พิมพ์หน้านี้ - {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 13:53:42

หัวข้อ: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 13:53:42
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


<<<กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่>>> (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)



สวัสดีครับ

แอบแฝงตัวอ่าในบอร์ดมานาน เพิ่งจะสมัครสมาชิกโพสกับเค้านี่ล่ะ ก่อนหน้าเอานิยายชาวบ้าน (เพื่อนผมเองคับ) ไปลงตามเวปนั้นเวปนี้ แต่ทำไมไม่รู้เขาขออย่างเดียว ว่า

นายเส้นฯ:  อย่าเพิ่งเอาลงบอร์ดเล้าเป็ดนะ

ก.กา:      ไมอ่ะ

นายเส้นฯ:  อย่างกูจะไปสู้อะไรกับปากกาเซียนๆอย่างเค้าได้ อีกอย่างกูอายพี่นัทเค้า เขียนดีจนกูเองยังติดเลย

ก.กา:      อ้าว ไอ้นี่ ขนาดลงไปสองเวปแล้วนะ นึกว่าหน้าหนาพอแล้ว

นายเส้นฯ:  ไอ้เวง

ก.กา:      แล้วจะให้ลงมะ

นายเส้นฯ:  มึงไปโพสเวปอื่นจนเรื่องจบแล้วนิ คนเค้าก็รู้เรื่องหมดแล้วสิ

ก.กา:      มึงก็เอาให้มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมือนกะที่เคยลงไว้สิ

นายเส้นฯ:  ขี้เกียดเขียนใหม่

ก.กา:      เออนะ

นายเส้นฯ:  ถ้าให้ปรับปรุงใหม่ แล้วก็ใครอยากรู้เรื่องใครต่อไป ก็จะเขียนบอกให้ อย่างนี้ ดีไหม

ก.กา:     ตกลงจะเอาลงใช่มะ

นายเส้นฯ: เออ  แต่เดี๋ยวขอตรวจต้นฉบับใหม่หน่อย จะเอาให้มันสมจริงมากขึ้น

ก.กา:     เสร็จแล้วก็ส่งมา ละจะลงให้

อีกไม่กี่วันต่อมา ต้นฉบับเวอร์ชั่นใหม่ ก็เข้ามาในเมลบล็อกผม  หึหึหึ

ต่อไปจะเป็นการนำเสนอนิยายเมื่อลงกระดาษ A4 แล้วมีมากกว่า 200 หน้า 5555 :laugh: รับรองว่าจบแน่นอน (เฉพาะเท่าที่เรื่องมันเขียน 30 ตอน) และเพิ่มได้เรื่อยๆตามคำขอ (ละใครจะของมึงฟะไอ้นายเส้นฯ) มีคำติชมอันใด บอกได้เสมอ ละผมจะไปตบกะโหลกคนเขียนให้

ขอบคุณครับ

ก.กา
Koa-Ka
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 28-11-2008 13:55:46
มาลงชื่อรอversion ใหม่   :pig2:

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 13:59:11
สวัสดีครับ

เท่าที่อ่านดูๆแล้ว นี่มันเปลี่ยนไปตรงไหนฟะเนี่ย แต่เอาเถอะสัญญาละ จะลงให้
เอาตอนแรกกะตอนที่สองไปก่อนนะครับ

ขอบคุณครับ



รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก

นายเส้นกราฟ

ตอนที่ 1

หลังจากที่ผมจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ผมก็ได้เข้าทำงานบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แน่นอนว่าสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างผมเองนั้นย่อมเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับชีวิตคนเมืองที่ต้องตื่นเช้าหลังจากที่เรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ต้องตื่นเช้าทุกวัน เพื่อที่จะไปขึ้นรถเมล์ให้ทันตอกบัตร แปดโมงครึ่งทุกวัน แล้วตอนนี้ก็เป็นเดือนที่สี่แล้วที่ผมได้มาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอันวุ่นวายแห่งนี้
   
‘เช้าวันจันทร์อีกแล้วสินี่’ ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงอาบน้ำของรูมเมทของผม ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมแต่มาแยกกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยนี่เอง ด้วยหัวสมองของผมตอนนั้นมึนๆเพราะเพิ่งตื่นแล้วก็เอาหัวไปซุกที่หมอนอีกครั้ง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘เอาน่างานคือเงิน เงินคืองาน’ ก็ต้องลุกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวรอเพื่อนผมออกจากห้องน้ำ เช้าวันนี้ก็เหมือนปกติของทุกวัน ผมกับเพื่อนตอนเช้าไม่ค่อยได้คุยอะไรกันอยู่แล้วเพราะต่างคนต่างรีบ มันออกไปทำงานก่อนผมจะออกจากห้องน้ำเสียอีกเพราะมันเริ่มงานตอนแปดโมง

 เฮ้อ...ชีวิต

อยากแบบว่าตื่นมาตอนเช้าเจอคนที่เราเรียกว่าแฟนจริงๆ แต่คงจะยากเพราะเมื่อผมยังไม่กล้าจะลงจากคานในตอนนี้  ผมจัดการตัวเองเรียบร้อยรีบออกจากห้องพักไปยังป้ายรถเมล์ โดยปกติจะมีสายประจำจากปากซอยผมไปถึงที่ทำงานเลย แต่บางทีมันก็เบี้ยวจนทำให้ผมต้องต่อรถเมล์สองต่อกว่าจะไปถึงที่ทำงาน รถเมล์ที่ผมขึ้นจะผ่านโรงเรียนดังๆสักสองโรงเรียนได้ ผมจะเลี่ยงขึ้นรถก่อนแปดโมงเพราะเด็กนักเรียนจะเยอะมาก จนขึ้นรถไม่ได้ ไม่ก็ต้องเบียดยิ่งกว่าปลากระป๋อง วันนี้ผมโชคดีที่รถเมล์สายที่รวดเดียวถึงที่ทำงานมาถึงตอนผมยืนรอที่ป้ายไม่นาน (ทุกทีวันจันทร์นี่จะมาช้าเป็นพิเศษ) ผมขึ้นไปหาที่นั่ง ก็เจอที่นั่งว่างสองเบาะ  ผมก็นั่งเบาะในตามมารยาท

เมื่อรถจะออกผมได้ยินเสียงเหมือนใครบางคนนอกรถตะโกนของผู้ชายบอกให้หยุด ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งรถได้หยุดรับเรียบร้อยแล้วจึงออกตัวไป ตอนนี้ผมหันไปเห็นคนที่เพิ่งขึ้นมาบทรถเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนที่สายรถเมล์ผ่าน เค้ามองดูรอบรถสักพักแล้วก็ตัดสินใจมานั่งเบาะข้างๆผม ผมก็มองเค้าสักพักแล้วยิ้มให้แล้วก็หันออกไปที่หน้าต่างรถดูผู้คนที่กำลังเดินไปมาริมถนน ด้วยใจไม่ได้คิดสนใจอะไรในเด็กคนนั้น (เพราะคิดไปก็คงไม่ได้อะไรหรอก จริงไหมครับ??) จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเด็กคนนั้นก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล   เออ เออ ขึ้นรถแล้ว เออ   รู้แล้วๆ จะให้รีบไงวะกูรถติดอยู่” ออกจะพูดดังไปนิดสำหรับที่ๆคนอื่นเงียบหมด

“ฮะ  จริงสิมึง  เฮ้ย ยังไม่ได้ทำว่ะ เวง ไปทำที่โรงเรียนก็ไม่ทันแล้ว”

“ เอองั้นกูจะทำไอ้ที่พอทำได้ก่อนแล้วกัน เออๆ แล้วเจอกัน”   

ไม่ทันไรเค้าก็เอากระเป๋าสะพายขึ้นมาเปิดเอาสมุดเล่มหนึ่งออกมาเปิดๆ ผมคิดว่าเค้าคงลืมทำการบ้านแล้วกะไปลอกเพื่อนที่โรงเรียน ชั่งทำเหมือนผมตอนเรียนมัธยมจริงๆ (ฮ่ะ ฮ่ะ) ผมมองไปที่สมุดการบ้างเค้า มันเขียนว่าวิชาสังคม แล้วก็มองเลยไปที่หน้าของเจ้าของสมุด ผมเพิ่งสังเกตหน้าเค้าชัดๆนี่เองว่าน่าตาจัดว่าดีทีเดียว ตัดรองทรงสูง ตี๋ๆ หน้าตาออกจะกวน แต่ตอนนี้กำลังทำหน้ามุ่ยเพราะการบ้านยังไม่เสร็จ (หึหึ)

“จีดีพี แม่ง..อะไรวะ”

เสียงบ่นออกมาจากปากของเขา นั่นทำให้ผมสะดุดนิดนึง เพราะไอ้ผมเองเรียนจบทางเศรษฐศาสตร์มา ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าคำตอบที่เค้าต้องการมีอะไรบ้าง ไม่ขาดคำเค้าก็เหมือนจะหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าแต่หาไม่เจอเค้าส่ายหัวคงจะจำนนต่อการบ้านของเขา

“น้องครับ ...... น้อง”

“จีดีพี ก็ C+I+G+X-M ไงครับ” เสียงผมทำให้น้องเค้าหันหน้ามามองผมด้วนหน้างงๆ  แล้วตอบผมว่า

“อะไรนะครับพี่  แล้วแต่ละตัวมันคืออะไรบ้างล่ะครับ”

แล้วนั่นคือบทสนทนาแรกของผมกับเขา ซึ่งทำให้เป็นเรื่องกับชีวิตผม และเค้าต่อมาอีกนานเลยล่ะครับ
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 14:02:56
สวัสดีครับ

ปัญหาที่ผมเคยเจอมาเมื่อโพสเรื่องนี้ลงเวปคือ.....
ท้ายๆ ไอ้เจ้านายเส้นฯ มันเขียนตอนหนึ่งๆยิ่งยาวขึ้นๆ บอร์ดนี้มันมีปัญหาเรื่องจำนวนบรรทัดไหมครับนี่ ไม่งั้นต้องตัดตอนออกเป็น /1  /2 อะไรอย่างนี้อ่าครับ

ขอบคุณครับ
ปล. ใครอยากได้เรื่องเพิ่มเติมของใคร บอกได้นะครับ มันรับปากมาละ ต้องใช้สิทธิ์ให้(มันเขียน)ให้คุ้ม


ตอนที่ 2

เรื่องราวบนรถเมล์ หลังจากที่ผมช่วยเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่นั่งเบาะข้างๆกันทำการบ้านแล้ว แต่ไม่ทันเสร็จอะไรดีนักหรอกครับเพราะรถมาถึงหน้าโรงเรียนของเค้าก่อน ก่อนลงเค้าขอบคุณผมพร้อมยิ้มให้ทีนึงก่อนลงไป ผมว่าเค้ามีรอยยิ้มที่ดูแล้วจริงใจและมีความสุขแบบแปลกๆ นั่นอาจจะทำให้ผมคิดอะไรเกินเลยไปก็ได้จริงไหมครับ?? หลังจากที่เค้าลงไปแล้วนั้น ผมก็ต้องกลับมานั่งคิดอีกว่า อย่างไรก็ใช่ว่าจะเจอเค้าทุกวัน เพราะผมจะมาถึงป้ายรถเมล์ก่อนแปดโมงนิดนึง เค้าจะมาสายได้ทุกวันเชียวหรือ? ไม่ก็อาจจะขึ้นรถสายอื่นก็ได้ใครจะไปรู้จริงไหมครับ คิดได้ก็ปลงตก

ผมถึงที่ทำงานก่อนหมดเวลาตอกบัตรเพียงห้านาทีเท่านั้นเอง ถือว่าเฉียดตายทีเดียว และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ทำอะไรเดิมๆ ทำงานเดิมๆ โต๊ะตัวเดิมเหมือนเมื่อสี่เดือนก่อนที่ผมจะเข้ามาทำงานที่นี่เพียงแต่พวกเอกสารบทโต๊ะที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง

“อ้าวหนึ่งมาแล้วเหรอ” เสียงนั่นดังมาจากล็อกข้างๆผมนี่เอง

“อืม  รถติดน่ะครับ เอ้อแล้วโจมาถึงเมื่อไหร่น่ะ วันนั้นมาถึงก่อนผมได้”

“พอดีวันนี้แวะไปส่งเพื่อนน่ะ เลยต้องตื่นเช้าหน่อย”

“เพื่อนรึแฟน โจ”

“เฮ้ย  เพื่อนๆ  ผู้ชายๆ”

“ผู้ชายนั่นแหละ ยิ่งน่าสงสัย”

“เฮ้ย ไอ้นี่นิ คนอื่นเข้าใจผิดหมด”

โจนี่เป็นเพื่อนร่วมงานคนแรกที่ผมรู้จัก เค้าเข้างานก่อนผมไม่กี่เดือน ที่ทำงานนี่แน่นอนครับไม่มีใครรู้ว่าผมเป็น ที่จริงเพื่อนหลายๆคนก็ไม่ค่อยรู้ มีเพียงรูมเมทของผมเท่านั้นแหละครับ เพราะเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยม แต่เพื่อนผมคนนี้ไม่ได้เป็นนะครับ มันมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยสิ ซึ่งผมก็รู้จักดีด้วย ที่ทำงานผมเค้าจะกั้นเป็นพาร์ทิชั่นน่ะครับ ที่นี่จริงๆงานไม่ได้เยอะอะไรหรอกครับ แต่ช่วงจะปิดยอดหรือปลายเดือน ปลายไตรมาส ต้องมีงานใหญ่สักทีช่วงนั้นล่ะผมจะวุ่นที่สุดเลย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่งานไม่ได้มีอะไรพิเศษเมื่อพักกลางวันผมกับโจได้ลงไปกินข้าวกันที่ร้านแถวๆที่ทำงานซึ่งมันก็มีอยู่ไม่กี่ร้านที่ผูกขาดมีอะไรก็ต้องกิน

“หนึ่ง หาแฟนได้ยัง”

“ยัง”  ผมตอบสั้นๆ แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อ
“อะไรวะ มาอยู่กรุงเทพมีแต่คนเค้ามีกันทั้งนั้น”

“พูดเหมือนเพื่อนเราเลย ก่อนมาทำที่กรุงเทพก็บอกว่าเดี๋ยวก็ได้  นี่จะเดือนที่ห้าแล้ว”

“เออๆ  เดี๋ยวก็มาๆ”

ผมเงยหน้ามามองโจสักพักแล้วก็ถามว่า

“แล้วแฟนโจเป็นไงบ้าง”

“ก็ปกติ” คราวนี้โจเป็นฝ่ายตอบสั้นๆแล้วก็ก้มหน้ากินข้าวไปแทน

“ทะเลาะเป็นปกติ หรือจูบกันปกติ”

“เอะ ไอ้นี่ จูบสิวะ”

ผมก็หัวเราะเบาๆและก็ทานข้าวต่อ หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็ไปอ่านหนังสือพิมพ์ที่มุมของแผนกของผมจัดไว้ โจก็นั่งอ่านด้วย

“หนึ่ง มึงเกิดราศีอะไรวะ”

“กันย์ ทำไมเหรอ”

“อ่อ ป่าว ในนี้บอกว่าเดี๋ยวจะมีแฟนแบบสายฟ้าแลบ”

“สาธุเลย ถ้าได้นะ จะเลี้ยง”

“เลี้ยงจริงดิ”

“เลี้ยงหมอดู  ทำนายได้แม่นยำ  ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

“ไอ้เวร  เราก็นึกว่าจะเลี้ยงเรา”

ผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงเท่าไหร่นัก คิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดา เสมอจะเป็นจริงได้ไง เมื่อไม่มีวี่แววอะไรเลยจริงไหมครับ?

หลังจากที่ผมเลิกงานแล้ว ห้าโมงเย็นกว่าๆผมมายืนรอรถเมล์ที่ป้ายหน้าที่ทำงาน รถเมล์สายประจำผมมาแล้ว ขึ้นไปรถค่อนข้างว่าง ผมเลือกนั่งเบาะที่ว่างสองเบาะติดและนั่งเบาะในริมหน้าต่างเช่นเดิมตามมารยาท เมื่อใกล้ผ่านหน้าโรงเรียนที่เด็กคนเมื่อเช้าลง ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าโชคดีคงจะได้เจอกันอีก ไม่ทันไรนักรถก็จอดรับคนที่หน้าโรงเรียน แล้วก็มีคนมานั่งเบาะข้างผม(อีกแล้ว) เมื่อผมไปมองก็เจอเด็กนักเรียนหน้าตี๋กวนๆคนเดิมมานั่งข้างๆพร้อมส่งยิ้มให้อีก
เอ..  หรือคำทำนายในหนังสือพิมพ์จะเป็นจริง?!?!?!?!
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 28-11-2008 14:08:34
 :bye2: มาไวๆนะ
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 28-11-2008 14:26:27
เลิศเลอ

มาดันนะค้าบ

โชคฝากตัวด้วยคนคับ
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 28-11-2008 14:52:13
มารอด้วยคน :L2:
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 28-11-2008 15:19:24
มาลงชื่อว่ายังไม่เคยอ่าน รอติดตามคับ  :really2:
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 28-11-2008 15:42:50
น่าสนุกอ่ะอยากอ่านต่ออ่ะครับผม :L2:
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 28-11-2008 15:44:07
555+เป็นกันหลายคนถ้าก้อปจากเวิร์ดมาลง มันจะตัดคำ ใช้ไออี,ไฟฟ๊อก หรือโอเปร่าล่ะ









ปล. ขออนุญาตเจ้าของเรื่องแปะกฎของเล้าไว้ที่หัวทู้  :pig4: ตกลงเป็นนิยายหรือเรื่องเล่าเนี่ย งั้นเราแปะประเภทนิยายไว้ก่อนนะ แล้วไงเจ้าของกระทู้ค่อยมาเปลี่ยนอีกที
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 28-11-2008 15:46:21
ขอตัวไปอ่านก่อนงับ


เดี๋ยวมาเม้นท์อีกรอบ


 :z2:
หัวข้อ: Re: รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 28-11-2008 15:49:32
ชอบแนวนี้ จังแล้วจะรอติดตามนะคราบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 15:58:52
สวัสดีครับ

ไอ้ผมลืมไป เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ว่างโพส ไงต่อให้ก่อนสองตอนละกันนะคับ

ขอบคุณครับ



ตอนที่ 3

หลังจากรถเมล์จอดรับคนที่หน้าโรงเรียนที่เด็กนักเรียนเมื่อเช้าลงแล้วนั้น ตอนนั้นเด็กคนนั้นกลับมานั่งเบาะข้างๆผมอีกในตอนนี้  ผมเพิ่งได้สังเกตหน้าของเขาตรงๆก็คราวนี้เอง เป็นเด็กม.ปลายแน่ๆ เพราะตัวสูงเอาการอยู่ สูงกว่าผมอีก ตี๋นิดๆหน้ากวนๆ ผมว่าจริงๆแล้วเจ้าเด็กนี่น่าจะไปถ่ายโฆษณาได้อยู่เหมือนกันนะครับ เพราะว่ากำลังอินเทรน(ช่วงนี้)

“ดีครับพี่”

“หวัดดีครับ”

ผมงงนิดๆว่าที่อื่นออกจะว่างเยอะ ทำไมมานั่งคู่กับผมได้นะ

“ขอบคุณพี่มากเลยนะครับเมื่อเช้า”

“อ่อ  ไม่เป็นไรหรอก พอดีพี่เรียนมาทางนี้พอดี  เออ..ทีหลังก็อย่าลืมทำการบ้านล่ะ”

“อ่าครับพี่  เอ้อ คือผมไม่ค่อยเก่งสังคมน่ะครับพี่  พี่พอจะช่วยผมได้ไหมครับ?”

“ช่วยทำการบ้านเหรอ  เฮ้ย ไม่เอานะ”

“ไม่ใช่แบบน๊านน  คืออยากให้พี่ช่วยสอนผมหน่อย  ผมฟังพี่เมื่อเช้าคิดว่าพี่สอนเข้าใจกว่า”

“แล้วจะให้พี่สอนยังไงล่ะ”

ผมออกจะทึ่งในความกล้าของเด็กคนนี้ที่จะขอให้คนแปลกหน้าอย่างผมช่วยติวหนังสือให้ เอ..หรือจะเหมือนนิยายชาวเราในอินเตอร์เน็ตที่คนเค้าจะจีบกันเค้าจะทำกันอย่างนี้  ไม่อยากจะคิดหรอกครับแบบนั้น เพราะผมเองใช่ว่าจะน่าตาดี แถมมาจากบ้านนอกแบบนี้ ใครเค้าจะสนล่ะ? น้องเค้าคงอยากจะได้คนติวจริงๆก็ได้

“แค่ส่วนเศรษฐศาสตร์นี่แหละพี่”

แล้วผมก็ขอเอาสมุดการบ้านของน้องมาดูเพื่อจะรู้ว่าเค้าเรียนเรื่องอะไรกันบ้าง เพราะผมจำไม่ได้แล้วครับ มันนานมาแล้ว  ก็ทึ่งนิดๆว่าเด็กสมัยนี้เรียนลึกกว่าที่ผมเคยเรียนเสียอีก ที่เรียนไม่รู้เรื่องก็คงไม่แปลก
ผมและน้องคุยกันในเรื่องที่เรียนจนกระทั่งมาถึงป้ายปากซอยเข้าหอผม ผมก็ลงน้องเค้าก็ลงด้วย

“บ้านเราอยู่แถวนี้เหรอ”

“ครับพี่ อยู่ถัดไปอีกสองซอย”

“อ้าวเหรอ พี่อยู่ซอยนี้แหละ”

“งั้นก็ไม่ไกล พี่เดินมาติวให้ผมที่บ้านก็ได้เลยนะครับนี่”

“เหอ  เดี๋ยวพี่คิดดูก่อนนะ”

“โหพี่ ไม่ต้องคิดแล้ว ผมจะสอบมิดเทอมอยู่แล้ว”

ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือของเค้าดังขึ้นมา

“ฮัลโหล  อ่ะครับ  ถึงแล้วครับ ครับ ครับ”

เค้าวางหู ผมคิดได้ว่าคงเป็นคนที่บ้านโทรตามแน่ เพราะพูดเพราะขนาดนั้นไม่เหมือนเมื่อเช้าที่คุยกับเพื่อนเค้าเท่าไหร่

“เอ้อพี่  ผมขอเบอร์ติดต่อนะครับ  จะได้นัดพี่ติว”

ผมก็บอกเบอร์ไปเค้ากดเซฟในมือถือ

“พี่ เดี๋ยวผมกลับบ้านก่อนนะ พอดีที่บ้านตาม”

“ครับๆ  แล้วไงเดี๋ยวค่อยคุยละกันนะ”

“พรุ่งนี้เจอกันครับพี่”

‘พรุ่งนี้เจอกันครับพี่’ เหรอ เอ...มันจะฟลุคขนาดนั้นเชียวเหรอครับนี่  แต่ว่านะ ผมลืมขอเบอร์น้องเค้าเลย น้องเค้าเดินไปไกลแล้วด้วยสิ เฮ้อ ก็ต้องรอแต่ให้น้องเค้าโทรมาแล้วกันน่ะครับ

เมื่อผมเดินมาถึงห้องพักแล้วก็กลับมาค้นหนังสือเรียนเก่าๆตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่พกติดมาด้วยเผื่อว่าจะได้ใช้งาน (ที่จริงงานที่ผมทำนี่แทบจะไม่ได้ใช้เลย) ดูรายละเอียดต่างๆของเรื่องที่คิดว่าจะต้องสอนน้องเค้า สักทุ่มครึ่งรูมเมทผมก็กลับมา (งานบริษัทมันเลิกช้ากว่าผมอีกครับ)

“กินข้าวยังมึง” คำแรกที่มันทักผมของวันนี้

“ยังอ่า ไปกินไหนดี”

“วันนี้เบี้ยเลี้ยงกูออกโว้ยยยยยย (เสียงดังเลยนะมึง) ป่ะ กูเลี้ยง”

“เฮ้ย  จริงดิ”  มันเป็นคนหน้าใหญ่งี้ล่ะ ผมชอบส่วนนี้ของมันที่สุด (เพราะได้กินฟรีบ่อยๆ) แล้วผมกับมันก็เถียงกันว่าจะกินที่ไหนดี จนแล้วจนรอดก็เดินไปหยุดที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ

“เวง เบี้ยเลี้ยงออกประสาอะไรวะ เลี้ยงตามสั่ง”

“เออน่า ก็มึงคิดไม่ออกเองนิหว่า”

โดยพื้นแล้วเพื่อนผมคนนี้เป็นคนดีคนนึง แต่คราวมันจะงกก็งกสุดๆ  อีกตอนจะดีก็ดีเกินไปจนโดนผู้หญิงหลอก
น่าสงสารนะครับ แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจของมันนะ โตๆกันแล้วคิดเองได้ แต่ผมก็เตือนๆมันบ้างเป็นบางที ไม่ทันจาสั่งอาหารเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ”

“ดีครับพี่ ผมคนที่จะให้พี่ช่วยติวน่ะครับ”

“อ่อครับ ว่าไง”

“คือผมอยากให้พี่ช่วยติวให้ผมศุกร์นี้น่ะครับ พี่พอจะว่างเปล่า”

“เอางี้เลยเหรอ  เออว่าแต่เราชิ่ออะไรล่ะ พี่ยังไม่รู้เลย”

“ผมโปรครับพี่ แล้วพี่ล่ะครับชื่ออะไร”

“หนึ่งครับ”

จากนั้นเราก็คุยเรื่องวันนี้ที่เค้าไปโรงเรียนสายเพราะเมื่อวานไปเล่นบาสกับเพื่อนจนดึกวันนี้เลยตื่นสาย ชื่อ โปร นี่เค้าบอกว่ามาจากคำว่า ‘มือโปร’ ไม่น่าเชื่อว่าโปรจะเป็นเด็กที่คุยสนุกและคุยรู้ทุกเรื่องเว้นแต่เรื่องที่ผมจะติวให้เท่านั้นที่เมื่อผมพูดถึงแล้วเค้าจะบอกว่า

“ผมโง่พี่ ไม่รู้เรื่อง”

“นี่มึงจะกินข้าว หรือจะโทรศัพท์ นี่กูกินจนหมดแล้วเนี่ย”

เสียงเพื่อนเจ้ากรรมของผมดังขึ้น ทำให้ผมเกือบลืมไปเลยว่ามานั่งกินข้าว

“เออโปร เดี่ยวพี่กินข้าวก่อนนะ  แล้วไงค่อยคุยกัน”

“ครับพี่ ผมไม่รบกวนเวลาพี่กับแฟนแล้วล่ะครับ  แล้วคุยกันใหม่ครับ”

ไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรโปรก็วางหูไปเสียก่อน ผมก็มาหยุดคิดถึงคำพูดเค้าว่า ‘รบกวนเวลาผมกับแฟน’ เอ..เสียงเพื่อนผมที่เค้าได้ยินก็เสียงผู้ชาย แล้วทำไมโปรถึงบอกอย่างนั้น หรือว่าเค้ารู้ว่าผมเป็น ?!?! อย่างนั้นถ้าเค้าดูผมออกเค้าก็น่าจะเป็นด้วย หรือว่ายังไงดีล่ะครับ?? แต่ที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งคือผมมีเบอร์ของนายโปรแล้วล่ะครับตอนนี้
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 28-11-2008 16:04:02
สวัสดีครับ

ความหมายของผมคือว่า ในการโพสแต่ละครั้งนี้ จะจำกัดจำนวนอักษร หรือบรรทัดในการโพสไหม เพราะตอนท้ายๆ ไอ้นายเส้นฯ มันเขียนไว้มากกว่าห้าหน้ากระดาษ A4 น่ะครับ ถ้าไม่จำกัด ก็จะได้โพสแบบสบายใจหน่อย ไม่ต้องตัดต่อ :t2: 

ขอบคุณครับ
ปล.ผมใช้ไฟล์ฟ็อกครับ


ตอนที่ 4

เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น อะไรเดิมก็กำลังจะไม่เหมือนเดิม ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงรูมเมทของผมปิดประตูห้องน้ำดัง’ปัง’ เฮ้อ เริ่มวันใหม่อีกแล้ว วันนี้จะมีอะไรดีดีเหมือนเมื่อวานไหมนะ ผมคิด แต่วันนี้อาจไม่ใช่วันที่โชคดีของผมก็ได้ ที่ป้ายรถเมล์ไม่มีเงาของเด็กนักเรียน ม.ปลายที่ชื่อ “โปร” เลยเค้าคงไปเรียนต่อเช้าแล้ว รถเมล์สายประจำผมขับผ่านหน้าโรงเรียนของโปร ผมก็มองเข้าไปข้างในเห็นเด็กนักเรียนกำลังเดินเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนคาบแรกของวัน ผมก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดีถึงคำพูดที่โปรบอกผมทางโทรศัพท์ที่หาว่าผมกับรูมเมทเป็นแฟนนั้นมันยังไงกันแน่ ที่ผมกลัวไม่ใช่กลัวโปรเข้าใจผิด แต่ที่ผมกลัวคือถ้าโปรยังดูออกว่าผมเป็น แล้วคนอื่นจะดูผมออกอีกหรือไม่?? ตรงนี้น่าคิดกว่านะครับ

เมื่อถึงที่ทำงาน ผมก็เริ่มงานตามปกติเจ้าโจก็ยังกวนผมได้เรื่อยๆ ไม่รู้มันไปกินอะไรมาถึงได้คึกถึงได้แซวผมได้ตลอด ตั้งแต่เรื่องเอกสารบนโต๊ะผมที่มันค่อนข้างรก (ยั่งกะของมันไม่รกนักน่ะ) จนงานที่หัวหน้ามอบหมายให้ มันก็ยังกล้าแซวผมต่อหน้าเจ้านาย

“นี่ นายโจ ฉันจ้างให้แกมาทำงานนะไม่ใช่ให้มากัดกับเพื่อนร่วมงาน ดูสิไอ้หนึ่งมันยังไม่ตอบโต้แกสักคำ”

“โห พี่จิ๊บ ก็ดูไอ้หนึ่งสิ มันเม่อทั้งวันเลยวันนี้ อาการแบบนี้คนกำลังมีความรัก”

“งั้นเหรอ จริงป่าวฮะหนึ่ง”

เอากับเค้าสิเจ้านายผม พี่จิ๊บเป็นหัวหน้าแผนกของผม พี่แกเป็นสาววัยแรกรุ่น (รุ่นแย้มฝาโลง) แต่พี่จิ๊บเป็นคนเอาการเอางานมาก ทำงานเก่ง รักลูกน้อง หลายหนที่ผมคิดจะออกจากงานนี้ไปทำที่อื่น แต่ด้วยเพราะพี่จิ๊บที่รู้จักที่จะมัดใจลูกน้องทำให้ผมไม่สามารถไปไหนได้เลยเพราะด้วยความเกรงใจ

“ไม่ใช่หรอกครับพี่ ไอ้โจต่างหาก มันคงทะเลาะกับแฟนมันมาเลยมาลงกับผม”

“เอะ ไอ้นี่ ปากดี”

ที่ผมชอบแซวโจเรื่องมันทะเลาะกับแฟน เพราะมันชอบเล่าเรื่องแฟนมันให้ผมฟังครับ เวลามันทะเลาะกับแฟนมันก็มาปรึกษาผมเสมอ ด้วยความเป็นผมล่ะมั้งครับเลยเป็นที่ปรึกษาที่ดีเสมอ แต่ผมก็ไม่เคยเจอแฟนโจสักที มันก็บอกแต่ว่าพร้อมเมื่อไหร่จะเอามาแนะนำให้รู้จัก

“ใครจะเป็นหญิงผู้โชคร้ายที่เจ้าหนึ่งไปแอบชอบนะเนี่ย  พี่ล่ะอยากรู้จริงๆ”

“พี่จิ๊บ  ไปเชื่อมัน ไม่มีหรอกครับ”

“จ้าๆ  พี่จะคอยดู  เอาล่ะเลิกๆๆ  ไปทำงานได้ละ เดี๋ยวพวก HR มาเห็น ชั้นไม่รู้กับพวกแกด้วยนะ”

“คร๊าบบ เจ้านาย”

เมื่อต่างคนต่างแยกย้ายไปทำงาน ผมเองก็ยังคิดดูอยู่ผมเองก็ไม่ได้แสดงออกขนาดให้คนทั่วไปรู้ มันก็แปลกอยู่ที่โปรจะทักผมแบบนั้น เอ..หรือผมคิดมากไปเอง

เมื่อถึงเวลาเลิกงานผมกลับรถเมล์สายประจำของผมเช่นเดิม คราวนี้เมื่อจอดที่หน้าโรงเรียนของโปร ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองดูคนที่ขึ้นรถมาว่าจะมีโปรขึ้นมาด้วยไหม เพราะเบาะข้างๆผมก็ยังคงว่างอยู่เหมือนเดิม แต่วันนี้คนที่ขึ้นรถที่ป้ายหน้าโรงเรียนของโปรนั้นเยอะเป็นพิเศษทำให้ผมมองไม่เห็นโปรเลย สงสัยว่าคงกลับบ้านไปก่อนแล้ว ตอนนี้เบาะข้างๆผมมีผู้หญิงสูงอายุคนหนึ่งมานั่งแทน ผมก็ได้แต่เม่อไปนอกหน้าต่างคิดถึงวันวานที่ผ่านมาว่าเคยผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งสุขทุกข์ สิ่งเลวร้ายที่เคยเจอ ย่อมเป็นสิ่งที่เตือนใจผมได้ดีก่อนที่จะคิดตัดสินใจทำอะไรหรือเลือกอะไรลงไป  ‘ครั้งนี้ก็คงเหมือนครั้งก่อนๆ จะหวังให้มากไปทำไมนะ’ ผมคิดหลายสิ่งที่ผ่านมาสอนให้ผมเป็นคนคิดในแง่ร้ายเสมอเรื่องความรัก เมื่อถึงป้ายรถเมล์หน้าปากซอยเข้าหอผม ผมก็ลงตามปกติ ก่อนที่ผมจะเดินเข้าซอยไปนั้น สายตาผมได้ไปสะสุดที่เด็กผู้ชายใส่เสื้อนักเรียนคนหนึ่ง ผมมองหน้าเค้าแล้วเค้าก็ยิ้มให้

“ผมมารถคันที่ติดรถพี่นี่ล่ะครับ พอดีผมขึ้นรถคันของพี่ไม่ทัน”

“อ้าว.. แล้วนี่ตามพี่มาเหรอ”

“ก็พอดีผมเห็นพี่นั่งริมหน้าต่าง ผมคุยกับเพื่อนอยู่ เลยไม่ทันขึ้นน่ะครับ พอดีรถคันต่อไปมาพอดีเลยขึ้น
แล้วนี่พี่ตกลงจะติวให้ผมใช่ไหมครับ”

“เอ่อ...  อืม”

“โอเคนะครับ งั้นเริ่มศุกร์นี้เลยนะ”

“ศุกร์นี้เลยเหรอ เริ่มเร็วจัง”

“ที่จริงอยากเริ่มตั้งแต่วันนี้น่ะครับ แต่พี่คงไม่เอาด้วยงั้นผมขอมัดจำค่าเรียนไว้ก่อนนะครับ เพื่อให้แน่ใจว่าพี่จะสอนให้ผม”

“เฮ้ยมัดจำอะไร ไม่ต้อง พี่สอนให้ฟรี พี่จะได้ทวนความรู้ไปด้วย เผื่อจะสอบต่อ ป.โท”

“เอาน่าพี่  ตามผมมาๆ”

ผมงงๆนิดๆ ไม่รู้ว่าโปรจะพาผมไปไหน ถ้าเค้าคิดจะทำอะไรไม่ดีล่ะก็ ผมคงไม่ยอมแน่ ไม่งั้นเสียผู้ใหญ่แย่ แล้วโปรก็พาผมไปที่ร้านไอศกรีมใกล้ๆซอยหอผม

“วันนี้ผมอยากกิน พี่ต้องกินเป็นเพื่อนผมนะ”

“อ่าว  ทำไมล่ะ”

“ก็ผมไม่มีเพื่อนกินด้วยนิ  เอาน่าพี่ ผมเลี้ยง”

“เฮ้ย  ไม่ได้ๆ เราเป็นน้องเลี้ยงพี่ได้ไง”

“ให้เป็นค่าเรียนของผมแล้วกันนะพี่ พี่กินแล้วต้องมาสอนผมนั้นไม่งั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย”

“โห ถ้าพี่ไม่กินล่ะ”

“ก็จะฟ้อง ฐานปล่อยทอดทิ้งให้เด็กอย่างผมกินไอติมคนเดียว”

‘มันเกี่ยวตรงไหนวะเนี่ย’ ผมล่ะงงกับคำพูดของเด็กมือโปรนี่จริงๆเชียว แต่ที่ผมกลัวคือถ้าเค้าจะจีบผมจริง ถือว่าเป็นก้าวที่ไวมากๆจนเกรงว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ

ผมกินไอติมไปโปรก็คุยกับผมไป ผมว่าผมพูดมากแล้วนะนี่ โปรออกจะพูดเก่งกว่าผมอีกชวนคุยได้ทุกเรื่อง

“พี่หนึ่ง  ไอติมติดริมปาก”

“อ้าวเหรอ”

ผมกำลังจะหากระดาษทิชชู่มาเพื่อจะเช็ด แต่ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าโปรเอาทิชชู่มาเช็ดให้ผมเรียบร้อย ด้วยมือของเค้าเอง ตอนนั้นเองผมอายอย่างมาก อาจเป็นเพราะเพิ่งรู้จักกัน แล้วก็ผมแก่กว่าเค้า แต่เค้าทำตัวเป็นผู้ใหญ่เช้ดปากให้ผมเสียอีก

“เฮ้ย  บ้าป่ะ  เช็ดเองได้” ผมตกใจเหมือนกันกับสิ่งที่โปรทำ

“ก็เห็นแล้วรำคาญ”

พูดแบบหน้าตาเฉยมากๆ แล้วผมก็เอามือตีหัวเจ้าโปรเบาๆ แล้วบอกว่าทำแบบนี้คนอื่นเห็นเดี๋ยวเค้าเข้าใจผิด เจ้าโปรมองไปรอบๆแล้วทำตากลิ้งไปมา บอกว่าไม่มีใครเห็นหรอก ถึงเห็นก็ไม่สน  อ้าวเวร แบบนี้คนที่เสียทั้งขึ้นทั้งล่องคือผมคนเดียวเลยนะนี่ จากนั้นผมก็อายจนไม่รู้จะพูดอะไรอีก ชีวิตไม่เคยเจอคนมาจีบแบบรวดเร็วขนาดนี้นิครับทำไงได้ เอะหรือผมจะคิดไปเองว่าเค้าจีบผมอยู่??
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 28-11-2008 16:08:07
จิ้มก้นคนเขียน
จะติดตามนะคะ
มาอ่านครั้งแรกค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 28-11-2008 16:23:41
เหอ ๆ หนังสือพิมพ์ไรนั่น เด๋วไปอ่านมั่งดีกว่า แม่นซ้า :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ARMTORY ที่ 28-11-2008 17:05:57
^
^
^
^
จิ้ม  คนเขียน

 :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-11-2008 17:36:51
สนุกดีค่าตามต่อไป รอนะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 28-11-2008 18:29:45
หุหุ โดนเด็กจู่โจม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 28-11-2008 18:47:19
ในที่สุด เล้าฯ เราก็มีนิยายน่ารักๆ แบบเรื่องนี้มาประบเล้าฯเสียที

ขอบคุณนะคะที่เอามาลง

ปล. เราจำกัดจำนวนคำที่จะโพสต์คะ  ถ้ายาวมากๆ  ก็ลองแบ่งเป็นสองตอนย่อยดูสิคะ  นะๆ

อิเจ้  กะเทยวงสาวเฒ่า เพชรบ้านแพง อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: juuuno99 ที่ 28-11-2008 18:53:14
น่ารักคับ

รักเด็กจริงๆเล้ย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 28-11-2008 19:58:23
 :z3: :z3:


ว้ายๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 28-11-2008 21:06:00
 :z2: ก็ลองโพสดู ถ้าคำมันเกินมันจะขึ้นเตือนเอง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 28-11-2008 21:30:09
 :mc4:เรื่องใหม่ ยินดีต้อนรับ นิยายแนวนี้ คงน่ารัก ไม่ซีเรียด

ฝากเป็นกำลังใจให้คนแต่งเรื่องนี้ด้วย และขอบคุณนะครับที่นำมาโพสให้อ่าน

+1 เป็นกำลังใจนะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 28-11-2008 21:38:48
เรื่องใหม่ +1 เป็นกำลังใจ


เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ แฮะ ดูสบายๆดีครับ


รอตอนต่อไปครับบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-11-2008 21:43:35
 :L2: :o8:

             จุใจดีคับ  ชอบๆๆๆๆๆ  +1  ให้ค๊าบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: FÂntastic 1st™ ที่ 28-11-2008 22:01:24
'โปร'  ..... น่ารักดีคับ

ชอบ ชอบ เน้อ !!!!   :really2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 28-11-2008 22:28:42
เรื่องใหม่.โยะ..ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 29-11-2008 00:14:26




.....ชอบครับ... :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-11-2008 01:48:03
รออ่านต่อนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 29-11-2008 19:51:31
สวัสดีครับ

- รับทราบครับ ไงเวลาแสดงตัวอย่างคงจะเห็น
- เรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ น่าจะจริงนะครับ หึหึ :z2:
- เรื่องนี้จะดูสบายๆดีไหม อันนี้ต้องคอยดูครับ
- ยังไม่โพสต่อน่ะครับตามที่บอก วันจันทร์จะโพสต่อให้ครับสัญญา  :m5: ส่วนต้นฉบับไอ้นายเส้นฯ มันส่งเข้ามาเมลผมทีละตอนๆ ครับ

ขอบคุณครับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 29-11-2008 20:25:33
ชวนกินไอติมด้วย :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 29-11-2008 21:05:40
 :L2:

เดี๋ยววันจัทร์มาอ่านต่อ อิอิ

 :pig4:
 :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 29-11-2008 22:07:06
อิๆน่าร้าก  o13

ถึงคนโพสต์ ถ้าแค่ห้าหน้า A4 ไม่น่ามีปัญหานะ ป้าเคยโพสต์นิยายความยาวเก้าหน้า A4 มาแล้วก็ไม่โดนตัดนะ (ใช้ angsana new size 14 นะจ๊ะ)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 30-11-2008 15:12:45
อิๆน่าร้าก  o13

ถึงคนโพสต์ ถ้าแค่ห้าหน้า A4 ไม่น่ามีปัญหานะ ป้าเคยโพสต์นิยายความยาวเก้าหน้า A4 มาแล้วก็ไม่โดนตัดนะ (ใช้ angsana new size 14 นะจ๊ะ)

สวัสดีครับ

ครับคุณป้า ผมมานับดูไอ้ต้นฉบับเวอร์ชั่นเก่า มีหน้ามากสุด 11 หน้าต่อตอนนึง :serius2: แต่ก็เพียงตอนเดียว นอกนั้นจะแปดหน้าบ้าง หกหน้าบ้าง ว่าไป ขนาดฟร้อนก็เหมือนกับที่คุณป้าบอกน่ะครับ แต่ผมเคาะช่วงที่เป็นคำพูดไม่ให้บรรทัดมันติดกัน ผมว่ามันจะอ่านง่ายขึ้น ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ไม่รู้มันอ่านง่ายหรือเปล่า เพราะเวปที่ผมเคยโพส บางเวปก็ไม่ต้องเคาะถึงดูดี บางเวปก็ต้องเคาะลงมาถึงจะอ่านง่าย ไงก็เลยเอาตามแบบเคาะน่ะครับ จำนวนหน้ามันเลยเยอะขึ้น (เหอะๆ ปั่นหน้าๆ) หรือถ้าทุกท่านเห็นไม่เหมาะอย่างไร บอกได้ครับ เพราะผมจัดรูปหน้าให้มัน(ไอ้นายเส้นฯ) ก่อนลงอยู่แล้ว

ขอบคุณครับ
ปล.พรุ่งนี้โพสต่อแน่นอนครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 30-11-2008 18:08:14
โธ่..อ้ายเราก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจมาลงก่อน เอิ๊กๆ

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 30-11-2008 19:29:50
น่ารักจ่ะ o13

ขอบคุณนะคะ  แล้วจะรอจ่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (เวอร์ชั่นสำหรับเล้าเป็ดโดยเฉพาะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 01-12-2008 09:48:53
สวัสดีครับ

ตามสัญญาครับ วันนี้วันจันทร์ หึหึ แล้วนี่ผมจะโพสอีกกี่ตอนนี้นะสำหรับอาทิตย์นี้ เพราะพฤหัสฯนี้ผมจะไม่อยู่ครับ ไปเที่ยวกับที่บ้าน ไงดูตามคำขอ(รีเควส) ของทุกท่านดีกว่าว่าจะโพสต่อกี่ตอนดี  (5555  :laugh3:)

ขอบคุณที่ติดตามครับ



ตอนที่ 5

“พี่หนึ่ง กลับห้องสายแบบนี้แฟนไม่ว่าเอาเหรอครับ” เรื่องราวที่ร้านไอศกรีมยังไม่จบ เริ่มต้นตอนใหม่ด้วยคำพูดชวนคิดของโปร

“ไม่นิ แฟนที่ไหน ไม่มี๊” ผมตอบเสียงสูงเลย

“อย่าๆ  เมื่อวานกินข้าวกับแฟนอยู่ผมได้ยิน” นั่นยังไม่เชื่ออีก

“เฮ้ย  ไม่มีจริงๆ เมื่อวานพี่ก็คุยกับแต่รุมเมทพี่  อีกอย่างมันเป็นผู้ชายนะเว้ย”

“นั่นล่ะ กับรูมเมทแล้วจะเป็นแฟนกันไม่ได้เหรอ” ผมอึ้งไปสักพัก เพราะแปลกใจที่โปรพูดแบบนั้น

“เค้ามีแฟนแล้ว สวยด้วย” ผมพยายามตอบเลี่ยงแบบกลางๆ แต่ก็ไม่พ้นที่โปรจะเข้าเรื่องประมาณว่าเค้ารู้ที่ผมเป็น

“งั้นก็ดีสิครับ”

“ดียังไงเหรอ”

“ก็ดีที่เป็นโสดไง”

แล้วเจ้าโปรก็ทำน่าตาอมยิ้มเล็กๆ มันดูมีเลศนัย  ยิ่งทำให้ผมอายจนพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่ ผมตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมจนหมดแล้วก็รีบถือบิลไปเพื่อที่จะจ่ายเงิน โดยตี๋โปรก็เดิมตามมาด้วย ผมเห็นโปรตอนนี้ทำน่าอมยิ้มตลอด มันทำให้ผมคิดไปได้มากมาย ก่อนที่ผมจะจ่ายเงินนั้น โปรได้ยื่นเงินของเค้าออกมาก่อนแล้วบอกว่า

“จ่ายเงินครับ” พนักงานก็รับเงินจากโปรไป

“ผมบอกพี่แล้วไงครับ ว่านี่ผมมัดจำให้พี่ต้องมาสอนผมตามที่บอก แล้วห้ามเบี้ยวนะครับ ไม่งั้นผมฟ้องศาลปกครอง”

มันเกี่ยวอะไรกะศาลปกครองด้วยนี่ ศาลมันจะมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินห้ามผมจ่ายเงินรึไง จะว่าไปตอนนี้อะไรๆ ก็ฟ้องศาลปกครองล่ะมั้ง จากนั้นผมกับโปรก็เดินกลับซอยหอผม โปรเดิมตามผมมาด้วยโดยบอกว่าอยากรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน ตอนที่เดินไปด้วยกันผมไม่ได้พูดอะไรกับโปรเลย มีแต่โปรที่พูดกับผม ผมก็ตอบคำ สั้นบ้างยาวบ้าง ตอนนั้นผมเขินจริงๆครับ เลยทำตัวไม่ถูก

“พรุ่งนี้พี่ตื่นเช้าหน่อยได้ไหมครับ”

“ทำไมหรอ”

“พอดีผมมีการบ้านที่ทำไม่ได้น่ะ จะให้พี่สอน”

“อ้าวก็เอามาถามตอนนี้เลยสิ จะได้เสร็จไปเลย”

“ไม่ดีกว่าผม เดี๋ยวผมต้องไปเรียนพิเศษ ไม่ว่างละ”

“อ่าๆ  เรียนกี่โมงล่ะ นี่จะหกโมงครึ่งแล้วนะ”

“ก็เดี๋ยวไปละครับ”

เราเดินมาจนถึงหน้าหอผม แล้วโปรก็ลาผมไปเรียนพิเศษ ผมว่าน่าจะไปเรียนสายแล้วนะ ไม่รู้ทำไมต้องมาเสียเวลากินไอศครีมกับผม  เมื่อผมกลับมาถึงห้องก็เจอเจ้ารูมเมทนั่งดูทีวีอยู่

“วันนี้มีอะไรเหรอถึงกลับมาก่อน”  ผมถาม

“อ่อ......วันนี้เคลียร์งานเร็ว”  แล้วมันก็มองมาทางผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไอ้ยิ้มแบบมีอะไรแน่ๆ

“ทำไมวะ ได้เลื่อนตำแหน่งรึไง”

“เปล่า แค่ดีใจเพื่อนกูมีแฟน”

“ใครวะ มีแฟน”

“มึงอ่ะดิ ไอ้สาดดดด  เด็กนั่นครายยยยยยวะ กูเห็นนั่งสวีตที่ร้านไอติม”

เวร นึกว่าจะไม่มีคนรู้จักเห็นนะนี่ ดันคนใกล้ตัวมากๆเสียเองที่รู้ ก็ยังดีครับเพราะว่ามันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม แล้วมันเองก็รู้ด้วยว่าผมเป็น

“เปล่าๆ พอดีเด็กมันเลี้ยง”

“โหย  เด็กเลี้ยงวุ้ยยยยยย  ร้ายจริงเพื่อนกู”
กรรม นี่ผมหลุดปากว่าเด็กเลี้ยงไอศครีมเหรอนี่ มันเลยยิ่งถามผมใหญ่ ผมก็เลยเล่าเรื่องราวให้มันฟังคร่าวๆ แต่ผมไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก เพราะคิดว่าผู้ชายอย่างมันคงไม่เข้าใจอะไรมากมาย

“ก็คงมาชอบมึงแหละ ก็ดีละมึง ยังดีกว่ามีคนเกลียด”

“เออ ดีกว่ามีคนรังเกียจกันแล้วดันมาอยู่ด้วยกัน” ผมแกล้งแซวมัน

“ว่าใครวะ”

“คิดเองดิวะ”

เรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอกครับ ผมก็ลงไปทานข้าวกับมันตามปกติ  กลับมาผมไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะสัญญากับโปรไว้ว่าผมจะไปเจอโปรที่ป้ายรถเมล์ตอนเช้า

เช้าวันใหม่เริ่มเข้ามา เมื่อคืนผมฝันจริงๆนะแต่จับใจความไม่ได้ว่าฝันถึงอะไร แต่ประมาณว่าผมไปเหยียบอุนจิหมาที่ไหนนี่ล่ะ แล้วผมเอาไปป้ายคนอื่นคนที่อยู่ข้างๆ ซึ่งคนนั้นคือ โปร ผมไม่ทันจะฝันต่อเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมลุกมาดูว่าใครโทรมาตอนนี้ ท้องฟ้ายังไม่มีแสงเลย ไม่ใช่ใครที่ไหน โปรนั่นเองที่โทรมา

“สวัสดีครับ”  ผมตอบด้วยเสียงที่งัวเงีย

“ฮัลโหล ตื่นได้แล้วคับเพ่ เดี๋ยวจะมาสอนผมไม่ทัน”

“อ่ะครับๆ”

“ครับแล้วห้ามกลับไปนอนต่อล่ะคร๊าบบ แค่นี้นะ แล้วเจอกัน”

 โปรวางหูไปแล้ว ผมมองไปยังเมทของผม มันยังนอนอยู่ข้างๆผมเลย มองดูนาฬิกา โห นี่ตีห้าครึ่งเองนิหว่า ทุกทีเมทผมจะตื่นหกโมงครึ่ง ออกจากห้องเจ็ดโมงกว่า ส่วนผมก็ตื่นเกือบๆเจ็ดโมงแล้วออกจากห้องเกือบแปดโมง นี่โปรมันตื่นเช้าขนาดนี้เชียวรึนี่ ผมเดินโซซัดโซเซไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ พออาบเสร็จเมทผมก็ตื่น

“วันนี้มีงานไหนรึไงวะ รีบตื่น”

“อืม.. มีงานเช้า”

ผมไม่อยากบอกมันเท่าไหร่ว่ามีเด็กนัดให้ไปเจอแต่เช้า เดี๋ยวได้เป็นขี้ปากมันอีก ผมแต่งตัวกินอะไรเสร็จ (ผมจะมีนมกับขนมปังติดห้องเสมอครับเอาไว้กินตอนเช้าก่อนไปทำงาน) ที่ป้ายรถเมล์คลาคล่ำไปด้วยเด็กในชุดนักเรียน เพราะช่วงนี้ต้องรีบไปให้ทันเข้าแถวตอนแปดโมง ผมก็ยืนรอโปรได้สักพัก เกือบๆเจ็ดโมงได้ โปรก็มาถึง

“มานานรึยังครับพี่”

“ก็มาถึงตั้งกะหกโมงสี่สิบห้า นี่คนโทรมาปลุกทำไมมาช้ากว่าล่ะฮ้ะ!?!”

“อ่อ ผมก็โทรปลุกพี่แล้วนอนพักแป๊บนึงน่ะครับ”

“อ้าว แล้วมาบอกว่าห้ามหลับต่อ แต่ทำเองเนี่ยนะ”

“ก็ผมกลัวพี่จะไม่ตื่น” ว่าเสร็จผมก็เอามือไปกะตีหัวเจ้าโปรสักหน่อยฐานมาหลอกกันแต่เค้าก็กลับหลบทันเสียนี่

“จะตีผม เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่าไหมครับ”

“อ่อจะให้เตะช่ายมะ ได้ ไอ้เด็กเวง”

ผมก็กะจะไล่เตะมันต่อ แต่รู้สึกตัวว่าอายสายตาคนอื่นที่อยู่แถวๆนั้นน่ะครับ เลยหยุด เจ้าโปรก็หัวเราะคิกๆ ผมก็ทำหน้าประมาณว่าฝากไว้ก่อน ในที่สุดรถเมล์สายประจำของเราก็มามีคนแย่งกันขึ้นพอสมควร พอขึ้นรถหาที่นั่งโชคดีครับโปรขึ้นไปหาที่นั่งได้ก่อนผมก็เลยได้นั่งคู่กับโปรไป

“ไหนล่ะการบ้านจะให้พี่ช่วยดู”

“ทำเสร็จแล้วครับ”  โปรตอบแล้วทำน่าตาเฉย

“อ้าว แล้วจะบอกให้มาเช้าช่วยดูการบ้านทำไมล่ะนี่”

“ก็พอดีกลัวพี่สอนผมบนรถไม่ทัน ผมเลยทำก่อนไปละ”

“งั้นก็เอามาดูหน่อยสิ ว่าทำถูกไหม”

“ไม่ต้องหรอกครับ มันถูกแน่นอน”

อ้าว อย่างนี้กวนกันชัดๆ  เหมือนหลอกผมมาแต่เช้า ผมเลยหันหน้าออกหน้าต่างขี้เกียดจะต่อปากกับมันละ (ผมนั่งริมหน้าต่างครับ) โปรเห็นผมไม่สนใจเค้ามั้งเลยเอาสมุดการบ้านมาให้

“พี่ ดูให้หน่อยดิ ว่าถูกเปล่า” ผมก็รับสมุดมาดู ก็รู้สึกว่าจะตอบถูกหมดไม่มีปัญหาอะไร ผมเลยถามว่ามีแต่ตรงไหนไม่เข้าใจอีกไหม

“ผมมีตรงนึงที่ยังไม่เข้าใจ  อ่า เดี๋ยวถึงโรงเรียนผมละ ไงเอาไว้ถามต่อแล้วกันนะ”

ว่าเสร็จโปรก็ลุกจากที่นั่งไปยืนรอที่ประตูรถ แล้วก็มองยิ้มๆมาทางผม เมื่อรถจอดโปรก็ลงไป  ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่เริ่มจะเข้ามาทำให้หัวใจผมพองโต ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไร โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมไม่ทันดูว่าใครโทรมาเพราะตกใจ ใครกันนะโทรมาตอนนี้

“ส..สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่ง เย็นนี้เลิกงานห้าโมงครึ่งใช่เปล่า”  เสียงเจ้าโปรดังออกมาจากโทรศัพท์

“ใช่ทำไมเหรอ”

“เปล่า ผมจะได้รอเวลากลับพร้อมพี่ไง”

“อ้าว เราเลิกก่อนไม่ใช่เหรอ ไม่กลับก่อนเลยล่ะ”

“ไม่เอา ไม่อยากกลับคนเดียว ไงถ้าจะขึ้นรถกลับโทรบอกผมก่อนนะ”

ผมไม่ทันจะตอบอะไรโปรก็วางสายไปก่อน นี่มันอะไรกันแน่นะไอ้ตี๋โปรคนนี้ แล้วเมื่อก่อนมันกลับบ้านยังไงเนี่ย ยิ่งทำให้ผมคิดไปได้ไกลจริงๆ แต่อย่างไรผมก็พยายามห้ามใจตัวเองอยู่อย่างนั้นว่า ‘เด็กก็คือเด็ก จะให้เค้าจริงจังคงจะยาก’ หรือว่าคิดอย่างไรดีล่ะครับ??



**แก้คำผิดครับ แย่จริง สงสัยจะตายลายตอนอ่าน**
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 01-12-2008 10:20:49
บางทีเด็กก็รักจริงน้า อิๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 01-12-2008 11:04:51
 :z1: หลงเสน่ห์เด็กเข้าให้แล้วดิ
นี่แล่ะอยู่กับเด็กมันก็ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยแบบนี้แล  คึคึ :m1:


รังเกียด>>>รังเกียจ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: ronger ที่ 01-12-2008 11:08:50
เพิ่งอ่านได้ถึงตอนที่ 4 แต่มาให้กำลังใจคนโพสท์คนเขียนก่อนเน้อ o13
ขอบคุณคุณเส้นกราฟเจ้าของเรื่องที่ให้คุณก.กานำลงมาโพสท์ที่เล้าเราเด้อ

จะรอติดตามต่อไปนะจ้ะ
ขอแว็บกลับไปทำงานก่อง เด๋ว :bye2: นายรู้ว่าอู้โดนตัดเงินเดือน อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-12-2008 11:13:17
เด็กทำอะไรก็น่ารักไปหมด ทำอะไรก็หยวนๆไปเหอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 01-12-2008 12:39:23
สวัสดีครับ

รู้สึกตัวเองผิดๆไงไม่รู้ เลยมาโพสเพิ่มสองตอนแล้วกันครับ

ขอบคุณครับ



ตอนที่ 6

หลังจากที่ผมต้องไปทำงานตอนเช้าพร้อมไอ้ตี๋โปร แถมตอนเย็นจะขึ้นรถกลับผมต้องโทรไปบอกก่อนว่าจะขึ้นรถแล้ว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็ต้องทำเป็นกิจวัตร ผมเองก็ได้ติวหนังสือกับโปรจริงๆ โดยใช้สถานที่โต๊ะนั่งใต้หอผมในการติว ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากมาย โปรก็ยังคุยเก่งเหมือนเดิม และก็ยังพูดจากวนๆให้ผมหมันไส้อยู่เสมอ โปรเป็นเด็กที่ฉลาดมากสอนเพียงครั้งเดียวก็ทำได้แล้ว ในบางเรื่องที่ลึกระดับปริญญาตรีที่ผมเรียนแต่โปรก็ยังถาม ยิ่งทำให้ผมอึ้งๆเพราะบางทีผมก็ยังทำไม่ได้เลย  ความสัมพันธ์ตี๋โปรกับผมนั้น มันเริ่มใกล้กันมากขึ้นอย่างรู้สึกได้มันทำให้ผมรู้สึกดี แต่ก็มีความกลัวแฝงอยู่ด้วย แต่กระนั้นในทุกๆเช้าโปรจะโทรมาปลุกผม ตอนเย็นผมก็โทรบอกโปร เป็นอย่างนี้ตลอดจนกระทั่งสิ้นเดือนซึ่งผมต้องเคลียร์ยอดประจำเดือน เป็นช่วงที่ผมต้องกลับค่ำเป็นพิเศษ วันนั้นตอนเย็นผมได้โทรไปบอกโปรว่าวันนี้ผมจะกลับค่ำหน่อยไม่ต้องรอ

“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมรอได้”

“เฮ้ยอย่ารอ เรามีเรียนพิเศษไม่ใช่เหรอกลับก่อนเลยนะ”

“เจ้าหนึ่ง เมื่อไหร่จะเสร็จจ้ะ นี่ๆรีบๆมาทำเร็วๆเลย ไอ้โจบ่นอุบเลยว่าแกแอบมาโทรหาแฟน”

เสียงพี่จิ๊บหัวหน้าผมดังมาแต่ไกล ทำให้ผมต้องรีบวางหูในทันที แล้วกลับไปนั่งเคลียร์งานต่อให้เสร็จ ไอ้โจ ปากดีจริงๆ และในที่สุด เวลาเกือบสามทุ่มกว่าก็เคลียร์งานเสร็จสำหรับวันนี้ ผมเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าที่ทำงานซึ่งตอนนั้นไม่มีคนอยู่เลย ตอนที่ผมยืนรอรถอยู่นั้นก็มีมือใครบางคนมาสะกิดผมด้านหลัง ผมหันไปก็พบกับเจ้าตี๋โปรยิ้มแฉ่งยืนอยู่ ผมตกใจมาก (โปรรู้ว่าผมทำงานที่นี่น่ะครับ)

“เฮ้ย มาได้ไง”

“ก็มารอพี่น่ะสิครับ”

“แล้วนี่....” ผมดูสภาพโปรตอนนั้นใส่ชุดธรรมดาเหมือนอยู่บ้านไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนแล้วถือหนังสือเรียนพิเศษอยู่สองสามเล่ม

“ผมเรียนพิเศษเสร็จก็มารอพี่นี่แหละ”

“เฮ้ย แล้วนี่รอนานดิ นี่มันสามทุ่มครึ่งละนะ แถวนี้น่ากลัวจะตาย”

“แหม่ แล้วพี่พูดนี่ไม่ดูตัวเองรึไงว่าก็อยู่คนเดียวน่ะ”

“ก็พี่โตแล้ว เรายังเด็กอยู่”

“เด็กแล้วไง!!” โปรขึ้นเสียงกับผม

“....” ผมพูดอะไรไม่ออกเลยเพราะไม่เคยเจอโปรขึ้นเสียงกับผมมาก่อน

“ผมดูแลตัวเองได้ แล้วผมจะดูแลพี่ด้วย ใครจะทำไม”

ผมได้แต่มองหน้าโปร ไม่ได้พูดอะไรต่อ พอดีรถมาโปรก็ฉุดแขนผมขึ้นรถทันที ถึงแม้เราจะนั่งเบาะติดกัน แต่ก็เหมือนห่างกัน คราวนี้ไม่รู้เป็นเพราะอะไร โปรหันหน้ามองไปทางอื่นซึ่งไม่ใช่ผมผมเองก็ได้แต่ก้มหน้าพูดอะไรไม่ออก ทั้งรถตอนนั้นเงียบมากผมรู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่าง จะโทษโปรก็คงไม่ได้เพราะเค้าตั้งใจมารับผมแต่ผมก็อดห่วงโปรไม่ได้ที่ต้องมายืมรอผมคนเดียว  ผมคิดว่าควรที่จะพูดว่า ”ขอบคุณ” คงจะดีที่สุด ก่อนที่ผมจะเอ่ยอะไรออกไป จู่ๆโปรก็หันมาทางผม

“พี่หนึ่ง ...ขอโทษนะ....” คำพูดที่ผมว่าจะพูด มันเลยไม่ได้ออกบอกจากผมเลยผมก็ได้แต่ยิ้ม ตอนนั้นเองโปรก็เอามือซ้ายมาจับที่มือขวาของผม

“พี่หนึ่ง ขอโทษ....”

“เฮ้ย  ขอโทษทำไม  ไม่ได้ทำอะไรผิดนิ”

“......”  โปรเงียบ

“เอาน่า  พี่ขอบใจนะที่เรามารอรับพี่  แต่ทีหลังถ้าจะมาก็โทรมาบอกพี่ก่อน จะได้ให้มารอในที่ทำงานพี่ไม่ต้องรอ”

“ครับ  ได้เลย”

ผมได้เห็นโปรยิ้มอีกครั้งมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ ผมสังเกตไปที่หนังสือที่เค้าถือมาด้วยมันเป็นของสถาบันกวดวิชาที่มีชื่อทางภาษาไทย-สังคม

“นี่ติวกี่วิชากันเหรอ”

“วันนี้กับพรุ่งนี้เรียนสอง วันอื่นวันละวิชา วันศุกร์ว่างครับ”

“โปรม.6 แล้วใช่ไหม แล้วจะเรียนต่อที่ไหนล่ะ” หลังจากที่ผมถามไปนั้น ผมเห็นโปรเหม่อมองไปด้านข้างสักพักแล้วก็ตอบมาว่า

“จะเรียนเศรษฐศาสตร์”

“อ้าว ไม่ชอบไม่ใช่เหรอ”

“ก็พี่สอนให้ผมจนผมชอบน่ะ  ทำไมเหรอ เรียนเศรษฐศาสตร์ไม่ดีเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ดี แต่เรียนที่เราถนัดแล้วก็ชอบด้วยจะดีกว่านะ”

ผมพูดอย่างนี้เหมือนโปรจะหยุดคิดไป ที่จริงผมก็อยากจะแนะนำให้โปรไปเรียนตามที่เขาชอบมากกว่า แต่จริงๆแล้วผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าโปรเค้าเรียนเก่งขนาดไหน รู้แต่ว่าแต่ว่าเด็กคนนี้ฉลาด และเรียนรู้ได้เร็วเท่านั้น

“ก็จะเรียน”

“เอ้า ตามใจ เตือนแล้ว” 

ตรงนี้ผมพูดแล้วก็ยิ้มเพราะตอนผมอายุเท่าโปรผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกเรียนคณะอะไร ไอ้ที่ผมเรียนมาได้นี่จริงๆแล้วก็หลับตาจิ้มมา (จริงๆนะครับ) แต่เพราะเรียนแล้วดันชอบก็เลยเรียนได้จนจบน่ะครับ

ในที่สุดก็ถึงป้ายหน้าปากซอยผม โปรเหมือนจะเดินมาส่งผมอีกแต่ผมห้ามไว้แล้วบอกให้เขารีบกลับบ้านเพราะดึกมากแล้ว ตอนนั้นเกือบๆสี่ทุ่ม ผมกลัวว่าทางบ้านของโปรจะเป็นห่วง โปรก็ยอมไปแต่โดยดีครับ แต่เค้าก็ยืนยันให้ผมไปติวให้เขาให้ได้ในวันศุกร์นี้ ผมก็รับคำครับ ตอนที่ผมแยกกับโปรมาก็คิดว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไรนะถึงตอนนี้ผมก็ทราบแล้วว่า โปรเองคิดอย่างไรกับผม แต่เพราะคนอย่างผมรู้สึกจะก้าวอย่างระวังเหลือเกินในความสัมพันธ์ แต่สำหรับโปรแล้วคงต้องการให้ไปโดยเร็วตามประสาวัยของเขา แล้วอย่างนี้ผมจะคบกับเค้าได้หรือครับนี่ ที่สำคัญยังไม่มีใครบอกรักใครเลยนะครับ แล้วใครจะบอกก่อนล่ะนี่ ผมคงยากเพราะอายเกินกว่าจะบอกครับ จะว่าไปแล้วตอนนี้โดยพฤตินัยเหมือนผมกับโปรจะเป็นมากกว่าพี่น้องแล้วสิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 01-12-2008 12:41:21
สวัสดีครับ

อีกตอนๆ ต่อกันเลย และหมดโควต้าสำหรับวันนี้ครับ

ขอบคุณครับ



ตอนที่ 7

วันศุกร์ทุกวันผมก็ต้องติวโปร วันศุกร์นี้ก็เหมือนกันผมเคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าปกติ เพราะถึงไม่เสร็จผมก็จะฝากโจทำ (นิสัยดีไหมล่ะ) ผมบอกกับที่ทำงานว่าผมมีธุระด่วนต้องขอกลับตามเวลาซึ่งทุกๆคนก็ไม่ติดใจถามอะไรมีเพียงโจเท่านั้นที่เหมือนจะสังเกตอะไรผมทัน

“ไม่ใช่ว่านัดเด็กไหนไปเที่ยวนะเว้ย ไอ้หนึ่ง”

“เฮ้ย ธุระๆ ไปร้านโทรศัพท์หน่อย ถ้าไปดึกมันจะปิดก่อน”  ผมอ้างไปอย่างนั้นล่ะ

“เออ พรุ่งนี้ว่างใช่ป่ะ”

“ว่าง ทำไมหรอ”

“พอดีจะชวนไปจตุจักรหน่อย... จะเอาแฟนไปโชว์ตัว”

“เฮ้ย  จริงดิ เออๆๆได้เลยๆ กี่โมง?”

“เดี๋ยวจะโทรไปบอกแล้วกัน”

เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้เห็นหน้าแฟนโจมัน เห็นคุยนักคุยหนาว่าน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่มันเรียกว่า “ลูกแมวน้อย” ของมันนี่จะน่าตายังไง ถ้าแฟนมันน่ารักจริงผมคงไม่อยากมีแฟนเหมือนมันเท่าไหร่ เพราะเห็นทะเลาะกันทุกวันเอาเรื่องมาให้ผมคิดเพิ่มจากเรื่องงาน และเรื่องของโปร บางทีมันก็โทรมาตอนดึก บางทีก็พูดไปร้องไห้ไป ผมก็ต้องปลอบใจมันแล้วลองให้มันทำอย่างนั้นทำอย่างนี้เพื่อให้คืนดีกับแฟนมัน

เฮ้อ... เหนื่อยใจจริงๆ

ผมออกจากที่ทำงานและโทรหาโปรตามปกติว่าจะขึ้นรถเมล์แล้ว ครั้งนี้ออกจะแปลกเสียหน่อยที่ผมโทรไปหลายครั้งเหมือนจะไม่รับสายบ้าง ไม่ก็กดตัดสายทิ้งบ้าง ผมก็ไม่คิดมากอะไรคงจะมีประชุม หรือคุยกับอาจารย์อยู่จึงไม่ว่าง แต่ก็คงจะรู้แล้วว่าผมจะถึงป้ายหน้าโรงเรียนเขาแล้ว

ถึงหน้าโรงเรียนของโปรผมก็ยังไม่เห็นโปรขึ้นรถมาเลย ทำให้ผมสงสัยมากขึ้นว่าโปรเป็นอะไรรึเปล่าทำไมถึงไม่รับสายผม ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกัน จนผมลงป้ายที่ซอยเข้าหอผมแล้วก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังมาจากกระเป๋ากางเกง

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง นี่โจนะเว้ย  เออนี่พรุ่งนี้ไปสิบโมงเช้าละกันนะ”

“เออๆ  ได้ๆ เจอกันตรง BTS แล้วกันนะ”

“โอเค แล้วเจอกัน”

“เออ...หนึ่ง”

“อะไรอีกล่ะ”

“มึงเป็นเพื่อนที่คุยด้วยแล้ว เป็นคนเดียวเลยนะเว้ย ที่คุยได้ทุกเรื่อง”

“เออ แล้วไง”

“เอ่อ...  ก็มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูไง”

“ขอบใจ”

“แล้วก็....”

“......”

“เจอกันวันพรุ่งนี้นะ”

พูดเสร็จโจมันก็วางหูไปโจมันพูดแปลกๆนะครับ เหมือนมีอะไรจะบอกแต่ไม่กล้าพูดแต่ชั่งมันไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ไอ้เราตอนแรกผมดีใจนึกว่าเจ้าตี๋โปรจะโทรหาผมเสียอีกที่ไหนได้ กลายเป็นไอ้โจไปเสียนี่ แต่ไม่ทันที่ผมจะเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสียงของมันก็ดังอีก คราวนี้เป็นเบอร์ของโปรโชว์ขึ้นมา

“สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่งหรอ  ขอโทษจริงๆพี่ วันนี้ผมขอเลื่อนไปก่อนนะ”

“อ้าวมีอะไรเหรอ”

“พอดีผมแข่งบาสน่ะครับ ไงพรุ่งนี้เย็นๆค่อยติวแล้วกันนะพี่”

“อ่าๆ  ได้ๆ ไงก็โทรบอกแล้วกันนะ”

“ครับ ไปก่อนนะพี่เพื่อนเรียกแล้ว”

ผมไม่ทันพูดอะไรอีกโปรก็วางสายไปผมกลับไปที่ห้องพัก สักพักนึงก็นึกขึ้นได้ว่าต้องมีของต้องซื้อเลยออกไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัว เมื่อผมเดินซื้อของเสร็จก็เดินผ่านร้านฟาสฟู้ดในห้างนั้น ผมสังเกคเห็นคนๆหนึ่งน่าตาคล้ายกับโปรมากกำลังทานอาหารในร้านนั้นกับผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะการแต่งตัวก็พอจะทราบว่าน่าจะเรียนมหาวิทยาลัย แต่เขาคนนั้นทั้งน่าตาดี ตาตี่ๆ ใส่แว่น ผมหยุดยืนดูคู่นั้นได้สักพักเพื่อจะดูให้ได้ว่าคนที่นั่งด้วยคือเจ้าโปรรึเปล่า (ด้วยความที่สายตาสั้นนิดนึง) แต่ไม่ทันไรเหมือนคุณตี๋แว่นจะรู้ตัวว่าผมมองอยู่ผมเลยรีบหิ้วของเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด

เมื่อผมอยู่บนรถเมล์นั้นก็คิดอยู่ว่าคนที่เราเห็นนั้นใช่โปรหรือเปล่า ถ้าใช่แล้วคนที่โปรนั่งอยู่ด้วยนั้นคือใคร เพื่อนโปรหรือเปล่า? แต่ผมตัดความคิดนี้ทิ้งแทบในทันทีเพราะการแต่งตัวเหมือนใส่ชุดนิสิตมหาวิทยาลัยซึ่งคงไม่ใช่รุ่นเดียวกันกับโปรแน่ ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก แล้วก็เตือนใจด้วยเหตุการณ์เก่าๆที่เคยผ่านมาว่าอย่าเพิ่งเชื่ออะไรนอกจากปากของเขา แล้วจงทำใจไว้เสมอด้วยว่า ‘ความจริงของรักคือความไม่ยั่งยืน’ 

วันต่อมาผมไปเจอกับโจตามนัด ขณะที่ผมกำลังรอโจอยู่นั้นเสียงมือถือผมก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง โจนะเว้ย”

“เออ  อยู่ไหนเนี่ย มาถึงตั้งนานละนะ”

“ใกล้ละๆ เออหนึ่งเราเป็นเพื่อนกันเปล่า”

“อ้าวไอ้นี่ถามแปลกๆ ไม่ใช่ม้าง”

“คือมึงอย่าตกใจนะเว้ย แล้วอย่าบอกใครด้วยเรื่องแฟน”

“เออ  มีแฟนเป็นดารารึไงวะ ถึงบอกไม่ได้”

“เออน่า  รักมึงว่ะเพื่อน”

มันพูดเสร็จก็วางหูไปเลย ผมรอสักพัก โจก็มาถึงผมพยายามมองหาผู้หญิงที่คาดว่าจะเป็นแฟนของมัน ผมมองแล้วมองอีกก็ไม่เจอใครนอกจากมัน

“ไหนแฟนวะ” ผมถาม

โจหันไปชี้อีกด้านหนึ่งของผม เฮ้ย นี่ไม่ใช่ผู้หญิงนี่หว่า นี่ผู้ชาย น่าตาดีซะด้วยเป็นนายแบบได้เลย

“สวัสดีครับพี่หนึ่ง”

“ส..สวัสดีครับ”

ผมอ้าปากค้างไปได้สักพักก็มองไปที่หน้าของโจ ตอนนี้มันน่าซีดหรือจะเรียกว่าอะไรดี คือประมาณว่ามันเองก็บอกไม่ถูก บรรยากาศเงียบไปสักพัก ผมยังตะลึงอยู่ ไม่รู้เลยนะนี่ว่าโจมันก็เป็น...

“เฮ้ย......หนึ่ง มึงเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ป่าว”  มันเริ่มเอ่ยขึ้นมา

ผมพยายามเปลี่ยนหน้าจากอาการตกใจเป็นยิ้มๆแล้วบอกกับมันว่า

“เป็นสิวะ เฮ้ยแล้วไม่บอกแต่แรก”

จากนั้นผมกับโจแล้วก็แฟนของโจก็เดินไปดูของที่จตุจักรด้วยกัน ผมชวนแฟนโจคุยเสียมากกว่า โจเองก็ค่อนข้างเงียบๆ สงสัยคงยังไม่แน่ใจในท่าทีของผม แล้วเราก็ตกลงมาหยุดพักทานข้าวกันที่ร้านในจัตุจักรนั้น

“อ้าวเรียนปีสองแล้วเหรอ เป็นไงยากป่าว”

“ครับพี่หนึ่ง ก็ยากน่ะครับ”

ผมได้สัมภาษณ์น้องเค้าเสียจนไอ้โจออกอาการหึงเลยล่ะครับ จนพอรู้ได้ว่าแฟนโจเนี่ยนะชื่อน้องต้อม เขาน่าตาดีขนาดนี้น่าจะพาไปวัดตอนสายๆได้ (ฮ่ะ ฮ่ะ สำนวนโบราณไปเปล่าเนี่ย) ที่ไอ้โจไปได้มาเพราะน้องเค้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน อยู่สายรหัสเดียวกันกับไอ้โจ มันเลยใช้ความเป็นปู่รหัสตีสนิท และที่ทะเลาะกันบ่อยๆก็เรื่องเวลาที่มีให้กันนี่แหละครับ ต่างคนต่างทำงานบ้าง เรียนบ้างก็ไม่ค่อยจะว่างตรงกันเท่าไหร่

“ก็กูกลัวจะเสียเพื่อนไป แต่ก็ดูแล้วว่ามึงน่าจะเป็นคนที่เข้าใจคนอย่างกูดีที่สุดน่ะหนึ่ง” ไอ้โจหยอดคำชมผม

“พี่โจก็บอกผมหลายทีแล้วเรื่องพี่หนึ่ง ขอบคุณนะครับ”

“พอดีน้องเค้าบอกอยากเจอมึง ก็เลยพามาเจอ” ไอ้โจพูดเสริมอีก

“เออๆ รู้แล้วๆ นี่ ทั้งคู่เลย ทีหลังอย่าพยายามหาเรื่องปวดหัวมาให้ล่ะ ขี้เกียดฟังแล้ว”

“คร๊าบบบ  ต่อไปผมจะไม่ทะเลาะกับแมวน้อยแล้ว”

“จิ้งจอกเองก็อย่างอนเค้าน๊า”

ผมแทบจะกระอักน้ำตายเสียตรงนั้นอีทีหวานนะหวานกันจริง ตอนทะเลาะกัน (ไอ้โจเล่ามา) ล่ะทะเลาะกันอย่างกะอะไร แต่ก็อิจฉามันนะครับต่อนข้างหวานกันดีทีเดียว คิดมาถึงเรื่องผมกับโปรแล้วก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย

จากนั้นผมก็เดินดูของต่อกับไอ้โจและแฟนของโจ เดินได้สักพักผมก็ไปสะดุดกับคนคุ้นเคยอีกครั้ง คราวนี้ใกล้พอที่ผมดูออกได้ว่าเป็นโปรแน่นอน แต่เค้ามากับใครล่ะ ผมมองไปคนที่อยู่ข้างๆโปรนั้นคือชายตาตี่ๆ ใส่แว่นคนเดิมที่ผมเห็นผมเห็นเขาสองคนสนิทกันมาก มีพูดคุยหยอกล้อกันโดยสัญชาตญาณแล้วมันทำให้ผมรู้ว่าแบบนี้คงไม่ใช่แค่เพื่อนหรือคนรู้จักธรรมดาเสียแล้ว และก็เหมือนคราวก่อน ชายตี๋แว่นสังเกตเห็นว่าผมมองเค้าอยู่ มันทำให้โปรต้องหันมาทางผมด้วย  เมื่อโปรเห็นผมท่าทางของเขาตกใจมาก ผมเองก็อยู่ในอาการที่ไม่แพ้กัน

“เฮ้ยหนึ่ง คู่นี้สวยเปล่าวะ”

โจหยิบรองเท้าคู่หนึ่งมาให้ผมดู ผมดูนิดนึงก็บอกกับโจว่า

“ตอนนี้รู้สึกไม่สบายขอตัวกลับก่อน...”

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า พี่หนึ่ง” น้องต้อมถาม

 ผมไม่ทันตอบอะไรเพราะมองไปทางโปรเหมือนโปรจะเดินมาทางผมแล้ว ผมจึงรีบเดินออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมได้ยินเสียงของทั้งโจ แฟนโจ แล้วก็เสียงของโปรเรียกผมแต่ผมก็เดินฝ่าฝูงชนออกไป จนแล้วจนลอดผมก็ออกมาจากจตุจักร ขึ้นรถไฟฟ้ากลับหอให้เร็วที่สุด ขณะนั้นมันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของคนๆหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ผมรักมากคนหนึ่งขึ้นมาโดยทันที....
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 01-12-2008 13:16:49
เจ้าโปรริอ่านจับปลาสองมือเรอะ  :fire:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-12-2008 13:34:00
เด็กฉลาดชาติเจริญ............แต่อย่างเจ้าโปรฉลาดเกินมันน่าจับ  :z10: แล้วซ้อมน่ะ 555
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-12-2008 14:26:16
โปรทำงี้หมายความว่างัยเนี่ย :m31:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-12-2008 14:38:11
เรื่องมันเหมือนๆจะดีแล้วนี่นา ไหงพลิกผัน :m29:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 01-12-2008 14:47:17
รอติดตามตอนต่อไป อาจจะเป็นญาติกันก็ได้นะ หุหุ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 01-12-2008 14:51:14
ขอกรี๊ดกร๊าดโจกับน้องต้อมก่อน แมวน้อยกับจิ้งจอก น่าร้ากกกกกกก :m1:

จริงๆแล้ว เจ้าโปรมาเลือกซื้อของขวัญให้หนึ่งอ๊ะป่าว (คิดไปนู่น) อ่านตอนนี้แล้วอิน พอดีเมื่อวานเพิ่งไปเดิน JJ มา (เกี่ยวมั้ย?) ขอให้น้องโปรไล่กวดหนึ่งทันนิ  :call:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-12-2008 15:27:42
อ่านทันแล้ว

แล้วไหง โปร มาแนวแปลกๆ แบบนี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 01-12-2008 15:59:34
โอ้ววววววววววววววววววววววว

และแล้วก็ตามอ่านจนทัน

แต่ว่าถึงตอนที่  :z10:

งืออออ

อยากอ่านตอนต่อไปอ่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 01-12-2008 16:01:12
มาแปลกๆอีกแล้วเด็กนี้ :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 01-12-2008 16:01:47
 :z10: จะพยายามให้ทันนะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-12-2008 17:42:16
ทันแล้ว  :z2:

โปรนี่แปลกๆแหะ  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 01-12-2008 18:20:16
น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 02-12-2008 09:42:07
สวัสดีครับ

คาว่าเรื่องนี้ จะไม่เป็นที่นิยม...
สถิติcommentตลอดถึงตอนที่ 7 เมื่อหักที่ผมโพสไปนั้น อยู่ที่ประมาณ 6.4 คอมเมนต์ต่อตอน กระทู้ข้างๆ 6 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 17.2 คอมเมนต์ต่อตอน หรือ 16 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 9.5 คอมเมนต์ต่อตอน :m16:

เอ... ท่าทางต้องไล่ให้ไปเขียนใหม่ซะละมั้ง หึหึ บอกให้เพิ่ม XXX เข้าไปก็ไม่เชื่อ ไอ้นายเส้นฯ :z6:
ส่วนคนโพสก็มีหน้าที่โพสต่อไป หึหึ :เฮ้อ:

ขอบคุณมิตรรักแฟนนิยายที่ติดตามเสมอคร๊าบบบบบบ ติดตามกันต่อไปน๊าคร๊าบบบบบ ขอร้องล่ะคร๊าบบบบบบ :call:
ปล.โพสวันละตอน ยกเว้น พฤ-อาทิตย์ นี้ ผมจะไปเที่ยวคับ



ตอนที่ 8

“ถ้าเกิดดาวบนฟ้า ที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเค้าจะมาเป็นของเรา จู่ๆดาวดวงนั้นก็ตกลงมาหาเรา  จะไม่ให้ทิ้งบางอย่างในมือเพื่อไปหยิบดาวดวงนั้นเหรอ”

คำพูดของคนๆหนึ่งเหมือนพูดซ้ำไปซ้ำมาในหัวของผมตลอดการเดินทางกลับหอพัก มันทำให้ผมร้องไห้ทุกครั้ง เพราะผมไม่อาจเป็นดาวได้เป็นเพียงแค่อะไรบางอย่างที่คนเค้ากำไว้แล้วพร้อมที่จะทิ้งเสมอเมื่อเค้าได้ดาวดวงที่เค้าต้องการ ทุกครั้งที่คิดถึงคำพูดนั้นแล้วหลับตาก็จะเห็นเค้าคนนั้นกับดาวดวงนั้นของเค้า แล้วผมก็ต้องเดินออกมาด้วยเหตุที่ไม่อาจจะสู้ดาวดวงนั้นได้เลยแม้แต่นิดเดียว

การเดินทางครั้งนี้ของผมแม้อยากจะร้องไห้เพียงใดก็ได้แต่น้ำตาคลอ เพราะผมไม่ต้องการให้มันออกมาอีก ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ร้องไห้ให้กับเรื่องพวกนี้อีกรถไฟฟ้าถึงสถานีแล้ว ผมเดินออกมาตามทาง ระหว่างทางก็เจอคู่แฟนหลายคู่ ทั้งชายหญิงและไม่ใช่ ผมก็ยิ้มให้พวกเค้าทุกคู่ในใจก็คิดว่าพวกคุณโชคดีแล้วที่มีแฟน มีคนที่จะช่วงแบกความทุกข์เอาไว้ครึ่งหนึ่งของชีวิต เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังเตือนให้ผมรับสาย ผมก็ทราบดีว่าใครโทรมาแต่สมองของผมตอนนี้กลับไม่รับรู้อะไรแล้ว  ผมยังคงเดินต่อไปจนถึงหอพัก ที่ห้องผมเจอกับเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่งซึ่งกำลังเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่

“กลับมาแล้วเหรอ ได้อะไรมาบ้างล่ะ”

“.......อืม ไม่ได้อะไรหรอก”

รูมเมทของผมคงรู้สึกได้ถึงอาการซึมของผม มันเดินมาทางหน้าผมแล้วทำท่าส่ายหัว

“เป็นอะไรรึเปล่า เฮ้ย ไปเจออะไรไม่ดีมาล่ะสิ”

“......”  ผมไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งลงบนเตียงนอนในห้องนั่นเอง

“ถึงกูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่มึงเป็นทั้งหมดนะ แต่กูก็อยากให้มึงอย่าคิดมาก อย่าไปสนใจ คนเรามีมากมายจะไปสนอะไรกับคนๆเดียว”

เพื่อนคนนี้รู้จักกับผมมานานพอจนรู้ถึงนิสัยผม หลายครั้งที่ผมเคยโดนพูดกระทบหรือต่อว่าในสิ่งที่ผมเป็น แต่มันก็จะคอยปลอบเสมอ หรือเรื่องแฟน แม้มันจะตะขิดตะขวางใจบ้าง แต่มันก็จะช่วยเท่าที่มันจะทำได้

“อืม  ไม่เป็นไรหรอก อย่างไงก็เจอมาเยอะแล้ว เรื่องแค่นี้เล็กๆ”

ผมพูดเสร็จก็ยิ้มให้เพื่อนผม มันก็ยิ้มเล็กๆ แล้วก็กลับไปเล่นคอมฯต่อ ผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง คิดถึงเรื่องที่ผ่านมากับโปรแล้วพยายามคิดว่ามันคือฝันที่ผมเพิ่งตื่น เพราะยังไงเสียผมก็สู้นายตี๋แว่นคนนั้นไม่ได้ เขาอาจจะเป็นดาวของโปรตัวจริงก็ได้

ผมนอนไปได้สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น  ผมตัดสินใจที่จะปิดเครื่องเสีย แต่ก่อนที่จะปิดผมดูเบอร์ที่โทรเข้ามามันเป็นเบอร์ของโจ แล้วผมตัดสินใจที่จะรับสาย

“สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่ง เรามีเรื่องต้องคุยนะครับ”

เสียงนั่นไม่ใช่เสียงโจ หรือเสียงของน้องต้อม แต่เป็นเสียงของโปร

“......”

“พี่หนึ่ง ฟังผมดีดีก่อนนะ พี่อย่าเพิ่งคิดอะไร...”

“พี่ไม่คิดอะไรหรอกครับ  พี่เห็นมั้งหมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“เมื่อวานนี้เหรอ...”

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ก็ยังติวให้เราอยู่ หรือจะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกได้นะ แต่ตอนนี้พี่ขอพักก่อน  แค่นี้นะ...”

“เดี๋ยวสิพี่ ฟังผมก่อ...”

ผมตัดสายทิ้งทันที แล้วปิดมือถือเพราะไม่ต้องการให้ใครโทรมากวนอีก ผมนอนหลับไปนานเท่าใดไม่รู้ รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมาทั้งห้องเริ่มมืดสนิท ผมลุกขึ้นมาเปิดไฟเจอโน้ตที่เพื่อนผมทิ้งไว้บอกว่า ‘ออกไปนอนที่หอแฟน มีเรื่องอะไรโทรหาได้’ ผมมองไปดูนาฬิกานี่ก็เกือบๆทุ่มตรงแล้ว ผมจึงลงไปหาอะไรทานข้างล่างเพราะเริ่มที่จะหิวแล้ว
เมื่อผมลงมาถึงหน้าหอตรงโต๊ะที่พักที่ทางหอพักจัดไว้ให้ผมได้เจอชายคนหนึ่ง ตาตี่ๆ ใส่แว่น ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ผมเจอกับโปร เขามองเห็นผม ผมหยุดยืนนิ่งคิดอะไรไม่ออก ใจบอกให้เดินกลับไปขึ้นห้อง แต่ไม่ทันที่ผมจะก้าวกลับขึ้นหอ เค้าก็เรียกผมก่อน

“พี่หนึ่งครับ  เดี๋ยวก่อนนะครับ อย่าเพิ่งไปไหนนะครับ  ผมมีเรื่องจะบอกพี่” ชายคนนั้นเดินมาหยุดที่หน้าผมน่าตาเค้าดูเป็นกังวลอยู่มาก

“พี่หนึ่ง ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะครับ ผมลูกพี่ลูกน้องของโปรครับ  คือที่บ้านของโปรเค้าอยากให้ผมช่วยติวหนังสือให้น่ะครับ”

“แล้ว....โปร?”

ผมถามชายคนนั้น ด้วยผมเองไม่คิดว่าชายคนนี้จะรู้จักผม รู้ที่อยู่หอผมด้วยตัวเค้าเองแน่ถ้าโปรไม่ได้บอก

“เค้าไปซื้อของกับพวกพี่โจครับ  เดี๋ยวก็มา” ไม่ขาดคำเจ้าตี๋โปร โจ น้องต้อมก็เดินกันมา  โปรดูท่าจะเห็นผมก่อนใคร รีบเดินมาแทบจะเข้ามากอดผมเลยทีเดียว

 “พี่หนึ่งๆ  ฟังผมนะ นี่พี่พจน์ พี่ผมเอง ที่บ้านขอให้พี่เค้ามาติวหนังสือให้ผม พี่พจน์เรียนแพทย์น่ะ ที่บ้านเลย...”

“มึงนี่ก็คิดมากจังวะหนึ่ง” ไอ้โจแทรกเข้ามา

“กูไม่รู้เลยนะนี่ว่ามึงก็เป็น...”

อ้าว เวรล่ะสิไอ้โจรู้ซะแล้วว่าผมเป็นพวกเดียวกับมัน

“มิน่าล่ะ ให้คำปรึกษาได้ดีนัก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” มันยังมีหน้ามาหัวเราะ

“พี่หนึ่ง ผมว่าตอนนี้เราก็เคลียร์เรื่องนี้กันหมดแล้วนะครับ หายโกรธน้องโปรเถอะ” น้องต้อมพูดเสริม เข้ากันดีกับแฟนน้องเขาจริงๆ ทีตอนอย่างนี้

“ก็ ไหนเมื่อวานบอกเล่นบาส ทำไมต้องโกหกด้วย”

“ผมเล่นจริงๆ แต่พอดีตอนกลับไปบ้านเจอพี่พจน์ พ่อกับแม่ผมเลยให้ผมพาพี่เค้าออกมาหาอะไรกิน แล้ววันนี้พี่พจน์อยากจะเดินจตุจักร ผมก็เลยมาเดินเป็นเพื่อนเท่านั้นเอง”

“พี่หนึ่งครับ ผมรู้ครับว่าเจ้าโปรชอบพี่นะ ผมรู้จักมันดี พี่เชื่อใจมันได้ครับผมรับรอง”

ผมมองหน้าพจน์ที่พูดเมื่อกี้สักครู่ เขาทำหน้าให้ความมั่นใจกับผมมาก ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร ก็แค่ก้มหน้าแล้วก็ยิ้มเล็กน้อย

“เฮ้ย ไอ้หนึ่งยิ้มละ มันหายโกรธแล้ว” โจพูด

“พี่โจรู้ได้ไงล่ะ” น้องต้อมถาม

“เวลามันหายโกรธพี่มันก็ทำอย่างงี้ตลอดล่ะ เชื่อสิ”

“แหม่ ถ้าโจมันไม่แกล้งพี่บ่อย พี่ก็คงไม่โกรธมันหรอกจริงไหม”  ผมพูดขึ้น

“ช่ายย จิ้งจอกชอบแกล้งคนอื่น นิสัยไม่ดี”

“อ่ะๆ น้องแมวน้อยจ๋า อย่าเผากันเองแบบนี้สิ”

พูดเสร็จผมก็หัวเราะออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอะไรบางอย่างมันเปิดออก มันไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ตอนนี้อะไรๆเหมือนจะดีขึ้นทันตา ทันทีที่ผมหัวเราะโปรก็หัวเราะไปกับผมด้วย คนอื่นก็ตามๆกัน

“เอ้อ  หิวละๆ  ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมบอกกับทุกๆคน ทุกคนเห็นด้วยเพราะตั้งแต่มีเรื่องก็ต่างคนไม่ได้ทานอะไรกันเลย พวกเราจึงพากันเดินไปร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ แล้วก็พูดคุยกันออกรสชาติ ตอนนี้ผมไม่มีความลับต่อเพื่อนอีกคนหนึ่งแล้ว และผมก็มั่นใจในผู้ชายคนหนึ่งมากขึ้นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-12-2008 10:13:37
 o18 คนโพสอย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ นิยายในบอร์ดมีมากมาย
ทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ ตามอ่านกันไม่ทันหรอกค่ะ
บางคนตามเฉพาะเรื่องเก่าเป็นสิบ เรื่องใหม่อีก
ก็อาจต้องรอตามของเก่าให้หมดก่อน
ถ้าเรามั่นใจในเรื่องของเราจริงๆในที่สุดคนก็จะมาอ่านเองค่ะ ใจเย็นๆนะค่ะ :a2:


เอาใจช่วยค่ะ แต่ส่วนตัวก็ว่าเนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ :m13:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 02-12-2008 10:29:57
เฮ้อ สุดท้ายก็คิดไปเอง

ป.ล. ใจเย็น ๆ นะจ้ะ เรื่องมาใหม่คนยังไม่รู้ เด๋วก็มีคนตามมาอ่านเองแหละ ใจร่ม ๆ น่อ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 02-12-2008 10:30:35
หุหุ มาเป็นกำลังใจให้ต่อไป หุหุ เดี๋ยวเม้นท์ก็เยอะขึ้นเองอะครับ
ตอนนี้พึ่งเริ่มเรื่อง สู้ ๆ นะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-12-2008 10:45:05
แฮปปี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเว้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 02-12-2008 11:12:24
อย่าน้อยใจไปเลยนะครับผมเป็นกำลังใจให้เสมอนะครับผม :3123:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 02-12-2008 11:28:30
ดีนะเนี่ยที่อธิบายกันจนเข้าใจได้น่ะเนอะ

 o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 02-12-2008 11:32:24
ชอบเรื่องนี้จัง หวานหน้ารักดี

เคยอ่านมาแล้ว ถือว่าอ่านอีกรอบ อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 02-12-2008 12:08:26
อ้างถึง
สวัสดีครับ

คาว่าเรื่องนี้ จะไม่เป็นที่นิยม...
สถิติcommentตลอดถึงตอนที่ 7 เมื่อหักที่ผมโพสไปนั้น อยู่ที่ประมาณ 6.4 คอมเมนต์ต่อตอน กระทู้ข้างๆ 6 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 17.2 คอมเมนต์ต่อตอน หรือ 16 ตอน มีคอมเมนต์โดยเฉลี่ย 9.5 คอมเมนต์ต่อตอน :m16:


ก็เห็นโพสท์ทีละ 2 ตอนควบบ่อยนะครับ
มาติดๆ กันก็เหมือนกับลงครั้งเดียวน่ะ
พอเอาจำนวนรีพลายมาคิดหารกับจำนวนตอนก็ต้องได้ผลลัพธ์น้อย

คนโพสท์อย่าเพิ่งน้อยใจแทนคนเขียนนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 02-12-2008 12:49:03

ก็เห็นโพสท์ทีละ 2 ตอนควบบ่อยนะครับ
มาติดๆ กันก็เหมือนกับลงครั้งเดียวน่ะ
พอเอาจำนวนรีพลายมาคิดหารกับจำนวนตอนก็ต้องได้ผลลัพธ์น้อย

คนโพสท์อย่าเพิ่งน้อยใจแทนคนเขียนนะ  :กอด1:

สวัสดีครับ

สงสัยต้องสองสามวันมาต่อที (ถ้าไม่ตกไปหน้าสองก่อนนะ) ไงก็แล้วแต่คนอ่านน่ะครับ หึหึ

ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 02-12-2008 13:07:17
มาให้กำลังใจ :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-12-2008 13:07:54
เรื่องนี้ก็สนุกดี อ่านแล้วน่าติดตาม เดี๋ยวอีกสักพักเม้มต์ก็เยอะขึ้นค่า  

เป็นกำลังใจให้ด้วยคน  :a2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 1 ธ.ค. เพิ่มถึงตอนที่ 7 แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 02-12-2008 13:17:40

ก็เห็นโพสท์ทีละ 2 ตอนควบบ่อยนะครับ
มาติดๆ กันก็เหมือนกับลงครั้งเดียวน่ะ
พอเอาจำนวนรีพลายมาคิดหารกับจำนวนตอนก็ต้องได้ผลลัพธ์น้อย

คนโพสท์อย่าเพิ่งน้อยใจแทนคนเขียนนะ  :กอด1:

สวัสดีครับ

สงสัยต้องสองสามวันมาต่อที (ถ้าไม่ตกไปหน้าสองก่อนนะ) ไงก็แล้วแต่คนอ่านน่ะครับ หึหึ

ขอบคุณมากครับ
:sad3: ทำมั้ยถึงคิดเยี่ยงนั้น

ไม่จริ๊งไม่จริง ช่วงแรกก็ต้องอดทนนิดนึง

เพราะยังไม่มีใครรู้จักไง เด่ยวมีคนรู้จัก

ก็มากันเองแหละ เชื่อดิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: yee ที่ 02-12-2008 15:09:25
วิวิวิวิวิวิวิวิวิวว...รับทราบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (vel.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 02-12-2008 16:23:51
มาเป็นกำลังใจ :3123:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 02-12-2008 17:54:00
 o13 ขอบคุณจ่ะ

ใจเย็นๆนะ่จ๊ะ นิยายเยอะจริงๆ

เดี๋ยวก็มีคนอ่านเพิ่มค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: torto ที่ 02-12-2008 18:15:56
เพิ่งจะเข้ามา  แต่ยังไม่ทันได้อ่านเลย  แต่ทักทายไว้ก่อนว่าเราเด็กใหม่น่ะ  เห็นว่าน้อยใจที่ไม่มีคนเข้ามาอ่าน 

อย่างที่คนอื่นเค้าบอกนั่นแหละ  นิยายแยอะ  เราก็เพิ่งจะเห็นเรื่องนี้วันนี้นี่เอง :bye2:

แล้วจะเข้ามาเม้มให้นะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 02-12-2008 18:19:30
อย่าคิดมากเลย ถึงน้อย แต่ก็มีคนอ่านแน่นอน อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 02-12-2008 21:07:46
คนโพสต์อย่าเพิ่งน้อยใจนะ  ถ้าเรื่องเจ๋งจริงรับรองเดี๋ยวเมนท์เพียบ

โดยส่วนตัว  เคยอ่านเรื่องนี้มาแล้ว ไม่ใช่รอบเดียวด้วย :-[ แต่พอเอามาลงที่นี่ก็ยังมาอ่านซ้ำเพราะชอบเรื่องนี้มาก 

แล้วก็จะบอกว่า เวอร์ชั่นนี้ความต่อเนื่องของเรื่องสมบูรณ์แบบขึ้นเยอะเลย   :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: remainder.t ที่ 02-12-2008 21:11:33
 :o8:แอบอ่านอยู่ หุๆๆๆ :m32:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 03-12-2008 00:09:22
มีพี่คนนึงไล่ให้มาอ่านอ่ะ พออ่านแล้วอืมม เด็ดดวงแฮ่ะ

ตาม ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 03-12-2008 01:15:13
โอ้โฮเด็กสมัยนี้ก็ไวน่ะเนี่ย



แหมหนึ่งที่แท้ก็คิดไปเอง



อิอิน่ารักมากกกกกกกกก



รออ่านต่อไปค้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 2 ธ.ค. :ตอนที่ 8
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 03-12-2008 10:06:21
สวัสดีครับ

ใครว่าผมงอน  :m16: ผมไม่ได้งอนน๊าาาาาาา :laugh:
แค่จะแกล้งไอ้นายเส้นฯมันเล่นว่าให้เพิ่มตรง XXX เข้าไปเท่านั้นเอง (ถ้าท่านเคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนคงทราบว่ามันไม่มีไอ้ XXX เลย) <-------- บอกงี้แล้วคนเค้าจะอ่านกันไหมนี่ หึหึ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ผมขอรับไว้เพียงผู้เดียว ไม่ต้องให้ไอ้นายเส้นฯ มันหรอก กั๊กๆๆๆ
ปล. ล้อเล่นน่า ให้กำลังใจทั้งหมดกับผู้เขียนของเรา ไอ้นายเส้นฯ ครับ



ตอนที่ 9

ที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำในซอยหอผม มีทั้งโจ แฟนโจ หมอพจน์ (หลังจากนั้นไม่นานผมติดปากเรียกว่าหมอพจน์แล้วล่ะครับ แต่เค้าก็บอกทุกทีว่าเพิ่งเข้าปีหนึ่ง แต่ผมก็เรียกเค้าอย่างนี้ล่ะ จนตอนนี้ก็เป็นจะเต็มตัวแล้ว) และไอ้ตี๋โปร ผมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่จตุจักรหลังจากที่ผมหนีกลับหอก่อน โจก็บอกว่า เห็นโปรตะโกนเรียกชื่อผม มันเลยเข้าไปถามโปรว่ารู้จักผมด้วยเหรอ เรื่องมันก็เริ่มตรงนี้ล่ะครับ ผมไม่รู้นะว่ามันคุยอะไรกันบ้าง แต่โจมันเสนอให้โทรมาหาผมเพื่อปรับความเข้าใจ แต่โปรกลัวผมจะไม่รับสายเบอร์ของโปร (มันคิดถูกนะ ผมไม่คิดจะรับจริงๆ) โจเลยให้มือถือยืมโทรไปก่อน พอผมไม่รับฟังอะไรมันก็เสนออีกว่าควรไปหาผมที่หอเลยจะดีกว่า โจมันรู้จักหอผมครับเคยมาส่งผลตอนแรกๆที่ผมเข้ามาทำงาน มันว่าขืนไม่พูดกันตอนนี้เดี๋ยวเป็นเรื่องมันบอกว่าประสบการณ์มันบอกมาน่ะครับ (ก็แง๋ล่ะสิเห็นทะเลาะกับแฟนมันออกบ่อย) จากนั้นก็ตามกันมาที่หอผมเป็นพรวนตามที่เห็นนี่ล่ะครับ

“อย่างนี้เพื่อนเค้าก็มีแฟนแล้วนะตัวเอง” โจบอกกับต้อม

“อืม เค้าก็ว่าเหมาะกันดีออกนะ” ต้อมเสริมอีก มันยิ่งทำให้ผมน่าแดง

“ยัง”  คำพูดนั้นทำให้ทุกคนหันมาทางผมหมด รวมทั้งโปรตอนนั้นที่กำลังก้มหน้ากินข้าวอยู่ เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าเหมือนแปลกใจเอาเสียมาก 

“ก็....
ยังไม่ได้ตกลงอะไร”

“อะไรกัน  เจ้าโปร”

หมอพจน์หันไปถามเจ้าโปร ตอนนี้โปรกลับเป็นฝ่ายหน้าแดงเองทำท่าส่ายหัวแล้วก็กลับไปก้มหน้าทานข้าวต่อ ไม่สนใจที่จะตอบ ผมมองโปรแล้วก็ยิ้มๆกับอาการที่เขาแสดงออก

--------------------------------------------

เมื่อนึกย้อนไปก่อนหน้าตอนที่ผมกับโปรรู้จักกันแรกๆ เรารอรถเมล์ตอนเช้าที่ป้ายด้วยกัน ตอนนั้นจำได้ว่าผมเห็นคู่เด็กนักเรียนม.ปลายคู่หนึ่งมองไปก็พอรู้ว่าเค้าทั้งคู่เป็นแฟนกัน เพราะบางทีคู่นี้ก็จับมือกัน ไม่ก็พูดคุยเหมือนกระซิบอะไรบางอย่างที่รู้กันเพียงสองคน ตอนที่ผมมองอยู่โปรคงสงสัยว่าผมมองอะไร เลยมองตาม

“อยากทำแบบนั้นหรอ”

“ฮ้ะ?!?!  ทำอะไร?”

“ก็อย่างงั้นไง” ตี๋โปรโบ้ยหน้าไปทางคู่ที่ผมมอง

“ไอ้บ้า”

“ทำมะ”

“คนเยอะจะตาย ไม่อายหรอ”

“อ้าว ผิดเหรอครับเพ่ ที่ผมจะจับมือเพ่อ่า”

“ไม่ใช่ตอนนี้”

“แล้วจะตอนไหน”

เจ้าโปรมีการหันมาทำน่ากวนๆใส่ผม ทำตามองไปทางคู่นักเรียนคู่นั้นแล้วแถมยักคิ้วให้อีก ไอ้สองคนนั้นก็คงจะเห็นนะ เห็นคนหนึ่งปล่อยมือทันทีส่วนอีกคนก็ทำหน้างงๆ รู้สึกมาทะเลาะกันอีกมั้ง (ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ) เพราะไอ้โปรนั่นแหละ ไปทำเค้าผิดใจกัน

“ทำเค้าทะเลาะกัน”

“ดีกว่าเป็นเราละกันน่า” ไอ้ตี๋โปรยังมีหน้ามาพูดงี้อีก

“แล้วตกลงจะได้ตอนไหนเนี่ย” โปรถามผม

“ได้อะไร”

“อยากได้.....”

โปรพูดแล้วเอามือมาแกว่งๆใกล้ๆมือผม ผมเบี่ยงตัวหลบแล้วหันไปพูดกับโปร

“จนกว่าจะเลิกนับเวลาการคบกับพี่เป็นชั่วโมง หรือนับเป็นวัน”

“ยังไงอ่ะ?”

“คิดเองดิ”

“อ๊า  อะไรอ่ะ” ผมไม่ทันพูดอะไรอีกรถเมล์ก็มาพอดีผมเร่งให้โปรรีบขึ้นไป กระนั้นบนรถโปรก็ตามตื้อถามผมอีกว่าหมายความว่าอะไร

“ถ้าไม่บอก จะตามพี่ไปถึงที่ทำงาน”

“เฮ้ย เดี๋ยวเข้าแถวไม่ทันหรอก”

“ก็โทษพี่ล่ะ ที่ไม่ยอมบอกผม”

จนแล้วผมก็ต้องยอมเพราะใกล้ถึงป้ายหน้าโรงเรียนของโปรแล้ว โปรไม่มีทีน่าจะลุกออกไปเลย ที่สุดโปรก็ลงที่ป้ายหน้าโรงเรียนจนได้

--------------------------------------

“อ้าว เจ้าโปร เงียบไม หรือจะให้พี่ไปบอกแม่เรา”  กลับมาที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าเดิม หมอพจน์เริ่มข่มขู่โปรแล้ว

“พี่พจน์จะบอกว่าอะไร” เป็นไม่กี่ครั้งที่โปรจะยอมหยุดกินแล้วหันมาคุย

“เอาอะไรดี ประมาณว่าโดดเรียนกับพี่ดีไหม”

“โหย บอกเลยๆ ไม่กลัวๆ”

“อ้าว แล้วเมื่อไหร่จะบอกรักหนึ่งมันซะทีเนี่ย มันจะได้ลงจากคานเต็มตัว” เนะ ไอ้โจปากดีเสมอ

“ก็เพื่อนพี่เค้าไม่ยอม จะให้ทำงาย”

โปรพูดแล้วทำหน้าโบ้ยมาทางผม ทั้งหมอพจน์ ไอ้โจ น้องต้อมก็หันมามองผมประมาณว่า ‘อะไรมึงมีอะไรนักหนาวะ’

“เออ...ยังไม่ถึงเวลา”

ผมพูดสั้นๆแล้วผมก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยกับหมอพจน์แทน ส่วนโจกับน้องต้อมก็ไปสวีทกันอยู่สองคน เจ้าตี๋โปรก็ไม่สนใจอะไร ก้มหน้าทานข้าวอย่างเดียว (โปรมันเห็นแก่กินมากกว่าเห็นแก่ผมอีกนะแล้วเดี่ยวจะเล่าให้ฟังครับ)
พอทานข้าวเสร็จผมเดินไปส่งโจน้องต้อมและก็หมอพจน์ที่ป้ายรถเมล์หน้าหอ พอส่งเสร็จผมกับโปรก็เดินมาที่หน้าหอผม

“พี่ยังไม่เคยพาผมขึ้นไปบนห้องเลยนะ”

“จะขึ้นไปเหรอ”

“ไม่งั้นขึ้นไปเคาะหน้าประตูห้องตั้งแต่หัวค่ำแล้ว”

“อืม ตามใจ”

ประจวบเหมาะกับรูมเมทผมไปนอนที่หอแฟนมันผมเลยค่อนข้างสะดวกหน่อยที่จะพาโปรขึ้นไป ผมเปิดประตูห้องเปิดไฟ ไม่ทันไรเจ้าตี๋โปรก็กระโดดไปเล่นบนเตียงผมเหมือนเด็กๆ

“เตียงพี่เด้งดีนะ มันน่าดี”

“มันน่าอะไร”

“เปล่า”

เจ้าตี๋โปรทำท่ายักคิ้วให้ แล้วก็ยังไม่หยุดเล่นจนผมต้องบอกว่าเดี่ยวห้องข้างล่างเค้าจะว่าเอาโปรถึงหยุด พอดีกับแม่ผมโทรศัพท์เข้ามาพอดี ผมจึงออกไปโทรที่ระเบียง ไม่วายที่โปรจะเดินตามมายืนข้างๆผมอีก จนผมคุยกับแม่เสร็จก็มองไปที่วิวนอกห้อง ตอนนั้นยังไม่ดึกมาก รถรายังคงวิ่งไปมาให้เห็น

“ทำไมนับเป็นเดือนถึงนานจัง” ผมหันหน้ามามองโปร โปรก็สบตาผมทำให้มองหน้าเค้าได้ชัด

“ก็อยากให้วันนี้เป็นนั้นเร็วๆ...”

ผมเข้าใจโปรทุกอย่าง ในความจริงแล้วผมก็อยากจะพูดบอกรักโปรทุกวัน แต่ผมก็มีความอดทนพอเพื่อที่จะรอ เพื่อที่จะแน่ใจว่าทุกอย่างคงไม่ผิดพลาดเหมือนก่อนอีก ที่ผมนับเวลากับคนที่รักเป็นเพียงชั่งโมง เป็นวัน

“พี่ก็อยากให้วันนั้น” แล้วผมก็จ้องหน้ากับโปรอยู่นาน นานจนผมรู้สึกได้ว่าโปรเริ่มน่าแดงๆ ผมเองก็ไม่แพ้กัน แล้วเราทั้งคู่ก็หัวเราะกันออกมา

“แพ้แล้ววววว” โปรพูดกับผมว่าผมแพ้ ผมก็งงสิ

“แพ้อะไร”

“ก็พี่หัวเราะก่อนไง”

“เฮ้ย  ไปแข่งตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งแต่จ้องผมแหละ”

“อะไร หาเรื่องนะเนี่ย”

แล้วผมก็เอามือจะไปตีหัวเจ้าโปรเบาๆ โปรก็ใช่ย่อยหลบมือผมแล้วแล้ววิ่งเข้าไปในห้องผมก็วิ่งไล่ตาม เราเล่นไล่จับกันเหมือนเด็กๆ มันอยู่ในห้องน่ะครับ เลยกล้าทำ (ฮ่ะ ฮ่ะ) จนผมละเหนื่อยไปเลยแต่เจ้าโปรดูท่าไม่เหนื่อยเลย มีการมาแกล้งหยอกผมอีกนะ

“แก่แล้วอ่ะสิเพ่ เหนื่อยง่าย”

ผมก็เงียบๆไม่รู้จะพูดอะไร ในใจก็คิดแต่ว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ โปรเห็นผมไม่ตอบโต้ก็เลยหยุดแล้วก็เดินมาข้างข้างผม ผมไม่ทันจะหันไปทางโปร โปรก็กอดผมจากด้านหลังเสียก่อน

“เฮ้ยโปร!!”

“ขอกอด แค่นี้ได้นะ”

ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้โปรกอดผมอยู่อย่างนั้น มันนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมรู้เพียงแต่ว่าผมอยากจะอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุด นี่เป็นกอดครั้งแรกของโปร จนผมเหลือบไปมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้อง มันบอกเวลาว่าจะห้าทุ่มแล้ว

“โปรๆ”

“......”

“โปร!!!!”

“ไม่เอา อย่าไปไหนดิ”

“นี่ห้าทุ่มแล้ว กลับบ้านเถอะ”

“ไม่เอา อยากอยู่นี่”

“เดี่ยวที่บ้านเป็นห่วง”

“ก็จะนอนนี่อ่ะ”

“เฮ้ย ไม่ได้เดี๋ยวรูมเมทพี่มา”

“ทามมาย เพื่อนพี่จะได้รู้ไง”

“ไม่ได้ๆ มันยังไม่เคยเอาแฟนมานอนที่ห้องเลยนะ”

โปรก็ยังคงกอดผมอยู่ แล้วกอดแรงมากขึ้นแบบไม่อยากให้ผมหลุดไปได้ จนแล้วจนรอดเสียงโทรศัพท์มือถือของโปรก็ดังขึ้น โปรจึงปล่อยผมแล้วไปรับโทรศัพท์

“ฮัลโหลพี่พจน์ว่าไง”

“ฮะ จริงดิ... “

“เออ  รู้แล้วๆ  จะกลับแล้ว” เหมือนโปรจะอารมณ์เสีย วางหูแล้วมาบอกผมว่า

“ที่บ้านโทรตามผมละ นึกว่าผมอยู่กับพี่พจน์มั้งเลยโทรหาพี่พจน์”

“แล้วทำไมแม่ไม่โทรหาโปรเลยล่ะ”

“ก็ ง่ายๆ บล็อกเบอร์”

“เฮ้ย แบบนี้เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วงนะ”

โปรเงียบไปสักพัก ผมก็จูงมือโปรออกมาจากห้องผม แล้วพาเดินไปที่ปากซอยเข้าบ้านโปร(ตอนเดินไม่ได้จับมือนะครับ หึหึ) ผมเองยังไม่เคยเข้าไปในซอยบ้านของโปรเลย เพียงแต่เดินมาส่งโปรที่ปากซอยเท่านั้น ที่จริงผมก็อยากไปส่งโปรที่หน้าบ้าน แต่โปรชอบบอกว่าบ้านโปรหลังเล็กๆเอง อายไม่อยากให้เห็น ผมก็ว่ามันไม่ค่อยจะใช่เหตุผลเท่าใดนัก แต่ก็ไม่ได้จะซักไซ้อะไร

เมื่อถึงปากซอยเข้าบ้านโปร ผมก็บอกว่าให้รีบๆกลับอย่าไปแวะที่ไหน โปรก็รับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

“ต่อไปจะขอมากกว่านี้นะพี่”

“ขออะไร” ไอ้ตี๋โปรตอบแบบไม่มีเสียงแล้วยักคิ้วให้ ผมก็รู้นะว่าพูดขออะไร ไม่ทันไรโปรก็หันหลังเดินเข้าไปในซอย

“ไอ้เด็กบ้า”

ผมพูดกับตัวเองเบาๆแล้วก็เดินกลับหอ บางคนอาจจะว่าผมบ้าก็ได้นะครับ เพราะเดินไปยิ้มไป แต่ใครล่ะจะรู้ถึงความสุขเล็กๆแบบนี้ของผม ซึ่งมันค่อยๆก้าวไปทีละขั้นอย่างระวัง แต่สิ่งที่อยู่ลึกกว่าในใจผมนั้น คือความกลัว กลัวที่โปรจะไม่มีความอดทนพอ เท่านั้นเอง

ว่าแต่ใครเข้าใจความหมายของผมบ้างล่ะครับที่ว่า
“ขออย่านับเวลาคบกันเป็นชั่วโมงเป็นวัน แต่ขอนับเป็นเดือนเป็นปี”
ถ้ามีคนเข้าใจแบบนี้ ผมว่าชีวิตคู่ของคนเราคงอยู่กันยืดอีกเยอะเลยล่ะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2008 10:51:39
เข้าใจกันแล้วหวานโคตร  :o8:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 03-12-2008 10:54:44
 :z10: อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 03-12-2008 11:15:34
เข้าใจกันแล้วหวานโคตร  :o8:

อิจฉาเค้าได้แฟนเด็กอ่ะดิเจ๊ อยากได้แบบเค้าใช่ม๊า :m20:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 03-12-2008 12:01:02
ขอมากกว่านี้ :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-12-2008 12:04:26
เด็กๆๆ นี่ทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย  :o8:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 03-12-2008 12:26:28
 :o8:

ความหมายเป็นแบบนี้นี่เอง

หวานมากมาย

 :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-12-2008 13:21:55
ไม่นับวันเวลาเลยได้ไม๊ ให้เหมือนเพิ่งรักกันตลอดไป :o8:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2008 13:50:53
เข้าใจกันแล้วหวานโคตร  :o8:

อิจฉาเค้าได้แฟนเด็กอ่ะดิเจ๊ อยากได้แบบเค้าใช่ม๊า :m20:
ใครใช้ให้แกรู้ทันชาวบ้าน  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 03-12-2008 14:19:03

เรื่องนี้พึ่งเคยอ่านที่นี่ครั้งแรกเลย  :pig4:

ยังไม่รู้จะรีเควสใครเหมือนกัลล์

เรื่องน่าหนุก ขอตามอ่านด้วยคน   :yeb:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-12-2008 15:13:25
“ขออย่านับเวลาคบกันเป็นชั่วโมงเป็นวัน แต่ขอนับเป็นเดือนเป็นปี”

ขอเอาไปใช้บ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-12-2008 01:30:32
 o13 o13 o13

โฮะๆสำสวนความรักนี่กินขาดไปเลย คิดได้ไงเนี่ย

เด่วต้องแอบจดไว้ใช้ อิๆ

แล้วจะรออ่านต่อ อยากบอกว่าชอบหมอพจน์ อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 04-12-2008 08:27:06
มาให้กำลังใจคนโพสต์  :L2:

อย่าเพิ่งน้อยใจกับจำนวนเม้นท์เลย ซักพักเดี๋ยวจะดีขึ้นค่ะ

เราเข้าใจ....เพราะเราก็เคยรู้สึกแบบเดียวกัน
.
.
แต่อดทนโพสต์ไปเรื่อยๆ  เดี๋ยวก็จะมีแฟนคลับตามอ่านมากขึ้นเรื่อยๆเองค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 04-12-2008 09:23:42
จิ้มพี่PB

 :กอด1: :L2: :กอด1:

“ขออย่านับเวลาคบกันเป็นชั่วโมงเป็นวัน แต่ขอนับเป็นเดือนเป็นปี”

ชอบจัง

ขออย่านับคอมเมนท์เป็นคอมเมนท์ แต่ขอนับเป็นคำพูดจากใจ


 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 04-12-2008 09:34:13
สวัสดีครับ

ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้งอนคร๊าบบบบบบบ o22 ผมแค่แกล้งไอ้นายเส้นฯเล่นๆอ่า  :impress2:

คือว่า คือว่า เรื่องนี้เคยลงที่อื่นมาแล้วน่ะครับ ที่เอามาลงนี่คือฉบับสมบูรณ์ ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเล้ามาคอมเมนต์ สามสี่ท่านก็ดีใจแล้ววว  :L2: ถ้าเป็นตอนโพสลงแรกๆสิ อันนี้น่าเครียดกว่า :serius2:

ผมจะไม่อยู่เป็นเวลา 5 วัน ทีแรกจะให้ไอ้นายเส้นฯมาลงโพสเอง แต่มันไม่ยอมอ่า ไม่รู้ทำไม ไงผมจะลงให้สองตอนติดแล้วกันนะครับ

ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเล้าทุกท่านที่มาให้กำลังใจครับผม
ปล. ผมว่าให้นายหนึ่งเข้าสมาคม "โคถึกหักหญ้าอ่อน" ของคุณครูกอล์ฟ ดีไหมนะ
ปล.2 ผมไปเที่ยวลาวน่ะครับ เลยกลับมาช้าหน่อย
ปล.3 เพิ่งรู้ว่าเรื่องคนแก่กินเด็ก เอ้ยยยยยย :o จีบเด็กม.ปลาย เอ้ยยยยย :o เด็กม.ปลายจีบคนแก่ เอ้ยยยยย :o....อะไรอีกไม่รู้แระ ในเล้านี่มันมีเยอะจริงๆ (ตั้งสามเรื่องแหนะ) :oo1:



ตอนที่ 10

หลักจากเรื่องราววุ่นวายเริ่มคลี่คลายผมกับโปรก็ยังคงปกติผมขึ้นรถเมล์กับโปรทุกเข้า กลับก็กลับพร้อมโปร แต่ก็มีบางสิ่งที่เพิ่มเข้ามาบ้างก็คือช่วงนี้เป็นช่วงกีฬาสีของโรงเรียนโปร โปรเองเล่นบาสอยู่แล้วและนี่ก็ปีสุดท้ายแล้วที่โปรจะเรียนอยู่ในระดับมัธยม โปรลงแข่งในรุ่นทั่วไปทำให้ต้องมีการซ้อมและกลับบ้านค่ำกว่าเดิม ผมเองถ้าไม่ใช่ช่วงเคลียร์งานก็จะถูกโปรบังคับให้มานั่งรอโปรไม่ม้านั่งริมสนามบาสที่โปรซ้อม ก็ที่นั่งใต้ตึกเรียน แล้วทำไมผมต้องมานั่งรอไอ้ตี๋โปรมันด้วยนะเนี่ย

‘อายโคตร’

 เหมือนคนแก่ มาจับเด็กม.ปลายกิน ตอนแรกบอกผมรอที่ทำงานเล่นเสร็จค่อยโทรบอก แต่ไม่ยอมอีกบอกว่างั้นไม่เล่นจะกลับเวลาเดิมพร้อมผมอีก ไอ้ผมสงสารเห็นอยากเล่นบาสนะเลยยอม (จริงๆนะ) ช่วงเย็นเดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับโปร จะได้คุยกันทีก็ตอนซ้อมเสร็จแล้วนั่งรถไปด้วยกัน พอถึงป้ายหน้าปากซอยหอผมโปรก็จะขอตัวแยกไปเรียนพิเศษทันที เพราะเวลานั้นคงเริ่มเรียนกันไปสักพักแล้ว แล้วจะรอเจอกันทำไมนะ?

วันนี้ก็เหมือนกัน ผมเลิกงานตอนห้าโมงครึ่งก็ขึ้นรถมาที่โรงเรียนของโปรเข้าไปนั่งคอยเพื่อจะกลับด้วยกัน  ที่สนามบาสผมเห็นโปรเล่นบาสอยู่กับเพื่อนๆ โปรนี่เรื่องเรียนกับเรื่องกินนี่ใช้ได้เลยแต่เรื่องบาสผมคงต้องคิดใหม่ โปรใช่ว่าจะเล่นเก่ง แต่มันเล่นไม่ได้เรื่องเลยต่างหาก แต่ก็พอเล่นนะครับ ที่ลงแข่งเพราะกะทิ้งทวนในฐานะ ม.6 แล้ว
 
ผมเองก็พอจะรู้จักกับเพื่อนของโปรบ้างแล้วเพราะโปรแนะนำให้รู้จัก (โปรบอกเพื่อนว่าผมเป็นลูกพี่ลูกน้องโปรน่ะครับ ทั้งๆที่น่าตาผมไม่กระเดะไปทางตี๋ๆเลย แถมบอกอีกว่าที่บ้านให้ผมมาคอยคุมเพื่อไม่ให้ไปเถลไถลที่ไหน)  ผมดูน่าตาแต่ละคนนี่ค่อนข้างจะเป็นลูกคนมีสตางค์ทั้งนั้น บางคนขับรถยนต์มาเรียนด้วย  ผมละทึ่งกับเด็กสมัยนี้ รุ่นผมอย่างมากก็แค่มอเตอร์ไซด์ เพราะทางต่างจังหวัดเค้านิยมน่ะครับ แถมเพื่อนโปรบางคนถือโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ราคาแพงกว่าที่ผมถืออีก จะว่าไปของไอ้ตี๋โปรก็ใช่ย่อยนะ แต่ดูจะใช้สมบุกสมบันมากกว่า ผมยังเคยบอกให้โปรรักษาของหน่อย แต่เหมือนโปรจะไม่ค่อยสนใจอะไรนักผมล่ะสงสารมือถือของโปรจริงๆ

“พี่หนึ่ง เก็บลูกหน่อย”

เสียงหนึ่งในเพื่อนของโปรบอกผมพอดีลูกบาสมันกลิ้งมาทางผมน่ะครับ ผมก็ลุกไปเก็บพอดีกับลูกบอลไปโดนขาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวนั้นเขาก็เก็บลูกบาสขึ้นมาแล้วโยนกลับไปในสนาม ผมเองก็ทันเดินไปถึงตัวเด็กคนนั้นพอดี เขาสบตาผมสักครู่แล้วก็ก้มหน้าไปอ่านหนังสือต่อ ผมเลยเดินกลับมานั่งที่เดิมผมมานั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งมันมีความรู้สึกคุ้นๆบ้างเหมือนกันนะครับ ว่าผมต้องเคยรู้จักเด็กคนนี้ที่ไหนสักแห่งมาก่อน แต่ผมก็ปัดความคิดนั้นออกเพราะผมเพิ่งมาเข้ากรุงเทพฯได้ไม่ถึงปีเท่านั้นเองจะไปรู้จักเด็กคนนี้ได้ไงคงเป็นคนน่าตาเหมือนคนที่ผมรู้จักมากกว่า

ผมนั่งรออยู่สักครู่เจ้าตี๋โปรก็ซ้อมเสร็จพอดี เมื่อเราขึ้นรถแล้วผมถึงเริ่มถามโปรถึงเด็กคนนั้น

“โปร คนที่เก็บลูกบาสให้นี่ เพื่อนโปรรึเปล่า?”

“ฮือ  คนไหนเหรอ”

“ก็คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆพี่ไง”

“อ่อ ไอ้อาร์ท มีอะไรเหรอเพ่ ชอบมันหรอ”

“เฮ้ย  แค่หน้าคุ้นๆ”

“อย่าบอกนะว่าเคยเป็นแฟนกะมันมาก่อน”

“นี่  บอกว่าแค่คุ้นๆ”

“อ่ะ ขอให้เจงเถอะค๊าบ”

“แล้วเรียนห้องเดียวกันเหรอ”

“อืม มันเพิ่งเข้ามาตอนม.ปลาย ชอบมันก็บอก จะได้ติดต่อให้”

“ไอ้โปร!!!”

แล้วโปรก็หัวเราะ แล้วเราก็คุยกันถึงเรื่องอื่นแต่ผมเองก็ยังคิดถึงน่าเด็กคนนั้นพยายามนึกให้ออกว่าใคร เพราะเหมือนผมจะรู้จักเค้ามาก่อน แต่นานมาแล้ว เพียงแต่ผมคิดไม่ออกเท่านั้นเอง

หลายวันต่อมาผมก็ยังไปนั่งรอโปรเหมือนเดิมอีกไม่กี่วันก็จะแข่งกีฬาสีแล้วและดูเหมือนผมจะเจอเด็กที่ชื่อ      อาร์ทบ่อยมากขึ้นด้วย แต่ผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเคยรู้จักที่ไหน จนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนกีฬาสีจะเริ่ม ผมก็มานั่งรอโปรเหมือนเดิม ผมมานั่งใต้ตึกเรียนและที่นั่นทำให้ผมเจออาร์ทอีกครั้ง คราวนี้เขาเดินเข้ามาหาผม ซึ่งผมก็ยิ้มให้ตามประสาคนเคยเห็นหน้ากัน

“สวัสดีครับพี่หนึ่ง ไม่เจอนานนี่ ผอมลงไปเยอะนะครับ”

“เอ๋  รู้จักพี่ด้วยเหรอ?” ผมแปลกใจมากที่เค้าจะทักผมก่อนแถมยังรู้จักผมเสียด้วย

“ผมน้องพี่โอ๊ตไงครับ”

“อ้าว โทษทีๆ ไม่ได้เจอตั้งนาน จำไม่ได้”

“ครับ ไม่เจอตั้งนาน” แล้วเราก็เปลี่ยนมานั่งในที่ห่างจากสายตาผู้คนที่เดินไปมาแถวนั้น แต่ก็ไม่ไกลจากที่เดิมที่ผมได้เจออาร์ทนัก เราถามสารทุกข์สุขดิบกันสักครู่ อาร์ทก็พูดถึงเรื่องพี่ชายของเขา

“พี่โอ๊ตฝากผมขอโทษพี่หนึ่งครับ”

“....”

“ที่พี่โอ๊ตเลือกที่จะทำอย่างนั้น  เอ่อ... คือ ตอนนี้พี่โอ๊ต...”

เหมือนอาร์ทจะกังวลที่จะพูดกับผมมาก จนผมรู้สึกได้ ผมเองก็พูดตอบไปในแทบจะทันที

“พี่ไม่ใช่คนสำคัญของเขา และพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขามานานแล้ว”

“ตอนนี้พี่โอ๊ตเองก็ไม่มีใครนะครับ....”

อาร์ทไม่ทันพูดต่อ น้ำตาของผมก็ไหลออกมาโดยไม่ได้บังคับมันแต่อย่างไร คนๆหนึ่งซึ่งเคยบอกว่าเขาต้องการได้ดาวที่เขาใฝ่ฝันมานาน เขาพร้อมที่จะวางผมไว้สักแห่งแล้วเพื่อจะเอามือของเขาคว้าดาวดวงนั้น ดาวที่ผมไม่อาจจะสู้เขาได้เลย มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมฝันร้ายตลอดหลายเดือนหลังจากนั้น ก่อนที่ผมจะทำใจและพยายามชินชากับคำพูดของเขาที่ยังก้องอยู่ในหัว คนนี้เป็นคนเดียวที่ทำให้ผมจำไม่เคยลืม บางทีผมนึกย้อนไปเป็นไม่ได้น้ำตาคลอตลอด

ไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร ผมได้ยินเสียงใครสักคนวิ่งมาด้านหลังผม และผ่านตัวผมไปผลักตัวอาร์ทล้มลงในทันที

“เฮ้ย มึงทำอะไรพี่กู” เสียงโปรตะคอกใส่อาร์ท เป็นครั้งแรกที่ผมจะเห็นโปรเป็นอย่างนี้

“กูเปล่านะ..”

“มึง!! ไม่ต้องเลย”

ก่อนที่จะมีเรื่องมากไปกว่านี้ ผมได้เข้ามาห้ามโปรไว้ แต่เหมือนโปรจะไม่ยอม จนผมต้องกอดเอวโปรไว้ด้านหลัง

“โปร อย่า  ไม่มีอะไรๆ”

“เรื่องราย มึงบอกมาอาร์ทว่ามึงทำอะไรพี่กู”

อาร์ทยังไม่ลุกขึ้นมา ได้แต่นั่งมองผมและโปรอยู่ตรงนั้น เหมือนจะพยายามพูดอะไรบางอย่างแต่พูดไม่ออก ผมก็ยังรั้งตัวโปรไว้ แต่รู้สึกว่าผมจะรั้งไว้ไม่อยู่แล้ว

“โปร ไม่มีอะไร เชื่อพี่ คนเรารักกันต้องเชื่อกันสิ”

“.......”

จนในที่สุดโปรก็หยุด แล้วจับแขนผมให้เดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนไปผมได้บอกอาร์ทว่า ขอโทษที่ต้องทำให้เจ็บตัว แต่ไม่ทันได้พูดอะไรอีกโปรก็ดึงแขนผมไปจากตรงนั้นทันที

บนรถเมล์ ผมไม่ได้พูดอะไรกับโปรเลย แต่โปรก็ไม่ลืมที่หยิบผ้าเช็ดหน้าของเขามาให้ผม

“เอามาทำไม”

“เอาไป”

ผมก็รับไป แต่ก็ได้แค่ถือไว้เฉยๆ จู่ๆโปรก็เอามือของเขามาจับที่มือผม

“พี่หนึ่ง ขอโทษ”

ผมจ้องหน้าโปรด้วยหน้างงๆ เพราะไม่เข้าใจที่โปรพูด  ขอโทษเหรอ ขอโทษเรื่องอะไร

“ที่ผมไม่ได้อยู่ดูแลพี่ตลอด”

“เฮ้ย พูดเบาๆ อายคนอื่น”

ผมกระซิบให้โปรพูดเบาๆแต่โปรเองก็จ้องตาผมอยู่อย่างนั้น

“ไม่มีอะไร แค่มีเรื่องเก่าๆมาให้คิดเท่านั้นเอง”

“นี่ตกลงเคยเป็นแฟนกับไอ้อาร์ทมาก่อนใช่ไหม” น่าตาผมนี่มันดูเป็นคนกินเด็กขนาดนั้นเลยเหรอ (ตอนนี้มานั่งนึก)

“ไม่ใช่ อาร์ทไม่ได้เกี่ยว แต่อาร์ทเป็นน้องของ...”

“......”

“แฟนเก่า”

“แล้วทำไม มันพูดอะไร”

“ก็แค่บอกว่าพี่ชายเค้าเป็นไงบ้างเท่านั้นเอง”

“......”

“ไม่มีอะไรจริงๆ”

“อ่ะ เชื่อ” แค่คำพูดสั้นๆธรรมดาๆ แต่ทำให้ผมยิ้มขึ้นได้อย่างประหลาด

“ที่เชื่อเพราะพี่บอกรักกับผมแล้วนะ ผมเลยเชื่อ”

“ฮือ  บอกตอนไหน”

“ก็ตอนที่ห้ามผมไง  อะไรๆน๊า  รักผมๆรึไงเนี่ย”

“ไม่ได้พูด!!”

“อ่ะ อย่าๆๆๆๆ  นี่ยังไม่ถึงเวลาเลย พี่แหละผิดสัญญา”

“ไม่รู้ ยังไม่ได้พูด”

“ปากแข็งนะมันน่า...”

“น่าอะไร”

“เดี๋ยวก็รู้”

แล้วเจ้าโปรก็ทำหน้ากวนๆใส่ผม ผมนี่ละเหนื่อยใจกับเจ้าเด็กตี๋นี่จริงๆเลย ครั้งจะพูดง่ายก็ง่ายจริง ตอนนี้เรื่องคงจบแล้ว หรืออาจจะมีอะไรที่เพิ่งเริ่มต้นก็เป็นไปได้นะครับ แต่ตอนนี้ ผมรู้อีกอย่างแล้วว่า ผู้ชายคนนี้ ปกป้องผมได้ (แม้อาจจะไม่มีเหตุผลและเลือดร้อนไปบ้างก็เถอะ)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ธ.ค. :ตอนที่ 9
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 04-12-2008 09:43:05
สวัสดีครับ

ศัตรู(หัวใจ)ของโปรตัวจริงมาละ ขอให้สนุกกับการอ่าน และทิ้งระเบิดไว้ให้ติดตามนะครับ หึหึหึ :mc4:

ขอบคุณครับ :pig4:
ปล.ไอ้นายเส้นฯฝากคำถามมาว่า "จากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กระทบต่อประเทศไทยทำให้การส่งออกหดตัว ถามว่ารัฐบาลควรใช้นโยบายใดเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น และผลกระทบจากนโยบายนั้น ถ้าเลือกทำได้เพียงนโยบายเดียว"..........  ไอ้บ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ใครมันจะไปตอบได้ฟะ ข้อสอบป.โทมึงรึไง ไปถามที่อื่นไป๊ (สงสัยมันอ่านเรื่องครูกอล์ฟมากไปมีการบ้านท้ายบท) งั้นผมถามเอง "จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ด และภาวะโลกร้อน เราควรจะทำอย่างไรดีให้หายหนาวได้" เอะยังไง??



ตอนที่ 11

ในที่สุดวันแข่งกีฬาสีวันสุดท้ายก็ผ่านไป ช่วงนี้ (เดือนสิงหาคม) แล้วก็ใกล้เวลาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเต็มทีในประมาณเดือนตุลาคม ช่วงนี้โปรเลยต้องรีบกลับก่อนเพื่อจะไปให้หมอพจน์ติวให้ และไปเรียนพิเศษต่อเลย น่าสงสารโปรเหมือนกันนะครับ แต่เมื่อคิดถึงตอนที่ผมอายุเท่าโปรผมเองก็กลับบ้านไม่ต่ำกว่าสองทุ่มเพราะไอ้เรียนพิเศษนี่ล่ะครับ ทั้งฟิสิกส์ เคมี ตอนนี้ย้อนมาก็ยังสงสัยว่าจะเรียนไปทำไม เพราะว่าไม่ได้ใช้มันเลย ดันมาเรียนเศรษฐศาสตร์ไง (คิดแล้วเสียดายเงิน) ผมเองก็มีสอนให้โปรบ้างแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้สอนเท่าไหร่ เพราะเศรษฐศาสตร์หลักสูตรม.ปลายเองก็ไม่ได้เป็นวิชาหลักอะไร ครั้งจะติวเลขผมเองก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่องที่ม.ปลายเรียนนิครับ ได้อย่างมากก็แคลคูลัสเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่อย่างไรตอนเช้าผมก็ยังขึ้นรถเมล์กับโปรเหมือนเดิมและถ้าโปรเรียนพิเศษเสร็จก็จะโทรหาผมจนเป็นเรื่องปกติแทนเสียแล้ว

ช่วงนี้ผมเลยต้องกลับหอคนเดียว ใจก็หวิวๆบ้างนะครับ เพราะสองเดือนมานี่ผมจะมีไอ้ตี๋น่าตากวนๆมานั่งด้วยตลอด จนบางทีโจก็แซวว่ารักผมคงจืดจางเสียแล้ว

“บอกให้รีบๆไม่เชื่อ  ดูสิป่านเนี้ยเด็กมันไปตกหลุมใครแล้วมั้ง”

“ไอ้นี่ ปากดี ว่าแต่คนอื่นแล้วเป็นไง ตกลงได้ยังล่ะไอ้โต๊ะตัวใหม่น่ะ”

“ก็เจ้าตัวดีมันชอบแบบมีชั้นวางหนังสือพร้อม แต่กูไม่ชอบนิหว่า”

ตอนนี้ไอ้โจกับน้องต้อมมันพัฒนาไปอีกขั้นแล้วครับ คือตอนนี้น้องต้อมกับมันตกลงที่จะไปอยู่ด้วยกันแล้ว ไอ้โจมันยอมอ้อนแม่ของเงินไปดาร์วคอนโดเพื่ออยู่กับเจ้าแมวน้อยของมันโดยเฉพาะ แต่นี่กลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผมต้องปวดหัวมากขึ้นเพราะมันทะเลาะกันเรื่องเฟอร์นิเจอร์บ้าง เรื่องห้องบ้าง เรื่องนั่นเรื่องนี่ยุ่งไปหมด ไม่เพียงเท่านั้นตอนนี้น้องต้อมก็มีเบอร์โทรศัพท์ของผมแล้วยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าโจมันเกิดผิดนัดอะไรแทนที่จะโทรตามโจกลับโทรมาหาผมแทน สงสัยคิดว่าผมต้องอยู่กับมันน่ะครับ (ที่จริงก็ส่วนใหญ่) ผมก็ต้องแก้ต่างให้มันแทนบ้างว่างานยังไม่เสร็จ ไม่ก็รถคงติดมั้งเลยยังไม่ถึงประมาณนี้ บางทีก็ไม่รู้หรอกว่ามันอาจจะแอบไปหากิ๊กไหนของมัน แต่ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนผมต้องเสียหรอกครับ จริงไหม? (ก็เผื่อผมแอบเวบจากไอ้ตี๋โปรบ้าง มันจะได้ไม่ไปฟ้องไง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ)

“วันนี้ให้ไปส่งป่ะ พอดีจะผ่านทางหอแกพอดี”

“เหรอ  เอาสิ”

ที่จริงโจขับรถมาทำงานครับ แต่ว่าบ้านมันกับหอผมมันอยู่คนละทิศเลยเท่านั้นเอง พอดีผมกำลังเก็บของอยู่นั่นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมดูเบอร์แล้วนี่เบอร์ของน้องต้อมนี่นา

“สวัสดีครับ”

“ดีครับพี่หนึ่ง  พี่โจอยู่แถวนั้นป่าว”

“อ่ะ อยู่ๆ  คุยด้วยไหม”

“ครับ”

พูดเสร็จผมก็ยกมือถือให้โจ มันก็ทำหน้างงๆ ผมก็บอกว่า แมวที่บ้านโทรมา มันก็รับมือถือผมไปแต่โดยดี

“จ๋า”

“......”

“อ่ะ จ้า จ้า ตัวเองอย่าซื้อนะ เค้ายังไม่เห็น”

“......”

“ก็บอกอย่าเพิ่งๆไง”

“........................(น้องต้อมพูดโทรศัพท์ครับ ผมไม่ได้ยินว่าพูดอะไร).................................”

“งั้นรอตรงนั้นเลยนะ ห้ามไปไหน ห้ามทำอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวจะไปหาเดี๋ยวนี้ล่ะ อย่าๆเด็ดขาดเลยนะตัว ไม่งั้นเค้าไม่ยอมด้วย”

คราวนี้มันทำเสียงแข็งครับ ผมไม่รู้ว่าน้องต้อมพูดอะไรอีกมันก็วางหูแล้วก็ส่งมือถือคืนมาที่ผมเหมือนไม่ค่อยจะพอใจนัก

“หนึ่ง ขอโทษว่ะไงคงไปส่งไม่ได้ แมวที่บ้านทำเรื่องละ”

“นี่ไอ้โจ ถ้าแมวที่บ้านแกทำเรื่องมากนัก แกก็เอาไปปล่อยวัดสิ”

เสียงพี่จิ๊บแทรกเข้ามา ผมนี่แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่

“แหม่พี่จิ๊บ แมวของโจ โจมันก็รักของมันนะพี่ มันคงไม่กล้าเอาไปปล่อยไหนหรอก”

“งั้นไปก่อนนะ  บายครับพี่จิ๊บ”

แล้วโจมันก็เดินออกไปทันที ตอนนี้ถ้าผมกับโจจะพูดเรื่องน้องต้อมในที่ทำงานแล้วล่ะก็จะเรียกแทนน้องต้อมว่า ‘แมวน้อย’ บ้าง ‘แมวที่บ้าน(โจ)’ บ้าง แต่ผมจะเรียกอันหลังมากกว่าครับ

“พี่เพิ่งรู้นะนี่ว่าคนอย่างมันจะเอนดูสัตว์เป็นด้วย ทีตอนไปหาลูกค้าด้วยกัน ขนาดปลาทองที่เค้าเลี้ยงไว้ในตู้มันยังขยาดเลย”

“แมวตัวนี้มันคงรักจริงๆน่ะครับพี่”

“งั้นให้มันเอาแมวทำแฟนเลยดีไหม แหม่รักซะปานนั้น”

ผมหัวเราะออกมาไม่รู้ตัว พี่จิ๊บนี่ก็เซ้นท์แรงนะครับ รู้ได้ไงว่ามันเอา ‘แมวที่บ้าน’ ทำแฟนจริงๆ แล้วผมก็ลาพี่จิ๊ก ออกจากที่ทำงานมารอรถเมล์ที่ป้าย ผมเองก็นึกถึงโปรว่าตอนนี้จะทำอะไรอยู่ คงจะนั่งติวกับหมอพจน์อยู่ล่ะมั้ง สำหรับผมพจน์แล้วผมคงไม่ค่อยห่วงอะไรครับ หมอพจน์เค้าเคยบอกกับผมว่าถึงเค้าจะเป็น แต่เค้าก็รักโปรแบบน้องคนหนึ่ง ขอให้ผมมั่นใจได้ แถมมีการพูดติดตลกอีกว่าถ้าเขาจะจีบใครสักคนจะให้ผมเป็นแม่สื่อให้อีก เอ..แล้วหมอพจน์จะจีบใครกันนะ

ในที่สุดรถเมล์สายประจำผมก็มา บนรถผมนั่งที่เบาะว่างคู่หนึ่ง ผมยังนั่งริมหน้าต่างเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือเบาะข้างๆผมมันว่างเปล่า ไม่มีโปรมานั่งข้างๆ วันนี้รถก็ผ่านหน้าโรงเรียนโปรเหมือนทุกวันแต่วันนี้ไม่มีโปรขึ้นรถมา ผมมองเหม่อไปที่นอกรถจนไม่รู้เลยว่ามีคนเข้ามาข้างๆผม

“ขอโทษนะครับ ตรงนี้ว่างไหม”

“อ่ะ ว่างครับ....” ผมหันมาตอบเจ้าของเสียงนั้นแล้วมองไปที่หน้าผู้ชายคนที่พูดนั้น

“โอ๊ต...!?!?!”

“ครับหนึ่ง”

เขาไม่ใช่ชายแปลกหน้าที่ผมเพิ่งเจอครั้งแรก แต่เป็นคนที่คุ้นเคยมานาน แม้ตอนนี้ผมกับเค้าจะไม่ได้เจอกันเป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ผมยังจำเขาได้ดี

“ผอมไปเยอะนะครับ หนึ่ง”

ผมบ่ายหน้าออกไปนอกรถ ตอนนี้ผมแทบไม่อยากจะสนใจอะไรกับผู้ชายคนนี้เท่าไหร่นัก ไม่อยากแม้จะได้ยินเสียง เสียงที่นุ่ม ลึก แต่มันกลับบาดใจผมเป็นที่สุด

“ เป็นไงบ้างครับ สบายดีนะ งานเป็นไงบ้าง หนักรึเปล่า”

“......” ผมยังไม่ตอบอะไร

“ถือว่าผมเป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ที่มาหาเพื่อนเก่าที่ดีที่สุด น่ะครับ”

“ก็เรื่อยๆ ไม่มีอะไรมากมาย ตอนนี้ก็ยังสบายดี” เป็นคำพูดแรกที่ผมพูด แต่ผมก็ยังไม่หันหน้ามามองเค้าอยู่ดี

“อย่างนั้นก็ดีแล้วครับ ดูแลตัวเองดีดี อย่าคิดมากนะครับเดี๋ยวแก่เร็วนะ” เป็นคำพูดที่ผมคุ้นเคยดี ทุกครั้งที่ผมคิดมาก ทำท่าหงุดหงิดให้ชายคนนี้เห็น เค้าก็จะบอกผมอย่างนี้เสมอ

“ช่วงนี้ผมมาทำธุระแถวนี้ อาทิตย์ หน้าก็จะกลับแล้วครับ”

ตอนนั้นผมภาวนาให้รถเมล์ไปถึงป้ายหน้าปากซอยผมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมอยากจะออกจากตรงนี้ สภาพที่อึดอัดที่สุด มันทั้งทรมาน ผมพยายามที่จะกลั้นน้ำตาไว้ ตัวผมสั่นไปหมด จนแทบทนไม่ไหว

“คุณ... เป็นอะไรไม่สบายรึเปล่า”

เสียงนั้นยังตามมาอีก ในที่สุดก็ถึงป้ายหน้าซอยเข้าหอผม ผมรีบลุกอย่างรวดเร็วเบียดโอ๊ตที่อยู่เบาะข้างทางเดินโดยไม่ขอโทษเขา ทันทีที่ปนะตูเปิด ผมวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกเหมือนว่าจะมีมือใครบางคนจะฉุดผมไว้ตอนที่ผมจะลงรถ แต่ก็สะบัดมือนั้นแล้วลงรถไปทันที

“....คือผมแค่อยากให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม....”

เหมือนผมได้ยินเจ้าของเสียคนที่ฉุดมือผมไว้นั้นพูด แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น วิ่งเร็วที่สุด หนีให้ไกลที่สุด ผมคิดได้เพียงเท่านั้น ผมวิ่งมาไกลเท่าไหร่ไม่รู้ รู้เพียงว่าตอนนี้ผมเหนื่อยเหลือเกิน

เหมือนคนหมดแรงผมทรุดตัวลงข้างทางผมพยายามที่จะเงยหน้าขึ้น แต่เหมือนทุกอย่างจะมืดหมด แล้วจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้เลย....
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 04-12-2008 09:46:29
^
^
จิ้มคนเขียน  :m11:

เดี๋ยวอ่านก่อนเม้นทีหลังเน้อ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 04-12-2008 09:52:33
โหย เจ้าโอ๊ตแฟนเก่านี่มันช่างกล้า ทิ้งเค้าไปก่อนแท้ ๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-12-2008 10:31:45
อย่าทำร้ายตี๋โปรน้อยน่ะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 04-12-2008 12:26:29
โอ๊ยยย รักแรกนี่มันลืมยากจริงๆ เหรอ  :monkeysad:


อย่าได้ให้เจ้าโปรมาเจอเชียว งานเข้าแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 04-12-2008 12:38:05
โอ่ยตายแล้ว

คู่แข่งของจริงกลับมานะเนี่ย

เค้าว่ากันว่ารักครั้งเก่ามักจะฝังใจและยากที่จะลืมเลือน

เอาล่ะสิทีนี้โปรแย่แน่แล้ว

แล้วก็อยากบอกว่า ได้ข่าวว่าคนแต่งจะไม่อยู่

งืองือ  เค้าอยากอ่านต่อนะ  ถ้าเป็นไปได้กลับมาเร็วก็ดี

แล้วก็มาต่อด้วยนะจ๊ะ  จะรอจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-12-2008 13:23:08
แฟนเก่าจะมาทำไม๊ o22
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-12-2008 16:32:11
น้องโปร อยู่หนายยยยยยยยยยยย มาให้ว่องเลย

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 04-12-2008 18:18:57
 :angry2:นายโอ๊ตนายจะกลับมาทามมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



 :monkeysad:ตี๋โปรมาด่วนเลยพี่หนึ่งจะแย่แว้วน๊า



 :L2:มาติดตามอ่านด้วยคนคร๊าฟฟ สนุกดีครับเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-12-2008 18:20:16
 :o12:

อย่ากลับไปหา โอ๊ต แล้วทำร้ายน้อง โปร เลยน๊า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 04-12-2008 18:24:25
กลับมาทำไม :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: remainder.t ที่ 04-12-2008 23:51:16
 :angry2:นายโอ๊ต แกกลับมาทำไม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-12-2008 03:25:09
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: re_rain ที่ 05-12-2008 23:59:40
  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 07-12-2008 07:30:58
มาดันกระทูู้ไว้ก่อน

อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 09-12-2008 08:22:25
จิ้มๆไว้ :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 09-12-2008 13:19:02
ตายแล้วเป็นลมเป็นแล้งแบบนี้ใครจะมาช่วยเนี้ยห๊า :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 09-12-2008 14:38:10
ประกาศ.....คนแต่งหายค่าาาาา  :m31:

จงมา จงมา จงมาอัพ  :call:

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 09-12-2008 14:47:11
สวัสดีครับ

ยังไม่ได้มาอัพให้หรอกครับ 55 :laugh:55 ผมมาใช้เครื่องคอมเพื่อนเล่นน่ะครับ พอดีผมกลับบ้านนอกอย่างที่บอก วันพฤหัสฯนี้จะอัพให้แน่ครับ ตามสัญญา

สัญญาครับ ไอ้นายเส้นฯรู้เข้าคงดีใจ

ขอบคุณที่ติดตามเสมอครับ
ปล. ผมไปทำนายไพ่ยิปซีมา เค้าว่าเรื่องความรักนั้น โดนหลอกมาตลอด และจะโดนหลอกตลอดไปอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :o12:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-12-2008 17:09:56
อย่าเชื่อมากหมอดูคู่หมอเดา  :กอด1:

รีบมาต่อนะ รอจ้า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 4 ธ.ค. :ตอนที่ 10-11
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 11-12-2008 08:09:40
สวัสดีครับ

มาช้านิดเดียวตกไปหน้าสองซะละ :sad4: มาต่อตอนที่ 12 เลยครับ
ผมไปเที่ยวมาหลายวัน กลับบ้านนอกด้วย ซื้อของกินมาเยอะเลยอ่าา แต่ไม่รู้จะฝากคนในเล้ายังไงดี ดังนั้นผมขออนุญาตทุกท่านกินเองให้หมดจะได้ไม่ต้องแย่งกันเองในเล้านะคับ  :laugh:






ตอนที่ 12

คุณเคยจำถึงช่วงเวลาที่โหดร้ายของคุณได้ไหมครับ ผมว่าหลายๆคนพยายามที่จะลืมมันแต่ว่าบางสิ่งที่อยากลืมเรากลับจำมันได้แม่นนัก ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นอย่างนั้น

ไม่รู้ว่านานสักเท่าไรที่ผมหมดสติไป ผมลืมตาขึ้นมาผมพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องของผมแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอครับพี่”

ผมหันไปตามต้นเสียงนั้น ผมเห็นหมอพจน์นั่งอยู่ตรงโต๊ะคอมพิวเตอร์ ในมือมีหนังสือเล่มใหญ่หลายเล่ม คงเพิ่งติวหนังให้โปรเสร็จ

“พี่มาที่นี่...”

“พี่หมดสติไปน่ะครับ พอดีเจ้าโปรโทรหาพี่ตอนที่ติวกับผมเสร็จ แล้วพี่ไม่รับสายมันเลยเป็นห่วง เลยให้ผมมาดูที่หอ”

“แล้วโปร...หล่ะ?”

“ไปเรียนพิเศษครับ แต่ผมโทรบอกแล้วว่าพี่ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวมันก็คงมา ตอนที่ผมมาเจอพี่ มีแต่คนมุงเยอะไปหมด ดีนะครับที่ยามหอพี่ช่วยพี่พาขึ้นมาถึงห้องได้...”

จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หมอพจน์หันดูที่ประตูสักพักเดินไปเปิด ผมคิดว่าน่าจะเป็นรูมเมทของผมคงจะกลับมาถึงห้องแล้ว มันคงตกใจแย่ที่เห็นผมในสภาพแบบนี้

“พี่หนึ่ง  เป็นไงบ้าง”

เจ้าตี๋โปรแทบจะถลามาหาผม เอามือมาแตะที่หน้าผากผมใหญ่เหมือนจะวัดไข้

“พี่หนึ่งไม่ได้ป่วยเป็นไข้เจ้าโปร พี่เค้าแค่หมดสติ” โปรได้ยินดังนั้น ก็เปลี่ยนเอามือมาจับที่มือผมแทน

“ไปทำอีท่าไหนให้หน้ามืดได้ สงสัยแก่มากแล้วนะนี่  โถ...ไม่น่าเลย”

“ไม่น่าอะไร” ผมสวนถามไป

“ไม่น่า ’รัก’ เลย”

“เออ  พี่มันคนไม่น่ารัก ไม่ต้องมาสนหรอก” พูดแล้วผมก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้โปร

“เจ้าโปร ไปกวนพี่เค้าทำไม หาทางลงเองนะ  พี่ไปก่อนละ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า” ว่าเสร็จหมอพจน์ก็ออกห้องไป ปล่อยให้ผมกับโปรอยู่กันสองคน

“งอนเหรอ”

“....”

“ก็พูดจริงๆนิ ก็ ไม่น่า ‘รัก’ เลย”

“....” ผมยังคงเงียบอยู่ เจ้าตี๋โปรไม่รู้จะกวนผมไปถึงไหน เขาจะรู้ไหมว่าวันนี้ผมเจออะไรมาบ้าง แล้วจู่ๆโปรก็พูดโพล่งมาอย่างดัง

“ก็ผมไม่น่าไป ‘ร๊ากกกกกก’ เลยไง”

“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” ผมหันมาถามโปร

“อ้าวไม่ฟังเองช่วยไม่ได้ ของดีมีน้อยใช้สอยอย่างประหยัด”

“เมื่อกี้ว่าอะไร”

โปรก็ไม่พูด แถมทำตากลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนแกล้งผม ตอนนั้นผมไม่รู้คิดอะไรเอื้อมมือขึ้นมาไปโอบเอวโปรไว้ (โปรยืนอยู่ข้างเตียงน่ะครับ) แต่โปรเหมือนจะกลัวว่าผมจะทำอะไรละมั้งเลยดิ้นให้หลุด ผมบอกกับโปรว่า

“อย่าไปไหนนะ อยู่ตรงนี้ก่อนอย่าไปไหน”

โปรหยุดดิ้น แล้วมานั่งบนเตียงข้างๆผม เมื่อโปรมาอยู่ใกล้ ผมก็ลุกขึ้นมากอดโปร ตอนนั้นเหมือนโปรจะแปลกใจในสิ่งที่ผมทำแต่เขาก็ค่อยๆเอามือมาโอบผมไว้ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกอะไร รู้แต่ว่าน้ำตาของผมจู่ๆก็ไหลออกมา

“เฮ้ย พี่เป็นอะไร”

ผมไม่ตอบแต่กอดโปรแรงขึ้น โปรเองคงเหมือนจะรู้ว่าผมต้องมีเรื่องอะไร โปรเอามือมาลูบหัวของผมเบาๆ ผมเงยหน้ามองโปร ผมเห็นโปรยิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

“ผมอยู่ตรงนี้แล้วไงครับ...ผมไม่ได้หนีพี่ไปไหน...แล้วผมจะอยู่กับพี่ตลอดไป”

ในขณะที่ผมกอดโปรอยู่นั้น จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมเลยต้องเอามือออกจากตัวโปร โปรลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดประตู  รูมเมทผมนั่นเองดูเหมือนมันจะงงๆ ตอนที่เห็นโปรมาเปิดประตูเพราะนี่คือครั้งแรกที่มันได้เจอกับโปร แล้วมันก็มองมาทางผม

“เอ่อ นี่จะแนะนำให้รู้จัก” ผมเริ่มพูดก่อน

“พอดีเมื่อกี้กูหน้ามืดเป็นลมตรงปากซอย แล้วน้องเค้ามาช่วยน่ะ”

“อ้าว เป็นอะไรทำไมหน้ามืด” รูมเมทผมถามทันที

“ไม่รู้เหมือนกันสิ พอดีก้มไปหยิบของ พอเงยหน้ามาก็หน้ามืดเลย...เออนี่ น้องเค้าชื่อโปร อยู่ซอยถัดกูไปนี่แหละ พอดีเค้ามาช่วยกู”

“อ่อ ถ้าไม่ได้น้องนี่ สงสัยเพื่อนคงโดนปอเต็กตึ๊งเก็บไปแล้ว”

“เฮ้ย  กูยางม่ายตาย” แล้วเราสามคนก็หัวเราะพร้อมกัน

“เอ่อ  ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะครับพี่ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ”

ว่าเสร็จโปรก็เดินออกไป แต่ผมเห็นก่อนที่โปรจะข้ามประตูไป เขาหันหน้ามายิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มเดียวกันที่ผมชอบมากที่สุด

“มึงร้องไห้เหรอ”

“ฮะ  อะไรนะ”

“มึงร้องไห้เหรอ”

“เปล่า”

“อย่าเลย กูก็เคยเห็นบ่อยๆ ตามึงแดงขนาดนั้น ไม่มีใครรู้ก็เหลือเกินละ”

“....” ผมเงียบแล้วก้มหน้าลงไป พูดอะไรไม่ถูก

“มีเรื่องอะไรเหรอวะ”

เพื่อนผมคนนี้เราคบกันมานานจนเขาแทบจะรู้ทุกเรื่องที่ผมเป็นที่ผมทำ ถ้ามีอะไรแปลกไปแม้แต่นิด มันก็จับได้เสมอ

“คือ...โอ๊ต...”

“ไอ้โอ๊ตทำไมอีก นี่มันยังมาหาเรื่องมึงอีกเหรอ”

“เปล่า พอดีไปเจอบนรถเมล์”

“มันมาทำอะไรแถวนี้ ไหนว่าตามแฟนมันไป...” เพื่อนผมหยุดพูดเมื่อมองหน้าผม แล้วเห็นผมทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง

“มันอยู่ไหน เดี๋ยวกูจะไปเคลียร์กะมัน”

ผมส่ายหัว ถึงอย่างไรผมก็บอกอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ตอนที่ผมเลิกกับโอ๊ตใหม่ๆ เพื่อนผมแต่ละคนก็รู้ครับต่างก็ช่วยกันปลอบผม แต่รูมเมทของผมนี่ไม่ปลอบเปล่า เหมือนเพื่อนคนอื่นของผมไปสืบเรื่องแฟนใหม่ของโอ๊ตว่ามีเรื่องนอกใจแล้ว รูมเมทของผมคนนี้ล่ะครับเอาเรื่องไปบอกกับโอ๊ต ก็เลยทำให้เพื่อนผมคนนี้มีเรื่องชกต่อยกับโอ๊ตเลยทีเดียว

“มันรู้แล้วยังเรื่องแฟนของมัน”

“คง...รู้แล้วมั้ง”

“มันคงจะอยากกลับมาหามึงอ่ะสิ” ผมไม่ตอบเพียงแต่ก้มหน้า รูมเมทผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

“คนอย่างนั้น อย่าไปสนใจเลย” ไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น เบอร์ของโปรนั่นเองที่โทรเข้ามา

“พี่หนึ่งเป็นไงบ้าง”

“อ่า ก็สบายขึ้นเยอะแล้ว”

“วันนี้รีบนอนนะ”

“ครับ ครับ”

“แล้วก็...”

“หือ  อะไรเหรอ”

“แล้วก็ฝันดีนะครับ เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ ผมจะไปรับที่หอ”

“อืมๆครับ ได้ๆ”

แล้วเราก็วางหูกันไป เจ้ารูมเมทของผมก็ยังบ่นถึงเรื่องโอ๊ตไม่เปลี่ยน ผมเองก็พยายามไม่คิดอะไรมากมายไปอีก ผมจัดการธุระตัวเองเรียบแล้ว แล้วก็นอน ก่อนนอนครั้งนี้ผมไหว้พระกราบหมอนเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมอธิษฐานขอให้ทุกอย่างดีขึ้น ขอให้ผมอย่าได้เจอเรื่องที่ไม่ดีอีกต่อไปเลย สาธุ.....
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 11-12-2008 10:43:18
มาแล้วเหรอ :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 11-12-2008 11:32:11
ของโบราณคนเก่าๆอย่าไปสนใจ ร๊ากกกกเด็กดีกว่า :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-12-2008 11:38:54
เจ้าโปรน่ารักมากมาย แต่ไอ้ตัวมารเนี่ยสิ จะโผล่มาทำไมเนี่ย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-12-2008 12:11:06
รักเด็กอย่างเจ้าโปร ดีกว่า น่ารักกว่าเยอะ  :o8:

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-12-2008 12:19:37
ทิ้งไปแล้วยังจะย้อนกลับมาทำไม :m31:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 11-12-2008 13:40:24
สวัสดีครับ

ผมเพิ่งเช็คเมลตอนเช้า เห็นเมลไอ้นายเส้นฯส่งมาบอกว่าตอนพิเศษให้ลงก่อนตอนที่ 12 อ้าววววววว เวงงงงงเลยยยย ลงไปแล้วอ่า งั้นเอามาลงก่อนตอน 13 ละกันเนาะ
ตอนนี้ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนนะครับ ผมก็เพิ่มได้เห็นนี่ล่ะ

ขอบคุณครับ



เรื่องของนายเลขหนึ่งกับคุณหมอฟัน (ตอนที่ 1)

บางสิ่งที่อยากจำเรากลับลืม บางสิ่งที่อยากลืมเรากลับจำ
คนเรานี้คิดให้ดีก็น่าขำ อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ
ผมอยากบอกว่า... ผมลืมมันไม่ได้... ทั้งๆที่ ผมอยากลืมมันเหลือเกิน...

วันเข้าค่ายร.ด.ของโรงเรียนผม แน่นอนเป็นการเข้าค่ายที่ผมไม่ชอบที่สุดแต่มันจำเป็นที่ต้องเข้า ถ้าไม่เข้าก็ถือว่าไม่ผ่านการเรียนร.ด. ต้องไปจับใบดำใบแดงแน่ๆ ไหนๆก็ทนเรียนมาสามปีละ เข้าค่ายแค่ 5 วันมันจะเป็นอะไรไป ค่าย ร.ด. นี้ผมไม่ได้ไปเข้าที่เขาชนไก่เหมือนพวกร.ด.ในกรุงเทพฯหรอกครับ เข้ากันในจังหวัดผมนี่เอง แต่เข้าทีก็จะรวมกันมีหลายๆโรงเรียน ตอนแยกเป็นกองร้อยอะไรก็ผสมปนเปกันกับโรงเรียนอื่น ไอ้ที่นัดกับเพื่อนว่าจะนอนเต้นท์เดียวกันนี่ลืมไปได้เลย เพราะครูฝึกกองร้อยผมได้สุ่มให้ผมนอนกะเพื่อนที่มาจากโรงเรียนอื่นเรียบร้อยแล้วเป็นนายตี๋แว่นหน้าตาดูหื่นๆมาจากอีกโรงเรียนหนึ่ง ผมมองหน้าเขาเองก็คิดว่าคงไม่มีพิษมีภัยอะไร ตัวมันขนาดพอๆกับผมนะ ถ้ามันกล้าทำอะไรผมจะได้กินลูกกุย(หมัด)ผมแน่ จนครูฝึกได้สั่งให้เรากางเต้นท์

“นายชื่ออะไรเหรอ” เพื่อนร่วมเต้นท์ผมเอ่ยขึ้นตอนที่เรากำลังของเข้าเต้นท์หลังกางเสร็จ

“เราหนึ่ง นายล่ะ”

“เราหมงนะ”

จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น เลยได้รู้ว่าหมงมาจากโรงเรียนเอกชนชื่อดังในจังหวัดเดียวกันกับผม จากการคุยแล้วมันผิดกับหน้าตาที่ดูหื่นๆของหมงโดยสิ้นเชิง ผมก็เลยสบายใจได้หน่อย เพราะรุ่นพี่เคยเล่าว่าถ้ามีคนนอนด้วยไม่ดูตาม้าตาเรือ ระวังจะโดนเสียบ!!!

การฝึกนั้นผ่านไปอย่างช้าๆ ที่มันช้าเพราะมันเหมือนจะทรมานผมมากกว่า เดี๋ยวก็วิ่ง เดี๋ยวก็หมอบ เดี๋ยวก็วิดพื้น ไม่รู้ครูฝึกจะแกล้งไปถึงไหน พอถึงเวลานอนก็หลับเป็นตาย จนวันหนึ่งจู่ๆก็มีข่าวมาจากเพื่อนๆว่า ผลการสอบโควตามหาวิทยาลัยในจังหวัดของผมออกแล้ว ดันมาออกตอนกูเข้าค่ายร.ด.นี่นะ (ช่วงต้นปี) เวรกรรมที่สุด เพราะมือถือก็ไม่ได้เอามากลัวเอามาพัง เพื่อนเองก็มีมือถืออยู่ไม่กี่คน มีคนจับจองขอโทรไปฟังผลหมด ผมเองก็รำคาญพวกมันเหลือเกินเพราะไม่ยอมให้ผมถามบ้างว่าผลสอบเป็นอย่างไง จนเวลานอนผมก็นอนในเต้นท์กับหมงตามปกติ

“นายสอบโควตาเปล่า”

“สอบ ทำไมเหรอ”

“รู้ผลหรือยังว่าติดอะไร”

“ยังเลย เพื่อนไม่ยอมบอกเรา”

“อ้าว ยังไม่รู้อีกเหรอ”

ว่าแล้วหมงก็หันไปคุ้ยๆที่ประเป๋าเป้ของเขา สักพักก็ยื่นโทรศัพท์มือถือของเขามาให้

“โทรถามดูสิ”

ผมก็รับมาโดยทันทีสิครับ ไอ้ขอบคุณยังไม่ได้บอกเลย แล้วก็กดเบอร์ไปหาเพื่อนที่ไม่ได้เรียนร.ด.ให้มันดูผลทางอินเตอร์เน็ตให้

“เฮ้ย กูหนึ่งนะ...
เออ  รู้ไงเลยโทรมา...
มึงจดรหัสกูไว้นิ ดูให้หน่อยสิ...”

แล้วผมก็รออยู่สักพัก แต่เป็นช่วงเวลาที่ทรมานยิ่งกว่าเข้าค่ายร.ด.เสียอีก หัวใจเต้นตุ๊บๆๆ ตาผมก็มองหมง หมงเองก็มองที่ตาผมและแล้ว

“ฮ้ะ!!!!  อะไรนะ กูเลือกอะไรไปบ้างเหรอ
กูเลือกนิติศาสตร์ไง....
ไม่ติดเหรอ....
เออไม่เป็นไรงั้น..... (ตอนนี้หน้าผมถอดสีเลย)
เอ้ยยยยยยยย  ไอ้เชี่ยยยยยยยย กูติดอันที่สองเหรอ แต่กูเลือกอะไรไปวะ
เศรษฐศาสตร์เหรอ มึงแน่ใจเหรอ กูไม่ได้เลือกวิดยาไปเหรอ
เออ ขอบใจมาก กูกำลังงงกับชีวิตอยู่
ไงออกค่ายเดี๋ยวกูเลี้ยง”

และแล้วการสนทนาก็จบลง ผมได้ทราบว่าผมติดโควตาคณะเศรษฐศาสตร์โดยตัวผมเองก็ยังงงๆอยู่ว่าติดไปได้ไง ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเลือกลงไปด้วย ผมคืนมือถือให้หมง หมงรับไปแล้วก็หัวเราะ ผมก็งงสิครับว่าหัวเราะอะไร

“หัวเราะอะไร”

“นายไม่รู้จริงเหรอว่าเลือกอะไรไว้”

“อืม... จำได้แค่อันเดียวอีกอันจำไม่ได้”

“เหมือนเรานะ เราก็ติดอีกอันที่จำไม่ได้”

“นายติดอะไรอ่ะ”

“เราเหรอ ที่จริงเราเลือกแพทย์นะ แต่ติดทันตะอ่ะ จำไม่ได้ว่าเลือกไว้”

ว่าแล้วหมงก็หัวเราะ อะไรกันเนี่ย ไอ้ตี๋แว่นหน้าหื่นๆนี่มันเรียนเก่งขนาดนี้เลยเหรอนี่ หมอฟัน มันนี่นะไม่น่าเชื่อผมนอนเต้นท์กับว่าที่คุณหมอฟัน และแล้วการเข้าค่ายก็จบลงผมก็คิดว่าคงจะเจอหมงที่ไหนสักแห่งในมหาวิทยาลัยบ้างล่ะนะ และก็เพราะหมงนี่ล่ะ ทำให้ผมได้ทีแฟนหนึ่งเดียวคนเดียวตลอดชีวิตในมหาวิทยาลัย

จนกระทั่งผมได้เป็นนักศึกษาปี 1 เต็มตัว กิจกรรมต่างๆของทั้งคณะและมหาวิทยาลัยก็เริ่มขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษารู้จักกันและมีความรักสามัคคี หนึ่งในนั้นก็มีงานขึ้นดอย ที่นักศึกษาปี 1 คณะต่างๆจะพากันเดินขึ้นดอยไปไหว้พระธาตุเพื่อเป็นศิริมงคลในการใช้ชีวิตและการศึกษาต่อไป

“น้องๆ ปีนี้พี่ไม่ขออะไรมาก พี่ขอที่หนึ่งก็พอ...”

เสียงจากรุ่นพี่คนหนึ่งดังมา พร้อมเสียงโห่ของพวกปี 1 ทุกคนในแถว

“ใครโห่ๆ รุ่นพี่เกือบที่ 1 นะโว้ย”

“ก็แค่เกือบ แต่ก็ไม่ได้ที่ 1 นี่นา” ผมพูดกับเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน

“ไม่รู้ไอ้พวกเรียนสาธิตฯจะทำได้อย่างที่โม้เปล่า” เพื่อนผมอีกคนพูด

“มันว่าอะไรอ่ะ” ผมถาม ไอ้พวกนี้มันชอบขี้โม้ครับ มันถือว่าเป็นเจ้าถิ่นมาแต่เดิม ก็โรงเรียนมันอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอ่ะ

“มันว่าพวกมันจะถึงวัดเป็นพวกแรก เพราะซ้อมเดินมาตั้งแต่เรียนสาธิตฯละ”

“สาธุเลยขอให้เรียนจบในสองปี” ผมว่าประชด

และแล้วการเริ่มเดินก็เริ่มขึ้น ตลอดทางมีการดูแลอย่างดี มีพี่พยาบาล หน่วยฉุกเฉินรอรับคนที่เดินไม่ไหว ในบางทางก็ชัน แต่ตลอดทางผมว่าสวยดี ทุกทีผมเคยแต่นั่งรถยนต์ขึ้นไป ไม่เคยเดินขึ้นอย่างนี้

“เฮ้ยๆๆๆ  แซงงงงงงงงงงงง”

เสียงเพื่อนผมดังมาขณะที่จับมือเดินไปด้วยกัน พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่เร่งขึ้นเพื่อแซงคณะที่เดินอยู่ข้างหน้า ผมก็วิ่งตามกับกลุ่มไปด้วย ถ้าไม่ผิดจะเป็นคณะที่หมงเรียนอยู่ เพราะผมเห็นหมงอยู่ในกลุ่มที่ถูกแซงด้วย เขาก็เห็นผมนะเขายิ้มให้ผมแหม่เพื่อนหมงแต่ละคนนี่ทำไมน่าตาดีๆกันทั้งนั้นเลยนะ ผมก็ยิ้มให้ขณะที่วิ่งผ่านเขาไป จนในที่สุดเราก็มาถึงวัดจนได้ พากันเหนื่อยพอสมควร รวมถึงไอ้พวกจบจากโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนก็ไม่เห็นมันจะเดินถึงก่อนแต่อย่างใด ก็ถึงพร้อมๆกันนี่ล่ะ ที่วัดรุ่นพี่ก็พาเข้าไปไหว้พระธาตุเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเราในฐานะนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัย แล้วผมกับเพื่อนผู้หญิงผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่สนิทกันตั้งแต่เจอที่คณะเดียวกันเดินไปรอบๆวัด ถ่ายรูปกันด้วยน่ะครับ

“หนึ่งๆ มาถึงนานหรือยัง”

เสียงเรียกดังมาจากข้างหลังผม ผมหันไปก็เจอหมงเดินมากับเพื่อนเขาคนหนึ่งน่าตาดี ตัวสูงกว่าหมงอีก (หมงสูงเท่าผม)เขายิ้มเล็กๆที่มุมปาก ไม่รู้จะยิ้มทำไม

“มาได้สักพักอ่า หมงเพิ่งมาถึงเหรอ”

“ช่าย เหนื่อยมากเลย”

“เอ้อ นี่เพื่อนที่คณะเราเอง ชื่อ(.....ผมก็แนะนำเพื่อนให้ครบทุกคน.....)นี่หมงอ่ะ รู้จักกันตอนเข้าค่ายร.ด.”

“ดีจ้า แหม่ชื่อน่ารักจัง หมงๆ” ไอ้เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพูด

“อ่า นี่ก็เพื่อนคณะเราเอง ชื่อโอ๊ต”

โอ๊ตพยักหน้าพร้อมยิ้มให้ผมทีนึง ผมก็พยักหน้าแล้วยิ้มตอบ

“แล้วนี่หนึ่งจะกลับไงเหรอ” หมงถามผม

“ไม่รู้สิ ต้องรอรุ่นพี่บอกว่าจะให้กลับไง”

“เราว่าจะขึ้นรถแดงกลับอ่ะ กลับกับเราเปล่า”

“จะดีเหรอ ไม่รู้รุ่นพี่จะว่ารึเปล่าอ่ะ”

ตอนนั้นปีหนึ่ง อะไรๆก็ต้องกลัวรุ่นพี่ไว้ก่อนล่ะครับ

“หนึ่ง ชั้นว่าดีนะ ไม่ต้องเดินกลับ อีพี่บ้านั่นต้องให้เราเดินกลับแน่เลย” ไอ้เพื่อนผมอีกคนพูดพูด

“แล้วเรากลับรถนี่ พี่เค้าไม่ว่าเหรอ”

“เดี๋ยว ชั้นไปบอกพี่ที่สนิทให้ แกใจดี เดี๋ยวเช็คชื่อไง ฝากแกได้”

“จะดีเหรอ”

“เอาน่า ขี้เกียจเดินลง”

ในที่สุดผมก็ต้องยอมที่จะขึ้นรถกลับกับหมง โอ๊ต และก็ไอ้คุณเพื่อนๆทั้งหลาย ที่จริงผมมารู้ทีหลังว่าพวกมันไม่ได้บอกรุ่นพี่ว่าเราจะนั่งรถแดงกลับกรรมเลยเมื่อวันต่อมาเข้าคณะโดนด่าไปหลายดอก เราคุยกันตลอดทางระหว่างกลับไปมหาวิทยาลัย ผมได้นั่งติดโอ๊ตครับ ก็เป็นไปตามที่หวังในใจเล็กๆ คิคิ

“โอ๊ตคนกรุงเทพฯ เหรอ” เพื่อนผมถาม

“ครับ ผมเพิ่งมาที่นี่ไม่กี่ครั้งเอง แต่ชอบมาก เลยเลือกมาเรียนที่นี่”

“สงสัยจะติดใจคนเมือง แม่นก่” หมงแซว

“อย่าพูดคำเมืองสิ ก็รู้ว่าเราไม่เข้าใจ”

“อย่างนี้ก็ดีสิ เวลานินทาโอ๊ตจะได้ไม่รู้” เพื่อนผมแซวอีก

แล้วเราก็หัวเราะ ผมมองไปที่โอ๊ต โอ๊ตก็มองมาที่ผม ผมเขิลเหมือนกันนะครับที่โอ๊ตมองผมตรงๆอย่างนี้ พูดจริงๆคือโอ๊ตนี่
สเป็คผมเหมือนกันนะ พูดน้อยๆ เพราะผมเป็นคนพูดมากมากกว่า ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

“แล้วนี่โอ๊ตอยู่หอในเหรอ” ผมถาม

“ไม่ครับ ผมอยู่หอนอก”

“อ้าวเหรอ”

“ครับ พอดีที่บ้านติดต่อไว้ตั้งแต่รู้ว่าผมติดที่นี่”

“เนี่ยะหนึ่ง เราก็บอกให้มานอนหอในเป็นเพื่อนเรา โอ๊ตมันไม่ยอมอ่ะ เมทเราไม่ค่อยชอบอยู่ห้องด้วย กลัวผีๆ”

“อ้าว แล้วนายไม่ได้อยู่บ้านเหรอ”

“ไม่เอาหรอก เราอยากใช้ชีวิตนักศึกษาจริงๆมากกว่า”

“เหรอ งั้นเดี๋ยวไปอยู่เป็นเพื่อนดีไหมจ้ะหมงๆ” เพื่อนผู้หญิงคนนึงผมพูดออกมา

“เหอะ อย่างคิงหนา ต้องไปอยู่เป็นเพื่อนช่วงๆตี้สวนสั๊ตว์ละก้ะ” เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งพูด

“ไอ้วอกนี่ ฮาเป็นคน เป็นคนตี้น่าฮักของหมงๆ”

“ไค่ฮากบ่ะเฮ้ยยย”

แล้วเราก็หัวเราะกันทั้งรถ

“หนึ่งครับเค้าว่าอะไรกันเหรอ” โอ๊ตกระซิบถามผม

“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก แค่แซวๆกันเล่น”

“อ่อครับ แล้วหนึ่งอยู่หอไหนเหรอครับ”

“เราอยู่บ้านอ่ะ”

“ไอ้แอ๋ว (ชื่อเพื่อนผู้หญิงผมที่ชอบแซวๆหมงน่ะครับ) นี่ก็อยู่หอใน เพราะมันเพิ่งลงมาจากดอย บ้านไกลสัญญาณไม่มี”

“ไอ้บ้า เด๋วนี้เขาปั๊ดตะนาแล้ว” ไอ้แอ๋วคู่กรณีผมพูดพร้อมฝ่ามือไอ้แอ๋วประทับที่กลางหลังไปสองสามที

เราก็คุยกันต่อมาเรื่อยๆจนรถถึงมหาวิทยาลัย เราก็พากันไปหาข้าวกินเล็กน้อยก่อนแยกย้ายกันกลับ

“เสร็จนี่แล้วไปไหนต่อเปล่า” ผมถามทุกคนในกลุ่ม

“ไม่อ่ะแก ชั้นเหนื่อยมาก อยากนอน” ไอ้แอ๋วลากเสียงเหมือนจะขาดใจ

“เราเหมือนกัน ปวดขายิ่งกว่าตอนวิ่งในค่ายร.ด.อีก” หมงว่าส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็อยากจะกลับหอกลับบ้านกันเสียให้ได้

“เออๆ งั้นเราจะได้กลับบ้าน แล้วโอ๊ตนี่กลับไงเหรอ”

“อืม ไม่รู้เหมือนกันครับ..”

“อ้าว งั้นผมไปส่งก็ได้นะ หออยู่ตรงไหนล่ะ”

“ไม่เป็นไรครับเกรงใจ”

“เฮ้ย เกรงใจอะไร ผมเอารถเครื่องมา ไปส่งได้”

“รถเครื่อง? ซาเล้งเหรอครับ”

“แป่วววว ไม่ใช่อย่างง๊านนน มอไซอ่ะ” แล้วคนที่เหลือก็หัวเราะ มีแต่โอ๊ตคนเดียวที่ทำหน้างงๆอยู่

“คือคนแถวนี้เรียกมอไซว่ารถเครื่อง” ผมอธิบายซ้ำ

“แล้วหออยู่ไหนล่ะ”

“อยู่หลังมอครับ”

“โอเค ไงเดี๋ยวไปกับผมแล้วกันนะ”

จากนั้นผมก็แยกกับหมงและไอ้แอ๋ว เพื่อนคุณเพื่อนๆ ไปเอารถมอเตอร์ไซที่จอดไว้แถวคณะผมเอง แล้วก็พาโอ๊ตซ้อนไปส่งเขาที่หอ

“ว่างๆอยากไปไหน คุณก็มายืมใช้ได้นะ” ผมบอกโอ๊ต

“ครับ หนึ่งใจดีจัง แต่ผมขับไม่เป็นน่ะครับ”

“เหออออ  ขับมอไซไม่เป็นเหรอ มันก็เหมือนๆกับขี่จักรยานนั่นล่ะ”

“ผมขับไม่เป็นจริงๆครับ ที่บ้านไม่มีมอไซ”

“อ่า งั้นเดี๋ยวสอนให้ได้ เอาเปล่า”

“โอเคครับ ไงฝากตัวด้วยนะครับ คุณครู”

นี่ผมต้องเป็นครูสอนขับรถมอเตอร์ไซให้โอ๊ตไปแล้วเหรอนี่ ถึงหอโอ๊ตเราก็มีการแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ตอนนี้ผมก็เริ่มจะคิดๆมาบ้างแล้วว่าโอ๊ตนั้นอาจจะสนใจผมก็เป็นไปได้ จริงไหมครับ?
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 11-12-2008 13:44:37
สวัสดีครับ

ต่อตอนพิเศษตอนที่ 2 เลยละกันนะครับ ตอบแทนที่ให้รอคอยตั้งนายกว่าห้าวัน หุหุ

ขอบคุณที่ติดตามครับ



เรื่องของนายเลขหนึ่งกับคุณหมอฟัน (ตอนที่ 2)

ผมรู้จักกับโอ๊ตได้นานพอสมควร ช่วงแรกๆถ้าวันไหนมีเรียนเช้าเหมือนกันผมก็จะไปรับโอ๊ตที่หอไปส่ง บางทีก็พาโอ๊ตไปซื้อของ ไปกินข้าวบ้าง เหมือนกับพาโอ๊ตไปเที่ยวในที่ต่างๆของตัวเมืองนั่นล่ะครับ โอ๊ตนี่เป็นคนมีความจำที่ดีมากๆ ไปครั้งเดียวก็จำเส้นทางในเมืองได้หมดอะไรอยู่ที่ไหนยังไงก็จำได้ บางทีพาผมไปกินข้าวที่ร้านที่ผมไม่เคยไป (โอ๊ตเคยไปกับเพื่อนที่คณะมาก่อน) ตอนนี้ผมไม่คิดว่าโอ๊ตจะเป็นแค่เพื่อนกับผมแล้วสิ มันเหมือนสนิทกันมากเกินไป แม้ไม่ใช่ว่าจะไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน แต่อาทิตย์นึงก็จะมาเจอผมหนนึง ไม่ก็มีโทรมาคุยบ้าง แต่ก็ไม่ได้คุยกันนานมากนัก (ค่าโทรมันแพงครับ) บางทีผมก็ให้โอ๊ตขับมอเตอร์ไซของผมดูบ้าง มันไม่ยากนัก เพราะแป๊บเดียวโอ๊ตก็ขับเป็น เราสนิทกันจนหมงบอกว่า โอ๊ตสนิทกับผมมากกว่าเพื่อนในคณะอีก ผมก็มักจะตอบว่าเดี๋ยวไงต่อไปก็ไม่มีเวลาเจอกันแล้วโอ๊ตก็ไม่พ้นเพื่อนในคณะหรอก เพราะผมเข้าใจดีว่าคณะของโอ๊ตยิ่งเรียนสูงขึ้นการเรียนก็หนักขึ้นเหมือนกัน

วันหนึ่งผมได้ไปซื้อของกับโอ๊ตเลยได้โอกาสขึ้นไปบนห้องโอ๊ต เปิดประตูเข้าไปสภาพห้องเรียบร้อยมาก เรียบร้อยกว่าห้องผมเสียอีก

“ห้องรกหน่อยนะครับ” โอ๊ตพูด

“โหยคุณ ถ้างี้เรียกรกนี่ ห้องผมจะเรียกว่าอะไรดี”

“ผมไม่ได้จัดเองหรอกครับ พอดีคุณแม่ผมจ้างแม่บ้านให้มาทำไว้ตลอด”

“มิน่า เรียบร้อยซะ”

“ครับ”

ผมกับโอ๊ตก็ขนพวกของที่ซื้อมาเข้าห้อง ผมสังเกตไปเห็นกีต้าตัวหนึ่งวางอยู่ใกล้ๆที่นอน

“โอ๊ตเล่นเป็นด้วยเหรอ”

“ครับ ทำไมเหรอ”

“โห เรียนก็เก่ง กีฬาก็เล่น เล่นดนตรีก็เป็นด้วย เฟอร์เฟคแมนสุดๆ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ก็ว่าไปครับ”

“งี้สาวติดตรึม”

“ไม่หรอกครับ ผมยังไม่มีใครเลย” โอ๊ตพูดแล้วก็เงียบมองหน้าผม ตอนนี้ผมก็เขิลหน้าแดงครับ เจอคนจ้องหน้าตรงๆแบบนี้ ผมเลยหลบหน้าหนีหันไปดูเจ้ากีต้าแทน

“เอ้อ ชมรมหนึ่งจะหาเงินเข้าชมรมวันเปิดโลกฯอ่า โอ๊ตช่วยอะไรหนึ่งหน่อยสิ”

พอดีชมรมที่ผมอยู่นี่รุ่นพี่โรงเรียนเก่าผมเค้าอยู่กันเยอะ ก็เลยโดนจับเข้าชมรมตั้งกะรู้ว่าได้เรียนที่นี่น่ะครับ

“อะไรเหรอครับ?”

“เล่นกีต้าเปิดหมวกเป็นไง”

“โห... หนึ่งครับ ผมไม่เก่งขนาดนั้นหรอก”

“เอาน่าๆ  ไหน ลองเล่นให้ผมฟังสักเพลงสิ”

“จะเอาเพลงอะไรล่ะครับ”

“อืม... อะไรก็ได้ที่คุณชอบอ่ะ”

“งั้นเอาเพลงที่ผมคิดอยู่ในตอนนี้แล้วกันนะครับ”

พูดให้ผมงงแหะ เพลงที่คิดอยู่ในตอนนี้อย่างนั้นเหรอ มันจะเป็นเพลงอะไรนะ

ว่าแล้วโอ๊ตก็ร้องเพลงคนซึงตึ้ง เป็นเพลงของอ้ายจรัล มโนเพ็ชร ครับ ประมาณว่าเป็นคนไม่เต็มบาทนะ แต่มีความรักจริง ประมาณนี้ ผมฟังโอ๊ตร้องเพลงแล้วก็คิดว่าโอ๊ตนี่เสียงดีใช่เล่น ขนาดร้องเพลงคำเมืองนี่ถึงสำเนียงไม่ถูกนักแต่ก็ใช้ได้เลยครับ

“ไหนคุณว่าพูดคำเมืองไม่เป็นไง” ผมถามหลังจากที่ร้องเพลงจบ

“ผมไม่ได้บอกว่าพูดไม่เป็น แต่ผมบอกว่าไม่เข้าใจต่างหากครับ”

“แล้วเข้าใจหรือเปล่าล่ะที่ร้องน่ะ”

“ตอนแรกไม่เข้าใจครับ เอาไปถามเพื่อนที่คณะเค้าเลยแปลให้ฟังเลยเข้าใจ”

“ชอบเพลงคำเมืองเหรอ”

“ครับ ชอบมากเลย”

“แล้วที่บอกว่าเพลงตามที่คิดนี่ แสดงว่า.....”

ตอนนี้โอ๊ตมองหน้าผมอีกครั้งแล้วยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ทำไมผู้ชายคนนี้น่ารักอย่างนี้นะนี่ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

“แอบฮักสาวไหนอยู่กา...”  ผมถามแล้วก็หัวเราะ โอ๊ตก็หัวเราะตามผมอยู่ครับ

“ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผมหรอกครับ” โอ๊ตพูดแล้วยิ้ม มันทำเอาผมหน้าแดงเลย

‘มันไม่น่าจะใช่ผมนะ ไม่ใช่ ไม่ใช่....’ ผมคิดอย่างนั้นซ้ำๆ

“เอ่อ แล้วคุณจะมาช่วยผมได้ไหมล่ะ ร้องเพลงเปิดหมวกน่ะ”

“ครับ ได้”

“เย้!!! ดีใจจังเลย มีคนช่วยหาเงินละ”

“แต่ผมต้องขอค่าตอบแทนนะครับ”

“โอเคจะเลี้ยงข้าว ถ้าได้เงินมาเยอะนะ”

“ไม่เอาหรอกครับอย่างนั้นน่ะ”

“เหอ งั้นอย่าเอาแพงนะ เกินเงินที่ได้ไม่เอานะ”

“ไม่ต้องจ่ายสักบาทก็ได้ครับ”

“แล้ว มันอะไรล่ะ??”

“เดี๋ยวเอาไว้เสร็จงานแล้วจะบอกครับ”

อะไรนี่ โอ๊ตอยากได้อะไรเหรอ คงไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ อ่ะคิคิคิ ในที่สุดวันที่โอ๊ตร้องเพลงเปิดหมกก็มาถึง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสนใจมากๆ สงสัยโอ๊ตเองก็น่าตาดี ร้องเพลงเพราะเลยเป็นที่สนใจมากๆ บางคนให้เงินแล้วยังทิ้งเบอร์โทรลงใส่หมวกที่วางไว้ด้วยครับคิดดูว่าฮอทขนาดไหน จนสุดท้ายได้เงินมาเยอะจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าโอ๊ตร้องเพลงกี่ชั่วโมงจะได้เงินบริจาคมากขนาดนี้ ผมเอาเงินให้พี่ที่ชมรม พี่ๆยังตกใจเลยว่าแค่ร้องเพลงนี่จะได้เงินมากขนาดนี้เลยเหรอ ผมก็บอกว่า พอดีผมมีตัวดึงดูดน่ะครับเลยได้เยอะ จนกระทั่งผมถามโอ๊ตเรื่องจะตอบแทนที่โอ๊ตมาร้องเพลงให้

“ตกลงคุณอยากได้อะไรเหรอ”

“ไม่ต้องซื้ออะไรหรอกครับผมไม่อยากได้”

“อ้าว ไม่ได้ๆ ของงี้ต้องมีตอบแทนนะ”

“งั้นแค่พาผมไปเที่วสักที่ก็พอละครับ”

“เที่ยวที่ไหนล่ะ”

“อืม... หนึ่งชอบไปที่ไหนล่ะครับ ที่ไปแล้วหนึ่งสบายใจ”

“มันมีหลายที่อ่ะ”

“กี่ที่ ก็พาผมไปแล้วกัน”

ผมเลยต้องจำยอมพาโอ๊ตไปที่ๆผมชอบไปบ่อยๆ ถ้าไม่วัดก็โรงเรียนเก่าที่ผมจบมา และที่อื่นๆอีกหลายๆที่ จนสุดท้ายมาจบที่อ่างเก็บน้ำในมหาวิทยาลัย

“ที่สุดท้ายละ พอใจหรือยัง”

“ครับ”

แล้วเราสองคนก็มานั่งพักที่ริมอ่างเก็บน้ำ ตอนนั้นก็เย็นมากแล้วคนที่มาเดินเล่น หรือออกกำลังเริ่มน้อยลง

“หนึ่งครับ...”

“ว่าไงเหรอ”

ผมจ้องหน้าของโอ๊ต โอ๊ตก็จ้องหน้ามอง เป็นการสบตาที่นานมากคราวนี้แปลกที่ผมรู้สึกอายมาก แต่กลับไม่เบือนหน้าหนีเหมือนทุกที หัวใจผมเต้นแรงมากจนมันดังกลบเสียงนกหรือผู้คนที่อยู่แถวนั้น แน่นอนครับ ในใจผมมันบอกอยู่แล้วว่าชอบโอ๊ตมาก แต่ผมไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปมากกว่า เพราะผมกลัวว่าสิ่งที่ผมคิดนั้น จะเป็นเพียงแค่ผมคิดเองฝ่ายเดียว

“หนึ่ง...  คิดเหมือนผมหรือเปล่า...”

“คิดอะไรเหรอ”

“ผมขอเดาว่า หนึ่งคิดเหมือนผมอยู่ ... ใช่ไหมครับ”

ถ้าผมไม่ตาฝาดไปนัก ผมเห็นโอ๊ตหน้าแดงเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นผู้ชายที่มีมาดนิ่งๆจะมีอาการเขิลอายอย่างนี้ เขาเดาเหรอ?? เขาเดาว่าผมคิดอะไร เขาจะเดาถูกไหมนะ หรือว่า เขาคิดอะไรอย่างอื่น ตอนนี้ในหัวผมสับสนไปหมดกับคำพูดของโอ๊ต ผมจะบอกดีไหม แล้วจะบอกว่าอะไรดีล่ะ ผมกลั้นใจอยู่นาน จึงตัดสินใจพูดไปว่า

“ถ้าคุณไม่พูด แล้วผมจะรู้เหรอครับ ว่าเราคิดเรื่องเดียวกันหรือเปล่า...”

แล้วผมก็ลุกขึ้นกะว่าจะเดินหนีไปที่รถสักหน่อย แต่จู่ๆมือของโอ๊ตก็คว้ามือของผมไว้

“ผมไม่ขอพูดนะครับ เอาเป็นว่าเราคิดเหมือนกันแล้วกัน...”

เหอ.... คิดเหมือนกันเหรอ อะไรเนี่ย ไม่ยอมบอกแล้วจะรู้ได้ไงว่าคิดเหมือนกันยังไง แล้วโอ็ตก็ลุกขึ้นพร้อมปล่อยมือผมแล้วก็เดินไปที่รถพร้อมกันกับผม ผมในสภาพที่งงที่สุดในชีวิตก็พาโอ๊ตไปส่งหอ ระหว่างทางเราก็ไม่ได้พูดอะไรกัน ทุกอย่างคงเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ววันต่อมาก็คงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้นหรือเลวร้ายลงแต่อย่างใด คุยกันเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือผมเองมากกว่าที่จะเป็นฝ่ายพูดน้อยลงเพราะเขิล

เอะ...

หรือว่าเขาจะคิดเป็นอย่างอื่น...

เขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับผมก็ได้นะ ผมอาจคิดไปฝ่ายเดียว...

ทุกอย่างผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งผมมานั่งกินข้าวกับเพื่อนๆที่โรงอาหารใกล้ๆตึกเรียนรวม กินเสร็จก็นั่งคุยกับเพื่อนสักพักแล้วก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังผม

“หนึ่งๆ ว่างเปล่า ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

ผมหันไปทางเจ้าของเสียง หมงนี่เอง มายืนหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่นะนี่ ไอ้แอ๋วเพื่อนผมมองตาเป็นมันเลยพร้อมทำตาเขียวๆใส่ผมเล็กน้อย (เฮ้ย ฮาบ่ะได้สนคนนี่ ฮาสนอีกคนนึง) ผมเดินตามหมงไปที่โต๊ะตรงมุมโรงอาหาร ตอนนี้มันไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย

“หนึ่งคิดไงกับโอ๊ต?”

“หือ คิดไงยังไงเหรอ”

“โอ๊ตเค้าบอกชอบนาย นายจะว่าไง”

เหอ..... เหงื่อผมตกเลยสิ หว่า หมงรู้เรื่องผมกับโอ๊ตด้วยเหรอเนี่ย

“อ่า....  เหรอ ก็ ไม่เห็นเขาพูดอะไรนิ”

“ก็นายทำเฉยกับมัน มันเลยไม่แน่ใจ”

‘ฮาบ่ะได้เฉยหนา แต่เพื่อนคิงมันเฉย ฮาจะยะจะไดฮู้’

ผมได้แต่คิดในใจ ไม่รู้จะตอบมันไงดี อายก็อาย มีคนมาถามตรงๆแบบนี้ ถ้าเป็นเจ้าตัวมาเองนี่จะไม่ว่าสักคำ

“ถ้านายไม่กล้าพูด เราขอแค่พยักหน้า ไม่ก็ส่ายหน้า พอละ”

ถามอย่างนี้จะให้ผมทำไงล่ะครับ ผมก็พยักหน้าช้าๆทีนึงเท่านั้น พร้อมความรู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนผ่าวไปหมด

“โอเค เราเข้าใจละ โอ๊ต นายได้รับคำตอบแล้วนะ”

เหออออออออ โอ๊ตเหรอ อยู่ไหนอ่ะ โห...... โอ๊ตมายืนอยู่หลังผมตั้งแต่ตอนไหนเนี่ยยยยยยยยยย  กรรมเลย โครตอาย ผมหันไปมองโอ๊ตทีนึง แล้วก็หันกลับอย่างเร็ว แล้วก็ไม่หันไปอีก

“เอาล่ะ หมดหน้าที่เรา โอ๊ต นายต้องช่วยเราตามสัญญาด้วยล่ะ”

ว่าแล้วหมงก็เดินออกไป โอ๊ตเองก็มายืนข้างๆผม ผมค่อยๆหันไปมองหน้าโอ๊ตครั้งนึง ตอนแรกเขาทำหน้านิ่งๆตามสไตย์ แต่พอผมมองหน้าเขา เขาก็ยิ้มเล็กๆอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้มันยิ้มได้แค่นี้รึไงนะ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของผมกับโอ๊ต ส่วนโอ๊ตไปสัญญาว่าจะช่วยอะไรหมงนั้น ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีหมงมันชอบไอ้แอ๋ว เหอ..... ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่มันก็จริงๆ ผมเลยไปบอกไอ้แอ๋วว่า “เออ หมงชอบนะ” เท่านั้นล่ะครับ มันเปลี่ยนไปเลย จากเดิมเป็นพวกแก่นแก้วปากดีกลายไปเป็นแม่ญ่าแม่ญิงไปเสียชิบ จะพูดจะอะไรก็เรียบร้อย มันคบกันจนหมงซิ่วไปเรียนหมอที่กรุงเทพฯ มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ผมเหรอครับ ก็เพราะไอ้แอ๋วนี่ล่ะ ทำให้เพื่อนในกลุ่มรู้หมดว่าผมกับโอ๊ตเป็นแฟนกัน แต่ก็ดีนะครับเป็นกลุ่มเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกันเลยมีแซวๆกันบ้างเล็กน้อย

“ไอ้หนึ่ง เวลาคิงจะยะนี่ ยะกันจะได” เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งถาม (ไอ้หนึ่ง เวลามึงทำนี่ ทำกันยังไง)

“ยะหยังก่ะ” (ทำอะไรเหรอ)

“ยะ ยะ....” แล้วมันก็ทำมือแบบว่า นะ

“บ่ะเคย”

“จุ๊ละๆ” (โกหกละ)

“ไค่ฮู้ก่ะ” (อยากรู้เหรอ)

“เออ”

“คิงก่อลองไปยะกะอีดาวคณะสังคมก่ะ จะได้ฮู้ว่าจะยะจะได”

“ป้อคิงเต๊อะ!!” อีดาวนี่เธอเป็นสาวประเภท 2 อยู่คณะข้างๆหน้าตาโหดใช่เล่น

ผมกับโอ๊ตเหรอครับ โอ๊ตขอแม่ซื้อรถจักรยานยนต์จนได้ มันก็เลยเปลี่ยนกลับกัน โอ๊ตจะไปรับผมบ้าง มากินข้าวกับผมบ้าง ถ้าหากเรียนเวลาเดียวกัน แต่ถ้าเรียนไม่ตรงกันผมก็ไปเองครับ ไม่เป็นภาระกับแฟน หึหึ

“หนึ่งครับ” วันหนึ่งตอนกินข้าวด้วยกัน โอ๊ตก็ถามขึ้น

“อะไรเหรอ”

“คุณมาเป็นเครสให้ผมหน่อยสิ”

“เครสอะไร”

“ทำฟันน่ะครับ”

“เหอออออ  ม่ายอาว”

“ทำไมครับ ไม่ช่วยผมหน่อยเหรอ”

“ม่ายยยยยย ช่วยหาคนให้แทนดีกว่า”

“ทำไมล่ะครับ ผมทำไม่เจ็บหรอก”

โอ๊ตพูดแล้วก็ยิ้ม (ยิ้มเหมือนเดิม ไอ้ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก)

“นั่นล่ะ ไม่เอาๆ กลัวหมอฟัน”

“กลัวแล้วทำไมถึงมีแฟนเป็นหมอฟันล่ะครับ”

“......”

เอ๋อเลยสิผม ไม่อยากบอกเลยว่าการไปหาหมอฟัน (เพื่อทำฟัน) มันเป็นเรื่องสยองที่สุดในชีวิตผม

“ถ้าไม่ไปผมต้องหาคนมาแทนละ”

“อืมๆ  ตามใจสิ”

“ไม่กลัวอะไรบ้างเลยเหรอครับ”

“กลัวอะไรเหรอ?”

“ไม่กลัวแฟนคุณจะนอกใจบ้างเหรอครับ”

เอาล่ะสิแฟนผม พูดมาได้ กลัวอ่าเสะ แต่ทำไงได้อ่า เวลาเริ่มไม่มีให้กันแล้ว

“อ่าๆๆ  อย่าคิดมากนะครับ เดี๋ยวจะแก่เร็วนะ” โอ๊ตพูดต่ออีก

แล้วจะพูดให้คิดทำไมล่ะเนี่ย ยิ่งคิดมากอยู่ แต่มันก็แปลกนะครับแม้ว่าจะเริ่มมีเวลาให้กันน้อยลงแต่ผมก็ไม่เคยน้อยใจนะว่าโอ๊ตมีเวลาให้ผมน้อย ยิ่งเรียนชั้นปีสูงขึ้น เวลาที่เราตรงกันก็น้อยลงผมเองก็เข้าใจครับการที่จะรับภาระดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของประชาชน มันก็ต้องเรียนหนักอย่างนี้นั่นล่ะ ผมเองก็มีทั้งเรียน ทั้งกิจกรรม แต่ผมก็ยังรู้สึกอยู่ว่าโอ๊ตกับผมเป็นแฟนกันโอ๊ตเป็นคนน่ารักครับ เป็นสุภาพบุรุษเสมอ ไม่มีการที่จะแสดงความเป็นเจ้าของกันมากจนเกินไป ทำตัวเหมาะสมมาก ผมเองก็สบายใจที่คบกับเขานะ ผมไม่เคยเจอคนที่เหมือนกับโอ๊ตมาก่อน ให้ตายสิผมรักผู้ชายคนนี้จังจนกระทั่งบางอย่างเริ่มเปลี่ยนไปจากคำพูดแปลกๆของเขา

“หนึ่งครับ หลานรหัสผมงอนที่ผมไม่พาไปเลี้ยวข้าวสักที ผมทำไงดี”

“อ้าว แล้วไม่พาไปล่ะ"

"ที่จริงก็เลี้ยงหมดแล้วนะครับ แต่น้องเค้าไม่ว่างวันนั้นพอดี”

“แล้วไม่ได้บอกน้องเค้าก่อนเหรอ”

“บอกแล้วครับ แต่เค้าไม่ว่างกระทันหัน”

“อ่ะๆ ก็บอกขอโทษแล้วพาไปเลี้ยงสิ”

“เค้าไม่ยอมไปน่ะครับ ทำไงดี”

“อะไรนี่ หลานรหัสนะ ไม่อยากไปก็ปล่อยมันเลยดิ”

“เอาน่า น้องเค้าก็น้องโรงเรียนผมด้วยน่ะครับ ช่วยผมคิดหน่อย”

ผมเลยจำต้องพาเค้าไปหาซื้อของขวัญชิ้นเล็กๆให้น้องเขา พร้อมความงงๆของผมว่า ทำไมต้องยอมน้องคนนั้นขนาดนี้ นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องอื่นๆตามมาอีก ซึ่งมันไม่เหมือนที่พี่กับน้องทำกันเลย ผมเองได้แต่ดูเฉยๆ และไม่รู้ได้เลยว่าเขาอาจจะไปทำอะไรกันมาบ้าง ผมไม่ได้ติดตามโอ๊ตอยู่ตลอดนิครับ ด้วยความเชื่อใจที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว มันคงไม่เป็นไปตามที่ผมคิด....

ผมคงเล่าได้แค่นี้ มันเป็นไปตามเท่าที่ผมจะรื้อฟื้นมันได้ เรื่องราวมากมายที่ผมผ่าน มันรวมเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงรักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เขามีความพอดีอยู่ในตัว ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน.... บางทีผมอาจจะทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้กับสิ่งที่ผมเล่านี่ก็เป็นไปได้
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-12-2008 13:49:42
คนแรกครับผม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 11-12-2008 15:13:55
ท่าทางจะปมเยอะแฮะ .. อิอิอิ

สนุกมากครับ ครบทุกรส (โดยเฉพาะความหลัง อย่าเอามากระแทกใจมากนะฮับเด๋วจะเสียน้ำตาเป็นปี๊บ ๆ ช่วงนี้ยิ่งอ่านนิยายไป นอยด์ไปอยู่ด้วย แหม..ทำตัวเป็นนางเอกไปได้)

ขอบคุณทั้งคนแต่ง และคนโพสต์ฮะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 11-12-2008 15:23:57
เรื่อง เริ่มจา เคลียด แฮะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-12-2008 15:38:07
ช่ายยยยย โอ๊ตอ่ะ ดีมาตลอด จนมาดีแตกนี่ไง  :fire:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-12-2008 16:37:01
แฮปปี้จังไม่กี่ตอนมีตอนพิเศษมาให้อ่านชอบชอบๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 11-12-2008 22:49:28
อืมมม...มันเป็นเช่นนี้...แต่เหมือนตอนพิเศษยังไม่จบเนอะ :m21:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-12-2008 22:53:35
เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีทั้งสุขทั้งทุกข์เลย  แต่ทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 11 ธ.ค. :ตอนที่ 12 และเพิ่มตอนพิเศษครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 12-12-2008 09:56:49
สวัสดีครับ

ไม่ชักช้ามาต่อตอนที่ 13 ไอ้ตอนพิเศษนี่มันเป็นที่น่าสงสัยไงครับว่าแค่แฟนเก่านี่ ทำไมมันคิดหนักจัง ผมก็สงสัยเจอแฟนเก่าทีเดียว มันจะเป็นลมล้มตึงเลยได้ไงฟะ  :angry2: ถ้าอ่านเวอร์ชั่นเก่าจะไม่มีตรงนี้น่ะครับ ส่วนที่ว่าเหมือนยังไม่จบนี่ มันจะต่อในตอนๆหนึ่งของเนื้อเรื่องหลักครับ หึหึ ต้องคอยติดตามอ่านนะครับ น่าสงสารหนึ่ง :sad4: มันก็ไม่ใช่คนที่โชคดีอะไรเรื่องพวกนี้นักหรอกนะคับ ผมว่า...

แต่ยังดีกว่าผมตรงมันมีแฟนนี่ล่ะ  :o12: แง๊~-------------------------  :L3:

ขอบคุณครับ :pig4:
ปล.ผมไม่แน่ใจว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะได้โพสรึเปล่า ยังไงฝากมิตรรักแฟนนิยายช่วยดันด้วยนะครับ แล้วจะหาเวลามาโพสให้ได้ครับ สัญญา.... :3123:
ปล.2 ตอนนี้ คนเป็นเบาหวาน ห้ามอ่านนะครับ  :impress2:



ตอนที่ 13

เช้าวันหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับผม ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติให้มากที่สุด แต่ใจก็ยังกลัวๆว่าจะต้องเจอกับโอ๊ต อีกครั้งหรือเปล่า ถ้าถึงตอนนั้นแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ผมพยายามที่จะไม่คิดเกินเลยไปกว่านั้น สงสัยเพียงว่าจะกลัวโอ๊ตทำไมนะเค้าไม่ได้มาทำอะไรเราสักหน่อย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ผมทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยและลงมาจากห้อง วันนี้โปร บอกว่าจะมารอผมที่หอ แต่ผมมองจนทั่งแล้วยังไม่เห็นโปรแม้แต่เงา  ผมยืนเราโปรอยู่ที่ข้างถนนหน้าหอ รออยู่หน้ารถยนต์สีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าหอผม ผมรอโปรอยู่ได้สิบนาที ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเสียแล้ว เพราะทุกทีเป็นเวลานี้เป็นเวลาที่ผมจะไปเจอโปรที่ ป้ายรถเมล์ประจำ ทันใดนั้นรถที่จอดอยู่ข้างผมก็สตาร์ทเครื่องขึ้น ผมจึงหลบเข้ามาริมถนนมากขึ้น เพื่อที่จะให้รถคันนั้นได้ขับผ่านไป

แต่รถคันนั้นกลับบีบแตรพร้อมเปิดไฟใส่ผม นี่ผมยังหลบรถไม่พออีกเหรอครับนี่? ผมหลบเข้าข้างทางเข้าไปอีกแต่รถคันนั้นก็ยังทำเหมือนเดิม ตอนนี้ผมรู้สึกอารมณ์เสียมาก คิดว่าแค่นี้รถก็น่าจะไปได้แล้ว ในที่สุดผมเลยเลยผ่าหน้ารถแล้วเดินอ้อมไปหลังรถให้รู้แล้วรู้รอด ตอนที่ผมเดินผ่านด้านขนขับนั้น กระจกรถได้ลดลง

“นี่เพ่ คนนั่นเค้าต้องนั่งอีกด้านไม่ใช่ด้านนี้ หรือว่าเพ่จะขับเองคับ?”

ที่ไหนได้เจ้าตี๋โปรนี่เอง ผมแปลกใจมากที่โปรอยู่ในรถ และเป็นคนขับเสียด้วย

“รถคันนี้ไม่ง้อลูกค้านะ ไม่ขึ้นมาผมจะไปละนะ”

ผมจึงต้องเดินไปขึ้นรถที่ฝั่งคนนั่งโดยทันที  พอขึ้นรถผมก็เห็นได้ว่ารถคันนี้มีการแต่งมาอย่างดี มีจอ LCD ติดที่หน้าคนขับและด้านคนนั่งทั้งหน้า – หลัง มีเครื่องเล่น DVD และอีกสารพัดที่ผมบอกไม่ถูก

“ว่างๆเอาหนังโป๊มาเปิดได้นะ”

“เฮ้ย บ้า ใครจะทำ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” เจ้าตี๋โปรหัวเราะ

จากนั้นรถก็เคลื่อนที่ออกจากหน้าหอผม มันออกไปหน้าปากซอยแล้วขับไปตามทางเดียวกับรถเมล์เจ้าประจำที่ผมกับ      โปรขึ้น

“แล้วทำไมวันนี้ โปรขับรถมาได้ล่ะ”

“ก็บอกป๊าว่า ‘ป๊าขอรถ’ แค่นั้นป๊าก็โยนกุญแจมาให้”

“เฮ้ย ทำไมง่ายจัง”

“ที่ง่ายเพราะบอกม๊าไปว่า ‘เดี๋ยวนี้กว่าจะรอรถเมล์กลับมาบ้าน มาติวกับพี่พจน์ แล้วก็ไปเรียนพิเศษอีก เสียเวลาตายเลย’ ม๊าเลยบอกป๊าว่าให้รถผมใช่ ป๊าเลยให้มานี่ล่ะ”

“แล้ว มีใบขับขี่แล้วเหรอ”

“ยังไม่มี” โปรตอบแบบไม่สะทกสะท้านอะไร

“อ้าว แล้วถ้าถูกตรวจล่ะ”

“ก็ยัดสิคับ”

“เวร!!” ผมสบถออกมา

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ล้อเล่น ผมมีแล้วใบขับขี่ ที่บ้านปลูกไว้หลายต้น จะเอากี่ใบดีล่ะคับ”

“แล้วตกลงมี?”

“หึหึหึ จะเหลือเหรอ ผมยังสิบเจ็ดเองยังเล็กอยู่”

“อ้าวแบบนี้ก็”

“ก็ไม่ต้องห่วงอะไรคับ อย่างอื่นโตหมดแล้ว”

“ไอ้...!!” ผมเริ่มพูดเสียงแข็ง

“ก็จะระวังๆคับ ไม่ต้องห่วง” (น้องๆทั้งหลายอย่าทำตามโปรนะครับ ไม่เท่ย์หรอกครับอัตรายต่อชิวิตและทรัพย์สินของคุณพ่อคุณแม่ครับ ที่สำคัญผิดกฎหมายครับ)

ผมมองหน้าโปรสักพัก เหมือนโปรจะอมยิ้มไปตลอด ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรแน่แต่ผมกังวลเรื่องจะโดนตำรวจจับมากกว่าครับ

“แต่ว่าตอนเย็นไม่ต้องห่วง ผมจะยังบริการพี่อยู่”

“อ้าวแล้วไม่ติวกับหมอพจน์เหรอ”

“ติวสิ แต่จะให้มาติวที่โรงเรียน พอดีเพื่อนมันก็อยากติวกับพี่พจน์เหมือนกัน”

โปรเองก็ขับรถไม่เร็วมาก สงสัยกลัวผมจะว่าเอามั้งครับ โปรขับผ่านหน้าโรงเรียนของโปรเองไปแล้วตอนนี้ก็ใกล้ที่ทำงานผมทุกที

“เย็นนี้ก็มารอผมที่ป้ายนะ จะมารับ”

“เอางั้นเลยเหรอ นี่พี่ต้องช่วยค่าน้ำมันเท่าไหร่”

“ไม่เอาอะไรมาก ขอเป็นตัวแทนละกัน ได้ป่ะ”

พูดเสร็จโปรก็หันมาทางผม พร้อมยั๊กคิ้วให้

“พอเลย มองไปข้างหน้าพอละ เดี๋ยวไปชนรถคันอื่น”

“ค๊าบบบบบบบ”

ในที่สุดก็ถึงหน้าที่ทำงานผม ผมก็ได้ลงจากรถโดยสวัสดิภาพ ก่อนลงก็ไม่วายจะบอกให้โปรขับระวังๆเพราะตอนเช้ารถมักจะเยอะยิ่งตอนกลับรถนี่ ผมว่าน่ายิ่งกลัว ผมมองรถของโปรจนมันไปสุดสายตาจึงค่อยเดินขึ้นที่ทำงาน
บนที่ทำงานก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่แปลกหน่อยคือวันนี้ผมมาค่อนข้างเช้ากว่าใคร คงเพราะมารถของโปรนี่เอง ไม่ต้องแวะจอดรับคนตามป้ายเหมือนขึ้นรถเมล์ ผมเริ่มเคลียร์งานที่ค้างจากเมื่อวานได้สักครู่โจก็เดินขึ้นมา

“ว่างาย วันนี้มาเร็วนะนี่”

“อืม” ผมตอบสั้นๆ แต่หน้าผมก็ยังก้มดูเอกสารบนโต๊ะอยู่

“เฮ้ย นอกใจเด็กมันแล้วเหรอ?”

“นอกใจอะไร” ผมหันมาถามโจด้วยสีหน้างงๆ

“ตอนเลี้ยวรถเข้าตึกเห็นอยู่ ว่ามึงน่ะมีคนมาส่ง แหม่ๆๆ รถราคาแพงซะด้วยนะเนี่ย  เสี่ยไหนมาส่งล่ะ”

“ก็เสี่ยโปรอ่าสิถามได้”

“ฮะ อะไรนะ  ใครเสี่ยโปร”

“ก็เจ้าโปรนั่นแหละ”

“เฮ้ย ไอ้ตี๋นั่นน่ะนะ มันมีรถขับมาเองด้วยเหรอ”

“ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนี่แหละ”

“แสดงว่าบ้านมันคงมีกะตังค์น่าดู”

ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ดูหน้าโจแล้วก็พอจะเดาออกได้ว่ามันจะพูดอะไรต่อไป คงว่าผมได้แฟนรวยล่ะสิท่า

“อิจฉาโว้ย คนรวย ทำอะไรก็ดีไปหมด”

“ถ้าอยากรวยก็รีบกลับไปนั่งโต๊ะแล้วทำงานเสียให้เสร็จสิคะ คุณโจขรา  จะมายืนอิจฉาคนอื่นแล้วมันจะรวยรึคระคุณโจ”

เสียงพี่จิ๊บดังมาแต่ไกล ไอ้โจก็รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะมันทันที พี่จิ๊บเดินมาพร้อมถือแฟ้มใหญ่ๆ สองสามอันมาวางไว้ที่โต๊ะของโจ

“แหม่จริงๆเลยนะพวกแก”

“พี่จิ๊บแล้วนี่อะไรเหรอครับ” โจชี้ไปที่แฟ้ม

“ก็งานแกอ่ะสิ!! นี่พี่แก้ให้ไม่ไหวละ ไปดูเอาเองว่าแก้อะไรบ้าง”

แล้วโจก็เปิดดูแฟ้ม แรกๆก็เปิดดูทีละแผ่น แต่ต่อมาก็ดูแผ่นถัดไปอย่างรวดเร็ว

“พี่จิ๊บอย่าบอกนะว่า..”

“ช่ายแล้ว แกทำผิด หมดนี่เลย ดีนะที่ชั้นเอะใจตรวจก่อนไม่งั้น...แกหัวขาดแน่!!”

ว่าเสร็จพี่จิ๊บก็เดินเข้าห้องทำงานทันที

“เอ้อ คุณโจคะ ขอวันนี้...นะคะ” เสียงพี่จิ๊บยังตามมาอีกครั้ง นั่นทำให้ไอ้โจแทบเป็นบ้า มันเอามือกุมหัวแล้วสบถเบาๆ ผมเห็นแล้วก็ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือสงสารดีน่ะครับ แต่วันนั้นทั้งวันดูเหมือนโจจะขยันเป็นพิเศษจนต้องฝากผมซื้อข้าวขึ้นมาให้ รวมถึงโทรไปเลื่อนนัดกับน้องต้อมที่มันนัดกินข้าวด้วยกันเย็นนี้ด้วย(น้องต้อมโวยวายนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไร) ผมเองก็ช่วยงานโจบ้างนะครับก็ช่วยเท่าที่ทำได้แต่งานของโจกับผมก็ชั่งจะต่างกันเหลือเกิน ( โจเป็นการเงินน่ะครับ มันจบบัญชีมา แต่ผมเป็นพวกดูแลการตลาดเลยจะไม่ค่อยรู้เรื่องงานของมันเท่าไหร่นัก)

จนถึงตอนเย็นใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ผมก็ยังเห็นโจแก้งานอยู่

“นี่ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”

“ใกล้ละๆ กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

“อืม งั้นกลับก่อนนะ กลัวโปรจะรอนาน”

“อ่าจ้า รีบไปนะเดี๋ยวเสี่ยน้อยๆจะหนีไปหาคนอื่นก่อน” ขนาดแก้งานจนหัวหนุมมันก็ยังไม่วายมากัดผมอีกจนได้

“เอ้อ โจเมื่อกี้น้องต้อมฝากมาบอกว่า ถ้ามาไม่ทันห้าโมงครึ่ง ไม่ต้องเข้าห้องนะ...”

“อะ ไอ้.... แมว...น้อย...บ้า!!!”

ไม่อยากจะบอกว่าผมโกหกโจน่ะครับ ก็ดันมากัดผมเองนิ ที่จริงผมเลื่อนนัดให้แล้วครับ ผมเดินลงมาที่ป้ายรถเมล์หน้าที่ทำงานผม สงสัยว่าโปรจะยังติวไม่เสร็จ เพราะนี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว ผมยังไม่เห็นรถโปรแม้แต่เงา

ผมรอจนเกือบจะครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มา ดูท่าโปรคงเบี้ยวผมแล้วล่ะครับ ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากะว่าจะโทรไปหาโปรแต่แล้วผมก็เปลี่ยนใจเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม เมื่อเห็นรถเมล์สายประจำผมเข้ามาจอดที่ป้าย ผมขึ้นไปบนรถผมนั่งที่ประจำริมหน้าต่างเหมือนเดิม เหม่อมองไปที่ข้างทางแต่ผมก็ใจหายเมื่อคิดว่าถ้าป้ายหน้าโอ๊ตขึ้นมาบนรถอีกล่ะ แล้วผมจะทำอย่างไรดี?

ผมกำลังคิดมากเรื่องโอ๊ตอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมรีบเอามันออกมาจากประเป๋ากางเกงกดรับอย่างรวดเร็วเพราะเกรงใจคนอื่นในรถครับ

“สวัสดีครับ”

“เพ่ ลงจากรถมาเดี๋ยวนี้เลยนะ หรือจะให้ผมขับตามไปถึงหอ”

“อ้าว ขับตามรถพี่มาเหรอ”

“ลงมาเด๋วนี้เลยยยยยยยย”

พอถึงป้ายต่อไปผมก็ลงมาจากรถ เจ้าตี๋โปรขับตามหลังรถเมล์คันที่ผมนั่งมาจริงๆด้วย ผมเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง ผมมองหน้าโปรนิดหนึ่งผมเห็นเหมือนโปรทำหน้าไม่พอใจ ผมก็เลยทำหน้างอนๆบ้าง ดูสิจะว่ายังไงเจ้าตัวดี ให้ผมรออยู่ได้เป็นนาน เราสองคนไม่ได้คุยกันเลยครับ จนรถจอดไฟแดง โปรก็หันหน้ามามองผม ผมก็หันไปมองหน้าโปร แต่ผมสังเกตเห็นว่าหน้าโปรเปลี่ยนจากหน้าโกรธๆแนอมยิ้มแทนก่อนที่จะหัวเราะออกมา

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่ทำหน้าแบบนี้ตลกนะ”

“ตลกยังไง”

“ก็ทำแก้มป่องๆไง”

“ไม่ได้ป่องซะหน่อย”

“เฮ่อ ๆ ๆ พอดีผมไปส่งพี่พจน์ เลยมาช้าหน่อย รอนานสิท่าเลยไม่อยู่รอผมเลย”

“ก็ไม่เห็นจะโทรบอกนิว่าจะไปส่งหมอพจน์”

“ก็นึกว่าพี่จะโทรมาหาผมนิ”

“อ้าว เราคนผิดนัดเองนิไม่โทรเป็นคนมาล่ะ”

“อ่าค๊าบบบบบ  ผมขอโทษค๊าบบบบ แล้วทีหลังจะบอกก่อนนะ”

“อืม ดีมาก ถ้ามีผิดนัดแล้วไม่โทรบอกก่อนอีก จะไม่คอยนะ”

“อ๊า ใจร้ายยยยย นี่ คิดอยู่ว่ายังไม่ลงจากรถ จะชนให้จอดอยู่แล้วนะนี่”

“เฮ้ยบ้าดิ”

“ก็จะทำ”

“เออ บ้าจริงๆ”

ผมกับโปรก็คุยกันในเรื่องที่ติวบ้าง เรื่องเพื่อนเขาบ้าง ผมได้ถามโปรเรื่องของอาร์ทดูเหมือนโปรจะไม่พอใจ แต่ก็ตอบมาว่า อาร์ทกับโปรก็ยังคุยเป็นปกติ

“พี่ ผมรู้เรื่องระหว่างพี่กับอาร์ทแล้วนะ”

“รู้ว่า...??”

“ก็รู้แล้ว”

จากนั้นผมกับโปรก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมสังเกตได้ว่าโปรขับรถออกไปอีกทางที่ไม่ใช่ทางไปซอยหอผม

“อ้าวนี่จะไปไหนเหรอ”

“ไปเรียนพิเศษ”

“อ้าว แล้วไม่ไปส่งพี่ที่หอเหรอ”

“ส่งสิ”

“แล้วทำไมมาทางนี้”

“ก็จะไปส่งหลังจากผมเรียนเสร็จแล้วไง”

“เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่าจะให้รอจนเรียนเสร็จ”

โปรไม่พูดอะไรแต่หันหน้ามามองผมแล้วก็ยักคิ๊วกวนๆใส่ผม ในที่สุดรถก็ถึงแถวๆสยามสแคว ผมเพิ่งรู้ว่าโปร เรียนพิเศษแถวนี้เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยตามโปรไปถึงที่เรียนพิเศษเลยสักครั้งเดียว ในที่สุดรถก็จอดข้างหน้าร้านขายขนมร้านหนึ่ง

“เดี๋ยวพี่ไปนั่งรอในร้านนี้นะ มีเน็ตให้เล่น มีหนมให้กิน”

“อ้าวแล้วนี่จะให้รอนานขนาดไหนล่ะ”

“พี่อยากรอผมนานแค่ไหนก็ตามจายอ่ะ แต่ถ้าผมมาแล้วไม่เจอพี่ในร้าน มีเรื่องกันแน่ๆ”

“จะมีเรื่องอะไร? เจ้าโปร”

“ก็เรื่องบนเตียงงาย”

โปรพูดเสร็จก็เปิดประตูรถออกไป ผมก็ออกจากรถตาม โปรเดินนำผมไปในร้านที่โปรว่า ข้างในนั้นมีเหมือนอย่างที่โปรว่ามีอินเตอร์เน็ตให้เล่น มีขนมขาย ตอนนั้นคนไม่เยอะมากนัก โปรพาผมให้มานั่งที่หน้าคอมเครื่องหนึ่งแล้วบอกให้ผมรอแป๊บหนึ่ง ไม่นานเท่าไหร่โปรก็เดินมาพร้อมขนมกองย่อมๆ

“นี่  เอาให้กินนะ ถ้าผมมาแล้วพี่ยังกินไม่หมด ผมจะป้อนใส่ปากพี่เอง”

“เฮ้ย ใครจะไปกินหมดเยอะขนาดนี้”

“ไม่รุ ผมไปละนะพี่ อีกสองชั่วโมงเจอกัน”

อ้าว นี่ใจคอจะให้ผมรอถึงสองชั่วโมงจริงๆหรือนี่ โปรพูดเสร็จก็รีบเดินออกไปนอกร้านทันที ผมเลยจำเป็นต้องนั่งรอโปรเพราะโดนมัดมือชกเสียแล้วนิครับ ผมก็เริ่มเปิดถุงขนมที่โปรซื้อมาหยิบมากินบ้าง แล้วก็เล่นอินเตอร์เน็ตไปผมได้คุยกับเพื่อนๆเก่าผมบ้างในอินเตอร์เน็ต ต่างก็ถามสารทุกข์สุขดิบซึ่งกันละกัน ผมเลยได้ปรึกษาเพื่อนๆในเรื่องของโอ๊ตที่เขาจะเหมือนขอกลับมาคบกับผมอีกครั้ง ใจจริงของผมแล้วก็ใช่ว่าไม่อยากกลับไปคบกับโอ๊ตนะครับ จริงๆแล้วโอ๊ตเค้าก็เป็นคนดีมากคนหนึ่งทีเดียว เพียงแต่.. ผมอาจไม่ใช่คนที่ดีที่สุดของเขาเท่านั้นเอง

เพื่อนๆผมสรุปความว่าให้ผมลองนึกถึงอนาคตว่าถ้ากลับไปคบกับโอ๊ตแล้วนี่เหตุการณ์ที่เคยเกิดมาก่อนหน้าจะเกิดซ้ำอีกหรือไม่ แล้วใจผมเองยอมรับได้ไหมถ้าจะไม่นึกถึงตอนที่เขาทิ้งผมไป

ผมเล่าเรื่องของโปรให้ฟังด้วยนะครับ เพื่อนผมหลายคนก็เตือนผมด้วยความหวังดีว่า โปรนั้นยังเด็กมีโอกาสสูงที่เขาจะไปหาคนอื่นได้ ถ้าผมยิ่งถลำใจให้โปรไปลึกเท่าใด ผมก็ยิ่งเจ็บเท่านั้นถ้าหากว่าเรื่องที่เพื่อนเตือนผมมานั้นเป็นเรื่องจริง

เมื่อผมลองมานั่งนึกๆดูแล้ว ผมเองก็ยังรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่คิดถึงตอนที่โอ๊ตถามคำถามผม ก่อนที่โอ๊ตจากผมไป แม้ว่าตอนนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่ผมก็ยังจำได้ไม่เคยลืม เรื่องของโปร..ด้วยความเป็นเด็กของเขา ทำให้ผมกลัวด้วยเหมือนกันว่า ถ้ามอบใจให้โปรหมดแล้ว จะมีสิ่งใดมารับประกันได้ว่าโปรจะไม่ทิ้งผมไปไหน ที่จริงนี่ก็ครบสัญญาที่ผมกับโปรตกลงกันแล้ว แต่ผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะเรียกโปรว่า ‘แฟน’ ได้เต็มปากหรือยัง

“อ้าวเพ่ กินหนมเกือบหมดเลย ใจคอจะไม่เหลือให้เลยเหรอไง”

ผมหันไปทางต้นเสียง เจ้าตี๋โปรเดินมานั่งข้างผมตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้สิครับนี่

“แล้วนี่คุยกับใครอ่ะ กิ๊กไหน”

“กิ๊กบ้าอะไร เพื่อนทั้งนั้น”

“อ่ะขอให้เจง”

เจ้าตี๋โปรพูดไปก็กินขนมที่ผมกินเหลืออยู่ไป ดูท่าจะหิวมากจริงๆ โปรก้มหน้าก้มตากินไม่สนอะไรเลยในที่สุดขนมห่อสุดท้ายก็หมด

“โอ้ยยยยยยย”

“เป็นอะไร”

“หิววววววววววววววว”

“นี่กินขนมหมดไปเยอะนะนี่ ยังหิวอีกเหรอ”

“ก็หิวอ่ะ เพ่ๆ ป่ะกินข้าวๆ”

“แล้วจะกินที่ไหน”

“ผมรู้ที่อร่อยๆละกัน”

ว่าเสร็จเราทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านไปโปรพาผมเดินไปแถวสยามพารากอน ลงไปชั้น L ที่นั่นมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แน่นอนว่าต้องราคาแพงแน่ๆ ผมพยายามคำนวนเงินในกระเป๋าว่ามีสักเท่าไหร่ เพราะนี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วสิ
    
“เอาร้านนั้นแล้วกัน”

โปรชี้ไปทางร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง คนค่อนข้างเยอะทีเดียว ผมกะจะบอกโปรว่าช่วงนี้ผมต้องประหยัดหน่อย แต่ท่าไม่ทันเสียแล้ว โปรเดินไปขอบัตรคิวกับทางร้านแล้ว

โปรเดินกลับมาหาผมแล้วยื่นบัตรคิวให้ดู

“อีกที่เดียว เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว”

“โปร...จะกินร้านนี้เหรอ”

“ช่าย”

“คือพี่...  ตอนนี้มันสิ้นเดือนแล้วนะ”

“อ่อ นึกว่าเรื่องอะไร ผมจ่ายให้ก่อนก็ดะ  แต่ต้องเอามาคืนผมนะ”

“อ่ะ  ได้เลย เดี๋ยวเงินพี่ออกจะเอามาคืนให้”

“ไม่เอาเงินเพ่อ่ะ”

“อ้าวแล้วจะเอาอะไร”

“ก็เอา....”

“ไอ้บ้า!! รู้ว่าคิดอะไร” แล้วเจ้าตี๋โปรก็ทำตากลอกไปมาเหมือนเคย

“อืม  เงินพี่ออกจะคืนให้”

“ไม่ต้องเลยๆ แค่พี่คนเดียว ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้”

“ก็เรายังไม่มีเงินเดือนนิ ยังขอแม่อยู่เลยนะ”

“เพ่ ผมน่ะ เรื่องนี้อย่าห่วง ต่อให้พี่ตกงานผมก็เลี้ยงได้”

“แต่มันไม่ดีนะ”

“ถ้ารู้สึกไม่ดี พี่ค่อยคืนให้ผม แต่ผมไม่รับเป็นเงินพี่นะ”

โปรพูดจบ พนักงานหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นก็เรียกชื่อโปรพอดี ผมกับโปรจึงเดินเข้าไปในร้านที่เค้าจัดไว้ให้ ผมสั่งอาหารมาไม่มากนัก อาจเป็นเพราะผมกินขนมที่โปรซื้อมาให้ตอนที่ผมรอโปรเรียนอยู่นั่นไปเยอะเลยไม่ค่อยหิว แต่โปรสิสั่งซะเยอะเลย จนผมกลัวว่าจะกินไม่หมด แต่ท้ายที่สุดมันก็หมดลงไปได้ ผมพยายามชวนคุยกับโปรตอนกิน แต่โปรก็ตอบเพียงแค่ ‘อือ’ ‘อืม’ ‘หึ’ แค่นั้นเอง โปรนี่มันสนแต่กินจริงๆ

แล้วเราก็ทานเสร็จ โปรใช้บัตรเดบิตของเขาจ่าย ผมถามว่าจ่ายไปเท่าไหร่ โปรก็ไม่ยอมบอก แถวขยำบิลทิ้งถังขยะอีกต่างหาก สงสัยกลัวผมเห็น

“พี่ไม่เห็นจะกินบ้างเลยนะ”

“ก็กินขนมเยอะแล้ว ไม่ค่อยหิว  อีกอย่าง มาแย่งที่พี่สั่งกินด้วย

แล้วจะให้ไปแย่งทันได้ไง กินเร็วขนาดนั้น”

“โอ้ยยยยยย  อิ่ม อิ่ม อิ่ม นั่งพักก่อนนะ”

เราทั้งคู่เดินมานั่งพักตรงน้ำพุด้านนอกพารากอน ผมมองไปที่แสงไฟที่เขาทำประดับไว้ มันเหมือนแสงดาวที่กระพริบเป็นระยะๆ เสียงน้ำพุก็ดังเบาๆ ผู้คนเริ่มบางตาลงเพราะใกล้ถึงเวลาปิดห้างแล้ว ผมมองไปบนท้องฟ้า นี่ผมมาอยู่กรุงเทพฯนานขนาดไหนแล้วนะ ที่บ้านผมจะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนๆผมตอนที่เรียนด้วยกัน คุณพ่อ คุณแม่ และใครรวมถึงอะไรอีกหลายอย่าง

ในตอนนั้นเองโปรก็เอามือมาจับที่มือผม ผมมองหน้าโปรทำหน้าแปลกใจ

“ผมรู้ว่าพี่จะว่าอะไร แต่ตอนนี้ผมว่าคงได้เวลาแล้ว”

ผมและโปรมองตากันและกัน ผมพูดเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมก็พูดไม่ออก

“ตอนนี้ผมนับเวลาที่คบกันเป็นเดือนแล้ว...แล้วผมอยากรู้ว่า ตกลงแล้วพี่...”

“อืม...” ผมตอบสั้นๆ  ซึ่งสั้นจริงๆ

“ที่ผมขอรถป๊ามาแล้วให้พี่รอผมช่วงเรียนพิเศษ เพราะเป็นห่วงพี่ กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรตอนที่ผมไม่ได้อยู่ด้วยอีก
ผมเป็นห่วงแฟน”

ผมมองหน้าโปร แปลกใจที่โปรเรียกผมว่าแฟน นี่เป็นครั้งแรกที่โปรเรียกผมว่าแฟน

“ผมคิดว่าคงไม่เร็วไปใช่ไหม ที่จะเรียกพี่ว่าแฟน ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าพี่คิดกับผม..”

“....” ผมยังเงียบอยู่ ผมยังไม่รู้ว่าจะตอบอะไรไปดีไหม ตอนนี้ผมทั้งตื่นเต้นและสับสนมาก เสียงน้ำพุก็เงียบลง

“ผมขอสัญญา ว่าจะไม่มีวันจากพี่ไปไหน ไม่ว่าพี่จะเป็นอะไรก็ตาม ผมจะทำให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายอย่างผมจะทำได้....”

ผมลุกขึ้นจากตรงนั้น โดยยังไม่ได้พูดอะไร โปรก็ลุกเดินตามมาผมมองไปที่หน้าโปร โปรหน้าเสียมากจนผมรู้สึกว่า นี่ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จะแกล้งคนที่ผมให้ใจทั้งหมดกับเขาไปตั้งแต่ที่เค้าพูดสัญญากับผมได้อย่างไร

“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ ถ้าทำนะ จะเลิกไม่เป็นแฟนละนะ”

“พี่พูดว่าอะไรนะ”

“ของดี มีน้อยใช้สอยประหยัดครับ”  ผมพูดเลียนแบบโปรที่ชอบพูดกับผมบ่อยๆ

“อ่ะ  แหม่บอกหน่อยๆๆๆ น๊า”

“....ม่าย...”

“นะ นะ นะครับ”

“....ม่าย....”

แล้วผมก็รีบเดินไปทันที เจ้าตี๋โปรก็ยังเดินตามถามผมอยู่เรื่อยๆ จนมาถึงที่รถโปรเปิดประตูให้ผมแต่เอามือกั้นไว้ไม่ให้ผมเข้าเสียอย่างนั้น

“บอกผมก่อน ไม่งั้นผมไม่ให้ไปด้วย”

ผมก็จะทำท่าแบบว่าไม่ง้อจะเดินออกจากรถ แต่โปรก็ดึงแขนผมไว้

“โห  ที่รักค๊าบ ขอร้องล่ะค๊าบ”

ใช่ว่าจะพูดค่อยนะครับ โปรพูดค่อนข้างดังเลย ผมละอายคนแถวนั้นจริงๆ

“ไปๆ ขึ้นรถก่อนะแล้วจะบอก”

“ค๊าบบบ”

ในที่สุดเราก็อยู่ในรถ โปรขับรถออกมาจากสยามสแคว ระหว่างทางโปรก็ยังให้ผมบอกอีกให้ได้

“เอ๊า โปรเป็นแฟนพี่”

“ไม่อาว เอาเพราะๆดิ”

“เฮ้อ....”

“น่านะครับ ที่รัก”

“โปรเป็นแฟนพี่ครับ”

“ไม่เอา เป็นแฟนกัน อย่าเรียกตัวเองว่าพี่สิ”

“โปร เป็นแฟน หนึ่ง ครับ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” โปรหัวเราะแล้วเอามือมาจับมือผมตลอด

รถขับมาจอดที่หน้าหอผม ผมก็เก็บของจะลงจากรถ  โปรก็ฉุดมือผมแล้วดึกตัวผมไปที่เค้า ทันใดนั้นหน้าผมกับโปรก็อยู่ใกล้กันมาก จนผมได้ยินเสียงลมหายใจของโปร ตอนนี้ผมตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก และแล้วริมฝีปากของโปรก็ใกล้เข้ามาจนแนบชิดกับผม ผมหลับตาปี๋เพราะอายจนทำอะไรไม่ถูก เราอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ผมไม่รู้จนกระทั่งโปรเปลี่ยนมาจูบผมที่ดวงตา แล้วเลื่อนไปที่หน้าผาก

จากนั้นโปรก็ปล่อยตัวผม เราจ้องตากันสักครู่ ความเงียบทำให้ผมได้ยินถึงเสียงของหัวใจตัวเองที่ยังคงเต้นรัวอยู่

“พี่ จะต่อรึไงคับ ติดใจล่ะเซ่”

“ไอ้บ้า”

ผมเลยรีบเก็บของแล้วลงมาจากรถก่อนปิดประตูโปรก็ยังบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับผมเหมือนเดิม ผมก็รับคำแล้วเดินกลับเข้าหอ ก่อนขึ้นไปบ้านห้องผมมองโปรขับรถออกไปจนสุดสายตาแล้วพูดกับตัวเองว่า

‘หาเรื่องให้ตัวเองอีกแล้วนะ เจ้าหนึ่ง’

ผมนึกแล้วส่ายหัว แล้วก็เดินขึ้นไปที่ห้องของผม แต่ทำไมผมก็ยังอดอมยิ้มไม่ได้นะ ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าหาเรื่องใส่ตัวแล้ว ก็ไม่รู้สิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 12-12-2008 11:20:29
เป็นแฟนกันแล้วล่ะครับกว่าจะเรียกได้เนี้ยน๊านานจัง :o8:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 12-12-2008 11:31:02
เป็น แฟน กัน แล้ว    :mc4:


เป็น แฟน กัน แล้ว     :mc4:


รอตอนต่อไ ปนะค่ะ    :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 12-12-2008 14:26:16
 :L2: :L2:
เป็นกำลังใจให้คนโพสต์ และคนแต่งต่อไป

มาอัพทุกวันยิ่งดีค่าาา
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 12-12-2008 15:03:02
เป็นแฟนกันแล้วววววววว ว่าแต่อาตี๋โปรเป็นเสี่ยน้อย ๆ อย่างนี้ อนาคตหนึ่งก็ดูท่าจะไม่ลำบากแล้วล่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 12-12-2008 15:20:30
 :กอด1:

ดีใจมากมายก่ายกอง

และแล้วก็มาต่อ

แถมตอนนี้แบบว่าเป็นแฟนกันแล้วด้วยอ่ะ  :o8:

น่ารักมากมาย

อยากจะบอกว่าอิจฉาพี่หนึ่งนะคะ น้องโปรน่ารักขนาดนี้ แถมรวยอีก

ได้ใจจริง ๆ 555
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-12-2008 16:48:24
เป็นแฟนกันแล้วววว  :n1:

เจ้าโปร น่ารักจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 12-12-2008 20:10:03
แฮปปี้จังอิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 13-12-2008 03:23:37
งานเข้าพี่หนึ่ง .........เข้าทั้งตัวทั้งหัวจายยยย :L1: อิจฉาวุ๊ย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 13-12-2008 08:56:41
หาเรื่องดีๆคงไม่เป็นไร :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 13-12-2008 10:47:39
โปรน่ารักจัง อยากมีเด็กๆมาคอยเอาใจแบบนี้มั่งอ่ะ อิจฉา :m1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ririmu ที่ 13-12-2008 11:06:42
 :-[ น่ารักมากมาย เป็นแฟนกันแล้ววว วิ๊ดวิ๊ว เป็นแฟนกะเด็กนี่ก้อดีเนอะ

มีแต่เรื่องน่ารัก ๆ มาให้ชุ่มชื่น (เริ่มเข้าโหมดคนแก่) เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ

เรื่องน่ารักดี รอตอนหน้าอยู่นะคะ  o13

++ สำหรับกางเกงขาสั้น ++
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-12-2008 12:03:05
วี้ดวิ้วววววววววววววววววววววววววววววว อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 12 ธ.ค. :ตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 15-12-2008 08:42:56
สวัสดีครับ

อ่า เสาร์อาทิตย์ไม่ได้มาโพสต่อเลย พอดีไปบ้านญาติ และก็วันอาทิตย์ตอนแรกมีคนนัดไปดูหนัง แต่ทว่า...... :sad4: ลบเบอร์มานไปเลย :m31: เซ็งงงง :seng2ped: กะว่าจะมี  :L1: ครั้งใหม่นะนี่  :impress3: มันน่า  :beat: และ  :z6: ยิ่งนัก หลอกให้คนรอรู้ไหม (เอ...นี่ผมมาบ่นอะไรกะในบอร์ดเนี่ย)
อย่างว่าผมไปทำนายไพ่ยิปซีมา เขาบอกว่าเรื่อง :L1: นี่โดนหลอกมาตลอด และจะโดนหลอกต่อปายยยยยยย :o12: กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :serius2:

ชั่งมันกะแค่คนไม่เห็นความดีเรา โพสต่อดีก่า...
ขอบคุณที่ติดตามครับ



ตอนที่ 14

เช้าวันเดิมๆ ผมก็ตื่นขึ้นมาเหมือนเดิมๆ ตามเสียงอาบน้ำของรูมเมทผม พอรูมเมทผมออกจากห้องน้ำ ผมก็เข้าต่อจัดการกับธุระส่วนตัวเสร็จออกมาก็ไม่เห็นรูมเมทเหมือนเดิม เพราะมันออกไปทำงานแล้ว ผมกินนมกับขนมปังที่ซื้อมาเตรียมไว้เพราะผมไม่ค่อยจะชอบทานข้าวเช้านัก บางทีก็จะมีคนมาแย่งผมกิน แย่งไม่แย่งเปล่า บางทีก็เอาส่วนของผมไปด้วยสิ

‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

เสียงเคาะประตูดังขึ้น วันนี้เจ้าตี๋โปรคงมาจะมาแย่งขนมปังผมกินตามเคย ผมไปเปิดประตู ก็เห็นเจ้าตี๋โปรอยู่ตรงนั้น

“หิว หิว หิว มีอะไรกินบ้างเนี่ย”

ว่าเสร็จโปรก็เดินมาหลังตู้เก็บของ ตรงนั้นผมจะวางขนมปังเอาไว้สำหรับกินทั้งอาทิตย์เลยล่ะครับ

“อ๊า ไส้ครีมอยู่ไหน”

พูดแล้วโปรก็มองในมือของผม ผมกำลังกินขนมปังไส้ครีมอันสุดท้ายอยู่

“จาเอา จาเอา จาเอา” ดูมันอ้อนเป็นเด็กเลย

“บ้าเหรอ ไม่ให้ กินไปแล้ว”

“ก็จาเอาอ๊า”

ว่าเสร็จเจ้าตี๋โปรก็จะมาคว้าขนมปังที่เหลือในมือผมไป แต่ก็หลบทัน ผมเอาขนมปังชิ้นที่เหลือคาบไว้ในปาก กะว่าเจ้าโปรคงไม่กล้ามาคว้าไป ที่ไหนได้โปรมาจับไหล่ผมจากด้านหน้า ทำตาซึ้งๆใส่ผม ผมก็คิดอยู่ว่าจะมาไม้ไหนแน่ ไม่ทันไรโปรก็เอาปากมากัดขนมปังที่ผมคาบอยู่ไปเฉย

“เฮ้ย นี่ขนาดอยู่ในปากนะ ยังจะเอาไปกินอีก”

“ถ้าไม่ให้ผมนี่ ก็กะจะไปเอาจากในปากพี่แล้วล่ะ”

นี่ก็เป็นเรื่องตอนเช้าหลังจากที่ผมกับโปรตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ เหมือนว่าไอ้ตี๋โปรจะได้ใจขึ้นทุกวันเริ่มข่มเหงผมตลอด ไม่เว้นเรื่องกิน (ใช้คำแรงไปไหมครับนี่) จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอกครับ อย่าคิดมากน่า

วันนี้ผมก็ขึ้นรถไปกับโปรเหมือนเดิม โปรยังคงไปรับ – ส่งผมตลอด ตกเย็นถ้าผมไม่ติดงานอะไรก็จะรอโปรที่ร้านขนมเจ้าประจำที่สยามสแควเพื่อรอโปรเรียนพิเศษเสร็จ (ผมว่ามันเหมือนผู้ปกครองไปรอเด็กเรียนพิเศษเสร็จเลยนะ ถ้าผมไปรอที่โปรเรียน) ช่วงนี้ผมทานข้าวเย็นกับโปรทุกวัน ผลัดกันออกค่าข้าวน่ะครับ บางทีก็หารกัน แต่โดยมากแล้วผมรู้สึกว่าโปรจะแย่งจ่ายเสียมากกว่า จนผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่ต้องให้เด็กที่ยังไม่ได้ทำงานมาจ่ายค่าข้าวให้ แต่โปรก็ชอบบอกกับผมว่า

 “อย่าห่วงเลย มีพี่เป็นสิบคน ผมก็เลี้ยงได้”

“จะเลี้ยงยังไง เรายังไม่ได้ทำงานเลยนะ”

“คนรักกันต้องเชื่อกันสิคับ” นั่นเป็นคำพูดที่โปรชอบพูดกับผมเสมอเวลาที่โปรทำอะไรให้ผมแล้วผมรู้สึกเกรงใจ

ในที่สุดรถก็มาถึงที่ทำงานแล้ว ผมบอกลาโปรว่าเย็นนี้จะรอที่เดิม โปรก็รับปาก จากนั้นเมื่อโปรขับรถไปจนริบตาแล้วผมเลยขึ้นไปที่ทำงาน

“ตั้งกะมีคนมารับมาส่งนี่ มาเช้าทุกวันเลยนะ” เสียงเจ้าโจดังมาแต่เช้า

“อืม ก็งี้แหละ คนมันรักกันอะไรๆก็ยอม” โจมันยังแซวต่อ

“อ่อ คนรักกันยอมกันหรอโจ แล้วน้อง..”

“ชู่~...” โจจุ๊ปากใส่ผม

“แล้วแมวที่บ้านน่ะ ไม่เห็นค่อยจะยอมกันเท่าไหร่เลยนะ”

“ก็แมวที่บ้านไม่ค่อยจะเชื่อฟังเท่าไหร่น่ะ มันก็ต้องใช้กำลังกันบ้าง”

“นี่เจ้าโจ ขนาดแมวที่บ้านยังยอมใช้กำลังสั่งสอน แล้วทำไมไอ้งานบนโต๊ะแกนี่ ไม่หัดใช้กำลังทำมันบ้างล่ะ”

เสียงพี่จิ๊บดังมาจากห้องทำงาน พอดีห้องทำงานพี่จิ๊บอยู่ตรงข้ามโต๊ะผมกับโจพอดีน่ะครับ โจชอบมาคุยเล่นเสียมากเลยตกเป็นเป้าสายตาของพี่จิ๊บอยู่พอสมควร

“โห.... พี่จิ๊บขอรับ กระผมเองก็ได้ทำสุดความสามารถแล้วนะขอรับ”

“ย่ะ มาโบราณเชียว ไปๆๆ ไปทำงานกันได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าเค้าจะหาว่าอู้งานกันทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง”

“คร๊าบบบ” ผมกับโจประสานเสียงตอบ

ตอนกินข้าวพักกลางวัน โจก็เอาปัญหาชีวิตระหว่างมันกับน้องต้อมมาคุยกับผมอีกแล้ว

“แม่ง เด็กบ้าอะไรเอาใจไม่ถูก เมื่อวานบอกอย่าง วันนี้เปลี่ยนใจอีกละ เค้าจะเซ็ง”

“เซ็งก็หาใหม่สิ” ผมตอบประชด

“เฮ้อ  ได้ง่ายแบบนั้นก็ดีสิ”

“อ้าวนี่แสดงว่าคิดจะเลิกกับน้องเค้าเหรอ”

“เปล่า หมายความว่ากับน้องเค้า ได้มาง่ายๆก็ดีสิ รู้ป่ะกว่าจะตกลงเป็นแฟนกันนะ ต้องไปง้อมันตากฝนเป็นวัน กลับมาเป็นไข้เลย”

“โห  อะไรจะขนาดนั้น”

“ก็เพราะขนาดนั้นแหละ น้องเค้าเลยตกลงเป็นแฟนด้วย บอกว่าเค้าเป็นคนตั้งใจจริง”

“แล้วตอนนี้ล่ะ”

“ก็ยังตั้งใจอยู่โว้ย ลิ้นกับฟันก็มีบ้าง”

“รู้อยู่แบบนี้แล้วจะบ่นไมวะโจ”

“ก็จาบ่นให้แกฟังไง จะได้ไม่เหงาหู ไม่ดีเหรอ”

ผมละเหนื่อยใจจริงๆ โจมาบ่นให้ผมฟังมากขึ้นทุกวันหลังจากที่มันเปิดเผยตัวว่าเป็นแฟนกับน้องต้อมให้ผมรู้ จนผมรู้สึกว่าถ้ามันมีเรื่องนักทำไมไม่เลิกกันให้รู้แล้วรู้รอดเลยนะ แต่กระนั้นผมก็เข้าใจโจนะครับว่าถ้าคนเรารักใครสักคน ต่อให้ทะเลาะกันขนาดไหนมันก็กลับมาเข้าใจกันได้อยู่ดี

“แล้วนี่ไอ้เจ้าเด็กนั่นเป็นไงบ้าง แอบไปมีใครใหม่ยัง”

“เอ้าไอ้นี่ ปากเสีย ยังรักกันดีโว้ย”

“เออ ขอให้เป็นอย่างที่ว่าแล้วกัน พูดตรงๆนะหนึ่ง เค้าเห็นหน้าไอ้เด็กนั่นครั้งแรกก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาเท่าไหร่”

“ไม่ถูกชะตายังไง”

“มันกวนติง”

ผมหัวเราะเมื่อเห็นโจทำหน้าพร้อมบอกว่าโปรนั้นไปกวนอวัยวะเบื้องล่างสุกของโจ แต่จู่ๆมันก็เงียบไปเงยหน้ามองเหม่อไปข้างหน้า (มันนั่งติดกับผมครับ) ไปทางกลุ่มพนักงานอีกบริษัทหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาในร้านที่ผมกำลังกินข้าวอยู่ ผมมองก็ไม่ได้สนใจอะไรก้มหน้ากินข้าวต่อ

“ทำไมกูไม่ได้ทำบริษัทนั้นวะ” จู่ๆโจมันก็พูดขึ้น

“ทำไม เงินดีเหรอ”

“เปล่า...
 น่ารักดี หล่อชิบหาย...”

ผมเงยหน้ามองไปที่โจสักครู่ ครู่ใหญ่ได้เลย แต่แล้วก็หันไปจัดการกับข้าวในจานต่อ ผมคงจะลืมไปชั่วขณะล่ะมั้งว่าผมกับมันต่างรู้ๆกันแล้ว นี่ถ้าผมยังไม่รู้ว่ามันเป็นเหมือนผมนี่ผมคงจะตกใจมากกว่านี้

“รู้ป่ะ ตอนที่เค้าถามว่ามันเป็นใคร รู้จักแกได้ไง มันตอบว่าไงรู้มะ” โจพูดกับผมตอนกำลังเดินกลับที่ทำงาน

“จะรู้ไหมล่ะ”

“มันก็บอกว่า ‘เพ่ แก่ขนาดดูไม่รู้อีกเหรอว่าผมกับพี่เค้าเป็นอะไรกัน’ ดูมันพูด”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ขนาดนั้นเลย”

“รู้งี้ไม่ช่วยให้คืนดีสักก็ดีหรอก”

“เอาน่า เด็กก็ตอบตามเรื่อง”

“หาเรื่องอ่ะสิไม่ว่า ถ้าไอ้หมอนั่นที่มาด้วยกันไม่ตอบแทนดีดีด้วยนะ มีหวังวางมวยกันกลางตลาดแล้ว”

“หมอพจน์เป็นคนบอกเหรอ?”

“ช่าย ทำไมเหรอ”

“แสดงว่าโปรคงบอกเรื่องเค้าให้หมอพจน์ฟังตั้งแต่แรกน่ะสิ”

“งั้นเหรอ” โจทำท่ายักไหล่ไม่สนใจ แต่มันทำให้ผมต้องคิดว่าตั้งแต่ตอนนั้นโปรได้บอกคนอื่นเรื่องของผมเพราะอะไร ทั้งๆที่ผมห้ามบอกใครก่อนที่เราจะบอกเป็นแฟนกันแล้วแน่นอน แต่ผมก็หยุดความคิดไว้แค่นั้นเมื่อโจชวนผมคุยเรื่องน้องต้อมต่อ

ตกเย็นผมเก็บของแล้วลงจากที่ทำงานปกติแต่คราวนี้โจเดินมากับผมด้วย เพราะยังปรึกษาเรื่องน้องต้อมอยู่

“ได้ผลแน่นะเว้ยวิธีนี้”

“เออ ก่อนกลับก็ไปซื้อดอกไม้ไปง้อน้องเค้าซะ ถ้าอยากจะคืนดี  หรือไม่อยากก็ไม่ต้องทำอะไร เลิกกันไปเลย”

“อ่าๆ แล้วจะลองดู แต่น้องมันจะง้อด้วยวิธีแค่นี้ พอเหรอวะ”

“เออน่า ลองดูก่อน”

“อืมๆ ไปก่อนนะเว้ยหนึ่ง ขอบใจมาก”

“บาย แล้วเจอกัน”

ผมแยกกับโจที่ใต้ตึก โจเดินไปที่จอดรถของที่ทำงานน่ะครับ ส่วนผมก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์หน้าที่ทำงานเหมือนเดิมเพื่อที่จะรอโปรมารับ วันนี้ไม่รู้ผมออกมาเร็วไปหรือเปล่า เพราะออกมายังไม่เจอโปร เดี๋ยวนี้โปรไม่ต้องไปส่งหมอพจน์แล้วครับ เพราะหมอพจน์กลับกับเพื่อนของโปรที่เอารถยนต์มาสงัสยโปรจะขอร้องเพื่อนเขาให้ช่วยส่งหมดพจน์ให้น่ะครับ เพื่อที่จะมารับผมได้ทันเวลาเลิกงาน ผมรออยู่ได้สักพักก็ยังไม่เห็นมีวี่แววของโปร ผมมองไปรอบข้างก็ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนเดินมาทางด้านหลังผม ผมหันหลังไปดู แต่เมื่อผมเห็นหน้าคนๆนั้นแล้ว ผมก็ต้องรับหันกลับ รู้สึกว่าทำอะไรไม่ถูก

 “หนึ่ง”

ผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อผม ผมรู้ว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดตอนนี้

“หนึ่งครับ”

ผมก็ยังไม่หันไปตามเสียงนั้น

“หนึ่งครับ ผมขอคุยอะไรด้วยนิดนึง ได้ไหมครับ”

ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้าลง

“ที่ผมมานี่ เพราะผมมีเรื่องอยากจะบอกหนึ่งน่ะครับ..”

เสียงของเขายังคงฟังดูนุ่มและลึกอยู่เหมือนเดิม

“และก็ ตอนนี้ผมเลิกกับ ‘เค้า’ แล้วนะครับหนึ่ง มันเป็นตามที่เพื่อนหนึ่งบอกผมทั้งหมดผมรู้แล้วครับว่าผมผิด ตอนนี้... ผมอยากจะเริ่มต้นใหม่ครับหนึ่ง”

ผมยังคงไม่หันหน้าไปทางโอ๊ต ผมกอดกระเป๋าสะพายผมแน่น ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตื้อไปหมด นี่กำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่

“ผมอยากจะให้เรากลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง...จะได้ไหมครับ...”

ผมเม้มปากแน่น ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะพูดอะไรบางอย่างออกไป

“โอ๊ต  ตอนนี้...คงจะไม่ได้แล้ว  ผม....”

“ผมรู้แล้วครับว่าหนึ่งมีคนคบแล้ว อาร์ทมันบอกผมมา...ผมแค่....
เป็นห่วง เพราะว่าเด็กนั่น.. คือ กลัวว่าหนึ่งจะ..”

“คงไม่ต้องห่วงอะไรหรอก เพราะผมคิดว่าผมเองดูแลพี่หนึ่งได้ดีกว่าพี่แน่นอน”

เสียงนั่นดังมาจากอีกข้างหนึ่งของผมผมหันไปตามเสียง โปรยืนอยู่ตรงนั้น

“และผมจะไม่มีวันจากพี่หนึ่งเด็ดขาด ไม่ว่าต่อไปผมจะเจอใครอีกกี่คนก็ตาม”

คำพูดนั้น เหมือนจะบาดลึกลงไปในใจของใครบางคน ทำให้เขาคนนั้นสะอึกได้อย่างเห็นได้ชัด

“แต่พี่คิดว่า สักวันเราอาจจะเจอคนอื่นอีกมาก อาจทำให้เราเปลี่ยนใจก็ได้นะ อายุเรายังน้อย มีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ”

“ตอนนี้และตอนไหนๆผมก็รู้อย่างเดียวล่ะครับ ว่าผมรักพี่หนึ่ง”

ผมมองหน้าโปรทันทีที่สิ้นเสียง ผมไม่เคยได้ยินโปรบอกรักผมตรงๆต่อหน้าคนอื่นแบบนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะจากคำสัญญาที่จะรอเวลาที่เหมาะสมหรือเราเองก็ไม่ได้พูดบอกรักกันเป็นปกติเหมือนโจกับต้อม

“น้องพูดง่ายไปไหม” โอ๊ตถาม

“ผมขอเอาชีวิตผมเป็นประกันครับ ถ้าวันไหน... พี่หนึ่งเป็นอะไรไป ผมก็จะ”

“อย่าพูด........อย่าพูดอะไรที่..ไม่ดี” ผมพูดแทรกขึ้นมา

“โอ๊ต เรื่องของเรา หนึ่งดีใจมากนะ ที่เราเคยมีช่วงเวลาที่ดีต่อกันมา หนึ่งขอบคุณมาก ชีวิตหนึ่งคงไม่เจออะไรดีเท่านั้นอีกแล้ว แต่โอ๊ต ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เราก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนไป...  เรา...”

“อ่อครับ” โอ๊ตตอบผม แล้วเดินไปหาโปร

“อย่างไงพี่ฝากหนึ่งด้วยนะ ถ้าวันไหนหนึ่งเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะขอคืน”

“ไม่ต้องห่วงครับ มันจะไม่มันวันนั้นแน่นอน” โปรตอบทันที

“แล้วพี่จะคอยดู”

“หนึ่ง โอ๊ตสัญญา ไม่ว่าตอนไหนโอ๊ตก็จะรอหนึ่งเสมอ ตอนนี้โอ๊ตขอแค่หนึ่งยกโทษให้กับเรื่องที่แล้วๆมา จะได้ไหมครับ”

“อืม ผมลืมเรื่องไม่ดีละหว่างผมกับคุณไปหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่ง”

โอ๊ตยิ้มออกมาให้ผมเห็นเป็นยิ้มที่ผมคุ้นเคยดี ตอนนั้นเองโปรเดินมาข้างๆผมแล้วบอกกับผมว่าสายแล้ว เขาจะไปเรียนพิเศษไม่ทัน โปรจับแขนผมแล้วดึงให้ไปกับเขา ผมมองไปทางโอ๊ต เค้าก็ยังคงยิ้มเสมอ เป็นรอยยิ้มที่ผมคุ้นเคย ผมยังจำได้ถึงช่วงเวลาที่เรามีสิ่งดีๆให้ต่อกันรอยยิ้มนั้นเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ แม้แต่ตอนนี้ถึงแม้ผมกับโอ๊ตจะเป็นเพียงเพื่อนกัน แต่ผมก็จะเก็บรอยยิ้มนั้นไว้ในใจเสมอและตลอดไป

โปรจูงแขนผมมาจนถึงรถซึ่งจอดหลบไว้ไม่ไกลจากป้ายนัก

“ผมต้องมาจอดแถวนี้ เพราะหน้าที่ทำงานพี่เค้าห้ามจอดตลอดแนว ดีนะที่ผมมาทัน ไม่อย่างนั้นผมคงเสียแฟนผมไปแน่เลย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“อ้าว ก็หวงนิ”

“งั้นเหรอๆ” ผมตอบพร้อมทั้งทำตากลอกไปมาเลียนแบบโปรที่เคยทำกับผมบ่อยๆ

“นี่ คิดจะหวงผมบ้างเปล่า”

“...” ผมเงียบนึกคิด

“ถ้าหากมีคนมาจีบผมบ้างนี่จะทำเหมือนที่ผมทำวันนี้เปล่า”

“ไม่มีทาง”

“อ้าว ทำไมอ่า ไม่รักผมเหรอ”

“เปล่า ที่ไม่ทำเพราะพี่เชื่อว่าเราคงจะไม่ใจร้ายทำร้ายพี่อย่างนั้นแน่”

“แน่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ก็แล้วใครกัน ที่บอกว่าจะเอาชีวิตเป็นประกันล่ะ”

ผมพูดแล้วโปรก็ทำตากลอกไป ผมเองก็เลยหัวเราะท่าทางของโปรแล้วเอามือไปลูบหัวโปรเบาๆ แล้วก็รู้สึกว่าวันนี้โปรจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าทุกวัน เอ...หรือว่าผมคิดไปเองนะครับ? รถของเราเดินทางออกจากหน้าที่ทำงานผม มันเคลื่อนไปตามทางเส้นเดิมเหมือนทุกวัน แต่สิ่งที่ต่างไปคือความเชื่อใจที่ผมมีต่อโปรนั้นมีมากขึ้นอีกเยอะเลยล่ะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 15-12-2008 09:12:09
โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ตายแล้ว ตี๋โปร

น่ารักนะคะ

แบบนี้จะไม่รักยังไงไหวเนอะ

เหอเหอ  น่ารักขนาดนี้ขอจูบที

 :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 15-12-2008 09:16:22
น้องโปรทำดีมากกกกกกกกก o13
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: ririmu ที่ 15-12-2008 09:30:47
แมนมาก ๆ ตี๋น้อย มา มา ขอจิ้มซักที จึ๊ก ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-12-2008 09:57:01
อ้างถึง
“ตอนนี้และตอนไหนๆผมก็รู้อย่างเดียวล่ะครับ ว่าผมรักพี่หนึ่ง”

ประโยคนี้ทำเอาตายไปเลย   :m2:


อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย เด็กอะไรเนี่ย น่ารัก มั่กมากๆๆ    :m3:


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 15-12-2008 10:12:34
รักน้องโปรจางคนไรน่ารักได้น่ารักดีอิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 15-12-2008 10:38:02
 :o8:  เพี่งเข้ามาอ่านครับ  ขอสมัครเป็น Fc ด้วยคนครับเนื้อเรื่องออกแนวน่ารักดีครับ  แล้วจะติดตามต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 15-12-2008 11:01:41
รักกฃันหวานซึ้งซ่ะขนาดนี้ ขอร้อง อย่าได้มีจุดเปลี่ยนเน๊อ จุกแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-12-2008 11:20:08
เด็กเวลารักก็รักจริงๆ แต่กลัวอารมณ์หวือหวาแบบเด็กๆนี่แหล่ะ :really2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 15 ธ.ค. :ตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 16-12-2008 08:40:53
สวัสดีครับ

ไม่ต้องพูดอะไรมาก ตอนนี้ผมงานเข้า โพสเลยละกันครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ปล.กระทู้ตกไปหน้าสองเร็วมากกกกกก :a5:



ตอนที่ 15

เย็นวันศุกร์หลังจากเลิกงาน ผมกับโปรก็พากันไปห้างแห่งหนึ่งแถวๆงามวงศ์วาน วันนี้โปรไม่มีเรียนพิเศษและเป็นวันที่โปรเรียร ร.ด. ด้วยในช่วงเช้าวันนี้จึงมารับผมได้เร็ว วันนี้ผมกับโจขออนุญาตพี่จิ๊บกลับก่อนเวลา

“นี่แกสองคนเป็นอะไร ทีจะไปก็ไปหมดเลยทิ้งพี่ไว้คนเดียว”

“แหม่ เจ้านายขอรับ กระผมขอออกก่อนเวลาแค่ชั่วโมงเดียวนี่ มันทำให้ยอดขายของบริษัทเราลดลงขนาดนั้นเชียวรึขอรับ”

“สำคัญตัวผิดแล้วล่ะค่ะคุณโจ ที่ชั้นพูดนี่เพราะว่าชั้นต้องมาทำแทนแกทั้งสองคนนี่แหละ”

“นะครับพี่จิ๊บ แล้ววันจันทร์ผมจะมาเคลียร์ให้หมดเลย” ผมบอกกับพี่จิ๊บ

“จ้า สำหรับหนึ่งน่ะพี่ไม่ห่วงหรอก แต่... ไอ้โจ เนี่ย  พี่ล่ะกลุ้มใจ”

“พี่จิ๊บขอรับ กระผมขอรับรองด้วยเกียรติของลูกเสือที่เรียนมาเลยนะขอรับ ว่าจันทร์นี่ เรียบร้อยเรไรแน่ขอรับ”

“เออ  ไปเลยๆ ชั้นล่ะเซ็งกับพวกแกจริง”

“แล้วเจอกันครับพี่”

ผมว่าเสร็จก็ลงมาใต้ตึกพร้อมกับโจ ก่อนแยกกันก็ไม่ลืมที่จะนัดแนะกันอีกครั้ง

“วันนี้สองทุ่มนะเว้ยหนึ่ง”

“อ่อ ให้ไปสองทุ่มใช่มะ ได้ๆ”

“ม่ายช่ายยยยยย  เริ่มสองทุ่มดิ เดี๋ยวไม่ทันพอดีมาสองทุ่ม”

“เออๆๆ แล้วทำไมต้องมาร่วมกระบวนการกับแกด้วยนะนี่”

“ก็นะ  เพื่อเพื่อนสุดที่รักคนนี้ ไม่ได้รึงายย”

“อ่าจ้า  เพื่อเพื่อนสุดที่ร๊ากก ได้ซาเหมอ”

ผมพูดประชด แล้วผมก็ทวนของที่โจฝากซื้อ ก่อนที่เราจะแยกกัน จากนั้นผมก็ไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอโปร แต่นี่ไม่ต้องรอเลยครับ โปรมารอผมก่อนแล้วตามที่ผมโทรบอก

บนรถผมกับโปรคุยกันในเรื่องคืนนี้

“ไม่รู้จะทำเป็นความลับไปทำไม เค้าน่าจะรู้อยู่แล้ว ก็วันนี้วันอะไร”

“แต่ว่าน้องต้อมเค้าคนขี้งอนนะ พี่ว่าไม่น่าจะรู้หรอก”

“มันก็ไม่แน่หรอก ผมว่าแผนมันตื้นไป”

“แล้วถ้าเป็นเราจะทำยังไงล่ะ”

“ก็จะแบบว่า เออ จำได้นะ แต่แล้วก็เฉยๆไม่ทำอะไร”

“เหอ  นี่น่ะนะแผน”

“ช่าย”

“แผนอะไรไม่เห็นมีอะไรเลย”

“ก็แกล้งว่าจำได้แล้วจะจัดงานให้ แต่สุดท้ายไม่จัดไง แผนนี้ซู้ดดยอดดด”

มันสุดยอดตรงไหน(วะ) ไปหลอกเค้าซะงั้นน่ะ ถ้าไอ้โปรทำกับผมเหมือนที่ว่านะ เจอดีแน่

“ถ้าพี่เป็นต้อมนะ พี่งอนแล้วอย่าหวังเลยว่าจะง้อได้”

“ขนาดนั้นเลยหรอ”

“อืม ขนาดนั้นแหละ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมก็ทำให้หายงอนเอง ถ้าไม่หายจะตีก้น”

“กล้าหรอ”

“หันหลังมาเสะคับ”

“ไอ้โปร!!!”

แล้วโปรก็หัวเราะ ในที่สุดเราก็ถึงห้างจนได้ รถติดใช้ได้เลยเพราะขนาดคิดว่ามาเร็วแล้วรถก็ติดมากอยู่เหมือนเดิม โชคดีที่เราหาที่จอดรถได้เร็ว ไม่อย่างนั้นเจ้าตี๋โปรคงหงุดหงิดตาย นี่ขนาดรถติดไม่นานก็แทบจะเอารถไปชนคันหน้าแล้วตอนที่รถคันหน้าออกตัวช้า

ในห้างผมเดินหาซื้อของที่โจฝากผมซื้อ พวกกับข้าว น้ำอัดลม แล้วก็มีพวกแอลกอฮอร์บ้าง ตอนไปที่เคาท์เตอร์จ่ายเงินมันจะมีจุดที่ขายถุงยางอนามัย เจ้าตี๋โปรสะกิดผมให้หันไปมอง ผมก็มองแผงที่ขายนั้นแล้วหันมามองหน้าโปรประมาณว่า นี่หาเรื่องกวนนะนี่ แต่ไอ้ตี๋โปรก็ทำท่ายักคิ้วให้ผมอย่างมีเลศนัย แล้วผมก็ไล่ให้โปรรีบวางของที่เคาท์เตอร์คิดเงิน จากนั้นเราก็ช่วยกันหิ้วถุงที่ใส่ของจนเต็มไปเดินตามร้านขายของต่างๆ ประมาณพวกกีฟช็อปน่ะครับ ผมเลือกดูของหลายๆอย่าง โปรเองเหมือนจะไม่ค่อยช่วยอะไรเลยมัวแต่กินขนมที่ซื้อมาเมื่อกี้ (คนละอันกับที่โจฝากซื้อนะครับ) ผมถามว่าอันนี้อันนั้นดีไหม โปรก็จะตอบแค่ ‘อือ’ ‘หึ’ ‘อือหึ๊’ แล้วก็กลับไปก้มหน้ากินขนมต่อ เห็นแก่กินจริงๆ ผมคิดว่าสักวันคงจะติดคอตายเพราะกินอยู่แล้วตอบผมแบบนี้นี่ล่ะ แล้วจู่ๆโปรก็หยิบกล่องดนตรีอันหนึ่งให้ผม มันเป็นแบบลูกแก้วแล้วหมุนที่ฐานข้างล่าง ในลูกแก้วมีตุ๊กตาสุนัขตัวน้อยๆอยู่สองตัวตัวหนึ่งกำลังทำท่ากัดถุงผ้าใบใหญ่อยู่ แล้วในถุงใบใหญ่นั้นก็มีตุ๊กตาสุนัขตัวเล็กๆในถุงอีกที ส่วนเพลงนั้น ผมฟังดูแล้วมันฟังดูคุ้นๆอย่างไรไม่รู้ แต่ผมก็คิดไม่ออกว่ามันคือเพลงอะไร

“อืม...อันนี้ดีนะ ตาถึงนิ”

โปรไม่ตอบอะไร เพราะปากยังเต็มไปด้วยขนมอยู่ ผมเลยหยิบกล่องดนตรีอันนั้นไปจ่ายเงิน

“ขอโทษนะครับ ช่วยห่อขอขวัญด้วยนะครับ”

“ได้ค่ะ” พนักงานสาวรับคำ

เจ้าโปรสะกิดผมอีกแล้วชี้ไปที่การ์ดที่ตั้งโชว์ข้างเคาท์เตอร์ อืม นี่ผมเกือบจะลืมไปเลยนะนี่ โปรนี่เป็นคนละเอียดดีเหมือนกันแฮะ แล้วโปรก็หยิบการ์ดมาใบนึง น่ารักมากเลยน่ะครับอันที่โปรหยิบมา เป็นรูปถ่ายตุ๊กตาหมีสองตัว ตัวหนึ่งทำท่าเหมือนกำลังให้ของขวัญกับอีกตัวหนึ่ง ตัวที่ได้รับของขวัญทำท่าอายๆด้วย เมื่อพนักงานห่อของขวัญเสร็จแล้วผมก็บอกขอเพิ่มการ์ดใบนี้ไปด้วย

ผมและโปรออกมานอนร้าน ผมหยิบปากกาในกระเป๋าสะพายของผมเองเพื่อมาเขียนข้อความลงในการ์ด จู่ๆโปรก็แย่งปากกากับการ์ดไปจากมือผมแล้วเอาไปเขียนก่อน ผมก็แย่งกลับมา แต่โปรก็วิ่งหนีผมไปเลยโดยทิ้งของไว้ ผมเลยวิ่งตามไปไม่ได้ สักพักโปรก็เดินมาหาผมพร้อมยื่นการ์ดกับปากกาให้ผม ผมอ่านข้อความที่โปรเขียนในการ์ด

“เฮ้ย เขียนแบบนี้เดี๋ยวก็โดนโจว่าเอาหรอก”

“หึหึ ไม่สน แล้วห้ามแก้ด้วย“

ผมเลยส่ายหัวเลย แล้วพยายามคิดว่าจะเขียนอย่างไรให้แก้ต่างที่โปรเขียนไปได้ คิดแล้วแล้วผมก็เขียนลงไป จากนั้นผมกับโปรก็พากันเดินไปที่รถ เพราะตอนนี้ดูเหมือนจะกินเวลามามากแล้ว

เราขับรถออกจากห่างมาได้สักพักผมก็โทรหาโจ

“เออโจ ตอนนี้อยู่งามวงศ์วาน”

“เฮ้ย ยังไม่ออกจากห้างอีกเหรอ”

“ออกมาแล้ว จะถามทางหน่อยไปไม่ถูก”

“ก็ไปทาง....”

ผมก็คุยกับโจไป แล้วก็บอกทางโปรไป จนในที่สุดเราก็ถึงที่หมาย

“โห คอนโดที่นี่สวยเหมือนกันนะ”

ผมบอกกับโปร

“เอาไว้พี่มาผ่อนให้ผมอยู่ดิ”

“พี่ไม่มีเงินหรอก ที่โจมันซื้อได้เพราะแม่มันดาร์วให้ พี่ยังไม่ได้มีอะไรสักอย่าง”

“ไม่มีได้ไง แล้วที่นั่งอยู่ข้างๆนี่เรียกว่าอะไรล่ะคับ”

“ก็ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พี่หมายถึงบ้านพี่ไม่ได้รวยนิ”

“กะแค่เงินเอง ผมบอกแล้วไงว่าผมเลี้ยงพี่ได้”

“ชอบพูดอย่างนี้อยู่เรื่อย”

พอดีที่โปรหาที่จอดรถได้พอดี ผมกับโปรเลยช่วยกันขนของลงจากรถ แล้วก็ไม่ลืมโทรบอกโจว่าผมมาถึงคอนโดของโจแล้ว สักพักโจก็เดินมาถึงรถโปร แล้วก็ช่วยผมกับโปรขนของที่ซื้อมาไปบนคอนโด ในห้องของโจผมเห็นว่ามีการแต่งห้องไว้บ้างแล้ว

“ก็ยังแต่งไม่เสร็จอ่ะ กูทำคนเดียว มาแล้วก็ดีช่วยเลยๆ”

พูดเสร็จโจก็โยนพวกสายรุ้งมาให้ผมกับโปร

“นี่จะจัดงานปีใหม่เหรอไงคับเพ่”

“เออ ฉลองเชงเม้งให้มึงอ่ะโปร”

“อุ่ย โผ้มยางไม่ตายอ่ะคับ”

“มึงจะได้ตายแน่ถ้าไม่ปากหมา”

ผมมองโปรด้วยสายตาดุดุ ประมาณว่า ‘หยุดหาเรื่องได้แล้ว’ โปรก็ทำท่าส่ายหัวแล้วก็ช่วยผมเอาสายรุ้งไปพาดตามผนังห้อง

“โจ มันไม่ดูรกๆไปหน่อยเหรอ”

“ไม่รกก็ไม่เซอร์ไพรท์อ่ะสิ”

ผมสังเกตไปรอบๆห้อง ก็เห็นว่ามีอยู่สองห้องนอน ห้องค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ท่าจะราคาแพงไม่ใช่เล่น เป็นผมนี่ผ่อนกี่ปีสิบถึงจะหมดนะ

“เออ แล้วนี่อยู่กันสองคน ทำไมซื้อตั้งสองห้องนอน กะว่าให้ลูกมานอนเหรอ”

“ช่าย ว่ากับต้อมอยู่ว่าจะเอาลูกสาวหรือลูกชายดี”

“เออนะ เอาไว้ให้ใครนอน”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ก็เพื่อพ่อแม่กูมานอนบ้าง หรือใครไปใครมาไง”

“อ่อเหรอ”

“งี้ก็มีที่ซ่อนชู้แล้วสิ เอะหรือพี่ต้อมนะที่ซ่อน” โปรแซว

“ไอ้.......”

ผมมองโปรด้วยสายตาเดิมอีกแล้ว แล้วพยักหน้าในโปร เพื่อให้โปรเข้าใจความหมายของผม

“ค๊าบบบบ ไม่กวนแล้วๆ” โปรตอบผมแล้วยอมมาช่วยงานแต่โดยดี

“แล้วนี่ชวนใครมาบ้างล่ะโจ”

“ก็มีเพื่อนของแมวน้อย ก็ต้องอาศัยพวกนั้นให้ช่วยน่ะ อืม... แค่นั้น”

ไม่ทันไรเสียงโทรศัพ์มือถือของโปรก็ดัวขึ้น

“ฮัลโหลเพ่พจน์”

“..........”

“อ้าว เจงเดะ  โทษทีค๊าบบบ ผมลืมโทรบอกว่าวันนี้ของดติวก่อน

แล้วตอนนี้อยู่ที่โรงเรียนผมเหรอครับ

เวรเลย ไม่มีใครอยู่หรอกครับพี่...”

“เฮ้ย หมออยู่ไหนวะโปร บอกให้มากินกับเราดิ” เสียงโจบอกกับโปร

“เออเพ่ๆ จำพี่โจได้ป่ะช่ายๆ ที่ผมกลัวๆว่าจะเป็นเบาหวานอยู่น่ะเพ่ พอดีพี่แกจะฉลองสละโสดน่ะ ผมเลยมากับพี่หนึ่ง มาด้วยกันเปล่า โหยเพ่ เจ้าของงานเค้าออกปากชวนแล้ว เดี๋ยวผมไปรับก็ได้....”

“บอกหมอนะว่ามาให้ได้”  โจย้ำอีก

“ค๊าบ ค๊าบได้ยินใช่ไหมพี่ ฮะ มีสอบ ตอนไหนอ่ะ แหม่พี่ กว่าจะสอบตั้งวันจันทร์ มาเหอะ”

ในที่สุดหมอพจน์ก็ยอมมาจนได้ครับ แต่บอกว่าคงอยู่ได้ไม่นานเพราะจันทร์นี้มีสอบ จะกลับไปอ่านหนังสือ โดยโปรจะขับรถไปรับ – ส่งให้ ผมเลยบอกให้โปรรีบไปรับหมอพจน์เลย เพราะน้องต้อมจะกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว

เมื่อโปรออกไปรับหมอพจน์ ผมเลยช่วยโจจัดของกันอยู่สองคน

“ไอ้ตี๋ผีนี่มันกวนประสาทดีเจงๆ นี่มึงอยู่กับมันได้ไง เป็นกูปวดหัวตาย”

“ว่าไป ยั่งกะมึงไม่ตี๋งั้น”  คือโจมันมีเชื้อจีนบ้างน่ะครับ

“ก็มีบ้างนะที่โปรจะกวน แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรนักหรอก”

“เออ  รักกันเจงเนาะ ปกป้องกันเข้าไป”

“ว่าแต่ จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แมวน้อยที่น่าสงสารนี่ไม่รู้เรื่องแน่นะ”

“มือระดับไหนแล้ว”

แล้วผมก็ช่วยโจจัดของจนเสร็จ แม้ฝีมือการตกแต่งสถานที่ของผมจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็พอดูได้ไม่น่าเกียด เมื่อถึงเวลาน้องต้อมกลับมาแล้ว แต่ผมโปรยังไม่มาเลยครับ ผมเป็นห่วงเลยโทรหา โปรบอกว่าตอนนี้รถติดมากเลยครับ แต่คิดว่าไม่นานคงถึง และแล้วผมก็ได้ยินเสียงคนหลายคนอยู่หน้าประตูห้องของโจ โจรีบบอกให้ผมดับไฟในห้องให้หมด ส่วนโจก็วิ่งไปในครัวเตรียมของบางอย่าง ในที่สุดก็มีคนไขกุญแจเข้ามา

“พวกมึงลองนึกดูสิ ขนาดวันนี้ยังลืม แล้วต่อไปจะคบกันยังไง”

เสียงน้องต้อมพูดกับเพื่อน ส่วนผมก็แอบอยู่ใกล้ๆกับโจ  แล้วโจก็จุดเทียนบนเค้กที่เตรียมไว้ ก่อนที่น้องต้อมจะเปิดไฟ เราก็ช่วยกันเดินถือเค้กมาที่หน้าน้องต้อมครับ

“เซอร์ไพร์ท!!!!”

แล้วเพื่อนของน้องต้อมก็เอากรวยป๊อกสายรุ่งที่ซ่อนไว้มาดึง ตอนนั้นดูน้องต้อมจะตกใจพอสมควร แล้วไฟก็เปิดขึ้น ผมทันเห็นหน้าน้องต้อมยิ้มนิดหนึ่ง ก่อนที่จะทำหน้าเหมือนงอนๆใส่โจ ก่อนที่โจจะเข้าไปบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้บอก แล้วก็ไม่ได้ลืมว่าวันนี้เป็นวันกิดแฟนของเขา

เสียงเพื่อนน้องต้อมก็พากันโห่แซวใหญ่ โจยื่นเค้กให้ต้อมเป่าเทียน แล้วทั้งห้องเราก็ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้น้องต้อม แล้วงานเลี้ยงวันเกิดน้องต้อมก็เริ่มขึ้น และแล้วโปรก็มาพร้อมกับหมอพจน์ หมอพจน์เข้าไปขอโทษน้องต้อมใหญ่เพราะไม่รู้ว่าวันนี้วันเกิดเลยไม่ได้ซื้ออะไรให้ แต่น้องต้อมบอกว่าแค่มาก็ดีใจแล้วน่ะครับ ผมเองก็ดึงๆโปรให้มาช่วยถือกล่องของขวัญให้

“น้องต้อม ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ นี่.. จากพี่และก็โปร”

“ขอบคุณมากๆเลยครับพี่ เห็นพี่โจบอกว่าพี่มาช่วยงานแต่แรก ผมไม่รู้จะขอบคุณไงดี ดูสิเกรงใจจังพี่คงลำบากแย่”

“ไม่หรอกๆ  อ่อ เปิดดูสิ”

ว่าแล้วน้องต้อมก็เปิดกล่องของขวัญออก

“โห....  น่ารักจังพี่หนึ่ง”

“โปรเป็นคนเลือกให้น่ะ”

“อย่างไอ้โปรนี่เหรอ ไม่เจงม๊าง”  โจพูดสอดขึ้นมา

“หน้าอย่างนี้น่ะนะซื้อของแบบนี้เป็นด้วย”

“อ้าวเพ่ คนอย่างผมก็มีอารมณ์ศิลป์น ไม่ใช่มีแต่อารมณ์งี่เหมือนเพ่นิ”

“ไอ้เชี่ยนี่ ขอสักทีเถอะ”

“จะมาขอได้ไง ผมมีมี่หนึ่งอยู่แล้ว”

“ไอ้!!!!”

ว่าแล้วโจก็วิ่งไล่เตะโปรไปรอบห้อง โปรก็เร็วนะครับหลบทัน ผมก็ดูโจไล่กวดโปรได้สักพัก ก็หันมาคุยกับน้องต้อมต่อ

“การ์ดนี่ด้วย ขอบคุณนะครับพี่หนึ่ง แหม่ โปรนี่น่ารักจริงๆ บอกให้ผมระวังอย่าให้พี่โจล่วงล้ำก่อนวัยอันควร”

แล้วน้องต้อมก็หัวเราะ ผมเองก็ขอโทษที่โปรเขียนอะไรไม่เข้าท่าลงไป งานก็เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ หมอพจน์เองหลังจากที่น้องต้อมแนะนำกับเพื่อนๆว่าเรียนหมอเท่านั้นล่ะ ทั้งหญิงแท้หญิงเทียมพากันรุมจีบใหญ่ ที่จริงเจ้าโปรก็โดนกะเขาด้วยนะครับ แต่โปรก็เอาแต่กินเสียมากกว่าที่จะสนใจคนอื่น (รวมถึงผมด้วย) เพื่อนของต้อมเห็นว่าโปรไม่สนใจต่างก็หันไปหาหมอพจน์แทน  งานนี้หมอพจน์เนื้อหอมจริงๆ

“น้องเรียนปีหนึ่งเองเหรอ ตายละพี่นึกว่าเพิ่งม.ปลาย” เสียงเพื่อนหญิงของต้อมพูดตอนที่เข้าจีบหมอพจน์

“อ่าครับ” ดูว่างานนี้หมอพจน์จะตอบแค่ ‘ครับ’ ‘ไม่ครับ’ ‘ขอบคุณครับ’ อยู่แค่นั้นจริงๆ ผมเลี่ยงมาดูวิวที่ระเบียงห้องครับ ลองดูวิวกรุงเทพฯตอนกลางคืน แสงรถที่วิ่งไปมาดูๆไปก็สวยไปอีกแบบของชีวิตในเมือง

“มาทำอะไรตรงนี้ครับพี่หนึ่ง” เสียงของหมอพจน์นั่นเอง เขาเดินมายืนข้างๆผม

“มาสำรวจดูห้องของโจหน่อย พี่คิดว่าวิวสวยดีนะ”

“ครับ”

“แล้วนี่เราหนีพวกในห้องมาได้ไงนี่” ผมพูดแล้วหมอพจน์ก็หัวเราะ

“ผมขอตัวเข้าห้องน้ำน่ะครับ แล้วพอดีเห็นพี่อยู่ตรงนี้”

“อ่อ” แล้วผมก็มองดูวิวต่อไป

“พี่หนึ่งครับ”

“ครับ ว่าไง”

“โปรรักพี่มากนะครับ”

“อ่าครับ” ผมงงกับคำพูดแปลกๆของหมอพจน์

“ถ้าเจอพี่เร็วกว่านี้ก็คงดี...” พูดเสร็จหมอพจน์ก็เงียบไป

“ฮือ อะไรเหรอ?” ผมมองหน้าหมอพจน์ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าหมอพจน์ดื่นแอลกอฮอร์ไปหรือเปล่า เพราะหน้าของหมอพจน์แดงตัดกันสีผิวที่ขาว

“ก็ อะไรๆสำหรับผมคงดีกว่านี้มั้งครับ”

ผมเองก็ไม่เข้าใจในความหมายของหมอพจน์ เท่าไหร่ แต่ผมพยายามคิดหาคำพูดที่ดีที่สุดที่จะพูดต่อไป

“พี่ก็รักเรานะหมอพจน์ เราเป็นน้องที่ดีของพี่ และเป็นพี่ที่ดีของโปร พี่ไม่รุ้จะชอบคุณเรายังไงดี”

“อ่ะครับ พี่...”

“ยังไงพี่ก็ฝากโปรด้วยนะ เวลาไปติวถ้าไม่ตั้งใจก็บอกพี่เดี๋ยวจัดการให้เอง”

“ครับ”

แล้วผมก็เหม่อมองไปบนท้องฟ้า หมอพจน์ก็มองตามผม ในใจลึกๆแล้ว ผมสึกสึกแปลกๆว่าทำไมคนน่าตาอย่างผม ถึงมีความมาชอบได้นะ คนที่ไม่มีอะไรเป็นจุดเด่น หรือดังอะไร เป็นคนธรรมดาๆ ถึงกลายเป็นที่รักของแฟนผม และใครบางคน
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-12-2008 10:13:05
โปรน่ารักดี  :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 16-12-2008 10:15:39
หนึ่งนี่เนื้อหอมใช่ย่อยแฮะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 16-12-2008 11:05:50
เหอเหอ

หนึ่งนี่จะโชคดีหรือโชคร้ายหว่ามีคนมาชอบเยอะแบบนี้เนี่ย

แต่แค่มีตี๋โปรก็พอเนอะ 555
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 16-12-2008 11:50:26
โปร เด็กอะไรเนี่ยน่ารักได้ไม่มีหมดอิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 16-12-2008 16:20:39
มีแต่คนมารุมรัก :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: ririmu ที่ 16-12-2008 23:15:42
"แหม่ โปรนี่น่ารักจริงๆ บอกให้ผมระวังอย่าให้พี่โจล่วงล้ำก่อนวัยอันควร” ก๊ากกกกก ชอบอ่ะ คิดไปได้  :m20:

+ 1 แทนคำขอบคุณค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 16 ธ.ค. :ตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 17-12-2008 09:24:06
สวัสดีครับ

ต่อเลยๆ ช่วงนี้งานเข้าจริงๆผม แย่ๆ

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ รักทุกคนที่สุดเลยยย



ตอนที่ 16

เมื่อมีงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา ตอนนี้แม้จะเนิ่นนานสักเท่าใด ผมก็ยังคงชื่นชมภาพและบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้า ข้างๆผมนั้นคือน้องที่ผมรักมากคนหนึ่ง แต่เป็นหมอพจน์นะครับไม่ใช่ไอ้ตี๋โปร

“นี่ๆ เพ่สองคนจะจีบกันถึงไหน พี่พจน์จะกลับป่ะ ผมรอพี่อยู่นะ”

“อ่ะ เดี๋ยวพี่ไปแล้วโปร ผมกลับก่อนนะครับพี่หนึ่ง”

หมอพจน์บอกลาผม ก็อวยพรให้หมอพจน์สอบได้คะแนนสูงๆ และที่สำคัญเดินทางกลับปลอดภัย เมื่อหมอพจน์กลับ ก็เหมือนว่าเพื่อนๆของต้อมจะเริ่มทยอยกันกลับด้วย จนในที่สุดก็เหลือ ผม โจ และน้องต้อม ที่ช่วยกันเก็บกวาดห้อง

“โห..พี่หนึ่ง อย่าครับๆไม่ต้องทำเลย นี่งานของผมนะ” น้องต้อมร้องห้ามผมช่วยเก็บของ

“นั่นสิไปนั่งอยู่เฉยๆคอยโปรดีกว่า เดี๋ยวทางนี้เค้าสองคนจัดการเอง” โจพูด

แต่ผมก็ยิ้มให้แล้วก็ช่วยเก็บต่อไป โจและน้องต้อมก็ช่วยกันเอาจานไปล้างในครัว ผมก็เก็บพวกสายรุ้งที่ติดตามห้อง

ตอนที่ผมเก็บของอยู่นั้นก็เหลือบไปในครัวเห็นโจกำลังกอดน้องต้อมทางด้านหลัง โดยน้องต้อมกำลังล้างจานอยู่

“นี่ตัว อย่ากวนได้ไหม เค้ากำลังล้างจานอยู่”

“แล้วทำไมอ่า ขอกอดหน่อยไม่ได้เหรอ”

“มันก็ได้ แต่ตอนนี้ล้างจานอยู่”

“น่านะ นิดนึงๆ”

“เอะ บอกว่าล้างจานอยู่”

ว่าแล้วโจก็ทำท่าเหมือนไซร้ที่คอน้องต้อม ผมเองก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่น แล้วตามเก็บพวกสายรุ้งต่อ ไม่นานเท่าใดผมก็ได้ยินเสียงเหมือนจานแตก แถมไม่แตกใบเดียวซะด้วยสิ ผมรีบวิ่งเข้าไปดูในครัวทันที

“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าๆ ดูสิ! จานแตกหมดเลย”

“ก็พี่บอกแล้วว่าให้วางก่อนนิแล้วไมเราไม่วาง”

“เอะ!! พี่นิ บอกแล้วไม่ให้มากวน”

“ก็บอกแล้วว่าจะช่วยก็ไม่ให้ช่วยเองนิ เฮอะ!!”

“พี่โจ ขึ้นเสียงแบบนี้หาเรื่องนะ”

“แล้วไง ทีเราขึ้นเสียงกับพี่ก่อนนะ”

“ไปเลย ออกไปเลยๆ ไม่ต้องมายุ่งกับจานของต้อม”

“เออ!! ออกไปก็ได้วะ”

ว่าแล้วโจก็หัวเสียเดินออกมา ออกไปที่ระเบียง ส่วนผมเองเมื่อมองไปที่ในครัวเห็นน้องต้อมกำลังเก็บจานที่แตกอยู่ ผมเลยเข้าไปช่วย

“พี่หนึ่ง ไม่ต้องครับ นี่ลำบากมาจัดงานให้ผมแล้วยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ เอาน่าพี่ช่วยเอง”

ผมกับต้อมช่วยกันเก็บจานที่แตกอยู่นั้น จู่ๆน้องต้อมก็ร้องขึ้น

“โอ้ย!!!”

“เป็นอะไรเหรอ” ผมดูที่ขาของต้อง เหมือนจะโดนเศษจานที่แตกอยู่บาด เพราะน้องต้อมไปนั่งทับพอดีตอนเก็บเศษจาน

“เฮ้ย ไปล้างแผลก่อนๆ”

ผมพยุงน้องต้อมไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างแผล ตอนนั้นผมผ่านตรงระเบียงที่โจยืนอยู่

“เฮ้ย โจ..”

“พี่หนึ่ง ไม่ต้องไปเรียกเค้า ปล่อยเค้า ดูสิจะมาสนใจไหม”

กรรมจริงๆ ขนาดนี้ยังงอนอยู่อีก ส่วนโจเองได้ยินเสียงผมเรียกก็เข้ามาในห้อง

“มีไรวะ” แล้วโจก็เห็นสภาพน้องต้อมที่โดยเศษจานบาด

“อ้าว!! ไปโดนอะไร”

“เศษจานอ่าสิ” ผมตอบ

“ไม่ต้องมายุ่งกับต้อมเลย ต้อมจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของต้อม”

ดูสิน้องต้อมยังไม่ยอมอีก

“เออ เออ เป็นบาดทะยักล่ะก็... ไอ้เด็กบ้า!!”

แล้วโจก็เดินกลับไปที่ระเบียงเหมือนเดิม ผมล่ะเหนื่อยใจกับคู่นี้จริงๆ จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสองคนนี่ทะเลาะกัน ต่างคนต่างไม่ยอมกันจริงๆ

ผมพาน้องต้อมไปล้างแผล และพาไปนั่งบนโซฟา ผมมองหาตู้ยาในห้องก็ไม่เจอเลยหันไปถามน้องต้อม

“น้องต้อม พวกยาทาแผลนี่อยู่ไหนเหรอ”

“ไม่ต้องหรอกครับพี่ ชั่งมัน จะตายก็ชั่งมัน” น้องต้อมตอบอย่างนี้ผมล่ะเหนื่อยใจจริงๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมเลยลุกขึ้นไปเปิดประตู ตาก็มองหาตู้ยาไม่ก็พวกยาทาแผลไปด้วย ผมเปิดประตูก็เจอ    โปรยืนอยู่ เพิ่งกลับจากส่งหมอพจน์

“ทำไมเปิดช้าจัง” พูดเสร็จโปรก็เดินเข้ามาในห้อง

“โปร ช่วยพี่หายาทาแผลหน่อยสิ”

“อ้าว พี่เป็นอะไรเหรอ”

“เปล่าหรอก แต่นั่นน่ะ” แล้วผมก็หันหน้าไปทางน้องต้อม

“อ้าว พี่ต้อมโดนอะไร”

“โดนเศษจานบาดน่ะ ช่วยพี่หายาหน่อยเร็ว”

“ก็นั่นไง”

แล้วโปรก็ชี้ไปที่หลังทีวี โห.. ตาดีจริงๆ ผมหาตั้งนานทำไมหาไม่เจอนะ (ที่จริงผมเป็นคนหาของไม่ค่อยเจอน่ะครับ) มันอยู่เป็นกล่องยาเลยล่ะครับ แล้วผมก็ทำแผลให้น้องต้อม ผมบอกโปรให้ไปช่วยเก็บเศษจานที่เหลือให้หน่อย โปรก็ไปแต่โดยดี พอผมทำแผลให้น้องต้อมเสร็จแล้ว ผมก็เข้าครัวไปช่วยโปรเก็บเศษจานต่อ

“พี่หนึ่ง เค้าเป็นอะไรน่ะ”

“ก็อย่างที่เห็นล่ะ”

“แล้วไมพี่โจไม่มาช่วย”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูเหมือนโปรจะพอเข้าใจสถานการณ์

“ก็เป็นแบบนี้ตลอด พี่ไม่รุ้จะแก้นิสัยสองคนนี่ยังไงละ”

“งั้นเหรอ...”

แล้วโปรก็หยุดคิดอยู่สักพัก ผมก็เก็บจานที่เหลือมาล้างต่อ

“เอางี้ละกัน”

“เอาอะไรเหรอโปร”

“พี่โจเคยบอกพี่รึเปล่าว่าพี่โจกับพี่ต้องตอนจีบกันใหม่ๆ เค้าทำไงมั่ง”

“ก็เคยนะ ทำไมเหรอ”

“เราก็มาเริ่มรำลึกความหลังให้คู่นั้นกันหน่อยไง”

ผมฟังแผนของโปรก็เห็นด้วยแล้วเริ่มทำตามทันที  โจเคยบอกผมว่า แรกสุดที่เค้าเริ่มจีบน้องต้อมก็โดยการแอบส่งดอกไม้ไปให้ ส่วนน้องต้อมก็ตอบรับโดยให้ช็อกโกแลต ผมแอบไปเปิดดูในตู้เย็นของโจก็มีจริงๆ ผมรู้สึกว่าโจจะชอบช็อกโกแลตมากตั้งแต่วันที่ได้กินของน้องต้อมที่ให้มา ส่วนดอกไม้โปรบอกผมว่าไม่ต้องห่วงเดี่ยวจะหามาให้ ว่าแล้วโปรก็ออกไปข้างนอก ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าดึกขนาดนี้แล้วจะไปหาดอกไม้เป็นช่อมาจากไหน

ก่อนอื่น ผมบอกให้น้องต้อมไปนอนพักในห้องนอนก่อน น้องต้อมก็ยอมทำตามโดยดีครับ ผมช่วยพยุงน้องเค้าเข้าห้อง แล้วก็ออกมา ผมรอโปรไม่นานโปรก็มาพร้อมกันดอกไม้ช่อใหญ่

“ไปหามาจากไหนเนี่ย”

“ก็ซื้อมาสิคับ ถามได้ เริ่มเลยดีกว่า”

ผมก็เอาดอกไม้ไปจากโปร เดินเข้าไปในห้อง ผมเห็นน้องต้อมนอนอยู่ เหมือนจะร้องไห้ด้วยสิครับ

“น้องต้อมหลับรึยัง”

“ยะ ยังครับพี่” แล้วน้องต้อมก็ลุกขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนแล้วหันมาทางผม น้องเค้าคงงงนะครับ เห็นผมถือดอกไม้ช่อใหญ่อยู่

“ดอกไม้นี่..”

“น้องต้อมจำได้ไหมครับ ตอนที่โจเจอกับเราครั้งแรก

โจให้ดอกไม้กับต้อมใช่ไหมครับ?”

“ชะ ใช่ครับ แล้วนี่”

“พี่อยากบอกให้เรารู้ว่าคนเรา กว่าจะรักกัน กว่าจะเข้าใจกัน มันต้องเจออะไรหลายๆอย่างนะครับ พี่ว่า เรามาถึงขนาดนี้ได้ แล้วทั้งโจแล้วก็น้องต้อมสามารถผ่านอะไรมาได้หมด ก็เพราะรักไม่ใช่เหรอ?”

น้องต้อมไม่ได้ตอบอะไร แต่ผมก็ยิ้มพร้อมส่งดอกไม้ให้ น้องต้อมรับไปแล้วมองไปที่ดอกไม้ช่อนั้น ส่วนผมก็เดินออกมาข้างนอกอย่างเงียบๆ ด้านโปรเองผมล่ะเป็นห่วงจังไม่รู้จะไปคุยหรือไปกวนโจ และแล้วโปรก็เดินออกมาจากระเบียง

“นี่ไปกวนๆใส่โจรึเปล่าน่ะ”

“แหม่เ ผมรู้นะว่าอะไรควรไม่ควร ผมไม่ใช่เด็กนะ”

“ก็เด็กอยู่อ่าสิ”

“แล้วทำไมพี่ต้องมาหลอกเด็กอย่างผมด้วยล่ะ เอ...หรือว่าจะโดนเด็กหลอก”

“ไอ้โปร!!  แล้วนี่เรียบร้อยแล้วเหรอ โจว่าไงบ้าง”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร สงสัยคงกะลังกินช็อกโกแลตอยู่”

“มันจะได้ผลเหรอ”

“ก็คอยดูละกันนะคับ”

ผมกับโปรนั่งรอดูสถานการณ์บนโซฟา แต่ก็ไม่เห็นวี่แววว่าทั้งคู่จะคืนดีกันเลย สงสันแผนของโปรจะไม่ได้ผลเสียแล้วมั้งนี่ แต่ผมก็เปิดทีวีดูฆ่าเวลาไป จนดึกมากแล้วครับ เกือบๆตีหนึ่งได้ โปรก็มาโอบไหล่ผมผมก็เลยซบไปที่ไหล่ของโปร แล้วผมก็หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ผมตื่นขึ้นมาเพราะเหมือนมีแสงเข้ามาที่ตาผม ผมลืมตาขึ้น แล้วมองไปสภาพรอบๆห้อง แล้วก็ยังมึนๆว่าทำไมไม่คุ้นเลย แล้วก็ก็นึกออก นี่ผมนอนในห้องนอนอีกห้องของโจ ผมมองไปรอบๆก็เห็นใครสักคนนอนข้างๆผม เขาซุกตัวในผ้าห่ม ผมเลยเปิดผ้าห่มออกมาดูก็เจอว่าเป็นเจ้าตี๋โปรนี่เอง

“อื้อ......  เอาผ้าห่มมา....”

เสียงโปรดูงัวเงียมาก แทนที่จะดึงแต่ผ้าห่ม แต่โปรก็ดึกผมไปกอดด้วย ผมก็ตกใจครับ เพราะไม่เคยนอนกอดกับโปรมาก่อน  ผมเองก็พยายามนึกอยู่ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เท่าที่ผมจำได้คือผมดูทีวีกับโปรแล้วก็หลับไป เท่านั้นเอง

ผมพยายามสำรวจตัวเอง เสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ โปรเองก็เหมือนกัน  เอ...เมื่อคืนหวังว่าคงไม่มีอะไรระหว่างผมกับโปรนะ ส่วนตัวผมเองก็ไม่รู้สึกอะไร ผมคิดว่าคงไม่มีอะไรมากกว่านอนหลับ ไม่นานผมก็นึกออกว่าโจกับน้องต้อมทะเลาะกันอยู่ ผมลุกขึ้นมาจากเตียง แต่เจ้าตี๋โปรสิครับ ยังจะดึงมือผมไว้อีก ผมก็ดึกมือตัวเองออกมาแล้วเดินออกไปนอกห้องนอน สภาพข้างนอกก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเมื่อวาน แต่ผมกำลังมองหาโจและน้องต้อมอยู่ ผมเดินไปที่หน้าห้องนอนของโจ จู่ๆโจก็เปิดประตูเดินออกมาพอดี

“อ้าวหนึ่งตื่นละเหรอ”

สภาพโจตอนนั้นพอทราบได้ว่าเมื่อคืนผ่านอะไรมา ผมมองไปข้างในห้องเห็นน้องต้อมนอนอยู่ สภาพก็ไม่ต่างจากโจนัก เหมือนโจจะอายครับเลยรีบปิดประตู

“เออนี่ กินอะไรเปล่า เดี๋ยวไปซื้อมาให้” โจถามผมอีก

“แล้วนี่... เมื่อคืน”

“อ๋อ ก็เห็นแกสองคนหลับอยู่บนโซฟา เค้าเลยเอาแกสองคนมานอนในห้อง พอดีไอ้โปรมันตื่นพอดี มันเลยพยุงแกเข้าห้องนอนเลย...”

“แล้วนี่....”

“นี่อะไรวะ เฮ้ยจะกินไร เดี๋ยวลงไปซื้อให้”

ผมก็ตอบโจไปว่าอะไรก็ได้ แล้วผมก็พยายามนึกว่าเมื่อคืนนี้โปรทำอะไรผมบ้างรึเปล่า แต่ผมก็จำไม่ได้ ผมเดินกลับไปในห้องนอนที่ผมนอน โปรก็ยังนอนขดอยู่ในผ้าห่ม

“โปรๆ” ผมปลุกโปรพร้อมเขย่าตัวโปรไปด้วย

“โปร ลุกขึ้นมาคุยให้รู้เรื่องกันก่อน”

“อือออออออออ”

โปรทำเสียงแล้วหันไปอีกทาง ผมเลยกระโดดขึ้นไปนั่งทับตัวโปรแล้วจี้เอวให้ตื่น (โปรเป็นคนบ้าจี้ครับ)

“นี่ๆๆ  จะตื่นไหมๆ” แล้วโปรก็ดิ้นไปดิ้นมาครับ

“โอ้ยๆๆๆๆ  อย่าๆๆๆๆ  ม่ายอาวววววววว”

“จะตื่นรึยังฮะ”

“ม่าย” พูดเสร็จโปรก็แกล้งหลับต่อ ผมเลยจี้ที่เอวอีกหลายๆที

“โอ้ยยยๆๆๆๆๆๆ   อย่าดิๆ   ตื่นแย้วววววววววว”

“มาเลย ลุกมาคุยกันก่อน เมื่อคืนนี่ มันอะไรกัน”

“เมื่อคืนหรอ??”

ผมเพิ่งเคยเห็นตอนโปรเพิ่งตื่น ตาโปรที่ตี่อยู่แล้ว ยิ่งตี๋หนักจนผมไม่เห็นเลยว่าเค้านั้นลืมตาหรือหลับตาอยู่

“อ๋อ เมื่อคืนก็ พี่เล่นทำเอาผมเหนื่อยเลย อืม....”

“เฮ้ยยยยย ไม่จริงหรอก”

“อารายค๊าบแพ่ เมื่อคืนยังกอดผมซะแน่นเลย ร้องดังอีก...”
แต่ผมพยายามนึกอีกครั้ง แต่ก็นึกไม่ออก

“ไม่จริงละๆ เราโกหกพี่ละ”

“ผมจะโกหกเพ่ทำไมล่ะ”

ผมหันหลังให้โปร แล้วมานั่งนึกอีกครั้ง  ผมว่าโปรน่าจะโกหกผมมากกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะแน่เสมอไป ตายละนี่ผมเสียตัวให้เจ้าตี๋นี่แล้วเหรอนี่!?!?!?!!!?

จู่ๆโปรก็มากอดผมด้านหลังแล้วบอกกับผมว่า

“ผมไม่เคยโกหกพี่เลยนะครับ....” ผมพยายามจะพยักหน้าแสดงการรับรู้

“แต่ครั้งนี้ มันทนไม่ไหวจริงๆ อุ๊บ!! คิกคิก..” แล้วเจ้าโปรก็หลุดหัวเราะออกมา

ผมก็หันหน้าไปดูโปรหัวเราะ ด้วยสีหน้าที่งงมากๆ

“ตกลงนี่...”

“ผมล้อเล่นน่ะค๊าบ ดูสิๆ เครียดใหญ่เลยๆ”

แย่ที่สุดมาหลอกกันได้ ตอนนี้ผมคิดจะแก้แค้นโปรสักที (จริงๆก็คืองอนนั่นแหละ) เลยลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไปนอกห้องนอน  ผมก็เจอโจเดินเข้ามากลับจากซื้อของพอดี

“เออนี่ ซื้อโจ๊กมาให้ เจ้านี้อร่อยมาเว้ย แมวน้อยยังชอบเลย”

แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ ใส่รองเท้าแล้วเดินออกไปนอกห้องของโจทันที โจก็คงงงๆน่ะครับ เรียกผมใหญ่ ผมเดินลงลิฟต์มาถึงข้างล่าง ผมกะจะกลับหอเองจะไม่กลับกับโปรแล้ว ผมเดินไปที่หน้าคอนโคแล้วรอรถแท็กซี่ที่จะผ่านมา เช้านี้เป็นอะไรก็ไม่รู้มันไม่มีผ่านมาเลยครับ ผมรอได้ไม่นานจู่ๆก็มีรถมาบีบแตรใส่ผม ผมจำเสียงแตรได้รถของโปรนี่เอง โปรลงมาจากรถแล้วจับมือผมให้ขึ้นรถไปกับเขา แต่ผมก็ดึกดันว่าจะกลับเอง

“พี่หนึ่ง ผมขอโทษ น๊า....  อย่าโกรธผม”

“.....”  ผมเงียบไม่ตอบอะไร

“พี่หนึ่ง นะนะนะ ขึ้นรถเถอะคับ”

“เราสัญญากับพี่ว่ายังไง”

“สัญญา ก็สัญญาว่าจะไม่โกหกพี่หนึ่ง...”

“แล้วนี่มันอะไร”

“ขอโทษคร๊าบบบบบ นะนะนะนะ จะให้ผมทำอะไรผมก็ยอมแย้วววว”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ นี่ผมคงจะพอได้แล้วมั้งครับ

“อืม ทีหลังอย่าทำอีกนะ”

“เย้ พี่หนึ่งน่ารักจังเลย”

แล้วโปรก็กระโดดกอดผม ผมพยายามบ่ายเบี่ยงเพราะตอนนี้เราอยู่กันข้างถนนน่ะครับ คนผ่านไปมาเยอะ ผมอาย

จากนั้นผมกับโปรก็ขึ้นไปบนรถ ผมสังเกตเห็นการ์ดใบเล็กๆตกอยู่ที่เบาะคนนั่ง ผมหยิบขึ้นมาดู มันเขียนว่า
‘แด่แฟนคนเดียวของผม อยู่กับผมตลอดไปนะครับ’

“ของใครเนี่ยโปร” ผมถามพร้อมชูการ์ดให้โปรดู

“ของผมเอง”

“เอ๋ แล้วเอาให้ใคร?”

“ก็พี่ไงล่ะครับ มันมาพร้อมกับดอกไม้”

“นี่อย่าบอกนะว่าช่อดอกไม้เมื่อคืนนี้...”

“ช่าย เดี๋ยวผมต้องส่งบิลค่าดอกไม้ไปให้พี่โจซะละ”

“แล้วให้พี่ทำไม”

“ก็ต้องยกความดีให้พี่พจน์ล่ะ บอกว่าให้ผมซื้อดอกไม้ให้พี่ พี่แกว่าพี่ต้องชอบแน่ๆ”

ที่จริงผมก็ชอบจริงๆครับ หมอพจน์นี่รู้ใจผมจัง

“สงสัยต้องตอบแทนหมอพจน์หน่อยแล้ว ช่วยให้โจกับน้องต้อมกลับมาคืนดีกันได้”

“แต่ผมเกือบจะเลิกกะแฟนอ่าเดะ”

“แล้วใครบอกให้มาหลอกล่ะ แล้วมาหลอกเรื่องอย่างนี้ด้วยนะ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ต่อไปไม่หลอกแล้วล่ะครับ จะทำเจงๆ ละ”

“ไอ้บ้านี่!!”

แล้วโปรก็หัวเราะ ต่อจากนั้นเราก็เดินทางกลับไปสู่หอของผม ผมเองก็อยากบอกโปรเหมือนกันนะครับว่าที่ผมโกรธโปรน่ะ ผมแกล้งนะ แต่เรื่องอะไรจะบอก เดี๋ยวโปรก็หาเรื่องเล่นกะผมได้ต่อสิครับ โดนถอนงอกแย่เลย โจก็โทรมาถามผมด้วยความเป็นห่วงเหมือนกันครับว่ามีเรื่องอะไรกัน ผมก็บอกโจไปว่าไม่มีอะไร แค่ล้อเล่นกันนิดหน่อย แล้วขอโทษด้วยที่ออกมาก่อนโดยไม่ลง โจเองก็ขอบคุณผมกับโปรครับที่ช่วยให้เขากับน้องต้อมคืนดีกันได้ในที่สุด

และแล้ววันนี้ก็เป็นวันแรกที่ผมนอนกับโปรครับ แต่ผมก็เสียดายนิดๆ ที่ไม่รุ้เลยว่านอนกอดโปรมันเป็นยังไง เพราะผมหลับไม่รุ้เรื่อง ต่อไปท่าจะต้องให้ตัวเองตื่นตัวมากกว่านี้ซะแล้วล่ะครับ เวลาใครมาทำอะไรผม จะได้รู้เรื่อง ฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 17-12-2008 10:13:20
น้องโปรนี่มันน่ารักชะมัดแฮ่ะ ขี้เล่น ขี้อ้อน แถมกวนตรีนได้อีกต่างหาก  :-[

อ้างถึง
และแล้ววันนี้ก็เป็นวันแรกที่ผมนอนกับโปรครับ แต่ผมก็เสียดายนิดๆ ที่ไม่รุ้เลยว่านอนกอดโปรมันเป็นยังไง เพราะผมหลับไม่รุ้เรื่อง ต่อไปท่าจะต้องให้ตัวเองตื่นตัวมากกว่านี้ซะแล้วล่ะครับ เวลาใครมาทำอะไรผม จะได้รู้เรื่อง ฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะ

นั้นจิ ๆ ต้องรู้ตัวด้วย จะได้มีส่วนร่วม  :m20:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-12-2008 10:19:17
น่านซิได้นอนกอดกันดันไม่รู้ตัวอีก เสียดายนะเนี่ย :jul3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 17-12-2008 10:43:52
ตี๋โปรน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-12-2008 10:49:13
งอนๆ ง้อๆ แล้วก็ดีกัน รักตลอดไป   :m3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 17-12-2008 10:57:13
น่ารักได้อีก :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 17-12-2008 12:49:05
เหอเหอ

น่ารักได้อีก

ต่อไปไม่หลอกแล้วทำเจงเลย

เย่เย่  ทำเลย ทำเลย

 :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 17-12-2008 15:38:15
หลงรัก โปร จนหัวปรักหัวปรำาแล้วนะเนี่ย อิๆ

แล้วเมื่อไหร่คู่นี้เค้าจะ ... กันนฅ๊า บอกหน่อยซิ รอ NC อยู่ 555+++
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-12-2008 19:24:34
เสียดาย  :z3: ไม่น่าหลับเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 17-12-2008 19:35:22
^
^
^
^
 :-[
หื่นน่ะคนเนี๊ย  :o8:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-12-2008 20:24:36
ไอ้ตี่นี้จะน่ารักไปไหนเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 17 ธ.ค. :ตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 18-12-2008 09:17:17
สวัสดีครับ

หลงรัก โปร จนหัวปรักหัวปรำาแล้วนะเนี่ย อิๆ

แล้วเมื่อไหร่คู่นี้เค้าจะ ... กันนฅ๊า บอกหน่อยซิ รอ NC อยู่ 555+++

ไม่นานเกินรอครับ (อีกสองตอน คิคิคิคิคิ)  :haun4:
ช่วงนี้งานออกละ แต่ถ้าข้ามไปปีหน้างานคงเข้าของจริงแล้วล่ะ คงจะมาทุกวันยากแล้วอ่าครับ ยังไงช่วยๆกันดันให้หน่อยนะคับ ขอความกรุณาด้วยนะคร๊าบบบบบ (มีแค่สามสิบตอนเอง ไม่นับรวมตอนพิเศษ)

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ



ตอนที่ 17

เข้าถึงเดือนธันวาคมลมหนาวพัดผ่านมาแล้ว มันหอบความหนาวของบ้านผมมาด้วย คืนนี้ผมยืนที่ระเบียงแล้วมองออกไปตามสายลม คืนนี้ผมอยู่ที่ห้องคนเดียวเพราะรูมเมทผมเองก็ไปนอนกับแฟนที่หอ ส่วนโปรตอนนี้ก็ยังเรียนพิเศษอยู่ทั้งที่วันนี้เป็นวันศุกร์ซึ่งทุกทีโปรจะว่างเพราะเรียน ร.ด. แต่ยิ่งเข้าใกล้ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากเท่าไรก็เหมือนโปรยิ่งเรียนหนักขึ้นเท่านั้น เวลาของผมกับโปรเองก็เริ่มไม่ค่อยตรงกัน แต่โปรเองก็ยังคงมารับ – ส่งผมตลอดเหมือนเดิม เราเริ่มคุยโทรศัพท์มากขึ้นแทนการเจอกัน แต่ผมว่ามันยังไม่ดีกว่าที่เราไม่ได้คุยกันเลย

ลมหนาวพัดมาอีกครามันทำให้ผมเหงาจับใจเสียจริงผมนึกถึงวันนี้ของปีที่แล้ว ตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้านของผมอยู่กับที่บ้านพร้อมหน้าทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ทำสุกี้ยากี้ทานกันเองในบ้าน ยิ่งตอนอากาศหนาวๆนี้ได้ทานอะไรร้อนๆมันชั่งมีความสุขมากมาย ไม่เท่าไรเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ”

“ว่าไงลูก ทำอะไรอยู่” เสียงของคุณแม่ของผมนี่เอง

“ไม่ได้ทำอะไรครับ ก็ดูทีวีอยู่”

“แล้วนี่หยุดยาวอาทิตย์หน้าจะกลับบ้านหรือเปล่า”

“อาทิตย์หน้าเหรอครับ  เอ  หนึ่งไม่แน่ใจนะ มันใกล้สิ้นปีด้วยไม่รู้ว่าจะเคลียร์งานทันไหม”

“ถ้าจะมาก็บอกนะ  ไงก็ลองชวนเพื่อนทำงานมาสิ”

“อ่ะครับ แล้วจะลองชวนดู”

“ที่จริงพ่อเค้าว่าจะไปเที่ยวดอยกันน่ะ จะไปนอนเต้นท์”

“อ้าวเหรอครับ แล้วเพื่อนหนึ่งจะไปไหมนี่ พวกกรุงเทพเค้าจะมากันรึเปล่า”

“ก็บอกเค้าว่ามาพักผ่อนฟอกปอดบ้างไง ถ้ามาก็บอกนะ  แม่จะเตรียมเต้นท์ให้”

“อ่าครับ แล้วจะลองถามดู”

แล้วผมก็ถามถึงสารทุกข์สุขดิบกับทางบ้าน ที่จริงนี่ก็นานแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้านเลยเพราะว่าไม่ค่อยมีวันหยุดยาวเลยในช่วงนี้ จะว่าไปผมก็ไม่เคยพาเพื่อนที่ทำงานหรือว่าโปรไปที่บ้านเลย ทุกครั้งที่กลับบ้านผมก็จะกลับคนเดียวเสมอ บางครั้งโปรเองก็อ้อนอยากไปเที่ยวที่บ้านผม

“พี่หนึ่งกลับบ้านอีกละ”

“อืม ก็อาทิตย์นี้มีหยุดยาว”

“ผมไปด้วยจิ”

“ไปทำไมอ่ะ”

“ก็อยากจะไปเจอคุณพ่อตากะคุณแม่ยาย”

“เฮ้ย  บ้าน่า”

“ทำไมรังเกียจผมหรอ”

“เปล่า พี่ไม่รู้จะบอกแม่ว่าเราเป็นใคร”

“ก็บอกไปสิว่าลูกเขยของแม่อ่ะ”

“เฮ้ย แม่พี่ฆ่าตัวตายพอดี”

มันเป็นความจริงที่ผมไม่อาจจะปฏิเสธได้ ที่บ้านผมไม่ค่อยจะยอมรับเรื่องอย่างนี้เท่าไหร่ บางทีเราดูละครที่มีบทอย่างนี้ที่บ้านมักจะวิจารณ์ไปในทางที่ไม่ดี ‘พวกรักรุนแรง’ บ้างล่ะ ‘พวกมีปม’ บ้างล่ะ และด้วยความที่ผมเองเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวมีหลายครั้งมากที่คุณพ่อคุณแม่จะถามว่าทำไมไม่มีแฟนสักที ผมก็อยากจะบอกว่าผมน่ะมี แต่ผมบอกไม่ได้ครับ ตอนผมคบกับโอ๊ตอยู่ก็อยากจะบอกเหลือเกินว่า ‘เพื่อน’ ที่มารับส่งผมบ่อยๆนั่นน่ะ แฟนของผม ยิ่งตอนนี้เป็นไอ้ตี๋โปรคิดว่าภาพออกมาจะเป็นยังไงครับถ้าเกิดที่บ้านผมรู้เรื่องเข้า  เรื่องความรักของผมกับที่บ้านนั้นจึงไม่เคยที่จะให้รู้ถึงกันได้เลย

ผมยังนึกถึงตอนที่โปรอ้อนไปบ้านผมเสมอ จะว่าไปแล้วนี่โปรเองก็บอกให้ผมไปที่บ้านเขาตลอด แต่ผมก็บ่ายเบียง เพราะความอายครับ ไม่รู้จะไปคุยกับที่บ้านของโปรว่าอะไร จะบอกว่าเป็นเพื่อนก็ยากเพราะว่าผมเองก็ใช่จะหน้าเด็กขนาดนั้น แต่คราวนี้ที่บ้านผมเองก็เปิดโอกาสแล้ว ผมอาจจะวางแผนให้โปรมาเที่ยวที่บ้านผมได้

เช้าวันต่อมาโปรก็มารับผมตามปกติ ช่วงนี้ขอบตาของโปรเริ่มมีรอยคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

“นอนดึกเหรอ”

“ช่าย  เป็นมะมะ หมีแพนด้าอยู่แว๊ววววววว
ไอ้พี่พจน์บ้า มันวางตารางอ่านหนังสือให้ผม ม๊าก็เห็นดีด้วย เดินมาเช็คทุกชั่วโมงเลย”

“สงสัยที่บ้านกะให้เราเรียนหมอเหมือนหมอพจน์มั้ง” ว่าแล้วผมก็หัวเราะในคอเบาๆ

“ม่ายยยยยยย  ผมจาเรียนเศรษฐศาสตร์”

“นะ พี่เตือนแล้วนะ ถ้าไม่ชอบก็อย่าเลยดีกว่า”

“ทามมาย ก็ผมชอบ ชอบคนเรียนเศรษฐศาสตร์” ว่าเสร็จโปรก็เอี้ยวตัวมาทำท่าจะหอมแก้มผมทีหนึ่ง

“เหอ อย่าๆๆ  มองข้างหน้าสิ ขับรถอยู่นะ!!!”

ผมบอกเตือนแต่โปรกลับหัวเราะ โปรนี่ชอบเล่นเสมอหลังจากที่เราตกลงเป็นแฟนกัน(อย่างเป็นทางการ) ที่จริงมันก็หลายเดือนมาแล้ว ตอนนี้ที่จริงผมเองก็เริ่มชินๆแล้วที่โปรอาจจะละลาบละล้วงผมไปบ้าง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

ในที่สุดผมก็ถึงที่ทำงานจนได้ ช่วงนี้งานผมเริ่มเยอะขึ้นเป็นเท่าตัวเพราะใกล้สิ้นปีแล้วต้องมีเรื่องที่ต้องเคลียร์มากมาย แม้แต่โจ พี่จิ๊บ ต่างก็แย่พอๆกัน

“โอยยยยย  เจ้านายขอรับ ผมขอโบนัส 6 นะขอรับ”

“แล้วแกคิดว่าอย่างแกจะได้เหรอไอ้โจ”

“แหม่เจ้านายคร๊าบบบบ”

โจกำลังพูดทีเล่นทีจริงกับพี่จิ๊บอยู่ เพราะช่วงนี้ก็ใกล้เวลาพิจารณาผลงานประจำปีแล้ว พี่จิ๊บต่อปากต่อคำกับโจสักพักก็หันมาที่ผม

“เออนี่หนึ่ง คิดว่าจะเสร็จทันก่อนหยุดยาวไหม”

“โห พี่ครับ คงไม่ทันน่ะครับพี่ งานเมื่อเช้าเค้าเพิ่งส่งมาเพิ่มอีก”

“ฮะ  งานอะไรใครส่ง”

“ก็ข้างบนส่งมาน่ะครับเค้าบอกว่าเป็นเรื่องของเรา”

ผมพูดเสร็จพี่จิ๊บมามาหยิบงานที่ผมเพิ่งได้รับมาขึ้นมาดู

“เฮ้ย ไอ้หนึ่ง นี่ไม่ใช่ของเรา นี่แกทำไปรึยัง”

“ยังครับพี่เพราะของเก่ายังไม่เสร็จ”

“งั้นไม่ต้องทำอันใหม่แล้วนะ ส่งมาได้ไงล่ะนี่คนละเรื่องกับเราเลย”

ว่าเสร็จพี่จิ๊บก็เอาแฟ้มงานบนโต๊ะผมไปแล้วบอกว่าจะจัดการให้ นั่นทำให้ผมเหลืองานอีกไม่มากนักที่จะเคลียร์ ไม่นานเท่าใดพี่จิ๊บก็เดินกลับมา

“เจ้าหนึ่งเอ้ย เค้าส่งมาผิดที่ พี่ถึงว่ามันแปลกๆ แล้วนี่ของเราไปถึงไหนแล้ว”

“ถ้าไม่ทำอันใหม่ ตอนนี้ก็เหลือไม่เท่าไหร่แล้วครับ”

“ทันก่อนหยุดยาวใช่ไหม”

“ครับพี่ ทันแน่นอน”

ผมกับพี่จิ๊บก็คุยกันต่อได้สักพัก พี่จิ๊บก็กลับไปที่ห้องทำงานจึงเหลือผมกับโจที่นั่งติดกัน

“หนึ่ง ปิดยาวไปไหนป่ะ”

“ก็คงจะกลับบ้าน”

“เหรอ กูว่าจะไปเที่ยวเหนือกับแมวน้อยอ่ะ”

“เหรอ เที่ยวไหนล่ะ”

“ยังไม่รู้เลย ตอนหยุดยาวคนมันเยอะว่ะ”

“เออ... ไปเที่ยวบ้านกูไหมล่ะ  พอดีที่บ้านมีแพลนจะไปเที่ยวดอยพอดี”

“เฮ้ย เจงดิ  ดีดีดี น่าไป”

“แต่นอนเต้นท์นะ”

“อ้าวเจง ได้บรรยากาศเว้ย”

“จะไปจริงเปล่าจะได้โทรบอกที่บ้านให้”

“ไปๆ เดี๋ยวต้องบอกแมวน้อยก่องน๊า”

ว่าแล้วโจมันก็โทรไปหาน้องต้อมทันที คุยได้ไม่นานก็วางหู

“ได้เลย แมวน้อยบอก OK นี่ ชวนไอ้โปรไปเปล่า”

“อืม ไม่รู้สิ ไม่รู้จะบอกกับที่บ้านว่าอะไร”

“จะไปยากอะไรวะ ก็บอกว่าน้องกูสิ แมวน้อยกับไอ้โปรก็บอกว่าเป็นน้องกูอยากมาด้วย ก็แค่นั้น”

“จะดีเหรอ”

“เออ  ดี เชื่อดิ”

ผมคิดว่ามันก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ผมก็แนะนำทางบ้านไปว่าโจนี่คือเพื่อนที่ทำงาน (ซึ่งมันก็จริงๆ) แล้วบอกว่าโปรกับน้องต้อมเป็นน้องของโจ(แล้วขอตามมาเที่ยวด้วย) อืมแล้วก็ชวนหมอพจน์ไปด้วยก็คงจะดี

ตอนเลิกงานผมก็ออกที่หน้าที่ทำงานตามปกติ โปรได้เอารถมาจอดรอแล้ว ผมขึ้นไปบนรถ วันนี้ผมไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าที่ดูเหมือนว่าโปรจะไม่ค่อยหันมามองผมเลย รถเล่นออกไปช้าๆวันนี้ว่าไปก็แปลกทุกทีโปรจะค่อนข้างขับรถเร็วพอสมควร บรรยากาศเริ่มไม่ค่อยดีจนผมรู้สึกได้ ผมกำลังนึกว่านี่ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่าแต่ก็นึกไม่ออก ผมมองหน้าโปร หลายครั้งแต่โปรก็ไม่หันมามองผมสักที จนในที่สุดผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว

“โปร....” ผมเรียกโปรแต่โปรก็ไม่หันมา

“โปร...
โปร
โปร
นี่โปร!!!!!  พี่เรียกอยู่นะ”

“ได้ยินแล้วไง มีอะไรก็พูดมาสิ”

น้ำเสียงโปรฟังดูแปลกไป ทุกทีโปรค่อนข้างจะทักผมก่อนเสมอเวลาผมขึ้นมาบนรถ และน้ำเสียงเหมือนจะกวนๆ แต่ตอนนี้โปรพูดด้วยน้ำเสียงที่ขรึมๆอย่างเห็นได้ชัด

“โปรเป็นอะไร ไม่เห็นเหมือนทุกที”

“ทุกทีก็แบบนี้นิครับ”

“ทุกทีอะไร วันนี้แปลกไปนะ มีอะไรเหรอ ไปทะเลาะกับใครมา”

“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ”

“แล้วมีอะไร”

“....” โปรเงียบ

“นี่โปร เราเป็นแฟนกันไหม”

“ถามทำไม”

“ถ้าเป็น มีอะไรก็ขอให้บอกมาตรงๆ อย่าทำแบบนี้ นะครับ”

“ก็.....พี่ไม่พาผมไปเที่ยวด้วยนิ”

“ไม่ไปเที่ยว???? ไปเที่ยวอะไร”

“เที่ยวบ้านพี่ พี่ชวนแต่พี่โจ พี่ต้อม พี่พจน์ แต่ไม่ชวนผมไป ทำไมล่ะ ผมไปไม่ได้เหรอ ผมเป็นแฟนพี่นี่จะไม่ให้ไปไหว้พ่อแม่พี่เลยใช่ไหม”

“เดี๋ยว ใครบอกมาว่าพี่จะไม่ให้เราไป แล้วนี่รู้เรื่องได้ไงว่าพี่จะกลับบ้าน”

“พี่โจโทรมาบอก บอกว่าพี่กลัวผมจะแสดงตัวว่าเป็นแฟนพี่ เลยไม่อยากให้ผมไป”

“เฮ้ย โจมันโทรไปบอกงั้นเหรอ บ้าดิ พี่จะพาเราไปอยู่ เราน่ะโดนไอ้โจหลอกแล้ว”

“พี่อย่ามาพูดให้ผมดีใจดีกว่า ไม่อยากพาผมไปก็บอกมา”

“พี่จะพาเราไปจริงๆ ไอ้โจเองอีกวางแผนให้เสร็จว่าจะแนะนำเรากับพ่อแม่พี่ว่าอะไร”

“อ้าว เจงดิ ไอ้พี่โจ เดี๋ยวเหอะๆ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ โปร เราโดนไอ้โจหลอกแล้วนะ มิน่าล่ะถึงทำท่าไม่พอใจ”

“ก็ไอ้พี่โจโทรมาบอกงั้นอ่ะ แถมทำเสียงซีเรียส บอกอีกว่าไม่รู้พี่จะบอกผมว่าไงดี ไม่เชื่อก็นะ”

“ทีหลังมีอะไรก็โทรมาถามพี่เอง พี่ไม่ปิดเราหรอก”

“คร๊าบบบบบบ ผมรักแฟนผมที่ซู๊ดดดดดดเลยยยยยยยยย”

ว่าเสร็จ แล้วผมกับโปรก็พูดถึงว่าถ้าวันนั้นมาถึงแล้วเราจะทำอะไรบ้างจะเตรียมของอะไรดี ยิ่งผมบอกว่าเราจะได้ไปนอนเต้นท์บนดอยด้วยแล้ว โปรยิ่งจะตื่นเต้นใหญ่ เพราะโปรเองไม่เคยจะไปตั้งเต้นท์เที่ยวเลยนอกจากพวกเข้าค่ายซึ่งมันก็ไม่เหมือนกัน

ผมเองก็อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆเหมือนกัน จะว่าไปแล้วผมเองก็ไม่เคยไปไหนไกลๆกับคนที่ผมรักมานานแล้ว บรรยากาศที่หนาวเหน็บแต่อบอุ่นในจิตใจนั้นมันจะเป็นอย่างไร ผมเองก็อยากรู้จริงๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 18-12-2008 09:34:21
"จะว่าไปแล้วผมเองก็ไม่เคยไปไหนไกลๆกับคนที่ผมรักมานานแล้ว บรรยากาศที่หนาวเหน็บแต่อบอุ่นในจิตใจนั้นมันจะเป็นอย่างไร ผมเองก็อยากรู้จริงๆเลยครับ"

^
^
^

เป็นยังไงเหรอ ก็อบอุ่นไงจ๊ะ รออ่านตอนขึ้นดอยนะ ฮิๆ :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 18-12-2008 09:42:36
รอฉากเสียตัวของนายเอก555+ :z1:ครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 18-12-2008 09:47:38
รอฉากเสียตัวของนายเอก555+ :z1:ครับ

 :haun4: :haun4: :haun4:

เข้ามาด้วยเจตนารมณ์เดียวกัน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-12-2008 10:00:39
ท่าทางไปขึ้นดอยครั้งนี้ คงอบอุ่นน่าดู   :o8:


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 18-12-2008 10:29:13
 :m1:มีแต่คนรอฉากเสียตัวของนายหนึ่งแฮ่ะ (แอ๊ะหรือว่าน้องโปรเราเสียตัวหว่า :m28:)
ยิ่งขึ้นดอยบรรยากาศเป็นใจซ่ะด้วย  :o8: จัดมาคับจัดมา
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-12-2008 10:41:28
แบบนี้หมอพจน์ก็ขาดคู่ซิ  ยกมือไปเที่ยวดอยด้วยคนจะได้ครบคู่ :laugh:


ปล.เจตนารมณ์เหมือนคนอื่น รอวันหนึ่งเสียตัว :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-12-2008 14:05:48
รอ NC  :z1:

ป.ล. ลูกเขยจะได้พบหน้าว่าที่พ่อตาแม่ยายแล้ววววววววว  :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 18-12-2008 18:17:13
โจแกล้งเด็ก :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 18-12-2008 20:33:56
 :impress2:  เพิ่งตามเข้ามาอ่านค่ะ  สนุกค่ะ  ช่วงนี้พี่ก็รู้สึกว่าจะรักเด็กมากขึ้นค่ะ  หุๆๆ กระชุ่มกระชวยดีเหลือเกิน   รอติดตามตอนต่อไปนะคะ    :bye2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-12-2008 20:51:20
อย่าบอกนะว่าจะไปเสียตัวบนดอย  :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-12-2008 00:01:16
แหม.....โจ เกือบทำเค้าทะเลาะกันไปแล้ว
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 19-12-2008 02:09:52
แหมๆ โปรเสียรู้ให้กับ พี่โจ เสียแล้ว

ท่าทางตอนหน้ามีลุ้นว่าใครจะนอนเต้นต์ไปไหนกะใครนะเนี่ย

ท่าให้เดานะ พี่พจน์ต้องไปชัว ไห้เป็นตัวเดินเรื่องอีกหนึ่ง อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 18 ธ.ค. :ตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 19-12-2008 10:03:46
สวัสดีครับ

แหมๆ โปรเสียรู้ให้กับ พี่โจ เสียแล้ว

ท่าทางตอนหน้ามีลุ้นว่าใครจะนอนเต้นต์ไปไหนกะใครนะเนี่ย

ท่าให้เดานะ พี่พจน์ต้องไปชัว ไห้เป็นตัวเดินเรื่องอีกหนึ่ง อิๆ

แหม่ น่าจะให้ไปแข่งกับหมอกฤต คอนเฟริม  :pigha2:
อืม... มีแต่คนรอ NC นะนี่  :haun4:  แสดงว่าหื่นๆกันท้างน๊านนนน  ผมก็เหมือนกัน  :laugh:
แต่ไอ้นายเส้นฯมันหน้าบางขนาดนั้น มันจะเขียนได้หรือนี่  555+
มีคนกังวลเรื่องหักมุม ไอ้นายเส้นเคยบอกว่า "ชีวิตคนเรา มันไม่แน่นอนหรอก" และท่าจะจริง  :m15: ไม่อยากบอกว่าชีวิตเมิงน่ะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งขนมเส้นกิน (เอะยังไง??)

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ
ปล.หนาวนี้ๆ  ไปขึ้นดอยกันเถอะ เตวสักม่อนสองม่อนบ่าดาย


ตอนที่ 18

วันสุดท้ายก่อนที่จะหยุดยาว ผมตกลงกับโจว่าจะลางานก่อนวันนึง เพราะจะได้พักผ่อนยาว (วันหยุดจริงๆแค่สามวันเท่านั้นครับ แค่เดินทางก็ใช้เวลาไปครึ่งวันแล้ว) การเดินทางครั้งนี้ตกลงว่าจะใช้รถของโจไปครับเพราะถ้าเอารถโปรไปคงมีเรื่องแน่ เพราะโปรเองจะบอกกับทางบ้านว่าจะไปเข้าค่ายติวเข้ามหาวิทยาลัยโครงการของคณะแพทย์ฯของหมอพจน์ แน่นอนว่าเตี้ยมกับหมอพจน์แล้ว หมอพจน์เองตอนแรกบอกว่าจะไม่ไปครับเพราะกลัวจะมีสอบวันที่เราเดินทาง แต่พอดีว่ามีการเลื่อนสอบพอดีเจ้าตี๋โปรรู้เข้าเลยพยายามโทรไปขู่เข็ญให้หมอพจน์มากับพวกเราด้วยแต่ก็ไม่ยอมไปอยู่ดี

“นี่เพ่พจน์ เตรียมเก็บของได้ละ ไม่งั้นมีลากลงจากหอแน่”

“เอะเจ้าโปร!!! พี่พูดนี่ไม่รู้เรื่องเหรอ หรือจะให้พี่บอกที่บ้านว่าที่จริงไม่มีเข้าค่ายติว”

“เพ่พจน์เน่ ไม่ต้องมาต่อรองเลย ก็จะให้เพ่ไปด้วยอ่ะ”

ผมเห็นท่าจะไม่ดีเลยขอโทรศัพท์ให้ผมลองพูดดู

“เอะเจ้าโปร พี่บอกไม่ไปก็ไม่ไปสิ”

“หมอพจน์ นี่พี่หนึ่งนะ”  ผมคว้าโทรศัพท์จากโปรไปพูเอง

“อ่ะ...ครับ พี่”

“ไปกับพี่เถอะ หน้าหนาวทั้งที ถ้าไม่ได้เที่ยวดอยมันน่าเสียดายนะ”

“ผมมีสอบน่ะครับพี่”

“เค้าเลื่อนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ครับ แต่ว่า...”

“พี่ว่าเราน่าจะปลีกเวลาสักนิดไปพักผ่อนบ้างนะ รู้ไหมชีวิตเราตอนเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตที่เราจะได้หาประสบการณ์ดีๆนอกเหนือจากตำรา ยิ่งเราถ้าขึ้นวอร์ทแล้วจะไม่มีเวลามาเที่ยวเล่นแบบนี้อีกแล้วนะ”

“ครับพี่ แต่ผมเกรงใจ”

“อย่าเกรงใจเลย พี่อีกที่ต้องเกรงใจ เพราะโปรคงไปไม่ได้ถ้าไม่ได้เรา
อืม..หมอพจน์ ถ้าพี่ย้อนเวลาได้ พี่อยากจะกลับไปเรียนที่มหาลัยเหมือนเรา พี่จะทำอะไรหลายๆอย่างที่พี่ยังไม่ได้ทำ....”

ผมพูดอย่างนี้แล้วเหมือนหมอพจน์จะเงียบไปสักพัก

“ครับพี่หนึ่ง ผมคงต้องรบกวนพี่ให้มารับนะครับ กี่โมงดีครับ”

“อ่า ได้เลย เที่ยงครึ่งนะทานอะไรให้เรียบร้อยแล้วพี่จะไปรับเราที่ห้อง”

สรุปคือผมพจน์ตกลงไปกับเราครับ ผมเองก็โทรไปบอกทางบ้านว่ากลับบ้านครั้งนี้ผมจะพาเพื่อนที่ทำงานด้วยแล้วมีน้องของเพื่อนตามมาด้วยอีกสามคน ส่วนรูมเมทผมมันก็กลับบ้านครับ แต่ก็พาแฟนมันไปแนะนำที่บ้านด้วยจะว่าไปก็เหมือนผมเลยน่ะครับ (แต่ผมคงไม่บอกทางบ้านว่าโปรคือแฟนผมเท่านั้นเอง)

ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดินทางครับ โปรมารับผมที่ทำงานตั้งแต่ก่อนเที่ยงส่วนโจก็ไปรับน้องต้อมที่คอนโด แล้วเราก็จะมาเจอกันที่หอผมครับ ก่อนที่ผมและโปรจะไปหอก็แวะไปรับหมอพจน์ก่อนที่หอพักในมหาวิทยาลัย พอหมอพจน์ขึ้นรถมาแล้วก็บ่นนิดๆเรื่องต้องโดดเรียนไปสองคาบแต่ก็ฝากเพื่อนเลคเชอร์ให้น่ะครับ รถของโปรมาส่งผมกับหมอพจน์ที่หอก่อนแล้วก็เอารถไปเก็บที่บ้าน ไม่นานเท่าไหร่โปรก็มาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่เหมือนพวกฝรั่งสะพายแบล็คแพคกันน่ะครับ

“นี่โปร เราไม่ได้ไปออกป่าเป็นเดือนนะ ทำไมเอามาเยอะขนาดนี้” ผมถาม

“เจ้าโปรคงกลัวจะอดตายมั้งครับพี่ ดูสิมีแต่ของกิน” หมอพจน์พูดพลางเปิดกระเป๋าของโปรดู

“อ้าวก็พี่บอกว่าไปนอนเต้นท์ไม่ใช่เหรอ ของแถวนั้นคงแพงผมก็ซื้อไว้ก่อนสิ”

“เยอะจริงๆแหะ” ผมไปค้นกระเป๋าโปรดูบ้าง ก็เห็นแต่พวกขนมเต็มไปหมด

“แล้วนี่ขนขึ้นดอยเองนะ” ผมบอกโปร

“เฮ้ย ไหนว่ารถไปถึงที่พักไงพี่”

“ใครบอกต้องเดินไปอีกห้ากิโลนะ”

“เวร เจงงงงงง”

ผมก็ขยิบตาให้หมอพจน์ทีนึง หมอพจน์ก็เข้าใจครับ ส่วนเจ้าตี๋โปรก็เทขนมของกินออกมาจนหมดแล้วเลือกว่าจะเอาอะไรไปดี แต่เลือกเท่าไหร่ก็เหมือนจะเลือกไม่ได้ โปรเลยเลือกกินเอาตอนนี้เลย

“อ้าว ทำไมเอามากินตอนนี้ล่ะ”

“ก้อ เฉียดายอ่า” ขนมยังเต็มปากแต่ก็ยังพูดอยู่อีก

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เอาไปเถอะ ไม่เป็นไรพี่ล้อเล่น”

“อู้ดอี้หมายคามว่าอาย” (พูดงี้หมายความว่าไง)

“เอาเถอะ  ลงไปรอโจข้างล่างดีกว่า” ผมตัดบท แต่โปรก็ยังกินไม่หยุดอยู่ดี

ผม โปรและหมอพจน์รอโจไม่นานโจก็ขับรถมา ดีนะครับที่รถโจเป็นแบบสามตอนที่ขนคนได้เยอะๆ ผมนั่งข้างคนขับครับเพราะว่าจะได้บอกทางโจ ส่วนโปร น้องต้อม หมอพจน์ก็นั่งข้างหลัง

“เพ่โจๆ ดูแลแฟนผมดีดีนะ ห้ามลวนลาม”

“มึงแหละ ห้ามแกล้งอะไรแมวน้อยเด็ดขาดไม่งั้นมีถีบลงรถแน่”

“อ่ะคร๊าบบบบบบ แล้วจะคอยดู”

ว่าเสร็จโปรก็แกล้งเอาหัวมาหนุนๆตักน้องต้อม (โปรนั่งตรงกลางน่ะครับ ติดกับน้องต้อมแล้วหมอพจน์)

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ ไอ้โปร มึงงงงงงง”

โจหยุดรถเลยครับแล้วเอามือไปตีๆหัวเจ้าตี๋โปร จนผมกับหมอพจน์ต้องดึงตัวโปรออก ส่วนน้องต้อมก็หัวเราะเล็กๆครับแล้วก็ใช้มือดันๆหัวโปรออกไป

“นี่โปร!!!! อย่ามาเล่นตอนนี้”

“แหม่ ก็ผมร๊ากกกกกพี่ต้อมเหมือนกันนะค๊าบ”

“ไม่ต้องเลยไอ้โปร มึงออกห่างแมวน้อยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นได้เดินไปเองแน่”

“ค๊าบบบบๆๆๆ ผมไม่สนแมวน้องของพี่ก็ได้ ผมสนแร็คคูนของผมก็ได้”

ว่าแล้วโปรก็หันไปเอาตุ๊กตาแรคคูนที่อยู่ในรถของโจมากอดใหญ่

“นิไอ้โปร มึงมีเจ้าของอยู่ข้างหน้าแล้วนั่งข้างๆเนี่ยะ”

“อ่ะ เกือบลืมเลย แรคคูนที่ร๊ากกของโผมมม” โปรพูดเลียนแบบที่โจพูดกับน้องต้อมบ่อยๆน่ะครับ แล้วก็หัวเราะทั้งรถ

“ไอ้โปร ถ้าไม่คิดเห็นแก่หน้าไอ้หนึ่งนะ มึงงงง”

“จะอะไรเหรอคับ”

“จะได้ตายก่อนหนุนตักแมวน้อยแน่”

จากนั้นรถก็วิ่งไปตามถนนสายเอเชีย มันเหมือนเส้นเลือดสายหลักไปสู่ภาคเหนือรถรายังคงวิ่งกันมากมาย เราได้แวะพักระหว่างทางบ้าง ผมเองก็พูดเตือนโปรว่าอย่าเพิ่งกวนโจเลย เพราะทุกครั้งที่โปรกวนโจ โจจะขับรถน่ากลัวกว่าปกติ (ที่จริงปกติมันก็ขับน่ากลัวอยู่แล้วครับ ขับเร็วมากสงสัยอยู่กรุงเทพฯไม่เจอถนนโล่งอย่างนี้คงเก็บกด)

ในที่สุดรถก็วิ่งเข้าสู่ตัวจังหวัดบ้านเกิดของผม บ้านของผมเองนั้นก็ไม่ได้ห่างจากตัวเมืองเท่าไหร่ ทุกอย่างตามรายทางก็มีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลาผมเองก็บอกทางเข้าซอยบ้านผม นี่นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน พวกเรามาถึงบ้านของผมตอนค่ำ บ้านของผมไม่ใหญ่นักครับ เป็นบ้านสองชั้นขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีสามห้องนอน บ้านผมอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร คุณแม่ของผมออกมารับที่หน้าประตูบ้าน ผมออกจากรถมาก็เข้าไปไหว้คุณแม่ก่อน แล้วก็บอกให้โจ โปร น้องต้อมและหมอพจน์ช่วยขนของไปไว้ที่ห้องนอนที่ว่างอยู่ แล้วผมก็ถึงมาแนะนำโจ โปร หมอพจน์และก็น้องต้อม อย่างเป็นทางการกับคุณพ่อและคุณแม่ผม ผมเพิ่งเคยเห็นโปรจะเงียบๆไม่ค่อยคุยก็ตอนนี้ล่ะครับ ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือว่าเพราะอะไร ไม่เหมือนกับโจที่โม้ได้ทุกเรื่อง วันนี้ที่บ้านผมคุณแม่ได้แสดงฝีมือทำอาหารหลายๆอย่าง ทั้งกับข้าวที่ผมชอบและกับข้าวอื่นๆที่แถวกรุงเทพฯหาทานยาก

“นี่แกงอะไรครับแม่” โจถาม

“แกงฮังเลน่ะลูก อร่อยนะ หนึ่งเค้าชอบ”

ว่าแค่นั้นโปรก็ตักเข้าปากทันที ผมก็มองหน้าโปรทีนึ่ง

“อื้อ อร่อยครับแม่ แม่น่าจะมาเป็นแม่ผมนะครับทำกับข้าวอร่อยหมดเลย
แต่แม่ผมไม่ค่อยจะได้ทำเท่าไหร่”

เป็นครั้งแรกครับที่โปรพูดกับแม่ผม

“ที่บ้านคงไม่ค่อยมีเวลามั้ง” คุณแม่ผมถามโปร

“ก็ครับ โดยมากให้พี่ที่บ้านทำให้มากกว่า”

“พี่ที่บ้าน พี่สาวเหรอ”

“ไม่ครับ พี่ที่เค้ามาทำความสะอาด มาทำอาหารให้”

“อ๋อ แบบนี้ก็ดีสิลูก แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”

“ไม่ค่อยดีหรอกครับแม่ เพราะแม่ผมไม่ค่อยจะอยู่บ้าน...”

“อ้าว แล้วที่บ้านทำอะไรเหรอลูก”

“ก็...ทำธุรกิจของที่บ้านน่ะครับ ออกบ้านบ่อย...”

“ครับ ที่บ้านไม่ค่อยมีเวลา ผมเองก็ออกมาอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยได้ดูแลน้องเท่าไหร่”

โจตอบขึ้นมาทันควันครับ เหมือนว่าโจจะไหวตัวทัน เพราะตอนแรกผมแนะนำโปรว่าเป็นน้องแท้ๆของโจ (ก็ชื่อโจ กับ โปรมันสระโอเหมือนกันน่ะครับ) ส่วนน้องต้อมกับหมอพจน์ก็บอกไปว่าเป็นรุ่นน้องโจที่มหาวิทยาลัย

จากนั้นเราก็คุยกันถึงเรื่องงานเรื่องสารพัด จากนั้นก็ถึงเวลานอนแล้วครับ คุณแม่ผมจัดห้องให้หมดแล้วโดยที่ห้องนอนผมก็จะให้โปร (ก็แน่นอนอยู่แล้ว) กับหมอพจน์นอน ส่วนห้องนอนรับแขกก็ให้โจกับน้องต้อมนอน ที่ห้องนอนของผมเตียงของผมเองก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนอนสองคนก็จะเต็มเตียงแล้วครับ ดังนั้นก็ต้องปูที่นอนข้างล่างเพิ่มอีก พอโปรเข้ามาในห้องก็วิ่งเข้าไปที่เตียงผม

“จองแล้วๆๆๆๆๆ ห้ามใครแย่งน๊า”

“อืม” ผมว่าเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนผ้าปูที่ปูนอนข้างล่าง ส่วนเจ้าตี๋โปรก็มองผมตาเขียวๆใส่

“เพ่หนึ่งงงงง ขึ้นมานอนกับโผมมมมม พี่พจน์คืนนี้ห้ามแอบมอง”

“ใครกันนะบอกว่าจองแล้วห้ามใครแย่ง”

“อ่ะ ก็จองให้เราสองคนไง”

ผมล่ะอายจริงๆที่โปรพูดต่อหน้าหมอพจน์ แม้ว่าโปรจะพูดแบบนี้ต่อหน้าหมอพจน์บ่อยๆแต่ผมก็เขินทุกครั้ง แล้วยิ่งรู้ว่าหมอพจน์เองก็... ผมเองยิ่งเข้าใจเขามากขึ้น แต่หมอพจน์ก็อมยิ้มเล็กๆส่ายหัวแต่ก็ไม่พูดอะไร

“เรานอนไปเถอะ นอนดิ้นนะเราน่ะ พี่นอนด้วยไม่ได้”

“อ้าว ใครบอกอ่ะ”

“หมอพจน์บอก”

“อ้าวเพ่พจน์ ใส่ความ อิจฉาผมล่ะเซ่ที่นอนกะแฟน”

“ไอ้โปร!!” ผมขึ้นเสียงเตือน

“ผมพูดเล่นครับพี่หนึ่ง ขึ้นไปนอนบนเตียงกับโปรเถอะครับ” หมอพจน์พูดแทรกเข้ามา

“ไม่เอาละ ทำโทษ”

“ทำโทษเรื่องอะไรอ่ะ ผมทำผิดอะไรหรออ”

“อย่าๆ วันนี้ไปแกล้งโจเค้า ก็ตกลงแล้วไงว่าอย่าไปแกล้ง”

“แหม่ๆ พี่ก็...”

“ไม่เอาเลย วันนี้พี่จะนอนข้างล่าง เรานอนข้างบนไป”

“อ๊า......พี่หนึ่งอ่า ผมขอโทษษษษษ”

ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้นเดินไปปิดไฟแล้วก็นอนข้างล่างนั่นล่ะครับ วันนี้ผมเดินทางมาทั้งวัน ไหนจะเหนื่อยกับการแยกคู่มวยโปรกับโจแล้วด้วยผมล่ะเหนื่อยจริงๆ แล้วผมก็หลับไปจนกระทั่งตอนเช้า

เช้านี้ที่บ้านผมอากาศค่อนข้างหนาว ผมซุกตัวในผ้าห่ม แทบไม่อยากลืมตาเลย แต่เหมือนผมรู้สึกไปเองว่าเหมือนจะมีใครมานอนกอดผมอยู่เหมือนผมเป็นหมอนข้างงั้นล่ะ เอ.. หมอพจน์เหรอ แต่ผมก็ไม่คิดอะไรเพราะผมเองก็คงเป็นเหมือนข้างให้กอดน่ะครับ ไม่ว่ากัน ผมยังคงหลับตาอยู่คิดว่าจะหลับต่อ แต่ก็รู้สึกอีกแล้วว่าเหมือนคนที่นอนข้างๆผมจะดึงตัวผมไปที่หน้าเค้าแล้วจูบผมเบาๆที่หน้าผาก...

ตอนนี้ผมคิดว่าเริ่มไม่ไหวแล้ว หมอพจน์ทำแบบนี้ผมว่าไม่ดีแน่ๆ เพราะถ้าโปรเห็นเข้าคงเป็นเรื่อง ผมเลยจะลุกขึ้นมาแล้วจะเดินออกไปห้องน้ำ แต่ก็มีมือมาฉุดผมไว้แล้วดึงให้กลับไปในอ้อมกอดเค้าอีกครั้ง ผมไม่ทันมองหมอพจน์เพราะเค้ากอดผมจากด้านหลัง จนผมต้องเริ่มโวยวาย ไม่น่าเชื่อเลยว่าหมอพจน์จะเป็นคนแบบนี้ หรือว่ามีอะไรผิดสำแดงกันแน่นะ???
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 19-12-2008 10:24:15
โปรมั๊งงงง....ไม่ใช่หมอพจน์หรอก o22
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 19-12-2008 10:41:32
เจ้าโปรอ่ะเปล่าครับพี่หนึ่ง :a5:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 19-12-2008 11:04:18
โถ่พี่หนึ่งอย่าคิดมากไป

โปรนอนดิ้นไปหา รึเปล่าอิๆ ก็น้องเค้าออกจะนะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 19-12-2008 11:20:57
 o18  มือมืด  หวังว่าคงไม่ใช่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนะครับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 19-12-2008 11:22:33
ไม่ม๊างง  เจ้าโปรสลับที่กะหมอพจน์มากกว่ามั๊ย :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-12-2008 11:32:52
หมอพจน์เหรอ   :a5: 

ไม่ม้างงงงงงงงงง  คุงหมอแกคงไม่อยากทำให้ ทัวร์ดอยคณะนี้ อุ่นจนร้อนปรอทแตกแน่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 19-12-2008 11:36:39
 :a5:

ไม่น่าจะใช่หมอพจน์ม้างงงง

ไม่น่าจะกล้าขนาดนั้นนะ

รอตอนต่อปายยยยย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-12-2008 13:15:31
 :pig4:


รอตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-12-2008 13:31:11
พี่น้องได้ตีกันเองตายไปก่อนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 19-12-2008 13:34:15
เจ้าตี๋โปรแหง หมอพจน์ออกจะดูเป็นคนดี ไม่น่าจะทำได้  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 19-12-2008 16:07:50
สวัสดีครับ

เอ้อ ผมลืมไปเลย ว่าผมจะไปเที่ยวเมืองกาญฯ เสาร์อาทิตย์นี้ เลยจะมาบอกก่อนนะครับว่าผมจะมาโพสต่อวันอาทิตย์ค่ำๆนะครับ
ตอนต่อไปนี้ หนึ่งเสร็จโปร  :haun4: หรือเปล่า??? :z2: ต้องคอยติดตามครับ  หึหึหึ

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ รักทุกคนครับผม
ปล.อย่าหวังอะไรกะ NC ของไอ้นายเส้นฯมากนะครับ เดี๋ยวจะผิดหวังเอานะ  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 19-12-2008 17:15:30
ูู^

^

^

จิ้มคนโพสต์ อิๆ

ฟันธงว่าตอนหน้า หนึ่งก็ยังมะเสร็จโปร

ดูจากสไตล์การเขียนแล้วแบบว่า ไม่เน้น ... อิๆ

แต่แอบขอให้มีน๊าๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 20-12-2008 21:59:56
 :z3: :z3: :z3: :z3:

ทำไมน่ารักอย่างงี้อ่ะ

สุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 20-12-2008 23:34:45
ตอนหน้าขอเดาว่า......โปรยังไม่เสร็จหนึ่ง  เอ้ย ไม่ใช่.....หนึ่งยังไม่เสร็จโปร  o18


คนเขียนต้องเขียนให้คนอ่านลุ้นกันตัวโก่งแน่ๆ


เค้ารู้.....เพราะเค้าก็เป็นคนเขียนเหมือนกัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: NuPaTT ที่ 21-12-2008 15:03:15
เสดแน่ๆเรย



โปรแน่ๆเรยที่นอนกอด อิอิ


 :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 21-12-2008 18:06:20
ตามมาอ่านรวดเดียว
อิๆๆ หนุกจังแหะ

รอตอนต่อไปน๊าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 19 ธ.ค. :ตอนที่ 18
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 21-12-2008 18:09:50
สวัสดีครับ

กลับมาแว๊วววววววววว  ไปเที่ยวมาสนุกมากเลย แต่จะให้ดีกว่านี้ต้องไปกะแฟน ไปนอนกอดตอนหนาวๆเหมือนในเรื่อง คิคิ แต่ทว่า....ก็มิได้นำพา.... (ไม่มีแฟนกะเค้าอ่ะ :o12: :o12:)
ตอนนี้มีแต่คนทายไปต่างๆนานา ว่า ใครเสร็จใคร หรือมีเสร็จหรือไม่  o18

หึหึหึ

เชิญอ่านได้เลยครับ
ขอบคุณและติดตามครับ
ปล.ตอนหน้าจะเหมือนเป็นตอนต่อตอนพิเศษที่เคยโพสไปนะครับ



ตอนที่ 19

ผมกำลังดิ้นเพื่อให้ออกจากอ้อมกอดของหมอพจน์(หรือเปล่า) แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนกอดแน่นขึ้นทุกที

“นี่ อย่าๆ อย่าทำแบบนี้” ผมพยายามพูดเสียงไม่ให้ดังเพื่อไม่ต้องการให้โปรที่นอนอยู่บนเตียงได้ยิน

“ไม่ทันได้แต่งกันเลย จะหย่าแล้วเหรอคับ”

เสียงนั่นกระซิมที่ข้างหูผม (ผมโดนกอดจากด้านหลังครับ) เสียงนี่ผมจำได้ดี มันยิ่งน่า....นัก (ผมกัดฟันพูดนะครับ)

“ไอ้โปร...  ปล่อย”

“ม่ายปล่อย” โปรพูดเสียงค่อยๆ

“เดี๋ยวหมอพจน์เห็น...”

“พี่เค้านอนบนเตียงไม่เห็นหรอกว่าทำอะไรกัน”

“แล้วนี่มานอนข้างล่างตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งกะเมื่อคืนไง”

ว่าแล้วโปรก็แกล้งเอาหน้ามาซุกที่คอผม นี่ผมอายคนอื่นนะ แม้ว่าจะหลับอยู่ก็เถอะผมก็พยายามดิ้นเพื่อให้ออกมาจากโปรให้ได้ ก็ไม่ได้สักทีครับแรงเยอะจริง แต่ก่อนที่โปรจะลวนลามผมไปมากกว่านี้ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

“แม่เปิดเข้าไปได้ไหม”

เสียงคุณแม่ของผมดังมาจากข้างนอก โปรเลยต้องยอมปล่อยผมออกไป ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอคุณแม่ผมอยู่หน้าห้อง

“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ”

“ตื่นแล้วครับ”

“แม่เตรียมข้าวเช้าไว้ให้แล้วนะ รีบกิน รีบอาบน้ำ แล้วเราจะได้ไปดอยกัน”

“ครับแม่”

แล้วประตูห้องก็ปิดลงผมเริ่มไปปลุกหมอพจน์ก่อนที่เตียง

“หมอพจน์ หมอพจน์ ตื่นเร็วจะออกเดินทางแล้วนะ”

“.....อือออ  ครับ... “

หมอพจน์ตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ แล้วก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“รีบอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมีแย่งเข้าห้องน้ำแน่”

“ครับพี่”

ว่าแล้วหมอพจน์ออกไปอาบน้ำครับ แล้วผมก็หันกลับไปที่โปร เจ้าตี๋โปรกลับไปขดอยู่ในผ้าห่มอีกแล้ว

“โปร นี่ๆ เตรียมไปอาบน้ำได้แล้วนะ”

“ม่ายอาว จานอนต่อ”

“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้....น๊า....”

ผมพูดไปก็ดึงผ้าห่มออกจากตัวโปรแต่ก็ดึงอยู่หลายทีโปรก็ไม่ยอมสักทีแล้วจู่ๆโปรก็ลุกขึ้นนั่งจนผมที่ดึงผ้าห่มอยู่ล้มลงเลย แต่โชคดีที่ล้อบนฟูกที่ปูไว้อยู่ไม่งั้นมีช้ำมีเขียวแน่ แล้วโปรก็ดึงผมไปที่ตัวเขา

“โปร จะทำอะไรน่ะ!!”

โปรไม่พูดอะไรแต่ก็จูมผมที่ตาเบาๆ แล้วเลื่อนไปจูบที่หน้าผาก ผมหยุดนิ่งไป...สักครู่

“ปะ โปร..”

โปรเอามือมาปิดที่ปากผมเหมือนไม่ให้พูด ก่อนที่โปรจะเลื่อนหน้ามาใกล้ผมมากขึ้น โปรเอามือที่ปิดปากผมไว้ออก แล้วริมฝีปากของโปรก็สัมผัสกับริมฝีปากของผม มันชั่งเป็นเวลาที่เนิ่นนานเหลือเกินที่ผมไม่ได้มีความรู้สึกร่วมด้วย แต่....

‘นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่นี่ ต้องรีบเตรียมตัวไปเที่ยวนะ’

แล้วผมก็หยุด ผมมองหน้าโปรสักพัก แล้วผมก็บอกกับโปรว่า...

“ไปอาบน้ำ คนอื่นเค้ารอ”

“โหยยยยยยย  พี่อ๊า.... ม่ายอาวๆ”

“ไม่ไปก็ตามใจ พี่ไปอาบก่อนละ”

แล้วผมก็ลุกออกจากห้องไป ข้างนอกผมเห็นโจ น้องต้อมเพิ่งออกมาจากห้องท่าทางงัวเงียน่าดู ส่วนหมอพจน์อาบน้ำเสร็จก่อนใครแล้วครับลงไปข้างล่างแล้ว แล้วเราก็อาบน้ำเตรียมของกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนโปรก็ออกมาหลังจากคนอื่นแต่งตัวเสร็จไม่นาน เราทานอาหารเช้ากัน วันนี้มีข้าวเหนียวหมูปิ้งของชอบของผมอย่างหนึ่ง ผมกินไปมากเหมือนกันเพราะนานแล้วไม่ได้กินของเจ้าประจำ และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางเราเปลี่ยนไปใช้รถโฟว์วิวของพ่อผมครับ เพราะมันจะขึ้นเขาได้ดีกว่าแต่ก็เป็นที่นั่งสามตอนเหมือนกันนะครับ เลยนั่งกันสบายหน่อยสำหรับคนเจ็ดคน ตอนนี้เหมือนโปรจะเงียบเป็นพิเศษเพราะไม่กล้ากวนโจนักสงสัยคงเกรงใจคุณพ่อคุณแม่ผม ส่วนโจเองก็พูดคุยกับแม่ผมอย่างออกรถชาติ

“ไอ้โปรน้องผมนะครับแม่ มันชอบไปเจาะแจะคนอื่นมีแต่เรื่องมาให้ผมปวดหัวทุกวันเลย”

“อ้าว ทำไมว่าน้องอย่างนั้นล่ะลูก”

“นั่นสิครับแม่ ผมรักเดียวใจเดียวนะครับ” โปรเพิ่งพูดครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นรถ

“ถ้าหากแม่มีลูกสาวนะครับ ผมรับรองเลยว่าลูกสาวแม่จะไม่เสียใจเพราะผมเลยครับ”

“แหม่ แม่มีแต่ลูกชายนี่สิ แย่จัง ไม่อย่างนั้นได้ลูกเขยดีๆแบบโปรแล้วมั้ง”

แม่ผมพูดเสร็จก็หัวเราะ โปรก็หันหน้ามามองผมแล้วยักคิ้วให้ ผมทำปากบอกว่า ‘เงียบเลยนะ’

ตอนนี้เส้นทางกำลังผ่านป่าเขาเพื่อไปสู่จุดหมาย ผมดูอาการของแต่ละคนแล้วเหมือนท่าจะแย่ครับ โจเมารถ เหมือนจะเมามากๆเสียด้วย บอกให้จอดรถตลอดทาง ส่วนน้องต้อมกับหมอพจน์ก็เมาบ้างแต่ก็ไม่เป็นอะไร ส่วนโปรเองเหมือนจะสบายกว่าเพื่อน ไม่เป็นอะไรเลย

“คุณพี่ที่รั๊กค๊าบ สำลักความรักของผมกับพี่หนึ่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ” โปรพูดกับโจตอนหยุดให้โจลงมาอาเจียน

“สำลักกะผีสิ...”

“โปร  อย่าไปกวนโจสิ โจทนหน่อยนะเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ไงไปนอนข้างหลังแล้วกันนะ”

“จิ้งจอก ตัวมานอนด้านหลังเถอะ หนุนตักเค้านอนนะ” น้องต้อมพูดกับโจแล้วลูบหลังโจไปด้วย

“จ้าแมวน้อย ได้แมวน้อยให้หนุนตัก เค้าคงหายดีเลยล่ะ”

“หายไปจากโลกอ่าจิ” โปรแซว

“ที่รัก จิ้งจอกว่าอย่าไปสนใจเสียงหมามันเห่าแถวนี้เลยนะ ให้เค้านอนหนุนตักดีกว่านะ”

ว่าแล้วโจก็กลับขึ้นรถไปเลย ผมล่ะเซ็งกับคู่กัดคู่นี้จริงๆเลยสิครับ แต่ก็แปลกนะครับจนถึงที่ตั้งเต้นท์โจมันก็ไม่อาเจียนอีกเลย สงสัยตักของน้องต้อมนี่ศักดิ์สิทธิ์จริง

พวกเราช่วยกันขนของลงจากรถ อากาศตอนนี้บนเขาแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงค่ำแต่อากาศก็หนาวโชคดีนะครับที่คุณแม่ผมเตรียมเสื้อกันหนาวไว้พอกับทุกๆคน ไม่อย่างนั้นคงแย่ ผม โจ น้องต้อมและก็โปร ช่วยกันตั้งเต้นท์ แต่ดูๆแล้วคงมีแต่ผมคนเดียวที่ตั้งเต้นท์เป็น คนอื่นเหมือนจะช่วยแต่ก็เหมือนเพิ่มงานให้ผมเปล่าๆ แต่ในที่สุดก็เรียบร้อยครับเต้นท์มีทั้งหมดสี่หลังคุณพ่อผมไปยืมมาจากเพื่อนอีกทีน่ะครับสรุปแล้ว มีเต้นท์ของคุณพ่อคุณแม่ผม เต้นท์ของโจกับน้องต้อม เต้นท์ของหมอพจน์ซึ่งจะเล็กหน่อย แต่ก็เหมาะกับการนอนคนเดียว และก็เต้นท์ของผมกับโปร ผมเองก็เหมือนจะสงสารหมอพจน์เหมือนกันที่เหมือนจะอึดอัดมากกว่า ผมเลยชวนหมอพจน์คุยเสียมากจนทำให้บางทีโปรต้องมามองผมค้อนๆน่ะครับ เพราะไม่ค่อยจะคุยกับโปรเท่าไหร่ (ที่จริงโปรก็ทำผมมากกว่าคุยแล้วนะ จะเอาอะไรอีกนี่) อาหารเย็นวันนี้เป็บบาบีคิวแล้วก็พวกของย่างๆน่ะครับ คุณแม่ผมเอามาจากที่บ้านด้วย เราย่างกินกันอย่างสนุกสนานจนกระทั้งเราต้องแยกย้ายกันเข้านอน อากาศบนยอดดอยนี้หนาวมากครับ จนมือและใบหน้าผมชาเลยทีเดียว ผมเดินไปตามแนวป่ารอบๆที่ตั้งเต้ท์ แล้วนั่งลงกับพื้นดูแสงดาวยามค่ำคืน

ผมไม่ได้ดูดาวแบบนี้มานานแล้ว ดาวบนดอยนี้มันสวยเหลือเกินไม่อาจหาได้ในเมืองกรุง ทุกอย่างเงียบสงัดไม่มีแสงไฟอะไรนอกจากแสงดาว

“ดาวบนนี้สวยจริงๆเลยนะครับพี่”

เสียงหมอพจน์ดังมาจากข้างหลังผม แล้วหมอพจน์ก็มานั่งลงข้างๆผม แล้วเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า

“เป็นไงหนาวมากไหม”

“หนาวมากๆครับพี่”

“แล้วคนอื่นๆล่ะ”

“เข้านอนหมดแล้วครับพี่ โปรก็เข้าเต้นท์แล้ว บอกให้ผมมาตามพี่นี่แหละครับ”

“อืม.....”

แล้วผมก็เงยหน้ามองดูดาว มันพร่างพราวเต็มไปหมดจริงๆ

“พี่หนาวหรือเปล่าครับ เอาเสื้อผมไปใส่ไหม”

“อ่อ  ไม่ต้องๆ เดี๋ยวก็เข้านอนแล้ว”

“ครับ...”

ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออก ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีจนกระทั่งผมเริ่มพูดอะไรบางอย่างออกไป

“หมอพจน์ พี่... มีอะไรดีเหรอ...”

“อะไรนะครับ”

“พี่ มีอะไรดีเหรอ”

“พี่หนึ่ง ดีทุกอย่างครับ พี่หนึ่งเป็นคนดี แวบแรกที่เจอกับพี่ครั้งแรก ผมคิดว่า น่าจะดี ถ้าพี่เป็น....”

“เป็น...?”

“เป็น....กับผม...แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า โปรเองดูแลพี่ได้ดีกว่าผมครับ ถ้าพี่เป็นอะไรไปโปรเองก็คงยอมไม่ได้”

“หมอพจน์....เราเป็นน้องที่พี่รักเสมอนะ”

“ครับ”

ตอนนี้ผมได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้า เหมือนหมอพจน์จะยิ้มตามผมไปด้วย จากนั้นเราก็พากันเดินกลับเต้นท์ ผมส่งหมอพจน์ที่เต้นท์แล้วก็กลับไปที่เต้นท์ตัวเอง ในเต้นท์ผมเห็นโปรนอนคลุมโปงอยู่ ผมคิดว่าโปรคงหลับแล้ว เลยเข้าไปนอนข้างๆดึงผ้าห่มเข้ามาห่มตัวเอง แล้วจู่ๆโปรก็มากอดผมอย่าแรง

“เป็นไปบ้างคับ เจอพี่พจน์บอกรักมา”

“บอกรักอะไร”

“ผมรู้ครับว่าพี่พจน์ก็ชอบพี่ พี่เค้ามาถามผมตั้งแต่เห็นพี่ครั้งแรกแล้ว..”

“แล้ว...”

“ผมก็บอกไปว่า พี่หนึ่งเป็นแฟนของผม ตอนแรกเหมือนไม่เชื่อนะ จนตอนที่เจอกันที่ JJ”

“อืม ใช่ หมอพจน์มาบอกอย่างนั้นกับพี่ แต่พี่ก็บอกว่า เค้าเป็นน้องที่พี่รัก...ก็เท่านั้น”

“จริงนะคับ”

“อื้อ”

“พี่หนึ่ง..”

“อะไรเหรอ”

“คืนนี้ ผมขอนะครับ”

“เอ้ย  ขออะไร”

โปรไม่ตอบแต่กอดผมแรงขึ้นโปรดึงตัวผมเข้ามาจูบริมฝีปากเราประสานกันอย่างแผ่วเบา แล้วเริ่มที่จะรุนแรงขึ้นตามลำดับ....อากาศข้างนอกหนาวแต่ในเต้นท์นี้อบอุ่น อบอุ่นเพราะผมมีโปร...ไม่น่าเชื่อว่าผมจะรักผู้ชายคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้ ผู้ชายที่ผมยอมมอบทุกอย่างที่มีให้เขาได้...จากจูบนี้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามทางของมัน...
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 21-12-2008 18:52:19
 :z3: :z3: :z3:

เห็นมะว่าแล้วว่ายังไงๆ มานก็ยางมะมีหลอกฉากน้านนะ

สงสัยต้องเป็นตอนหน้าละ อิๆ

แหมแต่โปรรู้เรื่องหมอพจน์มาตลอดยังกล้าปล่อยให้อยู่กัน 2 คนอีกน๊า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 21-12-2008 19:10:26
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

รู้แ่ค่นี้ก็พอแล้วครับ

ที่เหลือ ...  :haun4:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 21-12-2008 19:13:46
อุ่นจนร้อนเลย :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 21-12-2008 21:33:10
 :เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-12-2008 22:48:23
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: M150 ที่ 22-12-2008 01:57:57
เรื่องนี้ น่ารักมากมายอ่า



 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 21 ธ.ค. :ตอนที่ 19 เสร็จแน่ๆ ก๊ากกกกกกก
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 22-12-2008 09:35:48
สวัสดีครับ

:เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ

มันมีแค่นี้ล่ะคับ rate XXX ของมันละ

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่าจะต้องให้คนอื่นเขียนให้คับ เพราะไอ้คนเขียนมันหน้าบาง

ตอนนี้จะเหมือนตอนต่อจากตอนพิเศษนะครับ ใครอ่านแล้วงงๆ ให้ไปอ่านตอนพิเศษก่อนหน้าแล้วกันนะ และก็ที่สำคัญตอนนี้..... คนขี้เหงาห้ามอ่านครับ... :L3: (เกลียดคนแต่งมันก็อีตอนนี้ล่ะ)
ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ



ตอนที่ 20

“หนึ่งยังไม่ตื่นอีกเหรอลูก วันนี้นัดเพื่อนไว้ไม่ใช่เหรอ”

เสียงของคุณแม่ผมดังมาจากนอกห้องนอน ผมรีบลุกขึ้นมาทันทีหลังจากเสียงแม่เรียก

‘ตายละหว่า ลืมไปว่านัดพวกตี๋ไว้’

ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวขึ้นเจ้ามอเตอร์ไซด์คู่ใจออกไปยังที่นัดหมายกับเพื่อนทันที วันนี้ผมนัดเพื่อนๆในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดผม ตอนที่ผมไปถึงแน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่ไหนจะมา เพราะนี่มันยังเช้าอยู่เลย จะมีเพียงพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของประจำช่วงวันหยุดเพราะมีงานถนนคนเดิน...

ผมหาที่จอดรถตามหน้าร้านค้าแถวนั้นแล้วมองไปยังลานว่าง ซึ่งตอนนี้ไม่ว่างเสียแล้วเพราะเต็มไปด้วยคนมาจับจองที่ขายของมากมาย

“ไอ้เชี่ยหนึ่ง กูรอตั้งนานมาอยู่นี่เอง”

เสียงนั้นดังขึ้นจากข้างหลังผม ผมหันหลังไปคนที่พูดก็ตบหัวผมเบาๆ

“ไอ้ตี๋ เจ็บนะเว้ย แล้วนี่พวกไอ้แอ๋วอยู่ไหน”

“อยู่ตรงหน้าประตูอ่าดิ เออนี่กล่องของมึง”

ว่าแล้วเพื่อนผมก็ยื่นกล่องกระดาษใบหนึ่งให้ผมข้างกล่องเขียนว่า ‘เชิญบริจาคเพื่อเด็กๆยากไร้’ ผมก็รับมาแต่โดยดี แล้วเดินตามตี๋ผมไปยังกลุ่มเพื่อนๆของผมซึ่งมีอยู่หลายคนทุกคน (รวมทั้งผม) ต่างก็ใส่เสื้อสีเดียวกันซึ่งเป็นเสื้อชมรมของมหาวิทยาลัย

“แหมมมม  หนึ่ง เพิ่งมาหรือมึง เมื่อคืนกะโอ๊ตหนักไปหน่อยรึไง”

“เจอหน้ามาก็กัดแล้วเหรอ ที่บ้านเลี้ยงไม่เชื่องเนาะมึงน่ะ”

“ต๊าย ปากดีนะมึง”

ผมแซวเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งทั้งกลุ่ม (เพื่อนสนิทผม) ก็รู้ว่าผมกับโอ๊ตเป็นแฟนกัน

“ว่าแต่ โอ๊ตจะมาช่วยเปล่ามึง จะได้มีคนร้องเพลงดีดกีต้าร์ คนจะได้บริจาคเยอะๆ”

“ก็คงจะมามั้ง...เห็นว่าจะพาหลานรหัสไปเลี้ยง...” ถึงตอนนี้ผมทำหน้าวิตก เพราะข่าวต่างๆและการกระทำของโอ๊ต เปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน

“หลานรหัสโอ๊ตที่เป็นเดือนคณะน่ะเหรอ...เออแก ชั้นเคยได้ยินมาว่าโอ๊ตกะหลานรหัสมันจบโรงเรียนเดียวกันมานิ  แล้วเหมือนจะเคยจีบกั...”

ไม่ทันที่เพื่อนผมจะพูดต่อ เพื่อนผมอีกคนก็กระทุ้งเข้าที่สีข้าง

“เฮ้ยหนึ่ง ไปเริ่มได้ละเดี๋ยวเราเดินสายไปตามที่บอกนะ เดี๋ยวมึงไปที่โออาแป๊ะกะกู”  เพื่อนผู้ชายอีกคนพูดแทรกขึ้น

“อืม”

แล้วพวกผมก็แยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ งานนี้จะว่าลำบากก็ลำบากครับจะว่าสนุกก็สนุก เพราะบางทีเราก็มีดีดกีต้าร์ร้องเพลงเชิญคนมาบริจาคจุดมุ่งหมายเพื่อโครงการของชมรมเราเป็นบรรลุวัตถุประสงค์ให้ได้

จนกระทั่งตกเย็นผมและเพื่อนๆก็กลับมากันที่เจอกันครั้งแรกตอนนี้คนเริ่มเยอะมากแล้วครับชมรมผมมีตั้งร้านขายของด้วย รายได้ก็สบทบทุนเพื่อเข้าโครงการนี่ล่ะครับ อีกส่วนหนึ่งก็ตั้งเก้าอี้ดีดกีต้าร์ร้องเพลงโฟล์คซองกันไป

“หนึ่งๆ ช่วยร้องหน่อยสิ”

“เฮ้ย ร้องไม่เป็น”

“เออ  มีเนื้อน่า เอาเพลงที่มึงชอบเลือกเอาเดี๋ยวกูเล่นให้”

ตี๋บอกกับผมแล้วให้หนังสือเพลงผมมา ซึ่งแน่นอนมีแต่เพลงโฟล์คซองภาษาถิ่น เข้ากับบรรยากาศสถานที่มาก และผมก็เลือกเพลง ‘บ้านบนดอย’ ของอ้ายจรัล ถึงมันจะร้องยากแต่ผมก็พยายามร้อง

ในตอนที่ผมร้องอยู่นั้น สายตาก็ไปสบกับใครบางคนถึงแม้เขาจะอยู่ไกลแต่ผมก็ยังเห็น ผมจำเขาได้ดี เขาคือคนที่ผมฝากชีวิตทั้งชีวิตผมไว้กับเค้า แต่ตอนนี้...เขาเดินมากับผู้ชายน่าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งผมก็รู้จักเขาดีเช่นกัน ทั้งคู่เดินไหล่ชนกัน ดูๆแล้วเหมือนในที่แห่งนั้นมีเพียงเขาสองคนเท่านั้นเอง ส่วนผมตอนนี้เหมือนยืนอยู่ตัวคนเดียวเฝ้ามองเค้าสองคน ดูเหมือนว่าเขาจะเห็น หรือว่าได้ยินเสียงผมก็ไม่ทราบ เพราะจู่ๆเขารีบจูงมืออีกคนออกไปจากตรงนั้นทันที ผมพยายามกลั้นใจแล้วร้องเพลงให้จบ บางทีผมก็ร้องออกมาดังกว่าปกติ จนเพื่อนผมหลายคนมองผมด้วยความแปลกใจ

เมื่อร้องเสร็จ ผมก็ขอเพื่อนๆไปเดินเล่นตามถนน เพื่อนๆก็ไม่ได้ติดใจอะไรบอกเพียงแต่ว่าให้กลับมาช่วยขายของต่อด้วย ก็เท่านั้นเอง ผมเดินไปตามบนท้องถนนแม้ผู้คนมากมาย แต่ผมก็เหมือนอยู่คนเดียวบนถนนสายนี้ อากาศหนาวแม้ว่าผมจะใส่เสื้อคลุมที่ด้านหลังปักชื่อคณะของผมจะหนาขนาดไหน แต่ผมก็ยังหนาวอยู่ สายตาทอดมองไปเรื่อยๆ มองหาใครบางคน  จนผมเจอ... เจอแฟนของผม 

โอ๊ต...

ในมุมมืดมุมหนึ่งออกมาจากถนนที่จัดงานเขากับหลานรหัสของเขากำลังเดินไปยังมอเตอร์ไซด์ของเขา ผมยังจำได้ เพราะผมเคยซ้อนมันอยู่บ่อยๆตอนที่โอ๊ตมารับผมจากบ้านไปที่มหาวิทยาลัยหรือพาผมกลับจากคณะ

ทั้งโอ๊ตและน้องคนนั้นหยุดเดิน ผมเองก็อยู่ห่างพอควร ตอนนี้สายตาผมจ้องไปยังกิริยาของเขาทั้งสองที่ทำผมแน่ใจถึงที่สุดแล้วว่าเขาทั้งสองคนนั้นไม่ได้เป็นแค่พี่และน้องกันเท่านั้นเสียแล้ว

แล้วจู่ๆสายตาของน้องคนนั้นเหมือนจะเห็นผม ผมไม่รู้ว่าผมตาฝาดไปหรือเปล่า เหมือนสายตาเค้าที่มองมาทางผมเหมือนยิ้มเยาะให้กับคนโง่คนหนึ่งที่ยังคงรักคนที่อยู่ข้างๆเขาอยู่ทั้งๆที่น่าจะรู้ตั้งนานมาแล้วว่ารักนั้นมันคงจืดจางไปนานแล้วตั้งแต่วันที่เขามา ตอนนี้โอ๊ตมองไปตามที่เขาคนนั้นมองแล้วก็เห็นผมเข้า

ไม่ทันที่จะคิดอะไร ปฏิกิริยาบางอย่างในร่างกายผมทำให้ผมหันหลังกลับ ผมพยายามก้าวออกจากตรงนั้น ผมหันหลังเดินไปได้ไม่ไกลกันเหมือนมีเสียงคนวิ่งมาจากด้านหลัง แล้วเอามือมาดึงมือผมไว้

“หนึ่งๆ ฟังผมก่อนนะ”

“จะให้ฟังอะไร!!ผมเห็น  ผมไม่ได้ตาบอด”

“หนึ่ง คือผม...”

แล้วผมไม่ทันจะพูดอะไรอีก ผมวิ่งหนีออกจากโอ๊ตแล้วกลับไปที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ของผม แม้มันจะไกลจากตรงนั้นมากแต่ผมก็วิ่งไป วิ่งไปเรื่อยๆ พยายามที่จะหนีจากที่ตรงนั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  แล้วผมก็ถึงที่จอดรถ ผมขี่มันออกจากที่นั้นให้เร็วที่สุด ผมขี่มาได้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ผมไม่รู้จริงๆว่าผมขี่มาได้ถึงที่ไหน รู้แต่ว่าตอนนี้น้ำตาผมไหลตลอด แล้วโทษตัวเองว่าทำไมถึงได้เชื่ออะไรง่ายๆ ผมขับรถมาข้างในมหาวิทยาลัย เหมือนคนสิ้นสติสมองของผมตอนนี้ไม่อยากจะคิดอะไรอีก จนรู้สึกตัวอีกทีผมก็จอดรถอยู่ริมอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัย ตอนนั้นมันมืดและเงียบสงัด มีเพียงเสียงแมลงตามป่าเท่านั้นที่ร้อง ผมทรุดตัวนั่งลงริมขอบอ่าง แล้ว..จ้องมองไปที่ท้องฟ้า น้ำตาของผมยังคงไหล ภาพต่างๆก็เข้ามาอยู่ในสมองมันเหมือนมาย้ำเตือนอยู่อย่างนั้น

ตอนที่ผมเจอโอ๊ตครั้งแรก ผมพยายามไม่คิดอะไรเพราะไม่คิดว่าคนดีๆอย่างเขาเหรอจะมาชอบผม

ตอนที่เรารู้จักกันครั้งแรกตอนที่ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยร่วมกัน

ตอนที่ผมกับโอ๊ตสนิทกันมากขึ้น แม้เค้าจะอยู่อีกส่วนของมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังมาทานข้าวที่คณะผมบ่อยๆ

ตอนที่โอ็ตขอผมเป็นแฟน

ตอนที่เราใช้ชีวิตด้วยกัน เหมือนทุกก้าวที่ผมเดิน จะมีโอ๊ตอยู่ด้วยเสมอ

ตอนที่โอ๊ตแนะนำหลานรหัสให้ผมรู้จัก

และตอนนี้ตอนที่โอ๊ตกำลังจะจากผมไป...

“ว่าแล้วต้องมาที่นี่....”

เสียงของโอ็ตดังมาจาดข้างหลังผม ผมรีบที่จะลุกออกจากตรงนั้นไปทันที แต่เขาก็ดึงมือผมไว้ จากนั้นความเงียบก็เข้ามาอยู่รอบๆผมและโอ๊ต

“หนึ่ง คือ...โอ๊ต...ขอโทษ”

“ขอโทษที่??”  ผมพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าโอ๊ตหมายถึงอะไร

“คือผม ได้ตัดสินใจไปแล้ว...”

“ชั่งเถอะครับ คุณตัดสินใจไปแล้ว” ผมพยายามกลั้นใจพูด แม้จะมีเสียงสะอื้นบ้าง

“คือว่า โอ๊ตตัดสินใจแล้ว...โอ๊ตรู้สึกว่าเราไม่เหมือนเดิม โอ๊ตเลยคิดว่า...”

“ไม่เหมือนเดิม!?!?!?ที่ไม่เหมือนเดิมคือใครกัน”  ผมทำเสียงสูง

“โอ๊ตอยากจะให้หนึ่งเข้าใจ....โอ๊ตเองก็หวังและฝันกับน้องเค้ามานานแล้ว...
ถ้าหนึ่งมองดาวดวงหนึ่งบนท้องฟ้า แล้วอยากได้มันมาไว้ แต่ก็คิดแล้วว่าคงไม่ได้ แต่จู่ๆ มันก็ตกลงมาในมือ จะไม่ให้ วางอะไรบางอย่าง แล้วคว้ามันไว้เหรอ...ถ้าหนึ่งเป็นโอ๊ต หนึ่งก็คงจะเข้าใจ...”

เขาคนนั้น ก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วก็กลับไปที่รถที่จอดไว้ ถ้าผมมองไม่ผิด ผมเห็นเด็กคนนั้น แฟนคนใหม่ของแฟนเก่าผม รออยู่ตรงนั้นด้วย... ผมแทบหมดแรง ทรุดตัวลงตรงนั้นไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเร็วขนาดนั้น มันไม่มีลางมาก่อน ผมได้แต่ร้องไห้ จนผมรู้สึกว่าเสียงสะอื้นของผมมันทำให้เสียงแมลงนั้นเงียบไป....

......

“พี่หนึ่งๆๆ เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม”

เสียงโปรทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วผมก็เอามือไปขยี้ตา ถึงได้รู้ว่าผมร้องไห้

“พี่หนึ่ง เป็นอะไรคับ”

“เปล่า.. ไม่มีอะไร”

“ฝันร้ายเหรอ?”

ผมไม่ได้ตอบโปร เพียงแต่กอดโปรแน่นขึ้น บรรยากาศตอนนี้ข้างนอกยังคงมืดสนิท ผมนอนใต้ผ่าห่มผืนเดียวกับโปร อากาศยังคงหนาวจัด ยังดีที่เต้นท์ที่ผมนอนมีที่กันน้ำค้าง ไม่อย่างนั้นผมและโปรได้เป็นหวัดแน่

“โปร..”

“คับ?”

“ถ้าวันหนึ่ง ดาวบนฟ้า... ที่โปรอยากได้แล้วไม่คิดว่าจะได้ จู่ๆมันก็ตกลงมาในมือ แต่ตอนนั้นโปรเหมือนจะกำอะไรบางอย่างอยู่... โปรจะทิ้งของในมือแล้วไปคว้าดาวไหม?”

“ของที่ว่าคืออะไรเหรอ”

“อืม.. ของที่อาจไม่ดีเท่าดาวที่โปรอยากได้มั้ง แต่ได้มาก่อนดาวดวงนั้นจะมา”

“อ่อคับ...ผมก็ดูว่าของในมือผมนั้น ยังอยากอยู่กับผมหรือเปล่าถ้าอยากอยู่ ดาวก็ดาวเถอะคับ ผมก็จะไม่สน”

โปรพูดเหมือนเข้าใจความหมายที่ผมพูด ผมเองก็ได้แต่กอดโปร โปรเองก็เอาผ้าห่มมาเช็ดคราบน้ำตาผมออก แล้วก็มากระซิบที่หูผมว่า

“พี่หนึ่งล่ะ อย่าทิ้งผมไปไหนนะ ถ้าเกิดพี่มีดาวตกลงมาใส่มือ”

โปรพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม นี่โปรรู้ความหมายของผมเหมดเลยหรือนี่ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กขนาดโปรจะเข้าใจความหมายอ้อมๆที่ผมพูดด้วย ไม่นานกว่านั้นผมก็หลับตาลงด้วยความอุ่นใจ ที่มีโปรอยู่ข้างๆ

“เน่ๆๆ สองคนในนั้นน่ะ ตื่นได้ยาง พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วนะ”

เสียงของโจดังมาจากนอกเต้นท์ ทำให้ผมกับโปรต้องรีบลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกไปนอกเต้นท์

บรรยากาศข้างนอกตอนย่ำรุ่งเหมือนว่าตอนนี้สวรรค์ยกให้ทอดตัวลงมาที่หน้าผม สายหมอกบางๆอยู่รอบตัว แม้ตอนนี้แสงอะไรยังมีไม่มาก แต่ก็สวยไปอีกแบบ ผมกับโปรเดินออกไปล้างหน้าแปลงฟัน แต่ยังไม่อาบน้ำนะครับ อากาศหนาวขนาดนี้อาบไปแข็งตายแน่ๆ แล้วผมก็มาที่เต้นท์อีกที รอคุณแม่ทำต้มน้ำร้อนทำโจ๊กทานตอนเช้า

“คงอีกสักพักนะ กว่าน้ำจะเดือด เพราะพ่อเค้าเพิ่งจะก่อไฟเอง” คุณแม่ผมบอกกับทุกๆคน

“หนึ่ง พาเพื่อนพาน้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนสิ” คุณแม่ผมแนะ

“อืมครับ งั้นเดี๋ยวหนึ่งมานะ ไปพวกเรา”

ผมเดินนำทุกๆคนไปยังจุดชมวิวครับ มันก็ไม่ไกลจากที่ตั้งเต้นท์นัก ที่นี่ผมมาบ่อยครับ เลยรู้เว้นทางพอควร ผมดูสภาพแต่ละคนแล้วเหมือนจะยังไม่ค่อยอยากเดินไปไหนเท่าไหร่ เว้นแต่โปรกับโจเท่านั้น ที่ดูจะสนุกกว่าใครเพื่อน

“ไอ้โปร เมื่อคืนกี่รอบ”

“สามรอบเองเพ่ ม่ายหวายอากาศมานหนาว”

“โถ่ ไม่ได้เรื่องเลยนะมึง อย่างพี่นิ ห้ารอบไม่ซ้ำท่า”

“ช่ายเลย ไม่ซ้ำท่า คนอะไรนอนดิ้นทั้งคืน ทำเอานอนไม่ได้เลย” น้องต้อมพูดออกมา แล้วทำหน้างอนๆแล้วเดินมาข้างๆผมแทน

“อ่าๆ ขอโต๊ดค๊าบบบบบบ เต้นท์มันแคบอ่า อากาศก็หนาว เลยอยากกอดแมวน้อย” ว่าแล้วก็เดินมากอดน้องต้อมทางด้านหลัง

“กอดบ้าไรล่ะ ศอกกะเข่านี่นะ นี่ไม่ใช่กระสอบทรายนะ!!”

“สงสัย เพ่โจเค้าฝันว่ากำลังซ้อมแฟน เอ้ยซ้อมมวยอยู่มั้งค๊าบ” โปรแซว

“ไอ้โปร ครายถามมึงไม่ทราบ”

แต่ก่อนจะมีเรื่องมากไปกว่านี้ ผมรีบตัดบทให้ทุๆคนรีบเดินเพราะนี่ก็ใกล้จะแจ้งแล้ว เราเดินผ่านจุดชมวิวตรงนี้ก็มีหลายคนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ผมบอกกับพวกเราว่าเดี๋ยวต้องเลยไปอีกที่ คนไม่ค่อยจะรู้น่ะครับ แต่วิวก็สวยไม่แพ้จุดที่ชมวิวแน่นอน จนในที่สุดก็มาถึงจนได้ มันเหมือนเป็นเหวลงไปจากสันเขา ไม่มีต้นไม้อะไรมาบัง สามารถมองเห็นร่องเขาซึ่งเต็มไปด้วยหมอก เหมือนดั่งทะเลเมฆที่อยู่เบื้องล่าง และทิวเขาที่อยู่ห่างออกได้ชัดเจน ตอนนี้แสงอาทิตย์ทอมาแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นพ้นทิวเขาที่บังอยู่ข้างหน้าพวกเรา ผมนั่งลงกับพื้นโปรก็นั่งลงข้างๆผม  ส่วนโจ น้องต้อม ก็ถ่ายรูปกันใหญ่โดยมีหมอพจน์เป็นตากล้องจำเป็นให้

ตอนนี้โปรเอามือข้างหนึ่ง มาจับที่มือของผม

“มือเย็นหมดแล้วนะ ไม่เอาถุงมือมาใส่ล่ะ”  ผมถามโปร

“ม่าย ตอนนี้ก็อุ่นดีแล้ว...”

แล้วเราก็รอคอยเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบเขาเบื้องหน้า แสงสีทองที่ทอดออกมา ผมว่าวันนี้ เป็นวันที่เริ่มต้นอะไรดีๆ หลังจากฟ้าฝนได้ตกลงมาและตอนนี้... เมฆหมอกในใจผมหายไปแล้วครับ....
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 22-12-2008 09:56:18
เอาน่ะ ถึงจะเหงาตอนต้นบทแต่ท้ายบทก็อบอุ่นจนน่าอิจฉาเลย อย่างน้อยตอนนี้โปรก็ได้ดวงดาวมาไว้ในมือแล้วเนะ   :man1:

สวัสดีครับ

:เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ

มันมีแค่นี้ล่ะคับ rate XXX ของมันละ

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่าจะต้องให้คนอื่นเขียนให้คับ เพราะไอ้คนเขียนมันหน้าบาง


^
^
^
อ่านะ ฉากอย่างว่าใครว่าเขียนง่าย ว่าแต่ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้อีกนิดก็ดีนะ ป้าและแฟนๆคนอื่นรีเควสต์จ้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 22-12-2008 09:58:23
โปรตอบได้ สุดยอดมากน้องง!!!!

เล่นเอาเกือบร้องเลย ปกติเวลาอ่านนิยาย ที่มันพูดถึงดวงดาว แล้วมัน sensitive ทุกทีไม่รู้เป็นไร

แต่สุดยอดมาก ๆ ครับ ชอบจริง ๆ นะ

เป็นกำลังใจให้คนแต่ง กับ คนโพสต์ นะครับ

ขอให้มีแฟน เยอะ ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-12-2008 10:12:39
กรี๊ดดดดดด โปร ตอบได้ประทับใจมากคุงน้อง ทำเอาต่อมรักเด็กกำเริบ  กรี๊ดดดดดดด 

มีแค่กันและกัน ดาวเด่อ อะไรไม่ต้องสน  มันจะตกมันร่วงก็ปล่อยดาวมันไป  :n1:





ปล.  ตกลง NC แค่นั้นจริงอ่ะ


อ่านะ ฉากอย่างว่าใครว่าเขียนง่าย ว่าแต่ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้อีกนิดก็ดีนะ ป้าและแฟนๆคนอื่นรีเควสต์จ้า[/color]  :laugh:

เห็นด้วยกะ ป้า ค่า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 22-12-2008 10:48:35
ตกลงได้กันแล้วชิมิ

เหอเหอ

ว่าแต่คำพูดของโอ๊ตนี่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ

ขอทีเฮอะ  :z6:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 22-12-2008 11:12:55
น้องโปรน่ารักมากๆ :man1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 22-12-2008 11:26:59
เอาน่ะ ถึงจะเหงาตอนต้นบทแต่ท้ายบทก็อบอุ่นจนน่าอิจฉาเลย อย่างน้อยตอนนี้โปรก็ได้ดวงดาวมาไว้ในมือแล้วเนะ   :man1:

สวัสดีครับ

:เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ

มันมีแค่นี้ล่ะคับ rate XXX ของมันละ

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่าจะต้องให้คนอื่นเขียนให้คับ เพราะไอ้คนเขียนมันหน้าบาง


^
^
^
อ่านะ ฉากอย่างว่าใครว่าเขียนง่าย ว่าแต่ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้อีกนิดก็ดีนะ ป้าและแฟนๆคนอื่นรีเควสต์จ้า  :laugh:

เห็นด้วยกะป้าอย่างแรง อิๆ รอมาหลายตอนและน๊า ให้กันนิีดเดียวเอง อะนะ

รู้สึก  :o8: :o8: :o8:  จังเลยงะขออะไรกันอยู่เนี่ย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 22-12-2008 12:23:09
เจ้าโปรน่ารักอ่ะ มุมมองความรักของเค้าไม่ใช่เด็กซ่ะแล้ว  :o8:

อิจฉาความรักคู่นี้จริงแฮ่ะ


แต่พออ่านอดีตของหนึ่งและโอ๊ด แมร่ง เคืองอ่ะ เห็นแก่ตัวมากมายดีน่ะที่หนึ่งไม่ได้ย้อนกลับไปทางเดิม :m16:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 22-12-2008 12:31:21
 :m16: ทำไมมีแต่คนไม่ชอบโอ๊ตนะ

ผมจะเข้าข้างโอ๊ตให้กลับมารักกับหนึ่งให้ได้

เพราะโปรจะได้ตกเป็นของผมแทน  :interest:

โปรเล่นพูดงี้ออกมารักตายเลยเนี่ย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 22-12-2008 13:31:56
สวัสดีครับ

เปิดโหวตครับ เปิดโหวต อยากให้ไอ้นายเส้นฯเล่าตอน NC ล่ะก็พิมพ์ 1 แล้วส่งมาคอมเมนต์นะคร๊าบบบบบ
ถ้าท่านอ่านแต่แรกสุด จะจำได้ว่า "มัน" ได้สัญญาแล้วว่า ใครอยากรู้อะไรอีก มันจะเขียนให้ หึหึหึหึ :haun4: จะเอาร้อนแรงขนาดไหน ตามสั่งได้เลยครับ  :oo1:

หุหุหุ เพิ่งรู้นะว่า :impress2: กันทั้งน๊านนนนนน  คิคิคิคิ

ขอบคุณครับ
ปอลอ ป่อล่อ ป๊อล๊อ ป๋อล๋อ
:m16: ทำไมมีแต่คนไม่ชอบโอ๊ตนะ

ผมจะเข้าข้างโอ๊ตให้กลับมารักกับหนึ่งให้ได้

เพราะโปรจะได้ตกเป็นของผมแทน  :interest:

โปรเล่นพูดงี้ออกมารักตายเลยเนี่ย

 :pig4:

อันนี้ ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ หึหึหึ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-12-2008 13:37:58
อ่านตอนนี้แล้วร้ากกกกกกกกกกกก เจ้าตี๋โปรขึ้นอีกเป็นกองเลย :m1:

ป.ล. พิมพ์ 1 โหวต NC จ้า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 22-12-2008 13:51:12
กด

"หนึ่ง"

:m29:

ปล.ขอแอบหื่นนิดส์ ตัวจริงเค๊าน่ารักนะ จริง จริ๊ง~

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 22-12-2008 14:04:41
กด     1      ด้วยค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 22-12-2008 14:20:38
กด 1

ตามมาอีกคน กร๊ากๆๆๆ
อยากอ่านจริงๆน๊า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: sleepless ที่ 22-12-2008 14:31:23

1


โหวตฮับ :-[

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 22-12-2008 15:28:16
โหวต  1 ครับผม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 22-12-2008 17:35:33

"กด"



คำเดียวจบ  :m10:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 22-12-2008 17:41:54
กด 1
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 221 ธ.ค. :ตอนที่ 20 มันเสร็จกันตั้งกะตอนที่ 19 อ่
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 22-12-2008 17:52:44
อ้าว มาร่วมด้วยช่วยโหวต

กด  1

ขอแบบ NC  แรง ๆๆ  เรย    :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-12-2008 18:07:44
แค่ 1ก็พอแล้วเหรอ งั้นเอา 1ไป
หรือจะเอาอีก1 ก็ได้นะ :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-12-2008 18:55:20
โหวต 1 ด้วย อิอิ

ยิ่งอ่านยิ่งแย่กับไอ้โอ๊ต
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-12-2008 23:14:23
อีก 1  ค่า   :o8:

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 23-12-2008 10:40:12
สวัสดีครับ

อ่าๆๆๆๆ  มีแต่คน "กด" หนึ่ง คิคิคิ จะกดท่าไหนดีน๊า :haun4:
แล้วผมจะรวมผลโหวตไปให้ไอ้นายเส้นฯนะครับ แต่มันจะเขียนส่งมาให้ตอนไหน ไงผมจะเร่งให้ (ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าลีลามันจะเด็ดขนาดไหน  ก๊ากกกกกก)

โหวต 1 ด้วย อิอิ

ยิ่งอ่านยิ่งแย่กับไอ้โอ๊ต

เอาน่า โอ๊ตเป็นคนไม่ดีที่กลับตัวแล้วนะ หึหึ หลายคนอาจจะรักโอ๊ตก็ได้ตอนหลังอ่ะครับ

ขอบคุณที่ติดตามเสมอครับ



ตอนที่ 21

ในที่สุดผม โจ น้องต้อม หมอพจน์ และก็โปรก็มาถึงบ้านผมอย่างปลอดภัยโดยฝีมือการขับรถของคุณพ่อผมครับ ขากลับนี้โจขอกินยาแก้เมาก่อนแล้วก็หลับมาตลอดทางเลยไม่เป็นไรครับ แต่คนที่เป็นคือเจ้าตี๋โปรเสียแล้วสงสัยมัวแต่เล่นๆแกล้งโจตอนหลับเลยก้มๆเงยๆในรถ มันทำให้เกิดอาการเมารถได้น่ะครับ โปรเลยขอยาแก้เมาจากคุณแม่ผมบ้าง แต่ดูท่าจะไม่ทันแล้วล่ะครับ มันออกมาก่อนที่ยาจะออกผล (อาเจียนออกมาหมดทั้งข้าวที่กินไปทั้งยา) เลยทำให้กินยาไปอีกไม่ได้ครับ เพราะทานอะไรไปก็ออกหมด (จะว่าไปผมก็สมน้ำหน้าปนสงสารนะครับ ก็มันแต่ไปแกล้งเค้า) ผมสงสารโปรเหมือนกันนะ
“จะนอนรึเปล่าโปร” ผมถามเผื่อโปรจะมานอนตักผม

“นอนหนุนพี่หนึ่งเค้าก็ได้ลูกโปร หนึ่งเอาหมอนนี่ไปให้น้องเค้าหนุนด้วยนะ”

 เอากับเค้าสิแม่ผม เรียกลูกโปรซะละ สงสัยคงชอบไอ้ตี๋โปรนี่ขึ้นมาบ้างละ ใจชื้นขึ้นมาหน่อย
แต่ไอ้ตี๋โปรโบกมือไม่เอาซะงั้น ไอ้เด็กนี่นิ คนอุตส่าห์เป็นห่วง แต่สุดท้ายพอลงจากดอยมาพื้นราบได้ โปรก็มาสลบที่ตักผมอยู่ดี....

“พระอินทร์ลงสิงแกเหรอโปร”

โจแกล้งแซวเมื่อพวกเราถึงบ้านแล้ว ตอนนี้หน้าโปรเขียวไปหมดแล้วครับ ผมเห็นละสงสารจริงๆ

“ไปนอนพักก่อนนะลูก นี่หนึ่งพาน้องเค้าไปนอนก่อนสักพักเดี๋ยวก็หาย”

“ครับ”

ผมรับคำคุณแม่เสร็จก็พยุงโปรไปที่ห้องนอนครับ ตอนนี้โปรก็โปรเถอะหมดแรงเลย พอถึงที่นอนผมก็ปล่อยโปรลงนอนแล้วก็ห่มผ้าให้ครับ นี่ขนาดว่าตอนบ่ายแก่ๆแล้วแต่อากาศก็ยังเย็นๆอยู่ครับ

“นอนพักก่อนนะ ไงมีอะไรก็บอกแล้วกัน”

“งืมๆๆ....”

โปรพยักหน้าเบาๆ แล้วผมก็ออกจากห้องนอนไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน ซึ่งตอนนี้ทุกๆคนก็อยู่ที่นั่นครับ

“หนึ่ง ไหนๆก็พาเพื่อนกับน้องไปเที่ยวในตัวเมืองสิลูก”

“อืม  นั่นสิ ผมเกือบลืมเลย เดี๋ยวเค้าหาว่ามาเที่ยวบ้านเราแล้วยังมาไม่ถึง” ผมพูดตอบ

“ไปสิ ไปๆ พรุ่งนี้จะกลับแล้ว ยังไม่ซื้อของฝากที่บ้านเลย”

โจรีบบอกเลยครับ ผมเองก็เกือบลืมว่าต้องซื้อของให้คนที่ทำงานเพราะมีหลายคนฝากซื้อของเยอะครับ

“แล้วโปรล่ะ” หมอพจน์ถาม

“ปล่อยมันนอนไป ขืนให้มันไปด้วย เดี๋ยวอ๊วกใส่รถพี่หมด”

“แม่ครับ ไงถ้าโปรตื่นแล้วอยากจะมากับพวกผม ก็โทรบอกแล้วกันนะครับ” ผมบอกกับคุณแม่ครับ

“ได้ๆ แล้วแม่จะบอกน้องเค้าให้นะ”

ว่าแล้วเราก็พากันขับรถเข้ามาในตัวเมืองครับ ผมนำทางให้ส่วนโจยังคงเป็นคนขับเหมือนเดิม ผมพาเที่ยววัดที่สำคัญๆในเวียงแล้วพาไปที่สำคัญต่างๆ ในเวียง

“เอ้อหนึ่ง มหาลัยแกเค้าว่าสวยนิหว่า พาเข้าไปหน่อยได้ป่าว เผื่อจะได้กิ๊กแถวนั้น”

โจพูดงี้ก็โดนน้องต้อมหยิกสิครับ ท่าจะแรงซะด้วยเพราะทำให้โจต้องจอดข้างทางเลย

“อ่ะเค้าล้อเล่นอ่าตัว คิดมากๆ”

“ไม่ได้ๆ เด็กแถวนี้ยิ่งน่าตาดีอยู่”

“ก็ไม่น่ารักเท่าตัวหรอกอ่ะ”

ผมกับหมอพจน์ก็หัวเราะออกมาครับ แล้วผมก็บอกทางไปที่มหาวิทยาลัยของผม เราเข้าทางประตูหน้ามหาวิทยาลัย ผมมองไปรอบๆข้างทาง ผมจบมาได้ปีกว่าแล้ว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือนักศึกษาที่ต้องมีเข้ามาใหม่แล้วจบออกไปตามวัฎจักรการศึกษา ต้นไม้ในมหาวิทยาลัยยังคงอยู่ให้ความร่มรื่นเหมือนเดิม ผมพาโจวนรอบมหาวิทยาลัยอยู่พักหนึ่ง ผมก็บอกให้โจหยุดจอดรถบริเวณใกล้ๆอ่างเก็บน้ำภายในมหาวิทยาลัย พวกเราเดินลงมาแล้วเดินไปที่ริมอ่าง

“มหาลัยแกนิเนาะ รู้งี้เค้ามาเรียนที่นี่ก็ดี คนก็น่ารัก...” โจพูดขึ้นมาแล้วก็เหลือบตาไปที่น้องต้อมซึ่งทำตาเขียวๆใส่

“แต่  ก็ไม่เท่าแมวน้องของเค้าหรอก  เนาะ เนาะ”

ว่าแล้วโจก็เดินไปโอบไหล่น้องต้อม แต่น้องต้อมก็เดินหนีครับ พอดีกับรถไฟฟ้าวิ่งรอบมหาวิทยาลัยผม ซึ่งเค้าให้บริการฟรีวิ่งมา น้องต้อมก็โบกแล้วขึ้นไปเฉยเลย โจเลยวิ่งตามครับจนรถเค้าจอดเลยขึ้นไปบนรถตาม

“พี่หนึ่ง รถนี่เค้าไปไหนเหรอครับ” หมอพจน์ถาม

“ก็วิ่งรอบมหาลัยนี่แหละ ลองขึ้นดูสิ”

“แล้วพี่หนึ่งไปด้วยไหมครับ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ พี่ขอนั่งพักแถวนี้หน่อยดีกว่า”

เหมือนหมอพจน์จะทำท่าลังเลครับ คงอยากไปแต่ไม่อยากทิ้งผมไว้

“ไปเถอะหมอ พี่อยู่คนเดียวได้น่า”

“พี่ไปด้วยสิครับ..”

ตอนนั้นผมได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์มาจอดใกล้ๆที่ผมยืนอยู่ครับ พอหันไปก็เจอผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาผม

“อ้ายหนึ่ง!!! มาได้จะได”

“อ้าว ไอ้ริน”

“หูย บ่ะได้ป้ะกันเมินละก้า ไปยะงานตี้ใด”  (หูย ไม่ได้เจอกันนาน พี่ไปทำงานที่ไหนมา)

“ที่กรุงเทพอ่ะ แล้วนี่แกมาทำอะไร”

“ผมก็มาเตรียมงานชมรมหน่ะคับ”

“อ้าวเหรอ เอ้อ นี่ๆ น้องเพื่อนที่ทำงานพี่ชื่อพจน์นะ พี่พาเค้ามาเที่ยวบ้าน”

“อ่ะละ น้องเพื่อนแต๊ก๊า” ไอ้รินมาหลบๆกระซิบข้างๆผม

“แต๊”

แล้วไอ้รินก็เดินมาใกล้ๆผมแล้วก็กระซิบ

“น่องเปิ้นมีแฟนแล้วก้ะ”

“บ่ะมี”

“แต๊อิ”

“เออ ชอบก๋า?”

“บ่าจ้ายหนา อ้าย”

“เออๆ พี่กะแกก็รู้ไส้รู้พุงกันดีอยู่ อย่ามาๆ ...นี่หมอพจน์ น้องพี่เค้าอาสาพาไปเที่ยวรอบมหาลัย เอาไหม”
แล้วหมอพจน์ส่ายหน้าครับ ผมเลยเปลี่ยนแผนใหม่

“เอ้อ ไม่ได้กินสลัดมานานละ ไอ้รินไปซื้อให้พี่หน่อย”

“ได้คับ!!”

“หมอพจน์ ลองไปกับไอ้รินสิ จะได้พาทัวร์รอบมหาลัย”

แล้วหมอพจน์ก็เหมือนจะทำท่าส่ายหัวอีกครั้ง แต่ผมก็คะยั้นคะยอให้หมอพจน์ไปกับรินด้วยครับ จนแล้วจนรอดรินเลยไปพูดกับหมอพจน์เอง

“หมอพจน์เรียนปีอะไรครับ”

“ปีหนึ่งครับ”

“โห เฟรชชี่แม่นก่ นี่ๆเดี๋ยวผมจะพาแอ่วรอบมอ ผมก่มีน่องเฮียนตี้คณะแพทย์โตยหนาคับ ไค่ไปอู้กั๋น ว่าเฮียนตี้อั้นกะตี้นี่มันเป็นจะได” (โห เฟรชชี่ใช่ไหม นี่ๆเดี๋ยวผมจะพาไปเที่ยวรอบมอ ผมก็มีน้องเรียนที่คณะแพทย์ด้วยน่ะครับ อยากให้ไปคุยกัน ว่าเรียนที่นั่นกับที่นี่มันเป็นยังไง)

“ไอ้ริน น้องมันฟังแกไม่รู้เรื่อง”

ผมละกลัวจริงว่าหมอพจน์จะฟังคำที่ไอ้รินพูดไม่รู้เรื่อง เล่นซาวแทรกตลอด แต่ดูๆแล้วหมอพจน์ก็ฟังเข้าใจนะครับ จนในที่สุดหมอพจน์ก็ยอมไปครับ ผมก็บอกว่าจะรออยู่ตรงนี้ แล้วไงก็อย่าไปนานนัก ไอ้รินก็รับปากครับ

“ถ้าแกพาน้องพี่ไปเสียนะ ไม่เก็บไว้แน่”

“ค๊าบบบบ”

แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ออกไปครับ นี่ไม่รู้ผมทำถูกไหมที่เหมือนยัดเยียดให้หมอพจน์ไปกับใครที่เค้าเองก็ไม่รู้จัก ไอ้รินเป็นน้องผมที่ชมรมครับ ก็ชั่งจะรักษารากเหง้าตัวมันดีจริงๆ นี่ผมไม่ได้ยัดเยียดอะไรให้หมอพจน์ไปใช่ไหมครับ ที่จริงผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่าตอนนี้เพราะที่ๆผมยืนอยู่นี้มันรวมประสบการณ์หลายๆอย่างที่ผ่านมาในชีวิตผมตลอดเวลาที่เรียนอยู่ในที่แห่งนี้ ผมยังคิดถึงมันไม่เสื่อมคลาย

แล้วผมก็นั่งลงที่ริมอ่างเก็บน้ำครับ ท้องฟ้าตอนนั้นแสงแดดก็เริ่มอ่อนลงๆ ผมมองไปรอบๆอ่างแล้วนึกถึงวันเก่าๆ ผมมีแฟนก็ที่นี่ ผมเคยโดนบอกรักและขอเป็นแฟนที่นี่ แล้วก็....โดนบอกเลิกที่นี่.... ผู้คนก็มีมานั่งเล่นบ้าง ออกกำลังบ้าง เป็นปกติครับ เมื่อคิดยิ้นถึงวันเก่าๆ มันก็กลับทำให้ผมเหงาขึ้นมาอย่างประหลาด แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา คิดว่าจะโทรไปหาโปรน่ะครับแต่ไม่ทันจะกดเบอร์ผมก็ได้บินเสียงเหมือนคนเดินมาใกล้ๆ

“หนึ่ง...  มาได้ไงครับ...”

ผมหันไปตามเสียงที่เรียก แล้วก็เจอกับโอ๊ตที่ยืนอยู่ข้างๆที่ผมนั่ง เขาใส่ชุดนักศึกษา มือก็ถือกล่องอุปกรณ์ที่ใช้เรียนของเขา ซึ่งผมก็เห็นเป็นภาพนั้นเป็นปกติเหมือนเดิมทุกครั้งในตอนที่เรายังคบกันอยู่

“ก็... กลับมาเที่ยวบ้านวันหยุดน่ะ แล้วนี่คุณมีเรียนด้วยเหรอวันนี้”

“มีเครสครับวันนี้ นัดคนไข้ไว้แล้ว เลยต้องมาทำ....แล้วนี่ น้อง.....”

“โปรเหรอ ตอนนี้นอนอยู่ที่บ้านผม เมารถน่ะ พอดีพาไปเที่ยวดอยมา”

“อ่อครับ....”

แล้วโอ๊ตก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม แต่ความห่างของเราก็พอสมควร ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราคงจะนั่งใกล้กันกว่านี้
บรรยากาศรอบตัวผมตรงนี้เงียบลงทันที ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับโอ๊ตดี แต่ก็พยายามหาเรื่องขึ้นมาพูดจนได้
    
“เอ่อ ... โอ๊ต.....เรียนเป็นไง...”

“ก็ดีครับ...”

แล้วจู่ๆโอ๊ตก็ร้องไห้ออกมา ผมตกใจมาก ผมไม่เคยเห็นโอ๊ตร้องไห้มาก่อน ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่จะหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงผมมาให้โอ๊ต

“เอ่อ... โอ๊ต...คุณ...”

“หนึ่ง  ผม...”

ผมได้แต่หยิบยื้นผ้าเช็ดหน้าให้เขา แล้วจู่ๆโอ๊ตก็เอามือมาจับที่มือของผมที่ยื้นผ้าเช็ดหน้าให้เค้าอยู่
ตอนนี้บรรยากาศชั่งสลัวเหลือเกิน ที่แห่งนี้ มันเป็นจุดแห่งการเริ่มอะไรหลายๆอย่างของผมและ เป็นจุดที่สิ้นสุดเช่นกัน

“โอ๊ต  ท้องฟ้ามันกว้างใหญ่มากเลยเนาะ ว่าไหม?

 ดาวบนนั้นก็มีหลายดวงเนาะ ว่าไหม

บางดวงอาจยังไม่ส่องแสง จนกว่ารุ่งเช้า บางดวงก็ส่องแสงตอนหัวค่ำ บางดวงก็กระพริบ บางดวงก็นิ่ง มันแปลกดีเนาะ

“ผมว่า ถ้าเรารู้จักการรอคอยอะไรบางอย่าง ก็อาจจะดีนะ
อืม... คุณ ผมว่า เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วรู้จักคุณค่าของตัวเอง รักตัวเองให้มาก แล้วผมว่าเราก็มีความสุขแล้วนะครับ คุณว่าจริงไหม?”  นี่ผมพูดอ้อมเกินไปไหมครับนี่

“หนึ่ง ผม... ผมอยากให้คุณกลับมา..”

“ผมก็รักคุณนะครับ รักคุณเสมอ แม้ตอนนี้เราจะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว”

“ผมขอให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ....ได้ไหมครับ ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดของผม คือ....”

ตอนนี้โอ๊ตยังจับมือผมอยู่ครับ แล้วเหมือนจะบีบมือผมแรงขึ้นด้วย ผมหนักใจมาก แม้จะรู้ว่าคำตอบเดียวของผมคืออะไร แต่ก็ยังหนักใจที่จะพูดออกมาตรงๆ ผมพยายามดึงมือออกจากมือโอ๊ต แต่เหมือนยิ่งดึงออก โอ๊ตก็ยิ่งจับมือของผมแน่นขึ้นจนผมเริ่มเจ็บ

ตอนนี้ผมรู้สึกลิ้นผมแข็งขึ้นมาทันที ผมอยากจะพูดว่าให้โอ๊ตปล่อยมือผมก่อนมากกว่า แต่ทำไมผมไม่อยากบอกไปตรงๆก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะน้ำตาของโอ๊ตก็ได้

“ค.. คุณ คนอื่นมองหมดแล้วนะ”

โอ๊ตก็ไม่ยอมปล่อยมือของผม แต่กลับก้มหน้าแล้วร้องไห้หนัก

“คุณ ปล่อยผมก่อน คุณผมเจ็บนะ....คุณ....
โอ๊ต!!!  หนึ่งเจ็บ ปล่อยมือก่อน”

“จนกว่าคุณจะกลับมาหาผม แล้วไม่ไปไหนอีก”

“อ...โอ๊ต! ปล่อยผม ผมเจ็บ!..”

ตอนนี้โอ๊ตหยุดร้องไห้แล้ว เขามองมาที่ผม ผมเห็นสายตาของเขาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ตาของโอ๊ตจะแดงเพราะร้องไห้ แต่สายตาของเขากลับน่ากลัว นี่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ที่มือผมตอนนี้เป็นรอยแดงหมดแล้ว

จู่ๆ โอ๊ตก็ดึงผมออกจากตรงนั้น ให้ตรงไปที่รถมอเตอร์ไซด์ของเขา เขายังกำแขนผมแน่น เหมือนไม่อยากให้ผมหนีไปไหน

“โอ๊ต! จะไปไหน...โอ๊ต!! จะพาผมไปไหน...โอ๊ต!!! หยุดก่อน ผมเจ็บนะ! อ... โอ๊ต!!!   โอ๊ตทำแบบนั้นกับหนึ่งไม่พออีกเหรอ!!! ถึงต้องมาทำแบบนี้ด้วย”

ผมตะโกนสุดเสียง แล้วจู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาเป็นเพราะอะไรไม่รู้ แต่ผมก็ร้องไห้ออกมา แล้วโอ๊ตก็หยุดลงมือก็ยังจับที่แขนผมอยู่ แต่ก็เริ่มคลายๆมือแล้ว

“ผม...ขอโทษ...”

โอ๊ตพูดเสียงเบาๆ แต่เขาหันหน้าไปทางอื่นโดนไม่หันมามองผม

“ผม ขอโทษ..
ผม ทำให้คุณร้องไห้..อีกแล้ว...” แล้วโอ็ตก็ปล่อยแขนผมลงตอนนี้เอง
ผมได้แต่เงียบ ส่ายหน้า แล้วหันไปทางอื่น

“น้องเค้ารักคุณมากไหม ดูแลคุณดีไหม”

ผมหยักหน้าเบาๆแทนการตอบ

“ช่วงนี้ ผมเรียนหนัก ขอโทษด้วยนะครับที่ผมทำแบบนี้...
ผมแค่อยากให้มีใคร  มาเทคแคร์ผม  เหมือนก่อน”

“เฮ้ยหนึ่ง รอนานไหมวะ”

เสียงของโจดังมาไม่ไกลนัก โจเดินมาพร้อมกับน้องต้อม

“เออแล้วนี่...”

โจโบ้ยหน้าไปที่โอ๊ตน่ะครับ เหมือนให้ผมจะแนะนำให้รู้จัก แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร

“ผมเป็นเพื่อนของหนึ่งน่ะครับ ผมโอ๊ตครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

“อ่อ เหรอครับ ผมโจครับ เพื่อนหนึ่งที่ทำงาน “

“พี่หนึ่งเป็นอะไร ทำไมแขนมีรอยแดงๆด้วย” น้องต้อมถามผม แต่ผมก็ยังไม่ตอบ ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ

“อ่อ  พอดีผมดีใจที่เจอหนึ่งน่ะครับ เลยจับแขนเขาแรงไปหน่อย ต้องขอโทษด้วย”

“เอ๋ พี่หนึ่งตา..”

“ไปกันเถอะ”

ผมรีบพูดตัดบท ก่อนที่จะโดนซักมากไปกว่านี้ แล้วผมก็เดินไปที่รถของโจที่จอดอยู่ทันที โจเหมือนจะทำท่างงๆแต่ก็บอกลาโอ๊ตแล้วก็เดินตามผมมา

“อ้าวแล้วน้องพจน์ล่ะ”

“ไปเที่ยวกับน้องมหาลัยกู เดี๋ยวโทรถามเองว่าอยู่ไหน แล้วค่อยไปรับ”

ผมพูดฮ้วนๆ จนทำให้โจและน้องต้อมรู้สึกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับผม รถออกจากอ่างเก็บน้ำ โจโทรไปถามหมอพจน์ว่าอยู่ที่ไหน ปรากฎว่าอยู่ที่หอพักนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยผมครับ สงสัยรินมันพาไปส่งหาน้องมันจริง พอกลับถึงบ้านเจ้าตี๋โปรทำหน้างอนๆครับ เพราะว่าผมไม่ยอมบอกว่าจะไปเที่ยวในเมือง ไม่อย่างนั้นจะไปด้วย ผมก็ว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวตอนค่ำจะพาไปเดินถนนคนเดิน แต่กระนั้นก็ไม่หายงอนอยู่ดี ผมพยายามปิดแขนตัวเองไม่ให้โปรเห็น แต่แล้วก็เห็นอยู่ดีเพราะรอบแดงมันใหญ่มาก

“พี่หนึ่ง ไปโดนอะไรมา”

“อ่อ ไม่มีอะไร”

แล้วโปรก็จับแขนผมไปดูใกล้ๆ

“เจ็บไหม นี่เป็นรอยนิ้วคนนี่นา”

“ไม่มีอะไรหรอกน่า พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เย็นนี้จะพาไปเดินถนนคนเดิน”

ผมตัดบทเสร็จก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าอาบน้ำทันที แล้วตอนนี้ผมก็ไม่พูดอะไรกับใครอีก แม้โปรจะเซ้าซี้ถามผมกี่ครั้ง ผมก็ไม่ตอบ แล้วเลี่ยงไปพูดอย่างอื่นแทน แล้วโปรก็ไปถามโจเรื่องของผม ผมไม่รู้ว่าโจพูดอะไรไปบ้าง ตอนนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านของผมก็ดังขึ้นมา

“สวัสดีครับ”

“ขอโทษนะครับหนึ่งที่ผมโทรมาเบอร์บ้าน”  เสียงของโอ๊ตนี่เอง

“ผมอยากจะคุยกับน้องโปรหน่อยได้ไหมครับ”

“.....” ผมได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไร

“ผมไม่มีอะไรหรอกครับ เอางี้นะครับ ถ้าคุณลำบากใจ ผมไปหาเองก็ได้ครับ”

แล้วผมก็วางหูลงโดยไม่ได้พูดอะไร โจก็ชวนผมออกไปที่ถนนคนเดินทันที ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง เหมือนโปรจะอึดอัดมากที่ผมทำตัวแบบนี้พยายามทำให้ผมยิ้มอยู่ตลอด แต่อารมณ์ผมตอนนี้ผมไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น จนถึงจุดหมายพวกเราเดินซื้อของอยู่นานมาก จนผมรู้สึกได้ว่าเราเดินวนถึงรอบที่สามแล้ว

ในตอนนี้ ผมก็ได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นๆหู ดังมาจากฝากหนึ่งของถนน ทั้งผม โจ น้องต้อม หมอพจน์ แล้วก็โปร เดินไปตามเสียงนั้น เหมือนเป็นจุดที่คนจะมาเล่นดนตรีกันครับ แถวนี้แค่กีต้าร์ตัวเดียว ก็เล่นหาเงินได้แล้ว แต่ตรงนั้นมีคนมุงอยู่เยอะน่ะครับ ผมเลยพยายามแทรกตัวเข้าไปดูว่าเป็นอะไรทำไมคนถึงเยอะนัก ก็ได้รู้ครับว่าเป็นกลุ่มดนตรีของชมรมเก่าตอนมหาวิทยาลัยของผมเองในนั้นมีอยู่หลายคนทั้งเล่นกีต้าร์ เป่าเมาท์ออแกน และอีกหลายอย่าง ส่วนคนร้องนั้น ...

“โอ๊ต...”

เหมือนโอ๊ตจะมองเห็นผมครับ แล้วส่งยิ้มมาให้ก่อนที่เขาจะร้องเพลง โปรเองเมื่อเห็นว่าโอ๊ตเป็นคนร้องก็เปลี่ยนตัวเองจากที่ชอบอยู่ไม่สุขกลับเป็นนิ่งเฉยแทน

“เพลงที่จบไปนี้ ผมขอมอบให้แฟนเก่าของผมครับ มันเป็นความผิดของผมเองที่ผมดูแลเขาได้ไม่ดี แล้วก็เป็นฝ่ายจากเค้าไปก่อน ผมอยากใช้เวทีนี้บอกกับเขาและแฟนใหม่ของเขาว่า...ขอให้มีความสุข ขอให้ดูแลให้ดี ถ้าดูแลไม่ดี

เด๋ว..ผม..จะเอา...ของผม...คืน”

แล้วผู้คนที่อยู่รอบๆก็หัวเราะคลืน ผมได้แต่ยิ้มให้โอ๊ตครับ ยังไงโอ๊ตก็เป็นสุภาพบุรุษเสมอ ส่วนโปรก็เหมือนจะทำหน้าเชิดๆใส่นิดหนึ่ง เพลงที่โอ๊ตร้องก็เป็นเพลงที่เขาเคยร้องให้ผมฟังครั้งแรก ‘คนซึงตึ๊ง’ เราอยู่ตรงนั้นได้สักพักจนเปลี่ยนคนร้องเพลง โอ๊ตถึงเดินมาหาผมและโปรครับ

“คุณ ผมขอยืมแฟนคุณแป๊บนึงนะ”

ว่าแล้วก็นำทางโปรเดินออกไปเลย ผมเองก็อยากจะตามไปแต่ติดตรงที่น้องๆชมรมครับ ต่างคนต่างก็ถามความเป็นไปของผมบ้าง เรื่องงานบ้าง ผมเลยปลีกตัวออกไปไม่ได้เลย จนกระทั้งทั้งโอ๊ตและโปรเดินกลับมา

“อ่ะคุณ ผมเอามาคืนละ”

“เพ่ ผมคนนะคับไม่ใช่วีดีโอ จะได้เช่าแล้วมีคืน”

“เออนะ กวนนะเรา”

“คับ”

“คุยอะไรกันน่ะ?” ผมถาม แต่ทั้งคู่ก็ไม่ตอบครับ ผมก็เลยตามเลยไม่ตอบก็ไม่ว่า จนกระทั้งผมเดินกลับมาที่รถ โอ๊ตก็เดินตามมาส่งด้วย

“ผมว่าต่อไปคงไม่ตามมากวนคุณอีก”

“พูดอะไรน่ะคุณ” ผมถามโอ๊ต

“ผมดีใจครับ ที่คนที่ผมรัก มีคนดีดีดูแล ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกผมได้นะครับ แล้วผมจะจัดการให้เอง”

“ม่ายมีทางจะเป็นอย่างน๊านแน่เพ่ พี่หนึ่งจะไม่โทรปรึกษาอะไรพี่แน่นอน”

“งั้น ถ้าหนึ่งโทรหาพี่เมื่อไหร่ แสดงว่าพี่สามารถแทนเราได้ทันทีนะ”

“อ่ะถ้าคิดอย่างนั้น ก็ตามใจ ที่แน่ๆ ม่ายมีทาง”

“นี่สองคนไปคุยอะไรกันน่ะ” ผมถามซ้ำอีกครั้ง

“ม่ายบอก” โปรตอบผมมา ส่วนโอ๊ตก็ได้แต่ยิ้มๆ

จนกระทั้งโจ น้องต้อม และหมอพจน์เดินมาถึงรถ ผมบอกลากับโอ๊ตแล้วก็กลับบ้าน นี่เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้นอนที่บ้านก่อนที่จะกลับในวันพรุ่งนี้ ผมก็พยายามถามย้ำโปรอีกหลายทีว่าคุยอะไรกับโอ๊ต แต่ก็ไม่ยอมบอกสักทีจนกระทั่งเวลานอน ผมก็หันมาถามโปรอีกว่าตกลงคุยอะไรกัน

“อ่ะ บอกก็ด้าย”

“บอกมาเลยนะเรา คุยอะไรกัน”

“พี่โอ๊ตบอกว่า พี่หนึ่งต้องท่านี้เท่านั้น ถ้าท่าอื่นเดี๋ยวจะไม่ดี”

“ไอ้โปร!!!!”

“น่าสงสารพี่หมอฟันจังเลยนะคั๊บ ต้องตัดใจหาแฟนใหม่แล้วคืนนี้ แต่ผมว่าอย่างพี่เค้าน่าจะหาแฟนง่ายอยู่นะ ขอให้เจอไวไวจะได้ไม่มาแย่งแฟนผมไป”

“พูดอะไร โอ๊ตทำไม?”

“อ่ะล้อเล่นคับ ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าไปรู้เลย” แล้วโปรก็เข้ามากอดผมครับ ผมก็หันหลังให้เลย ไม่บอกกันดีนักโปรก็เลยนอนกอดผมจากด้านหลังแทน แล้วไม่ทันไรผมก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวในอ้อมกอดของโปรนั่นเอง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 23-12-2008 10:44:55
 :m22:ทนไม๊ ทันไม๊

อรุณสวัสดิ์จร้า เรื่อง NC ไม่ต้องรีบนะ

                                           ''รอ"

ได้

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 23-12-2008 11:11:19
 :เฮ้อ:  อ่านตอนที่โอ๊ตฉุดกระชากลากถู

แล้วหัวใจจะวายตาย

นึกว่าจะไม่รอดซะแล้วหนึ่งของเรา

ดีนะที่ยอมรามือน่ะ

ไม่งั้นสงสัยคนอ่านคงฆ่าตัวตายแน่  :laugh:

อ่อ โหวตด้วยยยยยยยยย

กด 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 หลาย ๆ ทีเลยนะ

 :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 23-12-2008 11:11:26

เอาน่า โอ๊ตเป็นคนไม่ดีที่กลับตัวแล้วนะ หึหึ หลายคนอาจจะรักโอ๊ตก็ได้ตอนหลังอ่ะครับ


 :a5: เล่นสปอยด์กันงี้เลยเหรอ แล้วเจ้าโปรอ่ะ มัน :m16: :m16:

นอยด์กินอีกแล้วตรู ไม่น่าหาเรื่อง  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-12-2008 12:15:22
แล้วถ้าสมมุติว่า หนึ่งยังไม่รักกับโปร  หนึ่งจะเริ่มต้นใหม่กับโอ๊ตอีกครั้งหรือเปล่า


ปล.  แถม 1 1 1 1 1 1 1 1 111  ไม่พอเดี๋ยวกดให้อีก  :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-12-2008 12:30:46
รอ NC จริงใจไปไม๊เนี่ยตรู :jul3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 22 ธ.ค. :ตอนที่ 20 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: ben~ya ที่ 23-12-2008 12:59:17
อ๊าย อาย แต่กด
1 ด้วยละ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 23-12-2008 14:21:00
เราขออยู่ข้างโปร :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-12-2008 14:31:39


อิอิ

อ่านแล้วก็อ่านอีก

ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 23-12-2008 15:44:25
ขอบคุณมากๆนะครับผม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-12-2008 16:58:39
กด 1 ซ้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: white coat ที่ 23-12-2008 22:23:41
ตามมาเป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับเรื่องของคนพิเศษ ของคุณ

ถ้ามีเรื่องให้ช่วยก็บอกนะครับ  :กอด1:

ปล. ยังไม่ได้มาอ่าน เรื่องเลย แล้วจะแวะมาอ่านนะครับ

ปล.2 ขอบคุณที่ยังอยู่เป็นเพื่อนกันยามเหงา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-12-2008 05:48:19
รอด้วย  :z1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 24-12-2008 06:22:54
 :o8:  ทั้งน่ารัก และกวนจริงๆ นายโปรเนี่ย  ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 23 ธ.ค. :ตอนที่ 21 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 24-12-2008 10:04:35
สวัสดีครับ
ตามมาเป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับเรื่องของคนพิเศษ ของคุณ

ถ้ามีเรื่องให้ช่วยก็บอกนะครับ  :กอด1:

ปล. ยังไม่ได้มาอ่าน เรื่องเลย แล้วจะแวะมาอ่านนะครับ

ปล.2 ขอบคุณที่ยังอยู่เป็นเพื่อนกันยามเหงา  :กอด1:
หมอนัฐนี่ มากระตุ้นต่อมเศร้าผมอีกแล้วนะนี่  :sad4: คือผมเคยมีญาติเป็นมะเร็งปอดน่ะครับแล้วก็เสียไปแล้ว พอคนที่เรามีความรู้สึกดีๆด้วยเป็นนี่ ก็เลยอดคิดภาพเก่าๆไม่ได้ ต่อหน้าเราก็ทำตัวเป็นปกตินะทำตัวสนุกสนาน บอกเค้าว่ามันหายได้ พอลับหลังกลับมานั่งร้องไห้ไม่ให้เค้าเห็น เอาเถอะ ก็ต้องดูแลเป็นกำลังใจให้กันไป เสียดายว่าทำไมไม่ได้ใกล้ชิดกันให้มากกว่านี้
หมอไม่ต้องรีบอ่านก็ได้นะ รู้ว่าหมอไม่ค่อยว่าง เอาเวลาว่างไปเขียนเรื่องของหมอให้ผมอ่านดีกว่า คิคิคิคิ

หมดเรื่องเศร้ามาต่อเรื่องรักๆของคนอื่นดีกว่า  :L2: รู้สึกตัวอีกทีโพสมาถึงตอนที่ 22 แล้วอ่า แสดงว่าอีกแปดตอนก็จบแล้วสิ แง๊ๆๆๆๆๆ กะว่าจะไม่มาโพสทุกวันแล้วนะนี่(ไม่นับเสาร์ - อาทิตย์) แต่ด้วยความขึ้นชื่อว่า "นิยาย" ไม่ใช่ "เรื่องเล่า" และมันก็เขียนจบไปแล้วด้วยทำไงได้อ่า ก็ต้องโพสให้จบตามปกติ(หรือมันจะไม่จบ???) ปีใหม่ ผมก็ลาไปบ้าน หลังปีใหม่เริ่มงานเต็มตัวอีกแล้ว คงหาเวลาว่างยากขึ้น ถ้าโชคดีเนื้อเรื่องหลักจะจบก่อนปีใหม่นะครับ (โพสได้รวดเร็วมากๆ)

ผมส่งผลโหวตให้ไอ้นายเส้นฯแล้วนะ มันบอกผมว่า "ไม่เล่าได้ไหม  อายเค้า... :o8:" ผมก็บอกว่า "ไม่ได้ มึงสัญญากะคนอื่นเค้าไว้แต่ต้นแล้ว :angry2:" มันก็บอกอีกว่า "งั้น ต้องใช้เวลารื้อฟื้นหน่อยนะ" ผมบอกต่อว่า "งั้นมึงก็ไปรื้อฟื้นเสียคืนนี้เลยสิ :oo1:" มันเลย :z6: ผมทาง MSN แล้วก็หายไปเลย...  ท่าทางจะไปรื้อฟื้นอยู่ :impress2:

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ



ตอนที่ 22

หลังจากที่ฤดูหนาวนี้กำลังจะจากไปก็ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว แน่นอนว่าผมเองกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว คนอื่นๆก็เหมือนกันครับ ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องผมรับปริญญา (แน่นอนมีฉลองกันเล็กๆกับไอ้ตี๋โปร ก่อนเพราะตามผมไปที่บ้านไม่ได้ติดเรียน) พอมาถึงบ้านผมยังโทรไปหาโปรด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ ยิ่งช่วงคืนสิ้นปีมีแต่เรื่องน่ากลัวที่กรุงทเพฯ แต่ก็ได้คำตอบว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในจุดๆที่เป็นอันตรายอะไร ผมเองก็เบาใจได้หลายอย่าง อย่างไรเสียโปรก็อยู่กับครอบครัวเขา คงไม่ไปไหนมาไหนคนเดียวแน่ๆ

“เวลาจะไปไหนอย่าออกไปคนเดียวนะ” เสียงผมบอกไปทางโทรศัพท์

“คร๊าบ ผมไม่ออกไปไหนหรอกน่า”

“ช่วงนี้อย่าขับรถเองด้วยนะ”

“แหม่ๆ มีแฟนเหมือนมีแม่อีกคนเลยวุ้ย”

“นี่โปร!!”

“คร๊าบ ไม่ให้เชื่อแฟนแล้วจะให้ไปเชื่อใคร”

โปรก็เล่าเรื่องหมอพจน์ประมาณว่าช่วงนี้มีคนโทรหาทุกชั่วโมง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นไอ้รินหรือเปล่า ผมเองล่ะลองมาคิดดูดีดีก็คิดว่าไม่น่าแนะนำให้รู้จักกับไอ้รินเลย มันคนวอกนัก (ประมาณคนชอบหลอกๆ) แต่ก็ไม่ได้มีพิษภัยอะไรหรอกครับสำหรับน้องผมคนนี้ จะว่าไปแล้วเมื่อตอนที่ผม โปร พวกโจ มาเที่ยวบ้านผมเองแล้วไปเจอโอ๊ตที่ถนนคนเดินนั้นผมก็เพิ่งรู้ว่าที่โอ๊ตมาดักรอที่ถนนคนเดินได้นั้นเพราะไอ้รินเป็นคนบอกครับ ว่าพวกผมจะไปเดินที่ถนนคนเดินพอดีกับที่ชมรมเก่าผมจะจัดแสดงหาเงินเข้าชมรมพอดี เลยเข้าทางโอ๊ตเข้า (โอ๊ตกับผมอยู่ชมรมนี้ด้วยกันครับ) ผมเลยต้องบอกกลับไอ้รินไปว่า ทีหลังจะบอกอะไรโอ๊ตให้มาถามผมก่อน

“พี่หนึ่ง  ฝากสวัสดีแม่ยายผมด้วยนะ”

“เออนะ พูดงี้”

“หรือว่าไม่จริง”

ไอ้โปรก็ยังไม่วายหยอดคำกวนๆก่อนที่จะวางสายไป จะว่าไปแล้วตอนนี้ก็ใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ยิ่งเข้าใกล้เดือนเมษายนโปรเองก็เหมือนจะวุ่นมากกว่าผมเสียอีก ผมมานึกย้อนตัวเองตอนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเองผมก็วุ่นๆอย่างนี้ล่ะครับ ไหนจะเรียนพิเศษ ไหนจะอ่านหนังสือ ไหนจะดูว่าจะเข้าเรียนที่ไหน คณะอะไรดี ชั่งเป็นช่วงจุดเปลี่ยนที่สำคัญจริงๆ แต่ผมดูๆโปรแล้วเหมือนจะร่าเริงอยู่เสมอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนะถึงได้วางใจขนาดนั้น

ผมกลับมาบ้านก็เหมือนจะเจอโอ๊ตอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขารู้ได้ไงว่าผมจะไปไหนมาไหน ถามไอ้รินมันก็สาบานว่าไม่ได้บอก ถามเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ดี เพื่อนทั้งหลายก็บอกว่าไม่ได้มีใครบอกอะไรเลย แต่ทำไมผมไปวัด หรือไปที่ไหนก็เจอโอ๊ตตลอดก็ไม่รู้ บางทีเขาก็มากับอาร์ทน้องของเขาน่ะครับ (แน่นอนช่วงนี้ปิดยาวอาร์ทก็มาเที่ยวหาพี่เขา) แต่ทุกครั้งที่เจอโอ๊ตก็จะเข้ามาบอกผมว่า

“หนึ่ง ผมไม่ได้มาทำอะไรนะครับ ผมรู้สถานะของเราดีครับ”

“แล้วทำไมถึงเหมือนคุณจะตามผม ตลอดเลยล่ะ”

“ก็แค่มีคนฝากให้ผมดูแลคุณตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยเท่านั้นล่ะครับ”

“อะไรนะ”

“อ่อ เปล่า ไม่มีอะไรหรอกครับ”

แต่มันก็ไม่มีอะไรจริงๆครับ จนผมจะขึ้นรถกลับกรุงเทพฯก็ยังเจอโอ๊ตมาส่ง แต่ไม่รู้ว่ามาส่งน้องเขาหรือว่ามาส่งผมนะครับ แต่ก็แปลกที่อาร์ทเองก็ขึ้นรถคันเดียวรอบเดียวกับผม แต่นั่งคนละที่เท่านั้น เพราะผมนั่งกับรูมเมทผมครับ มันก็กลับบ้านมันเหมืนกัน มันไม่ได้ไปหาแฟนครับ

“เฮ้ยหนึ่ง ทำไมไอ้โอ๊ตมาที่อาเขตได้วะ”

“มาส่งน้องเค้าล่ะมั้ง”

“เหรอ นึกว่ามาส่งแก”

“บ้าดิ”

“กูไปถามเพื่อนๆมา เห็นเค้าว่ามันอยากรีเทรินหามึงจะตาย สงเคราะห์มันหน่อยดิวะ”

“ไม่ได้หรอก”

“ไมวะ”

“เออ  ไม่ได้คือไม่ได้”

“หรือว่ามึงมีแฟนละ”

“เหรอ ไม่รู้นะนี่”

“อ้าวเวง ไม่รู้ตัวเองอีกเออ กูรู้แล้วว้ามึงน่ะมี จนป่านนี้แล้ว จะมาปิดอะไรอีกวะ”

“อ้าวเหรอ ขอโทษๆ”

“ใครวะ”

“ใคร?”

“แฟน”

“ก็ อยู่แถวๆหอแหละ”

“เหรอ ว่างๆเอามาแนะนำหน่อยสิ”

“เออ ถ้าเค้ายอมนะ”

เราคุยกันหลายเรื่องบนรถเมล์ เวลาเดินทางกว่าสิบชั่วโมงแต่ผมรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วจริงๆหรือเพราะว่าผมมัวแต่คุยกับเพื่อนผมก็ไม่รู้ จนกระทั่งรถได้มาถึงที่สถานีขนส่งสายเหนือ ผมและเพื่อนกำลังจะเดินไปเพื่อโบกแท็กซี่เพื่อกลับหอ แต่ไม่ทันจะโบกเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังเสียก่อน

“เพ่หนึ่ง ออกมาด้านหน้าหน่อย ผมมาจอดรับนานแล้วนะ”

“อ้าว มารับพี่เหรอ ทำไมไม่บอกก่อน”

“หรือไม่อยากมา ผมจะได้กลับ”

“อ่ะ อ่ะ เดี๋ยวไปๆ รอก่อนนะ”

ผมวางหูแล้วก็บอกให้รูมเมทผมไปด้านหน้าของสถานี เพราะโปรจอดรถไว้ที่นั่นน่ะครับ เพื่อนผมมันก็งงๆถามว่าใครมารับ ผมก็บอกแค่ว่า น้อง น่ะครับ ไม่ได้บอกอะไรอีก  จนเรามาถึงโปรจอดรถอยู่

“ดีคับพี่” โปรหันไปทางรูมเมทผมครับ

“ดีครับ อ้าวน้องคนที่เคยช่วยหนึ่งใช่ไหม”

“ใช่แล้วคับ”

“อ่อ  อย่างนี้นี่เอง”

“อย่างนี้อะไรเหรอ” ผมถาม

“เออ กูไม่ได้โง่นะมึง”

“ค๊าบ พี่คิดถูกแล้วล่ะคับ” โปรพูดสอดเข้ามาครับ

จากนั้นรูมเมทผมก็สัมภาษณ์โปรกับผมใหญ่ว่าไปเจอกันยังไง คบกันนานรึยัง และยังกังวลแทนผมด้วยถึงความยังเป็นเด็กๆของโปร

“หนึ่ง เล่นกับเด็กสร้างบ้าน ระวังให้ดีนะ”

“ผมไม่สร้างหรอกครับบ้านน่ะ ผมจะสร้างรักกับพี่หนึ่ง”

“ฮานิไค่ฮาก” (กูนี้อยากอ้วก)

“ฮากอะไรเหรอ” โปรถามครับ แต่ผมก็ได้แต่หัวเราะไม่พูดอะไรต่อ

“เอ้อ  พี่หนึ่ง ต่อไปนี้ตอนเย็นผมไปรับไม่ได้นะครับ ที่โรงเรียนมีติวให้ติวเสร็จผมก็ไปเรียนพิเศษต่อไม่ต้องรอผมนะครับ”

“อ่าเหรอ อืมๆ ไม่เป็นไร”

“แล้วจะโทรไปแทนนะ อย่าแอบไปนอกใจผมล่ะ พี่ก็ช่วยดูแลแฟนผมด้วยนะครับ”

“เออ ก็ดูอยู่ทุกวัน นอนกอดกันทุกวันเนี่ย”

“เฮ้ย!!! เพ่เป็นครายมากอดแฟนผม ผมยังไม่ได้กอดเลยนะ ผมหวงของผม”

“ก็เป็นคนที่นอนด้วยกันทุกคืนอ่ะดิ ถามได้”

“ก็ชอบแย่งหมอนข้างพี่ไปกอดเรื่อยแหละ เพื่อนพี่น่ะ” ผมตอบ

“เง้อ แกล้งแฟนผมอีก”

แล้วเราก็หัวเราะกันครับจนในที่สุดก็ถึงหอ โปรส่งผมกับรูมเมทเสร็จก็กลับบ้าน ก่อนกลับก็ยังบอกว่าทุกเช้ายังเหมือนเดิม คือมารับผมที่หน้าหอ ผมก็รับคำครับ ผมเองก็เข้าใจดีว่าช่วงนี้เองก็เป็นช่วงสำคัญของโปรจะให้มาอยู่กับผมตลอดคงจะไม่ได้

จากนั้นทุกๆวันโปรก็มารับผมทุกเข้า ตอนเย็นผมก็กลับรถเมล์เอง ตอนโปรกลับจากเรียนพิเศษถ้าไม่แวะมาหาผมก็จะกลับบ้านแต่จะโทรมาหาผมแทน บางวันที่โปรมารับผมตอนเช้า ผมสังเกตได้ถึงอาการเพลียๆของโปร แต่โปรก็จะท่าว่าสบายดีให้ผมเห็นเสมอ จนเช้าวันหนึ่งผมออกมาที่หน้าหอเห็นรถโปรจอดอยู่ ผมเดินไปเปิดรถปรากฎว่ารถล็อคประตูอยู่ ผมส่องไปดูในรถเห็นโปรหลับคาเบาะคนขับเลยครับจนผมต้องเคาะกระจกเรียกโปรถึงเปิดล็อคประตูให้

“โปร  ไหวหรือเปล่า”

“หา  อะไรนะพี่”

“ไหวหรือเปล่า ช่วงนี้ดูเพลียๆนะ”

“อ่อ  ไม่มีอะไรหรอก”

“อ่านหนังสือดึกเหรอ”

“ไม่เท่าไหร่หรอก”

ผมถามอะไรโปรหลายอย่างด้วยความเป็นห่วง แต่โปรก็ตอบผมไม่กี่คำเช่น ‘คับ’ ‘ไม่เป็นไรคับ’ ‘สบายมากคับ’ แค่นั้นเองจริงๆ ผมเจอแบบนี้หลายครั้งตอนเช้า จนผมต้องบอกให้โปรหยุดเอารถมารับผมตอนเช้า เพราะขืนเกิดหลับในล่ะก็ จะแย่ทั้งโปรและผม

“โปร พรุ่งนี้เราไปรถเมล์กันเถอะ”

“ทำไม ไม่อยากไปกับผมแล้วหรอ”

“เปล่าๆ ก็ไปด้วยกันไง ขึ้นรถเมล์ดีกว่า ถึงช้าหน่อยแต่ปลอดภัยนะ”

“ม่าย มีรถสะดวกดี”

“ถ้าเราหลับในขึ้นมาจะว่าไง”

“ม่ายมีทางๆ”

“โปร”

“คับ??”

“รักพี่ไหม”

“รักสิคับ”

“ถ้ารักพี่ก็อยากให้เชื่อพี่ พรุ่งนี้ไม่ต้องเอารถมา”

“อืม....คับ   อยากรู้จังพี่ชอบบังคับพี่หมอฟันอย่างงี้ด้วยป่าวหว่า”

“ไอ้โปร....” ผมพูดเสียงแข็ง

“คร๊าบ น้อมรับคำสั่งทุกประการ”

จากนั้นเหมือนทุกอย่างจะกลับมาเหมือนตอนที่เราเจอกันครั้งแรกครับที่ผมกับโปรไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ แล้วผมก็กลับหอด้วยรถเมล์เช่นเดียวกัน เพียงแต่ขากลับไม่ได้มีโปรกลับด้วยเท่านั้นเอง โปรว่าขากลับจะอาศัยเพื่อนที่มีรถไปด้วยน่ะครับ

แต่จะว่าไปยิ่งใกล้เดือนเมษายนเท่าไหร่ เวลาที่อยู่ด้วยกันระหว่างผมกับโปรก็น้อยลงเดี่ยวนี้ตอนเช้าโปรจะถือหนังสือข้อสอบเอนท์ทรานปีเก่าๆขึ้นมาถามผมบนรถ บางทีผมก็ตอบไม่ได้ บางทีผมก็ตอบได้ ที่ตอบไม่ได้เพราะมันเหมือนมีหลายข้อที่ถูก ผมเองก็ไม่กล้าฟังธงไปว่าข้อไหนถูก ไม่ก็วิชาพวกวิทยาศาสตร์ที่ผมเองก็ไม่ได้เรียนไปนานแล้ว ตอนนี้เราไม่ค่อยได้พูดความเป็นไปของตัวเองกันเท่าไหร่ ไม่พูดเรื่องสอบก็เรื่องเรียน เสาร์อาทิตย์ก็อย่าหวังเลยว่าผมจะได้เจอกับโปร จนกระทั่งปิดเทอม โปรจบ ม.6 แล้วแต่ก็ยิ่งไม่มีเวลาว่างเสียอย่างนั้นเพราะยังไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่ผมก็จะส่ง SMS ไปถึงเสมอให้กำลังใจบ้าง แสดงความห่วงบ้าง แล้วแต่กันไป ช่วงนี้ผมก็รู้สึกว่าเหงาๆนะครับมันไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตอนเช้าผมก็ไปขึ้นรถเมล์คนเดียวเพราะโปรไม่ได้ไปโรงเรียนแล้ว

จนเย็นวันหนึ่งปลายเดือนมีนาคม ผมกำลังมารอรถที่หน้าที่ทำงานผมตามปกติ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นซึ่งเบอร์นี้ผมไม่คุ้นเลย

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง เป็นไงบ้างครับ ช่วงนี้เหงาหน่อยนะ”

“โอ๊ต ทำไม..”

“อ่อ ผมโทรมาถามความเป็นไปเท่านั้นน่ะครับ เห็นว่าน้องเค้าช่วงนี้ยุ่งๆ ผมเองก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปดูแลคุณ”

“ทำไมต้องมาดูแลด้วยล่ะ?”

“ผมก็ยังเป็นห่วงคุณนี่ครับ”

ก่อนที่ผมจะตอบอะไรออกไป ก็มีคนมาดึงโทรศัพท์มือถือผมออกจากมือ ผมตกใจนึกว่าขโมยจะมาวิ่งราวมือถือผมเสียอีก ผมมองไปที่คนดึงมือถือผมไปทันที

“โปร!!”

“ฮัลโหล เพ่หมอฟันหรอ ไม่ต้องมาห่วงอะไรแล้วนะ ผมมารับหน้าที่เหมือนเดิมแล้ว ขอบคุณที่ช่วยเป็นห่วงนะ”

ว่าไม่ทันไรโปรก็วางหูไปครับ ผมเพิ่งสังเกตว่าวันนี้โปรใส่ชุดนักเรียนแต่ผมโปรเริ่มยาวมากกว่าเดิมกว่าตอนก่อนหน้าที่เจอกัน

“โปร  มานี่ได้ไง แล้วทำไมใส่ชุดนักเรียน”

“ก็ไปสอบมา วันนี้วันสุดท้ายแล้ว”

“อ้าว สอบอะไร”

“ก็สอบเอฯงาย”

“ไหนว่าสอบเดือนหน้า”

“หรอ ครายบอกเพ่ล่ะ โดนโกหกแล้วม้าง”

“เรานั่นแหละ บอกพี่ว่าประมาณเมษา”

“หรอคับ” โปรพูดแล้วก็ทำตากลอกไปมา  โปรคนเดิมของผมกลับมาแล้วครับ

“เพ่หนึ่ง มาเร็วๆขึ้นรถ รถผมมันคิดถึงพี่แย่แล้วนะ มันว่าเหงามากที่ไม่ได้บริการพี่”

“เออนะ จริงๆเล้ย”   

แล้วผมก็เอามือไปขยี้ผมโปรด้วยความหมันไส้ โปรก็วิ่งๆหนีผมขึ้นรถ ผมก็ตามขึ้นไปครับ แล้วเราก็ขับรถออกจากตรงนั้นไปยังห้างแห่งเดิมที่ผมเคยมาทานข้าวกับโปรบ่อยๆเมื่อตอนที่ผมต้องมารอโปรเรียนพิเศษ เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองสอบเสร็จครับ ต่อจากนี้โปรไม่ต้องไปเรียนพิเศษอีก ไม่ต้องตื่นเช้ามากอีก ไม่ต้องปวดหัวอีกสารพัด ต่อไปนี้อะไรคงจะดีขึ้นแน่ๆครับ ผมแน่ใจว่าอย่างนั้นครับหรือว่าจะให้เป็นอย่างอื่นดีล่ะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 24-12-2008 10:19:04


:m29:
มันสงบสุขแล้วก็ราบรื่นไปหรือเปล่า
ไม่มีพายุอะไรหลังจากนี้ใช่ไม๊


:pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 24-12-2008 10:20:45


:m29:
มันสงบสุขแล้วก็ราบรื่นไปหรือเปล่า
ไม่มีพายุอะไรหลังจากนี้ใช่ไม๊


:pig4:



^
^
^ เห็นด้วยยย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-12-2008 10:41:57
อ้างถึง
ต่อไปนี้อะไรคงจะดีขึ้นแน่ๆครับ ผมแน่ใจว่าอย่างนั้นครับหรือว่าจะให้เป็นอย่างอื่นดีล่ะครับ

ให้มันดีขึ้นเถอะ  อย่าให้มันเป็นอย่างอื่นเลย    :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-12-2008 18:51:42
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Merry_Christmas_Glitter_Wreath.gif)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 24-12-2008 20:00:30


:m29:
มันสงบสุขแล้วก็ราบรื่นไปหรือเปล่า
ไม่มีพายุอะไรหลังจากนี้ใช่ไม๊


:pig4:



^
^
^ เห็นด้วยยย

อย่าสปอยด์กันดิ ยิ่งคิดมากอยู่ด้วย วุ๊ย  :sad4:

(http://widget.sanook.com/static_content/widget/full/text_1/2194/272194/35637088b53a32cc6572c1f5115f1929_1230108760.gif)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 24-12-2008 20:31:29
จาเกิดเรื่องอะไรรึป่าวเนี่ย   o18

อย่า  นร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   :sad4: :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: ririmu ที่ 24-12-2008 22:20:37
ทันมั๊ย +1 ขอ NCCCCCCCCC แรงงง อิอิ

และ  +1 :pig4: ทั้งคน post และคนแต่คร๊าบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 24-12-2008 22:57:12
อ่านแล้วรำคาญตาโอ๊ต  คนเค้ารักกันดีมาเจ๊าะแจ๊ะอยู่ได้ :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: NuPaTT ที่ 24-12-2008 23:10:56
ไรของโอ้ตเนี่ย :m16:




อย่าให้มีไรเรยเนอะ



 :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 25-12-2008 10:05:28
สวัสดีครับ

แหม่ๆ มีคนมาสปอยเหรอ หึหึหึ แล้วใครหาว่าผมสปอยเรื่องโอ๊ต ก็จริงนินา มีที่ไหนผู้ชายที่ยังอุตส่าห์คอยเราและตามตื้อขอโทษพอรู้ตัวว่าทำผิดไปอ่า จริงไหมครับ  หุหุ
แต่จะว่าไปคลื่นลมสงบ แต่คลื่นใต้น้ำมันแรงนะ หึหึหึ (เอะ!!!  ยังไง) ล้อเล่นน่า ยังไม่มีอะไรหรอกครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ปล.Merry X'mas ครับทุกๆท่าน
ปล.2 วันนี้เย็นๆกะไปถ่ายรูปแถวราชประสงค์อ่ะ แล้วเจอกันครับ



ตอนที่ 23

เข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัวแล้ว ผมยังคงทำงานเหมือนเดิมไม่เหมือนตอนเรียนที่จะมีปิดเทอมยาวถึงสามเดือน ผมเองเรื่องงานตอนนี้ก็ยังดีอยู่ครับ ทำได้เรื่อยๆแต่ในใจผมแล้วก็ยังอยากกลับไปทำงานที่บ้านมากกว่าเพราะมันสบายกว่าหลายเท่าตัว และแล้วจู่ๆวันหนึ่งเจ้านายเก่าที่ผมเคยฝึกงานด้วย ท่านโทรเข้าโทรศัพท์มือถือผม ผมเองก็ตกใจว่าเป็นเพราะอะไรน่าจะมีเรื่องอะไรเพราะท่านไม่เคยโทรหาผมเลย

“สวัสดีครับ”

“เอ้อ ไอ้หนึ่งใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“ตอนนี้ที่กรมมีตำแหน่งว่างพอดี แกสนใจทำไมล่ะ”

“จริงเหรอครับ เอ.. ผมจะเข้าได้เหรอครับ”

“แกสอบขึ้นบัญชีไว้แล้วนิ ใช่เปล่า พี่เห็นชื่ออยู่”

“ใช่ครับ ผมไปสอบทิ้งไว้”

“เอารึเปล่าล่ะ ถ้าเอาพี่จะได้ดึงชื่อเลย”

“อืม ผมขอเคลียร์งานที่นี่สักสองเดือนก่อนนะครับ แล้วไงผมคงไป”

“เฮ้ย  อย่าคงสิวะจะมาก็มาเลย”

“ครับพี่”

ตกลงผมจะเปลี่ยนงานแล้วครับ จากงานเอกชนไปทำราชการแทน คือก่อนหน้าที่ผมจะเรียนจบมานี้ผมเคยได้ไปฝึกงานที่กระทรวงสายเศรษฐกิจแห่งหนึ่งน่ะครับ ก็ไปทำเรื่องไว้เยอะ (เรื่องดีๆนะครับ) ผมเองก็ไม่เคยคิดครับว่าจะได้ทำงานที่ท่านติดต่อมาเพราะคืดว่างานราชการคงจะเข้ายากน่ะครับแต่นี่มาลัดนิดหนึ่งอย่าว่ากันนะครับ ถึงแม้งานราชการเงินจะน้อยกว่าที่ผมทำอยู่มาก แต่ลักษณะงานก็ต่างกันมากเช่นกันเป็นงานที่ตรงสายผมทีเดียวผมชอบครับ อยากทำต่อตั้งแต่ฝึกงานเสร็จแล้ว แต่ติดตรงความเป็นราชการนี่ล่ะครับ เรื่องนี้ผมบอกเพียงคุณพ่อ คุณแม่และก็รูมเมทผมเท่านั้นส่วนคนอื่นผมยังไม่อยากจะบอกเลยครับ ที่ทำงานเดิมตอนนี้ผมเองก็ยังไม่กล้าบอกพี่จิ๊บครับ ช่วงก่อนสงกรานต์ที่ทำงานผมจัดเลี้ยง ผม โจ และคนอื่นๆในแผนกก็นั่งกินโต๊ะเดียวกันส่วนพี่จิ๊บแยกไปที่โต๊ะผู้บริหารครับ ผมเลยพูดเกริ่นกับเพื่อนที่โต๊ะว่าผมจะลาออก

“เอ่อ นี่ คิดว่างานราชการดีไหม”

“ก็ดีนิ มั่นคงดี เงินน้อยดีด้วย 555” เพื่อนร่วมงานผมคนหนึ่งตอบ

“ถามงี้แกจะไปทำเหรอหนึ่ง” โจถามผม ผมเลยพยักหน้าเบาๆ

“เฮ้ย!!!! แกจะลาออกเหรอ!!!”

โจพูดเสียงดังจนทำให้โต๊ะผม และโต๊ะข้างๆเงียบไปเลย แล้วทุกคนก็หันหน้ามามองที่ผมเป็นตาเดียว

“หนึ่ง ลำบากนะไปทำราชการน่ะ” เพื่อนหญิงผมอีกคนพูด

“ก็ใช่อยู่นะ แต่ผมว่ามันก็เป็นงานที่ดีนะ  ตรงสายผมดี”

“ถ้าหนึ่งชอบก็ไปเถอะ พี่ไม่ห้ามหรอก”

เสียงพี่จิ๊บดังมาจากข้างหลังผมครับ ผมเองก็ไม่กล้าหันกลับไปเลยเพราะเกรงใจพี่จิ๊บอยู่มาก

“จะไปตอนไหนเหรอไอ้หนึ่ง”

“ก็...คงจนกว่าจะเคลียร์งานเสร็จน่ะครับ”

“ก็ดีนะ เสียดายจังพี่อุตส่าห์จะปั้นให้มาแทนพี่สักหน่อย...

ว๊าดูสิ แผนกเราขาดผู้ชายไปคนซะละแย่จัง”

“อ้าวพี่ค๊าบ แล้วผมนี่ไม่ใช่ผู้ชายเหรอ” โจพูดกับพี่จิ๊บครับ

“แกน่ะเหรอ ชั้นไม่นับเป็นคนหรอก ชั้นนับเป็นตัว”

“โห  เพ่คร๊าบบบบบบ”

แล้วพวกเราก็หัวเราะกันทั้งโต๊ะครับ ผมเองก็สบายใจไปได้อีกเปาะ

และแล้วเหมือนผมจะคิดผิดเลยเพราะงานที่ต้องเคลียร์นั้นเยอะพอดูจนทำให้ผมต้องทำถึงเย็น เดี๋ยวนี้โปรไม่เป็นปัญหาอะไรเท่าไหร่ครับ ออกจะเที่ยวเล่นเสียมาก เวลาผมใกล้กลับก็จะโทรบอกโปรก่อน เวลาจะมาทำงานตอนเช้าก็ออกสายกว่าเดิมที่เคยไปกับโปรตอนที่โปรยังเรียนม.ปลายอยู่ เรื่องที่ผมจะย้ายงานผมยังไม่ได้บอกโปรครับอยากจะเก็บไว้บอกตอนที่หลังเข้ามหาวิทยาลัยก่อนให้รู้ว่าโปรสอบติดที่ไหน เพราะเผื่อผมจะได้เลือกลงบรรจุที่จังหวัดอื่นได้น่ะครับ

“โปร เลือกคณะหรือยัง”

“ม่ายต้องเลือก เพราะผมจะเอาเศรษฐศาสตร์”

“อ่ะ เศรษฐศาสตร์ก็เศรษฐศาสตร์ แต่จะเอาที่ไหน”

“ที่ไหนก็ได้ที่ใกล้พี่หนึ่ง”

“อ้าว  เรื่องนี้ต้องเลือกเองนะ”

“ค๊าบ”

วันนี้โปรถูกที่บ้านใช้ให้ไปซื้อของครับ โปรจอดที่หน้าร้านขายของแห่งหนึ่งระหว่างทางก่อนถึงหอพักผมโปร บอกให้ผมรอที่รถแล้วลงไป ตอนนั้นผมเองสังเกตที่หน้ารถมีกระดาษพับๆไว้วางอยู่ ผมหยิบมาคลี่ดูด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไร ที่แท้ก็เป็นผลคะแนนที่โปรสอบไปเมื่อคราวก่อน ผมเห็นแล้วก็ทึ่งเลยครับ เพราะคะแนนวิชาทั่วไปของโปรดีหมดทุกวิชา แต่ยกเว้นวิชาสังคมศาสตร์ที่โปรบอกผมหลายครั้งแล้วว่าไม่ชอบแต่คะแนนก็ถือว่าผ่านครับ ยิ่งสอบครั้งหลังที่เป็นวิชาเฉพาะก็สูงมากเสียจนผมกลัวๆเลย เก่งกว่าผมตอนสอบเอนท์เข้ามหาวิทยาลัยอีกนะถ้าคิดมาเป็นคะแนนตอนผมสอบ แต่ทำไม โปรไม่บอกผมเรื่องคะแนนสอบพวกนี้ ผมว่าอย่างโปรน่าจะไปเรียนอย่างอื่นมากกว่าระดับ วิศวกรรมศาสตร์ ไม่ก็แพทย์ได้เลย จนผมเห็นโปรกลับมาจากซื้อของและกำลังเดินมาที่รถผมก็รีบพับกระดาษเก็บไว้ที่เดิม โปรก็ขึ้นมาขับรถตามปกติ
ผมคิดอยู่ว่าโปรเองที่บอกว่าอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ อาจเพราะไม่ใช่ชอบก็ได้ แต่อาจจะตามผมหรือเปล่า? ผมไม่แน่ใจ

“โปร”

“มีอะไรเหรอ”

“โปร อยากเรียนเศรษฐศาสตร์จริงเหรอ”

“คับ แน่นอน”

“ทำไมล่ะ”

“ก็ผมชอบนิ”

“ชอบอะไร”

“ชอบพี่เสะคับ ไม่งั้นจะให้ไปชอบครายล่ะ”

“ที่อยากเรียนเพราะชอบพี่?? งั้นเหรอ?”

“....”  โปรเงียบ

“แน่ใจหรือโปรว่าที่โปรบอกคือสิ่งที่โปรชอบจริงๆ
ถ้าไม่ชอบเรียนต่อไป มันจะแย่เอานะ
เรียนที่เราชอบที่เราถนัดดีกว่าไหม”

“หนึ่ง!
หนึ่งอย่ามาพูดเหมือนเป็นพ่อผมนะ ผมจะเรียนอะไรผมเลือกแล้ว!!”

ผมแปลกใจมากที่โปรตะคอกใส่ผม (ไม่เรียกผมว่าพี่ด้วย) ผมไม่เคยเจอโปรทำแบบนี้กับผมมาก่อนแต่ผมก็ใจเย็นพอที่จะพูดด้วยคำพูดปกติที่สุด

“โปร... พี่ไม่ได้บังคับอะไรนะครับ พี่อยากบอกแค่ว่า เลือกที่เราถนัดดีกว่าไหม”

“ก็เหมือนคนอื่นแหละ อยากให้ทำนู่นทำนี่ เลือกแล้ว ไม่เปลี่ยนใจด้วย!!!”

“โปร พี่ไม่ได้บังคับนะ พี่แค่...”

“ไม่ต้องพูดละ ไม่รู้อะไรด้วยละ”

ผมเงียบและไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าโปรเป็นอะไรวันนี้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกน้อยใจมาก เหมือนความหวังดีของผมทำไมมันกลับมาทำร้ายตัวผมเองได้ก็ไม่รู้

“โถ่เว้ย ไอ้คันหน้าเวรเอ้ยยย”

โปรเริ่มพาลไปเรื่องอื่น ผมก็เตือนๆเรื่องขับรถ แต่โปรก็ตะคอกใส่ผมอีก

“ไม่ใช่คนขับ เงียบไปเลย”

ยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีมากขึ้น จนในที่สุดตอนที่รถติดไฟแดง

“ไม่เข้าใจ ทำไมมีแต่คนอยากให้ทำนู่นทำนี่ มันผิดเหรอไงหนึ่ง ...”

ก่อนที่โปรจะพูดอะไรอีก ผมตัดสินใจเปิดประตูลงจากรถไปทันที โปรเหมือนจะตกใจที่ผมทำอย่างนั้น เลยลงตามผมมา

“พี่หนึ่ง ไปไหน กลับมาที่รถก่อน” กลับมาเรียกพี่เชียวไอ้โปร

“เราไปสงบอารมณ์ให้ได้ก่อนนะ แล้วค่อยมาคุยกับพี่”

“พี่หนึ่งขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”

ผมไม่ตอบแต่ก็เดินต่อไป ผมดูทางแล้วอีกไม่เท่าไหร่ก็ถึงทางแยกเข้าซอยหอผมแล้ว ผมเลยเดินต่อไปไม่หยุด ส่วนโปร ผมหันไปดูก็เห็นเขากลับไปนั่งในรถแล้ว ผมเองก็ไม่สนใจเดินต่อไป ผมรู้สึกว่าวันนี้โปรไม่ใช่โปรคนเดิมเหมือนก่อน เหมือนไปโดนอะไรไม่ถูกใจมาแล้วมาลงกับผม ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจนผมกลับมาที่ห้อง ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับรูมเมทผม ผมอาบน้ำแล้วก็นอนเลย เหมือนรูมเมทผมจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติครับมันก็ถามๆผมว่าไปเจออะไรมา แต่ก็ไม่พูดอะไรกับผมจนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังมา

“เฮ้ยหนึ่งจะรับป่าว”

“ใครโทรมา”

“โปร”

“ไม่รับ”

จากนั้นเสียงก็เงียบไป สักพักก็โทรมาอีกครับ เหมือนเดิมคือโปรโทรมา ผมก็บอกให้รูมเมทผมปฏิเสธสายไป จนกระทั่งสักพักใหญ่ๆมีเสียงโทรศัพท์เข้ามาอีก

“ปิดมือถือไปเลย”

“เอ่อ มันขึ้นชื่อว่าหมอพจน์อ่ะ”

ผมได้ยินว่าเป็นหมอพจน์เลยลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ครับ

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับพี่หนึ่ง ทะเลาะกับโปรเหรอ”

“อืม”

“พี่หนึ่งอย่าเพิ่งโกรธอะไรโปรมันเลยนะครับ ช่วงนี้โปรกับที่บ้านมีปัญหากันนิดหน่อย”

“ปัญหา?”

“ครับ คือที่บ้านเค้าอยากให้โปรไปเรียนต่อนอก ไม่ก็ถ้าต่อในเมืองไทยต้องแพทย์เท่านั้น”

“แล้ว.. โปรว่าไงล่ะ”

“โปรมันก็โวยวายสิครับพี่ นี่มันคงเอาไปลงที่พี่อีกคนล่ะสิ”

“อืม  หมอพจน์ คิดว่าอย่างโปรนี่น่าจะเรียนอะไรดีล่ะ เราน่าจะรู้ดีนิ”

“อ่อ ที่จริงตอนมันอยู่ ม.5 โปรมันเคยได้เข้าค่ายโอลิมปิควิชาการน่ะครับพี่”

“ฮะ อย่างนั้นเหรอ”

“ครับ แต่มันตกรอบสุดท้าย เลยไม่ได้ไปแข่งกับเค้า เท่าที่ผมดูนี่มันชอบมากเลยนะครับ พวกนี้”

“แล้ว โปรเก่งอะไรเหรอ”

“ฟิสิกส์ครับ”

โปรนี่ชอบตรงกันข้ามกับผมเลย ฟิสิกส์ป็นวิชาที่ผมเกลียดที่สุดตอนเรียนม.ปลายเลยล่ะครับ

“ฟิสิกส์เหรอ ถ้าไปพวกวิศวะน่าจะดีเนาะ”

“ผมก็ว่างั้นล่ะครับ”

“แล้วทำไมโปรถึงบอกว่าจะเรียนเศรษฐศาสตร์ล่ะ”

“อืม มันคงประชด ไม่ก็ตามอย่างพี่มั้งครับ”

“งั้นเหรอ...”

“ที่จริงมันอยากจะไปขอโทษพี่นะครับ แต่ไม่กล้าเพราะทำกับพี่ไว้เยอะ เลยฝากผมขอโทษ”

“เฮ้ย ถ้ามีเหตุผลงี้ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ทีหลังมีปัญหาอะไรก็ขอให้บอกเป็นพอ”

“พี่หนึ่งคับ ผมขอโทษ...” เสียงโปรดังมาในโทรศัพท์ครับ

“อ้าว  นี่โปร ทำไม”

“ผมกับโปรประชุมสายครับ” หมอพจน์บอกผม

“แล้วนี่ จะทำยังไงต่อ” ผมถาม

“ผมคงต้องลองไปคุยกับคุณอาให้น่ะครับว่าโปรเองน่าจะเรียนที่นี่ก่อน แล้วเรื่องต่อนอกค่อยว่ากัน” หมอพจน์พูด

“แล้วโปรจะเรียนคณะอะไรล่ะ”

“ผม...อืม..”

“ไม่ต้องเลือกละ พี่เลือกให้ เรียนวิศวะละกันนะ” นั่นเป็นความคิดแวบแรกของผมที่มีหลังจากที่ผมได้เห็นคะแนนของโปรครับ แต่ไม่ทันได้พูดเท่านั้น

“คับ”

“ทีอย่างนี้ละรับคำง่ายจังนะเจ้าโปร ทีกับป๊าไม่เห็นรับคำอย่างนี้บ้าง”

“ก็ผมไม่อยากไปนอกนิพี่พจน์ อีกอย่างวิศวะก็ดีละ”

“นะ แล้วอย่ามางอแงอีกล่ะ ทีหลังมีเรื่องอะไรก็ให้บอกพี่นะเข้าใจไหม”

“คร๊าบ รักพี่หนึ่งจาง จุ๊บ จุ๊บ”

“เอ้อ หมอพนจ์ แล้วนี่ไอ้รินโทรมากวนอีกไหม”

“ริน?!?!

อ่อ น้องที่บ้านพี่หนึ่งเหรอครับ ไม่นิครับ”

“อ้าว ไหนโปรบอกว่าไอ้รินมันโทรมาหาทุกวันเลยไง”

“อ่อ ไม่ใช่ครับพี่ น้องพี่รินอีกที”

“อ๋อ น้องไอ้รินที่เรียนหมอน่ะเหรอ เออๆ ค่อยเหมาะสมกันหน่อย”

“เหมาะสมอะไรเหรอครับพี่หนึ่ง”

“อ้าวแล้วนี่ยัง?”

“ผมคุยกันเรื่องเรียนน่ะครับ พอดีได้ปรึกษากันได้”

“ปรึกษาสามเวลาหลังอาหารนี่เหรอพี่พจน์” โปรแซว

“เออสิ เดี๋ยวเหอะ ต่อไปทะเลาะกันจะไม่ช่วยเลยนะ”

“ค๊าบ จะไม่แซวละค๊าบ”

ตอนนี้ผมกับโปรก็ปรับความเข้าใจกันดีแล้วครับ ต่อมาหมอพจน์เองก็ช่วยพูดกับคุณพ่อของโปรให้ว่าโปรเองน่าจะเรียนที่เมืองไทยก่อนแล้วก็เรียนที่ตัวโปรเองชอบ นอกจากหมอพจน์แล้วก็มีญาติของโปรบางคนที่เห็นด้วยกับหมอพจน์ครับ เลยสนับสนุนกันใหญ่ คุณพ่อของโปรเลยยอมให้โปรเลือกเรียนตามที่ชอบ แต่มีข้อแม้ว่าถ้าสอบเข้าไม่ติดต้องไปเรียนต่อเมืองนอกทันที ในตอนที่เลือกคณะและมหาวิทยาลัย โปรเองก็กลัวๆอยู่บ้างว่าจะสอบไม่ติดแต่ผมคิดว่าคะแนนระดับโปรเองก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

“โปรเลือกอะไรไว้บ้าง”

“ก็วิดวะหมดอ่ะคับ ตามที่พี่เห็น” ว่าแล้วโปรก็ยื่นใบที่เขียนเลือกอันดับคณะมาให้ผมดู

“เอ้า ทำไมเลือกของมอนี้ไว้อันดับต้นล่ะ ของที่นั่นคะแนนสูงกว่านะ เอาไว้อันแรกสิ”

“ก็ผมกลัวไม่ติด”

“ไม่ต้องกลัวๆ  ลงไปเลยๆ”

“ติดแน่เหรอพี่”

“เอาน่า เอาหัวพี่เป็นประกัน ยังไงก็ติดหนึ่งในนั้นแหละ”

“อ้าวเพ่ พูดงี้นะ”

“ก็ยังดีกว่าไม่ติด จริงไหม”

“อ่ะคับ”

ในที่สุด โปรก็เลือกคณะจนเสร็จแล้วยื่นส่งไปแล้ว ผมเองก็ลุ้นไปกับโปรตลอดไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเป็นดั่งที่ใจหวังหรือไม่ แต่ผมว่าแม้จะมีปัญหาอะไรเข้ามา แต่เราก็จะเจอทางออกเสมอถ้าเราไม่ยอมแพ้ จริงไหมครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 25 ธ.ค. :ตอนที่ 23 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 25-12-2008 11:50:06
Merry X'Mas คราบ

อิๆ อ่าน 2 ตอนรวด เลยมันดี

ท่าทางตอนหน้าโปรเข้ามหาลัยจะต้องมีปัญญหามีเพื่อนไม่ก็รุ่นพี่มาติดชัว อิๆ

ทางหนึ่งทำงานที่ใหม่จะมีใครมาติดไหมน๊า แต่ดูจากนิสัยแล้วคงไม่น่ามีปัญหาอะไร อะนะ

รู้สึกว่าพักนี้คนติดสอบกันเลยอะ

คนเข้าบอร์ดน้อยลงจริงๆ

แล้วจะรออ่านตอนต่อนะคราบ  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 24 ธ.ค. :ตอนที่ 22 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 25-12-2008 19:34:10

ในที่สุด โปรก็เลือกคณะจนเสร็จแล้วยื่นส่งไปแล้ว ผมเองก็ลุ้นไปกับโปรตลอดไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเป็นดั่งที่ใจหวังหรือไม่ แต่ผมว่าแม้จะมีปัญหาอะไรเข้ามา แต่เราก็จะเจอทางออกเสมอถ้าเราไม่ยอมแพ้ จริงไหมครับ


^
^
^

อ่านถึงตรงนี้แล้วรุสึกดีจัง

เพราะยังม่ารุ เรย ส่า จาเลือกคณะอะไร 
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 25 ธ.ค. :ตอนที่ 23 ร่วมโหวตฉาก NC ได้ที่คอมเมนต์.
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 26-12-2008 10:15:10
สวัสดีครับ

เอ... มีคนมาคอมเมนต์น้อยจัง สงสัยจะติดสอบ งั้นผมจะทิ้งระเบิดลูกเล็กๆไว้แล้วก็ยาวจนไปถึงวันจันทร์ค่อยมาโพสต่อนะครับ คิคิคิ
วันนี้ว่าจะไปดูฝัน หวาน อาย จูบ ล่ะ ไม่รู้จะเป็นยังไง

ขอบคุณที่ติดตามครับ



ตอนที่ 24

เรื่องราวต่างๆรอบตัวของผมเองก็ยังคงเดินต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด ตราบเท่าชิวิตผมยังไม่จบมันก็ต้องมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตผมเรื่อยๆอยู่ดี ตอนช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาผมได้กลับบ้านอีกครั้งโดยมีโปรและพวก (พวกของโปรนี่คือเพื่อนที่โรงเรียนน่ะ) ครับเขารวมตัวมาเที่ยงสงกรานต์ที่บ้านผม ผมเองก็หนักใจเหมือนกันเพราะมากันหลายคนกลัวว่าจะไม่มีที่พักให้ แต่ที่ไหนได้พวกนี้ค่อนข้างลุยกันทีเดียวยอมที่จะนอนเบียดกันได้ทั้งๆนี่ดูแต่ละคนออกจะเป็นลูกคนมีเงินทั้งนั้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีครับ ผมกลับถึงบ้านปลอดภัย ทั้งนี้ผมยอมที่จะเสียเงินขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตเพราะไม่อยากไปติดแหง็กบนถนน ผมก็มีอะไรที่ทำป้ำๆเป๋อๆไปบ้าง แต่ก็ยังดีครับที่โปรคอยบอกว่าต้องทำอะไรยังไง

“พี่เอากระเป๋าไปล็อกนั้นนะ แล้วเอาใบนี้ไปยื่นตรงหน้าทางเข้าแล้วถึงเข้าไปได้”

“ทางเข้าตรงไหนเหรอ”

“นั่นไง” ว่าแล้วโปรก็ชี้ให้ผมดู

“แหม่ ครั้งแรกเจงเหรอเนี่ย ไม่ยักกะรู้ แฟนผมไม่ไฮโซเลย”

“เออ แฟนแกน่ะมันโลโซ” ผมพูดประชด

“อ่า ไงเดี๋ยวตามผมไปนะ พวกมันรออยู่ข้างในละ”

ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ผมไม่เคยจริงๆครับ ก็เลยเป็นเรื่องตลกของการเดินทางบ้าง แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีทุกประการ ปีใหม่เมืองปีนี้ที่บ้านผมสนุกกว่าทุกปี เพราะปีนี้มีโปรมาเล่นด้วย ที่จริงแล้วผมเองไม่ได้เล่นสาดน้ำมาหลายปีแล้วครับ เพราะคนมันเยอะอันตรายในบางที่ด้วย แต่ก็ต้องเล่นครับเพราะโปรเซ้าซี้ให้ผมเล่นด้วยเหลือเกิน นอกจากโปรแล้วโอ๊ตเมื่อรู้ว่าผมกลับบ้านก็มาเล่นกับเขาด้วย โปรก็ทำหน้าบูดๆในบางทีที่โอ๊ตคุยกับผม แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับในที่สุดก็ได้เวลากลับ พวกเรากลับทางอากาศเหมือนเดิมครับ คราวนี้ผมเองเริ่มมีประสบการณ์บ้างแล้วจึงพอเอาตัวรอดไปได้ครับ

ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนพฤษภาคม ลมฝนก็มีพัดมาให้สัมผัสบ้าง นี่จะว่าไปก็ครบหนึ่งปีที่ผมเจอกับโปรผมมานั่งคิดอะไรหลายๆอย่าง มันก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบลื่นตลอด มีเรื่องอะไรมามากมายให้ผมต้องคิดต้องตัดสินใจ เรื่องงานเองผมตกลงแล้วครับที่จะเข้ารับราชการ ตอนนี้ก็ยังคงเคลียร์งาน และเตรียมพร้อมให้คนใหม่เข้ามานั่งแทนผมได้สานต่อได้ทันที และผมเองก็ยังไม่อยากบอกโปร เพราะอนาคตยังไม่แน่ว่าผมจะได้บรรจุที่ไหน อาจที่นี่ หรือที่อื่นเพราะตามแต่เจ้านายท่านจะให้ไปครับแต่คิดว่าคงจะพอได้เลือกได้บ้าง แต่ก็ไม่อยากให้โปรต้องคิดมากเรื่องที่ผมจะไปทำงานที่อื่น เลยยังไม่อยากบอกครับ ผมบอกกับทุกๆคนว่าอย่าบอกโปร ทุกคนก็ตกลงครับไม่มีปัญหาอะไร

ช่วงนี้โปรก็ยังมารับ-ส่ง ผมเป็นตามปกติ

“โปร เอารถออกมารับพี่ทุกเช้านี่ ที่บ้านไม่สงสัยบ้างเหรอว่ามารับใคร”

“ม่ายหรอก ครายจะมาสนใจ เช้ามาผมก็ไม่เจอป๊ากับม๊าสักที  ออกไปก่อนผมออกมารับพี่อีก”

“นี่แล้วเมื่อไหร่จะทำใบขับขี่”

“เดี๋ยวทำ”

ตอนนี้โปรยังอายุไม่ถึง 18 ปีเต็มครับ เลยทำใบขับขี่ไม่ได้ แต่ผมก็กลัวๆอยู่เหมือนกันว่าหากวันหนึ่งเจ้าตี๋โปรเกิดโดนจับตรวจใบขับขี่เข้าจะทำยังไง แต่เรายังโชคดีครับ ยังไม่โดนสักที แต่ถ้าไปไหนไกลๆผมไม่ยอมให้โปรขับนะครับจะให้ไปรถของโจบ้าง หรือคนอื่นขับบ้างเพราะผมกลัวจริงๆนะ

จนวันหนึ่งในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ผมยังคงนอนรอรูมเมทของผมอาบน้ำเสร็จเพื่อผมจะได้ลุกขึ้นไปอาบต่อ (จากก่อนหน้าที่ตอนโปรเรียนอยู่ผมจะเป็นคนอาบก่อน) ก็มีเสียงเคาะประตูขึ้น ผมลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ในใจก็คิดว่าใครกันมาเคาะแต่เช้า

ผมเปิดประตูก็เห็นเจ้าตี๋โปรทำหน้ากวนๆอยู่หน้าประตู แต่วันนี้โปรไม่เหมือนวันก่อน โปรใส่เสื้อเชิร์ตขาวแขนยาว ใส่ไทด์สีดำมีตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยปักอยู่ กางเกงสแลคขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีดำมันปลาบเลยทีเดียวเพราะเป็นของใหม่

“อ้าวโปร ทำไม..”

“อะไรเพิ่งตื่นเหรอเพ่ ช้าเจง นี่ผมต้องไปเช้านะเพ่”

“ไปเช้า?? แล้วนี่ใส่ชุด..”

“ก็ผลงานที่พี่เลือกให้ผมไง ผมยังไม่ได้บอกพี่ ว่าสอบติดแย้ว”

“เฮ้ย!!!” ผมว่าแล้วก็ไปจับไทด์มาดู ดูหัวเข็มขัดมันเป็นหัวเข็ดขัดสีเงินมีตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยอยู่ สภาพของมันบอกได้เลยว่าเพิ่มซื้อมาเพราะใหม่มาก

“นี่แสดงว่าเราติด”

“ช่าย ผลออกมาเมื่ออาทิตย์ก่อน วันนี้ก็ปฐมนิเทศละ”

โปรไม่ทันพูดอะไรอีก ผมก็กอดโปรปากก็บอกดีใจด้วยๆๆ โปรก็ยิ้มใหญ่เลยครับ

“แล้วนี่ทำไมไม่บอกพี่ว่าผลออกแล้ว เห็นว่ามีปัญหาเรื่องคะแนนอยู่ พี่เลยไม่ได้ติดตาม”

ผลสอบมันออกช้าจริงครับครั้งนี้ ปัญหามันเยอะจนผมแทบจะเลิกที่จะช่วยโปรลุ้นไปเลย อีกอย่างผมมีเรื่องต้องเคลียร์ก่อนไปทำงานที่ใหม่อีก เลยยิ่งไม่ได้สนใจหนัก

“ก็นึกว่าพี่จะรู้แล้ว ที่ไหนได้ แหม่ๆ ไม่สนใจแฟนเลย”

“ก็ช่วงนี้พี่เคลียร์งาน พี่จะออก...”

“ออก..??”

“เปล่าๆ ช่วงนี้พี่งานเยอะ”

“นี่สองคนจะเลิฟซีนหน้าห้องรึไงน่ะ”  เสียงรูมเมทผมดังมาจากในห้อง ทำให้ผมต้องเลิกกอดโปรแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำต่อมันทันที

บนรถของโปร ผมก็ถามเรื่องเรียนของโปรว่าเรียนเช้าบ่ายอะไรยังไงบ้าง มีกิจกรรมอะไรบ้าง โปรก็บอกผมว่ายังไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนกันต้องไปที่มหาวิทยาลัยก่อนแล้วคงจะรู้

“นี่ ทางมาที่ทำงานพี่ กับทางไปสามย่านนี่คนละทางเลยนะ”

“ช่าย พี่ก็ย้ายมาอยู่ใกล้ผมสิ”

“เหรอ อืม ก็ดีนะ”

ผมนึกถึงที่ทำงานใหม่ผม ซึ่งจะว่าไปก็เป็นทางเดียวจากหอผมไปมหาวิทยาลัยของโปรเหมือนกัน

“อ้าว พี่อย่าบอกนะว่าจะลาออกมาอยู่กับผม”

“บ้าสิ อย่างเราพี่ออกไปก็กินแกลบพอดี”

“นะ ผมเลี้ยงได้น่า เคยบอกแล้วไง”

ในที่สุดผมก็ถึงที่ทำงานครับ ผมบอกลาโปรและบอกให้รีบไปเพราะไม่เท่าไหร่ก็จะเริ่มกำหนดการปฐมนิเทศแล้ว
ผมไปนั่งที่โต๊ะทำงานตัวเดิมแต่อีกไม่นานมันจะเป็นตัวอดีตไปแล้ว

“อีกเดือนเดียวแกก็จากไปแล้วสิเนี่ย  ฮือ ฮือ”

เสียงโจดังมาจากล็อกข้างๆ

“แกจะทิ้งช้านอยู่กะพี่จิ๊บไม่ได้นะ เดี๋ยววันไหนพี่จิ๊บองค์ลงแล้วใครจะช่วยช้าน”

“ชั้นจะองค์ลงเมื่อแกมันแต่เล่นนี่แหละ ไอ้โจ” เอาแล้วพี่จิ๊บเดินมาทางโต๊ะผมกับโจ

“ง่ะ ได้ยินอีก”

“ถึงชั้นจะแก่ แต่หูไม่ตึงนะยะ ...เออหนึ่งจะไปเดือนหน้าแล้วใช่ไหม เป็นไงเตรียมที่เตรียมทางไว้เรียบร้อยละ”

“ครับพี่ ไม่คงไม่มีปัญหาอะไร”

“อืม ดีแล้ว ไงไปแล้วก็อย่าลืมที่นี่แล้วกัน”

“ครับพี่ แหม่ ผมจะไปลืมพี่สาวแสนสวยของผมได้ไงล่ะครับ”

“ต๊าย ปากหวาน เดี๋ยวชิมเลยนิ”

“จะกินหญ้าอ่อนแล้ว เจ้านายเรา” โจแซวเสียงเบาๆ

“ครายกินอะไรนะยะ ไอ้โจ”

“ปล่าวคร๊าบบบบ”

ผมไม่รู้เมหมือนกันว่าบรรยากาศความสนุกๆแบบนี้จะคงอยู่กับผมไปอีกนานขนาดไหน ผมเองถึงแม้ว่าที่ทำงานใหม่ผมเองก็เคยไปฝึกงานมา แต่นั่นก็แค่การฝึกงานไม่ใช่การทำงานจริงๆ ผมเองก็หวั่นๆเหมือนกันครับว่าจะเป็นอย่างไรหากผมไปนั่งที่ใหม่ แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะครับ

“หนึ่งๆ  ไอ้โปรมันสอบติดมหาลัยอะไร” เสียงโจถามผม

“ก็ คณะวิศวะ มหาวิทยาลัยของโจแหละ”

“ฮ๊ะ อย่างมันนี่นะจะเรียนวิดวะ แต่ก็เหมาะละ พวกปากหมาๆอย่างมัน ว่าแต่แกบอกมันยังว่าแกจะย้ายงาน”

“อืมเดี๋ยวก็จะบอกละ ก็ดีเหมือนกัน เพราะที่ทำงานกับมหาลัยไปทางเดียวกัน”

“ไม่ใช่ว่าเค้าให้แกไปทำงานที่บ้านนอกนะเว้ย”

“ไม่หรอกน่า เดี๋ยวตอนสัมภาษณ์เค้าคงให้เลือก”

วันนี้ผมกลับเย็นเหมือนเคยหลังจากเคลียร์งานเสร็จ ก่อนลงไปที่หน้าที่ทำงานผมก็โทรหาโปรปกติว่าให้มารับได้แล้ว

“โปร  ตอนนี้ทำอะไรอยู่”

“อ่า ผมคงไปรับไม่ได้นะคับพี่ พอดีเค้าจับสายรหัส”

“เหรอ งั้นไม่เป็นไร พี่กลับเองได้ ไงก็กลับดีดีล่ะ”

“คับผม”

เป็นว่าผมต้องกลับเองแล้วล่ะครับ ผมเข้าใจนะว่าช่วงแรกที่เข้ามหาวิทยาลัยจะหาเวลาว่างยากหน่อย เพราะไหนจะเรื่องเรียน เรื่องคณะ เรื่องกิจกรรมอีกสารพัด ผมเองก็ผ่านมาแล้วทำไมจะไม่เข้าใจล่ะครับ

เมื่อผมกลับถึงหอ จัดการตัวเองเรียบร้อย ก่อนนอผมก็โทรหาโปรจะถามว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีกไหม แต่ครั้งนี้แปลกครับ ผมโทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ ต่อมาก็โทรไม่ติดเลย ผมเข้าใจว่าคงจะมีธุระไม่ก็ทำอะไรที่คณะเขาอยู่แน่ ก็เลยนอนกะว่าพรุ่งนี้ค่อยตื่นเช้าๆรอโปรก็ได้

เช้าวันต่อมาผมก็ตื่นก่อนรูมเมทผมแล้วก็ลงมารอที่หน้าหอผมรออยู่ได้นานเท่าไรไม่รู้  แต่เมื่อผมดูนาฬิกาแล้วก็รู้สึกว่านี่ผมเริ่มสายแล้ว ผมเลยรีบวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ พอดีสายที่ผมต้องขึ้นมาพอดีเลยรอดตัวไป บนรถผมพยายามโทรหาโปรอีกหลายครั้งแต่เหมือนโปรจะปิดเครื่องครับผมก็เป็นห่วงนะครับ กลัวว่าจะเอารถไปลงท่อที่ไหน ผมมาถึงที่ทำงานด้วยความกังวล วันนั้นทั้งวันผมทำงานไม่ได้เลยคิดแต่เรื่องโปร ผมก็ให้โจช่วยบอกน้องต้อมให้ไปดูที่คณะของโปรหน่อยว่าโปรอยู่แถวนั้นหรือเปล่า (น้องต้อมเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับโปรไงครับ ก็น้องต้อมเป็นน้องคณะโจครับ)

“เค้าล่ะไม่อยากให้แมวที่บ้านไปแถวนั้นเลย”

“ทำไมล่ะ”

“มีแต่พวกพร้อมจะพรากแมวน้อยไปอ่ะสิวะ”

“เออนะ ไม่ขนาดนั้นหรอก”

“ไม่ได้ๆ นี่ถ้าไม่เห็นแก่แกนะหนึ่ง ไม่มีทางให้ไปหรอกคณะนั้นน่ะ”

สักพักน้องต้อมก็โทรมาหาผมครับ

“พี่หนึ่ง”

“ครับว่าไง”

“โปรยังอยู่ดีคับพี่”

“อ้าวเหรอ แล้วทำไมโทรไปไม่ติดล่ะ”

“เมื่อคืนเขาทำเครื่องหล่น มันเลยเสียน่ะครับ ตอนนี้โปรเข้าเรียนไปแล้ว ไงบอกว่าตอนเย็นจะไปรับพี่นะครับ”

“อ่าๆ  ขอบคุณมากน้องต้อม”

“ยินดีครับพี่”

“เป็นไง ไอ้โปรมันไปติดสาวแถวนั้นใช่ป่าว”  โจถามผม

“เปล่า มือถือเสีย”

“เฮ้ย เสียแล้วไม่บอกแฟนมันวะว่ามือถือเสีย แสดงว่ามีอะไรหรือเปล่าน่ะ”

“คงทำกิจกรรมเยอะมั้ง”

“ใครเค้าจะทำกันตั้งกะวันแรก”

“อ้าวเหรอ ก็ที่มหาลัยเค้าวันแรกก็วุ่นเลย”

“ก็นั่นมันของแก แต่ที่นี่ไม่หรอก”

“แล้วมันจะมีอะไรได้ยังไงล่ะ”

“ก็อย่างที่บอก มันต้องมี อะไรบางอย่างแน่นอน”

โจพูดด้วยเสียงที่มั่นใจมาก จนผมเองก็รู้สึกกลัวๆมาทันที เพราะถ้าเป็นผมหากมือถือเสียผมเองน่าจะใช้การติดต่ออย่างอื่นเพื่อบอกให้รู้ว่ามือถือเสีย แต่นี่โปรไม่ทำ ตอนนี้ผมเองได้แต่นั่งรอเวลาตอนเย็นที่โปรบอกว่าจะมารับผมเท่านั้น

ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงานปกติของผม  ผมลงมารอที่หน้าที่ทำงานใจก็นึกว่าหากโปรไม่มาล่ะผมจะทำอย่างไรดี หรือว่าที่โจว่าจะเป็นจริง สักพักผมก็เห็นรถโปรเข้ามารับครับ ผมก็รู้สึกชื้นใจขึ้นทันทีผมเดินไปที่ด้านคนนั่งเปิดประตู ผมกลับเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งข้างโปร

“พี่หนึ่ง นั่งข้างหลังๆ” เสียงโปรบอกผม ผมเลยเดินไปเปิดประตูหลังเข้าไปนั่ง

“พี่หนึ่ง นี่พี่รหัสผมครับชื่อเอม พี่เอมนี่พี่ชายผม พี่หนึ่งคับ”

“ดีครับพี่” เอมทักทายผม

“สวัสดีครับ พี่รหัสโปรเหรอ”

“ครับ”

“วันนี้พี่เอมเค้าจะเลี้ยงข้าวผมอ่าพี่หนึ่ง”

“อ่อ ดีจริงมีพี่รหัสแล้วนิเนาะ ไงก็ส่งพี่ข้างหน้าก็ได้ จะได้ไม่ต้องย้อนไปทางเดิมอีก”

“เอ้อ พี่หนึ่ง มือถือผมเสียนะ เมื่อคืนไม่ได้บอก ผมจำเบอร์พี่ไม่ได้อ่ะ”

“อ้าว!!”

“เหะ เหะ ไม่เคยจำเบอร์ใครเลย เมื่อเช้าพอดีผมตื่นสายไปหน่อย ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้ไปรับ”

“อ่อ ไม่เป็นไรๆ”

“เอ้อ พี่เอม พรุ่งนี้ต้องเอาหนังสือจากพี่นิเนาะ อันไหนผมต้องซื้อเองอ่ะ”

“ก็มี........”

ผมก็ได้แต่ฟังทั้งสองคนคุยกันเรื่อยๆน่ะครับ ส่วนผมเองก็เพิ่งจะได้สังเกตหน้าเอมนี่แหละ เอมนี่น่าตาดีเลยทีเดียว จนถึงจุดที่ผมต้องลง

“พี่หนึ่ง พรุ่งนี้เช้าผมจะไปรับนะ”

“อืมๆ แล้วจะรอนะ”

“คับ”

ว่าเสร็จโปรก็ออกรถไป ผมก็เดินกลับไปที่หอพัก

วันรุ่งขึ้นผมลงมารอโปรเหมือนเดิมวันนี้โปรมารับผมเหมือนเคยครับ ตอนที่เราอยู่บนรถผมก็ถามเรื่องที่มหาวิทยาลัยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ก็สนุกดีอ่ะพี่”

“เป็นไงล่ะพี่รหัสเลี้ยงดีไหม”

“ดีมากกกมายยยย ได้พี่เค้าทำแฟนก็ดีอ่าดิเนาะ แทคแคร์ดี”

“ฮือ??”

“อ่ะล้อเล่นน่า”

แล้วผมก็ถึงที่ทำงาน ผมถามโปรว่าวันนี้จะมารับผมไหม โปรก็บอกว่าถ้าจะมาก็จะโทรหา เลยจดเบอร์มือถือให้โปรไปน่ะครับ ตกเย็นผมเลิกงานก็ไม่ได้มีโทรศัพท์จากโปร ผมโทรไปก็โทรไม่ติด คงจะยังเสียอยู่น่ะครับโทรศัพท์ ของโปรผมเลยต้องกลับหอเอง

ในคืนนั้นเองผมได้รับ SMS แปลกๆเข้ามาในโทรศัพท์มือถือผม ส่งมาว่า

‘ยินดีที่ได้รู้จัด การแข่งขันคงเริ่มแล้ว’

ผมก็งงๆครับไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แข่งอะไร ผมโทรกลับไปเบอร์โทรนั้น แต่ก็โทรไม่ติด ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรแต่ผมก็พยายามที่จะไม่สนใจแต่ก็อดนึกไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีเหตุอะไรที่ต้องส่งมาแบบนี้

วันต่อๆมา ผมกับโปรกลับเริ่มที่จะห่างกันมากขึ้น เดี่ยวนี้โปรไม่มารับผมทั้งตอนเช้าและเย็น ผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาเพราะเตรียมออกจากงานที่เดิม ต้องเคลียร์งานสารพัด ผมพยายามให้หมอพจน์ก็ดี น้องต้อมก็ดีช่วยติดต่อโปรให้หน่อย แต่หมอพจน์นี่ผมก็เกรงใจครับยิ่งอยู่ปีสูงขึ้นก็ยิ่งมีแต่เรื่องเรียน ยากที่จะช่วยดูโปรให้ผมได้ ส่วนน้องต้อมเองก็ต้องมีเรียน แต่ก็จะโทรมาบอกผมทุกทีที่เจอโปร

“พี่หนึ่ง วันนี้ผมเจอโปรเดินกับรุ่นพี่เค้าอีกแล้วนะ”

“อ่อ  เอมน่ะเหรอ”

“เอ่อ... พี่หนึ่ง ผมว่าอย่าห่างกับโปรเลยนะตอนนี้”

“ยังไงเหรอ”

“ผมกลัวว่า... โปรจะ...”

“จะ...??”

“นอกใจพี่”

“งั้นเหรอ ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ”

“ผมดูแล้วมันแปลกเกิน พี่รหัสอะไรมันอยู่ใกล้กันขนาดนั้น เป็นผมยังไม่ทำอย่างนั้นเลย”

คำพูดของน้องต้อมทำให้ผมฉุกคิดว่าตอนนี้เหมือนที่โปรยิ่งห่างผมเท่าไหร่ ก็ยิ่งไปใกล้เขาคนนั้นเข้าแทนทุกที และทุกคืนก็จะมี SMS ประหลาดๆส่งมาเสมอ ประมาณว่าเรื่องอกหัก คนนอกใจ ประมาณนั้นน่ะครับ แต่อันสุดท้ายนี่ ทำเอาผมอึ้งไปเลย

‘ดูแลแฟนไม่ดี ระวังจะหนีไปหาคนอื่นนะ’

ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่าใครเป็นคนส่งมา ผมรู้สึกไม่ดีกับคนๆนี้เสียแล้ว ถ้าจะประกาศว่าจะแย่งแฟนคนอื่น ขอให้บอกตรงๆเลยจะดีกว่า หรือว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมเหมือนที่ผมเคยเจอมาก่อน
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 26-12-2008 11:05:14
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 26-12-2008 11:14:17
ฮืมมมม ไอ้คุณพี่รหัสคนนี้มันยังไง อย่างนี้โปรต้องตามประกบหนึ่งอย่าให้คลาดสายตาแล้วละ

กะไปดู ฝัน หวาน อาย จูบ สุดสัปดาห์นี้เหมือนกันค่ะ คิดถึงน้องพิชชี เมื่อคืนทรูก็เอารักแห่งสยามมาฉายซ้ำอีกละ   :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 26-12-2008 11:34:28
จะซ้ำรอยเดิมรึเปล่านี้ :sad4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 26-12-2008 11:36:20
อ่าน  แล้วรับม่าด้าย

ค้าง ด้ายอีก อ่า    :z3:  :z3:  :z3:

ขอตอนต่อไป ด่วนเรย     :a5:

อย่าเกิดเรื่องไม่ดี กับหนึ่ง เรย     :call:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 26-12-2008 11:42:35
เราก็ว่าแล้วว่ามันต้องมาอีหรอบนี้ เหอะๆพี่รหัส

เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยแค่ความเชื่อใจกันและ การคุยกัน เท่านั้นนะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

แล้วจะรออ่านต่อวันจันทร์น๊า อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 26-12-2008 13:02:49
อ้าวววววววววววววววววว

ไรฟะ บ้าป่ะเนี่ย  :angry2:

คนเค้ามีเจ้าของแล้วยังอยากจะแย่งอีก

 :z6:

ไปตายซะไป๊  :beat:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 26-12-2008 14:06:50
เจ้าโปร ห้ามหวั่นไหวนะยะ  :m16:

ไม่งั้นโดน  :z6:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-12-2008 14:47:38
ก็เอาสินายโปรจะนอกใจก็คอยดูว่าแกจะกล้าทำร้ายพี่ชายฉันได้ลง :m16:
 :beat:ฝากให้เอมด้วยครับ :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-12-2008 15:44:21
อารายฟ่ะเนี่ย มีเล่นสงครามประสาทด้วย    :o211:

เจ้าตี๋โปร อยู่หนายยยยยย  :m16:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-12-2008 15:57:50
เออ!!! เอาแล้วไงหล่ะ
แล้วจะเป็นยังไงต่อปายยยยยยยยยยย

อ๊ากกกกก :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-12-2008 21:05:17
จิตมากๆประกาศสงครามกันแบบนี้เลยเรอะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-12-2008 09:32:22
ชักมีกลิ่นไม่ค่อยดีแล้ว พี่รหัสดูมีเงื่อนงำ :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 27-12-2008 10:44:16
 :call:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 27-12-2008 12:41:53
อย่าน้า!!!~


สงสารหนึ่งอ่ะ!!!~



 :sad11: :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-12-2008 23:39:37
โปรไมเป็นแบบนี้อะ  :z3: เซง สงสารหนึ่ง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: white coat ที่ 28-12-2008 23:03:45
วันนี้ ตามมา ปั่นป่วน กระทู้ ที่รัก ถึงที่  :laugh:

และก็ยังไม่ได้อ่านเช่นเดิม  o18

เด๋ยวนี้ไม่ค่อยแวะมาเลยนะ  :monkeysad:

ลืม ความ ผูกพันระหว่างเราแล้ว เหรอ  :impress3: กร๊ากกกก

ปล. คิดถึงมาขอ  :จุ๊บๆ:

ปล.2 ยังเรียกพี่เหมือนดิม พี่สุดที่รัก  :laugh3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: NuPaTT ที่ 28-12-2008 23:43:52
 :sad4:


โปรใจร้าย



แต่ที่ใจร้ายก่าคือ คนแต่ง

ค้างอ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :serius2:


แต่ไอพี่เอมแกร้ายยยยยยยยยยยยยยยยมัก :angry2:


หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-12-2008 10:24:37
วันจันทร์แล้วครับผม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 29-12-2008 10:32:05
มากี่โมงเอ่ย :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 29-12-2008 14:32:08
สวัสดีครับ

ขอโทษครับที่มาช้า ที่จริงวันนี้ผมลางานวันนึงครับ เมื่อคืนก็ซื้อหนังสือมาเยอะเลยก็อ่านเพลินลืมเวลานอน วันนี้เลยตื่นสาย
วันนี้ ตามมา ปั่นป่วน กระทู้ ที่รัก ถึงที่  :laugh:

และก็ยังไม่ได้อ่านเช่นเดิม  o18

เด๋ยวนี้ไม่ค่อยแวะมาเลยนะ  :monkeysad:

ลืม ความ ผูกพันระหว่างเราแล้ว เหรอ  :impress3: กร๊ากกกก

ปล. คิดถึงมาขอ  :จุ๊บๆ:

ปล.2 ยังเรียกพี่เหมือนดิม พี่สุดที่รัก  :laugh3:


อ่าๆ ที่รักครับ เค้าก็ไปคอมเมนต์ที่กระทู้ที่รักทุกวันนะ หรือว่าที่รักไม่ได้อ่าน?? :m16: บอกแล้วเอาไว้เซ็งๆ ไม่มีอะไรทำค่อยมาอ่านก็ได้ เค้าก็คิดถึงนะนะนะนะนะที่รัก

ปีใหม่มีเรื่องสั้นจากไอ้นายเส้นมาให้ทุกๆท่านได้ทัศนากันด้วยนะครับ โปรดคอยติดตามอ่าน

ขอบคุณที่ติดตามเสมอครับ ที่รักของผมทุกๆคน :L1:



ตอนที่ 25

ทั้งงานที่ผมต้องเคลียร์ให้เสร็จ ทั้งเรื่องของโปรที่ห่างผมไปเรื่อยๆ สภาพผมตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ ผมไม่เคยเจอปัญหาอะไรที่เข้ามาพร้อมกันขนาดนี้มาก่อน ทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ตอนนี้ผมไปกลับที่ทำงานคนเดียว เหมือนผมตอนที่มาอยู่ที่กรุงเทพฯใหม่ๆ เบาะข้างๆผมบนรถเมล์ไม่มีใครนั่ง ผมเม่อมองไปที่ข้างทางเสมอ ผมอยากจะปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ  ไม่อยากคิดอะไร อยากจะพักผ่อนและพ้นจากทุกอย่างให้เร็วที่สุด เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน ผมก็จะออกจากงานแล้ว ยังพอมีเวลาว่างก่อนที่ผมจะเข้าไปสัมภาษณ์งานใหม่ และคาดว่าคงจะเริ่มงานในต้นเดือนหน้า ช่วงนี้สองสามวันถึงจะมี SMS ที่บอกเรื่องราวความเป็นไปของเขาส่งมาให้ผม

‘ดูหนังกับคนที่ชอบก็ดีอย่างนี้ล่ะนะ’

‘น่าสงสารคนที่ต้องกินข้าวคนเดียว’

‘ทำงาน อย่าคิดอะไรมาก เดี๋ยวดูแลให้เอง’

ผมก็ยังเก็บไว้ครบทุกอันที่เขาส่งมา ผมไม่ได้บอกใครเลยครับเรื่อง SMS เพราะแค่ทุกคนรู้เรื่องของโปร เขาก็ช่วยผมหลายอย่างแล้ว ผมไม่อยากให้มีเรื่องมากไปกว่านี้ เพราะสุดท้ายแล้วผมต้องการที่จะทราบคำตอบจากปากของโปรมากกว่า

ตกค่ำวันหนึ่งซึ่งเป็นคืนก่อนวันทำงานวันสุดท้ายของผม ได้มีโทรศัพท์โทรมาหาผม ผมดูเบอร์แล้วไม่คุ้นเลย

“สวัสดีครับ”

“พี่หนึ่งๆ นี่ผมเองนะ” เสียงโปรดังมาจากโทรศัพท์

“อ้าวโปรเหรอ” ผมเองก็ดีใจมากถึงมากที่สุดครับที่โปรโทรมา

“ช่วงนี้ผมไม่ได้ไปหาพี่เลยอ่ะ เดี่ยวพรุ่งนี้เราไปกินข้าวกันหน่อยนะคับ”

“เอ้อ  เอาสิ”

“งั้นพี่เลิกงานกี่โมงเหรอ”

“ปกติ ห้าโมงครึ่ง”

“โอเค งายผมไปรับที่เดิมนะ  อย่าทิ้งผมไปไหนก่อนล่ะ”

“เราล่ะ อย่าทิ้งพี่” ผมพูดออกมาเบาๆ

“อะไรนะคับ??”

“เปล่าๆ  ไงเจอกันนะ”

“ครับ”

ผมดีในมากถึงมากที่สุด ที่ผมจะได้ไปกินข้าวกับโปรครั้งแรกในช่วงร่วมเดือนกว่าๆ ในคืนนี้ผมนอนคิดอะไรไปไกลหลายอย่าง ผมคิดถึงว่าถ้าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมต้องทานข้าวกับโปรล่ะ หรืออื่นๆอีกมากมายทั้งในทางที่ดีและไม่ดี โดยมากก็เป็นไปในทางที่ไม่ค่อยดี คิดไปคิดมาผมก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

วันต่อมาผมเดินทางไปทำงานตามปกติ ผมไล่ตามขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆทุกคนในที่ทำงาน เพราะนี่จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะทำงานที่นี่ เพื่อนร่วมงานบางคนก็ให้ของขวัญผมครับ ส่วนโจเองก็เงียบๆไปครับไม่พูดแซวอะไรผมเหมือนปกติ ผมเองก็คงคิดถึงโจมากเพราะไปที่ใหม่คงจะไม่เจอเพื่อนอย่างโจอีก

“หนึ่ง ไอ้โปรมันเป็นไงบ้างวะ”

“ก็ไม่รู้สิ เมื่อวานโทรมานะ บอกว่าวันนี้จะมารับ”

“เจงเดะ  เออนะนึกว่ามันจะทิ้งมึงไปซะแล้ว ไอ้หนึ่งเอ้ย”

“ก็ไม่แน่...”

“เฮ้ย อย่าคิดมาก  ถ้ามีอะไรบอก เดี๋ยวตามไปตบกะโหลกมันให้”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เออๆ แล้วจะบอกนะ”

ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน ผมบอกลาพี่จิ๊บเป็นครั้งสุดท้าย พี่จิ๊บก็อวยพรให้ผมครับ ผมเดินออกที่หน้าที่ทำงาน มองไปทำงานครั้งสุดท้าย ที่นี่ได้สอนอะไรผมหลายๆอย่างในเรื่องของการทำงาน ประสบการณ์ชีวิตดีๆ นี่ผมจะต้องจากที่นี่ไปแล้วจริงๆเหรอ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจไป แต่ก็ต้องทำใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ผมรอโปรอยู่สักครู่ รถของโปรก็มาจอดที่ข้างหน้าผม ผมเดินเข้าไปเปิดประตูขึ้นไปบนรถ ผมกำลังจะทักโปรแต่ว่า

“เอม!!”

“ดีครับพี่”

ตอนนี้ผมงงมาก รถนี่ก็เป็นรถของโปรแต่คนที่ขับไม่ใช่โปร แต่เป็นเอมแทน ผมพูดอะไรไม่ออก รถก็ออกตัวเคลื่อนไปเรื่อยๆ

“โปรให้ผมมารับพี่น่ะครับ”

“....” ผมเงียบ เอมหันมามองผมแวบหนึ่งแล้วยิ้มๆ

“พี่กลัวอะไรเหรอครับ”

“กลัว..เหรอ..?”

“ผมเห็นพี่เงียบๆ”

ผมรู้สึกอึดอัดที่สุด ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ผมพูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูกไปเลยได้แต่มองไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะหันไปมองเอมที่ขับรถอยู่ หรือมองข้างทาง

“พี่หนึ่งครับ  ผมคงต้องพูดอะไรตามตรง”

ตอนนี้หัวใจของผมเต้นแรงมาก เพราะรู้ว่าเอมจะพูดอะไร ผมกัดฟันแน่น

“พี่คงทราบเรื่องของผมกับโปรแล้ว ผมอยากจะบอกว่าผมขอ..”

“ให้โปรมาพูดกับพี่เอง เรื่องนี้พี่คงตัดสินใจเองไม่ได้”

“ผมคิดว่าโปรคงไม่กล้าบอกตรงๆกับพี่มากกว่า ถึงให้ผมมาบอกแทน...”

สมองของผมตื้อไปหมด พูดอะไรออกมาไม่ได้เลย เรื่องที่เอมพูด เรื่องการกระทำของโปร ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่ผมกลัวทั้งสิ้น ผมพยายามที่จะกลั้นความรู้สึกไว้ ความรู้สึกของผู้ที่....สูญเสีย

เมื่อรถติดไฟแดง ผมเลยเปิดล็อคประตูแล้วออกจากรถ

“พี่ขอให้เราสองคน...มีความสุขให้มากๆ...นะ”

แล้วพูดได้แค่นั้นก่อนที่จะจากตรงนั้นไป ผมไม่หันกลับไปมองรถคันนั้นอีกเลย ผมไม่อยากที่จะเห็นมันอีก มันร้ายแรงมากผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แบบที่ผมเจอจากโอ๊ตนั้นผมว่ายังไม่เท่าครั้งนี้ นี่ผมผิดหรือที่ผมไม่ได้อยู่ใกล้เขา นี่ผมผิดหรือที่ผมเหมือนจะจู้จี้เขามากเกินไป นี่ผมผิดหรือที่ผมอายุมากกว่าเขา

ใช่

ผมผิดเอง

ผมเดินไปเรื่อยๆ ภาพเก่าๆเมื่อตอนที่ผมเลิกกับโอ๊ตก็ดี หรือก่อนหน้ามันเข้ามาอยู่ในหัวผมตอนนี้ ทำไมผมถึงโชคร้ายอย่างนี้ ทำไมมีแฟนทั้งทีเขาต้องจากไปหาคนอื่นด้วย

นี่ผมยังไม่ดีพอใช่ไหม ผมยังทำดีไม่พอใช่ไหม ไม่ดีเท่าคนอื่นที่เขาไปคบด้วยใช่ไหม

ผมคิดอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนผมมาถึงหอโดยไม่รู้ตัว ในหัวสมองผมตอนนี้คือ

‘กลับบ้าน’

ผมอยากกลับบ้าน กลับไปพักเรื่องราวทุกเรื่อง ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ งานใหม่ ผมจะขอไปบรรจุที่บ้าน ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีกไม่อยากมาเจออดีตเก่าๆที่มันจะมาทิ่มแทงผมเหมือนก่อน

ผมเก็บของลงกระเป๋าอย่างเงียบๆ แล้วเขียนโน้ตให้รูมเมทผมว่าผมจะกลับบ้านสักพัก ไม่ต้องห่วง ตอนนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น เบอร์โจโทรมา ผมก็กดรับสาย

“เฮ้ยหนึ่งเป็นไงบ้าง ไอ้โปรมันยังดีอยู่เปล่า เอ้อ พรุ่งนี้ว่างไหมจะพาไป...”

ผมไม่พูดอะไร ก็กดวางสายและปิดเครื่องไปเลย ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ให้เงียบที่สุด ด้วยความที่ผมอยากกลับบ้านเร็วๆ ผมเลยเลือกที่จะขึ้นเครื่องบินไป แม้มันจะแพงกว่าแต่ผมก็ยอม เพราะผมไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว

ถึงบ้าน คุณพ่อ คุณแม่ผมตกใจมากที่ผมมาอย่างกระทันหัน แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านถามอะไรผมก็ตอบเพียงคำ สองคำ ไม่ก็ยิ้มให้เท่านั้น ท่านคงทราบว่าผมคงมีเรื่องอะไร แต่ก็ไม่เซ้าซี้ถามอีก ปล่อยให้ผมขึ้นไปนอนบนห้อง

ทันทีที่ประตูห้องนอนผมปิดลง ความรู้สึกเย็นไปทั่วตัว เหมือนลมหนาวแห่งความผิดหวังมันกลับมาอีกครั้ง และแล้วน้ำตาผมมากมายก็ไหลลงมาอาบแก้ม....

นี่ผมกลั้นมันไว้นานขนาดนี้เลยเหรอ..?

นี่ผมเสียคนที่ผมรักไปแล้วใช่ไหม..?

 ผมล้มตัวลงนอนพร้อมน้ำตา คืนนั้นผมนอนไม่หลับคิดถึงเรื่องอะไรมากมาย

จนรุ่งเช้าผมถึงได้เพลียหลับไป

ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงคุณแม่เรียกให้มารับโทรศัพท์บ้านข้างล่าง  ผมเดินลงมาด้วยอาการงังเงีย

“สวัสดีครับ”

“หนึ่งๆ  อยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” เสียงโจดังมาครับ

“โจ..”

“ห้ามวางนะเว้ย  ถ้าวางเดี๋ยวขึ้นไปหาที่บ้านแกแน่ เฮ้ย เป็นไรป่าววะ ไอ้โปรมันทำอะไรแกป่าว”

“ปะเปล่า ไม่ได้ทำอะไร”

“มันทำใช่มะ เดี๋ยวเถอะไอ้โปร!!”

“โจๆ อย่า ไม่มีอะไร ชั่งมันเถอะ”

สายไปแล้ว โจวางหูไปก่อน ผมจะขึ้นไปเอาโทรศัพท์มือถือของผมมาเปิดเพื่อจะโทรหาโจ แต่ไม่ทันขึ้นไปเสียงโทรศัพท์บ้านผมก็ดังอีก

“สวัสดีครับ”

“หนึ่ง” เสียงรูมเมทผมเองครับ

“เอ้อ ว่า”

“เป็นไรมากเปล่ามึง”

“เปล่านิ”

“กูรู้ว่ามึงเป็น เอาน่าไงเดี๋ยวเพื่อนมึงคงไปคุยให้”

“โจน่ะเหรอ”

“เออ มันมาถึงหอเมื่อคืน กูนึกว่าเพื่อนมึงจะรู้เรื่องที่มึงกลับบ้าน”

“ก็...”

“มึงกลับบ้านๆก็ดีละ อย่าคิดมาก ไงกูว่าอะไรๆคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้ละ”

“อืม ขอบใจนะ”

“ไงกูจะโทรไปหาอีกละกัน”

เพื่อนของผมก็คือเพื่อนของผม เพื่อนผมไม่เคยทิ้งกัน การมีเพื่อนดีก็อย่างนี้นี่เองล่ะครับ เหมือนเรามีคนช่วยแบกความทุกข์ของเราไว้ ผมก็กลับขึ้นไปที่ห้องนอนคิดว่าจะไปนอนต่อ ผมนอนไปมาสักพักก็นอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องของโปรให้คิดไม่นานเท่าไหร่แม่ผมก็เรียกอีก บอกว่ามีคนมาหา ผมลงไปข้างล่าง ก็เจอไอ้รินมานั่งอยู่ในบ้างผมแล้ว

“อ้ายหนึ่ง เป็นจะไดผ้องคับ”

ผมจุ๊ปากใส่รินทีหนึ่งแล้วพามันเดินขึ้นไปบนห้องนอนของผม

“อ้ายหนึ่ง น่องพจน์โทรมาว่ามีเฮื่อง” (พี่หนึ่ง น้องพจน์โทรมาบอกว่ามีเรื่อง)

“อืม”

“อ้ายหนึ่ง บ่าเป็นหยังเนาะคับ” (พี่หนึ่งไม่เป็นอะไรนะครับ)”

“อืม”

“หื้อบอกอ้ายโอ๊ตก่คับ” (ให้บอกพี่โอ๊ตไหมครับ)

“บ่ะต้อง!!” ผมพูดเสียงแข็ง

“คับ....”

แล้วผมก็ไม่พูดอะไรอีกล้มตัวลงนอนหันหลังให้ไอ้รินมัน

“อ้ายหนึ่ง งั้นผมไปหนาคับ แล้วตอนแลงจะมาแหมหนา” (พี่หนึ่ง งั้นผมไปนะครับ แล้วตอนเย็นจะมาอีก)

ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรอีก รินเลยออกจากห้องผมไปเงียบๆ ผมก็ยิ่งนอนไม่หลับใหญ่เลยเลยตัดสินใจไปอาบน้ำแล้วคิดว่าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย  เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น

ผมจับมอเตอร์ไซด์คันเดิม ขับไปเรื่อยๆเหมือนไม่มีจุดหมาย ผมคิดว่าจะขับขึ้นไปบนดอยดีไหม แต่ก็มาหยุดที่จุดลงไปน้ำตกแห่งหนึ่ง ผมจอดรถไว้ที่ข้างทางแล้วเดินไปยังน้ำตกนั้น

น้ำตกนี้มีตำนานครับ เรื่องราวความรักของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งไม่สมหวังในความรักนั้นจึงมาโดดน้ำแล้วเสียชีวิตที่นี่ จากนั้นคนทั่วไปจึงตั้งชื่อน้ำตกบริเวณนั้นตามชื่อของเธอ จนเป็นตำนานเล่าขานไม่รู้จบ เรื่องราวความรักมั่นคงของเธอ

ผมมองดูน้ำตกแล้วย้อนมาดูตัวเอง ชีวิตเราชั่งจะลงต่ำได้ขนาดนี้เชียวหรือ ผมยืนอยู่ข้างน้ำตกมองดูธรรมชาติที่ยังคงความสวยอยู่ ผมทรุดตัวนั่งลง แล้วนึกลงคิดดูถึงอดีตที่ผ่านมา ผมเองก็ผ่านเรื่องราวต่างๆที่ไม่ดีมามากมาย แต่ผมก็ยังผ่านไปได้ สาอะไรกับครั้งนี้

‘จิ๊บจ้อยน่า’ ผมคิด

แล้วผมก็กลับไปที่มอเตอร์ไซด์ของผมแล้วก็ขับมันเข้าไปในมหาวิทยาลัย ไปยังที่ๆผมชอบนั่ง ริมอ่างเก็บน้ำในมหาวิทยาลัย ผมมองไปยังผืนน้ำและผืนป่า คิดถึงตอนที่ผมผ่านเรื่องไม่ได้ต่างๆมาได้ ด้วยเพราะอะไร ผมนั่งคิดเรื่องเก่าๆแล้วก็หัวเราะในคอเบาๆ ว่าเรื่องที่ผมเพิ่งเจอมานี้ มันชั่งเล็กน้อยเทียบกับเรื่องอื่นที่ผมเคยผ่านมา

“ผมหาต้องนาน คุณมาอยู่นี่เองเหรอ”

เสียงของโอ๊ตดังมาจากข้างหลังผม ผมหันไปมอง ยิ้มให้แล้วก็หันกลับไปที่เดิม โอ๊ตเดินมานั่งข้างๆผม เอามือผมไปกุมไว้

“หนึ่ง คือผม”

“ผมยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น ขอให้ผมได้หยุดพักสักพักนะครับ”

“อ่า...ครับ แต่วันนี้คุณต้องอยู่กับผมนะ ผมไม่อยากให้คุณไปทำอะไรที่....ไม่ดี”

“ผมโตแล้วนะ”

“แต่คุณก็ยังเป็นเหมือนเดิม ผมเชื่อ”

ผมได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไรอีก ผมนั่งอยู่ตรงนั้นได้สักพักผมก็เริ่มพูดกับโอ๊ตบ้าง

“แล้วนี่ ไม่มีเครสเหรอ”

“ผมบอกเลื่อนหมดแล้วครับวันนี้”

“นิสัยไม่ดีนะ”

“ก็เหมือนคุณแหละครับ”

ผมหัวเราะเบาๆ มองหน้าโอ๊ต โอ๊ตก็ยิ้มให้ผม ผมยังไม่รู้จริงๆว่าผมจะทำอะไรต่อไปดี ผมเลยบอกโอ๊ตว่าจะกลับบ้าน โอ๊ตก็บอกว่าจะขับรถตามไปส่งผมครับ

“เอ่อ วันนี้ชมรมเรามีร้องเพลงที่งานถนนคนเดิมอีกแล้วนะ จะไปด้วยไหมครับ” โอ๊ตบอกผม

“อืมเหรอ  เอาสิ คราวที่แล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

“ไม่ต้องช่วยอะไรหรอกครับ ช่วยเป็นกำลังใจพอแล้ว”

ตกลงว่าผมก็ขับรถมอเตอร์ไซด์ไปกับโอ๊ตครับ ผมไปเจอน้องๆชมรมทั้งใหม่และเก่า ผมเริ่มรู้สึกว่าความสนุกในวันวานกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมได้ฟังโอ๊ตร้องเพลงอีกครั้ง ครั้งนี้ดูเขาจะมีความสุขกว่าทุกคราว จนในที่สุดก็ได้เวลากลับ โอ๊ตก็มาส่งผมถึงที่บ้านครับ

“พรุ่งนี้ ผมจะมารับคุณนะ”

“รับไปไหนเหรอ”

“คุณอยากไปไหนล่ะ  ผมจะพาไปหมดเลย”

“อืม ถ้าคิดออกแล้วจะบอกนะ”

แล้วผมก็บอกลาโอ๊ต ผมกลับเข้าบ้านไป ทุกอย่างยังคงสงบเป็นปกติ  เพราะดึกมากแล้วคุณพ่อ คุณแม่ผมก็หลับแล้วครับ ผมเลยอาบน้ำแล้วก็นอนหลับ คืนนี้ผมรู้สึกสบายกว่าทุกวันคงไม่ค่อยคิดมากเรื่องโปรแล้วมั้งครับ ที่จริงตอนมีเรื่องแบบนี้ ผมจะพยายามไม่คิดถึงมัน เพราะคิดถึงทีไร เหมือนผมจะโดนเข็มเป็นพันเล่มทิ่มแทงหัวใจตลอดเวลา หรือว่าถ่านไฟเก่า มันจะถูกเติมถ่านเข้าไปให้ไฟมันลุกอีกแล้วกันแน่นะ ผมเลยไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 29-12-2008 14:41:22
 :m15:

เศร้า

แต่ยังไม่ได้ฟังอะไรจาก โปรเลย

คงไม่มีอะไรหรอกมั่ง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-12-2008 14:50:27
ดีจริงๆที่พูดตรงๆพี่หนึ่งในเมื่อมันหน้าด้านมาขอใช่ป่ะงั้นให้มันกราบเท้าขอเลยแล้วเขี้ยทิ้งไอ้เด็กนั้นไปเลยหล่อเลือกได้นี้นา :m16:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 29-12-2008 14:54:43
 :m15: :m15: :m15:

นี่โปรไปเล่นกับเค้าด้วยหรอ หรือว่า เอม มันสร้างเรื่องนะ เศร้าจังสงสาร หนึ่งอะ

แล้วจะรออ่านตอนต่อ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 29-12-2008 15:02:11
น้องโปรไม่มาดูพี่หนึ่งเลย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-12-2008 18:08:15
รอฟังจากปากเจ้าตี๋โปร ก่อนดีกว่านะพี่หนึ่ง  บุคคลที่ 3 เนี่ย มันไม่น่าไว้วางใจอยู่แล้ว 

แต่ว่า มันน่าจริงๆๆ เชียว  :m16:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 30-12-2008 04:21:40
 :z3:

โว้ยยยยยยยยยยยยยยย

มันอะไรกันเนี่ย

ไอ้เอมมันโรคจิตม้ายยยยยยยย

ยุ่งกับคนมีเจ้าของหนุกม้ายยย

ไอ้โปรก็บ้าให้คนอื่นขับรถตัวเองมารับแฟนตัวเองได้ง้ายยย

ไว้ใจได้ม้ายยยย

เป็นไงล่ะทีนี้

โอ่ยอยากอ่านตอนต่อไป

 :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-12-2008 05:07:53
 :z6: ให้เอม

โปร แกจะรู้มั้ยเนี่ย จะฟังจากแกก่อน  :z3:

ถ้าแกทำหนึ่งเสียใจ  :angry2: ไม่ตายดีแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 30-12-2008 08:21:42
^
^
^

อย่าให้มันเลวร้ายกว่านี้เลยยย!!!!.....
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 30-12-2008 13:46:06
อ่านแล้วเห็นใจหนึ่งมาก ๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 30-12-2008 13:53:33
วันนี้มารึเปล่าเอ่ย :3123:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-12-2008 14:03:24
อ่อนไหวกับคำพูดของคนที่คิดร้ายกับเรา ไม่ดีเลยน่ะคับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 26 ธ.ค. :ตอนที่ 24 ระเบิดลูกเล็กๆ ก่อนโพสต่อจันทร
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 30-12-2008 21:54:10
ฮึ่มๆๆๆๆ

ขอซักที   :beat:  :beat:  :beat:  :beat:

ไอ่ เอม   แกตายยยยยยยยยยยยยย

 :m31: :fire: :angry2: :serius2: :beat:

บังอาจมากมาทำ  พี่หนึ่ง    ของช้านด้ายไง

โปรหายไปไหน นิ  เด๋ว โอ๊ต ก็แย่ง  พี่หนึ่ง  ไปแล้วจารุสึก  :fire:

ทามมายมานค้าง งี้  อ่า   

ม่าหวายๆๆๆๆๆ  แล้ว   :z3:

อยาก อ่านตอนต่อไป    :m15:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 31-12-2008 06:42:02
.

(http://widget.sanook.com/static_content/full/diy_1/2336/278336/dfdd02485324d18231fefbd439c48061_1230628573.gif)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 29 ธ.ค. :ตอนที่ 25 ฤๅ ถ่านไฟเก่ามันจะลุก???
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 31-12-2008 11:19:37
เราว่าอีตาพี่รหัสมันมั่ววว :z3:

(http://glitter2.postjung.com/data2/2008123110/495aec2c8d73b.gif)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26 เมื่ออดีตมันหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 31-12-2008 12:49:09
สวัสดีครับ

ตอนนี้ผมกลับบ้านตจว.แต่ก็ไม่ลืมเอาเลปท๊อปมาด้วย เลยใช้เน็ตต่อมือถือเล่นเหมือนเคย (ที่จริงมันเร็วกว่าต่อสายโทรศัพท์บ้านอีกนะ) ที่บ้านนอกอากาศดีกว่ากทม.นิดนึงตรงเมื่อคืนต้องห่มผ้านอน คิคิคิ ไปเที่ยวกินกะเพื่อนๆสมัยมัธยม เจอเพื่อนสมัยเรียนตรี โอ้....กัดกันสุดๆ คิดถึงตอนนั้นจัง...

วันนี้ส่งท้ายปีเก่าครับ เราทบทวนอะไรหลายๆอย่าง บางอันก็คิดว่าไม่น่าทำ หรือควรจะทำอ่า เอาเถอะปีหน้าปีใหม่ ต้องทำได้ดีกว่านี้แน่ เพราะประสบการณ์มันบอก หุหุ เหมือนคนแก่เลยอ่ะ

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ปล.ปีใหม่ มาโพสแน่ครับ
ปล.2 ไอ้นายเส้นจะให้ลงเรื่องสั้นของมันเป็นของขวัญปีใหม่ อย่าลืมไปอ่านนะครับ



ตอนที่ 26

ผมตื่นมากลางดึกด้วยเสียงโทรศัพท์บ้าน ผมตื่นลุกจากเตียงลงไปรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล” ผมงัวเงียมากกว่าที่จะพูดว่าสวัสดีไหว

“หนึ่งเหรอ ไอ้เด็กตี๋นั่นมันมาอาละวาดที่นี่  กูเลยไล่ให้ไปหามึงละ” เสียงรูมเมทผมดังมาในโทรศัพท์

“หา อะไรนะ”

“ก็ได้เด็กมึงไง มันมาโวยวายตามหามึงที่ห้อง หาว่ามึงไม่ยอมออกไปเจอมัน”

“แล้ว ว่าไงล่ะ”

“กูก็บอกว่ามึงน่ะกลับไปทำใจที่บ้าน แล้วมันก็ออกไปเลย”

“นี่อย่าบอกนะว่าโปร...”

“คงไปหามึงล่ะมั้ง”

“บ้าเหรอ  จะมายังไงดึกแล้ว”

“ไม่รู้มัน ไงก็รอรับมันละกันนะ”

“เฮ้ย เดี๋ยวสิ”

ผมไม่ทันพูดอะไรต่อ เพื่อนผมก็วางหูไปเลย

แล้วนี่โปรจะมาหาผมจริงเหรอ โปรจะมายังไง ตอนนี้ดึกมากแล้วรถก็คงจะหมดแล้ว  เครื่องบินก็ต้องรอตอนเช้า ผมว่าถ้าโปรจะมาจริงคงมาถึงพรุ่งนี้ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเลยเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ผมไม่อยากจะสนใจเรื่องของโปรอีกแล้ว พฤติกรรมของโปรที่ผมได้เจอมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเอมจะโกหกผมจรงไหน ผมคิดอะไรอยู่ไม่นานก็หลับไปไม่รู้ตัว

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาเพราะคุณแม่เรียกผมอีกแล้ว บอกว่าเพื่อนมาหา ผมเดินไปที่หน้าบ้านก็เจอโอ๊ตยืนคุยกับคุณแม่ผมอยู่

“ไม่เจอต้องนานนะลูก เป็นไงบ้างเรียนจบรึยัง”

“ยังครับแม่  อีกเทอมนึงครับ”

“แหม่ เดี๋ยวก็จบแล้วสิ งานก็มีทันทีเลยสินะ แล้วกะจะทำงานที่ไหนล่ะลูก”

“ก็กะเข้ากรุงเทพน่ะครับ”

“เหรอ พอเข้ากรุงเทพ หนึ่งก็กลับมาบ้านพอดีมั้ง”

“อะไรนะครับ”

 “อ้าวหนึ่ง โอ๊ตเค้ามารอลูกนานแล้วนะ ทำไมเพิ่งตื่นละ” คุณแม่ผมหันมาเห็นผมพอดีครับ

“อ่าครับ เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนนะ แป๊บนึง”

“งั้นโอ๊ตก็เข้ามาในบ้านก่อนนะ เดี๋ยวรอหนึ่งแป๊บนึง”

“ครับแม่” โอ๊ตรับคำ

ผมก็กลับไปในบ้าน อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาหาโอ๊ตครับ

“แล้วนี่ จะไปไหนเหรอ” ผมถามโอ๊ต

“ผมรู้ว่าเวลาคุณไม่สบายใจ จะไปไหนบ้าง”

“คิดว่าจะเดาใจผมถูกขนาดนั้นเลย”

“อ้าว ผมเป็นใครล่ะครับ”

โอ๊ตพูดแล้วก็ยิ้มๆ ผมเองก็หัวเราะบาๆ แล้วเราก็เดินไปที่มอเตอร์ไซด์ของโอ๊ต ผมขึ้นซ้อนท้ายส่วนโอ๊ตเป็นคนขับ มันเหมือนภาพเก่าๆเมื่อตอนที่เราคบกันอยู่ ผมก็อดนึกภาพเหล่านั้นไม่ได้ทุกทีที่ได้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ใคร เราคุยกันถึงเรื่องสมัยตอนที่ผมยังเรียนอยู่ บางเรื่องผมก็ลืมๆไปบ้างแล้วแต่โอ๊ตกลับจำได้ดี(โอ๊ตเป็นคนความจำดีมากๆเลยล่ะครับ) โอ๊ตเองก็พยายามที่จะพูดถึงเรื่องตอนที่ผมกับเขาคบกันอยู่ ผมเองก็เข้าใจว่าทำไมโอ๊ตถึงพูดแต่เรื่องพวกนี้ แต่มันก็กลับทำให้ใจผมชักๆอยากจะกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นบ้างแล้วล่ะครับ

“ไม่กอดเอวเดี๋ยวตกรถนะครับ”

โอ๊ตพูดตอนที่กำลังขับรถขึ้นดอย

“ขึ้นไหวเหรอโอ๊ต กลัวจะไหลตกดอยก่อนน่ะสิ”

“ถ้าจะตกเดี๋ยวให้คุณขับแล้วกัน”

“อ้าว ให้หนึ่งขับแล้วคิดเหรอว่ามันจะไม่ไหลตกดอยอ่ะ”

“ก็คุณขี่แล้วผมเข็นให้ดีไหม
ถ้าเข็นไหวนะครับ ถ้าไม่ไหวก็....”

“ก็อะไร”

“ตกดอยน่ะสิครับ” แล้วโอ๊ตก็หัวเราะ ผมก็ทำหน้าค้อนใส่ทีนึง

“โถ.... ใครจะปล่อยให้แฟนผมตกดอยล่ะครับ จริงไหม?”

“ใครแฟนคุณ?”

“อ้าว... เหรอครับ งั้นเปลี่ยนให้คุณเข็นดีกว่า”

“คุณ!!! พาผมมาเองนะ แล้วให้เข็นขึ้นอีก”

ผมพูดจบโอ๊ตก็หัวเราะร่วนเลย แล้วก็จับมือผมไปกอดที่เอวเขาไว้ ผมก็ทำแต่โดยดีไม่ขัดขืนจนถึงวัดพระธาตุฯบนดอย เราก็ขึ้นไปไหว้พระธาตุแล้วก็เดินดูวิวที่นั่น

“นี่เราไม่ได้มาด้วยกันตั้งนานแล้วนะ” โอ๊ตพูดในขณะที่ผมยีนจับราวที่กั้นชมวิวเมือง

“อืม....” ผมตอบ

“ผมดีใจมากนะครับ ที่เราได้มาด้วยกันอีกครั้ง”

“........”

ผมก้มหน้าไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มๆ ผมไม่แน่ตัวเองเหมือนกันว่าจะกลับไปคบกับโอ๊ตอีกจะดีไหม จะว่าไปแล้วหลังจากที่เขาเลิกกับรุ่นน้องคนนั้น โอ๊ตก็ไม่เคยจะมีใครอีก (เท่าที่ผมรู้) นอกจากจะรอผมคนเดียวตามที่เขาเคยบอก ผมได้แต่คิดว่าจากนี้ไปแล้วผมจะตัดสินใจยังไง จะยังรออะไรหลายๆอย่างให้ชัดเจนมากกว่านี้จะดีไหม ผมเองยังกลัวว่าโอ๊ตจะทิ้งผมไปหาใครอีก ในหัวผมตอนนี้ก็แต่เรื่องนี้ซ้ำๆไปมา โอ๊ตเองคงเห็นท่าทีที่ค่อนข้างเฉยของผมอยู่ ก็พยายามทำให้ผมยิ้มและหัวเราะกับเรื่องเก่าๆที่เราเคยเจอมา

“ไปน้ำพุร้อนกันไหม?”

โอ๊ตถามผมตอนที่ขับรถลงจากดอย

“เหอ... ไกลจะตาย ขับไหวเหรอ” มันไกลมากครับ ข้ามอำเภอไปอีก อำเภอนึงเลย

“ไหวครับ ผมมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆนี่ไง...”

“รู้ได้ไงว่าให้กำลังใจ”

“ถ้าไม่ให้กำลังใจคงไม่มากอดผมอย่างนี้หรอกครับ”

เอาเข้าไป นี่มือผมไปกอดเขาเป็นอัตโนมัติเสียแล้วสินี่ (ทุกทีจะจับมือผมไปให้กอดเอวเขาไว้) สงสัยผมเริ่มจะชินกับตอนเก่าๆที่เราคบกันเสียแล้ว นี่ถ้าโอ๊ตบอกรักผมอีกสักที สงสัยผมคงตอบตกลงแน่ๆ ไม่ได้ๆ ผมต้องใจแข็งเข้าไว้ ขอเวลากว่านี้อีกหน่อยให้ผมแน่ใจ ขนาดคนก่อน (โปร) ตั้งนานกว่าที่จะเรียกว่าแฟนได้ยังหักหลังกันได้ลงคอ สาอะไรกับครั้งนี้



ประกาศจากนาย ก.กา เนื่องด้วยต้องทำธุระส่งท้ายปีเก่า จึงขอตัวโพสแค่ 1/2 ของตอนก่อน แล้วจะมาต่อวันต่อไป  (ให้ทุกคนไปจิ้นต่อ ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ๆๆ :laugh:)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 31-12-2008 13:33:56
ผมเชื่อ โปร ครับ


มันต้องเป็นแผนการของใครสักอย่าง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 31-12-2008 14:36:11
โปรไม่มาแก้ตัวหน่อยเหรอ :sad4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 31-12-2008 15:55:53
ดีคราบพี่ Koa-ka

ค้างได้น่ากลัวมากเลยอะ

โปร รีบมาไวๆเถอะก่อนที่อะไรๆมันจะกลับไปเป็นเหมือนเก่า แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ

Happy New Year 2009 ขอให้คิดทำอะไร ก็สมหวังหมดน๊า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 31-12-2008 16:45:31
โปรมาจะมาทันเที่ยงคืนวันส่งท้ายปีใหม่ป่ะเนี่ยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: Shumi ที่ 01-01-2009 03:16:23
เอือม ไม่ไปเจอแล้วพูดกันให้รู้เรื่องก่อนล่ะ นายเอกน่าตบนะ  :beat:

จิตวิทยานิดหน่อย ก็หนีซะละ ตาหนึ่งเอ๊ย  :a5:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 01-01-2009 06:46:58
หนึ่งเอ๊ย! เดี๋ยวเจ้าโปรมันก็มาเอาตัวคืน อย่าได้หลงระเริงไปนัก คิดเหรอว่ามันจะยอมง่าย ๆ  :jul3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-01-2009 07:24:51
 :L2:สวัสดีปีใหม่ค่ะ :L2:



มีความสุขมากๆ  สุขภาพแข็งแรงนะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 31 ธ.ค. :ตอนที่ 26.1 เมื่ออดีตหวนคืน...
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 01-01-2009 14:40:36
สวัสดีปีใหม่ครับ

เมื่อคืนไปเที่ยวกับเพื่อนๆมา ไม่ได้กลับบ้านนานละ ไม่รู้ที่เที่ยวเลยให้เพื่อนพาไป ผมเพิ่งรู้เมื่อวานนี้เองล่ะครับว่าเหล้าน่ะมัน "หวาน"  :laugh: :laugh: :laugh: จริงๆนะ เพราะผมไม่เคยดื่ม สรุปว่าเมาแต่พอมีสติครับ กลับมาบ้านยังมีสติพอที่จะอ่านหนังสือนิยาย 555 แต่ตาลายชะมัด :really2:

มาต่อตอนย่อยที่สองครับ คุณ marchmenlo นี่ก็... หึหึหึ ถ้าอยากทราบอะไรนอกเหนือจากนี้ ก็รีเควสได้นะครับ (แต่เรื่อง NC นี่คงยาก เพราะเหมือนมันจะไม่ยอมเขียนสักที)

ปีใหม่ ให้มีความสุข สมหวัง สดชื่น ตลอดเวลา ตลอดปี ตลอดไป ตราบนิรันดร์ นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ



“ไปน้ำพุร้อนกันไหม?”

โอ๊ตถามผมตอนที่ขับรถลงจากดอย

“เหอ... ไกลจะตาย ขับไหวเหรอ” มันไกลมากครับ ข้ามอำเภอไปอีก อำเภอนึงเลย

“ไหวครับ ผมมีคนคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆนี่ไง...”

“รู้ได้ไงว่าให้กำลังใจ”

“ถ้าไม่ให้กำลังใจคงไม่มากอดผมอย่างนี้หรอกครับ”

เอาเข้าไป นี่มือผมไปกอดเขาเป็นอัตโนมัติเสียแล้วสินี่ (ทุกทีจะจับมือผมไปให้กอดเอวเขาไว้) สงสัยผมเริ่มจะชินกับตอนเก่าๆที่เราคบกันเสียแล้ว นี่ถ้าโอ๊ตบอกรักผมอีกสักที สงสัยผมคงตอบตกลงแน่ๆ ไม่ได้ๆ ผมต้องใจแข็งเข้าไว้ ขอเวลากว่านี้อีกหน่อยให้ผมแน่ใจ ขนาดคนก่อน (โปร) ตั้งนานกว่าที่จะเรียกว่าแฟนได้ยังหักหลังกันได้ลงคอ สาอะไรกับครั้งนี้

เราขับไปได้สักพักบนถนนที่จะมุ่งไปสู่ซุปเปอร์ไฮเวย์ จู่ๆก็มีรถเก๋งวิ่งมาปาดหน้ารถ แล้วจอดข้างหน้ารถมอเตอร์ไซด์ โอ๊ตเบรกรถแทบไม่ทันผมมองไปที่รถคันที่จอด ผมจำได้ทันทีที่เห็นเพราะมันเป็นรถของโปร โอ๊ตเห็นว่ารถของโปรจอดเลยจอดด้วย (ผมคิดว่าโอ๊ตคงไม่รู้ว่ารถยนต์นี้ของโปร) โอ๊ตเดินไปที่รถยนต์คันนั้น แต่โปรก็ออกจากรถมาก่อน โปรเหมือนใส่ชุดนิสิตอยู่เลยผมก็ดูยุ่งไปหมด

“ดีคับพี่”

“เฮ้ย ไอ้!!”

“ขอบคุณนะคับที่ช่วยดูแลแฟนผมให้ ตอนนี้พี่หมดหน้าที่แล้วคับ”

ว่าเสร็จโปรก็เดินมาที่ผมตอนที่โอ๊ตกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น โปรมาดึงมือผมออกจากตัวรถมอเตอร์ไซด์ของโอ๊ตไปที่รถของโปร

“ที่รักคับ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันนะ”

โปรพูดตอนที่เดินผ่านหน้าโอ๊ตครับ ผมมองไปที่หน้าโอ๊ต โอ๊ตทำหน้าเหวอมากเลย ผมเองก็แปลกใจในการมาแบบแปลกๆของโปรเหมือนกัน  โปรจูงมือผม (ที่จิรงน่าจะเรียกส่าลากผมไปมากกว่า) มาที่นั่งด้านคนนั่ง เปิดประตูแล้วดันผมให้เข้าไป แล้วก็วิ่งไปด้านคนขับสตาร์ทเครื่องแล้วออกจากตรงนั้นทันที

บนรถผมนั่งนิ่งเงียบ ไม่คุยอะไรผมมองไปที่หน้าโปร ผมเพิ่งสังเกตเห็นถึงรอยเขียวช้ำๆที่มุมปากของโปร

“ปะ...โปรหน้าไปโดนอะไร...”

“ก็หมาเพื่อนพี่ไง พอเจอผมก็ต่อยเลย”

“หมาเพื่อนพี่?”

“หมาจิ้งจอกของแมวน้อยไงคับ”

“อ่อ แล้วทำไมล่ะ”

“ผมจะไปรู้เหรอ วันเกิดผมแท้ๆ จู่ๆเดินเข้ามาชกผมเฉย”

“วันเกิด?” ผมทำหน้างงมากที่โปรบอกว่าวันเกิด

“ผมก็ว่ารอแฟนผมตั้งนานทำไมไม่มา ที่แท้ก็มีเรื่อง เรื่องไม่เข้าท่า”

“...”

ผมเงียบครับ ไม่พูดอะไรเลยตอนนี้ โปรก็ขับรถวนไปเรื่อยแบบไม่มีจุดหมาย ใจหนึ่งอยากจะบอกโปรเหลือเกินว่าผมเจออะไรมาบ้าง อีกใจหนึ่งก็อยากจะขอโทษเหลือเกินที่ผมลืมไม่เคยถามวันเกิดแฟนผมเลย (ผมเคยว่าคนอื่น ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ลืมจะเป็นตัวผมเอง)

“แล้วนี่... ขับรถมาตั้งแต่ตอนไหน”

“เมื่อคืน”

“เมื่อคืนเลยเหรอ”

“ก็ผมไปหาพี่ที่หอแล้วไม่อยู่นินา ก็ตามมาที่นี่แหละ”

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย...”

“ก็ผมอยากให้แฟนเข้าใจไงคับ”

ผมฟังที่โปรพูดแล้ว ผมก็ร้องไห้ออกมา ตอนนี้ผมมีหลายเรื่องหลายอย่างมากที่อยากจะบอกอยากจะคุยกับโปร แต่ตอนนี้คิดว่าโปรคงจะรู้ว่าผมอยากจะพูดอยากถามอะไร

“พี่หนึ่ง  ผมขอโทษ...”

ผมส่ายหัว พยายามยิ้มให้โปรเห็นแต่มันก็คงประหลาดๆ การยิ้มทั้งน้ำตาคงแปลกน่าดู โปรดึงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาซับให้ผม แต่ผมก็ส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร

“ผมอยากบอกพี่ว่า  ผมไม่ได้ทิ้งพี่ไปไหน ช่วงก่อนผมยุ่งมากเลย เรื่องเรียนบ้าง เรื่องเพื่อนบ้าง เรื่องกิจกรรม
และก็ พี่เอม”

“ตก..ลง..แล้ว..?” ผมพูดออกมาด้วยเสียงเครือๆ

“พี่หนึ่ง ขอให้เชื่อใจผมนะคับ แฟนของผมคนเดียวคือพี่หนึ่ง พี่เอมก็เป็นพี่รหัสผม ผมไม่รู้ว่าพี่เอมทำอะไรบ้างถึงให้เราต้องมาเจออะไรอย่างนี้ แต่ผมก็บอกพี่เค้าไปแล้วว่า ผมรักพี่หนึ่งคนเดียว”

“แล้วทำไมก่อนหน้าถึงไม่โทรมาหาพี่บ้างเลยล่ะ”

“ผมอยากโทรไปหามากเลยคับ แต่มือถือผมเสีย บอกแล้วไง อีกอย่างพี่เอมก็ช่างจะสรรหาอะไรมาให้ผมยุ่งตลอด”

“ก็เลยไม่ได้ติดต่อพี่เลย”

“คับ เอ้อ รู้ป่าวแฟนพี่เกือบได้เป็นเดือนคณะน๊า”

“ฮะ อะไรนะ”

“ช่าย แต่ไม่ติดหรอก มีคนอื่นหล่อกว่าเยอะ มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยว่างช่วงก่อนหน้า”

“เออ แล้ววันนั้น ที่เอมมารับพี่”

“ก็ผมจัดวันเกิดไงคับ พอดีไม่ได้บอกพี่ก่อนกะจะว่าเซอร์ไพร์หน่อยให้พี่เอมไปรับ ที่ไหนได้”

ผมรู้สึกผิดมากๆ ที่ผมไม่รู้เลยว่าวันเกิดของโปรคือวันไหน ผมไม่เคยถามเลยครับ

“พี่ไม่ได้ซื้ออะไรให้เลย...”

“ไม่ต้องๆ ตอนนี้ผมก็ได้ของขวัญวันเกิดแล้ว”

“อะไรเหรอ”

“ก็ผมได้แฟนกลับมาแล้วไงล่ะคับ”

ผมได้แต่ยิ้มครับ ผมบอกให้โปรกลับไปที่บ้านของผมก่อนแล้วพักสักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับไปเรียนต่อโดยผมสัญญาว่าจะกลับไปพร้อมกับโปรด้วย

“ที่จริงผมก็เกือบจะเสียแฟนให้พี่หมอฟันแล้วนะนี่”

“บ้าสิ”

“บ้าอาราย เห็นซ้อนท้ายกันอยู่”

“ก็จะไปเที่ยวกันเท่านั้นเอง”

“แหม่ๆ  ทีกะผมไม่เห็นเคยพาไปไหนสองต่อสองเลยนะ”

“งั้น ก็ไปอาบน้ำที่บ้านพี่ก่อนแล้วจะพาไป”

“เจงอ่ะ”

“จริง”

“งั้นไปกันเลย!!!”

แล้วเราก็ถึงบ้านผมอย่างปลอดภัยครับ คุณแม่ผมรู้จักกับโปรดีอยู่แล้วเลยไม่ค่อยเป็นปัญหาอะไรแต่บอกว่าที่มานี่เพราะมาธุระด่วนให้คุณพ่อของโปร คุณแม่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อครับผมเองก็บอกว่าจะกลับไปกทม.พร้อมโปรวันพรุ่งนี้เลย

หลังจากที่โปรอาบน้ำเสร็จ ผมก็พาโปรขึ้นมอเตอร์ไซด์ของผมเองไปเที่ยวตามที่ต่างๆในตัวเมือง นี่เป็นครั้งแรกครับที่ผมและโปรเที่ยวที่บ้านผมเพียงสองคน ทุกทีจะมากันหลายคน ผมเห็นโปรสนุกมาก ถามผมถึงทุกเรื่องในทุกที่ที่ผ่านหรือแวะ ผมเองก็อธิบายถูกบ้างไม่ถูกบ้างว่ากันไปครับ ผมไม่เก่งประวัติศาสตร์นี่นา แล้วคืนนี้เราก็นอนด้วยกัน หลังจากที่ไม่ได้นอนด้วยกันมานานกว่าหลายเดือนโปรนอนกอดผมแน่นเลยเหมือนกลัวผมจะหนีไปไหน

“โปร  โปร”

“ฮือ.....”

“ไม่ต้องกอดแน่นก็ได้ พี่อึดอัด”

“ม่ายอาว... กลัวหนี”

“ไม่หนีไปไหนหรอกน่า”

“ม่ายเชื่อ เมื่อวานยังหนีเลย...

หนึ่ง....
อย่าหนีไปไหนอีกนะ”

“ครับ....”

แล้วโปรก็กอดผมแรงขึ้นก่อนที่จะคลายไป จากนั้นผมก็กลับไปในอ้อมกอดของโปรในคืนนั้นเอง สรุปแล้วว่าถ่านไฟเก่ามาเจอน้ำราดไปเสียแล้วล่ะสิครับนี่ จะว่าไปไม่รู้จะเสียดายหรือยังไงดีนะ (เอะ...หรือว่านี่ผมจะนอกใจโปรหรือ ครับนี่)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-01-2009 15:45:05
อย่างเอม นี่ต้องเจอรุมโทรม ริจะแย่งแฟนชาวบ้าน  :m16:

โปรมั่นคง น่ารักเท่ซู๊ดดดดดด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 01-01-2009 18:01:11
อย่าปล่อยให้เอมลอยนวล :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-01-2009 18:40:11
แบบนี้ ต้องไปเคลียร์กับไอ้ตัวปัญหา
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-01-2009 22:23:08
เจ้าตี๋โปรพ้นข้อกล่าว   :กอด1:

แต่ เอม นี่สิ ทำแบบนี้ได้อย่างไง แบบนี้ต้องรีบเคลียร์ ด่วนนนนนนนนน :m16:



สวัสดีปีใหม่นะคะ

(http://i64.photobucket.com/albums/h200/BlackCrescent/Avatar/2009.png)
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 02-01-2009 00:25:15
แหมดีนะ ตี๋โปร มาได้ทันการพอดี อิๆมิฉะนั้นถ่านไฟเก่าได้ลุกแน่นอน

แต่แหมแอบเสียดายอะโปรมาเร็วไปหน่อยนะ น่าจะมาช้าหน่อยแล้วมาเห็นฉากจู๋จี๋กัน

จะได้ตามเคลียร์ตามง้อกันยาวหน่อย เนี่ยเท่าที่อ่านดูเลยแอบฟันธงนะว่า

ไม่น่าเกิน 5 ตอนละกันว่าจบชัว อิๆ แล้วจะรออ่านต่อคราบผม
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 02-01-2009 01:17:37
เฮ้อออออออออออออ

โชคยังดีน้า

ที่คืนดีกันได้สำเร็จน่ะ

นังเอมถอยไป 55555555555
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 02-01-2009 08:37:03
ดีกันๆ เย๊!!!~



:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&qu
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 03-01-2009 15:20:52
สวัสดีครับ

ขอกราบอภัยทุกๆท่านที่ไม่ได้มาต่อให้ พอดีช่วงปีใหม่นี่ผมมีธุระเตวไปนั่นไปนี่มากมาย เข้ามาอ่านนิยาย เรื่องเล่าคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้โพสอะไรง่า
วันนี้เอามาลงต่อละครับ อ่ะๆๆๆ ผมเคยบอกแล้วนะครับว่าเรื่องใกล้จบแล้ว อีกไม่กี่ตอนเอง..... :m15:

เรื่อง NC นี่ ผมฝากขอโทษแทนไอ้นายเส้นด้วยนะครับ มันว่า...จะไม่เขียนเด็ดขาด มันว่า มันว่า แค่นี้ก็สวยงามพอแล้วง่ะ แต่ถ้าให้เขียนอย่างอื่นจะทำให้โดยทันทีอ่าคับ :sad11:

ขอบคุณที่ติดตามตลอดมาครับ



ตอนที่ 27

ในเช้าวันอาทิตย์

แสดงแดดส่งมาที่หน้าต่างห้องนอน ผมค่อยๆลืมตาขึ้น พยายามหรี่ตาสู้แสงแดด ผมมองไปที่รอบตัวก่อนที่สมองจะคิดอะไรผมรู้สึกว่ามีใครเอาขามาพาดที่ตัวผม ผมหันไปที่เจ้าของขานั้น เจ้าตี๋โปรนี่เอง นี่คงคิดว่าผมเป็นหมอนข้างหรือไงไม่รู้เอาทั้งมือทั้งขาพาดมาที่ตัวผม ผมมองไปที่โปรแล้วจ้องหน้าตอนที่โปรหลับ เจ้าตี๋โปรหลับหน้านิ่งๆไม่เหมือนกันทุกทีที่จะทำหน้ายิ้มแบบกรุ้มกริ่ม ผมรู้สึกตลกนะครับ ไม่ค่อยจะเห็นโปรทำหน้านิ่งๆแบบนี้เท่าไหร่

แล้วจู่ๆโปรก็ลืมตาขึ้นตอนที่ผมจ้องหน้าเขาอยู่พอดี

“เป็นอะไรมากป่าว มองหน้าคนอื่นแล้วยิ้มๆ”

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”

“อืม.... อยากหลับต่....”

ว่าแล้วโปรก็ดึงผมไปกอดอีกแล้วก็หลับตาอีกครั้ง ผมเหลือบไปมองที่นาฬิกาก็รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาสายของวันแล้ว ผมเลยจะลุกขึ้นมาเพื่ออาบน้ำเตรืยมเดินทาง

“อ๊า.... อย่าไปไหนดิ นอนก่อนๆ”

“นี่สายแล้วนะ เดี๋ยวกลับไปถึงดึกพอดี”

“ขออีก 5 นาที”

“งั้นก็นอนไปก่อนแล้วกัน พี่ไปอาบน้ำก่อนละ”

พูดเสร็จผมก็ลุกออกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำเลยครับ ปล่อยให้โปรนอนอยู่ตรงนั้นคนเดียว ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงไปหาคุณแม่ข้างล่าง ท่านได้ซักชุดนิสิตตอนที่โปรใส่มาเมื่อวานนี้ให้แล้ว เมื่อวานพอโปรอาบน้ำเสร็จผมก็ให้ใช่ชุดของผมที่มีอยู่ครับ โชคดีที่โปรใส่ได้พอดีเลยรอดตัวไป ไม่อย่างนั้นคงต้องไปหาซื้อให้ใหม่แน่ หรือถ้าใส่แต่ชุดเก่าก็เหม็นแย่สิครับ จริงไหม ผมขึ้นมาที่ห้องนอนก็ยังเห็นโปรนอนหลับอยู่ผมเลยเรียกโปรอีกครั้ง

“โปร พี่เอาชุดมาให้แล้วนะ” ผมเรียกโปร แต่โปรก็ยังไม่ยอมตื่นอีกน่ะครับ “นี่ยังนอนอยู่อีก ตื่นได้แล้ว”

“โปรหลับอยู่” โปรพูดครางออกมาทั้งๆที่หลับตาอยู่

“หลับ  แล้วเมื่อกี้ใครพูด”

“ก็โปรละเมอ”

“นะ พอเลย ลุกๆ ไม่งั้นพี่กลับคนเดียวก็ได้”

ผมพูดจบโปรลุกขึ้นมาแต่โดยดีครับ ผมล่ะส่ายหัวเลยชั่งจะกวนได้ดีจริงๆ แต่ผมก็ไม่เคยโกรธนะครับ เพราะสุดท้ายผมก็รู้ว่าไงโปรก็ต้องยอมผมอยู่ดี

ในที่สุดก็ถึงเวลากลับ ผมบอกลาคุณพ่อคุณแม่ ท่านทั้งสองก็อวยพรให้ครับ แต่ก็เป็นห่วงที่โปรจะเป็นคนขับรถให้ แต่เพราะผมขับรถไม่เป็นเลยไม่สามารถช่วยโปรขับได้

“ไปไหวแน่นะลูก” คุณแม่ผมถามโปรครับ

“ไหวคับแม่ ตอนมาก็ยังได้เลย”

“ไงถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาแล้วกัน” คุณพ่อผมพูดต่อ

พวกผมก็รับคำแล้วก็ขึ้นรถไปครับ รถออกได้สักพักผมก็ลืมไปว่าโปรยังไม่มีใบขับขี่ ทีนี้ขับทางไกลๆโดนตรวจง่ายจะตาย ถ้าโดนตรวจเข้าจะไม่แย่เอาเหรอ

“โปร  นี่เรายังไม่มีใบขับขี่นิ”

“ฮือ? ทำไมเหรอ”

“อ้าว ถ้าโดนตรวจขึ้นมาละ”

“ตรวจก็ตรวจสิคับ”

“อ้าวแล้วจะทำไงล่ะ”

“ผมก็จะยื่นใบนี้ให้ไง”

ผมก็สงสัยว่าจะยื่นใบอะไรให้ โปรเอื้อมไปที่บังแดดหน้าคนขับ ผมเห็นบัตรอะไรหลายอย่างอยู่บนนั้นครับ แล้วโปรก็หยิบบางอย่างยื่นมาให้ผม

“ใบขับขี่??”

“ช่าย”

“ไปทำมาตอนไหนเนี่ย”

“ก็วันที่ก่อนมาหาพี่ไง พอวันเกิดปุ๊บ ผมก็ไปทำเลย ที่จริงผมกะจะพาพี่ไปเที่ยวอยู่ พอดีพี่โจมาหาผมที่มหาลัยก่อนที่ผมจะไปทำ ชกผมอ่าดิ เลยได้ลองขับไกลๆมาถึงนี่”

“โจทำขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ช่าย ผมก็เลยต่อยกลับไปสองสามที นี่ถ้าพี่ต้อมกะพี่พจน์ไม่ช่วยห้ามนะ”

“ดีแล้วอย่ามีเรื่องกันเลย”

“ก็มาหาว่าผมทิ้งพี่ได้งาย ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมไปหาพี่ที่ห้องก็ไม่อยู่ เพื่อนพี่บอกว่าพี่น่ะกลับมาบ้าน แถมเพื่อนพี่ก็จะชกผมอีก วันนั้นมันวันอะไรก็ม่ายรุ”

“อืม....”

“นี่แฟนโดนชกนี่พูดแค่ อืม เหรอ”

“ก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดทำไมล่ะ”

“โหยยยยย  เพ่ ผมไม่ได้รู้เรื่องอารายเล้ย เจงๆ ว่าแต่มันเรื่องอะไรกันนี่ ทำไมคนอื่นถึงว่าผมทิ้งพี่ไปหาพี่เอม”

“.....” 

ผมเงียบครับ ไม่อยากจะบอกว่าเอมทำอะไรไปบ้าง เพราะผมคิดว่าถึงขนาดนี้แล้วจะให้ผมคิดมากว่าโปรจะไปเป็นแฟนกับเอม

“แล้วพี่หนึ่ง โกรธผมเหรอ”

“โกรธเรื่อง??”

“ที่ไม่ได้ไปหาพี่เลยก่อนหน้า”

“เปล่านิ”  ผมพูดปด

“คงคิดว่าผมนอกใจแล้วสินะคับ ถึงจะกลับไปหาพี่หมอฟัน” โปรพูดไม่เต็มเสียงนักครับ

“เปล่านะ ก็แค่คนรู้จักกันมา”

“คร๊าบบบ ผมเชื่อๆ”

“โปร คนเราคบกัน ให้เชื่อใจกันนะ”

“คำพูดนั้นผมน่าจะบอกพี่มากกว่า” โดนตอกกลับมาอย่างนี้ผมล่ะพูดไม่ออกเลยครับเพราะผมเองก่อนหน้าไม่ได้ไว้ใจโปรเลย

“ก็เราทำให้พี่คิดนิ” ไงผมก็คงต้องพูดเหตุผลว่าทำไมผมเองต้องคิดอย่างนั้น

“เราเล่นไม่ติดต่อพี่มาเลยนินา”

“ก็ขอโทษแล้วไงคั๊บ เป็นช่วงที่มือถือผมเสีย งานก็เยอะอ่ะ”

“แล้วไหนจะเรื่องของเอมอีก....” ผมพูดแทรก

“พี่เอม??
 เออ ทำไมทุกคนถึงคิดว่าผมกับพี่เอมคบกันด้วย?”

“อ้าว นี่เราไม่รู้หรอกเหรอ”

“ก็เค้าเป็นพี่รหัสผมนิ ไปไหนมาไหนกันเรื่อยก็ไม่แปลกนิคับ”

“แปลกสิ  พี่รหัสที่ไหนเค้าตามดูแลน้องทุกฝีก้าวบ้าง แล้วก็ยังจะมาพูด..”  ผมหยุดพูดไปเลยครับ เพิ่งนึกออกว่าไม่ควรพูดไป แต่คงไม่ทันแล้วล่ะครับ

“พี่เอมพูดอะไร?”

“...”

“พี่เอมพูดอะไรพี่หนึ่ง”

“...”

“พี่เอมพูดอะไร บอกมานะ”

“เอมบอกว่า...”

“ว่า??”

“บอกว่าโปรเป็นแฟนกับเอมแล้ว แต่ไม่กล้าบอกพี่...” ผมพูดเสียงเบาๆ

“เหอออออ อะไรนะ พี่เอมพูดงั้นหรอ?!?!?!”

“อืม...”

“บ้าดิ พูดกะพี่ตอนไหน ตอนที่ไปรับพี่น่ะเหรอ ถึงว่า ทำไมพี่เอมมาบอกถึงว่าพี่งอนไม่ยอมมาด้วย”

ตอนนี้โปรดูเหมือนจะอารมณ์เสียมากจนขับรถเร็วผิดปกติจนผมเองต้องเตือนดีนะครับที่ทางจากบ้านผมไปกรุงเทพฯเป็นทางสี่เลนตลอดแม้แต่ตอนขึ้นเขา ไม่อย่างนั้นคงได้มีเรื่องแน่

จนแล้วจนรอดเราก็มาถึงกรุงเทพฯอย่างปลอดภัยครับ ถึงผมต้องเตือนโปรตลอดทางก็ตามเถอะ

“เดี๋ยวผมต้องไปคุยให้รู้เรื่อง”

“คุยอะไรเหรอโปร”

“คุยกะพี่เอม”

“ไม่ต้องหรอก ถ้าเราไม่ไปสนเค้า เค้าก็ทำอะไรไม่ได้”

“แต่ว่า...”

“เอาน่า”

“อ่ะ ไงพรุ่งนี้ผมมารับพี่ไปทำงานนะ ตอนเย็นห้ามกลับเองด้วย ผมจะไปรับเอง”

“เอ่อ... โปร..”

“คับ?? ว่า??”

“ไม่ต้องหรอกนะช่วงนี้..”

“อ้าว ทำไมอ่า ยังโกรธผมอีกเหรอ”

“เปล่าๆ คือพี่ออกจากงานแล้ว”

“ออกจากงาน!!! ทำไมอ่ะ มีเรื่องพี่เอมนี่ออกจากงานเลยเหรอครับ นี่พี่กะหนีผมจริงๆใช่ไหม”

“เปล่าๆ  ไม่ใช่นะ”

“นี่พี่ มาทำงานที่บริษัทป๊าผมเองดีกว่า เดี๋ยวผมบอกป๊าให้”

“ไม่ต้องๆ คือพี่ได้งานแล้ว”

“ได้งานแล้ว??  งานอะไรอ่ะ”

“พี่จะทำงานราชการ...”

“ฮ้ะ อะไรนะ ราชการ!?!?  นี่พี่พูดจริงเหรอ”

“อืม”

“ที่ไหนเหรอ”

“ก็กระทรวงที่อยู่ทางไปมหาวิทยาลัยโปรแหละ”

“หา??  งั้นแสดงว่ากระทรวงนั้นน่ะสิ ที่พี่บอกว่าเคยทำงาน”

“อืม”

“โห  ดีสิ ผมจะได้ไม่ต้องย้อนไปส่งพี่”

“อืม”

“แต่เค้าว่าเงินเดือนน้อยนิครับ”

“ก็คงงั้น”

“อืม.....งั้นมาอยู่กับผมไหม ผมเลี้ยงพี่เอง”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เอางั้นเลยเหรอ”

“เอ้า ผมพูดเจง”

“พี่จะไปอยู่ที่บ้านเราได้ไงล่ะ”

“ครายบอก ผมจะออกไปอยู่คนเดียวละ เบื่อป๊าพูดมาก”

“นี่อย่าบอกนะว่าจะไปอยู่หอคนเดียว?”

“ม๊าผมซื้อคอนโดไว้ใกล้ๆมหาลัยนานละ กะให้เค้าเช่า แต่ตอนนี้ว่างอยู่”

“แล้วออกไปอยู่คนเดียว แม่ไม่ว่าเหรอ”

“ก็ผมเรียนมหาลัยแล้วนิครับ ม๊าไม่ว่าอะไรหรอก”

“งั้นเหรอๆ” ผมหยุดคิด

“งั้นอาทิตย์หน้าผมจะมาขนของพี่ไปเลยละกันนะ”

“เฮ้ย พี่ยังไม่ได้บอกเพื่อนพี่เลยนะ แล้วพี่ยังไม่ได้ตกลงนะว่าจะไปอยู่ด้วย”

“ไม่ได้ๆ ผมไม่ไว้ใจใครละ เอาพี่มาอยู่ด้วยนี่ล่ะ สบายใจสุด”

“เฮ้ย ให้พี่พร้อมก่อนสิ เพื่อนพี่เองพี่ก็หารค่าเช่าอยู่ด้วยกันอยู่ จู่ๆไปเลยได้ไง”

“งั้นพี่ไปบอกเพื่อนพี่ก่อนนะว่าต่อไปจะไปอยู่กะแฟนละ เบื่อนอนกอดด้วยแล้วไปนอนกอดแฟนดีกว่า”

“ไอ้บ้า”

แล้วโปรก็ทำตากลิ้งไปกลิ้งมา ก่อนเหลือบมามองผมแล้วยิ้มให้ครับ ผมก็เอามือไปลูบหัวโปรเบาๆประมาณว่าหมันไส้

และแล้วก็ถึงหอผมจนได้ เพื่อนผมตกใจพอควรที่ผมกลับมามันนึกว่าผมเองจะไม่กลับมาอีกแล้วเสียอีก แบบว่ามันไปบอกทางหอว่าจะคืนห้องแล้วเลยน่ะครับ มันเลยจะไปบอกเค้าว่าไม่คืนห้องแล้ว แต่ผมก็ถามว่าถ้าคืนห้องไปแล้วนี่เพื่อนผมจะอยู่กับใคร

“ก็ไปอยู่กะแฟนกูดิ”

“อ้าวเหรอ อยู่ไกลกันไม่ใช่เหรอ”

“ก็อยู่หอตรงกลางทางระหว่างที่ทำงานเราสองคนได้ กูเองก็คุยๆไว้แล้ว”

“เออ  อืม...”

“ทำไมเหรอ”

“โปรบอกจะให้เราไปอยู่ที่คอนโดกับเค้าด้วย”

“ก็เอาดิวะ คืนดีกันแล้วนิ กูก็จะไปอยู่กะแฟนก็ได้”

“จะดีเหรอ”

“ดีๆ มึงจะได้คุมพฤติกรรมไอ้เด็กนั่นด้วย”

“เออนะ พูดง่ายเนาะ”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“อ้าว...”

“เออน่า ไปอยู่กะเด็กนั่นแหละ ดีละ”

“อืม”

นี่ผมจะดีใจหรือว่ายังไงดีครับนี่ที่ผมจะได้ไปอยู่กับโปรแล้ว เราคงจะมีเวลาให้กันมากขึ้น แต่เค้าว่ายิ่งอยู่ใกล้กันมากมันจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันมากตามไปด้วย ไม่รู้จริงหรือเปล่านะครับนี่ กลัวๆอยู่เหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-01-2009 16:08:01
อ้างถึง
“ไม่ได้ๆ ผมไม่ไว้ใจใครละ เอาพี่มาอยู่ด้วยนี่ล่ะ สบายใจสุด”

เจ้าตี๋โปร สุดยอดดดดด  o13

คนรักของเรา ใครจะดูแลเท่าตัวเราเอง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 03-01-2009 16:31:00
รักนู๋โปร!!!~
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 1 ม.ค. :ตอนที่ 26.2 "อย่าหนีไปไหนอีกนะ...&am
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 03-01-2009 17:13:56
ดีกันๆ เย๊!!!~



:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

 :m23:น้องซินจ๊ะสายตาผู้สูงวัยอย่างพี่มันอ่านว่า  ตีกันๆ เย๊!!!~  แหละ
พี่งงเลยต้องกลับมาอ่านอีกรอบเลยทีเดียว
พี่ว่าแล้วเชีียวน้องซินของพี่ต้องไม่ใจร้ายอย่างนั้นแน่ ๆ
แล้วพี่ก็รู้ว่าพี่เลือกคนไม่ผิดจริง ๆ จ๊ะ My Honey  :m3:
 

:pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-01-2009 17:21:31
แล้วก็เข้าใจกัน  :z2: งานนี้ต้องไปเล่นเอมให้หนักนะโปร  o18
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-01-2009 18:46:48
อิอิ..............แหมน่าจะจัดการไอ้เอมไปเลย ใจดีทำไมเนี่ย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 03-01-2009 19:37:51
จัดไปให้ เอม   :beat:   :beat:  :beat:  อย่าช้า 

เอาให้หนักๆๆ   :laugh:

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 03-01-2009 20:12:33
ย้ายไปอยู่ด้วยกัน :impress2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 03-01-2009 23:32:03
หึหึ ไอ้เส้นฯมันรึ โทษที่เพิ่งเห็นว่ะ เปลี่ยนบทใหม่ด้วย หุหุ

วาน ก.กา ลงเร็วๆด้วยนะ เดียวเราจะได้เอาตอนที่ไอ้เส้นวานเราเขียน

ลงต่อให้

ปล.

ทุกท่านไม่ต้องตกใจครับ ผม(โฟล์คเต่า) ไอ้เส้นฯ(กราฟ) และ ก.กา(กา)

เป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมนะครับ พอดีไอ้เส้นฯ บอกได้รับความนิยมมาก

แล้วแฟนๆเรียกร้องให้ลงฉาก... มันเขียนไม่เป็น เลยวานผมให้เขียนให้

ผมเขียนเสร็จแล้ว ส่งหมอบให้ ก.กา แล้ว ก.กา มันไม่กล้าลง ถึงแม้นไอ้เส้นฯ

มันอนุญาตแล้ว อย่างไรก็ช่วยกันเชียร์เป็นกำลังใจให้ ก.กา เอาลงด้วยนะครับ

ถ้ามันไม่ลงเดียวผมลงเอง 555+ ขู่บังคับ

ปล.ของ ปล.

เร็วนี้เดียวจะแต่งนิยายลงบ้างเป็นกำลังใจด้วยนะครับ โฆษณาสะงั้น พอดีที่ผ่านๆมา

เขียนนิยาย ชาย-หญิง ตอนนี้มีแผนเขียน ชาย-ชาย แต่ยังไม่แน่ใจว่าเมื่อไรจะลงมือ

555+
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 04-01-2009 01:58:36
โปร นายต้องจัดการ เอม ให้รู้เรื่องไปเลยนะจะได้ไม่เกิดแบบนี้อีก สู้ๆน๊า อิๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 04-01-2009 20:36:38
รักกันนะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 05-01-2009 05:20:33
 :really2:  สวัสดีปีใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 3 ม.ค. :ตอนที่ 27 มาพร้อมคำขออภัยครับ...
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 05-01-2009 10:03:16
สวัสดีครับ

ไอ้คุณ XTeND (โฟล์คเต่า) ที่เคารพ เมิงแน่ใจรึที่จะลง กรูอ่านแล้วไม่รู้ว่าเมิงคิดได้ไง เมิงจิ้นซะเพื่อนหนึ่งกรูเสียหมดทำกรูอิจฉามันไปเลยไอ้เวงงง :angry2: ไอ้ตรงบรรยายสภาพไอ้โปรนะ เมิงไปแอบดูเด็กตี๋ที่ไหนมาหรือไง จิ้นได้อีก กรูอ่านแล้ว ไม่รู้ไอ้นายเส้นฯจะว่าไง แต่กรูคิดว่ามันจะพูดว่า "มันไปแอบดูกรูตอนไหนวะ" ก๊ากกกกๆๆ :laugh: :laugh: ไม่ก็ "กรูไม่เคยหรอกแบบนี้ เพราะกรูเป็นคนกระทำ"  :oo1: :jul3:
ไงกรูจะดูน้ำเสียงไอ้นายเส้นฯก่อน ว่ามันอยากให้ลงไหม แต่ก็อย่างว่า เมิงลงให้เองเลยก็ได้ กรูอนุญาต!!!!! o13

สำหรับท่านผู้อ่านที่รักทุกๆท่าน อีกไม่กี่ตอนจะจบแย้วคร๊าบบบบบบบบบบ ขอกำลังใจให้นักโพสสุดน่ารักคนนี้ด้วยน๊าคร๊าบบบบบ
เรื่องที่เอมจะโดนอะไรบ้างนั้น.... หนึ่งมันคงเป็นนายเอ๊ก นายเอกอ่าแหละครับ นิสัยดี.... :call:

ขอบคุณที่ติดตามครับ
ปอลอ ป่อล่อ ป้อล้อ ป๊อล๊อ ป๋อล๋อ. ไอ้คุณ XTeND (โฟล์คเต่า) ให้กรูเป็นคนลงเรื่องของเมิงให้ดีกว่า กรูจะได้ปั่นคะแนนตัวเองไปด้วย กั๊กกๆๆๆ :laugh:



ตอนที่ 28

จนแล้วจนรอดก็ถึงวันที่ผมไปสัมภาษณ์งาน โดยที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยครับ ผมตกลงกับเจ้านายแล้วว่าจะบรรจุตามตำแหน่งที่ท่านบอก ก็ถือเป็นพระคุณอย่างสูงที่ผมได้ถูกเรียกมาในครั้งนี้ และท่านก็ถามว่าอยากจะลงที่กรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด พอดีตำแหน่งที่ผมทำมีว่างที่ต่างจังหวัดด้วย แต่แน่นอนครับผมเลือกที่จะทำที่กรุงเทพฯ แม้ว่าเงินเดือนจะน้อยหน่อย แต่ต่อไปถ้าผมอยู่กับโปรแล้วค่าหอก็ไม่เสีย อะไรๆคงดีขึ้น ผมจะเริ่มงานในต้นเดือนหน้านี้ทันที แต่ช่วงแรกผมเองอาจจะลำบากหน่อยเพราะเงินเดือนข้าราชการนั้นจะตกเบิกอย่างต่ำสามเดือน (คือไม่มีเงินเดือนระหว่างนี้น่ะครับ แต่จะได้ทั้งหมดทีเดียวในเดือนที่สาม) แต่ยังดีครับที่ผมยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง คงไม่ลำบากอะไรแต่ที่บ้านผมคุณแม่ก็บอกว่าถ้าไม่พอใช้ท่านจะส่งมาให้ แต่ผมก็เกรงใจท่าน  เพราะตลอดปีที่ผ่านมาที่ผมมีเงินเดือนผมเองไม่เคยขอท่านเลย

ในวันนั้นโปรก็มารับผมที่ที่ทำงานใหม่ครับ ผมคิดจะแกล้งโปรได้หน่อยละ

“ดีนะ อยู่ใกล้มหาลัยเลย”

“อืม....”

“เป็นอะไร สัมภาษณ์ไม่ผ่านเหรอ”

“เปล่า...” ผมทำหน้าเครียด ตอนนี้ผมเงียบ โปรถามคำ

“ฉลองงงงงๆๆๆๆ  เย็นนี้ไปกินที่ไหนดี”

“.....”

“หนึ่ง เป็นไรคับ” โปรไม่ค่อยจะเรียกผมว่าพี่แล้วล่ะครับเดี๋ยวนี้

“....”

“มีเรื่องอะไรเหรอ”

“....”

“ผมเป็นแฟนหนึ่งนะคับ มีอะไรก็บอกผม”

“พี่.... คงไม่ได้ทำงานที่นี่...”

“ไม่ได้ทำงานที่นี่ อ้าวไหนว่าสอบสัมภาษณ์ไม่มีปัญหานิ”

“ก็ผ่านหมด แต่...”

“แต่??”

“ตำแหน่งที่ว่างมัน ต้องไปอยู่ที่ต่างจังหวัด...”

“....”

ผมไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้โปรกลับเป็นฝ่ายทำหน้าเครียดแทน ผมละแทบจะอดหัวเราะไม่ไหวต้องเบือนหน้าไปทางอื่นเลย ผมไม่ค่อยได้เห็นหน้าตอนโปรเครียดเท่าไหร่ มันเลยดูตลกจริงๆ

แล้วจู่ๆโปรก็จอดรถข้างทาง

“หนึ่ง หันมาทางนี้หน่อยคับ” ผมพยายามทำหน้าให้เป็นปกติให้มากที่สุด แล้วหันไปทางโปร

“ผมมีเรื่องจะบอก” ตอนนี้ผมไม่ต้องแกล้งทำหน้าปกติเลยครับ ผมทำหน้างงๆ แบบงงของจริงเลย

“เรื่อง??”

“ที่จริงผม ตัดสินใจ... คบกับพี่เอมแล้ว...” ผมนี่แทบอ้าปากค้างเลยครับ ไม่รู้เลยว่าโปรจะพูดออกมาต่อหน้าผมแบบนี้ ผมทำอะไรไม่รู้ไปเลย

“ผมอยากให้หนึ่งรู้อีกว่า...” ผมเองพยายามตั้งสติต่อไปว่าโปรจะพูดอะไร

“เวลาโกหกคนอื่นน่ะ มันจะโดนแบบนี้....”

“ฮ้ะ??? อะไรนะ”

แล้วโปรก็ระเบิดหัวเราะออกมาใหญ่เลยครับ ผมนี่งงเป็นไก่ตาแตกไปเลย

“ตลกอ่า หน้าหนึ่งตอนตกจาย“ ว่าแล้วก็ยังหัวเราะอีก

“ละ แล้วนี่หมายความว่าไง”

“ก็แกล้งก่อนนินา ช่วยม่ายด้าย”

“รู้ได้ไง”

“ก็พูดแล้วอมยิ้มนินา เป็นใครก็รู้”

“เฮ้อ กะว่าหลอกสำเร็จแล้วเชียว...”

“แล้วเป็นไงล่ะ โดนหลอกบ้าง”

“ก็.. นะ”

“ทีหลังอย่าหลอกเชียวนะ หลอกไม่สำเร็จหรอก”

“แล้วจะลองดู”

“อ่ะได้เลย แล้วจะคอยดูนะ”

ผมคิดว่าต่อไปคงจะต้องวางแผนให้มันดีกว่านี้แล้วล่ะครับ เดี๋ยวจับผิดได้แบบนี้ผมท่าจะแย่แน่

ตกลงแล้วเย็นนี้ผมก็ไปทานข้าวกับโปรครับ ตอนแรกโปรกะว่าจะไปทานในห้างแต่ผมขอไว้ว่าขอเป็นร้านที่หน้าหอผมแทนครับ

“หนึ่ง สั่งอะไรอ่ะ”

“ผัดซีอิ้ว”

“เอาด้วยจิ” โปรพูดผมก็จดรายการในกระดาษแล้วส่งให้พี่คนทำอาหาร

“เดี๋ยวนี้ไม่เคยเจอกันเลยนะน้อง” พี่คนทำคุยกับผม

“พอดีกลับบ้านมาน่ะครับ”

“เหรอ อ้าวแล้วไม่ไปทำงานเหรอ”

“เปลี่ยนงานแล้วครับ”

“อ่อ” พี่แกพูดไปทำอาหารไปด้วยน่ะครับ

“งั้นผมไปนั่งก่อนนะ” ว่าแล้วผมก็กลับไปนั่งที่เดิม

“จีบคนขายหรอ” เอาละ แฟนผม

“บ้าสิ คนเราเห็นกันมานานก็ต้องคุยกันบ้างเป็นธรรมดา”

“คร๊าบบบบ”

“พี่จากตรงนี้ไปก็คงจะคิดถึงแย่”

“งั้นเลยๆ เดี๋ยวพามากินข้าวที่นี่ทุกวันเลย ดีไหม”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ขอให้ตลอดนะ”

“อย่าเบื่อก่อนละกาน”

พี่คนขายเอาผัดซีอิ้วมาส่งที่โต๊ะแล้ว ผมกับโปรก็ทานกัน บางทีโปรก็มาแย่งหมูจากจากผมไป ผมก็ไปแย่งกลับคืนมา โปรก็ยังจะเอาไปอีก จนผมนี่ต้องยอม ก้มหน้าทานต่อไป แต่สักพักโปรก็เอาหมูชิ้นที่เอาไปมาคืนครับ

“เอ้อ จะว่าไปนี่ เอมเป็นไงบ้าง”

“เหมือนเดิม”

“เหมือนเดิม??”

“ช่าย ตามติดเหมือนเดิม”

“อ้าวแล้วนี่...”

“อย่าคิดอะไรเชียวนา ผมห่างเค้าแล้วแต่เค้าไม่ยอมห่างผม”

“แล้ว คิดว่าไง”

“คิดว่าคงจัดการให้สมใจอยากพี่แกซักกะที”

“ยังไง”

“แล้วจะรู้เองน่ะ ไงตอนนี้ปล่อยไป รอหลังจากนี้ก่อน”

ผมไม่รู้ว่าโปรตกลงว่าจะวางแผนว่ายังไง แต่คงจะแผนไม่ค่อยดีแน่ๆเพราะเจ้าตี๋โปรเจ้าเล่ห์เสมอ ผมเองอยากจะให้โปรเป็นคนบอกเอมเองมากกว่าว่าอะไรยังไง แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

“ไงอาทิตย์หน้าหนึ่งย้ายมาอยู่กับผมเลยนะ”

“หือ ทำไมเร็วจังล่ะ”

“ก็นี่มันจะสิ้นเดือนแล้ว จะเริ่มงานใหม่แล้วนิ”

“ก็ใช่อยู่นะแต่เพื่อนพี่...”

“เพื่อนได้หอใหม่แล้วนิ”

“หา??? เหรอ รู้ได้ไง”

“ก็โทรถามแล้วงาย”

นี่โปรไปคุยกับเพื่อนผมตั้งกะเมื่อไหร่ไม่รู้เลยนะครับนี่ แต่ถ้าอย่างนั้นได้ก็โอเคครับผมจะได้หมดห่วงไป
และในที่สุดก็ถึงวันที่ผมต้องขนของไปที่คอนโดของโปร ไม่น่าเชื่อว่าสมบัติส่วนตัวของผมมันจะเยอะขนาดนี้

“นี่ อันนี้ของมึงรึเปล่า” เสียงเพื่อนผมถามมาขณะที่ผมเองกำลังยัดหนังสือการ์ตูนลงในลังกระดาษ

“ใช่ๆ เอาไว้ที่ลังว่างนั่นนะ”

“อืม”

ผมกับเพื่อนช่วยกันเก็บของครับ ที่จริงมันก็ไม่ได้มากอะไรหรอกครับ

“เพ่หนึ่ง หมดยาง” ทีอยู่ต่อหน้าคนอื่นเรียกพี่ได้นะไอ้ตี๋

“เหลืออีกสองลัง”

“โหย ยังอีกเหรอ”

“เอาน่าๆ เดี๋ยวก็หมดละ”

“เอ๊า ไอ้โปร เอานี่ลงไป” เพื่อนผมดันลังที่ใส่ของจนเต็มไปที่หน้าโปรแล้วโปรก็ยกลงไปที่รถของโปรข้างล่างครับ

“แล้วนี่แฟนมึงจะเอารถมาตอนไหนเหรอ” ผมถามรูมเมทผม

“โทรมาละ เดี๋ยวก็คงมา”

เพื่อนผมแฟนมันมีรถน่ะครับ เลยจะเอามาช่วยขนของ ตอนนี้เราก็เก็บของลงไปข้างล่างหอเรียบร้อยแล้ว ผมรอแฟนของ(อดีต)รูมเมทสักครู่ก็มาถึงครับ ผมทักทายแล้วช่วยยกของขึ้นรถเขาจนหมดแล้ว เราก็ลากันครับ

“ไงถ้ามีปัญหาอะไรมาหาได้เสมอนะเว้ย” (ว่าที่อดีต)รูมเมทผมบอกครับ

“อืมๆ  ได้เลยๆ”

“ถ้าทะเลาะกัน ห้องกูยังมีที่ว่างเสมอ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เออๆ”

“ผมว่าพี่เองคงไม่ใช่ฝ่ายที่มานอนห้องผมนะคับ” โปรแซว

“ม่ายมีทางเว้ย รักกานดี”

“คร๊าบบบ”

“เราไปก่อนนะหนึ่ง” แฟนของเพื่อนผมพูดครับ

“อื้อ แล้วไงเจอกันนะ”

“จ้า”

แล้วเราก็จากกันครับ ผมเองก็คงคิดถึงเพื่อนคนนี้ไปตลอด เพราะเราอยู่ด้วยกันมานาน ไงเสียก็มีสักวันที่เราต้องจากกัน แต่มิตรภาพเรายังคงมีเหมือนเดิมครับ เพื่อนกันตัดกันยากไม่เหมือนแฟนหรอกครับ หรือว่าไม่จริง??

จากนั้นผมก็ขึ้นรถโปรครับ ที่จริงแล้วผมไม่เคยไปที่คอนโดของโปรมาก่อน โปรบอกแค่ว่าไม่ต้องขนอะไรมามากแต่ผมก็ต้องเอาของๆผมมาทั้งหมดมันก็ใช่ว่าจะมากอะไร แต่ก็ใส่รถโปรจนเต็มไปหมด ผมหันไปมองหอผมเป็นครั้งสุดท้ายจนกระทั่งรถเลี้ยวไป ผมนึกถึงห้องเก่าเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นที่นั่นมากมาย มันมีทั้งความทรงจำที่ดีและไม่ดีรวมกันไป รถผ่านป้ายรถเมล์ที่ผมกับโปรรอรถที่จะไปด้วยกันบ่อยๆแล้วก็อดคิดถึงมันไม่ได้ ต่อไปผมเองก็ไม่รู้ว่าจะได้มาใช้บริการมันอีกเมื่อไหร่ มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆอย่างของผมกับโปร แต่ผมยังไม่รู้หรอกนะครับว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดด้วยหรือเปล่า?? แต่เท่าที่ผมรู้ ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 05-01-2009 10:07:26
ตอนใหม่มาอีกแร๊ะ  :m4: :m4:

แต่ตอนที่แล้วยังอินกะความน่ารักของเจ้าโปรไม่หายเลยอ่ะ

อ้างถึง
“โปรหลับอยู่” โปรพูดครางออกมาทั้งๆที่หลับตาอยู่

“หลับ  แล้วเมื่อกี้ใครพูด”

“ก็โปรละเมอ”

เด็ก ๆ ดีเน๊อะ  :-[
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 05-01-2009 10:45:15
น่ารักดีอ่ะเขาชอบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 05-01-2009 11:02:53
 :m20: :m20: :m20:

ขำ หนึ่งอะกะหลอกเด็กให้ตกใจเจอเด็กตรอกกลับ  :laugh:

แล้วจะรออ่านต่อนะคราบ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 05-01-2009 12:57:01
“อย่าคิดอะไรเชียวนา ผมห่างเค้าแล้วแต่เค้าไม่ยอมห่างผม”

“แล้ว คิดว่าไง”

“คิดว่าคงจัดการให้สมใจอยากพี่แกซักกะที”

“ยังไง”

“แล้วจะรู้เองน่ะ ไงตอนนี้ปล่อยไป รอหลังจากนี้ก่อน”

ผมไม่รู้ว่าโปรตกลงว่าจะวางแผนว่ายังไง แต่คงจะแผนไม่ค่อยดีแน่ๆเพราะเจ้าตี๋โปรเจ้าเล่ห์เสมอ ผมเองอยากจะให้โปรเป็นคนบอกเอมเองมากกว่าว่าอะไรยังไง แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ


คาดว่าจะโดนเด็กหรอก....ซะละมั้ง หึๆๆๆ
อยากรู้ๆๆ โปรจะแก้ยังไง อิๆๆๆ o18
ไม่ถูกใจมีอันเป็นเรื่อง!!!!
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 05-01-2009 13:30:42
โปรเลี้ยงพี่หนึ่งดีๆนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-01-2009 14:00:20
ย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้ว   :m4:

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-01-2009 17:55:49
จะจบแล้วเหออออออออออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 05-01-2009 19:52:47
หว้า...จะจบแล้ว!!!~






 o22 o22 o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 05-01-2009 23:26:04
555+

มันยังไม่จบง่ายหรอกครับพี่น้องครับ

ก.กา มันอู้งาน เฉยๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 05-01-2009 23:38:59
เห้ยไอ้ ก.กา เมิงจะไม่ลง ภาคพิเศษ เหรอ สาด :fire: ภาคเด็กเวร(น้องโปรอ่ะ)

เมิงจะจบแต่นี้อ่ะนะ  :seng2ped: ที่สุด เรื่องสั้นไอ้เส้นมีอีกเรื่องก็เอาลงก่อน

ส่วนเรื่องของกรู ยังอยู่ในสมองอยู่เลยว่ะ ยังไม่ได้พิมพ์  :z3:

แล้วเรื่องฉาก... ไอ้เส้นอนุญาติแล้วนะ ประชามัตติวันกินเลี้ยงก็ตกลง  :oo1: แล้ว

ส่วนเรื่องเมิง  :oo1: เขา หรือ โดนเขา  :oo1: กูไม่อยากรู้ว่ะ เพราะกูรู้แล้ว

ว่าเพื่อนกูเปลี่ยนไปเยอะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 5 ม.ค. :ตอนที่ 28 ใกล้จบแย้วววววววว
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 06-01-2009 10:28:08
สวัสดีครับ

เอ้อ ไอ้คุณโฟล์ค(เต่า) ตอนพิเศษเหรอ....  เออ.. กรูลืม แต่กรูไม่ค่อยชอบตอนพิเศษเท่าไหร่ ไอ้นายเส้นยังไม่ส่งฉบับปรับปรุงมาให้ กรูเลยจะยังไม่ลง ถ้าให้เอาของเก่าลง ไม่เอาอ่า อ่านแล้วขัดใจ (อิจฉาคนมีแฟนว่ะ) เรื่องสั้นกรูลงไปแล้วเรื่องนึง เรียกน้ำตาคนในเล้ามากมายเลยนะเมิง

ส่วนผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ ตอนนี้เป็นการแก้กลับนายเอม ถามว่าสะใจขนาดไหน ผมว่า.... เอ่อ....  เอิ่ม...... ลองอ่านเองดีกว่า
ตอนหน้ามันจะจบแย้วอ่าคร๊าบบบบบบบบบ ถ้าไอ้นายเส้นไม่ต่อตอนพิเศษให้ก็ไม่รู้จะว่าไงอ่า

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ
ปล.ผมขอลาสอบสองวันนะครับ จะไม่มาต่อตอนจบนะ



ตอนที่ 29

รถของโปรมาถึงที่คอนโดแห่งหนึ่ง ผมว่าราคามันต้องแพงแน่ๆเพราะเล่นอยู่ซะกลางเมืองขนาดนี้ รถมาถึงที่จอดรถที่แปะป้ายเลขทะเบียนรถไว้ ผมดูก็รู้ครับว่าเลขนั้นคือเลขทะเบียนของรถคันนี้เอง ผมไม่เคยไปคอนโดของโปรมาก่อนเลยน่ะครับ แต่พอรู้ๆว่ามันอยู่ตรงไหน

“แล้วห้องอยู่ชั้นไหนล่ะโปร”

“ชั้นสามสิบ”

“ฮะ  ชั้นสามสิบ  แล้วจะขนไปไงล่ะ”

“ก็บอกแล้วว่าให้เอาทิ้งไว้ตั้งกะแรกก็ไม่เชื่อ”

“บ้าดิ ก็ของพี่ทั้งนั้นนะ”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปบอกยามให้ ขอแรงคนงานมาช่วยขน”

ว่าแล้วโปรก็เดินไปหายามทิ้งผมไว้ที่รถ ผมมองไปรอบๆ ดูๆแล้วรถแต่ละคันที่จอดก็ค่อนข้างจะมียี่ห้อ (ที่จริงมันก็มียี่ห้อทั้งนั้นล่ะรถยนต์ แต่ผมหมายถึงยี่ห้อแพงๆน่ะครับ) ทั้งนั้น ผมรอได้สักครู่โปรก็เดินมาพร้อมยามที่เฝ้ารถชั้นนี้ครับ

“พี่ของหมดนี่เลยครับ ไปที่ห้องผมนะ ไงช่วยบอกคนมาช่วยอีกสักสองคนก็ดีครับ”

พี่ยามก็รับคำครับ แกเลยเดินไปตามคนมาช่วยส่วนผมกับโปรตอนนี้ก็ช่วยกันเอาของออกจากรถ สักพักพี่ยามก็มาพร้อมกับยามอีกสองคนมาช่วยผมขนของครับ โปรเดินนำไปที่ลิฟท์ครับผมเองก็ยกลังไปด้วยลังนึง

“หนึ่ง หนักป่าว”

“ทำไมหนักแล้วจะช่วยยกเหรอ”

“โห เพ่คร๊าบ แล้วที่ผมยกอยู่นี่ยังไม่หนักพออีกเหรอคร๊าบ”

“แล้วจะถามทำไม”

“ก็จะได้ให้ยกอันเบาๆไง”

ผมได้แต่ส่ายหัว เพราะลังแต่ละอันก็หนักไม่แพ้กันหรอกครับผมคนยัดของใส่มันเองทำไมผมจะไม่รู้ ไอ้ตี๋นี่ มันน่า...นัก ลิฟท์มาถึงชั้นที่สามสิบ ผมก็เดินตามโปรไปแล้วโปรก็หยุดมาอยู่ที่ห้องๆหนึ่งที่อยู่สุดทางเดิน แล้วโปรก็ไขกุญแจเข้าไป ผมเข้าตามไปในห้อง

ห้องค่อนข้างกว้างครับมีห้องย่อยอีกสักสองห้องได้ นี่อยู่กันได้เป็นครอบครัวเลยนะครับนี่ ผมดูแล้วเฟอร์นิเจอร์อะไรก็มีครบหมดแล้ว เผลอๆมันดีกว่าที่ผมขนมาจากหอเดิมซะอีก ผมวางลังลงแล้วมองไปรอบๆอย่างสนใจ

“มองอะไรอยู่ได้รีบมาช่วยพี่เค้าขนเร็ว” ว่าแล้วโปรก็ดึงมือผมไปเลย

ในที่สุดเราก็ขนของจนเสร็จ ผมจะจ่ายค่าขอบคุณพี่ยามที่ช่วยผมขนของแต่โปรชิงเอาเงินยัดใส่มือพี่เค้าไปก่อน

“ตอนนี้พี่ยังไม่มีงานทำนะ” ไอ้ตี๋โปรชิงพูดก่อน

“แล้วไง เดี๋ยวก็มี”

“เดี๋ยวไง แสดงว่าตอนนี้ก็ยังไม่มี”

“เราเองก็ยังไม่มีเงินเดือนของตัวเองอยู่ดี”

“มีสิ ก็ที่ได้ทุกเดือนนี่ไม่เรียกเงินเดือนหรอ”

แล้วเราก็ทะเลาะกันเล็กๆครับ ท้ายสุดผมก็ต้องยอมโปรไป ผมกับโปรช่วยกันจัดของที่อยู่ในลังมาวางไว้ให้เป็นที่ จนแล้วก็เรียบร้อย

“เหนื่อยจัง เดี๋ยวไปซื้อน้ำข้างล่างก่อน”

“งั้นซื้อมาให้พี่ด้วยนะ”

“เอ้อ ถ้ามีใครมาหาก็ต้อนรับเค้าดีดีหน่อยนะคับ”

“ใครจะมาเหรอ”

โปรไม่ทันตอบแค่อมยิ้มเล็กน้อยแล้วก็ออกไปนอกห้องทันที ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าใครจะมา สงสัยคงจะเป็นเพื่อนโปรล่ะมั้งครับ ผมจัดของให้เข้าที่อีกแป๊บนึงก็ได้ยินเสียงกริ่งประตู ผมเลยเดินไปเปิดประตูรับ

“ลืมอะไรเหรอโปร”

ผมพูดพร้อมเปิดประตูเพราะคิดว่าไอ้ตี๋โปรต้องลืมอะไรเงินไปซื้อของแน่ๆ แต่แล้วก็ต้องตกใจที่เห็นน้องเอมยืนอยู่หน้าห้อง น้องเอมเองก็ดูท่าจะตกใจเหมือนกัน

“พี่หนึ่ง”

“เอม..” ผมพยายามตั้งสติแล้วหาคำพูดที่จะพูดต่อ ผมรู้สึกได้ว่าเราเงียบกันไปพักใหญ่ๆ ผมเองก็ได้แต่ยืนอยู่ที่ประตูนั้นไม่พูดอะไร พยายามที่จะคิดว่าจะเชิญเอมเข้ามาหรือว่ายังไงดี?

“อ้าวเพ่เอมมาแล้วหรอ” เสียงโปรดังมาจากหลังเอมครับ

“ยืนอยู่ทำไมล่ะคับ เข้าไปก่อนสิ ตะเองเชิญพี่รหัสเค้าเข้าห้องเราก่อนสิ”

“ตะเอง หรอ??” ผมพูดเบาๆ ก่อนที่จะหลบทางให้เอมและโปรเข้ามา เอมเองดูจะทำท่าอะไรไม่ถูกเท่าไหร่ ผมบอกให้เอมไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปที่ครัวกะหาแก้วมาใส่น้ำให้เอมน่ะครับ แล้วโปรก็เดินตามมา

“เมื่อกี้พูดอะไรน่ะ”

“ก็พูดกับตะเองงาย” แล้วโปรก็เข้ามากอดผมครับ ผมก็ดันๆตัวโปรออก

“คนอื่นอยู่นะ”

“ม่ายสน”

“เฮ้ย แต่พี่สนนะ”

“กลัวอารายก็เราแฟนกาน คนรักกันผิดด้วยเหรอ” พูดเสียงดังซะด้วยสิ

“แต่นะ โปรปล่อยก่อน”

จนแล้วผมก็ดันตัวโปรออกไปสำเร็จ โปรก็ยังจะไม่เลิกอีก จนผมต้องรีบหยิบแก้วแล้วออกไปจากตรงนั้น ผมไปนั่งอยู่ใกล้ๆกับเอม ตอนนี้ดูเหมือนเอมจะอึดอัดอะไรก็ไม่ทราบได้

“เอ่อ  เอม มาหาโปรเหรอ”

“อ่อ  ครับ คือ  ผมมาเอาหนังสือที่โปรบอกว่าอยากได้มาให้”

“ขอบใจมากนะ ดูสิต้องมาเอาให้ถึงนี่เลย โปรทำไมไม่ไปเอาเองนะ...” ผมพูดจากใจจริงนะครับ

“คะ ครับ” เอมตอบรับเบาๆ

“เพ่เอม เอามาให้ผมละเหรอ” โปรพูดแล้วก็เดินมานั่งข้างๆผมครับระหว่างผมกับเอม แต่ค่อนข้างจะมาชิดผมมาก

“เอ้อ วันนี้กินข้าวกะผมนะพี่ ฉลองแฟนผมกลับมาหาผม
 แล้วก็ตกลงย้ายมาอยู่กับผมแล้ว...”

โปรพูดแล้วก็หันมายิ้มๆให้ผม ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้เอม ผมเองละอายมากกว่าที่โปรกล้าพูดอย่างนี้ต่อหน้าคนอื่น

“โปร !!”

แต่เหมือนที่ผมพูดเตือนไปนั้นโปรจะไม่สนใจครับ แล้วหันไปคุยกะเอมอีก

“ก็ใครไม่รู้อ่ะพี่ มายุให้แฟนผมหนี ผมต้องไปตามถึงบ้านที่เชียงใหม่เลยนะ กว่าจะยอมกลับมา”

ตอนนี้เอมไม่พยายามที่จะสบตาโปรครับ เลยหันไปเปิดหนังสือที่ว่าจะเอามาให้โปรเปิดกลับไปกลับมาอยู่หลายที ผมเองก็สงสารเอมนะครับ แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี (จริงๆนะครับ)

“เอ้อ ผมลืมเลยว่าล็อกรถหรือยัง ไงผมไปแป๊บนึงนะคับ” โปรพูดขึ้นมา

“ไงผมฝากแฟนผมก่อนนะพี่เอม อย่าทำหายไปไหนล่ะ ไม่งั้นผมไม่ยอมแน่นะคับ คราวนี้...”

พูดจบโปรก็เดินออกไปเลยครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโปรทำแบบนี้ทำไม เหมือนจะทิ้งระเบิดไว้ให้ผมอย่างนั้น (มารู้ตอนหลังว่าไอ้ตี๋โปรมันอยากให้ผมพูดเองมากกว่า และว่าผมน่าจะพูดอะไรให้เอมสำนึกได้ ... แล้วบอกว่าถ้าโปรคิดจะทำเอง คงไม่ใช่แค่ให้เอมมาเจอผมอยู่ที่ห้องแน่)

บรรยากาศตอนนี้เงียบมากเลยครับนอกจากเสียงทีวี ผมเองก็มองเอมอย่างเข้าใจ เอมเองก็ก้มหน้าอย่างเดียว

“เอ่อ  เอม เป็นไงบ้าง”

“...” ไม่มีเสียงตอบจากเอมครับ

“เอม  เป็นอะไรหรือเปล่า”

“อ่ะ ป่ะ เปล่าครับ”

“แล้วมาถึงนี่ ไกลหรือเปล่า”

“ไม่ไกลครับ ผมอยู่ถัดไปไม่เท่าไหร่”

“งั้นเหรอ”

“เอ่อ พี่หนึ่งครับ...”

“ครับ??”

“เรื่องวันนั้น...”

“เรื่องวันนั้น?”

“ผมก็รู้อยู่ว่าน้องเค้าไม่ได้ชอบผม แต่ผมก็ยังทำ...” ยังดีที่สำนึกได้นะ ไม่งั้น.... (ที่จริงผมเองก็จะเอาเรื่องอยู่นะ)

“...”

“ผมสู้พี่ไม่ได้แล้วครับ ผมยอมขอไปดีกว่า.....  ”

“พี่ไม่ได้คิดมากอะไรหรอก พี่เข้าใจ
อืม....ตอนนี้พี่ขอโทษแทนโปรด้วยนะ ที่เค้าทำอะไรไม่ดีไปเมื่อกี้”

“ไม่เป็นไรครับ เป็นผมก็คงทำแบบนี้
ผมไปก่อนนะครับพี่ ผมคงทำได้แค่เป็นพี่รหัสเท่านั้น”

แล้วเอมก็วางหนังสือไว้ที่โซฟา แล้วเดินออกไปผมเองก็เดินไปส่งที่ประตูครับ ตอนแรกกะว่าจะชวนทานข้าวด้วย แต่คงจะไม่เหมาะ

“เอ่อ น้องเอม”

“ครับ”

“พี่เชื่อ ว่าเราต้องเจอคนที่ดีแน่นอน”

“ครับ ผมเองก็อยากจะเชื่ออย่างนั้น”

แล้วเอมก็ยิ้มให้ผมทีนึงก่อนที่จะหันหลังเดินออกไป ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ครับ ผมสงสาร ผมเข้าใจดีว่ารักใครสักคนแต่เขาไม่สนใจเรานั้นมันเป็นอย่างไร แต่ผมเองก็คงทำอะไรไปได้ไม่มากนัก
ไม่เท่าไหร่ก็มีเสียงกริ่งประตูอีกครั้ง ผมคิดว่าน้องเอมคงจะลืมของอะไรเลยกลับมา ผมเดินไปเปิดประตู ที่ไหนได้กลายเป็นไอ้โจ เพื่อนที่ทำงาน(เก่า) ผมไปได้

“เฮ้ย มาได้ไง”

“เป็นงาย ขึ้นเรือนหอใหม่ ไม่บอกเลยนะเว้ย”

แล้วโจก็เดินเข้ามาในห้องครับ พร้อมด้วยน้องต้อม หมอพจน์ ตามหลังหมอพจน์มาใครก็ไม่รู้ครับ แต่ผมคุ้นๆหน้าชอบกล แล้วก็โปรเดินตามมาท้ายสุด

“นี่โปรบอกเหรอว่าจะย้ายมาอยู่นี่” ผมถามโจ

“เออเสะ ละเป็นไงไอ้เด็กนั่น เคลียร์เรียบร้อยละ?”

“ก็นะ”  ผมพูดแล้วมองไปทางโปร ตอนนี้โปรทำตากลิ้งไปกลิ้งมาเหมือนที่ชอบทำเวลาทำอะไรเจ้าเล่ห์ หรือจะตั้งใจหลอก

“สวัสดีน้องต้อม หมอพจน์แล้วก็เอ่อ...”

“ดีคับพี่หนึ่ง จำผมได้ไหมคับ”

“เอ...  น้องไอ้รินใช่เปล่า ชื่ออะไรนะ ชื่อๆๆ อ่อ น้องมิน”

“แม่นละคับ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”

“แล้วมาได้ไงล่ะเนี่ย”

“ก็มาหาแฟนเค้าน่ะสิ” เสียงโปรสอดเข้ามาเลยครับ

“แฟน?? นี่อย่าบอกหนาว่า..”

“ก็  คับ”

“คบกันเมื่อใด” ผมถาม (ผมเริ่มออกซาวแทรกเล็กน้อย)

“ก็ ตอนที่ไอ้รินพาไปน่ะคับ” มินตอบมา มินเรียกพี่มันว่า ‘ไอ้’ เป็นเรื่องปกติครับ

“เหอ ไหนว่าไอ้รินมันจะจีบ”

“ก็ผมเก่งกว่ามันไงคับ”

แล้วเราก็หัวเราะออกมาดังๆเลยครับ หมอพจน์เองก็ทำท่าคิ้วขมวดใส่ เราเลยเลิกคุยกันเรื่องนั้นไปเลยครับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจก็แล้วกัน

คืนนั้นเราก็ทำสุกี้หม้อไฟฟ้าทานกันครับ โจกับน้องต้อมไปซื้อของให้ พวกผมก็ช่วยกันจัดที่จัดทางให้เรียบร้อย

ในที่สุดก็เริ่มทานกัน เราคุยกันในหลายเรื่องๆ เรื่องผมกับโปร เรื่องหมอพจน์กับหมอมินและก็ไอ้ริน และก็มีเรื่องงอนกันตลอดกาลของโจและน้องต้อม คืนนี้ผมมีความสุขมากเลยครับ แม้ว่ามันจะไม่ใช่คืนที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นคนที่ผมรู้สึกพอใจกับมันที่สุด ผมเองก็อยากให้มันอยู่อย่างนี้ไปให้นาน ผมมีเพือนที่ดี มีงานที่ดี(แม้ตอนนี้เงินเดือนยังไม่ได้) มีที่อยู่ที่ดี และสุดท้าย มีมือโปรของชีวิต แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 06-01-2009 11:21:21
อ๊ะมาจิ้มๆๆๆ แล้วค่อยอ่าน
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังคร๊าบบ
แต่ว่ากด 1 ยังทันอยู่ไม๊~
 
:pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 06-01-2009 11:37:02
 o13 o13 o13 o13

นับถือโปี เลยอิๆ กล้าเล่นมาก สะจาย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 06-01-2009 14:37:23
เจ้าตี้โปรความคิดเข้าท่าดีจัง o13
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-01-2009 14:49:42
คุงหนึ่ง โชคดีรอบตัวมีแต่คนที่รักทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง และคนรัก 

ส่วนเจ้าตี๋โปร เจ๋งสุดๆๆ  o13


ปล. คุง Koa-ka โชคดีกับการสอบนะคะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-01-2009 15:09:35
อืมยังดีที่เคลียร์ให้จบๆกันเข้าใจไปได้
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-01-2009 15:19:01
ใจดีเกินไปมั้ย เค้าจะแย่งแฟนนะ  :z2: แต่ไม่เป็นไรเคลียร์กันลงตัวแระ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 06-01-2009 16:12:21
ถึง ก.กา กูว่านะ กูขอเสียงโหวดจากแฟนเรื่องนี้ดีกว่า ว่าต้องฉากบนเตียงไหม

ถ้าต้องการ กด "หนึ่ง" (ความหมายดี กดนายเอกแล้ว...)

ถ้าไม่ต้องการ กด "สอง"

ให้เวลาสองวัน สองวันที่เมิงขอลาหยุด เมิงลงตอนสุดท้ายเมื่อไรกูจะนับคะแนน

หากเกิน 50 กูเอาฉากบนเตียงลง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถึงเพื่อนๆนะครับ

ใครอยากอ่านฉากบนเตียงของนายหนึ่งกับนายโปร กรุณา กด"หนึ่ง"

ใครไม่ต้องการอ่าน อารมณ์แบบว่าแค่นี้พอใจแล้ว กรุณา กด"สอง"

ใครทนไม่ไหวแล้ว แสดงเองดีกว่า กรุณา กด"แฟนคุณ" ได้ทันที (อันหลังไม่เกี่ยวแล้ว --*--)

ขอเสียงเกิน 50 เสียงนะครับ พอนิยายเรื่องนี้จบผมจะมานับคะแนนโหวด

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-01-2009 21:40:48
ถ้ากด1เค้าจะว่าเราหื่นไม๊อ่ะ  :-[

แต่เราเป็นคนหืนๆหื่นๆ เพราะงั้นจริงใจไว้ก่อน 1จ๊ะ ฟันธง :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 07-01-2009 00:13:31
 o13

โปรแรงมาก

โดนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ได้ใจเจง ๆ เลย

โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 07-01-2009 05:45:44




กดแฟนตัวเอง เอ้ย โทษๆๆ กด 1 ค่ะ



กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 07-01-2009 07:43:20
กด 1 ด้วย!!!~
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-01-2009 00:27:46
อีก 1 ค่ะ  ว่าแต่พอป่าวอะ ไม่พอเดี๋ยวมากดใหม่  :o8:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 08-01-2009 17:18:37
โห้ย 2 วันแหละ โหวดแค่ 3 คนเอง  :a5:

 :o12: เศร้า ถ้าอยากให้ลง

มีอีกหนึ่งวิธี เป็นวิธีลัดครับ :impress2:

นั้นคือ กดคนลง (ก.กา) หรือ คนเขียน (ไอ้กราฟฯ) อ่ะครับ  o13

รับร้องได้อ่าน  o18

หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: Bourne_Js ที่ 08-01-2009 17:44:45
.
.
แวะมาให้กำลังใจคุณ ก. กา

ปล. คิดถึงครับ อยู่เคียงข้างคุณเสมอ.....

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
.
.
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 08-01-2009 21:38:19
เพิ่งมาอ่านวันนี้รวดเดียวจบ   :o8:

ขอกดหนึ่ง  เอ้ย  1   :impress2:

ไม่ค่อยหื่นเลยเรา   :laugh:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: white coat ที่ 08-01-2009 22:21:52
นี่ ถ้า ว่างๆๆ ก็ มาอัพ นิยาย ซะทีดิ  :laugh:

เข้ามาทักเฉยๆๆ อะ  :laugh: รบกวน กระทู้   :z2:

ปล. โดน นัทคุง  :กอด1: อย่าเก็บเอาไปฝันหวานมากละ  :-[  :o8:

ปล.2 เด๋วนี้ นอก ใจ ผม อีกแล้วนะ  :laugh: ถ้าเป็นนัทคุงก็ไม่เป็นไร  :laugh:

ปล.3 ฝันดีละกันครับ 555+ ถ้าเห็น หวยแล้วบอกด้วย  :laugh: พอแล้วกวนประสาทแค่นี้พอ

ปล.4 อย่าลืม พาลูก ไปเที่ยว วันเด็กละ รู้หน้าที่ด้วย  :m20: ( ล้อเล่นนะ )

จะมากวนประสาท บ่อยๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 6 ม.ค. :ตอนที่ 29 จัดการ"เอม"โดยวิธีของ
เริ่มหัวข้อโดย: Koa-ka ที่ 09-01-2009 12:50:14
สวัสดีครับ

ครายจะกดกรูไม่ทราบไอ้คุณโฟล์ค (เต่า) แต่ถ้าน่ารักก็จะให้กด :-[ ก๊ากกกกๆๆๆๆ :haun4: แต่โหวต 1 น่ะ เมิงไปนับไอ้ที่กรูเคยเปิดโหวตไว้ตอนแรกๆของกระทู้แสะ แล้วจะได้รู้ว่าโวตกี่คะแนน
หมอนัฎนะใครจะไปนอกใจที่รักของผมได้ลงคอล่ะครับ แหม่ๆๆๆ  เว้นแต่ที่รักจะทิ้งผมไปหาคุงนัทเท่านั้นล่ะ  :serius2:

กลับมาจากสอบแล้วครับพี่น้อง ทำไปกุมขมับไป... จนแล้วจนรอด ปวดฉี่ชิบ...ตอนอยู่ในห้องก็ต้องรีบออกมาและ...

ในที่สุด.........

ตอนสุดท้าย......

ก็มาถึงแล้วครับพี่น้องคร๊าบบบบบ......

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดครับที่รักของผมทุกๆคน รักทุกๆคนจังเลย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ปล.น่าจะมีตอนพิเศษให้นะครับ
ปล.2 พี่ๆโมฯ หรือ ท่านแอดมิน จะเปลี่ยนเอาไปหัวข้อเรื่องที่จบแล้วก็ได้ครับ แต่แจ้งล่วงหน้าสามวันทำการก่อนจักเป็นพระคุณยิ่งแล้วครับ



ตอนที่ 30

   หลังจากที่ผมจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด ผมก็ได้เข้าทำงานบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วจากนั้นผมก็ลาออกมาทำงานอยู่อีกที่หนึ่ง แน่นอนครับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่ผมก็ต้องปรับตัวให้ได้ ผมเริ่มตื่นเองแทนที่จะมีคนมาปลุกเหมือนก่อน แต่มันแปลกตรงที่ต้องเปลี่ยนไปเป็นผมเป็นฝ่ายปลุกคนอื่นแทน ผมต้องตื่นเช้าเหมือนมันต้องเป็นไปโดยอัตโนมัติ เพื่อไปเซ็นต์ชื่อเข้างานให้ทัน แต่นี่ก็เป็นเวลาสองปีแล้วที่ผมใช้ชีวิตในเมืองอันวุ่นวายอย่างนี้

‘เช้าวันจันทร์อีกแล้วสินี่’ ผมตื่นขึ้นมาเองโดยไม่ต้องได้ยินเสียงอาบน้ำของรูมเมทของผมอีกต่อไปเหมือนเคย แต่ต้องตื่นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกแทน ด้วยหัวสมองของผมตอนนั้นมึนๆเพราะเพิ่งตื่นแล้วก็เอาหัวไปซุกที่หมอนอีกครั้ง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘เอาน่างานคือเงิน เงินคืองาน’ ก็ต้องลุกขึ้นมาอีกครั้งเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวรอใครบางคนออกจากห้องน้ำ ทั้งที่ปกติผมต้องปลุกเขาหลังผมอาบน้ำเสร็จ แต่วันนี้เขาตื่นก่อนผมเสียได้ โดยรวมแล้วเช้าวันนี้ก็เหมือนปกติของทุก

เฮ้อ...ชีวิต 

เดี๋ยวนี้ผมสบายมากขึ้นในเรื่องชุดทำงานเพราะใส่เสื้อเหลืองตราสัญลักษณ์ฯไปทำงานทุกวัน ผมจัดการตัวเองเรียบร้อย รีบออกจากห้องพักไปยังป้ายรถเมล์ ที่จริงแล้ววันนี้ผมต้องรอใครสักคนเพื่อจะไปด้วยกัน รถเมล์จากป้ายไปถึงที่ทำงานผมมีหลายสายครับ ทว่าคนจะขึ้นกันเยอะมาก ผมมองดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าสายมากแล้ว นี่รอตั้งนานละนะก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ผมเลยตัดสินใจที่จะไม่รอวันนี้มีงานต้องเคลียร์แต่เช้าเสียด้วยสิ วันนี้ผมโชคดีที่รถเมล์สายที่ผมขึ้น ขึ้นไปก็เจอที่นั่งว่างสองเบาะ  ผมก็นั่งเบาะในตามมารยาท เมื่อรถจะออกผมได้ยินเสียงเหมือนใครบางคนนอกรถตะโกนของผู้ชายบอกให้หยุด ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งรถได้หยุดรับเรียบร้อยแล้วจึงออกตัวไป ตอนนี้ผมเพิ่งได้สังเกตคนที่เพิ่งขึ้นมาบนรถเป็นเด็กนิสิตมหาวิทยาลัยที่สายรถเมล์ที่ผมขึ้นผ่าน เค้ามองดูรอบรถสักพักแล้วก็ตัดสินใจมานั่งเบาะข้างๆผม ผมก็มองเค้าสักพักแล้วยิ้มให้แล้วก็หันออกไปที่หน้าต่างรถดูผู้คนที่กำลังเดินไปมาริมถนน

จู่ๆเขาก็เอาหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อประมาณว่าวิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เขาอ่านมันได้สักพักแล้วก็บ่นออกมาเบาๆ

“แล้วไอ้ความยืดหยุ่นนี่มันหาไงวะเนี่ย”

เสียงบ่นออกมาจากปากของเขา นั่นทำให้ผมสะดุดใจนิดนึง เพราะผมเองเรียนจบทางเศรษฐศาสตร์มา ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าคำตอบที่เค้าต้องการมีอะไรบ้าง เขาพยายามเอาสมุดเลคเชอร์ในกระเป๋าขึ้นมาดูแต่ดูเหมือนยิ่งอ่านก็ยิ่งยอมจำนนต่อคำถามที่ว่าเมื่อสักครู่

“เอ่อ น้องครับน้อง...” ผมเริ่มที่จะพูด

“ครับ?”

“แล้วใครบอกให้น้องเลือกเรียนวิชานี้เป็นเลือกเสรีล่ะครับ”

“ก็นะ ไหนๆก็มีแฟนจบเศรษฐศาสตร์แล้ว ก็อาจให้ผมได้เอไงคับ” เป็นงั้นไป ไอ้ตี๋ตัวดี

“แล้วนี่รถเรียบร้อยแล้วเหรอ”

“อืม เย็นนี้คงเอาได้อ่า”

“ให้กุญแจพี่ยามไป เชื่อใจได้แน่นะ”

“เชื่อได้ดิ ก็พี่ยามคนเดิมไง ไม่ใช่คนอื่น พี่แกบอกว่าจะเอาไปให้ช่างที่รู้จักกะแกดูให้ก่อน”

“พี่ก็ว่าเราหายไปไหนแต่เช้า ที่แท้ก็เอากุญแจรถไปฝากพี่ยาม”

“ช่าย”

“งั้นก็แล้วไป  แล้วนี่พี่บอกแล้วว่าให้เอารถเข้าศูนย์บ้างก็ไม่เชื่อ”

“แหม่ ก็มันไม่มีเวลานินา”

สรุปแล้วผมยังคงอยู่กับโปร  เงินเดือนผมแม้น้อยแต่ก็พอใช้ครับ ผมไม่ค่อยอยากจะทำตัวเป็นภาระของใครเท่าไหร่ ที่จริงแล้วผมก็เพิ่งมารู้เรื่องที่บ้านโปรจริงๆเมื่อตอนมาอยู่กับโปรแล้วนี่เอง ผมเพิ่งรู้นะนี่ว่ามีแฟนเป็นเจ้าสัวน้อยๆ (ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ) ที่บ้านโปรบางทีก็มาที่คอนโดเราบ้างน่ะครับ   โปรก็บอกว่าผมเป็นแฟน บอกไปตรงๆ ผมละตกใจมากกว่า ทั้งๆที่ตอนแรกตกลงบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเรียนจบแล้วแต่มาอยู่ช่วยจ่ายค่าเช่าให้โปรเสียอีก ผมไม่กล้าสบตาใครเลยครับทั้งคุณแม่ (ม๊า) ของโปร น้องชายหรือคนอื่นๆ แต่สุดท้ายผมก็เพิ่งทราบอีกเหมือนกันว่าที่บ้านโปรรู้มาตลอด (เรื่องของโปร) แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอผมสักที โปรเองเคยถามผมว่าทำไมไม่บอกกับคุณพ่อคุณแม่ผมไปสักทีว่าโปรเป็นแฟนผม ผมบอกโปรไปว่า ผมทราบดีครับว่าคุณพ่อคุณแม่ผมคงจะทำใจไม่ได้แน่ ผมเลยไม่ขอบอกดีกว่า บางทีท่านอาจจะรู้กลายๆแล้วก็ได้ แต่ท่านคงไม่อยากจะพูดอะไรเพราะลูกชายคนนี้คงจะไม่เป็นอย่างที่กลัวๆไว้ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ

ทุกวันแม้จะต่างที่ แต่ก็มีกิจวัตรไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ โปรก็ไปส่งผมตลอด (ผมเองก็ยังขับรถไม่เป็นเหมือนเดิม) จากเดิมที่ว่าไปทางเดียวกันกับที่ทำงานผม แต่ด้วยการที่เราย้ายมาอยู่ที่คอนโดของโปร ทำให้ที่ทำงานผมมันอยู่เลยมหาวิทยาลัยของโปรไปอีกน่ะครับ ผมก็บอกหลายทีแล้วนะว่าจะขึ้นรถเมล์ไปเอง แต่เจ้าตี๋โปรก็ไม่ยอมน่ะครับ ก็ดีให้ตื่นเช้าๆทุกวันเป็นเพื่อนผม (ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ) เพราะในบางวันโปรมีเรียนสายน่ะครับ ตอนเย็นนี่ถ้าหากว่าไม่ติดอะไรโปรก็ยังมารับผมเป็นปกติ

ถ้าถามว่ามีอะไรที่ต้องทะเลาะกันบ้างไหม มีครับเรื่องปกติ ผมเคยทะเลาะกับโปรเรื่องของกินบ้าง เรื่องรถบ้าง เรื่องที่โปรขับรถ โอย..... เยอะนะครับ แต่สุดท้ายผมก็รู้ว่าโปรต้องยอมผม เอะ หรือว่าผมต้องยอมโปรนะ เคยมีอยู่ตอนหนึ่งที่โอ๊ตโทรมาหาผมตอนค่ำๆครับ ตอนนั้นผมเองก็เพิ่งเสร็จงานใหญ่มา ก็ค่อนข้างเหนื่อยและไม่สบอารมณ์กับอะไรเท่าไหร่อยู่แล้วด้วยน่ะครับ

“ใครโทรมาเหรอ”

“เพื่อนพี่น่ะ ทำไมเหรอ”

“เพื่อนหรอ”

“อ้าวก็เพื่อนอ่าสิ”

ว่าแล้วเจ้าตี๋โปรก็เอามือถือผมไปดูเฉยเลยว่าใครโทรมา

“โหยๆ ยังคุยกะพี่หมอฟันอีก”

“นะ ก็เพื่อนพี่นิ”

“ไม่ใช่จะหนีไปอีกนะ”

“นะ พูดงี้เดี๋ยวไปจริงเลยนิ”  ผมเริ่มงอนๆบ้างแล้วนะ

“ไปเลยๆ ถ้าไม่รักผมก็ไปเยยยยย”

“งั้นไปละนะ”

แล้วผมก็เดินไปที่ห้องนอน เอากระเป๋าเสื้อผ้าออกมา แล้วก็เปิดตู้ แล้วเอาเสื้อผ้าของผมออกมาสองสามชุด ไม่ทันไรโปรก็เดินตามเข้ามา

“หนึ่งอ๊า ล้อเล่น”

“พี่ไม่เล่นด้วยนะ”

“อ้าว ไม่เล่นก็ไม่เล่น ไม่สนด้วยละ”

แล้วโปรก็เดินออกไปเลย ผมก็ไม่สนใจเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วก็หิ้วมันออกไปนอกห้องเลย ถามว่าตอนนั้นผมจะไปไหนเหรอ บอกตรงๆผมเองก็ไม่รู้เลยน่ะครับ ตอนลงไปข้างล่างคอนโดก็นึกๆอยู่ว่าจะไปไหนดี (ผมมาคิดๆดูแล้วเรื่องไม่เป็นเรื่องมากเลย) แล้วผมก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ กะว่าไปหาโจดีกว่าผมเลยโทรไปหาโจว่าคืนนี้อาจจะไปขอนอนด้วย ผมเลยวางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ข้างๆ แล้วก็หยังโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาโจ

“เดๆ หนึ่ง” เสียโจรับสายครับ

“เออหวัดดีโจ คืนนี้ว่าจะขอ...”

“ไม่ให้มา”

“เฮ้ย ...ว่าอะไรนะ”

“ก็บอกว่าไม่ให้มา”

“ไม่ให้มาอะไร”

“ไม่ให้มานอนด้วยอ่าสิวะ”

โจพูดเสร็จแล้วก็หัวเราะ ผมละงงเลย รู้ได้ไงว่าผมจะไปนอนด้วย

“รู้ได้ไง”

“เด็กแกโทรมาบอก”

“เวร”

“เออน่า แกก็ไปงอนมัน สงสารเด็ก”

“เดี๋ยวนี้เห็นใจกันแล้วเหรอ ทีเมื่อก่อนกัดกันอย่างอะไรดี”

“ก็ คนหัวอกเดียวกัน มีแฟนขี้งอน”

“เออนะ”

แล้วผมก็บ่นๆๆ เรื่องงานบ้าง เรื่องโปรบ้าง สารพัดเรื่องให้โจฟัง นี่แป็นครั้งแรกมั้งครับที่ผมบ่นให้โจมันฟังเพราะทุกทีโจจะเป็นฝ่ายที่บ่นให้ผมฟังมากกว่า

“เออ เอาน่าๆ มันก็เด็กนะแก”

“นี่ก็โตแล้วนะ ใช่ว่าอายุมันจะห่างขนาดนั้นนิ 4 ปีเอง”

แล้วผมก็หันไปที่กระเป๋าที่ผมวางอยู่ ผมไม่เห็นมันอยู่ตรงที่ผมวางแล้วครับ ผมล่ะใจหายวาบเลยบอกโจว่าวางหูก่อน แล้วผมก็มองไปรอบๆ แล้วก็เจอเจ้าตี๋โปรยืนกอดกระเป๋าของผมอยู่

“กระเป๋า” ผมพูดแล้วยื่นมือไปที่โปร

“ม่ายให้”

“เอามา”

“ม่ายให้”

“เอามาน๊า”

แล้วผมก็วิ่งจะไปแย่งกระเป๋ามา โปรก็วิ่งหนีผมไปทางคอนโด โปรยังมีหน้ามาวิ่งไปหัวเราะไปอีกนะครับผมก็วิ่งตามไป โปรวิ่งกลับไปทางคอนโดครับ ผมก็ตามไปจนผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าทำอะไรอยู่ก็เลยไม่วิ่งตามแล้ว (ที่จริงก็เหนื่อยด้วย) ผมก็กลับเข้าไปในคอนโดตรงโซฟาที่เค้าจัดให้นั่งรอตรงล็อบบี้ ผมนั่งพักสักพักโปรก็มานั่งโซฟาตรงข้ามผม

ผมก็ทำหน้าไม่พอใจให้โปร แต่โปรเหรอครับ กลับมายักคิ้วทำหน้ากวนๆใส่ซะงั้น

“แก่แล้วนะคั๊บ วิ่งมากเดี๋ยวกระดูกกระเดี้ยวหักเอานะ”

“เออ แก่  แก่มาก”

“ก็แก่กว่าไหมล่ะ”

“แก่กว่าแล้วจะเอาเป็นแฟนทำไม”

“ก็ผมรักของผมนิ”

แค่คำพูดเดียวสั้นๆ ทำให้ผมกลับยิ้มได้อย่างประหลาด

“แน่ หายงอนละเหรอ”

“ใครงอน”

“คนแก่ขี้งอน”

“เออ”

“ล้อเล่นคับ อย่านะๆ อย่างอนอีก ผมขี้เกียดวิ่งหนี”

ผมก็นึกมันมีที่ไหนวะ คนงอนวิ่งไล่คนถูกงอนเนี่ย

“นี่ เรื่องโอ๊ตน่ะนะ...”

“หวงไม่ได้เหรอ” ไอ้ตี๋โปรพูดสอดขึ้นมา

“นะ มันก็..ได้ แต่นี่เพื่อนพี่นะ”

“แต่เพื่อนไม่คิดแค่เพื่อนอ่าดิ จ้องจะแย่งไปตลอดเลย”

“เค้าโทรมาบอกว่าเค้าคิดว่าจะมีแฟนใหม่แล้ว..”

“เจงดิ งี้ศัตรูก็หมดไปอีกคน”

“มันมีเยอะเหรอ ไอ้ศัตรูเนี่ย”

“ช่าย พวกขัดขวางความสุขของเราสองคน”

“มีที่ไหนกัน เราแหละมีแต่คนมาชอบ”

“แหม่ๆ ผมก็บอกแล้วไงครับว่าผมไม่โสด เค้าก็มาชอบผมเองอ่า ช่วยไม่ได้คนมันน่าตาดี
ศัตรูก็พวกที่ชอบมาขัดขวางตอนที่ผมอยู่กะหนึ่งไง เช่นหมาเพื่อนหนึ่ง”

แล้วผมก็หัวเราะครับทั้งๆที่บอกว่าศัตรูแต่ก็ไปขอความร่วมมือให้ช่วยนะนี่ ผมเดินไปยืนหน้าโปร

“ไป กลับห้องกันเถอะ”

“ฮั่นแน่ หายงอนแล้วใช่ไหม”

“ใครบอก ยังไม่หาย”

“อ๊า...”

“ถ้าไม่ถือกระเป๋าแล้วเอาไปเก็บให้ จะไม่หายนะ”

“คร๊าบบบ”

เรื่องมันก็จบลงด้วยดีน่ะครับ แต่ในบางเรื่องก็เกือยแย่เหมือนกันนะครับ แต่ท้ายที่สุดก็ผ่านไปด้วยดีเพราะคนที่ โปรเรียกว่าศัตรูทั้งหลายนี่ล่ะ

กลับมาบนรถเมล์ครับ ตอนเช้านี่รถติดเป็นปกติ ยิ่งหน้ามหาวิทยาลัยของโปรแล้วยิ่งติดหนักมาก

“เอ้อนี่พี่เอาหนมปังมาป่าว”

“อ่ะ” แล้วผมก็เอาขนมปังที่เก็บไว้ในกระเป๋ากับนมออกมา

“ไม่มีไส้ครีมเหรอ”

“ไม่มี”

“อ๊า  จากินไส้ครีมอ่า”

“ก็ใครล่ะกินคนเดียวหมด”

“หนึ่งอ๊า” เดี๋ยวนี้บางทีโปรก็เรียกชื่อผมเฉยๆแล้วล่ะครับ

“นี่ โปร โตแล้วนะเ รียนก็มหาลัยแล้ว ทำตัวเป็นเด็กไปได้”

“หนึ่งแหละ ทำตัวแก่อยู่ได้”

“ไอ้โปร....”

“ขอโทษคร๊าบบบบ” แล้วเจ้าตี๋โปรก็ยอมทานขนมปังที่ผมเอามาให้

“นี่เดี๋ยวป้ายหน้าถึงมหาวิทยาลัยแล้วนะ”

“อ่ะ” โปรพูดอะไรมากไม่ได้ครับเพราะขนมปังเต็มปาก

“หนึ่ง เย็นนี้เล่นบาสกะเพื่อนนะ แต่ก็จะกลับมากินข้าวด้วยนะ”

“เล่นจนเค้าไล่ออกจากทีมแล้วนี่น่ะเหรอ”

“แหม่ๆ พวกมันมองไม่เห็นฝีมือผมเองนินา”

“อืม  ก็ไม่เห็นเหมือนกัน”

“หนึ่งงงง...อ๊า.....”

“ล้อเล่น
อืม...เย็นนี้จะกินอะไรดี”

“เอาก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่แล้วกัน  และก็หนมปังไส้สังขยาสดนะ”

“อืมๆ  ได้ๆ”

“อ่ะ  ถึงป้ายละ ไปก่อนนะ แล้วเจอกันนะครับ.....   

ที่รัก....”

“อืมๆ  เจอกันครับ”

ในวันนี้ผมต้องนั่งรถเมล์กลับเองคนเดียวครับ เพราะรถเสียอยู่โปรเลยไม่ได้มารับ ผมกลับถึงห้องก็ไม่เย็นมากนักเท่าไหร่ จัดของที่ซื้อมาจากที่ทำงานใส่จานแล้วก็เปิดทีวีดูตามปกติรอเวลาโปรกลับมาแล้วจะได้ทานข้าวด้วยกันครับ จนเวลาเริ่มนานเข้าๆผมก็เริ่มเป็นห่วงโปรเหมือนกันนะเลยโทรหา แต่โทรแล้วก็ไม่มีคนรับสายครับ สงสัยว่าคงเล่น บาสอยู่มั้ง ผมเดินออกไปที่ระเบียง วิวบนชั้นนี้มันอยู่สูงครับเลยมองเห็นอะไรทั่ว เวลาผมอยู่คนเดียวก็ชอบมามองอะไรเพลินๆที่ระเบียงเสมอ

แล้วจู่ๆก็มีใครบางคนมากอดผมทางด้านหลัง ไม่บอกก็คงรู้ครับว่าเป็นใคร

“เฮ้ออออ  เหนื่อยจางเลยยยย”

“ก็เล่นบาสมานิ แล้วนี่ ตัวมีแต่เหงื่อนะ”

“ม่ายสนก็อยากกอดนิ  แล้วทำไมหนึ่งชอบมายืนตรงนี้นะ”

“ก็วิวสวยดี”

“เห็นก็เหมือนกันทุกวันไม่ไม่เบื่อบ้างเหรอ”

“ม่าย”

“แล้วเบื่อผมบ้างไหมคั๊บ”

“เบื่อละ”

“อ๊า..... หนี่งอ่า”

“เบื่อที่ไม่รู้จักโตสักที”

“อ่านะ โตแล้วๆ ก็เห็นอยู่นิ  หรืออยากจะพิสูจน์คับ”

“เออนะ โตแต่ตัวอ่าสิ”

“โหย แฟนผม ไม่หวานบ้างเล๊ย”

“อยากหวานก็ใส่น้ำตาลสิ”

“เอาเข้าไป แฟนโผมมมม”

เดี๋ยวนี้ผมเริ่มติดพวกคำกวนๆจากโปรมาแล้วนะครับนี่ แย่จัง

“พี่หนึ่ง....” เอาละ ตอนจะหวานถึงเรียกพี่

“ฮือ??”

“ขอกอดจนถึงเช้านะ”

“ไม่เมื่อยก่อนก็ลองดูสิ”

“อย่าท้าเชียวนะ”
   
“แต่พี่เหม็นโปรอ่า”
   
“ง่ะ หนึ่งงงงงงง”

แล้วโปรก็กอดผมอยู่อย่างนั้น ผมก็มองไปบนฟ้า แม้ว่าแถวนี้จะมีแสงไฟมากมายจนบังแสงดาวหมด แต่คืนนี้สำหรับผม มันเหมือนมีดาวระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด ดาวพวกนี้มันอยู่ในใจของผม และก็จะยังอยู่ต่อไปตราบเท่าที่คนสองคนยังคงรู้จักที่จะ “ให้” กันและกันอยู่เสมอครับ



โจ ขอบคุณมากๆที่ทำให้ผมกับโปรได้คบกันมาถึงตอนนี้ โจเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมมาอยู่กรุงเทพฯ แม้จะชอบมีเรื่องทะเลาะกับน้องต้อมมาให้ผมช่วยแก้บ้าง แต่ผมก็ยินดีเสมอครับ

น้องต้อม รักโจให้มากๆนะ เอาใจช่วย

หมอพจน์ พี่ยังรักเราอยู่เสมอ เราเป็นน้องที่ดีที่สุดของพี่ ถึงแม้ระยะทางของเรากับแฟนเรามันจะไกล และเวลาก็ไม่ค่อยมีให้กัน แต่พี่เชื่อว่าต่างคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน มันย่อมมีทางออกเสมอ

น้องอาร์ท (น้องของโอ๊ต) ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเก่าของพี่แล้ว รู้สึกจะเป็นรุ่นน้องคณะเสียด้วย ไม่ยากนะ ตั้งใจๆ เมื่อเราชอบมัน มันก็จะชอบเราด้วย

โอ๊ต  อืม...เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ แต่ตอนที่ผมกลับบ้านทุกที โอ๊ตจะมาบริการพาผมไปที่ต่างๆตลอด แม้ตอนนี้จะมี   โปรพ่วงไปด้วยแต่โอ๊ตก็ยังคงบริการพวกเราเหมือนเดิม บางทีผมก็เกรงใจเพราะโอ๊ตจะเลื่อนเครสให้ว่างเสมอตอนที่ผมกลับบ้าน จนแล้วจนรอดก็คงจะมีแฟนสักทีนะ

รูมเมทผม ตอนนี้เห็นว่าเก็บเงินแต่งงานอยู่ เอาใจช่วยนะเว้ยเพื่อน ไงซองงานมึงเราใส่ยี่สิบได้ป่ะ หักจากหนี้เก่าที่มึงเคยติดเรา ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ

คุณพ่อคุณแม่ของผม ผมขอโทษด้วยครับที่ไม่อาจบอกได้ว่าผมนั้นเป็นอะไร หลายครั้งที่ท่านถามผมว่าเมื่อไหร่จะมีแฟน หรือเมื่อไหร่จะคิดแต่งงาน  ผมก็บ่ายเบี่ยงตลอด ส่วนโปรเองผมก็ดีใจครับที่โปรเข้ากับครอบครัวเราได้ดี

เพื่อนๆที่ผมไม่ได้เอ่ยถึงทุกๆคน ขอบคุณมากๆที่มาช่วยแก้ปัญหาให้มนุษย์เจ้าปัญหาอย่างผม

สุดท้าย โปร ก็ยังคงเห็นแก่กิน ชอบเล่นบาส(แม้ไม่เก่ง) เรียนดี กวนทุกคนได้ตลอดตรงข้ามกับผลการเรียน ทุกสิ่งเหล่านี้รวมกันเป็นโปร เป็นมือโปรในชีวิตผมอยู่ตลอดมาและตลอดไป ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ผมก็ขอยืนยันคำเดิมผมจะทำทุกนาทีที่เราได้มีโอกาสใช้ชีวิตด้วยกัน ให้ดีที่สุดครับ

เรื่องของผมมันเริ่มขึ้นที่รถเมล์ครับ แล้วมันจะยังคงดำเนินต่อไปที่รถเมล์ ถึงมันยังไม่จบลงอย่างบริบูรณ์ แต่ผมก็จะทำใจรับกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่เรานั้นยังคงเชื่อใจกันและกันอยู่ ชีวิตคู่มันก็ยังคงดำเนินต่อไปตามทางของมันครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: remainder.t ที่ 09-01-2009 13:34:45
 :z13: :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-01-2009 13:52:03
 :z13: :z13:

จิ้มทะลุรีบนอิๆ

อ่านจบแล้ว เรื่องนี้อ่านแล้ว หลงรักตี๋โปร หมดใจเลย อะ

อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยจะมีให้อ่านบ้างปะพี่ ถ้ามีจะรอน๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 09-01-2009 13:56:28
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆอ่านแล้วอบอุ่นในหัวใจค่ะ  :3123:

 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-01-2009 14:30:45
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ชอบที่ประทับใจ

ขอบคุณมากทั้งผู้เขียน และคุณ Koa-ka นะคะ

+1 แทนคำขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-01-2009 15:29:59
จบแต่ไม่อวสาน แอบลึกซึ้งน่ะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-01-2009 15:48:10
สำหรับเรื่องที่จบแล้ว ทางโมดุฯจะย้ายและปักหมุดกระทู้ไว้ที่ห้องนิยายหนึ่งอาทิตย์

Moderator
หนึ่ง



หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: benxine ที่ 09-01-2009 16:49:55
^
^
^
^

มาต่อไวนะ



ไม่อยากให้จบเลยยยย



 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: XTeND ที่ 09-01-2009 20:32:25
ห่าห่ะห้า และแล้วก็จบ นั่งจิบนมร้อนๆ อ่านนิยายของแกตอนจบ

โต้ลมหนาวที่บ้าน 555+ อิจฉาเป่า ก.กา อิอิ

อย่าอิจฉากูเลย กูป่วยเซ็งว่ะ

ปล. กูตกลงปลงใจแล้วว่ะ กูจะลงตอนพิเศษ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถึง เพิ่อนๆ

ตามคำขอของเพื่อนกร๊าฟ  และเพื่อนๆ 555+

ดูดิโหวดสองวันได้ 4 คน เซ็งเป็ด นะเนี้ย แต่ถึงอย่างนั้นก็จะลง เชิญอ่านเล้ย

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก
ตอน พิเศษ(ตามคำเรียบร้อง)

   หลังจากที่ผมทำงานเสร็จก็แวะซื้ออาหารเข้าคอนโดฯ วันนี้โปรจะกลับเย็นกว่าปรกติ เพราะโปรอยากเล่นบาสกับเพื่อนๆ และรุ่นน้อง ผมถึงคอนโดฯ ราวๆ หกโมงเห็นจะได้ ผมจัดการเก็บข้าวของก่อนเข้าห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารให้เจ้าตี๋จอมโวยวาย ผมบรรจงแกะถุงแกงเทใส่ชามแล้วยัดเข้าไมโครเวฟ สลับกับซาวข้าวเพื่อเตรียมหุง จากการคำนวณเวลาก็น่าจะเสร็จราวหนึ่งทุ่มพอดี ขณะที่ผมกำลังแกะถุงแกงถุงสุดท้ายเสียงประตูดังขึ้น ไอ้เจ้าตี๋โปรกลับมาแล้ว
   “กลับบ้านแล้วครับ” โปรพูดขึ้นเรียนแบบประเพณีญี่ปุ่น (-- --“) “พี่หนึ่งทำอาไรอยู่” ผมหันไปมองยังต้นตอนเสียง เด็กตาตี่เอาคางเกยขอบประตูทำท่าเหนื่อยจากการเล่นกีฬา
   “เตรียมอาหารนะ...ไปอาบน้ำสิ เสร็จแล้วจะได้ทานข้าว” ผมสั่ง (รู้สึกตัวเองเป็นแม่กำลังสั่งลูกไปอาบน้ำ) ผมหันหลังกลับไปดูอาหารที่กำลังเตรียมจะได้เอาอาหารจานสุดท้ายยัดไมโครเวฟได้ทันที่
   “โห้ย ไม่เอาอ่ะ” เจ้าโปรตอบ ผมเริ่มรู้สึกมีอาไรมาคล้องที่เอว แล้วหัวเจ้าโปรเริ่มมาซุกที่หลังของผม
   “เห้ย เห้ย อย่าเช็ดเหงื่อดิ” ผมตอบพลางหันกลับทำตาเขียวใส่ ผมเพิ่งเห็นตอนนี้ว่าโปรใส่ชุดนักกีฬาบาส เป็นเสื้อแขนกุดโชว์กล้ามเนื้อตรงไหลที่ได้สัดส่วนและลำแขนที่ขาวเนียน คอเสื้อเป็นรูปตัววีเว้าลึกพอที่จะเผยกล้ามเนื้อช่วงอกที่แน่นน่าสัมผัส หน้าทองที่แบนราบและขอบกางเกง เลือดในตัวสูบฉีดแรงจนผมรู้ว่าผมหน้าแดงและหัวใจเต้นผิดจังหวะ ผมรีบหันกลับไปเพ่งสมาธิจดจออยู่กับอาหารแทน
   “ทำไมหัวใจพี่หนึ่งเต้นแรงจัง” โปรถามกระเซ้า
   กริ๊ง
   เสียงไมโครเวฟบอกว่าอาหารอุ่นเรียบร้อย ผมรีบเอาอาหารที่อุ่นเสร็จออกแล้วยัดอันใหม่เข้าไป พยายามทำมันให้เป็นปรกติที่สุด
   “อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง บอกให้ไปอาบน้ำ” ผมตอบ ผมรู้ตัวดีว่าน้ำเสียงเริ่มไม่ปรกติ
   “เหรอ…” โปรตอบแบบกวนประสาท
   โปรเริ่มไซร้ที่คอช้าๆ ผมไม่อาจทำอะไรได้ เหมือนกวางที่กำลังโดนสิงโตขยำ มือทั้งสองข้างของเขาเริ่มลูปไล้บริเวณหน้าอกและช่วงท้อง เขาบรรจงจูบที่คอเบาๆ มือของเขาเริ่มปลดกระดุมเสื้อผมที่ละเม็ด
   “ไม่เอาโปร!!! ไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็น!” ผมปามเสียงของผมสั่นเครือ ผมชักเริ่มเกิดอารมณ์ขึ้นมาแล้วสิ
   โปรไม่ตอบอะไร และมันก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะมือของโปรข้างหนึ่งเริ่มชอนไชเข้าไปในเสื้อส่วนอีกข้างก็ยังปลดกระดุมอย่างไม่หยุดยั้ง มือของโปรค่อยลูปไล้ที่หน้าอกปลายนิ้วเขี่ยที่หัวนมเป็นระรอก ผมตัวเกร็ง และเสียวจนครางออกมาไม่รู้ตัว
   “เหอะๆ” เสียงของโปรดังขึ้นเบาๆ แต่มันชัดเจนในหูผม
   โปรจับผมหมุ่นตัว หลังผมผิงกับตู้กับข่าวในห้องครัว เสื้อผมหลุดออกจากพันธนาการหล่นลงไปกองกับพื้น โปรถอดเสื้อเขาออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อทุกส่วนสัด กล้ามหน้าอกที่นู้นออกมาได้รูปหัวนมสีชมพู ลำตัวที่เว้าเหมือนนาฬิกาทราย หน้าทองที่แบนราบ ขอบกางเกงบาสที่ใส่แบบโหลดเห็นท้องน้อยและไรขน และยิ่งเด่นชัดเมื่อมีคราบเหงื่อที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนน้ำมันมวยทำให้ทุกซอกมุมมันวาว หน้าของโปรค่อยๆ เลื่อนมาหาผม ปากของโปรค่อยๆ มาสัมผัสกับปากของผมในขณะที่ผมกำลังตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า (ความจริงก็เห็นอยู่ทุกวันแต่ไม่ทันตั้งตัวกับเวลาเช่นนี้) ผมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ ลิ้นของโปรสอดใส่เขามาเป็นจังหวะ เมื่อโปรถอนพิษจูบออก มันกลับทำให้ผมโหยหาจนต้องยื่นไปหาเขาแทนแล้วมีหรือ โปรจะไม่สนอง
   รสจูบมันชั่งหอมหวานและร้อนแรง มือของโปรลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของผมและค่อยรัดให้เราอยู่ใกล้กันมากขึ้นชนิดเนื้อแนบเนื้อเป็นจังหวะ ผมรู้สึกถึงดุ้นเนื้อของผมและโปรที่แข็งตัวอยู่เบื้องล่าง มันคอยเสียดสีกันทุกครั้งที่เราแนบชิดกัน โปรเริ่มถอนจุมพิตผมแล้วไซร้คอและหลังใบหูแทน มือที่เคยรัดตัวผมบัดนี้มาเกาะแกะกับเข็มขัด ผมได้แต่ยื่นนิ่งตัวสั่นเกร็งกับเหตุการณ์ที่ไม่ได้เตรียมตัวตั้งรับนี้ ไม่นานนักกางเกงผมก็หลุดอย่างง่ายดาย มือโปรข้างหนึ่งกับมาคล้องตัวผมอีกครั้งส่วนมืออีกข้างโปรถอดกางเกงบาสของตนมันหลุดได้ง่ายกว่าของผมมาก บัดนี้น้องชายของโปรแข็งเป็นลำอย่างเห็นได้ชัด ในกางเกงในสีดำมันนูนเด่นทามกลางแสงไฟ โปรเริ่มเลียผสมกับดูดตรงหัวหัวนม ผมเสียวซ่านไปทั้งตัว มือของผมที่เคยเกาะตู้ แต่ตอนนี้มือข้างหนึ่งอยู่ที่ศีรษะและอีกข้างอยู่ที่หลังของโปรโดยที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันไปตอนไหน
   โปรค่อยๆ โน้มตัวเพื่อบรรจงจูบทั่วร่างกายของผม มือของเขาค่อยๆ ถูน้องชายของผมเบาความเสียวซ่านถาโถมเขามา ผมอดทนกับความเสียวนี้ไม่ไหวถึงกับต้องครางออกมา ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะบรรจงจูบผมที่ริมปากอีกครั้ง เราเริ่มเล่นลิ้นกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เร้าร้อนกว่าเดิม มือผมลูปไล้ตามกล้ามเนื้อของโปรทุกซอกทุกมุม คราวนี้ผมเริ่มไซร้คอโปรบ้าง ผมบรรจงจูบที่คอและหลังใบหูทั้งสองข้าง ผมได้ยินเสียงโปรครางขึ้นเป็นระยะ ยิ่งทำให้อารมณ์ของผมพุ่งพรวด มือของผมวกวนอยู่ที่เนินอกของโปร มันชั่งต่างจากที่เห็นเนินอกที่ดูหนาและแข็งแกร่ง แต่มันนุ่มเวลาที่สัมผัส บริเวณหัวนมมันเป็นดุ้นๆ นิ้มๆ ทุกครั้งที่ผมดูดนมโปรก็ร้องครางขึ้นมา เสียงครางของเจ้าตี๋มันยิ่งทำให้ผมเกิดอารมณ์ ผมแอบมองหน้าเจ้าเด็กน้อยตอนผมดูดนมสีหน้าที่เหยเก ผมยิ่งมีความสุข
   กริ๊ง
   เสียงอาหารอุ่นเสร็จแล้ว แต่อารมณ์นี้ไม่มีใครสนใจแล้ว (ปล่อยมันเหอะ (--*--))
   ผมค่อยๆ เลื่อนตัวลงช้าบรรจงจูบลงมาตรงหน้าท้องที่แบนราบ มือของผมข้างหนึ่งยังอยู่ที่หน้าอกของโปร ส่วนมืออีกข้างของผมนั้นตอนนี้ซุกอยู่ที่น้องชายของโปร ผมค่อยๆ เอามือถูเบาๆ ผ่บนผ้าคอทต้อนสีดำนั้น มันนุ่มมือแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกรงที่อยู่ด้านใน โปรค่อยๆครางออกมาเบาๆ ผมค่อยถูลำท่อนสลับกับพวงด้านล้าง ขณะที่ผมยังคงไซร้บริเวณท้องของเขา ทำให้ผมรู้ว่าเขาเกร็งตัวบ่อยเหมือนกัน
   “พี่หนึ่ง ถอดมันออกเลย” โปรพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบ น้ำเสียงกระเซาสลับกับเสียงครางที่ดังเป็นระยะ
   ผมจัดการปลดปราการด้านสุดท้ายทันที ผมเห็นลำท่อนขาวและเนียนเหมือนสีผิวของโปร โปรใช้มือทั้งสองข้างจับศีรษะผมเข้าไปหามัน มันมีกลิ่นอับเหงื่อนิดๆ หลังจากการเล่นกีฬาของโปร กลิ่นนั้นมันทำให้รันจวนใจมากขึ้น ผมค่อยๆ บรรจงจูบที่โคนช้าๆ แล้วค่อยๆขึ้นมาที่ปลายยอด โปรไม่รอช้าแยงเขาปากผมทันที ผมจะถอนปากออกแต่โปรจับศีรษะผมไว้แน่และค่อยๆ ซอยช้าๆ สักพักโปรเริ่มปล่อยมือผมต้องจึงเป็นคนจัดการเอง โปรครางออกมาดังมาก ผมค่อยๆ ถอนปากออกแล้วจึงใช้ลิ้นกับบริเวณดังกล่าวแทน เสียงโปรหายใจหอบดังจนสามารถได้ชัดเจน ผมเงยหน้ามองที่โปร โปรยิ้มแล้วดึงผมให้ยืนขึ้น โปรจับเอวผมแล้วดันให้นั่งบนตู้อาหาร
   “ขี้โกง! ให้เราเปลือยคนเดียว”  โปรกระซิบข้างหูผม ก่อนที่จะจูบปากผมอีกครั้ง มือของดึงกางเกงในผมออกแล้วเหวี่ยงทิ้งทันที แล้วแทรกตัวมาระหว่างขาของผม ก่อนที่จะเอามือช้อนเอวของผมอีกครั้ง เพื่อดันตัวผมกับเขาให้แนบเนื้ออีกครั้งแล้วจึงค่อยๆ เกร็งลำตัวบัดนี้น้องชายของเราเริ่มเสียดสีกันอีกครั้งความเสี่ยวเริ่มพรั่งพรูในตัวผม โปรไม่ยอมปล่อยโอกาสยังรุกเข้ามาแลกลิ้นกันต่อ โปรเอามือทั้งสองข้างยกขาของผม แล้วค่อยๆเอานิ้วสอดใส่ที่บั้นท้ายของผม ผมเกร็งด้วยความเจ็บปวดโปรยิ่งยัดนิ้วของเขาให้มันลึกขึ้น แล้วจึงดึงออกช้าๆ แล้วเริ่มใช้นิ่วซอยถี่ขึ้น จนผมครางไม่ได้ศัพท์ และแล้วโปรก็เอานิ้วออกมาผมรู้สึกโล่ง แล้วโปรค่อยๆเอาน้องชายมาจอที่ถ้ำของผม ผมไม่ทันได้ร้องห้ามโปรก็รุกเข้าแล้ว มันเจ็บและจุกยิ่งกว่าเดิม โปรค่อยๆดันช้า ด้วยหวังว่าความเจ็บปวดของผมจะลดน้อยลง มันช่วยได้นิดหน่อย เพราะถึงอย่างไรมันก็เจ็บอยู่ดี
   โปรค่อยๆซอยช้า บัดนี้ความเสี่ยวซึมซาบแทนที่ความเจ็บ โปรค่อยๆไซร้คอ ผมเริ่มครางไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง แล้วเจ้าตี๋ก็เริ่มเร็วความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงโปรครางอย่างแผ่วเบาข้างหูผม ก่อนที่จะหยุดพักแล้วจูบกันต่อ โปรเข้ามาชิดผมมากขึ้นจนผมสามารถเกี่ยวขาตนเองได้ โปรค่อยช้อนตัวผมแล้วอุ้ม เขาโขยมตัวเล็กน้อย ความเสี่ยวเริ่มแผ่กระจายอีกครั้ง เรายังคงจูบกันขณะที่เพลงรักเราเริ่มบรรเลงต่อไป โปรเริ่มเดินสะเปะสะปะชนตู้เย็นทีชนพนังห้องที จนผมต้องเอาท้าลงยันพื้นไว้เพราะกลัวล้ม โปรถอนน้องชายของตนออกจากตัวผมก่อนดันผมให้ลงกับนั่งที่พื้น เขานั่งคุกเขาเอามือยันพื้นเหมือนท่าคลานเข้ามาหาผม โปรไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาจูบผมต่อทันทีกอดผมให้ผมนอนไปกับพื้น แล้วค่อยไซร้คออีกครั้ง มือของเขาจับผมถ่างขาแล้วแทรกตัวอีกครั้ง เขาสอดใส่เข้าไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไม่รู้สึกเจ็บแล้ว บัดนี้ขาเขายืดตรงมือยันพื้นเหมือนท่าวิดพื้น เขาค่อยๆซอยช้าๆแล้วถี่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางระหว่างผมกับโปรสลับกันผมเพิ่งสังเกตเห็นตัวโปรเต็มไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง กลิ่นเหงื่อยิ่งทำให้เราใจมาขึ้น กล้ามเนื้อของโปรเริ่มเกร็งทำให้เน้นมากขึ้น ผมเอื้อมมือไปสัมผัสเนินอกนั้นอีกครั้ง มันชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมใช้ปลายนิ้วเขี่ยไปที่หัวนมทั้งสองข้าง โปรครางออกมาเสียงดังและกระตุกตัว โปรหยุดนิ่งทรุดลงมานอนบนตัวผม เสียหายใจเร็วและแรงผมโอบกอดโปร ผมรู้สึกมีความสุข เสียงโปรหายใจยังดังอยู่ข้างหูผม 
   “ยังไม่จบหรอกครับ” เขากระซิบ เสียหายใจเริ่มแผ่วเบาไปแล้ว
   โปรเอาแขนข้างหนึ่งสอดที่ต้นคอผมแล้วกระแทกน้องชายเข้ามาอีกครั้ง แล้วซอยถี่ขึ้นจากครั้งก่อน ผมทนกับความเสี่ยวไม่ได้จนต้องเริ่มครางอีกครั้ง พอผมเริ่มเปิดปากเจ้าจิ่งจอกก็ประกบปากผมทันที มืออีกข้างของโปรจับที่น้องชายผมทันที่ แล้วเขาก็รีบสาวช้า แล้วถี่ขึ้นตามจังหวะที่เขาเป็นคนกำหนด มือผมยังคงลูปไล้แผ่นหลังของโปร ความเสี่ยวจากทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังทำให้ผมเก็บอาการไม่อยู่ ผมต้องเบี่ยงหน้าหนี โปรซุกหน้าลงที่คอของผม เหมือนโปรจะรู้เขาถอนน้องชายออกทันที แล้ววางน้องชายของเราคู่กัน มือที่เคยสาวลำท่อนของผมตอนนี้มันมาลูปไล้อยู่ที่หัวนมเพื่อเพิ่มความเสียว เขาค่อยๆเกร็งตัวอีกครั้ง ให้น้องชายของเราเสียดสีกันมากที่สุด ผมและโปรต่างก็ครางออกมาเมื่อน้องชายเขาไปซ้ายทีขวาที ทำให้กะความเสียวไม่ถูก เสียงครางที่สุดเซ็กซี่ของหนุ่มตี๋ หน้าอกผมที่ตอนนี้มีมือของคนดังกล่าวค่อยลูบไล้ หรือเบื้อล่างที่กำลังเสียดสีอยู่ สุดท้ายความเสี่ยวของผมกับโปรที่ปิดกลั้นไว้ก็ล้นทะลักออกมาพร้อมกัน น้ำรักของโปรพุ่งแรงจนถึงยอด อกผม โปรเอามือลูบเส้นผมของผมแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนที่จะนอนทับตัวผมลงไป เสียงหายใจที่รวยรินดังอยู่ข้างหูผม มันค่อยๆแผ่วเบา ผมกอดเจ้าตี๋ของผม ผมรับรู้ถึงเสียงเต้นของหัวใจ
   ผมกวาดสายตาดูนาฬิกา หนึ่งทุ่มสี่สิบกว่านาทีแล้ว เจ้าจิ่งจอกนอนนิ่งบนตัวผม
   “โปร หิวข้าวไหม” ผมถาม
   “ม่ายหิว อิ่ม เหนื่อย เพิ่งกินพี่หนึ่งเสร็จ” โปรตอบกวนๆ
   “เห้ย ไปกินข้าว”
   “ไม่อ๊าว... นอนพักแป๊บดิ”
   แล้วโปรก็นอนอยู่บนตัวผมอ้อมกอดของผม เราทั้งคู่เปลื่อยเปล่าในอ้อมกอดของกันและกัน

เสริม...พิเศษ (+ไข่ดาว)
   ผมลืมตาดูนาฬิกา หลังจากที่หลับตาไปพักใหญ่ๆ เห้ย สองทุ่มกว่าแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย ไอ้ตี๋...
   “โปร ไปอาบน้ำกินข้าวได้แล้ว”
   “นอนกอดอีกนิดนะ เอาแรง”
   “2 ทุ่มกว่าๆ แล้ว ไปอาบน้ำ” ผมเสียงแข็ง
   “ไปอายด้วยกัน” โปรตอบ
   “บ้าดิ... ไม่เอาอาย”
   “นอนเปลือยกอดกันแบบนี้ยังอายอีกเหรอ”
   “ก็ได้วันนี้วันเดียวนะ”
   โปรดีดตัวขึ้นมาคุกเขาต่อหน้าผม ตาลุกวาวผมมองหน้าแล้วทำตาเขียวใส่ แต่ตาเจ้ากรรมจองผมมองต่ำลงไป ต้นคอที่เรียวยาว หัวไหล่ที่กลมมน กล้ามเนื้อที่เข้ารูปกล้ามหน้าอกที่นู้นออกมา หน้าท้องที่แบนราบ และ น้อยชายที่ยังหลับอยู่...หรือยังไม่หลับหว่า หรือกำลังตื่น
   “อะแห่ม” เจ้าตี๋โปรมองผมด้วยสายตามีเลศนัย
   “ไปต่อที่ห้องน้ำไหมครับ”

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยนะที่นี้ด้วยนะครับ กำลังมึน
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-01-2009 22:02:30
 :m25: :m25: ขอไปให้เลือดก่อน มิเสียแรงโหวตไปเอิกซ์ซซซซซซซ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: sleepless ที่ 10-01-2009 22:33:10
น่ารักมาก :haun4: กดโหวตไปตั้งแต่ถามรอบแรกแล้ว ได้อ่านสมใจแล้ว :mc4:
ขอบคุณคุณก.กาและคุณเส้นกราฟและคุณXTeND
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 11-01-2009 00:59:10
ตอนพิเศษนี่ :haun4:
หนึ่งเป็นลูกช้างมช.ใช่ป่าว :t3:
ป้าก็จบที่เดียวกับนู๋ แต่รุ่นโบราณตั้งแต่ยังรวมกันเป็นคณะสังคมศาสตร์
 :t3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-01-2009 14:21:36
 :pighaun: กลับมาก็เลือดกระฉูดเลยตู ว่าแต่จะจบจริง ๆ เหรอ อยากอ่านเรื่องต่ออ่ะ ขอตอนพิเศษก็ได้  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: anawas ที่ 14-01-2009 11:57:35
 :o8:  ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ

                 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 16-01-2009 01:19:46
แอ๊บมีเวลาไปสวีทกันหลายรอบเรยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 19-01-2009 02:05:35
อ่านจบ แล้ว อยากไปอ่างแก้วเรยๆๆๆๆๆๆ

บรรยากาศดี จิงๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 22-01-2009 01:37:52
 :haun4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 23-01-2009 05:50:40
 o13 สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบมากมายยยยยยยยยยยยยยยย






 :z2: ขอบคุณนะคะ อิอิ











 :กอด1:



หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: ranaways ที่ 25-01-2009 10:08:56
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

น่ารักที่สุดอ่ะ

สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อยากมีบ้างจังงงงงงงงงงงงง :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 26-01-2009 00:09:18
โปรดูรักจริงหวังแต่งสุดๆ

น่ารักจังเลยค่ะ หวานมากๆ โปรไม่วอกแวกเลยแฮะ แปลกดี ปกติคนวัยนี้เผลอใจง่ายจะตาย สงสัยโปรจะเป็นส่วนน้อย อิๆ

เขียนดีนะคะ เคยเขียนเรื่องอื่นอีกรึเปล่า อยากอ่านจัง

สนุกมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: N19T ที่ 10-02-2009 20:29:04
โปร ถึงแม้นิสัยจะเด็ก แต่ก็ท่าทางรักจริง เอาคนแก่แบบพี่หนึ่งซะอยู่หมัด  :laugh:

ตอนพิเศษ ทำให้เรา  :pighaun: เลย เหอเหอ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly-TheBeast ที่ 06-03-2009 07:03:13
โปรกับ เอ (ของคุณซัมซิก) นิสัยคล้ายกันมากๆในความคิดของผมอ่ะ
ซึ่งผมชอบมากๆด้วย  ดูมันเจ้าเล่ห์ๆ แต่ไม่ร้าย
ชอบแกล้งแฟนตัวเองเป็นที่สุด น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 08-03-2009 17:41:40
สนุกมากกกกค้า...............
 :-[
โปรกวนดีอ่ะ อ่านแล้วก็ขำ

พี่หนึ่งต้องน่ารักมากๆแน่ๆเลย ฮิฮิ

ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆค้า............ :L2:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 09-03-2009 16:47:35
 :m25: ตอนสุดท้ายนี่มัน......

หนึ่ง น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก  :mc4:

โปรนี่ก็นะ เหอะๆๆ

แอบสงสารพี่เอม อยู่นิดๆแหละ

แต่ยังไง หนึ่งก็เป็นของโปรอยู่ดี

เหอะๆๆ 
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 16-03-2009 06:20:58
 :o8  แหมตอนพิเศษนี่มันก็พิเศษจริงๆ นะเนี่ย ขอบคุณเจ้าของเรื่องและคนลงเรื่องด้วยนะครับรวมทั้งเจ้าของตอนพิเศษด้วย  ตอนแรกนึกว่าหายไปไหนซะอีกเพิ่งมาอ่านเจอในนิยายที่จบแล้ว  ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะครับดูแลตัวเองด้วยนะครับขอให้มีความสุขนะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-03-2009 15:34:24
เพิ่งจะมาเห็นว่า มีตอนพิเศษด้วย  :z3:

แอร๊ยยยยยยยยยยย น่ารักจริง ขอบคุณนะคะ   :m25:   :pighaun:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: bon ที่ 28-03-2009 01:02:10
สุดยอด ชอบบบบบบบบ o13
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: Nichdia ที่ 16-05-2009 15:17:22
มาลงชื่อว่าอ่านคับ

น่ารักดีคับ เรื่องนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: 6488 ที่ 24-08-2009 03:11:02
(http://www.uptopic.net/images/cqs1251044913h.gif)
อยากมีแฟนจังอ่านของคนอื่นแล้ว.......
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 28-11-2009 15:44:28
น่าจะเข้าเล้าตั้งนานแล้วนะเนี่ยย
ไม่งั้นก้อเจอเรื่องนี้แระ  น่าร๊ากกกก ที่ซู้ดดดดด
อย่างโปรนี่ต้องไปหาแถวไหนคะนี่  อิอิ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: pong212 ที่ 29-11-2009 00:00:43
 :man1:

ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 18-01-2010 01:17:32
สนุกมากกกเลยค่ะ
อ่านรวดเดียวจบเลย
น้องโปร มั่นคงกับพี่หนึ่งมากๆเลย
ดีจังเลย ถึงแม้โปรเด็กกว่า แต่ก้อรู้สึกว่า
โปรสามารถดูแลและปกป้องพี่หนึ่งได้
ขอบคุณ คุณ ก.กา และคนแต่ง มากๆนะค่ะ   :กอด1:
ที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่าน  (เพิ่งจะได้อ่านครั้งแรกอ่ะค่ะ) ชอบๆๆ
และก้อขอบคุณคุณเพื่อน คุณ ก.กา ด้วยที่เอาตอนพิเศษ  :m25:
แต่งมาให้อ่าน น่ารักจิงๆๆๆเลย   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-01-2010 23:30:03
 :pig4: :pig4:
โปรกับพี่หนึ่งน่ารักมาก ๆๆๆ
อ่านแล้วแอบอิจฉาพี่หนึ่ง ก๊ากก ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-02-2010 14:56:12
น่ารักมากๆ เลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: BABOO ที่ 06-02-2010 00:50:47
ขอบคุณมากค่ะ น้องโปรน่ารักมากมาย

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 16-02-2010 21:50:23
โปรน่ารัก แต่ช่วงหลังที่มีเรื่องของพี่เอมเข้ามานี่
แถบอยากจะเอาซ้อมไปจิ้มให้เป็น 2 ที 8 รูเลย

ตอนท้ายยังไม่วายทำเราเลือท่วมจอ โฮ๊ะๆ คู่นี้ร้อนแรงได้อีก
อู้วววว  ไม่ไหวแล้วร้อน ขอตัวไปอาบน้ำดีกว่า
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 17-02-2010 19:45:41
 :L1:

คนที่มีรักแท้

สักวัน...ย่อมได้พบ

คนที่มีรักแท้

เช่นเดียวกัน

เหมือนกับหนึ่ง & โปร  :กอด1:



ส่วนโอ๊ต....

ความรักแบบ..เผื่อเลือก

เผื่อเหลือ..เผื่อขาด

ก็ต้องพบพานกับความรักแบบเดียวกัน

มันก็ต้องเป็นเช่นนั้น....สมควรแล้ว


ขอบคุณครับ  :pig4: คุณเส้นกราฟ - คนแต่ง , คุณ ก กา - คนโพสต์

อ่านเรื่องนี้แล้ว ได้ทั้งคำคมซึ้งๆ ถ้อยคำเพราะๆ แถมยังมีข้อคิดกินใจ จ๊าดดดนัก
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 05-05-2010 19:49:32
 o13 o13 o13

เป็นเื่รื่องที่ได้อ่านแล้วประทับใจอีกแล้วค่ะ

นานๆจะเจอเรื่องที่ถูกใจสักที

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีแบบนี้นะคะ  :pig4:

ปล. น้ิองโปรกะพี่หนึ่งน่ารักมากๆ อ่านแล้วหลงรัก  :L1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 08:44:50
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 02-01-2011 09:41:26
อ่านเรื่องนี้จบแล้ว
มีความสุขมาก ๆ
ดำเนินเรื่องราวได้น่ารักสุด ๆ ไปเลย

 :o8: :o8: :o8:

 :L3:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 02-01-2011 19:21:36
^^
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 06-01-2011 22:15:12
 :L2: :L2: :L2:

ให้น้องโปร กับพี่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 13-04-2011 23:36:23
อ่านรวดเดียวจบ!

สนุกมากๆ ชอบพจน์ ><



ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 17-05-2011 00:03:41
 :-[ :impress2:โปรน่ารักน่าเตะมากกกกกกๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: kuichai ที่ 09-08-2011 22:30:15
จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยตื่นมาอ่านสายๆ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 10-08-2011 01:07:33
เรื่องนี้น่ารักมากมาย ตอนพิเศษก็เล่นเอาซะน้ำลายหยดเลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: royintr ที่ 25-10-2011 20:33:10
อ่านแล้วรู้สึกดีๆมากเลยครับ สงสัยต้องลองไปนั่งรถเมล์บ้างไม่ได้นั่งมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 26-10-2011 21:46:33
ชอบมากชอบที่สุด  ขอบคุณมากๆนะครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: nbom_pkai ที่ 27-10-2011 03:42:06
 :m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1: :o8: :-[ :-[ :impress2:
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
ชอบๆๆๆๆ เราอยากมีอย่างนี้บ้าง โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ
เลือดกำเดาพุ่ง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: viz ที่ 04-09-2012 22:33:23
 :pig4:
สนุกมากๆเลยครับ ชอบ
น่ารักดี ^^ เข้ามาอ่านรวดเดียวหมดเลย
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 26-08-2015 19:17:40
น่ารักครับ สนุกมาก ๆ พี่หนึ่งกับน้องโปรน่ารักมาก

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 30-08-2015 18:02:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 31-08-2015 17:18:12
เป็นคู่ที่น่ารักมากอะ รักกันเนิบๆ ชีวิตเรื่อยๆ แต่อ่านแล้วอบอุ่น รู้สึกถึงความเป็นคนรักกัน
ชอบนะครับ ขอบคุณผู้แต่งมากครับ
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 28-02-2016 18:36:24
หนึ่งได้เป็นอมตะสินะ

 o13 o13
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: hallowseve ที่ 14-03-2016 16:25:23
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ค่ะ :L2:

เป็นนิยายที่ละมุนละไมน่ารักดีค่ะ  ดูเรียลเหมือนชีวิตจริงดีค่ะ

การเขียนลื่นไหลเข้าใจง่าย  ไม่เยิ่นเย้อ
 
หวังว่าจะได้เห็นผลงานต่อๆไปนะค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 27-05-2016 11:33:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 27-05-2016 11:38:11
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-05-2016 23:08:15
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: