...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)  (อ่าน 92193 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
พี่ธาดาาาา!!!!!
โอ้ยยย ความเห่อน้องหลงน้องตามใจน้อง ได้น่ารักที่สุดในโลกกก ถึงกับสาบานต่อข้าวกลางวัน น้องครองของพี่ต้องสมหวัง!5555555555

/ยื่นใบจองพี่ธาดา เก็บตังค์ค่าสินสอดไปสู่ขอพี่ธาดาแป๊บ!! :hao7:

พ่อสิงโตหนุ่มริรัก งุ่นง่านซะเอ็นดู งอนนานแล้วนะ ทำไมพี่ร่มไม่ง้อสักที
ทำไมใครๆก็ดูออกล่ะเนี่ยย ครองเป็นงง  :laugh:

ลืมไปได้ไง ว่าคุณหลวงมีลูกมีเมียแล้ว  ถ้าแอบเผลอมีใจให้ไอ้แผน อิบ่าวช่วงขี้อิจฉาจะไปทำอะไร ยังไงคนเดียวได้ไง มันต้องฟ้องใส่ความบ้างล่ะ! ผีโจงแดงกับผีกอดเข่า แท็กทีมกันแน่ๆ แต่จะเมียหรือคุณเทพเนี่ยสิ?
เบญจาก็เริ่มน่าสงสัยขึ้นมาอีกล่ะ เป็นแฟนคลับพี่ร่ม 'รักมาก' อืมม..น่าคิด /โคนันต้องมาแล้วววมั้ยย :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2020 08:34:34 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เอ็นดูคุณพี้ธาดา  :mew4:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ธาดา ธาด๊า ธาดา อยากเป็นเมีย ธาดา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โหดจิงพ่อคุณณณณณณณณ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ไปง้อน้องเขาเดี๋ยวนี้เลยนะพี่ร่ม!!
สงสารน้องครองงะ น้องแค่งอนเอง
พี่ก็ง้อน้องหน่อยเหอะ :mew3:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ครองภพมีพี่ที่ดี แม่ที่ดี และตอนนี้พี่ชายทำหน้าที่ได้ดี
บุกมาหาถึงร้านจ้า ปลื้มมากอะเนาะ น้องไปหา ไปกินข้าวด้วยกัน
แถมยังปรึกษาเรื่องความรักด้วย เป็นพี่ชายที่น่ารักมากเลยค่ะ
เอ็นดูความตัวลอยนี้ของธาดา  :mew2:

บางทีความคิดไม่เหมือนกันก็ทำให้เกิดปัญหาบ้าง
ร่มธรรมห่วงครองภพ และอนาคตของครอง
แต่ครองกลับเข้าใจไปอีกทาง ตอนนี้ก็เข้าใจละเนาะ
ว่าที่พี่ทำเพราะห่วง ไม่ได้อยากห่างหรอก
แถมยังดูออกด้วยว่า ไม่ปกติ คืบหน้ากว่าเพื่อนกัน
โธ่เอ้ยยย อยากจะคุยกับพี่ ก็ลีลาเยอะ
เค้าพูดถึงคนอื่นก็เป็นเคือง เป็นนอยด์ 5555

ร่มธรรมคนดี คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
มีแต่คนห่วงใยและหวงหนักมาก
ตามมาดูแลข้ามภพข้ามชาติกันเลย
แล้วในมุมมืดนั่น เป็นสิ่งที่ใครไม่ได้ยิน
แต่กำลังจะสร้างเรื่องให้คนรอบข้างนะ

เบญญานี่ยังไงคะ ชอบร่มธรรมแบบแค่เอฟซีจริงๆ ใช่ไหม


ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เอ็นดูพี่ธาดา รักน้องหลงน้องสุดแล้วคนนี้

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
FC พี่ธาดากอดคนติดน้องแน่นๆ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2020 09:19:53 โดย Ginny Jinny »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ใครเป็นคนเห็น  :katai1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เฮ้ยยยยย ประโยคสุดท้ายทำใจหายวาบ เวลาผู้ใหญ่ของร่มจะหมดแล้วคืออะไรรรรรรร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ความบราค่อนสปอยน้องของพี่ธาดานี่เยี่ยมจริงๆ ชอบๆ 555555555 น้องครองก็ขี้น้อยใจมาก สงสารทั้งคู่เลย ขอให้ได้คุยกันไวๆนะ
ส่วนคนในความมืดนี่เป็นเบญญารึป่าว

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
…………………………
ตอนที่ 8


ยามวัยเยาว์ ศัตรูเมื่อวานย่อมไม่ใช่ศัตรูวันนี้ แม้ครั้งหนึ่งไอ้แผนจะเคยริอ่านขโมยหนังสือ แต่เมื่อมันขยันเรียนออกปานนั้น อีกทั้งยังหัวไว ฉลาดเฉลียว เมื่อใดที่คุณเทพทำการบ้านไม่ได้เป็นต้องได้มันมาช่วยเหลือ แต่เรื่องนี้เห็นจะโพทะนาไม่ได้ มิเช่นนั้นคุณเทพคงถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นถึงลูกคุณหลวง แต่ต้องให้ลูกไพร่สอนการบ้าน


   ทว่า วันหนึ่งก็มีอันให้คุณเทพต้องเลือกระหว่างศักดิ์ศรีลูกขุนนางกับความเอื้ออาทรที่มีต่อลูกไพร่


   วันนั้น การบ้านที่ครูให้ ยากเหลือทน คุณเทพจึงต้องวิ่งโร่มาขอความช่วยเหลืออย่างลับๆที่กระท่อมของไอ้แผน แม้เจ้าของกระท่อมจะต้อนรับอย่างนอบน้อมเช่นเคย แต่สีหน้าซีดเผือด แถมเนื้อตัวระอุด้วยไอร้อนจนแผ่มาถึง ก็ทำเอาคุณเทพขมวดคิ้วมุ่นตั้งคำถาม


   “เอ็งไม่สบายหรือ”


   ไอ้แผนยิ้มจางไม่ตอบ ก้มหน้าก้มตาสอนการบ้านต่อไป


   พอมีคนสอน คุณเทพซึ่งไม่ใช่พวกสมองเฉื่อยแฉะก็ย่อมทำได้โดยลุล่วง ทว่าพอถึงเวลาที่ต้องกลับ ลูกชายของหลวงสุนทรวิจักษ์กลับมองสภาพของคนป่วยอย่างไม่สบายใจ


   “รีบกลับเถอะครับคุณเทพ ฝนตั้งเค้าแล้ว” แม้จะป่วย แต่ไอ้แผนก็ยังห่วงใย คุณเทพพยักหน้าก่อนจะหอบหิ้วการบ้านแล้วก้าวเท้าไวๆจากมา


   ทว่า...ตลอดทาง กลับไม่มีความคิดเรื่องหลบฝนหลบฟ้าเลยสักนิด


   ...ไอ้แผนไม่สบาย...


   สภาพมันแย่ปานนั้น แต่ก็ยังตั้งอกตั้งใจสอนการบ้าน


   ...จะเรียนคุณพ่อดีไหม...


   แต่ถ้าคุณพ่อทราบว่าไอ้แผนป่วย ก็คงซักไซ้ว่าเหตุใดเขาถึงรู้ แล้วเรื่องที่ให้ไอ้แผนสอนการบ้านก็คงแตกด้วย


   ศักดิ์ศรีลูกคุณหลวงคงถูกหักโค่นเอาวันนี้แล้ว


   ...เอาอย่างไรดีหนอ เอาอย่างไรดี...


   เด็กชายก้าวเท้าถึงประตูบ้าน แต่ไม่วายหันกลับไปมองยังทิศที่ตนจากมา เมฆฝนดำทะมึนตั้งเค้า ดูท่าอีกไม่นานก็คงกลายเป็นฝนห่าใหญ่


ฝนเย็นทว่าสำหรับคนป่วยในกระท่อมก็คงไม่ต่างจากเข็มนับพันเล่มแห่งความหนาวเหน็บ


   คนป่วย


   หาใช่คนอื่น แต่เป็นคนในบ้าน


   หาใช่แค่คนในบ้าน เพราะเป็นคนสอนการบ้านมาหลายครา


   เรียกว่าเพื่อนได้ไหมไม่รู้ แต่...ก็ได้รับความช่วยเหลือจากมันมาหลายหน


   คุณเทพเม้มปากแน่น ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าตรงไปยังห้องทำงานของบิดา


   “คุณพ่อขอรับ ลูกมีเรื่องจะขอ...ไอ้แผนป่วย ให้ใครไปตามหมอมาดูมันหน่อยได้ไหมขอรับ”


   ตอนที่หมอไปถึงกระท่อม คนป่วยนอนซมตัวสั่นระริก เนื้อตัวร้อนผ่าว ผิวซีดเผือด หลวงสุนทรวิจักษ์สั่งให้คนรับใช้คนหนึ่งคอยดูแลอาการมันอย่างดี แล้วมารายงานสามเวลา เพราะรู้ดีว่าหากให้นายช่วงซึ่งเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดของตนรับหน้าที่นี้ คงไม่แคล้วไอ้แผนได้ป่วยตาย


   กว่าคนป่วยจะรู้เนื้อรู้ตัวก็ยามเช้าวันรุ่ง ถึงได้รู้ว่าหลวงสุนทรวิจักษ์ให้หมอมารักษาตั้งแต่เมื่อวาน เด็กชายผู้ไกลพ่อแม่ เมื่อได้รับความเมตตา ย่อมไม่ต่างจากกระแสน้ำอุ่นไหลชโลมใจ คุณหลวงให้มันเรียนหนังสือ อีกทั้งยังกรุณากับมันมากถึงเพียงนี้ ต่อให้ชีวิต มันก็มอบให้ท่านได้


   แม้หลวงสุนทรวิจักษ์จะเอ็นดูปานลูก คุณเทพจะรักใคร่ปานเพื่อน แต่ใครบางคนไม่ได้ยินดีปรีดากับความเมตตานี้เลยสักนิด


   ทั้งๆที่นายช่วงรับใช้ใกล้ชิดมานานนม แต่ญาติพี่น้องของเขากลับไม่เคยได้รับความเมตตาเท่ากับที่ไอ้แผนได้ มันผู้ซึ่งเพิ่งเข้ามาในบ้านหลังนี้ แต่กลับได้รับความอาทรจากสองพ่อลูกผู้เป็นเจ้าของบ้าน


   แล้วเขาเหล่า แล้วญาติพี่น้องของเขาเล่า


   วันใดมันหายไป ก็จงรู้เอาไว้ว่าเป็นเพราะมันได้รับมากเกินกว่าที่มันควรจะได้! หาใช่ความผิดเขา!!


   ..................


   ...


วิษณุเป็นผู้จัดการส่วนตัวของครองภพมาตั้งแต่เขาเข้าวงการ ช่วงปีแรกๆ เขาดูแลศิลปินหลายคนตามที่ต้นสังกัดจัดสรรให้ จนกระทั่งครองภพดังเป็นพลุแตก ศิลปินคนอื่นๆถูกโอนไปอยู่ในความดูแลของผู้จัดการหรือผู้ดูแลคนอื่น ส่วนเขาตามดูแลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวของครองภพเพียงคนเดียว


เพราะทำงานด้วยกันมานาน วิษณุย่อมดูออกว่าเวลานี้ครองภพกำลังมีปัญหา แม้ปัญหาที่ว่าจะถูกความเป็นมืออาชีพของชายหนุ่มวัย 22 บังมิดก็ตามที


คนเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยมายาคติของคำว่า ‘มืออาชีพ’ จนหลงลืมหัวใจไปหรือเปล่าหนอ


วิษณุเหลือบมองนักแสดงหนุ่มที่นั่งหลับอยู่ข้างกาย


ครองภพเป็นศิลปินระดับต้นๆของบริษัท นอกจากจะมูลค่าสูงแล้ว วงการบันเทิงยังพร้อมจะจ่ายเพื่อเรียกใช้งานชายหนุ่มรูปหล่อผู้มีความสามารถหลากหลาย มีนิสัยเอาจริงเอาจัง รักการแข่งขันและพร้อมทุ่มเท


แต่...นิสัยส่วนตัวเหล่านั้น กำลังก่อปัญหา


หลายครั้ง ความทุ่มเทของเขากลายเป็นหมกมุ่น จริงอยู่ว่าเพราะนิสัยเช่นนี้ ทำให้เขาประสบความสำเร็จ แต่ผลกระทบของมันคือบางครั้ง เขาก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเรื่องที่กำลังทุ่มเทได้เลย


ดูอย่างตอนนี้ ทั้งๆที่ช่วงเวลาเดินทางควรจะเป็นช่วงพักผ่อน แต่การนั่งหลับตา โดยที่คิ้วยังขมวดเข้าหากัน และนิ้วที่เอาแต่เขี่ยโทรศัพท์มือถือไปมา ดูก็รู้ว่าครองภพมีเรื่องในใจ พอมีเวลาก็เอาแต่คิดเรื่องเดิมซ้ำๆไม่จบสิ้น


 วิษณุได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง แต่พอจะเรียกอีกฝ่ายขึ้นมาถาม จู่ๆ รถก็เบรคกะทันหัน


   ...เอี๊ยด!!!...


   “เฮ้ย!!” สองเสียงจากผู้โดยสารดังลั่น เมื่อร่างของตนแทบจะกระโจนไปข้างหน้า


   “ขอโทษครับ!” คนขับรถรีบหันมาบอก หน้าตาตื่น กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะละล่ำละลักอธิบาย


   “ย...อยู่ดีๆก็มีคนวิ่งตัดหน้า...”


   “ไม่ได้ชนใช่ไหม” วิษณุพลอยตกใจไปด้วย


   “ไม่ชน...คิดว่าไม่ชนครับ...”


ทั้งๆที่เป็นถนนใจกลางเมืองที่ค่อนข้างจอแจ และเป็นเวลากลางวันแสกๆ แต่เมื่อครู่นี้คนขับรถคิดว่าเขาเห็นคนวิ่งจากเกาะกลางถนนตัดผ่านหน้ารถเขาจริงๆ ดีแค่ไหนว่าเวลากลางวันแบบนี้รถราค่อนข้างเยอะ ทำให้ขับไม่เร็วและต่อแถวกันไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เขาเบรกตัวโก่ง


   แต่พอเบรก แล้วกวาดตามองซ้ายขวากลับไม่เห็นใครสักคน


คนขับรถไม่กล้าพูดเรื่องนี้ พยายามตั้งสมาธิอยู่กับการขับรถพาผู้โดยสารสองคนข้างหลังไปยังจุดหมายปลายทาง


   วิษณุเห็นว่าไม่มีใครเป็นอะไรก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เขาหันกลับมามองครองภพ


“ครองเป็นอะไรรึเปล่า”


ครองภพส่ายหน้า


“โอเคนะ?” ใจจริง วิษณุอยากถามว่าเรื่องอื่นๆของครองภพก็โอเคใช่ไหม แต่ไม่รู้จะเริ่มถามจากอะไรดี


“โอเคครับ” นักแสดงหนุ่มตอบเรียบ ก่อนจะหันไปเปิดม่านหน้าต่างออกกวาดตามองไปโดยรอบ


   รถวิ่งอยู่เลนชิดเกาะกลางถนน ถ้ามีคนวิ่งตัดหน้ารถเช่นนั้นจริง รถคันอื่นที่อยู่เลนอื่นก็น่าเบรกตามไปด้วย แต่...ไม่มีรถคันไหนเบรก และไม่มีใครคนไหนยืนอยู่กลางถนน


   นักแสดงหนุ่มวัย 22 ขยับตัวเพื่อมองคนขับรถที่ดูจะตื่นตัวมีสมาธิกับการขับรถจนเกร็งทื่อไปหมด


   คนขับคนนี้รับหน้าที่พาเขาไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างสวัสดิภาพมาโดยตลอด ขับรถดี สุภาพ และไม่แสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดกับการจราจรในกรุงเทพฯ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายดูเป็นกังวลกับการขับรถ


   “อเมริกาโน่ร้อนหรือเอสเปรสโซ่หน่อยมั้ย? เราพอมีเวลา ถ้าครองอยากจะแวะร้านกาแฟ” เสียงของผู้จัดการส่วนตัวดังขึ้นอีก ทำเอาครองภพหันมามอง เขาจำได้ว่าร้านกาแฟของร่มธรรมอยู่ไม่ไกลจากจุดนี้ แต่ต่อให้แวะก็คงไม่เจอ เพราะป่านนี้ร่มธรรมคงอยู่ที่กองแล้ว


แต่ไม่ว่าร่มธรรมจะอยู่ร้านหรือไม่ ก็ไม่มีผลให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นหรือแย่ลง


   ในเมื่อมันเป็นเส้นตรง...ที่ขนานกัน


   ไม่พัฒนา ไม่ดิ่งเหว เราแค่...กลายเป็นคนร่วมงาน ไม่สนิทกันมากกว่านั้น


   “ไม่...” ครองภพขยับตัวกลับมานั่งตรง


   “...รีบไปเถอะ จะได้ถ่ายให้มันเสร็จๆสักที” แล้วเขาก็หลับตาลง คล้ายจะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก วิษณุได้แต่มองแล้วถอนหายใจเบา


   ถ้าถ่ายให้เสร็จแล้วครองภพสลัดความรู้สึกทั้งหมดได้ การไปทำงานต่างประเทศตั้งหลายวันก็คงเยียวยาได้บ้างแล้ว ไม่ใช่สภาพยังเป็นเหมือนเดิมไม่ว่าจะเข้ากองหรือไม่


   ...ไม่รู้หรือไงนะ ครองภพ การปิดกล้อง เลิกกอง หรือหันไปหยิบจับงานอื่นที่ไม่มีร่มธรรม มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในเมื่อลืมตาก็คิดถึง หลับตาก็คิดถึง การแยกจากและไม่พบหน้า นอกจากจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหายังเป็นการสร้างภาระให้หัวใจด้วย...

............................



แม้ครองภพไม่อยู่ แต่ร่มธรรมยังมีคิวถ่ายบางส่วน ทว่าท่าทีของเขาดูเหงาหงอยจนถูกหยอกว่าเพราะครองภพไม่มา ร่มธรรมได้แต่ยิ้มจางแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่กล้าปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาเพราะกลัวจะรู้ถึงหูอีกฝ่ายแล้วถูกโกรธ แต่ก็ไม่กล้าออกหน้ายอมรับตามคำหยอก เพราะเกรงว่าจะยิ่งสนับสนุนข่าวลือและทำให้ครองภพเสียหาย


แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าลงมือทำอะไรสักอย่าง


สุดท้ายแล้วคนที่ไม่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดก็คือเขาเอง


ร่มธรรมสะท้อนใจตัวเอง นิสัยประนีประนอมไปหมดทุกอย่างทำให้บางครั้งก็ได้แต่หยุดยืนอยู่บนทางแพร่ง จะไปซ้ายก็ไม่กล้า จะไปขวาก็สองจิตสองใจ สุดท้ายเลยทำได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป


   จนกระทั่ง ครองภพกลับมาเข้ากอง


   “น้องครองมาแล้ว” ร่มธรรมนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ รินฤดีก็พุ่งตัวมารายงาน คนมีชนักปักหลังถึงกับวางช้อนลง อิ่มตื้อขึ้นมาทันที


   สามวันที่ครองภพไม่อยู่ ร่มธรรมเองก็ยังเวียนวนอยู่กับที่ คิดไม่ตกสักอย่าง


   จนวันนี้ครองภพกลับมา และพวกเขาต้องคุยกันแล้ว


   จะเอาอย่างไรดี


   “ร่มเอากาแฟมาให้น้องครองรึเปล่า เอาไปให้สิ” นักแสดงหนุ่มหันมองคนพูดหน้าตาตื่น รินฤดีกะพริบตาปริบๆ


   “อ้าว พี่เห็นร่มเอากาแฟใส่แก้วเก็บความเย็นมาด้วยทุกวันแต่ไม่เห็นกิน นึกว่าเอามาให้น้องครอง”


   ร่มธรรมพูดไม่ออก ในเมื่อความจริงแล้ว เขาก็ทำอย่างที่รินฤดีพูดจริงๆ


   ทั้งๆที่รู้ว่าครองภพไปทำงานต่างประเทศสามวัน แต่ก็ยังเอากาแฟมาเผื่อทุกวัน ตลอดสามวันที่ผ่านมา เขาได้แต่ถือมันกลับไปนั่งดื่มที่คอนโด


   รินฤดีขยับใกล้น้องชายแล้วพูดเสียงเบา


   “แต่จะให้ก็ต้องแอบๆหน่อยนะ นู่นน่ะ...ยัยคนนั้นสายข่าว” รินฤดีบุ้ยใบ้ไปที่นักแสดงประกอบคนหนึ่ง แต่ไม่ว่าใครจะเป็นสายข่าวหรือไม่ ไม่ได้ทำให้ร่มธรรมชะงักเท่ากับคำว่า ‘แอบ’ เลย


   ความสัมพันธ์ของพวกเราต้องเป็นเช่นนี้จริงๆหรือ กระทั่งจะให้กาแฟสักแก้วก็ยังต้องแอบหรือ


   เพื่อจะได้ไม่เป็นเป้าสายตาของใคร จะได้ไม่เกิดกระแสลบกับภาพลักษณ์ จะได้ไม่กระทบกับงานที่รัก


   แค่กาแฟสักแก้วยังต้องทำถึงขนาดนั้น แล้วถ้าหาก...ตัดสินใจด้วย ‘หัวใจ’ ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร


   หลบๆซ่อนๆ เก็บทุกอย่างเป็นความลับ ไม่รู้ว่าวันใดจะถูกเปิดเผย จะทำอะไรก็ต้องระแวดระวังเพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นสายข่าว


   ต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ


   แล้วถ้าวันหนึ่ง...ถูกเปิดเผย วันนั้นจะเป็นอย่างไร


   ตัวเขาไม่เท่าไร ร่มธรรมเคยออกจากวงการมาแล้วครั้งหนึ่ง หากจะต้องออกอีกครั้ง ก็คงเพียงแค่เสียใจ แต่ครองภพ...ครองภพที่มุ่งมั่น ครองภพที่ทุ่มเท ครองภพที่วางทั้งชีวิตทั้งหัวใจลงบนอาชีพนี้ล่ะ


   “พี่รินว่า...ครองชอบการแสดงมั้ย”


   “เรียกชอบยังน้อยไป ขนาดไม่สบายยังลากสังขารมากอง ปฏิเสธงานอีเว้นท์ไปไม่รู้กี่งานเพราะไม่อยากให้กระทบกับถ่ายซีรี่ส์”


   ถึงรินฤดีไม่แจกแจง ร่มธรรมก็ยังจำได้ดีว่าครองภพเคยบอกเหตุผลที่ทำงานในวงการบันเทิง ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ชอบสุงสิงกับใคร แถมยังโลกส่วนตัวสูงขนาดนี้


   เพราะชอบ


   ทำทุกอย่างด้วยความชอบ


   แล้วตัวเขาจะทำลายความชอบของครองภพลงได้อย่างไรกัน


   “นั่นสินะครับ”


   ร่มธรรมได้แต่รับคำเสียงแผ่ว ‘นักแสดง’ ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่มันคือความฝัน คือตัวตน คือสิ่งที่ทั้งเขาและครองภพพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มา ฝึกซ้อมและรับผิดชอบก็เพื่อให้มีที่ยืนอยู่ในวงการบันเทิง วงการที่แข่งขันสูง มีปัจจัยเสี่ยงมากมายที่พร้อมจะทำลายชื่อเสียงและอาชีพการงาน และหนึ่งในนั้นคือเรื่องความสัมพันธ์


ความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม


ความสัมพันธ์ที่ผิดกฎหมาย


แม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นที่ถูกตาต้องใจผู้คนทั่วไป


ไม่ว่าจะแบบไหน ก็ล้วนทำลายอาชีพนักแสดงลงราบคาบได้ทั้งนั้น


น่าขำ...ครองภพเย้ยหยันเอาไว้ว่าต้องให้ความสัมพันธ์เป็นที่ถูกใจสังคมอย่างนั้นหรือ?


ถ้าอย่างนั้น...ร่มธรรมก็จะตอบว่าใช่


ใช่...ความสัมพันธ์ของเราต่อให้จะลอยตัวอยู่เหนือศีลธรรมและก้าวข้ามกฎหมายด้วยบริบทในสังคมปัจจุบัน แต่...บางส่วนของสังคมย่อมไม่พอใจ แล้วอาชีพที่ต้องอาศัยความพึงใจของสาธารณะเป็นที่ตั้งอย่างดารานักแสดง จะมองข้ามประเด็นนี้ได้อย่างไรกัน


ร่มธรรมหลับตาลงแล้วถอนหายใจช้าๆ ก่อนจะหันไปหาพี่สาว


“พี่รินหยิบแก้วเก็บความเย็นให้ผมหน่อยได้มั้ย”


“แก้วที่ใส่กาแฟมาน่ะเหรอ จะเอาให้น้องครอง?”


“เปล่าครับ ผมจะดื่มเอง” รินฤดีไม่เข้าใจ แต่ก็หมุนตัวเดินไปหยิบมาให้ แต่ร่มธรรมเข้าใจ ตอนที่รับมาจึงต้องใช้ถึงสองมือประคอง


   บางที


   การเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องเลือกในสิ่งที่ไม่อยากเลือกเลยแม้แต่นิดเดียว


................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2020 19:01:02 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ร่มธรรมกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังจากรับประทานอาหารแล้ว ตอนที่บังเอิญสบตากับครองภพที่นั่งตัวตรงอยู่หน้ากระจก เขาส่งยิ้มก้มศีรษะให้เล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย อีกฝ่ายเพียงมอบตอบแว่บเดียวแล้วหลุบตาลงมองโทรศัพท์มือถือต่อ


ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่มีเสียงพูดคุยของสองนักแสดงนำเลยแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งเสียงไอโขลกดังขึ้น และพอดังแล้วก็ยากจะหยุด แม้จะตัดสินใจแล้ว แต่ร่มธรรมก็ไม่อาจเมินเฉยต่อเสียงไอที่บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่สบายนั่นได้เลย เขาเหลือบมอง พยายามใช้น้ำเสียงที่เป็นปกติเหมือนพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ แต่...สายตาเป็นห่วงนั้นปิดไม่มิด


   “น้องครอง เอาน้ำร้อนไหม”


   “ไม่เป็นไร”


น่าเสียดาย ครองภพยังคงมองตรงไปยังกระจกเบื้องหน้า จึงไม่ทันเห็นสายตาของคนถาม


   “ไอขนาดนั้นไม่เจ็บคอหรือ”


   “ผมกินยาแล้ว” หรืออีกนัยหนึ่งคือเดี๋ยวก็หาย


ทว่าร่มธรรมกลับเป็นฝ่ายทนไม่ไหว ลุกขึ้นหยิบกระติกน้ำของตนไปล้างแล้วเติมน้ำร้อน พอดีเจอวิษณุระหว่างทางกลับมา รายนั้นเองก็เพิ่งสั่งให้ร้านข้าวต้มเจ้าประจำของครองภพส่งข้าวต้มร้อนๆมาให้เช่นกัน


   “ทำไมอยู่ดีๆก็ไม่สบายขึ้นมาล่ะครับ”


ในเมื่อถามกับคนป่วยไม่ได้ความ เลยต้องถามเอากับผู้จัดการของคนป่วยแทน


   “อาการไม่ดีตั้งแต่ตอนอยู่ที่นู่นแล้ว แล้วตอนกลับมาถึงเมื่อคืนน่ะ รถเป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีๆก็เสียระหว่างทาง แถมฝนก็ตกอีก ครองเลยลงไปช่วยดูกับคนขับ พี่ห้ามแล้วนะ แต่รายนั้นไม่ยอม เป็นไงล่ะทีนี้” วิษณุพูดพลางส่ายหัวด้วยความระอาใจ ใครบอกว่าครองภพเย่อหยิ่งกัน เขาอาจจะไม่สนใจคนนอก แต่ถ้าเป็นเรื่องคนในล่ะก็ กระทั่งคนขับรถที่ทำงานกันมานานแต่แทบจะไม่เคยพูดกันเกินความจำเป็น ยามมีปัญหา ครองภพกลับไม่นั่งเฉย แม้ฝนจะตกแดดจะออก ก็ยังลงไปช่วย


   “แล้ววันนี้มายังไงครับ” ร่มธรรมถามต่อด้วยความเป็นห่วง


   “บริษัทส่งรถมาให้ใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว จริงๆก็ส่งไปรับตรงจุดที่รถเสียนั่นล่ะ แต่กว่าจะไปถึง ไอ้ครองก็เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำไปแล้ว แต่เหมือนรถใหม่จะไม่ค่อยดี...” วิษณุหลุดปากในตอนท้ายเมื่อคิดถึงเรื่องตอนขามา แม้คนขับรถจะบอกว่าเห็นคนวิ่งตัดหน้าจึงเบรคกะทันหัน แต่เขาก็ยังไม่สบายใจเรื่องสมรรถนะของรถอยู่ดี


“รถไม่ดีหรือครับ” ร่มธรรมย้อนถามหน้าตาจริงจัง แต่ผู้จัดการส่วนตัวของครองภพกลับสั่นมือรัว


“ไม่ต้องห่วงๆ นี่ไง ศูนย์โทร.มาแล้ว ร่มจะกลับไปห้องแต่งตัวรึเปล่า ฝากข้าวต้มไปให้ครองหน่อยได้ไหม” วิษณุที่กำลังหัวหมุนทั้งเรื่องรถเรื่องคน ไหว้วานอย่างน่าเห็นใจ หรือต่อให้จะน่าเห็นใจน้อยกว่านี้ ร่มธรรมก็ไม่มีนิสัยปฏิเสธที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลืออันไม่เหนือบ่ากว่าแรงอยู่แล้ว


   นักแสดงหนุ่มรับถุงข้าวต้มถือกลับไปยังห้องแต่งตัว ตอนไปถึงไม่พบครองภพแล้ว สต๊าฟคนหนึ่งบอกว่าคนป่วยขอหลบไปพักสักครู่ น่าจะอยู่ในห้องเล็กข้างๆ เขาจึงตามไปดู


หลังจากเคาะประตูแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ร่มธรรมจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป พบว่าครองภพนั่งเอนหลับตาอยู่บนโซฟา หน้าผมเครื่องแต่งตัวพร้อมเข้าฉากแล้ว แต่อาการไม่ดีจนต้องขอพัก แถมข้าวสักเม็ดยังไม่ถึงท้อง เพราะเอาแต่ใจจนแม้แต่อาหารกองถ่ายก็ยังไม่ตักเข้าปากสักคำ


“ครอง” เสียงของร่มธรรมทำเอาคนป่วยที่หลบมาพักในห้องเงียบสงบต้องลืมตาขึ้นมอง


   “คุณณุฝากข้าวต้มมาให้” ได้ยินอย่างนั้น ครองภพก็หลับตาลง คล้ายจะไม่อยากเสวนาด้วย แต่ก็ยังมีใจย้อนถามกลับไป


   “แล้วพี่ณุไปไหน” เสียงก๊อกแก็กรอบกายทำให้ครองภพต้องลืมตาขึ้นมองอีกหน เห็นอีกฝ่ายวางของที่ถือมาลงกับโต๊ะเล็กหน้าโซฟาที่เขานั่ง มีถ้วยชามช้อนและแก้วน้ำ


   “เห็นว่าศูนย์รถโทร.มา ครองทานข้าวก่อนนะ พี่จะแกะให้”


เดิมทีน้ำใจจากร่มธรรมเป็นสิ่งที่ทำให้ครองภพรู้สึกดี แต่เพราะอยู่ในช่วงมึนตึง การที่อีกฝ่ายยังแสดงน้ำใจเช่นนี้ย่อมทำให้หัวใจเจ็บปวด


เขาไม่พูดไม่ตอบ แต่ขยับตัวนั่งตรงดึงเอาถุงพลาสติกมาจัดการเอง ทว่าเพราะไม่ทันระวัง มือกลับไปแตะโดนถุงร้อนๆจนสะดุ้งโหยง


   “โอ๊ย! ร้อน!”


   คนอายุมากกว่าส่ายหน้าไปมาน้อยๆ แล้วดึงถุงข้าวต้มไว้เอง


   “พี่ทำให้ นั่งเฉยๆเถอะ เดี๋ยวมือก็พองจนได้” น้ำเสียงจริงจังทำให้ครองภพต้องอยู่นิ่งๆ เขายอมปล่อยให้อีกฝ่ายเทข้าวต้มให้ ควันโฉ่หอมฉุยลอยแตะจมูกจนคนป่วยกลืนน้ำลายดังเอื้อก ร่มธรรมอมยิ้มน้อยๆด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเลื่อนถ้วยข้าวต้มไปตรงหน้าครองภพ แล้วหันไปเทน้ำร้อนจากกระติกของตนเองใส่แก้ว วางไว้ใกล้ๆกัน


การดูแลอย่างเงียบๆทว่าพร้อมสรรพนั้นทำเอาครองภพเหลือบตาขึ้นมอง


   “พี่ล้างกระติกแล้วนะ แล้วนี่ก็น้ำร้อน ดื่มน้ำร้อนๆจะได้ไม่คันคอ”


ดวงตาเรียวดุที่จับจ้องคนพูดไม่ได้มีประกายความดุหลงเหลือเลยสักนิด คนไม่สบาย นอกจากร่างกายจะอ่อนล้าแล้ว จิตใจก็พลอยอ่อนไหว ความอ่อนโยนที่ได้รับทั้งการกระทำ ทั้งน้ำเสียง ทั้งคำพูด ล้วนทำให้ครองภพรู้สึกเหมือนเขากำลังก้าวเท้าเข้าไปในโลกที่ตนเองพยายามหันหลังให้มาตลอดหลายวันนับตั้งแต่ทะเลาะกัน


   โลกที่เขาอยากให้ร่มธรรมอยู่ด้วยกัน โลกที่สงบและสบาย มีสายลมเย็น มีเสียงใบไม้ใบหญ้าเสียดสี มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้นานาพันธุ์


   “ขอโทษนะครับ” น้ำเสียงทุ้มของคนอายุมากกว่าดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่หลังมือเย็นๆจะแนบลงกับซอกคอของครองภพ ชั่วขณะที่ผิวเนื้อแตะสัมผัสกัน มันกลับทำให้เลือดกายในร่างของคนป่วยราวกับจะวิ่งพล่านในวินาทีนั้น


   “ตัวรุ่มๆ พี่จะหายาลดไข้มาให้ กินยาสักหน่อย ถ้าเลิกกองแล้วไม่ดีขึ้นต้องไปโรงพยาบาลนะ”


   ครองภพอยากรับคำอย่างว่าง่าย แต่ก็ทำได้เพียงเงียบ ได้แต่บอกตนเองในใจว่าอย่าหลงระเริงไปกับความใจดีของอีกฝ่ายนักเลย เพราะเมื่อถึงเวลาแล้ว ร่มธรรมจะเลือกอย่างอื่นที่ไม่ใช่เขา


   ร่มธรรมจะออกจากโลกของเขา แล้วทิ้งเขาเอาไว้ในโลกใบนั้น...เพียงลำพัง


   ถ้าต้องอยู่คนเดียว ต่อให้โลกใบนั้นจะสงบและสบายเพียงใด ก็ไม่น่าอยู่...


   “แล้วคราวหลังอย่าออกไปตากฝนอีก เข้าใจไหม ดูแลสุขภาพด้วย”


ทั้งๆที่บอกตนเองว่าอย่าไว้เนื้อเชื่อใจกับความใจดีของร่มธรรม แต่ประโยคต่อมาของอีกฝ่าย ก็ทำเอาอดปากไว้ไม่ไหวอีก


   “คุณพูดเหมือนเป็นห่วงผม”


   ร่มธรรมนิ่งไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดประโยคนี้ออกมา


แต่...ความเป็นผู้ใหญ่ ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ตอบ


ใช่...เขาเลือกแล้วที่จะเป็นผู้ใหญ่...เป็นผู้ใหญ่ที่ตัดสินด้วยสมอง ไม่ใช่หัวใจ


   รักษาภาพลักษณ์ของครองภพ รักษาสถานะหน้าที่การงานของพวกเขา


   ทอดทิ้งหัวใจ ทอดทิ้งความรู้สึก ทอดทิ้งความสัมพันธ์


   ให้ความสวยงามของมัน อยู่ในความทรงจำเท่านั้นก็พอ


   “ทำไมไม่ตอบ” ดวงตาเรียวจ้องอย่างจริงจังและคาดคั้น ทว่าร่มธรรมเบือนสายตาหนีไปทางอื่นก่อนจะลุกขึ้นยืน


   “ไหนก่อนหน้านี้ว่าอยากคุยกับผม”


“คุย...ไม่ใช่การตอบคำถามเรื่องนี้...” เพราะเขารู้ว่าคำตอบนี้จะไม่ใช่เพียงเป็นบ่วงรัดเขา แต่จะทำให้ครองภพไม่อาจเป็นอิสระได้อีก และถ้ามันพัฒนาไปมากกว่านี้ จะกลายเป็นปัญหาในชีวิต โดยเฉพาะคนอายุน้อยกว่าที่ยังก้าวกระโดดในวงการไปได้อีกมาก


   “แสดงว่าเรื่องที่จะคุยกับผมไม่ใช่เรื่องนี้เหรอ แล้วคุณอยากคุยอะไร” ครองภพโพล่งออกมาอย่างเหลืออด แต่คนอายุมากกว่ากลับทำใจแข็งได้อย่างน่าเหลือเชื่อด้วยการพูดเรียบๆไปยังเรื่องอื่น


   “กินข้าวซะ พี่จะไปขอยาลดไข้มาให้” ท่าทีของเขานั้นอย่าว่าแต่ครองภพจะไม่เคยเห็นเลย หากรินฤดีหรือรุ่งโรจน์มาพบก็ต้องบอกว่าน้องชายคนเล็กของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก แต่หากถามร่มธรรมสักคำว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องเปลี่ยนถึงเพียงนี้ เจ้าตัวก็คงได้แต่ก้มหน้าปิดปากสนิท เพราะพูดอะไรออกไปไม่ได้เลย


   พูดไม่ได้เลยว่าที่ทำก็เพราะเป็นห่วงครองภพ


   ที่ทำก็เพราะไม่อยากให้อนาคตของพวกเขาต้องมาหยุดชะงักลงเพราะความรู้สึกแสนพิเศษนี้


   ร่มธรรมบอกไม่ได้ว่าระหว่างอนาคตของพวกเขาหรือความรู้สึกของพวกเขามีค่ามากกว่ากัน แต่...อนาคตสร้างใหม่ไม่ได้ ในขณะที่ความรู้สึก...เกิดขึ้นใหม่...กับคนอื่นได้ กำลังใจของครองภพ มีหลายคนมอบให้ได้ แต่ภาพลักษณ์เมื่อมันเสียหายไปแล้วหนหนึ่ง สังคมวงการบันเทิงย่อมไม่มอบให้เป็นครั้งที่สอง


   นักแสดงรุ่นพี่จิกเล็บเข้าไปในฝ่ามือเพื่อเตือนสติตัวเองว่าอย่าทำอะไรที่จะทำให้ครองภพเสียหายไปมากกว่านี้ ทว่าตอนที่หมุนตัวจะเดินออกจากห้อง เสียงของคนป่วยกลับดังขัด


   “ผมถาม! ทำไมไม่ตอบในสิ่งที่ผมถาม!”


   “ครองไม่สบาย” ร่มธรรมพูดไปอีกเรื่องด้วยน้ำเสียงเรียบ


   “แล้วคุณห่วงผมบ้างมั้ย” แต่ครองภพก็ยังวกกลับไปยังเรื่องที่เขาอยากรู้


   “ครองพูดไม่รู้เรื่องแล้ว กินข้าว แล้วพักซะ ดีขึ้นจะได้ออกไปถ่ายต่อ” นักแสดงหนุ่มวัย 28 ยังคงสงบนิ่ง แต่พอจะก้าวเท้าจากไป เสียงจากคนป่วยกลับดังขึ้นอย่างอ่อนระโหย


   “คุณบอกผมได้มั้ย คุณไม่คิดอะไรกับผม หรือคุณแค่ไม่กล้าจะสู้ไปกับผม”


   ...ไม่คิดอะไร…


   ...ไม่กล้าสู้…


   อย่างนั้นหรือ


   ทำไมร่มธรรมจะไม่คิดอะไรเลย ทำไมจะไม่อยากสู้ แต่เพราะรู้ว่าสิ่งที่คิดอยู่ และสิ่งที่จะสู้เพื่อให้ได้มา ไม่ว่ายังไงก็ต้องก่อผลลัพธ์ทางลบให้กับครองภพทั้งนั้น


   คนอายุมากกว่าหันกลับมามอง ใบหน้าหล่อเหลาของนักแสดงหนุ่มวัย 28 เรียบเฉย ไร้ซึ่งความรู้สึกใด


 หัวใจครองภพเย็นวาบ เขาไม่เคยเห็นร่มธรรมที่เป็นแบบนี้มาก่อน หรืออาจจะเคยเห็นเวลาเจ้าตัวแสดงละคร แต่ย่อมไม่ใช่การแสดงออกต่อหน้าเขาในฐานะร่มธรรม


   “ครองเคยบอกว่าพี่ขี้ขลาด พี่ยอมรับว่าพี่ขี้ขลาด ส่วนเรื่องคิด...พวกเราเป็นผู้ชาย เราคิดอะไรไม่ได้เลยนอกจากความเป็นเพื่อนและพี่น้อง”


เป็นคำตอบที่ทำให้ลมหายใจของคนฟังขาดห้วง กลางท้องเย็นวาบทั้งๆที่มีไข้


   “เพราะเราเป็นผู้ชาย...นั่นคือเหตุผลของคุณเหรอ?” 


ร่มธรรมถอนหายใจราวกับระอากับคำถามตีรวน สีหน้าของเขาเหมือนผู้ใหญ่สั่งสอนเด็ก ซึ่งมันไม่ใช่อย่างที่ครองภพชอบเลย


   “ครองโตแล้วนะ โตมากพอที่จะรู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ครองมีคนรอบตัวที่ต้องห่วงใยความรู้สึก ครองมีตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ มีหน้าที่การงานที่ต้องรักษา อย่าเอาแต่ใจจนตัวเองต้องเดือดร้อน เพราะวันนึงเมื่อครองไม่ต้องการสิ่งที่ดิ้นรนแทบตายเพื่อให้ได้มา วันนั้นครองจะเสียใจที่สุดที่ทิ้งทุกอย่างเพื่อมาเอาสิ่งนี้ไปและมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตของครองมากไปกว่าความสุขชั่วคราวเลย”


   “คุณคิดว่าคุณเป็นความสุขชั่วคราวของผม?” 


ร่มธรรมสะท้านไปทั้งใจ ใครจะอยากให้ตัวเองเป็นเพียงความสุขชั่วคราวของอีกฝ่าย เขาเองก็อยากดูแลความรู้สึกของครองภพ แต่หน้าที่การงานทั้งของตนเองและครองภพก็ต้องรักษา จะเอาแต่ใจจนทุกคนเดือดร้อนไม่ได้


   สิ่งที่พูดกับอีกฝ่ายไม่ต่างจากการย้ำเตือนสติของตนเอง เพียงแต่ผิดที่ว่าครองภพไม่ใช่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวของเขา ครองภพคือความสุข...ความสุขที่อยากรักษาไว้ตลอดไป


   “เวลาจะบอกเอง”


   “ดี! ถ้าอย่างนั้นก็ให้เวลามันบอกคุณ! ว่าผมจะเป็นยังไงที่วันนี้คุณตัดสินใจแบบนี้!” ครองภพประกาศกร้าว ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ไม่เหลียวแลสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มที่ยังร้อนหรือร่มธรรมที่ได้แต่ยืนนิ่ง


   น้ำตาหยดหนึ่ง...หล่นลงบนแก้ม ก่อนจะไหลลงสู่คางแล้วหยดลงสู่พื้น


   ครองภพไม่เห็นเพราะออกไปแล้ว ร่มธรรมก็ยิ่งไม่เห็น เพราะดวงตาของเขาพร่างพรายด้วยม่านน้ำ


   ทำนบน้ำตาแตกทลาย พอๆกับหัวใจที่แตกร้าว


   เก็บรักษาความสัมพันธ์ที่สวยงามเอาไว้ในความทรงจำอย่างนั้นหรือ นั่นก็แค่คำพูดสวยหรูปลอบใจตัวเองว่ามันจะเป็นความทรงจำที่สวยงามเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง มีแต่จำต้องทำให้ความสัมพันธ์พังทลายเท่านั้น จึงจะยุติความรู้สึกเหล่านี้ได้


   มีแต่ทำให้พังทลาย ถึงจะถอยออกมาได้


   วันนี้...ทุกอย่างพังหมดแล้ว แต่ถ้าถามว่าถอยออกมาได้หรือยัง ร่มธรรมก็ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับความจริง


...ไม่ได้...


   เขายังยืนอยู่ที่เดิม ยืนอยู่กับความรู้สึกและเศษซากความสัมพันธ์ที่เขาทำลายมันเอง แล้วได้แต่บอกตนเองว่าเขาโตแล้ว เขาโตมากพอที่จะต้องรักษาทุกสิ่งทุกอย่างของคนรอบข้างเอาไว้


แม้ว่าจะต้องเสียคนผู้นั้นไปจากชีวิต...ก็ตามที


………………….
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2020 19:00:44 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


ความสัมพันธ์ของครองภพและร่มธรรมไม่ได้แย่


พวกเขายังคงทำงานด้วยกันได้ เพียงแต่นอกงาน ต่างคนต่างอยู่ ครองภพนั้นเมินอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ร่มธรรมหากไม่พูดคุยกับเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆ ก็มักจะนั่งอ่านบทเพียงลำพัง แต่หากมีใครสังเกตสักนิด จะรู้ว่าความสนใจของร่มธรรมไม่ได้ไปไหนไกลจากครองภพเลย


   ช่วงนี้ครองภพยังคงป่วยจากไข้หวัด เพราะพักผ่อนน้อยโหมงานหนัก อาการจึงเพียงทุเลาแต่ไม่หายขาด เสียงไอ เสียงกระแอมยังคงดังให้ได้ยินอยู่เนืองๆ และทุกครั้งที่ได้ยิน ร่มธรรมก็มักจะหันมองด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ


   แต่...ก็ได้แค่มอง


   “คุณครองภพคะ เจ็บคอต้องกินน้ำอุ่นค่ะ” เสียงใสของดาราสาวที่ร่วมแสดงในซีรี่ส์เรื่องนี้ดังขึ้นอย่างเข้มงวด หรือเรียกอีกอย่างว่าทำทีเป็นเข้มงวดไปอย่างนั้น แท้จริงแล้วหล่อนร่วมงานกับครองภพมาตั้งแต่เขาเข้าวงการใหม่ๆ ดังนั้นจึงนับว่าเป็นหนึ่งในจำนวนน้อยของดาราสาวที่สนิทกับเขา


   “นี่น้ำไม่เย็น” สนิทหรือไม่วัดได้จากครองภพมีปฏิสัมพันธ์หรือไม่ ถ้าเขายอมต่อล้อต่อเถียงนั่นแปลว่าสนิท


   “น้ำไม่เย็นแต่ไม่ใช่น้ำอุ่นย่ะ! แล้วแบบนี้จะหายมั้ย เข้าฉากแต่ละทีเสียงเป็นเป็ดยังงี้ พี่ร่มเล่นด้วยได้ไงไม่ขำ”


พอมีชื่อของตนเอง ร่มธรรมก็รีบหันกลับมาทำทีเป็นสนใจบทในมือ ในขณะที่พอมีชื่อบุคคลที่สาม ครองภพก็ถึงกับวางแก้วน้ำลงทันที


   ณัฐฐามองอากัปกริยาของพระเอกหนุ่มรุ่นน้องแล้วก็เอะใจ ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าครองภพและร่มธรรมสนิทสนมกัน ช่วงเปิดกล้องใหม่ๆ สองคนนี้ก็ตัวติดกันอย่างกับอะไร แต่พักหลังนี่สิ...แยกกันอยู่คนละมุมด้วยซ้ำ


   หล่อนเหลือบไปมองร่มธรรมที่นั่งอ่านบทอยู่มุมหนึ่ง แล้วก็หันกลับมามองครองภพที่หยิบโทรศัพท์มาเล่น


   “นี่ ฉันเองก็เคยโดนข่าวขึ้นคอนโดกับเพื่อนสนิทนะ แต่มันก็แค่ข่าวมะ”


   “ทำไมถึงมีแต่คนพูดเรื่องนี้กับผม?” ครองภพหันมาดุหน้าตาเอาเรื่อง ณัฐฐาอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจู่ๆหล่อนจะโดนหางเลข


   “เออๆ ฉันไปพูดกับพี่ร่มก็ได้! จะได้เอาบราวนี่ไปฝากด้วย! ทำมาให้ก็ไม่กิน ชีวิตนี้รู้จักของหวานมั้ย” ดาราสาวบ่นตะพึดตะพือ ก่อนจะคว้ากล่องขนมที่ตนเองเตรียมมา เดินไปหาร่มธรรม แน่นอนว่าดวงตาเรียวเอาเรื่องของครองภพมองตาม


ชายหนุ่มได้แต่เม้มปากอยากรั้งไม่ให้อีกฝ่ายเอาขนมไปให้ร่มธรรม แต่ก็ไม่รู้จะรั้งด้วยเหตุผลอะไร


   ร่มธรรมชอบกินขนม เรื่องนี้เขารู้ดี


ณัฐฐาทำขนมอร่อย เรื่องนี้ใครในวงการไม่รู้บ้างว่าหล่อนจบหลักสูตรทำอาหารชื่อดัง


   ฝีมือหล่อนดีระดับเชฟ และถ้าร่มธรรมได้ทานก็คงชอบ แล้วก็คง...มีเรื่องได้คุยกันอีกมาก


   แต่เขาไม่อยาก...ไม่อยากให้ร่มธรรมทานขนมของณัฐฐา ไม่อยากให้ณัฐฐาใกล้ชิดกับร่มธรรม


   หึง


   หวง


   แต่ไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น


   “อร่อยมากเลยครับ คุณแนทฝีมือดีจัง” เสียงชมดังมาจากร่มธรรมตามคาด คนเม้มปากเลยได้แต่สูดลมหายใจลึก พยายามหันกลับมาสนใจเกมในโทรศัพท์มือถือของตนเอง แม้ว่าจะทำได้ไม่ดีเลยก็ตาม เพราะประสาทหูยังจดจ่ออยู่กับบทสนทนาของสองหนุ่มสาวที่อยู่ไม่ไกล


   “แนทได้ยินว่าพี่ร่มมีร้านกาแฟ สนใจเอาขนมของแนทไปวางขายมั้ยคะ ถือว่าสร้างรายได้เสริมให้แนท”


   “โห คุณแนทต้องหารายได้เสริมด้วยหรือครับ ผมเห็นงานคุณแนทเยอะขนาดนี้”


   “แหม งานในวงการมันไม่แน่ไม่นอน แนทก็ต้องหาลู่ทางไว้ก่อน ไว้คราวหน้าจะทำเลมอนทาร์ตมาให้ชิม ครองเคยบอกว่ากินได้ค่ะ ถ้าตาคนนี้บอกว่ากินได้ แสดงว่าอันนั้นอร่อยมากกกกก จริงมั้ย...อ้าว ครองไปไหนซะแล้ว” ณัฐฐาหันกลับไปมองยังจุดที่ครองภพเคยนั่ง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า หล่อนเกาคอเก้อๆ ก่อนจะหันกลับมายังร่มธรรม และก็พบว่าชายหนุ่มรุ่นพี่นั่งนิ่ง สายตามองไปยังจุดที่ครองภพเคยนั่ง สีหน้าของเขาเศร้าซึมจนน่าสงสาร


   หญิงสาวมั่นใจทันที สองคนนี้เคยสนิทกัน แต่วันนี้ทะเลาะกันแน่นอน


   ..............................


   ถึงจะมั่นใจ แต่ณัฐฐาไม่กล้าถามกับชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งสนิทกับครองภพในระดับหนึ่งก็ยิ่งรู้ว่าครองภพไม่ใช่คนจะตอบเรื่องอย่างนี้โดยง่าย ดีไม่ดีเขาจะโกรธหล่อนไปด้วยอีกคน ส่วนกับร่มธรรม เพราะอีกฝ่ายอายุมากกว่า อย่างไรหล่อนก็ไม่กล้าละลาบละล้วง


   แต่ถึงอย่างนั้น หล่อนก็มีเพื่อนฝูงมากมาย หนึ่งในนั้นคือเบญญา หญิงสาวผู้ตั้งตนเป็นแฟนคลับร่มธรรมมาแต่ไหนแต่ไร


   “ทะเลาะ? คนอย่างพี่ร่มน่ะหรือทะเลาะกับคนอื่น”


   “ฉันก็ไม่รู้ แกตามพี่ร่มมานาน เคยเห็นเขาทะเลาะกับใครมั้ย”


   เบญญาทำหน้านิ่งคิด ก่อนจะถอนหายใจแล้วส่ายศีรษะ พลางบ่น


   “ถึงว่าล่ะ ก่อนหน้านี้เคยเจอพี่ร่มที่ร้านก็ดูซึมๆ หรือจะเป็นเพราะข่าวนั่น”


   “ข่าว? ข่าวที่ว่าสนิทกับครองน่ะเหรอ โอ๊ย! ข่าวเรียกแขกแบบนั้นไปใส่ใจก็ประสาทเสียพอดี สมัยฉันเข้าวงการใหม่ๆก็เคยมีข่าวกับแก จำได้มะ ตลกจะตาย” เบญญาหัวเราะแล้วพยักหน้า


   “แต่มันก็ทำให้ฉันอยู่ในกระแสนะ มีข่าวนั้น ฉันก็ถูกจ้างออกอีเว้นท์ นักข่าวมารุม นักข่าวรุมหนักๆ ฉันก็ได้ออกอีเว้นท์บ่อย ของแบบนี้มันน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ฉันพึ่งข่าว ข่าวก็ขายได้เพราะฉัน”


   “แต่พี่ร่มจะไม่คิดอย่างนั้นน่ะสิ เขาคงเป็นห่วงคุณครองภพ”


ณัฐฐาดูดน้ำอึกใหญ่ ก่อนจะจีบปากจีบคอตอบ


   “รายนั้นจะน่าห่วงอะไร้! หน้าตาดี มีฝีมือ สังกัดเริ่ด ผู้ใหญ่สนับสนุน ถ้าไม่เผลอใช้ชีวิตซุ่มซ่ามล่ะก็ รับรองว่าดาวค้างฟ้า แม่หมอแนทคนนี้คอนเฟิร์ม” ฟันธงเรื่องคนหนึ่งแล้ว ไม่วายแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นห่วงไปยังอีกคน “...ฉันว่าคุณร่มน่าห่วงกว่าอีกนะ เห็นว่าทำงานหลายอย่างใช่มั้ย แล้วยังจะมีเรื่องทะเลาะกับไอ้ครองอีก ทะเลาะกับใครก็ไม่สู้ทะเลาะกับไอ้ครอง เวลามันเมินน่ะ โอ้โห อย่าให้พูด เรียกว่ามองผ่านอย่างกับเม็ดฝุ่น”


   “พี่ร่มน่าสงสาร...” เบญญาได้แต่ครวญ แต่ก็ไม่อาจหาวิธีแก้ปัญหาใดๆได้เลย ต่อให้หล่อนจะเป็นแฟนคลับของร่มธรรม เป็นน้องสาวของรามิล แต่ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับกองถ่ายที่ร่มธรรมกำลังทำงานอยู่ในเวลานี้


   “ถ้ายังไง ฝากแกดูแลพี่ร่มหน่อยนะแนท”


      “ตอนถ่ายในสตูฯ ก็ดูแลได้อยู่หรอก แต่ช่วงไปถ่ายต่างจังหวัด ฉันจะตามไปก็ไม่ได้หรอกนะ ไม่มีคิวซะด้วย”


   “แล้วจะไปถ่ายที่ต่างจังหวัดเมื่อไหร่”


   “เอ? ไม่แน่ใจ ได้ยินว่าคงจะเดือนหน้า เห็นผู้จัดการของครองบอกว่าคิวเดือนนี้แน่นเอี้ยด”


   เบญญาพยักหน้ารับรู้ ทว่าสีหน้าของหล่อนไม่สู้ดีด้วยกังวลความรู้สึกของร่มธรรม


.......................................      


   ในขณะที่เบญญาห่วงใยความรู้สึก อีกฟากฝั่งหนึ่ง ครอบครัวของร่มธรรมกำลังห่วงใยความปลอดภัย


รุ่งโรจน์จัดหาบอดี้การ์ดมาดูแลน้องชาย ส่วนหน้าที่ให้เหตุผลในการมีบอร์ดี้การ์ดเป็นของรินฤดี


   ‘คือ...มันเป็นเทรนด์น่ะ ดาราสมัยนี้ ใครๆเขาก็มีกันทั้งนั้น’


แน่นอนว่าเหตุผลของหล่อนมันฟังไม่เข้าท่า แต่ก็ยังยืนกรานหนักแน่นว่าร่มธรรมจะต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลและอำนวยความสะดวกนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากคอนโดจนกระทั่งกลับเข้าคอนโด


   น้องชายคนเล็กของครอบครัวอยากแย้งว่านักแสดงที่ร่วมงานกับเขา มีชื่อเสียงมาก่อนเขา ไม่เห็นมีใครต้องพกบอดี้การ์ดเลยสักคน แต่รินฤดีส่ายหน้าไม่รับฟัง


   ‘คนอื่นไม่มีก็เรื่องของเขา แต่ร่มต้องมี’ ยิ่งพูดก็ยิ่งย้อนแย้ง ตอนแรกบอกเป็นเทรนด์ ตอนหลังบอกคนอื่นไม่มีก็เรื่องของคนอื่น ร่มธรรมไม่รู้จะเถียงพี่สาวอย่างไร เพราะหล่อนเป็นคนไปเจรจากับทางกองถ่ายขอพาบอดี้การ์ดติดตามเข้ามาด้วยอีกสองคน


   การที่มีชายหนุ่มตัวใหญ่ยักษ์หน้าตาไม่รับแขกสองคนเข้ามาในกองถ่าย กลายเป็นเป้าสายตาไปในทันที พอครองภพก้าวเท้าเข้ามาในกอง ณัฐฐาก็รีบแจ้นมาไขข้อข้องใจก่อนที่เขาจะเอ่ยปากถามเสียอีก


   “บอดี้การ์ดของพี่ร่มจ้ะ” คนฟัง รับฟังอย่างเงียบๆ ทั้งๆที่ใจอยากถามว่าทำไมต้องมี แต่ในเมื่อเราต่างเป็นแค่คนร่วมงานก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้อะไรมากไปกว่านั้น ชายหนุ่มจึงเบนสายตาลงจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือตนเองเพื่อไม่ให้ความอยากรู้อยากเห็นดึงความสนใจอีก


   “จะไม่ถามเหรอว่าทำไมพี่ร่มต้องมี”


นักแสดงหนุ่มเหลือบมอง


   “ถ้าอยากจะพูดก็พูด ไม่อยากพูดก็เงียบ” บอกแล้วว่าณัฐฐานั้นเป็นดาราสาวเพียงไม่กี่คนในวงการที่นับว่าสนิทกับครองภพ ดังนั้น แม้จะอารมณ์ไม่ดี แต่เขาก็พอจะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย


   ดาราสาวทำปากเบะ


   “พูดก็ได้! บอดี้การ์ดสองคนนั่นเป็นเพื่อนของพี่ชายพี่ร่ม ก็เลยสร้างงานสร้างอาชีพให้เพื่อนน่ะ” ครองภพไม่ได้มีสีหน้ารับรู้แต่อย่างใด ยังเอาแต่เล่นโทรศัพท์ในมืออย่างไรก็ทำแบบนั้น ณัฐฐาชักหมั่นไส้ หล่อนร่วมงานกับเขามาหลายเรื่องแล้ว ตั้งแต่ก่อนเขาจะดังจากบทราชนิกูลคราวก่อนด้วยซ้ำ มีหรือจะดูไม่ออกว่าคนที่ทำหน้าตาไม่หือไม่อือกำลังตั้งใจฟังอยู่


   “เหตุผลนั่นพี่รินเป็นคนบอกหรอกนะ แต่ฉันได้ข่าวมาอีกอย่าง...”


แม้จะไม่โด่งดังเป็นนางเอก แต่ณัฐฐามีพวกพ้องมากมายจากการที่รับงานหลายเรื่องและมีมนุษยสัมพันธ์ดี ดังนั้น หล่อนจึงได้ยินข่าวลือจางๆมาเข้าหู


   “...มีคนบอกว่า...พี่รินได้จดหมายขู่”


   ครองภพหันขวับ ชนิดที่ณัฐฐาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกริยารุนแรงขนาดนี้


   “จดหมายขู่?”


   “ชู่! เบาๆสิ จะให้เขารู้กันทั้งกองรึไง” ดาราสาวรีบดุเสียงเบา กวาดตามองโดยรอบ แต่นอกจากทีมงานที่เดินขวักไขว่แล้ว ก็ไม่มีใครให้ความสนใจพวกหล่อนนัก


   “ได้ยินมาจากไหน” จากที่ทำท่าไม่สนใจ กลายเป็นว่าครองภพจ้องหญิงสาวตาไม่กะพริบ สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด


   “ข่าวลือจากแถวๆนี้แหละ เห็นบอกว่าได้รับหลายครั้งแล้ว จับตัวคนส่งไม่ได้ด้วย”


รินฤดีเป็นสไตลิสต์มานาน มีเพื่อนพ้องในวงการไม่น้อย การที่หล่อนได้รับจดหมายขู่มากกว่าหนึ่งครั้งย่อมรู้ถึงหูเพื่อนคนใดคนหนึ่ง และมันกลายเป็นข่าวลือมาจนถึงหูณัฐฐา แต่ถึงอย่างนั้นข่าวลือนี้ก็ค่อนข้างเงียบ หากณัฐฐาไม่รู้จักคนมากพอ หล่อนก็คงไม่มีโอกาสได้รู้เช่นกัน


“ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหนนะ แต่ฉันได้ข่าวเรื่องจดหมายขู่ก่อนที่พี่ร่มจะพาบอดี้การ์ดมากองอีก...”


“ขู่ใคร? ขู่ผู้จัดการหรือขู่นักแสดง?”


“แกคิดว่าขู่ใครล่ะ พี่ร่มกลับเข้าวงการ เล่นซีรี่ส์เรื่องเดียวก็ได้มาเล่นของผู้กำกับฉาย...” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแรงกระเพื่อมของการก้าวเท้ากลับเข้ามาในวงการบันเทิงของร่มธรรมไม่ได้มีแค่เสียงปรบมือต้อนรับ


   ครองภพนิ่งงัน เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด เพราะเอาแต่หลบเลี่ยงไม่อยากรู้เห็นเรื่องใดๆที่เกี่ยวกับร่มธรรม ถึงได้พลาดแม้กระทั่งเรื่องสำคัญ


   จดหมายขู่


   ต่อให้เป็นแค่ข่าวลือ จะมีมูลมากน้อยแค่ไหน ก็น่ากังวลอยู่ดี


   “ครอง...” ณัฐฐาเห็นท่าทางเป็นกังวลของเพื่อนร่วมงานก็นึกโทษตัวเองที่เอาข่าวลือจำพวกนี้มาสร้างภาระ


   “...แกอย่าคิดมากเลย มันอาจจะเป็นแค่ข่าวลือก็ได้ พี่ร่มนิสัยดีจะตาย ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหนหรอก อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้นะ”


ทว่าครองภพไม่ได้มีสีหน้าสบายใจเลยสักนิด ดวงตาเรียวดุเหลือบมองหญิงสาว


   “ถ้ามีอะไรเพิ่ม มาบอกด้วย” นักแสดงหนุ่มเอ่ยปาก ก่อนจะลุกขึ้น


   “แล้ว...แกจะไปไหน”


   “ไปคุย” นักแสดงหนุ่มตอบ แน่นอนว่าไม่กระจ่างจนกระทั่งเขาเดินดุ่มๆตรงไปยังคนที่ตกเป็นข่าวลือว่าได้รับจดหมายขู่


   ร่มธรรมกำลังนั่งอ่านบทอยู่เพียงลำพัง เยื้องหลังไปเล็กน้อยมีชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ 2 คนยืนประกบ นักแสดงหลายคนที่คุ้นเคยกับเขามาก่อนหน้านี้ เคยแวะเวียนมาพูดเล่นคุยเล่นในช่วงพักกองก็มีอันแยกย้ายกันไปทางอื่น เพราะแค่เพียงจะเฉียดใกล้ร่มธรรมก็ถูกสายตาบอดี้การ์ดของร่มธรรมจ้องไม่กะพริบ


   แต่...การจ้องไม่กะพริบใช้ไม่ได้กับครองภพ


   นักแสดงเลือดร้อนวัย 22 เดินดุ่มๆเข้าไปหาคนที่นั่งอ่านบทเพียงลำพังแล้วพูดเสียงเรียบ


   “มากับผม มีเรื่องจะคุยด้วย”


   “คุย?” ร่มธรรมเงยหน้ามอง แล้วทวนคำหนุ่มรุ่นน้องอย่างงุนงง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆครองภพที่เคยเมินเขาแม้แต่หน้ายังไม่มองกลับเป็นฝ่ายเดินมาหาเอง


   “ลุก” คนอายุน้อยกว่าออกคำสั่ง ร่มธรรมเม้มปาก กวาดตามองรอบตัว ทีมงานเกือบทั้งหมดอยู่ที่นี่ ทุกคนรู้เห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้ และครองภพอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่มันจะกลายเป็นประเด็นทันทีถ้าหากมีใครสังเกตเห็นเขาและครองภพไม่อยู่ที่เดิม แต่หายไปทั้งคู่ไม่เห็นแม้แต่เงา


   เดี๋ยวก็เกิดข่าวแบบนั้นขึ้นจนได้


   “ถ้าจะคุย ก็คุยตรงนี้” ร่มธรรมพยายามคุมน้ำเสียงให้เรียบกริบเป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้


   “คุณแน่ใจหรือว่าจะคุยกับผมตรงนี้?”


   “แน่ใจ”


   ครองภพสูดลมหายใจเข้าลึก


   “ทำไมต้องมีบอดี้การ์ด” คำถามนั้นชวนให้ร่มธรรมกะพริบตาปริบๆ อยากบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน เพราะเป็นความต้องการของรินฤดี


   “พี่จะมีหรือไม่มี มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้องครองนะ”


   “ผมถามว่าทำไม?!” ครองภพถามซ้ำ หน้าตาเอาเรื่องจริงจัง


   “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็จะถามกลับว่าอยากรู้ไปทำไม”


   “ผมไม่มีสิทธิ์ห่วงคุณเลยรึไง?!” ประโยคนี้ของครองภพไม่เบา ทำเอาร่มธรรมชะงักกึก เขากวาดตามองรอบตัวในวินาทีถัดมา เห็นทีมงานบางคนเริ่มมองมาทางพวกเขาเพราะเสียงของครองภพเมื่อครู่นี้


   “ครอง อย่าสร้างปัญหา!” เขาหันกลับมาดุด้วยน้ำเสียงเบาที่แทบเป็นกระซิบ แต่ห้วนสั้นจริงจังไม่แพ้กัน


   “อ้อ! ผมเป็นตัวปัญหาสำหรับคุณด้วย?!”


   ร่มธรรมรู้สึกเหมือนวันนี้ปากเขาไม่เข้าที่เข้าทางชอบกล


   “พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น...”


   “หรือจ้างบอดี้การ์ดเพราะจะเอาไว้กันผม?!”


   “บ้าไปกันใหญ่แล้วครอง! พี่จะทำแบบนั้นทำไม?!”


   “แล้วคุณมีทำไม?!”


ร่มธรรมไม่รู้จะอธิบายยังไง ในเมื่อเขาเองก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่ชัดเจนเช่นกัน แต่อาการเหมือนคนพูดไม่ออกทำให้ครองภพเข้าใจว่าเป็นเพราะร่มธรรมไม่คิดจะให้เขารับรู้เรื่องใดๆของเจ้าตัวอีกแล้ว


   ปกปิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้น


ยุติความสัมพันธ์


   ไม่มีโอกาสแม้แต่จะรับรู้ความเป็นไปในชีวิตด้วยซ้ำ!


   “ไม่บอกก็ไม่บอก! ผมขอโทษแล้วกันที่ก้าวก่ายชีวิตของคุณ!”


ครองภพหมดแรงใจจะห่วงใยอีกฝ่ายแล้ว ชายหนุ่มหมุนตัวเดินกลับไปยังจุดเดิมที่เขาเคยยืน


จุดที่ห่างไกล จุดที่เมินเฉย จุดที่ต่อให้ในฉากจะเป็นนักแสดงนำที่ร่วมไม้ร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่นอกฉากกลับเป็นอีกโยชน์หนึ่งที่ไกลแสนไกล


   ร่มธรรมได้แต่ถอนหายใจแรง เหม่อสายตาขึ้นมองเพดานแล้วสูดลมหายใจลึก เขารู้ว่าตนเองจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว แต่พอจะหันไปบอกบอดี้การ์ด สายตาของเขากลับไม่รักดี ยังมองเลยไปยังจุดที่ครองภพยืน


   และนั่นทำให้เขาชะงัก


   ครองภพไม่ได้ยืนเพียงลำพัง แต่มีคนยืนประกบหลังเขา


นั่นไม่ใช่ทีมงาน ไม่ได้นักแสดง


   คนที่ยืนประกบหลังครองภพ...

   ...ไม่ใช่คนในกอง และไม่ใช่ ‘คน’ !...


   ชายนุ่งโจง!!


   สันหลังของร่มธรรมเย็นวาบ เขาจำใบหน้าคร้ามคมของชายฉกรรจ์ผิวดำแดงคนนั้นได้เป็นอย่างดี หรือต่อให้ในฝันจะเห็นไม่ชัด เขาก็มั่นใจว่าชายที่ยืนอยู่ข้างหลังครองภพคือชายคนเดียวกับที่มาเข้าฝันเขา!


   ภาพฝันหมุนวนกลับมาในสมองอย่างรวดเร็ว ภาพของชายฉกรรจ์ผู้พร่ำพรรณาว่าห่วงใยเขา ภาพของชายฉกรรจ์ผู้ออกปากว่าจะขัดขวางไม่ให้ใครเข้ามาทำอะไรเขา ภาพของชายฉกรรจ์ผู้มีสีหน้าเคียดแค้น ‘ไอ้แผน’


   บัดนี้ไม่ใช่ฝัน ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างหลังและกำลังจับจ้องครองภพด้วยสีหน้าและแววตาอาฆาตไม่ต่างจากที่ปรากฏในฝัน!!


   ...ไอ้แผน...


   ...ครองภพ...


   หรือคนที่ชายฉกรรจ์ผู้นั้นต้องการทำลาย...คือครองภพ!!


   “ครอง!!! ระวัง!!”


   เสียงตะโกนของร่มธรรมดังลั่น ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาครองภพ เสียงล้มดังขึ้น อึดใจเดียวอุปกรณ์ไฟก็หล่นจากเพดานสตูดิโอลงสู่พื้น


   ตึง!!!!


   แล้วรอบกายก็เงียบกริบ ก่อนที่วินาทีต่อมาเสียงกรีดร้องด้วยความตระหนกและเสียงเซ็งแซ่จะดังไปทั่วทั้งสตูดิโอ!


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

วันนี้งานเยอะมาก เลยรีบมาลงก่อน

ได้โปรดให้อภัยผู้ใหญ่อย่างพี่ร่มด้วยนะคะ พี่ร่มก็เจ็บไม่แพ้น้องครองเลย

ไปทำงานต่อแล้ว ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ และทุกกำลังใจที่มีให้เสมอมา มันช่วยบัวมาตลอดเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ


ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
แบบว่าลุ้นและค้างงง :katai1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ผีหลอกกลางกองถ่าย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อ้าว เป็นไอ้แผนเหรอ น่าจะเป็นนายช่วงนะ

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ว๊ายย ฉันเดาผิด ฉันนึกว่า แผน = พี่ร่ม  55555

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่ร่ม...มมมมมม  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
โอ้ยยยย อยากวาร์ปเวลาไปตอนหน้าเลยจ้า ลุ้นเกิ้นนนน  :katai1:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คุณ​ผีขี้อิจฉา​เริ่มอาละวาด​แล้ว​ น้องร่มก็โดนขู่​ น้องครองก็โดนผีทำร้าย​ น้องสองคนจะต้องผ่่านเรื่องเหล่านี้ไปด้วยกันนะคะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :a5:.
รอ ๆ ๆ ๆ เมื่อไหร่จะมา กว่าจะได้อ่านก็เกือบเที่ยงคืน
อ่าน ๆ ๆ ๆ แล้วอะไรจะตัดฉับบบบ ปานนั้นนนนนน
คนเขียนใจร้ายยยยยยย
 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
ผีโจงคือไอ้แผน!! :a5:
ด่าผีผิดตัวมาตั้งนาน!!

เด่วนะ ไอ้แผนที่แค้นครองภพ อย่าบอกนะว่าครองภพคือ ไอ้ช่วง! :katai1:
 
พี่ร่มมมมมม พี่ร่มเจ็บปวดไม่ต่างจากน้องครองเลย บีบหัวใจ  :ling2:
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2020 13:03:10 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ผีคือนายช่วงสินะ แต่ตัดชับแบบนี้ค้างงงงงงงงง :katai1:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อ้าว น้องแผน นุ่งโจง พี่ร่ม (คุณเทพ) ส่วนน้องครอง คือใคร ในอดีต

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ตอนแรกนึกว่าผีไอ้แผนคือไอ้ช่วงคนสนิทรับใช้คุณเทพซะอีก แบบนี้ ร่ม = คุณเทพ งั้นครอง = ไอ้ช่วงหรือ งั้นไอ้แผนมีความสัมพันธ์ยังไงกับคุณเทพในอดีตกันแน่ ทำไมไม่ไปเกิดล่ะ แค้นอะไร ลุ้นและค้าง รอตอนต่อไปค่าาาาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด