Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล | นิยาย Y ตอนที่ 40 P.12 @11/11/20
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล | นิยาย Y ตอนที่ 40 P.12 @11/11/20  (อ่าน 43464 ครั้ง)

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวังว่าพี่เขยจะไม่มาสร้างปัญหานะครับ

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รุกหนักๆ เข้า red zone ละเด้อ555555555

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
พี่เอกขาาาาา มีเสี่ยเปย์ เต็มกำลังศึก นุ้งต่อลวนลามเก่งยิ่งกว่าไวรัส โคโรน่า อี๊ก

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เต็มที่เพื่อลุง

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
พี่เขยจะเคลม?

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณเจ้านายรุกเร็ว รุกแรง สายเปย์อีกต่างหาก.  :hao7:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล

ตอนที่ 10 เหตุผลแค่นี้เหรอที่ต้องรับผมเข้าทำงาน
             งานเลี้ยงของบริษัทเริ่มประมาณทุ่ม ภายในสนามหญ้าด้านหลังของโรงแรมที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเคยมี เวทีขนาดย่อมที่ยกสูงจากพื้นประมาณ 20 เซ็นติเมตรประดับด้วยป้ายชื่อบริษัทและสโลแกนที่เชยเฉิ่ม พนักงานจับกลุ่มคุยกันจอแจ แสงไฟสวยประดับประดาวิบวับ ดนตรีบรรเลงในงานชวนผ่อนคลาย ผมปวดหัวตุบจากอาการแฮ้งได้แต่มองภาพที่น่าสนุกนั้นอย่างเจียมตัว

             ถ้าโชคชะตาไม่พลิกผัน หนึ่งในนั้นคงมีผมเป็นแน่แท้ ผมคงได้เรียนเศรษฐศาสตร์ การตลาด บัญชีหรือแม้กระทั่งวิศวะก็ได้ใครจะรู้ โอกาสของผมคงมากกว่านี้ มีการงานที่ดีกว่านี้ ไม่ต้องทนนั่งหลังแข็งขับรถให้เจ้านายอายุน้อยกว่ากรนด่าทุกวี่วันหรอก

             เอาวะ มันเปลี่ยนไม่ได้แล้วนี่หว่า ตอนนี้ก็ทำงานมาครึ่งปีแล้ว มีแต่คนแปลกใจว่าทำไมผมถึงอยู่ทนอยู่นานขนาดนี้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ตัวเองยังแปลกใจว่าทำไมยังยอมทนให้เขาโขกสับ เมื่อหาคำตอบไม่ได้ เอกสุดหล่อเย่เย่ก็ได้แต่ยักไหล่ ตักอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์เรียงรายน่ากินใส่จาน หยิบแก้วน้ำก่อนเดินเลาะไปนั่งกินในมุมมืด...

             งานเลี้ยงของบริษัทดำเนินไปด้วยดี ผมยังไม่รู้เลยว่านี่มันเกี่ยวข้องกับการสัมนาอย่างไร เมื่อมาถึงก็ปล่อยให้พนักงานแยกย้ายไปเล่นน้ำหรือพักผ่อนตามอัธยาศัย ตกเย็นก็มีงานเลี้ยงและการแสดง มีการพูดเปิดงานโดยเจ้านายหนุ่มของผมที่แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเข้ารูปและกางเกงสแล็กสีดำดูสง่า ยิ่งแสงไฟกระทบก็ยิ่งมีออร่า สาวๆไม่ว่าสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็พากันจับจ้องด้วยสายตาอ่อนหวาน แต่ผมกลับเสียววาบเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น ... ดีนะที่ยังรักษาเนื้อรักษาตัวไว้ได้ไอ้เอก



             บรรยากาศในงานเลี้ยงยังครึกครื้น แอลกอฮอล์ถูกขนมาไม่ขาดสายทั้งที่มีประกาศว่าห้ามดื่ม แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรต่อความต้องการของพนักงานมากนัก เมื่อเจ้านายหนุ่มถูกรายล้อมไปด้วยหญิงสาวหน้าตาสละสวยเต็มไปหมด มีการพูดคุยยิ้มร่าผิดจากมาดขรึมตอนอยู่ออฟฟิศลิบลับ แก้วไวน์ในมือถูกขอชนนับครั้งไม่ถ้วน ผมวางจานข้าวที่กินเสร็จแล้วตัดสินใจเลี่ยงออกมาจากกลุ่มคน คงเป็นเพราะความไม่คุ้น หรืออาจเป็นเพราะมันไม่ใช่ที่ของเราทำให้รู้สึกแปลกแยกได้ถึงเพียงนี้

             เสียงคลื่นกระทบฝั่งและลมทะเลชวนให้ผ่อนคลาย อาการปวดหัวดีขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกมึนไม่น้อย ยังดีที่หลบเลี่ยงจากงานเลี้ยงได้ ถ้ายังดื่มอีก พรุ่งนี้เจ้านายต้องมาเป็นสารถีแทนผมแล้วล่ะ

             ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดถึงตอนที่มาทะเลครั้งสุดท้ายกับที่บ้านเมื่อสองสามปีที่แล้ว เราพากันขับแท็กซี่มาจากกรุงเทพ พักที่รีสอร์ตธรรมดาแถวบางแสน นั่งบนเก้าอี้ชายหาดใต้ร่มใหญ่ที่หาด เท้าเปล่าเหยียบบนทรายหยาบ สั่งอาหารทะเลมากินด้วยกันจนหนำใจ

             ทะเลยามนี้คลื่นลมแรง ผมเดินเลาะเรื่อยมาเรื่อยเปื่อย กลิ่นชุดใหม่ที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งซื้อมาให้แตะจมูก เสื้อวัยรุ่นสีแดง กางเกงยีนส์สีดำมีราคา สวมกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่าของผมดูปนเปไม่เข้ากัน ทุกอย่างมันคับแน่นไปหมด แต่คนซื้อให้ยืนยันว่า “ดีแล้ว สมัยนี้เค้านิยมเสื้อผ้ารัดรูปทั้งนั้นแหละ” ... ผมไม่แน่ใจเลยว่ายุคของพวกเรานี่ใช่ยุคเดียวกันหรือเปล่า

             ยังไม่ดึกมาก แต่ก็มืดจนมองไม่เห็นทะเลแล้ว มีเพียงแสงไฟจากเรือประมง หรือไม่ก็เรือตกหมึกลอยแล่นไกลลิบตา ผมหยิบมือถือราคาแพงขึ้นมาจะถ่ายความมืดนี้เก็บไว้..

แบตหมด... สวรรค์กลั่นแกล้งจริงๆ

“ลุง” เสียงคุ้นๆตะโกนแว่วมาตามสายลม ผมคิดว่าตัวเองคงหูฝาด

“โว้ย ลุงเอก” ชิชะ ใครบังอาจมาเรียกเอกสุดหล่อเย้เย้ว่าลุงวะ ถ้าไม่ใช่...

“คุณต่อ วิ่งมาทำไมครับ” ควรใช้คำว่าวิ่งหน้าตั้ง หรือไม่ก็ วิ่งหน้าตื่น ดูจะบรรยายสภาพได้ดีกว่าตอนนี้ซะอีก

“ผม แฮ่กๆ นึกว่าลุงหนีกลับกรุง แฮ่กๆ ไปแล้ว โทรหาก็ปิดเครื่อง” เจ้านายหนุ่มตัวงอเพราะความเหนื่อย ผมปล่อยให้สูดหายใจจนเต็มปอดเสียก่อน

“ทำไมถึงปิดมือถือ รู้มั้ยเนี่ยว่าผมต้องวุ่นวายตามหาแค่ไหน” อ้าว ก็ไม่ได้ขอปะเนี่ย

“ตกใจหมดเลย” น้ำเสียงเข้มแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเสียอย่างงั้น “นึกว่าลุงหนีผมไปแล้วซะอีก”

“ผะ...” ไม่ทันพูดครับ ร่างสูงรั้งตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว เอางี้...ถ้ามันฉายภาพสโลโมชั่นได้ จะเห็นว่าผมทำหน้าตกใจอ้าปากเหวอตอนที่ตัวโดนกระชาก คนแบบนี้จะมีเรี่ยวแรงขนาดไหนถึงฉุดผู้ชายสูง 176 เซ็นติเมตร น้ำหนักเกือบ 80 กิโลกรัมไปกอดได้โดยง่าย

“อย่าหนีผมไปนะ ผมขอโทษ ผมจะไม่แกล้งลุงแล้ว” มาไม้ไหนวะเนี่ย ผมดันตัวออก กลิ่นแอลกอฮอล์โชยมาเลย...นี่ไงต้นเหตุ คนสติดีที่ไหนจะมาทำแบบนี้

“คุณต่อเมาเหรอครับ”

“ม่ายๆๆ” เหอะ อย่าให้กูลำบากเหมือนครั้งที่แล้วก็พอนะ ... ว่าแล้วก็หมุนตัวหลุดจากอ้อมแขน ร้อนเนอะ ลมทะเลไม่ช่วยอะไรเลย

“ทีหลังอย่าปิดมือถืออีกนะ”

“ผมไม่ได้ตั้งใจครับ แบตหมด”

“ห้ามหมด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนแบตต้องเต็มตลอด” โอยยยย เด็กหนอเด็ก ลมทะเลพัดแรงจนทรงผมของเราสองคนปัดเป๋ไปหมด

“ครับ” นี่ไง ตอบได้แค่นี้

“อย่าหายไปไหนนะ กว่าผมจะตามหาพี่เอกเจอก็ตั้งหลายปี”

“หืม” ทำไมพูดเหมือนเคยเจอมาก่อนล่ะ

“แปลกใจเหรอ”

“กะ ก็ นิดหน่อยครับ” ตอบไปงั้นแหละ เอาเข้าจริงคือแปลกใจมาก

“เรื่องมันเกิดตอนผมอายุ 20 ตอนนั้นรถยนต์ที่ผมขับไปเกิดเสียกลางทาง ผมจำไม่ได้ว่าอยู่ส่วนไหน แต่มันก็เปลี่ยว โทรหาใครก็ไม่ติด ได้แต่หาข้อมูลรถลากแต่เพราะมันดึกมากร้านซ่อมปิดไปจนหมด”

“แล้วตอนนั้น แม่ของผมเกิดชักเพราะไอ้โรคลมบ้าหมู ผมสั่นลนลานไปหมด...”

             เรื่องที่เจ้านายหนุ่มกำลังเล่ามันแล่นเข้ามาในสมองผมยกใหญ่ แถวนั้นน่าจะรามอินทราหรือไรนี่แหละ ผมเพิ่งกลับไปส่งลูกค้า ด้วยความที่ไม่คุ้นเลยขอให้ลูกค้าช่วยบอกทางกลับให้ที พอถึงแยกใกล้ถนนใหญ่ผมเลี้ยวผิดรถเลยสวนไปเจอ...

“แล้วพี่เอกก็จอดรถ แล้วลงมาช่วยผม มาช่วยแม่ พาแม่ไปส่งโรงพยาบาล” นั่นแหละคือภาพที่ผมเห็น ไม่น่าเชื่อว่าคุณต่อพงษ์ยังจำมันได้ ผมเสียอีกที่จำใบหน้านี้ยังไม่ได้เลย

“จนวันนั้นที่ผมไปแถวมหาชัย รถผมก็เสียอีก แล้วก็เป็นพี่เอกอีกแล้วที่จอดรถรับผม”

“พอเจอพี่ครั้งนี้ ผมก็ตกลงใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้พี่หายไปไหนอีก”

“ผมชอบพี่ ผมชอบพี่จริงๆนะ” อึ้งสิครับ อึ้งรับประทาน เอาล่ะ สมองประมวลผลไม่ทันหรอกตอนนี้ คือ ... เจอผู้โดยสารเก่าที่เคยช่วยเหลือโดยบังเอิญเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนสถานะภาพเป็นเจ้านายที่ขี้บ่น จู้จี้ ปากร้าย

แต่ตอนนี้...เจ้านายผมกำลังบอกว่าชอบผมอยู่...

ตัวแข็งเลยครับ ไม่รู้จะตอบอะไร

เกิดมาไม่เคยถูกใครสารภาพความในใจเลย แฟนเก่าๆก็แค่จีบๆแล้วก็เป็นแฟนกัน...จบ

“เอ่อ...”

หมับ!

“อื้อ” โว้ยยยยยยยยยย เอะอะจูบ เอะอะจูบ ... ไอ้คุณต่อพงษ์ครับ ช่วยเห็นผมเป็นผู้ชายแท้ๆหน่อยเถอะคร้าบบบบบบ







ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ี่ี่ี่อ่อ....ที่มาที่ไปมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มีคนเดาถูกโด้ย ว่าคุณน้องต่อ รู้จักลุงเอกมาก่อน เอะอะจูบ เอะอะจูบ อ๊ายๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สารภาพความในใจ :-[ 

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
งู้ยยยยย ดีต่อใจจริง ๆ เลย พี่เอกต้องยอมน้องต่อแล้วแหละครับ อย่าหนีเลย :laugh:

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


ตามมาอ่านคอมเม้นต์ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจครับ

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณต่อประทับใจลุงเอกจนกลายดป็นรักแรกพบสินะ.  :hao3:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
หากันจนเจอ ..

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล

ตอนที่ 11 เจ้านายครับ ไปทำงานเถอะ ผมจะพักผ่อน

               หลายคนอาจจะขัดใจ ว่าทำไม ผู้ชายอย่างผมถึงยอมให้เจ้านายกดขี่ เอะอะจูบ ... บอกตามตรงว่าผมไม่ได้สมยอมนะครับ แต่ละครั้งมันมาแบบไม่ทันตั้งตัว พอพายุสงบ ผมก็ได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ จะให้เหวี่ยงหมัดก็ไม่ใช่ อายุปูนนี้แล้วงดใช้อารมณ์ไปก่อน ตกงานมามันไม่คุ้ม

               ถ้าให้ย้อนไปสมัยที่จบชั้นม.ปลายแล้วเข้าไปใช้แรงงานในโรงงานเงินเดือน 8,500 บาท เริ่มงานเจ็ดโมงเช้า บังคับโอทีถึงทุ่ม ค่าแรงก็แสนถูก ทำงานหกวันแทบไม่ได้พัก เงินเดินออกก็โดนหักค่าประกันสังคม ค่าโน่นนี่เหลือใช้ยังไม่ถึงหมื่น...ต้องกระมิดกระเมี้ยนอยู่ให้ได้ถึงสิ้นเดือน ... แต่เทียบกับตอนนี้ เงินเดือนสามหมื่น ไปไหนมาไหนเจ้านายเลี้ยง อดทนแค่เสียงบ่นกร่นด่าให้ได้ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง

....จะห่วงก็แค่การถึงเนื้อถึงตัวของเจ้านายหนุ่มนี่แหละ

“อื้อ” ตาพร่าแล้ว ไม่ไหวแล้ว ลิ้นจะดันมาทำไม นั่นไงจะดูดทำไม

“อื้อ” จะขาดใจแล้วครับ ไปฝึกจูบกับใครมาวะ ทำไมเก่งได้ขนาดนี้

“ติดใจเหรอ ตาเยิ้มเชียว” พอผละออกก็ถามโต้งๆเลย

“โว้ย” ผมไม่รู้จะตอบยังไงแล้วอะ หวังว่าความมืดในยามนี้จะช่วยกลบอะไรต่อมิอะไรไว้ได้

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะระเบิดลั่น ผมรีบจ้ำกลับมาที่โรงแรมด้วยความอายที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

               ผมตื่นมาอีกทีตอนสาย...เจ้านายหนุ่มไม่อยู่ในห้องแล้ว อย่าคิดนะครับว่าผมจะหลวมตัวไปนอนห้องใหญ่ กลับมาถึงผมก็รีบอาบน้ำและเข้าห้องตัวเองล็อกประตูแน่นหนา พอหัวถึงหมอนก็หลับไปเลยด้วยความอ่อนเพลียและอาการปวดหัวจากฤทธิ์ของบลูฮาวายเมื่อวาน

[ตื่นแล้วก็ลงไปกินข้าวชั้น G] ข้อความจากเจ้านายผมเองครับ เป็นครั้งแรกเลยที่ผมตื่นสายขนาดนี้ เลยรีบล้างหน้าแปรงฟันแบบลวกๆก่อนลงไปที่ห้องอาหาร

               เวลานี้เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว ห้องอาหารไม่มีพนักงานของบริษัทนั่งอยู่เหมือนที่คิดไว้ จะเห็นก็แค่เจ้านายหนุ่มที่นั่งหลังตรงเปล่งออร่าอยู่มุมหนึ่งเท่านั้น บนโต๊ะมีแค่กาแฟแก้วเดียว

“มานั่งตรงนี้” นั่นไง นึกว่าไม่เห็น ผมถูกสั่งให้ไปนั่งกับเจ้านายหนุ่มตอนที่ถือจานข้าวเดินหาที่นั่ง

“ครับ” ทำไมจะต้องให้นั่งร่วมโต๊ะด้วยเนี่ย พนักงานคนอื่นล่ะไม่เห็นเรียกแบบนี้

“หลับสบายมั้ย” ผมพยักหน้าเพราะกำลังตักอาหารคำแรกเข้าปาก

“ไม่ต้องรีบ ผมยังไม่กลับหรอก”

“แล้ว...”

“อีกครึ่งชั่วโมงผมต้องไปร่วมสัมนา น่าจะเสร็จบ่ายสอง ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน”

“ครับ”

“ตอนเที่ยงผมให้โรงแรมจัดกับข้าวไว้ให้นะ เจอชั้นชั้นบนสุด”

“หะ ห๊า”

“ลุงจะสั่งบลูฮาวายมารอก็ได้นะ ระหว่างนี้ก็ไปพักผ่อนต่อเถอะ” เจ้านายผมสั่ง พอคิดถึงบลูฮาวาย ผมก็หน้าร้อนวูบ นึกถึงเรื่องวาบหวิวที่เกิดขึ้นเมื่อวานซ้ำไปซ้ำมา

“อ้อ แล้วทีหลังไม่ต้องรีบนะ อย่างน้อยก็หวีผมก่อนก็ดี”

“คะ ครับ” ผมรีบใช้มือลูบผมที่ฟูไม่เป็นทรงอยู่ในตอนนี้ นี่เจ้านายหรือแม่วะเนี่ย บ่นจัง

ผมจัดการมื้อเช้าจนเกลี้ยงก่อนจะกลับไปนอนด้วยความอ่อนล้า...

               รู้สึกตัวอีกทีก็เพราะเหมือนมีอะไรสักอย่างมาถูไถตัวผมไปมาจนสะดุ้งตื่นเพราะรำคาญ สิ่งแรกที่เห็นตอนลืมตาขึ้นมาคือเจ้านายหนุ่มของผมนอนตะแคงในท่าเท้าแขนที่ท้ายทอย ดวงตาคู่คมส่งยิ้มหล่อกระชากใจที่สุดมาให้ ผมได้แต่กระพริบตาไปมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา พอตื่นเต็มที่ก็สะดุ้งวาบเพราะมือข้างซ้ายของเจ้านายหนุ่มกำลังเกาะกุมอะไรบางอย่างอยู่ในกางเกงบ็อกเซอร์ของผม

“คะ คุณต่อ ทะ ทำอะไรครับ” ผมนี่จะขัดขืน แต่บอกตรงๆเถอะ อย่าว่าผมบ้ากามเลยนะ ผมเสียวแทบคลั่งเลย

“ก็ทำแบบที่ทำเมื่อวานไง”

“งื้อ” ผมคราง ถ้ามันแข็งขืนขนาดนี้ เขาคงเล่นกับมันมาสักพักแล้ว แถมตอนนี้จังหวะรูดขึ้นลงเร็วจนต้องจิกนิ้วเท้า

“ชอบมั้ย”

“มะ ไม่ครับ” ผมปฏิเสธ แต่ร่างกายเจ้ากรรมมันไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด

“จริงดิ”

“จะ จริงครับ อื้ออออออออออออออ” ผมแทบขาดใจตายเมื่อใบหน้าหล่อโน้มไปดูดเฟ้นตรงส่วนนั้นแทนมือใหญ่ ผมชะโงกหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างอธิบายความรู้สึกไม่ได้ สองมือจับที่ใบหน้าหวังจะผลักออก แต่ความเสียวซ่านเป็นฝ่ายชนะเมื่อมันสั่งให้กลายเป็นการเกาะกุมหน้าหล่อเหลาให้เร่งทำจังหวะมากขึ้น

“อื้อ อื้อ อ๊า อ๊า” สุดท้ายแล้วก็เป็นผมเองที่ทนไม่ไหว นอนหายใจแผ่วเบาบนเตียงปลดปล่อยความสุขสมจนหมดสิ้น แรงดูดกลืนยังไม่จบจนรู้สึกเสียววาบแทบขาดใจ

“พอเถอะครับคุณต่อ...ผมจะไม่ไหวแล้ว อื้อ”

“จริงเหรอ แล้วชอบมั้ยล่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนมาประชิด คราบขุ่นติดริมฝีปาก กลิ่นสาปบางอย่างลอยอบอวล

“มะ ไม่ชอบครับ”

“ปากแข็ง” เจ้านายหนุ่มยิ้ม ผมคิดอะไรไม่ออก สมองมันตื้อไปหมด ได้แต่มองตาคู่นั้นราวกับถูกดูดกลืน แล้วเขาก็...

“อื้อ” ลิ้นใหญ่เวียนว่ายเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มของผม แรงบดเบียดถ่ายทอดความหอมหวานปนเปกับความโหยหาจนผมหมดแรงต้าน จูบที่อ้อยอิ่งเนิ่นนานส่งผ่านความอบอุ่นไหลอาบ ถ้าเป็นผู้หญิงผมคงพลีกายให้เจ้านายหนุ่มแล้วตอนนี้....

“พี่เอกเป็นของผม” เจ้านายหนุ่มพูดขึ้น “คนเดียวเท่านั้น”

“หะ ห๊ะ” ผมอุทาน

“จำไว้นะครับ ผมจองแล้ว” เจ้านายหนุ่มขยิบตาก่อนหอมแก้มผมฟอดใหญ่และกระเด้งตัวลุก ถ้ามองไม่ผิด อะไรตุงๆที่เป้านั้นเด้งดึ๋งเป็นจังหวะ

“...” ผมควรตอบยังไงดีล่ะเนี่ย จองแล้ว จองยังไง ...

จองเป็นลูกน้อง...ตอนนี้ก็เป็นอยู่นะ เรียกว่าเบ๊ส่วนตัวเลยเถอะ

จองเป็นแฟน...ไม่น่ามั้ง แต่เมื่อกี้เขาก็ทำให้จนเสร็จนะ แถมจูบด้วย หลายครั้งแล้ว

จอง...จะจองทำไม ผมชายแท้ครับ ชายแท้... หนักแน่น มั่นคง ไม่หวั่นไหว

“ใจลอย”

“หะ”

“แต่งตัวเร็ว ไปกินมื้อเที่ยงกัน” นี่ผมนอนไปสามชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย

“ครับ” ผมหยิบเสื้อและกางเกงบ็อกเซอร์ที่ถูกดึงออกมาใส่

“บอกให้แต่งตัว” ก็แต่งอยู่นี่ไง ผมทำหน้างง เจ้านายหนุ่มหันไปค้นอะไรบางอย่างในถุงพลาสติกที่ซื้อมาจากห้างเมื่อวานและโยนมาให้ผม

“นี่ กางเกงว่ายน้ำ ใส่แค่นี้พอ” เจ้านายครับ ใจคอจะให้ผมนุ่งห่มน้อยชิ้นตลอดเวลาเลยรึไง(วะ) ครับ



#ทีมลุง

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เสร็จแน่ลุง :oo1: :m20:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:


ชอบก็บอกไปเถอะลุง  ทำเป็นอ้ำอึ้งเหนียมอายไปได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แบบว่า..........ลุงไม่ชอบ นะเนี่ย

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อะหูยยย ก็หุ่นพี่เอกเค้าน่าฟัดอ่ะเนาะ คนบางคนเลยอดไม่ได้ ต้อง sexual harassment เลยย หนูจะแจ้งๆๆๆๆ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ไปซื้อเกงว่ายน้ำมาให้เลยเว้ยยยยยย ติดใจแน่ๆ55555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อุ๊ย!!!!  เดี๋ยวนี้เจ้านายขยันรุกเหลือเกินนะพี่เอก น่าจะไม่รอดในเร็ววัน   :laugh:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
เจ้านายบริการถึงใจ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ลุงโดนอีกแล้ว ..

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ลุงงงง ตาย แห้งตาย โดนรีด 5555

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ลุงไม่รอดแน่

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
Personal Driver : คนขับ(รัก)ส่วนบุคคล

ตอนที่ 12 มีงานที่บ้านใหญ่ ไม่ไปไม่ได้หรอกนะ

             ผมทำงานกับเจ้านายหนุ่มชื่อ คุณต่อพงษ์ เป็นเดือนที่ 7 แล้วครับ คุณเชื่อไหม ผมไม่เคยเห็นคุณต่อพงษ์ไปสุงสิงกับบ้านใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามเลยสักครั้ง แปลกที่สุด แปลกมาก เพราะบ้านใหญ่ก็คือบ้านของท่านประธานและคุณนาย คุณต่อกลับปลีกตัวมาอยู่คนเดียวไม่ยอมสุงสิงกับใคร จะว่ามีเรื่องผิดใจกันหรือก็เปล่า หรือว่าแค่อยากใช้ชีวิต...แล้วทำไมถึงมาสร้างบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแบบนี้ล่ะ

             ผมหอบหิ้วกล่องของขวัญสามชิ้นที่ไปรับมาจากห้างสรรพสินค้าละแวกออฟฟิศใส่ท้ายรถก่อนจะรอเวลาเลิกงาน ระหว่างนี้ก็ทำการเช็ดถูรถหรูคันงามนี้ให้ขึ้นเงาเสียก่อน เอาจริงๆอย่าถามเลยนะครับว่าผมขับรถอะไร เพราะเจ้านายหนุ่มแกไม่ชอบใช้รถซ้ำ เมื่อวานพอร์เช วันก่อนออดี้ วันนี้เบนซ์ พรุ่งนี้อาจจะบีเอ็ม ... ถ้ายังจำได้ เจ้านายบอกว่าเข็ด ไม่อยากใช้คนคันเดิม กลัวมันจะเสียกระทันหัน ไม่อยากเจอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจากที่คุณนายเป็นลมชักอยู่ข้างแล้วไปไหนไม่ได้เพราะรถเสีย เหตุการณ์นี้แหละ คุณต่อเลยไม่ยอมขับรถเอง ต้องหาคนขับรถประจำตำแหน่งไว้ข้างกาย

             แต่ก็ไม่มีใครที่อยู่ทนอยู่นานแบบผมนะ แถมระยะหลังๆเจ้านายหนุ่มผมเลิกงานดึกมากทำให้ผมต้องนอนค้างที่บ้านแกเป็นประจำ จะได้กลับบ้านทีก็วันอาทิตย์ เพราะวันเสาร์ก็ต้องอยู่เผื่อเจ้านายหนุ่มมีนัดสังสรรกับลูกค้าหรือไปตีกอล์ฟ ผมก็ต้องทำหน้าที่ตามคำสั่ง

             ส่วนทางบ้านผมคงชินแล้ว แม่ผมก็อาการดีขึ้น ถึงแม้ผมจะใช้ชีวิตกับเจ้านายมากกว่าแม่ก็ตาม แต่แกก็เข้าใจว่าผมทำงาน ตอนนี้ผมพอจะมีเงินจ้างป้าแท้ๆของตัวเองที่อายุร่วม 80 มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ เงินไม่ได้มากมายหรอกครับเพราะยังไงก็ญาติกัน แกชื่อป้าบังอร เป็นพี่สาวพ่อ บ้านเราก็ติดกัน แต่เพราะความแก่ แกเลยไม่ได้ไปไหน ผมเห็นว่าแกว่างๆอาจจะเบื่อเลยให้เงินเดือนละ 1,000 บาทมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ ตอนนี้แทบจะไม่กลับบ้านแล้วครับ นอนห้องแม่ผมนั่นเลย

             ผมลืมเล่าประวัติผมสินะครับ จริงๆมันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก ผมมันคนญาติเยอะ เพราะพี่น้องฝั่งพ่อมีหลายคน แต่ที่สนิทที่สุดก็ครอบครัวป้าอรนี่แหละ ที่เหลือแยกย้ายกันไปอยู่ที่ต่างๆ เพชรบุรีบ้าง ประจวบฯบ้าง ไกลสุดก็นครพนม ป้าอรแกมีลูกสองคน ชายหญิงอย่างละหนึ่ง ลูกชายแต่งงานแล้วไปอยู่บ้านเมียแถวรังสิต นานๆถึงจะมาหากันที มีลูกแล้วสามคนวัยกำลังโต ส่วนลูกสาวป้า ก็รุ่นก่อนหน้าผมไม่กี่ปีชื่ออรอนงค์ เพราะความจนเลยต้องแต่งงานไว ตอนนี้เพิ่ง 38 แต่ลูกชายคนโตอายุ 18 เท่ากับไอ้โทน้องชายผม

“ใจลอยอะไรเนี่ย” เจ้านายมาตอนไหนไม่รู้ครับ ผมสะดุ้งเฮือกเลยครับ

“คุณต่อจะกลับแล้วเหรอครับ”

“อื้อ โทรหาหลายรอบแล้วลุงไม่ยอมรับสาย” ชิบ...หาย...แล้ว ผมลืมมือถือไว้ในรถ มัวแต่ออกมาขัดเงา

“ผมลืมไว้ในรถครับ มัวแต่ขัดรถเลย...”

“ช่างเถอะ ไปเอาของขวัญมารึยัง”

“เอามาแล้วครับ” ทำไมพูดง่ายจังวะ ปกติจะต้องด่าแล้ว

“แล้วจะยืนบื้ออีกนานมั้ย ไปสตาร์ทรถสิ”

“ครับๆๆๆ” ผมรีบวิ่งไปสตาร์ทรถทันทีที่สิ้นเสียงสั่ง เจ้านายหนุ่มเป็นคนขี้ร้อน ไม่ค่อยชอบอยู่กลางแจ้ง...แต่มันก็ช่างขัดกับตอนที่ไปนอนอาบแดดที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเดือนที่แล้วอยู่นะ

“วันนี้คุณต่อจะแวะที่ไหนก่อนมั้ยครับ”

“ไม่อะ ไปบ้านใหญ่” หะ...ผมหูฝาดเหรอ

“ครับ” ไม่กล้าจะถามอะไรแล้วครับ อยู่ด้วยกันมานานแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมง หกวันต่อสัปดาห์ เรียนรู้ได้แล้วว่า อย่าถามเยอะ

             ที่บ้านใหญ่นั้นขอไม่บรรยายนะครับ เอาแค่ว่ามันใหญ่สมชื่อก็แล้วกัน แต่ตอนนี้กลับมีรถรามาจอดเรียงรายล้นออกมาที่ถนนหน้าบ้านแล้ว ผมส่งเจ้านายได้แค่หน้าประตูเพราะไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้

“เอารถไปเก็บที่บ้านนะ แล้วเดี๋ยวเอาของขวัญมาที่นี่”

“ครับ” ผมรับคำ อยากถามมากเลยว่าทำไมเจ้านายไม่เอาของขวัญไปเองล่ะ แต่ก็เงียบไว้เถอะ...

             ผมเดินต๊อกต๋อยหอบหิ้วกล่องของขวัญขนาดต่างกันสามกล่องไปที่บ้านใหญ่ที่คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มวัยรุ่นหน้าตาดีทั้งชายหญิงตรงสนามหน้าที่ประดับซุ้มดอกไม้และโต๊ะค็อกเทลเรียงราย แต่ละคนแต่งตัวในชุดเรียบหรู บ้างก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษา ผมอ่านป้ายที่บอกว่า สุขสันต์วันเกิด ตงฉิน และลูกหมูทั้งสอง ก็พอรู้ว่าเป็นงานอะไร

             สายตาที่กวาดมองหาเจ้านายหนุ่มน่ะไม่ลำบากเลย เพราะออร่าความหล่อเด่นกว่าใครในรัศมี แถมความสูงยังเป็นที่หนึ่ง ผมเดินไปทางนั้นเพื่อจะเอาของขวัญไปให้ มีผู้ชายสองสามคนยืนคุยกันอยู่ ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างๆพอจะเดาได้ว่าเป็นน้องชายของคุณต่อแน่ๆ ถึงแม้จะไม่สูงเท่า แต่ราศีจับ อีกสองคนที่ยืนหันหลังก็คุ้นๆแต่ก็ไม่รู้ว่าใคร

“คุณต่อครับ นี่ของขวัญครับ”

“ขอบใจมากลุง”

“พี่เอก”

“หะ” ผมมองนักศึกษาชายสองคนที่ว่าคุ้นๆเมื่อกี้

“ไอ้โท ไอ้หนึ่ง” ครับ น้องชายผมกับลูกพี่อรอนงค์ลูกพี่ลูกน้องผมเอง “มาได้ไงเนี่ย”

“ผมเป็นเพื่อนกับตงฉินน่ะพี่” น้องชายผมตอบ

“สวัสดีครับ ผมตงฉินนะครับ น้องชายพี่ต่อ เพื่อนไอ้โทกับไอ้หนึ่ง” โลกจะกลมไปไหน

“อย่าไหว้เลยครับ เหาจะกินหัว ผมเอกครับ คนขับรถของคุณต่อพงษ์” เจ้าโทและเจ้าหนึ่งไม่ต้องบรรยายมาก เพราะเลือดเนื้อเชื้อไขเนาะ ผิวคล้ำๆ หล่อแบบครึ่งๆกลางๆ จะบอกว่าครึ่งบกครึ่งน้ำก็กลัวกระทบตัวเอง

“โลกกลมมาก ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะทำงานที่นี่” กูก็ไม่อยากจะเชื่อ ผมคิดในใจ

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

“อย่าเพิ่งสิครับ ไหนๆก็เลิกงานแล้ว แถมพี่เอกยังเป็นพี่ชายเพื่อนผมอีก อยู่ร่วมงานวันเกิดผมก่อนนะครับ” ถูกเชิญซึ่งๆหน้าแบบนี้ไปไม่เป็นเลย ผมมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่นิ่งเงียบ เมื่อไม่ว่าอะไรผมก็ตอบตกลง

“แต่ผมไม่มีของขวัญอะไรเลยนะครับ”

“ฮ่าๆ พี่เอกอย่าคิดมากเลย ไอ้สองคนนี้ผมก็บอกว่าไม่ต้องซื้ออะไรหรอก” คุณตงฉินหัวเราะตาหยี

“ใช่พี่ แค่นี้มันก็ได้ของขวัญจากสาวๆเยอะแล้ว” ไอ้หนึ่งหลานชายผมเสริมด้วยน้ำเสียงดุดัน

“เดือนมหาลัยนี่นา ใครๆก็อยากเอาใจ ว่ามะ” ไอ้โทแซว

“พวกมึงนี่” น้องชายของเจ้านายหนุ่มหัวเราะ ความหล่อนี่ไม่แพ้กันเลยนะครับ แต่ใบหน้าของคุณตงฉินจะคมกว่า ตาจะโตกว่า ผิวจะออกแทนๆไม่เหมือนพี่ชายที่ขาวจัด รูปร่างใกล้กันแต่ความสูงแพ้ผู้พี่หลุดรุ่ย

“เออ พี่ไม่รู้เหรอว่าผมเป็นเพื่อนกับไอ้ตงฉินน่ะ”

“ไม่รู้ว่ะ นี่ก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละ” พวกเราสนทนากันตอนที่ไอ้โทลากผมมาหาเครื่องดื่ม

“โหพี่ ทำงานมาขนาดนี้เนี่ยนะ” ก็เออน่ะสิ วันๆก็อยู่แต่บ้านโน้นโว้ย ไม่ได้มาวอแวที่นี่

“กูอยู่กับเจ้านาย” ผมตอบเลี่ยงๆ

“พี่เอาไร นี่มั้ย” น้องชายยื่นแก้วสีน้ำเงินมาให้

“อะไรวะ”

“บลูฮาวายพี่ อร่อยดีนะ”

อร่อยพ่อง....

             ช่วงตัดเค้กก็มาถึง ผมมองบนเวทีที่ตอนนี้มีผู้ชายสามคน สองวัยยืนเรียงกันหลังเค้กสามก้อน ภาพนั้นดูแปลกๆ คนรวยนี่ช่างสรรหาวิธีใช้เงินนะ แทนที่จะใช้เค้กแค่ก้อนเดียวให้มันจบๆไป

“เอาล่ะครับ ถึงเวลาแล้ว เรามาร้องเพลงอวยพรวันเกิดกันดีกว่า” เสียงพิธีกรที่ชื่อพันธุกล่าวเปิด

“เด็กสองคนนั่นใครวะ” ผมกระซิบถามน้องๆ

“อ๋อ สองหมูฝาแฝดน่ะเหรอ ลูกไอ้ตงฉินมันน่ะ” เจ้าหนึ่งเป็นคนตอบ ผมนี่ตาลุกวาว

“เดี๋ยวๆ น้องชายเจ้านายพี่มีลูกแล้วเหรอเพิ่ง 18 เองนะ”

“อื้อ มันบอกว่ามีสาวมอมเหล้ามันเลยมีอะไรกันจนมีลูก”

“อื้อหือ แล้วแม่ของเด็กๆไปไหน”

“ไม่อยู่แล้ว ครอบครัวไม่ปลื้ม วันๆไม่ทำอะไร” ไอ้หนึ่งเล่า มีแต่ผมกับไอ้โทยืนฟัง

“แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นะ เพราะไอ้ตงฉินมันยกลูกให้พี่สาวที่ยืนกำกับเด็กๆบนเวทีน่ะ”

“แบบนี้ก็ได้เหรอ” ไอ้โทถาม

“อ้าว มึงไม่รู้เรื่องนี้เหรอ”

“ไม่อะพี่ ไอ้ตงฉินมันมีอะไรก็เล่าให้ไอ้หนึ่งฟังมากกว่า” เสียงเพลงอวยพรวันเกิดจบลงพร้อมเสียงปรบมือ ทั้งสามคนพากันอธิษฐานและเป่าเทียน เค้กวันเกิดถูกตัดแบ่ง ผมไม่ค่อยชอบของหวานเลยชิมของน้องชายแค่ดำเดียว

“เออ แล้วมึงต้องไปเฝ้าไอ้ตงฉินถ่ายแบบอีกมั้ย” น้องชายผมถามเจ้าหลานชายผม (งงในงงกับลำดับญาติ)

“ไม่ว่ะ กูขี้เกียจ ให้สาวๆมันพาไปเถอะ” น้ำเสียงแค่นประชดตอบเรียบๆ

“หืม คุณตงฉินเป็นนายแบบเหรอ”

“อ้าว พี่ไม่รู้เหรอ” ผมส่ายหน้า

“พี่ทำงานที่นี่จริงเปล่าเนี่ย บ้านนี้หน้าตาดีทั้งบ้าน จริงๆพี่ต่อก็เคยจับงานแสดงละครมาก่อน แต่เห็นว่าที่บ้านให้มาช่วยงานเลยไม่รับงาน แต่ไอ้ตงเนี่ยมันยังเรียนอยู่ เวลาว่างๆก็มีคนโทรให้ไปเดินแบบถ่ายแบบไรงี้” น้องชายผมบรรยาย

“ไม่รู้มาก่อนแฮะ”

“นี่ไง” มันโชว์รูปที่ค้นหาในมือถือมาให้ผมดู “เนี่ยไอ้ตงถ่ายแบบ”

“เชี่ย มึงไม่ต้องเปิดให้ดูก็ได้มั้ย” ผมบ่น เพราะรูปที่มันเอามาคือรูปถ่ายแบบชุดว่ายน้ำที่ใส่แค่กางเกงในตัวเดียว ผมน่ะไม่อะไรกับตงฉินหรอกครับ แต่ความละม้ายของสองพี่น้องทำเอาผมใจคอไม่ดี

“ต้องใจกล้าเบอร์ไหนเนาะมึงถึงจะถ่ายแบบนี้ได้” ไอ้โทพูดไม่หยุด แต่ไอ้หนึ่งนิ่งไปครับ เหมือนไม่ชอบรูปที่ได้เห็นเหมือนกับผม




“กี่แก้วแล้วล่ะ” เสียงที่คุ้นเคยทัก ผมรีบเอาแก้วในมือซ่อนไว้ข้างหลัง

“ไม่กี่แก้วหรอกครับ” ผมปด

“หึหึ” หัวเราะแบบนี้ทำไมวะเนี่ย “กินไปเถอะพรุ่งนี้ไม่ได้ไปไหน” เจ้านายหนุ่มตอบ พลางจิบแชมเปญในมือ

“ว่าแต่ ดื่มอะไรเหรอ”

“เอ่อ น้ำส้มครับ” นางเอกมาเลยกู

“น้ำส้ม” เจ้านายหนุ่มขมวดคิ้ว “น้ำส้มเดี๋ยวนี้สีฟ้าเหรอ”

เชี่ย...รู้หมดว่ากินบลูฮาวาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2020 12:20:44 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด