เป็นยังไงกันบ้างแล้วเนียะ หายไปสองวัน เหมือนจะเห็นหลายๆคนลงแดง ฮ่าๆ
มาต่อให้แล้วนะๆ
ก่อนหน้านั้น ขอตอบเม้นท์บางคนหน่อย
คุณ sooyuu : เรียนเมคอัพ... โอ๊ย คิดตามแล้วผมนี่ หัวเราะจนเมื่อยเลยทีเดียวเชียว

คุณHeVeN : ลองย้อนไปอ่านตอนก่อนหน้านี้แล้วจะรู้ว่ามันเรียกผมว่าอะไร เหอะๆ

คุณ MoSHI : ไม่ต้องข้ามคืนก็แทบแย่แล้วครับ

คุณ sai_zai : อนะ สะดุ้งเป็นพักๆเลยหรอเนียะ ขอโต๊ดคับ แหะๆ

คุณ andyus1 : ขยับเข้าหา...น่ากัวนะคับนั่น กัวว่าจะโดนลากก่อนได้ขยับ ฮ่า

ล้อเล่นนะ
ให้มันตีตรานี่ จะประทับรอยตีนให้มันก่อน คอยดู

ล่อซะยาวเลย มาอ่านกันได้แล้วจ้า
ตอนที่21 หวั่นไหว
ผมเดินขึ้นมาถึงบนห้อง เปิดประตูเข้าไป
"ไอ้ธัณ!!"
ไอ้พามันถลามาหาผม
"อะไรวะ?"
"มึงไปไหนมาเนี่ย!!!รู้มั้ยว่ากูห่วงแทบตาย มึงเพิ่งออกจากโรงบาลแท้ๆ จะไปไหนก็ดูตัวเองด้วยสิวะ"
"อืม คือ...กูขอโทษ"ผมพูดแล้วเดินเลี่ยงมันมาจะเข้าไปในห้อง แต่มันก็จับแขนผมไว้
"ธัณ กูมีเรื่องอะไรจะพูดกับมึงหน่อย"
"..."
มันลากผมไปนั่งที่โซฟา
"ธัณ กูถามจริงๆนะ เอาจริงๆเลยนะเว้ย"
"อืม"
"ช่วงนี้มึงมีเรื่องอะไรเครียดมั้ย"
"ป่าวนี่"ผมโกหก
"อย่าโกหกกูเลย มึงจะโกหกไปจนตัวมึงตายเลยหรอ"มันพูดเสียงอ่อน
"ก้อ...มันไม่มีอะไรหรอก ก็เรื่องงานเรื่องเรียน ธรรมดาเนี่ยแหละ"ผมบอกมัน
"เหรอ..."
"อืม"
มันมองผมแบบไม่ค่อยเชื่อ ถึงจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แค่มองตาผมก็รู้แล้ว...ว่ามันสงสัย
"กู..."ผมพูดขึ้นเมื่อมันทำท่าจะลุกไป
มันหันกลับมามองผมด้วยสายตาเอาเรื่อง ทุกทีแค่นี้ไม่ทำให้ผมระคาย แต่ไหงคราวนี้ผมถึงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจนัก...
"คือ...กู....กูเอ่อ"
มันยังเงียบ แล้วก็มองผม
"กูไปกับเกอแลงมา"
"มึงไปกับใครนะ!!!"มันตวาดเสียงดัง
"กูไปกับเกอแลงมา พามันไปเลี้ยงตอบแทนที่เอานี่มาให้"
ผมยื่นข้อมือไปให้มันดู ซึ่งมีนาฬิกาที่เกอแลงให้ไว้สวมอยู่
มันคว้าข้อมือผมไปดู แล้วมองหน้าผม อารมณ์ทั้งโกรธ ไม่เข้าใจ และสงสัยรวมกัน
"มันเป็นนาฬิกาพิเศษ ใช้วัดชีพจรได้เผื่อไว้ในกรณี..."
"ถอดออกซะ"
"หา?"
"กูบอกให้ถอดออก"
"ทำไมวะ"
"บอกให้ถอดก็ถอดซิวะ!!!"มันตะคอก
"ก็กูถามมึงอยู่ว่าเหี้ยอะไร!!!"ผมตะคอกกลับ
"กูไม่ชอบ"มันตอบมา
"แค่ไม่ชอบ เนี่ยนะ มึงพาลเอาความไม่ชอบหน้าของมึง มาลามถึงกูไม่ได้หรอก"
"มึงชอบมันรึไง"ไอ้พาถาม
"มันเป็นเพื่อนที่ดี ดีมากด้วย"
"แล้วกูล่ะ ไม่ใช่เพื่อนมึงหรอ"
"ไอ่พามึงจะพาลใหญ่แล้ว มึงก็เพื่อนสนิทกูก็รู้อยู่"
"จะจริงเรอะ"
"ถ้าไม่จริงกูจะยังอยู่กะมึงมั้ยเนี่ย กูยังจะทนนิสัยชอบอาละวาดเหี้ยๆของมึงได้อยู่มั้ยหา มึงรู้รึยังทีนี้ ห๊าาา"ผมด่ามัน
"ไม่ มึงไม่ได้เห็นกูเป็นเพื่อนมึง"
"ทำไมจะไม่เห็นวะ มึงคิดหรอว่าแค่กูไม่ได้ไปไหนกะมึงเหมือนก่อนเนี่ย มันจะทำให้กูไม่เห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกูเนี่ยหา ไอ้เชี่ยพา มึงก็เพื่อน เกอแลงก็เพื่อน ถึงมันจะไม่ใช่เพื่อนสนทิก็เหอะ แต่ว่ามันมีความใจเย็น ดูแล้วพึ่งพาได้ แถมมันยังเป็นที่ปรึกษากูได้ในหลายๆเรื่องด้วย เพราะงั้น..."
"มึงก็เลยบอกมันไปงั้นดิ ทุกเรื่องของมึง"
"กูก็ไม่ได้บอกทุกเรื่อง แต่ว่ากูก็ปรึกษากับมันบ้าง มันก็รับฟังกู พูดกับกูดีๆ ให้คำปรึกษาดีๆหลายอย่าง กูถึงได้เลิกคิดมากไปได้ไงเล่า!!!!"
"แล้วมึงจะมาอะไรกับกูอีก!!!สรุปมึงอยากให้กูเลิกเครียด หรืออยากให้กูตายห่าไปเลยกันแน่วะ หา มึงเลิกทำนิสัยแบบนี้ได้มั้ยวะ!!!"
"บอกตามตรง กูไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่ามึงจะมาอะไรกับกูนักหนา พักนี้กูรู้สึกเหมือนมึงจะเป็นห่วงกูเว่อร์เกินเหตุไปแล้ว กูไม่ใช่เด็กๆนะเว้ย จะได้อยากมีคนมาตามดูทุกฝีก้าวเนี่ย กูก็รู้ว่าตัวกุมันอ่อนแอ แต่จะไห้ทำไงวะ ให้กูเป็นง่อย อยู่กับที่เลยมั้ย หา แล้วไอ้พฤติกรรมแปลกๆของมึงทั้งหลายแหล่นั่นอีก กูไม่เข้าใจในสิ่งที่มึงพยายามสื่อว่ะกูพูดจริงๆ มึงจะเอาไงกับกู ก็บอกกูมาได้มั้ยหา!!!"
ผมหอบเหนื่อย เวลาผมตะคอก หรือโวยวายอะไรเยอะแยะ ผมจะหายใจไม่ค่อยทัน...
"แล้วแบบนี้จะให้กูรู้ได้ไง ว่ามึงคิดไร ถ้ามึงไม่บอก ไม่กล่าวอะไร ได้แต่มาอารมณ์เสีย มาพาลใส่กูแบบนี้น่ะ..."
"แล้วมึงล่ะ?"
"หะ"ผมพูดทั้งหอบ
"มึงเคยคิดจะบอกอะไรกูมั้ย?"
ผมมองหน้ามัน มันมองหน้าผม สายตามันดูเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
"เวลามึงไปไหน มึงเคยบอกกูมั้ย เวลาจะทำอะไรมึงเคยบอกกูมั้ย ไม่ว่ามึงจะคิดอะไร ไตร่ตรองอะไร มึงก็ยังคิดของมึงคนเดียวเลย มึงไม่เห็นเคยบอกกูซักอย่าง"
ผมอ้าปากจะพูด..แต่มันก็พูดต่อ
"แล้วรู้มั้ย เวลามึงเป็นอะไรไปที กูแทบจะบ้าตาย เวลามึงวิตกจริต มึงเครียด กูก็พลอยจะเป็นไปกับมึงด้วย มึงออกไปข้างนอกตอนกลางคืน กูก็กลัวมึงจะเป็นอะไรไป เวลาที่มึงไม่อยู่ในสายตากู กูก็เอาแต่คิดถึงมึง ไม่รู้ว่ามึงจะวูบไปตอนไหน"
เสียงมันสั่นๆ มันก้มหน้ามองพื้น ผมอึ้งที่จู่ๆมันก็เป็นอะไรก็ไม่รู้ ผมเดินเข้าไปใกล้มัน
"พามึง..."
"กูห่วงมึงมากแค่ไหน มึงเคยรู้มั้ย มึงเคยเข้าใจมั้ย กับคนที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนสำคัญน่ะ มันรู้สึกยังไง มึงเคยรู้มั้ย..."
มันเงยหน้ามาสบตาผม ผมเห็นน้ำตาคลอเบ้ามันนิดๆ นั่นทำให้ผมยิ่งชอคหนัก มือที่เอื้อมไปจะแตะตัวมันก็ชะงัก
"ตอนที่มึงเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุด หมอมาบอกกู ว่ามึงหัวใจหยุดเต้นไป หัวใจกูก็แทบจะหยุดเต้นไปกับมึงตรงนั้นเลย กูทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่มึงนอนอยู่บนเตียงนั่น กูได้แต่ภาวนา ขอให้มึงไม่เป็นไร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กูไม่เคยจะภาวนาให้ใครแม้แต่ตัวของกูเอง"
"กูไม่อยากจะให้มึงเป็นอะไรไป ไม่อยากให้เป็นอะไรไปทั้งนั้น มึงเป็นเพื่อนที่กูให้ความสำคัญมากที่สุดในชีวิต"
ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่มันพูด ไม่เข้าใจ ว่ามันต้องการสื่ออะไรกับผม ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น...
"ถึงอย่างงั้น มึงก็ยังไว้ใจคนอื่น มากกว่ากูอีกงั้นเหรอ?"
มันมองผม ด้วยสายตาเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม มันทำหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาเมื่อไหร่ก็ได้
"มึงเคยคิดมั้ย ว่ากูรู้สึกยังไง..."
ผมอยากจะตอบมัน...
แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรหลุดรอดออกมาจากปากผม...
มันแค่นเสียงหัวเราะเบาๆ
"เอาเถอะ มึงไม่ต้องตอบกูหรอก กูรู้อยู่แก่ใจแล้วล่ะ...มึงไปทำไรก็ไปเหอะ..."
แล้วมันก็หันหลังให้ผม แล้วเดินออกไปจากห้อง...
ขาผมไม่มีแรง ทำให้ผมทรุดลงไปกองกับพื้น
ผมนั่งนิ่งอยู่อย่างงั้น ในหัวคิดทบทวนสิ่งที่มันพูดมา...
"กูห่วงมึงแค่ไหน มึงเคยรู้มั้ย"
ใช่...มันห่วงผม...
"กูทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งๆที่มึงนอนอยู่ตรงนั้น"
...จริงๆเหรอ...
"กูได้แต่ภาวนา ขอให้มึงไม่เป็นไร"
มึงทำแบบนั้นจริงๆเหรอ...
น้ำตาไหลออกจากตาผมช้าๆ หลังจากที่ผมได้ประจักษ์ในทุกเรื่อง
ผมนั่งพิงผนัง หอบแรงๆ เอามือกุมหน้าอกซ้ายของผม ใจมันเต้นเร็วขึ้นผิดปกติ...
ผมเริ่มไหลลงไปนอนกองกับพื้น ตาพร่ามัว ความเจ็บปวดมันแล่นริ้วไปทั่วก่อนจะกลับมาสุมที่ทรวงอก...
เหงื่อผมแตกเต็มตัว ตัวผมเริ่มสั่นหนักขึ้น หนักขึ้น...
ผมนึกเกลียดตัวเอง ที่มีโรคและสันดานประจำตัวเลวๆ
ซึ่งมันก็มักจะวกกลับมาทำร้ายตัวผมเป็นประจำอยู่แล้ว
"มึงเคยคิดมั้ย ว่ากูรู้สึกยังไง..."
....แต่ผมไม่เคยนึกเลย ว่ามันจะทำร้าย เพื่อนที่ผมรักที่สุดด้วย.....
...
.
.
.
ผมมองตัวเองผ่านกระจกใสของร้านค้าที่ปิดบริการมานานโขแล้ว ในตาของผมสะท้อนกลับมาแต่ความเกรี้ยวกราด ความไม่เข้าใจ ความเจ็บปวด ผสมปนเปกัน
ผมเดินหนีออกมาจากห้องที่ผมอยู่มาสามปีเต็ม เพียงเพราะว่าทนมองหน้าเพื่อนที่ผมรักที่สุดไม่ได้
ในตอนที่ผมระบายทุกอย่างออกไป ผมไม่ได้มองหน้าของธัณเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมา
ใบหน้าของมัน เหมือนกับจะร้องไห้ออกมาตรงนั้น
น้ำตาไหลออกมาช้าๆ จากดวงตาที่ฉายแววเจ็บปวด อย่างที่ผมไม่เคยเห็นจากมัน
มันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ไม่มีเสียงอะไรลอดออกมาจากปากมันเลย
เพล้ง...
กระจกตรงหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมก้มลงมองดูมือที่เปื้อนเลือด และเต็มไปด้วยบาดแผล
แต่มันก็ไม่เท่าที่ผมเจ็บอยู่ตอนนี้
ผมถามตัวเองช้าๆ ว่าโรคหัวใจเนี่ย มันเป็นโรคติดต่อรึเปล่า...
...หัวใจผม มันถึงได้เจ็บปวด ราวกับจะฉีกเป็นเสี่ยงๆแบบนี้...
to be continue

รักคนอ่านทุกคนเลยนะคับ

แล้วเจอกันใหม่จ้า
