ส่วนที่ป๊าไม่พอใจนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผมชอบผู้ชาย เพราะเรื่องที่ผมชอบผู้ชายผมบอกแล้วว่าป๊ารับได้ แต่ตอนนั้นผมจำได้ว่า ผมเจ็บตัวบ่อยตอนที่เล่นกับพี่อ๊อฟ ได้รอยแผลกลับบ้านมาทุกเย็น ป๊าเขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ทะเลาะกับแม่เรื่องที่พาผมไปบ้านยายพี่อ๊อฟค่อนข้างจะบ่อย แล้วยิ่งผมไปบอกป๊าว่าผมชอบพี่อ๊อฟ ป๊ายิ่งไม่พอใจ คือผมเคยลองถามป๊าตั้งแต่เด็กๆนั้นแหละ ป๊าก็บอกว่ากลัวว่าเด็กคนนั้นจะข่มขู่ผม แล้วก็พาไปเล่นอะไรแผลงๆ ก็ตามฉบับพ่อหวงลูก แต่ตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจ ก็ยังเด็ก งอแงงอลป๊ายกใหญ่เลย จนป๊าได้ซื้อของเล่นมาเป็นกองๆ เพื่อง้อผม แต่ก็ไม่ยอมให้ผมได้เจอกับพี่อ๊อฟอยู่ดี จนมันนานเข้า ก็มีเพื่อนใหม่ๆมาเข้าแทนที่พี่อ๊อฟ จนทำให้ผมลืมมัน คิดๆดูก็รู้สึกผิดนะเนี่ย ลืมได้ยังไง คนทั้งคน ผมนี่แย่จัง ผมว่าจะลองถามป๊าดูอีกรอบ ว่ามันเป็นยังไง แล้วป๊าจะยังจำได้อยู่ไหม ผมกับพี่อ๊อฟคุยกันจนหลับ
ตื่นมาอีกทีพี่อิฐเข้ามาปลุก ก็ตื่นแต่งตัวกันไปโรงพยาบาล แต่เช้า เพราะเขาบอกว่ายายเรียกหาพี่อ๊อฟ ก็พากันไป พี่อิฐก็มีแซวนิดหน่อย เรื่องที่เข้ามาเห็นผมกับพี่อ๊อฟคิสกัน>< ผมก็แก้ตัวแล้วก็แถไป พี่อ๊อฟก็เอาแต่ยิ้ม ตอนนี้มีครอบครัวพี่อ๊อฟ กับครอบครัวของพี่อินไปกันก่อน ส่วนคนอื่นๆเห็นว่าจะไปทำบุญกัน ลูกพี่ลูกน้องพี่อ๊อฟเยอะ และหน้าตาดีๆด้วย จากที่เห็นและผมก็แอบมองบ่อยๆ..
ก็พากันไปโรงพยาบาล พอถึงก็ตรงไปห้องพักยาย มีน้าๆของพี่อ๊อฟนอนเฝ้าอยู่ 3 คน ก่อนจะถึงห้องป๊าก็โทรมาหา ผมก็บอกให้พี่อ๊อฟเข้าไปก่อน พี่อ๊อฟก็โอเคมันก็คงอยากคุยกับยายมันเร็วๆ ผมก็รับสายคุยกับป๊า โทรมาแต่เช้าเลย ป๊าโทรมาถามไถ่อาการยาย จริงๆก็ดูเหมือนว่าป๊าจะรู้จักยายอยู่แล้วด้วย ก็เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เคยดูแลแม่ผม จะไม่ให้รู้จักได้ยังไง ผมก็บอกว่ากำลังจะเข้าไป คุยกันนิดหน่อย ป๊าก็เน้นเตือนว่าอย่าไปดื้อหรือเกเรนะ บ่นตามเคย ผมก็รับปากแล้วก็วางไป โดยไลน์บอกแม่ด้วย เพราะแม่ก็ดูเป็นห่วงยายไม่น้อยเลย แต่ติดงานบุญ.....
ผมก็กำลังจะเดินเข้าห้อง... ปึก! “โอ้ย” ผมหันหลังไปดูตามเสียง คุณยายน่าจะเป็นญาติของคนไข้สักห้อง ล้มลงกับพื้น โดยมีผู้ชายคนนึงยืนมองแบบไม่พอใจ...
“ยายเดินยังไงเนี่ย!” ผู้ชาย ดูแก่กว่าผมไปหน่อย หน้าตาดีเลยละ แต่สันดานไม่เลย ยืนทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่ช่วยยายด้วย ผมก็เดินกลับไปช่วยยายพยุงยายเขาขึ้นมา และประคองให้นั่งเก้าอี้ที่อยู่แถวนั้น….
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณยาย” ผมนั่งยองๆตรงหน้ายายแล้วก็ถาม
จริงๆผมก็เห็นยายกับไอพี่นี่เดินมาพร้อมกันตั้งแต่ผมคุยกับป๊าแล้ว แต่ยายเขาดูเดินอย่างระมัดระวัง เหมือนกลัวล้มตามประสาคนแก่ ไอพี่นี่ก็เดินกดโทรศัพท์ไม่มองอะไรเลย ผมก็ไม่ได้สนใจ จนมาได้ยินเสียงยายล้ม มันคงจะเดินชน อีกอย่างนี้มันก็เช้าอยู่ คนเลยไม่มีเพราะแถวนี้มันห้องพิเศษไง ไม่เหมือนห้องรวมที่คนจะพลุกพล่าน.........
“ไม่เป็นไรจ้ะหนุ่ม ขอบใจมาก” คุณยายยิ้มอย่างอ่อนโยน ผมก็ยิ้มให้ไป
“ทำเป็นคนดี! ยายเขาเดินชนกู กูไม่พูดสักคำ!” ไอผู้ชายนี่มันพูดขึ้น ผมหันมองมันแบบไม่พอใจ ว่าจะไม่สนแล้วนะ ยืนทำหน้าทำตาเป็นควายยืนค้ำหัวผมอยู่เนี่ย
“ผมไม่ได้เป็นคนดีหรอกครับ ยายล้ม ผมก็แค่ช่วย ไม่เหมือนคนบางคน เป็นคนหรือเปล่าก็ไม่รู้! เดินชนยายแล้วไม่คิดจะช่วยไม่พอ ยังพูดจาไม่ดีอีก!” ผมพูดแบบไม่พอใจ
“ก็บอกแล้วไงยายเดินชนกู!” มันทำท่าจะตีผม ผมก็มองมันตาขวาง ไม่ยอมเหมือนกันแหละ
“ยายคงเดินไม่ดีเองอะจ้ะหนุ่ม ขอโทษด้วยนะ!” ยายหันไปบอกไอพี่นั้นด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจมากนะจ้ะหนู” ยิ้มให้ผม
“ก็แค่เนี่ย!” พูดกระแทกเสียง แล้วมันก็เดินไป สันดานเสียสุดๆ
“ยายไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ” ผมถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เลยจ้ะ ดีล้มไม่แรง เข่ายายก็ไม่ค่อยดีแล้ว ยายมาเยี่ยมเพื่อน พอดีลูกยายกำลังขึ้นมา ยายขึ้นมาก่อน เป็นห่วงเพื่อนอยากไปดูเร็วๆน่ะจ้ะ” ยายพูดเพราะมากเสียงหวานเชียว น่ารักมาเลยละ
“งั้นผมจะไปส่งนะครับ อยู่ห้องไหนครับ” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม
“แม่!” มีคนโผล่มาจากลิฟ แล้วเรียกมาทางยายเสียงดังหน่อยนึง แล้วก็รีบเดินมา มากัน 3 คน น่าจะพ่อแม่ลูกและ ลูกชายเขาน่าจะอายุเยอะกว่าผมอยู่
“แม่ บอกให้รอก่อน ทำไมขึ้นมาคนเดียว มันอันตรายนะ” น้าผู้หญิงที่เพิ่งมาพูดอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรแล้วลูก เมื่อกี้แม่ล้ม ดีหนุ่มน้อยเขามาช่วยไว้” ยายพูดอย่างใจดี ผมก็ยิ้ม
“ครับ จริงๆอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะครับ แต่ไม่เป็นอะไรแล้ว” ผมพูดอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณหนูมากนะจ้ะ พ่อดียายเขาใจร้อนน่ะจ้ะ” น้าผู้หญิงบอกผม
“ครับไม่เป็นอะไร งั้นผมขอตัวนะครับ สวัสดีครับ” ผมไหว้ทั้งยายและคุณน้าผู้หญิงและผู้ชาย ลูกเขาก็มองผมนิ่งๆ ผมก็มองนิดหน่อยไม่ได้สนใจอะไรแล้วก็หันหลังไปเลย
ผมก็เดินตรงไปทางห้องยายพี่อ๊อฟ และก็เข้าห้องไป เห็นน้าๆกำลังเก็บของ ผมก็ทักทายนิดหน่อย แล้วก็เข้าไปหายาย ที่ห้องนอนคนไข้ พี่อ๊อฟก็นั่งข้างเตียงจับมือยายแล้วก็พูดคุยอยู่ ผมก็มองนิ่งๆ แล้วก็ยืนข้างๆแม่พี่อ๊อฟเงียบๆ พี่อิฐก็อยู่อีกข้างของเตียง พี่อินก็ยืนมอง ยืนได้แปปนึง ก็มีคนเข้ามา เป็นคุณยายคนนั้น เขาก็ดูตกใจที่เห็นผม ทักทายผมใหญ่เลย น้าผู้หญิงและน้าผู้ชายเขาดูจะใจดีกับผม พูดอวยผมใหญ่เลย แล้วพ่อพี่อ๊อฟก็หาเก้าอี้ให้ยายเขานั่งข้างๆเตียง พี่อ๊อฟมันก็เรียกให้ผมไปยืนข้างๆมัน ผมก็ทักทายยายนิดหน่อย แล้วยายก็คุยกับเพื่อนเขาไปถามไถ่อาการกันเสร็จสรรพ จริงๆยายก็ป่วยค่อนข้างหนัก แต่เขาดูแข็งแรงมาก น่ารักด้วย....
“นี่หลานเธอเหรอจันทร์” คุณยายชี้มาทางผม ยายพี่อ๊อฟชื่อจันทร์
“ใช่ เป็นลูกของศรไง เธอจำศรได้ไหม เพื่อนของอร เด็กที่ฉันเคยเลี้ยงตอนเด็กๆ” ยายจันทร์พูดชื่อเก่าแม่ผม? ยายเขาจำผมได้? จริงๆผมจำยายได้ตั้งแต่เห็นรูปที่บ้านยายแล้ว
“เหรอ!” ดูตกใจนะ “เป็นเด็กที่น่ารักมากจริงๆเลยนะจันทร์ มารยาทดีมีน้ำใจ เหมือนศรเลยละ” คุณยายยิ้ม
แล้วเขาก็พูดอวยจนผมจะลอยแล้ว สักพักก็มีคนเข้ามาอีก ผมต้องตกใจไปนิด ไอเวรนั่นไง ที่เดินชนยาย พอมันเห็นผม มองผมตาขวางเลย.......
“เจออีกแล้ว คนดีของโลกนี้!” พูดแดกดันผมแล้วจ้องผมแบบไม่พอใจ
“เจออีกแล้ว คนเลวของโลกนี้!” ผมพูดขึ้นลอยๆ มันกำหมัดแน่น
“จะเอายังไง!” มันชี้หน้าผม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะไอเอส!” พี่อ๊อฟตะคอกมัน นั่นชื่อมันเหรอ
“ทำไมกูจะพูด” ไอเอสทำหน้ากวนตีน
“อะไรกันลูก แขกเยอะแยะนะเอส รักษามารยาทหน่อย” ยายจันทร์พูดเตือนอย่างเหนื่อยๆ
“ขอโทษนะครับยาย” ผมทำหน้าสำนึกผิด
“ไม่เป็นอะไรเลยลูก เอสมันก็เป็นแบบนี้แหละ เอาแต่ใจสะไม่มี นี่ก็คงไปทำให้หนูไม่พอใจใช่ไหม” ยายจันทร์พูดผมก็เดินเข้าไปจับมือยาย
“เปล่าครับ เขาเดินชนยายศรีอะครับ แล้วก็ตะคอกใส่ยายศรีอีก แถมยังว่าให้ผมอีกนะครับ” ผมมารยาเลยไง คือทุกคนมองไปทางมันหมด โดยเฉพาะ น้าผู้ชายที่เป็นลูกของยายศรี มองไอเอสอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ เดินชนแม่เขาอะเนอะ ใครจะพอใจละ
“อะไร! ยายเขาเดินไม่ดูเองตังหาก!” ไอเลวนี่มันเลวสุดๆ
“ผมเห็นว่าเขาเอาแต่กดโทรศัพท์ไม่มองทางอะไร พอชนยายล้มก็ไม่ช่วย มีชี้หน้าบอกว่ายายเดินไม่ดีอีก คนอะไรนิสัยแย่!” ผมพูดอย่างไม่พอใจ แต่พี่อิฐชี้หน้ามันอย่างคาดโทษ
“นท ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน เลิกพูดได้แล้ว เดี๋ยวยายเครียด” พี่อ๊อฟกระซิบบอกผม ผมก็พยักหน้า
“ขอโทษนะครับยายผมไม่ได้ฟ้องนะ ผมแค่บอกความจริง” ผมก็พูดอย่างอ่อนน้อม ไม่ได้ใส่อารมณ์แต่อย่างใด
“ยังเหมือนเดิมเลยนะนท” ยายจันทร์ยิ้ม ผิดคาด นึกว่ายายจะไม่พอใจสะอีก
“ยายยังจำผมได้เหรอครับ” ผมยิ้ม ดีใจมาก
“จำได้สิ เด็กน่ารักขี้อ้อน มีนทคนเดียวเลยนะ เป็นยังไง สบายดีนะลูก” ยายจันทร์ยิ้ม
“สบายดีครับ” ยิ้มบาน
“แล้วแม่เราไปไหน ไม่มาเหรอ?” ยายจันทร์ถามอย่างสงสัย
“แม่ติดงานบุญอะครับยาย ถ้าว่างแม่บอกจะมาครับ” ผมก็เข้าไปจับมือยาย
“แม่เราน่ะมาหายายบ่อยมาก แต่ไม่ยอมพาเรามาหายายเลย ยายคิดถึงจะแย่” ยายจันทร์ยิ้ม ที่แท้แม่ก็มาบ่อยแล้วนี่เอง โถ่! ไม่ชวนผมมาบ้างเลย “มาให้ยายกอดทีเร็ว” ผมก็ค่อยๆโน้มตัวไปกอด มันรู้สึกได้ ว่ากอดนี้มันคุ้นเคย และอบอุ่น
“คิดถึงยายเหมือนกันนะครับ” ผมหลับตาลงเบาๆ
แล้วผมก็ผละออกมาเบาๆ ยายจันทรก็ยิ้ม แล้วก็ร้องไห้? ให้ตายสิ ผมก็รนเลย ผมทำให้ยายเจ็บหรือเปล่า! ทุกคนก็ถามอย่างเป็นห่วง....
“ไม่ได้เป็นอะไร คิดถึงหนูนทน่ะจ้ะ ยายเคยเลี้ยงเคยเล่นด้วยตอนหนูยังเด็กๆ ดูตอนนี้สิ โตเป็นหนุ่มแล้ว แถมหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู” ยายจันทรยิ้มทั้งน้ำตา ผมก็น้ำตาซึมไปเลยสิ ซึ้งอะ
“เด็กคนนี้น่ารักมากเลยนะจันทร์” มองมาทางผม ผมก็เขินพอเป็นพิธี “อ้อ! นี่ก็หลานฉัน ชื่อออม” กวักมือเรียกเด็กผู้ชายที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลังยายให้มายืนข้างหน้า ดูเป็นคนเรียบร้อยเนอะ นิ่งๆ “อายุน่าจะไล่เลี่ยกับเจ้าอ๊อฟแหละ” ผมถึงกับชะงัก ดูสายตาที่ออมมองพี่อ๊อฟสิ
และก็พูดคุยกันไป ผมเริ่มสังเกตว่าออมมันเอาแต่จ้องพี่อ๊อฟ ตอนแรกนึกว่ามองเฉยๆ หรือว่ามองพี่อิฐก็ไม่ใช่ มันจ้องพี่อ๊อฟเลย ร้ายกาจมาก ผมก็เฉยๆไว้ อย่าร้อนรน เดี๋ยวพี่อ๊อฟจะหาว่างี่เง่า ให้ตายสิผมไม่ชอบเลย มีคนจะมาแย่งของผมเหรอเนี่ย! ไอเอสก็เงียบปากแล้วก็ยืนกดโทรศัพท์ไป ยายก็คุยกันสนุกสนานเลย ยายจันทร์ดูจะสดใสขึ้น หมอบอกว่ายายแข็งแรง การรักษาเลยตอบสนองดี แถมกำลังใจล้นเปี่ยมด้วย สักพักพวกผมก็ออกไปนั่งที่ห้องรับแขกด้านนอกกันให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันไป เพราะตอนนี้มีญาติเข้ามาเพิ่มแล้ว ไอเอสมันก็โดนพี่อิฐจัดการไป ผมก็มานั่งกับพี่อ๊อฟข้างๆ แล้วออม ก็ออกมานั่ง......
“อ๊อฟ อยู่ม.5ใช่เปล่า” พี่อ๊อฟมันก็พยักหน้า “เท่าเราเลยแล้วนทละ?” ออมหันมาถามผม แต่ถ้าผมมองไม่ผิด คือแวบแรกสายตาดูจิกกัดผมมาก มันก็ดูน่ารักดีนะ มันดูผอมบาง ต่างจากผมที่ค่อนข้างจะมีเนื้อมีหนัง
“ม.4 ครับ” ผมตอบไปตามมารยาทด้วยสายตานิ่งๆ
ตอนนี้ในห้องนี้คนเริ่มเยอะ พี่อินก็เดินมานั่งด้วย พี่อิฐก็ไปฟ้องพ่อแม่ไอเอส ซึ่งจริงๆยายศรีเขาก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร แค่สั่งสอนด้วยการตักเตือนนิดหน่อย แต่ดูแล้วก็ยังคงไม่สำนึกอะไรก็ปล่อยมันไป เราก็คุยกันไป และออมก็ดูจะออกตัวแรงมากกับพี่อ๊อฟ ผมก็นั่งชิดมาก จับมือด้วยพี่อ๊อฟมันก็ดูงงๆนะแต่ก็จับกับผมไง........
“นท แหมๆ ไม่ต้องกลัวใครจะแย่งหรอกจ้ะ” พี่อินเอ่ยแซว
“เปล่าพี่” ผมยิ้มเขิน ออมมันดูชะงักไปนิดหน่อย
“น่ะ...นี่เป็นแฟนกันเหรอ” ออมถามอย่างตกใจนิดๆ
“อื้ม แฟนอ๊อฟเอง!” พี่อ๊อฟพูดจาน่ารักมาก คือมันพูดเพราะกับทุกคนยกเว้นผม ไม่รู้ทำไม
“อะ อ่อ!” ออมยิ้มอ่อน แต่ก็มองผมแบบ เหมือนจะแย่งพี่อ๊อฟไป ตลก คืออะไร เอาอีกแล้วไง คนประเภทนี่มันน่ารำคาญจริงๆ
“ทำไม? ไม่พอใจเหรอ?” พี่อ๊อฟถามนิ่งๆ
“เปล่า แค่แปลกใจ ดูเหมือนไม่ใช่ทั้งคู่เลย” บอกด้วยท่าทีลนลาน
“ก็งี้แหละพี่” ผมยกยิ้มมุมปากให้ออมไป
“นท ไปหาคุณยายกัน” พี่อินเอ่ยขึ้นผมก็ลุกไปกับพี่อิม พี่อ๊อฟกำลังจะลุกตามมา ออมมันดึงไว้ผมก็ไม่ร้อนรนอะไร อย่างมากมันก็ทำได้แค่ตอมเท่านั้นแหละ!
ผมเข้าไปคุยกับคุณยาย คุณยายก็ชวนผมพูดรำลึกความหลังกัน ผมก็พูดเท่าที่จำได้บ้าง หรือไม่ก็จำจากที่พี่อ๊อฟเล่าบ้าง คุยไปสนุกไป ยิงมุกบ้าง คุณยายขำจนท้องแข็งเลย สนุกสนานเฮฮาเลยทีเดียว คุณยายเขาก็ดูจะเอ็นดูผมไม่น้อย แถมยังแซวเรื่องพี่อ๊อฟกับผมด้วยนะ เขาไม่ถือสาเรื่องเพศที่สามเขาเข้าใจด้วยซ้ำ เราก็คุยกันไป ยายเป็นคนอบอุ่นมาก น่ารักมาก คุยกันไปสักพักก็ได้เวลายายพักผ่อนก็ออกมานั่งข้างนอกกัน ยายศรีก็พูดคุยกับผมต่อ ก็คุยไป แล้วผมก็มองไปทางพี่อ๊อฟตลอด เอาจริง คือออมอ่อยทุกอนู อ่อยแบบทุกตอนที่มีจังหวะ จับต้นขา จับต้นแขนพี่อ๊อฟ ทุกอย่างมันย้ายไปนั่งข้างพี่อ๊อฟ จนผมคุยกับยายศรีเสร็จ ผมก็เดินไปหาพี่อ๊อฟ พ่อแม่ของพี่อ๊อฟก็ไปคุยกับยายศรีต่อ ผมก็ไปนั่งข้างพี่อิน พี่อินก็ดูไม่ชอบหน้าออมเท่าไหร่ มันดูรู้อะว่าอยากได้พี่อ๊อฟจนตัวสั่น และคงจะคันในร่มผ้ามากด้วย.........
“นท ยอมได้ยังไง” พี่อินหันมากระซิบผม
“ก็ได้แค่นั้นแหละพี่” ผมบอกอย่างไม่ใส่ใจ เพราะพี่อ๊อฟก็ดูรำคาญไม่ใช่น้อยเลย
“ออมกับอ๊อฟดูสนิทกันเร็วจัง” พ่อของออมเดินมาแล้วพูด
“นิดนึงครับพ่อ” ออมตอบพ่อมันอย่างร่าเริง พี่อ๊อฟเขยิบตัว ถอยห่างจากออมทันที
“สนิทกันไว้ก็ดีนะ มีอะไรก็จะได้พึ่งพากัน” แม่ของออมเดินมาสมทบ จริงๆพ่อแม่ยายของอออมก็ไม่ได้อะไร นิสัยดีมากเลย แต่ออมเนี่ยหนักสุดๆ เป็นอีแอบ แต่เป็นอีแอบที่แอบไม่มิด
“แม่ อ๊อฟเขาเรียนเก่งนะ ให้แม่จ้างเขาสอนออมหน่อยสิ” ออมพูดขึ้น ผมก็รู้สึกว่าจะอยู่เฉยไม่ได้แล้วสิ
“เอาสิ อ๊อฟช่วยออมมันหน่อย หัวมันไม่ค่อยดี” แม่ของออมพูดขึ้น พี่อ๊อฟคือทำหน้าลำบากใจเลย แต่ผมไม่ทนแล้ว
“ขอโทษนะครับ” ผมพูดแทรกอย่างมีมารยาทเบาๆ ทุกคนก็หันมามอง “พี่อ๊อฟคงไม่สะดวกสอนหรอกครับ เพราะพี่อ๊อฟไม่ถนัดสอนใคร อีกอย่างตอนนี้พี่อ๊อฟก็สอนผม...วาดรูปอยู่นะครับ” ผมพูดอย่างใจดี น้าเขาก็ยิ้มแล้วก็พยักหน้ารับรู้
“นั่นสิ อยู่ม.5เหมือนกัน สอนกันมันจะรู้เรื่องได้ยังไง ถ้าออมอยากเรียนเดี๋ยวพ่อพาไปหาที่เรียนพิเศษก็ได้นะ” พ่อของออมพูดอย่างจริงจัง
“ผมมีที่แนะนำครับ นี่เลยครับ” ผมล้วงกระเป๋าตังออกมา คือมันเป็นนามบัตรพวกโรงเรียนกวดวิชาที่ชอบมายืนแจกหน้าโรงเรียน ผมก็เก็บไว้บ้าง บางที่ที่น่าสนใจ ผมก็ล้วงออกมาใบนึงแล้วยื่นให้คุณน้าผู้ชาย “ที่นี่ดีเลยนะครับ ผมเคยไปทดลองเรียน สอนตัวต่อตัว ไม่ใช่แบบเรียนกับทีวีอะครับ” ผมบอกอย่างอารมณ์ดี ยักคิ้วให้ออมมันนิดหน่อย มันดูไม่ยอม
“นั้นสิ ดูน่าสนใจนะ เดี๋ยวพ่อพาไปแล้วกัน ขอบคุณนะนท” พ่อของออมยิ้มอย่างใจดี ผมก็ยิ้มตอบ
เราก็คุยกันไป พี่อินคือดูอึ้งๆในวิธีจัดการเห็บหมัดของผม เพราะเขาบอกว่าเพื่อนเกย์เก้งกวางของเขา ไม่จัดการแบบนี้หรอก ปกติคือจะรุนแรง ถ้าเจอแบบผมเพื่อนพี่เขาคือลุกตบลุกด่า แต่ผมไม่ ผมฉลาดพอ จัดการออมได้ไม่พอ ยังได้ใจพ่อแม่ของมันอีก ชนะไปอีก มันมองค้อนผมเลยทีเดียว ผมก็ยิ้มสวยๆให้ไป ก็คุยกันไป มันก็ดูเงียบไปเลยนะ ผมก็ไม่สน จนมันจะกลับ.........
“อ๊อฟ เราขอไลน์หน่อยได้ไหม” ออมก็พูดขึ้นมา สงสารพี่อ๊อฟจริงๆ มันต้องรักษามารยาท ดูมันอึดอัดไม่น้อย
“ได้สิ เดี๋ยวผมพิมพ์ให้” ผมพูดอย่างเป็นมิตร แล้วยื่นมือไป มันก็ดูชะงักไปนิด พ่อแม่มันก็มองอยู่
“เราขออ๊อฟนะ ไม่ได้ขอนท” ออมพูดนิ่งๆ
“ก็โทรศัพท์พี่อ๊อฟอยู่ที่ผมนี่ ไม่ต่างกันหรอก” ผมชูโทรศัพท์ผมขึ้นมา แล้วก็กดให้มันขึ้นภาพหน้าจอเป็นรูปพี่อ๊อฟถ่ายคู่กับผม จริงๆมันคือโทรศัพท์ของผม แอ๊บว่าของพี่อ๊อฟไง
มันก็ดูไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ยื่นมาให้ผม ผมก็พิมพ์ไอดีไลน์ไป แล้วก็ส่งคืนให้มัน แล้วเราก็ร่ำรากันนิดหน่อย จริงๆพ่อแม่ของออมเนี่ย เขาจะเลี้ยงข้าวผมตอบแทนที่ช่วยยายศรี แต่ผมปฏิเสธไป แถมยังชวนเขาไปกินข้าวบ้านผมเองสะอีก เขาก็ตกลง เอาเบอร์ผมไป แล้วก็เขาก็ไปกัน พี่อ๊อฟทำท่าขนลุกขนชันใหญ่เลย ไปล้างมือที่อ่างล้างจานเลย ผมกับพี่อินถึงกับหัวเราะพี่อินคือสะใจมาก ตอนที่รู้ว่าที่ผมเอาโทรศัพท์ของผมขึ้นมาโชว์ พี่อ๊อฟก็ออกมาแล้วทำหน้าไม่พอใจให้ผมกับพี่อิน......
“ไม่ชอบเหรออ๊อฟ ร่างบางสเปคหลายๆคนเลยนะ55” พี่อินล้อเลียน
“ไม่อ่ะ น่ากลัว ขนลุกไปหมด” พี่อ๊อฟทำหน้าสยอง
พูดคุยเล่นกันพักนึงก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนยาย ผมก็เข้าไปคุยกับยายบ้าง พลัดกันเข้าไป จนเย็นๆก็พากันกลับ คือพูดตรงๆเลยว่าปกติการเฝ้าไข้มันจะน่าเบื่อมาก แต่ที่นี่บอกเลยว่าไม่ เม้ามอยกันมันส์หยด พี่อินพูดเก่งมาก แล้วก็พูดคุยกับญาติคนอื่นๆไป สนุกดี ไม่อึดอัดอะไรเลย ผมก็เพิ่งรู้จักพวกเขา ถึงบางคนจะไม่ชอบที่ผมกับพี่อ๊อฟคบกัน แต่เขาก็ยังมาพูดคุยบ้างพอเป็นมารยาท พอเย็นๆก็กลับบ้านยายกัน ป๊ากับแม่ก็โทรมาถามอาการเรื่อยๆ แต่ประเด็นคือพรุ่งนี้ยายก็ออกโรงบาลได้แล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดี ป๊าก็บอกจะกลับไปรับแม่กับพี่โน้ตมาเยี่ยมยายด้วยในวันพรุ่งนี้....