รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักเอย : จริงหรือที่ว่าหวาน ? หรือทรมานใจคน  (อ่าน 241434 ครั้ง)

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #60 เมื่อ24-03-2009 16:43:45 »

ตามมาร่วม อยู่ในเหตุการณ์ด้วยคน

อิอิ

benxine

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #61 เมื่อ24-03-2009 16:50:30 »



พี่ราชบุตร หายไปนานนะค๊าบเนี้ย!!~


หุหุ  :impress2: :impress2: :impress2:


ยังไม่ได้อ่าน แปะไว้ก่อนไม่ว่ากันน้า!!~


peemakarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #62 เมื่อ24-03-2009 16:56:45 »

เข้ามาให้กำลังใจคนโพสค่ะ

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #63 เมื่อ24-03-2009 18:24:11 »

+1 ให้คุณราชบุตรนะคะ เรื่องสนุกมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนิยายถ่ายทอดสดเลย ....
ตั้งแต่ข้อ 1-6 ขอให้เป็นเรื่องที่ดี + ทั้งหมดเลยค่ะ เพราะเรื่องที่ไม่ดี เรื่องเศร้าน่าจะผ่านมา
ตั้งแต่ในอดีตก่อนน้องโอ๊ตจะเกิดแล้ว ขอเรื่องดี ๆ มาลบล้างความเศร้าให้ไอ้ตัวเล็กบ้างก็จะดี
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องดี ๆ ที่แต่งให้คนอ่านได้คอยติดตาม  :L1: :pig4:

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #64 เมื่อ24-03-2009 18:44:48 »

จะบอกว่ามาเจิมเรื่องใหม่ คงไม่ทันแล้วมั้ง

เห็นชื่อคนแต่งปุ๊บ รีบมาโพสต์รีพลายก่อนปั๊บ

อยากจะ :beat: :z6:ตัวเองมาก ไม่ได้เข้าเล้านานมาก

ตกข่าว(นิยาย)ทุกอย่าง(เรื่อง) งานเข้าอย่างแรง

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #65 เมื่อ24-03-2009 19:17:52 »

ขอแบบไม่เศร้าซักเรื่องได้ไม๊คุณราชบุตรขา :sad4:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #66 เมื่อ24-03-2009 19:26:59 »

สดจริง ๆ  ครับ . . .

. . . สดแบบแอบอู้งานด้วยน่ะ  ตอนนี้เลย

*****************************




ตอนที่ ๓


   ผมนอนนิ่ง ๆ  ไม่มีความคิดใด ๆ  หลงเหลือในหัวสมองอีกแล้ว  ทุก ๆ  อย่างมันมิดไปหมด  สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือการนอนนิ่ง ๆ ปล่อยให้ท่อนแขนของตัวเองต่างหมอนให้กับโอ๊ต  ในความมืดมิดของรัติกาลยังคงมีแสงสว่างจากภายนอกบ้านลอดผ่านเข้าบ้าง   แล้ว . . .

   . . . สิ่งที่มืดมิดที่สุดในหัวใจของผมมันจะหาแสงสว่างจากที่ใด

   ตอนนี้ . .

   เวลาที่ผมนอนอยูบนเตียงนอนเดิม ๆ ของผมนี้ใช่โลกใบเดียวกับเมื่อวานที่ผมอยู่หรือปล่าว  ถ้ามันคือโลกใบเดียวกัน  ทำไมวันนี้ผมรู้สึกว่าโลกมันดูโหดร้ายเหลือเกิน คำถามที่ผมเฝ้าถามมาตลอดสิบแปดปีเต็ม

   . . . พี่โน้ตหายไปไหน

   ผมทำอะไรผิด . . . พี่โน้ตถึงหายไป

   ผมไม่ใช่คนที่พี่โน้ตรักอีกแล้วพี่โน้ตถึงทิ้งผมเอาไว้คนเดียว . . .  คำตอบนี้ผมทราบแล้ว  ผมไม่ได้หายไปจากหัวใจของพี่โน้ต  ผมยังอยู่ในที่เดิมที่ผมเคยอยู่เสมอมา

   คำถามที่ผมถามตัวเองทุก ๆ  วัน  ในเวลาที่ผมอยากรู้คำตอบ  ผมไม่เคยเข้าใกล้สิ่งที่ผมอยากรู้ได้เลย  แต่ในทางกลับกัน  เมื่อเวลานึงมาถึง  ผมกลับได้รับรู้ในสิ่งที่ผมโหยหามาตลอด  ผมดีใจสิ  ผมต้องดีใจถึงจะถูก

   ผมควรดีใจ . . .

   . . . แต่

   ทำไมหัวใจผมกลับเจ็บปวดเมื่อได้ยินคำตอบจากโอ๊ต  คำตอบที่ผมเองก็อยากได้ยินแบบนั้น    มันคืออะไร  มันเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของผม 

   ผมนอนนิ่ง ๆ ปล่อยเวลามันเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ 

   . . . สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ในตอนนี้  ผมให้เวลามันเป็นตัวกำหนดทิศทางของมัน  ผมจะไม่ดิ้นรนอยากรู้อะไรอีกแล้ว

   ผมขยับตัวเพียงนิดเดียว  เหลือบมองเวลาจากนาฬิกาที่หัวเตียง  เกือบตีสาม  แปลกจัง  ผมไม่หลับ  สมองผมไม่ยอมหลับ  การขยับตัวของผม  อาจกระทบทำให้อีกร่างรู้สึก  เจ้าตัวขยับตัวก่อนหันมากอดผมเอาไว้

   หัวใจผมมันเต้นแรงกว่าปกติ . . .

   “อย่า  โอห์ม  อย่าคิดอะไรบ้า ๆ  แบบนั้น”  เสียงเบา ๆ  ดังมากระทบโสตประสาทของผม  หรือจริง ๆ  แล้วมันคือสิ่งดี ๆ  ที่มีอยู่ในตัวของผมก็เป็นได้

   ยิ่งร่างนั้นเบียดเสียดมาเพื่อที่จะขอความอบอุ่นจากร่างกายของผมมาเท่าใด  เลือดลมในร่างกายของผมดูเหมือนจะทำงานหนักมากกว่าปกติหลายเท่านัก  ผมต้องพยายามต่อสู้กับความรู้สึกในทางต่ำของตัวเองอย่างหนักหน่วง

   ผมค่อย ๆ  เอามือออกจากการโอบกอดอย่างช้า ๆ  มันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด  ก่อนที่เงาดำกฤษณาในร่างกายจะกำหนดหัวใจของผมห้ำดิ่งลงไปมากกว่านี้  ผมขยับกายลุกจากเตียงอย่างเผ่วเบา  ผมจับผ้าห่มให้กับหัวใจของคนที่ผมรัก  ก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วแตะที่แก้มของโอ๊ตอย่างเบามือที่สุด  ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะบอบช้ำ

   สิ่งที่ค่าที่สุดในชีวิตของคนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต . . .

   . . . ผมจะทำลายได้อย่างไร

   “อาโอห์มจะไปไหนครับ”  เสียงจากคนที่นอนหลับตา  ทำเอาผมต้องหันกลับไปมอง

   “จะไปห้องน้ำครับ”

   “โกหกบาปนะครับ  ห้องน้ำในห้องนอนก็มี  ทำไมต้องออกไปห้องน้ำข้างนอกด้วยล่ะครับ” 

   เอาแล้วไง . . .

   . . . ผมยิ้มกับความช่างสังเกตของไอ้ตัวแสบ  จะหาทางลงอย่างไรดีล่ะที่นี้  คนยิ่งไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ  เสียด้วย

   ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว

   “ก็อาหิวน้ำด้วย  แอบร้องไห้ตามใครก็ไม่รู้  โอ๊ตนอนไปก่อน  เดี๋ยวอาขึ้นมา”

   “โอ๊ตไม่นอน”  เจ้าตัวแสบกระโดดนั่งกลางเตียง

   “อ้าว”

   “ไม่รู้  โอ๊ตจะนั่งจนกว่าอาโอห์มจะขึ้นมา”

   “โอเคครับ  งั้นนั่งรอไปสองนาที  อาจะรีบขึ้นมา”  ผมส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู  บางทีกรรมที่ผมเคยดื้อกับพ่อมันกำลังสะท้อนมายังผมอยู่ก็เป็นได้

   กรรม . . .

   คือ  การกระทำ  บางที  กรรมที่ผมสร้างเอาไว้กับพ่อ  กำลังถูกส่งมายังผมโดยทางลูก  ผมไม่รู้นะ  ใครจะเชื่อหรือไม่เรื่องกรรม  แต่สำหรับผม  สิ่งใดที่เราทำ  เราจะได้รับการตอบแทนแบบนั้น  กรรมมันวนเวียนไปไม่รู้จักจบจักสิ้นหรอก

   ผมกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ลงไปสงบสติอารมณ์ความรู้สึกในด้านมืดของตัวเอง

   “ไม่นอนจริงอ่ะ” 

   ภาพที่ผมเห็น  ไอ้ตัวแสบนั่งมองมาที่ประตูตาแป๋ว  ผมอดที่จะเอ็นดูแกมหมั่นใส้ในความดื้อตาใสของโอ๊ตไม่ได้

   “นอนได้ไง  กลัวผี”

   “ตัวออกโต กลัวไรไม่เข้าเรื่อง”

   “ก็ผีมันน่ากลัวนี่ครับ”

   “เคยเจอเหรอ”

   “ฮืออออออออออ”  เจ้าตัวแสบส่ายหน้า

   เด็กหนอกเด็ก  กลัวสิ่งที่ไม่เคยเจอ  กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น  ผมเดินมานั่งที่เตียงเอามือขยี้หัวโอ๊ตเบา ๆ 

   “นอน  ดึกแล้ว”  ผมล้มตัวลงนอน  ไอ้ตัวแสบล้มตัวลงนอนตาม

   “อาโอห์ม”

   “ครับ”

   “อาโอห์ม  โอ๊ตแปลกใจตัวเองจัง  ทำไมโอ๊ตมีความรู้สึกว่าคุ้นเคยกับอาโอห์ม  ทั้ง ๆ  ที่โอ๊ตไม่เคยเจออาโอห์มมาก่อน    ทีกับเพื่อน ๆ  ที่ทำงานพ่อ  โอห์มไม่เห็นรู้สึกอย่างนี้เลย”

   “คงเป็นนรกกลั่นแกล้งแน่ ๆ   ความซวยมาเยือนใครคนใดคนนึง  ไม่โอ๊ตก็อาไง”  ผมหัวเราะเบา ๆ 

   “อย่าพูดเล่นดิ  โอห์มรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ   อาโอห์มใจดี  เหมือนพ่อโอ๊ตเลย”

   “เหมือนตรงไหน”

   “พ่อโอ๊ตไงใจดี  ตามใจโอ๊ต  แต่ไม่ทุกเรื่องหรอก  อันไหนผิด  พอ่โอ๊ตก็ตี  อันไหนที่ให้โอห์มตัดสิใจเอง  พ่อก็ไม่ว่า  หากมันไม่เดือดร้อนใคร”

   ผมเชื่อ . . .

   ขนาดผม  พี่โน้ตยังตามใจเสียจนเคยตัว  แล้วกับลูกตัวเอง  ทำไมพี่โน้ตจะไม่ตามใจ  ผมยิ้ม  อย่างน้อยที่สุดคนที่นอนใกล้ ๆ  ผมในตอนนี้  หัวใจของคนที่ผมรักมิใช่หรือ . . .

   “โทรบอกพ่อหรือยังว่ามาถึง กทม. แล้ว”

   “บอกแล้วครับ”

   “แล้วบอกพ่อหรือเปล่าว่ามาพักกับใคร”  ผมถามทั้ง ๆ  ที่กลัวคำตอบ  ผมพร้อมที่จะเจอพี่โน้ตตอนนี้หรือ  ผมเองก็ไม่กล้าตอบคำถามตัวเองเหมือนกัน

   “ไม่ได้บอกครับ”

   “พ่อคิดว่าพักกับอามิลล์”

   “ไม่หรอกครับ  เพราะก่อนมา  พ่อบอกกับโอ๊ตว่า  โอ๊ตจะพักที่ไหน  พักกับใคร  พ่อไม่ว่า  พ่อขอแค่  โอ๊ตได้เรียนตามที่โอ๊ตอยากเรียน   พ่อบอกไม่ใช่พ่อไม่ห่วง  พ่อห่วงโอ๊ต  แต่ที่นี่กรุงเทพฯ  เมืองไทย  ถ้าโอ๊ตไม่รู้จักการเอาตัวรอดในกรุงเทพฯ  ตอนกรกฎาโอ๊ตไปเยอรมันจะลำบากกว่าอีกหลายเท่า  โอ๊ตจะต้องหัดทำอะไรเอง ตั้งแต่ที่โอ๊ตรู้ว่าโอ๊ตจะต้องไปเยอรมัน” 

   ผมยิ้มอีกครั้ง  คำพูดของโอ๊ตเหมือนคำที่เคยสอนผมมาตลอด . . .

   “พ่อโอ๊ตเก่ง  สอนลูกดี”

   “โอ๊ตถึงรักพ่อไง  รักมากด้วย  ไว้อาโอห์มเจอพ่อโอ๊ตนะ  อาโอห์มจะเห็นเองว่าพ่อโอ๊ตใจดีขนาดไหน”

   “ครับ  ถ้ามีโอกาสอีกสักครั้ง  อาก็อยากเจอ”  คำพูดผม  โอ๊ตแปลไม่ถูกหรอก

   “ทำไมถึงอยากไปเรียนเยอรมัน”

   “ไม่รู้สิ  ทีแรกโอ๊ตอยากไปออสเตรเลียมากกว่า  ครูที่โรงเรียนบอกว่า  นนทกรพ่อเธอก็สอบได้ทุน AFS  ไปเยอรมัน    ตอนนั้น  นนทกรหมายมั่นมาก  อยากไป  ลงทุนให้ครูติวให้เลย  แต่ไม่รู้ทำมาสละสิทธิ์  ไม่ไปซะงั้น”

   คำตอบของโอ๊ต  ทำผมคอแห้งผาด . . .

   “ครับ”

   “โอ๊ตอยากทำตามความฝันของพ่อ   ครูบอกว่าพ่อฝันเอาไว้มาก  แต่พ่อทิ้งความฝันของพ่อ  โอ๊ตไม่เข้าใจ  ทำไมพ่อต้องทิ้งความฝันของตัวเอง  โอ๊ตเลยตั้งใจเรียน  ตั้งใจสอบชิงทุน โอ๊ตอยากให้พ่อมีความสุข  โอ๊ตนี่แหละที่จะเก็บความฝันของพ่อมาใหม่  พ่อไม่ไป  ลูกไปเอง”  เจ้าตัวหัวเราะเบา ๆ ส่วนผมนะหรือ . . .

   แทบจะหยุดหายใจลงตรงนั้นอยู่แล้ว . . .

   . . . ความฝันไม่เคยทำร้ายใคร

   แล้วทำไม . . . เราต้องทำลายความฝันด้วยล่ะ



   ผมเดินตั้งแต่สามแยกคอหงส์มายังบ้านพัก  นึกโมโหไอ้พี่โน้ตที่มันไม่ยอมไปรับที่เรียนพิเศษ  ทั้ง ๆ ที่มันนัดเอาไว้แล้ว  ผมเดินผ่านสระบัวในศูนย์วิจัย  ความรู้สึกโมโหหายไปหมด  ที่นี่มีความหมายสำหรับผม  เพราะที่แห่งนี้ . . .

   . . . หากไม่มีพี่โน้ต

   ผมคงไม่มีโอกาสได้มาเดินแบบนี้อีกแล้ว . . .

   ตั้งแต่วันที่ผมทำพี่โน้ตหัวแตก  ผมแทบจะไม่เคยทะเลาะกับพี่โนตอีกเลย  ผมไม่รู้ว่าทำไม ผมรู้เพียงแต่ว่า  สายตาที่พี่โน้ตมองผมในวันนั้นมันน่ากลัว  ผมเกลียดสายตานั้น  สายตาที่เหมือนกับจะตัดพ้อผมอยู่ตลอดเวลา

   “มีปาร์ตี้อะไรกันอีกละครับ”  ผมเดินมาถึงบ้านพัก  เห็นพ่อกับลุงตุ้ยกำลังสาละวนอยู่กับไฟประดับ  ที่ติดไว้กับต้นหมากเขียว  และ  ซุ้มราตรีที่ข้างบ้าน

   “ยังไม่รู้อีกหรือโอห์ม”  พ่อหันมาถาม

   “อาทไม่ต้องบอก  ไว้ไอ้ตัวแสบมันไม่ถามพี่มันเอง”  ลุงตุ้ยหัวเราะเบา ๆ 

   “โหลุงตุ้ย  บอกหน่อยสิครับ” 

   “เอ้า  อยากรู้ลุงก็จะบอก  จัดงานเลี้ยงให้ไอ้พี่โน้ตเราไง”  ลุงตุ้ยยิ้มกว้าง

   “งานเลี้ยง เลี้ยงอะไร”  ผมงงไปหมดแล้ว

   “อยากรู้ไปถามเจ้าตัวเอง  นอนอยู่บนห้องโน่น”

   ผมรีบปรี่ไปในทันที  วันนี้ที่บ้านมีงานเลี้ยงให้พี่โน้ต  แถมไอ้พี่โน้ตันดันไม่ยอมไปรอรับผมที่เรียนพิเศษอีก    ผมรีบวิ่งไปบนห้องพี่โน้ต

   “ตื่น ๆ  ไอ้คุณพี่  ตื่นดิ”  ผมนั่งทับบนร่างพี่โน้ต

   ไม่ยอมรอรับผม  แต่ดันแอบกลับบ้านมานอนก่อน  ผมเขย่าตัว  แต่ไม่มีการตอบรับจากพี่โน้ต  ยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้ผมอีก

   “ตื่นมั้ยนี่แน่ะ ๆ ๆ”   ผมเอาหมอนปิดหน้าพี่โน้ต  ก่อนทิ้งตัวกดทับ

   “โอ้ย  อะไรนี่คนจะนอน”

   เจ้าตัวพยายามเอาหมอนออก  ก่อนจับผมล๊อคเอาไว้  ผมดิ้นไม่ยอมให้มันกอดเอาไว้ได้ง่ายๆ หรอก

   “ไอ้พี่บ้า  ไม่ยอมไปรับ”

   “เออลืมเลย  โทษที”

   “แบบนี้ทุกที  ลืมตลอด  ขอต่อยทีได้มั้ยค่าที่ไม่ยอมไปรับ”  ผมเงื้อหมัดรอ

   “เอาดิ๊  อีกหน่อยก็ไม่อยู่ให้ต่อยแล้ว”  พี่โน้ตยิ้ม  ยื่นหน้ามาหาผม

   “ไม่อยู่ให้ต่อย  จะไปไหน”

   “ไม่บอก”  มันลอยหน้าลอยตายั่วผมได้อีก

   “ไม่เกินสามวันหรอก  โอห์มรู้น่า”  ผมยิ้มอย่างเป็นต่อ

   “ใครบอก  สามร้อยหกสิบห้าวันต่างหาก  ปีนึงว่ะ ไอ้ตัวเล็ก”  พี่โน้ตหัวเราะ  เอามือมาขยี้หัวผมเบา ๆ 

   “ปีนึง  ไปไหน  ไอ้พี่โน้ตจะไปไหน”

   “เยอรมัน”  มันยืดอก

   ผมมองหน้าพี่โน้ต  ในเวลานั้นผมใจหาย  กลัวว่าจะไม่มีคนไปรับที่เรียนพิเศษ  กลัวว่าจะไม่มีคนให้แกล้ง  ผมกลัวไปหมด

   “ไม่ให้ไป”

   “ต้องไป”

   “รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ไอ้พี่โน้ต”  ผมตะโกนใส่หน้า  เพราะเริ่มรู้ว่า  สิ่งที่ผมกลัวมันกำลังมาใกล้ตัวทุกที

   “ทำไมต้องตะโกนด้วย  พี่สอบตั้งสามเดือนก่อน  เพิ่งรู้ผลวันนี้เอง  ตื่นเต้นรีบมาบอกพ่อลืมไปรับเราไง”  พี่โน้ตเอามือมาขยี้หัวผม

   ผมเบี่ยงตัวหลบ

   “ไอ้พี่บ้า  ไอ้พี่โน้ตบ้า  จะทิ้งโอห์มไปตั้งปีนึง  ไม่บอกโอห์มด้วย  โอห์มเกลียด  เกลียดพี่โน้ต”  ผมตะโกนใส่หน้า  ก่อนที่จะวิ่งลงมาจากห้องพี่โน้ต

   “โอห์ม  โอห์ม”  เสียงไอ้พี่โน้ตตะโกนเรียกผม

   ผมโมโหมาก . . .  โมโหเรื่องอะไรผมไม่รู้  แต่ผมรู้ว่า  ผมไม่มีพี่โน้ตอีกแล้ว  มันจะทิ้งผมไปแล้ว  ผมวิ่งมาที่จักรยานที่โรงจอดรถพ่อ  ไม่ฟังเสียงเรียกของพ่อ ผมปั่นมันไปทางตีนเขา  ถนนสายนี้ไปสุดสายที่ตีนเขา  แล้วหลังจากนั้นมันจะมีทางเดินไปบนอ่างเก็บน้ำที่  เลยไปบนเขาจะมีน้ำตำเล็ก ๆ  พี่โน้ตเคยพาผมมาแต่มันนานแล้ว

   ผมจอดรถจักรยานเอาไว้ที่สุดทาง  ก่อนที่จะเดินไปบนเขาคอหงส์เรื่อย ๆ  ผมไม่รู้ข้างหน้าจะมีอะไรบ้าง  ผมรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมมีแต่ความหวาดกลัวอย่างที่สุด  เป็นความกลัวที่มันรู้สึกหนาวเหน็บไปจนถึงขั้วหัวใจ

   พี่โน้ตจะทิ้งผมไปแล้ว . . .

   เขาไม่บอกผมสักคำ  ไม่แม้แต่จะบอกผมมาก่อนว่าพี่จะต้องสอบนะ   พี่ต้องไปเรียนเมือนอกนะ ทุก ๆ  อย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำป่าที่ไหลหลากอย่างบ้าคลั่ง ผมไม่พร้อมที่จะอยู่คนเดียว ผมไม่อยากให้พี่โน้ตไป

   ผมเดินร้องไห้มาตลอดทาง  ผมกลัว  ผมเสียใจ  ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมตอนนั้นผมถึงรู้สึกแบบนั้น  สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและพี่โน้ต  ผมจะเรียกมันว่าอะไรดี   เพราะทุก ๆ  อย่างเหมือนมันจะเดินก้าวข้ามความรู้สึกต่าง ๆ  มามากต่อมาก

   เดินข้ามเส้นที่เรียกว่า . . .

   . . . ความรัก

   หรือ . . . กำลังเดินหลงวนเวียนอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า

   . . . ความผูกพัน

   ผมไม่รู้  ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น

   ผมรู้เพียงแค่ว่า  ตั้งแต่จำความได้  ผมมีมันอยู่กับผม  ไม่เคยห่างไกลกัน  แล้วการห่างกันนับแรมปี  ผมจะอยู่ได้หรือ  ผมจะอยู่ได้อย่างไรกัน  ผมร้องไห้มากที่สุดในชีวิต  มากกว่าตอนที่ผมทำพี่โน้ตหัวแตกเสียอีก  ผมเสียใจกับสิ่งที่ได้รับรู้ว่ามันใกล้เวลาแห่งการลาจาก

   ผมลืมไป . . .

   . . . การจากลา  คือส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์เสมอ

   ผมเดินไปเรื่อย ๆ  จนลืมมองว่าป่าทุกที่มันเหมือน ๆ  กัน

   กว่าผมจะรู้ตัวอีกที . . .

   . . . ผมเดินมานอกเส้นทางปกติที่ผมเคยเดิน  ตอนมาจากบ้านผมหลงกับแรงโมโหจนขาดสติ  อยากไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด

   แต่ตอนนี้ . . .

   . . . ผมหลงป่า

   ความกลัว . . . การจากลาของพี่โน้ตค่อย ๆ  หายไป  เมื่อเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องกันระงมไปทั่วทั้งป่า  ผมมองดูรอบ ๆ ตัว  ต้นไม้ครึ้มไปหมด  มันสูงชะลูดไปบนฟ้า  บางต้นแผ่กิ้งก้าน  เหมือนมือยาว ๆ  ของอะไรบางอย่างที่ชอบมากับความมืด 

   ผมพยายามมองไปรอบ ๆ  ตัว  ที่เริ่มมืดเข้ามาเรื่อย ๆ . . .

   ทุก ๆ  ภาพที่เห็นมันน่ากลัวไปหมด  ผมไม่เคยเข้ามาคนเดียว  แม้มันจะอยู่ใกล้บ้าน  แต่ผมไม่ชอบออกมาเดินป่าคนเดียว  ผมพยายามระงับความกลัว  มองหาต้นไม้ที่คุ้นตา  มองหาทางเดินที่เขาใช้กันบ่อย ๆ    แต่ดูเหมือนว่า  มันจะแทบไม่มี

   ผมกลัวมาก . . .

   . . . กลัวจนร้องไห้ออกมาอีก

   อากาศรอบตัวเริ่มเย็น  ผมมองนาฬิกาข้อมือ  จะทุ่มนึงอยู่แล้ว  ดวงตาผมแห้งไม่มีน้ำตาอีกแล้ว  ผมร้องจนปวดกระบอกตาไปหมดแล้ว  ไม่รู้ว่าร้องเพราะกลัวอย่างใดกันแน่

   ถ้า . . .

   . . . ผมยังหาทางออกจากป่านี้ไม่ได้

   เสือ . . . จะมีเสือหรือไม่หว่า สมองผมคิด  มันทำให้ผมขนลุกอย่างที่สุด  ผมรีบ ๆ  เดิน  แต่สมองมันคิด  แล้ว . . .

   . . . งู

   แค่คิดมันก็สยองในหัวใจ  ผมเกลียดงู  เกลียดมากที่สุดแล้ว  ผมจะทำอย่างไร  ผมจะออกไปจากป่านี้ได้อย่างไรกัน

   ผมอาจจะโชคดีอยู่หน่อย  ตรงที่ผมมาถึงธารน้ำตกที่ผมเคยมากับพี่โน้ต  แต่ผมโชคร้าย เพราะตอนนี้ท้องฟ้าทาทาบด้วยแสงแห่งรัตติกาล  มีเพียงแสงดารากระพริบระยิบระยับ  ทั้งป่ามีเสียงขับกล่อมจากหรีดหริ่งเรไร

   ผมปีนไปบนก้อนหินก้อนใหญ่  เพราะไม่แน่ใจว่าหากหลบตามซอกหินผมจะเจออะไรบ้าง  ผมแหงนหน้ามองฟ้า  ดาวระยิบระยับทักทายหัวใจที่อ่อนระโหยโรยแรง  ผมกลัวจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว

   คืนนี้ . . .

   . . . ยาวไกลขนาดไหนผมไม่รู้

   และ . . . ผมจะมีลมหายใจไปถึงวันพรุ่งนี้หรือปล่าว

   ผมกลัวมาก  กลัวอย่างที่สุด  ผมนั่งขดตัวเอามือกอดอกบนหินก้อนใหญ่  อากาศรอบ ๆ ตัวหนาว  หนาวจนเหมือนจะแช่หัวใจของผมให้เย็นฉียบ  เสียงน้ำจากโตรกธารอยู่เป็นเพื่อนผม  อยู่ใกล้ ๆ  ผมนั่นเอง

   ผมมันงี่เง่า . . .

   . . . เจ้าอารมณ์

   ในเวลานั้นผมรู้สึกเกลียดตัวเอง  เกลียดมากที่สุด  ถ้าผมไม่งี่เง่า  ป่านนี้ผมคงได้อยู่งานปาร์ตี้  สนุกสนานไปแล้ว  จะมีใครในงานรู้ไหมว่าผมหายไปจากบ้าน  จะมีใครรู้หรือเปล่า  ถ้า . .

   . . . ถ้า

   เทพเจ้าแห่งความโชคดีอยู่ข้างผม    ผมคงจะผ่านความเลวร้ายของคืนนี้ไปได้  ผมจะมีลมหายใจอยู่ไปจนลำแสงแห่งตะวันจะทาทาบที่ริมขอบฟ้าด้านฝั่งบูรพา

   แต่ . . . ในทางกลับกัน

   บางทีพรุ่งนี้ผมคงเหลือแค่เศษซากที่เหลือจากสัตว์ป่า

   แค่คิดผมก็แทบบ้า  ผมกลัวมาก  กลัวอย่างมากที่สุดในชีวิต ผมไม่เคยกลัวอะไรแบบนี้มาก่อน  ผมกอดตัวเองเอาไว้ เอาหน้าซุกที่หัวเข่า

   “พี่โน้ต  ช่วยโอห์มด้วย  โอห์มกลัว  โอห์มกลัว”  ผมร้องบอกตัวเองเบา ๆ 

   เวลามันผ่านไปอย่างเชื่องช้า  สำหรับผม  ทำไมป่าทั้งป่ามันเงียบสนิทเช่นนี้  จะว่าเงีบก็ไม่ถูก  เพราะยังมีเสียงขับกล่อมจากสรรพสัตว์และเสียงจากธารน้ำ  แต่ผมไม่ชอบ ผมไม่ชอบเลย  ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้  ไม่อยากอยู่อีกแล้ว

   แสงไฟ . . .

   ผมยิ้มเมื่อเห็นแสงไฟ  สาดส่องไปมาในความมืด  พี่โน้ต  ความรู้สึกแรกผมบอก แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ  ผมลังเลใจ  พี่โน้ตเคยสอนเอาไว้นี่หว่า  ผมจำได้  เวลาที่เข้าป่าหากหลงกันให้ใช้หินเคาะเป็นจังหวะ  ผมรีบลงมาจากหินก้อนใหญ่  หยิบหินที่ใต้สายน้ำอันเย็นเฉียบ

   ผมเคาะมันกับหินก้อนใหญ่เป็นจังหวะเดินสวนสนาม . . .

   แสงไฟที่เห็นไกล ๆ  หยุดนิ่งคล้ายจะหาที่มาของเสียง  ผมเคาะอีกครั้ง  คราวนี้ออกแรงหนักกว่าเดิม  แสงไฟนั่นส่องมาทางผม  และดูเหมือนว่า แสงนั้นจะพุ่งมาทางผมอย่างรวดเร็ว

   “ตัวเล็ก  ตัวเล็กอยู่ไหน” 

   เสียงพี่โน้ต พี่โน้ตกำลังวิ่งาตามเสียงที่ผมเคาะ  ผมร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ  ผมไม่ตายแล้ว  ผมไม่ตายแน่ ๆ  ถึงแม้ว่าผมจะตายตอนนี้ผมก็ไม่กลัวอีกแล้ว

   “เคาะต่อไปตัวเล็กเคาะต่อสิ”  เสียงพี่โน้ตตะโกนบอก

   “โอห์มอยู่นี่  อยู่ที่ริมน้ำพี่โน้ต”  ผมตะโกนบอกกลับไป  มือยังคงเคาะบอกสัญญาณที่มาของเสียง

   “โอห์ม”   พี่โน้ตตรงดิ่งมาที่ผม  ดึงผมกอดเอาไว้

   “พี่โน้ต”  ผมกอดตอบ  ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย  ผมดีใจอย่างที่สุด  ที่คืนนี้ผมไม่ต้องติดอยู่กลางป่า  “โอห์มกลัว  พี่โน้ต  โอห์มกลัว”

   “ไม่ต้องกลัว  พี่อยู่นี่  พี่อยู่นี่แล้ว”  พี่โน้ตกระชับผมเข้ากับอกจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน

   “โอห์มนึกว่าคืนนี้โอห์มจะตายในนี้ซะแล้ว”

   “ไม่หรอกโอห์ม  พี่ไม่ยอมหรอก  พี่ไม่ยอม”  พี่โน้ตกอดผมเอาไว้  พี่โน้ตร้องไห้  “อย่าทำแบบนี้อีกรู้มั้ย  พี่เป็นห่วง” 

   “ครับ”

   “อย่าเข้าป่ากลางคืน  ไม่มีไฟมันอันตราย”

   “ก็โอห์มโมโห  พี่โน้ตจะทิ้งโอห์ม  พี่จะทิ้งโอห์ม”  ผมกอดพี่โน้ตเอาไว้

   “ทิ้งไปไหน  ที่บ้านห่วง  ออกมาตามกันหลายกลุ่มเลยรู้มั้ย  ไม่มีใครทิ้งโอห์มหรอก  ทุกคนรักโอห์มทั้งนั้น”

   “รักแล้วจะไปเยอรมันโดยไม่บอกโอห์มสักคำ” 

   “โอห์ม . . .”  พี่โน้ตแกะผมออก  เอามือปาดน้ำตาผมทิ้ง  “. . . มองตาพี่สิครับ  คนดีของพี่” 

   ผมมองหน้าพี่โน้ต  เอามือเช็ดน้ำตาตัวเองอีกรอบ  ผมเห็นแววตาพี่โน้ต  แววตาที่เต็มไปด้วยความรัก  ความห่วงใยที่มีต่อผม

   “โอห์ม  เห็นพี่ใช่มั้ย”

   ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

   “พี่ไปเรียน  ปีเดียวเองนะครับ”

   ผมพยักหน้า  รับทราบอีกครั้ง  หากแต่  ผมเก็บน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่ได้  ผมร้องไห้ออกมาอีก  ผมไม่อยากให้ไป  ไม่อยากให้พี่โน้ตไปไกลจากผม

   “คนดีของพี่   ฟังพี่หน่อยได้ไหม”

   ผมไม่ตอบ  ทำได้แค่ร้องไห้  เพราะต่อจากนี้อีกไม่กี่เดือน  ผมคงห่างจากพี่โน้ต  ห่างจากคนที่ผมสนิทและผูกพันมากที่สุดในชีวิต

   “เอางี้  โอห์มหยุดร้อง  แล้วบอกกับพี่มาว่าไม่อยากให้พี่ไป”

   “โอห์มไม่อยากให้พี่ไป”

   “พี่ . . .  ไม่ . . .ไป ก็ได้  ไม่ไปเยอรมันแล้วนะ”    เสียงพี่โน้ตคล้ายจะออกมาจากไรฟัน  เหมือนคนที่ทรมานจากการตัดสินใจ  แต่ในเวลานั้น  ผมไม่เคยมองถึงหัวใจของคนอื่นนอกจากความต้องการของตัวเอง

   “สัญญา”  ผมยกนิ้วก้อยขึ้นขอพันธะ

   “พี่สัญญา . . .”   พี่โน้ตยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวเอาไว้   “. . . โอห์มไม่อยากให้พี่ไป  พี่ก็ไม่ไป  พี่ทำเพื่อโอห์มได้เสมอ อันไหนที่โอห์มอยากได้พี่ให้โอห์มได้  แม้แต่ชีวิตของพี่   แต่คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะ  สัญญากับพี่นะตัวเล็ก”

   พี่โน้ตดึงผมไปกอดเอาไว้แน่น  แน่นจนผมรู้สึกว่าโลกใบนี้มีเพียงแต่ผมกับพี่โน้ตเท่านั้น 
   

   
   










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2009 19:01:07 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #67 เมื่อ24-03-2009 20:14:32 »


ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร


ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #68 เมื่อ24-03-2009 20:24:01 »

 :m15: :m15: :m15: :m15: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #69 เมื่อ24-03-2009 20:24:17 »

บรรยายความรู้สึกไม่ออกเลยจริง ๆ  ระหว่างโอห์ม กับ พี่โน๊ต

มันมากมายนะ กับคนที่ยอมทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อคนที่รัก

 :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #69 เมื่อ: 24-03-2009 20:24:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nanao

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #70 เมื่อ24-03-2009 20:53:45 »

โหยคุณราชบุตร แต่งได้กินใจจัง
เก็บทุกรายละเอียด

แต่ขอจบแบบแฮปปี้นะครับ ในท้ายที่สุด พี่โน้ตและตัวเล็กก็ได้เจอกัน
และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ขอแบบนี้นะครับ พลีส  :impress2:

ออฟไลน์ «ƤȑǃǹĉΞḠ○ḺҒ™»

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 251
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #71 เมื่อ24-03-2009 22:05:52 »

ซึ้ง ๆๆ


มารอตอนต่อไปคร้าบบ



 :o12:  :o12:  :o12:

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #72 เมื่อ24-03-2009 22:52:56 »

ไม่เคยผิดหวังที่ได้อ่านเรื่องของคุณราชบุตรเลยสักครั้ง
ขอบคุณค้าบ
:pig4:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #73 เมื่อ24-03-2009 23:47:27 »




ช่วงที่ผ่านมา . . . ว่างนิดหน่อย


เลยปริ้นนิยายออกมาทำเป็นรูปเล่ม 




 ไม่มีวางขาย  เพราะรวยพอแล้ว  ไม่มีหนี้สิน  พอกินในแต่ละเดือน  เหลือเที่ยวอีกนิดหน่อย  สมทบทุนการศึกษาเด็ก ๆ  นิดนึง เหอะ ๆ ๆ ๆ


เอารูปปกมาฝากเพื่อน ๆ  (น้องคนนึงทำให้อ่ะ  เด็กภูเก็ต  น่ารักมาก ๆ ขอบใจเน้อ)






ปกหน้า





ปกหลัง




เป็นเรื่องฉบับสมบูรณ์ . . .  ฉบับเท่าพ๊อกเก็ตบุค


เอาเป็นว่า  เอามาแจกแฟนนิยายเรื่องนี้แล้วกัน  แต่ขอคิดก่อนจะมีเกมส์ไรมาเล่นดี  เพราะนิยายมีแค่เล่มเดียวอ่ะครับ  จะทำแจกทุกคนคงไม่ไหว  จะพิมพ์ขายหรือก็ไม่เคยอยู่ในรอยหยัก





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2009 00:11:35 โดย ราชบุตร »

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #74 เมื่อ24-03-2009 23:49:47 »

อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แบบว่าจะเก็บทุกเวอร์ชั่นเลย

อิอิ


mecon

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #75 เมื่อ25-03-2009 02:12:59 »

ซึ้งจนน้ำตาซึมพี่โน๊ตสุดยอดจิงๆอาโอห์มไปดูหลานโอ๊ตที่โน้นเลยดีมั๊ยเยี่ยมมากๆคะ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #76 เมื่อ25-03-2009 03:25:27 »

ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ยังบวกเพิ่มไม่ได้ งั้นขอกอดขอบคุณแทนนะคะ  :กอด1:

เป็นนิยายที่ประทับใจตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อง
ความผูกพันระหว่างพี่โน้ตกับโอห์มลึกซึ้งมากๆ
การที่พี่โน้ตยอมทิ้งความฝันหนึ่งเพื่อโอห์มแสดงให้เห็นถึงความรัก ความเสียสละไม่น้อยเลย

ตอนนี้คุณราชบุตรก็ได้เฉลยแล้วว่าพี่โน้ตยังมีชีวิตอยู่
พี่โน้ตกับโอห์มน่าจะได้มีโอกาสพบกันอีก แต่จะได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันหรือไม่คาดเดายากมาก
(ไม่รู้ว่าคนแต่งคิดไว้ล่วงหน้าหรือยังน้า)

พี่โน้ตอาจจะรู้สึกผิดที่ทำพลาดพลั้งไปกับแม่ของโอ๊ต จึงไม่กล้ากลับมาหาโอห์มอีกเลย
และพี่โน้ตอาจไม่รู้เรื่อง แต่มิลค์อาจเป็นผู้วางแผนให้โอ๊ตเป็นคนเชื่อมโยงหัวใจรักให้ได้กลับมาพบกันอีก

กรรมจากความดื้อและซุกซนที่โอห์มเคยทำไว้กับพี่โน้ต อาจเป็นตัวโยงใยโอ๊ตไว้กับโอห์มอย่างที่โอห์มคิด

ลุ้นมากๆเลยค่ะ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะคุณราชบุตรบอกว่าถ่ายทอดสดเรื่อยๆ
แต่คาดหวังลึกๆว่าจะไม่จบเศร้า เพราะเห็นบอกไว้ว่า
"พยายามเขียนให้อ่านง่าย  ไม่อยากให้เศร้า  อยากให้รู้สึกอบอุ่นกับความรักมากกว่า"
เลยคิดว่าคงไม่บีบหัวใจจนสะเทือนกันไปนะคะ

ปล เอาหนังสือมายั่วกันงี้เลย แถมมีแค่หนึ่งเดียวอีก ยืดแล้วจ้าน้ำลายอ้ะ  :z1:

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #77 เมื่อ25-03-2009 04:19:54 »

ไม่อยากเดาเลยครับ  บีบหัวจาย

รออ่านต่อดีกว่า

ใช้อารมณ์สด ๆ นี่แหละ

พี่อย่าเศร้ามากนะครับ  เป็นห่วง...

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #78 เมื่อ25-03-2009 09:10:30 »

ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ยังบวกเพิ่มไม่ได้ งั้นขอกอดขอบคุณแทนนะคะ  :กอด1:

เป็นนิยายที่ประทับใจตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อง
ความผูกพันระหว่างพี่โน้ตกับโอห์มลึกซึ้งมากๆ
การที่พี่โน้ตยอมทิ้งความฝันหนึ่งเพื่อโอห์มแสดงให้เห็นถึงความรัก ความเสียสละไม่น้อยเลย

ตอนนี้คุณราชบุตรก็ได้เฉลยแล้วว่าพี่โน้ตยังมีชีวิตอยู่
พี่โน้ตกับโอห์มน่าจะได้มีโอกาสพบกันอีก แต่จะได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันหรือไม่คาดเดายากมาก
(ไม่รู้ว่าคนแต่งคิดไว้ล่วงหน้าหรือยังน้า)

พี่โน้ตอาจจะรู้สึกผิดที่ทำพลาดพลั้งไปกับแม่ของโอ๊ต จึงไม่กล้ากลับมาหาโอห์มอีกเลย
และพี่โน้ตอาจไม่รู้เรื่อง แต่มิลค์อาจเป็นผู้วางแผนให้โอ๊ตเป็นคนเชื่อมโยงหัวใจรักให้ได้กลับมาพบกันอีก

กรรมจากความดื้อและซุกซนที่โอห์มเคยทำไว้กับพี่โน้ต อาจเป็นตัวโยงใยโอ๊ตไว้กับโอห์มอย่างที่โอห์มคิด

ลุ้นมากๆเลยค่ะ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะคุณราชบุตรบอกว่าถ่ายทอดสดเรื่อยๆ
แต่คาดหวังลึกๆว่าจะไม่จบเศร้า เพราะเห็นบอกไว้ว่า
"พยายามเขียนให้อ่านง่าย  ไม่อยากให้เศร้า  อยากให้รู้สึกอบอุ่นกับความรักมากกว่า"
เลยคิดว่าคงไม่บีบหัวใจจนสะเทือนกันไปนะคะ

ปล เอาหนังสือมายั่วกันงี้เลย แถมมีแค่หนึ่งเดียวอีก ยืดแล้วจ้าน้ำลายอ้ะ  :z1:







ขอบคุณครับ . . .

แนวความคิดโดนใจผมจังเลย   รับฟังนะครับ  แต่ไม่รับปากว่าจะเขียนแบบที่รับฟัง

เพราะ . . .

ตามที่คิดเอาไว้  มันน่ากลัวกว่าเยอะ  คนเขียนยังไม่แน่ใจว่าจะกล้าเขียนแบบที่ตัวเองตั้งพล๊อตไว้ในหัวหรือปล่าว  กลัวจะช๊อคเสียเอง  อิอิอิ



ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #79 เมื่อ25-03-2009 15:36:58 »

ว้าย ระวังนะคะ อา รักกับพ่อ.......แต่ หลาน จะมาหลงรักอา....
กงเกวียน กำเกวียน อิอิ

ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร
ป.ล. ขอโมดิ.นิด....หมั่นใส้คนบางคน.......มาบอกให้คนอื่น'สด'....แต่ตัวเองชอบ'ดอง' ชิส์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2009 15:43:29 โดย kit »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] รักเอย
« ตอบ #79 เมื่อ: 25-03-2009 15:36:58 »





RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #80 เมื่อ25-03-2009 15:53:33 »

ว้าย ระวังนะคะ อา รักกับพ่อ.......แต่ หลาน จะมาหลงรักอา....
กงเกวียน กำเกวียน อิอิ

ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร
ป.ล. ขอโมดิ.นิด....หมั่นใส้คนบางคน.......มาบอกให้คนอื่น'สด'....แต่ตัวเองชอบ'ดอง' ชิส์




ต๊าย . . . ของดองบางอย่างก็อร่อยนะค๊ะคุณ

จริงป่ะค่ะน้อง . . . แทนย่า
อูย . . . 

พ่อกับอา  รักกัน  แล้วมารักกับหลานอีกสักครั้งไม่เท่าไหร่  หรอกมังค่ะ

กลัวแต่ว่า . . .

มีอะไรกับพ่อ . . . แล้วมามีต่อกับหลานอีกนี่สิ

ทรมานนนนนนนนนนนนน  สุด ๆ  บาปรักเลยนะค๊ะคุ๊ณณณณณณณณ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2009 19:02:04 โดย ราชบุตร »

tamtam

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #81 เมื่อ25-03-2009 16:15:49 »

 :pig4:

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #82 เมื่อ25-03-2009 17:39:32 »



ตอนที่ ๔

   โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่ นับว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดก็ว่าได้  เป็นโรงเรียนเก่าแก่  และมีชื่อเสียงทางด้านวิชาการมาก  ไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากสอบเข้าที่นี่  แต่ก็นั่นแหละ  การที่จะสอบที่นี่ได้ใช่ว่าจะง่าย ๆ  เสียเมื่อไหร่  โรงเรียนตั้งอยู่ริมถนนสี่เลน  ฝั่งซ้ายของโรงเรียนเป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งชาติสาขาภาคฯ  ส่วนฝั่งขวา  เดินไม่ไม่ไกล  ก็จะเป็นสถานที่ราชการ  ที่ทำการของเทศบาลนครฯ  และหากเดินต่อไปอีกก็จะถึงวงเวียนน้ำพุ


   ที่นี่เมืองใหญ่ . . .

   “ไอ้โอห์ม  พรุ่งนี้วันเสาร์นี้ไปดูหนังที่พลาซ่ากัน”  ไอ้บอลเอ่ยชวน  เมื่อเราเลิกเรียนในคาบสุดท้าย

   “เรื่องไรว่ะ”

   “หวานมันส์ฉันคือเธอ” 

   “ไอ้ศาล  มึงเป็นไปกับมันด้วยเหรอ”  ผมหันไปมองหน้าเพื่อนอีกคนในกลุ่ม    แปลกใจ  เพราะในความเป็นจริงแล้ว  มันน่ะเป็นพวกหนอนหนังสือ  ไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่

   “อ้าว  ไอ้บอลมันบอกเลี้ยงวันเกิดมันไง  ของฟรีใครไม่ไป”

   “รอบไหนว่ะ”

   “บ่ายทันมั้ยว่ะ  เลิกเรียนพิเศษเที่ยง  ไอ้ชายมันไม่มีเรียนให้มันไปจองตั๋วรอก่อนดีป่ะ”  ไอ้บอลหันไปทางเพื่อนอีกคน

   “ทำไมต้องกูว่ะ” 

   คนโดนพาดพิงหันมามองหน้า  ก่อนที่พวกเราจะหยุดที่หน้าพระพิฆเณศวร์  แล้วยกมือไหว้พร้อม ๆ  กัน  สิ่งเคารพของพวกเราเลือดฟ้าแดง

   “มึงไม่มีเรียนไง   หรือมึงไม่อยากดูจินตหรา”  ไอ้บอลมองหน้า

   ดาราดังของรุ่นนั้น  ที่คลั่งไคล้ของพวกผมทั้งรุ่น  จำได้ว่าตอนที่เขาไปถ่ายหนังเรื่องวงศาคณาญาติ  ที่ มอ.  ผมนะรบเร้าไอ้พี่โน้ตให้พาไปวิ่งออกกำลังกายที่ริมสระที่มอ. ทุกวัน  ทั้ง ๆ ที่ร้อยวันพันปี  ผมไม่ชอบออกกำลังกายเลยให้ตายสิ

   “กินติมกันดีกว่าว่ะ”  ไอ้ศาลขยับแว่น  พวกเราทั้งกลุ่ม

   “ใครเลี้ยง”  ผมหันไปมองหน้า

   “มึงไง”

   “ทำไมต้องกูว่ะ”

   “วันนี้วันเกิดมึงไอ้เหี้ยโอห์ม  อย่าทำเนียน  กูจำได้  มึงเกิดก่อนไอ้เหี้ยบอลหนึ่งวัน  ตอนวันเกิดกูก็พาไปเลี้ยงแล้ว  ตามึงเลยงานนี้”

   “กูจะแดกบานาน่าสปิต”   ไอ้บอลมันหันมายิ้ม

   “โหเพื่อน  ไม่มีบอกกันก่อนล่ะ  แล้วกูจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงพวกมึงว่ะ  แม่งมีอยู่แค่เนี๊ยะ”  ผมล้วงในกระเป๋ากางเกง  มีเหลืออยู่ไม่ถึงห้าสิบบาท

   “เอาน่า  เดี๋ยวกูให้ยืมก่อน”  ไอ้บอลหันมาบอก

   “ไอ้เวร  ให้กูเลี้ยง  แล้วให้กูยืมเงินอีก  เจริญนะมึง”

   “เหี้ยนี่ทำเป็นยิว  กูไม่แดกบานานาสปิตก็ได้  ขอเป็นช๊อคกแลตซันเดย์ก็พอ”  มันยิ้มต่อรอง

   “ถูกกว่ากันห้าบาทนะมึง แม่งเอ้ย  จะแดกไรก็แดก  กูเหลือค่ารถเมล์สองบาทพอ” 

   “พี่มึงไม่รับมึงเหรอวันนี้”

   “บอกว่ามีธุระ  ตั้งแต่ขึ้น ม.๓  เลิกเรียนทีไรทิ้งกูนั่งตุ๊ก ๆ  ตลอด  อย่าให้พ่อยอมให้กูขับมอไซด์มั่งเหอะ  กูไม่ง้อแม่ง” 

   ร้านไอศกรีมที่เราจะไปกัน  อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับโรงเรียน  สมัยนั้นไม่มีสะพานลอย  แต่จะมีลูกเสือสามัญ  ม.๓  คอยมาสลับเวรกันเพื่อทำหน้าที่ห้ามรถให้นักเรียนข้าม    ในเวลาที่โรงเรียนเลิก  จะมีนักเรียนมารอให้ผู้ปกครองมารับ  มานั่งรอที่ร้านนี้กันมากเลยทีเดียว

   “โห  คนเยอะว่ะ”  ไอ้ศาลยืนคาประตูกวาดสายตามองไปทั่วร้าน

   “ไอ้โอห์ม  นั่นพี่มึงนี่  ธุระของพี่มึงนี่ควงพี่แจงดรัมเมเยอร์โรงเรียนมากินติมโว้ย  ไปนั่งใกล้พี่โน้ตดีกว่าโว้ย  มีโต๊ะว่าง”  ผมหันไปตามเสียงที่ไอ้บอลบอก

   ภาพที่ผมเห็นพี่โน้ต  นั่งคุยอะไรกันอยู่กับพี่แจง  และมีพี่เม  กับพี่หวานอยู่ด้วย  ผมนะหรือ  เกิดอาการเซ็งมาอย่างไม่รู้ตัว  เพราะผมอาจจะไม่ใช่คนสำคัญของพี่โน้ตอีกตอ่ไปแล้ว

   ผมไม่รู้ตัวเอง  ว่าผมรักพี่โน้ตตั้งแต่เมื่อไหร่ . . .

   . . . แต่ที่รู้

   ผมรู้ว่าผมเริ่มหึง  และหวงพี่โน้ตวันนี้นี่เอง

   ภาพที่ผมเห็นมันบาดลึกในหัวใจของผม   เหมือนมีอะไรมาดึงขาผมเอาไว้   ภาพที่เห็นผมแทบก้าวขาไม่ออก  ผมพยายามยืนให้ตรง  ก่อนที่จะก้าวตามพวกมันไปอย่างช้า ๆ

   “พี่โน้ต    พี่เม  พี่หวาน  พี่แจง  หวัดดีครับ”  เพื่อนผมทั้งกลุ่มมันยกมือไหว้รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ก่อน

   “เฮ้ย  มากันไงนี่  นั่งก่อน ๆ เลย”  พี่เมทักทายตอบ 

   “ไอ้ตัวเล็ก”  พี่โน้ตเรียก  ผมหันไปมอง  พี่โน้ตยิ้มให้ผมเหมือนเคย  แต่ไม่รู้ทำไม  ผมไม่กล้ามองพี่โน้ต  อาจเพราะว่าผมเริ่มรู้จักหัวใจตัวเองมากขึ้น

   พี่โน้ต . . . ไม่ใช่พี่ชายในความรู้สึกของผมอีกแล้ว

   แต่ . . . เป็นคนที่ผมรัก  และหวงแหน  ผมไม่ยิ้มตอบ  แค่ยักคิ้วให้ก่อนที่จะนั่งลงในทิศทางที่มองหน้าพี่โน้ตได้ชัด ๆ  ผมอยากมองหน้าของคนที่ผมรัก  ถึงแม้  เขาจะไม่เข้าใจในความรู้สึกที่ผมมีก็เถอะ

   ในร้านแอร์เย็น  แต่ผมกลับรู้สึกร้อนรุ่ม . .

   “โอห์มกินอะไรสั่งเลย  วันนี้ไอ้โน้ตมันเลี้ยงเต็มที่  วันเกิดแจงทั้งที  จริงมั้ยว่ะ”  พี่เมหันไปทางพี่โน้ตที่ได้แต่พยักหน้ายอมรับ

   วันเกิดพี่แจง . . .

   . . .  ทำไมต้องเกิดวันเดียวกับกูด้วยว่ะ  ผมเริ่มหงุดหงิด

   “จริงดิพี่แจง  เกิดวันเดียว . . .”  ไอ้ศาลทำตาโต  แต่เจอผมเอามือปิดปากมันไว้ก่อน

   “ใครพูดเรื่องวันเกิด  กูกลับ”  ผมหันไปมองหน้าพวกมันเรียงตัว

   แต่ละคนมองหน้าผมแบบงง ๆ  เพราะอยู่ดี ๆ  ผมกลับอารมณ์เสีย  ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรที่ผมอารมณ์เสียใส่พวกมัน  แต่ผมรู้  ผมรู้ว่าเพราอะไร  เพราะผมรู้สึกว่า  ความสำคัญของผมต่อพี่โน้ตมันลดน้อยลง

   “ตัวเล็กทำอะไรเพื่อน”  เสียงพี่แจงหันมาถาม

   “ผมชื่อโอห์ม”  ผมหันกลับไปมองบอกหน้าพี่แจง

   “เรียกตัวเล็กก็น่ารักดีออก”  พี่แจงยิ้มให้ผม   “. . . ไม่ดีหรือตัวเล็ก”   

   แต่. . .

   ไม่รู้ทำไม  ผมไม่ชอบ ผมเกลียดน้ำเสียงที่พี่แจงเรียกผมแบบนั้น   ผมไม่ชอบ  ไม่ชอบเลย  ไม่ชอบให้ใครมาเรียกผมว่า . . . ตัวเล็ก

   “บอกว่าชื่อโอห์ม  ชื่อโอห์ม  อีกอย่างไม่เล็กแล้ว  ตัวผมโตกว่าพี่อีก  สิบห้าแล้ว  ทำบัตรประชาชนได้แล้ว”  ผมมองหน้าพี่แจงเอาเรื่อง

   “ดุจัง  ไม่เห็นเหมือนที่โน้ตเล่าให้ฟังเลย”  พี่แจงหันไปทางพี่โน้ต

   “ไอ้พี่โน้ต  เล่าอะไร  เอาเรื่องไรของโอห์มไปเล่า”  ผมหันไปตาเขียวใส่

   “นั่น  เอาแล้วมึงไอ้โน้ต  ความซวยมาเยือน  แม่งเล่าให้ฟังเสือกเล่าไม่หมด  มึงไม่บอกแจงหรือไง  มันไม่ชอบให้ใครเรียกตัวเล็กนอกจากมึง  ขนาดกูเรียกมันตัวเล็กมันยังกระโดดถีบยอดอกกูเลย”   พี่เมหัวเราะเบา ๆ

   “ไม่มีอะไรน่า  สั่งติมมากินเหอะ. . .”  พี่โน้ตจงใจลงท้ายด้วยน้ำเสียงที่ผมใจอ่อนทุกครั้ง  ”. . . ตัวเล็ก”

   “เป็นเชี่ยไรไอ้โอห์ม  ตอนออกมายังดี ๆ  อยู่เลย”  ไอ้ศาลมันคงเห็นอารมณ์อันฉุนฉียวในตัวผมมั้ง

   “ไม่มีไรหรอก”

   “ขอโทษพี่เขาหน่อยดิมึง  เขารุ่นพี่นะโว้ย”

   “กูผิดเหรอ”  ผมเลิกคิ้วมองหน้ามัน

   “มึงพูดไม่ดีกับพี่เค้านะโว้ย”

   “ก็กูไม่ชอบใครมาเรียกกูแบบนั้น”  ผมไม่สนใจกับสิ่งที่เพื่อนบอก  เพราะผมรู้ตัวเองดีว่า ต่อจากนี้  ผมคงตั้งตัวอยู่คนละฟากฝั่งกับพี่แจงแน่ ๆ 

   ผมเห็นสายตาที่พี่แจงมองพี่โน้ต . .

   . . . แล้วสายตาที่พี่โน้ตมองพี่แจงอีก

   “ไอ้โอห์ม”

   “เออ  เรียกอยู่ได้  กูไม่ขอโทษ  เพราะกูคิดว่ากูไม่ผิด   และที่สำคัญ  เท่าที่กูเรียนมาตั้งแต่ ม.๑ ยัน ม.๓ ลูกตรีจักรไม่มีระบบโซตัสที่ต้องคอยทำตามรุ่นพี่ทุกอย่าง . . .”  ผมเหลือบมองพี่แจง  ที่ป้อนไอติมใส่ปากพี่โน้ต

   หัวใจผมมันคล้าย ๆ  มีกระแสไฟแล่นเข้ามาในหัวใจ  มันรุนแรง  และเจ็บปวดกับสิ่งที่เห็น  ผมกำลังหึงอยู่ใช่ไหมหว่า

     “. . . ถึงมันจะมี ก็คงไม่ใช่กูแน่ ๆ  เพราะ  ม.ต้น  อย่างมึง  อย่างกูยังไม่ได้เลือกสาย  และถ้ากูต้องเลือก  กูไม่ยอมเรียนสายศิลป์ที่ต้องมาเป็นรุ่นน้องไอ้พี่โน้ตแน่นอน กูจะเรียนสายวิทย์”  ผมมองหน้าไอ้ศาล 

   ไม่มีวันเสียล่ะที่จะยอมให้ผมขอโทษคนที่มันกำลังจะขโมยหัวใจของผมไป

   “สายศิลป์แล้วไง  ตัวเล็ก”  พี่โน้ต  พี่โน้ตมองหน้าผม  เพราะรู้ดีว่าผมกำลังแดกดันเพื่อน ๆ  พี่โน้ตอยู่

   “โง่กว่าสายวิทย์”  ผมยิ้มยั่ว

   “ไอ้ตัวเล็ก”  เสียงพี่โน้ตดังขึ้น

   “หรือไม่จริง  ตอนพี่สอบเข้า ม.๑  พี่สอบได้ที่ ๑๑๒  ส่วนผม . . .”  ผมมองหน้าพี่โน้ตยืดอก

   “. . .ได้ที่ ๓๘”

   “ลอง ม.๔  เหอะ  จะติดที่เดิมหรือเปล่ายังไม่รู้”

   “โควตาเห็น ๆ  ครับ  ไม่ต้องสอบหรอก  หรือจะให้สอบสายศิลป์แบบพี่นะเหรอ  โอห์มยอมตายดีกว่า  ไม่อยากเรียนสายศิลป์  ไม่ชอบเรียนสุด ๆ  ยังไงก็สายวิทย์ชัวร์”  ผมมั่นใจ  เพราะการเรียนของผม  มันแถวหน้าของรุ่นนี่หว่า  เรื่องของโควตาเรียนต่อ  ก็คงไม่ยาก

   “ก็ดี  เรียนที่เดิมก็ดีแล้ว  อย่าร้องตามเค้าไปเรียนกรุงเทพฯ  แล้วกัน” 

   พี่โน้ตยิ้ม . . .

   . . . ผมใจหายวาบ   

   อีกแล้วหรือ  ปีก่อนผมรั้งพี่โน้ตไม่ให้ไปเรียนที่เยอรมัน  แต่อีกไม่ถึงปี  พี่โน้ตจะต้องไปเรียนกรุงเทพฯ

   การจากลา . . .

   . . . มันอยู่รอบ ๆ  ตัวเราจริง ๆ

   “โน้ต  เม  หวาน  แจงต้องกลับบ้านก่อนนะ  เย็นมากแล้ว”

   “หวัดดีครับพี่  แล้วเจอกันครับ”  ผมรีบยกมือไหว้พี่แจง  ในหัวใจนะลิงโลดเป็นที่สุด  ไม่อยากเห็นหน้าพี่แจงเลยให้ตายสิ

   พี่โน้ตหันมาตำหนิผมด้วยสายตา  แต่ผมไม่สน  แหล่มองไปรอบ ๆ  ตัว

   “อืม หวัดดีจ๊ะ  ไว้เจอกันอีกนะ . . .”  พี่แจงยิ้มหวาน

   พี่แจงสวย  ถ้าไม่ติดที่ว่าสายตาที่พี่แจงมองพี่โน้ตมันมีความหมายมากกว่านั้น  ผมเองก็คงจะคุยกับพี่แจงได้สนิทใจ  แต่อาจเพราะว่า  พี่แจงแสดงออกทางสายตากับพี่โน้ตมากเกินไป  ผมเลยพาลไม่ชอบพี่แจง

   ผมมองพี่เขาเก็บกระเป๋า   แต่ก่อนที่พี่เขาจะเดินจากโต๊ะ  เขาหันมายิ้มให้ผมอีกรอบ

   “พี่ไปก่อนนะ . . .  ไอ้ตัวเล็ก”  พี่แจงหันกลับไป  เดินไปทางหน้าร้าน

   “แมร่ง กวนตรีน”  ผมทำปากขมุบขมิบ

   “ไอ้เชี่ยโอห์ม  ไปว่าพี่เค้า”  ไอ้ศาลมันด่าผม  มันนะพวกสุภาพบุรุษที่สุดในโลก  มันทนไม่ได้หรอก  หากใครจะว่าผู้หญิง

   “กูยังไม่ได้พูดไรเลย”

   “แต่ปากมึงอ่ะ  ด่าเค้า  ห่านี่”

   “โอห์ม  รอพี่ที่นี่นะ  เดี๋ยวพี่ไปส่งพี่แจงก่อน”  พี่โน้ตมันเอากระเป๋าของมันมาโยนไว้ที่ตักผม  ก่อนที่จะเดินออกไปจากร้าน 

   ผมมองตามพี่โน้ต  ทำไมหัวใจผมมันหวิว ๆ  แล้วยิ่งตอนที่ผมเห็นพี่แจงนั่งสะพายข้างเกาะเอวพี่โน้ตเอาไว้  ผมรู้สึกเหมือนใครมาบีบหัวใจของผมอย่างแรง  ผมเจ็บที่หัวใจ  ไม่อยากเห็นภาพนั้นเลย 

   แบบที่ผมเป็นอยู่เขาเรียกว่าอะไรหนอ . . .
   
   
   
   





ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #83 เมื่อ25-03-2009 17:42:49 »

•  แบบที่ผมเป็นอยู่เขาเรียกว่าอะไรหนอ . . .
วุ้ย เรียกว่า 'ลมเพชรหึงโชยมา' ละมังคะ อิอิ

๑. ต๊าย . . . ของดองบางอย่างก็อร่อยนะค๊ะคุณ

จริงป่ะค่ะน้อง . . . แทนย่า
อูย . . . 

๒. พ่อกับอา  รักกัน  แล้วมารักกับหลานอีกสักครั้งไม่เท่าไหร่  หรอกมังค่ะ

กลัวแต่ว่า . . .

มีอะไรกับพ่อ . . . แล้วมามีต่อกับหลานอีกนี่สิ

ทรมานนนนนนนนนนนนน  สุด ๆ  บาปรักเลยนะค๊ะคุ๊ณณณณณณณณ
๑. ต๊าย หลุ (diarrhoea) เลยค่ะ หุหุ
๒. วั้ย มรดกตกทอด 5555555

ขอบคุณนะคะ คุณ ราชบุตร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2009 18:08:50 โดย kit »

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #84 เมื่อ25-03-2009 17:53:27 »

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :n1: :n1:



ช้าไปป่าววววววว น่าาาาาาาาาา




 :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #85 เมื่อ25-03-2009 18:06:00 »

กำลังตามอ่านนะเพ่คร๊าบบบ

คิดถึง ^0^

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #86 เมื่อ25-03-2009 18:40:42 »

อย่าจบเศร้าเลยนะครับ
ขอร้องงงงงงงงงงง
 :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #87 เมื่อ25-03-2009 18:50:04 »

+1 ให้คุณราชบุตร เห็นด้วยค่ะว่ามันเศร้ามาแต่ต้นเรื่องแล้ว เพราะฉะนั้นขอจบแบบ happy ดีกว่านะคะ
สงสารทั้งโน้ตทั้งอาร์มเลยค่ะ เมื่อไหร่จะได้สมหวังกันสักที จะรอตอนต่อไปนะคะ  :L1: :pig4:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #88 เมื่อ25-03-2009 18:55:55 »

อาการอย่างที่โอห์มเป็นเนี่ย
คืออาการของขึ้นเพราะความหึงเข้าสิงนี่นา


ขอบคุณครับ . . .

แนวความคิดโดนใจผมจังเลย   รับฟังนะครับ  แต่ไม่รับปากว่าจะเขียนแบบที่รับฟัง

เพราะ . . .

ตามที่คิดเอาไว้  มันน่ากลัวกว่าเยอะ  คนเขียนยังไม่แน่ใจว่าจะกล้าเขียนแบบที่ตัวเองตั้งพล๊อตไว้ในหัวหรือปล่าว  กลัวจะช๊อคเสียเอง  อิอิอิ
ขอบคุณเช่นกันค่ะ
แต่คล้ายๆกับว่าจะต้องเตรียมทำใจไว้อย่างแรง ไม่งั้นถ้าคนเขียนกล้าเขียนตามพล๊อตที่คิดไว้ อาจจะช็อคตามคนเขียนไปติดๆ หุหุ

บวก 1 ให้นะคะ รอลุ้นต่อไปค่ะ

RAJCHABUT

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] รักเอย
«ตอบ #89 เมื่อ25-03-2009 19:34:09 »




บอกว่านิยายถ่ายทอดสด . . .

. . . เลยเอาอีกครึ่งตอนมาฝาก

เจอแบบบีบหัวใจมาสามตอนติด ขอแบบอมยิ้มดีกว่าเนอะ

ใครรุ่นน้องของ  โน้ต  กับ โอห์ม  มั่งหว่า . . . ลูกฟ้า - แดง  ตรีจักร  แห่งทักษิณ (ที่แปลว่าภาคนะ  ใช่ตัวสัมภเวสี)







ตอนที่ ๔ (ต่อ)

   ผมไม่ได้รอพี่โน้ต  เพราะเพียงแค่พี่โน้ตคล้อยหลังกลับไป  ผมก็กลับออกมาจากร้านพร้อมกับไอ้บอล  บ้านไอ้บอลอยู่ในค่าย  ที่ติดกับศูนย์วิจัยฯ  ผมไม่อยากกลับเข้าบ้าน  มันบอกไม่ถูก  ผมอยู่เล่นที่บ้านของไอ้บอลจนเกือบสี่ทุ่ม


   ผมรักพี่โน้ตเข้าอย่างเต็มหัวใจ . . .

   ถนนสายเดียวที่จะพาผมไปที่บ้านพักมันต้องผ่านสระน้ำ  สระที่ผมแทบเอาชีวิตไม่รอด  หากวันนั้น  ผมได้พี่โน้ตช่วยเอาไว้ผมคงไม่มีวันนี้  ผมเดินมาตามถนนอย่างช้า ๆ  กอดกระเป๋าสองใบเอาไว้แน่น 

   ผมกอดมันเอาไว้ราวกับว่าจะให้รับรู้ไปถึงเจ้าของกระเป๋าอีกใบ . . .

   “หายไปไหนมา  ห่วงแทบแย่”  พี่โน้ตวิ่งออกมาจากศาลาริมน้ำที่แยกไปทางซ้ายนิดหน่อย

   ผมหยุดมองหน้าพี่โน้ตนิดเดียว  แค่นิดเดียวจริง ๆ  เพราะผมไม่อยากให้พี่โน้ตเห็นความอ่อนแอในตัวผม

   “คุยกันก่อน”  พี่โน้ตจับมือผมเอาไว้  เมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเดินจากไป

   “ผมเหนื่อย  ง่วงด้วย”

   “พี่หิวข้าว”  พี่โน้ตมันจับไหล่ผมให้หันมามองหน้า 

   “ก็ไปกินดิ  ใครห้ามไว้เล่า”

   “ไปกินด้วยกัน”

   “ดึกแล้ว  เดี๋ยวพ่อด่า”  ผมบอก  พลางเบี่ยงตัวหลบจากพี่โน้ต

   “แล้วคิดหรือว่าเข้าบ้านไปคนเดียวลุงอาทจะไม่ด่า  เลือกเอา  จะเข้าบ้านพร้อมพี่หรือจะเดินไปเองคนเดียว”  พี่โน้ตยิ้ม  เพราะถือไพ่เหนือกว่าผม

   “เอากระเป๋าไปเก็บก่อนได้มั้ย”  ผมต่อรอง

   “ก็ดี   พี่กลับมาไอ้เมบอก  โอห์มกลับไปแล้ว มาถึงบ้านลุงอาทบอกโอห์มยังไม่กลับ  พี่เลยบอกไปว่า  โอห์มอยู่ทำบอร์ดที่โรงเรียน  พี่กลับมาเอาของ  เดี๋ยวก็กลับไปโรงเรียนอีก  จะกลับมาพร้อมโอห์ม  พี่มานั่งรอโอห์มที่นี่ตั้งแต่ตอนเย็น”  พี่โน้ตบอกพลางขึ้นคร่อมเจ้ามอไซด์คันเก่ง

   ผมน้ำตารี้นออกมาทันที . . .

   ในขณะที่พี่โน้ตห่วงผม  เก็บเรื่องราวเล็ก ๆ  ของผม  แต่ดูเหมือนว่า  ผมกำลังทำอะไรอยู่  ผมทำอะไรอยู่ . . .  ผมได้แต่ถามตัวเองในใจ

   พี่โน้ตไม่ดับเครื่องยนต์  แต่รอให้ผมเอากระเป๋าไปเก็บที่บ้าน  ผมบอกแม่ว่าจะออกไปหาอะไรกินกับพี่โน้ต  แล้วคืนนี้จะค้างที่ห้องพี่โน้ต  ไม่ต้องรอเปิดประตูบ้าน  ก่อนที่จะวิ่งกลับมากระโดดซ้อนท้ายพี่โน้ต

   พี่โน้ตขับรถไปอย่างช้า ๆ  อากาศเย็นจนผมต้องเอามือสอดกระชับไว้ที่หน้าท้องของพี่โน้ต  ดูเหมือนพี่โน้ตจะก้มเหลือบมองนิดนึง  แต่แล้วมือข้างซ้ายของพี่โน้ตก็มาจับที่มือของผมเอาไว้  ผมมีความสุขอย่างประหลาด  แม้ผมจะกอดมันบ่อยเวลาที่มันขับรถเล่นแบบนี้ แต่มันไม่เคยที่จะจับมือผมเอาไว้แบบนี้  ผมได้ทีซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของมัน    ถนนสายเก่าหาดใหญ่ – สงขลา  รถน้อย  มันขับมาเรื่อย ๆ  จนถึงทางแยกไปเกาะยอ  มันเลี้ยวไปตามถนนเส้นนั้น  ก่อนที่จะไปหยุดที่กลางสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

   มันจอดรถแอบไว้ริมถนนที่กลางสะพาน  ก่อนเดินลงไปยังกลางสะพานช่วงที่สอง   ทะเลสาบสงขลาช่วงนี้สวย  เพราะถ้ามองมาฝั่งเกาะยอจะเห็นแสงไฟระยิบระยับจากร้านอาหาร  และบนเนินเขาเล็ก ๆ  ที่ตีนสะพานนั่น . . . สถาบันทักษิณคดีศึกษา

   พี่โน้ตไม่ค่อยกลัวอะไร  มันปีนไปนั่งที่ราวสะพาน  ผมนึกไม่ออกเหมือนกัน  ว่าถ้ามันตกลงไป  มันจะมีแรงว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งมั้ย

   “ปีนมาดิ๊  ไอ้ตัวเล็ก” 

   “ม่ายอ่ะ”  ผมส่ายหัวไปมา

   “เอ้า  มาดิ๊  อย่ากลัว  มีพี่อยู่ทั้งคน”   มันยื่นมือมารับ

   “ยิ่งมีพี่น่ะ  โอห์มยิ่งกลัว แม่งชอบแกล้ง”   ไม่มีวันที่ผมจะยอมหลวมตัวปีนไปนั่งแบบที่มันทำอยู่เด็ดขาด

   “น่านะ  สัญญา  ไม่แกล้ง  พี่จะดูแลโอห์มเท่าชีวิต”   มันกระโดดกลับลงมา  ก่อนคว้าหมับที่ข้อมือผมไว้

   “ไอ้พี่โน้ต  อย่า”

   “หน้าซืดเป็นไก่ต้ม  ป้อดเหรอ  บอกแล้วไง  ไม่แกล้ง  ลองดูสิ  ขึ้นไปนั่ง  แล้วมองออกไปไกล ๆ  จะรู้  ฟ้าสวย  ดาวระยิบระยับเต็มไปหมด  โอห์มลองดูนะ  พี่สัญญาไม่แกล้ง”  มันตะแบะสามนิ้วเป็นสัญญาลูกเสือ

   ผมมองหน้ามัน . . .

   “จริง ๆ  นะ  ห้ามแกล้งโอห์มนะโว้ย”

   “เออ!  รีบปีนไปเหอะ  พี่มีอะไรจะบอกโอห์ม”    มันเร้า ๆ  เร่งผมพิกล

   ขาผมนะหรือสั่นพั่บ ๆ  พ่อเจ้าพระคุณเอ้ย  เบื้องล่างนั่นทะเลสาบสงขลานะ  แล้วเกิดผีผลักขึ้นมาล่ะก็  มีหวังได้เป็นผีพรายแน่ ๆ  ผมมองหน้ามัน  พี่โน้ตมันยิ้ม  เอามือตบที่หลังมือผมเบา ๆ    มันรู้ว่าผมกลัว  มันเลยลากผมมาที่เสาไฟ  แล้วให้อีกมือของผมยึดเสาไฟเอาไว้  นัยว่า  ยอมตายเพราะไฟรั่วจากเสาดีกว่าตกไปตายก้นทะเลสาบ

   “เห็นม๊ะ   ไม่เห็นน่ากลัวสักนิ้ด”    มันยืนพิงราวสะพานตะแคงหน้ามาหาผม

   “ไหนคุณพี่มึง  มีอะไรจะบอกโอห์ม”

   “โอ๊ย . . . ตบโอห์มทำไม”   ผมเอามือจับที่ปาก

   “พูดไม่เพราะ  มามึงกับพี่ได้ไง”

   “แหม  นิดเดียวเอง”

   “นิดก็ไม่ได้  ห้ามพูดจาไม่เพราะอีกเข้าใจมั้ย”  พี่โน้ตมองหน้าผม  รอคำตอบ

   “คร๊าบบบบบบบบบ  คุณพี่ชาย    ที่คุณพี่ลากโอห์มถึงเกาะยอนี่  มีอะไรล่ะครับ  ไหนบอกหิวข้าว”

   “พี่มีเรื่องจะบอกโอห์ม”

   “บอกที่บ้านก็ไม่ได้  ลากมาทำไมถึงนี่”    ปากพูดหากอีกมือเกาะเสาไฟเอาไว้แน่น   ผมกลัวตกนี่หว่า  ตกลงไปในทะเลสาบสงขลานี่นะ  คงไม่ต้องดิ้นรนหรอก  เพราะแค่สระในศูนย์วิจัย  ยังว่ายไม่รอดเลยโอห์มเอ้ย

   “เอาน่า  ถือว่ามาเที่ยว  นาน ๆ  ได้ออกมาที  วันดี ๆ  แบบนี้ด้วย”

   “วันนี้  วันนี้อะไรหรือพี่โน้ต”  ผมยิ้มเพราะคิดว่าพี่โน้ตจะจำวันเกิดผมได้

   “วันศุกร์”

   “ไม่ใช่!  ไอ้พี่โน้ตนี่”

   “เอ้าก็มันวันศุกร์”    พี่โน้ตยิ้ม   แสงจากไฟสะพานทำให้ยิ้มพี่โน้ตดูสวย  แต่ทำไม  ผมกลับเห็นมันทำท่ากวนตีนซะงั้น

   “ช่างแม่งเหอะ   ไม่จำก็ไม่ต้องจำ”    ผมงอนเหมือนเด็ก ๆ 

   “แม่งงอน   ดูดิ  ปากยังกะตูดไก่เวลาจะไข่”    พี่โน้ตเอามือไปเชยคางผมเล่น

   “เรื่องของโอห์ม”    ผมหันหลังกลับ   ก่อนลงมายืนเกาะราวสะพาน  แววตามันทอดยาวออกไปไกล  ผมไม่รู้หรอก  ข้างหน้ามันมีอะไร 

   ผมหันไปมองพี่โน้ต  แกมองไปในทางเดียวกับผม  ผมไม่รู้หรอกว่าตอนนี้พี่โน้ตมันคิดอะไรในตอนนั้น  ผมรู้แค่ว่ามันไม่สนใจผมเลยด้วยซ้ำ

   พาผมมาถึงเกาะยอ  แต่ดันไม่สนใจ  ผมแอบเซ็งเลยงอนมันมั่ง . . .

   “โอห์ม . . .”  มันเรียกผมเบา ๆ 

   ไร้ประโยชน์หรอกไอ้คุณพี่  เพราะคุณน้องแอบงอนอยู่คร๊าบบบบ  ว่าแล้วก็กระเถิบตัวถอยห่างออกไปหนึ่งก้าว  ผมแอบยิ้ม  ไม่มีอะไรสนุกเท่าได้ยั่วโทสะพี่โน้ตมัน

   “เฮ้ย !  ไม่หันมาหน่อยหรือ”

   “ไม่”  เสียงผมห้วน

   พี่โน้ตเลยพยายามกระเถิบตัวมาชิดผมอีกก้าว  แต่ผกวนตีนมัน  ขยับตัวถอยห่างออกไปอีก  มันเข้าใกล้  ผมถอยห่าง

   “ง้อแล้วหนี  ไม่ต้องมาพูดเลย”    คราวนี้เป็นพี่โน้ตที่เดินห่างออกไป

   “ไรวะ  มีงอนน้องอีก”

   “อยู่ห่าง ๆ  อย่าตามมา”  พี่โน้ตชี้ที่พื้นให้ผมห่างกันสองก้าว 

   “ไอ้พี่เหี้ยนี่!  ทำยังก๊ะกูเป็นเมียต้องคอยตามง้อ”  ผมตะโกนใส่มัน  ก่อนเดินข้ามไปอีกฝั่งของสะพาน

   ผมตัดสินใจแล้ว . . . เดินกลับ

   ทำไมนะหรือครับ  ผมรู้  เดี๋ยวมันก็ตามผมมาเองแหละ  มันไม่กล้าปล่อยผมไว้ที่เกาะยอหรอก เดี๋ยวเหอะมึง  ไอ้พี่บ้า  อย่าให้ถึงทีไอ้โอห์มบ้างก็แล้วไป  ผมมาดหมาย  แล้วมันก็เป็นดังที่ผมคาด ก่อนที่ผมจะเดินมาถึงฝั่งเกาะยอ  เสียงมันชะลอรถ

   “ขึ้นรถเหอะ  ไอ้ตัวเล็ก”  เสียงมันเริ่มบอก  อารมณ์ดีขึ้น

   ผมรู้ควรทำเช่นไร  หยุดมองหน้ามัน  ก่อนชี้นิ้วไล่มันให้ไปซ้อนแทน  คราวนี้มันทำตามอย่างว่าง่าย  ผมยังตีหน้ายักษ์ใส่มัน  ก่อนขึ้นคร่อมประจำที่คนขับแล้วบิดไปอย่างรวดเร็ว

   “รีบไปหาพระบิดามึงเหรอคุณน้อง”  มันตะโกนอยู่ข้างหลัง  หากแต่มือมันมาโอบกอดผมเอาไว้

   “เรื่องของโอห์ม”

   “ไปสงขลากันก่อนนะ  ขับไปบนเขาตังกวน  กล้าขึ้นไปมะล่ะ”  เสียงมันกระซิบที่ข้างหูท้าทายผมในที

   “กลัวก็ไม่ใช่โอห์มดิครับ”  ผมตอบมันก่อนบิดซะหมดไมล์

   ไอ้พี่โน้ตมันทั้งบ่นทั้งด่ามาตลอดระยะทางจากเกาะยอมายังบนยอดเขาตังกวน  เพราะผมไม่ยอมชะลอความเร็ว   ก็จุดหมายผมอยู่ที่เขาเล็ก ๆ  กลางเมืองสงขลา  ก่อนที่ผมจะจอดรถในจุดที่สามารถมองเห็นเมืองได้ถนัด

   แสงระยิบระยับจากที่พักอาศัยเบื้องล่าง  กับ แสงระยิบระยับจากดวงดาราบนฟากฟ้า  ผมเหมือนคนที่อยู่กลางระหว่างโลกกับสวรรค์

   พี่โน้ตจับมือผมเอาไว้ . . .

   มันยิ้ม  รอยยิ้มมันสว่างท่ามกลางความมืดบนยอดเขาตังกวน  ผมยิ้มตอบ  ไม่มีคำพูดจากมันและผม  มีแต่ ความรู้สึกทั้งหมดที่ถ่ายเทผ่านสายตา  ลงไปสู่อุ้งมือของเราทั้งสอง  มือที่จับกันแน่น นิ้วที่บีบรัดต่อกันมีความหมายในตัวมันเอง  ภาษากายทดแทนทุก ๆ  อย่างที่อัดแน่นในหัวใจ 

   “สุขสันต์วันเกิดนะไอ้ตัวเล็ก”

   “จำได้ด้วยเหรอ” 

   “จำได้สิ  ไม่เคยลืม”

   “แล้วตอนที่อยู่เกาะยอ  โอห์มถามทำไมไม่สนใจ”

   “ก็ไม่ชอบให้ถาม   อยากบอกที่สะพานติณฯ  แต่เห็นว่าอยากรู้เลยแกล้งไม่สนใจ  เพราะอย่างไรเสีย  เรื่องของตัวเล็กพี่ไม่เคยลืม  เรื่องสำคัญของตัวเล็ก  พี่จะลืมได้อย่างไร”    พี่โน้ตบอก  แววตาเป็นประกาย

   “อะไร”  ผมถามมันเมื่อผมวางโลหะชิ้นเล็ก ๆ มาวางในอุ้งมือ

   “แทนทั้งหมดจากความรู้สึกที่พี่มี  จากหัวใจดวงนี้สู่หัวใจของใครอีกดวง”     พี่โน้ตบีบมือผมเบา ๆ

   “แหวน . . . วงนั้นนี่หว่า”  ผมหยิบแหวนมามอง  ใช่วงเดียวกับที่ผมไปเดินดูกับพี่โน้ต แหวนทองคำขาววงเล็ก ๆ  สลักลวดลายแปลกตา

   “พี่ตั้งใจจะให้กับคนที่พี่รัก  แต่พี่ไม่กล้าไปซื้อเอง  เลยปรึกษาพี่แจงมัน  ว่าจะให้ไปซื้อเป็นเพื่อน  แต่เห็นเราฟาดงวงฟาดงา   พี่แจงมันเลยบอกจะกลับบ้าน  พี่กลัวไม่มีคนไปซื้อเป็นเพื่อนเลย  ออกตามแจงมา  กลับมาอีกทีไอ้ตัวแสบหายแล้ว”  พี่โน้ตยิ้ม

   “แพง  ซื้อมาทำไม”    ผมมองหน้า  รู้สึกผิดเล็ก ๆ   กับเรื่องงี่เง่าที่ทำไปในตอนเย็น

   “ไม่อยากได้แล้วหรือ”

   “อยากได้แต่มันแพง  ตั้งพันกว่า”

   “พี่อยากให้โอห์ม”

   “ทำไม”

   “พี่ไม่รู้ว่าทำไม  พี่รู้ว่าพี่อยากให้  พี่ไม่อยากให้ใครนอกจากโอห์ม  ตั้งแต่พี่จำความได้  คนเดียวที่มาปั่นหัวพี่ได้มากที่สุดคือโอห์ม”  พี่โน้ตจับมือผมไปแตะที่จมูก

   “พี่โน้ต”

   “พี่ว่าพี่รักโอห์มว่ะ  รักมากกว่าน้องชายแล้วล่ะ”  พี่โน้ตก้มหน้าด้วยความอาย

   “โอห์มนึกว่า  มีแต่โอห์มเสียอีกที่รักพี่โน้ตมากกว่าพี่”

   “โอห์มว่าไงนะ”  พี่โน้ตตาโต

   “โอห์มไม่รู้เหมือนกันว่าโอห์มรักพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่โอห์มรู้วันนี้ที่ร้านไอติม  โอห์มเจ็บหัวใจที่เห็นพี่แจงป้อนไอติมให้พี่”

   “แจงเพื่อนพี่  เพื่อนสนิทเลย  มันแกล้งชอบพี่  เพราะน้ำหวานเขาแอบชอบพี่  แต่พี่ไม่ได้รักน้ำหวาน  เลยแกล้งสวีทกับแจง”

   “แล้วไม่ยอมบอกตั้งแต่ทีแรก”

    “ตกลงแหวนนี่จะเอามั้ย  พี่ตั้งใจซื้อให้โอห์มนะเนี่ย”    พี่โน้ตชูแหวนในมือ

   “เอาดิ๊  ใส่ให้โอห์มด้วยสิ”  ผมยื่นมือข้างขวาไปให้  ก่อนที่จะถอดแหวนรุ่นจากนิ้วนางด้านขวามาสวมที่นิ้วนางด้านซ้าย 

   แหวนรุ่น . . .

   . . .  วงนี้ก็ของพี่โน้ต

   แหวน . .  . ตอน ม. ต้น  พี่โน้ตให้ผม

   พี่โน้ตเอาแหวนมาแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบา ๆ . . .

   “ไม่ใช่แหวนหมั้น  ไม่ใช่แหวนแต่งงาน  แต่เป็นแหวนแทนความรักทั้งหมดที่พี่มีให้กับคนคนนึง  คนเดียวที่พี่จะรักได้ในชีวิตนี้    จำไว้นะ  อย่าลืมฉัน . . . แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย  เมื่อใดวายสวาทวอดจึงถอดเอย”   

   “ฟอร์เก็ตมีน็อท  สำนวนนักเขียนดังเลยนะครับคุณพี่มึง” 

   ผมจำได้    จำได้ดี  หนังสือเล่มนั้น . . . ที่พี่โน้ตให้ผมในวันเกิดปีที่ผ่านมา  ผมอ่านรวดเดียวจนจบในคืนเดียว  และใช่แค่อ่านรอบเดียว  แต่อ่านจนแทบจารจำทุกตัวอักษร . . . อย่าลืมฉัน

   วันเกิดปีก่อนโน้น . . . พี่โน้ตต้องการสื่ออะไรถึงผม  ผมไม่รู้  อาจเพราะผมยังเด็กเกินไป  แต่วันนี้  วันครบรอบสิบห้าปีเต็มของผม  สิ่งที่พี่โน้ตบอกมา  ผมรับรู้ได้ด้วยหัวใจ

   คืนนั้น . .  . ผมยอม 

   . . . ยอมเป็นของพี่โน้ตด้วยความเต็มใจ!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด