Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 159200 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
FC พี่ดาบ. สะใจสุดๆ,,,

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เจ้อ่ะแอบอ่อยเหอะ  หิ้วน้องกลับบ้านอีกแระ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
  :-[ พี่ดาบแมนมากค่ะ ออกมาบ่อยนะคะ
เอาอีเจ๊ไปขังไว้เลยค่ะพี่ดาบ


ออฟไลน์ sarang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ตามอ่านทีเดียว4ตอนรวด อยากบอกว่าชอบค่าาาา
ผัวออกสาวคือดี แต่จริงๆนี่ว่าไม่ออกสาว น่าจะออกผัว
พี่ดาบโคตรเท่ ชอบตอนที่3ที่พี่ดาบเรียกน้องเอมไปเตือน
นิยายเรื่องนี้เหมือนจะตลก แต่จริงๆก็แฝงไรหลายอย่างนะ
ชอบค่ะ อยากอ่านต่อแล้วววววววว :mew1: o13

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
พี่ดาบอย่างเท่ห์​เลยค่ะ​ ตุ๊ดปลอมจริงๆ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่5


“ฮ่าๆๆ สะใจเป็นบ้าเลยนะคะอิน้องบ๋อย เห็นหน้าอิเด็กนั่นไหมคะ มันต้องโดนค่ะ คนแบบนี้ต้องเจอดานี่ค่ะ” เสียงสองที่ดังเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆตัวผม ท่าทางที่ดูจะมีความสุขมากกว่าผมซะอีก ได้ยินแบบนั้นมันเลยอดที่จะหันไปมองคนที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ คนร่างสูงที่กำลังขับรถไปพร้อมๆกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หัวเราะสุขใจกับวีรกรรมที่ตัวเองพึ่งทำมาเมื่อกี้



“เจ๊”



“ว่าไงคะหนู” ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมหันมายิ้มกว้างๆให้กันในตอนที่เจ้าตัวก็เข้าเกียร์มาอยู่ที่ตัวNพร้อมๆกับดึงเบรกมือขึ้นตอนที่รถก็ติดไฟแดงพอดี



“เจ๊จะพาผมไปไหนวะ” ข้องใจมากๆจนกูต้องถามออกมา คือตอนแรกแค่คิดว่าจับกูยัดใส่รถเพื่อให้แนบเนียนแล้วจะวนกลับไปส่งกันที่ร้านซะอีก แต่ไหงเหมือนยิ่งขับออกมาก็ยิ่งไกลออกไปจนเริ่มสงสัยแล้วนะว่าจะพากูไปไหน ... แถมตอนนี้ก็ดึกมากๆจนอยากจะนอนแล้วด้วย



“กลับคอนโดกูค่ะ”



“หา อะไรนะ กลับคอนโด!” กูนี่ตาสว่างเลยครับ กลับคอนโดไหนวะ พูดใหม่อีกทีซิจ๊ะเจ๊พี่มึง



“ก็ใช่ไงคะ”



“แล้วจะพาผมกลับคอนโดไหนวะ” ถามออกไปแบบนั้น แต่อีกฝ่ายกลับหันมาทำหน้าตายใส่กันแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร นี่อย่าบอกนะว่าเจ๊มันหาเรื่องแกล้งผมอีกแล้วนะเว้ย



“คอนโดกูค่ะ”



“แล้วจะให้ผมไปด้วยทำไมวะ อย่าบอกว่าไปถึงแล้วเจ๊จะบอกให้ผมหารถกลับมาที่ร้านเองนะ ไม่เอานะเว้ย ผมเหนื่อยแล้วก็ง่วงมากแล้วนะเจ๊”  ว่าออกไปด้วยเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรง เห็นใจกูเถอะกูเหนื่อยแสนเหนื่อย อย่าให้กูต้องทรมานไปทั้งวันทั้งคืนเลยนะ



“เออน่า”



“เออน่าอะไรของเจ๊วะ ไม่เอาอ่ะ งั้นจอดรถตรงนี้เลย เดี๋ยวผมกลับเอง” อย่างน้อยถ้าลงตรงนี้ ก็น่าจะใกล้ว่าคอนโดมันที่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนในโลกใบนี้อ่ะ



“เอ๊ะ อิน้องบ๋อยทำไมวอแวจังคะ รุงรังที่สุดเลย นั่งอมลิ้นเงียบปากไปไม่ได้หรอ”



“งั้นเจ๊ก็พาผมกลับสิเว้ย” ฉุนเฉียวแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าระหว่างผมกับเจ๊มัน ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง



“มึงเห็นไหมคะว่ากูช่วยมึงแล้วก็ยัดมึงเข้ามาในรถแบบนี้ๆ”



“เห็น”



“นั่นแหล่ะค่ะ แล้วตอนนี้ก็ดึกมากๆแบบนี้ๆ”



“อ่าหะ”



“แล้วตอนนี้ สวยก็อยากนอนมากๆแบบนี้ๆ”



“แล้วยังไงล่ะวะ” สุดจะทนกับคนอย่างมึงเจ๊ เข้าเรื่องสักทีโว้ย



“ก็นี่ไงคะ สวยง่วง! สวยก็ไม่สามารถจะขับรถวนกลับไปส่งมึงได้ค่ะ กูเหนื่อย แล้วมึงเข้าใจไหมคะอิน้องหนูบ๋อย ถ้าสวยนอนดึกไปมากกว่านี้ หน้าสวยจะเหี่ยวจะโทรมจะอ่อนแอ เนี่ย แล้วเดี๋ยวสวยก็จะไม่สวย ซึ่งสวยยอมไม่ได้ค่ะ มึงเข้าใจเหตุผลของสวยไหม เพราะงั้น...กลับคอนโดกูค่ะ กูขี้เกียจวนรถกลับไปส่งมึง”



“อ้าว!! แล้วเจ๊จะให้ผมนอนไหนวะ”



“ก็นอนกับกูไงคะ อิโง่!”



จบบทสนทนาด้วยคำว่าโง่ ใส่หน้ากูเต็มๆแล้วอีกฝ่ายก็ไม่สนใจที่จะใส่ใจอะไรกันอีก รู้สึกเหมือนเขางอกขึ้นมาบนหัวเลยครับ เจ้าของรถที่ทำแค่หันหน้ากลับไปมองถนนแล้วเริ่มปลดเบรกมือและขับรถตรงออกไปตามเส้นทางที่ผมไม่คุ้นเคย ...



แล้วคือกูต้องไปนอนคอนโดมึงเรอะอิเจ๊ตุ๊ดปลอม!



ความรู้สึกเสียวตูดวูบๆวาบๆขึ้นมาเลย เป็นกำลังใจให้ตูดเอมด้วยครับแม่!



...



“เข้ามาค่ะอิหนูน้องบ๋อย อย่ามาทำหน้าหวาดระแวงแบบนั้นได้ไหมคะ” เป็นอีกฝ่ายที่หันมามองกันพร้อมๆกับทำหน้าไม่พอใจ หมดแล้วลุคพี่ดาบแบดๆที่ช่วยกูก่อนหน้านี้ เหลือแค่อิเจ๊สาวแตกในร่างเทพบุตรแสนบึกบึน



“ก็....”



“อย่าชักช้าให้หญ้ายาวอยู่เลยค่ะ กูง่วง” ว่าออกมาอีกครั้ง แบบหงุดหงิด พร้อมๆกับฝ่ามือแกร่งที่เอื้อมมาคว้าแขนของผมไว้และดึงให้เดินตามพี่มันเข้าไปในห้อง



“โอ๊ยเจ๊ เจ็บนะเว้ย”



“ต้องให้สวยรุนแรงนะคะมึงเนี่ย กูไม่ปล้ำมึงหรอกค่ะ จะกลัวอะไรนักหนา!”  เป็นอีกฝ่ายที่ตะคอกออกมาแบบนั้นแล้วหันมามองกันตอนที่เจ้าตัวเดินไปเปิดไฟให้ห้องทั้งห้องสว่างขึ้นมา



“แต่เจ๊เคยปล้ำผมไง!” แค่พูดถึงก็เจ็บไข่เลย ปล้ำกูมาสองรอบด้วยเอาจริงๆ



“กรี๊ดดดดดดดดด อย่าพูดเรื่องแสลงรูหูแบบนี้ออกมานะคะ ฝังกลบๆๆๆ สวยไม่โอเคมากๆเลยนะคะ” เป็นมันที่กรี๊ดออกมา ย้ำ ว่ากรี๊ดจริงๆ ผมนี่ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหูเลย



“เจ๊จะกรี๊ดทำไมเนี่ย มันดึกแล้วนะ เดี๋ยวข้างห้องก็มาด่าหรอก”



“คอนโดกูหรูหราหมาเห่าขนาดนี้ ข้างห้องไม่ได้ยินหรอกค่ะ”



ไม่สนหินสนแดดอะไรใดๆก็คืออิเจ๊นี่ล่ะ  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเดินนำผมเข้าไปถึงกลางห้องรับแขก เป็นคอนโดแบบสองห้องนอนสองห้องน้ำหนึ่งห้องรับแขกและห้องครัว ถือว่าเป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่เลยครับ ดูจากเนื้อที่ก็ไม่ใช่คอนโดไก่กาสมัยใหม่แบบที่ชอบทำออกมาขายแคบๆ ราคาคงเอาเรื่องน่าดู แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดของไอ้เก้อ

ผมที่หันไปมองรอบๆแล้วอดจะอึ้งไม่ได้ โซฟากำมะหยี่สีชมพูสุดแสนจะฟรุ้งฟริ้งที่มีหมอนอิงสีขาวตัดกันอย่างลงตัวถูกตั้งอยู่กลางห้อง พื้นพรหมที่ถูกปูเพิ่มเติมก็เป็นสีชมพูอ่อนๆพาสเทลไปอีก ได้แต่หันกลับมามองหน้าเจ้าของห้องที่ตอนนี้กำลังยกมือแกร่งขึ้นเสยผมแบบลวกๆ มองเห็นลำคอ สันกราม ไล่ลงมาที่บ่าแกร่งและไหล่กว้างๆนั่น ยังไม่ต้องพูดถึงกล้ามหน้าท้องที่มีซิกแพคเป็นลูกๆนั่นอีก ไม่จ้อจี้แน่นอนเพราะผมเคยเห็นมันมากับตา การแต่งห้องกับตัวเจ๊มันเป็นความแตกต่างที่ไม่น่าเข้ากันได้เลยจริงๆ



“มึงมองอะไรคะน้องบ๋อย แอบมองกูอยู่นะจ๊ะ อย่าคิดว่าไม่รู้บ้างเลย” ว่าออกมาเป็นทำนอง กูนี่เกือบเต้นท่าคุกกี้เสี่ยงทายตอบกลับแล้วนะ



“ผม...ผมไม่ได้มองเจ๊เว้ย ผมแค่มองห้อง”



“มองทำไมคะ มึงคิดจะขโมยของกูหรอ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเดินหนีไปที่ครัว มองจากตรงนี้เห็นมันเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำออกมากระดกดื่ม ไม่แม้จะใส่แก้ว น้ำที่ไหลออกมาจากมุมปากและไหลลงมาที่ลำคอแกร่งช่างเป็นภาพที่..... เจ็บไข่โว้ยแม่มึง!



ตุ๊ดทั่วไปเค้าทำกันแบบนี้จริงๆหรอครับ ไอ้เอมสุดแสนจะข้องใจ



“แล้วถ้าผมขโมยล่ะ”



“มึงก็ขโมยไปดิคะ”



“ห๊ะ?!”



“ค่ะ มึงก็ขโมยไปดิ เพราะกูเองก็ขโมยเค้ามาอีกทีเหมือนกันค่ะ นู่นค่ะ มองเห็นนาฬิกาเป็ดเหลืองบนผนังนั่นไหม อันนั้นของลูกพี่ลูกน้องกูค่ะ ของอิรบ ส่วนนั้นค่ะเครื่องฟอกอากาศ อันนี้ขโมยของน้องชายมาค่ะของไอ้น้องแจ และนู่นค่ะ ภูมิใจสุดๆ พรหมนุ่มๆฟูสีชมพูพาสเทลที่มึงเหยียบเมื่อกี้ กูมโมยมาจากบ้านเฮียทัพ พี่มันซื้อไว้ให้แมวมันนอน ไร้ประโยชน์สิ้นดี กูเลยแอบเอามาแม่งเลยค่ะ”



เอ่อ....



นี่กูอยู่กับอยู่ใครวะ โจรเรอะ!



“มองกูด้วยสายตาแบบนั้นทำไมคะ มึงลวนลามกูทางสายตาเรอะ”



“บ้านเจ๊สิ”



“ก็ใช่ นี่อ่ะบ้านกูค่ะ” เออ ก็ถูกของมันนะ ถุย!



“มึงไม่ต้องยืนงุนงง ไปอาบน้ำไปค่ะ นู่น ห้องน้ำอยู่ทางนู้นค่ะ”



“แต่ผมไม่มีเสื้อผ้าอะไรมาเปลี่ยนเลยนะเจ๊ ก็เจ๊อ่ะลากผมมา” คือมึงลากกูมาแบบนี้ อย่าถามหาเสื้อนอนเลย ถามแค่ว่าคืนนี้กูจะมีกางเกงในใส่ไหมจะดีกว่า



“พอๆเลิกพูด เดี๋ยวกูหามาให้เองค่ะ ใส่ชุดกูไปก่อน”



“แล้วกางเกง เอ่อ...กางเกง...”



“กูมีกางเกงในที่ยังไม่ได้ใส่อยู่ค่ะ กูซื้อมาตุน เดี๋ยวเอามาให้ ลำบากลำบนเหลือเกินชีวิตคนสวยแบบดานี่เนี่ย” พี่เจ๊มันที่บ่นๆแบบนั้นแล้วเดินผ่านหน้าผมหายเข้าไปในห้องนอน ... บ่นซะกูสำนึกผิดไม่ทันเลย



เหลือบสายตาไปมองนาฬิกาเป็ดเหลืองที่ถูกแขวนอยู่ที่ผนังห้อง ตอนนี้บอกเวลาตีสามครึ่ง ทั้งเหนื่อยทั้งเหนียวตัว ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าว่ะ จะได้รีบๆนอน ...เพราะคิดแบบนั้นเลยเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆกับห้องครัว คิดว่าห้องน้ำอีกห้องคงอยู่ในห้องนอนของเจ๊มันนั่นล่ะ  พอเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วตากูแทบถลน เครื่องสำอางเครื่องประทินผิวบ้าบออะไรไม่รู้เรียงรายอยู่บนชั้นวางด้านหน้าอ่างล้างหน้าทำเอาอ้าปากค้าง พอเดินเลยเข้าไปในโซนอาบน้ำ หนักเลยไอ้เหี้ยเอ๊ย สารพัดสบู่หลากหลายขวดหลากหลายยี่ห้อ ลองๆเปิดดมดูแล้วมีแต่ยี่ห้อที่ไม่รู้จัก ทำไมเจ๊มันไม่ใช้แบบสบู่นกแก้วเขียวอะไรแบบนี้วะ



สุดท้าย...กูเลยใช้วิธีการเดาสุ่ม คว้าขวดที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดหยิบๆมาถูเข้ากับน้ำ พอฟองมันเยอะๆกูก็เอาชโลมตั้งแต่หัวลากยาวไปถึงส้นเท้าเลยครับ พอดีเลยวันนี้ยังไม่ได้สระผมก็ถือเอาตอนนี้เลยละกัน รู้สึกหอมๆดี ก็ฟินในระดับนึง เห็นมันเขียนชื่อกลิ่นไว้ว่า Midnight Pomegranate



“นี่สินะชีวิตคนรวย กูล่ะเข้าไม่ถึงจริงๆ”



อาบไปนานไม่รู้ว่ากี่นาที น่าจะนานพอสมควร เพราะอิสบู่บ้านี่ลื่นเหลือเกิน ทรมานไอ้เอมตอนล้างออกแบบสุดๆเพราะงั้นเลยใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าปกติ แต่ตอนนี้เหมือนจะพึ่งนึกออกว่ากูขาดอะไรไป ....



‘ปังๆ’



“อิน้องบ๋อยคะ มึงตายหรอ” เสียงประตูห้องน้ำที่ถูกทุบ ใช้คำว่าทุบถูกแล้ว นี่มือหรือตีนที่เคาะประตูห้องน้ำอยู่นั่น แล้วดูปากมันนะครับ ปากคอเราะร้าย



“ยังไม่ตายเว้ยเจ๊”



“ถ้ายังไม่ตายก็ออกมาค่ะมึง ทำอะไรอยู่ ถ้าหิวก็บอกกันดีๆมึงจะไปหาอะไรกินในนั้นมันไม่ดีนะ”



“โว้ยยย ไม่ได้หาไรกินเว้ยเจ๊” ตะโกนออกไปแบบนั้น ได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่อยู่ด้านนอกหัวเราะออกมา เหมือนว่ามันจะสุขใจตลอดเวลาที่กวนประสาทผมได้



“ถ้าไม่ได้หาไรกินก็ออกมาค่ะ”



“ออกไม่ได้”



“เป็นเหี้ยอะไรถึงออกไม่ได้ ออกมา กูง่วงแล้วนะโว้ย”



“คือผม....”



“อะไรวะ”  เสียงของอีกฝ่ายที่ไม่ดัดเป็นเสียงสองแล้วในตอนที่ถามกันออกมาแบบนี้ เหมือนว่าพี่เจ๊มันคงง่วงมากแล้วจริงๆ เสียงมันเลยเข้มไปตามอารมณ์



“คือผม...”



“ถ้ามึงยังคือผมอีกครั้ง กูจะถีบประตูให้พังแล้วเดินเข้าไปถีบมึงด้วยนะ”



“ผมลืมผ้าเช็ดตัวอ่ะ จะออกไปยังไงเล่า”  เจ็บไข่เลย! กูร่าเริงกับการอาบน้ำมากไปจนลืมไปว่านอกจากกูจะไม่มีเสื้อผ้า กูยังไม่มีผ้าเช็ดตัวด้วย



“เห้อ เหนื่อยกับมึง ออกมาเอา อยู่หน้าห้องน้ำเนี่ย”



“ขอบคุณครับเจ๊พี่มึง”  พอได้ยินแบบนั้นก็รีบก้าวยาวๆไปเปิดประตูห้องน้ำเลยครับ ยืนหนาวไข่อยู่นี่มานานแล้ว



‘พรึบ’



“เออแล้วก็เสื้....”



“เชี่ย!”



เป็นอึ้ง!



ตามองตา สายตาก็จ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่าน...ไปถึงไข่!



“อ๊ากกกกกกกกกก”



“กรี๊ดดดดดด หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ทิ่มตาสวย” หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์พ่อง!



เสียงแหกปากสองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมๆกันในตอนที่ผมเปิดประตูออกไปแบบอล่างฉ่างเพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก็มึงบอกว่าผ้าอยู่ข้างนอก กูก็นึกว่ามึงห้อยไว้ให้ ที่ไหนได้ พอเปิดออกไป แผ่นหลังกว้างๆที่ผมคุ้นเคยก็อยู่ในสายตา พร้อมๆกับใบหน้าหล่อๆที่หันกลับมาเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ดวงตาเข้มๆที่มองมาที่หน้าของผม เราที่มองสบตากันในตอนนั้น และสายตาคมของอีกฝ่ายที่ค่อยๆเลื่อนลงมาที่หน้าอก หัวนม และ...หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ของผม!



(0////[ ]////0)

(o [ ] 0 )



ฉ่า!



เสียงหน้าผมเองที่รู้สึกเหมือนว่ามันจะสุก คนตรงหน้าที่เบิกตากว้างขึ้นแล้วแหกปากออกมาเสียงดัง ก่อนที่ผ้าขนหนูผืนหนาจะถูกปาเข้าหน้าผมเต็มแรง พอดึงออกจากหัวก็มองเห็นร่างใหญ่ๆของอิเจ๊ตุ๊ดยักษ์ที่แหกปากวิ่งเอามือชูขึ้นสองแขนโวยวายหายเข้าไปในห้องนอนของตัว เหลือทิ้งไว้แค่ผ้าเช็ดตัวที่มันเขวี้ยงมาคลุมหัวผมและชุดนอนที่มันทิ้งไว้ที่พื้น ... ส่วนกูนอกจากยืนแหกปากร้อนหน้าอยู่ตรงนี้ แล้วก็ทำได้แค่รีบปิดประตูเข้าห้องน้ำไป



บัดซบ!! สุดแสนจะอาย ชีวิตอะไรของกูวะครับเนี่ย



.

.

.



“อิน้องบ๋อยคะ ทำหน้าให้มันด้านๆหน่อยค่ะ ออกมา!” เสียงนี้แม่งมาอีกแล้ว อย่ามาเรียกกู ปล่อยให้กูอับอายและตายไปในห้องน้ำนี้เถอะ ได้โปรดดดดด



“ถ้ามึงไม่ออกมา คราวนี้กูจะเปิดประตูเข้าไปลากมึงแล้วนะคะ”



“เออๆ มาแล้ว เจ๊จะเรียกอะไรนักหนาวะ” สุดจะทนกับคนอย่างเจ๊พี่มึง กูเป็นฝ่ายเสียหายกูเป็นฝ่ายอายก็ให้กูได้หลบหน้าหลบตาหน่อยไม่ได้รึไงวะ ทีเมื่อกี้ล่ะมึงวิ่งหน้าแรดหนีเข้าห้องก่อนกูอีก ทีแบบนี้ล่ะตามออกมาเคาะประตูห้องน้ำอยู่ได้



‘แอด’



พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอเข้ากับเจ้าของห้องที่ตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินที่มีลายจระเข้ตัวเล็กๆน่ารักหลายๆตัวสีขาว ส่วนบนหัวมันยังมีที่ปิดตาลายตุ๊กตาน่ารักคาดเอาไว้ด้วย ... น่ารักมากมั้ง!



เจ๊มันที่ยืนพิงกรอบประตูพร้อมกอดอกมองกันอยู่แบบนั้นก้มหน้าลงมามองผมที่เอาแต่หลบตา แม่ง ... เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันยากจะลืมเลือน โคตรจะหน้าอาย อยากหายไปจากตรงนี้



“หึ”



“เจ๊ขำไรวะ”



“มึงจะอายทำไมนักคะ กะอิแค่กูเห็นหลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ของมึง กูสิผู้เสียหาย กูคือคนที่ได้มองเห็นนะคะ”



“โว้ยย เจ๊เลิกพูดเลยนะ แล้วก็เลิกมากล่าวหากันว่าคือหลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ด้วยนะโว้ย” ฉุนเฉียวแล้วนะ ล้อกันอยู่ได้แม่ง



“ก็มันจริงนี่คะ เหมือนสุดๆมึงเคยกินยาคูลท์ไหม หลอดเล็กๆสั้นๆแบบนั้นอ่ะใช่เลย”



“โว้ยยย เจ๊อย่ามาพูดงี้นะ ของเจ๊ใหญ่ตายแหล่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นด้วยความโมโหแล้วเงยหน้าขึ้นไปเถียง แต่เหมือนแม่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด ก็เพราะพอผมว่าออกไปแบบนั้น คนตรงหน้าที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นพรางก้มหน้าเข้ามาใกล้กัน สายตาคมที่มองกันยิ้มๆ



“มึงก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือไงว่ามันใหญ่หรือมันเล็ก...จริงไหมล่ะ หึ”



พูดจบแค่นั้นก็ผละตัวออกจากกัน เห็นมันที่เดินนำเข้าไปในห้องนอนก่อนแล้ว ทิ้งไว้แค่กู ...กูที่ยืนอ้ำอึ้งร้อนหน้าอยู่หน้าห้องน้ำคนเดียวในตอนนี้



“ผ...ผมจะรู้ได้ไงล่ะวะ ไม่รู้โว้ยยยย”



ถึงรู้กูก็ไม่ยอมรับหรอกโว้ยว่ามันใหญ่จริง หึ่ย เจ็บตูด!

.

.

.



“มึงนอนในนี้กับกู”



“ทำไมวะเจ๊ ผมออกไปนอนห้องรับแขกก็ได้” และนี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผมและพี่มันต้องเถียงกันอีกรอบ ผมที่ยืนกอดหมอนหนุนหัว ยืนเถียงกับเจ้าของห้องที่นอนเอาที่ปิดตาลายหน้ารักฟรุ้งฟริ้งคาดอยู่บนหัว มันที่นอนกางแขนกางขาอยู่บนเตียงแบบหน้าไม่อาย



“ไม่ได้ค่ะ”



“ทำไมวะ ผมนอนได้”



“กูกลัวมึงขโมยของค่ะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วลอยหน้าลอยตาใส่กันแบบไม่รู้จบ



“ไหนเจ๊บอกเจ๊ก็ขโมยมาอีกทีเหมือนกันไง ถ้าผมจะขโมยเจ๊ก็ไม่กลัวไงเล่า”



“แต่ตอนนี้กูกลัวแล้ว มันมีของที่กูไม่ได้ขโมยมาเหมือนกัน ไม่ได้อ่ะค่ะ มึงต้องนอนในนี้กับกูเป็นการกันเอาไว้ก่อน”



“แล้วเจ๊จะให้ผมนอนเตียงเดียวกับเจ๊อ่ะนะ”



“มึงฝันหรอคะ นู้นนน ไสตูดของมันมานอนข้างเตียงกูเลยค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำนิ้วกรีดกรายชี้ไปที่พื้นข้างๆเตียง ผมที่อ้าปากค้างในตอนนั้น



“ที่พื้นนี่หรอวะเจ๊ มันหนาวนะ”



‘พรึบ’



“นี่ค่ะผ้าห่ม คราวนี้ไม่หนาวแล้ว ไวๆสวยง่วงแล้ว เหนื่อยอยากพักค่ะ” พี่มันที่โยนผ้าห่มแพรสีชมพูลื่นๆมาให้กันพร้อมมองหน้าแบบเบื่อหน่าย ... แล้วกูจะทำไงได้ล่ะวะ นอกจากโยนหมอนที่ถืออยู่ในมือลงไปที่พื้นอย่างจำใจ อีกฝ่ายที่หยิบรีโมทขึ้นมาปิดไฟในห้องทำให้ห้องทั้งห้องมืดลงในตอนนั้น



“แล้วมึงอย่าปีนขึ้นเตียงมานะคะบอกไว้ก่อนเลย”



“เออ! ผมไม่ปีนขึ้นไปหรอกเว้ย!”



ตอบออกไปแบบหงุดหงิดเหมือนกัน พาผมมาแท้ๆจะหาที่หลับที่นอนให้ดีกว่านี้ก็ไม่ได้ ดีนะที่พื้นห้องของเจ๊มันปูพรหมหมดมันเลยไม่แข็งมาก แต่ถึงแบบนั้นแอร์ในห้องที่เจ๊มันเปิดไว้ที่19องศาก็ทำให้ผมสั่นอยู่ดี และอิผ้าห่มแพรแบบนี้พอโดนกับแอร์ก็ยิ่งเย็น มันเหมาะกับนอนในที่ร้อนๆโว้ย ทีตัวเองละห่มผ้าห่มนวม .... แต่ถึงอยากจะบ่นมากแค่ไหนก็ทำได้แค่ข่มตาหลับไป ผมไม่มีสิทธิ์พูดอะไรอยู่แล้วไหมวะ ข้อแรกผมเป็นแค่ลูกจ้าง ข้อสองผมก็เป็นแค่ใครไม่รู้ที่ผมกับเจ๊มันไม่ได้สนิทกันมาก มันช่วยเหลือผมทั้งวันมานี่ก็มากจนน่าตกใจแล้ว



และด้วยความเหนื่อยล้าจากเรื่องราวทั้งวันที่ผ่านมา ในที่สุดหนังตาหนักๆก็เอาชนะความหนาว ความรู้สึกสุดท้ายที่รับรู้ก็มีแค่ความรู้สึกเหมือนกันตัวผมเองที่ลอยได้และซุกหน้าลงไปในก้อนเมฆที่อบอุ่นก็แค่นั้น



“อื้ม สบายจัง”



...


(มีต่อจ้า)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

“กรี๊ดดดดดดดดดด”



“อื้อ อืมมม”



“ยัง ยังจะมาอื้อมาอืมอะไรอีก ตื่นค่ะ มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”



“ขอ อึก...อีกห้านาทีน้า”



“ห้านาทีก็ไม่ได้ค่ะ มึง มึงลุกออกจากตัวกูเดี๋ยวนี้เลยนะคะอิน้องหนูบ๋อย ตื่นค่ะตื่น ไม่ตื่นใช่ไหมคะ ได้เลยค่ะได้ นี่แน่ะ”



“อึก อื้อออออ แฮ่กๆ”



ผมที่ลืมตาขึ้นมาทันทีในตอนที่รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ได้แต่อ้าปากพงาบๆโกยอากาศเข้าปอด มองเห็นฝ่ามือใหญ่ๆที่ยกออกจากจมูกของผม ได้แต่หันหน้าไปมองคนข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิด



“เจ๊! เจ๊จะฆ่าผม!”



“ใช่ค่ะ ก็มึงมันน่าฆ่าให้ตาย”



“ผมทำอะไรผิดวะเจ๊ จะแกล้งอะไรผมนักหนา” ถามออกไปแบบขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด คนกำลังนอนฝันดี แต่ดันถูกปลุกด้วยวิธีพิศดาลโดยการปิดจมูก ไอ้ตุ๊ดปลอมใจร้าย



“ยัง...ยังมีหน้ามาขุ่นเคืองกู กูนี่ค่ะต้องเคืองมึง”



“ทำไม ผมทำไรให้วะ”



“แล้วที่มึงนอนเกยตื้นบนตัวกูตอนนี้ไม่ผิดหรอคะ กรี๊ดดดด บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามขึ้นมานอนบนเตียงกู นี่ไม่ขึ้นธรรมดา มึงขึ้นกูด้วยค่ะเนี่ย”



“ห๊ะ! ขึ้นไรของเจ๊ พูดจาน่าเกลียด”



ได้แต่กระพริบตาปริบๆใส่อีกคนที่ก็จ้องมองกันแล้วทำท่าเหมือนสาววัยแรกแย้มที่พึ่งเสียตัว ... แต่เดี๋ยวนะ ผมที่ค่อยๆหันไปมองรอบๆตัวช้าๆ ภาพตรงหน้านี่คือห้องของอิเจ๊ ...ก็ใช่ เมื่อคืนผมนอนห้องอิเจ๊ แต่ว่า...กูนอนที่พื้นนี่หว่า พอนึกมาถึงตรงนี้ก็รีบก้มหน้ามองไปรอบๆ สภาพตัวเองที่นอนอยู่บนอะไรที่นุ่มๆ และขาข้างนึงก็พาดอยู่บนอะไรบางอย่างที่ก่อนหน้านี้ที่นอนฝันหวานอยู่คิดว่าเป็นหมอนข้าง แต่จริงๆมันไม่ใช่... ครับ กูนอนอยู่บนเตียงของเจ๊มัน พร้อมๆกับครึ่งตัวของผมที่เกยอยู่บนอกแกร่งของอีกฝ่าย และขาของกูก็พาดไว้ที่กลางลำตัวของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ก้มมองลงไปเรื่อยๆแล้วได้แต่อ้าปากค้าง ความรู้สึกแข็งๆหยุ่นๆที่ทิ่มอยู่ที่ต้นขาทำให้ยิ่งต้องเบิกตากว้าง เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าอีกคนที่ดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรแล้วในตอนนี้



“ไงล่ะ นึกออกแล้วสินะคะ ลงไปจากตัวกู ก่อนที่กูจะเสียบมึงอีกรอบอิน้องหนูบ๋อย”



“เชี่ย! ไปแล้วๆๆๆ ลงแล้วครับเจ๊” ตาลีตาเหลือกรีบเอาขาออกจากตัวของเจ๊มันอย่างลนลาน ในตอนที่ไม่ทันระวังเพราะกูกลัวอนาคอนด้าของอิเจ๊ดานี่ กูก็...



‘โครม’



“เห้ย อิน้องบ๋อย”



“อู้ย เจ็บโว้ยยยย”



ได้แต่แหกปากออกมาแบบนั้นในตอนที่กูลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น คนที่อยู่บนเตียงก็ชโงกหน้าลงมามองอย่างตกใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยกยิ้มมุมปากมองกันแบบรู้สึกสนุก เจ๊มันที่ลุกตามลงมาจากที่นอนแล้วย่อตัวลงมาตรงหน้า พร้อมฝ่ามือหนาที่ช้อนคางของผมให้ขึ้นไปมองหน้ากัน



“หึ มอนิ่งไอ้ควายน้อย” ควายน้อยเชี่ยไรของเจ๊ล่ะโว้ย!



อยากจะอ้าปากออกไปเถียงมันแบบทุกที แต่รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่กระแทกเข้าเบ้าตา มันที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมๆกับฝ่ามืออุ่นที่ขยี้อยู่ที่หัวของผมนั่นก็ทำให้ต้องหุบปากฉับแบบอ้าปากพูดอะไรไม่ออก รู้สึกใจสั่นๆแปลกๆ คิดว่าเป็นอาการของคนตื่นตกใจที่ตกใจเตียงมากกว่าอย่างอื่น



“ลุกไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูหาไรให้กิน มึงจะได้ไปเรียน” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วลุกเดินนำผมออกไปจากห้องนอน ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆของอีกฝ่ายที่ก้าวออกไปจากห้อง ... ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อิเจ๊พี่มันหล่อมากจริงๆ



เป็นพี่ดาบได้ไหม ถือว่าขอกัน



เอ๊ะ! กูคิดอะไรวะแม่ง! เพ้อแล้วมึงไอ้เอม





               ผมที่ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาใส่ชุดเดิมเมื่อคืน แต่ไม่สกปรกนะครับเพราะเมื่อคืนเจ๊มันเอาไปซักและปั่นแห้งให้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน เช้าวันนี้ก็แห้งพอดี ติดแค่มันยับก็เท่านั้น ผมที่เดินออกมาแล้วมองหาเจ้าของห้องไม่เจอ เลยได้แต่เดินตามกลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างเข้าไปในครัวแทน



“เจ๊ทำอะไรอยู่หรอ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”



“มี มึงช่วยยกข้าวต้มกุ้งนี่ออกไปที่โต๊ะทีค่ะ”  เจ๊มันที่ว่าแบบนั้นตอนที่หันมามองกันแล้วเริ่มโรยกระเทียมเจียวลงในข้าวต้ม หอมจนต้องสูดกลิ่นแรงๆ



“ใจเย็นค่ะมึง น้ำลายไหลเป็นหมาหน้าร้อนเลยนะคะ”  ดูปากมัน



เลือกที่จะไม่เถียงแล้วยกข้าวต้มสองชามไปวางที่โต๊ะ เห็นอีกฝ่ายที่ยกน้ำและแก้วมาให้ก่อนจะนั่งลงตรงหน้ากัน



“วันนี้มึงมีเรียนเช้าหรือบ่าย”



“มีเช้าอ่ะ” ตอบออกไปแบบนั้นอีกฝ่ายที่ก็พยักหน้ารับรู้ ผมที่ไม่ได้สนใจอะไรแล้วนอกจากการเป่าข้าวต้มร้อนๆแล้วตักเอาเข้าปาก โอ้วววว



“อื้ออออาอ่อยยย”



“ค่อยๆกิน กลืนก่อนแล้วมึงค่อยพูด” อีกฝ่ายที่มองดุนิดหน่อย ก่อนจะเอื้อมมือไปเทน้ำเย็นใส่แก้วให้แล้วเลื่อนมาไว้ข้างๆผม



“เจ๊ อิเชี่ย อร่อยมากๆอร่อยฉิบหายเลยอ่ะ”



“นี่มึงชมหรือด่าคะเอาดีๆ”



“ชมๆ ชมจริงๆ เจ๊นี่ทำอาหารสุดยอดไปเล้ย” ว่าแบบไม่ได้ประจบ อร่อยจริงๆ รสชาติกลมกล่อมที่พอซดน้ำซุบร้อนๆเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกดี ข้าวต้มที่ยังเป็นเม็ดเรียงตัวสวยอยู่ในน้ำซุบที่โรยผักชีและต้นหอมซอยและมีกระเทียมเจียวเหลืองๆโรยหน้ามาด้วย กุ้งที่พอกัดเข้าไปแล้วยังเด้งๆหยุ่นๆอยู่ในปาก เหมือนกับว่าอีกฝ่ายเอากุ้งลงไปลวกไม่ได้รอให้ต้มจนเละเลยได้กุ้งที่เด้งแบบนี้ อร่อยจนอยากเลียชาม ...



เงยหน้าขึ้นมายกนิ้วโป้งให้เจ๊มันสองข้างบอกให้มันรู้ว่าอร่อยจริงๆพร้อมยิ้มกว้างๆส่งไปให้ อีกฝ่ายที่มองนิ่งๆใส่ตอนที่เห็นผมยกนิ้วโป้งให้ก่อนจะยิ้มออกมานิดหน่อยพร้อมๆกับส่ายหน้า อะไรว้า



“อร่อยก็กินไปเยอะๆ วันนี้ต้องไปเรียนเดี๋ยวควายตัวน้อยแบบมึงจะไม่มีสมองเรียน”



“เรียกว่าควายน้อยอยู่ได้ เดี๋ยวเอาเขาทิ่มเลยแม่ง” ว่าออกไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่เถียงอะไรออกมาอีกนอกจากตักข้าวเข้าปากแล้วมองผมกินอยู่แบบนั้น ...บ้าบอที่สุด ไม่รู้จะมองไรนักหนา



               หลังจากกินข้าวเสร็จ รอเจ๊มันอาบน้ำไม่นานครับ แต่รอเจ๊มันแต่งหน้าทำผมเนี่ยที่เรียกว่านาน ไม่รู้มันจะทาอะไรนักหนา เห็นตอนแรกบอกต้องทาโทนเนอร์แล้วตามเซรั่มแล้วก็บลาๆๆๆ ไม่รู้ว่าอะไรนักหนา เพราะกูงงตั้งแต่โทนเนอร์นั่นแล้ว มันคืออะไรวะ คล้ายๆกับดินเนอร์ไหม งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆครับ ... หลังจากผ่านไปประมาณชาติเศษในที่สุดเจ๊มันก็เสร็จ ร่างสูงที่อยู่ในเสท่อยืดสีขาวพร้อมคลุมทับด้วยเสื้อยีนส์เท่ๆกับกางเกงยีนส์สีดำ เจ๊มันฉีดน้ำหอมพร้อมแต่งหน้าเขียนคิ้วใส่ต่างหูยาวรูปไม้กางเขน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ... ปากแดกเหมือนโดนใครตบเลือดกบปากมา



“ปากไม่แดงไม่มีแรงเดินค่ะ จำ!” บอกแบบนั้นพร้อมเชิดหน้าขึ้น อินเนอร์เหมือนอัมพัชราภา แต่สารร่างเหมือนนักเพาะกาย



เจ๊มันที่พาผมกลับมาที่ร้านเพื่อเปลี่ยนชุดนักศึกษา วันนี้มีเรียนเช้า9โมงครับ เลทได้ถึง9โมงครึ่ง ตอนที่ถึงร้านก็ใกล้ๆจะ8โมง เพราะแบบนั้นยังไงก็ทัน ผมที่ขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องทำงานของเจ๊มันแล้วเดินลงมาข้างล่าง



“ไอ้เอม เมื่อคืนมึงหายไปไหนวะ กูนี่ตามหาตัวมึงจนเหนื่อย” เสียงเรียกที่ต้องทำให้หันไปมอง และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้โก้ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดและกางเกงบอล หัวมันยังดูยุ่งๆแต่ในมือมีน้ำเต้าหูกับปาท่องโก๋ ... เหมือนกับว่ามันตื่นแล้วไปหาซื้ออะไรมากิน



“อ๋ออ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยมึง”



“เรื่องอะไรวะ บอกกูได้นะเว่ย” มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมๆกับวงแขนแกร่งที่พาดมาที่ไหล่ของผมอย่างสนิทสนม



“ไม่มีไรมากหรอกมึง เคลียร์แล้ว” บอกออกไปแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มให้ อยากจะบอกว่าจริงๆไม่ใช่กูที่เคลียร์ แต่เป็นเจ๊เจ้าของร้านนี่ล่ะที่เป็นคนเคลียร์ให้



“แล้วนี่มึงจะไปไหน เรียนหรอวะ”



“อืม วันนี้กูมีเรียนเช้าว่ะ” บอกแบบนั้นแล้วอีกคนก็พยักหน้าเข้าใจ มันที่ค่อยๆไล่สายตามองหน้าผมแล้วไล่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับสายตาของมัน ไอ้ห่านี่เป็นอะไรถึงชอบมองกันด้วยสายตาแปลกๆแบบนี้เรื่อยเลยวะ



“มองเหี้ยไรวะ”



“หึหึ เปล่า กูก็แค่คิดว่า....” ลากเสียงยาวจนกูต้องลุ้นตาม หน้ากูนี่ลุ้นมากๆ ลุ้นจนขี้จะแตกแล้วไอ้สัด



“หน้ามึงลุ้นมาก เหมือนคนปวดขี้เลยว่ะ ฮ่าๆๆ” ไอ้สัด บันเทิงในยาวเช้า กวนตีนกูละ สักทีไหมแม่งไอ้ไข่ย้อย



“สัด กวนตีน”



“ฮ่าๆ งอนหรอวะ พองแก้มเลย ไหนๆเอาหน้ามาให้กูหอบปลอบหน่อยมา”



“ไปไกลๆไอ้สัด กูไม่ได้งอนโว้ย” ผมที่ว่าแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดันที่จะเอาหน้าเข้ามาใกล้ มันที่กอดไหล่ผมไว้แน่น ได้แต่พยายามดิ้นออกห่างตัวแต่ก็สู้แรงมันไม่ไหว



“เล่นอะไรกันวะ” เสียงเข้มที่ดังขึ้นมาเป็นระฆังช่วยชีวิตกูอีกแล้ว หันไปมองก็เห็นเจ๊ดานี่ที่ยืนกอดอกมองตรงมาที่เราสองคนอยู่หน้าประตูทางเข้าของร้านด้วยสายตานิ่งๆ ... เจ๊มันเป็นอะไรวะ หรือปวดขี้ด้วยอีกคน? แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แต่ก็ขอบคุณที่เจ๊เข้ามาพอดี ผมที่สะบัดตัวออกจากไอ้โก้และมันก็ปล่อยตัวผมออกอย่างง่ายๆในตอนที่เห็นหน้าเจ๊มัน



“ฮ่าๆ แค่ล้อมันเล่นน่ะจ๊ะเจ๊ เจ๊คนสวยกินไรยัง กินน้ำเต้าหู้กับผมไหมครับ” ไอ้โก้ที่หันไปยิ้มหวานแล้วประจบเจ๊มันเหมือนทุกที



“ไม่แดก มึงเก็บไว้แดกเองเถอะ ไอ้หนูน้องบ๋อย มึงไม่ไปเรียนหรอคะ”



“ไปๆเจ๊” ตอบอีกคนออกไปแบบนั้นแล้วหิ้วกระเป๋าเป้ามาสะพายดีๆ หลังจากที่เมื่อกี้ยื้อยุดกับไอ้โก้จนมันร่วงลงไปที่พื้น  ผมที่ไม่ได้หันไปบอกลาหรือพูดอะไรกับไอ้โก้อีก ทำแค่ตอบรับเจ๊มันแบบนั้นแล้ววิ่งออกจากร้านไป ...



คนร่างสูงที่มองตามแผ่นหลังบางที่วิ่งออกจากร้านไปนิ่งๆ แล้วหันมามองหน้าของลูกน้องในร้านที่ก็มองตามร่างบางๆนั่นไปไม่ต่างกัน เจ้าของร้านร่างสูงไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่เดินตามคนที่พึ่งวิ่งผ่านหน้าตัวเองออกไปโดยไม่สนใจลูกน้องที่กำลังจะอ้าปากชวนไปกินน้ำเต้าหูอีกรอบ



“อิหนูน้องบ๋อย”



“หื้ม อ้าวเจ๊มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมที่หันหลังกลับไปมองและเห็นว่าเป็นอิเจ๊ดานี่ที่เดินหน้าหงิกตามหลังกันออกมาจากร้าน คือเจ๊มันเป็นอะไรวะ หรือเมื่อกี้ตอนกูวิ่งออกมาเผลอเหยียบตีนมันหรอวะ เชี่ย จริงป่ะเนี่ย ทำไงดีวะตัวกู



“กูบอกมึงแล้วไงว่าอย่าเล่นกับไอ้โก้มากไป นี่มึงโง่หรือไม่มีสมองเอาดีๆ”



“เอ้า เจ๊มาด่าผมทำไมวะ ผมก็ไม่ได้เล่นกับมันสักหน่อยอ่ะ”



“นี่มึงจะบอกกูว่ามึงเอาจริงหรอคะ ห๊ะ!” อีกฝ่ายที่ขึ้นเสียงใส่กันพร้อมๆกับเท้าเอวใส่ด้วย คือเดี๋ยวนะ กูทำอะไรผิดนะ



“อะไรของเจ๊วะ ไม่เข้าใจเลย ... แต่ถ้าเจ๊จะหมายถึงเมื่อกี้ผมไม่ได้เล่นกับมันนะ”



“เอ๊ะนึ่มึง!....”



“มันอ่ะพุ่งเข้ามาประชิดตัวผมเองนะ ผมไม่ได้เล่นกับมันเลยนะเจ๊” ว่าต่อออกไปแบบนั้น กลัวเจ๊มันเข้าใจผิดหาว่าผมเล่นเกินงามกับเด็กในร้านของมัน จริงๆเจ๊มันอาจจะหวงเพราะจำได้ว่าครั้งก่อนเจ๊มันบอกไอ้โก้กล้ามล่ำ บางทีเจ๊แกอาจจะเล็งมันมานานแล้ว



“อ่อ แบบนี้นี่เอง”



“จริงๆนะ” ผมรีบพยักหน้าสำทับอีกรอบเลย พอบอกออกไปแบบนั้นก็เหมือนว่าสีหน้าของคนตรงหน้าจะดีขึ้นมาจากเมื่อกี้นี้หน่อยนึง



“แล้วนี่มึงจะไปเรียนยังไงคะ” อีกคนที่เปลี่ยนเรื่องดื้อๆแบบนั้น ไอ้เอมค่อนข้างจะตามไม่ทัน แต่ก็ยอมจะตอบเจ๊พี่มันออกไป



“ผมว่าจะโบกวินไปขึ้นบีทีเอสอ่ะเจ๊ แต่นี่แม่งยังไม่เห็นสักคัน”



“เวลาแบบนี้หายากค่ะ” ก็คงจะจริงแบบเจ๊พี่มันว่า ช่วงเวลาเร่งรีบในเมืองกรุงแบบนี้ พี่วินก็เลยยิ่งหายาก



“กูไปส่งไหมคะ”



“ห๊ะ”



“เดี๋ยวกูไปส่ง กูจะไปทำธุระแถวมอมึงอยู่พอดี”



“แต่รถใหญ่แบบเจ๊ รถมันติดอ่ะ” กว่ากูจะไปถึงมอก็น่าจะโดนอาจารย์ล็อคห้องไปแล้วล่ะแบบนั้น



“ใครบอกมึงว่ากูจะขับรถเก๋งไปวะ มึงรอกูอยู่นี่”  อีกฝ่ายที่บอกแบบนั้นแล้วเดินหายไปทางหลังร้าน ไม่เข้าใจว่ามันเดินไปหาอะไร แต่รอไม่นานเท่าไหร่ก็เข้าใจเลยว่าเจ๊มันเดินไปหาอะไร  เสียงของท่อมอเตอร์ไซด์ที่ดังมาพร้อมๆกับตัวรถยามาฮ่าวายแซดเอฟ-อาร์วันสีน้ำเงินดำที่ถูกขับมาจอดอยู่ตรงหน้าผมทำเอาอ้าปากค้าง เจ๊ดานี่ที่กำลังคล่อมตัวอยู่บนบิ๊กไบค์คันเท่ ฝ่ามือข้างนึงที่จับอยู่ที่แฮนด์มอไซด์ ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นหมวกกันน็อคมาให้ผม



“ขึ้นมาค่ะควายน้อย เดี๋ยวกูไปส่งเอง”  ผมที่ยังอึ้งๆได้แต่รับหมวกมาแล้วสวมเข้าไปแบบงงๆ ก่อนจะปีนขึ้นไปซ้อนท้ายอีกคนอย่างมึนๆ ก่อนที่ความรู้สึกอุ่นๆจะทำให้ผมได้สติ ฝ่ามือของอีกคนที่เอื้อมมาจับแขนของผมไปกอดไว้ที่เอวของเจ้าตัว ได้ยินเสียงที่ลอดออกมาจากหมวกกันน็อคนั่นว่า



“กอดไว้ค่ะ รถมันแรงเดี๋ยวมึงจะตก”



ตกอะไรไม่รู้... แต่ตอนนี้กูตกใจมากกว่า



ตุ๊ดเชี่ยอะไรขี่บิ๊กไบค์วะมึง!



.

.

.




‘เอี๊ยดดดดด’



เสียงล้อรถบิ๊กไบค์ที่เสียดสีเข้ากับพื้นถนนของมหาลัย และในที่สุดมันก็ถูกจอดลงตรงหน้าคณะของผมอย่างพอดิบพอดี ผมที่ค่อยๆปีนลงมาจากบิ๊กไบค์คันใหญ่นี่อย่างขาสั่นๆแอบจะอ่อนแรงเล็กๆ ... กูยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมเนี่ย เมื่อกี้กูนึกว่าเดอะฟาส แต่กูกลัวมาก กลัวว่าจะฟาดลงไปที่พื้น อิเชี่ยเอ๊ย เจ๊บไข่อยากร้องไห้!



เจ๊แม่งบิดไม่ยั้ง เอียงซ้ายเอียงขวาลัดเลอะมาตามถนน เสียวมากๆ เสียวว่ากูจะฟาดไถลไปกับพื้นถนน เป็นช่วงเวลาตื่นตกใจในยามเช้า

คนร่างสูงที่ค่อยๆหันหน้ามามองผม ก่อนที่เจ้าตัวจะถอดหมวกกันน็อคออกช้าๆพร้อมกับเงยหน้ายกมือขึ้นเสยผม สุดแสนจะเท่ ไอ้เอมอยากวิ่งไปกรี๊ดอัดหมอน หล่อแบดๆแม้จะปากแดง!



“มึงขยับมานี่”



เจ๊มันที่ว่าแบบนั้นตอนที่ผมกำลังพยายามจะปลดสายคาดหมวกกันน็อคออกจากหัว แต่แม่งเอาออกไม่ได้ เป็นมันทุกรอบ เวลานั่งวินกูก็เป็น กูงงมากว่าทำไมถึงถอดไม่ออก เวลาขึ้นวินแล้วถอดไม่ออกนี่โคตรจะอายเลยครับ ... แต่ครั้งนี้แตกต่างตรงที่อีกฝ่ายจับผมให้หันหน้าเข้าไปหาเจ๊มันแล้วมันก็ค่อยปลดล็อคสายรัดนั่นออกแล้วถอดหมวกกันน็อคออกจากหัวให้ เป็นช่วงเวลาที่เงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย บรรยากาศแปลกๆที่ไม่เข้าใจว่าแปลกตรงไหน แต่สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตาและรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้



มึงยิ้มอะไรเจ๊ มึงหยุดนะ หยุดยิ้มเลยนะเห้ย



“ตั้งใจเรียนล่ะควายน้อย”



“อ..อื้ม ขอบคุณครับ” ได้แต่ตอบอ้อมแอ้มออกไปแบบนั้น เป็นเชี่ยอะไรวะไอ้เอม



“ควายน้อย”



“อะไรเจ๊...”



“มึงแก้มแดงอีกแล้วว่ะ สงสัยอากาศมันจะร้อนมากๆเนอะ”



เรื่องกูเจ๊ !! ไม่ยุ่งกับหน้ากูได้ไหม ถือว่าขอกันแค่นี้!!



ไม่ฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดแกล้งอะไรกันอีก ผมที่ก็แค่หันหลังและวิ่งออกมาจากหน้าคณะทันที ได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะดังตามมาแว่วๆ อยากจะหันไปท้ามันต่อยสักฝุ่น แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า ... เดี๋ยวโดนมันล้อเรื่องแก้มอีก



...



“อิน้องเอมมมม มึงมาแล้ว มาๆๆๆ” เสียงโหวกเหวกโวยวายที่มาพร้อมฝ่ามือสวยๆที่กวักโบกเรียกผมอย่างไม่อายใคร แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในโรงอาหารก็ตาม



“ป้า อย่าเสียงดังสิวะ”



“กูไม่ได้เสียงดังนะอิเอม กูแค่เสียงก้องกังวานค่ะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมฉีกยิ้มหวาน วันนี้ก็ยังสวยเพราะแต่งหน้ามาจัดครับ ผมที่นั่งลงที่โต๊ะข้างๆมัน ฝั่งตรงข้ามเป็นไอ้เก้อที่กำลังมองหน้าผมอยู่นิ่งๆ



“ไงมึง ทำไมหน้าเครียดๆวะ หิวขี้หรอ” ผมที่หันไปทักทายไอ้เก้ออย่างแกล้งๆไม่ต่างจากทุกวันที่ชอบทำ ไอ้เก้อทำหน้าเพลียๆส่งมาให้แบบระอา



“มึงมาไงวะไอ้เอม”



“กูหรอ วันนี้มีราชรถมาเกยจ้า” ตอบมันออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มร่า แม้ว่าก่อนหน้านี้กูจะเฉียดตายและแก้มพึ่งร้อนมาหมาดๆก็ตาม



“ราชรถอะไรมาเกยมึงคะ หรือว่ามึงโดนรถเฉี่ยว ไหน ขอกูดูหน่อย มึงเจ็บไหมคะหนูลูก หนูดาวพระสุขของแม่”



“ป้า มึงไม่ต้องเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ขนาดนี้ก็ได้นะ”  ว่าออกไปแบบเอือมๆ เลยโดนป้ามันผลักหัวมาที



“แล้วสรุปว่าคืออะไร” ไอ้เก้อที่เป็นฝ่ายลากกลับเข้าเรื่อง ผมที่ก็ยิ้มกว้างออกมาตอนที่เล่าให้พวกมันฟังว่าวันนี้เจ๊ดานี่มาส่ง



“มึงจะบอกกูว่าเจ๊ดานี่ขี่อิจุ๊บจิ๊บมาส่งมึงหรอวะ”



“จุ๊บจิ๊บคือเหี้ยอะไรก่อน?” งงจนกูต้องถามย้ำ ไอ้หยีที่ทำหน้าละเหี่ยใจเหมือนกับว่าผมนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยส่งมาให้ และใช่ กูไม่รู้อะไรน่ะถูกแล้ว ไม่รู้ตั้งแต่อิจุ๊บจิ๊บจุ๋มจิ๋มอะไรนั่นแล้วล่ะ



“อิจุ๊บจิ๊บก็คือบิ๊กไบค์เจ๊แกนั่นแหล่ะ มันชื่อจุ๊บจิ๊บ จำได้ว่าอิเจ๊ชอบขี่ไปมหาลัยเมื่อก่อนบ่อยๆ แต่นานแล้วที่ไม่เห็นพี่แกเอาออกมาขี่ แถมคันนี้ยังโคตรจะหวง ปกติแกไม่ค่อยยอมให้ใครซ้อนหรอกนอกจากสาวๆหรือเมียเก่าๆเจ๊มัน” ไอ้หยีที่เล่าออกมาแบบออกรสออกชาติ



“ตั้งชื่อได้สาวแตกเหมือนเจ้าของฉิบหาย” ผมว่าออกไปแบบนั้น



“มึงบอกกูว่าเจ้าของร้านที่ไอ้เอมไปทำงานนี่เป็นตุ๊ด” ไอ้เก้อที่หันไปถามไอ้หยีแบบนั้น



“ใช่ค่ะ”



“แต่มันขี่บิ๊กไบค์มาส่งไอ้เอมเนี่ยนะ”



“แล้วมันจะแปลกตรงไหนล่ะวะผัวเก้อ จริงๆเจ๊แกมาส่งอิเอมนี่ก็ดีนะคะ มันประหยัดค่ารถไฟฟ้าไปอีกอ่ะ”



“เออ จะว่าไปจริงๆเจ๊มันก็ใจดีแบบที่มึงบอกกูนะป้า เมื่อวานเจ๊มันช่วยกูเยอะเลย” ผมหันไปมองเพื่อนๆอีก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจริงๆมันก็เป็นคนมีน้ำใจ ถึงแม้จะกลัวตีนและชอบทำท่าแด๊ะแด๋ตลอดเวลาให้รำคาญลูกตาก็เถอะ



“มันเป็นตุ๊ดหรอวะ”



“ก็ใช่น่ะสิคะ เจ๊มันเป็นตุ๊ด ตุ๊ดปากแดงๆเลยค่ะ”



“แต่เป็นตุ๊ดที่ขี่บิ๊กไบค์และพาไอ้เอมไปนอนที่คอนโด”



“ก็ใช่ไง ทำไมวะ” เป็นผมที่ว่าแบบนั้น แล้วก็ได้แต่หันไปมองหน้าไอ้หยีที่ก็แค่นยักไหล่ตอบกลับมา อารมณืเหมือนว่าไม่เข้าใจว่าไอ้เก้อจะถามซ้ำซากทำไม



“ไอ้เอม”



“ว่าไงเพื่อน”



“คืนนี้กูอยากเที่ยวว่ะ”



“แล้ว”



“ไอ้หยี”



“ว่าไงคะผัวเก้อ”



“คืนนี้ไปเที่ยวที่ร้านไอ้เอมทำงานกัน กูอยากเห็นหน้าเจ้านายไอ้เอมมันสักหน่อย”



ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไรต่อ จะไปก็ไปสิ อีกอย่างถ้าไอ้เก้อไป กูจะไถทิปมันมาให้ได้หลายๆพันเลยครับโผ้ม!



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาา อิ๊อ๊ะ ... เจ๊ดานี่ชอบแกล้งน้องเอม เป็นกำลังใจให้น้องเอมด้วยนะคะ

แต่ว่า...ขอพูดแบบน้องเอมเลยว่า เป็นพี่ดาบได้ไหม ฉันอยากได้พี่เค้า อ๊ายยยย

มามะ สำหรับตอนนี้ยาวๆกันไปเกือบ20หน้าA4เลยนะคะ คอมเม้นท์ต้องมาแล้วน้า

เป็นยังไงกันบ้างเชิญหวีดเลยค่ะ

และสามารถเข้าไปติดแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์กันได้นะคะ ขอเชิญชวนให้ไปหวีดน้า

ขอบคุณหลายๆท่านที่ไปหวีดและรีวิวแนะนำนิยายเรื่องนี้ในทวิตเตอร์ให้แคทนะคะ ดีใจจจจจจ
 :mew1: :katai4: :pig4:



(Cr.Pic by goodbyemy_b)


ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อื้อหือออร่าผัวกลบปากแดงๆได้เลยอะพี่ดาบขา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: อีหนูปีนขึ้นไป หรืออีเจ๊ลงมาอุ้มกันแน่คะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อิเจ้แอบคิดอะไรกะน้องมันแน่ๆ แล้วใช่ไหม. ดูมีอาการหวง .  มีอาการขี่บิ้กไบท์มาส่งเด็กด้วย  :hao3:

เจ้อะไรโครตเท่อ่ะ.  :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สงสัยเจ๊ดานี่ ชอบชายอยู่แล้ว
และก็เป็นตุ๊ดเพราะรำคาญชะนี ที่เข้าแถวจีบ จนแถวยาวไปถึงกำแพงเมืองจีน  :m20: :laugh:
แล้วดูๆเจ๊จะติดใจเอมซะและ  :-[
เจ๊ดานี่เป็นสาวเสียบนี่เอง  :katai2-1:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เจ๊หลอกเด็ก,,,

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
#ปากแดงๆเป็นผัว

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่6



“มึง เลิกเรียนแล้วกูจะกลับไปที่ร้านก่อนนะ”



“ไปทำไมวะ อิเจ๊ดานงดานี่อะไรนั่นมันสั่งมึงหรอ สัด ใช้แรงงาน”



“ใจเย็นครับเพื่อนเก้อ เจ๊มันไม่ได้สั่งกูหรอก แต่กูแค่อยากกลับไปจัดของให้เรียบร้อยเฉยๆน่ะ”



ผมที่หันไปอธิบายกับไอ้เก้อ มันที่ทำหน้าหงิกเหมือนมีขี้จ่ออยู่ใต้จมูกส่งมาให้กัน คิ้วเข้มๆนั่นก็ขมวดนิดๆ ... ไม่รู้ว่าเป็นห่าอะไร



“ผัวเก้อและอิเอม กูมาแล้วค่ะ” สรรพนามเรียกชื่อดูก็รู้ว่ารักเพื่อนแบบเท่าเทียม ถุย!



“ขี้นานอะไรขนาดนั้นวะป้า”



“เอ๊ะอิผัวคะ มึงเข้าใจอาการของคนขี้รั่วไหม มันพลั่งพรูออกมาแล้วมันหยุดไม่ได้ เราจะขมิบมันไว้มันก็เล็ดออกมาอีก มึงจะให้กูเดินออกมายังไงทั้งๆที่มันยังปริ่มออกไม่หยุด มันก็ไม่ได้ไหมวะ”



“สัด” เป็นไอ้เก้อที่สบถออกมาแบบนั้น และเป็นกูที่ได้แต่ทำท่าอ้วกแตกอยู่ตรงนี้ ก็คือถามกันจริงๆว่าทำไมมึงต้องเล่าละเอียดขนาดเห็นภาพแบบนี้ด้วยวะ



“ก็อยากให้ผัวกับเพื่อนรับรู้ไงคะ” ใครร้องขอหรอ กูถามแค่นี้



“อะ แล้วนี้อิน้องเอมๆของแม่เก็บกระเป๋าไปไหนวะ มึงไม่ไปกินข้าวด้วยกันก่อนหรือไง”



“ไม่เอาอ่ะป้า กูจะรีบกลับไปเก็บข้าวของ”



“มึงมีข้าวของด้วยหรอคะ?” หันมาทำหน้างงๆใส่ ขึ้นเลย ไอ้เอมนี่ขึ้นเลย



“มีสิวะ อยากน้อยๆกูก็ยังมีชุดนอนกางเกงลายช้างแสนน่ารักของกูให้รักษา” ว่าออกไปแบบนั้นไอ้เก้อกับไอ้หนีก็ได้แต่ทำหน้าเพลียส่งกลับมา เอ๊ะ นี่พวกมึงบูลลี่กางเกงลายช้างของกูหรอวะ



“ไปแดกข้าวกับพวกกูก่อน มึงตัวแค่นี้จะมีแรงไปทำงานได้ไงวะถ้าไม่ไปกินข้าว”



“มึงก็เกินไปไอ้สัดเก้อ กูไม่ตายหรอก”



“มึงไม่ตาย แต่กูเป็นห่วง”



มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าจริงจังเหมือนอยากจะลากกันไปกินข้าวถ้าผมไม่ยอมไปกับมันดีๆ ... ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ จริงๆที่ไม่อยากไปเพราะเหลือเงินที่ใช้ไม่เท่าไหร่ต่างหากล่ะ ถ้ากลับไปที่ร้าน เผื่อจะได้กินข้าวฟรีไงครับ แล้วเพราะแบบนั้นทำไมกูต้องเอาเงินอันน้อยนิดสุดแสนจะจุ๋มจิ๋มของกูออกมาใช่ล่ะโว้ย ... แต่ถ้าพูดออกไปก็กลัวเพื่อนๆผมมันจะจ่ายให้อีก ไม่อยากรบกวนพวกมันแม้ว่ามันจะมีเงินมากก็ตาม



แต่เอาวะ นานๆไปที เดี๋ยวพวกมันจะว่าผมห่างเหินเกินไป



ในตอนที่กำลังจะอ้าปาก เสียงดังๆที่เรียกชื่อผมก็ดังมาจากด้านหลัง



“พี่เอมมมมม พี่เอมครับบบ”



“หื้ม ไอ้อิฐ ไอ้จูน”



ผมที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำหน้างงๆเมื่อมองเห็นไอ้อิฐที่อยู่ในชุดเสื้อช็อปสีน้ำเงินวิ่งหน้าสลอนเข้ามาอย่างร่าเริง ตามหลังมันมาเป็นใบหน้าน่ารักๆของไอ้จูนที่เดินตามไอ้อิฐเข้ามา ไอ้จูนที่กำลังทำหน้าบ่งบอกว่าทั้งอายทั้งอยากด่าไอ้อิฐไปพร้อมๆกัน



“เสียงดังไอ้สัด เบาหน่อยไอ้เหี้ย” ได้ยินมันบ่นออกมาเบาๆแบบนั้น แต่แน่นอนว่าไอ้อิฐก็ไม่ได้นำพา เจ้าของร่างสูงที่ชอบทำนิสัยเด็กๆวิ่งเข้ามาประชิดตัวผม



“พวกมึงมาที่นี่กันได้ไง”



“ผมเรียนที่นี่พี่”



 “พี่เอมหวัดดีครับ”



ไอ้จูนที่เดินตามเข้ามาสมทบยกมือไหว้พวกเรา เป็นเด็กหน้าตาน่ารักที่มีมารยาท มองเห็นมันกระทุ้งศอกใส่ไอ้อิฐด้วยที่นึง ไอ้อิฐเลยยกมือไหว้ตามมา ไอ้เก้อกับไอ้หยีที่ก็ยกมือรับไหว้ตอบมัน



“พวกมึงเรียนที่นี่หรอ” เป็นผมที่ถามย้ำออกไปแบบนั้น ไอ้จูนกับไอ้อิฐก็พยักหน้าตอบกลับมาแบบแข็งขัน



“พวกมึง นี่อิฐกับจูน น้องที่ร้านอ่ะ”

 

“น้องคนนี้เหมือนจะเคยเห็นที่ร้านวันนั้นใช่ไหม จำได้”



“ใช่พี่ เป็นผมเองที่นั่งหน้าหล่อๆกุ๊กกิ๊กอยู่ที่ร้าน” ไอ้อิฐที่บอกแบบนั้นพร้อมยิ้มยิงฟันส่งมาให้



“หล่อตายล่ะไอ้สัด” ไอ้จูนเหมือนจะอดไม่ได้เลยด่าออกมาอีก



“แล้วนี่ทำไมพวกมึงมาที่คณะกูได้วะ”



“พอดีผมลงเรียนวิชาเลือกเสรีเป็นภาษาจีนอ่ะพี่ แต่แม่งเอ๊ย ไอ้ฉิบหาย ยากพ่อยากแม่มันแท้ น้องอิฐท้อมากเลยครับพี่เอม” ว่าแบบนั้นพร้อมทำหน้าเศร้า ถ้าเป็นหมาคงเห็นมันหูลู่หางตกไปแล้วครับ ไอ้อิฐที่ทำหน้าเศร้าหันไปเอาหน้าซบอกไอ้จูน แล้ววงแขนของมันก็รวบเอวของเพื่อนมันมากอดไว้แน่นๆ



“ไอ้สัดอิฐ ปล่อยกู Kเอ๊ย”



“น้องจูน พี่อิฐสุดแสนจะเศร้า ปลอบใจหน่อยจ๊ะ”



“ปล่อยกูไอ้หน้าหนังเป็ด” ไม่ว่าเปล่า ไอ้จูนยกมือขึ้นไปจิกหัวมันแรงๆด้วยเป็นของแถม



“โอ๊ยๆ เจ็บๆ พี่เอมครับน้องอิฐเจ็บหนังหัว”



ผละออกมาจากไอ้จูนก็มาเกาะแขนผมพร้อมทำหน้าสำออย ผมกับไอ้หยีที่ขำก๊ากออกมาตอนเห็นไอ้เด็กร่างสูงใหญ่ผิวแทนแต่กำลังทำหน้าอ้อนน้ำตาคลอแบบนั้นแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ มีแต่ไอ้เก้อที่มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนมันจะโพล่งออกมาว่า



“ไอ้เอม ไปแดกข้าวได้แล้ว”



“เห๋ พี่เอมจะไปกินข้าวหรอพี่”



“เออ กูจะพามันไป มึงมีปัญหาอะไรวะ” เป็นไอ้เก้อที่ตอบออกมาแบบนั้น มันที่จ้องหน้าไอ้อิฐแบบติดจะหาเรื่อง ทำเอาไอ้อิฐขมวดคิ้วจ้องมันแบบเริ่มจะหัวอุ่น



“ผมจะมีปัญหาอะไรวะ ก็แค่เจอพี่ที่รู้จักเลยแวะเข้ามาทัก แล้วมันมีเหี้ยอะไรวะ” ไอ้อิฐที่ตอบกลับออกไปแบบนั้น น้ำเสียงของมันที่ไม่มีแววขี้เล่นเหมือนก่อนหน้านี้ จ้องไอ้เก้อแบบพร้อมจะบวก เป็นผมที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีเลยเดินขึ้นมาหนึ่งก้าวขวางพวกมันเอาไว้ มองเห็นไอ้จูนเองที่ก็ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็เอื้อมมือไปคว้าแขนไอ้อิฐไว้เหมือนกัน



“เห้ยๆ เป็นเหี้ยอะไรกันครับทุกคน อากาศร้อนสินะๆ ใจเย็นๆกันหน่อยสุดหล่อ แต่ถ้าหล่อตาหลุดคือกูจ๊ะ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมยิ้มเฮฮา แต่เหมือนว่ากูจะฮาอยู่คนเดียว เอี๊ยดๆ มุขฟืดจนหน้ากูล้า



“อิเอมคะ เดี๋ยวกูกับไอ้เก้อไปรอที่รถนะมึง” ไอ้หยีที่ว่าแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ไอ้อิฐกับไอ้จูน มองเห็นมันที่ดึงแขนไอ้เก้อไป แต่เหมือนไอ้เพื่อนหมีควายนี่จะไม่ยอม มันที่ยังยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้น มองมาที่ผมกับไอ้อิฐเหมือนเราสองคนไปติดหนี้มัน ... ไอ้อิฐคงไม่ แต่กูนี่ติดไหม ชักไหมแน่ใจแล้วสิ แบบว่าช่วงไม่มีอันจะกินเคยยืมเงินอ่ะนะ แต่คือรึยังวะ คิดสิคิดไอ้เอม



“พวกมึงไปรอที่นั่นก่อนละกันเดี๋ยวกูตามไป” บอกออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มหวานไปให้ ไม่ได้หรอก เผื่อกูลืมจ่ายหนี้จริงๆ ไอ้เก้ออาจใจดีแกล้งทำลืมๆกันไป ถ้าใจเราด้านพอ หน้าเราก็จะไม่รู้สึกอายครับ  ...



ไอ้เก้อที่หันมามองหน้ากันแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่สุดท้ายมันก็ยอมหันหลังเดินตามไอ้หยีไปแบบไม่ค่อยยินดี เอาจริงๆก็คือไอ้หยีทั้งฉุดกระชากลากถูมันไป



“เพื่อนพี่เป็นเหี้ยอะไรวะพี่เอม” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ยังมองตามหลังไอ้เก้อไปแบบฉุนๆ ก็เข้าใจได้อ่ะนะ เป็นกูก็คงหงุดหงิดเหมือนกัน รู้จักก็ไม่รู้จักเสือกมาถามแบบกวนตีนอีก



“กูว่ามันเป็นเมน มึงอย่าสนใจแม่งเลยว่ะ” บอกแบบนั้นแล้วยื่นมือไปตบๆไหล่มัน ไอ้อิฐที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แบบหงุดหงิด ก่อนจะค่อยๆเงยหน้ามายิ้มให้กันใหม่แบบร่าเริง เป็นคนเปลี่ยนอารมณ์ง่ายนะมึงเนี่ย



“พี่เอมจะกลับร้านเมื่อไหร่ ให้พวกผมรอเปล่า จะได้กลับไปพร้อมกัน” ไอ้อิฐพูดออกมาแบบนั้น เป็นเด็กที่มีน้ำใจดี



“ไม่ต้องหรอกมึง เดี๋ยวกูไปหาข้าวกินกับพวกมันก่อนแล้วเดี๋ยวตามกลับไป เอ้อ แล้ววันนี้พวกเพื่อนกูมันจะไปเที่ยวที่ร้านด้วยนะ กูต้องรีบกลับไปวางแผนถลุงทิปพวกมัน” ว่าแบบนั้นพรางยิ้มกว้างส่งไปให้   



“แบบนั้นพี่อย่าลืมเรียกผมไปเสริฟกับพี่นะ” ไอ้จูนที่บอกแบบนั้น



“แน่นอนอยู่แล้วไอ้น้อง” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันไปแทคมือกับไอ้จูน เราสองคนที่หัวเราะใส่กัน เป็นไอ้อิฐที่ทำหน้างอใส่



“เหอะ ทิปจากโต๊ะหรอวะ กูไม่ง้อหรอก ยืนหล่อๆผสมคอกเทลเก๋ๆกูก็ได้เหมือนกันจ๊ะ”  ขิง นี่มึงขิงกูสินะๆ



“เออพี่เอม จริงๆที่ร้านก็มีข้าวกินฟรีนะพี่” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้นด้วยความหวังดี แต่ยิ่งทำให้ใจกูห่อเหี่ยวเข้าไปอีก ฮื่อ กูยิ่งไม่อยากเสียเงินอยู่นะ มึงอย่าย้ำเตือนกูสิ



“ใช่ เจ๊พี่ดาบมันอ่ะชอบทำให้กิน อร่อย ฟรี และดีด้วย”



“อ่ะ...อ่อ คือ...คือปกติเจ๊มันชอบทำกับข้าวให้ลูกน้องกินหรอวะ”



“ช่ายย จริงๆน้องอิฐว่าไม่ได้ชอบหรอกมั้ง แต่เวลาเจ๊พี่มันจะกิน มันก็จะทำเผื่อคนที่อยู่ด้วยอ่ะ เจ๊พี่มันใจดี” ไอ้อิฐว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆตอนที่พูดถึงเจ้าของร้านตุ๊ดยักษ์นั่น



“อ่อหรอ” ตอบรับกลับไปพร้อมรอยยิ้มแค่นั้น ก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรมากไปกว่านั้น แต่ในใจก็แค่คิดขึ้นมาว่า



ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ... จริงๆเจ๊มันก็ใจดีแบบนี้กับทุกคนเป็นปกติอยู่แล้วสินะ



...



“โอ้โหๆๆ กลับมาเป็นแพ็คคู่อีกแล้วนะคะ แบบนี้เรียกอะไรดีคะ คู่จิ้นประจำร้านDaniworldหรือเปล่าน้า”



“ถ้าไม่ใช่เจ๊พี่มึงพูดนะ อิฐจะตอบกลับว่า คู่จิ้นพ่อง!”



“เอ๊ะ นี่มึงด่ากูหรือเปล่าคะอิห่าอิฐ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับถลึงตาใส่ของคนที่เดินเข้ามาใหม่สองคน สไอ้อิฐกับไอ้จูน สองคนนี้มันเป็นเพื่อนสนิทกัน เห็นว่ารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กแล้วก็เรียนด้วยกันมาตลอด เอาจริงๆในสายตาของผม อีกนิดนึงมันสองคนก็แต่งงานกันได้แล้วล่ะถ้าพวกมึงจะสนิทและอยู่ในทุกช่วงชีวิตกันขนาดนี้ และเพราะแบบนั้นเลยอดที่จะแซวพวกมันไม่ได้



“เจ๊กินไรอ่ะ” ไอ้จูนที่เดินหน้าแป้นแล้นตามหลังไอ้อิฐเข้ามาไม่สนใจในคำแซว มันที่แค่เดินทำจมูกฟุดฟิดตามกลิ่นเข้ามาแล้วหยุดลงตรงหน้าของผม



“กระหล่ำปลีผัดน้ำปลาไข่ข้นกุ้งค่ะ”



“เชี่ย หิวอ่ะ ขอกินด้วยคนได้ไหมพี่ดาบ จูนยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่า” ว่าแบบนั้นพร้อมช้อนสายตามองกันแบบอ้อนๆ ไอ้จูนมันหน้าตาน่ารักครับ มองๆแล้วคิดถึงน้องคนเล็กของตัวเอง มันสองคนคล้ายกัน แต่น้องชายผมมันค่อนข้างร่าเริงและขี้โวยวายมากกว่า เหมือนเป็นสันดานของน้องคนเล็กที่ถูกตามใจ แต่ไอ้จูนมันเป็นเด็กสู้ชีวิตเพราะครอบครัวไม่ได้รวยอะไรมาก นิสัยมันเลยจะนิ่งๆมากกว่า ถ้าไม่ได้รู้จักสนิทๆ ก็ไม่ค่อยได้เห็นมันในมุมนี้หรอกครับ ... แต่เอ๊ะ เมื่อกี้นี้นั้น



“กูจะไม่ให้มึงกินก็เพราะเรียกกูดาบนี่แหล่ะค่ะ! โปรดเรียกสวยว่าดานี่ค่ะ!!” มองแรงใส่พร้อมย้ำออกไปอีกครั้งด้วยเสียงสูงที่แหลมสุด ... หมายถึงสุดความสามารถของกูที่จะแหลมได้



“เออๆ เจ๊ดานี่คนสวย ขอจูนกินด้วยน้า”



“น้องอิฐด้วยจ๊ะพี่จ๋า”



“เออๆ ไปตักข้าวกันมาเองเลยพวกมึง น่าเบื่อจริงๆพวกห่า เอะอ่ะขอกูแดกตลอดค่ะ”



“ก็เจ๊พี่มึงก็ตั้งใจทำให้พวกเราอยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ อิฐรู้อิฐเข้าใจ”



“เข้าใจพ่องมึงค่ะ กูไม่ได้ตั้งใจทำให้พวกมึงแดก แต่พวกมึงหน้าด้านมาขอแดกเอง คนสวยๆแบบกูจะใจดำ มันก็ไม่ใช่ไหมคะ มันไม่เหมาะกับหน้าตาสวยๆของกู”



“พูดไปเรื่อยแบบต้องคีพลุคอ่ะเนาะ” ไอ้จูนที่วิ่งไปตักข้าวกลับมาเพิ่มอีกสองจานว่าออกมาแบบนั้น



“ใช่ค่ะคีพลุคคนสวยๆ”



“ใช่ๆ เจ๊พี่มึงต้องคีพลุคคนสวย เพราะปกติลุคคนหล่อชอบหลุดออกมาตลอดๆแบบไม่ได้เชื้อเชิญก็ยังหลุด”



“จริงเพื่อนอิฐ”



“ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ”



รับส่งมุขกันโบะบะ ตลกเฮฮาเหมือนกูไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ...พวกเวร 



‘แปะ/แปะ’



“โอ๊ย”



“โอ๊ย เจ็บนะเจ๊พี่มึง”



“สมค่ะ พวกมึงต้องเจอฝ่ามือพิฆาตของสวย จะแดกไหม ร่าเริงเหมือนแดกกัญชามานะคะพวกมึง นั่ง!” ว่าออกไปแบบนั้นไอ้อิฐไอ้จูนก็รีบทรุดลงนั่งที่ม้าหินแบบไม่ต้องให้ด่าอีก ... ปกติผมก็ชอบมากินตรงหลังร้านตรงนี้ประจำ ไอ้พวกเด็กๆในร้านที่เห็น บางครั้งเลยมาขอกินด้วยตลอด แต่บางคนที่เห็นก็ไม่กล้า เพราะถือว่าผมเป็นเจ้าของร้าน แต่ความคิดแบบนั้นคงไม่มีในหัวไอ้สองตัวตรงหน้านี้หรอกครับ



“อื้มมม อร่อยมากเลยจ๊ะพี่จ๋า”



“แดกไวไม่รอใครเลยไอ้อิฐ”



“มึงก็อย่าช้าสิไอ้ห่าน้องจูน แดกๆ”



พูดกันสองคน ถามกูสักคำไหม ... มองพวกมันอย่างเหนื่อยใจ แต่สุดท้ายก็เริ่มกินข้าวด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อเช้ากลับมาจากไปส่งอิน้องบ๋อยก็มาเช็คบัญชีที่ร้านตลอดครึ่งเช้า พึ่งจะได้ลงมาก็ตอนบ่ายๆแล้วนี่ล่ะ



“อร่อยสุดๆ พี่เอมคือพลาดมากๆอ่ะ” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น คำพูดของมันที่สะกอดหนังหูของผมนิดหน่อยเลยต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าพวกมัน



“ทำไมทำหน้าแบบนั้นอ่ะเจ๊”



“พวกมึงพูดถึงเอมไหนคะ”



“โวะ จะเอมไหน ก็พี่เอมที่เจ๊พี่มึงพึ่งรับเข้ามาทำงานใหม่ไงจ๊ะพี่จ๋า”



“พวกมึงเจอมันได้ไง”



“โลกกลมหรือพรหมลิขิตอันนี้น้องอิฐก็ค่อนข้างจะสงสัย แต่พี่เอมเรียนมอเดียวกับพวกเราล่ะ”



“แต่พวกมึงเรียนวิศวะ แล้วไปทำห่าอะไรที่ตึกอักษร”  ผมถามออกไปแบบนั้น เพราะเหมือนจะจำได้ว่าเมื่อเช้าไปส่งไอ้เอมที่ตึกคณะอักษร



“วันนี้มีเรียนวิชาเลือก พวกผมเลือกเสรีภาษาจีน” ไอ้จูนที่บอกออกมาแบบนั้น พอได้ฟังก็แค่พยักหน้าเข้าใจ



“เอ๊ะ เจ๊พี่มึงรู้ได้ไงว่าพี่เอมเรียนอักษรน่ะห๊ะ” ไอ้อิฐที่หรี่ตามองตรงมาที่ผมแบบจับผิด เห็นแบบนั้นก็เผลอสะดุ้งนิดหน่อย มึงจะจ้องกูแบบนั้นทำห่าอะไรวะ



“แล้วทำไมกูต้องไม่รู้คะ กูรับพนักงานมาก็ต้องสอบถามสิคะ บ้าบอ”



“ดูลุกลี้ลุกลนจังน้า”



“พูดมากกูจะเอาข้าวไข่ข้นนี่ขยี้หน้ามึงค่ะอิอิฐ”



“น้องอิฐหยอกจ้า” สัด!



“แต่จริงๆก็เสียดายแทนพี่เอมว่ะ แทนที่จะได้มากินกะหล่ำผัดน้ำปลาไข่ข้นปูของเจ๊แต่ดันต้องไปเสียเงินซื้อข้าวเองซะงั้นอ่ะ”



“แล้วทำไมพวกมึงไม่ชวนมันมา หรือมันมีเรียนต่อ?” ถามออกไปแบบนั้นพร้อมเลิกคิ้วถาม แต่ไอ้อิฐส่ายหน้าตอบกลับมา ก่อนคิ้วเข้มๆของมันจะขมวดเข้าหากันนิดๆ



“พี่เอมไม่ได้มีเรียนต่อเว้ยเจ๊พี่มึง แต่เป็นเพราะไอ้เพื่อนหมีควายของพี่เอมนั่นต่างหากล่ะ แม่งดึงดันจะให้พี่เอมไปกินข้าวด้วยให้ได้ พูดละไม่ชอบหน้าแม่งเลยว่ะ ดูแม่งมองกูนะ เหมือนกูไปแย่งเมียมันอ่ะ”



“มึงก็เปรี้ยวตีนจังไอ้สัด”



“ทำไม หรือมึงคิดว่ากูจะต่อยสู้มันไม่ได้หรอไอ้สัดน้องจูน” พวกมันสองคนที่เริ่มเถียงกันอีกครั้ง แต่นั่นไม่สิ่งที่กูอยากจะรู้



“เพื่อนอะไร ไหนมึงเล่ามาให้ชัดๆสิไอ้อิฐ ไอ้จูนมึงเลิกชวนมันกัดกับมึง อยากกัดปากกันค่อยไปกัดที่บ้านพวกมึง”



“กัดปากอะไรของเจ๊วะ” ได้ยินไอ้จูนบ่นออกมาแบบเสียงอ่อยๆ แต่เลือกที่จะไม่สนใจ แต่หันหน้าไปหาไอ้อิฐแทน



“ก็เพื่อนพี่เอมอ่ะเจ๊พี่มึง แม่งตัวใหญ่ๆ จริงๆน่าจะตัวพอๆกับเจ๊เลยมั้ง จริงๆแม่งก็หล่ออ่ะนะ แต่กวนตีนฉิบหาย ผมไม่เคยรู้จักมันเลยนะเว่ย แต่แม่งพูดกับผมอโคตรน่าโดนตีน นี่ถ้าพี่เอมเป็นผู้หญิงผมต้องคิดว่าแม่งหึงพี่เอมกับผมแน่ๆอ่ะ”



“หรอวะ”



“เออสิเจ๊พี่มึง นี่เห็นพี่เอมบอกว่าคืนนี้จะมากินที่ร้านเราด้วยนะ” ไอ้อิฐที่บอกออกมาแบบนั้นอีก แต่เป็นผมที่เงียบเสียงลงในตอนที่ได้ฟัง ... มันใครวะไอ้สัด



“ไม่รู้จะมาทำไม ทำยังกับตามมาเฝ้าแฟน”



“แฟน?” เป็นผมที่พูดออกมาแบบนั้น



“หรือเค้าจะตามมาเฝ้าพี่เอม” ไอ้จูนที่พูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องหันไปมองหน้า



“มันจะตามมาเฝ้าพี่เอมทำห่าไรวะน้องจูน พี่เอมเป็นแฟนมันไง๊ พี่เอมก็บอกอยู่ว่าเพื่อน มึงคิดสิคิด อีกอย่างพี่เอมเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆบางๆเนื้อนมไข่ ถึงแม้ว่าพี่เค้าจะขาวและน่ารักสุดแสนจะกุ๊กกิ๊กก็เถอะ ... เอ๊ะ หรือมึงจะบอกว่าไอ้พี่หมีควายนั่นมันชอบผู้ชาย ตัวควายๆแบบนั้นอ่ะนะ”



“แล้วทำไมวะ ตัวใหญ่ตัวเล็กแล้วมันมีข้อห้ามข้อไหนวะที่ห้ามชอบกัน จะเพศไหนหุ่นยังไง ถ้าเค้ารู้สึกมันก็คือรู้สึกไหมว่ะ เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอกเว่ย”



“น้องจูน ทำไมมึงต้องอิน ทำไมมึงต้องใส่อารมณ์กับเพื่อนอิฐด้วยอ่ะครับ”



“รำคาญมึงไอ้สัด”



“หึ ให้มันมาสิดี” ว่าออกไปแบบนั้น ทำให้ไอ้อิฐกับไอ้จูนที่เถียงกันอยู่ต้องหันหน้ามามองผมแบบงงๆ



“ห๊ะ? เจ๊พี่มึงพูดว่าไรนะ” 



“เปล่าค่ะ กูแค่คิดว่า ร้านเรามีแต่ของดีๆ ให้มันมาสิคะถึงจะดี เผื่อเพื่อนอิน้องบ๋อยนั่น...จะได้เห็นของดี



...


(มีต่อจ้า)




ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
“ไอ้เหี้ยยย สุดแสนจะร้อน อากาศประเทศไทยแม่งไม่เหมาะกับการเดินจริงๆ จะให้กูมีฟิลลิ่งเหมือนเดินอยู่ที่ปารีสบ้างแม่งไม่มีหรอก ร้อนจนเหงื่อไหลลงไปที่ซอกตูด”



ได้แต่บ่นลมบ่นฟ้าไปคนเดียว ตอนนี้ผมพึ่งลงจากรถเมล์แล้วเดินเข้ามาที่ร้าน ร้อนจนคิดว่าถ้ากูเป็นมะเร็งผิวหนังก็ไม่แปลกใจ ขนาดตอนนี้สี่โมงเย็นแล้วก็ไม่ได้ทำให้อากาศเย็นมากกว่าตอนเที่ยงเลย ผมที่พึ่งเดินเข้ามาถึงร้าน มองเห็นว่ามีพนักงานบางคนเริ่มมาเข้างานแล้ว จริงๆตอนแรกคิดว่าจะมาถึงไวกว่านี้ แต่ไอ้สัดเก้อก็ดีแต่พาเดินเข้าเดินออกร้านเสื้อผ้านู้นร้านนี้ เพราะวันนี้มันขับรถพาไปกินที่สยาม แล้วอยู่ๆก็เกิดอยากได้เสื้อ หนีบผมไปนู่นไปนี่ สุดท้ายก็เห็นแม่งได้แค่เสื้อยืดสีดำแบรนด์ดังมาตัวเดียว



“มาแล้วหรอคะอิตัวดี” เสียงทักทายจากปากทางเข้าร้านที่ดังทักกันแบบนั้น ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าใคร หลอกหลอนกูเก่งยิ่งกว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครตามติดชีวิตแฮรี่



“ตัวดงตัวดีอะไรวะเจ๊” หันกลับไปมองคนที่เดินตามกันเข้ามาที่ห้องล็อคเกอร์เก็บของของพนักงาน มีเอาไว้เก็บกระเป๋าและมีห้องเอาไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยห้องนึง



“แหมมมม อย่าคิดว่าสวยไม่รู้ไม่เห็นนะคะ วันนี้อิหนูน้องบ๋อยแอบดอดไปกินข้าวกับผู้ชายใช่ไหมคะ” 



หันไปมองคนร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อสีชมพูแปร๊ดที่เป็นเสื้อคอกว้างแทบจะคล้ายกับเสื้อปาดไหล่ พอไปอยู่ในร่างสูงใหญ่ที่ทำผมสีทองและรองเท้าหนังหัวแหลมสีทองกากเพชรแบบนั้นมันก็ทำให้สะพรึงนิดหน่อย คนตรงหน้าที่ทาปากแดงอยู่เหมือนเดิม ยังคงคอนเซ็ปเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือเหมือนกลับไปแต่งหน้ามา อายแชร์โดว บลัชออน และสารพัดของกุ๊กกิ๊กเต็มหน้า ... คนที่ไปส่งผมที่มหาลัยเมื่อเช้ากับคนนี้ตรงหน้า คือต่างกันจนกูผวา คิดว่าช่วงเวลาที่ผมไปเรียน อีกฝ่ายอยู่ร้านคงว่างมากจนมีเวลาแต่งหน้าใหม่



“มองอะไรสวยคะ”



“เจ๊แต่งหน้าแน่นไปไหมวะ”



“แน่นเนิ่นอะไรกันคะ นี่คือสวยตื่นมาก็แบบนี้เลยนะคะหนู” บอกออกมาแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ ทำหน้าทำตาเหมือนสิ่งที่พูดมาคือเรื่องจริงนะ กูนี่กรอกตาเลย



“กูเห็นนะคะว่ากรอกตาใส่”



“ก็ตั้งใจให้เจ๊เห็นนี่ล่ะ”



“นี่ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยนะคะ มึงไปกินข้าวกับผู้ชายมาใช่ไหมๆ” นี่ก็เร้าหรืออะไรกูนัก เจ๊มันเป็นอะไรวะ



“ใช่”



“โอ้โห๊ หนอยๆๆ” ขึ้นเสียงสูงใส่พร้อมเอามือทาบอกไปอีกจีบปากจีบคอ มันน่าตีจริงๆครับ



“อะไรของเจ๊วะ ผมจะไปกินข้าวกับใครแล้วมันทำไมนัก มันผิดกฎของร้านข้อไหนรึไง ไหนเจ๊ว่ามาสิ”  หันไปจ้องหน้าอีกฝ่ายที่วอแวเดินตามหลังกันไม่เลิก พร้อมๆกับขยับเข้าไปหา เชิดหน้าจ้องตาใส่อีกคนทั้งแบบนั้น อีกฝ่ายที่เห็นผมขยับตัวไปใกล้ในตอนแรกก็ถอยหลังหนีกันไปสองก้าว นั่นคงเป็นเพราะเจ้าตัวไม่ได้ตั้งตัว



“นี่จะทำอะไรคะอิน้องหนูบ๋อย ขยับมาใกล้สวยทำไม”



“ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย เจ๊กลัวผมหรอ” ถามแบบนั้นพร้อมยกยิ้มใส่ พึ่งเคยเห็นเจ๊มันหน้าเลิกลั่กแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกชอบใจแปลกๆว่ะ เดี๋ยวเจ๊เจอไอ้เอม!



“เดินเข้ามาหาสวยทำไมคะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วถอยหนีผมไปอีกก้าว แต่ติดที่ว่าอีกฝ่ายดันถอยไปชนตู้ล็อคเกอร์ อยากจะขำให้ลั่นตอนที่เห็นท่าทางแบบนั้น ผมที่ขยับตัวเข้าไปใกล้และยืนตรงหน้าอีกฝ่ายแบบไม่ถอยหนี



“ผมไปกับใครมันผิดกฎของทางร้านหรอครับเจ๊ครับ” ถามแบบนั้นพร้อมทำตาใสเอียงหน้าถาม มองเห็นคนตรงหน้ากระพริบตาปริบๆมาใส่ คิดว่าเจ๊มันต้องสับสนกับท่าทีของผมเพราะตัวเจ๊มันไม่ตั้งตัวแน่ๆ เพราะแบบนั้นเลยเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากอีกฝ่ายแล้วช้อนตามองหน้า



“ไอ้เอม”



“หื้ม”



“ใกล้ไปแล้วนะคะหนู” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมจ้องตากันด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก ... ตอนแรกก็แค่ตั้งใจจะแกล้งให้เจ๊มันกรี๊ดกราดเล่น แต่ตอนนี้ตัวเองเริ่มรู้สึกอยากผละตัวถอยออกตะหงิดๆ



“อ่ะ...เอ่อ โทษทีเจ๊ ...เหวอ เห้ย!”



‘พลึบ’



วงแขนแกร่งที่เอื้อมมารวบตัวผมเอาไว้ พร้อมพลิกตัวของผมให้เปลี่ยนไปยืนแทนที่ของตัวเอง ผมที่กลายเป็นคนที่ยืนชิดติดกับตู้ล็อคเกอร์ซะเอง และเป็นเจ๊มันที่เปลี่ยนมายืนคล่อมกันไว้



“รู้ไหมว่าเล่นแบบนี้มันเสี่ยง”



“เอ่อ...เสี่ยงอะไรวะเจ๊”



“เสี่ยงให้กูหมดความอดทน”



“เจ๊หมายถึงอะไร...”



“ถ้ากูหมดความอดทน มึงจะลำบาก”



ห๊ะ! หมายความว่าอะไรวะ คือเจ๊มันจะ.....เจ๊มันจะ...



มันจะไล่ผมออกหรอ!! ไม่ได้นะเว้ยยยยย



“หึ คิดๆ ทำหน้าคิดๆ กูก็ไม่ได้หวังให้มึงเข้าใจหรอกควายน้อย ... เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวผมนิดหน่อย ก่อนที่เจ้าตัวจะผละตัวออกจากผม แล้วเดินออกจากห้องล็อคเกอร์ไป


.

.

.



               เสียงดนตรีและเสียงพูดคุยเซ็งแซ่ที่มาพร้อมกับบรรยากาศแบบเดิมๆ มันเกิดขึ้นแบบนี้เสมอเมื่อถึงเวลาที่ร้านเปิด  ร้านของเจ๊ดานี่ยังคงแน่นเหมือนเดิมทุกๆวัน อาจเป็นเพราะบรรยากาศของร้าน หรืออาจจะเป็นเพราะที่นี่เหมือนรวมตัวของคนหน้าตาดีที่มีเงินถึงจะเข้ามาเที่ยวได้ก็ไม่รู้นะ คนถึงได้ชอบมากัน  แต่ถ้าพูดถึงคนที่มาเที่ยวหน้าตาดีแล้วล่ะก็...อันนี้คิดว่าเรื่องจริง ตัวอย่างที่มีให้เห็นก็เช่นโต๊ะๆนั้น ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่จับจ้องของคนทั้งผับ ... โต๊ะที่มีเจ้านายผมนั่งอยู่ด้วย



“สัดดาบ มึงแต่งตัวเหี้ยไรของมึงวะ”



“น่ารักกุ๊กกิ๊กแบบนี้มึงงงอะไรอ่ะค่ะอิเมฆ”



“น่ารักก็เหี้ย จะต้องให้บอกกี่ที มึงหล่อ มึงเลิกแต่งหน้าแรงๆแบบนี้ได้ไหม กูกลัว”



“เอ๊ะอิเมฆ พูดมากจังเลยอ่ะค่ะ อย่ามาขัดขวางความสวยของกูได้ไหมคะ อิบุรุษใจทราม จิตใจหยาบกระด้าง” คนร่างสูงที่พูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นเอาผมทัดหู ... ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง ผมมึงไม่ได้ยาวอิเจ๊



“มึงก็ว่ามันตลอดอ่ะไอ้เมฆ ไม่เหนื่อยหรอ มึงก็น่าจะรู้...”



“น่าจะรู้ว่ากูรักสวยรักงามใช่ไหมค่ะเพื่อนจั๊ม”



“น่าจะรู้ว่าไอ้ดานี่มันบ้า สมองมันรวนๆ พูดไปมันก็ไม่เปลี่ยนหรอก”



“กรี๊ดดด เดี๋ยวมึงสองคนจะโดนกูตบตรงนี้ค่ะ” คนร่างสูงที่โวยวายออกมาแบบนั้น แล้วนั่งไขว่ห้างทำท่าฮึดฮัดแบบไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด ผมที่เดินเข้าไปหยิบแก้วของผู้ชายที่ชื่อว่าเมฆมาแล้วชงเหล้าเพิ่มให้อีกแก้วเรียกสายตาของเจ้าของแก้วให้มองมาที่ผม



“หื้ม เด็กใหม่หรอวะไอ้ดาบ กูไม่เคยเห็นเลย” เขาที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ผม เป็นผู้ชายหล่อขาวตี๋เหมือนไอดอลเกาหลี หน้าตาดีและดูสุภาพ ไม่น่าเลยครับ... ไม่น่ามาคบกับคนแบบอิเจ๊มันได้เลยจริงๆ



“ค่ะ เด็กใหม่ ชื่ออิน้องหนูเอม”



“ชื่อยาวจังวะ”



“โอ๊ยอิเมฆอิโง่ ชื่อเอมค่ะๆ บางทีก็ไม่อยากเสวนากับคนโง่อ่ะนะคะ”



“สัด ... พี่ชื่อเมฆนะ เป็นเพื่อนไอ้ดาบ” เค้าที่บอกออกมาแบบนั้น ผมเลยยิ้มแล้วยกมือไหว้เค้า



“ส่วนพี่ชื่อจั๊มนะ”



“สวัสดีครับคุณเมฆคุณจั๊ม”



“คุณเคินอะไร เรียกพี่เมฆก็ได้ เด็กๆในร้านก็เรียกพี่แบบนั้น” พี่เมฆพูดออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้กัน ดูไม่ถือตัวมากๆทั้งพี่เมฆและพี่จั๊ม



“ครับพี่เมฆ”



“อ๊ะๆ พอๆ เสวนากันพอแล้วค่ะ ส่วนมึงค่ะน้องบ๋อย ไม่ต้องเสริฟโต๊ะนี้แล้วค่ะ ให้พวกมันเสริฟเอง เหล้าก็ฟรีน้ำแข็งก็ฟรี ยังจะไม่ขยับตัวอีกนะคะ” คนข้างๆตัวผมที่ขัดขึ้นมาแบบนั้น มองเห็นพี่เมฆที่ทำหน้าเหวอไป ส่วนพี่จั๊มที่มองมาที่ผมสลับกับหน้าของเจ๊มันนิดหน่อย



“ไปสิคะ ยืนมึนเป็นควายน้อยอีกแล้ว ไปไป๊” คนข้างตัวที่ย้ำออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับสะบัดมือกรีดกรายทำเป็นจริตโบกไล่กันอีกที ผมที่แค่วางแก้วที่ชงเสร็จแล้วของพี่เมฆไว้ที่โต๊ะแล้วผละออกมา ได้ยินเสียงของพี่จั๊มแว่วๆตามหลังมาว่า



“หวงหรอวะ”



“หวงพ่อมึงค่ะอิจั๊ม ตบไหม!”



นั่นสิ จะมาหวงอะไรผมล่ะวะ ... ถ้าเป็นผู้ชายกล้ามล่ำๆอันนี้ก็ว่าไปอย่าง



พอนึกถึงผู้ชายกล้ามล่ำ ผู้ชายกล้ามล่ำก็มาปรากฏตัวตรงหน้าผมเลยในตอนนี้



“น้อง หาโต๊ะให้พี่โต๊ะนึงสิ”



“สัด กว่าจะมาได้นะ”



“พูดกับแขกดีๆหน่อยสิน้อง แต่ถ้าอยากร้องไปต่อกับพี่คืนนี้ก็ได้นะ” คนตรงหน้าที่ว่าออกมายิ้มๆ



“ไอ้สัดเก้อ”



“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่ามึง”



“ฮัลโหล ขอโทษนะคะพวกมึง ชะนีแสนสวยแบบกูก็มา อย่าเห็นกูเป็นอากาศธาตุได้ไหมคะ” ไอ้หยีที่ทำหน้าเพลียแล้วว่าออกมาแบบนั้น ผมกับไอ้เก้อที่มองหน้ากันแล้วขำลั่นออกมา



“มาๆ กูหาโต๊ะให้” บอกมันสองคนแบบนั้นแล้วพามันไปนั่งที่โต๊ะ และโต๊ะที่ดันว่างอยู่ตอนนี้ดันเป็นโต๊ะข้างๆกับโต๊ะเจ้าของร้านของผมพอดี ไอ้หยีที่วันนี้สวยในชุดเดรสรัดรูปสีเงิน มันที่พอเดินเข้ามาถึงโต๊ะก็ชะงักทันที



“เอ๊ะ พี่ดาบ สวัดดีค่ะพี่ โอ๊ะ แล้วนี่พี่เมฆใช่ไหมคะ สวัสดีค่า พี่จั๊มก็ด้วยนี่นา” มันที่โพล่งออกมาแบบนั้น อย่าว่าแต่คนโต๊ะนั้นจะงง ทั้งผมทั้งไอ้เก้อก็งงไม่ต่างกันครับ



“อ้าว อิน้องหนูหยี วันนี้ลมอะไรหอบมาร้านเจ๊คะ และ...โปรดเรียกสวยว่าดานี่ค่ะหนู”



“ฮ่าๆ โทษทีค่ะเจ๊ดานี่คนสวย พอดีมันไม่ชินปาก ส่วนวันนี้เพื่อนหยีอยากมาเที่ยวร้านเจ๊น่ะเลยพามันมา นี่ไอ้เก้อเพื่อนหยีกับเอมมันค่ะ” ไอ้หยีที่ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ผมเห็นเจ๊ดานี่ยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนสายตาคมนั่นจะเลื่อนมามองที่หน้าไอ้เก้อนิ่งๆ ... ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมองมันแบบนั้น เอ๊ะ...อย่าบอกว่าเจ๊จะอยากกินเพื่อนกูนะเว้ย เห้ยไม่ได้นะเว้ย!



“น้องคนนี้หน้าคุ้นๆนะ” เป็นพี่จั๊มที่ว่าออกมาแบบนั้น พร้อมๆกับเอียงคอมองหน้าไอ้หยีหน่อยๆ เห็นพี่เมฆส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวพี่จั๊มเบาๆทีนึง



“แค่นี้ก็ลืม นี่มันน้อยหยีหลานรหัสไอ้ดาบไม่ใช่หรอ”



“ใช่แล้วค่ะพี่เมฆ กรี๊ดดด พี่จำหยีได้ สุดหล่อจำหยีได้ ประทับใจจังเลย ขอได้ไลน์ได้ไหมคะ”



“เห้ย มากไปไอ้สัด” เป็นผมที่โพล่งออกไปแบบนั้น และกลายเป็นว่าทุกคนดันขำออกตอนที่ได้ยินผมว่าแบบนั้น



“ช่างขัดกูค่ะอิเอม”



“ไหนๆวันนี้ก็มาร้านเจ๊แล้ว มานั่งรวมกันเลยสิ เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง” เจ๊ดานี่ที่ว่าออกมาแบบนั้น



“ดี...”



“ไม่ต้องดีกว่าครับ ผมว่าพวกผมนั่งโต๊ะนี้จะสะดวกกว่า”



เป็นไอ้เก้อที่พูดขัดออกมาแบบนั้น มองเห็นไอ้เก้อที่จ้องหน้าเจ๊ดานี่มันไม่หยุด เดี๋ยวนะเพื่อนเก้อ มึงมองเจ๊แกแบบนี้หมายความว่าไงวะ เห้ยๆ...มองนานขนาดนี้ หรือมึงชอบแบบนี้วะเพื่อน! ไอ้เอมชักไหวหวั่นแล้วนะเห้ย



“อ่ะ...เอ่อ ฮ่าๆ พวกพี่ตามสบายเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหยีนั่งกับเพื่อนโต๊ะนี้ พี่ๆจะได้คุยกันสดวกเนอะ” เป็นไอ้หยีที่พูดออกมาแบบนั้น ทำให้บรรยากาศที่ดูจะอึดอัดก่อนหน้านี้ดีขึ้นหน่อย



“งั้นตามสบายนะคะ” เจ๊ดานี่ที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้ม แต่ผมกลับรู้สึกว่า สายตาตาของเจ๊แกไม่ได้ยิ้มสักเท่าไหร่



“ไอ้คนตัวควายๆใส่เสื้อสีชมพูนั่นอ่ะนะตุ๊ดเจ้าของร้านที่จ้างไอ้เอม”



“ก็ใช่น่ะสิคะ แต่อิเก้อ กูอยากจะตบมึงให้ลำไส้ใหญ่ไหลย้อนออกมาทางปากมึง อิโง่อิควายอิขัดหนทางหาผัวของกู”



“อะไรของมึงป้า ด่ากูขนาดนี้ไม่เอาขี้มาขยี้หน้ากูเลยล่ะ”



“ถ้ามีกูก็อยากจะขยี้ค่ะ อิห่า แทนที่กูจะได้ไปนั่งหลีพี่เมฆ กลับต้องมานั่งซบเซาอยู่กับหมีควายแบบมึงอ่ะค่ะ”



“ก่อนหน้านี้มึงยังเรียกกูว่าผัว”



“มโนทั้งสิ้น!” แบบนี้เรียกว่าได้ใหม่ลืมเก่าหรือเปล่าวะครับ ผมที่มองพวกมันเถียงกันแต่ไม่พูดอะไร ทำแค่เดินไปชงเหล้าให้มันคนละแก้ว ไอ้เก้อที่เป๋าหนักบอกให้ผมเปิดบลูเลเบิ้ลมาขวดนึง สุดแสนจะประทับใจ เหล้าแพงออก เจ๊มึงเห็นไหม เป็นเพราะกูเลยนะครับๆ



“นี่ครับเพื่อนเก้อ และนี่ครับเพื่อนหยี” ว่าแบบนั้นแล้วบรรจงวางแก้วให้พวกมันทั้งสอง



“นอบน้อมมาเลยนะมึง” ไอ้เก้อที่ว่าแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ผม



“ไม่ได้หรอกครับ ... กูหวังทิปจากพวกมึง”



“งั้นน้องมานั่งตักพี่เลยมา เดี๋ยวพี่ทิปให้เป็นออเดิร์ฟแบงค์เทาแบงค์นึงเลย” ไอ้เก้อที่ว่าแบบนั้นแบบทีเล่นทีจริงพลางตบตักตัวเอง



“มึงจริงจังไหม”



“ถ้ามึงกล้าทำกูก็กล้าให้” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าของผมพร้อมยักคิ้วท้าทาย เอ้า! ไอ้สัดเก้อ มึงท้าคนแบบไอ้เอมหรอครับเพื่อน ได้ เดี๋ยวมึงเจอกู!



ผมที่ทรุดตัวลงนั่งบนตักของมันพร้อมหันหน้าเข้าไปหามันแล้วยิ้มหวานส่งไปให้มัน มันที่ยิ้มให้ผมแว๊บหนึ่ง ก่อนที่สายตาของมันจะจ้องไปที่อื่นที่ไม่ใช่หน้าผม ฮัลโหลเพื่อน มึงมองอะไร ทิปกูล่ะสาดดดด



“ไอ้สัดเพื่อนเก้อครับ ทิปกูล่ะ” ว่าแบบนั้นพลางเอียงหน้าเข้าไปอยู่ในระยะสายตาของมัน มันที่ผละสายตากลับมามองกันพร้อมยกยิ้มมุมปากหน่อยๆ มือของมันที่เลื่อนไปหยิบเงินในกระเป๋ากางเกงส่งมาให้ผม แบงค์เทาๆสองใบที่ยื่นมาให้กัน ตากูเป็นประกายวิบวับเลยในจุดๆนี้



“กูอยากจะกรี๊ด ขอบคุณค่ะป๋าขา” ลองทำท่าทางดัดจริตแบบที่อิเจ๊ดานี่มันชอบทำ พร้อมก้มตัวลงกราบอกไอ้เก้อแบบนั้น เห็นอีกฝ่ายที่ยิ้มขำ พร้อมๆกับไอ้หยีที่ส่ายหน้าเอือมๆ ผมเด้งตัวออกจากตักไอ้เก้อทันทีพร้อมๆกับคว้าเงินมาไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเองอย่างรวดเร็วด้วย กลัวมันเอาคืนครับ



“มีอะไรเรียกใช้น้องเอมได้ตลอดเวลาเลยนะครับโผ้ม” บอกพวกมันออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับก้มหัวให้แล้วยิ้มตาปิดส่งไปให้ ไอ้เก้อที่แค่เอื้อมมือมาผลักหัวกัน ท่าทางของมันที่ดูจะอารมณ์ดีมากขึ้นกว่าเดิมจากที่ก่อนหน้านี้มันดูนิ่งๆ สงสัยอาจเป็นเพราะบรรยากาศของร้านที่ทำให้มันอารมณ์ดีขึ้นล่ะมั้ง ... ผมที่หันกลับไปมองที่โต๊ะของพี่เมฆ ตอนนี้เจ้าของร้านที่ก่อนหน้านี้เคยนั่งอ้อยอิ้งอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว



“หายไปไหนของเค้าแล้ววะ”



.

.

.



02.45 AM



               บรรยากาศภายในร้านที่เริ่มบางตา เพราะคนส่านมากเริ่มทยอยกันกลับแล้ว ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ผมได้พัก วันนี้ผมเป็นเวรพักในช่วงนี้ครับ แต่ละวันพนักงานร้านเราจะมีช่วงพักเบรกต่างๆกันไป เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน จะสลับกันไปพักเป็นช่วงๆ ส่วนวันนี้ผมพักช่วงนี้ครับ เพราะแบบนั้นเลยเดินมาล้างหน้าในห้องน้ำ ตอนที่เดินกลับออกมาจากห้องน้ำ ในบริเวณแถวๆทางเดินทอดยาวที่จะกลับเข้าไปสู่ตัวร้าน บรรยากาศสลัวๆที่คนชอบมายืนจูบกัน



“มึงพักหรอ” เสียงเข้มที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง มาพร้อมๆกับดวงตาที่มองหน้าผมนิ่งๆ



“เอ้าเจ๊”



“ว่าไง ถึงช่วงพักแล้วหรอ” อีกฝ่ายที่ถามย้ำออกมาแบบนั้น พร้อมๆกับเอนตัวพิงกำแพงกอดอกมองหน้าผมนิ่งๆ



“ใช่ พักแล้ว แล้วเจ๊มายืนอะไรตรงนี้อ่ะ อย่าบอกว่ามาหาเหยื่อเพื่อหิ้วกลับบ้านน้า” ปากก็คือไวกว่าสมองเสมอ แค่คิดกูก็โพล่งออกไปแล้ว รู้สึกอยากตีปากตัวเองเหลือเกิน



“หึ ก็อาจจะใช่มั้ง”



“แน๊ๆ ร้ายนะเราเนี่ย งั้นผมไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวขัดการหาเหยื่อของเจ๊” ว่าออกไปแบบนั้นพรางยกมือขึ้นโบกให้ แล้วตั้งท่าจะเดินจากมาหลังจากที่ล้ออิเจ๊มันเสร็จแล้ว แต่ในตอนนั้นฝ่ามือหนาก็เอื้อมมาคว้าแขนของผมเอาไว้ซะก่อน แรงกระชากที่ไม่เบาไม่แรงแต่ก็ทำตัวผมถลาเข้าไปหาคนที่ยังยืนเอนตัวพิงกำแพงได้อย่างสบายๆ



“เห้ยๆเจ๊...ทำไรวะ ตกใจนะเว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมเงยหน้าขึ้นไปด่าอีกคนแบบเอาเรื่อง ที่พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ามองกันอยู่ก่อนแล้ว สายตาคมๆที่จ้องมองกันทำให้ต้องหยุดคำพูดที่ตั้งใจว่าจะด่าอีกฝ่ายต่ออีกสักหน่อย สายตาแวววาวที่มองลงมาที่ผมร้อนแรงๆแปลกๆ แปลกจนรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนขึ้นมาทั้งแบบนั้น



“จ...เจ๊”  ได้แต่อ้าปากเรียกอีกฝ่ายออกไปด้วยเสียงเบาหวิว



“กูกำลังหาคนไปนอนด้วย”



“ล แล้ว”



“แล้วเป็นมึงได้ไหมล่ะ ที่จะไปกับกูคืนนี้”
คนตรงหน้าที่กระตุกยิ้มมุมปากแล้วจ้องตาผมนิ่งๆ ลมหายใจที่ค่อยๆเลื่อนเข้ามาให้ชิดกันมากขึ้น



“หา...จ เจ๊...อื้ออ...”



คำพูดของผมขาดหายไปพร้อมๆกับถูกกลืนลงไปในลำคอ ในตอนที่ริมฝีปากตรงหน้าเคลื่อนตัวมาทาบทับลงบนริมฝีปากของผม ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ ในตอนที่ยกมือขึ้นเพื่อดันอกแกร่งเอาไว้เพื่อจะผละตัวออกจากอีกฝ่าย ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนใช้วงแขนแข็งแกร่งโอบตัวของผมเอาไว้ รับรู้ได้ถึงฝ่ามืออุ่นของอีกคนที่วางทาบทับอยู่ที่กลางหลังของผม ลูบไล้แผ่วๆไปตามสันหลังของผม แม้ว่าจะมีเสื้อกันกับผิวอยู่ แต่มันกลับรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว



“อ๊ะ...” ในตอนที่เผลอครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับค่อยๆปิดเปลือกตาลงมาช้าๆ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายดันลิ้นร้อนเข้ามาในโพลงปาก ค่อยๆเกี่ยวกระหวัดพร้อมดูดเม้มปลายลิ้นจนผมสะท้าน ความช่ำชองของคนตรงหน้าที่ชักนำคนแบบผมได้ง่ายๆจนโอนอ่อนตามไป มือหนาเลื่อนจากสีข้างขึ้นมาลูบไล้ที่ใบหน้าเพื่อที่จะจูบได้อย่างถนัด มืออีกข้างโอบกอดกระชับเอวของผมให้แนบชิดกับลำตัวแกร่งของอีกคนให้มากยิ่งขึ้นจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้ลมลอดผ่านตัวของเราทั้งคู่ได้



“อ๊ะ อื้มม”



เสียงครางกระเซ่าของตัวผมเองที่ดังออกมาแบบห้ามไม่อยู่ รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากขึ้นทั้งๆที่ก็จูบผมต่อไปไปแบบไม่พัก ค่อยๆปรือตาขึ้นมามอง มองเห็นสายตาร้อนแรงที่มองหน้ากัน ก่อนที่สายตาของอีกฝ่ายจะมองตรงออกไปที่ด้านหลังของผม ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองอะไร แต่กลับยิ่งรู้สึกถึงแรงบดขยี้ริมฝีปากที่หนักหน่วงและร้อนแรงมากขึ้นจนต้องขยำเสื้อของอีกฝ่ายแน่นๆมากกว่าเดิม รู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งตัวจนแข้งขาอ่อนแรงไปหมด ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ผมกับคนตรงหน้าจะผละออกจากกัน หมดแรงจนต้องหอบหายใจแล้วเอาหน้าไปซุกไว้อยู่ที่อกแกร่งของคนตรงหน้า จมูกโด่งๆที่เอียงเข้ามาหาพร้อมหอมไล้แผ่วๆอยู่ที่ข้างแก้มนั่นยิ่งทำให้ผมงุนงงมากขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกทั้งสับสน ทั้งเขินทั้งอาย และทำอะไรไม่ถูก ... นี่เราสองคน....



และในตอนที่ผมยังคงทำอะไรไม่ถูกอยู่แบบนี้ เสียงเข้มๆที่ไม่มีจริตออกสาวได้ๆก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกับฝ่ามือหนาที่เชยคางผมขึ้นไปให้ได้มองตากัน มองเห็นสายตาร้อนแรงที่มองจ้องมาที่ผมนิ่งๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดปากพูดออกมา



“คืนนี้ ... กลับไปนอนห้องกูกันนะ”  พี่มันที่ถามออกมาแบบนี้และยิ้มให้กัน ... และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดแบบไหน แต่สุดท้ายผมก็ทำแค่พยักหน้าลงช้าๆเป็นคำตอบ มองเห็นสายตาวาววับที่เหมือนผู้ชนะของอีกฝ่ายที่มาพร้อมๆกับรอยยิ้มมุมปากที่ถูกจุดขึ้นอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย



“น่ารักมากควายน้อย”



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



ใครร้ายสุด ถามกันแค่นี้

หูยยยยย กริ๊บกริ้วววววว

นี่สังเกตว่าถ้าเขียนมายาวๆคนอ่านจะอ่านน้อยเม้นท์น้อย...แคทว่าคนอ่านแคทต้องชอบอ่านไม่ยาวมากแน่ๆเลย

ตอนนี้เลยมา15หน้าA4ค่ะ (นี่คือไม่ยาวหรอ?)

ฝากโปรโมทและติดแฮชแทคคอมเม้นท์ในทวิตเตอร์ได้ด้วยแทคนิยายชื่อ #สวยๆเป็นผัว จ้า


ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของแคททุกท่านในเล้าเป็ดเลยนะคะ แคทไม่คิดว่าจะมีคนมาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเท่าไหร่ในนี้

แต่เห็นคนเม้นท์ให้แคทจำได้ทุกท่านเลย บางท่านก็อ่านเรื่องเก่าๆของแคทและยังอยู่ด้วยกันเสมอ แคทขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ

แคทหวังว่าในตอนนี้ก็ยังจะมีคนอ่านและชอบในนิยายเรื่องนี้นะคะ  :mew1: :katai4:


ขอขอบคุณ


 :katai5:
:laugh: :z1: :laugh:

 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

 o13
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แล้วเข้ามาอ่านอีกน้า


อื้อหือออร่าผัวกลบปากแดงๆได้เลยอะพี่ดาบขา
  ปากแดงๆก็ผัวเธอ (เจ๊ไม่ได้กล่าว แต่คนอ่านและคนเขียนมั่นใจ 5555)


:hao3: อีหนูปีนขึ้นไป หรืออีเจ๊ลงมาอุ้มกันแน่คะ
  นั่นสิคะ มันยังไงนะมันยังไงงงงง อิอ๊ะ


อิเจ้แอบคิดอะไรกะน้องมันแน่ๆ แล้วใช่ไหม. ดูมีอาการหวง .  มีอาการขี่บิ้กไบท์มาส่งเด็กด้วย  :hao3:

เจ้อะไรโครตเท่อ่ะ.  :katai2-1:
  เจ๊ดานี่ไงจะใครล่ะ อิอิ  :mew3:



สงสัยเจ๊ดานี่ ชอบชายอยู่แล้ว
และก็เป็นตุ๊ดเพราะรำคาญชะนี ที่เข้าแถวจีบ จนแถวยาวไปถึงกำแพงเมืองจีน  :m20: :laugh:
แล้วดูๆเจ๊จะติดใจเอมซะและ  :-[
เจ๊ดานี่เป็นสาวเสียบนี่เอง  :katai2-1:
  อันนี้ไม่รู้ๆๆน้าา อิอิ เจ๊ดานี่คือคนที่ เราเดาอะไรจากพี่แกไม่ได้จริงๆค่ะ 555555 ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์น่ารักๆที่ให้แคทนะคะ


ติดตามจ้า  :L2:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ มาแล้วอย่าทิ้งกันน้า (เกาะขา)  :กอด1:


:mew1: :mew1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้า


เจ๊หลอกเด็ก,,,
  ใครร้ายสุดกันคะเรื่องนี้ 5555


#ปากแดงๆเป็นผัว
  ปากแดงๆก็ผัวน้องเอม หูยยยย :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2019 20:39:09 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: กลัวใจอีเจ๊ เกรงว่าเพื่อนเก้อจะโดนยำตีน

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เกิดศึกขึ้นแล้ว,,,

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ๊หวงเอมแล้ว แต่ปากแข็ง  :เฮ้อ:
ที่จับเอมจูบปาก .......  :z3: 
ชวนเอมที่กำลังเคลิ้มไปนอนด้วย   :o8:
นี่กำลังท้าทายเก้อแน่ๆ  :z6: :z3:
ดูแล้วเก้อนี่แอบชอบเอม แต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียเพื่อนใช่ไหม  o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พีีดาบคนดุ   :impress2:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เจ้ดาบเหอะ เล่นจู่โจมควายน้อยซะเข่าอ่อน คือกะเปิดศึกกะใครรึป่าวค้า   :hao3:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เจ้ดาบลุยเลยค่าาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด