#ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11  (อ่าน 88206 ครั้ง)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอตอนเช้าเลย 5555555555

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
น้องงงงง ลืมไปหมดแล้วว่าต้องอยู่แต่ในห้องตัวเอง

ออฟไลน์ casson

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตะนิดน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
Trigger warnning : dub-con

(การมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายไม่มีสติครบถ้วน โดยตามบริบทของโอเมก้าเวิร์สของเรื่องนี้จะเกิดจากการตกอยู่ภายใต้การควบคุมฟีโรโมน)


ก็จะดื้อ 7

ฮีท




แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านผืนบางมาตกกระทบกับเสี้ยวหน้าคม ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ปรือลืมขึ้น



หนัก...

อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับบริเวณอก จะว่าผีอำก็รู้สึกแปลกๆ เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีสักเท่าไหร่



... และผีก็คงไม่มีกลิ่นหอมแป้งขนาดนี้



ภาสยกมือขึ้นขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะมองก้อนแมวดื้อที่มานอนเกยตัวเขาไปครึ่งซีก ใบหน้าดื้อนั้นบี้ลงกับอกเขาพร้อมกับกรนออกมาเบาๆ หมอนข้างที่เจ้าตัวหยิบมาคั่นกลางกระเด็นไปอยู่ปลายเตียง แขนเล็กเกาะที่เอวเขาแน่นส่วนขาก็วางพาดลำตัวเขาอย่างไม่มีการเกรงใจ



อัลฟ่าหนุ่มนอนนิ่งๆ อยู่สักพักถึงค่อยสติเข้าร่าง เขาขยับตัวเล็กน้อยเปลี่ยนท่าเล็กน้อย ทันใดนั้นแมวน้อยก็ส่งเสียงครางในลำคอด้วยความขัดใจ คิ้วบนหน้าขมวดมุ่น มือที่เกาะอยู่ก็เปลี่ยนเป็นจิกให้เขาอยู่นิ่งๆ



เอาแต่ใจจัง

... ขนาดนอนยังดื้อได้





ติ๊ดๆ

เสียงอินเตอร์คอมข้างหัวเตียงเขาดังขึ้น ภาสค่อยๆ ยกมือขึ้นไปแตะปุ่มรับสาย ใครกันที่แวะมาหาในเวลานี้



“สวัสดีค่ะ คุณภาส แม่เองนะคะ”

“...”



จริงสินะ...

ใครล่ะที่จะแวะมาหาในเวลานี้...



“อ่า ครับ เข้ามาได้เลยครับ” เขาเอื้อมมือไปกดปุ่มปลดล็อคประตูห้องก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อเจ้าแมวเริ่มส่งเสียงขัดใจอีกรอบที่เขาเสียงดัง

“สะดวกใช่ไหมคะเนี่ย”

“...”

“เห้ย สะดวกดิ จะไม่สะดวกได้ไงก็นัดกันแล้ว เข้าๆ ไปเถอะแม่” เสียงอัลฟ่าแฝดพี่แทรกเข้ามาในสาย

“เอ่อ ตอนนี้-”



ติ๊ด

ตัดสายไปแล้ว



ภาสยกมือซ้ายขึ้นนวดขมับ รู้สึกได้ถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าได้อย่างทันที เสียงคุยมาจากด้านล่างไม่กี่นาทีเขาก็ได้ยินเสียงคนขึ้นบันไดมา อัลฟ่าหนุ่มทิ้งหัวลงกับหมอน หลับตารอ เพราะอีกไม่นานเดี๋ยวประตูห้องเขาจะต้องถูกเปิดมาพร้อมกับเสียงโวยวายอย่างแน่นอน



ปั้ง!!!



“คณิต!!”

“ตะนิดอยู่ไหน!!!”



เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงโวยวายลั่น ภาสขยับหัวไปทางประตูห้องก็พบว่าแขกทั้งสองเบิกตากว้างอึ้งกับภาพที่เห็นไปแล้วเรียบร้อย และแน่นอนว่าเสียงดังขนาดนี้เจ้าแมวขี้เซาบนอกเขาก็ไม่แม้แต่จะตื่น ใบหน้าดื้อนั่นบี้ลงกับอกเขามากกว่าเดิมด้วยความรำคาญเสียงดัง



“บอกไว้ก่อนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ” ภาสเอ่ยดักไว้ก่อนที่สถานการณ์จะวุ่นวายไปมากกว่านี้

“ตะ ตะ ตะนิด”

“เขาปีนมานอนทับผม”

“ตายจริง ลืมบอกไปเลยค่ะ ว่าตะนิดน่ะติดหมอนข้าง ปกติจะนอนกอดปลาฉลาม” ภาสเข้าใจทันทีว่ามันคือคุณนุ่มเบอร์ห้า ปลากัดตัวสีเทาที่ตอนนี้น่าจะนอนตายอยู่บนพื้นห้องเพราะโดนเจ้าของเตะตกเตียง

“ตะนิด ตื่นได้แล้ว”

“อือ คณิต อย่ายุ่งงงง”

“ตื่นได้แล้วไอ้น้องเวร จะบ่ายแล้ว!!!” คณิตตีเหม่งใสไปดังป้าปเน้นๆ ตะนิดร้องโอ๊ยลั่นก่อนจะซุกเข้าหาที่พึ่งกลิ่นลาเวนเดอร์

“อย่ายุ่งได้ไหมคณิต ตะนิดจะนอน”

“ตะนิด ถ้าไม่ตื่นกูจะโกรธแล้วนะ”

“เดี๋ยวง้อ”

“กูร้องไห้ด้วย”

“เออๆ ตื่นก็ได้” เจ้าแมวยันตัวเองขึ้นนั่งพลางยกแขนขึ้นขยี้ตา ตอนนั้นเองอัลฟ่าหนุ่มถึงได้รีบลุกขึ้นนั่งตามพร้อมกับบีบนวดแขนขวาตัวเองที่ชาจนแทบไม่รู้สึกอะไร

“แหม ตะนิดดูมีความสุขกว่าที่แม่คิดนะเนี่ย นอนหลับสบายใจเชียว” คนเป็นแม่เอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เป็นคณิตที่ขมวดคิ้ว

“ตะนิด มึง... ไหนนัดกันว่าให้ขังตัวเองไว้ในห้องไง”

“ไม่ทำแล้ว ยกเลิก ห้องใหญ่เกิน กลัวผี” ตะนิดเอ่ยเสียงงัวเงีย

“เวรเอ๊ยยยย รู้งี้ตอนอยู่ในท้องเวลาแม่กินปลากูบีบสายอาหารตัวเองให้มันไปเลี้ยงมึงเยอะๆ ดีกว่า มึงจะได้ไม่บื้อขนาดนี้ เวร เวร เวรเอ๊ย” คณิตสบถพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองให้กับความบื้อของแฝดน้องตัวเอง จะด่าก็ด่าได้ไม่เต็มที่เพราะหน้าเหมือนกันจนบางครั้งรู้สึกเหมือนกำลังด่าตัวเองผ่านกระจก

“อย่าบ่นเยอะได้ไหมคณิต”

“มึงตื่นให้เต็มตาเดี๋ยวนี้นะ”

“อยากกินปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก”

“ไอ้เวรตะนิด”

“คณิตไปซื้อให้หน่อยดิ”



ป้าป!!!

สุดจะทน ในที่สุดคณิตก็ฟาดป้าปเข้าให้ที่กลุ่มผมฟูสีน้ำตาลจนหัวตะนิดหงายไปนอนราบ ตะนิดกระพริบตาปริบๆ ตากลมเบิกกว้างมองเพดานก่อนที่จะเพิ่งนึกออกว่า





ที่นี่ไม่ใช่ห้องเขา!!!!!



“เห้ยยยยยยยยยยยยย” แมวน้อยรีบผุดตัวขึ้นนั่ง “เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” นึกอะไรไม่ออกเลยร้องเห้ยออกมาอีกรอบให้ทุกคนรู้ว่าตกใจจริงๆ

“ไม่ต้องมาเห้ยเลย ลุก!!” คณิตดึงแขนแฝดน้องก่อนจะดึงตะนิดขึ้นพาดบ่า ดวงตาอัลฟ่าวัยรุ่นตวัดมองคนบนเตียงพร้อมกับข่มเขี้ยวในใจ



จะโกรธก็โกรธได้ไม่เต็มที่ ไอ้แฝดน้องตัวดีดันเป็นฝ่ายไปนอนกอดเขา

มันน่าหงุดหงิดจริงๆ !!!



“เห้ยยยยยยยยยยยยย”

“มึงเลิกเห้ยได้แล้ว เครื่องค้างหรอ ไปล้างหน้าแปรงฟัน”

“เห้ยยยยยยยยยยยยย”

“เห้ย พ่อมึงสิตะนิด”

“พ่อกูก็พ่อมึงนะคณิต”

“กูด่าแค่โซนพ่อมึงไม่รวมพ่อกู”

“เห้ยงง!!! อย่าพูดอะไรงงๆ ตอนเช้าดิ๊ ตามไม่ทัน แต่ปล่อยได้แล้ววว เจ็บพุงงง ไหล่คณิตแข็งงงง” คณิตกระชับแฝดน้องบนบ่าก่อนจะแบกพาออกจากห้องไป อัลฟ่าหนุ่มผู้ถูกทิ้งให้แขนชาอยู่บนเตียงมองความวุ่นวายที่หายไปอย่างรวดเร็วนั้นก่อนจะหันมาสบตากับคนเป็นแม่ที่ยืนยิ้มอยู่

“ดูเหมือนจะไปได้ดีกว่าดีคิดนะคะ”

“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไรไปเพียงแต่ยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ



พอเห็นว่าคนบนเตียงสภาพดูสภาพเหมือนต้องการความเป็นส่วนตัว คุณนิตยาจึงเอ่ยขอตัวออกไปดูลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกมา



ภาสเหม่อมองไปยังประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ด้วยความที่เขาอยู่คนเดียว ปกติแล้วห้องของเขามักจะไม่ค่อยมีเสียงอะไรมากนอกเสียจากเสียงทีวีหรือเสียงเพลงที่เปิดไว้แก้เหงา พอมีเสียงดังโวยวายแบบนี้ก็ดูเหมือนห้องจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย



... ถึงจะเหม็นอัลฟ่าอื่นนิดหน่อยก็เถอะ



ภาสส่ายหัวเรียกสติกลับมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน พอทำธุระส่วนตัวส่วนตัวเสร็จ แค่เปิดประตูออกมาจากห้องนอน เสียงโวยวายจากชั้นล่างก็ดังขึ้นมา



“คณิต อย่างกไซรัปได้ป่ะ ราดมาอีก แพนเค้กต้องราดชุ่มๆ เดะ”

“แค่นั้นเบาหวานก็แดกแล้ว”

“ราด-อีก!!!”

“รำคาญว่ะ เสียงดัง”

“คณิต!!!!”

“หยุดตีกันเดี๋ยวนี้นะทั้งคู่เลยลูก เสียงดัง”

“แม่!! คณิตบีบไซรัปใส่หน้านิด!!!”

“ก็หน้ามึงเหมือนแพนเค้ก”

“เข็มอัปษร?”

“หึ กลม”

“คณิต กูจะโกรธแล้ว”

“มึงตบมุกโง่ดี กูชอบ แพนเค้กเขาชื่อจริงเขมนิจไม่ใช่เข็มอัปษร กูเวทนาว่ะ”

“คณิตว่ากูหน้ากลมหรอ!!!”



อืม ดูมีชีวิตชีวาก็จริง

แต่ก็หนวกหูเหมือนกัน



ภาสค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง ก่อนจะพบว่าครอบครัวแมวกำลังกินอาหารเช้าในนเวลาเกือบจะบ่ายสองอยู่ คนเป็นแม่ยืนยิ้มพลางตักแพนเค้กใส่จานให้เขา แฝดพี่จ้องเขาตาเขม็ง ส่วนเจ้าแมวดื้อกำลังจ้วงแพนเค้กเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ จนแก้มพองเป็นก้อน



“คุณภาส ทานแพนเค้กไหมคะ”

“อ่า ก็ดีครับ” เขาพยักหน้าขอบคุณไปเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงตัวไปชงกาแฟ ภาสยกแก้วขึ้นสูดกลิ่นหอมกาแฟก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมีกลิ่นบางอย่างผสมมา



กลิ่นแป้ง?

เขาตวัดตามองไปที่โอเมก้าคนเดียวในห้อง ซึ่งตอนนี้กำลังเอ็นจอยอีตติ้งแก้มกลมขยับไปขยับมาดูมีความสุขกับการได้กิน ปกติแล้วตะนิดจะปล่อยกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชมาจางๆ อยู่แล้ว แต่วันนี้ดูเหมือนจะกลิ่นจะแรงขึ้น



เขายกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก มองจากภายนอกแล้วก็ดูไม่มีอาการอะไรชัดเจน



... สงสัยเขาจะคิดมากไปเอง



“มองไรลุง”

“ตะนิด อย่าให้พูดซ้ำ”

“...”

“ตะนิด”

“อื้อ รู้แล้วๆ ...พี่ภาส” พองแก้มไม่พอใจแล้วก็หันไปกินต่อ

“ตะนิด ไม้เบสบอลอยู่ไหนวะ ทำไมหาไม่เจอ” คณิตเดินขมวดคิ้วเข้ามาจับหัวฟูของแฝดน้อง

“น่าจะอยู่ด้านหลัง”

“หลังไหน”

“...หลังรถ” พูดจบตะนิดก็ได้รับสายตาพิฆาตจากแฝดพี่ทันที



ภาสหัวเราะในลำคอ เขาเป็นคนเปิดท้ายรถเอาของเองกับมือ เห็นอยู่แล้วแหละว่ามีไม้เบสบอลวางอยู่หลังรถแต่ใครมันจะไปแบกอาวุธของศัตรูขึ้นห้องกัน ปล่อยให้เจ้าแมวพกแค่อาวุธอย่างคุณนุ่มเบอร์หนึ่งกับเบอร์ห้านั่นก็มากพอแล้ว



“ตะนิด กูจะเริ่มด่ามึงว่ายังไงก่อนดี”

“ไอ้หล่อตะนิดไหม”

“โง่ ไอ้โง่”

“คณิต มึงก็พี่ไอ้โง่แหละวะ”

“กูเจ็บมากมั้ง มึงด่าตัวเองทำไม”

“เออว่ะ เอาใหม่ๆ มึงก็โง่เหมือนกูแหละ”

“โง่เกินต้าน กูไม่ไหวกับมึงแล้วนะ”

“กูไหว กามิกาเซ่ ปากดีขี้เหงาเอาแต่ใจ”

“มึงไม่เคยฟังก็ไม่ต้องฝืน มั่วว่ะ ขโมยแพนเค้กแดกแม่ง”

“คณิตใจหมา! แย่งของกิน! สันดานโจร!” ภาสมองแมวกับหมาตีกันตรงหน้าพร้อมกับรู้สึกแปลกตาพิลึก



เขามีน้องชายอีกสามคนแต่แทบไม่เคยทะเลาะกันในทรงนี้เลย อาจจะด้วยความเป็นอัลฟ่าทั้งบ้าน พวกเขาน่ะมักจะทะเลาะกันไปในทางกวนตีนกันไปกันมาจนชกต่อยกันจริงๆ ถึงจะเคลียร์กันเข้าใจ ไอ้มาทะเลาะงุ้งงิ้งๆ แบบนี้นี่แค่คิดก็ขนลุก



“เลิกทะเลาะกันได้แล้วลูก เป็นไงบ้างล่ะเราน่ะตะนิด โอเคไหม”

“โอเคไรอ่ะ”

“คืนแรกที่นี่” ภาสจิบกาแฟพลางเหลือบตามองคุณแม่เบต้าตรงข้ามโต๊ะ

“อือ เหงามั้ง” เสียงเล็กตอบอ้อมแอ้ม “อยู่ไม่ได้หรอกเนี่ยแม่ ตะนิดเหงา ไม่มีคณิตอยู่ไม่ได้”

“เด็กติดพี่” คนเป็นแม่ส่ายหัวระอา

“คณิตก็คิดถึงตะนิดนะแม่” เจ้าแมวรีบพูดขึ้น

“แม่ก็คิดถึงเรา บ้านเงียบเลยนะพอไม่มีเสียงแฝดทะเลาะกัน”

“...”

“ลองอยู่สักเดือนสองเดือนแล้วกันนะลูก ถ้าไม่โอเคจริงๆ แม่ก็เข้าใจ” คนเป็นแม่ลูบแก้มยุ้ยของลูกชายไปมา

“แต่...”

“ตายจริง ได้เวลาต้องพาคณิตไปซ้อมมวยแล้วนี่”

“เอ๊ะ” คณิตขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าวันอาทิตย์เขาไม่มีซ้อมนี่นา

“งั้นเราไปกันดีกว่า คณิตเก็บของให้เรียบร้อย ส่วนตะนิดล้างจานด้วยนะลูก”

“แม่ ผมไม่มีซ้อม- “

“แม่ว่ามีมันน่าจะมีนะ คณิตว่าไหม” คนเป็นแม่ยกยิ้มหวานแต่นั่นทำเอาขนแขนแฝดพี่อย่างคณิตลุกเกรียว เขาคัดค้านในใจแต่สุดท้ายก็ได้แต่ทำตามคำสั่งของคนเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน



ภาสตามอะไรไม่ค่อยทันเท่าไหร่ บ้านของเจ้าแมวมีความเสียงดังในการวอแวอำลากันอยู่สักพักจู่ๆ ก็ขนตัวเองออกกันไปจากห้อง ทิ้งแต่แมวขี้เหงานั่งซึมอมน้ำส้ม แก้มใสนั่นล้นยืดกองอยู่บนโต๊ะ



ภาสยอมรับว่าเขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อรู้ว่าอีกคนเหงา แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนที่อยู่กับใครแล้วสนุกและยังไม่ใช่คนชอบคุยหรือเริ่มบทสนทนาก่อนด้วย ยังไม่ทันหาวิธีเจอเจ้าแมวก็ลุกขึ้นเดินเท้าลากพื้นขึ้นชั้นสองไป



อัลฟ่าหนุ่มลอบถอนหายใจ เขายกมือขึ้นนวดขมับก่อนจะหยิบมือถือขึ้นสั่งกดสั่งอาหาร เผื่อว่าเจ้าแมวน้อยจะหิวแล้วลงมาหาอะไรกิน สำหรับวันนี้ก็คงต้องแยกกันอยู่ไปก่อนจนกว่าเขาจะหาวิธีคลายเหงาของอีกฝ่ายให้เจอ



ชีวิตคืนที่สองก็ยังอยู่ในความปกติและเบนไปในทางจืดชืด เขากับตะนิดแยกกันใช้ชีวิต คุยกันแทบจะนับคำได้ ถึงจะมีช่วงที่กินข้าวเย็นด้วยกันแต่พอกินเสร็จเจ้าแมวก็วิ่งหนีเข้าห้องตัวเอง ไปขลุกอยู่กับกองตุ๊กตาที่พี่ชายเพิ่งแบกมาให้จากบ้าน พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากคุยอะไร เขาก็มานั่งทำงานผ่านไอแพดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามปกติ



เวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะเชคเวลา

จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนและเสียงเท้าที่กำลังเดินลงมา ภาสเหลือบตามองนาฬิกาข้างฝาหนัง



สองทุ่ม

กินมื้อดึกงั้นสินะ



เขาละตาจากจอไอแพดขึ้นมองร่างเล็กที่ค่อยๆ เดินเตาะแตะมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ เขากระตุกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา คิดว่าคงลงมาดูทีวีที่เขาเปิดทิ้งเอาไว้



... จากห่างคนละเบาะก็ค่อยๆ กระเถิบมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มานั่งไหล่ชิดกับตัวเขา ภาสยกคิ้วงงกับพฤติกรรมแปลกๆ นั่น



“ตะนิด”

“...”

“ตะนิด”

“อื้อ”

“เมื่อวานได้กินยาไหม”

“อืมไม่”

“อืมไม่?”



เขากะจะถามต่อว่าตกลงอืมหรือไม่ แต่ทันใดนั้นตะนิดก็พิงหัวมากับแขนเขาพร้อมกับถูหัวไปมาเหมือนลูกแมว ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะวางไอแพดลงแล้วใช้มือจับหน้าดื้อออกมามอง ใบหน้ากลมดูสลึมสลือเล็กน้อย กลิ่นแป้งเริ่มแรงแต่ก็ไม่ถึงกับแรงขนาดที่ว่าเป็นกลิ่นในช่วงฮีททำให้เขารู้สึกได้ว่าเจ้าแมวตรงหน้ามีอะไรบางอย่างแปลกไป



“นี่...”

“...” ภาสขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อจะนิดชันเข่าขึ้นก่อนจะย้ายตัวมานั่งทับบนตักเขา

“เหงา”

“...”

“เหงานะเนี่ยน้า”



ป้อแป้...



อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมเอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างโซฟา เขาคุ้ยหาของก่อนจะหยิบเข็มยาระงับการรัทขึ้นมา ใช้มือเดียวในการถอดฝาออกก่อนจะปักเข็มฉีดยาเข้าบริเวณต้นขา



ดูท่าทางเจ้าแมวตรงหน้ากำลังจะ ‘ดื้อ’ ใส่เสียแล้ว



“รู้ตัวไหมเนี่ยว่ากำลังจะฮีท”

“ไม่ฮีท”

“ตะนิด” ภาสยกมือขึ้นเสยผมหน้าม้าขึ้นก่อนจะก้มลงพิจารณาก้อนแมวบนตัก ตะนิดซุกหน้าเข้ากับอกเขาพร้อมกับถูหน้าไปมา

“เหงา”

“พรุ่งนี้ฉันจะหาเกมอะไรเข้ามาให้เล่น ชอบเกมแบบไหนล่ะ” แมวน้อยเงยหน้าก่อนจะชันตัวขึ้นงับคางที่มีตอหนวด ภาสผงะเล็กน้อยกับการกระทำนั่น

“เล่น”

“ตะนิด ยาอยู่ไหน”

“เล่นด้วยกัน อยากเล่นด้วย”

“เราเก็บยาไว้ไหน”

“เล่นกับนิดหน่อยน้า” ปากเล็กจุ๊บลงบนแก้มสากของคนแก่กว่า ก่อนจะย้ายจุ๊บไปทั่วหน้าตั้งแต่คิ้วยันจมูกก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปาก ตะนิดกดจุ๊บลงไปย้ำๆ แต่ไม่ได้ทำอะไรไม่มากกว่านั้น มือเล็กนุ่มนิ่มยกขึ้นสางผมอัลฟ่าหนุ่มไปมา สะโพกเล็กขยับส่ายไปมาเบาๆ



ภาสถอนหายใจออกมายาวเหยียด โดนจุ๊บจนหน้าเปียกไปหมด แถมสะโพกเล็กที่ขยับอยู่นั่นก็อันตรายมากเสียด้วย



“ตะนิด เราคิดจะทำอะไร”

“เล่นก่อน ไม่ถามได้ไหม! ยุ่ง! เหงา!” เสียงดื้อนั่นขยับความหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนคนโดนขัดใจ ปากเล็กอ้าขึ้นก่อนจะก้มลงงับคอคนตรงหน้าเข้าไปจมเขี้ยว



ภาสสะดุ้งเล็กน้อยกับแรงกัดที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ดีที่อีกฝ่ายเป็นโอเมก้า ต่อให้กัดจมเขี้ยวแค่ไหนก็ไม่สามารถสร้างพันธะได้เหมือนที่อัลฟ่ากัด



“อย่ากัดตะนิด ไม่ดื้อ”

“จะดื้อ” แมวน้อยเหยียดตัวขึ้นแต่ก็โอนเอนจนอัลฟ่าหนุ่มต้องยกมือขึ้นโอบแผ่นหลังบางนั่นไว้ไม่ให้หงายหลังตกโซฟาไป

“แมวดื้อ”

“อื้อ ดื้อครับ แต่นิดเดียว ดื้อนิดเดียว ดื้อเท่านี้” มือเล็กยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เข้าหากันให้รู้ว่าดื้อนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ นะ

“เราน่ะหรอดื้อแค่นี้” ภาสยกมือขึ้นขยายช่องว่างระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของคนตัวเล็กให้ห่างกว่าเดิม “เราน่ะดื้อมากเท่านี้ต่างหาก”

“คนใจร้าย”

“...”

“เหงานะเนี่ยน้า เหมือนแกล้งนิดเลย ใครก็ทิ้งนิด เพราะนิดเป็นโอเมก้าหรอ”

“... ตะนิด” อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นลูบหัวฟูเบาๆ ใบหน้าอ้อนของโอเมก้าน้อยอิงแอบแนบมือใหญ่ส่งสายตาออดอ้อน

“พี่ภาสก็ทิ้งนิด”

“ฉันไม่ได้ทิ้ง”

“ห้องกว้าง น่ากลัว ทำโทษกันหรอ เหงา... นะเนี่ยน้าา” ปากเล็กเบะเหมือนจะร้องไห้นั่นทำให้ใจคนตัวใหญ่อ่อนยวบ



แต่ทั้งๆ ที่เหมือนจะเปิดโหมดซึ้ง แต่สะโพกนุ่มนิ่มนั่นกลับบดเบียดเปลี่ยนมู้ดจากดราม่าเข้าอีโรติก ภาสเรียกสติตัวเองกลับมาทันที



“เก็บยาไว้ไหน ตอบหน่อยเร็วแมวดื้อ” ภาสตะล่อมถามพร้อมกับกดจมูกลงกับแก้มใสอย่างอดไม่ได้ เขาเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถึงจะฉีดยาระงับไปแล้วแต่ก็ต้องยอมรับว่าการโดนน้วยใส่แบบนี้มันก็อดทนยากเกินไป



นุ่มนิ่มไปทั้งตัว

ไอ้เสียงอ้อแอ้แถมอ้อนขนาดนี้นี่มันขี้โกงเกินไปแล้ว



“พี่ภาสสส”

“หืม”

“กอดนิดหน่อยค้าบบบ” เจ้าแมวดื้อทิ้งตัวลงกอดเขา ถึงจะงงแต่ภาสก็ยกมือขึ้นลูบหลังเล็กไปมา



ทันใดนั้น

กลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชก็แตกกระจายรุนแรงจนภาสเองต้องย่นจมูก กลิ่นฉุนรุนแรงขนาดนี้



ฮีทเสียแล้ว

ภาสถอนหายใจ ถึงแม้เขาจะฉีดยาระงับการรัทไว้แล้ว แต่กลิ่นจากคู่แห่งโชคชะตาก็แรงจนเขาเหงื่อซึมกรอบหน้า



ตอนนั้นเองที่จู่ๆ ร่างบนตักเขาก็เริ่มทำการขย่มตัวเอง ภาสผงะกะพริบตาปริบๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมตวัดมองคนบนตักที่ผละออกไปก่อนจะตั้งหน้าตั้งตา



ขย่มตักเขา...

ขย่มโดยที่เสื้อผ้าครบทั้งตัวเองและตัวเขา



“ตะ ตะนิด”

“อื้อ” ใบหน้าเล็กเงยขึ้นโชว์ลำคอขาวที่มีปลอกคอหนังรัดอยู่ สะโพกเล็กขยับกระแทกบดตัวไปมาเหมือนคนไร้สติ



ภาสทำตัวไม่ถูกไปหมด เขาได้แต่กระพริบตาปริบๆ มองเจ้าแมวดื้อที่ขยับตัวบดเบียดร่างตัวเองขึ้นลงเป็นจังหวะ ใบหน้าดื้อที่ชอบพองแก้มขัดใจนั่นขึ้นสีแดงกลายเป็นก้อนโมจิแต้มสีชมพู ปากเล็กบีบเม้มเข้ากันจนบวมช้ำไปหมด



ไม่ใช่แล้ว...

มันเป็นการคลายฮีทแบบไหนกัน ทำไมเขาไม่เคยเจอโอเมก้าที่ไหนฮีทแล้วช่วยตัวเองด้วยวิธีนี้เลย





“ตะนิด เวลาฮีทปกติเธอทำยังไง”

“...”

“ตะนิด ตอบฉัน” ภาสใช้มือเกี่ยวแก้มเล็กให้ก้มลงมาสบตาเขา ดวงตากลมที่มักฉายแววดื้อตอนนี้ปรือลงด้วยแรงอารมณ์ เขี้ยวเล็กนั่นงับนิ้วโป้งเขาเบาๆ

“คะ คุณนุ่มเบอร์ห้า”

“...”

“ถูคุณนุ่ม อ๊ะ ฮึก”



ภาสได้แต่กุมขมับตัวเองกับคำตอบของร่างบนตัก เด็กตรงหน้าไร้ประสบการณ์ทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ไม่แม้แต่จะเคยแตะต้องตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามสัณชาตญาณ นั่นยิ่งทำให้เขาต้องห้ามตัวเองไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



“ตะนิด ไปบนห้องเถอะ ไปเอายากัน”

“พี่ภาส พี่ภาส ฮึก”

“แมวดื้อ ให้ความร่วมมือหน่อย” อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนใจ เขาเองก็ปวดตึงไปหมด ดีที่ใส่กางเกงนอนที่มีความยืดหยุ่นสูงไว้แต่ข้อเสียคือผ้าค่อนข้างบางจนมันสะเทือนไปหมดทุกส่วน



...เจ้าแมวดื้อก็ใส่ไม่ยั้งแรงเลย เจ็บไปหมดแล้ว



“อ๊ะ พี่ภาส”

“ไม่ครางได้ไหม” อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวก่อนจะตัดสินใจระบายอารมณ์กับปลอกคอหนัง เขางับมันเล่นๆ คลายอารมณ์ที่ปวดตึง แม้จะเป็นปลอกคออย่างดี แต่ด้วยแรงอัลฟ่าแค่เพียงไม่นาทีก็ถูกกัดจนสภาพเกือบขาด เขาจึงต้องหยุดเปลี่ยนเป็นไปถูจมูกตัวเองตามผิวเนื้อหอมแป้ง



อยากกัด อยากทำรอย อยากเป็นเจ้าของ

... แต่ต้องอดทนไว้



ภาสมองปากสีแดงอิ่มนั่นอย่างช่างใจ สุดท้ายก็ห้ามตัวเองไม่อยู่ประทับจูบลงไป จูบที่เป็นจูบไม่ใช่แค่จุ๊บแบบที่ลูกแมวคุ้นเคย เกลียวลิ้นที่สอดประสานไปพร้อมกับลมหายใจหอบกระเส่า ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยเจ้าแมวจึงเป็นฝ่ายผละหน้าออก



“หะ หายใจไม่ทัน”

“ต้องฝึกบ่อยๆ”

“อื้อ...”



ถูกแกล้งอีกแล้ว

แมวดื้อครางขัดใจในลำคอแต่สุดท้ายก็ระทวยได้แต่ปล่อยให้คนหน้าดุแกล้งขโมยลมหายใจต่อไปอีกหลายครั้ง



ลูกแมวน้อยขย่มตัวเองอยู่เพียงไม่กี่นาทีก็ตวัดแขนกอดคอรัดอัลฟ่าหนุ่มจนหน้าปักลงกับอกนิ่ม ร่างทั้งร่างเหยียดเกร็งจนไหล่สั่นระริกพร้อมกับส่งเสียงหวีดลั่น



ภาสที่หน้าชิดอยู่กับอกขาวกลิ้นแป้งเด็กได้แต่กะพริบตาปริบๆ งงอีกรอบ



แค่สัมผัสผ่านเนื้อผ้าก็รู้สึกได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ...



สงครามจบลงอย่างรวดเร็วจนเขาตกใจ ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะของกางเกงร่างบนตัก แมวน้อยหอบแฮ่กๆ อยู่สักพักก็เริ่มขยับตัวขย่มอีกรอบ



“ตะนิด เดี๋ยว”

“อ๊ะ ฮึก คุณนุ่ม”

“ฉันไม่ใช่คุณนุ่ม” ภาสตวัดตาดุร่างเล็ก

“ฮึก...”

“เรียกชื่อฉัน ฉันคือใครตะนิด”

“ฮึก ไม่ดุนะ อย่าดุ พี่ภาสไม่ดุนิด”

“แมวดื้อ ตอบ” อัลฟ่าหนุ่มใช้มือจับสะโพกเล็กในหยุดขยับก่อนจะใช้มือจับแก้มโมจินั่นให้จ้องหน้าเขา



อยู่บนตักเขา

แม้แต่ชื่อตุ๊กตาก็ไม่อนุญาต



“พี่ภาส พี่ภาส ปล่อยนิด พี่ภาส ฮึก”

“อย่าเรียกชื่อคนอื่นอีก”

“พี่ภาส ไม่แกล้งนิดนะ ใจร้าย นิดไม่ดื้อแล้ว ไม่แกล้งนิด”

“เราน่ะดื้อ”

“พี่ภาสไม่แกล้งนิดนะ” เสียงเล็กโวยวายพร้อมกับพยายามเหยียดตัวงับคางอัลฟ่าหนุ่มด้วยความออดอ้อนตามสัณชาตญาณ อัลฟ่าหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ



อ้อนได้อ้อนดี

ทีเวลาไม่ฮีทขู่ฟ่อเป็นลูกแมว



“ไปห้องฉัน โซฟามันปวดหลัง” ภาสกระชับคนบนตักก่อนจะจับอุ้มลุกขึ้น แมวน้อยตวัดขารัดเขาพร้อมกับพยายามถูสะโพกไปมาไร้สติสัมปะชัญญะไปโดยสิ้นเชิง

“ไม่ฉีดยานะ นิดเจ็บ” หน้าดื้อถูไปมากับเนินไหล่อัลฟ่าหนุ่ม



ภาสอุ้มตะนิดบนชั้นสอง พอจะก้าวเข้าห้องของคนในอ้อมกอดเพื่อเอายาระงับฮีท แมวน้อยก็จิกไหล่เข้าให้เต็มแรง เขี้ยวเล็กงับต้นคอพร้อมกับส่งเสียงอืออา



“ตะนิด ไม่กัด” ภาสตีแผ่นหลังบางเบาๆ เป็นการดุ

“ไม่ฉีดยานะ”

“...”

“นะ” ตะนิดยกแก้มนิ่มขึ้นถูกับแก้มเขาไปมา ความนุ่มนิ่มที่ติดอยู่ที่ตอหนวดจางๆ นั่นทำเอาอัลฟ่าหนุ่มขยำก้นนิ่มไปด้วยความมันเขี้ยว



ภาสขบฟันกรอดพร้อมกับคำรามต่ำในลำคอ

สุดท้ายก็แพ้แรงอ้อนหมุนตัวพาแมวดื้อกลับเข้าห้องตัวเอง





ให้ตายเถอะ...

เขาจะบ้าตายจริงๆ แล้วนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2020 20:31:48 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :katai2-1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คุณนุ่มเบอร์ห้า...อ่อย   :z1: :z1:

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตบะแตกแน่

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
อยากน้วยกับน้องบ้าง

ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :a5: RIP คุณนุ่มเบอร์ห้าล่วงหน้าเลยค่ะ

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 8




ท้องฟ้าในตอนเช้านี่มันก็สวยดีเหมือนกัน

อัลฟ่าหนุ่มในสภาพใส่เพียงแต่กางเกงนอนตัวเดียวนั่งพิงหัวเตียงเหม่อมองวิวนอกหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าเริ่มส่องไล่เข้ามาจนถึงขอบเตียง ใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะตวัดตามองร่างเล็กที่เกยอยู่บนตัว

กว่าจะสงบก็เช้าจนได้
 
ตะนิดอยู่ในสภาพชุดนอนลายกระต่ายครบเซท ไม่มีชิ้นไหนที่หลุดไปจากร่างกาย มีแต่เขานั่นแหละที่โดนมือเล็กจับถอดเสื้อแล้วไล่เอาหน้ามาถูไถ นิ้วเรียวจิกลากไปตามผิวหนังเขาจนเป็นรอยถลอก ขมเขี้ยวเล็กๆ นั่นก็กัดระบายอารมณ์ตามเนินไหล่เขาไปทั่ว ถึงแม้จะเสื้อผ้าอยู่ครบแต่ภาสก็สัมผัสได้เลยว่าช่วงล่างของเจ้าแมวน่ะเปียกเลอะเทอะไปหมด


สุดท้ายเขาก็ไม่ได้จับตะนิดฉีดยาและไม่ได้แตะต้องอะไรเกินเลยไปมากกว่าเมื่อวาน
เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ ให้เจ้าแมวนัวเนียยันเช้า


แทบจะเป็นครั้งแรกที่ถูกโอเมก้ามานัวเนียแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรเกินเลยและคงเป็นครั้งแรกที่เขาปล่อยให้ตัวเองถูกลวนลามโดยไม่มีแม้แต่การปกป้องตัวเองหรือสู้กลับ


ภาสกดจมูกลงกับกลุ่มผมนิ่มเพื่อสูดกลิ่นแป้งเด็กเข้าปอด เขาน่ะอยากลุกออกไปสูบบุหรี่มาสักพักแล้ว แต่เพราะเจ้าแมวน้อยบนตักบทจะคึกก็กระหน่ำสะโพกไม่หยุดบทจะหลับก็กรนน้ำลายยืดคาอก ไม่ปล่อยช่องว่างให้เขาได้ลุกไปไหน


ตะนิดน่าจะฮีทหนักอีกประมาณสามสี่วัน ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันไม่ดีแน่
เป็นแค่ลูกแมวบื้อแท้ๆ ไหงพอฮีทถึงกลายเป็นแมวยั่วขนาดนั้นไปได้

สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นไล่หาเบอร์ใครสักคนที่จะสามารถช่วยเขาในสถานการณ์นี้ได้


“วินเซนต์”
[เจ็ดโมงเช้า?] ยังไม่ทันได้พูดอะไรดี ปลายสายก็ถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก [ประสาทหรอภาส]
“มีเรื่องจะขอให้ช่วย”
[ด่วนมากขนาดนั้น?]
“ด่วน แต่ไม่ได้ขอให้มึงช่วย”
[อะไรของมึง]
“มาหาที่คอนโดหน่อย พาลี่มาด้วย”
[ลามปามนะภาส] เสียงทุ้มกดต่ำด้วยความไม่พอใจกว่าเดิมเมื่อชื่อโอเมก้าคู่ชีวิตของตนถูกเอ่ยออกมาจากปากอัลฟ่าคนอื่น
“เออ ไม่ต้องหึง กูมีเรื่องจะรบกวน”
[เรื่องอะไร]
“แมว”
[ห๊ะ?]
“แมวดื้อมาก รับมือไม่ไหว”
[แมวเนี่ยนะ?] ภาสเหลือบตามองเจ้าแมวที่นอนกรนอยู่บนอก
“อืม แมว”
[... เออๆ เดี๋ยวเข้าไปสักทุ่มสองทุ่ม เมื่อวานลี่วิจัยกับเพื่อนจนดึก กูปล่อยให้น้องนอนก่อน]
“ไม่ได้”
[อะไรไม่ได้]
“สายขนาดนั้นไม่ได้ แมวกูดื้อมาก เดี๋ยวตื่นมาดื้อต่อ” กลิ่นแป้งที่ฟุ้งอยู่เป็นสัญญาณว่าเจ้าแมวน้อยยังไม่หายฮีท ซึ่งมีสิทธิ์สูงมากที่จะตื่นมาแล้วดื้อต่อทันที ด้วยวัยสามสิบกว่าของเขา ให้มารับมือกับเจ้าแมวดื้อแบบนี้เรื่อยๆ โดยไม่หลับไม่นอน เขาเองอาจจะฝ่ายสลบไปเสียก่อน



ไม่ได้หรอก เสียเชิงหมด
สมัยมหาลัยเขานี่ยันหว่างอยู่ตลอดนะ!



[เร็วสุดเที่ยง]
“เออ เที่ยงก็เที่ยง มึงซื้ออาหารเข้ามาด้วย พวกอาหารอิตาเลี่ยนก็ได้”
[อะไรของมึงเนี่ยภาส]
“แมวนอนอยู่บนตัว ไม่กล้าขยับ เดี๋ยวตื่นมาดื้อ”
[เออๆ แค่นี้]


เมื่อสายตัดไป ภาสก็วางมือถือลงกับโต๊ะข้างเตียง เขารู้สภาพเลยว่าการกึ่งนั่งกึ่งนอนแบบนี้โดยมีอะไรหนักๆ ทับ เดี๋ยวจะต้องปวดหลังแล้วก็ปวดเมื่อยตามตัวตามมาอย่างแน่นอน


ช่วยไม่ได้...

จะเหนื่อย จะลำบากร่างแค่ไหนแต่สุดท้ายเขาเองที่เป็นฝ่ายเต็มใจให้มันเกิด


มันน่าหงุดหงิดเมื่อแค่คิดว่าเจ้าแมวไปดื้อแบบนี้กับคนอื่น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนร้อนหัว ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครแตะ ไม่อยากให้หน้าไหนมาแย่งที่ตรงนี้ไป อยากให้แมวดื้อกับเขาแค่คนเดียว


ทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกลับหวงได้ขนาดนี้
ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคู่แห่งโชคชะตาอย่างเดียวหรือมีความรู้สึกอื่นผสม


“อือ คณิต... แพนเค้กกู ไอ้หน้าไข่ควาย” ลูกแมวขมวดคิ้วละเมอออกมา ภาสมองคิ้วที่ขมวดนั่นก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปมให้มันคลาย ขนาดนอนก็ยังจะขมวดคิ้วทำหน้าดื้อ
“เธอนอนอยู่บนตัวฉันแต่ละเมอถึงคนอื่น มันน่าหงุดหงิดนะ”
“อื้อ”
“ดื้อ” ภาสเลื่อนนิ้วชี้ลงมาจิ้มแก้มโมจิแต้มสีชมพูนั่นเบาๆ   
“พี่ภาส”
“...!” นิ้วชี้ชะงักกึ้กเมื่อชื่อตัวเองถูกเอ่ยออกมา


ตื่นแล้ว?


“พี่ภาส... คณิตแกล้งนิด แพนเค้ก แจ๊บๆ” ปากเล็กขยับเคี้ยวน้ำลายพร้อมกับครางอืออาด้วยความหงุดหงิดแฝดพี่ในความฝัน ภาสที่ชะงักนิ่งไปยกยิ้มเบาๆ
“ฉันต่อยให้ไหม อยากทำมาสักพักแล้ว” พูดจบก็หัวเราะในลำคอออกมาเอง เขาไม่คิดว่าตัวเองจะเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรอัลฟ่าแฝดพี่นั่นนักหรอกแต่ให้บอกตรงๆ ก็เหม็นขี้หน้าอยู่พอสมควร


เวลาเห็นหน้าแมวดื้อในร่างหมีแถมทำหน้ากวนตีนตลอดเวลา มันก็พานทำให้หงุดหงิด อย่างน้อยๆ ก็ช่วยกวนตีนด้วยหน้าที่ไม่เหมือนกันหน่อยไม่ได้หรือไง อยากจะใส่หน้านั่นด้วยหมัดแค่ไหนก็ทำไม่ลง


จะว่าไปไอ้ชายนี่ยิ่งชอบหาโอกาสมาทำคะแนนกับแมวเจ้าแมวดื้ออยู่
ลองแกล้งๆ จับคู่กับแฝดพี่เสียดีไหม จะได้กำจัดตัววุ่นวายออกไปพร้อมกันทีเดียว


“พี่ภาส”
“...” อัลฟ่าหนุ่มชะงักตัวอีกรอบเมื่อโดนเรียกชื่อ


พอมองลงก็เห็นว่าเจ้าแมวน้อยปรือตามองอยู่ เขารีบยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าแมวไปมากล่อมให้หลับ ตะนิดขมวดคิ้วเหมือนจะตื่นขึ้นมาดื้ออีกครั้ง แต่ด้วยความเหนื่อยสะสมกับการลูบหัวเบาๆ เป็นจังหวะ ตากลมจึงหลับลงอีกครั้ง พอมั่นใจว่าร่างเล็กหลับสนิทไปอีกรอบ ภาสก็ถอนหายใจออกมา



เที่ยงสักทีเถอะ ได้โปรด...


.
.
.




“กลิ่นโอเมก้าแรงอยู่นะภาส” เสียงทุ้มของแขกคนใหม่ของห้องเอ่ยขึ้นแทนคำทักทายทันทีที่อีกฝ่ายเห็นเขาเดินลงมาจากชั้นสอง ตอนเพื่อนเขากดกริ่งเทเลคอมนั่นถึงเสียงติ๊งจะไม่ดังมากแต่ก็ทำเอาเจ้าแมวขมวดคิ้วอยู่ ลำบากเขาต้องรีบกดเปิดเปิดประตูห้องพร้อมกับรีบย้ายตะนิดออกจากตัวไปนอนดีๆ ใช้เวลาอยู่นานในการแงะร่างเจ้าแมวออกโดยที่อีกฝ่ายไม่ตื่นขึ้น
“พี่ภาส สวัสดีครับ” โอเมก้าร่างสมส่วนคู่พันธะของวินเซนต์ยกมือขึ้นไหว้ ภาสหันไปพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเลี่ยงตัวเข้าไปที่ครัวเพื่อหยิบน้ำเปล่ามาดื่ม
“อา ปวดคอชะมัด” ภาสบิดคอไปมาไล่ความเมื่อยขบ
“แมวที่มึงว่านี่ไม่ใช่แมวที่เป็นสัตว์ใช่ไหม”
“เออ”
“อย่างมึงเนี่ยนะหิ้วโอเมก้าขึ้นห้อง” วินเซนต์ขมวดคิ้วงง


เขา ชายและภาสเป็นรูมเมทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปียังไม่เคยเห็นว่าไอ้แว่นหน้าดุนี่จะเคยหิ้วใครเข้าห้องมาก่อน อาจเพราะว่าภาสเป็นพวกหวงอาณาเขตและต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนใหญ่ถ้าไม่กลับห้องคนเดียวก็ไม่กลับเลยเสียมากกว่า


“ไม่ได้หิ้ว”
“...”
“กูอุ้ม”

 ภาสกระแทกตัวลงกับเก้าอี้พร้อมกับเกาหัวตัวเองด้วยความเครียด เขาเริ่มง่วงขึ้นมานิดหน่อยแต่ก็ยังนอนไม่ได้เพราะอีกสักพักเจ้าแมวดื้อก็น่าจะตื่น พอคิดได้ว่าเดี๋ยวเจ้าแมวจะตื่นมาวุ่นวายต่อ เขาก็ลุกไปหยิบยากันรัทอีกหลอดมาฉีดกันไว้

“แล้วนี่มึงให้ลี่มาด้วยทำไม” วินเซนต์เอ่ยถามงงๆ
“อยากให้ช่วยหน่อย”
“ห๊ะ”
“ลี่ทำพันธะแล้ว แถมยังไม่กระทบอะไรกับกลิ่นฟีโรโมนโอเมก้าด้วยกันเอง”
“แล้วเกี่ยวอะไร”
“กูไม่เคยดูแลโอเมก้าตอนฮีท ไม่รู้จะทำยังไง นี่กูนั่งสมาธิมาทั้งคืนแล้ววิน” ภาสยกมือขึ้นนวดขมับ
“นั่งสมาธิ? นี่มึงยัง...”
“เออ”
“ฮีทแรก?”
“ไม่ใช่นะ”
“อ้าว แล้วทำไม...”
“คู่โชคชะตาหรอพี่ภาส” โอเมก้าหนุ่มที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น วินเซนต์ตวัดสายตามองคู่พันธะตัวเองก่อนจะหันกลับมาหาเพื่อนสนิทตนด้วยใบหน้าตกใจ
“มึงเจอคู่แห่งโชคชะตาหรอภาส!!”
“เออ” ภาสตอบอย่างเหนื่อยใจ “แล้วเรารู้ได้ยังไงลี่”
“ดะ เดาครับ ก็พี่ภาสดูไม่น่าใช่คนจะมาดูแลใครเลยอ่ะ จู่ๆ มาดูแลมาทนขนาดนี้ก็คงจะมีอะไรพิเศษ” ลี่เกาแก้มตัวแกร่กๆ


จริงๆ เขาก็อยากพูดอยู่หรอกว่าปกติพี่ภาสน่ะดุสุดๆ เป็นเพื่อนพี่วินที่เขาไม่อยากอยู่ด้วยมากที่สุดแล้ว พูดก็เสียงดุ มองก็สายตาดุ ขนาดหายใจยังดูดุเลย ไอ้ที่จะมาโอ๋หรือดูแลใครนี่คิดภาพไม่ออก แต่กระทืบหรือดุจนร้องไห้น่าจะเห็นภาพชัดกว่า


...ว่าแต่ครั้งแรกเลยเหมือนกัน
ที่เขาเห็นพี่ภาสในมุมโทรมขนาดนี้ ชักอยากจะเห็นหน้าโอเมก้าผู้โชคร้ายคนนั้นขึ้นมาแล้ว

“ก็ตามนั้นแหละ”
“ลี่ไปดูได้ไหมอ่ะ”
“ได้ จริงๆ อยากจะให้ช่วยเชคร่างกายเขาให้หน่อยด้วย” ภาสรู้ว่าไม่มีอะไรเสียหายหรอก แต่ไอ้จะให้เขาถอดหรือเปิดเสื้อผ้าอีกฝ่ายดูก็กลัวตัวเองจะเบรกไม่อยู่ ถามว่าหวงกับลี่ไหมเขาก็หวงนั่นแหละ แต่ก็น้อยกว่าหวงกับอัลฟ่าด้วยกันเยอะ อย่างน้อยมีโอเมก้าไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าแมวคงจะใจเย็นลงมากขึ้น
“กูอยากเห็นบ้าง”
“มึงนั่งลงวินเซนต์”
“ว้าว หวงจัง ไม่เหมือนภาสที่เคยล้อกูตอนหวงลี่เลย” วินเซนต์กระตุกยิ้มล้อพร้อมกับทำท่าเดินไปแถวบันไดขึ้นชั้นสอง เขาฟุดฟิดจมูกกวนประสาทเพื่อนหน้าดุ เอาจริงๆ เขาได้กลิ่นโอเมก้าชัดเจนแบบที่ไม่ต้องตั้งใจดมหรอก ทำท่าให้หมามันหวงไปงั้น   
“กูไม่ได้หวง”
“งั้น-”
“แต่ถ้ามึงกล้าเดินขึ้นบันไดนั่นเมื่อไหร่กูมั่นใจว่ากูเอามึงตายแน่วินเซนต์” ภาสตวัดตามองเพื่อนด้วยสายตาเอาจริง วินเซนต์รู้สึกเย็นวาบที่หลังเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นชูเป็นสัญญาณว่าเขายอมแพ้


ถึงจะเป็นอัลฟ่าเลือดแท้เหมือนกัน สรีระก็ใกล้เคียงกัน
แต่ถ้าเทียบเรื่องใช้กำลังแล้วเขาก็ห่างชั้นกับภาสอยู่หลายขุม


เขาเรียนการต่อสู้มาบ้างแต่ก็ไม่ใช่คนมีเรื่องบ่อย เรียกว่าเป็นพวกแน่นทฤษฏีมากกว่าปฏิบัติก็ว่าได้ ต่างจากภาสที่เรียนต่อสู้หลายรูปแบบแถมยังขยันใช้วิชาจนสมัยเรียนด้วยกัน ใบหน้าดุนั่นมักจะมีรอยช้ำรอยแตกอยู่บ่อยๆ


 ถึงพออายุเยอะขึ้นจะห่างหายจากการมีเรื่องลงไปมาก
 แต่เขาก็เชื่อว่าฝีมือมันก็ยังไม่ตกไปจากเดิมสักเท่าไหร่หรอก


“หวงจริงแฮะ แล้วนี่ไอ้ชายรู้หรือยัง”
“แล้ว”
“อ้อ งั้นแสดงว่ามีคนกวนตีนนำไปก่อนแล้ว”
“งั้นลี่ไปนะพี่” โอเมก้าที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พูดขึ้นขัด วินเซนต์ดึงร่างคู่พันธะของตนมาหอมหัวเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้น้องเดินขึ้นชั้นสองไป

ลี่เดินขึ้นชั้นสองพร้อมกับถอนหายใจ อยู่กับพี่ภาสนี่บรรยากาศน่าอึดอัดอยู่ทุกรอบจริงๆ อัลเมก้าหนุ่มชะงักหน้าประตูห้องนอนเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นฉุนฮีทลอยออกมาจากหลังบานประตู มือบางค่อยๆ เปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะเห็นว่าบนเตียงใหญ่นุ่มนิ่มสีขาวนั่นมีร่างเล็กๆ กำลังขดตัวอยู่

“ขออนุญาตนะครับ...”
“อื้อ” แมวน้อยบนเตียงเด้งหัวขึ้นมาจากกองผ้าห่ม ดวงตากลมปรือด้วยแรงอารมณ์พยายามหรี่มองว่าใครเข้ามา

ลี่ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าหวานจากกองผ้านั่นชัดๆ 

น่ารัก

น่ารักเฉยเลย !!!
นี่่น่ะหรอโอเมก้าของพี่ภาส!!!
เขาคิดว่าโอเมก้าของพี่ภาสจะต้องเป็นโอเมก้ากลิ่นอายเซ็กซี่ไม่ก็โอเมก้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอโอเมก้าเด็ก เขาว่าเขาก็ตัวเล็กแล้วนะ เด็กบนเตียงนี่ตัวเล็กกว่าเขาอีก สูงแตะร้อยหกสิบหรือเปล่าก็ไม่รู้ นี่พ้นสิบแปดหรือยังเนี่ย ตำรวจ! ตำรวจเท่านั้น!!!!

“ใคร...” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามพร้อมกับหยัดตัวขึ้นนั่ง เสื้อนอนที่ถูกปลดกระดุมไปเกือบครึ่งนั่นไหล่หลุดออกจากบ่าขาว
“เอ่อ พี่ชื่อลี่นะ เป็นโอเมก้าไม่ต้องกลัว”
“อื้อ” แมวน้อยขยี้ตาก่อนจะยกมือสองข้างขึ้นชู ลี่กะพริบตาปริบๆ มองท่านั่น

ห๊ะ?
ให้อุ้มหรอ?

“เอ่อ...”
“มานี่” เสียงดื้อสั่งอย่างเอาแต่ใจลี่จึงเดินเข้าไปหาแบบงงๆ พอเข้าไปใกล้เตียงมือเล็กของแมวดื้อก็จับมือเขาก่อนจะดึงให้ลงไปนอนบนเตียง ลี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดีเจ้าแมวน้อยก็ขยับตัวขึ้นนั่งทับเขา

“เอ่อ น้อง...”
“คุณนุ่ม”
“ครับ?” งงอีกไปอีกรอบ อะไรคือคุณนุ่ม?
“จุ๊บแบบเมื่อวานได้ไหม”
“ห๊ะ”
“นิดชอบนะพี่ภาส”
“เดี๋ยวๆ พี่ไม่ใช่พี่ภาส เห้ยๆ”

ลี่กำลังจะอ้าปากโวยวายแต่ก็ไม่ทัน เจ้าแมวดื้อก้มลงกัดปากล่างเขาก่อนจะสอดลิ้นเข้ามา ลี่จิกบ่าร่างบนตัวแน่นด้วยความตกใจแต่สักพักพอสติเข้าร่างเขาก็ขมวดคิ้ว

จูบห่วยมาก
จั๊กจี้เพดานปากไปหมดแล้ว

“อื้อ...” แมวดื้อขมวดคิ้วขัดใจเมื่อจูบไม่เห็นรู้สึกดีเหมือนเมื่อวาน

อยากได้จูบแบบเมื่อวาน
อยากได้นี่นา...

ระหว่างที่แมวน้อยกำลังขมวดคิ้วขัดใจ ตัดภาพไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามก็มีอัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วขัดใจ ภาสกอดอกมองตุ๊กตาฉลามตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มนิ่ม ส่วนวินเซนต์ที่กอดอกพิงกรอบประตูก็มองภาพนั้นอีกทีด้วยความไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

“วินเซนต์”
“หืม?”
“มึงเคยรำคาญตุ๊กตาไหม”

ห๊ะ?
วินเซนต์อุทานลั่นในใจกับคำถามจากเพื่อน นอกจากคำถามจะแปลกโคตรๆ แล้วยังทวีความแปลกไปอีกเมื่อมันหลุดออกมาจากปากอัลฟ่าที่ขึ้นชื่อเรื่องจริงจัง ดุและน่ากลัวอันดับต้นๆ ของมหาลัย

“เอ่อ... ภาส มึงไหวป่ะ”
“...” ภาสไม่ตอบแต่คว้าตุ๊กตาฉลามโง่ๆ นั่นขึ้นมาฟาดกับเตียง ลากไปฟาดผนัง จับปาลงพื้นแล้วกระทืบไม่ยั้ง

น่าประทับใจที่ผ้าดีกว่าคิด กระทืบแทบตายไส้ยังไม่แตก แถมไอ้หน้าปลาฉลามนี่ยังแหกฟันยิ้มเหมือนกวนตีนเขาอีก ภาสหายใจหอบเหนื่อยก่อนจะหยิบฉลามโง่นั่นขึ้นมาดม

... กลิ่นแป้งเจือกลิ่นพีชชัดเจน
ถึงว่าสิถึงผ่านการคัดเลือกจากผู้ท้าชิงน้องนุ่มอีกร้อยตัวมาได้

วินเซนต์หรี่ตามองเพื่อนด้วยความไม่เข้าใจถึงขีดสุด เดียวก็กระทืบฉลามเดี๋ยวก็คว้าขึ้นมาดมแล้วก็ยิ้ม อะไรของมันวะเนี่ย นี่เขาควรโทรหาไอ้ชายเพื่อปรึกษาเรื่องนี้หน่อยดีไหม ดูท่าทางจะอาการหนัก 

“ถ้ากูเอามันไปฆ่า แมวจะโกรธไหมวะ”
“...”
“โยนลงตึกแม่งดีไหม ไม่ดิ เดี๋ยวแมวลงไปเอาแล้วกูต้องเอาไปซักอีก”
“...”
“ไส้แตกกูก็ต้องเอาไปเย็บสินะ”
“...”
“กูจะฆ่ามันยังไงดีวะวินเซนต์”
“เอ่อ...”

ฆ่า...
ใช้คำเสียน่ากลัว แต่ดันเสือกใช้กับตุ๊กตาปลาฉลามโง่ๆ เนี่ยนะ วินเซนต์เอียงคอมองเพื่อนพร้อมกับหยิกแขนตัวเองไปด้วยเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป

“พี่วินช่วยด้วย!!!!”

เสียงตะโกนลั่นดังมาจากฝั่งตรงข้าม วินเซนต์ถลึงตาก่อนจะรีบพุ่งตัวไปตามเสียงร้องของคู่พันธะ ภาสเองก็ขมวดคิ้วออกตัวตามไปทันทีด้วยความร้อนใจ เมื่อประตูถูกกระชากภาพตรงหน้าก็ปรากฏ

แมวน้อยตัวบางแสนจะดื้อของภาสกำลังยกตัวขย่มร่างของลี่อยู่ด้วยแรงอารมณ์ไม่ต่างจากเมื่อวาน แต่ด้วยความที่สรีระของลี่ที่เป็นโอเมก้านั่นบอบบางไม่ได้อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเหมือนอัลฟ่า พอต้องมารับแรงและน้ำหนักจากคนที่ตัวขนาดใกล้เคียงกัน

... ผลถึงออกมาเป็น

 โอเมก้าผู้น่าสงสารหน้าเขียวด้วยความจุกหน้าท้องและจุดซ่อนเร้น

“ตะนิด!!!” ภาสพุ่งตัวเข้าไปดึงเจ้าแมวออกมาทันที ส่วนวินเซนต์เองก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการของคู่พันธะ
“ลี่!!!”
“พี่ภาสสสสสส” ท่ามกลางความตึงเครียด แมวน้อยผู้ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรตวัดแขนขึ้นกอดคอเจ้าของกลิ่นลาเวนเดอร์ที่แสนจะคิดถึง จมูกเล็กจิ้มๆ ถูๆ ที่ลำคออัลฟ่าหนุ่มสูดดมกลิ่นเข้าปอดให้พอใจ
“ซี้ด...”
“ลุกไหวไหมลี่”
“มะ ไม่ไหว จุก จุกมาก น้องตัวหนัก” ลี่กุมหน้าท้องตัวเองพร้อมกับขดตัวงอ ใบหน้าสวยซีดเซียวแสดงอาการเจ็บออกมาชัดเจนจนวินเซนต์ลอบถอนหายใจ ถึงลี่จะไม่ใช่โอเมก้าตัวบางขนาดลูกแมวของภาสแต่ก็ไม่ได้กล้ามเนื้อเยอะพอที่จะรับน้ำหนักทั้งตัวของโอเมก้าได้

... แถมดันกระแทกลงเสียตรงจุดเสียด้วย
ลี่น้อยก็ยิ่งเล็กๆ อยู่

ตอนนั้นเองที่ลี่จู่ๆ ก็ตัวสั่นเมื่อได้กลิ่นฟีโรโมนข่มขู่บางๆ มาจากฝั่งปลายเตียง โอเมก้าหนุ่มขดตัวเข้าหาอ้อมอกอัลฟ่าคู่ชีวิตทันที

“ลี่ลุกไม่ได้ มึงแก้ปัญหาด้วยการไปห้องนู้นเองเลย ไม่ต้องมายืนแผ่ฟีโรโมนขู่” วินเซนต์ตวัดตามองภาสด้วยความไม่พอใจ
“...” ภาสดุ้นลิ้นกับกระพุ้งแก้มพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดคลายอารมณ์ขุ่นมัวในใจ
“ไม่ขู่นะ นิดตีนะ”

ผัวะ!!!
แก๊ก...
วินเซนต์สะดุ้งเฮือกมองโอเมก้าตัวน้อยในอ้อมกอดของภาสที่เพิ่งกระทำการอุกอาจตวัดมือฟาดหัวเพื่อนเขาโยกจนแว่นตกพื้น ภาสเองก็ได้แต่กะพริบตางง ตั้งตัวไม่ทันว่าจะโดนหมัดแมวฟาดเข้าให้แรงขนาดนี้ แมวน้อยยืดคอขึ้นงับคางกลิ่นลาเวนเดอร์เป็นการลงโทษเพิ่ม

ภาสถอนหายใจยาวก่อนจะกระชับก้นนิ่มในอุ้งมือให้แน่นแล้วพาก้อนดื้อกลับเข้าห้องตัวเอง พอเปิดประตูเข้าห้องมาเขาก็จัดการโยนก้อนดื้อลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยน้องนุ่ม

ตะนิดที่หน้าปักเข้าให้น้องนุ่มครางอืออาขัดใจเล็กน้อย แขนเล็กยันตัวขึ้นนั่งสอดส่องสายตาไปมา สุดท้ายก็คว้าคุณนุ่มเบอร์ห้ามาวางก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งทับ ดวงตาฉ่ำปรือตวัดมองคุณนุ่มพร้อมกับขยับสะโพกเสียดสีตัวเองไปมาแบบที่เคยทำปกติเวลาฮีท

“...” ภาสถอนหายใจยาวเหยียด เขาลุกไปหยิบเก้าอี้มุมห้องมานั่งมองเจ้าแมวเล่นกับตัวเอง

ให้ตายเถอะ...
นี่เขาต้องมานั่งเฝ้าคนช่วยตัวเองเนี่ยนะ

“ภาสกูพาลี่กลับก่อนนะ” เสียงดังมาจากหน้าประตูเรียกภาสให้หันไปมอง
“อือ”
“พี่ภาส ถ้าจะไม่ทำอะไรก็ฉีดยาให้น้องเถอะครับ ไม่งั้นมันทรมานมากนะพี่”
“...”
“แล้วอย่าลืมให้น้องกินข้าวด้วยนะครับ”
“...”
“อ้อ... ซื้อปลอกคอแบบเหนียวกว่านี้ดีกว่านะครับ มันจะขาดแล้ว เดี๋ยวให้พี่วินส่งชื่อแบรนด์ให้ พี่วินก็ชอบกัดปลอกคอ”   
“อืม”

ภาสตอบกลับไปสั้นๆ เขาได้ยินเสียงคนเดินลงบันไดไปก่อนจะตามด้วยเสียงสัญญาณปิดประตูห้อง เขาหันกลับมาดูเจ้าแมวดื้อที่ยังคงเสยสะโพกไม่ยั้งใส่คุณนุ่มเบอร์ห้า

พอลี่พูดถึงกินข้าวเขาก็เพิ่งนึกออกว่าตั้งแต่เช้าเจ้าแมวดื้อก็ยังไม่ได้แตะข้าวเล็กสักเม็ด ทั้งๆ ที่ดูจะเป็นพวกกินจุ แถมเมื่อวานดื้อหนักขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่หิว

อาการฮีทนี่มันดึงความสนใจทุกอย่างไปหมดแม้กระทั่งความหิวงั้นหรอ
ดูท่าทางจะอันตรายอยู่เหมือนกันนะ...

เขาสืบเท้าเข้าไปที่กระเป๋าลายคิตตี้บนโต๊ะข้างหัวเตียงเพื่อหยิบเข็มฉีดยาระงับฮีทออกมาก่อนจะเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม ดวงตาคมที่ไร้แว่นคู่ใจตวัดตามองก่อนแมวดื้อ

“ตะนิด”
“หื้อ”
“มานั่งนี่” ภาสตบตักตัวเองสองที เจ้าแมวน้อยก็ลุกขึ้นจากคุณนุ่มเบอร์ห้าเดินโซเซขึ้นมาปีนตักเขา ใบหน้าอ้อนเอนซบกับอกแกร่งจนแก้มเบียดเป็นก้อน
“พี่ภาส”
“แมวดื้อ”
“ไม่ดื้อ”
“กอดคอฉันไว้”
“อื้อ” แมวน้อยตวัดแขนเล็กๆ ขึ้นโอบคอแกร่ง จมูกเล็กๆ ซุกไปตามบ่าแกร่งสลับกับงับเล่นๆ

ภาสอาศัยโอกาสที่เจ้าแมวดื้อกำลังเคลิ้มๆ ใช้มือซ้ายกดหัวเล็กลงกับบ่าตัวเองพร้อมกับจิ้มเข็มไปเบาๆ ตรงสะโพกกลม แมวดื้อสะดุ้งเฮือกอ้าปากงับเขาเข้าให้อย่างแรงจนรู้สึกได้ว่าเข้าเนื้อและสงสัยจะได้เลือด ภาสมองตัวยาที่ค่อยๆ ลดลงจนหมดเข็ม แรงกัดบนบ่าถึงค่อยคลายลงจนในที่สุดหัวทุยนั่นก็ทิ้งตัวหมดแรง

หลับไปแล้ว...
 
อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจยาวพร้อมกับซุกจมูกลงกลุ่มผมฟู

จะคู่แห่งโชคชะตาหรือจะอะไรก็ตาม
แต่แมวดื้อนี่ ไม่ดีต่อหัวใจเขาเอาเสียเลย...


ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
พี่ภาสจะแพ้คุณนุ่มของน้องไม่ได้นะ

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องงงงงงงง หายฮีทเร็วๆคับ

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เขียนดีมาก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คุณนุ่มหนีไป~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ อิ๊อ๊ะชะเอิงเอย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
คุณนุ่มเบอร์ห้าผิดอะไร๊ พี่ภาสไม่น่ารักป่าว

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องลี่โดนแกง...งงงงงงงงง  :laugh:

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารลี่เหมือนโดนหลอกมาแกง สนุกมากๆค่ะยัยหนูตะนิดถ้าหายฮีทจะเป็นยังไงนะ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่ภาสใจร้ายยย คุณนุ่มเบอร์ห้าผิดอารัยยย  :hao7:

ไม่เจอเคยโอเมก้า ที่ฮีทได้น่ารัก น่าแกล้ง อ้อนยั่ว น่าขยี้แบบนี้มาก่อน งื้ดด อยากบีบก้อนแมวดื้อ  :hao5:

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2020 14:11:53 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
โถ..อาฆาตกับเบอร์5 :jul3:

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 9


 
... หิวจัง
... ปวดตัวด้วย

ตะนิดค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงอาการแปลกๆ ต้อนรับในยามเช้า ก้อนแก้มที่แนบอยู่กับหมอนใบใหญ่ถูไถรับสัมผัสนุ่มนิ่ม ใบหน้าดื้อขมวดคิ้วอย่างขัดใจ

หิวมาก แต่ก็ปวดตัวไม่อยากจะลุกไปไหน
คำถามคือทำไมเขาถึงหิวขนาดนี้ แล้วทำไมเขาถึงปวดตัวขนาดนี้ โดยเฉพาะสะโพกรู้สึกหน่วงชะมัด หรือลุงโรคจิตนั่นแอบเตะเขาตอนนอนกัน ใจร้าย นี่คนนะไม่ใช่ลูกตะกร้อ!!!

ดวงตากลมกะพริบถี่มองวัตถุที่นอนแนบอยู่ตรงหน้า เจ้าปลาฉลามตัวบิ๊กเบิ้มโค้ดเนมคุณนุ่มเบอร์ห้ากำลังส่งยิ้มหล่อมาให้เขา มือเล็กคว้าน้องเขามากอด

อือ...
คุณนุ่มเบอร์ห้าตัวนุ่มขึ้นหรือเปล่านะ

หมับ

อ๊ะ!!!!
ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ ก็มีแขนปริศนาโอบมาที่เอว ก่อนจะตามมาด้วยลมหายใจร้อนๆ แถวหลังคอ

อะไร!!!  อะไร!!!!!!
ผีหรอ!!! ผีใช่ไหม!!!!!!!

ดวงตากลมสอดสองเลิ่กลั่ก เนี่ยหรอคือผีอำที่ว่า ตายเพราะมะเร็งแน่นอน ลมหายใจเหม็นบุหรี่ขนาดนี้ หนอย ไม่รักสุขภาพจนตายแล้วยังมาหลอกชาวบ้านกันอีก ผีเวร... เอ้ย คุณผีนิสัยไม่ดี ตะนิดรีบแก้คำด่าในใจทันทีกลัวว่าคุณผีจะแองกรี้แล้วอำหนักกว่าเดิม

“อ๊ะ...” ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ มือของผีมะเร็งก็เลื่อนไปแถวพุงกะทิของเขาก่อนจะสอดเข้าไปลูบสัมผัสเนื้อพุงเขาอย่างถือวิสาสะ มือเล็กตวัดกำคุณนุ่มเบอร์ห้าแน่นด้วยความกลัว

นอกจากเป็นมะเร็งแล้วยังลามกด้วยหรอ!!
มาลูบพุงกันแบบนี้ได้ยัง!!!
คณิตอยู่ไหน!!!!   

มือใหญ่ของผีมะเร็งเลื่อนลูบเบาๆ เป็นวงกลมก่อนจะแปะไว้นิ่งๆ ความอุ่นร้องของมือทำเอาตะนิดต้องกะพริบตาถี่

รู้สึกดีจัง...
รู้สึกปลอดภัย...

ว่าแต่

ผีอะไรมืออุ่น!!!!!
แมวดื้อถลึงตาโตรีบผุดตัวขึ้นนั่งก่อนจะตวัดตากลมมองเจ้าของร่างผีมะเร็ง ซึ่งก็ตรงตามที่คาดไว้ ใบหน้าดุใต้กรอบแว่นนั่นจ้องกลับมาที่เขาแถมยังกระตุกยิ้มกวนประสาทอีกต่างหาก 

เสี่ยโรคจิต!!!!!
โรคจิตจริงๆ ด้วย มาลูบพุงชาวบ้านตอนนอน!!!

“เสี่ยโรคจิต!!!!!!”
“ตะนิด ฉันบอกว่ายังไง”
“อันนี้ห้ามดุนะ ก็โรคจิตจริงๆ มาลูบพุงชาวบ้านได้ยังไง” ตะนิดยกแขนสองข้างขึ้นปกป้องพุงน้อยตัวเองพร้อมกับแยกเขี้ยวขู่  ภาสชันแขนขึ้นวางหัวมองแมวดื้อ ด้วยความเหนื่อยใจ

พอหายฮีทก็ดื้อตั้งแต่ตื่นเลย
พุงนั่นจะหวงอะไร เมื่อวานอ้อนให้เขาจับมากกว่านี้อีก

“หิวไหม”
“หิวมาก เอ้ย เปลี่ยนเรื่องนี่!!!” เสียงเล็กโวยวายลั่นห้องจนภาสต้องหรี่ตา

ตอนฮีทกับไม่ฮีทนี่คนละเรื่องเลยจริงๆ
คิดผิดคิดถูกที่ฉีดยาให้เนี่ย...

“ฉันสั่งข้าวมา มีกุ้งเผาด้วย แต่ต้องอุ่นหน่อยนะ”
“กะ กุ้งเผาหรอ” ภาสขมวดคิ้วมองแมวน้อยที่เหมือนจะน้ำลายย้อย เสียงท้องร้องครืดดังลั่นออกมาจากพุงกะทินั่น
“...”
“กู้งงงงงงงงงงงงง” แมวน้อยตวัดตัวเตรียมวิ่งลงไปกินกุ้งเผา แต่ทันทีที่เท้าแตะพื้น ร่างทั้งร่างก็แปะลงไปอยู่กับพื้น ตากลมกะพริบถี่ก่อนจะกลายเป็นเบะ “โอ๊ย... เจ็บ!”
“ตะนิด” ภาสรีบตวัดตัวลงจากเตียงมาดูเจ้าแมวดื้อที่จู่ๆ ก็วูบลงไปอยู่ที่พื้น
“ปะ ปวดเอว ต้นขาด้วย”
“ลุกไหวไหม”
“นี่ นี่ลุง... พะ พี่ภาสเตะหรอ เตะนี่หรอ หรือแอบกระทืบตอนนอนหรอ” ตะนิดอ้าปากพะงาบๆ
“นี่เราจำอะไรได้บ้างไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับมือใหญ่ที่สอดเข้าใต้บริเวณรักแร้ หิ้วคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนเตียง ส่วนตัวเองก็ย่อลงนั่งกับพื้น ตะนิดก้มมองหน้าดุนั่นก่อนจะกรอกตาไปมา

จำอะไรได้?
จำอะไรได้หรอ...

‘พี่ภาส’
‘คุณนุ่มเบอร์ห้า ถูคุณนุ่ม’
‘พี่ภาสไม่แกล้งนิด’

ตะนิดเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ เสียงตัวเองในความทรงจำก็แวบเข้ามา ภาพของน่าอายมากมายค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาในโสนประสาต ไม่ว่าจะเป็นที่เขาปีนตักคนตรงหน้า บดเบียดสะโพกตัวเอง แถมยังบอกความลับเรื่องคุณนุ่มเบอร์ห้าที่ไม่เคยบอกใครออกไปอีกต่างหาก

แล้วก็...

อ๊ะ...


“จะ จูบ”
“...”
“จูบพี่โอเมก้า”
“ห๊ะ?” ภาสอุทานลั่นพร้อมกับขมวดคิ้ว
“อ้ากกกกกกกกกกก จูบพี่โอเมก้าไปแล้ว นี่จูบพี่คนนั้นไปแล้วด้วย” ตะนิดกุมแก้มตัวเองด้วยความอับอาย ส่วนที่นั่งยองๆ ฟังอยู่ได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับรู้สึกเส้นเลือดแถวขมับกระตุก

จูบเลยงั้นสิ?
ไม่ใช่แค่พยายามไปถูเขาแต่ยังไปจูบด้วยงั้นหรอ

ภาสเงยหน้ามองเจ้าแมวดื้อที่ดื้อเกินกว่าที่เขาคิด เวลาฮีทนี่ไม่ได้สนใจอะไรเลยงั้นสินะ

ถ้าปล่อยไปฮีทที่อื่นจะไปอ้อนแบบนี้กับใครก็ได้งั้นหรอ

“หือ... พี่ภาส!!!” ตะนิดตะโกนลั่นพร้อมกับฟาดมือเข้าตบแก้มเขาสุดแรงจนหน้าหัน ดีที่คราวนี้แว่นบนหน้าเพียงแค่ขาขยับหลุดออกมาจากหูข้างหนึ่งไม่ได้กระเด็นตกไปเหมือนคราวที่แล้ว  ภาสตวัดหน้ากลับมาด้วยความงุนงงแต่ก็ต้องชะงักเพราะใบหน้าดื้อนั่นดูตื่นกลัวขึ้นเล็กน้อย
“...”
“พี่ภาสไม่ปล่อยฟีโรโมนนะ”
“โทษที”
“ไม่ชอบ”
“เออ ไม่ชอบเหมือนกัน” ภาสใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มคลายอารมณ์ขุ่นมัว
“ไม่ชอบอะไร นี่ไม่ปล่อยฟีโรโมนไม่ได้นะ จะมาไม่ชอบอะไร” เสียงดื้อเอ่ยเถียงพร้อมกับยู่ยี่หน้า
“...” ภาสไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ยกมือขึ้นหนีบแก้มอ้วนนั่นเบาๆ 


ไม่ชอบทั้งหมดนั่นแหละ
ทั้งคุณนุ่มเบอร์ห้า ทั้งแฝดพี่ชายที่หน้าเหมือนไข่ควายนั่น ทั้งไอ้ชายที่ได้เจอแมวดื้อก่อนเขา ทั้งใครก็ตามที่มาใกล้แมวดื้อตรงหน้า
หวงจนจะบ้าไปหมด คู่แห่งโชคชะตานี่มันส่งผลอะไรได้ขนาดนี้เลยงั้นหรอ

“อย่ามาบีบแก้มนะ!!!”
“ไปกินกุ้ง”
“... กินกุ้งๆ ” ปากเล็กที่กำลังจะโวยวายอ้าค้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเมื่อมีชื่ออาหารแสนโปรดของตัวเอง แต่เพียงแค่ตวัดขาลงเหยียบพื้น ความเจ็บจี๊ดก็แล่นแปร๊บขึ้นมาจนหน้าเบ้
“เดินไม่ได้เลยหรอ”
“กะ ก็ได้นะ แต่ลงบันไดไม่ไหวหรอก”
“จะให้อุ้มไหมหรือจะให้พยุง” ภาสเอ่ยถามแม้ความจริงทุกอย่างจะง่ายมากถ้าเขาแค่อุ้มคนตรงหน้าลงไปชั้นล่าง แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าถ้าอุ้มจะไปโดนจุดที่ปวดด้วยหรือเปล่า
“พะ พยุง ไม่อุ้ม”
“อืม” ภาสรับคำก่อนจะเหยียดตัวขึ้นยืน

เขาโอบร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืนส่วนมือเล็กก็ตวัดขึ้นจิกหลังเสื้อเขาเพื่อพยุงตัวเอง พอเห็นว่าแมวดื้อพยายามทำเก่งแม้จะเจ็บจนน้ำตาคลอ ภาสก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะออกแรงพยุงจนร่างเล็กแทบลอย มันก็เป็นการอุ้มกลายๆ ที่ดูทุลักทุเลกว่าการอุ้มปกติไปเยอะ

แต่อย่างว่า...
อย่างแมวดื้อน่ะ ไม่ยอมให้เขาอุ้มง่ายๆ หรอก
จนถึงตอนนี้ก็ยังโวยวายนู่นนี่กลบความอายที่ตัวเองฮีทอยู่เลย แต่เขาก็จะทำเป็นไม่รู้ให้ก็ได้หรอก เห็นแก่แก้มที่แดงจนแทบจะระเบิดนั่นแล้วกัน


พอลงมาถึงห้องครัว แมวดื้อก็ได้แต่นั่งเบ่งอกเหมือนเก่งแต่น้ำตาคลอ ขาเล็กสั่นพั่บๆ ด้วยความเจ็บแต่ก็ฮึบไว้
... คงกล้ามเนื้ออักเสบ
ใช้กล้ามเนื้อติดกันเป็นเวลาขนาดนั้นก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกที่จะปวดเอวปวดขา ภาสเดินไปหยิบกุ้งใส่ไมโครเวฟแล้วก็เอากลับมาวางให้ที่โต๊ะ

เขาเดินกลับเข้าห้องครัวไปหยิบถุงมาเผื่อเป็นขยะแล้วก็หยิบน้ำส้มติดมือมาด้วย พอกลับมาที่โต๊ะ แมวดื้อที่หงอยเพราะความปวดกล้ามเนื้อก็กลายร่างเป็นแมวโหย มือเล็กแกะกุ้งด้วยความเร็วสูง ปากเล็กขยับเคี้ยวจนแก้มยุ้ย

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว ไม่แปลกใจหรอกที่เจ้าแมวจะหิวขนาดนี้เพราะไม่ได้กินอะไรเกือบจะทั้งวัน เขาปลุกแมวดื้อขึ้นมาดื่มน้ำเต้าหู้ตอนประมาณบ่ายสาม ซึ่งเจ้าแมวก็ลุกมาแบบสลึมสลือ พอดื่มเสร็จก็น้วยกลับไปนอนต่อ

“ค่อยๆ กิน” ภาสเดินมาวางน้ำส้มไว้ข้างตัวแมวดื้อ แต่หน้าดื้อนั่นก็หันมาอ้าปากใส่
“หยิบแก้วให้หน่อยดิ มือนี่เปื้อน”
“ตะนิด”
“...”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น ใช้คำให้มันดีๆ” ภาสเอ่ยเสียงดุ
“หยะ หยิบแก้วให้หน่อยครับ มือ... มือเปื้อน”
“...”
“มือนิดเปื้อน” งึมงำในลำคอด้วยความกระดากปาก
พอเห็นว่าเจ้าแมวยอมทำตามที่ดุภาสก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้นแตะริมฝีปากเล็กให้ตามคำขอ แมวดื้อขยุบขยิบปากจิบน้ำส้มไปสองสามอึกก็ผละปากออกมากินกุ้งต่อ ภาสปล่อยให้แมวกินกุ้งต่อก่่อนจะเดินเข้าครัวไปหยิบข้าวออกมาอุ่นด้วยความกลัวว่าเจ้าแมวจะไม่อิ่ม ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด เจ้าแมวอ้วนรับข้าวไปกินกับกุ้งด้วยความเอ็นจอยอีตติ้งขั้นสูงสุด เคี้ยวหงับๆ จนแก้มอูม

หมดข้าวไปอีกสองถ้วยถึงจะอิ่ม
ตะนิดขยับตัวนั่งผึ่งพุงกลมที่ดันชุดนอนพร้อมกับเรอเอิ้อออกมาดังลั่นห้อง

“อิ่มจังงงง” ตะนิดตบพุงกลมตัวเองแปะๆ ถ้ากินอีกคำเขาว่าเขาน่าจะอ้วกแน่ๆ อิ่มจนเดินไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นเองที่มนุษย์แว่นหน้าดุเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ตะนิด”
“...”
“เวลาเราฮีทเนี่ย จำได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม”
“ห๊ะ!! ถามอะไรอ่ะ ไม่ตอบ บอกแล้วให้ไปคุยในชั้นศาล” ศาลเจ้า!!! ช่วยด้วย!!! เดี๋ยวเขาจะเอาน้ำแดงไปถวายเลย!!!
“ลี่ทำอะไรไว้บ้าง”
“ไม่ตอบ ขอเรียกทนาย”
“ทนาย?”
“เบิกตัวทนายคณิตได้ไหม”
“ตะนิด ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ลี่ทำอะไรไว้บ้าง”
“มะ ไม่ตอบ”
“ถ้าจำได้ก็น่าจะรู้ว่ามันไม่มีอะไรให้อายแล้ว” ภาสขยับแว่นพร้อมกับส่งสายตาดุ ตะนิดเม้มปากอย่างผู้แพ้ เขาไม่อยากจะพูดถึงเลยแท้ๆ

ครืด ครืด
ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามอะไร เสียงมือถือที่วางอยู่ในครัวของภาสก็ดังขึ้น ภาสจึงต้องผละตัวออกจากโต๊ะกินข้าวไปรับสาย ตะนิดมองแผ่นหลังใหญ่ที่เดินออกไปก่อนจะยกมือขึ้นพนม

สาธุ!!! ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เลยคุณเทพในห้อง!!!
พรุ่งนี้เดี๋ยวจะเอาน้ำแดงไปถวายแน่นอน!!!
 
ภาสหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นวินเซนต์ที่โทรเข้ามา ซึ่งดีมาก เขามีหลายอย่างที่จะต้องเคลียร์ด้วยเยอะเลย

“ฮัล-”
[ภาส แมวมึงนี่กูตีได้ไหม] ยังไม่ทันได้รับสายดี วินเซนต์ก็ยิ่งคำถามดักมาก่อนด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ เท่านั้นภาสก็รับรู้ได้ทันทีว่าฝั่งนั้นเองก็คงเพิ่งจะรู้เรื่องเหมือนกัน
“ไม่ได้”
[แม่งเอ๊ย]
“แต่เดี๋ยวกูตีให้”
[...]
“แล้วลี่ล่ะ กูตีได้ไหม” ภาสยิงคำถามกลับ ตาคมใต้กรอบแว่นตวัดขึ้นมองเจ้าแมวดื้อที่นั่งจ้องเขาตาแป๋วด้วยความสงสัยว่าคุยโทรศัพท์กับใคร
[กูตีไปหลายทีแล้วรายนั้น แต่ไม่เกี่ยวกับลี่นะ เท่าที่ฟังมา แมวมึงนั่นแหละเริ่ม ทั้งจูบก่อน ทั้งขย่มก่อน ดูแลแมวมึงให้ดีหน่อยแล้วกัน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ระวังจะแย่] เสียงวินเซนต์ติดทั้งเหนื่อยใจและขุ่นมัวเล็กน้อย
“อืม”
[กูหมายถึงมึงนะที่จะแย่ เห็นหวงๆ อยู่ นี่ถ้าน้องไปฮีทใส่ไอ้ชาย คง-]

ตี๊ด
ภาสตัดสายทิ้งด้วยความไม่อยากจะฟังคำพูดกวนอารมณ์ต่อ เขาเดินกลับเข้าไปใกล้ตะนิดก่อนจะยกนิ้วขึ้นดีดเหม่งใสนั่นไปหนึ่งป้าป

“โอ๊ยย อะไรเนี่ย มาดีดหัวทำไมมมมม เจ็บนะ!!!”
“ดื้อ”

อะไรของลุงเขา!!!!
ตะนิดกุมเหม่งตัวเองด้วยความไม่เข้าใจอารมณ์คนแก่(กว่า) มาดีดเหม่งเขาอย่างรุนแรงแล้วก็หยิบโทรศัพท์เดินไปคุยที่ระเบียง ตะนิดกันกลับมาเกาะโต๊ะด้วยความจุ๊ดจิ๊ดในใจ

เขาฮีท...
แต่ยังปลอดภัยดี...

น่าแปลกใจ เป็นคนย้ำเองแท้ๆ ไม่ใช่หรอว่าความสัมพันธ์เราตอนนี้ก็แค่เรื่องอย่างว่า ตามแบบ sia lok jit and handsome tanid with benefit ไม่ใช่ว่าไม่เตรียมใจหรอกก็แอบคิดอยู่เหมือนดันว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ปกติเวลาฮีทเขามักจะควบคุมร่างกายและสติตัวเองไม่ได้เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเองไปชั่วขณะ ถ้าอะไรมันจะเลยเถิดก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก

... แต่ก็ไม่คิดว่าลุงโรคจิตนั่นจะไม่ทำอะไรเลย
ก็แอบรู้สึกประทับใจนิดหนึ่งมั้ง นิดเดียว เท่านิ้วชี้กับนิ้วโป้งแตะกัน นิดเดียว!

“ตะนิด” เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก เสี่ยโรคจิตที่ตอนนี้เขาแอบบวกดาวประทับใจให้หนึ่งดวงเดินหน้าดุมานั่งฝั่งตรงข้าม
“อื้อ”
“ปกติเธอชอบทำอะไรตอนว่างๆ ” พอได้รับคำถามมาตะนิดก็เอียงคอนึกเล็กน้อย
“อืมมมมม... อยู่บ้านถ้าไม่เล่นเกมกับคณิตก็คงดูหนังอะไรไปเรื่อยมั้ง...ครับ” กระดากปากเล็กน้อยแต่ก็ลงท้ายคำไว้ก่อน กลัวโดนดุ แล้วสายตาคนเราอะไรมันจะดูดุได้ขนาดนั้นอ่ะ ตอนเด็กๆ ลุงเขามีเพื่อนคบไหมนะ ตะนิดได้แต่บ่นงุบงิบในใจ
“เกมอะไร”
“พวกโมบ้า”
“ใครบ้านะ?” ภาสขมวดคิ้วงง
“...”
“หรือเธอหมายถึงโมบายล์โฟน? เกมมือถือ? ”

สิ้นหวังแล้วป่ะ
ตะนิดขำแห้งในใจ แต่ก็แอบใกล้เคียง เขาก็เล่นในมือถือจริงๆ ถ้าอธิบายว่าตีป้อม ลุงตรงหน้าต้องคิดภาพเขาเล่นเกมนุ่งผ้าพันๆ ไปตีป้อมปราบศัตรูพ่ายแปะๆ แหง

“ก็ ประมาณนั้นแหละ...ครับ”
“จอเล็กขนาดนี้เล่นเกมจ้องเยอะๆ มันจะสายตาเสียเอาได้นะ”
“...” คนที่ไม่เล่นแต่ยังใส่แว่นนี่บ่นคนอื่นได้หรอ ตะนิดแอบบ่นคนตรงหน้าในใจ
“มีอย่างอื่นไหม”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เหงาไม่ใช่หรอ”
“...”
“เผื่ออยากหาอะไรทำ”

ตะนิดแอบรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเล็กน้อยกับการเอาใจใส่จากคนตรงหน้า แต่ที่เขาบอกแม่ว่าเหงาน่ะ เพราะเขาเป็นเด็กติดพี่ต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานอดิเรกหรือเกมเลย เขาโตมากับคณิตแบบที่ตัวติดกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง เล่นเกมเดียวกัน ดูหนังเรื่องเดียวกัน ใส่เสื้อผ้าสไตล์ใกล้เคียงกัน

ชีวิตเด็กแฝดอย่างผมมีเพื่อนติดตัวมาตั้งแต่เกิด พอต้องห่างกันมันเลยเหงาเป็นพิเศษ 
เหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตมันเป็นหลุมๆ เนี่ย แค่คิดก็โหวงแล้ว อยากกอดคณิต

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทเดียวกันกับคณิต ไม่เหงาแล้ว” ถึงจะขี้เกียจเริ่มชีวิตทำงานมากแค่ไหน แต่เขาเป็นนิสิตที่เพิ่งจบปีสี่มาหมาดๆ เตรียมรอรับปริญญา การเริ่มต้นชีวิตการทำงานเลยเป็นเหมือนขั้นบันไดที่บังคับให้ขึ้นกลายๆ
“ทำเกี่ยวกับอะไร”
“นิดยื่นทำกราฟฟิคไปนะแต่คณิตยื่นเกี่ยวกับเขียนโค้ดมั้ง ไม่แน่ใจว่ามันจะยื่นกราฟฟิคเหมือนกันไหม คณิตเก่งอ่ะ มันน่าจะได้อยู่แล้ว แต่นิดอ่ะลุ้นๆ อยู่ พอทำได้แต่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น”
“ของบริษัทอะไร”
“ครับ?” ตะนิดอุทานเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังโดนสัมภาษณ์งาน พอเขาตอบชื่อบริษัทไป คนตรงหน้าก็พนักหน้าเบาๆ
“แล้วงานเข้าทุกวันเลยไหม รายละเอียดยังไง” งงไปอีกรอบ แต่ตะนิดก็ตอบคำถามทุกคำถามที่อีกฝ่ายสงสัยเท่าที่ตัวเองรู้รายละเอียดมา

ภาสทำเพียงนั่งฟังเงียบๆ แล้วก็พยักหน้า เขาคิดว่าเจ้าแมวตรงหน้ายังเรียนมหาลัยอยู่จากการเห็นชุดนิสิตแขวนอยู่บนห้องนอน แต่ก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าตัวเรียนจบปีสี่แล้วเพียงแต่ยังไม่ได้รับปริญญา

ใต้หน้ากากนิ่งๆ ของอัลฟ่าหนุ่มแท้จริงแล้วเขาแอบเป็นห่วงคนตรงหน้าอยู่พอสมควร
แต่พอรู้ว่ามีแฝดพี่ห้อยตามไปเป็นวิญญาณอาฆาตก็วางใจได้เปราะหนึ่ง
อีกส่วนที่โล่งใจก็อาจจะเพราะว่าเป็นบริษัทเครือลูกของชาย อาจจะแวะไปสอดส่องหรือฝากคนรู้จักช่วยดูแลอีกแรงได้ แต่เขาคงติดต่อไปหลังรู้ว่าเจ้าแมวดื้อได้งานแล้ว ถ้าติดต่อไปก่อนก็กลัวว่าเขาอาจจะได้หมัดแมวย้อนหลังข้อหาไปยุ่งวุ่นวายใช้เส้นให้

ถามว่าใช้เส้นสายให้ได้ไหม เขาตอบเลยว่าได้และง่ายมาก
แต่เจ้าดื้อตรงหน้าคงจะภูมิใจกว่าถ้าได้ทำอะไรด้วยตัวเอง

“พี่ภาสล่ะ”
“หืม?”
“ก็ ก็ เราไม่รู้จักกันใช่ไหมอ่ะ ก็ อยากจะบอกอะไรไหมงี้ แบบ.. เอ่อ คือ นิดอ่ะ เอ้ย ผมอ่ะ อะไรดีน้า ผมชอบกินหมูกระทะมากกว่าชาบู พี่ภาสอ่ะ”
“ฉันชอบกลิ่นพีช”

ไม่ได้ไหม!!!
ตะนิดโวยวายลั่นในใจ ตากลมเลิ่กลั่กไปไม่ถูก เขาอุตส่าห์พูดเรื่องหมูกระทะไปนะ มันกลับมาพีชได้ยังไง!!

 ส่วนอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งมองอยู่กลับหัวเราะในลำคอ เขาไม่ได้ตั้งใจจะหยอกล้อออกไปหรอก แต่พอถูกถามกลับมาก็เลยตอบออกไปแบบไม่ทันคิด

เพราะตอนนี้เขาเริ่มถูกใจกลิ่นแป้งเด็กผสมกลิ่นพีชขึ้นมาแล้ว
หอมบริสุทธิ์แต่ก็มีความสดใสอมเปรี้ยว

“หะ หะ หาวววว หาวแล้ว หาวเลยเนี่ย หาวจริงๆ ง่วง พี่ภาส ง่วงแล้ว พาไปห้องหน่อย แปรงฟันนอนดีกว่า” เจ้าแมวดื้อเปลี่ยนเรื่องทันที พิรุธเยอะทั้งน้ำเสียงแล้วก็แต้มสีแดงจางๆ บนแก้ม เขาไม่ได้หยอกล้ออะไรออกไปเพียงแต่ขยับตัวไปช่วยพยุงเจ้าแมวดื้อ

“ซี้ด เจ็บ...” ภาสมองหน้าแมวดื้อที่ขมวดคิ้วมุ่ย ขาเล็กสั่นด้วยความปวดกล้ามเนื้อ เจ้าแมวแทบจะทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงมาที่เขา สุดท้ายก็ทนเห็นหน้าเจ็บปวดนั่นไม่ไหว เขาตัดสินใจย่อตัวลงจับแมวน้อยอุ้มขึ้นในท่าเหมือนอุ้มเจ้าสาว

ตามคาดว่าเจ้าแมวตะปบป้าปเข้าให้ที่หน้าเข้าด้วยใบหน้าตื่นๆ
ดีนะที่คาดเอาไว้แล้ว ถึงได้กะแรงกระชับที่ข้อพับขานั่นให้มั่นว่าจะไม่ทำตก

“อุ้มมันไวกว่า”
“พี่ภาส!!!”
“หยุดนะตะนิด” ภาสขมวดคิ้วดุเมื่อเห็นว่าแมวง้างมือขึ้นกลางอากาศ “เธอรู้ใช่ไหมว่าแรงตบเธอมันเยอะ”
“...” ตะนิดเม้มปากแน่น เขารู้อยู่แล้ว เพราะคณิตบ่นบ่อยมากกว่าเขาชอบตีคณิตแรง
ภาสปรายตามองแมวในอ้อมกอดที่หน้าแดงไปยันหูด้วยความเอ็นดูก่อนจะพาเดินขึ้นไปบนห้องนอน เขาตัดสินใจพาตะนิดเข้าไปในห้องของเขาเอง พอวางลงบนเตียงเจ้าแมวก็ทำการพยายามลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ภาสไม่ได้เข้าไปห้ามอะไร เพียงแต่เดินประกบไว้ใกล้ๆ กลัวว่าจะล้มแล้วปวดมากกว่าเดิม
แมวดื้อพอเดินได้แต่จะกะเผลกแล้วก็ช้ากว่าปกติ พอปวดมากๆ ก็จะหยุดเดิน หน้าดื้อนั่นยับยู่ยี่กว่าเดิมด้วยความไม่สบายตัว ภาสแอบดีใจเล็กน้อยที่เจ้าแมวไม่ได้สังเกตว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในชุดนอนชุดเดิมกับเมื่อวาน

ไม่งั้นเขาอาจจะได้เจอหมัดแมวหวดแว่นแตกก็เป็นได้
ไม่ได้ตั้งใจจะฉวยโอกาสหรอกนะ แต่มันเลอะเทอะมากจนเขากลัวอีกคนไม่สบายตัวเลยช่วยเช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ผิวแมวดื้อขาวสมกับกลิ่นแป้งของเจ้าตัว แน่นอนว่าเขาทำทุกอย่างให้เสร็จภายในสิบนาที ด้วยความกลัวว่าเจ้าแมวจะตื่นมาแล้วเข้าใจผิด

ระหว่างที่พิงกรอบประตูห้องน้ำมองแมวดื้อแปรงฟัน เขาก็สังเกตว่าปลอกคอที่คอขาวนั่นยับเยินเกือบขาด รสชาตหนังยามที่เขาขบเขี้ยวเคี้ยวนั่นยังติดอยู่ในความทรงจำ

“ตะนิด”
“อื๋อ?” ปากเล็กที่ถูกแปรงสีฟันสีชมพูและฟองขาวอุดส่งเสียงรับคำ
“ปกติพกปลอกคอสำรองไหม” พอเขาพูดถึง แมวดื้อก็หันกลับไปส่องกระจก ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นสภาพปลอกคอตัวเอง
“อื๋อ!!!” แมวดื้อส่งเสียงอุทานก่อนจะรีบแปรงฟันตัวเองด้วยความเร็วสูง ปากเล็กบ้วนน้ำแล้วหันมาหาเขาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “เห้ย นี่นิดฮีทถึงขั้นกัดปลอกคอตัวเองเลยหรอ!!!”

มันจะไปกัดถึงได้อย่างไรกัน...
กายกรรมคออ่อนหรือไง?
ภาสถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนกับความคิดเจ้าแมวดื้อ ถ้าเป็นแฝดพี่ชายปากร้ายนั่นป่านนี้คงด่ากลับยับไปแล้ว

“ฉันกัดเอง”
“เห้ยยยยยยย หมาแล้วมั้งแบบนี้ เกือบขาดเลย” ภาสขมวดคิ้วอีกรอบเมื่อโดนทักเป็นหมา แต่พอคิดว่าเขาก็ทำพฤติกรรมเหมือนหมาจริงๆ เลยไม่ได้ดุอะไรออกไป
“ฉันสั่งปลอกคอมาให้ใหม่แล้ว แต่จะมาถึงพรุ่งนี้เย็นๆ ก่อนหน้านั้นจะออกไปไหนต้องหาอันใหม่มาใส่ก่อนนะ”
“คณิตน่าจะใส่มาให้ด้วย อยู่ในกระเป๋าข้างเตียง ช่องด้านหน้า” ภาสพยักหน้ารับก่อนจะผละตัวออกไปที่ห้องนอนฝั่งตรงข้าม กระเป๋าน้อยใบสีชมพูนั่นถ้าพูดให้ถูกก็คงคล้ายกระเป๋าโดราเอม่อนที่มีทุกอย่างที่ตะนิดต้องใช้หรืออาจจะใชช้ในอนาคต ผ่านการคาดการณ์มาอย่างรอบคอบ

ก็นะ
บราค่อนเต็มสตรีมจริงๆ

ภาสล่วงมือเข้าไปในช่องซิปขนาดเล็กนั่นเพื่อหยิบปลอกคอขึ้นมาก่อนจะพบว่าปลอกคอสำรองอันในมือมีลายที่เขาค่อนข้างจะมั่นใจว่าคนเลือกคงตั้งใจให้เขาเห็นถ้าเกิดจำเป็นต้องใช้อันสำรองนี่

ปลอกคอหนังคุณภาพดีที่มีผ้าสีดำคาดคาดทับตามฉบับปลอกคอแฟชั่นสมัยนี้ ซึ่งบนผ้าก็มีลายสกรีนสีขาวตัวใหญ่เห็นชัดเจนเขียนไว้ว่า...

FUCK YOU STUPID ALPHA FUCK YOU!!! FUCK YOU!!!

และคนเลือกลายคงไม่ใช่เจ้าแมวดื้อหรอก
ให้ตายเถอะ แค่คิดภาพว่าเจ้าแฝดพี่นั่นรู้เรื่องเมื่อวานก็รู้สึกปวดหูนำไว้ก่อนแล้ว เหมือนลายสกรีนบนปลอกคอมีเสียงดังออกมา เขาใส่หัวไล่เสียงในจินตนาการก่อนจะถือปลอกคอเดินกลับห้องตัวเอง พอเปิดประตูห้องกลับเข้ามา เจ้าก้อนดื้อก็กรนคร่อกน้ำลายยืดเต็มหมอนไปแล้วเรียบร้อย

หลับได้หลับดี

เขาส่ายหัวให้กับท่านอนที่แข้งขาเตะไปคนละทาง มือเล็กกอดคุณนุ่มเบอร์ห้าที่ตัวนิ่มเพราะถูกเท้าเขานวดให้ไปหลายยกแน่น ข้างๆ เตียงมีปลอดคอหนังสภาพเยินตกอยู่ เจ้าแมวดื้อคงรำคาญที่โดนหนังบาดคอเลยดึงออกทิ้ง

ภาสค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง มือใหญ่ค่อยๆ สวมปลอกคอชิ้นเล็กให้กับลำคอขาวด้วยความเบามือ โดยปกติของปลอกคอสมัยนี้จะต้องใช้รหัสตั้งในการใส่และถอดออก เขาตัดสินใจใส่เลขหนึ่งถึงสี่ไปเผื่อให้เจ้าตัวมาตั้งใหม่ก่อนจะผละออกมามองหน้าดื้อที่ดูดื้อน้อยลงเยอะเมื่อเจ้าตัวไม่ขยับปากพูด

ไม่อยากยอมรับแต่ก็คงต้องยอมรับ

ใจเขาเต้นแรงกับเจ้าแมวตรงหน้าเข้าแล้ว
 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2020 18:20:28 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
:เรื่องนี้มีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยัยน้องตะนิดทำไมน่ารักขนาดนี้ อยากจับยัยหนูมาจุ๊บแก้ม ขำที่บอกว่าฮีทจนกัดปอกคอ5555 คนอะไรน่ารักขนาดนี้ อยากอ่านตอนคณิตมีแฟนจังจะหวงแฟนเท่าหวงน้องไหม สนุกมากๆเลยค่ะ ตอนอ่านในหัวมีแต่คำว่าน่ารัก น่ารักมากๆ :pig4: :L1:

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดื้อก็เก่ง...เขินก็เก่ง เอ็นดูตะนิด    :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด