Boss's Secret #ความลับของบอส ตอนที่ 22 25 ก.ย 64 p.4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Boss's Secret #ความลับของบอส ตอนที่ 22 25 ก.ย 64 p.4  (อ่าน 12837 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2021 16:21:25 โดย Foggy Time »

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
Re: Boss's Secret #ความลับของบอส
«ตอบ #1 เมื่อ01-06-2020 23:25:35 »

บทนำ

   
บอสในสายตาของผมนั้นเป็นคนที่เพอร์เฟ็คมาตลอด
เป็นอัลฟ่าที่ดูดีจนน่าอิจฉา ทำงานเก่งจนกอบกู้บริษัทให้กลับมาเป็นผู้นำในวงการได้
บอสเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่สุด และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมความคิดของผมถูกสั่นคลอน
มึงตาฝาดรึเปล่า!!!!!!!
    
ผมยืนตัวสั่นงึกๆ ระหว่างที่มองแผ่นหลังของบอสที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อจากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้
ผมไม่เคยเห็นบอสถอดสูทมาก่อน แต่วันนี้ก็คงจะเป็นวันที่ร้อนมากจริงๆ
 
บอสพาดเสื้อไว้บนไหล่ แต่สิ่งที่ผมสนใจมากกว่าคือรอยตะขอเสื้อสีแดงของบราที่เป็นรอยนูนขึ้นมาจางๆ
ไม่จริงหรอก ตาฝาด ตาฝาดแน่ๆ!!!

ผมขยี้ๆๆๆ ตาตัวเอง แต่ลืมตาขึ้นมาอีกก็เจออีก ก็เลยขยี้ใหม่อีกรอบ

"เป็นอะไร" บอสผู้สมบูรณ์แบบปรายตามองผม แววตาเย็นชาภายใต้แว่นบางเฉียบสะท้อนภาพผมที่ประหม่าจนหูกับหางโผล่ออกมาและลู่ลงจนแววตาที่บอสมองผมดูสมเพชมากกว่าเดิม

"เปล่า..ครั-" ผมกำลังจะตอบบอสแต่พอสายตาผมก็ไปหยุดตรงที่กระดุมตรงอกบอสที่บอสเหมือนจะลืมติด มันเลิกออกน้อยๆ จนทำให้เห็นข้างใน

...สีแดง บราสีแดง.. บอสใส่บราสีแดง!!!!!!!!!
    
ผมอ้าปากค้างตกใจหูตั้งหางฟู ไร้ซึ่งความน่าเกรงขามของอัลฟ่าหมาป่าสายพันธุ์โบราณที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลกโดยสิ้นเชิง
   

และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้ความลับของบอส...

;w;

   

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 1

   
วันแรกที่ผมได้รู้จักบอส ‘ไลม์’
   
เป็นวันเดียวกับวันที่ฝนตกหนักและผมเพิ่งโดนไล่ออกจากบริษัทเก่าเพราะถูกบอสที่เป็นเบต้าไม่ชอบหน้า หาว่าผมมีกลิ่นตัวเหม็นสาบสัตว์แถมหน้ายังไม่ตรงกับโหงวเฮ้งที่บริษัทต้องการอีก ผมเลยต้องออกจากบริษัทแบบงงๆ
   
หงิง
   
ผมเผลอร้องในลำคอตอนที่อยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักจนตัวผมเปียกชุ่ม ก่อนที่ผมจะพยายามตะกายหลบเข้าไปในพุ่มไม้ของสวนสาธารณะเพื่อไม่ให้ใครเห็นตัวเองที่เศร้าจนเผลอคืนร่างสัตว์ไปแล้ว
   
แย่จัง
   
ผมซุกหน้าลงกับอุ้งเท้าตัวเองเศร้าๆ เพราะไม่รู้จะหางานใหม่ทันไหม จะฟ้องหรือเรียกร้องบริษัทเดิมก็ทำไม่ได้เนื่องจากสถานะของผมตอนนี้ก็ไม่ใช่สถานะที่จะเรียกร้องอะไรได้ เพราะทันทีที่ผมแสดงตัวผมก็จะถูกจับได้ว่าเป็นอัลฟ่าหมาป่าสายพันธุ์โบราณทันที แล้วหลังจากนั้นผมก็คงโดนรัฐบาลจับแน่ๆ

ซึ่งหลังจากโดนจับไปแล้ว พวกทางการจะทำอะไร ผมไม่รู้หรอก แต่ผมก็ไม่เคยเห็นใครที่โดนจับไปแล้วกลับมาได้สักคน แถมคนส่วนใหญ่ก็กลัวอัลฟ่าหมาป่าอย่างพวกผมด้วย ฉะนั้นต่อให้ผมโดนยิงตายก็คงไม่มีใครสนใจ
สถานการณ์ของผมตอนนี้เลยแย่สุดๆ ไปเลย

หงิง

ผมร้องออกมาอีกรอบตอนที่ฝนตกหนักกว่าเดิม น้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อกับความใจร้ายของโลกใบนี้ เพราะผมก็เป็นแค่อัลฟ่าที่มีร่างหมาป่าด้วยเท่านั้นเอง ถึงผมจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ไปบ้าง แต่ผมก็เชื่อว่าผมจะสามารถควบคุมตัวเองได้ดีพอ เดี๋ยวนี้ผมก็เลิกแย่งลูกบอลหมาแถวบ้านแล้วด้วย

“โดนทิ้งเหรอ”

ผมสะดุ้งสุดตัวตอนที่อยู่ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้มาเจอผมซะงั้น ผมตัวสั่นงึกๆ กลัวโดนจับได้ว่าเป็นหมาปลอม แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะเงยหน้าขึ้นมอง

“...”

ผมมองผู้ชายตรงหน้าตัวเองตาค้าง

สาบานได้เลยว่าเกิดมาผมไม่เคยเห็นใครดูดีเท่าคนๆ นี้มาก่อนเลย

ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่สวมแว่นกรอบบางซึ่งเสริมให้บุคลิกดูเยือกเย็นมากขึ้น นัยน์ตาสีดำที่อยู่หลังเลนส์นั้นจ้องมองผมอยู่นั้นไม่แสดงอารมณ์อะไร ส่วนผมสีดำนั้นถูกเซ็ตอย่างเรียบร้อยเข้ากันดีกับสูทแบรนด์ดังที่กำลังใส่อยู่

“ไปอยู่ด้วยกันไหม?”

“...”

ผมเผลอกระดิกหาง ทั้งๆ ที่ยังเขายังพูดไม่จบด้วยซ้ำ

หงิง

ผมร้องในลำคอเศร้าๆ เพราะผมเป็นหมาปลอม คือถ้าเป็นหมาจริงผมไปอยู่ด้วยตั้งแต่คำแรกแล้ว

“กลัวเหรอ”

เหมือนเขาจะคิดว่าผมกลัวก็เลยขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ยอมเอาร่มคันสีดำของตัวเองบังฝนให้ผมจนตัวเองเปียกและพยายามลูบหัวผมให้ผมไว้ใจเขา

หูผมลู่ลงตอนที่ถูกมือนั้นลูบหัวผมอย่างเบามือ กลิ่นหอมจางๆ ที่มาจากน้ำหอมที่เขาฉีดผสมกับกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าประจำตัวของเขาซึ่งมันก็หอมจนผมกระดิกหางมากกว่าเดิม และหลับตาพริ้มตอนที่ถูกเกาคาง

ให้ตายเถอะ ผมไม่โดนเกาคางมานานแค่ไหนแล้วนะ
   
ซึ่งระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้ม อยู่ๆ ทุกอย่างก็หยุดลง
   
“..หมาป่า”
   
เขาพูดเสียงเบาเมื่อรู้ตัวแล้วถอยห่างจากผมทันที เพราะในโลกนี้แทบทุกคนถูกสอนเอาว่าให้ระแวงหมาป่าทุกตัวที่เจอ เหมือนกับที่แม่สอนหนูน้อยหมวกแดงให้ระวังหมาป่านั่นแหละ แต่ในประเทศนี้คนที่รับบทเป็นคุณแม่ก็คือรัฐบาลที่สอนกับลูกๆ ที่เป็นคนทั่วไปว่าพวกอัลฟ่าหมาป่านั้นไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป แต่เป็นอสูรกายสุดอันตรายที่พร้อมจะฆ่ามนุษย์ด้วยความบ้าคลั่ง พวกมันจะกินและฉีกกระชากเนื้อมนุษย์ทั้งเป็นเพื่อความบันเทิง
   
บอกเลยว่าตอนผมฟังครั้งแรกผมอ้าปากหวอเลย เพราะสิ่งที่รุนแรงที่สุดที่ผมทำก็แค่กัดตุ๊กตาตัวโปรดขาดเท่านั้นเอง แล้วผมก็ไม่กินเนื้อคนด้วย
   
ผมช้อนตามองเขาหงอยๆ แล้วซบหน้ากับอุ้งเท้าต่อ
   
ยังไงซะ ชีวิตผมก็คงไม่มีทางดีกว่านี้แล้วล่ะ จะเรียกตำรวจหรือเทศกิจก็เชิญ ผมยอมแพ้แล้ว
   
“คุณเป็นพวกอัลฟ่าหมาป่าใช่ไหม”
   
หงิง
   
ผมร้องหงิงๆ แทนคำตอบเพราะคงไม่มีหมาป่าหลุดมาอยู่ใจกลางเมืองขนาดนี้หรอก
   
“…”
   
สุดท้ายก็เป็นผมที่ทนความเงียบต่อไปไม่ได้ ผมตะกายเข้าไปในพุ่มไม้มากกว่าเดิมจนไม่ให้เขาเห็นผมอีก อย่างน้อยๆ ถ้าเขาใจดีหน่อยก็คงทำเป็นไม่เห็นผมแล้วปล่อยให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ถ้าใจร้ายผมก็คงจะร้องไห้ตรงนี้แหละ ตายก็ตาย ผมเหนื่อยที่จะดิ้นรนแล้วเหมือนกัน
   
ที่ผ่านมาผมก็พยายามที่สุดแล้วที่จะใช้ชีวิตกลมกลืนกับคนธรรมดา แต่มันยากมากจริงๆ สำหรับผมที่ยังหลงเหลือสัญชาตญาณอยู่และต้องพยายามซ่อนมันตลอดเวลา ทั้งๆ ที่บางครั้งผมก็แค่อยากกระดิกหางตอนมีความสุขบ้างเท่านั้นเอง
   
“คุณ”
   
ผมลืมตามองเขาข้างหนึ่งและพบว่าเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนแถมยังไม่เรียกตำรวจด้วย
   
หรือเขาจะเป็นคนใจดีที่หาได้ยาก!
   
ผมกระดิกหางทันทีเพราะครั้งล่าสุดที่เจอคนใจดีคือตอนเด็กๆ ที่เป็นคุณยายในหมู่บ้านที่รู้ความลับของครอบครัวผม แต่ก็ไม่แพร่งพรายยอมให้ผมกับแม่ใช้ชีวิตต่ออย่างสงบสุข
   
“คืนร่างมนุษย์ได้ไหม”
   
หงิง
   
ผมมุดหน้าออกจากพุ่มไม้ หูลู่ลงหงอๆ เพราะอีกใจก็กลัวโดนหลอก ถ้าผมคืนร่างมนุษย์ตอนนี้ก็เท่ากับยอมรับทันทีว่าเป็นอ่ะ แต่ถ้าผมยังอยู่ในร่างนี้ก็ยังคงหาทางมั่วนิ่มเป็นหมาป่าจริงๆ ได้อยู่แหละ
   
“ไม่สิ ผมคงเสียมารยาท”
   
เขาก็ยังคงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และมองผมอย่างเยือกเย็น
   
“คุณยังอยากกลับกับผมไหม”
   
อยากสิ ผมอยากอยู่บ้านที่ผมไม่ต้องหวาดระแวงตลอดเวลาว่าจะมีคนเข้ามาเจอว่าผมไม่ใช่คนปกติ ถ้าเลือกได้ผมอยากเกิดมาเป็นหมาจริงๆ ด้วยซ้ำ เพราะผมจะรู้สึกผ่อนคลายมากเวลาได้คืนร่างหมาป่าแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาในห้อง
   
ผมสบตากับเขาอย่างชั่งใจ แต่ก็กลัวว่าจุดจบของผมจะเหมือนกับแม่ที่เผลอไปไว้ใจคนอื่นจนในที่สุดก็โดนทางการจับไป ส่วนผมที่ไปวิ่งเล่นข้างนอกยังไม่ทันกลับบ้านก็โดนคุณยายไล่ให้หนีไปจากที่นี่พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่ง
   
ผมใช้ชีวิตอย่างหมาจรจัดมาตลอด ตอนนี้ผมก็อยู่ห้องเช่าห่วยๆ ที่ไม่มีใครเช่าเพราะมีข่าวลือว่ามีผีในห้อง แต่ความจนมันน่ากลัวกว่าผมก็เลยเลือกที่จะเมินเฉยกับสิ่งแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในห้อง ทั้งๆ ที่ผมกลัวแทบตายแล้วก็อยากหอนมากด้วย
   
“ผมไม่ขายใคร”
   
เขาพูดสั้นๆ ราวกับรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
   
ซึ่งมันก็ทำให้ผมตัดสินใจได้สักที
   
ผมตะกายกลับเข้าไปในพุ่มไม้แล้วคืนร่างมนุษย์ หยิบเอาเสื้อผ้ามาใส่อย่างเงอะงะ ก่อนที่จะมุดออกมาจากหลังพุ่มไม้และกลับไปหาเขาอีกครั้ง
   
ผมก้มหน้างุดเมื่อพบว่าผมตัวใหญ่กว่าเขามาก ให้ตายเถอะ ร่างมนุษย์ของผมก็ไม่น่ารักด้วย เขาอาจจะไม่เอ็นดูผมเหมือนตอนเป็นหมาป่าก็ได้ แถมผมยังเป็นคนที่กินข้าวเยอะมากๆ อีก
   
“..ถ้าเปลี่ยนใจก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจ”
   
ผมพูดหงอยๆ ซึ่งถ้าผมคืนร่างกึ่งหมาป่าได้ ตอนนี้คงจะหูลู่หางตกไม่ต่างกับตอนเป็นหมาป่าเต็มตัวสักนิด
   
“ผมไม่เปลี่ยนใจ”
   
ผมเงยหน้าสบตากับเขาทันที แต่น่าเสียดายที่เขาก็ยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์แบบเดิม นัยน์ตาสีดำราวกับน้ำหมึกนั้นสะท้อนภาพผมที่มองเขาด้วยสายตาเทิดทูน ทั้งๆ ที่รู้จักกันไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำ
   
“คุณต้องเก็บของไหม”
   
เขาถามผมพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้และถือร่มให้สูงขึ้นเพื่อที่จะบังฝนให้ทั้งผมด้วย
   
“ไม่ครับ ผมไม่มีข้าวของอะไรอยู่แล้ว”
   
ผมยิ้มให้เขาและขอร่มมาถือเอง แน่นอนว่าผมไม่กางให้ตัวเองเพราะผมเล่นน้ำเป็นปกติอยู่แล้ว การตากฝนเลยเป็นอะไรที่สบายมาก
   
“ผมชื่อไลม์ หรือคุณจะเรียกผมว่าบอสเหมือนคนอื่นๆ ก็ได้”
   
เขาไม่ได้ว่าอะไรและจ้องหน้าผมนิ่งๆ
   
“ผมชื่อครามครับ แต่ปกติแม่จะเรียกผมว่าโบ้ บอสเรียกผมว่าโบ้ก็ได้นะครับ”
   
ผมยิ้มกว้างรู้สึกดีใจมากที่มีคนรับเลี้ยงตัวเองสักที ไม่สิ ผมไม่ใช่หมาซะหน่อย แต่ผมก็ดีใจมากๆๆ อยู่ดีที่บอสเอาผมไปอยู่ด้วย ผมจะตั้งใจเฝ้าบ้านอย่างสุดความสามารถเลย!
   
“โบ้?”
   
“ครับ บอส!”
   
ผมรับคำขึงขัง อาชีพล่าสุดของผมก็คือยามหรือผู้รักษาความปลอดภัยให้กับบริษัทเนี่ยแหละ ซึ่งการรับกลิ่นของผมก็เป็นเลิศมาก ผมจำกลิ่นของทุกคนได้ในบริษัทได้ แต่จะไอโขลกและสูญเสียประสาทการรับกลิ่นทุกครั้งที่บอสคนเก่าเข้ามาใกล้ เพราะบอสฉีดน้ำหอมกลิ่นอัลฟ่าแรงมากจนจมูกผมแทบพัง
   
“...”
   
ผมกระพริบตาปริบเมื่อเห็นแววตาของบอสคนใหม่ดูมีความรู้สึกขึ้นมานิดๆ ก่อนที่มันจะกลับมาไร้อารมณ์แบบเดิม
   
“..โทษที พอดีชื่อคุณเหมือนหมาที่ผมเคยเลี้ยง”
   
“ไม่เป็นไรครับ แม่ผมก็เรียกเพราะผมนิสัยเหมือนหมามากกว่าคน”
   
ผมหัวเราะ เพราะสาเหตุที่ผมได้ชื่อเล่นนี้เพิ่มก็เพราะผมทำตัวเหมือนหมาเกินไป อัลฟ่าหมาป่าตัวอื่นที่ผมเคยเจอก็เป็นหมาป่าสุดเท่ มีแต่ผมที่เป็นแกะดำที่เป็นหมาป่าที่เหมือนหมาบ้านพันธุ์โกลเด้น ที่ร้อยตัวชื่อจัมโบ้ไปแล้วเก้าสิบเก้าตัว แม่ผมเลยให้ผมเป็นโบ้ตัวที่หนึ่งร้อยไป
   
“กลับบ้านกัน”
   
“ครับ!”
   
ผมรับคำอย่างกระตือรือร้นแล้วเดินตามหลังบอสไปโดยพยายามถือร่มให้บังฝนให้บอสให้ได้มากที่สุด ถึงบอสจะเปียกไปทั้งตัวเหมือนผมแล้วก็เถอะ แต่การไม่เปียกเพิ่มก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนี่นา
   
ผมตาโตตอนที่เห็นรถของบอสเพราะมันเป็นรถคันหรูระดับบนที่พวกอัลฟ่ารวยๆ ใช้กัน

“ของพี่ชายผม”
   
บอสบอกกับผม ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องบอกผมด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ผมเทิดทูนบอสขึ้นไปอีก
   
“ให้ผมขับได้นะครับ ผมขับเป็น”
   
“คุณไม่รู้ทาง” บอสเปิดประตูข้างคนขับแล้วแตะหลังผมเบาๆ เชิงให้เข้าไป
   
แน่นอนว่าอัลฟ่าหมาป่าที่เชื่องที่สุดในโลกอย่างผมเข้าไปนั่งข้างคนขับอย่างว่าง่าย แล้วกอดร่มที่เป็นสมบัติของบอสเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้มันหายและใครมาแย่งไปได้
   
“หลับได้นะ ถ้าคุณง่วง”
   
“ครับ”
   
ผมรับคำแต่ก็ไม่ได้หลับเพราะกำลังให้ความสนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างในรถที่มีลูกเล่นแพรวพราวมาก แต่บอสกลับไม่ใช้มันสักอย่าง แม้แต่เปิดเพลงบอสยังไม่ทำด้วยซ้ำ
   
“..!”
   
ผมหลับตาพริ้มเมื่อได้กลิ่นอัลฟ่าของบอสที่ฟุ้งในรถอย่างชัดเจน
   
ทั้งๆ ที่ผมก็เจออัลฟ่ามามากมาย แต่ผมกลับไม่เคยได้กลิ่นฟีโรโมนที่หอมขนาดนี้มาก่อน
   
สำหรับผมมันหอมกว่ากลิ่นของโอเมก้าตอนฮีทด้วยซ้ำ..
   
มันไม่ใช่กลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกบ้าคลั่ง แต่มันเป็นกลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกสงบและรู้สึกปลอดภัย หากแต่ขณะเดียวกับมันก็เหมือนซุกซ่อนอะไรบางอย่างให้ที่ทำให้ผมรู้สึกประหม่าแปลกๆ
   
ผมแอบมองบอสเจ้าของกลิ่นฟีโรโมนที่กำลังขับรถด้วยสีหน้าไร้อารมณ์และจดจ่อกับการขับรถมาก จนคล้ายกับว่าลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเก็บลูกหมาหลงทางอย่างผมขึ้นรถมาด้วย
   
หงิง
   
“!”
   
ผมสะดุ้งเมื่อเผลอร้องหงิงๆ ออกไปตามความเคยชินเวลาที่รู้สึกผิดหวัง ซึ่งปกติผมชอบทำตอนอยู่คนเดียวไง
   
“...”
   
บอสเหลือบมองผมคล้ายกับถามว่าผมเป็นอะไร แน่นอนว่าผมค่อนข้างอายเลยก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาบอสแล้วพยายามหาเรื่องอื่นคุย
   
“ทำไมบอสถึงยอมช่วยผม”
   
แน่นอนว่าถ้าบอสโดนจับได้ว่าให้ความช่วยเหลือพวกอัลฟ่าหมาป่าก็คงโดนโทษหนักอยู่เหมือนกัน ถึงบอสจะเป็นอัลฟ่าก็เถอะ แต่สำหรับรัฐบาลแล้วพวกอัลฟ่าหมาป่าคือตัวร้ายระดับโลก ฉะนั้นต่อให้บอสเส้นใหญ่แค่ไหนก็คงเดือดร้อนอยู่ดี
   
“..คุณดูไม่เหมือนพวกอัลฟ่าหมาป่าที่รัฐบาลบอก”
   
ผมขมวดคิ้วเพราะไม่แน่ใจว่ามันคือคำชมไหม แต่ถ้าเป็นบอสพูดก็น่าจะเป็นคำชม
   
“พวกรัฐบาลมั่วจะตาย อัลฟ่าหมาป่าอย่างพวกผมก็เหมือนมนุษย์ทั่วไปที่มีร่างหมาป่าด้วยเฉยๆ ”
   
พอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็หน้าบูดและรู้สึกงุ่นง่านจนลืมตัวปล่อยหูกับหางตัวเองออกมา
   
“แล้วอีกอย่างนะ บอส ผมน่ะ นอกจากกัดตุ๊กตาแล้ว ผมยังไม่เคยกัดคนเลย! แม่ผมก็ด้วย ผมกับแม่ก็ใช้ชีวิตกันแบบสงบๆ กันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหากับใคร ทำไมพวกมันถึงต้องมาจับแม่ผมไปด้วย”
   
ผมนั่งฟึดฟัดอย่างลืมตัวก่อนจะรู้สึกตัวว่าบอสไม่ใช่รัฐบาลเลยนั่งหงออีกรอบด้วยความเกรงใจ
   
“..ขอโทษที่ผมช่วยได้แค่นี้”
   
สารภาพตามตรงว่าผมไม่เคยเจออัลฟ่าแบบบอสมาก่อนเลย
   
หูผมลู่ลงหงอยๆ
   
“บอสไม่ต้องขอโทษหรอกครับ มันไม่ใช่ความผิดบอสเลย แค่บอสไม่แจ้งคนมาจับผม ผมก็ขอบคุณมากๆ แล้ว”
   
“...”
   
บอสเหลือบมองผมอีกครั้งตอนที่จอดติดไฟแดง ก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัยเอื้อมไปหยิบผ้าห่มสีดำจากเบาะหลังมาวางบนตักผม ซึ่งผ้าห่มของบอสก็ถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยมากจนผมไม่กล้าแตะจนกว่าจะได้รับอนุญาต
   
“นอนสิ”
   
“ขอบคุณครับ บอส”   
   
พอได้รับคำอนุญาตผมก็หยิบผ้าห่มมาห่มและค้นพบว่ามันนุ่มกว่าที่คิดมาก ถึงผมจะไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ก็เถอะแต่กลิ่นของบอสที่ติดอยู่กับผ้าห่มนั้นทำผมรู้สึกดีจนผมม้วนตัวเองใส่มันอย่างไม่ลังเล
   
ให้ตายเถอะ ผมมั่นใจมากเลยว่าถ้ามีสักวันที่ผมสนิทกับบอสมากๆ ผมคงจะไปซุกกับตัวบอสทั้งวัน
   
ผมหาวหวอดง่วงๆ แล้วยอมทำตามคำสั่งแรกของบอสแต่โดยดี

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 2

   
“คุณจะอาบน้ำก่อนไหม”
   
บอสถามผมหลังจากที่พาผมเข้ามาในบ้านแล้วผมตื่นเต้นกับความใหญ่โตของบ้านบอสมาก เพราะภายนอกก็ดูเหมือนเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้นธรรมดา แต่พอเข้ามาแล้วข้างในบ้านกลับสวยกว่าที่ผมคิดอีก ทุกอย่างดูเรียบง่ายและเป็นระเบียบไปหมด
   
หากแต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากที่สุดคือ ‘สนามหญ้าข้างบ้าน’ ที่ใหญ่และน่าวิ่งเล่นเอามากๆ
   
ผมอยากจะคืนร่างหมาป่าแล้วไปลุยหญ้านั่นจะแย่แล้ว!
   
“คราม”
   
“ครับ!”
   
ผมเผลอขานรับอย่างกระตือรือร้นตอนที่ได้ยินชื่อตัวเอง ก่อนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้ตอบบอสเลย
   
“บอสอาบก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
   
ถึงตอนนี้ผมกับบอสจะตัวแห้งจากแอร์แล้วก็เถอะ แต่คนที่ดูป่วยง่ายกว่าผมก็ดูจะเป็นบอสอยู่ดี แถมตอนนี้จมูกของบอสก็เริ่มแดงๆ แล้วด้วย
   
บอสขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจกับคำตอบของผมสักเท่าไหร่ และหันไปมองห้องข้างๆ ที่ปิดประตูอยู่เหมือนชั่งใจว่าจะให้ผมยืมใช้ดีไหม
   
“ผมรอได้ครับ บอสไม่ต้องห่วงผมหรอก ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยป่วยจนต้องไปโรงพยาบาลเลย”
   
ถึงผมจะไม่รู้ก็เถอะว่าในห้องมีอะไร แต่ผมก็อยากทำตัวให้มีปัญหาน้อยที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของบอส และผมก็อยากจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะตอบแทนความใจดีของบอส
   
ผมน่ะ ตัดสินใจแล้วด้วยซ้ำว่าจะยอมตายเพื่อบอส!
   
“..คุณอาบห้องน้ำห้องนอนผมเถอะ เดี๋ยวผมขึ้นไปอาบข้างบน”
   
แต่สุดท้ายบอสก็เหมือนจะทนสภาพหมาตกน้ำของผมไม่ไหวเลยยอมเปิดประตูห้องเพื่อให้ผมเข้าไปใช้
   
“แต่มันเป็นห้องนอนบอสนะครับ”
   
ผมพูดด้วยความเกรงใจ ไม่กล้าเดินตามบอสเข้าไป
   
“...”
   
บอสขมวดคิ้วมองผมจนผมหงอกว่าเดิม ผมพยายามห่อไหล่ทำตัวให้เล็กลงเพราะผมเดาอารมณ์บอสไม่ออกเลย แต่บอสดูดุมาก ไม่แน่บอสอาจจะไม่ชอบที่ผมทำตัวเยอะแยะแบบนี้ก็ได้
   
หงิง
   
ผมหลับตาหยีและเผลอร้องออกมาอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติผมจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้ เอาเข้าจริงผมแทบไม่เคยเผลอทำตัวน่าสมเพชแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นด้วยซ้ำ
   
บอสเป็นคนแรกเลยที่ทำให้ผมรู้สึกเป็นแค่ลูกหมาตัวเล็กๆ ที่กลัวโดนทิ้งตลอดเวลา
   
“เป็นอะไร”
   
ผมหลับตาหยีมากกว่าเดิมตอนที่ได้กลิ่นฟีโรโมนของบอสเข้ามาใกล้
   
“..บอสโกรธผมใช่ไหมครับ”
   
“ผมไม่ได้โกรธ”
   
ผมลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาดูบอส ซึ่งสีหน้าบอสก็ยังดูดุเหมือนเดิมจนผมหลับตาอีกรอบ
   
“ถ้าวันไหนบอสเบื่อผมแล้วหรือรำคาญผมมากๆ บอสบอกผมได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมไปเอง หรือถ้าบอสไม่อยากให้ผมไปเอง ก็เอาผมไปปล่อยข้างทางก็ได้แต่ขอเวลาให้ผมทำใจสักวันสองวันนะครับ”
   
“คราม”
   
“..ครับ”
   
ผมรับคำหงอยๆ
   
“ลืมตาขึ้นมามองผม”
   
ให้ตายเถอะ ผมหยุดสั่นไม่ได้เลย
   
ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาสบตากับบอสตามคำสั่ง และแน่นอนสิ่งที่ผมเจอก็ยังคงเป็นสีหน้าเย็นชาของบอส จนผมอยากจะหลับตาหนีอีกครั้งให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้เพราะบอสสั่งไว้แล้ว
   
กล้าๆ หน่อย คราม! ตัวบอสนิดเดียวเอง ถ้ามึงสู้กับบอสยังไงมึงก็ชนะแน่ๆ
   
ผมพยายามปลุกกำลังใจตัวเองให้ฮึกเหิมเพื่อที่จะไม่หลับตาหนีบอสอีก
   
“...อึก”
   
ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเพราะมันไม่ช่วยอะไรเลย ผมยังกลัวบอสเหมือนเดิม ยิ่งเห็นใบหน้าเยือกเย็นใกล้ๆ ผมยิ่งประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก
   
“เลิกกลัวผมสักที”
   
คำสั่งก็ง่ายนะ แต่ทำไมทำยากจัง
   
ผมสบตากับบอสแล้วพยักหน้าเบาๆ แต่ก็ยังหงอยอยู่ดี
   
“แล้วคุณก็เลิกคิดได้แล้วว่าผมจะเอาคุณไปปล่อย” บอสถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะมองผมแววตาอ่อนลง “ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น”
   
“หมายความว่าบอสจะรับเลี้ยงผมจริงๆ ใช่ไหมครับ!”
   
ผมที่รู้สึกดีใจเกินไปเผลอปล่อยให้หูกับหางของตัวเองออกมาอย่างลืมตัวและกระดิกไม่หยุด
   
บอสใจดีจัง! บอสดีที่สุดเลย!
   
“…”
   
บอสเบิกตากว้างนิดๆ เหมือนจะตกใจที่อยู่ๆ ผมก็คืนร่างกึ่งหมาป่า
   
“ตอนอยู่บ้านผมขออยู่ร่างหมาป่าได้ไหมครับ บอส ผมสัญญาเลยครับว่าผมจะตั้งใจเฝ้าบ้าน ถ้ามีโจรเข้ามาปล้นบ้านบอส ผมจะกัดให้มันตายไปเลย!”
   
ผมพูดด้วยความมุ่งมั่น นี่เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้แสดงศักยภาพของชาวอัลฟ่าโบราณสักที เพราะตอนทำงานเป็นยาม ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งจามกลิ่นบอสเก่าทั้งวัน แถมมันยังเป็นบริษัทธรรมดาเลยไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
   
ฉะนั้นการได้เฝ้าบ้านของบอสสำหรับผมแล้วมันคือเกียรติสูงสุดที่ผมเคยได้รับมาเลย!
   
“..แค่จับก็พอแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นตายหรอก” บอสปรามผมเสียงเรียบก่อนจะจับหางผมที่กระดิกแรงจนโดนตัวบอส ผมหูลู่ลงหงอยๆ เพราะแม้แต่ตอนโดนบอสจับหางผมก็ยังไม่หยุดกระดิกหางอยู่ดี
   
ทำไงได้ก็ผมดีใจมากๆ นี่นา
   
“ส่วนเรื่องร่างหมาป่าของคุณ” บอสเงยหน้าสบตากับผม “ตราบใดที่อยู่ในบ้าน คุณจะอยู่ในร่างไหนก็ได้ ผมไม่สนใจ แต่ถ้าออกนอกบ้าน คุณต้องได้รับการอนุญาตจากผมก่อนเท่านั้น”
   
“แล้วสนามหญ้าข้างนอก ผมไปเล่นได้ไหมครับ”
   
ผมถามอย่างมีความหวังแต่ก็ฝันสลายทันทีตอนที่บอสทำหน้าดุกว่าเดิม
   
“ไม่ได้”
   
“ครับ บอส”
   
ถึงจะผิดหวังนิดหน่อยแต่มันก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้ เพราะนอกบ้านนั้นมีหูตาเต็มไปหมด เกิดมีคนมาเจอตอนกลิ้งบนสนามหญ้า บอสคงจะไม่สนุกกับผมแน่
   
“เข้ามาสักที คราม”
   
บอสเอ็ดผมที่จนถึงตอนนี้ก็ยืนจ๋องอยู่หน้าห้อง
   
“..ครับ”
   
ก็กลิ่นของบอสในห้องนอนมันแรงมากนี่นา

ผมหน้าแดงด้วยความประหม่าเพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมชอบกลิ่นของบอส จนผมไม่รู้ว่าถ้าผมเข้าไปในห้องบอสแล้วจะทำใจเดินออกมาได้รึเปล่า แต่บอสสั่งให้ตามเข้าไป ผมก็ต้องเข้าไปแหละ
   
“...”
   
ห้องบอสสวยชะมัดเลย
   
ผมกระดิกหางเพราะทุกอย่างในห้องเหมือนจะบ่งบอกตัวตนทั้งหมดของบอสจนผมเหมือนได้รู้จักบอสมากขึ้น ก่อนที่ผมจะตาโตกับการตกแต่งภายในที่เป็นห้องทำงานกึ่งห้องนอน ทุกอย่างในอาณาเขตห้องนอนบอสเหมือนถูกทำขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งผนัง เพดาน ฝ้า หรือแม้แต่พรมบนพื้น มันถูกทำใหม่ให้เป็นไปตามรสนิยมของบอส
   
มันทั้งหมดถูกปรับให้เป็นสไตล์อังกฤษที่เน้นสีทึบเป็นหลัก แต่ที่สำคัญที่สุดคือในห้องมีมุมหนึ่งเหมือนจะเป็นมุมทำงานของบอสที่มีทั้งหนังสือ แคตตาล็อกผ้า แถมยังมีบอร์ดด้านหลังที่มีภาพร่างชุดอะไรสักอย่างเอาไว้กับโพสอิทติดไว้ข้างๆ อย่างเป็นระเบียบ
   
“บอสจะให้ผมอาบก่อนจริงๆ เหรอครับ”
   
ผมตามบอสเข้าไปในห้องน้ำก็ตื่นเต้นอีก
   
ห้องน้ำบอสมีอ่างอาบน้ำด้วย!!!
   
อย่างน้อยๆ ถึงผมจะเล่นหญ้าหน้าบ้านไม่ได้แต่การได้แช่น้ำในอ่างดีๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเหมือนกัน เพราะล่าสุดที่ผมได้แช่น้ำอาบอย่างมีความสุขก็สมัยเด็กๆ ที่ผมเป็นแค่ลูกหมาตัวนิดเดียว แล้วแม่ยอมให้เล่นน้ำในกะละมังซักผ้าได้
   
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว” บอสที่นั่งอยู่ขอบอ่างและกำลังเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างสบตากับผมด้วยสีหน้าเฉยชาเหมือนเดิม “ผมจะอาบพร้อมกับคุณ”

“!”
   
ผมตกใจจนหูตั้งหางฟูตอนที่บอสเดินมาหาผม
   
ให้ตายเถอะ ถ้าแม่มาเห็นผมสภาพนี้คงด่าผมยับแน่ๆ เพราะผมแทบไม่เหลือสภาพอัลฟ่าหมาป่าด้วยซ้ำ เหมือนเป็นแค่ลูกหมาที่บอสบังเอิญเก็บได้แล้วยังเป็นหมาที่ใจเสาะมากๆ อีก
   
“บอส บอสอาบก่อนก็ได้นะครับ”
   
ผมหน้าแดงและถอยหลังกรูดตามสัญชาตญาณ
   
จะให้ผมอาบพร้อมบอสเหรอ! มันจะน่าอายเกินไปแล้ว ผมยังไม่เคยเปลือยต่อหน้าใครมาก่อนเลย แถมยังต้องอาบพร้อมกับบอสอีก ผมไม่กล้าขนาดนั้นหรอก
   
บอสน่ะเป็นทั้งเจ้านายและผู้มีพระคุณของผม ฉะนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรบอสของผมก็ต้องได้มันก่อนเสมอ
   
“คุณอาบฝักบัว คราม ผมไม่ได้จะให้คุณอาบในอ่างกับผม”
   
บอสขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจว่าผมเป็นอะไรแล้วพยักพเยิดไปตู้กระจกข้างๆ ที่เป็นห้องอาบน้ำเหมือนกัน
   
“..ครับ บอส”
   
ผมพยักหน้าหงึกหงักด้วยความโล่งใจ ถ้าผมต้องอาบน้ำในอ่างเดียวกับบอส ผมคงจะเขินตายแน่ๆ
   
“ผมจะถอดเสื้อ คุณช่วยหันหลังไปหน่อยแล้วก็ปิดตาของคุณด้วย”
   
บอสเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่พาดเอาไว้บนราวและจ้องผมนิ่งๆ ซึ่งผมที่เป็นหมาที่ดีของบอสก็ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ผมรีบหันหลังให้บอสและหลับตา แต่หูหมาป่าเจ้ากรรมของผมก็ทำให้ผมได้ยินเสียงชัดกว่าปกติก็ทำให้ผมประหม่าอีกครั้ง
   
เสียงขยับสาบเสื้อดังอย่างชัดเจนในห้องที่เงียบกริบ

ผมหน้าแดงตอนที่เผลอจินตนาการตามว่าบอสกำลังทำถึงขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งจากเสียงนี้ก็น่าจะเป็นเสียงที่บอสกำลังปลดกระดุมและถอดสูทสีดำตัวนอกออก ก่อนจะตามด้วยเสียงรูดเนคไทยาวๆ ที่บอสน่าจะถอดออกในคราวเดียว

ผมขยับหูให้ได้ยินให้ชัดขึ้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ควรทำแต่ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ให้อยากรู้ไม่ได้เลย
มันเป็นเสียงปลดกระดุมเบาๆ ที่เบาจนผมแทบจะไม่ได้ยิน มือเล็กๆ ของบอสตอนนี้น่าจะง่วนอยู่กับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่น่าจะถูกติดจนเกือบครบทุกอัน

ผมได้ยินเสียงเสื้อถูกถอดออกอีกครั้ง และเดาว่าต่อไปคงจะไปคิวของกางเกงบอส

“..?”

ทำไมถึงเป็นเสียงแก๊กล่ะ

ผมขมวดคิ้วเพราะคิดไม่ออกว่ามันคือเสียงอะไร ปลดเข็มขัดก็ไม่ใช่ ถอดกางเกงยิ่งไม่ใช่แล้วใหญ่ แล้วมันคืออะไร หรือว่ามือบอสไปโดนอะไรสักอย่างเฉยๆ มันถึงกลายเป็นเสียงแบบนั้น

ผมยืนงงอยู่สักพักจนแทบจะลืมไปแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่

“ชุดคุณใส่ไว้ในตะกร้าที่ว่าง เดี๋ยวอาบเสร็จผมเอาไปซักให้”

ผมสะดุ้งตอนที่ได้ยินน้ำเสียงไร้อารมณ์ของบอส

“ผมลืมตาได้รึยังครับ”

“อืม”

พอได้รับคำอนุญาตผมก็ลืมตาและหันไปทางบอสทันที ก่อนจะหน้าแดงเขินๆ เพราะบอสตอนนี้แช่อยู่ในอ่างน้ำและหลับตาพิงกับขอบอ่างอย่างผ่อนคลาย ซึ่งปริมาณน้ำที่ไม่มากพอที่จะปกปิดร่างกายบอสทั้งหมดนั้นทำให้ผมเห็นครึ่งบนของบอสอย่างชัดเจน

“...”

ผมเบือนหน้าหนีทันทีเพราะรู้ว่าถ้ามองนานกว่านี้ผมคงจะทนไม่ไหว

บอสโคตรเซ็กซี่เลย..

ผมไม่รู้ว่าบอสรู้ตัวไหม แต่เชื่อผมเถอะว่าถ้าเป็นอัลฟ่าคนอื่นก็คงจะพุ่งขย้ำบอสไปแล้ว ถึงบอสจะไม่ใช่โอเมก้าก็ตาม
ผมรีบถอดเสื้อผ้าออกมาใส่ตะกร้าที่ว่างข้างๆ ตระกร้าของบอส ซึ่งพอผมจะโยนใส่แบบลวกๆ ผมก็รู้สึกว่าทำไม่ได้เพราะในตระกร้าบอสนั้นทั้งกางเกงและเสื้อเชิ้ตถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยราวกับว่ามันไม่เคยถูกใส่มาก่อน

ให้ตายเถอะ

ผมถอนหายใจแล้วพับเสื้อกางเกงแบบที่บอสทำและเหลือไว้แต่กางเกงบ๊อกเซอร์เพื่อที่จะอาบน้ำ เพราะผมหน้าบางเกินกว่าจะถอดทั้งหมดต่อหน้าบอส

ซ่า..

ผมปล่อยให้น้ำเย็นเฉียบราดหัวตัวเองเพื่อที่จะละลายภาพบอสออกไปจากหัว

ผมเป็นหมาของบอส ห้ามคิดอะไรกับบอส บอสเก็บผมมาเลี้ยงเพื่อที่จะให้ผมเฝ้าบ้านและเป็นเพื่อนแก้เหงา ผมจะคิดกับบอสมากกว่านั้นตั้งแต่วันแรกไม่ได้!!

ผมพยายามสะกดจิตตัวเองเหมือนที่ชอบทำตอนเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้ผลสักนิด ในหัวผมยังเห็นผิวขาวจัดของบอสที่แดงระเรื่อจากความร้อนอย่างชัดเจน ลักษณะกล้ามเนื้อที่เหมือนถูกพระเจ้าปั้นสรรอย่างตั้งใจ และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือตุ่มไตเล็กๆ สีชมพูนั่น

หงิง

ผมลูบหน้าตัวเองและเลียเขี้ยวตัวเองอย่างอดสู

ผมอยากลองชิมมันเป็นบ้าเลย

“หาสบู่ไม่เจอเหรอ”

บอสถามผมทั้งๆ ที่ไม่ลืมตาด้วยซ้ำ เอาเข้าจริงถ้าบอสไม่พูดขึ้นมาผมก็คงคิดว่าบอสหลับไปแล้ว

“ครับ มันมีสองอัน ผมไม่รู้ว่าบอสอนุญาตให้ผมใช้อันไหนบ้าง”

แย่แล้ว ผมเผลอโกหกบอสไปแล้ว

ผมหูลู่ลงหงอๆ เพราะไม่อยากโกหกบอส แต่จะให้พูดความจริงว่าผมร้องเพราะอะไร ผมคงได้กลายเป็นหมาจรจัดตั้งแต่วันแรกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงแน่ๆ

“จะใช้อะไรก็ใช้เถอะ ผมไม่ว่าหรอก”

“ครับ”

ผมปิดน้ำแล้วกดสบู่มาสระผมและถูตัวโดยตั้งหน้าตั้งตาอาบเพื่อที่จะไม่หันไปมองบอสอีก ใช้เวลาไม่นานตัวผมก็อาบน้ำเสร็จและออกมาจากตู้กระจก

“คราม”

“...ครับ”

ผมที่ยังไม่ทันหยิบผ้าเช็ดตัวหันไปมองบอสและผมก็ต้องหน้าแดงอีกรอบ เพราะบอสขยับมานั่งเท้าคางเพื่อที่จะมองผมตรงๆ

“มาหาผมหน่อย”

“..ครับ”

ผมเดินเข้าไปบอสแล้วก้มหน้างุดด้วยความอับอาย เพราะผมรู้ตัวว่าร่างกายผมไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ นอกจากจะตัวใหญ่เทอะทะแล้วยังมีรอยแผลเป็นน่ากลัวตรงอกที่ผมได้มาตอนตกรั้วหน้าบ้าน ซึ่งแผลมันก็ค่อนข้างน่ากลัวจนผมไม่อยากให้บอสเห็น

“ยืนหลังตรงๆ แล้วมองหน้าผม”

หงิง

ผมร้องออกมาแต่บอสก็ไม่สนใจ สำรวจร่างกายผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่นัยน์ตาสีดำนั่นสนใจร่างกายผมอย่างเห็นได้ชัด จนผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นสินค้าอะไรสักอย่างที่กำลังถูกตรวจคุณภาพสินค้า

“คุณสูงเท่าไหร่”

“ที่วัดล่าสุดก็ 190 ครับ”

ชั่วขณะหนึ่งผมเหมือนจะเห็นบอสยิ้มแต่พอผมกระพริบตารอยยิ้มนั้นก็หายไป

“หันหลัง”

ถึงจะงงๆ นิดหน่อยแต่ผมก็ยอมหันหลังตามคำสั่ง

“..ไหล่คุณกว้างมาก”
   
บอสพูดเสียงพึมพำเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่าคุยกับผม
   
“หันหน้า”
   
“...”
   
ผมหน้าแดงก่ำตอนที่บอสมองช่วงล่างของผมนิ่งแล้วเหมือนจะคิดคำนวณอะไรสักอย่างในหัว จนผมอยากเอามือปิดให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็กลัวโดนบอสดุเลยได้ปล่อยเลยตามเลย
   
แน่นอนเพื่อความยุติธรรมผมเลยมองบอสบ้าง
   
“..อึก”
   
ผมหลับตาหยี ไม่กล้าดูต่อเพราะกลัวว่าไอ้ที่บอสจ้องอยู่มันจะตื่นขึ้นมา
   
ไม่ยุติธรรมเลย! ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด ทำไมบอสถึงได้ดูดีขนาดนี้ล่ะ ยิ่งดูใกล้ๆ ผมยิ่งอดใจแทบไม่ไหว ไหปลาร้านั่นกับคอขาวๆ นั่นน่าฝังเขี้ยวเป็นบ้าเลย แถมกลิ่นฟีโรโมนของบอสตอนนี้ก็แรงมากๆ ด้วย
   
“..หงิง”
   
ผมร้องออกมาตอนที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเมาและเสียการควบคุมตัวเอง
   
กลิ่นของบอสที่เหมือนซุกซ่อนอะไรเอาไว้ตอนนี้มันหายไปแล้ว เหลือแต่กลิ่นหอมที่ทำให้ผมรู้สึกสงบและอยากเข้าไปใกล้มากกว่านี้อีก
   
ผมขยับตัวเข้าหาบอสโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
   
“คราม”
   
ผมสะดุ้งเฮือกเพิ่งได้สติตอนที่บอสยกมือขึ้นมาปิดปากผมไว้ และผมถึงรู้ตัวว่าตัวเองได้โน้มหน้าลงไปหาบอสเพื่อที่จะจูบ
   
“เด็กดี” บอสปล่อยมือจากปากผมแล้วลูบหัวผมด้วยรอยยิ้มบาง “ผมจะตัดสูทให้คุณ”
   
“...”
   
ผมหน้าแดงแต่ก็ไม่ขยับหนีเพราะอยากให้บอสลูบหัวผมต่อไปเรื่อยๆ
   
ให้ตายเถอะ
   
ผมว่าผมเจออัลฟ่าประเภทที่หายากพอๆ กับผมแล้วล่ะ
   


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
งุ้ยยย น่าติดตามมากๆเลยค่ะ อัลฟ่าหมาป่าตัวโตที่คราง หงิงๆ น่าเอ็นดูววว
ความลับของบอสคืออะไร อัลฟ่ากลายพันธ์ไหม?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2020 16:52:37 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อัลฟ่าตัวโตน่ารัก

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
น่าสนุก

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
น่าเอ็นดูๆ

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 3
   
   
หลังจากที่ผมรู้จักบอสไลม์มาได้เกือบยี่สิบชั่วโมง
   
ผมก็ได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับบอสอีกอย่าง
   
Rrrrrrr
   
ผมสะดุ้งอีกรอบจนเกือบจะร้องเอ๋งออกมา เพราะผมเพิ่งปิดนาฬิกาปลุกบอสไปสองอัน นี่ยังจะมีอันที่สามอีก ซึ่งผมก็รีบวิ่งไปปิดเนื่องจากเสียงมันทำลายแก้วหูและโสทประสาทผมมาก
   
แต่ให้ตายเถอะ ขนาดเสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นขนาดนี้ บอสก็ยังหลับและหายใจอย่างสม่ำเสมอราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผิดกับผมที่ตกใจจนกลิ้งตกจากโซฟา
   
ผมในร่างกึ่งหมาป่าหูลู่ลงมองบอสหงอยๆ เพราะไม่รู้ว่าวันอาทิตย์บอสทำงานไหม แต่ผมก็ปิดเสียงนาฬิกาปลุกไปแล้วอ่ะ ถ้าบอสจะตื่นไปทำงานไม่ทันก็คงจะเป็นความผิดผมแน่ๆ
   
ไม่ได้! ผมจะทำให้เจ้านายเสียหน้าที่การงานไม่ได้ แค่บอสให้ผมนอนในห้องด้วยก็ถือว่าเป็นความเมตตาของบอสมากพอแล้ว
   
ฉะนั้นหน้าที่แรกของผมในวันนี้ก็คือการปลุกบอส!
   
ผมคิดอย่างฮึกเหิมแล้วไปหยุดยืนข้างๆ บอสที่กำลังหลับสนิท
   
“..บอสครับ”
   
ทำไมเสียงมึงเบาขนาดนี้ล่ะ คราม!
   
ผมตำหนิตัวเองแต่ก็ไม่กล้าเรียกบอสเสียงดังอยู่ดีเพราะบอสดูหลับสบายมาก
   
“บอส”
   
ผมพูดเสียงดังขึ้นอีกแต่ก็ไม่ได้ผล จนผมต้องเอื้อมมือไปเขย่าตัวบอส
   
“ตื่นเถอะครับ บอส”
   
ผมพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ เพราะขนาดจะโดนตัวบอสผมยังไม่กล้าเลยอ่ะ บอสดูสูงส่งมากจนผมไม่กล้าแตะต้องด้วยซ้ำ
   
หงิง
   
ผมร้องออกมาหงอยๆ ก่อนจะตัดสินใจคืนร่างหมาป่าเต็มตัวเพื่อจะปลุกบอส แน่นอนว่าผมคืนร่างนี้เพราะผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และโชคดีที่ร่างหมาป่าผมตัวค่อนข้างใหญ่ ผมเลยสามารถยืนสองขาข้างๆ เตียงได้ ผมคาบเอาผ้าห่มที่บอสห่มจนถึงคอออกแล้วค่อยๆ เอาหัวไถมือบอสที่วางอยู่บนเตียง
   
ตัวบอสหอมชะมัดเลย
   
ผมพยายามทำให้บอสเอามือมาไว้บนหัวเพราะผมอยากให้บอสลูบหัวผมอีก แต่ไถไปไถมาอยู่สักพัก บอสก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรอยู่ดี
   
บอสขี้เซาจัง
   
ผมมองบอสหงอยๆ แล้วตัดสินใจเลียมือบอส
   
แผล่บ..
   
“...”
   
ทำไมบอสยังไม่ตื่นอีกล่ะ!
   
จะให้ผมไปนั่งทับตัวบอสแบบพวกแมวก็ไม่ได้ เห่าก็คงไม่ได้ผลอีกเพราะขนาดเสียงนาฬิกาปลุกดังขนาดนั้นยังปลุกบอสไม่ได้เลย
   
ทำยังไงดี นี่ก็ผ่านมาเกือบห้านาทีแล้วอ่ะ ขืนช้ากว่านี้บอสคงจะไปทำงานสายแน่ๆ
   
ขอโทษนะครับบอส
   
ผมผงกหัวใส่บอสปลกๆ แล้ววิ่งไปเปิดผ้าม่านในคราวเดียวจนทำให้ห้องมืดๆ สว่างในพริบตา ถ้าบอสเป็นแวมไพร์คงจะระเหยกลายเป็นไอไปแล้ว
   
“..อือ”
   
ผมกระดิกหางทันทีตอนที่เห็นบอสขมวดคิ้วรำคาญแสงที่แยงตา
   
บอสจะตื่นแล้วสินะ!
   
ผมคิดด้วยความดีอกดีใจจนเผลอกระโดดไปมา แต่สุดท้ายความดีใจของผมก็ต้องจบสิ้นเพราะบอสเอื้อมมือไปหยิบหมอนอีกใบมาปิดหน้าตัวเองแล้วหลับต่อ
   
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนังอีกรอบและพบว่ามันจะสิบนาทีแล้ว ผมเลยกลับมาใช้วิธีการปกติที่น่าจะเห็นผลไวที่สุด
   
ผมเดินไปเกาะข้างเตียงอีกรอบแล้วเอาอุ้งเท้าเขย่าตัวบอส
   
หงิงๆๆ
   
ผมร้องไปเขย่าไปเพราะลึกๆ แล้วผมก็แอบรู้สึกเหมือนทำบาปอันใหญ่หลวง ผมกำลังขัดขวางการนอนของของบอส เอาเข้าจริงถ้ามีคนบอกว่าบอสเป็นเทวดาผมก็เชื่อด้วยซ้ำ
   
เพราะขนาดตอนนอนบอสยังดูดีมากๆ เลย!
   
“..อืม”
   
ผมไม่รู้ว่าบอสหลับแบบสบายๆ ได้ไงทั้งๆ ที่หมอนวางอยู่บนหน้าแถมยังโดนผมเขย่าจนตัวโยนขนาดนี้
   
ให้ตายเถอะ บอสชักจะหลับลึกเกินไปแล้ว
   
ผมเริ่มจนปัญญา นี่ถ้าไม่ติดว่าอกบอสยังขยับขึ้นลงอยู่ ผมคงคิดว่าบอสตายไปแล้ว
   
“ตื่นเถอะครับ”
   
สุดท้ายผมก็คืนร่างมนุษย์ใส่เสื้อผ้าของตัวเองรีบๆ แล้วถึงดึงหมอนบอสออก ผมมองเจ้าของบ้านที่ยังหลับอยู่อย่างหนักใจ เพราะคิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ออก จะให้ผมสาดน้ำเย็นใส่บอสเหรอ นั่นจะลามปามเกินไปแล้ว ผมเป็นแค่ลูกหมาที่บอสเก็บมาเลี้ยง ผมไม่กล้าขนาดนั้นหรอก
   
“บอสครับ”
   
ผมพยายามเรียกบอสซ้ำๆ แต่บอสก็ไม่ตื่นอยู่ดี และในช่วงเวลาที่ผมรู้สึกจนตรอกที่สุด หางตาของผมก็บังเอิญไปเห็นรีโมทแอร์ของบอสเข้า
   
“ขอโทษนะครับ”
   
พอขอโทษเสร็จผมก็ปิดแอร์ในห้องทันที ทำให้ห้องเย็นเฉียบของบอสค่อยๆ ร้อนขึ้น ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าบอสจะต้องตื่นแน่ๆ เพราะบอสน่าจะเป็นคนขี้ร้อน อุณหภูมิห้องเมื่อกี้ที่บอสตั้งไว้ก็เกือบยี่สิบต้นๆ จนผมแทบจะแข็งตายในห้อง
   
“...!”
   
ไม่ถึงหนึ่งนาทีบอสก็ดูทรมานขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด บอสขมวดคิ้วมากกว่าเดิมและถีบผ้าห่มส่วนที่ยังคลุมตัวเองออก แต่ถึงอย่างนั้นบอสก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี
   
“..บอส”
   
ผมเรียกบอสเสียงเบาหน้าแดง
   
กลิ่นฟีโรโมนของบอสรุนแรงขึ้นมาอีกแล้ว..
   
แน่นอนว่าถ้าเป็นอัลฟ่าปกติจะปล่อยกลิ่นฟีโรโมนที่ดึงดูดอัลฟ่าด้วยกันแบบนี้ไม่ได้ มีแต่จะปล่อยกลิ่นออกมาข่มกันเพื่อซัดกันเท่านั้นแหละ บางครั้งผมยังต้องปล่อยฟีโรโมนเพื่อข่มพวกอัลฟ่าที่มาหาเรื่องผมเลย
   
แต่เพราะบอสเป็นพวกอัลฟ่าพิเศษ บอสเลยสามารถควบคุมกลิ่นฟีโรโมนของตัวเองได้ ซึ่งกลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าพิเศษก็จะเป็นไปตามที่เจ้าตัวต้องการ เป็นอัลฟ่าที่ทางการให้อยู่ในสภาวะเฝ้าระวังด้วยซ้ำเพราะสามารถใช้ฟีโรโมนควบคุมคนอื่นได้ จนบางครั้งพวกรัฐบาลก็เรียกอัลฟ่าแบบบอสว่าอัลฟ่าจิ้งจอก
   
เพราะอัลฟ่าพิเศษส่วนใหญ่นั้นเป็นพวกเจ้าเล่ห์และมักจะใช้ประโยชน์จากความสามารถตัวเองในการปั่นหัวคนใหญ่คนโตในรัฐบาลบ่อยๆ แม้แต่กลิ่นฟีโรโมนของพวกโอเมก้าตอนฮีทยังไม่สามารถทำอะไรอัลฟ่าพวกนี้ได้ด้วยซ้ำ
   
แต่บอสของผมก็ไม่ใช่อัลฟ่าพิเศษประเภทนั้นหรอก
   
“..คุณปิดแอร์เหรอ”
   
บอสขยับตัวขึ้นมานั่งแล้วถามผมเสียงเรียบ ใบหน้าน่ามองนั้นจ้องผมนิ่งดุๆ จนผมหงอลงกว่าเดิม
   
“ครับ”
   
“ปิดทำไม”
   
บอสดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดแล้วเอื้อมมือไปหยิบรีโมทแอร์เพื่อเปิดมันใหม่อีกครั้ง
   
“ผมจะปลุกบอสครับ ผมปลุกปกติแล้วบอสไม่ยอมตื่น”
   
บอสเหลือบมองนาฬิกาปลุกข้างเตียงแล้วถอนหายใจเบาๆ “โทษที ผมเป็นคนตื่นยาก”
   
“ครับ”
   
นาฬิกาปลุกสามอันยังเอาบอสไม่อยู่เลย
   
บอสพูดจบก็หาวอีกรอบแล้วขยับตัวไปหยิบแว่น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าแค่การหยิบแว่นทำไมถึงทำให้บอสดูหงุดหงิดนัก คิ้วของบอสขมวดกว่าเดิมจนผมแทบจะไม่กล้าหายใจแรงๆ
   
“คราม”
   
“ครับ”
   
ผมรับคำกลัวๆ
   
“หยิบแว่นให้ผมหน่อย ผมหาไม่เจอ”
   
“...”
   
ผมกระพริบตาปริบเพราะแว่นกรอบบางของบอสก็วางอยู่ใกล้ๆ มือบอส แต่สีของกรอบแว่นที่กลมกลืนไปกับโต๊ะก็ทำให้บอสหามันไม่เจอสักที
   
“บอสสายตาสั้นเหรอครับ”
   
สุดท้ายผมก็อดถามบอสไม่ได้ เพราะพอบอสใส่แว่นปุ๊ปก็เลิกขมวดคิ้ว
   
“เจ็ดร้อยห้าสิบ”
   
“...มันสั้นขนาดไหนเหรอครับ”
   
ในชีวิตที่ผ่านมาผมรู้จักคนที่สายตาสั้นที่สุดก็สามร้อยเอง แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าโลกของคนสายตาสั้นเป็นแบบไหน แต่ผมว่าบอสใส่แว่นแล้วน่ารักจัง
   
“ขนาดที่ผมถอดแว่นแล้วไม่เห็นหน้าคุณ”
   
“...”
   
นั่นมันสั้นมากเลยนะ แต่ถ้าผมสายตาสั้นแบบบอสก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ การรับกลิ่นของผมยังดีอยู่ ต่อให้ผมหลับตาแล้วบอสยืนอยู่ปากซอย ผมก็ยังรู้ว่าบอสคือบอสของผม
   
“ปกติวันอาทิตย์ผมไม่ทำงาน วันหลังถ้าผมลืมปิดนาฬิกาปลุกอีกก็ฝากคุณปิดด้วย”
   
บอสหาวอีกรอบง่วงๆ เพราะเมื่อคืนบอสนอนดึกมาก ง่วนอยู่กับการออกแบบชุดอะไรสักอย่างที่ผมฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
   
“คราม”
   
“ครับ”
   
ผมรับคำเกร็งๆ ตอนที่ถูกบอสจ้องนิ่งๆ เหมือนคาดหวังอะไรสักอย่างจากผม
   
“ผมอยากเจอโบ้”
   
“…บอสหมายถึงร่างหมาป่าของผมใช่ไหมครับ”
   
ผมพูดอย่างประหม่าเพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนอยากให้ผมอยู่ในร่างที่ผมภาคภูมิใจที่สุด แต่จะว่าไป บอสเห็นผมเป็นหมาจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย
   
บอสพยักหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาของบอสกลับไม่เป็นแบบนั้นสักนิด
   
“ครับ บอส”
   
ผมคืนร่างหมาป่าด้วยความเต็มใจและนั่งมองบอสตาแป๋ว
   
“ผมขอกอดคุณได้ไหม”
   
“…”
   
ผมไม่รอให้บอสสั่งด้วยซ้ำ ผมขยับตัวเข้าไปหาบอสและปล่อยให้บอสกอดผมจนตัวบอสจมตัวบอสจมไปกับตัวของผม
   
รู้สึกดีจัง..
   
ผมกระดิกหางไม่หยุด ลึกๆ ผมก็แอบอยากให้บอสกอดผมตลอดไปเลย
   
“ต่อไปนี้หน้าที่ของคุณคือปลุกผมทุกเช้าด้วยร่างนี้”
   
บอสพูดทั้งๆ ที่ยังกอดผมอยู่ เสียงเลยออกมาอู้อี้นิดๆ
   
แน่นอนว่าผมอยู่ในร่างหมาป่าเลยตอบอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รับรู้คำสั่งของบอส
   
“…?”
   
ผมหูลู่ลงตอนที่สัมผัสได้ถึงตัวบอสที่สั่นนิดๆ แถมขนตรงที่บอสเอาหน้าซุกก็ยังรู้สึกเปียกๆ อีก
   
บอสร้องไห้เหรอ..
   
หางผมหยุดกระดิกทันที ผมนั่งตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก จะเลียบอสก็ไม่กล้า จะพูดปลอบใจก็ไม่ได้ใหญ่ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากนั่งให้บอสกอด
   
ให้ตายสิ ผมว่าบอสต้องรักโบ้ตัวเก่ามากแน่ๆ เลยอ่ะ แล้วโบ้ตัวใหม่อย่างผมจะแทนที่โบ้ตัวเก่าของบอสได้เหรอ แต่ผมก็มั่นใจนะว่าผมเป็นเด็กดีมาก
   
ผมน่ะ ถึงจะเป็นแค่อัลฟ่าหมาป่ากากๆ แต่ผมว่าผมก็สามารถทำให้บอสมีความสุขได้เหมือนกัน!
   
ผมคิดอย่างฮึกเหิมแล้วเอาหัวไถตัวบอสเบาๆ
   
“..ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย ไม่ต้องห่วงผมหรอก คราม”
   
กอดอยู่สักพักใหญ่กว่าบอสจะยอมปล่อยผม นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนที่ซ่อนอยู่หลังเลนส์กลับมาเฉยชาไร้อารมณ์อีกครั้ง ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่บอสซ่อนความรู้สึกตัวเองจากผม
   
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็ผมกับบอสยังรู้จักกันได้ไม่ถึงวันเลย ฉะนั้นต่อไปนี้ผมก็ต้องตั้งใจพิสูจน์ตัวเองกับบอสมากๆ เพื่อที่บอสจะได้ไว้ใจผม
   
ผมน่ะ ยินดีให้บอสกอดทั้งคืนเลยถ้าบอสต้องการ
   
“ตอนนี้คุณจะทำอะไรก็ทำเถอะ ผมกะจะนอนต่ออีกสักหน่อย”
   
บอสขยี้ตาตัวเองง่วงๆ แล้วหาวอีก
   
“ถ้าคุณจะอาบน้ำก็อาบได้เลย ผมเตรียมชุดให้คุณในห้องน้ำแล้ว”
   
บอสน่ารักจัง
   
ผมกระดิกหางเพราะแม้แต่ท่าทางตอนบอสหาวดูดีมาก แล้วผมก็เพิ่งสังเกตว่าบอสตัวเล็กกว่าที่ผมคิดเยอะเลย ถ้าผมกระโดดทับบอสเมื่อกี้บอสก็คงแบน
   
“คราม?”
   
โฮ่ง!
   
ผมเห่ารับแต่ก็ไม่ได้ขยับไปไหนเพราะผมยังอยากได้อะไรจากบอสอยู่
   
“?”
   
บอสมองผมงงๆ
   
หงิง
   
ผมช้อนตามองบอส พยายามทำหน้าให้น่าสงสารที่สุด
   
ชมผมหน่อยสิ ลูบหัวก็ได้
   
“หิวข้าวแล้วเหรอ”
   
ผมส่ายหัวแต่ก็ยังไม่เลิกทำหน้าเหมือนลูกหมาถูกทิ้งที่กำลังอ้อนให้คนเอาไปเลี้ยงด้วย ถึงผมตอนนี้จะเป็นหมาป่าโตเต็มวัยแล้วก็เถอะ แต่ผมก็ยังอยากได้รับความรักมากๆ นี่นา
   
เอาเข้าจริง แม่เคยบอกผมด้วยว่าพวกอัลฟ่าหมาป่าอย่างผม ถ้าเอาจริงก็สามารถฆ่าพวกอัลฟ่าทั่วไปได้ง่ายๆ เลย เพราะพื้นฐานร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรงกว่าอัลฟ่าทั่วไป ซึ่งอัลฟ่าหมาป่าที่โตแต่ตัวอย่างผมนั้นไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นหรอก ที่ผมใฝ่ฝันมากที่สุดในฐานะอัลฟ่าหมาป่าก็คือหาเจ้านายใจดีๆ ให้ได้สักคนเท่านั้นเอง
   
“..แล้วอยากได้อะไร”
   
ผมขยับตัวปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วพยายามเอาหัวมุดใต้มือบอสจนในที่สุดมือของบอสก็วางอยู่บนหัวผม ผมมองบอสตาแป๋วเพราะแค่นี้บอสก็น่าจะรู้แล้วว่าผมต้องการอะไร
   
“..หึ”
   
บอสหลุดหัวเราะและยอมลูบหัวผมแต่โดยดี
   
-------
 :z13:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
น่ารักดี ติดตามจ้า

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
งูยย  อ้ิอนเก่ง เอ็นดูเจ้าอัลฟ่าอ๋อง น่ารักกก

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
อัลฟ่าหมาป่าน่ารัก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ครามบรรยายซะคิดว่าไลม์เป็นโอเมก้าเลยค่ะ

ครามคือเจ้าลูกหมาโตแต่ตัว เอ็นดูแท้
ไลม์ดูมีความลับยังไงไม่รู้ค่ะ และดูน่าสงสารด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2020 08:37:23 โดย labelle »

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 4
   

ผมไม่รู้ว่าพวกหมากระเป๋ามีความรู้สึกแบบไหนเวลาถูกเจ้าของจับแต่งตัวน่ารักๆ แล้วใส่รถเข็นไปเดินเล่นไหนต่อไหน แต่ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับผมตอนนี้
   
“...”
   
ผมนั่งเกร็งระหว่างที่บอสกำลัง ‘แต่งตัว’ ให้ผมก่อนที่จะพาออกไปข้างนอกเพื่อซื้อเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นให้ผม เพราะผมใส่ชุดขนาดของบอสไม่ได้เลยสักชุด หนำซ้ำยังเกือบทำขาดด้วย
   
จริงๆ ผมไม่ค่อยอยากให้บอสซื้ออะไรให้ผมหรอก ผมเป็นแค่หมาของบอสเอง แค่บอสซื้อเสื้อถูกๆ ไซส์ผมมาให้ผมใส่ ผมก็พอใจแล้ว
   
“อยู่นิ่งๆ ”
   
หงิง
   
ผมร้องในลำคอหงอยๆ เพราะนี่ก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วที่บอสง่วนอยู่กับการเซ็ตผมให้ผม ซึ่งบอสก็ดูสนุกอย่างเห็นได้ชัดที่ได้แต่งตัวให้ผมที่ทำอะไรไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ ปกติเวลาออกไปทำงานผมก็จะแค่มัดผมลวกๆ แล้วออกไปเลยเพราะยังไงผมก็ต้องสวมหมวกทับอยู่ดี
   
ผมพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ตัวเองหน้าแดงตอนที่บอสเข้ามาใกล้เกินไป และบอกตัวเองครั้งที่ร้อยว่าผมเป็นหมาที่บอสเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น ห้ามคิดมากกว่านั้น!
   
“เสร็จแล้ว”
   
บอสบอกกับผมเบาๆ แล้วส่งสายตาเชิงให้ผมยืน ซึ่งผมก็ทำตามอย่างว่าง่ายด้วยความรู้สึกประหม่า และเดินไปหยุดยืนหน้ากระจกเท่าตัวคนของบอสเพื่อสำรวจตัวเอง
   
..นี่มันกูจริงๆ เหรอวะ
   
ผมมองตัวเองด้วยสีหน้างุนงงเหมือนกับพวกหมาจริงๆ ที่เห็นตัวเองในกระจกครั้งแรก คือถ้าไม่ใช่เพราะผมเป็นมนุษย์ ผมคงจะเห่าไอ้คนที่อยู่ในกระจกตอนนี้ไปแล้ว
   
ไอ้คนที่อยู่ในกระจกนี่มันใครกัน
   
ผมลูบใบหน้าเกลี้ยงเกลาของตัวเองอย่างประหม่า หนวดที่ผมไม่ค่อยได้ยุ่งก็ถูกบอสจับโกนออกหมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยมั้งที่ผมรู้สึกว่าหน้าตาตัวเองพอดูได้บ้าง
   
ไม่สิ ที่ผมดูดีได้ขนาดนี้ก็เพราะสูทแบรนด์ดังที่ผมกำลังใส่อยู่ต่างหาก ถึงมันจะคับไปหน่อยแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสูทแบรนด์ Maverick (มาเวอร์ริก) ของบอสทำให้คนใส่อย่างผมดูเป็นผู้คนขึ้นมาจริงๆ แบบที่แม่เห็นคงร้องไห้อ่ะ ที่ผมทำตัวเหมือนคนมากกว่าหมาสำเร็จแล้ว
   
“คุณเหมาะกับสีน้ำตาลมากกว่า”
   
สีหน้าของบอสกลับมาเยือกเย็นอีกครั้งและสบตากับผมในกระจก
   
“ครับ”
   
แน่นอนว่าบอสพูดอะไรผมก็เห็นด้วยทั้งนั้น
   
เพราะบอสน่ะเป็นถึงเจ้าของบริษัทขายสูทเชียวชื่อดังเชียวนะ! ผมอ้าปากค้างเลยตอนที่บอสเปิดตู้ข้างโต๊ะทำงานแล้วมีสูทแขวนเต็มราวซึ่งสูททุกตัวก็ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์มาเวอร์ริก
   
สูทแห่งอิสรภาพที่จะทำให้ผู้สวมใส่กลายเป็นผู้ที่มีเกียรติเหนือใคร
   
ขนาดผมที่เป็นคนไม่ค่อยสนใจแฟชั่นมากๆ ยังรู้จักแบรนด์สูทของบอสเลย เพราะพวกลูกค้าอัลฟ่าส่วนใหญ่ที่มาบริษัทก็ใส่สูทแบรนด์ของบอสทั้งนั้น แถมพวกนักหนังสือพิมพ์ก็ชอบเขียนคอลัมน์ถึงแบรนด์สูทของบอสว่าเป็นแบรนด์ที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายหลังจากที่สูญเสียความนิยมมานาน
   
“คุณไปนั่งรอข้างนอกเลย ผมจะแต่งตัว”
   
“ครับ”
   
ผมพยักหน้าหงึกหงักแล้วออกจากห้องตามคำสั่ง เอาเข้าจริงผมว่าบอสใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำกับก็ดูดีมากๆ แล้วนะถ้าเทียบกับผม
   
แต่ก็อย่างที่ว่าแหละ ถึงบอสของผมจะเป็นคนที่ไม่ถือตัวแต่ยังไงคำว่าอัลฟ่ากับเจ้าของบริษัทก็ยังติดตัวบอสอยู่ดี การออกไปในที่สาธารณะก็เลยต้องรักษาภาพลักษณ์กันบ้าง
   
ผมไปนั่งโซฟาใกล้กับประตูหน้าบ้านและหาวหวอดง่วงๆ เพราะรู้สึกอิ่มมากกับข้าวเที่ยงที่บอสทำให้กิน เอาเข้าจริง ถ้าวันนี้ผมยังไม่โดนบริษัทเดิมไล่ออก ผมก็คงจะนอนอืดทั้งวันเพราะวันอาทิตย์เป็นวันหยุดผม
   
“คราม”
   
“ครับ!”
   
ผมที่นั่งตาปรือกำลังจะหลับสะดุ้งเฮือกทันทีตอนที่ได้ยินเสียงบอสใกล้ๆ แล้วพอผมลืมตา ผมก็รู้สึกประหม่ามากยิ่งขึ้นไปอีกเพราะวันนี้บอสใส่สูทลายทางสีน้ำเงินเข้มแล้วมันก็เข้ากับบอสมากๆๆ
   
ผมมองบอสด้วยสายตาเทิดทูน นี่สินะ รัศมีของพวกอัลฟ่าที่บอสคนเก่าของผมพูดถึง ถ้าผมไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองก็คงไม่เชื่อว่ามีอยู่จริงอ่ะ

“?”
   
บอสขมวดคิ้วใส่ผมเหมือนจะถามผมว่ามองอะไร
   
“เปล่าครับ”
   
ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
   
“บอสให้ผมขับรถให้ไหมครับ วันนี้”
   
แน่นอนว่าเพื่อสร้างความประทับใจให้กับบอส ผมในฐานะหมาที่บอสเก็บมาเลี้ยงก็จะพยายามใช้ทุกความสามารถของตัวเองในการรับใช้บอส ถึงผมจะขับรถไม่แข็งเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เพื่อบอสแล้วผมจะพยายาม!
   
ผมยืดอกพูดด้วยความฮึกเหิม
   
“มีใบขับขี่?”
   
“..ไม่มีครับ”
   
เพียงประโยคเดียวของบอสก็สามารถทำให้ผมหงอยลงในพริบตา
   
อย่าว่าแต่ใบขับขี่เลย บัตรประชาชนจริงๆ ผมยังไม่มีด้วยซ้ำ มีแต่ของปลอมที่ไปทำกับพวกรับทำของเถื่อนที่รับประกันนักหนาว่าเหมือนของจริงร้อยเปอร์เซ็น ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่อยากทำหรอก แต่ถ้าสมัครงานแล้วไม่มีเอกสารอะไรเลยก็ไม่มีใครรับไง
   
ชีวิตของพวกอัลฟ่าหมาป่าอย่างผมน่าสงสารจะตาย โดยเฉพาะหมาตัวน้อยตัวนิดอย่างผมที่ถ้าไม่ได้บอสเก็บมา ป่านนี้ก็คงจะนอนร้องหงิงๆ อยู่ที่ห้องแล้ว
   
“นั่งเฉยๆ เถอะ”
   
หงิง
   
ผมเดินคอตกตามหลังบอสขึ้นรถ
   
ให้ตายสิ ผมเริ่มรู้สึกจริงๆ แล้วนะว่าตัวเองเป็นหมาที่บอสพาไปเที่ยวด้วยเนี่ย
   
พอขึ้นแล้วรัดเข็มขัดเสร็จผมก็นั่งมองข้างนอกเรื่อยเปื่อย เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่ผมจะได้นั่งรถสบายๆ ทอดอารมณ์แบบนี้
   
ชีวิตของคนธรรมดานี้ดีจัง
   
นั่งมองไปสักพักผมก็เริ่มซึม คนส่วนใหญ่ที่เดินอยู่ข้างถนนดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัดกับวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ซึ่งมันก็เป็นชีวิตที่ผมอยากจะมีบ้าง
   
ทุกวันนี้นอกจากไปทำงานผมก็ไม่กล้าไปไหนไกลเพราะกลัวว่าจะโดนจับได้ กลัวว่าผมจะทำตัวไม่เหมือนคนทั่วไปจนต้องกลายเป็นตัวประหลาดอีก
   
ผมเกลียดสายตาพวกนั้น
   
เกลียดจนบางครั้งผมก็รู้สึกว่าถ้าผมเป็นแค่เบต้าธรรมดาๆ ผมอาจจะมีความสุขกว่านี้
   
“คราม”
   
“ครับ”
   
ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้าของบอสที่จนถึงตอนนี้ก็ยังดูไร้อารมณ์เหมือนเดิม
   
ชั่วขณะหนึ่งที่ผมเผลอคิดว่าจริงๆ แล้วบอสอาจจะพาผมไปส่งให้พวกตำรวจก็ได้
   
“เป็นอะไร”
   
“เปล่าครับ”
   
แม่ชอบบอกว่าผมเป็นคนที่ดูออกง่ายมากว่าคิดแบบไหนอยู่ ซึ่งผมว่าก็คงจะจริงเพราะผมเพิ่งซึมได้ไม่นาน บอสก็สังเกตเห็นความผิดปกติของผมแล้ว
   
“...”
   
บอสขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจคำตอบของผมเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
   
ส่วนผมก็ก้มมองมือของตัวเองที่กลายเป็นกรงเล็บไม่รู้ตัวเพราะรู้สึกเครียดเกินไปเมื่อกี้ เอาเข้าจริง ถ้าบอสคิดจะพาผมไปส่งให้พวกตำรวจจริงๆ วันนี้ผมก็คงไม่ไว้หน้าบอสเหมือนกัน
   
ผมต้องมีชีวิตอยู่ต่อ
   
แม่ผมยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องผม หน้าที่ของผมก็คือมีชีวิตต่อในส่วนของท่าน ถึงมันจะเป็นชีวิตที่ห่วยแตกแต่ถ้าผมไม่ทำ ชีวิตของผมก็คงไม่มีความหมาย
   
“?”
   
ผมหลุบมองมือของบอสที่เอื้อมมาลูบกรงเล็บผมเบาๆ ตอนที่จอดติดไฟแดง
   
“...”
   
ผมเงยหน้ามองบอสแต่สีหน้าของบอสก็ยังไม่แสดงอารมณ์อะไรอยู่ดี
   
“หงุดหงิดอะไร”
   
แม้แต่น้ำเสียงก็ราบเรียบจนผมเดาอะไรไม่ได้สักอย่าง
   
“...”
   
ผมไม่ได้ตอบเพราะรู้ดีว่าผมก็แค่อิจฉาคนอื่นเท่านั้น
   
ชีวิตธรรมดาพวกนั้นสำหรับอัลฟ่าหมาป่าอย่างผม มันก็เป็นได้แค่ฝันเท่านั้นแหละ สิ่งที่ผมต้องจำใส่หัวไว้คือหน้าอย่างผมก็เป็นได้แค่ตัวปัญหาที่ไม่มีวันมีชีวิตที่ดีได้ตลอดชีวิต
   
“คราม”
   
“ผมรับได้นะ ถ้าบอสจะเอาผมไปปล่อย”
   
ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้บอสหรอก
   
“ตอนนี้บอสยังเปลี่ยนใจทันนะครับ แน่ใจแล้วเหรอที่จะเลี้ยงผมไว้จริงๆ ”
   
ผมหลับตาพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา
   
เมื่อวานผมอาจจะอ่อนแอไปหน่อย แต่วันนี้อารมณ์ผมกลับมาเป็นปกติและยอมรับความจริงได้แล้ว
   
ผมควรจะรู้ตัวสักทีว่าที่ๆ ผมต้องอยู่คือข้างถนนข้างนอกนั่น ไม่ใช่ที่ปลอดภัยแบบนี้
   
“ขอโทษด้วยที่ผมเป็นหมาตัวใหม่ให้คุณไม่ได้”
   
ผมลืมตาและสบตากับบอส
   
“ผมเป็นมนุษย์ครับ คุณไลม์”
   
ถึงผมจะนิสัยเหมือนหมาแค่ไหนแต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็เป็นคนอยู่ดี
   
ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ในบ้านของบอสไปตลอดชีวิต ผมไม่อยากเฝ้าบ้านแล้วรอบอสกลับทุกวัน ผมอยากมีชีวิตที่อิสระมากกว่านั้น ถึงมันจะเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แต่ผมก็จะพยายามทำให้มันเป็นจริงได้สักวัน
   
“ผมไม่ได้เก็บคุณมาเลี้ยงเพราะคุณเป็นหมาได้สักหน่อย”
   
“...”
   
ปลายนิ้วเย็นเฉียบของบอสคลึงอุ้งเท้าของผมราวกับกำลังปลอบประโลมผม
   
“ผมไม่รู้ว่าคุณหงุดหงิดอะไร แต่ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมก็ขอโทษด้วย”
   
บอสเหมือนจะอยากลูบมือผมต่อแต่ก็ไม่ได้ทำเพราะไฟเขียวแล้ว
   
“ผมไม่ได้หงุดหงิดเพราะบอสครับ”
   
ให้ตายสิ พอบอสพูดแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกผิด ไม่มีเหตุผลอะไรที่บอสต้องขอโทษผมสักนิด แต่บอสก็ยังขอโทษผม
   
“ผมงี่เง่าเอง ผมกลัวว่าผมจะสร้างปัญหาให้บอส”
   
ผมถอนหายใจเหนื่อยๆ
   
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับบอสเพราะผม ผมต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ”
   
“คุณไม่จำเป็นต้องห่วงผม ผมดูแลตัวเองได้”
   
แน่นอนว่าผมก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วล่ะ บอสเป็นอัลฟ่าปกติที่อยู่บนยอดพีระมิดเหมือนกับอัลฟ่าคนอื่นๆ นั่นแหละ ไม่มีอะไรต้องเครียดหรือกังวลสักนิดสำหรับการใช้ชีวิตในสังคมที่ยกย่องอัลฟ่าแบบนี้
   
เอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกอัลฟ่าหมาป่าไปทำอะไรผิดพลาดตอนไหน ทั้งๆ เราก็เป็นอัลฟ่าเหมือนกันแต่ทำไมถึงได้ตกต่ำยิ่งกว่าพวกโอเมก้าอีก
   
“ถ้าคุณไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ คุณก็เป็นผู้ติดตามผม”
   
“แล้วบอสไม่กลัวถูกจับได้เหรอครับ”
   
ถึงตอนอยู่ข้างนอกผมจะควบคุมตัวเองได้ดีก็เถอะ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้นี่นาว่าจะไม่มีใครสงสัยผม บอสเป็นถึงอัลฟ่าเชียวนะ อัลฟ่าที่มีเพียงหยิบมือเดียวในประเทศและเป็นชนชั้นที่ควบคุมทุกอย่างเอาไว้
   
“ผมไม่มีอะไรจะเสีย”
   
“...”
   
เพื่อคนที่ไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างผม บอสยอมทำถึงขนาดนี้เชียว
   
ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา ผมกับบอสไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ทำไมบอสถึงเชื่อใจผมขนาดนั้น วันดีคืนดีผมอาจจะเผลอฆ่าบอสก็ได้
   
“..บอสไม่กลัวผมเหรอ”
   
ผมถามบอสเสียงเบา
   
กรงเล็บที่บอสลูบเมื่อกี้มันคมและแข็งจนสามารถฆ่าบอสด้วยการตะปปเพียงครั้งเดียวด้วยซ้ำ
   
“ถ้าผมกลัว ผมไม่เก็บคุณมาตั้งแต่แรกหรอก คราม”
   
บอสเหลือบมองผมด้วยหางตา
   
“แล้วผมก็ไม่กลัวตายด้วย”
   
นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนที่ดูไร้อารณ์อยู่แล้วตอนนี้มันกลับดูว่างเปล่ามากกว่าเดิม
   
ว่างเปล่าจนผมเริ่มไม่แน่ใจว่าคนที่หมดใจไปกับโลกเฮงซวยนี่คือบอสหรือผมกันแน่
   
“จำไว้ คราม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะปกป้องคุณ”
   
“...”
   
อุ้งมือของผมค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมือปกติแบบเดิมและใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออก
   
ให้ตายเหอะ ผมเผลอน้ำตาซึมจนได้!
   
ไม่เท่เลย ไม่เท่เลยสักนิด ผมเป็นหมาป่าเชียวนะ จะเท่กว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ ตอนนี้สภาพผมในสายตาบอสของคงไม่เท่แล้วอ่ะ หรือจริงๆ ผมไม่เท่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วก็ไม่รู้
   
แต่ผมน่ะ ก็ยังอยากเท่ในสายตาบอสอยู่นะ
   
“ที่คุณต้องทำก็แค่มีความสุขก็พอ”
   
“...”
   
รอบนี้ผมน้ำตาแตกทันที
   
ผมพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาเพราะน้ำเสียงของบอสเมื่อกี้มันใจดีมากจนผมรู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งตัว ผมแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองหงุดหงิดอะไรเมื่อกี้
   
“..แล้วก็มีความสุขเผื่อผมด้วย”
   
“อะไรนะครับ”
   
ผมที่กำลังตื้นตันถามบอสอีกครั้งเพราะเมื่อกี้บอสพูดเบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน
   
“เปล่า”
   
บอสส่ายหัวแล้วเอื้อมมือไปหยิบอะไรสักอย่างจากช่องเก็บของข้างคนขับก่อนจะยื่นมันให้ผม
   
แว่นตาดำ?
   
ผมขี้เกียจจะคิดอะไรมากผมก็เลยใส่เลย
   
“!!!”
   
ผมส่องตัวเองในกระจกที่บอสยื่นให้และสะดุ้งเฮือก
   
ผมตอนนี้โคตรเหมือนพวกบอดี้การ์ดในหนังเลย!!
   
พอเห็นตัวเองเท่มากผมก็แทบจะร้องไห้อีกรอบ ให้ตายเหอะ ผมว่าถ้าผมถือปืนด้วยคงจะรับทวงหนี้โหดได้สบายเลย เพราะตอนนี้ผมดูโหดมาก แบบเด็กเห็นแล้วร้องไห้อ่ะ
   
“บอสครับ”
   
“?”
   
ผมยิ้มจนตาหยีตอนที่บอสเหลือบมามองผม
   
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะปกป้องบอสเหมือนกันครับ”
   
ก็ผมตัดสินใจไปแล้วนี่นา
   
ว่าผมน่ะจะยอมตายเพื่อบอส

-----------   

 :z13:

มาช้าหน่อยเพราะยังไม่ค่อยชินสำนวนค่ะ แง  :katai1:

   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
เอ็นดูเจ้ายู้กหมาขี้แง แต่อยากเท่  :hao7:

บอสปมอะไรซ่อนอยู่..ราวกับไม่เคยมีความสุขในชีวิต

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาต่อแล้วๆ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
บอสมีปมนะดูเศร้า

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
บอสกะโบ้ น่ารักกกก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่รู้ว่าไลม์เจออะไรมา แต่เชื่อว่าครามจะช่วยได้
ครามยิ่งกว่าหมาน้อยไปอีกอะ เป็นหมาป่าที่ปุกปิกมาก

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
ตอนที่ 5

   
“บอสครับ ..มันจะเยอะเกินไปไหมครับ”
   
ผมถามบอสเสียงเบาหลังจากที่เดินเข้าออกจากร้านเสื้อผ้าร้านที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้แล้วของมันก็เยอะมากจนผมถือแทบไม่ไหว ถึงของทั้งหมดจะเป็นของผมก็เถอะ
   
แต่ผมก็เกรงใจบอสนี่นา!
   
“ไม่เยอะหรอก ยังไงคุณก็ต้องอยู่กับผมไปอีกนาน”
   
บอสที่ปกติจะดูนิ่งๆ ตอนนี้ดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
   
“แต่ผมว่ามันเยอะไปจริงๆ นะครับ”
   
“ผมเป็นเจ้านายคุณ คุณไม่มีสิทธิ์สั่งผม”
   
นัยน์ตาสีฟ้าน่าหลงใหลนั่นสะท้อนสีหน้าเกรงอกเกรงใจของผม
   
“แล้วผมก็ยังไม่ได้แวะอีกหลายร้านเลย”
   
บอสรวยมาจากไหนเนี่ย
   
“..ครับ”
   
ผมเดินคอตกตามหลังบอสไป แต่คราวนี้เป็นอะไรที่ผิดคาดมากเพราะบอสพาผมแวะร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยง!!!
   
“คราม”
   
บอสเรียกผมเสียงเข้มตอนที่ผมรู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
   
“ขอโทษครับ”
   
ให้ตายเหอะ เจ้าเลือดอัลฟ่าโบราณในตัวผมก็ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ จะตื่นเต้นอะไรนักหนา
   
แค่ลูกบอลเอง!
   
ลูกบอล..
   
ลูกบอล!!!!
   
ผมสัมผัสได้ถึงหัวใจในอกที่เต้นรัวจนหูอื้ออึงตอนที่เห็นลูกบอลเป็นร้อยลูกในกระบะ
   
ตั้งสติหน่อยสิ คราม!
   
ผมส่ายหัวเรียกสติแต่พอสติกลับมาก็บพบว่ามี ‘ศัตรู’ เข้ามาตีสนิทกับบอสตอนที่ผมกำลังหน้ามืด
   
หงิงๆ
   
เจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนที่ไม่รู้เจ้าของไปมุดหัวอยู่ไหนเดินเข้ามาอ้อนบอสอย่างออดอ้อน ทั้งๆ ที่บนตัวของบอสก็มีกลิ่นของผมอยู่แต่มันก็ยังเข้ามาแย่งบอสกับผม!
   
“...”
   
ผมยิ้มเยาะมันเพราะบอสไม่สนใจหรือรับรู้ถึงมันสักนิดเพราะมัวแต่สนใจปลอกคออยู่
   
กรรซ
   
มันขู่เบาๆ และแยกเขี้ยวใส่ผม
   
ให้ตายเหอะ ผมมันเขี้ยวเป็นบ้าเลย สาบานเลยว่าถ้ากฎหมายในประเทศนี้อนุญาตให้อัลฟ่าโบราณใช้ชีวิตแบบอิสระได้ ตอนนี้ผมคงคืนร่างหมาป่าเพื่อสู้กับมันแล้ว
   
บอสไลม์น่ะ
   
เป็นของผม!
   
ผมขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้ามันนิ่งๆ
   
เอาเข้าจริงผมก็ใช้ฟีโรโมนข่มมันได้แหละ แต่ถ้าใช้สุ่มสี่สุ่มห้าคงจะโดนจับได้ว่าไม่ใช่อัลฟ่าทั่วไปแน่ๆ เพราะถึงตอนนั้นดีไม่ดีแม้แต่บอสก็คงจะกลัวผมไปด้วย
   
หงิง
   
ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าหมาที่มีเลือดบรรพบุรุษเป็นหมาป่าก็วิ่งหนีผมหางจุกตูดไปที่อื่นแล้ว หึ ผมน่ะ รับมือกับพวกมนุษย์ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นหมาด้วยกันเองนี่สบายมาก
   
“หึ”
   
ผมที่กำลังชื่นชมตัวเองในใจหน้าแดงทันทีตอนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของบอส
   
“..ผมนึกว่าบอสไม่สนใจซะอีก”
   
ผมพูดเขินๆ เพราะจากเท่าที่สังเกตมาสักพัก ผมก็พบว่าบอสมีนิสัยเฉพาะตัวอย่างหนึ่งคือตอนที่สมาธิกับอะไรมากๆ ก็เหมือนจะตัดขาดออกจากโลกไปเลย
   
“ก้มลงมาหน่อย”
   
“?”
   
ถึงจะไม่เข้าใจว่าให้ก้มทำไมแต่ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย
   
“..เหล็กน่าจะเข้ากว่า”
   
บอสพูดพึมพำกับตัวเองหลังจากลองเอาปลอกคอหนังมาทาบกับคอผม
   
“ต้องใส่ปลอกคอด้วยเหรอครับ”
   
“ซื้อเผื่อ”
   
“...”
   
วันนี้ผมได้ยินคำว่าซื้อเผื่อจากบอสเกือบสิบครั้งแล้ว แต่ผมก็ขี้เกียจจะปรามบอสแล้วเพราะยังไงบอสก็คงจะซื้อให้ผมอยู่ดี ให้ตายสิ ผมอยากทำอะไรตอบแทนบอสบ้างจัง
   
“หยิบมาสิ”
   
“?”
   
ผมเผลอเอียงคองงๆ ตามเคยชิน
   
“อยากได้ไม่ใช่เหรอ”
   
บอสเหลือบมองลูกบอลที่ผมเล็งเอาไว้ตั้งแต่เข้าร้าน
   
“ครับ!”
   
ผมพยายามอย่างยิ่งในการห้ามตัวเองไม่ให้ตัวเองวางถุงแล้วโกยลูกบอลทั้งหมดขึ้นมา แต่ผมก็อยากได้ทั้งหมดเลยอ่ะ แต่ถ้าซื้อทั้งหมดนี้ผมคงเกรงใจบอสตายเลย แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
   
ผมกัดฟันหยิบขึ้นมาลูกเดียวแล้วเอากลับไปใส่ตะกร้าของบอสที่ตอนนี้นอกจากจะมีปลอกคอแล้วยังมีสายจูงเหล็กกับตะกร้อเหล็กครอบปากด้วย
   
“...”
   
ผมเผลออึ้งไปสักพักเพราะของพวกนี้เป็นสิ่งที่ใช้พันธนาการพวกหมาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น พวกอัลฟ่าหมาป่าที่ผมเคยเจอเคยบอกผมว่าถ้าโดนพวกทางการจับได้ก็จะโดนของพวกนี้ล่ามแล้วเอาไปฆ่า แย่หน่อยก็ถูกจับไปใช้ทดลองอะไรสักอย่างของพวกมัน
   
“ผมจะใช้มันก็ต่อเมื่อคุณไม่มีสติเท่านั้น”
   
“ผมเข้าใจครับ”
   
ผมยิ้มบางให้บอส เพราะถึงผมจะดูเป็นหมาที่ไม่มีพิษมีภัยก็เถอะ แต่สัญชาตญาณในตัวกับสายเลือดของผมก็เป็นของจริง แล้วพวกรัฐบาลก็ยังพยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับพวกอัลฟ่าโบราณด้วย บอสไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเกิดคลุ้มคลั่งหรือไม่มีสติขึ้นมา
   
ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเผลอทำอะไรบอสไปจริงๆ
   
ผมคงจะให้อภัยตัวเองไม่ได้แน่ๆ
   
“อยากได้อะไรอีกไหม”
   
“ไม่มีครับ”
   
แค่ได้ลูกบอลกลับไปเล่นผมก็ดีใจจะแย่แล้ว
   
ลูกบอลเชียวนะ!
   
“แล้วอยากกินอะไรไหม ผมจะพาคุณกลับแล้ว”
   
“แล้วแต่บอสเลยครับ ผมกินอะไรก็ได้”
   
แค่มีอะไรให้กินก็ถือว่าดีสำหรับผมมากแล้ว
   
บอสพยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะไล่ผมให้ยืนรอข้างนอกร้าน ผมที่ว่างและไม่มีอะไรทำก็เลยมองร้านในห้างเรื่อยเปื่อย ดีที่วันนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่
   
“...”
   
ผมเผลอหน้าแดงขึ้นมานิดๆ ตอนที่เห็นร้านขายชุดชั้นในแล้วมีหุ่นใส่ชุดชั้นในลูกไม้สีดำ มันดูเซ็กซี่เอามากๆ แต่ราคาที่แปะอยู่ก็น่ากลัวมากๆ เหมือนกัน
   
“อยากได้เหรอ”
   
“เปล่าครับ”
   
ผมหน้าแดงกว่าเดิมตอนที่โดนบอสจับได้ว่ามองอะไรอยู่
   
“งั้นกลับกันเถอะ”
   
บอสยื่นถุงที่ได้มาเพิ่มให้ผมก่อนจะเดินนำไปยังลานจอดรถ แต่อยู่ๆ บอสก็หยุดเดินแล้วไล่ให้ผมไปรอที่รถก่อน
   
“ผมจะเข้าห้องน้ำ”
   
ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าบอสไม่ได้จะไปเข้าห้องน้ำจริงๆ
   
ผมมองตามหลังบอสที่เดินกลับเข้าไปงงๆ แต่ก็ขี้เกียจสงสัยเลยไปรอที่รถตามคำสั่งของบอสพร้อมกับติดเครื่องไว้ด้วย ตอนบอสขึ้นรถมาจะได้เย็นๆ
   
ผมรอจนหาวไปสองสามรอบบอสก็ยังไม่มาสักทีเลยขยับตัวไปหยิบลูกบอลในถุงหลังรถมาบีบเล่น
   
“!”
   
ผมกระพริบตาปริบเพราะพอล้วงเข้าไปแล้วเจอลูกบอลมากกว่าหนึ่งลูกแต่เป็นสิบๆ ลูกกองอยู่ในนั้น ให้ตายเถอะ ผมรักบอสไลม์!! รักที่สุดเลย!!
   
หงิงๆๆ
   
ผมดีใจจนจะร้องไห้แล้ว
   
นี่มันสวรรค์ชัดๆ เลย
   
ผมหยิบลูกบอลลูกนึงมาบีบเล่น จริงๆ อยากจะคืนร่างสักครึ่งนึงเพื่อกัดเจ้าลูกบอลนี้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะถึงฟิลม์รถนี่จะมองไม่เห็นข้างในก็เถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่าอาจจะมีคนเผลอมาเปิดประตูตอนผมกำลังดื่มด่ำกับเจ้าลูกบอลพวกนี้ก็ได้
   
ก็อกๆ
   
“ครับ!”
   
ผมสะดุ้งจนเกือบทำลูกบอลหลุดมือตอนที่ได้ยินเสียงเคาะกระจกแล้วรีบกระวีกระวายปลดล็อคประตูให้บอส
   
“ขอโทษที่ให้รอนาน พอดีผมซื้อของนิดหน่อย”
   
บอสพูดนิ่งๆ แล้วเอากล่องสีดำที่ถือติดมือมาด้วยไปไว้ข้างหลัง
   
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้อยู่แล้ว”
   
จริงๆ บอสไม่จำเป็นต้องขอโทษผมด้วยซ้ำ สถานะผมตอนนี้คือลูกกระจ็อกบอสอ่ะ ใช้อะไรก็ทำแต่ที่ถนัดที่สุดคือเฝ้าบ้าน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากเฝ้าบ้านเท่าไหร่เพราะมันน่าเบื่อ
   
“รู้แล้วเหรอ”
   
บอสมองลูกบอลในมือผมที่มีคราบน้ำลายนิดๆ เพราะผมเผลอกัดไปรอบนึงด้วยความหน้ามืดตามัว
   
“ครับ ขอบคุณบอสมากๆ นะครับ”
   
ผมอยากจะบอกบอสชะมัดเลยว่าเอาชีวิตผมไปได้เลย ชาตินี้ผมเกิดมาพอใจแล้ว เจอบอสวันเดียวผมก็รู้สึกเหมือนได้ใช้โชคทั้งชีวิตแล้วไปกับเจ้านายคนใหม่คนนี้
   
บอสเป็นคนดีมากจริงๆ
   
“เลิกขอบคุณผมได้แล้ว มันไม่ได้มากอะไรเลย”
   
บอสหัวเราะเบาๆ
   
“...”
   
บอสน่ารักชะมัดเลย ไม่สิ บอสดูดีมากๆ เลย!
   
Rrrrr
   
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ชื่นชมบอสต่ออยู่ๆ ก็มีคนโทรเข้ามาซะก่อน แน่นอนว่าไม่ใช่โทรศัพท์ผม ของผมถ้าจะมีคนโทรมาก็คงมีแต่บอสเก่าโทรมาด่านั่นแหละนะ แล้วโทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็เก่าเกินกว่าจะเล่นแอพพลิเคชั่นอะไรได้ด้วย ทำได้แค่โทรกับส่งข้อความแค่นั้นเอง
   
ทันทีที่บอสเห็นชื่อคนที่โทรมาสีหน้าของบอสก็เปลี่ยนไปทันที บรรยากาศผ่อนคลายรอบตัวบอสหายไปกลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง นัยน์ตาของบอสกลับมาว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด
   
“ครับ”
   
ผมก้มหน้างุดและให้ความสนใจกับลูกบอลเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับบอส
   
“พ่ออยากเจอผมเหรอครับ”
   
น่าแปลกที่เสียงของบอสนั้นดูไม่ดีใจสักนิด
   
“ว่างครับ ไปได้ครับ”
   
ผมช้อนตามองบอสด้วยความเป็นห่วง เพราะคุยผ่านโทรศัพท์อาจจับความรู้สึกในน้ำเสียงได้ยาก แต่สำหรับผมที่นั่งข้างๆ คือดูออกเลยว่าบอสไม่อยากไป
   
สำหรับบอสแล้ว ‘พ่อ’ คงจะไม่ใช่บุคคลที่บอสชื่นชอบสักเท่าไหร่ ซึ่งก็ผิดกับผมที่ไม่มีความรู้สึกอะไรกับ ‘พ่อ’ เลยสักนิดเพราะท่านเสียไปตั้งแต่ก่อนผมจะจำความได้อีก
   
ความทรงจำเดียวที่ผมมีเกี่ยวกับพ่อคือพ่อเป็นคนใจดีและแม่ผมก็มักจะเลี่ยงที่จะพูดถึงพ่อ แน่นอนว่าถ้าแม่ไม่อยากเล่า ผมก็ไม่คิดจะถามอะไรอยู่แล้วเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าพ่อหายไปเพราะอะไร
   
“อีกครึ่งชั่วโมงผมจะไปถึงครับ”
   
ผมไม่รู้ว่าบอสรู้ตัวไหม แต่มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นสั่นน้อยๆ เหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้
   
“..ครับ สิบห้านาทีก็ได้ครับ”
   
สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหวเลือกที่จะเอื้อมมือไปแตะมือบอส
   
ผมหยิบมือที่เย็นเฉียบของบอสมาวางบนตักผมและนวดคลึงให้มันอุ่นขึ้นด้วยอุณหภูมิจากฝ่ามือ
   
“…”
   
ผมยิ้มให้บอสตอนที่บอสหันมาสบตากับผม
   
แน่นอนว่าถ้าอยู่บ้าน ผมจะไม่ลังเลที่จะคืนร่างหมาป่าที่บอสชอบแล้วเอาทำตัวออดอ้อนบอสให้บอสอารมณ์ดีเพราะผมรู้ว่าบอสชอบร่างโบ้ของผมที่สุด แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกผมก็ได้แต่หวังว่าบอสจะเอ็นดู ‘คราม’ บ้าง
   
ซึ่งการตัดสินใจของผมก็ดูจะไม่แย่นัก มือของบอสเลิกสั่นแล้ว
   
“ครับ ขอบคุณครับ”
   
บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่บอสวางสายไป บอสมองหน้าผมสักพักและหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั่นมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน
   
ให้ตายเหอะ
   
ผมเขินชะมัดเลย
   
ผมหน้าแดงแต่ก็พยายามทำตัวปกติ
   
“เดี๋ยวขากลับผมคงต้องแวะเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลก่อน”
   
บอสแกะมือผมออกและจับพวงมาลัยอีกครั้ง
   
“ครับ”
   
ผมพยักหน้าหงึกหงักเชิงรับรู้ ไม่กล้าชวนคุยอะไรเพราะรู้ว่าบอสคงต้องใช้สมาธิกับการขับรถ และแน่นอนสิ่งที่ผมทำฆ่าเวลาคือกลิ้งลูกบอลที่บอสให้มาในมือแก้เบื่อ
   
“พ่อผมเป็นคนเข้มงวด”
   
ในชั่วขณะที่ทุกอย่างเงียบและผมกำลังจะหลับ บอสก็เปรยขึ้นมา
   
“ถ้าท่านไม่อนุญาต ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
   
“…”
   
ผมเหลือบมองบอส สีหน้าของบอสยังปกติเหมือนเดิมแต่แววตาตอนที่พูดกลับไม่เป็นเหมือนสีหน้าสักนิด
   
“พ่อไม่อนุญาตให้ผมทำพลาดไม่ว่าจะเรื่องอะไร”
   
บอสแค่นเสียงหัวเราะ
   
“มหาลัยพ่อผมก็เป็นคนเลือก เพื่อนผมพ่อก็เป็นคนเลือก ทุกอย่างในชีวิตผมต้องผ่านพ่อทั้งหมดเพราะพี่ชายผมไม่ยอมให้พ่อควบคุม”
   
แววตาของบอสคราวนี้ดูเจ็บปวดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
   
“แล้วผมก็โคตรรู้สึกผิดเลยที่บางครั้งผมก็อยากให้พ่อตายสักที”
   
“…”
   
ผมไม่ได้พูดอะไรเพราะคิดว่าบอสคงไม่ได้ต้องการความเห็นอะไรจากผม และผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถไปตัดสินใครได้ด้วย
   
“หรือไม่ก็เป็นผมที่ตายวันนั้นก็ได้ ไม่ใช่พี่”
   
หงิง
   
ผมร้องออกมาหงอยๆ
   
“ผมก็บ่นไปงั้นแหละ คราม ไม่ต้องจริงจังหรอก”
   
บอสหัวเราะเบาๆ
   
“ระหว่างที่รอผม คุณก็คิดไปพลางๆ แล้วกันว่าจะกินอะไร ถ้าไม่ยากมากเดี๋ยวผมทำให้กินเอง”
   
พูดถึงอาหารฝีมือบอส ผมก็แทบจะน้ำลายไหลทันที
   
อาหารเมื่อเช้าอร่อยมาก อร่อยที่สุดในชีวิตที่ผมเคยกินเลย!
   
ผมมั่นใจมากว่าถ้าตอนนี้ผมอยู่ในร่างหมาป่าคงจะนั่งกระดิกหางได้เป็นชั่วโมงอ่ะ
   
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีในที่สุดบอสก็มาถึงโรงพยาบาลจนได้ ผมตาโตตอนที่เห็นตึกกับป้ายของโรงพยาบาลเพราะจำได้ว่าเป็นโรงพยาบาลที่แพงมากและปรากฎในโฆษณาบ่อยๆ
 
ซึ่งด้วยราคาของมันแล้วทำให้พื้นที่ข้างนอกค่อนข้างเงียบสงบ บอสเลือกที่จะจอดตรงใต้ร่มไม้ก่อนที่จะกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงจากรถเพราะใกล้จะเกินเวลาที่รับปากไว้แล้ว
   
ผมมองตามหลังบอสด้วยความรู้สึกเศร้านิดๆ เพราะผมช่วยอะไรบอสไม่ได้เลย
   
ให้ตายสิ
   
ผมอยากให้บอสมีความสุขกว่านี้จัง

--------------

กลับมาแล้วค่ะ  :hao5:
   
   
   
   
   

   
   
   
      



ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โม้ย โคตรนา่าร้ากกเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กลับมาแล้ว~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด