{นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน  (อ่าน 118118 ครั้ง)

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

- รับทราบครับ ไงเวลาแสดงตัวอย่างคงจะเห็น
- เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ น่าจะจริงนะครับ หึหึ :z2:
- เรื่องนี้จะดูสบายๆดีไหม อันนี้ต้องคอยดูครับ
- ยังไม่โพสต่อน่ะครับตามที่บอก วันจันทร์จะโพสต่อให้ครับสัญญา  :m5: ส่วนต้นฉบับไอ้นายเส้นฯ มันส่งเข้ามาเมลผมทีละตอนๆ ครับ

ขอบคุณครับ
 :pig4:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

muhan

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:

เดี๋ยววันจัทร์มาอ่านต่อ อิอิ

 :pig4:
 :z2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
อิๆน่าร้าก  o13

ถึงคนโพสต์ ถ้าแค่ห้าหน้า A4 ไม่น่ามีปัญหานะ ป้าเคยโพสต์นิยายความยาวเก้าหน้า A4 มาแล้วก็ไม่โดนตัดนะ (ใช้ angsana new size 14 นะจ๊ะ)

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
อิๆน่าร้าก  o13

ถึงคนโพสต์ ถ้าแค่ห้าหน้า A4 ไม่น่ามีปัญหานะ ป้าเคยโพสต์นิยายความยาวเก้าหน้า A4 มาแล้วก็ไม่โดนตัดนะ (ใช้ angsana new size 14 นะจ๊ะ)

สวัสดีครับ

ครับคุณป้า ผมมานับดูไอ้ต้นฉบับเวอร์ชั่นเก่า มีหน้ามากสุด 11 หน้าต่อตอนนึง :serius2: แต่ก็เพียงตอนเดียว นอกนั้นจะแปดหน้าบ้าง หกหน้าบ้าง ว่าไป ขนาดฟร้อนก็เหมือนกับที่คุณป้าบอกน่ะครับ แต่ผมเคาะช่วงที่เป็นคำพูดไม่ให้บรรทัดมันติดกัน ผมว่ามันจะอ่านง่ายขึ้น ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ไม่รู้มันอ่านง่ายหรือเปล่า เพราะเวปที่ผมเคยโพส บางเวปก็ไม่ต้องเคาะถึงดูดี บางเวปก็ต้องเคาะลงมาถึงจะอ่านง่าย ไงก็เลยเอาตามแบบเคาะน่ะครับ จำนวนหน้ามันเลยเยอะขึ้น (เหอะๆ ปั่นหน้าๆ) หรือถ้าทุกท่านเห็นไม่เหมาะอย่างไร บอกได้ครับ เพราะผมจัดรูปหน้าให้มัน(ไอ้นายเส้นฯ) ก่อนลงอยู่แล้ว

ขอบคุณครับ
ปล.พรุ่งนี้โพสต่อแน่นอนครับ :bye2:

muhan

  • บุคคลทั่วไป
โธ่..อ้ายเราก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจมาลงก่อน เอิ๊กๆ


zeazaiz

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจ่ะ o13

ขอบคุณนะคะ  แล้วจะรอจ่ะ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

ตามสัญญาครับ วันนี้วันจันทร์ หึหึ แล้วนี่ผมจะโพสอีกกี่ตอนนี้นะสำหรับอาทิตย์นี้ เพราะพฤหัสฯนี้ผมจะไม่อยู่ครับ ไปเที่ยวกับที่บ้าน ไงดูตามคำขอ(รีเควส) ของทุกท่านดีกว่าว่าจะโพสต่อกี่ตอนดี  (5555  :laugh3:)

ขอบคุณที่ติดตามครับ



ตอนที่ 5

“พี่หนึ่ง กลับห้องสายแบบนี้แฟนไม่ว่าเอาเหรอครับ” เรื่องราวที่ร้านไอศกรีมยังไม่จบ เริ่มต้นตอนใหม่ด้วยคำพูดชวนคิดของโปร

“ไม่นิ แฟนที่ไหน ไม่มี๊” ผมตอบเสียงสูงเลย

“อย่าๆ  เมื่อวานกินข้าวกับแฟนอยู่ผมได้ยิน” นั่นยังไม่เชื่ออีก

“เฮ้ย  ไม่มีจริงๆ เมื่อวานพี่ก็คุยกับแต่รุมเมทพี่  อีกอย่างมันเป็นผู้ชายนะเว้ย”

“นั่นล่ะ กับรูมเมทแล้วจะเป็นแฟนกันไม่ได้เหรอ” ผมอึ้งไปสักพัก เพราะแปลกใจที่โปรพูดแบบนั้น

“เค้ามีแฟนแล้ว สวยด้วย” ผมพยายามตอบเลี่ยงแบบกลางๆ แต่ก็ไม่พ้นที่โปรจะเข้าเรื่องประมาณว่าเค้ารู้ที่ผมเป็น

“งั้นก็ดีสิครับ”

“ดียังไงเหรอ”

“ก็ดีที่เป็นโสดไง”

แล้วเจ้าโปรก็ทำน่าตาอมยิ้มเล็กๆ มันดูมีเลศนัย  ยิ่งทำให้ผมอายจนพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่ ผมตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมจนหมดแล้วก็รีบถือบิลไปเพื่อที่จะจ่ายเงิน โดยตี๋โปรก็เดิมตามมาด้วย ผมเห็นโปรตอนนี้ทำน่าอมยิ้มตลอด มันทำให้ผมคิดไปได้มากมาย ก่อนที่ผมจะจ่ายเงินนั้น โปรได้ยื่นเงินของเค้าออกมาก่อนแล้วบอกว่า

“จ่ายเงินครับ” พนักงานก็รับเงินจากโปรไป

“ผมบอกพี่แล้วไงครับ ว่านี่ผมมัดจำให้พี่ต้องมาสอนผมตามที่บอก แล้วห้ามเบี้ยวนะครับ ไม่งั้นผมฟ้องศาลปกครอง”

มันเกี่ยวอะไรกะศาลปกครองด้วยนี่ ศาลมันจะมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินห้ามผมจ่ายเงินรึไง จะว่าไปตอนนี้อะไรๆ ก็ฟ้องศาลปกครองล่ะมั้ง จากนั้นผมกับโปรก็เดินกลับซอยหอผม โปรเดิมตามผมมาด้วยโดยบอกว่าอยากรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน ตอนที่เดินไปด้วยกันผมไม่ได้พูดอะไรกับโปรเลย มีแต่โปรที่พูดกับผม ผมก็ตอบคำ สั้นบ้างยาวบ้าง ตอนนั้นผมเขินจริงๆครับ เลยทำตัวไม่ถูก

“พรุ่งนี้พี่ตื่นเช้าหน่อยได้ไหมครับ”

“ทำไมหรอ”

“พอดีผมมีการบ้านที่ทำไม่ได้น่ะ จะให้พี่สอน”

“อ้าวก็เอามาถามตอนนี้เลยสิ จะได้เสร็จไปเลย”

“ไม่ดีกว่าผม เดี๋ยวผมต้องไปเรียนพิเศษ ไม่ว่างละ”

“อ่าๆ  เรียนกี่โมงล่ะ นี่จะหกโมงครึ่งแล้วนะ”

“ก็เดี๋ยวไปละครับ”

เราเดินมาจนถึงหน้าหอผม แล้วโปรก็ลาผมไปเรียนพิเศษ ผมว่าน่าจะไปเรียนสายแล้วนะ ไม่รู้ทำไมต้องมาเสียเวลากินไอศครีมกับผม  เมื่อผมกลับมาถึงห้องก็เจอเจ้ารูมเมทนั่งดูทีวีอยู่

“วันนี้มีอะไรเหรอถึงกลับมาก่อน”  ผมถาม

“อ่อ......วันนี้เคลียร์งานเร็ว”  แล้วมันก็มองมาทางผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไอ้ยิ้มแบบมีอะไรแน่ๆ

“ทำไมวะ ได้เลื่อนตำแหน่งรึไง”

“เปล่า แค่ดีใจเพื่อนกูมีแฟน”

“ใครวะ มีแฟน”

“มึงอ่ะดิ ไอ้สาดดดด  เด็กนั่นครายยยยยยวะ กูเห็นนั่งสวีตที่ร้านไอติม”

เวร นึกว่าจะไม่มีคนรู้จักเห็นนะนี่ ดันคนใกล้ตัวมากๆเสียเองที่รู้ ก็ยังดีครับเพราะว่ามันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม แล้วมันเองก็รู้ด้วยว่าผมเป็น

“เปล่าๆ พอดีเด็กมันเลี้ยง”

“โหย  เด็กเลี้ยงวุ้ยยยยยย  ร้ายจริงเพื่อนกู”
กรรม นี่ผมหลุดปากว่าเด็กเลี้ยงไอศครีมเหรอนี่ มันเลยยิ่งถามผมใหญ่ ผมก็เลยเล่าเรื่องราวให้มันฟังคร่าวๆ แต่ผมไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะคิดว่าผู้ชายอย่างมันคงไม่เข้าใจอะไรมากมาย

“ก็คงมาชอบมึงแหละ ก็ดีละมึง ยังดีกว่ามีคนเกลียด”

“เออ ดีกว่ามีคนรังเกียจกันแล้วดันมาอยู่ด้วยกัน” ผมแกล้งแซวมัน

“ว่าใครวะ”

“คิดเองดิวะ”

เรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกครับ ผมก็ลงไปทานข้าวกับมันตามปกติ  กลับมาผมไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะสัญญากับโปรไว้ว่าผมจะไปเจอโปรที่ป้ายรถเมล์ตอนเช้า

เช้าวันใหม่เริ่มเข้ามา เมื่อคืนผมฝันจริงๆนะแต่จับใจความไม่ได้ว่าฝันถึงอะไร แต่ประมาณว่าผมไปเหยียบอุนจิหมาที่ไหนนี่ล่ะ แล้วผมเอาไปป้ายคนอื่นคนที่อยู่ข้างๆ ซึ่งคนนั้นคือ โปร ผมไม่ทันจะฝันต่อเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมลุกมาดูว่าใครโทรมาตอนนี้ ท้องฟ้ายังไม่มีแสงเลย ไม่ใช่ใครที่ไหน โปรนั่นเองที่โทรมา

“สวัสดีครับ”  ผมตอบด้วยเสียงที่งัวเงีย

“ฮัลโหล ตื่นได้แล้วคับเพ่ เดี๋ยวจะมาสอนผมไม่ทัน”

“อ่ะครับๆ”

“ครับแล้วห้ามกลับไปนอนต่อล่ะคร๊าบบ แค่นี้นะ แล้วเจอกัน”

 โปรวางหูไปแล้ว ผมมองไปยังเมทของผม มันยังนอนอยู่ข้างๆผมเลย มองดูนาฬิกา โห นี่ตีห้าครึ่งเองนิหว่า ทุกทีเมทผมจะตื่นหกโมงครึ่ง ออกจากห้องเจ็ดโมงกว่า ส่วนผมก็ตื่นเกือบๆเจ็ดโมงแล้วออกจากห้องเกือบแปดโมง นี่โปรมันตื่นเช้าขนาดนี้เชียวรึนี่ ผมเดินโซซัดโซเซไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ พออาบเสร็จเมทผมก็ตื่น

“วันนี้มีงานไหนรึไงวะ รีบตื่น”

“อืม.. มีงานเช้า”

ผมไม่อยากบอกมันเท่าไหร่ว่ามีเด็กนัดให้ไปเจอแต่เช้า เดี๋ยวได้เป็นขี้ปากมันอีก ผมแต่งตัวกินอะไรเสร็จ (ผมจะมีนมกับขนมปังติดห้องเสมอครับเอาไว้กินตอนเช้าก่อนไปทำงาน) ที่ป้ายรถเมล์คลาคล่ำไปด้วยเด็กในชุดนักเรียน เพราะช่วงนี้ต้องรีบไปให้ทันเข้าแถวตอนแปดโมง ผมก็ยืนรอโปรได้สักพัก เกือบๆเจ็ดโมงได้ โปรก็มาถึง

“มานานรึยังครับพี่”

“ก็มาถึงตั้งกะหกโมงสี่สิบห้า นี่คนโทรมาปลุกทำไมมาช้ากว่าล่ะฮ้ะ!?!”

“อ่อ ผมก็โทรปลุกพี่แล้วนอนพักแป๊บนึงน่ะครับ”

“อ้าว แล้วมาบอกว่าห้ามหลับต่อ แต่ทำเองเนี่ยนะ”

“ก็ผมกลัวพี่จะไม่ตื่น” ว่าเสร็จผมก็เอามือไปกะตีหัวเจ้าโปรสักหน่อยฐานมาหลอกกันแต่เค้าก็กลับหลบทันเสียนี่

“จะตีผม เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่าไหมครับ”

“อ่อจะให้เตะช่ายมะ ได้ ไอ้เด็กเวง”

ผมก็กะจะไล่เตะมันต่อ แต่รู้สึกตัวว่าอายสายตาคนอื่นที่อยู่แถวๆนั้นน่ะครับ เลยหยุด เจ้าโปรก็หัวเราะคิกๆ ผมก็ทำหน้าประมาณว่าฝากไว้ก่อน ในที่สุดรถเมล์สายประจำของเราก็มามีคนแย่งกันขึ้นพอสมควร พอขึ้นรถหาที่นั่งโชคดีครับโปรขึ้นไปหาที่นั่งได้ก่อนผมก็เลยได้นั่งคู่กับโปรไป

“ไหนล่ะการบ้านจะให้พี่ช่วยดู”

“ทำเสร็จแล้วครับ”  โปรตอบแล้วทำน่าตาเฉย

“อ้าว แล้วจะบอกให้มาเช้าช่วยดูการบ้านทำไมล่ะนี่”

“ก็พอดีกลัวพี่สอนผมบนรถไม่ทัน ผมเลยทำก่อนไปละ”

“งั้นก็เอามาดูหน่อยสิ ว่าทำถูกไหม”

“ไม่ต้องหรอกครับ มันถูกแน่นอน”

อ้าว อย่างนี้กวนกันชัดๆ  เหมือนหลอกผมมาแต่เช้า ผมเลยหันหน้าออกหน้าต่างขี้เกียดจะต่อปากกับมันละ (ผมนั่งริมหน้าต่างครับ) โปรเห็นผมไม่สนใจเค้ามั้งเลยเอาสมุดการบ้านมาให้

“พี่ ดูให้หน่อยดิ ว่าถูกเปล่า” ผมก็รับสมุดมาดู ก็รู้สึกว่าจะตอบถูกหมดไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยถามว่ามีแต่ตรงไหนไม่เข้าใจอีกไหม

“ผมมีตรงนึงที่ยังไม่เข้าใจ  อ่า เดี๋ยวถึงโรงเรียนผมละ ไงเอาไว้ถามต่อแล้วกันนะ”

ว่าเสร็จโปรก็ลุกจากที่นั่งไปยืนรอที่ประตูรถ แล้วก็มองยิ้มๆมาทางผม เมื่อรถจอดโปรก็ลงไป  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่เริ่มจะเข้ามาทำให้หัวใจผมพองโต ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไร โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมไม่ทันดูว่าใครโทรมาเพราะตกใจ ใครกันนะโทรมาตอนนี้

“ส..สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่ง เย็นนี้เลิกงานห้าโมงครึ่งใช่เปล่า”  เสียงเจ้าโปรดังออกมาจากโทรศัพท์

“ใช่ทำไมเหรอ”

“เปล่า ผมจะได้รอเวลากลับพร้อมพี่ไง”

“อ้าว เราเลิกก่อนไม่ใช่เหรอ ไม่กลับก่อนเลยล่ะ”

“ไม่เอา ไม่อยากกลับคนเดียว ไงถ้าจะขึ้นรถกลับโทรบอกผมก่อนนะ”

ผมไม่ทันจะตอบอะไรโปรก็วางสายไปก่อน นี่มันอะไรกันแน่นะไอ้ตี๋โปรคนนี้ แล้วเมื่อก่อนมันกลับบ้านยังไงเนี่ย ยิ่งทำให้ผมคิดไปได้ไกลจริงๆ แต่อย่างไรผมก็พยายามห้ามใจตัวเองอยู่อย่างนั้นว่า ‘เด็กก็คือเด็ก จะให้เค้าจริงจังคงจะยาก’ หรือว่าคิดอย่างไรดีล่ะครับ??



**แก้คำผิดครับ แย่จริง สงสัยจะตายลายตอนอ่าน**
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2008 11:27:29 โดย Koa-ka »

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
บางทีเด็กก็รักจริงน้า อิๆๆ :impress2:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
 :z1: หลงเสน่ห์เด็กเข้าให้แล้วดิ
นี่แล่ะอยู่กับเด็กมันก็ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยแบบนี้แล  คึคึ :m1:


รังเกียด>>>รังเกียจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เพิ่งอ่านได้ถึงตอนที่ 4 แต่มาให้กำลังใจคนโพสท์คนเขียนก่อนเน้อ o13
ขอบคุณคุณเส้นกราฟเจ้าของเรื่องที่ให้คุณก.กานำลงมาโพสท์ที่เล้าเราเด้อ

จะรอติดตามต่อไปนะจ้ะ
ขอแว็บกลับไปทำงานก่อง เด๋ว :bye2: นายรู้ว่าอู้โดนตัดเงินเดือน อิอิ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เด็กทำอะไรก็น่ารักไปหมด ทำอะไรก็หยวนๆไปเหอะ :laugh:

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

รู้สึกตัวเองผิดๆไงไม่รู้ เลยมาโพสเพิ่มสองตอนแล้วกันครับ

ขอบคุณครับ



ตอนที่ 6

หลังจากที่ผมต้องไปทำงานตอนเช้าพร้อมไอ้ตี๋โปร แถมตอนเย็นจะขึ้นรถกลับผมต้องโทรไปบอกก่อนว่าจะขึ้นรถแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็ต้องทำเป็นกิจวัตร ผมเองก็ได้ติวหนังสือกับโปรจริงๆ โดยใช้สถานที่โต๊ะนั่งใต้หอผมในการติว ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากมาย โปรก็ยังคุยเก่งเหมือนเดิม และก็ยังพูดจากวนๆให้ผมหมันไส้อยู่เสมอ โปรเป็นเด็กที่ฉลาดมากสอนเพียงครั้งเดียวก็ทำได้แล้ว ในบางเรื่องที่ลึกระดับปริญญาตรีที่ผมเรียนแต่โปรก็ยังถาม ยิ่งทำให้ผมอึ้งๆเพราะบางทีผมก็ยังทำไม่ได้เลย  ความสัมพันธ์ตี๋โปรกับผมนั้น มันเริ่มใกล้กันมากขึ้นอย่างรู้สึกได้มันทำให้ผมรู้สึกดี แต่ก็มีความกลัวแฝงอยู่ด้วย แต่กระนั้นในทุกๆเช้าโปรจะโทรมาปลุกผม ตอนเย็นผมก็โทรบอกโปร เป็นอย่างนี้ตลอดจนกระทั่งสิ้นเดือนซึ่งผมต้องเคลียร์ยอดประจำเดือน เป็นช่วงที่ผมต้องกลับค่ำเป็นพิเศษ วันนั้นตอนเย็นผมได้โทรไปบอกโปรว่าวันนี้ผมจะกลับค่ำหน่อยไม่ต้องรอ

“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมรอได้”

“เฮ้ยอย่ารอ เรามีเรียนพิเศษไม่ใช่เหรอกลับก่อนเลยนะ”

“เจ้าหนึ่ง เมื่อไหร่จะเสร็จจ้ะ นี่ๆรีบๆมาทำเร็วๆเลย ไอ้โจบ่นอุบเลยว่าแกแอบมาโทรหาแฟน”

เสียงพี่จิ๊บหัวหน้าผมดังมาแต่ไกล ทำให้ผมต้องรีบวางหูในทันที แล้วกลับไปนั่งเคลียร์งานต่อให้เสร็จ ไอ้โจ ปากดีจริงๆ และในที่สุด เวลาเกือบสามทุ่มกว่าก็เคลียร์งานเสร็จสำหรับวันนี้ ผมเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าที่ทำงานซึ่งตอนนั้นไม่มีคนอยู่เลย ตอนที่ผมยืนรอรถอยู่นั้นก็มีมือใครบางคนมาสะกิดผมด้านหลัง ผมหันไปก็พบกับเจ้าตี๋โปรยิ้มแฉ่งยืนอยู่ ผมตกใจมาก (โปรรู้ว่าผมทำงานที่นี่น่ะครับ)

“เฮ้ย มาได้ไง”

“ก็มารอพี่น่ะสิครับ”

“แล้วนี่....” ผมดูสภาพโปรตอนนั้นใส่ชุดธรรมดาเหมือนอยู่บ้านไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนแล้วถือหนังสือเรียนพิเศษอยู่สองสามเล่ม

“ผมเรียนพิเศษเสร็จก็มารอพี่นี่แหละ”

“เฮ้ย แล้วนี่รอนานดิ นี่มันสามทุ่มครึ่งละนะ แถวนี้น่ากลัวจะตาย”

“แหม่ แล้วพี่พูดนี่ไม่ดูตัวเองรึไงว่าก็อยู่คนเดียวน่ะ”

“ก็พี่โตแล้ว เรายังเด็กอยู่”

“เด็กแล้วไง!!” โปรขึ้นเสียงกับผม

“....” ผมพูดอะไรไม่ออกเลยเพราะไม่เคยเจอโปรขึ้นเสียงกับผมมาก่อน

“ผมดูแลตัวเองได้ แล้วผมจะดูแลพี่ด้วย ใครจะทำไม”

ผมได้แต่มองหน้าโปร ไม่ได้พูดอะไรต่อ พอดีรถมาโปรก็ฉุดแขนผมขึ้นรถทันที ถึงแม้เราจะนั่งเบาะติดกัน แต่ก็เหมือนห่างกัน คราวนี้ไม่รู้เป็นเพราะอะไร โปรหันหน้ามองไปทางอื่นซึ่งไม่ใช่ผมผมเองก็ได้แต่ก้มหน้าพูดอะไรไม่ออก ทั้งรถตอนนั้นเงียบมากผมรู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่าง จะโทษโปรก็คงไม่ได้เพราะเค้าตั้งใจมารับผมแต่ผมก็อดห่วงโปรไม่ได้ที่ต้องมายืมรอผมคนเดียว  ผมคิดว่าควรที่จะพูดว่า ”ขอบคุณ” คงจะดีที่สุด ก่อนที่ผมจะเอ่ยอะไรออกไป จู่ๆโปรก็หันมาทางผม

“พี่หนึ่ง ...ขอโทษนะ....” คำพูดที่ผมว่าจะพูด มันเลยไม่ได้ออกบอกจากผมเลยผมก็ได้แต่ยิ้ม ตอนนั้นเองโปรก็เอามือซ้ายมาจับที่มือขวาของผม

“พี่หนึ่ง ขอโทษ....”

“เฮ้ย  ขอโทษทำไม  ไม่ได้ทำอะไรผิดนิ”

“......”  โปรเงียบ

“เอาน่า  พี่ขอบใจนะที่เรามารอรับพี่  แต่ทีหลังถ้าจะมาก็โทรมาบอกพี่ก่อน จะได้ให้มารอในที่ทำงานพี่ไม่ต้องรอ”

“ครับ  ได้เลย”

ผมได้เห็นโปรยิ้มอีกครั้งมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ ผมสังเกตไปที่หนังสือที่เค้าถือมาด้วยมันเป็นของสถาบันกวดวิชาที่มีชื่อทางภาษาไทย-สังคม

“นี่ติวกี่วิชากันเหรอ”

“วันนี้กับพรุ่งนี้เรียนสอง วันอื่นวันละวิชา วันศุกร์ว่างครับ”

“โปรม.6 แล้วใช่ไหม แล้วจะเรียนต่อที่ไหนล่ะ” หลังจากที่ผมถามไปนั้น ผมเห็นโปรเหม่อมองไปด้านข้างสักพักแล้วก็ตอบมาว่า

“จะเรียนเศรษฐศาสตร์”

“อ้าว ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ”

“ก็พี่สอนให้ผมจนผมชอบน่ะ  ทำไมเหรอ เรียนเศรษฐศาสตร์ไม่ดีเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ดี แต่เรียนที่เราถนัดแล้วก็ชอบด้วยจะดีกว่านะ”

ผมพูดอย่างนี้เหมือนโปรจะหยุดคิดไป ที่จริงผมก็อยากจะแนะนำให้โปรไปเรียนตามที่เขาชอบมากกว่า แต่จริงๆแล้วผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าโปรเค้าเรียนเก่งขนาดไหน รู้แต่ว่าแต่ว่าเด็กคนนี้ฉลาด และเรียนรู้ได้เร็วเท่านั้น

“ก็จะเรียน”

“เอ้า ตามใจ เตือนแล้ว” 

ตรงนี้ผมพูดแล้วก็ยิ้มเพราะตอนผมอายุเท่าโปรผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร ไอ้ที่ผมเรียนมาได้นี่จริงๆแล้วก็หลับตาจิ้มมา (จริงๆนะครับ) แต่เพราะเรียนแล้วดันชอบก็เลยเรียนได้จนจบน่ะครับ

ในที่สุดก็ถึงป้ายหน้าปากซอยผม โปรเหมือนจะเดินมาส่งผมอีกแต่ผมห้ามไว้แล้วบอกให้เขารีบกลับบ้านเพราะดึกมากแล้ว ตอนนั้นเกือบๆสี่ทุ่ม ผมกลัวว่าทางบ้านของโปรจะเป็นห่วง โปรก็ยอมไปแต่โดยดีครับ แต่เค้าก็ยืนยันให้ผมไปติวให้เขาให้ได้ในวันศุกร์นี้ ผมก็รับคำครับ ตอนที่ผมแยกกับโปรมาก็คิดว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไรนะถึงตอนนี้ผมก็ทราบแล้วว่า โปรเองคิดอย่างไรกับผม แต่เพราะคนอย่างผมรู้สึกจะก้าวอย่างระวังเหลือเกินในความสัมพันธ์ แต่สำหรับโปรแล้วคงต้องการให้ไปโดยเร็วตามประสาวัยของเขา แล้วอย่างนี้ผมจะคบกับเค้าได้หรือครับนี่ ที่สำคัญยังไม่มีใครบอกรักใครเลยนะครับ แล้วใครจะบอกก่อนล่ะนี่ ผมคงยากเพราะอายเกินกว่าจะบอกครับ จะว่าไปแล้วตอนนี้โดยพฤตินัยเหมือนผมกับโปรจะเป็นมากกว่าพี่น้องแล้วสิ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

อีกตอนๆ ต่อกันเลย และหมดโควต้าสำหรับวันนี้ครับ

ขอบคุณครับ



ตอนที่ 7

วันศุกร์ทุกวันผมก็ต้องติวโปร วันศุกร์นี้ก็เหมือนกันผมเคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าปกติ เพราะถึงไม่เสร็จผมก็จะฝากโจทำ (นิสัยดีไหมล่ะ) ผมบอกกับที่ทำงานว่าผมมีธุระด่วนต้องขอกลับตามเวลาซึ่งทุกๆคนก็ไม่ติดใจถามอะไรมีเพียงโจเท่านั้นที่เหมือนจะสังเกตอะไรผมทัน

“ไม่ใช่ว่านัดเด็กไหนไปเที่ยวนะเว้ย ไอ้หนึ่ง”

“เฮ้ย ธุระๆ ไปร้านโทรศัพท์หน่อย ถ้าไปดึกมันจะปิดก่อน”  ผมอ้างไปอย่างนั้นล่ะ

“เออ พรุ่งนี้ว่างใช่ป่ะ”

“ว่าง ทำไมหรอ”

“พอดีจะชวนไปจตุจักรหน่อย... จะเอาแฟนไปโชว์ตัว”

“เฮ้ย  จริงดิ เออๆๆได้เลยๆ กี่โมง?”

“เดี๋ยวจะโทรไปบอกแล้วกัน”

เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้เห็นหน้าแฟนโจมัน เห็นคุยนักคุยหนาว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่มันเรียกว่า “ลูกแมวน้อย” ของมันนี่จะน่าตายังไง ถ้าแฟนมันน่ารักจริงผมคงไม่อยากมีแฟนเหมือนมันเท่าไหร่ เพราะเห็นทะเลาะกันทุกวันเอาเรื่องมาให้ผมคิดเพิ่มจากเรื่องงาน และเรื่องของโปร บางทีมันก็โทรมาตอนดึก บางทีก็พูดไปร้องไห้ไป ผมก็ต้องปลอบใจมันแล้วลองให้มันทำอย่างนั้นทำอย่างนี้เพื่อให้คืนดีกับแฟนมัน

เฮ้อ... เหนื่อยใจจริงๆ

ผมออกจากที่ทำงานและโทรหาโปรตามปกติว่าจะขึ้นรถเมล์แล้ว ครั้งนี้ออกจะแปลกเสียหน่อยที่ผมโทรไปหลายครั้งเหมือนจะไม่รับสายบ้าง ไม่ก็กดตัดสายทิ้งบ้าง ผมก็ไม่คิดมากอะไรคงจะมีประชุม หรือคุยกับอาจารย์อยู่จึงไม่ว่าง แต่ก็คงจะรู้แล้วว่าผมจะถึงป้ายหน้าโรงเรียนเขาแล้ว

ถึงหน้าโรงเรียนของโปรผมก็ยังไม่เห็นโปรขึ้นรถมาเลย ทำให้ผมสงสัยมากขึ้นว่าโปรเป็นอะไรรึเปล่าทำไมถึงไม่รับสายผม ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกัน จนผมลงป้ายที่ซอยเข้าหอผมแล้วก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังมาจากกระเป๋ากางเกง

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง นี่โจนะเว้ย  เออนี่พรุ่งนี้ไปสิบโมงเช้าละกันนะ”

“เออๆ  ได้ๆ เจอกันตรง BTS แล้วกันนะ”

“โอเค แล้วเจอกัน”

“เออ...หนึ่ง”

“อะไรอีกล่ะ”

“มึงเป็นเพื่อนที่คุยด้วยแล้ว เป็นคนเดียวเลยนะเว้ย ที่คุยได้ทุกเรื่อง”

“เออ แล้วไง”

“เอ่อ...  ก็มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูไง”

“ขอบใจ”

“แล้วก็....”

“......”

“เจอกันวันพรุ่งนี้นะ”

พูดเสร็จโจมันก็วางหูไปโจมันพูดแปลกๆนะครับ เหมือนมีอะไรจะบอกแต่ไม่กล้าพูดแต่ชั่งมันไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ไอ้เราตอนแรกผมดีใจนึกว่าเจ้าตี๋โปรจะโทรหาผมเสียอีกที่ไหนได้ กลายเป็นไอ้โจไปเสียนี่ แต่ไม่ทันที่ผมจะเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสียงของมันก็ดังอีก คราวนี้เป็นเบอร์ของโปรโชว์ขึ้นมา

“สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่งหรอ  ขอโทษจริงๆพี่ วันนี้ผมขอเลื่อนไปก่อนนะ”

“อ้าวมีอะไรเหรอ”

“พอดีผมแข่งบาสน่ะครับ ไงพรุ่งนี้เย็นๆค่อยติวแล้วกันนะพี่”

“อ่าๆ  ได้ๆ ไงก็โทรบอกแล้วกันนะ”

“ครับ ไปก่อนนะพี่เพื่อนเรียกแล้ว”

ผมไม่ทันพูดอะไรอีกโปรก็วางสายไปผมกลับไปที่ห้องพัก สักพักนึงก็นึกขึ้นได้ว่าต้องมีของต้องซื้อเลยออกไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัว เมื่อผมเดินซื้อของเสร็จก็เดินผ่านร้านฟาสฟู้ดในห้างนั้น ผมสังเกคเห็นคนๆหนึ่งน่าตาคล้ายกับโปรมากกำลังทานอาหารในร้านนั้นกับผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะการแต่งตัวก็พอจะทราบว่าน่าจะเรียนมหาวิทยาลัย แต่เขาคนนั้นทั้งน่าตาดี ตาตี่ๆ ใส่แว่น ผมหยุดยืนดูคู่นั้นได้สักพักเพื่อจะดูให้ได้ว่าคนที่นั่งด้วยคือเจ้าโปรรึเปล่า (ด้วยความที่สายตาสั้นนิดนึง) แต่ไม่ทันไรเหมือนคุณตี๋แว่นจะรู้ตัวว่าผมมองอยู่ผมเลยรีบหิ้วของเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด

เมื่อผมอยู่บนรถเมล์นั้นก็คิดอยู่ว่าคนที่เราเห็นนั้นใช่โปรหรือเปล่า ถ้าใช่แล้วคนที่โปรนั่งอยู่ด้วยนั้นคือใคร เพื่อนโปรหรือเปล่า? แต่ผมตัดความคิดนี้ทิ้งแทบในทันทีเพราะการแต่งตัวเหมือนใส่ชุดนิสิตมหาวิทยาลัยซึ่งคงไม่ใช่รุ่นเดียวกันกับโปรแน่ ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก แล้วก็เตือนใจด้วยเหตุการณ์เก่าๆที่เคยผ่านมาว่าอย่าเพิ่งเชื่ออะไรนอกจากปากของเขา แล้วจงทำใจไว้เสมอด้วยว่า ‘ความจริงของรักคือความไม่ยั่งยืน’ 

วันต่อมาผมไปเจอกับโจตามนัด ขณะที่ผมกำลังรอโจอยู่นั้นเสียงมือถือผมก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง โจนะเว้ย”

“เออ  อยู่ไหนเนี่ย มาถึงตั้งนานละนะ”

“ใกล้ละๆ เออหนึ่งเราเป็นเพื่อนกันเปล่า”

“อ้าวไอ้นี่ถามแปลกๆ ไม่ใช่ม้าง”

“คือมึงอย่าตกใจนะเว้ย แล้วอย่าบอกใครด้วยเรื่องแฟน”

“เออ  มีแฟนเป็นดารารึไงวะ ถึงบอกไม่ได้”

“เออน่า  รักมึงว่ะเพื่อน”

มันพูดเสร็จก็วางหูไปเลย ผมรอสักพัก โจก็มาถึงผมพยายามมองหาผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นแฟนของมัน ผมมองแล้วมองอีกก็ไม่เจอใครนอกจากมัน

“ไหนแฟนวะ” ผมถาม

โจหันไปชี้อีกด้านหนึ่งของผม เฮ้ย นี่ไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า นี่ผู้ชาย น่าตาดีซะด้วยเป็นนายแบบได้เลย

“สวัสดีครับพี่หนึ่ง”

“ส..สวัสดีครับ”

ผมอ้าปากค้างไปได้สักพักก็มองไปที่หน้าของโจ ตอนนี้มันน่าซีดหรือจะเรียกว่าอะไรดี คือประมาณว่ามันเองก็บอกไม่ถูก บรรยากาศเงียบไปสักพัก ผมยังตะลึงอยู่ ไม่รู้เลยนะนี่ว่าโจมันก็เป็น...

“เฮ้ย......หนึ่ง มึงเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ป่าว”  มันเริ่มเอ่ยขึ้นมา

ผมพยายามเปลี่ยนหน้าจากอาการตกใจเป็นยิ้มๆแล้วบอกกับมันว่า

“เป็นสิวะ เฮ้ยแล้วไม่บอกแต่แรก”

จากนั้นผมกับโจแล้วก็แฟนของโจก็เดินไปดูของที่จตุจักรด้วยกัน ผมชวนแฟนโจคุยเสียมากกว่า โจเองก็ค่อนข้างเงียบๆ สงสัยคงยังไม่แน่ใจในท่าทีของผม แล้วเราก็ตกลงมาหยุดพักทานข้าวกันที่ร้านในจัตุจักรนั้น

“อ้าวเรียนปีสองแล้วเหรอ เป็นไงยากป่าว”

“ครับพี่หนึ่ง ก็ยากน่ะครับ”

ผมได้สัมภาษณ์น้องเค้าเสียจนไอ้โจออกอาการหึงเลยล่ะครับ จนพอรู้ได้ว่าแฟนโจเนี่ยนะชื่อน้องต้อม เขาน่าตาดีขนาดนี้น่าจะพาไปวัดตอนสายๆได้ (ฮ่ะ ฮ่ะ สำนวนโบราณไปเปล่าเนี่ย) ที่ไอ้โจไปได้มาเพราะน้องเค้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน อยู่สายรหัสเดียวกันกับไอ้โจ มันเลยใช้ความเป็นปู่รหัสตีสนิท และที่ทะเลาะกันบ่อยๆก็เรื่องเวลาที่มีให้กันนี่แหละครับ ต่างคนต่างทำงานบ้าง เรียนบ้างก็ไม่ค่อยจะว่างตรงกันเท่าไหร่

“ก็กูกลัวจะเสียเพื่อนไป แต่ก็ดูแล้วว่ามึงน่าจะเป็นคนที่เข้าใจคนอย่างกูดีที่สุดน่ะหนึ่ง” ไอ้โจหยอดคำชมผม

“พี่โจก็บอกผมหลายทีแล้วเรื่องพี่หนึ่ง ขอบคุณนะครับ”

“พอดีน้องเค้าบอกอยากเจอมึง ก็เลยพามาเจอ” ไอ้โจพูดเสริมอีก

“เออๆ รู้แล้วๆ นี่ ทั้งคู่เลย ทีหลังอย่าพยายามหาเรื่องปวดหัวมาให้ล่ะ ขี้เกียดฟังแล้ว”

“คร๊าบบบ  ต่อไปผมจะไม่ทะเลาะกับแมวน้อยแล้ว”

“จิ้งจอกเองก็อย่างอนเค้าน๊า”

ผมแทบจะกระอักน้ำตายเสียตรงนั้นอีทีหวานนะหวานกันจริง ตอนทะเลาะกัน (ไอ้โจเล่ามา) ล่ะทะเลาะกันอย่างกะอะไร แต่ก็อิจฉามันนะครับต่อนข้างหวานกันดีทีเดียว คิดมาถึงเรื่องผมกับโปรแล้วก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย

จากนั้นผมก็เดินดูของต่อกับไอ้โจและแฟนของโจ เดินได้สักพักผมก็ไปสะดุดกับคนคุ้นเคยอีกครั้ง คราวนี้ใกล้พอที่ผมดูออกได้ว่าเป็นโปรแน่นอน แต่เค้ามากับใครล่ะ ผมมองไปคนที่อยู่ข้างๆโปรนั้นคือชายตาตี่ๆ ใส่แว่นคนเดิมที่ผมเห็นผมเห็นเขาสองคนสนิทกันมาก มีพูดคุยหยอกล้อกันโดยสัญชาตญาณแล้วมันทำให้ผมรู้ว่าแบบนี้คงไม่ใช่แค่เพื่อนหรือคนรู้จักธรรมดาเสียแล้ว และก็เหมือนคราวก่อน ชายตี๋แว่นสังเกตเห็นว่าผมมองเค้าอยู่ มันทำให้โปรต้องหันมาทางผมด้วย  เมื่อโปรเห็นผมท่าทางของเขาตกใจมาก ผมเองก็อยู่ในอาการที่ไม่แพ้กัน

“เฮ้ยหนึ่ง คู่นี้สวยเปล่าวะ”

โจหยิบรองเท้าคู่หนึ่งมาให้ผมดู ผมดูนิดนึงก็บอกกับโจว่า

“ตอนนี้รู้สึกไม่สบายขอตัวกลับก่อน...”

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า พี่หนึ่ง” น้องต้อมถาม

 ผมไม่ทันตอบอะไรเพราะมองไปทางโปรเหมือนโปรจะเดินมาทางผมแล้ว ผมจึงรีบเดินออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมได้ยินเสียงของทั้งโจ แฟนโจ แล้วก็เสียงของโปรเรียกผมแต่ผมก็เดินฝ่าฝูงชนออกไป จนแล้วจนลอดผมก็ออกมาจากจตุจักร ขึ้นรถไฟฟ้ากลับหอให้เร็วที่สุด ขณะนั้นมันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของคนๆหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ผมรักมากคนหนึ่งขึ้นมาโดยทันที....

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าโปรริอ่านจับปลาสองมือเรอะ  :fire:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เด็กฉลาดชาติเจริญ............แต่อย่างเจ้าโปรฉลาดเกินมันน่าจับ  :z10: แล้วซ้อมน่ะ 555

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
โปรทำงี้หมายความว่างัยเนี่ย :m31:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
เรื่องมันเหมือนๆจะดีแล้วนี่นา ไหงพลิกผัน :m29:

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
รอติดตามตอนต่อไป อาจจะเป็นญาติกันก็ได้นะ หุหุ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ขอกรี๊ดกร๊าดโจกับน้องต้อมก่อน แมวน้อยกับจิ้งจอก น่าร้ากกกกกกก :m1:

จริงๆแล้ว เจ้าโปรมาเลือกซื้อของขวัญให้หนึ่งอ๊ะป่าว (คิดไปนู่น) อ่านตอนนี้แล้วอิน พอดีเมื่อวานเพิ่งไปเดิน JJ มา (เกี่ยวมั้ย?) ขอให้น้องโปรไล่กวดหนึ่งทันนิ  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านทันแล้ว

แล้วไหง โปร มาแนวแปลกๆ แบบนี้ล่ะ

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
โอ้ววววววววววววววววววววววว

และแล้วก็ตามอ่านจนทัน

แต่ว่าถึงตอนที่  :z10:

งืออออ

อยากอ่านตอนต่อไปอ่ะ

three

  • บุคคลทั่วไป

anna1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

yee

  • บุคคลทั่วไป

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

คาว่าเรื่องนี้ จะไม่เป็นที่นิยม...
สถิติcommentตลอดถึงตอนที่ 7 เมื่อหักที่ผมโพสไปนั้น อยู่ที่ประมาณ 6.4 คอมเมนต์ต่อตอน กระทู้ข้างๆ 6 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 17.2 คอมเมนต์ต่อตอน หรือ 16 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 9.5 คอมเมนต์ต่อตอน :m16:

เอ... ท่าทางต้องไล่ให้ไปเขียนใหม่ซะละมั้ง หึหึ บอกให้เพิ่ม XXX เข้าไปก็ไม่เชื่อ ไอ้นายเส้นฯ :z6:
ส่วนคนโพสก็มีหน้าที่โพสต่อไป หึหึ :เฮ้อ:

ขอบคุณมิตรรักแฟนนิยายที่ติดตามเสมอคร๊าบบบบบบ ติดตามกันต่อไปน๊าคร๊าบบบบบ ขอร้องล่ะคร๊าบบบบบบ :call:
ปล.โพสวันละตอน ยกเว้น พฤ-อาทิตย์ นี้ ผมจะไปเที่ยวคับ



ตอนที่ 8

“ถ้าเกิดดาวบนฟ้า ที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเค้าจะมาเป็นของเรา จู่ๆดาวดวงนั้นก็ตกลงมาหาเรา  จะไม่ให้ทิ้งบางอย่างในมือเพื่อไปหยิบดาวดวงนั้นเหรอ”

คำพูดของคนๆหนึ่งเหมือนพูดซ้ำไปซ้ำมาในหัวของผมตลอดการเดินทางกลับหอพัก มันทำให้ผมร้องไห้ทุกครั้ง เพราะผมไม่อาจเป็นดาวได้เป็นเพียงแค่อะไรบางอย่างที่คนเค้ากำไว้แล้วพร้อมที่จะทิ้งเสมอเมื่อเค้าได้ดาวดวงที่เค้าต้องการ ทุกครั้งที่คิดถึงคำพูดนั้นแล้วหลับตาก็จะเห็นเค้าคนนั้นกับดาวดวงนั้นของเค้า แล้วผมก็ต้องเดินออกมาด้วยเหตุที่ไม่อาจจะสู้ดาวดวงนั้นได้เลยแม้แต่นิดเดียว

การเดินทางครั้งนี้ของผมแม้อยากจะร้องไห้เพียงใดก็ได้แต่น้ำตาคลอ เพราะผมไม่ต้องการให้มันออกมาอีก ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ร้องไห้ให้กับเรื่องพวกนี้อีกรถไฟฟ้าถึงสถานีแล้ว ผมเดินออกมาตามทาง ระหว่างทางก็เจอคู่แฟนหลายคู่ ทั้งชายหญิงและไม่ใช่ ผมก็ยิ้มให้พวกเค้าทุกคู่ในใจก็คิดว่าพวกคุณโชคดีแล้วที่มีแฟน มีคนที่จะช่วงแบกความทุกข์เอาไว้ครึ่งหนึ่งของชีวิต เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังเตือนให้ผมรับสาย ผมก็ทราบดีว่าใครโทรมาแต่สมองของผมตอนนี้กลับไม่รับรู้อะไรแล้ว  ผมยังคงเดินต่อไปจนถึงหอพัก ที่ห้องผมเจอกับเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่งซึ่งกำลังเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่

“กลับมาแล้วเหรอ ได้อะไรมาบ้างล่ะ”

“.......อืม ไม่ได้อะไรหรอก”

รูมเมทของผมคงรู้สึกได้ถึงอาการซึมของผม มันเดินมาทางหน้าผมแล้วทำท่าส่ายหัว

“เป็นอะไรรึเปล่า เฮ้ย ไปเจออะไรไม่ดีมาล่ะสิ”

“......”  ผมไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งลงบนเตียงนอนในห้องนั่นเอง

“ถึงกูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่มึงเป็นทั้งหมดนะ แต่กูก็อยากให้มึงอย่าคิดมาก อย่าไปสนใจ คนเรามีมากมายจะไปสนอะไรกับคนๆเดียว”

เพื่อนคนนี้รู้จักกับผมมานานพอจนรู้ถึงนิสัยผม หลายครั้งที่ผมเคยโดนพูดกระทบหรือต่อว่าในสิ่งที่ผมเป็น แต่มันก็จะคอยปลอบเสมอ หรือเรื่องแฟน แม้มันจะตะขิดตะขวางใจบ้าง แต่มันก็จะช่วยเท่าที่มันจะทำได้

“อืม  ไม่เป็นไรหรอก อย่างไงก็เจอมาเยอะแล้ว เรื่องแค่นี้เล็กๆ”

ผมพูดเสร็จก็ยิ้มให้เพื่อนผม มันก็ยิ้มเล็กๆ แล้วก็กลับไปเล่นคอมฯต่อ ผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง คิดถึงเรื่องที่ผ่านมากับโปรแล้วพยายามคิดว่ามันคือฝันที่ผมเพิ่งตื่น เพราะยังไงเสียผมก็สู้นายตี๋แว่นคนนั้นไม่ได้ เขาอาจจะเป็นดาวของโปรตัวจริงก็ได้

ผมนอนไปได้สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น  ผมตัดสินใจที่จะปิดเครื่องเสีย แต่ก่อนที่จะปิดผมดูเบอร์ที่โทรเข้ามามันเป็นเบอร์ของโจ แล้วผมตัดสินใจที่จะรับสาย

“สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่ง เรามีเรื่องต้องคุยนะครับ”

เสียงนั่นไม่ใช่เสียงโจ หรือเสียงของน้องต้อม แต่เป็นเสียงของโปร

“......”

“พี่หนึ่ง ฟังผมดีดีก่อนนะ พี่อย่าเพิ่งคิดอะไร...”

“พี่ไม่คิดอะไรหรอกครับ  พี่เห็นมั้งหมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“เมื่อวานนี้เหรอ...”

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ก็ยังติวให้เราอยู่ หรือจะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกได้นะ แต่ตอนนี้พี่ขอพักก่อน  แค่นี้นะ...”

“เดี๋ยวสิพี่ ฟังผมก่อ...”

ผมตัดสายทิ้งทันที แล้วปิดมือถือเพราะไม่ต้องการให้ใครโทรมากวนอีก ผมนอนหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมาทั้งห้องเริ่มมืดสนิท ผมลุกขึ้นมาเปิดไฟเจอโน้ตที่เพื่อนผมทิ้งไว้บอกว่า ‘ออกไปนอนที่หอแฟน มีเรื่องอะไรโทรหาได้’ ผมมองไปดูนาฬิกานี่ก็เกือบๆทุ่มตรงแล้ว ผมจึงลงไปหาอะไรทานข้างล่างเพราะเริ่มที่จะหิวแล้ว
เมื่อผมลงมาถึงหน้าหอตรงโต๊ะที่พักที่ทางหอพักจัดไว้ให้ผมได้เจอชายคนหนึ่ง ตาตี่ๆ ใส่แว่น ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ผมเจอกับโปร เขามองเห็นผม ผมหยุดยืนนิ่งคิดอะไรไม่ออก ใจบอกให้เดินกลับไปขึ้นห้อง แต่ไม่ทันที่ผมจะก้าวกลับขึ้นหอ เค้าก็เรียกผมก่อน

“พี่หนึ่งครับ  เดี๋ยวก่อนนะครับ อย่าเพิ่งไปไหนนะครับ  ผมมีเรื่องจะบอกพี่” ชายคนนั้นเดินมาหยุดที่หน้าผมน่าตาเค้าดูเป็นกังวลอยู่มาก

“พี่หนึ่ง ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะครับ ผมลูกพี่ลูกน้องของโปรครับ  คือที่บ้านของโปรเค้าอยากให้ผมช่วยติวหนังสือให้น่ะครับ”

“แล้ว....โปร?”

ผมถามชายคนนั้น ด้วยผมเองไม่คิดว่าชายคนนี้จะรู้จักผม รู้ที่อยู่หอผมด้วยตัวเค้าเองแน่ถ้าโปรไม่ได้บอก

“เค้าไปซื้อของกับพวกพี่โจครับ  เดี๋ยวก็มา” ไม่ขาดคำเจ้าตี๋โปร โจ น้องต้อมก็เดินกันมา  โปรดูท่าจะเห็นผมก่อนใคร รีบเดินมาแทบจะเข้ามากอดผมเลยทีเดียว

 “พี่หนึ่งๆ  ฟังผมนะ นี่พี่พจน์ พี่ผมเอง ที่บ้านขอให้พี่เค้ามาติวหนังสือให้ผม พี่พจน์เรียนแพทย์น่ะ ที่บ้านเลย...”

“มึงนี่ก็คิดมากจังวะหนึ่ง” ไอ้โจแทรกเข้ามา

“กูไม่รู้เลยนะนี่ว่ามึงก็เป็น...”

อ้าว เวรล่ะสิไอ้โจรู้ซะแล้วว่าผมเป็นพวกเดียวกับมัน

“มิน่าล่ะ ให้คำปรึกษาได้ดีนัก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” มันยังมีหน้ามาหัวเราะ

“พี่หนึ่ง ผมว่าตอนนี้เราก็เคลียร์เรื่องนี้กันหมดแล้วนะครับ หายโกรธน้องโปรเถอะ” น้องต้อมพูดเสริม เข้ากันดีกับแฟนน้องเขาจริงๆ ทีตอนอย่างนี้

“ก็ ไหนเมื่อวานบอกเล่นบาส ทำไมต้องโกหกด้วย”

“ผมเล่นจริงๆ แต่พอดีตอนกลับไปบ้านเจอพี่พจน์ พ่อกับแม่ผมเลยให้ผมพาพี่เค้าออกมาหาอะไรกิน แล้ววันนี้พี่พจน์อยากจะเดินจตุจักร ผมก็เลยมาเดินเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง”

“พี่หนึ่งครับ ผมรู้ครับว่าเจ้าโปรชอบพี่นะ ผมรู้จักมันดี พี่เชื่อใจมันได้ครับผมรับรอง”

ผมมองหน้าพจน์ที่พูดเมื่อกี้สักครู่ เขาทำหน้าให้ความมั่นใจกับผมมาก ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่ก้มหน้าแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย

“เฮ้ย ไอ้หนึ่งยิ้มละ มันหายโกรธแล้ว” โจพูด

“พี่โจรู้ได้ไงล่ะ” น้องต้อมถาม

“เวลามันหายโกรธพี่มันก็ทำอย่างงี้ตลอดล่ะ เชื่อสิ”

“แหม่ ถ้าโจมันไม่แกล้งพี่บ่อย พี่ก็คงไม่โกรธมันหรอกจริงไหม”  ผมพูดขึ้น

“ช่ายย จิ้งจอกชอบแกล้งคนอื่น นิสัยไม่ดี”

“อ่ะๆ น้องแมวน้อยจ๋า อย่าเผากันเองแบบนี้สิ”

พูดเสร็จผมก็หัวเราะออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอะไรบางอย่างมันเปิดออก มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ตอนนี้อะไรๆเหมือนจะดีขึ้นทันตา ทันทีที่ผมหัวเราะโปรก็หัวเราะไปกับผมด้วย คนอื่นก็ตามๆกัน

“เอ้อ  หิวละๆ  ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมบอกกับทุกๆคน ทุกคนเห็นด้วยเพราะตั้งแต่มีเรื่องก็ต่างคนไม่ได้ทานอะไรกันเลย พวกเราจึงพากันเดินไปร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ แล้วก็พูดคุยกันออกรสชาติ ตอนนี้ผมไม่มีความลับต่อเพื่อนอีกคนหนึ่งแล้ว และผมก็มั่นใจในผู้ชายคนหนึ่งมากขึ้นด้วยครับ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 o18 คนโพสอย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ นิยายในบอร์ดมีมากมาย
ทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ ตามอ่านกันไม่ทันหรอกค่ะ
บางคนตามเฉพาะเรื่องเก่าเป็นสิบ เรื่องใหม่อีก
ก็อาจต้องรอตามของเก่าให้หมดก่อน
ถ้าเรามั่นใจในเรื่องของเราจริงๆในที่สุดคนก็จะมาอ่านเองค่ะ ใจเย็นๆนะค่ะ :a2:


เอาใจช่วยค่ะ แต่ส่วนตัวก็ว่าเนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ :m13:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เฮ้อ สุดท้ายก็คิดไปเอง

ป.ล. ใจเย็น ๆ นะจ้ะ เรื่องมาใหม่คนยังไม่รู้ เด๋วก็มีคนตามมาอ่านเองแหละ ใจร่ม ๆ น่อ

Tantalum

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ มาเป็นกำลังใจให้ต่อไป หุหุ เดี๋ยวเม้นท์ก็เยอะขึ้นเองอะครับ
ตอนนี้พึ่งเริ่มเรื่อง สู้ ๆ นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด