู้” ชานนท์ส่ายหน้า “เป็นเอามาก ผมว่าคุณพ่อกับคุณแม่ทำบาบทำกรรมที่พรากคนรักเขามาแบบนี้”
“คนรักอะไรที่ไหน” คุณหญิงเพียงฤดีขมวดคิ้ว “จักรเขาเฝ้ายุตม์มาตลอด”
“แล้วทำไมซึมขนาดนี้” ชยานนท์แกล้งทำเป็นสงสัย
“นั่นสิ แม่ก็ไม่เข้าใจ”
“นอกเสียจากว่ายุตม์มันเปลี่ยนใจแล้ว” ชยานนท์ทำหน้าจริงจังใส่มารดา “แม่ครับ คนที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคุณแม่ดูไม่ออกหรือ ไม่เห็นหรือว่าลูกชายคนโปรดของคุณพ่อมีแต่กาย ใจไปไหนก็ไม่รู้”
คุณหญิงเพียงฤดีเพ่งมองลูกชายคนเล็กอย่างพิจารณาแล้วก็เห็นจริงอย่างลูกชายคนรองว่า ชยุตม์ดูเงียบลงไปมาก ปกติเป็นคนเงียบอยู่แล้ว วันนี้ลูกชายแทบไม่พูดอะไรเลยซักคำ
“คุณแม่ลองเรียกดูสิครับ แล้วถามอะไรก็ได้ ดูซิว่ายุตม์จะตอบยังไง” ชานนท์เสนอ ‘การทำสอบ’ น้องชาย
คุณหญิงเพียงฤดีถอนหายใจแล้วลองทำตามที่ชานนท์แนะนำ เธอเรียกชยุตม์สองสามครั้ง ลูกชายคนเล็กจึงหันมามองแล้วตอบคำถามของเธอ
“ไม่ทราบครับ”
“แล้วจักออกไปตอนไหน ไปกับใคร จะกลับมาเมื่อไหร่” มารดาถามเป็นชุดๆ
“เอ่อ...” ชยุตม์ทำท่าคิด “ผมคิดว่าไปไม่นาน”
“ตอบคำถามไม่หมด” ชยานนท์กระซิบ “เพราะจำไม่ได้ว่าแม่ถามอะไรบ้าง”
“แล้วนี่ลูกทานยาหรือยัง” คุณเพียงฤดีถามต่อ
“ทานแล้วครับ” ชยุตม์พึมพำตอบแล้วหันไปมองจอโทรทัศน์เหมือนอยากจะหยุดการสนทนา
“ยังไม่ได้ทาน” ชยานนท์กระซิบอีกครั้งแล้วพยักเพยิดให้มารดาดูถ้วยใส่ยาเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง
“ปกติทานยากี่โมงล่ะ” คุณหญิงเพียงฤดีถามอีก
คนป่วยไม่ตอบ ตายังมองดูรายการโทรทัศน์ราวสนใจนักหนา ชยานนท์อมยิ้ม คุณหญิงเพียงฤดีจึงแก้ตัวให้ชยุตม์ว่า “น้องคงไม่ได้ยิน”
“จะได้ยินได้ยังไงครับ ใจลอยไปถึงบ้านป่าบ้านดอยเสียแล้ว”
“น้องกำลังสนใจดูทีวี” ผู้เป็นแม่ยังเข้าข้างลูกขายคนสุดท้อง
“โธ่คุณหญิงแม่ครับ จนป่านนี้แล้ว”
“งั้นทำไมคนที่ยุตม์ชอบเขาไม่มาเยี่ยม เขาไม่รู้หรือ แล้วนี่นนท์รู้ได้ยังไง อ้อ คนที่ว่านี่ใคร แล้วจักรล่ะจะว่างยังไง” ผู้เป็นแม่ถามคำถามชุดใหญ่
“โธ่คุณแม่ครับ ผมจะไปรู้ได้ยังไงหมด” ชยานนท์เบ้ปาก
“ก็เห็นทำท่ารู้ดี” คุณหญิงเพียงฤดีตีแขนลูกชายคนรองแล้วทำท่านึกอะไรบางอย่างได้ “เอ๊ะ หรือว่า...”
“หรือว่าอะไรครับ”
“ผู้กองปฐพี ลูกชายท่านผู้ว่าฯ”
คราวนี้คนที่อึ้งคือชานนท์เพราะไม่นึกว่ามารดาจะนึกอะไรได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มหรี่ตาลงทำท่านึก แล้วจึงเบิกตากว้างหันไปพูดกับมารดาว่า “คุณแม่นี้เยี่ยมจริงๆ คิดออกได้ยังไง”
“ตายแล้ว แย่แล้ว”
ชานนท์ส่ายหน้า ปล่อยให้มารดาทำท่าตกใจและกังวัลใจอยู่คนเดียว ชายหนุ่มมาดเนี้ยบเดินไปหาชยุตม์ที่เตียง ยกมือขึ้นโบกเรียกค้องความในใจจากน้องชาย
“มีอะไรครับ ผมไม่ได้เหม่อลอยขนาดนั้นนะ” ชยุตม์ถามเสียงเรียบ แล้วเอียงหน้ามองทีวี ปัดมือพี่ชายที่กีดขวางอยู่เบื้องหน้า
“นึกว่าใจลอยไปถึงไหน”
“เปล่า”
“งั้นตอบคำถามพี่มา เมื่อกี้แม่กับพี่คุยเรื่องอะไรกัน”
“ผมไม่ได้ฟัง” ชยุตม์ปิดโทรทัศน์แล้วกดเบาะให้เอนลง
“ทำไมเขาไม่มาเยี่ยมซักที” ชยานนท์ถามยิ้มๆ ยืนกอดอกมองน้องชาย
“ใครครับ”
“ปากแข็งพอๆ กัน งอนอะไรกันหรือเปล่า” ชยานนท์ถาม แต่ไม่ทันที่จะได้ยินคำตอบจากชยุตม์ เสียงผู้เป็นมารดาก็ดังขึ้น
“ผู้กองปฐพี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
“ตั้งแต่บ่ายๆ แล้วครับ” ปฐพียิ้มกว้าง ยกมือสวัสคุณหญิงเพียงฤดีซึ่งหลังจากรับไว้แล้วก็หันไปสบตากับชยานนท์พร้อมกับทำหน้างงๆ
“มาถึงก็นั่งเป็นเพื่อนคุณชยุตม์จนถึงบ่ายสี่โมง เลยชวนคุณจักรออกไปหาอะไรทาน ปล่อยให้คุณชยุตม์อยู่คนเดียวได้สองชั่วโมงแล้วครับ” ปฐพีพูดต่อ
“นึกว่าเพิ่งมาถึง” คุณเพียงฤดีเปรยแล้วหันไปสบตาชยานนท์อีก
“ผู้กองนี่สมาธิดีจังเลยนะครับ จำเวลาได้แม่นยำ” ชยานนท์ยิ้มตอบมารดา สื่อสารให้อีกฝ่ายรู้ว่าคนมีสติกับคนใจลอยนั้นต่างกัน
“คืนนี้ผมจะเฝ้ายุตม์ ผู้กองก็บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนก็ได้” จักริณทร์พูดยิ้มๆ
“ประหยัดค่าโรงแรมไปหนึ่งคืน” ปฐพีเสริมแล้วหัวเราะ
“ไปนอนบ้านผมก็ได้ครับ ไม่คิดตังค์” ชยานนท์เสนอความช่วยเหลือ
จักริณทร์ทำหน้ายิ้มๆ ไม่พูดอะไรเพราะรู้จักกิตติศัพท์ของชยานนท์ดี เขารู้ดีว่าหากให้ปฐพีไปพักกับพี่ชายของชยุตม์ รับรองว่าผู้กองหนุ่มไม่รอดแน่
“เอ แต่แม่ว่ายุตม์ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พยาบาลก็มี แค่กดปุ่มก็รีบเข้ามาดูแล้ว ไม่ต้องนอนเฝ้าก็น่าจะได้นะ จักรดูเขามาตั้งสองคืนแล้วนี่ แม่ว่าจักรกลับไปนอนบ้านเถอะ ส่วนผู้กองปฐพีจะพักบ้านแม่ก็ได้นะ ห้องหับเยอะแยะ”
“ถามยุตม์ดูก่อนดีไหมครับ” จักริณทร์ถามความเห็น
“ว่าไงยุตม์” ชยานนท์หันไปถามน้องชาย แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ตอบ
“ยุตม์” ชยานนท์เรียกซ้ำ เสียงดังขึ้นกว่าเดิม
“ครับ” คนป่วยหันมาขานรับ
“นอนคนเดียวได้หรือเปล่าแม่บอกว่าให้จักรกลับไปนอนบล้าน เฝ้านายมาตั้งสองวันแล้ว”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องมีใครเฝ้าก็ได้”
“ไม่ก็ให้เด็กที่บ้านมาอยู่ด้วย” คุณเพียงฤดีเสนอ
“ไม่ต้องครับคุณแม่ ผมอยู่คนเดียวได้ จักรกลับไปนอนบ้านเถอะ คงเหนื่อยแล้ว ไหนว่าจะบินไม่ใช่หรือ บินวันไหน” ชยุตม์ถามเสียงเรียบ
“พรุ่งนี้เที่ยง ไปสามวัน บอกแล้วก็ลืม” จักริณทร์ตอบ ใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย
ชยานนท์หันไปสบตากับมารดาโดยอัตโนมัติ เป็นที่เข้าใจกันระหว่างแม่กับลูก แต่คุณเพียงฤดียังทำหน้าสงสัยว่า ปฐพีไม่น่าจะใช่คนที่ชยานนท์บอกว่าชยุตม์อยากให้มาเยี่ยม

ประมาณสามทุ่ม ชยานนท์ก็พามารดากลับบ้าน จักริณทร์กับปฐพีนั่งอยู่เป็นเพื่อนชยุตม์ครู่ใหญ่แล้วจึงขอตัวกลับ ระหว่างที่จักริณทร์เข้าห้องน้ำ นายตำรวจลุกขึ้นมายืนข้างเตียงชยุตม์แล้วพูดกับชายหนุ่มว่า
“โชคดีเขาก็อยากมาเยี่ยมครับ แต่ว่ามีเรื่องยุ่งๆ ที่ร้าน เลยมาไม่ได้”
“ฝากขอบคุณเขาด้วยนะครับ” ชยุตม์ยิ้มบางๆ แล้วนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะถามปฐพีเสียงค่อยว่า “แล้ว เอ่อ ทางโน้นรู้หรือเปล่าวาผมไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ปฐพอมยิ้ม ทำเป็นไม่เข้าใจ “ที่รีสอร์ทหรือครับ คิดว่าทราบ คุณชยุตม์ไม่ต้องเป็นห่วงงาน ได้ยินมาว่ามีวิศวกรคนใหม่ไปแทนแล้วตั้งสองคน ตอนผมไปสนามบินเห็นขึ้นป้ายว่าเปิดต้อนรับปีใหม่ เหลือเวลาแค่เดือนกว่า คงทันใช่ไหมครับ”
ชยุตม์พยักหน้า อ้าปากจะถามอะไรบางอย่างต่อ แต่จักริณทร์เดินเข้ามาใกล้ เขาจึงเปลี่ยนใจ
“ผมเชื่อว่าเดี๋ยวทางโน้นก็มาเยี่ยม” ปฐพียิ้มให้กำลังใจแล้วชวนจักริณทร์กลับ
ชยุตม์มองตามชายหนุ่มทั้งสองแล้วถอนหายใจลึกๆ บอกตัวเองว่าตอนนี้มีเพียงสองอย่างที่เขาอยากให้เกิดขึ้น
อย่างแรก ขอให้ปฐพีไปนอนบล้านจักริณทร์แล้วสองคนนั้นก็เกิดชอบพอกัน จะหาว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ยอม
อย่างที่สอง ขอให้ ‘ทางโน้น’ มาเยี่ยมเขาเสียทีเถิด
...แต่ที่แน่ๆ เขารู้ว่าคืนนี้คงนอนไม่ค่อยหลับเพราะมี ‘สิ่ง’ ไปกวนใจอยู่ตลอดเวลา
...ทำไมรู้สึกทรมานแบบนี้ อยู่ใกลกันมันทรมานแบบนี้หรือยังไง ตอนที่เขาห่างจักริณทร์ไม่เห็นจะรู้สึกแย่แบบนี้เลย...
...ทำไม...ทำไมยังไม่มาหาเขาอีก...
...ทำไมถึงใจแข็งแบบนี้นะ...

***** จบบทที่ 20 ******
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-06-2009 16:23:14
แข็งไปหมด ใจแข็ง ปากแข็ง...แข็งๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jajey9 ที่ 12-06-2009 16:59:26
หมูปิ้งใจอ่อนเถอะนะ สงสารชยุตท์ อ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 12-06-2009 17:51:32
  :serius2:  :serius2:  :serius2: อยากอ่านต่ออออออออออ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-06-2009 20:48:33
โชคดีใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 12-06-2009 21:59:17
หมูปิ้ง......................ใจแข็งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-06-2009 22:41:49
ใจแข็งมากเลยอ่ะ

มาเยี่ยมหน่อยก็ได้
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 12-06-2009 23:16:29
5555
นายช่างเป็นเอามากนะเนี่ย ป่วยกายไม่เท่าไหร่ว่างั้น
แต่ป่วยใจเนี่ยมากกว่า 55 รู้ๆกันอยุ่ว่าหมูปิ้งใจแข็งแค่ไหนอย่าน้อยใจไปล่ะกัน 555
ส่วนพี่ชยานนท์ คืนนี้คงไม่ได้กินผู้กองสุดหล่อหรอกมั้งนะ อิอิ
+1 จัดไปคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-06-2009 23:42:44
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 13-06-2009 01:49:20
หมูปิ้งใจร้าย ปากแข็ง
แบบนี้ต้องขึ้นเตาปิ้งนานๆ เอาให้เกรียมเลย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 13-06-2009 11:11:38
มาได้แล้วนะคร้าบหมูปิ้ง


ได้เวลาออกโรงตามเนื้อเรื่องแล้วละคร้าบ


มาเร็วๆ  รักกันเร็วๆ   เร้วๆนะคร้าบ


รอส่งใจช่วยต่อใจแข็งจริงๆนายหมูปิ้งเนี่ย


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 13-06-2009 12:42:30
นอกจากใจแข็งแล้วอยากรู้จังเลยว่าอย่างอื่นแข็งด้วยหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 13-06-2009 14:05:24
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 20 จบบท (12/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 13-06-2009 18:20:41
สวัสดีตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดินที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาลมเย็นๆ เอื่อยๆ ครับ มาอ่านบทที่ 21 กันต่อนะครับ ยังไงก็เป็นแรงใจให้นายช่างชยุตม์ด้วย และอย่าลืมให้กำลังใจผู้เขียนนะครับ ตอนนี้้ผู้เขียนกำลังเหงา

21

"มันหายหัวไปไหนของมัน" โชคดีบ่น ตื่นเช้าขึ้นมาเขาเดินหาโต๋ไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบ พงษ์ได้ยินจึงเดินเข้ามาบอกว่าโต๋ไปกรุงเทพฯ
"ทำไมมันไม่มาบอก มาขออนุญาติ" โชคดีโวยวายทันที
"เห็นพูดว่าคุณโชคดีบอกว่าไปได้" พงษ์ตอบ
"อะไรนะ บอกที่ไหน บอกว่ายังไง มันมาขอผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมันไปทำไม รอให้กลับมาก่อนเถอะ พ่อจะเหยียบให้เละ"
"โต๋บอกว่าคุณโชคดีพูดว่าจะไปไหนก็ไป พอดีพวกที่รีสอร์ทเขาเหมารถเข้ากรุงเพทฯ ไปเยี่ยมนายช่าง โต๋ก็เลยไปด้วย" พงษ์อธิบาย
"อ้าว แล้วเมียล่ะ เมียกำลังท้องแก่" โชคดีเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
"เดือนก็ไปด้วยครับ" พงษ์ตอบเสียงเบาลงกว่าเดิม
"จะบ้าหรือ ท้องใหญ่ขนาดนั้น เกิดไปคลอดบนรถจะว่ายังไง" โชคดีหยิบโทรศัพท์เตรียมตัวกดเบอร์
"ก็เด็กมันอยากไปเยี่ยมนายช่างของมัน แกจะโทรไปด่ามันทำไมหมูปิ้ง" คุณเตือนใจที่ยืนฟังอยู่ใกล้ประตูพูดแทรกขึ้นมา "โต๋มันเคารพรักนายช่าง คนเขารักกันก็ต้องไปเยี่ยมกันสิ โต๋มันไม่ใช่คนเย็นชา..."
"พอเถอะแม่ ไม่ต้องมาประชดกันหรอก" โชคดีเก็บโทรศัพท์แล้วเดินปึงปังออกไปนอกร้าน
"พนันกันไหมพงษ์ ถ้าฉันกับเธอจะเข้ากรุงเทพฯ ไปเยี่ยมคุณชยุตม์ หมูปิ้งมันก็จะไม่ไปด้วย ลูกคนนี้มันร้ายจริงๆ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น" คุณเตือนใจถอนหายใจเฮือกใหญ่
...ทำไมจะไม่เคยเห็น คุณโชคดีก็คงเหมือนแม่นี่ล่ะ...
พงษ์คิดในใจ หากแสดงความเห็นว่า "ผมว่าไปครับ ถ้ารู้ว่านายช่างอาการหนักมาก คุณโชคดีต้องไปแน่ๆ"
คุณเตือนใจยืนนิ่งชั่วครู่แล้วตาลุกวาบ คิดอะไรได้บางอย่าง แล้วจึงพยักหน้าให้พงษ์เดินตามเข้าไปในห้องทำงาน
...หมูปิ้ง ต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง ร้ายนัก ต้องเอาให้เข็ด...

ร้อยตำรวจเอกปฐพีหัวเราะลั่นเมื่อได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัดน่าน จนจักริณทร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาทำหน้าแปลกใจที่อยู่ดีๆ ผู้กองหนุ่มมาดเท่ออกอาการ 'หลุด' แบบที่เขาไม่เคยเห็น
ปฐพีเอาแต่พยักหน้ารับคำแล้วจึงวางสาย แต่ใบหน้ายังระบายยิ้มอยู่เป็นนานจนจักริณทร์ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"คุณนายเตือนใจจะดัดหลังโชคดี" ปฐพีตอบ
"หมายความว่ายังไงครับ"
"ถ้าเป็นโชคดี คุณจะมาเยี่ยมชยุตม์ไหมครับ คนที่ไม่กินเส้นกน คุณจะมาเยี่ยมหรือเปล่า" ปฐพีถามยิ้มๆ
"พูดถึงเรื่องนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม" จักริณทร์พูดเสียงเบา แล้วยิ้มออกมาเศร้าๆ "บางทีมันน่าจะถึงเวลาแล้ว"
ปฐพีมองหน้าของจักริณทร์แล้วนึกภาพของโชคดี เขาเข้าใจความรู้สึกของจักริณทร์ดี สิ่งที่ชายหนุ่มเพิ่งพูดไป เขาก็ควรจะเป็นคนพูดด้วยเช่นกัน
"ผมขอโทษ" ปฐพีทำหน้าอ่อนโยน เสียงนุ่ม
"ขอโทษทำไมครับ" จักริณทร์เลิกคิ้วถาม
"สิ่งที่ผมพูดอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี"
จักริณทร์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้นายตำรวจหนุ่มแล้วยื่นมือไปวางบนหลังมือของอีกฝ่าย
"ผมเข้าใจ ผมคิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และตระหนักว่าเราฝืนมันไม่ได้ หากยุตม์จะเปลี่ยนไป ไม่มีประโยชน์ที่จะไปห้ามและรั้งเขาไว้"
ปฐพีนิ่งรอฟังจักริณทร์พูดต่อ ในใจเขาอดรู้สึกเจ็บแปลบไม่ได้เมื่อนึกภาพว่าโชคดีจะกลายเป็นของชยุตม์
"จะว่าไป โทษยุตม์ฝ่ายเดียวก็ไม่ผิด เพราะผมเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกัน แล้วนี่เรายัง..."
"เมื่อคืนนี้ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ นะครับ และทำไปด้วยมีสติครบทุกอย่าง ส่ิงที่เกิดขึ้นมีความหมายกับผมมาก" ปฐพีทำหน้าจริงจัง
จักริณทร์มองตาของปฐพีนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วดึงมือกลับไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องถามนายตำรวจหนุ่มว่าที่จะดัดหลังโชคดีนั้นจะทำอย่างไร ใครเป็นคนทำ และเมื่อไหร่
"ชักรู้สึกสนุก" จักริณทร์ยิ้มบางๆ หลังจากได้ยินปฐพีเล่าแผนการณ์ทั้งหมดให้ฟัง
"คุณชยุตม์จะเข้าไอซียู อาการทรุดหนักไม่รู้สึกตัว ลองดูซิว่าถ้าถึงขนาดนี้แล้ว โชคดีจะทำเย็นชาไม่มาเยี่ยมคนป่วยเชียวหรือ และที่สำคัญ ที่คุณชยุตม์เจ็บแบบนี้ก็เพราะเร่งจัดการเรื่องประตูน้ำที่โชคดียกขึ้นมาเป็นประเด็ดต่อต้านการสร้างรีสอร์ทนั่นล่ะ"
“ยุตม์จะยอมร่วมมือหรือครับ” จักริณทร์ถาม “รายนั้นไม่เคยทำอะไรนอกตำราเลย ตรงไปตรงมาตามหลักเกณฑ์ถูกต้องตามกฏระเบียบทุกอย่าง โกหกก็ไม่เป็น กลัวว่าคุณโชคดีจะจับได้”
“ไว้เป็นหน้าที่ผมเอง” ปฐพียิ้มกว้าง “อย่างที่จักรพูด ท่าทางน่าสนุก”

โชคดีเดินไปตามทางเดินหน้าห้องแถวในตลาดสด มองดูสิ้นค้าที่วางขายอย่างเบื่อๆ แต่ทว่า เมื่อเดินผ่านแผงขายหนังสือพิมพ์ก็ต้องหยุดกึกเมื่อตาเหลือบไปเห็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
...ชยุตม์! เป็นไปได้ยังไง...
โชคดีหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน หัวใจเต้นแรง มือแทบไม่มีแรงถือสิ่งที่อยู่ในมือ ข่าวที่กำลังอ่านทำให้เขาแทบช๊อค
ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ แล้วเร่งฝีเท้าตรงไปที่รถเพื่อรีบกลับบ้าน แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าขาวสะอาดตาตี่ของทรงศักดิ์โผล่มาขวางหน้า
“โชคดีอย่าไล่เรานะ” ทรงศักดิ์รีบชิงพูดขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะไล่ให้ถอยไป
“กำลังอารมณ์ไม่ดีนะซ่ง จะพูดอะไรก็พูดเร็วๆ”
“เราอ่านข่าวคุณคนนั้นแล้วล่ะ” ทรงศักดิ์พูดเสียงเบา
“เขามีชื่อ” โชคดีหน้าเคร่ง
“ทำไมโชคดียังไม่ไปเยี่ยมเขาอีก ยังอยู่ที่น่านอีกหรือ”
“ไปทำไม”
“ก็จะรออะไรอีกล่ะ นี่เราต้องเจ็บปวดแค่ไหนที่จะพูดกับโชคดีแบบนี้รู้หรือเปล่า” ทรงศักดิ์ทำเสียงขื่น
“จะไปรู้ได้ยังไง ก็พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ หยุดอ้อมค้อมได้แล้วซ่ง คนกำลังรีบ” โชคดีดุเสียงห้วน
“ตัวเองนั่นล่ะอ้อมค้อม รักเขาชอบเขาก็ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด เดี๋ยวไม่ทันดูใจเขาหรอก”
“ปากไม่ดี คนยังไม่ได้ใกล้จะตายซักหน่อย” โชคดีถลึงตา ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ส่งผลให้อีกฝ่ายถอยหลังไปหนึ่งก้าวเช่นกัน
“เราตัดใจได้แล้วล่ะที่โชคดีไม่รักเรา แต่เราก็อยากให้โชคดีมีความสุขนะ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าสิ คิดยังไง รู้สึกยังไง โชคดีต้องทำตามหัวใจตนเอง เราจะได้มองอยู่ห่างๆ ว่า คนที่เรารักได้สมหวังในรักแล้ว” ทรงศักดิ์เสียงสั่น
หากเป็นเมื่อก่อน โชคดีก็คงตวาดตี๋หนุ่มแล้วพูดว่า เอียนและเลี่ยนกับการพูดที่อีกฝ่ายคงไปจำมาจากละครทีวีหรือหนังสือนิยาย แต่ตอนนี้โชคดียืนนิ่ง ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ทรงศักดิ์ คนที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำมาตั้งแต่เรียนมัธยมพูดกับเขา
โชคดียอมให้ทรงศักดิ์เดินมาส่งที่เงียบๆ ก่อนจะขั้นนั่งบนรถ ชายหนุ่มหน้าดุหันไปพูดกับคนที่หลงรักเขาหัวปักหัวปำมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมศึกว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ซ่ง ขออะไรซักอย่างได้ไหม ไม่เคยขอให้ทำอะไรเลย แต่ตอนนี้ทำให้หน่อยเถอะ”
“ได้สิหมูปิ้ง จะให้ซ่งทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่อย่าบอกให้ซ่งไปตายเลยนะ มันเจ็บปวด หยุดว่าเราแบบนั้นซะที เราจะ...”
“หยุดพูดมากได้แล้ว” โชคดีอดถอนหายใจไม่ได้ “เราอยากจะขอให้ซ่งแต่งงาน”
“ฮ้า” ทรงศักดิ์ตาเหลือก อ้าปากค้าง แต่ครั้นได้สติแล้วก็โวยวายลั่น “จะบ้าหรือ ต่อให้เรารักหมูปิ้งมากแค่ไหนเราก็ทำอย่างที่ขอไม่ได้หรอก เป็นตายยังไงก็...”
“พูดเล่น” โชคดีหัวเราะเบาๆ “ทำเป็นตี๋ตื่นไฟไปได้”
“บ้า ล้อเล่นแบบนี้ตกใจหมดเลย” ทรงศักดิ์หน้ามุ่ย
“เราอยากให้ซ่งมีความสุข อยากให้ซ่งลองเปิดใจมองคนอื่นบ้าง” โชคดีทำหน้าจริงจัง มองใบหน้าขาวๆ ของทรงศักดิ์ด้วยประกายตาอ่อนโยน
“จะทำได้ยังไง เรารักหมูปิ้งแล้ว มอบใจให้ไปหมดไม่เหลือ”
“ขอคืนได้ไหม”
“โชคดียังเก็บไว้อยู่อีกหรือ” ทรงศักดิ์ทำเสียงตื่นเต้น
“ไม่เคยทิ้งไปไหนหรอก” โชคดียิ้ม “เรารู้ว่าซ่งดีกับเรา แต่ใจคนมันก็บังคับกันไม่ได้หรอกนะ พอโชคชะตาเล่นตลกกับเราแบบนี้แล้ว เราก็อยากให้ซ่งได้สมหวังบ้าง”
“ใครล่ะหมูปิ้ง ในเมืองน่านนี่จะมีใครสำหรับเรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะที่จะลืมหมูปิ้งได้ ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่า เรานะคิดว่าหมูปิ้งกับเรานั่นเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ชาติที่แล้ว” ทรงศักดิ์ตีหน้าเศร้า
“ถ้ายังงั้นก็รอต่ออีกชาติแล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ชาตินี้เราไม่ได้คู่กัน” โชคดีชักจะใจเย็นต่อไปไม่ได้แล้ว
“ไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าเราตัดใจแล้ว ชาตินี้โชคดีเป็นของนายช่าง เราจะอวยพรให้มีความสุข แต่โชคดีต้องไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป เดี๋ยวนายช่างไปเจอคนอื่น จะมาเสียใจแบบเราที่เอาแต่นั่งมองหัวใจหลุดลอย” ทรงศักดิ์ทำหน้าเศร้ามากกว่าเดิม
โชคดีตัดบท ขอบใจทรงศักดิ์สำหรับความรักและความหวังดี ฝ่ายนั้นยังพยายามจะคุยต่อ แต่ชายหนุ่มบอกว่าต้องรีบกลับบ้าน ตลอดทางนึกถึงคำพูดของทรงศักดิ์แล้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
...ไม่ต้องกลัวว่านายช่างจะไปเจอคนอื่นหรอก นายช่างเขามีเจ้าของแล้ว ยิ่งเจ็บหนัก คนรักของนายช่างก็คงคอยห่วงหวง คนจะเห็นใจกันและรักแนบแน่นมากยิ่งกว่าก็ตอนเจ็บหนักนี่ล่ะ...
...เขาเป็นใคร เป็นอะไรกับชยุตม์ อย่างที่โต๋ว่านั้นก็ถูก...
...แต่เขาไม่ได้เกลียดชยุตม์นะ ไม่ได้เกลียดอย่างที่ชยุตม์ชอบปักปรำว่าเขาเกลียด...

เมื่อกลับถึงบ้าน โชคดีถามหาแม่ของตัวเองทันที แต่คำตอบที่ได้รับทำให้อารมณ์เขาเดือดจนต้องโวยวายเสียงดัง
“แม่กับน้าพงษ์ไปกรุงเทพฯ แล้วทำไมไม่บอก อยู่ๆ ไปเลยแบบนี้หรือ”
“เห็นบอกว่าเรื่องด่วนค่ะ พออ่านหนังสือพิพม์แล้วก็ไปเลย” เสมียนประจำร้านร้ายงานพร้อมยื่นหนังสือพิมพ์ให้เจ้านาย “บอกไว้แต่เพียงว่าถ้าคุณโชคดีจะตามไปก็ให้โทรไปบอก”
...แม่นะแม่ ไม่ชวนซักคำ...
...ถ้าชวน เขาจะไปหรือเปล่า...
...ไม่ไปได้ยังไง ชยุตม์อาการหนักขนาดนี้ จะให้นั่งดูดายทำเย็นชา ใจไม้ใส้ระกำ ใจจืดใจดำอ่างที่โต๋กับแม่เขาพูดได้ยังไง โต๋นั่นเขาเชื่อว่าพูดด้วยใจซื่อ แต่แม่เขาพูดเพราะจงใจกระทบกระเทียบ...
...แล้วเขาใจดำไม่ไปเยี่ยมคนป่วยอย่างที่แม่เหน็บแนมจริงหรือ...
...เขาไม่ได้เย็นชา แต่จะให้ไปได้อย่างไร จักริณทร์ก็อยู่ อีกอย่าง ชยุตม์ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนัก แค่ขาหักกระตูกแตก...
...แต่ตอนนี้หนักแล้วนี่ ในหนังสือพิมพ์ก็บอกวาทรุดลงต้องส่งเข้าไอซียู ไม่ได้สติ และหมอก็บอกว่าอาจต้องเป็นอัมพาต หรือโชคร้ายต้องตัดขาทิ้ง...
...อยู่เฉยๆ ก็ทรุดลง เป็นไปได้ยังไง...

โชคดีหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ของมารดาก่อนแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจึงกดเบอร์ของพงษ์ก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นกัน ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงอย่างหงุดหงิด หันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป แตทันใดก็นึกถึงผู้กองปฐพี
โชคร้ายเมื่อกดเบอร์ของนายตำรวจหนุ่ม ผลลัพท์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน
ชายหนุ่มก่นด่าบริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือพร้อมกับตำหนิเจ้าของโทรศัพท์ทั้งสามคนที่อาจจะปิดเครื่อง
...ทำไมจะต้องมาปิดเครื่องพร้อมกันทั้งสามคน แล้วนี่หากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำไมจะต้องมาซวยไม่มีพร้อมกันทั้งสามเครื่องด้วยนะ...
...โต๋...จริงสิ โต๋ไปกรุงเทพฯ กับพวกที่ทำงานรีสอร์ท น่าจะได้เยี่ยมชยุตม์แล้ว...
โชคดีนึกได้จึงโทรศัพท์หาโต๋ แต่เมื่อได้ยินเสียงของปลายสายที่ไปหาก็อารมณ์เดือดถึงขีดสุด โทรศัพท์ในมือจึงลอยไปกระทบผนักห้องแตกละเอียด
...บ้ากันไปหมดแล้ว ติดต่อใครไม่ได้เลย...

ชยตม์นอนลืมตาโพลงมองเพดานอย่างเบื่อๆ คืนที่ผ่านมาเขานอนไม่ค่อยหลับ วันนี้ก็นอนกลางวันไม่หลับเช่นกัน ขณะนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น บรรยากาศในห้องผู้ป่วยพิเศษเงียบสงัด มีเพียงเสียงแอร์ดังเบาๆ เขารู้สึกคันขายุบยิบ อยากจะล้วงมือเข้าไปเกาแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเข้าเฝือก เขาแปลกใจที่ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเท่าไหร่นัก เพียงแต่รำคาญที่ทำอะไรไม่ค่อยถนัด
แต่นั่นเป็นเพียงความลำบากทางกาย ที่แย่กว่านั้นก็คือ ตอนนี้หัวใจเขารู้สึกทรมานเหลือเกิน นอนอยู่คนเดียวทั้งคืนทั้งวัน หลับตาลงก็เห็นแต่ภาพใบหน้าดุๆ ของโชคดีคอยรบกวนอยู่ร่ำไป
...แล้วนี่โชคดีจะมาเยี่ยมเขาอย่างที่ปฐพีรับประกันจริงหรือ...
ชยุตม์พยายามพลิกตัวเพื่อเปลี่ยนท่านอนเพราะรู้สึกปวดเอว เขาอยากจะลุกขึ้นเดินเล่นนอกห้อง ทนอยู่ในห้องพักคนป่วยมาหลายวัน เขาไม่อยากทนอยู่ต่อไปอีกแล้ว ถ้าทำได้ อยากกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านเสียไวๆ
...บ้านหลังเล็กริมธาร อิงแอบธรรมชาติ หลังที่โชคดีพูดเหน็บแนมเขาคราวที่ทานอาหารมื้อพิเศษกับคุณพ่อและคนอื่นๆ ที่จวนผู้ว่าราชการ...
คุณเตือนใจกับน้าพงษ์มาเยี่ยมเขาเมื่อตอนบ่าย หลังจากที่กลุ่มลูกน้องที่รีสอร์ทมาเยี่ยมเมื่อตอนสายๆ วันนี้เขาต้องรับแขกแทบตลอดวัน
...แต่แขกคนไหนก็ไม่มีคนชื่อโชคดีโผล่มาเยี่ยมซักที...
...ใจร้ายจริงๆ คนอะไรใจแข็งที่สุด...
ปฐพีกับคุณเตือนใจและพี่ชายของเขาวางแผนหลอกโชคดีให้ตกใจด้วยการออกข่าวว่าอาการของเขาทรุดหนัก โดยหวังว่าโชคดีจะต้องกังวลใจจนมาเยี่ยมเขาที่กรุงเทพฯ คุณแม่ของโชคดีบอกว่าลูกชายต้องมากรุงเทพฯ แน่นอน แต่เขาชักจะหวั่นใจ ข่าวออกไปตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น โชคดีก็ไม่โผล่มา
...“ปิดโทรศัพท์กันหมดทุกคน ให้หมูปิ้งโทรจนบ้าเลือด ทุรุนทุราย เพราะโทรยังไงก็โทรไม่ติด ดูซิ มันจะยอมมากรุงเทพฯ หรือเปล่า ระหว่างนี้ ฉันกับพงษ์จะไปชอบปิ้งที่ห้างสยามพารากอน”...คุณเตือนใจเป็นคนเสนอความคิด
...โชคดีนะโชคดี มาทำให้เขารักทำไมก็ไม่รู้ ต่อจากนี้ไปจะทำยังไงล่ะ เขาก็คงต้องเหนื่อยปราบพยศพ่อตัวร้ายแห่งเมืองน่านสิท่า ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง...

โชคดียืนหน้าง้ำอยู่หน้าแผงขายหนังสือพิพม์หน้าตลาด รอคำตอบจากคนขายอย่างกระวนกระวาย วันนี้แปลกมาก จวบจนหกโมงเย็นแล้ว หนังสือพิมพ์ฉบับยังไม่มาถึง
“สายส่งไม่เคยช้านะคะ ปกติก็มาถึงแล้ว” คนขายกล่าว สีหน้าไม่สู้ดีเพราะโชคดีกำลังทำหน้าฉุนเฉียว
“นี่หกโมงแล้ว ข่าวสารบ้านเมืองไม่ต้องรู้กันพอดี” โชคดีเสียงห้วน
“หนูโทรไปแล้ว แต่ไม่ติด รออีกหน่อยนะคะคุณโชคดี นี่จะรออ่านข่าวอะไรหรือคะ ไม่อ่านฉบับนี้เลยหรือคะ” คนขายพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน มือหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับที่สายส่งมาส่งแล้วให้ชายหนุ่มหน้าดุ
“ไม่ ไม่เห็นมีข่าวนั้น” โชคดีส่ายหน้า ก้มลงมองหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นอกครั้ง แล้วหันไปหยิบอีกฉบับหนึ่งขึ้นมาดูแต่ก็ไม่เห็นข่าวของชยุตม์เช่นกัน
...เอ๊ะ แล้วทำไมไม่ลงข่าว หนังสือพิพม์คู่แข่งกัน ฉบับนั้นยังลงรูปด้วยเลย แม้ไม่ใช่พาดหัวข่าวหลัก แต่ก็เป็นพาดหัวข่าวรองที่ตัวหนังสือใหญ่ไม่ใช่เล่น อีกเล่มหนึ่ีงก็ลง แต่เล่มนี้ไม่ลง...
โชคดีหยิบหนังสือพิมพ์ทุกฉบับขึ้นมาดู จึงเห็นว่ามีเพียงสองฉบับที่ลงข่าวชยุตม์ อีกสามฉบับไม่ลง แต่ฉบับที่เขากำลังรออยู่นั้นลงกรอบใหญ่มากกว่าฉบับอื่นๆ พร้อมลงรูปภาพชัดเจน รูปถ่ายของชยุตม์หน้าตาหล่อเหลา วันนี้เสมียนที่ร้านของเขาคุยกันให้ได้ยินว่าน่าสงสาร คนหล่อๆ ยิ่งกว่าพระเอกหนังต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ขณะที่กำลังเปรียบเทียบข่าวในหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับ สายส่งหนังสือพิมพ์ฉบับที่เขาต้องการก็มาถึง โชคดีจึงได้อ่านข่าวของชยุตม์สมใจ
รูปภาพของชยุตม์บนหน้าหนึ่งของหนังสือที่มียอมจำหน่ายเป็นอันดับสองของประเทศนั้นดูน่าสงสาร ขาเข้าเฝือกทั้งสองข้าง ชยุตม์นอนอยู่บนเตียง เห็นหน้าด้านข้างไม่ชัด มีเครื่องมือการแพทย์หลายเครื่องตั้งอยู่ใกล้ๆ ชยานนท์พี่ชายของชยุตม์นั่งทำหน้าเศร้า มือวางอยู่ใกล้ปลายเท้าน้องชาย
...อาการยังไม่ดีขึ้นเลย แพทย์ยังหนักใจ ขณะนี้กำลังทำการรักษาอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากให้ถูกตัดขา...
...ชยุตม์...น่าสงสารชยุตม์...
...เพราะเร่งงานเรื่องรื้อถอนประตูน้ำรีสอร์ทนั่นที่เดียวที่ทำให้ชยุตม์ประสบอุบัติเหตุ จะว่าไปก็ความผิดของเขา ชยุตม์คงพยายามทำให้เขาเห็นว่ารีสอร์ทได้ “ยอม” ต่อการเรียกร้องของเขาแล้ว
“น่าสงสารลูกชาย ม.ท. 1 หน้าตาก็ดี๊ดี ไม่น่าจะกลายมาเป็นคนพิการเลย ยิ่งเรื่องเกิดที่น่านแล้วยิ่งเศร้า แต่รูปหน้าไม่ค่อยชัดเลย ไหนดูเดลี่นิวส์ซิ เผื่อลงรูปหล่อๆ ชัดๆ”
เสียงสาวใหญ่คนหนึ่งดังขึ้นข้างๆ ทำให้โชคดีหันไปมอง ผู้หญิงคนนั้นคว้าหนังสือพิมพ์อีกฉบับขึ้นมาอ่ารนแล้วบ่นเสียงดัง “อ้าว เล่มนี้ไม่มี ทำไมล่ะ ปกติแข่งกันออกข่าวนี่ เสียดาย ไม่ได้ดูคนหล่อ”
โชคดีขมวดคิ้ว ในสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว มือหยิบหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทั้งสองฉบับที่เป็นคู่แข่งกันขึ้นมาเปรียบเทียบข่าวหน้าหนึ่ง
...ปกติสองฉบับนี้ขัดเคี่ยวกันเรื่องการเสนอข่าว หากข่าวของชยุตม์ลงหน้าหนึ่งของอีกฉบับพร้อมมีภาพชัดเจนตั้งสองวันติดต่อกัน อีกฉบับหนึ่งน่าจะมีข่าวบ้าง ถึงไม่ลงภาพก็น่าจะมีช่องข่าวเล็กๆ อาการลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทรุดหนักเสี่ยงถูกตัดขา ไม่มีข่าวก็แปลกล่ะ...
โชคดีล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหามารดาอีกที แต่ก็ยังไม่ติดเช่นเคย ปฐพี พงษ์ หรือโต๋ ล้วนแต่ปิดเครื่อง
...เอ๊ะยังไงกัน...
สมองอันชาญฉลาดของโชคดีเริ่มวิเคราห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว...
ใช้เวลาไม่นาน ชายหนุ่มก็คิดอะไรได้บางอย่างจึงกดหมายเลขของบริการสอบถามเลขหมาย ทันทีที่ได้หมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่ชยุตม์รักษาตัว โชคดีก็ไม่รีรอ และเมื่อโทรไปที่โรงพยาบาล เพียงแค่บอกชื่อและนามสกุลของผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ก็ต่อสายให้เขา
...ห้อง 1913...
...ชยุตม์ ลูกชายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย...
“คุณชยุตม์ เป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่มีคนรับสาย โชคดีกรอกเสียงลงไปทันที
“โชคดี” เสียงปลายสายตอบกลับ น้ำเสียงฟังดูดีใจ แต่ก็นิ่งไปชั่วครู่
“ผมเป็นห่วงคุณมาก” โชคดีทอดเสียงอ่อนโยน “เป็นห่วงมากจริงๆ”
“เอ่อ...ผม”
“เสียงดูสดชื่นนะครับ ได้ยินเสียงคุณแล้วผมก็โล่งใจ อ่านข่าวคุณแล้วก็ตกใจมาก แต่อาการหนักขนาดนี้รับโทรศัพท์ได้ด้วยหรือ ในข่าวบอกว่าอยู่ในไอซียู” โชคดีเสียงนุ่ม พูดเสร็จก็เม้มปาก ในสมองวิเคราะห์หาเหตุผลอย่างรวดเร็วราวคอมพิวเตอร์
“คือว่า...”
...นั่นไงล่ะ อึกอัก ตอบไม่เป็นคำไม่เป็นประโยค โกหกแน่ๆ คิดว่าโชคดีจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรือ...
...เจ็บใจนัก ชยุตม์คิดได้เองหรือว่าใครคอยช่วย...
...แม่ น้าพงษ์ ผู้กองปฐพี ชยานนท์ ไอ้โต๋...
...มิน่า ปิดโทรศัพท์กันหมดทุกคน...
...เล่นกับโชคดีแบบนี้เลยหรือ...
***** 21 *****
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 13-06-2009 18:47:38
โอ๊ย ทำไมโชคดีมันฉลาดยังงี้ อยากให้ไปเยี่ยม ลงทุนขนาดนี้ พ่อโชคดีเนี่ยยังไม่ยอมไปเยี่ยมเลย สงสารนายช่างจัง :m16: :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 13-06-2009 20:42:01
นายโชดีเนี่ย   คนหรือคอมพิวเตอร์คร้าบ


ฉลาดเกิ๊น   แล้วจะได้รักกันมั้ยละคร้าบเนี่ย


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 13-06-2009 21:19:07
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกโดนจับได้กันยกแก๊งค์
จะแก้ตัวกันยังงัยละทีนี้ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: upzyte ที่ 13-06-2009 21:22:49
ว่าไปแล้ว โชคดีก็ไร้มนุษยธรรมไปหน่อยนะ

ขนาดบางคนทะเลาะกัน ป่วยขนาดนี้ยังควรไปเยี่ยมเลย

สงสารแต่ชยุต คนอะไรนิสัยโครตน่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 13-06-2009 22:06:19
งานเข้า....................อย่างแรง......

 :fire:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jajey9 ที่ 13-06-2009 22:24:12
โชคดี ฉลาดมากกกกกก
อย่างนี้ ชยุตม์ และทุกคน จะทำไงต่ออ่ะ
 :m31:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-06-2009 22:50:19
โชคดีจะฉลาดเกินไปแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 13-06-2009 23:15:27
โชคดีเป็นคนที่ฉลาดเว่อร์มากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 14-06-2009 00:53:32
ทำไมโชคดีฉลาดงี้ฟะเนี่ย = ='
ยังงี้ไม่โมโหคนอื่นแย่เร้อออ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 14-06-2009 01:22:52
โชคดีฉลาดแบบนี้ นายช่างอาจจะยอมแพ้???
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 14-06-2009 11:24:23
นี้ขนาดหลายคนช่วยกันคิดแล้วนะครับ เนี่ย
ยังเอาหมูปิ้งไว้ไม่อยู่เลยอะ
ดันฉลาดเกินคนซะงั้น
เก่งจังเลยโชคดี แต่ดูถ้า มีวิธีแก้เผ็ดกันแน่เลย
แต่คนที่โดยชัวร์แน่เลย ดูถ้าน่าจะเป็นชตุยม์  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 14-06-2009 16:29:03
ถ้าโชคดีไม่ฉลาดมันก็ต้องยืดอีกหลายบทสิคร้าบบบบ  :m20:  :m20:  :m20:

บทที่ 22 ตอนจบ

22

แสงแดดจ้า ลมทะเลเย็นสบาย อากาศสดชื่น คนที่เพิ่งจะเห็นทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิตนอนอยู่บนเตียงผ้าใบ กระดิกเท้าอยู่อย่างสบายอารมณ์
...ให้รู้ซะบ้าง ใครจะมาเล่นกับโชคดีก็ต้องเจอฤทธิ์โชคดีหน่อยละ ป่านนี้คงวิ่งวุ่นหาตัวเขาแล้วสิ...
...เจ็บใจชยุตม์นัก นี่คงเป็นคนต้นคิด วางแผนหลอกให้เขาตกใจเมื่อเห็นอาการของตัวเองทรุดหนัก ต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ มาเยี่ยม ลงทุนมหาศาล จ้างหนังสือพิพม์เขียนข่าว หมดเงินไปเท่าไหร่ไม่รู้...
...เป็นไงล่ะ รถของนายโชคดี โชคไม่ดีเสียหลักลงข้างทาง เจ้าของหายตัวไปไหนก็ไม่รู้...
...อีกไม่นาน ผู้กองปฐพีก็คงหารถเจอ แต่จะหาตัวเขาเจอนี่ไม่ง่ายนักหรอก...
...เอ แต่ว่าปฐพีรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า คนอย่างปฐพีไม่น่าจะเจ้าเล่ห์ คิดอะไรแบบนี้ออก แล้วแม่ล่ะ...
...รู้สิ ทุกคนที่ปิดโทรศัพท์ต้องรู้เรื่องกันหมดทุกคน...
...เดี๋ยวจะกลับไปคิดบัญชีให้ครบถ้วนเลย...

ชยุตม์แทบทรุดเมื่อได้ยินข่าวจากปฐพีว่าโชคดีหายตัวไป เห็นแต่รถที่ประสบอุบัติเหตุ พยานก็ไม่มีใครเห็นร่องรอยของชายหนุ่มหน้าดุสักคน
“ทำใจดีๆ ไว้ก่อนครับ ตอนนี้กำลังเช็คโรงพยาบาลแถวพิษณุโลก ชื่อโชคดีจำได้ง่าย ถ้ามีใครนำตัวส่งโรงพยาบาล เราต้องหาตัวเจอได้เร็วแน่” ปฐพีให้กำลังใจ
“หมูปิ้งลูกแม่ ไม่น่าขับรถมาเองตอนกลางคืนเลย เด็กที่ร้านก็มี ทำไมไม่ให้ใครมาเป็นเพื่อน” คุณเตือนใจคร่ำครวญ ทรุดตัวลงนั่งกับโซฟา มีพงษ์ยืนอยู่ห่างๆ และมองด้วยความห่วงใย
ชยุตม์ถอนหายใจลึกๆ แล้วพูดกับปฐพีว่าจะขอให้พ่อของเขาช่วย แต่นายตำรวจแย้งว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตโดยใช่เหตุ
“ให้ผมพยายามก่อนเถอะนะครับคุณชยุตม์ อีกไม่นานต้องเจอโชคดีแน่”

อาหารทะเลหลากชนิดลำเลียงมาวางบนโต๊ะ โชคดีคว้ากุ้งเผาก่อนเป็นอย่างแรก และรับประทานหมดไปกว่าครึ่งจานภายในเวลาไม่นาน ตามด้วยปูนึ่งและปลาหมึกย่าง
“รู้ยังงี้มาทะเลตั้งนานแล้ว” ชายหนุ่มพึมพำแล้วก้มหน้ารับประทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สังเกตว่ามีใครบางคนมองอยู่
โชคดีเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อสัญชาตญาณบอกว่ามีใครบางคนจ้องมอง แต่ครั้นเห็นคนที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของร้านอาหารก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
...พ่อของชยุตม์!
...ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยมาทานข้าวอะไรแถวนี้ ดูท่าจะมาคนเดียวเสียด้วย...
ชายหนุ่มเมืองเหนือผู้กำลังอร่อยกับอาหารทะเลวางก้ามปูลงบนจาน ยิ้มบางๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปสวัสดีผู้ที่สูงวัยกว่า
“ท่าทางอร่อยนะครับคุณโชคดี มาคนเดียวหรือ” ม.ท. 1 ถามหน้ายิ้มๆ แต่ฉายแววแปลกใจ
“ครับ ผมมาทะเลเป็นครั้งแรก”
“มาเยี่ยมชยุตม์แล้วเลยมาทะเลละสิ ใช่ไหม ลุงก็แอบมาเที่ยวเหมือนกัน งานยุ่งมาก ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว พอดีมาประชุมที่ระยองก็เลยแวบมาเกาะเสม็ดซะเลย นี่คงกำลังตามหาตัวลุงกันวุ่น ม.ท. 1 หาย จะเป็นข่าวหรือเปล่าก็ไม่รู้” ม.ท. 1 หัวเราะชอบใจ
โชคดียิ้ม ไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้พ่อของชยุตม์คุยอยู่คนเดียว
“เบื่อนักข่าว นี่ก็ตามสัมภาษณ์เรื่องยุตม์อยู่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็ออกข่าวว่าอาการทรุดหนัก ลุงก็ไม่เห็นเป็นอะไรมาก อีกไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
...จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ก็เกิดอยากแกล้งโชคดีสนุกๆ กันนะสิครับ...
โชคดียิ้มเย็นๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย หายใจฟึดฟัด นึกภาพใบหน้านิ่งๆ ของ “วิศวกรคนนั้น” อย่างมาดร้าย
“แต่ย้ายเข้ากรุงเทพฯ ก็คงอาการหนัก...”
“ตอนนั้นลุงตกใจ เลยทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปหน่อย ยุตม์ไม่รู้สึกตัวเลยนี่ ขาก็ชาไม่รู้สึกอะไร ลุงกลัวลูกเป็นอัมพาตก็เลยพามารักษากับอาจารย์หมอ อยู่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด อีกอย่าง จะได้มีคนช่วยกันดูแล” ม.ท. 1 อธิบายยิ้มๆ
...ช่างแตกต่างจากชยุตม์ยิ่งนัก ดูยังไงพ่อของชยุตม์ก็ไม่เหมือนกันลูกชาย...
...ท่านรัฐมนตรีฯ ดูเปิดเผย ท่าทางลุยๆ ส่วนลูกชายดูเงียบๆ ขรึมๆ เป็นผู้ใหญ่...
...อ้อ เจ้าเล่ห์ด้วย...
“แล้วนี่เขายอมให้มาเที่ยวทะเลคนเดียวหรือ”
โชคดีเลิกคิ้ว “ใครครับ”
ท่านรัฐมนตรีฯ ยิ้มกว้าง แล้วถอนหายใจแรงๆ ทำเหมือนยอมรับความจริงอะไรบางอย่าง
“ก็จะใครซะอีกล่ะ”
โชคดียังขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจอยู่ดี ชายหนุ่มจึงถามตรงๆ ออกไปอีกครั้ง
“ลูกชายลุงนะสิ” ท่านรัฐมนตรีฯ ตอบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึม โน้มตัวมาข้างหน้า มองตาโชคดีอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนอยู่โรงพยาบาลน่าน ยุตม์มันเพ้อจนจักรน้ำตาซึม ต้องเดินหนีออกจากห้อง ถามจริงๆ เถอะ เป็นอะไรกันหรือเปล่า”
โชคดีอึ้งไปชั่วขณะ ไม่นึกว่าจะได้ยินพ่อของชยุตม์พูดแบบนี้ “ท่านทราบ...”
“รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ลูกรักคนสุดท้องนี่นา ตอนแรกที่รู้ว่ายุตม์เป็นยังไงลุงก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่มีประสบการณ์ครั้งแรกกับชยานนท์มาก่อน พอรู้เรื่องยุตม์ก็เลยทำใจได้ง่าย อีกอย่าง ยุตม์นี่มันเป็นคนดีมาก ลุงยังคิดว่าเป็นลูกเทวดามาเกิด พอรู้เรื่องว่าคงหมดโอกาสได้ลูกสะใภ้คนที่สองแน่ๆ ลุงก็โกรธยุตม์ไม่ลงเพราะลูกลุงดีจนยังรู้สึกอายเลยว่าตัวเองก็ไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกเท่าไหร่ แต่ทำไมมันโตมาเป็นเทพบุตรแบบนี้ ลุงไม่ใช่คนใจแคบ ไม่ใช่ไดโนเสาร์นะ พอได้ไตร่ตรองก็รับได้ไม่ยาก แต่ที่ไม่รู้ก็คือว่า ยุตม์มันนอกใจจักรเมื่อไหร่ และไม่นึกว่าจะเป็น...” ท่านรัฐมนตรีฯ อธิบายยืดยาว แล้วชี้นิ้วมายังคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“ทำไมล่ะครับ” โชคดีถามเพราะอยากรู้
“ยุตม์น่าจะเหมาะกับจักร บุคลิกเขาไปกันได้ นั่งเงียบๆ อยู่ด้วยกันทั้งวัน คุยอะไรกันก็ไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องคอยเงี่ยหูฟัง พอรู้ว่าเป็นโชคดี ลุงก็ตกใจเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ แต่มันคนละแนว”
โชคดีพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว ท่านรัฐมนตรีเป็นคนตรงไปตรงมาพอๆ กับเขา พอเจอคนตรงแบบนี้เขาก็อึ้ง
“แต่ยุตม์เขาเก่ง ฉลาด ประนีประนอม เป็นคนอดทน คิดว่าน่าจะรับมือโชคดีได้”
“ฉลาดแกมโกง” โชคดีพึมพำ
“โกงที่ไหน” ผู้เป็นพ่อเลิกคิ้ว “ลุงรู้จักยุตม์ดี ไม่เห็นว่ามันโกงใครเป็น ขนาดคนขายไอสครีมทอนเงินผิด ยังปั่นจักรยานตาลีตาเหลือกเอาเงินไปคืน รถเขาหายไปแล้ว มันก็ยังตามหาวนไปวนมาในหมู่บ้านอยู่นั่นล่ะ โตขึ้นก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ลุงยังเคยคิดจะเข็นให้เล่นการเมืองเลย อยากให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” พูดเสร็จ ม.ท. 1 ก็หัวเราะเสียงดัง
โชคดีลืมอาหารบนโต๊ะของตัวเองไปสนิทเพราะเริ่มจะคุยกันถูกคอกับท่านรัฐมนตรีฯ ชายหนุ่มจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังแล้วสรุปวา
“ลูกชายท่านต้องเป็นคนต้นคิดแน่ๆ “
“งั้นหรือ อืม ไม่น่าเชื่อ ยุตม์โกหกใครไม่เป็น และถ้าเริ่มพูดอะไรไม่ตรงกับใจนี่จะมองออกได้ง่ายมาก ลุงไม่เคยนึกว่ายุตม์จะคิดอะไรได้แบบนี้ ถ้าเป็นชยานนท์ล่ะไม่แน่ รายนั้นกะล่อน ไม่เคยจับได้ไล่ทันซะที”
“ผมได้ยินกับหูเลยนะครับ เขาบอกว่าเพิ่งออกมาจากไอซียู และหมอบอกว่าไม่ต้องตัดขาแล้ว” โชคดียืนยัน
“งั้นเอายังงี้ ต้องดัดหลัง โชคดีต้องหายไป อย่าให้ตามพบ ลุงมีเซฟเฮ้าส์ที่ระนอง ไปอยู่นั่นเลย เอาให้ทรมานตามหากันซักหนึ่งอาทิตย์” ม.ท. 1 วางแผน แล้วหันไปเรียกบริการให้ย้ายอาหารจากโต๊ะของโชคดีมานั่งทานด้วยกัน สองหนุ่มต่างวัยจึงเริ่มแผนการดัดหลังคนป่วย

จักริณทร์ยืนมองชยุตม์ด้วยสายตาครุ่นคิด แม้จะได้ตัดสินใจแล้ว แต่ในใจรู้สึกสับสนอีกครั้ง กว่าสามวันที่เขาไปทำงาน ขณะขับเครื่องบินอยู่บนท้องฟ้า มองเห็นปุยเมฆขาว เห็นพระอาทิตย์ทอแสงอ่อนยามเช้าส่องต้องปุยเมฆขาวกลายเป็นสีทองอ่อนๆ และเปลี่ยนเป็นสีเข้มยามเย็นทำให้เขาได้ตระหนักว่า ชีวิตใหม่ก็ควรจะมาถึง เฉกเช่นพระอาทิตย์ที่มีขึ้นและตก
เขาตระหนักได้ว่า ภาพใบหน้าของปฐพีตามไปรบกวนเขาอยู่ไม่น้อย และทันทีที่เครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ คนที่เขาอยากเห็นหน้าก่อนคนอื่นคือผู้กองปฐพี
“ไปคุยกับเขาหน่อยสิครับ วันนี้ไม่ทานอาหารเช้า เอาแต่นั่งเหม่อ” ปฐพียื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู มือใหญ่แข็งแรงแตะไหล่ของนักบินหนุ่มและบีบเบาๆ
“คุณโชคดีหายไปกี่วันแล้วครับ” จักริณทร์ถาม
“สี่วัน” ปฐพีถอนหายใจ “ยังตามหาไม่เจอ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“บอกพ่อชยุตม์หรือยัง” จิกริณทร์หันไปสบตากับปฐพี
นายตำรวจหนุ่มส่ายหน้า จักริณทร์จึงพูดต่อว่า”บอกเถอะ คุณลุงจะได้ช่วย รัฐมนตรีมหาดไทยสั่งการ อีกหน่อยก็หาเจอ”
ปฐพีพยักหน้า จักริณทร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนคนป่วย นายตำรวจจับมือของชายหนุ่มเอาไว้และบีบเบาๆ พร้อมกับถามว่า “จะบอกคุณชยุตม์ไหมครับ”
“บอกสิ เก็บไว้ทำไม ถึงเวลาแล้ว” จักริณทร์ยิ้มให้ปฐพีอย่างอ่อนโยน พนักหน้าแสดงความมั่นใจ แล้วเดินเข้าไปหาคนที่เขากำลังจะเรียกว่า ‘อดีตคนรัก’

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 21 (13/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 14-06-2009 16:29:30
โชคดีบิดขี้เกียจพร้อมส่งเสียงครางเบาๆ ก่อนจะนอนแผ่หราต่อไป หลับตาพริ้ม รู้สึกสบายอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขานอนมองทะเลมาได้กว่าสองชั่วโมงแล้ว บรรยากาศสงบเงีบบทำให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ บ้านพักของท่านรัฐมนตรีมหาดไทยหลังใหญ่พอประมาณ กวาดถูจนเหนื่อย แต่เขาก็มีเวลาเหลือเฟือ นั่งๆ นอนๆ จนถึงวันนี้ก็ครบวันที่ห้าแล้ว ในใจคิดเอาไว้ว่า เมื่อครบหนึ่งอาทิตย์เต็ม เขาถึงจะกลับไปลุย ‘ขบวนการแกล้งหลอกโชคดี’ ที่กรุงเทพฯ อยู่เฉยๆ ก็โผล่ไปให้ตกใจเหมือนเห็นผีตอนกลางวันแสกๆ หลังจากนั้นค่อยสวมหน้ากากยมทูต จัดการกับคนต้นคิด
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง โชคดีรู้สึกเริ่มจะหิวข้าวจึงลุกขึ้นเดินเอื่อยๆ กลับไปที่บ้าน ตั้งใจว่าจะทำอาหารจานเดียวแล้วมานั่งทานริมทะเล ดูพระอาทิตย์ตกดินให้สบายใจ
แต่ทันทีที่เดินขึ้นไปบนบ้านก็รู้สึกแปลกๆ สัญชาตญาณระวังภัยบอกเขาว่ามีคนอื่นอยู่ในบ้าน ทำเสียงกุกกักอยู่ในห้องนอน โชคดีจึงคว้ามีดจากห้องครัวแล้วค่อยเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้โอ๊คสีดำแดงบานใหญ่
...เสียงเงียบไปแล้ว คิดจะแอบหรือ เจอโชคดีหน่อยเป็นไร...
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู แล้วค่อยๆ ดันประตูเปิดช้าๆ โผล่หน้าเข้าไปทีละน้อย สอดส่ายสายตาหาผู้บุกรุก มือกระชับมีดในมือเตรียมพร้อม แต่ครั้นมองเห็นว่าใครอยู่บนเตียง ชายหนุ่มก็ผลักประตูเข้าไปแรงๆ พร้อมตวาดเสียงดัง
“คุณมาทำไม มาได้ยังไงเนี่ย”
ชยุตม์หันขวับ แสดงท่าทางตกใจชั่วไม่กี่วินาที แล้วปรับสีหน้าให้นิ่งเรียบ ทำใจดีสู้เสือแล้วตอบคำถามที่ทำให้โชคดีฉุนกึกขึ้นมาทันที
“พ่อมาส่ง”
...ท่านรัฐมนตรีนะท่านรัฐมนตรี กล้าหักหลังเขา นี่เขาโดนหลอกอีกแล้วหรือ เจ็บใจนัก ทั้งพ่อทั้งลูก เจ็บใจนัก...
“ออกไป” โชคดีไล่
“ผมหรือ” ชยุตม์ตีหน้าซื่อ “นี่บ้านพ่อผมนะ”
“ผมมาก่อน ผมอยู่ก่อน คุณมาทีหลัง”
“อยู่ด้วยกันก็ได้นะโชคดี” ชยุตม์เสียงอ่อน มองโชคดีด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาระวังภัยเมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม
“ผมมาขอโทษ ขอโทษทุกอย่าง คุณจะด่าว่าผมยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ถึงฆ่าแกงกันเลยนะครับ” ชยุตม์เล่นบทอ้อน เพราะรู้ว่ายังไงก็สู้โชคดีไม่ได้
“อยากต่อยให้ฟันหักนัก”
“ถ้าอยากทำแบบนั้น ผมก็ยอม” ชยุตม์ตีหน้าเศร้า จับทางโชคดีได้ว่า หากจะทำให้โชคดีอ่อนลง ต้องยอมผิดเอาไว้ก่อน ทำเป็นรู้สึกผิด ทำเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ “ผมผิดที่โกหกคุณ ทำให้คุณเป็นห่วงจนต้องฝืนสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง”
“สัญญาอะไร” โชคดีตวัดเสียง
“ก็ที่เคยบอกว่าไม่เคยคิดจะเข้ามาเหยียบกรุงเทพฯ แม้แต่นิดเดียว แต่ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณต้องเข้ามา...”
“วางแผนกันดีนัก”
“ผมเปล่า...” ชยุตม์ปฏิเสธ
“งั้นใคร”
“เอ่อ...” ชยุตม์อ้ำอึ้ง
“ผมถามว่าใคร” โชคดีเดินเข้ามาใกล้ สีหน้าเอาเรื่อง
“วางมีดลงก่อนนะโชคดีนะ” ชยุตม์ขอร้อง มือขวาจับหมอนเอาไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ยกขึ้นป้องกันตัวได้ทัน
“กลัวผมจะตัดขาคุณหรือ” โชคดีตะคอก “อาการทรุดหนัก อาจเป็นอัมพาตหรือต้องตัดขา เรารึอุตส่าห์เป็นห่วง ตกใจที่จู่ๆ ก็มีข่าวออกไปอย่างนั้น เสียเงินให้หนังสือพิมพ์กันไปเท่าไหร่ละนี่ จ้างให้หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ลงข่างหน้าหนึ่งแบบนั้น คิดว่าจะทำให้ผมช็อคหรือยังไง รู้ไหมที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯนี่ไม่ใช่เพราะข่าวนั้นนะ เพราะจะเข้ามาเอาเรื่อง ผมอ่านเกมออกตั้งแต่อยู่ที่น่านแล้ว”
“คุณไม่ได้เป็นห่วงใจผมจริงๆ ด้วย” ชยุตม์เสียงแผ่ว เริ่มแสดงบทน้อยเนื้อต่ำใจ “ไม่แม้แต่นิด”
...ใครบอก ชอบพูดเองเออเอง...
โชคดีพูดในใจ หันหน้าหนีไปถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นใบหน้าและแววตาเจ็บปวดของชยุตม์
“ถ้ายังงั้นผมกลับก่อนนะครับ” ชยุตม์ขยับตัวพยายามลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล
"ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะอยากให้คุณมาเยี่ยมบ้าง ถึงไม่เจ็บปางตายพอจะทำให้คุณมาเยี่ยมได้ แต่ผมก็ยังหวังลึกๆ ตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลน่าน แต่รอแล้วรอเล่าคุณก็ไม่ไป เกลียดผมขนาดนั้นหรือยังไงนะ" ชยุตม์ทำเสียงขื่น พูดไปเดินโขยกเขยกไปช้าๆ "ผมขอโทษที่ทำให้คุณไม่ชอบหน้าตั้งแต่แรก ตอนนี้ผมถอนตัวจากรีสอร์ทคุณอาแล้ว คุณจะได้ไปต่อต้านได้สะดวกกว่าเดิม แต่พอผมไม่ได้เป็นพวกของรีสอร์ททำลายธรรมชาติแล้ว ผมก็แอบหวังวาคุณจะดีกับผมบ้าง แต่ผมว่า ถึงยังไง คุณก็คงไม่อยากจะมองหน้าผมอีกแล้ว"
ชยุตม์หันมามองโชคดีแวบหนึ่ง แล้วพลันนึกอะไรได้บางอย่าง
...ขออีกสักครั้งเถอะ ไหนๆ ก็เล่นละครบทพระเอกแสนงอนแล้ว ขอเล่นบทเจ้าเล่ห์ต่ออีกหน่อย...
"โอ๊ย" ชยุตม์ร้องอย่างเจ็บปวดแล้วล้มตัวลงเมื่อพ้นประตู
...ลงทุนมากจริงๆ เรา โชคดีจะวิ่งมาประครองเขาหรือเปล่านี่...
ชยุตม์เหลือบตาไปมองโชคดีทีหันขวับมาเมื่อได้ยินเสียงเขาล้ม
...เปล่าเลย คนอะไรใจเข็งจริงๆ...
"ทำเป็นอวดเก่ง" โชคดีเดินกระแทกเท้าเข้ามาใกล้ ยืนเท้าเอวมองคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น แล้วคุกเข่าลงข้างๆ
...โธ่ อย่าให้ถึงกับต้องบีบน้ำตานะคุณหมูปิ้ง...
ชยุตม์รู้สึกเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวเพราะเมื่อครู่ที่แกล้งล้มเกิดผิดคิว ขากระแทกกับพื้นแรงไปหน่อย
วิศวกรหนุ่มพยายามจะพลิกตัวนอนหงาย แต่ขาที่เข้าเฝือกหนักเอาการทั้งยังไม่ชิน จึงออกแรงมากเกินไป ลืมไปว่ามีโต๊ะเล็กๆ อยู่ข้างประตู เขาจึงพลิกไปโดนขาโต๊ะ ทำให้ต้องร้องโอดโอยออกมาจริงๆ
...คราวนี้ไม่ได้แกล้ง เจ็บมากถึงมากที่สุด...
"เอ๊า เอาเข้าไป" โชคดีถอนหายใจ มองคนที่นอนตัวงอด้วยความเจ็บจนน้ำตาเล็ด
"คุณอยู่เฉยๆ ได้ไหม" โชคดีดุชยุตม์แล้วสอดแขนเข้าไปใต้รักแร้ของคนที่นอนครวญครางบนพื้นเพื่อพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง
"ตัวหนักจริงๆ"
"ค่อยๆ นะครับ ผมจะไม่ไหวแล้ว" ชยุตม์โอบไหล่โชคดีเพื่อยึดไว้เป็นหลัก
"ทำอวดดี" คนที่ให้การช่วยเหลือบ่น
"โอ๊ยเจ็บ" คนเจ็บบ่น
"ก็ต้องเจ็บสิ เอาละนะ นับหนึ่งสองสาม ผมจะดึงขึ้นมา" โชคดีเตรียมตัวออกแรง
ชยุตม์โอบรัดโชคดีแน่นกว่าเดิม ถือโอกาสนี้ซุกหน้าเข้ากับซอกไหล่ของชายหนุ่ม ในใจนึกอยากจะจูบอีกฝ่ายขึ้นมาทันที แต่ก็ยังใจเอาไว้ได้ เพราะคิดแล้วว่าไม่น่าจะคุ้มที่หากจูบแล้วเสี่ยงต่อการถูกต่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขามีสภาพแบบที่เห็น
"คุณโชคดีครับ ผม..."
"อะไรอีกล่ะ หยุดพูดก่อนได้ไหม เอ๊า พร้อม หนึ่ง สอง..."
"เดี๋ยวๆ ผมยังไม่พร้อม" ชยุตม์บอก แล้วทำตัวอ่อนจะนอนราบบนพื้นอีกครั้ง
"ไม่ต้องเดี๋ยวแล้ว" โชคดีไม่ยอมปล่อย กลับบอกให้ชยุตม์แข็งใจ "กอดไว้แน่นๆ อย่าปล่อยมือนะ ผมนับถึงสาม คุณช่วยดันตัวส่งด้วย"
ชยุตม์กอดโชคดีแน่นอีกครั้ง คราวนี้เขาซุกหน้าเข้ากับซอกคอของชายหนุ่มแล้วแอบสูดดมเอากลิ่นกายของคนที่เขานอนคิดถึงมาอาทิตย์กว่าๆ
...เนื้อตัวของโชคดีอุ่นจริงๆ ขนาดมีเสื้อผ้าขวางกั้นยังอุ่นขนาดนี้ ถ้าได้ถอดเสื้อผ้า เนื้อแนบเนื้อจะอุ่นขนาดไหน...
"โชคดี ผมรักคุณ" ชยุตม์เผลอหลุดปาก ตอนนี้เขาใกล้ชิดโชคดีมาก สัมผัสอบอุ่นทำให้เขาทนไม่ได้
แต่ชยุตม์เลือกเวลาผิด เพราะทันทีที่บอกรักโชคดี ฝ่ายนั้นก็ปล่อยร่างของเขาให้หล่นลงพื้น ชยุตม์ไม่ทันระวัง แขนสองข้างที่โอบโชคดีเอาไว้จึงกระตุกโดยสัญชาตญาณ ดึงเอา 'คนใจร้าย' ล้มลงมาด้วย
"ปล่อยนะ" โชคดีเสียงเข้มทันที
ชยุตม์นัวเนียวชั่วไม่กี่วินาทีแล้วปล่อยแขนโดยง่ายเพราะกลัวจะโดนต่อย
"ทำอะไร"
"ผมเพิ่งบอกรักคุณ" ชยุตม์มองหน้าโชคดีนิ่ง
"มาพูดอะไรตอนนี้" โชคดีไม่ลุกหนี แต่หันหลังนั่งกอดเข่า ทำเสียงงึมงัมในลำคอเหมือนบ่นอะไรซักอย่าง
ชยุตม์นอนหงายอยู่บนพื้น ตามองแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นมาเสียงเบา
"จะต่อยผมให้เจ็บๆ ผมก็ยอมนะครับ ถ้าแลกกับการได้บอกรัก ผมยอมเจ็บ ผมยอมคุณทุกอย่าง"
...ยอมไปก่อน รอให้เขาหายก่อนเถอะ...
...รอให้เป็นของเขาก่อน...
ชยุตม์นิ่งเงียบ กลั้นใจรอฟังคำตอบของโชคดี
"แล้วนี่จะนอนยังไง มีห้องนอนอยู่ห้องเดียว บ้านออกหลังใหญ่ พ่อคุณนี่สร้างบ้านยังไงไม่รู้" โชคดีเฉไฉพูดเรื่องอื่น
...ม.ท. 1 ก็ ม.ท. 1 เถอะ เจออีกทีละน่าดู หลอกให้เขามาหลบชยุตม์ที่ระนอง แต่กลับพาลูกชายมาส่ง...
...ทำเหมือนส่งเข้าห้องหอยังไงยังงั้น...
"ผมก็นอนเตียงสิครับ เจ็บขาจะแย่ ผมต้องนอนที่นุ่มๆ" ชยุตม์ให้เหตุผล
"เจ็บขานะ ไม่ใช่เจ็บหลัง" โชคดีเสียงห้วน "หรืออยากจะหลักหัก จะได้นอนนานๆ"
"คุณรักผมไหมโชคดี" ชยุตม์ย้อมกลับมาเรื่องเดิม ตัดสินใจรุกประชิด ไหนๆ ก็บอกรักแล้ว เขาต้องบีบให้โชคดีรับรักเขาให้ได้
"จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา คุณก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ผมไม่ชอบเป็นตัวกลางเข้าแทรกระหว่างความสัมพันธ์ใคร คุณจักรเป็นคนดี คุณไม่ควรทำร้ายคนรักแบบนั้น"
"อดีต..." ชยุตม์พูดเสียงนุ่ม "แล้วแฟนคุณก็กลายเป็นอดีตไปแล้วเหมือนกัน"
โชคดีหันขวับมามองคนเจ็บที่นอนแผ่อยู่บนพื้น "ใคร ใครเป็นแฟนผม เอาอะไรมาพูด"
"ผู้กองปฐพีเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ตอนนี้คุณโสดแล้ว อย่าปฏิเสธผมเลย มารักกันเถอะนะ ผู้กองบอกว่าผมจะรักคุณก็รักได้เลย"
...หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้นะชยุตม์ ไม่รู้หรือไงว่ายิ้มแบบนี้กำลังจะทำให้เขาใจอ่อน...
โชคดีเม้มปาก นึกฉุนปฐพีขึ้นมาทันใด
...มีสิทธิ์อะไรมายกเขาให้ชยุตม์...
"เรารักกันไม่ได้หรอก" โชคดีพูดเสียงสะบัด "แม่ของเราสองคนมีความหลังกันแปลกๆ เกิดเราเป็น..."
"พี่ชายกับน้องชาย" ชยุตม์แทรกแล้วหัวเราะเสียงดังจนทำให้อีกฝ่ายหันมามองตาขวาง
"คุณนี่ช่างถนัดคิดเองเออเองจริงๆ เลย คิดมากอีกต่างหาก" ชยุตม์ตำหนิ นัยน์ตาพราวระยับ
"ก็ใครจะไม่คิดล่ะ"
"ผมถามคุณแม่แล้ว คุณแม่เล่าเรื่องในอดีตให้ผมฟังหมดแล้ว ถ้าไม่แน่ใจ ไปตรวจดีเอ็นเอกันก็ได้ พอรู้ผลให้คุณได้สบายใจแล้วค่อยตอบตกลงเป็นแฟนกันผม" ชยุตม์เสนอทางเลือก
"บ้า" โชคดีกระแทกเสียง "แล้วนี่ทำไมไม่เล่าให้ผมฟัง รู้แล้วทำไมเก็บงำเอาไว้"
"แล้วคุณให้โอกาสผมหรือ จ้องจะทำร้ายผมอยู่นั่น พูดอะไรคุณก็ทำท่าจะกัดผมเสียให้ได้" ชยุตม์พูดยิ้มๆ แล้วรีบขยับตัวโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นตาของโชคดีลุกวาบ
"หาว่าผมเป็นหมาหรือ"
"โธ่ เปล่านะครับ คุณนี่คิดมาจริงๆ เลยหมูปิ้ง" ชยุตม์หน้ามุ่ย ลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่น
"หยุดเรียก ห้ามเรียก อย่ามาเรียกชื่อเล่นผม ชื่อนี้สำหรับคน..."
"คนรักกัน ผมรักคุณ ผมจะเรียก จะต่อยผมก็เอาสิ ผมไม่มีทางสู้แล้วนี่ นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นแบบนี้แล้ว ต่อยได้เลย กระทืบซ้ำก็ยังได้"
"อย่าท้านะ"
"ถ้าผมท้า คุณจะทำจริงหรือเปล่าล่ะ โอ๊ย..." ชยุตม์ร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายชกเข้าที่หัวไหล่
"นี่แค่เบาะๆ โทษฐานที่หลอกลวงผม"
"หลอกเรื่องอะไร" ชยุตม์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"เรื่องเจ็บหนักไงล่ะ ออกข่าวมาได้ แล้วบอกให้ทุกคนปิดโทรศัพท์ ไม่ติดต่อ แล้วสมคบกับพ่อคุณหลอกผมมาที่นี่"
"เรื่องอื่นผมยอมรับผิด" ชยุตม์ทำหน้าจริงจัง มือขวาลูบต้นแขนซ้ายป้อยๆ เพราะความเจ็บ "แต่เรื่องพ่อผมหลอกคุณ ผมไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ พ่อทำไปโดยพลการ"
"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มายุ่งอะไรกับเรื่องภายในของ..."
"คนในครอบครัว" ชยุตม์แทรก "ไม่เห็นหรือครับ ขนาดพ่อผมยังยอมรับและเห็นด้วย เพราะฉะนั้นคุณอย่าใจแข็งต่อไปเลยนะ"
"เราไปกันไม่ได้หรอก เราอยู่กันคนละโลก" โชคดีทำหน้าเคร่งขรึม "คุณเป็นคนเมือง ผมเป็นคนท้องถิ่น จะให้ผมมาอยู่กรุงเทพฯ กับคุณนั้นไม่มีทาง คุณจะไปอยู่เมืองเล็ก รับจ้างสร้างโกดังกับห้องแถวก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน"
"พูดซะเสียหาย"
"วิถีชีวิตของเราต่างกัน แล้วเรื่องจะอยู่คนละที่แบบ long distance relationship นั้นฝันไปเถอะ คนเรามันต้องช่วยกันทำมาหากิน" โชคดีพูดเสียงเรียบ
"รู้ศัพท์สวยด้วยแฮะ" ชยุตม์ล้อ
"ผมไม่ใช่คนโง่นะ เห็นเป็นคนบ้านนอก ผมก็มีการศึกษา" โชคดีหันขวับมาทำตาดุ
"ผมรู้ ทำไมจะไม่รู้ ผมเข้าใจ คุณก็ต้องเข้าใจด้วยนะหมูปิ้ง"
"บอกแล้วว่าอย่า..."
ชยุตม์เอื้อมมือไปแตะแขนชายหนุ่มผู้ไม่ชอบชื่อเล่นของตัวเองแล้วรีบพูดขึ้นว่า "ผมตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ของเรามันก็คงไม่ง่ายนักหรอก ที่จริงความสัมพันธ์แบบเราๆ ก็ไม่ง่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ด้วยกันหรืออยู่ห่างกัน อยู่ในเมืองใหญ่หรืออยู่ในเมืองเล็ก แต่ผมพร้อมจะปรับตัว พร้อมจะฝ่าฟัน คุณมั่นใจในตัวผมได้เลย ผมไม่ใช่คนเหลาะแหละ ผมเป็นคนอดทนและไม่ท้อถอยง่ายๆ"
"แต่คุณก็ยอมถอยเรื่องประตูน้ำรีสอร์ท" โชคดีเสียงอ่อนลง ชยุตม์ยิ้มมุมปากที่ชายหนุ่มยอมเข้าใจเขา แต่ประโยคต่อมาทำให้ต้องส่ายหน้า "แสดงว่าที่จริงคุณก็ไม่มุ่งมั่นจนสุดชีวิต"
"ผมยอมเพราะผมรักคุณไงครับ ไม่รักไม่ยอมหรอก" ชยุตม์เสียงนุ่ม ประกายตาที่มองโชคดีฉายแววอบอุ่บพร้อมส่งผ่านความในใจให้ชายหนุ่มได้รับรู้
"แต่เราต้องทำข้อตกลงกันหลายข้อนะ" โชคดีพูดเสียงเรียบ ใบหน้าคาดคั้น
"ได้ครับ แต่ต้องให้ผมเสนอแนะด้วย จะเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวไม่ได้" ชยุตม์พยักหน้า ต่อรอง ตอนนี้ในอกพองโตเพราะโชคดียอมรับเขาแล้ว แม้จะเป็นการยอมรับแบบกลายๆ และไม่เป็นทางการเขาก็พอใจ
...ยอมรับในแบบของโชคดี...
...เสียดาย น่าจะมีเทปบันทึกเสียงเอาไว้...
"ประเทศเราเป็นชาติประชาธิปไตย" ชยุตม์ย้ำเพื่อความมั่นใจว่าเขาจะต้องมีสิทธิ์มีเสียงด้วย
"ไม่มีอะไรในโลกนี้เที่ยงธรรมเสมอไปหรอกนายช่าง" โชคดีพึมพำเบาๆ ทำทีเหมือนคนยอมรับสัจธรรมชีวิต
...เอาซะแล้วไหมล่ะ แค่นี้ก็ฉายแววว่าแฟนคนนี้จะควบคุมให้อยู่ในโอวาทได้ยากลำบากซะแล้ว...
...แต่ก็เอาเถอะ ยังไงๆ เขาก็ต้องยอมให้โชคดีก่อนบ้าง พอเป็นของเขาแล้ว ค่อยตะล่อมและดัดนิสัยไปทีละน้อย...
...ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะถึงเวลาจู๋จี๋กันได้แล้ว จะให้นอนแผ่อยู่บนพื้นไม้แบบนี้ ชักจะปวดหลัง...
"โอ๊ย เจ็บ โชคดีครับ ผมมีความรู้สึกว่าเหล็กที่ดามอยู่ในขาอาจจะหลุด ผมเจ็บมาก เหมือนมีมีดกำลังแซะเส้นเอ็นในขาผมยังไงยังงั้น" ชยุตม์คราง ทำหน้าบูดเบี้ยว
...ชยุตม์ก็เจ้าเล่ห์เป็นครับคุณโชคดี จะใจร้ายไม่ดูดำดูดีแฟนก็ให้รู้ไป...
"แล้วล้มลงมาทำไม ทำเป็นอวดเก่งจะเดินออกจากห้อง แล้วยังคิดว่าจะลงบันได้บ้านได้อีก คุณนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ ให้ตายสิ" โชคดีบ่นแล้วพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ
...เฮ้อ ร้ายไม่มีใครเหมือน ขนาดนี้แล้วยังทำท่าเหมือนจะหักคอเขาซ้ำเติม...
"โอย โอ้ย โอ๊ย เจ็บ ช่วยผมด้วย" ชยุตม์ร้องดังกว่าเดิม หลับตาปี๋ แสดงอาการให้รู้ว่าเขาจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"อดทนหน่อยสิ ไป๊ ขึ้นไปนอนบนเตียง" โชคดีตั้งท่าจะพยุงชยุตม์ "ตัวหนักจริงๆ เลย คุณลดอาหารบ้างนะ"
"ครับ" ชยุตม์รับคำแล้วแอบยิ้ม
"เอ้า กอดคอผมไว้ พอลุกขึ้นนั่งก็พักนิดนึง แล้วเปลี่ยนมากอดเอว ผมจะดึงตัวขึ้น แล้วอย่าปล่อยมือ" โชคดีสั่งเป็นขั้นตอน
...ได้กอดแล้ว ไม่ปล่อยง่ายๆ หรอก...
"คุณนั่นล่ะอย่าปล่อยผม เหมือนเมื่อกี้ไม่เอานะ" ชยุตม์เตือน
"ก็อย่าพูดอะไรไม่เข้าหูสิ"
"ตอนนั้นผมบอกรักคุณนะครับหมูปิ้ง" ชยุตม์อุทธรณ์เสียงอ่อน
"แล้วเลิกเรียกชื่อนี้ซะที ไม่งั้นจะหาว่าร้ายไม่ได้นะ" คนชื่อแปลกปรามเสียงเข้ม หน้าขึงขัง
"ครับๆ ไม่เรียกแล้วครับที่รัก" ชยุตม์รับคำหน้าขึงขังเช่นกัน
"เดี๋ยวเถอะๆ" โชคดีทำเสียงดุ ก่อนจะออกแรงดึงตัวชยุตม์ขึ้นนั่ง
วิศวกรหนุ่มเลิกพูดอะไรไม่เข้าหูผู้ที่ให้การช่วยเหลือเพราะกลัวว่าจะโดนปล่อยกับพื้นเสียดื้อๆ ซึ่งเขาค่อนข้างมั่นใจว่าโชคดีคงจะทำเช่นนั้นจริงๆ โดยไม่รั้งรอแม้แต่นิด ชยุตม์จึงเอาแต่ร้องโอดโอยว่าเจ็บเพื่อทำตัวให้น่าสงสารและเรียกร้องความสนใจ
...รออีกหน่อย เขาจะแกล้งอาการทรุดหนัก คืนนี้ก็จะเพ้อ อ้อนให้โชคดีเข้ามานั่งเฝ้าข้างเตียงให้ได้...
...แต่จะให้ขึ้นมานอนปลอบบนเตียงคงเป็นไปได้ยาก อันนี้เขายังไม่กล้าคิด แม้จะน่าลองดูก็ตามเถอะ ตอนนี้ขอแค่นี้ก็พอใจแล้ว ยังไงๆ เขาก็จะเผด็จศึกโชคดีให้ได้ก่อนถอดเฝือก...
...อืม หรือไม่ก็อาจต้องเตรียมแผนสำรอง นั่นก็คือ ทำให้โชคดีบอกรักเขาให้ได้ก่อนถอดเฝือกอาจจะง่ายกว่า พอหายแล้วค่อยทำอย่างว่ากัน...
...งานนี้ท้าทายยิ่งกว่าสร้างตึกร้อยชั้นกลางเมืองใหญ่เสียอีก...
...ไม่นึกเลยว่าจะมารักคนร้ายๆ แต่ก็เพราะร้ายนี่ล่ะ เขาถึงรัก...
...ร้ายนัก รักซะเลย...
********The End********

ขอบคุณผู้อ่านทุกอ่านที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจและกดคะแนนให้นะครับ ผู้เขียนมีความสุขที่ได้เข้ามาโพสและอ่านคอมเมนท์น่ารักๆ ทุกรี นะครับ
ผมตระหนักว่าคงมีบางคน "ค้าง" เติ่งแน่ๆ อันนี้ต้องฝึกทำอารมณ์และปล่อยวางเรื่องกามารมณ์หน่อยก็ดีนะครับ นิยาสเรื่องนี้มันเรท PG เด็กอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี จะให้พระเอกกับนายเอกจู๋จี๋กันก็เอาแต่พองาม อย่าให้ถึงกับเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเลย และอีกอย่าง ตอนจบก็ต้องทำให้เป็นเหตุเป็นผล เพราะที่เซฟเฮาส์ของท่านรัฐมนตรีฯ คงไม่มีถุงยางและ KY ติดบ้านไว้เป็นแน่แท้ และตอนที่พ่อเอาลูกชายมาส่งก็คงไม่ยัด Durex กับ เจลใส่กระเป๋ากางเกงลูกหรอกนะ
เพราะฉะนั้น มันเลยจบแบบไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อด้วยประการฉะนี้
อนึ่ง หากมีอารมณ์ ก็จะพิมพ์บทพิเศษครับ ตอนนี้คอมที่บ้านเดี๊ยง ลงวินโดว์มิได้ และผู้เขียนก็ตกงานเรียบร้อย แอบมาใช้คอมที่ทำงานเก่าก็ยังไงๆ อยู่นะ  :pigha2:

เดี๋ยวมาโพสโปรแกรมหน้าครับ ขอไปพยายามปลอกมะม่วงก่อน เีสียเงินซื้อข้าวเหนียวมะม่วงมาหนึ่่งชุด แม่ค้าไม่ยอกมปลอกให้ เมียก็ไม่มี ต้องทำกับข้าวเอง ซักผ้ารีดผ้า กวดบ้านถูบ้าน กินข้าว ทำทุกอย่างเองหมดเลย น่าสงสาร
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Zarch_Chabu_Chabu ที่ 14-06-2009 17:19:42
 :sad11:ขอบคุณพี่นายนะครับที่โพสให้อ่านจนจบสนุกมากเลย หวังว่าเรื่องหน้าคงไม่ทำให้ผิดหวังนะครับ o18
ปล.ไอ่งานบ้านที่ว่ามาน่ะผมว่าไปจ้างแม่บ้านมาทำดีกว่าครับเดี๋ยวห้องจะกลายเป็นรังหนูซะก่อน5555555 o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 14-06-2009 18:02:54
อ่านมานาน เข้ามา +1 ให้กะตอนจบ  :sad11:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 14-06-2009 18:14:25
อุกรี๊ดดดดดหมูปิ้งโดนคุณพ่อท่านลวงมาบ้านพักส่วนตัว 55
เข้าล๊อกกันเลยทีเดียว โหย แบบนี้หมูในอวยชัดๆ
ส่วนนายช่างก็นะ ว่าจะได้บอกรักต้องเจ็บตัวแล้วเจ็บอีก
นี่ท่าจะเผด็จศึกสงสัย ส่วนล่างต้องพิการหรือไม่ก็ต้องเจ็บหนักอีกแน่ๆ55
หมูปิ้งนี่มันน่ารักจริงๆ ม้าศึกผยศได้ใจมากๆ  :-[

ปล.  o13 เยี่ยมคะ PG ก็ PG ใสๆ มะเสียเลือด :jul1:
อวยให้คุณคฑาวุธปลอกมะม่วงแล้วได้กินมะม่วงนะคะ
ไม่ใช่เหลือแต่เม็ดมะม่วง  :m20:

หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-06-2009 21:18:30
อะไรกันจบแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย แต่หมูปิ้งก็ยังเป้นหมูปิ้งร้านจนหยดสุดท้ายจิงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 14-06-2009 22:20:16
เข้าใจในเหตุผลที่บอกนะครับ บางครั้งการได้อ่านอะไรที่มีที่มาที่ไป

ก็ไม่จำเป็นต้องลงในรายละเอียดทั้งหมดก็ได้

ขอบคุณครับ พี่นาย ที่แต่งเรื่องสนุก ๆ มาให้ได้อ่านเป็นประจำ

แต่ไอ้ที่บ่น ๆ นะ ใช่ชีวิตจริงหรือครับ ไม่ค่อยอยากเชื่อเลย

เป็นกำลังใจให้แล้วกัน +1 ให้อีกเป็นการเพิ่มแต้มนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-06-2009 22:24:01
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ ค่ะ

หวังว่าจะได้อ่านตอนพิเศษของเรื่องนี้อีกนะคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-06-2009 23:21:49
แบบนี้น่ารักดีค่ะ ขอบคุณในความเหน็ดเหนื่อยค่ะ รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 14-06-2009 23:29:24
ก่อนอื่น    +1  ให้กับควานสำเร็จของนายช่างนะคร้าบ


ขอบคุณเรื่องราวดีๆนะคร้าบ


เฮ้อมีความสุขจังคร้าบ   นอนดีกว่า


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 14-06-2009 23:37:20
+1ให้กับความน่ารักของคนแตง
รับสมัครแม่บ้านหรือเปล่าจ๊ะ
สาวเสียบแก่อย่างป้านี่น่าจะพอไหวนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 14-06-2009 23:46:31
+1 ให้เลย

ชอบมากอ่ะ เรื่องนี้

อิอิ

ถ้ามีตอนพิเศษมาต่อก็จะดีมากเลยน้า
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 15-06-2009 00:58:23
ขอ NC ซักนิดได้ม๊ะพี่นาย  :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทที่ 22 (14/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-06-2009 08:51:06
ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี สำหรับคะแนน สำหรับความคิดเห็น สำหรับการติดตามอ่าน สำหรับการเสนอตัวช่วยให้คลายเหงา สำหรับการเป็นเพื่อน สำหรับการอยากอ่านฉากอย่างว่า (แต่ว่าผู้เขียนอายที่จะเขียนอ่ะ และนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าโชคดีจะขึ้นคล่อมชยุตม์แบบเอ็กซ์ๆ ยังไง เลยนึกถึงบทรักของสองคนนี้ไม่ออก)
วันนี้ก็มาโพสตอนพิเศษให้อ่านครับ เขียนไว้แล้วล่ะ พอดีได้มีโอกาสพิมพ์ ก็ใช้เวลาหน่อยเพราะต้องแกะลายมือคุณคุฑาวุธ คนอะไร เขียนหวัดจนสี่ตาอ่านก็ไม่ออก น่ายุให้หาแฟนมาช่วยสอนคัดลายมือ

11 มิถุนายน
น่าน

"โต๋ นายช่างไปไหน" โชคดีออกมาจากห้องทำงาน ยืนเท้าสะเอว มองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นโต๋กำลังนั่งนับสินค้าอยู่จึงถามออกไปเสียงดัง
"เอาเหล็กไปส่งครับ"
"อ้าว แล้วทำไมไปเอง น้าพงษ์ไปไหน แล้วทำไมเอ็งไม่ไปด้วย"
"ไม่ไปกับลุงพงษ์หรือไม่ไปกับนายช่างครับ" โต๋ถามหน้าซื่อ
"เดี๋ยวเถอะๆ" โชคดีถลึงตาใส่เด็กหนุ่มที่ยกมือเกาหัวแกรกๆ เพราะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าถูกดุเพราะอะไร
"แล้วทำไมไม่ไปดูลูก มานั่งนับของทำไมตรงนี้"
"นายช่างให้ผมนับ" โต๋ตอบเสียงเบา
"ใครเป็นเจ้านายแก" โชคดีเสียงเข้ม ตาขวาง "ไปดูลูกช่วยเมียโน่น ลูกป่วยยังจะทิ้งให้เมียดูลูกคนเดียวอีก"
"ครับ ไปแล้วครับ" โต๋รีบลุกขึ้นแล้วผลุบหายเข้าไปหลังร้าน ปล่อยให้ "เจ้านายตัวจริง" ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในร้านยืนนับสินค้าแทน

โชคดีนับกล่องสินค้าเสร็จก็เดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าร้าน สูดเอากากาศสดชื่นของเช้าวันใหม่เข้าไปเต็มปอด คืนที่ผ่านมาฝนตกหนักมากทั้งคืน ชยุตม์ล้อเขาว่าไม่ต้องกลัวจะติดน้ำป่าแล้วเพราะอยู่บนตึกชั้นสาม
"ผมเริ่มรักคุณตอนนั้นล่ะ ตอนที่คุณทำหน้าอายๆ ในกระท่อมปลายดอยเมื่อเห็นผมนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หลงหุ่นผมละสิ ไม่นึกใช่ไหมว่านายช่างหน้าหล่อจะหุ่นดีด้วย หล่อทั้งตอนใส่เสื้อผ้าและถอนถอด"
"หลงตัวเอง หยุดพูดได้แล้วนายช่าง ผมจะนอน"
"อย่างเพิ่งสิครับ มาทะเลาะกันก่อนนอนซักหน่อยเถอะน่า"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกับคุณ"
"ผมอยากทะเลาะก่อนนอนทุกคืน"
"อย่านะ"
"เงียบเถอะ อย่าขัดใจ"
"นายช่าง"
"หมูปิ้ง"
"ฮื่อ"
"อูว"

โชคดียิ้มบางๆ เมื่อนึกถึง 'การทะเลาะ' กันเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วหันหน้าเข้าหาร้านที่เคยเป็นร้านโชคดีค้าเหล็ก ตอนนี้ร้านสามคูหาขยายใหญ่กว่าเดิม โกดังขนาดใหญ่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่โดยฝีมือของวิศวกรคนเก่งที่เคย 'ผ่านการฝึกงาน' สร้างตึกร้อยชั้นมาแล้วหลายแห่งในหลายประเทศ
"อย่าให้หลังคาพังตอนพายุมานะนายช่าง ไม่งั้นโดนฟ้องร้องค่าเสียหาย" เจ้าของโกดังขู่
"ไปร้องเรียน ม.ท. 1 เลยยังได้ ผมไม่กลัวหรอก" วิศวกรหนุ่มยักไหล่ ก่อนจะแบมือขอค่าจ้าง
"ข้าวฟรีสามมือกับที่ซุกหัวนอนก็พอแล้ว" เจ้าของกิจการค้าวัสดุก่อสร้างหน้าเลือดตอบเสียงห้วน ตีมือวิศวกรที่ยื่นมาตรงหน้า
"หน้าเลือดไม่มีใครเกิน เวลารับงานก่อสร้างผมจะไม่มาสั่งของร้านโชคดีวัสดุภัณฑ์"
"ลองดูสิ ถ้าชยุตม์เอ็นจิเนียริ่งไปสร้างห้องแถวที่ไหน ผมจะตามไปประท้วง"
"ดี ผมก็จะประท้วงไม่ยอมทำการบ้านบ้าง"
"ขอให้จริงเถอะ"
"อย่ามาสะกิดผมก็แล้วกัน"
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวโดนต่อย"
"ต่อยก็จูบ ผมชินแล้วล่ะ"
"คุณนี่วิตถาร ชอบโดนทำร้าย"
"อยู่กับคนซาดิสม์ ทำไงได้"
"น้อยๆ หน่อยนะนายช่าง"
"ร้ายจริงๆ คนอะไรก็ไม่รู้"
"ร้ายแล้วมารักทำไม"
"เพราะร้ายไง เลยต้องรัก ร้ายนัก รักซะเลย"

ขณะที่ยืนอมยิ้มคิดถึงชยุตม์เพลินๆ โชคดีก็ได้ยินเสียงเครื่องขยายเสียงมาแต่ไกล หันไปมองก็เห็นแม่ของเขายืนเด่นอยู่บนรถหกล้อ มือถือไมโครโฟนหาเสียง ตอนนี้แม่เขาคิดการใหญ่ ลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. พรรคเดียวกันกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
"อย่าลืมนะคะพ่อแม่พี่น้อง เบอร์สองเท่านั้น รักเมืองน่าน เลือกเตือนใจ เบอร์สอง เลือกเตือนใจ สบายใจ หายห่วง"
เสียงของคุณโชคดีดังขึ้นเมื่อรถแล่นใกล้ผ่านหน้าร้านโชคดีค้าวัสดุก่อสร้าง ดนตรีเปิดดังกระหึ่มเพราะแม่ของเขาใช้เครื่องเสียงชุดใหญ่
"เลือกเตือนใจ พรรคสร้างสรรค์ไทย เบอร์สอง ถ้าต้องการความมั่นใจว่าเมืองน่านจะได้รับการพัฒนาอย่างแน่นอน ต้องเลือกเบอร์สองเท่านั้น"
โชคดียืนยิ้มกว้างอยู่หน้าร้าน ยกมือขึ้นโบกให้มารดา แต่ทันใดก็ต้องหุบยิ้มเมื่อคนที่ยืนเด่นอยู่บนรถตะเบ็งเสียงใส่ไมโครโฟนดังสนั่น ได้ยินไปทั่วทั้งท้องถนน
"หมูปิ้งลูกแม่ เชียร์แม่นะลูก เบอร์สอง พรรคสร้างสรรค์ไทย เตือนใจ เบอร์สองนะหมูปิ้งลูกรัก"
ยิ้มค้าง มือค้าง โชคดีกัดฟันกรอดๆ เมื่อมองออกไปนอกถนนเห็นประชาชนหลายคนกำลังอมยิ้ม ชายหนุ่มเลยหันหลังจะเข้าร้าน แต่เห็นใบหน้าของโต๋อยู่ใกล้ๆ
"ไอ้โต๋ แกออกมาทำไม กลับเข้าไปดูลูก" โชคดีทำหน้ายักษ์ใส่เด็กหนุ่มที่กำลังยืนอุ้มลูกชายอ้วนจ้ำม่ำอยู่ใกล้ๆ
"ก็...ลูกผมอยู่นี่" โต๋หน้าเสีย
"เสียงมันดัง เดี๋ยวเด็กแก้วหูแตก บอกอะไรก็ทำเถอะ"
"ผมมาให้กำลังใจนายแม่" โต๋ทำใจดีสู้เสือ
"เอาลูกมานี่" โชคดียื่นมือไปรับเด็กน้อยจามอ้อมแขนของพ่อวัยรุ่น แต่ทันทีที่เด็กหันมาเห็นว่าใครกำลังจะอุ้มก็ร้องจ้าดังลั่นแข่งกับเสียงของขบวนรถหาเสียงของว่าที่ ส.ส. คนใหม่
"อะไรวะ"
"โอ๋ๆ ขวัญมานะลูกนะ"
"ไอ้โต๋"
"อย่าอุ้มเลยนะครับ"
"เดี๋ยวเถอะแก สอนลูกให้เกลียดเจ้านายหรือ"
"ผมเปล่านะ เด็กมันยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
"แล้วทำไมมันร้องทุกที"
"ผมไม่รู้"
"ลูกแกนี่มันขวัญอ่อนจริงๆ"
"ลูกจ๋าอย่าร้องสิลูก โอ่ โอ๊ หยุดร้องนะลูก หยุดร้อง ลุงโชคดีแค่มองเฉยๆ ลุงเขาไม่อุ้มหนูหรอก"
"วอนซะแล้วไอ้นี่"
.............
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-06-2009 10:22:31
เด็กยังกลัวเลย....โถพ่อคุณโชคดี :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: canzaa ที่ 15-06-2009 10:39:49
ตกลงใครปราบใครหรือคับ  งงจิงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-06-2009 12:42:27
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 15-06-2009 12:49:33
ร้ายพอกันทั้งคู่ แบบนี้ถึงจะเดาทางกันได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-06-2009 13:27:45
20 ธันวาคม
น่าน
แปดปีผ่านไป


"หมูปิ้ง อย่าดุเด็กมันนักเลย เด็กมันกลัวจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว" ชยุตม์สะกิดคนที่ยืนทำหน้าดุใส่เด็กชายอภิรักษ์ หรือต๋อง ที่ยืนก้มหน้าอยู่หน้าร้านโชคดีเอ็นจิเนียริ่ง
"สอบได้คะแนนเท่านี้ โตขึ้นจะไปทำอะไรกิน ต้องขยันมากกว่านี้เข้าใจหรือเปล่า"
"ครับ"
"วิชาคณิตศาสตร์สำคัญก็จริง แต่วิชา ส.ป.ช. ก็สำคัญด้วย ถึงไม่ค่อยชอบก็ต้องตั้งใจเรียนวิชานี้ ครั้งต่อไปอย่าให้ตกอีกเป็นเด็ดชาด ไม่งั้นจะออกจากโรงเรียนมาทำงานเป็นเด็กยกของที่ร้าน"
"ครับ"
"ไปได้แล้ว"
เด็กชายอภิรักษรีบวิ่งปรูดหายเข้าไปหลังร้าน โชคดีส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะหันไปเอาเรื่องกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
"คุณก็เอาแต่สอนวิชาคณิตศาสตร์ เด็กมันทำข้อสอบเลขได้เต็ม แต่วิชา ส.ป.ช. ไม่เห็นได้เรื่อง สอนยังไง"
"ผมต้องสอนหลายวิชานะครับ ทั้ง ส.ล.น. ทั้งภาษาอังกฤษ ไม่ช่วยผมบ้างเลย เอาแต่หาเงิน จะเก็บทำไมมากมาย ตอนนี้คุณก็ฮุบกิจการผมไปแล้ว แบ่งเอาวิชา ส.ล.น. ไปสอนสิ"
"ไม่ต้องมาประชด คิดว่าผมสอน ส.ล.น. ไม่ได้หรือไง คุณน่ะไม่มีหัวการค้า เรียนเก่ง แต่เรื่องอื่นไม่ได้เรื่อง"
"อ้าว อย่ามาดูถูกกันแบบนี้สิหมูปิ้ง"
"จริงหรือเปล่าล่ะ เก็บเงินลูกค้าได้ช้าทุกราย เดือนร้อนผมต้องตามทวงให้"
"ผมเป็นวิศวกรนะครับ ถนัดสร้าง ไม่ใช่นักธุรกิจ"
"ต่อจากนี้ไปผมจะคุมเรื่องการเงินทั้งหมด"
"ตามใจ"
...ที่จริงก็คุมมาตลอดไม่ใช่หรือ...
"ส่วนเรื่องสร้างสนามยิงปืน ต้องไปคุยอีกรอบ"
"โธ่ หมูปิ้งครับ ตกลงกันไปแล้ว"
"เราเสียเปรียบ คุณไปตกลงยังงั้นได้ยังไง"
"ก็คนรู้จักกัน สารวัตรปฐพีนะโชคดี ไม่ใช่คนอื่น"
"ถึงงั้นก็เถอะ"
"ไม่ได้หรอก ผมตกลงกับสารวัตรไปแล้ว จักรก็รับรู้ด้วย อย่ามาทำให้เรื่องมันยุ่งยาก เรื่องนี้ผมขอค้านเด็ดขาด เป็นไงเป็นกัน"
"อ๋อ นี่คุณจะชวนผมทะเลาะหรือ"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกับคุณ"
"คุณจงใจขัดแย้งกับผม ไม่เรียกว่าชวนทะเลาะหรือไง"
"เปล่า ตอนนี้ยังบ่ายๆ อยู่เลย จะทะเลาะกันตอนนี้เลยหรือ"
"บ้า คนบ้า พูดอะไรไม่เข้าหู"
"น่านะ ยอมเขาหน่อยเถอะ ผมยังยอมคุณเลย"
"ผมก็ยอมคุณเหมือนกัน"
"เมื่อคืนยังตั้งนานกว่าจะยอม"
"หยุดพูดนะ เดี๋ยวใครได้ยิน"
"งั้นไปทะเลาะกันบนห้อง"
"เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวนี้ชักจะมากขึ้นทุกทีนะนายช่าง จะหาว่าร้ายไม่ได้นะ"
"ฮื่อ ยิ่งดุผม ผมยิ่งอยากทะเลาะ ยิ่งร้าย ยิ่งกระตุ้นให้ผมอยากทะเลาะ"
"คุณนี่จริงๆ เลย"
"นะ นะ"
..........
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 15-06-2009 13:47:29
 :jul1: หมูปิ้งน่ารัก

อย่าบอกนะว่เด็กชายอภิรักษ์ที่โดนดุไปเมื่อกี้เป็นลูกของโต๋อ่ะ
ไม่งั้นอ่ะ ฮาโคดดดดดดดดด โดนดุกันทั้งพ่อโต่และลูกโต๋ :m20:

ส่วนหมูปิ้งจะเข้มงวดไปไหนเนี่ย สงสัยต้องอยากให้เด็กน้อยเต็มวิชา
สปช.ด้วยสินะเนี่ย แค่นี้หยวนๆก็มะได้

เอิ่ม นายช่างไ่ม่ต้องบอกก็รู้แล้วนะว่าใครเป็นคราญช้างอ่ะ
ถึงเถียงเมียยังไง แต่ก็ยอมให้เมียทุกที 5555

882 แล้น อีกนิดใกล้พันตอนนี้ คุณคฑาวุธได้เมียครึ่งค่อนตัวแล้นนะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jajey9 ที่ 15-06-2009 14:51:40
โถ่.... คุณยุตม์
เปนคนเกลียมัว เหมือนคนแต่งเลยย

แต่น่ารักแฮะ  เหมือนคนแต่งเลยยย  น่ารักไม่มีจางงงง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 15-06-2009 14:56:58
หมูปิ้งยังดุอยู่ไม่เสื่อคลายทีเดียว
แล้วเด็กชายอภิรักษ์นั่น ลูกโต๋ ???



ฮ่า ๆๆๆๆๆ  :m20:




พ่อโดนยังไง ลูกก็โดนยังงั้นแหล่ะนะเนี่ย ฮ่าๆ  :laugh:
แต่ขำสุดคือนายช่าง ไปไหนไม่รอดซะแล้วเนี่ย
ต้องทำงานอยู่ที่เมืองน่านรับใช้โชคดีตลอดไปเสียด้วย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-06-2009 15:12:13
25 ธันวาคม
หลายปีต่อมา
แวนคูเวอร์

"ไหนว่ากลัวความสูง โกหกผมนี่นา" ชยุตม์สอดแขนเข้ามาจากทางด้านหลัง โอบเอวคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงมองแสงไฟระยิบระยับนอกหน้าต่าง
"สวยจริงๆ เลย" โชคดีอุทานเบาๆ
"ผมบอกคุณแล้ว มุมมองแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน" ชยุตม์กระซิบข้างหูของอีกฝ่าย
"แต่ผมก็ยังชอบแม่น้ำน่านตรงสะพานมากกว่าอยู่ดี" โชคดีหันไปยิ้มให้วิศวกรหนุ่มใหญ่ผู้เป็นคนก่อสร้างตึกสูงเสียดฟ้าแห่งนี้
"ผมก็เหมือนกัน" ชยุตม์ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของอดีตพ่อตัวร้ายแห่งเมืองน่าน "คุณชอบที่ไหนผมก็ชอบที่นั่น จำได้ไหมครับหมูปิ้ง คุณบอกว่าคุณรักเมืองน่านมาก และผมบอกว่ารักทุกแห่งที่ผมอยู่กับคนที่ผมรัก คุณรู้สึกเหมือนผมไหมครับ ตึกนี้ผมสร้างเป็นตึกแรก ผมภูมิใจมาก"
"ผมรักตึกนี้เหมือนกัน" โชคดีหันไปยิ้มอย่างอ่อนโยนให้วิศวกรคนเก่งทีเป็นเจ้าของหัวใจดื้อๆ ของเขาแล้วจูบคางของอีกฝ่ายเบาๆ
"แต่ขออย่างหนึ่ง เลิกเรียกชื่อเล่นซะทีเถอะ อย่างน้อยก็ตอนนี้ มันไม่โรแมนติก อย่าทำลายบรรยากาศ" โชคดีของร้อง
"บรรยากาศอะไรครับ"
"ก็บรรยากาศอะไรเล่า ถามได้"
"ถามนิดหน่อย ทำไมต้องต้องทำเสียงดุ จะชวนผมทะเลาะอีกแล้วใช่ไหม"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกันคุณ"
"ผมอยากทะเลาะ อยากทะเลาะทุกคืน คืนละนานๆ อยากทะเลาะตอนนี้"
"มาทะเลาะอะไรกันตอนนี้ ตรงนี้นี่นะ กระจกรอบแบบนี้ เดี๋ยวคนเห็น"
"สูงขนาดนี้ใครจะมาเห็น มีแต่เทวดานั่นล่ะจะมาเป็นกรรมการตอนเราทะเลาะกัน"
"หนาว"
"ทะเลาะต่อยตีกันหน่อยเดี๋ยวก็เหงื่อออก"
"อย่าทะเลาะนานนะ"
"ครับที่รัก"
"ฮื่อ"
"รักผมไหมหมูปิ้ง"
"บอกแล้วว่าอย่าเรียก เดี๋ยวโดนต่อยนะ"
"ต่อยเลยสิ เอาให้ปากแตกไปเลย"
"จะเลาะฟันออกซักซี่"
"ที่ซี่ก็ได้ ยอม"
"คุณนี่อาการหนักแล้วนะ ต้องเจ็บก่อนทุกครั้งไปหรือ"
"ทะเลาะกันมันก็ต้องเจ็บบ้างเป็นธรรมดา"
"คุณนี่เป็นเอามาก"
"ตอบมาก่อนสิ รักผมไหมครับ"
"ถ้าไม่รักจะยอมให้ขนาดนี้หรือ ถามอยู่ได้"
"รักผมหรือเปล่า"
"รักสิ"
"รักใคร พูดซิ พูดออกมา"
"รักนายช่าง"
"นายช่างชื่ออะไร"
"อือ...นาย...ช่าง...ชื่อ...ช...ยุตม์"
"รัก...ใคร...นะ..."
"รัก...ชยุตม์"
"อูวว..."

ขอบคุณสำหรับคะแนนะครับ ไหนก็ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว ก็เลยแจกใบสมัครรอไว้ก่อน
(http://upic.me/i/d9/fanapplication.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 15-06-2009 15:37:53
 :o8: :-[ :impress2:

อุกรี๊ดดดดดด จะชวนทะเลาะกันในตึกสูงๆ อั๊ยยย :z1:

"ผมรักตึกนี้เหมือนกัน" โชคดีหันไปยิ้มอย่างอ่อนโยนให้วิศวกรคนเก่งทีเป็นเจ้าของหัวใจดื้อๆ
 ของเขาแล้วจูบคางของอีกฝ่ายเบาๆ

>> หมูปิ้งทำอะไรน่ารักๆแบบนี้ก็เป็นด้วย อั๊ยยยยย นายช่างได้เป็นเจ้าของหัวใจดื้อๆนั่นแล้ว
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ส่วนใบสมัครนั่น  หุหุ มีกำหนดปีเกิดด้วยแหะ
ท่าทางจะไม่ชอบเด็กนะเนี่ย 5555  :laugh: คุณนาย นาทีนี้ก็เอาไว้ก่อนเหอะ
ถ้าคุณสมบัติร้อยแปดอย่างผ่านอ่ะ แต่อายุน้อยนี่ก็หยวนๆแล้วกันนะ  :o8:

เด๋วไปเทรนเด็กในสังกัดให้นะคะให้หัดแยกระหว่างลูกเกดกับบลูแบรี่อบแห้งให้ได้ :m20: ฮาโคตร

โถ่ๆๆ ส่วนค.สามารถพิเศษลีลายิมนาสติกอะไรนั่นมะต้องหัดมากหรอกเราเชื่อว่า
เมื่อถึงเวลาทุกคนจะโชว์ค.สามารถพิเศษพิสดารแบบนี้ได้ทุกคนสิท่า :oo1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-06-2009 16:11:38
  :try2: เห็นใบสมัคร เข้าใจเลยทำไมยังโสด
พ่อเจ้าประคุณ ช่างสรรหาสรรพคุณ ยิ่งกว่ายาผีบอกอีก
หาได้เมื่อไหร่มาแจ้งข่าวนะคะ จะร่มฉลองด้วยคน กร๊ากกกกกกกก
ดูคุณสมบัติแล้ว ต้องเป็นคนที่เหนือคนจริงๆ :o11:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 15-06-2009 16:12:22
โอยยยยย ไปทะเลาะกันถึงแวนคูเวอร์เลยนะเนี่ย
แล้วทะเลาะกันอิท่าไหน เทวดาที่มาเป็นกรรมการให้เค้าคงตัดสินไม่ได้หรอกว่าใครชนะ ฮ่าๆ  :m20:



ว่าแต่ นานๆเข้า หมูปิ้งเองก็มีแววน่ารักขึ้นนะเนี่ย
ยังหันไปจูบคางนายช่างด้วย น่ารักจริงๆ >x<



กว่าจะรักกันได้ เหนื่อยอย่างนี้เอง ฮ่าๆๆๆ ~




ใบรับสมัครของพี่นายนี่แบบว่า ,,
ทำไมไม่เอาปริญญาเอก ? ฉลาดไป ? 55555+


ความสามารถพิเศษ เมื่อถึงเวลา อะไรที่ซุกซ่อนอยู่มันก็แสดงได่เอง่ะน่า  :m20: :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 15-06-2009 16:29:05
ถือว่าเป็นครั้งที่สองของเรื่องนี้หรือป่าวครับ ที่หวานจนยิ้มได้อะแถม :o8:อีกตังหาก
แต่รู้สึกว่า ชยุตม์ชอบจะชวนโชคดีทะเลาะตลอดเลยนะครับ
ถามมีถามความรู้สึก กัน ณ สถานที่แรก ที่ชยุตม์สร้างด้วย สวีท ซะไม่มี   :impress2:

แถมตอนท้ายมีแจกใบสมัคร อยากนี้แล้ว ต้องมีการเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยหรือป่าวครับ
แต่รู้สึกตั้งข้อกำหนดไว้เยอะจังเลยนะครับ เอาเป็นว่า หาให้เจอแล้วกันนะครับ จะได้หายเหงาเสียที
แล้วจะได้มีนิยายหวาน ๆ ให้อ่านอีกเยอะ ๆ คร๊าบ
+1 ให้กับพี่นายที่น่ารักดีกว่า
รอเรื่องใหม่ด้วยนะครับ



หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: jajey9 ที่ 15-06-2009 17:28:35
 :กอด1:  พี่คฑาวุธ

ผมอยากกรอกใบสมัครอ่ะ  แค่ปีเกิดม่ายด้ายยยย
เอาไว้จะช่วยหาคนมากรอกนะ  อิอิ

หมูปิ้งยังคงความดุ และน่ารักไว้ได้เสมอ
คุณยุตม์ก็ ช่างหวานได้ตลอดนะ (ชอบซาดิสต์เหมือนกัน)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 15-06-2009 18:35:49
หนึ่งปีต่อมา
กรุงเทพมหานคร

"ตกลงเราจะได้งานนี้ไหมครับ" โชคดีเอนตัวไปถามคนที่อยู่ข้างๆ เสียงเบา
"ไม่น่าพลาด คุณพ่อหนุนเราอยู่แล้ว ว่าแต่โชคดีเถอะ อย่าทำให้เสียเรื่อง" ชยุตม์ตอบ มือประสานอยู่บนตัก ตามองผ่านกระจกไปยังคนสามคนในชุดสูทสีเข้มที่กำลังเดินผมุ่งหน้ามายังห้องประชุม
"พูดให้ดีๆ นะ"
"โชคดี เรามาเจรจาธุรกิจนะ ไม่ได้มาท้าตีท้าต่อย ให้ผมเป็นคนพูด ไม่พอใจอะไรคุณก็ยิ้มเอาไว้ก่อน แล้วค่อยกลับไปเตะกระสอบทรายที่บ้าน" ชยุตม์พูดเสียงเนิบนาบอย่างใจเย็น
"เตะกระสอบทรายไม่เห็นจะมันส์เลย" โชคดียักไหล่
"ไม่มันส์ เตะผมก็ได้ ยอม"
"เอาอีกแล้ว จะชวนทะเลาะอีกแล้วใช่ไหม" โชคดีทำเสียงอ่อนใจ
"คุณก็รู้ว่าผมชอบทะเลาะ"
"งั้นทะเลาะกันตอนนี้เลยสิ"
"อย่าเพิ่ง คุยโปรเจ็คระดับชาติให้เสร็จซะก่อน กลับขึ้นรถแล้วค่อยทะเลาะกันในรถ"
"ทะเลาะกันหน้าลูกค้าซะเลย"
"บ้า" ชยุตม์หัวเราะเบาๆ
"นึกว่าจะแน่"
"อย่าท้าผมนะ ทะเลาะกันคราวนี้ผมจะไม่ยั้ง จะเอาให้หนักๆ เลย ให้นอนหยอดน้ำข้าวต้ม"
"กลัวตายล่ะนายช่างเอ๊ย"
"ว่าแต่ทะเลาะกันคราวนี้ ห้ามกัดนะ"
"ไหนว่าแน่"
"ผมได้แผลหลายแผลแล้วนะหมูปิ้ง"
"นึกว่าจะแน่ แรงมีไม่เท่าไหร่"
"อย่าดูถูกกันสิ"
"นี่ล่ะน๊า พออายุสี่สิบกว่าปีก็ใกล้จะหมดสภาพ"
"เดี๋ยวเถอะ"
"อีกไม่กี่ปีคุณก็คงไม่มีแรงทะเลาะ"
"พนันกันไหมล่ะ"
"จะคอยดู"

สองปีต่อมา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

โชคดีหันไปมองคนที่เดินตามมาข้างหลังแล้วขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์จึงแตะแขนชยุตม์ให้หยุดรอ แล้วหันไปดุโต๋ที่เดินตามมาถึงพอดี
"เมียอยู่ไหน ทำไมไม่รอมาพร้อมกัน คนเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวเดือนก็หลงทาง"
"ถ้าหลงเดือนก็โทรมาตาม" โต๋ให้เหตุผล
"ยังมาเถียงอีก ไปสิ ไปพาเดือนกับแม่มาเร็วเข้า อีกหน่อยต๋องก็ออกมาแล้ว เดี๋ยวไม่ทันถ่ายรูป" โชคดีสั่งเสียงเข้ม โต๋ทำหน้ามุ่ยแล้วเดินย้อนกลับไปทางเดิม
"โชคดี โต๋เขาโตจนลูกจบมหาวิทยาลัยแล้วนะ ดุเขาอยู่ได้"
"ก็ดูมันสิ โตจนลูกเป็นพ่อคนได้แล้วยังไม่รู้อะไร ต๋องยังเป็นผู้ใหญ่มากกว่าพ่อมันอีก แต่คุณอย่าให้ท้ายเด็กล่ะ ยิ่งไปทำงานด้วยกันยิ่ง..."
"รู้แล้วๆ ตกลงจะไม่ให้เขาไปเรียนเมืองนอกจริงๆ ใช่ไหม ต๋องเก่งมากเลยนะโชคดี อนาคตวิศวกรมือดีของประเทศเลยนะ"
"ยอมให้เรียนวิศวะนี่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว มาเรียนกรุงเทพฯ อีกต่างหาก เสี่ยงเสียคนจะแย่ บอกให้เรียน ม.ช. คุณก็ค้าน แค่เรื่องต๋อง ผมยอมคุณมาสองอย่างแล้วนะ"
"ก็ยอมอีกซักหน่อยจะเป็นไรไป ถ้ามานับกันจริงๆ ว่าใครยอมใครมากกว่ากัน ผมว่าผมขาดทุนไปเยอะมากเลยล่ะ"
"ใครว่า ผมยอมคุณบ่อยจะตาย ทะเลาะกันทีไรผมต้องยอมคุณทุกที"
"ของมันแน่อยู่แล้ว ยอมเรื่องทะเลาะกันไม่นับ เพราะยังไงๆ คุณก็ต้องยอมผม"
"พักหลังไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเลยนะนายช่าง สงสัยอายุมากขึ้น เข้าวัยทอง เรี่ยวแรงหายหมด"
"ใครจะไปแรงเยอะเท่ากับคุณโชคดี"
"ว่าแต่ว่า อย่าให้รู้นะ ว่าไปมีแรงกับคนอื่นที่ไหน"
"โธ่ หมูปิ้ง ผมจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง แต่ถ้าสมมุติว่า สมมุติเฉยๆ สมมุติไม่ได้ทำจริงๆ นะ เพียงแค่สมมุติ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะทำยังไง"
"มองตามผมสิ"
"เพราะยังงี้ไง ผมจะกล้าที่ไหนเล่า ไม่อยากตายก่อนหัวหงอกเต็มหัวหรอก"
"อ๋อ แสดงว่าให้หงอกซะก่อนถึงจะไม่สมมุติใช่ไหม"
"บ้าน่า คิดเอง พูดเอง เออเองอีกแล้ว"
"อย่ามาริอ่านคิดจะเป็นเฒ่าหัวงูเด็ดขาด"
"ไม่กล้าหรอกครับ มีเมียพันธ์ดุ ร้ายขนาดนี้ ใครจะอยากเสี่ยง"
"ร้ายแล้วมารักทำไม"
"ก็เพราะร้ายไงถึงรัก ร้ายนัก รักซะเลย"

..................

(http://upic.me/i/zh/bmwr1200spil3_sml.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Cn-Nt ที่ 15-06-2009 19:28:36
ขอบคุณมากมายค่ะ.................


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 15-06-2009 19:34:18
นั่นสิคุณโชคดี ดุโต๋จนลูกเค้าเรียนจบมหาลัยแล้วนะเนี่ย
แถมจุฬาเสียด้วย เป็นถึงวิศวะกรด้วยนา ~
ยังงี้จะว่าคนสอนเก่งใช่มั้ยเนี่ย  :-[

+1 ให้พี่นายด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Siri_nan ที่ 15-06-2009 20:25:46
อ้าว จบแล้วเหรอเนี้ย ยังอ่านไม่ถึงไหนเลย ตามไปก่อนละจ้า :oni1: ขอบคุณคนแต่งมากจ่ะ +1จัดไป
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 15-06-2009 21:25:12
จบแล้วหรอ อยากอ่านตอนพิเศษแบบว่าตอนเพิ่งรักกันใหม่ๆ อ่ะคับ ได้ป่าว
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 15-06-2009 21:58:17
ความร้ายยังคงเส้นคงวานะ โชคดี

แต่ก็ร้ายเพราะรักใช่เปล่า

ขอบคุณพี่นาย นะครับสำหรับเรื่องดี ๆ ที่แต่งให้อ่าน

แต่ยัง + ไม่ได้ ยังไม่ถึง 24 ช.ม.

ปล. หาได้ตามใบสมัครแล้ว ช่วยประกาศด้วยนะครับ จะได้แสดงความยินดี  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 15-06-2009 22:25:15
อ้างถึง
"อย่าลืมนะคะพ่อแม่พี่น้อง เบอร์สองเท่านั้น รักเมืองน่าน เลือกเตือนใจ เบอร์สอง เลือกเตือนใจ สบายใจ หายห่วง"
เสียงของคุณโชคดีดังขึ้นเมื่อรถแล่นใกล้ผ่านหน้าร้านโชคดีค้าวัสดุก่อสร้าง
ลายมือคงแกะยากจริงๆ ด้วย อิอิ

อ้างถึง
"ผมต้องสอนหลายวิชานะครับ ทั้ง ส.ล.น. ทั้งภาษาอังกฤษ ไม่ช่วยผมบ้างเลย เอาแต่หาเงิน จะเก็บทำไมมากมาย ตอนนี้คุณก็ฮุบกิจการผมไปแล้ว แบ่งเอาวิชา ส.ล.น. ไปสอนสิ"
ให้โชคดีสอน ส.ล.น. เนี่ยนะ  :laugh: เดี๋ยวกลายเป็น "ร้ายนักรักซะเลย" ภาค 2 เอาล่ะซิ

อ้างถึง
"ของมันแน่อยู่แล้ว ยอมเรื่องทะเลาะกันไม่นับ เพราะยังไงๆ คุณก็ต้องยอมผม"
"พักหลังไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเลยนะนายช่าง สงสัยอายุมากขึ้น เข้าวัยทอง เรี่ยวแรงหายหมด"
โชคดียิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งชวนทะเลาะเองเลย  :impress2:


 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 16-06-2009 08:07:01
โชคดีร้ายตลอดกาล ไหนนายช่างว่าจะดัดนิสัย

กลายเป็นว่าอยู่ในโอวาทซะมากกว่าละมัง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: CocO naTtH mIlK ที่ 16-06-2009 09:06:08
 :really2:ขำกับใบสมัครอ่ะ

ไม่รับปริญญาเอกเหรอ งั้นก็ไม่ได้อ่ะดิเรา......ล้อเล่นนะคร๊าบ :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย (15/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 16-06-2009 11:05:33
ขอบคุณ คุณ YMP ที่ช่วยชี้ที่ผิดให้นะครับ ตาดีจริงๆ  และขอบคุณทุกคนที่เมตตากรุณากดคะแนนให้นะครับ

หนึ่งปีต่อมา
บ้านริมธาร, น่าน

"ไม่นึกเลยว่าเราจะต้องมายุ่งเรื่องเด็กสองคนนี่" โชคดีถอนหายใจก่อนจะขึ้นนั่งบนรถ ตายังมองอยู่ที่ประตู ดูต๋องเดินหายเข้าไปในบ้านริมธาร
"เอาต๋องมาส่งแล้วก็ถือซะว่าทำบุญแล้วนะ" ชยุตม์อมยิ้ม มือบิดกุญแจรถเพื่อติดเครื่อง
"พูดให้ดีๆ นะนายช่าง" โชคดีเสียงเข้ม
"พูดให้ดีๆ อะไร ผมพูดอะไรผิดล่ะ" อีกฝ่ายขมวดคิ้ว
"คุณหาว่าผมทำบาป แล้วต้องทำบุญชดใช้"
"หาเรื่อง" ชยุตม์ลากเสียงยาว ทำหน้าอย่างไม่เชื่อว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จะคิดอะไรได้ถึงขนาดนี้
"ไม่ใช่ความผิดของผมนะที่เด็กมันทะเลาะกัน" โชคดีเข้าข้างตัวเอง
"ครับๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ คุณไม่ได้ยุให้คุณปกป้องไปต่อต้านการก่อสร้างสนามกีฬาเอเชี่ยนเกมส์จนต๋องต้องทะเลาะกับแฟน" ชยุตม์พยักหน้า ทำท่าเข้าใจเต็มที่
"อย่าประชดนะนายช่าง อย่ามาชวนทะเลาะ"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกับคุณ"
"อ๋อ เดี๋ยวนี้ไม่อยากทะเลาะแล้วหรือ"
"เปล่านะ ผมหมายความว่า ทะเลาะ ที่หมายถึงทะเลาะจริงๆ ทะเลาะขัดแย้ง ไม่ใช่ทะเลาะแบบที่เราทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะแบบนั้นผมก็ยังอยากทะเลาะอยู่ แต่ถี่มากไม่ได้แล้วนะ อายุขนาดนี้แล้ว"
"ไอ้เด็กสองคนนี้เมื่อไหร่มันจะลงเอยกันซักทีนึง"
"ถ้าคุณให้ปกป้องลดความรั้นลงมาบ้าง มันก็คงง่ายเข้า"
"คุณกำลังว่าปกป้องร้ายเหมือนผมใช่ไหมล่ะ ต๋องมันเหมือนคุณนี่ รู้ยังงี้ไม่น่าให้คุณเลี้ยงมันเลย"
"อ้าว พูดยังงี้ก็สวยสิหมูปิ้ง มาต่อยกันเลยไม๊"
"ใครจะอยากไปทะเลาะกับคุณ"
"ปากร้ายแบบนี้ ผมชักอยากจะทะเลาะกับคุณตอนนี้แล้วล่ะ"
"ออกรถได้ กลับบ้านกัน ไปทะเลาะกันที่บ้าน"
"ผมว่าไปจอดรถทะเลาะกันริมทะเลสาบดีกว่า"
"บ้าหรือยุตม์ ไม่เอานะ"
"น่า เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเถอะ อายุก็ขนาดนี้แล้ว อย่าจำเจเลย"
"อ๋อ นี่อยากลองของใหม่ใช่ไหม"
"เอาอีกแล๊ว...คุณนี่หาเรื่องอีกแล้ว คิดมาก"
"ชอบพูดให้คิดทำไมเล่า"
"ก็จริงนี่นา หนึ่งบวกหนึ่ง ชอบคิดหาผลลัพท์ให้ถึงพันถึงหมื่น คิดแบบง่ายๆ สิครับหมูปิ้ง"
"หยุดนะ อย่ามาเรียกชื่อเล่น"
"จะเรียก จะทำไม ผมอยากกินหมูปิ้ง ตอนนี้หิวแล้ว"
"หิวนักก็จอดรถ แวะหากินผักกิน..."
"เฮ้ย ว่ากันขนาดนี้เลยหรือ เดี๋ยวโดน"
"อย่ามาชวนทะเลาะนะ"
"จะทะเลาะ และทะเลาะเดี๋ยวนี้ด้วย"
"ขับรถอยู่ทะเลาะได้ยังไง"
"พ้นโค้งหน้านี้ล่ะ ผมจะจอดรถทะเลาะกันคุณ"
"แน่จริง เร่งให้ถึงที่เร็วๆ สินายช่าง"
"รอเดี๋ยว เจอดีแน่"

อีกหนึ่งปีต่อมา
กระบี่

"อูยเจ็บ เบาๆ นะโชคดี" ชยุตม์สูดปากเมื่อคนรักมือหนักทายาให้ที่หัวไหล่ "เบาๆ สิ"
"เบาแล้ว" คนทายาลากเสียงอย่างระอาใจ "ทำสำออย เป็นไงล่ะ ท้าดีนัก"
"ก็ใครจะคิดว่าคุณจะเล่นจนเลือดออกแบบนี้" ชยุตม์บ่นพึมพำ
"โทษที มันเขี้ยวไปหน่อย" โชคดีขอโทษ แต่ใบหน้าไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด "อายุขนาดนี้แล้วก็เพลาๆ ลงบ้างน๊า นายช่าง"
"บอกตัวเองเถอะ" ชยุตม์หัวเราะหึๆ ในลำคอ
"หมายความว่ายังไง" โชคดีทำเสียงเข้ม
"จำได้ว่าพักหลังคุณสะกิดผมบ่อยกว่าเดิม"
"คุณชวนทะเลาะทำไมล่ะ"
"คุณส่งสายตาอยากทะเลาะกับผม"
"ใครว่า ตาผมก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร ใครก็ว่าตาดุ"
"อย่าไปส่งสายตาดุๆ ให้ใครนะ ผมหวง"
"บอกตัวเองเถอะ"
"ผมไม่กล้าหรอก เมียดุขนาดนี้ กลัวจะแย่"
"อย่าพูดคำนี้"
"คำไหน"
"ก็คำเมื่อกี้ พูดว่าแฟนก็ได้"
"ผมว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วนะ จนขนาดนี้มันมากกว่าแฟนแล้ว"
"ไม่ได้เป็นแฟนแล้วเป็นอะไร แต่เป็นนายจ้างกับลูกจ้างนั่นของแน่อยู่แล้ว"
"โธ่หมูปิ้งครับ อย่าให้ถึงต้องจ่ายเงินเดือนให้ผัวเลยนะ"
"ยุตม์ ชักพูดหยาบคายขึ้นนะ อย่าลืมสิว่าเป็นลูกนายกฯ กับคุณหญิง พูดจาอะไรต้องระวัง"
"ผมกลายมาเป็นคนบ้านป่าแล้วนี่ ไม่ใช่คุณหนูเมืองกรุงอย่างที่คุณเคยค่อนขอด พูดภาษาชาวบ้านจะเป็นไรไป มากกว่านี้ยังพูดได้เลย"
"อย่ามาหาว่าผมค่อนขอดนะ ผมแค่ห่วงใย อยากดูแล"
"ดูแลจนกลายเป็นกลายเป็นนายจ้างผมงั้นสิ"
"บุญเท่าไหร่แล้วไม่ให้ตอกบัตรเข้าทำงาน"
"ขอบคุณนะครับที่ไม่ทำกันขนาดนั้น แต่ตอกอย่างอื่นไม่เกี่ยง"
"หยาบคายอีกแล้ว ชักหื่นใหญ่แล้วนะ อายุไม่น้อยแล้วรู้ตัวหรือเปล่า"
"อายุเป็นเพียงตัวเลข"
"ใช่ ตัวเลขวัดระดับความหอบ และอัตราการหายใจเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย กลัวหัวใจวายคาหลังจังเลย"
"แล้วผมแรงตกหรือเปล่าล่ะ"
"ไม่ตก แต่เร็วไปหน่อย"
"มามะ มาลองอีกที จะพิสูจน์ให้ดู เพื่อลบคำสบประมาท"
"ฮื่อ ไม่เอา ยังบ่ายอยู่เลย"
"บ่ายวันอาทิตย์ยังงี้ล่ะ มันส์ดีนักเชียว อุตส่าห์มาเที่ยวทะเล"
"ไม่"
"อย่าขัดใจสิ"
"ไม่"
"นะ"
"อือ..."
"อูว..."


ขอถามหน่อยครับ การแต่งที่มีเฉพาะบทพูดของตัวละครโต้ตอบกันไปมาแบบนี้โดยบรรยายในช่วงต้นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นยังไงและเป็นตัวละครคนไหน แบบนี้คนอ่านงงไหมครับว่า หลังๆ บรรรทัดไหนใครพูด และจินตนาการภาพของลักษณะท่าทางและอารมณ์ของตัวละครออกมาได้หรือเปล่าครับ
ขอบคุณครับ
(http://upic.me/i/or/astonmartindb9.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 16-06-2009 12:29:50
หมูปิ้งงงงงน่ารักกแสรดดดดดดดดดดด
นายช่างขอพูดว่า เมีย ก็ไม่ให้ ไม่ได้เป็นคำหยาบสักหน่อย
แต่ไอ้เรื่องทะเลาะ ชวนทะเลาะ ส่งสายตาบ่งบอกว่าอยากทะเลาะเนี่ย
ฮามากกกกกกก สงสัยหมูปิ้งฟิตปั๋งซะจิถึงสะกิดชวนนายช่างทะเลาะ
บ่อยๆอ่ะ 555
"อายุเป็นเพียงตัวเลข"
"ใช่ ตัวเลขวัดระดับความหอบ และอัตราการหายใจเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย
กลัวหัวใจวายคาหลังจังเลย"
"แล้วผมแรงตกหรือเปล่าล่ะ"
"ไม่ตก แต่เร็วไปหน่อย"
>> สงสัยหมูปิ้งเก็บสถิติทำเป็นกราฟแหงเลย ฮาเป็นที่สุด

ปล. เรื่องที่ถามอ่ะคะ ถ้าช่วงสั้นๆแบบไม่เอ่ยชื่อตัวละคร อ่านแล้วไม่งงหรอกคะ
เพราะจากคำพูดก็บ่งบอกแล้วว่าใครกำลังพูด
แต่ถ้าบทยาวววววววว ทะเลาะกันยาวววววววบางแล้วไม่เอ่ยชื่อเลย
เล่นเอางงได้นะ แล้วยิ่งเป็นพวกคำกิริยาแสดงอาการเสียงอะไรแบบนี้
ก็เล่นเอางงได้เหมือนกัน แต่ก็กลับขึ้นไปอ่านใหม่ก็พอเข้าใจได้คะ

เด๋วบ่ายๆแวะมากดบวกให้นะคะ

885 สุโค่ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทส่งท้าย จบ (16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 16-06-2009 14:29:36
บทส่งท้ายที่ท้ายสุดจริงๆ จบสนิทแล้วนะคร้าบบ
ขอบคุณครับ

ห้าเดือนต่อมา
น่าน

ชยุตม์เดินตามหาโชคดีในบริษัทแต่ก็ไม่พบ เขาแปลกใจ สองอาทิตย์ที่ผ่านมาคนรักของเขาชอบหายตัวไปบ่อยๆ และดูท่าทีมีลับลมคมใน
"ไปที่รีสอร์ทครับ เห็นไปตั้งแต่เช้า" โต๋ยืนเช็ดรถอยู่หน้าบริษัท บอกเจ้านายที่เดินไปถาม
"ไปทำไม พักหลังนี่ไปบ่อย จ้างทีมบริหารใหม่แล้ว ไหนบอกว่าจะไม่ยุ่ง" ชยุตม์เอียงหน้า ประหนึ่งพูดกับตัวเอง
"ไปกับคุณปกป้อง" โต๋พูดเติม
"ฮ้า อะไรนะ แล้วนี่ต๋องรู้หรือเปล่า" เสียงชยุตม์ตกใจ เพราะรู้ว่าลองโชคดีได้ไปทำอะไรกับปกป้อง คู่กัดของอภิรักษ์ มีเหตุผลเดียวเท่านั้นที่เขาพอจะนึกได้
...กัดไม่ปล่อยเลยหรือโชคดี ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมเลิก...
...มิน่า ตอนต้นเดือนเห็นเปรยๆ ถึงเงินสองล้าน อยากจะลงทุนเปิดร้านขายขนมให้น้องสาวของต๋อง พอเขาแย้งก็ทำเป็นฮึดฮัด บอกว่าชอบขัดใจ...
ชยุตม์ไม่รีรอ กระโดดขึ้นรถแล้วขับตรงไปยังรีสอร์ทที่คนรักเคยต่อต้าน แต่ตอนนี้โชคดีกับเขาซื้อกิจการจากคุณอามาแล้วเรียบร้อย
ถึงรีสอร์ทเจ้าปัญหา ชยุตม์เดินตรงไปยังท้ายรีสอร์ทจุดที่เคยเป็นประตูผันน้ำเข้าออกโครงการ
คาดไว้ไม่ผิด โชคดียืนเด่นอยู่บนเนิน ร่างสูงเพรียวยืนกอดอก กางขา มองชายหนุ่มหน้าใสร่างเล็กที่กำลังนั่งอธิบายอะไรบางอย่างให้ฟังพร้อมยื่นกระดาษให้
"มาทำอะไรกัน" ชยุตม์เดินเข้าไปใกล้
"มายืนยันหลักฐาน" โชคดีหันมายิ้ม แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มหน้าอ่อนกว่าอายุ
"แน่ใจนะปกป้อง"
"แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ จำเลยดิ้นไม่หลุดแน่ ผมมีผลการทดลองและเอกสารทางการจากกระทรวงแล้วเรียบร้อย คำสัมภาษณ์ไฟล์วีดีโอพร้อมส่งให้นักข่าวได้ทันทีหากจำเป็น" ลูกคู่ชื่อแปลกพอๆ กับ 'หัวเรือใหญ่' พยักหน้าอย่างมั่นใจ
"นี่รีสอร์ทของเรานะโชคดี" ชยุตม์ครางเบาๆ
"แต่เงินสองล้านไม่ใช่ของผม และนอกเขตรีสอร์ทไม่ใช่ของเรา แม่น้ำน่านเป็นของคนเมืองน่าน ผมจำได้ว่านายช่างประกาศว่าใครที่พิสูจน์ได้ว่ารีสอร์ททำให้ระบบนิเวศน์แถวนี้เปลี่ยนไปจะให้หนึ่งล้านบาท แต่ถ้าเป็นคนชื่อโชคดี จะได้สองล้าน"
"แต่นี่ปกป้องเป็นคนทำ"
"ปกป้องเป็นหัวหอกทีมงานผม"
"ทำมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว"
"ก็ไม่นาน"
"ไม่นานนี่กี่เดือน"
"ปกป้องนี่เก่งจริงๆ สมกับเรียนจบมาสูง"
"อย่าออกนอกเรื่อง นี่คงทำมาตั้งแต่รู้จักกันแล้วใช่ใหม เข้ากันได้ดีนักนะ"
"นายช่างยังเข้ากับต๋อง"
"ผมไม่อยากเถียงแล้ว ตกลงจะเอาสองล้านเมื่อไหร่"
"ก่อนนี้คุณบอกว่าเป็นเงินสด แต่ผมหยวนๆ เห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน จะโอนเงินให้ก็ได้"
"งั้นผมเขียนเช็ค"
"ระวังเช็คเด้งนะครับคุณอาโชคดี"
"ไม่ต้องกลัวเช็คเด้งหรอกปกป้อง ระวังจะไม่ได้ส่วนแบ่งก็แล้วกัน"
"ไม่เป็นไร อยู่ใกล้ตัว เช็คเด้งก็ฟ้องให้ติดคุก"
"จะแถมให้อีกหนึ่งล้านเลย ถือซะว่าเป็นดอกเบี้ย ผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ยังไม่ลืมอีก"
"จำไวนะปกป้อง เพื่อความถูกต้อง เราต้องสู้จนถึงที่สุด แยกเรื่องงานเรื่องส่วนตัวให้ได้"
"ครับ แน่นอน ผมแยกอยู่แล้ว"
"เรื่องสนามบินอย่าให้พลาด"
"โชคดี อะไรนะ สนามบินด้วยหรือ แล้วนี่ต๋องรู้หรือยัง"
"กลับมาจากเมืองนอกเดี๋ยวก็รู้ เถอะน่า นายช่าง อย่าโวยวายไปหน่อยเลย ชีวิตต่างจังหวัดมันราบเรียบนัก น่าเบื่อ มีอะไรท้าทายตื่นเต้น จะได้มีรสชาติ"
"กลับถึงบ้านล่ะน่าดู"
"กลัวตายล่ะ"
"ร้ายนัก ร้ายเหมือนกันทั้งสองคนเลย ระวังตัวให้ดี"
"กลับไปรายงานท่านผู้กำกับนะปกป้อง ว่ามีคนขู่ทำร้าย หากเราเป็นอะไรขึ้นมา ก็คงลูกชายนายกฯ นี่ละเป็นตัวการ"
"ผมจะไปแจ้งความให้ท่านผู้กำกับมากำราบทั้งสองคน"
"ผู้กำกับไม่กล้ากับผมหรอก"
"ครับท่าน ส.จ. รอให้ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยก่อนเถอะ"
"ไหนบอกว่าไม่สนการเมือง"
"คุณพ่อมาทาบทามผม"
"อย่างคุณก็คงได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม"
"อย่ามาดูถูกกันนะ"
"ดูถูกดีกว่าดูผิด"
"ขึ้นรถสิโชคดี"
"คุณกลับไปก่อน ผมจะไปกับปกป้อง"
"ไปไหนอีก"
"ไปดูงานสร้างสนามบิน"
"โชคดี ต๋องนะลูกชายโต๋นะ"
"รู้แล้ว ไม่เล่นถึงตายหรอกน่า ปกป้องเขาก็มีจริยธรรมอยู่"
"แล้วคุณล่ะ มีไหม"
"มี"
"ร้ายจริงๆ เลย"
"ร้ายแล้วมารักทำไม"
"ระวังตัวเอาไว้เถอะ ร้ายนัก คืนนี้เจอดีแน่"
"กลัวจัง"

ห้าชั่วโมงต่อมา
บนเตียง ในห้องนอน, น่าน

"โชคดีจ๋า รักยุตม์มากแค่ไหน"
"ถามอยู่ได้ บอกจนเมื่อยปากไปหมดแล้วนะ"
"ผมไม่เมื่อยที่จะฟัง"
"รักสิ ไม่รักจะยอมเมื่อยปากขนาดนี้หรือ ว่าแต่คุณเถอะ ยังรักผมอยู่หรือเปล่า"
"รักสิ ไม่รักจะยอมเมื่อยเอวหรือ"
"ยุตม์ ชักจะพูดเก่งขึ้นทุกวันนะ"
"ไม่ได้พูดเก่งอย่างเดียว ทำเก่งด้วย ผมไม่ใช่คนประเภทดีแต่พูด"
"เอามือออกไปได้แล้ว ลูบอยู่ได้"
"ฮื่อ ทำไมท้องยังแบนเรียบอยู่ หุ่นดีไม่เคยเปลี่ยน"
"คนไม่ได้ท้องนะ จะให้ป่องเหมือนท้องห้าเดือนได้ยังไง ไม่ได้สืบพันธ์กันทางข้างหลัง"
"พูดอะไรไม่น่ารัก"
"ก็ไม่ใช่คนประเภทน่ารัก คุณว่าผมเป็นคนร้ายๆ ไม่ใช่หรือ"
"ใช่ แต่ร้ายก็รัก"
"รักแน่นะ"
"รักสิครับ ถ้าไม่รักจะยอมร่วมหัวจมท้ายด้วยจนถึงขนาดนี้หรือ รู้ไหม ผมทิ้งทุกอย่างมาอยู่ที่นี่เพื่อโชคดีนะ หวังเพียงน้อยนิดว่าโชคดีจะรักและเมตตาผมบ้าง"
"เอียน"
"ผมจะรักโชคดีไปตลอดจนเราถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่ง"
"แล้วใครจะดูเรา ต๋องกับปกป้องก็คงมีลูกไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปกันรอดหรือเปล่า"
"ถ้าปกป้องไม่ลุยจนงานก่อสร้างสนามบินพัง สองคนนั้นก็ต้องลงเอยกันเหมือนเรา ที่สำคัญ ต้องมีใครคนหนึ่งยอมให้กันบ้าง อย่างที่ผมยอมให้คุณไงล่ะ"
"ต่างคนต่างยอมกันต่างหาก มันถึงจะไปรอด"
"นั่นสิ จริงสินะ พูดอีกก็ถูกอีก โชคดีพูดถูก เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงยอมให้คุณ ผมรู้อยู่ว่าคุณต้องทำสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม แล้วผมก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก"
"ตกลงต้องการอะไรนายช่าง"
"เปล่า ผมแค่พูดอย่างที่ผมคิด ผมไม่อยากให้ชีวิตรักของต๋องกับปกป้องพัง ผมอยากให้สองคนนั่นได้รักกันและมั่นคงในรักเหมือนเราสองคน แต่ผมก็หวั่นใจว่าเรื่องสนามบินจะทำให้แตกหักกัน ต๋องเขาทุ่มเทและจริงจังกับงานชิ้นนี้มาก นี่ก็เครียดจนแทบนอนไม่ได้"
"เอาเถอะ ผมจะคุยกับปกป้องให้"
"ปกป้องต้องเชื่อคุณแน่ คุณเป็นแม่แบบให้เขา เป็นผู้ให้คำปรึกษา"
"แต่เรื่องสองล้านนั่นน่ะ ไม่เปลี่ยนใจหรอกนะยุตม์"
"ช่างเถอะ เงินผมก็เหมือนเงินคุณ บอกแล้วไง ทั้งชีวิตก็ให้ได้"
"งั้นโอนทุกอย่างให้เป็นชื่อผมนะ"
"ได้สิครับ ผมไม่มีปัญหาหรอก เพราะยังไงผมก็จะอยู่กับโชคดีไปจนวันตาย"
...ยอมไปก่อน โชคดีก็โชคดีเถอะ เจอลูกล่อลูกชน บวกกับลูกอ้อนของชยุตม์ใจไม่อ่อนก็ให้มันรู้ไป...
"ก็แค่อยากให้แต๋วมีอะไรทำ เขาเรียนไม่เก่งเหมือนพี่ชาย แล้วผมก็ไม่อยากให้เข้าไปทำงานที่โรงแรมในกรุงเทพฯ"
"บริษัทเราก็มี งานเยอะแยะจะตาย จะเอาตำแหน่งไหนล่ะ"
"แต๋วเขาชอบทำขนม ทำเก่งด้วยคุณก็รู้"
"แต่แต๋วก็เก่งเรื่องการขายมากด้วยนะ อัทธยาศัยดี ช่างพูดช่างจำนรรจา เข้ากับคนได้ง่าย ใครเห็นใครก็ชอบ ไม่คิดหรือว่างานมารเก็ตติ้งจะเหมาะที่สุด คิดดูสิ อีกหน่อยโชคดีจะต้องขยายกิจการ ต้องเจรจาเรื่องงานอะไรต่อมีอะไร"
"แต่ว่า..."
"คิดดีๆ นะ โชคดี ทำร้านขนมทำเงินได้เท่าไหร่เชียว แต่มาร์เก็ตติ้งดีๆ ทำเงินให้บริษัทได้มหาศาล อีกหน่อยเราก็สามารถสู้โปรเจ็คใหญ่ๆ ได้ อย่างรถไฟฟ้าใต้ดินหรือไม่ก็ทางด่วน"
"ก็..."
"ผมรักคุณนะครับ อะไรที่โชคดีอยากได้ผมไม่เกี่ยงหรอก พอคิดว่าเรากำลังใช้ชีวิตด้วยกัน ผมก็รู้สึกว่าผมโชคดีที่สุดในโลกที่มาเจอโชคดี"
"จริงนะ"
"จริงสิครับ รับประกันได้เลยว่า ถ้าโชคดีได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ มีคนเก่งๆ ทำงาน แทนที่จะได้เงินเล็กๆ น้อยๆ สามสี่ล้านก็จะได้เป็นสิบล้าน ร้อยล้าน อดเปรี้ยวไว้กินหวานยังไงล่ะ ผมเคยโกหกที่ไหน เห็นหรือเปล่า ที่ให้ปรับจากร้านขายเหล็กเป็นขายอย่างอื่นด้วย แล้วผมเปิดบริษัทวิศวกรรม คนที่จ้างผมก็ต้องมาซื้อของจากร้านโชคดี เชื่อผมเถอะ"
"อืมม..."
"รักโชคดีจังเลย"
"นอนเถอะ"
"มาทะเลาะกันก่อน"
"ไม่เอา ไม่มีอารมณ์ทะเลาะแล้ว"
"งั้นผมจะยั่วให้โกรธ"
"อย่านะ"
"ฮื่อ...รัก รัก รัก"

****************************The Very End*******************************
ตั้งแต่โพสใบสมัครหาแฟนไปก็ไม่มีใครกรอกส่งกลับซักคน เลยขอเปลี่ยนแปลงเงืือนไข  :z1:  :z1:
คราวนี้ถ้าไม่มีใครสนใจสมัคร คงต้องแถมซิม One 2 Call ฟรีแล้วล่ะนะ

(http://upic.me/i/nf/fanapplication2.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 16-06-2009 14:49:29
อุกรี๊ดดดดดดดดดดด
นายช่างบอกมาเหอะว่าไม่ได้จบแค่วิศวฯอย่างเดียวอ่ะ
จบการฑูตด้วยใช่มะ แหมเจรจาหว่านล้อมคู่กรณีทั้งลูกล่อ ลูกชน
ลูกอ้อน เล่นซะหมูปิ้งเถียงก็เถียงไม่ออกจะว่าก็ว่าได้ไม่เต็มปาก
แหมๆๆ เยี่ยมจริงๆนายช่างนี้
แต่ว่าเงินสองล้านอะไรนั่นนอนด้วยกันทุกคืนยังจะเอาอีกนะ
เป็นคนเสี่ยมให้คุณปกป้องแบบนี้นี่เอง สงสารเจ้าต๋องจัง 555
"รักโชคดีจังเลย"
"นอนเถอะ"
"มาทะเลาะกันก่อน"
"ไม่เอา ไม่มีอารมณ์ทะเลาะแล้ว"
"งั้นผมจะยั่วให้โกรธ"
"อย่านะ"
>> จริงๆนายช่างไม่ได้หวังที่จะช่วยเจ้าต๋องหรอก
แต่หว่านล้อมให้คนดื้อเผลอตัว ในช่วงที่กำลังเมาคำหวาน
ให้มีอารมณ์อยากทะเลาะด้วยก็เท่านั้น อั๊ยยยยยยยยยยยยยยย

ปล. โหยคุณนายต้องการให้คนยื่นใบสมัครแล้วแถมยังมีโปรแถมซิมอีก
55 จะฮาไปไหนเนี่ย คารมเป็นต่อ ขนาดนี้ ไม่นานหรอกคุณนายคงได้มะ เอียสมใจ ฮิ้ววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: piro ที่ 16-06-2009 16:06:39
ขอส่งใบสมัครหน่อยน้า

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 16-06-2009 16:21:00
ป้าอายุเกินแล้ว คงจะร่วมส่งใบสมัครไม่ได้ แถมยังเป็นสาวเสียบ(แก่ๆ) อิอิ
หมูปิ้งน่ารักอย่างคงเส้นคงวาตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: piro ที่ 16-06-2009 17:11:23
ปากเหรอนั่น อายุเป็นเพียงตัวเลขเฟ้ย ที่สำคัญ ไม่ชอบเสียบด้วยถนัดแต่ถูกเสียบ อาฮุๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 16-06-2009 19:16:01
ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดจริงๆ ชยุตม์ ลูกล่อลูกชนเนียนจริงๆ
รับมือโชคดีเก่งขึ้นเยอะ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 16-06-2009 19:23:11
อ่านจบ แล้ว....เย้ๆ


ขอบคุณคาฟ....

ขอบคุณปัย ถึง ผู้กอง อธิคมด้วย...

5555++++
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-06-2009 19:54:42
จบแล้วหรอ เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 16-06-2009 22:09:57
ทะเลาะกันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร เลยนะครับ

+ ไปกับเรื่องของอธิคนแล้วนะครับ ใกล้เป็นความจริงแล้วพี่นาย 900 นะ

รอเรื่องต่อไปอยู่นะครับ

ปล. คั่วเดียวกันสมัครไม่ได้ 555.....
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-06-2009 22:36:38
น่ารักจนหยดสุดท้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยเลยนะคับ อิอิ อยากอ่านตอนต๋องกับปกป้อง ต่อจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 17-06-2009 01:22:51
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ช่วงหลังๆ ชักน่าระกขึ้นตลอดเลยน๊า โชคดีเนี่ย
ถึงจะเจ้าอุดมการณ์มาแต่ไหนแต่ไรก็เถอะ



อยากอ่านต๋องกับปกป้องต่อจังเลย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 17-06-2009 08:15:46
ขอบคุณครับสำหรับการติดตาม Series Love, Finally กว่าเราจะรักกันได้ ตอน ร้ายนักรักซะเลย ก็จบอย่างสมบูรณ์แล้วนะครับ
อยู่กันจนแก่เฒ่าก็คงได้เห็นแล้วว่า คนที่ "ชนะ" นั้นคือใคร
ส่วนเรื่องต๋องกับปกป้องก็คงไม่มีอะไรต่างจากรุ่นพ่อรุ่นแม่เท่าไหร่ เพียงแต่ว่า สู้ กันหนักกว่าเพราะโครงการที่ต้องต่อต้านมันใหญ่กว่า และแต่ละฝ่ายก็มี back up ทั้งคู่
ปกป้องนี่เป็นเด็กกำพร้าที่ผู้กองปฐพีกับจักริณทร์เก็บมาเลี้ยงเพราะทำลูกเองไม่ได้
ผู้กองปฐพีย้ายไปรับราชการในกรุงเทพฯ
พ่อชยุตม์ได้เป็นนายก
แม่ของโชคดีก็ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ในที่สุดและเป็นรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฯ และคอยมากำกับดูแลไม่ให้ลูกชายใช้แรงงานคนในร้านโชคดีค้าวัสดุภัณฑ์อย่างทาส
ส่วนโต๋ก็ยังเป็นเด็กในร้านโชคดี มีหน้าทีพิเศษคือเป็นที่รองรับอารมณ์โชคดีเวลาชยุตม์ขัดใจ
อ้อ น้าพงษ์ กลายเป็นคนขับรถของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไปแล้ว
แต๋ว น้องชายของต๋อง หลานรักของโชคดีก็มีแววว่าจะเป็นทอม  :m20:

สุดท้ายนี้ ขอให้มีรักยั่งยืนกันทุกคนๆ นะครับ มีรักก็ขอให้สมหวังในรัก ไม่มีรักก็ขอให้ได้เสียตัวทุกคืน ไม่อยากมีรักก็ขอให้ได้เสียตัวทุกคืนเหมือนกัน  :mc4:
ยังหารักไม่ได้ ก็ มาเป็นเพื่อนคนเีขียนต่อไป  :L3:
 :sad11:
ใบสมัครเป็นแฟนปิดรับสมัครแล้วนะครับ
รับไม่ไหว ไม่มีแฟ้มเก็บ มันล้นเกิน  :m20:  :pigha2:

นิยายเรื่องต่อไปก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเขียนเรื่องอะไรต่อ ตอนนี้เริ่มจะว่างเพราะกลายเป็นคนตกงาน ที่จริงเขียนพล๊อตไว้เยอะ พอนึกอะไรออกก็เขียนๆ เอาไว้ ผ่านไปครึ่งปีอ่านออกบ้างไม่ออกบ้างแต่ก็ทำใจเพราะไม่ใช่ลายมือใครเป็นลายมือของเราเอง มีอยู่สี่ห้าเรื่องที่เขียนทิ้งไว้สองสามบท พอจะโพสก็จะหยิบเรื่องนั้นมาเขียนต่อให้จบ
ที่จริงผมอยาก ขอบคุณทุกท่านที่เ้ข้ามาอ่านเพราะที่จริงแล้วเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ผมเขียนนิยายให้จบ เพราะถ้าไม่ได้โพส ไม่ได้อ่านคอมเมนท์ของทุกคน ก็คงเขียนไม่จบซักเรื่อง เพราะเรื่องแรกคดีรัก เขียนมาถึงสามปี ได้ไม่กี่บท แต่พอได้โพส ได้มีคนอ่าน ก็ทำให้เรารู้สึกว่ามีความรับผิดชอบ มีภาระผูกพันที่ต้องเขียนให้จบ ทิ้งคนอ่านให้นั่งเกาพุงรออ่านตอนต่อไปไม่ได้ ระหว่างนี้ตอนที่ไปอ่านเรื่องอื่นๆ ของนักเขียนคนอื่นๆ ก็อย่าลืมคฑาวุธผู้น่าสงสารนะครับ ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะครับ  :call:
 :pig4:

ช่วยเลือกเรื่องต่อไปให้ด้วยนะครับ เล่นเกมกันสนุกๆ แก้เซ็งหน่อยนะ เลือกรูปข้างล่าง ต่อไปนี้ แต่ละรูปแทนเรื่องสี่เรื่องที่ตอนนี้ผมเขียนได้เรื่องละสองบททิ้งเอาไว้นานแล้ว
1 รูปมอเตอร์ไซด์ 2 รูปเกาะน้อยกลางทะเล 3 รูปตึกสูงในเืมืองยามค่ำคืน 4 รูปป่า และ 5 รูปรถในทะเลทราย (อันนี้พยายามเขียนอยู่เป็นนานมากพอๆ กับเรื่องคดีรักครับ เป็นเรื่องของสารวัตรอาวุธ กับ นที แฟนคนแรกและคนเดียวก่อนที่จะกลับมาเมืองไทยและมาแย่งอนุภาพไปจากเพื่อนอธิคมอ่ะ ตอนนี้กำลังวิจัยหาข้อมูลอยู่เพราะในเรื่องมีการใช้อาวุธปืนกันเยอะและมีเรื่องขบวนการค้ายาเสพติดในแอฟริกากลางเข้ามาเกี่ยว มีฆาตรกรรม มีการหักหลัง ผู้เขียนคาดว่าจะเขียนจบได้ก่อนเกษียณ และเรื่องมันหนักและเศร้า ชีวิตของอาวุธไม่ได้เป็นชีวิตที่สุขสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจเหมือนอธิคมและธงรบ)

1 วิธวินท์ (http://upic.me/i/zh/bmwr1200spil3_sml.jpg)
2 ธีร์ (http://upic.me/i/3t/seachayandandtee.jpg)
3 ชาลี (http://upic.me/i/jf/citygunandcharlie.jpg)
4 ภีรวัส (http://upic.me/i/xn/wood_warootandpeerawas.jpg)
(http://upic.me/i/vy/desertnateeandawoot.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-06-2009 12:26:13
 :sad4: อ่านเรื่องไหนก็ไม่อยากให้จบ อยากอ่านไปเรื่อยๆเลย
ดีใจด้วยค่ะที่มีคนส่งใบสมัครไปเยอะแยะ จะได้มีเนื้อคู่ซักทีเนอะ :impress2:
ส่วนที่ให้เลือก ขอเป็นรุปที่4แล้วกันค่ะ ชอบแบบรักกลางทะเลทราย หุหุ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอขอบคุณที่สละเวลาและสมองมาเขียนเรื่องสนุกๆให้อ่านค่ะ
คนอ่านเองก็มีความสุขจากการอ่านเรื่องของคุณ
เหมือนที่คุณมีความสุขเมื่อรู้ว่าเรารออ่านกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมอบคำขอบคุณให้คุณคฑาวุฒิอีกครั้งค่ะ
 ทุก+ที่มอบให้คุณก็ให้ด้วยความเต็มใจจริงๆค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 17-06-2009 15:39:56
ในที่สุด ก็ปิดตำนานไปอีก 1 เรื่องแล้วซินะครับ พี่นาย
แถมท้ายด้วยการบอกเล่าถึงอนาคตของแต่ละคนอีกตังหาก (ยื้อไม่ให้จบเหรอครับ  :m20:)
ยังสนุกเหมือนเคยนะครับ แถมมีคู่รักที่เกิดขึ้นใหม่อีกตังหาก อืม ดูดีเชียว
สำหรับเกมส์ นี่ ... น่าสนใจแฮะ
สำหรับผม ขอเป็นภาพที่ 4 แล้วกันนะครับ (สงสัยยังอินกับเรื่องนี้แน่เลย)
ยังไม่หลุดจากป่าเสียที เรื่องต่อไปจะเป็นยังไง ก็แล้วแต่ลายเส้นและปลายนิ้วของพี่แล้วนะครับ
แต่อย่าทำให้คนอ่านรอนานแล้วกัน  :m16:
เป็นกำลังใจให้ต่อไปแล้วกันนะครับ
นักเขียนมือทอง ดาวรุ่งดวงใหม่ (ป่าวเนี่ย) ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 17-06-2009 19:48:26
 :z13: คุณนายแล้วนะคะ

เราชอบสิงห์นักบิด เชื่อเพราะอีกแล้วนะเนี่ย วิธวินท์แปลว่าอะไรคะ

ส่วนบทสรุปของหมูปิ้ง น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมะไหวจะเคลียร์
คุณนายแม่นี่อลังการมาก เป็นรมช.กระทรวงแรงงาน ดูการใช้แรงงานในร้านลูกชาย
ก็พอแล้วแหละคุณนายแม่ เลิศ!!  o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 17-06-2009 20:09:55
 :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:


เพิ่งเข้ามาอ่าน  ก็ ถึงตอนจบะละ   


สนุกดี เอิ๊ก :pigha2: :pigha2:

ปล. สนุกดีๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 17-06-2009 20:27:49
+1ไปก่อนนะคร้าบ

ตอนหลังๆนี่มั่นใจนะว่าอายุทั้งคู่มากขึ้น

แรงดีจังนะคร้าบ


เลือกรูปรถมอเตอร์ไซค์คร้าบ


ขอบคุณนะคร้าบรีบมาต่อเรื่องใหม่เลยนะคร้าบ  ตั้งตารอ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 18-06-2009 07:47:35
ขอบคุณครับสำหรับการแสดงความเห็นและกำลังใจ  :pig4:
ว๊าาาา เลือกมอเตอร์ไซด์เหรอ (มีแสดงความคิดเห็นสามคน สองเลือกมอเตอร์ไซด์ หนึ่งเลือกป่า) เรื่องนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่อครับ คิดชื่อไม่ออก
ทีจริงผู้เขียนชอบเรือง ป่า (เพราะมีต้นไม้ชนิดเดียวกันเยอะแยะมากหลายต้น  :pigha2: เรืองนี้ตั้งชื่อไว้แล้วว่า เพื่อนรักหักเหลี่ยมรัก พอจบมอเตอร์ไซด์แล้วค่อยต่อเรื่องนี้นะครับ นายเอกสองคนค่อนข้าง 11 ร.ด. ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน

วิธวินท์  (วิด - ทะ - วิน) หมายความว่า ได้สิ่งแปลก ๆ มีลาภเสมอ (อันนี้เปิดมาจากหนังสือตั้งชื่อเด็กเลยนะ)
เป็นคู่ของวิศวกรคอมพิวเตอร์ พาหนะคู่ชีพคือมอเตอร์ไซด์ และเป็นขาซิ่ง อีกคนเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเหล้าและไนท์คลับ พาหุนะคู่ใจคือรถสปอร์ต นั่นก็ขาซิ่งเหมือนกัน แต่มีตุ๊กตาหน้ารถเปลี่ยนไปไม่เว้นแต่ละคืน ตอนนี้เขียนไปได้สามบท แต่ขอวางพล๊อตต่อก่อนนะครับคือต้องเขียนโครงให้จบหมดซะก่อน แล้วเริ่มเขียนบทบรรยายและสนทนาไปเรื่อยๆ ให้อยู่ในกรอบความคิด ไม่งั้นได้ยืดเป็นละครช่องเจ็ด เอ่อ แล้วต้องส่งจัดเรทด้วย แต่ท่าทางคงเป็น PG
เีขียนละครตอน  :L3: นี่มันบรรยายฉากจึ๊กๆ ไม่ได้ และเนื้อเรื่องมันไม่เอื้ออ่ะครับ (ถ้าเป็นเรื่องผู้กองธงรบไล่ตื๊อตี๋หนุ่มอาทิตย์ ในคดีรัก นั่นพอจะทำได้หน่อยเพราะเนื้อเรื่องมันพาไป)

ขอบคุณทุกท่านนะครับ

(http://upic.me/i/5j/theend1.jpg)

ตัวอย่างบางตอน

ทันทีที่รับสาย เลขาคนเก่งก็รายงานผลการปฏิบัติงานให้ฟัง ธีรดนย์ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
"ไม่มีในสารบบครับ ไม่ใช่รถพนักงาน"
"แล้วรถใคร" ธีรดนย์เปรย
"เอ่อ อันนี้ต้องใช้เวลาหน่อย" เต้ยตอบ "แต่ว่าคุณจะอยากรู้ไปทำไมครับ"
"ช่างเถอะ" ธีรดนย์พูดเสียงห้วนแล้วสั่งงานต่อ "คุณเต้ย หาดูให้หน่อยสิว่าแผนกคอมพิวเตอร์มีใครมาทำงานใหม่หรือเปล่า ผู้ชาย อายุไม่น่าจะเกินสามสิบปี หน้าตาดี"
"ไม่มีครับ" เต้ยตอบทันที
"หาเร็วจังเลยนะ" ธีรดนย์เหน็บแนม
"คนล่าสุดที่เข้ามาทำงานอายุสามสิบอัพ อ้วนเตี้ยหัวค่อนข้างล้านแต่งงานแล้ว ถ้ามีหนุ่มหล่อเข้ามาทำงาน ไม่มีวันผ่านตาผมไปได้หรอก" เต้ยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะทำเสียงตกใจ "อ๊ะๆ อย่าบอกนะว่าสมภารจะกินไก่วัดช่วงหาดารากินไม่ได้"
"ปากหรือนั่น เดี๋ยวก็ไล่ออกซะเลย คนอย่างธีรดนย์หรือจะขาดอาหาร" ธีรดนย์ทำเสียงดุ
"คุณธีร์ครับ ประชุมเสร็จแล้ว จะกลับถึงออฟฟิสเมื่อไหร่ครับ มีนัดตอน 11 โมงนะครับ" เต้ยเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย
"อีกห้านาที ไม่ต้องจับเวลานะ" ธีรดนย์พูดเสร็จก็วางสายโดยไม่รอให้เลขาทักท้วงเช่นเคย


ผู้บริหารหนุ่มเดินขึ้นไปบนคอนโดมิเนี่ยม หันซ้ายหันขวา มองเห็นหญิงสาวสองคนกำลังเดินไปตามทางเดิน ในมือถือถุงพลาสติก ส่วนทางเดินอีกด้านหนึ่ง เป็นชายร่างผอมกะหร่อง กำลังเดินไปพลางโทรศัพท์ไป ธีรดนย์จึงเดินลงบันได แล้วมองไปรอบๆ อย่างเซ็งๆ ก่อนจะก้าวลงไปจนถึงพื้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับรถโฟร์วีลด์คันใหญ่วิ่งผ่านหน้าของเขาไปด้วยความเร็วพอสมควร แต่เขาทันมองเข้าไปในรถและเห็นคนขับ
...ชายหนุ่มคนนั้นเอง ใช่แน่ๆ โลกทำไมกลมแบบนี้...
ธีรดนย์เร่งเท้า ออกไปยืนอยู่บนถนน มองตามรถสีดำคันนั้น และจดจำหมายเลขทะเบียนรถ ในใจหมายมั่นว่า พรุ่งนี้หลังจากเลิกประชุม เลขาคนเก่งที่มีความสามารถในการสืบหาข้อมูลได้เก่งยิ่งกว่าตำรวจจะต้องบอกเขาได้ว่าใครเป็นเจ้าของรถ


ณ บริษัท Network Solutions
'ตัวปัญหา' นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจ เท้าวางพาดอยู่บนโต๊ะทำงาน มีเจ้าของบริษัท 'อีกคน' กำลังยืนบ่นอยู่ใกล้ๆ
"ว่าไงพ่อตัวดี ไปทำอะไรอีท่าไหนเข้าล่ะ เขาถึงได้เรียกเจ้าของบริษัทให้ไปพบ จะยกเลิกสัญญาจ้างงาน" ศรายุธยืนมองวิธวินท์ที่เอาแต่นั่งฟัง


ธีรดนย์หันไปยิ้มให้สาริน นายแบบหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียงจากภาพยนต์โฆษณาหลายชิ้น หลังจากสนุกสนานกันในผับเขาก็ชวนชายหนุ่มมาขับรถเล่น กินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปลงเอยที่อพารต์เมนท์หรูของเขาเช่นเคย
คืนนี้ถนนโล่ง บรรยากาศดี
แต่...
...อะไรวะ...
ธีดนย์หันขวับไปมองด้านข้างเพราะได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่น แล้วหันตามเสียงรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ที่ปาดหน้าเขาไปด้วยความเร็วสูง
อะไรบางอย่างสั่งให้มือและเท้าเขาทำงาน ธีรดนย์กดเปลี่ยนเกียร์ เท้ากระทืบคันเร่ง ส่งกำลังขับให้เครื่องยนต์หกสูบ 3,000 ซีซีของอินฟินิตี้ G37x สีดำสนิทของเขาให้พุ่งไปข้างหน้า
ใช้เวลาไม่นาน ธีรดนย์ก็เข้าใกล้มอเตอร์ไซด์คันนั้น
...BMW ซะด้วย ไม่ใช่ย่อย...


ธีรดนย์มาถึงที่ทำงานโดยเลขาไม่ต้องโทรมาตาม แต่ทันทีที่เดินเข้าสำนักงานและยื่นหมายเลขที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ให้ เต้ยก็บ่นทันที
"โดนมอเตอร์ไซด์ที่ไหนตะโกนด่ามาอีกแล้วล่ะครับ"
ธีรดนย์ชะงัก รู้สึกทึ่งในความฉลาดของเลขาหนุ่มเพราะเขายังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ "รู้ได้ยังไง"
"ทะเบียนมอเตอร์ไซด์ดูง่ายจะตาย และคุณธีรดนย์ก็คงรู้ว่ารถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ มีจำนวนมากกว่ารถเก๋ง"
"แต่ก็คงไม่เกินความสามารถของคุณเต้ยผู้เก่งกาจและรวดเร็ว" ธีรดนย์ชม "ก่อนสิบโมง ออกจากห้องประชุมให้ได้คำตอบ"
"แล้วเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์นั่นมาหรือยัง" ธีรดนย์ตะโกนถามออกมาจากในห้องทำงาน เลขาหนุ่มถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบกลับ ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้านายรีบเดินย้อมออกมายืนเท้าสะเอวหน้าโต๊ะเขาทันที


"ยอมเป็นของผมซะเถอะ แล้วผมจะยกโทษให้" ชายหนุ่มขู่เสียงเข้ม หน้าตาจริงจัง สายตาบ่งบอกให้วิศวกรหนุ่มรู้ว่า 'คืนนี้ไม่รอดแน่'
วิธวินท์ยิ้มมุมปากเช่นเคย ยิ้มแบบที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกฉุนทุกครั้งที่เห็น "อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าผมอยากให้คุณยกโทษให้หรือเปล่า แต่ผมว่า..."
คนที่สวมการเกงชั้นในสีขาวตัวเดียวยืนอยู่กลางห้องตั้งใจรอฟัง ในใจคิดไว้ว่า ไม่ว่าวิธวินท์จะตอบอย่างไร เขาก็จะกระโจนเข้าปล้ำให้ได้ ตอนนี้เขาไม่ไหวแล้ว
"ว่าอะไร ตอบมาเร็วๆ เข้า"
วิธวินท์ทำท่าคิด "อืม ก็ดีเหมือนกันนะ ผมเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมานาน รูปร่างหน้าตาคุณก็ดี ผิวขาวสะอาด ก้นก็สวย แต่ติดตรงที่ผมไม่มีถุงยางกับหล่อลื่นนี่สิ แล้วคุณมีหรือเปล่า"
...เฮ้ย อะไรวะ ไม่ได้นะ...
คนที่ตั้งท่าจะปลุกปล้ำตาเหลือก อ้าปากกว้าง รู้สึกแทบช้อค
...เป็นอย่างงี้ไปได้ยังไง ทำไมเขาจะต้องซวยขนาดนี้...


**** อีกไม่นานเจอกันอีกนะครับ ****** เรื่องนี้ได้ลุ้นแน่ๆ ตามนโยบายของนิยายขุด Love, Actually ของคฑาวุธครับผม ***
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 18-06-2009 07:53:42
มาจิ้ม พี่นายแต่เช้า  :z13:

จะรอนะคะ

แบบดิสนีย์ pg-13 ไม่เอาแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Fujitaga ที่ 18-06-2009 12:38:56
จะเรื่องไหน หรือไม่ไหร่ ยังไงก็คือ พี่นาย หรือ คุณคฑาวุธ เป็นผู้ประพันธ์อยู่ดิอะครับ
แค่ได้อ่านตัวอย่าง ก็คิดว่าสนุกเหมือนอย่างที่ผ่านมา รอต่อไปแล้วกัน
ON Air เมื่อไหร่ ประกาศด้วยเน๋อ   :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mecon ที่ 18-06-2009 12:55:32
อุกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
วิธวินท์ เป็นหนุ่มช่างยั่วชิมิ
ส่วนคุณธีรดนย์ก็เป็นหนุ่มช่างฟัน อั๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เรท PG เหมาะกับเด็ก สตรี และคนชรา :m20:
หัวใจจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องบริหารเลือดลมกันเลย 555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: McDeliVery ที่ 18-06-2009 13:41:53
เอ่อ....พี่นายครับ


ไอ่เจ้าถุงยางกะ KY นี่ยังไม่เคลียร์เหรอครับ



>>> วิธวินท์ทำท่าคิด "อืม ก็ดีเหมือนกันนะ ผมเองก็ไม่ได้มีอะไรกับใครมานาน รูปร่างหน้าตาคุณก็ดี ผิวขาวสะอาด ก้นก็สวย แต่ติดตรงที่ผมไม่มีถุงยางกับหล่อลื่นนี่สิ แล้วคุณมีหรือเปล่า"
...เฮ้ย อะไรวะ ไม่ได้นะ...


อิอิ  :m20:


ป.ล. ผมเลือก มอเตอไซค์คับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 18-06-2009 13:51:03
เลือกรูปมอไซกลางทะเลทราย แต่ก็รออ่านทุกเรื่องจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 18-06-2009 21:53:29
โอ้โห... ปูเสื่อ เฮ้ยไม่ใช่ ปูเรื่องสปอยไว้ขนาดนี้ ใครไม่ตามก็บ้าแล้ว

ลงโรงเมื่อไหร่ ผิดอีกแร๊ะ ลงเรื่องนี้เมื่อไหร่ เรทติ้งกระฉูดแน่ ๆ พี่นาย

รีบมาลงเลยนะครับ +1 เป็น 900 แล้ว สงสัยจะได้เมียก็คราวนี้แล้ว พี่นาย 900 แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 18-06-2009 23:44:51
อ่านจบแล้วสนุกมากเลยจ๊ะ

เราชอบภาพที่ 4

รออ่านเรื่องใหม่นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Alexie333 ที่ 19-06-2009 15:35:26
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ขอบคุณน่ะครับ ที่แต่งเรือ่งสนุกๆให้เราอ่านกัน


ยังไงก้อจะติดตามผลงานต่อไปน่ะ


เป็นกำลังใจให้เสมอ


ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบ


 :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 20-06-2009 16:14:47
 ขอบคุณนะคะ  สนุกมาก
อะ  เอาอมยิ้มมาฝาก
(http://i132.photobucket.com/albums/q8/oaw_eang/A6988203-206.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 20-06-2009 20:26:54
มาเลยคร้าบ


มาให้ไวเลยคร้าบ   รอแล้วนะคร้าบ  อิอิ


 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-06-2009 19:25:49
อ่านจบแล้ว

เสียดายจัง ส่งใบสมัครไม่ทัน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 25-06-2009 08:53:10
อ่านจบแล้ว
เสียดายจัง ส่งใบสมัครไม่ทัน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ
ยังรับสมัครอยู่ครับ

(http://upic.me/i/7j/pic_letsfallinlove.jpg)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: mma419109 ที่ 25-06-2009 09:07:51
     ยกมือถามแล้วคุณทรงศักดิ์เป็นอย่างไรบ้าง ยังคอยหมูปิ้งอยู่หรือเปล่า
 ไปอ่านเรื่องใหม่ต่อก่อน :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-06-2009 10:28:06
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุก ๆ ค่ะ แถมต่อตอนพิเศษยาวเหยียดสุด ๆ เลย

ยังไงจะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: katawoot ที่ 25-06-2009 14:50:17
     ยกมือถามแล้วคุณทรงศักดิ์เป็นอย่างไรบ้าง ยังคอยหมูปิ้งอยู่หรือเปล่า
 ไปอ่านเรื่องใหม่ต่อก่อน :bye2:
ทรงศักดิ์ก็ยังคงรักเดียวใจเดียวไม่เปลียนครับ วันไหนว่างๆ ก็จะขับรถมาจอดมองหลังคาบ้านของโชคดีแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็ไป

ขอบคุณครับ
ไปอ่านเรื่องใหม่นี่ คือเรื่องใหม่ของคฑาวุธนะคร้าบบบ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 25-06-2009 22:24:32
จะสนุกเท่าชยุตม์ กะหมูปิ้งรึเปล่าน๊าาา :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-06-2009 11:40:32
+เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ+
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: j3llnlyza ที่ 07-07-2009 02:14:30
ชอบหมูปิ้งจังเลยคะ ร้ายสุด ๆ แต่ก็น่ารักจริงๆ
อยากอ่านรุ่นลูกจังเลยค่ะพี่ จะมีให้อ่านไหมคะ
รุ่นปกป้อง + ต๋องนี่  :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 11-07-2009 03:42:43
อิอิ พึ่งอ่านรวดเดียวจบเลย
โชคดีน่ารักมากมาย.. ร้ายๆ อิอิ
ชยุตม์ก็น่ารัก เหอๆ ยอมโชคดีตลอดเลย
คู่นี้ตอนพิเศษหวานแหวว >w<

เป็นกำลังใจให้นะคะ
จะตามไปอ่านเรื่องอื่นด้วย ^^

 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: runglovely3 ที่ 15-08-2009 20:01:38
ร้ายสุดๆ น่ารักสุดๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 17-08-2009 11:30:33
อ่านจบแล้วววว

น่ารักกันอย่างงี้ สงสัย "ทะเลาะ" กันบ่อยแน่ๆ อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 17-08-2009 20:55:54
อยากอ่านต๋องกับป้องจังเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Donald~duck ที่ 18-08-2009 01:20:54
อ่านรวดเดียวจบ สนุกกกก

หมูปิ้งน่ารักสุดๆ

หมูปิ้งกับนายช่าง ชอบๆ รักกันจนแก่เลย  :o8:

อยากอ่านคู่ปกป้องกับต๋องจังเลยคะ

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: condolence ที่ 19-08-2009 20:28:27
 o13 o13 o13 o13 o13


ชอบมากครับ


สนุกมาก


ต้องprintไปอ่านที่มอเลย

ชอบๆๆๆ


-*-
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: MiNi•Chun ที่ 29-08-2009 13:23:29
ได้อ่าน นิดๆหน่อยจากที่เรื่องบันทึกรักอ่า



ตามมาให้กำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 26-11-2009 15:57:43
น่ารักกกก หมูปิ้งชอบทะเลาะกับนายช่างเรื่อยเลย
ยิ่งพักหลังยิ่งบ่อย เพราะนายช่างเรียกร้องช่ะมิล่ะ โฮ่ะโฮ่ะ
แอบลุ้นคู่ผู้กองกะจักรแทบแย่ สุดท้ายเค้าก็ได้กันนนน
ว่าแต่มะมีฉากมหัศจรรย์เลยน้า หุหุ ไม่ได้หื่นนน แต่อยากเรียนรู้แค่นั้นน
ปล.แอบติดตามผลงานนายมาเรื่อย ๆ ติดใจที่สุดคงเป็นสารวัตรอธิคมกะคุณนุ จากนั้นก็ตามเก็บรายละเอียดทุกเรื่องที่คุณนายแต่ง ชื่นชอบค่ะ เสียดายมาไม่ทันรวมเล่ม ถ้าคิดจะทำภาค 2 ต่อ อย่าลืมทำภาค 1 อีกครั้งด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 27-11-2009 15:52:20
สนุกดีึค่ะ  
นายเอกแบบว่าสุดๆอ่ะ  ชอบๆ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 09-01-2010 20:09:45
เพิ่งมาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากๆๆ ถ้าไม่ได้อ่านเนี่ย
เสียดายแย่เลย เกือบพลาดเรื่องดีดีไปซะแย้ว
อ่านช่วงแรกๆ แอบชอบผู้กองปฐวีอ่า
แต่ก้อดีแล้วที่ผู้กอง (ตอนนี้เป็นสารวัตรแล้วจินะ) คู่กะจักร
เหมาะกันที่สุดเลย  ถ้าคู่กะโชคดี สงสัยโดนข่มหมดแน่เลย
นี่ขนาดนายช่าง ยังโดนเลย
ชอบให้นายช่างกะโชคดี ทะเลาะกันบ่อยๆ  :o8:
ยิ่งทะเลาะกัน ก้อยิ่งรักกัน  :กอด1:

ขอบคุณคนแต่งมากๆๆนะค่ะ
ที่แต่งเรื่องดีดี สนุกๆ มาให้อ่าน
เป็นกำลังใจให้แต่งเรื่องต่อๆไปนะค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 09-01-2010 21:20:01
อ่านจบแล้ววววววววววววววววว
ไม่นึกว่าคุณยุตผู้เงียบขรึมจะหื่นได้น่ารัก อิ อิ
ร้ายนักนะ ไม่ค่อยพูดไม่ได้แปลว่าไม่คิดนี่เนอะ
ชอบผลงานคุณ katawoot มากค่ะ
จะรอผลงานใหม่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Nanzari ที่ 14-01-2010 13:41:04
 o13 o13

ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ

หมูปิ้งน่ารักสุด ๆ ^6^

 :L2: เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 16-02-2010 03:19:16
 :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2: :3123: :pig4: :3123: :pig4: :3123: :pig4: :3123: :pig4:


ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: สมาคมโคแก่ ที่ 17-02-2010 17:00:54
คู่นี้เค้ากินกันไม่ลงจริงๆ :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 05-03-2010 00:37:10
ง่วงซะแล้ว ฮึๆ o18
เรื่องนี้ก็น่ารักอีกแล้ว
คงจะหลับฝันดีแน่ๆ
ราตรีสวัสค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: NIID ที่ 26-04-2010 20:13:33
เข้ามาเม้นต์ก่อนอ่าน เพิ่งได้เข้ามาจิงๆจังๆ ไงก็เขียนเรื่องต่อไปได้เลยนะคับ
รออ่านเต็มที่เลย o13
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-05-2010 21:35:34
จบแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หวานกำลังพอดี
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 09-05-2010 23:34:11
เข้ามาอ่านเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งถึงหน้าหกค่ะ ขออนุญาติแปะคอมเม้นท์คั่นหน้าไว้ก่อนน้า
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 11-05-2010 16:34:24
ตามจบจนได้ค่ะ แหม่.. เสียดายไม่มีฉาก "ทะเลาะ" กันเนาะ หุหุ

ขอบคุณคุณคฑาวุธสำหรับเรื่องสนุกๆ เหมือนเดิมนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 13-05-2010 10:02:48
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากๆค่า
ชอบหมูปิ้งอ่ะ ถึงร้ายก็น่ารักนะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 03-06-2010 18:27:34
ร้ายพอกันทั้งคู่ ^^
แต่นั่นแหละที่น่ารัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: RomeO_C_Leng ที่ 12-06-2010 14:24:25
ได้อ่านเรื่องของคุณคฑาวุธทีไรก็ยิ้มได้ทุกทีเลยครับขอบคุณมากนะครับบบบ

จะคอยติดตามอ่านนะครับชอบจิง ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-06-2010 21:17:15
นี่ก็อ่านเพิ่งจบไปอีกรอบเหมือนกัน :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-06-2010 10:59:01
โห...อยู่กันจนแก่เลยเชียว อิอิ ดีจัง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 01:20:38
หวานกำลังดีเลยค่ะ :o8: แต่งเก่งจังเห็นหลายเรื่องแหล่ะ ขอบคุณนะค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: dark-m-a-n ที่ 11-08-2010 02:14:43
 :z2:  ขอบคุณครับผม  :sad4: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย The END (18/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: okorisaru ที่ 14-09-2010 01:16:30
น่ารักมาเลยครับ

อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีครับ^^
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลยบทอวสานต์ (บ่าย 16/6/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Wr@iTh ที่ 14-09-2010 21:30:28
แหมๆๆๆๆๆ...รักกันหวานแหววมาราธอนดีจริงๆๆ :-[

อิจฉานะเนี่ย.... :laugh:

ปล.คนน่านไม่ได้ใจร้าย ปากแข็งอย่างโชคดีทุกคนนะเจ้า o18
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 15-09-2010 01:48:20
คู่นี้น่ารักกกก

อยากกินหมูปิ้งขึ้นมาเลยเชียว

คู่กัดคู่จิกกันมากๆๆๆๆ


อยากจะไปทะเลาะกับเขาบ้างจัง

ทะเลาะบ่อยๆๆกระชับความสัมพัน

กร๊ากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 29-10-2010 01:32:16
สนุกมากมาย
+1
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 09:38:24
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 18-01-2011 15:04:53
อยากอ่านตอนพิเศษ
คิดถึงคู่กัดแห่งปี
รุ่นสามชีวิตก้อน่าสนใจ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 25-01-2011 23:00:57
เพิ่งเข้าอ่านเรื่องนี้ค่ะ :mc4:
ดุเด็ดเผ็ดมันกันจริงๆเลย :laugh:
กว่าจะลงเอยกันได้นี่ ลุ้นกันตัวโก่ง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: jenjad99 ที่ 04-03-2011 00:19:43
สนุกจริง ๆ น่าจะมีต่ออีก :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 15-05-2011 19:16:20
 :haun4: หมูปิ้ง  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 03-03-2012 18:17:57
เพิ่งอ่านเรื่องนี้เหมือนกันครับ เนื้อเรื่องน่ารักดี ตอนแรกนึว่าหมูปิ้งรุกซะอีก 5555 ตัวสูงกว่าด้วย
อยากให้มีสักห้าสิบตอน คงตามลุ้นกันน่าดูเนอะ :) ขอบคุณนะครับสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่ได้นำมาถ่ายทอด  :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 04-03-2012 00:24:49
อ่านกี่รอบก็สนุก หมูปิ้งแรงดีจริงๆ
จำได้ว่ามีตอนพิเศษแอบอยู่ใน คดีรัก ...พักร้อน..
ไปหาก่อน...เจอแล้ว สลับไปมากับตอนหลัก หน้า 5-7, 15

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=15210.120
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-03-2012 14:33:51
หมูปิ้งร้ายตั้งแต่ต้นจนจบ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: ploylw_chery ที่ 05-03-2012 22:23:36

หมูปิ้งร้ายกาจมากกกกก... :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Aimmie88 ที่ 18-04-2012 16:04:09
อยากกินหมูปิ้งงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-04-2012 18:17:23
 :impress2:

ชอบมาก ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 26-07-2012 07:05:28
อ่านยังไม่จบขอแปะก่อน
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 26-07-2012 11:11:22
 :really2:

หลงรักน้องหมูปิ้ง 555
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 29-12-2012 14:33:14
เข้ามาอ่านอีกรอบ
สนุกกว่าเดิมค่ะ
ขอบคุณนะคะ
ปล. จะตามอ่านของคฑาวุธเรื่องอื่นๆ ต่อไป (หลายรอบ)
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 06-01-2013 19:44:05
ชอบมากๆเลยครับ

รอติดตามให้กำลังใจชุดต่อไปน่ะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 02-04-2013 17:00:53
นายช่างไหนว่าเป็นแฟนแล้วจะทำให้โชคดีหง่ออ่ะ
เท่าที่อ่านนี่ยอมตลอดดดด

แต่เวลาจะเอาอะไร
ลูกล่อลูกชนแพรวพราวมากกกกกกก


หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-05-2014 18:27:26
กว่าจะลงเอยกันได้
ทะเลาะกันแทบเป็นแทบตาย 55555

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 05-12-2014 12:58:05
เริ่มเรื่องอย่างโหด .... แต่จบได้น่ารักมากครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 24-06-2017 19:02:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย จบบทที่ 2 (3/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 17-03-2022 17:36:20
วิศวกรหนุ่มผู้กลายมาเป็น “นายช่าง” เหลือบตามมองแก้วน้ำเหมือนจะตัดพ้อ และหาคนคุยด้วย เพื่อระบายความในใจว่า ทำไมโชคดีไม่ชอบอะไรเขานักหนา
ถ้าเป็นเรา เราก็ไม่ชอบ พูดออกมาแต่ละคำดูถูกเดือนทั้งนั้น โอ๋แต่โต๋เด็กตัวเองเข้าข้างกันจนน่ากระทืบปาก เหมือนจะเป็นคนดีแต่ไม่น่าจะใช่
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ === ตอน ร้ายนักรักซะเลย บทที่ 3 (7/4/09)
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 17-03-2022 17:47:59
อาหารลำเลียงมาวางบนโต๊ะ ชยุตม์ก้มหน้าลงมองด้วยสีหน้าผะอืดผะอมเพราะไม่รู้จักชื่ออาหารสักอย่าง
คนแต่งก็เกินไปนะ เขียนเหมือนกับว่าอาหารพื้นเมืองเหนือน่ารังเกียจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ซีรี่ยส์ LOVE, FINALLY === กว่าเราจะรักกันได้ ===
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 21-12-2022 17:34:42
 :pig4: