...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)  (อ่าน 91950 ครั้ง)

ออฟไลน์ Keawmikami

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เห้อออ ยากจัง

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ผีเป็นไอ้แผนหรอเนี่ยย เกิดอะไรขึ้นน ทำไมแผนเป็นแบบนี้ล่ะ งงไปหมด
เอ็นดูน้องครอง หมั่นไส้พี่ร่มอ่ะ 55 ก็รู้ว่าพี่ร่มทำแบบนี้เพราะเซฟน้องครอง แต่พี่เคยถามครองบ้างมั้ยว่าเขาต้องการรึเปล่า มันทำให้น้องรู้สึกแย่ไปอีก

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
นึกว่านายช่วงซะอีก  :katai1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว คิดว่าเป็นนายช่วงซะอีก ทำไมเป็นนายแผนล่ะ งงเลย

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ต่อไปนี้พี่ร่มจากปกป้องน้องครองจากผีไอ้แผนเอง
เพราะฉะนั้น น้องครองต้องมาอยู่ที่คอนโดพี่นะ  o18

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
ทั้งค้าง ทั้งอึดอัด คือเขายังไม่เข้าใจกันเลย
ผีก็มาแก้แค้นอีกจ้า

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กรี้ดดดดดดดดดดด จะมีใครเป็นอะไรมั้ย  :serius2: ผีนายช่วงตามมาถึงกองถ่ายเลย นึกว่าจะพยายามรักษากิริยาให้เป็นผีที่ดีต่อหน้าพี่ร่มใฟ้นานๆ ที่ไหนได้ออกลายแล้ว

พี่ร่มหัวแข็งมากเด้อเรื่องรักษาระยะห่าง คนน้องก็ดื้อเรื่องทำตามหัวใจ ได้เจ็บตัวคราวนี้คงมีฝ่ายใดฝ่ายนึงยอมใจอ่อน :hao3:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
น้องครอง = แผน
พี่ร่ม = คุณหลวง
ช่วงเป็นข้ารับใช้คุณหลวง อิจฉาแผน
ชาตินี้พอแผนกับคุณหลวงมาเกิด ก็ตามมาแยกเค้าออกจากกัน พยายามจะฆ่าน้องครอง (แผน) ไม่ให้ได้ใกล้ชิดกับพี่ร่ม (คุณหลวง)

ประมาณนี้รึป่าวว ทำนองนี้รึป่าววว

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
………………………
ตอนที่ 9

………………………
…………….
……

   
ห้องทำงานของหลวงสุนทรวิจักษ์นั้นเป็นอาณาเขตของนายช่วงมานานหลายปี


ยามคุณหลวงมิได้ใช้งาน นายช่วงคอยดูแลความเรียบร้อย


หนังสือบนชั้นต้องเรียงเป็นระเบียบ ทุกกระเบียดต้องสะอาด เก้าอี้โต๊ะต้องพร้อมใช้งาน ยาสูบและเหยือกน้ำต้องพร้อมสรรพ


ยามคุณหลวงเข้ามาในห้อง ก็เป็นนายช่วงที่คอยตามติด ดูแลใกล้ชิด


ต้องการหนังสือเล่มใดบนชั้น เพียงแค่เปรยขึ้นมา นายช่วงก็จะรีบหยิบให้ ยามลุกยามนั่ง ก็มีนายช่วงคอยเลื่อนเก้าอี้ พอเอื้อมมือหยิบยาสูบ นายช่วงก็ถือไม้ขีดไฟเตรียมพร้อมแล้ว แม้กระทั่งน้ำในเหยือกพร่องลงเพียงเล็กน้อย ก็เป็นนายช่วงที่ขมีขมันรีบสั่งให้คนไปเติมให้เต็มอยู่เสมอ


   แม้กระทั่งอีเย็นซึ่งเป็นหัวหน้าบ่าวไพร่ก็ยังไม่กล้าล่วงล้ำมายังห้องนี้ เพราะรู้ดีว่านายช่วงหวงแหนพื้นที่ของหลวงสุนทรวิจักษ์เพียงใด


   ทว่า...พักหลังมานี่ ไม่เพียงแค่คุณหลวงและบุตรธิดาที่เหยียบย่างเข้ามายังห้องนี้ แต่ ‘ไอ้แผน’ ก็เช่นกัน


   บางวันไอ้แผนมาพร้อมคุณเทพ ซึ่งบัดนี้เป็นเพื่อนกันแล้ว


   บางวันไอ้แผนก็มาเพียงลำพัง เพื่อนำการบ้านที่คุณหลวงสั่ง มาให้ท่านตรวจ


   นายช่วงชิงชังยิ่งนัก นายที่ตนเทิดทูนกลับรักใคร่เอ็นดูไอ้แผนผู้ซึ่งเพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านได้เพียงสามปี


   ใช่...บัดนี้ไอ้แผนอายุย่าง 16 แล้ว และคุณหลวงเปรยว่าจะส่งมันให้เรียนสูงที่สุดเท่าที่มันจะเรียนได้


   บัดซบสิ้นดี! ทั้งลูกหลานทั้งพี่น้องของนายช่วงยังไม่ได้ความเมตตาอาทรถึงเพียงนี้ แต่ไอ้แผนกลับคว้าทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นทายาทของคุณหลวง ทั้งที่แท้จริงไม่ใช่!


   บานประตูห้องทำงานของหลวงสุนทรวิจักษ์ถูกเปิดออก เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับคุณหลวงคือคุณเทพในวัย 16 ปีก้าวเท้าออกจากห้องด้วยท่าทางร่าเริง ในมือมีถุงกำมะหยีที่นายช่วงจำได้ดีว่าเห็นอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของผู้เป็นนาย


   “นายช่วง! คุณพ่อให้รางวัลที่ฉันสอบได้ล่ะ!”


   นายช่วงค้อมกายต่ำ ยินดีกับสิ่งที่คุณเทพได้รับตามฐานะ ทว่าประโยคถัดมาของบุตรชายคนโปรดของหลวงสุนทรวิจักษ์กลับทำให้เขานิ่งค้างอยู่ในท่านั้น


   “แต่จะให้รางวัลฉันคนเดียวก็ไม่ถูก คงจะสอบไม่ได้ถ้าไม่ได้ไอ้แผนช่วยสอน คุณพ่อก็เลยบอกว่าจะให้รางวัลไอ้แผนด้วย!”


   เด็กหนุ่มมิได้เข้าใจหัวอกคนอิจฉาริษยา เมื่อยินดีกับสิ่งที่ตนได้และสิ่งที่สหายอย่างไอ้แผนจะได้ เขาก็เดินฮัมเพลงอารมณ์ดีลงบันไดไป ทิ้งเอาไว้เพียงคำพูดประโยคสุดท้ายที่คล้ายกับมีดพร้าปักลึกเข้าที่กลางอกของนายช่วง


   ‘ให้รางวัลไอ้แผน’


   พลันนั้น ภาพห่อกำมะหยี่ที่เคยเห็นในลิ้นชักโต๊ะทำงานของหลวงสุนทรวิจักษ์ก็ปรากฏขึ้นในหัว


เขาจำได้ดีว่าเห็นห่อกำมะหยี่สองห่อ ภายในบรรจุสร้อยทองและพระเลี่ยมทองอย่างละองค์ ยามนั้นนายช่วงคิดเพียงว่าหลวงสุนทรวิจักษ์คงจะเตรียมเป็นของขวัญให้บุตรธิดา หากจะเป็นคุณเทพก็ไม่ผิดแปลกอันใด แต่...คาดไม่ถึงว่าอีกคนที่จะได้รับสร้อยพระจากมือคุณหลวงจะเป็นไอ้แผน!


   ...คนอย่างมึง!! อย่าหวังว่าจะได้อะไรจากคุณหลวงอีกเลย!!!...



………
   .................



ณัฐฐายืนตะลึงงันตาเหลือก


หล่อนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด ตอนที่ได้ยินเสียงตะโกน หล่อนรับรู้แค่ว่ามีใครบางคนพุ่งตัวเข้ามา ก่อนที่อะไรบางอย่างจะหล่นลงมาจากเพดานกระแทกพื้นเสียงดังตึงใหญ่ พอทุกอย่างสงบถึงได้เห็นเต็มสองตาว่าคนที่พุ่งเข้ามาคือร่มธรรม ส่วนสิ่งที่หล่นคืออุปกรณ์ไฟ


   เส้นยาแดงผ่าแปด อุปกรณ์หล่นกระแทกพื้นจนแตกหัก ในขณะที่ร่มธรรมล้มทับครองภพห่างจากจุดที่อุปกรณ์หล่นแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น!


   หากร่มธรรมไม่พรวดพราดเข้ามาผลัก ป่านนี้ครองภพคงนอนอยู่ใต้อุปกรณ์ไฟนั่นแล้ว!


   “ครอง! เจ็บตรงไหนรึเปล่า?! โอ๊ย!!” ร่มธรรมยันตัวลุกขึ้นมาถาม แต่พอยันแขนซ้ายเพื่อค้ำตัวเองขึ้นมา กลับร้องโอยหน้าตาเหยเก


   “คุณเป็นอะไร?” ครองภพร้องถามหน้าตื่น เขาหลุดจากห้วงภวังค์ตะลึงงันเพราะเสียงร้องของคนบนร่างตนเอง แต่พอเห็นสีหน้าของร่มธรรม เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่


ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มรุ่นพี่บิดเบี้ยว แดงก่ำ ในขณะที่มือขวาแตะแขนซ้าย


ครองภพเอื้อมมือไปจับแขน แค่แตะเพียงนิดร่มธรรมก็ถึงกับข่มตากัดกรามแน่น


“...เจ็บ...” คนเจ็บพึมพำบอก แต่ไม่วายหันมองครองภพที่สีหน้าตื่นตระหนก


   “ครองไม่เป็นไรใช่ไหม”


   “ห่วงตัวเองก่อนเถอะ! นอกจากแขนแล้วเจ็บตรงไหนอีกบ้าง?!”


   “ไม่...ไม่มี...”


   “มีแค่แขนใช่มั้ย?!” สีหน้าเคร่งเครียดของคนถาม ทำเอาคนเจ็บยังไม่กล้าพูดมากเกินจำเป็นได้แต่พยักหน้า


ครองภพหันไปมองอุปกรณ์ไฟที่ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ใกล้พวกเขา ร่มธรรมผลักเขาออกมา แต่เจ้าตัวคงหลบไม่พ้น ตอนที่จวนตัวเลยรีบยกแขนซ้ายขึ้นบัง 


ชายหนุ่มกัดกรามด้วยความโมโหแล้วออกคำสั่งวินาทีนั้น


“ไปโรง’บาลเดี๋ยวนี้!”


คนที่มักนิ่งเฉยกับสิ่งรอบตัว มาวันนี้กลับเป็นฝ่ายสั่งการเสียงดังฟังชัด หน้าตาของเขาถมึงทึงเต็มไปด้วยอารมณ์ ยิ่งทำเอาทั้งกองถ่ายอลเวงไปหมด ร่มธรรมคนเจ็บไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากกว่านั้น ก็ถูกพาขึ้นรถของครองภพแล้วพาไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที


……………………


   ไม่มีแผลแตกภายนอก แต่กระดูกแขนร้าว ต้องใส่เฝือก อาการไม่น่าเป็นห่วง แต่ต้องพักฟื้น ตอนแรกรินฤดีจะให้ทำ CT สแกนด้วย แต่ร่มธรรมยืนยันว่าอุปกรณ์หล่นใส่แขนเขาอย่างเดียว ไม่โดนอวัยวะส่วนอื่นอีก เมื่อนั้นคนเจ็บถึงได้ถูกพานั่งรถเข็นออกมายังห้องรับรอง


คนที่นั่งรออยู่ในห้องที่จัดไว้เป็นส่วนตัวสำหรับคณะจากกองถ่าย มีทั้งผู้กำกับ ทีมงาน รินฤดีและ...ครองภพ


   ร่มธรรมมองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนกอดอกอยู่มุมหนึ่งอย่างไม่เชื่อสายตา จริงๆก็เหลือเชื่อตั้งแต่ตอนถูกพาส่งโรงพยาบาลโดยรถของครองภพ โดยมีครองภพนั่งขนาบข้าง ในขณะที่รินฤดีผู้เป็นทั้งพี่สาวแท้ๆและผู้จัดการส่วนตัวของเขากลับถูกอัปเปหิให้นั่งรถตามมาพร้อมผู้กำกับด้วยซ้ำ


   “เป็นยังไงบ้างร่ม” คำถามของผู้กำกับฉายทำเอาร่มธรรมส่งยิ้มจาง


   “ไม่เป็นอะไรมากครับ ไกลหัวใจตั้งเยอะ จริงๆ ถ้าถ่ายแค่ช่วงอกขึ้นมาไม่เห็นแขน ก็น่าจะถ่าย...ต่อ...” พูดไม่ทันจบ เสียงดุก็ดังขัด


   “วันนี้ไม่ต้องถ่ายแล้ว!”


ไม่ใช่เสียงของผู้กำกับ ไม่ใช่เสียงของผู้จัดการส่วนตัว แต่เป็นเสียงของคนที่ยืนกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างครองภพ


   “แต่ว่า...น้องครองไม่ค่อยมีเวลาไม่ใช่หรือ” คนเจ็บกลับเป็นฝ่ายต่อรอง


   “ผมจะหาคิวให้ใหม่” ครองภพพูดเสียงเรียบ แต่หากจะจับอารมณ์ของเขาจากน้ำเสียงสักนิดคงพอจะรู้ว่าทั้งหงุดหงิดทั้งเคืองเป็นที่สุด


   ...มีอย่างที่ไหน เจ็บจนต้องมาโรงพยาบาล ยังจะมีหน้าขอกลับไปทำงานต่อ!...


   ร่มธรรมอยากค้าน นอกจากตารางงานแน่นเอี้ยดของครองภพแล้ว ยังมีทีมงานอีกมากที่ต้องเสียเวลาหากวันนี้ต้องยกกองเพราะอาการบาดเจ็บของเขา แต่พอคิดถึงทีมงานแล้ว ชายหนุ่มก็นึกไปถึงคนที่น่าจะได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุในครั้งนี้


   “แล้ว...แล้วทีมจัดไฟล่ะครับ...”


   “กลับไป จะเรียกคุย ถ้าเป็นเพราะประมาทจริง ก็ต้องเปลี่ยนคน” ผู้กำกับฉายกล่าวเสียงขรึม


ปกติเป็นคนมึงมาพาโวย แต่คราวนี้กลับโวยไม่ออกสักคำ เขามองนักแสดงหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกผิด ทว่าไม่ทันจะเอ่ยปากขอโทษแทนความเลินเล่อของทีมงาน อีกฝ่ายกลับร้องเสียงหลงขึ้นมาเสียก่อน


   “ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือครับ?!” ร่มธรรมร้องถามหน้าตาตกใจ


   “ถ้าร่มไม่ผลักครองออกมา ครองจะเจ็บหนักยิ่งกว่าที่ร่มเป็นตอนนี้ หรือต่อให้ไม่ใช่ครอง ถ้าต้องมีคนเลือดตกยางออกในกอง ก็ถือว่าร้ายแรง”


คนเจ็บฟังแล้วนิ่งงัน


อุบัติเหตุในคราวนี้ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความประมาทก็จริง แต่อีกส่วน...เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเพราะ...ชายนุ่งโจงคนนั้น…


   ส่วนเป้าหมาย...ไม่ใช่ใครสักคนที่ดวงตกหรือถึงคราวเคราะห์ แต่เจาะจงที่ ‘ครองภพ’


   “ผมว่า...เขา...คงไม่ตั้งใจ” ร่มธรรมแย้งเสียงแผ่ว ไม่กล้าพูดว่าเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น


ผู้กำกับฉายถอนหายใจ เห็นความเอื้ออารีและความสงสารในแววตาของนักแสดงหนุ่มผู้บาดเจ็บแล้วก็ชวนให้หนักใจ


   “ต้องกลับไปคุยก่อน แล้วค่อยว่ากัน”


ร่มธรรมหันไปมองรินฤดีราวกับจะขอความช่วยเหลือ แต่รินฤดีได้แต่เบือนสายตาหนีไม่กล้าออกตัว


   “พี่ไปจัดการเรื่องยาก่อนแล้วกันนะ” หล่อนปลีกตัวเพราะไม่อาจทนเห็นสายตาเว้าวอนของน้องชาย ในขณะที่ทีมงานและผู้กำกับจะต้องกลับไปจัดการกองถ่ายต่อ เหลือเพียงครองภพซึ่งไม่มีคิววันนี้แล้ว เพราะคิวที่มีถูกทำลายด้วยการที่นักแสดงร่วมฉากบาดเจ็บนั่งอยู่บนรถเข็น


   “น้องครอง พี่ฝากดูร่มแปบนึงนะคะ”


ครองภพพยักหน้ารับ


พอหญิงสาวและคนอื่นๆแยกตัวไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่สองนักแสดงหนุ่ม กับมุมสงบของโรงพยาบาล


   “ขอบคุณ...ที่ช่วยผม” อาจจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ทะเลาะกัน ที่ครองภพไม่มีอารมณ์โกรธเคืองเจือปนมาในคำพูดเลยสักนิด เวลานี้สิ่งเดียวที่กระจ่างชัดคือห่วงคนเจ็บยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด


ร่มธรรมยิ้มจางแล้วส่ายหน้าไปมา


   “ไม่เป็นไร...”


   ครองภพมองคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น คำถามอื้ออึงอยู่ในใจมากมาย อยากถามว่าเจ็บมากไหม อยากถามว่าทำเช่นนั้นทำไม อยากต่อว่าที่อีกฝ่ายไม่ห่วงตัวเองสักนิด ทั้งเรื่องที่พุ่งเข้ามาช่วยเขาและเรื่องที่คิดจะกลับไปถ่ายต่อ หรือแม้แต่เรื่องที่ขอให้ยกโทษให้คนประมาทที่ทำให้บาดเจ็บ


   แต่...คำถามมากมายเหล่านั้นกลับไม่มีหลุดออกจากปาก ครองภพไม่รู้ว่าทำไมนิสัยของเขาถึงเป็นเช่นนี้ เรื่องที่คิด เรื่องที่อยากบอก กลับได้แต่เก็บไว้ในใจ สุดท้ายเลยได้แต่เดินไปเข็นรถคนเจ็บให้มาหยุดข้างเก้าอี้ว่าง ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนเก้าอี้


   อาศัยความบาดเจ็บของอีกฝ่าย สร้างเหตุผลให้กับความเห็นแก่ตัวที่อยากทำตามอำเภอใจ รู้ทั้งรู้ว่าร่มธรรมต้องการขีดเส้นกั้นความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่...เวลานี้...ขอแค่เวลานี้ที่ได้ใกล้...


   ...ใกล้กัน...


   ...แค่ในยามที่ร่มธรรมบาดเจ็บ แค่ในยามที่รอบตัวไม่มีใคร...


   ครองภพหวังว่าความใกล้ชิดที่แสนเงียบนี้ จะบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร


   ...ห่วง...


   ...ห่วงมาก...


   ยิ่งเห็นแขนข้างที่บาดเจ็บของร่มธรรม หัวใจของเขาก็ยิ่งโหวงเหวงไปหมด


   “หิวรึเปล่า เอาน้ำไหม” ครองภพถาม ทั้งน้ำเสียงและสายตาเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างที่ทำเอาหัวใจคนเจ็บสั่นไหว


   ร่มธรรมเองก็อยากตัดใจจากอีกฝ่าย แต่อาการบาดเจ็บทำให้เห็นแก่ตัว หากช่วงเวลานี้...พอจะทำให้พวกเขาได้ใกล้กันบ้าง ก็คง...ดี


   “ขอน้ำหน่อยก็ดี ขอบคุณครับ” 


นักแสดงหนุ่มรุ่นน้องลุกไปหยิบน้ำดื่มที่มีบริการมาเปิดขวดส่งให้ เขามองอีกฝ่ายที่ยกขวดน้ำกระดกจนน้ำเปล่าไหลเลอะเสื้อเลยต้องดึงข้อมือเอาไว้ ก่อนจะก้าวเท้าไวกลับไปหยิบหลอดกลับมาเสียบลงในขวด


   เพราะแขนข้างหนึ่งเจ็บ มืออีกข้างหนึ่งถือขวด ในขณะที่หลอดสั้นกว่าขวดทำให้ดูดลำบาก ครองภพเลยทรุดตัวลงนั่งยองตรงหน้า มือหนึ่งจับหลอดให้อยู่นิ่ง อีกมือจับขวดน้ำ เป็นฝ่ายร่มธรรมที่ต้องปล่อยมือจากขวดน้ำแล้วนั่งเฉยดูดน้ำอย่างเดียว พออิ่มน้ำถึงได้คายหลอดออก


   “พอแล้วหรือ”


   “อืม ขอบคุณ”


แม้จะเจ็บตัว แต่ร่มธรรมก็ยังยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มสวยที่ครองภพไม่ได้เห็นอีกนับตั้งแต่พวกเขาทะเลาะกัน หนุ่มรุ่นน้องมองรอยยิ้มนั้นนิ่งนานด้วยความคิดถึง จนกระทั่งเสียงของหญิงสาวดังขึ้น


   “เรียบร้อยแล้ว...” รินฤดีเดินกลับมาจากการรับยา ครองภพจึงลุกขึ้นแล้วขยับไปยืนอยู่ข้างๆรถเข็น แน่นอนว่าเขาไม่ได้เดินไปไหน แต่ยืนดูผู้จัดการสาวแจกแจงว่ายาใดบ้างที่ร่มธรรมได้รับ


   “...แล้วก็มีใบนัดด้วย”


   “วันไหนครับ” คนถามไม่ใช่ร่มธรรมแต่เป็นครองภพ รินฤดีกะพริบตาปริบๆ งุนงงจนยอมตอบความจริงแทนที่จะย้อนถามว่าเขาจะอยากรู้ไปทำไม


   “หมอนัดอีกทีสัปดาห์หน้าค่ะ”


   “แต่วันนี้ไม่ต้องกลับเข้าสตูดิโอแล้วนะ พี่คุยกับผู้กำกับแล้ว เขาจะถ่ายคนอื่นก่อน วันนี้ร่มต้องกลับไปพักเยอะๆจะได้หายไวๆ รถมารออยู่ข้างหน้าแล้ว ไม่รบกวนน้องครองแล้วค่ะ เดี๋ยวให้คุณบุรุษพยาบาลช่วยพาไปที่รถ ขอตัวก่อนนะคะ” รินฤดีก้มลงพูดกับคนเจ็บแล้วก็หันไปพูดกับนักแสดงหนุ่ม ครองภพไม่คัดค้าน ปล่อยให้บุรุษพยาบาลเข้ามาแทนที่


   ร่มธรรมกำลังจะหันไปลานักแสดงรุ่นน้อง แต่ก็พลันชะงักกึกเมื่อสายตาเหลือบไปเห็น ‘ใคร’ ยืนอยู่มุมห้องรับรอง


   ห้องรับรองพิเศษที่ไม่ควรมี ‘ใคร’ นอกจากพวกเขา


   แต่เป็น ‘ใคร’ ที่เข้ามาในห้องโดยที่ไม่มีคนเห็น...ยกเว้นร่มธรรม


   ...ชายนุ่งโจง!...


   คนเจ็บรู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง ความหวาดหวั่นไหลหลั่งเข้าสู่หัวใจ

 
การปรากฏตัวของชายผู้นี้ เกือบคร่าชีวิตของครองภพไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เขาที่ผลักครองภพให้พ้นทาง และคราวนี้...ชายผู้นี้ปรากฏตัวอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่าต้องการทำอะไรอีก


เขาหันไปมองครองภพด้วยความกังวล ห่วงความปลอดภัยของอีกฝ่าย มากกว่าจะทันสนใจว่าชายนุ่งโจงผู้นั้นไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อจับจ้องครองภพด้วยความเคียดแค้นเหมือนเมื่อครู่แล้ว แต่เป้าสายตาของเขากลับเป็นร่มธรรมต่างหาก


สายตาที่ชายผู้นั้นมองร่มธรรมเต็มไปด้วยความเสียใจ และน้อยเนื้อต่ำใจ แต่...ร่มธรรมไม่เห็น


   สายตาของร่มธรรมมองเพียงครองภพ


   “ครอง...พี่ขออะไรสักอย่างได้มั้ย”


   ครองภพกะพริบตาปริบๆ ไม่ทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายกลับถอดสร้อยพระที่สวมอยู่แล้วส่งให้


   “สวมสร้อยพระได้มั้ย”


ชายหนุ่มวัย 22 ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ แต่ร่มธรรมไม่อาจอธิบายอะไรทั้งๆที่ยังมีรินฤดีและบุรุษพยาบาลยืนมองอยู่แบบนี้ เขาดึงมือของครองภพมาแล้วบังคับวางสร้อยพระลงกลางฝ่ามือ


   “สวม...อย่าถอด รับปากพี่”


ครองภพไม่เข้าใจ แต่อีกฝ่ายกลับจ้องเขาอย่างเอาจริงเอาจังจนไม่อาจปฏิเสธ เขายอมพยักหน้ารับ เมื่อนั้นร่มธรรมจึงหันไปหารินฤดีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ


   “ไปกันครับ พี่ริน”


รินฤดีไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่เห็นคาตาว่าร่มธรรมถอดสร้อยพระให้ครองภพ ในฐานะพี่สาว หล่อนกล้าพูดว่าร่มธรรมมีสัญชาตญานประหลาด สมัยเด็กๆ เขารอดพ้นเภทภัยหลายครั้งอย่างปาฏิหาริย์ และครั้งนี้ เขาก็เป็นคนช่วยครองภพจากอุบัติเหตุ หากไม่ใช่ว่าเขารับรู้ถึงอะไรบางอย่าง มีหรือจะถอดสร้อยพระจากคอตนเองให้อีกฝ่าย


   หญิงสาวไม่กล้าพูดมาก ได้แต่เม้มปากแล้วหันไปส่งสัญญานให้บุรุษพยาบาลเข็นรถเข็นพาร่มธรรมออกไปขึ้นรถ  หล่อนหันกลับไปมองครองภพอีกครั้ง เห็นชายหนุ่มก้มลงมองสร้อยพระในมือ แล้วได้แต่ภาวนาให้เขาทำตัวว่าง่ายกับร่มธรรมในเรื่องนี้


   ถ้าจะดื้อก็ดื้อเรื่องอื่นเถอะ เรื่องแบบนี้ของร่มธรรม ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริงๆ


................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2020 21:26:05 โดย Dezair »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

คนประเภทคิดถึงคนอื่นก่อนตนเอง ย่อมไม่ใช่คนที่เอาร่างกายซึ่งบาดเจ็บกลับไปเป็นภาระให้พี่น้อง


แม้จะถูกรินฤดีคัดค้านว่าการที่เขาอยู่คอนโดเพียงลำพังในขณะที่แขนข้างหนึ่งบาดเจ็บเป็นเรื่องลำบากมากถึงมากที่สุด แต่ร่มธรรมยืนกรานหนักแน่นที่จะกลับไปพักที่คอนโด ไม่อย่างนั้นจะกลับไปถ่ายละครต่อ คนเป็นพี่เลยต้องยอมตามใจ แต่ไม่วายจัดแจงตระเตรียมทั้งอาหารและน้ำดื่มไว้ใกล้ตัวน้องชายเพื่อให้เขาสะดวกสบายที่สุดในการดำรงชีวิต


   “ถ้ามีอะไรต้องรีบบอกพี่นะ กดโทรออกปุ่มเดียว เครื่องพี่จะดังทันที”


หล่อนเตรียมกระทั่งทำให้เบอร์สุดท้ายในเครื่องของชายหนุ่มเป็นเบอร์ของหล่อน หากมีอะไรฉุกเฉิน ขอแค่เขาปลดล็อกหน้าจอแล้วกดโทร.ออก พี่สาวคนนี้จะรีบตรงดิ่งมาหาทันที


   ร่มธรรมหัวเราะเบา พยักหน้ารับไม่ขัดใจ


   “แล้วตอนเย็นพี่จะแวะมาดูอีกที”


“ไม่ต้องมาแล้ว พี่รินเข้าไปดูร้านกาแฟแทนผมดีกว่า”


“แต่ว่า...”


“พี่รินเตรียมข้าวต้มไว้ให้ผมแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้”


“แขนข้างเดียวเนี่ยนะ” หล่อนย้อน แต่น้องชายยังยิ้ม


“แขนข้างเดียวแต่แข็งแรง พี่รินไม่ต้องเป็นห่วง แค่เอาถ้วยข้าวต้มใส่ไมโครเวฟ ผมทำได้ พี่เข้าไปดูร้านให้หน่อย แล้วที่ออฟฟิศรู้สึกจะมีเอกสารที่ต้องเซ็นด้วย ไหนจะเรื่องคิวอีก” รินฤดีคิดตามแล้วก็ทำหน้าปั้นยาก ร่มธรรมงานเยอะเป็นเรื่องที่หล่อนรู้ดี แต่พอถึงเวลาที่เขาแจกแจงงานของเขาออกมาให้หล่อนช่วยจัดการแทน ก็ทำเอารู้สึกว่าร่มธรรมไม่ใช่แค่งานเยอะ แต่ต้องเรียกว่าเยอะมาก


“ก็ได้ๆ เดี๋ยวพี่เข้าไปดูเอกสารที่ออฟฟิศก่อนแล้วกัน ถ้ามีอะไรด่วนจะได้จัดการก่อน ตอนค่ำๆจะแวะไปดูร้านให้ แล้วพรุ่งนี้เช้าพี่จะเอาข้าวมาส่งให้แต่เช้า”


“ครับ ถ้ามีอะไรโทร.มาหาผมได้เลย ถ้าเอกสารด่วนต้องเซ็นก็ให้หนุ่ยวิ่งมา”


“เรื่องเถอะย่ะ! ใครจะให้คนป่วยทำงาน!” รินฤดีเถียง ร่มธรรมไม่ต่อรอง แต่ตั้งใจว่าพอพี่สาวพ้นประตูห้องเมื่อไร เขาจะเช็คอีเมลดูเรื่องงานเสียหน่อย


   “แล้วพี่จะบอกเลขาฯของร่มห้ามรบกวนช่วงนี้ เพราะต้องท่องบทยาวเป็นหน้า!”


ดูเหมือนผู้จัดการส่วนตัวที่มีอีกสถานะเป็นพี่สาวจะรู้นิสัยบ้างานของน้องชายดี เลยรีบดักคอ ผลคือใบหน้าหล่อเหลาเจื่อนสนิทในวินาทีนั้น


   “เอาล่ะ...พักผ่อนได้แล้ว ถ้าดูแลตัวเองดี หมอก็บอกว่า 6 สัปดาห์หาย แต่ถ้าดูแลไม่ดี เฝือกเคลื่อน กระดูกหัก คราวนี้พักยาว” ใครจะรู้จักนิสัยน้องชายบ้างานดีไปกว่าคนเป็นพี่ แต่ขู่แล้วก็ไม่วายสำทับ “...แล้วอย่าลืม...มีอะไรก็โทร.มา กดโทร.ออกอย่างเดียว พี่จะรีบเหาะมาหา” รินฤดีทิ้งท้าย ก่อนจะยอมออกจากคอนโดไป


   นอกจากอาหาร ยา น้ำดื่ม เสื้อกันหนาวและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่พี่สาวเตรียมการไว้ให้แล้ว หล่อนยังไม่ลืมเสียบปลั๊กชาร์จไฟไว้ให้ที่ข้างเตียงด้วย ร่มธรรมเอนตัวลงนอน แม้จะไม่ใช่เวลานอนปกติ แต่อาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าสะสมทำให้เคลิ้มหลับอย่างง่ายดาย ทว่าก่อนจะหลับลึก เขากลับได้ยินเสียงเหมือนหูแว่ว


   ‘คุณหลวง คุณหลวงขอรับ’


   ‘กระผมขอโทษ...’


   แต่...อะไรบางอย่างกลับกั้นเสียงร้องเรียกนั้นให้เจือจาง ก่อนจะกลายเป็นความเงียบสงบ แล้วดึงสติของร่มธรรมให้เข้าสู่นินทาอย่างรวดเร็ว 


…………………….


   อัจฉรามองลูกชายคนเล็กที่กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแล้วก็พลอยถอนหายใจเบาอย่างโล่งอก


ตอนที่หล่อนกำลังคุยงานกับธาดาอยู่ที่บริษัท จู่ๆผู้จัดการส่วนตัวของครองภพก็โทรศัพท์มาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุในกองถ่าย คนบาดเจ็บคือร่มธรรมที่ช่วยครองภพเอาไว้ ตอนพวกหล่อนไปถึงโรงพยาบาล ร่มธรรมกลับไปพักผ่อนแล้ว หล่อนจึงสอบสวนเอากับวิษณุ


‘อุปกรณ์ไฟ อยู่ดีๆก็หล่นลงมา’


‘คุณร่มหันมาเห็น เลยรีบเข้าไปผลักครอง แต่...คุณร่มหลบไม่พ้น มันเลยกระแทกแขน กระดูกร้าวครับ’


หากร่มธรรมไม่เห็น แน่นอนว่าครองภพไม่มีทางได้นั่งอยู่ข้างมารดาในเวลานี้


ความปลอดภัยของลูกชายก็เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องคือความใจหายใจคว่ำเพราะตระหนักว่าลูกชายคนเล็กของหล่อนเพิ่งแคล้วคลาดมาหมาดๆ คำสั่งแรกที่อัจฉรามีต่อครองภพจึงเป็น ‘ไปทำบุญเดี๋ยวนี้!’


ตอนแรกคิดว่าคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ไม่หือไม่อือแม้แต่ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ จะคัดค้านความเชื่อโบราณของหล่อน ทว่าเขากลับยินยอมตามมาวัดแต่โดยดี แล้วพอรับศีลและพรแล้ว ถึงได้หันมาทางมารดา


“แม่...ถ้าผมทำบุญให้คนที่ยังไม่ตายจะได้ไหม”


“ได้สิ ครองจะทำบุญให้ใคร”


ครองภพนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบา


“ร่ม...”


เกิดเป็นความเงียบระหว่างสามแม่ลูก อัจฉรามองลูกชายคนเล็กที่มักแสดงออกอย่างเฉยเมยและเย็นชา แต่ใครจะรู้ว่าภายในใจของเขานั้นอบอุ่นและห่วงใยผู้อื่นมากแค่ไหน


หล่อนตั้งใจพาเขามาทำบุญก็เพื่อให้แคล้วคลาดภยันตรายจากสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ตัวเขากลับคิดถึงคนที่เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือมากกว่าจะคิดถึงคราวเคราะห์ของตนเองเสียอีก


ลูกชายของหล่อนช่างเป็นเด็กน่ารักและอ่อนโยนจริงๆ


“แม่เชื่อว่าถึง...” หญิงร่างผอมลูบแขนลูกชายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยปากต่อ


“...แต่ผลบุญคือสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่เห็นคือการกระทำ คือความปรารถนาดี คือความตั้งใจ…ถ้าเป็นห่วง ก็ไปเยี่ยมเขา แม่ว่าเขาต้องดีใจที่เห็นครอง” อัจฉรายิ้มสนับสนุน


สามคนแม่ลูกและหนึ่งผู้จัดการส่วนตัวของครองภพมาด้วยรถยนต์สองคัน ดังนั้นเมื่อออกมาที่ลานจอดรถของวัด ครองภพและผู้จัดการจึงแยกไปขึ้นรถคันหนึ่ง จุดหมายปลายทางของรถคันนี้ไม่แน่ใจว่าจะไปทำงานต่อ หรือคอนโดของเจ้าตัว หรือ...อาจจะเป็นที่พักของใครบางคนที่ครองภพตั้งใจอุทิศผลบุญให้


“แม่ว่า...ไอ้ครองจะไปไหน” ธาดาตั้งคำถามกับมารดา สายตายังมองส่งตามหลังรถแวนที่เคลื่อนตัวออกจากบริเวณวัดไปแล้ว


อัจฉราหันมองลูกชายคนโต


“ถ้าไปทำงานก็แสดงว่าคงสบายใจแล้ว แต่ถ้ากลับคอนโด ก็แสดงว่าคงเหนื่อยมาก”


“แล้วถ้าไปเยี่ยม...”


“ก็แสดงว่า...เรามองข้ามร่มธรรมไม่ได้แล้ว...”


“...เขา...คือคนที่ก้าวข้ามกำแพงของครอง” หล่อนพูดแล้วหันมามองลูกชายที่ยืนข้างกาย


ความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ครองภพกำลังจะก้าวเดิน ย่อมแตกต่างจากคนหมู่มากในสังคม แต่ถ้ามันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้ใครมากนัก หล่อนก็อยากเป็นแรงผลักให้ลูกชายก้าวเท้าไปในทิศทางที่เขาต้องการ ให้เขามุ่งมั่นไปกับหนทางของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร จะประสบความสำเร็จหรือผิดหวัง ก็คงดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ


แต่ครอบครัวของครองภพไม่ใช่มีเพียงหล่อน ยังมีธาดาด้วย


แม้จะเป็นคู่พี่น้องที่อายุห่างกันถึงสิบปี แต่หล่อนเป็นแม่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าพวกเขารักกันเพียงใด


“ธา...แม่...อยากสนับสนุนน้อง ไม่ว่าครองจะไปทางไหน ถ้ามันไม่ใช่ทางที่เลวร้าย ผิดกฎหมาย ทำร้ายทำลายคนอื่น แม่...ก็อยากให้ธาอยู่ข้างแม่...อยู่ข้างน้อง...”


ธาดายิ้มให้มารดา


“แม่ไม่ต้องห่วง ผมอยู่ข้างครองเสมอ” ชายหนุ่มรับปากอย่างมุ่งมั่น 


ไม่ว่าครองภพจะอยากทำอะไร เขาจะเป็นพี่ชายที่ประคองหลังน้องชายคนนี้เอง


อย่ากังวลว่าจะล้ม อย่ากังวลว่าจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน หรือต่อให้ผิดหวัง พี่คนนี้ก็จะยืนรออยู่ข้างหลังเสมอ

…………………………

แม้จะเคยไปร้านกาแฟของร่มธรรมหลายครั้ง แต่ครองภพเพิ่งนึกออกว่าเขาไม่เคยไปที่พักของร่มธรรมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ชายหนุ่มไม่สิ้นไร้ไม้ตอก เขาให้วิษณุโทร.สอบถามกับผู้จัดการส่วนตัวของร่มธรรม


“จะลองโทรไปหาคุณร่มก่อนไหม เผื่อเขาอาจจะไม่ได้กลับคอนโด” ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ร่างท้วมหันมาถาม ทว่าครองภพกลับส่ายหน้า


“คนอย่างนั้นไม่มีทางไปอยู่ที่อื่นแล้วลำบากคนอื่นหรอก อีกอย่าง...เขาอาจจะหลับอยู่ ผมไม่อยากกวน”


แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความหาคนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล


‘หลับอยู่รึเปล่า’


เงียบ


ไร้วี่แววการอ่านหรือแม้แต่การตอบกลับ


เขารออยู่เกือบห้านาที ทั้งๆที่เป็นคนใจร้อน ก่อนจะหันไปบอกผู้จัดการส่วนตัว


“ก่อนถึงคอนโดเขา พอจะมีร้านกาแฟแถวนั้นมั้ยครับ”


“ร้านกาแฟ? อ้อ ร้าน ร.รอ ไง ร้านของคุณร่มเขาน่ะ”


นักแสดงหนุ่มถึงกับเลิกคิ้ว ก่อนจะย้อนถาม


“ร้านนั้นอยู่ใกล้คอนโดผมไม่ใช่หรือ”


“ใช่ คอนโดของครองกับคุณร่มอยู่ใกล้กันน่ะสิ พี่ก็เพิ่งรู้” วิษณุบอกพลางหันหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฏสถานที่ตั้งของคอนโดของร่มธรรมให้ดู


ไม่น่าเชื่อ...พวกเขาอยู่ใกล้กันมากกว่าที่คาด แต่กลับไม่เคยพบกันเลยสักครั้งตลอดชีวิตที่ผ่านมา ราวกับมีใครหรืออะไรคอยแต่จะพาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้พ้นจากอีกฝ่าย


“ถ้างั้นให้รถไปส่งที่ร้านกาแฟแล้วกัน ผมจะรอที่นั่น”


“รอ?” วิษณุย้อนถามอย่างงุนงง แต่ไม่ได้คำตอบ ครองภพไม่พูดอะไรอีก เบี่ยงสายตาออกไปนอกหน้าต่างรถ ทั้งๆที่มือยังเปิดค้างหน้าจอห้องแชทของเขาและร่มธรรมเอาไว้อย่างนั้น


...รอ...


...ใช่...เขาจะรอจนกว่าร่มธรรมจะตอบกลับมา...


……………….


แม้จะสวมผ้าปิดจมูกปิดบังหน้าตาไปมากกว่าครึ่ง แต่ตอนที่ครองภพก้าวเท้าเข้ามาในร้านกาแฟใจกลางเมืองที่แม้จะมีคนประปรายในยามบ่าย แต่มากกว่าครึ่งของผู้คนเหล่านั้นก็ล้วนมองเขาเป็นตาเดียว


จำไม่ได้ก็แย่แล้ว ในเมื่อป้ายโฆษณาทั่วเมืองแทบจะมีแต่หน้าของเขาทั้งนั้น แต่นอกจากหน้าตาจะเป็นที่รู้จักแล้ว นิสัยพูดน้อยก็เป็นที่เลื่องลือเช่นกัน ดังนั้นแม้จะรู้จัก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปทักถามหรือขอถ่ายรูป


ถึงอย่างนั้น เมื่อชายหนุ่มก้าวไปถึงเคาน์เตอร์สั่งอาหาร หางตาก็เหลือบเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลยกโทรศัพท์ขึ้นมา เขาไม่ได้หืออือ ไม่หันไปมอง ไม่สนใจ ไม่เปิดผ้าปิดปาก แต่สั่งเครื่องดื่มด้วยน้ำเสียงทุ้มเรียบ


“อเมริกาโน่เย็นแก้วใหญ่”


“รับขนมทานเพิ่มด้วยไหมคะ”


ครองภพไม่ใช่คนชอบทานของหวาน เขากำลังจะบอกปัดตามนิสัย แต่จู่ๆก็คิดถึงช่วงที่ผ่านมา


ทั้งๆที่แรกเริ่มไม่อยากให้ร่มธรรมมีบุญคุณต่อเขา ไม่อยากเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน แต่...ร่มธรรมเข้าหาอย่างช้าๆ หลากหลายรูปแบบ


แซนวิชของร้าน ร.รอ ก็เคยเป็น ‘น้ำใจ’ ที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ หรือแม้แต่คุ้กกี้ของร้าน ก็เคยเป็นประเด็นให้เขาได้ดุอีกฝ่าย


จากความรู้สึกต่อต้านและหลบเลี่ยง ค่อยๆเปลี่ยนไป พัฒนาจนกลายเป็นความรู้สึกลึกซึ้งและความสัมพันธ์ที่ทำให้ตกเป็นข่าว


แล้ว...ทุกอย่างก็หยุดลง


ทว่า...ตอนที่คิดว่าพวกเขากำลังจะถอยห่างจากกันและกันแล้ว เหตุการณ์กลับตาลปัตรอีกครั้ง


ร่มธรรมช่วยชีวิตเขา ร่มธรรมบาดเจ็บเพราะเขา


แล้วแบบนี้...จะถอยห่างได้อย่างไร


ครองภพไม่ได้เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ การเวียนว่ายตายเกิด หรือแม้แต่เวรกรรม เขาเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น และเชื่อในการกระทำ


และการกระทำทั้งหมด...ไม่ว่าจะของใครก็ตาม ได้เกี่ยวร้อยพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน


“วันนี้เรามีมัฟฟิน ครัวซอง คุ้กกี้ธัญพืช...”


“แซนวิชครับ” ชายหนุ่มเอ่ย พนักงานสาวที่ยืนอยู่หลังแคชเชียร์ยิ้มรับก่อนจะทวนออเดอร์ของเขา


ครองภพรอรับทั้งเครื่องดื่มและแซนวิชทูน่าที่อุ่นร้อนแล้ว ก่อนจะเดินไปนั่งที่มุมหนึ่งของร้าน ทันทีที่นั่งลง เครื่องดื่มและอาหารก็วางลงตรงหน้า แต่เขากลับเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อน


‘หลับอยู่รึเปล่า’


ข้อความที่แล้วยังไม่ถูกเปิดอ่าน เขาก็ยังพิมพ์ข้อความส่งเพิ่มไปอีก


‘ถ้าตื่นแล้ว โทรกลับด้วย’


ชายหนุ่มหันไปหยิบอเมริกาโน่มาดูด แล้วต่อด้วยแซนวิช ทั้งๆที่เป็นคนมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อีกทั้งยังมีงานรัดตัว การใช้ชีวิตโดยการนั่งดื่มกาแฟ กินขนม รอการตอบกลับจากคู่สนทนาไม่เคยอยู่ในระบบความคิดของเขาเลย แต่...วันนี้เขาทำ อีกทั้งยังทำอย่างใจจดใจจ่อด้วย


เขาเอนหลังพิงพนักพลางถอนหายใจ ไม่รู้ว่าอะไรที่น่าประหลาดใจมากกว่ากันระหว่างความรู้สึกมากมายที่ปะทุอยู่ในอกขณะนี้ หรือการที่เขาทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะทำ


...รอ...


ทว่ายิ่งรอก็ยิ่งร้อนใจ ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าอาการบาดเจ็บของอีกฝ่ายได้รับการรักษาแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง


...แต่ก็ยังห่วง...


หัวใจของเขาเต้นถี่จนได้แต่เอามือทาบลงบนตำแหน่งหัวใจราวกับจะช่วยปลอบให้มันเต้นช้าลงได้ แต่...ไม่เลย พอคิดถึงคนที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ ก็ยิ่งอดอยู่เฉยไม่ได้ ต้องหาอะไรทำ แล้วกลายเป็นเปิดหน้าจอห้องแชทขึ้นมาดูแทบจะทุกๆนาที


แต่...ทุกอย่างยังเงียบกริบ เป็นฝ่ายเขาเองที่พิมพ์ข้อความส่งไปเพิ่ม


‘ผมรออยู่ที่ร้านกาแฟ’


ครองภพนั่งรอการตอบกลับอย่างสงบ กิจกรรมของเขาก็ยังไม่พ้นไปจากเรื่องเดิมเท่าไร ดื่มอเมริกาโน่เย็น กินแซนวิช และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู


เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมง หน้าจอห้องสนทนาของเขาและร่มธรรมก็เกิดการเปลี่ยนแปลง


สามข้อความของเขาถูกอ่าน ครองภพขยับตัวนั่งตรง ดวงตาเบิกโตขึ้นเล็กน้อย


‘ครองมีอะไรรึเปล่า’


ข้อความที่ส่งกลับมา ถูกครองภพอ่านอย่างรวดเร็ว และที่เร็วยิ่งกว่าคือประโยคถัดมาที่เขาส่งกลับไป


‘ผมจะไปเยี่ยม’


พอส่งข้อความกลับไปแล้ว ก็ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธ เขาลุกจากโต๊ะ แต่พอจะพ้นประตูร้านออกไป ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่มีอะไรติดไม้ติดมือไปเยี่ยมคนบาดเจ็บเลย


ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไปที่หน้าแคชเชียร์อีกครั้งแล้วเอ่ยปาก


“เจ้าของร้านชอบกินขนมอะไร เอาอย่างละชิ้นใส่กล่องกลับบ้าน”



ติดตามตอนต่อไป (วันพฤหัสหน้าค่ะ)

มีคนทำตัวเป็นป๋า ซื้อขนมจากร้านคนเจ็บไปเยี่ยมคนเจ็บแหละค่ะ ฮ่าฮ่า (พี่ร่มยิ้มเลยค่ะ เงินทองไม่รั่วไหล)

ตอนที่แล้ว มีคนเดากันมาเยอะมากกกกก ว่าใครเป็นใคร ชาติที่แล้วคนนั้นเป็นคนนี้ คนนี้เป็นคนนั้น ซึ่ง...มีคนเดาถูกค่ะ และถ้าเอาของคนเดาถูกทั้งหมดมารวมกัน ก็คือพล็อตเรื่องถูกไปแล้วมากกว่าครึ่งแล้วนะ (นี่สปอยมากเลยนะเนี่ย ฮ่าฮ่า) เพราะฉะนั้น ลุยค่ะ เอาให้ถูก 100% สู้ๆ ^^

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนร่วมทาย และทุกกำลังใจเช่นเคย

เจอกันพฤหัสหน้า กับน้องครองขาลุยค่ะ (น้องจะลุยแล้วนะคะ ร่วมเป็นกำลังใจให้น้องด้วยค่ะ ฮ่าฮ่า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2020 21:23:14 โดย Dezair »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โอ๋ๆๆๆ นะพี่ร่ม เจ็บตัวเลย  :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
พี่ร่ม จะใจร้ายกับน้องครองได้ลงคอเลยหรือ แต่ความเป็นห่วงคนอื่นทำให้ตัวเองลืมเจ็บ
น้องครอง ต่อไปคงไม่สนคำปฎิเสธของพี่ร่มแล้วละ บุกอย่างเดียว น้องครองสู้ๆ น้องครองสู้ๆ
 :ped149: :ped149: :ped149:

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
รอ ไม่เคยพอเลย อยากอ่านอีกกก

น้องครองสู้ๆ งานดูแลต้องมาแล้วนะ  :o8:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่ร่มจะสู้กับผีโจง ปกป้องน้องครองเอง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!

โอ้ยย พ่อคุ๊ณซื้อขนมร้านพี่ร่มไปให้ร่ม ให้มันได้อย่างนี้สิน้องครอง มันใช่เหรอออ :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2020 13:00:15 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ได้หลอ ซื้อของเค้าไปให้เค้า 5555

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อยากรู้จังชาติก่อนเกิดอะไรขึ้นกับแผน :hao5:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
กลับตารปัตรจากที่คิดไว้เลยค่ะ5555555

อะไรคือการซื้อขนมร้านคนเจ็บไปให้คนเจ็บคะน้องครอง กลัวพี่เค้าไม่เชื่อว่ามานั่งรอที่ร้านรึไงเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าครองสายเปย์น่ะ 555

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
หวีดดดน้องครองสายเปย์ไปแล้ว  :hao7:
ก็มาเดาเรื่องต่อ ผีโจง =ไอ้แผน
ผีชายฉกรรจ์โจง =บ่าวช่วง น่าจะสองผีนี้แหล่ะ ที่ยังไม่ไปเกิด ผีช่วงคอยตามปกป้องพี่ร่ม(คุณหลวง) ไม่อยากให้พี่ร่มได้เจอกับครองภพ

ส่วนไอ้แผนไม่น่าแค้นคุณหลวง พลาดทำพี่ร่มเจ็บ ยังเสียใจตาม มาขอโทษสำนึกผิดอยู่เลย

ที่นี้ครองภพชาติที่แล้วเป็นใครนี่ล่ะ?
ไอ้แผนถึงได้ตามจองเวรขนาดนี้ คุณเทพเหรอ? ชาติที่แล้วก็ดูเป็นเด็กหนุ่มมองโลกในแง่ดี ร่าเริง เป็นเพื่อนกับไอ้แผน หรือเหตุมันจะเกิดเพราะ สร้อยพระเหลี่ยมทองนั้น ไอ้ช่วงมันต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆ

ไหนไอ้ช่วงเล่ามาสิ เพราะความขี้อิจฉาริษยาของแกเนี่ย ทำสับสนไปหมดแล้ว แกไปทำอะไรไว้บอกมาสิ พูด!! :angry2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2020 15:35:14 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ชอบใจพี่ครอง ซื้อขนมร้านเขาไปฝากเจ้าของร้าน เงินทองไม่รั่วไหลอ่าาา เอาใจสุดๆ สู้ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นี่สินะที่เรียกว่าผีผลัก จากร้ายกลายเป็นดี เพราะน้องครองจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสก็งานนี้

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องครอง น่ารัก คึกคักคุคิ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เอ็นดูน้องครอง

ออฟไลน์ silkzeta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เนี่ย ไม่รู้ว่าพอถอดพระให้เขาไปแล้วตัวเองจะเป็นอะไรหรือเปล่า
กลัวสุดท้ายแล้วนายช่วงจะหันมาเล่นงานพี่ร่มเสียเอง เพราะโกรธที่นายไม่ยุติธรรม (ซึ่งแน่นอนว่าคิดไปเองทั้งนั้น)
สุดท้ายนี้เอาใจช่วยน้องครองค่ะ อย่าปล่อยผู้ใหญ่คิดเยอะให้อยู่คนเดียว ได้เวลาสู้แล้ว
ถ้าอยากได้ก็ต้องสู้ค่ะ ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
วันพฤหัสของเรามีความหมายมากขึ้นเพราะนิยายคุณบัวเลย สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อยากให้น้องครองมาอยู่คอนโดพี่ร่ม
เพื่อความปลอดภัยค่ะ  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ผีไหนคอยช่วยร่ม? แต่ร่มก็เหมือนมีเซนส์เรื่องนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด