สวัสดีครับ
ตามสัญญาครับ วันนี้วันจันทร์ หึหึ แล้วนี่ผมจะโพสอีกกี่ตอนนี้นะสำหรับอาทิตย์นี้ เพราะพฤหัสฯนี้ผมจะไม่อยู่ครับ ไปเที่ยวกับที่บ้าน ไงดูตามคำขอ(รีเควส) ของทุกท่านดีกว่าว่าจะโพสต่อกี่ตอนดี (5555

)
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ตอนที่ 5
“พี่หนึ่ง กลับห้องสายแบบนี้แฟนไม่ว่าเอาเหรอครับ” เรื่องราวที่ร้านไอศกรีมยังไม่จบ เริ่มต้นตอนใหม่ด้วยคำพูดชวนคิดของโปร
“ไม่นิ แฟนที่ไหน ไม่มี๊” ผมตอบเสียงสูงเลย
“อย่าๆ เมื่อวานกินข้าวกับแฟนอยู่ผมได้ยิน” นั่นยังไม่เชื่ออีก
“เฮ้ย ไม่มีจริงๆ เมื่อวานพี่ก็คุยกับแต่รุมเมทพี่ อีกอย่างมันเป็นผู้ชายนะเว้ย”
“นั่นล่ะ กับรูมเมทแล้วจะเป็นแฟนกันไม่ได้เหรอ” ผมอึ้งไปสักพัก เพราะแปลกใจที่โปรพูดแบบนั้น
“เค้ามีแฟนแล้ว สวยด้วย” ผมพยายามตอบเลี่ยงแบบกลางๆ แต่ก็ไม่พ้นที่โปรจะเข้าเรื่องประมาณว่าเค้ารู้ที่ผมเป็น
“งั้นก็ดีสิครับ”
“ดียังไงเหรอ”
“ก็ดีที่เป็นโสดไง”
แล้วเจ้าโปรก็ทำน่าตาอมยิ้มเล็กๆ มันดูมีเลศนัย ยิ่งทำให้ผมอายจนพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่ ผมตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมจนหมดแล้วก็รีบถือบิลไปเพื่อที่จะจ่ายเงิน โดยตี๋โปรก็เดิมตามมาด้วย ผมเห็นโปรตอนนี้ทำน่าอมยิ้มตลอด มันทำให้ผมคิดไปได้มากมาย ก่อนที่ผมจะจ่ายเงินนั้น โปรได้ยื่นเงินของเค้าออกมาก่อนแล้วบอกว่า
“จ่ายเงินครับ” พนักงานก็รับเงินจากโปรไป
“ผมบอกพี่แล้วไงครับ ว่านี่ผมมัดจำให้พี่ต้องมาสอนผมตามที่บอก แล้วห้ามเบี้ยวนะครับ ไม่งั้นผมฟ้องศาลปกครอง”
มันเกี่ยวอะไรกะศาลปกครองด้วยนี่ ศาลมันจะมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินห้ามผมจ่ายเงินรึไง จะว่าไปตอนนี้อะไรๆ ก็ฟ้องศาลปกครองล่ะมั้ง จากนั้นผมกับโปรก็เดินกลับซอยหอผม โปรเดิมตามผมมาด้วยโดยบอกว่าอยากรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน ตอนที่เดินไปด้วยกันผมไม่ได้พูดอะไรกับโปรเลย มีแต่โปรที่พูดกับผม ผมก็ตอบคำ สั้นบ้างยาวบ้าง ตอนนั้นผมเขินจริงๆครับ เลยทำตัวไม่ถูก
“พรุ่งนี้พี่ตื่นเช้าหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมหรอ”
“พอดีผมมีการบ้านที่ทำไม่ได้น่ะ จะให้พี่สอน”
“อ้าวก็เอามาถามตอนนี้เลยสิ จะได้เสร็จไปเลย”
“ไม่ดีกว่าผม เดี๋ยวผมต้องไปเรียนพิเศษ ไม่ว่างละ”
“อ่าๆ เรียนกี่โมงล่ะ นี่จะหกโมงครึ่งแล้วนะ”
“ก็เดี๋ยวไปละครับ”
เราเดินมาจนถึงหน้าหอผม แล้วโปรก็ลาผมไปเรียนพิเศษ ผมว่าน่าจะไปเรียนสายแล้วนะ ไม่รู้ทำไมต้องมาเสียเวลากินไอศครีมกับผม เมื่อผมกลับมาถึงห้องก็เจอเจ้ารูมเมทนั่งดูทีวีอยู่
“วันนี้มีอะไรเหรอถึงกลับมาก่อน” ผมถาม
“อ่อ......วันนี้เคลียร์งานเร็ว” แล้วมันก็มองมาทางผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไอ้ยิ้มแบบมีอะไรแน่ๆ
“ทำไมวะ ได้เลื่อนตำแหน่งรึไง”
“เปล่า แค่ดีใจเพื่อนกูมีแฟน”
“ใครวะ มีแฟน”
“มึงอ่ะดิ ไอ้สาดดดด เด็กนั่นครายยยยยยวะ กูเห็นนั่งสวีตที่ร้านไอติม”
เวร นึกว่าจะไม่มีคนรู้จักเห็นนะนี่ ดันคนใกล้ตัวมากๆเสียเองที่รู้ ก็ยังดีครับเพราะว่ามันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม แล้วมันเองก็รู้ด้วยว่าผมเป็น
“เปล่าๆ พอดีเด็กมันเลี้ยง”
“โหย เด็กเลี้ยงวุ้ยยยยยย ร้ายจริงเพื่อนกู”
กรรม นี่ผมหลุดปากว่าเด็กเลี้ยงไอศครีมเหรอนี่ มันเลยยิ่งถามผมใหญ่ ผมก็เลยเล่าเรื่องราวให้มันฟังคร่าวๆ แต่ผมไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะคิดว่าผู้ชายอย่างมันคงไม่เข้าใจอะไรมากมาย
“ก็คงมาชอบมึงแหละ ก็ดีละมึง ยังดีกว่ามีคนเกลียด”
“เออ ดีกว่ามีคนรังเกียจกันแล้วดันมาอยู่ด้วยกัน” ผมแกล้งแซวมัน
“ว่าใครวะ”
“คิดเองดิวะ”
เรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกครับ ผมก็ลงไปทานข้าวกับมันตามปกติ กลับมาผมไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะสัญญากับโปรไว้ว่าผมจะไปเจอโปรที่ป้ายรถเมล์ตอนเช้า
เช้าวันใหม่เริ่มเข้ามา เมื่อคืนผมฝันจริงๆนะแต่จับใจความไม่ได้ว่าฝันถึงอะไร แต่ประมาณว่าผมไปเหยียบอุนจิหมาที่ไหนนี่ล่ะ แล้วผมเอาไปป้ายคนอื่นคนที่อยู่ข้างๆ ซึ่งคนนั้นคือ โปร ผมไม่ทันจะฝันต่อเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมลุกมาดูว่าใครโทรมาตอนนี้ ท้องฟ้ายังไม่มีแสงเลย ไม่ใช่ใครที่ไหน โปรนั่นเองที่โทรมา
“สวัสดีครับ” ผมตอบด้วยเสียงที่งัวเงีย
“ฮัลโหล ตื่นได้แล้วคับเพ่ เดี๋ยวจะมาสอนผมไม่ทัน”
“อ่ะครับๆ”
“ครับแล้วห้ามกลับไปนอนต่อล่ะคร๊าบบ แค่นี้นะ แล้วเจอกัน”
โปรวางหูไปแล้ว ผมมองไปยังเมทของผม มันยังนอนอยู่ข้างๆผมเลย มองดูนาฬิกา โห นี่ตีห้าครึ่งเองนิหว่า ทุกทีเมทผมจะตื่นหกโมงครึ่ง ออกจากห้องเจ็ดโมงกว่า ส่วนผมก็ตื่นเกือบๆเจ็ดโมงแล้วออกจากห้องเกือบแปดโมง นี่โปรมันตื่นเช้าขนาดนี้เชียวรึนี่ ผมเดินโซซัดโซเซไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ พออาบเสร็จเมทผมก็ตื่น
“วันนี้มีงานไหนรึไงวะ รีบตื่น”
“อืม.. มีงานเช้า”
ผมไม่อยากบอกมันเท่าไหร่ว่ามีเด็กนัดให้ไปเจอแต่เช้า เดี๋ยวได้เป็นขี้ปากมันอีก ผมแต่งตัวกินอะไรเสร็จ (ผมจะมีนมกับขนมปังติดห้องเสมอครับเอาไว้กินตอนเช้าก่อนไปทำงาน) ที่ป้ายรถเมล์คลาคล่ำไปด้วยเด็กในชุดนักเรียน เพราะช่วงนี้ต้องรีบไปให้ทันเข้าแถวตอนแปดโมง ผมก็ยืนรอโปรได้สักพัก เกือบๆเจ็ดโมงได้ โปรก็มาถึง
“มานานรึยังครับพี่”
“ก็มาถึงตั้งกะหกโมงสี่สิบห้า นี่คนโทรมาปลุกทำไมมาช้ากว่าล่ะฮ้ะ!?!”
“อ่อ ผมก็โทรปลุกพี่แล้วนอนพักแป๊บนึงน่ะครับ”
“อ้าว แล้วมาบอกว่าห้ามหลับต่อ แต่ทำเองเนี่ยนะ”
“ก็ผมกลัวพี่จะไม่ตื่น” ว่าเสร็จผมก็เอามือไปกะตีหัวเจ้าโปรสักหน่อยฐานมาหลอกกันแต่เค้าก็กลับหลบทันเสียนี่
“จะตีผม เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่าไหมครับ”
“อ่อจะให้เตะช่ายมะ ได้ ไอ้เด็กเวง”
ผมก็กะจะไล่เตะมันต่อ แต่รู้สึกตัวว่าอายสายตาคนอื่นที่อยู่แถวๆนั้นน่ะครับ เลยหยุด เจ้าโปรก็หัวเราะคิกๆ ผมก็ทำหน้าประมาณว่าฝากไว้ก่อน ในที่สุดรถเมล์สายประจำของเราก็มามีคนแย่งกันขึ้นพอสมควร พอขึ้นรถหาที่นั่งโชคดีครับโปรขึ้นไปหาที่นั่งได้ก่อนผมก็เลยได้นั่งคู่กับโปรไป
“ไหนล่ะการบ้านจะให้พี่ช่วยดู”
“ทำเสร็จแล้วครับ” โปรตอบแล้วทำน่าตาเฉย
“อ้าว แล้วจะบอกให้มาเช้าช่วยดูการบ้านทำไมล่ะนี่”
“ก็พอดีกลัวพี่สอนผมบนรถไม่ทัน ผมเลยทำก่อนไปละ”
“งั้นก็เอามาดูหน่อยสิ ว่าทำถูกไหม”
“ไม่ต้องหรอกครับ มันถูกแน่นอน”
อ้าว อย่างนี้กวนกันชัดๆ เหมือนหลอกผมมาแต่เช้า ผมเลยหันหน้าออกหน้าต่างขี้เกียดจะต่อปากกับมันละ (ผมนั่งริมหน้าต่างครับ) โปรเห็นผมไม่สนใจเค้ามั้งเลยเอาสมุดการบ้านมาให้
“พี่ ดูให้หน่อยดิ ว่าถูกเปล่า” ผมก็รับสมุดมาดู ก็รู้สึกว่าจะตอบถูกหมดไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยถามว่ามีแต่ตรงไหนไม่เข้าใจอีกไหม
“ผมมีตรงนึงที่ยังไม่เข้าใจ อ่า เดี๋ยวถึงโรงเรียนผมละ ไงเอาไว้ถามต่อแล้วกันนะ”
ว่าเสร็จโปรก็ลุกจากที่นั่งไปยืนรอที่ประตูรถ แล้วก็มองยิ้มๆมาทางผม เมื่อรถจอดโปรก็ลงไป ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่เริ่มจะเข้ามาทำให้หัวใจผมพองโต ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไร โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมไม่ทันดูว่าใครโทรมาเพราะตกใจ ใครกันนะโทรมาตอนนี้
“ส..สวัสดีครับ”
“พี่หนึ่ง เย็นนี้เลิกงานห้าโมงครึ่งใช่เปล่า” เสียงเจ้าโปรดังออกมาจากโทรศัพท์
“ใช่ทำไมเหรอ”
“เปล่า ผมจะได้รอเวลากลับพร้อมพี่ไง”
“อ้าว เราเลิกก่อนไม่ใช่เหรอ ไม่กลับก่อนเลยล่ะ”
“ไม่เอา ไม่อยากกลับคนเดียว ไงถ้าจะขึ้นรถกลับโทรบอกผมก่อนนะ”
ผมไม่ทันจะตอบอะไรโปรก็วางสายไปก่อน นี่มันอะไรกันแน่นะไอ้ตี๋โปรคนนี้ แล้วเมื่อก่อนมันกลับบ้านยังไงเนี่ย ยิ่งทำให้ผมคิดไปได้ไกลจริงๆ แต่อย่างไรผมก็พยายามห้ามใจตัวเองอยู่อย่างนั้นว่า ‘เด็กก็คือเด็ก จะให้เค้าจริงจังคงจะยาก’ หรือว่าคิดอย่างไรดีล่ะครับ??
**แก้คำผิดครับ แย่จริง สงสัยจะตายลายตอนอ่าน**