ผมกลับมาอยู่บ้านหลังจากตั้มออกจากรพ.แล้ว ตั้มไม่ยอมพูดหรือคยกับผมสักคำเดียวตลอดเวลาที่อยู่ในรพ.เพราะสาเหตุนี้ผมเลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านเพราะผมทนไม่ได้กับการเงียบของตั้ม ผมเริ่มอึดอัดจนถึงเครียดถึงขั้นทานอะไรไม่ได้ทานทีไรก็อ้วกออกจนหมด ผมกลับมาอยู่บ้านแล้วก็ยังเป็นอยู่ดีที่ได้พ่อกับแม่คอยช่วยเหลือ คอยเข้ามาพูดคุยไม่อย่างนั้นผมคงคิดแต่เรื่องของตั้มตลอดและสงผลให้ร่างกายผมเจ็บป่วยไปกันใหญ่ ส่วนพี่ปิงก็ยังโทรมาคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอยู่ตลอด
“ครับพี่ปิงว่างไหมครับ” ผมกำลังจะเข้าไปในเมืองเลยตัดสินใจโทรหาพี่ปิง
“ก็นิดหน่อยครับ น้องเอกมีอะไรหรือเปล่า”
“เดี่ยวเอกจะเข้าไปในเมืองครับ ถ้าพี่ว่างไปเดินเล่นกันไหม”
“เดี่ยวพี่ไปรับน้องเอกที่บ้านดีกว่านะครับ อีกชั่วโมงพี่คงถึง”
“ไม่เป็นรัยครับพี่ พ่อไปส่งครับตอนนี้ก็ใกล้จะถึงแล้วครับ”
“โอเคครับ ตามใจน้องเอกงั้นพี่รออยู่ที่ลิกอร์แล้วกันนะครับ”
“ได้ครับ”
พ่อผมใช้เวลาขับรถมาไม่นานก็ถึงจุดหมายจากนั้นผมก็เดินไปที่ร้านลิกอร์เพื่อจะนั่งรอพี่ปิง ระหว่างนั่งรอผมก็เดินไปเลือกเบเกอร์รี่เพื่อจะมานั่งทานเล่นๆเพื่อฆ่าเวลา จนพี่ผิงมาถึง
“น้องเอกจะมาซื้ออะไรหรอครับ” พี่ผองถามผมระหว่างที่เดินเลือกของอยู่
“มาหาของขวัญให้ตั้มนะครับพี่ปิง” ผมบอกพี่ปิง
“อ๋อครับ พี่ว่าเราแยกๆกันเดินดูดีกว่านะ เดี่ยวพี่ไปดูฟังโน้น น้องเอกดูฟังนี้โอเคนะครับ”
ผมก็เดินๆดูไปเรื่อยๆก็เจอสร้อยเส้นหนึ่งเป็นสร้อยเงินทั่วๆไป แต่สะดุดตาตรงจี้มันเพราะมันเป็นจี้ไม่กางเขนแบบที่ตั้มเคยบอกผมว่าอยากได้ตอนที่นั่งดูนิตยาสารกัน แต่หาซื้อไม่ได้ผมเลยตัดสินใจที่จะซื้อทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก หลังจากได้ของมาแล้วผมก็เดินมาหาพี่ปิงจากนั้นเราก็เดินไปทานอะไรกันที่ร้านคอนม
“อ่ะพี่ให้ สุขสันต์วันเกิดครับ” พี่ปิงส่งกล่องนาฬิกาให้ผม
“พี่ปิงรู้ได้ไง เอกไม่ได้บอกใครเลยนะครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณครับพี่” จริงๆวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดผมแต่ผมไม่ได้บอกใครหรอกครับ เพราะคิดไว้ว่าจะอยู่ทานข้าวกับครอบครัวที่บ้าน
“เป็นแฟนกัน ก็ต้องรู้กันทุกเรื่อง”
“พี่ปิงไปทานข้าวบ้านเอกไหม”
“ได้หรอ ถ้าได้พี่ก็ไม่เกรงใจนะครับ” พี่ปิงทำท่าทางดีใจที่ผมชวนไปทานข้าวที่บ้าน
เราสองคนก็เดินทางกลับมาที่บ้านของผม เมื่อมาถึงบ้านผมก็เดินเข้าไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว ส่วนพี่ปิงก็คอยเป็นลูกมือให้ผมกับแม่ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งทานข้าวกันจนอิ่ม แม่ผมชวนพี่ปิงนอนที่นี้ไม่อยากให้ขับรถกลับเพราะมันดึกแล้วด้วย พี่ปิงเลยตกลงนอนที่นี้ ผมกับพี่ปิงเราขึ้นไปบนห้องกันหลังจากเก็บกวาดล้างจานเสร็จแล้ว
เมื่อเข้ามาในห้องผมก็เอาผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าให้พี่ปิงเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำเสร็จจากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง เมื่อออกมาจากห้องน้ำผมก็เห็นพี่ปิงนอนอยู่บนพื้น ผมเลยถามพี่ปิงว่าทำไมไปนอนต้องนั้น คำตอบที่ได้กลับมาคือ
“พี่ไม่อยากนอนเบียดน้องเอก กลัวน้องเอกอึดอัด” อาจจะเป็นเพราะเตียงผมเป็นเตียงสำหรับนอนคนเดียวและคงเล็กไปที่จะให้ผู้ชายตัวใหญ่ๆสองคนนอนด้วยกัน
“อย่างนั้นพี่ก็ขึ้นไปนอนข้างบน เดี่ยวเอกนอนข้างล่างเอง”
“ไม่เป็นไร น้องเอกนอนข้างบนนั้นแหละ”
“ได้ยังไง พี่เป็นแขกนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนข้างล่างด้วยกันเลย” พี่ปิงเสนพร้อมกับลากผ้ามาปูนอนข้างล่างผมก็เลยต้องเลยตามเลย ผมเดินไปปิดไฟจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ปิง
“น้องเอกครับ พี่ขอกอดได้ไหม”
“แล้วแต่พี่ปิงครับ”
เมื่อผมพูดจบพี่ปิงก็เอามือมากอดตัวผมแล้วกระชับให้แน่นขึ้น ผมคงทำผิกกับพี่ปิงอย่างไม่น่าให้อภัยเพราะตลอดเวลาที่พี่ปิงกอดผมนั้นผมนึกถึงแต่หน้าคนที่ผมรัก ผมมักจะคิดว่าถ้าคนที่กอดอยู่นี้เป็นตั้ม ผมก็คงจะมีความสุขมากคงทำให้ผมอุ่นทั้งกายและอุ่นทั้งใจ แต่ตอนนี้ผมอุ่นแค่กายแต่ไม่อุ่นใจ
พี่ปิงกอดผมได้สักพัก จากนั้นพี่ปิงก็เอามือมาลูบๆถวหน้าอกผมและไล่ลงต่ำเรื่อยๆ ด้วยความตกใจผมดึงมือพี่ปิงออก แล้วลุกขึ้นนั่งมองหน้าพี่ปิง พี่ปิงเองคงตกใจเช่นกันเลยลุกขึ้นนั่งแล้วเราสองคนก็มองหน้ากัน ผมรู้ว่พี่ปิงต้องการอะไรแต่ผมไม่สามารถให้พี่ปิงได้ อาจจะเป็นเพราะผมไม่ได้มีใจให้พี่ปิง ผมเลยทำอย่างว่ากับพี่ปิงไม่ได้ เซ็กส์สำหรับผมนั้นมันต้องมีกับคนที่ผมรักเท่านั้น ไม่ใช่มีเพื่อระบายความใคร่
“พี่ขอโทษน้องเอก พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้” พี่ปิงพูดพร้อมกับเอามือผมไปกุมไว้
“พี่ปิงจะบอกว่พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าผมไม่ห้ามพี่จะหยุดไหม” ผมไม่ได้โกรธพี่ปิงหรอกนะครับ
“น้องเอกอย่าโกรธพี่นะครับ พี่สัญญาพี่จะไม่ทำอีก”
“พี่ปิงไม่ต้องกลัวเอกโกรธหรอกนะครับ เอกเข้าใจดีว่าพี่ต้องการอะไร แต่ผมให้พี่ไม่ได้จริงๆ ผมไม่สามารถทำกับพี่ได้ เพราะอะไรพี่รู้ไหม แค่ตอนที่พี่กอดผม ผมยังคิดถึงคนอื่น ผมอยากให้คนๆนั้นมากอดผมแทนทีจะเป็นพี่ด้วยซ้ำ” ผมพูดออกไปทั้งน้ำตา
“น้องเอกใจร้ายมากรู้ไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่รู้ว่าพี่เป็นอะไรสำหรับน้องเอก แต่ทีหน้าทีหลังโกหกพี่บ้างก็ได้ ไม่ต้องพูดความจริงทั้งหมด พี่เจ็บนะ เจ็บมากเลย” พี่ปิงพูดพร้อมทั้งน้ำตาเช่นกัน แล้วเอามือทุบที่หน้าอกตอนท้ายประโยค
จากนั้นความเงียบก็เข้ามาเยือนเราสองคนปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา ผมเสียใจที่ผมทำให้คนที่รักผมเจ็บ ผมรู้สึกแย่กับตัวเอง เกลียดตัวเองมากขึ้นทุกวัน ผมคอยถามตัวเองตลอดว่าทำไมผมถึงรักคนๆนี้ไม่ได้สักที ทำไมเวลาที่ผมเหงาผมถึงไม่นึกถึงคนนี้เป็นคนแรก ส่วนพี่ปิงคงเจ็บปวดใจกับการที่ต้องมารักคนที่ไม่ได้มีใจให้ตัวเองแม้แต่น้อย
อยู่ดีๆ พี่ปิงก็ดึงผมเข้าไปกอด เป็นกอดที่แน่นที่สุดที่พี่ปิงกอดผม จากนั้นก็จูบลงบนหน้าผาก เปลือกตา จมูก และปาก แล้วพี่ปิงก็ล้มตัวลงนอน ผมอยากให้พี่ปิงสบายใจ เพราะฉะนั้นผมคงต้องแสดงออกต่อพี่ปิงในฐานะแฟนบ้างผมเลยก้มตัวลงไปจูบพี่ปิงหนึ่งครั้งแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ปิง จากนั้นเราสองคนก็หลับไปพร้อมกับน้ำตาที่ไม่รู้ว่าหยุดไหลไปเมื่อไหร่