๕.
ปัตนิ - วินาศน์ (คู่ครองที่ซ่อนเร้น)
เอิงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดู ภาพที่ส่งมาทางข้อความแชท เป็นภาพของเด็กหนุ่มสองคนกำลังยกถ้วยน้ำชาให้กับหญิงผู้มีอาวุโส เอิงยิ้มให้กับภาพที่เห็น โดยเฉพาะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่คุณนุจรีส่งมาปิดท้ายข้อความสุดท้ายแล้ว คนเป็นแม่ ก็เลือกที่จะประนีประนอมระว่างความต้องการของตัวเองและความรู้สึกของลูก พบเจอกันครึ่งทาง คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว
เอิงเดินเข้าตึกมิกซ์ยูสอันหรูหราแห่งนี้ รู้สึกตัวลีบเล็กลงอย่างประหลาด ก็อย่างว่าล่ะนะ วันนี้เอิงมีธุระที่จะมาคุยกับรองประธานการฝ่ายพัฒนาองค์กรคนเก่ง แค่ชื่อตำแหน่งก็ยาวจนแทบจะท่องไม่ถูก แถมเจ้าตัวก็ยังเต็มไปด้วยความสามารถ รวมถึงการมีรูปเป็นทรัพย์ ที่มันช่างเข้ากันได้ดีมาก
เคาน์เตอร์ด้านหน้าแจ้งกับเอิง ว่าให้ขึ้นไปได้เลย ชื่อของเอิงอยู่ในรายชื่อของแขกวีไอพีของตึกในวันนี้ เอิงกล่าวขอบคุณ ก่อนเดินไปกดลิฟต์ เพียงไม่นาน ลิฟต์อันทันสมัยพาเอิงขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการ เจ้าหน้าที่ด้านหน้ากล่าวทักทายเอิงอย่างสุภาพ เธอทราบอยู่ก่อนแล้ว ว่าเอิงจะเข้ามาวันนี้ ก่อนเดินพาเอิงไปที่้ห้องรับรองแขก ที่อยู่ด้านนอกห้องทำงานใหญ่โต
ไม่นานนัก กาแฟราคาแพงหอมกรุ่นและขนมทานเล่นจากโรงแรมห้าดาว ถูกนำมาวางตรงหน้าเอิง เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้เอิงรอสักครู่ ท่านรองประธานติดประชุมกับฝ่ายการตลาด แต่อีกเดี๋ยวก็คงประชุมเสร็จ เอิงรับคำ ก่อนกล่าวขอบคุณ ประตูห้องทำงานบานใหญ่ปิดลงตามหลังเมื่อคุณเจ้าหน้าที่เดินออกไป เอิงถอนหายใจยาว ๆ ออกมา พอจะหายเกร็งลงไปบ้าง เมื่อต้องมานั่งอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเลยแบบนี้
เอิงยกกาแฟขึ้นจิบ รสชาติมันกลมกล่อม พร้อมของว่างที่หวานละมุนเช่นกัน เอิงนั่งรออยู่ครู่ใหญ่ กาแฟลดลงไปจนเกือบหมดแก้ว ขนมพร่องไปบางส่วน ก่อนจะได้ยินเสียงพูดที่ด้านหน้าห้อง ประตูห้องทำงานนั้นถูกเปิดเข้ามา เอิงเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าอันแสนสวยนั้นของท่านรอง
“เอิง ฉันคิดถึงแกมาก” อันน์กล่าวทักทายเอิง รุ่นพี่คนสวยของเขารีบเดินเข้าสวมกอดแน่น ๆ “พี่อันน์สบายดีนะครับ” เอิงถามไถ่ อันน์ยิ้มให้แทนคำตอบ “ไป ไปคุยกันต่อในห้องทำงานพี่” อันน์เดินนำเอิงเข้าไปนส่วนห้องทำงาน ก่อนกดปุ่มแจ้งหน้าห้องให้เอากาแฟมาเพิ่มให้กับเอิง อันน์เชื้อเชิญให้เอิงนั่งที่ชุดโซฟาราคาแพง รอจนกาแฟถูกนำมาเสิร์ฟ แล้วจึงพูดต่อ
“กาแฟอร่อยเนอะ” พี่อันน์ไม่เคยเปลี่ยน ก่อนหน้าเคยเอ็นดูเอิงแบบไหน ปัจจุบันก็ยังเป็นพี่คนสวยที่แสนดี เอิงยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะพูดว่า “พี่อันน์สวยไปเปลี่ยนเลยนะ” อิงกล่าวชมรุ่นพี่ “แกต้องพูดว่า ฉันสวยขึ้นสิ ึงจะถูก” คนถูกชมแก้ไขคำพูดรุ่นน้องให้ถูกต้อง ถูกใจคนฟัง” อันน์พูด ก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
ก็จริงนะ อันน์มีใบหน้ารูปไข่ ปาก คิ้ว จมูก คาง คอ ได้สัดส่วนรับกันไปหมด ใบหน้าแต่งแต้มสีสันไ้อย่างลงตัว ลิปสติกสีแดงเพลิงบนริมฝีปากเรียวสวยนั้น เย้ายวนเด่นสะดุดตา แถมรูปร่างทรวดทรงองค์เอว ส่วนเว้าส่วนโค้ง อกอวบอิ่มแทบไม่มีที่ติ ยิ่งอยู่ในเดรสทำงานคอกลม แต่งแฉกเล็ก ๆ แขนสั้น ที่เอวมีเข็มขัดเส้นเล็กๆ สีเงินคาดอยู่ แบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งขับผิวที่ขาวของอันน์ให้ผ่องยิ่งขึ้น ผมยาวดำขลับเป็นลอนรวบมัดเป็นหางม้าต่ำ แบบดูไม่ตั้งใจ แต่สวยเป็นธรรมชาติ
“เสียดาย ดันเป็นกะเทยซะนี่” อันน์พูดติดตลก พลางยักไหล่ขึ้นแบบช่วยไม่ได้ เอิงยิ้มให้รุ่นพี่ ก่อนส่ายหน้าแบบไม่คล้อยตาม “แต่ก็ทั้งสวย ทั้งเก่งนะ ท่านรองฯ” เอิงพูดจริงจัง อันน์ยิ้มให้กับรุ่นน้อง เธอรู้ดีว่าเอิงนั้น ไม่ค่อยชอบให้เธอพูดอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่หลีกหนีไปไม่พ้นก็ตาม
เอิงนั้น เขาคิดว่าเขาเข้าใจพี่สาวคนสนิทคนนี้ดี เอิงรู้ดีว่าอันน์นั้น ต้องใช้ความเพียรพยายามมากแค่ไหน กว่าที่จะก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ กับเพศสภาพที่แม้ในภาพรวม สังคมไม่ได้ปิดกั้นแต่อย่างใด แต่ในโลกธุรกิจแล้วนั้น อันน์ต้องพิสูจน์ตัวเองมากมาย ผ่านอะไรมาเยอะ จิตใจต้องแข็งแกร่งจนหลายครั้งเอิงนึกเห็นใจอันน์อย่างที่สุด
อันน์เป็นคนเกิดราศีมังกร ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ โดยมีราหู ๘ เป็นตนุลัคน์หรือตัวตนของอันน์ แถมมีดาวเสาร์ ๗ อยู่ในราศีัมังกร จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมอันน์ถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ แต่นั่นก็ต้องแลกมากับความเพียรอุตสาหะอย่างสูง แล้วพื้นดวงกำเนิดนั้น ราหู ๘ ไปตกที่ภพเรือนกัมมะ การงานการกระทำ อันน์จึงเป็นคนมุ่งมั่น อดทน มุมานะ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แม้ว่าจะต้องเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดขนาดไหน
“สวยขนาดนี้ มีแฟนได้แล้วมั้ง” เอิงพูดเย้ากึ่งลองเชิงดูว่า รุ่นพี่คนนี้สละโสดหรือยัง “ใครเขาจะมาชอบฉัน” อันน์พูดพลางทำหน้าทำตาน้อยใจ “เฉาะรึก็ยังไม่เฉาะ” เอิงส่ายหน้าเอือมกับความกล้าพูด กล้าเปิดเผยของพี่สาวคนนี้เสียจริง ๆ
“ถ้าเขาชอบพี่อันน์ เรื่องนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่” เอิงยืนยันกับอันน์ อันน์ยิ้มให้รุ่นน้อง เธอรู้ว่า เอิงนั้นรู้สึกอยากปกป้องความรู้สึกของเธอมาโดยตลอด อันน์ถึงได้รักและเอ็นดูรุ่นน้องคนนี้อย่างพี่น้องกันแท้ ๆ
กระนั้นเลย ดาวเจ้าเรือนปัตนิของอันน์คือ ดาวอาทิตย์ ๑ ไปอยู่ในเรือนวินาศน์ มันหมายถึงสิ่งที่ปิดบัง ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย ไม่ชัดเจน และอาจจะกลายเป็นเรื่องผิดศีลธรรมได้ ถ้าเจ้าตัวไม่ระมัดระวัง แถมยังอาจจะถูกหลอกลวง มีปัญหารักซ้อน แม้คู่แท้ที่ได้มาก็จะต้องมีอุปสรรคขวางกั้นเอาไว้ ภายใต้บุคลิกลักษณะที่แข็งแกร่ง เป็นผู้นำของอันน์ ความอ่อนแอเปราะบางซ่อนอยู่ลึก ๆ ในนั้น
“เข้าเรื่องดีกว่า” อันน์รีบเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องอย่างเอิงเริ่มกลายเป็นคนเจาะลึกชีวิตของเธอเสียแทนแล้ว “เอิง แกมาช่วยรับรองแขกพิเศษให้พี่ที” อันน์ปรับเข้าสู้โหมดท่านรองฯ “มิสเตอร์โรเบิร์ต ดทมัส โรเบิร์ต อเมริกัน จะมาเป็นผู้ลงทุนร่วมกับบริษัท พี่อยากได้ล่ามภาษาอังกฤษ ซึ่งแกเป๊ะมากในเรื่องนี้ ดังนั้น พี่มองไม่เห็นใครจะเหมาะสมมากไปกว่าแกแล้ว” เอิงฟังที่อันน์พูด
“งานนี้มีค่าเหนื่อยให้ เรตนี้” อันน์ยื่นเอกสารว่าจ้างให้เอิงดู มีค่าตอบแทนตัวเลขงามแสดงอยู่ เอิงถึงบอกว่า มันมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่อันน์ยืนยันตามนั้น “และถ้างานของแกออกมาเพอร์เฟ็คไม่มีที่ติ แล้วมิสเตอร์โรเบิร์ตอยากจะมอบสินน้ำใจให้แกเพิ่ม เพราะความเสน่หา แกก็รับไปได้เต็ม ๆ ไม่มีหักเปอร์เซ็นต์” อันน์ยื่นปากกาให้เอิงเซ็นชื่อรับงานนี้
เอิงรับปากกามาจรดลงบนกระดาษแผ่นนั้น อันน์พยักหน้าให้กับรุ่นน้อง เป็นเชิงว่าให้เซ็นได้เลย เอิงลงชื่อในสัญญานั้น อันน์ยิ้ม เธอโล่งใจไปอีกหนึ่งเรื่อง ที่ได้น้องที่น่ารักและมีความสามารถอย่างเอิงมาช่วยงาน อันน์นัดหมายเอิงให้มาเริ่มงาน เอิงกล่าวขอบคุณรุ่นพี่อีกครั้ง
“เออใช่ งานนี้แขกพิเศษ 'พลัสวัน' นะ” อันน์เกือบลืมบอกกับเอิง “พี่ไม่แน่ใจว่ามิสเตอร์โรเบิร์ตจะเดินทางมากับใคร แต่เดาว่าน่าจะเป็นคนในครอบครัว ไม่ภรรยา ก็คงคู่ควง ยังไงแกเตรียมปวดหัวได้เลย” อันน์หยอกเอิง ก่อนจะบอกว่าให้มองรายได้ก้อนงามนั้นไว้ ทำให้ดีที่สุด ทำให้สำเร็จ เสร็จงานรับเงิน เดี๋ยวก็หายเหนื่อยเอง
“พี่อันน์ไม่ต้องไปส่งเอิงหรอก เดี๋ยวเองลงไปเอง” เอิงบอกกับรุ่นพี่ เมื่ออันน์เดินออกมาจากห้องทำงานพร้อม ๆ กัน “เอางั้นนะ” อันน์ถามย้ำ ก่อนจะได้ยินเสียงทักทายจากท่านประธานบริษัทหนุ่มหล่อ “คุณอันน์อย่าลืมงานกาล่าคืนนี้นะครับ” เอิงหันไปมอง จึงได้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดี เจ้าของบริษัทนี้ รับช่วงต่อมาจากผู้เป็นบิดา
“ไม่ลืมแน่นอนค่ะ คุณพฤกษ์” อันน์ส่งยิ้มให้กับพฤกษ์ ที่หันมามองเอิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย “นี่คุณเอิงค่ะ อันน์ขอแรงให้มาช่วยรับรองมิสเตอร์โรเบิร์ต” อันน์แนะนำรุ่นน้องให้พฤกษ์รู้จัก เอิงยกมือไหว้ชายหนุ่ม “จริง ๆ เราให้มืออาชีพมาทำหน้าที่นี้ งานมันน่าจะออกมาเรียบร้อยดีกว่า” พฤกษ์พูด ก่อนมองอันน์และเอิงสลับกัน
“แต่ ถ้าคุณอันน์เชื่อมั่นในตัวคุณคนนี้ ผมเองก็ไม่ขัด ผมไว้ใจคุณอันน์ ว่าจะไม่ทำอะไรให้เสียเรื่อง” อันน์เองก็อึ้งไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินแบบนั้น เอิงรีบพูดกับพฤกษ์ รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะทำให้ดีที่สุด พฤกษ์ไม่ตอบอะไร ก่อนบอกกับอันน์ว่า
“งั้นผมมารับคุณอันน์ที่นี่ทุ่มตรง” ชายหนุ่มบอกกับอันน์ที่ยิ้มรับ ก่อนจะเดินไป อันน์หันมาแตะไหล่น้อง บอกให้เอิงกลับได้เลย แล้วมาในวันเริ่มงาน เอิงนั้นก็ไม่อยากให้อันน์ต้องลำบากใจ จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไร เขายกมือไหว้กล่าวลารุ่นพี่ แล้วกำหนดจิตให้นึกถึงงานเอาไว้
ถึงเวลาเย็น อันน์กลับบ้านก่อนเพื่อไปเตรียมตัว เธออยู่ในชุดจากห้องเสื้อดีไซเนอร์ชื่อดัง เป็นชุดราตรียาวเปิดไหล่ แขนสั้น เข้ารูป สีดำ ความยาวจรดเท้า รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเลื่อมปักลาย อันน์ดูสวยสง่า ผมเป็นลอนสวยปล่อยลงสยายอยู่เต็มหลัง ชุดต่างหูเพชรระย้า ปล่อยคอเปลือยเปล่า เย้ายวน ชวนค้นหา ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูเฉี่ยว ปากสีแดงเพลิงสะกดทุกสายตา ในมือมีกระเป๋าในเล็ก ๆ ในของจุกจิกและบัตรเชิญกาล่า
อันน์กดแอพเรียกรถจากบ้านให้มาส่งที่อาคารมิกซ์ยูส เธอจอดรถไว้ที่บ้าน เพราะคงไม่มีประโยชน์ เมื่อตอนเลิกงานที่ต้องนั่งรถกลับมากับพฤกษ์อยู่แล้ว อันน์รอพฤกษ์อยู่ที่ด้านหน้าตึก ค่ำแล้ว ไฟหน้าตึก ไฟทาง และไฟจากตึกอาคารอื่นเปิดให้แสงสว่าง
อันยืนรออยู่พักใหญ่ แต่ยังไม่เห็นรถของพฤกษ์ขับเข้ามา เธอคิดว่า อาจจะเกิดความสับสนเรื่องสถานที่นัด เลยกดโทรศัพท์โทรหาพฤกษ์ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้รับสาย อันน์นึกสงสัย เพราะว่าถ้าพฤกษ์มารับเธอไม่ได้แล้ว ทำไมชายหนุ่มไม่โทรมาบอกสักคำ อันน์พยายามโทรศัพท์ติดต่อพฤกษ์อีกสองสามครั้ง แต่ไม่เป็นผล งานกำลังจะเริ่มแล้ว อันน์ก้มดูนาฬิกา เธอจึงเรียกรถเพื่อไปที่งานจากแอปพลิเคชันอีกครั้ง
รถพาอันน์มาส่งที่งาน ทางเข้างานเป็นแบบไดรฟ์ทรู ที่คนมาในงานต่างได้เห็นว่า ผู้มาร่วมงานแต่ละคน มางานด้วยรถยนต์สุดหรูคันไหน อันน์ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ มองเห็นสายตาคนอื่น ๆ มองมาที่รถที่มาส่งเธอด้วยสายตาขบขันและเริ่มทำท่าซุบซิบกัน อันน์ลงจากรถ พนักงานวาเล่ต์รีบมาบอกทางให้คนขับรถรีบนำรถออกจากพื้นที่ อันน์ได้ยินเสียงฮือฮาดังแว่ววมาแต่ไกล ถ้าคิดไม่ผิด คงเกี่ยวกับรถคันที่อันน์นั่งมา
อันเดินเข้างาน ท่ามกลางสายตาแอบดูแคลน งานกาล่าระดับนี้ มีแต่ผู้ร่วมงานจะอวดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่คนเห็น รองประธานบริษัทอย่างอันน์ กลับมาด้วยรถรับจ้างอันแสนธรรมดา กะจะฉีกหน้าคุณพฤกษ์และผู้ถือหุ้นของบริษัทกันหรืออย่างไรนะ ช่างกล้า คนบางคนแอบตำหนิอันน์ หรือลืมเทคฮอร์โมนหรือเปล่า แม่ผู้หญิงหลังกำเนิด เสียงหัวเราะคิกคักดังมา
“คุณอันน์ สวัสดีค่ะ” ลลิน หญิงสาวลูกเจ้าของบริษัทส่งออกการ์เม้นท์อันดับต้น ๆ ของเมืองไทยดังขึ้น อันน์หันไปมองตามต้นเสียงนั้น ชายหนุ่มคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกับลลิน คือพฤกษ์ ชายหนุ่มมองมาที่อันน์ ก่อนหลบสายตาของเธอ อันน์มองเห็นลลินควงแขนกับพฤกษ์ ดุจประกาศให้ทุกคนที่ได้เห็นรับรู้ ถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ระหว่างลูกสาวแสนสวยเจ้าของบริษัทกับท่านประธานหนุ่มหล่อ
“พลัสวันของคุณอันน์ ใครหรือคะ” ลลินทำเหลือบมองดูที่บัตรเชิญในมือของอันน์ “อย่าบอกนะคะ ว่าคุณอันน์คิดว่าจะเป็น พฤกษ์” ลลินจงใจพูดเสียงดังให้คนทีอยู่แถวนั้นหันมาสนใจบทสนทนานี้ “ลิน ผมว่าเราเข้าไปในงานกันเถอะ” พฤกษ์พยายามพูดตัดบท ลลินยังไม่ยอม
“แหม อะไรกันคะพฤกษ์ ลินก็แค่พูดทักทายคุณอันน์ ตามประสาแฟนนายจ้างกับลูกจ้างเองนี่คะ” ลลินทำเสียงอ้อน แก้ตัวกับพฤกษ์ อันน์พยายามข่มใจ ข่มความรู้สึก พฤกษ์ส่งสายตาแทนคำขอโทษมาให้อันน์ แต่เธอหลบสายตานั้นของพฤกษ์
“ยังไงตอนลงชื่อ คุณอันน์เขียนชื่อตัวเองลงไป ส่วนพลัสวันคนที่คุณอันน์มางานด้วย ก็เขียนว่า ความมั่นหน้า ก็ได้นะคะ ลินว่าแบบนั้นน่ารักดี” ลลินหัวเราะใส่อันน์อย่างเปิดเผย อันน์กำลังจะพูดตอบโต้กลับไป เพราะเธอคิดว่า สิ่งที่ลลินพูด มันชักจะเกินไปมากแล้ว ก็พลันมีเสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“คุณอันน์ ทำไมจะเข้างานก่อนผมล่ะครับ ในเมื่อเรานัดกันไว้แล้ว ไม่ได้นะครับ นั่งรถมาก่อนที่ผมจะไปรับก็ทีนึงแล้ว ยังไงคุณอันน์ต้องอยู่เคียงข้างผมตลอดทั้งงานนะครับ” เจ้าของเสียงเดินเข้ามายืนข้าง ๆ อันน์ ชายหนุ่มที่ตัวสูงใหญ่ รูปร่างกำยำล่ำสัน ผิวสีแทน ดูหล่อเท่ในชุดทักซิโด อันน์กำลังนึกตามกับสิ่งที่เธอได้ยินชายหนุ่มพูด
“ไอ้ทัพ” พฤกษ์เอ่ยชื่อลูกพี่ลูกน้องของเขา “สวัสดีครับพี่พฤกษ์” ฐานทัพทักทายพี่ชายของตัวเอง เขาได้ข่าวว่าลูกชายของป้ากำลังจะกลับมาจากเมืองนอก แต่ไม่รู้ว่าฐานทัพถึงเมืองไทยแล้ว “สวัสดีค่ะคุณทัพ” ลลินกล่าวทักทาย ฐานทัพทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะหันไปหาอันน์ ชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่า ก้มหน้าเข้าใกล้อันน์ จากความสูงระดับหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร
“เชิญครับคุณอันน์” ฐานทัพยกแขนขวาขึ้นให้อันน์จับ อันน์เอื้อมมือไปแตะที่แขนกำยำของฐานทัพ พฤกษ์มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกขัดใจ ลลินแอบเบ้ปากใส่ เมื่อเห็นคนในงานให้ความสนใจกับคู่ของอันน์และฐานทัพ บางคนเริ่มเอ่ยชมว่าทั้งสองคนดูเหมาะสมกันดี บางคนก็รู้สึกเขินแทน เมื่อเห็นฐานทัพใช้มือซ้ายกุมมือของอันน์ที่จับแขนของเขาอยู่
“ขอบคุณค่ะ” อันน์กล่าวกับฐานทัพเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในงาน เธอดึงมือกลับจากการเกาะกุมนั้น “ความสุขมันมักจะอยู่กับเราไม่นาน ผมชักจะเชื่อแล้วนะครับ” ฐานทัพยอมปล่อยมืออันน์อย่างจำใจ แต่เขาไม่สามารถละสายตาจากอันน์ไปได้เลย อันน์เองก็ต้องหลบสายตาแบบนั้นของฐานทัพ
“ขอโทษที่ต้องเสียมารยาทนะคะ” อันน์พูดกับฐานทัพ “แต่ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากคุณหรือใคร” อันน์บอกออกไป ก่อนจะเห็นแววตาของฐานทัพ ที่อันน์มั่นใจว่า แววตาของฐานทัพคือแววตาของคนที่กำลังถูกทำร้ายความรู้สึก
“มันทำกับคุณอันน์แบบนี้ คุณยังอันน์ยังจะเห็นว่ามันดีอยู่อีกหรือครับ” ฐานทัพไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมคืนนี้ ณ เวลานี้ เขาถึงไม่อยากจะเก็บความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเอาไว้ อย่างที่เคยทำมา “ฉันถือว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัว” น้ำเสียงของอันน์แสดงความไม่เป็นมิตร มันเหมือนเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ เพื่อปกปิดความเปราะบางของตัวเอง
“ผมไม่เชื่อว่าคุณรักพี่พฤกษ์” ฐานทัพเองก็แทบไม่เชื่อว่าเขาจะพูดออกไปแบบนั้น “คุณฐานทัพ ฉันขอบคุณเรื่องที่คุณช่วยเหลือฉันนะ แต่นี่คุณจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉันมากเกินไปแล้วนะ ขอตัวนะคะ” อันน์พูดจบ พยายามจะเดินหนีชายหนุ่มรุ่นน้อง
“เขาเคยปกป้องคุณอันน์สักครั้งมั้ยครับ” ฐานทัพถามอันน์ออกไป เธอหยุดยืนนิ่งราวกับถูกตรึงเอาไว้ด้วยความจริงข้อนั้น ฐานทัพเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของอันน์ ชายหนุ่มแตะเบา ๆ ที่แขนทั้งสองข้างของอันน์ ก่อนจะก้มลงพูดที่ข้างหูของอันน์
“เหมือนกันที่ผมปกป้องคุณอันน์” ฐานทัพค่อย ๆ ดันแผงอกของเขาให้แนบกับแผ่นหลังเนียนสวย ที่เผยพ้นออกจากชุดเดรสสีดำนั้น อันน์รู้สึกแปลบที่ใจขึ้นมาแบบแปลก ๆ เธอรีบหันหน้ามาทางฐานทัพ “ผมรักคุณอันน์นะครับ รักมาตลอด” ก่อนที่อันน์จะทันได้พูดอะไรกลับไป ฐานทัพก็โน้มใบหน้าลงมาหาอันน์ ริมฝีปากของเขาอยู่ใกล้จนเกือบสัมผัสได้กับริมฝีปากของอันน์
**************************
https://www.youtube.com/watch?v=TWv9vhDxpJQที่ดูเหมือนเก่ง มันเป็นแค่การแสดง
ที่แกล้งให้ดูแข็งแรง
เพราะไม่ต้องการอ่อนแอให้ใครดู
สิ่งที่ใครต่อใครก็รู้ ไม่ใช่ตัวจริงเลยสักนิด
เป็นภาพลวงตาที่ไม่มีใครเข้าใจ
ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้
ร้องไห้ในใจ ไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง
ใครจะรู้ถึงความรู้สึก ที่อยู่ลึกในใจของฉัน
ที่มันร้อนเป็นไฟ เพราะว่าใครกัน
ที่ทำให้ตัวฉันต้องเป็นคนแบบนี้
ขอเพียงสักคน ที่เข้าใจกันก็พอ
อยากขอเพียงสักคน ที่รักตัวตนที่ฉันนั้นเป็น
สิ่งที่ใครต่อใครได้เห็น ไม่ใช่ตัวจริงเลยสักนิด
เป็นภาพลวงตาที่ไม่มีใครเข้าใจ
ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้
ร้องไห้ในใจ ไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง
ใครจะรู้ถึงความรู้สึก ที่อยู่ลึกในใจของฉัน
ที่มันร้อนเป็นไฟ เพราะว่าใครกัน
ที่ทำให้ตัวฉันต้องเป็นคนแบบนี้
จะมีใครบ้างไหม มีไหมบนโลกใบนี้
ที่รักตัวฉันคนนี้ และไม่ทอดทิ้งกันไป
ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้
ร้องไห้ในใจ ไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง
ใครจะรู้ถึงความรู้สึก ที่อยู่ลึกในใจของฉัน
ที่มันร้อนเป็นไฟ เพราะว่าใครกัน
ที่ทำให้ตัวฉันต้องเป็นคนแบบนี้
ใครจะรู้ว่าฉันก็เจ็บ ใครจะรู้ว่าฉันก็แพ้
ร้องไห้ในใจ ไม่มีใครดูแล เจ็บเองก็ต้องหายเอง
ใครจะรู้ถึงความรู้สึก ที่อยู่ลึกในใจของฉัน
ที่มันร้อนเป็นไฟ เพราะว่าใครกัน
ที่ทำให้ตัวฉันต้องเป็นคนแบบนี้