{นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {นิยาย}รถประจำทางสายนี้ยังมีรัก (ver.เล้าเป็ด) 9 ม.ค. :ตอนที่ 30 ตอนจบแต่ไม่อวสาน  (อ่าน 118273 ครั้ง)

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
แหมๆ โปรเสียรู้ให้กับ พี่โจ เสียแล้ว

ท่าทางตอนหน้ามีลุ้นว่าใครจะนอนเต้นต์ไปไหนกะใครนะเนี่ย

ท่าให้เดานะ พี่พจน์ต้องไปชัว ไห้เป็นตัวเดินเรื่องอีกหนึ่ง อิๆ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

แหมๆ โปรเสียรู้ให้กับ พี่โจ เสียแล้ว

ท่าทางตอนหน้ามีลุ้นว่าใครจะนอนเต้นต์ไปไหนกะใครนะเนี่ย

ท่าให้เดานะ พี่พจน์ต้องไปชัว ไห้เป็นตัวเดินเรื่องอีกหนึ่ง อิๆ

แหม่ น่าจะให้ไปแข่งกับหมอกฤต คอนเฟริม  :pigha2:
อืม... มีแต่คนรอ NC นะนี่  :haun4:  แสดงว่าหื่นๆกันท้างน๊านนนน  ผมก็เหมือนกัน  :laugh:
แต่ไอ้นายเส้นฯมันหน้าบางขนาดนั้น มันจะเขียนได้หรือนี่  555+
มีคนกังวลเรื่องหักมุม ไอ้นายเส้นเคยบอกว่า "ชีวิตคนเรา มันไม่แน่นอนหรอก" และท่าจะจริง  :m15: ไม่อยากบอกว่าชีวิตเมิงน่ะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งขนมเส้นกิน (เอะยังไง??)

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ
ปล.หนาวนี้ๆ  ไปขึ้นดอยกันเถอะ เตวสักม่อนสองม่อนบ่าดาย


ตอนที่ 18

วันสุดท้ายก่อนที่จะหยุดยาว ผมตกลงกับโจว่าจะลางานก่อนวันนึง เพราะจะได้พักผ่อนยาว (วันหยุดจริงๆแค่สามวันเท่านั้นครับ แค่เดินทางก็ใช้เวลาไปครึ่งวันแล้ว) การเดินทางครั้งนี้ตกลงว่าจะใช้รถของโจไปครับเพราะถ้าเอารถโปรไปคงมีเรื่องแน่ เพราะโปรเองจะบอกกับทางบ้านว่าจะไปเข้าค่ายติวเข้ามหาวิทยาลัยโครงการของคณะแพทย์ฯของหมอพจน์ แน่นอนว่าเตี้ยมกับหมอพจน์แล้ว หมอพจน์เองตอนแรกบอกว่าจะไม่ไปครับเพราะกลัวจะมีสอบวันที่เราเดินทาง แต่พอดีว่ามีการเลื่อนสอบพอดีเจ้าตี๋โปรรู้เข้าเลยพยายามโทรไปขู่เข็ญให้หมอพจน์มากับพวกเราด้วยแต่ก็ไม่ยอมไปอยู่ดี

“นี่เพ่พจน์ เตรียมเก็บของได้ละ ไม่งั้นมีลากลงจากหอแน่”

“เอะเจ้าโปร!!! พี่พูดนี่ไม่รู้เรื่องเหรอ หรือจะให้พี่บอกที่บ้านว่าที่จริงไม่มีเข้าค่ายติว”

“เพ่พจน์เน่ ไม่ต้องมาต่อรองเลย ก็จะให้เพ่ไปด้วยอ่ะ”

ผมเห็นท่าจะไม่ดีเลยขอโทรศัพท์ให้ผมลองพูดดู

“เอะเจ้าโปร พี่บอกไม่ไปก็ไม่ไปสิ”

“หมอพจน์ นี่พี่หนึ่งนะ”  ผมคว้าโทรศัพท์จากโปรไปพูเอง

“อ่ะ...ครับ พี่”

“ไปกับพี่เถอะ หน้าหนาวทั้งที ถ้าไม่ได้เที่ยวดอยมันน่าเสียดายนะ”

“ผมมีสอบน่ะครับพี่”

“เค้าเลื่อนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ครับ แต่ว่า...”

“พี่ว่าเราน่าจะปลีกเวลาสักนิดไปพักผ่อนบ้างนะ รู้ไหมชีวิตเราตอนเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตที่เราจะได้หาประสบการณ์ดีๆนอกเหนือจากตำรา ยิ่งเราถ้าขึ้นวอร์ทแล้วจะไม่มีเวลามาเที่ยวเล่นแบบนี้อีกแล้วนะ”

“ครับพี่ แต่ผมเกรงใจ”

“อย่าเกรงใจเลย พี่อีกที่ต้องเกรงใจ เพราะโปรคงไปไม่ได้ถ้าไม่ได้เรา
อืม..หมอพจน์ ถ้าพี่ย้อนเวลาได้ พี่อยากจะกลับไปเรียนที่มหาลัยเหมือนเรา พี่จะทำอะไรหลายๆอย่างที่พี่ยังไม่ได้ทำ....”

ผมพูดอย่างนี้แล้วเหมือนหมอพจน์จะเงียบไปสักพัก

“ครับพี่หนึ่ง ผมคงต้องรบกวนพี่ให้มารับนะครับ กี่โมงดีครับ”

“อ่า ได้เลย เที่ยงครึ่งนะทานอะไรให้เรียบร้อยแล้วพี่จะไปรับเราที่ห้อง”

สรุปคือผมพจน์ตกลงไปกับเราครับ ผมเองก็โทรไปบอกทางบ้านว่ากลับบ้านครั้งนี้ผมจะพาเพื่อนที่ทำงานด้วยแล้วมีน้องของเพื่อนตามมาด้วยอีกสามคน ส่วนรูมเมทผมมันก็กลับบ้านครับ แต่ก็พาแฟนมันไปแนะนำที่บ้านด้วยจะว่าไปก็เหมือนผมเลยน่ะครับ (แต่ผมคงไม่บอกทางบ้านว่าโปรคือแฟนผมเท่านั้นเอง)

ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดินทางครับ โปรมารับผมที่ทำงานตั้งแต่ก่อนเที่ยงส่วนโจก็ไปรับน้องต้อมที่คอนโด แล้วเราก็จะมาเจอกันที่หอผมครับ ก่อนที่ผมและโปรจะไปหอก็แวะไปรับหมอพจน์ก่อนที่หอพักในมหาวิทยาลัย พอหมอพจน์ขึ้นรถมาแล้วก็บ่นนิดๆเรื่องต้องโดดเรียนไปสองคาบแต่ก็ฝากเพื่อนเลคเชอร์ให้น่ะครับ รถของโปรมาส่งผมกับหมอพจน์ที่หอก่อนแล้วก็เอารถไปเก็บที่บ้าน ไม่นานเท่าไหร่โปรก็มาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่เหมือนพวกฝรั่งสะพายแบล็คแพคกันน่ะครับ

“นี่โปร เราไม่ได้ไปออกป่าเป็นเดือนนะ ทำไมเอามาเยอะขนาดนี้” ผมถาม

“เจ้าโปรคงกลัวจะอดตายมั้งครับพี่ ดูสิมีแต่ของกิน” หมอพจน์พูดพลางเปิดกระเป๋าของโปรดู

“อ้าวก็พี่บอกว่าไปนอนเต้นท์ไม่ใช่เหรอ ของแถวนั้นคงแพงผมก็ซื้อไว้ก่อนสิ”

“เยอะจริงๆแหะ” ผมไปค้นกระเป๋าโปรดูบ้าง ก็เห็นแต่พวกขนมเต็มไปหมด

“แล้วนี่ขนขึ้นดอยเองนะ” ผมบอกโปร

“เฮ้ย ไหนว่ารถไปถึงที่พักไงพี่”

“ใครบอกต้องเดินไปอีกห้ากิโลนะ”

“เวร เจงงงงงง”

ผมก็ขยิบตาให้หมอพจน์ทีนึง หมอพจน์ก็เข้าใจครับ ส่วนเจ้าตี๋โปรก็เทขนมของกินออกมาจนหมดแล้วเลือกว่าจะเอาอะไรไปดี แต่เลือกเท่าไหร่ก็เหมือนจะเลือกไม่ได้ โปรเลยเลือกกินเอาตอนนี้เลย

“อ้าว ทำไมเอามากินตอนนี้ล่ะ”

“ก้อ เฉียดายอ่า” ขนมยังเต็มปากแต่ก็ยังพูดอยู่อีก

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เอาไปเถอะ ไม่เป็นไรพี่ล้อเล่น”

“อู้ดอี้หมายคามว่าอาย” (พูดงี้หมายความว่าไง)

“เอาเถอะ  ลงไปรอโจข้างล่างดีกว่า” ผมตัดบท แต่โปรก็ยังกินไม่หยุดอยู่ดี

ผม โปรและหมอพจน์รอโจไม่นานโจก็ขับรถมา ดีนะครับที่รถโจเป็นแบบสามตอนที่ขนคนได้เยอะๆ ผมนั่งข้างคนขับครับเพราะว่าจะได้บอกทางโจ ส่วนโปร น้องต้อม หมอพจน์ก็นั่งข้างหลัง

“เพ่โจๆ ดูแลแฟนผมดีดีนะ ห้ามลวนลาม”

“มึงแหละ ห้ามแกล้งอะไรแมวน้อยเด็ดขาดไม่งั้นมีถีบลงรถแน่”

“อ่ะคร๊าบบบบบบ แล้วจะคอยดู”

ว่าเสร็จโปรก็แกล้งเอาหัวมาหนุนๆตักน้องต้อม (โปรนั่งตรงกลางน่ะครับ ติดกับน้องต้อมแล้วหมอพจน์)

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ ไอ้โปร มึงงงงงงง”

โจหยุดรถเลยครับแล้วเอามือไปตีๆหัวเจ้าตี๋โปร จนผมกับหมอพจน์ต้องดึงตัวโปรออก ส่วนน้องต้อมก็หัวเราะเล็กๆครับแล้วก็ใช้มือดันๆหัวโปรออกไป

“นี่โปร!!!! อย่ามาเล่นตอนนี้”

“แหม่ ก็ผมร๊ากกกกกพี่ต้อมเหมือนกันนะค๊าบ”

“ไม่ต้องเลยไอ้โปร มึงออกห่างแมวน้อยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นได้เดินไปเองแน่”

“ค๊าบบบบๆๆๆ ผมไม่สนแมวน้องของพี่ก็ได้ ผมสนแร็คคูนของผมก็ได้”

ว่าแล้วโปรก็หันไปเอาตุ๊กตาแรคคูนที่อยู่ในรถของโจมากอดใหญ่

“นิไอ้โปร มึงมีเจ้าของอยู่ข้างหน้าแล้วนั่งข้างๆเนี่ยะ”

“อ่ะ เกือบลืมเลย แรคคูนที่ร๊ากกของโผมมม” โปรพูดเลียนแบบที่โจพูดกับน้องต้อมบ่อยๆน่ะครับ แล้วก็หัวเราะทั้งรถ

“ไอ้โปร ถ้าไม่คิดเห็นแก่หน้าไอ้หนึ่งนะ มึงงงง”

“จะอะไรเหรอคับ”

“จะได้ตายก่อนหนุนตักแมวน้อยแน่”

จากนั้นรถก็วิ่งไปตามถนนสายเอเชีย มันเหมือนเส้นเลือดสายหลักไปสู่ภาคเหนือรถรายังคงวิ่งกันมากมาย เราได้แวะพักระหว่างทางบ้าง ผมเองก็พูดเตือนโปรว่าอย่าเพิ่งกวนโจเลย เพราะทุกครั้งที่โปรกวนโจ โจจะขับรถน่ากลัวกว่าปกติ (ที่จริงปกติมันก็ขับน่ากลัวอยู่แล้วครับ ขับเร็วมากสงสัยอยู่กรุงเทพฯไม่เจอถนนโล่งอย่างนี้คงเก็บกด)

ในที่สุดรถก็วิ่งเข้าสู่ตัวจังหวัดบ้านเกิดของผม บ้านของผมเองนั้นก็ไม่ได้ห่างจากตัวเมืองเท่าไหร่ ทุกอย่างตามรายทางก็มีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลาผมเองก็บอกทางเข้าซอยบ้านผม นี่นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน พวกเรามาถึงบ้านของผมตอนค่ำ บ้านของผมไม่ใหญ่นักครับ เป็นบ้านสองชั้นขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีสามห้องนอน บ้านผมอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร คุณแม่ของผมออกมารับที่หน้าประตูบ้าน ผมออกจากรถมาก็เข้าไปไหว้คุณแม่ก่อน แล้วก็บอกให้โจ โปร น้องต้อมและหมอพจน์ช่วยขนของไปไว้ที่ห้องนอนที่ว่างอยู่ แล้วผมก็ถึงมาแนะนำโจ โปร หมอพจน์และก็น้องต้อม อย่างเป็นทางการกับคุณพ่อและคุณแม่ผม ผมเพิ่งเคยเห็นโปรจะเงียบๆไม่ค่อยคุยก็ตอนนี้ล่ะครับ ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือว่าเพราะอะไร ไม่เหมือนกับโจที่โม้ได้ทุกเรื่อง วันนี้ที่บ้านผมคุณแม่ได้แสดงฝีมือทำอาหารหลายๆอย่าง ทั้งกับข้าวที่ผมชอบและกับข้าวอื่นๆที่แถวกรุงเทพฯหาทานยาก

“นี่แกงอะไรครับแม่” โจถาม

“แกงฮังเลน่ะลูก อร่อยนะ หนึ่งเค้าชอบ”

ว่าแค่นั้นโปรก็ตักเข้าปากทันที ผมก็มองหน้าโปรทีนึ่ง

“อื้อ อร่อยครับแม่ แม่น่าจะมาเป็นแม่ผมนะครับทำกับข้าวอร่อยหมดเลย
แต่แม่ผมไม่ค่อยจะได้ทำเท่าไหร่”

เป็นครั้งแรกครับที่โปรพูดกับแม่ผม

“ที่บ้านคงไม่ค่อยมีเวลามั้ง” คุณแม่ผมถามโปร

“ก็ครับ โดยมากให้พี่ที่บ้านทำให้มากกว่า”

“พี่ที่บ้าน พี่สาวเหรอ”

“ไม่ครับ พี่ที่เค้ามาทำความสะอาด มาทำอาหารให้”

“อ๋อ แบบนี้ก็ดีสิลูก แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย”

“ไม่ค่อยดีหรอกครับแม่ เพราะแม่ผมไม่ค่อยจะอยู่บ้าน...”

“อ้าว แล้วที่บ้านทำอะไรเหรอลูก”

“ก็...ทำธุรกิจของที่บ้านน่ะครับ ออกบ้านบ่อย...”

“ครับ ที่บ้านไม่ค่อยมีเวลา ผมเองก็ออกมาอยู่คนเดียวเลยไม่ค่อยได้ดูแลน้องเท่าไหร่”

โจตอบขึ้นมาทันควันครับ เหมือนว่าโจจะไหวตัวทัน เพราะตอนแรกผมแนะนำโปรว่าเป็นน้องแท้ๆของโจ (ก็ชื่อโจ กับ โปรมันสระโอเหมือนกันน่ะครับ) ส่วนน้องต้อมกับหมอพจน์ก็บอกไปว่าเป็นรุ่นน้องโจที่มหาวิทยาลัย

จากนั้นเราก็คุยกันถึงเรื่องงานเรื่องสารพัด จากนั้นก็ถึงเวลานอนแล้วครับ คุณแม่ผมจัดห้องให้หมดแล้วโดยที่ห้องนอนผมก็จะให้โปร (ก็แน่นอนอยู่แล้ว) กับหมอพจน์นอน ส่วนห้องนอนรับแขกก็ให้โจกับน้องต้อมนอน ที่ห้องนอนของผมเตียงของผมเองก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนอนสองคนก็จะเต็มเตียงแล้วครับ ดังนั้นก็ต้องปูที่นอนข้างล่างเพิ่มอีก พอโปรเข้ามาในห้องก็วิ่งเข้าไปที่เตียงผม

“จองแล้วๆๆๆๆๆ ห้ามใครแย่งน๊า”

“อืม” ผมว่าเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนผ้าปูที่ปูนอนข้างล่าง ส่วนเจ้าตี๋โปรก็มองผมตาเขียวๆใส่

“เพ่หนึ่งงงงง ขึ้นมานอนกับโผมมมมม พี่พจน์คืนนี้ห้ามแอบมอง”

“ใครกันนะบอกว่าจองแล้วห้ามใครแย่ง”

“อ่ะ ก็จองให้เราสองคนไง”

ผมล่ะอายจริงๆที่โปรพูดต่อหน้าหมอพจน์ แม้ว่าโปรจะพูดแบบนี้ต่อหน้าหมอพจน์บ่อยๆแต่ผมก็เขินทุกครั้ง แล้วยิ่งรู้ว่าหมอพจน์เองก็... ผมเองยิ่งเข้าใจเขามากขึ้น แต่หมอพจน์ก็อมยิ้มเล็กๆส่ายหัวแต่ก็ไม่พูดอะไร

“เรานอนไปเถอะ นอนดิ้นนะเราน่ะ พี่นอนด้วยไม่ได้”

“อ้าว ใครบอกอ่ะ”

“หมอพจน์บอก”

“อ้าวเพ่พจน์ ใส่ความ อิจฉาผมล่ะเซ่ที่นอนกะแฟน”

“ไอ้โปร!!” ผมขึ้นเสียงเตือน

“ผมพูดเล่นครับพี่หนึ่ง ขึ้นไปนอนบนเตียงกับโปรเถอะครับ” หมอพจน์พูดแทรกเข้ามา

“ไม่เอาละ ทำโทษ”

“ทำโทษเรื่องอะไรอ่ะ ผมทำผิดอะไรหรออ”

“อย่าๆ วันนี้ไปแกล้งโจเค้า ก็ตกลงแล้วไงว่าอย่าไปแกล้ง”

“แหม่ๆ พี่ก็...”

“ไม่เอาเลย วันนี้พี่จะนอนข้างล่าง เรานอนข้างบนไป”

“อ๊า......พี่หนึ่งอ่า ผมขอโทษษษษษ”

ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้นเดินไปปิดไฟแล้วก็นอนข้างล่างนั่นล่ะครับ วันนี้ผมเดินทางมาทั้งวัน ไหนจะเหนื่อยกับการแยกคู่มวยโปรกับโจแล้วด้วยผมล่ะเหนื่อยจริงๆ แล้วผมก็หลับไปจนกระทั่งตอนเช้า

เช้านี้ที่บ้านผมอากาศค่อนข้างหนาว ผมซุกตัวในผ้าห่ม แทบไม่อยากลืมตาเลย แต่เหมือนผมรู้สึกไปเองว่าเหมือนจะมีใครมานอนกอดผมอยู่เหมือนผมเป็นหมอนข้างงั้นล่ะ เอ.. หมอพจน์เหรอ แต่ผมก็ไม่คิดอะไรเพราะผมเองก็คงเป็นเหมือนข้างให้กอดน่ะครับ ไม่ว่ากัน ผมยังคงหลับตาอยู่คิดว่าจะหลับต่อ แต่ก็รู้สึกอีกแล้วว่าเหมือนคนที่นอนข้างๆผมจะดึงตัวผมไปที่หน้าเค้าแล้วจูบผมเบาๆที่หน้าผาก...

ตอนนี้ผมคิดว่าเริ่มไม่ไหวแล้ว หมอพจน์ทำแบบนี้ผมว่าไม่ดีแน่ๆ เพราะถ้าโปรเห็นเข้าคงเป็นเรื่อง ผมเลยจะลุกขึ้นมาแล้วจะเดินออกไปห้องน้ำ แต่ก็มีมือมาฉุดผมไว้แล้วดึงให้กลับไปในอ้อมกอดเค้าอีกครั้ง ผมไม่ทันมองหมอพจน์เพราะเค้ากอดผมจากด้านหลัง จนผมต้องเริ่มโวยวาย ไม่น่าเชื่อเลยว่าหมอพจน์จะเป็นคนแบบนี้ หรือว่ามีอะไรผิดสำแดงกันแน่นะ???

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
โปรมั๊งงงง....ไม่ใช่หมอพจน์หรอก o22

three

  • บุคคลทั่วไป
เจ้าโปรอ่ะเปล่าครับพี่หนึ่ง :a5:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
โถ่พี่หนึ่งอย่าคิดมากไป

โปรนอนดิ้นไปหา รึเปล่าอิๆ ก็น้องเค้าออกจะนะ

Asahi

  • บุคคลทั่วไป
 o18  มือมืด  หวังว่าคงไม่ใช่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดนะครับ

 :pig4:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ม๊างง  เจ้าโปรสลับที่กะหมอพจน์มากกว่ามั๊ย :z1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
หมอพจน์เหรอ   :a5: 

ไม่ม้างงงงงงงงงง  คุงหมอแกคงไม่อยากทำให้ ทัวร์ดอยคณะนี้ อุ่นจนร้อนปรอทแตกแน่

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
 :a5:

ไม่น่าจะใช่หมอพจน์ม้างงงง

ไม่น่าจะกล้าขนาดนั้นนะ

รอตอนต่อปายยยยย

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
พี่น้องได้ตีกันเองตายไปก่อนแน่ๆ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เจ้าตี๋โปรแหง หมอพจน์ออกจะดูเป็นคนดี ไม่น่าจะทำได้  o18

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

เอ้อ ผมลืมไปเลย ว่าผมจะไปเที่ยวเมืองกาญฯ เสาร์อาทิตย์นี้ เลยจะมาบอกก่อนนะครับว่าผมจะมาโพสต่อวันอาทิตย์ค่ำๆนะครับ
ตอนต่อไปนี้ หนึ่งเสร็จโปร  :haun4: หรือเปล่า??? :z2: ต้องคอยติดตามครับ  หึหึหึ

ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ รักทุกคนครับผม
ปล.อย่าหวังอะไรกะ NC ของไอ้นายเส้นฯมากนะครับ เดี๋ยวจะผิดหวังเอานะ  o18

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ูู^

^

^

จิ้มคนโพสต์ อิๆ

ฟันธงว่าตอนหน้า หนึ่งก็ยังมะเสร็จโปร

ดูจากสไตล์การเขียนแล้วแบบว่า ไม่เน้น ... อิๆ

แต่แอบขอให้มีน๊าๆๆๆๆๆๆ

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: :z3: :z3: :z3:

ทำไมน่ารักอย่างงี้อ่ะ

สุดๆอ่ะ

BeePed

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหน้าขอเดาว่า......โปรยังไม่เสร็จหนึ่ง  เอ้ย ไม่ใช่.....หนึ่งยังไม่เสร็จโปร  o18


คนเขียนต้องเขียนให้คนอ่านลุ้นกันตัวโก่งแน่ๆ


เค้ารู้.....เพราะเค้าก็เป็นคนเขียนเหมือนกัน  :laugh:

NuPaTT

  • บุคคลทั่วไป
เสดแน่ๆเรย



โปรแน่ๆเรยที่นอนกอด อิอิ


 :z1:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ตามมาอ่านรวดเดียว
อิๆๆ หนุกจังแหะ

รอตอนต่อไปน๊าๆๆๆๆๆ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

กลับมาแว๊วววววววววว  ไปเที่ยวมาสนุกมากเลย แต่จะให้ดีกว่านี้ต้องไปกะแฟน ไปนอนกอดตอนหนาวๆเหมือนในเรื่อง คิคิ แต่ทว่า....ก็มิได้นำพา.... (ไม่มีแฟนกะเค้าอ่ะ :o12: :o12:)
ตอนนี้มีแต่คนทายไปต่างๆนานา ว่า ใครเสร็จใคร หรือมีเสร็จหรือไม่  o18

หึหึหึ

เชิญอ่านได้เลยครับ
ขอบคุณและติดตามครับ
ปล.ตอนหน้าจะเหมือนเป็นตอนต่อตอนพิเศษที่เคยโพสไปนะครับ



ตอนที่ 19

ผมกำลังดิ้นเพื่อให้ออกจากอ้อมกอดของหมอพจน์(หรือเปล่า) แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนกอดแน่นขึ้นทุกที

“นี่ อย่าๆ อย่าทำแบบนี้” ผมพยายามพูดเสียงไม่ให้ดังเพื่อไม่ต้องการให้โปรที่นอนอยู่บนเตียงได้ยิน

“ไม่ทันได้แต่งกันเลย จะหย่าแล้วเหรอคับ”

เสียงนั่นกระซิมที่ข้างหูผม (ผมโดนกอดจากด้านหลังครับ) เสียงนี่ผมจำได้ดี มันยิ่งน่า....นัก (ผมกัดฟันพูดนะครับ)

“ไอ้โปร...  ปล่อย”

“ม่ายปล่อย” โปรพูดเสียงค่อยๆ

“เดี๋ยวหมอพจน์เห็น...”

“พี่เค้านอนบนเตียงไม่เห็นหรอกว่าทำอะไรกัน”

“แล้วนี่มานอนข้างล่างตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ตั้งกะเมื่อคืนไง”

ว่าแล้วโปรก็แกล้งเอาหน้ามาซุกที่คอผม นี่ผมอายคนอื่นนะ แม้ว่าจะหลับอยู่ก็เถอะผมก็พยายามดิ้นเพื่อให้ออกมาจากโปรให้ได้ ก็ไม่ได้สักทีครับแรงเยอะจริง แต่ก่อนที่โปรจะลวนลามผมไปมากกว่านี้ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’

“แม่เปิดเข้าไปได้ไหม”

เสียงคุณแม่ของผมดังมาจากข้างนอก โปรเลยต้องยอมปล่อยผมออกไป ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอคุณแม่ผมอยู่หน้าห้อง

“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ”

“ตื่นแล้วครับ”

“แม่เตรียมข้าวเช้าไว้ให้แล้วนะ รีบกิน รีบอาบน้ำ แล้วเราจะได้ไปดอยกัน”

“ครับแม่”

แล้วประตูห้องก็ปิดลงผมเริ่มไปปลุกหมอพจน์ก่อนที่เตียง

“หมอพจน์ หมอพจน์ ตื่นเร็วจะออกเดินทางแล้วนะ”

“.....อือออ  ครับ... “

หมอพจน์ตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ แล้วก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“รีบอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมีแย่งเข้าห้องน้ำแน่”

“ครับพี่”

ว่าแล้วหมอพจน์ออกไปอาบน้ำครับ แล้วผมก็หันกลับไปที่โปร เจ้าตี๋โปรกลับไปขดอยู่ในผ้าห่มอีกแล้ว

“โปร นี่ๆ เตรียมไปอาบน้ำได้แล้วนะ”

“ม่ายอาว จานอนต่อ”

“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้....น๊า....”

ผมพูดไปก็ดึงผ้าห่มออกจากตัวโปรแต่ก็ดึงอยู่หลายทีโปรก็ไม่ยอมสักทีแล้วจู่ๆโปรก็ลุกขึ้นนั่งจนผมที่ดึงผ้าห่มอยู่ล้มลงเลย แต่โชคดีที่ล้อบนฟูกที่ปูไว้อยู่ไม่งั้นมีช้ำมีเขียวแน่ แล้วโปรก็ดึงผมไปที่ตัวเขา

“โปร จะทำอะไรน่ะ!!”

โปรไม่พูดอะไรแต่ก็จูมผมที่ตาเบาๆ แล้วเลื่อนไปจูบที่หน้าผาก ผมหยุดนิ่งไป...สักครู่

“ปะ โปร..”

โปรเอามือมาปิดที่ปากผมเหมือนไม่ให้พูด ก่อนที่โปรจะเลื่อนหน้ามาใกล้ผมมากขึ้น โปรเอามือที่ปิดปากผมไว้ออก แล้วริมฝีปากของโปรก็สัมผัสกับริมฝีปากของผม มันชั่งเป็นเวลาที่เนิ่นนานเหลือเกินที่ผมไม่ได้มีความรู้สึกร่วมด้วย แต่....

‘นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่นี่ ต้องรีบเตรียมตัวไปเที่ยวนะ’

แล้วผมก็หยุด ผมมองหน้าโปรสักพัก แล้วผมก็บอกกับโปรว่า...

“ไปอาบน้ำ คนอื่นเค้ารอ”

“โหยยยยยยย  พี่อ๊า.... ม่ายอาวๆ”

“ไม่ไปก็ตามใจ พี่ไปอาบก่อนละ”

แล้วผมก็ลุกออกจากห้องไป ข้างนอกผมเห็นโจ น้องต้อมเพิ่งออกมาจากห้องท่าทางงัวเงียน่าดู ส่วนหมอพจน์อาบน้ำเสร็จก่อนใครแล้วครับลงไปข้างล่างแล้ว แล้วเราก็อาบน้ำเตรียมของกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนโปรก็ออกมาหลังจากคนอื่นแต่งตัวเสร็จไม่นาน เราทานอาหารเช้ากัน วันนี้มีข้าวเหนียวหมูปิ้งของชอบของผมอย่างหนึ่ง ผมกินไปมากเหมือนกันเพราะนานแล้วไม่ได้กินของเจ้าประจำ และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางเราเปลี่ยนไปใช้รถโฟว์วิวของพ่อผมครับ เพราะมันจะขึ้นเขาได้ดีกว่าแต่ก็เป็นที่นั่งสามตอนเหมือนกันนะครับ เลยนั่งกันสบายหน่อยสำหรับคนเจ็ดคน ตอนนี้เหมือนโปรจะเงียบเป็นพิเศษเพราะไม่กล้ากวนโจนักสงสัยคงเกรงใจคุณพ่อคุณแม่ผม ส่วนโจเองก็พูดคุยกับแม่ผมอย่างออกรถชาติ

“ไอ้โปรน้องผมนะครับแม่ มันชอบไปเจาะแจะคนอื่นมีแต่เรื่องมาให้ผมปวดหัวทุกวันเลย”

“อ้าว ทำไมว่าน้องอย่างนั้นล่ะลูก”

“นั่นสิครับแม่ ผมรักเดียวใจเดียวนะครับ” โปรเพิ่งพูดครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นรถ

“ถ้าหากแม่มีลูกสาวนะครับ ผมรับรองเลยว่าลูกสาวแม่จะไม่เสียใจเพราะผมเลยครับ”

“แหม่ แม่มีแต่ลูกชายนี่สิ แย่จัง ไม่อย่างนั้นได้ลูกเขยดีๆแบบโปรแล้วมั้ง”

แม่ผมพูดเสร็จก็หัวเราะ โปรก็หันหน้ามามองผมแล้วยักคิ้วให้ ผมทำปากบอกว่า ‘เงียบเลยนะ’

ตอนนี้เส้นทางกำลังผ่านป่าเขาเพื่อไปสู่จุดหมาย ผมดูอาการของแต่ละคนแล้วเหมือนท่าจะแย่ครับ โจเมารถ เหมือนจะเมามากๆเสียด้วย บอกให้จอดรถตลอดทาง ส่วนน้องต้อมกับหมอพจน์ก็เมาบ้างแต่ก็ไม่เป็นอะไร ส่วนโปรเองเหมือนจะสบายกว่าเพื่อน ไม่เป็นอะไรเลย

“คุณพี่ที่รั๊กค๊าบ สำลักความรักของผมกับพี่หนึ่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ” โปรพูดกับโจตอนหยุดให้โจลงมาอาเจียน

“สำลักกะผีสิ...”

“โปร  อย่าไปกวนโจสิ โจทนหน่อยนะเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ไงไปนอนข้างหลังแล้วกันนะ”

“จิ้งจอก ตัวมานอนด้านหลังเถอะ หนุนตักเค้านอนนะ” น้องต้อมพูดกับโจแล้วลูบหลังโจไปด้วย

“จ้าแมวน้อย ได้แมวน้อยให้หนุนตัก เค้าคงหายดีเลยล่ะ”

“หายไปจากโลกอ่าจิ” โปรแซว

“ที่รัก จิ้งจอกว่าอย่าไปสนใจเสียงหมามันเห่าแถวนี้เลยนะ ให้เค้านอนหนุนตักดีกว่านะ”

ว่าแล้วโจก็กลับขึ้นรถไปเลย ผมล่ะเซ็งกับคู่กัดคู่นี้จริงๆเลยสิครับ แต่ก็แปลกนะครับจนถึงที่ตั้งเต้นท์โจมันก็ไม่อาเจียนอีกเลย สงสัยตักของน้องต้อมนี่ศักดิ์สิทธิ์จริง

พวกเราช่วยกันขนของลงจากรถ อากาศตอนนี้บนเขาแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงค่ำแต่อากาศก็หนาวโชคดีนะครับที่คุณแม่ผมเตรียมเสื้อกันหนาวไว้พอกับทุกๆคน ไม่อย่างนั้นคงแย่ ผม โจ น้องต้อมและก็โปร ช่วยกันตั้งเต้นท์ แต่ดูๆแล้วคงมีแต่ผมคนเดียวที่ตั้งเต้นท์เป็น คนอื่นเหมือนจะช่วยแต่ก็เหมือนเพิ่มงานให้ผมเปล่าๆ แต่ในที่สุดก็เรียบร้อยครับเต้นท์มีทั้งหมดสี่หลังคุณพ่อผมไปยืมมาจากเพื่อนอีกทีน่ะครับสรุปแล้ว มีเต้นท์ของคุณพ่อคุณแม่ผม เต้นท์ของโจกับน้องต้อม เต้นท์ของหมอพจน์ซึ่งจะเล็กหน่อย แต่ก็เหมาะกับการนอนคนเดียว และก็เต้นท์ของผมกับโปร ผมเองก็เหมือนจะสงสารหมอพจน์เหมือนกันที่เหมือนจะอึดอัดมากกว่า ผมเลยชวนหมอพจน์คุยเสียมากจนทำให้บางทีโปรต้องมามองผมค้อนๆน่ะครับ เพราะไม่ค่อยจะคุยกับโปรเท่าไหร่ (ที่จริงโปรก็ทำผมมากกว่าคุยแล้วนะ จะเอาอะไรอีกนี่) อาหารเย็นวันนี้เป็บบาบีคิวแล้วก็พวกของย่างๆน่ะครับ คุณแม่ผมเอามาจากที่บ้านด้วย เราย่างกินกันอย่างสนุกสนานจนกระทั้งเราต้องแยกย้ายกันเข้านอน อากาศบนยอดดอยนี้หนาวมากครับ จนมือและใบหน้าผมชาเลยทีเดียว ผมเดินไปตามแนวป่ารอบๆที่ตั้งเต้ท์ แล้วนั่งลงกับพื้นดูแสงดาวยามค่ำคืน

ผมไม่ได้ดูดาวแบบนี้มานานแล้ว ดาวบนดอยนี้มันสวยเหลือเกินไม่อาจหาได้ในเมืองกรุง ทุกอย่างเงียบสงัดไม่มีแสงไฟอะไรนอกจากแสงดาว

“ดาวบนนี้สวยจริงๆเลยนะครับพี่”

เสียงหมอพจน์ดังมาจากข้างหลังผม แล้วหมอพจน์ก็มานั่งลงข้างๆผม แล้วเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า

“เป็นไงหนาวมากไหม”

“หนาวมากๆครับพี่”

“แล้วคนอื่นๆล่ะ”

“เข้านอนหมดแล้วครับพี่ โปรก็เข้าเต้นท์แล้ว บอกให้ผมมาตามพี่นี่แหละครับ”

“อืม.....”

แล้วผมก็เงยหน้ามองดูดาว มันพร่างพราวเต็มไปหมดจริงๆ

“พี่หนาวหรือเปล่าครับ เอาเสื้อผมไปใส่ไหม”

“อ่อ  ไม่ต้องๆ เดี๋ยวก็เข้านอนแล้ว”

“ครับ...”

ตอนนี้ผมพูดอะไรไม่ออก ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีจนกระทั่งผมเริ่มพูดอะไรบางอย่างออกไป

“หมอพจน์ พี่... มีอะไรดีเหรอ...”

“อะไรนะครับ”

“พี่ มีอะไรดีเหรอ”

“พี่หนึ่ง ดีทุกอย่างครับ พี่หนึ่งเป็นคนดี แวบแรกที่เจอกับพี่ครั้งแรก ผมคิดว่า น่าจะดี ถ้าพี่เป็น....”

“เป็น...?”

“เป็น....กับผม...แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า โปรเองดูแลพี่ได้ดีกว่าผมครับ ถ้าพี่เป็นอะไรไปโปรเองก็คงยอมไม่ได้”

“หมอพจน์....เราเป็นน้องที่พี่รักเสมอนะ”

“ครับ”

ตอนนี้ผมได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้า เหมือนหมอพจน์จะยิ้มตามผมไปด้วย จากนั้นเราก็พากันเดินกลับเต้นท์ ผมส่งหมอพจน์ที่เต้นท์แล้วก็กลับไปที่เต้นท์ตัวเอง ในเต้นท์ผมเห็นโปรนอนคลุมโปงอยู่ ผมคิดว่าโปรคงหลับแล้ว เลยเข้าไปนอนข้างๆดึงผ้าห่มเข้ามาห่มตัวเอง แล้วจู่ๆโปรก็มากอดผมอย่าแรง

“เป็นไปบ้างคับ เจอพี่พจน์บอกรักมา”

“บอกรักอะไร”

“ผมรู้ครับว่าพี่พจน์ก็ชอบพี่ พี่เค้ามาถามผมตั้งแต่เห็นพี่ครั้งแรกแล้ว..”

“แล้ว...”

“ผมก็บอกไปว่า พี่หนึ่งเป็นแฟนของผม ตอนแรกเหมือนไม่เชื่อนะ จนตอนที่เจอกันที่ JJ”

“อืม ใช่ หมอพจน์มาบอกอย่างนั้นกับพี่ แต่พี่ก็บอกว่า เค้าเป็นน้องที่พี่รัก...ก็เท่านั้น”

“จริงนะคับ”

“อื้อ”

“พี่หนึ่ง..”

“อะไรเหรอ”

“คืนนี้ ผมขอนะครับ”

“เอ้ย  ขออะไร”

โปรไม่ตอบแต่กอดผมแรงขึ้นโปรดึงตัวผมเข้ามาจูบริมฝีปากเราประสานกันอย่างแผ่วเบา แล้วเริ่มที่จะรุนแรงขึ้นตามลำดับ....อากาศข้างนอกหนาวแต่ในเต้นท์นี้อบอุ่น อบอุ่นเพราะผมมีโปร...ไม่น่าเชื่อว่าผมจะรักผู้ชายคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้ ผู้ชายที่ผมยอมมอบทุกอย่างที่มีให้เขาได้...จากจูบนี้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปตามทางของมัน...

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z3: :z3: :z3:

เห็นมะว่าแล้วว่ายังไงๆ มานก็ยางมะมีหลอกฉากน้านนะ

สงสัยต้องเป็นตอนหน้าละ อิๆ

แหมแต่โปรรู้เรื่องหมอพจน์มาตลอดยังกล้าปล่อยให้อยู่กัน 2 คนอีกน๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Asahi

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

รู้แ่ค่นี้ก็พอแล้วครับ

ที่เหลือ ...  :haun4:

 :pig4:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ M150

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

:เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ

มันมีแค่นี้ล่ะคับ rate XXX ของมันละ

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่าจะต้องให้คนอื่นเขียนให้คับ เพราะไอ้คนเขียนมันหน้าบาง

ตอนนี้จะเหมือนตอนต่อจากตอนพิเศษนะครับ ใครอ่านแล้วงงๆ ให้ไปอ่านตอนพิเศษก่อนหน้าแล้วกันนะ และก็ที่สำคัญตอนนี้..... คนขี้เหงาห้ามอ่านครับ... :L3: (เกลียดคนแต่งมันก็อีตอนนี้ล่ะ)
ขอบคุณที่ติดตามมาเสมอครับ



ตอนที่ 20

“หนึ่งยังไม่ตื่นอีกเหรอลูก วันนี้นัดเพื่อนไว้ไม่ใช่เหรอ”

เสียงของคุณแม่ผมดังมาจากนอกห้องนอน ผมรีบลุกขึ้นมาทันทีหลังจากเสียงแม่เรียก

‘ตายละหว่า ลืมไปว่านัดพวกตี๋ไว้’

ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวขึ้นเจ้ามอเตอร์ไซด์คู่ใจออกไปยังที่นัดหมายกับเพื่อนทันที วันนี้ผมนัดเพื่อนๆในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดผม ตอนที่ผมไปถึงแน่นอนว่านักท่องเที่ยวที่ไหนจะมา เพราะนี่มันยังเช้าอยู่เลย จะมีเพียงพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของประจำช่วงวันหยุดเพราะมีงานถนนคนเดิน...

ผมหาที่จอดรถตามหน้าร้านค้าแถวนั้นแล้วมองไปยังลานว่าง ซึ่งตอนนี้ไม่ว่างเสียแล้วเพราะเต็มไปด้วยคนมาจับจองที่ขายของมากมาย

“ไอ้เชี่ยหนึ่ง กูรอตั้งนานมาอยู่นี่เอง”

เสียงนั้นดังขึ้นจากข้างหลังผม ผมหันหลังไปคนที่พูดก็ตบหัวผมเบาๆ

“ไอ้ตี๋ เจ็บนะเว้ย แล้วนี่พวกไอ้แอ๋วอยู่ไหน”

“อยู่ตรงหน้าประตูอ่าดิ เออนี่กล่องของมึง”

ว่าแล้วเพื่อนผมก็ยื่นกล่องกระดาษใบหนึ่งให้ผมข้างกล่องเขียนว่า ‘เชิญบริจาคเพื่อเด็กๆยากไร้’ ผมก็รับมาแต่โดยดี แล้วเดินตามตี๋ผมไปยังกลุ่มเพื่อนๆของผมซึ่งมีอยู่หลายคนทุกคน (รวมทั้งผม) ต่างก็ใส่เสื้อสีเดียวกันซึ่งเป็นเสื้อชมรมของมหาวิทยาลัย

“แหมมมม  หนึ่ง เพิ่งมาหรือมึง เมื่อคืนกะโอ๊ตหนักไปหน่อยรึไง”

“เจอหน้ามาก็กัดแล้วเหรอ ที่บ้านเลี้ยงไม่เชื่องเนาะมึงน่ะ”

“ต๊าย ปากดีนะมึง”

ผมแซวเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่ม ซึ่งทั้งกลุ่ม (เพื่อนสนิทผม) ก็รู้ว่าผมกับโอ๊ตเป็นแฟนกัน

“ว่าแต่ โอ๊ตจะมาช่วยเปล่ามึง จะได้มีคนร้องเพลงดีดกีต้าร์ คนจะได้บริจาคเยอะๆ”

“ก็คงจะมามั้ง...เห็นว่าจะพาหลานรหัสไปเลี้ยง...” ถึงตอนนี้ผมทำหน้าวิตก เพราะข่าวต่างๆและการกระทำของโอ๊ต เปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน

“หลานรหัสโอ๊ตที่เป็นเดือนคณะน่ะเหรอ...เออแก ชั้นเคยได้ยินมาว่าโอ๊ตกะหลานรหัสมันจบโรงเรียนเดียวกันมานิ  แล้วเหมือนจะเคยจีบกั...”

ไม่ทันที่เพื่อนผมจะพูดต่อ เพื่อนผมอีกคนก็กระทุ้งเข้าที่สีข้าง

“เฮ้ยหนึ่ง ไปเริ่มได้ละเดี๋ยวเราเดินสายไปตามที่บอกนะ เดี๋ยวมึงไปที่โออาแป๊ะกะกู”  เพื่อนผู้ชายอีกคนพูดแทรกขึ้น

“อืม”

แล้วพวกผมก็แยกย้ายกันไปตามที่ต่างๆ งานนี้จะว่าลำบากก็ลำบากครับจะว่าสนุกก็สนุก เพราะบางทีเราก็มีดีดกีต้าร์ร้องเพลงเชิญคนมาบริจาคจุดมุ่งหมายเพื่อโครงการของชมรมเราเป็นบรรลุวัตถุประสงค์ให้ได้

จนกระทั่งตกเย็นผมและเพื่อนๆก็กลับมากันที่เจอกันครั้งแรกตอนนี้คนเริ่มเยอะมากแล้วครับชมรมผมมีตั้งร้านขายของด้วย รายได้ก็สบทบทุนเพื่อเข้าโครงการนี่ล่ะครับ อีกส่วนหนึ่งก็ตั้งเก้าอี้ดีดกีต้าร์ร้องเพลงโฟล์คซองกันไป

“หนึ่งๆ ช่วยร้องหน่อยสิ”

“เฮ้ย ร้องไม่เป็น”

“เออ  มีเนื้อน่า เอาเพลงที่มึงชอบเลือกเอาเดี๋ยวกูเล่นให้”

ตี๋บอกกับผมแล้วให้หนังสือเพลงผมมา ซึ่งแน่นอนมีแต่เพลงโฟล์คซองภาษาถิ่น เข้ากับบรรยากาศสถานที่มาก และผมก็เลือกเพลง ‘บ้านบนดอย’ ของอ้ายจรัล ถึงมันจะร้องยากแต่ผมก็พยายามร้อง

ในตอนที่ผมร้องอยู่นั้น สายตาก็ไปสบกับใครบางคนถึงแม้เขาจะอยู่ไกลแต่ผมก็ยังเห็น ผมจำเขาได้ดี เขาคือคนที่ผมฝากชีวิตทั้งชีวิตผมไว้กับเค้า แต่ตอนนี้...เขาเดินมากับผู้ชายน่าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งผมก็รู้จักเขาดีเช่นกัน ทั้งคู่เดินไหล่ชนกัน ดูๆแล้วเหมือนในที่แห่งนั้นมีเพียงเขาสองคนเท่านั้นเอง ส่วนผมตอนนี้เหมือนยืนอยู่ตัวคนเดียวเฝ้ามองเค้าสองคน ดูเหมือนว่าเขาจะเห็น หรือว่าได้ยินเสียงผมก็ไม่ทราบ เพราะจู่ๆเขารีบจูงมืออีกคนออกไปจากตรงนั้นทันที ผมพยายามกลั้นใจแล้วร้องเพลงให้จบ บางทีผมก็ร้องออกมาดังกว่าปกติ จนเพื่อนผมหลายคนมองผมด้วยความแปลกใจ

เมื่อร้องเสร็จ ผมก็ขอเพื่อนๆไปเดินเล่นตามถนน เพื่อนๆก็ไม่ได้ติดใจอะไรบอกเพียงแต่ว่าให้กลับมาช่วยขายของต่อด้วย ก็เท่านั้นเอง ผมเดินไปตามบนท้องถนนแม้ผู้คนมากมาย แต่ผมก็เหมือนอยู่คนเดียวบนถนนสายนี้ อากาศหนาวแม้ว่าผมจะใส่เสื้อคลุมที่ด้านหลังปักชื่อคณะของผมจะหนาขนาดไหน แต่ผมก็ยังหนาวอยู่ สายตาทอดมองไปเรื่อยๆ มองหาใครบางคน  จนผมเจอ... เจอแฟนของผม 

โอ๊ต...

ในมุมมืดมุมหนึ่งออกมาจากถนนที่จัดงานเขากับหลานรหัสของเขากำลังเดินไปยังมอเตอร์ไซด์ของเขา ผมยังจำได้ เพราะผมเคยซ้อนมันอยู่บ่อยๆตอนที่โอ๊ตมารับผมจากบ้านไปที่มหาวิทยาลัยหรือพาผมกลับจากคณะ

ทั้งโอ๊ตและน้องคนนั้นหยุดเดิน ผมเองก็อยู่ห่างพอควร ตอนนี้สายตาผมจ้องไปยังกิริยาของเขาทั้งสองที่ทำผมแน่ใจถึงที่สุดแล้วว่าเขาทั้งสองคนนั้นไม่ได้เป็นแค่พี่และน้องกันเท่านั้นเสียแล้ว

แล้วจู่ๆสายตาของน้องคนนั้นเหมือนจะเห็นผม ผมไม่รู้ว่าผมตาฝาดไปหรือเปล่า เหมือนสายตาเค้าที่มองมาทางผมเหมือนยิ้มเยาะให้กับคนโง่คนหนึ่งที่ยังคงรักคนที่อยู่ข้างๆเขาอยู่ทั้งๆที่น่าจะรู้ตั้งนานมาแล้วว่ารักนั้นมันคงจืดจางไปนานแล้วตั้งแต่วันที่เขามา ตอนนี้โอ๊ตมองไปตามที่เขาคนนั้นมองแล้วก็เห็นผมเข้า

ไม่ทันที่จะคิดอะไร ปฏิกิริยาบางอย่างในร่างกายผมทำให้ผมหันหลังกลับ ผมพยายามก้าวออกจากตรงนั้น ผมหันหลังเดินไปได้ไม่ไกลกันเหมือนมีเสียงคนวิ่งมาจากด้านหลัง แล้วเอามือมาดึงมือผมไว้

“หนึ่งๆ ฟังผมก่อนนะ”

“จะให้ฟังอะไร!!ผมเห็น  ผมไม่ได้ตาบอด”

“หนึ่ง คือผม...”

แล้วผมไม่ทันจะพูดอะไรอีก ผมวิ่งหนีออกจากโอ๊ตแล้วกลับไปที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ของผม แม้มันจะไกลจากตรงนั้นมากแต่ผมก็วิ่งไป วิ่งไปเรื่อยๆ พยายามที่จะหนีจากที่ตรงนั้นให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้  แล้วผมก็ถึงที่จอดรถ ผมขี่มันออกจากที่นั้นให้เร็วที่สุด ผมขี่มาได้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ผมไม่รู้จริงๆว่าผมขี่มาได้ถึงที่ไหน รู้แต่ว่าตอนนี้น้ำตาผมไหลตลอด แล้วโทษตัวเองว่าทำไมถึงได้เชื่ออะไรง่ายๆ ผมขับรถมาข้างในมหาวิทยาลัย เหมือนคนสิ้นสติสมองของผมตอนนี้ไม่อยากจะคิดอะไรอีก จนรู้สึกตัวอีกทีผมก็จอดรถอยู่ริมอ่างเก็บน้ำของมหาวิทยาลัย ตอนนั้นมันมืดและเงียบสงัด มีเพียงเสียงแมลงตามป่าเท่านั้นที่ร้อง ผมทรุดตัวนั่งลงริมขอบอ่าง แล้ว..จ้องมองไปที่ท้องฟ้า น้ำตาของผมยังคงไหล ภาพต่างๆก็เข้ามาอยู่ในสมองมันเหมือนมาย้ำเตือนอยู่อย่างนั้น

ตอนที่ผมเจอโอ๊ตครั้งแรก ผมพยายามไม่คิดอะไรเพราะไม่คิดว่าคนดีๆอย่างเขาเหรอจะมาชอบผม

ตอนที่เรารู้จักกันครั้งแรกตอนที่ทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยร่วมกัน

ตอนที่ผมกับโอ๊ตสนิทกันมากขึ้น แม้เค้าจะอยู่อีกส่วนของมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังมาทานข้าวที่คณะผมบ่อยๆ

ตอนที่โอ็ตขอผมเป็นแฟน

ตอนที่เราใช้ชีวิตด้วยกัน เหมือนทุกก้าวที่ผมเดิน จะมีโอ๊ตอยู่ด้วยเสมอ

ตอนที่โอ๊ตแนะนำหลานรหัสให้ผมรู้จัก

และตอนนี้ตอนที่โอ๊ตกำลังจะจากผมไป...

“ว่าแล้วต้องมาที่นี่....”

เสียงของโอ็ตดังมาจาดข้างหลังผม ผมรีบที่จะลุกออกจากตรงนั้นไปทันที แต่เขาก็ดึงมือผมไว้ จากนั้นความเงียบก็เข้ามาอยู่รอบๆผมและโอ๊ต

“หนึ่ง คือ...โอ๊ต...ขอโทษ”

“ขอโทษที่??”  ผมพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าโอ๊ตหมายถึงอะไร

“คือผม ได้ตัดสินใจไปแล้ว...”

“ชั่งเถอะครับ คุณตัดสินใจไปแล้ว” ผมพยายามกลั้นใจพูด แม้จะมีเสียงสะอื้นบ้าง

“คือว่า โอ๊ตตัดสินใจแล้ว...โอ๊ตรู้สึกว่าเราไม่เหมือนเดิม โอ๊ตเลยคิดว่า...”

“ไม่เหมือนเดิม!?!?!?ที่ไม่เหมือนเดิมคือใครกัน”  ผมทำเสียงสูง

“โอ๊ตอยากจะให้หนึ่งเข้าใจ....โอ๊ตเองก็หวังและฝันกับน้องเค้ามานานแล้ว...
ถ้าหนึ่งมองดาวดวงหนึ่งบนท้องฟ้า แล้วอยากได้มันมาไว้ แต่ก็คิดแล้วว่าคงไม่ได้ แต่จู่ๆ มันก็ตกลงมาในมือ จะไม่ให้ วางอะไรบางอย่าง แล้วคว้ามันไว้เหรอ...ถ้าหนึ่งเป็นโอ๊ต หนึ่งก็คงจะเข้าใจ...”

เขาคนนั้น ก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วก็กลับไปที่รถที่จอดไว้ ถ้าผมมองไม่ผิด ผมเห็นเด็กคนนั้น แฟนคนใหม่ของแฟนเก่าผม รออยู่ตรงนั้นด้วย... ผมแทบหมดแรง ทรุดตัวลงตรงนั้นไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเร็วขนาดนั้น มันไม่มีลางมาก่อน ผมได้แต่ร้องไห้ จนผมรู้สึกว่าเสียงสะอื้นของผมมันทำให้เสียงแมลงนั้นเงียบไป....

......

“พี่หนึ่งๆๆ เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม”

เสียงโปรทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วผมก็เอามือไปขยี้ตา ถึงได้รู้ว่าผมร้องไห้

“พี่หนึ่ง เป็นอะไรคับ”

“เปล่า.. ไม่มีอะไร”

“ฝันร้ายเหรอ?”

ผมไม่ได้ตอบโปร เพียงแต่กอดโปรแน่นขึ้น บรรยากาศตอนนี้ข้างนอกยังคงมืดสนิท ผมนอนใต้ผ่าห่มผืนเดียวกับโปร อากาศยังคงหนาวจัด ยังดีที่เต้นท์ที่ผมนอนมีที่กันน้ำค้าง ไม่อย่างนั้นผมและโปรได้เป็นหวัดแน่

“โปร..”

“คับ?”

“ถ้าวันหนึ่ง ดาวบนฟ้า... ที่โปรอยากได้แล้วไม่คิดว่าจะได้ จู่ๆมันก็ตกลงมาในมือ แต่ตอนนั้นโปรเหมือนจะกำอะไรบางอย่างอยู่... โปรจะทิ้งของในมือแล้วไปคว้าดาวไหม?”

“ของที่ว่าคืออะไรเหรอ”

“อืม.. ของที่อาจไม่ดีเท่าดาวที่โปรอยากได้มั้ง แต่ได้มาก่อนดาวดวงนั้นจะมา”

“อ่อคับ...ผมก็ดูว่าของในมือผมนั้น ยังอยากอยู่กับผมหรือเปล่าถ้าอยากอยู่ ดาวก็ดาวเถอะคับ ผมก็จะไม่สน”

โปรพูดเหมือนเข้าใจความหมายที่ผมพูด ผมเองก็ได้แต่กอดโปร โปรเองก็เอาผ้าห่มมาเช็ดคราบน้ำตาผมออก แล้วก็มากระซิบที่หูผมว่า

“พี่หนึ่งล่ะ อย่าทิ้งผมไปไหนนะ ถ้าเกิดพี่มีดาวตกลงมาใส่มือ”

โปรพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม นี่โปรรู้ความหมายของผมเหมดเลยหรือนี่ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กขนาดโปรจะเข้าใจความหมายอ้อมๆที่ผมพูดด้วย ไม่นานกว่านั้นผมก็หลับตาลงด้วยความอุ่นใจ ที่มีโปรอยู่ข้างๆ

“เน่ๆๆ สองคนในนั้นน่ะ ตื่นได้ยาง พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วนะ”

เสียงของโจดังมาจากนอกเต้นท์ ทำให้ผมกับโปรต้องรีบลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกไปนอกเต้นท์

บรรยากาศข้างนอกตอนย่ำรุ่งเหมือนว่าตอนนี้สวรรค์ยกให้ทอดตัวลงมาที่หน้าผม สายหมอกบางๆอยู่รอบตัว แม้ตอนนี้แสงอะไรยังมีไม่มาก แต่ก็สวยไปอีกแบบ ผมกับโปรเดินออกไปล้างหน้าแปลงฟัน แต่ยังไม่อาบน้ำนะครับ อากาศหนาวขนาดนี้อาบไปแข็งตายแน่ๆ แล้วผมก็มาที่เต้นท์อีกที รอคุณแม่ทำต้มน้ำร้อนทำโจ๊กทานตอนเช้า

“คงอีกสักพักนะ กว่าน้ำจะเดือด เพราะพ่อเค้าเพิ่งจะก่อไฟเอง” คุณแม่ผมบอกกับทุกๆคน

“หนึ่ง พาเพื่อนพาน้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนสิ” คุณแม่ผมแนะ

“อืมครับ งั้นเดี๋ยวหนึ่งมานะ ไปพวกเรา”

ผมเดินนำทุกๆคนไปยังจุดชมวิวครับ มันก็ไม่ไกลจากที่ตั้งเต้นท์นัก ที่นี่ผมมาบ่อยครับ เลยรู้เว้นทางพอควร ผมดูสภาพแต่ละคนแล้วเหมือนจะยังไม่ค่อยอยากเดินไปไหนเท่าไหร่ เว้นแต่โปรกับโจเท่านั้น ที่ดูจะสนุกกว่าใครเพื่อน

“ไอ้โปร เมื่อคืนกี่รอบ”

“สามรอบเองเพ่ ม่ายหวายอากาศมานหนาว”

“โถ่ ไม่ได้เรื่องเลยนะมึง อย่างพี่นิ ห้ารอบไม่ซ้ำท่า”

“ช่ายเลย ไม่ซ้ำท่า คนอะไรนอนดิ้นทั้งคืน ทำเอานอนไม่ได้เลย” น้องต้อมพูดออกมา แล้วทำหน้างอนๆแล้วเดินมาข้างๆผมแทน

“อ่าๆ ขอโต๊ดค๊าบบบบบบ เต้นท์มันแคบอ่า อากาศก็หนาว เลยอยากกอดแมวน้อย” ว่าแล้วก็เดินมากอดน้องต้อมทางด้านหลัง

“กอดบ้าไรล่ะ ศอกกะเข่านี่นะ นี่ไม่ใช่กระสอบทรายนะ!!”

“สงสัย เพ่โจเค้าฝันว่ากำลังซ้อมแฟน เอ้ยซ้อมมวยอยู่มั้งค๊าบ” โปรแซว

“ไอ้โปร ครายถามมึงไม่ทราบ”

แต่ก่อนจะมีเรื่องมากไปกว่านี้ ผมรีบตัดบทให้ทุๆคนรีบเดินเพราะนี่ก็ใกล้จะแจ้งแล้ว เราเดินผ่านจุดชมวิวตรงนี้ก็มีหลายคนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ผมบอกกับพวกเราว่าเดี๋ยวต้องเลยไปอีกที่ คนไม่ค่อยจะรู้น่ะครับ แต่วิวก็สวยไม่แพ้จุดที่ชมวิวแน่นอน จนในที่สุดก็มาถึงจนได้ มันเหมือนเป็นเหวลงไปจากสันเขา ไม่มีต้นไม้อะไรมาบัง สามารถมองเห็นร่องเขาซึ่งเต็มไปด้วยหมอก เหมือนดั่งทะเลเมฆที่อยู่เบื้องล่าง และทิวเขาที่อยู่ห่างออกได้ชัดเจน ตอนนี้แสงอาทิตย์ทอมาแล้ว แต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นพ้นทิวเขาที่บังอยู่ข้างหน้าพวกเรา ผมนั่งลงกับพื้นโปรก็นั่งลงข้างๆผม  ส่วนโจ น้องต้อม ก็ถ่ายรูปกันใหญ่โดยมีหมอพจน์เป็นตากล้องจำเป็นให้

ตอนนี้โปรเอามือข้างหนึ่ง มาจับที่มือของผม

“มือเย็นหมดแล้วนะ ไม่เอาถุงมือมาใส่ล่ะ”  ผมถามโปร

“ม่าย ตอนนี้ก็อุ่นดีแล้ว...”

แล้วเราก็รอคอยเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบเขาเบื้องหน้า แสงสีทองที่ทอดออกมา ผมว่าวันนี้ เป็นวันที่เริ่มต้นอะไรดีๆ หลังจากฟ้าฝนได้ตกลงมาและตอนนี้... เมฆหมอกในใจผมหายไปแล้วครับ....

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เอาน่ะ ถึงจะเหงาตอนต้นบทแต่ท้ายบทก็อบอุ่นจนน่าอิจฉาเลย อย่างน้อยตอนนี้โปรก็ได้ดวงดาวมาไว้ในมือแล้วเนะ   :man1:

สวัสดีครับ

:เฮ้อ: นี่ NC แล้วชิมิ

มันมีแค่นี้ล่ะคับ rate XXX ของมันละ

อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ยอม ส่งฉากนั้นมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ท่าจะต้องให้คนอื่นเขียนให้คับ เพราะไอ้คนเขียนมันหน้าบาง


^
^
^
อ่านะ ฉากอย่างว่าใครว่าเขียนง่าย ว่าแต่ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้อีกนิดก็ดีนะ ป้าและแฟนๆคนอื่นรีเควสต์จ้า
  :laugh:

ออฟไลน์ MiTo™

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-1
โปรตอบได้ สุดยอดมากน้องง!!!!

เล่นเอาเกือบร้องเลย ปกติเวลาอ่านนิยาย ที่มันพูดถึงดวงดาว แล้วมัน sensitive ทุกทีไม่รู้เป็นไร

แต่สุดยอดมาก ๆ ครับ ชอบจริง ๆ นะ

เป็นกำลังใจให้คนแต่ง กับ คนโพสต์ นะครับ

ขอให้มีแฟน เยอะ ๆ นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2008 11:08:54 โดย ๛clearest๛ »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กรี๊ดดดดดด โปร ตอบได้ประทับใจมากคุงน้อง ทำเอาต่อมรักเด็กกำเริบ  กรี๊ดดดดดดด 

มีแค่กันและกัน ดาวเด่อ อะไรไม่ต้องสน  มันจะตกมันร่วงก็ปล่อยดาวมันไป  :n1:





ปล.  ตกลง NC แค่นั้นจริงอ่ะ


อ่านะ ฉากอย่างว่าใครว่าเขียนง่าย ว่าแต่ มีรายละเอียดเยอะกว่านี้อีกนิดก็ดีนะ ป้าและแฟนๆคนอื่นรีเควสต์จ้า[/color]  :laugh:

เห็นด้วยกะ ป้า ค่า

ออฟไลน์ menano

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-0
ตกลงได้กันแล้วชิมิ

เหอเหอ

ว่าแต่คำพูดของโอ๊ตนี่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ

ขอทีเฮอะ  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด