รักนี้เกิดขึ้นที่ในรั้วโรงเรียน(พี่ต้นXพี่หมอภีม)ผมรักคุณหมอภีม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนี้เกิดขึ้นที่ในรั้วโรงเรียน(พี่ต้นXพี่หมอภีม)ผมรักคุณหมอภีม  (อ่าน 40309 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
     

EP.18.1 ครูเขมX คริส เมื่อสถานะถูกเปิดเผย ก็ตอ้งแยกกันสักพัก(ครึ้งแรก)
Part ครูเขมชาติ          "ครูเขมครับผมว่าเราต้องไปหาที่เงียบๆคุยกันแล้วมั้งครับ...มีดีแบบนี้นี่เองนะ มิหน้าถามไม่บอกเก็บเงียบเชียว..เลิกประชุมครับคุณครู...งานเข้า!!" ผู้อำนวยการบอกเลิกประชุมและชวนผมไปคุยที่ห้องทำงานท่าน ผมเดินตามผู้อำนวยการไปที่ห้องท่านทันทีและบรรดาครูที่เดินออกมาก็พากันซุบซิบเรื่องของผมกับคริสโตเฟอร์

                       "เป็นไปได้ยังไง..ตายแล้วจะมีประวัติซ้ำรอยอีกไหมเนี๊ยะ"

                       "พี่ก็ได้ยินนักเรียนบางคนคุยกันนะแต่พี่ก็ไม่ปักใจเชื่อสักเท่าไหร่"

                         ผมเดินตามผู้อำนวยการเข้าไปในห้องทำงานของท่าน ท่านเปิดแอร์เรียกว่าระดับต่ำมาก ก่อนที่ท่านจะนั่งลงท่านก็ผายมือให้ผมนั่งตรงข้ามท่านเช่นกัน

                       "ครูเขม...มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงครับครู..นั้นนักเรียนนะครับครู" ผู้อำนวยการถามผม ผมพยักหน้ารับโดยไม่โต้แย้งอะไรทั้งนั้น

                       "และนี้มันเกิดขึ้นนานหรือยังครับ" ผู้อำนวยการถามผม

                       "เกือบสองอาทิตย์แล้วครับ" ผมตอบผู้อำนวยการและก้มหน้าลง

           "เกือยจะสองอาทิตย์แล้วเหรอครับ!  นี่ครูเพิ่งจะมาได้สามอาทิตย์เองนะครับครูเขม" ผู้อำนวยการก้มลงมองหน้าผม

            "ครูกับคริสโตเฟอร์ถึงขั้นไหนแล้วครับ..ผมขอโทษนะครับที่ต้องขออนุญาติละลาบละล้วงถามครูตรงๆ" ผู้อำนวยการถามผมว่าผมกับคริสโตเฟอร์ถึงขั้นไหนแล้วก่อนที่ผมจะตัดสินใจตอบผมหันไปมองคนข้างๆ

           "ผม..กับ..คริส..เรา.."ผมทำท่าอึกอักที่จะตอบ

           ปึก!!! เสียงประตูห้องผู้อำนวยการเปิดออกและมีคนวิ่งเข้ามาในห้อง มายืนหายใจหอบเหนื่อย และคนนั้นก็คือ คริสโจเฟอร์

           "ครู....แฮ้กๆๆ..." เขาวิ่งมาหยุดด้วยอาการหอบเหนื่อย

           "ผมรักครู...ผมรักครูเขมครับ..ผอ...ครูอย่าไล่ครูเขมออกเลยนะ..ถ้าไล่..ไล่ผมเถอะ" คริสโตเฟอร์พูดผมหันไปมองคริสโตเฟอร์ ผู้อำนวยการมองหน้าผมกับคริสโตเฟอร์สลับกันไปมา

           "ครูไล่ผมออกก็ได้ครับ..ผมยอมออก..แต่ผมยืนยันว่าผมรักครูเขม" คริสโตเฟอร์พูด

           "ครูคงไล่เธอออกไมได้หรอกนะไม่มีกฏระเบียบข้อไหนที่จะให้ครูไล่นักเรียนออกเพราะว่านักเรียนมีความรักแต่ครูกับนักเรียนนี้มันค่อยเหมาะสมกัน....เท่าไหร่" ผู้อำนวยการพูด

           "แถมครูยังเอานักเรียนผมไปดูแลแนบชิดซะด้วย ไม่ใช่ใกล้ชิดธรรมดาแนบชิดเลยนะครู" ผู้อำนวยการพูดผมก็ต้องก้มหน้ายอมรับว่าจริงๆครับ แต่ไอ้เด็กคนนี้มันก็อ้อนผมด้วยนะครับผอ. อันนี้ผมคิดเองในใจ

            "เราก็อีกคนนะคริสทำไมไม่รอให้เรียนให้จบก่อนละ" ผู้อำนวยการหันไปต่อว่าคริสโตเฟอร์อีกคน

           "ผมยอมรับผิดแต่โดยดีครับท่าน...เอาตามทีท่านเห็นสมควรเถอะครับผมยินดีหรือจะให้ผมลาออกเองก็ได้นะครับ" ผมพูดก่อนจะหันไปมองใบหน้าคริสโตเฟอร์ผมส่ายหัวให้เขาเบาๆผมอยากให้เขาเรียนให้จบ

            "ตกลงครูและคริสโตเฟอร์ถึงขั้นไหนกันแล้วผมถามจริงๆ" ครูใหญ่ถามผม ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์

           "ก็เออ.." ผมเองก็ไม่กล้าที่จะบอกไปว่าผมกับคริสเขา
 
            "ผมกับครูมีอะไรกันแล้วครับ!" คริสโตเฟอร์พูดแทนผมสะบัดหน้าไปมอง คนที่ถึงกับผงะคือผู้อำนวยการ

           "เธอนี่นะคริส!..ที่ผ่านมาครูไม่เห็นว่าเธอจะมีท่าที่ไปรักไปอะไรแบบนี้เลยนะแล้วทำไม"

            "ผมไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายทุกคน ผมรู้สึกกับครูเขมคนเดียวครับครู..ผมขอโทษครับผมรู้ว่าผู้อำนวยการช่วยผมมาเยอะแล้วตามที่แม่ผมขอร้องท่านไว้หลายครั้งแต่ครั้งนี้ผมจะไม่ขอร้อง..อะไรอีก..ผมแค่จะพูดว่าผมรักครูเขมจริงๆ " คริสโตเฟอร์พูด

           "หมดคำพูดเลยผม..เอาอย่างนี้นะ คริสโตเฟอร์ย้ายกลับมานอนบ้านพักเหมือนเดิม..เธอจะรักหรือจะชอบแบบนี้ครูไม่ว่าแต่เธอต้องบอกพ่อแม่เธอให้ท่านรับรู้"ผู้อำนวยการบอกกับคริสโตเฟอร์

            "เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ"

           "ครูเขมครับ ผมขอปรึกษาปัญหาพวกนี้กับครูระดับผู้ใหญ่ก่อนนะครับเพราะว่าผมเองคงตัดสินใจคนเดียวไม่ได้เช่นกัน" ผู้อำนวยการพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและยังคงหาทางออกให้ผมกับคริสโตเฟอร์ไม่ได้

            "ครูจะโทรให้พ่อแม่เธอมาที่โรงเรียนอาทิตย์หน้านะคริสโตเฟอร์"

           "ส่วนครูเขมผมจะส่งครูไปอบรบออกเดินทางพรุ่งนี้นะครับ อาจารย์ที่จะไปด้วยจะมีครูสมชายและครูปริพนธิ์ ไปอมรมสี่วัน" ผู้อำนวยการพูดผมพยักหน้าตอบรับ

            "และพอครูกลับมาเราค่อยมาคุยกันเรื่องนี้อีกที" ผู้อำนวยการพูด ผมพยักหน้ารับ

           "ผมเสียดายครูเก่งๆอย่างครูมากนะครับครูเขม..." ผู้อำนวยการพูดผมพยักหน้าผมเข้าใจท่านนะ ท่านก็คงหนักใจอยู่พอสมควร

            "กลับมานอนบ้านพักซะคริสโตเฟอร์" ท่านผู้อำนวยการบอกคริสโตเฟอร์ผมกันมามองหน้าเขา

           "ผอ.ครับ ผมรักครูและครูก็รักผม ผมรู้ครับว่ามันไม่เหมาะสมแต่ครูเขมทำให้ผมดีขึ้น ผมตั้งใจเรียนขึ้น ผอ.ครับถ้าทางเลื่อกที่จะให้ผมกับครูรักกันให้ผมออกก็ได้ครับ ให้ผมลาออก..ผมยอม" คริสโตเฟอร์พูดเขาคุกเข่าลงตรงหน้าผู้อำนวยการโรงเรียน

            "ผมรักครู..ผมรักครูเขม" คริสโตเฟอร์พูดบอกว่าเขารักผม ผมได้แต่นั่งฟัง ผมรู้สึกปวดใจมาที่ได้ยินเช่นนี้ มันเหมือนกันพยายามบอกผมเพื่อไม่ให้ผมทิ้งเขาไป

           "ผู้อำนวยการครับ..ผมก็รักคริสโตเฟอร์ครับ...ถ้าทางออกคือการลาออกผมก็ยินดีครับท่าน"  ผมลุกพล้วดขึ้นบอกกับผู้อำนวยการ

            “ผมก็ยินดีจะลาออกด้วยเหมือนกันครับ ผอ.” นายคริสโตเฟอร์อีกคน ผมหันไปมองหน้าเขา เขาพยักหน้าว่าพร้อมจะไปกับผม

           "เฮ้อ!!! ..ฟู่!!!!!..." ผู้อำนวยการถอนหายใจและพ่นลมออกมาทันที ก่อนจะยกมือห้ามผมสองคน
            “ผมว่าอย่าเพิ่งใช่อารมณ์ในการติดสินใจกันตอนนี้เลยนะครับ ทั้งครูและนักเรียน “ท่านผู้อำนวยการร้องห้ามผมสองคน

              “เล่นเอาผมไปไม่ถูกเลยนะครับ ใจเย็นก่อนครับ นั้งลงครับ” ผู้อำนวยการผายมือให้ผมกับคริสนั่งลงก่อน

                      "ผมทราบดีครับครูเขมว่าความรักมันเลือกไม่ได้ว่าจะให้เกิดตอนไหน แบบไหนแต่...และสถานะอะไรแต่ตอนนี้ สถานะที่ครูเป็นอยู่นี้กับคนที่ครูรักมันดูจะไม่เหมาะสมกัน...ดังนั้น..."

           ก๊อกๆ เสียงเคาะประตุห้องท่านผู้อำนวยการดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดเข้ามาโดยครูลินดา ครูถาวรและครูนิด

            "ขออนุญาตินะคะท่าน"

           "พวกเราคุยกันแล้ว..เห็นใจในความรักของครูเขมกับนายคริสโตเฟอร์นะคะ ..แต่ก็เข้าใจผู้อำนวยการเช่นกันมันดูจะไม่เหมาะสม แต่ถ้าเขาทั้งคู่ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย..ผู้อำนวยการไม่ลองเปิดใจรับตรงนี้ดูบ้างละคะ ท่านผู้อำนวยการ พวกเราไม่อยากเสียครูที่ตั้งใจมาเพื่อสอนไปนะคะ ผู้อำนวยการ..." ครูลินดาพูดขึ้นสายตามองมาที่ผมกับคริสโตเฟอร์ ท่านผู้อำนวยการยกมือห้ามครูลินดาไว้ก่อน

                      "ผมยังให้คำตอบไม่ได้นะครับ..ในตอนนี้ ..รอให้พ่อแม่จองคริสโตเฟอร์มาก่อนแล้วกันนะเราค่อยคุยกันอีกทีนะครับ"

                       “ตอนนี้ทำตามที่ผมแนะนำไปก่อนะครับครูเขมแยกกันสักพัก” ผู้อำนวยการพูดผมพยักหน้าก็คงต้องตามนี้

                      “กลับไปเก็บเสื้อผ้า กลับไปนอนกับโป้งเหมือนเดิมนะคริส ” ผมพูดก่อนจะเดินหันหลังออกมา ใจหายเหมือนกันที่เคยนอนกอดกันทุกคืนแม้จะแค่อาทิตย์เดียวก็ตาม ผมเดินกลับไปเข้าห้องพักครูทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงาน

                      "ครูเขมคะ..ลินดาเชื่อว่าต้องมีทางออกที่ดี ครูอย่าตัดสินใจทิ้งอาชีพครูนะคะ" ครูถาวรเดินมาแตะที่ไหล่ผมเบาๆ ผมพยักหนา พรุ่งนี้ผมต้องไปอบรมตั้งสี่วันแต่ถึงไม่ไปก็ต้องแยกกับคริสโตเฟอร์อยู่ดี แค่คิดก็เป็นห่วงซะแล้ว แล้วถ้านอนร้องไห้ตอนกลางคืนใครจะปลอบละ ใครกอดเราและปลอบเราแทนพี่ละคริสโตเฟอร์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Part คริสโตเฟอร์
         
                     ผมต้องแยกจากครูจริงๆเหรอ ทำไมปัญหาของผมกับครูมันถึงได้เยอะแบบนี้วะ ผมยืนอยู่ตรงสระน้ำ ยืนมองไปแต่ในหัวผมไม่มีภาพที่อยู่ตรงหน้าผมเลย เพราะว่าในหัวผมมันตีกันไปหมดและถ้าแม่ผมมาแล้วเขาไม่ยอมกับตรงนี้อีกผมก็คง ..เสียคนที่รักผมไปอีกคนแล้วใช่ไหม...ใช่ไหม..

                      "พี่คริส" เสียงเล็กๆแบบนี้ผมจำได้ดี ผมหันมามองแก้มเธอมายืนทางด้านหลังของผม

                      "สะใจเธอพอหรือยังแก้ม!"

                      “พี่ถามว่าซะใจเธอพอหรือยัง!!!” ผมตะคอกถามเธอโดยเพิ่มความดังขึ้น แก้มที่ยืนอยู่ถึงกับสะดุ้งน้ำตาไหลพลาก แต่ผมไม่แคร์ เพราะว่าสิ่งที่เธอทำมันเกินกว่าที่ผมจะมานั่งสงสารเธอในขณะที่เธอร้องไห้ต่อหน้าผมแบบนี้

                      "แก้มเลือกทำสิ่งที่ถูกเพราะพี่ไม่ควรรักกับ.....ครู!" แก้มพูด ผมหันไปเหล่มองพร้อมกับยิ้มเยอะให้เธอย่างสมเพศ เธอช่างกล้าที่จะพูดว่าเธอเลือกทำสิ่งที่ถูกอย่างนั้นรึ

                      "แล้วควรรักกับเธออย่างนั้นเหรอ...แก้ม!"

                      “พี่ควรจะรักเธออย่างนั้นเหรอ!!”

                      "ใช่..เพราะนี้คือรักที่ถูกต้อง ผู้หญิงผู้ชายที่โลกใบนี้เขาสร้างมา เพราะเขาไม่ได้สร้างมาให้พี่รักกับผู้ชายนิ ฮึกๆ"
           
                      "เธอเคยถามพี่สักคำไหมว่าพี่รักเธอหรือเปล่า"

                      "พี่ไม่เคยรักแก้มเลยเหรอ..ทำไมละ..ทำไมแก้มไม่ดีพอเหรอ..แก้มรักพี่คริสมาก..ฮึก.." เธอยืนอยู่ตรงหน้าผมน้ำใสๆไหลรินลงมาอาบแก้มเธอ

                      "ไม่เคยสักนิด..อย่ามาเข้าใกล้พี่อีก..พี่โคตรขยะแขยงเธอเลยแก้ม...เพราะว่าเธอไม่มีแม้แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิง ... "

                      "และเธอนะไม่ได้รักพี่จริงๆหรอกแก้มเธอรักตัวเธอเองและเธอแค่อยากเอาชนะ..ครูเขม"

                      "เพราะถ้าเธอรักพี่เธอคงไม่ทำกับพี่แบบนี้!!!"

                      "พี่เสียดายที่พี่เคยมองแก้มว่าเป็นเด็กน่ารัก..เป็นรุ่นน้องที่น่ารัก"

                      "และต่อให้พี่กับครูเขมไมได้อยู่ด้วยกันทุกวันแต่หัวใจพี่อยู่ที่เขา..เธอไม่มีวันได้อะไรจากพี่อีกนับแต่นี้แม้แต่ความรู้สึกดีดีพี่ก็ไม่ให้เธอ" ผมพูดและเดินออกเพื่อขึ้นเรียนคาบบ่ายต่อ และหลังจากเลิกเรียนผมต้องไปเก็บเสื้อผ้าผมที่บ้านพักแม้ตะไม่มากมายก็ตามเพราะว่าผมเอาไปใส่ไม่กี่ชุดมีแค่ชุดนักเรียนชุดซ้อมเล่นบาสสเกตบอลแค่นั้นเอง ระหว่างที่จะเดินขึ้นผมเห็นพวกไอ้โจ้ กับไอ้อาร์ทมันยืนรอผมที่บันได

                      "มึงโอเคไหมวะ..คริส" ไอ้อาร์ทยืนกอดอกมองผม

                      "ไม่วะ..ไม่โอเควะ" ผมพูดเสียงอ่อยๆ

                      "อีห่าแก้มนี้มันบ้ามึงมากขนาดนี้เลยเหรอวะ" ไอ้โจมันพูด

                      " ผู้หญิงบ้าอะไรแบบนี้วะ โชคดีทีกูไม่เคยจีบมันเลยนะ แม่งน่าตาน่ารักซะเปล่า" ไอ้อาร์ทพูดระหว่างที่แก้มเดินตามหลังผมขึ้นมาพอดี ผมหันหน้าไปมองทางอื่นไม่อยากมองหน้าเธอ แก้มแค่หยุดและเดินผ่านพวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจไปแค่นั้น และผมคิดว่าเธอคงได้ยินที่มันสองคนพูด

                      "กูขึ้นเรียนแล้ววะและหลังเลิกเรียนกูจะไปบ้านพักครูเก็บเสื้อผ้ากลับมานอนบ้านพัก..บอกไอ้โป้งมันด้วยนะ" ผมพูดกับไอ้อาร์ทและไอ้โจ้แค่นั้นก็เดินแทรกตัวขึ้นห้องเรียนทันที กลับขึ้นไปนั่งเรียนโดยไม่สนใจคำพูดที่พวกรุ่นน้องมันพูด

                      "ครูเขมกับพี่คริสวะเขาสองคนทำเหมือนที่ครูมิ้งกับคนชื่อแชมป์ทำปะวะ"

                      "จริงเหรอวะตอนแรกกูนึกว่าอีแก้มมันโกรธที่พี่คริสไม่รับมันเป็นแฟนซะอีก"

                      "เลยกุเรื่องนี้ขึ้นมา “

                      “แต่นี้ที่ไหนได้พี่คริสที่ว่าแมนๆควงสาวไม่ซ้ำหน้าแต่ไม่เคยให้ตำแหน่งใครว่าเป็นแฟนสักคน....เป็นเกย์เหรอวะ" ผมก้มหน้าก้มตาเขียนในสมุดจดงานไม่อยากสนใจไม่อยากใส่ใจ จนหมดคาบชั่วโมงคณิตศาตร์ ผมเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าและเดินออกโดยไม่สนใจสายตาพวกที่มองผม

                      "คริสโตเฟอร์" ครูถาวรเรียกผมให้หยุดก่อน

                      "ครูเชื่อว่าต้องมีทางออกที่ดีสำหรับเธอและครูเขมนะ...ส่วนเธอก็ตั้งใจเรียน..ไม่นานก็จบแล้วคริส ณ ตอนนี้คือตั้งใจเรียน เพื่อคนที่เขารักเธอ" ครูถาวรพูดผมพยักหน้าเบาๆโดยไม่ได้หันมามองผมเดินผ่านลงมาก็ไม่พ้น ผมดันเจอพวกไอ้พี่อั๋นกับไอ้พี่กายและไอ้พี่เอก ผมไม่อยากเจอมันสามตัวเลยจริงๆในเวลาแบบนี้เพราะว่าไม่อยากทำให้มันแย่ไปกว่านี้โดยการมีเรื่องกับพวกมันอีก

                      "ทำไมเหรอ น้องแก้มของมึงเอาความจริงไปเปิดโปรงซะแล้วเหรอ..คราวนี้ก็อดกินตูดกันเลยอะดิ" ไอ้พี่กาย ผมยืนกำหมัด

                      "ต้องอดทน แต่ถ้าทนไม่ได้ก็ต้องทน!" คำพูดของครูเขมผมกเลยต้องคลายหมัดแต่ผมก็เลือกที่จะเดินเลี่ยงพวกมันไป

                      "ทำไมอะกลายเป็นตุ๊ดไปแล้วเหรอวะคริส" ไอ้พี่กายมันยังพูดจาหมาๆใส่ผม

                      "คริส..พวกพี่หาผัวใหม่ให้ได้นะ...ไอ้อิทนะมันอยากได้มึงวะ" ไอ้ภูมันก็พูดผมเงยหน้ามองหน้ามันผมว่าความอดทนคงใช่กับผมไม่ได้แล้วแหละ

                      "หมับ" มีคนมาดันอกผมไว้ให้ออกจากพวกไอ้พี่กาย คนนั้นก็คือ ไอ้โป้ง

                      "ลงไปคริส..อย่าไปยุ่งกับหมา..มันก็แค่หมา มึงกัดมันชนะได้ก็แค่กัดชนะหมา" ไอ้โป้งมันดึงต้นแขนผมไว้ลากผมลงมาจากชั้นที่พวกไอ้พี่กายมันยืนโห่ผมกันกันใหญ่ ไอ้โอ้งมันดันผมลากผมเลยจะดีกว่าให้ลงบันไดไป จนลงมาถึงขั้นล่างสุด

                      “ปึก!” ไอ้โป้งมันดันผมไว้กับกำแพงมันชี้หน้าผม

                      "ถ้ามึงมีเรื่องกับมันเรื่องมึงกับครูเขมจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่.." ไอ้โป้งมันพูดใส่หน้าผม ผมสะบัดหน้าหนีผมไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าใครทั้งนั้น ณ ตอนนี้ ผมได้แต่นิ่ง ผมอ่อนแอมาก ไอ้โป้งมันก็ไม่เคยเห็นผมเป็นแบบนี้มาก่อน
           
           “และคราวนี้มึงคงได้ออกจากโรงเรียนสมใจ..แต่คนที่เสียใจที่สุดคือครูเขม!!” ไอ้โป้งมันพูด ได้ฟังแบบนี้แล้ว ผมก็ต้องหันหน้าหนี น้ำตาลูกผู้ชายมันกำลังจะไหล่
                       
                       “ฟู่” ไอ้โป้งมันพ่นลมหายใจออกมา

                      "กูขอโทษ..กูรู้ว่ากูควรอยู่ข้างๆมึงแต่กู.... " ไอ้โป้งมันพูดเหมือนทำท่าจะอธิบายกับผม เหมือนมันจะพูดอะไรสักอย่าง

                      "ช่างมันเอะโป้ง...กูกับครูไม่รู้ว่าจะมีอะไรเข้ามาอีก กูโคตรกลัวเลยวะโป้ง..กรูอยากหนีไปจากที่นี้วะ " ผมพูด ไอ้โป้งมันส่ายหน้าด้วยความสมเพศผมใช่ไหม

                      "มึงรักครูเขมมากขนาดนี้เลยเหรอวะคริส" ไอ้โป้งมันถามผม ผมพยักหน้า

                      "ทั้งที่เขาเพิ่งจะมาอยู่กับมึงแค่ไม่กี่อาทิตย์นะคริส"

                      "กูรู้แต่เขาคือส่วนที่หายไปจากใจกูวะโป้ง...ตอนที่กูอยู่กับเขา..กูไม่ฝันร้าย..กูไม่ผว่าตื่น..เพราะเขาคือส่วนที่ทดแทนมันว่ะโป้ง" ผมหันมาพูด ไอ้โป้งมันยืนเอามือเท้าซะเอวตัวเองมองผม มันรู้ดีว่าผมเป็นยังไง บ้างคืนมันบอกว่าผมนอนร้องไห้ ผมฝันร้ายผว่าตื่นบ่อยๆ
           
                      "หมับ" ไอ้โป้งมันเข้ามากอดผม

                      "กลับไปนอนบ้านกับกูแล้วซิที่นี้..กูคิดถึงมึงวะ" ไอ้โป้งมันพูด ผมพยักหน้าไอ้ปัน ปันมันเดินลงมาพอดีเลย มันเห็นไอ้โป้งกอดผม มันก็เดินยิ้มลงมา

                      "หมับ" มันเข้ามากอดผมอีกคน

                      "กูโคตรคิดถึงความรู้สึกนี้เลยวะแม่งหายไปตั้งเกือบสองอาทิตย์วะ" ไอ้ปัน ปันพูด คงหมายถึงผมสามคนถึงแม้ว่าจะอยู่คนละชั้นเรียนก็ตาม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 13:02:32 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
       

     EP.18.2 ครูเขมX คริส เมื่อสถานะถูกเปิดเผย ก็ตอ้งแยกกันสักพักครึ้งหลัง
Part  ครูเขมชาติ
   
                     ผมขับรถกลับบ้านพักก่อนเวลาเลิกเพราะว่าจะไปเตรียมตัวแพ๊คกระเป๋าจะต้องออกเดินทางไปสัมมนาพรุ่งนี้กับครูสมชายและครูประพันธ์ ผมทรุดตัวลงนั่งที่ตรงปลายเตียงภาพสองอาทิตย์ที่ผ่านมาของผมกับคริสโตเฟอร์ เห็นเขาแข็งนอกแต่ภายในใจเขาอ่อนแอมากเขาต้องการใครสักคนดูแลเขา

                      "ถ้าพี่ไม่อยู่ดูแลเราต่อละคริส" ผมพูดกับเตียงที่ว่างเปล่า ก่อนจะเดินไปเปิดโน๊ตบุ๊คของผม ผมก็พบกว่าอิเมลส่งมาหาผม เป็นอิเมลจากติวเตอร์ชื่อดัง


To       Khemchati
               ผมพยายามติดต่อคุณเขมแล้วแต่ติดต่อไม่ได้เลย ผมยังคงสนใจที่ให้คุณมาเป็นครูติวเตอร์ วิชาภาษาอังกฤษของเรา ถ้าครูเขมยังสนใจอยู่รบกวนติดต่อกลับ Bristis เบอร์ XXXxxxxxxxx ด้วยครับ
                                                                                      ธรรณธร

                     ผมเคยไปทดลองสอนติวเตอร์เด็กมัธยมต้นและปลายที่นั้น ก่อนที่ผมจะตัดสินใจมาเป็นครูที่นี้และตอนนี้ผมควรจะตัดสินใจกลับไปใช่มั้ย ไปเป็นครูสอนติวเตอร์มากกว่าที่จะมาเป็นครูในโรงเรียนใช่มั้ย แล้วคริสโตเฟอร์ละ ผมควรจะเลือกทิ้งเขาไว้ที่นี้เหรอ

                       "ผมไว้ใจครู" คำพูดของคริสโตเฟอร์ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผม

                       "ปึก" เสียงประตูห้องนอนถูกปิดลงผมหันไปมองคนที่เข้ามาในชุดนักเรียน คริสโตเฟอร์

                       "มาเก็บเสื้อผ้าเหรอคริส" ผมหันไปถามคริสโตเฟอร์ ผมพยายามปั่นหน้าให้นิ่งที่สุด เพื่อไม่ให้เขาเห็นว่าผม เจ็บแค่ไหนที่ทำให้เขาเดือดร้อนไปกับผมด้วย และคนที่ยืนเขาก็ไม่พูดอะไรนอกจากเดินเข้ามากอดผม ผมก็กอดเขาตอบ ผมเองก็ไม่รู้ว่านี้จะเป็นกอดสุดท้ายของผมและเขาไหม เพราะผมเองก็มืดไปหมดไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี

                       "พี่ขอโทษนะคริสพี่ขอโทษพี่ควรจะควบคุมมันให้ได้ไม่ใช่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ พี่ขอโทษ"ผมพูดว่าผมขอโทษคนทีก่อดผมตัวเขาสั่นไหว นั้นแปลว่าเขากำลังร้องไห้

                       "ผมไม่อยากอยู่ที่นี้โดยไม่มีพี่เขม. ฮึกๆ”

                       “ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้น...ผมไม่อยากเสียพี่ไปเหมือนที่ผม...เสียแด้ดไป ฮึกๆ" คริสโตเฟอร์พูดเขาย่อตัวลงและประกบจูบปากผม

                       "เพราะว่าผมรักพี่สุดหัวใจ" ผมได้ยินแค่นี้ผมก็คงไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ผมจูบคริสโตเฟอร์กลับ ผมดันโน๊ตบุ๊กเลื่อนออกไปและคริสโตเฟอร์ก็ขึ้นมาค่อมผมไว้ เขาจูบผมเนิ่นนานมือก็เลื่อนลงไป ผมรับรู้ได้ว่าเขากำลังปลดเข็มขัดกางเกงของผมอยู่และซิบที่ถูกรูดลงปากก็จูบและไซ้ลงมาที่คอของผม

                       "คริส...พี่..ว่า"

                       "ไม่ต้องห่วงหรอกเพื่อนผมดูต้นทางอยู่นะ..ขอคริสนะพี่เขม...ผมรักพี่...ผมรักพี่เขมมาก"

                       "อืมม..." มือผมถูกคริสโตเฟอร์จับไปวางไว้ข้างลำตัวและมือของคริสโตเฟอร์ก็กุมมือผมไว้ ก่อนที่คริสโตเฟอร์จะดีดตัวเองขึ้นยืดตรงและทำการปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกเหลือไว้แค่กางเกงนักเรียน ผมก้มมองและยกมือของผมขึ้นไปแตะที่ตรงท้องน้อยของคริสโตเฟอร์

                       "ผมไม่อยากเป็นนักเรียนแล้วผมอยากเป็นคนรักของพี่เขม" คริสโตเฟอร์ก้มลงพูดกับผม และเขาก็ลุกขึ้นไปจากตัวผมเขาถอดกางเกงนักเรียนสีฟ้านั้นลงไปพร้อมกับกางเกงยืด

                       "พี่เขมไม่รักคริสเหรอ" คริสโตเฟอร์ถามผม เพราะว่าผมยังคงนอนมองเขาอยู่

                       "คริส...พี่ว่าเรา..ควรหยุดมันไว้ก่อนนะ"

                       "ไม่เอาอะ..นะ..ผมรักพี่...ผมไว้ใจพี่จนผมให้พี่ไปหมดทั้งใจแล้วนะพี่เขม" คริสโตเฟอร์ก้มลงมาพูดข้างหูผม มือเขาก็ปลดกระดุมเสื้อผมไปด้วย

                       "นะ..พี่เขม...ผมรักพี่"

                       "อืมมม..อืมมม."เขาก้มลงประกบจูบปากผมอีกทีและขึ้นมาทาบทับร่างผมไว้อยูู่ด้านบน ปากก็ซุกไซ้ไปตามลำคอของผมและไล่ลงมาที่แผ่นอกเสื่อเชิ้ตพอดีตัวของผมถูกเปิดออกให้เห็นแผ่นอกแน่นๆของผม ริมฝีปากหนาๆก็ก้มลงดูดดุลเล่นกับสิ่งนั้น ไฟราคะมันกำลังลุกโชนขึ้นมา ริมฝีปากหนาๆนั้นไล่ลงไปตามหน้าท้องที่แบนราบ

                       "อ่าห์ ..คริส...ซี้ด..อืมม" ผมร้องครางออกมาเบาๆ มือก็กุมหัวคริสโตเฟอร์ไว้ ผมรับรู้ได้ว่าของรักของผมกำลังออกมาจากที่ซ้อนไว้ โดยคริสโตเฟอร์ได้ทำการดึงเพื่อจะถอดมันออกไปช่วงที่เขาก้มลงจูบที่ตรงเนื้ออ่อนๆนั้นมันทำให้ผมกระดกก้นขึ้นมโดยอัตโนมัติ

                       "อย่า..เพิ่งคริส..พี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย"ผมพูดเบาๆ

                       "ไม่เป็นไร..พี่ไม่เหม็นซะหน่อย..ตัวพี่เขมออกจะหอม..หอมทุกส่วนแหละ..ฟ้อดๆ " คริสโตเฟอร์พูดก่อนจะก้มลงเอาปากครอบส่วนนั้นลงไปแบบไม่รังเกียจสักนิด ผมนอนหลับตาพริมอยู่บนเตียงโดยมีคนที่ปฏฺิบัติอย่างนั้นให้ผม คริสโตเฟอร์หยุดเขาลุกขึ้นไปดึงกางเกงให้หลุดพ้นไปจากเท้าของผม คริสโตเฟอร์เดินอ้อมมาหยิบถุงและเจล เขาสวมมันลงไป ก่อนจะกลับขึ้น

                       "พี่รักผมมั้ยพี่เขม" คริสโตเฟอร์ถามผม ผมกระดกหัวมองคนที่จับขาผมตั้งขึ้น

                       "รักซิ พี่รักมากด้วย" ผมพูดพร้อมชำเรืองตามองคนเบื้องล่าง

                       "ถ้าผมเลือกที่จะไปกับพี่ไปทุกทีละพี่จะให้ผมไปไหม"

                       "พี่.." ผมเองก็ลังเลเพราะว่าผมก็ยังไม่รู้เลยว่าพาเขาไปแล้วมันจะลำบากไหม

                       "ผมรู้ว่าพี่ไม่อยากให้ผมเสียอนาคตแต่อนาคตรของผมคือพี่นะ" คริสโตเฟอร์พูดผม ผมวางศรีษะผมลงบนหมอน ผมรับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นกำลังเข้ามาในกายผม

                       "โอ้ะ" ผมร้องออกมาเบาๆ หลายวันแล้วแหละที่คริสไม่ได้ทำแบบนี้กับผม เรียกได้ว่าไม่ได้จับผมกดมากหลายวันเลยทำให้ช่องทางรักผมเริ่มไม่คุ้นเคย

                       "คริส..ซี้ด" ผมร้องครางออกมาอีกเมื่อส่วนนั้นกำลังเข้าไป เข้าไป มือผมก็จิกลงบนที่ผ้าปูที่นอน

                       "ผมรักพี่เขม...ผมรักครูเขม..ผมรักที่รักของผมที่ชื่อเขมชาติ..เขาคือผู้ชายคนเดียวของผม" คริสโตเฟอร์พูดและค่อยแนบตัวลงมาฝังใบหน้าเขาลงที่หน้าท้องของผม ก้นผมก็กระดกขึ้นเพื่อรองรับสิ่งนั้นให้เข้ามาเรื่อยๆ จน

                       "พล้วด!"

                       "อืมมม" มันเข้ามาเกือบหมดด้ามแล้วซินะ"

                       "พี่รักคริส..พี่รักคริส..สุดหัวใจของพี่เหมือนกัน" ผมพูดและคนที่กำลังคุมเกมส์ก็ยิ่งโยกมันเข้าไปใหญ่ ผมต้องเอามือขึ้นไปดันหัวตัวเองไว้ไม่ให้กระแทกกับหัวเตียง คริสโตเฟอร์หยุดและดึงลากสะโพกผมให้เลื่อนลงไปทางปลายเตียงเขาขยับหมุมผมให้เขาลงไปยืนที่ของเตียง

                       "ปึกๆๆๆๆๆๆ ปักๆๆๆๆ " เสียงเนื้ออ่อนกระทบก้นผม มันรัวและเร็วมาก ผมสองคนร้องครางออกมาแทบจะไม่เป็นภาษามนุษย์เพราะว่าฟังไม่รู้เรื่องเอาซะเลย จนกระทั้งผมเสียงเงียบหายไป คริสทิ้งตัวลงนอนราบเอาหน้าซุกที่หน้าท้องของผม น้ำสีขาวขุ่นมันเลอะเทอะไปหมดทั่วทั้งหน้าท้องผมด้วยเช่นกัน เขาถอนสิ่งที่ฝั่งอยู่ในกายผมและไต่ขึ้นมานอนทาบทับผม

                       "คริส..ถ้าพี่ไปเป็นครูที่ติวเตอร์ละเราอยู่คนละทีเราคงคบกันได้เนอะ" ผมพูดและหันมาคริสโตเฟอร์แว๊ปหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองเพดานอย่างไร้จุดหมาย

                       "ผมไปอยู่กับพี่นะ..ที่กรุงเทพ"

                       "รอให้แม่มาก่อนผมจะบอกเขาผมเชื่อว่าแม่ต้องเข้าใจผม...นะพี่เขม"

                       "แต่มันจะทำให้นายเสียเวลาไปอีกนะซิ"

                       "ผมยอมเสียเวลานั้น เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาดีดีของผมกับพี่ไป..ผมยอมพี่เขม"คริสโตเฟอร์พูด ผมก็มองใบหน้าของเขา

                       "ฟู่!! " ผมพ่นลมออกทางปาก ผมควรเลือกแบบไหนดีละ

                       "รอให้แม่เรามาก่อนแล้วกันนะเราค่อยคิดหาช่องทางด้วยกัน.."

                       "อาบน้ำกันดีกว่าไหมพี่เขม....คริสอยากให้พี่อาบน้ำให้อะ" คริสโตเฟอร์ออดอ้อนผม

                       "จริงอะ" ผมถามคนที่พลิกตัวไปนอนข้างๆผม เขาพยักหน้าว่าใช่

                       "ต้องมีค่าจ้างนะ...อืมม" ผมพูดก่อนจะพลิกตัวไปจูบผมรู้ว่าเขาเข้าใจความหมายมันดี คริสโตเฟอร์พยักหน้าให้ผมก่อนที่จะพากันเข้าห้องน้ำอาบน้ำไปด้วยกัน ใช่ผมสองคนไม่ได้แค่อาบน้ำด้วยกัน ผมก็กดคริสในห้องน้ำนั้นแหละ เสียงร้องครางดังสนั่นแข่งกับสายน้ำทีราดรดกายผมทั้งคู่ จนกระทั้งสมอารมณ์หมายไปอีกคนละยก และเราก็กอดกันอีกครั้งภายใต้ฝักบัว ที่คนนี้เป็นคนซ่อมให้ผม แม้จะหลอกให้ไปนอนที่บ้านพักนักเรียนมาหนึ่งคืนก็ตาม  ผมกอดกันอย่าสักพักก็พากันออกมา

                       "คริส..อ่านหนังสือแกรมม่าที่ให้ด้วยนะและถ้าไม่เข้าใจอันไหนส่งอิเมลถามพี่นะคริส" ผมบอกคริสโตเฟอร์ขณะที่เขากำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเป้

                       "พี่จะคอยโทรหาเรานะแต่คงเป็นช่วงที่เราเลิกเรียนแล้ว" ผมหันไปบอกคริสโจเฟอร์

                       "พี่จะไปเป็นครูสอนติวเตอร์จริงๆเหรอครับ..คริสว่านักเรียนที่นี้ทุกคนอยากเรียนกับพี่นะ" คริสโตเฟอร์หันมาพูดกับผมแว็ปหนึ่งก่อนจะหันกลับไปเก็บของใช้ส่วนตัวของเขาลงกระเป๋าไป

                       "ถ้าทางเลือกที่พี่เลือกมันดีกว่าพี่ก็จำเป็นต้องทำ.."

                      "เป็นครูนะมันมั่นคงว่าใช่ไหมละพี่เขม"

                       "อืมม..ยอมรับว่าใช่" ผมพยัพหน้าเบา

                       "ผมขอโทษนะพี่เขมที่ผมทำให้พี่เดือนร้อนมากที่สุด"

                       "พี่เคยบอกเราแล้วไงว่าปัญหามันเยอะและยิ่งพี่เป็นครูเราเป็นนักเรียนด้วย"

                       "หมับ...เราจะผ่านมันไปด้วยกันได้ใช่ไหมอะ"  คริสโตเฟอร์เดินกลับมากอดผมอีกครั้ง คราวนี้เขาซุกหน้าลงที่ซอกคอของผม

                       "อืมม." ผมพยักหน้าเบาๆ

                       "ผมดีใจจังผมคิดมาตั้งหลายชั่วโมงผมกลัวว่าพี่จะทิ้งผมไว้ที่นี้คนเดียวผมกลัวมาก ผมเข้าใจแชมป์มันแล้วอะพี่เขมว่ามันทิ้งตรงนี้ไปทำไม " คริสโตเฟอร์พูด ผมก็ยิ่งกอดเขาแน่นนั้นคือคำตอบว่าผมจะไม่ทิ้งเขาไปไหน ผมจะพยายามหาทางออกให้เร็วที่สุด

                       "พี่ก็เข้าใจครูมิ้งแล้วเหมือนกันแต่พี่ไม่อยากทำแบบครูมิ้งนะ" ผมพูดบอกคริส ผมใช่ฝ่ามือผมลูบหัวคริสโตเฟอร์เบาๆ

                       "ผมก็เข้าเข้าใจ..แชมป์มันพี่เขมว่าทำไมมันถึงได้ตัดสินใจไปกับครู "คริสโตเฟอร์พูด ผมเหลือบไปมองเวลา มันจวนจะได้เวลาเรียนพิเศษแล้ว

                       “คริส...พี่จะต้องไปสอนพิเศษแล้ว "ผมดันคริสโตเฟอร์ออก ผมพูดบอกเขา

                       “ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ" ผมถามเพราะวาดูสีหน้าเหยเกของคนตรงหน้าผมซิ

                       "เจ็บก้นอะ" คริสโตเฟอร์พูดและเอามือไปแตะที่บั่นท้ายตัวเอง ทำหน้ายู่ด้วย

                       "หาเรื่องไม่เข้าเรียนเดี๋ยวจะโดน" ผมพูดก่อนจะคนข้างเข้ามากอด และพากันเดินลงมาจากบ้านพัก พวกเพื่อนๆของคริสโจเฟอร์นั่งเอามือเท้าคางรอกันอยู

                       "เสื้อผ้ามึงเยอะขนาดให้พวกกรูรอเกือบสองชั่งโมงเลยเหรอครับคุุณคริส!!"

                       "เสื้อผ้าไม่เยอะแต่อย่างอื่นกูเยอะ..." คริสโตเฟอร์พูดก่อนจะเดินไปขึ้นรถของอาร์ทและมีโจยืนอยู่ด้วย  ผมยืนมองเพื่อส่งเขาและยิ้มก็ให้เขา ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่ากลับมาจากอบรมันจะดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่ ต้องมาลุ้นกับแม่ของคริสโตเฟอร์นี้แหละ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 13:06:28 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.19 ครูเขมXคริส สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการถูกทิ้งจากคนที่ผมไว้ใจ   
 Part  คริสโตเฟอร์
   
                       เมื่อเช้าผมมาส่งครูเขมขึ้นรถตู้เพื่อไปอบรมต่างจังหวัด เมื่อคืนผมแถบจะไม่ได้นอนเลยผมคิดถึงปัญหาของผมกับครูตลอดทั้งคืน ใจผมนี้กลัวเหลือเกินกลัวครูเขมจะทิ้งผมไปเหมือนพ่อผม ผมไม่รู้ว่าที่เขาทิ้งผมไปเพราะว่าผมเป็นภาระของเขาหรือเปล่า เขาถึงได้ไม่กลับมาหาผมอีกและนี้ครูเขมอีกคนเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะผมอีกและนี้คือสิ่งที่ผมกลัวมันจะเป็นสาเหตุให้เขาทิ้งผมไปเช่นกัน
 
                      "ปึก" เสียงชามโจ๊กวางลงตรงหน้าผม ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่วางมันลงและเดินไปนั้งตรงข้ามกับผม คือไอ้ปัน ปัน

                      "มึงต้องกินอะไรบ้างนะไอ้คริสตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะที่มึงยังไม่ได้กินอะไรเลย" ไอ้ปัน ปันพูดผมพยักหน้า ผมแค่ชำเลืองตามองไปที่ชามที่วางอยู่มันคือโจ๊คใส่ไข่ ไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ตับและไม่ใส่ไส้ มันรู้ได้ยังไงว่าเพราะว่าตอนที่ผมอยู่กับพวกมัน ผมไม่เคยสั่งโจ๊กมากินเลยสักครั้ง มีแต่ผมไปสั่งกับพี่เขมเพราะว่าผมสั่งไม่เป็นและกลัวป้าเขาด่าผมเอา พี่เขมที่รู้แต่นี้ไอ้ปัน  ปัน มันกลับสั่งมาให้ผมถูก

                      "กูไม่หิววะ มึงซื้อมาทำไมวะ" ผมถามไอ้ปัน ปันและดันชามโจ๊กออก

                      "คริส..ครูเขมเขาสั่งไว้ให้มึงอะ เขารู้ว่ามึงคงแดกอะไรไม่ลงและคงไม่ลุกไปหาซื้ออะไรกินเองอีกด้วย..ครูเขมเขาสั่งกับครูโจ้ไว้ให้มึงอะ"  ไอ้ปัน ปันพูดผมเงยหน้ามองหน้ามัน ผมก็ดึงชามกลับมาตักใส่ปากทนกินไปได้หน่อยแต่ปากมันไม่อยากรับอะไรเลยตอนนี้ จริงๆ มันก็หิวอยู่หรอก

                       “และครูโจ้ก็บอกให้กูยกมาประเคนให้มึงด้วย หรือมึงจะให้กูป้อนมึงด้วยมั้ยละ”ไอ้ปันปันมันพูด ผมเงยหน้ามองและรู้สึกขนรุกขนพองขึ้นมาทันที่ ตรงที่มันจะป้อนให้ผมนี้แหละ และผมก็รีบหยิบชามโจ๊กมาตักทานเอง

                       "โป้งกินตับปะ" ปัน ปันเอ่ยปากถามไอ้โป้ง

                      "กิน...ปัน ปัน แต่ถ้ามึงไม่กินทำไมมึงไม่บอกเขาไปละว่าไม่ต้องใส่มา..และเขาจะได้เอาอย่างอื่นที่มึงกินใส่มาแทน..ไอ้บ้าเอ้ย" ไอ้โป้งมันเม้งไอ้ปันปัน เหมือนเดิมแต่ไอ้ปัน ปันมันก็คีบลงชามไอ้โป้ง และหันมาหยักคิ้วให้ผม ผมพยักหน้าว่าเข้าใจความหมายของมันดี แต่ผมไม่มีอารมณ์จะแซวมัน

                      "ดีวะ..ไอ้คู่ผัวเมียนี้ก็แบ่งกันกินแบ่งกันใช้อีกแล้ววะ ไอ้โจ" ไอ้อาร์ทมันมาถึงก็แซวไอ้ปัน ปัน กับไอ้โป้ง

                      "คู่สามีพองมึงดิ" ไอ้โป้งรีบพูดและหาอะไรปาใส่ไอ้อาร์ทกับไอ้โจ ผมนั่งมองมือถือไม่เห็นพี่เขมส่งข้อความมาหาเลย ถึงไหนแล้วนะ

                      "กูไปห้องน้ำก่อนนะ" ระหว่างที่ผมเดินไปห้องน้ำเสียงการวิพาษณ์วิจารเรื่องผมกับครูเขมเริ่มจะหนาหูขึ้นเรื่อยๆ นี้คงแค่การเริ่มมันเป็นแค่บททดสอบเบื้องต้น จากภาพความรักที่หวานชื้นมันต้องมีวันที่ต้องข่มบ้างว่าไม่ แต่ทำไมช่วงเวลานี้มันช่างเนินนานกว่าเวลาของความสุขนะ 

                       ผมเดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเหมือนไม่ได้ยิ้นสิ่งเหล่านั้นเข้ามาในหู แม้ว่าการวิจารณ์เหล่านี้จะมีทั้งเห็นใจและคัดค้านไปด้วยในบางคนที่ไม่นิยมรักของครูกับนักเรียน บางก็กลัวว่าถ้าคบกันจะเกิดความลำเอียงเรื่องคะแนน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ตอนนี้ผมกำลังทำงานแก้ศูนย์อยู่ที่ครูเขมให้ไปหา พวกฟุตฟิตฟอร์ไฟว์และทำเป็นเล่มมาให้ครูเขมดูพร้อมกระโยคตัวอย่างนั้นไม่ได้แปลว่าครูเขมลำเอียงกลับผมสักหน่อยแต่ใครจะรู้ใครจะเข้าใจจริงมั้ย และยิ่งเวลานั่งเรียนพิเศษนี้ เรียนคือเรียนถ้าเล่นพี่เขมก็ตีจริงเจ็บจริงด้วยซ้ำ

                      "พี่เขมไม่ว่าใครจะพูดว่าพี่ยังไงผมเท่านั้นที่รู้ว่าพี่รักและหวังดีกับผมแค่ไหนและผมจะต้องผ่านสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ เพราะนี้มันคือบททดสอบความรักและอดทนของผมกับพี่" ผมพูดกับกระจกในห้องน้ำชายหลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว และเตรียมจะออก

                      "ไงผัวหายไปไหนละ...หรือว่าโดนไล่ออกไปแล้ว..ทำไมไม่ตามไปแบบไอ้แชมป์ซะละหนีตามกันไปเลย " เสียงที่ตามหลอกหลอนผมพวกไอ้กาย

                      "ปกติจะมีแต่ผู้หญิงนะที่หนีตามผู้ชาย..มึงก็คงจะเป็นอีกคนที่ผู้ชายหนีตามผู้ชาย" ผมยืนสูดหายใจเข้าเพื่อไม่ให้ระเบิดมันออกมาก่อนจะเดินแทรกตัวออกไปผ่านกลุ่มพวกพี่กาย พี่อั๋นและไอ้พี่เอก ผมเองที่พยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไว้ ผมต้องไม่ก่อเรื่องเพิ่ม

                      "กลายเป็นตุ๊ดไปซะแล้ว" ผมได้ยินเสียงสุดท้ายก่อนจะปิดประตูลง ผมต้องยอมเป็นคนขี่คลาดเดินผ่านพวกมันออกไป ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ ผมทำได้แค่กำมือแน่นหลบไปยืนอยู่ด้านข้างตรงกำแพงและผมก็

           "ปัก! ปัก! ปัก! ปัก!" เสียงหมัดกระทบกำแพงแบบไม่ยั้งด้วยความโกรธ ผมยกมือขึ้นมาเท้ากำแพงเพิ่งจะเห็นนะว่ามีเลือดซึมติดที่กำแพงนันจากมือผมเอง เลือดที่ซึมออกมากการลงหมัดเพื่อระบายความโกรธของผมแต่มันกับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยที่มือของผม แต่ใจผมนี้โคตรเจ็บยิ่งกว่าต่อยกำแพงซะอีก


           "พี่คริสเจ็บมากไหม" มีมือเล็กๆมาจับแต่ผมสะบัดก่อนจะหันไปมองว่าเป็นใคร

           "อย่ามาแตะต้อง...ออกไปให้พ้น"ผมหันไปตะหวาดใส่คนที่มาแตะมือผม แก้ม เธอยืนมองผมน้ำตาคลอ

           "ทำไมพี่รักเขามากขนาดนี้เลยอะทำไม ทำไม ทำไม ฮึกๆ"แก้มเข้ามาทุบต้นแขนผมไม่แรง แก้มยืนร้องไห้

           "เธอไม่มีวันเข้าใจแก้ม..ไปให้พ้น..."ผมพูดโดยไม่ได้มองหน้าเธอ

           “พี่คริสมือพี่เลือดไหลอ่ะ ฮือๆ”

           “Just leave me alone!!!” ผมหันไปตะคอกใส่หน้าเธออีกครั้ง แต่เธอทำหน้าไม่เข้าใจ และผมก็ดันเธอไปให้พ้นทางก่อนจะรีบเดินออกเพื่อเตรียมไปเข้าแถว เลือดที่ตรงหลังมือผมก็ซึมออกมาทุกทีแต่ผมก็ยังคงเดินไปเขาแถวตามปกติแบบคนเลื่อนลอยไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะกี่สายตาที่มองมาที่ผม

           "คริสโตเฟอร์.." เสียงครูนิดวิ่งมาเรียกผม

           "แม่เธออยู่ในสายเขาบอกว่าเธอไม่รับโทรศัพท์เขาเลย โทรเข้าเบอร์โรงเรียน เธอขึ้นไปรับสายแม่เธอตอนนี้เลยนะคริส" ครูนิดบอกผม ผมก็ใจเต้นรัวยังไงก็ไม่รู้

           "ฟังจากน้ำเสียงของแม่เธอแล้วเขาดูเป็นห่วงเธอมากนะ" ครูนิดบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเดินส่วนกลับขึ้นไปที่เล็กๆจะมีโทรศัพท์อยู่สี่ห้าเครื่องเอาไว้ให้นักเรียนติดต่อทางบ้านแต่ไม่ค่อยมีคนใช้เท่าไหร่เพราะว่าแต่ละคนล้วนแต่มีมือถือเป็นของตัวเอง ผมเดินไปนั่งตรงเครื่องโทรศัพท์ที่ถูกยกหูวางไว้ ผมหยิบมันขึ้นมา

           "ฮัลโล มัม"  ผมเรียกมัมมากกว่าคำว่าแม่

           "เกิดอะไรขึ้นคริส..ทำไมผู้อำนวยการโทรมาบอกให้แม่ลงไปหาเราด่วนละ"

           "แม่..คริสขอโทษ..ฮึก...ฮึก.."น้ำตาผมไหลทันที

           "คริส..แม่ขอโทษนะลูก....ที่แม่ดูแลลูกไม่ได้ดีเหมือนแม่คนอื่นๆ"

           "แม่ดูแลผมดีที่สุดแล้ว..."

           "แม่ผม..ผมไม่อยากเรียนแล้ว"

           "ทำไมละคริสทำไมละลูก..หรือว่ามีคนล้อลูกเหรอคริส.." แม่คงเข้าใจว่ามีคนล้อผมว่าเป็นไอ้ฝรั่งขี้นกแต่เรื่องแค่นี้ผมไม่สนใจอยู่แล้วอย่างมากก็แค่ต่อยกลับแต่เรื่องครูเขมมันทำให้ผมไม่อยากทนอยู่ตรงนี้เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันกำลังรุมทำร้ายความเข้มแข็งที่ผมมีให้อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ

           "ไม่มีหรอกแม่ที่ผมไม่อยากเรียนเพราะว่า.....เพราะว่าผมไม่อยากเป็นนักเรียนแล้วแม่"
"
           "ผมเลยรักครูไม่ได้"

           "ผมรักครู...แม่...คริสรักครูเขมแม่ ..ฮือๆ .."

           "อะไรนะ..ครู..ครูอะไรนะ..แล้วนี้เรา..อย่าบอกนะว่าที่ผู้อำนวยการบอกให้แม่ลงไปเพราะว่าเรามีเรื่องชู้สาวเกิดขึ้นในโรงเรียนอย่างนั้นเหรอ"

           "แม่ครูที่ผมรักนะเขาเป็นผู้ชาย"

           "อะไรนะคริส...นี้ลูกแม่เป็นเกย์เหรอ"

           "แม่รังเกียจผมไหม...แม่โกรธผมมากไหม..."

           "โธ่..คริส..แม่จะรังเกียจลูกตัวเองได้ยังไงละคริส...แต่..ฟิลิปส์เขาคง.." แม่คงหมายถึงพ่อเลี้ยงของผม

           "รับผมไม่ได้..." ผมพูดเบาๆ เสียงแม่ถอนหายใจออกมายาวๆ

           "แม่....ถ้าผมไม่เรียนผมเรียนไม่จบแม่จะลืมไปเลยก็ได้นะว่าผมเป็นลูกแม่..ผมรู้ว่าผมไม่เคยทำให้แม่ภูมิใจสักครั้งมีแต่ทำเรื่องให้แม่..แม่..คริสคิดถึงแด้ด..ฮือๆ" ผมร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กน้อย

           "คริสแม่จะลงไปนะ..คงไปวันจันทร์นะลูก..คริส..แม่ไม่ได้ต้องการอยากได้ลูกที่เก่งเหนือใครแต่แม่ต้องการลูกที่เป็นคนดีลูก..เป็นคนดีของแม่แค่นั้นลูก"

           "เขารักลูกของแม่หรือเปล่าละคนนั้นนะ"แม่ถามผม

           "รักผมมากที่สุดเขาดูแลผมดี ..เขาทำให้ผมอยากเรียกภาษาอังกฤษ..เขาทำให้ผมอยากตามหาแด้ด"ผมบอกแม่

           "แม่ดีใจนะที่คริสคิดได้แบบนั้น...น้องตื่นแล้วนะลูก..วันจันทร์แม่จะลงไปนะ..ดูแลตัวเองละคริส..อ้อแม่โอนเงินไปเพิ่มให้แล้วนะและดูแลตัวเองดีดีนะ เจอกันวันจันทร์คริส" แม่ผมพูดและกดวางสายไปผมได้ยินเสียงน้องชายร้องเรียก มัม มัม และเสียงเรียกจากพ่อเลี้ยงเรียกให้แม่ไปดูน้อง
       
        ผมเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู้มาซับเลือดที่หลังมือของผมก่อนจะเดินออกเพื่อไปขึ้นเรียน ตอนนี้นักเรียนแยกย้ายเข้าห้องเรียนกันเกือบหมดแล้ว
     
    Christ Khem: พี่เขมถึงหรือยังผมคิดถึงพี่..ผมรู้สึกอ่อนแอ..ผมอยากจะกอดพี่เขม
                       ข้อความถูกส่งออกไปจากมือถือผมโดยแอพพลิเคชั่นสีเขียวที่เราใช่คุยกันหยอกล้อกันทะลึ้งกันบ้าง ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนที่มีแต่รุ่นน้อง นี้ถ้าผมไม่มีเรื่องผมคงอยู่ม.5แล้วซินะและคงไม่นานพอที่ผมกับพี่จะรอได้แต่นี้แค่ ม.4 เทอม 2 เอง

                      "ขออนุญาติเข้าห้องครับ"ผมพูดกับครูลิมาที่มาสอนแทนครูเขม เขาแค่พยักหน้าผมก็เดินเข้าไปในห้องโดยมีสายตาเพื่อนและบรรยากาศในการเรียนมีแต่ความเงียบ ทั้งที่ตอนที่ครูเขมสอนมีแต่เสียงหัวเราะครูเขมเขาสอนสนุกเขาเน้นแกรมม่าและการสนนทนาเพราะว่าในชีวิตจริงครูบอกว่าใช้การสนาทนามากกว่าแต่แกรมม่าก็สำคัญ ผมหยิบหนังสือ Essential Grammar in use ของ Raymond murphy ที่ครูเขาให้ผมมาหยิบมันขึ้นมาดูเมื่อคืนผมก็อ่านมัน  ขอบคุณนะครับพี่เขมขอบคุณที่ผมได้เจอพี่

           "แกเรียนกับครูลิมาน่าเบื่อวะสู้เรียนกับครูเขมไม่ได้วะสนุกดีวะ"

           "แกน่าเบื่อตรงที่แกไม่รับฟังพวกเราเลยเอาแต่สอนในตำราบางอย่างที่เราอยากได้มากกว่าตรงนั้น"

           "และพอเราเสนอความคิดเห็นแกก็หาว่ารู้ดีอีก..สู้ครูเขมไม่ได้วะ....อธิบายทั้งในและนอกตำราไปพร้อมๆกัน"

           ".แล้วนี้ครูเขมไปไหนก็ไม่รู้เมื่อเช้าไม่เห็นเลยและตอนเดินไปดูตารางติวเตอร์นะไม่มีชื่อครูเขมตลอดทั้งอาทิตย์นี้เลยวะ"

           "ครูเขมโดนพักการสอนหรือเปล่าวะ"

           "ก็คงเป็นเรื่องที่ครูแกเป็นเกย์นะซิและ..ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาสอนอีกไหม"

           "เป็นเกย์แล้วเกี่ยวอะไรวะ"

           "แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่ครูเป็นเกย์หรอกมันอยู่ที่แกรักกับนักเรียนมันผิดนะ..เวรแล้วพี่คริสอยู่ในห้องนี้แก"

           "ที่จริงมันก็เรื่องส่วนตัวนะแกแต่ที่แย่เพราะนางแก้มนะดันไปพูดถ้ามันไม่พูดก็ไม่มีใครรู้" ผมได้ยินเสียงผู้หญิงในห้องพูดคุยเรื่องนี้กันในก็จริงนะผมลุกขึ้นและเดินที่โต๊ะที่น้องเขานั่งอยู่

           "น้องครับ"  ทุกคนตกใจผมกันหมด ผมก็ส่งยิ้มให้และนั้นถึงทำให้น้องเขาเริ่มไม่กลัวผม

           "น้องอยากให้ครูเขมสอนที่หรือเปล่าครับ" ผมถามน้องที่นั่งคุยกันเขาหันมามองหน้าผมและหันไปมองหน้าเพื่อนๆในกลุ่ม

           "เออ...อืมม.." น้องเขาหันไปมองหน้าเพื่อนๆกันและ

           "อยากซิพี่ครูเขมนะสอนสนุกและเราก็เข้าใจมากกว่าเรียนกับครูลิมาอีก เคร่งเครียดตลอดเวลา" พวกน้องพูด

           "พี่คริส...แล้วตกลงพี่กับครูเขมเป็นแฟนกันจริงปะ"น้องในห้องคนหนึ่งถามผม

           "ใช่แต่.."

           "พวกเราเอาใจช่วยนะ...พวกเรานะอยู่ข้างครูเขมกับพี่คริสนะ"ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องและไปเข้าห้องน้ำ ผมควรจะทำอะไรสักอย่างใช่ไหมเพื่อช่วยพี่เขม แต่ก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีผมเลยเลือกเดินลงไปไม่รู้จะไปไหนก็คงไปที่ศาลานั่งกลางบ่อน้ำ ผมไม่อยากกินอะไรเลย ผมเดินไปหาที่นั่งหยิบมือถือขึ้น พี่เขมอ่านข้อความแล้วแต่ไม่ได้ตอบกลับ

           "พี่เขมทำไมพี่ไม่ตอบข้อความผมเลยละ...." ผมพูดกับหน้าจอมือถือ นี่เขากำลังตัดสินใจทำอะไรของเขาอยู่หรือเปล่าหรือว่าพี่ถอดใจแล้ว
 
  Christ Khem : พี่เขมทำไมพี่เงียบไปละ...พี่ถึงหรือยัง..ขอบคุณนะครับสำหรับโจ๊กที่พี่สั่งไว้ให้ผม

                ผมส่งข้อความหาพี่เขมอีกแล้ว พอข้อความถูกส่งไปผมก็รับรู้ได้ว่าอ่านมันแล้ว แต่ก็ไม่ตอบกลับมาหาผมอยู่ดี ผมวางมันลงบนโต๊ะ ไม่มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนเลยจริงๆ

           "แปะ!! "ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะว่ามีของเย็นบางอย่างมาแตะผมที่แก้มผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ไอ้โป้ง

           "กินซะหน่อยซิ..ดูมึงเพลียๆวะ เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ" ไอ้โป้งนั่งลงแน่นอนมันก็มาพร้อมกับไอ้ปัน ปันที่เดินกินกูลิโก๊ะมาด้วย รสสตอเบอรี่ ไอ้โป้งมันเปิดขวดน้ำอัดลมและส่งมาให้ผม ผมพยักหน้าก่อนจะรับมากระดกดื่ม

           "กูไม่อยากเรียนเลยวะวันนี้..เดี๋ยวกูจะกลับไปบ้านพักวะ" ผมหันไปบอกไอ้โป้ง มันก็พยักหน้าเบาๆ ผมลุกขึ้นพร้อมกันสะพายเป้ขึ้นบ่าไป ผมกลับไปห้องพักผมว่าจะกลับไปนอนสักหน่อยเมื่อคืนหลับๆตื่นๆ เมื่อคืนนอนน้อยมาก ผมกลับมาก็ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน ครูเขมก็ยังไม่ตอบข้อความผมเลย ผมนอนมองมือถือข้างๆตัวจนเผลอหลับไป

           "พี่เขม...พี่เขม.."ผมรู้สึกว่ามีมือมาเกลี่ยที่ใบหน้าของผม หรือว่าพี่เขมกลับมาแล้วใช่ไหม ผมลืมตาขึ้นภาพเลื่อนลางแต่ไม่ใช่ใบหน้าของครูเขมอย่างที่ผมคิดไว้แต่มันกลับเป็นใบหน้าของไอ้โป้ง แววตามันไม่เหมือนทุกครั้งที่มองผม แต่มันไม่สำคัญเพราะว่าเวลานี้มันต้องอยู่ในห้องเรียนซิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 13:25:32 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.19.1 ความลับที่โป้งเก็บไว้ตลอดห้าปีครึ้ง


Part คริสโตเฟอร์
                  "พี่เขม...พี่เขม.."ผมรู้สึกว่ามีมือมาเกลี่ยที่ใบหน้าของผม หรือว่าพี่เขมกลับมาแล้วใช่ไหม ผมลืมตาขึ้นภาพเลื่อนลางแต่ไม่ใช่ใบหน้าของครูเขมอย่างที่ผมคิดไว้แต่มันกลับเป็นใบหน้าของไอ้โป้ง แววตามันไม่เหมือนทุกครั้งที่มองผม แต่มันไม่สำคัญเพราะว่าเวลานี้มันต้องอยู่ในห้องเรียนซิ

                               “อืม” ผมยังไม่ทันได้ถามอะไรเลยมันก็ก้มลงจูบผมทันที ผมก็พยายามเม้มปากคัดค้านการกระทำของมัน นี้มันขึ้นมาค่อมผมไว้ทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งตัวด้วยและแขนผมก็ถูกมันตรึงไว้เช่นกัน พอมันจูบผมไม่สำเร็จมันก็ใช่ปากเลื่อนลงไปที่ซอกคอของผมแทน

               “อย่า..อย่า..อย่า..ไอ้..สัส..โป้ง!” ผมพยามดันมันออกจนมันกระเด็นออกไปผมก็รีบดีดตัวขึ้นมานั่งมองหน้าไอ้โป้ง ว่าที่มันทำกับผมคืออะไรไหนบอกว่าไม่ชอบเกย์ไหง แล้วนี้มันคืออะไร

               “มึงทำเฮี้ยอะไรกับกูไอ้โป้ง!” ผมตะคอกเสียงดังถามมันไป ผมยกมือขึ้นเช็ดปาดริมฝีปากของผม มันกล้าดียังไงมาจูบผมทั้งที่มันก็รู้ว่าผมควรจะให้ใครจูบที่ไม่ใช่มัน

               “ทำเหมือนที่ครูเขมทำกับมึงไง” โป้งพูด

               “ไอ้สัส..โป้ง..” ผมด่ามันพร้อมรีบลุกขึ้นยืน

               “มึงมันก็เหมือนพวกไอ้พี่กายนั้นแหละ...กูเสียใจวะ..กูคิดว่ามึงนะเพื่อนกูเพื่อนที่เข้าใจกูมากที่สุดและจะไม่ทำร้ายกู” ผมชี้หน้ามัน

               "ทำไมมึงคิดว่าที่กูเป็นแบบนี้มันสนุกมากหนักใช่ไหมโป้ง!!" ผมถามมันแววตาผมบอกได้ว่าผมเสียใจที่สุด

               “กูไม่เหมือนพวกมันหรอกคริส พวกไอ้กายนะ แต่นี้กูทำเพราะกูรู้สึกกับมึงแบบนั้นจริงๆ คริส!” ไอ้โป้งมันพูดว่ามันไม่เหมือนแต่การกระทำที่มันกำลังจะทำกับผมนี้นะไม่เหมือน

               “กูไม่เหมือนพวกมันหรอก...แต่กูเหมือนที่ครูเขมเป็น กูก็เหมือนครูเขมของมึงนั้นแหละ” ไอ้โป้งพูดมันทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม

               “อย่านะไอ้โป้ง..กูไม่อยากต่อยมึง...นี้มึงเป็นบ้าอะไรขึ้นมา..ไหนมึงเกลียดเกย์ไง” ผมค่อยถอยหนี ผมรู้สึกหวาดกลัวมันขึ้นมาทันที

               “มึงถามกู!! ..แต่กรูว่ามึงควรจะถามตัวเองดีกว่า...มึงนั้นแหละที่บอกว่ามึงไม่ใช่เกย์"  ไอ้โป้งมันถามผม

               "มึงจำได้ไหม!” โป้งมันถามผม สายตามันจับจ้องมองผม

               “ที่กูเขียนจดหมายไปหาน้องแชมป์โดยลงท้ายว่ามึงชอบเขานะ”ไอ้โป้งพูดผมพยักหน้าว่าจำได้ ผมยังด่ามันเลยเอาความรู้สึกน้องเขามาล้อเล่นทำไม นับตั้งแต่ผมบอกเขาไปเขาก็ไม่กล้าเจอหน้าผมเลยคอยหลบหน้าผมตลอดจน จนกระทั้งน้องเขาหายไปกับครูมิ้ง

               “เพราะกูจะลองใจมึงไง...แต่มึงก็บอกน้องแชมป์ไปว่ามึงไม่ใช่เกย์!! “

               “กูก็ทำใจว่ามึงไม่ใช่ ...กูทำใจให้เป็นเพื่อนแค่มึง..เพราะกูกลัวเสียมึงไป" ไอ้โป้งมันพูด

               "และกูต้องทำเป็นว่ากูไม่ใช่เกย์!! ...กูต้องทำเป็นว่ากูมีแฟนเป็นผู้หญิง"

               “กรูต้องหลอกตัวเอง!!!” ผมอึ่งพูดอะไรไม่ออกเลย

               “มึงพูดเชี้ยอะไรเนี๊ยะ”ผมถามไอ้โป้ง

               “กูเลยจะเลิกเป็นเกย์ไง...กูเลยพยายามเลิกเป็นนี่ไง! ..ไอ้เกย์เนี๊ยะ!..กูพยายามเลิกเพราะกูจะได้ไม่รู้สึกอะไรกับมึงทุกครั้งที่นอนอยู่บ้านเดียวกัน!!”ไอ้โป้งพูด ผมยืนกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ผมไม่คิดว่าก่อนเลยว่ามันแย่ขนาดนี้เลยเหรอผมทำให้มันแย่ขนาดนี้เลยเหรอ

               “แต่พอครูเขมมามึงกลับกลืนน้ำลายตัวเอง มึงกลับไปอยู่กับเขา ไปนอนกับเขา ไปกอดเขา ไปจูบเขา ...กูนี้อยู่กับมึงมาห้าปี..”

               “กูเก็บความรู้สึกตัวเองมาได้ตั้งห้าปี!!!”

               “โป้ง...กูไม่รู้...กูไม่รู้ว่ามึงเป็น...และกูยังยืนยันว่ากูไม่ใช่..แต่กูแค่...รักครูเขม..แต่กูก็คิดว่ากูไม่ใช่เกย์..แต่กูรู้สึกดีกับครูเขม”

               “ที่เป็นผู้ชายโป้ง...”

               “นี้ยังไม่ใช่อีกเหรอคริส!”

               “อย่านะไอ้โป้ง..มึงจะทำบ้าอะไรกับกู”

               “กูจะทำตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่กูเห็นมึงนอนร้องไห้...กูอาจจะไม่มีทุกอย่างดีเท่ากับครูแต่กูก็รักมึงวะคริส” ไอ้โป้งมันไม่พูดเปล่ามันกระโดดขึ้นเตียงนอนผมและพุ้งตรงมาหาผม

               “อย่าไอ้โป้ง!!” ผมร้องห้ามถึงตัวจะพอพอกันแต่ผมจะต่อยหน้าไอ้โป้งเพื่อนผมได้เหรอวะ ผมทำได้เหรอวะ

               “ปึก” ร่างผมถูกดันลงไปบนที่นอนไอ้โป้งมันขึ้นมาค่อมผมไว้ มันไซ้ที่ตรงคอผมและพยายามจูบปากผมแต่ผมเบือนหน้าหนีมันตลอด

               "กูบอกให้มึงหยุดไงไอ้โป้ง..โป้งหยุด!!" ปากผมก็ร้องพยายามใช้เข่าดันก็ไม่เป็นผลเพราะว่ามันกันผมไว้หมด พอมันจูบผมไม่ได้อีกมันก็ไซ้ลงไปที่คอของผมมือมันก็สอดลงไปที่กางเกงผมผมรู้สึกว่ามันกำลังปลดเข็มขัดเพราะตัวผมกับมันพอพอก็จริงแต่แรงผมคงน้อยกว่าหน่อยก็เมื่อวานไม่ได้กินข้าวและตอนเช้าก็กินไปนิดเดียวเอง

               "อย่าโป้ง....อย่า..อย่าทำกูแบนี้ ..ฮือๆ"

               "กูจะทำให้มึงรู้ไงว่าจริงๆแล้วกรูไม่เคยรังเกียจมึงคริส...เป็นเมียกู..คริส!! "

               "มึงจะได้ไม่ต้องเจอเรื่องเฮี้ยๆแบบนี้...จะได้ไม่มีใครว่ามึงคริส..อืมมม" มือผมก็กำหมัดแน่น

               "ครูรักกับนักเรียนมันผิด!”

               “มึงควรมารักกับเพื่อนมึงอย่างกูนี้คริส!!"

               "ผลัก" ผมตัดสินใจต่อยหน้ามันไปหนึ่งที ผมไม่เคยคิดจะต่อยมันเลยจริงๆ ไอ้โป้งมองหน้าผม มุมปากมันมีเลือดซิบ และมันก็ยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ตรงมุมปาก

               "อย่าโป้ง..อย่าทำแบบนั้นกับกู" ผมร้องห้ามอีกครั้ง

               "กูขอร้องนะไอ้โป้ง...อย่าทำให้กูแย่ไปกว่านี้ได้ไหมวะโป้ง..กูรับอะไรไม่ไหวแล้วโป้ง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงทีสั่นเครือ น้ำตาผมไหล ตอนนี้คนที่นึกถึงคือพี่เขม

                               “อย่าทำให้กูต้องเสียมึงไปตอนทีกูอ่อนแอแบบนี้โป้ง” ผมพูดน้ำเสียงผมบอกได้ว่าผมเสียใจแค่ไหน เพราะว่ามันคือเพื่อนที่ผมรักและไว้ใจอีกคนเหมือนทีผมไว้ใจครูเขมแต่ผมแค่ไม่เคยให้ใจในเหมือนที่ผมให้ครูเขม และผมเองก็ไม่เคยคิดว่ามันจะคิดแบบนี้กับผม ผมก้มลงมองกางเกงนักเรียนที่เกือบจะหลุดออกไปอยู่แล้วนี้มันดึงรวดเดียวให้กางเกงนักเรียนและชั้นในหลุดไปพร้อมกัน

                              "ไอ้โป้ง!!!.มึง..." เสียงไอ้ปัน ปันมันเปิดประตูเข้ามาและมันก็ยืนตกตะลึง ผมรีบคว้าหมอนมาปิดบังส่วนสงวนของผมไว้ก่อน คงไม่ต้องบอกไอ้ปัน ปันนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น

                               "ปึก" ประตูถูกปิดลงทันที

                               "มึงทำอะไรมันนะไอ้โป้ง" ไอ้ปัน ปันถามไอ้โป้ง ไอ้โป้งไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองหน้าผมและเดินแทรกตัวออกไป

                              "ดูมันให้กูทีปัน ปัน " ไอ้โป้งมันกระซิบกับปัน ปัน ผมค่อยๆลุกขึ้นดึงกางเกงนักเรียนขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย ไอ้ปัน ปันมันนั่งลงมันคงตกใจมากซิท่า

                              "มันทำอะไรมึงหรือยังวะคริส" ไอ้ปันมันมองผมจากสภาพผมแบบนี้มันก็เห็นได้ชัดว่านี้ผมกำลังถูกเพื่อนขมขืนไง

                              "ยังหรอกวะ...แค่เกือบวะปัน" ผมพูดเบาๆ

                              "จู่ๆมันก็หายออกจากห้องไปตอนที่ครูสั่งงานกูไม่คิดว่ามันจะกล้ามาทำอะไรกับมึงแบบนี้วะ" ไอ้ปัน ปัน มันาถามผม ผมส่ายหัวว่าไม่รู้ไม่อยากพูดถึง

                              "ให้กูอยู่เป็นเพื่อนไหมคริส" ไอ้ปัน ปันพูดผมส่ายหัวว่าไม่

                              "ตอนเที่ยงกูเอาข้าวมาให้นะ...นอนพักเถอะ"

                              "กูคิดว่าไอ้โป้งมันคงเสียใจมาก"

                              "กูมองมันผิดมาตลอดเลยไอ้ปัน ปัน มันบอกว่ามันคิดแบบนั้นกับกูมาตั้งห้าปีปัน แต่กูไม่ได้รักมันแบบนั้นมึงเข้าใจกูไหมวะปัน ปัน และกูรักพี่เขมมันก็รู้มันยังทำกับกูแบบนี้ทำไมวะปัน "ผมเงยหน้ามองไอ้ปัน ปัน มันยืนนิ่งเงียบ

                              "มิหน่าละ...มันถึงได้คอยตามดูแลมึงแม้ว่ามันจะทำเหมือนรังเกียจมึง..กูเข้าใจมันแล้ววะ..มันคงทรมารมากเลยวะที่ต้องเก็บความรู้สึกมันไว้ตั้งห้าปี กูเองก็ยังเก็บความรู้สึกมาตั้งปีกว่าแหละ กูว่ากูแย่แล้วนะมันแย่กว่ากูอีกวะ" ไอ้ปัน ปันมันพูด

                              "นอนพักวะ...คืนนี้กูมานอนเป็นเพื่อนที่นี้ถ้ามึงกลัวมันนะ" ไอ้ปัน ปันพูดก่อนจะเดินออกไป ผมยกมือขึ้นมากุมใบหน้าผมไว้ ตอนนี้ผมอ่อนแอมาก ผมอยากเจอพี่เขม

              KissKhem : พี่เขม ...ผมอยากเจอพี่...ผมกลัวผมจะไม่ได้เจอพี่อีก...พี่เขม..คริสไม่ไหวแล้วอะ ...
                              ผมส่งข้อความหาพี่เขม แต่ทว่ามันกลับเงียบมากไม่มีการตอบรับหรือว่าอ่านข้อความจากผมเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมคงหลับตานอนไม่ได้แน่ๆ ผมรู้สึกกลัวไอ้โป้ง ผมลุกขึ้นเพื่อที่จะไปนอนที่บ้านครูเขมดีแทน ผมไม่อยากนอนที่นี้
   
                               ผมหยิบเสื้อผ้าไปสองสามชุดผมมีกุญแจสำรองของครูเขม ผมไม่สนอะไรแล้วเพราะว่ามันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วหากผู้อำนวยการจะรู้และผมจะโดยอะไรที่หนักหนาไปกว่านี้อีกก็คงไม่มีอีกแล้ว

                               ผมเดินกลับมาที่บ้านพักครูเปิดประตูเข้าไปผมก็ปิดประตูลงทำเหมือนไม่มีใครอยู่ที่บ้านพัก เดินเข้าไปในห้องนอนของพี่เขมกับผม(เคยเป็น) ผมนั่งลงบนเตียง พี่เขมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนก่อนออกไปแน่ๆเลย ผมเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกางกางบ๊อกเซอร์ที่ผมไปซื้อมาคู่กัน เอาตัวของผมมาสวมใส่และเสื้อยืดตัวเก่าๆของพี่เขมกลิ่นกายพี่เขมยังติดอยู่เลย ผมทิ้งตัวนอนผมหยิบเสื้อเชิ้ตที่พี่เขมสวมใส่บ่อยๆมากอดไว้ ผมเพิ่งจะรู้ผมเป็นเอามากก็วันนี้เอง

                              "คริส!!" เสียงเหมือนใครมาตะโกนเรียกผมอยู่หน้าบ้าน หรือว่าครูเขมกลับมาแล้วผมรีบลุกขึ้นและวิ่งไปเปิดประตูแต่ไม่ใช่ เป็นพวกไอ้อาร์ทและไอ้โจ้ มันมากับเด็กที่ชื่ออนุชิต แต่ไม่มีครูเขม ใช่ซิเพิ่งจะไปเมื่อเช้านี้เองกว่าจะกลับก็วันศุกร์

                              "พวกกูคิดไว้แล้วเชียวว่ามึงต้องมาอยู่ที่นี้" ไอ้อาร์ทพูดมันเดินขึ้นมาบนบ้านพักมันเอากระเป๋เป้มาด้วยคนละใบ

                              "พี่คริสครับนี้ชุดทำงานครูเขมและเสื้อผ้าของพี่ ที่ครูเขมส่งสัก..ครูฝากจดหมายน้อยให้ผมไปเอาให้พี่ทีครับ" อนุชิตบอกผมนี้พี่เขมสั่งคนใกล้ๆตัวไปเอาของให้ผมเพราะเขารู้ว่าผมไม่มีกะจิตกะใจจะไปไหนแน่นอน

                              "ใจวะชิต" ผมบอกไป

                              "พวกมึงละ"ผมหันไปถามไอ้อาร์ทและไอ้โจ้ อนุชิตเดินลงจากบ้านไปแล้ว

                              "กูมานอนกับมึงไง...ไอ้โป้งมันสาระภาพแล้วว่ามันจะเอามึงทำเมียเพราะว่ามันขาดสติ" ไอ้อาร์ทพูดผมหยักไหล่ให้เข้ามาดิ มันก็เดินเข้ามากัน

                              "โป้ง...มันให้พวกกูมานอนเป็นเพื่อนมึงมันบอกว่ามึงต้องมานอนบ้านครูเขมแน่ๆและมึงคงจะไม่กล้านอนคนเดียวด้วย" ไอ้โจ้มันพูด ผมพยักหน้าพวกมันเดินเข้ามาในบ้าน
               
                              " หิวยังวะพวกกูหิวแล้ววะ" ไอ้อาร์ทถามผม

                              "มึงไปหาซื้ออะไรกินกันก่อนก็ได้วะ" ผมบอก

                              "หาซื้อทำไม นี่ครูเขมเขาสั่งป้าใจไว้ให้มึงแล้วนี้พวกกูไปเอามา ไข่ลูกเขย ผัดวุ้นเส้นและ แกงจืดเต้าหูไข่ ปลาทอดด้วยว่ะ" ไอ้อาร์ทมันพูด ผมหันไปมองจริงด้วยครูเขมสั่งกับข้าวไว้ให้ผมด้วยเหรอ

                              "ป้าใจแกบอกว่าครูลินดาลงมาสั่งให้และครูลินดาก็บอกว่าครูเขมเขาฝากสั่งให้มึงอีกที" ไอ้อาร์ทมันพูดและหันไปมองไอ้โจ

                              "ครูเขมคงจะฝากครูลินดาดูมึงด้วยแหละว่ะ" ไอ้โจ้พูดผมพยักหน้าและมานั่งลงพวกไอ้โจ้มันก็แกะกับข้าวใส่จานและชาม

                              "เขารู้ว่าสภาพมึงต้องไม่โผ่หัวไปหาอะไรกินแน่ๆ..คงคุดอยู่แต่ในห้อง..และคิดมาก" ไอ้อาร์ทพูดมันตักข้าวใส่จานมาให้ผม

                              "กูไม่แปลกใจแล้ววะว่าทำไมมึงรักครูเขมมากวะเป็นกูก็รักวะ..ครูเขมโคตรดีกับมึงมากเลยวะ" ไอ้โจ้พูดผมพยักหน้า

                              "ไอ้โป้งเป็นไงบ้างวะ"

                              "มันเสียใจเรื่องที่มันทำลงไปวันนี้มากนะไอ้คริส..และพวกกูก็เพิ่งจะรู้ความจริงวันนี้เหมือนกัน มันแอบรักมึงเหรอว่ะ" ไอ้อาร์ทพูด

                              "มิหน้าละมันโคตรเป็นห่วงมึงเลยวะไอ้คริสคอยตามดูแล..แบบอยู่ห่างอย่างห่วงๆ " ไอ้โจ้พูด

                              "ไอ้ปัน ปันมันเสียใจไหมวะกรูไม่อยากให้ปัน ปันมันคิดว่ากู..."ผมพูดและรับจานข้าวมาจากไอ้โจ้ที่มันตักให้ผม

                              "ไม่หรอกมันดีใจซะด้วยซ้ำไอ้ปัน ปันมันคงบอกความในใจได้เร็วขึ้นวะ" ผมตักน้ำแกงจืดมาสด

                              "นี่ถ้าครูเขมไม่เข้ามา..กูว่ามึงอาจจะได้โดย มันสองคนผัวเมียจับมึงกินแซนวิชกันบ้างละ" ไอ้โจพูด

                              "พล้วด..แคร๊ก! " มันเล่นพูดแบบนี้ผมจะกล้าไปนอนบ้านไหม ผมหันไปมองหน้ามัน

                              "มึงชอบกินไม่ใช่เหรอแซนวิสนะ" ไอ้โจมันถามผม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 13:38:18 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 EP.19.2 ความลับที่โป้งเก็บไว้ตลอดห้าปีครึ้งหลัง
                                ผมนั่งทานอาหารแค่ให้พอประทังไปได้ พวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้มันช่วยกันเก็บล้างแทนผม ผมแทบนั่งเฉยๆมองดูมันสองคนแกล้งกันเอง ไอ้สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลชอบอะไรเหมือนกันทุกอย่างแม้กระทั้งสเปคหญิงยังชอบเหมือนกันเลยและแฟนมันสองคนส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนกัน คือถ้าไอ้อาร์ทจีบใครไอ้โจ้ก็จะได้เพื่อนของแฟนไอ้อาร์ทมาเป็นแฟนด้วยเช่นกันเป็นแบบนี้ตลอดแถมอกหักมันก็หักทีเดียวพร้อมกันทุกที

                              "กูลงไปเอาถุงนอนก่อน..พวกกูนอนข้างนอกได้วะ"

                              "เฮ้ย! ไปนอนในห้องกันก็ได้ไอ้บ้า"

                              "ไม่เอาอะ...มึงต้องกลัวพวกกูบ้างแหละไอ้คริสวันนี้มึเจอมากูว่าต้องหวาดระแวงพวกกูบ้างแหละว่ะจริงไหมละ" ไอ้อาร์ทมันพูดผมพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี

                              "กูไม่ปลั้มมึงหรอกนะ..แดกเหล้าด้วยกันมากี่ครั้งมึงเมาจนไม่มีสติกูยังไม่หน้ามืดปลั้มมึงทำเมียเลยและนี้ยิ่งมีสามีแล้วยิ่งไม่ทำโว้ยมันผิดศิลโว้ย ข้อที่สาม ไม่เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน" ไอ้อาร์ทพูด

                              "ปัก" ผมเอาหมอนอิงปากใส่ไอ้อาร์ทปากมันเหรอนั้น

                              "เห็นหน้าตาแบบนี้ศิลห้าข้อมีนะครับ.."ไอ้อาร์ทผมลุกขึ้นมันนี้นะถือศิลห้าข้อ ขอแรกมีหรือยังหรอก

                              "มึงมีครบเหรอวะ" ไอ้โจ้

                              "อ้าวไอ้นี้ดูถูก"

                              "ข้อแรกอะไร"

                              "ปลานาก็คือปลานาเพราะว่าปลานาก็คงจะไม่กลายเป็นปลาสวน ..ถูกต้องไหมครับคุณโจ!!" +_+ ผมรับถือคริสแต่ศิลห้าข้อที่ครูสอนผมท่องได้ถูกนะครับ

                              "กูไม่แปลกใจในคะแนนสอบวิชาพระพุทธศาสนาของมึงเลยครับคุณอาร์ท ที่มึงได้เกือบตกทุกรอบก็เพราะ ปลานาก็คือปลานาของมึงนี้แหละครับ.....โป๊ก!!" ผมปล่อยให้สองคนนั้นมันแกล้งกันอยู่หน้าห้องนั้นแหละ

                                    ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำดีกว่าจะได้อ่านหนังสือที่ครูเขมให้ผมมา พอออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพวกไอ้โจมันก็เปิดทีวีนอนดูกันที่ปูถุงนอนเล่นมือถือไปด้วยเพราะว่าครูเขมมีไฟไว ผมเปิดอ่านหนังสือยังใหม่กิ๊กอยู่เลย พอผมเปิดก็มีกระดาษล่วงลงมา

                              "ทำแบบฝึกหัดด้วยละไม่ใช่อ่านอย่างเดียวพี่กลับมาจะมาตรวจถ้าผิดหนึ่งข้อจะโดนทำโทษหนึ่งยก " ผมหัวเราะ

                              "ถ้าทำถูกหมดพี่มีรางวัลให้....ให้เลือกเอาเองอยากได้อะไร" พี่เขมเขียนไว้ให้ผมในสมุด

                              "อยากกินพี่เขมถูกหนึ่งข้อผมก็จะเอาพี่เขมหนึ่งยกเหมือนกัน ^_^" ผมเขียนตัวเล็กๆเอาไว้ในกระดาษ ก่อนจะสอดมันกลับไว้ในหนังสือและผมก็อ่านและทำแบบฝึกหัดไปด้วย หนังสือเล่มนี้อธิบายเกี่ยวกับการใช้แกรมม่าทั้งหมดอ่านเข้าใจง่ายแม้ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดเพราะว่าตอนเด็กๆผมเรียนโรงเรียนนานาชาติก่อนที่พ่อผมจะหายไปไม่กลับมาและคนที่สอนให้ผมก็เป็นเพื่อนพ่อผมด้วย ดังนั้นภาษาอังกฤษมันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมมาได้พักใหญ่ๆเหมือนกัน

                             “ ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตห้องนอนผมลุกขึ้นไปเปิดว่าใครมาไอ้ปัน ปัน กับไอ้โป้ง

                              "ขอคุยด้วยหน่อยดิ" ไอ้โป้งมันพูด

                              "ในห้องได้ไหมให้ไอ้ปัน ปันมันอยู่ด้วยถ้ามึงไม่ไว้ใจกูแล้วคริส"

                              "ไม่ใช่ว่ากูไม่ไว้ใจมึงนะไอ้โป้งแต่..กู..กลัวมึงวะ"

                              "เออกูไม่ทำอะไรมึงหรอกนะ" ไอ้โป้งพูดผมพยักหน้า

                              "ปัน ปัน ไม่เข้ามาละ"

                              "มึงคุยกันดิ" ไอ้ปันปันมันพูด แต่โป้งมันดึงแขนปันปันเอาไว้ สายไอ้โป้งมันมองปันปันไม่เหมือนเดิมนะผมว่า

                              "เข้ามาดิ...ปัน ปัน " ไอ้โป้งเรียกไอ้ปัน ปัน ก่อนที่มันสองคนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของครูเขมไอ้โป้งมันนั่งลงที่เก้าอี้เขียนหนังสือ เก้าอี้ทำงานของครูเขม ไอ้ปัน ปันมันนั่งลงบนเตียงผมก็นั่งลงตรงข้ามกับไอ้โป้ง

                              "คริส..กูขอโทษเมื่อตอนบ่ายกูได้ยินใครต่อใครพูดเรื่องมึงกับครูเขม มันมีทั้งเห็นใจและบ้างก็คัดค้านกูกลัวมึงจะตัดสินใจบ้าแบบน้องแชมป์นั้น..และกูก็ทนไม่ได้วะที่กูเห็นมึงรักครูเขมมากดูสภาพมึงดิ..แทบจะไม่กินอะไรเลย" ไอ้โป้งพูด

                              " เพราะเขารักกูและเขาก็ดีกับกูวะโป้ง..กูไม่ได้จะรักใครง่ายๆนะมึงก็รู้..และเขานี้แหละคือสิ่งที่กูตามหามานานตั้งแต่พ่อจากกูไป" ผมพูด

                              "ส่วนมึงนะไอ้โป้งมึงเป็นเพื่อนที่กูรัก..มึงเป็นเพื่อนตายกูเลยนะไอ้โป้ง..เพื่อนที่กูจะไม่มีวันลืมที่กูได้เป็นเพื่อนมึง" ผมพูดไอ้โป้งมันลุกจากเก้าอี้เดินมาหาผมทันทีทำท่าจะ

                              "เฮ้ย!" ผมยกเท้าขึ้นรอยันมันไว้โดยสัญชาติญาณ

                              "อะไรขอกอดแค่นั้น..กูจะทำอะไรมึงต่อหน้าไอ้ปัน ปันหรอกนะ" ไอ้โป้งมันพูดและชี้ไปที่ไอ้ปัน ปัน

                              "กูกลัวนิหว่าไอ้โป้ง...กูยังสยองมึงอยู่เลยวะ." ผมพูด ไอ้โป้งมันยืนทำท่าจะเดินกลับ

                              "หมับ"นั้นไงมันหมุนตัวกลับมากอดผมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัวจนได้

                              "คริสกูรักมึงว่ะและกูจะรักมึงแบบเพื่อนไปจนตาย..กูกลับห้องก่อนนะ...เจอกันพรุ่งนี้นะ..อย่านอนดึกละ" ไอ้โป้งมันกระซิบก่อนที่มันจะปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระและเดินออกไปตามด้วยไอ้ปัน ปัน ก่อนออกไปไอเช้ไอ้ปัน ปันมันหันหยักคิ้วให้ผม

                              "ปัน ปัน พรุ่งนี้กูไม่กินโจ๊กนะ" ผมพูด

                              "พรุ่งนี้กูทำแซนวิชแฮมชีสให้ครูเขมเขาบอกว่ามึงชอบกิน" ไอ้ปัน ปันมันหันมาบอกผม คำพูดไอ้อาร์ทมันลอยเข้ามาในหัว แหละนี้มันบอกว่าจะทำแซนวิชให้ผมกินอีก

                              "หรือถ้าไม่อยากไปนั่งที่โต๊ะไปกินทีบ้านพักก็ได้นะ ..กูเพิ่งไปซื้อเครื่องทำแซนวิสมาเหมือนกัน"

                              "ไม่อะกูกินโจ๊กเหมือนเดิมอีดีกว่า"

                              "อ้าว!!" O_O

                              "เออกูกินโจ๊กวะ..ไม่กินแซนวิส" ผมส่ายหัวอย่างเร็ว
               
                              "ตามใจนะ...เจอกันพรุ่งนี้นะ" ไอ้ปัน ปันพูดก่อนจะปิดประตูลง ผมทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนเปิดหนังสืออ่านและทำแบบฝึกหัดไปด้วย

                              KissKhem : พี่เขาคริสคิดถึงพี่อะ..แต่พี่คงนอนแล้ว..เหนื่อยไหมวันนี้..ขอบคุณนะครับสำหรับกับข้าวที่พี่สั่งให้ผมนะ ผมไม่รู้ทำไมพี่ไม่ตอบข้อความของผมเลย...ผมรักพี่เขมนะ...นอนหลับฝันดีครับ


                              ผมกดส่งข้อความอีกครั้งคงเป็นข้อความสุดท้ายของวันนี้แล้ว ผมกำลังจะก้มลงอ่านหนังสือต่อมือถือผมก็มีข้อความตอบกลับผมรีบคว้าขึ้นมาอ่าน

               My Darling : พี่ขอโทษนะคริส..พี่ขอโทษ...ไม่ต้องคิดมาเรื่องพี่นะคริส..นอนหลับฝันดีนะ..พี่รักคริสแต่พี่ก็ไม่อยากทำร้ายคนที่พี่รักไปพร้อมกัน...กลับไปเราค่อยคุยกัน..พี่เข้านอนแล้ว


                              ข้อความจากพี่เขม มันทำให้ผมรู้สึกตือไปหมดตกลงนี้พี่เขมเขาคิดยังไงกันแน่ เขาจะหยุดมันไว้แค่นี้หรือว่าจะไปต่อกันแน่ ผมวางมือถือลงก่อนจะเอนตัวลงนอนเปิดหนังสืออ่านแต่ในหัวก็เหมือนตีกันไปตีกันมา ผมเลยตัดสินใจปิดไฟที่ตรงหัวเตียงพยายามขมตาให้หลับให้ได้ ผมรู้สึกว่าด้านนอกก็ปิดไฟแล้วด้วยแต่เหมือนเปิดทีวีค้างไว้ ส่วนตัวผมเองยังคงนอนตาค้างอยู่ในความมืด ยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากพี่เขมจะเป็นเหมือนผมไหม ผมคิดหาวิธีจนหัวแทบแตกแต่มันก็มองไม่เห็นหนทางเลยจริงๆ

               My Darling : คริส!! พี่นอนไม่หลับอะ..พี่คิดถึงเรามาก..แต่พี่ไม่อยากให้เรารับรู้ว่าพี่กังวลมากแค่ไหน..เราเจอกันผิดที่และผิดเวลาไป
               KissKhem : พี่รักผมไหม ผมรักพี่เขม
               My Darling : พี่รักเรามาก มากจริงๆ
               Kiss       Khem : ผมก็นอนไม่หลับอะพี่เขม..อยาก...
               My Darling : ????????????
               KissKhem : อยากกอด
               My Darling : อยากกอดอย่างเดียวเหรอ
               KissKhem : ใช่อยากมีคนมาหยอกเล่นมันเพลินทำให้ผมหลับแต่ไม่ต้องห่วงเพราะว่าเอานะเอาอยู่แล้ว
               My Darling : เวลาแบบนี้ยังมาคิดถึงทะลึ้งกับพี่ตลอดเลย..แต่จะว่าไปอีกตั้งหลายวันกว่าจะกลับคิดถึง
               KissKhem : คิดถึงอยากกอดผมเหรอ
               My Darling : คิดถึงตู้เย็นไม่ได้ล้างมาหลายวันแล้ว =O=
               KissKhem : พี่เขมกลับบ้านพี่กันไหมอะถ้าไม่อยู่ในโรงเรียนก็คงไม่ผิดใช่ไหมอะ
               My Darling : กลับไปค่อยคุยกันอีกทีคริส พี่ว่าตอนนี้เรานะนอนได้แล้วนะอย่านอนดึกไม่ดีรู้ไหมเพราะตอนเช้าตื่นมาจะเรียนไม่รู้เรื่องจำได้ไหมพี่อยากให้เราตั้งใจเรียน
               KissKhem: ครับพี่เขม       
               My Darling :Good night I always love you my student.
               KissKhem : Good night I always love you too My teacher.
   
               off line.........

                             ผมวางมือถือลงอีกที รู้สึกคอแห้งอยากดื่มน้ำ ผมเลยลุกขึ้นเดินออกไปผมเปิดประตูเบาๆเพราะคิดว่าพวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้มันอาจจะหลับกันแล้วเดี๋ยวจะเสียงดังจนทำให้พวกมันตื่น แค่มานอนเป็นเพื่อนก็รบกวนมันสองคนแย่แล้วซึ่งปกติมันจะไปหาแฟนไปนั่งไปคุยกับแฟนที่เรียนคนละทีเป็นรุ่นพี่พวกมันรู้สึกว่าแฟนมันจะเรียนมหาวิทยาลัยแล้วด้วยนี้มาอยู่กับผมแฟนคงโกรธบ้างแหละ ผมแหง้มประตูเบาๆแต่ผมก็ต้องรีบปิดแบบเบาๆทันที
               
                              ผมเห็นไอ้อาร์ทมันกำลังจูบอยู่กับไอ้โจ!!! ที่นอนตะแคงอยู่ตรงด้านหน้าไอ้อาร์ทอีกที แค่เห็นเขาจูบกันแค่นั้น น้องผมก็ยังลุกขึ้นพรึบเลย

                              "อาร์ท...พอ..เชี้ยเดี๋ยวไอ้คริสมันก็เปิดประตูออกมาตกใจพอดี" โจมันดันไอ้อาร์ทให้หยุด ผมเลยไม่กล้าเปิดประตูออกไปเลยอะ

                              "เข้าห้องน้ำกันปะ"

                              "ไม่เอา"

                              "น่า..อยากอะ.."

                              "มาอยากบ้าอะไรตอนนี้..พอ..พอ..พอ.."

                              "ดูหนังโป้เข้าหน่อยมีอารมณ์นะมึงอะ"     

                              "คริสมันหลับแล้วมันปิดไฟในห้องแล้วเข้าห้องน้ำกัน" ไอ้อาร์ทมันชวนไอ้โจ้เข้าห้องน้ำ

                              "เอามาเปล่าถุงกับเจลนะ
                              "เอามาดิ..ไม่เคยขาดเพราะโอกาสมันมีไม่เยอะ" และมันสองคนก็พากันเข้าไปในห้องน้ำทันทีผมค่อยแง้มประตูออกตกลงไอ้สองตัวนี้ด้วยเหรอ แต่ที่สำคัญมันมีแฟนกันทั้งคู่นะ -o-

                      ผมรีบวิ่งแบบย่องๆเพื่อไม่ให้มีเสียงไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นก่อจะรีบวิ่งกลับเข้าห้องนอนทันทีไม่กล้าไปแอบฟังอะ พอเข้าห้องนอนได้ผมก็รีบกดล๊อกประตู อันที่จริงที่ผ่านมานะผมคลุกคลีกินนอนอยู่กับเกย์มาตลอดเลยไม่เคยรู้ตัวเลยด้วยซ้ำก็มันเล่นมีแฟนเป็นผู้หญิงทั้งนั้นหมดเลยนิจะดูออกได้ไง ผมรีบกระโดดขึ้นเตียงคุมหัวคุมโปงต้องนอนให้หลับ เพราะไอ้คู่นี้น่ากลัวที่สุดนะผมว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 13:42:32 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0


พิเศษ ปันปัน X โป้ง  ใช้เวลานานไปไหมอ่ะโป้ง NC 18+
 

 Part โป้ง VS ปันปัน

                 ผมเดินกลับบ้านพักนักเรียนพร้อมกับ ปันปัน ผมเดินไปดูไอ้คริสโตเฟอร์ที่บ้านพักครูเขม คริสโตเฟอร์มันหนีผมไปนอนที่นั้นก็เพราะว่าวันนี้ผมระงับความรู้สึกลึกๆในใจของผมกับไอ้คริสไม่ได้ทั้งที่ผมไม่ควรจะทำเพราะว่ามันไว้ใจในฐานะเพื่อนรักมันมากแต่ผมก็เกือบจะทำแบบนั้นกับเพื่อนที่รักของผมเอง

                 ที่จริงผมแอบไปหาคริสโตเฟอร์ที่บ้านพักนักเรียนตั้งใจแค่ไปดูอาการมันเห็นมันซึมตั้งแต่เรื่องของมันกับครูเขมถูกเปิดโปรง แต่ยิ่งผมเห็นอาการที่มันจะเป็นจะตายกับครูเขมแล้วผมกับทนไม่ได้ผมเกือบทำแบบนั้นกับคริสโตเฟอร์ไป ดีที่มี่นต่อยผมจนสติกลับคืนและจังหวะที่ปัน ปัน มันเข้ามาพอดี ผมเลยได้สารภาพมันไปตรงๆว่าผมเป็นเกย์และที่คบรุ่นพี่เป็นก็แค่บังหน้าส่วนแฟนผมในะเขาเป็นเลสเบี้ยนเขาก็คบผมบังหน้าเช่นกัน เฮ้อ!!!! ชีวิตไม่ค่อยสมประกอบ

                 เมื่อก่อนจะมีผมกับคริสโตเฟอร์ไปไหนไปกันจนกระทั้งคริสโตเฟอร์ถูกพักการเรีบนและไอ้ปัน ปันก็ย้ายเข้ามาผมกับปันปันสนิทกันเร็วมาก เพราะว่ามันไม่ค่อยพูดไปไหนก็ไป ไม่ฮือไม่อือลากไปไหนก็ยอมไปทั้งนั้น และผมเองก็รู้ว่าปัน ปัน มันเป็นเกย์ วันที่พ่อมันยืนด่ามันให้มันเลิกเป็นแบบนี้ ผมไม่แปลกใจทำไมวันหยุดมันไม่กลับบ้านเลย ผมสงสารมันนะดูเตี่ยกับม๊าไม่ชอบมันเอาเอามากมาก ไม่อย่างนั้นจะทิ้งให้มามันเรียนไกลจากบ้านขนาดนี้เลยเหรอ

                 “หมับ” ผมจับมือปัน ปัน โดยที่คนข้างเดินกดมือถือเล่นไปด้วย ปัน ปัน แค่หันมามองหน้าผมโดยไม่พูดอะไร บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่าทำไมผมยังไม่เปิดใจให้ปัน ปัน มันทั้งปัน ปันมันรู้ใจผมทุกอย่างเรียกได้ว่ามองตาแล้วรู้ใจแทบจะไม่ต้องพูดอะไร

                 “จับมือได้แล้วเหรอ” เสียงคนข้างๆเอ่ยถามผมโดยไม่หันมามองหน้า

                 “อืม” แค่นั้นสั้นๆ

                 “หึๆ”เสียงหัวเราะในลำคอของคนเดินเคียงข้าง

                 “ใช้เวลานานเนอะ”
               
                 “แค่ปีครึ้งเองไม่นานหรอก”

                 “ปีครึ้งนี้นะไม่นาน นึกว่าจะรอให้กูวางยาและจับทำเมีย”

                 “หึๆ แน่ใจเหรอว่า...ว่าจะยอมให้กดนะ..เดี๋ยวรู้ว่าใครกดใคร” ผมพูด ตอนนี้เดินมาถึงบ้านพักแล้วผมไขกุลแจเข้าบ้านพัก ทีนที่ผมปิดประตูลง

                 “หมับ” ปันป้น มันกอดผมจากด้านหลัง

                 “ถ้าอย่างนั้นโป้งก็รู้ดิว่าปันปันเป็นเกย์”

                 “รู้นานแล้วแหละ “ ผมพูดไป

                 "กูแอบได้ยินตอนเตี่ยมึงมาหาและเขายืนด่ามึงอะ..ที่ให้มึงเลิกเป็นเกย์!!" ผมพูดไอ้ปัน ปันมันก้มหน้าลง วันนั้นผมโคตรสงสารมันเลยอะ

                 “ทำไมต้องทำเป็นรังเกียจเกย์ด้วยละ..กูโคตรเครียดเลยนะโป้ง..กูกลัวมึงไม่อยู่กับกู...กูกลัวไปทุกอย่างเลยนะรู้ไหม..ไอ้บ้า!! “ แต่ตอนท้ายมันด่าผมทำไมเนี๊๊ยะ
               
                 “เวลามึงมานอนกับกูมึงลวนลามทั้งคืน แบบนั้นถ้ากูไม่เป็นนี้มึงคงกระเด็นออกไปตั้งแต่คืนแรกแล้วปันปัน ” ผมพูดขณะที่ผมกำลังถอดนาฬิกาข้อมือออกสายชำเลืองไปมองคนที่ยืนหน้าทำหน้าแดงเพราะผมรับรู้การกระทำของมันตลอดถ้าผมไม่ใช่มันคงโดนเตะไปแล้ว
 
                 “และ..กูพยายามอยากจะมีทางเลือกอื่น” ผมพูดโดยยืนหันหลังให้ ปันปัน

                 "พยายามเลิกนะเหรอ..เกย์นะไม่ใช่ริสซี่จะได้เลิกเป็นได้.." ผมสะบัดหน้าไปมองไอ้ที่ยืนทำตาแป๋ว!!

                 “และที่โป่งอยากเลิกเพราะไอ้คริสมันเคยบอกว่าไม่เป็นด้วยใช่มั้ย” ไอ้ปันปัน มันถามผม ผมนิ่งเงียบ

                 “โป้งรักคริสมากเลยใช่ไหม” ปันปัน มันถามผม ผมหั่นหลังให้พร้อมถอนหายใจยาวๆเป็นคำตอบ ผมรู้ตลอดปีครึ้งมันดีกับผมแค่ไหน มันพยายามเข้ามาแทนที่คริสโตเฟอร์มากแค่ไหน ผมเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดอะไรทิ้งให้ ปีน ปัน ยืนอยู่กลางห้อง ผมปิดประตูห้องน้ำลง ไอ้อาร์ทนะมันบอกผมตลอดแหละว่าไอ้ปัน ปัน มันรักผม
               
                 “ไม่อาบน้ำก่อนนอนหรือไง..เร็วเลย..มาทำหน้าที่ถูหลัง” ผมเปิดประตูห้องน้ำบอกคนที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงกลางบ้านพัก ผมถอดเสื้อผ้ารอในห้องน้ำจนปัน ปัน มันเข้ามา

                 “โป้งถ้าอย่างนั้นมึงก็รู้นะซิว่ากูคิดยังไงกับมึงอะ”

                 “แล้วคิดยังไงละ” ผมกันมายืนตรงหน้าไอ้ไอ้ปันปัน ยืนกอดอกมอง
               
                 “แค่สนุกเพราะอยากล้อเล่นกับความรู้สึกแค่นั้น.หรือว่าไง” ผมถามคนตรงหน้า ผมถูกสอนมาให้โตเกินตัวโดยพ่อของผม พ่อผมเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มีบริษัทรับเหมาเป็นของตัวเองในช่วงปิดเทอมผมจะต้องกลับไปช่วยพ่ออยู่เสมอ

                 “ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อยนะโป้ง”

                 "ไม่จริงอะมึงแกล้งให้กูต้องเข้ามาช่วยตัวเองหลายครั้งแล้วนะ.." ผมพูดเลิกคิ้วมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าเขินผม ผมชอบเวลามันเขินนี่แหละ

                 "ชอบเล่นกับรู้สึกคนอื่นแบบนี้นักหรือไง"ผมถามปันปัน

                 "ไม่ได้ล้อเล่นกับใครทุกคน..ไม่เคยอะ..เห็นกูเป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดแต่กูก็ไม่เคยนะโว้ย...เออ..ก็..ก็มี..แอบมองหน้าตาดีบ้างแต่กูไม่เคยไปทำแบบนั้นนะกับใครจริงๆ"ปัน ปันมันพูด

                 "หึ?” ผมเลิกคิ้วมอง

                 “จริงๆแค่มอง ไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร...ทำกับมึงคนเดียว” ปัน ปัน มันก้มหน้าลงมันเขินผมใหญ่เลย

                 "กูแรดเงียบ" คนตรงหน้าผมพูด

                 "หึ ๆ ต่อไปห้ามแรด..เข้าใจไหม..และห้ามไปทำแบบนี้กับใคร..ไม่ว่ากับไอ้อาร์ทหรือว่าไอ้โจ้..ห้าม" ผมพูดมันเงยหน้ามองผม

                 "มึงเห็นได้ไงอะ"

                 "เห็นดีผู้ชายที่ไหนเขาไล่จับ...ตรงนั้นกันละดีนะที่สองตัวนั้นมันไม่เตะมึงเอาละ" ผมพูด

                 “ถอดเสื้อผ้าซิจะได้อาบน้ำ หรือว่าจะอาบทั้งชุดละ” ผมถามคนตรงหน้า

                 “หึ? “

                 “ถอดเสื้อผ้าออก..ที่แบบนี้ทำป๊อด...ที่ต่อหน้าพวกไอ้อาร์ททำปากเก่ง”

                 “รู้นะว่าพูดอะไรไว้นะ”

                 “ไอ้เชี้ยอาร์ทแม่งไหนบอกไม่พูดไงวะ” ปันปันหันไปพูดข้างๆ

                 “หมับ” ผมจับชายเสื้อค่อยเลิกมันขึ้นช้าๆ ผมคิดไว้อยู่แล้วเชียวตั้งแต่เห็นหน้าวันแรกที่เดินเข้าห้องเรียนผิวพรรณหน้าตามันผิดแปลกจากผู้ชายทั่วไป ตอนนี้เสื้อกล้ามกำลังถูกถอดออกไปทางศรีษะ ในกำลังเผยให้เห็นผิวเนียนๆ ปัน ปัน มั้นเป็นผู้ชายตัวเล็กที่คล้องแคล้วว่องไวจึงได้ตำแหน่งPoint Guard (PG) ไปโดยปริยาย

                 ทันทีที่ผมถอดออกไปเสื้อกล้ามบาสของปันปันออกไป ร่างบางที่โดนถอดเสื้อออกไปก็รีบมือขึ้นมากอดอกปิดสองจุดนั่นอย่างเอียงอายเอาแต่ก้มหน้ามองพวงของผม

                 “ปกติเอาแต่แอบมองวันนี้เห็นเต็มๆตาเลยดิ”

                 “......”

                 “รู้ได้ไงวะ” เงยหน้าขึ้นมามองผม T_T

                 “รู้แล้วกันนะ"

                 "และเวลานอนนี้ก็กุมไข่กูไว้เป็นตัวประกันจนช้ำหมดแล้วเนี๊ยะ..มึงนี้โรคจิตนะเนี๊ยะ" ผมพูดและจับขอบกางเกงบอลจะดึงลงให้

                 "หมับ" มือที่จับรั้งมือผมไว้ ปัน ปันเงยนหน้าขึ้นมามองหน้าผม

                 "โป้งแน่ใจแล้วเหรอที่จะทำแบบนั้น...กับ...เรา.." ปันปันถามผม ผมก็เลยต้องปล่อยมือและเปลี่ยนไปเป็นยืดตัวตรงยกมือขึ้นช้อนเข้าที่ใบหน้าของปัน ปันก่อนจะประกบริมฝีปากครอบริมฝีปากบางๆ ริมฝีปากไอ้ปัน ปัน มันบางและเล็กมากไม่เหมือนริมฝีปากผู้ชายทั่วไปสักเท่าไหร่ ปัน ปัน เผยอปากเล็กน้อยให้ผมสอดแทรกลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหวาน

                 "อ่าห์" เสียงครางเบาๆมาจากคนที่ถูกผมจูบ

                 "ปัน ปัน กูพยายามรักมึงนะแต่มันยังไม่เต็มร้อยดีวะ" ผมพูดตรงหลังจากที่ผมถอนริมฝีปากตัวเองออก

                 "แล้วจะรักหรือเปล่า" ปัน ปันถามผม ผมพยักหน้า

                 "งั้นก็..ไม่รอนะ...เพราะว่ากูรักมึงแล้วนะโป้ง...ให้กูรักล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน"

                 "สักวันมันคงตามทันใช่ปะ" ปัน ปันมันถามผม มุมปากผมกระตุ๊กขึ้นพร้อมร้อยยิ้ม ผมก้มมองปันปันมันถอดกางเกงของมันเอง

                 "ฮึก!!" ผมก้มลงมองต้องอดขำไม่ได้

                 "ขำอะไร"

                 "ทำไมเล็กจังวะ"

                 "ไอ้เขี้ย...กูใส่กลับเหมือนเดิมแล้ว" ปันมันทำท่าจะดึงกางเกงกลับ

                 "ไม่เป็นไรเพราะว่าคงไม่ได้ใช้หรอก"ผมพูด

                 "เอาเปรียบวะ"T_T

                 "มันเล็กโดนไปเสียความรู้สึก...แต่ตอนนี้รีบอาบน้ำดิจะได้ไปต่อกันที่เตียง"

                 "ไม่ทำในนี้เหรอ..เคยดูในAV ในห้องน้ำฟินดีวะ.."

                 "มึงเคยเหรอ"

                 "ไม่เคยอะ..ลองดู...แต่อย่าทำกูเจ็บนะ...กูครั้งแรก" ไอ้ปันปันพูดยืนปิดเอียงอายด้วย

                 "เห็นกูแบบนี้นะ...ยางอายกูมีเยอะนะโว้ย..และเห็นกูแรดแต่แรดอย่างมีระดับ..กูรักนวลสงวนตัวมาตลอดน่า!!" มันพูดแบบนี้ผมควรจะจับกมันกดลงไหมละ

                 "เออๆ..มาดิอาบน้ำดึกแล้ว..รีบทำจะได้รีบนอนหรือจะไม่ทำ"

                 "ทำ!!"

                 "แรดอย่างมีระดับ!!" ผมสะบัดหน้าหันไปมองหน้า ปันปัน ผมหมุดเปิดก๊อกน้ำ น้ำที่ฝักบัวก็ไหล่ลงมาผมดึงร่างบางเข้ามายืนตรงหน้าส่วนสูงมันเตี้ยกว่าผมหน่อยผมสุงเท่าๆกับไอ้คริสโตเฟอร์

                 "หันหลังซิ...สิวหายแล้วนิ..เหลือแค่ไม่กี่เม็ดเอง" ผมพูดเอาสบู่ถูหลังให้

                 "ยังไม่หายเลยบอกให้แม่ส่งสบู่มให้อยู่เนี๊๊ยะ " ปันปันพูดเอี้ยวตัวมาพูดกับผม ผมใช่มือแตะที่ตรงแผ่นหลังคนร่างบางเบาๆ ชอบเปิดหลังให้ผมทายาให้ประจำ ตั้งแต่มันเริ่มขึ้นจนจะหายแล้วเนี๊ยะ และผมก็ค่อยๆหมุนปันปันหันมาหาผม ร่างบางเงยหน้ามองหน้าผม ผมก็ส่งสบู่ให้ พอรับไปสบู่หล่นจากมือ

         "เก็บสบู่ก่อนนะ" ปัน ปัน โน้มตัวลงเก็บสบู่ ผมรู้เลยว่ามันอ่อยผม แถบอ่อยประจำด้วย

          "ทำท่าเก็บสบู่อ่อยกูอีกแล้วไอ้ปันปัน " ปันปันมันก็เอาสบู่นะมาถูตามตัวผมไปด้วย ระหว่างที่ก้อนสบูถูไถไปกายกำยำ ผมก็ใช้มือช้อนใบหน้าเล็กๆนั้นเข้ามาแลประกอบปากจูบ ปันปัน มันทำตามผมได้ดีมากเราแลกลิ้นกันพัลวันเลย แลผมก็ไล่จูบจั้งแต่แผ่นอกเล็กๆแบนๆไล่ลงไปจนถึงหน้าท้อง

           "อืมมม..อืมม..อืมม"เสียงครางเบาๆของที่ยืนบิดไปมา

            "อ่าห์....โป้ง...โป้ง.." เรียกชื่อผมใหญ่เลยนะทันทีที่ผมครอบแกนกายของปัน ปัน เล็กกระทัดรัดดีจริงๆ ปันปันถึงกับเด้งสู้ปากผมใหญ่เลย

           "โป้ง ..ปัน ปันชอบอ่าห์"

           "ชอบก็ช่วยยืนเฉยๆได้ไหมปัน ปัน" ผมถอดปากบอกคนที่ยืนเด้งหน้าเด้งหลังผมใช้ปากอยู่พักหนึ่งก่อนจะดีดตัวขึ้นมา หยักเพยอให้ลงไปทำให้ผมบ้างซิ ปัน ปันก็รีมหมุดลงไปทำให้ราวกับว่าอยากทำมานานแล้ว

          "อ่าห์..ซี้ด..ปัน ปัน"ผมครวญครางออกมาด้วยความรู้สึกดี ปันปันมันทำให้ผมราวกับกำลังกินไอติมยังไงยังงั้นเลย

           "โอ้วว.ปัน...ปัน..ซี้ดดดด" เสียงซี้ดปากยาวๆของผม ปัน ปันปลุกอารมณ์ผมซะกระเจิงไปหมด ถามว่าเคยมีอะไรกับผู้ชายใหม่เคยพวกทีมาแข่งรถมันจะเอาเด็กมันมาเป็นเดิมพันและผมก็ได้ทั้งหญิงและชายนั้นแหละ ดังนั้นมันทำให้ประสบการณ์กับผู้ชายพอจะมีบ้าง ผมดันร่างปันขึ้นมาและพลิกให้ปัน ปันไปยืนผิงกำแพง

         "แล้วเราจะทำยังไงกันอะ" ปัน ปันมันถามผม

          "เดี๋ยวก็รู้ " ผมพูดและยกเท้าปันปันขึ้นมาข้างหนึ่ง

           "เอาแขนคล้องคอไว้ซิปันปัน"

            "ห๊ะ"

             "เอาแขนมาคล้องคอโป้งไว้" ผมพูดและจับแขนปัน ปันไปคล้องต้นคอผมไว้

              "ชอบให้แทนว่าโป้งอะ" ปัน ปันพูดก่อนจะยกแขนพาดคล้องคอผมไว้ ผมหยิบสบูเด็กมาทูมือไว้และทำการเบิกทางให้ก่อน

               "โอ้ยย..โป้ง" ปันปันสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว

                "เจ็บหรือเปล่า"ผมกระซิบถามปันปัน

                "เจ็บอะแต่..จะอดทน" ปันปันกระซิบตอบผม

                "เก่งมาก" ผมกระซิบกลับก่อนจะเพิ่มเป็น 2 นิ้ว"

                "อู้ยย..." ร่างบางร้องครางออกมาตามการขยับของนิ้วมือและผมก็เพิ่มเป็นสามนิ้ว

                 "อ่าห์ ..โป้งง..แน่นอะ"

                  "ยังไม่เจอของจริงเลยนะ..ปันปัน" ผมกระซิบ

                  "อยากเจอยังงะ" ผมกระซิบเพื่อปลุกอารมณ์ปัน พร้อมกับไซ้ซอกคอขาวๆ มือก็เบิกทางไปด้วยผมเริ่มรู้สึกว่าปัน ปันเริ่มโยกย้ายส่ายสะโพกนั้นแปลว่า ปัน ปันกำลังพร้อมไปกับผม ผมหยิบสบูทีเป็นเศษมาและทางลงที่ช่องทางรักของปัน ปันจะได้สอดใส่ได้ง่ายขึ้น ท่าทีจะใช้นี้ต้องใช้กำลังขาเยอะพอสมควร มันแรกมันชวนผมเล่นท่ายากเลยอะ

                  "คล้องคอโป้งไว้นะปันปัน" ผมบอกปุ๊ป ปัน ปันรีบทำตามที่บอกทันทีและผมก็ยกสะโพกปัน ปันให้ลอยดันปัน ปันให้หลังติดผนังห้องน้ำไว้

                  "เหมือนจะยากเลยอะโป้ง"

                  "มันยากตั้งแต่ชวนเล่นในห้องน้ำแล้วแหละ ...ที่จริงนายควรจะเริ่มจะท่าเบสิคก่อนนะ" ผมพูด +_+

                  "เขาชวนเล่นผิดที่ใช่ป่ะ" O_O

                 "ถูก!..แต่จะพยายาม..เคยเล่นแต่กับสาวๆไม่เคยเล่นกับผู้ชายท่านี้" ผมพูดแต่ไม่ยากสำหรับผมหรอก ผมกำลังจ่อช่องทางรักแล้วและค่อยๆดัน

                  "โอ้ยย..โป้งง...เจ็บ....เจ็บอะ.."

                   "อดทนหน่อยซิ...อยากมีสามีต้องอดทน" ผมพูดบอกปันปัน

                   "อ่าห์...ทำไม..อ่าห์..ในหนังมันดูเหมือน..อู้ยย..ไม่เจ็บอะ..อู้ยย.โป้งงงง"

                    "อะ..นี้เขาจะมีสามีแล้วเหรอ? " ผมเงยหน้ามองเข้าไปจะครึ้งแล้วนะยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ

                      "อืมม...อ๊าก...พล้วด"มันเข้ายากจริงๆ ผมต้องออกแรงดันจนมันเข้าไปมิดด้าม

                       "อ๊ากกกก..โป้งง" ปันร้องลั่น ผมเงยหน้ามองอย่าร้องดัง ปัน ปันเลยเอามือปิดปากตัวเอง ผมก็รอให้มันได้ทีสักพักจนเริ่มคุ้นเคยก็ค่อยๆขยับ เบาๆ เบาๆ

                        "อ่าห์..โป้ง...ซี้ด....เสียว!" ผมยิ้มอย่างพอใจคนที่ผมกำลังร่วมสนุกด้วยคราวเสียงกระเซ่าออกมาแสดงว่ากำลังต้องการ ผมก็เร่งขึ้นมาอีก และเร่งเร็วขึ้น เร็วขึ้น ปัน ปันก็กอดคอผมแน่น ผมเริ่มจะหนักเลยลดตัวลงให้ปัน ปัน ยืน และยกขาปัน ปันขึ้นมาพาดเอวและใส่ไม่ยั้งเลย ปัน ปันร้องเสียงดัง มือก็จัดการของตัวเองไปด้วยมือของตัวเองส่วนผมก็ยันผนังห้องน้ำไว้และเปลี่ยนมาท่าที่ชอบยั่วผมเหลือเกิน ท่าเก็บสบู ผมจับปัน ปันพลิกมาอยู่ข้างหน้าและกดให้ปัน ปันโน้มตัวลงไปและใส่ที่ด้านหลังอีกทีรัวไม่ยั้งเช่นกัน

                    "อ๊ะ...อ๊ะ..เป็นไง..ปัน.ปัน.ห๊ะ.."

                    "อู้ย.โป้ง...อู้ยย...อะ..อะ...อะ..อะ ..อะ..."

                    "ปัน..ปัน ..ไม่ไหวแล้ว..โป้งออกแล้วนะ..."ผมพูด ผมเอื้อมมือไปจับไหล่ปันและซอยรัวกว่าเดิมจนผมรู้สึกว่าของเหลวทะลักออกมเหมือนภูเขาไฟที่ปะทุพ่นลาวาออกมา ผมก็ค่อยช้าๆลง ช้าลง จนมันผมรู้สึกว่าน้ำรักของผมมันน่าจะออกมาหมดแล้ว และผมก็จูบปันปัน

                      "ขอบคุณนะครับ" ผมกระซิบบอกก่อนที่จะปล่อยขาทั้งสองข้างของปันปันลงแตะพื้น เพื่อให้ปันปันยืน

                      "พูดเพราะก็เป็นเนอะ" ปันปัน ทำตาหยี่ใส่ผม

                      "ชอบเหรอ" ผมก็หรี่ตาถามคนตรงหน้า

                        "ชอบดิ..รู้ไหมว่าอิจฉาเวลาโป้งพูดกับสาวๆพูดเพราะๆกูโคตรอยากไปเกิดใหม่เลยอะ..จะได้เป็นผู้หญิง T_T" ปันปันเอียงคอหันมาตอบผม

                        "ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมไม่ต้องไปเกิดใหม่ และจนภูมิใจเถออะที่มึงเกิดเป็นชาย..เพราะจริงๆกูไม่ได้ชอบผู้หญิง..คบแก้ขัดและเขาให้กู กูก็เอาเพราะไม่ชอบปฏิเสธของฟรี"  ผมพูด มันรีบยิ้มตาหยีทันที และผมก็หันไปเปิดก๊อกน้ำเพื่อชำระร่างตัวผมและปันปัน
     
                          ผมสองคนก็อาบน้ำล้างตัวกันก่อนจะออกมาสวมเสื้อผ้า ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนอน ปัน ปันมันต้องทาครีมบำรุงหน้าก่อนะนอนผมนั่งมองและคนร่างเล็กก็เดินมาทิ้งตัวลงนอนข้างๆผม ผมพลิกตัวมานอนตะแคง

                         "ปันปัน ถ้าพ่อมึงรู้ว่ามึงไม่ได้ดีขึ้นเลยละวะเขาไม่ด่ามึงเหรอวะปัน ปัน" ผมถามปัน ปัน

                         "หมับ "ปันปัน มันเข้ามากอดผม

                        "ไม่รู้อะโป้งแต่กูทำไม่ได้อะ..ทำให้ตัวเป็นปกติเหมือนคนอื่นทำไม่ได้"

                         "ถ้าโป้งอายไม่ต้องบอกใครก็ได้นะ" ปัน ปันพูด

                         "ทำไมคิดแบบนั้นอะปัน ปัน...ถ้าอายคงไม่ทำแบบเมื่อกี้หรอกนะ..นี่ไม่ใช่พวกทำเพราะนึกสนุกนะ" ผมพูดปัน ปันมันเงยหน้ามองผม

                         "โป้ง ไหนมึงบอกว่าจะดู fifthy shades of gray ไง วันนั้นเอามาก็ไม่ได้ดูอะ...กูอุตสาห์ตั้งตารอดู..รอกับโป้งด้วยนะ"

                        "อยากดูเหรอถ้าดูแล้วมีอารมณ์ต้องให้กดอีกรอบนะ" ผมพูด ไอ้ปันปันเงยหน้ามองทำหน้าเบ้เล็กน้อยคงยังเจ็บอยู่ละซิ ผมเลยลุกขึ้นไปหยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิดแผ่นหนังที่ปันปันมันอยากดูมาเปิดดู

                       "โป้งรักปันปันบ้างไหมวะ...ถามจริงๆเถอะ"

                       "ก็รู้สึกดีอะ.....เออ...."ผมทำท่าจะอธิบายแต่ปันปัน มันโน้มคอผมและประกบจูบผมซะก่อน มันดูดดื่มมันแตกต่างจากจูบสาวๆที่ผมได้สัมผัสมา

                        "รู้สึกดีปะว่ะ" ปันปันถามผม  ผมพยักหน้าเบาๆและปันปันมันก็หันไปดูหนังต่อ ผมสวมกอดคนตรงที่นอนตะแคงอยู่วันนี้มันรู้สึกดีกว่าทุกวัน เพราะว่าผมกอดคนนี้ตอบ ที่ผ่านที่เอามันมานอนเป็นเพื่อนแทนไอ้คริสโตเฟอร์นะปันปัน มันมักจะเป็นฝ่ายกอดผมจากด้านหลังเสมอ

                       "โป้ง ปันปัน รักโป้งนะ...ไม่อยากจะเชื่อเลยอะว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง"

                        "จุดนี้จุดอะไร" ผมถามปันปัน

                        "ที่ได้เป็นเมียโป้ง" สีหน้ามันบ่งบอกได้ว่า นี้คือความฝันอันสูงสุดของมัน

                        "กูดีใจแทนเตี่ยกับม๊ามึงจริงๆว่ะปันปัน ....นี้อุดมคิตมึงเลยใช่ไหมวะ...อยากเป็นเมียเนี๊ยะ" ผมหันไปถามไอ้ปันปัน มันไม่มีสำนึกมันกลับยิ้มและพยักหน้า

                         "ใช่ตั้งแต่ตอนที่ครูให้กูไปยืนหน้าห้องแล้ววันแรกที่แนะนำตัวอะพอกูเห็นมึงนะ.....อยากได้ทำสามีวะ"

                          ".............." หมดคำพูดเลยผม

                      "ปันปัน กูว่ามึงเก็บหนังไว้ดูพรุ่งนี้เถอะ..ดึกแล้วเดี๋ยวมึงพากูตื่นสายจนได้"ผมรีบพูดกลัวจับมันกดอีกรอบปันปันกดปิดโน๊ตบุคและลุกไปกดปิดไฟก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอนเตียงที่ปกติที่นอนได้คนเดียวแต่มันไม่คับแคบไปเลยสำหรับผมสองคนปันปันมาซุกหน้าลงที่อกผมบ้างครั้งมันก็เหมือนเด็กน้อยที่โหยหาความรักความเข้าใจ วันนั้นที่ผมแอบได้ยินเตี่ยยืนด่ามันโคตรสงสารมันเลยแต่ผมก็ไม่อยากเปิดใจ ผมพยายามที่เดินออกจากเส้นทางนี้แต่มันก็ทำไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็เป็นแม่งไปเลยแล้วกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 17:23:28 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0


      พิเศษ โป้ง VS ปันปัน    เพื่อนกันต้องช่วยกัน(ครึ้งแรก)

            ผมตื่นแต่เช้าเหมือนทุกวันแต่ทะว่าวันนี้มันดีกว่าเป็นไหนไหน  เป็นเช้าที่สดชื้นไม่จืดชืดเหมือนทุกวันของผม ก็เพราะว่าชีวิตที่แห้งเหียวของโป้งกำลังมันเปลี่ยนไป ผมออกมาจากห้องน้ำได้กลิ่นอะไรหอมๆ ปันปันมันยืนทำแซนวิสอยู่มันไปหาเครื่องทำแซนวิสมาจากไหนก็ไม่รู้ และผมมองไปรอบๆ ไม่เห็นคริสโตเฟอร์นี้ก็ออกไปแต่เช้ากว่าผมอีกนะ มันคงเดินไปรับครูเขมที่หน้าบ้านเช่นทุกวัน ผมนะเคยแอบตามไปดูมันนะ ตอนนั้นก็เจ็บใจที่ทำไมมันต้องทำแบบนี้ทั้งที่มันบอกว่ามันไม่ใช่แบบผม ตอนนี้ผมคงปล่อยมันไปหาคนที่มันรักและรักมันได้แล้ว ส่วนผมก็...
 
           "โป้ง...หิวปะ" ผมเดินไปดูขณะที่กำลังติดกระดุม ปันปัน มันหันมาช่วยผมติดกระดุมเสื้อนักเรียนให้ผม
 
           "อยากทำให้แบบนี้ตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้า" ปันปันพูดไปมือก็ติดกระดุมเสื้อนักเรียนผมไปด้วย
 
           "ทำไมอะ" ผมเอียงคอถามคนตรงหน้า
 
           "กลัวถูกเตะ!!" T_T
 
           "ที่อย่างนี้ละทำเป็นกลัว...ที่ตอนกูนอนไอ้ใต้เข็มขัดกูละคลึงมันมือมึงเลยนะ" ผมพูดและยืนนิ่วให้คนที่ติดกระดุมให้ผมทำหน้าที่นั้นไป
 
           "รู้ว่าถ้าโป้งหลับนะตื่นยาก!!..และถ้าจับได้ ปันปันก็แกล้งบอกว่านอนละเมอก็ได้นิ ฮาๆ" ดูคนตรงหน้าผมพูดทำตาปริ้งๆ
 
           "นี้ทำซะตั้งเยอะไปให้ใครกิน..จะไปแจกหนุ่มที่ไหนเนี๊ยะ!" ผมเดินมาดูแซนวิสที่ปันปันทำเอาไว้ มันทำซะเยอะเชียว
 
           "หึงเหรอ" ทำตาเป็นประกายเชียว ไม่น่าเปิดโอกาสให้มันเลยปันปัน
 
           "ก็มึงเป็นเมียกู..บอกแล้วไงให้เลิกแรด!"
 
           "รู้แล้ว..ว่ามีสามีแล้ว.แต่ทำไปเพื่อให้อาร์ทกับไอ้โจมันและก็คริสแค่นี้เอง ไม่ได้ทำให้ไปให้หนุ่มที่ไหนสักหน่อย" ผมหยักไหล่ตอนหันหลังแอบอมยิ้มเล็กน้อยและเดินไปหยิบเข็มขัดมาคาด ผมรู้สึกว่ามีมือมาจับชายเสื้อผมหยัดลงไปในกางเกงด้านหลังให้ผม ผมหันไปมองปันปันนั้นแหละ
 
           "อยากทำให้..." ปันปันพูดเบาๆ ผมหันมายืน
 
           "ก็ทำดิ..."ผมหยุดนิ่งสักพักก่อนจะพูดออกไปมันรู้สึกดีจังไงบอกไม่ถูก
 
           "โป้ง...ปันปัน สงสารคริสมันอะ...มันรักครูเขมมาเลยนะ..นี่ไม่ได้พูดตอกย้ำมึงนะ" ปันปันพูดทั้งที่ก้มหน้าก้มตาแต่งตัวผม โดยเฉพาะกางเกงนี้ดูแลนานไปไหม จับยัดซ้ายยัดขวาอยู่นั้นเอง
 
           "ไม่ได้ตอกย้ำเลยปันปัน...เต็มๆเลย .." ผมพูดโดยไม่ได้มองหน้า
 
           "โป้งอะ!..." ปันปัน แอบเหล่ขึ้นบนมองผม
 
           "แต่มันก็คือความจริง..."ผมพูดและก้มลงน้องคนที่ทำตาเหมือนลูกแมว
 
           "โป้งควรจะดีใจที่คริสมีคนที่รักและหวังดีกับคริสมากขนาดนั้นนะ" ปันปันยืนตัวขึ้นและยืนมองผม
 
           "และโป้งก็มีปันปันนะที่รักและหวังดีอยู่แล้วทั้งคนหรือว่าไม่จริงง่ะ"ปันปันพูดผมเงยหน้าขึ้นจริงมันไม่เคยทิ้งผมเลยอยู่ข้างๆผมตลอดแม้กระทั้งเวลาไปกับแฟนมันคงเจ็บปวดเหมือนผมที่เคยมองเห็นไอ้คริสมันมีคนนั้นคนนี้เข้ามาแต่ที่เจ็บที่สุดคือตอนที่ครูเขมเข้ามานี้แหละ
 
           "พอแล้วน้ำตาจะไหล..ไปเรียน.."ผมรีบพูดก่อนจะเดินไปหยิบเป้มาสะพายและปันปันก็เช่นกัน ผมเดินลงมาชั้นล่าง
 
           "โป้งถ้าพ่อไม่ให้ปันปันเรียน...ปันปันไปอยู่กับโป้งได้ไหม...ปันปันจะหางานทำ...เพราะว่าพ่อเคยพูดไว้ว่าถ้าปันปันไม่เลิกเป็นเกย์เขาจะไม่ยอมรับปันปันกลับไปอยู่ที่บ้าน" ปันปันพูด ผมหันมามองหน้าปันปัน ไม่ได้พูดอะไรนอกจากจับมือมันคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดผมว่านะ
 
           ตื้ด!! เสียงข้อความเข้ามือถือไอ้ปันปัน
 
           "น้องกี้นัดไปคุยที่หลังโรงเรียนอีกแล้วอ่ะ"
 
           "ไปไหมละ" ผมถามและหันหน้าไปมองทางอื่น
 
           "หึงเหรอ"
 
           ".........." ไม่ตอบโหมดเงียบคิดเอาเองดิ กว่ากูหึงไหม
 
           "ไม่ไปนะ" ปันปันถามผม
 
           "คิดเองดิ....มีผัวแล้วนะ" ผมพูดแต่ปันปันมันก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตอบไปผมชะเง้อคอมองว่ามันพิมพ์ว่าอะไร
 
           "พี่ไปไม่ได้ครับน้องกี้ ผัวพี่เขาไม่ให้ไปครับ..พี่ขอโทษนะครับพี่มีผัวแล้ว!!" มึงปฏิเสธเขาตรงไปมั้ย! ครับไอ้ปันปัน! ผมละเชื่อมันเลย  และมันยืนข้างผมไงผมเลยได้อ่านที่มันพิมพ์ส่งไปทุกถ้อยคำเลย แอบส่ายหัวให้เมียตัวเอง
 
           "fu** you " ที่น้องกี้ส่งกลับมาให้มัน ปันปันเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผม
 
           "เขาชมปันปันด้วยอะโป้ง!" >///< มันทำหน้าเขินแบบไร้เดียงสาที่สุด
 
           "ชมบ้านมึงดิ!!..นี่เขาด่าเว้ย!!!" ผมเดินมาถึงโต๊ะที่นั่งประจำ เห็นไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้มันนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นไอไฟน ผมนั่งลงตรงข้ามมันสองคนแต่ทว่าไม่เห็นคริสโตเฟอร์นั่งอยู่ที่โต๊ะ
 
           "ไอ้อาร์ท ไอ้โจ แล้วไอคริสละ..เมื่อคืนมันหลับสบายดีไหมวะ"
 
           "สบายมาก.."มันตอบพร้อมเพียงกัน
 
           "มันหรือมึงสองคนที่หลับสบายวะ"ไอ้ปันปัน พูดมันสองคนเงยนห้าขึ้นมามองหน้าผม
 
           "อะนี้แซนวิชกูทำมาเพื่อ" ปันปันมันสาวแซนวิชตรงหน้าไอ้สองตัวมันก็หันไปมองหน้ากัน
 
           "มันชวนกินแซนวิชวะโจ!!!" ไอ้อาร์ทพูดและยิ้มแบบนี้ผมรู้ได้ทันทีว่ามันคิดทะลึ้งกันแน่ๆ แต่อีกคนหาได้รู้ไหม
 
           "ปันปันเก็บแซนวิชลงกระเป๋าไปและเอานันยางขึ้นมาวางแทน เพื่อมันจะอยากบริหารฟัน" ผมหันไปบอกไอ้ปันปัน มันก็ทำตาโตปากเป็นรูปตัวโอก่อนจะหยิบแซนวิชกลับคืน
 
           "อย่า!! ..แซวนิดแซวหน่อย...กินจร๊ากิน" ไอ้อาร์ทรีบดึงไว้ทันทีและหยิบไปกินกันคนละชิ้น
 
           "แล้วนี้มันไปไหนวะทำไมยังไม่มา" ผมถามไอ้สองตัวนั้น มันคงเข้าใจอยู่แล้วว่าผมหมายถึงคริสโตเฟอร์
 
           "มันกำลังออกมาแหละมันต้องเก็บที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยก่อน ตอนนี้มันเป็นแม่บ้านนี้หว่า"ไอ้โจพูด ไอ้คริสนี้นะเก็บที่นอน
 
           "กูไม่เชื่ออะ" ผมรีบแย้งเพราะว่ามันนี้นะ ไม่เคยเก็บอะไรเลย ผมนี้คอยเก็บให้มันตลอด ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ที่นอนก็เก็บให้เรียบร้อย
 
           "แม่บ้านแม่เรือนเลยแหละ...มันถวายตัวเป็นนางสนมคุณครูเขมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..เก็บทำสะอาดกิ๊ก!!" ผมกับไอ้ปันปัน ทำหน้าแปลกใจทันที
 
           "พูดง่ายว่าคริสโตเฟอร์กลายเป็น ปดิวรัดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฮาๆ " ไอ้อาร์ท
 
           "มันแปลว่าอะไรนะโจ" ไอ้อาร์ทมันพูดและยังหันไปถามโจ
 
            "ก็ แปลว่า ภรรยาผู้ซื่อสัตย์และภักดีต่อสามีไง" ไอ้โจ ผมหันหยักเพยอให้คนข้าง ดูทำตาปริ้งๆส่งมาให้ผมอยากเป็นหรือไง
 
           "นั้นไงเดินมาแล้วนั้นนะ" ไอ้อาร์ทมันพูดผมหันไปมอง คนที่เดินกดมือถือมาด้วย
 
           "คริส!!!!" ไอ้โจมันตะโกนเรียกคริสโตเฟอร์มันสะพายกระเป๋าเป้เดินมานั่ง มันมองไอ้โจกับอาร์ทและหันมามองผมกับปันปัน มันมองผมสี่คนสลับไปมา
 
           "เป็นอะไรของมึงคริส" ผมถามมันนี้มันยังหลอนผมอยู่หรือไง
 
           "คริสแซนวิชกูทำมาเผื่อวะ...กินแซนวิชกัน" ปันปัน มันเรียกคริสโตเฟอร์กินแซนวิส มันมองลงไปที่กองแซนซิสก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมกับไอ้ปันปัน และหันกลับไปมองไอ้อาร์ทและไอ้โจอีกอีก และนี่มันทำให้ผมรู้สึกแปลกกับสายตาของมันด้วย
 
           "แซนวิชไงครับคุณคริส" ไอ้อาร์ทมันโชว์แซนวิสให้คริสโตเฟอร์ดูมันก็ผง๊ะก่อนจะเพ็งมอง
 
           "ไม่เอาอะกูไปกินโจ๊กดีกว่า..กูไปซื้อก่อนนะ" มันลุกพล้วดชึ้นทันที  = O =
 
           "อ้าว! ปกติมึงชอบไม่ใช่เหรอวะแซนวิช" ผมถามไอ้คริสโตเฟอร์และชี้ไปทีแซนวิช มันก็มองและทำท่าขนรุกอีกด้วย
 
           "วันนี้ไม่กินอะใจวะ...พรุ่งนี้กูก็ไม่กิน...งดกินแซนวิชไม่มีกำหนด" ไอ้คริสโตเฟอร์พูดก่อนจะรีบเดินไปออกไปและไอ้สองตัวนี้ก็หันมามองหน้ากันหัวเราะกันผมว่ามันต้องพูดอะไรแน่ๆ ปันปันหันมาเลิกคิ้วสูงหันมามองผม และพยักหน้า
 
           "มึงพูดอะไรไอ้อาร์ท!!" ผมถลึงตาใส่ไอ้สองตัวที่นั่งข้ามผม
 
           "กูไม่ได้พูดอะไร" อาร์ทมันพูดและหันไปมองโจไอ้คนข้างๆ ดูมันยักคิ้วให้กันแบบนี้มีแน่ๆ
 
           "ปกติมันชอบแซนวิชจะตายไป" ไอ้ปันปันพูด
 
           "กูแแค่บอกว่ามึงสองคนอาจจะชวนมันไปกินแซนวิช รู้จักไหมแซนวิสนะ" ไอ้อาร์ทพูดผมว่าแล้วเชียวเรื่องทะลึ้งนี้ไม่มีใครเกินไอ้อาร์ทกับไอ้โจ
 
           “ฮาๆ “ ไอ้อาร์ทและไอ้โจมันหันมาแท๊กทีมแตะมือกันและขำท้องแข็งกันไป
 
           "ไอ้อาร์ท!!!" ผมอยากเตะมันวะ
 
           "มันคืออะไรอะโป้ง...ดูหน้าตาไอ้สองคนนี้ความหมายมันต้องหื่นเหมือนหน้ามันแน่ๆเลยวะ ...หน้าตามันบ่งบอก" ไอ้ปันปัน พูดและหน้าตาใสซื่อของมันที่มองผมตาแป้วมาก
 
           "อ้าว! ลูกปันปันครับ..พูดไม่เพราะนะครับว่าพี่สองคนหน้าตาหื่น" ไอ้อาร์ทมันพูด
 
           "เดี๋ยวค่อยบอก" ผมหันไปกระซิบ
 
           "ต้องไปบอกกันสองคนเหรอ" ปันปันหันมา ผมว่าไอ้สองคนนะไม่หื่นหรอกมึงนี้แหละหื่นผมคิดในใจ และไอ้สองคนตรงหน้าผมนี้ก็กระซิบกระซาบผมอีก ผมเลยหยิบหนังสือปาใส่มันเลย
 
           "จะว่าไปแซนวิชมึงอร่อยวะ...." ไอ้โจพูดและหันไปหยิบแซนวิสป้อนไอ้อาร์ทเพราะว่าไอ้นี้เอาแต่กดมือถือเล่น
 
           "โป้งเดี๋ยวมานะปันปันไปเอาของก่อนนะคิดว่าคงถึงวันนี้แหละจะได้ใช้กันวันนี้เลย!!" ปันปันบอกผม ผมพยักหน้าเพราะผมรู้ดีว่ามันจะไปเอาพัสดุที่มันบอกว่าแม่ส่งมาให้มัน
 
           "เซ็กส์ทอยเหรอ" ไอ้โจผมสะบัดหน้าไปมองหน้ามัน
 
           "ตุ๊กตาเทพหรือเปล่า"ไอ้อาร์ท
 
           "บ้ากูไม่ชอบของปลอม" ผมเงยหน้ามองคนที่พูด
 
           "มึงรีบไปเถอะปันปัน...มึงนี้ก็ไปบ้าจี๋ตามไอ้อาร์ทกับไอ้โจมัน...รีบไปจะได้รีบมาก่อนเข้าแถว" ผมรีบบอกปันปัน
 
           "ไอ้ปันปัน ...ฝากซื้อน้ำมาให้ขวดหนึ่งดิ"
           
           "อืมม" ปันปันพยักหน้า
 
           "โป้งละกินอะไรปะ...เอานมปะ..."
 
           "ก็ได้..เอามากล่องหนึ่ง..เอาตังโป้งไปดิ"
 
           "ไม่เป็นไรหรอกแค่นมกล่องเดียว...เดี๋ยวปันปันซื้อมาให้นะ" ผมพยักหน้าและปันปันก็เดินออกไป พอผมหันมา
 
           "เฮ้ย!! "ไอ้คู่นี้มันจ้องมองผมตานี้แถบจะถล้นออกมาจากเบ้าเลย
 
           "สารภาพมาเลยปกติมึงไม่เคยแทนชื่อตัวเองกัน..นอกจะ..เรียบร้อยกันไปแล้วไอ้โป้ง" ไอ้อาร์ทมันพูด ผมแอบคิดในใจ ผมไม่ร่าหลุดเลย ไม่ได้อยากจะปิดแต่เพราะว่าผมแสดงอาการรังเกียจไว้เยอะไง มันเลยเสียฟอร์มแต่นี่คงไม่ทันแล้ว
 
           "โป้ง...ไอ้ปันปันมันโคตรรักมึงนะ..มันไม่อยู่ห่างจากมึงเลยนะ..และกูโคตรสงสารมันเลยตอนมันมองมึงไปกับแฟนมึงนะแต่มันก็ยังคงจะอยู่กับมึงวะ" ไอ้โจพูด
 
           "มึงก็ใจร้ายกับมันมาตั้งนาน...แล้วนี้เมื่อคืนเรียบร้อยแล้วซิ" ไอ้อาร์ทมันแซวผม ผมนั่งเอนหลังผิงพนักไม่ได้ตอบอะไร จนกระทั้งไอ้คริสโตเฟอร์มันเดินกลับมาพร้อมกับชามโจ๊ก
 
           "เชิญนั่งครับพี่คริส" ไอ้โจมันลุกไปลากเก้าอี้แต่ไอ้คริสโตเฟอร์มันสะดุ้งกระโดดหนี
 
           "เป็นอะไรไปครับพี่คริส.." ไอ้อาร์ทมันถามไอ้คริส พอมันหันมาเจอไอ้สองตัวนี้มันก็ทำท่าตกใจอีก วันนี้มันแปลกๆนะผมว่า
 
           "ไม่มีอะไรกูแค่ตกใจสาด!! "
 
           "ไอ้ปันปัน ไปไหนอะ" คริสโตเฟอร์ถามผม
 
           "ไปเอาพัสดุม๊ามันส่งของมาให้มันนะ" ผมพูด ผมเห็นไอ้คริสโตเฟอร์มัน
 
           "อาร์ท ..ปวดเยี่ยววะไปห้องน้ำกันวะ"
 
           "อะไรวะ..เออๆ เร็วๆดิ" และไอ้อาร์ทมันก็ลุกไป ผมสังเกตุเห็นสายตาให้คริสโตเฟอร์มองไอ้อาร์ทกับไอ้โจแปลกๆ มันมองจนพวกมันเดินลับหายไปด้วย
 
           "คริส!!"
 
           "โว้ยย" มันร้องตกอกตกใจ
 
           "มึงเป็นอะไร..กูเห็นมึงมองไอ้อาร์ทกับไอ้โจแปลกๆนานแล้วนะมึง"ผมถามไอ้คริสโตเฟอร์
 
           "พูดมา!!" ผมบอกให้มันพูด
 
           "กูถามอะไรอย่างดิวะ...มันสองคน..เป็น..เป็นเกย์ไหมวะ..." ไอ้คริสถามผม ผมก็ส่ายหัวดิ ไม่เคยเห็นว่ามันจะมีอาการอะไร และก็เห็นมันเอาผู้หญิงปกติ จะว่าไปผมก็มีอะไรกับผู้หญิงนะ แต่ว่ามันไม่รู้สึกมีความสุขได้เท่ากับผมและไอ้ปันปันเลย
 
           "มึงเห็นอะไร" ผมถามไอ้คริสนิ่งๆ
 
           "กู..กู...” ไอ้คริสมันพูดและชะเง้อมองไอ้สองคนนั้น ผมโบ้ยมือไป อีกนานเพราะว่า ช่วงนี้นักเรียนชายรอเข้าห้องน้ำกันเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 17:29:35 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 พิเศษ โป้ง VS ปันปัน    เพื่อนกันต้องช่วยกันครึ้งหลัง
         

          “เมื่อคืนกูเห็นมันจูบกันและมันก็ชวนกันเข้าห้องน้ำอะไอ้โป้ง..." ไอ้โป้งพูด ผมก็ชี้หน้ามันทันที
 
           "กูเห็นมันแปลกๆมาอาทิตย์หนึ่งแล้ววะแต่กูคิดว่ากูคงคิดมากไปวะนี้มันถึงขั้นนั้นเลยเหรอวะ"ผมพูด
 
           "มึงกลัวมันเหรอวะมันคงไม่ปลั้มมึงหรอกเวลามึงไปเมามันยังไม่ปลั้มมึงเลย"ผมพูด
 
           "แต่มึงจะปลั้มกู" ไอ้คริสโตเฟอร์
 
           "กู...เชี้ยเอ้ย!!"นั้นยังไงวนกลับมาหาผมจนได้
 
           "ก็กู...ห้ามใจตัวเองไม่ได้คริสแต่กูคงไม่กล้าทำมึงแล้วแหละ" ผมพูดผมรู้สึกผิดกับมันมาก
 
           "ไอ้ปันปันมันชอบมึงอะมึงรู้ยังอะ" ไอ้คริสโตเฟอร์มันถามผม ผมพยักหน้า
 
           "กูโคตรดีใจที่มึงมีคนที่รักมึงนะโป้ง"คริสโตเฟอร์พูด
 
           "มันบอกพวกกูแต่มันไม่ให้พวกกูบอกมึงวะเพราะว่ามันกลัวถูกมึงเกลียดมัน" ไอ้คริสโตเฟอร์มันบอกผม
 
           "กูรู้นานแล้ว..ตั้งแต่วันที่เตี่ยมาหามันและด่าว่ามัน...มันน่าสงสารว่ะ..กูทำไม่ลงหรอกว่ะ" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           “แต่กู...ก็...กลัวมึงจะทิ้งกูออกจากกลุ่มไป เพราะว่ากูเป็นแบบนี้ แบบที่มึงพึ่งเป็นไงคริส” ผมพูดและมองหน้ามัน
 
           “แต่มึงชิ้งทิ้งกูก่อน ไอ้สัส!” ไอ้นี้ทำให้ผมอยากโบกกะบาลมันจริง
 
           "แล้วมึงจะเอายังไงวะเรื่องมึงกับครูเขมนะ...กูกลัวใจมึงวะ..กูกลัวมึงตัดสินใจเหมือนน้องแชมป์วะ" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันก้มหน้าลง
 
           "อย่าบอกกูนะว่ามึงคิดจะทำนะไอ้คริส..ถ้ามึงทำนี้กูหมดศรัทธาในตัวครูเขมไปด้วยนะมึง" ผมพูด
 
           "แต่กูไม่รู้ว่ากูจะทำยังไงโป้ง..กูรักเขามาก..กูรู้มึจะบอกว่านี้มันบ้าแต่..กูไม่อยากเสียคนที่รักกูมากไปเช่นกัน...โป้ง"ไอ้คริสโตเฟอร์มันพูด
 
           "พี่เขมไม่โทรหากูเลยมีแต่ส่งข้อความกูคิดว่าครูเขมก็คงเครียดเรื่องนี้"
 
           "กูกลัวว่าครูเขมจะตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูเพราะว่าครูเขมพูดว่าจะไปเป็นติวเตอร์แต่ถ้าดูจากความมุ้งมั่นของครูเขมแล้วเขาอยากเป็นครูมากกว่า" คริสโตเฟอร์มันพูดผมพยักหน้า
 
           "กูได้ยินพวกนักเรียนคุยกันเรื่องนี้เยอะมากแต่ละคนก็บอกว่าเสียดายครูเขมแกสอนดี ดีกว่าครูหลายคนที่สอนแค่ตามตำราแกสรรหาสิ่งดีดีมาแนะนำนักเรียนและยิ่งชั่งโมงติวเตอร์นี้ด้วยนะเหมือนไปเรียนติวเตอร์มีระดับราคาแพงๆ " ผมพูดคริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           "มึงไม่ลองให้นักเรียนที่นี้ลงชื่อดูละว่าใครอยากให้ครูเขมอยู่สอนต่อบ้าง" ผมพูดขึ้นไอ้คริสโตเฟอร์มันทิ้งช้อนลงในชามทันที
 
           "จริงดิวะโป้งกูคิดไม่ได้เลยวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์มันมองหน้าผม
 
           "กูนะนักวางแผน" ผมพูดก่อนที่ไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้และปันปันมันเดินกลับมาพร้อมกล่องพัสดุ
           
           "โป้ง..ได้แล้วนี้มาม๊าส่งสบู่มาให้แล้วคืนนี้โป้งถูหลังให้ด้วยและม๊ายังบอกอีกว่าให้ถูนานเลยจะได้หายเร็วๆ" ไอ้ปันปันมันพูด ผมนี้ไถลเลยจากที่ผมใช้ข้อศอกเท้าโต๊ะอยู่ มันจะพูดทำไมนานเลย พวกที่ได้ยินมันคิดไปถึงไหนก็ไม่รู้
 
           "เว้ยย" พวกไอ้าร์ทกับไอ้โจ และไอ้คริสโตเฟอร์มันก็เงยมอง ปันปัน
 
           "พวกมึงมองกูกันทำไมอะ" ไอ้ปันปัน ผมนี้ยกมือขึ้นมาจับขมับ ก็เพราะมึงบอกพวกมันแบบนี้ไง
 
           "มาม๊ามึงบอกอย่างนั้นจริงๆเหรอครับไอ้ปันปัน" ไอ้โจถามไอ้ปันปัน
 
           "ช่ายแม่ย้ำด้วยนานๆ" ไอ้ปันปันพูดย้ำอีก ผมก็ต้องเกาหัวตัวเอง เอาเข้าไป
 
           "แล้วมึงบอกแม่มึงไหมว่ามึงให้โป้งที่เป็นผู้ชายถูหลังให้มึงนะ" ไอ้อาร์ทมันยิ่งได้ถูกมาก ผมชี้หน้ามัน
 
           "ไม่ได้บอกวะแค่บอกว่ามีคนถูให้เฉยๆวะ..กูลืมไปวะโทรกลับไปบอกดีกว่าไหมอะ" ไอ้ปันปันมันหยิบมือถือขึ้นมาจะโทรบอกอีก ผมรีบคว้าไว้ก่อนเดี๋ยวมึงก็งานเข้า ม๊ากับป๊ามึงได้ขับรถไฟแล๊ปมาหามึงแน่ๆ
 
           “ไอ้ปันปัน...มึงจะบ้าเหรอ!!” ผมพูดห้ามมัน ไอ้คริสมันปิดปากขำ ผมนี้หันไปจะยกเท้าถีบมันและไอ้อาร์ทกับไอ้โจอีก พวกนี้มันก็รู้ว่าไอ้นี้มันบ้าจี้
 
           "ม๊ามึงคงภูมิใจตายเลยลูกชายกูมีผู้ชายถูหลังให้ ...ฮาๆ" ไอ้อาร์ท
 
           "หึๆ " ไอ้คริสโตเฟอร์มันกลั้นเสียงหัวเราะไว้ในลำคอ
 
           “กูล้อเล่นกูยังไม่กล้าบอกหรอกแม้..แต่มาม๊ากูคงคิดว่ามีสาวๆถูกหลังมาม๊าดีใจใหญ่เลย”ไอ้ปันปันพูดและมันนั่งลงข้างๆผม ไอ้คริสโตเฟอร์มันมองแค่นั้นคงไม่ต้องพูดอะไรมากมันคงเข้าใจดี ว่าผมกับไอ้ปันปันเป็นยังไงกัน
 
           "อะนมของโป้งนะ" ปันปันมันซื้อนมกล่องมาให้ผม
 
           "ตอนเย็นคุยกันอีกทีว่ามึงจะเอายัง...เย็นนี้พวกไอ้อาร์ทมันยังอยู่นิให้มันช่วยเลย"
 
           "ช่วยอะไรวะ" ไอ้อาร์ทหันมามองและมองหน้าผมสองคนไอ้โจ้ด้วยและปันปัน
 
           "ตอนเย็นค่อยบอกวะ..." ไอ้คริสโตเฟอร์พูดมันลุกขึ้นเอาชามโจ๊กไปเก็บก่อนที่สัญญาณเข้าแถวจะดังขึ้น ปันปันมองหน้าผมแบบมีคำถาม
 
           "เดี๋ยวค่อยบอก..เป็นการส่วนตัว"ผมกระซิบเบาๆที่้ข้างหูปันปันเบาๆ
 
           "แม้ๆ...กูเบื่อผัวเมียคู่นี้วะ"
 
           "มึงไม่ต้องเบื่อกูเลย ..เมื่อคืนมึงทำอะไรในบ้านครูเขมละ"
 
           "เฮ้ย!!" นั้นไงสะดุ้งทั้งคู่
 
           "สารภาพมาเลยไอ้คริสมันเห็น..ตกลงมึงยังไงไอ้อาร์ท ไอ้โจ กูเห็นหลายครั้งแล้วนะในห้องน้ำชายนะ..เก็บเสียงหน่อยสัส" ผมพูดก่อนจะลุกขึ้น
 
           "มึงนะชอบร้องเสียงดัง" ไอ้อาร์ทหันมาบ่นไอ้โจเบาๆ
 
           "คริสมันเห็นเหรอวะ" ไอ้โจมันถามผม ผมพยักหน้า
 
           "กู...พวกกู..สองคน..เออ..ไม่รู้ว่าแต่รู้สึกดีวะ...กูเข้าใจแล้ววะทำไมมึงรักผู้ชายกันไม่รู้ดิ...กูก็รู้ว่ากูขาดไอ้โจไม่ได้มันบอกไม่ถูกวะกูสองเคยเลยลองจูบกันก่อนแต่พอรู้สึกดีก็เลยพัฒนาเป็น.." ไอ้อาร์ทพูด  พูดไปเขินไปด้วยและอีกคนนี้เขินหนักกว่าอีก พวกผมสามคนหันมามองหน้ากัน เกาหัวกันเล็กน้อย
 
           "ขยับขั้นให้มันเป็นเมียกรู" ไอ้อาร์ท
 
           "อาร์ท..มึงช่วยขอความเห็นกูนิดนึงได้ไหม..อาร์ท...กูอยากเป็นผัวหรือเมีย" ไอ้โจมันพูด
 
           "ไม่ดีเหรอ..ภูมิใจเถอะมีพี่เป็นผัว!!"
 
           "ดีพองมึงดิ"ไอ้โจ้พูด T_T
 
           "แล้วเมียมึงละ"
 
           "พี่ปริมนะเหรอเขาเลิกกับกูไปเมื่อวันที่คริสมันเมาแล้วเขาบอกกูมีความเสี่ยง"
 
           "เสี่ยงอะไรวะ"ปันปัน ถามไอ้อาร์ท
 
           "ว่ากูจะเป็นเกย์เพราะว่ากูนะกระเตงไอ้โจไปตลอดเวลา เขาบอกว่าถ้ากูจะคบเขาต้องเลิกชวนโจไปไหนมาไหนด้วยกูทำไม่ได้"
 
           "กูเลยเลือกที่จะเลิกกับเขาวะ"
 
           "ช่ายแล้วเพื่อนเขาก็บอกเลิกกูด้วยเช่นกัน"
 
           "เพราะ ..?"
           
           "กูติดไอ้อาร์ทมากไป..." ไอ้โจ
           
           "จำเริญเถอะมึง....ไปเข้าแถว..." ผมพูดและพากันเดินแยกย้ายไปเข้าแถวตามชั้นเรียนไอ้คริสโตเฟอร์มันเดินไปเข้าแถวชั้นเรียนของมันและไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้ก็ไปเข้าแถวห้องมันผมก็ดันหลังปันปันไปยืนข้างหน้าผมปกติ ระหว่างที่ยืนรอร้องเพลงชาติ
 
           “เฮ้ย” เสียงไอ้ปันปันร้องขั้นมา ผมเห็นไอ้พี่อั๋นมันยิ้มและหยักคิ้ว ส่วนไอ้ปันปันก็เอามือจับที่ก้นมันอย่าบอกนะมันจับก้นไอ้ปันปัน
 
           “ก้นนิ่มวะ” ไอ้พี่อั๋นพูดและผมก็ไวซะด้วย
 
           “ผลัก” ไม่ต้องรอคำอธิบายว่าจับทำไมผมต่อยไอ้พี่อั๋นลงไปทันที ผู้คนพากันแตกฮือออกไปก่อนเลย
 
           “ผลัก...ผลัก “สองหมัดซ้อน
 
           “อย่าโป้ง...อย่าโป้ง..พอแล้วโป้ง” ปันปัน มาดึงรั้งผมให้หยุดและพวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจด้วย ไอ้คริสมันมายืนรออยู่ข้างหลังคือถ้าถ้าพี่กายเข้ามาเสริมมันคงลุยให้ผมอีกที
 
           “หยุด!! เดี๋ยวนี้..นี้มันอะไรกัน” ครูอครชัยตะหวาดเสียงดัง
 
           “ไอ้โป้งมันต่อยเพื่อนผมครับอาจารย์” ไอ้พี่กายรีบพูด
 
           “เพื่อนมึงทำเชี้ยอะไรไว้ละ” ผมลุกขึ้นมาได้จากที่ค่อมตะบันหน้าไอ้พี่อั๋น ผมไม่เคยกลัวมันหรอกก็แค่หนักมวยประจำโรงเรียน
 
           “นายอั๋นทำอะไร” อาจารย์อครชัยหันไปถามไอ้พี่อั๋น ผมยืนมองหน้ามันหยักหน้าว่ามันจะตอบว่าไง 
 
           “แค่เข้าใจผิดกันนะครับอาจารย์พอดี ผมผลักไอ้อั๋นไปชนน้องปันปันและโป้งก็เลยคิดว่าไอ้อั๋นมันตั้งใจ...พี่ขอโทษนะครับโป้ง” ไอ้พี่เอกมันเป็นฝ่ายออกมาพูดมันรู้ว่าผมนะไม่จบง่ายถ้าไม่ได้คำตอบที่ถูกใจ
 
           “พอเถอะโป้ง” ปันปันกระซิบกับผม
 
           “ตกลงยังไง”
 
           “แค่เข้าใจผิดครับอาจารย์”
 
           “อย่าให้มีอีกนะ...เข้าแถวตามเดิม” ผมยืนมองหน้าไอ้พี่อั๋นก่อนจะเดินไปเข้าแถวเหมือนเดิมสายตาผมยังมองจ้องไอ้พี่อั๋นมันก็แค่หยักไหล่ให้ผม ผมว่านี้มันคงแค่เริ่มต้นมันคงรู้แล้วแหละว่าผมกับไอ้คริสโตเฟอร์กับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว จนเข้าแถวเสร็จก็เดินขึ้นตึกเพื่อทำการเรียนตามปกติ ระหว่างทางที่เดินขึ้นผมเห็นแก้มพยายามจะพูดกับคริสโตเฟอร์แต่คริสมันไม่สนใจแก้ม เรียกได้ว่ามันทำเย็นชาใส่เลยดีกว่า
 
           "เป็นไงละแก้ม...พี่ถามหน่อยซิว่าเธอมีความสุขมากหนักเหรอที่ทำกับไอ้คริสแบบนั้นนะ" ผมถามแก้ม เธอหันมามองหน้าผมตาขมึง และนี่แหละที่ผมกลัวใจผู้หญิงเวลาหึงเวลาโกรธ เลยไม่ค่อยชอบจีบมาเป็นแฟนเท่าไหร่และยิ่งเด็กๆด้วยผมนี้ไม่จีบเลย
 
           "พี่โป้งไม่ต้องมาพูดหรอกแก้มรู้นะว่าพี่นะก็เสียใจเหมือนกัน"
 
           "แก้ม...ทำไมแก้มไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองบ้าง..พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าเธอจะอยากได้ผู้ชายมากขนาดมองข้ามคุณค่าของตัวเธอไปได้ขนาดนี้"
 
           "และผู้ชายนะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบจุ้นจ้านหรอกนะ และนี้ยังไม่ทันได้ตำแหน่งแฟนเลย เธอยังจุ้นวุ่นวายได้ขนาดนี้ไม่ต้องคิดถึงว่าตอนเป็นแฟนกันเลยนะว่าจะขนาดไหน" ผมพูดและยิ้มที่มุมปากพร้อมกับหันมามองโป้งที่ยืนหยักไหล่ให้ผม
 
           "นี้พี่โป้งว่าแก้มเหรอ"
 
           "พี่โป้งเขาคงชมน้องแก้มอยู่มั้งครับ" ปันปันพูดผมหันไปมองคนข้างๆยิ้มๆ แก้มหันมาค้อนให้ผมสองคนและเดินลงไปชั้นเรียนของตัวเองทันที ผมก็เดินกลับขั้นห้องเรียนกับปันปัน ไม่ลืมที่จะจูงมือปันปันไปด้วย
 
-
-
-
    เวลาผ่านไปจนเลิกเรียนผมก็รีบลงจากห้องเรียนเพื่อไปยังที่เรานัดหมายกันจะปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี พรุ่งนี้แล้วซินะที่ครูเขมจะเดินทางกลับมาจากอบม ผมนัดเจอกันที่บ้านพักนักเรียนของผม
 
           "ขึ้นบ้านดิ"ผมเรียกพวกมันไอ้คริสโตเฟอร์มันกำลังยืนเหมือนส่งข้อความหาครูเขม ครูเขมไม่โทรหามันเลยมันบอกว่ามีแค่ข้อความที่คุยกันเมื่อวานแค่นั้นเองผมก็สงสารมันนะดูมันไม่ร่าเริงเหมือนเดิมสงสัยครูเขมยังไม่โทรหามันอีกแล้วแน่ๆ
 
           "ตกลงจะให้พวกกูช่วยยังไงวะว่ามาดิ" ไอ้อาร์ทมันถามขึ้น
 
           "พวกเรจะทำบอร์ดเชิญชวนมาลงชื่อว่าใครอยากให้ครูเขมสอนที่นี้ต่อกูเชื่อว่ามีหลายคนแต่จะได้ตามเป้าหมายไหมไม่รู้ว่ะ"
 
           "แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์พูด
 
           "ไอ้ปันปันมันแต่งบอร์ดได้มันมีฝีมือเรื่องพวกนี้ " ผมหันไปบอกปันปัน มันยิ้มตาหยีให้ผม
 
           "เชียร์เมียน่าดู"ไอ้อาร์ท ผมหยิบหมอนปาใส่ไอ้ปากปีจอเพื่อนของผม
 
           "แผ่นกระดาษที่ให้นักเรียนลงชื่อไอ้อาร์ทกับไอ้โจทำแล้วกัน ..มึงจะใช้โน๊ตบุ๊กกูไหมละแต่ไม่มีปริ้นเตอร์วะ" ผมพูดบอกมันสองคน
 
           "ไม่เป็นไรกลับไปทำที่ห้องนอนดีกว่า" ไอ้โจพูด
 
           "มึงแน่ใจนะว่าไปปริ้นงานนะ"ไอ้ปันปันพูด มันรู้ทันและนั้นผมก็คิดนะ กูจะได้งานไหม มันสองคนก็เพิ่งจะบอกว่าเลื่อนขั้นกันมาแล้วจากเพื่อนเป็นผัวเมีย
 
           "มึงจะทำอะไรกันก็เรื่องของมึงแต่ขอให้ได้ตามที่กูสั่งก็แล้วกันเอามาสัก 22 ชุด แบ่งตามห้องไปเลย" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           "ส่วนมึงก็เขียนบทความภาษาอังกฤษที่มึงประทับใจครูเขม" ผมหันไปบอก เพราะว่ามันไม่เคยเข้าเรียนภาษาอังกฤษ แต่พอครูเขมมามันเข้าเรียนและยังไปเรียนพิเศษด้วย ผมว่านี้แหละที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าครุเขมชาติเขาเป็นครูที่ทุกคนต้องการ คือมุ่งมั่นสอนหนังสือแค่ไหน
 
           "คริสประทับใจส่วนไหนของครูเขมเหรอ" ปันปันมันหันไปถามคริสโตเฟอร์ มันก็ก้มหน้าลง
 
           "อย่าเสือกใส่เรทอาร์มานะไอ้คริส!!" ผมเลยรีบดักมั้นไว้ก่อน ไอ้นี้มันทะลึ่งอยู่
 
           "กูว่าผู้อำนวยการอ่านปุ๊ป! คงรีบเชิญเลยแหละ" ผมพูด ทุกคนหันมามองหน้าผมกันหมด
 
           "เชิญออก!!ทั้งคู่!!!"  ผมพูดออกมา
 
           "รู้ได้ไงวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์ นั้นไง ความคิดที่มันกำลังจะเขียนออกมา ผมก็กุมขมับทันที
 
           "หน้ามึงบ่งบอกมากลูกคริส!!!" ไอ้โจมันพูด
 
          " เอาละแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้วรีบกลับมาเจอกันที่บ้านพัก คริสมึงนั่งพิมพ์ที่นี้หรือว่าจะ.."ผมหันไปถามไอ้คริสโตเฟอร์
 
          "ที่บ้านพักครูดีกว่าวะ...มันเห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้นวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์พูดผมหยักไหล่เรียกปันปันให้ไปที่เขาเก็บบอร์ด เอาไว้ลงนับคะแนนเลือกตั้ง ผมหวังว่านี้คงะจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่คงจะไม่น้อยเต็มที และผมก็เชื่อว่ามีหลายคนอยากให้ครูเขมสอนต่อ ถึงผมจะเคยคิดว่าทำไมครูเขมต้องมาแย้งเพื่อนที่ผมรักไปด้วย พอผมเห็นอาการไอ้คริสโตเฟอร์แล้วผมทำใจไม่ได้ต้องเข้ามาช่วยมันอยู่ดี ช่วยให้คนที่ตัวเองรักสมหวังแต่ขอบคุณที่ทำให้ผมได้คนที่รักผมมาด้วยคือปันปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 17:51:29 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 พิเศษ โป้ง VS ปันปัน  เพื่อนกันต้องช่วยกันครึ้งหลัง
           
            “เมื่อคืนกูเห็นมันจูบกันและมันก็ชวนกันเข้าห้องน้ำอะไอ้โป้ง..." ไอ้โป้งพูด ผมก็ชี้หน้ามันทันที
 
           "กูเห็นมันแปลกๆมาอาทิตย์หนึ่งแล้ววะแต่กูคิดว่ากูคงคิดมากไปวะนี้มันถึงขั้นนั้นเลยเหรอวะ"ผมพูด
 
           "มึงกลัวมันเหรอวะมันคงไม่ปลั้มมึงหรอกเวลามึงไปเมามันยังไม่ปลั้มมึงเลย"ผมพูด
 
           "แต่มึงจะปลั้มกู" ไอ้คริสโตเฟอร์
 
           "กู...เชี้ยเอ้ย!!"นั้นยังไงวนกลับมาหาผมจนได้
 
           "ก็กู...ห้ามใจตัวเองไม่ได้คริสแต่กูคงไม่กล้าทำมึงแล้วแหละ" ผมพูดผมรู้สึกผิดกับมันมาก
 
           "ไอ้ปันปันมันชอบมึงอะมึงรู้ยังอะ" ไอ้คริสโตเฟอร์มันถามผม ผมพยักหน้า
 
           "กูโคตรดีใจที่มึงมีคนที่รักมึงนะโป้ง"คริสโตเฟอร์พูด
 
           "มันบอกพวกกูแต่มันไม่ให้พวกกูบอกมึงวะเพราะว่ามันกลัวถูกมึงเกลียดมัน" ไอ้คริสโตเฟอร์มันบอกผม
 
           "กูรู้นานแล้ว..ตั้งแต่วันที่เตี่ยมาหามันและด่าว่ามัน...มันน่าสงสารว่ะ..กูทำไม่ลงหรอกว่ะ" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           “แต่กู...ก็...กลัวมึงจะทิ้งกูออกจากกลุ่มไป เพราะว่ากูเป็นแบบนี้ แบบที่มึงพึ่งเป็นไงคริส” ผมพูดและมองหน้ามัน
 
           “แต่มึงชิ้งทิ้งกูก่อน ไอ้สัส!” ไอ้นี้ทำให้ผมอยากโบกกะบาลมันจริง
 
           "แล้วมึงจะเอายังไงวะเรื่องมึงกับครูเขมนะ...กูกลัวใจมึงวะ..กูกลัวมึงตัดสินใจเหมือนน้องแชมป์วะ" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันก้มหน้าลง
 
           "อย่าบอกกูนะว่ามึงคิดจะทำนะไอ้คริส..ถ้ามึงทำนี้กูหมดศรัทธาในตัวครูเขมไปด้วยนะมึง" ผมพูด
 
           "แต่กูไม่รู้ว่ากูจะทำยังไงโป้ง..กูรักเขามาก..กูรู้มึจะบอกว่านี้มันบ้าแต่..กูไม่อยากเสียคนที่รักกูมากไปเช่นกัน...โป้ง"ไอ้คริสโตเฟอร์มันพูด
 
           "พี่เขมไม่โทรหากูเลยมีแต่ส่งข้อความกูคิดว่าครูเขมก็คงเครียดเรื่องนี้"
 
           "กูกลัวว่าครูเขมจะตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูเพราะว่าครูเขมพูดว่าจะไปเป็นติวเตอร์แต่ถ้าดูจากความมุ้งมั่นของครูเขมแล้วเขาอยากเป็นครูมากกว่า" คริสโตเฟอร์มันพูดผมพยักหน้า
 
           "กูได้ยินพวกนักเรียนคุยกันเรื่องนี้เยอะมากแต่ละคนก็บอกว่าเสียดายครูเขมแกสอนดี ดีกว่าครูหลายคนที่สอนแค่ตามตำราแกสรรหาสิ่งดีดีมาแนะนำนักเรียนและยิ่งชั่งโมงติวเตอร์นี้ด้วยนะเหมือนไปเรียนติวเตอร์มีระดับราคาแพงๆ " ผมพูดคริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           "มึงไม่ลองให้นักเรียนที่นี้ลงชื่อดูละว่าใครอยากให้ครูเขมอยู่สอนต่อบ้าง" ผมพูดขึ้นไอ้คริสโตเฟอร์มันทิ้งช้อนลงในชามทันที
 
           "จริงดิวะโป้งกูคิดไม่ได้เลยวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์มันมองหน้าผม
 
           "กูนะนักวางแผน" ผมพูดก่อนที่ไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้และปันปันมันเดินกลับมาพร้อมกล่องพัสดุ
           
           "โป้ง..ได้แล้วนี้มาม๊าส่งสบู่มาให้แล้วคืนนี้โป้งถูหลังให้ด้วยและม๊ายังบอกอีกว่าให้ถูนานเลยจะได้หายเร็วๆ" ไอ้ปันปันมันพูด ผมนี้ไถลเลยจากที่ผมใช้ข้อศอกเท้าโต๊ะอยู่ มันจะพูดทำไมนานเลย พวกที่ได้ยินมันคิดไปถึงไหนก็ไม่รู้
 
           "เว้ยย" พวกไอ้าร์ทกับไอ้โจ และไอ้คริสโตเฟอร์มันก็เงยมอง ปันปัน
 
           "พวกมึงมองกูกันทำไมอะ" ไอ้ปันปัน ผมนี้ยกมือขึ้นมาจับขมับ ก็เพราะมึงบอกพวกมันแบบนี้ไง
 
           "มาม๊ามึงบอกอย่างนั้นจริงๆเหรอครับไอ้ปันปัน" ไอ้โจถามไอ้ปันปัน
 
           "ช่ายแม่ย้ำด้วยนานๆ" ไอ้ปันปันพูดย้ำอีก ผมก็ต้องเกาหัวตัวเอง เอาเข้าไป
 
           "แล้วมึงบอกแม่มึงไหมว่ามึงให้โป้งที่เป็นผู้ชายถูหลังให้มึงนะ" ไอ้อาร์ทมันยิ่งได้ถูกมาก ผมชี้หน้ามัน
 
           "ไม่ได้บอกวะแค่บอกว่ามีคนถูให้เฉยๆวะ..กูลืมไปวะโทรกลับไปบอกดีกว่าไหมอะ" ไอ้ปันปันมันหยิบมือถือขึ้นมาจะโทรบอกอีก ผมรีบคว้าไว้ก่อนเดี๋ยวมึงก็งานเข้า ม๊ากับป๊ามึงได้ขับรถไฟแล๊ปมาหามึงแน่ๆ
 
           “ไอ้ปันปัน...มึงจะบ้าเหรอ!!” ผมพูดห้ามมัน ไอ้คริสมันปิดปากขำ ผมนี้หันไปจะยกเท้าถีบมันและไอ้อาร์ทกับไอ้โจอีก พวกนี้มันก็รู้ว่าไอ้นี้มันบ้าจี้
 
           "ม๊ามึงคงภูมิใจตายเลยลูกชายกูมีผู้ชายถูหลังให้ ...ฮาๆ" ไอ้อาร์ท
 
           "หึๆ " ไอ้คริสโตเฟอร์มันกลั้นเสียงหัวเราะไว้ในลำคอ
 
           “กูล้อเล่นกูยังไม่กล้าบอกหรอกแม้..แต่มาม๊ากูคงคิดว่ามีสาวๆถูกหลังมาม๊าดีใจใหญ่เลย”ไอ้ปันปันพูดและมันนั่งลงข้างๆผม ไอ้คริสโตเฟอร์มันมองแค่นั้นคงไม่ต้องพูดอะไรมากมันคงเข้าใจดี ว่าผมกับไอ้ปันปันเป็นยังไงกัน
 
           "อะนมของโป้งนะ" ปันปันมันซื้อนมกล่องมาให้ผม
 
           "ตอนเย็นคุยกันอีกทีว่ามึงจะเอายัง...เย็นนี้พวกไอ้อาร์ทมันยังอยู่นิให้มันช่วยเลย"
 
           "ช่วยอะไรวะ" ไอ้อาร์ทหันมามองและมองหน้าผมสองคนไอ้โจ้ด้วยและปันปัน
 
           "ตอนเย็นค่อยบอกวะ..." ไอ้คริสโตเฟอร์พูดมันลุกขึ้นเอาชามโจ๊กไปเก็บก่อนที่สัญญาณเข้าแถวจะดังขึ้น ปันปันมองหน้าผมแบบมีคำถาม
 
           "เดี๋ยวค่อยบอก..เป็นการส่วนตัว"ผมกระซิบเบาๆที่้ข้างหูปันปันเบาๆ
 
           "แม้ๆ...กูเบื่อผัวเมียคู่นี้วะ"
 
           "มึงไม่ต้องเบื่อกูเลย ..เมื่อคืนมึงทำอะไรในบ้านครูเขมละ"
 
           "เฮ้ย!!" นั้นไงสะดุ้งทั้งคู่
 
           "สารภาพมาเลยไอ้คริสมันเห็น..ตกลงมึงยังไงไอ้อาร์ท ไอ้โจ กูเห็นหลายครั้งแล้วนะในห้องน้ำชายนะ..เก็บเสียงหน่อยสัส" ผมพูดก่อนจะลุกขึ้น
 
           "มึงนะชอบร้องเสียงดัง" ไอ้อาร์ทหันมาบ่นไอ้โจเบาๆ
 
           "คริสมันเห็นเหรอวะ" ไอ้โจมันถามผม ผมพยักหน้า
 
           "กู...พวกกู..สองคน..เออ..ไม่รู้ว่าแต่รู้สึกดีวะ...กูเข้าใจแล้ววะทำไมมึงรักผู้ชายกันไม่รู้ดิ...กูก็รู้ว่ากูขาดไอ้โจไม่ได้มันบอกไม่ถูกวะกูสองเคยเลยลองจูบกันก่อนแต่พอรู้สึกดีก็เลยพัฒนาเป็น.." ไอ้อาร์ทพูด  พูดไปเขินไปด้วยและอีกคนนี้เขินหนักกว่าอีก พวกผมสามคนหันมามองหน้ากัน เกาหัวกันเล็กน้อย
 
           "ขยับขั้นให้มันเป็นเมียกรู" ไอ้อาร์ท
 
           "อาร์ท..มึงช่วยขอความเห็นกูนิดนึงได้ไหม..อาร์ท...กูอยากเป็นผัวหรือเมีย" ไอ้โจมันพูด
 
           "ไม่ดีเหรอ..ภูมิใจเถอะมีพี่เป็นผัว!!"
 
           "ดีพองมึงดิ"ไอ้โจ้พูด T_T
 
           "แล้วเมียมึงละ"
 
           "พี่ปริมนะเหรอเขาเลิกกับกูไปเมื่อวันที่คริสมันเมาแล้วเขาบอกกูมีความเสี่ยง"
 
           "เสี่ยงอะไรวะ"ปันปัน ถามไอ้อาร์ท
 
           "ว่ากูจะเป็นเกย์เพราะว่ากูนะกระเตงไอ้โจไปตลอดเวลา เขาบอกว่าถ้ากูจะคบเขาต้องเลิกชวนโจไปไหนมาไหนด้วยกูทำไม่ได้"
 
           "กูเลยเลือกที่จะเลิกกับเขาวะ"
 
           "ช่ายแล้วเพื่อนเขาก็บอกเลิกกูด้วยเช่นกัน"
 
           "เพราะ ..?"
           
           "กูติดไอ้อาร์ทมากไป..." ไอ้โจ
           
           "จำเริญเถอะมึง....ไปเข้าแถว..." ผมพูดและพากันเดินแยกย้ายไปเข้าแถวตามชั้นเรียนไอ้คริสโตเฟอร์มันเดินไปเข้าแถวชั้นเรียนของมันและไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้ก็ไปเข้าแถวห้องมันผมก็ดันหลังปันปันไปยืนข้างหน้าผมปกติ ระหว่างที่ยืนรอร้องเพลงชาติ
 
           “เฮ้ย” เสียงไอ้ปันปันร้องขั้นมา ผมเห็นไอ้พี่อั๋นมันยิ้มและหยักคิ้ว ส่วนไอ้ปันปันก็เอามือจับที่ก้นมันอย่าบอกนะมันจับก้นไอ้ปันปัน
 
           “ก้นนิ่มวะ” ไอ้พี่อั๋นพูดและผมก็ไวซะด้วย
 
           “ผลัก” ไม่ต้องรอคำอธิบายว่าจับทำไมผมต่อยไอ้พี่อั๋นลงไปทันที ผู้คนพากันแตกฮือออกไปก่อนเลย
 
           “ผลัก...ผลัก “สองหมัดซ้อน
 
           “อย่าโป้ง...อย่าโป้ง..พอแล้วโป้ง” ปันปัน มาดึงรั้งผมให้หยุดและพวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจด้วย ไอ้คริสมันมายืนรออยู่ข้างหลังคือถ้าถ้าพี่กายเข้ามาเสริมมันคงลุยให้ผมอีกที
 
           “หยุด!! เดี๋ยวนี้..นี้มันอะไรกัน” ครูอครชัยตะหวาดเสียงดัง
 
           “ไอ้โป้งมันต่อยเพื่อนผมครับอาจารย์” ไอ้พี่กายรีบพูด
 
           “เพื่อนมึงทำเชี้ยอะไรไว้ละ” ผมลุกขึ้นมาได้จากที่ค่อมตะบันหน้าไอ้พี่อั๋น ผมไม่เคยกลัวมันหรอกก็แค่หนักมวยประจำโรงเรียน
 
           “นายอั๋นทำอะไร” อาจารย์อครชัยหันไปถามไอ้พี่อั๋น ผมยืนมองหน้ามันหยักหน้าว่ามันจะตอบว่าไง 
 
           “แค่เข้าใจผิดกันนะครับอาจารย์พอดี ผมผลักไอ้อั๋นไปชนน้องปันปันและโป้งก็เลยคิดว่าไอ้อั๋นมันตั้งใจ...พี่ขอโทษนะครับโป้ง” ไอ้พี่เอกมันเป็นฝ่ายออกมาพูดมันรู้ว่าผมนะไม่จบง่ายถ้าไม่ได้คำตอบที่ถูกใจ
 
           “พอเถอะโป้ง” ปันปันกระซิบกับผม
 
           “ตกลงยังไง”
 
           “แค่เข้าใจผิดครับอาจารย์”
 
           “อย่าให้มีอีกนะ...เข้าแถวตามเดิม” ผมยืนมองหน้าไอ้พี่อั๋นก่อนจะเดินไปเข้าแถวเหมือนเดิมสายตาผมยังมองจ้องไอ้พี่อั๋นมันก็แค่หยักไหล่ให้ผม ผมว่านี้มันคงแค่เริ่มต้นมันคงรู้แล้วแหละว่าผมกับไอ้คริสโตเฟอร์กับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว จนเข้าแถวเสร็จก็เดินขึ้นตึกเพื่อทำการเรียนตามปกติ ระหว่างทางที่เดินขึ้นผมเห็นแก้มพยายามจะพูดกับคริสโตเฟอร์แต่คริสมันไม่สนใจแก้ม เรียกได้ว่ามันทำเย็นชาใส่เลยดีกว่า
 
           "เป็นไงละแก้ม...พี่ถามหน่อยซิว่าเธอมีความสุขมากหนักเหรอที่ทำกับไอ้คริสแบบนั้นนะ" ผมถามแก้ม เธอหันมามองหน้าผมตาขมึง และนี่แหละที่ผมกลัวใจผู้หญิงเวลาหึงเวลาโกรธ เลยไม่ค่อยชอบจีบมาเป็นแฟนเท่าไหร่และยิ่งเด็กๆด้วยผมนี้ไม่จีบเลย
 
           "พี่โป้งไม่ต้องมาพูดหรอกแก้มรู้นะว่าพี่นะก็เสียใจเหมือนกัน"
 
           "แก้ม...ทำไมแก้มไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองบ้าง..พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าเธอจะอยากได้ผู้ชายมากขนาดมองข้ามคุณค่าของตัวเธอไปได้ขนาดนี้"
 
           "และผู้ชายนะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบจุ้นจ้านหรอกนะ และนี้ยังไม่ทันได้ตำแหน่งแฟนเลย เธอยังจุ้นวุ่นวายได้ขนาดนี้ไม่ต้องคิดถึงว่าตอนเป็นแฟนกันเลยนะว่าจะขนาดไหน" ผมพูดและยิ้มที่มุมปากพร้อมกับหันมามองโป้งที่ยืนหยักไหล่ให้ผม
 
           "นี้พี่โป้งว่าแก้มเหรอ"
 
           "พี่โป้งเขาคงชมน้องแก้มอยู่มั้งครับ" ปันปันพูดผมหันไปมองคนข้างๆยิ้มๆ แก้มหันมาค้อนให้ผมสองคนและเดินลงไปชั้นเรียนของตัวเองทันที ผมก็เดินกลับขั้นห้องเรียนกับปันปัน ไม่ลืมที่จะจูงมือปันปันไปด้วย
 
-
-
-
    เวลาผ่านไปจนเลิกเรียนผมก็รีบลงจากห้องเรียนเพื่อไปยังที่เรานัดหมายกันจะปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี พรุ่งนี้แล้วซินะที่ครูเขมจะเดินทางกลับมาจากอบม ผมนัดเจอกันที่บ้านพักนักเรียนของผม
 
           "ขึ้นบ้านดิ"ผมเรียกพวกมันไอ้คริสโตเฟอร์มันกำลังยืนเหมือนส่งข้อความหาครูเขม ครูเขมไม่โทรหามันเลยมันบอกว่ามีแค่ข้อความที่คุยกันเมื่อวานแค่นั้นเองผมก็สงสารมันนะดูมันไม่ร่าเริงเหมือนเดิมสงสัยครูเขมยังไม่โทรหามันอีกแล้วแน่ๆ
 
           "ตกลงจะให้พวกกูช่วยยังไงวะว่ามาดิ" ไอ้อาร์ทมันถามขึ้น
 
           "พวกเรจะทำบอร์ดเชิญชวนมาลงชื่อว่าใครอยากให้ครูเขมสอนที่นี้ต่อกูเชื่อว่ามีหลายคนแต่จะได้ตามเป้าหมายไหมไม่รู้ว่ะ"
 
           "แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์พูด
 
           "ไอ้ปันปันมันแต่งบอร์ดได้มันมีฝีมือเรื่องพวกนี้ " ผมหันไปบอกปันปัน มันยิ้มตาหยีให้ผม
 
           "เชียร์เมียน่าดู"ไอ้อาร์ท ผมหยิบหมอนปาใส่ไอ้ปากปีจอเพื่อนของผม
 
           "แผ่นกระดาษที่ให้นักเรียนลงชื่อไอ้อาร์ทกับไอ้โจทำแล้วกัน ..มึงจะใช้โน๊ตบุ๊กกูไหมละแต่ไม่มีปริ้นเตอร์วะ" ผมพูดบอกมันสองคน
 
           "ไม่เป็นไรกลับไปทำที่ห้องนอนดีกว่า" ไอ้โจพูด
 
           "มึงแน่ใจนะว่าไปปริ้นงานนะ"ไอ้ปันปันพูด มันรู้ทันและนั้นผมก็คิดนะ กูจะได้งานไหม มันสองคนก็เพิ่งจะบอกว่าเลื่อนขั้นกันมาแล้วจากเพื่อนเป็นผัวเมีย
 
           "มึงจะทำอะไรกันก็เรื่องของมึงแต่ขอให้ได้ตามที่กูสั่งก็แล้วกันเอามาสัก 22 ชุด แบ่งตามห้องไปเลย" ผมพูดไอ้คริสโตเฟอร์มันพยักหน้า
 
           "ส่วนมึงก็เขียนบทความภาษาอังกฤษที่มึงประทับใจครูเขม" ผมหันไปบอก เพราะว่ามันไม่เคยเข้าเรียนภาษาอังกฤษ แต่พอครูเขมมามันเข้าเรียนและยังไปเรียนพิเศษด้วย ผมว่านี้แหละที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่าครุเขมชาติเขาเป็นครูที่ทุกคนต้องการ คือมุ่งมั่นสอนหนังสือแค่ไหน
 
           "คริสประทับใจส่วนไหนของครูเขมเหรอ" ปันปันมันหันไปถามคริสโตเฟอร์ มันก็ก้มหน้าลง
 
           "อย่าเสือกใส่เรทอาร์มานะไอ้คริส!!" ผมเลยรีบดักมั้นไว้ก่อน ไอ้นี้มันทะลึ่งอยู่
 
           "กูว่าผู้อำนวยการอ่านปุ๊ป! คงรีบเชิญเลยแหละ" ผมพูด ทุกคนหันมามองหน้าผมกันหมด
 
           "เชิญออก!!ทั้งคู่!!!"  ผมพูดออกมา
 
           "รู้ได้ไงวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์ นั้นไง ความคิดที่มันกำลังจะเขียนออกมา ผมก็กุมขมับทันที
 
           "หน้ามึงบ่งบอกมากลูกคริส!!!" ไอ้โจมันพูด
 
          " เอาละแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้วรีบกลับมาเจอกันที่บ้านพัก คริสมึงนั่งพิมพ์ที่นี้หรือว่าจะ.."ผมหันไปถามไอ้คริสโตเฟอร์
 
          "ที่บ้านพักครูดีกว่าวะ...มันเห็นอะไรได้ชัดเจนมากขึ้นวะ" ไอ้คริสโตเฟอร์พูดผมหยักไหล่เรียกปันปันให้ไปที่เขาเก็บบอร์ด เอาไว้ลงนับคะแนนเลือกตั้ง ผมหวังว่านี้คงะจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่คงจะไม่น้อยเต็มที และผมก็เชื่อว่ามีหลายคนอยากให้ครูเขมสอนต่อ ถึงผมจะเคยคิดว่าทำไมครูเขมต้องมาแย้งเพื่อนที่ผมรักไปด้วย พอผมเห็นอาการไอ้คริสโตเฟอร์แล้วผมทำใจไม่ได้ต้องเข้ามาช่วยมันอยู่ดี ช่วยให้คนที่ตัวเองรักสมหวังแต่ขอบคุณที่ทำให้ผมได้คนที่รักผมมาด้วยคือปันปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 17:47:03 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP. 20 ครูเขมXคริส  ครูเขมชาติพบทางออกครึ้งแรก
           
              Part ครูเชมชาติ
 
              ผมมาอบรมผ่านไป 3 วันแล้วเหลืออีกแค่วันนี้`และพรุ่งนี้ผมก็ได้กลับแล้ว ผมมาอบรมกับครูสมชายและครูประพันธ์ มาวันแรกครูประพันธ์นี้กลัวผมน่าดูผมเลยอธิบายให้เขาฟังว่าผมเป็นเกย์แต่ไม่ได้จะรู้สึกกับผู้ชายทุกคน  ขอให้เขาสบายใจได้ว่าผมไม่แอบทำอะไรเขาแน่นอน  และผู้อำนวยการทำการจ้องห้องพักแบบประตูเชื่อมถึงกันสองห้อง ห้องของผมนอนคนเดียวและเพื่อความสบายใจผมเลยแนะนำให้ครูประพันธ์แกนอนกับครูสมชายแทน  เพราะครูสมชายเขาธรรมะธรรมโม
 
                       ผมคิดถึงคริสโตเฟอร์หลือเกินและผมก็พยายามใจแข็งไม่โทรหาเขา มีแค่ส่งข้อความไปหา แต่มันก็ไม่รู้สึกดีได้เท่ากับได้ยินเสียงเขาแม้จะกวนผมบ้างแกล้งผมบ้างแต่มันก็ยังดีกว่าตอนนี้ เงียบมากจนผมรู้สึกใจหาย  ส่วนคริสก็พยายามอยากจะโทรหาผมแต่ผมก็ไม่ตอบกลับเพราะว่าผมยังหาทางออกเรื่องคริสโตเฟอร์ไม่ได้เลยเช่นกัน ผมกลัวจะทำให้เขาคิดมากไปใหญ่และจะยิ่งเสียการเรียนไปด้วย
 
           "ครูโอเคหรือเปล่าครับ ...ผมนี่เห็นใจครูนะ...ถ้านายคริสเรียนจบซะก่อนครูคงไม่ต้องเป็นแบบนี้" ครูสมชายพูดขึ้นผมพยักหน้าแต่ความรักผมมันมาเร็วไปใช่ไหมครับมาตอนคริสยังอยู่แค่ม.4 นายนั้นก็ไม่น่าไปมีเรื่องจนต้องพักการเรียนเลยไม่อย่างนั้นก็อยู่ม.5.ไปแล้ว แถมไม่เอาภาษาอังกฤษเลยด้วปล่อยให้ติด 0 นี้ ผมก็ให้งานเขาทำเขาก็ทำได้นะแต่ดันมามีเรื่องซะก่อน และถ้าผมยังหาทางออกไม่ได้ ผมก็คงไม่ได้สอนห้องคริสโตเฟอร์หรืออาจจะไม่ได้สอนโรงเรียนนี้เลยก็เป็นไปได้
 
           "พรุ่งนี้อบรมอีกครึ้งวันก็ได้กลับบ้านแล้วครับครู" ครูประพันธ์พูดขึ้นระหว่างที่กำลังนั่งอยู่ในห้องอาหารของทางโรงแรม สายตาผมเหลือบไปเห็นเพื่อนผม ไอ้รชานนท์ เป็นครูเหมือนกันแต่มันโชคดีหน่อยที่เป็นครูโรงเรียนของคุณป้าของเขาเองและก็เป็นโรงเรียนเอกชน และที่ผมมาอบรมนี้เป็นตัวเมืองในเขาใหญ่ และเป็นโรงแรมระดับ สี่ดาวส่งสัยเพื่อนผมคงจะมาเที่ยวแน่ๆ
 
 
           "ครูสมชาย ครูประพันธ์ครับ ผมขอตัวไปหาเพื่อนผมหน่อยนะครับ" ผมพูดและลุกขึ้นผมเดินทางผู้ชายสองคน อีกคนดูยังเด็กๆอยู่เลยดูน่าจะรุ่นเดียวกับคริสโตเฟอร์ ทั้งคู่กำลังก้มลงดูอะไรด้วยกันหัวนี้แถบจะชนกันผมว่าไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรามดาแล้วแหละ
 
           "รชานนท์" ผมเรียกเพื่อนผม ไอ้รชานนท์สะดุ้งพร้อมกับเงยหน้าขึ้นเขาตกใจมากที่เจอผมที่นี้เช่นกัน
 
           "เฮ้ยไอ้เขม!!!...เป็นไงมาไงทำไมมาเจอที่นี้วะ..." เพื่อนผมลุกขึ้นผมเดินอ้อมไปนั่ง
 
           "นายละเป็นไงบ้าง" ผมถามเพื่อนผมและสายตาเหล่มองไปยังร่างเล็กๆน่ารักที่นั่งเคียงข้าง
 
           "ลืมแนะนำ นี้ออกัส เป็นแฟนกรูเอง" ไอ้รชานนท์บอกว่าน้องที่นั่งข้างๆ ดัดฟันน่ารักเชียว
 
           "ดูยังเด็กๆอยู่เลยอย่าบอกนะว่านายไปคว้ามาจากโรงเรียนนะ" ผมแซวเพื่อนผม มันหันไปยิ้มกับน้องออกัส
 
           "กูยอมรับว่าเขม..ว่าแต่มึงกับกานต์เป็นไงบ้างวะ..ตั้งแต่เจอกานต์หวีนเหวี่ยงพวกกูไม่กล้าติดต่อมึงกันเลยวะ" ไอ้รชานนท์พูดผมยิ้มให้
 
           "กูกับกานต์เลิกกันแล้ววะ"
 
           "เอาจริงดิ..มึงอย่าหลอกเพื่อนมึงนะโว้ยย..กูเห็นมึงรักเขามากจนปลีกตัวออกจากพวกกู"
 
           "ไม่ใช่รักมากธรรมดาทั้งรักและเทอดทูนพี่ณัฐกานต์ซะจนพวกกูนี้คิดว่าเขาทำของใส่มึงแน่ๆวะ" นี้มันประชดผมใช่ไหมเนี๊ยะ
 
           "ที่กูปลีกตัวเพราะว่าหลายอย่างวะ..กูทำงานพิเศษ...เก็บเงินอยากจะมีอนาคตกับกานต์ให้เร็วที่สุดแต่..อย่ารู้เลยวะ"ผมพูดกับไอ้รชานนท์มันก็พยักหน้าว่าคงไม่อยากฟังเรื่องไม่ดีของณัฐกานต์สักเท่าไหร่
 
           "มึงทำงานอะไร...ยังเป็นครูที่ติวเตอร์อยู่ไหมวะ" ไอ้รชานนท์มันถามผม
 
           "มาบรรจุเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนและกูคงจะได้กลับไปเป็นอาจารย์ที่ติวเตอร์ว่ะ กูงานเข้า" ผมพูดไอ้รชานนท์มันเอนหลังไปผิงพนักโซฟามองหน้าผม
 
           "พี่นนท์ ..กัสออกไปโทรหาแม่ก่อนนะแม่โทรมา" น้องเขาขอตัวออกไปโทรศัพท์
 
           "เรื่องอะไรวะร้ายแรงขนาดที่มึงต้องย้ายกลับไปเป็นครูที่ศูนย์ติวเตอร์เลยเหรอวะเขม"
 
           "มึงนะตั้งใจอยากบรรจุเป็นครูมากกว่าติวเตอร์ไม่ใช่หรือไง..ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปสอบใบประกอบวิชาชีพครูหรอก" รชานนท์พูดบางคนก็เลือกไปสอบบางก็ไมได้ไปสอบถ้าคิดจะไปทำอย่างอื่นที่มีรายได้ที่ดีกว่า
 
           "กู...รักกับนักเรียนวะและตอนนี้ทุกคนรู้แล้ว คือถ้าไม่มีใครรู้มันก็คงไม่มีปัญหา" ผมพูดกับรชานนท์เพื่อนผม มันก็ทำสีหน้าเหมือนจะตกใจและแปลกใจไปพร้อมๆกัน แต่รชานนท์มันก็ยิ้มให้ผมนะ
           
           "อันที่จริงนะ ครูรักกับนักเรียนมันก็ไม่ได้ผิดมากจนถึงขั้นคอคาดบาดตายหรอก"รชานนท์พูดบอกผม
 
           "แต่ควรจะปิดเป็นความลับแล้วมึงไปทำอีท่าไหนวะให้ความลับรั่วไปได้" รชานนท์ถามผม
 
           "กูโคตรเครียดเลยวะหาทางออกไม่ได้เลยเนี๊๊ยะ..น้องเขายังเรียนอยู่ม.4 อยู่เลย อันที่จริงก็ควรจะขึ้นม.5แล้วแหละแต่โดนพักการเรียนไปหนึ่งเทอม" ผมบอกไอ้รชานนท์
 
           "เขม...ออกัสแฟนกรูนะอายุครบ 17 เมื่อเดือนที่แล้วเอง"
 
           "นี้กูกับแฟนจะไปเรียนเมืองนอกกัน" ไอ้รชานนท์พูด
 
           "พ่อแม่กูกับพ่อแม่น้องเขารับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของกูสองคนเรียบร้อยแล้ว"
 
           "ออกัสนะกูเจอกันเขาที่เรียนม.4 กูก็แอบคบกันนะแต่อย่างว่าและมันจะปิดได้นานแค่ไหนจริงไหมวะกูเลยให้น้องเขาไปสอบ GED ไม่ต้องรอจบม.6 นี้ไปสอบTOFEL มาแล้วด้วย กำลังจะไปเรียนเมืองนอกเดือนหน้านี้แหละวะ"รชานนท์บอกผม GED
 
           "มึงสนใจใช่ไหมละ " รชนทท์พูด น้องออกัสเดินกลับมาพอดีเลย
 
           " GED คือ General Educational Development เป็นการสอบที่เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลายในประเทศไทย ตามหลักสูตรการศึกษาของสหรัฐอเมริกา เป็นที่ยอมรับในการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีภาคภาษาอังกฤษ (International Program) นักเรียนอาจจะรู้จัก GED ในคำอื่น เช่น High School Diploma, Equivalent M.6,  "รชานนท์มันอธิบายให้ผมฟัง ผมพยักหน้าผมเคยได้ยินมาบ้าง
 
           "แล้วไปสอบที่ไหนวะ"
 
           "ศูนย์ที่ใช้ในการสอบก็ที่ The Enterprise Resources ชั้น 3 อาคารชาญอิสระ 2 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ " ผมรู้จักผมเคยผ่านไปที่นั้น
 
           "สอบยากไหมวะ" ผมถามไอ้รชานนท์
 
           "ตอบได้ว่ายาก เพราะว่าข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดแต่มึงเป็นครูสอนภาษาอังกฤษกลัวอะไรวะจับน้องติวดิวะ ภาษาอังกฤษมึงนะพี่ที่ติวเตอร์เอ่ยปากชมเลยนะ" ไอ้รชานนท์บอกผม
 
           "และพวกไอ้เกรท มันก็ไปเป็นครูสอนติวเตอร์ให้กับสถาบันสำหรับคนที่จะไปสอบGED โดยเฉพาะ พวกมันเก่งนะแต่ไม่อยากไปสอบใบประกอบวิชาชีพ บางแขนงเรียนมาก็ยากกว่าจะจบมาได้พอจบมาอยากเป็นครูต้องไปสอบใบประกอบวิชาชีพครูอีก"
 
           "ดังนั้นจะหาครูเก่งๆเฉพาะทางมาเป็นครูสอนก็คงจะยากเพราะบางแขนงวิชากว่าจะเรียนจบใช้เวลาตั้ง 5ปี 6ปีให้มาสอบใบประกอบวิชีพอีกบางคนก็ไม่เอาแล้วเหนื่อยหันไปทำอย่างอื่นดีกว่า "
 
           "และพวกไอ้เกรทมันเลยเลือกเป็นติวเตอร์ดีกว่าวะสบายใจไม่ต้องมาแบกรับ..ไหนจะปัญหานักเรียน..ไหนจะปัญหาผู้ปกครอง .ไหนจะกฏระเบียบ.มันก็เยอะอยู่เหมือนกันที่ต้องแบกนะถ้าไม่ใจรักและอดทนจริงๆคงเป็นอยากวะ " พอดีน้องออกัสเดินกลับมานั่งลงข้างๆ รชานนท์
 
           "นี้ตัดสินใจไปเรียนปริญญาโทเมืองนอกจบมาจะได้หาอะไรที่ดีกว่าเพื่อจะเปิดติวเตอร์บ้างอะไรแบบนี้และไปดูแลออกัสด้วย" รชานนท์พูดก่อนหันไปเอามือแตะหัวคนข้างๆที่ยิ้มจนเห็นเหล็ดดัดฟัน
 
           "อายุเท่าไหร่ถึงจะสอบได้" ผมถามรชานนท์และน้องออกัสก็หันมายิ้มให้ผม
 
           "อายุ 17 ปีครับพี่... ออกัสเพิ่งจะไปสอบมา...กว่าจะสอบผ่านได้ เสียเงินไปสอบตั้งหลายรอบออกัสไม่เก่งเคมีนะครับ" ออกัสพูด และยิ้มๆ ถ้าไม่ผ่านก็สอบใหม่และเสียเงินนี้เอง
 
           "มีสอบทั้งหมด 5 วิชา คือ Mathematics เลข ,Reading การอ่าน, การเขียน Writing, Social studies สังคม, และ Science วิทยาศาสตร์"
 
           "พี่เคยได้ยินนะแต่ไม่เคยสนใจเพราะว่าส่วนตัวพี่คิดว่ามันเร็วไปควรไปตามสเต็ปของการเรียนแต่ตอนนี้พี่อยากจะ..." ผมพูดบอกออกัส
 
           "พี่เขมเขากินเด็กเหมือนพี่อะ" รชานนท์หันไปบอกแฟนมัน น้องเขาก็พยักหน้าเข้าใจทันทีและหันมายิ้มโชว์เหล็กดัดฟัน
 
           "จริงเหรอครับ ....ออกัสนะเข้าใจนะมันอึดอัดมากเลยกลัวเพื่อนเอาไปบอกคนนั้นคนนี้และเวลามีแฟนเป็นครูมักจะโดนมองว่าแฟนจะลำเอียงให้คะแนนหรือเปล่า" ออกัสพูดผมพยักหน้า
 
           "จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ให้งานยากกว่าและคะแนนก็ต้องได้มาด้วยความสามารถตัวเองล้วนๆ เผลอๆจะยากกว่าคนอื่นด้วยและต้องมานั่งติวเพิ่มทุกวันแต่ตอนนี้สบายใจแล้ว" ออกัสพูดและหันไปมองคนข้าง
 
           "ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เหรอครับออกัส"
 
           "ถามกูนี้กูจ่าย ..หมื่นกว่าบาทไม่เกินสองหมื่นและขึ้นอยู่กับเรทอัตราแลกเปลี่ยนวะ"
 
           "ค่าสมัครล่าสุดที่กูพาออกัสไปนะ อยู่ที่  วิชา $50 หรือประมาณ 1620บาท ต่อรายวิชา"
 
           "และก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องสอบกี่ครั้งเพราะว่าคะแนนเต็มเนี๊ยะ 800 คะแนนต่อรายวิชาต้องสอบให้ได้ ขั้นต่ำ 410คะแนนรวมทั้งห้าวิชาต้องได้ 2250 คะแนนคือสรุปแต่ละวิชาต้องได้อย่างต่ำ 450 คะแนนขึ้นไป " รชานนท์พูด
 
           "เรียนจบไปต่อที่ไหนได้ไหมถ้าไม่ไปต่างประเทศ " ผมถามต่อ
 
           "ก็ไปต่อหลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยอินเตอร์ แต่ก็ต้องสอบ TOEFL (iBT) ,IELTS และSAT 1 " ราชานนท์บอกผม
 
           "หลักสูตร มหาวิทยาลัย นานาชาติมหิดล (MUIC) หรือไม่ก็ หลักสูตรที่เป็นภาคภาษาอังกฤษอะไรพวกนี้ ธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์" รชานนท์พูด ผมพยักหน้า
 
           “เออ…ไปต่อที่ประเทศออสเตรเลียก็ได้นะโว้ยเขม” รชานนท์พูด ผมก็ต้องยิ้มเพราะว่าคริสโตเฟอร์เขาได้ซิตี้เซ้นออสเตรเลียแล้วตั้งแต่เกิด พ่อเขาทำให้ ดังนั้นถ้าคริสโตเฟอร์โอเคกับทางเลือกนี้ ผมก็ต้องพยายามติดต่อพ่อเขาให้ได้ เพื่อว่าเขาจจะได้ไปเรียนต่อที่นั้น แต่ว่าถ้าข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษหมดแล้วคริสจะไหวไหม
 
           "กลัวอะไรวะเขม .....มึงเก่งกว่าพวกกูอีกแถมมึงยังไปเรียนแลกเปลี่ยนมาตั้งปีหนึ่งเต็ม"รชานนท์บอกผม ผมทำท่าคิด
 
           "อาจารย์อรปรียาเขาเปิดศูนย์ สอนพิเศษติวสำหรับคนที่จะไปสอบGED โดยตรงมึงพาแฟนเข้าไปปรึกษากับอาจารย์ดิวะ พวกไอ้เกรทมันก็เป็นติวเตอร์ที่อาจารย์เปิดนั้นแหละ...แต่ไม่รู้ว่าเกรทมันเข้าทุกวันไหม"ราชานนท์พูดผมพยักหน้า
 
           "เข้าไปคุยกับอาจารญ์ดิวะเขามีแนวข้อสอบและมึงก็ศิษย์คนโปรดเขา...เขาช่วยมึงอยู่แล้วแหละ" รชานนท์พูด
 
           "น้องออกัสครับพี่ขอกระดาษหน่อยได้ไหมครับพี่จะจดเว็ปไซต์อันไหนให้ไอ้พี่เขมมันเข้าไปดู...มันอยากมีเมียเด็กแย่แล้ว" ไอ้รชานนท์พูดผมอยากจะเตะมันจริงๆ เลยและน้องออกัสก็หยิบกระดาษขึ้นมา รชานนท์มันจดให้ผมว่าเข้าเว็ปไซต์ พอผมรีบมาผมดีใจนะที่ได้มาเจอเพื่อนผมวันนี้ ยิ่งเห็นมันหยอกกับน้องออกัสแล้วก็คิดถึงคริสโตเฟอร์
 
           "โทรหากูบ้างละนนท์ " ผมบอกมัน
 
           "มีอะไรโทรหากูได้วะเขม...ปรึกษาได้วะ กรูเข้าใจอยากกดเด็กใจจะขาดเป็นไง ..ติดแต่ว่าเป็นคุณครูลำบากวะ"รชานนท์พูดผมหยักไหล่
 
           "กูต้องไปแล้ววะไว้คุยกันพรุ่งนี้อบรมวันสุดท้ายก็เดินทางกลับแล้ววะ...เฮ้อ!" ผมพูดและพ่นลมหายใจออกมาไม่รู้ว่าผลจะออกหัวหรือออกก้อย เรื่องระหว่างผมกับคริสโตเฟอร์
 
           "โชคดีวะ" รชานนท์พูด
 
           "โชคดีนะครับพี่เขมขอให้แฟนพี่เขมสอบได้ไวไว...เขาคงกังวลเหมือนออกัสอยู่ไม่น้อยหรอก" ออกัสบอกผม ผมก็ส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจากที่แถบจะไม่แตะมันเลย เพราะว่าผมเองก็เครียดแต่ไม่อยากแสดงให้คริสรู้ แต่ว่าตอนนี้ผมร้อมแล้วที่จะบอกเขาว่าผมหาทางออกให้เขาได้แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าใจเขาสู้ไหม ไหวหรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:13:07 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP. 20.1 ครูเขมXคริส  ครูเขมชาติพบทางออกครึ้งหลัง

           KissKhem : อรุณสวัสดิ์นะครับพี่เขม..ผมตื่นมาก็คิดถึงพี่แล้วอะ...วันนี้ผมตื่นแต่เช้าผมลืมไปว่าพี่ไม่อยู่ลืมไปว่าไม่ต้องลุกมาทำอาหารเช้าให้พี่เขม ผมคิดถึงพี่เขมทั้งคืนเลย (8ชั่วโมง)
           KissKhem: พี่เขมทานข้าวเที่ยงหรือยัง ผมอยากคุยกับพี่เขมอะ อยากได้ยินเสียงพี่เขม( 5 ชั่วโมง)
           KissKhem: พี่เขมคริสขอโทษที่ทำให้พี่อึด คริสขอโทษ (1 ชั่วโมง)
 
           "ฮัลโล...คริส"ผมกดโทรหาคริสโตเฟอร์ทันที จากที่ไม่ได้โทรเลยมีส่งข้อความคุยกันแค่นั้น ถามว่าอยากโทรไหมอยากโทรใจจะขาด
 
           "พี่เขม...ฮึก ..ฮึก "
 
           "คริสเป็นอะไรร้องไห้ทำไม" ผมรีบถามคนปลายสายด้วยความตกใจเพราะไม่บ่อยเลยที่จะเห็นว่าเขาร้องไห้แสดงว่าเขาคงหนักมากแล้วจริงๆ
 
           "ผมคิดว่าพี่เขมจะเลือกที่จะ...ทิ้งผมไว้ที่นี้..ผมไม่อยากเสียพี่เขมไปอะ" คริสโตเฟอร์พูด ผมหยุดเดินปลายลิ้นแตะที่ริมฝีปากบน
 
           "พี่ไม่เลือกทิ้งเราแน่นอน..พี่ได้คำตอบแล้ว..พี่กลับไปคุยนะ..แต่คริสคงหนักหน่อย..ใจสู้หรือเปล่า" ผมพูดกับคนปลายสายผมเริ่มมีหวังแล้วใช่ไหม
 
           "สู้ซิ ...ว่าแต่ทางออกของพี่คืออะไรอะ"
 
           "กลับไปถึงแล้วพี่จะคุยกับเราและผู้อำนวยการและแม่ของเราด้วย"
 
           "และถ้าหากทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยนี้ก็จะเป็นทางออกของพี่และเราคริสโตเฟอร์" ผมพูดน้ำเสียงที่มีหวัง
 
           "ต่อให้หนักแค่ไหนคริสก็สู้พี่เขม....ผมพร้อมที่จะไปกับพี่นะ"
 
           "แม่จะลงมาวันจันทร์พี่เขม...แม่รู้เรื่องของผมกับพี่แล้ว"
 
           "แม่ว่ายังไงบ้างแม่โกรธหรือเปล่า"
 
           "ไม่อะแม่ไม่โกรธเพราะว่าแม่รักผมจากที่ผมเคยคิดว่าแม่รักผมไหมตอนนี้ผมรู้แล้วพี่เขมว่าแม่รักผมพี่"
 
           "พี่บอกเราแล้วไงว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอก" ผมพูดผมดีใจที่เขาได้มุมมองความรักของพ่อแม่ซะใหม่
 
           "ผมควรจะพยายามตามหาพ่อด้วยใช่ไหมพี่เขม"
 
           "พี่จะช่วยเรื่องนี้ด้วยแต่ตอนนี้เอาเรื่องของเราให้ผ่านไปก่อน ..นี้พี่กำลังเดินขึ้นห้องพัก"
 
           "พี่ไปไหนมาอะ" เปลี่ยนโหมดทันที
 
           "ไม่ได้ไปไหนอยู่แต่ในโรงแรมไม่มีอะไรหรอกคริส..อ้อพอดีพี่เจอเพื่อนที่เรียนด้วยเขามาเที่ยวกับแฟนเขานะ แฟนเด็กเหมือนพี่ซะด้วย"
 
           "พี่เลยได้คำตอบเพิ่งจะได้เมื่อสักครู่นี้แหละ"
 
           "จริงอะ...คริสหึงอะเห็นหายเงียบนึกว่าไป...."
 
           "ไม่ต้องหึงหรอกมีเด็กคนนี้คนเดียวผมพี่ก็จะหงอกเร็วกว่ากำหนดอยู่แล้ว..พี่นอนไม่ค่อยหลับมาหลายคืนแล้วเนี๊๊ยะ"
 
           "เหมือนคริสเลยนอนไม่หลับเลย..คิดถึงพี่เขมอะ"
 
           "แล้วผมจะไปกับพี่เขมได้ไหมอะวันเสาร์อะ"
 
           "เออ...."
 
           "พี่เขม!!!"
 
           "กลับแล้วเราค่อยคุยกันเรื่องนี้นะคริส..พี่ก็อยากอยู่กับเรานะเคยอยู่ด้วยกันทำไมพี่จะไม่รู้สึกละ"
 
           "นี้อาบน้ำหรือยัง" ผมถามเด็กน้อยอยู่ในสาย เพราะว่าตอนนี้เขากำลังอ่อนแอ ผมรู้ดี ผมเองก็อยู่ไกลเกินไม่อย่างนั้นผมคงจะดึงเขาเข้ามากอด
 
           "ยังอะรอพ่อเขมมาอาบให้" คริสโตเฟอร์เรียกผมว่าพ่อเขม แต่มันกลับทำให้ผมอดขำไม่ได้
 
           "เป็นอะไรก็ได้นะยกเว้นเป็นพ่อได้ไหมพี่แก่อะ" ผมพูด
 
           "ฮาๆ ยังไม่ได้อาบน้ำเลย.."
 
           "อาบน้ำได้แล้วแหละก็นอนซะ"
 
           "นี้นอนที่บ้านพักกับโป้งใช่ไหม" ผมถามคริสโตเฟอร์
 
           "พี่เขมคริสมานอนบ้านพักของพี่นะ...คือ..คือ.." พอคริสโตเฟอร์บอกว่านอนบ้านผม ผมก็ตกใจ
 
           "เกิดอะไรขึ้นคริส" ผมถามด้วยน้ำเสียงซีเรียสมันต้องเกิดเรื่องแน่ๆเลย
 
           "พี่เขมไอ้โป้งมันไม่ได้รังเกียจเรื่องที่ผมเป็นเกย์หรอก..แต่มันโกรธที่ผมเคยบอกแชมป์ไปว่าผมไม่ใช่เกย์มันเสียใจเพราะว่ามัน..มัน..แอบรักผมมาตั้งนานแล้วแต่พอผมบอกไม่ใช่เกย์มันก็เลย..พยายามหยุดความรู้สึกตัวเอง"
 
           "พอมันรู้ว่าผมกับพี่...มันเลยโกรธมาก..และที่ผมไม่กล้านอนกับมันก็เพราะว่ามัน..จะปลั้มผมอะ"
 
           "อะไรนะคริส`!...นี้โป้งทำอะไรเราหรือเปล่า" ผมถามด้วยอาการตกใจ และถ้านายนั้นทำอะไรคริสไปนี้ผมคง เสียใจที่สุดเพราะคริสโตเฟอร์ก็เป็นแฟนของผมโป้งก็รู้ ผมยอมรับว่าโกรธโป้งขึ้นมาทันที 
 
           "เปล่ามันยังไม่ได้ทำ เพราะว่าผมต่อยมันไปจนมันได้สติ...แต่เราคุยกันเข้าใจแล้วมันจะไม่ทำกับผมอีกพี่เขมและมันก็..มีคนที่รักมันแล้วคือไอ้ปันปัน" ค่อยยังชั่วหน่อย ผมค่อยโล่งอกไปหน่อย
 
           "พี่ขอโทษนะคริสที่พี่ไม่ได้โทรหาเราเลยนะ" ผมพูดอย่างรู้สึกผิด
 
           "ใช่พี่เขมผมอ่อนแอมากผมคิดถึงพี่เขมมากผมคิดไปต่างๆนาๆ ว่าพี่กำลังจะ...ทิ้งผมไปเหมือนพ่อ"
 
           "พี่ไม่ทิ้งแน่นอน...เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้วนะ" ผมพูดอ่อนคริสโตเฟอร์
 
           "ถ้ากล้วเปิดไฟตรงหัวเตียงไว้ได้นะคริส"
 
           "ครับพี่เขม"
 
           "ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกจากใจเราเองที่กลัวไปเอง...และพี่ก็อยู่ใกล้ๆ ..."
 
           "ใกล้ตรงไหนไกลจะตาย"
 
           "หัวใจไง"
 
           "แหว๊ะ ! แต่ชอบ"
 
           "พี่เขมผมโคตรรักพี่อะพี่รู้ตัวปะ..ขอบคุณนะ นี่ขนาดพี่ไม่อยู่กับผมพี่ยังสั่งกับข้าวไว้ให้ผม แล้วแบบนี้ทำไมผมจะไม่อยากไปทุกที่มีพี่ละ" คริสโตเฟอร์พูด มันทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อผมได้ยินว่าเขาอยากไปทุกที่ที่มีผม ผมก็อยากไปทุกที่ที่มีเขาเช่นกัน ผมถึงได้พยายามทุกอย่างเพื่อเขา
 
           "หึๆ ..พี่ก็รักเรามากเหมือนกันนะคริส..ไม่เคยรู้ตัวเองมาก่อนเลยว่าจะรักใครได้มากเท่านี้"
 
           "พี่รักผมมากกว่า...ณัฐกานต์แล้วใช่ปะ"
 
           "หึ ?" ผมก็ทำน้ำเสียงแปลกใจในคำถาม แต่ผมก็เข้าใจเขาแหละ
 
           "พี่เขมอะ...แค่อยากรู้...อยากให้รักมากกว่า" บทจะขี้อ้อนนี้ก็อ่อนเป็นลูกแมวเลย
 
           "หึๆๆ "ผมหัวเราะในลำคอแล้วแบบนี้ผมจะหาช่องทางแค่ผมคนเดียวไปได้ยังไง
 
           "รักมากกว่าหลายเท่าเลย...พี่จะเข้าห้องพักแล้วนะนอนได้แล้วคริส....พรุ่งนี้เจอกันแล้วคริส..และห้ามนอนดึกเดี๋ยวจะเรียนไม่รู้เรื่อง "
 
           "ครับครูเขม...กู้ดไนท์นะครับที่รัก"
 
           "กู้ดไนท์ครับที่รัก..พี่รักคริสนะ "
     
        ผมพูดตอบก่อนจะกดวางสายไปผมเดินเข้าไปในห้องพัก ผู้อำนวยการจองห้องพักให้พักได้คนละห้อง ค่าห้องเบิกได้ แต่ผมยังไม่อยากนอนผมรีบเปิดโน๊ตบุ๊กศึกษาเรื่อง GED ทันทีว่าผมควรจะให้คริสโตเฟอร์เตรียมตัวยังไงบ้าง รายวิชาและแนวข้อสอบ เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆเลยนิผมนะอ่านเข้าใจแต่ ผมต้องเน้นภาษาอังกฤษให้คริสโตเฟอร์เยอะ ผมคงต้องให้ไอ้เกรทเพื่อนผมช่วยเรื่องสังคมศาสตร์ มันเป็นติวเตอร์ด้านนี้
 
        Email : To เกรท
                   เกรทนี้เขมนะ มีเรื่องให้ช่วย  เขมสนใจเรื่องการสอบ GED อยากได้รายละเอียดวิชาและถ้าเป็นไปได้อยากให้นายติวให้แฟนเราหน่อยจะพาไปสอบ GED รบกวนติดต่อกลับหาเขมด้วยนะ ขอบคุณล่วงหน้าเกรท
 
                       เขมชาติ
 
 
     ผมส่งข้อความหาเกรททางอิเมลและเปิดเว็ปไซต์ที่รชานนท์ให้ผมมา คำถามเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆเลยครับ ผมเริ่มกังวลแทนคริสโตเฟอร์
 
            Rrrrrr มือถือผมดังขึ้นเบอร์ เกรท เพื่อนที่ถือว่าสนิทของผมแม้จะไม่ได้คุยกันได้สักพักเนื่องจากต่างคนก็ต่างมีงานมีหน้าที่ต้องที่จะต้องทำ
 
           "ดีวะเขม...กูเพิ่งวางสายจากไอ้นนท์ ...ดีใจด้วยนะที่มึงเลิกงมงายซะที" มาถึงนี้มันก็แสดงความดีใจที่ผมเลิกกับณัฐกานต์ทันทีผมจำได้ว่าณัฐกานต์ด่ามันไว้เยอะและนั้นคือสาเหตุให้ผมกับพวกเพื่อนห่างกันด้วย
 
           "กูไม่ได้อยากซ้ำเติมมึงนะ...แต่กูคิดว่ามึงต้องเลิกเพราะว่าเมียมึงแรด" T_T เกรทมึงชมเขาตรงไปไหม ไอ้นี้มันปากไว เลยทำให้ทะเลาะกับณัฐกานต์บ่อย
 
           " กูเห็นหลายครั้งแล้วแต่พวกกูก็ไม่อยากทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆของมึง..เห็นมึงตั้งความฝันไว้สวยหรูแบบนั้น..พวกกูเลยเลือกที่จะไม่พูดเพราะว่าพูดไปก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อพวกกูไหมนะซิ"
 
           "พวกกูเห็นณัฐกานต์เข้าไปหาอาจารย์ผู้ชายเพื่อให้ได้มาซึ้งเกรดดีดีหลานครั้งแล้วและกูได้ยินเพื่อนๆมันนะนินทากันเองว่าเกรดที่ได้นะไม่สมกับความสามารถเลยเอาตัวแรกมาชัดชัดและที่สำคัญนะกูเห็นหลายต่อหลายครั้งแล้วที่ไปกับคนนั้นคนนี้ นี้กูก็ไม่อยากพูดเพื่อตอกย้ำมึงเลยวะเขม"
 
           "เกรท..มึงพูดไปหมดแล้วแหละ" ผมเกาหัวตัวเองไม่ได้ตอกย้ำกูเลย!!
 
           "lol"
 
           "กูไม่อยากรื้อเพราะว่ากูกับเขาเลิกลาต่อกันไปแล้วเกรท ...ตอนนี้กูมีเรื่องรบกวนให้มึงช่วยกูวะ"
 
           "กูรู้คร่าวๆแล้ว พวกมึงนี้เขาให้ไปเป็นครูนะเว้ย..เขาให้ไปสอนเด็กไม่ได้ให้ไปสอยเด็ก!!"
 
           "และเห็นหน้ามึงเงียบๆนี้ก็ฟาดเรียบเหมือนกันนะครับคุณเขม” เกรทพูด
 
           "กูก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้วะแต่มัน..พูดไม่ถูกวะ..." ผมพูดไอ้เกรทมันเงียบไปพักหนึ่ง
 
           "เออกูเข้าใจวะที่จริงมันก็เป็นเรื่องปกตินะที่ครูจะรักนักเรียนหรือนักเรียนจะรักครูแต่ขึ้นอยู่กับว่าจะควบคุมมันยังไงก็เท่านั้น"ไอ้เกรทพูด
 
            “และนี้กูก็เพิ่งหาทางออกให้ไอ้นนท์ไปมึงเข้ามาต่อคิวเลยเหรอวะ ..กูลากออกไปเป็นศิราณีดีกว่าไหมวะ.....ไม่เป็นแล้วครูติวเตอร์เนี๊ยะ" ไอ้เกรทมันพูดขำ ขำ
 
              "ตอนนี้กูต้องขอให้มึงช่วยแล้วเกรท" ผมพูด
 
             "เออว่ามา"ไอ้เกรท
 
             “กูอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ GED วะพวกหนังสือ แนวข้อสอบยิ่งละเอียดยิ่งดีแต่ว่าTOEFL (iBT) ,IELTS และSAT 1 อะไรพวกนี้กูมีประสบการณ์กูพอจะติวน้องได้เอง ” ผมบอกไอ้เกรทไป
 
           "มึงเข้ามาวันเสาร์นะตอนสายๆหน่อยอาจารย์อรปรียาเขาจะเข้ามาที่บ้านติวเตอร์GED ..อาจารย์เขายังถามถึงมึงอยู่เลยนะ"
 
           "แต่กูบอกว่าเมียมึงดุ๊ ดุ กูไม่กล้าโทรวะ"
 
           "เขาไม่ใช่เมียกูแล้ว"
 
           "อดีตเมียมึงดุ!"
           
           "แต่กูรู้สึกผิดวะที่ไม่ได้ไปหาอาจารย์เลยจะไปหาทีก็มีเรื่องถึงจะได้ไป"
 
           "เอานะกูว่าอาจารย์เข้าใจ..ส่วนเรื่องติวสังคมกูติวให้...เดี๋ยวมานัดกันอีกทีว่าน้องเขามาให้กูติวให้วันไหน"
 
           "แต่ถ้าติวไปติวมาน้องเขาหลงกูไม่รู้นะเว้ย"
 
           "กูเชื่อว่ามึงคงไม่อยากให้หลงหรอกเพราะไม่ได้บอบบางเหมือน น้องออกัสไอ้นนท์นะมึง"
 
           "แล้วมึงไปหานักมวยปล้ำที่ไหนมาทำแฟนละครับ ...รสนิยมมึงนี้แปลกแหวกแนวตั้งแต่ณัฐกานต์แล้ว"
           
           "ความรักนะมันออกแบบไม่ได้มึงเข้าใจไหมวะเกรท...อ้อมึงออกแบบได้นิกูลืมไป..แฟนสวยยังกับนางฟ้า" ผมพูดแซวมัน
 
           "กูต้องมีดีบ้างแหละ" ไอ้เกรทพูด
 
           "กูขอบใจวะเกรท...ขอบใจล่วงหน้าวะ"
 
           "เออ..เพื่อนกันมีอะไรก็ช่วยกันวะ....ที่จริงมึงมาเป็นครูสอนติวเตอร์ที่อาจารย์อรปรียาก็ดีนะ"
 
           "ขอคิดดูก่อนวะถ้าไม่แน่กูจะไปหรือเปล่า..นี้คุณธรรณธรเขาส่งอิเมลหากูด้วย"
 
           "เชร็ด!! มึงตอบตกลงไปไหมวะ" น้ำเสียงไอ้เกรทมันดูเป็นกังวลมากที่ผมพูดถึงพี่ธรรณธร
 
           "มีอะไรวะ"
 
           "คุณธรรณธรนะเขาเป็นเกย์...เขาขอเบอร์มึงจากพวกกูหลายครั้งแล้วแต่กูบ่ายเบี่ยงไม่ให้ไปแล้วนี้เขาไปเอาอิเมลจากมึงมาได้ยังไงวะ"
 
           "กูไม่รู้วะ ...คงเพราะว่าตอนที่ไปทดลองเป็นติวเตอร์ให้เขาก็มีส่งเอกสารทางอิเมลกับออฟฟิตวะ"
 
           "ระวังก้นมึงให้ดีเถอะไอ้เขม" O_O รู้สึกดีขึ้นทันทีเลยผม
 
           "กูรู้หรอกนะ....กูขัดขืนเป็น..และกูก็คงไม่ลงทุนขนาดนั้นต้องไปพลีกายให้เขาหรอกมั้งครับ..ไอ้เกรท"
 
           "อ้อเพราะว่ามึงพลีกายให้เด็กไปแล้วอะดิ.....ว่าแต่เด็กของมึงอายุเท่าไหร่แล้ววะ"
 
           "จะ17 ปี เต็มแล้ว"
 
           "อีกตั้งปีหนึ่ง ตอนนี้ก็ไอคุก ไอคุกไปก่อนว่ะ" ดูมันพูดให้กำลังใจผมดีจริงๆ
 
           "ขอบใจ!" ผมพูดกัดฟันเล็กน้อย
 
           "แค่นี้ก่อนนะ...กูต้องต้องเข้านอนแล้ววะถึงจะสอนไม่เช้าแต่ก็ต้องตื่นเช้าไปส่งว่าที่ภรรยาไปเป็นครูที่โรงเรียนนะเว้ยเห้ย" ไอ้เกรทมันมีแฟนแล้วเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนนานาชาติ
 
           "มีอะไรโทรมาวะเขม..มาแล้วไปหาอะไรกินกัน..คิดถึงวะ"
 
           "ได้ดิ..เจอกันวันเสาร์วะ ...บายวะ"
 ผมวางสายจากเกรท ผมคงต้องขอให้ครูลินดอยู่เวรโรงเรียนวันเสาร์ให้ผมก่อนและวันอาทิตย์ค่อยกลับมาอยู่เวรแทนครูลินดา ผมต้องพาคริสโตเฟอร์ไปกรุงเทพพรุ่งนี้ด่วน
 
       ผมเข้าไปดูตัวอย่างข้อสอบที่หนักหน่อยคงเป็นคณิตศาสตร์ ถ้าเป็นภาษาไทยคงไม่หนักอกหนักใจแต่นี้ภาษาอังกฤษล้วนๆ ต้องติวภาษาอังกฤษให้คริสโตเฟอร์อย่างหนักเลยแหละผม เพราะถ้าแปลผิดก็หาคำตอบที่ถูกไม่ได้แน่ๆ


        Question 7: Last month, the balance in Tisha's checkbook was $1219.17. Since then she has deposited her latest paycheck of $2425.66 and written checks for $850.00 (rent), $235.89 (car payment), and $418.37 (credit card payment).
 
What is the current balance in Tisha's checking account?
1.$921.40
2.$2,140.57
3.$3,215.27
4.$3,929.92
5.$5,149.09
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบ GED ถ้ามีข้อมูลใดผิดพลาดไป ผู้แต่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:16:23 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.21 ครูเขม Xคริส ทำให้ผมไม่กล้าทิ้งนักเรียนไปจริงๆ

Part คริสโตเฟอร์
                      เมื่อคืนผมได้นอนกันเกือบตีสองช่วยกันทำบอร์ดใครต้องการลงชื่อเพื่อให้ครูเขมยังคงเป็นครูสอนที่นี้กันบ้างและผมก็เชื่อว่าต้องมีคนมาลงกันบ้างผมเชื่ออย่างนั้น และเมื่อวานผมก็ได้คุยกับครูเขมด้วยจากที่ครูเขมใจแข็งไม่โทรหาผมเลย แต่ผมก็ไม่ได้บอกครูเขมเรื่องสิ่งที่ผมทำ ครูเขมบอกผมว่าที่ไม่ได้โทรหาผมก็เพราะครูไม่อยากให้ผมรู้ว่าครูกังวลกับเรื่องของผมมากแค่ไหน ครูเขมบอกผมว่าได้คำตอบแล้วผมนี้ตื่นเต้นจนทนรอไม่ไหวอยากรู้ใจจะขาดแต่ก็ต้องรอเพราะครูเขมคงเดินทางกลับบ่ายๆนั้นแหละ
 
         ผมตื่นแต่เช้าตรู่รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกที่ลานเอนกประสงค์ ผมมาเดินดูผลงานตัวเอง ผมไม่ขอให้มีคนเห็นใจความรักของผมแต่ผมต้องการสื่อให้เขารับรู้ว่าครูเขมทำให้ผมดีขึ้นมากแค่ไหน และนั้นแปลว่าครูเขมเป็นครูที่มีคุณภาพมากเช่นกัน
 
          "พวกเรามาดูบอร์ดนี้ซิ!"
 
           "นี้พี่คริสเป็นคนเขียนอะแกไหนใครบอกว่าแกไม่เคยเข้าเรียนภาษาอังกฤษไงเขียนดีกว่ากูอีกวะ"
 
           "ไหนอะ..เออวะ..แต่กูแปลไม่ออกวะ" ผมก็ต้องยกมือขึ้นแตะหน้าผาก
 
           "เฮ้ยมีแปลไทยให้ด้วย...นี้ไง "และก็กรูกันเข้าไปอ่านที่ผมแปลกไว้ให้ด้วยเป็นภาษาไทย
 
           "ใครอยากให้ครูเขมเป็นครูที่นี้ต่อให้ลงชื่อว่ะ”นักเรียนที่มาแต่เช้าพากันมาอ่านที่บอร์ดที่พวกผมทำกันเมื่อคืนเลยพากันนอนดึกเป็นแถว ผม ไอ้โป้ง ไอ้ปันปัน ไอ้อาร์ทและไอ้โจ ผมนี้โชคดีที่มีพวกมันเป็นเพื่อนและยังมีพวกเด็กที่มาเล่นบาสกับพวกผมอีก นี้มันก็บอกเดี๋ยวค่อยมาลงให้ ก็เกือบยี่สิบคนได้ และพวกที่อยู่บ้านพักบางหลังก็ผมเคยไปช่วยมันซ่อมท่อน้ำ ซ่อมเปลี่ยนฝักบัวให้ มันก็จะมาลงให้ผมด้วย แต่ผมอยากได้จำนวนเยอะๆนี้ซิ ผมได้แต่ยืนลุ้น ว่านักเรียนที่นี้อยากเรียนกับครุเขมไหม
 
          “ลงชื่อด้วยดีไหมอะแก”
 
          “แต่ครูเขมเขา”
 
          “ครูเขมสอนดีวะฉันเคยไปเรีนนติวเตอร์กรุงเทพนะ แพงมากสอนดีด้วยเหมือนที่ครูเขมสอนเปรี้ยบเลยว่ะ"
 
          “แต่เรื่องพี่คริสกับครูเขมละ”
 
          “ฉันก็ไม่เห็นว่าพี่คริสกับครูเขมจะมีอะไรน่าเกลียดสักหน่อย”
 
           “เพราะว่าตอนที่ครูอยู่โรงเรียนเขาก็เป็นครู..มีแต่อีแก้มนั้นแหละที่เที่ยวไปโพยทะนาว่าครูเขาอย่างนั้นอย่างนี้ และพี่คริสก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดแบบที่อีแก้มพูดซักหน่อย “
   
       ผมยืนอยู่ผมได้ยินพวกเด็กรุ่นน้องคุยกันเรื่องตัดสินใจลงชื่อหรือไม่ลง จนพวกไอ้โป้งมันเดินออกมากับปันปั่น มันออกมาแต่เช้าเหมือนกันและพวกไอ้อาร์ทและไอ้โจด้วย ไอ้อาร์ทมันถือโทรโข่งมาด้วยและมันก็ขึ้นไปยืนบนโต๊ะนั่ง
 
           "ฟังทางนี้ครับฟังทางนี้)))) " ไอ้อาร์ทมันเรียกความสนใจทุกคนที่ถยอยกันเข้ามานั่งที่ลานเอนกประสงค์ ทุกคนหันมามองมัน ณ จุดเดียว
 
           “โอ๊ย!!” มันพูดดังไปหน่อยหนวกหูเลยผม ผมก็ต้องเอามือขึ้นป้องหูไว้ด้วย และนักเรียนทุกคนที่นั่งอยู่ที่บริเวณลานเช่นกัน  ไอ้โป้ง ไอ้ปันปัน และไอ้โจมันเดินมาหาผม ไอ้โป้งมันกอดคอผม ผมหันไปพยักหน้าเป็นเชิงว่าขอบคุณพวกเพื่อนๆของผม ไอ้โจส่งสัญญาณให้อาร์ท
 
           "ขายอะไรอะเพ่" พวกรุ่นน้องม.ต้น ตะโกนถามไอ้อาร์ท
 
           "ลำไยหว้าน หวานๆ แตงโมหวานฉ่้ำๆ ส้มกินได้บางลูกมาแล้วจร๊า" ดูมันหันไปตอบเขาผ่านโทรโข่ง
 
           "เว้ย!!.ไม่ได้มาขายเฟ้ย...แต่..."
 
           "พี่มีเรื่องวะ!!" อ้าว พวกผมหันมามองหน้ากัน
 
           "เว้ยย!!!" น้องพากันร้องและรีบเก็บกระเป๋าพร้อมกับ   "คลื้น" ไอ้อาร์ทน้องๆพากันลุกจากเก้าอี้
 
           "ไอ้อาร์ท!!!" พวกผมหันไปเรียกชื่อมัน
 
           "เดี๋ยวใจเย็นๆ..พี่มีเรื่องมาขอความร่วมมือจากน้องๆ ..นั่งลงฟังพี่ก่อน..เห็นหน้าตาพี่หาแต่เรื่องแบบนี้พี่มีโมเม้นเด็กดีนะครับ" ไอ้อาร์ทมันพูดออกโทรโข่ง
 
           "มีพี่ที่ไหนมีเรื่องที่นั้นทุกที" เด็กมันตะโกนมา
           
           “นี้มึงชมพี่เหรอครับ” ไอ้อาร์ทมันถามน้องแบบขำๆ
 
           "วันนี้ไม่มีวันนี้พี่งด.." ไอ้อาร์ท
 
          “น้องๆครับพี่คิดว่าทุกคนอยากได้ครูเก่งๆไว้คอยให้ความรู้ แต่ไม่ใช่ว่าครูที่น่ารักท่านอื่นไม่เก่งนะครับเก่งแต่เรอยากได้ครูเก่งๆอยู่กับพวกเราเพิ่มถูกต้องไหมครับ"
 
           "และพี่ก็เชื่อว่าน้องนะต้องรู้ว่าพี่หมายถึงใคร นั้นก็คือครูเขม"
 
           "ครูเขมนะเขาตั้งใจสอนพวกเราแค่ไหนและพี่ว่าพวกเรารู้ดี "
 
           "แต่อย่าให้พวกเราต้องเสียครูดีดีและเก่งๆ ไปเพราะคนคนเดียวเลยนะครับน้องๆ" ไอ้อาร์ทมันพูดและโบ้ยปากไปทางแก้มที่ยืนกอดอกมองมาทางพวกผม  แปลกนะผมเห็ยยืนคนเดียวปกติจะมีเพื่อนแต่วันนี้ไม่มี
 
           " ถ้าน้องๆเห็นด้วยกับพี่....ลงชื่อที่บอร์ดเลยนะครับเพื่อครูเขมจะได้อยู่กับพวกเรา” ไอ้อาร์ทพูดผมยกนิ้วให้มันเพราะว่ามันพูดได้ดีถูกใจผมมาก นักเรียนหลายคนก็ถยอยเดินเข้ามาตรงบอร์ดเพื่อจะทำการลงชื่อ ผมหันไปเห็นครูลินดากับครูถาวรยืนอยู่เขายกนิ้วให้ผมว่าทำดีมาก ตอนนี้บนบอร์ดมีรายชื่อพวกผม5คนแล้ว
 
      “ พี่ผมลงได้ปะ”เสียงอนุชิตวิ่งมาขอพวกผมลงชื่อ พวกผมหันไปมอง
 
       “ได้ดิ...อะ..ปากกา” ไอ้โจมันพูดและส่งให้อนุชิตก็รับไปแต่
 
       “พี่...ผมเขียนไม่ถึงอะ” o_o  เออมันเตี้ยลืมไปบอร์ดกับไซส์ของมันช่างต่างกันมาก
 
       “ถ้ารู้ว่าเกิดมาเตี้ยทำไม่พกเก้าอี้มาด้วย...ลำบากูอีก...ถอดรองเท้าด้วยนะ”ไอ้อาร์ทพูด
 
           "เตี้ยแล้วยังทะลึ้งลงอันดับต้นๆซะด้วย" ไอ้อาร์ทมันลงทุนให้ขึ้นไปเหยีบบหลังมันและลายเซนต์ที่6 ก็ปรากฏขึ้น
 
          “ครูลงด้วยได้มั้ย” ครูลินดาถามพวกผมก่อนจะเดินมาหยิบปากกาคนละแท่งและส่งให้ครูถาวร พากันไปลงชื่อที่บอร์ดเช่นกัน
 
          “พี่คริส..พวกเราด้วย”น้องที่ผมเรียนด้วยอีกเกือบ 10คนและมีกลุ่มอื่นอีกหลายกลุ่มมารอด้วยเช่นกัน ผมหันไปเห็นแก้มยืนมองผม ผมแค่แสยะยิ้มให้แค่นั้นและเด็กม.ต้นที่ครูเขมสอนก็ถยอยมาลงชื่อกันอย่างต่อเนื่อง ทุกคนให้เหตุผลต่อท้ายว่าครูเขมสอนดีอยากเรียนกับครูเขมกันทุกคน
 
          “ครูโจ้สวัดดีครับ” พวกผมไหว้ครูโจ้ ครูโจ้เดินมามองที่บอร์ดก่อนจะเดินไปขอปากกาเพื่อทำการลงชื่อด้วย
 
          “ครูโจ้คิดอะไรกับครูเขมปะเนี๊ย!”ไอ้อาร์ทมันแซวระหว่างที่ครูโจ้กำลังลงชื่อ
 
          “คิดซิ!...ไม่คิดจะมาลงเหรอ”
 
          “ว๊าก!!!” ทั้งครูโจ้และไอ้อาร์กับไอ้โจ
 
          “คิด! แต่คิดว่าเสียดายครูเก่งอย่างครูเขม..พวกนี้นิทำครูเขวนะเนี๊ยะ..อย่าพูดไปเมียยิ่งระแวงอยู่”ครูโจ้หันมาพูดกับพวกผม
 
           "เป็นคนรักเมียนะเว้ยเฮ้ย!!" ครูโจ้พูด
 
           “ครูโจ้ขอบคุณนะครับ”ผมพูด
 
          “ไอ้หนูป้าลงได้ไหมลูก” ผมหันไปมอง ป้าใจร้านขายข้าวที่ครูเขมชอบสั่งข้าวป้าแกทุกวันขนาดว่าตัวไม่อยู่ยังสั่งข้าวสั่งกับข้าวและจ่ายไว้ให้ผมเรียบร้อยเลยด้วย
 
           “ครูเขมแกเป็นคนน่ารัก อัธยาสัยดี น่ารัก หล่อด้วย..พูดจาก็ไพเราะเสียดายนะที่ป้าไม่มีลูกชาย...ไม่อย่างนั้นป้าขอไปเป็นแฟนลูกป้าแล้วแหละ” ผมต้องยืนเกาหัวแกร๊ก
 
           “ผมว่าป้ากลัวไม่มีคนสั่งข้าวหรือเปล่า” ไอ้อาร์ทมันถามป้าใจ
 
           “นี้ก็ด้วยครูสั่งเยอะดี ครูเขมนี่นะลูกค้าชั้นดีของป้าเลยนะ...ทำไมจะไม่......." O_? =O= O_?
 
           "..ว้าย!...ดูพูดเข้าซิ..เขาก็รู้หมดนะซิว่าป้า..คิดแบบนั้น...เอาปากกามาจะรีบลงไม่มีคนเฝ้าร้านอยู่..เด็กพวกนี้นิ “ป้าหันมาจะตีไอ้โจ้ แม้กระทั้งแม่ค้าขายข้าวยังขอมาลงชื่อเลย
 
           "มาลงด้วยซิป้าใจเอาปากกามา" บรรดาแม่ค้าในห้องอาหารครูเขมแกเป็นคนนอบน้อมถ่อมตน
 
           “ครูนิดหวัดดีครับ” ครูมาหยุดอ่านที่บอร์ดก่อนจะเดินไปหยิบปากและมาลงชื่ออีกคน
 
           "ครูดีใจแทนแม่เธอนะคริสโตเฟอร์รู้ไหมว่าแม่เธอเป็นห่วงเธอมากจริงๆ...และครูก็เชื่อว่าครูเขมทำให้เธอดีขึ้นได้จริงๆ แม่คงดีใจด้วยเช่นกันและเขาก็คงหมดห่วงที่จะมีคนดูแลเราแทนเขา แต่อย่าลืมดูแลเขาเป็นการตอบแทนกลับละในวันที่เธอมีโอกาส" ครูนิดพูดผมพยักหน้า ครูนิดเป็นเพื่อนของแม่ผมและเป็นคนแนะนำให้แม่พาผมมาเรียนที่นี้
 
           “ลุงลงได้ไหมวะ” ลุงแช่มรนขับรถเดินมาขอลง
 
           “ครูเขมแกนิสัยดี วันแรกมาถึงยกมือไหว้เจอทุกเช้าทักทายทุกเช้าแกเป็นคนกันเองดีและไม่ถือตัวไม่หยิ่ง และที่สำคัญแกเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ที่ไหนก็เจริญ”ลุงแช่มพูดก่อนจะลงชื่อตัวใหญ่เบ้อเล้อเลย พวกไอ้อาร์ทมันยกมือขึ้นเก่าหัวกันเป็นแถว ลุงเล่นกินทีแถวล่างเขานะนั้นนะ ผมพยักหน้าไม่เป็นไร
 
    ตลอดเวลาช่วงเช้ามีแต่คนมาลงชื่อเรียดได้ว่าเยอะเกินค่าดมากจากนักเรียนเกือบ630คนมาลง450คนแล้วด้วยเกินครึ้งแล้วและมีทั้งครูอาจารย์ที่ลงชื่อแม่กระทั้งแม่ค้าขายข้าวก็มาลง
 
           “พวกเราลงด้วยดิ ขอปากกาด้วยค่ะ” มีนักเรียนหญิงสองสามคนมาขอลงชื่อ พวกผมก็ส่งปากกาให้ไปคนละด้าม แต่มีอยู่คนหนึ่งก่อนจะลงเขาดันยกมือไหว้ พวกผมก็มอง
 
           “น้องครับ บนอะไรเหรอครับ” ไอ้อาร์ทมันถาม
 
           “ขอให้เทอมหน้าได้เรียนกับครูเขมค่ะพี่ สาธุ”
 
           “ถึงครูจะชอบผู้ชาย แต่ก็เป็นครูหล่อบอกต่อด้วย เนอะ นั่งดูอย่างเดียวก็ยังดี “
 
           “ชะนี ถามเมียครูเขายังยืนอยู่นี้ เดี๋ยวเขาก็ตบเอาหรอก “ ไอ้โจมันพูดและชี้มาที่ผม
           
           “อู้ยย” น้องเขาตกใจเลยสาด แต่มันว่าผมเป็นเมียพี่เขม ผมหันไปจะเตะมันครับ ผมนี้สามีครับแต่ไม่กล้าตะโกนออกไป ฮาๆ และบรรยากาศตอนนี้ดูอบอุ่นมาก เพราะว่ามีคนถยอนมาลงชื่อกัน พวกผมก็เดินดูแล้ว ทุกห้องเลยครับ ยิ่งห้องไหนครูเขมสอน มาลงกันเกือบหมดเลยก็ว่าได้ พวกผมกอดคอกันมองผลงานที่พวกผม ผมหันไปมองไอ้โป้งไม่ได้พูดอะไร ผมนึกขอบคุณในใจ ขอบคุณที่ผมได้เจอพวกมันเป็นเพื่อนแท้ของผม
 
 “แก้มไม่มาลงละ” ไอ้โป้ง มันหันไปเจอแก้มที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
 
   “ไม่!!!!” แต่นั้นก็สะบัดออกไปทั่นที่ ผมกับไอ้โป้งหันไปมองพวกพี่กายมันยืนกอดอกมองพวกผมก่อนทำปากเบ้ใส่ทางพวกผม แต่ท ผว่าเพื่อนๆในกลุ่มของแก้มกลับเดินมาลงชื่อกันแก้มเธอมองด้วยสายตาที่ไมพอใจยิ่งหนัก  ผมหันไปเห็นผู้อำนวยการเดินลงมาแสดงว่ามีคนไปรายงานท่าน
 
   “มีคนบอกว่าพวกเธอมาตั้งบอร์ดลงชื่อให้ครูเขมรึ”
 
  “ครับท่าน ผอ! “
 
  “ผมขอโทษนะครับที่ผมต้องทำแบบนี้ผมไม่อยากให้โรงเรียนนี้ต้องสูญเสียครูดีดีเพราะผม”ผมพูดก่อนจะคุกเข่าลงผมก้มลงกราบผู้อำนวยการ เพื่อนๆผมนี้ตกใจกันมาก
 
   “คริสลุกขึ้นเถอะ”ผู้อำนวยการจับไหล่ผมใก้ลุกขึ้นและเดินดูที่บอร์ดมีคนลงชื่อให้เหตุผลไว้มากมาย ท่านเดินไปอ่าน
 
   “ครูเชื่อแล้ว...” ท่านผู้อำนวยการหั๊นมาพูด
 
           “ปากกามาซิ”
 
           "....."  =O= O_?
 
          "อ้าว!! ยืนนิ่งอยู่ทำไมปากกาซิจะได้ลงบ้าง...กลัวตกเทรนด์..เดี๋ยวคุยกับบรรดาครูเขาไม่รู้เรื่อง..เอามาปากกา" ผู้อำนวยการพูดและรับปากกาไปลงชื่อก่อนจะหันมามองพวกผมที่ยืนลุ้นอยู่ด้านหลังท่าน

 
          “ครูได้ยินนักเรียนพากันชื้นชมการสอนมาหลายคนแล้วและแอบไปดูมาบ้าง สอนดีจริงๆปกติครูบ้างคนก็เน้นสอนง่ายๆตามตำราคือเปิดตำรามาสอนแค่นั้นจบ"
 
                      "แต่ครูเขมแกดีนะมีสอนนอกตำรา นับว่าสรรหาครูมาไม่ผิดหวังจริงๆแล้วทำไมจะไม่อยากรักษาครูดีดีไว้ละจริงไหม "
 
                      "เข้าใจคิดนะที่ช่วยครูเขาแบบนี้...ว่าแต่บอร์ดนี้ไปลากมายังไงเนี๊ยะ"ผู้อำนวยการหันมาถามพวกผม
 
                      "เสร็จแล้วลากกลับด้วยนะ..ความพยายามสูงจริงๆพวกเธอนี่" ผู้อำนวยการพูด
 
                      "ต้องลากกลับอีกเหรอครับ" ไอ้อาร์ทมันถามผอ.โรงเรียน
 
                      "อ้าว! แล้วให้ใครเอากลับละดูภารโรงซิ..หายใจยังเหนื่อยเอามาแล้วเอากลับด้วยละ" ผู้อำนวยการพูดขำๆ พอดีเสียงสัญญาณเข้าแถวดังขึ้นพอดีเลย
 
                      "ไปเข้าแถวกันได้แล้ว" ผู้อำนวยการบอกพวกผม ผมพยักหน้าและพวกไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้มันก็เก็บทุกอย่างลงกระเป๋าเป้ก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยกัน ไอ้โป้งมันก็เดินไปกับไอ้ปันปัน เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาแก้มเธอยืนมองผมและเธอก็เดินหันหลังออกไป
 
                      "ความรักวันรุ่นนะ...ถ้าเราใช้วิธีผิดๆมันก็ส่งผลเสียกลับมาได้เช่นกัน" ผู้อำนวยการพูดพยักหน้าเบาๆ
 
                      "และความรักก็หมือนดาบสองคม ดาบด้านแรก จะฟาดฟันทุกอุปสรรคเวลาคุณมีความรัก คุณจะไขว่คว้ามันจนถึงที่สุด ส่วนดาบอีกด้านหนึ่ง มันก็พร้อมจะฟาดฟันหัวใจกันให้เป็นแผล ดังนั้นจึงควรมีความรักอยู่ด้วยความไม่ประมาท"
 
                      "ครูดีใจนะที่เธอดีขึ้นมาก..คริส..กลับมาตั้งใจเรียนทำเพื่อแม่เธอนะต่อให้พ่อเลี้ยงเธอเขาดูเหมือนจะไม่ได้รักเธอเท่ากับลูกแท้เขาก็ตามแต่แม่เธอรักเธอมากนะคริสโตเฟอร์ทำเพื่อแม่"
                       
                       “และเพื่ออีกคนที่เขาดูแลเธอ เอาใจใส่เธอ  ไม่ว่าจะในสถานะใดก็ตาม ต่อไปนี้ทำอะไรก็คิดถึงเขาหน่อยนะ “ ท่านผู้อำนวยการพูดแม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อพี่เขมตรงๆผมก็เข้าใจดี ผมพยักหน้า
 
                      "ครูอยากเห็นเธอดีขึ้นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่มีครูคนไหนไม่อยากเห็นความสำเร็จของลูกศิษย์นะคริส"
 
                      "ครับผอ. ผมขอโทษนะครับที่ผ่านมาผมทำให้ท่านปวดหัวมากกับพฤติกรรมของผม"
 
                      "เอานะวัยรุ่นเข้าใจเคยเป็นมาก่อน"
 
                      "ไปเข้าแถวได้แล้วไปคริส" ผู้อำนวยการบอกผม ผมก็ทำท่าจะวิ่งไปเข้าแถวกับเพื่อนๆ
 
                      "อ้อ …คริสโตเฟอร์ ...จะมีกิจกรรมสัปดาห์ภาษาอังกฤษและมีการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษระดับโรงเรียนปีนี้เราได้เป็นเจ้าภาพ ครูหวังว่าเธอจะลงแข่งนะ..ไหนๆก็มีคนช่วยติวแล้วทำชื่อเสียงให้โรงเรียนหน่อย" ผมหันมามองผู้อำนวยการก่อนผมพยักหน้าว่าผมจะลง ผมวิ่งมาเข้าแถวก่อนก่อนที่จะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ทำกิจกรรมตามปกติเช่นทุกวัน แต่วันนี้ผมกับมีความสุขมากกว่าทุกวันเหมือนกับว่าความมืดหม่นของผมกำลังจะค่อยๆจางลงเมฆหมองเริ่มเปิดทางพอจะเห็นแสงสว่างสาดส่องเข้ามาบ้างแล้ว
 
                      "คริส!! เจอกันตอนเที่ยงวะ" ไอ้อาร์ทมันตะโกนมาไอ้โจมันก็โบกมือให้ผมก่อนจะแยะขึ้นไปห้องเรียนของผมมัน ผมหันไปมองไอ้โป้ง
 
           "เจอกันตอนเที่ยงนะโป้ง" ผมบอกมันไอ้โป้งหยักไหล่และเดินแยะไปขึ้นห้องเรียนมันเช่นกัน ผมเลือกจะเดินไปดูที่บอร์ดอีกทีก่อนจะกลับขึ้นชั้นเรียน ผมเห็นครูหลายท่านเลยที่มาลงชื่อผมรู้สึกดีใจ
 
           "พี่เขมผมจะทำให้พี่ยังเป็นครูที่นี้ให้ได้ผมจะทำให้พี่ทิ้งอาชีพครูไปเพราะไม่ได้..ถ้าผมต้องเป็นคนไปจากโรงเรียนนี้เองผมก็ยอมแต่ผมจะไม่ไปจากพี่เขม" ผมพูดเบาๆ
 
           "มึงคิดว่าเขายังควรจะเป็นครูอีกเหรอวะคริส" เสียงไอ้พี่กาย
 
           "กูถามมึงจริงๆเถอะ...มึงมีปัญหาอะไรกับครู"
 
           "กูมีปัญหากับมึง" ไอ้กายมันพูด ผมหันไปมองหน้ามัน
 
           "งั้นเจอกันตัวต่อตัวบนเวที...มึงนะไม่ใช่ไอ้พี่อั๋น"
           
           "ทำไมกูต้องเจอกับมึงด้วยวะ..มึงเป็นใคร"ไอ้พี่กายมันพูด ผมก็ยิ้มที่มุมปาก ที่จริงไอ้พี่กายมันมีอะไรที่น่ากลัวสำหรับผมเลยมีแต่พวกก็เท่านั้นและพ่อที่เป็นนายตำรวจ
 
           "ถ้ามึงดีแต่เห่า..ก็ตามใจมึง..มึงมันไม่ต่างอะไรกับนักเลงคีย์บอร์ดที่ดีแต่ว่าคนอื่นแต่ไม่กล้าออกมาเผชิญหน้า...ถ้าแน่จริงทำไมไม่ตัวต่อตัวกับกูไปเลยวะ" ผมพูดสายตาผมมองจ้องเข้าไปในแววตาคู่นั้น ก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นห้อง
 
           "อย่าเก่งแต่ปาก!!" ผมพูดก่อนจะเดินออกเพื่อกลับขึ้นห้องเรียน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 ครูเขมชาติ
           
           วันนี้เป็นวันอบรมวันสุดท้ายแล้วพออบรมเสร็จพวกผมก็พากันเดินทางกลับทันที เพราะว่าครูปริพนธ์จะพาแฟนกลับไปบ้านลูกชายเพิ่งจะนั่งได้ อยากกลับไปหาลูกชายแย่แล้ว และครูสมชายก็จะไปถือศิลที่วัดทำเพื่อแม่ของเขาที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผมเองก็รีบกลับผมเป็นห่วงคริสโตเฟอร์มากอาจจะเป็นเพราะผมได้ยินที่เขาบอกผมว่าโป้งจะปลั้มเขา นี้เรียกว่าหึงหวงใช่ไหม..ตอบว่าใช่!!! ตอนนี้เกือบสี่โมงครึ้งแล้วรถตู้เลี้ยวเข้ามาจอดด้านในโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
 
           "ครูเขมคะ...ผู้อำนวยการบอกว่าถ้าครูเขมมาถึงให้ขึ้นไปหาท่านค่ะ..ตอนนี้เลยนะคะ" ครูนิดเดินอย่างรวดเร็วลงมาตามผม อย่าบอกนะว่าคริสโตเฟอร์ก่อเรื่องขึ้นนะ ผมก็รีบนำกระเป๋าไปใส่ไว้ในรถของผมก่อนเลยคริสโตเฟอร์ส่งข้อความบอกว่าเอารถมาจอดไว้ให้ที่ด้านหน้า และผมก็รีบเดินขึ้นไปยังห้องทำงานของท่านผู้อำนวยการทันที
 
           "ก๊อกๆ"ผมเคาะประตู
 
           "เชิญครับ"
 
           "สวัสดีครับท่านผู้อำนวยการ"
           
           "เชิญครับครูเขม..เชิญนั่งครับ..เป็นยังไงบ้างครับอบรม"
 
           "ดีครับได้รับความรู้เพิ่มเติมเยอะเลยครับ วิทยากรก็ให้ความรู้ดี มีประโยชน์มากสำหรับครูที่มีประสบการณ์ในการเป็นครูในโรงเรียนน้อยอย่างผมครับท่าน" ผมตอบท่าน
 
           "แม่ของคริสโตเฟอร์ติดต่อมาหาผมว่าเขาจะลงมาวันจันทร์นะครับ"
 
           "ครับ..คริสโตเฟอร์บอกผมแล้วครับท่าน"
 
           "ครูคิดว่าครูจะแก้ปัญหามันยังไงครูคิดไว้หรือยังครับ"
 
           "ผม..เออ..ผม..คิดว่า...ผมอาจจะกลับไปเป็นครูติวเตอร์เหมือนเดิมครับ"ผมตอบท่านผู้อำนวจการแบบไม่ค่อยเต็มเสียงสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามันคือทางออกผมคงต้องเลือก
 
           "ทำไมละครับครู...ผมว่าครูตั้งใจอยากจะเป็นครูสอนมากกว่าจะไปเป็นติวเตอร์นะไม่อย่างนั้นครูคงไม่ไปสอบใบประกอบครูหรอกจริงไหมครับ" ผู้อำนวยการพูดผมพยักหน้า
 
           "แต่ถ้ามันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นผมจำเป็นก็คงต้องทำอย่างนั้นนะครับท่าน" ผมพูด
 
           "ไม่คิดถึงนักเรียนที่นี้เหรอครับ...พวกเขานะชื่นชมผลงานการสอนครูนะ นี้แค่มาสอนได้ไม่กี่อาทิตย์เอง" ผู้อำนวยการพูด
 
           "ครูลงไปที่ลานเอนกประสงค์กับผมหน่อย" ผู้อำนวยการบอกผม ผมก็ทำหน้าไม่เข้าใจแต่ก็ลุกตามท่านไป
 
           "เชิญครับ...นี้แสดงว่าครูไม่เห็นที่ตรงลานเอนกประสงค์ใช่ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น" ผู้อำนวยการถามผม ผมส่ายหน้าว่าไม่ได้มองเพราะมัวแต่กังวลที่ผู้อำนวยการเรียกผมขึ้นไปจะเป็นเรื่องคริสโตเฟอร์มากกว่า ผมเดินตามหลังท่ายลงมายังลานเอนกประสงค์และสิ่งทีผมเห็นก็คือกระดานบอร์ดแผ่นใหญ่ที่กางอยู่ ผมเดินไปดูที่กระดานเริ่มตั้งแต่กระดาษA4 ที่แปะอยู่เขียนด้วยลายมือเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ เขาบรรยายตั้งแต่เจอผม เขาบรรยาสองอาทิตย์มานี้มีสิ่งดีดีร่วมกันมากและบรรยายถึงตอนที่ผมสอนพิเศษเขาทุกวันวันละชั่วโมงว่าเขาได้อะไรบ้าง และผมก็หันมาดู
 
           "ลงชื่อเพื่อให้ครูเขมอยู่กับพวกเราต่อ" ผมยิ้มเพราะว่ามีจำนวนรายชื่อมากมายที่มาลงเพื่อให้ผมอยู่เป็นครูต่อ ผมไม่อยากเชื่อเลยนะว่าพวกเขาต้องการผม ต้องการให้ผมเป็นครูสอนพวกเขา
 
           "ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อนะครูแต่ก็ต้องเชื่อ...ครูคงไม่คิดหาทางออกทิ้งพวกเขาไปนะ"
 
           "ครูผมไม่ได้เข้าข้างนะผมก็ไม่เห็นครูทำอะไรที่เสียหายในโรงเรียน"
 
           "แต่ผมก็ขอไว้เรื่องครูกับคริสโตเฟอร์ ..ครูจะรักกันก็ขอให้อยู่ในกดระเบียบของโรงเรียน..ถ้าเป็นไปได้เสาร์อาทิตย์คงเพียงพอเพราะว่าผมเองก็ประจำการเป็นผู้อำนวยการจันทร์ถึงศุกร์หยุดเสาร์อาทิตย์"
 
           "คงไม่มานั่งจับตาดูครูทั้งเสาร์และอาทิตย์ไม่ได้หรอกครับ” ท่านผู้อำนวยการพูด ผมเงยหน้ามองท่าน ท่านก็ยิ้มให้ผม
 
“เดี๋ยวเมียหึง" อู้ยย!! ท่านโน้มตัวมากระซิบกับผม
 
           "ถ้าจะให้ดีนอกโรงเรียนก็จะดีมากครับครู อยู่ในโรงเรียนขอให้รักษาไว้ซึ่งสถานะครู..คงพอได้นะครับ"
 
           "ครูนี้ก็ใจร้ายเหมือนกันนะครับ"ผมเงยหน้ามองผู้อำนวยการผมไปใจร้ายตรงไหนครับ
 
           "ก็เล่นคนหล่อประจำโรงเรียนขนาดนี้และทำเอาสาวๆอกหักกันไปครึ้งโรงเรียนได้แล้วมั้งครับ" ผู้อำนวยการพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องทำงานไป ว่าแต่นายคริสโตเฟอร์อยู่ไหนละ
 
           "ครูเขมนิ...ครูค่ะครู" ผมหันไปเห็นเด็กผู้หญิงสี่ห้าคนพากันวิ่งมาตรงที่ผมยืนอยู่
 
           "ครูเขมอยู่เป็นครูสอนพวกเราก่อนนะคะอย่าทิ้งพวกเราไปนะคะครู " แต่ละคนพูดออกมาพร้อมๆกัน ผมยืนยิ้มให้ผมรู้สึกดีใจ
 
           "ครูไม่ทิ้งเพราะว่าครูตั้งใจอยากจะเป็นครูที่นี้"
 
           "วันจันทร์ครูมาสอนเหมือนเดิมใช่ไหมคะ ครูไปไหนมาคะ" หนึ่งในนั้นถามขึ้นแต่ละคนพยักหน้านี้
 
           "เออ...ครูไปอบรมมานะ..วันจันทร์ครูเข้าสอนเหมือนเดิมครับ"
 
           "เย้ๆๆ ..เจอกันวันจันทร์นะคะครู " พวกเด็กแสดงอาการดีใจ ผมหยิบมือถือขึ้นมาจะโทรหาคริสโตเฟอร์ แต่เขาไม่รับสายผมอยู่ทีไหนของเขานะหรือว่าอยู่ที่บ้านพัก ต้องบ้านพักแน่ๆ ก่อนจะหันหลังเดินไปผมหันมามองที่บอร์ดอีกที ผมใช่มือแคะที่กระดาษขนาด A4 ลายมือที่บรรจงขีดเขียนนี้เขาคงอ่านหนังสือที่ผมให้ไว้ด้วยแน่ผมดูจากแกรมม่าที่เขาบรรจงเขียนมันถูกเกือบทั้งหมดแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว จากคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษแถบเขายังเกลียดมันแต่วันนี้เขารักมันแล้วแหละ
 
                       ผมได้อ่านที่เขาบรรยายเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้ทำให้เขาสามอาทิตย์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ผมไปตามเขา และผมได้ให้เขามานั่งเรียนพิเศษกับผมวันหนึ่งชั่วโมงเพื่อชดเชยที่เขาขาดไป ผมก็ยังให้งานทำเพ่ิมเพื่อแก้ศูนย์ และคะแนนทุกอย่างที่เขาได้ก็มาจากที่ผมเคี่ยวเข็ญเขาให้เขาทำถึงช่วงที่่เขาไปอยู่บ้านพักกับผม ผมก็ให้เขานั่งอ่านหนังสือไม่ได้นั่งเฉยๆ และก็ไม่เคยมีคะแนนพิเศษไปกว่าเพื่อนคนอื่นๆถ้าเขาทำไม่ได้นั้นคือผมก็ไม่ให้ดังนันเขาจึงต้องใข้ความพยายามเหมื่อนคนอื่น และตั้งใจเรียนหมือนคนอื่นๆเช่นกัน และเขายังบรรยายเกี่ยวที่ผมได้ทำเขานั้นจากที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอพ่อ ตอนนี้เขาพร้อมที่เจอพ่อของเขาหาว่าผมสามารถติดต่อเขาได้
 
                       ผมยืนอ่านไปและก็ยิ้มไปด้วย ผมนึกขอบคุณที่โชคชะตาได้พาให้ผมมาเจอเขาคนนี้ ที่นี้ในโรงเรียนแห่งนี้ แล้วอย่างนี้ผมจะทิ้งเขาไปได้ยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรพี่จะไม่ปล่อยมือนายเด็ดขาด คริสโตเฟอร์  เพราะว่าพี่รักนายสุดหัวใจของพี่
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:23:35 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.26 ครูเขมชาติ X คริสโตเฟอร์  พี่เชื่อว่าพรุ่งนี้มันจะดีขึ้นคริส  NC18+

   ครูเขมชาติ
           หลังจากที่ผมได้เห็นผลงานของคริสโตเฟอร์และนักเรียนหลายๆคน ที่อยากจะให้ผมเป็นครูสอนที่นี้ต่อมันทำให้ผมต้องล้มเลิกความคิดที่จะทิ้งเด็กนักเรียนที่นี้ไปในทันที และในเมื่อผมเลือกที่จะสอบใบประกอบวิชาชีพครูแล้วผมควรจะเป็นครูดังที่ผมผมตั้งใจซิและผมจะมาทิ้งไปเพราะปัญหาแค่นี้อย่างนั่นหรือ
 
            ผมขับรถเข้าบ้านพักเดินขึ้นไปบนบ้าน บ้านดูสะอาดตาผมมองไปบนโต๊ะที่เรานั่งทานอาหารกัน มีโทรศัพท์ถูกชาร์จวางอยู่มิหน้าละโทรไม่รับกันเลยนะทำให้เป็นห่วงน่าโดนทำโทษไหมเนี๊ยะ ผมเดินเข้าไปในห้องนอนก็ต้องยืนอมยิ้มให้กับคนที่กำลังเก็บเสื้อผ้าของผมใส่ตู้เสื้อผ้าให้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย คงเพราะว่าเขาเห็นผมทำแน่ๆ และผมก็ค่อยๆย่องเดินเข้าไป
 
           “หมับ! ”ผมสวมกอดคริสโตเฟอร์จากด้านหลัง คนที่ถูกผมกอดสะดุ้งก่อนจะหันมามองว่าใคร พอเขาเห็นว่าเป็นผมเท่านั้นแหละรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที่
 
           “พี่เขม!” น้ำเสียงบอกได้ว่าดีใจมากขนาดไหนที่เห็นผมตอนนี้ เขาหันมากอดผมตอบราวกับไม่เจอกันเป็นเดือนและกอดเหมือนกลัวกลัวผมหายไปจากเขาอีก คือกอดผมแน่นมาก ผมก็กอดเขาตอบเช่นกันเพราะว่าผมก็คิดถึงเด็กเกรียนคนนี้เหลือเกิน
 
           "คิดถึงพี่ขนาดนี้เลยเหรอ" ผมถามคนที่กอดผมอยู่
 
           "มาก"คริสโตเฟอร์ตอบผม
 
           "พี่ละ..คิดถึงผมมากมั้ย" คริสโตเฟอร์ถามผม
 
           "ตอนนี้ยังบอกไม่ได้หรอกไว้ค่อยบอกที่หลัง" ผมพูดหยักคิ้วให้คนที่เงยหน้ามองผมขมวดคิ้วมองผมสายตาแปลกใจ
 
           "ไปแพ๊คเสื้อผ้าลงกระเป๋า เอาเสื้อผ้าไปสองสามชุดนะคริส” ผมบอกคนตรงหน้าผม เขาเงงยหน้ามองผมพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากัน
 
           “ไปกรุงเทพกัน”  ผมบอกคริสโตเฟอร์
           
           “วันนี้เลยเหรอ?” คิดโตเฟอร์ถามผมด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
           
           “อืม” ผมพยักหน้าบอกเขา
           
           “ผู้อำนวยการบอกกับพี่ว่า....ถ้าเราสองคนออกนอกเขตโรงเรียนถือว่าผิดไม่มากหากจะไป ...สวีทกัน”ผมพูดก่อนจะหันไปแพ็คสิ่งจำเป็นลงกระเป๋า คริสโตเฟอร์ด้วยเช่นกัน วันก่อนเขาเอาไปแค่ชุดนักเรียนยังเหลือเสื้อผ้าชุดลำรองอยู่สองสามชุด ผมเดินไปเช็คห้องน้ำก่อนออกว่าไม่ได้ลืมเปิดอะไรทิ้งไว้ เช็คตู้เย็นทุกอย่างถูกนำออกจากตู้เย็หมดของที่มีความเสียงว่าจะเน่าเสีย
 
           “พร้อมหรือยัง..คริส” ผมหันมาถามคริสโตเฟอร์เขาพยักหน้าและผมสองก็พากันเดินลงจากบ้านไปขึ้นรถเพื่อเตรียมออกเดินทาง ระหว่างที่กำลังผ่านประตูผมเห็นอนุชิตกำลังจะกลับบ้าน
 
           “พี่จะรับอนุชิตไปส่งเขาที่บ้านด้วยนนะคริส” ผมหันไปบอกคนนั่งข้างๆ
 
           “อนุชิตมาขึ้นรถครู..เดี๋ยวครูไปส่ง” ผมเลื่อนกระจกลงและเรียกอนุชิต
 
           “เออ” อนุชิตทำท่าอึกอักคงเกรงใจผมแน่ๆ
 
           “มาซิครูไปส่ง” ผมย้ำอีกที
 
           “ครับครู”และอนุชิตก็เปิดประตูขึ้นมานั่งด้านหลัง
 
           “สวัสดีครับครูเขม”
 
           “หวัดดีครับพี่คริส” อนุชิตทักคริสโจเฟอร์เช่นกัน
 
           “อืม...เดี๋ยวครูจะให้กุญแจบ้านพักไว้นะวันเสาร์หรืออาทิตย์เข้ามาทำความสะอาด” ผมพูดสายตามองผ่านกระจกมองหลังก่อนจะหันไปพยักหน้ากับคริสโตเฟอร์ให้หยิบกุลแจในลิ้นชักเล็กเขาก็หยิบกุลออกมา เป็นกุลแจสำรอง
 
           “ครับครู” อนุชิตตอบรับและรับกุลแจจากคริสโตเฟอร์ไป
 
           “คริสหยิบเงินในกระเป๋าครูส่งให้อนุชิตด้วยซิ " ผมบอกคนนั่งข้างๆ
 
           "ครูไว้ค่อยมาจ่ายก็ได้ครับ" อนุชิตพูดเหมือนเกรงใจผม
 
           "จ่ายเลยเธอจะได้มีไว้ใช้ซื้ออะไรทานกับย่าเธอไง" ผมพูดคริสดเฟอร์ก็หยิบธนบัตรออกมาแต่ว่ามันมีแต่สีม่วง
 
           "ให้เขาไปเถอะคริส" ผมพูดเบาๆ คริสโตเฟอร์ส่งกุลแจและธนบัตรให้กับอนุชิต เขามองหน้าผม
 
           "ครูให้ที่เธอไปรับเสื้อผ้าที่ครูส่งซักให้ยังไงละ..รับไปเถอะ" ผมพูดเขาก็ส่งรอยยิ้มมาให้ผม พ่อผมเคยสอนไว้ว่าถ้าเรามีแล้ว สิ่งไหนที่เราแบ่งปันให้คนที่ไม่มีได้ก็ควรจะทำ ผมจอดรถที่ตรงทางเข้าบ้างของอนุชิตก่อนจะออกรถไปเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงเทพ ตอนนี้เกือบจะห้าโมงครึ้งแล้วกว่าจะถึงคงเกือบสี่ทุ่มแน่ๆ คนข้างๆผมก็เหลือบตามองผมเป็นระยะ
 
           "หมับ!" ผมเอื้อมมือไปจับมืออีกข้างที่วางไว้ข้างลำตัวของเขา คริสโตเฟอร์เอียงคอมามองผม
 
           "ขอบคุณนะครับ..ที่ทำให้พี่รู้ว่าโรงเรียนนี้ต้องการพี่เป็นครูของพวกเขาอยู่" ผมหันไปพูดก่อนจะหันหน้ากลับมาสนใจถนนต่อ มุมปากกระตุ๊กขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆ แค่นี้ก็รับรู้ได้ว่าเขาดีใจแค่ไหน ผมขับรถยิงยาวรวดเดียวเลยมีจอดพักเพื่อให้เข้าห้องน้ำกันบ้าง และไม่นานก็มาถึงบ้านผมเกือบสี่ทุ่มเราแวะหาอะไรทานกันที่ปั้มมาก่อนแล้ว
 
           "แม่พี่ไม่อยู่บ้านนะไปช่วยพี่ชายคนโตพี่ดูแลหลานนะ" ผมพูดคริสโตเฟอร์พูด ขณะที่เปิดประตูเข้าบ้านไป คริสโตเฟอร์ยกกระเป๋าของผมและเขาขึ้นไปบนบ้าน นี้ก็เกือบสี่ทุ่มกว่าแล้ว ผมเดินตามหลังขึ้นไปเข้าไปในห้องนอน พอคริสโตเฟอร์วางกระเป๋าลง
 
           "พี่เขมจะอาบน้ำก่อนไหม" คริสโตเฟอร์หันมาถามผม ผมนะปลดเน็กไท้ออกรอแล้วและโถมตัวเข้าไปหาทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านข้างเตียงนอนของผม เขาไม่ทันได้ตั้งตัวก็ล้มลงไปบนเตียงทันที
 
           "อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่คิดถึงมากแค่ไหน" ผมถามคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง
 
           "จริงอะ" คนที่นอนส่งเสียงท้าท้ายมาขนาดนี้ผมพยักหน้าให้ดูสิ่งที่กำลังพอโตแม้จะอยู่ในกางเกงสแล๊ปตัวเก่งของผม และผมก็ค่อมร่างคนเขาอยู่ ผมไม่รอช้าจู่โจมทันที ริมฝีปากบางๆประกบริมฝีปากหนาได้รูปนั้นอย่างรวดเร็ว สอดแทรกลิ้นผ่านริมฝีปากทีเผยอเล็กน้อยรอการสอดใส่เข้าไปอย่างรู้งาน
 
           "อืมม...พี่เขมต้องให้ผมก่อน..อืมม..ซิ..อืมมม"
 
           "ทำไมละ"ผมถอดปากออกถามคนที่นอนทำหน้าเคลิบเคลิ้ม
 
           "ก็ผมทำผลงานดี"
 
           "ไม่ได้ให้พี่ก่อนพี่ไม่ไหวแล้ว..อื้ม...อื้ม...." ผมพูดและก้มลงไซ้ตามซอกคอมือไม้ก็ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนไปด้วย ร่างคนเบื่องล่างก็บิดไปตามความรู้สึกของอารมณ์ที่กำลังแตกกระสันจากปลายลิ้นของผม อีกมือผมก็ปลดเข็มขัดและรูดซิบลง คริสโตเฟอร์ดันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอน พอผมก็ได้จังหวะดึงเสื้อนักเรียนออกไปทันทีพร้อมกับรูดกางเกงออกไปด้วยจนถึงปลายเท้า โดยที่ปากไม่หลุดจากกันสามารถไหม และใช้ปลายเท้าดีดกางเกงนักเรียนหลุดไปก่อนเลย เหลือไว้แค่กางเกงยางยืด
 
           "อ่าห์ ...พี่นะต้องให้ผมก่อน...อ่าห์..ผมเป็นนักเรียนนะ"  ผมคิดไว้แล้วว่าต้องมามุขนี้ไง
 
           "ไหนละชุดนักเรียน"ผมถามคนที่นั่งก้มมองตัวเองไปหมดแล้ว
 
           "เห้ยย..โคตรไวเลยอะ"
 
           "แต่พี่เป็นครูอะ" นั้นไงมุกคุณครูป้ายที่ห้อยอยู่ ตอนที่อบรมเขาให้แขวนป้าน "ครูเขมชาติ"
 
           "พลึบ!!" ผมรีบดึงป้ายออก
 
           "หยุดพักทำหน้าที่ครูชั่วคราว...เพราะต้องทำหน้าที่คนรักที่พึงกระทำและบทสามีตามพฤตินัย" ผมพูดมองคนที่เอนตัวนอนราบ หาเหตุผลไม่ได้แล้วมั้ง   ผมรีบดีดตัวขึ้นมาลุกขึ้นยืนและรีบปลดกระดุมชุดทำงานอย่างรวดเร็วถอดกางเกงออกเหลือไว้แค่กางเกงยางยืด และกระโจนเข้าหาคนที่นอนรอผมเพราะว่าเขายังไม่ได้ถอดออกไปไม่มันหมด ยังคงเหลือไว้แค่ปราการสุดท้ายเช่นกัน
 
           "อ่าห์....อืมม...พี่เขม.."เสียงคราวกระเซ่าของคริสโตเฟอร์ผมได้พรมจูบไปทั่วตั้งแต่ลำคอไล่เรื่อยลงมาถึงหน้าท้องแบบรายนั้นก่อนจะขบฟันลงที่หน้าท้องน้อยๆเหนือเนินหัวหน่าวทำให้คนที่นอนถึงกับเกร็งตัว
 
           "อ๊ะ! ....พี่เขม...ซี้ดดดดดดด" เสียงซี้ดยาวออกมารู้ได้ทันทีว่ากำลังอยู่ในจุดไหนแล้วของห่วงอารมณ์ ผมเลื่อนตัวลงไปที่จุดสำคัญของคริสก่อนจะใช้ปากผมใช้มือคลึงมันเบาๆ คนที่นอนถึงกลับตาพริ้ม อารมณ์คงจะครุกรุ่นอยู่เหมือนกัน ผมจัดการถอดปราการสุดท้ายออกและครอบปากลงไปกับสิ่งนั้น
 
           "อาห์..อื้ม.."เสียงคำรามในลำคอว่าเขามีความสุขแค่ไหนกับสิ่งที่ผมกำลังมอบให้ ผมชำเรืองมองดูมือที่จิกอยู่บนผ้าปู เอวที่ขยับไปมาเพราะว่าความเสียว ผมใช้ลิ้นกับส่วนนั้นราวกับว่านี้คือของหวาน
 
           "นี้คือรางวัลจากพี่นะครับ...ที่รัก"
 
           "ซี้ด...อู้ยย...ชอบอะ....อื้ม!!!"เสียงตอบรับจากคนที่นอนบิดกายไปมา ผมถอนปากออกเพราะว่ากลังคนที่นอนจะชิ้งถึงฝั่งฝันไปซะก่อน ผมลุกขึ้นไปหยิบเจลหล่อลื่นที่มีไว้ในลิ้นชักและถุงยาง คือว่าซื้อมาตุนไว้ตอนที่คบกับณัฐกานต์แต่เอาเข้าจริงๆใช้ไปกล่องเดียวเองในรอบครึ้งปีที่ผ่านมา ก่อนจะเลิกกันแต่นี้ผมกับใช้กับคริสโตเฟอร์หมดไปสองกล่องแล้ว หื่นเหมือนกันนะเรานี้ ผมจับขาขนที่นอนมองผมตาเหยิ้มว่าพร้อมนานแล้วตั้งขึ้นและบีบเจลหล่อลื้นลงที่ปลายนิ้วเรียวยาวของผมก่อนจะสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรัก
 
           "อ๊ะ!..อ๊าๆ..พี่เขม..อ๊า!" พอหนึ่งนิ้วเริ่มเพิ่มจำนวนเป็นสามนิ้ว จนช่องทางรักของคริสโตเฟอร์เริ่มคุ้นเคย ผมโน้มตัวลงไปจูบคริส
 
           "วันนี้พี่จะติวท่ายากให้ ไม่เน้นทฤษฏีพี่เน้นปฏิบัติ"
 
           "ห๊ะ!!" คนที่นอนถึงกับผงกหัวขึ้นมามองผม
 
           "วันนี้พี่จะติวท่ายากให้...จัดเต็ม!"
 
           "ท่าอะไรอะ!"คริสโตเฟอร์ถามผมเสียงหลง
 
           "ท่าแรก The Missionary , 2.Victory , 3.Men on top, 4.Reverse Cowboy และจบด้วยThe Doggie  ห้าท่าห้าบทเรียนพอไหมที่รัก” ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์ คริสทำสีหน้าตกใจ  ผมก็อมยิ้ม ผมและคริสก็เริ่มปฏิบัติไปที่ละท่าแต่ละท่าของผมทำเอาคนคริสร้องครางฟังแทบจะจับใจความไม่ได้โดยเฉพาะท่าที่หันหน้าชนกันและก็แลกลิ้นกันพัลวันเลย
           
           "อ๊ะ ...อ่า...อ๊ะ...พี่เขม..พี่เขม...แรงหน่อย..พี่เขม..." คนที่นอนส่งเสียงครางคว้ำหน้าลงกับที่นอนลีลารักท่าสุดท้ายที่ผมใช้เป็นตอนจบภาคปฏิบัติด้วยท่า The Doggie คนที่นอนร้องขอให้แรงอีกหน่อย ขอมาแบบนี้เขมจัดให้เลย
 
           "ได้ที่รัก...พี่จัดให้นะ ...พลั่บๆๆๆๆๆ!!!! "เสียงดังสะนั่นดีนะที่ห้องเป็นผนังเก็บเสียงได้ก็พอจะป้องกันเพื่อนบ้านแอบฟังเสียงครูหื่นกับนักเรียนสายหื่นเขาทำอะไร
 
           "คริสเอื่อมมือไปหยิบรีโมทเปิดทีวีให้พี่หน่อย..ซี้ดดด" ผมร้องบอกคริสโตเฟอร์ เขาก็เอื้อมไปที่โต๊ะตรงหัวเตียงพร้อมกดเปิดทีวีโดยยื่นแค่มือ แต่หน้ายังคงซุกลงที่เตียงนอนทันที่ที่ทีวีถูกเปิดเพื่อกลบเกลื่อนเสียงดังอขงผมสองคน และผมก็จัดการกระแทรกเนื้ออ่อนนั้นรัวๆอีกครั้ง
 
           "อ๊า!!!"เสียงครางดังกว่าเดิมพร้อมเสียงเนื้ออ่อนกระทบเนื้ออ่อน
 
           "อ๊า...ที่รักพี่จะถึงแล้วนะ...พี่จะ..อ๊า!!!" เสียงคราวครั้งสุดท้ายเหงือออกท่วมไปหมดทั้งสองคนและคนที่คุกเข่าอยู่ถึงกับทิ้งร่างให้นอนแผ่ลงไปบนที่นอนเช่นกัน ผมก็ค่อยๆถอนแกนของตัวเองออกทิ้งตัวลงนอนข้างร่างของคริส และคริสก็พลิกตัวหันมาหาผมเพื่อสวมกอดผม
 
           "ขอบคุณนะครับที่รัก" ผมไม่ลืมหันไปขอบคุณคนที่ที่ทำให้ผมมีความไม่ใช่แค่ทางกายอย่างเดียวทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้ผม เวลามีทุกข์เราก็ช่วยกัน มีสุขก็สุขด้วยกัน
 
           "เป็นไง..."
 
           "นี้พี่เก็บกดหรือว่ายังไงเนี๊ยะจัดท่ายากหมดเลยอะ" คริสโตเฟอร์ถามผม
 
           "นี้คือคำตอบว่าพี่คิดถึงมากแค่ไหนไง..หึๆ"
 
           "รู้แล้วว่าคิดถึงมาก..และก็หื่นมากด้วย" คริสโตเฟอร์พูดเขาพลิกตัวขึ้นค่อมผมแค่ครึ้งตัว พร้อมกับจูบผมเบาๆ แบบใช้ลิ้นหยอกเหย้ากับริมฝีปากของผมเล่น
 
           "จะต่อเลยไหม"ผมถามคริสโตเฟอร์
 
           "ขออาบน้ำก่อนได้ไหมอะ รู้สึกเหนียวตัวและอยากอาบน้ำกับพี่เขมด้วย" คริสโตเฟอร์พูดผมพยักหน้าได้ซิผมก็ว่าดีเหมือนกัน ก่อนจะพากันลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวผมเห็นเขาหยิบเจลหล่อลื่นกับถุงยากเข้าไปด้วยรู้ได้ทันที่ว่าตั้งใจจัดผมในห้องน้ำแน่ๆ พอเปิดน้ำคริสก็เข้ามาจูบผมกายเราแนบชิดกันผมรู้สึกว่าเขาสูงทันผมแล้วนะเนี๊ยะหรือว่าเพราะกินชิสเยอะก็ไม่รู้กระดูกยืดเร็วชะมัดเลย ผมเทครีมอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายคนตรงที่ยืนประชิดตัวผมส่วนคริสโตเฟอร์ก็ไล่ตจูบปากผมไปด้วย
 
           "อ๊า"ผมครางเบาที่คริสใช้ปากพรมจูบผมตามซอกคอและเลื่อนลงมาทีแผ่นอกอย่างหื่นกระหาย ห้องน้ำผมค้อนข้างกว้างและแบ่งแยกสัดส่วนโซนอาบน้ำและโซนทำธุระไว้ด้วยกำแพงกั้นกลางครึ้งห้อง ในห้องน้ำมีกระจกบานใหญ่ที่ตรงอ่านล้างหน้าและผมก็อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นตัวเองกำลังดิ้นทุรนทุรายกับผนังห้องน้ำเพราะใครบางคนที่ปลุกเร้าอารมณ์ผมยิ่งนับวันคริสยิ่งเก่งและเชี้ววชาญเรื่องพวกนี้ ตอนนี้จะว่าเขาแซงหน้าผมแล้วก็ได้
 
           "อ๊ะ...อื้มม" ผมแอ่นอกสู้ลิ้นที่วนและขบเม้มยอดที่แข็งชูชันนั้น มือก็จับหัวคริสไม่อยากให้เขาปล่อยมัน
 
           "ผมไม่มีท่ายากเหมือนพี่แต่ผมเชื่อว่าผมจัดได้ลึกถึงใจและคืนนี้มีเซอร์ไพรส์" คริสโตเฟอร์พูดและ ผมก็ชำเรืองตามองที่กำลังชูแข็งพร้อมจะออกรบ
 
           "ฟู่"  พอเห็นแบบเต็มๆตาก็ต้อง พ่นลมออกมาทันที ไม่เจอสามวันเองทำไมมันโตเร็วจังวะ
 
           "เออ...มันใหญ่ขึ้นหรือเปล่า" ผมถามคริสโตเฟอร์ คือว่ามันจะแซงของผมไปแล้วนะ ของผมนี้คงหยุดโตแล้วแหละ แม้จะมาตราฐานชายไทยก็ตาม
 
           "สงสัยโจ๊กมั้งมันเลยโตเร็ว" คริสโตเฟอร์พูด ใช้ผมสั่งให้เขาทุกวันเลย
 
           "วันจันทร์งดสั่งโจ๊ก" ผมพูดและพยักหน้าเพราะถ้าขืนทานต่ออาจจะแซงผมไปไกลเลยแน่ๆ แค่คิดก็เสียวทันที
 
           "อ๊า...ผมก็ร้องครางออกมาอีกริมฝีปากคริสโตเฟอร์เลื่อนลงไปที่ท้องที่แข็งไปด้วยกล้ามเนื้อแม้จะไม่มีซีกแพคแต่ก็สมชายชาตรีอยู่นะ ผมสะดุ้งทุกครั้งที่เขาเม้มและดูดนั้นจนแทบจะหลุดติดปากนั้นไปเลยก็ว่าได้
 
           "โอ้ววว..ซี้ดดด ..คริส...อย่าทรมารพี่ซิ..โอ้ววว.."ผมร้องครางเชิงห้ามปรามเพราะว่ามันเสียวเหลือเกินที่เขาดูดมันแบบนั้น
 
           "เขาเรียกว่ามอบความสุขต่างหากละที่รัก...เส้นทางรักเราอีกยาวนาน..." คริสโตเฟอร์เงยหน้าขึ้นมาพอพูดและเขาก็จับส่วนนั้นของผม ผมก็หลับตารอความรู้สึกแปลกใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ปากที่ครอบลงที่ส่วนนั้น ผมถึงกลับเคลิ้มไปเลยร่างกายโยกไปโดยอัตโนมัติ คริสหยุดและยืนขึ้นเขาเอื้อมไปถุงยางและทาด้วยเจลหล่อลื่นคริสจับแขนผมคล้องคอเข้าไว้ ปากก็จูบผมแบบดูดดื่ม
 
           "ไม่เบิกทางนะแต่จะค่อยๆทำ"คริสกระซิบกับผมพร้อมยกขาผมขึ้นมาพาดไว้ที่เอว ผมรับรู้ได้ว่าช่องทางรักผมกำลังถูกรุกล้ำ
 
           "โอ๊ะ" ผมร้องเท้าก็เขย่งตัวขึ้นแต่คริสดันเอวผมไว้
 
           "อ๊ะ...อ๊ะ...มันคับแน่นกว่าเดิม”
 
           "มันหลายวันแล้วเลยพองเต็มทีไปหน่อย"คริสโตเฟอร์กระซิบ ผมก้มลงมอง สามวันเองนะมันยังขนาดนี้เลย ถ้าหายไปสักเดือนแล้วกลับมมันจะขนาดไหน มีสามีสายฝอก็ต้องทำใจใช่ไหมเขมชาติ (เมื่อสักครูเขมเป็นสามี แต่ตอนนนี้เป็นภรรยาแล้วครับ)
 
           "โอ๊ะ...อ๊า...คริส...พี่เจ็บอะ.."ผมพูดว่าเจ็บคริสก็หยุดชะงักเพื่อให้ผมรู้สึกดีขึ้นก่อน  คริสใช้ลิ้นเลียวนที่ฐานของผมไปมากและตวัดลิ้นเล่นจนความรู้เจ็บถูกเปลียนเป็นความสุขมือผมจับสะโพกเขาขยับว่าต้องการแล้วเขาก็ค่อยๆดันเลื่อนเข้ามา เข้าไป เข้าไป เรื่อยๆ จน
 
           "ฟูู่" เสียงพ่นลมหายใจออกมาจากคนเบื้องหน้าผมและตามมาด้วยการขยับเข้าออกอย่างรวดเร็วผมเองก็กอดโน้มคนที่ตรงหน้าผม
 
           "ไปที่นั่งที่ตรงห้องน้ำนะ" คริสโตเฟอร์บอกผม เขาถอดสิ่งนั้นออกก่อนและพาผมไปยังผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตราฐานเชื่อว่าไม่หักง่ายๆเพราะลองมาแล้วฮาๆ คริสโตเฟอร์นั่งลงก่อน
 
           "อยากขี่ยังอะ" คริสโตเฟอร์ถามผมเสียงนี้ได้อารมณ์มากฟังแล้วสยิวแปลกๆ ผมก็ย่อนก้นลงช้าๆกับที่ชี้โด่อยู่ เราหันหน้าเข้าหากันตอนนนี้เรียกได้ว่าผ่านไปง่ายขึ้นจนแก้มก้นผมแตะหน้าขาคริสโตเฟอร์คริสก็จับมือผมกอดคอเข้าไว้
 
           "ควบเต็มที่เลยนะครับที่รัก..รู้ตัวไหมว่ากำลังโดนทำโทษอยู่นะ..อืมมม " ผมก็ต้องโยกเบาๆเพราะคนที่นั่งโยกเอวเป็นสัญญาณให้ผมขยับก้นได้แล้ว ผมมองคนที่นั่งเป็นเก้าอี้ให้ผมอยู่แบบไม่เข้าใจ คริสโบ้ยปากไปตรงอ่างมีลักษณะเพื่อนแพ๊คเก็จยาอะไรสักอย่าง
 
           "ซี้ดดด..ยาอะไร" ผมถามปากก็ครางไปด้วย
 
           "อึด..ทน..แข็งนาน" ผมถลึงตาใส่คนที่นั่ง
 
           "อีกยาวนายเลยที่นี้...คืนนี้จะจัดให้ที่รักหายยากไปเลยไม่ยอมโทรหาเลยรู้ไหม....ต้องโดนทำโทษ..อึม..อึม..อึม"
           
           "อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ " พอคริสกระแทกขึ้นมาทีผมนี้ก็ส่งเสียงร้อง ตายแน่เลยคืนนี้ เขมชาติ
 
           "โอ้ว..คริส..ขี้โกงพี่นิ..อู้ยยย..."
 
           "แบบว่าท่ายากไม่มีแต่คริสจัดให้ถึงใจ..อึมม..ยาวไปยาวไป." คริสโตเฟอร์พูดและยิ้มเจ้าเหล่ให้ผม
 
           "อ๊ะ..คริส..เบาหน่อย..โอ้วว..ซี้ด"
 
           "ขวบมันหน่อยซิที่รัก..อื้ม..อย่างนั้น...ที่รัก...เยี่ยม..ควบแบบนั้นแหละ..โอ้ววว..." เส้นทางรักยาวนานเหลือเกินสมกับที่ไม่ได้เจอกันมาสี่วันสามคืน แถมพ่อตัวดียังไปเอายาแข็งอึดทนและนานมาจากไหนไม่รู้ ไม่ต้องบอกนะว่านานแค่ไหนหนึ่งชั่วโมงเต็มในห้องน้ำและออกมาต่อกันที่เตียงอีก ผมเดินลงไปรินนมขึ้นมาให้คนที่นอนสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงบ๊อกเซอร์นอนเปิดดูเว็ปไซต์ที่ผมให้เขาดูเกี่ยวกับการสอบ GED
 
           "คริส..นม" ผมส่งแก้วนมให้คริสเขาดีดตัวขึ้นมานั่งพร้อมกับรับแก้วนมไปดื่ม
 
           "ขอบคุณครับที่รัก"
 
           "อ่านแล้วพอเข้าใจบ้างไหม" ผมถามคริสโตเฟอร์
 
           "พอเข้าใจครับพี่เขมแต่วิชาสังคมนี้ผมไม่ค่อยแม่นอะพี่เขม"
 
           "เพื่อนพี่เขาจะติววิชาสังคมให้เองพรุ่งนี้พี่จะพาเข้าไปหาอาจารย์ของพี่และจะได้ดูว่าจะต้องวางแผนกันยังไงพี่อาจจะซื้อหนังสือจากอาจารย์พี่มาให้เราอ่าน"
 
           "แต่มันจะเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยพี่คงต้องติวเราเพิ่มตอนเที่ยงครึ้งชั่วโมงที่ห้องสมุดและตอนเย็นหนึ่งชั่วโมงจะหนักไปไหมสำหรับเรา" ผมถามคริสโตเฟอร์
 
           "หนักก็ยอมพี่เขม....เพื่อให้ได้มาซึ้งความสุขผมยอมพี่เขม" คริสโตเฟอร์บอกผม ผมรับแก้วนมมาถือไว้
 
           “มันจะกระทบกับการซ้อมบาสเก็ตบอลเราหรือเปล่า พี่เห็นที่บอร์ดข่าวสารโรงเรีนกำลังจะมีการแข่งขันเดือนหน้าแล้วนิ “ ผมถามคริสโตเฟอร์
 
           “ผมไหวนะพี่เขม “ คริสโตเฟอร์ตอบผม ผมก็พยักหน้า
 
           "พี่ลงไปปิดไฟชั้นล่างก่อนนะ" ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างผมเดินผ่านรูปถ่ายครอบครัว  ผมเพิ่งจะเข้าปีหนึ่งแต่พ่อผมไม่รู้นึกยังไงให้ผมไปเช่าชุดครุยของคณะที่ร้านและถ่ายรูปครอบครัว และตอนนั้นพี่ก้องสวมชุดสีขาวตอนรับกระบี่แล้ว  ส่วนพี่พี่ต้นสวมชุดข้าราชการสีขาวเช่นกัน  พ่อกับแม่ก็สวมชุดข้าราชการเช่นกัน มันเป็นภาพสุดท้ายไม่นานพ่อผมก็เสียชีวิตลงและนี้ก็คือความภูมิใจมากที่ผมได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ ขณะที่ผมกำลังจะเดินผ่านรูปพ่อ ความคิดแว๊ปหนึ่งผมเกิดขึ้นมา พ่อเคยให้ผมช่วยแปลจดหมายจากชาวต่างชาติคนหนึ่งเขาเขียนมาขอความช่วยเหลือให้พ่อผมช่วยตามหาครอบครัวแต่ผมจำไม่ได้ว่าจดหมายเหล่านั้นแม่ผมไว้ที่ไหนนะ ตอนนี้ก็ดึกแล้วรอพรุ่งนี้เช้าคอยโทรหาแม่ดีกว่า ก่อนจะกลับขึ้นมาทิ้งตัวลงนอนและคนข้างๆผมก็ปิดโน๊ตบุ๊คเตรียมตัวนอนเช่นกันเรากอดกันอีกครั้งไฟตรงหัวเตียงดับลงเพราะว่าผมเอื้อมมือเพื่อปิดมัน
 
           "ผมนอนไม่หลับอะไม่ได้กอดพี่เขม ที่ผ่านมาที่เราต้องแยกกันอ่ะพี่เขม และนี้เราก็คงได้อยู่ด้วยกันแค่เสาร์อาทิตย์เองอ่ะพี่เขม" คริสโตเฟอร์พูด น้ำเสียงของเขาดูกังวล
 
           “ผมกลัวเหลือเกินอาทิตย์ที่พี่ไปอบรบนะ นั้นแค่ ห้าวันเองแต่ถ้าเราต้องห่างกันนานกว่านันผมจะทนได้เหรอพี่เขม “ คริสโตเฟอร์พูด
           
           "นอนพักซะนะคนดี พี่เชื่อว่าพรุ่งนี้มันจะดีขึ้น ...พี่รักคริสนะ."  ผมพูดกอดคริสโตเฟอร์ มือก็ลูบไล้ไปตามต้นแขนของเขา ผมลูบไปจนคนข้างๆผมผล่อยหลับไปแล้ว แต่ผมซิ ยังคงนอนคิด เรื่องความรักของผมกับคริส ผมยังไม่รู้ว่าเราทั้งคู่จะเจออะไรเข้ามาอีก แต่ผมจะพยายามไม่สั่นคอน เราจะต้องเข้มแข็งเพื่อจะได้ก้าวผ่านมันไปได้ด้วยกัน ย้ำว่าด้วยกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนหน้าเป็นตอนพิเศษของ อาร์ทกับโจ เอ๊ะเขาไปรักกันได้ยังไงนะ ...
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:31:34 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0


พิเศษ อาร์ท VS โจ เหตุเกิดจากความรัก 
            ผมชื่อโจ ผมเป็นเพื่อนกับไอ้อาร์ทมาตั้งแต่เกิดเลย  พ่อของผมกับพ่อของอาร์ทเราเป็นเพื่อนกันเรียกได้ว่าดองกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าแล้วจนกระทั้งถึงรุ่นพ่อและรุ่นผมกับอาร์ท ไม่ใช่แค่พ่อเราเป็นเพื่อนกันแม่ของเราสองคนก็เป็นเพื่อนรักกันอีก (เอาเข้าไปครับ ฮาๆ )
 
           พ่อผมนะตามจีบแม่ของอาร์ทก่อนแต่พ่อของอาร์ทก็ไปเป็นเพื่อนพ่อของผมเพื่อจีบแม่ของอาร์ท แต่ไม่รู้ว่าจีบกันอีท่าไหน  แม่ของอาร์ทบอกพ่อของผมว่าเขาไม่ได้ชอบพ่อผม แต่เขาชอบพ่อของอาร์ทแทน เหมือนจะเศร้าแต่ไม่ครับ เพราะว่าความเป็นเพื่อนของระหว่างพ่อของผมกับพ่อของอาร์ทมันแข็งแรงเกินกว่าจะผิดใจกันด้วยเรื่องผู้หญิง พ่อผมจึงยอมเปิดทางให้และหันไปจีบเพื่อนสาวของแม่อาร์ทแทน ทุกวันนี้ก็เลยกลายมาเป็นแม่ของผมครับแต่งงานก็ยังแต่งไล่ๆกันเลยครับ
 
            ดังนั้นผมกับอาร์ทจึงเกิดไล่เลี่ยกันห่างกันแค่สองเดือนเองแต่แปลกที่เราเกิดวันเดียวกัน คือวันที่ 8 เหมือนกัน และเราก็เรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาล ผมกับอาร์ทเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้เรามีภาพถ่ายคู่กันตั้งแต่แรกเกิดเลยก็ก็ว่าได้
 
           "ดูไม่เบื่อเหรอโจ” อาร์ทเดินเข้ามาในห้องพร้อมแก้วนมที่แม่ปิ่นให้เอามาให้ผมแน่ๆ"
 
           "ไม่อะมันตลกดีว่ะหน้ามึงอะ" ผมพูด วันนี้ผมมานอนค้างบ้านอาร์ท พรุ่งนี้แม่กับพ่อของผมและน้องชายชื่อจัสมินเพราะว่าเกิดวันแม่พอดีเลย แต่จะให้มันชื่อมะลิก็แปลกอยู่ เราสองคนมีน้องชายก็มีไล่ๆกันอีก อายุอานามก็เลยไล่เลี่ยกันด้วยจัสมินอายุ9 ขวบ น้องชายของอ้าร์ทชื่อว่าไอซ์ก็จะเก้าขวบเช่นกันแต่ห้างกันสองเดือนเหมือนกันอีกด้วย (นึกในใจ นี้พ่อผมกับพ่อไอ้อาร์ทนัดวันเวลากันเพื่อจะปั้มลูกหรือเปล่าน่ะ ฮาๆ)
 
           "แม่ถามว่าพรุ่งนี้กินข้าวต้มกุ้งหรือเปล่าแม่จะทำให้...ให้.." ผมเงยหน้าขึ้นมองว่าให้...อะไร...
 
           "ให้เมียของลูกชายกิน"  ไอ้อาร์ทพูด ผมถึงกับสะบัดหน้าไป
 
           "อาร์ทมึงบอกน้าปิ่นแล้วหรอว่ะ" ผมเงยหน้ามองหน้ามันด้วยความตกใจ
 
           "ทำไมอะ..มึงเป็นเมียกูแล้วนะ.." ไอ้อาร์ทพูด ผมขม้วดคิ้วทำหน้าเครียดทันที
 
           "ยังหรอกนะแต่อยากจะบอกเร็วๆนี้อะ..ว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแล้ว...อาร์ท..ไม่อยากปิดไม่อยากให้โจรู้สึกไม่ดี..และอาร์ทรู้สึกเหมือนไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยอะทำแล้วไม่รับผิดชอบ" ผมมองหน้าคนที่สอดแขนเข้ามาโอบเอวผมด้วยแขนเพียงข้างเดียวพร้อมกับหอมแก้มผม
 
           "พี่อาร์ท...ยืมปากกา...กา..กา..กา" ไอ้น้องตัวดีของไอ้อาร์ทเปิดประตูเข้ามาพอดีมันยืนอ้าปากค้างเหมือนหัวอ่านสะดุด
 
           "พอแล้ว…. กาอยู่นั้นแหละหัวอ่านมึงสะดุดหรือไงไอซ์..อยู่บนโต๊ะ" ไอ้อาร์ทบอกน้องชายมัน ไอ้ไอซ์มันก็รีบวิ่งมาหยิบปากกาและรีบออกไปทันทีราวกับเจอเรื่องสยองขวัญ
 
           "น้องมึงจะไปบอกแม่กับพ่อมึงไม่ไหมว่ะ" ผมถามไอ้อาร์ท แอบเอียงอายเล็กน้อยพอเป็นพิธี
 
           "ไม่หรอกอาร์ทรู้จักไอ้ไอซ์ดีเห็นแบบนี้มันไม่เคยเอาเรื่องอะไรของอาร์ทไปฟ้องพ่อนะ" อาร์ทพูดผมพยักหน้าเบาๆ
 
           "เดี๋ยวขึ้นมานะเอาแก้วนมลงไปเก็บก่อน...ขึ้นมาเล่นหมาป่าไล่ล่าลูกสุนัชจิ้งจอกกัน..งั้ม" อาร์ทพูดและลุกขึ้นไปเปิดประตูและมันก็เดินออกไปจากห้อง
 
           เอ๊ะท่านผู้ชมคงจะงงกันใช่ไหมครับว่าผมสองคนไป..ลงล๊อกกันตอนไหนเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันที่คริสโตเฟอร์เมาหนักมากเพราะว่ามันกลัวครูเขมชาติทิ้งมันไป คืนนั้นและที่ผมโดนพลากความหนุ่มของผมไปด้วยเช่นกัน ใครพรากมันไป ไปติดตามชมกันดีกว่าครับ
 
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
           ผมกับอาร์ทเรามีแฟนอายุเยอะกว่าตลอดส่วนมากก็จะห่างประมาณ 2 ปีถึง 3ปี และส่วนใหญ่ก็จะเรียนมหาวิทยาลัยกันแล้ว และแฟนของผมก็มักจะต้องเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนของอาร์ท และเป็นเช่นนี้มาตลอด คือถ้าอาร์ทอกหักผมก็มักจะหักไปกับมันด้วย คือเพื่อนกันพอเลิกแม่งก็เลิกพร้อมกันไปเลย 
 
           แต่คนล่าสุดคือพี่ปริม เขาเป็นแฟนอาร์ทมาตั้งแต่อาร์ทเรียนอยู่ชั้นม.4หนึ่งปีพอดีเลยวันนั้นด้วย วันที่อาร์ทถูกบอกเลิก อาร์ทกับพี่ปริมคบกันและพากันไปเที่ยวผับ วันนั้นเพื่อนพี่ปริมก็ไปด้วย เห็นบอกว่าแฟนบอกเลิก พี่เขาเสียใจ และพี่ทรายก็มาขอคบกับผมเป็นแฟนโดยที่พี่ปริมเป็นคนแนะนำอีกเช่นกัน  ต่อมาความรักของทั้งคู่คืออาร์ทกับพี่ปริมก็เริ่มระห่องระแห่ง ผมรู้ว่าต้นเหตุมันจากอาร์ทไปไหนก็พาผมไปด้วย ส่วนพี่ปริมเองก็คงอยากจะไปกันสองต่อสองบ้าง พี่ทรายก็คบผมเหมือนแค่เพื่อเลือก เขาเองก็มีคนที่ไม่เชิงเรียกว่าแฟนแต่ไม่ใช่เพื่อนผมเองก็ไม่ได้สนใจขอแค่ให้ได้ไปกับอาร์ท เพราะว่าผมมีความรู้สึกลึกๆที่แอบซ้อนในใจตัวเองมาตลอดมาและผมก็ไม่รู้ว่ามันจะคิดเหมือนผมไหมจนกระทั้งวันนั้น
วันที่เกิดเหตุ
           "ไม่อยากเชื่อเลยว่ะว่าไอ้คริส...มันจะเปลี่ยนแนวไปได้เร็วขนาดนี้ว่ะ...หรือว่ามันเอาสาวมากไปว่ะจนมัน...เกิดภาวะไม่อยากอิบ อิบ" ผมพูดขณะที่ไอ้อาร์ทมันขับรถกลับไปยังผับ พวกผมขับไปส่งครูเขมและไอ้คริสที่ดันกระดกเพียงๆเลยนำหน้าพวกผมไปก่อน เรียกว่านำโด่งจนต้องให้ครูเขมพามันกลับบ้านพักครู
 
           "เลยเปลี่ยนมาเป็นให้ครูเขมอิบ อิบมันแทนว่ะโจ" ไอ้อาร์ทมันถามผม ผมหยักไหล่ไม่รู้ซิ
 
           "ที่ผ่านมามันคงยังไม่รู้ใจตัวเองก็ได้มั้ง" ผมพูดพร้อมส่งยิ้มกลับไปให้มัน
 
           "มีด้วยเหรอว่ะ" ไอ้อาร์ท ผมหันไปเหล่มองไอ้อาร์ท
 
           "มีดิเยอะแยะไป!!"  ผมพูด
 
           "ทำไมต้องเสียงสูงด้วยว่ะโจ"
 
           "ไม่นี้)))))"
 
           "อันนี้นะมาเลยโจ))))" ไออาร์ทมันเลยตะโกรกรอกหูผมกลับมาทันที 
 
                       อาร์ทขับรถกลับมาที่ด้านหน้าผับอีกครั้งเพราะว่าแฟนไอ้อาร์ทพี่ปริมกับพี่ทรายเขาไปรอผมสองคนในผับ บางที่ผมเองก็ไม่อยากมาเลย ไม่อยากเห็นไอ้อาร์ทมันนัวเนียพี่ปริมเลยจริงๆ ทั้งกอดทั้งจูบกันแบบนั้นและผมรู้สึกว่าพี่ปริมนะจงใจทำเพื่อให้ผมเห็นจะจะซะด้วยซ้ำ พี่ทรายเลยถามผมว่าผมคิดอะไรกับอาร์ทเปล่า เพราะว่าเขาคงเห็นสายตาของผม และเขาก็บอกว่าเขามองตาผมเขารู้ความหมาย สายตาของผมมันเก็บซ้อนความจริงที่แสนเจ็บปวดไว้และมันก็ไม่ดีเอาซะเลย แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่ทรายจะบอกพี่ปริมบ้างไหม และที่สำคัญของผม ก็คือไอ้คนข้างๆผมนี้เขากลับไม่เคยเห็นมันเพราะมันมองเห็นแค่ว่าเพื่อนที่สนิทไปไหนก็ไปด้วยกันมาตลอด
 
           พวกผมสองคนอายุ 17 ปีแล้วแต่ยังไม่สิบแปดดังนั้นพวกผมจะเข้าได้ก็ต่อเมื่อพี่ปืนเช็คให้แล้วว่าไม่มีตำรวจมานะ เจ้าของผับนะผมรู้จักพี่ปืนเป็นรุ่นพวกผมพี่ปืนจบไปหลายปีแล้วเป็นรุ่นพี่พวกผมที่ผมรู้จักผ่านรุ่นพี่อีกที ก็ตอนพี่ปืนใกล้จบ ผมก็เพิ่งจะยู่ม.ต้นกันเอง
 
           "อ้าวเพื่อนไปแล้วเหรอเมารั่ววะ" พี่การ์ดด้านหน้าแซวผมสองคน
 
           "โทษทีพี่มันงอนแฟนนะแต่ปานนี้แฟนคงกำหลาบสลบค่าที่นอนแล้วแหละพี่" ผมหันไปบอกพี่การ์ดประจำผับเขารู้จักผมสองคนดี
 
           "ที่มันบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชายใช่ไหมว่ะ เพราะว่าได้ยินมันตะโกนอยู่กลางถนนหนทางโน้นว่ะ " พวกพี่เขาถามผมสองคนและผมสองก็พยักหน้าว่าใช่
 
           ”เว้ยย!" พวกพี่ๆเขาร้องออกทำท่าขนลุก ผมเดินผ่านเข้าไปด้านในและผมก็คิดว่าพี่ปริมคงเลือกโต๊ะนั่งแถวตรงกลางๆ ผมไม่ได้คิดไปเองนะ พี่ปริมเป็นผู้หญิงที่สวยหนุ่มในผับต่างจับจ้องมองพี่ปริมหลายคนบางคนก็จีบไม่เกรงใจว่าไอ้อาร์ทมันมากับพี่ปริม ไอ้อาร์ทก็ไม่น้อยหน้ามันกอดมันจูบพี่ปริมโชว์ว่านี้ของมันแต่คนที่ยืนดูอย่างผมโคตรเจ็บเลย ระหว่างที่เดินผ่านทางเข้าเพื่อตรงไปด้านใน
 
           "เชร้ด!" เสียงสะบดของอาร์ท ผมเองก็เห็นว่าไอ้อาร์ทมันเห็นอะไรพี่ทรายกำลังนั่งอิงแอบกับไอ้หนุ่มที่ชอบทำผมทรงหนามทุเรียน และก็มาเป็นลูกค้าประจำผับนี่เช่นกัน แต่ทุกทีก็แค่สงสายตาให้กัน แต่ว่าวันนี้เข้าไปอิงแอบแนบชิดกันเลยดูท่าทางสนิทกันมากเหมือนคุ้นเคยกันมาก่อน
 
           "อาร์ท..อย่า..เขาบอกกูนานแล้วว่าเขา..อยากเลิกกับกู..ไปหาพี่ปริมเถอะ" ผมพูดและกระฉากแขนอาร์ท ให้ออกมาไม่ให้เข้าไปหาเรื่องไอ้หนามทุเรียนนั้น อาร์ทเดินเข้าไปเห็นพี่ปริมกำลังนั่งโดยมีหนุ่มรูปหล่อมานั่งใกล้จนแถบจะแนบกันเลยดีกว่า ผมคงไม่ต้องห้ามไอ้อาร์ทแล้วแหละ เพราะอันนี้มันเกินกว่าพี่ทรายไปเยอะ จะเรียกว่าขี่กันเลยก็ได้
 
           "สัสเอ้ย!! ...ผลั๊ก" อาร์ทตรงเข้าไปต่อยไอ้คนนั้นทันที
 
           "เฮ้ยย!!" เสียงโวกเวกโวยวายดังมาทันที
 
           "อาร์ทต่อยพี่เขาทำไม!" พี่ปริมลุกขึ้นและถามอาร์ทก่อนจะรีบไปประคองคนที่ถูกต่อยลงไป
 
                      "ถามว่าต่อยทำไมแล้วพี่ให้มันมานั่งอิงแอบพี่ทำไมพี่เป็นแฟนอาร์ทนะพี่ปริม" อาร์ทพูดด้วยความโมโหและผมก็แตะแขนมันเบาๆให้มันใจเย็นๆ อาจจะแค่มาคุยกัน ผมไม่อยากให้มันทะเลาะกับพี่ปริมเลย
 
                      "และนั้นพี่ทรายก็ไปอิงแอบไอ้เวรนั้น...ไอ้โจละ..."อาร์ทพูดพี่ปริมลุกขึ้นมาเดินมาประชันหน้ากับอาร์ท
 
                      "ปริมครับตกลงไอ้เด็กนี้แฟนปริมเหรอครับถ้าใช่พี่ไม่ยุ่งนะครับพี่ไม่ชอบแย้งของเล่นเด็ก" ไอ้เวรนั้นลุกขึ้นมา อาร์ทจะเข้าไปใส่อีกแต่พี่ปริมออกมาขวาง
 
                      "ไม่ใช่ค่ะ..ปริมขอตัวคุยกับเด็กมันก่อนนะคะเดี๋ยวปริมมาคะ" พี่ปริมพูดผมรู้สึกสงสารไอ้อาร์ทเหลือเกิน พี่ปริมหันมาหยักไหล่ว่าให้ออกไปคุยที่อื่น อาร์ทเดินตามพี่ปริมทีเดินอย่างรวดเร็วแหวกผู้คนออกมาไป จนถึงด้านหน้าห้องน้ำ
 
                      "พี่ปริมพี่พูดแบบนั้นได้ยังไง..ว่าเราไม่ใช่..นอนกันทุกคืน..ไม่เรียกว่าใช่อีกเหรอ" อาร์ทพูดกับพี่ปริม พี่ปริมหันหน้ามามองอาร์ท
 
                      "คิดว่าแคร์เหรอ...นี้ถามหน่อยมึงเป็นเกย์ปะอาร์ท" พี่ปริมถามไอ้อาร์ท
 
                      "นี้ยังคิดว่าผมเป็นเกย์อีกเหรอ ...เอากันอยู่ทุกคืนนะพี่ยังคิดว่าผมเป็นเกย์อีกเหรอ" อาร์ทถามพี่ปริม ผมนี้จุกเข้ามาในอกผมเลย ตรงที่มันบอกว่าเอากันทุกคืน ใช่แต่มันเพิ่งจะพาพี่ปริมเข้าไปค้างที่บ้านเมื่ออาทิตย์ก่อนเองและก่อนหน้านี้ก็พากันไปเปิดโรงแรมนอนกันส่วนผมนะกลับบ้าน ดังนั้นผมกับพี่ทรายนะไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นกันหรอกครับ ผมแค่จูบกันแต่ไม่ถึงสิบวิผมก็ถอนออกและผมก็มักจะให้เหตุผลว่าพ่อแม่ผมต้องไปดูไร่ที่ทำไว้ทุกเสาร์อาทิตย์ ดังนั้นผมต้องอยู่เป็นเพื่อนน้อง เรื่องจะพาใครไปนอนหมดสิทธิ์ครับ
 
                      "เกย์มันก็เอาผู้หญิงได้ทำไมมันจะเอาไม่ได้แต่เอาไม่ถึงใจเหมือนผู้ชายและที่อาร์ททำกับพี่นะ ...ไม่เคยถึงใจพี่เลยสักครั้ง " ผมรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที ใบหน้าร้อนผ่าว เพราะผมอายแทนพี่ปริมไม่ใช่อายแทนอาร์ทมันนะแต่นางไม่แคร์คนที่เดินผ่านไปมาอาร์ทมันก็หันไปมองรอบๆ
 
                      "ไม่รู้ว่าเป็นเกย์หรือว่า บ่มีไก๊..เขาใจความหมายมันปะ...และไม่รู้ว่าจะกระเตงกันไปอะไรหนักหนาคือถ้ามีอาร์ทต้องมีโจ...กระเตงกันแบบนี้เวลาแต่งงานมึงจะกระเตงไอ้โจขึ้นหอด้วยมั้ย" พี่ปริมถามอาร์ท ผมได้แต่ยิ่งนิ่ง ส่วนอาร์ทก็ยืนกำหมัดแน่น
 
                      "เอาไงถ้าจะให้พี่เป็นแฟนเราก็บอกให้โจกลับไปแล้วเราก็เป็นแฟนกันเหมือนเดิมแล้วไม่ต้องเชิญมาด้วยอีกนะเพราะว่าทรายมันกลับไปคืนดีกลับผัวมันแล้ว" ผมได้ยินแบบนั้นผมว่าผมหันหลังดีกว่า
 
                      "อาร์ทกูกลับเองนะ" ผมเดินออกทันทีไม่รอฟัง อาร์ทมันบอกว่ามันรักพี่ปริมมันอยากให้พี่ปริมคือคนสุดท้ายเพราะว่ามันคบมานานที่สุดแล้วปีหนึ่งเต็มผมควรเลือกเดินออกไป
 
                      ผมรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากผับ มันก็จริงอย่างที่พี่ปริมพูดแฟนก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันสองคนจะมาคนสามตลอดเวลาก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ผมจะเสนอหน้าอยู่ทำไมวะ ผมหยิบมือถือขึ้นเลื่อนหน้าจอและกดโทรออก ผมกดโทรหาอาร์ท แล้วจะโทรหามันทำไม ก็เพราะว่ามันชินยังไงละรีบกดวางสาย จะโทรหาใครดีละไอ้คริสโตเฟอร์เหรอมันคงหลับไปแล้วเมาขนาดนั้น ไอ้โป้งละมันกลับบ้านแต่รอบนี้มันพาปันปัน กลับไปด้วย ไม่ต้องพูดถึงไอ้ปันปันเลย นอกนั้นก็เบอร์พ่อก่บแม่และจัสมินน้องชายผม มันเก้าขวบเอง ใจก็ไม่อยากกลับตอนนี้เลยอ่ะ แต่ก็ไม่มีที่ไหนแล้วเอาวะเดินให้เหนื่อยจะได้กลับไปถึงหลับเลย ถึงมันจะไกลจากผับมากเหมือนกันแต่ผมคิดว่าผมเดินได้สบายมากแต่ก็เล่นเอาหอบเหมือนกันนะกว่าจะถึง แต่ตอนนี้ผมนะรีบเดินให้เร็วที่สุดจากออกไปให้พ้นจากตรงจุดนี้ให้เร็วที่สุดเช่นกัน
 
                      "ตับๆๆๆ"เสียงฝีเท้าวิ่งตาหลังผมมาอย่างรวดเร็วแต่ไม่ทันทีที่ผมจะหันหลังกลับไปมอง
 
                      “หมับ”กลับมีมือมาจับต้นแขนทั้งสองข้างของผมไว้ซะก่อน ผมเหลียวกลับไปมอง คนที่วิ่งตามผมออกมาคืออาร์ท
 
                      “แฮ้กๆ ..อย่าเพิ่งขยับ..กูจุก..แฮ้กๆ”เสียงหายใจหอบเหนื่อย
 
                       “อาร์ท” ผมเรียกอาร์ทไม่ดังแต่ในใจผมโคตรดังเลยเหมือนตะโกนออกมาโดยไม่มีเสียง
 
                      “ทิ้งกันทำไมวะ” มันเงยหน้าขึ้นมาถามผมยังมีท่าที่หอบเหนื่อยอยู่เลย
 
                      “จริงอย่างที่พี่ปริมพูดมึงไม่ควรมีกูทุกทีทุกเวลาที่มึงอยู่กับ...เขา...และเป็นใครก็คงไม่ชอบ” ผมพูดและจะหันหลังเดินออก
 
                      “ทำไมพูดอย่างนี้วะ...โจ!!!!” ไอ้อาร์ทมันตะคอกถามผม
 
                      “กูออกมาเพราะมึงคือเพื่อนกูนะ” ไอ้อาร์ทพูดบอกผมว่ามันออกมาเพราะมันคือเพื่อนผม
 
                      “และกู..ยอมเลิกกับพี่ปริมเพราะมึงนะไอ้โจ”แถมมันยังบอกเลิกพี่ปริมเพื่อผมนี้นะ มันบ้าไปหรือเปล่า ผมเองที่ทำหน้าตกใจ
 
                      “ = 0 = ”
 
                      “มึงอยู่กับกูมากี่ปี” อาร์ทถาผม ภาพตั้งวัยเด็กเราอยู่ด้วยกันเพราะพ่อแม่เราสนิทกันมากตั้งแต่แรกเกิดเลยก็ว่าได้ จนเข้าเรียนอนุบาล ประถม มัธยมแม้กระทั้งย้ายมาอยู่ที่นี้ยังย้ายมาด้วยกันทำไมจะไม่รู้ละว่ามันกี่ปี
 
                      “17 ปีไง”ผมตอบเบาๆ เกิดมาก็เจอเลยแม้จะยังไม่รู้เรื่องก็ตาม
 
                      “ใช่!..แล้วพี่ปริมเขาอยู่กับกูปีเดียวนี้นะให้กู้ลือกเขาเหรอวะ” ผมหันมามองหน้าอาร์ทก่อนจะเดินกลับมาหาอาร์ท
 
                      “แต่มึงรักพี่ปริมมึงอยากให้เขาเป็นคนสุดท้ายไม่ใช่หรอ”
           
                      “ช่างมันเถอะ ....เดินกลับไปที่รถ..”อารทพูดและหยักไหล่ให้พากันเดินกลับไปตรงที่อาร์ทมันจอดรถไว้
 
                      “ยืนเซ้ออีกไปขึ้นรถ” ดูมันว่าผมอีกว่าผมยืนเซ่ออีก ผมหันซ้ายและขวา ก็คงจะจริง งั้นรีบเดินครับ
 
                      "จะเดินกลับบ้านหรือไงเมื่อไหร่ถึงละเกือบสว่างมั้ย!"อาร์ทหันมาขึ้นเสียงกับผมผมรีบเดินตามไปไกลพอสมควรถึงที่อาร์ทจอดรถไว้ ผมรู้ว่าอาร์ทเสียใจนะเพราะว่าอาร์ทมันก็พาพี่ปริมเข้าบ้านไปหาพ่อแม่แล้วด้วยเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งนั้นแปลว่าอาร์ทจริงจังแล้วผมได้ยินว่าแพลนจะให้อาร์ทไปเรียนกรุงเทพอยู่กับพี่ปริมพออาจจบค่อยแต่งงานกันทันที ผมได้ฟังแล้วผมไม่อยากจะจบม.หกเลยจริงๆ เพราะว่าไม่อยากให้มันไปไง
 
                      ตอนนี้อาร์ทขับรถมาจอดที่หน้าเซเว้นอีเลฟเว่นสาขาหนึ่งไม่ใกล้บ้านแต่ก็ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
 
                      “ลงไปหาอะกินดิวะ..เอาที่เขาเอาไว้กินแกล้มเบียร์ด้วยวะโจ”อาร์ทมันสั่งผม
 
                      “วันนี้อาธรกับน้าจี้ดไม่อยู่บ้านใช่ปะวะ” อาร์ทถามผมพยักหน้าว่าไม่อยู่ไปหาคุณยายผม
 
                      “อืม...มีไรอะ” ผมถามกลับตาก็มองหาว่าจะกินอะไรดี
 
                      “ไปกินที่บ้านมึงนะไม่อยากกลับบ้านวะ” ไอ้อาร์ทบอกผมก็หยักไหล่ตามใจมันดิ ถึงพ่อแม่ผมอยู่มันก็ไปมาหาสู่ได้เหมือนเป็นลูกอีกคนของแม่ผมเลยแหละ
 
                      "ไปหยิบเบียร์นะ" อาร์ทหันมาบอกผม
 
                      “อืม”ผมพยักหน้าก่อนนะเดินเข้าไปเลือกของกินเล่นกูลิโก๊ะป๊อกกี้ คุ้กกี้หมีมีช๊อกโกแลตข้างไหนด้วย กัดไปฟินเวอร์ และก็คุกกี้รูปดอกไม้มีช๊อกโกแลตตรงกลาง มะข้ามจี้ดจาด ข้าวโพดอบกรอบเคลื้อบคาราเมล ผมหอบมาวางไว้หน้าเคาเตอร์และไอ้อาร์ทก็หอบเบียร์มาวางสองโหล อาร์ทหันมามองหน้าผมและมองกองขนมที่วางไว้ด้วยกัน เราสบตากันเปรี้ยงปร้างและพนักงานก็มองผมสองคนสลับกันไปมา
 
                      “มาด้วยกันหรือเปล่าครับพี่ ถ้าไม่ผมจะได้ให้พี่คนที่หอบขนมนี้คิดเงินที่หลัง เพราะว่ากว่าจะคิดหมดเบียร์พี่จะร้อนซะก่อน” ผมหันไปมองหน้าคนที่ยืนประจำหน้าเคาเตอร์ไม่สมควรจะมาด้วยกันตรงไหน
 
                      “อู้ยย ตงลงมาด้วยกันใช่ไหมครับ” ผมหันหน้าสะบัดไปมองมันถึงกับหด รัศมีเมียมีนะโว้ยย (ทั้งที่ยังไม่ใช่)
 
                      "กูสองคนก็เดินเข้ามาด้วยกันไงไม่เห็นหรือไง" ผมถาม เขาก็มองของผมที่วางและเบียร์ก่อนจะพยักหน้า
 
                      “กูก็ก็ชักจะไม่แน่ใจวะว่ามาด้วยกันหรือเปล่า” อ้าว!! ไอ้อาร์ท ไงพูดหมาๆอย่างนั้นละ
 
                      “โจมึงรู้จักขนมกินแกล้มเหล้าไหมวะ ใครกินกูริโก๊ะป๊อกกี้แก้มเหล้าวะ”ไอ้อาร์ทพูด =0=
 
                      “แล้วนี่จะเอายังไงอะมีคนรอจ่ายตังอยู่นะครับ” มีมายืนต่อแถวสองสามคน
 
                      “เออๆคิดตังเลยขี้เกียจเดินเข้าไปหยิบใหม่แล้ว.....นี้แหละฟินดีกินป๊อกกี้กับเบียร์”อาร์ทพูดแครชเชียร์และหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเพื่อจ่ายตังแอบหันมาเหล่มองผมก่อนนจะคว้ามถุงขนมมาให้ผมเป็นคนถือออกไปและอาร์ทมันก็ถือขวดเบียร์ไปใส่ไว้ในรถรีบขับกลับไปที่บ้านของผม อาร์ทไม่ได้พูดอะไรอีกเลยผมก็ไม่รู้ว่าในใจของอาร์ทมันคิดยังไงกันแน่ เพราะว่ามันนิ่งมาก
 
                      "อาร์ทกูขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องขึ้นระหว่างมึงกับพี่ปริมนะ" ผมพูดเบาๆ
 
                      "พอเถอะวะ..มันไม่ใช่ครั้งแรกมึงก็รู้..ผู้หญิงนี้เข้าใจยากวะ มีเพื่อนบ้างจะเป็นอะไรวะเพื่อนก็เพื่อนผู้ชาย"
 
                      "หรือจะให้ไปมีเพื่อนผู้หญิง.... พอเห็นเข้าหน่อยว่ามีผู้หญิงมาตีสนิทก็ทำหน้าหึงหน้างอน..กูไม่เข้าใจวะจะไม่ให้มีใครเลยหรือไงวะ" อาร์ทพูดออกมาอย่างหัวเสีย ไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดในบ้านของผม ไฟหน้าบ้านติดอัตโนมัติที่มีรถเข้ามาจอดอาร์ทเดินไปขนทุกอย่างเข้าในบ้านอย่างคุ้นเคย ทั้งที่นี้มันบ้านผมครับ
 
                      อาร์ทเดินไปนั่งลงที่โซฟาห้องนักเล่นของผมซึ้งมันจะแยกกับห้องนั่งดูทีวีของพ่อกับแม่เพราะว่าผมชอบเล่นเกมส์กันกับไอ้อาร์ท ผมหยิบที่เปิดขวดมาวางไว้และถังขยะเพราะมันคงดื่มหนักละคืนนี้
 
                      "ดูหนังไหม" ผมถามอาร์ท ผมหยิบพวกขนมเลย์เอาไว้ทานเล่นมาแกะให้มันไอ้อาร์ทมันเปิดขวดเบียร์ได้ก็กระดกดื่มทันที
 
                      "ทำไมโลกนี้ไม่มีผู้หญิงที่รักจริงๆซักคนวะ...กี่คนแล้ววะโจ..กูเปลี่ยนเยอะฉิบหายเลยวะ" อาร์ทพูดพร้อมกระดกรวดเดียวหมดกระป๋องไปและต่ออีกกระป๋อง
 
                      “พี่ปริมนี้เขา..ดูเป็นผู้ใหญ่นะมึงช่วงแรกๆไม่งอแง เหมือนเด็กๆ แต่นี้แม่ง..โว้ยย!”ไอ้อาร์ทมันพูดและมันก็ตะโกนออกมา
 
                      "บางที่มันอาจจะไม่ได้มีแค่ผู้หญิงก็ได้นะอาร์ท มันอาจจะมีผู้ชายที่รักจริงก็ได้นะอาร์ท"ผมพูดก่อนจะเปิดเบียร์อีกกระป๋องกระดกดื่มแต่ค่อยๆดื่ม อาร์ทแค่หันมามองหน้าผม มันนั่งดื่มแล้วดื่มอีกผมเองก็ไม่กล้าไปขัดมันหรอกต้องปล่อยมันนั่งกินไป มันกินแบบไม่พูดไม่จา
 
                      "= 0 ="
 
                      "เออ...เออ..."
 
                      "อาร์ทกู...ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะรู้สึกเหนียวตัวไม่สบายตัวเลยวะ" ผมรีบลุกขึ้นไปอาร์ทมันพยักหน้าและกระดกดื่มอยู่แบบนั้น ผมเข้าไปจัดที่นอนเตียงนอนผมเป็นเตียงใหญ่ส่วนห้องนอนไอ้อาร์ทนะเป็นเตียงเดียวมันชอบที่กว้างๆดังนั้นถ้าผมไปนอนห้องมันนะได้นอนเตียงเสริมทุกทีแต่ผมก็ยอมผมใช้เวลาอาบน้ำอยู่พักหนึ่งก่อนจะรีบลงมาดูอาร์ท พอลงมาถึงผมก็เห็นเบียร์จำนวนมากมายที่ถังขยะนี้มันกินจนหมดไปโหล่หนึ่งเลยเหรอคนเดียวเลยนะและมันนอนตะแคงหลับอยู่บนโซฟาเรียบร้อยแล้วด้วย ผมจัดการเก็บซากทุกอย่างมัดใส่ถุงขยะเก็บซากขนมขบเคี้ยวเพราะว่าแม่จี้ดผมเจ้าระเบียบมากอยู่บ้านนะผมนี้เรียบร้อยเป็นกุลสตรีเลยแหละ แม่ผมสอยผมเหมือนจะให้ผมไปเป็นแม่บ้านแม่เรือนมากกว่าพ่อบ้านซะอีกนะ 
 
                      "อาร์ท...มึงเสียใจมากใช่ไหมวะ...แต่มึงรุู้ไหมวะว่ากูเสียใจมากกว่ามึงอีก" ผมเดินกลับมาผมโน้มตัวลงพูดกับคนที่เมาหลับไม่ได้สติ
 
                      "17 ปี แม้ว่าเออช่วงแรกกูไม่รู้สึกอะไรก็เด็กๆแต่กูเริ่มโตขึ้นกูเริ่มรูสึกวะ ..ว่า...กูรักมึงวะอาร์ท"
 
                      "แต่กูเป็นได้แค่เพื่อนรักมึงวะ...มึงเคยเห็นความรักกูไหมวะ" ผมพูดกับคนที่เมาหลับพูดไปมันจะรู้เรื่องอะไรวะ ทำไมผมไม่กล้าพูดตอนที่มันมีสติวะ คืนนี้คงปล่อยให้มันนอนที่โซฟาอีกเช่นเคยและผมก็นอนเฝ้ามันใกล้ๆมันนี้แหละเรียกได้ว่าเป็นประจำทุกครั้งทีมันเมามาก แล้วใครจะแบกมันขึ้นไปบนชั้นสองตัวหนักจะตาย ว่าแล้วลุกไปหยิบผ้าห่มให้มันดีกว่า
           
                      "หมับ" ขณะที่ผมทำท่าจะลุกขึ้นจู่ๆก็มีมือมาจับที่แขนผม ผมหันไปมองอาร์ท มันดีดตัวขึ้นมานั่งมองหน้าผมมันจับแขนผม
 

TCB....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:35:49 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0


พิเศษ อาร์ท VS โจ เหตุเกิดจากความรัก 2
         
          "มึงไม่ได้เมาหลับไปเหรอวะ"
 
           "ไม่อะ..ได้กินเยอะขนาดนั้นกูไม่อยากทำร้ายตัวเองเพื่อคนที่ไม่รักกูหรอกวะโจ้" ไอ้อาร์ทพูด
 
           "เออ...เออ..." หวังว่ามันคงไม่ได้ยินที่เว้นเวอร์เผ้อเจ้อไปนะ สายตามันมองผมด้วยความประหลาดใจหรือแปลกใจหรือไม่ก็ช๊อก!! ตกใจ ผมทำท่าจะลุกหนี ถ้ามันได้ยินนี้ผมคงอาย แต่ว่าไอ้อาร์ทละมันคงขยะแขยงผมเหมือนกับไอ้โป้งที่รู้เรื่องไอ้คริสอีก
 
           "หมับ" มันดึงผมอีกทำให้ร่างผมขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นไป แน่นอนผมก็ต้องเซกลับไปหาไอ้อาร์ทมัน  หัวไหล่กระแทรกเข้าที่อกนั้นเต็มๆ ผมค่อยๆหันไปมองหน้าอาร์ทมัน ใบหน้าจองผมและอาร์ทใกล้ชิดกันมาก จนลมหายใจผมสองคนรดกัน
           
           "มึงคิดแบบนั้นกับกูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" อาร์ทมันถาม มันได้ยินทั้งหมดที่ผมพูดไป
 
           "เออ..." ผมทำท่าจะดิ้นออกแต่อาร์ทมันกอดรัดผมไว้แน่นกว่าเดิม
 
           "บอกดิ!! ..."
 
           "ไม่รู้..ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน ...แต่..มันเกิดไปแล้ว..กูพยายามแล้วอาร์ท...พยายามไม่คิด...แต่กูทำไม่ได้" ผมพูดและหันหน้าหนีไม่กล้าสู้หน้ามันจังๆเลยที่นี้
 
           "หันมามองหน้าดิวะ" อาร์ทมันบอกผมแต่ผมไม่กล้าหันจนอาร์ทมันใช้มือจับใบหน้าผมหันไป อาร์ทก็มองแต่พิกัดมันอยู่ริมฝีปากผม
 
           "หมับ" อาร์ทมันจูบผม ตาผมเบิกโพรงไม่จริงใช่มั้ย ฝันไปใช่หรือเปล่า รสจูบที่ไม่อ่อนหวานเหมือนจูบกับสาวๆ อาร์ทจับแขนผมให้ไปโอบกอดรอบคอของอาร์ทไว้ปากก็ยังคงทำหน้าของมันต่อ ประสบการณ์เรื่องพวกนี้ของอาร์ทค้อนข้างเยอะผมรู้ ผมรู้สึกว่าฝ่ามืออาร์ทลูบเข้าในเสื้อยืดตัวนิ่มใส่สบายตอนนอนของผม
 
           "อ๊ะ"ผมสะดุ้งเพราะอาร์ทกำลังบิดสองจุดที่แข็งเป็นไตตั้งแต่โดนมือลูบแล้ว และอาร์ทก็พลิกให้ผมเป็นฝ่ายนอนลง
 
           "อ๊ะ..อาร์ท...อื้ม.." อาร์ทมันเลื่อนปากลงมาที่ซอกคอ ชายเสื้อถูกเลิกขึ้นไปจนถึงหน้าอกริมฝีปากนั้นก็จูบลงที่แผ่นอกของผมและหยอกเย้ากับสองจุดที่ชูชันรอการเล้าโรม อาร์ทเลื่อนตัวลงไปที่หน้าท้องของผม สายตาผมมองไปบนฝ้าปุเพดานห้องนั่งเล่นของผมมันเคลิ้มมาก ร่างกายก็บิดไปมาเหมือนพยายามต่อต้านแต่ก็ทนแรงปรารถนาไม่ไหว
 
           "อ๊า..อาร์ท..ยะ..อย่า..ตรง...นั้น..เสียววววว" เปล่งเสียงติด ติด ขัด ขัด ออกมา อาร์ทหยุดและเลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับผม
 
           "ถอดเสื้อออกซิ..." อาร์ทกระซิบกับผม เหมือนมันมีมนต์สะกดผมถอดแต่โดยดีอาร์ทก็ถอดของตัวเองออกเช่นกัน
 
           "อมให้หน่อยซิครับ" เสียงกระเส่าฟังดูสยิวมาก อาร์ทนั่งลงอีกฝั่งของโซฟาตัวเดียวกันนั้นแหละ พร้อมกับปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงยีนส์ตัวเก่งออกและถอดมันออกไปทั้งชั้นนอกและชั้นในสุดพร้อมๆกัน ผมได้นั่งมองส่วนกำลังชี้หน้าผมอยู่ ผมรู้ว่าไม่ใช่เล็กๆแต่ก็ไม่ได้ถึงกับใหญ่ไซส์ฝรั่งเหมือนไอ้คริสโตเฟอร์แต่ก็น่าหม่ำ(เฮ้ย!!นี้คิดอะไรของเราเนี๊ยะ)
 
           "อมให้หน่อยซิครับ...มาซิ"อาร์ทมันพูดเสียงกระเส่าเชื้อเชิญผมอีกครั้ง ผมก็ไม่รอช้าตอนนี้อารมณ์ผมมันกระเจิดกระเจิงไปจนหยุดไม่อยู่ ผมก้มลงไปทั้งอบทั้งดูด(แต่ก็แอบคิดนี้กูทำทำไมวะ เพื่อนกันเขาไม่ทำแบบนี้นะโจ!!)
 
 
           "อ๊าห์ ..ซี้ด...โอ้วว......อื้ม...เสียวมากเลยอะโจ...เสียวกว่าพี่ปริมทำให้อีก..ซี้ด" อาร์ทพูดผมก็เหมือนได้รับคำชมยิ่งทำใหญ่เลย จู่ๆอาร์ทก็ดันผมให้ลุกขึ้นอาร์ทเดินไปที่กางเกงยีนส์หยิบถุงยางออกมาและถุงเล็กๆผมรู้ว่านั้นคือเจลหล่อลื่นแต่หยิบมาเพื่อน อาร์ทเดินกลับมาและพลิกผมให้หันหลังให้อาร์ทจับผมให้อยู่ในท่าคลาน
 
           "ขอนะไม่ไหวแล้ว.." อาร์ทพูดกระซิบข้างหู ผมพยักหน้าก็มันเป็นคนที่ผมรักนิ
 
           "เบาๆนะ..กูไม่เคย" ผมพูดเบาๆ
 
           "ไม่เคยเหมือนกันแต่คงไม่ยากเหมือนเอาหญิงหรอกประสบการณ์เอามาเยอะ"
 
           "เออ..รู้" ผมพูดและหลับตาทำใจ..แม่จี้ดลูกกำลังจะโดนพลากของรักทางประตูหลัง...แม่เป็นกำลังใจให้โจด้วย!!!!
 
           "โอ๊ะ..อาร์ท..เจ็บ!!" ผมร้องเพราะว่าคนเบื้องหลังกำลังสอดสิ่งนั้นเข้าไปมันเจ็บมาก
 
           "อาร์ท..เจ็บ..ไม่..ไม่..เอา..แล้ว...อาร์ททท"
 
           "นิดเดียวน่ะ..อืม..ดันยากจังวะ..อย่าหนีซิโจ"
 
           "ก็มันเจ็บอะ..โอ้ยยยย..." ผมร้องหน้าตาผมคงเหยเกด้วยความเจ็บปวด อาร์ทก็กอดรัดเพื่อดึงรั้งตัวผมเอาไว้ ปากก็ดูต้นคอของผมจากด้านหลังมือที่กอดรัดผมก็ตรงกับหน้าอกผมพอดี นิ้วมือที่บิดบี้สองจุดผมเส้นจนกผมเริ่มไม่ดิ้นหนีแล้ว
 
           "ดีขึ้นแล้วใช่ไหม...ดันต่อเลยนะ...ซี้ด..ของอาร์ทมันปวดนึมไปหมดแล้วอะไม่ไหวอยากระบายแย่แล้ว" อาร์ทกระซิบผมก็พยักหน้าตอนนี้คงเข้าไปได้ครึ้งทางได้แล้วแหละเป็นไงเป็นกันวะโจ
 
           "อ๊าก!!!" ผมร้องออกมาเสียงดังทันที่สิ่งนั้นแทรกตัวเข้าไปในช่องทางคับแคบผมอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งสุด น้ำตาไหลเลยผมมันเจ็บมากแต่ไอ้คนที่ใส่มันจะรู้ไหมมันเมา
 
           "อาร์ทเจ็บ!!"
 
           "พลั่กๆๆๆ" มันโยกเข้าออก ผมรับรู้ได้ว่าเข้าเกือบสุดออกก็เกือบสุด มันโยกสักพักจากความเจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ มีความสุขแปลกๆและเหมือนผมเองก็โยกโต้ตอบ นี้คือตัวตนที่แท้จริงของโจใช่มั้ย..แต่รู้สึกดีมาก
 
           "โจ..โจ.." คนที่กำลังควบคุมทางด้านหลังผมร้องเรียกผม ตอนนี้ผมคงกำลังทำหน้าเคลิ้มมาก
 
           "อืม..มีไร..ซี้ด..อ๊าห์"
 
           "เราเป็นแฟนกันนะ!!" ผมลืมตาโพรงอีกครั้ง อาร์ทมันขอผมเป็นแฟน แถมขอตอนที่มันซอยผมอยู่ มันซอยเรียบร้อยแล้ว ทำไมาขอตอนนี้ละสาด ผมหันไปมองหน้ามันฟินมากเคลิ้มมาก มือก็จับสะโพกผมไว้แน่น โยกเข้าโยกออกแบบลืมไปเลยว่านี้มันก้นนะเว้ยเฮ้ย!!
 
           "เป็นแฟนกันนะโจ.ไหนๆโจก็รักอาร์ทแล้วเรา..เรา..เป็นแฟนกันนะ"
 
           "มึงมาขอกูตอนนี้นี้นะ..อาร์ท" ถ้ามีคนมาถามตอนขึ้นเวทีเจ้าบ่าวเจ้าสาว ขอเป็นแฟนกันตอนไหนให้กูตอบเขายังไงละเนี๊๊ยะ!!
 
           "กูขอช้าไปเหรอ"
 
           "ช้ามากและมึงมาขออะไรตอนที่เอากูอยู่ไอ้อาร์ท"ผมหันไปบอกและเอาใบหน้าแนบกับโซฟา อาร์ทก็โยกไม่บันยะบันยังโซฟาบ้านผมเลย
 
           "อ๊ะ..อ๊ะ..อาร์ท..อ๊ะ..อ๊ะ" ผมร้องครางตลอดกิจกรรมการร่วมรักของผมกับอาร์ท
 
           "ซี้ด...โอ้วว....มันฟิตมาก...มันรู้สึกดีมาก..โจ..ทำไมไม่ยอมให้อาร์ทเอาโจเร็วกว่านี้วะให้ไปหาRubbish food กินอยู่ได้..ซี้ดด"
 
           "..อู้ยยยย..อาร์ทเข้าใจแล้วทำไมไอ้คริสมันถึงเปลี่ยนไป" อาร์ทพูดและอาร์ทก็จับไหล่ผมให้ลุกขึ้นมาโดยพยายามประคองส่วนนั้นไม่ให้หลุดและอาร์ทก็นั่งลงโดยให้ผมนั่งอยู่บนตักอาร์ท อาร์ทจับเอวผมขยับขึ้นลงผมก็คงรู้หน้าที่ซินะผมก็โยก
 
           "ดูแลมันดีดีนะ...ซี้ด..ยกให้ดูแลคนเดียวเลย..."
 
           "ตลอดไปเลยปะ" ผมหันไปถามคนที่ผมโยกให้อยู่ ผมหยุดชะงักรอคำตอบ
 
           "ตลอดไป..ไม่หาใครแล้ว..สัญญา"
 
           "สัญญาว่า" ผมทวนคำพูดนั้น
           
           "จะรักและซื่อสัตย์กับภรรยาสุดหล่อคนเดียวไม่หาแล้วภรรยาสวยๆ ไม่อยากได้แล้วอยากได้หล่อๆ" ผมก็จัดการโยกให้คนที่นั้งเป็นเก้าอี้ให้ผมพอยิ่งโยก็ยิ่งมัน ยิ่งคุมเกมส์เองยิ่งรู้ว่าตัวเองต้องการช้าหรือเร็วตอนไหน
 
           "อ๊าห์...อ๊าห์...อ๊าห์" เสียงผมสองคนร้องครางดันลั่นบ้านดีนะที่อยู่ด้านในสุดและไม่มีใครอยู่ไม่อย่างนั้นคงได้รู้กันหมด
 
           "ไม่ไหวแล้วโจ..มาแล้ว ไ
 
           "อ๊าห์!!"เสียงสุดท้าย ต่างคนต่างสุขสมไปตามตามกัน เพราะว่าอาร์ทก็ใช้มือทำให้ผมไปด้วยควบคู่กันไปจะได้ไม่มีใครค้างคา
------------------------------------------------------------------------------------------------------
                หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมสองคนก็เปลี่ยนไปเร็วมากเรียกว่าบางทีก็ปรับตัวแถบจะไม่ทันจากเพื่อนรักมาเป็นแฟน ผมยังคงนั่งเปิดดูรูปตอนเด็กๆในอัลบัม มีรูปผมกับอาร์ทตั้งแต่แรกเกิดอาร์ทเกิดก่อนผมเป็นพี่ผมสองเดือน นอนยิ้มแป้นข้างๆกัน ตอนเด็กๆอาร์ทแก้มยุ้ยมาก ตอนที่นั่งได้ เริ่มคลานและแม้กระทั้งหัดเดินพ่อกับแม่ยังพามาหัดเดินด้วยกัน แม่เล่าว่าเดินชนกันพัลวันเลย
 
           "หมับ" อาร์ทขึ้นมากอดผมจากด้านหลัง
 
           "ดูรูปนี้ซิอาร์ท...หน้าอาร์ทตลกอะ..ฮาๆ " เป็นรูปที่ตักข้าวกินกันเป็นข้าวบดสีเหมือนฟักทองบด หัดตักกินกันเองและผมก็ป้อนอาร์ทด้วย
 
           "ใช่โจนะป้อนได้แม่นมาก ป้อนเข้าเบ้าตาอาร์ทชัดชัดเลย ...ไอ้บ้าเอ้ยดูหน้าตาเละหมดเลยอะ..หมดหล่อเลยด้วย"
 
           "รูปนี้ใครถ่ายวะ..พ่อแน่ๆเลย" ผมเพิ่งเห็นรูปที่ผมยืนร้องไห้อยู่ตรงทางเดินส่วนสัตย์ฟาร์มจระเข้ ผมเดินผ่านไปไม่ได้เพราะว่ามันมีจระเข้ปลอมอยู่ไอ้อาร์ทนะมันวิ่งนำหน้าผมไปแล้ว แต่ผมซิยืนร้องไห้กลัวของปลอมวะ
 
           "เอาออกไปเลยอาร์ทอายเขา"ผมทำท่าจะดึงออกแต่อาร์ทไม่ยอม
 
           "น่ารักดีออกเวลาอาร์ทเจอเรื่องไม่สบายดีดูรูปนี้แล้ว" อาร์ทพูดว่าดูรูปผมยืนร้องไห้ชี้ไปที่จระเข้ปลอมที่อ้าปากอยู่
 
           "ดูแล้วหัวเราะวะ..ฮาๆ " ไอ้อาร์ท
 
           "รูปกูยืนร้องไห้ข้างจระเข้ปลอมนี้นะแรงบรรดารใจมึงเหรอ" ผมพูดและเปิดหน้าต่อไป
 
           "ทำไมพึ่งจะมาบอกกันอะ..ปล่อยให้หาผิดหาถูกอยู่ตั้งนาน..ห๊ะ!!" อาร์ทถามผม ผมก้มหน้าลงจะให้กล้าพูดได้ยังไงละว่าแอบรักเพื่อนสนิท มันก็เหมือนเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออะ
 
           "ขอบคุณที่อยู่ข้างๆอาร์ทมาตลอดไม่ว่ายามทุกข์ ยามสุข ท้อแท้แม้กระทั้งตอนโดนพ่อดุและตอนที่อาร์ทโกรธพ่อคนนี้ก็ช่วยให้อาร์ทเย็นลงกลับมาขอโทษพ่อขอบคุณนะ...ตอนนี้อาร์ทรู้แล้วว่าตำแหน่งเมียนั้นถ้ามอบให้ผิดคนนี้อาจจะผิดพล้าดไปทั้งชีวิต"
 
           "แล้วตอนนี้ละ"
 
           "ก็มอบให้ถูกคนแล้วไง" อาร์ทพูดผมปิดหนังสือลงด้วยอาการเขินและหัน
 
           "เขินอะ" >////<
 
           "อย่าผลัก...เตียงแคบอยู่โจ!!!!!.."อาร์ทร้องแต่ไม่ทันผมผลักไปแล้ว
 
           "ตุ๊บ" เสียงดังเพราะว่าตัวไม่ใช่เล็กลงไปนอนอยู่ที่พื้น
 
           "อาร์ท)))" น้ำเสียงเป็นห่วงผัว
 
           "กูว่ายกให้ผิดคนแล้วมั้ง...เขินได้น่ากลัวมาก!!"
 
           "เกิดอะไรขึ้นลูกอาร์ท ลูกโจ..เสียงดังเชียว" แม่ปิ่นแม่ของอาร์ทเปิดประตูเข้ามา
 
           "โจมันทำร้ายอาร์ทอีกแล้วแม่ปิ่น" ไอ้อาร์ทรีบฟ้องแม่ปิ่นทันที ผมทำหน้ารู้สึกผิด
 
           "สงสัยเตียงจะเล็กไปแล้วแหละพ่อซื้อเตียงให้ลูกใหม่เถอะ" พ่อของอาร์ทเดินมาดูด้วย
 
           "อืม..พรุ่งนี้แล้วกัน"
 
           "แล้วเตียงเก่าพี่อาร์ทละพ่อ" ไอซ์น้องชายไอ้อาร์ทเดินมาดูด้วย
 
           "ก็ยกให้เราไง"แม่ปิ่นกอดอกพูด
 
           "มรดกจากพี่อาร์ทอีกแล้ว!!!"ไอซ์กอดอกก่อนจะรีบเดินกลับห้องไป
 
           "นอนได้แล้วลูกและเบาๆกันหน่อย จะสิบแปดกันทั้งคู่แล้วนะเล่นกันเหมือนตอนยังสองสามขวบไปได้เรานิ"
 
           "แม่ไปนอนแล้วนะ...ราตรีสวัสดนะลูกอาร์ท ลูกโจ" แม่ปิ่นพูดและทำท่าจะปิดประตู
 
           "ราตรีสวัดครับแม่ปิ่น" ผมทั้งคู่พูดพร้อมกันพ่อแม่ปิดประตูลง ผมก็เอื้อมมือไปให้อาร์ทจับมือผมขึ้นมาบนเตียง ดูซิยังทำหน้างอนอยู่เลย
 
           "อาร์ทอะงอนอะไรอะขอโทษไม่ได้ตั้งใจเจ็บมากไหมอะ" ผมถามยังอีก
 
           "งอนจริงๆอะ" ผมทำเสียงอ่อนลง
 
           "หมับ" คนที่แกล้งงอนผมนะโถมเข้ามากอดผม
 
           "คืนนี้ต้องทำโทษ"
 
           "ไม่เอานะเดี๋ยวอาวินัยกับน้าปิ่นได้ยินหรอก"
 
           "ก็อย่าร้องเสียงดังซิ...ร้องเบาๆไม่มีใครได้ยินหรอก..นะ...นะ..ที่รัก " ผมเจอลูกอ่อนแบบนี้จะทนได้เหรอทนไม่ได้ต้องยอม บทรักที่เร้าร้อนก็เกิดขึ้นทันทีแต่ว่าภายใต้ผ้าห่มนะเพื่อจะช่วยเก็บเสียงได้บ้าง
 
           "อ๊าห์!! ที่รัก..ซี้ด"เสียงซี้ดอยู่ภายใต้ผ้าห่มนั้นร่างกายที่กอดกายกันพัลวันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันจนเราสองคนไปถึงฝั่งฝันเรียบร้อยไปคนละยกและก็พากันลุกไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวและพากันเข้านอน
 
           "จุ๊บ"
 
           "ฝันดีนะครับ" อาร์ทจุ๊บปากบอกผมและบอกฝันดี
 
           "อยากให้เป็นแบบนี้ทุกคืนอะ" ผมพูด
 
           "ก็มาอยู่ด้วยกันเลยดิ..เดี๋ยวพ่อก็ซื้อเตียงให้ใหม่แล้ว..และวันเสาร์อาทิตย์ไปอยู่บ้านแม่จี้ดกัน" อาร์ทพูด
 
           "นอนเถอะ..ที่รัก" ผมเอนตัวลงนอนแสงไฟในห้องก็ดับวูบลง ผมสวมกอดอาร์ทเขาก็กอดผมตอบมันอบอุ่นดีเหลือเกินเตียงที่เล็กแต่ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดหรือนอนไม่สบายเลยสักนิดกลับหลับสบายตลอดทั้งคืน ผมตื่นนอนมาด้วยความสดชื้น
 
            แม่ปิ่นก็ทำข้าวต้มไว้ให้ผมทานแม่ปิ่นรักผมเหมือนผมเป็นลูกอีกคนหนึ่ง วันนี้ผมก็อยู่กับบ้านกับอาร์ททั้งวันไม่ได้ไปไหนดูหนังเล่นเกมส์ เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินจนกระทั้งเย็นวันนี้ น้าปิ่นทำอาหารเย็นเพราะว่าพ่อแม่ผมกับน้องชายผมจัสมินจะมาทานอาหารเย็นด้วยกัน ครอบครัวผมกับอาร์ทจะนัดกันอาทิตย์ละวันสลับกันถ้าอาทิตย์มาทานบ้านอาร์ท อาทิตย์หน้าก็พากันไปทานบ้านผม เป็นกิจกรรมทุกวันเสาร์
 
           "ได้ข่าวว่าเราพาแฟนมาหาพ่อแม่แล้วเหรออาร์ท" พ่อของผมถามไอ้อาร์ท(แอบคิดในใจพ่อนั้นมันคำถามที่ทิ่มแทงใจลูกพ่อ เพราะว่าแอบหึงผัวไม่กล้าบอกพ่อ กาสิก กาสิก ) 
 
           "นั้นซิทำไมอาทิตย์นี้ไม่พาพี่ปริมมาทานข้าวที่บ้านกับเราละอาร์ท" แม่ปิ่นถามอาร์ทอีกคน ผมนั่งอยู่ข้างๆ อาร์ท
 
           "เออ...เขาไม่มาแล้วครับ..ผมกับพี่ปริมเลิกกันแล้วครับ" อาร์ทมันพูด
 
           "อ้าวเหรอ...อย่างนี้แหละนะรักวัยรุ่น...หาใหม่ลูก" พ่อผมให้กำลังใจอาร์ท ผมเห็นไอ้ไอซ์น้องชายของอาร์ทมองหน้าอาร์ทยิ้มๆ และผมด้วย
 
           "พ่อครับแม่ครับ...โจจะมาอยู่กับผมนะครับ จันทร์ถึงศุกร์และเสาร์อาทิตย์ผมผมจะไปนอนบ้านน้าจี้ด" อาร์ทพูดขึ้นผมวางช้อนหันไปมองหน้าอาร์ท
 
           "ดีเลยซิเพราะว่าโจนะก็ไปโรงเรียนพร้อมอาร์ทอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องขับรถย้อนไปย้อนมา..แต่น้าก็เกรงใจแม่ปิ่นนะซิ"
 
           "ไม่เป็นไรหรอกจี้ด โจก็เหมือนลูกชายฉันอีกคน" แม่ปิ่นพูด
 
           "ผมมีเรื่องจะบอกพ่ออิทกับแม่ปิ่นและพ่อธรกับแม่จี้ดว่าผม..ผม..กับโจ....เรา..” อาร์ทพูดแต่ผมนี้หันไปมองหน้ามัน อย่าเพิ่งเลยผมกลัวว่า แต่พ่อแม่ผมและพ่อแม่อาร์ทหันมามองหน้าผมสองคนเขม้งเลย ผมนี้หัวหดทันที
 
           “เป็นแฟนกัน..นี้เลยเป็นเหตผลที่ผมอยากให้โจ้มาอยู่กับผมนะครับ" ผมสะบัดหน้าไปมองอาร์ท
 
           "อะไรนะ!!" พ่อผมกับพ่ออิท
 
           "เปร้ง! เปร้ง! เปร้ง! " เสียงช้อนและส้อมถูกวางลงจาแม่ปิ่น แม่จี้ ไอ้จัสมินน้องชายผมยกเว้นไอซ์มันรู้อยู่แล้ว
 
           "โป้ก!" โดยไอ้จัสมิน
 
           "เขาตกใจกันมึงก็กินอยู่ได้ไอ้ไอซ์" จิสมิน ไอ้ไอซ์มันก็สะบัดหน้ามามองผมสองคน ทำท่าตกใจ มันช้าไปไหม
 
           "ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี๊ยะ!" พ่อผมถามเสียงดัง
 
           "คุณ"แม่จี้ดแตะแขนพ่อผม ผมหันมามองไอ้อาร์ททำไมไม่บอกผมเลยว่ามันจะพูดเรื่องนี้วะ
 
           "ได้สองอาทิตย์แล้วครับอาธร...ผมสองคนรักกันแต่เพิ่งจะรู้ใจตัวเองนะครับอาธร"
 
           "ไอ้อิท!!" พ่อผมเรียกอาอิท อาอิทก็ลุกขึ้นยืนต้องเกิดเรื่องแน่ๆเลย พ่อผมลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปหาอาอิท อย่าบอกนะ พ่อผมจะต่อยกันนะ ผมคงเสียใจมากกกก
 
           "อาร์ท..มึงพูดทำไมว่ะ" ผมถามไอ้คนที่ก้มหน้าลง
 
           "อิท..กรูดีใจด้วยวะ...เราเป็นทองแผ่นเดียวกันอย่างที่เราตั้งใจไว้แล้ววะ"
 
           “หมับ” พ่อผมกับอาอิทกอดกันแน่นมาก
 
           "O_O" ผมกับไอ้อาร์ท "เปร้งๆ" ช้อนและส้อมของผมสองคนล้วงหลุดจากมือพร้อมกัน
 
           "พ่อเขาเคยตกลงไว้ตั้งแต่แม่ท้องแล้วแหละถ้ามีลูกให้แต่งงานกันแต่ที่ไหนได้ออกมามีจู๋ทั้งคู่" แม่ปิ่นกับแม่จี้ดหันมายิ้มให้กัน
 
           " ^0^ " หน้าตาบรรดาน้องชายผมทั้งคู่
 
           "ตกลงเราสองคนคิดแบบนั้นกันจริงๆเหรอลูก" แม่จี้ดถามผมสองคนอีกที ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ
 
           "แม่ดีใจจริงๆเลยได้ลูกชายเพิ่มอีกคน..โจ...ไม่ต้องเรียกน้าแล้วซิเรียกแม่ซินะ" แม่ปิ่นบอกผม
 
           “เดี๋ยวนะแม่..แม่คิดจะคัดค้านให้โจหน่อยเหรอแม่” ผมขมวดคิ้วถามแม่จี้ดคนสวยของผม
           “ไม่เลยลูก!!..แม่สองคนเห็นด้วยอย่างยิ่งลูก” ห๊ะ!
 
           "ถ้าอย่างนั้นดีเลยจี้ดจะได้เดินทางไปเรียนเมืองนอกด้วยกันจบแล้วค่อยแต่งงานกันดีไหมลูก" แม่ปิ่นพูดกับแม่จี้ด
 
           “หมั้นกันก่อนไหมจี้ด ให้หมั้นกันก่อนไปเรียนเมืองนอกเนอะ และกลับมาแต่งงาน บร้าๆๆ” พ่อกับแม่วางแผนชีวิตรักผมสองคนกันใหญ่ อยากบอกว่าตอนที่ลูกจะมีผัวลูกไม่ได้แพลนถึงอนาคตเลยนะแม่น่ะ ผมควรจะดีใจดีไหม
 
                        ผมมีความสุขโชคดีว่าครอบครัวไหนๆก็ว่าได้ที่พ่อแม่เข้าใจไม่ว่าเราเลยสักนิดและโชคดีที่ทั้งสองครอบครัวเรา พ่อแม่เป็นเพื่อนกันที่รักกันมาก ผมไม่เคยรู้เรื่องแม่จี้ดกับแม่ปิ่นพูดมาก่อนเลยว่าถ้ามีลูกจะให้แต่งงานแต่ดันออกมาเป็นผู้ชายทั้งคู่แถมน้องก็เป็นผู้ชายทั้งคู่แต่มันไม่ใช่อุปสรรค์ทางเพศอีกต่อไป ผมสองจะรักกันจนแต่งงานกันให้ได้
 
           หลังอาหารเย็นพ่อก็ไปนั่งคุยกับพ่อธรต่อ ส่วนแม่จี้ดกับแม่ปิ่นก็คุยกันตามประสาแม่บ้านแม่เรือน ผมนั่งเล่นเกมส์ในห้องนั่งเล่นของอาร์ท ส่วนอาร์ทก็นอนหนุนตักผมเล่นเกมส์ด้วยกัน
 
           "พี่อาร์ทเล่นมั้งจิ" ไอ้ไอซ์มันเดินเข้ามาขอเล่นเพลย์สเตชั้น 4 ใหม่ล่าสุดเลยก็ว่าได้
 
           "อืม" อาร์ทมันส่งเสียงและส่งจอยส์เกมส์ไร้สายไปให้น้องชายมัน จัสมินก็นั่งลง เล่นเกมส์ด้วยกันกับไอซ์ ผมก้มลงมองคนที่นอนหนุนตักผมเอามือลูบผมนั้นเบาๆ อาร์ทมันก็จับมือผมไปจูบ
 
           "ไม่เห็นมีอะไรที่น่ากลัวเลยโจ..คิดมากไปเอง"
 
           "ก็ใครมันจะไปรู้ละว่าพ่อแม่ของเราเคยตกลงกันไว้แบบนั้นแต่ที่เขาตกลงคือไม่กูหรือมึงน่าจะออกมาเป็นผู้หญิงสักคนหนึ่งนะอาร์ท"
 
           "เพราะพ่อแม่เรารักกันไม่ว่าเพศไหนท่านก็อยากให้เราเราดองกันอยู่ดี"
           
           "พี่โจ!!" จัสมินมันเรียกผม
 
           "ไอ้ไอซ์หอมแก้มจัสมินอะ"น้องชายผม
 
           "ปึก" ผมคว้าหมอนปาไปที่ไอ้ไอซ์ ถึงยังไงผมก็ยังหวงน้องชายผมอยู่ดี
 
           "น้องมึงนี้มันทะลึ้งเหมือนมึงไม่มีผิดเลยไอ้อาร์ท!!!"
 
          ไม่นานแม่กับพ่อผมก็ขอตัวกลับบ้านส่วนผมก็ยังคงนอนอยู่บ้านอาร์ท เราคุยหลายเรื่องตั้งแต่จบแล้วไปเรียนมหาวิทยาลัยและกลับมาทำธุรกิจของพ่อแม่ด้วยกัน พ่อของอาร์ททำธุรกิจผู้รับก่อสร้างบ้านบริษัทค้อนข้างใหญ่ที่นี้และพ่อของผมก็เป็นผู้รับเหมาให้กับการประปารับเหมาติดตั้ง ผมเดินกลับขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวชุดนอนและอาร์ทก็ด้วย
 
           "ฟ้อด" อาร์ทขึ้นมาบนเตียงได้ก็ดึงผมเข้าไปหอมแก้มและถ่ายรูปเซลฟี่ และมันก็ก้มหน้าก้มตากดเล่นมือถือต่อ
 
           ตื้ด!!! เสียงเตือนว่ามีการอัพเดทบนแอพพลิเคชั่นตัวเอฟของผม ผมหยิบมาดู
 
           ขณะ Arty ได้ทำการเปลี่ยนสเตตัสบนเพจของเขาเป็น Married with JoJo เรียบร้อยแล้ว
 
           ผมถึงกับสะบัดหน้าไปมองอาร์ทเอาแบบนี้จริงๆเหรอ อาร์ทหยักคิ้วแต่ผมกลับดีใจแปลกๆ ไม่กล้ายิ้มต่อหน้าต้องหันหลังแอบดีใจ แม่จี้ดลูกชายแม่มีผัวอย่างถูกต้องแล้วเขาแต่งงานแล้วนะ ในเฟสบุ๊ค อิอิ
 
           "ทำไมต้องหันหลังดีใจด้วย..หึ!!" คนที่นั่งข้างหนังผมพยายามไล่ต้อนผมจนเรียกได้ว่าจนมุมเลยทีเดียว
 
           "จ๊วบ!!" รสจูบที่ดูดดื่ม
 
           "คราวนี้เป็นเมียกับแบบสมบูรณ์แล้วมาทำหน้าที่เมียเลย จันทร์ถึงอาทิตย์ ไม่มีวันหยุด ไม่ว่ามันหยุดนักขัติฤกษ์ เพราะรักเราไม่มีวันพัก" ผมควรจะดีใจหรือเสียวะเนี๊๊ยะที่ไม่มีวันหยุดรักและมันก็ไม่มีวันพักให้ผมอีก..อาร์ท..อ๊า!!!
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:39:52 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
         
EP.22 ครูเขมXคริส เรื่องเตรียมตัวเพื่อไปสอบGED

   ​​​​​​​ครูเขมชาติ ผมพากันตื่นเช้าช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ถึงแม่ผมไม่อยู่บ้านแต่ผมก็ทำเอาไว้ให้แม่ตอนที่แม่กลับมาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำอีก คริสโตเฟอร์ก็ช่วยตัดหญ้าข้างๆ บ้านให้เขาบอกว่าเคยช่วยแม่เขาทำตอนพักการเรียนไปอยู่ที่รีสอร์ต เช้านี้ผมทำอาหารทานกันง่ายๆ ข้าวผัดไข่ ไม่รู้คนที่กินอยู่ตรงหน้าผมนี้หิวหรือว่าผมทำอร่อยจริงๆ ซะก็ไม่รู้ทานหมดเกลี้ยงเลย



"พี่เขมวันนี้เราไปที่ไหนกันครับ" คริสโตเฟอร์ถามผม ขณะที่ยืนช่วยกันล้างจานกัน



"พี่จะพาเราไปหาอาจารย์ของพี่นะเขาเป็นคนอาจารย์ภาคภาษาอังกฤษและเป็นอาจารย์ที่พี่เคารพรักคนหนึ่งตอนนี้อาจารย์เปิดศูนย์เพื่อติวคนที่ต้องการสอบเข้าGED ซึ่งพี่จะให้เราสอบนี้แหละ" ผมหันมาบอกคริสโตเฟอร์



"คริสโตเฟอร์ขึ้นไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ"



"ไม่อาบด้วยกันเหรอตะได้ช่วยกันประหยัดน้้ำ" ผมเหลียวหลังหันไปมอง คนที่ยืนทำสายตาเชื้อเชิญ



"แค่อาบน้ำนะเพราะว่าเราต้องรีบไป..คริส" ผมพูดคริสโตเฟอร์พยักหน้าให้ผม และผมสองคนก็พาเดินขึ้นห้องเพื่อเตรียมอาบน้ำด้วยกัน เราสองคนอาบน้ำด้วยกันแค่น้ำอาบน้ำเท่านั้นแต่ก็มีความสุขแล้ว



ผมสองคนแต่งตัวเพื่อเตรียมออกไปข้างนอกไปหาเพื่อนผมไอ้เกรทและไปเยี่ยมอาจารย์ผมด้วยไม่ได้ไปนานปีกว่าได้แล้ว เมื่อก่อนอาจารย์มีกิจกรรมรุ่นน้องและอาจารย์ก็มักจะเอ่ยปากถามผมและผมก็ไม่เคยปฏิเสธอาจารย์เลยที่จะเข้าร่วมด้วย ผมขับรถมายังตึกที่มีออฟฟิศจำนวนมากมายและมีศูนย์ติวเตอร์มาเช่าที่นี้จำนวนมากมายเช่นกัน



"ตื่นเต้นหรือไง" ผมหันไปถามคริสโตเฟอร์ เขาพยักหน้าก่อนจะเดินลงจากรถ



"ฮัลโล..เกรท "



"ว่าไงถึงไหนแล้ววะ"



"อยู่ที่ลานจอดรถแล้วว่ะเกรท"



"งั้นขึ้นมาเลยวะชั้นที่ 16 "



"อารจารย์อรปรียากำลังเดินทางมาถึงวะ"



"โอเคงั้นเดี๋ยวเจอกันวะ" ผมวางสายหันมามองหน้าคริสโตเฟอร์ดูเขาแอบกังวลนิดหน่อยนะ หลังจากโทรหาเกรท มันบอกว่าอาจารย์กำลังจะเข้ามาผมพาคริสโตเฟอร์ขึ้นไปรอที่ศูนย์จะได้คุยรายละเอียดกับเกรทก่อน ระหว่างอยู่ในลิฟต์ผมเห็นเด็กสาวมองคริสโตเฟอร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก็แน่ละหน้าลูกครึ้งเป็นทุนอยู่แล้ว และที่นี่เป็นศูนย์ติวเตอร์ก็ต้องมีเด็กมัธยมซะส่วนใหญ่ด้วย



“หมับ” ผมรู้สึกว่ามือสอดเข้ามาในฝ่ามือผมและกุม มือผมเอาไว้



“แกเขาเป็นแฟนกันวะ” ผมได้ยินสาวๆ คุยกัน ผมหันมาเหล่ตามองคนข้างทำแบบนี้เรทติ้งจะตกเอานะ



“รักเดียวใจเดียว” คริสโตเฟอร์กระซิบที่หูผม และจังหวะที่ลิฟต์เปิดพอดี



“เสียดายอะหล่อด้วย” สาวๆ พากันร้องด้วยอาการเสียดายเป็นแถว ผมเดินตามป้ายบอกทางไปถึงติวเตอร์ GED พอเปิดประตูเข้าไปประชาสัมพันธ์ก็ออกมาต้อนรับทันที



“สวัสดีค่ะ ...พาน้องชายมาเรียนพิเศษเหรอคะ” ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์ ก็ยังดีกว่าถามว่าพาลูกมาเรียนติวเตอร์หรือเปล่า เพราะว่าช่วงนี้ ชอบเรียกพ่อเขมอยู่ด้วย



“เขม!” เส่ยงเรียกชื่อผม เกรท เพื่อนผมเดินออกมา



“ดีวะเกรท...เออ..นี้คริสโตเฟอร์” ผมทักทายและแนะนำคริสโตเฟอร์ทันที ไอ้เกรทหยักไหล่ให้



“น้องฟางครับนี้เขมชาติเพื่อนพี่ครับ” เกรทมันแนะนำผม



“แล้ว ...”



“คริสโตเฟอร์...แฟนเพื่อนพี่ครับ”



“โห่!!! ...” สาวๆ ที่นั่งที่โต๊ะพากันร้องด้วยความเสียดาย



"แม้เห็นเด็กๆ หน่อยไม่ได้เลยนะ " ไอ้เกรทมันแซวทุกคนในห้องนั้น



"ไปว่ะ ..เขาไปคุยกันด้านในดีกว่า" ไอ้เกรทพูดผมหันไปยิ้มให้สาวๆ ที่ทำหน้าละห้อยแทน และเดินตามหลังเพื่อนผมเข้าไปโดยมีคริสโตเฟอร์ตามหลังผมอยู่เช่นกัน



"น้องเขาเป็นลูกครึ้งประเทศอะไรวะ" ไอ้เกรทมันกระซิบถามผม



"ไทย-ออสเตรเลีย..แต่อย่าถามน้องเข้าเรื่องนี้มากนักนะ เกรท น้องเขาไม่พร้อมจะคุยเรื่องเกี่ยวกับพ่อของเขา " พูดกระซิบกับไอ้เกรทมัน มันก็พยักหน้าผมไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจผมไหม ผมคิดว่ายังไม่ควรถามเกี่ยวกับครอบครัวเขามากเพราะว่าคริสยังไม่เปิดใจเรื่องนี้เต็มร้อยและอาจจะเขว่



"โอเครู้เรื่อง" ไอ้เกรทพูดและหันไปหยักคิ้วกับคริสโตเฟอร์ ผมเดินเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ



"นั่งเลยครับ" เกรทมันผายมือให้ผมสองคนนั่งลงตรงข้าม ผมหันมามองคริสโตเฟอร์



"ไม่ต้องเครียดไปครับ..ถึงข้อสอบจะเป็นภาษาอังกฤษแต่เนื้อหาก็เหมือนกับที่เราเรียนที่โรงเรียนนั่นแหละครับและยิ่งเป็นแฟนพี่เขมที่เก่งภาษาอังกฤษขนาดนี้ด้วยแล้ว..ถือว่าเราล้ำหน้าคนอื่นไปเกือบครึ้งแล้วนะ" เกรทมันพูด



"มึงจะให้น้องเขาติวสังคมอย่างเดียวหรือว่า วิทยาศาสตร์ด้วยละ" เกรทถามผม



"ก็ดีวะ ว่าแต่มึงจะมีเวลาว่างให้เหรอว่ะเกรท"



"วันอาทิตย์ดิครึ้งวัตอนเช้าไหวไหมว่ะ หรือไม่ก็ติวออนไลน์ได้ ไม่ยากเลย" เกรทผมพยักหน้า ผมหันมามองคนข้างซิว่าไหวไหม



"ไหวครับพี่เขม" คริสโตเฟอร์ตอบผม ผมพยักหน้ากับ



"พวกหนังสือนี้สั่งตามเว็บไซต์ก็ได้หรือว่าในซีเอ็ดบุ๊กก็ได้ว่ะ แต่แนะนำ หนังสือ GED ของ BARRON เนื้อหาค่อนข้างตรงกับที่สอบ"



"ส่วนวิทยาศาสตร์รอว่าที่เจ้าสาวพี่แกรนด์เขามาสอนแล้วกันวะ "



"น้องมึงเรียนจบแล้วเหรอวะ"



"เพิ่งจบก็ได้ชิมลางสอนที่นี้เลยดีไหมล่ะ" ไอ้เกรทพูด ผมรู้จักน้องแกรนด์ ผมนั่งคุยกันได้สักพัก คุยจิปาถะไม่ว่าเรื่องที่มหาวิทยาลัยตอนสมัยเรียน จนกระทั่งเสียงอาจารย์อรปรียาดังเข้ามาในห้องทักทายติวเตอร์ที่มารอสอนเด็กๆ ผมหันไปมองอาจารย์



"อาจารย์อรปรียาสวัสดีครับ" ผมรีบยกมือไหว้



"ไงจ๊ะเขม..ตายแล้วไม่เจอกันนานเลย สบายดีไหมเราแล้วนี่ไปเป็นคุณครูที่ไหนละ ได้ยินว่าหนีไปซะไกลจากกรุงเทพเลย "อาจารย์อรปรียาถามผมด้วยความห่วงใย



"โรงเรียนที่ไปผมไปเป็นครูอยู่ไม่ไกลมากหรอกครับอาจารย์ ขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ"



"พอวันหยุดผมก็ก็ต้องกลับมากรุงเทพมาหาแม่นะครับ"



"ดีแล้ว..ไปทำงานไกลๆ กันหมด ท่านคงเหงาแย่เลยและยิ่งเออรี่ไปก่อนตอนที่พ่อเราป่วยหนักน่ะ " อาจารย์อรปรียารู้จักคุณแม่ของผมเพราะว่าท่านเป็นครูสอนอาจารย์มาก่อนตอนเรียนโรงเรียนมัธยม



"ว่าแต่หนุ่มน้อยนี้ใครกันละน้องชายเราเหรอเขม..เอ้!! เท่าที่อาจารย์ทราบเราเป็นลูกคนเล็กไม่ใช่เหรอ"



"คนนี้แฟนมันครับอาจารย์" ไอ้เกรทมันรีบตอบแทนผม



"อ้อเหรอ! ..แล้วแฟนคนเก่าเราละ"



"เลิกไปแล้วครับ" ผมตอบอาจารย์อรปรียาและอาจารย์อรปรียาก็หันไปมองคริสโตเฟอร์



"ลูกครึ้งเหรอเรา" อาจารย์อรปรียาถามคริสโตเฟอร์



"คะ...ครับ..ผมเป็นลูกครึ้งแม่เป็นคนไทยส่วนพ่อเป็น...คนออสเตรเลียครับ"



"ดีเลยซิ เธอน่าจะได้ซิตี้เซนนะ ได้โอกาสไปเรียนต่อต่างประเทศได้ด้วย"



".หึ? ..หรือว่าไม่อยากไป" อาจารย์อรปรียาถามคริสโตเฟอร์



"นี้แหละครับอาจารย์ เขมมันเลยพาน้องเขาเข้ามาคุยกับผมพวกผมและมาหาอาจารย์ด้วยครับ..เรื่องที่น้องจะไปสอบ GED ครับอาจารย์ "



"อืม...ได้ซิ...แล้วมีอะไรให้อาจารย์ช่วยก็บอกได้เลยนะ เขมนะเป็นคนดีตอนเรียนก็ช่วยงานที่อาจารย์ขอเยอะแยะเลย ดังนั้นเรื่องนี้ก็บอกอาจารย์ได้นะ อาจารย์เต็มใจช่วย เขม" อาจารย์บอกผม ผมหันไปยิ้มกับเกรท



"ผมแค่จะพาน้องเขามาเรียนพิเศษที่นี้ทุกวันอาทิตย์นะครับ"



"ได้เลยเรื่องค่าสอนก็ตกลงกันเองแล้วกันนะ" อาจารย์อรปรียาพูดและมองผมกับเกรท



"เขมปิดเทอมใหญ่ว่างไหมล่ะ..มาติวภาษาอังกฤษที่ศูนย์ให้อาจารย์หน่อยจะได้มีรายได้เพิ่มเพราะว่าครูสอนภาษาพากันไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหลายคนเลย" อาจารย์เอ่ยปากชวนผมแบบนี้ ผมนี้ดีใจที่สุด



"ได้ครับอาจารย์" ผมตอบรับคำขอของอาจารย์ทันที โดยไม่ลังเล



"ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ไปคุยกับผู้ปกครองที่เขาจะพาลูกมาเรียนที่นี้ก่อนนะ" อาจารย์อรปรียาเดินออกไป ผมหันมามองเกรท มันก็หยักไหล่ ผมหันมานั่งลงที่โต๊ะเหมือนเดิมไอ้เกรทมันเดินไปหยิบพวกหนังสือตัวอย่างวิชาสังคม



"พี่แจงหวัดดีครับพี่" เกรททักทายคนที่เข้ามาใหม่ผมรู้จัดพี่คนนี้เป็นรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยผมเอง ผมหันไปยกมือพี่แจงและคริสโตเฟอร์ก็ด้วย พี่เขาหันมามองคริสโตเฟอร์



"นักเรียนใหม่เหรอ...เขมพาน้องชายมาเรียนเหรอ...มีคุณครูประจำหรือยังอะ..หล่ออะ.อยากแสดงความดูแล" พี่แจงรีบพูดทันที และมองคริสโตเฟอร์พร้อมกับทำตาเล็กตาน้อยใส่



"พี่แจงจะกินเด็กเหรอพี่..ที่บ้านอะ"



"พี่จะไปฆ่ามันทิ้งวันนี้แหละ"



"กินไม่ได้หรอกพี่น้องเขาไม่กินชะนี" ไอ้เกรทพูด พี่แจงหันมามองเกรท ไอ้เกรทมันก็พยักหน้าว่าตามนั้นแสดงว่ารู้กัน



"ชะนีเซ็งค่ะ" พี่แจงสะบัดหน้าเดินกลับไปที่โต๊ะ



"เกรท! ..นี้พี่สั่งหนังสือมาให้นักเรียนคนหนึ่งนะ..จู่ๆ นางก็ไม่เอานางบอกว่ามีแล้ว และหาว่าพี่แจงไม่บอกเขาว่าหนังสือหน้าตาเป็นยังไง" พี่แจงพูดอย่างอารมณ์เสีย



"จริงดิพี่!! ..งั้นพี่ก็ขายให้เขมไปเลยพี่มันอยากได้"



"จริงซิ ..ให้น้องคนนี้ใช่มัยอ่ะ...ถ้าอย่างนั้นพี่ให้ส่วนลดแต่..ไปกินข้าวกับพี่หนึ่งวัน ดูหนังด้วยหนึ่งรอบอันนี้พี่สมนาคุณให้ " พี่แจงรีบยื่นขอเสนอทันที ผมหันไปมองคริส เอาไหมส่วนลดแต่ไปกับพี่เขาหนึ่งวัน คริสโตเฟอร์แอบส่ายหัวว่าไม่ไป



"เขมมึงยอมจ่ายเต็มเถอะว่ะ" ไอ้เกรทพูด ผมก็พยักหน้าว่ายอมจ่ายเต็มไม่งั้นเด็กผมโดนงาบครับ



“อุ้ยตายแล้ว! แม้ตอบไม่ใช่เวลาคิดเลยนะย๊ะ” พี่แจงหันมาค้อนทันทีและพี่แจงก็หยิบหนังสือมาส่งให้ผม

"พี่ล้อเล้นคะ ...นี้ค่ะน้องเขม...ว่าแต่น้องอยากไปสอบGEDเหรอคะ ..ดูท่าทางยังไงก็สอบได้แน่ๆ นอน...ลูกครึ้งก็คงต้องเก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้ว" พี่แจงพูดผมหันมาเหล่มองคริสโตเฟอร์



"พี่เกรท..อุ้ย! ....นักเรียนใหม่เหรอคะ" อีกคนก็น่าจะรุ่นน้องพวกผมแน่นอน ผมกันไปส่งยิ้มให้



"ทำไมละน้องมิล..."



"มาเรียนวิชาอะไรเหรอ..เรียน GED Math กับพี่ไหมคะ..อยากสอนอะ"



"ชะนี! ..นักเรียนเธอนั่งตาแป้วอยู่ในห้องเรียนนะ..อันนั้นก็น่าสอนนะย๊ะ! " เกรทมันหันไปบอกน้องเขา ทำเบ้ปากใส่เลยก่อนจะเดินออกไป ไอ้นี้ก็ทำเหมือนแต๋วแตกขึ้นทุกวัน



"จะรอดไหมวะเด็กมึงเนี๊ยะ!  มีแต่คนอยากงาบ" ไอ้เกรทมันแซวผม ผมเดินไปหยิบกล่องหนังสือที่มีคนสั่งไว้แต่ไม่มาเอาที่โต๊ะพี่แจง และก็จัดการจ่ายเงินทันที ผมหยิบมานั่งเปิดดู ภาษาอังกฤษไม่ยากสำหรับผมนะ จะมีพวกwritting and reading ซึ่งผมถนัดอยู่แล้วและมีพวกคณิตศาสตร์จะหนักหน่อยแต่เขามีสูตรให้



"คณิตผมได้นะพี่เขม" คริสโตเฟอร์บอกผม ผมพยักหน้าว่าดีแล้ว



"เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันดีกว่าวะ..กูไม่มีสอนเช้าจะมีก็ตอนบ่ายเลยจนถึงเย็นวะและกูจะขับรถไปรับแฟนก่อน" ไอ้เกรทมันพูด



"วันนี้แฟนอยู่เวรโรงเรียนวะ"



"โอเคถ้าอย่างนั้นเจอกันที่ห้างเลยนะว่าจะไปซื้อของสักหน่อย" ผมหันไปบอกเกรท มันก็พยักหน้า ก่อนไปผมเดินไปไหว้ลาอาจารย์อรปรียาก่อนและพากันเดินออกมา ผมเห็นหนังสือก็แอบกลัวว่าคริสโตเฟอร์จะเครียดเกินไปนะซิ ผมขับรถออกมาจากตึกและตรงไปที่ห้างว่าจะพาคริสโตเฟอร์ไปหาซื้อเสื้อผ้าไว้ใส่สักหน่อย



"เป็นไงพอจะไหวหรือเปล่า" ผมถามคริสโตเฟอร์เขามองหน้าผมและพยักหน้าคณิตผมเข้าใจแต่บางสูตรผมยังอ่อนอยู่เลยอะพี่เขมและผมก็กลัวจำสูตรได้ไม่หมดนะซิ"



"ไม่ต้องกล้วเขามีสูตรให้และเครื่องคิดเลขเพราะว่าเวลาสอบใช้คอมพิเตอร์สอบ" ผมหันไปบอกคริสโตเฟอร์ก่อนจะเลี้ยวรถเพื่อเข้าไปหาชั้นที่จอดรถ



"เดี๋ยวพี่พาเราไปหาซื้อพวกรองเท้า เพื่อว่าอยากได้คู่ใหม่ๆ เอาไว้ใส่ไปเที่ยวอะไรพวกนี้" ผมหันไปถามคริสโตเฟอร์



"เออ...ไม่เอาดีกว่าเปลืองเงินพี่เขมแค่หนังสือก็จ่ายเยอะแล้วนะ"



"เอาน่ะไปเถอะ! " ผมพูดระหว่างที่ผมกับคริสโตเฟอร์เดินจะเดินตรงไปที่ประตูทางเข้าตัวห้่ง



"พี่เขม! " คริสโตเฟอร์เรียกผม ผมหันไปมองว่ามีอะไร และมองตามสายตาของคริสโตเฟอร์ ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาคุ้นๆ มากกำลังยืนกอดเอวผู้ชายอีกคนที่ใครก็รู้จักดีเกย์แถวหน้าของวงการแถมยังมีหน้าที่การงานดีซะด้วย



"นั้นมันไอ้คนที่แฟนพี่บอกว่าเป็นตัวจริงไม่ใช่พี่นิ...มันชื่ออะไรนะ.."



"ไอ้แม๊ค..พี่ก้องพี่ชายพี่บอกแล้วแหละว่ามันเป็นน้องๆ แมงดาไม่คิดว่าพี่ชายพี่จะพูดถูกซะด้วย "



"ถ้าอย่างนั้น...แฟนพี่ ..."



"เขาไม่ใช่แฟนพี่แล้วนะ....หึ? "



" ผมกลัวเขากลับมาหาพี่จังเลย"



"คริสเชื่อพี่นะ..ได้ไหม..ไม่ว่ายังไงพี่ก็ไม่กลับไปหาณัฐกานต์ " ผมพูดผมรู้เป็นใครก็ต้องกังวล ผมเดินเข้าไปในตัวห้างทันที เดินจับมือกันเข้าไปตรงไปหาซื้อรองเท้า คริสโตเฟอร์เขาชอบคอนเวิร์ส ออลสตาร์ ผมก็พากันไปหาซื้อมาคู่หนึ่งและพวกกางเกงยีนสองสามตัวและเสื้อเชิ้ต ระหว่างที่ผมกำลังเดินผ่านร้านที่ขายพวกชุดนักเรียนผมกลับหวนคิดถึงอนุชิต เสื้อผ้าเก่าๆ มาก และรองเท้าที่ขาดวิ่นต่อให้ใกล้จะจบม.3 แล้วก็ตาม



"พี่ขอเข้าไปดูชุดนักเรียนกับรองเท้านักเรียนหน่อยซิ"



"พี่จะซื้อให้ผมเหรอ"



"เรามีเยอะแยะแล้วพี่จะซื้อให้อนุชิตนะ..เขาน่าสงสารนะ " ผมพูดแต่



"พ่อพี่สอนว่าถ้าเรามีแล้วเราควรแบ่งปันให้คนที่ไม่มี เขาจะได้มีบ้าง" ผมพูดกับคริสโตเฟอร์ ผมเข้าไปเลือกชุดนักเรียนกะไซส์เอาคิดว่าคงจะเผื่อเหลือไว้หน่อยและรองเท้าอาจจะใหญ่นิดหน่อยไม่มากหนัก ผมก็จ่ายเงิน



"พี่เขม..ทำไมพี่เขมดีอย่างนี้ละ..ผมว่าพี่ควรจะเป็นครูนะ...พี่มีจิตใจเมตตาดีจังเลยอะ"



"แล้วคริสละอยากจะเป็นอะไร" ผมหันไปถามเด็กหนุ่มตรงหน้า



"ผมไม่เคยคิดถึงอนาคตเลยสักนิดจนกระทั่ง.."



"หึ? "



"เจอพี่เขม..ผมคิดว่าผมต้องมีอนาคต.."



"แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าผมจะทำได้ไหมอะพี่เขม"



"อยากเป็นอะไรละ" ผมถามคริสโตเฟอร์ ผมมองเข้าในแววตาคู่นั้น ที่เขามองผม



"ณ ตอนนี้ ผมอยากเป็นครูเหมือนพี่เขมแล้วซิ " นายคริสโตเฟอร์พูด ผมก็ยิ้มให้เขา



"ทำได้ซิถ้าเราตั้งใจ"ผมพูด



Rrrrrrrrr โทรศัพท์ผมดังขึ้นพอดีเลย ไอ้เกรทมันโทรหาผมมันคงถึงแล้วซินะ ผมรีบกดรับสายทันที



"อยู่ไหนวะเขม"



"อยู่ชั้นเสื้อผ้าเด็กผู้ชายนะ"



"ขึ้นไปชั้นบนเลยนะไปทานร้านประจำเรากัน" เกรทบอกผม



"ได้แต่ขอเอาของไปเก็บก่อนนะขึ้นไปก่อนเลยเดี๋ยวตามขึ้นไปวะ "



"โอเคเจอกัน..นี้นิน่าเขาตื่นเต้นอยากเจอพี่รหัสแย่แล้วเนี๊ยะ"



"เอ๊ะ!! หรือว่าจะเปลี่ยนใจมา" ผมแอบแซวไอ้เกรท



"อย่าพูดจาหยาบคายอย่างนั้นดิวะ" ทำเสียงเหมือนจะหึงแฟนขึ้นมาทันที



"กูพูดเล่นเดี๋ยวเจอกัน" ผมกดวางสาย



"เดี๋ยวเราเอาถุงหิวพวกนี้ไปเก็บที่รถกันก่อนดีกว่า" ผมหันไปบอกคริสโตเฟอร์ผมเดินเอาถุงไปเก็บที่รถและรีบเดินกลับขึ้นไปชั้นโซนร้านอาหารที่นัดเกรทกับแฟนของเกรทไว้ ผมรู้จักนิน่าเธอเป็นน้องรหัสของผมและเธอเองก็เคยแอบชอบผมอยู่ตอนนั้นผมคบกับณัฐกานต์แล้ว นิน่าก็โดนณัฐกานต์ด่าว่าเสียๆ หายๆ จนเธอไม่กล้ามาเรียนเป็นอาทิตย์และไม่นานผมก็รู้ว่าเธอกับเพื่อนผมไอ้เกรทกับคบเป็นแฟนกันซึ่งผมก็ดีใจนะที่เกรทเพื่อนสนิทของผมจะได้ดูแลน้องรหัสที่ผมรักเหมือนน้องสาวผมคนหนึ่ง



"ขอโทษทีวะเกรท...สวัสดีครับนิน่า" ผมรีบเดินเข้าไปและทักทายนิน่า



"นิน่านี้คริสโตเฟอร์" ผมแนะนำคริสโตเฟอร์



"สวัสดีค่ะ ..คนนี้เหรอแฟนพี่เขม..รสนิยมเปลี่ยนไปเยอะนะ" นิน่าแซวผม



"พอนิน่าได้ข่าวว่าพี่เขมเลิกกับพี่ณัฐกานต์ดีใจด้วยนะคะ..นิน่าเห็นเขาทำกับพี่แล้วรู้สึกเสียดายคนดีดีอย่างพี่เขม" นิน่าพูดผมพยักหน้า



"ว่าแต่น้องคนนี้เรียนอยู่เหรอคะ"



"ใช่ครับ..และนี้เขมมันพามาจะให้น้องเขามาติวเพื่อจะไปสอบ GED "



"มาแนวเดียวกับพี่นนท์อีกแล้วใช่ไหมเนี๊๊ยะ!"นิน่าพูดปนขำผม



"เราสั่งอาหารทานเลยดีกว่า" ไอ้เกรทพูดผมก็เปิดเมนูดูที่ไม่เผ็ดให้คริสโตเฟอร์



"น่าอิจฉาอะดูเขารักกันดีจังอะพี่เกรท" ผมได้ยินนิน่าเขากำลังพูดถึงผมกับคริสโตเฟอร์ ผมก็คุยทุกเรื่องตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยและก็ไม่พ้นเรื่องณัฐกานต์ที่เคยต่อว่านิน่าเพราะนิน่าคือน้องรหัสของผม ผมต้องติดตามดูแลว่าเป็นยังบ้างต้องการหนังสืออะไร



"พี่เขมนะเป็นพี่รหัสพี่ที่น่ารักมาก แต่แฟนดุมากด้วย แฟนพี่เขมยังเคยด่าพี่หน้าลานตรงซุ้มจนพี่นะไม่กล้าไปเรียนสองอาทิตย์เลย "



"แต่น่าภูมิใจอย่างหนึ่งนะพี่เขมแมนมากปกป้องพี่..พี่นี้แอบปลื้มเลยะแต่เสียดายพี่เขมดันไม่ชอบผู้หญิง" นิน่าพูดและปิดปากหัวเราะผม



"แต่พี่เขมก็ยังแอบเอาหนังสือของพี่เขม พี่เขาจะจดโน้ตเอาไว้ะละเอียดมากพี่จบมาได้ก็มาจากพี่เขมส่วนหนึ่งนะคะน้องคริส" นิน่ากล่าวชมผม และผมก็ยื่นมือไปแตะหัวนิน่าอย่างเอ็นดู



"จะมีข่าวดีกันเมื่อไหร่" ผมถามทั้งคู่แต่ละคนหันมามองหน้ากัน



"คงรอให้เลยเก้าเดือนไปก่อนวะ"



"ทำไมอะ"



"นิน่ากำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วค่ะ"



"จริงดิวะ...ดีใจด้วยวะ" ผมลุกขึ้นจับมือกับไอ้เกรทที่มันจะเป็นพ่อคนแล้ว"



"เลยต้องรอให้คลอดน้องก่อนดีกว่านะคะพี่เขม" นิน่าพูด



"อย่าลืมบอกกูนะ"



"แน่นอน" ไอ้เกรทพูด



"แล้วนี่จะมาเรียนกับพี่เกรทวันไหนคะ"



"วันอาทิตย์ครับช่วงเช้าช่วงบ่ายจะได้อยู่กับนิน่าไง"



"ไม่เป็นหรอกค่ะแค่ไม่เถลไถลไปไหนก็พอ..คิก..คิก" นิน่าพูดและหัวเราะให้หนุ่มข้างๆ ผมนั่งทานอาหารและของหวานก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ผมพาคริสโตเฟอร์กลับบ้าน พรุ่งนี้ค่อยขับรถกลับดีกว่าเพราะว่ากลับไปก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันและวันนี้ผมจะลงมือทำไข่ลูกเขยฝีมือเขมชาติให้คริสโตเฟอร์ทานเอง



"เดี๋ยวพี่โทรหาแม่พี่ก่อนนะคริส"ผมหันไปบอกคนที่นั่งดูหนังเรื่องใหม่อยู่ ผมหยิบโทรศัพท์บ้านมากดเบอร์มือถือแม่รดาของผมทันที ผมจะถามหาซองจดหมายเก่าๆ ของพ่อผม เพื่อว่าผมจะหาอะไรได้บ้าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2020 12:56:30 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
           
EP.22 .1เรื่องเตรียมตัวเพื่อไปสอบGED 2
            "เดี๋ยวพี่โทรหาแม่พี่ก่อนนะคริส"ผมหันไปบอกคนที่นั่งดูหนังเรื่องใหม่อยู่ ผมหยิบโทรศัพท์บ้านมากดเบอร์มือถือแม่รดาของผม ผมกดรอสายสักพักแม่ก็กดรับสายทันที
 
             "ฮัลโล..เขม…ว่าไงลูก" แม่กดรับสายผม
 
              "แม่สบายดีไหมครับ "
 
             "สบายดีเขม แล้วนี้เราพาน้องไปที่บ้านหรือเปล่า แม่ได้ยินว่าเรามีปัญหาเรื่องน้องนะเขม" แม่รดาถามผม
 
            "ครับแม่..แต่ผมหาทางออกให้น้องได้แล้ว ผมจะให้น้องไปสอบเทียบม.6หลักสูตรอเมริกาแทนนะแม่"
 
            "อืมมม...ดูน้องหน่อยแล้วกันนะเราเป็นครูและเป็นพี่ด้วยเขาด้วยนะ" แม่พูด ผมก็อดยิ้มให้แม่ที่เข้าใจผมไม่ได้
 
             "แม่ครับเขมถามหน่อยซิแม่ ..จดหมายที่พ่อเคยให้เขมช่วยแปลกนะครับจดหมายที่เขาเขียนมาถึงพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือนะครับ ผมไม่แน่ใจผมจำได้ว่ามีชาวต่างชาติเคยเขียนมาขอร้องพ่อให้ตามหาครอบครัวเขานะครับที่เมืองไทยนะครับแม่" ผมถามแม่รดา
 
            "แม่ก็ไม่แน่ใจนะลองดูในกล่องในห้องทำงานพ่อซิลูกแม่ไม่ได้ย้ายอะไรของพ่อเลยนะนอกซะจากแม่เก็บให้มันเข้าที่เข้าทางก็เท่านันเองนะเขม"
 
            "ว่าแต่เขมจะเอาไปทำอะไรรึ"
 
            “ผมคุ้นๆนะแม่ พ่อเคยให้เขมช่วยแปลให้พ่ออยุ่และมันมีฉบับหนึ่ง เขาตามหาเด็กผู้ชายอายุเก้าขวบและได้กลับมาไทยกับแม่ของเขาและเขาก็ขาดการติดต่อไป และมันก็ตรงกับข้อมูลของคริสนะครับแม่” ผมพูดบอกแม่รดา
 
            "ผมอยากจะช่วยคริสโตเฟอร์ตามหาพ่อของเขานะครับแม่ นี่คือความหวังที่ผมพอจะมี"ผมพูดกับแม่รดา
 
            "แล้วเขาไม่โกรธเคืองพ่อเขาแล้วเหรอเขม ที่จะให้เราตามหาพ่อของเขานะ"
 
            "เขมว่าไม่แล้วครับแม่ "
 
            "ดีแล้วแหละสอนให้น้องเขาเข้าใจ..โกรธเคืองบิดามารดานะมันบาปลูก"
 
            "ครับแม่"
 
             "ตาเอิร์ธตื่นนอนพอดีเลย ...นี้ก็ร้องจะไปหาอาเข็มอาเข็ม.."
 
            "อาเข็ม..อาเข็ม" ผมได้ยินเสียงหลานชายของผม แม่คงส่งโทรศัพท์ให้เอิร์ธแน่ๆ
 
            "ว่าไงเอิร์ธ..คิดถึงอาเหรอ"
 
            "อาเข็ม..พี่ต่าย ตายแหง๋แกแล้ว..แม่ดึงคอขาด....แต่พ่อบอกว่าพี่ต่ายตายนานแล้ว"
 
            "พี่ต่าย..ตายตอนที่แม่ดึงต่างหาก!!" เด็กหนอเด็ก
 
            "ไว้อาเขมซื้อให้เอิร์ธใหม่นะว่าแต่เรายังจะเล่นกระต่ายอีกเหรอ"
 
            "เอาๆ..มีพี่ต่ายผีไม่มา"
 
            "ไม่มีผีหรอกย่าก็อยู่กับเอิร์ธ..ไม่มีผีหรอกลูก"
 
            "อะ..พอแล้วเดี๋ยวจะไปอาบน้ำกันเดี๋ยวพ่อต้นกลับมาแล้ว" แม่ผมพูดส่งสัยวันนี้พี่ต้นออกไปดูงานวันหยุดอีกแน่ๆเลย
 
            "แค่นี้ก่อนนะเขม..อ้อ..จุดธูปไหว้พ่อเขาซะซิพ่อจะได้ช่วย...เรื่องวุ่นวายจะได้เบาลงนะลูกนะ”
 
            “เขม… `วันที่ไปทำบุญให้พ่อเรานะ ผู้หญิงที่เขาบอกว่ารู้จักพ่อเขาฝากนามบัตรไว้ให้ เพื่อว่าเขาจะช่วยได้ ลองพกไว้ก็ดีนะ เห็นว่าอยู่ออสเตรเลียเหมือนกันนะลูก” แม่รดาบอกผม ผมก็นึกขึ้นมาได้ พี่เขาชื่อพี่เก๋
 
            “แม่เอาแป๊ะไว้ที่หน้าตู้เย็นนะเขม แม่คิดว่าเพื่อช่วยอะไรได้บ้าง “ แม่รดาพูด ผมก็ยิ้มออกมา
 
            “ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะเขม “
 
            "ครับแม่..เขมรักแม่นะครับ" ผมพูดก่อนนจะหันไปมองพ่อคนที่นอนดูทีวีหลับไปเรียบร้อยแล้วผมเดินไปปรับแอร์ให้อยู่ในอุณภูมิปกติ ก่อนนะเดินขึ้นไปเปลี่ยนใส่กางเกงสบายๆ จะได้ลงมาทำอาหารก่อนจะเดินผ่านห้องทำงานพ่อผม
 
            ผมเดินเข้าไปเปิดลิ้นชักหากล่อง มันก็มีพวกจดหมายที่เขาเขียนมาถึพ่อผม หลายคนบ้างคนก็ช่วยได้บ้างก็ไม่สามารถทำอะไรได้แต่ก็พอจะส่งให้หน่วยงานที่ช่วยเหลือตรงนี้จัดการต่อ ผมเปิดหาดูทุกฉบับก็ไม่เจอเลยส่วนใหญ่เป็นเครสจากตุรกี เพราะผู้หญิงประเทศนี้บางคนชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงและก็มีประเทศอื่นบ้างแต่ไม่มี คนที่ต้องการหาครอบครัวของเขาหรือว่าผมอาจจะจำผิด
 
            "พี่เขม!!" เสียงคริสโตเฟอร์เรียกหาผม ผมเดินไปเปิดประตู เขาคงตกใจว่าผมหายไปไหน
 
            "เป็นอะไรคริส"
 
            "ก็ผมเผลอหลับไปและหาพี่ไม่เจออะผมตกใจ"
 
            "ตกใจทำไมพี่อยู่ในบ้านนี้แหละ"
 
            "พี่ว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะลงไปทำอาหารให้เราทาน"
 
            "คริสช่วยพี่เขมทำนะ” คริสโตเฟอร์บอกผม
 
            "ตามใจซิ "ผมพูดและหันไปยิ้มให้เขา สายตาเขามองผมแบบมีคำถามว่าผมกำลังทำอะไรอยู่
 
            "พี่เขามาหาจดหมายพี่จำได้ว่ามีชาวต่างชาติเคยตามหาครอบครัวเขา พี่ไม่แน่ใจว่าภรรยาเขาเป็นคนไทยไหม พี่เคยช่วยพ่อแปลให้แต่พี่หาไม่เจอ"ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์
 
            "พี่เลยคิดว่าเป็นพ่อผมใช่ไหมที่ตามหาผม"
 
            "พี่คิดว่าใช่"
 
            "ถ้าใช่ก็คงจะดีผมจะได้รู้ว่าเขาไม่ได้ทิ้งผมไปและเขายังกลับมาหาผม"
 
            "ภาวนาขอให้พี่หาเจอ" ผมพูดก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนผมเปลี่ยนเสื้อผ้าสวมกางเกงสบายๆ และคริสโตเฟอร์ก็เปลี่ยนมาใส่ชุดสบายๆเช่นกัน
 
            "โห่!! อะไรวะแม่งแซงคู่เราเลยอะพี่เขมไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้อะ" ผมหันไปมองคนที่หยิบมือถือขึ้นและสะบดออกมาแบบนอยด์ๆ
 
            "พี่เขมดูดิไอ้อาร์ทกับไอ้โจ้ มันประกาศแต่งงานกันในเฟสบุ๊คแล้วอะ"
 
            "หึ?" ผมก็ทำหน้างงไปด้วยอีกคน
 
            "อะไรนะแต่งงาน..สองคนนี้เขาเพื่อนกันไม่ใช่เหรอคริส ? "
 
            "ผมลืมเล่าให้ฟัง ..วันที่โป้งจะปลั้มผมนะ อาร์ทกับโจ้ไปนอนเป็นเพื่อนผมและพอผมตื่นมาจะดื่มน้ำแต่ก็เจอมันสองคนจูบกันนะพี่เขมผมนี้ตกใจไม่คิดว่ามันสองคนจะเป็น"
 
            "เขามีแฟนกันไม่ใช่เหรอ แฟนเป็นผู้หญิง..วันนั้นที่พี่ไปรับเราแฟนเขายัง..น่าจะแค่สองอาทิตย์เองนะ" ผมพูดแต่วันนั้น ผมหันไปยิ้มทักทายยังทำหน้าบึ้งใส่ผมอีก
 
            "แฟนมันบอกเลิกวันที่ผมเมาเขาบอกว่าไอ้อาร์ทมีแววว่าจะเป็นเกย์เพราะว่าผมด้วยมั้ง" ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์ ผมเลิกคิ้วสูง
 
            "แล้ว..ทั้งคู่ก็หันไป..."ผมหันไปถามคริสโตเฟอร์
 
            "อาร์ทกับโจมันโตมาด้วยนะพี่เขม...พ่อแม่เขาเป็นเพื่อนสนิทกันแต่นี้ประกาศแต่งงานแล้วมันคงบอกพ่อแม่รับรู้แล้วมั้ง" คริสโตเฟอร์พูดผมพยักหน้า
 
            "ถือว่าโชคดีที่พ่อแม่เข้าใจนะ" ผมพูด
 
            "ใช่แต่บ้างคนที่ไม่เข้าใจละ ...พี่เขมไอ้โป้งกับปันปันนะ ผมไม่แน่ใจเรื่องโป้งนะเพราะว่าผมก็ไม่เห็นพ่อแม่จะเป็นคนเข้มงวดอะไรจะกวดขันอะไรโป้งแต่กับไอ้ปันปัน มันไม่เคยกลับบ้านเลยมันบอกว่าเตี่ยมันเกลียดกระเทยเกลียดตุ๊ด บอกว่ามันจะเป็นคนที่สร้างความอับอายกับวงค์ตระกูล"
 
            "ถ้าปันปันอยากให้พี่ช่วยก็บอกนะ" ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์
 
            "โป้งมันบอกผมว่าเตี่ยมันดุจะตายครูเหมือนพวกไม่ฟังเหตุผลใครนะแต่ม๊ามันนะคงรักปันปันมากเลยพี่เขม"
 
            "บางทีเตี่ยดุนะรักมากนะถึงได้ดุ..ส่วนแม่แน่นอนต้องรักมากเช่นกันก็อุ้มท้องมาเองแต่สองคนอาจจะแสดงความรักได้ต่างกันและไม่ใช่แปลว่าคนใดคนหนึ่งไม่รักนะรักทั้งคู่แหละ" ผมหันไปพูด
 
            "หมับ..พี่เขมละ...รักผมมากใช่ปะ"
 
            "ยังถามอีก.." ผมหันไปมอง
 
            "หมับ..."คริสโตเฟอร์รวบเอวผมตอนนี้สวมแค่กางเกงขาสั้นยางยืดและทำท่าจะขยับปากเข้าหาผม
 
            "ทำกับข้าวก่อนจะเย็นแล้ว" ผมรีบพูดดักตอพ่อตัวดี
 
            "พี่เขมจะทำอะไรวันนี้"
 
            "ไข่ลูกเขยไงอยากกินฝีมือพี่ไม่ใช่เหรอ"
 
             "เปลี่ยนเป็นกินไข่เขมแทนได้ไหมอะ...ไม่ต้องลงไปทำข้างล่างด้วยทำกันบนนี้เลย..งับ"
 
             "หื่นตลอด...พอเลยไปลงไปช่วยพี่ทำกับข้าวเลย..หัดบ้างก็ดีนะ..หาอย่างอื่นทำจะได้ลดอาการหื่นลงบ้าง" ผมพูดและดันคนหน้าให้ออกก่อนจะสวมเสื้อทับลงไปและเดินลงมาชั้นล่าง ผมเปิดตู้เย็นหยิบไข่เป็ดที่มี ออกมาและทำการใส่หม้อต้ม หยิบพวกหอมแดงออกมาจะซอย
           
            "ให้ผมทำอะไรดีละที่รัก"
 
             "หันหอมแดงแล้วกันแต่ระวังนะ..จะร้องไห้ละ"ผมหันไปพูด คริสโตเฟอร์หันมาหยิบหอมแดงเล็กมาปลอกเปลือกผมก็เตรียมทำซอสและคอยดูว่าไข่จะสุกหรือยังได้ตักลงแช่น้ำเย็นให้เป็นไข่ตานี
 
             "พี่เขมแสบตาอะ" นั้นไงได้ผลเลย คริสโตเฟอร์หันมา น้ำตาไหลใหญ่เลย ผมเลยต้องละจากที่ทำไปหากระดาษทิชชู้มาซับน้ำตาให้แทน
           
               "เป็นไงละ"
 
              "กว่าจะได้กินนี้ยากเนอะ..." คริสโตเฟอร์พูดผมก็ยืนซับน้ำตาให้
 
              "ไหวไหมเนี๊๊ยะ" ผมถามคริสโตเฟอร์
 
                 "ไหว..ไม่ให้ที่รักทำหรอกเดี๋ยวที่รักร้องไห้"
 
                 "หึๆ ..ทำปากดีนะเรานะ..." ผมทำเสียงหัวเราะในลำคอ กอดอกมองหนุ่มที่ตัวสูงทันผมแล้ว คริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นมาโอบใบหน้าผมก่อนจะประกบปากจูบเบาๆ
 
                "มัดจำไว้ก่อน...คืนนี้เป็นของผมนะอย่าลืมละเพราะว่ามันเป็นวันคี่"
 
                 "หึ ? ..อะไรกันเมื่อว่านก็จัดพี่ไปแล้วนะ"
 
                  "นะ..นะ..หลังวันนี้อีกตั้งหลายวันกว่าจะวันหยุดอะอยากให้หลังจากวันอาทิตย์เป็นวันเสาร์ตอ่เลยได้ไหม" คริสโจเฟอร์พูด ผมนี่แอบส่ายหัวเบาๆ ตอนนี้นักเรียนหื่นแซงหน้าครูเขมไปแล้วครับ  ผมก็หันไปทำการตักไข่มาพักน้ำเย็นที่เตรียมไว้และทำซอสและก็เจียวหอมไปด้วย และผมก็ทำพวกผัดผักเพิ่มผัดคน้าหมูและแกงจืดเต้าหู้ไข่ ไม่นานอาหารเย็นฝีมือผมก็เรียบร้อยและเราก็นั่งทานด้วยกัน
 
                  “ ไข่ลูกเขยฝีมือพี่อร่อยเหมือนแม่พี่ทำเลยอะ”
 
                  “แน่นอนแม่ลูกกัน” ผมพูด
 
                  “ทำไมพี่เขมไม่ทำเองละพี่เขมทำอาหารอร่อยออก”
 
                  “พี่จะเอาเวลาว่างที่ไหนไปทำละคริสและนี้พีต้องสอนเราเพิ่มนะเอาไว้วันหยุดค่อยมาทำกินกัน” ผมพูดกับคริสโตเฟอร์
 
                  “จริงซิ คริสลืมไปพี่เขมเหนื่อยแย่เลย”
 
                  “คริสพี่ไม่ได้เหนื่อยมากขนาดนั้นนะ..ถ้าพี่เหนื่อยพี่รู้ตัวเองว่าควรทำยังไงคริส..แค่เราตั้งใจเรียนแค่นั้น” ผมพูด ไม่นานมื้ออาหารก็จบลงคริสโตเฟอร์ช่วยทำคยวามสะอาดเราเก็บทุกอย่างก่อนนจะเดินทางเดินทางกลับแต่เช้าตรู่ผมต้องไปอยู่เวรโรงเรียนพรุ่งนี้ด้วย
 
                  "คริส..แม่เธอชื่ออะไรนะ" ผมถามคริสโตเฟอร์
 
                   "แม่ผมนะเหรอชื่อลลิลภัทร์ ทำไมเหรอพี่พี่เขม"
 
                   "อ้อพี่แค่ถามดูนะเพื่อว่าจะเจอในจดหมายมีผู้ชายต่างชาติเขียนมาขอให้พ่อพี่ช่วยตามหาครอบครัวเขาให้หน่อยนะ" ผมพูดกับคริสโตเฟอร์ แต่ชื่นี้ไม่ค่อยคุ้นหูเลย
 
                   “คริสไปรอพี่ทีห้องนอนก่อนนะพี่จะไปไหว้พ่อพี่ในห้องพระของแม่หน่อย” ผมพูดกับคริสโตเฟอร์ระหว่างที่เดินขั้นห้องบนชั้นสองของบ้าน
 
                    “ผมเข้าไปด้วยได้ไหมครับ” คริสโตเฟอร์ถามผม
 
                    “ได้ซิ” ผมพูดผมเปิดประตูเข้าไป และผมก็จดธูปคนละดอกให้คริสโตเฟอร์รับไป ผมไหว้พ่อที่ผมรัก ผมขอให้ผมได้ขอ้มูลของพ่อของคริสโตเฟอร์ด้วยผมอยากช่วยให้เขาตามหาพ่อเขาให้เจอ
 
                      “ผมรู้สึกว่าผมคุ้นๆหน้าเขานะแต่มันนานมาแล้วตอนนั้น ผมไปบ้านพ่อที่ออสเตรเลียและผมก็เพิ่งจะเก้าขวบเองพี่เขม” คริสโจเฟอร์พูดบอกผม
 
                      “ใช่พ่อพี่เคยเป็นประจำที่นั้นอยู่สี่ปี พี่เคยไปด้วยวีซ่าติดตามพ่อไปเรียนภาษาที่นั้นด้วยนะ ไปอยู่ครั้งละสามเดือนเอง ” ผมหันไปพูด
 
                      “ผมไม่แน่ใจผมมอาจจะจำผิดก็ได้แต่ตอนนั้นแม่ผมเป็นคนพาผมไปหาท่าน ก่อนที่แม่จะพาผมมาเที่ยวไทยและผมก็ไม่ได้กลับไปที่ออสเตรเลียอีกเลย ”
 
                       “แม่บอกผมว่าเราต้องรอให้พ่อมารับแต่พ่อก็ไม่ติดต่อหาแม่ “ คริสโตเฟอร์พูด
 
“ไม่เอานะ..ไปนอนเถอะพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า..หนังสือเอาไว้อ่านพรุ่งนี้แล้วกันวันนี้พักเถอะ” ผมพูดและปิดประตูห้องพระลง
 
“โคร้ม!!!!” เสียงของในห้องนอนแม่ผมหล่นลงทั้งที่ห้องนอนอยู่ตรงข้ามห้องพระ
 
“พี่เขม!!”คนข้างๆ กระโดนกอดผมทันที
 
                    "ไม่มีอะไรหรอกนะคริส" ผมพูดปลอบคนที่ข้างๆผม นี้กลัวผีเอาเรื่องเหมือนกันนะ ผมเดินไปเปิดประตูห้องนอนแม่ของผม เป็นห้องนอนของแม่และพ่อผมนั้นแหละ ผมเปิดไฟและสอดสายตามองไปรอบๆผมก็เห็นเหมือนกล่องทำจากหวายหล่นลงมาผมเดินไปหยิบดีก็พบกว่าเป็นกล่องที่มีจดหมายจำนวนไม่น้อย ชุดนี้แหละที่ผมช่วยพ่อผมแปลให้ ผมหยิบขึ้นมาแต่ว่ามันก็เยอะอยู่นะเลยต้องหยิบไปทั้งหมด
 
                    "พี่เขมไปได้ยังอะผมกลัวอะ" คริสโตเฟอร์ยืนหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆห้องนอน
 
                   "จะกลัวทำไมไม่มีอะไรสักหน่อย" ผมหันไปพูดก่อนจะหยิบถุงสีน้ำตาลออกมาและหยิบจดหมายและหนังสือพวกนี้ใส่ลงไปในถุงคืนนี้คงไม่ได้อ่านเอาไว้ไปอ่านพรุ่งนี้ที่ทำงานแล้วกันระหว่างที่อยู่เวรที่โรงเรียน ผมเดินกลับมาที่ห้องนอนก็คงต้องอาบน้ำกันก่อนเพราะว่ากลิ่นอาหารคุ้งตัวผมไปหมด คริสโตเฟอร์ช่วยผมถอดเสื้อผ้าทันที
 
                     "ไวจริงๆเลยนะเรื่องนี้นะ" ผมเงยหน้ามองคนที่พยายาถอดเสื้อยืดออกทางศรีษะให้ผม เขาหยักคิ้วให้ผมและก้มลงผมถอดกางเกงให้และเราก็อาบน้ำด้วยกันไม่มีอะไรมากไปกว่ากอดจูบกันในห้องน้ำแค่นั้นจริงๆ
 
                       "หมดไปอีกวันแล้ว...ทำไมเวลาที่มีความสุขมันสั้นจังพรุ่งนี้ก็ไม่ได้กอดคนนี้แล้วอะ..คิดอีกทีคริสโคตรจะโกรธและเกลียดแก้มเลยอะพี่เขม”
 
                       "อย่าไปเกลียดเขาเลย...แก้มเขารักเรามากแต่เขายังเด็กหนัก..เขายังไม่รู้จักความรักดีพอ"
 
                        "ก็ไม่เป็นเพราะแก้มเหรอทำให้ผมกับพี่เขมเดือดร้อน"
 
                        "เอานะแค่ห้าวันเอง"
 
                       "ทรมารเหมือนห้าปี..ตอนที่พี่ไปอบรมนะผมโคตรทรมารเลยอะคอยดูปฏฺิทินว่าเมื่อไหร่จะผ่านไปอีกวันอีกวัน ทั้งที่มีเรื่องวุ่นวายเขามามากมายแต่เวลาที่ผมไม่มีพี่อยู่ด้วย เวลามันเดินช้ามากๆเลยนะ..พี่เขม"
 
                        "ขอบคุณนะที่ผมเจอพี่นะ..ก่อนที่ชีวิตผมจะแย่ไปกว่านี้ "
 
                         "ที่จริงเราควรจะทำเพื่อแม่นะไม่ใช่เพื่อพี่"
 
                         "ผมรู้พี่เขมแต่หนึ่งในนั้นก็ต้องมีแขมพี่เขมแหละ..นอนหลับฟันดีนะครับ..." ผมพยักหน้าเบาๆ สงสัยไม่อยากทำมั้ง
 
                           "ฝันดีครับ"ผมพูดและพลิกไปปิดไฟหัวเตียงปล่อยความมืดเข้ามาคริสโตเฟอร์นอนเบียดผมอยู่มือที่จับไหล่ผมลูปไล้แขนผมเล่นและไล่ลงไปจนถึงหน้าท้อง ผมต้องหลี่ตามองในความมืดอะไรของเขาอีกละ
 
                             "จะหลับแล้วเหรอ"
 
                             "อืมม......พรุ่งนี้ตื่นเช้านิ"
 
                              "คิดถึงวันแรกที่เราช่วยกันอะ..จำได้ไหมอะพี่เขม"
 
                             "จำได้ทำไมละ" ผมหลับตาถามคนที่กอดผมจากดันหลังเอาปลายจมูกมาฝังลงที่ซอกคอผม
 
                               "เรามาช่วยกันอีกไหมอะ.."
 
                               "หมับ"มือคริสโตเฟอร์ค่อยๆสอดลงไปในกางเกงบอกเซอร์ของผมและจับสิ่งสำคัญของผมไว้ พร้อมกลับคลึงมันเบาๆ
 
                                 "คริส!!"
 
                                 "หันมาหาผมซิ..พี่เขม..ผมอยากให้พี่เขมทำให้เหมือนวันนั้นอะ" เสียงกระเส่าบอกผมให้หันไปหาเขา พร้อมกับดันตัวผมด้วย ผมจึงต้องหันไปหาคริสโตเฟอร์ คริสถลกกางเกงลงจนสิ่งนั้นพ้นออกมาและเขาก็ดึงกางเกงของผมลงเช่นกันจนสิ่งนั้นพ้นออกมาเช่นกัน มือของเขาจับของผม ขยับเบาๆ ขึ้นลงไปมาช้าๆเนิบๆและผมก็ทำเหมือนที่เขาทำกับผมเช่นกันแต่คราวนี้ไม่เขินอายเหมือนวันแรกแล้ว ปากก็จูบกันอย่างดูดดื่ม
 
                                "อ๊าห์ ..คริส...ซี้ดดด" เสียงซี้ดยาวๆของผม เมื่อคริสเร่งความเร็วให้โดนไม่ต้องบอกเลยว่าให้เร็วหรือช้าตอนไหน
 
                                  "อื้ม!! ..เสียวอะพี่เขม...อ๊าห์!!!"
           
                                  "อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊าห์!!" สองเสียงประสานกัน น้ำสีขาวขุ่นๆ กระจายออกมาเต็มมือไปหมดดีที่เราหันหน้าท้องเบียดเสียดกันมันเลยเลอะเทอะแค่นั้น ผมต้องลุกขึ้นไปล้างทำความสะอาดก่อนจะกลับมานอน
 
                                  "คราวนี้นอนจริงๆนะอย่ากวนพี่อีกนะพรุ่งนี้พี่ขับรถนะ" ผมหันไปทำเสียงดุใส่เด็กหื่นข้างๆผม
 
                                  "คร๊าป..กอดนะ"
 
                      "กอดอย่างเดียวห้ามจับของพี่" ผมเหลียวมาชี้นิ้วห้ามปราม เด็กอะไรก็ไม่รู้มือเป็นปลาหมึกเลยเชียว
 
                      "ก็ได้ไม่จับ...กอดอย่างเดียว"
 
                      "หอมได้ปะ"
 
                      " O _ O "
 
                      "ฟ๊อด" ยังไม่ได้บอกเลยนะ หอมซะแล้ว แล้วจะถามทำไม
 
                      "จูบได้ปะ" = 0 =
 
                      "จ๊วบ!!"
 
                      " เอาได้ปะ"
 
                      "No!!!" ผมหันไปตอบ
 
                      "ไม่ต้องมาทำหน้ายู่เลยนอนได้แล้วดึกแล้ว!!!" มีแฟนเด็กมันเหนื่อยตรงนี้แหละแต่มันก็เป็นความสุขไปอีกแบบหนึ่ง วันหยุดทีได้อยู่ด้วยกันมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ต่อไปตอนที่อยู่โรงเรียนต้องพยายามรักษาสถานะไว้แค่ครูกับนักเรียนไม่ได้นอนบ้านเดียวกันด้วยแค่คิดก็ใจหายซะแล้ว ภาวนะขอให้เขาพร้อมที่จะไปสอบ GED เร็วๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 18:59:49 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
           EP.23 ครูเขมXคริส  ครูเขมตั้งใจจะตามหาครูมิ้งกับแชมป์   

           เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ อาทิตย์นี้เป็นที่ห้าแล้วที่ผมมาเป็นครูที่นี้ เกือบไม่ได้เป็นครูต่อก็เพราะความลับของผมกับคริสโตเฟอร์ถูกเปิดเผย แต่ผมโชคดีที่ผมยังมีนักเรียนที่รักและอยากจะให้ผมเป็นครูสอนที่นี้ต่อ รวมทั้งเขาคนนั้นคริสโตเฟอร์ และบรรดาครูทั้งหลาย ยังไม่รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าอาหารของโรงเรียนอีก ต่อไปผมจะตั้งใจทำหน้าที่ครูให้ดีที่สุด ผมสัญญา
 
           ผมออกมากันแต่เช้าและทำหน้าที่เป็นครูเวรโรงเรียนในวันหยุด และเวลาว่างผมก็เปิดจดหมายที่มีคนเขียนมาให้พ่อผมช่วยเหลือมีทั้งคนต่างชาติและคนไทยบางฉบับก็ถูกส่งไปเป็นส่วนหนึ่งในการขึ้นศาลช่วยเหลือคนที่ถูกกระทำรุนแรงผมเปิดดูแต่ว่าผมไม่พบชื่อลลิลภัทร์เลยสักคน
 
             แต่ผมเห็นมีอยู่ฉบับหนึ่งเขาต้องการตามหาครอบครัวผู้หญิงทำงานในบาร์แห่งหนึ่งทางพัทยามีลูกชายหนึ่งคน แต่ตรงชื่อเด็กนี้จากจนดูไม่รู้ว่าชื่ออะไรน่าจะเปียกน้ำ แต่จะว่าเป็นตัวหนังสือในจดหมายฉบับนี้ก็น่าจะถูกเขียนไว้หลายปีแล้วเหมือนกัน สังเกตุได้จากหมึกที่มันจางลงไปมาก มากจนผมอ่านแทบจะไม่รู้เรื่องและด้วยหลายมือต่างชาติ ภาษาอังกฤษเขาเป็นตัวเขียนด้วยก็อ่านยากเข้าไปอีกแต่ก็พอจะจับใจความได้บ้าง แต่ชื่อนี้ซิผมเห็นชื่อไม่ชัดมันขาดๆหายๆ แต่ว่าที่อยู่อิเมลที่ให้ติดต่อกลับก็พอจะเห็นได้ชัดเจนอยู่จากคนที่ต้องการให้พ่อผมติดต่อกลับ แต่ว่าชื่อภรรยาเขานั้นชื่อวนิดา ไม่ใช่ลลิลภัทร์ ผมเลยไม่แน่ใจเลยต้องพักไว้แค่นั้นก่อน
 
            เมื่อวานผมให้คริสโตเฟอร์กลับไปนอนบ้านพักนักเรียนกับโป้ง คริสบอกผมว่าโป้งและปันปันอยู่ด้วย โป้งกับปันปันเขาคบกันอย่างเป็นทางการแล้ว   โป้งบอกความจริงกับแฟนสาวของเขาและทุกอย่างก็จบลงด้วยดีเพราะว่าแฟนเขาก็กำลังจะบอกทางบ้านเหมือนกันว่าเขาชอบผู้หญิง ผมได้ฟังก็แอบเกาหัวเหมือนกันนะผมว่าของผมกับคริสโตเฟอร์ยุ่งเหยิงแล้วนะ โป้งนี้ยุ่งเข้าไปอีก แต่ก็ลงตัวกันแล้ว ผมก็ยินดีด้วย และตอนนี้ก็เหลือแต่ผมกับคริสโตเฟอร์นี้แหละวันนี้แม่ของเขาจะลงมาหาคริสโตเฟอร์จะลงมาหาในวันจันทร์ก็คือวันนี้  รู้สึกกังวลหรือตื่นเต้นก็ไม่รู้ เพราะว่าจะได้เจอทั้งแม่ยายและแม่สามี ในคนเดียวกัน แต่ถึงแม้ว่าคริสโตเฟอร์จะบอกผมว่าแม่ของเขาไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่เขารักกับผมที่เป็นผู้ชายเพราะว่าคริสได้เอ่ยปากบอกแม่เขาไปแล้วเมื่อวันก่อนทีผมจะกลับมาจากอบรมซะอีก 
 
            ผมขับรถไปตรงด้านหลังที่คริสโตเฟอร์นั่งอยู่กับเพื่อนๆ แปลกนะอยู่ใกล้กันนิดเดียวแต่เรากับต้องทำเหมือนเราไกลกันจะคุยกันก็ต้องคุยผ่านแอพพลิเคชั่นแทน แต่ก็ยังดีดว่าไม่ได้คุยเมื่อคืนผมสองคนคุยกันจนดึกจนผมหลับคามือถือเลยเช้านี้ต้องหยิบเอาที่ชาร์สติดตัวมาด้วย นานแล้วนะที่ไม่เป็นแบบนี้ มันเคยเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ผมกับณัฐกานต์จีบกันใหม่ๆ โทรศัพท์นี้ไม่ห่างมือแต่พอเป็นแฟนกันแล้วและยิ่งผ่านไปหลายปี จะโทรหาทีเมื่อมีเรื่องจำเป็นเท่านั้น
 
            "สวัสดีครับครูเขม" พวกโจ อาร์ท ปันปันและโป้งหันมายกมือไหว้ผมและพ่อตัวดีผมด้วยเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอขนาดผมบอกจะถึงแล้วยังกดส่งข้อความคุยกับผมอยู่นั้นแหละ
 
            "สวัสดีเป็นไงพวกเราไปซ่ากันที่ไหนมาละ" ผมถาม
 
            "ไม่ได้ไปซ่าที่ไหนครับอยู่บ้านอ่านตำราครับครู"อาร์ทบอกผม ผมพยักหน้าดีมาก
 
             "ดีแล้วละอ่านเยอะๆ" ผมได้ยินแบบนี้ก็ค่อยภูมิใจหน่อย  ถึงจะพากันแสบซ่าทั้งกลุ่มแต่ก็ยังมีเวลาอ่านหนังสือหนังหาบ้าง
 
            "ตำรานี้หรือเปล่าที่มึงเอามาให้กูกับโป้งดูนะ" ปันปันยกขึ้นมาโชว์ผมถึงกับขมวดคิ้วอ่านชื่อหนังสือ
 
            “ตำราว่าด้วยลีลารักเกย์หัดใหม่พร้อมท่ายาก(มีรูปประกอบ) !!! ผมหันมามองแต่ละคน นี้เหรอตำราที่พวกนายอ่านเนี๊๊ยะ
 
            "เฮ้ย!! ยื่มอ่านมั้งดิว่ะ" พ่อตัวดีของผมรีบยื่มทันทีเลยนะ ผมหันมาเหล่มองหนังสือเมื่อวานหอบมาห้าเล่มอ่านยังไม่พออีกเหรอ คนที่แบมือไปขอหนังสือเล่มนั้นก็รีบชักมือกลับมาทันที
 
            "จริงๆเลยนะพวกนายนี้...หนังสือเรียนนะควรจะอ่านกัน และตั้งใจเรียนกันให้จบ พอจบแล้วค่อยอ่านก็ได้ตำราพวกนี้นะจะรีบไปไหนกัน หึ!" ผมพูดและว่างกล่องที่ผมทำแซนวิสมาฝากคริสโตเฟอร์ลง คริสโตเฟอร์มองกล่อง
 
            "หนังสือเรียนนะพวกผมอ่านอยู่ครับครู แต่อันนี้เป็นหนังสืออ่านยามว่างครับ " โจพูด ^_^ ผมเหล่ตามองว่ามันใช่หนังสืออ่านยามว่างตรงไหน
 
            "ไม่ใช่เหรอครับครู...ถ้าอย่างนั้นโทษไอ้อาร์ทเลยครูมันเป็นคนไปหามา" โจพูดและชี้ไปที่อาร์ททันที
 
            "อ้าวเมียครับปากหมานนะครับ ตั้งแต่ผมหามานี้ผมยังไม่ได้จับเลยนะครับและคุณเมียตั้งตาอ่านกว่าตำราเรียนอีกนะครับ" อาร์ทรีบหันมาว่าโจทันทีแต่ว่ามันก็น่ารักไปอีกแบบน่า ไม่ได้หวานจนเกินไป เหมือนเพื่อนกันและมันให้ความหมายที่มากกว่านั้น
 
            "ครูเขมทำแซนวิชมาใช่ปะครับ"โจถามผมถึงของในกล่องที่ผมวางไว้ให้
 
            "ใช่แล้ว ให้พวกเราทานกันไง อาหารเช้านะสำคัญนะ "ผมบอกทุกคน
 
            "ครูไอ้คริสมันบอกไม่ชอบกินแซนวิชอะครับ" โจบอกผม ผมก้มลงมองคริสโตเฟอร์ว่าทำไมไม่บอกละและที่ทำให้ทุกวันละกินหมดด้วย
 
            "จริงด้วยวันก่อนปันปันทำมันบอกไม่กินแซนวิชแล้วครู" ปันปันอีกคน
 
            "งั้นครูให้พวกผมนะ" อาร์ทรีบดึงกล่องแซนวิชไป ผมก็พยักหยักหน้าละหยิบจะส่งให้ สงสัยต้องหาอย่างอื่นให้พ่อตัวดีทานและคงต้องคุยกันทางไลน์ใหม่ว่าถ้าอันไหนไม่ชอบให้บอก
 
            "หมับ" มีคนดึงกล่องไว้ไม่ยอมให้ผมยกให้ใคร
 
            "ใครบอก...และนี้พี่เขม..เอ๊ย!..ครูเขมทำมาให้กูต่างหากละดังนั้นกูต้องเป็นคนกิน" คริสโตเฟอร์แย่งคืนไปหน้าตาเฉย ผมก็เหล่ตาไปมองว่ายังไง ถ้าไม่กินแซนวิชผมจะให้ไปซื้อข้าวในโรงอาหารทาน
 
            "กูชอบกินแซนวิชโว้ยและที่ไม่ชอบเพราะว่าไอ้..อาร์ทกับไอ้โจ้ต่างหากพูดว่า..ปันปันกับไอ้โป้งจะชวนกินแซนวิช" คริสโตเฟอร์พูดผมเข้าใจความหมายว่าแซนวิสที่อาร์ทกับโจพูดนะหมายถึงอะไร ทั้งปันปันและโจสะบัดหน้ามามองคริสโตเฟอร์
 
            "ไอ้อาร์ท! ไอ้โจ! "
 
            "มึงจะบ้าเหรอ...กูไม่เอาแบบนั้นแน่นอน" โป้งรีบออกตัวก่อนเลย ผมถึงกับพยักหน้าเข้าใจแล้ว นี้ผมมีแฟนเกรียนไม่พอ เพื่อนๆแฟนก็เกรียนพอกันเลยใช่ไหม คงต้องไปหาตำราเกรียนมาไว้อ่านบ้างจะได้ตามทัน แต่ก็ทำให้ผมแอบยิ้มไม่ได้
 
            "โป้ง..พ่อเป็นยังไงบ้างคริสบอกครูว่าพ่อเราไม่สบาย" ผมถามโป้งดูสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โป้งเงยหน้ามองผม
 
            "พ่อผมต้องเข้ารับการรักษาโดยการทำบอลลูนครับอาจารย์แต่ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ผมว่าจะพักการเรียนนะครับครู" ผมได้ยินแบบนี้ใจหาย
 
            "แม่มีเงินเก็บไว้สำหรับให้ผมเรียนแต่ผมต้องการให้พ่อหายนะครับครู"
 
            "โป้งครูเข้าใจนะแต่ครูก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะพักการเรียนตอนนี้อยากให้เรียนให้จบอีกปีเดียวเอง"
 
            "ใช่โป้งแม่โป้งก็บอกว่าไม่อยากให้โป้งพักการเรียน" ปันปัน
 
            "เอาอย่างนี้ขาดเหลือมากน้อยแค่ไหนครูจะช่วยครูพอมีตอนแรกว่าจะเอาไว้เปิด ร้านกาแฟกับเปิดติวเตอร์ ตอนนี้ครูให้เธอยื่มก่อน" ผมบอกโป้งแต่ดูเขากำลังปฏิเสธผม
 
            "อย่าเพิ่งคิดเป็นอื่น....ช่วยพ่อเธอก่อน....เลิกเรียนแล้วขึ้นไปหาครูนะโป้ง" ผมพูดคริสโตเฟอร์มองผม ผมพยักหน้าให้ก่อนจะที่เดินออกจากกลุ่มพวกเพื่อนของคริสโตเฟอร์ไป
           
            ผมเดินไปยังห้องพักครูผมหิ้วถุงกระดาษมาด้วยเป็นกระเป๋าและรองเท้านักเรียนที่ผมซื้อให้อนุชิต เขาจะได้มีของใหม่ใส่กับเขาบ้าง ผมเดินเข้าไปในห้องพักครูได้ยินเสียงบรรดาครูคุยกันก็คงเป็นครูนิด ครูลินดา ครูถาวรและครูสุมณฑา พอผมเดินเข้ามาอ้อมีครูโจ้อีกคน
 
                      "ครูเขมคะวันนี้ครูสมชายเขาไปเฝ้าแม่นะคะเห็นว่าแม่อาการทรุดลง ครูเขมเข้าสอนห้องครูสมชายทีได้ไหมคะ" ครูลิมาเดินตามผมเข้ามาพอดีเช่นกันคงตั้งใจมาบอกเรื่องนี้อยู่
 
            "ได้ซิครับห้องไหนเหรอครับ"
 
            "ห้อง 2/1 ค่ะ" ผมจำได้ดีคือห้องแกมและนายอนุชิตและผมนะไม่ได้สอนห้องนี้แล้วหลังจากที่แก้มนำเรื่องของผมเข้าไปบอกท่านผู้อำนวยการ ต้องเป็นครูสมชายสอนต่อจากผม ที่ผู้อำนวยการเปลี่ยนห้องไม่ให้ผมสอนเพราะว่า แก้มอาจจะพูดจาเสียดสีผมได้ผม ผมเองน่ะไม่ได้อะไร ผมมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ แต่คนที่จะดูไม่ดีนั้นคือแก้ม
 
            “ได้ครับและผมก็บอกครูสมชายไปแล้วด้วยครับว่าผมยินดี”ผมก็ตกลงรับปากครูลิมา ครูลิมาได้ยินเข้าก็ท่าโล่งอกทันที
           
            "ถ้าอย่างนั้นรบกวนหน่อยนะคะลิมามีสอนหลายคาบติดกันแล้วค่ะ จะให้ไปอีกคาบสังขารจะไม่ไหวเอานะคะ" ครูลิมาพูดผมก็หัวเราะนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้าว่าผมยินดี และครูลิมาก็ขอตัวเดินไปเข้าสอน
 
            "ครูเขมผลเป็นยังไงบ้างคะที่ไปคุยเรื่องคริสโตเฟอร์นะคะ" ครูลินดารีบถามผมทันที
 
             "ผมไปคุยกับอาจารย์มาแล้วครับ ผมก็ได้หนังสือมาเป็นแนวทางให้คริสโจเฟอร์อ่าน ผมคงต้องติวให้เขาเยอะขึ้นเป็นตอนเที่ยงครึ้งชั่วโมงและหลังสอนพิเศษอีกหนึ่งชั่วโมงนะครับ" ผมพูด
 
            "มีวิชาอะไรบ้างคะเพื่อนว่าถาวรช่วยได้"
           
            "จะมีวิชาคณิตศาตร์นะครับคริสโตเฟอร์บอกว่าบ้างสูตรยังไม่ค่อยแม่นนะครับ ข้อสอบก็มี บวก ลบ คูณ หาร, เลขสถิติ,เรขาคณิต, พีชคณิต อะไรพวกนี้นะครับแต่ไม่เยอะครับและเขามีสูตรกับเครื่องคิดเลขให้อยู่แล้ว" ผมพูด
 
            "ถ้าอย่างนั้นถาวรยินดีจะติวให้นะคะ ถาวรเคยเป็นครูติวเตอร์ให้กับสถาบันXXX วิชาคณิตศาสตร์ค่ะ"
 
            "ขอบคุณมากเลยครับ" ผมดีใจที่ได้ยินแบบนี้
 
            "มีวิทยาศาสตาร์ด้วยใช่ไหมครับครูเขม" ครูปริพนธิ์หันมาถามผม
 
            "มีครับจะมีบทความให้อ่าน มีรูปพวกดีเอ็นเอ พวกคาน พวกแรงไฟฟ้าอะไรพวกนี้นะครับดูจากรูปภาพและคำอธิบาย ส่วนนี้จากรูปภาพ ใช้ทำงานอะไร และถ้าขาดส่วนนี้ไป จะกระทบต่ออะไร ประมาณนี้นะครับ" ผมพูดเพราะว่าผมเองก็เข้าไปอ่านมาบ้างแล้วเพื่อจะได้หาแนวทางให้คริสโตเฟอร์ได้ ดังนั้นผมต้องศึกษาเองก่อน
 
            "ถ้าอย่างนันให้ผมช่วยติวให้ก็ได้นะครับเพราะว่าถ้ามีบทความให้แต่ติวให้รู้จัดว่าส่วนไหนใช้อะไร ผมติวให้ได้นะครู แต่คงต้องไทยปนอังกฤษนะครับครู อังกฤษล้วนๆผมไปไม่รอดแน่ๆ " ครูปริพนธิ์พูดผมก็ยิ้มเป็นการขอบคุณ
 
             "ดีเลยครับครูปริพนธิ์..ผมขอบคุณมากครับ" ผมพูดขอบคุณ เพื่อนครูในห้องพักครู
 
            "ครูเขมวันนี้ วนิดา แม่ของคริสโตเฟอร์จะเดินทางทีโรงเรียนนี้คะ" ครูนิดบอกผม แต่เขาเรียกชื่อได้เหมือนสนิทกันมาก่อน  ชื่อวนิดานี้ ผมคุ้นๆมาก เหมือนในจดหมายเลยครับ ผมสะบัดหน้าไปมองครูนิด
 
            "แม่ของคริสโตเฟอร์ชื่อคุณวนิดาเหรอครับ" ผมคุ้นชื่อนี้มาก
 
            "ใช่ค่ะ....แต่ปัจจุบันเธอเปลี่ยนเป็นลลิลภัทร์แล้วนะคะ แต่พี่นิดเรียกติดปากมาตั้งแต่เรียนมัธยมด้วยกันแล้วค่ะ " ครูนิดบอกผม ผมพยักหน้าไว้รอถามแม่ของคริสโตเฟอร์อีกทีดีกว่า เสียงสัญญาณเข้าแถวดังขึ้นพอดีเลยผมเดินลงไปกับครูทั้งหลายเพื่อไปควบคุมนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ ระหว่างที่ผมเดินลงไปผมเห็นผู้หญิงที่เป็นป้าของแชมป์เขามาหา ผู้อำนวยการอีกแล้วแต่รอบนี้ดูร่างกายซูบผอมลงไปมากสีหน้าหมองหม่นอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่ยืนมองแค่นั้น
 
            "ครูเขม" ผู้อำนวยการเรียกชื่อผมหลังจากที่ท่านคุยกับคุณป้าของแชมป์และกำลังจะเดินขึ้นห้องทำงานแต่ท่านหันมาเจอผมเข้าซะก่อน
 
            "สวัสดีครับผู้อำนวยการ" ผมยกมือไหว้ท่านดูสีหน้าท่านกังวลอย่างบอกไม่ถูก
 
            "เขามาหาผู้อำนวยการอีกแล้วเหรอครับ" ท่านคงรู้ว่าผมหมายถึงใครที่เพิ่งเดินผ่านผมออกไป
 
            "ใช่ครับครู.ก็เด็กคนนั้นก็เป็นหลานเพียงคนเดียวที่เขาจะฝากผีฝากไข้..โชคดีนะที่ครูไม่คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนครูมิ้งกับแชมป์ผมกระทบมันตกอยู่กับคนข้างหลัง" ผู้อำนวยการพูด
 
            "ผมไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดครับ"ผมตอบผู้อำนวยการไป
 
            "ดีแล้วแหละครู..ไม่ต้องเสียหน้าที่การงานว่าแต่ครูมีทางออกที่ดีเตรียมไว้แล้วใช่ไหครับ"
 
             "ใช่ครับท่านแต่ผมรอถามแม่ของคริสโตเฟอร์อีกทีว่าเห็นด้วยกันกับที่ผมและคริสไหมนะครับ" ผมตอบท่าน
 
            "นี้คุณป้าของแชมป์เขาบอกกับผมว่าเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายนะครู และเขาก็อยากเจอหน้าหลานเขาอีกครั้ง" ผมก็ต้องตกใจที่ได้ยินแบบนี้ ผมมองหน้าท่านผอ. ผมว่าท่านก็รู้สึกสะเทือนใจมิใช่น้อย
 
            “ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงครับครู งานผมก็เยอะและผมเองก็อายุขนาดนี้แล้วจะไปวิ่งตามใครไหวครับครู” `ผู้อำนวยการพูด ผมก็เข้าใจท่าน เพราะว่าท่านก็ออกไปประชุมบ่อยเหมือนกัน
 
            “ผมอยากจะช่วยได้ไหมครับ ว่าแต่ครูมิ้งบ้านเขาอยู่ที่ไหนเหรือครับ” ผมหันไปถามท่านผู้อำนวยการ
 
            “ครูมิ้งเป็นคนอำเภอมวกเหล็กครับ แต่ผมติดต่อทางบ้านแล้ว ครูมิ้งไมได้กลับไปบ้านที่มวกเหล็กเลยครับครู ทางบ้านก็เป็นห่วงเหลือเกินเหมือนกัน ครูมิ้งเป็นลูกชายคนเดียวของที่บ้านด้วย เขามีพี่สาวอีกสามคน” ผู้อำนวยการพูด ถ้ามวกเหล็กก็ไม่ไกลจากโรงเรียนนี่เลย ถ้าเป็นผมไม่กลับแน่ๆ ถ้าคิดจะพากันหนีไปแบบนี้
 
            “แต่ครูมิ้งเขาจบมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่นะครู “ ผู้อำนวยการบอกผม ผมสะบัดหน้าไปมองผู้อำนวยการ เพราะว่าพี่ต้นอยู่ที่เชียงใหม่แล้วแต่ว่า ก่อนจะย้ายไปพี่ต้นย้ายจากมวกเหล็กไป ทำไมมันบังเอิญแบบนี้นะ
 
            “ผมคิดว่าครูมิ้งจะไปเชียงใหม่ครับท่าน” ผมบอกท่านผู้อำนวยการ ท่านหันมามองหน้าผมแบบมีคำถาม
 
            “คือว่าถ้าครูเขาตัดสินใจหนี และแชมป์นี้เขาอายุไม่ถึง 15ปี คุณป้าเขาต้องแจ้งความแน่ๆ เขายิ่งไม่ไปไหนที่ใกล้ๆกับบ้านเกิดเขาแน่ๆ ครับ”ผมพูด
 
            “และถ้าเขาไปเขาต้องรู้ว่าไปแล้วจะมีคนช่วยเขาได้ ถ้าที่มวกเหล็กก็คงมี่แต่เพื่อนที่เรียนมัธยม ผมว่าระยะเวลาหางกันเกินไป ถ้าเพื่อนมหาวิทยาลัยยังคงติดต่อกันและครูมิ้งเพิ่งจะจบมาใหม่ด้วยนะครับ”ผมพูดและครูใหญ่สะบัดหน้ามามองผม
 
            “คือผมเห็นรูปที่เขารับปริญญาถ่ายกับครอบครัวอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานนะครับ ดูจากปีพอศอที่เขาถือป้ายถ่าย หลังผมหนึ่งปีครับ แต่ครูมิ้งน่าจะทำงานที่ติวเตอร์ไม่นาน ผมทำมาได้ปีหนี่งพอดีครับก่อนที่ท่านจะเรียกตัวผมมาเป็นครู”ผมอธิบายให้ผู้อำนวยการฟัง
 
            “แล้วครูจะช่วยยังไงละครับ” ผู้อำนวยการถามผม
 
             "ผมให้พี่ชายที่เคยเป็นปลัดอำเภอที่เขาใหญ่นี้แต่ว่าตอนนี้ย้ายไปอยู่เชียงใหม่แล้วนะครับ ช่วยนะครับ อาจจะพอหาข้อมูลได้บ้าง เพราะว่าพี่ผมเพิ่งจะไปประจำการได้สามนะครับท่าน"
 
            “ถ้าอย่างนั้น ผมขอความร่วมมือเลยนะครับครู ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมต้องรบกวนครูเขมแล้วแหละครับ จริงๆ” ผู้อำนวยการหันมาพูดและจับมือผมไว้ประสานกัน
 
            “ผมช่วยได้ผมก็จะช่วยครับท่าน” ผมพูดและค่อยๆดึงมือผมออก ท่านครับผมเป็นเกย์ครับท่านอย่ากุมนานเดี๋ยวนักเรียนคิดครับผม คิดว่าผมกับท่านครับ และท่านอาจจะเป็นท๊อคออฟเดอะทาวน์ไปพร้อมๆกับผมและคริส 
 
            “อุ้ยย! ผมลืมไป เดี๋ยวเด็กมันจะคิดว่าผม กลัวตกเทรน” ผู้อำนวยการพูดและหันซ้ายแลขวาเหมือนผมใช่ไหมละครับ นั้นไงใช่ด้วย ผมเองก็เลือกครับ ผมคิดในใจและต่างก็พากันเกาหัวไปตามๆกันแก้เขิน
 
             “ถ้าครูหาพวกเขาเจอ ครูจะได้บุญหนักหนาเลยนะครับ ป้าของแชมป์เขาก็ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน เขาบอกร่างกายเขาทรุดหนักลงทูกวันและแม่ของครูมิ้งก็เป็นห่วงครูมิ้ง จนไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นรูปลูกชาย “ ผู้อำนวยการพูด ผมก็ยังไงก็ต้องหาครูมิ้งและแชมป์ให้เจอให้ได้
 
            "เอาละ ผมจะได้ให้ครูสมพิสไปหาข้อมูลใบสมัครของครูมิ้งให้กับครูเขมนะครับ"ผู้อำนวยการบอกผม
 
            "ขอบคุณมากเลยนะครับครู...ช่วยทีเถอะครูสงสารทั้งป้าของแชมป์และแม่ของครูมิ้งนะครับ “ ผู้อำนวยการพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไป ผมต้องตามครูมิ้งกลับมาให้ได้และผมไม่ได้ต้องการทำเพื่อให้ทุกคนยอมรับผมกับคริสแต่ผมทำเพื่อคนหลายคนไม่จะว่าป้าแชมป์และครอบครัวของครูมิ้งผมคิดว่าครูมิ้งก็น่าจะเป็นครูทีมีคุณภาพคนหนึ่งนะแต่ด้วยเหตุผลอะไรผมไม่แน่ใจทำไมเขาถึงได้ตัดสินใจทิ้งอาชีพครูไปแบบนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 22:34:10 โดย Tanthai23 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 EP.23.1 ครูเขมชาติ ครูอยากให้เธอเข้าเรียนกับครูนะแก้ม
           

             หลังจากเข้าแถวเสร็จผมก็รีบเดินขึ้นห้องพักครูหยิบหนังสือเพื่อทำการสอนนักเรียนชั้น ม.4/1 และนักเรียนชั้น ม.2 /1 ที่ผมต้องไปดูแลแทนครูสมชายที่เขาขอไปดูแลแม่ของเขาที่ล้มป่วยลงครูสมชายแกก็พยายามทำทุกวิธีทางไปเข้าถือศิลให้แม่เขาหายเจ็บป่วย
 
            พอพูดถึงตรงนี้ยังมีอีกหลายคนเลยที่มองข้ามสิ่งสำคัญตรงนี้ไป บางคนพอชีวิตเข้าสู่วัยรุ่นไม่อยากอยู่กับพ่อแม่อยากอยู่กับเพื่อน รู้สึกเบื่อพ่อแม่ดุด่าว่ากล่าวหรือตักเตือนจนอยากออกไปมีชีวิตเป็นของตัวเองจะได้ไม่ต้องมีใครคอยบ่นคอยว่า แต่อายุเริ่มมากขึ้นทั้งตัวลูกและพ่อแม่ยิ่งพ่อแม่แก่ชราลงเวลาก็เหลือน้อยลงทุกทีและยิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บถึงตอนนี้จะมาขอยื้อให้อยู่กับตัวเองนานๆ
 
            ผมทำการเข้าสอนห้องคริสโตเฟอร์คาบแรกของทุกวันจันทร์ ผมก็ทำตัวตามปกติเป็นครูสอนส่วนคริสโตเฟอร์ก็ทำหน้าที่นักเรียนตั้งใจเรียนและเริ่มเข้ากับเพื่อนๆในห้องจะดีขึ้นอีกด้วยแม้จะรุ่นน้องก็ตาม ผมดีใจที่เขามีการพัฒนามนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนไปด้วย มีเล่นมุขกันมาขึ้นเลยทำให้บรรยากาศในห้องเรียนดูสนุกสนานคึกคัก เขาเองก็ทำเหมือนผู้ช่วยสอนให้ผมไปโดยไม่รู้ตัว
 
             "นักเรียน...อีกสองอาทิตย์จะมีการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษเพื่อคิดเลือกเป็นตัวแทนแข่งขันระดับเขต"
           
            "ครูอยากให้ห้องเธอส่งตัวแทนเพื่อตอบปัญหาและร้องเพลงภาษาอังกฤษ"
 
            "พี่คริสโตเฟอร์ดิแกพี่เขาเก่งขึ้นเยอะเลยอะ" พวกเด็กๆหันไปปรึกษากันทันทีและชื่อที่ผมได้ยินคือคริสโตเฟอร์ ผมหันไปมองพ่อตัวดี
 
            "ถ้าอย่างนั้นให้พี่คริสโตเฟอร์กับเอกราชค่ะครู ตอบปัญหา " ผมหันไปมองหน้าเอกราชเขาก็พยักหน้าคนนี้เก่งด้านแกรมม่า ผมรู้สึกว่าเขาจะเรียนติวเตอร์ชื่อดังซะด้วยในกรุงเทพ และเขาก็เดินทางกลับกรุงเทพทุกอาทิตย์ และที่ผมรู้มาที่นี้ราคาแพงมากด้วยและนั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะว่าทางบ้านเขามีทุนทรัพย์เยอะ
 
            "ถ้าอย่างนั้นเพื่อนๆช่วยกันติวให้เพื่อนที่เป็นตัวแทนด้วยก็แล้วกัน...ช่วยกันซ้อมเพราะว่าชื่อเสียงก็คือห้องเรานะ" ผมบอกทุกคนในห้อง
 
            “และให้พี่คริสร้องเพลงได้ไหมคะครู เพราะว่าสำเนียงพี่เขาเป๊ะเวอร์มากค่ะ” มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยกมือขึ้น แนะนำให้คริสร้องเพลงและทุกก็พยักหน้าเห็นชอบเช่นกัน
 
            “ถ้าทุกคนเห็นตรงกันก็เอาตามนี้แล้วกันนะ ผมพยักหน้า
 
            "เอาละไว้เจอกันพรุ่งนี้...อย่าลืมงานที่ครูให้นะให้เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ" ผมพูด
 
             "ครับครู "  "ค่ะครู"
 
            "นักเรียนทำความเคารพ"
 
            "Thank you Teacher , See you tomorrow.
 
            "See you tomorror " ผมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องเรียน
 
ตื้ด!!! เสียงแอพพลิเคชั่นดังขึ้นผมหยิบมือถือขึ้นมาดู
 
            KissKhem:พี่เขมคิดถึงอะ..ทำไมวันนี้พี่ไม่คอยยิ้มเหมือนทุกวันเลยอะมีอะไรหรือเปล่า"  ขนาดผมก็พยายามหัวเราะแล้วนะ คริสยังแอบเห็นว่าผมมีเรื่องให้คิดอีก
            My Darling: พี่มีเรื่องคิดนิดหน่อยแต่ไม่เกี่ยวกับเราหรอก
            KissKhem: เรื่องอะไรละบอกได้ไหมอะอยากรู้ผมเป็นห่วง (อันนี้ผมทำให้ผมอมยิ้มได้ทันทีที่รู้ว่าเขาเป็นห่วงผม)
            My Darling: แค่นี้พี่ก็ดีขึ้นแล้วคริส...ตั้งใจเรียนละพี่จะเข้าห้องสอนต่อแล้ว แลเเจอกันตอนเที่ยงครึ้งนะที่ห้องสมุด
             KissKhem: ครับที่่รัก..จูุ๊บ! 
           
                      ผมเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงตัวแสลคเข้ารูปของผม ก่อนจะก้าวเท้าเข้าห้องเรียนที่ผมเคยสอนมาก่อน แต่ตอนตอนนี้ต้องกลับมาสอนใหม่ และคู่อริผมก็อยู่ในห้องนี้ซะด้วย ไม่รู้ว่าบรรยากาศจะน่าเรียนหรือตึงเครียดกันแน่
 
             "เฮ้ย! ครูเขมกลับมาสอนห้องเราแล้ววะ ...เย้ๆ " แต่ละคนดูดีใจกันที่เห็นว่าผมกลับมาทำหน้าที่ครูสอนอีกครั้งแต่ในฐานะ ครูสอนแทนครูสมชาย ที่ประจวบเหมาะลาไปดูแลคุณแม่ของเขาที่ป่วยอยู่แต่ผมไม่รู้ว่าท่านป่วยเป็นโรคอะไรจริงๆ
 
              "นักเรียนทำความเคารพ"
 
              "Good mornign , How do you do ?
 
              "Good morning teacher , I'm fine thank you , and you ?"
 
               "Pretty good Thank you "
 
              " Sit down pleas !!"
 
               "Thank you teacher" และแต่ละคนก็นั่งลง ผมเหลือบมองไปเห็นแก้มนั่งอยู่คนเดียวโต๊ะตัวเดียวปากตินักเรียนจะนั่งคู่กันแต่มีอยู่แถวหนึ่งนั่งกันสามคน
 
                "ทำไมครูเปิดด้วยประโยค How do you do ? วันนี้ " ผมจงใจใช้คำนี้ ทั้งที่ผมเคยเจอนักเรียนห้องนี้มาแล้วแต่นี้เป็นการกลับมาสอนอีกครั้ง และผมก็เลยยกมาตั้งเป็นคำถามและผมก็สอดสายตาไปรอบห้องมีแต่คนยกมือขอตอบและยกเว้นแก้ม วันนี้เธอแปลกไปกว่าทุกวัน เธอนั่งอยู่คนเดียว จากที่เคยนั่งเป็นกลุ่มๆ
 
                "แก้มลุกขึ้นตอบครูซิครับ" ผมเรียกแก้มที่นั่งอยู่คนเดียวเธอเงยหน้ามองผมก่อนจะลุกขึ้นและหันไปมองเพื่อนๆเธอ
 
                 "ไม่ทราบคะ" แก้มตอบผมว่าไม่ทราบ
 
                 "คิก คิก" เสียงเพื่อนๆหัวเราะ
 
                 "หนูทราบคะ เพราะว่าเราเจอกันครั้งแรกค่ะแต่ครูเคยเข้ามาแล้วนี่คะ" นักเรียนหญิงอีกคนพูดและถามผมกลับเช่นกัน
 
                  "แก้มนั่งลง...เราด้วย" ผมหันไปบอกแก้มและคนที่ลุกขึ้นตอบ
 
                   “พวกเราคงทราบกันแล้วนะว่าที่จริงครูไม่ไดสอนห้องนี้แล้ว”
 
                  “โห่! ทำไมละค่ะครู “ นักเรียนผู้หญิงพากันร้องไปตามๆกัน
 
                  “ครูสมชายเขาจะดูแล ครูสมชายก็สอนดี และครูเชื่อว่าครูสมชายก็ทำหน้าที่ครูผู้ให้ความรู้ได้เหมือนๆกับครูเช่นกัน”
 
                  “ และที่ครูใช้คำว่า How do you do ? เพราะว่าครูได้กลับมาสอนเธออีกครั้งแม้จะ เป็นครูสอนแทน และครูจงใจเพราะว่าอยากจะทราบว่านักเรียนรู้จักการทักทายกันมากแค่ไหน “ ผมพูดและมองทุกคนในชั้น ผมมองไปรอบๆจนเจอนายอนุชิต ผมก็ยิ้มให้เขาวันนี้ดีหน่อยมีเพื่อนนั่งด้วยแล้ว
 
                  "How do you do ? คือการทักทายของการพบกันครั้งแรกหรือคนอเมริกันเขาก็ใช้ทักทายกันแบบธรรมดาแต่ส่วนใหญ่จะใช่ how are you มากกว่าแบบว่าเน้นถามเรื่องสุขภาพ และประโยคตอบกลับสำหรับ How do you do ที่ถูกต้องคือ How do you do ? แต่ คำลงลงท้าย do เน้นเสียงสูง"
 
                  "แต่พอเจอกันในครั้งต่อไปก็ใช้เป็น How are you ? แทน หรือถ้าใช่กับเพื่อนสนิทอาจจะไม่ใช่ How are you? อาจจะใช่ How’s it going ? หรือวัยรุ่นบางคนใช้สั้นว่า Howdy ?  และHow have you been?"
 
                  "ประโยคที่ใช้ตอบกลับ ซึ้งเราควรจะตอบกลับด้วยเพราะนี้คือมารยาท เช่น very good , แต่ไม่ควรใช่คำว่า I'm good มันแปลว่าฉันเป็นคนดี ซึ่งเขาไม่ได้ถามว่าคุณเป็นคนดีหรือไม่ "
 
                  "หรือไม่ควรจะตอบว่า Good , Thanks หรือ Thank you ก็ได้ และอีกอย่าง Can't complain. แปลกว่าทุกอย่างดีไปหมดนั้นเอง...บร้าๆๆๆ" ผมก็อธิบายบร้าๆ
 
                  “และมีอีกคำที่ คนออสเตรเลียจะใช้ทักทายบ่อยมาก สำหรับเพื่อนร่วมงานแต่ส่วนใหญ่จะทักกันในเพื่อนผู้ชายด้วยกัน”
 
                   “G’day mate “ ผมพูดและเขียนขึ้นบนหน้ากระดานดำ
 
                  “อันนี้คือการทักทายใช้แทนคำว่า ฮัลโล .....บร้าๆ”แล้ว จู่ๆ แก้มก็เดินออกไปโดนไม่พูดไม่จา ผมหันหลังไปมอง ก็เลยวางช๊อกที่ขอบกระดานดำและรีบตามเธอออกไปเช่นกัน
 
                  "แก้มเธอจะไปไหนนะทำไมขออนุญาติครูก่อนละ" ผมเรียกแก้มไว้เธอแค่หยุดเดิน
 
                  "ครูพอใจหรือยังคะ...ไม่มีใครอยากให้แก้มนั่งอยู่ในห้องนี้หรอกค่ะ ทุกคนมองว่าแก้มคือตัวร้ายทำลายความักของครูกับพี่คริส " แก้มหันมามองผมน้ำตาปริมๆอยู่ที่ขอบตาทั้งสอง
 
                  “ทั้งที่มันผิด!”
 
                 “แต่ทุกคนมองว่าแก้มผิดมากกว่า!”
 
                "แก้ม...มันไม่ใช่ความพอใจของครูเลยนะ และครูก็ไม่เคยมองว่าเธอคือคนที่ผิด" ผมพูดและแก้มก็ทำท่าจะเดินออก
 
                 “ครูรู้มันต้องใช้เวลาว่าแต่เธอ..เธอจะไปไหนหรือ" ผมถามเธออีกครั้ง
 
                "หนูจะไปห้องน้ำคะ" แก้มตอบผม
 
                 "แล้วทำไมไม่บอกครูละแก้ม แค่เธอขอครู ครูก็ให้เธอไป และการที่เธอขอครูไปห้องน้ำทุกครั้ง นั้นมันดีต่อตัวเธอ "ผมพูด แก้มหันมามองหน้าผม
 
                 “ถ้าเธอหายไปนานและยังไม่กลับมาครูจะได้ให้เพื่อนไปตามเธอถูก เพื่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอรู้ไหมแก้ม “ ผมพูดบอกเธอ ด้วยน้ำเสียงทีห่วงใย เธอหันมามองหน้าผม
 
                "ก็หนู..หนู..พูดไม่ได้นี้คะภาษาอังกฤษนะคะ"
 
               "แล้วทำไมเธอไม่อยู่เรียนติวตอนเย็นกับเพื่อนๆละ"แก้มเงียบผมรู้มาว่าเธอไม่ไปเรียนติวเตอร์ทีไหนเลยแม้กระทั้งที่โรงเรียนทั้งที่โรงเรียนนี้เขามีให้จะได้ไม่ต้องไปไขว้ขว้าหาที่ไหนแต่แก้มก็ไม่เคยเข้าเรียนเลยสักครั้งในตอนเย็น แก้มยืนนิ่ง
 
                "แก้มครูคือผู้ให้ความรู้แต่ถ้าศิษย์ของครูไม่ได้รับความรู้ที่เพียงพอครูก็เสียใจนะแก้ม...ครูเชื่อว่าแม่ของเธอก็อยากให้เธอตั้งใจเรียนเพราะว่าไม่ทรัพย์สินเงินทองใดๆไม่มีค่ามากพอและอยู่กับเราได้นานเท่ากับความรู้นะแก้ม นั้นแหละที่มีค่ามีราคาและติดตัวเธอไปตลอด" ผมพูดเธอยังคงนิ่ง
           
                "ทรัพย์สินเงินทองทีพ่อแม่สร้างมามันมีวันหมดแต่ความรู้ไม่มีวันหมดหายไปจากเธอ" ผมพูด
 
                 "รีบไปรีบมานะ...ครูจะได้ให้ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ" ผมพูดบอกแก้ม ก่อนะหันหลังเดินกลับเข้ามาในห้องเรียน
 
                "เอาละครูสมชายสั่งงานกลุ่มไว้ใช่ไหมดังนั้นจับกลุมทำงานเลยมีปัญหาไม่เข้าใจตรงไหนยกมือถามครู" ผมบอกนักเรียนทุกคนก็หันหน้าเข้ากลุ่มผมยืนรอสักพักแก้มก็ยังไม่เดินกลับมาเข้าห้องเรียน
 
                 "ใครพอจะไปตามแก้มที่ห้องน้ำหญิงให้ครูได้บ้าง"ผมถามนักเรียนในห้องแต่ทุกคนกับเงียบไม่มีใครให้ตอบผมเลยว่าใครจะอยากไปตามแก้มขึ้นมาเข้าเรียน
 
                 "เขาเป็นเพื่อนเธอหรือเปล่า" ผมถามนักเรียนในห้อง
 
                "แต่แก้มมันนิสัยไม่ดีนะคะครูและเรียนก็ไม่เก่งไม่มีใครอยากให้เข้ากลุ่มหรอกค่ะ"นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
 
               "ทุกคนไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิดบางคนต้องใช้เวลาในการฝึกฝน และอีกอย่างครูเชื่อว่าการให้โอกาสคนนั้นคือการให้ทานที่ประเสริฐที่สุด" ผมพูดทุกคนในห้องพากันเงียบ
 
                "บางทีแก้มไม่ได้อยากจะเป็นคนนิสัยไม่ไดีก็ได้นะ" ผมพูด
 
                "ใครจะทำเพื่อครูได้บ้าง"
 
                 "หนูไปตามเองคะครู" คนที่พูดกับผมเรื่องแก้มลุกขึ้นและอาสาจะออกไปตามแก้มให้ผมเอง
 
                "ดีมากครับ ไปตามแก้มมาแหละให้เพื่อนเข้ากลุ่มด้วยนะครับ"ผมบอกเด็กผู้หญิงที่อาสาคนนั้นก็วิ่งลงไปผมเดินไปดูงานตามกลุ่มต่างๆแต่คนละคนก็ตั้งใจเรียนกันดีจนกระทั้งแก้มขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนในห้องดูก็รู้ว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาด้วย
 
                "เข้ากลุ่มกับเพื่อนและช่วยเพื่อนๆทำงานนะ...มีอะไรไม่เข้าใจถามครูนะแก้ม" ผมบอกเธอ เธอแค่พยักหน้าและนั่งลงแบบกล้าๆกลัวๆ แก้มนั่งอยู่กับเพื่อนแค่นั่งมองเพื่อนทำ ผมยืนมองผมคิดว่าผมควรจะบอกครูสมชายเรื่องนี้ อันนี้คือปัญหาของเด็กที่ครูไม่ควรจะปล่อยปะละเลยเพราะมันจะส่งผลไปถึงอนาคตของเด็ก
 
                 "แก้มทำไมไม่ช่วยเพื่อนทำละ" ผมเดินมาแตะที่ไหล่เธอเบาๆ
 
                 "แก้มทำไมได้ค่ะ"
 
                 "เอาหนังสือออกมานั่งที่โต๊ะกับครูนะแก้มครูจะอธิบายเธอเอง " ผมเรียกแก้มให้เธอหยิบหนังสือมาและผมก็นั่งดูให้เธอทำให้ดูตรงหน้า แก้มอ่อนภาษาอังกฤษมากคำศัพท์ง่ายๆแก้มยังไม่รู้เลยว่าหมายถึงอะไรแต่ผมเต็มใจที่จะฝึกฝน
 
                 "คราวนี้เข้าใจขึ้นแล้วใช่ไหมแก้ม"
 
                  "ค่ะครูแต่..."
 
                "ครูคิดว่าเธอควรจะเรียนพิเศษนะในเมื่อทางโรงเรียนเขามีตรงนี้เธอควรที่จะเรียน..โชคดีที่ไม่ต้องไปหาติวเตอร์แพงๆนะแก้ม"
 
                "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า...บอกครูมาซิ"
 
                 "แม่ไม่ให้เรียนค่ะ....แม่บอกว่าเรียนไปก็ต้องไปมีผัวอยู่ดีแม่เลยบอกว่าเรียนแค่ในห้องเรียนก็พอแล้วค่ะครู"แก้มพูด เสียงเพื่อนๆพากันหัวเราะคิกคัก เพราะตลกในคำพูดของเธอ แต่ผมนี้ถึงกับถอนหายใจทำไมแม่แก้มถึงได้สอนมาแบบนี้ ชีวิตลูกผู้หญิงไม่ได้จบลงที่การแต่งงานและไปอยู่บ้านให้สามีเลี้ยงดูทุกคนซะหน่อย เพราะบางที่เธออาจจะเจออะไรมากมายกว่านั้น
 
                 "แก้มเธอรู้ไหมมีผู้หญิงหลายคนที่ถูกกระทำความรุนแรงถูกเอารัดเอาเปรียบจากเพศที่เข็มแข็งกว่าและส่วนใหญ่พวกเขาไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ถึงได้ถูกล้อลวง"
 
                  "และครูก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของครู...ครูคิดว่ามันสำคัญกับเธอนะแก้ม" ผมพูดแก้มก้มหน้าลง
 
                  "ครูจะคุยกับแม่เธอดีไหมแก้ม"
 
                  "แม่ไม่ฟังหรอกคะครูแม่คิดแต่ว่าจะต้องมีเงินเก็บเยอะๆเพราะแม่ไม่เคยคิดว่าแก้มจะอยู่กับแม่ไปจนแก่"
 
                  "ครูจะลองทำหนังสือถึงคุณแม่เธอดู..เธอควรจะได้เรียนพิเศษทุกวัน ...กับครูก็ได้เพราะว่าครูยินดีสอนทุกคน" ผมพูดบอกเธอด้วยสีหน้าว่าผมเต็มใจ
 
                  "แม้กระทั้งหนูเหรอคะครู" แก้มเงยหน้าขึ้นถามผม
 
                 "ใช่ทำไมละ" ผมถามเธอกลับ
 
                  "หนู...หนู..ทำไม่ดีกับครูตังเยอะนะคะ"
 
                  "ทุกคนมีผิดพล้าดกันได้และมันไม่สายเกินไปนะแก้ม..ที่สำคัญนี้คืออนาคตของเธอครูไม่ทำลายอนาคตลูกศิษย์แค่เพราะเรื่องส่วนตัว" ผมพูด แก้มก้มหน้าลง
           
                   "เอาละไปนั่งที่นะหมดชั่วโมงแล้ว...พรุ่งนี้ครูมีสอนติวเตอร์ห้องเธอตอน 5โมงครึ้ง เพราะว่าครูสมชายยังไม่กลับมา และครูจะยินดีถ้าเห็นเธออยู่ในห้องเรียน" ผมพูดและแก้มก็ลุกกลับไปนั่งที่ ผมลุกคนพยักหน้าให้ทุกคนว่าผมจะต้องไปแล้ว พอนักเรียนทำความเคารพก็เดินออกจากห้องเรียน ระหว่างที่กำลังเดินผมเห็นอนุชิต
 
                  "อนุชิต"
 
                 "ครับครู..ครูมีอะไรให้ผมช่วยครับ"
 
                 "ไม่มีหรอกตอนเที่ยงไปหาครูทีห้องพักครูนะ"
 
                   "ได้ครับครู"
 
                  "ครูเขมหวัดดีครับ " "ครูเขมหวัดดีคะ"
           
                  "ครูวันนี้เราเข้าห้องโสตกันใช่หรือเปล่าคะ"
 
                  "ใช่ครับ..วันนี้เราจะฝึกการฟัง"
 
                   "เย้ๆ..พวกเราชอบค่ะเพราะว่าที่ครูเอามาให้พวกเราฟังนะสนุกมากเลยค่ะ " พวกเด็กๆเหล่านี้ชอบที่จะเข้าไปฟังซีรีย์ภาษาอังกฤษ ที่ผมหามาให้โดยให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับในหนังสือเป็นการฝึกการฟังไปในตัวผมรู้ว่าแกรมม่าก็สำคัญผมก็สอนเน้นแกรมม่าเช่นกันแต่ในชีวิตจริงๆ เราใช้การฟังและพูดมากกว่าในชีวิตประจำวันจริงๆ ยิ่งมีการใช้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้นผมเดินกลับมานั่งเปิดจดหมายดูใหม่อีกครั้งผมต้องแกะลายมือจากหมึกที่จืดจางเต็มที จนกระทั้งใกล้เวลาพักเที่ยง
 
                  "ครูเขมครับ" อนุชิตเดินเข้ามาหาผมพอดีเลย
 
                  " มาแล้วหรอ"ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปหยิบถุงกระดาษและส่งให้อนุชิต เขาทำหน้างง ผมก็พยักหน้าว่าให้รับไป พอเขารับไปเปิดดูเขาเงยหน้ามองผมแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจทันทีที่เขาได้เห็นของในถุง
 
                 "ครูซื้อให้รับไปซิจะได้มีใส่เหมือนเพื่อนๆเขา หรือจะลองเลยก็ได้นะ."
 
                  " ครูก้มมองดูเบอร์รองเท้าของเธอวันที่เธอถอดไว้หน้าห้องโสตนะและนี้ครูซื้อมาเพื่อสักเบอร์สองเบอร์นะ" ผมพูดอนุชิตหยิบมันขึ้นมากอดไว้ในอ้อมอกเขาดีใจที่จะได้รองเท้าคู่ใหม่ ถึงมันจะไม่มีค่าอะไรมากแค่สี่ห้าร้อยบาทแต่กับบางคนสี่ห้าร้อยบาทนี้หามาด้วยหยาดเหงือและแรงงานเหนื่อยยากจนสายตัวแถบขาด อนุชิตหยิบเสื้อตัวใหม่ขึ้นมาดูและกางเกงตัวใหม่สองชุดที่ผมซื้อให้เข็มขัดก็ใหม่ ถุงเท้าก็ใหม่
 
                 "ครูให้ผมจริงๆเหรอครับ"
 
                 "ใช่ครูให้เธอแต่เธอคงต้องไปให้ร้านเขาปักตัวย่อชื่อโรงเรียนเอานะ"
 
                  "ย่าผมปักได้ครับครู..ขอบคุณครับครู" อนุชิตวางและตรงมากราบผมแต่ผมรีบรับไหว้เขาทันที
 
                   "ครูทำเพราะว่าเธอเป็นเด็กดีอนุชิตเป็นแบบนี้ตลอดไป เธอเลือกไม่ได้ว่าจะต้องเกิดมาร่ำรวยหรือยากจนแต่เธอเลือกเป็นคนดีได้ ตั้งใจเรียนได้แค่นี้ครูว่าเธอทำได้อนุชิต" ผมพูดเขาพยักหน้า
 
                  "ผมจะตั้งใจเรียนครับครู..ผมโตขึ้นผมจะเป็นครูครับ"
 
                   "ดีมากไปทานข้าวเถอะ" ผมพูดและอนุชิตก็หยิบถุงกระดาษออกไปรอยยิ้มดีใจของเขาแม้ว่าสิ่งที่ได้จะไม่ได้มากมายแต่เชื่อว่ามันทำให้เขามีความสุข ผมเก็บทุกอย่างลงจากโต๊ะก่อนจะเดินลงไปเพื่อหาซื้ออะไรทานและตอนเที่ยงผมจะต้องไปสอนพิเศษคริสโตเฟอร์ที่ห้องสมุดผมรีบทานและรีบไปผมเห็นคริสนั่งรอผมอยู่แล้วพร้อมกับกางหนังสือเกี่ยวกับ Reading ที่จะใช้ในการสอบGED อ่านอยู่ ผมก็ต้องเทรนเรื่องการอ่านเพื่อจับใจความและใช้ในการตอบคำถาม ผมให้เขาอ่านคำถามก่อนเป็นอันดับแรกก่อนจะไปอ่านเนื้อเรื่องเพื่อช่วยประหยัดเวลาที่จะหาคำตอบได้เร็วขึ้น ผมสอนคริสท้ามกลางสายตานักเรียนที่มาอ่านหนังสือในห้องสมุดและสายตาครูประจำห้องสมุด ครูสุรีวัลย์ เขาก็ยิ้มให้ผม ส่วนคริสโตเฟอร์ก็ตั้งใจเรียนมากไม่ดื้อเลยสักนิดเพราะเขารู้ว่าเวลาครึ้งชั่วโมงนะมันน้อยนิดเดียวเขาควรจะตั้งใจฟังผมมากกว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 22:38:58 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.24 ครูเขมชาติ X คริสโตเฟอร์   การสนทนาระหว่างแม่ของคริส 1
   
           Part  ครูเขมชาติ
                             หลังจากที่ผมไปสอนติวคริสโตเฟอร์ที่ห้องสมุด วันนี้ผมก็ให้เขาไปลองทำข้อสอบดูสักสิบข้อก่อน ในหัวข้อ Reading GED คริสโตเฟอร์ทำการบ้านมาดีแสดงว่าเขามุ้งมั่นในการอ่านหนังสือมากตั้งแต่ผมซื้อให้เขาเมื่อวันเสาว์ที่ผ่านมา ผมมีสอนคาบบ่ายต่ออีกสองคาบและระหว่างที่ผมสอนอยู่ครูอรพรรณก็เดินาตามผมบอกว่าท่านผู้อำนวยการเชิญผมที่ห้องทประชุมเล็ก แม่และพ่อเลี้ยงของคริสโตเฟอร์เดินทางมาถึงที่โรงเรียนแล้ว

                              ผมก็รีบสั่งงานเด็กก่อนจะลงไปพบกับแม่ของคริสโตเฟอร์ ผมรู้สึกใจตุ่มๆต่อมๆแอบกลัวเหมือนกันถ้าหากแม่ของคริสโตเฟอร์เขาไม่เห็นด้วยในความรักของผมสองคนละ
               
                               ผมเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของผู้อำนวยการ ผมก็เห็นผู้หญิงดูไม่แก่น่าจะเกือบสีสิบได้ผิวสีแทนออกไปทางคล้ำ หุ่นสูงโปร่งรูปร่างผอมแต่ไม่เข้าขั้นบอบบางเพราะเป็นคนกระดูกใหญ่สันจมูกเป็นสันจนคมดวงตากลมโตรับใบหน้าเรียงมีสันกรามเล็กน้อย ลักษณะใบหน้าเป็นแบบที่ฝรั่งส่วนใหญ่ชื่นชอบ ยืนอยู่กับชาวต่างชาติหคนหนึ่ง ดูจากรูปร่างหน้าตาไปทางโซนยุโรบและเด็กผู้ชายหน้าออกลูกครึ้งคล้ายกับคริสโตเฟอร์แต่ไม่เหมือนวะทีเดียว อายุราวๆสองขวบกว่ากำลังยืนกอดขาผู้ชายคนนั้นอยู่เดาได้ว่านี้คือพ่อของเด็กและคริสโตเฟอร์ที่ยืนอยู่ถัดจากแม่ของเขาไปหน่อย ผมเดินเข้าไป

               "สวัสดีครับ..ผมครูเขมครับ" ผมทักทายและแนะนำตัวทันที

               "สวัสดีค่ะ..ดิฉัน..เป็นแม่ของคริสโตเฟอร์ค่ะ เรียกว่าดาก็ได้คะและนี้สามีดิฉันคะ..ฟิลิปส์ เขาพูดไทยได้นิดหน่อยคะ"

               "สวัสดีครับฟิลิปส์ ยินดีที่ได้รู้จักครับผมเขมชาติ หรือเรียกสั้นๆว่าเขมครับ"

               "สวัสดีครับคุณเขม ยินดีที่รู้ตักเช่นกันครับ"

               "สบายดีไหมครับ “

               "ครับสบายดีครับ แล้วคุณละเป็นยังไงบ้าง" เขาก็ตอบกลับอย่างสุภาพพร้อมกับถามตอบ

               "ผมสบายดีครับ "

               "เออ..คุณเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่นี้เหรอครับ "

               "แน่นอนครับผมเป็นครูที่นี้แหละเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและที่สำคัญผมสอนคริสโตเฟอร์ด้วยครับ"
 
               " ยอดเยี่ยม!..เขาพูดภาษาอังกฤษได้ใช่ไหมครับ"

               "ใช่ครับเขาพูดได้ เขามีพื้นฐานมาจากพ่อเขานะครับ ผมคิดว่ามันอยู่หัวเขาตลอดก็เหมือนคนไทยที่เรียนรู้ภาษาไทนมาแต่เด็กต่อให้ต้องไปอยู่ที่อื่นโดยภาษาที่สองเขาก็ยังคงพูดภาษาไทยได้อยู่ดีนะครับ"

               “ผมดีใจนะที่เขาพูดภาษาอังกฤษได้ "

               " ฟิลิปส์ค่ะ...คุณช่วยพาสตีเฟนลงไปข้างล่างก่อนได้ไหมคะ ระหว่างที่ฉันจะคุยธุระนะคะ”

               “ได้ซิครับ..สติเฟนพ่อพาไปเดินข้างล่างนะ”

               “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณเขม ..ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง...บายครับ”

               “เช่นกันครับยินดีที่รู้จักอีกครั้ง คุณฟิลิปส์..บายครับ”

               ผมกล่าวปิดการสนทนาก่อนจะหันมาทางผู้อำนวยการว่าจะคุยกันที่ไหนดี ผู้อำนวยการผายมือไปทางห้องประชุมเล็กผมและแม่ของคริสโตเฟอร์พากันเข้าไปคุยกันด้านในห้องประชุมห้องเล็กของโรงเรียน คริสโตเฟอร์มองผม ผมพยักหน้าว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ผมเดินไปนั่งตรงข้ามกับแม่ของคริสโตเฟอร์ และคริสโตเฟอร์นั่งลงข้างๆผม

               "ผู้อำนวยการค่ะ ดาขอโทษด้วยนะคะ ที่ต้องมาเป็นธุระให้ดาอีกแล้วนะคะ"

               "ไม่เป็นไรคุณดาถือว่าช่วยๆกันเพราะยังไงนายคริสโตเฟอร์นี้เขาก็เป็นลูกศิษย์ของผมเหมือนกันแม้จะไม่ได้สอนก็ตาม" ผู้อำนวยหันไปตอบแม่ของคริสโตเฟอร์

               "ครูเขมคค่ะ ..มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ...ดิฉันไม่ได้ว่าครูนะคะแค่อยากทราบนะคะ"แม่ของคริสโตเฟอร์หันมามองหน้าผม ผมก็หันไปมองหน้าคริสโตเฟอร์ก่อนที่ตอบแม่ของเขา

               "เกือบจะสี่อาทิตย์ได้แล้ว...ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดเรื่องนี้แต่แค่..ไม่มีโอกาสได้บอกก่อนเท่านั้นเอง"

               "ค่ะ..ดิฉันไม่ได้ว่าตรงนั้นหรอกคะ..ดิฉันคิดว่าคุณปกปิดเพื่อปกป้องเขา" พูดและหันไปมองคริสโตเฟอร์
               
               "แต่ลูกตัวดีของดิฉันซิคะกว่าจะบอกได้ก็เกิดเรื่องพอดี..มันน่าไหมละคริส..และนี้ยังทำให้ครูเขมเขาเดือนร้อนอีก" แม่ของคริสโตเฟอร์พูด

               "ผมขอโทษครับแม่ ผมขอโทษครับผู้อำนวยการ” คริสโตเฟอร์ยกมือไหว้แม่และผู้อำนวยการ”

               “แต่ผมรักครูเขมจริงๆ..และครูเขมเขาก็หวังดีกับผมไม่ได้มาทำร้ายผม..และเขายังทำให้ผม...เรียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น" คริสโตเฟอร์พูด ผมเห็นสายตาท่านผู้อำนวยการที่มองพวกผมอย่างเมตตา

           “และที่สำคัญเรารักกันนะครับแม่” คริสโตเฟอร์พูด ผมพยักว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แม่ของคริสมองผมยิ้มๆให้

           “ เอาจริงๆก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร คนลือกันเยอะไปเองก็เท่านั้นแหละครับ เลยทำให้ ท๊อคออฟเดอะทาวน์ไปอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ “ ท่านผู้อำนวยการพูดป่นขำ

           “และที่เขาลือกันหนาหู ก็เพราะว่า นายคริสนี้ก็หล่อระดับต้นๆของโรงเรียน “ ผู้อำนวยการพูด นายคริสหันขวับมาหยักคิ้วให้ผมทันที

           “ดูจากที่ผ่านมา สาวๆนี้ตบตีกันทุกวันแย่งพ่อพระเอกประจำโรงเรียนลูกคุณแม่นี้แหละครับ” อันนี้ทำเอาผมแอบขำแต่คนข้างๆถึงกับขมวดคิ้วเลย เรทติ้งดีนะ ผมหันไปมองคริสที่แอบหยักคิ้วให้ผม

           “และครูเขมครูมาใหม่ไฟแรงหล่อด้วย นิสัยดี น่ารัก มาครบหมดทุกฟังชั่น ทำเอาครูและนักเรียนตกหลุมรักไปตามๆกัน แต่ดันมา...สอยนักเรียนชายของผมซะงั้น แถมเล่นคนหล่อประจำโรงเรียนซะด้วย “

           “ทั้งครูและนักเรียนอกหักกันระนาวเลยนะครับคุณแม่....โรงเรียนของผม” ผู้อำนวยการพูด ผมก็ต้องยกมือขึ้นเกาหัวหน่อยๆ ผมไม่ได้ตั้งใจครับผู้อำนวยการ 


           “แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไม่กล้าที่จะคัดค้านทั้งคู่ก็เพราะนายคริส ที่การเรียนดีขึ้น “ผู้อำนวยการพูดและหันมาทางคริส

                      "ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษนะครับ ครูท่านอื่นๆเอ่ยปากชมว่านายคริสดีขึ้นเร็วมากตั้งแต่ครูเขมเข้ามานี้แหละไม่หนีเรียน ไม่ขับรถมอเตอร์ออกไปข้างนอกโรงเรียน..ก็ถือว่าผลงานของครูเขาดีจริงๆนะครับ" ผู้อำนวยการพูดเสริมให้ผมอีกที

                      "ทว่าครูกับนักเรียนรักกันมันก็ไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่”

“แต่เท่าที่ผมเห็นครูเขมเขาวางตัวกับคริสโตเฟอร์ในโรงเรียนค้อนข้างดีทีเดียว ส่วนเรื่องที่
เกิดขึ้นจนทำให้ทุกคนทราบน่าจะเป็นเพราะความหล่อเกินไปนะ..ทำให้สาวๆเขาไม่พอใจเลยเอามาบอกผม" ผู้อำนวยการพูด แม่ของคริสโตเฟอร์หันขวับมามองหน้าลูกชายของเขาทันที และนายคริสก็หันไปยิ้มแหยๆ เป็นไงละ ผมแอบเหล่สมน้ำหน้าเล็ก หล่อดีนัก คนข้างๆผมทำปากยู่ใส่ผม และผมก็แอบหยิกให้อยู่นิ่งๆ ผู้อำนวยการแอบมอง โดยการแอบหยิกเบาๆ

                      "และที่สำคัญนายคริสก็ยังอยู่ม.4 ผมอยากจะให้รอให้เด็กเรียนจบก่อน" ผู้อำนวยการพูดและหันมามองผม

                      "แต่ผมแอบไปได้ยินมาครูมีทางออกไว้ให้เขาไม่ใช่เหรอครับ" ผมสะดุ้งยังแอบได้ยินเรื่องผมมาอีกเหรอครับ

                      "ครับผมได้ปรึกษาเพื่อนผมและผมก็ได้พูดคุยเรื่องนี้กับคริสโตเฟอร์ เรื่องการเข้าสอบเทียบมัธยมปลายเป็นหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก คือหลักสูตรสอบเทียบม.ปลายของอเมริกานะครับ หรือ GED " ผมพูดท่านผู้อำนวยการถึงกับพยักหน้า

                      "แล้วคริสโตเฟอร์ว่ายังไงละลูก มันยากไปหรือเปล่า"

                      "ไม่ครับแม่ผมอยากไปสอบครับและผมก็เริ่มอ่านหนังสือบ้างแล้วพี่เขมพาไปหาซื้อหนังสือมาหนึ่งชุดและพี่เขมก็ยังติวให้ผมทุกวัน ตอนเที่ยงครึ้งและหลังจากพี่เขมสอนติวเสร็จแล้วทุกวันครับแม่" คริสโตเฟอร์พูด

                      "ถ้าเราคิดว่าเราไหว ...แม่ก็คงไม่ขัดอะไรท่านผู้อำนวยการ"

                      "ดิฉันคงไม่กล้าขัดอะไรหรอกคะท่าน...ถ้ามีคนที่หวังดีหยิบยื่นโอกาสดีดีให้ลูกชายดิฉันได้ขนาดนี้..ต้องขอบคุณเสียด้วยซ้ำค่ะ" แม่ของคริสโตเฟอร์พูดเขามองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่ปลื้มปิติยินดี

                      "แต่ว่าจะรบกวนคุณครูมากไปหรือเปล่าคะ"

                      "ไม่หรอกครับผมเต็มใจ...ผมเต็มใจที่จะดูแลเขา."

                      "ผมพูดตรงๆนะครับ..ผมรักเขา...และผมยินดีที่จะดูแลเขาแทนคุณแม่..ถ้าคุณแม่ไว้ใจผม" ผมพูดพร้อมกับหันมามองหน้าคนข้างๆผมเขาก็กุมมือผมไว้

                      "ถ้าอย่างนั้นดิฉันก็คงไม่มีข้อขัดแย้งใดใดค่ะ ท่านผู้อำนวยการ..ดิฉันเชื่อใจครูเขมคะท่าน"

                      "เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่ายแล้วนะครับ...แต่ผมก็ยังจะขอให้ครูเขมกับคริสโตเฟอร์คงรักษาซึ่งสถานภาพของครูกับนักเรียนในขณะที่อยู่ในโรงเรียนแบบนี้แต่เสาร์อาทิตย์ผมไม่เข้าไปก้าวก่ายแน่นอน" ผู้อำนวยการพูด

                      “ยิ่งคุณแม่ไม่ขัดแย้งอะไรตรงนี้ก็คงไม่มีปัญหาเหมือนครูมิ้งกับแชมป์อันนั้นป้าเขาขัดแย้งมากไม่ยอมจนกระทั้งเด็กหนีตามครูไป”

                      “เด็กผู้ชายเหรอคะผู้อำนวยการ”ดูแม่ของคริสยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ

                      “ครับคุณดาและผมหวังว่าครูเขมจะหาตัวครูมิ้งเจอ...ครูเขมคนนี้เขาดีมากและนักเรียนที่นี้ก็รักและอยากให้ครูเขมอยู่ด้วยกันนานๆ นี้พากันมาลงชื่อทำให้ผมสั่งพักงานครูเขมไม่ลงนะครับคุณดา” ผู้อำนวยการพูด

                      "ส่วนนายคริสโตเฟอร์...ก็ตั้งใจเรียนแบบนี้อย่าเกเร อย่าเหลวไหลละเพราะคนที่จะเดือดร้อนนั้นคือครูเขมรู้ไหม ต่อไปนี้ทำอะไรคิดถึงแม่และคนที่เขาตั้งใจดูแลเธอ นั้นคือครูเขมอีกคน"ผู้อำนวยการบอกคริสโตเฟอร์เขาก็พยักหน้าและหันมามองผม

                      "ขอบคุณนะคะท่านที่เมตตา คริสโตเฟอร์มาโดยตลอด ให้อภัยแล้วให้อภัยอีกไม่รู้กี่ครั้งกี่หน" แม่ของคริสโตเฟอร์หันไปยกมือไหว้ท่านผู้อำนวยการ

                      “ไม่เป็นไรครับอะไรที่ช่วยได้ผมยินดีช่วยอยู่แล้ว”
           
                      "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนแล้วคุณแม่กับครูเขมจะได้คุยกันต่อเพราะว่าผมมีเอกสารด่วนจากกระทรวงศึกษาธิการผมต้องรีบไปตอบกลับด่วน...แถมด่วนทุกอย่างยกเว้นตกเบิกช้าที่สุด ฮาๆ อันนี้ผมล้อเล่นนะครับ และผมคงจะลาเลยนะครับคุณดา ผมต้องรีบไปประชุมต่อด้วย " ผู้อำนวยการ ผมทุกคนก็ยกมือไหว้ท่านผู้อำนวยการ ก่อนที่ท่านจะเดินออกไปจากห้องประชุม

                              ผมหันไปสะกิดคริสโตเฟอร์ให้เข้าไปหาแม่เขาซิ คริสโตเฟอร์ก็ลุกขึ้นไป เขาก้มลงกราบแม่ของเขาในทุกเรื่องที่เขาทำไว้ เพราะวัยนี้ก็เหมือนหัวเหลียวหัวต่อนะผมว่า

                              "ไม่บ่อยเลยนะคะครูเขมที่ลูกชายตัวดีจะทำแบบนี้กับแม่..ตอนแรกคิดว่าโตเป็นหนุ่มเลยไม่อยากกอดแม่ซะอีก ...ฟ้อด!" แม่ของคริสโตเฟอร์พูดเขาหันมายิ้มให้ผม คริสโตเฟอร์ลุกขึ้นกอดแม่ของเขามันเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมากและแม่ของเขาก็หอมแก้ม และมันคงจะจริงที่แม่เขาพูดเขาคงเขินอายที่จะกอดแม่ตัวเองแบบว่าโตแล้วอะไรแบบนี้ แต่กับพวกผมไม่ใช่ไม่เคยเขินอายเลยกอดทุกที ถ้าเราเขินอายที่จะกอดแม่แต่กลับไม่เขินอายที่จะกอดคนรักผมว่านั้นแหละผิด

                              "เขม..แม่เรียกเขมแล้วกันนะคะ แม่คิดว่าเป็นลูกชายแม่อีกคน” ผมพยักหน้าได้เพราะว่าผมเต็มใจ

                              “ครับคุณแม่” ผมพูดและคริสโตเฟอร์หันมามองผม

                              “แล้วนี้การไปสอบมีค่าใช่จ่ายมากหรือเปล่าคะ"

                              "ผม...พอมีเงินเก็บอยู่บ้างนะครับ..และนี้คือการแสดงความรับผิดชอบของผมกับน้องเขาด้วยนะครับคุณแม่"

                              "บอกดิฉันเถอะคะคุณเขม..ดิฉันพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างไว้สำหรับให้เขาเรียนจะให้คุณเขมออกแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกคะยังไงเขาก็เป็นลูกชายดิฉัน"แม่ของคริสโตเฟอร์พูด

                              "เอาเป็นว่าถ้าผมต้องการให้คุณแม่ช่วยผมจะบอกแล้วกันนะครับแต่ตอนนี้ไม่มีครับ"

                              "แล้วนี้เราดื้อกับพี่เขมหรือเปล่า"

                              "ไม่ดื้อสักหน่อยแม่..คริสโตแล้วนะแม่" คริสโตเฟอร์ทำเสียงค้าน ผมก็หันหน้าไปมองทางอื่น

                              "แสดงว่าน้องดื้อใช่ไหมคะ"

                              "พี่เขม..ผมไม่ดื้อนะ" รีบเถียงเลยนะ แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยดื้อ

                              "ก็นิดหน่อยนะครับ" ผมพูด

                              "เชื่อฟังพี่เขมเขาและถ้าน้องดื้อแม่อนุญาติคะตีได้เลยคะ " คุณแม่อนุญาติแล้วด้วยและคนที่ได้ยินถึงกับทำท่าที่ไม่รู้ไม่ชี้

                              "ขอโทษนะคะเขมอายุเท่าไหร่แล้วคะ"

                              "ผมอายุ 25 ปีเต็มกุมภาพันธ์ปีหน้านี่แหละครับ "

                              "วันที่ 25 ครับแม่ 25  กุมภาพันธ์ คริสโตเฟอร์บอกวันเกิดผมเสร็จสับไม่รู้ว่าไปแอบดูมาจากไหนยังเลิกคิ้วขึ้นหยักคิ้วขึ้นลงและทำหน้าตาล้อเลียนผมอีก

                              "เพี๊ยะ!" นั้นไงแม่ตีแขนเลย
               
                              "ยังอีกพี่เขาอายุเยอะกว่ายังทำท่าล้อเลียนพี่เขาอีกเรานะต้องเคารพพี่เขาคริส"

                              ""โอเคมัม” คริสโตเฟอร์พูด

                               “คริสเขาเกิดวันที่ 25 ธันวาคม แม้วันที่25 เหมือนกันเลยนะ “ แม่ของคริสโตเฟอร์พูดและยิ้มๆให้ผมสองคน

                              "เขม ....อันไหนที่น้องทำไม่ถูกไม่ควรสอนได้เลยนะคะเขม ...แม่นะไม่ค่อยมีเวลามาอบรมสั่งสอนเขาเท่าไหร่ และพ่อคุณก็ไม่กลับไปบ้านเลยเสาร์อาทิตย์ " แม่ของคริสโตเฟอร์และหันไปมองคริส

                              “แม่ก็ช่วงนี้ผมติดเรียนกับพี่เขม”

                              “เสาร์อาทิตย์ด้วยเหรอเรา”

                              “ผมขยันนะแม่ เรียนเจ็ดวันเลย” นายคริสโตเฟอร์ ผมได้ยินนี้ก็เกาหัวเลย ไม่มีใครเขาสอนนายเจ็ดวันหรอกนะนายตัวดี

                              “หึหึ”แม่ของคริสโตเฟอร์แอบขำลูกชาย

                              “แม่เองก็ยุ่งค่ะเขม ที่สปาร์นะคะ มีลูกจ้างน้อย ทำเองซะส่วนใหญ่ แต่โชคดีที่ได้ฟิลิปส์ช่วยเหลือ”

                              “อันที่จริงปากกับใจเขาไม่ตรงกันหรอก ฟิลิปส์นะเขาก็เป็นห่วงคริสนะ แต่พ่อคนนี้ซิเขาแข็งกร้าวเหมือนพ่อของเขาและฟิลิปส์นะมีปัญหาเวลาเมาเท่านั้นแหละ ปากเสียตอนเมานะเขม" แม่ของคริสโตเฟอร์พูด

                              “และพ่อคุณนี้ก็หัวร้อนง่าย แม่ก็กลัวเขาจะมีเรื่องกัน แม่ก็เลยไม่ค่อยห้ามเขาเวลาเขามาบอกจะไปหาเพื่อนหรืออะไรแต่ก็คอยกำชับไม่ให้ไปยุ่งกับพวกยาเสพติดแค่นั้น”ผมก็ยิ่มและจู่เสียงเคาะประตูห้องที่ผมกำลังคุยก็มาขัดการสนทนาของผมกับแม่ของคริส

               “ก๊อก” เสียงเคาะประตูห้องที่ผมกำลังคุยกันอยู่ ครูนิดนั้นเอง

               “ขออนุญาตินะคะครูเขม พอดีพี่ว่าจะรีบไปประชุมกับท่านผอ.นะคะ ขอทักทายเพื่อนครูแป๊ปหนึ่งนะคะ”

               “เชิญครับครูนิด”ผมพูด

               “ดาเป็นไงบ้างไม่ค่อยได้เจอกันเลยมีแต่โทรคุยขอบใจของฝากเยอะแยะอีกแล้ว นิดจะรอให้ปิดเทอมจะลงไปหาที่ภูเก็ตนะ ลูกสาวอยากไปเล่นน้ำทะเล "

“ได้จ๊ะนิด โทรหาดานะ ดาจะจัดห้องพักไว้รอ “

               “ไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะครูเขม บายนะดา นิดต้องไปกับท่านผอ.นะ “ครูนิดพูดก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไป
 
               "ครูนิดเป็นเพื่อนของดิฉันคะ เราเรียนโรงเรียนมัธยมด้วยกันนิดเขามีโอกาสมากกว่าได้ไปต่อมหาวิทยาลัยครู ส่วนแม่ก็ไปต่อแค่ ปวส และพอจบก็ทำงานบริษัท แต่ไม่นานก็โดนจ้างออก แม่ก้เลยตัดสินใจไปหางานทำที่พัทยา ไปอยู่กับพี่สาวที่แม่นับถืออีกที ”

                       “นั้นแหละแม่ถึงได้รู้จักพ่อของคริส ตอนนั้นแม่ทำงานที่บาร์ที่พัทยา แต่แม่ทำในตำแหน่งผู้จัดการค่ะ และไปเจอเดนิสเขาที่นั้น “

                       “ตอนนั้นเดนิสเขาทำงานเป็นช่างภาพอิสระและมาถ่ายรูปให้ค่ายหนังที่มาถ่ายทำในไทย และแม่กับเขาก็ได้เจอกัน ได้คุยกันและสานสัมพันธ์กันเรื่อยมาจนกระทั้งคบกันเป็นแฟน”

                       “เดนิสเขาก็ดูแลแม่ดีนะ ส่งเงินให้ใช้ เทียวมาหาตลอดแต่เขาบอกว่า ตอนนั้นแม่ก็ยังทำวีซ่าไปหาเขาไมได้ เพราะว่าเขาเคย สปอนเซอร์คนไทยและไปทำไม่ดีไว้จนต้องบอกเลิกและแม่เขาก็เลยไม่ค่อยปลื้มที่เขาจะมีแฟนเป็นคนเชียอีกครั้ง” แม่ของคริสโตเฟอ์พูด

                       “แต่แม่ก็คบเขาจนกระทั้งแม่ตั้งครรภ์และเขาก็ให้แม่อยู่บ้าน แต่แม่ก็ใม่ได้กลับไปกลับบ้านเกิดแต่ยังอยู่ที่พัทยา เพราะว่าเดนิสมักจะมาเพื่อพักผ่อนนะ เขาชอบทะเลที่ไทย มันเงียบและไม่มีคลื้นลมแรงเหมือนที่ออส” แม่ของคริสโตเฟอร์พูด

                               “และพอแม่คลอดคริสโตเฟอร์จนกระทั้งเขาอายุได้ขวบกว่าๆ เดนิสเขาบอกว่า เขาไม่สามารถที่จะไปหาแม่บ่อยๆได้ เดนิได้ทำวีซ่าให้แม่และยื่นเรื่องขอซิตี้เซนให้คริสเขา และแม่ก็ได้วีท่องเที่ยว แม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่จดแบบยืนยันความสัมพันธุ์แทน จนกระทั้งแม่มาออสเตรเลีย แม่ถึงได้ยื่นขอวีซ่าดิเฟคโตและแม่ก็ได้วี บริจจิ้ง บี ที่สามารถทำงานได้ด้วยนะคะ”

                              "แต่ตอนที่แม่ไปถึงประเทศออสเตรเลียความฝันที่วาดไว้ไม่ใช่เลยคะ แม่ของเดนิส ส่วนพี่น้องบางคนค่ะ เดนิสมีพี่สาวสองคนและพี่ชายสามคน ส่วนเขาเป็นเล็กสุด “


               “แม่เขารับดิฉันไมได้ส่วนพี่น้องเขาไม่ยุ่งอยู่แล้วและเขาก็ดีกับแม่นะ และเหตุผลที่แม่เขาไม่ชอบแม่ก็เพราะว่าแม่เคยทำงานที่บาร์ และยังมีภรรยาของเพื่อนของแฟนอีกทีที่เป็นคนไทยคอยยุยงพูดให้ทางครอบครัวของเดนิสไม่ต้อนรับแม่อีก"

               “แม่นะเคยทำงานที่บาร์ก็จริงแต่แม่ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการค่ะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พอได้ยินว่าทำที่บาร์มาก่อนก็มองแม่ไม่ดีกันแล้ว ส่วนคนไทยนะ พอเห็นเดินกับฝรั่งก็มองว่าทำงานอย่างว่าอีก “ แม่ของคริสโตเฟอร์พูด ส่วนผมก็เห็นใจเพราะว่าคนส่วนใหญ่คิดแบบนั้นจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาเอาตรรกะอะไรคิดกัน

                               “แต่ก่อนแม่จะได้บริจจิ้ง เอ เป็นวีซ่าสำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่าที่ประเทศออสเตรเลีย ตอนนั้นแม่ยื่นขอดีแฟคโต้ไว้ เพราะว่าแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส  แม่ก็รออยู่นานมากแม่คิดว่าวีซ่าแม่คงติดปัญหาหลายอย่างอยู่ ต่อให้แม่มีลูกกับเขาก็ตามและแม่ก็ไม่เคยไปใช่ชีวิตที่นั้นมาก่อน”

                               “ช่วงที่แม่รอวีซ่าแม่ก็ไปอยู่ที่บ้านแม่ของเดนิสเขาทีเพิร์ทค่ะ แต่แม่ก็ลำบากใจมากเพราะว่าแม่ของเขาไม่ค่อยชอบแม่ คงเนื่องจากคนเก่าทำไว้แฟนเก่าของเดนิสนะคะ เขามีแฟนคนไทยและเลิกกันก่อนจะมาเจอแม่ ไม่กี่เดือนค่ะ”


                               “ และเขาก็คนแก่ที่กลัวลูกทุ้มความรักให้ดิฉันกับลูกมากเกินไป แต่เขาก็รักคริสโตเฟอร์นะ แม่มีปัญหากับแค่แม่ของเขานะ พี่น้องเขาน่ารักมาก “

                               “แต่ด้วยปัญหาที่จูจี้จุกจิก และเดนิสคงเห็นแต่เขาไม่พูด จนมาที่ปัญหาที่หนักสุดคือเพื่อนของเดนิสเขาได้ผู้หญิงคนไทยนั้นแหละค่ะที่ชอบมาคุยมาบอกแม่ย่าว่าพี่นะ แอบคุยกับผู้ชายและส่งเงินให้ใช้”


                               “ แม่นี่นะส่งให้แต่พ่อแม่ของแม่ทั้งนั้น แต่เงินนั้นเดนิสให้แม่อีกทีก็แม่ยังทำงานไม่ได้ และเมืองเล็กๆแบบนั้น ไม่ต้องถามเลย คนในพื้นที่ถ้าไม่ทำฟาร์มก็ไม่มีมีงานอื่นหรอกคะ แหล่งช๊อปปิ้งยังไม่มีเลยค่ะ จะซื้ออะไรทีต้องรอสามีขับรถพาไปชั่วโมงหนึ่งเต็ม “

                              “แม่เขาก็ต่อว่าแม่และยังไปบอกให้เดนิสเลิกกับแม่ แต่ดีที่เดนิสเขาไม่ฟังใคร และเขาก็บอกแม่ของเขาว่าขอย้ายไปอยู่เมลเบิร์นแทน ตัวแม่เองนี่ก็ดีใจมาก และคริสก็เริ่มเข้าkindergaden ได้” ผมพยักหน้าตาม


                              “และแม่ก็จะได้ไปหางานทำได้ แม่ก็ได้งานร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านอาหารไทยคะ เป็นคนในครัว ทำงานหนักมาก เงินก็ไม่ได้ถึงกับว่าดีนะ เพราะว่าเขาหักนั้นหักนี้ ไหนจะภาษีอีกละ แต่สุดท้ายแล้ว แม่โดนเจ้าของร้านแอบเอาไปยื่นภาษีเองและแม่ก็ไมได้ภาษีคืน “แม่ของคริสโตเฟอร์พูด

                              “แม่นี้ท้อหนักมากนะเขม เดนิสเขาอยากให้อยู่บ้านไม่ต้องไปทำงานแต่ ที่ประเทศออสเตรเลีย ค่าครองชีพมันสูงแต่ค่ากินอยู่ก็สูงตามนะคะ ค่าเช้าบ้าน ก็ สองร้อยกว่าดอลล่าร์แล้วค่ะ ต่อสัปดาห์ และไหนจะค่าอาหารการกิน แต่ละสัปดาห์ก็สองสามร้อยดอลล่าร์ “

                              “แม่ก็เลยทนทำต่อไป จนกระทั้งวันหนึ่ง แม่โดนคนออสฯแต่ไม่ทุกคนนะคะ คนนั้นคนเดียวที่แม่เจอ เขาไม่ชอบคนเอเชียเอามากๆ เหมือนพวกสัทธิแปลกๆ เขาเดินมาและถุยน้ำลายใส่แม่ ตอนนั้นแม่อยู่บนรถไฟค่ะ กำลังจะไปทำงาน แม่นี้ตกใจมาก” ผมได้ฟังก็เข้าใจ มีคนโดนมาหลายคนเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ส่วนเยอะมันแค่ส่วนน้อย

                              “โชคดีที่ขบวนนั้นคนเอเชียเยอะค่ะเลยช่วยแม่ไว้และกันนางออก แต่พอลงสถานี มีตำรวจมารอและจับนางไป นางยังด่าพี่อีกนะ ว่า Fuxx off เอเชีย และด่าสารพัด แม่ยืนน้ำตาไหล แม่คิดว่าแม่ไม่อยากอยู่แล้ว “

                              “พอแม่กลับมาบ้าน ไปรับคริสโตเฟอร์ที่โรงเรียน แม่เห็นคริสเสื้อผ้าเลอะเทอะ เหมือนโดนแกล้ง แม่ถามครูที่ดูแลเขาก็บอกเขาไม่เห็นอะไรเลย มันน่าไหมคะ เหมือนเขาไม่ใส่ใจ ซึงแม่ก็เคยแอบดูนะเวลาส่งลูกเราเสร็จ บางคนก็เข้าดูแลลูกเราดี บางคนก็ไม่สนใจเลย บางที่โดนเด็กแกล้งแต่คริสเขาเก่ง เขาสู้คน มันก็เลยกลายเป็นเขาผิดอีก แม่นี้สงสารจนแอบร้องไห้ตลอด” แม่ของคริสพูด

                              “บางทีไปรับนี้นะ ขี้ดินเต็มหน้าเต็มตาลูกเราเลย เขาบอกแม่ว่าเพื่อนสาดใส่หน้า แม่ก็โมโหนะ แต่บอกไปเขาก็ไม่ได้ทำอะไร “ แม่คริสโตเฟอร์พูดและหันไปมองหน้าคริส

                              “และพอแม่ได้งานเป็นแม่บ้านทีโรงแรมแห่งหนึ่ง ก็เหมือนจะดีขึ้นนะ งานก็หนักพอสมควร และคริสเริ่มเข้าเรียนชั้นประถม โอ้ย! อันนี้ ไม่ไหวจะเคลียร์ ตีกันกับเพื่อน เราเข้าใจเด็กบางคนพ่อแม่เชาไม่เคยสอนเรืองแบบนี้ เหมือนการบลูลี่กันประมาณนั้น แต่คริสก็ไม่ยอมคนอีกเหมือนกัน ...แม่นี้โดนครูโทรตามทุกอาทิตย์แต่บางทีแม่ก็ให้พ่อเขาไปแทนเพราะว่าภาษาอังกฤษแม่ไม่แข็งแรง” ผมก็เกือบจะกุมขมันแทนแม่เหมือนกัน

           “ที่หนักสุดจนพ่อเขาคิดว่าจะให้คริสเรียนแบบ โฮมสกูล ก็คงวันที่เขาโดนเพื่อนกัดที่แขน เรียกว่าจมเขี้ยวเลยนะ ครูโทรตามแม่จากที่ทำงาน พอแม่ไปถึงแม่เห็นคริส แม่โกรธมากที่เห็นคนทำกับคริสแบบนั้น “ ผมก็พยักหน้าเห็นใจเลย เป็นใครก็โกรธ

           “แต่พอครูพาคู่อริมา แม่ก็ต้องกุมขมับเขม คนที่มีเรื่องกับคริสนะ ดังหัก ตานี้เขียวแป้ดเลยสองข้าง ปากแตก  คิ้วเกือบแตก” พอแม่พูดอันนี้ผมกุมขมับแทนครับแม่

           “หนักกว่าคริสเข้าไปอีก พอกลับมาบ้านเดนิสทำโทษคริสหนักมกกว่าทุกครั้งและบอกกับแม่ว่า คริสต้องเรียนโฮมสกูล “ แม่ของคริสโตเฟอร์พูด


                              “แม่รู้แม่เห็นว่าคริสนะโดนมาเยอะ และในตอนนั้นแม่เองก็เริ่มจะไม่ไหวเหมือนกัน เพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างนะเขม และเดนิสเขาก็มีงานที่ไมได้อยู่กับที่ เขาเดินทางบ่อยโดยเฉพาะต่างประเทศ แม่เริ่มที่จะต้องจัดการหลายๆอย่างตามลำพังและมันก็เริ่มกดดันแม่ แถมยังต้องมาเจอเพื่อนร่วมงานอีก และการเป็นอยู่ และด้วยความที่แม่คิดถึงบ้าน อาหารการกินด้วย จะมากลับไทยบ่อยๆก็ไม่ได้ค่าตั๋วก็แพง แม่เลยคิดว่าไม่อยากอยู่แล้ว อยากกลับไทยแบบถาวรเลย” แม่คริสโตเฟอร์พูด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 22:48:07 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.24.1 ครูเขม x คริส การสนทนาระหว่างแม่ของคริส 2
                 
                  “แม่บอกเดริสว่าขอกลับไปเที่ยวที่บ้านก่อนที่คริสจะเปิดเทอม พ่อเขาก็จองตัวให้แบบไปกลับนะและจังหวะที่เขาต้องเดินทางไปทำงานที่ยุโรป นานเลยสี่สัปดาห์ได้”       

        “และแม่ต้องการพาคริสกลับไทยถาวรด้วยเช่นกัน แต่แม่จะทำยังไงดี ให้คริสไปและหาที่เรียนต่อได้เลย แม่ก็เลยปรึกษาคนที่รู้คนหนึ่งและเขาก็ช่วยให้คำแนะนำทุกอย่างแม้กระทั้งช่วยเรื่องคริสได้พาสสปอร์ต โดยใช้แค่ใบมอบอำนาจจากพ่อของคริสที่เขาเซนต์ไว้ให้แม่ก่อนที่เขาจะไปยุโรป”

                     “ อันนี้พ่อเขาทำไว้ให้เอาไว้ตอนแม่จะพาน้องบินไปไทยค่ะ เพราะว่านามสกุลแม่กับคริสไม่เหมือนกัน คริสเขาใช้นามสกุลพ่อและนั้นก็มักจะโดนทักเรื่องพาเด็กออกนอกประเทศและเข้าประเทศไทย “

                      “เดี๋ยวนะคะ คนที่เคยช่วยแม่เรื่องเอกสารของคริสนี้นามสกุลเดียวกับเขมเลยค่ะ เขาเป็นนักการทูตค่ะ “ แม่ของคริสโตเฟอร์ชี้มาที่ป้ายชื่อที่ผมห้อยคอไว้ นั้นคือบัตรประจำตัวครูที่โรงเรียนนี้ ผมก็ก้มมองป้ายชื่อประจำตัวครูที่ทำการสอนที่นี้
     
   "พ่อผมชื่อพิทักษ์ครับ พ่อผมเป็นนักการทูฑที่ทำหน้าที่ประจำสถานทูตไทยในประเทศต่างๆนะครับ ท่านเคยเดินทางไปประจำที่ออสเตรเลียอยู่สี่ปีก่อนจะย้ายไปประจำที่อังกฤษสองปีและกลับมารักษาด้วยเรื่องจากป่วยครับ ตอนนี้ท่านเสียชีวิตไปได้ห้าปีแล้วครับ" ผมพูด
 
                         "ใช่คะคุณพิทักษ์จำได้แล้วคะ “

                       “ เขมรู้ไหมว่าท่านช่วยคริสหลายเรื่องมาก เรื่องเอกสารจากโรงเรียน ท่านก็โทรคุยให้แม่คุยภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการกับเขาไม่ได้ ท่านจัดการให้หมดเลยเขม แม่นี่เป็นหนี้บุญคุณท่านเยอะเหลือเกิน " แม่ของคริสโตเฟอร์พูดบอกผม
 
 
                        “ท่านเสียแล้วเหรอค่ะ แม่เสียใจด้วยนะเขม ท่านดีมากเลย ถ้าแม่ไม่ได้ท่าน แม่ก็คงงมอยู่ตรงนั้น ครั้นแม่จะให้เดนิสทำให้เขาก็จะรู้ว่าแม่จะไม่กลับไปหาเขาและเขาก็จะไม่ให้คริสมากับแม่ แม่ห่วงเขามาก”
 
                         “และที่แม่รู้จักท่านก็ผ่านเพื่อนของแม่ที่มีปัญหากับแฟนฝรั่งคะ เขาขอวีซ่าไปพร้อมๆกับแม่ แต่เขาโชคร้ายกว่าแม่ค่ะ แฟนเขาเมาและอาละวาดแถมยังไล่ออกนอกบ้านกลางดึกค่ะ เงินติดตัวก็ไม่มี ตั๋วเครื่องบินก็โดยยกเลิกทันที รวมทั้งวีซ่าที่เขาสปอนเซออีก และคุณพ่อของเขมนี้แหละค่ะที่ช่วยติดต่อบ้านพักฉุกเฉินให้และทำเรื่องถูกทำร้ายร่างกายจนเพื่อนแม่ได้ตั๋วบินกลับไทย ในกรณีที่มาแล้วถูกทำร้ายค่ะ”
 
                          “ตอนนี้นางไปแต่งงานกับคนเยอรมัน ได้ดิบได้ดีไปแล้วแต่ก็ยังบ่นถึงคุณพ่อของเขมอยู่เลยนะคะ นางคงไม่รู้ว่าท่านเสียแล้วนะคะ”
 
                           “และพอแม่ได้กลับไทยสมดังที่แม่ต้องการ ได้เอกสารที่จะพาคริสมาเข้าเรียนได้และแม่ก็พาคริสโตเฟอร์ไปเข้าทะเบียนบ้านเรียบร้อยแต่..”
 
                              “ นั้นคือการสินใจที่เหมือนจะผิดพลาดของแม่อีกครั้ง เพราะแม่ทำให้คริสมาเจอเรื่องที่แย่ๆไปกว่านั้นอีก ฮึก ฮึก ” แม่ของคริสพูดและปาดน้ำตาไปด้วย ผมก็รีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ทันที ส่วนคริสโตเฟอร์ก็หันไปจับมือแม่ของเขา
 
                              “ขอบคุณจ๊ะเขม” แม่ของคริส
 
                              “เพราะว่าสถานการณ์มันแย่ลงเขม แม่โดยเพื่อนๆบ้านนินทา ว่าแม่ถูกสามีทิ้ง ซมซานกลับมา ถูกไล่มาบ้างและก็ต้องกระเตงลูกมาด้วย พ่อแม่พี่น้องก็อับอายเขาไปทั่ว เพราะว่าไม่มีบ้านใหญ่โตเหมือนคนอื่นๆเขา และคริสก็ยังโดนล้ออีก เก้าขวบเริ่มเข้าใจเริ่มรู้แล้วไม่เหมือนตอนเด็กเล็กๆ ก็เริ่มตอบโต้กลับโดยใช้กำลังบ้าง “
 
                              “แม่เสียใจมากและแม่มีเพื่อนที่แม่เคยรู้จักที่พัทยา แต่เขาย้ายไปอยู่กับแฟนเขาที่ภูเก็ต และเขาก็ชวนแม่ไปที่นั้น แม่ก็เลยตัดสินพาคริสไปและไปเรียนที่นั้นด้วย แม่คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ไปตายดาบหน้า และนั้นแม่ก็คิดว่าเดนิสเลยติดตามแม่ไม่ได้ด้วย “ แม่ของคริสโตเฟอร์พูด
 
                              “เพราะแม่ตัดขาดการติดต่อทั้งหมดกับเดนิส เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนชื่อ และแม่ก็บอกทางบ้านว่าถ้าเขาติดต่อไปที่นั้นไม่ต้องบอกเขาว่าแม่อยู่ที่ไหน ทางบ้านเกิดแม่นะคะเขม พ่อแม่และพี่น้องของแม่ก็อยากให้แม่ไปหาแฟนคนใหม่อยู่แล้ว เพราะพวกเขาตั้งความหวังไว้ที่แม่สูงเกินไป คิดว่าแม่จะเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆในหมู่บ้านที่ไปแต่งงานกับต่างชาติและได้เงินก้อนโตมาซื้อที่ ปลูกบ้าน พาญาติพี่น้องไปทำงานต่างประเทศ แต่ไม่ใช่กับเดนิส เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้แม่ช่วยเหลือครอบครัวจนเกินตัวไป ดังนั้นไม่แปลกที่เขาจะไม่เคยไปบ้านเกิดแม่สักครั้งและนั้นก็ยิ่งยากถ้าเขาจะตามหาแม่ ”
 
                             “คุณแม่ครับ ถ้าอย่างนั้นพ่อของคริสโตเฟอร์ก็ไม่ได้ทิ้งเขาไปอย่างที่เขาเข้าใจนะซิครับ”ผมเอ่ยปากถามแม่ของคริสโตเฟอร์ แม่ของคริสมองหน้าผมแบบรู้สึกผิด
 
                              “ใช่ค่ะ..แม่โกหกคริสเพื่อให้เขาเลิกถามถึงพ่อเขา..ฮึกๆ” แม่ของคริสโตเฟอร์ร้องไห้และคนที่นั่งข้างๆผมเขามีสีหน้าตกใจไม่แพ้กันแต่ผม พยักหน้าไม่อยากให้เขาโกรธแม่ของเขาผมคิดว่าเขาทำไปเพราะไม่อยากเสียคริสโตเฟอร์ไปและสถานการณ์ของแม่คริสโตเฟอร์เขาเรียกว่ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ไม่ผิดหรอกหากมีช่องทางที่ดีกว่าและเขาจะเลือกมัน
 
                               “แล้วแม่ก็ไม่อยากกลับไปใช้ชิวิตเดิมๆกับเขา และแม่ก็เลยย้ายคริสโตเฟอร์ไปเรียนโรงเรียนที่ภูเก็ต ส่วนเดนิสก็หายเงียบไปคงเป็นเพราะว่าเขาติดต่อแม่ไม่ได้ ส่วนแม่ก็ได้งานดูแลกิจการรีสอร์ทของเพื่อนแม่นั้นแหละค่ะ เป็นรีสอร์ทที่เพิ่งจะสร้างหลังจากเกิดซึนามิไม่นานจนแม่ได้เจอกับ ฟิลิปส์ที่เพิ่งจะหย่าขาดจากภรรยาเขา เขามาเที่ยวและเขาก็คิดว่าอยากจะย้ายมาอยู่ไทย และพอเขากับแม่ตกลงปลงใจที่จะคบกัน เขาก็ทำเรื่องย้ายไปอยู่ที่ประเทศไทยทันที “
 
                               “แม่และฟิลิปส์ ได้จดทะเบียนสมรสที่บางรัก เพื่อเขาจะได้มีสิทธิ์ซื้อที่ดินและทำธุรกิจในเมืองไทยได้อย่างถูกกฏกหมายและนั้นคือจุดเปลี่ยนทั้งฉันและคริสโตเฟอร์เช่นกันคะ"
               
                               “ฟิลิปส์ก็ดูแลแม่และคริสโตเฟอร์ดีและเขาก็ส่งแม่ไปเรียนสปาร์และพวกนวดแผนไทย และต่อมาก็เปิดร้านสปาร์ให้แม่ด้วยเงินของเขาที่เขาได้มาเมื่อเขาเกษียรญอายุ มันก็เยอะมากพอสมควร และชีวิตแม่กับคริสก็ดีขึ้น จนกระทั้งทุกวันนี้ ส่วนคริสก็ย้ายจากโรงเรียนวัดมาเรียนโรงเรียนสามภาษาแทน และนั้นปัญหาของคริสก็เริ่มมา” แม่ของคริสพูดและหันไหมองคริสโตเฟอร์
 
                              “น้องไปมี่เรื่องอีก เพิ่งเข้าเรียนม.1 ได้ไม่ถึงเดือนเองแต่ครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง และเป็นลูกผู้มีอิทธิพลซะด้วย และเขาก็พูดว่าเขาจะไม่เอาน้องไว้เขม..ฮีกๆๆ” ผมก็ตกใจ ผมหันมามองคริสโตเฟอร์สีหน้าเขารู้สึกผิดแต่ผมก็เข้าใจวัยนี้มันหัวเลี้ยวหัวต่ออยู่แล้ว
 
                              “แม่ต้องหาทางที่จะให้น้องออกจากที่นั้นก่อน แม่ก็คิดว่าเขาควรจะกลับไปอยู่กับพ่อเขาเพราะว่าเขายังเป็นซีตีเซนชิฟอยู่ แต่แม่ไม่มีเบอร์เขาแล้ว ที่อยู่ก็มีแค่ที่เพิร์ท ที่เมลเบิร์นก็ติดต่อไปแต่เขาย้ายไปแล้ว เพราะว่านั้นคือบ้านเช่า แม่รู้ว่าเขากำลังซื้อบ้านก่อนแม่จะออกมานะเขม”
 
                              “และพอแม่หาใครไม่ได้แม่ก็นึกขึ้นมาได้แม่มีเพื่อนนิ ชื่อครูนิด ครูนิดคุยกับผู้อำนวยการให้และให้แม่ขับรถพาน้องมาเลย แม่ก็ขับรถพาคริสมาที่นี้ ไกลแค่ไหนแม่ก็มา เพราะว่าแม่กลัวเขาทำอะไรน้องเขม ฮือๆ” ผมเห็นแบบนี้แล้วน้ำตาซึมเลย ส่วนนานคริสก็แอบปาดน้ำตา ผมเข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้นลงไป
 
                               "คุณแม่ครับผมขอถามอะไรหน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าจะละลาบละล้วงไปไหม ...คุณแม่เคยเปลี่ยนชื่อหรือเปล่าครับ"
 
                              "ใช่คะ ชื่อเดิมของดิฉันขื่อ วนิดาคะ ทำไมเหรอคะคุณเขม"
 
                              "ผมเคยเห็นจดหมายจากชาวต่างชาติตามหาครอบครัวเขา แต่ชื่อและนามสกุลเด็กนะมันจางมากจนอ่านไม่ได้ แต่ทีผมแปลไว้ชื่อผู้หญิงนั้นชื่อวนิดาครับ "พอผมพูด แม่ของคริสโตเฟอร์ยกมือขึ้นทาบอก
 
                              "นานหรือยังคะ" เธอถามผมเสียงสั่น คริสโตเฟอร์มองหน้าผม
 
                              "ตอนที่พ่อผมเริ่มป่วยครับผมคิดว่า เกือบหกปีกว่าได้แล้วครับ" ผมพูด แม่ของคริสโตเฟอร์ถึงกับน้ำตาซึม ผมรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าส่งให้เธอทันที
 
                              "ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันรู้สึกผิดมาคะคุณเขม ฉันเหมือนคนเห็นแกตัว เหมือนฉันรักตัวเองมากกว่า ถ้าฉันไม่พาคริสหนีออกมา ทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนี้ ฮืกๆ "
 
                              "ผมคิดว่าคุณเดนิสเขาเข้าใจคุณครับแต่ควรจะให้พ่อลูกเขาได้เจอกันนะครับ ..ผมจะลองส่งอิเมลไปหาเขาดู เขาชื่อเดนิส เอนโทนี่ ริสโซ ใช่ไหมครับ"
 
                              "ใช่คะถึงจะผ่านมาหลายปีฉันยังจำชื่อและนามสกุลเขาได้อยู่เลยค่ะ แต่ที่อยู่นี้แม่มีแค่ที่อยู่ที่เพิร์ทนะคะ เพราะแม่ใช้ที่อยู่นั้นเพื่อยื่นวีซ่าค่ะ "
 
                              "และเขาก็ระบุว่าครอบครัวของภรรยาเขาเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานีครับ"
 
                              "ฮึกๆๆ" น้ำตาใส่ๆไหลรินออกมาอีกครั้ง ผมเอื่อมมือไปแตะหลังมือแม่ของคริสโตเฟอร์แค่นั้น
 
                              "แม่.." คริสโตเฟอร์กุมมือแม่เธอไว้
 
                              "คุณแม่จะว่าอะไรไหมครับถ้า ผมอยากจะให้คริสโตเฟอร์ตามหาคุณพ่อของเขานะครับ" ผมพูดแม่ของคริสโตเฟอร์เขาก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
 
                              "ผมทราบครับว่าคุณแม่มีคนใหม่แล้ว แต่ผมอยากจะให้คริสโตเฟอร์ขจัดบางสิ่งที่ขัดข้องหมองใจเกี่ยวกับพ่อของเขาออกไปได้ไหมครับ"
 
                              “อันที่จริงแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะคะเขม ถ้าหากว่าเขาจะไปอยู่กับพ่อของเขา เพื่ออนาคต แม่ก็ยินดีค่ะ”
 
 
                              “ แม่ไม่ได้ผลักไสเราไปไหนนะคริส แต่ถ้ามีสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาแม่อยากให้เราเลือกสิ่งนั้น และแม่เชื่อว่าพ่อนะรักเรามาก แต่แม่เองที่เห็นแก่ตัวจริงๆคริส พ่อเขาไมได้ทำอะไรผิดเลย มีแค่แม่ที่ ...อดทนไม่พอ” แม่ของคริสหันไปพูดกับคริสโตเฟอร์
 
                               “แม่..คริสไม่อยากทิ้งแม่ไปนิ และคริสไม่อยากทิ้งพี่เขมไป ...แต่คริสก็คิดถึงแด้ดแม่ ฮืกๆ” ผมแอบน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ต้องหันหน้าหนี ปาดน้ำตาตัวเองผมก็คิดถึงพ่อผมเช่นกัน แต่พ่อผมจากไปแบบไม่มีวันกลับไม่เหมือนคริส
 
                              “ถ้าอย่างนั้นช่วยพี่เขมตามหาพ่อซิคริสและคุยกับเขาก่อน บางทีมันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ แม่เชื่อว่าพ่อเรานะ เขาเป็นคนที่เปิดกว้างเรื่องแบบนี้เช่นกัน” แม่ของคริสพูดและหันมายิ้มให้ผม
 
                               “และพ่อเรานะ รักเรามากคริส ทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเรา เขาทำงานหนักเก็บเงิน แม้ว่างานเขาจะไม่ได้แบกห้ามก็ตามนะ และที่สำคัญคือเขาให้ชีวิตเรา เราควรจะกลับไปหาเขา แม่เชื่อว่าเขารอลูกอยู่” แม่ของคริสโตเฟอร์บอกคริส คริสหันมามองหน้าผมก่อนจะหันไปพยักหน้าเบาๆให้กับแม่เขาว่าเขาจะตามหาพ่อของเขา
 
                              "ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งอิเมลหาเขานะครับแม่ แต่ผมคงต้องภาวนาขอให้เขายังใช้อิเมลเดิมผมจะพยายามติดต่อเขาดูนะครับคุณแม่ " ผมพูดและหันมามองหน้าคริสโตเฟอร์น้ำตาที่ปริมๆแต่เขาฝืนที่จะไม่ร้องไห้
 
                               "ขอบคุณนะคะลูกเขมแม่ขอบคุณจริงๆ ...และแม่ก็จะภาวนาขอให้ติดต่เขาให้ได้นะคะ ถึงดิฉันจะมีฟิลิปส์แต่เดนิสเขาก็ดีกับฉันนะที่ผ่านมาและครั้งนี้อย่างน้อยแม่ก็ทำเพื่อลูก..เรายังเป็นเพื่อนกันได้..ฉันคิดว่าเขาคงมีครอบครัวใหม่เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวที่พ่อแม่เขายอมรับนะคะ"
 
                               "คุณแม่ทำดีที่สุดแล้วครับ...คุณแม่รักและดูแลคริสโดยไม่ทิ้งเขาแค่นี้ผมว่าคุณแม่เป็นผู้หญิงที่เก่ง"
 
                               "อดีตที่เลวร้ายก็แค่ปล่อยให้มันผ่านไปเพราะถึงยังไงก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้..และผมก็เชื่อว่าคริสโตเฟอร์คือความภูมิใจขอบคุณแม่ในวันข้างหน้า เขาเองไม่ใช่เด็กที่ไม่เอาไหนแต่มีบางสิ่งที่ป่นเปื่อนในใจเขารอให้มันถูกปัดออกไปก็เท่านั้น..และนั้นก็คือเรื่องพ่อของเขา "
 
                               “ถ้าผมได้ข้อมูลอะไรผมจะรีบติดต่อคุณแม่ทันที"
 
                              "ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณจริงๆคะ ..ถ้าอย่างนั้นดิฉันคงต้องกลับก่อนเพราะว่าต้องไปดูสปาร์เพราะว่าคนงานไม่ค่อยมีหายากที่จะตั้งใจทำงาน ส่วนใหญ่มาทำไม่กี่เดือนพอหาสามีต่างชาติได้ก็ไปกันหมด"
 
                              “คริสอย่าดื้อกับพี่เขานะรู้ไหม ต่อไปพี่เขาว่าอะไรเตือนอะไรนี้ฟังนะ เพราะว่าเราเด็กกว่าพี่เขามีความรู้มีประสบการณ์มากกว่า “แม่ของคริสหันมาบอกคริสโตเฟอร์
 
                              “นี้เขาดื้อกับเราไหมเขม ถ้าห้ามไม่ฟังบอกแม่นะ เวลาแม่ดุเขาแม่ก็ดุจริงๆเลยนะเขมไม่อย่างนั้นเอาพ่อคุณไม่อยู่หรอก”
 
                      “มีวันแรกเลยครับแม่ เขาไม่ยอมเข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับผม ผมต้องไปตามเขาเพราะเขานั่งเล่นกีตาร์แทนทีจะขึ้นเรียนกับผม” ผมพูดป่นขำกับแม่ของคริส แม่คริสก็หันไปมองหน้าคริสโตเฟอร์ที่เกาท้ายทอยตัวเอง

                      “เขมคริสนะ เขาไปอยู่ที่ออสตั้งแต่ขวบกว่าๆ ตอนนั้นก็เริ่มหัดพูดได้บ้างคำ แต่พอไปอยู่ที่โน้น มีแต่คนพูดภาษาอังกฤษ พ่อเขา ย่าเขา และลุงกับป้าเขาอีก พี่ชายและพี่สาวเดนิสนะเขม และไหนจะไป เดย์แคร์อีก” แม่ของคริสพูดบอกผม ผมพยักหน้า เพราะว่าเด็กเล็กๆนะเรียนรู้ได้เร็วกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว

           “แม่นี้พูดไทยด้วยน้องไม่เคยตอบแม่เป็นภาษาไทยเลย พูดแต่ภาษาอังกฤษ จนแม่เออ ไม่พูดไม่ก็พูดและพอแม่จะกลับไปอยู่ไทย เอาละซิ แล้วถ้าไปอยู่ที่นั้นลูกจะไปคุยกับตายายรู้เรื่องไหมละเขม” แม่ของคริสพูดและหันไปมองคริสที่นั่งเกาหัว ผมก็เหล่ตามอง ผมเข้าใจว่าเขาไม่เอาภาษาอังกฤษเลยมาตั้งนาน

           “จังหวะที่เดนิสต้องไปทำงานที่นิวซีแลนด์สามเดือดและแม่กำลังจะขอเขากลับไทยหลอกว่าจะไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่ก่อนจะไปแม่ต้องขอไปทำเอกสารหลายเรื่อง แม่บอกว่าแม่ต้องทำใบเกิดไปเลยที่สถานทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร่า แถมคุณพิทักษ์ยังให้แม่ไปพักที่บ้านพักของท่านเลยคะ และแม่ก็บอกท่านว่ากลุ่มใจลูกไม่เอาภาษาไทยเลย ไม่รู้จะไปสื่อสารกับตายายยังไง ตอนนั้นท่านเลยแนะนำ ลูกชายเขานะ ให้สอนภาษาไทยให้คริสเขาเพราะว่าลูกชายเขาเก่งแต่แม่ไม่แน่ใจว่าใช่เขมไหม..มันนานมากอ่ะเขม “ ผมสะบัดหน้าไปมอง และผมก็ลองนับนิ้วดู

           “ตอนนั้นเขาอายุเท่าไหร่ครับแม่” ที่ผมถามเพราะว่า ผมและพี่ๆก็ทำวีซ่าไปเยี่ยมพ่อกันแต่ไปกันคนละรอบ

           “เก้าขวบ” แม่ของคริสโตเฟอร์บอกผม และผมก็เริ่มนับตอนนี้ 17ปี และถ้าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมอายุ 17 ปี ใช้นั้นผมไปออสเตรเลียครั้งแรกผมไปกับแม่ผมด้วย

           “แม่ครับ คนนั้นผมเองครับ ผมทำวีซ่าไปกับแม่ผมไปเยี่ยมหาพ่อผมที่นั้น และวันนั้นพ่อผมให้ผมสอนภาษาไทยเด็กคนหนึ่งลูกครึ้ง แต่ผมจำชื่อเขาไม่ได้เพราะว่าสอนได้สองสามวันเอง และน้องแทบจะไม่ยอมเรียนเลยครับ จะเล่นแต่เกมส์” ผมพูดและหันมมองหน้านายคริส ที่แถบจะหมุดหน้าหนีผม ผมเองจำไม่ได้แต่นานนี้น่าจะจำได้อยู่นะ

           “สุดท้ายก็กลายมาเป็นลูกศิษย์กันอีกครั้ง เขาเรียกพรมลิขิตแล้วมั้งเขม” แม่ของคริสพูดและหันไปมองคริส

           “แต่พอพ่อตัวดีมาอยู่ไทย ก็เกิดมาโมโหอะไรก็ไม่รู้ ไม่พูดภาษาอังกฤษกับฟิลิปส์ซะอย่างนั้น กวนดีไหมละเขมแถมยังไม่ยอมขึ้นเรียนภาษาอังกฤษเลยจนติดศูนย์และมานั่งแก้ทีหลัง” แม่ของคริสพูด

           “แต่เห็นแบบนี้นะ แอบไปทำงานเป็นไกด์ให้กับนักท่องเที่ยว อย่างดำนำอะไรแบบนี้ และไปร้องเพลงเปิดหมวกที่ถนนคนเดิน “ แม่ของคริสพูด ผมพยักหน้าเพราะว่าเขาเล่าให้ผมฟังมาบ้างแล้ว
 
                              “แม่ก็ไม่รู้จะขอบคุณเขมยังไงให้มันเพียงพอกับที่เขมทำให้น้อง แต่แม่ก็จะพูด ว่าขอบคุณจริงๆ”
 
                              “ผมยินดีครับแม่ และยิ่งตอนนี้ผมก็ยินดีมากๆที่จะช่วยเขาและดูแลเขาต่อจากแม่” ผมพูด
 
                              “อย่าลืมบุญคุณพี่เขมนะรู้ไหม เมื่อเราดูแลพี่เขมได้ เราต้องดูแลพี่เขาให้ดีและดีกว่าที่พี่เขาทำให้เราอีกเข้าใจไหมคริส ..”
 
                              “ครับมัม “คริสพูดและมองหน้าผม
 
                              "คริส เขม  แม่กลับก่อนนะลูก ..”
 
                               “คริสอยู่กับพี่เขมเขามีอะไรก็ช่วยพี่เขมนะลูกนะ..อย่าเอาแต่ขับรถเล่นละเราต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเองแล้วนะลูก ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ "แม่ของคริสโตเฟอร์พูด ผมหันไปมองเป็นไงละผมนะเตื่อนเขาเรื่องขับรถบ่อยแต่ช่วงสองสามอาทิตย์นี้เขาแถบจะไม่ได้แตะรถบิ๊กไบท์เขาเลยแต่ก็ขับรถเก๋งผมออกไปบ้างนี้รอให้สิบแปดก่อนจะพาไปสอบใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
 
                              “แม่คงต้องไปแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองเพื่อจะกลับภูเก็ตนะคะ”
 
                              “ได้ครับ...คุณแม่เดินทางปลอดภัยนะครับ”
 
                              “แม่ไปนะคริส..มีอะไรบอกแม่นะเรื่องเงินด้วยจะได้ไม่ไปรบกวนพี่เขมเยอะ นี้แม่ก็โอนเข้าบัญชีเราอยู่เรื่อยๆนะคริสและตั้งใจอ่านหนังสือจะได้สอบผ่านแม่ดีใจที่ลูกเห็นความสำคัญของอนาคต” แม่ของคริสโตเฟอร์พูดและเดินออกมาจากห้อง ผมพยักหน้าให้คริสโตเฟอร์เขาเดินไปส่งแม่ของเขา
 
                              “สวัสดีนะครับ...แม่”  ผมยกมือไหว้แม่ของคริส เองก็นับถือเป็นแม่ของผมอีกคน
 
                              “เรียกแม่นั้นแหละค่ะ เพราะว่าแม่ก็อายุจะสี่สิบห้าปีแล้วค่ะและแฟนลูกก็เหมือนลูกแม่เอง แม่เต็มใจค่ะ ”
 
                              “ผมก็ต้องขอบคุณแม่นะครับที่เอ็นดูผมเช่นกัน..นี้แม่ผมก็รักคริสโตเฟอร์เหมือนลูกชายแท้ๆ”
 
                              “ผมพาไปบ้านมาแล้วนะครับ.แม่ของผมเขาทำไข่ลูกเขยของชอบให้คริสโตเฟอร์..เขาทานเขาชอบทานมากนะครับ” แม่ของคริสหันไปมองลูกชายก่อนจะพยักหน้ากับผมเบาๆ
 
                              “แม่ฝากน้องด้วยนะคะลูก ดูแลกันดีดีนะ คริสก็ดูแลพี่เขมเขาบ้างเราเข้าใจไหม ”แม่ของคริสโตเฟอร์พูด
 
                               “มีอะไรก็หนักแน่นกันนะลูกนะ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยกัน แม่ไม่ห่วงเขมหรอกเพราะเขมดูเป็นผู้ใหญ่กว่า ห่วงแต่พ่อคนนี้แหละ” แม่ของคริสโตเฟอร์พูดและชี้ไปที่พ่อตัวดี
 
“ แต่จะว่าไป มิน่าละสีอาทิตย์ที่ผ่านมานี้แม่โทรคุยกับน้องนะเขม ความคิดน้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะเขม ” แม่คริสโตเฟอร์พูดก่อนจะหันไปเอามือแตะหัวคริส และหันมาแตะทีไหล่ผมอีกคน
 
                               “ไอมิสยูมัม “ คริสโตเฟอร์กอดแม่ของเขาและบอกว่าเขาคิดถึงแม่ของเขา
 
                               “ อ้อ เอาเบอร์เขมไหว้ด้วยกีกว่าเผื่อว่ามีอะไรจะได้คุยกัน “ แม่ของคริสโตเฟอร์ก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อบันทึกเบอร์ของผมลงในเครื่อง ฟิลิปส์เดินอุ้มลูกชายที่หลับพาดบ่ามาหาแม่ของคริสโตเฟอร์ และผมกับคริสโตเฟอร์ก็ร่ำลาแม่กับฟิลิปส์
 
 วันนี้คริสโตเฟอร์คงรู้และเข้าใจแม่เขามากขึ้นผมคิดว่าทุกเรื่องที่แม่ของเขาเล่ามาในวันนี้คริสโตเฟอร์ไม่เคยรู้มาก่อนและนี้เขาคงจะเลิกพูดว่าแม่รักเขาไหม ..ผมว่าแม่รักเขามาก ส่วนเรื่องพ่อเขาที่แม่เขาบอกว่าเขาโกหกเพื่อไม่ให้คริสถามถึงนั้น เขาก็คงไม่เอามาคิดโทษโกรธตรงนี้ เพราะการที่เขาไม่อยากให้คริสถามถึงนั้นเป็นเพราะว่าแม่ของเขากลัวจะเสียเขาไปนั้นเอง ผมคงต้องไปแกะข้อมูลในจดหมายฉบับนั้น แต่ตัวหนังสือมันก็จางมากเต็มที
 
                               “คริส! อาทิตย์นี้พี่จะให้เราพักนะไม่ต้องเรียนพิเศษ เพราะว่า เราต้องซ้อมหนักวันพุธจะได้มีแรงลงแข่งรอบชิงบาสเก็ตบอล” ผมหันมามองคริสโตเฟอร์ คริสโตเฟอร์พยักหน้าว่าได้ ส่วนผมก็ว่าจะกลับไปที่ห้องพักครูและจะร่างเขียนจดหมายถึงพ่อของคริสโตเฟอร์และค่อยส่งอิเมลตอนเย็น
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ปล.เรื่องที่ลงในตอนนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมุติขึ้นเท่านั้นค่ะ
                                                                                                   
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 22:52:12 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.25 ครูเขม Xคริส  งานเข้าคริสโตเฟอร์อีกแล้ว 1
`
Part ครูเขมชาติ
                       การสนทนาของผมกับแม่ของคริสโตเฟอร์ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แม่ของคริสโตเฟอร์ไม่ว่าอะไรหากผมกับลูกชายของเขาจะคบกับเรียกได้ว่าท่านเปิดทางให้แต่ผู้อำนวยการก็ขอไว้เรื่องการวางตัวในโรงเรียนซึ้งปกติผมกับคริสโตเฟอร์ไม่เคยแสดงกิริยาเกินไปกว่าครูนักเรียนกันในโรงเรียนอยู่แล้ว
           
                       แม่ของคริสโตเฟอร์ได้เล่าถึงสาเหตุของปัญหาระหว่างพ่อของคริสโตเฟอร์กับแม่ของเขาให้กับผมและคริสโตเฟอร์ฟังถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากที่ครอบครัวทางผู้ชายเขาไม่ยอมรับผู้หญิงทำงานบาร์ และนี้คงทำให้คริสโตเฟอร์รับรู้ว่าแม่ของเขานะต่อสู้กับปัญหามามากน้อยแค่ไหน เขาคงหมดความเคลือบแคลงใจว่าแม่รักเขาหรือเปล่าและ
 
            และอีกสิ่งที่หนึ่งที่ค้างคาใจเขาเกี่ยวกับพ่อ ความจริงก็คือพ่อไม่ได้ทิ้งเข้าไปแต่แม่ของเขาต้องการเลือกที่จะเดินออกมาเอง เพราะว่าชีวิตต่างแดนไม่ได้สวยหรูเสมอไป มีหลายคนที่พอไปอยู่แล้วก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไกลบ้านเกิดเมืองนอน  และตอนนี้แม่ของเขาก็ได้พบรักใหม่และดูจะราบรื่นกว่าและแน่นอนกว่า เพราะว่าแฟนใหม่ของแม่เขาเลือกที่จะอยู่ที่ไทยกับเขา
 
           และพอผมได้ทราบถึงสาเหตุจริงๆ ผมก็ตัดสินใจเขียนจดหมายขึ้นมาหนึ่งฉบับถึงชายชาวต่างชาติที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นคุณเดนิสพ่อของคริสโตเฟอร์และผมก็แนบเรื่องราวความประทับใจวัยเด็กของคริสโตเฟอร์ที่เขาคิดว่าเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด ผมคิดว่าพ่อลูกน่าจะมีสิ่งที่ประทับใจร่วมกันบ้าง ผมส่งอิเมลไปตามที่อยู่อิเมลที่ชายชาวต่างชาติคนนั้นได้ให้ไว้ในจดหมายและผมยังแสกนรูปถ่ายที่มีแม่เขาและพ่อเขาและคริสตอนยังเด็กซึ่งเป็นรูปที่เขาฉีกส่วนที่มีพ่อเขาออกไปและเขาก็ได้นำมันกลับมาแปะเหมือนเดิม ผมได้ส่งเป็นไฟว์แนบไปให้ ผมหวังว่านี้จะเป็นหลังฐานที่แสดงว่าผมไม่ใช่แสกมเมอร์แน่นอน  และผมก็หวังว่าเขาจะยังคงจะใช้อิเมลนี้
 
                       ผมไม่ได้หวังให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต่างคนอาจจะต่างมีคนใหม่แล้วก็ได้ ผมอยากให้คริสโตเฟอร์ลบภาพแสนเจ็บปวดในใจเขาหรือเขาอาจจะได้ช่องทางในชีวิตที่ดีขึ้นใครจะรู้จริงไหมครับ แต่ตอนนี้ผมได้แค่ภาวนาให้เขาติดต่อผมกลับว่าใช่เขาหรือไม่
 
                      “พี่เขม” ผมสะดุ้งจากการถูกสวมกอดเข้าทางด้านหลังของผม ก็คงไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับผมแล้วแหละนอกจากนายคริสโตเฟอร์ เมื่อวานเราคุยกันไว้ว่าจะเดินไปโรงเรียนด้วยกัน เราจะเดินคุยกันโดยเขาจะเป็นเดินมารับผมที่บ้านพักด้วย
 
                      “ฟ้อด” คนที่กอดผมจากด้านหลังกำลังโน้มตัวเพื่อหอมแก้มผม
 
                      “พี่เขมทำแซนวิสให้ผมเหรอ”
 
                      “ก็ใช่นะซิถ้าพี่ไม่ทำให้เราจะทำให้ใครละ”
 
                      “ อ้อ!....โป้ง ปันปัน โจและอาร์ทด้วยนิ “ ผมพูดแกล้งคนที่ยืนกอดผมอยู่เอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของผม ลมหายใจอุ่นก็รดต้นคอผมไปด้วย
 
                      “ดูท่าทางยังง่วงอยู่เลยนะเมื่อคืนนอนดึกเพราะคุยกับพี่ใช่ไหมเนี๊ยะ ..ถ้าอย่างนั้นคืนนี้งดแชทนะ” ผมพูดก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าผ้าที่ผมใส่สมุดการบ้านเด็กเอาไว้เมื่อวานเอามาตรวจด้วย คริสโตเฟอร์แบมือมารับไป
 
                      “นอนดึกจะเรียนไม่รู้เรื่องเอานะคริส” ผมพูดเป็นเชิงเอ็ดนิดหน่อย คริสโตเฟอร์เดินลงไปยืนรอผมที่บันไดชั้นล่างสุดส่วนผมก็กำลังใส่กุลแจล๊อกประตูบ้านเสียก่อน ผมเดินลงก็พากันเดินออกไปทางทีสามารถลัดเลาะไปทางด้านหลังจะผ่านสนามฟุตบอลของโรงเรียน
 
                      “พี่ต้องใช้มาตราการเด็ดขาดกับเราซะแล้วนะคริส” ผมหันไปทำเสียงดุ อันนี้ดุจริงๆ
 
                      “ไม่เอาอะอยากคุยกับที่รักทุกวัน...อยู่โรงเรียนก็ไม่ได้คุยอย่างอื่นนอกจากในตำราเรียน..เลิกเรียนก็ได้คุยกันแค่ในชิทแชท..ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้เอง..อยากปืนหน้าต่างขึ้นมาหาใจจะขาด”
 
                      “อย่าได้ทำแบบนี้นเชียวนะ”
 
                      “ทำไมอะ”
 
                      “พี่อายเขา...มีหนุ่มปืนหน้าต่างหาแถมเป็นนักเรียนอีกต่างหาก..มีหวังพี่ได้โดยพักการสอนจริงๆแน่”ผมพูดคนข้างๆผมหัวเราะผมใหญ่เลย
 
                      “เมื่อคืนอ่านหนังสือถึงไหนแล้ว” ผมถามคริสโตเฟอร์
 
                      “ก็อ่านได้เยอะแล้วครึ้งเล่มแล้วแหละพี่เขม” ผมก็อมยิ้มที่ได้ยินแบบนั้น
 
                      “ถ้าวันไหนเหนื่อยจะพักบ้างได้นะไม่ต้องอ่านทุกวันหรอกคริส “ ผมเริ่มเป็นห่วงเขา แต่ดูแล้วเขาน่าจะเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
 
                      “ไหนเราจะซ้อมบาสอีกช่วงนี้ซ้อมหนักขึ้นนิ วันพรุ่งนี้ก็จะลงสนามแข่งแล้วไม่ใช่เหรอ และนี้ก็ต้องลงแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษอีกละคริส “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงคนเดินแนบชิดกับผมจนไหล่ชนกับไหล่ผม ผมไม่ได้สอนเขาทุกวันมาเกือบอาทิตย์แล้วเพราะว่าคริสโตเฟอร์ต้องไปแข่งบาสรอบก่อนชิงชนะเลิศ ตอนนี้พวกเขาผ่านเข้ารอบชิงแล้ว นั้นคือพรุ่งนี้
 
                      “ไม่หรอกพี่เขมผมไหว...ตอนนี้ผมไหว..และผมยอมที่จะเหนื่อยเพื่อให้ได้มาซึ้งสิ่งที่ผมคาดหวัง..และมันก็เป็นความสุขของเราสองคนด้วย” คริสโตเฟอร์พูดผมหันไปมองด้วยรอยยิ้ม
 
                      “เหนื่อยวันนี้เพื่อความสุขวันข้างหน้า” คริสโตเฟอร์พูดผมหันมายิ้มให้เขา..ไม่คิดว่าคนทะลึ้งๆแบบนี้ก็มีหลักการกับเขาด้วย
 
                      “ผมอยากจะรีบไปสอบให้เร็วที่สุดผมอยากเรียนจบไวไว ไม่อยากเป็นนักเรียนแล้ว “
 
                      “และถ้าผมเรียนจบผมก็จะได้กดพี่ทุกวัน..โคตรทรมารเลยเนอะพี่เขม..อาทิตย์หนึ่งได้สองวันเองอะ” ผมถึงกับสะดุดเท้าตัวเองหน้าแทบทิ่มพื้น ที่เขาพูดมาทั้งหมดและทำให้ผมยิ้มภูมิใจสุดท้ายคำตอบที่ได้คืออยากกดผมทุกวันนี้นะ ผมก็แสนจะภูมิใจจริงๆ ยังยิ้มให้ผมอีก ผมหันไปมองคนข้างๆพร้อมกับขมวดคิ้ว
 
                      “นี้คือเป้าหมายในชีวิตนายเลยใช่ไหมเนี๊ยะ!” ผมถามนายคริสโตเฟอร์
 
                      “คนเราจะทำอะไรต้องมีเป้าหมายไม่ใช่เหรอพี่เขม” ผมก็ต้องพยักหน้า มันก็ถูกนะแต่เป้าหมายนายมันใช่เหรอครับคุณนักเรียนของผม
 
                      “และก่อนที่คริสจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านผมนึกถึงสิ่งนี้ปุ๊ปนะพี่เขม คริสรู้สึกว่ามันกระปรี้กระเปร่าเหมือนโดปลิโฟเลยอะพี่เขม.....มีแรงฮึดขึ้นมาทันทีทันใด” คริสโตเฟอร์บอกผมด้วยความภาคภูมิใจ  ผมนี้ถึงกับเอาฝามือแปะที่หน้าผาก
 
                      “เฮ้อ!! ...มันเริ่มจะทำให้พี่รู้สึกว่า พี่คิดผิดหรือคิดถูกที่ลงทุนให้นายไปสมัครสอบ GED เพื่อจะได้จบมัธยมปลายเร็วๆ รู้อย่างนี้ให้รอไปเถอะ 2ปี นั้นแหละค่อยจบ” ผมพูดและรีบเดินจั้มอ้าวให้เร็วขึ้นทันที รู้สึกเขินหรือรู้สึกอายกันแน่นะ
 
                      “โธ่พี่เขมอะ..หรือว่าพี่เขมไม่คิดถึงผมเลยอะ)))” ผมหยุดเดินทันทีแต่ยังไม่หันหลังกลับไปมอง
 
                      “ผมคิดถึงพี่เขมนะ..อยากกอดอะ..และไม่ใช่ว่าเรานะอยู่ไกลกันซักหน่อย อยู่ใกล้แค่นี้เองแต่ทำได้แค่ ยืนดูจากหน้าต่างแค่นั้น ผมทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ มันรู้สึกเจ็บอ่ะพี่เขมบางที ” คริสโตเฟอร์พูด ผมก็ต้องก้มหน้าลงมองพื้น
 
                      “แถมอยู่ในโรงเรียนต้องรักษาระยะห่างไว้แค่ครูกับนักเรียนทั้งที่ในใจนะเป็นมากกว่านั้น” คริสโตเฟอร์พูด ตอนนี้ผมหันหลังกลับไปมองหน้าเขา  และมันก็จริงนะผมเองก็รู้สึกแต่ก็ต้องพยายามอดทนเพราะว่าผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไงแต่คริสโตเฟอร์ก็ยังมีความอดทนไม่มากพอเท่ากับผม
 
                      “คริส! พี่เชื่อว่ามันจะดีขึ้น ตอนนี้คริสอย่าเพิ่งไปหมกมุ่นกับมันมาก คริสควรจะใช้เวลากับเพื่อนๆ สนุกกับเพื่อน เพราะว่าถ้าคริสสอบผ่าน คริสก็อาจจะได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยได้เลย ถึงตอนนั้นคริสจะคิดถึงเพื่อนๆของคริสมาก “ผมพูดกับคริส
 
                      “ผมก็กลัวอ่ะพี่เขม ผมกลัวว่าถ้าพ่อติดต่อมาและชวนผมไปอยู่กับเขาแล้วมันไกลกันกับพี่เขม ผม...กลัวใจเราจะห่างกันด้วย ผมกลัวหลายๆอย่างนะพี่เขม” คริสโตเฟอร์พูด ผมก็ต้องอมยิ้มให้หนุ่มตรงหน้าผม
 
                      “ใจของพี่เข้มแข็งพอคริส พี่เคยบอกแล้วว่าพี่ไม่ใช่คนใจโลเลดังนั้นถ้ามอบให้ใครแล้ว เขาจะเป็นคนเดียวของพี่ตลอดไป “ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์ เขาก็ยิ้มและทำท่าจะกอดผมแต่ผมชี้นิ้วห้ามเพราะว่ามันเข้าเขตโรงเรียนแล้ว
 
         และผมสองคนก็เดินเข้ามาถึงเขตด้านหลังของห้องอาหารโรงเรียนแล้ว ผมคิดว่าคงจะต้องแยกจากเขาตรงนี้เพราะว่าวันนี้ผมมีเวรยื่นหน้าประตูทางเข้า
 
                       “ตอนเที่ยงเจอกันนะคริส” ผมพูดก่อนจะส่งกล่องแซนวิสให้คนตรงหน้าทำท่าจะเดินออก
 
                       “หมับ” ต้นแขนผมถูกจับไว้
 
                       “พี่เขมแต่นั้นนะมันยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของผมหรอก..ที่ผมอยากเรียนให้จบมัธยมและผมก็จะได้เข้ามหาวิทยาลัยและพอผมเรียนจบมหาวิทยาลัย..”
 
                       “ผมจะแต่งงานกับพี่เขม” ผมได้ยินแต่เหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจ หูตัวเองผมสะบัดหน้ามองคนที่ดึงรั้งต้นแขนผมไว้แววตาคู่นั้นดูจริงจังมาก
 
                       “และผมจะดูแลพี่เขมเองให้พี่เขมพักบ้าง”
 
                       “เราแต่งงานกันนะพี่เขมหลังจากทีผมเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว..อยากให้เราเป็นครอบครัวเดียวกัน” ผมนิ่งอึ้งอยู่หลายวินาที นี้ผมกำลังถูกทาบทามอยู่ใช่ไหม
 
                       “พี่เขม” ผมสะดุ้งมันบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือว่าตกใจ หรือช๊อก
 
                       “ผมพูดจริงๆนะ...เราแต่งงานกันนะ...พี่เขม”
 
                       “อันนี้แหละคือเป้าหมายสูงสุดที่ผมตั้งไว้...เรียนจบมหาวิทยาลัยและเราจะแต่งงานกัน” คริสโตเฟอร์พูด ผมมองคนตรงหน้าผมก็ไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มปรากฏขึ้นตอนไหน แต่มันก็เผลอยิ้มออกไปแล้วซิ
 
                       “วี้ดวิ้ว!!!” เสียงผิวปากแซวผมสองคนจากเพื่อนๆของคริสโตเฟอร์เดินมานั่งที่โต๊ะพอดี
 
                       “เพื่อนแซวแล้ว...อะนี้แซนวิส..กินด้วยละ..ถ้าไม่กินอาหารเช้าหัวสมองจะไม่แล่นนะและจะเรียนไม่รู้เรื่อง....ชั่วโมงเรียนในคลาสก็สำคัญนะคริสตั้งใจเรียนละ...”
 
                       “ตอนเที่ยงเจอกันนะ” ผมและรีบเดินหันหลังออกผมเพิ่งจะรู้สึกเขินเป็นก็ตอนนี้แหละ
 
                       “คริส...พี่จะรอดูนะเป้าหมายสูงสุดนะ” ผมหันหันหลังกลับไปเรียกคริสโตเฟอร์อีกครั้ง เขาทำท่าตะเบะตอบรับให้ผมและเดินไปหาเพื่อนๆของเขา
 
                       “แน่นอนพี่เขมเพราะว่าพี่คือคนที่ผมจะแต่งงานด้วย...เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย” ผมก็รีบเดินออกตรงขึ้นห้องพักครูทันทีเก็บสมุดหนังสือลงก่อนจะเดินลงไปยืนประจำหน้าที่หน้าประตูตรวจนักเรียนไม่เยอะมากหรอกครับเพราะส่วนใหญ่จะอยู่หอพัก อันนี้จะมีครูตรวจตรงหอพักอยู่แล้ว
 
                           หลังจากกิจกรรมเข้าแถวผ่านพ้นไป ผมก็กลับมานั่งตรวจการบ้านเด็กนักเรียนต่อ มีบ้างสิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้คือ คริสโตเฟอร์ คำพูดของเขาที่บอกผมว่า เขาตั้งใจเรียนให้จบเพื่อจะได้แต่งงานกับผม ใช่ผมคิดถึงการมีแฟนสักคนและหวังจะได้ใช้ชีวิตด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่า ไม่ใช่รักๆเลิกๆ
 
                        “นี้มีจดหมายจากกระทรวงเรื่องนำเสนอเด็กเรียนดีแต่ยากจนเพื่อเข้ารับทุนการศึกษา พี่อ่านเงื่อนไขแล้วก็ท้อแทนเด็กเลยค่ะ และใครจะมีเวลาให้ขนาดนั้น แม้จะอยากให้นักเรียนตัวเองได้ทุนก็ตาม” ครูนิดพูดขึ้น
 
                        “ทุนเด็กเรียนดีเหรอครับ เขาให้ได้กี่คนครับครูนิด”ผมลุกขึ้นถามทันที
 
                       “ตามในหนังสือนี้เขาแจ้งไว้ว่าจำนวนสิบทุนค่ะ ก็คงโรงเรียนละหนึ่งคนแต่เอกสารและหลักฐานเพื่อยืนยันว่าเหมาะสมที่จะได้รับทุน เยอะมากจริงๆคะครูและเรางานก็เยอะเหมือนกันค่ะ ..ก็คงปฏิเสธตามเคยคะ”
 
                       “ผมอยากให้ อนุชิตเข้ารับทุนนี้ครับครูนิด เขาเรียนเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์”
 
                       “เข้าใจค่ะครูเขมแต่...”
 
                       “ผมยินดีทำให้ถ้าครูท่านอื่นๆไม่สะดวก และผมยินดีมากถ้าจะทำให้เด็กคนหนึ่งได้มีโอกาสได้เรียนต่อแม้ว่าเงินจะจำนวนไม่มากอย่างที่ทุกเข้าใจแต่มันอาจจะเพิ่มโอกาสทางการศึกษาของใครบางคนได้มาก”
 
                       “ครูจะเหนื่อยขึ้นนะซิค่ะ เอกสารยุ่งยากมากและไหนจะต้องไปดูบ้านเด็กไหนจะติดตามผลอีก ไหนจะต้องไปหาผู้ใหญ่บ้านเพื่อพูดคุยสอบถาม”
 
                       “ผมยินดีครับ”
 
                       “ถ้าอย่างนั้นครูเขมถือหนังสือฉบับนี้ไปคุยกับผู้อำนวยการตอนบ่ายหลังจากที่ท่านกลับจากประชุมนะคะ”
 
                       “ได้ครับครูนิด”ผมตอบและพี่นิดก็ส่งเอกสารชุดนั้นให้ผมศึกษาดูก่อน
 
                       “ถ้ามีอันไหนไม่เข้าใจถามพี่ได้นะคะครูเขม”
 
                       “ครับผมเดี๋ยวผมขอศึกษาดูก่อนแล้วกันนะครับ”
 
                 ผมขึ้นทำหน้าที่สอนตามปกติ เมื่อสอนเสร็จผมก็กลับลงมานั่งอ่านเอกสารและรายละเอียดคุณสมบัติผู้เข้ารับทุนและแจกแจงดูว่าผมต้องทำอย่างไรบ้าง รายละเอียดมันเยอะจริง แต่ผมจะทำเพื่อให้นักเรียนที่ตั้งใจเรียนจริงได้รับโอกาสที่จะเข้ารับการศึกษาต่อผมอ่านไปจนได้เวลาพักทานข้าวผมก็รีบลงไปทาน ตอนเที่ยงครึ้งมีสอนคริสโตเฟอร์และวันนี้จะให้ข้อสอบไปลองทำสักยี่สิบข้อ
 
                      หลังจากที่ผมทานอาหารเสร็จผมรีบกลับขึ้นห้องหยิบหนังสือ ผมก็พบว่าแก้มกำลังอ่านอะไรสักอย่างให้ครูลินดากับครูถาวรฟังอยู่ ผมยืนมองสักพัก
 
                       “ลินดาให้แก้มอ่าน หนังสือเกี่ยวกับกุลสตรีไทยให้ฟังนะคะ...เพื่อจะแก่นิสัยม้าดีดกระโหลกได้บ้าง”ครูลินดาพูดขำ ขำ ผมยกนิ้วให้ว่าเยี่ยมก่อนจะเดินออกไป ผมเดินลงมาเจอคริสโตเฟอร์พอดี
 
                       “คริส” ผมเรียกนายคริส
 
                       “ผมเข้าห้องน้ำมานะครับครู” คริสโตเฟอร์บอกผมและยืนอย่างสุภาพเพื่อรักษาสถานะความเป็นครูและนักเรียนเอาไว้
 
                       “อืม” ผมพยักหน้าให้ แต่คนข้างๆผมนี้ก็ขยันหยักคิ้วกวนให้ผมตลอด ผมเดินถึงห้องสมุดก็ทำการติวทันทีเวลายิ่งมีน้อยๆอยู่
 
                       “ครูเขมนี้ขยันจังนะคะติวหนังสือให้นายคริสทุกเที่ยงเลยค่ะ”
 
                       “ส่วนเราคริส....อย่าทำให้ความตั้งใจครูเขาเสียแรงเปล่าละ” ครูสุรีวรรณ์พูดผมหันไปยิ้มให้ ผมก็นั่งก้มหน้าก้มตาตรวจที่ผมให้เขาไปทำเมื่อวาน ผมนั่งตรงข้ามเขาพ่อตัวดีของผมอยู่แต่ผมรู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังเขี่ยพิกัดที่สำคัญมากของผมอยู่ ผมเงยหน้ามองคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ที่ผมไปหามาให้อ่านเสริม ดูทำหน้าตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..เนียนมาก!
 
                       “คริส!..เอาเท้ากลับไปเดี๋ยวนี้!” ผมพูดให้เสียงรอดไรฟัน ทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่าน พอผมบอกก็หน้ามุ่ยนิดหน่อยก่อนจะชักเท้ากลับไป แม้เขี่ยตรงนั้นผมเพลินเลยนะ ผมก็เพลินครับไม่ใช่ไม่เพลินแต่นี้มันห้องสมุด น่าจริงๆ มีแฟนหื่นนี้เหนื่อยเหมือนกันนะ
--------------------------------------------------------------------------------------
Part คริสโตเฟอร์
                       หลังจากเลิกติวหนังสือกับพี่เขมผมก็เตรียมตัวไปเข้าแถวก่อนจะขึ้นเรียนคาบบ่าย แต่ยังพอมีเวลาเหลือผมจึงเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า ระหว่างที่เดินไปผมเดินส่วนทางกับแก้ม เธอแค่มองหน้าผมและเดินส่วนไปทันที ผมก็แค่มองหน้าแก้ม ผมทำได้แค่นี้จริงๆ ถ้าเธอไม่ทำกับผมและครูเขมจนเดือดร้อนแบบนี้ ความเป็นพี่น้องน่าจะยังคงอยู่แต่นี้ไม่เลย มันหมดแล้วนะผมคิดว่า
 
                       “พี่คริสคะ” ผมเห็นกี้นั่งอยู่มือจับข้อเท้าอยู่
 
                       “กี้เป็นอะไรหรือครับ”
 
                       “กี้สะดุดรากไม้นี้แล้วหกขล่มนะคะ”
 
                       “พี่คริสช่วยพยุงกี้ไปนั่งตรงนั้นหน่อยได้ไหมคะ”
 
                       “ได้ซิครับจะให้พี่พาไปห้องพยาบาลเลยไหมครับ”
 
                       “ไม่เป็นไรคะพี่คริสแค่พยุงพากี้ไปและขึ้นไปเอาสเปย์ที่พ่นข้อเท้านะคะที่ครูสุมณฑาให้กี้หน่อยนะคะพี่คริส..ตอนนี้กี้ปวดค่ะกี้เดินไปไม่ไหวหรอกค่ะ”
 
                       “ก็ได้ครับ” ผมพูดและหันหลังจะวิ่งไปที่ห้องพยาบาลผมวางเป้นักเรียนไว้ตรงนั้นเพื่อจะได้วิ่งไปได้เร็วขึ้นหน่อย ผมวิ่งขึ้นไปถึงผมไม่เห็นครูสุมณฑา ผมเลยหยิบขวดสเปย์ลงมาแทนแต่พอลงมาถึงก็ไม่เจอน้องกี้แล้วแต่เจอแก้มแทนที่ยืนอยู่ข้างกระเป๋าผม
 
                       “แก้มทำอะไรนะ!” ผมตะคอกถามแก้มด้วยความตกใจ
 
                       “ปะ...เปล่า..ไม่ได้ทำอะไร” แก้มพูดบอกผม ด้วยท่าทีที่มีพิรุธ และผมก็รีบคว้ากระเป๋ามาถือไว้ผมไม่ไว้ใจอะไรเธอทั้งนั้น
 
                       “กี้ละ” ผมถามแก้ม
 
                       “มันไปแล้ว.....พี่นัดมันมาจู๋จี๋เหรอ” แก้มลุกขึ้นจ้องมองผมและถามผม
 
                       “แก้มจะบ้าเหรอไม่มีใครเขาทำในโรงเรียนแบบนี้หรอก” ผมรีบปฏิเสธไป ในมือก็ถือขวดสเปย์ที่กี้บอกว่าจะใช้แต่เธอก็หายไปแล้ว เดี๋ยวค่อยเอาไปคืนครูแล้วกันผมคิดว่า
 
                       “ดีแล้วแหละที่พี่รู้ว่าที่ไหนควรที่ไหนไม่ควรและแก้มจะเตือนพี่คริสเอาไว้อย่างหนึ่งนะ” แก้มพูดผมหันมามองหน้าเธอ เธอนี่นะจะมาเตือนผม
 
                       “ว่านางกี้นะมันไม่ได้แสนดีอย่างที่พี่คิด!” แก้มพูดก่อนจะรีบเดินออกไป  ผมก็รีบเดินกลับไปลานเอนกประสงค์เพื่อเข้าแถมกับนักเรียนคนอื่นๆ ผมเห็นไอ้พี่กายมันมองมาที่ผมก่อนที่มันจะลุกไปหาครูอครชัยและกระซิบอะไรกับครูสักอย่าง และมันก็เดินกลับมานั่งที่เดิม
 
                       “แยกย้ายกันขึ้นห้องเรียนได้แล้ว” ครูอครชัยพูดและทุกคนก็เตรียมตัวเดินแถวขึ้นห้องเรียนแต่ละชั้นเรียน
 
                       “ยกเว้นคริสโตเฟอร์ออกมาหาครู” ผมถึงกับต้องทำหน้างง ว่าทำไมผมถึงถูกครูฝ่ายปกครองเรียกและจังหวะที่ครูเขมยืนคุมเด็กนักเรียนเข้าแถวด้วย เขาจึงหันมามองผม ผมก็ส่ายหัวว่าไม่รู้เรื่องอะไร ไอ้โป้งก็ยืนมองผมด้วยความเป็นห่วง ผมแค่หันไปพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาครูอครชัย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 22:56:48 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
EP.25.1 ครูเขม Xคริสแก้มช่วยผมอีกครั้งแต่ผมก็รักเธอแบบที่เธอต้องการไม่ได้

    Part คริสโตเฟอร์
                ผมเดินออกมาหาครูอครชัย เป็นครูฝ่ายปกครอง ผมเองก็ติดบัญชีดำไว้เยอะอยู่ อันดันแรกคือเรื่องชกต่อยและคู่กรณีผมก็ไม่ได้มีหลายคนมีแต่พวกพี่กายนี้แหละและตามมาคือโดนเรียน
 
                      “นายคริส..ขอครูตรวจกระเป๋าเป้เธอหน่อยซิ” ครูอครชัยพูดว่าขอดูกระเป๋าเป้ของผม
 
                      “ทำไมเหรอครับครู” ผมถามครูอครชัยกลับและหันไปเหล่มองไอ้พี่กายที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองหน้าผม
 
                      “ส่งกระเป๋าเป้เธอมาใครครูเดี๋ยวนี้...คริสโตเฟอร์”
 
                      “ครูครับผมขอโทษนะครับนี่มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ” ครูเขมเข้ามาถามครูอครชัยและมองหน้าผม
 
                      “นายกายบอกว่าในกระเป๋านายคริสมียาเสพติดนะครับครูเขม” ครูอครชัยหันไปบอกครูเขมชาติ ผมเองก็สายหัวว่าไม่จริง
 
                      “ผมไม่เคยเสพยานะครับครู” ผมรีบปฏิเสธทันที ถึงผมจะเกเรแต่ว่าผมไม่เคยคิดจะหันไปลองสิ่งของพวกนั้นอยู่แล้ว
 
                      “ส่งกระเป๋ามาให้ครูคริส” ครูอครชัยบอกผม ผมหันไปมองหน้าครูเขม และพี่กายนะยืนเลิกคิ้วมองผม นักเรียนที่กำลังทะยอย แก้มยืนมองผมอยู่ผมหันไปและมองไปที่แก้มอย่าบอกนะว่าเธอเป็นคนใส่นะ กี้ก็ยืนมองผมอีกมุมหนึ่ง ผมจำใจส่งกระเป๋าให้ครูอครชัยเปิดดู ครูเขาเททุกอย่างออกจากระเป๋าผมมันก็มีแค่หนังสือและอุปกรณ์การเรียนแค่นั้น ครูอครชัยหันไปมองหน้าพี่กาย
 
                      “ในกระเป๋าด้านหน้านะครับครู” พี่กายรีบพูดและชี้ไปที่กระเป๋าด้านหน้าเป้ของผม
 
                      “เดี๋ยวนะครับครู..ผมว่ามีอะไรแปลกๆ ” ครูเขมพูดและมองหน้าพี่กาย ส่วนพี่กายมันหาได้แสดงอาการเคารพครูเขมไม่ มันยืนเอามือล้วงกระเป๋า
 
                      “ยืนดีดีๆ หน่อยนะนายกายครูเขมเขาเป็นครูที่นี้นะ..เธอควรให้เกียรติครูทุกคน” ครูอครชัยหันไปพูดต่อว่าพี่กาย ที่ยืนด้วยท่าทางที่ไม่เคารพพี่เขมในฐานะครูเอาซะเลย ถ้าไม่ติดว่าครูฝ่ายปกครองอยู่ตรงนี้ นี้ผมคงต่อยมันไปแล้วในฐานะที่มันทำตัวหยาบๆกับพี่เขมของผม
 
           “ทำไมเธอถึงรู้ละ.....เหมือนกับว่าเป็นคนใส่ลงไปเองอย่างนั้นแหละ..กาย” ครูเขมพูด ทำให้พี่กายชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจทันที
 
                      “น้องกี้เขาบอกผมว่าเขาเปิดกระเป๋านายคริสเจอนะครับครูเขม..น้องเขาเลยวิ่งมาบอกผม..... เพราะเห็นว่าผมนะเป็นรุ่นพี่” ผมหันไปมองกี้ที่เธอให้ผมขึ้นเอาสเปย์พ้นข้อเท้าและพอลงมาเธอก็หายไป กี้เห็นผมหันไปมองเธอก็รีบเดินขึ้นไปทันที
 
                      “โรงเรียนนี้เข้าโครงการต่อต้านยาเสพติดไม่ใช่หรอครับ..ถ้ามีคนกล้านำยาเสพติดเข้ามาแบบนี้ได้..ผมคิดว่าครูควรจะใช้มาตราการเด็ดขาด..ไล่ออก” พี่กายพูดเขาไม่ได้มองหน้าผมสักนิดสายตาจับจ้องมองที่ครูเขมมากกว่าเหมือนการท้าทาย
 
                      “ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงต้องทำโทษตามจริง... “ครูฝ่ายปกครองพูดก่อนจะเปิดดูกระเป๋าด้านหน้าแต่ว่ามันมีแค่ลูกอมธรรมดา ผมจำได้ว่าแก้มชอบซื้อกิน
 
                      “ไม่เห็นมีอะไรเลย...มีแค่ลูกอมธรรมดา..นี้นายโกหกครูเหรอ” ครูอครชัยพูด พี่กายทำสีหน้าตกใจ ผมยืนเลิกคิ้วมองพี่กายว่ายังไง
 
                      “ ไม่จริงอะครู...ก็..ผม..ไม่ซิ ..น้องกี้เขาเจอในกระเป๋าคริส...” ครูเขมและครอครชัยหันหนาไปมองที่พี่กายพร้อมกัน
 
                      “ แต่..ผมคิดว่า คริสมันต้องซ้อนไว้ที่ไหนสักที่ครูค้นตัวดูซิครับ”ไอ้พี่กายพูด ผมก็ล้วงมือเข้าไปและควักด้านกระเป๋ากางเกงทั้งสองด้านออกมาให้ดูและกระเป๋าเสื้อนักเรียนด้วยว่าไม่มีอะไรซ้อนอยู่ แม้กระทั้งรองเท้าผ้าใบผมก็ถอดมาเคาะให้ดูด้วย ก็ไม่มีอะไร ผมยืนมองหน้าให้พี่กาย ใบหน้าที่ตอนแรกบ่งบอกว่ามันมั่นใจว่าผมจะโดนข้อหาหนักหายไปหมดสิ้น
 
                      “ก็กี้..เขา..” ไอ้พี่กายจะหันไปมองหากี้แต่ทว่ากี้ไม่อยู่แถวนี้ซะแล้วนางชิ้งเดินหนีขึ้นไปแล้ว
 
                      “พอได้แล้ว!” ครูอครชัยพูด
 
                      “เอาเป็นว่าไม่มีอะไรและนายอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะไม่ใช่เรื่องที่จะมาล่อเล่นนะ..นายจะโดนภาคทัณฑ์ นายจะจบม.6 แล้วนะกาย..คราวนี้ต่อให้พ่อเธอมาขอครูก็คงจนปัญญาจะช่วย” ครูอครชัยพูด ผมก็หยักไหล่ให้มัน และหันมายิ้มให้กับครูฝ่ายปกครอง
 
                      “ไปขึ้นห้องเรียนกันได้แล้ว” ครูอครชัยบอกผมกับพี่กาย และพี่กายก็เดินแยกออกไปอย่างหัวเสีย ผมหันมามองหน้าครูเขม นี้แสดงว่ากี้หลอกผมเรื่องเท้าเจ็บและอย่าบอกนะว่าทำตามคำสั่งให้พี่กายมันนะ พี่เขมไม่ได้พูดอะไรสักนิด พี่เขมหันหลังเดินกลับขึ้นตึกทันทีเช่นกัน  ขณะเดียวกันผมก็เห็นแก้มแอบมองผมอยู่ผมนึกขึ้นมาได้เธอเข้ามาที่กระเป๋าผมตอนที่ผมเดินลงมา ผมรีบวิ่งไปหาแก้มแต่เธอกลับรีบเดินหนีผม
 
                      “แก้ม...แก้ม...พี่ขอโทษ..แก้มช่วยพี่ใช่ไหม” ผมดึงแขนของแก้มไว้
 
                      “ใช่!แก้มช่วยพี่เอง ...เพราะว่าแก้มเห็นนางกี้นะมันกำลังเอาห่ออะไรใส่ไว้และมันก็โทรบอกผัวมันว่ามันใส่แล้ว...และแก้มเองที่เป็นคนไปหยิบมันออกมา!..และเอามันไปทิ้งให้พี่ไง! “
 
                      “แต่พี่ก็มองว่าแก้มจะทำอะไรไม่ดีกับพี่” แก้มพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าลงทันที
 
                      “แต่ถ้าแก้มจะไม่ทำก็ได้นะ..และคนที่รู้สึกผิดคงเป็นครูเขม..แต่..” แก้มพูดและเงียบนิ่งไป
 
                      “แก้มพี่ขอโทษ” ผมพูดคำว่าขอโทษที่มองแก้มไม่ดีตอนที่เห็นแก้มมายุ่งกับกระเป๋าของผม
 
                      “แก้มก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแก้มจะช่วยทำไม...ทั้งที่รู้ว่าทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น..พี่ก็ยังมองว่าแก้มเป็นเด็กไม่ดี”
 
                      “แก้มพี่ขอโทษแต่พี่ให้มากกว่าพี่ชายไม่ได้จริงๆ”
 
                      “แก้มรู้แล้วแหละว่าทำไมพี่รักครูเขม..แต่แก้ม...แก้ม..ก็ยังรักพี่อยู่นิ...” แก้มพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป ผมเดินตามขึ้นไปเช่นกัน พวกไอ้โป้ง ปันปัน อาร์ท และโจ ยืนรอผมอยู่
 
                      “เกิดอะไรขึ้นวะคริส” โจรีบถามผมทันที
 
                      “ไอ้พี่กายมันกะทำให้กูโดนไล่ออก..มันให้กี้เอายามาใส่กระเป๋ากูแต่..”
 
                      “แต่อะไรอะ” ปันปันถามผม
 
                      “แก้มมาหยิบมันออกไปซะก่อน...”
 
                      “นางน้องกี้นี้มันทำแบบนี้เพื่อะไรวะ” อาร์ทเอามือเท้าซะเอว
 
                      “โรงเรียนนี้อยู่ยากขึ้นทุกวันชะนีแต่ละตัวดุฉิบหายเลยวะ” ไอ้โป้งพูดก่อนจะหันมามองมามองหน้าผม
 
                      “กี้...มันนะเมียไอ้กาย...กูได้ยินพวกเด็กๆมันพูดกันว่าไปเอากันบนตึกนะในห้องเรียนอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าห้องไหนไม่อยากไปแอบดูเสียสายตา” ไอ้โจพูด ผมก็ได้ยิน
 
                      “ไปขึ้นเรียนเถอะวะ ..ระวังตัวด้วยละมึงไอ้คริส” ไอ้โป้งพูดและหันไปโอบเอวปันปัน ขึ้นห้องเรียนพวกไอ้โจและไอ้อาร์ทมันลงไปเรียนวิชาพละกับครูประวิทย์ต่อส่วนผมก็เดินขึ้นห้องเรียนผม คายบ่ายวันนี้มีเรียนกับครูเขมด้วย
 
                      “คริส...”
 
                      “เลิกเรียนค่อยคุยกันนะพี่เขม...”
 
                      “อืมม” ครูเขมพยักหน้าแค่นั้นและเดินเข้าห้องเรียนไปทำการสอนตามปกติ วันนี้พี่เขมให้ทำงานกลุ่ม ผมเห็นสีหน้าครูเขมดูกังวลกับเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายมาก นี้ไอ้กายมันกะจะให้ผมถูกไล่ออกเลยงั้นหรือ มันเล่นผมแรงขนาดนี้เลยเหรอ ผมคิดว่ามันคงไม่อยากให้ผมได้ลงแข่งบาสเก็ตบอลพรุ่งนี้ด้วยแน่ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------
Part ครูเขมชาติ
 
                      หลังจากหมดเวลาทำการเรียนการสอน ผมก็เตรียมจะกลับบ้านพักวันนี้มีสอนติวภาษาอังกฤษนักเรียนชั้น 2/1 มีไม่กี่คนหรอกครับแค่สิบเอ็ดคนถ้ามีแก้มอีกคนตามที่ผมได้บอกเขาไว้ก็คงจะสิบสองคน ผมรีบเดินกลับบ้านพักก่อนเลย
 
                      “นางแก้มปล่อยฉันนะ..ฉันบอกให้ปล่อยฉันไง..” เสียงเอ๊ะอะโวยวายเหมือนกับว่ามีเรื่องกัน ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก
 
                      “ถ้าแกยุ่งกับพี่คริสอีกนะแกโดนหนักแน่นางกี้..ฉาด!” เสียงดังมาขนาดนี้ใช่เลย ตบกันแน่ๆ ผมรีบหันหลังและเดินอย่างไวที่สุด
 
                      “อีเชี้ยนี้ออกไปจากตัวกูนะ..มึงรู้ไหมว่ากูนะใคร...กูเมียพี่กาย...ฉาด!” เสียงยังคงเล็ดรอดออกมาผมถึงกับรีบวิ่งเดินไปยังจุดนั้น
 
                      “คนตบกันวะ” ผมได้ยินเสียงเด็กนักเรียนพูดขณะที่ยืนมุงกันอยู่ ผมจึงเดินแหวกนักเรียนเข้าไป และผมก็เห็นว่าแก้มกำลังนั่งค่อมร่างของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมเคยเห็นเธอในบอร์ดนักเรียนดีเด่น เธอเป็นคนถือคฑาไม้หนึ่งของโรงเรียนนี้ทุกปีก็ว่าได้
 
                      “แก้ม...หยุด..เดี๋ยวนี้..เธอทำอะไรเพื่อนนะ” ผมรีบเข้าไปห้ามเธอ แต่เธอก็ไม่ฟังยังคงกระหนำตบหน้าของผู้หญิงคนนั้นอยู่ เธอลงมือตบหน้าผู้หญิงคนนั้นแบบไม่ต้องนับกันเลย
 
                      “ครูบอกให้เธอหยุดแก้ม!! ” ผมรีบจับต้นแขนของเธอและดึงแก้มให้ลุกขึ้นจากการค่อมเด็กคนนั้น แก้มก็ต้องลูกตามที่ผมดึงรั้งเธอขึ้น
 
                      “ครูคะนางแก้มมันตบหนูค่ะ” เด็กผู้หญิงที่ถูกแก้มตบก็ลุกขึ้นมาและชี้ไปที่แก้ม
 
                      “ก็แกนะทำชั่ว...อย่าให้รู้นะว่าแกกล้ามาเอาอะไรใส่กระเป๋าพี่คริสอีกไม่อย่างนั้นเจอหนักแน่” แก้มพูด ผมหันไปมองเด็กผู้หญิงที่แก้มพูดถึง อย่าบอกว่าเรื่องเมื่อตอนบ่ายเป็นฝีมือผู้หญิงคนนี้ สีหน้าเธอปลี่ยนไปทันที
 
                      “ฉันไม่รู้เรื่อง…แกพูดบ้าอะไร” ผู้หญิงคนนึ้นพูดและรีบคว้ากระเป๋านักเรียนเดินแทรกตัวออกไป
 
                      “แก้ม...เรื่องเมื่อตอนบ่ายใช่ไหม...เธอเป็นคนช่วยคริสโตเฟอร์ใช่ไหม..แล้วเขาเอายาใส่ไว้ในกระเป๋าคริสโตเฟอร์จริงๆเหรอแก้ม” ผมถามแก้ม เธอยื่นนิ่งไม่ตอบอะไรผม แต่มันก็ทำให้ผมยิ้มได้
 
                      “ไม่ตอบครูไม่เป็นไรแก้ม...เธอทำถูกแล้วนะ...นี้แหละแปลว่าเธอเริ่มรู้จักความรักแล้วนะแก้ม รักคือการให้...โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” ผมพูดกับแก้ม
 
                      “เอาละ...ครูหวังจะได้เจอเธอในคลาสติววันนี้นะแก้ม” ผมพูดก่อนจะเดินออกไปเพื่อจะได้เข้าบ้านพักรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อรีบไปเข้าห้องสอนก่อนห้าโมงครึ้ง
 
                      “พี่เขม” เสียงคริสโตเฟอร์เขาวิ่งมาหาผมพร้อมกับหิ้วอาหารที่ผมสั่งแม่ค้าไว้ด้วย
 
                      “พี่สั่งเยอะเลยสั่งเพื่ออนุชิตอีกแล้วใช่ไหมอะ”
 
                      “แล้วเราให้เขาไปหรือเปล่า” ผมหันมาถามคริสโตเฟอร์
 
                      “ให้ซิผมแบ่งไปสองอย่างนะครับพี่เขม” คริสโตเฟอร์ตอบผมก่อนจะหยิบถุงอาหารใส่ไว้ในตู้เย็น ผมหันไปยิ้มตอบคริสโตเฟอร์
 
                      “พี่เขม...เรื่องเมื่อตอนบ่าย”
 
                      “พี่รู้เรื่องแล้วแหละคริส..ฝีมือนายกาย” คริสโตเฟอร์หันมามองหน้าผมด้วยความแปลกใจ
 
                      “พี่รู้ตอนที่แก้มกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนะเขาตบกันและพี่ก็เลยถามแก้มว่าเรื่องเมื่อตอนบ่ายแก้มเป็นคนช่วยเราใช่ไหม”
 
                      “และเขาตอบว่าใช่” ผมพูดคริสโตเฟอร์พยักหน้า ผมยืนตรงหน้าเขาพร้อมกับจับไหล่ทั้งสองของคริสโตเฟอร์ไว้
 
                      “พี่เชื่อว่าคนดีพระคุ้มครองแค่เราตั้งมั่นเป็นดีส่วนคนที่คิดร้ายสักวันมันจะแพ้ภัยตัวเองคริส”
 
                      “ผมรอวันนั้นไม่ได้หรอกพี่” คริสพูดผมหันมามองหน้าคริสโตเฟอร์
 
                      “ทำไมละคริส และนายจะไปทำอะไรเขา ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็คือการต่อความยาวสาวความยืด ไม่จบไม่สิ้นกันสักที ” ผมพูดเตือนสติเขา เพราะว่าเท่าที่เขาเล่าให้ผมฟังว่าเรื่องมันเกิดอะไรและยิ่งบานปลายก็เพราะว่าทั้งคู่ไม่ยอมจบยังคงคอยเอาคืนกันอยู่แบบนี้
 
                      “เมื่อไหร่ละพี่เขม..และพวกไอ้กายนี้มันก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย..มันก็ยังสุขสบายแถมมันยังพยายามทำให้ผมออกจากโรงเรียนให้ได้ด้วยวิธีที่สกปรก พี่ก็เห็น” คริสโตเฟอร์พูด
 
                      “ต่อไปคริสก็ระวังตัวเองนะ..รู้ไหม ” ผมก็คงพูดได้แค่นั้น
 
                      “ผมเหนื่อยแต่พอเห็นหน้าพี่เขมแล้วผมรู้สึกดีขึ้น”คริสโตเฟอร์พูดพร้อมกันสวมกอดผมทันที ผมก็กอดคนตรงหน้ากลับ
 
                      “พี่ต้องรีบไปสอนติวแล้วคริส” ผมพูดคริสโตเฟอร์พยักหน้า ผมเดินลงจากบ้านพร้อมกันและเดินกลับไปที่โรงเรียน เราเดินคุยกันถึงเรื่องอนาคต อันที่จริงเด็กคนนี้เขามีหลายสิ่งที่น่าสนใจมากและเขาไมได้เป็นเด็กที่เหลวไหลไม่มีอนาคตอย่างที่ใครๆเข้าใจ พอผมเดินมาถึงหน้าตึกก็แยกย้ายกัน คริสโตเฟอร์เดินแยกตัวออกไปซ้อมเล่นบาสกับเพื่อนผมเห็นมีโค้ชของพวกเขาที่ว่ามาอาทิตย์ละวันมาช่วยเทรนวันนี้ก่อนลงสนามพรุ่งนี้  ส่วนผมก็เดินขึ้นห้องเรียนเพื่อทำการติวภาษาอังกฤษ สิ่งที่ทำให้ผมดีใจคือแก้มเธอนั่งอยู่ในห้องเรียนด้วย
 
                      “ครูดีใจนะแก้มที่เธอเข้าเรียนติวกับครูวันนี้” ผมพูดก่อนจะเดินไปที่หน้ากระดานไวท์บอร์ด เพื่อทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่แก้มอาจจะไม่ค่อยเข้าใจผมก็ต้องคอยอธิบายเนื่องจากแก้มเขาที่หลังที่ผ่านมาแก้มไม่เคยเข้าเรียนติวเลย
 
                      “เอาละ...วันนี้ครูจะให้การบ้านนะ...ครูจะให้บทความจากหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษไปแปลมาส่งครุ..ครูมีคะแนนให้คนละ 20 คะแนน “
 
                      “กลับบ้านได้แล้วครับ” ผมพูด นักเรียนก็แยกย้ายลงจากตึกกันแก้มก็รีบเดินลงไปเช่นกัน ผมหวังว่าเขาจะเข้าเรียนแบบนี้ทุกครั้งไป
 
                      หลังจากที่ผมปิดหน้าต่างประตูห้องเรียนผมก็รีบเดินตามลงมาที่ชั้นล่างสุด คริสโตเฟอร์ ปันปัน และโป้ง กำลังยืนคุยอยู่ด้วยกันกับแก้ม และผมเห็นผู้หญิงวัยไม่ถึงกลางคนเดินตรงมาที่คริสโตเฟอร์ยืนอยู่ ผมจำได้ดีแม่ของแก้ม และดูท่าจะไม่ได้คุยกันดีดีแน่ เพราะว่าผมเห็นปันปันนะจับคริสไว้อยู่ ผมเลยรีบสาวเท้าเดินไปให้ถึงให้เร็วที่สุด เพราะว่าพ่อเจ้าพระคุณยิ่งหัวร้อนอยู่ด้วย
 
                      “นางแก้ม! ฉันนึกว่าแกกลับไปบ้านแล้วซะอีกและนี้อะไร แอบมาคุยกับไอ้..ไอ้..ฝรั่งขี้นกอีกแล้วเหรอนังแก้ม”
 
                      “แม่หนูเรียนติวภาษาอังกฤษต่างหากละแม่”
 
                      “แกนี้นะเรียนติวภาษาอังกฤษเห็นแต่ก่อนฉันถามว่าจะเรียนไหมแกบอกไม่ชอบไง”
 
                      “ตอนนั้นไม่อยากเรียนเพราะเรียนไปแม่ก็ให้ฉันจบแค่ม.3อยู่ดีนั้นแหละแต่ตอนนี้หนูอยากเรียนแล้วหนูจะเรียนต่อด้วย”
 
                      “ขอโทษนะครับคุณแม่..แก้มเขาเรียนภาษาอังกฤษกับผมครับ จริงๆนะครับ” ผมรีบเดินเข้าไปบอกกับแม่ของแก้ม
 
                      “แล้วคุณเป็นใครคะ” ผู้หญิงคนนี้นหันมาถามผม
 
                      “ผมเป็นครูครับ ผมเคยเจอคุณแม่เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่ตลาดนะครับ” ผมบอกแม่ของแก้ม เขาก็ทำท่านึกและคงนึกไม่ออกแน่ๆ
 
                      “แล้วไป...ฉันก็นึกว่าแกมาคลุกอยู่กับไอ้ฝรั่งขี้นกนี้ ไปได้แล้วกลับบ้าน นี้ป้าแกเขามาเยี่ยมนะ เขาถามหาแกอยู่กำลังจะคุยเรื่องจะทำวีซ่าให้แก และเขาจะได้พาไปแต่งตัวสวยๆ ยืนตามร้านอาหาร “
 
                      “ไม่แน่ไม่ต้องเรียนมันแล้วที่นี้นะ อยากมีผัวทั้งหาดีกว่าไอ้ฝรั่งขี้นกนี้หน่อยนะรู้ไหม....พ่อมันยังทิ้งไปไหนก็ไม่รู้..แกนี้มันก็หัวไว้กั้นหูอย่างเดียวเลยไม่รู้จักคิดว่าใครดีไม่ดี...บร้าๆ ” แม่ของแก้มพูดบ่นแก้มไปเรื่อยจนถึงที่เขาจอดรถจักรยานต์ไว้และขับพาแก้มออกไป  ผมก็รู้ว่ามันทำร้ายจิตใจคนทที่ยืนฟังอยู่ไม่น้อยเลย ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์ เขาได้แต่ยืนมองส่วนพวกโป้งและปันปันก็เดินหันหลังกลับ คงคิดว่านาทีนี้คงต้องเป็นผมแล้วแหละที่จะปลอบเขา  ผมหันไปมองคริสที่ยืนทำหน้านิ่งมาก ผมเมมริมฝีปากเข้าหากันก่อนจะ
 
                      “คริส” ผมเรียกคริสที่ยืนนิ่งมากจนผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าเขารู้สึกยังไงที่มีคนเรียกเขาแบบที่เขาไม่ชอบ
 
                      “ทำไมเขาต้องมองว่าผมเป็นไอ้ฝรั่งขี้นกด้วย...ผมโดนใครๆว่าผมแบบนี้ตั้งแต่ผมเรียนอนุบาลแล้วนะพี่เขม” คริสหันมาพูดกับผมแววตาของเขามันบอกได้ว่าเขาเสียใจ
 
                      “ไม่เอานะ..พี่รู้ว่านายมีดีกว่านั้น” ผมพูดและเอามือแตะที่ไหล่เขาเบาๆ
 
                      “หิวไหม”ผมก้มหน้าลงถามคริสโตเฟอร์
 
                      “ไปหาอะไรทานกันที่บ้านพี่ดีกว่า...ไปสอนที่บ้านด้วยแล้วกัน” ผมพูดกับคริสโตเฟอร์และดันเขาให้เดินออกคริสโตเฟอร์เงียบตลอดทางจนเดินมาถึงบ้านพัก ผมวางหนังสือลง
 
                      “ทานข้าวกันก่อนนะพี่รู้สึกหิวนะ”
 
                      “ผมไม่หิวอะพี่เขม”
 
                      “นะทานหน่อยและเดี๋ยวจะได้ติวให้ “
 
                      “เออ...หรือว่าจะหยุดหนึ่งวันก็ได้นะดุท่าทางเราเพลียๆ คงเหนื่อยวันนี้ซ้อมบาสก็หนักไม่ใช่เหรอคริส” ผมพูด ผมเห็นว่าคริสโตเฟอร์ไม่ได้โตตอบอะไรผมจึงลุกขึ้นจะแกะอาหารออกมาอุ่นในไมโครเวฟ
 
                      “หมับ” คริสโตเฟอร์จับข้อมือผมไว้
 
                      “พี่กอดผมหน่อยได้ไหม”
 
                      “พี่เขมกอดผมหน่อยซิ..พี่เขม” คริสโตเฟอร์เงยหน้าขึ้นมองผมแววตามันดูฉ่ำๆ ผมทรุดตัวกลับไปนั่งและกางเขนแค่นั้นคริสโตเฟอร์โผ่เข้ามากอดผม ผมรับรู้ได้ว่าอกเสื้อของผมเปียกชุ้มไปด้วยน้ำตาลูกผู้ชาย ผมได้แต่ยกมือขึ้นลูบหัวเขาเบาๆ 
 
                      “ผู้ชายร้องไห้ได้ใช่ไหมพี่เขม” คริสโตเฟอร์ถามผมโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองผม
 
                      “ร้องเถอะ...ไม่มีกฏข้อไหนห้ามผู้ชายร้องไห้นิ” ผมพูดพร้อมกับเอามือลูปหัวคริสโตเฟอร์ไปด้วย
 
                      “นอนกับพี่ไหมคืนนี้” ผมถามคนที่ผมกอดอยู่ เขาพยักหน้าตอบผมเบาๆ ผมนั่งปลอบโยนเด็กเกรียนของผม ตอนนี้เป็นเด็กน้อยขี้แยไปซะแล้ว ผมลุกไปอุ่นอาหารคริสโตเฟอร์และเขาก็ลุกขึ้นมาช่วยผมจัดโต๊ะก่อนจะมานั่งทานกัน วันนี้คงเจอมาหลายเรื่องอยู่เลยทำให้เขากินได้น้อยกว่าทุกวัน หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็บอกให้คริสโตเฟอร์ไปอาบน้ำก่อนผมจัดการเก็บล้างทุกอย่างเอง พอเสร็จปุ๊ปผมก็อาบน้ำที่หลังสุด
 
                      “คริส” ผมเห็นคริสเขาเปิดอ่านจดหมายจากชาวต่างชาติที่เขียนมาขอร้องให้พ่อผมช่วย ผมขึ้นไปบนที่นอนและ คริสโตเฟอร์ก็หันมามองหน้าผม
 
                      “เขาตามหาผมจริงๆใช่ไหมพี่เขม”
 
                      “เขาคนนี้จะใช่พ่อผมไหม”
 
                      “พี่เชื่อว่าใช่...คริส..พี่เชื่อว่าเขาใช่” ผมพูด คริสโตเฟอรวางจดหมายนั้นลงก่อนจะหันกลับมาเขาใช้ฝ่ามือโอบใบหน้าของผม เอียงคอเล็กน้อยๆ ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นประกบริมฝีปากบางๆของผม ผมเองก็จูบตอบกลับ ปลายลิ้นนุ่มๆนั้นสอดเข้ามาควานหาความหวานในปากผม ควานไปทั่วทั้งกระพุ้งแก้มก่อนจะวนมาหยอกเล่นกันปลายลิ้นของผม
 
                      “รอเสาร์อาทิตย์ดีกว่า” คริสโตเฟอร์หยุดการกระทำแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย แต่ผมก็ว่าดีนะ
 
                      “ดื่มนมก่อนนอนนะพี่ออกไปเอามาให้” ผมพูดและลุกไปรินนมใส่แก้วให้คริสโตเฟอร์ พร้อมกับเดินกลับมาส่งแก้วนมให้คนที่นอนเปิดดูอิเมลของผมไปด้วย คริสโตเฟอร์รับแก้วผมนมผมไปดื่ม
 
                      “พี่เขม..มีอิเมล.ส่งมาหาพี่ด้วยจาก..ณัฐกานต์”
 
                      “หึ ? “ผมไม่อยากจะเชื่อเลย คริสโตเฟอร์ก็รีบเปิดกล่องข้อความให้ผมดูด้วย
 
                       “เขมสบายดีไหม..เป็นไงบ้างความรักครั้งใหม่ขอบเขม มันดีกว่าตอนที่อยู่กับกานต์ใหม่..เขมรู้ไหมว่ากานต์ เหมือนคนที่มีเสื้อผ้าใส่แต่ยังไม่พอใจอยากจะได้ของใหม่ ..เขม..กานต์..คิดถึงเขม..คิดถึงคนที่เคยทำทุกอย่างเพื่อกานต์..คิดถึงคนที่เคยเช็ดตัวให้กานต์ตอนที่เมากลับมา..คิดถึงคนที่คอยเป็นห่วงคอยถามว่าทานยาหรือยังเวลาที่กานต์ไม่สบาย..คิดถึงความฝันที่เราเคยวาดไว้ด้วยกัน...มันไม่มีวันกลับมาอีกแล้วใช่ไหมเขม...กานต์เพิ่งจะรู้ว่ากานต์เสียคนที่รักกานต์หมดหัวใจไปเพราะความไม่รู้จักพอของกานต์เอง..” ผมอ่านไป ก็สังเกตุเห็นสีหน้าที่กังวลของคริส ผมเลยตัดสินใจกดลบและบล๊อก คริสโตเฟอร์หันมองหน้าผม
 
                      “พี่ไม่ทำร้ายจิตใจคนที่อยู่ข้างพี่ที่สุดหรอกครับ”
 
                      “ขอบคุณนะครับพี่เขม”
 
                      “นอนเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพักด้วยนิเรานะ.”
 
                      “นอนพักซะพรุ่งนี้จะดีขึ้น..เชื่อพี่นะ...พรุ่งนี้เช้าพี่จะสั่งโจ๊กไปนั่งกินกับเราและเพื่อนๆ ..ไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยกัน...นานแล้ว”
 
                      “ครับ..ฝันดีนะครับที่รัก..จ๊วบ”
 
                      “ฝันดีครับ” ผมพูดและจูบคนที่ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเบาๆ ก่อนจะพากันล้มตัวลงนอนผมเอื้อมไปกดปิดไฟที่หัวเตียง ทันทีที่ร่างผมเอนลงบนที่นอนคนข้างๆก็สวมกอดผมทันที ผมใช่มือลูบหัวเบาๆ ไม่นานคนข้างๆก็หลับสนิท ผมรับรู้ ได้จากจังหวะการหายที่สม่ำเสมอกัน ผมเองก็กำลังจะหลับตาลงตามเช่นกันด้วยความอ่อนล้า ผมหวังแค่ว่าจะไม่มีอะไรที่มากระทบกระเทือนจิตใจคนที่ผมกอดไว้อีก เขาไม่ใช่ประอิฐพระปูนนะที่ได้รองรับได้ทุกเรื่องไป และผมก็คงต้องดูแลเขาให้มากขึ้นช่วงนี้มันเหมือนหัวเลี้ยวหัวต่อของเขาเหมือนผมต้องประครองเขาไปให้ได้
                      "ทนอีกหน่อยนะคิดพี่เชื่อว่า คริสจะผ่านมันไปได้ “ผมพูดและกอดคนที่หลับสนิท เขาคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไหนจะซ้อมบาสและอ่านหนังสือที่ต้องหนักขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือถูกที่ดึงเขาเข้ามาในเส้นทางที่ไม่สวยหรูของผมแต่ผมจะไม่ยอมปล่อยมือเขาเด็ดขาด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 23:01:44 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
      EP.26 ครูเขมXคริส วันแข่งขันบาสเก็ตบอลรอบชิง(ครึ้งแรก)
       
          วันนี้เป็นวันพิเศษ วันนี้คริสโตเฟอร์และเพื่อนๆทีมบาสเก็ตบอลจะทำการแข่งขันรอบชิงที่โรงเรียนนี้ด้วยเพราะว่าโรงเรียนเราเป็นเจ้าภาพ ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเขาจริง ๆ เมื่อวานผมเลยไม่ได้สอนพิเศษเขา เพื่อเขาจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แต่ดันมามีเรื่องแม่แก้มเข้ามากวนใจทำให้คริสเสียใจเมื่อวานผมเลยชวนคริสโตเฟอร์มานอนที่บ้านพักครู ผมตื่นมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว สงสัยรีบ
 
          ผมตื่นมาก็ทำหน้าที่ครูเวรยืนหน้าโรงเรียนเช่นเคย วันนี้นักเรียนดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษเพราะว่า วันนี้มีเด็กนักกีฬาจากโรงเรียนอื่นๆ มาร่วมแข่งขัน แต่ละทีมก็เป็นตัวเก็งกันทั้งนั้น คริสโตเฟอร์บอกกับผมว่า พวกเขาผ่านการคัดตัวเมื่อเทอมที่แล้วจากการแข่งขันภายในโรงเรียนก่อนและนี้อาจจะเป็นสาเหตุให้กายพยายามนำยาเสพติดใส่ในกระเป๋าคริส ผมเลยพยายามบอกเขาให้เขาระวังตัวเองดีดี 
 
         “คริส” ผมเดินไปหาคริส ที่กำลังยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างสนาม คริสโตเฟอร์หันมามองผม และส่งยิ้มมาให้ผมทันที
 
         “เต็มที่นะ พี่รอดูนายอยู่” ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์
 
         “วันนี้จะให้รางวัลผมไหมพี่เขม ผมจะชู้ต 3แต้ม ได้เกินยี่สิบลูก” คริสโตเฟอร์ถามผม ผมเองไม่ได้ไปดูเขาแข่งรอบคัดเลือกเลยแต่ได้ยินครูประวิทย์ ที่เป็นครูพละพูดว่านายคริสทำคะแนนให้โรงเรียนทุกแม๊ทเลย
 
         “ก็ได้ถ้านายได้แชมป์ พี่ให้รางวัลก่อนเสาร์อาทิตย์ “ ผมพูดเพราะว่านี้เพิ่งจะวันพุธเอง ปกติต้องรอเสาร์อาทิตย์ คริสโตเฟอร์ยิ้มให้ผมทันที ที่แบบนี้ละกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที   ผมหันไปเห็นโป้งที่เดินมาพร้อมกับปันปัน อาร์ทและโจ พากันยกมือไหว้ผม ผมก็หันไปรับไหว้ และมีเด็กที่เป็นตัวสำรองนั่งรอยู่ข้างสนามตรงจุดนักกีฬา
 
         “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปนั่งรอดูเราตั้งโน้น กับครูลินดาและครูถาวรนะ “ ผมพูดก่อนจะเดินหันหลังออกไป
 
         “พี่เขมไม่กอดผมหน่อยเหรอครับ ผมอยากได้กำลังใจ” คริสโตเฟอร์ถามผม ผมหันมามองหน้าเขา
 
         “แค่กอดอ่ะ พี่เขม” คนตรงหน้าอ่อนผม ผมก็พยักหน้าว่าได้ และผมก็เดินเข้าไปกอดเขา
 
         “สู้ๆนะ พี่รอให้รางวัลอยู่” ผมพูดกระซิบ
 
         “วี้ดวิ้วว” อันนี่พวกเพื่อนในทีมเขา ตรงที่ผมมาคุยกับเขาจะเป็นจุดพักนักกีฬาก็จะไม่มีคนมาก เพราะว่าผมเองก็ต้องทำตามที่ผู้อำนวยการบอกผม ว่าผมควรจะคงไว้ซึ้งครูอาจารย์และคริสโตเฟอร์คือนักเรียนของผม ผมเดินกลับมาที่นั่งสำหรับกองเชียร์
 
         “ครูเขม ทางนี้ค่ะ”ครูลินดาเรียกผม ไปนั่งด้วยและครูถาวรก็นั่งอยู่ตรงนั้น
 
         “คริสโตเฟอร์เป็นยังไงบ้างคะ” ครูถาวรถามผม
 
         “ดูเขาชิวๆสบายๆนะ ไม่ได้เครียดอะไร” ผมตอบครูถาวรไป
 
         “แล้วนี่ครูจะพานายคริสไปสอบเมื่อไหร่คะ” ครูลินดาถามผม ครูลินดาคงหมายถึง สอบGED แน่ ๆ
 
         “ผมว่าจะรอให้เขามั่นใจมากกว่านี้หน่อยนะครับ อยากให้เขาทำคะแนนได้ดีกว่านี้อีกหน่อย “ ผมพูด ตอนนี้คริสได้ไปเรียนติวกับเพื่อนผมเกรท และน้องสาวของเกรท แกรนด์ แกรนด์เขาสอนให้ฟรีเพราะว่าผมก็ติวแกรนด์มาก่อน จนสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่น้องเขาอยากเข้าได้ และนี่แกรนด์เลยไม่คิดเงินผม
 
         “ตอนนี้ก็สบายใจเรื่องแม่ของคริสโตเฟอร์แล้วใช่ไหมคะครู “ ครูลินดาถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่
 
         “ผมได้ส่งอิเมลไปหาพ่อของคริสโตเฟอร์นะครับ พ่อของคริสโตเฟอร์เคยเขียนจดหมายมาหาพ่อผมเพื่อให้ช่วยตามหาเขา แต่ว่าพ่อผมเริ่มป่วยและไม่นานทันก็เสีย ผมก็เลยไม่ได้สานต่อ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมควรจะทำนะครับ” ผมหันไปบอก
 
         “นายคริสนี้โชคดีจังนะคะ เอ๊ะ!  หรือว่ารักนี้คือพรมลิขิตค่ะ ดูประจวบเหมาะไปหมดเลย ตั้งแต่ครูมาเป็นครูที่นี้แล้ว และพ่อของครูยังเคยช่วยครอบครัวนายคริสโตเฟอร์เอาไว้อีก แถมครูก็ยังเคยเจอคริส แม้ว่าตอนนั้นคริสโตเฟอร์ยังเด็กก็ตาม ลินดาว่านี้คือพรมลิขิตแล้วแหละค่ะ ครูเขม” ครูลินดาพูด ผมหันมามองและลำดับเหตุการณ์ มันใช่จริงด้วย ผมเองก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพรมลิขิตมาก่อน แต่ตอนนี้ผมเชื่อได้สนิทใจแล้วว่าพรมลิขิตมีจริง
         
         “โรงเรียนเราลงสนามแล้วค่ะครู “ ครูถาวรพูด ผมก็มองนักกีฬา บาสเก็ตบอลลงไปอยู่ที่กลางสนาม และคุณกรรมการ รอบนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศแล้ว โรงเรียนคู่แข่งเป็นอดีตแชมป์เมื่อเก่ามาก่อน แต่มาเสียแชมป์ให้ทีมของคริสเมื่อปีแล้ว
 วันนี้คริสสวมเสื้อกล้ามเหลืองแดงแถบสีขาว เป็นสีประจำโรงเรียน คริสเขาได้หมายเลข 11 อยู่ใน Shooting GuardและPower Forward   ตำแหน่งนี้เรียกได้ว่าเป็นเอส ของทีมเป็นตำแหน่งทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะชู้ต 2 แต้ม, 3 แต้ม, การครองบอล, การส่งบอล, Rebound  และเขาก็ทำได้ดีโดยเฉพาะชู้ต 3 แต้ม เขาเลยตำแหน่งนี้ไปโดยปริยาย  ผมไปยืนดูเขาซ้อมมาหลายครั้งแล้ว คริสโตเฟอร์ชู้ต 3แต้มแม่นทุกลูกเลย
 
 ตำแหน่ง Guard นั้นคืออาร์ท เบอร์ 9 เป็นตำแหน่งที่มีความเร็ว ความคล่องแคล่ว และยังมีความสามารถในการRunning (การวิ่ง) Dribble (การเลี้ยงบอล) Steal (การแย่งบอล) 3 Point (การชู้ต 3 แต้ม) และ Pass (การส่งบอล)  อาร์ทความเร็วในทุก ๆ ด้าน ส่งและรับบอลได้อย่างแม่นยำและเป็นตัวทำเกมให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ดี
 
   ส่วนโป้งเบอร์ 10    ตำแหน่ง Center เป็นตำแหน่งที่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่ง การBlockที่เฉียบขาด การReboundบอลที่แน่นอน รวมไปถึง การDunkที่ดุดัน  ผมนั่งดูพวกเขาซ้อมกันหนักเมื่อวาน โป้งทำรีบาวน์ได้ได้ยอดเยี่ยมมาก ผมว่าโป้งนี้มีพรสวรรดิ์ทางด้านนี้ ผมอยากให้เขาไปลองทีมชาติ เขาต้องได้แน่ๆ
 
 ส่วนปันปัน เบอร์4  ก็ เป็นตำแหน่ง Point Guard เป็นตำแหน่งที่จะเคลื่อนที่ไปทั่วสนาม เพื่อที่จะหลอกล่อคู่ต่อสู้และสร้างโอกาสให้กับทีมได้อยู่เสมอ รวมไปถึงการทำแต้มด้วยตัวเอง ทั้ง 2 แต้ม และ 3 แต้ม ปันปันตัวเล็กคล่องแคล้วว่องไว และเป็นตัวทำโอกาสให้โป้งได้ทำแต้ม และยังทำหน้าที่ Small Forward เหมือนเป็นตัวกลางของทีมที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่าง Center (โป้ง) และ Guard(อาร์ท)
 
 และโจ เบอร์ 7ตำแหน่ง    Forward  จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างภายในเส้น 3 แต้ม และตรงบริเวณ Center ที่อยู่ใต้แป้น และด้วยค่าการเริ่มต้นที่สมดุล ทำให้การใช้ความรวดเร็วของเท้า และการชู้ตตรงกลางสนามที่แม่นยำ ทำให้กลายเป็นกุญแจสำคัญของการแข่งขัน
 
“เด็กกลุ่มนี้เขามีพรสวรรดิ์เรื่องบาสเก็ตบอลจริงๆนะคะ น่าสนับสนุนพวกเขา” ครูถาวรพูด ผมก็พยักหน้า จังหวะนั้นผมเงยหน้าขั้นไปเห็นกาย ที่ยืนมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจหนัก ผมทราบมาว่าเขาโกรธที่ทีมเขาแพ้เมื่อเทอมที่แล้ว เลยทำให้ทีมของโป้งและคริสได้เป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขันระดับโรงเรียนอีกปี  และก็คงเสียหน้าด้วยแหละผมว่า พอนายกายเห็นว่าผมมองเขา นายกายก็หันไปคุยกับเพื่อนอีกคนที่ชื่ออณุพงษ์ เขาเกือบจะต่อยผมในวันนั้นและพากันเดินลงจากชั้นที่นั่งสำหรับกองเชียร์
 
“เรานำห่างแล้วนะครูเขม” ผมหันกลับมามอง จริงด้วยนำห้างไปสิบห้าแต้ม 57 – 42  แต่ละแต้มมาจากการรีบาวน์ของโป้งและคริสที่ดั้งลงไปแบบสวยๆ ตอนนี้ครูประวิทย์เรียกนักกีฬาเพื่อประชุม คริสโตเฟอร์หันมามองผมและยกนิ้วโป้งให้ผม ผมก็ยกนิ้วโป้งให้เขาเช่นกันแปลว่าเขาทำดีมากผมแอบนั่งนับคริสชู้ต 3แต้มไปแล้ว 14 ลูกสงสัยผมจะต้องให้รางวัลคืนนี้แน่ๆ ตอนนี้อีกทีมกำลังขอเปลี่ยนตัวนักกีฬา และคริสกับเพื่อนก็กลับไปลงสนามแข่ง รอบนี้คงจะเป็นแม็ตสุดท้ายแล้ว
 
 พอลงไปได้ไม่ถึงห้านาที คริสก็ทำ3แต้มได้ทันที ทำให้คะแนนเพิ่มมาอีก ภาพที่เพื่อนๆเข้ามากอดกันมันทำให้ผมนึกถึงตอนวัยเรียนมัธยมของผม ผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือผิดที่ให้เขาไปสอบGED เพราะเขาอาจจะไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้อีกแล้วหากเขาเลือกที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยเลย แค่คิดก็แอบใจหายเหมือนกัน ใจหายที่ผมจะไม่ได้เห็นเขาอยู่ในโรงเรียนเดียวกับผม
 
             “โคล้ม!”เสียงดังสนั่นลั่นยิมที่ใช้แข่งขันบาสเก็ตบอล นายคริสโตเฟอร์ลงไปนอนอยู่ที่พื้นข้างสนาม  ผมก็ตกใจลุกขึ้นยืนดู หนี่งในทีมตรงข้ามชนกับคริสโตเฟอร์ ผมไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ และดูท่าคริสจะได้รับบาดเจ็บซะด้วย เขากุมที่หัวไหล่ของเขาเอาไว้ยังคงนอนตัวงออยู่ที่พื้น ผมเริ่มใจคอไม่ดีแล้วซิ
 
                  “ครูเขมลงไปดูคริสเถอะค่ะ” ครูลินดาบอกผม ผมก็รีบแหวกคนที่นั่งดูและรีบวิ่งลงมา ผมเห็นครูประวิทย์วิ่งเข้าไปในสนาม กรรมการก็วิ่งเข้าไปดู เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลอีกคนวิ่งเข้าไป ผมเห็นคนที่ชนคริสโตเฟอร์เดินออกมา ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกผิดอะไรเลย นั้นแปลว่าเขาจงใจ จังหวะนั้นผมเหลือบไปเห็นนายกายที่ยืนอยู่ชั้นล่าง มองอย่างสะใจอย่าบอกนะว่านี้คือแผนของนายกาย
 
                  “ผมว่าเราต้องพาไปโรงพยาบาล” ผมได้ยินเสียงครูประวิทย์วิ่งมาบอกกรรมการข้างสนาม และกรรมการก็ยกมือขอเวลานอก
 
                  “ครู คริสเป็นยังไงบ้างครับ”  ผมถามครูประวิทย์
 
                  “เขาเจ็บมากครับ ผมคิดว่าควรจะพาไปโรงพยาบาลครับ ผมไม่แน่ใจว่ากระดูกหักไหมนะครับครู” ครูประวิทย์บอกผม ผมหันไปมองนายกาย ทำไมเขาต้องทำกันถึงขนาดนี้
 
                  “ผมไปกับคริสเองครับครู” ผมพูด ครูประวิทย์พยักหน้า ผมเดินตามเจ้าหน้าที่ที่เอาเปลไปรับคริสโตเฟอร์ออกมา ผมเห็นสีหน้าเขาปวดมากจริงๆ
 
                  “คริส” ผมเรียกเขา คริสก็นอนเอามือกุมหัวไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บเอาไว้ สีหน้าบ่งบอกได้ว่าปวดมากจริงๆ ผมเห็นแบบนี้แล้วอยากจะเจ็บแทนเขาจริงๆ
                   “รถพยาบาลรอด้านนอกแล้วครับ “มีเจ้าหน้าที่วิ่งมาบอก
 
                  “ผมเป็นครูครับ ผมจะไปกับนักเรียนครับ”ผมบอกเจ้าหน้าที่
 
                  “ได้ครับครู” เจ้าหน้าที่บอกผม คริสโตเฟอร์มองหน้าผมแต่ก็ยังคงฝืนยิ้มให้ผม ผมหันไปเห็นโป้ง โป้งคงรู้ว่าอีกฝั่งเล่นสกปรก โป้งวิ่งออกมาจากสนามและตรงไปหาคนที่ทำให้คริสเจ็บ ผมคิดว่ามันจะยิ่งทำให้แย่เข้าไปอีกหากเขาถูกกรรมการตัดสินให้เขาออกจากการแข่งขันอีกคนตอนนี้ เพราะว่าไปต่อยฝ่ายตรงข้าม
 
                  “มึงจงใจนี่หว่า” โป้งตรงเข้าไปคว้าคอเสื้อ ผมก็ต้องวิ่งเข้าไปดึงแขนโป้งออก
 
                  “โป้ง อย่า!” ผมดึงแขนโป้ง และปันปันก็วิ่งมาช่วยดึงรั้งโป้งเอาไว้
 
                       “โป้งอย่า!” ปันปันร้องห้ามโป้งอีกคน
 
                  “ครูเขมมันจงใจอ่ะ!”  โป้งหันมาบอกผม
 
                  “มันจงใจทำให้คริสเจ็บอะครู” โป้งพูดด้วยสีหน้าที่เดือดดาน
 
                  “โป้ง กลับเข้าสนามไป ถ้านายมีเรื่องอีกคนและนายต้องออกจากสนามการแข่งขันไป ใครจะคุมเกมส์ละโป้ง คิดถึงตรงนี้ซิ ทุกคนทุ่มเท่เพื่องานนี้ อย่าทำมันพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบโป้ง  “ ผมพูดบอกโป้งและปันปันที่ส่งสายตาอ้อนวอนโป้งว่าอย่าเข้าไปหาเรื่องเขา อาร์ทและโจก็วิ่งมาดึงรั้งห้ามโป้งอีกคน
 
                  “ครูจะไปดูคริสเอง ตอนนี้ทั้งทีมต้องการนายโป้ง นายคือตำแหน่งเซนเตอร์และความหวังของทีม  ส่วนคริสครูดูแลเอง” ผมพูดบอกโป้ง โป้งมองหน้าผมและพยักหน้า
 
                  “ไปเถอะวะ เอาคืนให้คริสมัน ด้วยรีบาวน์เท่ๆ” ปันปันพูดบอกโป้ง ผมก็ยิ้มให้ และรีบเดินออกเพราะว่าเจ้าหน้าที่กำลังพาคริสโตเฟอร์ไปโรงพยาบาล ผมเดินขึ้นไปนั่งกับคริสในรถพยาบาล ผมดูสีหน้าครสิโตเฟอร์ ดีขึ้นมาหน่อย คงเพราะเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื่องต้นให้แล้ว
 
                  “คริส เป็นไงบ้าง” ผมถามคริสโตเฟอร์
 
                  “เจ็บอ่ะครู สงสัยจะตักข้าวกินเองไม่ได้ไปหลายวันแน่ๆ “ คริสโตเฟอร์พูดและยังมาหัวเราะอีก ผมก็มอง
 
                  “คงต้อง… ขอผู้อำนวยการไปนอนบ้านพักครู จะได้มีคนป้อนข้าวป้อนน้ำ” คริสโตเฟอร์พูด ผมก็ต้องเกาหัว
 
                  “นายลงทุนมากไปไหม เจ็บขนาดนี้เลย และยังมาพูดตลกอีกนะ หึ “ ผมก้มลงพูดไม่ดังมากแค่พอได้ยินกันสองคน ไม่นานรถโรงพยาบาลก็นำคริสโตเฟอร์มาส่งที่โรงพยาบาล ผมก็เดินเจ้าหน้าที่เข้าไปแต่ว่าผมรอหน้าห้องฉุกเฉินแทน เขาไม่อนุญาติให้ผมเข้าไปด้านใน และผมก็ไปทำเรื่องแจ้งประวัติคนไข้ โชคดีที่นายคริสมีประกันสำหรับนักกีฬาประจำโรงเรียน ดังนันทางโรงเรียนจึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแทน นายคริสต้องได้รับการเอ็กซ์เรย์ดูกระดูกที่หัวไหล่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2020 23:09:35 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 EP.26 ครูเขมXคริส วันแข่งขันบาสเก็ตบอลรอบชิง(ครึ้งหลัง)
             
                Rrrr เสียงมือถือผมดังขึ้้น ผมเหลือบมองเป็นเบอร์แม่ของคริสโตเฟอร์นั้นเอง วันก่อนที่คุยกันก็ได้แลกเบอร์กันเอาไว้ แม่ของคริสบอกว่าคริสไม่ค่อยบอกเขาเวลามีเรื่อง ดังนั้นแม่เลยเลือกที่จะคุยกับผมแทนคริส



“สวัสดีครับแม่”



“เขมน้องเป็นอะไรลูก ครูนิดเขาโทรมาบอกแม่ว่า คริสได้รับบาดเจ็บขณะที่แข่งขันบาสเกตบอล” แม่ของคริสโตเฟอร์รีบถามผมด้วยอาการร้อนรน



“ตอนนี้น้องอยู่ในห้องฉุกเฉินครับแม่ ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรมากครับแม่”



“นี่โชคดีนะที่มีเขมอยู่ที่นั่น แม่ฝากน้องด้วยนะลูก มีอะไรโทรหาแม่นะเขมนะ “แม่ของคริสโตเฟอร์บอกผม



“ได้ครับแม่ ถ้าคริสออกมาจากห้องฉุกเฉินแล้วผมจะรีบโทรหาแม่นะครับ”



“ขอบคุณค่ะเขม “และแม่ของคริสโตเฟอร์ก็กดวางสายไป ผมได้แต่ยืนรอ อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมผมเห็นเจ้าหน้าที่เปิดประตูออกมา



“เชิญญาตินายคริสโตเฟอร์ ค่ะ” พยาบาลเรียกหาญาติของคริสโตเฟอร์



“ผมครับ ผมเป็นครูของเขาครับ” ผมเดินเข้าไป และพยาบาลก็ผายมือให้ผมเดินเข้าไปด้านใน ผมเห็นนายคริสโตเฟอร์นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงคนไข้ ดูท่าจะไม่เป็นไรมากแล้ว ผมสังเกตเห็นว่ามีผ้าคาดประคองแขนอยู่ แต่ว่าคืนนี้พ่อตัวดีของผมคงได้ปวดระบบไหล่แน่ๆ



“สวัสดีค่ะ” ผมหันไปเจอคุณหมอที่สวมเสื้อกาวน์ยาวมายืนถือแฟ้มคนไข้ ส่งยิ้มมาให้ผมและนายคริสโตเฟอร์



“คนไข้พูดไทยได้ไหมคะ” คุณหมอคนสวยเอ่ยถามผม



“คนไข้พูดไทยได้ครับ” ผมหันไปตอบคุณหมอ ผมเข้าใจว่าทำไมคุณหมอถึงถามเช่นนั้น นี่คงเป็นเพราะว่าชื่อนามสกุลของเขาแน่ๆ



“ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ” คุณหมอถามผม ผมก็กำลังจะหันไปตอบว่าเป็น



“คุณพ่อครับ” คริสโตเฟอร์ตอบให้เสร็จสรรพ ว่าผมเป็นคุณพ่อ ผมสะบัดหน้ามามองนายคริสโตเฟอร์ นี้ให้เป็นพ่อเลยเหรอ



“คุณพ่อเหรอคะ หน้าเด็กมากเลยนะคะ คุณแม่น้องเป็นคนต่างชาติเหรอคะ “คุณหมอรีบชมผมทันทีว่าคุณพ่อหน้าเด็ก แต่จริงๆ ไม่ใช่สักหน่อย และยังถามผมอีกนะว่าผมไปมีภรรยาเป็นคนต่างชาติเหรอ ผมหันมามองพ่อตัวดีที่นั้งห่อยขาอยู่บนเตียงคนไข้ (รอกลับบ้านก่อนจะให้ตักข้าวกินเองทั้งที่แขนเจ็บๆ เลย ผมคิดในใจ)



“เป็นพ่อทูนหัวของผมนะครับ” นายคริสโตเฟอร์พูดและหันมาทำตาเล็กตาน้อยใส่ผมแต่นั่นก็ทำเอาคุณหมอที่ยืนถือแฟ้มอยู่ หันมามองผมกับคริสสลับกันไปมา



“ถ้าอย่างนั้นคุณหมอขอเรียกคุณแฟนก็แล้วกันนะคะ ยังไงคืนนี้น้องเขาน่าจะปวดมากหน่อยนะคะ คุณแฟนก็คงต้องดูแลนิดนึงนะคะ หมอดูจากฟิล์มเอ็กซเลย์แล้ว ไม่มีกระดูกหักกระดูกร้าวนะคะ แต่น่าจะบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ยังไงหมอจะให้ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบกล้ามเนื้อและยานวดไปด้วยนะ คุณแฟนก็ทาบางๆ ไม่ต้องนวดเยอะนะคะ เพราะน้องอาจจะระบบได้ค่ะ “คุณหมออธิบายพรั้อมยิ้มให้ผมสองคน



“ช่วงนี้ก็ใช้อาร์มสลิงไปก่อนนะคะ สักสองสามวัน ถ้าดีขึ้นไม่ต้องคล้องแล้วก็ได้นะคะ” คุณหมอพูด



“แต่ถ้าน้องปวดมากจนทนไม่ไหว พากลับมาโรงพยาบาลได้นะคะ ถ้ายังงั้น หมอขอตัวนะคะ”



“ขอบคุณครับคุณหมอ” ผมพูดขอบคุณ คุณหมอคนสวยและหันมามองพ่อตัวดี พ่อทูนหัว



“เดี๋ยวเชิญไปรับยาได้เลยนะคะ ที่ห้องรับยาด้านหน้าค่ะ “เจ้าหน้าที่พยาบาลเดินมาบอกผม



“นั่งรถเข็นไหมคริส” ผมถามคริสโตเฟอร์



“ไม่เอาอ่ะพี่เขม “คริสโตเฟอร์พูดและผมก็พยุงให้เขาลงจากเตียงคนไข้ ผมหยิบกระดาษใบสั่งยาขึ้นมาดู มียาพาราเซตามอลสำหรับแก้ปวด และยาแก้ปวดคล้ายกล้ามเนื้อและยานวด



“เสียดายอ่ะพี่เขม สงสัยผมจะไม่ได้รางวัลจากพี่แน่ๆ เลย” คริสโตเฟอร์พูดทำสีหน้าเสียใจ ผมนี้ควรจะหันไปใจอ่อนดีไหม ที่กลัวนี้คือไม่ได้กดผมก่อนเสาร์อาทิตย์หรือไง



“ทำไมกลัวไม่ได้อิบอิบพี่เหรอ” ผมกระซิบที่ข้างหู



“ใช่อะดิ ชู้ดสามแต้มไปแค่สิบห้าลูกเอง “คริสโตเฟอร์พูด ขณะที่ผมเดินออกมาจากห้องรับยา ผมก็เห็นว่ามีเด็กผู้หญิงที่สวมชุดนักกีฬาประจำโรงเรียนที่ผมเป็นครูสอน ผมว่าเหมือนแก้มเลย ผมก็ชะเง้อมองหา เพราะว่าผมเห็นแว๊ปเดียวเอง



“พี่เขมมองหาใครอ่ะ” คริสโตเฟอร์ถามผม



“แก้มนะคริส พี่เห็นเหมือนแก้มมาดูนายที่นี้นะ” ผมบอกคริสโตเฟอร์



“ช่างมันเถอะพี่ ตอนนี้ผมไม่แคร์แล้วถ้ามันจะมาแอบถ่ายรูปพี่กับผมไปทำอะไรอีก และผมก็พร้อมจะไปสอบแล้วด้วยนะพี่เขม ผมเบื่ออ่ะ “คริสโตเฟอร์พูด ผมก็มองคริส



“อย่าคิดแบบนั้นซิ พี่ว่าแก้มเขาดีขึ้นแล้วนะ “ผมหันไปบอกคริสโตเฟอร์แต่คริสก็ยักไหล่ไม่สนใจ



“ไปรับยาเถอะพี่เขม ผมเริ่มปวดแขนแล้วอ่ะ “นั้นไงงอแงเพราะปวดแขนนี่ไง



“ก็ได้ แล้วคริสจะกินอะไรดีละ “ผมหันไปถามคริส ผมหันกลับไปมองแก้มเดินออกไปแล้ว ผมเองก็สงสารแก้มนะ



“อยากกินข้าวต้มฝีมือพี่เขมอ่ะ ไม่ต้องใส่อะไรเลยนะนอกจากใส่ใจก็พอแล้ว “คนข้างๆ ผมกระซิบที่ข้างหูผม ทำให้ผมหันไปมอง



“เลี่ยนอ่ะ” ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์ และผมกับคริสโตเฟอร์ก็มานั่งรอรับยาด้วยกัน



“ไอ้คริส!!” เสียงเรียกชื่อคริสจากเพื่อนๆ ของเขาที่ตามมาที่โรงพยาบาล โป้ง ปันปัน โจและอาร์ทนั้นเอง ผมหันไปมองพวกเขา ผมนับถือความเป็นเพื่อนที่เหนียวแน่นของพวกเขาจริงๆ



“เป็นไงบ้างว่ะคริส” โจเดินมาถึงก็ถามคริสโตเฟอร์ คริสก็ยกนิ้วแล๊ปโย๊ะว่าโอเคอยู่



“แล้วผลการแข่งขันเป็นไงบ้าง” ผมถามทุกคนคน



“ชนะครับครู โป้งมันเล่นair walk 10 ลูกติด ชนะขาดลอยไปเลยครับ “ปันปันพูด ผมหันไปมองและยกนิ้วโป้งให้โป้งไปเลย คริสโตเฟอร์ก็ใช่กำปั้นข้างที่ไม่เจ็บชนกับโป้งและเพื่อนๆ ทีมบาสเกตบอล นั้นแปลว่าเขาโอเคแล้ว



“แต่พวกผมเจ็บใจไอ้คนที่ทำคริสเจ็บอ่ะครู มันจงใจนะผมว่า” อาร์ทพูด ผมก็รู้ดี และคิดว่านายกายคือเบื้องหลังอีกแน่ๆ



“ครูเห็นกายเดินลงมาจากชั้นที่นั่งเชียร์ และตอนที่คริสได้รับบาดเจ็บนะ นายกายก็อยู่ใกล้ๆ กับทีมที่แข่งขันด้วยนะ แต่ครูไม่มีหลักฐาน ดังนั้นครูก็คงพูดไปแบบนั้นไม่ได้” ผมพูดกับทุกคน



“ผมเชื่อว่ามันแน่ๆ ครู ไอ้นี่มันเจ็บใจที่พวกผมได้เป็นตัวแทนเพราะมันแพ้พวกผมตอนแข่งขันคัดตัวของโรงเรียนเทอมที่แล้วครับครู” โจพูด ผมพยักหน้า



“ท่านผอ ฝากบอกว่า คือนี้ ให้ครูดูแลคริสด้วยนะครับ “ปันปันบอกผม ผมหันไปมองพ่อตัวดี



“เอ๊ะ หรือว่ามึงจะกลับไปให้กูดูแลแทนละคริส” ปันปันหันกลับไปถามคริสโตเฟอร์ และคนที่สะบัดหน้ามามองคือโป้ง ส่วนคริสนะทำท่าตกใจจนผมอดขำไม่ได้ และขนลุกอีกต่างหาก



“ไม่เอา ให้ครูดิ มึงไม่ใช่เมียกูนิ” ดูคริสโตเฟอร์พูด มันน่าไหมเนี๊ยะ ผมยืนกอดอกมองพ่อตัวดี เดี๋ยวให้นอนบ้านพักนักเรียนซะเลย



“กูถามจริงนะ มึงลงทุนเจ็บตัวเพื่อไปนอนบ้านพักครูหรือเปล่าวะ นี้ยังไม่เสาร์อาทิตย์เลยนะคุณคริส!” อาร์ทถามคริสโตเฟอร์



“เออวะ ไอ้นี้แผนสูงนะมึง” โจอีกคน และผมก็เดินไปรับยาแทนให้คริสโตเฟอร์ เพราะว่าถึงหมายเลขชองเขาแล้ว



“สวัสดีค่ะ รับยาของคนไข้ชื่ออะไรคะ” เภสัชกรถามผม



“รับยาคนไข้ชื่อ คริสโตเฟอร์ เอนโทนี่ ริซโซ ครับ”



“เป็นอะไรกับคนไข้คะ”



“เป็น….” ผมกำลังจะพูดว่าผมเป็นครู



“แฟนครับ” คริสโตเฟอร์เดินมายืนข้างๆ ผมทันที เรียกว่ายืนเบียดเลยก็ว่าได้ ทำเอาภสัชกรเงยหน้ามองผมและคริสโตเฟอร์สลับกันไปมา



“แป๊บหนึ่งนะคะ ถ้าอย่างนั้นขอเปลี่ยนฉลากยาเป็นภาษาไทยแล้วกันนะคะ ดูท่าจะไม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษแล้ว “เภสัชกรเงยหน้าบอกผมและเขาก็ส่งตะกร้าที่ใส่ยากลับไปด้านหลังเพื่อให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนฉลากยาให้ใหม่ ผมไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมเขาใช้ภาษาอังกฤษเลย เขาคงคิดว่าคริสโตเฟอร์พูดไทยไม่ได้แน่ๆ เพราะชื่อมันบ่งบอกว่าต่างชาติล้วนๆ



“ได้แล้วค่ะ ยาของคุณคริสโตเฟอร์นะคะ มียาแก้ปวด ทานเวลาปวด ทุกสี่ถึงหกชั่วโมง บร้าๆๆ” ผมก็ยืนฟังให้เขา และรับถุงยามาถือไว้ คุณเภสัชกรยังคงมองผมสองคนและยิ้มให้



“น่ารักดีนะคะ” มีชมผมสองคนด้วย ผมเดินออกมาก็หาพวกโป้ง ปันปันและอาร์ทและโจ ยืนอยู่

“ถ้าอย่างนั้นผมสองคนกลับบ้านกันเลยนะครับครู ส่วนครู ไอ้โป้งมันเอารถมันมา เดี๋ยวมันไปส่งครูเองครับ” อาร์ทบอกผม ผมพยักหน้าว่าได้ อาร์ทและโจก็แยกย้ายกันที่ด้านหน้าโรงพยาบาลทันที ผมก็เข้าไปนั่งด้านหลังกับคริสโตเฟอร์ ผมเห็นสีหน้าเขาเริ่มจะปวดแขนแน่ๆ เลย



“ไหวไหมคริส” ผมถามคริสโตเฟอร์ คริสพยักหน้าบอกผม โป้งก็ออกรถจากโรงพยาบาล



“พี่ว่าเราซื้อข้าวต้มแถวนี้ไปทานกันดีกว่าคริสเพราะว่ากว่าพี่จะทำให้เราทานนะ และไหนเราจะต้องทานยาแก้ปวดอีกละ “ผมบอกคริสโตเฟอร์



“แถวนี้มีร้านขายข้าวต้มด้วยครับครู ผมกับโป้งออกมาทานด้วยกันบ่อย เนอะโป้งจัง” ปันปันพูด



“บอกว่าอย่าเรียกโป้งจังไง มันดูคิกขุ” โป้งรีบเอ็ดปันปันแต่เขาก็ไม่ได้โกรธอะไร ผมหันมามองคริสโตเฟอร์ คริสก็พยักหน้าว่าได้ และโป้งก็นำรถเข้าไปจดด้านหน้าตลอด ผมเองก็นั่งรอในรถ ส่วนคริสโตเฟอร์ก็นั่งเอาหัวผิงหัวไหล่ผม



“โป้งเอาเงินครูไปนะโป้ง และเราสองคนจะทานอะไรซื้อมาได้เลยนะ ครูเลี้ยงที่เราชนะวันนี้” ผมพูดบอกโป้งและปันปัน ผมยื่นธนบัตรใบละห้าร้อยให้ไป



“ของครูกับคริสเอาข้าวต้มปลาแล้วกันไม่ใส่ขิง ไม่ใส่ผักชี ไม่ใส่พริกไทย” ผมพูดและหันไปมองคริสโตเฟอร์ ผมว่าเขากึคงไม่ใส่เหมือนตอนสั่งโจ๊กนั่นแหละ



“ได้ครับครู “โป้งพูดและปันปันก็เดินลงจากรถไป เหลือแค่ผมกับคริสโตเฟอร์



“คริสโทรหาแม่ด้วยนะแม่เป็นห่วงนายมาก” ผมพูดบอกคริสโตเฟอร์



“ครับพี่เขม” คริสโตเฟอร์พูดและนายคริสโตเฟอร์ก็หยิบมือถือออกมาด้วยแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าเขากลับทำหล่นลงไปที่พื้นในรถของโป้ง



“พี่เขมมือถือหล่นอ่ะ” คริสโตเฟอร์หันมาบอกผม ผมก็พยักหน้าว่าใช่ และมันก็หล่นตกลงไปด้านข้างของคริสโตเฟอร์



“เดี๋ยวพี่เก็บให้” ผมพูดและโน้มตัวลงไปเก็บ ตอนเก็บนะผมไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะว่ามันต้องผ่านตรงเป้ากางเกงนายคริสไปก่อน



“อืมมม อ้าห์ อู้ยย เสียวอ่ะพี่เขม ดูดแรงๆ หน่อย” เสียงกระเซ่ามันมาได้ยังไง ผมเงยหน้าหน้ามอง ทำหน้าเหมือนผมกำลังโม๊คอันนั้นอยู่



“โอ๊ยย!!!” เสียงร้องดังลั่นรถเพราะว่าผมหยิกเขาเข้าให้ที่พุง



“นายนี่มันทะลึงจริงๆ ตอนนายล้มไม่น่าจะเอาไหล่ลงหรอกนะ น่าจะเอาเจ้าโลกของนายนะหัวปักลงไปแทน” ผมพูดและส่งมือถือคืนให้คริสโตเฟอร์



“หักไปไม่เสียดายแย่เหรอพี่เขม” ยังหันมาทำหน้าหื่นใส่ผม (แอบคิดเสียดายซิ ฮาๆ) และนายคริสโตเฟอร์ก็ไล่กดเบอร์หาแม่ของเขา



“ฮัลโหลมัม ผมโอเคครับมัม พี่เขมอยู่นี้ คืนนี้จะไปนอนบ้านพักกับพี่เขม ก็หมอให้คล้องผ้าไว้ก่อนสักสองสามวันนะมัม พี่เขมไงมัม (@#%) “คริสโตเฟอร์คุยโทรศัพท์กับแม่ของเขา พอบอกพี่เขมไง นี้หันไปกระซิบกระซาบอะไรอีก



“โอเคมัม ไอเลิฟยูมัม บาย” คริสโตเฟอร์พูดกับแม่เขาจนวางสายไป และหันมามองหน้าผมยิ้มๆ



“แม่ถามอะไรนายถึงยิ้มแบบนี้”



“แม่ถามว่าเวลาอาบน้ำจะทำยังไง ผมก็บอกว่าพี่เขมไง เดี๋ยวพี่เขมจะจับผมแก้ผ้าอาบน้ำให้” คริสโตเฟอร์พูด ผมก็ต้องมือขึ้นกุมขมับ แต่ก็ต้องแอบขำไปด้วย สภาพแบบนี้ผมคงต้องเป็นคุณพ่อจับลูกคริสอาบน้ำด้วยซินะ และโป้งก็เดินกลับมาที่รถ คริสก็เอาหัวพิงหัวไหล่ผมและใช้มืออีกข้างกดมือถือเล่นไปด้วย ผมสังเกตเห็นโป้งเหลือบมองผมสองคนจากกระจกมองหลังและโป้งก็ขับมาส่งผมสองคนที่บ้านพัก



“ขอบใจนะโป้ง” ผมพูดขอบใจโป้ง



“ไม่เป็นไรครับครู “โป้งพูด



“ครูเขมครับ ขอบคุณนะครับที่เตือนสติผม ตอนที่ผมจะเดินไปต่อยไอ้คนที่ทำให้คริสมันเจ็บนะครับครู” โป้งพูดขึ้น ผมหันไปมองโป้ง



“ดีแล้วแหละที่นายยับยั้งชั่งใจได้ เพราะว่าการใช้กำลังไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ครูชอบการเล่นบาสเกตบอลของเรานะ ครูอยากสนับสนุนให้เราไปทางนี้แบบสายอาชีพเลยโป้ง ถ้ามีอะไรให้ครูช่วย ครูยินดี” ผมพูดบอกโป้ง



“ขอบคุณครับครู “โป้งพูดก่อนจะเดินกลับเข้าไปในรถ และปันปันก็ยกมือไหว้ผม ผมหันมามองคริสโตเฟอร์ที่ยืนยิ้มกริ่มให้ผม



“ผมดีใจอ่ะพี่เขม ที่โป้งมันเปิดใจยอมรับผมกับพี่เขม ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว” คริสโตเฟอร์พูด ผมก็พยักหน้าว่าดีใจเหมือนกัน และผมก็พาพ่อตัวดีของผมขึ้นบ้าน และพาไปป้อนข้าวป้อนน้ำ พาอาบน้ำ แต่งตัวแต่ไม่ต้องทาแป้งเหมือนหลานเอิร์ธผม และพากันนอน นอนอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรจริงๆ คงเพราะว่ายาแก้ปวดทำให้คริสโตเฟอร์ผล่อยหลับไปในไม่กี่สิบนาที ช่วงนี้ผมคงต้องทำหน้าที่คุณพ่อดูแลลูกคริสไปหลายวันเลย

----------------------------------------------------------

ขอบคุณกำลังใจจากคนอ่านด้วยนะคะ xoxo

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2021 07:20:13 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พิเศษ อาร์ทVS โจ เซอไพรส์วันเกิดอาร์ท 1
      
      โจ วันนี้เป็นวันเกิดของอาร์ท ผมอยากมีเซอไพรส์ให้กับอาร์ทบ้างแต่คิดให้ตายก็คิดไม่ออกจนผมไปอ่านนิยายวายเรื่องหนึ่ง ผมก็เห็นไอเดียพระเอกพยายามทำเค้กเซอไพรส์ให้กับนายเองทั้งที่ตัวเองทำไม่เป็นผมเองก็เช่นกันไม่เคยทำกินแทบจะไม่เคยกินเลยด้วยซ้ำไม่ค่อยชอบกินเค้กเท่าไหร่แล้วอย่างนี้โจจะรอดไหม ไม่ต้องถามเลยว่าในเค้กเขาใส่อะไรลงไปบ้าง รู้แค่ว่าไข่กับแป้งแหละครับ ฮาๆ

"อาร์ท ...กลับบ้านก่อนนะ" ผมรีบหันไปบอกอาร์ท

"ไม่รอไปพร้อมกันละ" ไอ้อาร์ทมันหันมาถามผมด้วยสีหน้าที่เหมือนผมมีพิรุธ

"อาร์ท..เดี๋ยวเย็นนี้โจก็มาแล้วไม่ต้องไปที่บ้านหรอกอยู่กับแม่ปิ่นบ้าง" ผมพูดอาร์ทยืนขมวดคิ้วมองผมทำท่าสงสัย

"มีอะไร" น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นโหมดโหดทันที ทำตาขวางใส่ผมด้วย โหมดหึงนี้เอาเรื่องเหมือนกันนะ

"ไม่มีอะไรแค่ไม่อยากแย่งความรักคนในครอบครัวนะอยู่กับแม่ปิ่นบ้าง" ผมพูดบอกมันไป ต้องเก็บอาการที่สุด

"ต้องมีอะไรแน่ๆ " อาร์ทยังอีก

"ก็บอกไม่มีไง! " ผมพูด ตาก็เหลือบมองไปเห็นนาฬิกาบอกเวลา ..แย่แล้วแม่จี้ดรอแน่ๆ ตอนนี้มันจะเลยเวลานัดเพื่อนของแม่ให้ช่วยสอนผมทำเค้กให้หน่อยและยังเป็นเค้กก้อนแรกในชีวิตของโจด้วย

"ไม่เอาอะไปด้วยซ้อนใครไว้ที่บ้านแน่ๆ เลย" ดูมันคิดได้ยังไง ถ้ากูจะซ้อนกูจะซ้อนในบ้านให้พ่อกับแม่กูเห็นเหรอมึง!!!

"จะซ้อนใครไว้จะบ้าเหรอ..ถ้าซ้อนพ่อกับแม่ก็รู้อะดิ"ผมพูด

"ถ้าอย่างนั้นก็ไปซ้อนที่อื่นอะดิ" ไอ้อาร์ทตัวพ่อ ตัวพ่อทุกอย่างงี่เง่าก็ตัวพ่อ ผมสะบัดหน้าหันไปมอง

"ไม่มีที่ไหนทั้งนั้นแหละอาร์ท" ผมพูดทำตาแข็งเข้าไว้ต้องไม่เลิกลักเดี๋ยวมันจับได้

"ทำไมไม่ให้ไปบ้านละวันนี้ทั้งที่เราคุยกันแล้วว่าจะไปทุกวันเสาร์อาทิตย์ไง" โหมดหน้าโหดมาทันทีเลยอาร์ท ผมก็ยืนแนบติดกำแพงห้องทันทีเอาไงดีวะ

"คือวันนี้มีนัดไปบ้านเพื่อนแม่นะ" นั้นไงคำสารภาพเริ่มมาทีละนิด นี้ใช้ไหมที่เขาเรียกว่า โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ โจเอ๊ย!

"ว่าไง! " นั้นเสียงดังอีก มันยังคงตะคอกขู่ผมฟู่ๆ เลยครับ

"แม่ชวนไปเป็นเพื่อน" ผมพูดจริงเพราะว่าผมจะไปเรียนทำขนมเค้กแบบฉบับเร่งด่วนที่บ้านเพื่อนของแม่และเขาก็เป็นครูสอนทำขนมเค้กเขาเปิดโรงเรียนสอนทำเบเกอรี่ด้วย

"เห็นเหมือนแอบคุยแชทกับใครตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ" นั้น ผมตาโต แอบขนาดนี้มึงยังเห็นอีกเหรออาร์ท

"และท่าที่มีลับลมคมในตั้งแต่เมื่อวาน จู่ๆ ก็หายออกไปปล่อยให้กูซ้อมกับไอ้โป้ง ปันปันและไอ้คริส แต่มึงหาย! " นั้นไง กูมาเลยเต็มๆ แปลว่าโกรธและนี่มันจะอัดผมให้แทรกตัวเข้าไปฝั่งอยู่ในกำแพงห้องมันเลยหรือไง

"ไม่มีอะไรอาร์ท"

"โจต้องรีบไปแล้วแม่รอ" ผมบอกอาร์ท

"ก๊อกๆ " เสียงเคาะประตูห้องนอนอาร์ทโดยไอซ์

"พี่อาร์ทพ่อบอกว่าให้สอนทำการบ้านหน่อย" แทรงก๊อซ!! ที่เข้ามาช่วยโจให้รอดพ้นจากการถูกตามล่าหาความจริง

"พรุ่งนี้ได้ไหมพี่จะไป.." ไอ้อาร์ทมันพูด ทำให้ผมถลึงตามองไอ้อาร์ท มันจะไปไหน อย่าบอกนะว่าไปกับผมนะครับ

"ไม่ได้พ่อบอกให้สอนทำการบ้านให้วันนี้และตอนนี้ “น้องไอ้อาร์ทยืนยันให้มันสอนการบ้านให้ได้ ไอ้อาร์ทหันมามองหน้าผม กูไม่ได้ทำอะไรครับไอ้อาร์ทครับ

"ก็ได้! " อาร์ทพูดและเดินออก ผมถอนหายใจอย่างแรงดีนะที่ไอซ์มันมช่วยเอาไว้ทันผมนะขอให้แม่ปิ่นช่วยให้ไอ้อาร์ทมันอยู่บ้านวันนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นผมจะทำได้ยังไงละเค้กวันเกิดมันได้ยังไงละครับ ผมหันไปยิ้มให้ไอซ์และรีบหยิบกระเป๋าเป้และรีบเดินลงจากบ้านทันทีโดยที่อาร์ทนะแยกไปห้องของไอซ์เพื่อไปสอนการบ้าน

"โจ..เป็นไงลูก"

"เกือบไปแล้วแม่ปิ่นอาร์ทมันงอนโจด้วย"

"ตายแล้วลูกคนนี้..และเดี๋ยวคงหายงอนนะลูก"

"ครับผมรีบไปก่อนนะครับแม่ปิ่น...แม่จี้ดรอผมอยู่ครับ"

"ขับรถดีดีนะโจระวังละลูก"

"ครับแม่ปิ่น" ผมรีบออกมาสตาร์ทรถทันที ผมก็รีบขับมารับแม่จี้ดก่อน เพราะว่ามันเลยเวลานัดมาครึ้งชั่วโมงได้แล้วนะซิ ผมตั้งใจจะทำเค้กช๊อกหน้านิ่มรูปหัวใจวันก่อนที่หายไปก็ไปซื้ออุปกรณ์ทำเค้กนี้แหละ ผมขับรถมาถึงบ้านแม่ก็รีบเดินออกมาทันที

"ทำไมมาช้าจังละโจ"

"โธ่แม่ก็ไอ้ลูกเขยแม่นะซิมันหาว่าโจมีพิรุจซ้อนผู้ชายอื่นไว้นะซิ" ผมพูดทำแก้มป่อง มันหาว่าลูกแม่มีชู้นี่มันดูละครหลังข่าวมากไปไหม และมันก็ต้องงอนเหมือนนางเอกใช่ไหม และโจก็ต้องนั่งร้องไห้เพราะพระเอกเข้าใจผิดใช่ไหม เอ๊ะ!นี่มันผมแล้วมั้งครับที่ดูละครหลังข่าว

"คิก คิก คิก อาร์ทหึงนะซิ นั้นแปลกว่าเขารักเรามาก" แม่จี้ดหันมาพูดและขำผมด้วยนะ แม่นะแม่ขำตรงไหน ต้องให้แม่ไปเห็นหน้าโหดๆ ของมันเหมือนผมซะหน่อยมั้ง

แต่ตอนนี้ผมนี้เริ่มใจไม่ดีเลยกลัวมันงอนยาว เค้กรูปหัวใจ สำหรับวันเกิดของมัน คงได้หย่อนลงถังขยะไม่ได้กินแน่ๆ และไอ้เจ้าของวันเกิดมันโกรธจนบอกเลิกผมด้วยอีก

ตอนนี้ผมขับรถมาที่บ้านเพื่อนแม่ของผม เขาเป็นครูสอนทำขนมเค้กด้วย ผมบีบแตรอยู่หน้า
บ้านสักพัก ก็มีเด็กผู้หญิงวิ่งออกมาตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ผมว่าหน้าตาคุ้นนะเหมือนน้องกี้ ดัมเมเยอร์ประจำโรงเรียนของผม (ซวยอะไรขนาดนี้วะโจ ผมแอบคิดในใจ)

"สวัสดีคะน้าจี้ดแม่รออยู่ด้านในห้องครัวแล้วค่ะ" น้องกี้พูดและก็มองมาที่ผม สายตานี้เชื้อเชิญมาก ดูท่าจะไม่ได้เชิญแค่เข้าไปในบ้านแล้วมั้งครับ แต่โจขนลุกขนพองทั้งตัว กลัว!!

"สวัสดีค่ะพี่โจ แม้กี้ก็นึกว่าหนุ่มที่ไหนมาเรียนทำขนมเค้ก"

"ครับสวัสดีครับน้องกี้"

"อ้อลืมไปเรียนโรงเรียนเดียวกันนิใช่มั้ยลูก" แม่ผมถามผมพยักหน้าว่าใช่ ผมก็รีบเดินตามแม่เข้าบ้านไปทันที น้องกี้ใครก็รู้ว่าสาวสวย สวยและไฟแรงเวอร์ คือว่าเธอชอบจีบผู้ชายมากกว่าให้ผู้ชายจีบเธอแต่ผมยังคงคิดว่าผู้ชายนะควรจะจีบผู้หญิงก่อนนะครับ

ตอนนี้โจเดินตามหลังแม่ต้อยๆ กลัวชะนีครับแม่ น้องกี้นี้ก็คอยชำเลืองมองผมด้วยสายตาที่แทะโลมผมไปด้วย น้องเขาพาผมเข้ามาในครัว แม่ของน้องเขายืนรอผมอยู่แล้ว พร้อมอุปกรณ์การเรียนทำเค้ก

"สวัสดีครับ"ผมยกมือไหว้ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของผม เธอดูเธอเป็นคนเรียบร้อยผิดกับกี้มาก
กี้เป็นผู้หญิงมั่นใจในตัวเองสูง เธอเคยเขียนจดหมายมาจีบผมตั้งแต่เธอเข้ามาเรียนม.2แล้ว เธอย้ายมาจากโรงเรียนอื่นปีที่แล้ว แต่ผมก็ไม่ได้สนใจผมบอกผมมีแฟนแล้วก็ตอนนั้นมีแฟนแล้วจริงๆ นิ

"เอาละเรามาเริ่มกันเลยนะ น้าเตรียมอุปกรณ์ไว้หมดแล้วเดี๋ยวเรามารู้จักกันเลย ว่าอะไรเป็นอะไร นี้จะทำให้แฟนเหรอจ๊า"

"พี่โจมีแฟนแล้วเหรอคะ กี้ไม่หยักกะรู้" เธอพูดพร้อมสายตาที่จับจ้องมองมาที่ผม

"มีแล้วจ๊าหนูกี้" แม่ผมรีบตอบให้ทันควันเพราะว่าสายตาเธอกำลังชอนไชผม แม้จะไม่แสดงอาการมากมายแต่ก็ทำให้ผมขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีด้วยความกลัวผมหันไปมองหน้าแม่ (แม่ลูกกลัว!!) ทำปากสั่นๆ ด้วย

"มาเรามาเริ่มทำกันดีกว่าโจ..นั้นผ้ากันเปื้อนนะและ นี้ก็คือแป้งเค้ก แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เบคกิ้งโซดา บร้าๆ " ผมก็ยืนฟังและก็ตักตวงตามที่เพื่อนของแม่บอกทุกประการโดยมีสายตาน้องกี้ยืนเอามือเท้าคางมองผม ผมก็มือไม้สั่นไม่ได้เขินกลัวครับ

"กี้ไปทำอย่างอื่นก่อนซิลูกแม่จะสอนพี่เขาทำเค้ก เรานิมากวนสมาธิพี่เขาอยู่ได้" เพื่อนของแม่ทำน้ำเสียงดุใส่กี้ทันที

"ก็พี่เขาหล่อนี้ค่ะ..พี่โจนะหล่ออันดับต้นๆ ของโรงเรียนเลยนะ และยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลด้วยค่ะแม่..แต่ว่ามีแฟนแล้วอยากรู้จังว่าใครคือแฟนพี่โจ..กี้อยากรู้ว่าสวยกว่ากี้ไหม" น้องกี้พูด ผมยอมรับเธอสวยเลือกได้ ผิวขาวเหมือนหยวกกล้วยหุ่นก็ดีแต่ไม่ใช่สเปกผมเลยสักนิด

ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำเค้กต่อไประหว่างที่เรียนรู้แม่จี้ดก็คอยบันทึกวิดีโอให้ด้วย ผมยืนรอเค้กที่
อยู่ในเตาอบด้วยจิตใจจดจ่อ ตื่นเต้นแถมตอนนี้แป้งนี้คลุ้งไปหมดไม่รู้ว่านี้สงครามแป้งหรือว่าอะไรขาวโพนไปทั้งโต๊ะเลยผม อายเพื่อนแม่จริงๆ เลยผม

"พี่โจ..ทำให้พี่อาร์ทเหรอคะ" เสียงถามผมดังมาจากทางด้านหลัง

"กี้รู้นะว่าพี่กับพี่อาร์ทนะแอบทำอะไรกันทำไมผู้ชายหน้าตาดี ถึงได้ไปเป็นเกย์กันหมดนะ" น้องกี้ถามผม

"แต่เมื่อก่อนพี่ก็มีแฟนเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอคะ"

"พี่ไม่ตอบคำถามกี้เลยละคะ"

"พี่ไม่จำเป็นต้องตอบมั้งครับกี้" ผมพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ

"กี้นะชอบพี่โจนะ...ชอบมองพี่โจตอนที่ลงสนามบาสมากเลยนะรู้ไหมคะ"

"ผู้หญิงสวยๆ อย่างกี้นะไม่ได้จะมีใครให้กี่ชอบง่ายๆ นะ" กี้พูดและมือไม้ก็ไต่มาที่แขนผม จนผมต้องจับมือกี้ให้หยุดจังหวะที่แม่ผมเดินมากับแม่ของกี้พอดีเลย

"หมับ" แม่ผมรีบจับมือกี้

"อย่าทำแบบนี้นะคะหนูกี้ เป็นสาวเป็นนางมันไม่งามรู้ไหมคะ..หนูกี้ " แม่รีบเข้ามาจับมือเธอไว้ก่อนจะไต่ไปถึงไหนไหนของผม ผมนี้แสนจะดีใจจริงๆ ผมรีบยืนแอบหลังแม่จี้ด (แม่จ๊าช่วยลูกด้วย) ส่วนสายตาแม่ของกี้ก็แอบมองเธอด้วยความไม่พอใจ ผมยืนคิดในใจว่าทำไมแม่ลูกถึงได้ต่างกันขนาดนี้นะ

"กี้ไปนั่งดูหนังไป..พ่อเธออยู่บ้านนะกี้" แม่ของเธอออกคำสั่ง

"หรือว่าอยากให้พ่อเธอรู้นิสัยจริงๆ ของเธอละ...กี้"เพื่อนของแม่พูดแต่แม่ผมแตะแขนห้ามไว้ซะก่อน กี้มองผู้หญิงที่เรียกได้ว่าแม่ตาเขม้งเลย

"ไปซิกี้! " แม่ของกี้บอกให้ลูกสาวเขาเดินไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่มายืนมองผมเหมือนทำท่าจะกินผมเป็นขนมหวานแบบนี้ น้องเขามองจ้องผมซะผู้ชายอย่างผมนี้กลัวจนขนแขนลุกชันขึ้นมาทันที ผมเงยหน้าขึ้นมายิ้มๆ ให้แม่ของเธอ เขาก็ยิ้มแหยๆ ตอบผมกลับมาเช่นกัน พร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อยให้กับน้องกี้แน่นอน

"ค่ะ! " เสียงสะบัดตอบของเธอพร้อมกับเดินสะบัดสะบิ้งออกไปทันทีเช่นกัน สายตาแม่จี้ดและเพื่อนของแม่มองตามไปด้วยความเอื่อมระอา

"นี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกสามีฉันนะแม่จี้ด…..ฉันคงไม่ทนหรอก" ผมเข้าใจแล้วไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ นี้เอง ถึงได้แตกต่างกันราวกับหน้ามือและหลังเท้า (ไอ้ครั้นโจจะใช้คำว่าหลังตีนมันก็ไม่สุภาพ)

"เอานะยังเด็กนัก..แต่ลูกชายฉันนี้มีเจ้าของแล้ว" แม่กระซิบกับเพื่อนของแม่ เขาก็มองผมยิ้ม

"ดูท่าจะรักแฟนมากนะดูซินั้นนะบรรจงแต่งหน้าเค้กออกมาซะหวานได้ขนาดนั้นะเธอ" เพื่อนของแม่ชมผมกับแม่จี้ดด้วย

"หน้าตาดีไปนะคะคุณลูก" แม่แซวผมอีกนะ ผมอยากบอกว่าไม่ได้อยากได้นางเลยจริงๆ

"แต่ลูกเขยหน้าตาดีกว่า..ได้ลูกเขยหล่อแม่ปลื้ม!! "

"ตกลงนี้ลูกเธอไปเป็นลูกสะใภ้เขารึ..คิก คิก คิก " เพื่อนของแม่ผมหัวเราะกับแม่ผมสองคน แม่นี้ช่างภูมิใจในตัวผมน่าดูนะแม่นะ สนับสนุนให้ลูกชายมีสามี
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ARTY ผมนั่งสอนการบ้านไอซ์ใจก็คิดนะมันมีอะไรที่แอบผมอยู่แน่ๆ เลย ผมนั่งมองไอซ์กำลังทำการบ้านคณิตศาสตร์อยู่ มือก็กดดูแอปพลิเคชั่นที่ใช้คุยกันแต่ทว่าโจไม่ตอบผมเลยน่าไหมเนี๊ยะไปอยู่ไหน

"ไอซ์"

"ไปหยิบโทรศัพท์ให้พี่หน่อยดิไอซ์" ผมบอกไอซ์ ไอซ์มันมองหน้าผมก่อนจะวิ่งไปหยิบโทรศัพท์บ้านมาให้ผม ผมก็กดโทรศัพท์บ้านไปที่เบอร์บ้านโจ้ทันที

"ฮัลโล" เสียงพ่อธร

"พ่อธรครับนี้อาร์ทนะครับ"

"ว่าไงไอ้ลูกเขย"

"ขอสายโจครับ"

"อ้าวแล้วโจไม่ได้อยู่บ้านเราเหรอ"

"โจกลับไปบ้านตั้งแต่เช้าแล้วครับพ่อ"

"ไม่นะไม่อยู่นิ"

"โจบอกไปหาแม่จี้ดนะครับ"

"แม่จี้ดเขาไปบ้านเพื่อนแต่พ่อไม่เห็นโจนะ"

"เหรอครับขอบคุณครับพ่อ"

"หรือว่าไปด้วยกันพ่ออาจจะไม่เห็นเพราะว่าพ่อทำสวนอยู่หลังบ้านนะลูก"

"ให้พ่อโทรตามให้ไหมพ่อลูกเขย" อากำธรพูด

"ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมโทรหาโจเองขอบคุณครับพ่อ"

"ได้ไอ้ลูกเขยของพ่อ..คืนนี้อย่ารังแกลูกพ่อหนักนักละไอ้ลูกเขย..ถนอมลูกพ่อหน่อยนะลูกอาร์ท" พ่อธรพูดให้ผมถนอมมันเหรอ มันทำผม หึงครับพ่อตา) )) )

" O _? " ผมก็รีบกดวางสายและกดหาโจ้ทันที แต่ก็ไม่ยอมรับสายเลยไปไหนของเขานะ ไอซ์ก็มองหน้าผม

"อาร์ท.."แม่ปิ่นเรียกผม

"อาร์ทออกไปซื้อของให้แม่หน่อยซิลูก” แม่ปิ่นบอกผมให้ไปซื้อของ ผมก็พยักหน้า

“พ่อกับแม่และไอซ์จะค้างกันที่ไร่นะอาร์ท ส่วนเราก็ตามสบายนะลูกนะ พ่อกับแม่ เปิดโอกาสให้สวีทกันตามสบายนะลูกนะ " แม่ปิ่นพูด ผมก็หันไปเหล่มอง อะไรของแม่ครับ

“วันนี้โจคงมีเซอไพรส์ให้ลูกชายแม่แน่ๆ “แม่ปิ่นพูดและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ผม เซอไพรส์อะไร ทำตัวลึกลับกับผมมาทั้งวันนี้นะ เซอไพรส์

"คืนนี้ก็ตามสบายนะลูกแม่กับพ่อและไอซ์ไม่อยู่ขัดขวาง" แม่ปิ่นพูดแสดงว่าจริงอย่างที่ไอซ์มันพูดว่าแม่กับพ่อจะไปสวีทกันที่อื่น

"คิดว่าคงมีมั้งแม่ เซอไพรส์นะ! " ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษที่แม่เขียนรายละเอียดไว้ ผมเดินไปหยิบวีโก้สีดำของพ่อขับออกไปที่ตลาด ระหว่างทางก็พยายามโทรหาโจแต่ก็ไม่รับสายอยู่ดี ผมแวะซื้อตามที่แม่สั่งเป็นพวกอาหารที่แม่จะเอาไปทำทานกัน พ่อกับแม่ผมบ้านพักตากอากาศและมีไร่องุ่นเพื่อทำไวน์ แต่ของกินเยอะแบบนี้คงไม่ใช่แค่พ่อแม่และไอ้ไอซ์แล้วมั้ง ผมขับไปเรื่อยๆ จนถึงร้านขายของในซูเปอร์แห่งหนึ่ง

"พี่อาร์ท" ผมหันมาเจอน้องกี้ สาวสวยดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียน

"ว่าไงครับน้องกี้มาซื้อของเหรอครับ"ผมทักน้องกี้ไปตามมารยาท ผมรู้ว่ากี้เคยเขียนจดหมายมาจีบโจด้วย เลยต้องเก็บอาหารหึงครับ วันนี้ผมทำไมมีแต่เรื่องหึงวะ

"ค่ะมาซื้อของ...พอดีว่ามีหนุ่มมาทำเค้กที่บ้านของกี้นะคะ" น้องกี้บอกผม ผมหันไปมองมีหนุ่มมาทำเค้กให้ทานเหรอ ชิส์

"ไม่แปลกใจหรอกครับ น้องกี้สวยจะตายไป"

"เอ๊ะถ้าพี่รู้ว่าใครอาจจะแปลกใจก็ได้นะ" กี้พูดบอกผม

"ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ตามมาทำเค้กวันเกิดให้ถึงบ้านเลยอะ..และคืนนี้คงได้...ฉลองวันเกิดด้วยกันสองคน " น้องกี้พูด ผมพยักหน้าไปแบบนั้น

"แฟนคนใหม่เหรอไม่ซิมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วงั้นเหรอครับ" ผมกลั้นใจถามที่จริงเมื่อไหร่ของที่สั่งจะได้หว่าจะได้ไปรำคาญนางเวิ้นเวอร์เยอะเกิน

"น่าจะใช้เพราะว่าเขาแต่งหน้าเค้กหวานมากเหมือนกำลังขอความรักเลยอะพี่อาร์ท...มีช๊อกโกแลตรูปหัวใจเคลือบแดงหวานแหว๋วมากค่ะพี่อาร์ท! " ผมก็ยืนชะเง้อมองอาแป๊ะหาของนานจังว่ะวันนี้ รำคาญชะนีแปะ แอบคิดในใจ

"พี่อาร์ทว่ากี้สวยมากไหมคะ" กี้ถามผม

"แน่นอนครับดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียน" (นึกในใจสวยแต่ไร้สมองกูก็ไม่เอามาทำแม่ของลูกหรอกว่ะเฮ้ย!)

"สวยค่ะสวยมาก..สวยไม่บันยะบันยังเลยค่ะ..สวยไม่เพื่อแผ่ใครเลยค่ะ ซวยอยู่คนเดียว เฮ้ย สวยอยู่คนเดียวเลยน่ะ " ผมพูดเธอหุบยิ้มทันทีเธอรู้ดีว่าผมประชด

"กี้ก็คิดว่ากี้สวยค่ะ.....พี่โจนะเขาก็ชมว่ากี้สวย น่ารัก และอยากได้กี่เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูกด้วยนะคะ" ผมสะบัดหน้าไปมองน้องกี้

"อ้าวพี่โจไม่ได้บอกพี่อาร์ทเหรอคะ..นี้กี้ออกมาซื้อของเพิ่มพอดีมันไม่พอนะคะ..พี่โจว่าจะออกมาด้วยแต่กี้เห็นพี่โจขมักเขมั้นในการทำเค้กให้กี้ และกี้ออกมาซื้อของให้เองจะดีกว่า แฟนกันเนอะ ทำให้กันได้" น้องกี้พูดอย่างบอกนะว่าท่าที่ที่มีพิรุจนี้คือมาทำเค้กให้สาวเหรอ และเป็นน้องกี้อีกต่างหาก ปากก็บอกไม่ชอบที่ไหนได้แอบมา...โว้ยยยย!!! ก็น้องกี้อะไรเคยเขียนจดหมายบอกว่าชอบโจตั้งแต่ปีที่แล้ว ควันเริ่มออกหู

"ได้แล้วไอ้หนุ่ม" ของที่ผมสั่งได้พอดีเลยผมก็ไม่ตอบอะไรทั้งนั้นเดินถือกล่องที่อาแป๊ะเจ้าของร้านส่งมาให้ผม ผมเห็นกี้แสยะยิ้มก่อนจะหันไปรับของที่เธอสั่งบ้าง แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกไป ผมควรจะไทิ้งระเบิดไว้สักลูกสองลูกจะดีกว่า

"อาแป๊ะ..น้องเขาอยากได้อย่าหยุดมโนอะแป๊ะมีไหมน้องเขาถามอยู่" ผมถามอาแป๊ะเจ้าของร้านและกี้สะบัดหน้ามองผมทันที

"มีแต่อีโนวะมันใช่ตัวเดียวกันไหมว่ะ" อาแป๊ะหันมาถามผมแทน

"อีหนูตกลงจะเอายาอะไรลูก อีโน หรือหยุดมโนลูก" อาแป๊ะเลยหันไปถามพร้อมกับมองหน้าผมและกี้ แต่ผมชี้ไปที่น้องกี่ ให้อาแป๊ะว่าถามเขาเอาเถอะ

"ไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละแป๊ะ! ...รีบคิดเงินซิ! ..จะรีบกลับแฟนรออยู่! " เสียงแสดงถึงอาการไม่พอใจและผมก็รีบเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว อาแป๊ะก็ยืนเก้าหัว ผมก็ยักไหล่ไม่รู้ก่อนจะเดินออกไปทันทีเช่นกัน

ผมเดินมานั่งบนรถไม่ได้ต้องเห็นด้วยตาตัวเองซิถึงจะถูก ผมขับรถตามกี้ทันที เธอขับรถที่บ้านออกมาเด็กยังไม่สิบห้าขับรถเก๋งพ่อแม่มาซื้อของแล้วอะแรงไหมล่ะ ผมขับตามไปช้าๆ ไม่เร็วมากจนกระทั่งถึงหน้าบ้านของเธอสิ่งที่ผมเห็นคือรถของโจที่ขับไปบ้านผมเพื่อวานจอดอยู่จริงด้วย กี้เอารถเข้าไปจอดในบ้าน ผมยืนมองจากรั่วบ้าน ผมเห็นกี้เดินเข้าไปในบ้านและสักพักโจเดินตามออกมาจริงๆ ด้วยสวมชุดผ้ากันเปื้อนออกมาและมาช่วยกี้ถือของเข้าบ้านด้วย

"แค่นี้ทำไมไม่บอกความจริงวะ" ผมพูดกับตัวเอง

"ว้ายพี่โจค่ะ" ผมได้ยินเสียงร้องเธอเดินสะดุดและโจก็เข้ามารับ

"ขอบคุณะนะคะ" ผมรีบหันหลังเดินออกกลับบ้านไม่อยู่บ้านแล้วไปกับพ่อแม่ดีกว่า ว่าจะอยู่ด้วยกันวันเสาร์อาทิตย์ ไม่เอาแล้วไปอยู่ที่ไร่กับพ่อแม่ดีกว่า

"ไอซ์แพ็คกระเป๋าหรือยังลูก" แม่กำลังถามไอซ์อยู่

"แม่อาร์ทไปด้วยนะ เบื่อไม่อยากอยู่บ้าน" ผมบอกแม่และรีบจะเดินขึ้นบ้านทันที โมโห!!!

"อ้าวทำไมไม่อยู่กับโจ ก็วันนี้มันวัน….."แม่รีบถามผมหันมามองหน้าแม่ผมว่าวันอะไรเหรอแม่

“วันพิเศษ….เอ้ย วันที่เราสองคนสวีทกันไม่ใช่เหรอ” แม่ปิ่นพูดบอกผม ใช่ครับ วันเสาร์อาทิตย์คือวันของผมกับโจ จะพยายามไม่ไปไหนจะอยู่ด้วยกันและครอบครัว

"ไม่เอาอะแม่อาร์ทไปนะอาร์ทไปแพ๊คกระเป๋าก่อน" ผมพูดก่อนจะเดินขั้นบ้านไปทันทีเสื้อผ้าสองสามชุดเกมไปเล่นด้วยและไม่ส่งข้อความบอกโจด้วย เขาคงอยากอยู่กับสาวสวยดัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง ไหนบอกไม่ชอบไง แล้วนี่อะไรไปทำเค้กให้กัน ไปแอบมีอะไรกันตอนไหนวะ อันนี้เขาเรียกเมียมีชู้ไหมวะ เจ็บใจ

"ตื้ด!! " เสียงเตือนข้อความทางเอปพลิเคชั่นสีเขียว
JOJO : อาร์ทกินอะไรเป็นพิเศษไหมแม่จี้ดจะทำไปให้
ARTY : ................
JOJO : อาร์ทยังโกรธอีกเหรอ
ARTY : .....................
JOJO : ทำไมต้องโกรธด้วยอะแค่ไปกับแม่
ARTY : เอาที่สบายใจ
JOJO : คืออะไร..เดี๋ยวคืนนี้ไปหานะ...รักอาร์ทนะ (รูปหัวใจ)

ผมกดวางมือถือไปทันทีและเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน ผมเห็นแม่กำลังเอากระเป๋าเสื้อผ้าลงมาวางและผมก็ถือกระเป๋าผมลงมาด้วยผมตัดสินใจไปกับแม่ดีกว่า

" เป็นอะไรไปอาร์ท"

"ไม่มีอะไรผมแค่อยากอยู่กับพ่อแม่บ้าง ส่วนโจมันก็จะได้อยู่กับน้าจี้ดและอาธรบ้างผมไปด้วยนะแม่นะ" ผมพูดแม่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันมามองหน้าพ่อ

"แล้วนี่เราโทรบอกโจหรือเปล่าว่าจะไปด้วยกันนะ"

"บอกแล้วครับแม่เขาไม่ว่าอะไรนิ"

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปฉลองกันที่โน่นก็แล้วกันนะ แปลกจริงลูกคนนี้นิ” แม่ปิ่นพูด ฉลองอะไรกันไม่รู้แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว มันหึงครับ ผมเองก็ช่วยพ่อของผมขนทุกอย่างใส่รถเพื่อจะได้ไปบ้านไร่ ผมทำตัวให้ยุ่งเพื่อจะได้ไม่คิดถึงโจมันด้วย ไม่อยากจะคิดถึงวันจันทร์เลย ว่าผมจะทำตัวยังไง ต่อหน้าไอ้โป้ง ไอ้ปันปัน และไอ้คริสโตเฟอร์อีก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2021 08:07:28 โดย Tanthai23 »

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
หมอภีมปภพ กับพี่ต้นใช่หรือเปล่า แสดงว่าพี่ต้นก็เป็น สมน้ำหน้าชะนีเกศรินทร์แต่นางไปแล้วอย่าย้อนกลับมานะ  :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด