...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)  (อ่าน 91937 ครั้ง)

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
รอติดตามตอนต่อไป  :mew1:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
รอตอนต่อไปแบบใจจจดจ่ออออ :katai2-1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เป็นกำลังใจให้พี่โรจน์นะคะ พี่คงเหนื่อยน่าดูไหนจะพ่อที่บอกให้ช่วยคุยกับร่มให้ออกจากวงการ ไหนจะร่มที่อยากจะทำต่อ ไหนจะยังจับคนร้ายไม่ได้อีก เหนื่อยใจแทนพี่โรจน์จริง

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
น้องครองใจเยนนนนน พี่ร่มเลิ่กลั่กแล้วว ทำน้องโกดเก้ว  :ling2:

นี่ผีโจงไปเข้าสิงใครสะกดให้เขียนหนังสือขู่ป่าว?
จงใจเน้นว่า 'รักมาก' เบี่ยงเบนประเด็นให้เหมือนแฟนคลับคลั่งรัก เพราะไม่อยากให้พี่ร่มเจอครองภพใช่มั้ยย

หรือยังมีลาสบอสที่ยังไม่เปิดตัวซ่อนอยู่  :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2020 22:43:26 โดย Ac118 »

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แง ไม่ได้เข้าเล้านาน เลยไม่ได้เม้นแบบเรียลไทม์ :katai4:

กรี้ด พี่รุ่งกับพ่อโดนข่มขู่มาก่อนจริงด้วย
จะเป็นไปได้ไหมว่าผีนุ่งโจงแดงมีร่างที่เป็นคนจริงๆ แล้วก็เป็นคนเขียนจดหมายข่มขู่มาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน เเล้วก็เป็นคนๆเดียวกับบุคคลปริศนาที่ชอบมากรีดร้องในห้องมืดๆให้คนสงสัยเล่น?

ตอนแรกนึกว่าชาติที่แล้วพี่ร่มคือคุณเทพที่โดนแผนขโมยหนังสือไปนะเนี่ย ที่ไหนได้เป็นหลวงสุนทรวิจักษ์นี่เอง :a5: ก็คือถ้าชาติก่อนรักกับแผนจริงก็จะอายุห่างกันแบบรุ่นพ่อลูกเลยอ่ะนะ? หูยยยยยยย ละในสมัยก่อนด้วย ผ่านคำครรหาและความรู้สึกผิดในจารีตประเพณีมาได้ยังไงอ่ะ :ling3: :ling3: แต่มีเค้าสุดๆ เพราะนายช่วงอิจฉาริษาแรง ดังนั้นผีนุ่งโจงน่าจะเป็นนายช่วงป่ะ โกรธแค้นข้ามชาติ แสดงว่าเรื่องที่เกิดในอดีตน่าจะรุนแรงพอสมควร เลยตามมาใส่ไฟว่ามีคนแค้นคุณหลวง มาเป่าหูพี่ร่มถึงในฝัน เอาเด้อ ละนางใช่เงาดำๆที่มายืนอยู่ตรงบันไดหนีไฟไหม? แบบมาล่อลวงให้ครองภพเดินตกบันไดไม่รู้ตัวงี้ :hao4: ที่จริงก็แอบอยากรู้สาเหตุที่เค้าแค้นนะ รู้สึกว่าตัวร้ายมักมีมุมมองที่น่าสงสารเห็นใจ5555

ส่วนพี่ร่ม พี่ร่มขาาาาา หนูก็ชอบพี่ :-[ :-[ :-[ อยากให้พี่เป็นส่วนหนึ่งที่หายไปเหมือนกัน ความรู้สึกหนูก็แตกหน่อเติบโตขยายพันธ์กันแน่นขนัดเป็นป่าดิบชื้นเเล้วค่ะ :monkeysad: :monkeysad: (พาร์ทบรรยายความรู้สึกครองภพในตอนนี้คุณนักเขียนเเต่งดีมากอ่าาาาาา ภาษาโคตรสวยยยยยยยยยย)

ส่วนครองภพ หุ้ยยยย  :hao3: :hao3: :hao3: มีความพรีเซนท์ตัวเอง รายงานตัวทุกฝีก้าวเอง มีความตัดพ้อ มีแววว่าจะเป็นแฟนเด็กที่ติดแฟนและงอแงสุดๆ5555 โกรธพี่อย่างนี้เเล้ว พี่จะง้อยังไง แต่ดูท่าไม่น่าจะโกรธนาน ถ้าพี่มาง้อด้วยการแสดงออกว่าใส่ใจความรู้สึกน้อง คนน้องเค้าก็น่าจะเข้าใจและหายเคืองนะ ตอนนี้เหมือนงอน เพราะรู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ถูกมองว่าสำคัญ ทั้งที่จริงๆคือพี่เค้าคิดเผื่อมึงเเล้วโว้ย555 ว่าที่ผัวเด็กนี่มันน่าหมั่นไส้ดีจริงๆ :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2020 15:56:06 โดย BitterCucumber »

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
น้องครองใจเย็นๆ ฟังพี่เค้าก่อนนนน

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ้โห อิจฉาขนาดนั้น
แต่ทำไมอารมณ์ดูสวิงแบบเหมือนมีสอง อุแง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เด็กน้อยงอแงแล้วค่ะพี่รุ่ง

ออฟไลน์ nrbtst1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมาก เหมือนน้องป๋อ พี่จ้านมาก 55555
ติดตามๆ :katai4:

ออฟไลน์ nrbtst1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วัน พฤหัสบดี​ แล้วมาปักรอออออออ

ออฟไลน์ mr_longza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
…………………………
ตอนที่ 7


   ธาดาเป็นลูกชายคนโตของอัจฉรา


พอเรียนจบก็เข้ามาช่วยงานของมารดาหลังจากเห็นชัดแล้วว่าน้องชายที่อายุน้อยกว่าตน 10 ปีหันเหเข้าสู่วงการบันเทิงและคงไม่มีทางออกมาง่ายๆ


ครองภพเป็นคนจริงจังมาแต่เล็ก ต่อให้ไม่พูด แต่การกระทำชัดเจนเสมอ คนเป็นพี่ที่ทั้งรักและตามใจน้อง จึงตั้งมั่นว่าจะไม่ให้กิจการของที่บ้านเป็นภาระให้ครองภพต้องรับผิดชอบ


ดังนั้น การที่ครองภพไม่เคยมาสำนักงานของธุรกิจครอบครัวเลย ย่อมเป็นเรื่องที่เข้าใจได้


จนกระทั่งวันนี้


ชายหนุ่มวัย 32 เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานตนเองแล้วก็ได้แต่ตะลึงค้าง อ้าปากหวออยู่ที่ประตู มองชายหนุ่มที่หน้าตาคล้ายตนเองอยู่ครึ่งนาที ก่อนจะถอยหลังออกมาชะโงกหน้าถามเลขานุการสาวที่นั่งหน้าห้อง


“นี่ผมตาฝาดรึเปล่า”


“ไม่ฝาดค่ะ”


ธาดากะพริบตาถี่ๆ แล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงานของตนอีกที ก่อนจะส่งเสียงเรียก


   “ครอง?!”


เจ้าของชื่อที่นั่งรออยู่ที่โซฟาหันมอง บอกให้รู้ว่าสิ่งที่ธาดาเห็นนั้นไม่ใช่เพราะภาพลวงตา


ครองภพมาที่นี่! ครองภพมา!!!


ใบหน้าหล่อเหลาของน้องชายผู้อายุน้อยกว่า 10 ปีให้อย่างไรก็ยังนิ่งเรียบเหมือนเคย ทว่า...ถึงจะเรียบยังไง ก็ยังมาปรากฏตัวต่อหน้าพี่ชายในวันและเวลาทำงาน!


   “มาได้ไงน่ะ?!!”


ครองภพไม่เพียงแค่เป็นนักแสดงดาวรุ่งแต่ยังงานชุกจนแทบจับตัวให้อยู่กับที่ไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นน้องชายผู้มุ่งมั่นอยู่กับงานในวงการบันเทิงซึ่งนั่นหมายความว่าเขาไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการของทางบ้านเลย ยิ่งไปกว่านั้น...ยังเป็นน้องชายประเภทที่ถ้าพี่ชายยืนอยู่ทางไหน เขาจะไม่พุ่งเข้าหาเป็นอันขาด


แต่...ครองภพมา! มานั่งในห้องทำงานของธาดาด้วย!!


   “หรือว่า...ตกกระป๋อง?” เหตุผลเดียวที่ธาดาคิดได้ คือน้องชายผู้โด่งดังต้องตกอับเป็นแน่แท้ ถึงได้โผล่หน้ากลับมาที่ออฟฟิศของธุรกิจครอบครัวแบบนี้


   คนถูกหมายหัวว่าคงตกกระป๋องในวงการบันเทิงถึงกับถลึงตาใส่ เพียงเท่านั้นธาดาก็ร้องอ้าว


   “แล้ว...แล้วทำไมมานี่” คนเป็นพี่รีบปิดประตู แล้วก้าวเท้าไปทรุดตัวลงนั่งจับเข่าคุยด้วยความเป็นห่วง


   “ก็...พอดีมีเวลา เห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว เลยแวะมา”


   คำว่า ‘ใกล้เที่ยง’ ตีความได้อย่างเดียวคือจะมากินข้าวด้วย


ธาดาตะลึงงัน นอกจากน้องชายจะมาแล้ว ยังมาในเวลาใกล้เที่ยงเพื่อกินข้าวด้วยอีกต่างหาก!


   “ครองจะมากินข้าวกับพี่เหรอ? จะมากินกับพี่ใช่มั้ย?” เพื่อไม่ให้ดีใจเก้อหรือหน้าแตกคิดไปเอง คนเป็นพี่เลยต้องถามย้ำเพื่อความแน่ใจ


   “...อือ...พี่...ต้องไปกินที่ไหนรึเปล่า” แม้จะอายุน้อยกว่าถึงสิบปี แต่ครองภพไม่ได้ติดพี่ชายนัก การจะแวะเวียนมาชวนทานข้าวนั้นแทบจะไม่เคยเกิดขึ้น หรือจะพูดให้ธาดาช้ำใจก็คือมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย


   คนเป็นพี่รู้ว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติแน่นอน ในฐานะพี่ที่แสนจะติดน้อง ต่อให้มีธุระปะปังที่ไหน ก็มีอันต้องโละทิ้งให้หมด


   “ไม่ๆ งั้นไปกินข้าวกัน เดี๋ยวโทร.ชวนแม่...”


   “ไม่ชวนแม่ได้มั้ย”


ธาดาชะงักเป็นรอบที่เท่าไรก็ไม่รู้นับตั้งแต่เจอครองภพนั่งรอในห้องทำงานของเขา ฝ่ายน้องชายที่จู่ๆก็โผล่หน้ามาที่ออฟฟิศของครอบครัวได้แต่เม้มปาก ก่อนจะเหลือบมองคนเป็นพี่


   “ผม...มีเรื่องอยากปรึกษา...”


   ให้ตายเถอะ ยิ่งกว่าบริษัทมีกำไร300%!!


   ครองภพบอกว่าอยากปรึกษาเขา!!!


   “ได้ๆ ไม่ชวนแม่ก็ได้! งั้น...งั้นไปเลย ไปกินข้าวกัน เอ่อ...เอาร้านแบบส่วนตัวหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวพี่ให้เลขาฯโทรจองห้องให้” ครองภพมองคนเป็นพี่ที่ผุดลุกจะไปสั่งการด่วน แล้วต้องรีบรั้งเอาไว้


   “ไม่ต้องทำอะไรเว่อขนาดนั้นหรอกหน่า”


   “ไม่ได้ๆ ต้องทำๆ”


โอกาสได้เป็นพี่ชายที่แสนดีเข้ามาแล้ววันนี้ ไม่คว้าเอาไว้ก็ไม่รู้จะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไร ธาดาต้องรีบตะครุบ แล้วจะได้เก็บเป็นความทรงจำเอาไว้ชื่นชมในอนาคต


   น้องมากินข้าวด้วย


   น้องบอกว่ามีเรื่องอยากปรึกษา


   ตายตาหลับแล้ว ชีวิตของธาดา!!

................................


   ร้านอาหารยามเที่ยงนั้นไม่ว่าจะที่ใดๆก็เนืองแน่น ยิ่งเป็นละแวกสำนักงานใจกลางเมืองยิ่งหาร้านเงียบสงบยาก แต่เลขานุการแสนเก่งของธาดาก็พอจะจัดหาร้านที่มีมุมสงบสำหรับสองพี่น้องได้ในอีกสิบห้านาทีต่อมา


   ธาดาและครองภพมาถึงร้านตอนเกือบเที่ยงครึ่งเข้าไปแล้ว นักแสดงหนุ่มรูปหล่อชื่อเสียงโด่งดัง ต่อให้สวมหมวกแก็ปปิดบังใบหน้า แต่การเดินอยู่ใจกลางเมืองย่อมเป็นเรื่องยากที่จะไม่มีคนจำได้


   ทว่าครองภพมีภาพลักษณ์เงียบขรึม ยิ่งสวมหมวกแก็ปเดินก้มหน้าก้มตาก็ยิ่งไม่มีใครกล้าทักเขา ตรงข้ามกับธาดาผู้เป็นพี่ที่เห่อน้องชายอยู่ตลอดเวลา เดินยิ้มแก้มปริอกผายไหล่ผึ่งตั้งแต่ออกจากออฟฟิศ


ไม่ใช่หน้าใหญ่เพราะน้องชายมีชื่อเสียงโด่งดังเตะตาผู้คน แต่อยากจะอวดว่าวันนี้น้องมากินข้าวด้วย!


   เดี๋ยวต้องแอบเซลฟี่รูปคู่ จะได้ส่งไปให้แม่ดู!!


   “พี่ธา ได้ยินที่ผมถามรึเปล่า พี่มีแฟนมั้ย” ธาดามัวแต่ปลื้มปริ่มกับการร่วมมื้อเที่ยงกับน้องชาย ลืมตั้งสติรับฟังปัญหาที่ครองภพบอกว่าอยากปรึกษา


   “หะ? แฟน? แฟนใคร?”


ครองภพถอนหายใจ ไม่รู้คิดผิดหรือถูกที่มาปรึกษาธาดา แต่ไหนๆก็มาแล้ว ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นมากไปกว่าถามซ้ำ


“พี่น่ะ มีแฟนมั้ย”


“หา?! หมายถึงแฟนพี่เหรอ? เฮ่ย! ถ้ามีก็แต่งงานไปแล้วสิ!” คนเป็นพี่ตอบพลางกลั้วหัวเราะอย่างเพราะไม่เห็นเป็นเรื่องจริงจังเสียเท่าไร


   “แล้วไม่มีคนที่คุยกันอยู่เลยรึไง”


   “ก็...ไอ้มีมันก็มีนั่นแหละ แต่ยังไม่แน่ใจ”


   “ใครไม่แน่ใจ พี่หรือเขา”


   “ทั้งคู่แหละมั้ง ต่างคนต่างก็สนุกกับงานด้วย ไม่เคยคุยกันด้วยว่าอยากสร้างครอบครัวมั้ย อยากมีลูกรึเปล่า มันก็เลย...ไม่ชัดเจนกันทั้งคู่” ธาดาตอบพลางมองน้องชายที่นั่งม้วนเส้นสปาเก็ตตี้อยู่ฝั่งตรงข้าม


   “แก...มีปัญหากับแฟนเหรอ”


จะไม่ถามว่าครองภพมีแฟนรึเปล่า คำถามแบบนั้นมันออกจะยอกใจตัวเองไปสักหน่อย เป็นพี่ประสาอะไรถึงไม่รู้ว่าน้องมีแฟนหรือไม่ แม้ในความเป็นจริง ธาดาก็ไม่รู้จริงๆว่าน้องชายมีแฟนหรือยัง ก็ครองภพบอกอะไรเขาเสียที่ไหน ดีแค่ไหนแล้วที่วันนี้มันยังพกปัญหามาปรึกษาให้พี่คนนี้ได้ทำหน้าที่บ้าง


   “ไม่ใช่” คำตอบน้องแข็งกร้าวราวกับเจ้าตัวอึดอัด


   “ไม่ใช่เพราะไม่ตกลงกันตรงๆแบบพี่ หรือเพราะเขาไม่รู้ แกก็ไม่บอก”


ครองภพเงยหน้ามองคนถามทันควัน


   “ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันมากพอที่เขาจะดูออก”


สิ่งที่เขาทำนั้นมากกว่าคำพูดตั้งเท่าไร ร่มธรรมไม่ใช่คนโง่ ถึงจะดูไม่ออกว่าเขาปฏิบัติต่อเจ้าตัวพิเศษกว่าที่เขาทำกับใคร


   “แล้วปัญหามันเกิดมาจากอะไร ถ้าแกคิดว่าสิ่งที่แกทำมันมากกว่าคำพูด และคิดว่าเขาดูออก”


   ครองภพกลืนก้อนแข็งในคอ คิดย้อนกลับไปวันที่ทะเลาะกันและเขาเลือกที่จะเดินออกมา ผ่านมาหลายวัน เจอหน้ากันในกอง ก็เพียงแค่มองหน้าแล้วผ่านเลยไป ต่างคนต่างไม่พูดกัน เขาไม่รู้ว่าร่มธรรมยังอยากพูดกับเขาอยู่ไหม แต่ที่แน่ๆ เขาไม่อยากพูดอะไรกับอีกฝ่ายตอนนี้


   เขาเด็กเกินไป


   เด็กเหลือเกินกับความรู้สึกที่สำคัญขนาดนี้


   กังวลว่าเขาจะรักษามันเอาไว้ไม่ได้ กังวลว่าวันใดที่เผชิญหน้ากับร่มธรรมอย่างตรงไปตรงมา ความรู้สึกนี้จะถูกทำลายไม่เพราะตัวเขาเอง ก็เพราะความไม่เข้าใจระหว่างเรา


   สุดท้ายเลยเลือกที่จะหลบเลี่ยง


   เด็กจริงๆ


   เด็กจนยิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสมกับอีกฝ่ายเลย


   “เขาอยากหยุด...ผมเข้าใจว่าสถานะของผมกับเขาทำให้เรื่องของเราเปิดเผยไม่ได้ แต่การเปิดเผยมันก็มีลำดับขั้นของมัน ต่อให้เราจะบอกคนอื่นไม่ได้ว่าเรารู้สึกต่อกันยังไง แต่อย่างน้อยให้คนรอบข้างรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ แต่นี่!...เขาไม่อยากให้พวกเราไปต่อ...” ประโยคหลังของครองภพเบาแผ่ว แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่ต่างจากเข็มนับล้านที่ทิ่มแทงความรู้สึกของเขา


   ไม่ใช่แค่ปกปิด แต่หยุดทุกอย่างเอาไว้


   ความรู้สึกของเขาไร้ค่าอย่างนั้นหรือ ถึงไม่อยากให้มันสานต่อด้วยซ้ำ


   ธาดามองน้องชายด้วยความสงสาร ต่อให้ครองภพจะไม่ติดเขาแจเหมือนพี่น้องคู่อื่นๆ แต่เขาก็รู้เห็นชีวิตของน้องมาโดยตลอด แม้จะหน้าตาหล่อเหลา เข้าวงการตั้งแต่อายุยังน้อย มีคนรุมล้อมมากมาย แต่เจ้าตัวไม่เคยคบหามีความรักกับใครเลย ความปรารถนาสูงสุดคือการทำงานในวงการบันเทิง ดังนั้นจึงมุ่งมั่นและทุ่มเทอยู่แต่กับงาน จนมาวันนี้ที่มีความรู้สึกให้ใครสักคน เจ้าตัวจึงทำเหมือนอย่างที่เคยทำให้กับการทำงาน


   อนิจจัง งานกับความรักไม่เหมือนกัน


ครองภพทุ่มแรงกายแรงใจให้งาน ผลที่ได้รับกลับมาคือความสำเร็จในวันนี้


   แต่เมื่อทุ่มแรงกายแรงใจให้กับความรัก ผลที่ได้ดันต่างกับคำว่าสำเร็จราวฟ้ากับเหว


   
   ไม่สำเร็จไม่พอ ยังถูกขยี้ความรู้สึกให้เจ็บช้ำอีกต่างหาก


   แม้จะนึกโกรธคนที่ทำให้น้องชายของตนเจ็บ แต่ธาดามีวุฒิภาวะมากพอที่จะไม่โทษฟ้าโทษฝน น้องชายของเขาอายุยังน้อย หากสนับสนุนไปผิดทาง ย่อมเกิดผลลัพธ์ด้านลบกับครองภพเอง


   “ถ้าตัดเรื่องที่ทะเลาะกันออกไปก่อน ครองคิดว่าสิ่งที่เขาทำให้ มันมากพอที่จะดูออกไหม ว่าเขารู้สึกยังไงกับครอง”


   ครองภพนิ่งงัน ความโกรธและน้อยเนื้อต่ำใจที่ทับถมในใจมาหลายวันคล้ายเป็นเมฆดำที่ปิดตาเขา ทว่าคำถามนี้กลับเหมือนแสงบางอย่างที่ส่องผ่านเมฆลงมา


   ‘สิ่งที่เขาทำให้ มันมากพอที่จะดูออกไหม’


   ร่มธรรมเป็นคนใจดี มีมนุษยสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ช่วงแรกที่รู้จักกัน ก็เป็นร่มธรรมที่เข้าหาเขา มอบน้ำใจและความเป็นมิตร ครองภพไม่รู้ว่าอีกฝ่ายปฏิบัติเช่นนั้นกับคนอื่นด้วยไหม แต่พักหลัง...เขารู้สึกว่าสิ่งที่ร่มธรรมปฏิบัติต่อเขา พิเศษขึ้นกว่าเดิม


   ช่างสังเกต ช่างเอาใจใส่ และช่างดูแล


วันที่เขาทำงานหนักและเหนื่อยล้า ต่อให้จะดึกดื่นแค่ไหน ถ้าติดต่อไป ร่มธรรมก็พร้อมแวะมาหาที่คอนโดของเขาเสมอ ถ้าบอกว่าหิว เจ้าตัวก็ไม่เคยมามือเปล่า แต่จะหิ้วอาหารอร่อยถูกปากเขามาด้วย ถ้าเห็นเขาง่วงก็จะไล่เขาไปนอนบ้าง ไม่อย่างนั้นก็บ่นหน้างอด้วยความเป็นห่วงบ้าง


ไม่ใช่แค่รอยยิ้มและสายตาที่ร่มธรรมมีให้เขา แต่อากัปกิริยาหลายอย่างยามเจ้าตัวอยู่กับเขา มันแฝงความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ครองภพรู้สึกว่า ระหว่างเขาและร่มธรรม ทุกอย่างมัน ‘พิเศษ’ กว่าช่วงแรกที่รู้จักกัน


   “ความรู้สึกของตัวเองก็ต้องรักษา แต่ความรู้สึกของอีกฝ่ายก็ต้องดูแล วันนี้ทะเลาะกัน ครองยังเจ็บ แล้วคิดว่าอีกฝ่ายไม่เจ็บหรือ”


   ครองภพทอดถอนหายใจยาว วางช้อนส้อมลงกับจานแล้วเอนหลังพิงพนัก รู้สึกตื้อขึ้นมาจนไม่อยากทานอะไรอีกแล้ว


   “ผมยังเด็กเกินไป”


   พี่ชายผู้แสนชื่นชมยินดีกับน้องชายเสมอรีบสั่นหน้า ในชีวิตนี้ของธาดาไม่เคยเห็นข้อด้อยสักอย่างของครองภพอยู่แล้ว


   “ไม่หรอก ครองโตแล้วต่างหาก”


   ครองภพเงยหน้ามองพี่ชาย ธาดายิ้มให้เขา เหมือนที่ยิ้มเสมอยามชื่นชมเขา เหมือนตอนเขาวิ่งแข่งชนะ เหมือนตอนที่เขาประกวดร้องเพลงชนะ เหมือนตอนที่เขาเอาถ้วยรางวัลมาให้ดู


   ต่อให้ต่างคนจะมีชีวิต มีหน้าที่การงานเป็นของตนเอง แต่เมื่อไรที่หันมา ธาดาก็ยังมีรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจในตัวน้องชายคนนี้เสมอ


   “ครองโตพอที่จะอยากทะนุถนอมความรักแล้ว ไม่ใช่แค่อยากเอาชนะมัน จริงไหม”


ครองภพนิ่งเงียบ หัวใจตอนนี้ไม่ได้มีแต่ความโกรธเคืองที่มีต่อร่มธรรมอีกแล้ว คำพูดของธาดาทำให้เขารู้ว่าที่จริงแล้ว ความรู้สึกของตนเองเป็นเช่นไร


   เพราะรัก ถึงได้โกรธ


   แต่ถึงจะโกรธก็ยังอยากจะรัก อยากทะนุถนอม


   นี่เขา...เขาโตขึ้นแล้วจริงหรือ?


   แม้ธาดาจะยืนยันว่าเขาโตพอแล้ว แต่ครองภพก็ยังไม่มั่นใจ นักแสดงหนุ่มชื่อดังถอนหายใจ ไหล่ลู่ลงอย่างอ่อนล้า


   “แต่ผมก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่าผมโตมากพอรึยัง”


   คนเป็นพี่มองน้องชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ตั้งแต่เด็กจนโต อาจจะเพราะครองภพเกิดเป็นลูกคนเล็ก หลานคนเล็ก คนรอบข้างเอาอกเอาใจจนเจ้าตัวเชื่อมั่นในตนเองเสียจนไม่มองใคร แต่วันนี้สิ่งที่ไร้รูปแบบ จับต้องไม่ได้ กำลังมีอิทธิพลจนน้องชายผู้มีมาดอย่างกับราชสีห์หนุ่มของวงการ ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวน้อยตัวเล็กๆที่วิ่งวนเล่นแต่หางของตนเอง


   ...น่ารัก…


   ...ครองมีความรักแล้วโคตรน่ารัก!...


   ...พี่ชายคนนี้โคตรแฮปปี้เลยครับ!...


   “ถ้าอย่างนั้น สงสัยต้องไปถามคุณร่มล่ะมั้ง”


   แม้จะจมอยู่กับความรู้สึกในใจ แต่ชื่อบุคคลที่สามที่โผล่เข้ามาในประโยคก็ทำเอานักแสดงหนุ่มชะงักกึก เงยหน้ามองทันควัน


   “พี่ธาว่าอะไรนะ”


   “ว่าอะไร ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ธาดาทำไขสือ ก้มลงตักข้าวเข้าปากตนเองเหมือนเมื่อครู่นี้ไม่ได้พูดอะไรที่ชวนให้ชะงักสักนิด ทว่าเป็นฝ่ายครองภพที่อ้าปากค้าง จ้องมองคนเป็นพี่ตาไม่กะพริบ


   “ก็เมื่อกี้พี่พูดถึง!...”


   “พูดถึงอะไร”


หนุ่ม 22 อ้าปากแต่กลับไม่มีเสียงหลุดออกมา สุดท้ายก็ได้แต่หุบปากลง หน้าตาปั้นยาก ก่อนจะบ่น


   “รู้ได้ไงวะ...”


   ธาดายิ้ม มองน้องชายผู้มักทำสีหน้าเรียบเฉยแต่วันนี้กลับแสดงอารมณ์หลากหลายแล้วยิ่งเอ็นดู ความรักทำให้ครองภพเติบโต ความรักทำให้ครองภพเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ขอบคุณร่มธรรมก็ไม่รู้จะขอบคุณใครแล้ว


   แต่...ขอบคุณก็ส่วนขอบคุณ ยังไงก็ตาม ร่มธรรมจะหักอกน้องชายสุดที่รักของเขาไม่ได้หรอกนะ


   ธาดามุ่งมั่นในใจอย่างเงียบๆ


   พี่ชายคนนี้ขอสาบานต่อข้าวกลางวันมื้อนี้...น้องพี่จะต้องสมหวังในความรัก!


.........................


   ร่มธรรมรู้ว่าถูกโกรธ แต่สถานการณ์กลับไม่เอื้ออำนวยให้เขามีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับครองภพเลย


หากวันใดเจอกันที่กองถ่าย รอบตัวก็มีผู้คนมากมายเกินไป หรือในเวลาที่พอจะสบโอกาสได้อยู่กันสองคน ก็เป็นฝ่ายครองภพที่เดินหนี ส่วนวันที่ไม่พบกันที่กองยิ่งแล้วใหญ่ ครองภพทำงานหนัก แทบไม่มีเวลาพัก เขาเพิ่งรู้ก็ตอนนี้ ที่ครองภพเคยแวะมาที่ร้านกาแฟ ร.รอ แทบทุกวันก่อนที่ร้านจะปิด เป็นความพยายามในการจัดสรรเวลาอันจำกัดของเจ้าตัว


   แต่...เขาไม่เคยเห็นคุณค่ามันเลย เรียกร้องการขีดเส้นกำกับให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่เป็นที่ประเจิดประเจ้อ ไม่เป็นเป้าสายตาของใคร


   มัวแต่สนใจสังคมรอบข้าง สถานะหน้าที่การงาน ภาพลักษณ์ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของครองภพ


แต่...มองข้ามความรู้สึกและความพยายาม


   ทำไมเขาเป็นคนใจร้ายแบบนี้


   “พี่ร่ม...” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น ทำเอาร่มธรรมที่กำลังคิดไม่ตกว่าควรจะส่งข้อความไปหาครองภพดีหรือไม่ถึงกับสะดุ้ง รีบคว่ำโทรศัพท์ลงกับโต๊ะก่อนจะหันมอง เบญญาส่งยิ้มให้เขาอย่างสดใสเช่นเคย


   “พี่ร่มดูไม่ค่อยสบายเลย เหนื่อยเหรอคะ”


   “น...นิดหน่อยครับ...”


   “สู้ๆนะคะ เบญรอดูซีรี่ส์ของพี่ร่มอยู่นะ”


   “ขอบคุณนะครับ” เขายิ้มให้ กำลังใจจากคนรอบข้าง พอจะทำให้สบายใจอยู่บ้าง


   “เอ? แล้วนี่...วันนี้พี่ร่มได้พักเหรอคะ”


   “ครับ วันนี้ไม่มีคิว”


   “แล้ว...คุณครองภพล่ะคะ เบญเห็นเขามาที่ร้านตอนหัวค่ำบ่อยๆ วันนี้ไม่มาเหรอ”


ร่มธรรมชะงักไปเล็กน้อย เรื่องที่ครองภพมาร้านกาแฟของเขา หรือแม้แต่เรื่องที่เขาไปคอนโดของครองภพเป็นข่าวใหญ่โตที่ไม่ว่าสำนักไหนก็เล่น จะมีคนถามเรื่องครองภพจากเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


   เพราะความสัมพันธ์ของเรา...ไม่ใช่แค่เรื่องของเรา


   “เขา...งานยุ่งน่ะครับ” ร่มธรรมไม่รู้จะตอบอะไรดีไปกว่านี้ เบญญาพยักหน้ารับรู้ แต่สายตาของหล่อนก็ยังทอดมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความหวานซึ้งและห่วงใย


   “พี่ร่มก็ต้องพักผ่อนบ้างนะคะ นอนให้หลับ กินให้เยอะๆ กินของมีประโยชน์ แล้วก็ออกกำลังกายด้วย เบญ...” หล่อนยังพูดไม่ทันจบ ประตูร้านก็ถูกเปิดเข้ามา ร่มธรรมละสายตาจากหญิงสาวไปยังลูกค้าคนใหม่ก่อนจะนิ่งชะงัก


   ลูกค้าหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็ก ดูเผินๆแล้วคล้ายพนักงานออฟฟิศที่พบเจอได้ทั่วไป เพียงแต่หน้าตาหล่อเหลาของเขานั้นไม่เพียงคล้ายใครบางคนที่ร่มธรรมรู้จัก แต่เจ้าของใบหน้านี้ยังเป็นคนที่เขาเคยร่วมโต๊ะมาแล้ว


   ธาดา...พี่ชายของครองภพ


   “เอ๊ะ...นั่น...” เสียงของเบญญาดังขึ้น ร่มธรรมหันมองหล่อนก่อนจะยิ้มจาง


   “ผม...ขอตัวก่อนนะครับ” เขาพูดก่อนจะรีบลุกจากโต๊ะเดินตรงเข้าไปหาคนที่เพิ่งเข้าร้าน เบญญาทำได้เพียงแค่มองตาม หล่อนไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน ก่อนที่จะพากันไปเดินออกจากร้านไปโดยที่คนที่เพิ่งเข้าร้านไม่ได้สั่งแม้แต่เครื่องดื่มสักแก้วด้วยซ้ำ


............................

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ละแวกร้านกาแฟ ร.รอ เป็นย่านใจกลางเมือง ช่วงกลางวันพลุกพล่านด้วยพนักงานออฟฟิศและผู้คน ตอนค่ำก็ยังจอแจด้วยรถราและผู้คนอยู่ดี ดังนั้นจึงมีร้านอาหารหลากหลายรูปแบบให้เลือกสรร


ธาดาตัดสินใจแบบไม่ได้ถามความสมัครใจจากคนที่เขาพามาด้วย ออกปากขอเลือกร้านอาหารที่เขาชอบ จากนั้นก็เลี้ยวรถเข้าร้านทันที


   ร่มธรรมผู้มีชนักปักหลังจากข่าวที่เกิดขึ้นกับน้องชายของธาดาย่อมไม่อยากสร้างปัญหาให้ตนเองเพิ่ม เหลือบตามองร้านอาหารที่อีกฝ่ายพามาแล้วดูสงบและเหมาะกับการพูดคุยก็เปิดประตูลงจากรถ ก้มหน้าก้มตาเดินตามพี่ชายของครองภพเข้าไปในร้าน


   ในเมื่อเป็นคนเลือกร้าน ธาดาก็ย่อมเป็นคนสั่งอาหาร เขาเลือกอาหารที่ทานง่ายและไม่หนักท้องมา 3-4 อย่างสำหรับผู้ชายสองคน ตบท้ายด้วยเบียร์สดของเขา ส่วนร่มธรรมขอน้ำเปล่า ไม่ต้องรออาหารอย่างแรกลงโต๊ะ ชายหนุ่มวัย 32 ก็เป็นคนเอ่ยปาก


   “เมื่อกลางวัน ไอ้ครองมาหาผม”


ร่มธรรมชะงัก ทั้งๆที่รู้ดีว่าการที่เขามาที่นี่เวลานี้ ไม่ใช่เพราะธาดาคิดจะอยากเลี้ยงข้าว แต่เพราะมีธุระจะพูดคุยต่างหาก


   “เขาดูไม่ค่อยดี คุณร่มอยู่กองเดียวกับเขาพอจะทราบมั้ยว่าเขามีปัญหาอะไร หรือว่า...น้องผมโดนใครในกองแกล้งเอารึเปล่า?”


ธาดาเป็นพี่ชายของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง แต่เขากลับไร้ทักษะในการแสดงละครอย่างสิ้นเชิง หากครองภพได้ยินคำพูดปั้นแต่งอีกทั้งสีหน้าโอเว่อร์ของเขา คนเป็นน้องคงถอนหายใจไปหลายเฮือก แต่ร่มธรรมมัวแต่รู้สึกผิด จึงไม่ทันสังเกต


   “คุณธาดาคงเห็นข่าวแล้ว ผม...ทำให้ครองมีปัญหา...”


   “ข่าว? อย่าบอกนะว่าเรื่องข่าวที่คุณกับไอ้ครองสนิทกัน ขึ้นคอนโดอะไรนั่น”


สีหน้าเป็นกังวลของร่มธรรม ทำเอาธาดาหัวเราะ ก่อนจะส่ายหน้า


   “ไอ้ครองอยู่ในวงการมานาน ถึงมันจะอายุไม่มาก แต่อย่าดูถูกน้องผม ข่าวแค่นั้นทำอะไรมันไม่ได้หรอก ไอ้ครองน่ะเลือดนักสู้นะ”


ร่มธรรมนิ่งไป ก่อนจะถอนหายใจ


“แต่...ข่าวแบบนั้น...ยิ่งสู้ ยิ่งไปกันใหญ่...”


“มันขึ้นอยู่กับว่าจะสู้ทางไหน และคุณกล้าสู้มั้ย” ธาดาย้อนถาม ทำเอาอีกฝ่ายเงียบ คราวนี้เลยเปลี่ยนคำถามใหม่


“คุณไม่กล้าสู้? ทำไม? มีปัญหาอะไร หรือน้องผมดีไม่พอ?” คนถูกถามตาเหลือกโตด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดแบบนี้ ทว่าธาดากลับยักไหล่


“ไอ้ครองไม่ค่อยพูดก็จริงแต่อ่านง่ายจะตาย คุณก็อ่านน้องผมออกใช่มั้ย ว่ามันรู้สึกยังไงกับคุณ”


ต่อให้ครองภพจะมั่นใจว่าการกระทำของเจ้าตัว ร่มธรรมรับรู้ แต่ธาดาก็ต้องย้ำให้ร่มธรรมเข้าใจตรงกันว่าสิ่งที่ครองภพปฏิบัติต่อร่มธรรมนั้นพิเศษกว่าที่ปฏิบัติต่อคนอื่น


“คิดว่า...รู้ครับ...”


เพราะคิดว่าตนเองรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย และเพราะคิดว่ารู้ความรู้สึกของตนเอง ร่มธรรมจึงไม่อาจปล่อยให้ทุกอย่างเคลื่อนตัวไปตามอำเภอใจ ทั้งเขาและครองภพมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ อย่างน้อยหน้าที่การงาน งานในวงการเป็นงานที่พวกเขารัก แต่มันจะถูกทำลายให้ย่อยยับด้วยความรู้สึกของพวกเขา


ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้แสนมีค่า ทั้งๆที่ความรู้สึกนี้แสนสำคัญ มันจะกลายเป็นดาบทิ่มแทงพวกเขาไม่ได้


ร่มธรรมอยากรักษามันเอาไว้ เหมือนที่รักษาครองภพเอาไว้


ไม่อยากเสียทั้งความรู้สึกและครองภพไป


“แล้วคุณรู้มั้ยว่าครองเสียใจ” คำถามของธาดายิ่งทำเอาหัวใจของร่มธรรมอ่อนยวบลงจนอกเย็นวาบ


“รู้...ครับ”


“แล้วจะปล่อยไว้อย่างงี้เหรอ”


“ผม...ผม...อยาก...อยากทบทวนให้แน่ใจว่าจะมีทางไหนบ้างไหมที่จะไม่ทำให้ครองเสียหาย...”


“แต่ตอนนี้ครองเสียหายไปแล้วจากข่าวที่ออกมา แล้วก็เสียใจด้วยจากที่ทะเลาะกับคุณ ทั้งเสียหาย ทั้งเสียใจ เพราะคุณไม่ชัดเจน”


ร่มธรรมได้แต่ก้มหน้าเงียบ เถียงไม่ออกสักคำ ครองภพเสียหายก็เพราะเขาเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจแต่แรก ตอนนี้ครองภพยังเสียใจด้วยเพราะเขาไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง


คนผิดคือเขา...คือร่มธรรมคนนี้


ธาดาเห็นสีหน้าชายหนุ่มตรงหน้าแล้วก็พลอยถอนหายใจด้วยความสงสาร ตอนแรกคิดจะเล่นบทโหดแบบพี่ชายที่หวงน้อง แต่พอมาเห็นร่มธรรมสำนึกผิดแบบนี้ ก็เกรงว่าหากยังดันทุรังสวมบทพี่ชายใจร้ายต่อไป คนตรงหน้าจะเตลิดถอยห่างออกจากครองภพ คราวนี้ล่ะน้องชายของเขาอกหักอย่างไม่ต้องสงสัย


“เอาเถอะ เรื่องคราวนี้ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ผิด ไอ้ครองเองก็ใช่ย่อย มันอายุยังน้อย มุทะลุใจร้อนไปบ้าง แต่ถ้าคุยกับมันดีๆ มันไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากเลย คุณเป็นผู้ใหญ่กว่าไอ้ครอง ผมคาดหวังความเป็นผู้ใหญ่ของคุณพอสมควรเลยนะ”


ร่มธรรมถอนหายใจอย่างปลงตก


“ผมเองก็คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นผู้ใหญ่...” เพราะคิดว่าตนเองอายุมากกว่าครองภพ ร่มธรรมถึงได้พยายามตัดสินใจอย่างถ้วนถี่ คิดกลับไปกลับมาหลายสิบรอบว่าควรจะทำเช่นไรดีกับความสัมพันธ์ที่แสนเปราะบางของพวกเขา


แต่...เรื่องบางเรื่อง ความซับซ้อนของ ‘ผู้ใหญ่’ กลับยิ่งดึงทึ้งลงเหว


“...แต่...เป็นผู้ใหญ่มันยากจริงๆนะครับ”


ธาดาหัวเราะ “ไม่เห็นยากเลย ยิ่งเป็นผู้ใหญ่สิ ยิ่งหาข้ออ้างง่ายจะตาย ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ก็ยิ่งรู้ว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีผลกระทบทั้งนั้น แต่จะเลือกผลกระทบอะไรเท่านั้นเอง อะไรสำคัญก็เลือกอันนั้น ถ้าเลือกภาพลักษณ์ก็อ้างไปสิว่าเลือกด้วยสมอง ถ้าเลือกกำลังใจของครองก็บอกสิว่าเลือกด้วยหัวใจ ไม่ว่าทางไหนก็ฟังขึ้น จริงมั้ย”


แล้ววินาทีต่อมา สายตาของคนพูดก็กลายเป็นจริงจัง ประโยคถัดมาไม่มีวี่แววล้อเล่น


“...แต่จำไว้อย่าง ผู้ใหญ่มีเวลาจำกัด บางอย่าง...เลือกแล้วมันกลับมาเลือกใหม่ไม่ได้ คิดให้ดีว่าจะเลือกอะไร แต่ถ้าคิดนานไป ไม่ทันเลือกอะไรสักอย่าง คุณจะโทษอะไรไม่ได้เลยนอกจากโทษตัวเอง”


ร่มธรรมได้แต่เงียบ เขารู้ว่านี่คือคำเตือน


ถ้าเทียบระหว่างเขาและครองภพ แน่นอนว่าร่มธรรมเป็นผู้ใหญ่กว่า และทางเลือกในคราวนี้ เมื่อเลือกแล้ว ก็ไม่อาจกลับมาเลือกซ้ำด้วยเหตุผลว่าตอนเลือกคราวนั้นขาดซึ่งวุฒิภาวะหรือไร้วิจารณญาน อีกทั้งเมื่อเลือกทางใดแล้ว ผลกระทบย่อมตกแก่ครองภพ ไม่ว่าผลนั้นจะดีหรือร้าย ย่อมทำให้ครองภพเติบโตไปในทางใดทางหนึ่ง เมื่อครองภพเติบโต เมื่อครองภพเป็นผู้ใหญ่ ก็ย่อมทำให้ร่มธรรมไม่อาจกลับมาเลือกใหม่ได้ซ้ำอีกครั้งแน่นอน


จะเลือกอะไรเล่า


ภาพลักษณ์หรือความรู้สึก


จะเลือกด้วยอะไรเล่า


สมองหรือหัวใจ


คนที่ไตร่ตรองทุกอย่างด้วยความละเอียดรอบคอบ มาบัดนี้กลับพบว่านิสัยของตนเช่นนี้ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักที่กลางทาง


 ..........................


   หลายคืนก่อนหน้านี้ มักมีเสียงกรีดร้องจากมุมมืด เสียงนั้นทรมานและทุรนทุราย ทว่าวันนี้แตกต่างออกไป เสียงโหยหวนกลายเป็นเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บร้าว เสียงกรีดร้องกลายเป็นเสียงร้องไห้ปานใจจะขาด


   “ฮือ...ฮือ...”


   ดวงตาที่ฉ่ำชุ่มไปด้วยน้ำตาเหม่อลอย สองมือจิกเข่าแล้วโยกตัวไปมาราวกับปลอบประโลม ทว่าเมื่อเงาร่างทะมึนปรากฏเบื้องหน้า ดวงตาที่เหม่อลอยกลับเบิกโพลง น้ำตาหยุดไหล ริมฝีปากกลายเป็นแสยะยิ้ม


   “มาแล้ว...มาแล้ว...”


   “มาเอามันไป...มาเอามันไป...”


   “มาเอาไอ้ครองภพไป...เอามันไปจากคนของกู!!!!!”


   เสียงร้องไห้กลายเป็นเสียงหัวเราะ น้ำตาแห้งเหือด ริมฝีปากอ้ากว้างเปล่งเสียงแห่งความสุขดังก้องจากในมุมมืด ทว่าไม่ว่าจะเสียงกรีดร้อง ร้องไห้ หรือหัวเราะ ก็ล้วนไม่มีผู้ใดได้ยินทั้งนั้น


   พายุก่อตัวไร้คำเตือน


   เวลา...กำลังนับถอยหลังสู่หายนะ


   .............................


   ครองภพอยู่ในวงการมานาน ต่อให้อารมณ์จะเป็นเช่นไร แต่เมื่ออยู่ในงาน เขาก็ยังคงเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ ส่วนร่มธรรมแม้จะเพิ่งกลับเข้าวงการ แต่ช่วงเวลา 6 ปีที่ห่างหายไม่ได้ทำให้เลือดนักแสดงมืออาชีพลดน้อยลงเลย ดังนั้นถึงจะอยู่ในช่วงมึนตึง แต่การทำงานในกองถ่ายก็ยังเป็นไปอย่างราบรื่น


   แม้จะประดักประเดิดก็ตาม


   ซีรี่ส์ของผู้กำกับฉายซึ่งเดิมทีเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มือล่ารางวัล เมื่อหันมาจับงานรูปแบบใหม่ลงในแพล็ตฟอร์มใหม่ ย่อมเป็นที่จับตา เนื้อเรื่องเกี่ยวกับโลกในยามที่มนุษย์มีทั้งพวกวิวัฒนาการแบบผ่าเหล่าและพวกดั้งเดิม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความพวกพ้อง ความยากดีมีจน ก่อปัญหาข้ามเผ่าพันธุ์ ทั้งอาชญากรรม ฆาตกรรม และโศกนาฏกรรม กฎหมายจะถูกแขวนไว้บนหิ้ง หากไม่มีใครลุกขึ้นมาทวงคืนความเป็นธรรมและหมุนวงล้อกระบวนการยุติธรรม


ซีรี่ส์แนวแฟนตาซีสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ประกอบด้วยตัวละครนำ 2 ตัว ชายหนุ่มคนหนึ่งมาจากมนุษย์ผ่าเหล่าครึ่งคนครึ่งสิงโต ใช้ชีวิตอย่างอนุรักษนิยม เรียนรู้ธรรมชาติจนแตกหน่อเป็นพลังพิเศษ ในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่มีนิสัยยืดหยุ่นและผสมผสาน รู้ศาสตร์หลากหลาย ต่างคนแตกต่าง ร่วมกันไขคดีประหลาดด้วยการใช้ทั้งพลังเหนือธรรมชาติ การผจญภัย การคิดวิเคราะห์ และเทคโนโลยีล้ำสมัย


   ครองภพรับบทเป็นชายหนุ่มผ่าเหล่าครึ่งคนครึ่งสัตว์ ในขณะที่ร่มธรรมรับบทเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่เก่งกาจเรียนรู้ไว เดิมทีบทบาทของพวกเขาในซีรี่ส์ก็มีลักษณะตรงข้ามกันอยู่แล้ว การเข้าบทโดยทำเป็นเมินจึงเป็นเรื่องที่ผู้กำกับต้องการพอดี


   แต่...เมื่อเสียงคัทดังขึ้น ต่างคนต่างก็เมินกันจริงๆ


   ครองภพเป็นฝ่ายเดินหนี เขายังไม่รู้ว่าตนเองจะมองหน้าร่มธรรมอย่างไรไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสเข้ามาพูดคุยเรื่องข่าวนั้นอีก แล้วทำให้หัวใจของเขาเจ็บมากกว่าที่เป็นอยู่


   เพราะไม่อยากเอาแต่คิดเรื่องของร่มธรรม พอมีเวลาพักจึงเอาแต่กดเกมในโทรศัพท์มือถือ อย่างน้อยก็เป็นการปิดโลกของตนเองไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่...ใครบางคนก็อยู่นอกเหนือความคาดหมาย


   “ไอ้ครอง! มากองไม่เอาแต่เล่นเกมสิวะ!” เสียงตะโกนดังขึ้นที่ข้างหู ทำเอาครองภพสะดุ้งโหยงหันขวับไปมอง แล้วเบิกตาโต


   “พี่มิล!”


   รามิลยืนยิ้มกว้างอยู่ข้างหลังเขา


   “พี่มิล มาได้ไง”


   “ซื้อกาแฟมาเซ่นผู้กำกับฉาย”


รามิลอาศัยฐานะพระเอกเก่าที่เคยร่วมงาน หนำซ้ำบิดาของเขาก็เป็นเพื่อนของผู้กำกับ สมัยยังเด็กก็เคยวิ่งเล่นในกองของผู้กำกับฉายออกบ่อยไป วันนี้ต่อให้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ยังเข้ามาเดินในกองถ่ายได้อย่างสะดวก อาศัยแค่หน้าตาของความเป็น รามิล เท่านั้นเอง


   “แล้วแกเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย”


   “ก็โอเค” 


รามิลพยักหน้กหน้ารับรู้ แม้จะนึกเคืองผู้กำกับฉายอยู่บ้างที่ทำตามสัญญาของเขาก็จริง แต่ดันให้ครองภพมาชิมลางโปรเจ็คใหม่ที่จะลงในแพล็ตฟอร์มใหม่ ซึ่งไม่รู้จะออกหัวออกก้อย ทำแบบนี้มันเหมือนทำตามสัญญาอย่างขอไปที


แต่...พอเห็นพล็อตซีรี่ส์และนักแสดงที่ประกบกับครองภพแล้ว ก็พอจะอะลุ้มอะล่วยได้อยู่


   ครองภพกับร่มธรรม


   การแสดงของสองคนนี้เข้ากันได้ดี ไม่นับเรื่องหน้าตาที่ต่างหล่อเหลากันไปคนละแบบ แต่บางส่วนของหน้าตากลับคล้ายคลึงกัน รามิลเองก็บอกไม่ได้ว่าส่วนไหนที่เหมือนหรือต่าง แต่รวมๆแล้ว ครองภพและร่มธรรมเหมาะสมกันทุกประการ


   ยิ่งสนิทกันด้วย ต่อให้มีข่าวไปในทิศทางนั้น ถ้ารู้จักควบคุมให้ข่าวไม่เกินเลยแต่เลี้ยงกระแสเอาไว้อย่างนี้ ก็คงไม่ตกขอบวงการแน่ คราวนี้ค่อยมาลุ้นว่าโปรเจ็คนี้ของผู้กำกับฉายจะทำให้ครองภพและร่มธรรมจับมือกันดังเปรี้ยงได้หรือไม่ เท่านั้นเอง


   ว่าแต่...ทั้งๆที่อยู่กองเดียวกัน เล่นประกบคู่กัน แล้วอีกคนไปไหน?


   “แล้วนี่...แกอยู่คนเดียว” อดีตพระเอกเก่าถามพลางกวาดตามองไปรอบตัว ครองภพนั่งพักเพียงลำพัง มีสต๊าฟเดินเข้าเดินออกจากห้อง แต่ไม่มีใครเข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายกับเขาเลยสักนิด


   “พี่ณุคงอยู่แถวนี้” ครองภพเข้าใจว่าอีกฝ่ายถามถึงผู้จัดการส่วนตัวของเขา แต่รามิลกลับพูดไปถึงอีกคน


   “แล้วร่มล่ะ”


นักแสดงหนุ่มวัย 22 นิ่งไปเล็กน้อย เบือนสายตาหนีไปทางอื่นแล้วตอบแผ่ว


   “ไม่รู้”


   “หะ?! สนิทกัน เข้าฉากด้วยกัน แต่พักกองดันไม่รู้ว่าเขาไปไหนเนี่ยนะ?”


   “ก็...ไม่รู้ อาจจะอยู่แถวนี้ล่ะมั้ง คิวต่อไปต้องถ่ายกับผม” 


ข่าวของครองภพและร่มธรรมค่อนข้างเป็นกระแส รามิลเองก็เคยอยู่ในฐานะคนใต้แสงสปอตไลท์มาก่อน เขารู้ดีว่าข่าวพรรค์นี้สร้างชื่อเสียงและชื่อเสียให้คนในวงการมานักต่อนัก ครองภพอาจจะกังวล ถึงไม่อยากพูดต่อหน้าเขา


   “งั้นฝากกาแฟให้ร่มหน่อยละกัน”


คนถูกวานอยากปฏิเสธ แต่อีกใจก็อยากรับหน้าที่ อย่างน้อย...หากมีเรื่องอื่นให้ได้ใช้เข้าไปพบหน้าอีกฝ่าย ก็คงจะดี


   แค่พบหน้า...ไม่ต้องคุยอะไรกันเลยก็ได้ เราจะได้ไม่ต้องพูดถึงปัญหานั้นอีก


   “หรือแกไม่สะดวก?” รามิลย้อนถาม หรี่ตามองเหมือนจับผิด


   “เปล่า”


   “ดีแล้ว อย่าให้ข่าวมันสร้างอิทธิพลกับเรามากเลย สนิทกับใครก็สนิทเถอะ สัตว์สังคมนะโว้ย ไม่ใช่ฤาษีอยู่ป่า จะได้ไม่มีเพื่อน”


   “ไปบอกเขาสิ ไม่ใช่มาบอกผม” ครองภพอัดอั้นจนอดปากไม่ไหว อีกทั้งกับรามิลก็สนิทสนมกันดี อีกฝ่ายเป็นทั้งรุ่นพี่ในวงการ เป็นทั้งครู ร่วมงานกันมาก็หลายครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ครองภพเข้าวงการใหม่ๆและรามิลยังอยู่ในวงการในฐานะนักแสดงด้วยซ้ำ


   อดีตพระเอกแห่งชาติมองนักแสดงหนุ่มรุ่นน้องพลางเลิกคิ้วพลาง ครองภพไม่ใช่คนแสดงความรู้สึก แม้จะแสดงละครได้ดีแค่ไหน แต่ชีวิตจริง หากไม่ใช่กับเรื่องที่เจ้าตัวให้ความสนใจหรือชื่นชอบ ก็น้อยนับครั้งได้ที่จะได้เห็นใบหน้าหลากอารมณ์


   แต่คราวนี้...กลับได้เห็น


   “ร่มไม่อยากให้มีข่าวหรือ”


ครองภพไม่ตอบ แต่อาการเงียบของเขาก็บอกชัดว่าคนที่มีปัญหากับข่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เจ้าตัว


   รามิลพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ


   “เขาก็คงมีเหตุผลแหละ อาจจะมีแฟน เอ? แต่รินเคยบอกว่าสามพี่น้องโสดสนิท งั้นก็...ไม่อยากเสียหาย...”


   ครองภพพ่นลมหายใจแรงอย่างเย้ยหยัน


   “อ้อ! สนิทกับผมเป็นเรื่องเสียหาย”


รามิลมองหนุ่มรุ่นน้องที่หน้าบูดสนิทแล้วก็หัวเราะเอ็นดูจนดวงตาเรียวตวัดมองอย่างเอาเรื่อง


   “ถ้าจะเสียหายก็มีอยู่สองคน คนหนึ่งคือร่ม อีกคนคือแก แกคิดว่ารู้จักร่มดีมั้ย แกคิดว่าเขาจะกังวลว่าใครเสียหาย ระหว่างเขากับแก”


ครองภพนิ่งงัน สบตากับคนพูดแล้วก็เย็นวาบไปทั้งกาย


   “ต้องให้อธิบายมั้ย ว่าใครที่ควรคำนึงถึงภาพลักษณ์มากกว่ากัน ไม่ได้บอกว่าใครมีค่ามากกว่ากัน แต่มูลค่าของแกยังมีเวลาเพิ่มได้มากกว่านี้อีก แต่ร่มมีอุปสรรคที่อายุ และอุปสรรคนี้ของเขามันแก้ไม่ได้ อายุการใช้งานของเขาในวงการมันสั้นกว่าแก เอาจริงๆ มันน่าแปลกที่คนที่กังวลเรื่องภาพลักษณ์ดันเป็นร่มไม่ใช่แกนะไอ้ครอง”


รามิลมองตาหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะยกยิ้มจางแล้วตบบ่าราวกับคาดคะเนเรื่องบางเรื่องได้ในใจ


   “แกกับเขามีสิ่งที่อยากรักษาเอาไว้ อย่าทำมันพัง เมื่อถึงวันที่ต้องเลือก คิดให้ดีว่าจะเลือกอะไร...” รามิลพูดแล้วก้มหน้าลงหา กระซิบเบาข้างหู


   “แล้วอย่าโง่เลือกระหว่างงานกับความรัก เพราะมันมีวิธีเลือกอย่างอื่นด้วย เข้าใจใช่มั้ย” สายตาของรามิลนั้นแพรวพราว บอกได้อย่างดีว่าเขามีวิธีอื่นในการเลือก และเขาใช้วิธีแบบนั้นมานานแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เกษียณจากฐานะนักแสดงด้วยตำแหน่งพระเอกยอดนิยมออกไปเป็นผู้จัด โดยที่ไม่มีข่าวกระทบภาพลักษณ์ใดๆของเขาเลย


   รามิลยังคงเป็นโสดและมีภาพลักษณ์ของพระเอกแห่งชาติอยู่เสมอ


   ไม่ใช่เพราะความจริงแล้วเขาโสดจริง หรือเพราะนิสัยของเขาเป็นพระเอกที่แท้จริง แต่เพราะเขาบริหารเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานของตนเองได้อย่างลงตัว เขาปิดในเรื่องที่ไม่อยากเปิดเผย และเปิดเฉพาะเรื่องที่จำเป็น ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเขามีความสามารถในการปกปิดเก่งกว่าใครในวงการ แต่เพราะเขามีความสามารถในการเจรจากับคนที่ถือ ‘เรื่องลับ’ ของเขาให้ยังคงเป็น ‘เรื่องลับ’ ตลอดไปต่างหาก


   ..........................


   ร่มธรรมถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ นับตั้งแต่เกิดเรื่องทะเลาะระหว่างเขาและครองภพ ต่อให้เข้าฉากด้วยกัน ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเพราะงานอย่างเดียวเท่านั้น พอพ้นฉาก ก็ราวกับคนไม่รู้จักกัน ตอนพักยิ่งแล้วใหญ่ จากที่เคยนั่งเล่นนั่งคุย หรือไม่ก็ต่อบทกัน กลายเป็นว่าต่างคนต่างอยู่ ต่อให้ร่มธรรมจะอยากเข้าไปคุยด้วย แต่อีกฝ่ายกางเกราะ ทำตาขวางหน้าตาหงุดหงิดแบบนั้น ก็ชวนเอาฝ่อไปหมด


   ทั้งๆที่...ครองภพที่เป็นเช่นนั้น เขาก็เคยพบเจอมาแล้วตอนที่เจอกันครั้งแรกๆ แต่พอชินกับครองภพคนที่พูดเก่ง ต่อล้อต่อเถียงเขาได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก็ราวกับลืมไปแล้วว่าเคยเจอครองภพแบบไหน


   ผิดที่เขาเองแท้ๆ ผิดที่ตัวเอง


   ผิดที่บอกให้ต่างฝ่ายต่างหลบเลี่ยงกัน


   พอวันนี้ครองภพหลบเลี่ยงจริงๆ กลับเป็นเขาเองที่ทนไม่ได้


   แก้วกาแฟถูกวางลงตรงหน้า เรียกสติของคนที่เอาแต่จมอยู่กับความรู้สึกผิดในใจให้เงยหน้ามอง แล้วพอมองคนวางแก้ว เขาก็ถึงกับชะงัก


   ...ครองภพ…


   ทว่านักแสดงหนุ่มรุ่นน้องกลับยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย พูดด้วยน้ำเสียงเรียบกริบ


   “พี่มิลฝากไว้ให้”


ร่มธรรมกะพริบตาถี่ แล้วหันขวับมองซ้ายขวา


   “พี่มิลมาที่นี่หรือ” แต่กวาดตามองกลับไม่เห็นแม้แต่เงา ครองภพมองปฏิกริยาที่อีกฝ่ายมีต่อชื่อคนอื่นแล้วก็นึกหงุดหงิด ต่อให้ชื่อคนอื่นที่ว่าจะเป็นรามิลก็ตาม


   แต่...มันหงุดหงิด


   “อยากเจอนักรึไง” สุ้มเสียงของคนอายุน้อยกว่านั้นทุ้มต่ำกว่าเมื่อครู่จนเรียกได้ว่าเย็นเยียบ ร่มธรรมไม่ทันสังเกตน้ำเสียง กำลังจะหันมาตอบว่ารามิลมาทั้งที เขาก็ต้องอยากพบเป็นธรรมดา แต่พอหันมาเห็นสายตาจากดวงตาเรียว สิ่งที่อยากพูดก็กลืนลงคอไปหมด


…สายตาแบบนี้...เหมือนวันนั้น...


...วันที่เราทะเลาะกัน...


   “พี่มิลกลับไปแล้ว ถ้าอยากเจอก็ลองโทรไปหาแล้วกัน” ครองภพเอ่ยเสียงกระด้าง ก่อนจะหมุนตัวเดินหนีทันที ทว่ามันเกินทนแล้วสำหรับร่มธรรม ถ้าจะต้องปล่อยให้อีกฝ่ายหนีหน้าจากเขาเป็นครั้งที่สอง


   “ครอง เดี๋ยวก่อน”


   ครองภพหยุดเดิน ทว่าไม่ยอมหันมอง


“เอ่อ...ครองพอจะมีเวลามั้ย พี่...อยากคุย...” ไม่ทันจะพูดจบ เสียงจากทีมงานก็ดังขึ้น


“คุณครอง คุณร่มครับ ทางนี้พร้อมแล้ว”


ร่มธรรมถอนหายใจ ทั้งๆที่เกือบจะมีโอกาสอยู่แล้ว แต่เวลากลับไม่รอคอยเขาแม้แต่วินาทีเดียว


“ต้องไปทำงานแล้ว” ครองภพเอ่ยเรียบๆ ทว่าก็ยังดีที่เขายอมหันกลับมาตอบ น่าจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทะเลาะกันที่พวกเขาได้สบตา


“ถ้า...ถ้างั้น...หลังเลิกกอง...”


“ผมมีงานต่อ”


“งั้น...เอ่อ...”


“ไม่อยู่เมืองไทยสามวัน”


ร่มธรรมอ้าปากค้าง ท่าทางเหมือนผิดหวังของคนอายุมากกว่าทำเอาหัวใจของครองภพกระตุก


“ไว้ผมกลับมาก่อนแล้วกัน แล้ว...ถ้าคุณกังวลเรื่องนัดเจอกันข้างนอก เรา...ก็ค่อยมาคุยกันในกอง” ครองภพพูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้อง ทิ้งไว้เพียงร่มธรรมที่ได้แต่มองตามอย่างอ่อนล้า


‘ผู้ใหญ่มีเวลาจำกัด’


คำพูดนี้ไม่เกินจริงเลย


และเวลาสำหรับ ‘ผู้ใหญ่’ อย่างร่มธรรมก็ดูเหมือนใกล้จะหมดลงแล้ว


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ให้อภัยน้องครองด้วยนะคะ น้องยังเด็ก น้องยังจัดการความรู้สึกไม่ได้ น้องขอเดินหนีบ้าง ไม่คุยบ้าง หึงหน้ามืดไปบ้าง ขี้งอนไปหน่อยบ้าง ทั้งหมดก็เพราะน้องรู้สึกกับพี่ร่มมากค่ะ (สปอยสุดๆแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า)

สำหรับตอนนี้ เฉลยออกมาแล้วหนึ่งอย่าง ขอตบมือให้กับคนที่เดาถูกค่ะ  สถานีไปต่อ ยังเหลือเรื่องชาติก่อน ความสัมพันธ์ต่างๆ แล้วยังต้องให้กำลังใจน้องครองในการพาพี่ร่มออกจากบราเธอร์โซนด้วยนะคะ ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนเดา คนทาย และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2020 20:59:43 โดย Dezair »

ออฟไลน์ ppwct

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เดาอะไรแบบนี้ี้ี้้้ไม่เก่งเลย เดาไม่่่ออกเลย5555555555555 รอติิิดตามพฤหน้านะคะ :hao4:

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เบญญาป้ะะะะ ที่มากรีดร้องในที่มืดๆ ละเป็นคนเขียนจดหมายข่มขู่ เพราะเป็นแฟนพี่ร่มมาตั้งนาน แถมยังมีญาติเป็นคนในวงการจะฝากใครซักคนเอาจดหมายมาใส่กระเป๋าหรือรุ้ที่อยู่บ้านก็เป็นเรื่องง่ายๆ ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเธอแน่ๆ ละตอนนี้ก็มาโดนผีบ่าวช่วงบงการ ตัวร้ายร่วมมือกัน :serius2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2020 23:39:32 โดย BitterCucumber »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nrbtst1997

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากคร้าบบบบ  ชอบเนื้อเรื่องมากๆ
เจอกันพฤหัส​หน้าาาาา


ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
กองเชียร์ทุกคนเหมือนจะให้กำลังใจกันดีละเกิน
ชอบตรงนี้ ดูไม่มีใครตกใจที่ครองกับร่มชอบกัน
แถมยังดีใจซะอีกที่ทำให้ครองดีขึ้น
แต่ทั้งนั้นทั้งนั้นชอบความขี้เห่อน้องของธาดามาก
น่าเอ็นดูเหลือเกิน

รามิลนี่จะมีเรื่องแยกมั้ยนะ เพราะเปิดมาขนาดนี้ดูมีที่มาที่ไป

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่ธาดาน่ารัก..กกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ mr_longza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เอ็นดูวพี่ธาดา เป็นพี่ที่น่ารักจริงๆ
 :o8:

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
คู่มีคนดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ ขนาดแบบว่า ปกปิด อิอิอิ
พี่ธาดา ก็พูดกับครองและร่มตรงๆ จนปฏิเสธไม่ได้ มีความเป็นพี่สูง
พี่รามิล อะไร ยังไง อยากรู้เรื่องที่มาที่ไปแล้ว แถมเข้าใจในความรักคนอื่นอีก
 :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
FC พี่ธาดา


พี่ธาดาเป็นของเรา


เราจอง


อิผีตาแดง กับ อิผีกอดเข่า


นี่ควรให้คู่กัน


เหมาะกันมาก


ปีเน่ากับโรงผุ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด