Soulmate วิญญาณป่วนรัก ตอนที่ 23# เหตุเกิดจากความเมา [28.12.62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Soulmate วิญญาณป่วนรัก ตอนที่ 23# เหตุเกิดจากความเมา [28.12.62]  (อ่าน 17067 ครั้ง)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ซีคนแมนขอเอสเป็นแฟนเลย ชอบอ่ะ

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
Soulmate วิญญาณป่วนรัก



Part 19# Z ครั้งแรกมันเจ็บมากเปล่าวะ?


“โวยวายอะไรแต่เช้าน่ะซี!” คุณนายแม่ตะโกนออกมาจากในบ้าน ทำเอาผมถึงกับสะดุ้งโหยง ใจแทบหล่นลงไปถึงตาตุ่ม มือไม้ลนลานจนปิดกล่องคืนแบบผิดๆ ถูกๆ


“ไม่มีอะไรครับแม่! เมื่อกี้ผมลื่นเกือบล้มเฉยๆ!” ก็รู้แหละว่าโกหกมันบาป แต่จะให้ผมพูดความจริงเรอะว่าตกใจที่เห็นถุงยางกับเจลหล่อลื่น ถ้าจะให้พูดแบบนั้นให้ผมไปโดดน้ำตายซะยังดีกว่า


ซึ่งขณะที่ผมกำลังคิดข้ออ้างอยู่ว่า จะตอบคำถามคุณนายแม่ยังไงถ้าหากถูกถามเรื่องของในกล่อง ไอ้เชี่ยเอสที่ไม่รู้ว่าออกมายืนข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็พูดขึ้น


“อะไรมาส่งน่ะ”


“เหี้ย!” มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้ก็ตกใจสิผม แต่มันออกมาก็ดีละ “ยังจะมีหน้ามาถามกูอีกนะ ก็ของที่มึงสั่งมาส่งไงสัส”


“กูไม่ได้สั่งอะไรสักหน่อย”


“อย่ามาสะตอ!”


“กูไม่ได้สั่งจริงๆ ว่าแต่ของข้างในเป็นอะไรน่ะ” แล้วมันก็คว้ากล่องจากมือผมไปเปิดดู “อ้อ ที่แท้ก็ถุงยา...”


“หุบปากเลยนะ!” ผมรีบเอามือไปตะครุบปิดปากไอ้เอสทันที แม่งจะพูดออกมาหาอะไรก็ไม่รู้ เห็นทีต้องขู่แม่งสักหน่อย “ถ้ามึงพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าล่ะก็...เจอดีแน่!”


“อือๆ” มันรับคำทั้งที่ยังถูกผมปิดปากเอาไว้ พอได้ยินแบบนี้ผมถึงได้ยอมปล่อยมือ ซึ่งขณะนั้นเองคุณนายแม่ก็เดินออกมาจากในบ้านพอดี


“เมื่อกี้แค่เกือบแต่ไม่ได้ลื่นล้มใช่มั้ยลูก” ดูท่าทางแม่จะเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย คงเพราะเสียงร้องดังลั่นของผมเมื่อกี้นี่แหละ ชักรู้สึกผิดเลยแฮะ แต่มาถึงจุดนี้ผมก็ต้องเดินหน้าโกหกต่อเท่านั้นแหละ


“ไม่ครับแม่” ผมแสร้งยิ้มกว้าง


“แล้วนั่นสั่งอะไรมา”


“หา? อะ...อ๋อ...พวกอุปกรณ์การเรียนน่ะแม่” เหงื่อไหลเป็นน้ำก๊อกเลยกู ถ้าคุณนายแม่ขอดูจะทำยังไงวะเนี่ย แต่ทั้งที่ผมกำลังเครียดจนแทบจะเป็นบ้า ไอ้เชี่ยเอสกลับก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูผมอย่างกวนส้นตีนซะงั้น


“ไม่บอกด้วยล่ะว่าวิชาเพศศึกษา”


“สัส!” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน จากนั้นก็หันไปยิ้มให้คุณนายแม่ที่มองมาด้วยท่าทางอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน “ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ ว่าแต่ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรอ เปิดไฟที่เตาเอาไว้รึเปล่า ระวังอาหารจะไหม้เอานา”


“อุ้ย! ลืมไปเลย งั้นเดี๋ยวแม่รีบไปดูก่อน” พูดจบแม่ก็รีบกลับเข้าไปในบ้าน ผมที่เห็นอย่างนั้นเลยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก


“เดี๋ยวก่อน จะไปไหนอะมึง” ผมรีบทักไอ้เอสที่กำลังจะเนียนเดินหนีเข้าบ้านด้วย


“ว่าจะไปช่วยแม่ทำกับข้าว”


“ไม่ต้องเลยสัส มานี่เลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน” แล้วผมก็ลากมันไปยังเถียงนาน้อยที่ผมเกือบจะเสียเอกราช แต่ที่ผมลากมานี่ไม่ใช่ว่าผมจะทำกับมันหรอกนะ ตรงนี้มันไม่มีคนผมเลยด่ามันได้สะดวกต่างหาก


“ไอ้หื่น! ไอ้กาม! ไอ้หมกหมุ่น! ไอ้โรคจิต! ไอ้ตัณหาจัด!” พอมาถึงผมก็ใส่ยับเลย แต่ทั้งที่ผมด่าไปขนาดนี้มันกลับไม่มีสำนึก ดันหัวเราะออกมาซะงั้น


“มีผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่หื่น ไม่เป็นอย่างที่มึงพูด”


“แต่มึงมันเกินไป!”


“เกินไปตรงไหน ก็หื่นกับมึงคนเดียว ไม่ได้ไปหื่นกับใครสักหน่อย” มาแบบนี้ก็ไปไม่เป็นดิวะ จะด่าหรือจะเขินเลือกไม่ถูกเลยเนี่ย


“สรุปยอมรับแล้วใช่มั้ยว่ามึงเป็นคนสั่งไอ้ของพวกนี้มา” เรื่องหื่นไม่หื่น กามไม่กาม จบก็ได้ แต่เรื่องถุงยางกับเจลหล่อลื่นผมพูดเลยว่าไม่จบง่ายๆ แน่นอน


“มีประโยคไหนที่กูยอมรับ”


“เอ๊าไอ้สัส!”


“กูไม่ได้สั่งจริงๆ”


“ก็ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใคร” ไอ้เอสยักไหล่


“งั้นกูถามหน่อย ยังจำรูปอีฟที่แอคเคาท์มึงส่งเข้าไปในไลน์กลุ่มได้มั้ย มึงบอกกูว่าไม่ได้เป็นคนส่ง แต่ขอถามหน่อย ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใคร”


“นั่นมัน...” เถียงไม่ออกเลยผม เรื่องนั้นหลักฐานแม่งมัดตัวผมแน่นมาก “แต่กูไม่ได้เป็นคนส่งจริงๆ นะเว่ย”


“อืม กูเชื่อ ก่อนนี้กูก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กูเชื่อแล้วว่ามึงไม่ได้ส่งจริงๆ” ถึงผมจะงงก็เถอะว่าทำไมมันถึงได้เปลี่ยนใจ แต่ก็ดีเหมือนกัน แล้วผมก็จะไม่ถามให้มากความด้วย


“ขอบใจที่เชื่อกู”


“แล้วเรื่องนี้มึงจะเชื่อกูมั้ย” ถึงมันจะเชื่อได้ยาก แต่ผมจะยอมเชื่อมันก็ได้วะ


“เออ เชื่อ”


“งั้นเป็นอันว่าเรื่องนี้จบนะ”


“จบก็จบ”


“เด็กดี สรุปคืนนี้มึงก็ไม่มีข้ออ้างแล้วนะ”


“อืม...หืม? เดี๋ยวนะ?” อะไรยังไง นี่ไอ้เอสมันพูดถึงเรื่องไหน มันคงไม่ใช่เรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่ใช่มั้ย


“วันก่อนมึงเป็นคนบอกกูว่า ให้กูทนจนกว่าจะมีถุงยางกับเจลหล่อลื่น ตอนนี้ก็มีแล้ว เพราะงั้นมึงก็เลิกหาข้ออ้าง เตรียมตัวเป็นเมียกูไว้ได้เลย” พูดจบมันก็ก้มหน้าลงมาจูบปากผมหนักๆ หนึ่งที ก่อนที่จะเดินอย่างอารมณ์ดีเข้าไปในบ้าน


ส่วนผมน่ะหรอ?


ช็อก! ก็ช็อกดิค้าบ! ยืนอ้าปากค้างตัวแข็งเป็นหินไปดิ! ฉิบหายแล้วชีวิตกู!


เอายังไงดีวะ จะแกล้งป่วยก็กลัวไม่เนียน จะทำเป็นเกิดอุบัติเหตุก็กลัวเจ็บ ถ้าจะให้หนีก็ไม่รู้จะไปที่ไหน อีกอย่างยังไงวันหนึ่งผมก็ต้องโดนอยู่ดี หรือว่าผมจะยอมเป็นเมียมันวันนี้ไปเลยดีวะ?


แม่ง ดูเหมือนว่าจะต้องเป็นแบบนั้น แต่อย่าให้กูรู้นะว่าอ้ายอีหน้าไหนเป็นคนสั่ง พ่อจะขอสาปแช่ง...ไม่สิ กูจะขอแช่งตรงนี้เลย! ขอให้มันได้ผัวโหด โฉด เถื่อน โดนรวบหัวรวบหาง โดนล่ามโซ่ไว้ในห้อง โดนโขกสับทารุน ประหนึ่งนางเอกในจำเลยรักแม่งเลย!


“สาธุ” ผมยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกติผมไม่เคยแช่งใคร ก็ไม่รู้หรอกว่าจะได้ผลมั้ย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรล่ะวะ ฮ่าๆๆ


เอาล่ะ ในเมื่อสาปแช่งไปแล้วก็ถือว่าหายกัน ผมจะไม่ตามสืบว่าใครเป็นคนสั่งไอ้ของพวกนั้นมา เพราะถึงรู้ไปมันก็เปลี่ยนชะตากรรมของผมไม่ได้ เพราะงั้นสิ่งที่ผมทำได้ก็มีแต่โทรปรึกษากูรูเท่านั้นแหละ


เฮ้อออออ คิดบวกไปมั้ยเนี่ยกู!


ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วค้นหารายชื่อของกูรูที่ว่า ซึ่งก็รอสายอยู่สักพักกว่ามันจะรับ แหงล่ะก็นี่มันพึ่ง 7 โมงนิดๆ เอง


[“โหล...”] เสียงยานคางงัวเงียอย่างที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ


“มึง กูมีเรื่องจะปรึกษา ออกมาคุยคนเดียวหน่อยดิ” ทายซิว่าผมโทรหาใคร?


[“เออๆ ปรึกษาเหี้ยไรแต่เช้าวะสาด ดีนะที่ไอ้อาร์ทมันยังไม่ตื่น”] ใช่แล้ว คนที่ผมโทรหาคือไอ้หลิน ก็มันเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวที่เคยมีผัว ถ้าไม่ให้ผมโทรปรึกษามันจะให้ผมโทรปรึกษาใครล่ะ


“ทางสะดวกยัง”


[“อีผี อารมณ์กูตอนนี้เหมือนแอบผัวมาคุยกับชู้เลยแม่ง”]


“ฮ่าๆๆ จะว่าไปก็จริง”


[“แล้วนี่จะคุยนานมะ”]


“สักพัก”


[“เค งั้นกูไปล้างหน้าแป๊บ”] แล้วไอ้หลินมันก็หายไปสัก 2 – 3 นาทีได้


ระหว่างนั้นผมก็คิดไปด้วยว่าจะถามไอ้หลินยังไงดี คือเรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องที่น่าอายอะ แต่แค่ลำพังข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมันก็ไม่พอนึกออกปะ บางเว็บบางกระทู้แม่งก็เขียนไม่เหมือนกัน เพราะงั้นผมเลยคิดว่าโทรถามกูรูใกล้ตัวนี่แหละดีที่สุด ถึงมันจะคนละเพศกับผมแต่ก็รับบทเมียทั้งคู่ล่ะวะ


[“โอเคพร้อม มีอะไรก็ว่ามา”]


“คือแบบ...กูอยากจะปรึกษาเรื่อง...เอ่อ...18+ อะมึง อยากรู้ว่าครั้งแรกมันเป็นยังไง” ตอนที่โทรมาก็คิดว่าตัดสินใจแน่วแน่เด็ดขาดแล้วนะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ แม่งก็ยังอึกอักอยู่ดี ก็คนมันอายนี่หว่า


[“เอ๊า นี่พวกมึงยังไม่ได้กันอีกหรอวะ กูก็นึกว่าได้เสียเป็นเมียผัวกันตั้งนานละ”]


“สัส กูไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะเว่ย”


[“มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับง่ายไม่ง่ายนี่ พวกมึงเป็นแฟนกัน รักกันชอบกัน พออยู่ใกล้กันมันก็ต้องมีเกิดอารมณ์บ้างถูกมั้ย ถ้าจะได้กันมันก็เป็นเรื่องปกติเปล่าวะ”]


“มึงแม่งก็พูดตรงเกิ้น กูเป็นผู้ชายยังอายเลยสัส”


[“หรือมึงจะเถียงว่าไม่จริงล่ะ”]


“ก็...เปล่า ที่มึงพูดมันก็จริงนั่นแหละ”


[“เห็นมั้ย ขนาดกูเป็นผู้หญิงผัวสะกิดนิดนึงกูก็มีอารมณ์ละ มึงที่เป็นผู้ชายจะไม่หนักกว่ากูอีกหรอ”]


“มันก็...มีอยู่นั่นแหละ...” ผมตอบด้วยเสียงอ้อมแอ้ม


คือตั้งแต่ที่ตกลงคบเป็นแฟนกับไอ้เอส ทุกคืนผมกับมันก็นอนที่ห้องเดียวกันตลอด แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันหรอก แค่กอดจูบลูบคลำนิดหน่อย อย่างที่รู้กันว่าไอ้เอสมันมือไว แล้วผมก็ดันเคลิ้มง่ายด้วย ดีที่สติมาก่อนเพราะอุปกรณ์ไม่พร้อมก็เลยห้ามมันได้สำเร็จ


[“นั่นไง แล้วงี้มึงจะทนต่อไปเพื่อ มีอารมณ์มันก็ต้องปลดปล่อยดิวะ หรือจะเก็บสะสมไว้แลกแต้ม”]


“โหยมึงก็พูดซะ คือกูก็แค่กลัวอะ” ทั้งกลัวเจ็บ กลัวอาย กลัวมันได้ง่ายๆ ก็เบื่อ แล้วก็กลัวอีกสารพัดสิ่ง ถึงปกติผมจะเป็นคนบ้าๆ บอๆ แต่บางทีก็จะมีเวลาที่ผมคิดมากเหมือนกันนะ


[“กูก็พอจะเข้าใจความคิดของมึงนะ แต่นี่มันปี 2019 แล้วนะเว่ย โลกมันไปถึงไหนแล้ว หรือว่ามึงคิดว่านี่มันยุคกรุงศรีฯ กูเป็นผู้หญิงกูยังไม่เห็นคิดมากเลย แล้วมึงเป็นผู้ชายจะคิดอะไรเยอะ เซ็กส์มันเป็นเรื่องธรรมชาติเว่ย”]


“เรื่องนั้นกูก็รู้อยู่หรอก แต่กูยังไม่เคยนี่หว่า มึงโปรแล้วมึงก็พูดได้นี่”


[“เอาจริงๆ ครั้งแรกก็จะมีเขินบ้าง แต่หลังๆ เผลอๆ จะโดดขึ้นคร่อมผัวเอง”]


“พ่อง! ใครจะไปทำ!”


[“แหม...ก็ไม่แน่ อย่าลืมว่ากูอาบน้ำร้อนมาก่อน”]


“ขอให้ลวกผิวแม่ง”


[“อีผี! ไม่ใช่น้ำร้อนแบบนั้นมั้ย! เอาเป็นว่าพอถึงเวลามึงก็อย่าวิตกจริต อย่าคิดมาก แล้วก็อย่าเกร็ง ให้เอสเป็นคนนำไป ส่วนมึงก็ตามน้ำทำตัวสบายๆ ปล่อยร่างกายไปตามอารมณ์อะ”]


“แล้วครั้งแรกมันเจ็บมากมั้ยวะ เห็นบางคนแม่งบอกมีเลือดออกด้วยอะ” บอกเลยว่านี่คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด ซึ่งก็คือเหตุผลหลักที่ผมยังไม่อยากมีอะไรกับไอ้เอส


[“ถ้าจะเลือดออกขนาดนั้น ถ้าของผัวมันไม่ใหญ่เท่าเสาบ้านก็คงจะโดนข่มขืนแล้วล่ะไอ้ห่า คือถามว่าเจ็บมั้ยมันก็มีเจ็บบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น แล้วเดี๋ยวพอทำไปสักพักมึงก็จะลืมเจ็บเอง”]


“จริงหรอวะ” เรื่องลืมเจ็บนี่มันเป็นไปได้อ่อ? ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออกเลยอะ


[“ก็จริงดิ กูจะโกหกมึงทำไมล่ะ คือก่อนจะเข้าไปมันก็ต้องมีเล้าโลม มีขยายช่องทางเตรียมพร้อมก่อนมึงนึกออกมะ ไม่ใช่จับโยนลงเตียงแล้วใส่ยับตับๆๆ เลย”]


“แม่ง มึงพูดซะกูเห็นภาพ” หน้าร้อนเลยเนี่ย ถามว่าอากาศหรอ? เปล่า...หน้ากูนี่แหละ!


[“ก็กูอยากให้มึงเข้าใจง่ายๆ เนี่ย...เชื่อมะ ถ้ามีใครมาได้ยินคงคิดว่ากูกร้านโลกมากอะ ฮ่าๆๆ”] จะว่าไปก็จริง คำแนะนำนี่เหมือนว่ารบผ่านมาแล้วทุกสงคราม แต่ความจริงแล้วมันก็เคยกับแค่ไอ้อาร์ท ซึ่งก็ผ่านครั้งแรกมายังไม่ถึงปีด้วยซ้ำมั้ง


“ก็ถ้ากับคนอื่นมึงก็คงไม่กล้าพูดขนาดนี้ใช่มั้ยล่ะ”


[“เออสิวะ ใครมันจะไปกล้า”]


“ขอบใจมากนะมึง”


[“โวะ มาขอบจงขอบใจทำไม ก็แค่แบ่งปันประสบกาม”]


“ประสบการณ์มั้ยวะ”


[“เออ นั่นแหละ ไงพรุ่งนี้ก็มาอัพเดทให้กูฟังหน่อยนะ เดี๋ยวจะนั่งรอโทรศัพท์ทั้งวันเลย อิอิ”] แล้วมันก็หัวเราะคิกๆ คักๆ นี่ถ้านั่งอยู่ข้างๆ มันคงแซวจนผมต้องมุดดินหนีความอาย


“พ่อง ใครจะไปเล่า แค่นี้แหละแม่กูเรียกไปกินข้าวละ บาย” พูดจบผมก็วางสายเลย แต่ว่าผมไม่ได้โกหกไอ้หลินนะ คุณนายแม่ตะโกนจากหน้าบ้านเรียกผมไปกินข้าวแล้วจริงๆ


หลังจากที่กินข้าวเสร็จพ่อก็ไปส่งยัยเอที่โรงเรียน จากนั้นก็จะเลยไปที่ทำงาน ส่วนคุณนายแม่ ผม ไอ้เอสก็ไม่ได้ไปไหน ทำงานบ้านทำนู่นนั่นนี่ไปเรื่อย พอเหนื่อยก็งีบหลับ นั่งเล่น หรือดูทีวี


ชีวิตเหมือนจะมีความสุขมากเลยใช่มั้ย? คือก็ใช่แหละสำหรับแม่แล้วก็ไอ้เอส แต่สำหรับผมคือจิตตกจะตายห่าอยู่ละ เผลอแป๊บๆ พ่อกับยัยเอก็กลับมา หายใจต่ออีกไม่กี่เฮือกก็กินอาหารค่ำกันเสร็จ แล้วตอนนี้กระพริบตาอีกทีละครหลังข่าวก็จบเรียบร้อยแล้ว


คุณพระช่วย! (ผมด้วย!) ทำไมเวลาแม่งผ่านไปเร็วจังวะ!


“เดี๋ยวพวกแม่ขึ้นไปนอนก่อนนะ พวกลูกก็รีบเข้านอนล่ะ” ผมตั้งใจจะตอบแม่ว่า ‘ไม่รีบ กะจะอยู่ยันหว่าง’ แต่ไอ้เอสก็ชิงตอบไปซะก่อนด้วยใบหน้าแป้นแล้น


“ครับแม่ พวกผมก็ว่าจะขึ้นห้องนอนแล้วเหมือนกัน”


“งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะลูก” พูดจบคุณนายแม่ก็ชวนพ่อกับยัยเอขึ้นไปบนบ้าน งานเข้าละ เหลือแค่ผมกับไอ้เอสสองคนละทีนี้


“พร้อมจะเป็นเมียกูรึยัง” มันกระซิบถาม แม่งไม่คิดจะอ้อมค้อมสักหน่อยเลยหรอวะ


“ถ้ากูบอกว่ายังล่ะ” คือผมก็ยังมีความหวังไง เผื่อมันจะใจดี สงสารลูกนกลูกกาอย่างผมงี้ แต่ก็ไม่มีเลยสักนิด


“เดี๋ยวกูจะทำให้มึงพร้อมเอง” พูดจบมันก็ลากผมขึ้นห้องไปเลย ไอ้สัตว์กินเนื้อเอ๊ย! หมดทางรอดแล้วสินะกู!


แล้วพอเข้าไปในห้องปุ๊บ มันก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ผมปั๊บ พอรับมาก็มีความคิดหนึ่งแว้บขึ้นมาในหัว ขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำยังเช้าเลยดีมั้ย?


“ประตูพลาสติก ถีบครั้งเดียวก็พังแล้วมั้ง” สัส! เหมือนมึงรู้ความคิดกู!


“ละ...แล้วยังไง มาบอกกูทำไม ใครถามมึงหรอ” ลนลานไปอี้กกกกก แบบนี้ก็เหมือนยอมรับอะ หนีเข้าห้องน้ำแม่ง!


“อย่านานนักล่ะ!” ไอ้เอสตะโกนมาหาผมที่อยู่ในห้องน้ำ


“รู้แล้วน่า!” ไอ้นี่แม่งก็เร่งจริงๆ ทำยังกะกูจะมีทางหนี ขอทำใจอยู่ในนี้สักพักแล้วกันวะ


30 นาทีคือเวลาที่ผมอยู่ในห้องน้ำ ก็คิดว่าคงยื้อสุดๆ ได้เท่านี้แหละ เกินกว่านี้มีหวังไอ้เอสคงได้ถีบประตูบุกเข้ามาจริงๆ ซึ่งพอออกมา ภาพแรกที่เห็นก็คือมันกำลังแกะถุงยางกับเจลหล่อลื่นออกจากกล่อง เห็นมันจริงจังขนาดนี้ก็จิตตกกว่าเดิมดิผม


“รอกูอาบน้ำแป๊บนึงนะ” มันพูดจบก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ ส่วนผมก็นั่งตัวแข็งเป็นหินอยู่ที่ปลายเตียง ไม่สิ...จะว่าแข็งเป็นหินก็ยังไงอยู่ คือตัวแข็งอะใช่ แต่มันก็สั่นด้วย จะอธิบายยังไงดีวะ


“รอกูนานมั้ย” ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ไอ้เอสมันออกมาจากห้องน้ำแล้ว ฮืออออ อาบเร็วจนกูอยากร้องไห้ แถมยังนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาด้วย เตรียมบอกลาเอกราชใน 3...2...1...


จุ๊บ


เฮือก!


เพียงแค่โดนจุ๊บที่แก้มเบาๆ เท่านั้น ผมก็สะดุ้งเฮือกอย่างแรงจนแม้แต่ตัวเองยังตกใจ แล้วนับประสาอะไรกับไอ้เอส


“เป็นอะไรไปซี” มันยื่นมือมาจะจับตัวผม แต่ผมก็สะบัดมือของมันออกไปด้วยร่างกายที่สั่นเป็นเจ้าเข้า คือผมก็รู้แหละว่ามันเป็นห่วง แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ จู่ๆ ร่างกายมันก็เป็นไปเอง


“ขอโทษ กู...กูคงตื่นเต้นมากไปหน่อย” ผมฝืนยิ้มแล้วตีมือตัวเองที่กำลังสั่น แต่แม่งก็สั่นไม่ยอมหยุดสักที


“นี่มึงกลัวขนาดนี้เลยหรอ” ไอ้เอสหน้าเสีย จากที่เคยยิ้มอย่างอารมณ์ดี สีหน้าของมันก็เป็นกังวลและรู้สึกผิดอย่างชัดเจน


“มันก็...นิดนึง แหะๆ ครั้งแรกก็งี้” ผมหัวเราะแห้งๆ แต่ไอ้เอสก็ไม่แม้แต่จะหัวเราะตาม แถมสีหน้าของมันยังแย่ลงกว่าเดิมด้วย ก่อนที่สุดท้ายมันจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา


“นอนกันเถอะ”


“หา?” นอนนี่หมายถึงอะไร หลับนอน? หรือนอนหลับ? ไอ้เอสที่คงจะเห็นสายตาของผมมีแต่คำถามล่ะมั้งก็เลยอธิบายให้ฟัง


“กูไม่ทำอะไรมึงแล้ว ขอโทษที่ทำให้กลัว” ถึงแม้จะยังงงๆ แต่ผมก็พยักหน้า “แต่คืนนี้ ถ้าแค่นอนกอดกันเฉยๆ จะได้รึเปล่า”


“...” ผมมัวแต่คิดอะไรในใจอยู่เลยไม่ได้ตอบคำถาม มันเลยคิดเอาเองว่าผมไม่อนุญาต


“ไม่เป็นไร...” หูลู่หางตกเป็นหมาหงอยเลยมัน จากนั้นมันก็ลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า เสร็จแล้วก็เดินไปที่ประตู ดูท่าทางเหมือนจะออกไปนอนข้างนอก ผมที่เห็นแบบนั้นเลยลุกขึ้นไปสวมกอดมันจากทางด้านหลัง แล้วตัดสินใจพูดออกไปว่า...


“มาทำกันเถอะ”



Soul Scene




“เอชทีทีพี โวยวายเว็บดอทช้อปปี้ดอทคอม”


ตอนนี้ผมกำลังใช้โทรศัพท์ของซีที่ไม่มีพาสเวิร์ด เพื่อจะสั่งของออนไลน์บางอย่าง ใช่แล้ว...ถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่น! ซึ่งพอคิดว่าคืนพรุ่งนี้หรือมะรืนเอสกับซีก็จะ............อ๊ากกกกกก แค่คิดก็ฟินสุดๆ แล้วอะ!


แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาหวีด ไว้เดี๋ยวค่อยหวีดทีเดียวตอนที่สองคนนั้นได้เสียเป็นเมียผัว (วุ้ย! พูดแล้วก็เขิน!) ตอนนี้เป็นเวลาที่ผมต้องจัดการสั่งซื้อของ ซึ่งที่นี่ก็มีครบ แถมยังลดราคาแล้วก็ส่งฟรีอีกต่างหาก คืออวยเหมือนได้รับเงินมา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่นะ ฮ่าๆๆๆ


ตอนกดสั่งก็ง่ายดาย แต่ตอนจ่ายนี่สิปัญหาใหญ่ ดันลืมไปว่าตัวเองตายแล้ว เป็นแค่วิญญาณเท่านั้น ถึงจะสามารถทำอะไรบางอย่างก็เถอะ แต่ผมก็เสกเงินไม่ได้หรอกนะ เพราะงั้น...ไปเข้าฝันว่าที่สามีของเพื่อนรักผมดีกว่า!


“เอส กูมีเรื่องจะขอ ช่วยโอนเงินจ่ายค่าของให้กูหน่อยดิ” ผมไม่เสียเวลาพูดพล่ามทำเพลง พอเจอหน้าเอสก็จัดการเข้าเรื่องเลย ก็แหม...ถ้าโอนช้าของก็จะส่งมาช้าด้วยไง


“ได้สิ ว่าแต่ค่าอะไร”


“ถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่น”


“หา!” จากที่ตอบรับอย่างชิลๆ เอสก็ถึงกับตาโต “เดี๋ยวนะ มึงตายไปแล้วคงไม่ได้เอาไปใช้...หรือจะให้กูใช้กับซี?”


“ถูกต้องนะคร้าบ!” ฉลาดจริงๆ ว่าที่สามีเพื่อนผม


“แต่จะดีหรอ” ไอ้เอสทำหน้าลังเล แต่ความคิดที่อยู่ในใจของมันนี่สิ...อื้อหือ อย่าให้ได้เซด!


“แหมมมม ไม่ต้องมาทำเป็นคนดี มึงโกหกผีไม่ได้หรอก” ผมเบ้ปากมองบน ไอ้เอสก็เลยหัวเราะออกมา


ตั้งแต่ที่ได้สนิทด้วย ผมก็ไม่มีความรู้สึกเกินกว่าคำว่าเพื่อนกับเอส ซึ่งก็อาจเพราะผมปลงที่ยังไงก็ตายไปแล้ว หรือได้เห็นนิสัยจริงๆ ที่ต่างกับภาพลักษณ์ที่ผมคิดเอาไว้ แต่ถึงยังไงผมก็ยังเชียร์เอสให้ลงเอยกับซีนะ ถึงสองคนนี้จะชอบกัดกันกวนกันก็เถอะโดยเฉพาะซี แต่เวลาสวีทนี่...โอ้โห คือผีแทบจะสู่ขิตอะพูดเลย!


“เอาเป็นว่ารีบตื่นแล้วก็รีบโอนค่าของด้วยนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวกูจัดการต่อเอง”


“โอเค ขอบใจมาก”


“ถ้าอยากจะขอบใจจริงๆ มึงก็ช่วยอะไรกูอย่างดิ”


“ได้ ว่ามาเลย”


“กูอยากได้ชุดใหม่อะ ใส่ชุดนี้มาหลายอาทิตย์กูเบื่อจะตายอยู่แล้ว” เสื้อผ้าที่ผมใส่ตอนนี้คือชุดเดียวกับวันที่ตาย ถึงมันจะไม่ได้เหม็นหรือไม่ได้เปื้อนอะไรก็เถอะ แต่ใส่ชุดเดิมซ้ำๆ มันก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ


“แล้วมึงชอบแบบไหน จะให้กูส่งไปยังไง”


“ชวนซีไปเลือกดิ มันรู้รสนิยมของกู ถ้ามันถามก็อ้างอะไรไปก็ได้ แต่อย่างมันคงไม่ถามมากหรอก ถ้าชวนไปซื้อของให้กูคงมีแต่จะเร่งมึงให้รีบไปเร็วๆ ซะมากกว่า แล้วพอได้ชุดมึงก็เอาไปถวายหลวงพ่อ เหมือนเวลาทำสังฆทานอะ แล้วเดี๋ยวกูก็จะได้รับเอง”


“มีแบบนี้ด้วยแฮะ โอเค เดี๋ยวกูจัดการให้”


“งั้นกูไปแล้วนะ อย่าลืมโอนตังค่าของด้วยล่ะ บายยยย” แล้วผมก็ออกมาจากความฝันของเอส ส่วนเอสก็รีบตื่นขึ้นมาโอนเงินแทบจะทันที
คือหล่อแล้วยังโอนไว ได้คนอย่างเอสเป็นผัวนี่บุญท่วมหัวมึงเลยนะเว่ยไอ้ซีเอ๊ย!


2BC


สวัสดีค่าาา  o18 เชื่อว่าตอนนี้หลายๆคนคงจะค้างมาก แต่เอาน่า ใจร่มๆกันน้า รับรองตอนหน้าไม่ค้างแถมยังฟินแน่นอน เตรียมเลือดสำรองและหมอนไว้จิกให้เรียบร้อยเลยค่า  :-[

ส่วนคนร้ายที่สั่งของมา ในที่สุดก็เฉลยแล้วว่าคือวิญญาณตัวป่วนนี่เอง ซึ่งเอสก็ไม่ได้โกหกนะ ก็ไม่ได้สั่งจริงๆแต่แค่โอนเงินเฉยๆ 55555  :laugh:

แล้วเจอกันตอนหน้านะคะทุกคน  :bye2: อาจจะมาช้าหน่อยเพราะห่างหายจากการเขียน NC ไปนานเลยต้องรื้อฟื้นบ้าง แต่สัญญาเลยค่ะว่าจะเขียนให้ทุกคนฟินสุดๆแน่นอน มาปูเสื่อรอกันได้เลยที่ร้ากกกก  :m3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ผีก็ช้อปปิ้งออนไลน์ได้นะ เพิ่งรู้  :laugh:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
จงได้กันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
Soulmate วิญญาณป่วนรัก


Part 20# Z Make love NC-18


“ที่พูดนี่คิดดีแล้วใช่มั้ย” ไอ้เอสถาม


“อือ” ผมพยักหน้า ทั้งๆ ที่ใบหน้ากำลังซุกอยู่ที่แผ่นหลังของมัน


“แต่ตัวมึงกำลังสั่น”


“ถ้าไม่สั่นสิแปลก ก็ครั้งแรกของกูนี่หว่า” พอผมพูดแบบนี้ไอ้เอสเลยแกะมือผมออกแล้วหันหน้ากลับมา จากนั้นมันก็เป็นฝ่ายที่กอดผมเอาไว้แทน


“มึงไม่ต้องฝืนหรอก ไว้พร้อมแล้วค่อยทำ”


“ก็เนี่ยพร้อมแล้ว กูอุตส่าห์พูดขนาดนี้อย่าให้กูต้องอายฟรีดิวะ” ผมเสหน้าไปทางอื่น คิดว่าผมต้องรวบรวมความกล้าขนาดไหนกว่าจะพูดออกไปได้


“งั้นกูจะถามรอบสุดท้าย มึงแน่ใจแล้วนะ?”


“อือ”


“ถ้าเริ่มแล้ว ถึงมึงบอกให้หยุดกูก็จะไม่หยุดให้นะ”


“เออ”


“ถ้า...”


“โว้ย! ถามมากจริง! กูก็บอกว่าพร้อมๆๆ แล้วมึงยังจะถาม...อื้อ!” แล้วประโยคที่ผมตั้งใจจะบ่นก็ถูกกลืนหายไป เพราะไอ้เอสเอาปากของมันมาปิดเอาไว้ซะก่อน


แม้จะถูกจูบโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ผมก็ชินแล้วเพราะโดนแบบนี้ตลอด ดังนั้นจากเมื่อก่อนที่มักจะตัวแข็งทื่อ ตอนนี้ผมก็มีพัฒนาการ สองมือยกขึ้นโอบรอบลำคอของมันแล้วจูบตอบอย่างทันท่วงที


ริมฝีปากของเราสองคนขบเม้มและดูดดุนซึ่งกันและกัน จากนั้นไอ้เอสก็สอดลิ้นเข้ามาสัมผัสกับผม ก่อนที่เราสองคนจะแลกลิ้นเกี่ยวรัดกัน อุณหภูมิร่างกายของผมกับมันสูงขึ้นเรื่อยๆ


“ร้อน...” ผมพูดด้วยเสียงแหบพร่าเมื่อไอ้เอสถอนจูบออกมา ดังนั้นมันเลยจัดการถอดเสื้อของผมออกแล้วถอดของตัวเองตาม


“เดี๋ยวต่อไปจะร้อนยิ่งกว่านี้” แล้วมันก็ก้มหน้าลงมาจูบผมอีกที ก่อนที่มันจะยกตัวผมขึ้นแล้วเดินไปที่เตียง


ก็พึ่งรู้นะเนี่ยว่ามันแข็งแรงขนาดอุ้มผมได้ง่ายๆ แถมยังมือไวขนาดที่พอวางผมลงบนเตียงปุ๊บ ก็จับถอดกางเกงปั๊บจนผมไม่เหลืออะไรบนร่าง


“มึงก็ถอดด้วยสิ ให้กูโป๊อยู่คนเดียวมันก็น่าอายนะเว่ย”


“แน่ใจนะว่าจะไม่อายกว่าเดิม?” เออว่ะ ลืมคิดไปเลย แต่จะห้ามตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว เพราะไอ้เอสแม่งถอดกางเกงออกไปอย่างไว ผมเลยได้เห็นไอ้เอสน้อย (ที่ขนาดไม่ได้น้อยเลย) อย่างเต็มๆ ตา


“ถามจริงนะ มึงเป็นลูกครึ่งเปล่าวะ”


“เปล่า ถามทำไม”


“ก็ดูไซซ์มึงดิ แม่งอย่างกับฝรั่ง” ผมว่าของผมก็ไม่ได้เล็กนะ ขนาดมาตรฐานชายไทยนั่นแหละ แต่พอเอาไปเทียบกับของไอ้เอสนี่แม่งกลายเป็นไซซ์เด็กประถมไปเลย


“มึงพูดเหมือนเคยเห็น” ผมก็มัวแต่สนใจเรื่องขนาด เลยไม่ได้สังเกตสีหน้าของไอ้เอสที่ดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่


“แหม มันก็ต้องเคยผ่านตามาบ้าง คลิปป๊งคลิปโป๊งี้ไม่เคยดูรึไง”


“ไม่ แล้วก็ไม่ชอบให้มึงดูด้วย”


“สัส มึงก็พูดอย่างกับหึงกู” ผมหัวเราะเบาๆ


“...”


“เดี๋ยว อย่าบอกนะว่าหึงจริง? หึงคนในคลิปโป๊เนี่ยนะ? ฮัลโหลลลลลล” ไอ้เอสไม่ตอบคำถาม แต่รีบกระโจนขึ้นเตียงมาคร่อมผมเอาไว้แทน


“ต่อไปนี้ห้ามดู ถ้าอยากดูเดี๋ยวกูจะทำให้ดูเอง”


“โวะ มึงนี่บ้า...อ๊ะ! จะทำอะไรน่ะ! เดี๋ยว...อื้อ...” แล้วเสียงห้ามของผมก็กลายเป็นเสียงคราง เมื่อไอ้เอสก้มหน้าลงมาซุกไซ้ตรงซอกคอ จมูกโด่งๆ ที่กำลังถูไถ รวมทั้งริมฝีปากและปลายลิ้นที่กำลังดูดเลีย มันทำให้ผมถึงกับเสียววาบ


“จะ...ใจเย็นนะ อย่าทิ้งรอย...” ผมพูดอย่างยากลำบาก เพราะแค่อ้าปากก็จะครางออกมาแทน


“อืม รู้แล้ว” คือไอ้เอสมันก็ไม่ได้ทำแรงหรอก แต่ผมก็แค่เตือนไว้ก่อนเผื่อมันลืมตัว แล้วก็เผื่อว่าผมจะเคลิ้มจนลืมห้ามด้วย


ส่วนเรื่องที่เมื่อกี้มันบอกว่าหึง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจริงรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ที่มันทำเป็นกระโจนใส่ผมด้วยความโมโหน่ะเป็นแค่การแสดง ความจริงแล้วมันอ่อนโยนเลยล่ะ แต่ที่ทำอย่างนั้นก็ให้มันเป็นฟีลลิ่ง มีสตอรี่ หรือก็แค่ข้ออ้างให้ขึ้นคร่อมได้โดยที่ผมไม่เขินเท่านั้นแหละ


“อือ..” ผมหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ เมื่อไอ้เอสใช้สองมือค่อยๆ ลูบตรงสีข้างจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่แผ่นอก ก่อนที่มันจะบีบ คลึง แล้วก็ขยี้ที่ส่วนยอด ก็พึ่งรู้นี่แหละว่าตรงนี้ของผู้ชายพอโดนทำมันก็รู้สึกเสียวด้วย แถมยังเสียวมากกว่าเดิมเมื่อเปลี่ยนจากมือเป็นปากแล้วก็ลิ้น


“อา!” ผมแอ่นอกขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อปลายลิ้นอันเปียกชื้นสัมผัสโดนตรงส่วนยอด แล้วยิ่งโดนตวัดเลียสลับกับการดูด โดยที่ยอดอกอีกข้างก็มีมือของไอ้เอสบีบขยี้อยู่ ผมก็เผลอหวีดร้องด้วยเสียงแหลมสูงราวกับผู้หญิงออกมา


“อ๊า!” ด้วยความอายผมเลยรีบยกมือขึ้นปิดปาก แต่ก็ถูกไอ้เอสดึงออกมาแทบจะทันที


“อย่าปิดสิ กูอยากฟังเสียงมึง...นะ” แล้วผมก็พยักหน้า ให้ตายสิ แพ้มันทุกทีสิน่า แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะห้ามเสียงเอาไว้ได้ ก็มันออกจะเสียวซะขนาดนั้น


พอเห็นผมยอมทำตามที่ขอแล้วไอ้เอสก็กลับมาเล้าโลมต่อ เริ่มจากซอกคอแล้วค่อยๆ ขยับลงไปจนถึงแผ่นอก ถึงแม้จะไม่อยากจะยอมรับ แต่เวลาที่ส่วนยอดถูกดูดแล้วก็เลีย มันก็ทำให้ผมเสียวซี้ดจนหลุดเสียงครางแหลมสูงไปหลายครั้ง ซึ่งมันก็แลดูพึงพอใจมาก


หลังจากที่ดูดเลียตรงยอดอกจนพอใจแล้ว ไอ้เอสก็เลื่อนใบหน้าลงไปยังหน้าท้อง จังหวะที่ปลายจมูกและลิ้นของมันลากไล้ทำให้ผมจั๊กจี้ปนเสียวซ่าน ผมครางระงมพร้อมกับร่างกายที่บิดเร่า ส่วนกลางลำตัวที่แข็งมานานแล้วยิ่งแข็งมากขึ้นจนปวดหนึบ


“เอาออกสักรอบก่อนดีมั้ย” ผมพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด ความองความอายอะไรผมลืมไปแล้ว ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าอยากจะถึงแล้วเท่านั้น ซึ่งผมก็คิดว่ามันคงจะใช้มือชักออกให้ แต่เปล่าเลย มันกลับใช้มือกำตรงส่วนฐานเอาไว้แล้วก้มหน้าลงใช้ปากให้ผม!


“เฮ่ย! ไอ้เอส! ยะ...อ๊า! หยุด...!” ผมพูดแทบไม่เป็นภาษา ร่างกายดิ้นพล่านไปมา ส่วนมือก็พยายามจะดันหน้าของไอ้เอสออกไป แต่พอเจอแรงดูดและลิ้นดุนตรงปลายก็ทำให้เรี่ยวแรงของผมหายไปโดยอัตโนมัติ


“ยะ...มึงไม่ต้อง...อ๊า...ทำขนาดนี้...” เรื่องแบบนี้ใครจะคิดว่ามันจะทำให้ผมกันล่ะ


“ครั้งแรกของเรา กูอยากให้มึงรู้สึกดีที่สุด” ไอ้เอสถอนริมฝีปากออกมาพูดแล้วก็ก้มหน้าลงไปใหม่ ลิ้นของมันที่เลียวนตรงส่วนปลาย กับช่องปากที่กำลังดูดไปพร้อมๆ กับการขยับขึ้นลง มันทำให้ผมเสียวมากจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว


“ไอ้เอส...ออกไป กูจะ...ยะ...บอกให้ถอยไง...เอส...ไอ้เอส!” แต่แทนที่จะถอยตามที่ผมบอก มันกลับเอาลิ้นดุนและออกแรงดูดให้มากขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมเสียวมากกว่าเดิมจนถึงกับยั้งไว้ไม่ไหว เลยปลดปล่อยความเสียวทั้งหมดเข้าไปในปากของมัน


“อ๊าาา!” ผมกรีดร้องลั่น ร่างกายกระตุกเกร็ง 2 – 3 ครั้ง จากนั้นเมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็ถึงกับสะดุ้งลุกขึ้นมา “ขอโทษ!”


“ขอโทษทำไม กูอยากทำต่อเอง”


“แต่ว่า...เอ๊ะ เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่ามึงกลืน...!” ผมที่พึ่งนึกได้ว่า ไม่เห็นมันจะคายออกมาก็ถึงกับเบิกตากว้าง


นะ...น้ำของผม...นี่ไอ้เอสมันกลืนน้ำของผมลงไปงั้นเรอะ!


“ในสถานการณ์แบบนั้นมันก็มีแต่จะต้องกลืนไม่ใช่รึไง”


“ไอ้บ้า! ของแบบนั้นน่ะ...” ผมทั้งอาย ทั้งตกใจ แล้วก็กังวลจนจะประสาทแดกตายห่าอยู่แล้ว คือตอนอาบน้ำผมก็ทำความสะอาดร่างกายอย่างดีทุกซอกทุกมุมอยู่นั่นแหละ แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะถูกทำขนาดนี้ด้วยนี่นา


“มึงนี่นะ ทำอย่างกับกูกินยาพิษ อีกอย่างรสชาติมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”


“ถึงงั้นก็เถอะ” พูดอะไรไม่ออกเลยผม การที่มันใช้ปากให้ก็เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงสุดๆ แล้ว แต่นี่มันถึงกับกลืนน้ำของผมลงไปด้วยอีก


‘ครั้งแรกของเรา กูอยากให้มึงรู้สึกดีที่สุด’



มันทำให้ผมถึงขนาดนี้ ผมคิดว่าผมก็ควรจะทำอะไรให้มันบ้างนะ


“กูขอทำด้วยดิ”


“ทำอะไร” ไอ้เอสทำหน้างง ผมก็เลยขยับตัวเข้าไปใกล้มันที่กำลังคุกเข่าอยู่ แล้วทำใจกล้ายื่นมือออกไปคว้าหมับที่ท่อนลำตรงหน้า


“ก็จะทำเหมือนที่มึงทำให้กูไง” แมนๆ ใจๆ ใช้ปากมาใช้ปากกลับไม่โกง!


“หา!” ไอ้เอสดูตกใจมาก “กูรู้ว่ามึงกำลังคิดอะไร แต่มึงไม่ต้องทำหรอก แค่มึงยอมเป็นเมียกู กูก็ดีใจมากแล้ว”


“แต่กูอยากทำให้มึงด้วย อยากให้มึงรู้สึกดีเหมือนกู” ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าไม่อายนะ คือผมอายมากกกกก แต่ก็ยอมรับด้วยว่าเมื่อกี้ผมรู้สึกดีมากจริงๆ มันดีมากกว่ามือเป็นสิบเท่า แค่มันเอาเข้าปากผมก็แทบจะละลายแล้ว


ขนาดแค่นึกถึงก็แทบจะแข็งขึ้นมาอีกครั้งแล้วอะ!


“ถ้ามึงไม่โอเคก็หยุดเลยนะ ไม่ต้องฝืน”


“อือ” ผมพยักหน้า


ก็ทำใจอยู่หลายวินาที กว่าที่ผมจะเคลื่อนใบหน้าเข้าไปจนเกือบชิดส่วนนั้นของไอ้เอส ผมรับรู้ได้ถึงอาการเกร็งเมื่อลมหายใจของผมรินรดตรงส่วนปลาย ก่อนที่มันจะกระตุกและขยายใหญ่ขึ้นอีกเมื่อผมเริ่มใช้ลิ้นเลีย


“อึ่ก!” ดูท่าไอ้เอสจะเสียวอยู่ไม่น้อย ทั้งที่ผมเลียตรงส่วนปลายแค่ครั้งเดียวเท่านั้น พอเห็นแบบนั้นผมก็เลยมีความกล้าที่จะเลียซ้ำ ก็จำเทคนิคจากมันมานั่นแหละ เริ่มจากเลียก่อนจนท่อนเนื้อเปียกชุ่ม จากนั้นจึงได้เปิดปากแล้วอมมันเข้าไป


“ซี...” เสียงไอ้เอสแม่งโคตรกระเส่า ทำเอาใจของผมถึงกับเต้นรัว ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วแหละว่าทำไมพอได้เริ่มแล้วมันถึงไม่ยอมหยุด ทั้งที่ผมทั้งดันมันออกแล้วก็ร้องห้ามซะขนาดนั้น ก็คนที่รักกำลังรู้สึกดีถึงขนาดนี้ใครจะไปหยุดทำได้ลงกันเล่า


ทันทีที่ผมใช้ปากอม ท่อนเนื้อของมันก็ขยายใหญ่ขึ้น ก่อนจะยิ่งมากขึ้นอีกเมื่อผมออกแรงดูดและขยับปากเข้าออก ผมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนไอ้เอสมันหลุดเสียงครางออกมาอีกหลายครั้ง


น่าแปลก ความรู้สึกแง่ลบก่อนที่ผมจะใช้ปากให้ไอ้เอสได้หายไปหมดแล้ว แต่ยังมีเรื่องที่น่าแปลกยิ่งกว่านั่นก็คือ ตอนนี้ผมกำลังมีอารมณ์จนส่วนกลางลำตัวได้แข็งขึ้นมาด้วย!


“ยกสะโพกขึ้นหน่อย”


“หือ?” ก็อยากจะถามอยู่นะว่าทำไม แต่ปากผมกำลังอมของมันอยู่ก็เลยพูดไม่ได้


“เร็วสิ” พอมันเร่งอีกครั้ง ผมเลยต้องยอมทำทั้งที่ท่ามันโคตรจะน่าอาย แต่ว่าทั้งที่คิดว่านั่นคงอายสุดๆ แล้ว แต่เปล่าเลย ผมยังอายได้มากกว่านั้น เพราะไอ้เอสมันได้สอดนิ้วเข้ามาข้างในช่องทางด้านหลังของผม!


“อื้อ!” ผมสะดุ้งเฮือก ส่วนดวงตาก็เบิกกว้าง เพราะไอ้เอสมันสอดนิ้วเข้ามารวดเดียวจนมิดด้าม


โอเคแหละผมไม่ได้รู้สึกเจ็บ เพราะนิ้วของมันชโลมเจลหล่อลื่นเอาไว้จนชุ่ม ตอนนี้ผมแค่รู้สึกแปลกๆ และอึดอัดนิดหน่อย แต่แน่นอนว่ามันห่างไกลคำว่ารู้สึกดีหลายขุม จนผมนึกไม่ออกเลยว่าผมจะมีความสุขไปกับมันได้ยังไง


“เจ็บมั้ย” ผมส่ายหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบ พอได้ยินแบบนั้นริมฝีปากของไอ้เอสก็ยกยิ้มขึ้นมานิดหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นมันก็เริ่มขยับนิ้วเข้าออกโดยเริ่มจากช้าๆ


ช่วงแรกๆ ผมไม่รู้สึกอะไร แต่พอผ่านไปสักพักความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็เริ่มก่อตัวขึ้นมา แล้วมันก็ยิ่งมากขึ้นๆ ตามจังหวะและความเร็วนิ้วของไอ้เอส


“อือ...อื้อ...” ผมส่งเสียงครางในลำคอ ช่องทางด้านหลังบีบเกร็งและกระตุกตอดรัดนิ้วของไอ้เอสอย่างห้ามไม่ได้ แล้วยิ่งปลายนิ้วของมันหักงอนิดหน่อยจนครูดกับผนังช่องทาง มันก็ทำให้ความรู้สึกเสียววาบแล่นพล่านตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า


“อื้อ!” ผมสะดุ้งเฮือกแล้วอมแก่นกายของไอ้เอสเข้าไปจนสุดคอ ซึ่งนั่นก็ทำให้มันเสียวจนถึงกับต้องร้องซี้ด ส่วนผมก็อยากจะร้องไม่ต่างกัน เพราะช่องทางด้านหลังที่ถูกนิ้วของมันขยับเข้าออกมันทำให้ผมเสียวจนแทบบ้า


ผ่านไปสักหน่อยไอ้เอสก็สอดนิ้วที่สองเข้ามา ก็อึดอัดมากกว่าเดิม แต่เพิ่มเติมคือยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งเสียวมากขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้สะโพกของผมสั่นระริกอย่างไม่รู้ตัว แถมยังไม่รู้อีกด้วยว่า ผมได้ออกแรงดูดท่อนเนื้อในปากแรงและเร็วขึ้นตามจังหวะการขยับนิ้วของมันด้วย


“ซี้ดด ซี...” เสียงของไอ้เอสมันกระเส่าเขย่าอารมณ์เป็นบ้า ดูท่าทางมันคงจะใกล้เสร็จแล้ว เพราะส่วนนั้นของมันกระตุกเกร็งและขยายออกอีกจนคับปากของผม


“จะพอก่อนมั้ย” ในเวลาแบบนี้มันก็ยังมีกะใจนึกถึงผมเนอะ มันคงจะกลัวว่าผมจะรังเกียจล่ะมั้ง แต่ถ้าคิดอย่างนั้นผมก็ไม่ใช้ปากทำให้มันตั้งแต่แรกหรอก แถมพอเห็นมันรู้สึกดีผมก็รู้สึกมีอารมณ์ตามไปด้วยอีกต่างหาก


ดังนั้นนอกจากจะไม่หยุดผมยังอมท่อนเนื้อของมันให้ลึกขึ้น ขยับเข้าออกให้เร็วขึ้น ออกแรงดูดให้มากขึ้น แถมยังใช้ลิ้นดุนแล้วก็มือชักตรงส่วนโคนที่อมลงไปไม่ถึงด้วย เห็นผมบ้าๆ บอๆ แบบนี้แต่ผมก็ฉลาดและเป็นพวกเรียนรู้ไวนะ เพราะงั้นถึงจะพึ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่ผมก็มั่นใจว่าต้องทำให้ไอ้เอสรู้สึกดีแน่นอน


“ซี!” สิ้นเสียงนั้นไอ้เอสก็ปลดปล่อยออกมา ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วที่มันบอกว่าในสถานการณ์แบบนี้มีแต่จะต้องกลืนมันคือยังไง แล้วเอาจริงๆ รสชาติมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเอาไว้ ผมเลยกลืนมันลงไปโดยไม่รู้สึกผะอืดผะอม แถมพอกลืนเสร็จยังเลียริมฝีปากทิ้งท้ายอีกด้วย


ว่าแต่...ไอ้นั่นของมันที่เมื่อกี้เหมือนจะอ่อนลงแล้ว ทำไมจู่ๆ ถึงได้ดีดตัวขึ้นมาใหม่แล้วยังแข็งสุดๆ ด้วยวะเนี่ย!


“เพราะมึงนั่นแหละ” เหมือนมันจะเข้าใจความคิดของผมเลยพูดขึ้น ได้ยินแบบนี้ก็งงในงงเลยดิ เกี่ยวอะไรกับกูวะ


แต่ว่าผมก็ไม่มีโอกาสได้ถาม เพราะไอ้เอสมันจัดการดันผมให้นอนราบลงไปกับเตียงซะก่อน จากนั้นก็หยิบหมอนอีกใบมารองใต้สะโพกของผม ตามด้วยการแยกขาของผมออกจากกัน


“ดะ...เดี๋ยว!” นี่มันจะเข้ามาเลยหรอ! ขอเวลาเตรียมใจอีกนิดนึงก่อนได้มั้ย!


“ไม่เดี๋ยวแล้ว เป็นของกู...นะ” ไอ้สัสอย่ามาน้งมานะเซ่! ก็รู้อยู่ว่าพูดแบบนี้แล้วกูใจอ่อนทุกที ขี้โกงจริงๆ เลย


“ถ้าเจ็บมากกูฆ่ามึงแน่” จะให้ผมตอบว่า ‘อืม ได้สิ ทำให้กูเป็นของมึงนะ’ รึไง บอกเลยว่าไม่มีทาง!


“ถ้าเจ็บก็กัดกูได้เลย กัดให้แรงเท่าที่มึงเจ็บ”


“เดี๋ยวเนื้อมึงได้หลุดแน่” ก็ขู่ไปให้รู้สึกว่าตัวเองเก่งแค่นั้นแหละ เพราะความจริงแล้วผมมันกระจอกแล้วก็กำลังกลัวเอามากๆ


ตอนแรกผมก็คิดว่าไอ้เอสมันจะใส่เข้ามาเลย แต่ก็เปล่า เพราะมันเริ่มจากเล้าโลมผมอีกครั้ง โดยการพรมจูบลงไปตั้งแต่ซอกคอยังแผ่นอก ส่วนนิ้วมือก็ค่อยๆ สอดเข้ามาขยับหมุนวนในช่องทางด้านหลังอีกครั้ง การกระทำของมันช่วยทำให้ผมเลิกวิตกจริตไปได้เยอะ แถมยังเกิดความคิดที่ต้องการเป็นของมันอีกต่างหาก


“รักมึงนะซี” ผมก็ไม่แน่ใจว่าก่อนหน้านี้ไอ้เอสมันเคยพูดว่ารักผมมั้ย แต่ในสถานการณ์แบบนี้ บอกเลยว่ามันอิมแพคต่อใจมาก มากจนผมลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งความกังวล ความกลัว แล้วก็ความอาย


ไอ้เอสจับขาของผมให้แยกออกกว้างมากกว่าเดิม ก่อนจะเอาแก่นกายที่สวมถุงยางเรียบร้อย และชโลมเจลหล่อลื่นซ้ำอีกทีมาจ่อที่ปากทางเข้า มันยังคงไม่รีบร้อน แต่เอาส่วนปลายหมุนวนรอบๆ ก่อนเพื่อให้ผมคุ้นชินและเสียวซ่าน จนเมื่อคิดว่าผมน่าจะพร้อมแล้ว มันจึงได้ค่อยๆ กดแก่นกายแทรกเข้ามาช้าๆ


“อึ่ก!” ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แหงล่ะ ก็นี่มันครั้งแรกของผม แถมของไอ้เอสมันก็เล็กเหมือนของเด็กซะที่ไหน อันเท่าแขนเด็กล่ะสิไม่ว่า


แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่ผมคิดเอาไว้นะ คงเป็นเพราะมันขยายช่องทางของผมอยู่นานพอสมควร แถมยังใช้เจลหล่อลื่นกับข้างหลังของผม และตรงนั้นของมันไปจนเกือบจะหมดหลอดด้วย ตอนนี้ผมรู้สึกอึดอัดมากกว่ารู้สึกเจ็บซะอีก


“มึงโอเคมั้ย” ไอ้เอสถามด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล


“อื้อ...” ผมพยักหน้าแล้วสูดหายใจเข้าออกลึกๆ นึกถึงคำไอ้หลินที่มันเคยบอกว่าอย่าเกร็ง ให้ทำตัวตามสบาย ซึ่งมันก็ช่วยได้พอสมควร


“ขอโทษที่ทำให้เจ็บ” ไอ้เอสพูดจบก็ก้มหน้าลงมาจูบผม เป็นจูบเบาๆ ที่ราวกับจะปลอบโยน ก่อนจะค่อยๆ ไล่ระดับขึ้นเป็นดูดดื่มเพื่อปลุกเร้า ซึ่งผมก็ขยับริมฝีปากและปลายลิ้นตอบสนองเป็นอย่างดี


ส่วนมือของไอ้เอสก็ไม่ได้อยู่เฉย มันค่อยๆ ลูบตั้งแต่ต้นขาไล่ขึ้นมาจนถึงสะโพกแล้วก็หยุดอยู่ที่แผ่นอก ก่อนที่มันจะใช้นิ้วบีบขยี้ตรงส่วนยอดจนมันแข็งเป็นไต ความเสียวซ่านค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาสวนทางกับความเจ็บปวดที่ค่อยๆ เบาบางลง


“อืม...” ผมครางออกมาเล็กน้อยเมื่อไอ้เอสเริ่มขยับแก่นกายเข้าออก ถึงแม้จะยังอึดอัดแต่ว่าผมก็ไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปแล้ว แถมเมื่อช่องทางของผมชินกับขนาดอันใหญ่โตที่อยู่ข้างใน ความอึดอัดมันก็หายไปอย่างหมดสิ้น มีแต่คำว่ารู้สึกดีแล้วก็เสียวเท่านั้น


“ซี้ดด...อา...” ผมครางอย่างสุขสม ยิ่งไอ้เอสขยับสะโพกดันแก่นกายเข้าออกเร็วเท่าไหร่ ความเสียวซ่านมันก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งมันมากกว่าการใช้นิ้วไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า


แต่ทั้งที่คิดว่าความรู้สึกนี้คือที่สุดแล้ว เพราะผมคิดไม่ออกเลยว่าจะเสียวมากกว่านี้ได้ยังไงอีก แต่ทันทีที่แก่นกายไอ้เอสขยับเข้ามาโดนจุดๆ หนึ่ง ความเสียวอย่างรุนแรงก็เล่นพล่านขึ้นมาทันที


“อ๊า!” ผมหวีดร้องลั่น สะโพกสั่นระริก ส่วนช่องทางด้านหลังก็บีบรัดท่อนเนื้อของไอ้เอสแน่นจนมันถึงกับหลุดเสียงครางออกมา


“อา! ตรงนี้สินะ...” ผมไม่ได้ยินว่ามันพึมพำอะไรเลยกะจะถาม แต่ก็ไม่ทันแล้ว เสียงของผมที่เปล่งออกไปกลายเป็นเสียงหวีดร้องแทน เพราะไอ้เอสมันถอนแก่นกายออกไปจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามาใหม่ที่จุดๆ นั้น


“อ๊า! อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า...” แล้วก็ไม่ใช่ครั้งเดียวเพราะมันทำซ้ำๆ แก่นกายของมันกระแทกกระทั้นตรงจุดนั้นจุดเดียว ความเสียวซ่านที่ได้รับทำเอาผมแทบดิ้นพล่าน ร่างกายบิดเร่าส่วนสะโพกก็ลอยเด้งขึ้นจากหมอน ช่องทางด้านหลังตอดรัดแก่นกายที่อยู่ข้างในถี่ยิบอย่างควบคุมไม่ได้


“ซี...” ไอ้เอสกัดริมฝีปากล่าง ดูท่าทางคงกำลังเสียวไม่น้อยไปกว่าผม


“อ๊ะ...เอส...กูจะ...อ๊า...เสร็จ...อีกแล้ว...อ๊า...” ผมพูดแทบไม่เป็นภาษา นั่นเป็นเพราะว่าความเสียวแล้วก็ร่างกายกำลังถูกกระแทกจนสั่นไหว ยังดีที่ไอ้เอสแปลออก เลยเลื่อนฝ่ามือมากอบกุมแก่นกายของผมแล้วชักขึ้นลง โดยที่ท่อนเนื้อของมันก็ไม่ได้หยุดกระแทกเข้าออกที่ช่องทางด้านหลังของผมเลย


“อ๊ะ...อ๊าาาาา!” ผมที่โดนทำถึงขนาดนั้นก็ทนต่อความเสียวไม่ไหว จึงได้กรีดร้องจนสุดเสียงแล้วก็ปลดปล่อยออกมาอีกเป็นครั้งที่ 2


ผมหอบหายใจอย่างหนัก ตลอดชีวิตไม่เคยเสร็จติดต่อกันแบบนี้ แต่เห็นทีคืนนี้คงไม่ใช่แค่ 2 มีแววว่าจะ 3 มากกว่า เพราะเมื่อกี้ไอ้เอสมันไม่ได้เสร็จไปพร้อมกับผม!


แม่ง! ทำไมถึงได้อึดจังวะ!


“จะ...ใจเย็นนะมึง กูยังไม่อยากมองเห็นฟ้าเป็นสีเหลือง” ผมทำได้แค่อ้อนวอนเพราะไม่มีแรงขัดขืนเลย เมื่อถูกไอ้เอสจับตัวให้พลิกคว่ำทั้งที่มันยังเสียบคาอยู่!


“ก็แปลกใหม่ดีนี่”


“ดีออกล่ะสิ...อื้อ! อย่าพึ่ง...ขยับ...” แล้วจากเสียงด่าก็กลายเป็นเสียงคราง เมื่อไอ้เอสมันเริ่มขยับแก่นกายที่ฝังอยู่ข้างในเข้าออกโดยเริ่มจากช้าๆ


“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า กูไม่รุนแรงตั้งแต่เริ่มหรอก”


“ประเด็นมัน...อื้ม...ไม่ได้อยู่...อา...ที่ตรงนั้น...” เริ่มจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วผม ความเสียวซ่านที่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งมันทำให้สมองของผมขาวโพลน คิดอะไรไม่ออกนอกจากความสุขสมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


แล้วก็ไม่ใช่แค่สะโพกของมันที่โยกเข้าออก เพราะสองมือของมันได้ลูบไล้ที่แผ่นหลังของผม ตลอดจนสีข้าง จากนั้นก็ไปหยุดอยู่ที่แผ่นอกแล้วบีบขยี้ส่วนยอดจนมันแข็งเป็นไต สะโพกของไอ้เอสเร่งความเร็วขึ้นนิดหน่อย แต่ตอนที่แทรกกายเข้ามาก็กดแบบเน้นๆ ให้ผมเสียวเล่นอีกด้วย


“ซี้ดด...” ความเหนื่อยคืออะไรตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว ร่างกายมันตอบสนองและต้องการไอ้เอสเพียงแค่อย่างเดียว คือมันโยกเอวช้าๆ กดเน้นๆ แบบนี้ก็รู้สึกเสียวดีอยู่นะ แต่ตอนนี้ผมอยากให้มันทำแบบเร็วๆแล้วก็แรงๆ มากกว่า


ซึ่งก็ดีที่มันเข้าใจ ผมเลยไม่ต้องพูดออกไปให้รู้สึกอับอาย เพราะแค่ท่าที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้มันก็น่าอายมากพออยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ต้องยอมรับจริงๆ ว่าท่านี้มันทำให้ไอ้เอสเข้ามาได้ลึกมากๆ มากจนผมรู้สึกจุก แต่ก็เสียวสุดๆ จนน้ำตาแทบไหล ยิ่งถูกมันล็อกที่สะโพกเอาไว้แล้วกระแทกแก่นกายเข้ามาอย่างสุดแรงด้วยนะ...


“อ๊า! อ๊าา!” เสียวจนแทบตายเป็นยังไงผมก็พึ่งรู้จักวันนี้นี่เอง ก็จะไม่ให้รู้สึกแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อไอ้เอสมันกระแทกกระทั้นแก่นกายเข้ามาอย่างรุนแรงไม่มีปราณี แถมยังซอยเอวถี่ๆ เน้นย้ำที่ตรงจุดเสียวของผมซ้ำๆ นี่มันกะจะฆ่าผมให้ตายด้วยเซ็กส์เลยใช่มั้ย!


   “อ๊ะ...เอส...อ๊า...ไอ้เอส!”


“ซี...” แต่ก็คงไม่ใช่แค่ผมหรอกที่เสียวจนแทบตาย เพราะไอ้เอสก็คงไม่ต่างกัน เพราะช่องทางด้านหลังของผมได้กระตุกตอดท่อนเนื้อของมันอย่างรุนแรง แถมคงจะดูดกลืนจนมันแทบจะแตก ไม่อย่างนั้นคงไม่กระแทกเข้าออกรัวๆ ขนาดนี้


 “อืม...กูจะเสร็จแล้ว...” ไอ้เอสครางซี้ดก่อนที่จะพูดออกมา จากนั้นก็ดึงตัวผมให้ลุกขึ้นแล้วหันหน้าไปรับจูบอันดูดดื่มจากมัน โดยที่สะโพกของมันก็ไม่ได้หยุดขยับเลย ซ้ำยังกระแทกด้วยความแรงและเร็วขึ้นมากกว่าเดิมอีกต่างหาก


แต่ความเสียวที่ผมได้รับยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะไอ้เอสได้เอื้อมมือข้างหนึ่งมาชักที่ส่วนกลางลำตัวของผมด้วย เมื่อถูกรุกจัดหนักทั้งหน้าและหลังรวมถึงปากขนาดนี้ ผมก็ทนต่อความเสียวไม่ไหวอีกต่อไปน่ะสิ


“อือ...อื้ม...อึ่ก! อื้ออออ!” สิ้นเสียงนั้นผมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นจังหวะที่แทบจะพร้อมๆ กันกับเอส


แต่ถึงจะเสร็จแล้วมันก็ยังคงค้างเอาไว้ไม่ยอมถอนแก่นกายออกมา แถมยังโยกสะโพกเข้าออกช้าๆ แต่ก็ไม่ใช่เพื่อปลุกเร้าผมหรอก น่าจะอยากซึมซับความรู้สึกนี้เอาไว้มากกว่า ต่างจากผมที่เหนื่อยสุดๆ จนไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว


ถามว่าตอนนี้ผมเหนื่อยแค่ไหน?


ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เอาเป็นว่าขอตอบเป็นบทเพลงก็แล้วกัน...


~ ฉันเหมือนคนไม่มีกำลังและหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป


ฉันเหมือนคนกำลังจะตายที่ขาดอากาศจะหายใจ


ฉันเป็นคนที่โดนเธอแทงข้างหลังแล้วมันก็จุกถึงหัวใจ


เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร


ไม่มี...อีกแล้ว...เรี่ยวแรง...ไม่มีเหลือสักอย่าง...


อยากนอน...~


2BC


 :m25: เฮือก! สะ...สวัสดีค่ะคุณคน เป็นยังไงกันบ้างคะ ยังมีชีวิตกันอยู่มั้ย เลือดไหลหมดตัวแล้วรึยัง ส่วนเรานี่ใกล้สู่ขิตแล้ววววว  :jul1:

ไหนๆก็ผ่านมาตั้ง 20 ตอนพึ่งจะมี NC แบบเต็มๆแบบครั้งแรก เราก็เลยเซอร์วิสจัดหนักให้ไปเลย แต่เนื่องจากเราห่างหายการเขียน NC ไปนาน ก็ไม่รู้ว่าจะฟินจะถูกใจกันมั้ย แหะๆ  :mew2:

อีกอย่างนี่ก็เป็นเรื่องแรกเลยมั้งที่เราแทรกความฮานิดๆลงไปใน NC ด้วย ถ้าหากชื่นชอบกันก็จะดีใจมากๆเลยค่ะ  o18 ยังไงก็คอมเมนท์บอกกันหน่อยน้า รอฟี้ดแบคอยู่นะคะ ร้ากกกก  :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ฟหกด่าสว ฟินม๊ากกกกกกกก  :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
Soulmate วิญญาณป่วนรัก


Part 21# Z ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ


เมื่อคืนผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าหลับไปตอนไหน แต่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ล่อซะเกือบเที่ยง นอนนานเหมือนซ้อมตาย แต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ผมฟื้นพลังขึ้นมาก ยังคงรู้สึกเหนื่อยเหมือนเดิม แถมยังปวดเมื่อยตามเนื้อตัวอีกต่างหาก


“อูยยย” ยิ่งพอลุกขึ้นนะก็ถึงกับต้องนิ่วหน้า สะโพกครากไปดิกู ตอนดึกอย่างห้าวตอนเช้าอย่างเหี้ย ไม่น่าซ่าไปชวนไอ้เอสทำเล้ยยยย กูอยากจะบ้า!


ว่าแต่ไอ้ตัวการมันหายหัวไปไหน คงไม่ใช่ว่าพอได้ผมแล้วก็จะทิ้งทันทีเลยนะ แล้วคนที่บ้านก็เหมือนกันทำไมไม่เห็นมีใครมาปลุกผมเลย วันนี้เป็นวันเสาร์ก็ต้องหยุดอยู่บ้านกันทุกคนสิ


ซึ่งขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั่นเอง ไอ้เอสมันก็เปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี


“ตื่นแล้วหรอ กูกำลังจะเข้ามาปลุกเลย แม่ทำข้าวเที่ยงใกล้เสร็จแล้ว” มันทักผมอย่างสดใส ใบหน้าอิ่มเอิบเปล่งประกายดูมีออร่า ผิดกับผมที่ตรงข้ามกับมันราวฟ้ากับเหว


พระเจ้าแม่งโคตรไม่ยุติธรรม!


“ไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้หน่อย” ก็อยากจะด่าหรือแขวะมันอยู่หรอกนะ แต่ผมไม่กล้าสบตามันอะ ก็ดูดิ มันเอาแต่จ้องผมแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่น


“จะอาบน้ำหรอ เดินไหวรึเปล่า ให้กูอาบให้มั้ย” ดูท่าทางมันจะเป็นห่วงผมอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ยิ่งมันเป็นแบบนี้ผมก็ยิ่งเขินเข้าไปใหญ่น่ะสิ


“กูไม่ได้เป็นง่อยนะเว่ย ไปเอามาเหอะน่า” แล้วผมก็ใช้มือดันร่างของไอ้เอสออกไป มันเลยต้องเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ผมอย่างช่วยไม่ได้


“ถ้าไม่ไหวต้องเรียกกูเลยนะ” ผมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ


ก็โล่งใจอยู่หรอกนะ ที่หลังจากมีอะไรกันแล้วมันก็ไม่ได้ทิ้งผมหรือตีตัวออกห่าง แต่การที่มันดูแลเอาใจใส่ผมมากเกินไป อันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าที่มันทำเป็นเรื่องที่ไม่ดีนะ คือมันก็ดีแหละ แต่ว่าผมรู้สึกอึดอัดนิดๆ มากกว่า


ผมใช้เวลาอาบน้ำสักพักก็เดินออกมา ตอนแรกไอ้เอสก็ทำท่าจะเข้ามาประคอง แต่ผมก็ถลึงตาใส่ให้มันนั่งอยู่กับที่ แล้วหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ผมจึงได้ลงมานั่งจับเข่าคุยกับมัน


“มึงจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ย”


“แบบไหน” ไอ้เอสทำหน้างง



“ก็แบบที่เป็นอยู่นี่ไง ที่แทบจะอุ้มกูไปไหนมาไหน ทำเหมือนกูง่อยเปลี้ยเสียขาอะสัส”


“ก็คงเป็นไปตลอด มึงเป็นเมียกูแล้วกูก็ต้องดูแลสิ” ให้ตาย! นี่ผมควรจะดีใจหรือกลุ้มใจดีวะเนี่ย คือมันทำตัวเหมือนผมสมัยม.ต้นที่พึ่งมีแฟนครั้งแรกเลยอะ


เห่อแฟนขั้นสุด!


“มึงฟังกูนะไอ้เอส ถึงกูจะเป็น...เฮ้อออ ไม่อยากจะพูดคำนี้เล้ยยย”


“คำไหน เมียน่ะหรอ”


“สัส! มึงนี่ก็พูดได้คล่องปากเชียวนะ” ผมแยกเขี้ยวใส่ ส่วนไอ้เอสก็เอาแต่อมยิ้ม


“พูดบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน” ดู๊...ดูมัน คำพูดคำจาแม่งโคตรน่าโมโห แต่เอาเถอะ ผมขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับมันแล้ว เข้าเรื่องสำคัญที่ผมอยากจะพูดเลยดีกว่า


“เออ ถึงกูจะเป็นเมียมึงแต่กูก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะเว่ย กูไม่ได้บอบบาง น่าปกป้อง น่าทะนุถนอมแบบนั้นมึงนึกออกมั้ย คือกูเป็นผู้ชาย แข็งแรงพอ ดูแลตัวเองได้ เพราะงั้นมึงไม่ต้องดูแลเอาใจใส่กูขนาดนั้น เคยเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น ทำตัวเหมือนเดิมเลยอะมึง อยู่ด้วยกันแบบเพื่อนแต่สถานะแฟน โอเค้?” ในตอนแรกไอ้เอสก็ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่พอฟังผมอธิบายจนจบมันก็พยักหน้าลง


“โอเค”


“มีอีกเรื่อง ต่อหน้าคนอื่นมึงก็อย่าแสดงออกเด็ดขาดล่ะว่าเราเป็นอะไรกัน กับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทไม่เท่าไหร่หรอก แต่กับคนอื่นนี่ไม่ได้เลยนะ อย่าลืมนะเว่ยว่ามึงเป็นดารา” พอพูดถึงตรงนี้ไอ้เอสมันก็ทำหน้าเซ็งหน่อยๆ แต่ก็ยอมรับปากแต่โดยดี


“อืม”


“ที่กูพูดไม่ใช่ว่ากูไม่ได้รักมึงนะเว่ย แต่เพราะรักนี่แหละถึงได้พูด กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าถ้าจะคบใครสักคนกูก็อยากจะคบไปนานๆ การที่กูบอกให้ปิดความสัมพันธ์เอาไว้ก็ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อเรา ส่วนถ้าอยู่กันสองต่อสอง...” ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่ปากของไอ้เอสหนึ่งที มันคงไม่คิดว่าผมจะทำแบบนี้เลยอึ้งกิมกี่ไปเลย


ส่วนผมก็ไม่ใช่ว่าไม่เขินนะ คือเขินมากกกกก แต่ผมเห็นไอ้เอสทำหน้านอยด์ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันจะคิดว่าผมไม่ได้รักไม่ได้แคร์มันรึเปล่า เพราะงั้นผมก็เลยต้องแสดงให้มันดูสักหน่อย


“อย่าเงียบดิวะ เวลาแบบนี้มึงชอบเงียบทุกทีเลย” ผมเสหน้าไปทางอื่น ไม่กล้าสบตามันเท่าไหร่เพราะยังเขินอยู่


“ก็มึงชอบทำอะไรนอกเหนือความคาดหมายทุกที” พูดถึงตรงนี้ไอ้เอสก็ยื่นวงแขนมากอดเอวของผม แล้วเกยคางวางไว้ที่ไหล่ของผมด้วย “ความจริงกูก็รู้อยู่นะว่าต่อหน้าคนอื่นต้องวางตัวยังไง แต่กูกลัวมึงน้อยใจหรือคิดมากว่ากูไม่รัก”


“เห็นกูเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นเลยรึไง”


“ก็เพราะไม่นี่แหละกูถึงได้รักมึง ขอบคุณที่เข้าใจกูนะ” แล้วมันก็หอมแก้มผมฟอดหนึ่ง แต่หอมมาหอมกลับไม่โกงครัช!


ตอนแรกมันก็อึ้งๆ นะที่ผมหอมมันคืน แต่หลังจากนั้นก็ไม่รู้มันของขึ้นอะไร ถึงได้จับผมฟัดจนหน้าแทบช้ำ นี่ถ้ายัยเอไม่เข้ามาขัดจังหวะเผลอๆ ผมอาจจะถูกมันจับกินก็ได้นะเนี่ย


“อะแฮ่ม! แม่เรียกลงไปกินข้าวแล้วพี่ซีพี่เอส” ถามว่าอายมั้ยก็ต้องอายสิ ผมนี่รีบดันไอ้เอสออกแล้วรีบลุกขึ้นไปยืนจนเกือบมุมห้อง


“โอเค เดี๋ยวพี่รีบลงไป” ยัยเอพยักหน้าแล้วเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าของมันอะ คือแซวหนักมากจนผมอยากจะแพ่นกบาลไอ้เอสให้แหกแม่งซะตรงนี้


“มึงนะมึง” ผมชี้หน้ามัน


“ก็ใครจะไปรู้ว่าน้องมึงจะขึ้นมา”


“อย่างน้อยๆ ก็ล็อกห้องไว้หน่อยดิวะ”


“งั้นคราวหน้าจะล็อกแล้วกัน”


“โว้ย! มึงนี่มันกวนตีนจริงๆ!” ผมแยกเขี้ยวใส่ หมดคำจะด่าเลยแม่ง “ว่าแต่มึงบอกอะไรแม่กู ปกติ 7 – 8 โมงถ้าไม่ตื่นก็ต้องขึ้นมาปลุกแล้ว แต่นี่ปล่อยให้กูนอนยาวยันเที่ยง”


“ก็แค่บอกว่ามึง ‘ทำการบ้าน’ เหนื่อย ต้องการพักผ่อน” โอ้โห! มีเล่นหูเล่นตาเน้นสงเน้นเสียง!


“สัส! นี่อย่าบอกนะว่ามึงทำแบบนี้ตอนบอกแม่กู!” ง้างกำปั้นรอแล้วผม ดีที่มันรีบส่ายหน้าปฏิเสธ


“ใครจะกล้า ขืนบอกแบบนั้นกูคงโดนมึงฆ่าตาย”


“รู้ตัวก็ดี ไงก็อย่าหลุดพูดนะมึง” ผมชี้หน้าคาดโทษมัน ก่อนจะเดินนำลงมาข้างล่าง ซึ่งก็เห็นพ่อ แม่ แล้วก็ยัยเอนั่งรอที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว


“แหะๆ ขอโทษคร้าบที่ลงมาช้า”


“เอาเถอะ ก็ทำการบ้านจนดึกนี่ แต่แปลกนะ มหา’ลัยแล้วก็ยังมีการบ้านช่วงปิดเทอมอีก” สะอึกไปดิเจอคุณนายแม่ถามแบบนี้ แต่จะให้ตอบความจริงก็ไม่ได้ มีแต่ต้องแถต่อไปให้สุดเท่านั้นแหละ


“มันเป็นวิชาคาบเกี่ยวชั้นปีกันอะครับ สมัยแม่คงไม่มีใช่มั้ยล่ะ รุ่นโบราณก็งี้แหละ”


“ไอ้ลูกคนนี้นี่!” แล้วแผนเบี่ยงเบนความสนใจของผมก็สำเร็จ เพราะคุณนายแม่ของขึ้นที่ถูกหาว่าแก่ เลยยื่นมือมาบิดเอวผมอย่างแรงจนเนื้อแทบเขียว


“โอ๊ยยยย ผมเจ็บน้าาาา” ก็แกล้งร้องโวยวายเล่นใหญ่ให้เกินจริง แต่ก็ถือว่าการลงทุนเจ็บตัวมันก็ได้ผลนะ เพราะแม่เลิกสนใจเรื่องที่ผม ‘ทำการบ้าน’ จนนอนดึกไปเลย


เมื่อหมดเรื่องราวอันวุ่นวายก็ได้เวลากินข้าวกันสักที แต่ละคนก็กินกันปกติ ยกเว้นผมที่พอได้เริ่มกินคำแรกก็ซัดจัดหนักเลย แบบว่ามันหิวโหยอะ พอนับๆ ดูก็ 16 – 17 ชั่วโมงแล้วนะที่ผมไม่มีอะไรตกถึงท้อง เพราะงั้นก็ไม่แปลกหรอกที่ผมจะกินเหมือนคนตายอดตายอยากขนาดนี้


“เออใช่ แม่ครับ พรุ่งนี้ไอ้เอสมันต้องกลับกรุงเทพแล้ว มะรืนมันมีงาน ผมเลยว่าจะกลับไปพร้อมมันด้วย” ผมพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จ ตอนแรกก็แอบหวั่นๆ อยู่ว่าจะโดนบ่นอะไรมั้ย แต่ก็ปรากฏว่าไม่


“เรื่องนั้นเอสบอกแม่แล้ว เห็นบอกว่าจะกลับตอนเช้า วันนี้แม่ก็เลยจะพาไปกราบหลวงตา ให้พรุ่งนี้พวกลูกเดินทางกลับปลอดภัย”


“อ๋อ ก็ดีครับ ผมก็อยากทำบุญให้เพื่อนผมพอดี” ไม่รู้ทำไมผมถึงได้นึกถึงไอ้เต้ยขึ้นมา ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย ไปเกิดแล้วรึยัง


“งั้นไปซื้อของให้เต้ยกันมั้ยล่ะ” ผมก็แปลกใจอยู่หรอกนะว่าทำไมไอ้เอสถึงได้เอ่ยปากชวน แต่คิดไปคิดมามันคงอยู่ในช่วงเห่อแฟน ก็เลยอยากตามใจผมทุกสิ่งอย่างอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง


“ก็ดี งั้นไปช็อปปิ้งกัน เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงค่อยเจอกันที่วัดนะครับแม่”


“จ้า”


แล้วหลังจากนั้นผมก็บอกพิกัดห้างฯ หนึ่งเดียวของคนชาววัง ซึ่งนั่นก็คือเทสโก้โลตัสนั่นเอง มีแบบเล็กแล้วจะไม่มีแบบใหญ่ได้ยังไง อันที่จริงผมชอบมาเดินที่นี่มากเลยนะ ผิดกับชาววังที่จะไม่ค่อยชอบกัน แถมบางส่วนยังแอนตี้ตั้งแต่มีข่าวว่าจะสร้างเลยด้วย แต่ก็ดีแล้วล่ะ คนจะได้ไม่มาห้อมล้อมไอ้เอสมาก นี่ยังหลอนวันนั้นที่มันทำตลาดแตกไม่หายเลยเนี่ย


“รอแป๊บนึงกูขอไปกดตังก่อน” ผมพูดเมื่อเดินมาถึงทางเข้า ตรงนี้มีตู้กดเงินหลายแบงก์เรียงกันเป็นตับเลย แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาไปไอ้เอสก็ยื่นมือมาจับที่แขนของผมเอาไว้ซะก่อน


“เดี๋ยวกูจ่ายให้”


“แล้วทำไมกูต้องให้มึงจ่าย” ของฟรีใครก็ชอบอันนี้ผมไม่เถียง แต่ถ้าจะให้มันเลี้ยงทุกอย่างในชีวิตอันนี้ก็ไม่ใช่ละ ผมเป็นแฟนมันนะไม่ใช่ปลิง


“อย่าทำคิ้วขมวดสิ หลายวันนี้มึงทำอะไรให้กูมาเยอะแล้ว กูเลยอยากตอบแทนมึงบ้าง ให้กูดูแลมึงนะ”


“อืม...เหตุผลก็พอฟังได้” ถึงส่วนใหญ่ผมจะใช้มันเยี่ยงแรงงานทาสก็เถอะ แต่ผมก็ทำอะไรให้มันเยอะอยู่นะ โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืน...


“จู่ๆ ทำไมหน้าแดง”


“หะ...หา!” ถึงกับรีบยกสองมือมาปิดแก้มเลยดิผม “กะ...ก็อากาศมันร้อน! พระอาทิตย์อยู่กลางกบาลเลยเนี่ยเห็นมั้ย!”


“โอเค แดดร้อนก็แดดร้อน” ไอ้เอสพูดยิ้มๆ ดูจากสีหน้าแม่งมันไม่ได้เชื่อผมเลยสักนิด หนอย...


“สรุปคือมึงจะจ่ายค่าช็อปปิ้งให้กูใช่มั้ย”


“ใช่”


“เดี๋ยวจะช็อปแหลกจนมึงหมดตัวเลยคอยดู” แต่ทั้งที่ผมขู่เสียงเหี้ยมขนาดนี้ ไอ้เอสมันกลับอมยิ้มแล้วพูดจาเลี่ยนๆ ออกมาว่า...


“ถ้าเป็นมึงกูยอม”


“แหวะ!” พูดจบผมก็รีบเดินหนีเข้าไปในโลตัสเลย รับไม่ได้จริงๆ ที่มันกล้าพูดอะไรแบบนี้ ว่าแต่...แล้วนี่ผมจะยิ้มทำไมฟะ!


ไม่ได้ๆ ตั้งสติหน่อยดิไอ้ซี มึงจะมาเขินกับไอ้มุกเสี่ยวๆ 5 บาท 10 บาทนี่ทำไม แถมตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาจะมาเขินด้วย นู่นนนน ขนมที่ไอ้เต้ยชอบไง นั่นก็ของที่มันเคยอยากได้ โน่นก็เสื้อผ้าสไตล์ที่มันชอบใส่ รีบเดินไปหยิบเร็วๆ เข้าเซ่!


บอกเลยว่าถ้าจ่ายเองนี่มีกระเป๋าแห้ง เพราะเห็นของอะไรแล้วนึกถึงไอ้เต้ยผมก็หยิบๆๆ มาใส่รถเข็น แถมไอ้เอสก็ไม่มีห้ามด้วยนะ ชี้มือถามอีกด้วยซ้ำว่าเอานู่นนั่นนี่เพิ่มด้วยมั้ย


“โอ้โห! พวกพี่ซื้อของอะไรมาเยอะแยะเนี่ย” ยัยเอถึงกับตาโต เมื่อเห็นว่าผมกับไอ้เอสพากันหิ้วสองถุงใหญ่ๆ ออกมาจากรถ ตอนนี้พวกเราทั้งหมดพากันอยู่ที่วัดเรียบร้อยแล้ว


“ของที่เพื่อนพี่ชอบไง”


“แล้วแน่ใจได้ไงว่าเพื่อนพี่ซีจะได้รับ”


“ต้องได้สิ ขนาดกรวดน้ำไปให้เจ้ากรรมนายเวรยังได้รับเลยนี่นา” มั้งนะ ฮ่าๆๆ


อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้เต้ยมันจะได้รับมั้ย แต่ผมก็เชื่อว่ามันจะได้ เพราะงั้นผมก็เลยตั้งใจเลือกแต่ของที่มันชอบมาทั้งนั้น แล้วตอนที่ถวายหลวงพ่อ ผมก็ตั้งใจอธิษฐานเพื่อให้ของพวกนี้ส่งไปถึงมันด้วย ซึ่งไอ้เอสก็เช่นเดียวกัน แถมมันยังหลับตาแล้วพนมมืออธิษฐานนานกว่าผมนิดหน่อยอีกต่างหาก


กลับมาถึงบ้านอีกทีก็ช่วงเย็นๆ สภาพคนอื่นก็ปกติกันนะ แต่ผมนี่สิที่หมดแรงจนต้องทิ้งตัวลงนอนกับโซฟาไปเลย แถมยังปวดเมื่อยเนื้อตัวโดยเฉพาะช่วงสะโพกอีกด้วย ดีนะที่พอรับศีลรับพรกับหลวงพ่อเสร็จก็ไม่ได้ไปไหนต่อ ไม่อย่างนั้นผมคงได้ขาลากสะโพกครากกว่านี้แน่ๆ


“ซี ไปเก็บพริกที่สวนให้แม่หน่อย” ให้ตาย นอนพักได้ไม่เท่าไหร่คุณนายแม่ก็ใช้งานผมซะแล้ว


“ไปเก็บให้กูหน่อยดิ” แต่คิดเรอะว่าผมจะไป ของมันแน่ว่าก็ต้องใช้งานไอ้เอสที่เป็นตัวการทำให้ขาของผมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว


“อืม มึงพักเถอะ” ว่าง่ายเชียวนะมัน ก็อยากจะชมอยู่หรอกว่าน่าร้าก แต่ก็กลัวทำตัวไม่ถูกเพราะต้องโดนยัยเอแซวแน่ๆ ส่วนคุณนายแม่ก็ถลึงตาใส่ผมใหญ่ที่ไปใช้งานลูกเขยสุดที่รัก


กับข้าวค่ำนี้ก็ทั่วไปไม่มีอะไรมาก ซึ่งหลังจากที่กินเสร็จผมก็ขอตัวขึ้นห้องมาจัดกระเป๋า เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพแต่เช้า แล้วด้วยความเพลีย ผมก็เลยไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเลย


“บอกไว้ก่อนนะเว่ยว่ากูเหนื่อยมากกกกกก คืนนี้ห้ามทำอะไรกูเด็ดขาด” ผมชี้หน้าไอ้เอส เมื่อมันปีนขึ้นมานอนบนเตียงหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ


“กูก็ไม่ได้บอกว่าจะทำนี่” มันหัวเราะเล็กน้อย ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย


“ก็ดีที่คิดได้”


“แต่พรุ่งนี้มึงไม่รอดแน่” ไอ้ฉิบหาย! มึงปล่อยให้กูโล่งใจได้แค่ 3 วิเองหรอวะ!


“ไอ้...”


“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” พูดจบมันก็กอดผมเอาไว้ ตามด้วยการจุ๊บเหม่งเบาๆ อีกหนึ่งที


ตัดบทเก่ง ชอบทำให้เขินเก่ง เรื่องแบบนี้นี่เก่งนักแหละ!


“เออ ฝันดี” แล้วหลังจากนั้นผมก็นอนหลับในอ้อมกอดของมันทั้งคืน...


ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนเช้า ซึ่งสิ่งแรกที่ผมมองเห็นก็คือใบหน้าของไอ้เอสที่กำลังยิ้มบางๆ ท่าทางมันคงจะตื่นก่อนผมสักพักแล้ว


“อรุณสวัสดิ์”


“อืม เหมือนกัน”


การที่ตื่นมาแล้วมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง กล่าวทักทาย รวมทั้งจูบเบาๆ เพื่อแสดงความรัก มันทำให้หัวใจพองโตแล้วก็มีความสุขจนแทบล้น ผมคิดว่าผมเริ่มจะคิดภาพการที่ต้องนอนคนเดียวไม่ออกซะแล้วสิ


“ตั้งแต่พรุ่งนี้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องกูนะ” น่าแปลกที่ไอ้เอสก็คิดเหมือนกัน แต่ถ้าตอบตกลงทันทีมันจะง่ายเกินไปมั้ยนะ หรือต้องเล่นตัวก่อนสักหน่อยดี?


“ยิ้มแบบนี้แสดงว่าเป็นอันตกลงนะ” บ้าจริง! นี่ผมกำลังยิ้มอยู่หรอ!


“อย่าขี้ตู่เอาเองดิวะ” ยัง...ยังไม่หยุดยิ้มอีก!


“รีบกลับกันเลยดีมั้ย จะได้มีเวลาย้ายข้าวของ”


“เอางั้นก็ได้” โว้ย! อะไรของกูเนี่ย! จะไปไหลตามน้ำมันทำไม!


สรุปก็ตามนั้นแหละครับ พอกลับถึงกรุงเทพผมก็ต้องขนข้าวของไปอยู่กับไอ้เอสที่ห้องตามระเบียบ แน่นอนว่าก็ต้องถูกไอ้พวกเพื่อนเวรแซวยับเช่นกัน แต่ผมก็ทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วแหละเลยไม่ค่อยอายมาก แถมยังใช้งานพวกมันให้มาช่วยขนข้าวของด้วยเลย


เนื่องจากมีแรงงานทาสหลายคน การขนย้ายข้าวของก็เลยเสร็จอย่างรวดเร็ว รวมกับที่จัดให้เข้าที่ก็ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่ก็นะ ข้าวของของผมมันก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก บางอย่างที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็ยังทิ้งไว้ในห้องเดิม ซึ่งพอจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว...


“งานฉลองขึ้นห้องใหม่ของไอ้ซีต้องมาแล้วว่ะ!”


ว้อท? งานฉลองขึ้นห้องใหม่มีที่ไหนผมไม่เห็นจะเคยได้ยิน แถมมันยังทำเหมือนกับว่าผมย้ายไปไหนไกล ห้องเดิมกับห้องใหม่ก็อยู่บ้านเดียวกัน ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นเอง


“งั้นกูเป็นเจ้ามือเอง” สายเปย์แบบนี้จะเป็นใครถ้าไม่ใช่ไอ้เอส คือไอ้พวกเพื่อนผมมันหาเรื่องแดกเหล้านี่ไม่แปลกเท่าไหร่นะ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปด้วยอีกคน


“อู้ววววว ขอให้เจริญๆ นะพ่อเอ๊ย” เรื่องเลียแข้งเลียขานี่ไว้ใจไอ้เก่งได้เลย


ถามว่าหลังจากนั้นเป็นไง?


โอ้โห...เมาเละเทะสิครับพี่น้อง!


คือแรกๆ ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอคุยไปคุยมาคอเริ่มแห้งก็ยกแก้วขึ้นดื่มเรื่อยๆ ยิ่งคุยกันถูกคอมากเท่าไหร่เหล้ามันก็ยิ่งอร่อยมากเท่านั้น ซึ่งยังไม่ทันข้ามวันผมก็เมาอย่างหนักจนจำอะไรไม่ได้ เมื่อคืนงานเลิกตอนไหน ผมขึ้นห้องมาได้ยังไงก็ยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ


ว่าแต่...ทำไมตอนนี้ผมถึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยล่ะ ไอ้เอสที่ยังนอนอยู่ข้างๆ ก็ไม่ได้ใส่เหมือนกัน แถมตามเนื้อตัวของมันก็มีแต่รอยแดงเป็นจ้ำอย่างกับรอยจูบ


ส่วนตามเนื้อตัวของผมเท่าที่ดูก็ไม่มีรอยอะไร อ๊ะไม่สิ มีคราบอะไรสักอย่างที่แห้งติดตามตัวอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่มาก แค่นิดหน่อยเท่านั้นเหมือนว่ามันถูกเช็ดออกไปแล้ว แถมช่วงขาก็เป็นสั่นๆ ช่วงสะโพกกับด้านหลังก็รู้สึกระบมด้วย


นี่เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น?


ผมทำอะไรลงไปหรือว่าโดนไอ้เอสทำอะไรวะเนี่ย!?


2BC


 :m9: สวัสดีค่า หายไปนานเลย แหะๆ แบบว่าตจว.มันหนาวมากกกก  :freeze: แคปไว้ต่ำสุดคือ 8 องศา เล่นเอามือไม้แข็งพิมพ์อะไรแทบไม่ได้ ใส่ถุงมือก็พิมพ์ไม่ถนัด ฮืออออ ยังไงก็ต้องขอโทษที่มาอัพช้าด้วยนะคะ  :m5:

มาพูดถึงตอนนี้กันบ้างดีกว่า ก็หวานๆตามสไตล์ข้าวใหม่ปลามัน (อิจฉาตาร้อน) ว่าแต่ตอนเลี้ยงฉลองมีใครเดาออกมั้ยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตื่นมาซีอยู่ในสภาพนั้น ท่าทางน่าจะเมาหนัก 55555  :laugh:

แต่ถ้าเดาอะไรไม่ออกก็มารอเฉลยตอนหน้าแล้วกันเนอะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ฝากติดตามกันต่อด้วยนะค้าาา  :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
หูววววว. ไวไฟนะจ๊ะน้องซี แปปๆ ย้ายไปอยู่ด้วยกันแระ   o18

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
Soulmate วิญญาณป่วนรัก


Part 22# S ทำไมเวลาเมาถึงได้น่ารักขนาดนี้


ย้อนกลับไปเมื่อเวลาประมาณ 4 ทุ่ม


ตอนนี้แต่ละคนก็แทบจะหมดเรื่องเมาท์กันแล้ว เพราะเริ่มปาร์ตี้กันตั้งแต่ยังไม่ 1 ทุ่มเลย ดังนั้นจากที่เคยแย่งกันพูดก็เริ่มจะนิ่งกัน เก่งที่เห็นแบบนั้นเลยเสนอไอเดียหนึ่งออกมา นั่นก็คือ...การเล่นไพ่กระชับมิตร


“วิธีการเล่นก็ง่ายมาก แค่ให้พวกมึงแต่ละคนเลือกไพ่จากสำรับมา 1 ใบ ใครได้แต้มน้อยที่สุดแพ้ แล้วคนแพ้เนี่ยก็จะต้องตอบคำถามตามความจริงเป็นการลงโทษ...กูขอขีดเส้นใต้คำว่าตามความจริงเลยนะ ใครตอแหลแกล้งตอบมั่วๆ กูขอสาปแช่งให้ชีวิตอัปรีย์ ดวงกาลกิณีไม่มีความโชคดีตลอดไป...สาธุ!” ไม่ใช่แค่พูด แต่เก่งยังพนมมือขึ้นไหว้อีกต่างหาก แต่ละคนเลยทำหน้าเข็ดขยาด แบบนี้คงไม่กล้าจะโกหกกันแน่ๆ


“กูชักเริ่มไม่อยากเล่นแล้วว่ะ ถ้าแพ้นี่ต้องเจอคำถามที่แม่งโคตรจัญไรฉิบหายแน่ๆ” เสือทำหน้าสยอง


“นั่นดิ กูยิ่งไม่ค่อยมีดวงอยู่ด้วย” คราวนี้ซีพูด เก่งที่ได้ยินแบบนั้นก็กลัวคนอื่นจะไม่เอาด้วยอีก เลยรีบชักแม่น้ำทั้ง 5 โน้มน้าวใหญ่


“แต่เกมนี้มันจะทำให้พวกเรารู้จักกันมากขึ้น แล้วก็จะยิ่งทำให้สนิทกันมากขึ้นด้วยนะเว่ย โดยเฉพาะไอ้เอสที่พึ่งเป็นน้องใหม่ พวกมึงแต่ละคนก็ยังไม่ค่อยรู้จักมันเท่าไหร่เลยใช่มั้ยล่ะ แม้แต่มึงก็ด้วย” ประโยคสุดท้ายเก่งหันไปพูดกับซี ซีเลยพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆ


“นั่นสินะ” เป็นคนที่โดนโน้มน้าวง่ายชะมัด แต่ก็ตรงนั้นแหละที่ผมมองว่าน่ารัก


สรุปก็เป็นอันว่าทุกคนตกลงจะเล่นเกมนี้ ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหา แม้จะพอเดาได้ว่าจะต้องเจอคำถามสุดหินแน่ๆ แต่ผมก็ยังอยากจะเล่น อยากจะสนิทกับทุกคน เพราะผมเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง แถมถ้าไม่ค่อยสนิทหน้าก็จะค่อนข้างนิ่งด้วย ดังนั้นเลยคิดว่าเกมนี้น่าจะเป็นทางลัดที่ทำให้ผมสนิทกับทุกคนมากขึ้น


อีกอย่าง จากนี้ไปผมคงจะยุ่งมากจนไม่มีเวลามานั่งรวมกลุ่มกับทุกคนแบบนี้ เพราะผมต้องเร่งทำงานในส่วนที่ลาพักไป 1 สัปดาห์ คิดว่าขนาดจะนอนให้เต็มอิ่มก็คงจะทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าหากพลาดวันนี้ไปก็ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะมีโอกาสแบบนี้อีก


ประเดิมเกมแรก คนที่เลือกไพ่ได้แต้มน้อยที่สุดก็คืออาร์ท อาการที่เห็นไพ่ 2 ดอกจิกในมือก็ถึงกับสบถชุดใหญ่ ก่อนจะฟาดไพ่ลงตรงหน้าอย่างหัวเสีย


“หวยเอ๊ย!” ความจริงแล้วคำที่อาร์ทพูดคือ ค. ไม่ใช่ ห. แต่ถ้าจะให้ออกอากาศก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่


“ฮ่าๆๆๆ เจิมได้ดี” ซีหัวเราะพร้อมกับปรบมืออย่างชอบอกชอบใจ


“ไม่ต้องห่วงนะมึง พวกกูจัดหนักให้แน่” ตอนแรกเก่งทำเหมือนจะปลอบใจ แต่ไม่มีซะล่ะ ก็อย่างว่าแก๊งนี้น่ะเกรียนกันทั้งแก๊ง


แล้วหลังจากนั้นทุกคนยกเว้นอาร์ทก็ซุบซิบเสนอคำถามกัน ส่วนผมก็นั่งฟังเฉยๆ ไม่ได้เอ่ยปากเสนออะไรหรอก แต่ละคำถามนี่จี๊ดๆ ทั้งนั้น จนกระทั่งเลือกกันได้แล้ว หน้าที่ถามคำถามทุกคนก็พร้อมใจกันโยนไปให้เก่งอย่างเป็นเอกฉันท์


“เรื่องดีๆ นี่โยนมาให้กูจังนะพวกมึง” แต่ถึงจะบ่นเก่งก็ยอมรับหน้าที่นี้แต่โดยดี “คำถามมีอยู่ว่า...นิสัยของไอ้หลินที่มึงเบื่อที่สุดคืออะไร!”


“โอ้โหไอ้พวกเหี้ย! ถามแบบนี้คือกะจะให้กูตายเลยใช่มั้ย!” อาร์ทโวยวายก่อนจะปาดเหงื่อ เพราะถูกสายตาของหลินจ้องเขม็งไปหาอย่างน่ากลัว ส่วนคนอื่นๆ ก็ขำก๊ากซะจนท้องคัดท้องแข็ง


“ถ้าจะโทษก็โทษมือมึงเองนะ เสือกหยิบไพ่ 2 ดอกจิกทำไมล่ะ ฮ่าๆๆ” ซีซ้ำเติม เสือเลยถือโอกาสยุซะเลย


“กะอีแค่เมียมึงจะกลัวทำไม! ออกจากแก๊งเลาว์ไปถ้านายกลัวเมีย!”


“ใครบอกกูกลัว! ไม่มี้!”


“ถ้างั้นก็รีบตอบมา!”


“กูเบื่อความขี้บ่น! บ่นแม่งตั้งแต่ตื่นยันนอน! บ่นๆๆ อยู่นั่นไม่รู้จะบ่นห่าอะไรนักหนา!” อาร์ทตอบอย่างใส่อารมณ์ราวกับว่าอดทนมานาน แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 3 วินาที น้ำเสียงที่แข็งกร้าวก็เปลี่ยนเป็นหวานเจี๊ยบ ส่วนสีหน้าที่กำลังเดือดจัดก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหวาน


“แต่ว่านะตัวเอง ถึงตัวเองจะขี้บ่นแต่เค้าก็ร้ากกกก บ่นให้เค้าฟังแบบนี้ไปอีกสัก 80 ปีเลยนะยาหยีของเค้า” ไม่พูดเปล่า อาร์ทยังยื่นสองมือไปบีบแก้มของหลินที่กำลังอมยิ้มแล้วก็จุ๊บที่หน้าผากไปอีก 1 ที เล่นเอาคนที่เหลือพากันส่งเสียง ‘แหวะ!’ พร้อมทำท่าจะอาเจียนเพราะเหม็นความรัก


หลังจากนั้นการเสี่ยงดวงครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่มีข้อยกเว้นให้อาร์ท ถึงแม้จะดวงซวยเจอแจ็คพอตไปแล้ว แต่ครั้งนี้ก็ต้องเลือกไพ่อีกเช่นกัน โชคดีที่ดวงไม่ซวยซ้ำ 2 ขนาดที่จะเลือกได้แต้มน้อยที่สุดอีกครั้ง ส่วนคนที่เจอแจ็คพอตก็คือ...


“ไอ้เหี้ยยยยย! 6 หลามตัดกูว่าก็ไม่น้อยนะเว่ย! ไหงพวกมึงแม่งดวงดีได้แต้มสูงกันจังวะ!” คนที่โวยวายอยู่ไม่ใช่ใครที่ไหน ซีนั่นเอง


ซึ่งหลังจากที่ทุกคนลงความเห็นกัน คำถามที่ซีได้ก็คือ...


“มึงช่วยตัวเองครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่”


“ไอ้สัส! ใครเป็นคนตั้งคำถามวะเนี่ย!” กะแล้วว่าซีต้องโวยวาย อาร์ทที่เคยโดนซีซ้ำเติมเลยถือโอกาสเอาคืนบ้าง


“ถ้าจะโทษก็โทษมือมึงเองนะ เสือกหยิบไพ่เลขต่ำสุดเองทำไม ฮ่าๆๆ” เจอแบบนี้ซีก็แยกเขี้ยวใส่ แต่ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็มีแต่ต้องทำใจ แล้วก็ต้องย้อมใจด้วยการดื่มเหล้าไปจนหมดแก้ว


“สะ...”


“อะไรนะ” ซีก้มหน้างุดแถมยังพูดด้วยเสียงที่เบามากๆ จนไม่มีใครได้ยิน


“สะ...สิบสี่”


“พูดดังๆ ซิ พวกกูไม่เห็นจะได้ยินเลย” เก่งยิ้มที่มุมปากเพราะตั้งใจแกล้งซี เมื่อกี้ถึงจะเบาก็เถอะ แต่ด้วยความที่ทุกคนตั้งใจฟังก็เลยได้ยินอย่างชัดเจน


อืม...ช้ากว่าที่คิดเอาไว้อีกนะเนี่ย


“แล้วมึงจะเอาดังขนาดไหน! ให้ได้ยินกันทั้งซอยเลยมั้ยว่ากูช่วยตัวเองครั้งแรกตอนสิบสี่! ไอ้พวกฉิบหาย!” ซีโวยวายหน้าแดงหูแดง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้โกรธหรืออายมากกว่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ซีน่ารักมากจนผมอดที่จะมองแล้วยิ้มออกมาไม่ได้


“ยิ้มหาอะไร นี่ล้อกูอยู่ในใจใช่มั้ย อยากตายรึไงวะ” ซีหันมาตีผมแก้เขิน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หายหรอก เพราะบรรดาเพื่อนของซีพากันร่วมใจร้องเพลง ‘สิบสี่อีกครั้ง’ เวอร์ชั่นพิสดารออกมา


~ เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่


ตอนที่ช่วยตัวเองครั้งแรก


ลึกลึกข้างในมันเสียวมันซี้ดแปลกๆ


เธอรู้ไหมฉันเหมือนสิบสี่อีกครั้ง ~


“ไอ้พวกเหี้ยยยย” ซีด่าจบก็เอามือปิดหน้าด้วยความอาย ส่วนบรรดาเพื่อนก็พากันหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ กว่าจะมูฟออนไปเลือกไพ่รอบใหม่ได้ก็ล้อซีอีกพักใหญ่เลย


คนต่อมาที่โดนแจ็คพ็อตคือเก่ง คนชวนเล่นพอโดนเองก็เลยถูกเพื่อนรวมหัวกันเพื่อจัดหนัก โดยเฉพาะซีที่ดูอยากจะเอาคืนมากเพราะเรื่องที่ตัวเองโดนก็หนักใช่ย่อย


“มึงช่วยตัวเองครั้งล่าสุดวันไหน” แต่เชื่อมั้ย นอกจากจะไม่อายเก่งยังตอบทันทีเลยว่าเมื่อคืนตอนอาบน้ำ แถมยังบอกรหัสหนัง AV ที่ดูระหว่างทำด้วย เล่นเอาแต่ละคนพากันทำหน้าเซ็งเพราะอดล้อกันเลย


ยิ่งเล่นคำถามก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็โดนกันถ้วนหน้า จะมีก็แต่หลินที่เป็นผู้หญิงคนเดียวเลยได้คำถามซอฟต์หน่อย เพราะไม่ใช่เรื่อง 18+


“มึงมีความลับเรื่องใหญ่ๆ อะไรที่ปิดบังไอ้อาร์ทอยู่ กูขอขีดเส้นใต้คำว่าเรื่องใหญ่ๆ เลยนะ ไอ้เรื่องที่แอบอมเงินผัวไปซื้อเครื่องสำอางค์นี่ไม่นับ นั่นมันไก่กา”


คำถามเหมือนจะซอฟต์ แต่ความจริงแล้วเหมือนมันไม่ซอฟต์เลย เพราะหลินเม้มปากแน่นแล้วทำหน้าเป็นกังวล ส่วนอาร์ทก็จ้องอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ในขณะที่พวกผมก็นั่งเงียบรอฟังจนทั้งบ้านเงียบสงัด


“มีเรื่องนึงที่กูโกหกไอ้อาร์ทมาตลอด...”


หลินเกริ่นนำมาแบบนี้ก็แทบกลั้นหายใจกันไปสิพวกผม จะมีเหตุการณ์บ้านแตกเกิดขึ้นมั้ยเนี่ย เพราะสีหน้าของอาร์ทตอนนี้นิ่งมากจนน่ากลัว


“ความจริงแล้วรักแรกของกูไม่ใช่มันว่ะ แต่เป็น...เป็น.....................ไอ้ซี!”


“ห้ะ!!!!!” พวกผมทั้งหมดอุทานออกมาพร้อมกัน แม้แต่เจ้าตัวที่เป็นรักแรกของหลินอย่างซีก็ด้วย


“นี่มึง...ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย” ตอนนี้ดูซีจะตกใจกว่าอาร์ทซะด้วยซ้ำ


“หมดกันความลับที่กูอุตส่าห์ปิดเอาไว้ ไม่น่าหลวมตัวมาเล่นเกมส้นตีนนี่เล้ยยย” หลินโอดครวญด้วยความอาย ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าซีหรือว่าอาร์ท


หลินบอกว่าที่เคยแอบปิ๊งซีเพราะซีเป็นคนที่สนุกสนาน เฟรนด์ลี่ มีน้ำใจ อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกมีความสุข แถมหน้าตาก็น่ารักตรงสเปกด้วย ส่วนที่ว่าเลิกชอบซีมาชอบอาร์ทได้ยังไง หลินบอกว่าตกกระไดพลอยโจนมากกว่า เพราะเอาเรื่องที่แอบชอบซีไปปรึกษาอาร์ทโดยไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่อาร์ทดันคิดว่าเป็นตัวเอง


“เชี่ยยยยยย นี่กูมโนไปเองหรอวะเนี่ยยยยยย” อาร์ทโวยวายเสียงโหยหวนเมื่อรู้ความจริง ส่วนคนอื่นๆ ไม่เว้นแม้แต่ผมก็พากันขำกันกระจาย


“ก็เนี่ย เค้าถึงได้เก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับไม่บอกตัวเองไง” หลินตบบ่าปลอบใจ แต่ก็ทั้งอายแล้วก็ขำในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาร์ทก็เหมือนจะไม่ได้ติดใจเรื่องนี้กับหลินเท่าไหร่ แต่ดูอยากจะคิดบัญชีแค้นกับซีมากกว่า


“หนอย...มึงอะ รักแรกของเมียกูหรา” พูดจบอาร์ทก็พุ่งเข้าใส่ซี ตอนแรกผมก็คิดอยู่ว่าจะเกิดเรื่องวิวาทกันรึเปล่า แต่ก็ปรากฏว่าเปล่า เพราะอาร์ทแค่จับซีมอมเหล้าจนเมาแอ๋ จะได้ลบภาพรักแรกอันสวยงามของหลินออกไปเท่านั้นเอง


พอหมดเรื่องวุ่นวายก็ได้ฤกษ์เล่นเกมกันต่อ ในที่สุดแจ็คพอตมันก็มาลงที่ผมจนได้ และถึงแม้ผมจะไม่ค่อยสนิทกับทุกคนเท่าไหร่ พอถึงคราวซวยเลือกไพ่ได้แต้มน้อยที่สุดก็โดนจัดหนักไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน


“มึงเสียซิงครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่”


ถึงจะทำใจเอาไว้แล้ว แต่พอเจอคำถามแบบนี้ผมก็อดที่จะชะงักไม่ได้ ก่อนที่จะตอบผมเลยหันไปมองซีที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่ากำลังทำหน้ามึนๆ แต่ก็ดูสนอกสนใจ ผมเลยคิดว่าคงไม่มีปัญหาก็เลยตอบไปตามความจริง


“น่าจะอายุ 15 – 16 ช่วงกำลังจะเข้า ม.4” เท่านั้นแหละ แต่ละคนก็เบิกตากว้างแล้วอุทานออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน


“เหยดดดดดด”


“ไวไฟว่ะมึง”


“ที่หนึ่งในกลุ่มเลยเพื่อน”


“ข้าน้อยขอคารวะเป็นศิษย์” คำพูดของแต่ละคนทำเอาผมรู้สึกขำจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ แต่พอหันไปเห็นหน้าซีผมก็รีบหุบยิ้มแทบไม่ทัน เพราะตอนนี้กำลังบูดบึ้งสุดๆ เลย


“ว่าแต่กับใครวะ บอกพวกกูหน่อยดิ” เก่งถามยิ้มๆ นี่สงสัยจะไม่เห็นสีหน้าของซี แต่ไม่สิ...เพราะเห็นต่างหากถึงได้จงใจถามผมแบบนี้


ร้ายกาจ


“กูต้องโดนถามแค่ข้อเดียวไม่ใช่หรอ”


“ตอบมาเหอะน่า!” คนที่ขึ้นเสียงใส่ผมไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็คนเมาที่กำลังทำหน้าบูดอยู่ข้างๆ นี่แหละ


“เป็นพี่สาวที่อยู่บ้านตรงข้าม แล้วก็เป็นครูสอนพิเศษช่วงเสาร์ – อาทิตย์”


“เยสเข้! นี่คือที่มาของคำว่าขึ้นครู! สุดยอดไปเลยเพื่อน!” แล้วแต่ละคนก็แซวผมกันใหญ่ ผิดกับซีที่จากแค่หน้าบูดก็กลายเป็นหงุดหงิด เลยหยิบแก้วที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด แถมยังชงเพิ่มแล้วก็ดื่มต่อจนหมดแก้วอีกต่างหาก


“เดี๋ยวก็เมาหรอกซี” ผมเตือน แต่ก็ถูกสายตาพิฆาตหันมามองพร้อมกับค้อนอันเบ้อเร่อ


“ม่ายต้องมายุ่ง!”


“อาการแบบนี้ท่าทางจะหึง” เก่งกระซิบที่ข้างหูผม ส่วนผมก็พยักหน้าลงพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ก่อนนี้ผมก็ไม่คิดหรอกว่าซีจะหึง เพราะปกติซีจะเป็นคนมองโลกในแง่บวกไม่ค่อยคิดอะไรมาก แต่พอเหล้าเข้าปากนี่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง


เห็นผมพูดแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ แต่ชอบมากกกกเลยต่างหาก ก็น่ารักซะขนาดนี้


หลังจากนั้นเกมรอบใหม่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันรอบที่เท่าไหร่เพราะเล่นกันมาเกือบชั่วโมงแล้ว แน่นอนว่าก็โดนแจ็คพอตกันครบทุกคน แถมคนที่ซวยมากๆ อย่างเก่งยังโดนซ้ำไปตั้ง 5 รอบ เพราะงั้นจึงไม่แปลกเลยที่ผมจะโดนซ้ำรอบ 2 ซึ่งคำถามที่ผมโดนก็คือ...


“ครูพี่สาวคนน้านกับกู ครายทำให้มึงรู้สึกดีมากกว่ากัน!” จู่ๆ ซีก็โพล่งถามขึ้นมาเลยโดยไม่รอปรึกษาใครทั้งนั้น ถามว่าแปลกใจมั้ยก็ไม่เท่าไหร่ เพราะตอนนี้ซีเมาหนักมาก แหงล่ะ ก็หลังจากโดนอาร์ทมอมก็ยกเหล้าขึ้นดื่มเองอีกไม่รู้กี่แก้ว


“อู้ววววว พิษรักแรงหึง” เก่งเป็นแกนนำพวกเพื่อนแซว แต่ซีก็ไม่สนใจ เอาแต่จ้องผมตาไม่กระพริบอย่างเดียว


“มึงเมามากแล้วนะ ขึ้นห้องไปนอนดีมั้ย” ผมเลี่ยงไม่ตอบคำถาม ก็จะให้เอาเรื่องบนเตียงมาพูดมันก็ยังไงอยู่ ลองถ้าซีไม่เมาก็คงไม่ถามเรื่องแบบนี้ออกมาหรอก


“กูไม่ได้เมา! ม่ายยยยเมา! ตอบคำถามกูมาเดี๋ยวนี้! ตอบมาสิว่าเป็นกู!” ซีกระชากคอเสื้อของผมเอาไว้ ตอนแรกก็หวั่นๆ อยู่ว่าผมจะถูกต่อยรึเปล่า แต่นอกจากจะไม่ทำแบบนั้น ประโยคต่อมาซียังอ้อนเสียงหวาน แถมยังช้อนตามองผมปิ๊งๆ อีกด้วย


“เป็นกูใช่มั้ย...ใช่มั้ยมึง...” น่ารัก...น่ารักเป็นบ้า น่ารักมากจนชักอยากจะแกล้งสักหน่อยแล้วสิ


“อืม...จะเป็นมึงดีมั้ยนะ”


“อ้ายเอส!” ถึงจะเมาจนเสียงยานคางหมดแล้ว แต่ซีก็ยังมีแรงปีนขึ้นมาที่ตักของผมอีกนะ เล่นเอาพวกเพื่อนพากันส่งเสียงแซวกันหนักกว่าเดิม


“จะทำอะไร ไม่อายเพื่อนหรอน่ะ” ผมน่ะไม่อายหรอกนะ แต่ท่านี้มันก็ค่อนข้างที่จะ...อืม...เสียวๆ หน่อย


“อายทำไม” ซีพูดจบก็กำคอเสื้อของผมเอาไว้อีกครั้ง “ตอบให้ดีๆ ม่ายงั้นมึงเจอดีแน่”


“ครับๆ กลัวแล้วครับ เมื่อกี้กูแค่แกล้งเล่นเฉยๆ ยังไงก็ต้องเป็นมึงที่ดีกว่าอยู่แล้ว”


สาบานเลยว่าผมพูดความจริง ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เอ่อ...หมายถึงเรื่องหัวใจนะ เพราะอย่างที่เคยบอกว่าก่อนจะเจอซีผมไม่เคยรักใคร ส่วนร่างกายมันก็เป็นไปตามธรรมชาติ พี่เขาเสนอแล้วก็เป็นคนทำทุกอย่าง ผมแค่นอนอยู่นิ่งๆ เท่านั้นเอง


“จริงหรอ” ซีอมยิ้มซะจนแก้มป่อง


“จริงสิ” พอได้ยินคำยืนยันแบบนี้ ซีก็ก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่เป็นรางวัล แถมยังก้มมาซบที่ไหล่แล้วก็กอดผมเอาไว้แน่นอีกด้วย


“น่าร้าก” ซีชมผม แต่ความจริงผมว่าผมต้องเป็นคนพูดคำนี้กับซีมากกว่า


แต่ว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร จู่ๆ คนขี้เมาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้เลยดีดตัวขึ้นมา ส่วนสายตาจากที่กำลังออดอ้อนก็เปลี่ยนเป็นมองผมตาขวางแทน


“คิดว่ากูจาเชื่อหรา!” เอาแล้วไง ก่อนนี้ไม่น่าล้อเล่นเลยผม


“แล้วต้องทำยังไงมึงถึงจะเชื่อ” ซีนิ่งไปแป๊บหนึ่ง ก่อนจะพูดเรื่องที่ทำให้ทุกคนถึงกับตะลึงออกมา


“จูบกู!”


“โอ้ววววววว!”


“เหยดดดดดด!”


“วิ้ดวิ้วววววว!”


“เอาแล้วโว้ยยยยยยยย!”


พวกเพื่อนพากันแซวหนักมากกกก พึ่งเคยห้ามใจให้หุบยิ้มไม่ได้จริงๆ ก็ครั้งนี้แหละผม ทำไมแฟนผมถึงได้น่ารักแบบนี้นะ นี่ถ้ารู้ว่าเวลาเมาจะน่ารักขนาดนี้ผมคงชวนดื่มเหล้าบ่อยๆ ไปแล้ว


“เร็วๆ สิ! รีบจูบกูสักที!” คนขี้เมาเร่ง ผมเลยยื่นหน้าขึ้นไปจุ๊บที่ริมฝีปากตามคำขอ


“ทีนี้เชื่อรึยัง” แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยัง เพราะซียังทำหน้าบูดอยู่เลย


“นี่มันใช่จูบหรา! จูบของจริงมันต้องแบบนี้!” ซีพูดจบก็กำคอเสื้อของผมเอาไว้แน่น แล้วก้มหน้าลงมาจูบผมทันที แถมยังไม่ใช่แค่จูบธรรมดาอย่างปากแตะปาก แต่เป็นจูบที่บดขยี้และแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม เรียกเสียงฮือฮาจากพวกเพื่อนกันได้เกรียวกราว


เราสองคนจูบกันพักหนึ่ง จนกระทั่งพอใจแล้วนั่นแหละซีถึงได้ถอนจูบออกมา สีหน้าของซีตอนนี้กำลังแดงซ่าน ดวงตาก็หรี่ปรือ ส่วนริมฝีปากก็เผยอเล็กน้อย...


เอาแล้วไง คิดดีไม่ได้แล้วผม ในสมองมันคิดแต่เรื่องลามกอกุศลแล้วตอนนี้!


“อ๊ะ! อาไรแข็งๆ มันมาโดนกู นี่มึงพกขวดน้ำติดตัวด้วยอ่อ” ซีพูดอย่างมึนงงแล้วจะล้วงมือลงมาคลำที่ช่วงล่าง แต่ก็ยังดีที่ผมเอามือห้ามเอาไว้ได้ทัน


“ซี อย่าดื้อ” ผมกัดฟันพูดเสียงต่ำ แต่ถึงจะจับมือซุกซนเอาไว้ได้ก็ใช่ว่าเรื่องจะจบ เพราะคนขี้เมาเอาแต่ขยับหยุกหยิกเบียด ‘ขวดน้ำ’ ของผมจนเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง


ซี้ด...


เย็นไว้...


เย็นเอาไว้เอส...


แต่ทั้งที่บอกตัวเองแบบนั้น ร่างกายของผม (โดยเฉพาะช่วงล่าง) มันกลับยิ่งร้อนมากขึ้นจนแทบจะระเบิด


เจอแบบนี้ใครมันจะไปทนไหวล่ะ!


2BC


 :katai2-1: สวัสดีค่าาา ฮั่นแน่ สารภาพมาซะดีๆว่ากำลังรอ NC กันอยู่ใช่ม้าาา  :hao3: ตอนนี้ยังไงก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ แต่ว่าตอนหน้าเตรียมเลือดสำรองไว้ให้พร้อมได้เลย! คิดว่าวันอาทิตย์น่าจะเสร็จ แล้วเจอกันนะคะทุกคน :impress2:

ปล. มีใครคิดเหมือนเอสมั้ยนะว่าตอนซีเมาอะน่าร้ากกกกกก  :-[

ปล2. รูปสเก็ตช์ปกจริงเสร็จแล้ววว แอบกระซิบว่ามันดีมากกกก หน้าปกเป็น 3 หนุ่มด้วย เดี๋ยววันเสาร์เค้าจะลงรูปที่เพจ ยังไงก็มาชมกันได้นะที่ร้ากกกก  :oni2:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อั๊ยยยยย เดี๋ยวเตรียมเลือดรอเลยจ้า

น้องซีหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองซะแร้วววว.  :laugh:

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0

ออฟไลน์ Micky_MN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
 :-[ นั่ลรั่คมากกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Sameejaejung

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-17
Soulmate วิญญาณป่วนรัก



Part 23# S เหตุเกิดจากความเมา NC-18


“มึงไหวเปล่าวะ”


ประโยคนี้คนที่ถามผมไม่ใช่ซี รายนั้นน่ะเมาจนไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไร ยั่วผมขนาดไหน แต่คนที่ถามผมคืออาร์ท แถมยังตบบ่าผมเบาๆ ด้วยสีหน้าที่ดูเข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี


“พอมีผัวแล้วนิสัยเปลี่ยนเลยนะ เมื่อก่อนเมาแล้วเรื้อน แต่ตอนนี้เมาแล้วแรด!” หลินมองบน เพื่อนคนอื่นเลยพากันหัวเราะ ส่วนผมก็อยากร่วมด้วยอยู่หรอก แต่ก็ติดที่กำลังเหงื่อตกอยู่นี่แหละ


“มึงพามันขึ้นห้องไปเหอะ สภาพนี้คงไม่ไหวแล้วมั้งน่ะ” เก่งพูดยิ้มๆ ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงผมหรือซีล่ะนะ


“ถ้างั้นเดี๋ยวกูพาซีขึ้นห้องก่อนแล้วกัน” พูดจบผมก็ลุกขึ้นโดยอุ้มซีไว้ในท่าเจ้าหญิง ซีดิ้นเบาๆ พร้อมกับโวยวายอะไรนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าไหร่เพราะซีตัวเบามาก


อ้อ แต่ก่อนที่จะขึ้นห้องผมก็ไม่ลืมที่จะขอร้องทุกคนเรื่องหนึ่ง...


“พรุ่งนี้ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรหน่อยนะ” ดูจากสภาพ คิดว่าแบบนี้ซีคงไม่น่าจะจำอะไรได้ ถ้าหากโดนแซวหนักเกินไป ผมก็กลัวว่าจะหนีกลับไปอยู่วังตลอดทั้งปิดเทอม


“เออๆ เรื่องนั้นมึงไม่ต้องห่วงหรอก” พอได้ยินแบบนี้ผมก็สบายใจ เลยอุ้มคนขี้เมาเดินขึ้นไปบนห้องนอน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเพื่อนแต่ละคนกำลังอมยิ้มด้วยใบหน้าที่เจ้าเล่ห์สุดๆ!


พอเข้าไปในห้องผมก็จัดการวางซีลงบนเตียง แต่แทนที่จะนอนต่อไปดีๆ ซีกลับออกแรงดึงจนผมล้มลงไปนอน ก่อนที่จะพลิกตัวขึ้นมาคร่อมที่ตักผมเอาไว้


ท่านี้อีกแล้ว...


“ที่หนาย” ผมไม่เข้าใจที่ซีถามเลยขมวดคิ้วด้วยความงุนงง


“หมายถึง?”


“ทำกับครูพี่สาวคนน้านที่หนาย ช่ายที่นี่รึเปล่า”


“เปล่า”


“แล้วที่หนาย”


“บ้านหลังเก่า แต่ไม่มีคนอยู่หลายปีแล้ว” เนื่องจากพ่อกับแม่ของผมต้องไปทำงานที่ต่างประเทศถาวร จากเมื่อก่อนที่จะไปเดือนละ 2 – 3 ครั้ง  บ้านหลังนั้นมันใหญ่เกินกว่าที่ผมจะอยู่คนเดียวก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่


ส่วนถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ย้ายไปอยู่ที่นั่นด้วย เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ผมก็แค่ไม่อยากวุ่นวายปรับตัวเข้ากับอะไรใหม่ๆ เท่านั้นเอง


“แล้วที่นี่เคยทามกับใครรึเปล่า”


“เปล่า”


“ถ้างั้น กูก็จาเป็นคนแรกสินะ” ซียิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วกุลีกุจอจะถอดกางเกงของผม แต่ผมก็รีบลุกขึ้นห้ามเอาไว้ซะก่อน


“ถ้ามากกว่านี้กูจะไม่ทนแล้วนะ” ถึงผมจะไม่ค่อยอยากฉวยโอกาสทำกับซีตอนที่ไม่มีสติเท่าไหร่ แต่ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะห้ามใจได้หรอกนะ


“แล้วกูบอกให้ทนรึงาย” พูดจบซีก็ปัดมือผมออกไป คราวนี้ผมก็ไม่คิดจะห้ามแล้ว โอกาสแบบนี้คิดว่าจะมีสักกี่ครั้งในชีวิตเชียว


เอาวะ ถึงจะต้องถูกโวยวายใส่จนหูชาผมก็ยอม!


ซีเริ่มจากปลดเข็มขัดของผมเป็นอันดับแรก ตามด้วยการปลดกระดุมแล้วก็รูดซิปกางเกงลงมา การกระทำของซีนั้นเงอะงะและค่อนข้างเชื่องช้า แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกลุ้นและเสียวเป็นบ้าเลย


“ตอนนั้น ถูกทำอาไรบ้าง”


“ก็...” จะตอบความจริงไปดีมั้ยนะ?


“ถ้าจับด้ายว่าโกหกกูจับตอนไม่เหลือแน่!” ถ้างั้นก็มีแต่จะต้องพูดความจริงแล้วแหละ!


“ก็ถูกใช้ปากแล้วก็ขึ้นคร่อม”


“หึ!” ได้ยินแบบนั้นซีก็ดูไม่สบอารมณ์สุดๆ จึงได้ล้วงเอาส่วนนั้นของผมออกมา แล้วก้มหน้าลงมาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนๆ


ตอนนี้ผมทั้งเสียวทั้งเกร็งจนถึงกับต้องกลั้นหายใจ!


“กูจาทำให้ดีกว่าเป็นร้อยเท่าเลย!” พอประกาศกร้าวจบซีก็ใช้มือกอบกุมของผมเอาไว้ แต่แค่มือของซีก็ดีกว่าเป็นร้อยเท่าแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลิ้นร้อนๆ ที่ตอนนี้กำลังเลียท่อนเนื้อของผมตั้งแต่โคนจรดปลาย


“ซี้ดด” ความเสียวที่แล่นพล่านไปทั่วร่างทำเอาผมถึงกับกลั้นเสียงครางไม่ไหว ซีเลยเหลือบสายตาขึ้นมามองแล้วอมยิ้มนิดๆ ด้วยความดีใจ จากนั้นจึงได้อ้าปากครอบครองท่อนเนื้อของผม ตามด้วยการออกแรงดูดที่ส่วนปลายเบาๆ


“ซี...” ผมครางกระเส่า มือข้างหนึ่งขยุ้มที่เส้นผมสีน้ำตาลของคนตรงหน้าเพื่อระบายความเสียวซ่าน แต่ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ความเสียวมีแต่จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซะด้วยซ้ำ


ตอนนี้ซีกำลังขยับปากขึ้นลงพร้อมทั้งออกแรงดูดท่อนเนื้อของผม ซีเรียนรู้ได้ไวและตั้งอกตั้งใจทำสุดๆ ทั้งอม ทั้งเลีย ทั้งดูด แล้วก็รูดรั้งสลับกัน ผมก้มมองภาพที่ซีทำด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยก็เล่นเอาแทบคลั่ง ท่อนเนื้อได้ขยายใหญ่ขึ้นจนคับปากของซีแล้ว


แม้ไม่ต้องพูดซีก็รู้ว่าผมใกล้จะเสร็จ เลยเร่งจังหวะการขยับขึ้นลงให้เร็วขึ้น อมลงไปลึกขึ้น แถมยังใช้ลิ้นดุนตรงส่วนหัวให้ผมเสียวซี้ดจนต้องหลุดเสียงคราง การกระทำพวกนั้นยังทำให้ผมพอทนไหวแม้จะต้องเกร็งไปทั้งร่าง แต่หลังจากที่โดนดูดส่วนหัวจนสุดแรงผมก็ต้องยอมแพ้


“อา!” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าไปในปากของซีทันที ซึ่งซีก็รับเอาไว้ทั้งหมดแถมยังดูดออกมาจนหยดสุดท้าย ซ้ำยังเลียแก่นกายของผมเพื่อทำความสะอาดให้อีกต่างหาก


เอ็กซ์โคตร...


เจอแบบนี้เข้าไปก็ถึงกับคลั่งจริงๆ สิผม ท่อนเนื้อที่อยู่ในปากของซีเลยไม่มีวี่แววที่จะอ่อนลง ยังคงแข็งโด่แถมยังใหญ่จนคับปากเล็กๆ เช่นเดิม


“คิกๆ คนหื่น” ซีหัวเราะเบาๆ ผมเลยจับลอกคราบจนเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่า ตามด้วยตัวเอง ในตอนแรกผมก็ตั้งใจว่าจะจับกดซีลงไปนอนอยู่ใต้ร่าง แต่ว่าซีก็ขืนตัวเอาไว้แล้วปีนขึ้นตักมาคร่อมผมอีกครั้ง


“วันนี้กูจาทำเอง!” ดูท่าซีคงจะอยากเอาชนะพี่ที่เป็นครั้งแรกของผม แน่นอนว่าผมก็ต้องไม่ขัดอยู่แล้ว มีผู้ชายคนไหนไม่ชอบท่านี้บ้าง การถูกขย่มนี่เป็นความฝันสูงสุดของผู้ชายส่วนใหญ่เลยนะ


แค่คิดก็แทบจะร้องซี้ดแล้ว...


ซีเริ่มจากก้มหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ก่อนจะดูดหนักๆ สลับกับกัดเบาๆ เมื่อทำจนพอใจแล้วก็ไล่ลงมาทำที่แผ่นอกต่อ ก่อนจะลามลงไปจนถึงกล้ามท้อง แล้วก็ท้องน้อย


“ซี้ดด...” ผมเสียวจนกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เพราะในจังหวะนั้นแก่นกายของผมก็ถูกมือร้อนๆ กอบกุมเอาไว้แล้วรูดขึ้นลงด้วย


“ดีรึเปล่า” ซีถามผมเสียงกระเส่า


“อืม...ดี...” ผมตอบด้วยเสียงที่กระเส่ายิ่งกว่า แต่ว่าผมก็ไม่เห็นแก่ตัวมีความสุขคนเดียวหรอก ผมอยากให้ซีรู้สึกดีไปด้วยกัน ดังนั้นสองมือของผมเลยบีบขยำที่แผ่นอกตรงหน้า โดยใช้นิ้วหัวแม่มือบีบขยี้ตรงยอด ส่วนใบหน้าของผมก็ซุกไซ้ที่ซอกคอขาวๆ


“อา...ไอ้เอส...” ผมชอบฟังเสียงครางของซี ยิ่งเรียกชื่อผมด้วยผมยิ่งชอบ


“เรียกชื่อกูอีกสิ”


“เอส...เอส...อื้อ...อะ...เอส...” เป็นเด็กดีแบบนี้ผมก็ต้องให้รางวัลสักหน่อย เลยเคลื่อนใบหน้าจากซอกคอลงไปยังแผ่นอกขาวๆ ตามด้วยการใช้ลิ้นเลียที่ตรงยอดสลับกับการดูดดุน ส่วนยอดอกอีกข้างก็ยังคงใช้มือบีบขยี้


ความเสียวซ่านทำให้ซีขยำที่เส้นผมของผมแน่น ก่อนจะยิ่งแรงขึ้นเมื่อผมใช้ปลายนิ้วมืออีกข้างที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นอ้อมไปทางด้านหลัง ผมใช้นิ้วหมุนวนตรงปากทางเข้าสักพักจึงได้สอดมันเข้าไป


“อา...!” ซีสะดุ้งเล็กน้อย เท่าที่ดูน่าจะไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่น่าจะเป็นเพราะเสียวมากกว่า เพราะผมใช้นิ้วกลางซึ่งเป็นนิ้วที่ยาวที่สุดสอดเข้าไปรวดเดียวจนมิดลำ


ความเสียวซ่านทำให้ซีแอ่นอกขึ้น เลยทำให้ผมดูดเลียยอดอกตรงหน้าได้ถนัดยิ่งขึ้น ซึ่งผมก็ทำไปพร้อมๆ กับการขยับนิ้วเข้าออกที่ช่องทางด้านหลัง โดยเริ่มจากช้าๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน จากนั้นก็เพิ่มความเร็วขึ้นอีก ตามด้วยการสอดนิ้วที่ 2 เข้าไป


“อื้อ...อา...” ซีครางเสียงหวาน ช่องทางด้านหลังบีบและตอดรัดนิ้วของผมแน่นมาก จนผมอยากจะเอาแก่นกายเข้าไปแทนซะตอนนี้เลย


ยุบหนอ พองหนอ...ยุบหนอ พองหนอ...


แต่ทำไมยิ่งท่องลูกชายของผมมันถึงได้ยิ่งพองขึ้นล่ะเนี่ย!


“เอส...กูเสียว...” ซีพูดด้วยเสียงกระเส่า ส่วนสะโพกก็สั่นระริกและบิดเร่า เวลาเมานี่จะยั่วเกินไปแล้ว อยากจะถามจริงๆ ว่าอยากให้ผมตบะแตกมากนักใช่มั้ย!


ผมกัดฟันข่มใจเอาไว้อีกหน่อยเพราะไม่อยากให้ซีเจ็บ ระหว่างที่ยังอดทนได้ผมเลยรีบเร่งขยายช่องทางให้พร้อม ทั้งขยับนิ้วเข้าออกอย่างรวดเร็วและหักงอเป็นจังหวะ ส่วนด้านหน้าของซีผมก็ลดมืออีกข้างลงมารูดรั้ง ในขณะที่ยอดอกผมก็ทั้งดูด ทั้งเลีย แล้วก็ขบเม้มเน้นๆ อีกด้วย


“ซี้ดด...เสียวจาง...อ๊า...กูเสียว...” ซีครางลั่นเมื่อถูกเล้าโลมพร้อมกันทั้ง 3 ทาง ความเสียวซ่านทำให้ช่องทางด้านหลังกระตุกตอดรัดนิ้วของผมถี่ยิบ ส่วนตรงนั้นที่ผมกำลังชักขึ้นลงก็กำลังสั่นระริกและมีน้ำใสๆ ไหลออกมา


“เอส...มะ...ไม่ไหว...อ๊า...เอส! อ๊าาา!” สิ้นเสียงนั้นซีก็ปลดปล่อยออกมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่หยุดขยับมือ นิ้ว และริมฝีปาก ยังคงปลุกเร้าซีต่อไป แล้วไม่นานอารมณ์ของซีก็ถูกจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง


“อะ...เอส...” น้ำเสียงและสีหน้าของซีตอนนี้ยั่วเป็นบ้า ผมเลยจับลงมาจูบหนักๆ ซึ่งซีก็ตอบสนองเป็นอย่างดี


ลิ้นเล็กๆ เกี่ยวพันกับลิ้นของผมที่สอดเข้าไป แถมเมื่อผมดูดและขบเม้มที่ริมฝีปากก็ยังทำแบบเดียวกันโดยที่ไม่เขินอีกต่างหาก เวลาเมานี่นอกจากจะร้อนแรงมากขึ้นก็ยังมีความกล้ามากขึ้นด้วยนะเนี่ย


“พร้อมรึยังซี” แต่ถึงจะถามแบบนี้ เอาจริงๆ ผมก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว


“อือ...เข้ามา...กูต้องการมึง...” เท่านั้นแหละผมก็รีบหยิบซองถุงยางมาแกะ แต่ยังไม่ทันสวมก็ถูกมือเล็กๆ หยุดเอาไว้ซะก่อน “สดเลยก็ได้”
เฮือก! มือไม้สั่นจนถุงยางเกือบร่วงเลยสิผม นี่ซีรู้ตัวมั้ยน่ะว่าพูดอะไรออกมา!


“อะ...เอาไว้ค่อยทำตอนที่มึงมีสติก็แล้วกัน”


ถามว่าอยากมั้ยผมตอบเลยว่ามากกกกก แต่ที่ต้องยอมกัดฟันทนก็เพราะจะไปเอาอะไรกับคำพูดคนเมา แค่ตื่นมาแล้วรู้ว่าเป็นเมียผมคงโดนโวยวายชุดใหญ่ ถ้าโดนปล่อยข้างในด้วยมีหวังโดนโกรธหนักแน่ๆ


“ถ้าง้านเดี๋ยวกูใส่ให้” ซีพูดจบก็แย่งถุงยางไปแล้วเอามาสวมให้ผม


ท่าทางของซีดูเงอะงะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้อารมณ์ชะมัด โดยเฉพาะตอนที่ซีสวมเสร็จแล้วก็ยกสะโพกขึ้นมาจ่อปากทางเข้ากับท่อนเนื้อของผม แถมยังร่อนสะโพกจนส่วนหัวมันแทบจะผลุบเข้าไปข้างในอยู่แล้ว


“ซี้ดด...” ผมไม่รู้แล้วว่าตอนนี้เป็นเสียงครางของใครกันแน่ เพราะทั้งผมทั้งซีต่างก็เสียวมากจนต้องกัดริมฝีปากล่างทั้งคู่ ก็ดูที่ซีทำสิ ถ้าไม่ติดว่าเสร็จไปแล้วรอบหนึ่งผมคงต้องเสร็จตอนนี้แน่ๆ


“อืม...ใหญ่ขนาดนี้ จาเข้ามาได้มั้ยอ่า”


ถ้าจะพูดขนาดนี้ก็ไม่ทงไม่ทนมันแล้ว! เลยจัดการกดสะโพกของซีลงมากลืนกินท่อนเนื้อของผมจนมิดด้าม!


“อ๊าา!” ซีหวีดร้องลั่น ช่องทางด้านหลังบีบรัดผมแน่น ส่วนเล็บก็จิกลงมาอย่างแรงที่ตรงแผ่นหลัง ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากเท่าไหร่ แค่แสบๆ นิดหน่อยแต่กลับได้อารมณ์สุดๆ


“เจ็บรึเปล่า” ผมถาม ในขณะที่เริ่มยกสะโพกของซีขึ้นลงโดยเริ่มจากช้าๆ


“อา...นะ...นิดนึง...แต่...ซี้ดด...เสียวมากกว่า...อ๊า...แบบนี้ยิ่งเสียว...” แบบนี้ที่ว่าก็คือการที่ผมก้มลงไปเลียที่ยอดอกของซี โดยที่สองมือก็ยังคงยกสะโพกกลมกลึงขึ้นลง แต่ได้เพิ่มความเร็วมากขึ้นตามห้วงอารมณ์ที่กำลังไต่ขึ้นสูง


“ชอบให้ทำข้างบนกับข้างล่างพร้อมกันสินะ” ดูอย่างตอนนี้ที่ผมกำลังดูดเลียที่ยอดอก ช่องทางด้านหลังของซีก็กระตุกตอดรัดท่อนเนื้อของผมถี่ยิบ เล่นเอาผมเสียวสุดๆ จนต้องกัดริมฝีปากล่างแน่น


 “อ๊า...ชอบ...อ๊ะ...ชอบมาก...อ๊า...” ตอนนี้ซีเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงเองแล้ว ซึ่งก็ทำไปตามแรงอารมณ์และสัญชาตญาณ ช่วงแรกก็ยังมีติดขัดงกๆ เงิ่นๆ บ้าง แต่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางเท่านั้นแหละ...


“ซี้ดด...อา...” บอกเลยว่าเอวของซีดีสุดยอด คือโยกขึ้นได้สูงแล้วทิ้งตัวลงมาเน้นๆ แถมยังบีบรัดท่อนเนื้อของผมซะแน่นจนเสียวซี้ดไปทั่วร่าง แน่นอนว่าซีเองก็คงเสียวไม่ต่างกัน เพราะได้ครางลั่นด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน ดูเซ็กซี่และเร้าอารมณ์สุดๆ ไปเลย


“เอส...อ๊า...ขะ...ข้างใน...มะ...มันลึก...อื้อ...ดี...ซี้ดด...กูเสียว...” เชื่อเถอะว่าตอนปกติซีไม่มีทางพูดจาแบบนี้ออกมาแน่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ ตรงๆ แบบนี้ก็ได้อารมณ์ดีไปอีกแบบเหมือนกัน แถมระหว่างที่พูดซียังขย่มลงมาที่แก่นกายของผมอย่างเมามัน แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมชอบได้ยังไง


“อ๊ะ...อ๊ะ...เอส...อ๊า...” ซีเร่งจังหวะการขย่มเร็วขึ้นและแรงขึ้นตามอารมณ์ ส่วนผมก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ สองมือบีบขยำที่แผ่นอกพร้อมกับดูดเลียตรงส่วนยอดไปด้วย ในขณะที่ช่วงล่างก็เด้งแก่นกายกระแทกสวนขึ้นไปอีกต่างหาก


“อ๊า! อ๊ะ...ซี้ด...อ๊า...ดี! อ๊า...” ซีกรีดร้องแทบไม่เป็นภาษา มือทั้งสองข้างจิกที่เส้นผมของผมแน่น ช่องทางด้านหลังกระตุกตอดรัดท่อนเนื้อที่อยู่ข้างในถี่ยิบจนผมเสียวแทบขาดใจ


“ซี้ดด...ซี...”


“เอส! อ๊า...ไม่ไหว...เสียวเกินไป...เอส! อ๊า...” ซีครางลั่นพลางขย่มลงมาด้วยความเร็วสูงสุด


ยิ่งใกล้ถึงจุดสุดยอดมากเท่าไหร่ซีก็ยิ่งขย่มเร็วขึ้นเท่านั้น ส่วนผมก็ใกล้จะเสร็จไม่ต่างกัน เลยล็อกสะโพกกลมกลึงเอาไว้แล้วกดลงมาเน้นๆ สวนทางกับแก่นกายของผมที่กระแทกสวนขึ้นไปอย่างหนักหน่วง


ซีขย่มลงมาที่ตักผมอย่างเมามัน ส่วนผมก็เด้งแก่นกายสวนขึ้นไปอย่างไม่ยั้ง เล่นเอาเตียงถึงกับสั่น เสียงครางก็ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง ตอนนี้ท่อนเนื้อของผมกระแทกโดนจุดเสียวข้างในรัวๆ จนถูกซีตอดรัดถี่ๆ


ถ้าจะตอดหนักจนเสียวขนาดนี้ ผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!


“ซี!” ผมฝังท่อนเนื้อเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุด แล้วจัดการฉีดพ่นความสุขสมทั้งหมดเข้าไปในตัวของซีโดยมีถุงบางๆ ขวางกั้น ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ซีปลดปล่อยออกมา


“เอส! อ๊า...อ๊ะ...เอส! อ๊าาาาา!” สิ้นเสียงนั้นน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาจนเลอะฝ่ามือและกล้ามท้องของผม แล้วหลังจากที่ปลดปล่อยเป็นที่เรียบร้อย ซีก็คอพับหลับสนิทซบลงที่ไหล่ของผมเลย


“ไอ้คนขี้เมาเอ๊ย” ผมส่ายหน้าไปมา แต่ก็เอ็นดูความน่ารัก (ปนเซ็กซี่) เลยอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้


อยากรู้จริงๆ ว่าตอนที่ตื่นมาแล้วเห็นสภาพของตัวเองและผมตอนนี้ ซีจะทำหน้ายังไงกันนะ?




Z
   



“เอส...ไอ้เอส...ไอ้เอส! ตื่นโว้ยตื่น! ตื่นสิฮัลโหล!”


ในเมื่อคิดจนหัวแทบแตกก็นึกไม่ออกว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น เพราะงั้นก็มีแค่หนทางเดียวนั่นก็คือต้องปลุกไอ้เอสขึ้นมาถามให้รู้เรื่องนี่แหละ!


“อืม...ว่าไงซี...” ไอ้เอสลืมตาขึ้นมา ท่าทางของมันงัวเงียนิดหน่อย แต่คงนอนไม่พอจนชินแล้วก็เลยปรับตัวให้ตื่นเต็มตาได้ง่ายๆ แค่มองหน้าผมมันก็ยิ้มกริ่มออกมาแล้ว “จะถามเรื่องเมื่อคืนหรอ”


“ก็เออสิ! มันเกิดเรื่องเหี้ยอะไรขึ้น!” แต่แทนที่จะตอบดีๆ ไอ้เอสมันกลับอมยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา


“ไม่ใช่แบบนั้น แต่เป็นเรื่องที่ดีสุดๆ เลยต่างหาก”


“มะ...หมายความว่าไง” ดูจากสีหน้าของมันผมก็พอจะเดาได้ แต่ก็เดาได้ไม่หมดไงเลยต้องถามออกไปแบบนั้น


“อืม...มันก็อธิบายค่อนข้างลำบาก เอางี้มั้ยล่ะ คืนนี้มึงก็เมาอีกครั้ง เดี๋ยวกูจะตั้งกล้องอัดวิดีโอเอาไว้ตั้งแต่เริ่มจนเสร็จเลย” ไอ้เอสยิ้มเจ้าเล่ห์แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หมั่นไส้แม่งฉิบหายเลยโว้ย!


“ไอ้คนโรคจิต! ไอ้คนหื่นกาม! ไอ้คนสันดานหยาบ! กับคนเมามึงก็ยังข่มขืนได้ลงหรอวะไอ้คนเหี้ยยยยยย!” ผมตะโกนลั่นพร้อมกับกระหน่ำเอาหมอนฟาดอย่างไม่ยั้ง จนไอ้เอสต้องรีบยกมือขึ้นมากันเอาไว้เป็นพัลวัน


“กูเปล่าข่มขืนมึงนะ! มึงต่างหากที่ขย่มข่มขืนกู!”


“อะ...ไอ้เหี้ย! อย่ามาใส่ร้ายกูนะเว่ย! กูเนี่ยหรอจะทำเรื่องแบบนั้น! คนอย่างกูเนี่ยนะ! ไม่จริงและไม่มีทาง!”


แต่ทั้งที่ยืนกรานอย่างมั่นอกมั่นใจขนาดนั้น พอออกจากห้องแล้วเจอไอ้พวกเพื่อน (เหี้ย) มันพากันล้อถึงวีรกรรมเมื่อคืนเท่านั้นแหละ ผมก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว ฮือออออออ


ไอ้พวกเหล้าพวกเบียร์ ตั้งแต่นี้มึงกับกูขาดกัน!


2BC


สวัสดีค่าาา  :z1: อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ เสียเลือดกันไปเท่าไหร่ แล้วชอบซีโหมดนี้กันรึเปล่า อิอิ  :haun4:
ครั้งที่แล้วจะเป็นซีบรรยาย ส่วนครั้งนี้จะเป็นเอส ฟีลมันก็จะต่างกันไปคนละแบบ ทุกคนชอบให้ใครบรรยายมากกว่ากันเอ่ย?  :impress2:
ส่วนตอนหน้าไว้เจอกันหลังปีใหม่นะคะ ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ตอนนี้มาลงช้ามากๆ แบบว่าช่วงปีใหม่ชีวิตวุ่นวายมาก แต่คิดว่าปีหน้าคงจะกลับสู่สภาวะปกติแล้วค่ะ  :katai4:
ยังไงเราก็ขอ happy new year ทุกคนล่วงหน้าด้วยนะคะ  :mc4: ขอให้ปีใหม่ที่จะถึงนี้เป็นปีที่ดีของทุกคนเลยน้า มีความสุขมากๆ แล้วก็ช่วยติดตามผลงานของเค้าต่อไปด้วยนะคะ ร้ากกกกก  :กอด1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องซีเมาบ่อยๆ นะ เค้าชอบ  เมาแล้วรั่ว น่ารักดี.  :laugh:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เขาว่าคนเมามักจะแสดงนิสัยที่เก็บกดไว้ลึก ๆ ออกมา  อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด